📜
๑๐. สงฺคีติสุตฺตวณฺณนา
๒๙๖. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ สงฺคีติสุตฺตํ. ตตฺรายมปุพฺพปทวณฺณนา – จาริกํ จรมาโนติ นิพทฺธจาริกํ จรมาโน. ตทา กิร สตฺถา ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ าณชาลํ ปตฺถริตฺวา โลกํ โวโลกยมาโน ปาวานครวาสิโน มลฺลราชาโน ทิสฺวา อิเม ราชาโน มยฺหํ สพฺพฺุตฺาณชาลสฺส อนฺโต ปฺายนฺติ, กึ นุ โขติ อาวชฺชนฺโต ‘‘ราชาโน เอกํ สนฺธาคารํ กาเรสุํ, มยิ คเต มงฺคลํ ภณาเปสฺสนฺติ, อหํ เตสํ มงฺคลํ วตฺวา อุยฺโยเชตฺวา ‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ธมฺมกถํ กเถหี’ติ สาริปุตฺตํ วกฺขามิ, สาริปุตฺโต ตีหิ ปิฏเกหิ สมฺมสิตฺวา จุทฺทสปฺหาธิเกน ปฺหสหสฺเสน ปฏิมณฺเฑตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส สงฺคีติสุตฺตํ นาม กเถสฺสติ, สุตฺตนฺตํ อาวชฺเชตฺวา ปฺจ ภิกฺขุสตานิ สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสนฺตี’’ติ อิมมตฺถํ ทิสฺวา จาริกํ ปกฺกนฺโต. เตน วุตฺตํ – ‘‘มลฺเลสุ จาริกํ จรมาโน’’ติ.
อุพฺภตกนวสนฺธาคารวณฺณนา
๒๙๗. อุพฺภตกนฺติ ตสฺส นามํ, อุจฺจตฺตา วา เอวํ วุตฺตํ. สนฺธาคารนฺติ นครมชฺเฌ สนฺธาคารสาลา. สมเณน วาติ เอตฺถ ยสฺมา ฆรวตฺถุปริคฺคหกาเลเยว เทวตา อตฺตโน วสนฏฺานํ คณฺหนฺติ. ตสฺมา เทเวน วาติ อวตฺวา ‘‘สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เกนจิ วา มนุสฺสภูเตนา’’ติ วุตฺตํ. เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ ภควโต อาคมนํ สุตฺวา ‘‘อมฺเหหิ คนฺตฺวาปิ น ภควา อานีโต, ทูตํ เปเสตฺวาปิ น ปกฺโกสาปิโต, สยเมว ปน มหาภิกฺขุสงฺฆปริวาโร อมฺหากํ วสนฏฺานํ สมฺปตฺโต, อมฺเหหิ จ สนฺธาคารสาลา การิตา, เอตฺถ มยํ ทสพลํ อาเนตฺวา มงฺคลํ ภณาเปสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมึสุ.
๒๙๘. เยน สนฺธาคารํ เตนุปสงฺกมึสูติ ตํ ทิวสํ กิร ¶ สนฺธาคาเร จิตฺตกมฺมํ นิฏฺเปตฺวา อฏฺฏกา มุตฺตมตฺตา โหนฺติ, พุทฺธา จ นาม อรฺชฺฌาสยา อรฺารามา, อนฺโตคาเม วเสยฺยุํ วา ¶ โน วา. ตสฺมา ภควโต มนํ ชานิตฺวาว ปฏิชคฺคิสฺสามาติ จินฺเตตฺวา เต ภควนฺตํ อุปสงฺกมึสุ. อิทานิ ปน มนํ ลภิตฺวา ปฏิชคฺคิตุกามา เยน สนฺธาคารํ เตนุปสงฺกมึสุ ¶ . สพฺพสนฺถรินฺติ ยถา สพฺพํ สนฺถตํ โหติ, เอวํ. เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ เอตฺถ ปน เต มลฺลราชาโน สนฺธาคารํ ปฏิชคฺคิตฺวา นครวีถิโยปิ สมฺมชฺชาเปตฺวา ธเช อุสฺสาเปตฺวา เคหทฺวาเรสุ ปุณฺณฆเฏ จ กทลิโย จ ปาเปตฺวา สกลนครํ ทีปมาลาทีหิ วิปฺปกิณฺณตารกํ วิย กตฺวา ขีรปายเก ทารเก ขีรํ ปายฺเยถ, ทหเร กุมาเร ลหุํ ลหุํ โภชาเปตฺวา สยาเปถ, อุจฺจาสทฺทํ มา กริตฺถ, อชฺช เอกรตฺตึ สตฺถา อนฺโตคาเม วสิสฺสติ, พุทฺธา นาม อปฺปสทฺทกามา โหนฺตีติ เภรึ จราเปตฺวา สยํ ทณฺฑทีปิกํ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ.
๒๙๙. ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวาติ ภควนฺตํ ปุรโต กตฺวา. ตตฺถ ภควา ภิกฺขูนฺเจว อุปาสกานฺจ มชฺเฌ นิสินฺโน อติวิย วิโรจติ, สมนฺตปาสาทิโก สุวณฺณวณฺโณ อภิรูโป ทสฺสนีโย. ปุริมกายโต สุวณฺณวณฺณา รสฺมิ อุฏฺหิตฺวา อสีติหตฺถํ านํ คณฺหาติ. ปจฺฉิมกายโต. ทกฺขิณหตฺถโต. วามหตฺถโต สุวณฺณวณฺณา รสฺมิ อุฏฺหิตฺวา อสีติหตฺถํ านํ คณฺหาติ. อุปริ เกสนฺตโต ปฏฺาย สพฺพเกสาวฏฺเฏหิ โมรคีววณฺณา รสฺมิ อุฏฺหิตฺวา คคนตเล อสีติหตฺถํ านํ คณฺหาติ. เหฏฺา ปาทตเลหิ ปวาฬวณฺณา รสฺมิ อุฏฺหิตฺวา ฆนปถวิยํ อสีติหตฺถํ านํ คณฺหาติ. เอวํ สมนฺตา อสีติ หตฺถมตฺตํ านํ ฉพฺพณฺณา พุทฺธรสฺมิโย วิชฺโชตมานา วิปฺผนฺทมานา วิธาวนฺติ. สพฺเพ ทิสาภาคา สุวณฺณจมฺปกปุปฺเผหิ วิกิริยมานา วิย สุวณฺณฆฏโต นิกฺขนฺตสุวณฺณรสธาราหิ สิฺจมานา วิย ปสาริตสุวณฺณปฏปริกฺขิตฺตา วิย เวรมฺภวาตสมุฏฺิตกึสุกกณิการปุปฺผจุณฺณสมากิณฺณา วิย จ วิปฺปกาสนฺติ.
ภควโตปิ อสีติอนุพฺยฺชนพฺยามปฺปภาทฺวตฺตึสวรลกฺขณสมุชฺชลํ สรีรํ สมุคฺคตตารกํ วิย คคนตลํ, วิกสิตมิว ปทุมวนํ ¶ , สพฺพปาลิผุลฺโล วิย โยชนสติโก ปาริจฺฉตฺตโก ปฏิปาฏิยา ปิตานํ ทฺวตฺตึสจนฺทานํ ทฺวตฺตึสสูริยานํ ทฺวตฺตึสจกฺกวตฺติราชานํ ทฺวตฺตึสเทวราชานํ ทฺวตฺตึสมหาพฺรหฺมานํ สิริยา สิรึ อภิภวมานํ วิย วิโรจติ. ปริวาเรตฺวา นิสินฺนา ภิกฺขูปิ สพฺเพว อปฺปิจฺฉา สนฺตุฏฺา ปวิวิตฺตา อสํสฏฺา อารทฺธวีริยา วตฺตาโร วจนกฺขมา โจทกา ปาปครหิโน สีลสมฺปนฺนา สมาธิสมฺปนฺนา ¶ ปฺาวิมุตฺติ วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺนา. เตหิ ปริวาริโต ภควา รตฺตกมฺพลปริกฺขิตฺโต วิย สุวณฺณกฺขนฺโธ ¶ , รตฺตปทุมวนสณฺฑมชฺฌคตา วิย สุวณฺณนาวา, ปวาฬเวทิกาปริกฺขิตฺโต วิย สุวณฺณปาสาโท วิโรจิตฺถ.
อสีติมหาเถราปิ นํ เมฆวณฺณํ ปํสุกูลํ ปารุปิตฺวา มณิวมฺมวมฺมิตา วิย มหานาคา ปริวารยึสุ วนฺตราคา ภินฺนกิเลสา วิชฏิตชฏา ฉินฺนพนฺธนา กุเล วา คเณ วา อลคฺคา. อิติ ภควา สยํ วีตราโค วีตราเคหิ, วีตโทโส วีตโทเสหิ, วีตโมโห วีตโมเหหิ, นิตฺตณฺโห นิตฺตณฺเหหิ, นิกฺกิเลโส นิกฺกิเลเสหิ, สยํ พุทฺโธ พหุสฺสุตพุทฺเธหิ ปริวาริโต ปตฺตปริวาริตํ วิย เกสรํ, เกสรปริวาริตา วิย กณฺณิกา, อฏฺนาคสหสฺสปริวาริโต วิย ฉทฺทนฺโต นาคราชา, นวุติหํสสหสฺสปริวาริโต วิย ธตรฏฺโ หํสราชา, เสนงฺคปริวาริโต วิย จกฺกวตฺติราชา, มรุคณปริวาริโต วิย สกฺโก เทวราชา, พฺรหฺมคณปริวาริโต วิย หาริโต มหาพฺรหฺมา, อสเมน พุทฺธเวเสน อปริมาเณน พุทฺธวิลาเสน ตสฺสํ ปริสติ นิสินฺโน ปาเวยฺยเก มลฺเล พหุเทว รตฺตึ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา อุยฺโยเชสิ.
เอตฺถ จ ธมฺมิกถา นาม สนฺธาคารอนุโมทนปฺปฏิสํยุตฺตา ปกิณฺณกกถา เวทิตพฺพา. ตทา หิ ภควา อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิย ปถโวชํ อากฑฺฒนฺโต วิย มหาชมฺพุํ มตฺถเก คเหตฺวา จาเลนฺโต วิย โยชนิยมธุคณฺฑํ จกฺกยนฺเตน ปีเฬตฺวา มธุปานํ ปายมาโน วิย จ ปาเวยฺยกานํ มลฺลานํ หิตสุขาวหํ ปกิณฺณกกถํ กเถสิ.
๓๐๐. ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตนฺติ ยํ ยํ ทิสํ อนุวิโลเกติ, ตตฺถ ตตฺถ ตุณฺหีภูตเมว. อนุวิโลเกตฺวาติ ¶ มํสจกฺขุนา ทิพฺพจกฺขุนาติ ทฺวีหิ จกฺขูหิ ตโต ตโต วิโลเกตฺวา. มํสจกฺขุนา หิ เนสํ พหิทฺธา อิริยาปถํ ปริคฺคเหสิ. ตตฺถ เอกภิกฺขุสฺสาปิ เนว หตฺถกุกฺกุจฺจํ น ปาทกุกฺกุจฺจํ อโหสิ, น โกจิ สีสมุกฺขิปิ, น กถํ กเถสิ, น นิทฺทายนฺโต นิสีทิ. สพฺเพปิ ตีหิ สิกฺขาหิ สิกฺขิตา นิวาเต ปทีปสิขา วิย นิจฺจลา นิสีทึสุ. อิติ เนสํ อิมํ อิริยาปถํ มํสจกฺขุนา ปริคฺคเหสิ. อาโลกํ ปน ¶ วฑฺฒยิตฺวา ทิพฺพจกฺขุนา หทยรูปํ ทิสฺวา อพฺภนฺตรคตํ สีลํ โอโลเกสิ. โส อเนกสตานํ ภิกฺขูนํ อนฺโตกุมฺภิยํ ชลมานํ ปทีปํ วิย อรหตฺตุปคํ สีลํ อทฺทส. อารทฺธวิปสฺสกา หิ เต ภิกฺขู. อิติ เนสํ สีลํ ทิสฺวา ‘‘อิเมปิ ภิกฺขู มยฺหํ อนุจฺฉวิกา, อหมฺปิ อิเมสํ อนุจฺฉวิโก’’ติ จกฺขุตเลสุ นิมิตฺตํ เปตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ โอโลเกตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสิ ‘‘ปิฏฺิ เม อาคิลายตี’’ติ. กสฺมา อาคิลายติ? ภควโต หิ ฉพฺพสฺสานิ มหาปธานํ ¶ ปทหนฺตสฺส มหนฺตํ กายทุกฺขํ อโหสิ. อถสฺส อปรภาเค มหลฺลกกาเล ปิฏฺิวาโต อุปฺปชฺชิ.
สงฺฆาฏึ ปฺาเปตฺวาติ สนฺธาคารสฺส กิร เอกปสฺเส เต ราชาโน กปฺปิยมฺจกํ ปฺเปสุํ ‘‘อปฺเปว นาม สตฺถา นิปชฺเชยฺยา’’ติ. สตฺถาปิ จตูหิ อิริยาปเถหิ ปริภุตฺตํ อิเมสํ มหปฺผลํ ภวิสฺสตีติ ตตฺถ สงฺฆาฏึ ปฺาเปตฺวา นิปชฺชิ.
ภินฺนนิคณฺวตฺถุวณฺณนา
๓๐๑. ตสฺส กาลงฺกิริยายาติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตเมว.
๓๐๒. อามนฺเตสีติ ภณฺฑนาทิวูปสมกรํ สฺวาขฺยาตํ ธมฺมํ เทเสตุกาโม อามนฺเตสิ.
เอกกวณฺณนา
๓๐๓. ตตฺถาติ ตสฺมึ ธมฺเม. สงฺคายิตพฺพนฺติ สมคฺเคหิ คายิตพฺพํ, เอกวจเนหิ อวิรุทฺธวจเนหิ ภณิตพฺพํ. น วิวทิตพฺพนฺติ อตฺเถ วา พฺยฺชเน วา วิวาโท น กาตพฺโพ. เอโก ธมฺโมติ เอกกทุกติกาทิวเสน พหุธา สามคฺคิรสํ ทสฺเสตุกาโม ปมํ ตาว ‘‘เอโก ธมฺโม’’ติ อาห. สพฺเพ สตฺตาติ กามภวาทีสุ สฺาภวาทีสุ เอกโวการภวาทีสุ จ สพฺพภเวสุ สพฺเพ สตฺตา. อาหารฏฺิติกาติ อาหารโต ิติ เอเตสนฺติ อาหารฏฺิติกา. อิติ สพฺพสตฺตานํ ิติ เหตุ อาหาโร นาม เอโก ธมฺโม อมฺหากํ ¶ สตฺถารา ยาถาวโต ตฺวา สมฺมทกฺขาโต อาวุโสติ ทีเปติ.
นนุ ¶ จ เอวํ สนฺเต ยํ วุตฺตํ ‘‘อสฺสตฺตา เทวา อเหตุกา อนาหารา อผสฺสกา’’ติอาทิ, (วิภ. ๑๐๑๗) ตํ วจนํ วิรุชฺฌตีติ, น วิรุชฺฌติ. เตสฺหิ ฌานํ อาหาโร โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อาหารา ภูตานํ วา สตฺตานํ ิติยา สมฺภเวสีนํ วา อนุคฺคหาย. กตเม จตฺตาโร? กพฬีกาโร อาหาโร โอฬาริโก วา สุขุโม วา, ผสฺโส ทุติโย, มโนสฺเจตนา ตติยา, วิฺาณํ จตุตฺถ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๑) อิทมฺปิ วิรุชฺฌตีติ, อิทมฺปิ น วิรุชฺฌติ. เอตสฺมิฺหิ สุตฺเต นิปฺปริยาเยน อาหารลกฺขณาว ธมฺมา อาหาราติ วุตฺตา. อิธ ปน ปริยาเยน ปจฺจโย อาหาโรติ วุตฺโต. สพฺพธมฺมานฺหิ ¶ ปจฺจโย ลทฺธุํ วฏฺฏติ. โส จ ยํ ยํ ผลํ ชเนติ, ตํ ตํ อาหรติ นาม, ตสฺมา อาหาโรติ วุจฺจติ. เตเนวาห ‘‘อวิชฺชมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จ, ภิกฺขเว, อวิชฺชาย อาหาโร? ปฺจนีวรณาติสฺส วจนียํ. ปฺจนีวรเณปาหํ, ภิกฺขเว, สาหาเร วทามิ, โน อนาหาเร. โก จ, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ นีวรณานํ อาหาโร? อโยนิโสมนสิกาโรติสฺส วจนีย’’นฺติ (อ. นิ. ๑๐.๖๑). อยํ อิธ อธิปฺเปโต.
เอตสฺมิฺหิ ปจฺจยาหาเร คหิเต ปริยายาหาโรปิ นิปฺปริยายาหาโรปิ สพฺโพ คหิโตว โหติ. ตตฺถ อสฺภเว ปจฺจยาหาโร ลพฺภติ. อนุปฺปนฺเน หิ พุทฺเธ ติตฺถายตเน ปพฺพชิตา วาโยกสิเณ ปริกมฺมํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตโต วุฏฺาย ธี จิตฺตํ, ธิพฺพเตตํ จิตฺตํ จิตฺตสฺส นาม อภาโวเยว สาธุ, จิตฺตฺหิ นิสฺสาเยว วธพนฺธาทิปจฺจยํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. จิตฺเต อสติ นตฺเถตนฺติ ขนฺตึ รุจึ อุปฺปาเทตฺวา อปริหีนชฺฌานา กาลงฺกตฺวา อสฺภเว นิพฺพตฺตนฺติ. โย ยสฺส อิริยาปโถ มนุสฺสโลเก ปณิหิโต อโหสิ, โส เตน อิริยาปเถน นิพฺพตฺติตฺวา ปฺจ กปฺปสตานิ ิโต วา นิสินฺโน วา นิปนฺโน วา โหติ. เอวรูปานมฺปิ สตฺตานํ ปจฺจยาหาโร ลพฺภติ. เต หิ ยํ ฌานํ ภาเวตฺวา นิพฺพตฺตา, ตเทว เนสํ ปจฺจโย โหติ. ยถา ชิยาเวเคน ขิตฺตสโร ยาว ชิยาเวโค อตฺถิ, ตาว คจฺฉติ, เอวํ ยาว ฌานปจฺจโย อตฺถิ, ตาว ติฏฺนฺติ. ตสฺมึ นิฏฺิเต ขีณเวโค สโร วิย ปตนฺติ. เย ปน เต เนรยิกา เนว อุฏฺานผลูปชีวี น ปฺุผลูปชีวีติ วุตฺตา, เตสํ โก อาหาโรติ ¶ ? เตสํ กมฺมเมว อาหาโร. กึ ปฺจ อาหารา อตฺถีติ ¶ เจ. ปฺจ, น ปฺจาติ อิทํ น วตฺตพฺพํ. นนุ ปจฺจโย อาหาโรติ วุตฺตเมตํ. ตสฺมา เยน กมฺเมน เต นิรเย นิพฺพตฺตา, ตเทว เตสํ ิติปจฺจยตฺตา อาหาโร โหติ. ยํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ ‘‘น จ ตาว กาลงฺกโรติ, ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตี โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๕๐).
กพฬีการํ อาหารํ อารพฺภ เจตฺถ วิวาโท น กาตพฺโพ. มุเข อุปฺปนฺโน เขโฬปิ หิ เตสํ อาหารกิจฺจํ สาเธติ. เขโฬปิ หิ นิรเย ทุกฺขเวทนิโย หุตฺวา ปจฺจโย โหติ, สคฺเค สุขเวทนิโย. อิติ กามภเว นิปฺปริยาเยน จตฺตาโร อาหารา. รูปารูปภเวสุ เปตฺวา อสฺํ เสสานํ ตโย. อสฺานฺเจว อวเสสานฺจ ปจฺจยาหาโรติ อิมินา อาหาเรน ‘‘สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา’’ติ เอตํ ปฺหํ กเถตฺวา ‘‘อยํ โข อาวุโส’’ติ เอวํ นิยฺยาตนมฺปิ ‘‘อตฺถิ โข อาวุโส’’ติ ปุน อุทฺธรณมฺปิ อกตฺวา ‘‘สพฺเพ สตฺตา สงฺขารฏฺิติกา’’ติ ทุติยปฺหํ วิสฺสชฺเชสิ.
กสฺมา ¶ ปน น นิยฺยาเตสิ น อุทฺธริตฺถ? ตตฺถ ตตฺถ นิยฺยาติยมาเนปิ อุทฺธริยมาเนปิ ปริยาปุณิตุํ วาเจตุํ ทุกฺขํ โหติ, ตสฺมา ทฺเว เอกาพทฺเธ กตฺวา วิสฺสชฺเชสิ. อิมสฺมิมฺปิ วิสฺสชฺชเน เหฏฺา วุตฺตปจฺจโยว อตฺตโน ผลสฺส สงฺขรณโต สงฺขาโรติ วุตฺโต. อิติ เหฏฺา อาหารปจฺจโย กถิโต, อิธ สงฺขารปจฺจโยติ อยเมตฺถ เหฏฺิมโต วิเสโส. ‘‘เหฏฺา นิปฺปริยายาหาโร คหิโต, อิธ ปริยายาหาโรติ เอวํ คหิเต วิเสโส ปากโฏ ภเวยฺย, โน จ คณฺหึสู’ติ มหาสีวตฺเถโร อาห. อินฺทฺริยพทฺธสฺสปิ หิ อนินฺทฺริยพทฺธสฺสปิ ปจฺจโย ลทฺธุํ วฏฺฏติ. วินา ปจฺจเยน ธมฺโม นาม นตฺถิ. ตตฺถ อนินฺทฺริยพทฺธสฺส ติณรุกฺขลตาทิโน ปถวีรโส อาโปรโส จ ปจฺจโย โหติ. เทเว อวสฺสนฺเต หิ ติณาทีนิ มิลายนฺติ, วสฺสนฺเต จ ปน หริตานิ โหนฺติ. อิติ เตสํ ปถวีรโส อาโปรโส จ ปจฺจโย โหติ. อินฺทฺริยพทฺธสฺส อวิชฺชา ตณฺหา กมฺมํ อาหาโรติ เอวมาทโย ปจฺจยา, อิติ เหฏฺา ปจฺจโยเยว อาหาโรติ กถิโต, อิธ สงฺขาโรติ. อยเมเวตฺถ วิเสโส.
อยํ ¶ โข, อาวุโสติ อาวุโส อมฺหากํ สตฺถารา มหาโพธิมณฺเฑ นิสีทิตฺวา สยํ สพฺพฺุตฺาเณน สจฺฉิกตฺวา อยํ เอกธมฺโม เทสิโต. ตตฺถ เอกธมฺเม ตุมฺเหหิ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ น วิวทิตพฺพํ. ยถยิทํ พฺรหฺมจริยนฺติ ยถา สงฺคายมานานํ ตุมฺหากํ อิทํ สาสนพฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส. เอเกน หิ ภิกฺขุนา ¶ ‘‘อตฺถิ, โข อาวุโส, เอโก ธมฺโม สมฺมทกฺขาโต. กตโม เอโก ธมฺโม? สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา. สพฺเพ สตฺตา สงฺขารฏฺิติกา’’ติ กถิเต ตสฺส กถํ สุตฺวา อฺโ กเถสฺสติ. ตสฺสปิ อฺโติ เอวํ ปรมฺปรกถานิยเมน อิทํ พฺรหฺมจริยํ จิรํ ติฏฺมานํ สเทวกสฺส โลกสฺส อตฺถาย หิตาย ภวิสฺสตีติ เอกกวเสน ธมฺมเสนาปติ สาริปุตฺตตฺเถโร สามคฺคิรสํ ทสฺเสสีติ.
เอกกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุกวณฺณนา
๓๐๔. อิติ เอกกวเสน สามคฺคิรสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ทุกวเสน ทสฺเสตุํ ปุน เทสนํ อารภิ. ตตฺถ นามรูปทุเก นามนฺติ จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา นิพฺพานฺจ. ตตฺถ จตฺตาโร ขนฺธา นามนฏฺเน นามํ. นามนฏฺเนาติ นามกรณฏฺเน. ยถา หิ มหาชนสมฺมตตฺตา มหาสมฺมตสฺส ¶ ‘‘มหาสมฺมโต’’ติ นามํ อโหสิ, ยถา มาตาปิตโร ‘‘อยํ ติสฺโส นาม โหตุ, ผุสฺโส นาม โหตู’’ติ เอวํ ปุตฺตสฺส กิตฺติมนามํ กโรนฺติ, ยถา วา ‘‘ธมฺมกถิโก วินยธโร’’ติ คุณโต นามํ อาคจฺฉติ, น เอวํ เวทนาทีนํ. เวทนาทโย หิ มหาปถวีอาทโย วิย อตฺตโน นามํ กโรนฺตาว อุปฺปชฺชนฺติ. เตสุ อุปฺปนฺเนสุ เตสํ นามํ อุปฺปนฺนเมว โหติ. น หิ เวทนํ อุปฺปนฺนํ ‘‘ตฺวํ เวทนา นาม โหหี’’ติ, โกจิ ภณติ, น จสฺสา เยน เกนจิ การเณน นามคฺคหณกิจฺจํ อตฺถิ, ยถา ปถวิยา อุปฺปนฺนาย ‘‘ตฺวํ ปถวี นาม โหหี’’ติ นามคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ, จกฺกวาฬสิเนรุมฺหิ จนฺทิมสูริยนกฺขตฺเตสุ อุปฺปนฺเนสุ ‘‘ตฺวํ จกฺกวาฬํ นาม, ตฺวํ นกฺขตฺตํ นาม โหหี’’ติ นามคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ, นามํ อุปฺปนฺนเมว โหติ, โอปปาติกา ปฺตฺติ นิปตติ, เอวํ เวทนาย อุปฺปนฺนาย ‘‘ตฺวํ เวทนา นาม โหหี’’ติ นามคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ, ตาย อุปฺปนฺนาย เวทนาติ ¶ นามํ อุปฺปนฺนเมว โหติ. สฺาทีสุปิ เอเสว นโย อตีเตปิ หิ เวทนา เวทนาเยว. สฺา. สงฺขารา. วิฺาณํ วิฺาณเมว. อนาคเตปิ. ปจฺจุปฺปนฺเนปิ. นิพฺพานํ ปน สทาปิ นิพฺพานเมวาติ. นามนฏฺเน นามํ. นมนฏฺเนาปิ เจตฺถ จตฺตาโร ขนฺธา นามํ. เต หิ อารมฺมณาภิมุขํ นมนฺติ. นามนฏฺเน สพฺพมฺปิ นามํ. จตฺตาโร หิ ขนฺธา อารมฺมเณ อฺมฺํ นาเมนฺติ ¶ , นิพฺพานํ อารมฺมณาธิปติปจฺจยตาย อตฺตนิ อนวชฺชธมฺเม นาเมติ.
รูปนฺติ จตฺตาโร จ มหาภูตา จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทาย รูปํ, ตํ สพฺพมฺปิ รุปฺปนฏฺเน รูปํ. ตสฺส วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.
อวิชฺชาติ ทุกฺขาทีสุ อฺาณํ. อยมฺปิ วิตฺถารโต วิสุทฺธิมคฺเค กถิตาเยว. ภวตณฺหาติ ภวปตฺถนา. ยถาห ‘‘ตตฺถ กตมา ภวตณฺหา? โย ภเวสุ ภวจฺฉนฺโท’’ติอาทิ (ธ. ส. ๑๓๑๙).
ภวทิฏฺีติ ภโว วุจฺจติ สสฺสตํ, สสฺสตวเสน อุปฺปชฺชนกทิฏฺิ. สา ‘‘ตตฺถ กตมา ภวทิฏฺิ? ‘ภวิสฺสติ อตฺตา จ โลโก จา’ติ ยา เอวรูปา ทิฏฺิ ทิฏฺิคต’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๑๓๒๐) นเยน อภิธมฺเม วิตฺถาริตา. วิภวทิฏฺีติ วิภโว วุจฺจติ อุจฺเฉทํ, อุจฺเฉทวเสน อุปฺปชฺชนกทิฏฺิ. สาปิ ‘‘ตตฺถ กตมา วิภวทิฏฺิ? ‘น ภวิสฺสติ อตฺตา จ โลโก จา’ติ (ธ. ส. ๒๘๕). ยา เอวรูปา ทิฏฺิ ทิฏฺิคต’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๑๓๒๑) นเยน ตตฺเถว วิตฺถาริตา.
อหิริกนฺติ ¶ ‘‘ยํ น หิรียติ หิรียิตพฺเพนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๒๘) เอวํ วิตฺถาริตา นิลฺลชฺชตา. อโนตฺตปฺปนฺติ ‘‘ยํ น โอตฺตปฺปติ โอตฺตปฺปิตพฺเพนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๒๙) เอวํ วิตฺถาริโต อภายนกอากาโร.
หิรี จ โอตฺตปฺปฺจาติ ‘‘ยํ หิรียติ หิรียิตพฺเพน, โอตฺตปฺปติ โอตฺตปฺปิตพฺเพนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๓๐-๓๑) เอวํ วิตฺถาริตานิ หิริโอตฺตปฺปานิ. อปิ เจตฺถ อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี, พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ. อตฺตาธิปเตยฺยา หิรี, โลกาธิปเตยฺยํ โอตฺตปฺปํ. ลชฺชาสภาวสณฺิตา หิรี, ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺปํ. วิตฺถารกถา ปเนตฺถ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตา.
โทวจสฺสตาติ ¶ ทุกฺขํ วโจ เอตสฺมึ วิปฺปฏิกูลคาหิมฺหิ วิปจฺจนีกสาเต อนาทเร ปุคฺคเลติ ทุพฺพโจ, ตสฺส กมฺมํ โทวจสฺสํ, ตสฺส ภาโว โทวจสฺสตา. วิตฺถารโต ปเนสา ‘‘ตตฺถ กตมา โทวจสฺสตา? สหธมฺมิเก วุจฺจมาเน โทวจสฺสาย’’นฺติ (ธ. ส. ๑๓๓๒) อภิธมฺเม อาคตา. สา อตฺถโต สงฺขารกฺขนฺโธ โหติ. ‘‘จตุนฺนฺจ ขนฺธานํ เอเตนากาเรน ปวตฺตานํ เอตํ อธิวจน’’นฺติ วทนฺติ. ปาปมิตฺตตาติ ¶ ปาปา อสฺสทฺธาทโย ปุคฺคลา เอตสฺส มิตฺตาติ ปาปมิตฺโต, ตสฺส ภาโว ปาปมิตฺตตา. วิตฺถารโต ปเนสา – ‘‘ตตฺถ กตมา ปาปมิตฺตตา? เย เต ปุคฺคลา อสฺสทฺธา ทุสฺสีลา อปฺปสฺสุตา มจฺฉริโน ทุปฺปฺา. ยา เตสํ เสวนา นิเสวนา สํเสวนา ภชนา สํภชนา ภตฺติ สํภตฺติ ตํสมฺปวงฺกตา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๓๓) เอวํ อาคตา. สาปิ อตฺถโต โทวจสฺสตา วิย ทฏฺพฺพา.
โสวจสฺสตา จ กลฺยาณมิตฺตตา จ วุตฺตปฺปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพา. อุโภปิ ปเนตา อิธ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา.
อาปตฺติกุสลตาติ ‘‘ปฺจปิ อาปตฺติกฺขนฺธา อาปตฺติโย, สตฺตปิ อาปตฺติกฺขนฺธา อาปตฺติโย. ยา ตาสํ อาปตฺตีนํ อาปตฺติกุสลตา ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๓๖) เอวํ วุตฺโต อาปตฺติกุสลภาโว.
อาปตฺติวุฏฺานกุสลตาติ ‘‘ยา ตาหิ อาปตฺตีหิ วุฏฺานกุสลตา ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๓๗) เอวํ วุตฺตา สห กมฺมวาจาย อาปตฺตีหิ วุฏฺานปริจฺเฉทชานนา ปฺา.
สมาปตฺติกุสลตาติ ¶ ‘‘อตฺถิ สวิตกฺกสวิจารา สมาปตฺติ, อตฺถิ อวิตกฺกวิจารมตฺตา สมาปตฺติ, อตฺถิ อวิตกฺกอวิจารา สมาปตฺติ. ยา ตาสํ สมาปตฺตีนํ กุสลตา ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๓๘) เอวํ วุตฺตา สห ปริกมฺเมน อปฺปนาปริจฺเฉทชานนา ปฺา. สมาปตฺติวุฏฺานกุสลตาติ ‘‘ยา ตาหิ สมาปตฺตีหิ วุฏฺานกุสลตา ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๓๙) เอวํ วุตฺตา ยถาปริจฺฉินฺนสมยวเสเนว สมาปตฺติโต วุฏฺานสมตฺถา ‘‘เอตฺตกํ คเต สูริเย อุฏฺหิสฺสามี’’ติ วุฏฺานกาลปริจฺเฉทกา ปฺา.
ธาตุกุสลตาติ ‘‘อฏฺารส ธาตุโย จกฺขุธาตุ…เป… มโนวิฺาณธาตุ. ยา ตาสํ ธาตูนํ กุสลตา ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๔๐) เอวํ วุตฺตา อฏฺารสนฺนํ ¶ ธาตูนํ สภาวปริจฺเฉทกา สวนธารณสมฺมสนปฏิเวธปฺา. มนสิการกุสลตาติ ‘‘ยา ตาสํ ธาตูนํ มนสิการกุสลตา ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๔๑) เอวํ วุตฺตา ตาสํเยว ธาตูนํ สมฺมสนปฏิเวธปจฺจเวกฺขณปฺา.
อายตนกุสลตาติ ‘‘ทฺวาทสายตนานิ จกฺขายตนํ…เป… ธมฺมายตนํ. ยา เตสํ อายตนานํ อายตนกุสลตา ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๔๒) เอวํ วุตฺตา ทฺวาทสนฺนํ อายตนานํ อุคฺคหมนสิการปชานนา ปฺา. อปิจ ธาตุกุสลตาปิ อุคฺคหมนสิการสวนสมฺมสนปฏิเวธปจฺจเวกฺขเณสุ ¶ วตฺตติ มนสิการกุสลตาปิ อายตนกุสลตาปิ. อยํ ปเนตฺถ วิเสโส, สวนอุคฺคหปจฺจเวกฺขณา โลกิยา, ปฏิเวโธ โลกุตฺตโร, สมฺมสนมนสิการา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา. ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสลตาติ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา…เป… สมุทโย โหตีติ ยา ตตฺถ ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๔๓) เอวํ วุตฺตา ทฺวาทสนฺนํ ปจฺจยาการานํ อุคฺคหาทิวเสน ปวตฺตา ปฺา.
านกุสลตาติ ‘‘เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ เหตุปจฺจยา อุปฺปาทาย ตํ ตํ านนฺติ ยา ตตฺถ ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๔๔) เอวํ วุตฺตา ‘‘จกฺขุํ วตฺถุํ กตฺวา รูปํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนสฺส จกฺขุวิฺาณสฺส จกฺขุรูปํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๓๔๔) านฺเจว การณฺจา’’ติ เอวํ านปริจฺฉินฺทนสมตฺถา ปฺา. อฏฺานกุสลตาติ ‘‘เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ น เหตู น ปจฺจยา อุปฺปาทาย ตํ ตํ อฏฺานนฺติ ยา ตตฺถ ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๔๕) เอวํ วุตฺตา ‘‘จกฺขุํ วตฺถุํ กตฺวา รูปํ อารมฺมณํ กตฺวา โสตวิฺาณาทีนิ นุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา เตสํ จกฺขุรูปํ น านํ น การณ’’นฺติ เอวํ อฏฺานปริจฺฉินฺทนสมตฺถา ปฺา อปิจ เอตสฺมึ ทุเก ‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, านาานกุสโล ¶ ภิกฺขูติ อลํ วจนายาติ. อิธานนฺท, ภิกฺขุ อฏฺานเมตํ อนวกาโส, ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล กฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตีติ ปชานาติ. านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ, ยํ ปุถุชฺชโน กฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺยา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๗) อิมินาปิ สุตฺเตน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อชฺชวนฺติ ¶ โคมุตฺตวงฺกตา จนฺทวงฺกตา นงฺคลโกฏิวงฺกตาติ ตโย อนชฺชวา. เอกจฺโจ หิ ภิกฺขุ ปมวเย เอกวีสติยา อเนสนาสุ ฉสุ จ อโคจเรสุ จรติ, มชฺฌิมปจฺฉิมวเยสุ ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม โหติ, อยํ โคมุตฺตวงฺกตา นาม. เอโก ปมวเยปิ ปจฺฉิมวเยปิ จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปูเรติ, ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม โหติ, มชฺฌิมวเย ปุริมสทิโส, อยํ จนฺทวงฺกตา นาม. เอโก ปมวเยปิ มชฺฌิมวเยปิ จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปูเรติ, ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม โหติ, ปจฺฉิมวเย ปุริมสทิโส อยํ นงฺคลโกฏิวงฺกตา นาม. เอโก สพฺพเมตํ วงฺกตํ ปหาย ตีสุปิ วเยสุ เปสโล ลชฺชี ¶ กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม โหติ. ตสฺส โย โส อุชุภาโว, อิทํ อชฺชวํ นาม. อภิธมฺเมปิ วุตฺตํ – ‘‘ตตฺถ กตโม อชฺชโว. ยา อชฺชวตา อชิมฺหตา อวงฺกตา อกุฏิลตา, อยํ วุจฺจติ อชฺชโว’’ติ (ธ. ส. ๑๓๔๖). ลชฺชวนฺติ ‘‘ตตฺถ กตโม ลชฺชโว? โย หิรียติ หิรียิตพฺเพน หิรียติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา. อยํ วุจฺจติ ลชฺชโว’’ติ เอวํ วุตฺโต ลชฺชีภาโว.
