📜
๗. ลกฺขณสุตฺตํ
ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ
๑๙๘. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทฺทนฺเต’’ติ [ภทนฺเตติ (สี. สฺยา. ปี.)] เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
๑๙๙. ‘‘ทฺวตฺตึสิมานิ, ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณานิ, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวว คติโย ภวนฺติ อนฺา. สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺต รตนานิ ภวนฺติ; เสยฺยถิทํ, จกฺกรตนํ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนํ มณิรตนํ อิตฺถิรตนํ คหปติรตนํ ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสติ. สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท [วิวฏจฺฉโท (สฺยา. ก.), วิวตฺตจฺฉโท (สี. ปี.)].
๒๐๐. ‘‘กตมานิ จ ตานิ, ภิกฺขเว, ทฺวตฺตึส มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณานิ, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ¶ ทฺเวว คติโย ภวนฺติ อนฺา? สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ¶ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท.
‘‘อิธ, ภิกฺขเว, มหาปุริโส สุปฺปติฏฺิตปาโท โหติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาปุริโส สุปฺปติฏฺิตปาโท โหติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณํ ภวติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส เหฏฺาปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานิ โหนฺติ สหสฺสารานิ สเนมิกานิ สนาภิกานิ สพฺพาการปริปูรานิ [สพฺพาการปริปูรานิ สุวิภตฺตนฺตรานิ (สี. ปี.)]. ยมฺปิ ¶ , ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส เหฏฺาปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานิ โหนฺติ สหสฺสารานิ สเนมิกานิ สนาภิกานิ สพฺพาการปริปูรานิ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณํ ภวติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, มหาปุริโส อายตปณฺหิ โหติ…เป… ทีฆงฺคุลิ โหติ… มุทุตลุนหตฺถปาโท โหติ… ชาลหตฺถปาโท โหติ… อุสฺสงฺขปาโท โหติ… เอณิชงฺโฆ โหติ… ิตโกว อโนนมนฺโต อุโภหิ ปาณิตเลหิ ชณฺณุกานิ ปริมสติ ปริมชฺชติ… โกโสหิตวตฺถคุยฺโห โหติ… สุวณฺณวณฺโณ โหติ กฺจนสนฺนิภตฺตโจ… สุขุมจฺฉวิ โหติ, สุขุมตฺตา ฉวิยา รโชชลฺลํ กาเย น อุปลิมฺปติ… เอเกกโลโม ¶ โหติ, เอเกกานิ โลมานิ โลมกูเปสุ ชาตานิ… อุทฺธคฺคโลโม โหติ, อุทฺธคฺคานิ โลมานิ ชาตานิ นีลานิ อฺชนวณฺณานิ กุณฺฑลาวฏฺฏานิ [กุณฺฑลาวตฺตานิ (พหูสุ)] ทกฺขิณาวฏฺฏกชาตานิ [ทกฺขิณาวตฺตกชาตานิ (สี. สฺยา. ปี.)] … พฺรหฺมุชุคตฺโต โหติ… สตฺตุสฺสโท โหติ… สีหปุพฺพทฺธกาโย โหติ… จิตนฺตรํโส [ปิตนฺตรํโส (สฺยา.)] โหติ… นิคฺโรธปริมณฺฑโล โหติ, ยาวตกฺวสฺส กาโย ตาวตกฺวสฺส พฺยาโม ยาวตกฺวสฺส พฺยาโม ตาวตกฺวสฺส กาโย… สมวฏฺฏกฺขนฺโธ โหติ… รสคฺคสคฺคี โหติ… สีหหนุ โหติ… จตฺตาลีสทนฺโต โหติ ¶ … สมทนฺโต โหติ… อวิรฬทนฺโต โหติ… สุสุกฺกทาโ โหติ… ปหูตชิวฺโห โหติ… พฺรหฺมสฺสโร โหติ กรวีกภาณี… อภินีลเนตฺโต โหติ… โคปขุโม โหติ… อุณฺณา ภมุกนฺตเร ชาตา โหติ, โอทาตา มุทุตูลสนฺนิภา. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส อุณฺณา ภมุกนฺตเร ชาตา โหติ, โอทาตา มุทุตูลสนฺนิภา, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณํ ภวติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, มหาปุริโส อุณฺหีสสีโส โหติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาปุริโส อุณฺหีสสีโส โหติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณํ ภวติ.
‘‘อิมานิ โข ตานิ, ภิกฺขเว, ทฺวตฺตึส มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณานิ, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวว คติโย ภวนฺติ อนฺา. สเจ ¶ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท.
‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวตฺตึส มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณานิ พาหิรกาปิ อิสโย ¶ ธาเรนฺติ, โน จ โข เต ชานนฺติ – ‘อิมสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อิทํ ลกฺขณํ ปฏิลภตี’ติ.
(๑) สุปฺปติฏฺิตปาทตาลกฺขณํ
๒๐๑. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน ทฬฺหสมาทาโน อโหสิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, อวตฺถิตสมาทาโน กายสุจริเต วจีสุจริเต มโนสุจริเต ทานสํวิภาเค สีลสมาทาเน อุโปสถุปวาเส มตฺเตยฺยตาย เปตฺเตยฺยตาย สามฺตาย ¶ พฺรหฺมฺตาย กุเล เชฏฺาปจายิตาย อฺตรฺตเรสุ จ อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ ¶ . โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปจิตตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา วิปุลตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. โส ตตฺถ อฺเ เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคฺคณฺหาติ ทิพฺเพน อายุนา ทิพฺเพน วณฺเณน ทิพฺเพน สุเขน ทิพฺเพน ยเสน ทิพฺเพน อาธิปเตยฺเยน ทิพฺเพหิ รูเปหิ ทิพฺเพหิ สทฺเทหิ ทิพฺเพหิ คนฺเธหิ ทิพฺเพหิ รเสหิ ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหิ. โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ. สุปฺปติฏฺิตปาโท โหติ. สมํ ปาทํ ภูมิยํ นิกฺขิปติ, สมํ อุทฺธรติ, สมํ สพฺพาวนฺเตหิ ปาทตเลหิ ภูมึ ผุสติ.
๒๐๒. ‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺต รตนานิ ภวนฺติ; เสยฺยถิทํ, จกฺกรตนํ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนํ มณิรตนํ อิตฺถิรตนํ คหปติรตนํ ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อขิลมนิมิตฺตมกณฺฏกํ อิทฺธํ ผีตํ เขมํ สิวํ นิรพฺพุทํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสติ ¶ . ราชา สมาโน กึ ลภติ? อกฺขมฺภิโย [อวิกฺขมฺภิโย (สี. ปี.)] โหติ เกนจิ มนุสฺสภูเตน ¶ ปจฺจตฺถิเกน ปจฺจามิตฺเตน. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ. ‘‘สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท. พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? อกฺขมฺภิโย โหติ อพฺภนฺตเรหิ วา พาหิเรหิ วา ปจฺจตฺถิเกหิ ปจฺจามิตฺเตหิ ราเคน วา โทเสน วา โมเหน วา สมเณน วา ¶ พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
๒๐๓. ตตฺเถตํ ¶ วุจฺจติ –
‘‘สจฺเจ จ ธมฺเม จ ทเม จ สํยเม,
โสเจยฺยสีลาลยุโปสเถสุ จ;
ทาเน อหึสาย อสาหเส รโต,
ทฬฺหํ สมาทาย สมตฺตมาจริ [สมนฺตมาจริ (สฺยา. ก.)].
