📜

๓. จกฺกวตฺติสุตฺตํ

อตฺตทีปสรณตา

๘๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา มคเธสุ วิหรติ มาตุลายํ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทฺทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘อตฺตทีปา, ภิกฺขเว, วิหรถ อตฺตสรณา อนฺสรณา, ธมฺมทีปา ธมฺมสรณา อนฺสรณา. กถฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตทีโป วิหรติ อตฺตสรโณ อนฺสรโณ, ธมฺมทีโป ธมฺมสรโณ อนฺสรโณ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี…เป… จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี…เป… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตทีโป วิหรติ อตฺตสรโณ อนฺสรโณ, ธมฺมทีโป ธมฺมสรโณ อนฺสรโณ.

‘‘โคจเร, ภิกฺขเว, จรถ สเก เปตฺติเก วิสเย. โคจเร, ภิกฺขเว, จรตํ สเก เปตฺติเก วิสเย น ลจฺฉติ มาโร โอตารํ, น ลจฺฉติ มาโร อารมฺมณํ [อารมณํ (?)]. กุสลานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ สมาทานเหตุ เอวมิทํ ปุฺํ ปวฑฺฒติ.

ทฬฺหเนมิจกฺกวตฺติราชา

๘๑. ‘‘ภูตปุพฺพํ , ภิกฺขเว, ราชา ทฬฺหเนมิ นาม อโหสิ จกฺกวตฺตี [จกฺกวตฺติ (สฺยา. ปี.)] ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺต รตนานิ อเหสุํ เสยฺยถิทํ – จกฺกรตนํอุ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนํ มณิรตนํ อิตฺถิรตนํ คหปติรตนํ ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา อเหสุํ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน [ธมฺเมน สเมน (สฺยา. ก.)] อภิวิชิย อชฺฌาวสิ.

๘๒. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา ทฬฺหเนมิ พหุนฺนํ วสฺสานํ พหุนฺนํ วสฺสสตานํ พหุนฺนํ วสฺสสหสฺสานํ อจฺจเยน อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘ยทา ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ปสฺเสยฺยาสิ ทิพฺพํ จกฺกรตนํ โอสกฺกิตํ านา จุตํ, อถ เม อาโรเจยฺยาสี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, โส ปุริโส รฺโ ทฬฺหเนมิสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อทฺทสา โข, ภิกฺขเว, โส ปุริโส พหุนฺนํ วสฺสานํ พหุนฺนํ วสฺสสตานํ พหุนฺนํ วสฺสสหสฺสานํ อจฺจเยน ทิพฺพํ จกฺกรตนํ โอสกฺกิตํ านา จุตํ, ทิสฺวาน เยน ราชา ทฬฺหเนมิ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ ทฬฺหเนมึ เอตทโวจ – ‘ยคฺเฆ, เทว, ชาเนยฺยาสิ, ทิพฺพํ เต จกฺกรตนํ โอสกฺกิตํ านา จุต’นฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา ทฬฺหเนมิ เชฏฺปุตฺตํ กุมารํ อามนฺตาเปตฺวา [อามนฺเตตฺวา (สฺยา. ก.)] เอตทโวจ – ‘ทิพฺพํ กิร เม, ตาต กุมาร, จกฺกรตนํ โอสกฺกิตํ านา จุตํ. สุตํ โข ปน เมตํ – ยสฺส รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ โอสกฺกติ านา จวติ, น ทานิ เตน รฺา จิรํ ชีวิตพฺพํ โหตีติ. ภุตฺตา โข ปน เม มานุสกา กามา, สมโย ทานิ เม ทิพฺเพ กาเม ปริเยสิตุํ. เอหิ ตฺวํ, ตาต กุมาร, อิมํ สมุทฺทปริยนฺตํ ปถวึ ปฏิปชฺช. อหํ ปน เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามี’ติ.

๘๓. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา ทฬฺหเนมิ เชฏฺปุตฺตํ กุมารํ สาธุกํ รชฺเช สมนุสาสิตฺวา เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิ. สตฺตาหปพฺพชิเต โข ปน, ภิกฺขเว, ราชิสิมฺหิ ทิพฺพํ จกฺกรตนํ อนฺตรธายิ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, อฺตโร ปุริโส เยน ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต [มุทฺธาวสิตฺโต (สี. สฺยา. ปี.) เอวมุปริปิ] เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ ขตฺติยํ มุทฺธาภิสิตฺตํ เอตทโวจ – ‘ยคฺเฆ, เทว, ชาเนยฺยาสิ, ทิพฺพํ จกฺกรตนํ อนฺตรหิต’นฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ทิพฺเพ จกฺกรตเน อนฺตรหิเต อนตฺตมโน อโหสิ, อนตฺตมนตฺจ ปฏิสํเวเทสิ. โส เยน ราชิสิ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ราชิสึ เอตทโวจ – ‘ยคฺเฆ, เทว, ชาเนยฺยาสิ, ทิพฺพํ จกฺกรตนํ อนฺตรหิต’นฺติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, ราชิสิ ราชานํ ขตฺติยํ มุทฺธาภิสิตฺตํ เอตทโวจ – ‘มา โข ตฺวํ, ตาต, ทิพฺเพ จกฺกรตเน อนฺตรหิเต อนตฺตมโน อโหสิ, มา อนตฺตมนตฺจ ปฏิสํเวเทสิ, น หิ เต, ตาต, ทิพฺพํ จกฺกรตนํ เปตฺติกํ ทายชฺชํ. อิงฺฆ ตฺวํ, ตาต, อริเย จกฺกวตฺติวตฺเต วตฺตาหิ. านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ เต อริเย จกฺกวตฺติวตฺเต วตฺตมานสฺส ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส สีสํนฺหาตสฺส [สีสํ นหาตสฺส (สี. ปี.), สีสนฺหาตสฺส (สฺยา.)] อุโปสถิกสฺส อุปริปาสาทวรคตสฺส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุภวิสฺสติ สหสฺสารํ สเนมิกํ สนาภิกํ สพฺพาการปริปูร’นฺติ.