ขนฺตีติ ‘‘ตตฺถ กตมา ขนฺติ? ยา ขนฺติ ขมนตา อธิวาสนตา อจณฺฑิกฺกํ อนสฺสุโรโป อตฺตมนตา จิตฺตสฺสา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๔๘) เอวํ วุตฺตา อธิวาสนขนฺติ. โสรจฺจนฺติ ‘‘ตตฺถ กตมํ โสรจฺจํ? โย กายิโก อวีติกฺกโม, วาจสิโก อวีติกฺกโม, กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม. อิทํ วุจฺจติ โสรจฺจํ. สพฺโพปิ สีลสํวโร โสรจฺจ’’นฺติ (ธ. ส. ๑๓๔๙) เอวํ วุตฺโต สุรตภาโว.
สาขลฺยนฺติ ‘‘ตตฺถ กตมํ สาขลฺยํ? ยา สา วาจา อณฺฑกา กกฺกสา ปรกฏุกา ปราภิสชฺชนี โกธสามนฺตา อสมาธิสํวตฺตนิกา, ตถารูปึ วาจํ ปหาย ยา สา วาจา เนฬา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ. ยา ตตฺถ สณฺหวาจตา สขิลวาจตา อผรุสวาจตา. อิทํ วุจฺจติ สาขลฺย’’นฺติ (ธ. ส. ๑๓๕๐) เอวํ วุตฺโต สมฺโมทกมุทุกภาโว. ปฏิสนฺถาโรติ อยํ โลกสนฺนิวาโส อามิเสน ธมฺเมน จาติ ทฺวีหิ ฉิทฺโท, ตสฺส ตํ ฉิทฺทํ ยถา น ปฺายติ, เอวํ ปีสฺส วิย ¶ ปจฺจตฺถรเณน อามิเสน ธมฺเมน จ ปฏิสนฺถรณํ. อภิธมฺเมปิ วุตฺตํ ‘‘ตตฺถ กตโม ปฏิสนฺถาโร ¶ ? อามิสปฏิสนฺถาโร จ ธมฺมปฏิสนฺถาโร จ. อิเธกจฺโจ ปฏิสนฺถารโก โหติ อามิสปฏิสนฺถาเรน วา ธมฺมปฏิสนฺถาเรน วา. อยํ วุจฺจติ ปฏิสนฺถาโร’’ติ (ธ. ส. ๑๓๕๑). เอตฺถ จ อามิเสน สงฺคโห อามิสปฏิสนฺถาโร นาม. ตํ กโรนฺเตน มาตาปิตูนํ ภิกฺขุคติกสฺส เวยฺยาวจฺจกรสฺส รฺโ โจรานฺจ อคฺคํ อคฺคเหตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏติ. อามสิตฺวา ทินฺเน หิ ราชาโน จ โจรา จ อนตฺถมฺปิ กโรนฺติ ชีวิตกฺขยมฺปิ ปาเปนฺติ, อนามสิตฺวา ทินฺเน อตฺตมนา โหนฺติ. โจรนาควตฺถุอาทีนิ เจตฺถ วตฺถูนิ กเถตพฺพานิ. ตานิ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถายํ ¶ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๕-๗) วิตฺถาริตานิ. สกฺกจฺจํ อุทฺเทสทานํ ปาฬิวณฺณนา ธมฺมกถากถนนฺติ เอวํ ธมฺเมน สงฺคโห ธมฺมปฏิสนฺถาโร นาม.
อวิหึสาติ กรุณาปิ กรุณาปุพฺพภาโคปิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ตตฺถ กตมา อวิหึสา? ยา สตฺเตสุ กรุณา กรุณายนา กรุณายิตตฺตํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ, อยํ วุจฺจติ อวิหึสา’’ติ. โสเจยฺยนฺติ เมตฺตาย จ เมตฺตาปุพฺพภาคสฺส จ วเสน สุจิภาโว. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ตตฺถ กตมํ โสเจยฺยํ? ยา สตฺเตสุ เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ, อิทํ วุจฺจติ โสเจยฺย’’นฺติ.
มุฏฺสฺสจฺจนฺติ สติวิปฺปวาโส, ยถาห ‘‘ตตฺถ กตมํ มุฏฺสฺสจฺจํ? ยา อสติ อนนุสฺสติ อปฺปฏิสฺสติ อสฺสรณตา อธารณตา ปิลาปนตา สมฺมุสฺสนตา, อิทํ วุจฺจติ มุฏฺสฺสจฺจํ’’ (ธ. ส. ๑๓๕๖). อสมฺปชฺนฺติ, ‘‘ตตฺถ กตมํ อสมฺปชฺํ? ยํ อฺาณํ อทสฺสนํ อวิชฺชาลงฺคี โมโห อกุสลมูล’’นฺติ เอวํ วุตฺตา อวิชฺชาเยว. สติ สติเยว. สมฺปชฺํ าณํ.
อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตาติ ‘‘ตตฺถ กตมา อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตา? อิเธกจฺโจ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา นิมิตฺตคฺคาหี โหตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๓๕๒) นเยน วิตฺถาริโต อินฺทฺริยสํวรเภโท. โภชเน อมตฺตฺุตาติ ‘‘ตตฺถ กตมา โภชเน อมตฺตฺุตา? อิเธกจฺโจ อปฺปฏิสงฺขา อโยนิโส อาหารํ อาหาเรติ ทวาย มทาย มณฺฑนาย วิภูสนาย. ยา ตตฺถ อสนฺตุฏฺิตา อมตฺตฺุตา อปฺปฏิสงฺขา โภชเน’’ติ เอวํ อาคโต โภชเน อมตฺตฺุภาโว. อนนฺตรทุโก วุตฺตปฺปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ.
ปฏิสงฺขานพลนฺติ ¶ ‘‘ตตฺถ กตมํ ปฏิสงฺขานพลํ? ยา ปฺา ปชานนา’’ติ เอวํ วิตฺถาริตํ ¶ อปฺปฏิสงฺขาย อกมฺปนาณํ. ภาวนาพลนฺติ ภาเวนฺตสฺส อุปฺปนฺนํ พลํ. อตฺถโต วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสีเสน สตฺต โพชฺฌงฺคา โหนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ตตฺถ กตมํ ภาวนาพลํ? ยา กุสลานํ ธมฺมานํ อาเสวนา ภาวนา พหุลีกมฺมํ, อิทํ วุจฺจติ ภาวนาพลํ. สตฺตโพชฺฌงฺคา ภาวนาพล’’นฺติ.
สติพลนฺติ อสฺสติยา อกมฺปนวเสน สติเยว. สมาธิพลนฺติ อุทฺธจฺเจ อกมฺปนวเสน สมาธิเยว. สมโถ ¶ สมาธิ. วิปสฺสนา ปฺา. สมโถว ตํ อาการํ คเหตฺวา ปุน ปวตฺเตตพฺพสฺส สมถสฺส นิมิตฺตวเสน สมถนิมิตฺตํ ปคฺคาหนิมิตฺเตปิ เอเสว นโย. ปคฺคาโห วีริยํ. อวิกฺเขโป เอกคฺคตา. อิเมหิ ปน สติ จ สมฺปชฺฺจ ปฏิสงฺขานพลฺจ ภาวนาพลฺจ สติพลฺจ สมาธิพลฺจ สมโถ จ วิปฺปสฺสนา จ สมถนิมิตฺตฺจ ปคฺคาหนิมิตฺตฺจ ปคฺคาโห จ อวิกฺเขโป จาติ ฉหิ ทุเกหิ ปรโต สีลทิฏฺิสมฺปทาทุเกน จ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา ธมฺมา กถิตา.
สีลวิปตฺตีติ ‘‘ตตฺถ กตมา สีลวิปตฺติ? กายิโก วีติกฺกโม…เป… สพฺพมฺปิ ทุสฺสีลฺยํ สีลวิปตฺตี’’ติ เอวํ วุตฺโต สีลวินาสโก อสํวโร. ทิฏฺิวิปตฺตีติ ‘‘ตตฺถ กตมา ทิฏฺิวิปตฺติ? นตฺถิ ทินฺนํ นตฺถิ ยิฏฺ’’นฺติ เอวํ อาคตา สมฺมาทิฏฺิวินาสิกา มิจฺฉาทิฏฺิ.
สีลสมฺปทาติ ‘‘ตตฺถ กตมา สีลสมฺปทา? กายิโก อวีติกฺกโม’’ติ เอวํ ปุพฺเพ วุตฺตโสรจฺจเมว สีลสฺส สมฺปาทนโต ปริปูรณโต ‘‘สีลสมฺปทา’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ‘‘สพฺโพปิ สีลสํวโร สีลสมฺปทา’’ติ อิทํ มานสิกปริยาทานตฺถํ วุตฺตํ. ทิฏฺิสมฺปทาติ ‘‘ตตฺถ กตมา ทิฏฺิสมฺปทา? อตฺถิ ทินฺนํ อตฺถิ ยิฏฺํ…เป… สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตีติ ยา เอวรูปา ปฺา ปชานนา’’ติ เอวํ อาคตํ ทิฏฺิปาริปูริภูตํ าณํ.
สีลวิสุทฺธีติ วิสุทฺธึ ปาเปตุํ สมตฺถํ สีลํ. อภิธมฺเม ปนายํ ‘‘ตตฺถ กตมา สีลวิสุทฺธิ? กายิโก อวีติกฺกโม วาจสิโก อวีติกฺกโม กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม, อยํ วุจฺจติ สีลวิสุทฺธี’’ติ เอวํ วิภตฺตา. ทิฏฺิวิสุทฺธีติ วิสุทฺธึ ปาเปตุํ สมตฺถํ ทสฺสนํ. อภิธมฺเม ปนายํ ‘‘ตตฺถ กตมา ทิฏฺิวิสุทฺธิ? กมฺมสฺสกตาณํ สจฺจานุโลมิกาณํ มคฺคสมงฺคิสฺสาณํ ผลสมงฺคิสฺสาณ’’นฺติ เอวํ วุตฺตา. เอตฺถ จ ติวิธํ ทุจฺจริตํ อตฺตนา ¶ กตมฺปิ ปเรน กตมฺปิ สกํ นาม น โหติ อตฺถภฺชนโต. สุจริตํ สกํ นาม อตฺถชนนโตติ เอวํ ชานนํ กมฺมสฺสกตาณํ ¶ นาม. ตสฺมึ ตฺวา พหุํ วฏฺฏคามิกมฺมํ อายูหิตฺวา ¶ สุขโต สุเขเนว อรหตฺตํ ปตฺตา คณนปถํ วีติวตฺตา. วิปสฺสนาาณํ ปน วจีสจฺจฺจ อนุโลเมติ, ปรมตฺถสจฺจฺจ น วิโลเมตีติ สจฺจานุโลมิกํ าณนฺติ วุตฺตํ.
‘‘ทิฏฺิวิสุทฺธิ โข ปน ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธาน’’นฺติ เอตฺถ ทิฏฺิวิสุทฺธีติ าณทสฺสนํ กถิตํ. ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธานนฺติ ตํสมฺปยุตฺตเมว วีริยํ. อปิ จ ปุริมปเทน จตุมคฺคาณํ. ปจฺฉิมปเทน ตํสมฺปยุตฺตํ วีริยํ. อภิธมฺเม ปน ‘‘ทิฏฺิวิสุทฺธิ โข ปนาติ ยา ปฺา ปชานนา อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฏฺิ. ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธานนฺติ โย เจตสิโก วีริยารมฺโภ สมฺมาวายาโม’’ติ เอวํ อยํ ทุโก วิภตฺโต.
‘‘สํเวโค จ สํเวชนีเยสุ าเนสู’’ติ เอตฺถ ‘‘สํเวโคติ ชาติภยํ ชราภยํ พฺยาธิภยํ มรณภย’’นฺติ เอวํ ชาติอาทีนิ ภยโต ทสฺสนาณํ. สํเวชนียํ านนฺติ ชาติชราพฺยาธิมรณํ. เอตานิ หิ จตฺตาริ ชาติ ทุกฺขา, ชรา ทุกฺขา, พฺยาธิ ทุกฺโข, มรณํ ทุกฺขนฺติ เอวํ สํเวคุปฺปตฺติการณตฺตา สํเวชนียํ านนฺติ วุตฺตานิ. สํวิคฺคสฺส จ โยนิโส ปธานนฺติ เอวํ สํเวคชาตสฺส อุปายปธานํ. ‘‘อิธ ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนตี’’ติ เอวํ อาคตวีริยสฺเสตํ อธิวจนํ.
อสนฺตุฏฺิตา จ กุสเลสุ ธมฺเมสูติ ยา กุสลานํ ธมฺมานํ ภาวนาย อสนฺตุฏฺสฺส ภิยฺโยกมฺยตา, ตาย หิ สมงฺคีภูโต ปุคฺคโล สีลํ ปูเรตฺวา ฌานํ อุปฺปาเทติ. ฌานํ ลภิตฺวา วิปสฺสนํ อารภติ. อารทฺธวิปสฺสโก อรหตฺตํ อคเหตฺวา อนฺตรา โวสานํ นาปชฺชติ. อปฺปฏิวานิตา จ ปธานสฺมินฺติ ‘‘กุสลานํ ธมฺมานํ ภาวนาย สกฺกจฺจกิริยตา สาตจฺจกิริยตา อฏฺิตกิริยตา อโนลีนวุตฺติตา อนิกฺขิตฺตฉนฺทตา อนิกฺขิตฺตธุรตา อาเสวนา ภาวนา พหุลีกมฺม’’นฺติ เอวํ วุตฺตา รตฺตินฺทิวํ ฉ โกฏฺาเส กตฺวา ชาคริยานุโยควเสน อารทฺเธ ปธานสฺมึ อรหตฺตํ อปตฺวา อนิวตฺตนตา.
วิชฺชาติ ¶ ติสฺโส วิชฺชา. วิมุตฺตีติ ทฺเว วิมุตฺติโย, จิตฺตสฺส จ อธิมุตฺติ, นิพฺพานฺจ. เอตฺถ จ อฏฺ สมาปตฺติโย นีวรณาทีหิ สุฏฺุ มุตฺตตฺตา อธิมุตฺติ ¶ นาม. นิพฺพานํ สพฺพสงฺขตโต มุตฺตตฺตา วิมุตฺตีติ เวทิตพฺพํ.
ขเย าณนฺติ กิเลสกฺขยกเร อริยมคฺเค าณํ. อนุปฺปาเท าณนฺติ ปฏิสนฺธิวเสน อนุปฺปาทภูเต ตํตํมคฺควชฺฌกิเลสานํ วา อนุปฺปาทปริโยสาเน อุปฺปนฺเน อริยผเล าณํ. เตเนวาห ¶ ‘‘ขเย าณนฺติ มคฺคสมงฺคิสฺส าณํ. อนุปฺปาเท าณนฺติ ผลสมงฺคิสฺส าณ’’นฺติ. อิเม โข, อาวุโสติอาทิ เอกเก วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. อิติ ปฺจตึสาย ทุกานํ วเสน เถโร สามคฺคิรสํ ทสฺเสสีติ.
ทุกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ติกวณฺณนา
๓๐๕. อิติ ทุกวเสน สามคฺคิรสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ติกวเสน ทสฺเสตุํ ปุน อารภิ. ตตฺถ ลุพฺภตีติ โลโภ. อกุสลฺจ ตํ มูลฺจ, อกุสลานํ วา มูลนฺติ อกุสลมูลํ. ทุสฺสตีติ โทโส. มุยฺหตีติ โมโห. เตสํ ปฏิปกฺขนเยน อโลภาทโย เวทิตพฺพา.
ทุฏฺุ จริตานิ, วิรูปานิ วา จริตานีติ ทุจฺจริตานิ. กาเยน ทุจฺจริตํ, กายโต วา ปวตฺตํ ทุจฺจริตนฺติ กายทุจฺจริตํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. สุฏฺุ จริตานิ, สุนฺทรานิ วา จริตานีติ สุจริตานิ. ทฺเวปิ เจเต ติกา ปณฺณตฺติยา วา กมฺมปเถหิ วา กเถตพฺพา. ปฺตฺติยา ตาว กายทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทสฺส วีติกฺกโม กายทุจฺจริตํ. อวีติกฺกโม กายสุจริตํ. วจีทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทสฺส วีติกฺกโม วจีทุจฺจริตํ, อวีติกฺกโม วจีสุจริตํ. อุภยตฺถ ปฺตฺตสฺส สิกฺขาปทสฺส วีติกฺกโมว มโนทุจฺจริตํ, อวีติกฺกโม มโนสุจริตํ. อยํ ปณฺณตฺติกถา. ปาณาติปาตาทโย ปน ติสฺโส เจตนา กายทฺวาเรปิ วจีทฺวาเรปิ อุปฺปนฺนา กายทุจฺจริตํ. จตสฺโส มุสาวาทาทิเจตนา วจีทุจฺจริตํ. อภิชฺฌา พฺยาปาโท มิจฺฉาทิฏฺีติ ตโย เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมา มโนทุจฺจริตํ. ปาณาติปาตาทีหิ วิรมนฺตสฺส อุปฺปนฺนา ติสฺโส ¶ เจตนาปิ วิรติโยปิ กายสุจริตํ. มุสาวาทาทีหิ วิรมนฺตสฺส จตสฺโส เจตนาปิ วิรติโยปิ วจีสุจริตํ. อนภิชฺฌา อพฺยาปาโท สมฺมาทิฏฺีติ ตโย เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมา ¶ มโนสุจริตนฺติ อยํ กมฺมปถกถา.
กามปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก กามวิตกฺโก. พฺยาปาทปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก พฺยาปาทวิตกฺโก. วิหึสาปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก วิหึสาวิตกฺโก. เตสุ ทฺเว สตฺเตสุปิ สงฺขาเรสุปิ อุปฺปชฺชนฺติ. กามวิตกฺโก หิ ปิเย มนาเป สตฺเต วา สงฺขาเร วา วิตกฺเกนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ. พฺยาปาทวิตกฺโก ¶ อปฺปิเย อมนาเป สตฺเต วา สงฺขาเร วา กุชฺฌิตฺวา โอโลกนกาลโต ปฏฺาย ยาว วินาสนา อุปฺปชฺชติ. วิหึสาวิตกฺโก สงฺขาเรสุ นุปฺปชฺชติ. สงฺขาโร หิ ทุกฺขาเปตพฺโพ นาม นตฺถิ. อิเม สตฺตา หฺนฺตุ วา อุจฺฉิชฺชนฺตุ วา วินสฺสนฺตุ วา มา วา อเหสุนฺติ จินฺตนกาเล ปน สตฺเตสุ อุปฺปชฺชติ.
เนกฺขมฺมปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก เนกฺขมฺมวิตกฺโก. โส อสุภปุพฺพภาเค กามาวจโร โหติ. อสุภชฺฌาเน รูปาวจโร. ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺนมคฺคผลกาเล โลกุตฺตโร. อพฺยาปาทปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก อพฺยาปาทวิตกฺโก. โส เมตฺตาปุพฺพภาเค กามาวจโร โหติ. เมตฺตาฌาเน รูปาวจโร. ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺนมคฺคผลกาเล โลกุตฺตโร. อวิหึสาปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก อวิหึสาวิตกฺโก. โส กรุณาปุพฺพภาเค กามาวจโร. กรุณาฌาเน รูปาวจโร. ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺนมคฺคผลกาเล โลกุตฺตโร. ยทา อโลโภ สีสํ โหติ, ตทา อิตเร ทฺเว ตทนฺวายิกา ภวนฺติ. ยทา เมตฺตา สีสํ โหติ, ตทา อิตเร ทฺเว ตทนฺวายิกา ภวนฺติ. ยทา กรุณา สีสํ โหติ, ตทา อิตเร ทฺเว ตทนฺวายิกา ภวนฺตีติ. กามสงฺกปฺปาทโย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เทสนามตฺตเมว เหตํ. อตฺถโต ปน กามวิตกฺกาทีนฺจ กามสงฺกปฺปาทีนฺจ นานากรณํ นตฺถิ.
กามปฏิสํยุตฺตา สฺา กามสฺา. พฺยาปาทปฏิสํยุตฺตา สฺา พฺยาปาทสฺา. วิหึสาปฏิสํยุตฺตา สฺา วิหึสาสฺา. ตาสมฺปิ กามวิตกฺกาทีนํ ¶ วิย อุปฺปชฺชนากาโร เวทิตพฺโพ. ตํสมฺปยุตฺตาเยว หิ เอตา. เนกฺขมฺมสฺาทโยปิ เนกฺขมฺมวิตกฺกาทิสมฺปยุตฺตาเยว. ตสฺมา ตาสมฺปิ ตเถว กามาวจราทิภาโว เวทิตพฺโพ.
กามธาตุอาทีสุ ‘‘กามปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก วิตกฺโก มิจฺฉาสงฺกปฺโป. อยํ วุจฺจติ กามธาตุ. สพฺเพปิ อกุสลา ¶ ธมฺมา กามธาตู’’ติ อยํ กามธาตุ. ‘‘พฺยาปาทปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก วิตกฺโก มิจฺฉาสงฺกปฺโป. อยํ วุจฺจติ พฺยาปาทธาตุ. ทสสุ อาฆาตวตฺถูสุ จิตฺตสฺส อาฆาโต ปฏิฆาโต อนตฺตมนตา จิตฺตสฺสา’’ติ อยํ พฺยาปาทธาตุ. ‘‘วิหึสา ปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก วิตกฺโก มิจฺฉาสงฺกปฺโป. อยํ วุจฺจติ วิหึสาธาตุ. อิเธกจฺโจ ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา รชฺชุยา วา อฺตรฺตเรน วา สตฺเต วิเหเตี’’ติ อยํ วิหึสาธาตุ. ตตฺถ ทฺเว กถา สพฺพสงฺคาหิกา จ อสมฺภินฺนา จ. ตตฺถ กามธาตุยา คหิตาย อิตรา ทฺเว คหิตาว โหนฺติ, ตโต ปน นีหริตฺวา อยํ พฺยาปาทธาตุ อยํ วิหึสาธาตูติ ทสฺเสตีติ อยํ สพฺพสงฺคาหิกกถา นาม. กามธาตุํ กเถนฺโต ปน ภควา พฺยาปาทธาตุํ พฺยาปาทธาตุฏฺาเน ¶ , วิหึสาธาตุํ วิหึสาธาตุฏฺาเน เปตฺวา อวเสสํ กามธาตุ นามาติ กเถสีติ อยํ อสมฺภินฺนกถา นาม.
เนกฺขมฺมธาตุอาทีสุ ‘‘เนกฺขมฺมปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก วิตกฺโก สมฺมาสงฺกปฺโป. อยํ วุจฺจติ เนกฺขมฺมธาตุ. สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา เนกฺขมฺมธาตู’’ติ อยํ เนกฺขมฺมธาตุ. ‘‘อพฺยาปาทปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก…เป… อยํ วุจฺจติ อพฺยาปาทธาตุ. ยา สตฺเตสุ เมตฺติ…เป… เมตฺตาเจโตวิมุตฺตี’’ติ อยํ อพฺยาปาทธาตุ. ‘‘อวิหึสาปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก…เป… อยํ วุจฺจติ อวิหึสาธาตุ. ยา สตฺเตสุ กรุณา…เป… กรุณาเจโตวิมุตฺตี’’ติ อยํ อวิหึสาธาตุ. อิธาปิ วุตฺตนเยเนว ทฺเว กถา เวทิตพฺพา.
อปราปิ ติสฺโส ธาตุโยติ อฺาปิ สฺุตฏฺเน ติสฺโส ธาตุโย. ตาสุ ‘‘ตตฺถ กตมา กามธาตุ? เหฏฺโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กริตฺวา’’ติ เอวํ วิตฺถาริโต กามภโว กามธาตุ นาม. ‘‘เหฏฺโต พฺรหฺมโลกํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อากาสานฺจายตนุปเค เทเว ปริยนฺตํ กริตฺวา’’ติ เอวํ วิตฺถาริตา ปน รูปารูปภวา อิตรา ทฺเว ธาตุโย. ธาตุยา อาคตฏฺานมฺหิ หิ ภเวน ปริจฺฉินฺทิตพฺพา. ภวสฺส อาคตฏฺาเน ธาตุยา ปริจฺฉินฺทิตพฺพา. อิธ ภเวน ปริจฺเฉโท กถิโต. รูปธาตุอาทีสุ ¶ รูปารูปธาตุโย รูปารูปภวาเยว. นิโรธธาตุยา นิพฺพานํ กถิตํ.
หีนาทีสุ หีนา ธาตูติ ทฺวาทส อกุสลจิตฺตุปฺปาทา. อวเสสา เตภูมกธมฺมา ¶ มชฺฌิมธาตุ. นว โลกุตฺตรธมฺมา ปณีตธาตุ.
กามตณฺหาติ ปฺจกามคุณิโก ราโค. รูปารูปภเวสุ ปน ราโค ฌานนิกนฺติสสฺสตทิฏฺิสหคโต ราโค ภววเสน ปตฺถนา ภวตณฺหา. อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ราโค วิภวตณฺหา. อปิจ เปตฺวา ปจฺฉิมํ ตณฺหาทฺวยํ เสสตณฺหา กามตณฺหา นาม. ยถาห ‘‘ตตฺถ กตมา ภวตณฺหา? ภวทิฏฺิสหคโต ราโค สาราโค จิตฺตสฺส สาราโค. อยํ วุจฺจติ ภวตณฺหา. ตตฺถ กตมา วิภวตณฺหา? อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ราโค สาราโค จิตฺตสฺส สาราโค, อยํ วุจฺจติ วิภวตณฺหา. อวเสสา ตณฺหา กามตณฺหา’’ติ. ปุน กามตณฺหาทีสุ ปฺจกามคุณิโก ราโค กามตณฺหา. รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค อิตรา ทฺเว ตณฺหา. อภิธมฺเม ปเนตา ‘‘กามธาตุปฏิสํยุตฺโต…เป… อรูปธาตุปฏิสํยุตฺโต’’ติ เอวํ วิตฺถาริตา. อิมินา วาเรน กึ ทสฺเสติ? สพฺเพปิ เตภูมกา ธมฺมา รชนียฏฺเน ตณฺหาวตฺถุกาติ สพฺพตณฺหา กามตณฺหาย ปริยาทิยิตฺวา ตโต นีหริตฺวา อิตรา ทฺเว ตณฺหา ทสฺเสติ. รูปตณฺหาทีสุ รูปภเว ¶ ฉนฺทราโค รูปตณฺหา. อรูปภเว ฉนฺทราโค อรูปตณฺหา. อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ราโค นิโรธตณฺหา.
สํโยชนตฺติเก วฏฺฏสฺมึ สํโยชยนฺติ พนฺธนฺตีติ สํโยชนานิ. สติ รูปาทิเภเท กาเย ทิฏฺิ, วิชฺชมานา วา กาเย ทิฏฺีติ สกฺกายทิฏฺิ. วิจินนฺโต เอตาย กิจฺฉติ, น สกฺโกติ สนฺนิฏฺานํ กาตุนฺติ วิจิกิจฺฉา. สีลฺจ วตฺจ ปรามสตีติ สีลพฺพตปรามาโส. อตฺถโต ปน ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินา นเยน อาคตา วีสติวตฺถุกา ทิฏฺิ สกฺกายทิฏฺิ นาม. ‘‘สตฺถริ กงฺขตี’’ติอาทินา นเยน อาคตา อฏฺวตฺถุกา วิมติ วิจิกิจฺฉา นาม. ‘‘อิเธกจฺโจ สีเลน สุทฺธิ วเตน สุทฺธิ สีลพฺพเตน สุทฺธีติ สีลํ ปรามสติ, วตํ ปรามสติ, สีลพฺพตํ ปรามสติ. ยา เอวรูปา ทิฏฺิ ทิฏฺิคต’’นฺติอาทินา นเยน อาคโต วิปริเยสคฺคาโห สีลพฺพตปรามาโส นาม.
ตโย ¶ อาสวาติ เอตฺถ จิรปาริวาสิยฏฺเน วา อาสวนฏฺเน วา อาสวา. ตตฺถ ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชาย, อิโต ปุพฺเพ อวิชฺชา นาโหสิ, อถ ปจฺฉา สมภวี’’ติ, ‘‘ปุริมา ¶ , ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ ภวตณฺหาย ภวทิฏฺิยา, อิโต ปุพฺเพ ภวทิฏฺิ นาโหสิ, อถ ปจฺฉา สมภวี’’ติ เอวํ ตาว จิรปาริวาสิยฏฺเน อาสวา เวทิตพฺพา. จกฺขุโต รูเป สวติ อาสวติ สนฺทติ ปวตฺตติ. โสตโต สทฺเท. ฆานโต คนฺเธ. ชิวฺหาโต รเส. กายโต โผฏฺพฺเพ. มนโต ธมฺเม สวติ อาสวติ สนฺทติ ปวตฺตตีติ เอวํ อาสวนฏฺเน อาสวาติ เวทิตพฺพา.
ปาฬิยํ ปน กตฺถจิ ทฺเว อาสวา อาคตา ‘‘ทิฏฺธมฺมิกา จ อาสวา สมฺปรายิกา จ อาสวา’’ติ, กตฺถจิ ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อาสวา. กามาสโว ภวาสโว อวิชฺชาสโว’’ติ ตโย. อภิธมฺเม เตเยว ทิฏฺาสเวน สทฺธึ จตฺตาโร. นิพฺเพธิกปริยาเย ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อาสวา นิรยคามินิยา, อตฺถิ อาสวา ติรจฺฉานโยนิคามินิยา, อตฺถิ อาสวา เปตฺติวิสยคามินิยา, อตฺถิ อาสวา มนุสฺสโลกคามินิยา อตฺถิ อาสวา เทวโลกคามินิยา’’ติ เอวํ ปฺจ. ฉกฺกนิปาเต อาหุเนยฺยสุตฺเต ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อาสวา สํวรา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา ปฏิเสวนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา ปริวชฺชนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา อธิวาสนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา วิโนทนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา ภาวนา ปหาตพฺพา’’ติ เอวํ ฉ. สพฺพาสวปริยาเย เตเยว ทสฺสนาปหาตพฺเพหิ สทฺธึ สตฺต. อิมสฺมึ ปน สงฺคีติสุตฺเต ตโย. ตตฺถ ‘‘โย กาเมสุ กามจฺฉนฺโท’’ติ เอวํ วุตฺโต ปฺจกามคุณิโก ¶ ราโค กามาสโว นาม. ‘‘โย ภเวสุ ภวจฺฉนฺโท’’ติ เอวํ วุตฺโต สสฺสตทิฏฺิสหคโต ราโค, ภววเสน วา ปตฺถนา ภวาสโว นาม. ‘‘ทุกฺเข อฺาณ’’นฺติอาทินา นเยน อาคตา อวิชฺชา อวิชฺชาสโว นามาติ. กามภวาทโย กามธาตุอาทิวเสน วุตฺตาเยว.
กาเมสนาทีสุ ‘‘ตตฺถ กตมา กาเมสนา? โย กาเมสุ กามจฺฉนฺโท กามชฺโฌสานํ, อยํ วุจฺจติ กาเมสนา’’ติ เอวํ วุตฺโต กามคเวสนราโค กาเมสนา นาม. ‘‘ตตฺถ กตมา ภเวสนา? โย ภเวสุ ¶ ภวจฺฉนฺโท ภวชฺโฌสานํ, อยํ วุจฺจติ ภเวสนา’’ติ เอวํ วุตฺโต ภวคเวสนราโค ภเวสนา นาม. ‘‘ตตฺถ กตมา พฺรหฺมจริเยสนา? สสฺสโต โลโกติ วา…เป… เนว โหติ น นโหติ ตถาคโต ปรมฺมรณาติ วา, ยา เอวรูปา ทิฏฺิ ทิฏฺิคตํ วิปริเยสคฺคาโห ¶ , อยํ วุจฺจติ พฺรหฺมจริเยสนา’’ติ เอวํ วุตฺตา ทิฏฺิคติกสมฺมตสฺส พฺรหฺมจริยสฺส คเวสนทิฏฺิ พฺรหฺมจริเยสนา นาม. น เกวลฺจ ภวราคทิฏฺิโยว, ตเทกฏฺํ กมฺมมฺปิ เอสนาเยว. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ตตฺถ กตมา กาเมสนา? กามราโค ตเทกฏฺํ อกุสลํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมํ, อยํ วุจฺจติ กาเมสนา. ตตฺถ กตมา ภเวสนา? ภวราโค ตเทกฏฺํ อกุสลํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมํ, อยํ วุจฺจติ ภเวสนา. ตตฺถ กตมา พฺรหฺมจริเยสนา? อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺิ ตเทกฏฺํ อกุสลํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมํ, อยํ วุจฺจติ พฺรหฺมจริเยสนา’’ติ.
วิธาสุ ‘‘กถํวิธํ สีลวนฺตํ วทนฺติ, กถํวิธํ ปฺวนฺตํ วทนฺตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๙๕) อาการสณฺานํ วิธา นาม. ‘‘เอกวิเธน าณวตฺถุ ทุวิเธน าณวตฺถู’’ติอาทีสุ (วิภ. ๗๕๑) โกฏฺาโส. ‘‘เสยฺโยหมสฺมีติ วิธา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๙๒๐) มาโน วิธา นาม. อิธ โส อธิปฺเปโต. มาโน หิ เสยฺยาทิวเสน วิทหนโต วิธาติ วุจฺจติ. เสยฺโยหมสฺมีติ อิมินา เสยฺยสทิสหีนานํ วเสน ตโย มานา วุตฺตา. สทิสหีเนสุปิ เอเสว นโย.
อยฺหิ มาโน นาม เสยฺยสฺส ติวิโธ, สทิสสฺส ติวิโธ, หีนสฺส ติวิโธติ นววิโธ โหติ. ตตฺถ ‘‘เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มาโน ราชูนฺเจว ปพฺพชิตานฺจ อุปฺปชฺชติ.
ราชา หิ รฏฺเน วา ธนวาหเนหิ วา ‘‘โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ เอตํ มานํ กโรติ ¶ . ปพฺพชิโตปิ สีลธุตงฺคาทีหิ ‘‘โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ เอตํ มานํ กโรติ. ‘‘เสยฺยสฺส สทิโสหมสฺมี’’ติ มาโนปิ เอเตสํเยว อุปฺปชฺชติ. ราชา หิ รฏฺเน วา ธนวาหเนหิ วา อฺราชูหิ สทฺธึ มยฺหํ กึ นานากรณนฺติ เอตํ มานํ กโรติ. ปพฺพชิโตปิ สีลธุตงฺคาทีหิปิ อฺเน ภิกฺขุนา มยฺหํ กึ นานากรณนฺติ เอตํ มานํ กโรติ. ‘‘เสยฺยสฺส หีโนหมสฺมี’’ติ มาโนปิ เอเตสํเยว อุปฺปชฺชติ. ยสฺส ¶ หิ รฺโ รฏฺํ วา ธนวาหนาทีนิ วา นาติสมฺปนฺนานิ โหนฺติ, โส มยฺหํ ราชาติ โวหารมุขมตฺตเมว, กึ ราชา นาม อหนฺติ เอตํ มานํ กโรติ. ปพฺพชิโตปิ อปฺปลาภสกฺกาโร อหํ ธมฺมกถิโก พหุสฺสุโต มหาเถโรติ กถามตฺตกเมว, กึ ธมฺมกถิโก นามาหํ กึ พหุสฺสุโต กึ มหาเถโร ยสฺส เม ลาภสกฺกาโร นตฺถีติ ¶ เอตํ มานํ กโรติ.
‘‘สทิสสฺส เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มานาทโย อมจฺจาทีนํ อุปฺปชฺชนฺติ. อมจฺโจ วา หิ รฏฺิโย วา โภคยานวาหนาทีหิ โก มยา สทิโส อฺโ ราชปุริโส อตฺถีติ วา มยฺหํ อฺเหิ สทฺธึ กึ นานากรณนฺติ วา อมจฺโจติ นามเมว มยฺหํ, ฆาสจฺฉาทนมตฺตมฺปิ เม นตฺถิ, กึ อมจฺโจ นามาหนฺติ วา เอเต มาเน กโรติ.