‘‘โส เตน กมฺเมน ทิวํ สมกฺกมิ [อปกฺกมิ (สฺยา. ก.)],
สุขฺจ ขิฑฺฑารติโย จ อนฺวภิ [อํนฺวภิ (ฏีกา)];
ตโต จวิตฺวา ปุนราคโต อิธ,
สเมหิ ปาเทหิ ผุสี วสุนฺธรํ.
‘‘พฺยากํสุ เวยฺยฺชนิกา สมาคตา,
สมปฺปติฏฺสฺส น โหติ ขมฺภนา;
คิหิสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา ปุน [ปน (สฺยา.)],
ตํ ลกฺขณํ ภวติ ตทตฺถโชตกํ.
‘‘อกฺขมฺภิโย ¶ โหติ อคารมาวสํ,
ปราภิภู สตฺตุภิ นปฺปมทฺทโน;
มนุสฺสภูเตนิธ โหติ เกนจิ,
อกฺขมฺภิโย ตสฺส ผเลน กมฺมุโน.
‘‘สเจ ¶ จ ปพฺพชฺชมุเปติ ตาทิโส,
เนกฺขมฺมฉนฺทาภิรโต วิจกฺขโณ;
อคฺโค น โส คจฺฉติ ชาตุ ขมฺภนํ,
นรุตฺตโม เอส หิ ตสฺส ธมฺมตา’’ติ.
(๒) ปาทตลจกฺกลกฺขณํ
๒๐๔. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต ¶ สมาโน พหุชนสฺส ¶ สุขาวโห อโหสิ, อุพฺเพคอุตฺตาสภยํ อปนุทิตา, ธมฺมิกฺจ รกฺขาวรณคุตฺตึ สํวิธาตา, สปริวารฺจ ทานํ อทาสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปจิตตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา วิปุลตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ. เหฏฺาปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานิ โหนฺติ สหสฺสารานิ สเนมิกานิ สนาภิกานิ สพฺพาการปริปูรานิ สุวิภตฺตนฺตรานิ.
‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? มหาปริวาโร โหติ; มหาสฺส โหนฺติ ปริวารา พฺราหฺมณคหปติกา ¶ เนคมชานปทา คณกมหามตฺตา อนีกฏฺา โทวาริกา อมจฺจา ปาริสชฺชา ราชาโน โภคิยา กุมารา. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ. สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท. พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? มหาปริวาโร โหติ; มหาสฺส โหนฺติ ปริวารา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘ปุเร ปุรตฺถา ปุริมาสุ ชาติสุ,
มนุสฺสภูโต พหุนํ สุขาวโห;
อุพฺเภคอุตฺตาสภยาปนูทโน,
คุตฺตีสุ รกฺขาวรเณสุ อุสฺสุโก.
‘‘โส ¶ ¶ เตน กมฺเมน ทิวํ สมกฺกมิ,
สุขฺจ ขิฑฺฑารติโย จ อนฺวภิ;
ตโต จวิตฺวา ปุนราคโต อิธ,
จกฺกานิ ปาเทสุ ทุเวสุ วินฺทติ.
‘‘สมนฺตเนมีนิ สหสฺสรานิ จ,
พฺยากํสุ เวยฺยฺชนิกา สมาคตา;
ทิสฺวา ¶ กุมารํ สตปฺุลกฺขณํ,
ปริวารวา เหสฺสติ สตฺตุมทฺทโน.
ตถา หี จกฺกานิ สมนฺตเนมินิ,
สเจ ¶ น ปพฺพชฺชมุเปติ ตาทิโส;
วตฺเตติ จกฺกํ ปถวึ ปสาสติ,
ตสฺสานุยนฺตาธ [ตสฺสานุยุตฺตา อิธ (สี. ปี.), ตสฺสานุยนฺตา อิธ (สฺยา. ก.)] ภวนฺติ ขตฺติยา.
‘‘มหายสํ สํปริวารยนฺติ นํ,
สเจ จ ปพฺพชฺชมุเปติ ตาทิโส;
เนกฺขมฺมฉนฺทาภิรโต วิจกฺขโณ,
เทวามนุสฺสาสุรสกฺกรกฺขสา [สตฺตรกฺขสา (ก.) สี. สฺยาอฏฺกถา โอโลเกตพฺพา].
‘‘คนฺธพฺพนาคา วิหคา จตุปฺปทา,
อนุตฺตรํ เทวมนุสฺสปูชิตํ;
มหายสํ สํปริวารยนฺติ น’’นฺติ.
(๓-๕) อายตปณฺหิตาทิติลกฺขณํ
๒๐๖. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต อโหสิ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหาสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปจิตตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา วิปุลตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมานิ ตีณิ มหาปุริสลกฺขณานิ ¶ ปฏิลภติ. อายตปณฺหิ จ โหติ, ทีฆงฺคุลิ จ พฺรหฺมุชุคตฺโต จ.
‘‘โส ¶ เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? ทีฆายุโก โหติ จิรฏฺิติโก, ทีฆมายุํ ปาเลติ, น สกฺกา โหติ อนฺตรา ชีวิตา โวโรเปตุํ เกนจิ มนุสฺสภูเตน ปจฺจตฺถิเกน ปจฺจามิตฺเตน ¶ . ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? ทีฆายุโก โหติ ¶ จิรฏฺิติโก, ทีฆมายุํ ปาเลติ, น สกฺกา โหติ อนฺตรา ชีวิตา โวโรเปตุํ ปจฺจตฺถิเกหิ ปจฺจามิตฺเตหิ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘มารณวธภยตฺตโน [มรณวธภยตฺตโน (สี. ปี. ก.), มรณวธภยมตฺตโน (สฺยา.)] วิทิตฺวา,
ปฏิวิรโต ปรํ มารณายโหสิ;
เตน สุจริเตน สคฺคมคมา [เตน โส สุจริเตน สคฺคมคมาสิ (สฺยา.)],
สุกตผลวิปากมนุโภสิ.
‘‘จวิย ปุนริธาคโต สมาโน,
ปฏิลภติ อิธ ตีณิ ลกฺขณานิ;
ภวติ วิปุลทีฆปาสณฺหิโก,
พฺรหฺมาว สุชุ สุโภ สุชาตคตฺโต.
‘‘สุภุโช สุสุ สุสณฺิโต สุชาโต,
มุทุตลุนงฺคุลิยสฺส โหนฺติ;
ทีฆา ตีภิ ¶ ปุริสวรคฺคลกฺขเณหิ,
จิรยปนาย [จิรยาปนาย (สฺยา.)] กุมารมาทิสนฺติ.
‘‘ภวติ ยทิ คิหี จิรํ ยเปติ,
จิรตรํ ปพฺพชติ ยทิ ตโต หิ;
ยาปยติ ¶ จ วสิทฺธิภาวนาย,
อิติ ทีฆายุกตาย ตํ นิมิตฺต’’นฺติ.
