📜

๒. อุทุมฺพริกสุตฺตํ

นิคฺโรธปริพฺพาชกวตฺถุ

๔๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. เตน โข ปน สมเยน นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก อุทุมฺพริกาย ปริพฺพาชการาเม ปฏิวสติ มหติยา ปริพฺพาชกปริสาย สทฺธึ ตึสมตฺเตหิ ปริพฺพาชกสเตหิ. อถ โข สนฺธาโน คหปติ ทิวา ทิวสฺส [ทิวาทิวสฺเสว (สี. สฺยา. ปี.)] ราชคหา นิกฺขมิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อถ โข สนฺธานสฺส คหปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อกาโล โข ภควนฺตํ ทสฺสนาย. ปฏิสลฺลีโน ภควา. มโนภาวนียานมฺปิ ภิกฺขูนํ อสมโย ทสฺสนาย. ปฏิสลฺลีนา มโนภาวนียา ภิกฺขู. ยํนูนาหํ เยน อุทุมฺพริกาย ปริพฺพาชการาโม, เยน นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ. อถ โข สนฺธาโน คหปติ เยน อุทุมฺพริกาย ปริพฺพาชการาโม, เตนุปสงฺกมิ.

๕๐. เตน โข ปน สมเยน นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก มหติยา ปริพฺพาชกปริสาย สทฺธึ นิสินฺโน โหติ อุนฺนาทินิยา อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทาย อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺติยา. เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ มหามตฺตกถํ เสนากถํ ภยกถํ ยุทฺธกถํ อนฺนกถํ ปานกถํ วตฺถกถํ สยนกถํ มาลากถํ คนฺธกถํ าติกถํ ยานกถํ คามกถํ นิคมกถํ นครกถํ ชนปทกถํ อิตฺถิกถํ สูรกถํ วิสิขากถํ กุมฺภฏฺานกถํ ปุพฺพเปตกถํ นานตฺตกถํ โลกกฺขายิกํ สมุทฺทกฺขายิกํ อิติภวาภวกถํ อิติ วา.

๕๑. อทฺทสา โข นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก สนฺธานํ คหปตึ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวา สกํ ปริสํ สณฺาเปสิ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต โหนฺตุ, มา โภนฺโต สทฺทมกตฺถ. อยํ สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก อาคจฺฉติ สนฺธาโน คหปติ. ยาวตา โข ปน สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา คิหี โอทาตวสนา ราชคเห ปฏิวสนฺติ, อยํ เตสํ อฺตโร สนฺธาโน คหปติ. อปฺปสทฺทกามา โข ปเนเต อายสฺมนฺโต อปฺปสทฺทวินีตา , อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาทิโน. อปฺเปว นาม อปฺปสทฺทํ ปริสํ วิทิตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺเยฺยา’’ติ. เอวํ วุตฺเต เต ปริพฺพาชกา ตุณฺหี อเหสุํ.

๕๒. อถ โข สนฺธาโน คหปติ เยน นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา นิคฺโรเธน ปริพฺพาชเกน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สนฺธาโน คหปติ นิคฺโรธํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘อฺถา โข อิเม โภนฺโต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา สงฺคมฺม สมาคมฺม อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ. เสยฺยถิทํ – ราชกถํ…เป… อิติภวาภวกถํ อิติ วา. อฺถา โข [จ (สี. ปี.)] ปน โส ภควา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวติ อปฺปสทฺทานิ อปฺปนิคฺโฆสานิ วิชนวาตานิ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกานิ ปฏิสลฺลานสารุปฺปานี’’ติ.

๕๓. เอวํ วุตฺเต นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก สนฺธานํ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘ยคฺเฆ คหปติ, ชาเนยฺยาสิ, เกน สมโณ โคตโม สทฺธึ สลฺลปติ, เกน สากจฺฉํ สมาปชฺชติ, เกน ปฺาเวยฺยตฺติยํ สมาปชฺชติ? สุฺาคารหตา สมณสฺส โคตมสฺส ปฺา อปริสาวจโร สมโณ โคตโม นาลํ สลฺลาปาย. โส อนฺตมนฺตาเนว เสวติ [อนฺตปนฺตาเนว (สฺยา.)]. เสยฺยถาปิ นาม โคกาณา ปริยนฺตจารินี อนฺตมนฺตาเนว เสวติ. เอวเมว สุฺาคารหตา สมณสฺส โคตมสฺส ปฺา; อปริสาวจโร สมโณ โคตโม; นาลํ สลฺลาปาย. โส อนฺตมนฺตาเนว เสวติ. อิงฺฆ, คหปติ, สมโณ โคตโม อิมํ ปริสํ อาคจฺเฉยฺย, เอกปฺเหเนว นํ สํสาเทยฺยาม [สํหเรยฺยาม (ก.)], ตุจฺฉกุมฺภีว นํ มฺเ โอโรเธยฺยามา’’ติ.