‘‘หีนสฺส เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มานาทโย ทาสาทีนํ อุปฺปชฺชนฺติ. ทาโส หิ มาติโต วา ปิติโต วา โก มยา สทิโส อฺโ ทาโส นาม อตฺถิ, อฺเ ชีวิตุํ อสกฺโกนฺตา กุจฺฉิเหตุ ทาสา ชาตา, อหํ ปน ปเวณีอาคตตฺตา เสยฺโยติ วา ปเวณีอาคตภาเวน อุภโตสุทฺธิกทาสตฺเตน อสุกทาเสน นาม สทฺธึ กึ มยฺหํ นานากรณนฺติ วา กุจฺฉิวเสนาหํ ทาสพฺย อุปคโต, มาตาปิตุโกฏิยา ปน เม ทาสฏฺานํ นตฺถิ, กึ ทาโส นาม อหนฺติ วา เอเต มาเน กโรติ. ยถา จ ทาโส, เอวํ ปุกฺกุสจณฺฑาลาทโยปิ เอเต มาเน กโรนฺติเยว.
เอตฺถ จ เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ, จ สทิสสฺส สทิโสหมสฺมีติ จ หีนสฺส หีโนหมสฺมีติ จ อิเม ตโย มานา ยาถาวมานา นาม อรหตฺตมคฺควชฺฌา. เสสา ฉ มานา อยาถาวมานา นาม ปมมคฺควชฺฌา.
ตโย อทฺธาติ ตโย กาลา. อตีโต อทฺธาติอาทีสุ ทฺเวปริยายา สุตฺตนฺตปริยาโย จ อภิธมฺมปริยาโย จ. สุตฺตนฺตปริยาเยน ปฏิสนฺธิโต ปุพฺเพ อตีโต อทฺธา นาม. จุติโต ปจฺฉา อนาคโต อทฺธา นาม. สห จุติปฏิสนฺธีหิ ตทนฺตรํ ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา นาม. อภิธมฺมปริยาเยน ตีสุ ขเณสุ ภงฺคโต อุทฺธํ อตีโต อทฺธา นาม. อุปฺปาทโต ปุพฺเพ อนาคโต ¶ อทฺธา นาม. ขณตฺตเย ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา นาม. อตีตาทิเภโท จ นาม อยํ ธมฺมานํ โหติ, น กาลสฺส. อตีตาทิเภเท ¶ ปน ธมฺเม อุปาทาย อิธ ปรมตฺถโต อวิชฺชมาโนปิ กาโล เตเนว โวหาเรน วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
ตโย อนฺตาติ ตโย โกฏฺาสา. ‘‘กายพนฺธนสฺส อนฺโต ชีรตี’’ติอาทีสุ (จูฬว. ๒๗๘) หิ อนฺโตเยว อนฺโต. ‘‘เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๕๑) ปรภาโค อนฺโต. ‘‘อนฺตมิทํ, ภิกฺขเว, ชีวิกาน’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๘๐) เอตฺถ ลามกภาโว อนฺโต. ‘‘สกฺกาโย โข, อาวุโส, ปโม อนฺโต’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๖.๖๑) โกฏฺาโส อนฺโต. อิธ โกฏฺาโส อธิปฺเปโต. สกฺกาโยติ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. สกฺกายสมุทโยติ ¶ เตสํ นิพฺพตฺติกา ปุริมตณฺหา. สกฺกายนิโรโธติ อุภินฺนํ อปฺปวตฺติภูตํ นิพฺพานํ. มคฺโค ปน นิโรธาธิคมสฺส อุปายตฺตา นิโรเธ คหิเต คหิโตวาติ เวทิตพฺโพ.
ทุกฺขทุกฺขตาติ ทุกฺขภูตา ทุกฺขตา. ทุกฺขเวทนาเยตํ นามํ. สงฺขารทุกฺขตาติ สงฺขารภาเวน ทุกฺขตา. อทุกฺขมสุขาเวทนาเยตํ นามํ. สา หิ สงฺขตตฺตา อุปฺปาทชราภงฺคปีฬิตา, ตสฺมา อฺทุกฺขสภาววิรหโต สงฺขารทุกฺขตาติ วุตฺตา. วิปริณามทุกฺขตาติ วิปริณาเม ทุกฺขตา. สุขเวทนาเยตํ นามํ. สุขสฺส หิ วิปริณาเม ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา สุขํ วิปริณามทุกฺขตาติ วุตฺตํ. อปิจ เปตฺวา ทุกฺขเวทนํ สุขเวทนฺจ สพฺเพปิ เตภูมกา ธมฺมา ‘‘สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา’’ติ วจนโต สงฺขารทุกฺขตาติ เวทิตพฺพา.
มิจฺฉตฺตนิยโตติ มิจฺฉาสภาโว หุตฺวา นิยโต. นิยตมิจฺฉาทิฏฺิยา สทฺธึ อานนฺตริยกมฺมสฺเสตํ นามํ. สมฺมาสภาเว นิยโต สมฺมตฺตนิยโต. จตุนฺนํ อริยมคฺคานเมตํ นามํ. น นิยโตติ อนิยโต. อวเสสานํ ธมฺมานเมตํ นามํ.
ตโย ตมาติ ‘‘ตมนฺธกาโร สมฺโมโห อวิชฺโชโฆ มหาภโย’’ติ วจนโต อวิชฺชา ตโม นาม. อิธ ปน อวิชฺชาสีเสน วิจิกิจฺฉา วุตฺตา. อารพฺภาติ อาคมฺม. กงฺขตีติ กงฺขํ อุปฺปาเทติ. วิจิกิจฺฉตีติ วิจินนฺโต กิจฺฉํ อาปชฺชติ, สนฺนิฏฺาตุํ น สกฺโกติ. นาธิมุจฺฉตีติ ตตฺถ อธิมุจฺฉิตุํ น สกฺโกติ. น สมฺปสีทตีติ ตํ อารพฺภ ปสาทํ อาโรเปตุํ น สกฺโกติ.
อรกฺเขยฺยานีติ ¶ ¶ น รกฺขิตพฺพานิ. ตีสุ ทฺวาเรสุ ปจฺเจกํ รกฺขณกิจฺจํ นตฺถิ, สพฺพานิ สติยา เอว รกฺขิตานีติ ทีเปติ. นตฺถิ ตถาคตสฺสาติ. ‘‘อิทํ นาม เม สหสา อุปฺปนฺนํ กายทุจฺจริตํ, อิมาหํ ยถา เม ปโร น ชานาติ ¶ , ตถา รกฺขามิ, ปฏิจฺฉาเทมี’’ติ เอวํ รกฺขิตพฺพํ นตฺถิ ตถาคตสฺส กายทุจฺจริตํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. กึ ปน เสสขีณาสวานํ กายสมาจาราทโย อปริสุทฺธาติ? โน อปริสุทฺธา. น ปน ตถาคตสฺส วิย ปริสุทฺธา. อปฺปสฺสุตขีณาสโว หิ กิฺจาปิ โลกวชฺชํ นาปชฺชติ, ปณฺณตฺติยํ ปน อโกวิทตฺตา วิหารการํ กุฏิการํ สหคารํ สหเสยฺยนฺติ เอวรูปา กายทฺวาเร อาปตฺติโย อาปชฺชติ. สฺจริตฺตํ ปทโสธมฺมํ อุตฺตริฉปฺปฺจวาจํ ภูตาโรจนนฺติ เอวรูปา วจีทฺวาเร อาปตฺติโย อาปชฺชติ. อุปนิกฺขิตฺตสาทิยนวเสน มโนทฺวาเร รูปิยปฺปฏิคฺคาหณาปตฺตึ อาปชฺชติ, ธมฺมเสนาปติสทิสสฺสาปิ หิ ขีณาสวสฺส มโนทฺวาเร สอุปารมฺภวเสน มโนทุจฺจริตํ อุปฺปชฺชติ เอว.
จาตุมวตฺถุสฺมิฺหิ ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานานํ ปณามิตกาเล เตสํ อตฺถาย จาตุเมยฺยเกหิ สกฺเยหิ ภควติ ขมาปิเต เถโร ภควตา ‘‘กินฺติ เต สาริปุตฺต อโหสิ มยา ภิกฺขุสงฺเฆ ปณามิเต’’ติ ปุฏฺโ อหํ ปริสาย อพฺยตฺตภาเวน สตฺถารา ปณามิโต. อิโต ทานิ ปฏฺาย ปรํ น โอวทิสฺสามีติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา อาห ‘‘เอวํ โข เม, ภนฺเต, อโหสิ ภควตา ภิกฺขุสงฺโฆ ปณามิโต, อปฺโปสฺสุกฺโก ทานิ ภควา ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ อนุยุตฺโต วิหริสฺสติ, มยมฺปิ ทานิ อปฺโปสฺสุกฺกา ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ อนุยุตฺตา วิหริสฺสามา’’ติ.
อถสฺส ตสฺมึ มโนทุจฺจริเต อุปารมฺภํ อาโรเปนฺโต สตฺถา อาห – ‘‘อาคเมหิ ตฺวํ, สาริปุตฺต น โข เต, สาริปุตฺต, ปุนปิ เอวรูปํ จิตฺตํ อุปฺปาเทตพฺพ’’นฺติ. เอวํ ปรํ น โอวทิสฺสามิ นานุสาสิสฺสามีติ วิตกฺกิตมตฺตมฺปิ เถรสฺส มโนทุจฺจริตํ นาม ชาตํ. ภควโต ปน เอตฺตกํ นาม นตฺถิ, อนจฺฉริยฺเจตํ. สพฺพฺุตํ ปตฺตสฺส ทุจฺจริตํ น ภเวยฺย. โพธิสตฺตภูมิยํ ิตสฺส ฉพฺพสฺสานิ ปธานํ อนุยฺุชนฺตสฺสาปิ ปนสฺส นาโหสิ. อุทรจฺฉวิยา ปิฏฺิกณฺฏกํ อลฺลีนาย ‘‘กาลงฺกโต สมโณ โคตโม’’ติ เทวตานํ วิมติยา อุปฺปชฺชมานายปิ ‘‘สิทฺธตฺถ กสฺมา กิลมสิ? สกฺกา โภเค ¶ จ ภฺุชิตุํ ปฺุานิ จ กาตุ’’นฺติ มาเรน ปาปิมตา วุจฺจมานสฺส ‘‘โภเค ภฺุชิสฺสามี’’ติ วิตกฺกมตฺตมฺปิ นุปฺปชฺชติ. อถ นํ มาโร โพธิสตฺตกาเล ฉพฺพสฺสานิ พุทฺธกาเล เอกํ วสฺสํ ¶ อนุพนฺธิตฺวา กิฺจิ วชฺชํ อปสฺสิตฺวา อิทํ วตฺวา ปกฺกามิ –
‘‘สตฺตวสฺสานิ ¶ ภควนฺตํ, อนุพนฺธึ ปทาปทํ;
โอตารํ นาธิคจฺฉิสฺสํ, สมฺพุทฺธสฺส สตีมโต’’ติ. (สุ. นิ. ๔๔๘);
อปิจ อฏฺารสนฺนํ พุทฺธธมฺมานํ วเสนาปิ ภควโต ทุจฺจริตาภาโว เวทิตพฺโพ. อฏฺารส พุทฺธธมฺมา นาม นตฺถิ ตถาคตสฺส กายทุจฺจริตํ, นตฺถิ วจีทุจฺจริตํ, นตฺถิ มโนทุจฺจริตํ, อตีเต พุทฺธสฺส อปฺปฏิหตาณํ, อนาคเต, ปจฺจุปฺปนฺเน พุทฺธสฺส อปฺปฏิหตาณํ, สพฺพํ กายกมฺมํ พุทฺธสฺส ภควโต าณานุปริวตฺติ, สพฺพํ วจีกมฺมํ, สพฺพํ มโนกมฺมํ พุทฺธสฺส ภควโต าณานุปริวตฺติ, นตฺถิ ฉนฺทสฺส หานิ, นตฺถิ วีริยสฺส หานิ, นตฺถิ สติยา หานิ, นตฺถิ ทวา, นตฺถิ รวา, นตฺถิ จลิตํ นตฺถิ สหสา, นตฺถิ อพฺยาวโฏ มโน, นตฺถิ อกุสลจิตฺตนฺติ.
กิฺจนาติ ปลิโพธา. ราโค กิฺจนนฺติ ราโค อุปฺปชฺชมาโน สตฺเต พนฺธติ ปลิพุนฺธติ ตสฺมา กิฺจนนฺติ วุจฺจติ. อิตเรสุปิ ทฺวีสุ เอเสว นโย.
อคฺคีติ อนุทหนฏฺเน อคฺคิ. ราคคฺคีติ ราโค อุปฺปชฺชมาโน สตฺเต อนุทหติ ฌาเปติ, ตสฺมา อคฺคีติ วุจฺจติ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ วตฺถูนิ เอกา ทหรภิกฺขุนี จิตฺตลปพฺพตวิหาเร อุโปสถาคารํ คนฺตฺวา ทฺวารปาลรูปกํ โอโลกยมานา ิตา. อถสฺสา อนฺโต ราโค อุปฺปนฺโน. สา เตเนว ฌายิตฺวา กาลมกาสิ. ภิกฺขุนิโย คจฺฉมานา ‘‘อยํ ทหรา ิตา, ปกฺโกสถ, น’’นฺติ อาหํสุ. เอกา คนฺตฺวา กสฺมา ิตาสีติ หตฺเถ คณฺหิ. คหิตมตฺตา ปริวตฺติตฺวา ปปตา. อิทํ ตาว ราคสฺส อนุทหนตาย วตฺถุ. โทสสฺส ปน อนุทหนตาย มโนปโทสิกา เทวา. โมหสฺส อนุทหนตาย ขิฑฺฑาปโทสิกา เทวา ทฏฺพฺพา. โมหวเสน หิ ตาสํ สติสมฺโมโส โหติ. ตสฺมา ขิฑฺฑาวเสน อาหารกาลํ อติวตฺติตฺวา กาลงฺกโรนฺติ.
อาหุเนยฺยคฺคีติอาทีสุ ¶ อาหุนํ วุจฺจติ สกฺกาโร, อาหุนํ อรหนฺตีติ อาหุเนยฺยา. มาตาปิตโร หิ ปุตฺตานํ พหูปการตาย อาหุนํ ¶ อรหนฺติ. เตสุ วิปฺปฏิปชฺชมานา ปุตฺตา นิรยาทีสุ นิพฺพตฺตนฺติ. ตสฺมา กิฺจาปิ มาตาปิตโร นานุทหนฺติ, อนุทหนสฺส ปน ปจฺจยา โหนฺติ. อิติ อนุทหนฏฺเน อาหุเนยฺยคฺคีติ วุจฺจนฺติ. สฺวายมตฺโถ มิตฺตวินฺทกวตฺถุนา ทีเปตพฺโพ –
มิตฺตวินฺทโก หิ มาตรา ‘‘ตาต, อชฺช อุโปสถิโก หุตฺวา วิหาเร สพฺพรตฺตึ ธมฺมสฺสวนํ ¶ สุณ, สหสฺสํ เต ทสฺสามี’’ติ วุตฺโต ธนโลเภน อุโปสถํ สมาทาย วิหารํ คนฺตฺวา อิทํ านํ อกุโตภยนฺติ สลฺลกฺเขตฺวา ธมฺมาสนสฺส เหฏฺา นิปนฺโน สพฺพรตฺตึ นิทฺทายิตฺวา ฆรํ อคมาสิ. มาตา ปาโตว ยาคุํ ปจิตฺวา อุปนาเมสิ. โส สหสฺสํ คเหตฺวาว ปิวิ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ธนํ สํหริสฺสามี’’ติ. โส นาวาย สมุทฺทํ ปกฺขนฺทิตุกาโม อโหสิ. อถ นํ มาตา ‘‘ตาต, อิมสฺมึ กุเล จตฺตาลีสโกฏิธนํ อตฺถิ, อลํ คมเนนา’’ติ นิวาเรสิ. โส ตสฺสา วจนํ อนาทิยิตฺวา คจฺฉติ เอว. มาตา ปุรโต อฏฺาสิ. อถ นํ กุชฺฌิตฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ ปุรโต ติฏฺตี’’ติ ปาเทน ปหริตฺวา ปติตํ อนฺตรํ กตฺวา อคมาสิ.
มาตา อุฏฺหิตฺวา ‘‘มาทิสาย มาตริ เอวรูปํ กมฺมํ กตฺวา คตสฺส เต คตฏฺาเน สุขํ ภวิสฺสตีติ เอวํสฺี นาม ตฺวํ ปุตฺตา’’ติ อาห. ตสฺส นาวํ อารุยฺห คจฺฉโต สตฺตเม ทิวเส นาวา อฏฺาสิ. อถ เต มนุสฺสา ‘‘อทฺธา เอตฺถ ปาปปุริโส อตฺถิ สลากํ เทถา’’ติ อาหํสุ. สลากา ทิยฺยมานา ตสฺเสว ติกฺขตฺตุํ ปาปุณาติ. เต ตสฺส อุฬุมฺปํ ทตฺวา ตํ สมุทฺเท ปกฺขิปึสุ. โส เอกํ ทีปํ คนฺตฺวา วิมานเปตีหิ สทฺธึ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต ตาหิ ‘‘ปุรโต ปุรโต มา อคมาสี’’ติ วุจฺจมาโนปิ ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณํ สมฺปตฺตึ ปสฺสนฺโต อนุปุพฺเพน ขุรจกฺกธรํ เอกํ อทฺทส. ตสฺส ตํ จกฺกํ ปทุมปุปฺผํ วิย อุปฏฺาสิ. โส ตํ อาห – ‘‘อมฺโภ, อิทํ ตยา ปิฬนฺธิตํ ปทุมํ มยฺหํ เทหี’’ติ. ‘‘น อิทํ สามิ ปทุมํ, ขุรจกฺกํ เอต’’นฺติ. โส ‘‘วฺเจสิ มํ, ตฺวํ กึ มยา ปทุมํ อทิฏฺปุพฺพ’’นฺติ วตฺวา ตฺวํ โลหิตจนฺทนํ วิลิมฺปิตฺวา ปิฬนฺธนํ ปทุมปุปฺผํ มยฺหํ น ทาตุกาโมติ อาห. โส จินฺเตสิ ‘‘อยมฺปิ มยา กตสทิสํ กมฺมํ กตฺวา ตสฺส ผลํ ¶ อนุภวิตุกาโม’’ติ. อถ นํ ‘‘หนฺท เร’’ติ วตฺวา ตสฺส มตฺถเก จกฺกํ ปกฺขิปิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘จตุพฺภิ ¶ อฏฺชฺฌคมา, อฏฺาหิปิ จ โสฬส;
โสฬสาหิ จ พาตฺตึส, อตฺริจฺฉํ จกฺกมาสโท;
อิจฺฉาหตสฺส โปสสฺส, จกฺกํ ภมติ มตฺถเก’’ติ. (ชา. ๑.๑.๑๐๔).
คหปตีติ ปน เคหสามิโก วุจฺจติ. โส มาตุคามสฺส สยนวตฺถาลงฺการาทิอนุปฺปทาเนน พหูปกาโร. ตํ อติจรนฺโต มาตุคาโม นิรยาทีสุ นิพฺพตฺตติ, ตสฺมา โสปิ ปุริมนเยเนว อนุทหนฏฺเน คหปตคฺคีติ วุตฺโต.
ตตฺถ วตฺถุ – กสฺสปพุทฺธสฺส กาเล โสตาปนฺนสฺส อุปาสกสฺส ภริยา อติจารินี อโหสิ ¶ . โส ตํ ปจฺจกฺขโต ทิสฺวา ‘‘กสฺมา ตฺวํ เอวํ กโรสี’’ติ อาห. สา ‘‘สจาหํ เอวรูปํ กโรมิ, อยํ เม สุนโข วิลุปฺปมาโน ขาทตู’’ติ วตฺวา กาลงฺกตฺวา กณฺณมุณฺฑกทเห เวมานิกเปตี หุตฺวา นิพฺพตฺตา. ทิวา สมฺปตฺตึ อนุภวติ, รตฺตึ ทุกฺขํ. ตทา พาราณสีราชา มิควํ จรนฺโต อรฺํ ปวิสิตฺวา อนุปุพฺเพน กณฺณมุณฺฑกทหํ สมฺปตฺโต ตาย สทฺธึ สมฺปตฺตึ อนุภวติ. สา ตํ วฺเจตฺวา รตฺตึ ทุกฺขํ อนุภวติ. โส ตฺวา ‘‘กตฺถ นุ โข คจฺฉตี’’ติ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต คนฺตฺวา อวิทูเร ิโต กณฺณมุณฺฑกทหโต นิกฺขมิตฺวา ตํ ‘‘ปฏปฏ’’นฺติ ขาทมานํ เอกํ สุนขํ ทิสฺวา อสินา ทฺวิธา ฉินฺทิ. ทฺเว อเหสุํ. ปุน ฉินฺเน จตฺตาโร. ปุน ฉินฺเน อฏฺ. ปุน ฉินฺเน โสฬส อเหสุํ. สา ‘‘กึ กโรสิ สามี’’ติ อาห. โส ‘‘กึ อิท’’นฺติ อาห. สา ‘‘เอวํ อกตฺวา เขฬปิณฺฑํ ภูมิยํ นิฏฺุภิตฺวา ปาเทน ฆํสาหี’’ติ อาห. โส ตถา อกาสิ. สุนขา อนฺตรธายึสุ. ตํ ทิวสํ ตสฺสา กมฺมํ ขีณํ. ราชา วิปฺปฏิสารี หุตฺวา คนฺตุํ อารทฺโธ. สา ‘‘มยฺหํ, สามิ, กมฺมํ ขีณํ มา อคมา’’ติ อาห. ราชา อสุตฺวาว คโต.
ทกฺขิเณยฺยคฺคีติ เอตฺถ ปน ทกฺขิณาติ จตฺตาโร ปจฺจยา, ภิกฺขุสงฺโฆ ทกฺขิเณยฺโย. โส คิหีนํ ตีสุ สรเณสุ ปฺจสุ สีเลสุ ทสสุ สีเลสุ มาตาปิตุอุปฏฺาเน ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณอุปฏฺาเนติ เอวมาทีสุ กลฺยาณธมฺเมสุ นิโยชเนน พหูปกาโร, ตสฺมึ มิจฺฉาปฏิปนฺนา คิหี ภิกฺขุสงฺฆํ ¶ อกฺโกสิตฺวา ปริภาสิตฺวา นิรยาทีสุ นิพฺพตฺตนฺติ, ตสฺมา โสปิ ปุริมนเยเนว อนุทหนฏฺเน ทกฺขิเณยฺยคฺคีติ ¶ วุตฺโต. อิมสฺส ปนตฺถสฺส วิภาวนตฺถํ วิมานวตฺถุสฺมึ เรวตีวตฺถุ วิตฺถาเรตพฺพํ.
‘‘ติวิเธน รูปสงฺคโห’’ติ เอตฺถ ติวิเธนาติ ตีหิ โกฏฺาเสหิ. สงฺคโหติ ชาติสฺชาติกิริยคณนวเสน จตุพฺพิโธ สงฺคโห. ตตฺถ สพฺเพ ขตฺติยา อาคจฺฉนฺตูติอาทิโก (ม. นิ. ๑.๔๖๒) ชาติสงฺคโห. สพฺเพ โกสลกาติอาทิโก สฺชาติสงฺคโห. สพฺเพ หตฺถาโรหาติอาทิโก กิริยสงฺคโห. จกฺขายตนํ กตมํ ขนฺธคณนํ คจฺฉตีติ? จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉตีติ. หฺจิ จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺเธน สงฺคหิตนฺติ อยํ คณนสงฺคโห, โส อิธ อธิปฺเปโต. ตสฺมา ติวิเธน รูปสงฺคโหติ ตีหิ โกฏฺาเสหิ รูปคณนาติ อตฺโถ.
สนิทสฺสนาทีสุ อตฺตานํ อารพฺภ ปวตฺเตน จกฺขุวิฺาณสงฺขาเตน สห นิทสฺสเนนาติ สนิทสฺสนํ. จกฺขุปฏิหนนสมตฺถโต สห ปฏิเฆนาติ สปฺปฏิฆํ. ตํ อตฺถโต รูปายตนเมว. จกฺขุวิฺาณสงฺขาตํ นาสฺส นิทสฺสนนฺติ อนิทสฺสนํ. โสตาทิปฏิหนนสมตฺถโต สห ปฏิเฆนาติ ¶ สปฺปฏิฆํ. ตํ อตฺถโต จกฺขายตนาทีนิ นว อายตนานิ. วุตฺตปฺปการํ นาสฺส นิทสฺสนนฺติ อนิทสฺสนํ. นาสฺส ปฏิโฆติ อปฺปฏิฆํ. ตํ อตฺถโต เปตฺวา ทสายตนานิ อวเสสํ สุขุมรูปํ.
ตโย สงฺขาราติ สหชาตธมฺเม เจว สมฺปราเย ผลธมฺเม จ สงฺขโรนฺติ ราสี กโรนฺตีติ สงฺขารา. อภิสงฺขโรตีติ อภิสงฺขาโร. ปฺุโ อภิสงฺขาโร ปฺุาภิสงฺขาโร.
‘‘ตตฺถ กตโม ปฺุาภิสงฺขาโร? กุสลา เจตนา กามาวจรา รูปาวจรา ทานมยา สีลมยา ภาวนามยา’’ติ เอวํ วุตฺตานํ อฏฺนฺนํ กามาวจรกุสลมหาจิตฺตเจตนานํ, ปฺจนฺนํ รูปาวจรกุสลเจตนานฺเจตํ อธิวจนํ. เอตฺถ จ ทานสีลมยา อฏฺเว เจตนา โหนฺติ. ภาวนามยา เตรสาปิ. ยถา หิ ปคุณํ ธมฺมํ สชฺฌายมาโน เอกํ ทฺเว อนุสนฺธึ คโตปิ น ชานาติ, ปจฺฉา อาวชฺชนฺโต ชานาติ, เอวเมว กสิณปริกมฺมํ ¶ กโรนฺตสฺส ปคุณชฺฌานํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส าณวิปฺปยุตฺตาปิ ภาวนา โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ภาวนามยา เตรสาปี’’ติ.
ตตฺถ ทานมยาทีสุ ‘‘ทานํ อารพฺภ ทานมธิกิจฺจ ยา อุปฺปชฺชติ ¶ เจตนา สฺเจตนา เจตยิตตฺตํ, อยํ วุจฺจติ ทานมโย ปฺุาภิสงฺขาโร. สีลํ อารพฺภ, ภาวนํ อารพฺภ, ภาวนมธิกิจฺจ ยา อุปฺปชฺชติ เจตนา สฺเจตนา เจตยิตตฺตํ, อยํ วุจฺจติ ภาวนามโย ปฺุาภิสงฺขาโร’’ติ อยํ สงฺเขปเทสนา.
จีวราทีสุ ปน จตูสุ ปจฺจเยสุ รูปาทีสุ วา ฉสุ อารมฺมเณสุ อนฺนาทีสุ วา ทสสุ ทานวตฺถูสุ ตํ ตํ เทนฺตสฺส เตสํ อุปฺปาทนโต ปฏฺาย ปุพฺพภาเค, ปริจฺจาคกาเล, ปจฺฉา โสมนสฺสจิตฺเตน อนุสฺสรเณ จาติ ตีสุ กาเลสุ ปวตฺตา เจตนา ทานมยา นาม. สีลปูรณตฺถาย ปน ปพฺพชิสฺสามีติ วิหารํ คจฺฉนฺตสฺส, ปพฺพชนฺตสฺส มโนรถํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ปพฺพชิโต วตมฺหิ สาธุ สาธูติ อาวชฺชนฺตสฺส, ปาติโมกฺขํ สํวรนฺตสฺส, จีวราทโย ปจฺจเย ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส, อาปาถคเตสุ รูปาทีสุ จกฺขุทฺวาราทีนิ สํวรนฺตสฺส, อาชีวํ โสเธนฺตสฺส จ ปวตฺตา เจตนา สีลมยา นาม.
ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺเตน วิปสฺสนามคฺเคน ‘‘จกฺขุํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ภาเวนฺตสฺส…เป… มนํ. รูเป. ธมฺเม. จกฺขุวิฺาณํ…เป… มโนวิฺาณํ. จกฺขุสมฺผสฺสํ…เป… มโนสมฺผสฺสํ. จกฺขุสมฺผสฺสชํ เวทนํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ เวทนํ. รูปสฺํ ¶ , ชรามรณํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ภาเวนฺตสฺส ปวตฺตา เจตนา ภาวนามยา นามา’’ติ อยํ วิตฺถารกถา.
อปฺุโ จ โส อภิสงฺขาโร จาติ อปฺุาภิสงฺขาโร. ทฺวาทสอกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตานํ เจตนานํ เอตํ อธิวจนํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ตตฺถ กตโม อปฺุาภิสงฺขาโร? อกุสลเจตนา กามาวจรา, อยํ วุจฺจติ อปฺุาภิสงฺขาโร’’ติ. อาเนฺชํ นิจฺจลํ สนฺตํ วิปากภูตํ อรูปเมว อภิสงฺขโรตีติ อาเนฺชาภิสงฺขาโร. จตุนฺนํ อรูปาวจรกุสลเจตนานํ เอตํ อธิวจนํ. ยถาห ‘‘ตตฺถ กตโม อาเนฺชาภิสงฺขาโร? กุสลเจตนา อรูปาวจรา, อยํ วุจฺจติ อาเนฺชาภิสงฺขาโร’’ติ.
ปุคฺคลตฺติเก ¶ สตฺตวิโธ ปุริสปุคฺคโล, ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขตีติ เสกฺโข. ขีณาสโว สิกฺขิตสิกฺขตฺตา ปุน น สิกฺขิสฺสตีติ อเสกฺโข. ปุถุชฺชโน สิกฺขาหิ ปริพาหิยตฺตา เนวเสกฺโข นาเสกฺโข.
เถรตฺติเก ¶ ชาติมหลฺลโก คิหี ชาติตฺเถโร นาม. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, เถรกรณา ธมฺมา. อิธ, ภิกฺขเว, เถโร สีลวา โหติ, พหุสฺสุโต โหติ, จตุนฺนํ ฌานานํ ลาภี โหติ, อาสวานํ ขยา พหุสฺสุโต โหติ, จตุนฺนํ ฌานานํ ลาภี โหติ, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร เถรกรณา ธมฺมา’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๒). เอวํ วุตฺเตสุ ธมฺเมสุ เอเกน วา อเนเกหิ วา สมนฺนาคโต ธมฺมเถโร นาม. อฺตโร เถรนามโก ภิกฺขูติ เอวํ เถรนามโก วา, ยํ วา ปน มหลฺลกกาเล ปพฺพชิตํ สามเณราทโย ทิสฺวา เถโร เถโรติ วทนฺติ, อยํ สมฺมุติเถโร นาม.
ปฺุกิริยวตฺถูสุ ทานเมว ทานมยํ. ปฺุกิริยา จ สา เตสํ เตสํ อานิสํสานํ วตฺถุ จาติ ปฺุกิริยวตฺถุ. อิตเรสุปิ ทฺวีสุ เอเสว นโย. อตฺถโต ปน ปุพฺเพ วุตฺตทานมยเจตนาทิวเสเนว สทฺธึ ปุพฺพภาคอปรภาคเจตนาหิ อิมานิ ตีณิ ปฺุกิริยวตฺถูนิ เวทิตพฺพานิ. เอกเมกฺเจตฺถ ปุพฺพภาคโต ปฏฺาย กาเยน กโรนฺตสฺส กายกมฺมํ โหติ. ตทตฺถํ วาจํ นิจฺฉาเรนฺตสฺส วจีกมฺมํ. กายงฺควาจงฺคํ อโจเปตฺวา มนสา จินฺเตนฺตสฺส มโนกมฺมํ. อนฺนาทีนิ เทนฺตสฺส จาปิ อนฺนทานาทีนิ เทมีติ วา ทานปารมึ อาวชฺเชตฺวา ¶ วา ทานกาเล ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ โหติ. วตฺตสีเส ตฺวา ททโต สีลมยํ. ขยโต วยโต สมฺมสนํ ปฏฺเปตฺวา ททโต ภาวนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุ โหติ.
อปรานิปิ สตฺต ปฺุกิริยวตฺถูนิ อปจิติสหคตํ ปฺุกิริยวตฺถุ, เวยฺยาวจฺจสหคตํ, ปตฺตานุปฺปทานํ, ปตฺตพฺภนุโมทนํ, เทสนามยํ, สวนมยํ, ทิฏฺิชุคตํ ปฺุกิริยวตฺถูติ. ตตฺถ มหลฺลกํ ทิสฺวา ปจฺจุคฺคมนปตฺตจีวรปฺปฏิคฺคหณอภิวาทนมคฺคสมฺปทานาทิวเสน อปจิติสหคตํ เวทิตพฺพํ. วุฑฺฒตรานํ วตฺตปฺปฏิปตฺติกรณวเสน, คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา คาเม ภิกฺขํ สมาทเปตฺวา อุปสํหรณวเสน, ‘‘คจฺฉ ภิกฺขูนํ ปตฺตํ อาหรา’’ติ สุตฺวา เวเคน คนฺตฺวา ปตฺตาหรณาทิวเสน จ เวยฺยาวจฺจสหคตํ ¶ เวทิตพฺพํ. จตฺตาโร ปจฺจเย ทตฺวา สพฺพสตฺตานํ ปตฺติ โหตูติ ปวตฺตนวเสน ปตฺตานุปฺปทานํ เวทิตพฺพํ. ปเรหิ ทินฺนาย ปตฺติยา สาธุ สุฏฺูติ อนุโมทนาวเสน ¶ ปตฺตพฺภนุโมทนํ เวทิตพฺพํ. เอโก ‘‘เอวํ มํ ‘ธมฺมกถิโก’ติ ชานิสฺสนฺตี’’ติ อิจฺฉาย ตฺวา ลาภครุโก หุตฺวา เทเสติ, ตํ น มหปฺผลํ. เอโก อตฺตโน ปคุณธมฺมํ อปจฺจาสีสมาโน ปเรสํ เทเสติ, อิทํ เทสนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุ นาม. เอโก สุณนฺโต ‘‘อิติ มํ ‘สทฺโธ’ติ ชานิสฺสนฺตี’’ติ สุณาติ, ตํ น มหปฺผลํ. เอโก ‘‘เอวํ เม มหปฺผลํ ภวิสฺสตี’’ติ หิตปฺผรเณน มุทุจิตฺเตน ธมฺมํ สุณาติ, อิทํ สวนมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ. ทิฏฺิชุคตํ ปน สพฺเพสํ นิยมลกฺขณํ. ยํกิฺจิ ปฺุํ กโรนฺตสฺส หิ ทิฏฺิยา อุชุภาเวเนว มหปฺผลํ โหติ.
อิติ อิเมสํ สตฺตนฺนํ ปฺุกิริยวตฺถูนํ ปุริเมเหว ตีหิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. เอตฺถ หิ อปจิติเวยฺยาวจฺจานิ สีลมเย. ปตฺติทานปตฺตพฺภนุโมทนานิ ทานมเย. เทสนาสวนานิ ภาวนามเย. ทิฏฺิชุคตํ ตีสุปิ สงฺคหํ คจฺฉติ.
