📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ทีฆนิกาโย

ปาถิกวคฺคปาฬิ

๑. ปาถิกสุตฺตํ

สุนกฺขตฺตวตฺถุ

. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา มลฺเลสุ วิหรติ อนุปิยํ นาม [อนุปฺปิยํ นาม (สฺยา.)] มลฺลานํ นิคโม. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อนุปิยํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อติปฺปโค โข ตาว อนุปิยายํ [อนุปิยํ (ก.)] ปิณฺฑาย จริตุํ. ยํนูนาหํ เยน ภคฺควโคตฺตสฺส ปริพฺพาชกสฺส อาราโม, เยน ภคฺควโคตฺโต ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ.

. อถ โข ภควา เยน ภคฺควโคตฺตสฺส ปริพฺพาชกสฺส อาราโม, เยน ภคฺควโคตฺโต ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมิ. อถ โข ภคฺควโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอตุ โข, ภนฺเต, ภควา. สฺวาคตํ, ภนฺเต, ภควโต. จิรสฺสํ โข, ภนฺเต, ภควา อิมํ ปริยายมกาสิ ยทิทํ อิธาคมนาย. นิสีทตุ, ภนฺเต, ภควา, อิทมาสนํ ปฺตฺต’’นฺติ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. ภคฺควโคตฺโตปิ โข ปริพฺพาชโก อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ภคฺควโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปุริมานิ, ภนฺเต, ทิวสานิ ปุริมตรานิ สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘ปจฺจกฺขาโต ทานิ มยา, ภคฺคว, ภควา. น ทานาหํ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหรามี’ติ. กจฺเจตํ, ภนฺเต, ตเถว, ยถา สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต อวจา’’ติ? ‘‘ตเถว โข เอตํ, ภคฺคว, ยถา สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต อวจ’’.

. ปุริมานิ, ภคฺคว, ทิวสานิ ปุริมตรานิ สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต มํ เอตทโวจ – ‘ปจฺจกฺขามิ ทานาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ. น ทานาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหริสฺสามี’ติ. ‘เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภคฺคว, สุนกฺขตฺตํ ลิจฺฉวิปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘อปิ นุ ตาหํ, สุนกฺขตฺต, เอวํ อวจํ, เอหิ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, มมํ อุทฺทิสฺส วิหราหี’ติ? ‘โน เหตํ, ภนฺเต’. ‘ตฺวํ วา ปน มํ เอวํ อวจ – อหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหริสฺสามี’ติ? ‘โน เหตํ, ภนฺเต’. ‘อิติ กิร, สุนกฺขตฺต, เนวาหํ ตํ วทามิ – เอหิ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, มมํ อุทฺทิสฺส วิหราหีติ. นปิ กิร มํ ตฺวํ วเทสิ – อหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหริสฺสามีติ. เอวํ สนฺเต, โมฆปุริส, โก สนฺโต กํ ปจฺจาจิกฺขสิ? ปสฺส, โมฆปุริส, ยาวฺจ [ยาว จ (ก.)] เต อิทํ อปรทฺธ’นฺติ.

. ‘น หิ ปน เม, ภนฺเต, ภควา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรตี’ติ. ‘อปิ นุ ตาหํ, สุนกฺขตฺต, เอวํ อวจํ – เอหิ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, มมํ อุทฺทิสฺส วิหราหิ, อหํ เต อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสามี’ติ? ‘โน เหตํ, ภนฺเต’. ‘ตฺวํ วา ปน มํ เอวํ อวจ – อหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหริสฺสามิ, ภควา เม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสตี’ติ? ‘โน เหตํ, ภนฺเต’. ‘อิติ กิร, สุนกฺขตฺต, เนวาหํ ตํ วทามิ – เอหิ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, มมํ อุทฺทิสฺส วิหราหิ, อหํ เต อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสามี’ติ; นปิ กิร มํ ตฺวํ วเทสิ – อหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหริสฺสามิ, ภควา เม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสตี’ติ. เอวํ สนฺเต, โมฆปุริส , โก สนฺโต กํ ปจฺจาจิกฺขสิ? ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, กเต วา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริเย อกเต วา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริเย ยสฺสตฺถาย มยา ธมฺโม เทสิโต โส นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายา’ติ? ‘กเต วา, ภนฺเต, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริเย อกเต วา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริเย ยสฺสตฺถาย ภควตา ธมฺโม เทสิโต โส นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายา’ติ. ‘อิติ กิร, สุนกฺขตฺต, กเต วา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริเย, อกเต วา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริเย, ยสฺสตฺถาย มยา ธมฺโม เทสิโต, โส นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย. ตตฺร, สุนกฺขตฺต, กึ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กตํ กริสฺสติ? ปสฺส, โมฆปุริส, ยาวฺจ เต อิทํ อปรทฺธ’นฺติ.

. ‘น หิ ปน เม, ภนฺเต, ภควา อคฺคฺํ ปฺเปตี’ติ [ปฺาเปตีติ (ปี.)]? ‘อปิ นุ ตาหํ, สุนกฺขตฺต, เอวํ อวจํ – เอหิ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, มมํ อุทฺทิสฺส วิหราหิ, อหํ เต อคฺคฺํ ปฺเปสฺสามี’ติ? ‘โน เหตํ, ภนฺเต’. ‘ตฺวํ วา ปน มํ เอวํ อวจ – อหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหริสฺสามิ, ภควา เม อคฺคฺํ ปฺเปสฺสตี’ติ? ‘โน เหตํ, ภนฺเต’. ‘อิติ กิร, สุนกฺขตฺต, เนวาหํ ตํ วทามิ – เอหิ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, มมํ อุทฺทิสฺส วิหราหิ, อหํ เต อคฺคฺํ ปฺเปสฺสามีติ. นปิ กิร มํ ตฺวํ วเทสิ – อหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหริสฺสามิ, ภควา เม อคฺคฺํ ปฺเปสฺสตี’ติ. เอวํ สนฺเต, โมฆปุริส, โก สนฺโต กํ ปจฺจาจิกฺขสิ? ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, ปฺตฺเต วา อคฺคฺเ, อปฺตฺเต วา อคฺคฺเ, ยสฺสตฺถาย มยา ธมฺโม เทสิโต, โส นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายา’ติ? ‘ปฺตฺเต วา, ภนฺเต, อคฺคฺเ, อปฺตฺเต วา อคฺคฺเ, ยสฺสตฺถาย ภควตา ธมฺโม เทสิโต, โส นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายา’ติ. ‘อิติ กิร, สุนกฺขตฺต, ปฺตฺเต วา อคฺคฺเ, อปฺตฺเต วา อคฺคฺเ, ยสฺสตฺถาย มยา ธมฺโม เทสิโต, โส นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย. ตตฺร, สุนกฺขตฺต, กึ อคฺคฺํ ปฺตฺตํ กริสฺสติ? ปสฺส, โมฆปุริส, ยาวฺจ เต อิทํ อปรทฺธํ’.

. ‘อเนกปริยาเยน โข เต, สุนกฺขตฺต, มม วณฺโณ ภาสิโต วชฺชิคาเม – อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควาติ. อิติ โข เต, สุนกฺขตฺต, อเนกปริยาเยน มม วณฺโณ ภาสิโต วชฺชิคาเม.

‘อเนกปริยาเยน โข เต, สุนกฺขตฺต, ธมฺมสฺส วณฺโณ ภาสิโต วชฺชิคาเม – สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหีติ. อิติ โข เต, สุนกฺขตฺต, อเนกปริยาเยน ธมฺมสฺส วณฺโณ ภาสิโต วชฺชิคาเม.

‘อเนกปริยาเยน โข เต, สุนกฺขตฺต, สงฺฆสฺส วณฺโณ ภาสิโต วชฺชิคาเม – สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, อุชุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ายปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, สามีจิปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา, เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ, อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสาติ. อิติ โข เต, สุนกฺขตฺต, อเนกปริยาเยน สงฺฆสฺส วณฺโณ ภาสิโต วชฺชิคาเม.

‘อาโรจยามิ โข เต, สุนกฺขตฺต, ปฏิเวทยามิ โข เต, สุนกฺขตฺต. ภวิสฺสนฺติ โข เต, สุนกฺขตฺต, วตฺตาโร, โน วิสหิ สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต สมเณ โคตเม พฺรหฺมจริยํ จริตุํ, โส อวิสหนฺโต สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺโตติ. อิติ โข เต, สุนกฺขตฺต, ภวิสฺสนฺติ วตฺตาโร’ติ.

เอวํ ปิ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต มยา วุจฺจมาโน อปกฺกเมว อิมสฺมา ธมฺมวินยา, ยถา ตํ อาปายิโก เนรยิโก.