จกฺกวตฺติอริยวตฺตํ

๘๔. ‘‘‘กตมํ ปน ตํ, เทว, อริยํ จกฺกวตฺติวตฺต’นฺติ ? ‘เตน หิ ตฺวํ, ตาต, ธมฺมํเยว นิสฺสาย ธมฺมํ สกฺกโรนฺโต ธมฺมํ ครุํ กโรนฺโต [ครุกโรนฺโต (สี. สฺยา. ปี.)] ธมฺมํ มาเนนฺโต ธมฺมํ ปูเชนฺโต ธมฺมํ อปจายมาโน ธมฺมทฺธโช ธมฺมเกตุ ธมฺมาธิปเตยฺโย ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺตึ สํวิทหสฺสุ อนฺโตชนสฺมึ พลกายสฺมึ ขตฺติเยสุ อนุยนฺเตสุ [อนุยุตฺเตสุ (สี. ปี.)] พฺราหฺมณคหปติเกสุ เนคมชานปเทสุ สมณพฺราหฺมเณสุ มิคปกฺขีสุ. มา จ เต, ตาต, วิชิเต อธมฺมกาโร ปวตฺติตฺถ. เย จ เต, ตาต, วิชิเต อธนา อสฺสุ, เตสฺจ ธนมนุปฺปเทยฺยาสิ [ธนมนุปฺปทชฺเชยฺยาสิ (สี. สฺยา. ปี.)]. เย จ เต, ตาต, วิชิเต สมณพฺราหฺมณา มทปฺปมาทา ปฏิวิรตา ขนฺติโสรจฺเจ นิวิฏฺา เอกมตฺตานํ ทเมนฺติ, เอกมตฺตานํ สเมนฺติ, เอกมตฺตานํ ปรินิพฺพาเปนฺติ, เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺเฉยฺยาสิ ปริคฺคณฺเหยฺยาสิ – ‘‘กึ, ภนฺเต, กุสลํ, กึ อกุสลํ, กึ สาวชฺชํ, กึ อนวชฺชํ, กึ เสวิตพฺพํ, กึ น เสวิตพฺพํ, กึ เม กรียมานํ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย อสฺส, กึ วา ปน เม กรียมานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย อสฺสา’’ติ? เตสํ สุตฺวา ยํ อกุสลํ ตํ อภินิวชฺเชยฺยาสิ, ยํ กุสลํ ตํ สมาทาย วตฺเตยฺยาสิ. อิทํ โข, ตาต, ตํ อริยํ จกฺกวตฺติวตฺต’นฺติ.

จกฺกรตนปาตุภาโว

๘๕. ‘‘‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ราชิสิสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อริเย จกฺกวตฺติวตฺเต [อริยํ จกฺกวตฺติวตฺตํ (ก.)] วตฺติ. ตสฺส อริเย จกฺกวตฺติวตฺเต วตฺตมานสฺส ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส สีสํนฺหาตสฺส อุโปสถิกสฺส อุปริปาสาทวรคตสฺส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุรโหสิ สหสฺสารํ สเนมิกํ สนาภิกํ สพฺพาการปริปูรํ. ทิสฺวาน รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘สุตํ โข ปน เมตํ – ยสฺส รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส สีสํนฺหาตสฺส อุโปสถิกสฺส อุปริปาสาทวรคตสฺส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุภวติ สหสฺสารํ สเนมิกํ สนาภิกํ สพฺพาการปริปูรํ , โส โหติ ราชา จกฺกวตฺตี’ติ. อสฺสํ นุ โข อหํ ราชา จกฺกวตฺตีติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตราสงฺคํ กริตฺวา วาเมน หตฺเถน ภิงฺการํ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน จกฺกรตนํ อพฺภุกฺกิริ – ‘ปวตฺตตุ ภวํ จกฺกรตนํ, อภิวิชินาตุ ภวํ จกฺกรตน’นฺติ.

‘‘อถ โข ตํ, ภิกฺขเว, จกฺกรตนํ ปุรตฺถิมํ ทิสํ ปวตฺติ, อนฺวเทว ราชา จกฺกวตฺตี สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. ยสฺมึ โข ปน, ภิกฺขเว, ปเทเส จกฺกรตนํ ปติฏฺาสิ, ตตฺถ ราชา จกฺกวตฺตี วาสํ อุปคจฺฉิ สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. เย โข ปน, ภิกฺขเว, ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต ราชานํ จกฺกวตฺตึ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘เอหิ โข, มหาราช, สฺวาคตํ เต [สาคตํ (สี. ปี.)] มหาราช, สกํ เต, มหาราช, อนุสาส, มหาราชา’ติ. ราชา จกฺกวตฺตี เอวมาห – ‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ, อทินฺนํ นาทาตพฺพํ, กาเมสุมิจฺฉา น จริตพฺพา, มุสา น ภาสิตพฺพา, มชฺชํ น ปาตพฺพํ, ยถาภุตฺตฺจ ภุฺชถา’ติ. เย โข ปน, ภิกฺขเว, ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อนุยนฺตา [อนุยุตฺตา (สี. ปี.)] อเหสุํ.

๘๖. ‘‘อถ โข ตํ, ภิกฺขเว, จกฺกรตนํ ปุรตฺถิมํ สมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา [อชฺโฌคเหตฺวา (สี. สฺยา. ปี.)] ปจฺจุตฺตริตฺวา ทกฺขิณํ ทิสํ ปวตฺติ…เป… ทกฺขิณํ สมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา ปจฺฉิมํ ทิสํ ปวตฺติ, อนฺวเทว ราชา จกฺกวตฺตี สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. ยสฺมึ โข ปน, ภิกฺขเว, ปเทเส จกฺกรตนํ ปติฏฺาสิ, ตตฺถ ราชา จกฺกวตฺตี วาสํ อุปคจฺฉิ สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. เย โข ปน, ภิกฺขเว, ปจฺฉิมาย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต ราชานํ จกฺกวตฺตึ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘เอหิ โข, มหาราช, สฺวาคตํ เต, มหาราช, สกํ เต, มหาราช, อนุสาส, มหาราชา’ติ. ราชา จกฺกวตฺตี เอวมาห – ‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ, อทินฺนํ นาทาตพฺพํ, กาเมสุมิจฺฉา น จริตพฺพา, มุสา น ภาสิตพฺพา, มชฺชํ น ปาตพฺพํ, ยถาภุตฺตฺจ ภุฺชถา’ติ. เย โข ปน, ภิกฺขเว, ปจฺฉิมาย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อนุยนฺตา อเหสุํ.