โจทนาวตฺถูนีติ โจทนาการณานิ. ทิฏฺเนาติ มํสจกฺขุนา วา ทิพฺพจกฺขุนา วา วีติกฺกมํ ทิสฺวา โจเทติ. สุเตนาติ ปกติโสเตน วา ทิพฺพโสเตน วา ปรสฺส สทฺทํ สุตฺวา โจเทติ. ปริสงฺกาย วาติ ทิฏฺปริสงฺกิเตน วา สุตปริสงฺกิเตน วา มุตปริสงฺกิเตน วา โจเทติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
กามูปปตฺติโยติ กามูปเสวนา กามปฺปฏิลาภา วา. ปจฺจุปฏฺิตกามาติ นิพทฺธกามา นิพทฺธารมฺมณา. เสยฺยถาปิ มนุสฺสาติ ยถา มนุสฺสา. มนุสฺสา หิ นิพทฺเธเยว วตฺถุสฺมึ วสํ วตฺเตนฺติ ¶ . ยตฺถ ปฏิพทฺธจิตฺตา โหนฺติ, สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ ทตฺวา มาตุคามํ อาเนตฺวา นิพทฺธโภคํ ภฺุชนฺติ. เอกจฺเจ เทวา นาม จตุเทวโลกวาสิโน. เตปิ นิพทฺธวตฺถุสฺมึเยว วสํ วตฺเตนฺติ. เอกจฺเจ วินิปาติกา นาม เนรยิเก เปตฺวา อวเสสา มจฺฉกจฺฉปาทโยปิ หิ นิพทฺธวตฺถุสฺมึเยว วสํ วตฺเตนฺติ. มจฺโฉ อตฺตโน มจฺฉิยา กจฺฉโป กจฺฉปิยาติ ¶ . นิมฺมินิตฺวา นิมฺมินิตฺวาติ นีลปีตาทิวเสน ยาทิสํ ยาทิสํ อตฺตโน ¶ รูปํ อิจฺฉนฺติ, ตาทิสํ ตาทิสํ นิมฺมินิตฺวา อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส ปุรโต มนาปกายิกา เทวตา วิย. นิมฺมานรตีติ เอวํ สยํ นิมฺมิเต นิมฺมิเต นิมฺมาเน รติ เอเตสนฺติ นิมฺมานรตี. ปรนิมฺมิตกามาติ ปเรหิ นิมฺมิตกามา. เตสฺหิ มนํ ตฺวา ปเร ยถารุจิตํ กามโภคํ นิมฺมินนฺติ, เต ตตฺถ วสํ วตฺเตนฺติ. กถํ ปรสฺส มนํ ชานนฺตีติ? ปกติเสวนวเสน. ยถา หิ กุสโล สูโท รฺโ ภฺุชนฺตสฺส ยํ ยํ โส พหุํ คณฺหาติ, ตํ ตํ ตสฺส รุจฺจตีติ ชานาติ, เอวํ ปกติยา อภิรุจิตารมฺมณํ ตฺวา ตาทิสกํเยว นิมฺมินนฺติ. เต ตตฺถ วสํ วตฺเตนฺติ, เมถุนํ เสวนฺติ. เกจิ ปน เถรา ‘‘หสิตมตฺเตน โอโลกิตมตฺเตน อาลิงฺคิตมตฺเตน จ เตสํ กามกิจฺจํ อิชฺฌตี’’ติ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถายํ ‘‘เอตํ ปน นตฺถี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตํ. น หิ กาเยน อผุสนฺตสฺส โผฏฺพฺพํ กามกิจฺจํ สาเธติ. ฉนฺนมฺปิ หิ กามาวจรานํ กามา ปากติกา เอว. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ฉ เอเต กามาวจรา, สพฺพกามสมิทฺธิโน;
สพฺเพสํ เอกสงฺขาตํ, อายุ ภวติ กิตฺตก’’นฺติ. (วิภ. ๑๐๒๓);
สุขูปปตฺติโยติ สุขปฺปฏิลาภา. อุปฺปาเทตฺวา อุปฺปาเทตฺวา สุขํ วิหรนฺตีติ เต เหฏฺา ปมชฺฌานสุขํ นิพฺพตฺเตตฺวา อุปริ วิปากชฺฌานสุขํ อนุภวนฺตีติ อตฺโถ. สุเขน อภิสนฺนาติ ทุติยชฺฌานสุเขน ตินฺตา. ปริสนฺนาติ สมนฺตโต ตินฺตา. ปริปูราติ ปริปุณฺณา. ปริปฺผุฏาติ ตสฺเสว เววจนํ. อิทมฺปิ วิปากชฺฌานสุขเมว สนฺธาย วุตฺตํ. อโหสุขํ อโหสุขนฺติ เตสํ กิร ภวโลโภ มหา อุปฺปชฺชติ. ตสฺมา กทาจิ กรหจิ เอวํ อุทานํ อุทาเนนฺติ. สนฺตเมวาติ ปณีตเมว. ตุสิตาติ ตโต อุตฺตรึ สุขสฺส อปตฺถนโต สนฺตุฏฺา หุตฺวา. สุขํ ปฏิเวเทนฺตีติ ตติยชฺฌานสุขํ อนุภวนฺติ.
เสกฺขา ปฺาติ สตฺต อริยปฺา. อรหโต ปฺา อเสกฺขา. อวเสสา ปฺา เนวเสกฺขานาเสกฺขา.
จินฺตามยาทีสุ ¶ ¶ ¶ อยํ วิตฺถาโร – ‘‘ตตฺถ กตมา จินฺตามยา ปฺา? โยควิหิเตสุ วา กมฺมายตเนสุ โยควิหิเตสุ วา สิปฺปายตเนสุ โยควิหิเตสุ วา วิชฺชาฏฺาเนสุ กมฺมสฺสกตํ วา สจฺจานุโลมิกํ วา รูปํ อนิจฺจนฺติ วา…เป… วิฺาณํ อนิจฺจนฺติ วา ยํ เอวรูปํ อนุโลมิกํ ขนฺตึ ทิฏฺึ รุจึ มุตฺตึ เปกฺขํ ธมฺมนิชฺฌานกฺขนฺตึ ปรโต อสุตฺวา ปฏิลภติ, อยํ วุจฺจติ จินฺตามยา ปฺา. ตตฺถ กตมา สุตมยา ปฺา? โยควิหิเตสุ วา กมฺมายตเนสุ…เป… ธมฺมนิชฺฌานกฺขนฺตึ ปรโต สุตฺวา ปฏิลภติ, อยํ วุจฺจติ สุตมยา ปฺา. (ตตฺถ กตมา ภาวนามยา ปฺา?) สพฺพาปิ สมาปนฺนสฺส ปฺา ภาวนามยา ปฺา’’ติ (วิภ. ๗๖๘-๖๙).
สุตาวุธนฺติ สุตเมว อาวุธํ. ตํ อตฺถโต เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ. ตฺหิ นิสฺสาย ภิกฺขุ ปฺาวุธํ นิสฺสาย สูโร โยโธ อวิกมฺปมาโน มหากนฺตารํ วิย สํสารกนฺตารํ อติกฺกมติ อวิหฺมาโน. เตเนว วุตฺตํ – ‘‘สุตาวุโธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ, สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ, สุทฺธมตฺตานํ ปริหรตี’’ติ (อ. นิ. ๗.๖๗).
ปวิเวกาวุธนฺติ ‘‘กายวิเวโก จิตฺตวิเวโก อุปธิวิเวโก’’ติ อยํ ติวิโธปิ วิเวโกว อาวุธํ. ตสฺส นานากรณํ กายวิเวโก วิเวกฏฺกายานํ เนกฺขมฺมาภิรตานํ. จิตฺตวิเวโก จ ปริสุทฺธจิตฺตานํ ปรมโวทานปฺปตฺตานํ. อุปธิวิเวโก จ นิรุปธีนํ ปุคฺคลานํ. อิมสฺมิฺหิ ติวิเธ วิเวเก อภิรโต, น กุโตจิ ภายติ. ตสฺมา อยมฺปิ อวสฺสยฏฺเน อาวุธนฺติ วุตฺโต. โลกิยโลกุตฺตรปฺาว อาวุธํ ปฺาวุธํ. ยสฺส สา อตฺถิ, โส น กุโตจิ ภายติ, น จสฺส โกจิ ภายติ. ตสฺมา สาปิ อวสฺสยฏฺเเนว อาวุธนฺติ วุตฺตา.
อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยนฺติ อิโต ปุพฺเพ อนฺาตํ อวิทิตํ ธมฺมํ ชานิสฺสามีติ ปฏิปนฺนสฺส อุปฺปนฺนํ อินฺทฺริยํ. โสตาปตฺติมคฺคาณสฺเสตํ อธิวจนํ. อฺินฺทฺริยนฺติ อฺาภูตํ อาชานนภูตํ อินฺทฺริยํ. โสตาปตฺติผลโต ปฏฺาย ฉสุ าเนสุ าณสฺเสตํ อธิวจนํ. อฺาตาวินฺทฺริยนฺติ อฺาตาวีสุ ชานนกิจฺจปริโยสานปฺปตฺเตสุ ธมฺเมสุ อินฺทฺริยํ. อรหตฺตผลาณสฺเสตํ อธิวจนํ.
มํสจกฺขุ ¶ ¶ จกฺขุปสาโท. ทิพฺพจกฺขุ อาโลกนิสฺสิตํ าณํ. ปฺาจกฺขุ โลกิยโลกุตฺตรปฺา.
อธิสีลสิกฺขาทีสุ ¶ อธิสีลฺจ ตํ สิกฺขิตพฺพโต สิกฺขา จาติ อธิสีลสิกฺขา. อิตรสฺมึ ทฺวเยปิ เอเสว นโย. ตตฺถ สีลํ อธิสีลํ, จิตฺตํ อธิจิตฺตํ, ปฺา อธิปฺาติ อยํ ปเภโท เวทิตพฺโพ –
สีลํ นาม ปฺจสีลทสสีลานิ, ปาติโมกฺขสํวโร อธิสีลํ นาม. อฏฺ สมาปตฺติโย จิตฺตํ, วิปสฺสนาปาทกชฺฌานํ อธิจิตฺตํ. กมฺมสฺสกตาณํ ปฺา, วิปสฺสนาปฺา อธิปฺา. อนุปฺปนฺเนปิ หิ พุทฺธุปฺปาเท ปวตฺตตีติ ปฺจสีลทสสีลานิ สีลเมว, ปาติโมกฺขสํวรสีลํ พุทฺธุปฺปาเทเยว ปวตฺตตีติ อธิสีลํ. จิตฺตปฺาสุปิ เอเสว นโย. อปิจ นิพฺพานํ ปตฺถยนฺเตน สมาทินฺนํ ปฺจสีลมฺปิ ทสสีลมฺปิ อธิสีลเมว. สมาปนฺนา อฏฺ สมาปตฺติโยปิ อธิจิตฺตเมว. สพฺพํ วา โลกิยํ สีลเมว, โลกุตฺตรํ อธิสีลํ. จิตฺตปฺาสุปิ เอเสว นโย.
ภาวนาสุ ขีณาสวสฺส ปฺจทฺวาริกกาโย กายภาวนา นาม. อฏฺ สมาปตฺติโย จิตฺตภาวนา นาม. อรหตฺตผลปฺา ปฺาภาวนา นาม. ขีณาสวสฺส หิ เอกนฺเตเนว ปฺจทฺวาริกกาโย สุภาวิโต โหติ. อฏฺ สมาปตฺติโย จสฺส น อฺเสํ วิย ทุพฺพลา, ตสฺเสว จ ปฺา ภาวิตา นาม โหติ ปฺาเวปุลฺลปตฺติยา. ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ.
อนุตฺตริเยสุ วิปสฺสนา ทสฺสนานุตฺตริยํ มคฺโค ปฏิปทานุสฺสริยํ. ผลํ วิมุตฺตานุตฺตริยํ. ผลํ วา ทสฺสนานุตฺตริยํ. มคฺโค ปฏิปทานุตฺตริยํ. นิพฺพานํ วิมุตฺตานุตฺตริยํ. นิพฺพานํ วา ทสฺสนานุตฺตริยํ, ตโต อุตฺตริฺหิ ทฏฺพฺพํ นาม นตฺถิ. มคฺโค ปฏิปทานุตฺตริยํ. ผลํ วิมุตฺตานุตฺตริยํ. อนุตฺตริยนฺติ อุตฺตมํ เชฏฺกํ.
สมาธีสุ ปมชฺฌานสมาธิ สวิตกฺกสวิจาโร. ปฺจกนเยน ทุติยชฺฌานสมาธิ อวิตกฺกวิจารมตฺโต. เสโส อวิตกฺกอวิจาโร.
สฺุตาทีสุ ติวิธา กถา อาคมนโต, สคุณโต, อารมฺมณโตติ. อาคมนโต นาม เอโก ภิกฺขุ อนตฺตโต อภินิวิสิตฺวา อนตฺตโต ทิสฺวา อนตฺตโต วุฏฺาติ, ตสฺส วิปสฺสนา สฺุตา นาม โหติ. กสฺมา? อสฺุตตฺตการกานํ กิเลสานํ ¶ อภาวา. วิปสฺสนาคมเนน ¶ มคฺคสมาธิ สฺุโต นาม โหติ. มคฺคาคมเนน ผลสมาธิ สฺุโต นาม. อปโร อนิจฺจโต อภินิวิสิตฺวา อนิจฺจโต ทิสฺวา อนิจฺจโต วุฏฺาติ. ตสฺส วิปสฺสนา อนิมิตฺตา ¶ นาม โหติ. กสฺมา? นิมิตฺตการกกิเลสาภาวา. วิปสฺสนาคมเนน มคฺคสมาธิ อนิมิตฺโต นาม โหติ. มคฺคาคมเนน ผลํ อนิมิตฺตํ นาม. อปโร ทุกฺขโต อภินิวิสิตฺวา ทุกฺขโต ทิสฺวา ทุกฺขโต วุฏฺาติ, ตสฺส วิปสฺสนา อปฺปณิหิตา นาม โหติ. กสฺมา? ปณิธิการกกิเลสาภาวา. วิปสฺสนาคมเนน มคฺคสมาธิ อปฺปณิหิโต นาม. มคฺคาคมเนน ผลํ อปฺปณิหิตํ นามาติ อยํ อาคมนโต กถา. มคฺคสมาธิ ปน ราคาทีหิ สฺุตตฺตา สฺุโต, ราคนิมิตฺตาทีนํ อภาวา อนิมิตฺโต, ราคปณิธิอาทีนํ อภาวา อปฺปณิหิโตติ อยํ สคุณโต กถา. นิพฺพานํ ราคาทีหิ สฺุตตฺตา ราคาทินิมิตฺตปณิธีนฺจ อภาวา สฺุตฺเจว อนิมิตฺตฺจ อปฺปณิหิตฺจ. ตทารมฺมโณ มคฺคสมาธิ สฺุโต อนิมิตฺโต อปฺปณิหิโต. อยํ อารมฺมณโต กถา.
โสเจยฺยานีติ สุจิภาวกรา โสเจยฺยปฺปฏิปทา ธมฺมา. วิตฺถาโร ปเนตฺถ ‘‘ตตฺถ กตมํ กายโสเจยฺยํ? ปาณาติปาตา เวรมณี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตานํ ติณฺณํ สุจริตานํ วเสน เวทิตพฺโพ.
โมเนยฺยานีติ มุนิภาวกรา โมเนยฺยปฺปฏิปทา ธมฺมา. เตสํ วิตฺถาโร ‘‘ตตฺถ กตมํ กายโมเนยฺยํ? ติวิธกายทุจฺจริตสฺส ปหานํ กายโมเนยฺยํ, ติวิธํ กายสุจริตํ กายโมเนยฺยํ, กายารมฺมเณ าณํ กายโมเนยฺยํ, กายปริฺา กายโมเนยฺยํ, กายปริฺาสหคโต มคฺโค กายโมเนยฺยํ, กายสฺมึ ฉนฺทราคปฺปหานํ กายโมเนยฺยํ, กายสงฺขารนิโรธา จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติ กายโมเนยฺยํ. ตตฺถ กตมํ วจีโมเนยฺยํ? จตุพฺพิธวจีทุจฺจริตสฺส ปหานํ วจีโมเนยฺยํ, จตุพฺพิธํ วจีสุจริตํ วจีโมเนยฺยํ, วาจารมฺมเณ าณํ วจีโมเนยฺยํ วาจาปริฺา วจีโมเนยฺยํ ปริฺาสหคโต มคฺโค, วาจาย ฉนฺทราคปฺปหานํ, วจีสงฺขารนิโรธา ทุติยชฺฌานสมาปตฺติ วจีโมเนยฺยํ. ตตฺถ กตมํ มโนโมเนยฺยํ? ติวิธมโนทุจฺจริตสฺส ปหานํ มโนโมเนยฺยํ ¶ , ติวิธํ มโนสุจริตํ มโนโมเนยฺยํ, มนารมฺมเณ าณํ มโนโมเนยฺยํ, มโนปริฺา มโนโมเนยฺยํ. ปริฺาสหคโต มคฺโค, มนสฺมึ ฉนฺทราคปฺปหานํ ¶ , จิตฺตสงฺขารนิโรธา สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติ มโนโมเนยฺย’’นฺติ (มหานิ. ๑๔).
โกสลฺเลสุ อาโยติ วุฑฺฒิ. อปาโยติ อวุฑฺฒิ. ตสฺส ตสฺส การณํ อุปาโย. เตสํ ปชานนา โกสลฺลํ. วิตฺถาโร ปน วิภงฺเค วุตฺโตเยว.
วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ตตฺถ กตมํ อายโกสลฺลํ? อิเม ธมฺเม มนสิกโรโต อนุปฺปนฺนา เจว อกุสลา ¶ ธมฺมา นุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา จ อกุสลา ธมฺมา นิรุชฺฌนฺติ. อิเม วา ปน เม ธมฺเม มนสิกโรโต อนุปฺปนฺนา เจว กุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา จ กุสลา ธมฺมา ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตนฺตีติ, ยา ตตฺถ ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ. อิทํ วุจฺจติ อายโกสลฺลํ. ตตฺถ กตมํ อปายโกสลฺลํ? อิเม ธมฺเม มนสิกโรโต อนุปฺปนฺนา เจว กุสลา ธมฺมา น อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา จ กุสลา ธมฺมา นิรุชฺฌนฺติ. อิเม วา ปน เม ธมฺเม มนสิกโรโต อนุปฺปนฺนา เจว อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา จ อกุสลา ธมฺมา ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตนฺตีติ, ยา ตตฺถ ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ. อิทํ วุจฺจติ อปายโกสลฺลํ. สพฺพาปิ ตตฺรุปายา ปฺา อุปายโกสลฺล’’นฺติ (วิภ. ๗๗๑). อิทํ ปน อจฺจายิกกิจฺเจ วา ภเย วา อุปฺปนฺเน ตสฺส ติกิจฺฉนตฺถํ านุปฺปตฺติยา การณชานนวเสเนว เวทิตพฺพํ.
มทาติ มชฺชนาการวเสน ปวตฺตมานา. เตสุ ‘‘อหํ นิโรโค สฏฺิ วา สตฺตติ วา วสฺสานิ อติกฺกนฺตานิ, น เม หรีตกีขณฺฑมฺปิ ขาทิตปุพฺพํ, อิเม ปนฺเ อสุกํ นาม านํ รุชฺชติ, เภสชฺชํ ขาทามาติ วิจรนฺติ, โก อฺโ มาทิโส นิโรโค นามา’’ติ เอวํ มานกรณํ อาโรคฺยมโท. ‘‘มหลฺลกกาเล ปฺุํ กริสฺสาม, ทหรมฺห ตาวา’’ติ โยพฺพเน ตฺวา มานกรณํ โยพฺพนมโท. ‘‘จิรํ ชีวึ, จิรํ ชีวามิ, จิรํ ชีวิสฺสามิ; สุขํ ชีวึ, สุขํ ชีวามิ, สุขํ ชีวิสฺสามี’’ติ เอวํ มานกรณํ ชีวิตมโท.
อาธิปเตยฺเยสุ อธิปติโต อาคตํ อาธิปเตยฺยํ. ‘‘เอตฺตโกมฺหิ สีเลน สมาธินา ปฺาย วิมุตฺติยา, น เม เอตํ ปติรูป’’นฺติ เอวํ อตฺตานํ อธิปตฺตึ ¶ เชฏฺกํ กตฺวา ปาปสฺส อกรณํ ¶ อตฺตาธิปเตยฺยํ นาม. โลกํ อธิปตึ กตฺวา อกรณํ โลกาธิปเตยฺยํ นาม. โลกุตฺตรธมฺมํ อธิปตึ กตฺวา อกรณํ ธมฺมาธิปเตยฺยํ นาม.
กถาวตฺถูนีติ กถาการณานิ. อตีตํ วา อทฺธานนฺติ อตีตํ ธมฺมํ, อตีตกฺขนฺเธติ อตฺโถ. อปิจ ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, รูปํ อตีตํ นิรุทฺธํ วิปริณตํ, ‘อโหสี’ติ ตสฺส สงฺขา, ‘อโหสี’ติ ตสฺส ปฺตฺติ ‘อโหสี’ติ ตสฺส สมฺา, น ตสฺส สงฺขา ‘อตฺถี’ติ, น ตสฺส สงฺขา ‘ภวิสฺสตี’ติ (สํ. นิ. ๓.๖๒) เอวํ อาคเตน นิรุตฺติปถสุตฺเตนเปตฺถ อตฺโถ ทีเปตพฺโพ.
วิชฺชาติ ตมวิชฺฌนฏฺเน วิชฺชา. วิทิตกรณฏฺเนาปิ วิชฺชา. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณฺหิ ¶ อุปฺปชฺชมานํ ปุพฺเพนิวาสํ ฉาเทตฺวา ิตํ ตมํ วิชฺฌติ, ปุพฺเพนิวาสฺจ วิทิตํ กโรตีติ วิชฺชา. จุตูปปาตาณํ จุติปฏิสนฺธิจฺฉาทกํ ตมํ วิชฺฌติ, ตฺจ วิทิตํ กโรตีติ วิชฺชา. อาสวานํ ขเย าณํ จตุสจฺจจฺฉาทกํ ตมํ วิชฺฌติ, จตุสจฺจธมฺมฺจ วิทิตํ กโรตีติ วิชฺชา.
วิหาเรสุ อฏฺ สมาปตฺติโย ทิพฺโพ วิหาโร. จตสฺโส อปฺปมฺา พฺรหฺมา วิหาโร. ผลสมาปตฺติ อริโย วิหาโร.
ปาฏิหาริยานิ เกวฏฺฏสุตฺเต วิตฺถาริตาเนว.
‘‘อิเม โข, อาวุโส’’ติอาทีสุ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. อิติ สมสฏฺิยา ติกานํ วเสน อสีติสตปฺเห กเถนฺโต เถโร สามคฺคิรสํ ทสฺเสสีติ.
ติกวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุกฺกวณฺณนา
๓๐๖. อิติ ติกวเสน สามคฺคิรสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ จตุกฺกวเสน ทสฺเสตุํ ปุน เทสนํ อารภิ. ตตฺถ ‘‘สติปฏฺานจตุกฺกํ’’ ปุพฺเพ วิตฺถาริตเมว.
สมฺมปฺปธานจตุกฺเก ¶ ฉนฺทํ ชเนตีติ ‘‘โย ฉนฺโท ฉนฺทิกตา กตฺตุกมฺยตา กุสโล ธมฺมจฺฉนฺโท’’ติ เอวํ วุตฺตํ กตฺตุกมฺยตํ ชเนติ. วายมตีติ วายามํ กโรติ. วีริยํ อารภตีติ วีริยํ ชเนติ. จิตฺตํ ปคฺคณฺหาตีติ จิตฺตํ อุปตฺถมฺเภติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป ¶ . วิตฺถาโร ปน สมฺมปฺปธานวิภงฺเค อาคโตเยว.
อิทฺธิปาเทสุ ฉนฺทํ นิสฺสาย ปวตฺโต สมาธิ ฉนฺทสมาธิ. ปธานภูตา สงฺขารา ปธานสงฺขารา. สมนฺนาคตนฺติ เตหิ ธมฺเมหิ อุเปตํ. อิทฺธิยา ปาทํ, อิทฺธิภูตํ วา ปาทนฺติ อิทฺธิปาทํ ¶ . เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน อิทฺธิปาทวิภงฺเค อาคโต เอว. วิสุทฺธิมคฺเค ปนสฺส อตฺโถ ทีปิโต. ฌานกถาปิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตาว.
๓๐๗. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารายาติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว สุขวิหารตฺถาย. อิธ ผลสมาปตฺติฌานานิ, ขีณาสวสฺส อปรภาเค นิพฺพตฺติตฌานานิ จ กถิตานิ.
อาโลกสฺํ มนสิกโรตีติ ทิวา วา รตฺตึ วา สูริยจนฺทปชฺโชตมณิอาทีนํ อาโลกํ อาโลโกติ มนสิกโรติ. ทิวาสฺํ อธิฏฺาตีติ เอวํ มนสิ กตฺวา ทิวาติสฺํ เปติ. ยถา ทิวา ตถา รตฺตินฺติ ยถา ทิวา ทิฏฺโ อาโลโก, ตเถว ตํ รตฺตึ มนสิกโรติ. ยถา รตฺตึ ตถา ทิวาติ ยถา รตฺตึ อาโลโก ทิฏฺโ, เอวเมว ทิวา มนสิกโรติ. อิติ วิวเฏน เจตสาติ เอวํ อปิหิเตน จิตฺเตน. อปริโยนทฺเธนาติ สมนฺตโต อนทฺเธน. สปฺปภาสนฺติ สโอภาสํ. าณทสฺสนปฏิลาภายาติ าณทสฺสนปฏิลาภตฺถาย. อิมินา กึ กถิตํ? มิทฺธวิโนทนอาโลโก กถิโต ปริกมฺมอาโลโก วา. อิมินา กึ กถิตํ โหติ? ขีณาสวสฺส ทิพฺพจกฺขุาณํ. ตสฺมึ วา อาคเตปิ อนาคเตปิ ปาทกชฺฌานสมาปตฺติเมว สนฺธาย ‘‘สปฺปภาสํ จิตฺตํ ภาเวตี’’ติ วุตฺตํ.
สติสมฺปชฺายาติ สตฺตฏฺานิกสฺส สติสมฺปชฺสฺส อตฺถาย. วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺตีติอาทีสุ ขีณาสวสฺส วตฺถุ วิทิตํ โหติ อารมฺมณํ วิทิตํ วตฺถารมฺมณํ วิทิตํ. วตฺถารมฺมณวิทิตตาย เอวํ เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, เอวํ ติฏฺนฺติ, เอวํ นิรุชฺฌนฺติ. น เกวลฺจ เวทนา เอว อิธ วุตฺตา ¶ สฺาทโยปิ ¶ , อวุตฺตา เจตนาทโยปิ, วิทิตา จ อุปฺปชฺชนฺติ เจว ติฏฺนฺติ จ นิรุชฺฌนฺติ จ. อปิ จ เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติ, อุปฏฺานํ วิทิตํ โหติ. อวิชฺชาสมุทยา เวทนาสมุทโย, ตณฺหาสมุทยา กมฺมสมุทโย, ผสฺสสมุทยา เวทนายสมุทโย. นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ เวทนากฺขนฺธสฺส สมุทยํ ปสฺสติ. เอวํ เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติ. กถํ เวทนาย อุปฏฺานํ วิทิตํ โหติ? อนิจฺจโต มนสิกโรโต ขยตูปฏฺานํ วิทิตํ โหติ. ทุกฺขโต มนสิกโรโต ภยตูปฏฺานํ วิทิตํ โหติ. อนตฺตโต มนสิกโรโต สฺุตูปฏฺานํ วิทิตํ โหติ. เอวํ เวทนาย อุปฏฺานํ วิทิตํ โหติ, ขยโต ภยโต สฺุโต ชานาติ. กถํ เวทนาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติ? อวิชฺชานิโรธา เวทนานิโรโธ.…เป… เอวํ เวทนาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติ. อิมินาปิ นเยเนตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อิติ ¶ รูปนฺติอาทิ วุตฺตนยเมว. อยํ อาวุโส สมาธิภาวนาติ อยํ อาสวานํ ขยาณสฺส ปาทกชฺฌานสมาธิภาวนา.
๓๐๘. อปฺปมฺาติ ปมาณํ อคเหตฺวา อนวเสสผรณวเสน อปฺปมฺาว. อนุปทวณฺณนา ปน ภาวนาสมาธิวิธานฺจ เอตาสํ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตเมว. อรูปกถาปิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตาว.
อปสฺเสนานีติ อปสฺสยานิ. สงฺขายาติ าเณน ตฺวา. ปฏิเสวตีติ าเณน ตฺวา เสวิตพฺพยุตฺตกเมว เสวติ. ตสฺส จ วิตฺถาโร ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปริภฺุชตี’’ติอาทินา นเยน เวทิตพฺโพ. สงฺขาเยกํ อธิวาเสตีติ าเณน ตฺวา อธิวาเสตพฺพยุตฺตกเมว อธิวาเสติ. วิตฺถาโร ปเนตฺถ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส ขโม โหติ สีตสฺสา’’ติอาทินา นเยน เวทิตพฺโพ. ปริวชฺเชตีติ าเณน ตฺวา ปริวชฺเชตุํ ยุตฺตเมว ปริวชฺเชติ. ตสฺส วิตฺถาโร ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จณฺฑํ หตฺถึ ปริวชฺเชตี’’ติอาทินา นเยน เวทิตพฺโพ. วิโนเทตีติ าเณน ตฺวา วิโนเทตพฺพเมว วิโนเทติ, นุทติ นีหรติ อนฺโต ปวิสิตุํ น เทติ. ตสฺส วิตฺถาโร ‘‘อุปฺปนฺนํ ¶ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติอาทินา นเยน เวทิตพฺโพ.
อริยวํสจตุกฺกวณฺณนา
๓๐๙. อริยวํสาติ ¶ อริยานํ วํสา. ยถา หิ ขตฺติยวํโส, พฺราหฺมณวํโส, เวสฺสวํโส, สุทฺทวํโส, สมณวํโส, กุลวํโส, ราชวํโส, เอวํ อยมฺปิ อฏฺโม อริยวํโส อริยตนฺติ อริยปเวณี นาม โหติ. โส โข ปนายํ อริยวํโส อิเมสํ วํสานํ มูลคนฺธาทีนํ กาฬานุสาริตคนฺธาทโย วิย อคฺคมกฺขายติ. เก ปน เต อริยา เยสํ เอเต วํสาติ? อริยา วุจฺจนฺติ พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ ตถาคตสาวกา จ, เอเตสํ อริยานํ วํสาติ อริยวํสา. อิโต ปุพฺเพ หิ สตสหสฺสกปฺปาธิกานํ จตุนฺนํ อสงฺขฺเยยฺยานํ มตฺถเก ตณฺหงฺกโร เมธงฺกโร สรณงฺกโร ทีปงฺกโรติ จตฺตาโร พุทฺธา อุปฺปนฺนา, เต อริยา, เตสํ อริยานํ วํสาติ อริยวํสา. เตสํ พุทฺธานํ ปรินิพฺพานโต อปรภาเค อสงฺขฺเยยฺยํ อติกฺกมิตฺวา โกณฺฑฺโ นาม พุทฺโธ อุปฺปนฺโน…เป… อิมสฺมึ กปฺเป กกุสนฺโธ, โกณาคมโน, กสฺสโป, อมฺหากํ ภควา โคตโมติ จตฺตาโร พุทฺธา อุปฺปนฺนา. เตสํ อริยานํ วํสาติ อริยวํสา. อปิจ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ สพฺพพุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ อริยานํ วํสาติ อริยวํสา. เต โข ¶ ปเนเต อคฺคฺา อคฺคาติ ชานิตพฺพา. รตฺตฺา ทีฆรตฺตํ ปวตฺตาติ ชานิตพฺพา. วํสฺา วํสาติ ชานิตพฺพา.
โปราณาติ น อธุนุปฺปตฺติกา. อสํกิณฺณา อวิกิณฺณา อนปนีตา. อสํกิณฺณปุพฺพา อตีตพุทฺเธหิ น สํกิณฺณปุพฺพา. ‘‘กึ อิเมหี’’ติ น อปนีตปุพฺพา? น สงฺกียนฺตีติ อิทานิปิ น อปนียนฺติ. น สงฺกียิสฺสนฺตีติ อนาคตพุทฺเธหิปิ น อปนียิสฺสนฺติ, เย โลเก วิฺู สมณพฺราหฺมณา, เตหิ อปฺปฏิกุฏฺา, สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ อนินฺทิตา อครหิตา.
สนฺตุฏฺโ โหตีติ ปจฺจยสนฺโตสวเสน สนฺตุฏฺโ โหติ. อิตรีตเรน จีวเรนาติ ถูลสุขุมลูขปณีตถิรชิณฺณานํ เยน เกนจิ. อถ โข ยถาลทฺธาทีนํ อิตรีตเรน เยน เกนจิ สนฺตุฏฺโ โหตีติ อตฺโถ. จีวรสฺมิฺหิ ตโย สนฺโตสา – ยถาลาภสนฺโตโส, ยถาพลสนฺโตโส, ยถาสารุปฺปสนฺโตโสติ. ปิณฺฑปาตาทีสุปิ เอเสว นโย. เตสํ วิตฺถารกถา สามฺผเล วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. อิเม ตโย สนฺโตเส สนฺธาย ‘‘สนฺตุฏฺโ โหติ, อิตรีตเรน ยถาลทฺธาทีสุ เยน เกนจิ จีวเรน สนฺตุฏฺโ โหตี’’ติ วุตฺตํ.
เอตฺถ ¶ ¶ จ จีวรํ ชานิตพฺพํ, จีวรกฺเขตฺตํ ชานิตพฺพํ, ปํสุกูลํ ชานิตพฺพํ, จีวรสนฺโตโส ชานิตพฺโพ, จีวรปฏิสํยุตฺตานิ ธุตงฺคานิ ชานิตพฺพานิ. ตตฺถ จีวรํ ชานิตพฺพนฺติ โขมาทีนิ ฉ จีวรานิ ทุกูลาทีนิ ฉ อนุโลมจีวรานิ ชานิตพฺพานิ. อิมานิ ทฺวาทส กปฺปิยจีวรานิ. กุสจีรํ วากจีรํ ผลกจีรํ เกสกมฺพลํ วาฬกมฺพลํ โปตฺถโก จมฺมํ อุลูกปกฺขํ รุกฺขทุสฺสํ ลตาทุสฺสํ เอรกทุสฺสํ กทลิทุสฺสํ เวฬุทุสฺสนฺติ เอวมาทีนิ ปน อกปฺปิยจีวรานิ. จีวรกฺเขตฺตนฺติ ‘‘สงฺฆโต วา คณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา อตฺตโน วา ธเนน ปํสุกูลํ วา’’ติ เอวํ อุปฺปชฺชนโต ฉ เขตฺตานิ, อฏฺนฺนฺจ มาติกานํ วเสน อฏฺ เขตฺตานิ ชานิตพฺพานิ. ปํสุกูลนฺติ โสสานิกํ, ปาปณิกํ, รถิยํ สงฺการกูฏกํ, โสตฺถิยํ, สินานํ, ติตฺถํ, คตปจฺจาคตํ, อคฺคิทฑฺฒํ, โคขายิตํ อุปจิกขายิตํ, อุนฺทูรขายิตํ, อนฺตจฺฉินฺนํ, ทสาจฺฉินฺนํ, ธชาหฏํ, ถูปํ, สมณจีวรํ, สามุทฺทิยํ, อาภิเสกิยํ, ปนฺถิกํ, วาตาหฏํ, อิทฺธิมยํ, เทวทตฺติยนฺติ เตวีสติ ปํสุกูลานิ เวทิตพฺพานิ.
เอตฺถ จ โสตฺถิยนฺติ คพฺภมลหรณํ. คตปจฺจาคตนฺติ มตกสรีรํ ปารุปิตฺวา สุสานํ เนตฺวา อานีตจีวรํ. ธชาหฏนฺติ ธชํ อุสฺสาเปตฺวา ตโต อานีตํ. ถูปนฺติ วมฺมิเก ปูชิตจีวรํ ¶ . สามุทฺทิยนฺติ สมุทฺทวีจีหิ ถลํ ปาปิตํ. ปนฺถิกนฺติ ปนฺถํ คจฺฉนฺเตหิ โจรภเยน ปาสาเณหิ โกฏฺเฏตฺวา ปารุตจีวรํ. อิทฺธิมยนฺติ เอหิภิกฺขุจีวรํ. เสสํ ปากฏเมว.
จีวรสนฺโตโสติ วีสติ จีวรสนฺโตสา, วิตกฺกสนฺโตโส, คมนสนฺโตโส, ปริเยสนสนฺโตโส, ปฏิลาภสนฺโตโส, มตฺตปฺปฏิคฺคหณสนฺโตโส, โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส, ยถาลาภสนฺโตโส, ยถาพลสนฺโตโส, ยถาสารุปฺปสนฺโตโส, อุทกสนฺโตโส, โธวนสนฺโตโส, กรณสนฺโตโส, ปริมาณสนฺโตโส, สุตฺตสนฺโตโส, สิพฺพนสนฺโตโส, รชนสนฺโตโส, กปฺปสนฺโตโส, ปริโภคสนฺโตโส, สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส, วิสฺสชฺชนสนฺโตโสติ.
ตตฺถ สาทกภิกฺขุนา เตมาสํ นิพทฺธวาสํ วสิตฺวา เอกมาสมตฺตํ วิตกฺเกตุํ วฏฺฏติ. โส หิ ปวาเรตฺวา จีวรมาเส จีวรํ กโรติ. ปํสุกูลิโก ¶ อฑฺฒมาเสเนว กโรติ. อิติ มาสฑฺฒมาสมตฺตํ วิตกฺกนํ วิตกฺกสนฺโตโส. วิตกฺกสนฺโตเสน ปน สนฺตุฏฺเน ภิกฺขุนา ปาจีนกฺขณฺฑราชิวาสิกปํสุกูลิกตฺเถรสทิเสน ¶ ภวิตพฺพํ.