(๖) สตฺตุสฺสทตาลกฺขณํ
๒๐๘. ‘‘ยมฺปิ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน ทาตา อโหสิ ปณีตานํ รสิตานํ ขาทนียานํ โภชนียานํ สายนียานํ เลหนียานํ ¶ ปานานํ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ, สตฺตุสฺสโท โหติ, สตฺตสฺส อุสฺสทา โหนฺติ; อุโภสุ หตฺเถสุ อุสฺสทา โหนฺติ, อุโภสุ ปาเทสุ อุสฺสทา โหนฺติ, อุโภสุ อํสกูเฏสุ อุสฺสทา โหนฺติ, ขนฺเธ อุสฺสโท โหติ.
‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? ลาภี โหติ ปณีตานํ รสิตานํ ขาทนียานํ โภชนียานํ สายนียานํ เลหนียานํ ปานานํ. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? ลาภี โหติ ปณีตานํ รสิตานํ ขาทนียานํ โภชนียานํ สายนียานํ เลหนียานํ ปานานํ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ¶ ภควา อโวจ.
‘‘ขชฺชโภชฺชมถ เลยฺย สายิยํ,
อุตฺตมคฺครสทายโก อหุ;
เตน โส สุจริเตน กมฺมุนา,
นนฺทเน จิรมภิปฺปโมทติ.
‘‘สตฺต ¶ จุสฺสเท อิธาธิคจฺฉติ,
หตฺถปาทมุทุตฺจ วินฺทติ;
อาหุ พฺยฺชนนิมิตฺตโกวิทา,
ขชฺชโภชฺชรสลาภิตาย นํ.
‘‘ยํ คิหิสฺสปิ [น ตํ คิหิสฺสาปิ (สฺยา.)] ตทตฺถโชตกํ,
ปพฺพชฺชมฺปิ จ ตทาธิคจฺฉติ;
ขชฺชโภชฺชรสลาภิรุตฺตมํ,
อาหุ สพฺพคิหิพนฺธนจฺฉิท’’นฺติ.
(๗-๘) กรจรณมุทุชาลตาลกฺขณานิ
๒๑๐. ‘‘ยมฺปิ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ ชนํ สงฺคาหโก อโหสิ – ทาเนน เปยฺยวชฺเชน [ปิยวาเจน (สฺยา. ก.)] อตฺถจริยาย สมานตฺตตาย. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ ¶ ปฏิลภติ. มุทุตลุนหตฺถปาโท จ โหติ ชาลหตฺถปาโท จ.
‘‘โส เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? สุสงฺคหิตปริชโน โหติ, สุสงฺคหิตาสฺส โหนฺติ พฺราหฺมณคหปติกา เนคมชานปทา ¶ คณกมหามตฺตา อนีกฏฺา โทวาริกา อมจฺจา ปาริสชฺชา ราชาโน โภคิยา กุมารา. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? สุสงฺคหิตปริชโน โหติ, สุสงฺคหิตาสฺส โหนฺติ ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘ทานมฺปิ จตฺถจริยตฺจ [ทานมฺปิ จ อตฺถจริยตมฺปิ จ (สี. ปี.)],
ปิยวาทิตฺจ สมานตฺตตฺจ [ปิยวทตฺจ สมานฉนฺทตฺจ (สี. ปี.)];
กริยจริยสุสงฺคหํ พหูนํ,
อนวมเตน คุเณน ยาติ สคฺคํ.
‘‘จวิย ปุนริธาคโต สมาโน,
กรจรณมุทุตฺจ ชาลิโน จ;
อติรุจิรสุวคฺคุทสฺสเนยฺยํ,
ปฏิลภติ ทหโร สุสุ กุมาโร.
‘‘ภวติ ¶ ¶ ปริชนสฺสโว วิเธยฺโย,
มหิมํ อาวสิโต สุสงฺคหิโต;
ปิยวทู ¶ หิตสุขตํ ชิคีสมาโน [ชิคึ สมาโน (สี. สฺยา. ปี.)],
อภิรุจิตานิ คุณานิ อาจรติ.
‘‘ยทิ จ ชหติ สพฺพกามโภคํ,
กถยติ ธมฺมกถํ ชิโน ชนสฺส;
วจนปฏิกรสฺสาภิปฺปสนฺนา ¶ ,
สุตฺวาน ธมฺมานุธมฺมมาจรนฺตี’’ติ.
(๙-๑๐) อุสฺสงฺขปาทอุทฺธคฺคโลมตาลกฺขณานิ
๒๑๒. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน [สมาโน พหุโน ชนสฺส (สี. ปี.)] อตฺถูปสํหิตํ ธมฺมูปสํหิตํ วาจํ ภาสิตา อโหสิ, พหุชนํ นิทํเสสิ, ปาณีนํ หิตสุขาวโห ธมฺมยาคี. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภติ. อุสฺสงฺขปาโท จ โหติ, อุทฺธคฺคโลโม จ.
‘‘โส เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต, สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? อคฺโค จ โหติ เสฏฺโ จ ปาโมกฺโข จ อุตฺตโม จ ปวโร จ กามโภคีนํ. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? อคฺโค จ โหติ เสฏฺโ จ ปาโมกฺโข จ อุตฺตโม จ ปวโร จ สพฺพสตฺตานํ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘อตฺถธมฺมสหิตํ ¶ [อตฺถธมฺมสํหิตํ (ก. สี. ปี.), อตฺถธมฺมุปสํหิตํ (ก.)] ปุเร คิรํ,
เอรยํ พหุชนํ นิทํสยิ;
ปาณินํ หิตสุขาวโห อหุ,
ธมฺมยาคมยชี [ธมฺมยาคํ อสฺสชิ (ก.)] อมจฺฉรี.
‘‘เตน ¶ ¶ โส สุจริเตน กมฺมุนา,
สุคฺคตึ ¶ วชติ ตตฺถ โมทติ;
ลกฺขณานิ จ ทุเว อิธาคโต,
อุตฺตมปฺปมุขตาย [อุตฺตมสุขตาย (สฺยา.), อุตฺตมปมุกฺขตาย (ก.)] วินฺทติ.
‘‘อุพฺภมุปฺปติตโลมวา สโส,
ปาทคณฺิรหุ สาธุสณฺิตา;
มํสโลหิตาจิตา ตโจตฺถตา,
อุปริจรณโสภนา [อุปริชานุโสภนา (สฺยา.), อุปริ จ ปน โสภนา (สี. ปี.)] อหุ.
‘‘เคหมาวสติ เจ ตถาวิโธ,
อคฺคตํ วชติ กามโภคินํ;
เตน อุตฺตริตโร น วิชฺชติ,
ชมฺพุทีปมภิภุยฺย อิริยติ.
‘‘ปพฺพชมฺปิ ¶ จ อโนมนิกฺกโม,
อคฺคตํ วชติ สพฺพปาณินํ;
เตน อุตฺตริตโร น วิชฺชติ,
สพฺพโลกมภิภุยฺย วิหรตี’’ติ.
(๑๑) เอณิชงฺฆลกฺขณํ
๒๑๔. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน สกฺกจฺจํ วาเจตา อโหสิ สิปฺปํ วา วิชฺชํ วา จรณํ วา กมฺมํ วา – ‘กึ ติเม ขิปฺปํ วิชาเนยฺยุํ, ขิปฺปํ ปฏิปชฺเชยฺยุํ, น จิรํ กิลิสฺเสยฺยุ’’นฺติ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน ¶ อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ. เอณิชงฺโฆ โหติ.
‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? ยานิ ตานิ ราชารหานิ ราชงฺคานิ ราชูปโภคานิ ¶ ราชานุจฺฉวิกานิ ตานิ ขิปฺปํ ปฏิลภติ. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? ยานิ ¶ ตานิ สมณารหานิ สมณงฺคานิ สมณูปโภคานิ สมณานุจฺฉวิกานิ, ตานิ ขิปฺปํ ปฏิลภติ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘สิปฺเปสุ วิชฺชาจรเณสุ กมฺเมสุ [กมฺมสุ (สี. ปี.)],
กถํ วิชาเนยฺยุํ [วิชาเนยฺย (สี. ปี.), วิชาเนยฺยุ (สฺยา.)] ลหุนฺติ อิจฺฉติ;
ยทูปฆาตาย ¶ น โหติ กสฺสจิ,
วาเจติ ขิปฺปํ น จิรํ กิลิสฺสติ.
‘‘ตํ กมฺมํ กตฺวา กุสลํ สุขุทฺรยํ [สุขินฺทฺริยํ (ก.)],
ชงฺฆา มนฺุา ลภเต สุสณฺิตา;
วฏฺฏา สุชาตา อนุปุพฺพมุคฺคตา,
อุทฺธคฺคโลมา สุขุมตฺตโจตฺถตา.
‘‘เอเณยฺยชงฺโฆติ ตมาหุ ปุคฺคลํ,
สมฺปตฺติยา ขิปฺปมิธาหุ [ขิปฺปมิทาหุ (?)] ลกฺขณํ;
เคหานุโลมานิ ยทาภิกงฺขติ,
อปพฺพชํ ขิปฺปมิธาธิคจฺฉติ [ขิปฺปมิทาธิคจฺฉติ (?)].
‘‘สเจ ¶ จ ปพฺพชฺชมุเปติ ตาทิโส,
เนกฺขมฺมฉนฺทาภิรโต วิจกฺขโณ;
อนุจฺฉวิกสฺส ยทานุโลมิกํ,
ตํ วินฺทติ ขิปฺปมโนมวิกฺกโม [นิกฺกโม (สี. สฺยา. ปี.)]’’ติ.
(๑๒) สุขุมจฺฉวิลกฺขณํ
๒๑๖. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต ¶ สมาโน สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉิตา อโหสิ – ‘‘กึ, ภนฺเต, กุสลํ, กึ อกุสลํ, กึ สาวชฺชํ, กึ อนวชฺชํ, กึ เสวิตพฺพํ, กึ น เสวิตพฺพํ, กึ เม กรียมานํ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย อสฺส, กึ วา ปน เม กรียมานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ¶ อสฺสา’’ติ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ. สุขุมจฺฉวิ ¶ โหติ, สุขุมตฺตา ฉวิยา รโชชลฺลํ กาเย น อุปลิมฺปติ.
‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? มหาปฺโ โหติ, นาสฺส โหติ โกจิ ปฺาย สทิโส วา เสฏฺโ วา กามโภคีนํ. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? มหาปฺโ โหติ ปุถุปฺโ หาสปฺโ [หาสุปฺโ (สี. ปี.)] ชวนปฺโ ติกฺขปฺโ นิพฺเพธิกปฺโ, นาสฺส โหติ โกจิ ปฺาย สทิโส วา เสฏฺโ วา สพฺพสตฺตานํ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
๒๑๗. ตตฺเถตํ ¶ วุจฺจติ –
‘‘ปุเร ปุรตฺถา ปุริมาสุ ชาติสุ,
อฺาตุกาโม ปริปุจฺฉิตา อหุ;
สุสฺสูสิตา ปพฺพชิตํ อุปาสิตา,
อตฺถนฺตโร อตฺถกถํ นิสามยิ.
‘‘ปฺาปฏิลาภคเตน [ปฺาปฏิลาภกเตน (สี. ปี.) ฏีกา โอโลเกตพฺพา] กมฺมุนา,
มนุสฺสภูโต สุขุมจฺฉวี อหุ;
พฺยากํสุ อุปฺปาทนิมิตฺตโกวิทา,
สุขุมานิ อตฺถานิ อเวจฺจ ทกฺขิติ.
‘‘สเจ น ปพฺพชฺชมุเปติ ตาทิโส,
วตฺเตติ จกฺกํ ปถวึ ปสาสติ;
อตฺถานุสิฏฺีสุ ปริคฺคเหสุ จ,
น เตน เสยฺโย สทิโส จ วิชฺชติ.
‘‘สเจ ¶ ¶ จ ปพฺพชฺชมุเปติ ตาทิโส,
เนกฺขมฺมฉนฺทาภิรโต วิจกฺขโณ;
ปฺาวิสิฏฺํ ลภเต อนุตฺตรํ,
ปปฺโปติ โพธึ วรภูริเมธโส’’ติ.
(๑๓) สุวณฺณวณฺณลกฺขณํ
๒๑๘. ‘‘ยมฺปิ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน อกฺโกธโน อโหสิ อนุปายาสพหุโล, พหุมฺปิ วุตฺโต สมาโน นาภิสชฺชิ น กุปฺปิ น พฺยาปชฺชิ น ¶ ปติตฺถียิ, น โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตฺวากาสิ. ทาตา จ อโหสิ สุขุมานํ มุทุกานํ อตฺถรณานํ ปาวุรณานํ [ปาปุรณานํ (สี. สฺยา. ปี.)] โขมสุขุมานํ กปฺปาสิกสุขุมานํ โกเสยฺยสุขุมานํ กมฺพลสุขุมานํ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปจิตตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ. สุวณฺณวณฺโณ โหติ กฺจนสนฺนิภตฺตโจ.
‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? ลาภี โหติ สุขุมานํ มุทุกานํ อตฺถรณานํ ปาวุรณานํ โขมสุขุมานํ กปฺปาสิกสุขุมานํ โกเสยฺยสุขุมานํ กมฺพลสุขุมานํ. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? ลาภี โหติ สุขุมานํ มุทุกานํ อตฺถรณานํ ปาวุรณานํ โขมสุขุมานํ กปฺปาสิกสุขุมานํ โกเสยฺยสุขุมานํ กมฺพลสุขุมานํ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘อกฺโกธฺจ อธิฏฺหิ อทาสิ [อทาสิ จ (สี. ปี.)],
ทานฺจ วตฺถานิ สุขุมานิ สุจฺฉวีนิ;
ปุริมตรภเว ¶ ิโต อภิวิสฺสชิ,
มหิมิว สุโร อภิวสฺสํ.
‘‘ตํ ¶ กตฺวาน อิโต จุโต ทิพฺพํ,
อุปปชฺชิ [อุปปชฺช (สี. ปี.)] สุกตผลวิปากมนุภุตฺวา;
กนกตนุสนฺนิโภ อิธาภิภวติ,
สุรวรตโรริว อินฺโท.
‘‘เคหฺจาวสติ ¶ ¶ นโร อปพฺพชฺช,
มิจฺฉํ มหติมหึ อนุสาสติ [ปสาสติ (สฺยา.)];
ปสยฺห สหิธ สตฺตรตนํ [ปสยฺห อภิวสน-วรตรํ (สี. ปี.)],
ปฏิลภติ วิมล [วิปุล (สฺยา.), วิปุลํ (สี. ปี.)] สุขุมจฺฉวึ สุจิฺจ.