๘๗. ‘‘อถ โข ตํ, ภิกฺขเว, จกฺกรตนํ ปจฺฉิมํ สมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา อุตฺตรํ ทิสํ ปวตฺติ, อนฺวเทว ราชา จกฺกวตฺตี สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. ยสฺมึ โข ปน, ภิกฺขเว, ปเทเส จกฺกรตนํ ปติฏฺาสิ, ตตฺถ ราชา จกฺกวตฺตี วาสํ อุปคจฺฉิ สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. เย โข ปน, ภิกฺขเว, อุตฺตราย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต ราชานํ จกฺกวตฺตึ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘เอหิ โข, มหาราช, สฺวาคตํ เต, มหาราช , สกํ เต, มหาราช, อนุสาส, มหาราชา’ติ. ราชา จกฺกวตฺตี เอวมาห – ‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ, อทินฺนํ นาทาตพฺพํ, กาเมสุมิจฺฉา น จริตพฺพา, มุสา น ภาสิตพฺพา, มชฺชํ น ปาตพฺพํ, ยถาภุตฺตฺจ ภุฺชถา’ติ. เย โข ปน, ภิกฺขเว, อุตฺตราย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อนุยนฺตา อเหสุํ.

‘‘อถ โข ตํ, ภิกฺขเว, จกฺกรตนํ สมุทฺทปริยนฺตํ ปถวึ อภิวิชินิตฺวา ตเมว ราชธานึ ปจฺจาคนฺตฺวา รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อนฺเตปุรทฺวาเร อตฺถกรณปมุเข [อฑฺฑกรณปมุเข (ก.)] อกฺขาหตํ มฺเ อฏฺาสิ รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อนฺเตปุรํ อุปโสภยมานํ.

ทุติยาทิจกฺกวตฺติกถา

๘๘. ‘‘ทุติโยปิ โข, ภิกฺขเว, ราชา จกฺกวตฺตี…เป… ตติโยปิ โข, ภิกฺขเว, ราชา จกฺกวตฺตี… จตุตฺโถปิ โข, ภิกฺขเว, ราชา จกฺกวตฺตี… ปฺจโมปิ โข, ภิกฺขเว, ราชา จกฺกวตฺตี… ฉฏฺโปิ โข, ภิกฺขเว, ราชา จกฺกวตฺตี… สตฺตโมปิ โข, ภิกฺขเว, ราชา จกฺกวตฺตี พหุนฺนํ วสฺสานํ พหุนฺนํ วสฺสสตานํ พหุนฺนํ วสฺสสหสฺสานํ อจฺจเยน อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘ยทา ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ปสฺเสยฺยาสิ ทิพฺพํ จกฺกรตนํ โอสกฺกิตํ านา จุตํ, อถ เม อาโรเจยฺยาสี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, โส ปุริโส รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อทฺทสา โข , ภิกฺขเว, โส ปุริโส พหุนฺนํ วสฺสานํ พหุนฺนํ วสฺสสตานํ พหุนฺนํ วสฺสสหสฺสานํ อจฺจเยน ทิพฺพํ จกฺกรตนํ โอสกฺกิตํ านา จุตํ. ทิสฺวาน เยน ราชา จกฺกวตฺตี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ จกฺกวตฺตึ เอตทโวจ – ‘ยคฺเฆ , เทว, ชาเนยฺยาสิ, ทิพฺพํ เต จกฺกรตนํ โอสกฺกิตํ านา จุต’นฺติ?

๘๙. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา จกฺกวตฺตี เชฏฺปุตฺตํ กุมารํ อามนฺตาเปตฺวา เอตทโวจ – ‘ทิพฺพํ กิร เม, ตาต กุมาร, จกฺกรตนํ โอสกฺกิตํ, านา จุตํ, สุตํ โข ปน เมตํ – ยสฺส รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ โอสกฺกติ, านา จวติ, น ทานิ เตน รฺา จิรํ ชีวิตพฺพํ โหตีติ. ภุตฺตา โข ปน เม มานุสกา กามา, สมโย ทานิ เม ทิพฺเพ กาเม ปริเยสิตุํ, เอหิ ตฺวํ, ตาต กุมาร, อิมํ สมุทฺทปริยนฺตํ ปถวึ ปฏิปชฺช . อหํ ปน เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามี’ติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา จกฺกวตฺตี เชฏฺปุตฺตํ กุมารํ สาธุกํ รชฺเช สมนุสาสิตฺวา เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิ. สตฺตาหปพฺพชิเต โข ปน, ภิกฺขเว, ราชิสิมฺหิ ทิพฺพํ จกฺกรตนํ อนฺตรธายิ.

๙๐. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, อฺตโร ปุริโส เยน ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ ขตฺติยํ มุทฺธาภิสิตฺตํ เอตทโวจ – ‘ยคฺเฆ, เทว, ชาเนยฺยาสิ, ทิพฺพํ จกฺกรตนํ อนฺตรหิต’นฺติ? อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ทิพฺเพ จกฺกรตเน อนฺตรหิเต อนตฺตมโน อโหสิ. อนตฺตมนตฺจ ปฏิสํเวเทสิ; โน จ โข ราชิสึ อุปสงฺกมิตฺวา อริยํ จกฺกวตฺติวตฺตํ ปุจฺฉิ. โส สมเตเนว สุทํ ชนปทํ ปสาสติ. ตสฺส สมเตน ชนปทํ ปสาสโต ปุพฺเพนาปรํ ชนปทา น ปพฺพนฺติ, ยถา ตํ ปุพฺพกานํ ราชูนํ อริเย จกฺกวตฺติวตฺเต วตฺตมานานํ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, อมจฺจา ปาริสชฺชา คณกมหามตฺตา อนีกฏฺา โทวาริกา มนฺตสฺสาชีวิโน สนฺนิปติตฺวา ราชานํ ขตฺติยํ มุทฺธาภิสิตฺตํ เอตทโวจุํ – ‘น โข เต, เทว, สมเตน (สุทํ) ชนปทํ ปสาสโต ปุพฺเพนาปรํ ชนปทา ปพฺพนฺติ, ยถา ตํ ปุพฺพกานํ ราชูนํ อริเย จกฺกวตฺติวตฺเต วตฺตมานานํ. สํวิชฺชนฺติ โข เต, เทว, วิชิเต อมจฺจา ปาริสชฺชา คณกมหามตฺตา อนีกฏฺา โทวาริกา มนฺตสฺสาชีวิโน มยฺเจว อฺเ จ [อฺเ จ ปณฺฑิเต สมณพฺราหฺมเณ ปุจฺเฉยฺยาสิ (ก.)] เย มยํ อริยํ จกฺกวตฺติวตฺตํ ธาเรม. อิงฺฆ ตฺวํ, เทว, อมฺเห อริยํ จกฺกวตฺติวตฺตํ ปุจฺฉ. ตสฺส เต มยํ อริยํ จกฺกวตฺติวตฺตํ ปุฏฺา พฺยากริสฺสามา’ติ.

