📜
๘. สิงฺคาลสุตฺตํ
๒๔๒. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน สิงฺคาลโก [สิคาลโก (สี.)] คหปติปุตฺโต กาลสฺเสว อุฏฺาย ราชคหา นิกฺขมิตฺวา อลฺลวตฺโถ อลฺลเกโส ปฺชลิโก ปุถุทิสา [ปุถุทฺทิสา (สี. สฺยา. ปี.)] นมสฺสติ – ปุรตฺถิมํ ทิสํ ทกฺขิณํ ทิสํ ปจฺฉิมํ ทิสํ อุตฺตรํ ทิสํ เหฏฺิมํ ทิสํ อุปริมํ ทิสํ.
๒๔๓. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อทฺทสา โข ภควา สิงฺคาลกํ คหปติปุตฺตํ กาลสฺเสว วุฏฺาย ราชคหา นิกฺขมิตฺวา อลฺลวตฺถํ อลฺลเกสํ ปฺชลิกํ ปุถุทิสา นมสฺสนฺตํ – ปุรตฺถิมํ ทิสํ ทกฺขิณํ ทิสํ ปจฺฉิมํ ทิสํ อุตฺตรํ ทิสํ เหฏฺิมํ ทิสํ อุปริมํ ทิสํ. ทิสฺวา สิงฺคาลกํ คหปติปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข ตฺวํ, คหปติปุตฺต, กาลสฺเสว อุฏฺาย ราชคหา นิกฺขมิตฺวา อลฺลวตฺโถ อลฺลเกโส ปฺชลิโก ปุถุทิสา ¶ นมสฺสสิ – ปุรตฺถิมํ ทิสํ ทกฺขิณํ ทิสํ ปจฺฉิมํ ทิสํ อุตฺตรํ ทิสํ เหฏฺิมํ ทิสํ อุปริมํ ทิส’’นฺติ? ‘‘ปิตา มํ, ภนฺเต, กาลํ กโรนฺโต เอวํ อวจ – ‘ทิสา, ตาต, นมสฺเสยฺยาสี’ติ. โส โข อหํ, ภนฺเต, ปิตุวจนํ สกฺกโรนฺโต ครุํ กโรนฺโต มาเนนฺโต ปูเชนฺโต กาลสฺเสว อุฏฺาย ราชคหา นิกฺขมิตฺวา อลฺลวตฺโถ อลฺลเกโส ปฺชลิโก ปุถุทิสา นมสฺสามิ – ปุรตฺถิมํ ทิสํ ทกฺขิณํ ทิสํ ปจฺฉิมํ ทิสํ อุตฺตรํ ทิสํ เหฏฺิมํ ทิสํ อุปริมํ ¶ ทิส’’นฺติ.
ฉ ทิสา
๒๔๔. ‘‘น โข, คหปติปุตฺต, อริยสฺส วินเย เอวํ ฉ ทิสา [ฉทฺทิสา (สี. ปี.)] นมสฺสิตพฺพา’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน, ภนฺเต, อริยสฺส วินเย ฉ ทิสา [ฉทฺทิสา (สี. ปี.)] นมสฺสิตพฺพา? สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา ตถา ธมฺมํ เทเสตุ, ยถา อริยสฺส วินเย ฉ ทิสา [ฉทฺทิสา (สี. ปี.)] นมสฺสิตพฺพา’’ติ.
‘‘เตน ¶ หิ, คหปติปุตฺต สุโณหิ สาธุกํ มนสิกโรหิ ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข สิงฺคาลโก คหปติปุตฺโต ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘ยโต ¶ โข, คหปติปุตฺต, อริยสาวกสฺส จตฺตาโร กมฺมกิเลสา ปหีนา โหนฺติ, จตูหิ จ าเนหิ ปาปกมฺมํ น กโรติ, ฉ จ โภคานํ อปายมุขานิ น เสวติ, โส เอวํ จุทฺทส ปาปกาปคโต ฉทฺทิสาปฏิจฺฉาที [ปฏิจฺฉาที โหติ (สฺยา.)] อุโภโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติ. ตสฺส อยฺเจว โลโก อารทฺโธ โหติ ปโร จ โลโก. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ.