๕๔. อสฺโสสิ โข ภควา ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย สนฺธานสฺส คหปติสฺส นิคฺโรเธน ปริพฺพาชเกน สทฺธึ อิมํ กถาสลฺลาปํ. อถ โข ภควา คิชฺฌกูฏา ปพฺพตา โอโรหิตฺวา เยน สุมาคธาย ตีเร โมรนิวาโป เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา สุมาคธาย ตีเร โมรนิวาเป อพฺโภกาเส จงฺกมิ. อทฺทสา โข นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ สุมาคธาย ตีเร โมรนิวาเป อพฺโภกาเส จงฺกมนฺตํ. ทิสฺวาน สกํ ปริสํ สณฺาเปสิ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต โหนฺตุ, มา โภนฺโต สทฺทมกตฺถ, อยํ สมโณ โคตโม สุมาคธาย ตีเร โมรนิวาเป อพฺโภกาเส จงฺกมติ. อปฺปสทฺทกาโม โข ปน โส อายสฺมา, อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาที. อปฺเปว นาม อปฺปสทฺทํ ปริสํ วิทิตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺเยฺย. สเจ สมโณ โคตโม อิมํ ปริสํ อาคจฺเฉยฺย, อิมํ ตํ ปฺหํ ปุจฺเฉยฺยาม – ‘โก นาม โส, ภนฺเต, ภควโต ธมฺโม, เยน ภควา สาวเก วิเนติ, เยน ภควตา สาวกา วินีตา อสฺสาสปฺปตฺตา ปฏิชานนฺติ อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริย’นฺติ? เอวํ วุตฺเต เต ปริพฺพาชกา ตุณฺหี อเหสุํ.

ตโปชิคุจฺฉาวาโท

๕๕. อถ โข ภควา เยน นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมิ. อถ โข นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอตุ โข, ภนฺเต, ภควา, สฺวาคตํ, ภนฺเต, ภควโต. จิรสฺสํ โข, ภนฺเต, ภควา อิมํ ปริยายมกาสิ ยทิทํ อิธาคมนาย. นิสีทตุ, ภนฺเต, ภควา, อิทมาสนํ ปฺตฺต’’นฺติ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. นิคฺโรโธปิ โข ปริพฺพาชโก อฺตรํ นีจาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข นิคฺโรธํ ปริพฺพาชกํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กาย นุตฺถ, นิคฺโรธ, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ? เอวํ วุตฺเต, นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ, ‘‘อิธ มยํ, ภนฺเต, อทฺทสาม ภควนฺตํ สุมาคธาย ตีเร โมรนิวาเป อพฺโภกาเส จงฺกมนฺตํ, ทิสฺวาน เอวํ อโวจุมฺหา – ‘สเจ สมโณ โคตโม อิมํ ปริสํ อาคจฺเฉยฺย, อิมํ ตํ ปฺหํ ปุจฺเฉยฺยาม – โก นาม โส, ภนฺเต, ภควโต ธมฺโม, เยน ภควา สาวเก วิเนติ, เยน ภควตา สาวกา วินีตา อสฺสาสปฺปตฺตา ปฏิชานนฺติ อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริย’นฺติ? อยํ โข โน, ภนฺเต, อนฺตรากถา วิปฺปกตา; อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ.

๕๖. ‘‘ทุชฺชานํ โข เอตํ, นิคฺโรธ, ตยา อฺทิฏฺิเกน อฺขนฺติเกน อฺรุจิเกน อฺตฺราโยเคน อฺตฺราจริยเกน, เยนาหํ สาวเก วิเนมิ , เยน มยา สาวกา วินีตา อสฺสาสปฺปตฺตา ปฏิชานนฺติ อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริยํ. อิงฺฆ ตฺวํ มํ, นิคฺโรธ, สเก อาจริยเก อธิเชคุจฺเฉ ปฺหํ ปุจฺฉ – ‘กถํ สนฺตา นุ โข, ภนฺเต, ตโปชิคุจฺฉา ปริปุณฺณา โหติ, กถํ อปริปุณฺณา’ติ? เอวํ วุตฺเต เต ปริพฺพาชกา อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเหสุํ – ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, สมณสฺส โคตมสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา, ยตฺร หิ นาม สกวาทํ เปสฺสติ, ปรวาเทน ปวาเรสฺสตี’’ติ.

๕๗. อถ โข นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก เต ปริพฺพาชเก อปฺปสทฺเท กตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มยํ โข, ภนฺเต, ตโปชิคุจฺฉาวาทา [ตโรชิคุจฺฉํสาโรทา (ก.)] ตโปชิคุจฺฉาสารา ตโปชิคุจฺฉาอลฺลีนา วิหราม . กถํ สนฺตา นุ โข, ภนฺเต, ตโปชิคุจฺฉา ปริปุณฺณา โหติ, กถํ อปริปุณฺณา’’ติ?