อายุวณฺณาทิปริยานิกถา

๙๑. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต อมจฺเจ ปาริสชฺเช คณกมหามตฺเต อนีกฏฺเ โทวาริเก มนฺตสฺสาชีวิโน สนฺนิปาเตตฺวา อริยํ จกฺกวตฺติวตฺตํ ปุจฺฉิ. ตสฺส เต อริยํ จกฺกวตฺติวตฺตํ ปุฏฺา พฺยากรึสุ. เตสํ สุตฺวา ธมฺมิกฺหิ โข รกฺขาวรณคุตฺตึ สํวิทหิ, โน จ โข อธนานํ ธนมนุปฺปทาสิ. อธนานํ ธเน อนนุปฺปทิยมาเน ทาลิทฺทิยํ เวปุลฺลมคมาสิ. ทาลิทฺทิเย เวปุลฺลํ คเต อฺตโร ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิ. ตเมนํ อคฺคเหสุํ. คเหตฺวา รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส ทสฺเสสุํ – ‘อยํ, เทว, ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยี’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ตํ ปุริสํ เอตทโวจ – ‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยี’ติ [อาทิยสีติ (สฺยา.)]? ‘สจฺจํ, เทวา’ติ. ‘กึ การณา’ติ? ‘น หิ, เทว, ชีวามี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ตสฺส ปุริสสฺส ธนมนุปฺปทาสิ – ‘อิมินา ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ธเนน อตฺตนา จ ชีวาหิ, มาตาปิตโร จ โปเสหิ, ปุตฺตทารฺจ โปเสหิ, กมฺมนฺเต จ ปโยเชหิ, สมณพฺราหฺมเณสุ [สมเณสุ พฺราหฺมเณสุ (พหูสุ)] อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฏฺาเปหิ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิก’นฺติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, โส ปุริโส รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสิ.

‘‘อฺตโรปิ โข, ภิกฺขเว, ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิ. ตเมนํ อคฺคเหสุํ. คเหตฺวา รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส ทสฺเสสุํ – ‘อยํ, เทว, ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยี’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ตํ ปุริสํ เอตทโวจ – ‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยี’ติ? ‘สจฺจํ, เทวา’ติ. ‘กึ การณา’ติ? ‘น หิ, เทว, ชีวามี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ตสฺส ปุริสสฺส ธนมนุปฺปทาสิ – ‘อิมินา ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ธเนน อตฺตนา จ ชีวาหิ, มาตาปิตโร จ โปเสหิ, ปุตฺตทารฺจ โปเสหิ, กมฺมนฺเต จ ปโยเชหิ, สมณพฺราหฺมเณสุ อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฏฺาเปหิ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิก’นฺติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, โส ปุริโส รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสิ .

๙๒. ‘‘อสฺโสสุํ โข, ภิกฺขเว, มนุสฺสา – ‘เย กิร, โภ, ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยนฺติ, เตสํ ราชา ธนมนุปฺปเทตี’ติ. สุตฺวาน เตสํ เอตทโหสิ – ‘ยํนูน มยมฺปิ ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิเยยฺยามา’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, อฺตโร ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิ. ตเมนํ อคฺคเหสุํ. คเหตฺวา รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส ทสฺเสสุํ – ‘อยํ, เทว, ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยี’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ตํ ปุริสํ เอตทโวจ – ‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยี’ติ? ‘สจฺจํ, เทวา’ติ. ‘กึ การณา’ติ? ‘น หิ, เทว, ชีวามี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ โย โย ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิสฺสติ, ตสฺส ตสฺส ธนมนุปฺปทสฺสามิ, เอวมิทํ อทินฺนาทานํ ปวฑฺฒิสฺสติ. ยํนูนาหํ อิมํ ปุริสํ สุนิเสธํ นิเสเธยฺยํ, มูลฆจฺจํ [มูลฆจฺฉํ (สฺยา.), มูลเฉชฺช (ก.)] กเรยฺยํ, สีสมสฺส ฉินฺเทยฺย’นฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ปุริเส อาณาเปสิ – ‘เตน หิ, ภเณ, อิมํ ปุริสํ ทฬฺหาย รชฺชุยา ปจฺฉาพาหํ [ปจฺฉาพาหุํ (สฺยา.)] คาฬฺหพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ขุรมุณฺฑํ กริตฺวา ขรสฺสเรน ปณเวน รถิกาย รถิกํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ ปริเนตฺวา ทกฺขิเณน ทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ทกฺขิณโต นครสฺส สุนิเสธํ นิเสเธถ, มูลฆจฺจํ กโรถ, สีสมสฺส ฉินฺทถา’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, เต ปุริสา รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตํ ปุริสํ ทฬฺหาย รชฺชุยา ปจฺฉาพาหํ คาฬฺหพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ขุรมุณฺฑํ กริตฺวา ขรสฺสเรน ปณเวน รถิกาย รถิกํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ ปริเนตฺวา ทกฺขิเณน ทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ทกฺขิณโต นครสฺส สุนิเสธํ นิเสเธสุํ, มูลฆจฺจํ อกํสุ, สีสมสฺส ฉินฺทึสุ.

๙๓. ‘‘อสฺโสสุํ โข, ภิกฺขเว, มนุสฺสา – ‘เย กิร, โภ, ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยนฺติ, เต ราชา สุนิเสธํ นิเสเธติ, มูลฆจฺจํ กโรติ, สีสานิ เตสํ ฉินฺทตี’ติ. สุตฺวาน เตสํ เอตทโหสิ – ‘ยํนูน มยมฺปิ ติณฺหานิ สตฺถานิ การาเปสฺสาม [การาเปยฺยาม (สฺยา. ปี.) การาเปยฺยามาติ (ก. สี.)], ติณฺหานิ สตฺถานิ การาเปตฺวา เยสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิสฺสาม, เต สุนิเสธํ นิเสเธสฺสาม, มูลฆจฺจํ กริสฺสาม, สีสานิ เตสํ ฉินฺทิสฺสามา’ติ. เต ติณฺหานิ สตฺถานิ การาเปสุํ, ติณฺหานิ สตฺถานิ การาเปตฺวา คามฆาตมฺปิ อุปกฺกมึสุ กาตุํ, นิคมฆาตมฺปิ อุปกฺกมึสุ กาตุํ, นครฆาตมฺปิ อุปกฺกมึสุ กาตุํ, ปนฺถทุหนมฺปิ [ปนฺถทูหนํปิ (สี. สฺยา. ปี.)] อุปกฺกมึสุ กาตุํ. เยสํ เต อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยนฺติ, เต สุนิเสธํ นิเสเธนฺติ, มูลฆจฺจํ กโรนฺติ, สีสานิ เตสํ ฉินฺทนฺติ.