จตฺตาโรกมฺมกิเลสา
๒๔๕. ‘‘กตมสฺส จตฺตาโร กมฺมกิเลสา ปหีนา โหนฺติ? ปาณาติปาโต โข, คหปติปุตฺต, กมฺมกิเลโส, อทินฺนาทานํ กมฺมกิเลโส, กาเมสุมิจฺฉาจาโร กมฺมกิเลโส, มุสาวาโท กมฺมกิเลโส. อิมสฺส จตฺตาโร กมฺมกิเลสา ปหีนา โหนฺตี’’ติ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน [อิทํ วตฺวา (สี. ปี.) เอวมีทิเสสุ าเนสุ] สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ปาณาติปาโต ¶ อทินฺนาทานํ, มุสาวาโท จ วุจฺจติ;
ปรทารคมนฺเจว, นปฺปสํสนฺติ ปณฺฑิตา’’ติ.
จตุฏฺานํ
๒๔๖. ‘‘กตเมหิ จตูหิ าเนหิ ปาปกมฺมํ น กโรติ? ฉนฺทาคตึ คจฺฉนฺโต ¶ ปาปกมฺมํ กโรติ, โทสาคตึ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ, โมหาคตึ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ, ภยาคตึ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ. ยโต โข, คหปติปุตฺต, อริยสาวโก เนว ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, น โทสาคตึ คจฺฉติ, น โมหาคตึ คจฺฉติ, น ภยาคตึ คจฺฉติ; อิเมหิ จตูหิ าเนหิ ปาปกมฺมํ น กโรตี’’ติ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา, โย ธมฺมํ อติวตฺตติ;
นิหียติ ยโส ตสฺส [ตสฺส เยโส (พหูสุ, วินเยปิ)], กาฬปกฺเขว จนฺทิมา.
‘‘ฉนฺทา ¶ โทสา ภยา โมหา, โย ธมฺมํ นาติวตฺตติ;
อาปูรติ ยโส ตสฺส [ตสฺส เยโส (พหูสุ, วินเยปิ)], สุกฺกปกฺเขว [ชุณฺหปกฺเขว (ก.)] จนฺทิมา’’ติ.
ฉ อปายมุขานิ
๒๔๗. ‘‘กตมานิ ¶ ฉ โภคานํ อปายมุขานิ น เสวติ? สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานานุโยโค โข, คหปติปุตฺต, โภคานํ อปายมุขํ, วิกาลวิสิขาจริยานุโยโค โภคานํ อปายมุขํ, สมชฺชาภิจรณํ โภคานํ อปายมุขํ, ชูตปฺปมาทฏฺานานุโยโค โภคานํ อปายมุขํ, ปาปมิตฺตานุโยโค โภคานํ อปายมุขํ, อาลสฺยานุโยโค [อาลสานุโยโค (สี. สฺยา. ปี.)] โภคานํ อปายมุขํ.
สุราเมรยสฺส ฉ อาทีนวา
๒๔๘. ‘‘ฉ โขเม, คหปติปุตฺต, อาทีนวา สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานานุโยเค. สนฺทิฏฺิกา ธนชานิ [ธนฺชานิ (สี. ปี.)], กลหปฺปวฑฺฒนี, โรคานํ อายตนํ, อกิตฺติสฺชนนี, โกปีนนิทํสนี ¶ , ปฺาย ทุพฺพลิกรณีตฺเวว ฉฏฺํ ปทํ ภวติ. อิเม โข, คหปติปุตฺต, ฉ อาทีนวา สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานานุโยเค.