‘‘อิธ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี อเจลโก โหติ มุตฺตาจาโร, หตฺถาปเลขโน [หตฺถาวเลขโน (สฺยา.)], น เอหิภทฺทนฺติโก, น ติฏฺภทฺทนฺติโก, นาภิหฏํ , น อุทฺทิสฺสกตํ, น นิมนฺตนํ สาทิยติ, โส น กุมฺภิมุขา ปฏิคฺคณฺหาติ, น กโฬปิมุขา ปฏิคฺคณฺหาติ, น เอฬกมนฺตรํ, น ทณฺฑมนฺตรํ, น มุสลมนฺตรํ, น ทฺวินฺนํ ภุฺชมานานํ, น คพฺภินิยา, น ปายมานาย, น ปุริสนฺตรคตาย, น สงฺกิตฺตีสุ, น ยตฺถ สา อุปฏฺิโต โหติ, น ยตฺถ มกฺขิกา สณฺฑสณฺฑจารินี, น มจฺฉํ, น มํสํ, น สุรํ, น เมรยํ, น ถุโสทกํ ปิวติ, โส เอกาคาริโก วา โหติ เอกาโลปิโก, ทฺวาคาริโก วา โหติ ทฺวาโลปิโก, สตฺตาคาริโก วา โหติ สตฺตาโลปิโก, เอกิสฺสาปิ ทตฺติยา ยาเปติ, ทฺวีหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ, สตฺตหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ; เอกาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ, ทฺวีหิกมฺปิ [ทฺวาหิกํปิ (สี. สฺยา.)] อาหารํ อาหาเรติ, สตฺตาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ, อิติ เอวรูปํ อทฺธมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. โส สากภกฺโข วา โหติ, สามากภกฺโข วา โหติ, นีวารภกฺโข วา โหติ, ททฺทุลภกฺโข วา โหติ, หฏภกฺโข วา โหติ, กณภกฺโข วา โหติ, อาจามภกฺโข วา โหติ, ปิฺากภกฺโข วา โหติ, ติณภกฺโข วา โหติ, โคมยภกฺโข วา โหติ; วนมูลผลาหาโร ยาเปติ ปวตฺตผลโภชี. โส สาณานิปิ ธาเรติ , มสาณานิปิ ธาเรติ, ฉวทุสฺสานิปิ ธาเรติ, ปํสุกูลานิปิ ธาเรติ, ติรีฏานิปิ ธาเรติ, อชินมฺปิ ธาเรติ, อชินกฺขิปมฺปิ ธาเรติ, กุสจีรมฺปิ ธาเรติ, วากจีรมฺปิ ธาเรติ, ผลกจีรมฺปิ ธาเรติ, เกสกมฺพลมฺปิ ธาเรติ, วาฬกมฺพลมฺปิ ธาเรติ, อุลูกปกฺขมฺปิ ธาเรติ, เกสมสฺสุโลจโกปิ โหติ เกสมสฺสุโลจนานุโยคมนุยุตฺโต , อุพฺภฏฺโกปิ [อุภฏฺโกปิ (สฺยา.), อุพฺภฏฺิโกปิ (ก.)] โหติ อาสนปฏิกฺขิตฺโต, อุกฺกุฏิโกปิ โหติ อุกฺกุฏิกปฺปธานมนุยุตฺโต, กณฺฏกาปสฺสยิโกปิ โหติ กณฺฏกาปสฺสเย เสยฺยํ กปฺเปติ, ผลกเสยฺยมฺปิ กปฺเปติ, ถณฺฑิลเสยฺยมฺปิ กปฺเปติ, เอกปสฺสยิโกปิ โหติ รโชชลฺลธโร, อพฺโภกาสิโกปิ โหติ ยถาสนฺถติโก, เวกฏิโกปิ โหติ วิกฏโภชนานุโยคมนุยุตฺโต, อปานโกปิ โหติ อปานกตฺตมนุยุตฺโต, สายตติยกมฺปิ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. ตํ กึ มฺสิ, นิคฺโรธ, ยทิ เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริปุณฺณา วา โหติ อปริปุณฺณา วา’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริปุณฺณา โหติ, โน อปริปุณฺณา’’ติ. ‘‘เอวํ ปริปุณฺณายปิ โข อหํ, นิคฺโรธ, ตโปชิคุจฺฉาย อเนกวิหิเต อุปกฺกิเลเส วทามี’’ติ.

อุปกฺกิเลโส

๕๘. ‘‘ยถา กถํ ปน, ภนฺเต, ภควา เอวํ ปริปุณฺณาย ตโปชิคุจฺฉาย อเนกวิหิเต อุปกฺกิเลเส วทตี’’ติ? ‘‘อิธ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป. อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา อตฺตานุกฺกํเสติ ปรํ วมฺเภติ. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา อตฺตานุกฺกํเสติ ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา มชฺชติ มุจฺฉติ ปมาทมาปชฺชติ [มทมาปชฺชติ (สฺยา.)]. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา มชฺชติ มุจฺฉติ ปมาทมาปชฺชติ. อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.

๕๙. ‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติ, โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติ, โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป. อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติ, โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน อตฺตานุกฺกํเสติ ปรํ วมฺเภติ. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติ, โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน อตฺตานุกฺกํเสติ ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติ, โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน มชฺชติ มุจฺฉติ ปมาทมาปชฺชติ. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติ, โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน มชฺชติ มุจฺฉติ ปมาทมาปชฺชติ. อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.

๖๐. ‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี โภชเนสุ โวทาสํ อาปชฺชติ – ‘อิทํ เม ขมติ, อิทํ เม นกฺขมตี’ติ. โส ยฺจ [ยํ หิ (สี. ปี.)] ขฺวสฺส นกฺขมติ, ตํ สาเปกฺโข ปชหติ. ยํ ปนสฺส ขมติ, ตํ คธิโต [คถิโต (สี. ปี.)] มุจฺฉิโต อชฺฌาปนฺโน อนาทีนวทสฺสาวี อนิสฺสรณปฺโ ปริภุฺชติ…เป… อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ ลาภสกฺการสิโลกนิกนฺติเหตุ – ‘สกฺกริสฺสนฺติ มํ ราชาโน ราชมหามตฺตา ขตฺติยา พฺราหฺมณา คหปติกา ติตฺถิยา’ติ…เป… อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.