โกรกฺขตฺติยวตฺถุ

. ‘‘เอกมิทาหํ, ภคฺคว, สมยํ ถูลูสุ [พุมูสุ (สี. ปี.)] วิหรามิ อุตฺตรกา นาม ถูลูนํ นิคโม. อถ ขฺวาหํ, ภคฺคว, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สุนกฺขตฺเตน ลิจฺฉวิปุตฺเตน ปจฺฉาสมเณน อุตฺตรกํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ. เตน โข ปน สมเยน อเจโล โกรกฺขตฺติโย กุกฺกุรวติโก จตุกฺกุณฺฑิโก [จตุกุณฺฑิโก (สี. ปี.) จตุโกณฺฑิโก (สฺยา. ก.)] ฉมานิกิณฺณํ ภกฺขสํ มุเขเนว ขาทติ, มุเขเนว ภุฺชติ. อทฺทสา โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต อเจลํ โกรกฺขตฺติยํ กุกฺกุรวติกํ จตุกฺกุณฺฑิกํ ฉมานิกิณฺณํ ภกฺขสํ มุเขเนว ขาทนฺตํ มุเขเนว ภุฺชนฺตํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘สาธุรูโป วต, โภ, อยํ [อรหํ (สี. สฺยา. ปี.)] สมโณ จตุกฺกุณฺฑิโก ฉมานิกิณฺณํ ภกฺขสํ มุเขเนว ขาทติ, มุเขเนว ภุฺชตี’ติ.

‘‘อถ ขฺวาหํ, ภคฺคว, สุนกฺขตฺตสฺส ลิจฺฉวิปุตฺตสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย สุนกฺขตฺตํ ลิจฺฉวิปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘ตฺวมฺปิ นาม, โมฆปุริส, สมโณ สกฺยปุตฺติโย [โมฆปุริส สกฺยปุตฺติโย (สี. สฺยา. ปี.)] ปฏิชานิสฺสสี’ติ! ‘กึ ปน มํ, ภนฺเต, ภควา เอวมาห – ‘ตฺวมฺปิ นาม, โมฆปุริส, สมโณ สกฺยปุตฺติโย [โมฆปุริส สกฺยปุตฺติโย (สี. สฺยา. ปี.)] ปฏิชานิสฺสสี’ติ? ‘นนุ เต, สุนกฺขตฺต, อิมํ อเจลํ โกรกฺขตฺติยํ กุกฺกุรวติกํ จตุกฺกุณฺฑิกํ ฉมานิกิณฺณํ ภกฺขสํ มุเขเนว ขาทนฺตํ มุเขเนว ภุฺชนฺตํ ทิสฺวาน เอตทโหสิ – สาธุรูโป วต, โภ, อยํ สมโณ จตุกฺกุณฺฑิโก ฉมานิกิณฺณํ ภกฺขสํ มุเขเนว ขาทติ, มุเขเนว ภุฺชตี’ติ? ‘เอวํ, ภนฺเต. กึ ปน, ภนฺเต, ภควา อรหตฺตสฺส มจฺฉรายตี’ติ? ‘น โข อหํ, โมฆปุริส, อรหตฺตสฺส มจฺฉรายามิ. อปิ จ, ตุยฺเหเวตํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ, ตํ ปชห. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย. ยํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, มฺสิ อเจลํ โกรกฺขตฺติยํ – สาธุรูโป อยํ สมโณติ [มฺสิ ‘‘อเจโล โกรขตฺติโย สาธุรูโป อรหํ สมโณติ’’ (สฺยา.)]. โส สตฺตมํ ทิวสํ อลสเกน กาลงฺกริสฺสติ. กาลงฺกโต [กาลกโต (สี. สฺยา. ปี.)] จ กาลกฺจิกา [กาลกฺชา (สี. ปี.), กาลกฺชิกา (สฺยา.)] นาม อสุรา สพฺพนิหีโน อสุรกาโย, ตตฺร อุปปชฺชิสฺสติ. กาลงฺกตฺจ นํ พีรณตฺถมฺพเก สุสาเน ฉฑฺเฑสฺสนฺติ. อากงฺขมาโน จ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, อเจลํ โกรกฺขตฺติยํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺเฉยฺยาสิ – ชานาสิ, อาวุโส โกรกฺขตฺติย [อเจล โกรขตฺติย (ก.)], อตฺตโน คตินฺติ? านํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, วิชฺชติ ยํ เต อเจโล โกรกฺขตฺติโย พฺยากริสฺสติ – ชานามิ, อาวุโส สุนกฺขตฺต, อตฺตโน คตึ; กาลกฺจิกา นาม อสุรา สพฺพนิหีโน อสุรกาโย, ตตฺรามฺหิ อุปปนฺโนติ.

‘‘อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยน อเจโล โกรกฺขตฺติโย เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อเจลํ โกรกฺขตฺติยํ เอตทโวจ – ‘พฺยากโต โขสิ, อาวุโส โกรกฺขตฺติย, สมเณน โคตเมน – อเจโล โกรกฺขตฺติโย สตฺตมํ ทิวสํ อลสเกน กาลงฺกริสฺสติ. กาลงฺกโต จ กาลกฺจิกา นาม อสุรา สพฺพนิหีโน อสุรกาโย , ตตฺร อุปปชฺชิสฺสติ. กาลงฺกตฺจ นํ พีรณตฺถมฺพเก สุสาเน ฉฑฺเฑสฺสนฺตี’ติ. เยน ตฺวํ, อาวุโส โกรกฺขตฺติย, มตฺตํ มตฺตฺจ ภตฺตํ ภุฺเชยฺยาสิ, มตฺตํ มตฺตฺจ ปานียํ ปิเวยฺยาสิ. ยถา สมณสฺส โคตมสฺส มิจฺฉา อสฺส วจน’นฺติ.

. ‘‘อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เอกทฺวีหิกาย สตฺตรตฺตินฺทิวานิ คเณสิ, ยถา ตํ ตถาคตสฺส อสทฺทหมาโน. อถ โข, ภคฺคว, อเจโล โกรกฺขตฺติโย สตฺตมํ ทิวสํ อลสเกน กาลมกาสิ. กาลงฺกโต จ กาลกฺจิกา นาม อสุรา สพฺพนิหีโน อสุรกาโย, ตตฺร อุปปชฺชิ. กาลงฺกตฺจ นํ พีรณตฺถมฺพเก สุสาเน ฉฑฺเฑสุํ.

. ‘‘อสฺโสสิ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต – ‘อเจโล กิร โกรกฺขตฺติโย อลสเกน กาลงฺกโต พีรณตฺถมฺพเก สุสาเน ฉฑฺฑิโต’ติ. อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยน พีรณตฺถมฺพกํ สุสานํ, เยน อเจโล โกรกฺขตฺติโย เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อเจลํ โกรกฺขตฺติยํ ติกฺขตฺตุํ ปาณินา อาโกเฏสิ – ‘ชานาสิ, อาวุโส โกรกฺขตฺติย, อตฺตโน คติ’นฺติ? อถ โข, ภคฺคว, อเจโล โกรกฺขตฺติโย ปาณินา ปิฏฺึ ปริปุฺฉนฺโต วุฏฺาสิ. ‘ชานามิ, อาวุโส สุนกฺขตฺต, อตฺตโน คตึ. กาลกฺจิกา นาม อสุรา สพฺพนิหีโน อสุรกาโย, ตตฺรามฺหิ อุปปนฺโน’ติ วตฺวา ตตฺเถว อุตฺตาโน ปปติ [ปริปติ (สฺยา. ก.)].

๑๐. ‘‘อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อหํ, ภคฺคว , สุนกฺขตฺตํ ลิจฺฉวิปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, ยเถว เต อหํ อเจลํ โกรกฺขตฺติยํ อารพฺภ พฺยากาสึ, ตเถว ตํ วิปากํ, อฺถา วา’ติ? ‘ยเถว เม, ภนฺเต, ภควา อเจลํ โกรกฺขตฺติยํ อารพฺภ พฺยากาสิ, ตเถว ตํ วิปากํ, โน อฺถา’ติ. ‘ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, ยทิ เอวํ สนฺเต กตํ วา โหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ, อกตํ วาติ? ‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต กตํ โหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ, โน อกต’นฺติ. ‘เอวมฺปิ โข มํ ตฺวํ, โมฆปุริส, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรนฺตํ เอวํ วเทสิ – น หิ ปน เม, ภนฺเต, ภควา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรตีติ. ปสฺส, โมฆปุริส, ยาวฺจ เต อิทํ อปรทฺธ’นฺติ. ‘‘เอวมฺปิ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต มยา วุจฺจมาโน อปกฺกเมว อิมสฺมา ธมฺมวินยา, ยถา ตํ อาปายิโก เนรยิโก.