วิกาลจริยาย ฉ อาทีนวา
๒๔๙. ‘‘ฉ ¶ โขเม, คหปติปุตฺต, อาทีนวา วิกาลวิสิขาจริยานุโยเค. อตฺตาปิสฺส อคุตฺโต อรกฺขิโต โหติ, ปุตฺตทาโรปิสฺส อคุตฺโต อรกฺขิโต โหติ, สาปเตยฺยํปิสฺส อคุตฺตํ อรกฺขิตํ โหติ, สงฺกิโย จ โหติ ปาปเกสุ าเนสุ [เตสุ เตสุ าเนสุ (สฺยา.)], อภูตวจนฺจ ตสฺมึ รูหติ, พหูนฺจ ทุกฺขธมฺมานํ ปุรกฺขโต โหติ. อิเม โข, คหปติปุตฺต, ฉ อาทีนวา วิกาลวิสิขาจริยานุโยเค.
สมชฺชาภิจรณสฺส ฉ อาทีนวา
๒๕๐. ‘‘ฉ โขเม, คหปติปุตฺต, อาทีนวา สมชฺชาภิจรเณ. กฺว [กุวํ (ก. สี. ปี.)] นจฺจํ, กฺว คีตํ, กฺว วาทิตํ, กฺว อกฺขานํ, กฺว ปาณิสฺสรํ, กฺว กุมฺภถุนนฺติ. อิเม โข, คหปติปุตฺต, ฉ อาทีนวา สมชฺชาภิจรเณ.
ชูตปฺปมาทสฺส ฉ อาทีนวา
๒๕๑. ‘‘ฉ ¶ ¶ โขเม, คหปติปุตฺต, อาทีนวา ชูตปฺปมาทฏฺานานุโยเค. ชยํ เวรํ ปสวติ, ชิโน วิตฺตมนุโสจติ, สนฺทิฏฺิกา ธนชานิ, สภาคตสฺส [สภาเย ตสฺส (ก.)] วจนํ น รูหติ, มิตฺตามจฺจานํ ปริภูโต โหติ, อาวาหวิวาหกานํ อปตฺถิโต โหติ – ‘อกฺขธุตฺโต อยํ ปุริสปุคฺคโล นาลํ ทารภรณายา’ติ. อิเม โข, คหปติปุตฺต, ฉ อาทีนวา ชูตปฺปมาทฏฺานานุโยเค.
ปาปมิตฺตตาย ฉ อาทีนวา
๒๕๒. ‘‘ฉ โขเม, คหปติปุตฺต, อาทีนวา ปาปมิตฺตานุโยเค. เย ธุตฺตา, เย โสณฺฑา, เย ปิปาสา, เย เนกติกา, เย วฺจนิกา, เย สาหสิกา. ตฺยาสฺส มิตฺตา โหนฺติ เต สหายา. อิเม ¶ โข, คหปติปุตฺต, ฉ อาทีนวา ปาปมิตฺตานุโยเค.
อาลสฺยสฺส ฉ อาทีนวา
๒๕๓. ‘‘ฉ โขเม, คหปติปุตฺต, อาทีนวา อาลสฺยานุโยเค. อติสีตนฺติ ¶ กมฺมํ น กโรติ, อติอุณฺหนฺติ กมฺมํ น กโรติ, อติสายนฺติ กมฺมํ น กโรติ, อติปาโตติ กมฺมํ น กโรติ, อติฉาโตสฺมีติ กมฺมํ น กโรติ, อติธาโตสฺมีติ กมฺมํ น กโรติ. ตสฺส เอวํ กิจฺจาปเทสพหุลสฺส วิหรโต อนุปฺปนฺนา เจว โภคา นุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา จ โภคา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ. อิเม โข, คหปติปุตฺต, ฉ อาทีนวา อาลสฺยานุโยเค’’ติ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘โหติ ปานสขา นาม,
โหติ สมฺมิยสมฺมิโย;
โย จ อตฺเถสุ ชาเตสุ,
สหาโย โหติ โส สขา.