๖๑. ‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี อฺตรํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อปสาเทตา [อปสาเรตา (ก.)] โหติ – ‘กึ ปนายํ สมฺพหุลาชีโว [พหุลาชีโว (สี. ปี.)] สพฺพํ สํภกฺเขติ. เสยฺยถิทํ – มูลพีชํ ขนฺธพีชํ ผฬุพีชํ อคฺคพีชํ พีชพีชเมว ปฺจมํ, อสนิวิจกฺกํ ทนฺตกูฏํ, สมณปฺปวาเทนา’ติ…เป… อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ปสฺสติ อฺตรํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา กุเลสุ สกฺกริยมานํ ครุกริยมานํ มานิยมานํ ปูชิยมานํ. ทิสฺวา ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อิมฺหิ นาม สมฺพหุลาชีวํ กุเลสุ สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ. มํ ปน ตปสฺสึ ลูขาชีวึ กุเลสุ น สกฺกโรนฺติ น ครุํ กโรนฺติ น มาเนนฺติ น ปูเชนฺตี’ติ, อิติ โส อิสฺสามจฺฉริยํ กุเลสุ อุปฺปาเทตา โหติ…เป… อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.

๖๒. ‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี อาปาถกนิสาที โหติ…เป… อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี อตฺตานํ อทสฺสยมาโน กุเลสุ จรติ – ‘อิทมฺปิ เม ตปสฺมึ อิทมฺปิ เม ตปสฺมิ’นฺติ…เป… อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี กิฺจิเทว ปฏิจฺฉนฺนํ เสวติ. โส ‘ขมติ เต อิท’นฺติ ปุฏฺโ สมาโน อกฺขมมานํ อาห – ‘ขมตี’ติ. ขมมานํ อาห – ‘นกฺขมตี’ติ. อิติ โส สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ…เป… อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตถาคตสฺส วา ตถาคตสาวกสฺส วา ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส สนฺตํเยว ปริยายํ อนุฺเยฺยํ นานุชานาติ…เป… อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.

๖๓. ‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี โกธโน โหติ อุปนาหี. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี โกธโน โหติ อุปนาหี. อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี มกฺขี โหติ ปฬาสี [ปลาสี (สี. สฺยา. ปี.)] …เป… อิสฺสุกี โหติ มจฺฉรี… สโ โหติ มายาวี… ถทฺโธ โหติ อติมานี… ปาปิจฺโฉ โหติ ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คโต… มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต… สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี. อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, นิคฺโรธ, ยทิเม ตโปชิคุจฺฉา [ตโปชิคุจฺฉาย (?)] อุปกฺกิเลสา วา อนุปกฺกิเลสา วา’’ติ? ‘‘อทฺธา โข อิเม, ภนฺเต, ตโปชิคุจฺฉา [ตโปชิคุจฺฉาย (?)] อุปกฺกิเลสา [อุปกฺกิเลสา โหติ (ก.)], โน อนุปกฺกิเลสา. านํ โข ปเนตํ, ภนฺเต, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ตปสฺสี สพฺเพเหว อิเมหิ อุปกฺกิเลเสหิ สมนฺนาคโต อสฺส; โก ปน วาโท อฺตรฺตเรนา’’ติ.

ปริสุทฺธปปฏิกปฺปตฺตกถา

๖๔. ‘‘อิธ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา น อตฺตมโน โหติ น ปริปุณฺณสงฺกปฺโป. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา น อตฺตมโน โหติ น ปริปุณฺณสงฺกปฺโป. เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา น อตฺตานุกฺกํเสติ น ปรํ วมฺเภติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา น มชฺชติ น มุจฺฉติ น ปมาทมาปชฺชติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.

๖๕. ‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติ, โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน น อตฺตมโน โหติ น ปริปุณฺณสงฺกปฺโป…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติ, โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน น อตฺตานุกฺกํเสติ น ปรํ วมฺเภติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติ, โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน น มชฺชติ น มุจฺฉติ น ปมาทมาปชฺชติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.

๖๖. ‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี โภชเนสุ น โวทาสํ อาปชฺชติ – ‘อิทํ เม ขมติ, อิทํ เม นกฺขมตี’ติ. โส ยฺจ ขฺวสฺส นกฺขมติ, ตํ อนเปกฺโข ปชหติ. ยํ ปนสฺส ขมติ , ตํ อคธิโต อมุจฺฉิโต อนชฺฌาปนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภุฺชติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี น ตปํ สมาทิยติ ลาภสกฺการสิโลกนิกนฺติเหตุ – ‘สกฺกริสฺสนฺติ มํ ราชาโน ราชมหามตฺตา ขตฺติยา พฺราหฺมณา คหปติกา ติตฺถิยา’ติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.