๙๔. ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อธนานํ ธเน อนนุปฺปทิยมาเน ทาลิทฺทิยํ เวปุลฺลมคมาสิ, ทาลิทฺทิเย เวปุลฺลํ คเต อทินฺนาทานํ เวปุลฺลมคมาสิ, อทินฺนาทาเน เวปุลฺลํ คเต สตฺถํ เวปุลฺลมคมาสิ, สตฺเถ เวปุลฺลํ คเต ปาณาติปาโต เวปุลฺลมคมาสิ, ปาณาติปาเต เวปุลฺลํ คเต เตสํ สตฺตานํ อายุปิ ปริหายิ, วณฺโณปิ ปริหายิ. เตสํ อายุนาปิ ปริหายมานานํ วณฺเณนปิ ปริหายมานานํ อสีติวสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ จตฺตารีสวสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา อเหสุํ.

‘‘จตฺตารีสวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ อฺตโร ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิ. ตเมนํ อคฺคเหสุํ. คเหตฺวา รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส ทสฺเสสุํ – ‘อยํ, เทว, ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยี’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ตํ ปุริสํ เอตทโวจ – ‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยี’ติ? ‘น หิ, เทวา’ติ สมฺปชานมุสา อภาสิ.

๙๕. ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อธนานํ ธเน อนนุปฺปทิยมาเน ทาลิทฺทิยํ เวปุลฺลมคมาสิ. ทาลิทฺทิเย เวปุลฺลํ คเต อทินฺนาทานํ เวปุลฺลมคมาสิ, อทินฺนาทาเน เวปุลฺลํ คเต สตฺถํ เวปุลฺลมคมาสิ. สตฺเถ เวปุลฺลํ คเต ปาณาติปาโต เวปุลฺลมคมาสิ, ปาณาติปาเต เวปุลฺลํ คเต มุสาวาโท เวปุลฺลมคมาสิ , มุสาวาเท เวปุลฺลํ คเต เตสํ สตฺตานํ อายุปิ ปริหายิ, วณฺโณปิ ปริหายิ. เตสํ อายุนาปิ ปริหายมานานํ วณฺเณนปิ ปริหายมานานํ จตฺตารีสวสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ วีสติวสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา อเหสุํ.

‘‘วีสติวสฺสสหสฺสายุเกสุ , ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ อฺตโร ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิ. ตเมนํ อฺตโร ปุริโส รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส อาโรเจสิ – ‘อิตฺถนฺนาโม, เทว, ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยี’ติ เปสุฺมกาสิ.

๙๖. ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อธนานํ ธเน อนนุปฺปทิยมาเน ทาลิทฺทิยํ เวปุลฺลมคมาสิ. ทาลิทฺทิเย เวปุลฺลํ คเต อทินฺนาทานํ เวปุลฺลมคมาสิ, อทินฺนาทาเน เวปุลฺลํ คเต สตฺถํ เวปุลฺลมคมาสิ, สตฺเถ เวปุลฺลํ คเต ปาณาติปาโต เวปุลฺลมคมาสิ, ปาณาติปาเต เวปุลฺลํ คเต มุสาวาโท เวปุลฺลมคมาสิ, มุสาวาเท เวปุลฺลํ คเต ปิสุณา วาจา เวปุลฺลมคมาสิ, ปิสุณาย วาจาย เวปุลฺลํ คตาย เตสํ สตฺตานํ อายุปิ ปริหายิ, วณฺโณปิ ปริหายิ. เตสํ อายุนาปิ ปริหายมานานํ วณฺเณนปิ ปริหายมานานํ วีสติวสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ ทสวสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา อเหสุํ.

‘‘ทสวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ เอกิทํ สตฺตา วณฺณวนฺโต โหนฺติ, เอกิทํ สตฺตา ทุพฺพณฺณา. ตตฺถ เย เต สตฺตา ทุพฺพณฺณา, เต วณฺณวนฺเต สตฺเต อภิชฺฌายนฺตา ปเรสํ ทาเรสุ จาริตฺตํ อาปชฺชึสุ.

๙๗. ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อธนานํ ธเน อนนุปฺปทิยมาเน ทาลิทฺทิยํ เวปุลฺลมคมาสิ. ทาลิทฺทิเย เวปุลฺลํ คเต…เป… กาเมสุมิจฺฉาจาโร เวปุลฺลมคมาสิ, กาเมสุมิจฺฉาจาเร เวปุลฺลํ คเต เตสํ สตฺตานํ อายุปิ ปริหายิ, วณฺโณปิ ปริหายิ. เตสํ อายุนาปิ ปริหายมานานํ วณฺเณนปิ ปริหายมานานํ ทสวสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ ปฺจวสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา อเหสุํ.

๙๘. ‘‘ปฺจวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว , มนุสฺเสสุ ทฺเว ธมฺมา เวปุลฺลมคมํสุ – ผรุสาวาจา สมฺผปฺปลาโป จ. ทฺวีสุ ธมฺเมสุ เวปุลฺลํ คเตสุ เตสํ สตฺตานํ อายุปิ ปริหายิ, วณฺโณปิ ปริหายิ. เตสํ อายุนาปิ ปริหายมานานํ วณฺเณนปิ ปริหายมานานํ ปฺจวสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ อปฺเปกจฺเจ อฑฺฒเตยฺยวสฺสสหสฺสายุกา, อปฺเปกจฺเจ ทฺเววสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา อเหสุํ.

๙๙. ‘‘อฑฺฒเตยฺยวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ อภิชฺฌาพฺยาปาทา เวปุลฺลมคมํสุ. อภิชฺฌาพฺยาปาเทสุ เวปุลฺลํ คเตสุ เตสํ สตฺตานํ อายุปิ ปริหายิ, วณฺโณปิ ปริหายิ. เตสํ อายุนาปิ ปริหายมานานํ วณฺเณนปิ ปริหายมานานํ อฑฺฒเตยฺยวสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ วสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา อเหสุํ.

๑๐๐. ‘‘วสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ มิจฺฉาทิฏฺิ เวปุลฺลมคมาสิ. มิจฺฉาทิฏฺิยา เวปุลฺลํ คตาย เตสํ สตฺตานํ อายุปิ ปริหายิ, วณฺโณปิ ปริหายิ. เตสํ อายุนาปิ ปริหายมานานํ วณฺเณนปิ ปริหายมานานํ วสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ ปฺจวสฺสสตายุกา ปุตฺตา อเหสุํ.