‘‘อุสฺสูรเสยฺยา ¶ ปรทารเสวนา,
เวรปฺปสโว [เวรปฺปสงฺโค (สี. สฺยา. ปี.)] จ อนตฺถตา จ;
ปาปา ¶ จ มิตฺตา สุกทริยตา จ,
เอเต ฉ านา ปุริสํ ธํสยนฺติ.
‘‘ปาปมิตฺโต ปาปสโข,
ปาปอาจารโคจโร;
อสฺมา โลกา ปรมฺหา จ,
อุภยา ธํสเต นโร.
‘‘อกฺขิตฺถิโย วารุณี นจฺจคีตํ,
ทิวา โสปฺปํ ปาริจริยา อกาเล;
ปาปา จ มิตฺตา สุกทริยตา จ,
เอเต ฉ านา ปุริสํ ธํสยนฺติ.
‘‘อกฺเขหิ ทิพฺพนฺติ สุรํ ปิวนฺติ,
ยนฺติตฺถิโย ¶ ปาณสมา ปเรสํ;
นิหีนเสวี ¶ น จ วุทฺธเสวี [วุทฺธิเสวี (สฺยา.), พุทฺธิเสวี (ก.)],
นิหียเต กาฬปกฺเขว จนฺโท.
‘‘โย วารุณี อทฺธโน อกิฺจโน,
ปิปาโส ปิวํ ปปาคโต [ปิปาโสสิ อตฺถปาคโต (สฺยา.), ปิปาโสปิ สมปฺปปาคโต (ก.)];
อุทกมิว อิณํ วิคาหติ,
อกุลํ [อากุลํ (สฺยา. ก.)] กาหิติ ขิปฺปมตฺตโน.
‘‘น ทิวา โสปฺปสีเลน, รตฺติมุฏฺานเทสฺสินา [รตฺตินุฏฺานทสฺสินา (สี. ปี.), รตฺตินุฏฺานสีลินา (?)];
นิจฺจํ มตฺเตน โสณฺเฑน, สกฺกา อาวสิตุํ ฆรํ.
‘‘อติสีตํ อติอุณฺหํ, อติสายมิทํ อหุ;
อิติ วิสฺสฏฺกมฺมนฺเต, อตฺถา อจฺเจนฺติ มาณเว.
‘‘โยธ ¶ ¶ สีตฺจ อุณฺหฺจ, ติณา ภิยฺโย น มฺติ;
กรํ ปุริสกิจฺจานิ, โส สุขํ [สุขา (สพฺพตฺถ) อฏฺกถา โอโลเกตพฺพา] น วิหายตี’’ติ.
มิตฺตปติรูปกา
๒๕๔. ‘‘จตฺตาโรเม, คหปติปุตฺต, อมิตฺตา มิตฺตปติรูปกา เวทิตพฺพา. อฺทตฺถุหโร อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ, วจีปรโม อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ, อนุปฺปิยภาณี อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ, อปายสหาโย อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ.
๒๕๕. ‘‘จตูหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อฺทตฺถุหโร อมิตฺโต ¶ มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ.
‘‘อฺทตฺถุหโร โหติ, อปฺเปน พหุมิจฺฉติ ¶ ;
ภยสฺส กิจฺจํ กโรติ, เสวติ อตฺถการณา.
‘‘อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, จตูหิ าเนหิ อฺทตฺถุหโร อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ.
๒๕๖. ‘‘จตูหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ วจีปรโม อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ. อตีเตน ปฏิสนฺถรติ [ปฏิสนฺธรติ (ก.)], อนาคเตน ปฏิสนฺถรติ, นิรตฺถเกน สงฺคณฺหาติ, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ กิจฺเจสุ พฺยสนํ ทสฺเสติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, จตูหิ าเนหิ วจีปรโม อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ.