๖๗. ‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี อฺตรํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา นาปสาเทตา โหติ – ‘กึ ปนายํ สมฺพหุลาชีโว สพฺพํ สํภกฺเขติ. เสยฺยถิทํ – มูลพีชํ ขนฺธพีชํ ผฬุพีชํ อคฺคพีชํ พีชพีชเมว ปฺจมํ, อสนิวิจกฺกํ ทนฺตกูฏํ, สมณปฺปวาเทนา’ติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ปสฺสติ อฺตรํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา กุเลสุ สกฺกริยมานํ ครุ กริยมานํ มานิยมานํ ปูชิยมานํ. ทิสฺวา ตสฺส น เอวํ โหติ – ‘อิมฺหิ นาม สมฺพหุลาชีวํ กุเลสุ สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ. มํ ปน ตปสฺสึ ลูขาชีวึ กุเลสุ น สกฺกโรนฺติ น ครุํ กโรนฺติ น มาเนนฺติ น ปูเชนฺตี’ติ, อิติ โส อิสฺสามจฺฉริยํ กุเลสุ นุปฺปาเทตา โหติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.

๖๘. ‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี น อาปาถกนิสาที โหติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี น อตฺตานํ อทสฺสยมาโน กุเลสุ จรติ – ‘อิทมฺปิ เม ตปสฺมึ, อิทมฺปิ เม ตปสฺมิ’นฺติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี น กฺจิเทว ปฏิจฺฉนฺนํ เสวติ, โส – ‘ขมติ เต อิท’นฺติ ปุฏฺโ สมาโน อกฺขมมานํ อาห – ‘นกฺขมตี’ติ. ขมมานํ อาห – ‘ขมตี’ติ. อิติ โส สมฺปชานมุสา น ภาสิตา โหติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตถาคตสฺส วา ตถาคตสาวกสฺส วา ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส สนฺตํเยว ปริยายํ อนุฺเยฺยํ อนุชานาติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.

๖๙. ‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี อกฺโกธโน โหติ อนุปนาหี. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี อกฺโกธโน โหติ อนุปนาหี เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี อมกฺขี โหติ อปฬาสี…เป… อนิสฺสุกี โหติ อมจฺฉรี… อสโ โหติ อมายาวี… อตฺถทฺโธ โหติ อนติมานี… น ปาปิจฺโฉ โหติ น ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คโต… น มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ น อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต… น สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ น อาธานคฺคาหี สุปฺปฏินิสฺสคฺคี. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี น สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ น อาธานคฺคาหี สุปฺปฏินิสฺสคฺคี. เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, นิคฺโรธ, ยทิ เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริสุทฺธา วา โหติ อปริสุทฺธา วา’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริสุทฺธา โหติ โน อปริสุทฺธา, อคฺคปฺปตฺตา จ สารปฺปตฺตา จา’’ติ. ‘‘น โข, นิคฺโรธ, เอตฺตาวตา ตโปชิคุจฺฉา อคฺคปฺปตฺตา จ โหติ สารปฺปตฺตา จ; อปิ จ โข ปปฏิกปฺปตฺตา [ปปฺปฏิกปตฺตา (ก.)] โหตี’’ติ.

ปริสุทฺธตจปฺปตฺตกถา

๗๐. ‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, ตโปชิคุจฺฉา อคฺคปฺปตฺตา จ โหติ สารปฺปตฺตา จ? สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา ตโปชิคุจฺฉาย อคฺคฺเว ปาเปตุ, สารฺเว ปาเปตู’’ติ. ‘‘อิธ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ. กถฺจ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ? อิธ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี น ปาณํ อติปาเตติ [อติปาเปติ (ก. สี. ปี. ก.)], น ปาณํ อติปาตยติ, น ปาณมติปาตยโต สมนุฺโ โหติ . น อทินฺนํ อาทิยติ, น อทินฺนํ อาทิยาเปติ, น อทินฺนํ อาทิยโต สมนุฺโ โหติ. น มุสา ภณติ, น มุสา ภณาเปติ, น มุสา ภณโต สมนุฺโ โหติ. น ภาวิตมาสีสติ [น ภาวิตมาสึ สติ (สี. สฺยา. ปี.)], น ภาวิตมาสีสาเปติ, น ภาวิตมาสีสโต สมนุฺโ โหติ. เอวํ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ.

‘‘ยโต โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ, อทุํ จสฺส โหติ ตปสฺสิตาย. โส อภิหรติ โน หีนายาวตฺตติ. โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺชํ. โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ. พฺยาปาทปฺปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี, พฺยาปาทปฺปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ. ถินมิทฺธํ [ถีนมิทฺธํ (สี. สฺยา. ปี.)] ปหาย วิคตถินมิทฺโธ วิหรติ อาโลกสฺี สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ. วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติ.

๗๑. ‘‘โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ. ตถา ทุติยํ. ตถา ตติยํ. ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ. ตถา ทุติยํ. ตถา ตติยํ. ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, นิคฺโรธ. ยทิ เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริสุทฺธา วา โหติ อปริสุทฺธา วา’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริสุทฺธา โหติ โน อปริสุทฺธา, อคฺคปฺปตฺตา จ สารปฺปตฺตา จา’’ติ. ‘‘น โข, นิคฺโรธ, เอตฺตาวตา ตโปชิคุจฺฉา อคฺคปฺปตฺตา จ โหติ สารปฺปตฺตา จ; อปิ จ โข ตจปฺปตฺตา โหตี’’ติ.