เถโร กิร เจติยปพฺพตวิหาเร เจติยํ วนฺทิสฺสามีติ อาคโต เจติยํ วนฺทิตฺวา จินฺเตสิ ‘‘มยฺหํ จีวรํ ชิณฺณํ พหูนํ วสนฏฺาเน ลภิสฺสามี’’ติ. โส มหาวิหารํ คนฺตฺวา สงฺฆตฺเถรํ ทิสฺวา วสนฏฺานํ ปุจฺฉิตฺวา ตตฺถ วุตฺโถ ปุนทิวเส จีวรํ อาทาย อาคนฺตฺวา เถรํ วนฺทิ. เถโร กึ อาวุโสติ อาห. คามทฺวารํ, ภนฺเต, คมิสฺสามีติ. อหมฺปาวุโส, คมิสฺสามีติ. สาธุ, ภนฺเตติ คจฺฉนฺโต มหาโพธิทฺวารโกฏฺเก ตฺวา ปฺุวนฺตานํ วสนฏฺาเน มนาปํ ลภิสฺสามีติ จินฺเตตฺวา อปริสุทฺโธ เม วิตกฺโกติ ตโตว ปฏินิวตฺติ. ปุนทิวเส อมฺพงฺคณสมีปโต, ปุนทิวเส มหาเจติยสฺส อุตฺตรทฺวารโต, ตเถว ปฏินิวตฺติตฺวา จตุตฺถทิวเส เถรสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. เถโร อิมสฺส ภิกฺขุโน วิตกฺโก น ปริสุทฺโธ ภวิสฺสตีติ จีวรํ คเหตฺวา เตน สทฺธึเยว ปฺหํ ปุจฺฉมาโน คามํ ปาวิสิ. ตฺจ รตฺตึ เอโก มนุสฺโส อุจฺจารปลิพุทฺโธ สาฏเกเยว วจฺจํ กตฺวา ตํ สงฺการฏฺาเน ฉฑฺเฑสิ. ปํสุกูลิกตฺเถโร ตํ นีลมกฺขิกาหิ สมฺปริกิณฺณํ ทิสฺวา อฺชลึ ปคฺคเหสิ. มหาเถโร ‘‘กึ, อาวุโส, สงฺการฏฺานสฺส อฺชลึ ปคฺคณฺหาสี’’ติ? ‘‘นาหํ, ภนฺเต, สงฺการฏฺานสฺส อฺชลึ ปคฺคณฺหามิ, มยฺหํ ปิตุ ทสพลสฺส ปคฺคณฺหามิ, ปุณฺณทาสิยา สรีรํ ปารุปิตฺวา ฉฑฺฑิตํ ปํสุกูลํ ตุมฺพมตฺเต ปาณเก วิธุนิตฺวา สุสานโต คณฺหนฺเตน ทุกฺกรํ กตํ, ภนฺเต’’ติ. มหาเถโร ‘‘ปริสุทฺโธ วิตกฺโก ปํสุกูลิกสฺสา’’ติ จินฺเตสิ. ปํสุกูลิกตฺเถโรปิ ตสฺมึเยว าเน ิโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ¶ ตีณิ ผลานิ ปตฺโต ตํ สาฏกํ คเหตฺวา จีวรํ กตฺวา ปารุปิตฺวา ปาจีนกฺขณฺฑราชึ คนฺตฺวา อคฺคผลํ อรหตฺตํ ปาปุณิ.
จีวรตฺถาย คจฺฉนฺตสฺส ปน ‘‘กตฺถ ลภิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา กมฺมฏฺานสีเสเนว คมนํ คมนสนฺโตโส นาม.
ปริเยสนฺตสฺส ปน เยน วา เตน วา สทฺธึ อปริเยสิตฺวา ลชฺชึ เปสลํ ภิกฺขุํ คเหตฺวา ปริเยสนํ ปริเยสนสนฺโตโส นาม.
เอวํ ¶ ปริเยสนฺตสฺส อาหริยมานํ จีวรํ ทูรโต ทิสฺวา ‘‘เอตํ มนาปํ ภวิสฺสติ, เอตํ อมนาป’’นฺติ เอวํ อวิตกฺเกตฺวา ถูลสุขุมาทีสุ ยถาลทฺเธเนว ¶ สนฺตุสฺสนํ ปฏิลาภสนฺโตโส นาม.
เอวํ ลทฺธํ คณฺหนฺตสฺสาปิ ‘‘เอตฺตกํ ทุปฏฺฏสฺส ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ เอกปฏฺฏสฺสา’’ติ อตฺตโน ปโหนกมตฺเตเนว สนฺตุสฺสนํ มตฺตปฺปฏิคฺคหณสนฺโตโส นาม.
จีวรํ ปริเยสนฺตสฺส ปน ‘‘อสุกสฺส ฆรทฺวาเร มนาปํ ลภิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา ทฺวารปฏิปาฏิยา จรณํ โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส นาม.
ลูขปณีเตสุ เยน เกนจิ ยาเปตุํ สกฺโกนฺตสฺส ยถาลทฺเธเนว ยาปนํ ยถาลาภสนฺโตโส นาม.
อตฺตโน ถามํ ชานิตฺวา เยน ยาเปตุํ สกฺโกติ, เตน ยาปนํ ยถาพลสนฺโตโส นาม.
มนาปํ อฺสฺส ทตฺวา อตฺตโน เยน เกนจิ ยาปนํ ยถาสารุปฺปสนฺโตโส นาม.
‘‘กตฺถ อุทกํ มนาปํ, กตฺถ อมนาป’’นฺติ อวิจาเรตฺวา เยน เกนจิ โธวนุปเคน อุทเกน โธวนํ อุทกสนฺโตโส นาม. ปณฺฑุมตฺติกเครุกปูติปณฺณรสกิลิฏฺานิ ปน อุทกานิ วชฺเชตุํ วฏฺฏติ.
โธวนฺตสฺส ¶ ปน มุคฺคราทีหิ อปหริตฺวา หตฺเถหิ มทฺทิตฺวา โธวนํ โธวนสนฺโตโส นาม. ตถา อสุชฺฌนฺตํ ปณฺณานิ ปกฺขิปิตฺวา ตาปิตอุทเกนาปิ โธวิตุํ วฏฺฏติ.
เอวํ โธวิตฺวา กโรนฺตสฺส อิทํ ถูลํ, อิทํ สุขุมนฺติ อโกเปตฺวา ปโหนกนีหาเรเนว กรณํ กรณสนฺโตโส นาม.
ติมณฺฑลปฺปฏิจฺฉาทนมตฺตสฺเสว กรณํ ปริมาณสนฺโตโส นาม.
จีวรกรณตฺถาย ปน มนาปสุตฺตํ ปริเยสิสฺสามีติ อวิจาเรตฺวา รถิกาทีสุ วา เทวฏฺาเน วา อาหริตฺวา ปาทมูเล วา ปิตํ ยํกิฺจิเทว สุตฺตํ คเหตฺวา กรณํ สุตฺตสนฺโตโส นาม.
กุสิพนฺธนกาเล ¶ ปน องฺคุลมตฺเต สตฺตวาเร น วิชฺฌิตพฺพํ, เอวํ กโรนฺตสฺส หิ โย ภิกฺขุ สหาโย น โหติ, ตสฺส วตฺตเภโทปิ นตฺถิ. ติวงฺคุลมตฺเต ปน สตฺตวาเร วิชฺฌิตพฺพํ, เอวํ กโรนฺตสฺส มคฺคปฏิปนฺเนนาปิ สหาเยน ภวิตพฺพํ. โย น โหติ, ตสฺส วตฺตเภโท. อยํ สิพฺพนสนฺโตโส นาม.
รชนฺเตน ปน กาฬกจฺฉกาทีนิ ปริเยสนฺเตน น รชิตพฺพํ. โสมวกฺกลาทีสุ ยํ ลภติ, เตน รชิตพฺพํ. อลภนฺเตน ปน มนุสฺเสหิ อรฺเ วากํ คเหตฺวา ฉฑฺฑิตรชนํ วา ภิกฺขูหิ ปจิตฺวา ฉฑฺฑิตกสฏํ วา คเหตฺวา รชิตพฺพํ, อยํ รชนสนฺโตโส นาม.
นีลกทฺทมกาฬสาเมสุ ¶ ยํกิฺจิ คเหตฺวา หตฺถิปิฏฺเ นิสินฺนสฺส ปฺายมานกปกรณํ กปฺปสนฺโตโส นาม.
หิริโกปีนปฏิจฺฉาทนมตฺตวเสน ปริภฺุชนํ ปริโภคสนฺโตโส นาม.
ทุสฺสํ ปน ลภิตฺวา สุตฺตํ วา สูจึ วา การกํ วา อลภนฺเตน เปตุํ วฏฺฏติ, ลภนฺเตน น วฏฺฏติ. กตมฺปิ สเจ อนฺเตวาสิกาทีนํ ทาตุกาโม โหติ, เต จ อสนฺนิหิตา ยาว อาคมนา เปตุํ วฏฺฏติ. อาคตมตฺเตสุ ทาตพฺพํ. ทาตุํ อสกฺโกนฺเตน อธิฏฺาตพฺพํ. อฺสฺมึ ¶ จีวเร สติ ปจฺจตฺถรณมฺปิ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ. อนธิฏฺิตเมว หิ สนฺนิธิ โหติ. อธิฏฺิตํ น โหตีติ มหาสีวตฺเถโร อาห. อยํ สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส นาม.
วิสฺสชฺชนฺเตน ปน น มุขํ โอโลเกตฺวา ทาตพฺพํ. สารณียธมฺเม ตฺวา วิสฺสชฺชิตพฺพนฺติ อยํ วิสฺสชฺชนสนฺโตโส นาม.
จีวรปฏิสํยุตฺตานิ ธุตงฺคานิ นาม ปํสุกูลิกงฺคฺเจว เตจีวริกงฺคฺจ. เตสํ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺคโต เวทิตพฺพา. อิติ จีวรสนฺโตสมหาอริยวํสํ ปูรยมาโน ภิกฺขุ อิมานิ ทฺเว ธุตงฺคานิ โคเปติ. อิมานิ โคเปนฺโต จีวรสนฺโตสมหาอริยวํเสน สนฺตุฏฺโ โหติ.
วณฺณวาทีติ เอโก สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ น กเถติ, เอโก น สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ, เอโก ¶ เนว สนฺตุฏฺโ โหติ, น สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ, เอโก สนฺตุฏฺโ เจว โหติ, สนฺโตสสฺส จ วณฺณํ กเถติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที’’ติ วุตฺตํ.
อเนสนนฺติ ทูเตยฺยปหินคมนานุโยคปฺปเภทํ นานปฺปการํ อเนสนํ. อปฺปติรูปนฺติ อยุตฺตํ. อลทฺธา จาติ อลภิตฺวา. ยถา เอกจฺโจ ‘‘กถํ นุ โข จีวรํ ลภิสฺสามี’’ติ. ปฺุวนฺเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ เอกโต หุตฺวา โกหฺํ กโรนฺโต อุตฺตสติ ปริตสติ, สนฺตุฏฺโ ภิกฺขุ เอวํ อลทฺธา จีวรํ น ปริตสติ. ลทฺธา จาติ ธมฺเมน สเมน ลภิตฺวา. อคธิโตติ วิคตโลภคิทฺโธ. อมุจฺฉิโตติ อธิมตฺตตณฺหาย มุจฺฉํ อนาปนฺโน. อนชฺฌาปนฺโนติ ตณฺหาย อโนตฺถโต อปริโยนทฺโธ. อาทีนวทสฺสาวีติ อเนสนาปตฺติยฺจ เคธิตปริโภเค จ อาทีนวํ ปสฺสมาโน. นิสฺสรณปฺโติ ‘‘ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตายา’’ติ วุตฺตํ นิสฺสรณเมว ปชานนฺโต.
อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยาติ ¶ เยน เกนจิ จีวเรน สนฺตุฏฺิยา. เนวตฺตานุกฺกํเสตีติ ‘‘อหํ ปํสุกูลิโก มยา อุปสมฺปทมาเฬเยว ปํสุกูลิกงฺคํ คหิตํ, โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ อตฺตุกฺกํสนํ น กโรติ. น ปรํ วมฺเภตีติ ‘‘อิเม ปนฺเ ภิกฺขู น ปํสุกูลิกา’’ติ วา ‘‘ปํสุกูลิกงฺคมตฺตมฺปิ เอเตสํ นตฺถี’’ติ วา เอวํ ปรํ น วมฺเภติ. โย หิ ตตฺถ ทกฺโขติ โย ตสฺมึ จีวรสนฺโตเส, วณฺณวาทาทีสุ วา ทกฺโข เฉโก พฺยตฺโต. อนลโสติ สาตจฺจกิริยาย ¶ อาลสิยวิรหิโต. สมฺปชาโน ปฏิสฺสโตติ สมฺปชานปฺาย เจว สติยา จ ยุตฺโต. อริยวํเส ิโตติ อริยวํเส ปติฏฺิโต.
อิตรีตเรน ปิณฺฑปาเตนาติ เยน เกนจิ ปิณฺฑปาเตน. เอตฺถาปิ ปิณฺฑปาโต ชานิตพฺโพ. ปิณฺฑปาตกฺเขตฺตํ ชานิตพฺพํ, ปิณฺฑปาตสนฺโตโส ชานิตพฺโพ, ปิณฺฑปาตปฏิสํยุตฺตํ ธุตงฺคํ ชานิตพฺพํ. ตตฺถ ปิณฺฑปาโตติ ‘‘โอทโน, กุมฺมาโส, สตฺตุ, มจฺโฉ, มํสํ, ขีรํ, ทธิ, สปฺปิ, นวนีตํ, เตลํ, มธุ, ผาณิตํ, ยาคุ, ขาทนียํ, สายนียํ, เลหนีย’’นฺติ โสฬส ปิณฺฑปาตา.
ปิณฺฑปาตกฺเขตฺตนฺติ ¶ สงฺฆภตฺตํ, อุทฺเทสภตฺตํ, นิมนฺตนํ, สลากภตฺตํ, ปกฺขิกํ, อุโปสถิกํ, ปาฏิปทิกํ, อาคนฺตุกภตฺตํ, คมิกภตฺตํ, คิลานภตฺตํ, คิลานุปฏฺากภตฺตํ, ธุรภตฺตํ, กุฏิภตฺตํ, วารภตฺตํ, วิหารภตฺตนฺติ ปนฺนรส ปิณฺฑปาตกฺเขตฺตานิ.
ปิณฺฑปาตสนฺโตโสติ ปิณฺฑปาเต วิตกฺกสนฺโตโส, คมนสนฺโตโส, ปริเยสนสนฺโตโส ปฏิลาภสนฺโตโส, ปฏิคฺคหณสนฺโตโส, มตฺตปฺปฏิคฺคหณสนฺโตโส, โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส, ยถาลาภสนฺโตโส, ยถาพลสนฺโตโส, ยถาสารุปฺปสนฺโตโส, อุปการสนฺโตโส, ปริมาณสนฺโตโส, ปริโภคสนฺโตโส, สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส, วิสฺสชฺชนสนฺโตโสติ ปนฺนรส สนฺโตสา.
ตตฺถ สาทโก ภิกฺขุ มุขํ โธวิตฺวา วิตกฺเกติ. ปิณฺฑปาติเกน ปน คเณน สทฺธึ จรตา สายํ เถรูปฏฺานกาเล ‘‘สฺเว กตฺถ ปิณฺฑาย จริสฺสามาติ อสุกคาเม, ภนฺเต’’ติ, เอตฺตกํ จินฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย น วิตกฺเกตพฺพํ. เอกจาริเกน วิตกฺกมาฬเก ตฺวา วิตกฺเกตพฺพํ. ตโต ปรํ วิตกฺเกนฺโต อริยวํสา จุโต โหติ ปริพาหิโร. อยํ วิตกฺกสนฺโตโส นาม.
ปิณฺฑาย ปวิสนฺเตน ‘‘กุหึ ลภิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา ¶ กมฺมฏฺานสีเสน คนฺตพฺพํ. อยํ คมนสนฺโตโส นาม.
ปริเยสนฺเตน ยํ วา ตํ วา อคเหตฺวา ลชฺชึ เปสลเมว คเหตฺวา ปริเยสิตพฺพํ. อยํ ปริเยสนสนฺโตโส นาม.
ทูรโตว ¶ อาหริยมานํ ทิสฺวา ‘‘เอตํ มนาปํ, เอตํ อมนาป’’นฺติ จิตฺตํ น อุปฺปาเทตพฺพํ. อยํ ปฏิลาภสนฺโตโส นาม.
‘‘อิมํ มนาปํ คณฺหิสฺสามิ, อิมํ อมนาปํ น คณฺหิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา ยํกิฺจิ ยาปนมตฺตํ คเหตพฺพเมว, อยํ ปฏิคฺคหณสนฺโตโส นาม.
เอตฺถ ปน เทยฺยธมฺโม พหุ, ทายโก อปฺปํ ทาตุกาโม, อปฺปํ คเหตพฺพํ. เทยฺยธมฺโม พหุ, ทายโกปิ พหุํ ทาตุกาโม, ปมาเณเนว คเหตพฺพํ. เทยฺยธมฺโม น พหุ, ทายโกปิ อปฺปํ ทาตุกาโม, อปฺปํ คเหตพฺพํ. เทยฺยธมฺโม น พหุ, ทายโก ปน พหุํ ทาตุกาโม, ปมาเณน คเหตพฺพํ. ปฏิคฺคหณสฺมิฺหิ ¶ มตฺตํ อชานนฺโต มนุสฺสานํ ปสาทํ มกฺเขติ, สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตติ, สาสนํ น กโรติ, วิชาตมาตุยาปิ จิตฺตํ คเหตุํ น สกฺโกติ. อิติ มตฺตํ ชานิตฺวาว ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ อยํ มตฺตปฺปฏิคฺคหณสนฺโตโส นาม.
สทฺธกุลานิเยว อคนฺตฺวา ทฺวารปฺปฏิปาฏิยา คนฺตพฺพํ. อยํ โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส นาม. ยถาลาภสนฺโตสาทโย จีวเร วุตฺตนยา เอว.
ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิตฺวา สมณธมฺมํ อนุปาเลสฺสามีติ เอวํ อุปการํ ตฺวา ปริภฺุชนํ อุปการสนฺโตโส นาม.
ปตฺตํ ปูเรตฺวา อานีตํ น ปฏิคฺคเหตพฺพํ, อนุปสมฺปนฺเน สติ เตน คาหาเปตพฺพํ, อสติ หราเปตฺวา ปฏิคฺคหณมตฺตํ คเหตพฺพํ. อยํ ปริมาณสนฺโตโส นาม.
‘‘ชิฆจฺฉาย ปฏิวิโนทนํ อิทเมตฺถ นิสฺสรณ’’นฺติ เอวํ ปริภฺุชนํ ปริโภคสนฺโตโส นาม.
นิทหิตฺวา น ปริภฺุชิตพฺพนฺติ อยํ สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส นาม.
มุขํ อโนโลเกตฺวา สารณียธมฺเม ิเตน วิสฺสชฺเชตพฺพํ. อยํ วิสฺสชฺชนสนฺโตโส นาม.
ปิณฺฑปาตปฏิสํยุตฺตานิ ปน ปฺจ ธุตงฺคานิ – ปิณฺฑปาติกงฺคํ, สปทานจาริกงฺคํ, เอกาสนิกงฺคํ ¶ , ปตฺตปิณฺฑิกงฺคํ, ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคนฺติ. เตสํ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตา. อิติ ปิณฺฑปาตสนฺโตสมหาอริยวํสํ ปูรยมาโน ภิกฺขุ อิมานิ ปฺจ ธุตงฺคานิ โคเปติ. อิมานิ โคเปนฺโต ปิณฺฑปาตสนฺโตสมหาอริยวํเสน สนฺตุฏฺโ โหติ. ‘‘วณฺณวาที’’ติอาทีนิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
เสนาสเนนาติ อิธ เสนาสนํ ชานิตพฺพํ, เสนาสนกฺเขตฺตํ ¶ ชานิตพฺพํ, เสนาสนสนฺโตโส ชานิตพฺโพ, เสนาสนปฏิสํยุตฺตํ ธุตงฺคํ ชานิตพฺพํ. ตตฺถ เสนาสนนฺติ มฺโจ, ปีํ, ภิสิ, พิมฺโพหนํ, วิหาโร, อฑฺฒโยโค, ปาสาโท, หมฺมิยํ, คุหา, เลณํ, อฏฺโฏ, มาโฬ ¶ , เวฬุคุมฺโพ, รุกฺขมูลํ, ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺตีติ อิมานิ ปนฺนรส เสนาสนานิ.
เสนาสนกฺเขตฺตนฺติ ‘‘สงฺฆโต วา คณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา อตฺตโน วา ธเนน ปํสุกูลํ วา’’ติ ฉ เขตฺตานิ.
เสนาสนสนฺโตโสติ เสนาสเน วิตกฺกสนฺโตสาทโย ปนฺนรส สนฺโตสา. เต ปิณฺฑปาเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เสนาสนปฏิสํยุตฺตานิ ปน ปฺจ ธุตงฺคานิ – อารฺิกงฺคํ, รุกฺขมูลิกงฺคํ, อพฺโภกาสิกงฺคํ, โสสานิกงฺคํ, ยถาสนฺตติกงฺคนฺติ. เตสํ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตา. อิติ เสนาสนสนฺโตสมหาอริยวํสํ ปูรยมาโน ภิกฺขุ อิมานิ ปฺจ ธุตงฺคานิ โคเปติ. อิมานิ โคเปนฺโต เสนาสนสนฺโตสมหาอริยวํเสน สนฺตุฏฺโ โหติ.
คิลานปจฺจโย ปน ปิณฺฑปาเตเยว ปวิฏฺโ. ตตฺถ ยถาลาภยถาพลยถาสารุปฺปสนฺโตเสเนว สนฺตุสฺสิตพฺพํ. เนสชฺชิกงฺคํ ภาวนารามอริยวํสํ ภชติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ปฺจ เสนาสเน วุตฺตา, ปฺจ อาหารนิสฺสิตา;
เอโก วีริยสํยุตฺโต, ทฺเว จ จีวรนิสฺสิตา’’ติ.
อิติ อายสฺมา ธมฺมเสนาปติ สาริปุตฺตตฺเถโร ปถวึ ปตฺถรมาโน วิย สาครกุจฺฉึ ปูรยมาโน วิย อากาสํ วิตฺถารยมาโน วิย จ ปมํ จีวรสนฺโตสํ อริยวํสํ กเถตฺวา จนฺทํ อุฏฺาเปนฺโต วิย สูริยํ อุลฺลงฺเฆนฺโต วิย จ ทุติยํ ปิณฺฑปาตสนฺโตสํ กเถตฺวา สิเนรุํ อุกฺขิเปนฺโต วิย ตติยํ เสนาสนสนฺโตสํ อริยวํสํ กเถตฺวา อิทานิ สหสฺสนยปฺปฏิมณฺฑิตํ จตุตฺถํ ¶ ภาวนารามํ อริยวํสํ กเถตุํ ปุน จปรํ อาวุโส ภิกฺขุ ปหานาราโม โหตีติ เทสนํ อารภิ.
ตตฺถ อารมนํ อาราโม, อภิรตีติ อตฺโถ. ปฺจวิเธ ปหาเน อาราโม อสฺสาติ ปหานาราโม. กามจฺฉนฺทํ ปชหนฺโต รมติ, เนกฺขมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ, พฺยาปาทํ ปชหนฺโต รมติ…เป… สพฺพกิเลเส ปชหนฺโต รมติ, อรหตฺตมคฺคํ ภาเวนฺโต รมตีติ เอวํ ปหาเน รโตติ ปหานรโต ¶ . วุตฺตนเยเนว ¶ ภาวนาย อาราโม อสฺสาติ ภาวนาราโม. ภาวนาย รโตติ ภาวนารโต.
อิเมสุ ปน จตูสุ อริยวํเสสุ ปุริเมหิ ตีหิ เตรสนฺนํ ธุตงฺคานํ จตุปจฺจยสนฺโตสสฺส จ วเสน สกลํ วินยปิฏกํ กถิตํ โหติ. ภาวนาราเมน อวเสสํ ปิฏกทฺวยํ. อิมํ ปน ภาวนารามตํ อริยวํสํ กเถนฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิสมฺภิทามคฺเค เนกฺขมฺมปาฬิยา กเถตพฺโพ. ทีฆนิกาเย ทสุตฺตรสุตฺตนฺตปริยาเยน กเถตพฺโพ. มชฺฌิมนิกาเย สติปฏฺานสุตฺตนฺตปริยาเยน กเถตพฺโพ. อภิธมฺเม นิทฺเทสปริยาเยน กเถตพฺโพ.
ตตฺถ ปฏิสมฺภิทามคฺเค เนกฺขมฺมปาฬิยาติ โส เนกฺขมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ, กามจฺฉนฺทํ ปชหนฺโต รมติ. อพฺยาปาทํ พฺยาปาทํ. อาโลกสฺํ, ถินมิทฺธํ. อวิกฺเขปํ อุทฺธจฺจํ. ธมฺมววตฺถานํ, วิจิกิจฺฉํ. าณํ, อวิชฺชํ. ปาโมชฺชํ, อรตึ. ปมํ ฌานํ, ปฺจ นีวรเณ. ทุติยํ ฌานํ, วิตกฺกวิจาเร. ตติยํ ฌานํ, ปีตึ. จตุตฺถํ ฌานํ, สุขทุกฺเข. อากาสานฺจายตนสมาปตฺตึ ภาเวนฺโต รมติ, รูปสฺํ ปฏิฆสฺํ นานตฺตสฺํ ปชหนฺโต รมติ. วิฺาณฺจายตนสมาปตฺตึ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ภาเวนฺโต รมติ, อากิฺจฺายตนสฺํ ปชหนฺโต รมติ.
อนิจฺจานุปสฺสนํ ภาเวนฺโต รมติ, นิจฺจสฺํ ปชหนฺโต รมติ. ทุกฺขานุปสฺสนํ, สุขสฺํ. อนตฺตานุปสฺสนํ, อตฺตสฺํ. นิพฺพิทานุปสฺสนํ, นนฺทึ. วิราคานุปสฺสนํ, ราคํ. นิโรธานุปสฺสนํ, สมุทยํ. ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนํ, อาทานํ. ขยานุปสฺสนํ, ฆนสฺํ. วยานุปสฺสนํ, อายูหนํ. วิปริณามานุปสฺสนํ, ธุวสฺํ. อนิมิตฺตานุปสฺสนํ, นิมิตฺตํ. อปณิหิตานุปสฺสนํ, ปณิธึ. สฺุตานุปสฺสนํ อภินิเวสํ. อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนํ, สาราทานาภินิเวสํ. ยถาภูตาณทสฺสนํ, สมฺโมหาภินิเวสํ. อาทีนวานุปสฺสนํ, อาลยาภินิเวสํ. ปฏิสงฺขานุปสฺสนํ, อปฺปฏิสงฺขํ. วิวฏฺฏานุปสฺสนํ, สํโยคาภินิเวสํ. โสตาปตฺติมคฺคํ ¶ , ทิฏฺเกฏฺเ กิเลเส. สกทาคามิมคฺคํ, โอฬาริเก กิเลเส. อนาคามิมคฺคํ, อณุสหคเต กิเลเส. อรหตฺตมคฺคํ ภาเวนฺโต รมติ, สพฺพกิเลเส ปชหนฺโต รมตีติ เอวํ ¶ ปฏิสมฺภิทามคฺเค เนกฺขมฺมปาฬิยา กเถตพฺโพ.
ทีฆนิกาเย ¶ ทสุตฺตรสุตฺตนฺตปริยาเยนาติ เอกํ ธมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ, เอกํ ธมฺมํ ปชหนฺโต รมติ…เป… ทส ธมฺเม ภาเวนฺโต รมติ, ทส ธมฺเม ปชหนฺโต รมติ. กตมํ เอกํ ธมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ? กายคตาสตึ สาตสหคตํ. อิมํ เอกํ ธมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ. กตมํ เอกํ ธมฺมํ ปชหนฺโต รมติ? อสฺมิมานํ. อิมํ เอกํ ธมฺมํ ปชหนฺโต รมติ. กตเม ทฺเว ธมฺเม…เป… กตเม ทส ธมฺเม ภาเวนฺโต รมติ? ทส กสิณายตนานิ. อิเม ทส ธมฺเม ภาเวนฺโต รมติ. กตเม ทส ธมฺเม ปชหนฺโต รมติ? ทส มิจฺฉตฺเต. อิเม ทส ธมฺเม ปชหนฺโต รมติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหตีติ เอวํ ทีฆนิกาเย ทสุตฺตรสุตฺตนฺตปริยาเยน กเถตพฺโพ.
มชฺฌิมนิกาเย สติปฏฺานสุตฺตนฺตปริยาเยนาติ เอกายโน, ภิกฺขเว, มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา, โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย, ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย, ายสฺส อธิคมาย, นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ จตฺตาโร สติปฏฺานา. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ… เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี… จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี… ‘อตฺถิ ธมฺมา’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต จ วิหรติ น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหติ ภาวนารโต, ปหานาราโม โหติ ปหานรโต. ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คจฺฉนฺโต วา คจฺฉามีติ ปชานาติ…เป… ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิตํ…เป… ปูตีนิ จุณฺณกชาตานิ. โส อิมเมว กายํ อุปสํหรติ, อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโตติ. อิติ อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ…เป… เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหตีติ เอวํ มชฺฌิมนิกาเย สติปฏฺานสุตฺตนฺตปริยาเยน กเถตพฺโพ.
อภิธมฺเม นิทฺเทสปริยาเยนาติ สพฺเพปิ สงฺขเต อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต…เป… สํกิเลสิกธมฺมโต ปสฺสนฺโต รมติ. อยํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหตีติ เอวํ นิทฺเทสปริยาเยน กเถตพฺโพ.
เนว ¶ อตฺตานุกฺกํเสตีติ อชฺช เม สฏฺิ วา สตฺตติ วา วสฺสานิ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตสฺส, โก มยา สทิโส อตฺถีติ เอวํ อตฺตุกฺกํสนํ น กโรติ. น ปรํ วมฺเภตีติ อนิจฺจํ ทุกฺขนฺติ วิปสฺสนามตฺตกมฺปิ นตฺถิ, กึ อิเม วิสฺสฏฺกมฺมฏฺานา จรนฺตีติ ¶ เอวํ ปรํ วมฺภนํ น กโรติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
๓๑๐. ปธานานีติ ¶ อุตฺตมวีริยานิ. สํวรปธานนฺติ จกฺขาทีนิ สํวรนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ. ปหานปธานนฺติ กามวิตกฺกาทโย ปชหนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ. ภาวนาปธานนฺติ โพชฺฌงฺเค ภาเวนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ. อนุรกฺขณาปธานนฺติ สมาธินิมิตฺตํ อนุรกฺขนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ.
วิเวกนิสฺสิตนฺติอาทีสุ วิเวโก วิราโค นิโรโธติ ตีณิปิ นิพฺพานสฺส นามานิ. นิพฺพานฺหิ อุปธิวิเวกตฺตา วิเวโก. ตํ อาคมฺม ราคาทโย วิรชฺชนฺตีติ วิราโค. นิรุชฺฌนฺตีติ นิโรโธ. ตสฺมา ‘‘วิเวกนิสฺสิต’’นฺติอาทีสุ อารมฺมณวเสน อธิคนฺตพฺพวเสน วา นิพฺพานนิสฺสิตนฺติ อตฺโถ. โวสฺสคฺคปริณามินฺติ เอตฺถ ทฺเว โวสฺสคฺคา ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค จ ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโค จ. ตตฺถ วิปสฺสนา ตทงฺควเสน กิเลเส จ ขนฺเธ จ ปริจฺจชตีติ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค. มคฺโค อารมฺมณวเสน นิพฺพานํ ปกฺขนฺทตีติ ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโค. ตสฺมา โวสฺสคฺคปริณามินฺติ ยถา ภาวิยมาโน สติสมฺโพชฺฌงฺโค โวสฺสคฺคตฺถาย ปริณมติ, วิปสฺสนาภาวฺจ มคฺคภาวฺจ ปาปุณาติ, เอวํ ภาเวตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
ภทฺรกนฺติ ภทฺทกํ. สมาธินิมิตฺตํ วุจฺจติ อฏฺิกสฺาทิวเสน อธิคโต สมาธิเยว. อนุรกฺขตีติ สมาธิปริพนฺธกธมฺเม ราคโทสโมเห โสเธนฺโต รกฺขติ. เอตฺถ จ อฏฺิกสฺาทิกา ปฺเจว สฺา วุตฺตา. อิมสฺมึ ปน าเน ทสปิ อสุภานิ วิตฺถาเรตฺวา กเถตพฺพานิ. เตสํ วิตฺถาโร วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺโตเยว.
ธมฺเม าณนฺติ เอกปฏิเวธวเสน จตุสจฺจธมฺเม าณํ จตุสจฺจพฺภนฺตเร นิโรธสจฺเจ ธมฺเม าณฺจ ¶ . ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมํ ธมฺเม าณํ? จตูสุ มคฺเคสุ จตูสุ ผเลสุ าณ’’นฺติ (วิภ. ๗๙๖). อนฺวเย าณนฺติ จตฺตาริ สจฺจานิ ปจฺจกฺขโต ทิสฺวา ยถา อิทานิ, เอวํ อตีเตปิ อนาคเตปิ อิเมว ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขสจฺจํ, อยเมว ตณฺหา สมุทยสจฺจํ, อยเมว นิโรโธ นิโรธสจฺจํ, อยเมว มคฺโค มคฺคสจฺจนฺติ เอวํ ตสฺส าณสฺส อนุคติยํ าณํ. เตนาห ¶ – ‘‘โส อิมินา ธมฺเมน าเตน ทิฏฺเน ปตฺเตน วิทิเตน ปริโยคาฬฺเหน อตีตานาคเตน นยํ เนตี’’ติ. ปริเย าณนฺติ ปเรสํ จิตฺตปริจฺเฉเท ¶ าณํ. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมํ ปริเย าณํ? อิธ ภิกฺขุ ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ชานาตี’’ติ (วิภ. ๗๙๖) วิตฺถาเรตพฺพํ. เปตฺวา ปน อิมานิ ตีณิ าณานิ อวเสสํ สมฺมุติาณํ นาม. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมํ สมฺมุติาณํ? เปตฺวา ธมฺเม าณํ เปตฺวา อนฺวเย าณํ เปตฺวา ปริจฺเฉเท าณํ อวเสสํ สมฺมุติาณ’’นฺติ (วิภ. ๗๙๖).
ทุกฺเข าณาทีหิ อรหตฺตํ ปาเปตฺวา เอกสฺส ภิกฺขุโน นิคฺคมนํ จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ กถิตํ. ตตฺถ ทฺเว สจฺจานิ วฏฺฏํ, ทฺเว วิวฏฺฏํ, วฏฺเฏ อภินิเวโส โหติ, โน วิวฏฺเฏ. ทฺวีสุ สจฺเจสุ อาจริยสนฺติเก ปริยตฺตึ อุคฺคเหตฺวา กมฺมํ กโรติ, ทฺวีสุ สจฺเจสุ ‘‘นิโรธสจฺจํ นาม อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ, มคฺคสจฺจํ นาม อิฏฺํ กนฺตํ มนาป’’นฺติ สวนวเสน กมฺมํ กโรติ. ทฺวีสุ สจฺเจสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาสวนธารณสมฺมสนปฏิเวโธ วฏฺฏติ, ทฺวีสุ สวนปฏิเวโธ วฏฺฏติ. ตีณิ กิจฺจวเสน ปฏิวิชฺฌติ, เอกํ อารมฺมณวเสน. ทฺเว สจฺจานิ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรานิ, ทฺเว คมฺภีรตฺตา ทุทฺทสานิ.
โสตาปตฺติยงฺคาทิจตุกฺกวณฺณนา
๓๑๑. โสตาปตฺติยงฺคานีติ โสตาปตฺติยา องฺคานิ, โสตาปตฺติมคฺคสฺส ปฏิลาภการณานีติ อตฺโถ. สปฺปุริสสํเสโวติ พุทฺธาทีนํ สปฺปุริสานํ อุปสงฺกมิตฺวา เสวนํ. สทฺธมฺมสฺสวนนฺติ สปฺปายสฺส เตปิฏกธมฺมสฺส สวนํ. โยนิโสมนสิกาโรติ อนิจฺจาทิวเสน มนสิกาโร. ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺตีติ โลกุตฺตรธมฺมสฺส อนุธมฺมภูตาย ปุพฺพภาคปฏิปตฺติยา ปฏิปชฺชนํ.
อเวจฺจปฺปสาเทนาติ ¶ อจลปฺปสาเทน. ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทีนิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตานิ. ผลธาตุอาหารจตุกฺกานิ อุตฺตานตฺถาเนว. อปิเจตฺถ ลูขปณีตวตฺถุวเสน โอฬาริกสุขุมตา เวทิตพฺพา.