๒๕๗. ‘‘จตูหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อนุปฺปิยภาณี อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ. ปาปกํปิสฺส [ปาปกมฺมํปิสฺส (สฺยา.)] อนุชานาติ, กลฺยาณํปิสฺส อนุชานาติ, สมฺมุขาสฺส วณฺณํ ภาสติ, ปรมฺมุขาสฺส อวณฺณํ ภาสติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, จตูหิ าเนหิ อนุปฺปิยภาณี อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ.
๒๕๘. ‘‘จตูหิ ¶ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อปายสหาโย อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ ¶ . สุราเมรย มชฺชปฺปมาทฏฺานานุโยเค สหาโย โหติ, วิกาล วิสิขา จริยานุโยเค สหาโย โหติ, สมชฺชาภิจรเณ สหาโย โหติ, ชูตปฺปมาทฏฺานานุโยเค สหาโย โหติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, จตูหิ าเนหิ อปายสหาโย อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ’’ติ.
๒๕๙. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘อฺทตฺถุหโร ¶ มิตฺโต, โย จ มิตฺโต วจีปโร [วจีปรโม (สฺยา.)];
อนุปฺปิยฺจ โย อาห, อปาเยสุ จ โย สขา.
เอเต อมิตฺเต จตฺตาโร, อิติ วิฺาย ปณฺฑิโต;
อารกา ปริวชฺเชยฺย, มคฺคํ ปฏิภยํ ยถา’’ติ.
สุหทมิตฺโต
๒๖๐. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , คหปติปุตฺต, มิตฺตา สุหทา เวทิตพฺพา. อุปกาโร [อุปการโก (สฺยา.)] มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ, สมานสุขทุกฺโข มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ, อตฺถกฺขายี มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ, อนุกมฺปโก มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ.
๒๖๑. ‘‘จตูหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อุปกาโร มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ. ปมตฺตํ รกฺขติ, ปมตฺตสฺส สาปเตยฺยํ รกฺขติ, ภีตสฺส สรณํ โหติ, อุปฺปนฺเนสุ กิจฺจกรณีเยสุ ตทฺทิคุณํ โภคํ อนุปฺปเทติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, จตูหิ าเนหิ อุปกาโร มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ.
๒๖๒. ‘‘จตูหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ สมานสุขทุกฺโข มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ. คุยฺหมสฺส อาจิกฺขติ, คุยฺหมสฺส ปริคูหติ, อาปทาสุ น วิชหติ, ชีวิตํปิสฺส อตฺถาย ปริจฺจตฺตํ โหติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, จตูหิ าเนหิ สมานสุขทุกฺโข มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ.
๒๖๓. ‘‘จตูหิ ¶ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อตฺถกฺขายี มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ. ปาปา นิวาเรติ, กลฺยาเณ นิเวเสติ, อสฺสุตํ สาเวติ, สคฺคสฺส ¶ มคฺคํ อาจิกฺขติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, จตูหิ าเนหิ อตฺถกฺขายี มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ.
๒๖๔. ‘‘จตูหิ ¶ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อนุกมฺปโก มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ. อภเวนสฺส น นนฺทติ, ภเวนสฺส นนฺทติ, อวณฺณํ ภณมานํ นิวาเรติ, วณฺณํ ภณมานํ ปสํสติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, จตูหิ าเนหิ อนุกมฺปโก มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ’’ติ.
๒๖๕. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘อุปกาโร ¶ จ โย มิตฺโต, สุเข ทุกฺเข [สุขทุกฺโข (สฺยา. ก.)] จ โย สขา [โย จ มิตฺโต สุเข ทุกฺเข (สี. ปี.)];
อตฺถกฺขายี จ โย มิตฺโต, โย จ มิตฺตานุกมฺปโก.
‘‘เอเตปิ มิตฺเต จตฺตาโร, อิติ วิฺาย ปณฺฑิโต;
สกฺกจฺจํ ปยิรุปาเสยฺย, มาตา ปุตฺตํ ว โอรสํ;
ปณฺฑิโต สีลสมฺปนฺโน, ชลํ อคฺคีว ภาสติ.