‘‘ลาภี อจฺฉาทนวตฺถโมกฺขปาวุรณานํ,
ภวติ ยทิ อนาคาริยตํ อุเปติ;
สหิโต [สุหิต (สฺยา.), ส หิ (สี. ปี.)] ปุริมกตผลํ อนุภวติ,
น ภวติ กตสฺส ปนาโส’’ติ.
(๑๔) โกโสหิตวตฺถคุยฺหลกฺขณํ
๒๒๐. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน จิรปฺปนฏฺเ สุจิรปฺปวาสิโน าติมิตฺเต สุหชฺเช สขิโน สมาเนตา อโหสิ. มาตรมฺปิ ปุตฺเตน สมาเนตา อโหสิ, ปุตฺตมฺปิ มาตรา สมาเนตา อโหสิ, ปิตรมฺปิ ¶ ปุตฺเตน สมาเนตา อโหสิ, ปุตฺตมฺปิ ปิตรา สมาเนตา อโหสิ, ภาตรมฺปิ ภาตรา สมาเนตา อโหสิ, ภาตรมฺปิ ภคินิยา สมาเนตา อโหสิ, ภคินิมฺปิ ภาตรา สมาเนตา อโหสิ, ภคินิมฺปิ ภคินิยา สมาเนตา อโหสิ, สมงฺคีกตฺวา [สมคฺคึ กตฺวา (สี. สฺยา. ปี.)] จ อพฺภนุโมทิตา อโหสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ – โกโสหิตวตฺถคุยฺโห โหติ.
‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? ปหูตปุตฺโต โหติ, ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ ¶ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน ¶ กึ ลภติ? ปหูตปุตฺโต โหติ, อเนกสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
๒๒๑. ตตฺเถตํ ¶ วุจฺจติ –
‘‘ปุเร ปุรตฺถา ปุริมาสุ ชาติสุ,
จิรปฺปนฏฺเ สุจิรปฺปวาสิโน;
าตี สุหชฺเช สขิโน สมานยิ,
สมงฺคิกตฺวา อนุโมทิตา อหุ.
‘‘โส เตน [ส เตน (ก.)] กมฺเมน ทิวํ สมกฺกมิ,
สุขฺจ ขิฑฺฑารติโย จ อนฺวภิ;
ตโต จวิตฺวา ปุนราคโต อิธ,
โกโสหิตํ วินฺทติ วตฺถฉาทิยํ.
‘‘ปหูตปุตฺโต ¶ ภวตี ตถาวิโธ,
ปโรสหสฺสฺจ [ปโรสหสฺสสฺส (สี. ปี.)] ภวนฺติ อตฺรชา;
สูรา จ วีรา จ [สูรา จ วีรงฺครูปา (ก.)] อมิตฺตตาปนา,
คิหิสฺส ปีตึชนนา ปิยํวทา.
‘‘พหูตรา ปพฺพชิตสฺส อิริยโต,
ภวนฺติ ปุตฺตา วจนานุสาริโน;
คิหิสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา ปุน,
ตํ ลกฺขณํ ชายติ ตทตฺถโชตก’’นฺติ.
ปมภาณวาโร นิฏฺิโต.
(๑๕-๑๖) ปริมณฺฑลอโนนมชณฺณุปริมสนลกฺขณานิ
๒๒๒. ‘‘ยมฺปิ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน มหาชนสงฺคหํ [มหาชนสงฺคาหกํ (ก.)] สเมกฺขมาโน [สมเปกฺขมาโน (ก.)] สมํ ชานาติ สามํ ชานาติ, ปุริสํ ชานาติ ปุริสวิเสสํ ชานาติ – ‘อยมิทมรหติ อยมิทมรหตี’ติ ตตฺถ ตตฺถ ปุริสวิเสสกโร อโหสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ ¶ อาคโต สมาโน อิมานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภติ. นิคฺโรธ ปริมณฺฑโล จ โหติ, ิตโกเยว จ อโนนมนฺโต อุโภหิ ปาณิตเลหิ ชณฺณุกานิ ปริมสติ ปริมชฺชติ.
‘‘โส เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ ¶ ? อฑฺโฒ โหติ มหทฺธโน มหาโภโค ปหูตชาตรูปรชโต ปหูตวิตฺตูปกรโณ ปหูตธนธฺโ ปริปุณฺณโกสโกฏฺาคาโร. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ…เป… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? อฑฺโฒ โหติ มหทฺธโน มหาโภโค. ตสฺสิมานิ ธนานิ โหนฺติ, เสยฺยถิทํ, สทฺธาธนํ สีลธนํ หิริธนํ โอตฺตปฺปธนํ สุตธนํ จาคธนํ ปฺาธนํ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘ตุลิย ปฏิวิจย จินฺตยิตฺวา,
มหาชนสงฺคหนํ [มหาชนํ สงฺคาหกํ (ก.)] สเมกฺขมาโน;
อยมิทมรหติ ตตฺถ ตตฺถ,
ปุริสวิเสสกโร ปุเร อโหสิ.
‘‘มหิฺจ ¶ ปน [สมา จ ปน (สฺยา.), ส หิ จ ปน (สี. ปี.)] ิโต อโนนมนฺโต,
ผุสติ กเรหิ อุโภหิ ชณฺณุกานิ;
มหิรุหปริมณฺฑโล อโหสิ,
สุจริตกมฺมวิปากเสสเกน.
‘‘พหุวิวิธนิมิตฺตลกฺขณฺู,
อตินิปุณา มนุชา พฺยากรึสุ;
พหุวิวิธา ¶ คิหีนํ อรหานิ,
ปฏิลภติ ทหโร สุสุ กุมาโร.
‘‘อิธ ¶ จ มหีปติสฺส กามโภคี,
คิหิปติรูปกา พหู ภวนฺติ;
ยทิ จ ชหติ สพฺพกามโภคํ,
ลภติ อนุตฺตรํ อุตฺตมธนคฺค’’นฺติ.
(๑๗-๑๙) สีหปุพฺพทฺธกายาทิติลกฺขณํ
๒๒๔. ‘‘ยมฺปิ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน พหุชนสฺส อตฺถกาโม อโหสิ หิตกาโม ผาสุกาโม โยคกฺเขมกาโม – ‘กินฺติเม สทฺธาย วฑฺเฒยฺยุํ, สีเลน วฑฺเฒยฺยุํ, สุเตน วฑฺเฒยฺยุํ [สุเตน วฑฺเฒยฺยุํ, พุทฺธิยา วฑฺเฒยฺยุํ (สฺยา.)], จาเคน วฑฺเฒยฺยุํ, ธมฺเมน วฑฺเฒยฺยุํ, ปฺาย วฑฺเฒยฺยุํ, ธนธฺเน วฑฺเฒยฺยุํ, เขตฺตวตฺถุนา วฑฺเฒยฺยุํ, ทฺวิปทจตุปฺปเทหิ วฑฺเฒยฺยุํ, ปุตฺตทาเรหิ วฑฺเฒยฺยุํ, ทาสกมฺมกรโปริเสหิ วฑฺเฒยฺยุํ, าตีหิ วฑฺเฒยฺยุํ, มิตฺเตหิ วฑฺเฒยฺยุํ, พนฺธเวหิ วฑฺเฒยฺยุ’นฺติ. โส ตสฺส กมฺมสฺส ¶ กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมานิ ตีณิ มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภติ. สีหปุพฺพทฺธกาโย จ โหติ จิตนฺตรํโส จ สมวฏฺฏกฺขนฺโธ จ.