อเจลกฬารมฏฺฏกวตฺถุ

๑๑. ‘‘เอกมิทาหํ, ภคฺคว, สมยํ เวสาลิยํ วิหรามิ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. เตน โข ปน สมเยน อเจโล กฬารมฏฺฏโก เวสาลิยํ ปฏิวสติ ลาภคฺคปฺปตฺโต เจว ยสคฺคปฺปตฺโต จ วชฺชิคาเม. ตสฺส สตฺตวตปทานิ [สตฺตวตฺตปทานิ (สฺยา. ปี.)] สมตฺตานิ สมาทินฺนานิ โหนฺติ – ‘ยาวชีวํ อเจลโก อสฺสํ, น วตฺถํ ปริทเหยฺยํ, ยาวชีวํ พฺรหฺมจารี อสฺสํ, น เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยํ, ยาวชีวํ สุรามํเสเนว ยาเปยฺยํ, น โอทนกุมฺมาสํ ภุฺเชยฺยํ. ปุรตฺถิเมน เวสาลึ อุเทนํ นาม เจติยํ, ตํ นาติกฺกเมยฺยํ, ทกฺขิเณน เวสาลึ โคตมกํ นาม เจติยํ, ตํ นาติกฺกเมยฺยํ, ปจฺฉิเมน เวสาลึ สตฺตมฺพํ นาม เจติยํ, ตํ นาติกฺกเมยฺยํ, อุตฺตเรน เวสาลึ พหุปุตฺตํ นาม [พหุปุตฺตกํ นาม (สฺยา.)] เจติยํ ตํ นาติกฺกเมยฺย’นฺติ. โส อิเมสํ สตฺตนฺนํ วตปทานํ สมาทานเหตุ ลาภคฺคปฺปตฺโต เจว ยสคฺคปฺปตฺโต จ วชฺชิคาเม.

๑๒. ‘‘อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยน อเจโล กฬารมฏฺฏโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อเจลํ กฬารมฏฺฏกํ ปฺหํ อปุจฺฉิ. ตสฺส อเจโล กฬารมฏฺฏโก ปฺหํ ปุฏฺโ น สมฺปายาสิ. อสมฺปายนฺโต โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตฺวากาสิ. อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺตสฺส ลิจฺฉวิปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘สาธุรูปํ วต โภ อรหนฺตํ สมณํ อาสาทิมฺหเส [อสาทิยิมฺหเส (สฺยา.)]. มา วต โน อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’ติ.

๑๓. ‘‘อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อหํ, ภคฺคว, สุนกฺขตฺตํ ลิจฺฉวิปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘ตฺวมฺปิ นาม, โมฆปุริส, สมโณ สกฺยปุตฺติโย ปฏิชานิสฺสสี’ติ! ‘กึ ปน มํ, ภนฺเต, ภควา เอวมาห – ตฺวมฺปิ นาม, โมฆปุริส, สมโณ สกฺยปุตฺติโย ปฏิชานิสฺสสี’ติ? ‘นนุ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, อเจลํ กฬารมฏฺฏกํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ อปุจฺฉิ. ตสฺส เต อเจโล กฬารมฏฺฏโก ปฺหํ ปุฏฺโ น สมฺปายาสิ. อสมฺปายนฺโต โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตฺวากาสิ. ตสฺส เต เอตทโหสิ – ‘‘สาธุรูปํ วต, โภ, อรหนฺตํ สมณํ อาสาทิมฺหเส. มา วต โน อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’ติ. ‘เอวํ, ภนฺเต. กึ ปน, ภนฺเต, ภควา อรหตฺตสฺส มจฺฉรายตี’ติ? ‘น โข อหํ, โมฆปุริส, อรหตฺตสฺส มจฺฉรายามิ, อปิ จ ตุยฺเหเวตํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ, ตํ ปชห. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย. ยํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, มฺสิ อเจลํ กฬารมฏฺฏกํ – สาธุรูโป อยํ [อรหํ (สฺยา.)] สมโณติ, โส นจิรสฺเสว ปริหิโต สานุจาริโก วิจรนฺโต โอทนกุมฺมาสํ ภุฺชมาโน สพฺพาเนว เวสาลิยานิ เจติยานิ สมติกฺกมิตฺวา ยสา นิหีโน [ยสานิกิณฺโณ (ก.)] กาลํ กริสฺสตี’ติ.

‘‘‘อถ โข, ภคฺคว, อเจโล กฬารมฏฺฏโก นจิรสฺเสว ปริหิโต สานุจาริโก วิจรนฺโต โอทนกุมฺมาสํ ภุฺชมาโน สพฺพาเนว เวสาลิยานิ เจติยานิ สมติกฺกมิตฺวา ยสา นิหีโน กาลมกาสิ.

๑๔. ‘‘อสฺโสสิ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต – ‘อเจโล กิร กฬารมฏฺฏโก ปริหิโต สานุจาริโก วิจรนฺโต โอทนกุมฺมาสํ ภุฺชมาโน สพฺพาเนว เวสาลิยานิ เจติยานิ สมติกฺกมิตฺวา ยสา นิหีโน กาลงฺกโต’ติ. อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อหํ, ภคฺคว, สุนกฺขตฺตํ ลิจฺฉวิปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, ยเถว เต อหํ อเจลํ กฬารมฏฺฏกํ อารพฺภ พฺยากาสึ, ตเถว ตํ วิปากํ, อฺถา วา’ติ? ‘ยเถว เม, ภนฺเต, ภควา อเจลํ กฬารมฏฺฏกํ อารพฺภ พฺยากาสิ, ตเถว ตํ วิปากํ, โน อฺถา’ติ. ‘ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, ยทิ เอวํ สนฺเต กตํ วา โหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ อกตํ วา’ติ? ‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต กตํ โหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ, โน อกต’นฺติ. ‘เอวมฺปิ โข มํ ตฺวํ, โมฆปุริส, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรนฺตํ เอวํ วเทสิ – น หิ ปน เม, ภนฺเต, ภควา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรตี’’ติ. ปสฺส, โมฆปุริส, ยาวฺจ เต อิทํ อปรทฺธ’นฺติ. ‘‘เอว’มฺปิ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต มยา วุจฺจมาโน อปกฺกเมว อิมสฺมา ธมฺมวินยา, ยถา ตํ อาปายิโก เนรยิโก.

อเจลปาถิกปุตฺตวตฺถุ

๑๕. ‘‘เอกมิทาหํ, ภคฺคว, สมยํ ตตฺเถว เวสาลิยํ วิหรามิ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. เตน โข ปน สมเยน อเจโล ปาถิกปุตฺโต [ปาฏิกปุตฺโต (สี. สฺยา. ปี.)] เวสาลิยํ ปฏิวสติ ลาภคฺคปฺปตฺโต เจว ยสคฺคปฺปตฺโต จ วชฺชิคาเม. โส เวสาลิยํ ปริสติ เอวํ วาจํ ภาสติ – ‘สมโณปิ โคตโม าณวาโท, อหมฺปิ าณวาโท. าณวาโท โข ปน าณวาเทน อรหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสตุํ. สมโณ โคตโม อุปฑฺฒปถํ อาคจฺเฉยฺย, อหมฺปิ อุปฑฺฒปถํ คจฺเฉยฺยํ. เต ตตฺถ อุโภปิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กเรยฺยาม. เอกํ เจ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, ทฺวาหํ กริสฺสามิ. ทฺเว เจ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยานิ กริสฺสติ, จตฺตาราหํ กริสฺสามิ . จตฺตาริ เจ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยานิ กริสฺสติ, อฏฺาหํ กริสฺสามิ. อิติ ยาวตกํ ยาวตกํ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณาหํ กริสฺสามี’ติ.

๑๖. ‘‘อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต มํ เอตทโวจ – ‘อเจโล, ภนฺเต, ปาถิกปุตฺโต เวสาลิยํ ปฏิวสติ ลาภคฺคปฺปตฺโต เจว ยสคฺคปฺปตฺโต จ วชฺชิคาเม. โส เวสาลิยํ ปริสติ เอวํ วาจํ ภาสติ – สมโณปิ โคตโม าณวาโท, อหมฺปิ าณวาโท. าณวาโท โข ปน าณวาเทน อรหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสตุํ. สมโณ โคตโม อุปฑฺฒปถํ อาคจฺเฉยฺย, อหมฺปิ อุปฑฺฒปถํ คจฺเฉยฺยํ. เต ตตฺถ อุโภปิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กเรยฺยาม. เอกํ เจ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, ทฺวาหํ กริสฺสามิ. ทฺเว เจ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยานิ กริสฺสติ, จตฺตาราหํ กริสฺสามิ. จตฺตาริ เจ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยานิ กริสฺสติ, อฏฺาหํ กริสฺสามิ. อิติ ยาวตกํ ยาวตกํ สมโณ โคตโม อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณาหํ กริสฺสามี’’ติ.