‘‘โภเค สํหรมานสฺส, ภมรสฺเสว อิรียโต;
โภคา สนฺนิจยํ ยนฺติ, วมฺมิโกวุปจียติ.
‘‘เอวํ โภเค สมาหตฺวา [สมาหริตฺวา (สฺยา.)], อลมตฺโต กุเล คิหี;
จตุธา วิภเช โภเค, ส เว มิตฺตานิ คนฺถติ.
‘‘เอเกน โภเค ภฺุเชยฺย, ทฺวีหิ กมฺมํ ปโยชเย;
จตุตฺถฺจ นิธาเปยฺย, อาปทาสุ ภวิสฺสตี’’ติ.
ฉทฺทิสาปฏิจฺฉาทนกณฺฑํ
๒๖๖. ‘‘กถฺจ, คหปติปุตฺต, อริยสาวโก ฉทฺทิสาปฏิจฺฉาที โหติ? ฉ ¶ อิมา, คหปติปุตฺต, ทิสา เวทิตพฺพา. ปุรตฺถิมา ทิสา มาตาปิตโร เวทิตพฺพา, ทกฺขิณา ¶ ทิสา อาจริยา เวทิตพฺพา, ปจฺฉิมา ทิสา ¶ ปุตฺตทารา เวทิตพฺพา, อุตฺตรา ทิสา มิตฺตามจฺจา เวทิตพฺพา, เหฏฺิมา ทิสา ทาสกมฺมกรา เวทิตพฺพา, อุปริมา ทิสา สมณพฺราหฺมณา เวทิตพฺพา.
๒๖๗. ‘‘ปฺจหิ ¶ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ ปุตฺเตน ปุรตฺถิมา ทิสา มาตาปิตโร ปจฺจุปฏฺาตพฺพา – ภโต เน [เนสํ (พหูสุ)] ภริสฺสามิ, กิจฺจํ เนสํ กริสฺสามิ, กุลวํสํ เปสฺสามิ, ทายชฺชํ ปฏิปชฺชามิ, อถ วา ปน เปตานํ กาลงฺกตานํ ทกฺขิณํ อนุปฺปทสฺสามีติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ ปุตฺเตน ปุรตฺถิมา ทิสา มาตาปิตโร ปจฺจุปฏฺิตา ปฺจหิ าเนหิ ปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ. ปาปา นิวาเรนฺติ, กลฺยาเณ นิเวเสนฺติ, สิปฺปํ สิกฺขาเปนฺติ, ปติรูเปน ทาเรน สํโยเชนฺติ, สมเย ทายชฺชํ นิยฺยาเทนฺติ [นิยฺยาเตนฺติ (ก. สี.)]. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ ปุตฺเตน ปุรตฺถิมา ทิสา มาตาปิตโร ปจฺจุปฏฺิตา อิเมหิ ปฺจหิ าเนหิ ปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ. เอวมสฺส เอสา ปุรตฺถิมา ทิสา ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา.
๒๖๘. ‘‘ปฺจหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อนฺเตวาสินา ทกฺขิณา ทิสา อาจริยา ปจฺจุปฏฺาตพฺพา – อุฏฺาเนน อุปฏฺาเนน สุสฺสุสาย ปาริจริยาย สกฺกจฺจํ สิปฺปปฏิคฺคหเณน [สิปฺปํ ปฏิคฺคหเณน (สฺยา.), สิปฺปอุคฺคหเณน (ก.)]. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ อนฺเตวาสินา ทกฺขิณา ทิสา อาจริยา ปจฺจุปฏฺิตา ปฺจหิ ¶ าเนหิ อนฺเตวาสึ อนุกมฺปนฺติ – สุวินีตํ วิเนนฺติ, สุคฺคหิตํ คาหาเปนฺติ, สพฺพสิปฺปสฺสุตํ สมกฺขายิโน ภวนฺติ, มิตฺตามจฺเจสุ ปฏิยาเทนฺติ [ปฏิเวเทนฺติ (สฺยา.)], ทิสาสุ ปริตฺตาณํ กโรนฺติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ อนฺเตวาสินา ¶ ทกฺขิณา ทิสา อาจริยา ปจฺจุปฏฺิตา อิเมหิ ปฺจหิ าเนหิ อนฺเตวาสึ อนุกมฺปนฺติ. เอวมสฺส เอสา ทกฺขิณา ทิสา ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา.