‘‘โส เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? อปริหานธมฺโม ¶ โหติ, น ปริหายติ ธนธฺเน เขตฺตวตฺถุนา ทฺวิปทจตุปฺปเทหิ ปุตฺตทาเรหิ ทาสกมฺมกรโปริเสหิ าตีหิ มิตฺเตหิ พนฺธเวหิ, น ปริหายติ สพฺพสมฺปตฺติยา. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? อปริหานธมฺโม โหติ, น ปริหายติ สทฺธาย สีเลน สุเตน จาเคน ปฺาย, น ปริหายติ สพฺพสมฺปตฺติยา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘สทฺธาย สีเลน สุเตน พุทฺธิยา,
จาเคน ธมฺเมน พหูหิ สาธุหิ;
ธเนน ¶ ธฺเน จ เขตฺตวตฺถุนา,
ปุตฺเตหิ ทาเรหิ จตุปฺปเทหิ จ.
‘‘าตีหิ มิตฺเตหิ จ พนฺธเวหิ จ,
พเลน วณฺเณน สุเขน จูภยํ;
กถํ น หาเยยฺยุํ ปเรติ อิจฺฉติ,
อตฺถสฺส มิทฺธี จ [อิทํ สมิทฺธฺจ (ก.), อทฺธํ สมิทฺธฺจ (สฺยา.)] ปนาภิกงฺขติ.
‘‘ส ¶ สีหปุพฺพทฺธสุสณฺิโต อหุ,
สมวฏฺฏกฺขนฺโธ ¶ จ จิตนฺตรํโส;
ปุพฺเพ สุจิณฺเณน กเตน กมฺมุนา,
อหานิยํ ปุพฺพนิมิตฺตมสฺส ตํ.
‘‘คิหีปิ ธฺเน ธเนน วฑฺฒติ,
ปุตฺเตหิ ทาเรหิ จตุปฺปเทหิ จ;
อกิฺจโน ปพฺพชิโต อนุตฺตรํ,
ปปฺโปติ โพธึ อสหานธมฺมต’’นฺติ [สมฺโพธิมหานธมฺมตนฺติ (สฺยา. ก.) ฏีกา โอโลเกตพฺพา].
(๒๐) รสคฺคสคฺคิตาลกฺขณํ
๒๒๖. ‘‘ยมฺปิ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน สตฺตานํ อวิเหกชาติโก อโหสิ ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปจิตตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ, รสคฺคสคฺคี โหติ, อุทฺธคฺคาสฺส รสหรณีโย คีวาย ชาตา โหนฺติ สมาภิวาหินิโย [สมวาหรสหรณิโย (สฺยา.)].
‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? อปฺปาพาโธ โหติ อปฺปาตงฺโก, สมเวปากินิยา คหณิยา สมนฺนาคโต นาติสีตาย นาจฺจุณฺหาย. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? อปฺปาพาโธ โหติ อปฺปาตงฺโก สมเวปากินิยา คหณิยา ¶ สมนฺนาคโต นาติสีตาย นาจฺจุณฺหาย มชฺฌิมาย ปธานกฺขมาย. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘น ¶ ปาณิทณฺเฑหิ ปนาถ เลฑฺฑุนา,
สตฺเถน วา มรณวเธน [มารณวเธน (ก.)] วา ปน;
อุพฺพาธนาย ปริตชฺชนาย วา,
น เหยี ชนตมเหโก อหุ.
‘‘เตเนว ¶ โส สุคติมุเปจฺจ โมทติ,
สุขปฺผลํ กริย สุขานิ วินฺทติ;
สโมชสา ¶ [สมฺปชฺชสา (สี. ปี.), ปามฺุชสา (สฺยา.), สามฺจ สา (ก.)] รสหรณี สุสณฺิตา,
อิธาคโต ลภติ รสคฺคสคฺคิตํ.
‘‘เตนาหุ นํ อตินิปุณา วิจกฺขณา,
อยํ นโร สุขพหุโล ภวิสฺสติ;
คิหิสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา ปุน [ปน (สฺยา.)],
ตํ ลกฺขณํ ภวติ ตทตฺถโชตก’’นฺติ.
(๒๑-๒๒) อภินีลเนตฺตโคปขุมลกฺขณานิ
๒๒๘. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน น จ วิสฏํ, น จ วิสาจิ [น จ วิสาจิตํ (สี. ปี.), น จ วิสาวิ (สฺยา.)], น จ ปน วิเจยฺย เปกฺขิตา, อุชุํ ตถา ปสฏมุชุมโน, ปิยจกฺขุนา พหุชนํ อุทิกฺขิตา อโหสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภติ. อภินีลเนตฺโต จ ¶ โหติ โคปขุโม จ.
‘‘โส เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต, สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? ปิยทสฺสโน โหติ พหุโน ชนสฺส, ปิโย โหติ ¶ มนาโป พฺราหฺมณคหปติกานํ เนคมชานปทานํ คณกมหามตฺตานํ ¶ อนีกฏฺานํ โทวาริกานํ อมจฺจานํ ปาริสชฺชานํ ราชูนํ โภคิยานํ กุมารานํ. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ…เป… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? ปิยทสฺสโน โหติ พหุโน ชนสฺส, ปิโย โหติ มนาโป ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ เทวานํ มนุสฺสานํ อสุรานํ นาคานํ คนฺธพฺพานํ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘น จ วิสฏํ น จ วิสาจิ [วิสาจิตํ (สี. ปี.), วิสาวิ (สฺยา.)], น จ ปน วิเจยฺยเปกฺขิตา;
อุชุํ ตถา ปสฏมุชุมโน, ปิยจกฺขุนา พหุชนํ อุทิกฺขิตา.
‘‘สุคตีสุ ¶ โส ผลวิปากํ,
อนุภวติ ตตฺถ โมทติ;
อิธ จ ปน ภวติ โคปขุโม,
อภินีลเนตฺตนยโน สุทสฺสโน.
‘‘อภิโยคิโน จ นิปุณา,
พหู ปน นิมิตฺตโกวิทา;
สุขุมนยนกุสลา มนุชา,
ปิยทสฺสโนติ ¶ อภินิทฺทิสนฺติ นํ.
‘‘ปิยทสฺสโน คิหีปิ สนฺโต จ,
ภวติ พหุชนปิยายิโต;
ยทิ ¶ จ น ภวติ คิหี สมโณ โหติ,
ปิโย พหูนํ โสกนาสโน’’ติ.
(๒๓) อุณฺหีสสีสลกฺขณํ
๒๓๐. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน พหุชนปุพฺพงฺคโม อโหสิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ พหุชนปาโมกฺโข กายสุจริเต วจีสุจริเต ¶ มโนสุจริเต ทานสํวิภาเค สีลสมาทาเน อุโปสถุปวาเส มตฺเตยฺยตาย เปตฺเตยฺยตาย สามฺตาย พฺรหฺมฺตาย กุเล เชฏฺาปจายิตาย อฺตรฺตเรสุ จ อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ – อุณฺหีสสีโส โหติ.
‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? มหาสฺส ชโน อนฺวายิโก โหติ, พฺราหฺมณคหปติกา เนคมชานปทา คณกมหามตฺตา อนีกฏฺา โทวาริกา อมจฺจา ปาริสชฺชา ราชาโน โภคิยา กุมารา. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? มหาสฺส ชโน อนฺวายิโก โหติ, ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ¶ ภควา อโวจ.
๒๓๑. ตตฺเถตํ ¶ วุจฺจติ –
‘‘ปุพฺพงฺคโม สุจริเตสุ อหุ,
ธมฺเมสุ ธมฺมจริยาภิรโต;
อนฺวายิโก พหุชนสฺส อหุ,
สคฺเคสุ เวทยิตฺถ ปฺุผลํ.
‘‘เวทิตฺวา ¶ โส สุจริตสฺส ผลํ,
อุณฺหีสสีสตฺตมิธชฺฌคมา;
พฺยากํสุ พฺยฺชนนิมิตฺตธรา,
ปุพฺพงฺคโม พหุชนํ เหสฺสติ.
‘‘ปฏิโภคิยา มนุเชสุ อิธ,
ปุพฺเพว ตสฺส อภิหรนฺติ ตทา;
ยทิ ขตฺติโย ภวติ ภูมิปติ,
ปฏิหารกํ พหุชเน ลภติ.
‘‘อถ ¶ เจปิ ปพฺพชติ โส มนุโช,
ธมฺเมสุ โหติ ปคุโณ วิสวี;
ตสฺสานุสาสนิคุณาภิรโต,
อนฺวายิโก พหุชโน ภวตี’’ติ.
(๒๔-๒๕) เอเกกโลมตาอุณฺณาลกฺขณานิ
๒๓๒. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต อโหสิ, สจฺจวาที สจฺจสนฺโธ เถโต ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺส ¶ . โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปจิตตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภติ. เอเกกโลโม จ โหติ, อุณฺณา จ ภมุกนฺตเร ชาตา โหติ โอทาตา มุทุตูลสนฺนิภา.
‘‘โส เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต, สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? มหาสฺส ชโน อุปวตฺตติ, พฺราหฺมณคหปติกา เนคมชานปทา ¶ คณกมหามตฺตา อนีกฏฺา โทวาริกา อมจฺจา ปาริสชฺชา ราชาโน โภคิยา กุมารา. ราชา ¶ สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? มหาสฺส ชโน อุปวตฺตติ, ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘สจฺจปฺปฏิฺโ ปุริมาสุ ชาติสุ,
อทฺเวชฺฌวาโจ อลิกํ วิวชฺชยิ;
น โส วิสํวาทยิตาปิ กสฺสจิ,
ภูเตน ตจฺเฉน ตเถน ภาสยิ [โตสยิ (สี. ปี.)].
‘‘เสตา สุสุกฺกา มุทุตูลสนฺนิภา,
อุณฺณา สุชาตา [อุณฺณาสฺส ชาตา (ก. สี.)] ภมุกนฺตเร อหุ;
น ¶ โลมกูเปสุ ทุเว อชายิสุํ,
เอเกกโลมูปจิตงฺควา อหุ.
‘‘ตํ ลกฺขณฺู พหโว สมาคตา,
พฺยากํสุ ¶ อุปฺปาทนิมิตฺตโกวิทา;
อุณฺณา จ โลมา จ ยถา สุสณฺิตา,
อุปวตฺตตี อีทิสกํ พหุชฺชโน.
‘‘คิหิมฺปิ สนฺตํ อุปวตฺตตี ชโน,
พหุ ปุรตฺถาปกเตน กมฺมุนา;
อกิฺจนํ ปพฺพชิตํ อนุตฺตรํ,
พุทฺธมฺปิ สนฺตํ อุปวตฺตติ ชโน’’ติ.
(๒๖-๒๗) จตฺตาลีสอวิรฬทนฺตลกฺขณานิ
๒๓๔. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต อโหสิ. อิโต สุตฺวา น อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย ¶ , อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา, สหิตานํ ¶ วา อนุปฺปทาตา, สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา อโหสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภติ. จตฺตาลีสทนฺโต จ โหติ อวิรฬทนฺโต จ.
‘‘โส เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? อเภชฺชปริโส โหติ, อเภชฺชาสฺส โหนฺติ ปริสา, พฺราหฺมณคหปติกา เนคมชานปทา คณกมหามตฺตา อนีกฏฺา โทวาริกา อมจฺจา ปาริสชฺชา ราชาโน โภคิยา กุมารา. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ ¶ … พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? อเภชฺชปริโส โหติ, อเภชฺชาสฺส โหนฺติ ปริสา, ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
๒๓๕. ตตฺเถตํ ¶ วุจฺจติ –
‘‘เวภูติยํ สหิตเภทการึ,
เภทปฺปวฑฺฒนวิวาทการึ;
กลหปฺปวฑฺฒนอากิจฺจการึ,
สหิตานํ เภทชนนึ น ภณิ.
‘‘อวิวาทวฑฺฒนกรึ สุคิรํ,
ภินฺนานุสนฺธิชนนึ อภณิ;
กลหํ ¶ ชนสฺส ปนุที สมงฺคี,
สหิเตหิ นนฺทติ ปโมทติ จ.
‘‘สุคตีสุ โส ผลวิปากํ,
อนุภวติ ตตฺถ โมทติ;
ทนฺตา อิธ โหนฺติ อวิรฬา สหิตา,
จตุโร ทสสฺส มุขชา สุสณฺิตา.
‘‘ยทิ ¶ ขตฺติโย ภวติ ภูมิปติ,
อวิเภทิยาสฺส ปริสา ภวติ;
สมโณ จ โหติ วิรโช วิมโล,
ปริสาสฺส โหติ อนุคตา อจลา’’ติ.
(๒๘-๒๙) ปหูตชิวฺหาพฺรหฺมสฺสรลกฺขณานิ
๒๓๖. ‘‘ยมฺปิ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต อโหสิ. ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา อโหสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปจิตตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภติ. ปหูตชิวฺโห จ โหติ พฺรหฺมสฺสโร จ กรวีกภาณี.
‘‘โส ¶ เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? อาเทยฺยวาโจ โหติ, อาทิยนฺติสฺส วจนํ พฺราหฺมณคหปติกา เนคมชานปทา คณกมหามตฺตา อนีกฏฺา โทวาริกา อมจฺจา ปาริสชฺชา ราชาโน โภคิยา กุมารา. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? อาเทยฺยวาโจ ¶ โหติ, อาทิยนฺติสฺส วจนํ ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘อกฺโกสภณฺฑนวิเหสการึ,
อุพฺพาธิกํ [อุพฺพาธกรํ (สฺยา.)] พหุชนปฺปมทฺทนํ;
อพาฬฺหํ คิรํ โส น ภณิ ผรุสํ,
มธุรํ ภณิ สุสํหิตํ [สุสหิตํ (สฺยา.)] สขิลํ.
วาจา โส เอรยติ กณฺณสุขา;
วาจาสุจิณฺณผลมนุภวิ,
สคฺเคสุ เวทยถ [เวทยติ (?) ฏีกา โอโลเกตพฺพา] ปฺุผลํ.