‘‘เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภคฺคว, สุนกฺขตฺตํ ลิจฺฉวิปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘อภพฺโพ โข, สุนกฺขตฺต, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’ติ.

๑๗. ‘รกฺขเตตํ, ภนฺเต, ภควา วาจํ, รกฺขเตตํ สุคโต วาจ’นฺติ. ‘กึ ปน มํ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, เอวํ วเทสิ – รกฺขเตตํ, ภนฺเต, ภควา วาจํ, รกฺขเตตํ สุคโต วาจ’นฺติ? ‘ภควตา จสฺส, ภนฺเต, เอสา วาจา เอกํเสน โอธาริตา [โอวาทิตา (ก.)] – อภพฺโพ อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยาติ. อเจโล จ, ภนฺเต, ปาถิกปุตฺโต วิรูปรูเปน ภควโต สมฺมุขีภาวํ อาคจฺเฉยฺย, ตทสฺส ภควโต มุสา’ติ.

๑๘. ‘อปิ นุ, สุนกฺขตฺต, ตถาคโต ตํ วาจํ ภาเสยฺย ยา สา วาจา ทฺวยคามินี’ติ? ‘กึ ปน, ภนฺเต, ภควตา อเจโล ปาถิกปุตฺโต เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต – อภพฺโพ อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’ติ?

‘อุทาหุ , เทวตา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ – อภพฺโพ, ภนฺเต, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ภควโต สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’ติ?

๑๙. ‘เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต เจว เม, สุนกฺขตฺต , อเจโล ปาถิกปุตฺโต อภพฺโพ อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’ติ.

‘เทวตาปิ เม เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ – อภพฺโพ , ภนฺเต, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ภควโต สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’ติ.

‘อชิโตปิ นาม ลิจฺฉวีนํ เสนาปติ อธุนา กาลงฺกโต ตาวตึสกายํ อุปปนฺโน. โสปิ มํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาโรเจสิ – อลชฺชี, ภนฺเต, อเจโล ปาถิกปุตฺโต; มุสาวาที, ภนฺเต, อเจโล ปาถิกปุตฺโต. มมฺปิ, ภนฺเต, อเจโล ปาถิกปุตฺโต พฺยากาสิ วชฺชิคาเม – อชิโต ลิจฺฉวีนํ เสนาปติ มหานิรยํ อุปปนฺโนติ. น โข ปนาหํ, ภนฺเต, มหานิรยํ อุปปนฺโน; ตาวตึสกายมฺหิ อุปปนฺโน. อลชฺชี, ภนฺเต, อเจโล ปาถิกปุตฺโต; มุสาวาที, ภนฺเต, อเจโล ปาถิกปุตฺโต; อภพฺโพ จ, ภนฺเต, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ภควโต สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’ติ.

‘อิติ โข, สุนกฺขตฺต, เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต เจว เม อเจโล ปาถิกปุตฺโต อภพฺโพ อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยาติ. เทวตาปิ เม เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ – อภพฺโพ, ภนฺเต , อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ภควโต สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’ติ.

‘โส โข ปนาหํ, สุนกฺขตฺต, เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต เยน อเจลสฺส ปาถิกปุตฺตสฺส อาราโม เตนุปสงฺกมิสฺสามิ ทิวาวิหาราย. ยสฺสทานิ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, อิจฺฉสิ, ตสฺส อาโรเจหี’ติ.

อิทฺธิปาฏิหาริยกถา

๒๐. ‘‘อถ ขฺวาหํ [อถ โข สฺวาหํ (สฺยา.)], ภคฺคว, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เวสาลึ ปิณฺฑาย ปาวิสึ. เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต เยน อเจลสฺส ปาถิกปุตฺตสฺส อาราโม เตนุปสงฺกมึ ทิวาวิหาราย. อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต ตรมานรูโป เวสาลึ ปวิสิตฺวา เยน อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อภิฺาเต อภิฺาเต ลิจฺฉวี เอตทโวจ – ‘เอสาวุโส, ภควา เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต เยน อเจลสฺส ปาถิกปุตฺตสฺส อาราโม เตนุปสงฺกมิ ทิวาวิหาราย. อภิกฺกมถายสฺมนฺโต อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, สาธุรูปานํ สมณานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ภวิสฺสตี’ติ . อถ โข, ภคฺคว, อภิฺาตานํ อภิฺาตานํ ลิจฺฉวีนํ เอตทโหสิ – ‘สาธุรูปานํ กิร, โภ, สมณานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ภวิสฺสติ; หนฺท วต, โภ, คจฺฉามา’ติ. เยน จ อภิฺาตา อภิฺาตา พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติเนจยิกา นานาติตฺถิยา [นานาติตฺถิย (สฺยา.)] สมณพฺราหฺมณา เตนุปสงฺกมิ. อุปสงฺกมิตฺวา อภิฺาเต อภิฺาเต นานาติตฺถิเย [นานาติตฺถิย (สฺยา.)] สมณพฺราหฺมเณ เอตทโวจ – ‘เอสาวุโส, ภควา เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต เยน อเจลสฺส ปาถิกปุตฺตสฺส อาราโม เตนุปสงฺกมิ ทิวาวิหาราย. อภิกฺกมถายสฺมนฺโต อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, สาธุรูปานํ สมณานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ภวิสฺสตี’ติ. อถ โข, ภคฺคว, อภิฺาตานํ อภิฺาตานํ นานาติตฺถิยานํ สมณพฺราหฺมณานํ เอตทโหสิ – ‘สาธุรูปานํ กิร, โภ, สมณานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ภวิสฺสติ; หนฺท วต, โภ, คจฺฉามา’ติ.

‘‘อถ โข, ภคฺคว, อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี, อภิฺาตา อภิฺาตา จ พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติเนจยิกา นานาติตฺถิยา สมณพฺราหฺมณา เยน อเจลสฺส ปาถิกปุตฺตสฺส อาราโม เตนุปสงฺกมึสุ. สา เอสา, ภคฺคว, ปริสา มหา โหติ [ปริสา โหติ (สี. สฺยา. ปี.)] อเนกสตา อเนกสหสฺสา.

๒๑. ‘‘อสฺโสสิ โข, ภคฺคว, อเจโล ปาถิกปุตฺโต – ‘อภิกฺกนฺตา กิร อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี, อภิกฺกนฺตา อภิฺาตา อภิฺาตา จ พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติเนจยิกา นานาติตฺถิยา สมณพฺราหฺมณา. สมโณปิ โคตโม มยฺหํ อาราเม ทิวาวิหารํ นิสินฺโน’ติ. สุตฺวานสฺส ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส อุทปาทิ. อถ โข, ภคฺคว, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ภีโต สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต เยน ตินฺทุกขาณุปริพฺพาชการาโม เตนุปสงฺกมิ.

‘‘อสฺโสสิ โข, ภคฺคว, สา ปริสา – ‘อเจโล กิร ปาถิกปุตฺโต ภีโต สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต เยน ตินฺทุกขาณุปริพฺพาชการาโม เตนุปสงฺกนฺโต’ติ [เตนุปสงฺกมนฺโต (สี. ปี. ก.)]. อถ โข, ภคฺคว, สา ปริสา อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ –

‘เอหิ ตฺวํ, โภ ปุริส, เยน ตินฺทุกขาณุปริพฺพาชการาโม, เยน อเจโล ปาถิกปุตฺโต เตนุปสงฺกม. อุปสงฺกมิตฺวา อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ เอวํ วเทหิ – อภิกฺกมาวุโส, ปาถิกปุตฺต, อภิกฺกนฺตา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี, อภิกฺกนฺตา อภิฺาตา อภิฺาตา จ พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติเนจยิกา นานาติตฺถิยา สมณพฺราหฺมณา, สมโณปิ โคตโม อายสฺมโต อาราเม ทิวาวิหารํ นิสินฺโน; ภาสิตา โข ปน เต เอสา, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, เวสาลิยํ ปริสติ วาจา สมโณปิ โคตโม าณวาโท, อหมฺปิ าณวาโท. าณวาโท โข ปน าณวาเทน อรหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสตุํ. สมโณ โคตโม อุปฑฺฒปถํ อาคจฺเฉยฺย อหมฺปิ อุปฑฺฒปถํ คจฺเฉยฺยํ. เต ตตฺถ อุโภปิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กเรยฺยาม. เอกํ เจ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, ทฺวาหํ กริสฺสามิ. ทฺเว เจ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยานิ กริสฺสติ, จตฺตาราหํ กริสฺสามิ. จตฺตาริ เจ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยานิ กริสฺสติ , อฏฺาหํ กริสฺสามิ. อิติ ยาวตกํ ยาวตกํ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณาหํ กริสฺสามี’ติ อภิกฺกมสฺเสว [อภิกฺกมเยว (สี. สฺยา. ปี.)] โข; อาวุโส ปาถิกปุตฺต, อุปฑฺฒปถํ. สพฺพปมํเยว อาคนฺตฺวา สมโณ โคตโม อายสฺมโต อาราเม ทิวาวิหารํ นิสินฺโน’ติ.