๒๖๙. ‘‘ปฺจหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ สามิเกน ปจฺฉิมา ทิสา ภริยา ปจฺจุปฏฺาตพฺพา – สมฺมานนาย อนวมานนาย [อวิมานนาย (สฺยา. ปี.)] อนติจริยาย อิสฺสริยโวสฺสคฺเคน อลงฺการานุปฺปทาเนน. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ สามิเกน ปจฺฉิมา ทิสา ภริยา ปจฺจุปฏฺิตา ปฺจหิ าเนหิ ¶ สามิกํ อนุกมฺปติ – สุสํวิหิตกมฺมนฺตา จ โหติ, สงฺคหิตปริชนา [สุสงฺคหิตปริชนา (สี. สฺยา. ปี.)] จ, อนติจารินี จ, สมฺภตฺจ อนุรกฺขติ, ทกฺขา จ โหติ อนลสา สพฺพกิจฺเจสุ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ สามิเกน ปจฺฉิมา ทิสา ภริยา ปจฺจุปฏฺิตา อิเมหิ ปฺจหิ าเนหิ สามิกํ อนุกมฺปติ. เอวมสฺส เอสา ปจฺฉิมา ทิสา ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา.
๒๗๐. ‘‘ปฺจหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ กุลปุตฺเตน อุตฺตรา ทิสา มิตฺตามจฺจา ปจฺจุปฏฺาตพฺพา – ทาเนน เปยฺยวชฺเชน [วิยวชฺเชน (สฺยา. ก.)] อตฺถจริยาย สมานตฺตตาย อวิสํวาทนตาย. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ กุลปุตฺเตน อุตฺตรา ทิสา มิตฺตามจฺจา ปจฺจุปฏฺิตา ปฺจหิ ¶ าเนหิ ¶ กุลปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ – ปมตฺตํ รกฺขนฺติ, ปมตฺตสฺส สาปเตยฺยํ รกฺขนฺติ, ภีตสฺส สรณํ โหนฺติ, อาปทาสุ น วิชหนฺติ, อปรปชา จสฺส ปฏิปูเชนฺติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ กุลปุตฺเตน อุตฺตรา ทิสา มิตฺตามจฺจา ปจฺจุปฏฺิตา อิเมหิ ปฺจหิ าเนหิ กุลปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ. เอวมสฺส เอสา อุตฺตรา ทิสา ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา.
๒๗๑. ‘‘ปฺจหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อยฺยิรเกน [อยิรเกน (สี. สฺยา. ปี.)] เหฏฺิมา ¶ ทิสา ทาสกมฺมกรา ปจฺจุปฏฺาตพฺพา – ยถาพลํ กมฺมนฺตสํวิธาเนน ภตฺตเวตนานุปฺปทาเนน คิลานุปฏฺาเนน อจฺฉริยานํ รสานํ สํวิภาเคน สมเย โวสฺสคฺเคน. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ อยฺยิรเกน เหฏฺิมา ทิสา ทาสกมฺมกรา ปจฺจุปฏฺิตา ปฺจหิ าเนหิ อยฺยิรกํ อนุกมฺปนฺติ – ปุพฺพุฏฺายิโน จ โหนฺติ, ปจฺฉา นิปาติโน จ, ทินฺนาทายิโน จ, สุกตกมฺมกรา จ, กิตฺติวณฺณหรา จ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ อยฺยิรเกน เหฏฺิมา ทิสา ทาสกมฺมกรา ปจฺจุปฏฺิตา อิเมหิ ปฺจหิ าเนหิ อยฺยิรกํ อนุกมฺปนฺติ. เอวมสฺส เอสา เหฏฺิมา ทิสา ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา.