วิฺาณฏฺิติโยติ วิฺาณํ เอตาสุ ติฏฺตีติ วิฺาณฏฺิติโย. อารมฺมณฏฺิติวเสเนตํ วุตฺตํ. รูปูปายนฺติ รูปํ อุปคตํ หุตฺวา. ปฺจโวการภวสฺมิฺหิ อภิสงฺขารวิฺาณํ รูปกฺขนฺธํ นิสฺสาย ติฏฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. รูปารมฺมณนฺติ รูปกฺขนฺธโคจรํ รูปปติฏฺิตํ หุตฺวา. นนฺทูปเสจนนฺติ ¶ ¶ โลภสหคตํ สมฺปยุตฺตนนฺทิยาว อุปสิตฺตํ หุตฺวา. อิตรํ อุปนิสฺสยโกฏิยา. วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชตีติ สฏฺิปิ สตฺตติปิ วสฺสานิ เอวํ ปวตฺตมานํ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชติ. เวทนูปายาทีสุปิ เอเสว นโย. อิเมหิ ปน ตีหิ ปเทหิ จตุโวการภเว อภิสงฺขารวิฺาณํ วุตฺตํ. ตสฺส ยาวตายุกํ ปวตฺตนวเสน วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชนา เวทิตพฺพา. จตุกฺกวเสน ปน เทสนาย อาคตตฺตา วิฺาณูปายนฺติ น วุตฺตํ. เอวํ วุจฺจมาเน จ ‘‘กตมํ นุ โข เอตฺถ กมฺมวิฺาณํ, กตมํ วิปากวิฺาณ’’นฺติ สมฺโมโห ภเวยฺย, ตสฺมาปิ น วุตฺตํ. อคติคมนานิ วิตฺถาริตาเนว.
จีวรเหตูติ ตตฺถ มนาปํ จีวรํ ลภิสฺสามีติ จีวรการณา อุปฺปชฺชติ. อิติ ภวาภวเหตูติ เอตฺถ อิตีติ นิทสฺสนตฺเถ นิปาโต. ยถา จีวราทิเหตุ, เอวํ ภวาภวเหตูปีติ อตฺโถ. ภวาภโวติ เจตฺถ ปณีตปณีตตรานิ เตลมธุผาณิตาทีนิ อธิปฺเปตานิ. อิเมสํ ปน จตุนฺนํ ตณฺหุปฺปาทานํ ปหานตฺถาย ปฏิปาฏิยาว จตฺตาโร อริยวํสา เทสิตาติ เวทิตพฺพา. ปฏิปทาจตุกฺกํ เหฏฺา วุตฺตเมว. อกฺขมาทีสุ ปธานกรณกาเล สีตาทีนิ น ขมตีติ อกฺขมา. ขมตีติ ขมา. อินฺทฺริยทมนํ ทมา. ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติอาทินา นเยน วิตกฺกสมนํ สมา.
ธมฺมปทานีติ ¶ ธมฺมโกฏฺาสานิ. อนภิชฺฌา ธมฺมปทํ นาม อโลโภ วา อโลภสีเสน อธิคตชฺฌานวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานานิ วา. อพฺยาปาโท ธมฺมปทํ นาม อโกโป วา เมตฺตาสีเสน อธิคตชฺฌานาทีนิ วา. สมฺมาสติ ธมฺมปทํ นาม สุปฺปฏฺิตสติ วา สติสีเสน อธิคตชฺฌานาทีนิ วา. สมฺมาสมาธิ ธมฺมปทํ นาม สมาปตฺติ วา อฏฺสมาปตฺติวเสน อธิคตชฺฌานวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานานิ วา. ทสาสุภวเสน วา อธิคตชฺฌานาทีนิ อนภิชฺฌา ธมฺมปทํ. จตุพฺรหฺมวิหารวเสน อธิคตานิ อพฺยาปาโท ธมฺมปทํ. ทสานุสฺสติอาหาเรปฏิกูลสฺาวเสน อธิคตานิ สมฺมาสติ ธมฺมปทํ. ทสกสิณอานาปานวเสน อธิคตานิ สมฺมาสมาธิ ธมฺมปทนฺติ.
ธมฺมสมาทาเนสุ ปมํ อเจลกปฏิปทา. ทุติยํ ติพฺพกิเลสสฺส อรหตฺตํ คเหตุํ อสกฺโกนฺตสฺส อสฺสุมุขสฺสาปิ รุทโต ปริสุทฺธพฺรหฺมจริยจรณํ. ตติยํ กาเมสุ ปาตพฺยตา. จตุตฺถํ จตฺตาโร ปจฺจเย อลภมานสฺสาปิ ¶ ฌานวิปสฺสนาวเสน สุขสมงฺคิโน สาสนพฺรหฺมจริยํ.
ธมฺมกฺขนฺธาติ ¶ เอตฺถ คุณฏฺโ ขนฺธฏฺโ. สีลกฺขนฺโธติ สีลคุโณ. เอตฺถ จ ผลสีลํ อธิปฺเปตํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อิติ จตูสุปิ าเนสุ ผลเมว วุตฺตํ.
พลานีติ อุปตฺถมฺภนฏฺเน อกมฺปิยฏฺเน จ พลานิ. เตสํ ปฏิปกฺเขหิ โกสชฺชาทีหิ อกมฺปนิยตา เวทิตพฺพา. สพฺพานิปิ สมถวิปสฺสนามคฺควเสน โลกิยโลกุตฺตราเนว กถิตานิ.
อธิฏฺานานีติ เอตฺถ อธีติ อุปสคฺคมตฺตํ. อตฺถโต ปน เตน วา ติฏฺนฺติ, ตตฺถ วา ติฏฺนฺติ, านเมว วา ตํตํคุณาธิกานํ ปุริสานํ อธิฏฺานํ, ปฺาว อธิฏฺานํ ปฺาธิฏฺานํ. เอตฺถ จ ปเมน อคฺคผลปฺา. ทุติเยน วจีสจฺจํ. ตติเยน อามิสปริจฺจาโค. จตุตฺเถน กิเลสูปสโม กถิโตติ เวทิตพฺโพ. ปเมน จ กมฺมสฺสกตปฺํ วิปสฺสนาปฺํ วา อาทึ กตฺวา ผลปฺา กถิตา. ทุติเยน วจีสจฺจํ อาทึ กตฺวา ปรมตฺถสจฺจํ นิพฺพานํ. ตติเยน อามิสปริจฺจาคํ อาทึ กตฺวา อคฺคมคฺเคน กิเลสปริจฺจาโค. จตุตฺเถน สมาปตฺติวิกฺขมฺภิเต ¶ กิเลเส อาทึ กตฺวา อคฺคมคฺเคน กิเลสวูปสโม. ปฺาธิฏฺาเนน วา เอเกน อรหตฺตผลปฺา กถิตา. เสเสหิ ปรมตฺถสจฺจํ. สจฺจาธิฏฺาเนน วา เอเกน ปรมตฺถสจฺจํ กถิตํ. เสเสหิ อรหตฺตปฺาติ มูสิกาภยตฺเถโร อาห.
ปฺหพฺยากรณาทิจตุกฺกวณฺณนา
๓๑๒. ปฺหพฺยากรณานิ มหาปเทสกถาย วิตฺถาริตาเนว.
กณฺหนฺติ กาฬกํ ทสอกุสลกมฺมปถกมฺมํ. กณฺหวิปากนฺติ อปาเย นิพฺพตฺตนโต กาฬกวิปากํ. สุกฺกนฺติ ปณฺฑรํ กุสลกมฺมปถกมฺมํ. สุกฺกวิปากนฺติ สคฺเค นิพฺพตฺตนโต ปณฺฑรวิปากํ. กณฺหสุกฺกนฺติ มิสฺสกกมฺมํ. กณฺหสุกฺกวิปากนฺติ สุขทุกฺขวิปากํ. มิสฺสกกมฺมฺหิ กตฺวา อกุสเลน ติรจฺฉานโยนิยํ มงฺคลหตฺถิฏฺานาทีสุ อุปฺปนฺโน กุสเลน ปวตฺเต สุขํ เวทยติ. กุสเลน ราชกุเลปิ นิพฺพตฺโต อกุสเลน ปวตฺเต ทุกฺขํ เวทยติ. อกณฺหอสุกฺกนฺติ กมฺมกฺขยกรํ จตุมคฺคาณํ อธิปฺเปตํ. ตฺหิ ¶ ยทิ กณฺหํ ภเวยฺย, กณฺหวิปากํ ทเทยฺย. ยทิ สุกฺกํ ภเวยฺย, สุกฺกวิปากํ ทเทยฺย. อุภยวิปากสฺส ปน อทานโต อกณฺหาสุกฺกวิปากตฺตา อกณฺหํ อสุกฺกนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
สจฺฉิกรณียาติ ¶ ปจฺจกฺขกรเณน เจว ปฏิลาเภน จ สจฺฉิกาตพฺพา. จกฺขุนาติ ทิพฺพจกฺขุนา. กาเยนาติ สหชาตนามกาเยน. ปฺายาติ อรหตฺตผลาเณน.
โอฆาติ วฏฺฏสฺมึ สตฺเต โอหนนฺติ โอสีทาเปนฺตีติ โอฆา. ตตฺถ ปฺจกามคุณิโก ราโค กาโมโฆ. รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค ภโวโฆ. ตถา ฌานนิกนฺติ สสฺสตทิฏฺิสหคโต จ ราโค. ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ทิฏฺโโฆ.
วฏฺฏสฺมึ โยเชนฺตีติ โยคา. เต โอฆา วิย เวทิตพฺพา.
วิสํโยเชนฺตีติ วิสฺโคา. ตตฺถ อสุภชฺฌานํ กามโยควิสํโยโค. ตํ ปาทกํ กตฺวา อธิคโต อนาคามิมคฺโค เอกนฺเตเนว กามโยควิสฺโโค นาม. อรหตฺตมคฺโค ภวโยควิสฺโโค นาม. โสตาปตฺติมคฺโค ทิฏฺิโยควิสฺโโค นาม. อรหตฺตมคฺโค อวิชฺชาโยควิสฺโโค นาม.
คนฺถนวเสน ¶ คนฺถา. วฏฺฏสฺมึ นามกายฺเจว รูปกายฺจ คนฺถติ พนฺธติ ปลิพุนฺธตีติ กายคนฺโถ.อิทํสจฺจาภินิเวโสติ อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺนฺติ เอวํ ปวตฺโต ทิฏฺาภินิเวโส.
อุปาทานานีติ อาทานคฺคหณานิ. กาโมติ ราโค, โสเยว คหณฏฺเน อุปาทานนฺติ กามุปาทานํ. ทิฏฺีติ มิจฺฉาทิฏฺิ, สาปิ คหณฏฺเน อุปาทานนฺติ ทิฏฺุปาทานํ. อิมินา สุทฺธีติ เอวํ สีลวตานํ คหณํ สีลพฺพตุปาทานํ. อตฺตาติ เอเตน วทติ เจว อุปาทิยติ จาติ อตฺตวาทุปาทานํ.
โยนิโยติ โกฏฺาสา. อณฺเฑ ชาตาติ อณฺฑชา. ชลาพุมฺหิ ชาตาติ ชลาพุชา. สํเสเท ชาตาติ สํเสทชา. สยนสฺมึ ปูติมจฺฉาทีสุ จ นิพฺพตฺตานเมตํ อธิวจนํ. เวเคน อาคนฺตฺวา อุปปติตา วิยาติ โอปปาติกา. ตตฺถ เทวมนุสฺเสสุ สํเสทชโอปปาติกานํ อยํ ¶ วิเสโส. สํเสทชา มนฺทา ทหรา หุตฺวา นิพฺพตฺตนฺติ. โอปปาติกา โสฬสวสฺสุทฺเทสิกา หุตฺวา. มนุสฺเสสุ หิ ภุมฺมเทเวสุ จ อิมา จตสฺโสปิ โยนิโย ลพฺภนฺติ. ตถา ติรจฺฉาเนสุ สุปณฺณนาคาทีสุ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ตตฺถ, ภิกฺขเว, อณฺฑชา สุปณฺณา อณฺฑเชว นาเค หรนฺติ, น ชลาพุเช น สํเสทเช น โอปปาติเก’’ติ (สํ. นิ. ๓.๓๙๓). จาตุมหาราชิกโต ปฏฺาย อุปริเทวา โอปปาติกาเยว ¶ . ตถา เนรยิกา. เปเตสุ จตสฺโสปิ ลพฺภนฺติ. คพฺภาวกฺกนฺติโย สมฺปสาทนีเย กถิตา เอว.
อตฺตภาวปฏิลาเภสุ ปโม ขิฑฺฑาปโทสิกวเสน เวทิตพฺโพ. ทุติโย โอรพฺภิกาทีหิ ฆาติยมานอุรพฺภาทิวเสน. ตติโย มโนปโทสิกาวเสน. จตุตฺโถ จาตุมหาราชิเก อุปาทาย อุปริเสสเทวตาวเสน. เต หิ เทวา เนว อตฺตสฺเจตนาย มรนฺติ, น ปรสฺเจตนาย.
ทกฺขิณาวิสุทฺธาทิจตุกฺกวณฺณนา
๓๑๓. ทกฺขิณาวิสุทฺธิโยติ ทานสงฺขาตา ทกฺขิณา วิสุชฺฌนฺติ มหปฺผลา โหนฺติ เอตาหีติ ทกฺขิณาวิสุทฺธิโย.
ทายกโต วิสุชฺฌติ, โน ปฏิคฺคาหกโตติ ยตฺถ ทายโก สีลวา โหติ, ธมฺเมนุปฺปนฺนํ เทยฺยธมฺมํ เทติ, ปฏิคฺคาหโก ทุสฺสีโล. อยํ ทกฺขิณา เวสฺสนฺตรมหาราชสฺส ทกฺขิณาสทิสา. ปฏิคฺคาหกโต ¶ วิสุชฺฌติ, โน ทายกโตติ ยตฺถ ปฏิคฺคาหโก สีลวา โหติ, ทายโก ทุสฺสีโล, อธมฺเมนุปฺปนฺนํ เทติ, อยํ ทกฺขิณา โจรฆาตกสฺส ทกฺขิณาสทิสา. เนว ทายกโต วิสุชฺฌติ, โน ปฏิคฺคาหกโตติ ยตฺถ อุโภปิ ทุสฺสีลา เทยฺยธมฺโมปิ อธมฺเมน นิพฺพตฺโต. วิปริยาเยน จตุตฺถา เวทิตพฺพา.
สงฺคหวตฺถูนีติ สงฺคหการณานิ. ตานิ เหฏฺา วิภตฺตาเนว.
อนริยโวหาราติ อนริยานํ ลามกานํ โวหารา.
อริยโวหาราติ อริยานํ สปฺปุริสานํ โวหารา.
ทิฏฺวาทิตาติ ¶ ทิฏฺํ มยาติ เอวํ วาทิตา. เอตฺถ จ ตํตํสมุฏฺาปกเจตนาวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อตฺตนฺตปาทิจตุกฺกวณฺณนา
๓๑๔. อตฺตนฺตปาทีสุ ¶ ปโม อเจลโก. ทุติโย โอรพฺภิกาทีสุ อฺตโร. ตติโย ยฺยาชโก. จตุตฺโถ สาสเน สมฺมาปฏิปนฺโน.
อตฺตหิตาย ปฏิปนฺนาทีสุ ปโม โย สยํ สีลาทิสมฺปนฺโน, ปรํ สีลาทีสุ น สมาทเปติ อายสฺมา วกฺกลิตฺเถโร วิย. ทุติโย โย อตฺตนา น สีลาทิสมฺปนฺโน, ปรํ สีลาทีสุ สมาทเปติ อายสฺมา อุปนนฺโท วิย. ตติโย โย เนวตฺตนา สีลาทิสมฺปนฺโน, ปรํ สีลาทีสุ น สมาทเปติ เทวทตฺโต วิย. จตุตฺโถ โย อตฺตนา จ สีลาทิสมฺปนฺโน ปรฺจ สีลาทีสุ สมาทเปติ อายสฺมา มหากสฺสโป วิย.
ตมาทีสุ ตโมติ อนฺธการภูโต. ตมปรายโณติ ตมเมว ปรํ อยนํ คติ อสฺสาติ ตมปรายโณ. เอวํ สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ ปโม นีเจ จณฺฑาลาทิกุเล ทุชฺชีวิเต หีนตฺตภาเว นิพฺพตฺติตฺวา ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูเรติ. ทุติโย ตถาวิโธ หุตฺวา ตีณิ สุจริตานิ ปริปูเรติ. ตติโย อุฬาเร ขตฺติยกุเล พหุอนฺนปาเน สมฺปนฺนตฺตภาเว นิพฺพตฺติตฺวา ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูเรติ. จตุตฺโถ ตาทิโสว หุตฺวา ตีณิ สุจริตานิ ปริปูเรติ.
สมณมจโลติ สมณอจโล. ม-กาโร ปทสนฺธิมตฺตํ. โส โสตาปนฺโน เวทิตพฺโพ. โสตาปนฺโน หิ จตูหิ วาเตหิ อินฺทขีโล วิย ปรปฺปวาเทหิ อกมฺปิโย. อจลสทฺธาย สมนฺนาคโตติ สมณมจโล. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล สมณมจโล? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา’’ติ (ปุ. ป. ๑๙๐) วิตฺถาโร. ราคโทสานํ ปน ตนุภูตตฺตา สกทาคามี สมณปทุโม ¶ นาม. เตนาห – ‘‘กตโม ปน ปุคฺคโล สมณปทุโม? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ¶ สมณปทุโม’’ติ (ปุ. ป. ๑๙๐). ราคโทสานํ อภาวา ขิปฺปเมว ปุปฺผิสฺสตีติ อนาคามี สมณปุณฺฑรีโก นาม. เตนาห – ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ…เป… อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก’’ติ (ปุ. ป. ๑๙๐). อรหา ปน สพฺเพสมฺปิ คนฺถการกิเลสานํ อภาวา สมเณสุ สมณสุขุมาโล นาม. เตนาห – ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล สมเณสุ สมณสุขุมาโล? อิเธกจฺโจ อาสวานํ ขยา…เป… อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สมเณสุ สมณสุขุมาโล’’ติ.
‘‘อิเม โข ¶ , อาวุโส’’ติอาทิ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. อิติ สมปฺาสาย จตุกฺกานํ วเสน ทฺเวปฺหสตานิ กเถนฺโต เถโร สามคฺคิรสํ ทสฺเสสีติ.
จตุกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจกวณฺณนา
๓๑๕. อิติ จตุกฺกวเสน สามคฺคิรสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปฺจกวเสน ทสฺเสตุํ ปุน เทสนํ อารภิ. ตตฺถ ปฺจสุ ขนฺเธสุ รูปกฺขนฺโธ โลกิโย. เสสา โลกิยโลกุตฺตรา. อุปาทานกฺขนฺธา โลกิยาว. วิตฺถารโต ปน ขนฺธกถา วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตา. กามคุณา เหฏฺา วิตฺถาริตาว.
สุกตทุกฺกฏาทีหิ คนฺตพฺพาติ คติโย. นิรโยติ นิรสฺสาโท. สโหกาเสน ขนฺธา กถิตา. ตโต ปเรสุ ตีสุ นิพฺพตฺตา ขนฺธาว วุตฺตา. จตุตฺเถ โอกาโสปิ.
อาวาเส มจฺฉริยํ อาวาสมจฺฉริยํ. เตน สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาคนฺตุกํ ทิสฺวา ‘‘เอตฺถ เจติยสฺส วา สงฺฆสฺส วา ปริกฺขาโร ปิโต’’ติอาทีนิ วตฺวา สงฺฆิกมฺปิ อาวาสํ นิวาเรติ. โส กาลงฺกตฺวา เปโต วา อชคโร วา หุตฺวา นิพฺพตฺตติ. กุเล มจฺฉริยํ กุลมจฺฉริยํ. เตน สมนฺนาคโต ภิกฺขุ เตหิ การเณหิ อตฺตโน อุปฏฺากกุเล อฺเสํ ¶ ปเวสนมฺปิ นิวาเรติ. ลาเภ มจฺฉริยํ ลาภมจฺฉริยํ. เตน สมนฺนาคโต ¶ ภิกฺขุ สงฺฆิกมฺปิ ลาภํ มจฺฉรายนฺโต ยถา อฺเ น ลภนฺติ, เอวํ กโรติ. วณฺเณ มจฺฉริยํ วณฺณมจฺฉริยํ. วณฺโณติ เจตฺถ สรีรวณฺโณปิ คุณวณฺโณปิ เวทิตพฺโพ. ปริยตฺติธมฺเม มจฺฉริยํ ธมฺมมจฺฉริยํ. เตน สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ‘‘อิมํ ธมฺมํ ปริยาปุณิตฺวา เอโส มํ อภิภวิสฺสตี’’ติ อฺสฺส น เทติ. โย ปน ธมฺมานุคฺคเหน วา ปุคฺคลานุคฺคเหน วา น เทติ, น ตํ มจฺฉริยํ.
จิตฺตํ นิวาเรนฺติ ปริโยนนฺธนฺตีติ นีวรณานิ. กามจฺฉนฺโท นีวรณปตฺโต อรหตฺตมคฺควชฺโฌ. กามราคานุสโย กามราคสํโยชนปตฺโต อนาคามิมคฺควชฺโฌ. ถินํ จิตฺตเคลฺํ ¶ . มิทฺธํ ขนฺธตฺตยเคลฺํ. อุภยมฺปิ อรหตฺตมคฺควชฺฌํ. ตถา อุทฺธจฺจํ. กุกฺกุจฺจํ อนาคามิมคฺควชฺฌํ. วิจิกิจฺฉา ปมมคฺควชฺฌา.
สํโยชนานีติ พนฺธนานิ. เตหิ ปน พทฺเธสุ ปุคฺคเลสุ รูปารูปภเว นิพฺพตฺตา โสตาปนฺนสกทาคามิโน อนฺโตพทฺธา พหิสยิตา นาม. เตสฺหิ กามภเว พนฺธนํ. กามภเว อนาคามิโน พหิพทฺธา อนฺโตสยิตา นาม. เตสฺหิ รูปารูปภเว พนฺธนํ. กามภเว โสตาปนฺนสกทาคามิโน อนฺโตพทฺธา อนฺโตสยิตา นาม. รูปารูปภเว อนาคามิโน พหิพทฺธา พหิสยิตา นาม. ขีณาสโว สพฺพตฺถ อพนฺธโน.
สิกฺขิตพฺพํ ปทํ สิกฺขาปทํ, สิกฺขาโกฏฺาโสติ อตฺโถ. สิกฺขาย วา ปทํ สิกฺขาปทํ, อธิจิตฺตอธิปฺาสิกฺขาย อธิคมุปาโยติ อตฺโถ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปน สิกฺขาปทกถา วิภงฺคปฺปกรเณ สิกฺขาปทวิภงฺเค อาคตา เอว.
อภพฺพฏฺานาทิปฺจกวณฺณนา
๓๑๖. ‘‘อภพฺโพ, อาวุโส, ขีณาสโว ภิกฺขุ สฺจิจฺจ ปาณ’’นฺติอาทิ เทสนาสีสเมว, โสตาปนฺนาทโยปิ ปน อภพฺพา. ปุถุชฺชนขีณาสวานํ นินฺทาปสํสตฺถมฺปิ เอวํ วุตฺตํ. ปุถุชฺชโน นาม คารยฺโห, มาตุฆาตาทีนิปิ กโรติ ¶ . ขีณาสโว ปน ปาสํโส, กุนฺถกิปิลฺลิกฆาตาทีนิปิ น กโรตีติ.
พฺยสเนสุ วิยสฺสตีติ พฺยสนํ, หิตสุขํ ขิปติ วิทฺธํเสตีติ อตฺโถ. าตีนํ พฺยสนํ าติพฺยสนํ, โจรโรคภยาทีหิ าติวินาโสติ อตฺโถ. โภคานํ พฺยสนํ ¶ โภคพฺยสนํ, ราชโจราทิวเสน โภควินาโสติ อตฺโถ. โรโค เอว พฺยสนํ โรคพฺยสนํ. โรโค หิ อาโรคฺยํ พฺยสติ วินาเสตีติ พฺยสนํ, สีลสฺส พฺยสนํ สีลพฺยสนํ. ทุสฺสีลฺยสฺเสตํ นามํ. สมฺมาทิฏฺึ วินาสยมานา อุปฺปนฺนา ทิฏฺิ เอว พฺยสนํ ทิฏฺิพฺยสนํ. เอตฺถ จ าติพฺยสนาทีนิ ตีณิ เนว อกุสลานิ น ติลกฺขณาหตานิ. สีลทิฏฺิพฺยสนทฺวยํ อกุสลํ ติลกฺขณาหตํ. เตเนว ‘‘นาวุโส, สตฺตา าติพฺยสนเหตุ วา’’ติอาทิมาห.
าติสมฺปทาติ าตีนํ สมฺปทา ปาริปูรี พหุภาโว. โภคสมฺปทายปิ เอเสว นโย. อาโรคฺยสฺส สมฺปทา อาโรคฺยสมฺปทา. ปาริปูรี ทีฆรตฺตํ อโรคตา. สีลทิฏฺิสมฺปทาสุปิ เอเสว นโย ¶ . อิธาปิ าติสมฺปทาทโย โน กุสลา, น ติลกฺขณาหตา. สีลทิฏฺิสมฺปทา กุสลา, ติลกฺขณาหตา. เตเนว ‘‘นาวุโส, สตฺตา าติสมฺปทาเหตุ วา’’ติอาทิมาห.
สีลวิปตฺติสีลสมฺปตฺติกถา มหาปรินิพฺพาเน วิตฺถาริตาว.
โจทเกนาติ วตฺถุสํสนฺทสฺสนา, อาปตฺติสํสนฺทสฺสนา, สํวาสปฺปฏิกฺเขโป, สามีจิปฺปฏิกฺเขโปติ จตูหิ โจทนาวตฺถูหิ โจทยมาเนน. กาเลน วกฺขามิ โน อกาเลนาติ เอตฺถ จุทิตกสฺส กาโล กถิโต, น โจทกสฺส. ปรํ โจเทนฺเตน หิ ปริสมชฺเฌ วา อุโปสถปวารณคฺเค วา อาสนสาลาโภชนสาลาทีสุ วา น โจเทตพฺพํ. ทิวาฏฺาเน นิสินฺนกาเล ‘‘กโรตายสฺมา โอกาสํ, อหํ อายสฺมนฺตํ วตฺตุกาโม’’ติ เอวํ โอกาสํ กาเรตฺวา โจเทตพฺพํ. ปุคฺคลํ ปน อุปปริกฺขิตฺวา โย โลลปุคฺคโล อภูตํ วตฺวา ภิกฺขูนํ อยสํ อาโรเปติ, โส โอกาสกมฺมํ วินาปิ โจเทตพฺโพ. ภูเตนาติ ตจฺเฉน สภาเวน. สณฺเหนาติ มฏฺเน มุทุเกน. อตฺถสฺหิเตนาติ อตฺถกามตาย หิตกามตาย อุเปเตน.
ปธานิยงฺคปฺจกวณฺณนา
๓๑๗. ปธานิยงฺคานีติ ¶ ปธานํ วุจฺจติ ปทหนํ, ปธานมสฺส อตฺถีติ ปธานิโย, ปธานิยสฺส ภิกฺขุโน องฺคานิ ปธานิยงฺคานิ. สทฺโธติ สทฺธาย สมนฺนาคโต. สทฺธา ปเนสา อาคมนสทฺธา, อธิคมนสทฺธา, โอกปฺปนสทฺธา, ปสาทสทฺธาติ จตุพฺพิธา. ตตฺถ สพฺพฺุโพธิสตฺตานํ สทฺธา อภินีหารโต อาคตตฺตา อาคมนสทฺธา นาม. อริยสาวกานํ ¶ ปฏิเวเธน อธิคตตฺตา อธิคมนสทฺธา นาม. พุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆติ วุตฺเต อจลภาเวน โอกปฺปนํ โอกปฺปนสทฺธา นาม. ปสาทุปฺปตฺติ ปสาทสทฺธา นาม. อิธ โอกปฺปนสทฺธา อธิปฺเปตา. โพธินฺติ จตุตฺถมคฺคาณํ. ตํ สุปฺปฏิวิทฺธํ ตถาคเตนาติ สทฺทหติ. เทสนาสีสเมว เจตํ, อิมินา ปน องฺเคน ตีสุปิ รตเนสุ สทฺธา อธิปฺเปตา. ยสฺส หิ พุทฺธาทีสุ ปสาโท พลวา, ตสฺส ปธานวีริยํ อิชฺฌติ. อปฺปาพาโธติ อโรโค. อปฺปาตงฺโกติ นิทฺทุกฺโข. สมเวปากินิยาติ สมวิปาจนียา. คหณิยาติ กมฺมชเตโชธาตุยา. นาติสีตาย นาจฺจุณฺหายาติ อติสีตคหณิโก สีตภีรู โหติ, อจฺจุณฺหคหณิโก อุณฺหภีรู โหติ, เตสํ ปธานํ น อิชฺฌติ. มชฺฌิมคหณิกสฺส อิชฺฌติ. เตนาห – ‘‘มชฺฌิมาย ปธานกฺขมายา’’ติ. ยถาภูตํ อตฺตานํ อาวิกตฺตาติ ยถาภูตํ อตฺตโน อคุณํ ปกาเสตา. อุทยตฺถคามินิยาติ อุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ คนฺตุํ ปริจฺฉินฺทิตุํ สมตฺถาย, เอเตน ปฺาสลกฺขณปริคฺคาหกํ อุทยพฺพยาณํ วุตฺตํ ¶ . อริยายาติ ปริสุทฺธาย. นิพฺเพธิกายาติ อนิพฺพิทฺธปุพฺเพ โลภกฺขนฺธาทโย นิพฺพิชฺฌิตุํ สมตฺถาย. สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยาติ ตทงฺควเสน กิเลสานํ ปหีนตฺตา ยํ ยํ ทุกฺขํ ขียติ, ตสฺส ตสฺส ทุกฺขสฺส ขยคามินิยา. อิติ สพฺเพหิ อิเมหิ ปเทหิ วิปสฺสนาปฺาว กถิตา. ทุปฺปฺสฺส หิ ปธานํ น อิชฺฌติ.
สุทฺธาวาสาทิปฺจกวณฺณนา
๓๑๘. สุทฺธาวาสาติ สุทฺธา อิธ อาวสึสุ อาวสนฺติ อาวสิสฺสนฺติ วาติ สุทฺธาวาสา. สุทฺธาติ กิเลสมลรหิตา อนาคามิขีณาสวา. อวิหาติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ มหาปทาเน วุตฺตเมว.
อนาคามีสุ ¶ อายุโน มชฺฌํ อนติกฺกมิตฺวา อนฺตราว กิเลสปรินิพฺพานํ อรหตฺตํ ปตฺโต อนฺตราปรินิพฺพายี นาม. มชฺฌํ อุปหจฺจ อติกฺกมิตฺวา ปตฺโต อุปหจฺจปรินิพฺพายี ¶ นาม. อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน อกิลมนฺโต สุเขน ปตฺโต อสงฺขารปรินิพฺพายี นาม. สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิลมนฺโต ทุกฺเขน ปตฺโต สสงฺขารปรินิพฺพายี นาม. อิเม จตฺตาโร ปฺจสุปิ สุทฺธาวาเสสุ ลพฺภนฺติ. อุทฺธํโสโตอกนิฏฺคามีติ เอตฺถ ปน จตุกฺกํ เวทิตพฺพํ. โย หิ อวิหาโต ปฏฺาย จตฺตาโร เทวโลเก โสเธตฺวา อกนิฏฺํ คนฺตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยํ อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี นาม. โย อวิหาโต ทุติยํ วา ตติยํ วา จตุตฺถํ วา เทวโลกํ คนฺตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยํ อุทฺธํโสโต น อกนิฏฺคามี นาม. โย กามภวโต อกนิฏฺเสุ นิพฺพตฺติตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยํ น อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี นาม. โย เหฏฺา จตูสุ เทวโลเกสุ ตตฺถ ตตฺเถว นิพฺพตฺติตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยํ น อุทฺธํโสโต น อกนิฏฺคามี นามาติ.
เจโตขิลปฺจกวณฺณนา
๓๑๙. เจโตขิลาติ จิตฺตสฺส ถทฺธภาวา. สตฺถริ กงฺขตีติ สตฺถุ สรีเร วา คุเณ วา กงฺขติ. สรีเร กงฺขมาโน ‘‘ทฺวตฺตึสมหาปุริสวรลกฺขณปฏิมณฺฑิตํ นาม สรีรํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’’ติ กงฺขติ. คุเณ กงฺขมาโน ‘‘อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนชานนสมตฺถํ สพฺพฺุตาณํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’’ติ กงฺขติ. อาตปฺปายาติ วีริยกรณตฺถาย. อนุโยคายาติ ปุนปฺปุนํ โยคาย. สาตจฺจายาติ สตตกิริยาย. ปธานายาติ ปทหนตฺถาย. อยํ ปโม เจโตขิโลติ อยํ สตฺถริ ¶ วิจิกิจฺฉาสงฺขาโต ปโม จิตฺตสฺส ถทฺธภาโว. ธมฺเมติ ปริยตฺติธมฺเม จ ปฏิเวธธมฺเม จ. ปริยตฺติธมฺเม กงฺขมาโน ‘‘เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานีติ วทนฺติ, อตฺถิ นุ โข เอตํ นตฺถี’’ติ กงฺขติ. ปฏิเวธธมฺเม กงฺขมาโน ‘‘วิปสฺสนานิสฺสนฺโท มคฺโค นาม, มคฺคนิสฺสนฺโท ผลํ นาม, สพฺพสงฺขารปฏินิสฺสคฺโค นิพฺพานํ นามาติ วทนฺติ, ตํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’’ติ กงฺขติ. สงฺเฆ กงฺขตีติ ‘‘อุชุปฺปฏิปนฺโนติอาทีนํ ปทานํ วเสน เอวรูปํ ปฏิปทํ ปฏิปนฺโน จตฺตาโร มคฺคฏฺา จตฺตาโร ¶ ผลฏฺาติ อฏฺนฺนํ ปุคฺคลานํ สมูหภูโต สงฺโฆ นาม อตฺถิ นุ โข นตฺถี’’ติ กงฺขติ. สิกฺขาย กงฺขมาโน ‘‘อธิสีลสิกฺขา นาม, อธิจิตฺตอธิปฺาสิกฺขา นามาติ วทนฺติ ¶ , สา อตฺถิ นุ โข นตฺถี’’ติ กงฺขติ. อยํ ปฺจโมติ อยํ สพฺรหฺมจารีสุ โกปสงฺขาโต ปฺจโม จิตฺตสฺส ถทฺธภาโว กจวรภาโว ขาณุกภาโว.
เจตโสวินิพนฺธาทิปฺจกวณฺณนา
๓๒๐. เจตโสวินิพนฺธาติ จิตฺตํ พนฺธิตฺวา มุฏฺิยํ กตฺวา วิย คณฺหนฺตีติ เจตโสวินิพนฺธา. กาเมติ วตฺถุกาเมปิ กิเลสกาเมปิ. กาเยติ อตฺตโน กาเย. รูเปติ พหิทฺธารูเป. ยาวทตฺถนฺติ ยตฺตกํ อิจฺฉติ, ตตฺตกํ. อุทราวเทหกนฺติ อุทรปูรํ. ตฺหิ อุทรํ อวเทหนโต ‘‘อุทราวเทหก’’นฺติ วุจฺจติ. เสยฺยสุขนฺติ มฺจปีสุขํ. ปสฺสสุขนฺติ ยถา สมฺปริวตฺตกํ สยนฺตสฺส ทกฺขิณปสฺสวามปสฺสานํ สุขํ โหติ, เอวํ อุปฺปนฺนํ สุขํ. มิทฺธสุขนฺติ นิทฺทาสุขํ. อนุยุตฺโตติ ยุตฺตปฺปยุตฺโต วิหรติ. ปณิธายาติ ปตฺถยิตฺวา. พฺรหฺมจริเยนาติ เมถุนวิรติพฺรหฺมจริเยน. เทโว วา ภวิสฺสามีติ มเหสกฺขเทโว วา ภวิสฺสามิ. เทวฺตโร วาติ อปฺเปสกฺขเทเวสุ วา อฺตโร.
อินฺทฺริเยสุ ปมปฺจเก โลกิยาเนว กถิตานิ. ทุติยปฺจเก ปมทุติยจตุตฺถานิ โลกิยานิ, ตติยปฺจมานิ โลกิยโลกุตฺตรานิ. ตติยปฺจเก สมถวิปสฺสนามคฺควเสน โลกิยโลกุตฺตรานิ.