๒๒. ‘‘เอวํ, โภติ โข, ภคฺคว, โส ปุริโส ตสฺสา ปริสาย ปฏิสฺสุตฺวา เยน ตินฺทุกขาณุปริพฺพาชการาโม, เยน อเจโล ปาถิกปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ. อุปสงฺกมิตฺวา อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘อภิกฺกมาวุโส ปาถิกปุตฺต, อภิกฺกนฺตา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี, อภิกฺกนฺตา อภิฺาตา อภิฺาตา จ พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติเนจยิกา นานาติตฺถิยา สมณพฺราหฺมณา. สมโณปิ โคตโม อายสฺมโต อาราเม ทิวาวิหารํ นิสินฺโน. ภาสิตา โข ปน เต เอสา, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, เวสาลิยํ ปริสติ วาจา – สมโณปิ โคตโม าณวาโท; อหมฺปิ าณวาโท. าณวาโท โข ปน าณวาเทน อรหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสตุํ…เป… ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณาหํ กริสฺสามีติ. อภิกฺกมสฺเสว โข, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, อุปฑฺฒปถํ. สพฺพปมํเยว อาคนฺตฺวา สมโณ โคตโม อายสฺมโต อาราเม ทิวาวิหารํ นิสินฺโน’ติ.

‘‘เอวํ วุตฺเต, ภคฺคว, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ‘อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโส’ติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ [สํสพฺพติ (ก.)], น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุํ. อถ โข โส, ภคฺคว, ปุริโส อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘กึ สุ นาม เต, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, ปาวฬา สุ นาม เต ปีกสฺมึ อลฺลีนา, ปีกํ สุ นาม เต ปาวฬาสุ อลฺลีนํ? อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโสติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปสิ, น สกฺโกสิ อาสนาปิ วุฏฺาตุ’นฺติ. เอวมฺปิ โข, ภคฺคว, วุจฺจมาโน อเจโล ปาถิกปุตฺโต ‘อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโส’ติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ , น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุํ.

๒๓. ‘‘ยทา โข โส, ภคฺคว, ปุริโส อฺาสิ – ‘ปราภูตรูโป อยํ อเจโล ปาถิกปุตฺโต. อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโสติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุ’นฺติ. อถ ตํ ปริสํ อาคนฺตฺวา เอวมาโรเจสิ – ‘ปราภูตรูโป, โภ [ปราภูตรูโป โภ อยํ (สฺยา. ก.), ปราภูตรูโป (สี. ปี.)], อเจโล ปาถิกปุตฺโต. อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโสติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุ’นฺติ. เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภคฺคว, ตํ ปริสํ เอตทโวจํ – ‘อภพฺโพ โข, อาวุโส, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺย’นฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยาติ.

ปมภาณวาโร นิฏฺิโต.

๒๔. ‘‘อถ โข, ภคฺคว, อฺตโร ลิจฺฉวิมหามตฺโต อุฏฺายาสนา ตํ ปริสํ เอตทโวจ – ‘เตน หิ, โภ, มุหุตฺตํ ตาว อาคเมถ, ยาวาหํ คจฺฉามิ [ปจฺจาคจฺฉามิ (?)]. อปฺเปว นาม อหมฺปิ สกฺกุเณยฺยํ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ อิมํ ปริสํ อาเนตุ’นฺติ.

‘‘อถ โข โส, ภคฺคว, ลิจฺฉวิมหามตฺโต เยน ตินฺทุกขาณุปริพฺพาชการาโม, เยน อเจโล ปาถิกปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ. อุปสงฺกมิตฺวา อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘อภิกฺกมาวุโส ปาถิกปุตฺต, อภิกฺกนฺตํ เต เสยฺโย, อภิกฺกนฺตา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี, อภิกฺกนฺตา อภิฺาตา อภิฺาตา จ พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติเนจยิกา นานาติตฺถิยา สมณพฺราหฺมณา. สมโณปิ โคตโม อายสฺมโต อาราเม ทิวาวิหารํ นิสินฺโน. ภาสิตา โข ปน เต เอสา, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, เวสาลิยํ ปริสติ วาจา – สมโณปิ โคตโม าณวาโท…เป… ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณาหํ กริสฺสามีติ. อภิกฺกมสฺเสว โข, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, อุปฑฺฒปถํ. สพฺพปมํเยว อาคนฺตฺวา สมโณ โคตโม อายสฺมโต อาราเม ทิวาวิหารํ นิสินฺโน. ภาสิตา โข ปเนสา, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, สมเณน โคตเมน ปริสติ วาจา – อภพฺโพ โข อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยาติ. อภิกฺกมาวุโส ปาถิกปุตฺต, อภิกฺกมเนเนว เต ชยํ กริสฺสาม, สมณสฺส โคตมสฺส ปราชย’นฺติ.

‘‘เอวํ วุตฺเต, ภคฺคว, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ‘อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโส’ติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุํ. อถ โข โส, ภคฺคว, ลิจฺฉวิมหามตฺโต อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘กึ สุ นาม เต, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, ปาวฬา สุ นาม เต ปีกสฺมึ อลฺลีนา, ปีกํ สุ นาม เต ปาวฬาสุ อลฺลีนํ ? อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโสติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปสิ, น สกฺโกสิ อาสนาปิ วุฏฺาตุ’นฺติ . เอวมฺปิ โข, ภคฺคว, วุจฺจมาโน อเจโล ปาถิกปุตฺโต ‘อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโส’ติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุํ.

๒๕. ‘‘ยทา โข โส, ภคฺคว, ลิจฺฉวิมหามตฺโต อฺาสิ – ‘ปราภูตรูโป อยํ อเจโล ปาถิกปุตฺโต อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโสติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุ’นฺติ. อถ ตํ ปริสํ อาคนฺตฺวา เอวมาโรเจสิ – ‘ปราภูตรูโป, โภ [ปราภูตรูโป (สี. ปี.), ปราภูตรูโป อยํ (สฺยา.)], อเจโล ปาถิกปุตฺโต อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโสติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุ’นฺติ. เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภคฺคว, ตํ ปริสํ เอตทโวจํ – ‘อภพฺโพ โข, อาวุโส, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺย. สเจ ปายสฺมนฺตานํ ลิจฺฉวีนํ เอวมสฺส – มยํ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ วรตฺตาหิ [ยาหิ วรตฺตาหิ (สฺยา. ก.)] พนฺธิตฺวา โคยุเคหิ อาวิฺเฉยฺยามาติ [อาวิฺเชยฺยามาติ (สฺยา.), อาวิชฺเฌยฺยามาติ (สี. ปี.)], ตา วรตฺตา ฉิชฺเชยฺยุํ ปาถิกปุตฺโต วา. อภพฺโพ ปน อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’ติ.

๒๖. ‘‘อถ โข, ภคฺคว, ชาลิโย ทารุปตฺติกนฺเตวาสี อุฏฺายาสนา ตํ ปริสํ เอตทโวจ – ‘เตน หิ, โภ, มุหุตฺตํ ตาว อาคเมถ, ยาวาหํ คจฺฉามิ; อปฺเปว นาม อหมฺปิ สกฺกุเณยฺยํ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ อิมํ ปริสํ อาเนตุ’’นฺติ.

‘‘อถ โข, ภคฺคว, ชาลิโย ทารุปตฺติกนฺเตวาสี เยน ตินฺทุกขาณุปริพฺพาชการาโม, เยน อเจโล ปาถิกปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ. อุปสงฺกมิตฺวา อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘อภิกฺกมาวุโส ปาถิกปุตฺต, อภิกฺกนฺตํ เต เสยฺโย. อภิกฺกนฺตา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี, อภิกฺกนฺตา อภิฺาตา อภิฺาตา จ พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติเนจยิกา นานาติตฺถิยา สมณพฺราหฺมณา. สมโณปิ โคตโม อายสฺมโต อาราเม ทิวาวิหารํ นิสินฺโน. ภาสิตา โข ปน เต เอสา, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, เวสาลิยํ ปริสติ วาจา – สมโณปิ โคตโม าณวาโท…เป… ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณาหํ กริสฺสามีติ. อภิกฺกมสฺเสว, โข อาวุโส ปาถิกปุตฺต, อุปฑฺฒปถํ. สพฺพปมํเยว อาคนฺตฺวา สมโณ โคตโม อายสฺมโต อาราเม ทิวาวิหารํ นิสินฺโน. ภาสิตา โข ปเนสา, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, สมเณน โคตเมน ปริสติ วาจา – อภพฺโพ อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺย. สเจ ปายสฺมนฺตานํ ลิจฺฉวีนํ เอวมสฺส – มยํ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ วรตฺตาหิ พนฺธิตฺวา โคยุเคหิ อาวิฺเฉยฺยามาติ. ตา วรตฺตา ฉิชฺเชยฺยุํ ปาถิกปุตฺโต วา. อภพฺโพ ปน อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ อาคจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยาติ. อภิกฺกมาวุโส ปาถิกปุตฺต, อภิกฺกมเนเนว เต ชยํ กริสฺสาม, สมณสฺส โคตมสฺส ปราชย’นฺติ.