๑๐๑. ‘‘ปฺจวสฺสสตายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ ตโย ธมฺมา เวปุลฺลมคมํสุ. อธมฺมราโค วิสมโลโภ มิจฺฉาธมฺโม. ตีสุ ธมฺเมสุ เวปุลฺลํ คเตสุ เตสํ สตฺตานํ อายุปิ ปริหายิ, วณฺโณปิ ปริหายิ. เตสํ อายุนาปิ ปริหายมานานํ วณฺเณนปิ ปริหายมานานํ ปฺจวสฺสสตายุกานํ มนุสฺสานํ อปฺเปกจฺเจ อฑฺฒเตยฺยวสฺสสตายุกา, อปฺเปกจฺเจ ทฺเววสฺสสตายุกา ปุตฺตา อเหสุํ.

‘‘อฑฺฒเตยฺยวสฺสสตายุเกสุ, ภิกฺขเว , มนุสฺเสสุ อิเม ธมฺมา เวปุลฺลมคมํสุ. อมตฺเตยฺยตา อเปตฺเตยฺยตา อสามฺตา อพฺรหฺมฺตา น กุเล เชฏฺาปจายิตา.

๑๐๒. ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อธนานํ ธเน อนนุปฺปทิยมาเน ทาลิทฺทิยํ เวปุลฺลมคมาสิ. ทาลิทฺทิเย เวปุลฺลํ คเต อทินฺนาทานํ เวปุลฺลมคมาสิ. อทินฺนาทาเน เวปุลฺลํ คเต สตฺถํ เวปุลฺลมคมาสิ. สตฺเถ เวปุลฺลํ คเต ปาณาติปาโต เวปุลฺลมคมาสิ. ปาณาติปาเต เวปุลฺลํ คเต มุสาวาโท เวปุลฺลมคมาสิ. มุสาวาเท เวปุลฺลํ คเต ปิสุณา วาจา เวปุลฺลมคมาสิ. ปิสุณาย วาจาย เวปุลฺลํ คตาย กาเมสุมิจฺฉาจาโร เวปุลฺลมคมาสิ. กาเมสุมิจฺฉาจาเร เวปุลฺลํ คเต ทฺเว ธมฺมา เวปุลฺลมคมํสุ, ผรุสา วาจา สมฺผปฺปลาโป จ. ทฺวีสุ ธมฺเมสุ เวปุลฺลํ คเตสุ อภิชฺฌาพฺยาปาทา เวปุลฺลมคมํสุ. อภิชฺฌาพฺยาปาเทสุ เวปุลฺลํ คเตสุ มิจฺฉาทิฏฺิ เวปุลฺลมคมาสิ. มิจฺฉาทิฏฺิยา เวปุลฺลํ คตาย ตโย ธมฺมา เวปุลฺลมคมํสุ, อธมฺมราโค วิสมโลโภ มิจฺฉาธมฺโม. ตีสุ ธมฺเมสุ เวปุลฺลํ คเตสุ อิเม ธมฺมา เวปุลฺลมคมํสุ, อมตฺเตยฺยตา อเปตฺเตยฺยตา อสามฺตา อพฺรหฺมฺตา น กุเล เชฏฺาปจายิตา. อิเมสุ ธมฺเมสุ เวปุลฺลํ คเตสุ เตสํ สตฺตานํ อายุปิ ปริหายิ, วณฺโณปิ ปริหายิ. เตสํ อายุนาปิ ปริหายมานานํ วณฺเณนปิ ปริหายมานานํ อฑฺฒเตยฺยวสฺสสตายุกานํ มนุสฺสานํ วสฺสสตายุกา ปุตฺตา อเหสุํ.

ทสวสฺสายุกสมโย

๑๐๓. ‘‘ภวิสฺสติ , ภิกฺขเว, โส สมโย, ยํ อิเมสํ มนุสฺสานํ ทสวสฺสายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ. ทสวสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ ปฺจวสฺสิกา [ปฺจมาสิกา (ก. สี.)] กุมาริกา อลํปเตยฺยา ภวิสฺสนฺติ. ทสวสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ อิมานิ รสานิ อนฺตรธายิสฺสนฺติ, เสยฺยถิทํ, สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ โลณํ. ทสวสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ กุทฺรูสโก อคฺคํ โภชนานํ [อคฺคโภชนํ (สฺยา.)] ภวิสฺสติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, เอตรหิ สาลิมํโสทโน อคฺคํ โภชนานํ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ทสวสฺสายุเกสุ มนุสฺเสสุ กุทฺรูสโก อคฺคํ โภชนานํ ภวิสฺสติ.

‘‘ทสวสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ ทส กุสลกมฺมปถา สพฺเพน สพฺพํ อนฺตรธายิสฺสนฺติ, ทส อกุสลกมฺมปถา อติพฺยาทิปฺปิสฺสนฺติ [อติวิย ทิปฺปิสฺสนฺติ (สฺยา. ปี.), อติวฺยาทิปฺปิสฺสนฺติ (สี.)]. ทสวสฺสายุเกสุ , ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ กุสลนฺติปิ น ภวิสฺสติ, กุโต ปน กุสลสฺส การโก. ทสวสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ เย เต ภวิสฺสนฺติ อมตฺเตยฺยา อเปตฺเตยฺยา อสามฺา อพฺรหฺมฺา น กุเล เชฏฺาปจายิโน, เต ปุชฺชา จ ภวิสฺสนฺติ ปาสํสา จ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, เอตรหิ มตฺเตยฺยา เปตฺเตยฺยา สามฺา พฺรหฺมฺา กุเล เชฏฺาปจายิโน ปุชฺชา จ ปาสํสา จ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ทสวสฺสายุเกสุ มนุสฺเสสุ เย เต ภวิสฺสนฺติ อมตฺเตยฺยา อเปตฺเตยฺยา อสามฺา อพฺรหฺมฺา น กุเล เชฏฺาปจายิโน, เต ปุชฺชา จ ภวิสฺสนฺติ ปาสํสา จ.

‘‘ทสวสฺสายุเกสุ , ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ น ภวิสฺสติ มาตาติ วา มาตุจฺฉาติ วา มาตุลานีติ วา อาจริยภริยาติ วา ครูนํ ทาราติ วา. สมฺเภทํ โลโก คมิสฺสติ ยถา อเชฬกา กุกฺกุฏสูกรา โสณสิงฺคาลา [โสณสิคาลา (สี. ปี.)].