ปริสุทฺธเผคฺคุปฺปตฺตกถา

๗๒. ‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, ตโปชิคุจฺฉา อคฺคปฺปตฺตา จ โหติ สารปฺปตฺตา จ? สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา ตโปชิคุจฺฉาย อคฺคฺเว ปาเปตุ, สารฺเว ปาเปตู’’ติ. ‘‘อิธ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ. กถฺจ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ…เป… ยโต โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ, อทุํ จสฺส โหติ ตปสฺสิตาย. โส อภิหรติ โน หีนายาวตฺตติ. โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ…เป… โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ เมตฺตาสหคเตน เจตสา…เป… กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ, ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, นิคฺโรธ, ยทิ เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริสุทฺธา วา โหติ อปริสุทฺธา วา’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริสุทฺธา โหติ, โน อปริสุทฺธา, อคฺคปฺปตฺตา จ สารปฺปตฺตา จา’’ติ. ‘‘น โข, นิคฺโรธ, เอตฺตาวตา ตโปชิคุจฺฉา อคฺคปฺปตฺตา จ โหติ สารปฺปตฺตา จ; อปิ จ โข เผคฺคุปฺปตฺตา โหตี’’ติ.

ปริสุทฺธอคฺคปฺปตฺตสารปฺปตฺตกถา

๗๓. ‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, ตโปชิคุจฺฉา อคฺคปฺปตฺตา จ โหติ สารปฺปตฺตา จ? สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา ตโปชิคุจฺฉาย อคฺคฺเว ปาเปตุ, สารฺเว ปาเปตู’’ติ. ‘‘อิธ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ. กถฺจ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ…เป… ยโต โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ, อทุํ จสฺส โหติ ตปสฺสิตาย. โส อภิหรติ โน หีนายาวตฺตติ. โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ…เป… โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ เมตฺตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต, ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต, ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, นิคฺโรธ, ยทิ เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริสุทฺธา วา โหติ อปริสุทฺธา วา’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริสุทฺธา โหติ โน อปริสุทฺธา, อคฺคปฺปตฺตา จ สารปฺปตฺตา จา’’ติ.

๗๔. ‘‘เอตฺตาวตา โข, นิคฺโรธ, ตโปชิคุจฺฉา อคฺคปฺปตฺตา จ โหติ สารปฺปตฺตา จ. อิติ โข, นิคฺโรธ [อิติ นิคฺโรธ (สฺยา.)], ยํ มํ ตฺวํ อวจาสิ – ‘โก นาม โส, ภนฺเต, ภควโต ธมฺโม, เยน ภควา สาวเก วิเนติ, เยน ภควตา สาวกา วินีตา อสฺสาสปฺปตฺตา ปฏิชานนฺติ อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริย’นฺติ. อิติ โข ตํ, นิคฺโรธ, านํ อุตฺตริตรฺจ ปณีตตรฺจ, เยนาหํ สาวเก วิเนมิ, เยน มยา สาวกา วินีตา อสฺสาสปฺปตฺตา ปฏิชานนฺติ อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริย’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต, เต ปริพฺพาชกา อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเหสุํ – ‘‘เอตฺถ มยํ อนสฺสาม สาจริยกา, น มยํ อิโต ภิยฺโย อุตฺตริตรํ ปชานามา’’ติ.

นิคฺโรธสฺส ปชฺฌายนํ

๗๕. ยทา อฺาสิ สนฺธาโน คหปติ – ‘‘อฺทตฺถุ โข ทานิเม อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา ภควโต ภาสิตํ สุสฺสูสนฺติ, โสตํ โอทหนฺติ, อฺาจิตฺตํ อุปฏฺาเปนฺตี’’ติ. อถ [อถ นํ (ก.)] นิคฺโรธํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘อิติ โข, ภนฺเต นิคฺโรธ, ยํ มํ ตฺวํ อวจาสิ – ‘ยคฺเฆ, คหปติ, ชาเนยฺยาสิ, เกน สมโณ โคตโม สทฺธึ สลฺลปติ, เกน สากจฺฉํ สมาปชฺชติ, เกน ปฺาเวยฺยตฺติยํ สมาปชฺชติ, สุฺาคารหตา สมณสฺส โคตมสฺส ปฺา, อปริสาวจโร สมโณ โคตโม นาลํ สลฺลาปาย, โส อนฺตมนฺตาเนว เสวติ; เสยฺยถาปิ นาม โคกาณา ปริยนฺตจารินี อนฺตมนฺตาเนว เสวติ. เอวเมว สุฺาคารหตา สมณสฺส โคตมสฺส ปฺา, อปริสาวจโร สมโณ โคตโม นาลํ สลฺลาปาย; โส อนฺตมนฺตาเนว เสวติ; อิงฺฆ, คหปติ, สมโณ โคตโม อิมํ ปริสํ อาคจฺเฉยฺย, เอกปฺเหเนว นํ สํสาเทยฺยาม, ตุจฺฉกุมฺภีว นํ มฺเ โอโรเธยฺยามา’ติ. อยํ โข โส, ภนฺเต, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อิธานุปฺปตฺโต, อปริสาวจรํ ปน นํ กโรถ, โคกาณํ ปริยนฺตจารินึ กโรถ, เอกปฺเหเนว นํ สํสาเทถ, ตุจฺฉกุมฺภีว นํ โอโรเธถา’’ติ. เอวํ วุตฺเต, นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขนฺโธ อโธมุโข ปชฺฌายนฺโต อปฺปฏิภาโน นิสีทิ.