‘‘เวทิตฺวา โส สุจริตสฺส ผลํ,
พฺรหฺมสฺสรตฺตมิธมชฺฌคมา;
ชิวฺหาสฺส โหติ วิปุลา ปุถุลา,
อาเทยฺยวากฺยวจโน ภวติ.
‘‘คิหิโนปิ อิชฺฌติ ยถา ภณโต,
อถ เจ ปพฺพชติ โส มนุโช;
อาทิยนฺติสฺส ¶ วจนํ ชนตา,
พหุโน พหุํ สุภณิตํ ภณโต’’ติ.
(๓๐) สีหหนุลกฺขณํ
๒๓๘. ‘‘ยมฺปิ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต อโหสิ กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา อโหสิ กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ, สีหหนุ โหติ.
‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ¶ ลภติ? อปฺปธํสิโย โหติ เกนจิ มนุสฺสภูเตน ปจฺจตฺถิเกน ปจฺจามิตฺเตน. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? อปฺปธํสิโย โหติ อพฺภนฺตเรหิ วา พาหิเรหิ วา ปจฺจตฺถิเกหิ ปจฺจามิตฺเตหิ, ราเคน วา โทเสน วา โมเหน วา สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
๒๓๙. ตตฺเถตํ ¶ วุจฺจติ –
‘‘น สมฺผปฺปลาปํ น มุทฺธตํ [พุทฺธตนฺติ (ก.)],
อวิกิณฺณวจนพฺยปฺปโถ อโหสิ;
อหิตมปิ จ อปนุทิ,
หิตมปิ จ พหุชนสุขฺจ อภณิ.
‘‘ตํ ¶ กตฺวา อิโต จุโต ทิวมุปปชฺชิ,
สุกตผลวิปากมนุโภสิ;
จวิย ปุนริธาคโต สมาโน,
ทฺวิทุคมวรตรหนุตฺตมลตฺถ.
‘‘ราชา โหติ สุทุปฺปธํสิโย,
มนุชินฺโท มนุชาธิปติ มหานุภาโว;
ติทิวปุรวรสโม ¶ ภวติ,
สุรวรตโรริว อินฺโท.
‘‘คนฺธพฺพาสุรยกฺขรกฺขเสภิ [สุรสกฺกรกฺขเสภิ (สฺยา.)],
สุเรหิ น ¶ หิ ภวติ สุปฺปธํสิโย;
ตถตฺโต ยทิ ภวติ ตถาวิโธ,
อิธ ทิสา จ ปฏิทิสา จ วิทิสา จา’’ติ.
(๓๑-๓๒) สมทนฺตสุสุกฺกทาาลกฺขณานิ
๒๔๐. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน มิจฺฉาชีวํ ปหาย สมฺมาอาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปสิ, ตุลากูฏ กํสกูฏ มานกูฏ อุกฺโกฏน วฺจน นิกติ สาจิโยค เฉทน วธ พนฺธน วิปราโมส อาโลป สหสาการา [สาหสาการา (สี. สฺยา. ปี.)] ปฏิวิรโต อโหสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส ¶ กฏตฺตา อุปจิตตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา วิปุลตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. โส ตตฺถ อฺเ เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหาติ ทิพฺเพน อายุนา ทิพฺเพน วณฺเณน ทิพฺเพน สุเขน ทิพฺเพน ยเสน ทิพฺเพน อาธิปเตยฺเยน ทิพฺเพหิ รูเปหิ ทิพฺเพหิ สทฺเทหิ ทิพฺเพหิ คนฺเธหิ ทิพฺเพหิ รเสหิ ¶ ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหิ. โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภติ, สมทนฺโต จ โหติ สุสุกฺกทาโ จ.
‘‘โส เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺต รตนานิ ภวนฺติ, เสยฺยถิทํ – จกฺกรตนํ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนํ มณิรตนํ อิตฺถิรตนํ คหปติรตนํ ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อขิลมนิมิตฺตมกณฺฏกํ ¶ อิทฺธํ ผีตํ เขมํ สิวํ นิรพฺพุทํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสติ. ราชา สมาโน กึ ลภติ? สุจิปริวาโร โหติ สุจิสฺส โหนฺติ ปริวารา พฺราหฺมณคหปติกา เนคมชานปทา คณกมหามตฺตา อนีกฏฺา โทวาริกา อมจฺจา ปาริสชฺชา ราชาโน โภคิยา กุมารา. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ.
‘‘สเจ ¶ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท. พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? สุจิปริวาโร โหติ, สุจิสฺส โหนฺติ ปริวารา, ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘มิจฺฉาชีวฺจ อวสฺสชิ สเมน วุตฺตึ,
สุจินา โส ชนยิตฺถ ธมฺมิเกน;
อหิตมปิ ¶ จ อปนุทิ,
หิตมปิ จ พหุชนสุขฺจ อจริ.
‘‘สคฺเค เวทยติ นโร สุขปฺผลานิ,
กริตฺวา นิปุเณภิ วิทูหิ สพฺภิ;
วณฺณิตานิ ติทิวปุรวรสโม,
อภิรมติ รติขิฑฺฑาสมงฺคี.
‘‘ลทฺธานํ ¶ มานุสกํ ภวํ ตโต,
จวิตฺวาน สุกตผลวิปากํ;
เสสเกน ปฏิลภติ ลปนชํ,
สมมปิ สุจิสุสุกฺกํ ¶ [ลทฺธาน มนุสฺสกํ ภวํ ตโต จวิย, ปุน สุกตผลวิปากเสสเกน; ปฏิลภติ ลปนชํ สมมปิ, สุจิ จ สุวิสุทฺธสุสุกฺกํ (สฺยา.)].
‘‘ตํ เวยฺยฺชนิกา สมาคตา พหโว,
พฺยากํสุ นิปุณสมฺมตา มนุชา;
สุจิชนปริวารคโณ ภวติ,
ทิชสมสุกฺกสุจิโสภนทนฺโต.
‘‘รฺโ โหติ พหุชโน,
สุจิปริวาโร มหตึ มหึ อนุสาสโต;
หิตมปิ จ พหุชนสุขฺจ จรนฺติ.
‘‘อถ เจ ปพฺพชติ ภวติ วิปาโป,
สมโณ สมิตรโช วิวฏฺฏจฺฉโท;
วิคตทรถกิลมโถ,
อิมมปิ จ ปรมปิ จ [อิมมฺปิ จ ปรมฺปิ จ (ปี.), ปรํปิ ปรมํปิ จ (สฺยา.)] ปสฺสติ โลกํ.
‘‘ตสฺโสวาทกรา พหุคิหี จ ปพฺพชิตา จ,
อสุจึ ครหิตํ ธุนนฺติ ปาปํ;
ส หิ สุจิภิ ปริวุโต ภวติ,
มลขิลกลิกิเลเส ปนุเทหี’’ติ [ตสฺโสวาทกรา พหุคิหี จ, ปพฺพชิตา จ อสุจิวิครหิต; ปนุทิปาปสฺส หิ สุจิภิปริวุโต, ภวติ มลขิลกกิเลเส ปนุเทติ (สฺยา.)].
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
ลกฺขณสุตฺตํ นิฏฺิตํ สตฺตมํ.