นิสฺสรณิยปฺจกวณฺณนา
๓๒๑. นิสฺสรณิยาติ นิสฺสฏา วิสฺุตฺตา. ธาตุโยติ อตฺตสฺุสภาวา. กาเม มนสิกโรโตติ กาเม มนสิกโรนฺตสฺส, อสุภชฺฌานโต วุฏฺาย อคทํ คเหตฺวา วิสํ วีมํสนฺโต ¶ วิย วีมํสนตฺถํ กามาภิมุขํ จิตฺตํ เปเสนฺตสฺสาติ อตฺโถ. น ปกฺขนฺทตีติ น ปวิสติ. น ปสีทตีติ ปสาทํ นาปชฺชติ. น ¶ สนฺติฏฺตีติ น ปติฏฺติ. น วิมุจฺจตีติ นาธิมุจฺจติ. ยถา ปน กุกฺกุฏปตฺตํ วา นฺหารุททฺทุลํ วา อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ น สมฺปสาริยติ; เอวํ ปติลียติ น ปสาริยติ. เนกฺขมฺมํ โข ปนาติ อิธ เนกฺขมฺมํ นาม ทสสุ อสุเภสุ ปมชฺฌานํ, ตทสฺส มนสิกโรโต จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. ตสฺส ตํ จิตฺตนฺติ ตสฺส ตํ ¶ อสุภชฺฌานจิตฺตํ. สุคตนฺติ โคจเร คตตฺตา สุฏฺุ คตํ. สุภาวิตนฺติ อหานภาคิยตฺตา สุฏฺุ ภาวิตํ. สุวุฏฺิตนฺติ กามโต สุฏฺุ วุฏฺิตํ. สุวิมุตฺตนฺติ กาเมหิ สุฏฺุ วิมุตฺตํ. กามปจฺจยา อาสวา นาม กามเหตุกา จตฺตาโร อาสวา. วิฆาตาติ ทุกฺขา. ปริฬาหาติ กามราคปริฬาหา. น โส ตํ เวทนํ เวเทตีติ โส ตํ กามเวทนํ วิฆาตปริฬาหเวทนฺจ น เวทยติ. อิทมกฺขาตํ กามานํ นิสฺสรณนฺติ อิทํ อสุภชฺฌานํ กาเมหิ นิสฺสฏตฺตา กามานํ นิสฺสรณนฺติ อกฺขาตํ. โย ปน ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺโต ตติยํ มคฺคํ ปตฺวา อนาคามิผเลน นิพฺพานํ ทิสฺวา ปุน กามา นาม นตฺถีติ ชานาติ, ตสฺส จิตฺตํ อจฺจนฺตนิสฺสรณเมว. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
อยํ ปน วิเสโส, ทุติยวาเร เมตฺตาฌานานิ พฺยาปาทสฺส นิสฺสรณํ นาม. ตติยวาเร กรุณาฌานานิ วิหึสาย นิสฺสรณํ นาม. จตุตฺถวาเร อรูปชฺฌานานิ รูปานํ นิสฺสรณํ นาม. อจฺจนฺตนิสฺสรเณ เจตฺถ อรหตฺตผลํ โยเชตพฺพํ.
ปฺจมวาเร สกฺกายํ มนสิกโรโตติ สุทฺธสงฺขาเร ปริคฺคณฺหิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตสฺส สุกฺขวิปสฺสกสฺส ผลสมาปตฺติโต วุฏฺาย วีมํสนตฺถํ ปฺจุปาทานกฺขนฺธาภิมุขํ จิตฺตํ เปเสนฺตสฺส. อิทมกฺขาตํ สกฺกายนิสฺสรณนฺติ อิทํ อรหตฺตมคฺเคน จ ผเลน จ นิพฺพานํ ทิสฺวา ิตสฺส ภิกฺขุโน ปุน สกฺกาโย นตฺถีติ อุปฺปนฺนํ อรหตฺตผลสมาปตฺติจิตฺตํ สกฺกายสฺส นิสฺสรณนฺติ อกฺขาตํ.
วิมุตฺตายตนปฺจกวณฺณนา
๓๒๒. วิมุตฺตายตนานีติ วิมุจฺจนการณานิ. อตฺถปฏิสํเวทิโนติ ปาฬิอตฺถํ ชานนฺตสฺส. ธมฺมปฏิสํเวทิโนติ ¶ ปาฬึ ชานนฺตสฺส. ปาโมชฺชนฺติ ตรุณปีติ. ปีตีติ ตุฏฺาการภูตา พลวปีติ. กาโยติ นามกาโย ปฏิปสฺสมฺภติ. สุขํ เวทยตีติ สุขํ ปฏิลภติ. จิตฺตํ สมาธิยตีติ อรหตฺตผลสมาธินา สมาธิยติ. อยฺหิ ตํ ธมฺมํ สุณนฺโต อาคตาคตฏฺาเน ¶ ฌานวิปสฺสนามคฺคผลานิ ชานาติ, ตสฺส เอวํ ชานโต ปีติ อุปฺปชฺชติ. โส ตสฺสา ปีติยา อนฺตรา โอสกฺกิตุํ น เทนฺโต อุปจารกมฺมฏฺานิโก หุตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘จิตฺตํ สมาธิยตี’’ติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย ¶ . อยํ ปน วิเสโส, สมาธินิมิตฺตนฺติ อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ อฺตโร สมาธิเยว สมาธินิมิตฺตํ. สุคฺคหิตํ โหตีติอาทีสุ อาจริยสนฺติเก กมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหนฺเตน สุฏฺุ คหิตํ โหติ. สุฏฺุ มนสิกตนฺติ สุฏฺุ อุปธาริตํ. สุปฺปฏิวิทฺธํ ปฺายาติ ปฺาย สุฏฺุ ปจฺจกฺขํ กตํ. ตสฺมึ ธมฺเมติ ตสฺมึ กมฺมฏฺานปาฬิธมฺเม.
วิมุตฺติปริปาจนียาติ วิมุตฺติ วุจฺจติ อรหตฺตํ, ตํ ปริปาเจนฺตีติ วิมุตฺติปริปาจนียา. อนิจฺจสฺาติ อนิจฺจานุปสฺสนาาเณ อุปฺปนฺนสฺา. อนิจฺเจ ทุกฺขสฺาติ ทุกฺขานุปสฺสนาาเณ อุปฺปนฺนสฺา. ทุกฺเข อนตฺตสฺาติ อนตฺตานุปสฺสนาาเณ อุปฺปนฺนสฺา. ปหานสฺาติ ปหานานุปสฺสนาาเณ อุปฺปนฺนสฺา. วิราคสฺาติ วิราคานุปสฺสนาาเณ อุปฺปนฺนสฺา.
‘‘อิเม โข อาวุโส’’ติอาทิ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. อิติ ฉพฺพีสติยา ปฺจกานํ วเสน ตึสสตปฺเห กเถนฺโต เถโร สามคฺคิรสํ ทสฺเสสีติ.
ปฺจกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ฉกฺกวณฺณนา
๓๒๓. อิติ ปฺจกวเสน สามคฺคิรสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ฉกฺกวเสน ทสฺเสตุํ ปุน เทสนํ อารภิ. ตตฺถ อชฺฌตฺติกานีติ อชฺฌตฺตชฺฌตฺติกานิ. พาหิรานีติ ¶ ตโต อชฺฌตฺตชฺฌตฺตโต พหิภูตานิ. วิตฺถารโต ปน อายตนกถา วิสุทฺธิมคฺเค กถิตาว. วิฺาณกายาติ วิฺาณสมูหา. จกฺขุวิฺาณนฺติ จกฺขุปสาทนิสฺสิตํ กุสลากุสลวิปากวิฺาณํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. จกฺขุสมฺผสฺโสติ จกฺขุนิสฺสิโต สมฺผสฺโส. โสตสมฺผสฺสาทีสุปิ เอเสว นโย. มโนสมฺผสฺโสติ อิเม ทส สมฺผสฺเส เปตฺวา เสโส สพฺโพ มโนสมฺผสฺโส นาม. เวทนาฉกฺกมฺปิ เอเตเนว นเยน เวทิตพฺพํ. รูปสฺาติ รูปํ ¶ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนา สฺา. เอเตนุปาเยน เสสาปิ เวทิตพฺพา. เจตนาฉกฺเกปิ เอเสว นโย. ตถา ตณฺหาฉกฺเก.
อคารโวติ ¶ คารววิรหิโต. อปฺปติสฺโสติ อปฺปติสฺสโย อนีจวุตฺติ. เอตฺถ ปน โย ภิกฺขุ สตฺถริ ธรมาเน ตีสุ กาเลสุ อุปฏฺานํ น ยาติ. สตฺถริ อนุปาหเน จงฺกมนฺเต สอุปาหโน จงฺกมติ, นีเจ จงฺกมนฺเต อุจฺเจ จงฺกมติ, เหฏฺา วสนฺเต อุปริ วสติ, สตฺถุทสฺสนฏฺาเน อุโภ อํเส ปารุปติ, ฉตฺตํ ธาเรติ, อุปาหนํ ธาเรติ, นหายติ, อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา กโรติ. ปรินิพฺพุเต ปน เจติยํ วนฺทิตุํ น คจฺฉติ, เจติยสฺส ปฺายนฏฺาเน สตฺถุทสฺสนฏฺาเน วุตฺตํ สพฺพํ กโรติ, อยํ สตฺถริ อคารโว นาม. โย ปน ธมฺมสฺสวเน สํฆุฏฺเ สกฺกจฺจํ น คจฺฉติ, สกฺกจฺจํ ธมฺมํ น สุณาติ, สมุลฺลปนฺโต นิสีทติ, สกฺกจฺจํ น คณฺหาติ, น วาเจติ, อยํ ธมฺเม อคารโว นาม. โย ปน เถเรน ภิกฺขุนา อนชฺฌิฏฺโ ธมฺมํ เทเสติ, นิสีทติ, ปฺหํ กเถติ, วุฑฺเฒ ภิกฺขู ฆฏฺเฏนฺโต คจฺฉติ, ติฏฺติ, นิสีทติ, ทุสฺสปลฺลตฺถิกํ วา หตฺถปลฺลตฺถิกํ วา กโรติ, สงฺฆมชฺเฌ อุโภ อํเส ปารุปติ, ฉตฺตุปาหนํ ธาเรติ, อยํ สงฺเฆ อคารโว นาม. เอกภิกฺขุสฺมิมฺปิ หิ อคารเว กเต สงฺเฆ อคารโว กโตว โหติ. ติสฺโส สิกฺขา ปน อปูรยมาโนว สิกฺขาย อคารโว นาม. อปฺปมาทลกฺขณํ อนนุพฺรูหยมาโน อปฺปมาเท อคารโว นาม. ทุวิธมฺปิ ปฏิสนฺถารํ อกโรนฺโต ปฏิสนฺถาเร อคารโว นาม. ฉ คารวา วุตฺตปฺปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพา.
โสมนสฺสูปวิจาราติ ¶ โสมนสฺสสมฺปยุตฺตา วิจารา. โสมนสฺสฏฺานิยนฺติ โสมนสฺสการณภูตํ. อุปวิจรตีติ วิตกฺเกน วิตกฺเกตฺวา วิจาเรน ปริจฺฉินฺทติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. โทมนสฺสูปวิจาราปิ เอวเมว เวทิตพฺพา. ตถา อุเปกฺขูปวิจารา. สารณียธมฺมา เหฏฺา วิตฺถาริตา. ทิฏฺิสามฺคโตติ อิมินา ปน ปเทน โกสมฺพกสุตฺเต ปมมคฺโค กถิโต. อิธ จตฺตาโรปิ มคฺคา.
วิวาทมูลฉกฺกวณฺณนา
๓๒๕. วิวาทมูลานีติ วิวาทสฺส มูลานิ. โกธโนติ กุชฺฌนลกฺขเณน โกเธน สมนฺนาคโต. อุปนาหีติ เวรอปฺปฏินิสฺสคฺคลกฺขเณน อุปนาเหน สมนฺนาคโต. อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานนฺติ ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ วิวาโท กถํ เทวมนุสฺสานํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตติ. โกสมฺพกกฺขนฺธเก วิย ทฺวีสุ ภิกฺขูสุ วิวาทํ อาปนฺเนสุ ตสฺมึ วิหาเร ¶ เตสํ อนฺเตวาสิกา ¶ วิวทนฺติ. เตสํ โอวาทํ คณฺหนฺโต ภิกฺขุนิสงฺโฆ วิวทติ. ตโต เตสํ อุปฏฺากา วิวทนฺติ. อถ มนุสฺสานํ อารกฺขเทวตา ทฺเว โกฏฺาสา โหนฺติ. ตตฺถ ธมฺมวาทีนํ อารกฺขเทวตา ธมฺมวาทินิโย โหนฺติ อธมฺมวาทีนํ อธมฺมวาทินิโย. ตโต อารกฺขเทวตานํ มิตฺตา ภุมฺมา เทวตา ภิชฺชนฺติ. เอวํ ปรมฺปรา ยาว พฺรหฺมโลกา เปตฺวา อริยสาวเก สพฺเพ เทวมนุสฺสา ทฺเว โกฏฺาสา โหนฺติ. ธมฺมวาทีหิ ปน อธมฺมวาทิโนว พหุตรา โหนฺติ. ตโต ‘‘ยํ พหุเกหิ คหิตํ, ตํ ตจฺฉ’’นฺติ ธมฺมํ วิสฺสชฺเชตฺวา พหุตราว อธมฺมํ คณฺหนฺติ. เต อธมฺมํ ปุรกฺขตฺวา วทนฺตา อปาเยสุ นิพฺพตฺตนฺติ. เอวํ ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ วิวาโท เทวมนุสฺสานํ อหิตาย ทุกฺขาย โหติ.
อชฺฌตฺตํ วาติ ตุมฺหากํ อพฺภนฺตรปริสาย. พหิทฺธา วาติ ปเรสํ ปริสาย.
มกฺขีติ ปเรสํ คุณมกฺขนลกฺขเณน มกฺเขน สมนฺนาคโต. ปฬาสีติ ยุคคฺคาหลกฺขเณน ปฬาเสน สมนฺนาคโต. อิสฺสุกีติ ปรสกฺการาทีนิ อิสฺสายนลกฺขณาย อิสฺสาย สมนฺนาคโต. มจฺฉรีติ อาวาสมจฺฉริยาทีหิ สมนฺนาคโต. สโติ เกราฏิโก. มายาวีติ ¶ กตปาปปฏิจฺฉาทโก. ปาปิจฺโฉติ อสนฺตสมฺภาวนิจฺฉโก ทุสฺสีโล. มิจฺฉาทิฏฺีติ นตฺถิกวาที อเหตุกวาที อกิริยวาที. สนฺทิฏฺิปรามาสีติ สยํ ทิฏฺิเมว ปรามสติ. อาธานคฺคาหีติ ทฬฺหคฺคาหี. ทุปฺปฏินิสฺสคฺคีติ น สกฺกา โหติ คหิตํ วิสฺสชฺชาเปตุํ.
ปถวีธาตูติ ปติฏฺาธาตุ. อาโปธาตูติ อาพนฺธนธาตุ. เตโชธาตูติ ปริปาจนธาตุ. วาโยธาตูติ วิตฺถมฺภนธาตุ. อากาสธาตูติ อสมฺผุฏฺธาตุ. วิฺาณธาตูติ วิชานนธาตุ.
นิสฺสรณิยฉกฺกวณฺณนา
๓๒๖. นิสฺสรณิยา ธาตุโยติ นิสฺสฏธาตุโยว. ปริยาทาย ติฏฺตีติ ปริยาทิยิตฺวา หาเปตฺวา ติฏฺติ. ‘มา เหวนฺติสฺส วจนีโย’ติ ยสฺมา อภูตํ พฺยากรณํ พฺยากโรติ, ตสฺมา มา เอวํ ภณีติ ¶ วตฺตพฺโพ. ยทิทํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺตีติ ยา อยํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ, อิทํ นิสฺสรณํ พฺยาปาทสฺส, พฺยาปาทโต นิสฺสฏาติ อตฺโถ. โย ปน เมตฺตาย ติกจตุกฺกชฺฌานโต วุฏฺิโต สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา ตติยมคฺคํ ปตฺวา ‘‘ปุน พฺยาปาโท นตฺถี’’ติ ตติยผเลน นิพฺพานํ ปสฺสติ, ตสฺส จิตฺตํ อจฺจนฺตํ นิสฺสรณํ พฺยาปาทสฺส. เอเตนุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อนิมิตฺตา ¶ เจโตวิมุตฺตีติ อรหตฺตผลสมาปตฺติ. สา หิ ราคนิมิตฺตาทีนฺเจว รูปนิมิตฺตาทีนฺจ นิจฺจนิมิตฺตาทีนฺจ อภาวา ‘‘อนิมิตฺตา’’ติ วุตฺตา. นิมิตฺตานุสารีติ วุตฺตปฺปเภทํ นิมิตฺตํ อนุสรตีติ นิมิตฺตานุสารี.
อสฺมีติ อสฺมิมาโน. อยมหมสฺมีติ ปฺจสุ ขนฺเธสุ อยํ นาม อหํ อสฺมีติ เอตฺตาวตา อรหตฺตํ พฺยากตํ โหติ. วิจิกิจฺฉากถํกถาสลฺลนฺติ วิจิกิจฺฉาภูตํ กถํกถาสลฺลํ. ‘มา เหวนฺติสฺส วจนีโย’ติ สเจ เต ปมมคฺควชฺฌา วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชติ, อรหตฺตพฺยากรณํ มิจฺฉา โหติ, ตสฺมา มา อภูตํ ภณีติ วาเรตพฺโพ. อสฺมิมานสมุคฺฆาโตติ อรหตฺตมคฺโค. อรหตฺตมคฺคผลวเสน หิ นิพฺพาเน ทิฏฺเ ปุน อสฺมิมาโน นตฺถีติ อรหตฺตมคฺโค อสฺมิมานสมุคฺฆาโตติ วุตฺโต.
อนุตฺตริยาทิฉกฺกวณฺณนา
๓๒๗. อนุตฺตริยานีติ ¶ อนุตฺตรานิ เชฏฺกานิ. ทสฺสเนสุ อนุตฺตริยํ ทสฺสนานุตฺตริยํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ หตฺถิรตนาทีนํ ทสฺสนํ น ทสฺสนานุตฺตริยํ, นิวิฏฺสทฺธสฺส ปน นิวิฏฺเปมวเสน ทสพลสฺส วา ภิกฺขุสงฺฆสฺส วา กสิณาสุภนิมิตฺตาทีนํ วา อฺตรสฺส ทสฺสนํ ทสฺสนานุตฺตริยํ นาม. ขตฺติยาทีนํ คุณกถาสวนํ น สวนานุตฺตริยํ, นิวิฏฺสทฺธสฺส ปน นิวิฏฺเปมวเสน ติณฺณํ วา รตนานํ คุณกถาสวนํ เตปิฏกพุทฺธวจนสวนํ วา สวนานุตฺตริยํ นาม. มณิรตนาทิลาโภ น ลาภานุตฺตริยํ, สตฺตวิธอริยธนลาโภ ปน ลาภานุตฺตริยํ นาม. หตฺถิสิปฺปาทิสิกฺขนํ น สิกฺขานุตฺตริยํ, สิกฺขตฺตยปูรณํ ปน สิกฺขานุตฺตริยํ นาม. ขตฺติยาทีนํ ปาริจริยา น ปาริจริยานุตฺตริยํ, ติณฺณํ ปน รตนานํ ปาริจริยา ปาริจริยานุตฺตริยํ นาม. ขตฺติยาทีนํ คุณานุสฺสรณํ นานุสฺสตานุตฺตริยํ, ติณฺณํ ปน รตนานํ คุณานุสฺสรณํ อนุสฺสตานุตฺตริยํ นาม.
อนุสฺสติโยว ¶ อนุสฺสติฏฺานานิ นาม. พุทฺธานุสฺสตีติ พุทฺธสฺส คุณานุสฺสรณํ. เอวํ อนุสฺสรโต หิ ปีติ อุปฺปชฺชติ. โส ตํ ปีตึ ขยโต วยโต ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อุปจารกมฺมฏฺานํ นาเมตํ คิหีนมฺปิ ลพฺภติ, เอส นโย สพฺพตฺถ. วิตฺถารกถา ปเนตฺถ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.
สตตวิหารฉกฺกวณฺณนา
๓๒๘. สตตวิหาราติ ¶ ขีณาสวสฺส นิจฺจวิหารา. จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ จกฺขุทฺวารารมฺมเณ อาปาถคเต ตํ รูปํ จกฺขุวิฺาเณน ทิสฺวา ชวนกฺขเณ อิฏฺเ อรชฺชนฺโต เนว สุมโน โหติ, อนิฏฺเ อทุสฺสนฺโต น ทุมฺมโน. อสมเปกฺขเน โมหํ อนุปฺปาเทนฺโต อุเปกฺขโก วิหรติ มชฺฌตฺโต, สติยา ยุตฺตตฺตา สโต, สมฺปชฺเน ยุตฺตตฺตา สมฺปชาโน. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อิติ ฉสุปิ ทฺวาเรสุ อุเปกฺขโก วิหรตีติ อิมินา ฉฬงฺคุเปกฺขา กถิตา. สมฺปชาโนติ วจนโต ปน จตฺตาริ าณสมฺปยุตฺตจิตฺตานิ ลพฺภนฺติ. สตตวิหาราติ วจนโต อฏฺปิ มหาจิตฺตานิ ลพฺภนฺติ อรชฺชนฺโต อทุสฺสนฺโตติ วจนโต ทสปิ จิตฺตานิ ลพฺภนฺติ. โสมนสฺสํ กถํ ลพฺภตีติ เจ อาเสวนโต ลพฺภติ.
อภิชาติฉกฺกวณฺณนา
๓๒๙. อภิชาติโยติ ¶ ชาติโย. กณฺหาภิชาติโก สมาโนติ กณฺเห นีจกุเล ชาโต หุตฺวา. กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายตีติ กาฬกํ ทสทุสฺสีลฺยธมฺมํ ปสวติ กโรติ. โส ตํ อภิชายิตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตติ. สุกฺกํ ธมฺมนฺติ อหํ ปุพฺเพปิ ปฺุานํ อกตตฺตา นีจกุเล นิพฺพตฺโต. อิทานิ ปฺุํ กโรมีติ ปฺุสงฺขาตํ ปณฺฑรํ ธมฺมํ อภิชายติ. โส เตน สคฺเค นิพฺพตฺตติ. อกณฺหํ อสุกฺกํ นิพฺพานนฺติ นิพฺพานฺหิ สเจ กณฺหํ ภเวยฺย, กณฺหวิปากํ ทเทยฺย. สเจ สุกฺกํ, สุกฺกวิปากํ ทเทยฺย. ทฺวินฺนมฺปิ อปฺปทานโต ปน ‘‘อกณฺหํ อสุกฺก’’นฺติ วุตฺตํ. นิพฺพานฺจ นาม อิมสฺมึ อตฺเถ อรหตฺตํ อธิปฺเปตํ. ตฺหิ กิเลสนิพฺพานนฺเต ชาตตฺตา นิพฺพานํ นาม. ตํ เอส อภิชายติ ปสวติ กโรติ. สุกฺกาภิชาติโก สมาโนติ สุกฺเก อุจฺจกุเล ชาโต หุตฺวา. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
นิพฺเพธภาคิยฉกฺกวณฺณนา
นิพฺเพธภาคิยาติ ¶ นิพฺเพโธ วุจฺจติ นิพฺพานํ, ตํ ภชนฺติ อุปคจฺฉนฺตีติ นิพฺเพธภาคิยา. อนิจฺจสฺาทโย ปฺจเก วุตฺตา. นิโรธานุปสฺสนาาเณ สฺา นิโรธสฺา นาม.
‘‘อิเม ¶ โข, อาวุโส’’ติอาทิ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. อิติ ทฺวาวีสติยา ฉกฺกานํ วเสน พาตฺตึสสตปฺเห กเถนฺโต เถโร สามคฺคิรสํ ทสฺเสสีติ.
ฉกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.
สตฺตกวณฺณนา
๓๓๐. อิติ ฉกฺกวเสน สามคฺคิรสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สตฺตกวเสน ทสฺเสตุํ ปุน เทสนํ อารภิ.
ตตฺถ สมฺปตฺติปฏิลาภฏฺเน สทฺธาว ธนํ สทฺธาธนํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ปฺาธนํ ปเนตฺถ สพฺพเสฏฺํ. ปฺาย หิ ตฺวา ตีณิ สุจริตานิ ปฺจสีลานิ ทสสีลานิ ปูเรตฺวา สคฺคูปคา โหนฺติ, สาวกปารมีาณํ, ปจฺเจกโพธิาณํ, สพฺพฺุตฺาณฺจ ปฏิวิชฺฌนฺติ. อิมาสํ สมฺปตฺตีนํ ปฏิลาภการณโต ปฺา ‘‘ธน’’นฺติ วุตฺตา. สตฺตปิ เจตานิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาเนว กถิตานิ. โพชฺฌงฺคกถา กถิตาว.
สมาธิปริกฺขาราติ ¶ สมาธิปริวารา. สมฺมาทิฏฺาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. อิเมปิ สตฺต ปริกฺขารา โลกิยโลกุตฺตราว กถิตา.
อสตํ ธมฺมา อสนฺตา วา ธมฺมา ลามกา ธมฺมาติ อสทฺธมฺมา. วิปริยาเยน สทฺธมฺมา เวทิตพฺพา. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. สทฺธมฺเมสุ ปน สทฺธาทโย สพฺเพปิ วิปสฺสกสฺเสว กถิตา. เตสุปิ ปฺา โลกิยโลกุตฺตรา. อยํ วิเสโส.
สปฺปุริสานํ ธมฺมาติ สปฺปุริสธมฺมา. ตตฺถ สุตฺตเคยฺยาทิกํ ธมฺมํ ชานาตีติ ธมฺมฺู. ตสฺส ตสฺเสว ภาสิตสฺส อตฺถํ ชานาตีติ อตฺถฺู. ‘‘เอตฺตโกมฺหิ สีเลน สมาธินา ปฺายา’’ติ เอวํ อตฺตานํ ชานาตีติ อตฺตฺู. ปฏิคฺคหณปริโภเคสุ มตฺตํ ชานาตีติ มตฺตฺู. อยํ ¶ กาโล อุทฺเทสสฺส, อยํ กาโล ปริปุจฺฉาย, อยํ กาโล โยคสฺส อธิคมายาติ เอวํ กาลํ ชานาตีติ กาลฺู. เอตฺถ จ ปฺจ วสฺสานิ อุทฺเทสสฺส กาโล. ทส ¶ ปริปุจฺฉาย. อิทํ อติสมฺพาธํ. ทส วสฺสานิ ปน อุทฺเทสสฺส กาโล. วีสติ ปริปุจฺฉาย. ตโต ปรํ โยเค กมฺมํ กาตพฺพํ. อฏฺวิธํ ปริสํ ชานาตีติ ปริสฺู. เสวิตพฺพาเสวิตพฺพํ ปุคฺคลํ ชานาตีติ ปุคฺคลฺู.
๓๓๑. นิทฺทสวตฺถูนีติ นิทฺทสาทิวตฺถูนิ. นิทฺทโส ภิกฺขุ, นิพฺพีโส, นิตฺตึโส, นิจฺจตฺตาลีโส, นิปฺปฺาโส ภิกฺขูติ เอวํ วจนการณานิ. อยํ กิร ปฺโห ติตฺถิยสมเย อุปฺปนฺโน. ติตฺถิยา หิ ทสวสฺสกาเล มตํ นิคณฺํ นิทฺทโสติ วทนฺติ. โส กิร ปุน ทสวสฺโส น โหติ. น เกวลฺจ ทสวสฺโสว. นววสฺโสปิ…เป… เอกวสฺโสปิ น โหติ. เอเตเนว นเยน วีสติวสฺสาทิกาเลปิ มตํ นิพฺพีโส, นิตฺตึโส, นิจฺจตฺตาลีโส, นิปฺปฺาโสติ วทนฺติ. อายสฺมา อานนฺโท คาเม วิจรนฺโต ตํ กถํ สุตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ภควโต อาโรเจสิ. ภควา อาห –
‘‘น อิทํ, อานนฺท, ติตฺถิยานํ อธิวจนํ มม สาสเน ขีณาสวสฺเสตํ อธิวจนํ. ขีณาสโว หิ ทสวสฺสกาเล ปรินิพฺพุโต ปุน ทสวสฺโส น โหติ. น เกวลฺจ ทสวสฺโสว, นววสฺโสปิ…เป… เอกวสฺโสปิ. น เกวลฺจ เอกวสฺโสว, ทสมาสิโกปิ…เป… เอกมาสิโกปิ. เอกทิวสิโกปิ. เอกมุหุตฺโตปิ น โหติ เอว. กสฺมา? ปุน ปฏิสนฺธิยา อภาวา. นิพฺพีสาทีสุปิ เอเสว นโย. อิติ ภควา มม สาสเน ขีณาสวสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ ¶ –
วตฺวา เยหิ การเณหิ โส นิทฺทโส โหติ, ตานิ ทสฺเสตุํ สตฺต นิทฺทสวตฺถูนิ เทเสติ. เถโรปิ ตเมว เทสนํ อุทฺธริตฺวา สตฺต นิทฺทสวตฺถูนิ อิธาวุโส, ภิกฺขุ, สิกฺขาสมาทาเนติอาทิมาห. ตตฺถ อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. สิกฺขาสมาทาเน ติพฺพจฺฉนฺโท โหตีติ สิกฺขตฺตยปูรเณ พหลจฺฉนฺโท โหติ. อายติฺจ สิกฺขาสมาทาเน อวิคตเปโมติ ¶ อนาคเต ปุนทิวสาทีสุปิ สิกฺขาปูรเณ อวิคตเปเมน สมนฺนาคโต โหติ. ธมฺมนิสนฺติยาติ ธมฺมนิสามนาย. วิปสฺสนาเยตํ อธิวจนํ. อิจฺฉาวินเยติ ตณฺหาวินยเน. ปฏิสลฺลาเนติ เอกีภาเว. วีริยารมฺเภติ กายิกเจตสิกสฺส วีริยสฺส ปูรเณ. สติเนปกฺเกติ สติยฺเจว เนปกฺกภาเว จ. ทิฏฺิปฏิเวเธติ มคฺคทสฺสเน. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
สฺาสุ อสุภานุปสฺสนาาเณ สฺา อสุภสฺา. อาทีนวานุปสฺสนาาเณ สฺา อาทีนวสฺา นาม. เสสา เหฏฺา วุตฺตา เอว. พลสตฺตกวิฺาณฏฺิติสตฺตกปุคฺคลสตฺตกานิ วุตฺตนยาเนว ¶ . อปฺปหีนฏฺเน อนุสยนฺตีติ อนุสยา. ถามคโต กามราโค กามราคานุสโย. เอส นโย สพฺพตฺถ. สํโยชนสตฺตกํ อุตฺตานตฺถเมว.
อธิกรณสมถสตฺตกวณฺณนา
อธิกรณสมเถสุ อธิกรณานิ สเมนฺติ วูปสเมนฺตีติ อธิกรณสมถา. อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานนฺติ อุปฺปนฺนานํ อุปฺปนฺนานํ. อธิกรณานนฺติ วิวาทาธิกรณํ อนุวาทาธิกรณํ อาปตฺตาธิกรณํ กิจฺจาธิกรณนฺติ อิเมสํ จตุนฺนํ. สมถาย วูปสมายาติ สมถตฺถฺเจว วูปสมนตฺถฺจ. สมฺมุขาวินโย ทาตพฺโพ…เป… ติณวตฺถารโกติ อิเม สตฺต สมถา ทาตพฺพา.
ตตฺรายํ วินิจฺฉยนโย. อธิกรเณสุ ตาว ธมฺโมติ วา อธมฺโมติ วา อฏฺารสหิ วตฺถูหิ วิวทนฺตานํ ภิกฺขูนํ โย วิวาโท, อิทํ วิวาทาธิกรณํ นาม. สีลวิปตฺติยา ¶ วา อาจารทิฏฺิอาชีววิปตฺติยา วา อนุวทนฺตานํ อนุวาโท อุปวทนา เจว โจทนา จ, อิทํ อนุวาทาธิกรณํ นาม. มาติกาย อาคตา ปฺจ, วิภงฺเค ทฺเวติ สตฺตปิ อาปตฺติกฺขนฺธา, อิทํ อาปตฺตาธิกรณํ นาม. สงฺฆสฺส อปโลกนาทีนํ จตุนฺนํ กมฺมานํ กรณํ, อิทํ กิจฺจาธิกรณํ นาม.
ตตฺถ วิวาทาธิกรณํ ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมติ สมฺมุขาวินเยน จ เยภุยฺยสิกาย จ. สมฺมุขาวินเยเนว สมฺมมานํ ยสฺมึ วิหาเร อุปฺปนฺนํ ตสฺมึเยว วา อฺตฺถ วูปสเมตุํ คจฺฉนฺตานํ อนฺตรามคฺเค วา ยตฺถ คนฺตฺวา สงฺฆสฺส นิยฺยาติตํ ตตฺถ สงฺเฆน วา สงฺเฆ วูปสเมตุํ อสกฺโกนฺเต ตตฺเถว ¶ อุพฺพาหิกาย สมฺมตปุคฺคเลหิ วา วินิจฺฉิตํ สมฺมติ. เอวํ สมฺมมาเน จ ปเนตสฺมึ ยา สงฺฆสมฺมุขตา ธมฺมสมฺมุขตา วินยสมฺมุขตา ปุคฺคลสมฺมุขตา, อยํ สมฺมุขาวินโย นาม.
ตตฺถ จ การกสงฺฆสฺส สงฺฆสามคฺคิวเสน สมฺมุขีภาโว สงฺฆสมฺมุขตา. สเมตพฺพสฺส วตฺถุโน ภูตตา ธมฺมสมฺมุขตา. ยถา ตํ สเมตพฺพํ, ตเถว สมฺมนํ วินยสมฺมุขตา. โย จ วิวทติ, เยน จ วิวทติ, เตสํ อุภินฺนํ อตฺถปจฺจตฺถิกานํ สมฺมุขีภาโว ปุคฺคลสมฺมุขตา. อุพฺพาหิกาย วูปสเม ปเนตฺถ สงฺฆสมฺมุขตา ปริหายติ. เอวํ ตาว สมฺมุขาวินเยเนว สมฺมติ.
สเจ ¶ ปเนวมฺปิ น สมฺมติ, อถ นํ อุพฺพาหิกาย สมฺมตา ภิกฺขู ‘‘น มยํ สกฺโกม วูปสเมตุ’’นฺติ สงฺฆสฺเสว นิยฺยาเตนฺติ, ตโต สงฺโฆ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ สลากคฺคาหาปกํ สมฺมนฺนติ. เตน คุฬฺหกวิวฏกสกณฺณชปฺปเกสุ ตีสุ สลากคฺคาเหสุ อฺตรวเสน สลากํ คาหาเปตฺวา สนฺนิปติตปริสาย ธมฺมวาทีนํ เยภุยฺยตาย ยถา เต ธมฺมวาทิโน วทนฺติ, เอวํ วูปสนฺตํ อธิกรณํ สมฺมุขาวินเยน จ เยภุยฺยสิกาย จ วูปสนฺตํ โหติ.
ตตฺถ สมฺมุขาวินโย วุตฺตนโย เอว. ยํ ปน เยภุยฺยสิกากมฺมสฺส กรณํ, อยํ เยภุยฺยสิกา นาม. เอวํ วิวาทาธิกรณํ ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมติ. อนุวาทาธิกรณํ จตูหิ สมเถหิ สมฺมติ – สมฺมุขาวินเยน ¶ จ สติวินเยน จ อมูฬฺหวินเยน จ ตสฺสปาปิยสิกาย จ. สมฺมุขาวินเยเนว สมฺมมานํ โย จ อนุวทติ, ยฺจ อนุวทติ, เตสํ วจนํ สุตฺวา สเจ กาจิ อาปตฺติ นตฺถิ, อุโภ ขมาเปตฺวา, สเจ อตฺถิ, อยํ นาเมตฺถ อาปตฺตีติ เอวํ วินิจฺฉิตํ วูปสมฺมติ. ตตฺถ สมฺมุขาวินยลกฺขณํ วุตฺตนยเมว. ยทา ปน ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํสิตสฺส สติวินยํ ยาจมานสฺส สงฺโฆ ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน สติวินยํ เทติ, ตทา สมฺมุขาวินเยน จ สติวินเยน จ วูปสนฺตํ โหติ. ทินฺเน ปน สติวินเย ปุน ตสฺมึ ปุคฺคเล กสฺสจิ อนุวาโท น รุหติ.
ยทา อุมฺมตฺตโก ภิกฺขุ อุมฺมาทวเสน อสฺสามณเก อชฺฌาจาเร ‘‘สรตายสฺมา เอวรูปึ อาปตฺติ’’นฺติ ภิกฺขูหิ โจทิยมาโน ‘‘อุมฺมตฺตเกน เม ¶ , อาวุโส, เอตํ กตํ, นาหํ ตํ สรามี’’ติ ภณนฺโตปิ ภิกฺขูหิ โจทิยมาโนว ปุน อโจทนตฺถาย อมูฬฺหวินยํ ยาจติ, สงฺโฆ จสฺส ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อมูฬฺหวินยํ เทติ, ตทา สมฺมุขาวินเยน จ อมูฬฺหวินเยน จ วูปสนฺตํ โหติ. ทินฺเน ปน อมูฬฺหวินเย ปุน ตสฺมึ ปุคฺคเล กสฺสจิ ตปฺปจฺจยา อนุวาโท น รุหติ.