๒๗๒. ‘‘ปฺจหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ กุลปุตฺเตน อุปริมา ทิสา สมณพฺราหฺมณา ปจฺจุปฏฺาตพฺพา – เมตฺเตน กายกมฺเมน เมตฺเตน วจีกมฺเมน เมตฺเตน ¶ มโนกมฺเมน อนาวฏทฺวารตาย อามิสานุปฺปทาเนน. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ กุลปุตฺเตน อุปริมา ¶ ทิสา สมณพฺราหฺมณา ปจฺจุปฏฺิตา ฉหิ าเนหิ กุลปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ – ปาปา นิวาเรนฺติ, กลฺยาเณ นิเวเสนฺติ, กลฺยาเณน มนสา อนุกมฺปนฺติ, อสฺสุตํ สาเวนฺติ, สุตํ ปริโยทาเปนฺติ, สคฺคสฺส มคฺคํ อาจิกฺขนฺติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ กุลปุตฺเตน อุปริมา ทิสา สมณพฺราหฺมณา ปจฺจุปฏฺิตา อิเมหิ ฉหิ าเนหิ กุลปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ. เอวมสฺส เอสา อุปริมา ทิสา ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา’’ติ.
๒๗๓. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘มาตาปิตา ทิสา ปุพฺพา, อาจริยา ทกฺขิณา ทิสา;
ปุตฺตทารา ¶ ทิสา ปจฺฉา, มิตฺตามจฺจา จ อุตฺตรา.
‘‘ทาสกมฺมกรา ¶ เหฏฺา, อุทฺธํ สมณพฺราหฺมณา;
เอตา ทิสา นมสฺเสยฺย, อลมตฺโต กุเล คิหี.
‘‘ปณฺฑิโต สีลสมฺปนฺโน, สณฺโห จ ปฏิภานวา;
นิวาตวุตฺติ อตฺถทฺโธ, ตาทิโส ลภเต ยสํ.
‘‘อุฏฺานโก อนลโส, อาปทาสุ น เวธติ;
อจฺฉินฺนวุตฺติ เมธาวี, ตาทิโส ลภเต ยสํ.
‘‘สงฺคาหโก มิตฺตกโร, วทฺู วีตมจฺฉโร;
เนตา วิเนตา อนุเนตา, ตาทิโส ลภเต ยสํ.
‘‘ทานฺจ เปยฺยวชฺชฺจ, อตฺถจริยา จ ยา อิธ;
สมานตฺตตา จ ธมฺเมสุ, ตตฺถ ตตฺถ ยถารหํ;
เอเต ¶ โข สงฺคหา โลเก, รถสฺสาณีว ยายโต.
‘‘เอเต จ สงฺคหา นาสฺสุ, น มาตา ปุตฺตการณา;
ลเภถ มานํ ปูชํ วา, ปิตา วา ปุตฺตการณา.
‘‘ยสฺมา จ สงฺคหา [สงฺคเห (ก.) อฏฺกถายํ อิจฺฉิตปาโ] เอเต, สมฺมเปกฺขนฺติ [สมเวกฺขนฺติ (สี. ปี. ก.)] ปณฺฑิตา;
ตสฺมา ¶ มหตฺตํ ปปฺโปนฺติ, ปาสํสา จ ภวนฺติ เต’’ติ.
๒๗๔. เอวํ ¶ วุตฺเต, สิงฺคาลโก คหปติปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต! อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต! เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ. เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสํฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ, อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.
สิงฺคาลสุตฺตํ [สิงฺคาโลวาทสุตฺตนฺตํ (ปี.)] นิฏฺิตํ อฏฺมํ.