‘‘เอวํ วุตฺเต, ภคฺคว, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ‘อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโส’ติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุํ. อถ โข, ภคฺคว, ชาลิโย ทารุปตฺติกนฺเตวาสี อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘กึ สุ นาม เต, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, ปาวฬา สุ นาม เต ปีกสฺมึ อลฺลีนา, ปีกํ สุ นาม เต ปาวฬาสุ อลฺลีนํ? อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโสติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปสิ, น สกฺโกสิ อาสนาปิ วุฏฺาตุ’นฺติ. เอวมฺปิ โข, ภคฺคว, วุจฺจมาโน อเจโล ปาถิกปุตฺโต ‘‘อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโส’’ติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุนฺติ.

๒๗. ‘‘ยทา โข, ภคฺคว, ชาลิโย ทารุปตฺติกนฺเตวาสี อฺาสิ – ‘ปราภูตรูโป อยํ อเจโล ปาถิกปุตฺโต ‘อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโสติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุ’นฺติ, อถ นํ เอตทโวจ –

‘ภูตปุพฺพํ, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, สีหสฺส มิครฺโ เอตทโหสิ – ยํนูนาหํ อฺตรํ วนสณฺฑํ นิสฺสาย อาสยํ กปฺเปยฺยํ. ตตฺราสยํ กปฺเปตฺวา สายนฺหสมยํ อาสยา นิกฺขเมยฺยํ, อาสยา นิกฺขมิตฺวา วิชมฺเภยฺยํ, วิชมฺภิตฺวา สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกยฺยํ, สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกตฺวา ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นเทยฺยํ, ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา โคจราย ปกฺกเมยฺยํ. โส วรํ วรํ มิคสํเฆ [มิคสํฆํ (สฺยา. ก.)] วธิตฺวา มุทุมํสานิ มุทุมํสานิ ภกฺขยิตฺวา ตเมว อาสยํ อชฺฌุเปยฺย’นฺติ.

‘อถ โข, อาวุโส, โส สีโห มิคราชา อฺตรํ วนสณฺฑํ นิสฺสาย อาสยํ กปฺเปสิ. ตตฺราสยํ กปฺเปตฺวา สายนฺหสมยํ อาสยา นิกฺขมิ, อาสยา นิกฺขมิตฺวา วิชมฺภิ, วิชมฺภิตฺวา สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกสิ, สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกตฺวา ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิ, ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา โคจราย ปกฺกามิ. โส วรํ วรํ มิคสงฺเฆ วธิตฺวา มุทุมํสานิ มุทุมํสานิ ภกฺขยิตฺวา ตเมว อาสยํ อชฺฌุเปสิ.

๒๘. ‘ตสฺเสว โข, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, สีหสฺส มิครฺโ วิฆาสสํวฑฺโฒ ชรสิงฺคาโล [ชรสิคาโล (สี. สฺยา. ปี.)] ทิตฺโต เจว พลวา จ. อถ โข, อาวุโส, ตสฺส ชรสิงฺคาลสฺส เอตทโหสิ – โก จาหํ, โก สีโห มิคราชา. ยํนูนาหมฺปิ อฺตรํ วนสณฺฑํ นิสฺสาย อาสยํ กปฺเปยฺยํ. ตตฺราสยํ กปฺเปตฺวา สายนฺหสมยํ อาสยา นิกฺขเมยฺยํ, อาสยา นิกฺขมิตฺวา วิชมฺเภยฺยํ, วิชมฺภิตฺวา สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกยฺยํ, สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกตฺวา ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นเทยฺยํ, ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา โคจราย ปกฺกเมยฺยํ. โส วรํ วรํ มิคสงฺเฆ วธิตฺวา มุทุมํสานิ มุทุมํสานิ ภกฺขยิตฺวา ตเมว อาสยํ อชฺฌุเปยฺย’นฺติ.

‘อถ โข โส, อาวุโส, ชรสิงฺคาโล อฺตรํ วนสณฺฑํ นิสฺสาย อาสยํ กปฺเปสิ. ตตฺราสยํ กปฺเปตฺวา สายนฺหสมยํ อาสยา นิกฺขมิ, อาสยา นิกฺขมิตฺวา วิชมฺภิ, วิชมฺภิตฺวา สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกสิ, สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกตฺวา ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิสฺสามีติ สิงฺคาลกํเยว อนทิ เภรณฺฑกํเยว [เภทณฺฑกํเยว (ก.)] อนทิ, เก จ ฉเว สิงฺคาเล, เก ปน สีหนาเทติ [สีหนาเท (?)].

‘เอวเมว โข ตฺวํ, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, สุคตาปทาเนสุ ชีวมาโน สุคตาติริตฺตานิ ภุฺชมาโน ตถาคเต อรหนฺเต สมฺมาสมฺพุทฺเธ อาสาเทตพฺพํ มฺสิ. เก จ ฉเว ปาถิกปุตฺเต, กา จ ตถาคตานํ อรหนฺตานํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ อาสาทนา’ติ.

๒๙. ‘‘ยโต โข, ภคฺคว, ชาลิโย ทารุปตฺติกนฺเตวาสี อิมินา โอปมฺเมน เนว อสกฺขิ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ ตมฺหา อาสนา จาเวตุํ. อถ นํ เอตทโวจ –

‘สีโหติ อตฺตานํ สเมกฺขิยาน,

อมฺิ โกตฺถุ มิคราชาหมสฺมิ;

ตเถว [ตเมว (สฺยา.)] โส สิงฺคาลกํ อนทิ,

เก จ ฉเว สิงฺคาเล เก ปน สีหนาเท’ติ.

‘เอวเมว โข ตฺวํ, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, สุคตาปทาเนสุ ชีวมาโน สุคตาติริตฺตานิ ภุฺชมาโน ตถาคเต อรหนฺเต สมฺมาสมฺพุทฺเธ อาสาเทตพฺพํ มฺสิ. เก จ ฉเว ปาถิกปุตฺเต, กา จ ตถาคตานํ อรหนฺตานํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ อาสาทนา’ติ.

๓๐. ‘‘ยโต โข, ภคฺคว, ชาลิโย ทารุปตฺติกนฺเตวาสี อิมินาปิ โอปมฺเมน เนว อสกฺขิ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ ตมฺหา อาสนา จาเวตุํ. อถ นํ เอตทโวจ –

‘อฺํ อนุจงฺกมนํ, อตฺตานํ วิฆาเส สเมกฺขิย;

ยาว อตฺตานํ น ปสฺสติ, โกตฺถุ ตาว พฺยคฺโฆติ มฺติ.

ตเถว โส สิงฺคาลกํ อนทิ;

เก จ ฉเว สิงฺคาเล เก ปน สีหนาเท’ติ.

‘เอวเมว โข ตฺวํ, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, สุคตาปทาเนสุ ชีวมาโน สุคตาติริตฺตานิ ภุฺชมาโน ตถาคเต อรหนฺเต สมฺมาสมฺพุทฺเธ อาสาเทตพฺพํ มฺสิ. เก จ ฉเว ปาถิกปุตฺเต, กา จ ตถาคตานํ อรหนฺตานํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ อาสาทนา’ติ.

๓๑. ‘‘ยโต โข, ภคฺคว, ชาลิโย ทารุปตฺติกนฺเตวาสี อิมินาปิ โอปมฺเมน เนว อสกฺขิ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ ตมฺหา อาสนา จาเวตุํ. อถ นํ เอตทโวจ –

‘ภุตฺวาน เภเก [ภิงฺเค (ก.)] ขลมูสิกาโย,

กฏสีสุ ขิตฺตานิ จ โกณปานิ [กูณปานิ (สฺยา.)];

มหาวเน สุฺวเน วิวฑฺโฒ,

อมฺิ โกตฺถุ มิคราชาหมสฺมิ.

ตเถว โส สิงฺคาลกํ อนทิ;

เก จ ฉเว สิงฺคาเล เก ปน สีหนาเท’ติ.

‘เอวเมว โข ตฺวํ, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, สุคตาปทาเนสุ ชีวมาโน สุคตาติริตฺตานิ ภุฺชมาโน ตถาคเต อรหนฺเต สมฺมาสมฺพุทฺเธ อาสาเทตพฺพํ มฺสิ. เก จ ฉเว ปาถิกปุตฺเต, กา จ ตถาคตานํ อรหนฺตานํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ อาสาทนา’ติ.

๓๒. ‘‘ยโต โข, ภคฺคว, ชาลิโย ทารุปตฺติกนฺเตวาสี อิมินาปิ โอปมฺเมน เนว อสกฺขิ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ ตมฺหา อาสนา จาเวตุํ. อถ ตํ ปริสํ อาคนฺตฺวา เอวมาโรเจสิ – ‘ปราภูตรูโป, โภ, อเจโล ปาถิกปุตฺโต อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโสติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุ’นฺติ.

๓๓. ‘‘เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภคฺคว, ตํ ปริสํ เอตทโวจํ – ‘อภพฺโพ โข, อาวุโส, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺย. สเจปายสฺมนฺตานํ ลิจฺฉวีนํ เอวมสฺส – มยํ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ วรตฺตาหิ พนฺธิตฺวา นาเคหิ [โคยุเคหิ (สพฺพตฺถ) อฏฺกถา ปสฺสิตพฺพา] อาวิฺเฉยฺยามาติ . ตา วรตฺตา ฉิชฺเชยฺยุํ ปาถิกปุตฺโต วา. อภพฺโพ ปน อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’ติ.

๓๔. ‘‘อถ ขฺวาหํ, ภคฺคว, ตํ ปริสํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสึ สมาทเปสึ สมุตฺเตเชสึ สมฺปหํเสสึ, ตํ ปริสํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา มหาพนฺธนา โมกฺขํ กริตฺวา จตุราสีติปาณสหสฺสานิ มหาวิทุคฺคา อุทฺธริตฺวา เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา สตฺตตาลํ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อฺํ สตฺตตาลมฺปิ อจฺจึ [อคฺคึ (สฺยา.)] อภินิมฺมินิตฺวา ปชฺชลิตฺวา ธูมายิตฺวา [ธูปายิตฺวา (สี. ปี.)] มหาวเน กูฏาคารสาลายํ ปจฺจุฏฺาสึ.

๓๕. ‘‘อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อหํ, ภคฺคว, สุนกฺขตฺตํ ลิจฺฉวิปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, ยเถว เต อหํ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ อารพฺภ พฺยากาสึ, ตเถว ตํ วิปากํ อฺถา วา’ติ? ‘ยเถว เม, ภนฺเต, ภควา อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ อารพฺภ พฺยากาสิ, ตเถว ตํ วิปากํ, โน อฺถา’ติ.

‘ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, ยทิ เอวํ สนฺเต กตํ วา โหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ, อกตํ วา’ติ? ‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต กตํ โหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ, โน อกต’นฺติ. ‘เอวมฺปิ โข มํ ตฺวํ, โมฆปุริส, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรนฺตํ เอวํ วเทสิ – น หิ ปน เม, ภนฺเต, ภควา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรตีติ. ปสฺส, โมฆปุริส, ยาวฺจ เต อิทํ อปรทฺธํ’ติ.

‘‘เอวมฺปิ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต มยา วุจฺจมาโน อปกฺกเมว อิมสฺมา ธมฺมวินยา, ยถา ตํ อาปายิโก เนรยิโก.

อคฺคฺปฺตฺติกถา

๓๖. ‘‘อคฺคฺฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิ. ตฺจ ปชานามิ [‘‘ตฺจปชานามี’’ติ อิทํ สฺยาโปตฺถเกนตฺถิ], ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานามิ, ตฺจ ปชานํ [ปชานนํ (สฺยา. ก.) อฏฺกถาสํวณฺณนา ปสฺสิตพฺพา] น ปรามสามิ, อปรามสโต จ เม ปจฺจตฺตฺเว นิพฺพุติ วิทิตา, ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติ .

๓๗. ‘‘สนฺติ, ภคฺคว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อิสฺสรกุตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปนฺติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อิสฺสรกุตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ? เต จ เม เอวํ ปุฏฺา, ‘อาโม’ติ [อามาติ (สฺยา.)] ปฏิชานนฺติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘กถํวิหิตกํ ปน [กถํ วิหิตกํโน ปน (ก.)] ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อิสฺสรกุตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ? เต มยา ปุฏฺา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา มมฺเว ปฏิปุจฺฉนฺติ. เตสาหํ ปุฏฺโ พฺยากโรมิ –

๓๘. ‘โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน อยํ โลโก สํวฏฺฏติ. สํวฏฺฏมาเน โลเก เยภุยฺเยน สตฺตา อาภสฺสรสํวตฺตนิกา โหนฺติ. เต ตตฺถ โหนฺติ มโนมยา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา สุภฏฺายิโน จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺนฺติ.

‘โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน อยํ โลโก วิวฏฺฏติ. วิวฏฺฏมาเน โลเก สุฺํ พฺรหฺมวิมานํ ปาตุภวติ. อถ โข [อถ (สี. สฺยา. ปี.)] อฺตโร สตฺโต อายุกฺขยา วา ปุฺกฺขยา วา อาภสฺสรกายา จวิตฺวา สุฺํ พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชติ . โส ตตฺถ โหติ มโนมโย ปีติภกฺโข สยํปโภ อนฺตลิกฺขจโร สุภฏฺายี, จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺติ.

‘ตสฺส ตตฺถ เอกกสฺส ทีฆรตฺตํ นิวุสิตตฺตา อนภิรติ ปริตสฺสนา อุปฺปชฺชติ – อโห วต อฺเปิ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺเฉยฺยุนฺติ. อถ อฺเปิ สตฺตา อายุกฺขยา วา ปุฺกฺขยา วา อาภสฺสรกายา จวิตฺวา พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชนฺติ ตสฺส สตฺตสฺส สหพฺยตํ. เตปิ ตตฺถ โหนฺติ มโนมยา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา สุภฏฺายิโน, จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺนฺติ.

๓๙. ‘ตตฺราวุโส, โย โส สตฺโต ปมํ อุปปนฺโน, ตสฺส เอวํ โหติ – อหมสฺมิ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโ สชิตา [สฺชิตา (สี. ปี.), สชฺชิตา (สฺยา. กํ.)] วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ, มยา อิเม สตฺตา นิมฺมิตา. ตํ กิสฺส เหตุ? มมฺหิ ปุพฺเพ เอตทโหสิ – อโห วต อฺเปิ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺเฉยฺยุนฺติ; อิติ มม จ มโนปณิธิ. อิเม จ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคตาติ.

‘เยปิ เต สตฺตา ปจฺฉา อุปปนฺนา, เตสมฺปิ เอวํ โหติ – อยํ โข ภวํ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ; อิมินา มยํ โภตา พฺรหฺมุนา นิมฺมิตา. ตํ กิสฺส เหตุ? อิมฺหิ มยํ อทฺทสาม อิธ ปมํ อุปปนฺนํ; มยํ ปนามฺห ปจฺฉา อุปปนฺนาติ.

๔๐. ‘ตตฺราวุโส , โย โส สตฺโต ปมํ อุปปนฺโน, โส ทีฆายุกตโร จ โหติ วณฺณวนฺตตโร จ มเหสกฺขตโร จ. เย ปน เต สตฺตา ปจฺฉา อุปปนฺนา, เต อปฺปายุกตรา จ โหนฺติ ทุพฺพณฺณตรา จ อปฺเปสกฺขตรา จ.

‘านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ, ยํ อฺตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ. อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ; ตโต ปรํ นานุสฺสรติ.

‘โส เอวมาห – โย โข โส ภวํ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ, เยน มยํ โภตา พฺรหฺมุนา นิมฺมิตา. โส นิจฺโจ ธุโว [สสฺสโต ทีฆายุโก (สฺยา. ก.)] สสฺสโต อวิปริณามธมฺโม สสฺสติสมํ ตเถว สฺสติ. เย ปน มยํ อหุมฺหา เตน โภตา พฺรหฺมุนา นิมฺมิตา, เต มยํ อนิจฺจา อทฺธุวา [อทฺธุวา อสสฺสตา (สฺยา. ก.)] อปฺปายุกา จวนธมฺมา อิตฺถตฺตํ อาคตา’ติ. เอวํวิหิตกํ โน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อิสฺสรกุตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถาติ. ‘เต เอวมาหํสุ – เอวํ โข โน, อาวุโส โคตม, สุตํ, ยเถวายสฺมา โคตโม อาหา’ติ. ‘‘อคฺคฺฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิ. ตฺจ ปชานามิ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานามิ, ตฺจ ปชานํ น ปรามสามิ, อปรามสโต จ เม ปจฺจตฺตฺเว นิพฺพุติ วิทิตา. ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติ.