ยทา ปน ปาราชิเกน วา ปาราชิกสามนฺเตน วา โจทิยมานสฺส อฺเนฺํ ปฏิจรโต ปาปุสฺสนฺนตาย ปาปิยสฺส ปุคฺคลสฺส ‘‘สจายํ อจฺฉินฺนมูโล ภวิสฺสติ, สมฺมา วตฺติตฺวา โอสารณํ ลภิสฺสติ. สเจ ฉินฺนมูโล อยเมวสฺส นาสนา ภวิสฺสตี’’ติ มฺมาโน สงฺโฆ ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน ตสฺสปาปิยสิกํ กโรติ, ตทา สมฺมุขาวินเยน จ ตสฺสปาปิยสิกาย จ วูปสนฺตํ โหตีติ. เอวํ อนุวาทาธิกรณํ จตูหิ สมเถหิ สมฺมติ. อาปตฺตาธิกรณํ ตีหิ สมเถหิ สมฺมติ สมฺมุขาวินเยน จ ปฏิฺาตกรเณน จ ติณวตฺถารเกน จ. ตสฺส สมฺมุขาวินเยเนว วูปสโม นตฺถิ. ยทา ปน เอกสฺส วา ภิกฺขุโน ¶ สนฺติเก สงฺฆคณมชฺเฌสุ วา ภิกฺขุ ลหุกํ อาปตฺตึ เทเสติ, ตทา อาปตฺตาธิกรณํ สมฺมุขาวินเยน จ ปฏิฺาตกรเณน จ วูปสมฺมติ.
ตตฺถ สมฺมุขาวินเย ตาว โย จ เทเสติ, ยสฺส จ เทเสติ, เตสํ สมฺมุขีภาโว ปุคฺคลสมฺมุขตา. เสสํ วุตฺตนยเมว.
ปุคฺคลสฺส คณสฺส จ เทสนากาเล สงฺฆสมฺมุขตา ปริหายติ. ยา ปเนตฺถ อหํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ ¶ อาปนฺโนติ จ อาม, ปสฺสามีติ จ ปฏิฺา, ตาย ปฏิฺาย ‘‘อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ กรณํ, ตํ ปฏิฺาตกรณํ นาม. สงฺฆาทิเสเส หิ ปริวาสาทิยาจนา ปฏิฺา. ปริวาสาทีนํ ทานํ ปฏิฺาตกรณํ นาม. ทฺเว ปกฺขชาตา ปน ภณฺฑนการกา ภิกฺขู พหุํ อสฺสามณกํ อชฺฌาจริตฺวา ปุน ลชฺชิธมฺเม อุปฺปนฺเน สเจ มยํ อิมาหิ อาปตฺตีหิ อฺมฺํ กาเรสฺสาม, สิยาปิ ตํ อธิกรณํ กกฺขฬตฺตาย สํวตฺเตยฺยาติ อฺมฺํ อาปตฺติยา การาปเน โทสํ ทิสฺวา ยทา ติณวตฺถารกกมฺมํ กโรนฺติ, ตทา อาปตฺตาธิกรณํ สมฺมุขาวินเยน จ ติณวตฺถารเกน จ สมฺมติ.
ตตฺถ หิ ยตฺตกา หตฺถปาสูปคตา ‘‘น เมตํ ขมตี’’ติ เอวํ ทิฏฺาวิกมฺมํ อกตฺวา นิทฺทมฺปิ โอกฺกนฺตา โหนฺติ, สพฺเพสํ เปตฺวา ถุลฺลวชฺชฺจ คิหิปฏิสํยุตฺตฺจ ¶ สพฺพาปตฺติโย วุฏฺหนฺติ, เอวํ อาปตฺตาธิกรณํ ตีหิ สมเถหิ สมฺมติ. กิจฺจาธิกรณํ เอเกน สมเถน สมฺมติ สมฺมุขาวินเยเนว. อิมานิ จตฺตาริ อธิกรณานิ ยถานุรูปํ อิเมหิ สตฺตหิ สมเถหิ สมฺมนฺติ. เตน วุตฺตํ – อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อธิกรณานํ สมถาย วูปสมาย สมฺมุขาวินโย ทาตพฺโพ…เป… ติณวตฺถารโกติ. อยเมตฺถ วินิจฺฉยนโย. วิตฺถาโร ปน สมถกฺขนฺธเก อาคโตเยว. วินิจฺฉโยปิสฺส สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโต.
‘‘อิเม โข, อาวุโส’’ติอาทิ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. อิติ จุทฺทสนฺนํ สตฺตกานํ วเสน อฏฺนวุติ ปฺเห กเถนฺโต เถโร สามคฺคิรสํ ทสฺเสสีติ.
สตฺตกวณฺณนา นิฏฺิตา.
อฏฺกวณฺณนา
๓๓๓. อิติ ¶ สตฺตกวเสน สามคฺคิรสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อฏฺกวเสน ทสฺเสตุํ ปุน เทสนํ อารภิ. ตตฺถ มิจฺฉตฺตาติ อยาถาวา มิจฺฉาสภาวา. สมฺมตฺตาติ ยาถาวา สมฺมาสภาวา.
๓๓๔. กุสีตวตฺถูนีติ กุสีตสฺส อลสสฺส วตฺถูนิ ปติฏฺา โกสชฺชการณานีติ อตฺโถ. กมฺมํ กตฺตพฺพํ โหตีติ จีวรวิจารณาทิกมฺมํ กาตพฺพํ โหติ. น วีริยํ อารภตีติ ทุวิธมฺปิ วีริยํ นารภติ. อปฺปตฺตสฺสาติ ฌานวิปสฺสนามคฺคผลธมฺมสฺส อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา. อนธิคตสฺสาติ ¶ ตสฺเสว อนธิคตสฺส อธิคมตฺถาย. อสจฺฉิกตสฺสาติ ตสฺเสว อปจฺจกฺขกตสฺส สจฺฉิกรณตฺถาย. อิทํ ปมนฺติ อิทํ หนฺทาหํ นิปชฺชามีติ เอวํ โอสีทนํ ปมํ กุสีตวตฺถุ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘มาสาจิตํ มฺเ’’ติ เอตฺถ ปน มาสาจิตํ นาม ตินฺตมาโส. ยถา ตินฺตมาโส ครุโก โหติ, เอวํ ครุโกติ อธิปฺปาโย. คิลานา วุฏฺิโต โหตีติ คิลาโน หุตฺวา ปจฺฉา วุฏฺิโต โหติ.
๓๓๕. อารมฺภวตฺถูนีติ วีริยการณานิ. เตสมฺปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๓๓๖. ทานวตฺถูนีติ ¶ ทานการณานิ. อาสชฺช ทานํ เทตีติ ปตฺวา ทานํ เทติ. อาคตํ ทิสฺวาว มุหุตฺตํเยว นิสีทาเปตฺวา สกฺการํ กตฺวา ทานํ เทติ, ทสฺสามิ ทสฺสามีติ น กิลเมติ. อิติ เอตฺถ อาสาทนํ ทานการณํ นาม โหติ. ภยา ทานํ เทตีติอาทีสุปิ ภยาทีนิ ทานการณานีติ เวทิตพฺพานิ. ตตฺถ ภยํ นาม อยํ อทายโก อการโกติ ครหาภยํ วา อปายภยํ วา. อทาสิ เมติ มยฺหํ ปุพฺเพ เอส อิทํ นาม อทาสีติ เทติ. ทสฺสติ เมติ อนาคเต อิทํ นาม ทสฺสตีติ เทติ. สาหุ ทานนฺติ ทานํ นาม สาธุ สุนฺทรํ, พุทฺธาทีหิ ปณฺฑิเตหิ ปสตฺถนฺติ เทติ. จิตฺตาลงฺการจิตฺตปริกฺขารตฺถํ ทานํ เทตีติ สมถวิปสฺสนาจิตฺตสฺส อลงฺการตฺถฺเจว ปริวารตฺถฺจ เทติ. ทานฺหิ จิตฺตํ มุทุกํ กโรติ. เยน ลทฺธํ โหติ, โสปิ ลทฺธํ เมติ มุทุจิตฺโต โหติ, เยน ทินฺนํ, โสปิ ทินฺนํ มยาติ มุทุจิตฺโต โหติ, อิติ อุภินฺนมฺปิ จิตฺตํ มุทุกํ กโรติ, เตเนว ‘‘อทนฺตทมนํ ทาน’’นฺติ วุจฺจติ. ยถาห –
‘‘อทนฺตทมนํ ทานํ, อทานํ ทนฺตทูสกํ;
ทาเนน ปิยวาจาย, อุนฺนมนฺติ นมนฺติ จา’’ติ.
อิเมสุ ¶ ¶ ปน อฏฺสุ ทาเนสุ จิตฺตาลงฺการทานเมว อุตฺตมํ.
๓๓๗. ทานูปปตฺติโยติ ทานปจฺจยา อุปปตฺติโย. ทหตีติ เปติ. อธิฏฺาตีติ ตสฺเสว เววจนํ. ภาเวตีติ วฑฺเฒติ. หีเน วิมุตฺตนฺติ หีเนสุ ปฺจกามคุเณสุ วิมุตฺตํ. อุตฺตริ อภาวิตนฺติ ตโต อุตฺตริ มคฺคผลตฺถาย อภาวิตํ. ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตตีติ ยํ ปตฺเถตฺวา กุสลํ กตํ, ตตฺถ ตตฺถ นิพฺพตฺตนตฺถาย สํวตฺตติ.
วีตราคสฺสาติ มคฺเคน วา สมุจฺฉินฺนราคสฺส สมาปตฺติยา วา วิกฺขมฺภิตราคสฺส. ทานมตฺเตเนว หิ พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติตุํ น สกฺกา. ทานํ ปน สมาธิวิปสฺสนาจิตฺตสฺส อลงฺกาโร ปริวาโร โหติ. ตโต ทาเนน มุทุจิตฺโต พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตติ. เตน วุตฺตํ ‘‘วีตราคสฺส โน สราคสฺสา’’ติ.
ขตฺติยานํ ปริสา ขตฺติยปริสา, สมูโหติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
โลกสฺส ¶ ธมฺมา โลกธมฺมา. เอเตหิ มุตฺโต นาม นตฺถิ, พุทฺธานมฺปิ โหนฺติเยว. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, โลกธมฺมา โลกํ อนุปริวตฺตนฺติ, โลโก จ อฏฺ โลกธมฺเม อนุปริวตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๘.๕). ลาโภ อลาโภติ ลาเภ อาคเต อลาโภ อาคโต เอวาติ เวทิตพฺโพ. ยสาทีสุปิ เอเสว นโย.
๓๓๘. อภิภายตนวิโมกฺขกถา เหฏฺา กถิตา เอว.
‘‘อิเม โข, อาวุโส’’ติอาทิ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. อิติ เอกาทสนฺนํ อฏฺกานํ วเสน อฏฺาสีติ ปฺเห กเถนฺโต เถโร สามคฺคิรสํ ทสฺเสสีติ.
อฏฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.
นวกวณฺณนา
๓๔๐. อิติ ¶ อฏฺกวเสน สามคฺคิรสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นวกวเสน ทสฺเสตุํ ปุน เทสนํ อารภิ. ตตฺถ อาฆาตวตฺถูนีติ อาฆาตการณานิ. อาฆาตํ พนฺธตีติ โกปํ พนฺธติ กโรติ อุปฺปาเทติ.
ตํ กุเตตฺถ ลพฺภาติ ตํ อนตฺถจรณํ มา อโหสีติ เอตสฺมึ ปุคฺคเล กุโต ลพฺภา, เกน การเณน สกฺกา ลทฺธุํ ¶ ? ปโร นาม ปรสฺส อตฺตโน จิตฺตรุจิยา อนตฺถํ กโรตีติ เอวํ จินฺเตตฺวา อาฆาตํ ปฏิวิโนเทติ. อถ วา สจาหํ ปฏิโกปํ กเรยฺยํ, ตํ โกปกรณํ เอตฺถ ปุคฺคเล กุโต ลพฺภา, เกน การเณน ลทฺธพฺพนฺติ อตฺโถ. กุโต ลาภาติปิ ปาโ, สจาหํ เอตฺถ โกปํ กเรยฺยํ, ตสฺมึ เม โกปกรเณ กุโต ลาภา, ลาภา นาม เก สิยุนฺติ อตฺโถ. อิมสฺมิฺจ อตฺเถ ตนฺติ นิปาตมตฺตเมว โหติ.
๓๔๑. สตฺตาวาสาติ สตฺตานํ อาวาสา, วสนฏฺานานีติ อตฺโถ. ตตฺถ สุทฺธาวาสาปิ สตฺตาวาโสว, อสพฺพกาลิกตฺตา ปน น คหิตา. สุทฺธาวาสา หิ พุทฺธานํ ขนฺธาวารสทิสา. อสงฺขฺเยยฺยกปฺเป พุทฺเธสุ อนิพฺพตฺตนฺเตสุ ¶ ตํ านํ สฺุํ โหตีติ อสพฺพกาลิกตฺตา น คหิตา. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว.
๓๔๒. อกฺขเณสุ ธมฺโม จ เทสิยตีติ จตุสจฺจธมฺโม เทสิยติ. โอปสมิโกติ กิเลสูปสมกโร. ปรินิพฺพานิโกติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพานาวโห. สมฺโพธคามีติ จตุมคฺคาณปฏิเวธคามี. อฺตรนฺติ อสฺภวํ วา อรูปภวํ วา.
๓๔๓. อนุปุพฺพวิหาราติ อนุปฏิปาฏิยา สมาปชฺชิตพฺพวิหารา.
๓๔๔. อนุปุพฺพนิโรธาติ อนุปฏิปาฏิยา นิโรธา.
‘‘อิเม, โข อาวุโส’’ติอาทิ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. อิติ ฉนฺนํ นวกานํ วเสน จตุปณฺณาส ปฺเห กเถนฺโต เถโร สามคฺคิรสํ ทสฺเสสีติ.
นวกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทสกวณฺณนา
๓๔๕. อิติ ¶ นวกวเสน สามคฺคิรสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ทสกวเสน ทสฺเสตุํ ปุน เทสนํ อารภิ. ตตฺถ นาถกรณาติ ‘‘สนาถา, ภิกฺขเว, วิหรถ มา อนาถา, ทส อิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา นาถกรณา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๘) เอวํ อกฺขาตา อตฺตโน ปติฏฺากรา ธมฺมา.
กลฺยาณมิตฺโตติอาทีสุ สีลาทิคุณสมฺปนฺนา กลฺยาณา อสฺส มิตฺตาติ กลฺยาณมิตฺโต. เต จสฺส านนิสชฺชาทีสุ สห อยนโต สหายาติ กลฺยาณสหาโย. จิตฺเตน เจว กาเยน จ กลฺยาณมิตฺเตสุ เอว สมฺปวงฺโก โอนโตติ กลฺยาณสมฺปวงฺโก. สุวโจ ¶ โหตีติ สุเขน วตฺตพฺโพ โหติ สุเขน อนุสาสิตพฺโพ. ขโมติ คาฬฺเหน ผรุเสน กกฺขเฬน วุจฺจมาโน ขมติ, น กุปฺปติ. ปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนินฺติ ยถา เอกจฺโจ โอวทิยมาโน วามโต คณฺหาติ, ปฏิปฺผรติ วา อสุณนฺโต วา คจฺฉติ, เอวํ อกตฺวา ‘‘โอวทถ, ภนฺเต ¶ , อนุสาสถ, ตุมฺเหสุ อโนวทนฺเตสุ โก อฺโ โอวทิสฺสตี’’ติ ปทกฺขิณํ คณฺหาติ.
อุจฺจาวจานีติ อุจฺจานิ จ อวจานิ จ. กึ กรณียานีติ กึ กโรมีติ เอวํ วตฺวา กตฺตพฺพกมฺมานิ. ตตฺถ อุจฺจกมฺมานิ นาม จีวรสฺส กรณํ รชนํ เจติเย สุธากมฺมํ อุโปสถาคารเจติยฆรโพธิยฆเรสุ กตฺตพฺพนฺติ เอวมาทิ. อวจกมฺมํ นาม ปาทโธวนมกฺขนาทิขุทฺทกกมฺมํ. ตตฺรุปายายาติ ตตฺรุปคมนียา. อลํ กาตุนฺติ กาตุํ สมตฺโถ โหติ. อลํ สํวิธาตุนฺติ วิจาเรตุํ สมตฺโถ.
ธมฺเม อสฺส กาโม สิเนโหติ ธมฺมกาโม, เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ ปิยายตีติ อตฺโถ. ปิยสมุทาหาโรติ ปรสฺมึ กเถนฺเต สกฺกจฺจํ สุณาติ, สยฺจ ปเรสํ เทเสตุกาโม โหตีติ อตฺโถ. ‘‘อภิธมฺเม อภิวินเย’’ติ เอตฺถ ธมฺโม อภิธมฺโม, วินโย อภิวินโยติ จตุกฺกํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ธมฺโมติ สุตฺตนฺตปิฏกํ. อภิธมฺโมติ สตฺต ปกรณานิ. วินโยติ อุภโตวิภงฺคา. อภิวินโยติ ขนฺธกปริวารา. อถ วา สุตฺตนฺตปิฏกมฺปิ อภิธมฺมปิฏกมฺปิ ธมฺโม เอว. มคฺคผลานิ อภิธมฺโม. สกลํ วินยปิฏกํ วินโย. กิเลสวูปสมการณํ อภิวินโย. อิติ สพฺพสฺมิมฺปิ เอตฺถ ธมฺเม อภิธมฺเม วินเย อภิวินเย จ. อุฬารปาโมชฺโชติ พหุลปาโมชฺโช โหตีติ อตฺโถ.
กุสเลสุ ¶ ธมฺเมสูติ การณตฺเถ ภุมฺมํ, จตุภูมกกุสลธมฺมการณา, เตสํ อธิคมตฺถาย อนิกฺขิตฺตธุโร โหตีติ อตฺโถ.
๓๔๖. กสิณทสเก สกลฏฺเน กสิณานิ. ตทารมฺมณานํ ธมฺมานํ เขตฺตฏฺเน วา อธิฏฺานฏฺเน วา อายตนานิ. อุทฺธนฺติ อุปริ คคนตลาภิมุขํ. อโธติ ¶ เหฏฺา ภูมิตลาภิมุขํ. ติริยนฺติ เขตฺตมณฺฑลมิว สมนฺตา ปริจฺฉินฺทิตฺวา. เอกจฺโจ หิ อุทฺธเมว กสิณํ วฑฺเฒติ, เอกจฺโจ อโธ, เอกจฺโจ สมนฺตโต. เตน เตน วา การเณน เอวํ ปสาเรติ อาโลกมิว รูปทสฺสนกาโม. เตน วุตฺตํ ‘‘ปถวีกสิณเมโก สฺชานาติ อุทฺธํ อโธ ติริย’’นฺติ. อทฺวยนฺติ อิทํ ปน เอกสฺส อฺภาวานุปคมนตฺถํ วุตฺตํ. ยถา หิ อุทกํ ปวิฏฺสฺส สพฺพทิสาสุ อุทกเมว โหติ, น อฺํ, เอวเมว ปถวีกสิณํ ปถวีกสิณเมว โหติ ¶ , นตฺถิ ตสฺส อฺโ กสิณสมฺเภโทติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อปฺปมาณนฺติ อิทํ ตสฺส ตสฺส ผรณอปฺปมาณวเสน วุตฺตํ. ตฺหิ เจตสา ผรนฺโต สกลเมว ผรติ, น ‘‘อยมสฺส อาทิ, อิทํ มชฺฌ’’นฺติ ปมาณํ คณฺหาตีติ. วิฺาณกสิณนฺติ เจตฺถ กสิณุคฺฆาฏิมากาเส ปวตฺตวิฺาณํ. ตตฺถ กสิณวเสน กสิณุคฺฆาฏิมากาเส กสิณุคฺฆาฏิมากาสวเสน ตตฺถ ปวตฺตวิฺาเณ อุทฺธํ อโธ ติริยตา เวทิตพฺพา. อยเมตฺถ สงฺเขโป. กมฺมฏฺานภาวนานเยน ปเนตานิ ปถวีกสิณาทีนิ วิตฺถารโต วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตาเนว.
อกุสลกมฺมปถทสกวณฺณนา
๓๔๗. กมฺมปเถสุ กมฺมาเนว สุคติทุคฺคตีนํ ปถภูตตฺตา กมฺมปถา นาม. เตสุ ปาณาติปาโต อทินฺนาทานํ มุสาวาทาทโย จ จตฺตาโร พฺรหฺมชาเล วิตฺถาริตา เอว. กาเมสุมิจฺฉาจาโรติ เอตฺถ ปน กาเมสูติ เมถุนสมาจาเรสุ เมถุนวตฺถูสุ วา. มิจฺฉาจาโรติ เอกนฺตนินฺทิโต ลามกาจาโร. ลกฺขณโต ปน อสทฺธมฺมาธิปฺปาเยน กายทฺวารปฺปวตฺตา อคมนียฏฺานวีติกฺกมเจตนา กาเมสุมิจฺฉาจาโร.
ตตฺถ อคมนียฏฺานํ นาม ปุริสานํ ตาว มาตุรกฺขิตา, ปิตุรกฺขิตา, มาตาปิตุรกฺขิตา, ภาตุรกฺขิตา, ภคินิรกฺขิตา, าติรกฺขิตา, โคตฺตรกฺขิตา, ธมฺมรกฺขิตา, สารกฺขา, สปริทณฺฑาติ มาตุรกฺขิตาทโย ทส. ธนกฺกีตา, ฉนฺทวาสินี, โภควาสินี, ปฏวาสินี, โอทปตฺตกินี, โอภตจุมฺพฏา, ทาสี จ ภริยา จ, กมฺมการี จ ภริยา จ, ธชาหฏา, มุหุตฺติกาติ เอตา ธนกฺกีตาทโย ทสาติ วีสติ. อิตฺถีสุ ปน ทฺวินฺนํ ¶ สารกฺขสปริทณฺฑานํ ทสนฺนฺจ ธนกฺกีตาทีนนฺติ ทฺวาทสนฺนํ อิตฺถีนํ อฺเ ปุริสา. อิทํ อคมนียฏฺานํ นาม. โส ปเนส มิจฺฉาจาโร สีลาทิคุณรหิเต อคมนียฏฺาเน อปฺปสาวชฺโช. สีลาทิคุณสมฺปนฺเน ¶ มหาสาวชฺโช. ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา อคมนียวตฺถุ, ตสฺมึ เสวนจิตฺตํ, เสวนปฺปโยโค, มคฺเคนมคฺคปฺปฏิปตฺติอธิวาสนนฺติ. เอโก ปโยโค สาหตฺถิโก เอว.
อภิชฺฌายตีติ อภิชฺฌา, ปรภณฺฑาภิมุขี หุตฺวา ตนฺนินฺนตาย ปวตฺตตีติ อตฺโถ. สา ‘‘อโห วต อิทํ มมสฺสา’’ติ เอวํ ปรภณฺฑาภิชฺฌายนลกฺขณา อทินฺนาทานํ วิย อปฺปสาวชฺชา มหาสาวชฺชา จ. ตสฺสา ทฺเว สมฺภารา ปรภณฺฑํ, อตฺตโน ปริณามนฺจ. ปรภณฺฑวตฺถุเก หิ ¶ โลเภ อุปฺปนฺเนปิ น ตาว กมฺมปถเภโท โหติ, ยาว ‘‘อโห วตีทํ มมสฺสา’’ติ อตฺตโน น ปริณาเมติ.
หิตสุขํ พฺยาปาทยตีติ พฺยาปาโท. โส ปรํ วินาสาย มโนปโทสลกฺขโณ ผรุสาวาจา วิย อปฺปสาวชฺโช มหาสาวชฺโช จ. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา ปรสตฺโต จ, ตสฺส วินาสจินฺตา จ. ปรสตฺตวตฺถุเก หิ โกเธ อุปฺปนฺเนปิ น ตาว กมฺมปถเภโท โหติ, ยาว ‘‘อโห วตายํ อุจฺฉิชฺเฌยฺย วินสฺเสยฺยา’’ติ ตสฺส วินาสํ น จินฺเตติ.
ยถาภุจฺจคหณาภาเวน มิจฺฉา ปสฺสตีติ มิจฺฉาทิฏฺิ. สา ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินา นเยน วิปรีตทสฺสนลกฺขณา. สมฺผปฺปลาโป วิย อปฺปสาวชฺชา มหาสาวชฺชา จ. อปิจ อนิยตา อปฺปสาวชฺชา, นิยตา มหาสาวชฺชา. ตสฺสา ทฺเว สมฺภารา วตฺถุโน จ คหิตาการวิปรีตตา, ยถา จ ตํ คณฺหาติ, ตถาภาเวน ตสฺสูปฏฺานนฺติ.
อิเมสํ ปน ทสนฺนํ อกุสลกมฺมปถานํ ธมฺมโต โกฏฺาสโต อารมฺมณโต เวทนาโต มูลโตติ ปฺจหากาเรหิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ธมฺมโตติ เอเตสุ หิ ปฏิปาฏิยา สตฺต เจตนาธมฺมาว โหนฺติ. อภิชฺฌาทโย ตโย เจตนาสมฺปยุตฺตา.
โกฏฺาสโตติ ปฏิปาฏิยา สตฺต, มิจฺฉาทิฏฺิ จาติ อิเม อฏฺ กมฺมปถา เอว โหนฺติ, โน ¶ มูลานิ. อภิชฺฌาพฺยาปาทา กมฺมปถา เจว มูลานิ จ. อภิชฺฌา หิ มูลํ ปตฺวา โลโภ อกุสลมูลํ โหติ. พฺยาปาโท โทโส อกุสลมูลํ โหติ.
อารมฺมณโตติ ปาณาติปาโต ชีวิตินฺทฺริยารมฺมณโต สงฺขารารมฺมโณ โหติ. อทินฺนาทานํ สตฺตารมฺมณํ วา สงฺขารารมฺมณํ วา, มิจฺฉาจาโร โผฏฺพฺพวเสน สงฺขารารมฺมโณ. ‘‘สตฺตารมฺมโณ’’ติปิ เอเก. มุสาวาโท สตฺตารมฺมโณ วา สงฺขารารมฺมโณ วา, ตถา ปิสุณวาจา. ผรุสวาจา สตฺตารมฺมณาว. สมฺผปฺปลาโป ทิฏฺสุตมุตวิฺาตวเสน สตฺตารมฺมโณ วา สงฺขารารมฺมโณ ¶ วา. ตถา อภิชฺฌา. พฺยาปาโท สตฺตารมฺมโณว. มิจฺฉาทิฏฺิ เตภูมกธมฺมวเสน สงฺขารารมฺมณา.
เวทนาโตติ ¶ ปาณาติปาโต ทุกฺขเวทโน โหติ. กิฺจาปิ หิ ราชาโน โจรํ ทิสฺวา หสมานาปิ ‘‘คจฺฉถ นํ ฆาเตถา’’ติ วทนฺติ, สนฺนิฏฺาปกเจตนา ปน ทุกฺขสมฺปยุตฺตาว โหติ. อทินฺนาทานํ ติเวทนํ. มิจฺฉาจาโร สุขมชฺฌตฺตวเสน ทฺวิเวทโน. สนฺนิฏฺาปกจิตฺเต ปน มชฺฌตฺตเวทโน น โหติ. มุสาวาโท ติเวทโน. ตถา ปิสุณวาจา. ผรุสวาจา ทุกฺขเวทนา. สมฺผปฺปลาโป ติเวทโน. อภิชฺฌา สุขมชฺฌตฺตวเสน ทฺวิเวทนา ตถา มิจฺฉาทิฏฺิ. พฺยาปาโท ทุกฺขเวทโน.
มูลโตติ ปาณาติปาโต โทสโมหวเสน ทฺวิมูลโก โหติ. อทินฺนาทานํ โทสโมหวเสน วา โลภโมหวเสน วา. มิจฺฉาจาโร โลภโมหวเสน. มุสาวาโท โทสโมหวเสน วา โลภโมหวเสน วา ตถา ปิสุณวาจา สมฺผปฺปลาโป จ. ผรุสวาจา โทสโมหวเสน. อภิชฺฌา โมหวเสน เอกมูลา. ตถา พฺยาปาโท. มิจฺฉาทิฏฺิ โลภโมหวเสน ทฺวิมูลาติ.
กุสลกมฺมปถทสกวณฺณนา
ปาณาติปาตา เวรมณิอาทีนิ สมาทานสมฺปตฺตสมุจฺเฉทวิรติวเสน เวทิตพฺพานิ.
ธมฺมโต ปน เอเตสุปิ ปฏิปาฏิยา สตฺต เจตนาปิ วตฺตนฺติ วิรติโยปิ. อนฺเต ตโย เจตนาสมฺปยุตฺตาว.
โกฏฺาสโตติ ปฏิปาฏิยา สตฺต กมฺมปถา เอว, โน มูลานิ. อนฺเต ตโย กมฺมปถา เจว มูลานิ ¶ จ. อนภิชฺฌา หิ มูลํ ปตฺวา อโลโภ กุสลมูลํ โหติ. อพฺยาปาโท อโทโส กุสลมูลํ. สมฺมาทิฏฺิ อโมโห กุสลมูลํ.
อารมฺมณโตติ ปาณาติปาตาทีนํ อารมฺมณาเนว เอเตสํ อารมฺมณานิ. วีติกฺกมิตพฺพโตเยว หิ เวรมณี นาม โหติ. ยถา ปน นิพฺพานารมฺมโณ อริยมคฺโค กิเลเส ปชหติ, เอวํ ชีวิตินฺทฺริยาทิอารมฺมณาเปเต กมฺมปถา ปาณาติปาตาทีนิ ทุสฺสีลฺยานิ ปชหนฺตีติ เวทิตพฺพา.
เวทนาโตติ ¶ สพฺเพ สุขเวทนา โหนฺติ มชฺฌตฺตเวทนา วา. กุสลํ ปตฺวา หิ ทุกฺขเวทนา นาม นตฺถิ.
มูลโตติ ปฏิปาฏิยา สตฺต าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส อโลภอโทสอโมหวเสน ติมูลานิ โหนฺติ, าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส ทฺวิมูลานิ. อนภิชฺฌา าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส ทฺวิมูลา, าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน เอกมูลา. อโลโภ ปน อตฺตนาว อตฺตโน มูลํ น โหติ. อพฺยาปาเทปิ ¶ เอเสว นโย. สมฺมาทิฏฺิ อโลภาโทสวเสน ทฺวิมูลา เอวาติ.
อริยวาสทสกวณฺณนา
๓๔๘. อริยวาสาติ อริยา เอว วสึสุ วสนฺติ วสิสฺสนฺติ เอเตสูติ อริยวาสา. ปฺจงฺควิปฺปหีโนติ ปฺจหิ องฺเคหิ วิปฺปยุตฺโตว หุตฺวา ขีณาสโว อวสิ วสติ วสิสฺสตีติ ตสฺมา อยํ ปฺจงฺควิปฺปหีนตา, อริยสฺส วาสตฺตา อริยวาโสติ วุตฺโต. เอส นโย สพฺพตฺถ.
เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต โหตีติ ฉฬงฺคุเปกฺขาย สมนฺนาคโต โหติ. ฉฬงฺคุเปกฺขา นาม เกติ? าณาทโย. ‘‘าณ’’นฺติ วุตฺเต กิริยโต จตฺตาริ าณสมฺปยุตฺตจิตฺตานิ ลพฺภนฺติ. ‘‘สตตวิหาโร’’ติ วุตฺเต อฏฺ มหาจิตฺตานิ. ‘‘รชฺชนทุสฺสนํ นตฺถี’’ติ วุตฺเต ทส จิตฺตานิ ลพฺภนฺติ. โสมนสฺสํ อาเสวนวเสน ลพฺภติ.
สตารกฺเขน เจตสาติ ขีณาสวสฺส หิ ตีสุ ทฺวาเรสุ สพฺพกาลํ สติ อารกฺขกิจฺจํ สาเธติ ¶ . เตเนวสฺส ‘‘จรโต จ ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหตี’’ติ วุจฺจติ.
ปุถุสมณพฺราหฺมณานนฺติ พหูนํ สมณพฺราหฺมณานํ. เอตฺถ จ สมณาติ ปพฺพชฺชุปคตา. พฺราหฺมณาติ โภวาทิโน. ปุถุปจฺเจกสจฺจานีติ พหูนิ ปาเฏกฺกสจฺจานิ, อิทเมว ทสฺสนํ สจฺจํ, อิทเมว ทสฺสนํ สจฺจนฺติ เอวํ ปาฏิเยกฺกํ คหิตานิ พหูนิ สจฺจานีติ อตฺโถ. นุนฺนานีติ นิหตานิ. ปณุนฺนานีติ สุฏฺุ นิหตานิ. จตฺตานีติ วิสฺสฏฺานิ. วนฺตานีติ วมิตานิ. มุตฺตานีติ ฉินฺนพนฺธนานิ ¶ กตานิ. ปหีนานีติ ปชหิตานิ. ปฏินิสฺสฏฺานีติ ยถา น ปุน จิตฺตํ อารุหนฺติ, เอวํ ปฏินิสฺสชฺชิตานิ. สพฺพาเนว ตานิ คหิตคฺคหณสฺส วิสฺสฏฺภาวเววจนานิ.
สมวยสฏฺเสโนติ เอตฺถ อวยาติ อนูนา. สฏฺาติ วิสฺสฏฺา. สมฺมา อวยา สฏฺา เอสนา อสฺสาติ สมวยสฏฺเสโน. สมฺมา วิสฺสฏฺสพฺพเอสโนติ อตฺโถ. ราคา จิตฺตํ วิมุตฺตนฺติอาทีหิ มคฺคสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติ กถิตา.
ราโค ¶ เม ปหีโนติอาทีหิ ปจฺจเวกฺขณาย ผลํ กถิตํ.
อเสกฺขธมฺมทสกวณฺณนา
อเสกฺขา สมฺมาทิฏฺีติอาทโย สพฺเพปิ ผลสมฺปยุตฺตธมฺมา เอว. เอตฺถ จ สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาาณนฺติ ทฺวีสุ าเนสุ ปฺาว กถิตา. สมฺมาวิมุตฺตีติ อิมินา ปเทน วุตฺตาวเสสา. ผลสมาปตฺติธมฺมา สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพา.
‘‘อิเม โข, อาวุโส’’ติอาทิ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. อิติ ฉนฺนํ ทสกานํ วเสน สมสฏฺิ ปฺเห กเถนฺโต เถโร สามคฺคิรสํ ทสฺเสสีติ.
ทสกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺหสโมธานวณฺณนา
๓๔๙. อิธ ¶ ปน ตฺวา ปฺหา สโมธาเนตพฺพา. อิมสฺมิฺหิ สุตฺเต เอกกวเสน ทฺเว ปฺหา กถิตา. ทุกวเสน สตฺตติ. ติกวเสน อสีติสตํ. จตุกฺกวเสน ทฺเวสตานิ. ปฺจกวเสน ตึสสตํ. ฉกฺกวเสน พาตฺตึสสตํ. สตฺตกวเสน อฏฺนวุติ. อฏฺกวเสน อฏฺาสีติ. นวกวเสน จตุปณฺณาส. ทสกวเสน สมสฏฺีติ เอวํ สหสฺสํ จุทฺทส ปฺหา กถิตา.
อิมฺหิ สุตฺตนฺตํ เปตฺวา เตปิฏเก พุทฺธวจเน อฺโ สุตฺตนฺโต เอวํ พหุปฺหปฏิมณฺฑิโต นตฺถิ. ภควา อิมํ สุตฺตนฺตํ อาทิโต ปฏฺาย สกลํ ¶ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘ธมฺมเสนาปติ สาริปุตฺโต พุทฺธพลํ ทีเปตฺวา อปฺปฏิวตฺติยํ สีหนาทํ นทติ. สาวกภาสิโตติ วุตฺเต โอกปฺปนา น โหติ, ชินภาสิโตติ วุตฺเต โหติ, ตสฺมา ชินภาสิตํ กตฺวา เทวมนุสฺสานํ โอกปฺปนํ อิมสฺมึ สุตฺตนฺเต อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ. ตโต วุฏฺาย สาธุการํ อทาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อถ โข ภควา วุฏฺหิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสิ, สาธุ, สาธุ, สาริปุตฺต, สาธุ โข ตฺวํ สาริปุตฺต, ภิกฺขูนํ สงฺคีติปริยายํ อภาสี’’ติ.
ตตฺถ สงฺคีติปริยายนฺติ สามคฺคิยา การณํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘สาธุ, โข ตฺวํ, สาริปุตฺต, มม สพฺพฺุตฺาเณน สํสนฺทิตฺวา ภิกฺขูนํ สามคฺคิรสํ อภาสี’’ติ. สมนฺุโ สตฺถา อโหสีติ อนุโมทเนน สมนฺุโ อโหสิ. เอตฺตเกน อยํ สุตฺตนฺโต ชินภาสิโต นาม ชาโต. เทสนาปริโยสาเน อิมํ สุตฺตนฺตํ มนสิกโรนฺตา เต ภิกฺขู อรหตฺตํ ปาปุณึสูติ.
สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย
สงฺคีติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.