๗๖. อถ โข ภควา นิคฺโรธํ ปริพฺพาชกํ ตุณฺหีภูตํ มงฺกุภูตํ ปตฺตกฺขนฺธํ อโธมุขํ ปชฺฌายนฺตํ อปฺปฏิภานํ วิทิตฺวา นิคฺโรธํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร, นิคฺโรธ, ภาสิตา เต เอสา วาจา’’ติ? ‘‘สจฺจํ , ภนฺเต, ภาสิตา เม เอสา วาจา, ยถาพาเลน ยถามูฬฺเหน ยถาอกุสเลนา’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, นิคฺโรธ. กินฺติ เต สุตํ ปริพฺพาชกานํ วุฑฺฒานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘เย เต อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เอวํ สุ เต ภควนฺโต สํคมฺม สมาคมฺม อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ. เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ…เป… อิติภวาภวกถํ อิติ วา. เสยฺยถาปิ ตฺวํ เอตรหิ สาจริยโก. อุทาหุ, เอวํ สุ เต ภควนฺโต อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ อปฺปสทฺทานิ อปฺปนิคฺโฆสานิ วิชนวาตานิ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกานิ ปฏิสลฺลานสารุปฺปานิ, เสยฺยถาปาหํ เอตรหี’ติ.

‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต. ปริพฺพาชกานํ วุฑฺฒานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘เย เต อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา , น เอวํ สุ [นาสฺสุ (สี. ปี.)] เต ภควนฺโต สํคมฺม สมาคมฺม อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ. เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ…เป… อิติภวาภวกถํ อิติ วา, เสยฺยถาปาหํ เอตรหิ สาจริยโก. เอวํ สุ เต ภควนฺโต อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ อปฺปสทฺทานิ อปฺปนิคฺโฆสานิ วิชนวาตานิ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกานิ ปฏิสลฺลานสารุปฺปานิ, เสยฺยถาปิ ภควา เอตรหี’’’ติ.

‘‘ตสฺส เต, นิคฺโรธ, วิฺุสฺส สโต มหลฺลกสฺส น เอตทโหสิ – ‘พุทฺโธ โส ภควา โพธาย ธมฺมํ เทเสติ, ทนฺโต โส ภควา ทมถาย ธมฺมํ เทเสติ, สนฺโต โส ภควา สมถาย ธมฺมํ เทเสติ, ติณฺโณ โส ภควา ตรณาย ธมฺมํ เทเสติ, ปรินิพฺพุโต โส ภควา ปรินิพฺพานาย ธมฺมํ เทเสตี’’’ติ?

พฺรหฺมจริยปริโยสานสจฺฉิกิริยา

๗๗. เอวํ วุตฺเต, นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺจโย มํ, ภนฺเต, อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, ยฺวาหํ เอวํ ภควนฺตํ อวจาสึ. ตสฺส เม, ภนฺเต, ภควา อจฺจยํ อจฺจยโต ปฏิคฺคณฺหาตุ อายตึ สํวรายา’’ติ. ‘‘ตคฺฆ ตฺวํ [ตํ (สี. สฺยา. ปี.)], นิคฺโรธ, อจฺจโย อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, โย มํ ตฺวํ เอวํ อวจาสิ. ยโต จ โข ตฺวํ, นิคฺโรธ, อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรสิ, ตํ เต มยํ ปฏิคฺคณฺหาม. วุทฺธิ เหสา, นิคฺโรธ, อริยสฺส วินเย, โย อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรติ อายตึ สํวรํ อาปชฺชติ. อหํ โข ปน, นิคฺโรธ, เอวํ วทามิ –

‘เอตุ วิฺู ปุริโส อสโ อมายาวี อุชุชาติโก, อหมนุสาสามิ อหํ ธมฺมํ เทเสมิ. ยถานุสิฏฺํ ตถา [ยถานุสิฏฺํ (?)] ปฏิปชฺชมาโน, ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ สตฺตวสฺสานิ. ติฏฺนฺตุ, นิคฺโรธ, สตฺต วสฺสานิ. เอตุ วิฺู ปุริโส อสโ อมายาวี อุชุชาติโก, อหมนุสาสามิ อหํ ธมฺมํ เทเสมิ. ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน, ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ ฉ วสฺสานิ. ปฺจ วสฺสานิ… จตฺตาริ วสฺสานิ… ตีณิ วสฺสานิ… ทฺเว วสฺสานิ… เอกํ วสฺสํ. ติฏฺตุ, นิคฺโรธ, เอกํ วสฺสํ. เอตุ วิฺู ปุริโส อสโ อมายาวี อุชุชาติโก อหมนุสาสามิ อหํ ธมฺมํ เทเสมิ. ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน, ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ สตฺต มาสานิ. ติฏฺนฺตุ, นิคฺโรธ, สตฺต มาสานิ… ฉ มาสานิ… ปฺจ มาสานิ … จตฺตาริ มาสานิ… ตีณิ มาสานิ… ทฺเว มาสานิ… เอกํ มาสํ… อฑฺฒมาสํ. ติฏฺตุ, นิคฺโรธ, อฑฺฒมาโส. เอตุ วิฺู ปุริโส อสโ อมายาวี อุชุชาติโก, อหมนุสาสามิ อหํ ธมฺมํ เทเสมิ. ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน, ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ สตฺตาหํ’.