๔๑. ‘‘สนฺติ, ภคฺคว, เอเก สมณพฺราหฺมณา ขิฑฺฑาปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปนฺติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ขิฑฺฑาปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ? เต จ เม เอวํ ปุฏฺา ‘อาโม’ติ ปฏิชานนฺติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘กถํวิหิตกํ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ขิฑฺฑาปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ? เต มยา ปุฏฺา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา มมฺเว ปฏิปุจฺฉนฺติ, เตสาหํ ปุฏฺโ พฺยากโรมิ

๔๒. ‘สนฺตาวุโส, ขิฑฺฑาปโทสิกา นาม เทวา. เต อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา [หสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา (ก.)] วิหรนฺติ. เตสํ อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนานํ วิหรตํ สติ สมฺมุสฺสติ, สติยา สมฺโมสา [สติยา สมฺโมสาย (สฺยา.)] เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺติ.

‘านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ, ยํ อฺตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ, อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ; ตโต ปรํ นานุสฺสรติ.

‘โส เอวมาห – เย โข เต โภนฺโต เทวา น ขิฑฺฑาปโทสิกา เต น อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา วิหรนฺติ. เตสํ นาติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนานํ วิหรตํ สติ น สมฺมุสฺสติ, สติยา อสมฺโมสา เต เทวา ตมฺหา กายา น จวนฺติ, นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อวิปริณามธมฺมา สสฺสติสมํ ตเถว สฺสนฺติ. เย ปน มยํ อหุมฺหา ขิฑฺฑาปโทสิกา เต มยํ อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา วิหริมฺหา, เตสํ โน อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนานํ วิหรตํ สติ สมฺมุสฺสติ, สติยา สมฺโมสา เอวํ [สมฺโมสา เอว (สี. ปี.) สมฺโมสา เต (สฺยา. ก.)] มยํ ตมฺหา กายา จุตา, อนิจฺจา อทฺธุวา อปฺปายุกา จวนธมฺมา อิตฺถตฺตํ อาคตาติ. เอวํวิหิตกํ โน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ขิฑฺฑาปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ. ‘เต เอวมาหํสุ – เอวํ โข โน, อาวุโส โคตม, สุตํ, ยเถวายสฺมา โคตโม อาหา’ติ. ‘‘อคฺคฺฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิ…เป… ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติ.

๔๓. ‘‘สนฺติ, ภคฺคว, เอเก สมณพฺราหฺมณา มโนปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปนฺติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต มโนปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ? เต จ เม เอวํ ปุฏฺา ‘อาโม’ติ ปฏิชานนฺติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘กถํวิหิตกํ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต มโนปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ? เต มยา ปุฏฺา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา มมฺเว ปฏิปุจฺฉนฺติ. เตสาหํ ปุฏฺโ พฺยากโรมิ –

๔๔. ‘สนฺตาวุโส, มโนปโทสิกา นาม เทวา. เต อติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺติ. เต อติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺตา อฺมฺมฺหิ จิตฺตานิ ปทูเสนฺติ. เต อฺมฺํ ปทุฏฺจิตฺตา กิลนฺตกายา กิลนฺตจิตฺตา. เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺติ.

‘านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ, ยํ อฺตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ. อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, ตโต ปรํ นานุสฺสรติ.

‘โส เอวมาห – เย โข เต โภนฺโต เทวา น มโนปโทสิกา เต นาติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺติ. เต นาติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺตา อฺมฺมฺหิ จิตฺตานิ นปฺปทูเสนฺติ. เต อฺมฺํ อปฺปทุฏฺจิตฺตา อกิลนฺตกายา อกิลนฺตจิตฺตา. เต เทวา ตมฺหา [อกิลนฺตจิตฺตา ตมฺหา (ก.)] กายา น จวนฺติ, นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อวิปริณามธมฺมา สสฺสติสมํ ตเถว สฺสนฺติ. เย ปน มยํ อหุมฺหา มโนปโทสิกา, เต มยํ อติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายิมฺหา. เต มยํ อติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺตา อฺมฺมฺหิ จิตฺตานิ ปทูสิมฺหา [ปโทสิยิมฺหา (สฺยา.), ปทูสยิมฺหา (?)]. เต มยํ อฺมฺํ ปทุฏฺจิตฺตา กิลนฺตกายา กิลนฺตจิตฺตา. เอวํ มยํ [กิลนฺตจิตฺตาเอว มยํ (สี. ปี.), กิลนฺตจิตฺตา (ก.)] ตมฺหา กายา จุตา, อนิจฺจา อทฺธุวา อปฺปายุกา จวนธมฺมา อิตฺถตฺตํ อาคตาติ. เอวํวิหิตกํ โน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต มโนปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ. ‘เต เอวมาหํสุ – เอวํ โข โน, อาวุโส โคตม, สุตํ, ยเถวายสฺมา โคตโม อาหา’ติ. ‘‘อคฺคฺฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิ…เป… ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติ.

๔๕. ‘‘สนฺติ, ภคฺคว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปนฺติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ? เต จ เม เอวํ ปุฏฺา ‘อาโม’ติ ปฏิชานนฺติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘กถํวิหิตกํ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ? เต มยา ปุฏฺา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา มมฺเว ปฏิปุจฺฉนฺติ. เตสาหํ ปุฏฺโ พฺยากโรมิ –

๔๖. ‘สนฺตาวุโส, อสฺสตฺตา นาม เทวา. สฺุปฺปาทา จ ปน เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺติ.

‘านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ. ยํ อฺตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ. อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ [อิทํ ปทํ พฺรหฺมชาลสุตฺเต น ทิสฺสติ. เอวํ (ปี. ก.)] สฺุปฺปาทํ อนุสฺสรติ, ตโต ปรํ นานุสฺสรติ.

‘โส เอวมาห – อธิจฺจสมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อหฺหิ ปุพฺเพ นาโหสึ, โสมฺหิ เอตรหิ อหุตฺวา สนฺตตาย [สตฺตกาย (สี. ปี.), สตฺตาย (ก. สี.)] ปริณโตติ. เอวํวิหิตกํ โน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ? ‘เต เอวมาหํสุ – เอวํ โข โน, อาวุโส โคตม, สุตํ ยเถวายสฺมา โคตโม อาหา’ติ. ‘‘อคฺคฺฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิ ตฺจ ปชานามิ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานามิ, ตฺจ ปชานํ น ปรามสามิ, อปรามสโต จ เม ปจฺจตฺตฺเว นิพฺพุติ วิทิตา. ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติ.

๔๗. ‘‘เอวํวาทึ โข มํ, ภคฺคว, เอวมกฺขายึ เอเก สมณพฺราหฺมณา อสตา ตุจฺฉา มุสา อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ – ‘วิปรีโต สมโณ โคตโม ภิกฺขโว จ. สมโณ โคตโม เอวมาห – ยสฺมึ สมเย สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สพฺพํ ตสฺมึ สมเย อสุภนฺตฺเวว [อสุภนฺเตว (สี. สฺยา. ปี.)] ปชานาตี’ติ [สฺชานาตีติ (สี. ปี.)]. น โข ปนาหํ, ภคฺคว, เอวํ วทามิ – ‘ยสฺมึ สมเย สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สพฺพํ ตสฺมึ สมเย อสุภนฺตฺเวว ปชานาตี’ติ. เอวฺจ ขฺวาหํ, ภคฺคว, วทามิ – ‘ยสฺมึ สมเย สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สุภนฺตฺเวว ตสฺมึ สมเย ปชานาตี’ติ.

‘‘เต จ, ภนฺเต, วิปรีตา, เย ภควนฺตํ วิปรีตโต ทหนฺติ ภิกฺขโว จ. เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควติ. ปโหติ เม ภควา ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ, ยถา อหํ สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’’นฺติ.

๔๘. ‘‘ทุกฺกรํ โข เอตํ, ภคฺคว, ตยา อฺทิฏฺิเกน อฺขนฺติเกน อฺรุจิเกน อฺตฺราโยเคน อฺตฺราจริยเกน สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. อิงฺฆ ตฺวํ, ภคฺคว, โย จ เต อยํ มยิ ปสาโท, ตเมว ตฺวํ สาธุกมนุรกฺขา’’ติ. ‘‘สเจ ตํ, ภนฺเต, มยา ทุกฺกรํ อฺทิฏฺิเกน อฺขนฺติเกน อฺรุจิเกน อฺตฺราโยเคน อฺตฺราจริยเกน สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. โย จ เม อยํ, ภนฺเต, ภควติ ปสาโท, ตเมวาหํ สาธุกมนุรกฺขิสฺสามี’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน ภคฺควโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.

ปาถิกสุตฺตํ [ปาฏิกสุตฺตนฺตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นิฏฺิตํ ปมํ.