‘‘ทสวสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ เตสํ สตฺตานํ อฺมฺมฺหิ ติพฺโพ อาฆาโต ปจฺจุปฏฺิโต ภวิสฺสติ ติพฺโพ พฺยาปาโท ติพฺโพ มโนปโทโส ติพฺพํ วธกจิตฺตํ. มาตุปิ ปุตฺตมฺหิ ปุตฺตสฺสปิ มาตริ; ปิตุปิ ปุตฺตมฺหิ ปุตฺตสฺสปิ ปิตริ; ภาตุปิ ภคินิยา ภคินิยาปิ ภาตริ ติพฺโพ อาฆาโต ปจฺจุปฏฺิโต ภวิสฺสติ ติพฺโพ พฺยาปาโท ติพฺโพ มโนปโทโส ติพฺพํ วธกจิตฺตํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มาควิกสฺส มิคํ ทิสฺวา ติพฺโพ อาฆาโต ปจฺจุปฏฺิโต โหติ ติพฺโพ พฺยาปาโท ติพฺโพ มโนปโทโส ติพฺพํ วธกจิตฺตํ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ทสวสฺสายุเกสุ มนุสฺเสสุ เตสํ สตฺตานํ อฺมฺมฺหิ ติพฺโพ อาฆาโต ปจฺจุปฏฺิโต ภวิสฺสติ ติพฺโพ พฺยาปาโท ติพฺโพ มโนปโทโส ติพฺพํ วธกจิตฺตํ. มาตุปิ ปุตฺตมฺหิ ปุตฺตสฺสปิ มาตริ; ปิตุปิ ปุตฺตมฺหิ ปุตฺตสฺสปิ ปิตริ; ภาตุปิ ภคินิยา ภคินิยาปิ ภาตริ ติพฺโพ อาฆาโต ปจฺจุปฏฺิโต ภวิสฺสติ ติพฺโพ พฺยาปาโท ติพฺโพ มโนปโทโส ติพฺพํ วธกจิตฺตํ.

๑๐๔. ‘‘ทสวสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ สตฺตาหํ สตฺถนฺตรกปฺโป ภวิสฺสติ. เต อฺมฺมฺหิ มิคสฺํ ปฏิลภิสฺสนฺติ. เตสํ ติณฺหานิ สตฺถานิ หตฺเถสุ ปาตุภวิสฺสนฺติ. เต ติณฺเหน สตฺเถน ‘เอส มิโค เอส มิโค’ติ อฺมฺํ ชีวิตา โวโรเปสฺสนฺติ.

‘‘อถ โข เตสํ, ภิกฺขเว, สตฺตานํ เอกจฺจานํ เอวํ ภวิสฺสติ – ‘มา จ มยํ กฺจิ [กิฺจิ (ก.)], มา จ อมฺเห โกจิ, ยํนูน มยํ ติณคหนํ วา วนคหนํ วา รุกฺขคหนํ วา นทีวิทุคฺคํ วา ปพฺพตวิสมํ วา ปวิสิตฺวา วนมูลผลาหารา ยาเปยฺยามา’ติ. เต ติณคหนํ วา วนคหนํ วา รุกฺขคหนํ วา นทีวิทุคฺคํ วา ปพฺพตวิสมํ วา [เต ติณคหนํ วนคหนํ รุกฺขคหนํ นทีวิทุคฺคํ ปพฺพตวิสมํ (สี. ปี.)] ปวิสิตฺวา สตฺตาหํ วนมูลผลาหารา ยาเปสฺสนฺติ. เต ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ติณคหนา วนคหนา รุกฺขคหนา นทีวิทุคฺคา ปพฺพตวิสมา นิกฺขมิตฺวา อฺมฺํ อาลิงฺคิตฺวา สภาคายิสฺสนฺติ สมสฺสาสิสฺสนฺติ – ‘ทิฏฺา, โภ, สตฺตา ชีวสิ, ทิฏฺา, โภ, สตฺตา ชีวสี’ติ.

อายุวณฺณาทิวฑฺฒนกถา

๑๐๕. ‘‘อถ โข เตสํ, ภิกฺขเว, สตฺตานํ เอวํ ภวิสฺสติ – ‘มยํ โข อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาทานเหตุ เอวรูปํ อายตํ าติกฺขยํ ปตฺตา. ยํนูน มยํ กุสลํ กเรยฺยาม. กึ กุสลํ กเรยฺยาม? ยํนูน มยํ ปาณาติปาตา วิรเมยฺยาม, อิทํ กุสลํ ธมฺมํ สมาทาย วตฺเตยฺยามา’ติ. เต ปาณาติปาตา วิรมิสฺสนฺติ, อิทํ กุสลํ ธมฺมํ สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ. เต กุสลานํ ธมฺมานํ สมาทานเหตุ อายุนาปิ วฑฺฒิสฺสนฺติ, วณฺเณนปิ วฑฺฒิสฺสนฺติ . เตสํ อายุนาปิ วฑฺฒมานานํ วณฺเณนปิ วฑฺฒมานานํ ทสวสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ วีสติวสฺสายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ.

‘‘อถ โข เตสํ, ภิกฺขเว, สตฺตานํ เอวํ ภวิสฺสติ – ‘มยํ โข กุสลานํ ธมฺมานํ สมาทานเหตุ อายุนาปิ วฑฺฒาม, วณฺเณนปิ วฑฺฒาม. ยํนูน มยํ ภิยฺโยโสมตฺตาย กุสลํ กเรยฺยาม. กึ กุสลํ กเรยฺยาม? ยํนูน มยํ อทินฺนาทานา วิรเมยฺยาม… กาเมสุมิจฺฉาจารา วิรเมยฺยาม… มุสาวาทา วิรเมยฺยาม… ปิสุณาย วาจาย วิรเมยฺยาม… ผรุสาย วาจาย วิรเมยฺยาม… สมฺผปฺปลาปา วิรเมยฺยาม… อภิชฺฌํ ปชเหยฺยาม… พฺยาปาทํ ปชเหยฺยาม… มิจฺฉาทิฏฺึ ปชเหยฺยาม… ตโย ธมฺเม ปชเหยฺยาม – อธมฺมราคํ วิสมโลภํ มิจฺฉาธมฺมํ… ยํนูน มยํ มตฺเตยฺยา อสฺสาม เปตฺเตยฺยา สามฺา พฺรหฺมฺา กุเล เชฏฺาปจายิโน, อิทํ กุสลํ ธมฺมํ สมาทาย วตฺเตยฺยามา’ติ. เต มตฺเตยฺยา ภวิสฺสนฺติ เปตฺเตยฺยา สามฺา พฺรหฺมฺา กุเล เชฏฺาปจายิโน, อิทํ กุสลํ ธมฺมํ สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ.

‘‘เต กุสลานํ ธมฺมานํ สมาทานเหตุ อายุนาปิ วฑฺฒิสฺสนฺติ, วณฺเณนปิ วฑฺฒิสฺสนฺติ. เตสํ อายุนาปิ วฑฺฒมานานํ วณฺเณนปิ วฑฺฒมานานํ วีสติวสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ จตฺตารีสวสฺสายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… จตฺตารีสวสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ อสีติวสฺสายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… อสีติวสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ สฏฺิวสฺสสตายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… สฏฺิวสฺสสตายุกานํ มนุสฺสานํ วีสติติวสฺสสตายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… วีสติติวสฺสสตายุกานํ มนุสฺสานํ จตฺตารีสฉพฺพสฺสสตายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ. จตฺตารีสฉพฺพสฺสสตายุกานํ มนุสฺสานํ ทฺเววสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… ทฺเววสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ จตฺตาริวสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… จตฺตาริวสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ อฏฺวสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… อฏฺวสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ วีสติวสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… วีสติวสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ จตฺตารีสวสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… จตฺตารีสวสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ อสีติวสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… อสีติวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ ปฺจวสฺสสติกา กุมาริกา อลํปเตยฺยา ภวิสฺสนฺติ.

สงฺขราชอุปฺปตฺติ

๑๐๖. ‘‘อสีติวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ ตโย อาพาธา ภวิสฺสนฺติ, อิจฺฉา, อนสนํ, ชรา. อสีติวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ อยํ ชมฺพุทีโป อิทฺโธ เจว ภวิสฺสติ ผีโต จ, กุกฺกุฏสมฺปาติกา คามนิคมราชธานิโย [คามนิคมชนปทา ราชธานิโย (ก.)]. อสีติวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ อยํ ชมฺพุทีโป อวีจิ มฺเ ผุโฏ ภวิสฺสติ มนุสฺเสหิ, เสยฺยถาปิ นฬวนํ วา สรวนํ [สารวนํ (สฺยา.)] วา. อสีติวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ อยํ พาราณสี เกตุมตี นาม ราชธานี ภวิสฺสติ อิทฺธา เจว ผีตา จ พหุชนา จ อากิณฺณมนุสฺสา จ สุภิกฺขา จ. อสีติวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ อิมสฺมึ ชมฺพุทีเป จตุราสีตินครสหสฺสานิ ภวิสฺสนฺติ เกตุมตีราชธานีปมุขานิ. อสีติวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ เกตุมติยา ราชธานิยา สงฺโข นาม ราชา อุปฺปชฺชิสฺสติ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺต รตนานิ ภวิสฺสนฺติ, เสยฺยถิทํ, จกฺกรตนํ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนํ มณิรตนํ อิตฺถิรตนํ คหปติรตนํ ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสิสฺสติ.

เมตฺเตยฺยพุทฺธุปฺปาโท

๑๐๗. ‘‘อสีติวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ เมตฺเตยฺโย นาม ภควา โลเก อุปฺปชฺชิสฺสติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. เสยฺยถาปาหเมตรหิ โลเก อุปฺปนฺโน อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทสฺสติ, เสยฺยถาปาหเมตรหิ อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทมิ. โส ธมฺมํ เทเสสฺสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสสฺสติ; เสยฺยถาปาหเมตรหิ ธมฺมํ เทเสมิ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสมิ. โส อเนกสหสฺสํ [อเนกสตสหสฺสํ (ก.)] ภิกฺขุสํฆํ ปริหริสฺสติ, เสยฺยถาปาหเมตรหิ อเนกสตํ ภิกฺขุสํฆํ ปริหรามิ.

๑๐๘. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, สงฺโข นาม ราชา โย โส ยูโป รฺา มหาปนาเทน การาปิโต. ตํ ยูปํ อุสฺสาเปตฺวา อชฺฌาวสิตฺวา ตํ ทตฺวา วิสฺสชฺชิตฺวา สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวณิพฺพกยาจกานํ ทานํ ทตฺวา เมตฺเตยฺยสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสติ. โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเสว ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ.

๑๐๙. ‘‘อตฺตทีปา, ภิกฺขเว, วิหรถ อตฺตสรณา อนฺสรณา, ธมฺมทีปา ธมฺมสรณา อนฺสรณา. กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตทีโป วิหรติ อตฺตสรโณ อนฺสรโณ ธมฺมทีโป ธมฺมสรโณ อนฺสรโณ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี…เป… จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี…เป… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตทีโป วิหรติ อตฺตสรโณ อนฺสรโณ ธมฺมทีโป ธมฺมสรโณ อนฺสรโณ.

ภิกฺขุโนอายุวณฺณาทิวฑฺฒนกถา

๑๑๐. ‘‘โคจเร, ภิกฺขเว, จรถ สเก เปตฺติเก วิสเย. โคจเร, ภิกฺขเว, จรนฺตา สเก เปตฺติเก วิสเย อายุนาปิ วฑฺฒิสฺสถ, วณฺเณนปิ วฑฺฒิสฺสถ, สุเขนปิ วฑฺฒิสฺสถ, โภเคนปิ วฑฺฒิสฺสถ, พเลนปิ วฑฺฒิสฺสถ.

‘‘กิฺจ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อายุสฺมึ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ, วีริยสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ, จิตฺตสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ, วีมํสาสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ. โส อิเมสํ จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา อากงฺขมาโน กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา. อิทํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อายุสฺมึ.

‘‘กิฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน วณฺณสฺมึ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน วณฺณสฺมึ.

‘‘กิฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สุขสฺมึ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน, สุขสฺมึ.

‘‘กิฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน โภคสฺมึ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ ตถา ทุติยํ. ตถา ตติยํ. ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ. ตถา ทุติยํ. ตถา ตติยํ. ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน โภคสฺมึ.

‘‘กิฺจ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน พลสฺมึ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน พลสฺมึ.

‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกพลมฺปิ สมนุปสฺสามิ ยํ เอวํ ทุปฺปสหํ, ยถยิทํ, ภิกฺขเว, มารพลํ. กุสลานํ , ภิกฺขเว, ธมฺมานํ สมาทานเหตุ เอวมิทํ ปุฺํ ปวฑฺฒตี’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

จกฺกวตฺติสุตฺตํ นิฏฺิตํ ตติยํ.