ปริพฺพาชกานํ ปชฺฌายนํ

๗๘. ‘‘สิยา โข ปน เต, นิคฺโรธ, เอวมสฺส – ‘อนฺเตวาสิกมฺยตา โน สมโณ โคตโม เอวมาหา’ติ. น โข ปเนตํ, นิคฺโรธ, เอวํ ทฏฺพฺพํ. โย เอว โว [เต (สี. สฺยา.)] อาจริโย, โส เอว โว อาจริโย โหตุ. สิยา โข ปน เต, นิคฺโรธ, เอวมสฺส – ‘อุทฺเทสา โน จาเวตุกาโม สมโณ โคตโม เอวมาหา’ติ. น โข ปเนตํ, นิคฺโรธ , เอวํ ทฏฺพฺพํ. โย เอว โว อุทฺเทโส โส เอว โว อุทฺเทโส โหตุ. สิยา โข ปน เต, นิคฺโรธ, เอวมสฺส – ‘อาชีวา โน จาเวตุกาโม สมโณ โคตโม เอวมาหา’ติ. น โข ปเนตํ, นิคฺโรธ, เอวํ ทฏฺพฺพํ. โย เอว โว อาชีโว, โส เอว โว อาชีโว โหตุ. สิยา โข ปน เต, นิคฺโรธ, เอวมสฺส – ‘เย โน ธมฺมา อกุสลา อกุสลสงฺขาตา สาจริยกานํ, เตสุ ปติฏฺาเปตุกาโม สมโณ โคตโม เอวมาหา’ติ. น โข ปเนตํ, นิคฺโรธ, เอวํ ทฏฺพฺพํ. อกุสลา เจว โว เต ธมฺมา [โวธมฺมา (ก.), เต ธมฺมา (สฺยา.)] โหนฺตุ อกุสลสงฺขาตา จ สาจริยกานํ. สิยา โข ปน เต , นิคฺโรธ, เอวมสฺส – ‘เย โน ธมฺมา กุสลา กุสลสงฺขาตา สาจริยกานํ, เตหิ วิเวเจตุกาโม สมโณ โคตโม เอวมาหา’ติ. น โข ปเนตํ, นิคฺโรธ, เอวํ ทฏฺพฺพํ. กุสลา เจว โว เต ธมฺมา โหนฺตุ กุสลสงฺขาตา จ สาจริยกานํ. อิติ ขฺวาหํ, นิคฺโรธ, เนว อนฺเตวาสิกมฺยตา เอวํ วทามิ, นปิ อุทฺเทสา จาเวตุกาโม เอวํ วทามิ, นปิ อาชีวา จาเวตุกาโม เอวํ วทามิ, นปิ เย โว ธมฺมา [นปิ เย โข ธมฺมา (สี.), นปิ เย เต ธมฺมา (สฺยา.), นปิ เย จ โว ธมฺมา (ก.)] อกุสลา อกุสลสงฺขาตา สาจริยกานํ, เตสุ ปติฏฺาเปตุกาโม เอวํ วทามิ, นปิ เย โว ธมฺมา [นปิ เย โข ธมฺมา (สี.), นปิ เย เต ธมฺมา (สฺยา.), นปิ เย จ โว ธมฺมา (ก.)] กุสลา กุสลสงฺขาตา สาจริยกานํ, เตหิ วิเวเจตุกาโม เอวํ วทามิ. สนฺติ จ โข, นิคฺโรธ, อกุสลา ธมฺมา อปฺปหีนา สํกิเลสิกา โปโนพฺภวิกา [โปโนภวิกา (ก.)] สทรา [สทฺทรา (ปี. ก.), สทรถา (สฺยา. ก.)] ทุกฺขวิปากา อายตึ ชาติชรามรณิยา, เยสาหํ ปหานาย ธมฺมํ เทเสมิ. ยถาปฏิปนฺนานํ โว สํกิเลสิกา ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานียา ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถา’’ติ.

๗๙. เอวํ วุตฺเต, เต ปริพฺพาชกา ตุณฺหีภูตา มงฺกุภูตา ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา ปชฺฌายนฺตา อปฺปฏิภานา นิสีทึสุ ยถา ตํ มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺตา. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘สพฺเพ ปิเม โมฆปุริสา ผุฏฺา ปาปิมตา. ยตฺร หิ นาม เอกสฺสปิ น เอวํ ภวิสฺสติ – ‘หนฺท มยํ อฺาณตฺถมฺปิ สมเณ โคตเม พฺรหฺมจริยํ จราม, กึ กริสฺสติ สตฺตาโห’’’ติ? อถ โข ภควา อุทุมฺพริกาย ปริพฺพาชการาเม สีหนาทํ นทิตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต ปจฺจุปฏฺาสิ [ปจฺจุฏฺาสิ (สี. สฺยา. ปี.)]. สนฺธาโน ปน คหปติ ตาวเทว ราชคหํ ปาวิสีติ.

อุทุมฺพริกสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทุติยํ.