📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ทีฆนิกาเย

ปาถิกวคฺคฏีกา

๑. ปาถิกสุตฺตวณฺณนา

สุนกฺขตฺตวตฺถุวณฺณนา

. อปุพฺพปทวณฺณนาติ อตฺถสํวณฺณนาวเสน เหฏฺา อคฺคหิตตาย อปุพฺพสฺส อภินวสฺส ปทสฺส วณฺณนา อตฺถวิภาวนา. ‘‘หิตฺวา ปุนปฺปุนาคตมตฺถ’’นฺติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา) หิ วุตฺตํ. มลฺเลสูติ เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. ฉายูทกสมฺปนฺเน วนสณฺเฑ วิหรตีติ อนุปิยสามนฺตา กตสฺส วิหารสฺส อภาวโต. ยทิ น ตาว ปวิฏฺโ, กสฺมา ‘‘ปาวิสี’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ปวิสิสฺสามี’’ติอาทิ, เตน อวสฺสํ ภาวินิ ภูเต วิย อุปจารา โหนฺตีติ ทสฺเสติ. อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวนฺโต ‘‘ยถา กิ’’นฺติอาทิมาห. เอตนฺติ เอตํ ‘‘อติปฺปโค โข’’ติอาทิกํ จินฺตนํ อโหสิ. อติวิยปโค โขติ อติวิย ปาโตว. ฉนฺนโกปีนตาย, ปริพฺพาชกปพฺพชฺชุปคเมน จ ฉนฺนปริพฺพาชกํ, น นคฺคปริพฺพาชกํ.

. ยสฺมา ภควโต อุจฺจากุลปฺปสุตตํ, มหาภินิกฺขมนนิกฺขนฺตตํ, อนฺสาธารณทุกฺกรจรณํ, วิเวกวาสํ, โลกสมฺภาวิตตํ, โอวาทานุสาสนีหิ โลกสฺส พหุปการตํ, ปรปฺปวาทมทฺทนํ, มหิทฺธิกตํ , มหานุภาวตนฺติ เอวมาทิกํ ตํตํอตฺตปจฺจกฺขคุณวิเสสํ นิสฺสาย เยภุยฺเยน อฺติตฺถิยาปิ ภควนฺตํ ทิสฺวา อาทรคารวพหุมานํ ทสฺเสนฺติเยว, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ภควนฺตํ ทิสฺวา มานถทฺธตํ อกตฺวา’’ติอาทิ. โลกสมุทาจารวเสนาติ โลโกปจารวเสน. จิรสฺสนฺติ จิรกาเลน. อาทีนิ วทนฺติ อุปจารวเสน. ตสฺสาติ ภคฺควโคตฺตสฺส ปริพฺพาชกสฺส. คิหิสหาโยติ คิหิกาลโต ปฏฺาย สหาโย. ปจฺจกฺขาโตติ เยนากาเรน ปจฺจกฺขานา, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปจฺจกฺขามี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

. อุทฺทิสฺสาติ สตฺถุการภาเวน อุทฺทิสฺสาติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโยติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภควา เม’’ติอาทิมาห. ยทา สุนกฺขตฺตสฺส ‘‘ภควนฺตํ ปจฺจกฺขามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, วาจา ภินฺนา, ตทา เอวสฺส ภควตา สทฺธึ โกจิ สมฺพนฺโธ นตฺถิ อสกฺยปุตฺติยภาวโต สาสนโต ปริพาหิรตฺตา. อยํ ตาเวตฺถ สาสนยุตฺติ, สา ปนายํ เปตฺวา สาสนยุตฺติโกวิเท อฺเสํ น สมฺมเทว วิสโยติ ภควา สพฺพสาธารณวเสนสฺส อตฺตนา สมฺพนฺธาภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิ นู’’ติ อาทึ วตฺวา สุนกฺขตฺตํ ‘‘โก สนฺโต กํ ปจฺจาจิกฺขสี’’ติ อาห. ยสฺมา มุขาคโตยํ สมฺพนฺโธ, น ปูชาคตาทิโก, โย จ ยาจกยาจิตพฺพตาวเสน โหติ, ตทุภยฺเจตฺถ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ภควา สุนกฺขตฺตํ ‘‘โก สนฺโต กํ ปจฺจาจิกฺขสี’’ติ อโวจ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยาจโก วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยาจิตโก วา ยาจกํ ปจฺจาจิกฺเขยฺยาติ สมฺพนฺโธ. ตฺวํ ปน เนว ยาจโก ‘‘อหํ ภนฺเต ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหริสฺสามี’’ติ เอวํ มม สนฺติกํ อนุปคตตฺตา. น ยาจิตโก ‘‘เอหิ ตฺวํ สุนกฺขตฺต มมํ อุทฺทิสฺส วิหราหี’’ติ เอวํ มยา อปตฺถิตตฺตา.

โก สมาโนติ ยาจกยาจิตเกสุ โก นาม โหนฺโต. นฺติ ยาจกยาจิตเกสุ เอว กํ นาม โหนฺตํ มํ ปจฺจาจิกฺขสิ. ตุจฺฉปุริสาติ ฌานมคฺคาทิอุตฺตริมนุสฺสธมฺเมสุ กสฺสจิปิ อภาวา ริตฺตปุริสา. นนุ จายํ สุนกฺขตฺโต โลกิยชฺฌานานิ, เอกจฺจาภิฺฺจ อุปฺปาเทสีติ? กิฺจาปิ อุปฺปาเทสิ, ตโต ปน ภควติ อาฆาตุปฺปาทเนน สเหว ปริหีโน อโหสิ. อปราโธ นาม สุปฺปฏิปตฺติยา วิรชฺฌนเหตุภูโต กิเลสุปฺปาโทติ อาห ‘‘ยตฺตโก เต อปราโธ,ตตฺตโก โทโส’’ติ. ยาวฺจาติ อวธิปริจฺเฉทภาวทสฺสนํ ‘‘ยาวฺจ เตน ภควตา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๓) วิย. เตติ ตยา. อิทนฺติ นิปาตมตฺตํ. อปรทฺธนฺติ อปรชฺฌิตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ปจฺจาจิกฺขามิทานาหํ ภนฺเต ภควนฺต’’นฺติอาทีนิ วทนฺเตน ตุจฺฉปุริส ตยา ยาวฺจิทํ อปรทฺธํ, น ตสฺส อปราธสฺส ปมาณํ อตฺถีติ.

. มนุสฺสธมฺมาติ ภาวนานุโยเคน วินา มนุสฺเสหิ อนุฏฺาตพฺพธมฺมา. โส หิ มนุสฺสานํ จิตฺตาธิฏฺานมตฺเตน อิชฺฌนโต เตสํ สมฺภาวิตธมฺโม วิย ิโต ตถา วุตฺโต, มนุสฺสคฺคหณฺเจตฺถ เตสุ พหุลํ ปวตฺตนโต. อิทฺธิภูตํ ปาฏิหาริยํ, น อาเทสนานุสาสนีปาฏิหาริยนฺติ อธิปฺปาโย. กเตติ ปวตฺติเต. นิยฺยาตีติ นิคฺคจฺฉติ, วฏฺฏทุกฺขโต นิคฺคมนวเสน ปวตฺตตีติ อตฺโถ. ธมฺเม หิ นิคฺคจฺฉนฺเต ตํสมงฺคิปุคฺคโล ‘‘นิคฺคจฺฉตี’’ติ วุจฺจติ, อฏฺกถายํ ปน นิ-สทฺโท อุปสคฺคมตฺตํ, ยาติ อิจฺเจว อตฺโถติ ทสฺเสตุํ คจฺฉตีติ อตฺโถ วุตฺโต. ตตฺราติ ปธานภาเวน วุตฺตสฺส อตฺถสฺส ภุมฺมวเสน ปฏินิทฺเทโสติ ตสฺมึ ธมฺเม สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย นิยฺยนฺเตติ อยเมตฺถ อตฺโถติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตสฺมึ…เป… สํวตฺตมาเน’’ติ.

. อคฺคนฺติ ายตีติ อคฺคฺํ. โลกปฺตฺตินฺติ โลกสฺส ปฺาปนํ. โลกสฺส อคฺคนฺติ โลกุปฺปตฺติสมเย ‘‘อิทํ นาม โลกสฺส อคฺค’’นฺติ เอวํ ชานิตพฺพํ พุชฺฌิตพฺพํ. อคฺคมริยาทนฺติ อาทิมริยาทํ.

. เอตฺตกํ วิปฺปลปิตฺวาติ ‘‘น ทานาหํ ภนฺเต ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหริสฺสามี’’ติ, ‘‘น หิ ปน เม ภนฺเต ภควา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรตี’’ติ, ‘‘น หิ ปน เม ภนฺเต ภควา อคฺคฺํ ปฺเปตี’’ติ จ เอตฺตกํ วิปฺปลปิตฺวา. อิทํ กิร โส ภควา สตฺถุกิจฺจํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ, อคฺคฺปฺาปนฺจ กาตุํ น สกฺโกตีติ ปกาเสนฺโต กเถสิ. เตนาห ‘‘สุนกฺขตฺโต กิรา’’ติอาทิ. อุตฺตรวจนวเสน ปติฏฺาภาวโต อปฺปติฏฺโ. ตโต เอว นิรโว นิสฺสทฺโท.

อาทีนวทสฺสนตฺถนฺติ ทิฏฺธมฺมิกสฺส อาทีนวสฺส ทสฺสนตฺถํ. เตนาห ‘‘สยเมว ครหํ ปาปุณิสฺสสี’’ติ. สมฺปรายิกา ปน อาทีนวา อเนกวิธา, เต ทสฺเสนฺโต สุนกฺขตฺโต น สทฺทเหยฺยาติ ทิฏฺธมฺมิกสฺเสว คหณํ . อเนกการเณนาติ ‘‘อิติปิ โส ภควา อรห’’นฺติอาทินา (ที. นิ. ๑.๑๕๗, ๒๕๕) อเนกวิเธน วณฺณการเณน. เอวํ เม อวณฺโณ น ภวิสฺสตีติ อชฺฌาสเยน อตฺตโน พาลตาย วณฺณารหานํ อวณฺณํ กเถตฺวา. เอวํ ภควา มกฺขิภาเว อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา ปุน ตสฺส กถเน การณํ วิภาเวตุํ ‘‘อิติ โข เต’’ติอาทิมาหาติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวฺหิ สุนกฺขตฺตสฺส อปฺปโกปิ วจโนกาโส น ภวิสฺสตีติ. อปกฺกมีติ อตฺตนา ยถาิตา วุฏฺาย อปสกฺกิ. อปกฺกนฺโต สาสนโต ภฏฺโ. เตนาห ‘‘จุโต’’ติ. เอวเมวาติ อปกฺกมนฺโต จ น ยถา ตถา อปกฺกมิ, ยถา ปน กายสฺส เภทา อปาเย นิพฺพตฺเตยฺย, เอวเมว อปกฺกมิ.

โกรขตฺติยวตฺถุวณฺณนา

. ทฺวีหิ ปเทหีติ ทฺวีหิ วากฺเยหิ อารทฺธํ พฺยติเรกวเสน ตทุภยตฺถนิทฺเทสวเสน อุปริเทสนาย ปวตฺตตฺตา. อนุสนฺธิทสฺสนวเสนาติ ยถานุสนฺธิสงฺขาตอนุสนฺธิทสฺสนวเสน.

เอกํ สมยนฺติ จ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘เอกสฺมึ สมเย’’ติ จ. ถูลู นาม ชนปโทติ ชนปทีนํ ราชกุมารานํ วเสน ตถาลทฺธนาโม. กุกฺกุรวตํ สมาทานวเสน เอตสฺมึ อตฺถีติ กุกฺกุรวติโกติ อาห ‘‘สมาทินฺนกุกฺกุรวโต’’ติ. อฺมฺปีติ ‘‘จตุกฺโกณฺฑิกสฺเสว วิจรณํ, ตถา กตฺวาว ขาทนํ, ภุฺชนํ, วามปาทํ อุทฺธริตฺวา มุตฺตสฺส วิสฺสชฺชน’’นฺติ เอวมาทิกํ อฺมฺปิ สุนเขหิ กาตพฺพกิริยํ. จตูหิ สรีราวยเวหิ กุณฺฑนํ คมนํ จตุกฺโกณฺโฑ, โส เอตสฺมึ อตฺถีติ จตุกฺโกณฺฑิโก. โส ปน ยสฺมา จตูหิ สรีราวยเวหิ สงฺฆฏฺฏิตคมโน โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘จตุสงฺฆฏฺฏิโต’’ติ. เตเนวาห ‘‘ทฺเว ชณฺณูนี’’ติอาทิ. ภกฺขสนฺติ วา ภกฺขิตพฺพํ, อสิตพฺพฺจ. เตเนวาห ‘‘ยํ กิฺจิ ขาทนียํ โภชนีย’’นฺติ. กามํ ขาทนฺจ นาม มุเขน กาตพฺพํ, หตฺเถน ปน ตตฺถ อุปนามนํ นิวาเรตุํ อวธารณํ กตนฺติ อาห ‘‘หตฺเถน อปรามสิตฺวา’’ติ, อคฺคเหตฺวาติ อตฺโถ. สุนฺทรรูโปติ สุนฺทรภาโว. วตาติ ปตฺถนตฺเถ นิปาโต ‘‘อโห วตาหํ ลาภี อสฺส’’นฺติอาทีสุ วิย. ‘‘สมเณน นาม เอวรูเปน ภวิตพฺพํ อโห วตาหํ เอทิโส ภเวยฺย’’นฺติ เอวํ ตสฺส ปตฺถนา อโหสิ. เตนาห ‘‘เอวํ กิรา’’ติอาทิ.

ครหตฺเถอปิ-กาโร ‘‘อปิ สิฺเจ ปลณฺฑก’’นฺติอาทีสุ วิย. อรหนฺเต จ พุทฺเธ, พุทฺธสาวเก ‘‘อรหนฺโต ขีณาสวา น โหนฺตี’’ติ เอวํ ตสฺส ทิฏฺิ อุปฺปนฺนา. ยถาห มหาสีหนาทสุตฺเต ‘‘นตฺถิ สมณสฺส โคตมสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยาณทสฺสนวิเสสา’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๔๖). สตฺตมํทิวสนฺติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ. อลสเกนาติ อชีรเณน อามโรเคน.

อฏฺิตจมตฺตตาย ปุราณปณฺณสทิโส.พีรณตฺถมฺพกนฺติ พีรณคจฺฉา.

มตฺตา เอตสฺส อตฺถีติ มตฺตํ, โภชนมตฺตวนฺตนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปมาณยุตฺต’’นฺติ. มนฺตา มนฺตาติ มนฺตาย มนฺตาย.

. เอกทฺวีหิกาย คณนาย. นิราหาโรว อโหสิ ภควโต วจนํ อฺถา กาตุกาโม, ตถาภูโตปิ สตฺตเม ทิวเส อุปฏฺาเกน อุปนีตํ ภกฺขสํ ทิสฺวา ‘‘ธี’’ติ อุปฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺโต โภชนตณฺหาย อากฑฺฒิยมานหทโย ตํ กุจฺฉิปูรํ ภุฺชิตฺวา ภควตา วุตฺตนิยาเมเนว กาลมกาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อถสฺสา’’ติอาทิ. สเจปิ…เป… จินฺเตยฺยาติ ยทิ เอโส อเจโล ‘‘ธี’’ติ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา ‘‘อชฺชปิ อหํ น ภุฺเชยฺย’’นฺติ จินฺเตยฺย, ตถาจินฺตเน สติปิ เทวตาวิคฺคเหน ตํ ทิวสํ…เป… กเรยฺย. กสฺมา? อทฺเวชฺฌวจนา หิ ตถาคตา, น เตสํ วจนํ วิตถํ โหติ.

คตคตฏฺานํ องฺคณเมว โหตีติ เตหิ ตํ กฑฺฒิตฺวา คจฺฉนฺเตหิ คตคตปฺปเทโส อุตฺตรกสามนฺตา วิวฏงฺคณเมว หุตฺวา อุปฏฺาติ. เตติ ติตฺถิยา. สุสานํเยว คนฺตฺวาติ ‘‘พีรณตฺถมฺพกํ อติกฺกมิสฺสามา’’ติ คจฺฉนฺตาปิ อเนกวารํ ตํ อนุสํยายิตฺวา ปุนปิ ตํเยว สุสานํ อุปคนฺตฺวา.

. อิทนฺติ อิทํ มตสรีรํ. ‘‘ตเมว วา สรีรํ กถาเปสีติ ตํ สรีรํ อธิฏฺหิตฺวา ิตเปเตน กถาเปสี’’ติ เกจิ. โกรขตฺติยํ วา อสุรโยนิโต อาเนตฺวา กถาเปตุ อฺํ วา เปตํ, โก เอตฺถ วิเสโส. ‘‘อจินฺเตยฺโย หิ พุทฺธวิสโย’’ติ ปน วจนโต ตเทว สรีรํ สุนกฺขตฺเตน ปหตมตฺตํ พุทฺธานุภาเวน อุฏฺาย ตมตฺถํ าเปสีติ ทฏฺพฺพํ. ปุริโมเยว ปน อตฺโถ อฏฺกถาสุ วินิจฺฉิโต. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘นิพฺพตฺตฏฺานโต’’ติอาทิ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๑๐).

๑๐. วิปากนฺติ ผลํ, อตฺถนิพฺพตฺตีติ อตฺโถ.

สมาเนตพฺพานีติ สมฺมา อาเนตพฺพานิ, สรูปโต อาเนตฺวา ทสฺเสตพฺพานีติ อตฺโถ. ปาฏิหาริยานํ ปมาทิตา ภควตา วุตฺตานุปุพฺพิยา เวทิตพฺพา. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘ปรจิตฺตวิภาวนํ, อายุปริจฺเฉทวิภาวนํ, พฺยาธิวิภาวนํ, คติวิภาวนํ, สรีรนิกฺเขปวิภาวนํ, สุนกฺขตฺเตน สทฺธึ กถาวิภาวนฺจาติ ฉ ปาฏิหาริยานี’’ติ วทนฺติ, ตํ ยทิ สุนกฺขตฺตสฺส จิตฺตวิภาวนํ สนฺธาย วุตฺตํ, เอวํ สติ ‘‘สตฺตา’’ติ วตฺตพฺพํ ตสฺส ภาวิอวณฺณวิภาวนาย สทฺธึ. อถ อเจลสฺส มรณจิตฺตวิภาวนํ, ตํ ‘‘สตฺตมํ ทิวสํ กาลํ กริสฺสตี’’ติ อิมินา สงฺคหิตนฺติ วิสุํ น วตฺตพฺพํ, ตสฺมา อฏฺกถายํ วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพํ.

อเจลกฬารมฏฺฏกวตฺถุวณฺณนา

๑๑. นิกฺขนฺตทนฺตมฏฺฏโกติ นิกฺขนฺตทนฺโต มฏฺฏโก. โส กิร อเจลกภาวโต ปุพฺเพ มฏฺฏกิโต หุตฺวา วิจริ วิวรทนฺโต จ, เตน นํ ‘‘โกรมฏฺฏโก’’ติ สฺชานนฺติ. ยํ กิฺจิ ตสฺส เทนฺโต ‘‘สาธุรูโป อยํ สมโณ’’ติ สมฺภาเวนฺโต อคฺคํ เสฏฺํเยว เทนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ลาภคฺคํ ปตฺโต, อคฺคลาภํ ปตฺโต’’ติ. พหู อเจลกา ตํ ปริวาเรตฺวา วิจรนฺติ, คหฏฺา จ ตํ พหู อฑฺฒา วิภวสมฺปนฺนา กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปยิรุปาสนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยสคฺคํ อคฺคปริวารํ ปตฺโต’’ติ. วตานิเยว ปชฺชิตพฺพโต ปทานิ. อฺมฺํ อสงฺกรโต วตโกฏฺาสา วา.สมตฺตานีติ สมํ อตฺตนิ คหิตานิ. ปุรตฺถิเมนาติ เอน-สทฺทสมฺพนฺเธน ‘‘เวสาลิ’’นฺติ อุปโยควจนํ, อวิทูรตฺเถ จ เอน-สทฺโท ปฺจมฺยนฺโตติ อาห ‘‘เวสาลิโต อวิทูเร’’ติ.

๑๒. สาสเน ปริจยวเสน ติลกฺขณาหตํ ปฺหํ ปุจฺฉิ.น สมฺปายาสีติ นาวพุชฺฌิ น สมฺปาเทสิ. เตนาห ‘‘สมฺมา าณคติยา’’ติอาทิ. สมฺปายนํ วา สมฺปาทนํ. ปฺหํ ปุฏฺสฺส จ สมฺปาทนํ นาม สมฺมเทว กถนนฺติ ตทภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. โกปวเสน ตสฺส อกฺขีนิ กมฺปนภาวํ อาปชฺชึสูติ อาห ‘‘กมฺปนกฺขีนิปิ ปริวตฺเตตฺวา’’ติ. โกปนฺติ โกธํ, โส ปน จิตฺตสฺส ปกุปฺปนวเสน ปวตฺตตีติ อาห ‘‘กุปฺปนาการ’’นฺติ . โทสนฺติ อาฆาตํ, โส ปน อารมฺมเณ ทุสฺสนวเสน ปวตฺตีติ อาห ‘‘ทุสฺสนาการ’’นฺติ. อตุฏฺาการนฺติ ตุฏฺิยา ปีติยา ปฏิปกฺขภูตปฺปวตฺติอาการํ. กายวจีวิกาเรหิ ปากฏมกาสิ. มา วต โนติ เอตฺถ มาติ ปฏิกฺเขโป, โนติ มยฺหนฺติ อตฺโถติ อาห ‘‘อโห วต เม น ภเวยฺยา’’ติ. มํ วต โนติ เอตฺถ ปน โนติ สํสเยติ อาห ‘‘อโหสิ วต นุ มมา’’ติ.

๑๔. ปริปุพฺโพ ทหิต-สทฺโท วตฺถนิวาสนํ วทตีติ อาห ‘‘ปริทหิโต นิวตฺถวตฺโถ’’ติ. ยสนิมิตฺตกตาย ลาภสฺส ยสปริหานิยาว ลาภปริหานิ วุตฺตา โหตีติ ปาฬิยํ ‘‘ยสา นิหีโน’’ติ วุตฺตํ.

อเจลปาถิกปุตฺตวตฺถุวณฺณนา

๑๕. ‘‘อหํ สพฺพํ ชานามี’’ติ เอวํ สพฺพฺุตฺาณํ วทติ ปฏิชานาตีติ าณวาโท, เตน มยา าณวาเทน สทฺธึ.อติกฺกมฺม คจฺฉโตติ อุปฑฺฒภาเคน ปริจฺฉินฺนํ ปเทสํ อติกฺกมิตฺวา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กาตุํ คจฺฉโต. กึ ปนายํ อเจโล ปาถิกปุตฺโต อตฺตโน ปมาณํ น ชานาตีติ? โน น ชานาติ. ยทิ เอวํ, กสฺมา สุกฺขคชฺชิตํ คชฺชีติ? ‘‘เอวาหํ โลเก ปาสํโส ภวิสฺสามี’’ติ โกหฺเ กตฺวา สุกฺขคชฺชิตํ คชฺชิ. เตน วุตฺตํ ‘‘นครวาสิโน’’ติอาทิ. ปฏฺเปตฺวาติ ยุคคฺคาหํ อารภิตฺวา.

๑๖. หีนชฺฌาสยตฺตา…เป… อุทปาทิ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘หีนาธิมุตฺติกา สตฺตา หีนาธิมุตฺติเก เอว สตฺเต เสวนฺติ ภชนฺติ ปยิรุปาสนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๙๘).

ยสฺมา ตถาวุตฺตา วาจา ตถารูปจิตฺตเหตุกา, ตฺจ จิตฺตํ ตถารูปทิฏฺิจิตฺตเหตุกํ, ตสฺมา ‘‘ตํ วาจํ อปฺปหายา’’ติ วตฺวา ยถา ตสฺสา อปฺปหานํ โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตํ จิตฺตํ อปฺปหายา’’ติ อาห, ตสฺส จ ยถา อปฺปหานํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา’’ติ อโวจ. ยสฺมา วา ตถารูปา วาจา มหาสาวชฺชา, จิตฺตํ ตโต มหาสาวชฺชตรํ ตํสมุฏฺาปกภาวโต, ทิฏฺิ ปน ตโต มหาสาวชฺชตมา ตทุภยสฺส มูลภาวโต, ตสฺมา เตสํ มหาสาวชฺชตาย อิมํ วิภาคํ ทสฺเสตฺวา อยํ อนุกฺกโม ปิโตติ เวทิตพฺโพ. เตสํ ปน ยถา ปหานํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อห’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘นาหํ พุทฺโธ’’ติ วทนฺโตติ สาเยฺเยน วินา อุชุกเมว ‘‘อหํ พุทฺโธ น โหมี’’ติ วทนฺโต. จิตฺตทิฏฺิปฺปหาเนปิ เอเสว นโย. วิปเตยฺยาติ เอตฺถ วิ-สทฺโท ปเม วิกปฺเป อุปสคฺคมตฺตํ, ทุติเย ปน วิสรณตฺโถติ อาห ‘‘สตฺตธา วา ปน ผเลยฺยา’’ติ.

๑๗. เอกํเสนาติ เอกนฺเตน, เอกนฺติกํ ปน วจนปริยายวินิมุตฺตํ โหตีติ อาห ‘‘นิปฺปริยาเยนา’’ติ. โอธาริตาติ อวธาริตา นิยเมตฺวา ภาสิตา. วิคตรูเปนาติ อปคตสภาเวน . เตนาห ‘‘วิคจฺฉิตสภาเวนา’’ติ, อิทฺธานุภาเวน อปนีตสกภาเวน. เตน วุตฺตํ ‘‘อตฺตโน’’ติอาทิ.

๑๘. ทฺวยํ คจฺฉตีติ ทฺวยคามินี. กีทิสํ ทฺวยนฺติ อาห ‘‘สรูเปนา’’ติอาทิ. อยฺหิ โส คณฺฑสฺสุปริโผฏฺพฺพาโทสํ.

๑๙. อชิตสฺส ลิจฺฉวิเสนาปติสฺส มหานิรเย นิพฺพตฺติตฺวา ตโต อาคนฺตฺวา อเจลสฺส ปาถิกปุตฺตสฺส สนฺติเก ปโรทนํ. อภาวาติ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการสฺส ปาฏิหาริยกรณสฺส อภาวา. ภควา ปน สนฺนิปติตปริสายํ ปสาทชนนตฺถํ ตทนุรูปํ ปาฏิหาริยมกาสิเยว. ยถาห ‘‘เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา’’ติอาทิ.

อิทฺธิปาฏิหาริยกถาวณฺณนา

๒๐. นิจยนํ ธนธฺานํ สฺจยนํ นิจโย, ตตฺถ นิยุตฺตาติ เนจยิกา, คหปติ เอว เนจยิกา คหปติเนจยิกา. เอตฺตกานิ ชงฺฆสหสฺสานีติ ปริมาณาภาวโต สหสฺเสหิปิ อปริมาณคณนา. เตเนวาติ อิมสฺส วเสน สนฺนิปติตาย เอวํ มหติยา ปริสาย พนฺธนโมกฺขํ กาตุํ ลพฺภติ, เอเตเนว การเณน.

๒๑. จิตฺตุตฺราสภยนฺติ จิตฺตสฺส อุตฺราสนากาเรน ปวตฺตภยํ, น าณภยํ, นาปิ ‘‘ภายติ เอตสฺมา’’ติ เอวํ วุตฺตํ อารมฺมณภยํ. ฉมฺภิตตฺตนฺติ เตเนว จิตฺตุตฺราสภเยน สกลสรีรสฺส ฉมฺภิตภาโว. โลมหํโสติ เตเนว ภเยน, เตน จ ฉมฺภิตตฺเตน สกลสรีเร โลมานํ หฏฺภาโว, โส ปน เตสํ ภิตฺติยํ นาคทนฺตานํ วิย อุทฺธํมุขตาติ อาห ‘‘โลมานํ อุทฺธคฺคภาโว’’ติ. อนฺตนฺเตน อาวิชฺฌิตฺวาติ อตฺตโน นิสีทนตฺถํ นิคูฬฺหฏฺานํ อุปปริกฺขนฺโต ปริพฺพาชการามํ ปริยนฺเตน อนุสํยายิตฺวา, กสฺสจิเทว สุนกฺขตฺตสฺส วา สุนกฺขตฺตสทิสสฺส วา สพฺพฺุปฏิฺํ อปฺปหาย สตฺถุ สมฺมุขีภาเว สตฺตธา ตสฺส มุทฺธาผลนํ ธมฺมตา. เตน วุตฺตํ ‘‘มา นสฺสตุ พาโล’’ติอาทิ.

๒๒. สํสปฺปตีติ ตตฺเถว ปาสาณผลเก พาลทารโก วิย อุฏฺาตุํ อสกฺโกนฺโต อวสีทนวเสน อิโต จิโต จ สํสปฺปติ. เตนาห ‘‘โอสีทตี’’ติ. ตตฺเถว สฺจรตีติ ตสฺมึเยว ปาสาเณ อานิสทุปฏฺิโน สฺจลนํ นิสชฺชวเสเนว สฺจรติ, น อุฏฺาย ปทสา.

๒๓. วินฏฺรูโปติ สมฺภาวนาย วินาเสน, ลาภสฺส วินาเสน จ วินฏฺสภาโว.

ปมภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๕. โคยุตฺเตหีติ พลวนฺตพลีพทฺทโยชิเตหิ.

๒๖. ตสฺสาติ ชาลิยสฺส. อยฺหิ มณฺฑิเสน ปริพฺพาชเกน สทฺธึ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุณิ, ตโต ปุเรตรํ ภควโต คุณานํ อชานนกาเล อยํ ปวตฺติ. เตเนวาห ‘‘ติฏฺตุ ตาว ปาฏิหาริยํ…เป… ปราชโย ภวิสฺสตี’’ติ.

๒๗. ติณสีโหติ ติณสทิสหริตวณฺโณ สีโห. กาฬสีโหติ กาฬวณฺโณ สีโห. ปณฺฑุสีโหติ ปณฺฑุวณฺโณ สีโห. เกสรสีโหติ เกสรวนฺโต เสตวณฺโณ, โลหิตวณฺโณ วา สีโห. มิครฺโติ เอตฺถ มิค-สทฺโท กิฺจาปิ ปสทกุรุงฺคาทีสุ เกสุจิเทว จตุปฺปเทสุ นิรุฬฺโห, อิธ ปน สพฺพสาธารณวเสนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มิครฺโติ สพฺพจตุปฺปทานํ รฺโ’’ติ วุตฺตํ. อาคนฺตฺวา เสติ เอตฺถาติ อาสโย, นิวาสนฏฺานํ. สีหนาทนฺติ ปริสฺสยานํ สหนโต, ปฏิปกฺขสฺส จ หนนโต ‘‘สีโห’’ติ ลทฺธนามสฺส มิคาธิปสฺส โฆสํ, โส ปน เตน ยสฺมา กุโตจิปิ อภีตภาเวน ปวตฺตียติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อภีตนาท’’นฺติ. ตตฺถ ตตฺถ ตาสุ ตาสุ ทิสาสุ คนฺตฺวา จริตพฺพตาย ภกฺขิตพฺพตาย โคจโร ฆาโสติ อาห ‘‘โคจรายาติ อาหารตฺถายา’’ติ. วรํวรนฺติ มิคสงฺเฆ มิคสมูเห มุทุมํสตาย วรํ วรํ มหึสวนวราหาทึ วธิตฺวาติ โยชนา. เตนาห ‘‘ถูลํ ถูล’’นฺติ. วรวรภาเวน หิ ตสฺส วรภาโว อิจฺฉิโต. สูรภาวํ สนฺนิสฺสิตํ สูรภาวสนฺนิสฺสิตํ, เตน. สูรภาเวนาปิ หิ ‘‘กึ อิเม ปาณเก ทุพฺพเล หนฺตฺวา’’ติ อปฺปถาเมสุ ปาเณสุ การุฺํ อุปติฏฺติ.

๒๘. วิฆาโสติ ปรสฺส ภกฺขิตเสสตาย วิรูโป ฆาโส วิฆาโส, อุจฺฉิฏฺํ. เตนาห ‘‘ภกฺขิตาติริตฺตมํส’’นฺติ, ตสฺมึ วิฆาเส, วิฆาสนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. อสฺมิมานโทเสนาติ อสฺมิมานโทสเหตุ, อหํการนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. โส ปนสฺส อสฺมิมาโน ยถา อุปฺปชฺชิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺราย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

‘‘เสคาลกํเยวา’’ติปิ ปาโ, ยถาวุตฺโตว อตฺโถ. เภรณฺฑกํเยวาติ เภรณฺฑสกุณรวสทิสํเยว, เภรณฺโฑ นาม เอโก ปกฺขี ทฺวิมุโข, ตสฺส กิร สทฺโท อติวิย วิรูโป อมนาโป. เตนาห ‘‘อปฺปิยอมนาปสทฺทเมวา’’ติ. สมฺมาปฏิปตฺติยา วิเสสโต สุฏฺุ คตาติ สุคตา, สมฺมาสมฺพุทฺธา. เต อปทายนฺติ โสเธนฺติ สตฺตสนฺตานํ เอเตหีติ สุคตาปทานานิ, ติสฺโส สิกฺขา. ยสฺมา ตาหิ เต ‘‘สุคตา’’ติ ลกฺขียนฺติ, ตา จ เตสํ โอวาทภูตา, ตสฺมา ‘‘สุคตลกฺขเณสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยทิ ตา สุคตสฺส ลกฺขณภูตา, สาสนภูตา จ, กถํ ปเนส ปาถิกปุตฺโต ตตฺถ ตาสุ สิกฺขาสุ ชีวติ, โก ตสฺส ตาหิ สมฺพนฺโธติ อาห ‘‘เอตสฺส หี’’ติอาทิ. สมฺพุทฺธานํ เทมาติ เทนฺตีติ พุทฺธสฺาย เทนฺตีติ อธิปฺปาโย. เตน เอส…เป… ชีวติ นาม น สุคตนฺวยอชฺฌุปคมนโต. ‘‘ตถาคเต’’ติอาทิ เอกตฺเต ปุถุวจนนฺติ อาห ‘‘ตถาคต’’นฺติอาทิ. พหุวจนํ เอว ครุสฺมึ เอกสฺมิมฺปิ พหุวจนปฺปโยคโต เอกวจนํ วิย วุตฺตํ วจนวิปลฺลาเสน.

๒๙. สเมกฺขิตฺวาติ สมํ กตฺวา มิจฺฉาทสฺสเนน อเปกฺขิตฺวา, ตํ ปน อเปกฺขนํ ตถา มฺนเมวาติ อาห ‘‘มฺิตฺวา’’ติ. ปุพฺเพ วุตฺตํ สเมกฺขนมฺปิ มฺนํ เอวาติ วุตฺตํ ‘‘อมฺีติ ปุน อมฺิตฺถา’’ติ, เตน อปราปรํ ตสฺส มฺนปฺปวตฺตึ ทสฺเสติ. เภรณฺฑกรวํ โกสติ วิกฺโกสตีติ โกตฺถุ.

๓๐. เต เต ปาเณ พฺยาปาเทนฺโต ฆสตีติ พฺยคฺโฆติ อิมินา นิพฺพจเนน ‘‘พฺยคฺโฆ’’ติ มิคราชสฺสปิ สิยา นามนฺติ อาห ‘‘พฺยคฺโฆติ มฺตีติ สีโหหมสฺมีติ มฺตี’’ติ. ยทิปิ ยถาวุตฺตนิพฺพจนวเสน สีโหปิ ‘‘พฺยคฺโฆ’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ, พฺยคฺฆ-สทฺโท ปน มิคราเช เอว นิรุฬฺโหติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สีเหน วา’’ติอาทิมาห.

๓๑. สีเหน วิจริตวเน สํวฑฺฒตฺตา วุตฺตํ ‘‘มหาวเน สุฺวเน วิวฑฺโฒ’’ติ.

๓๔. กิเลสพนฺธนาติ ตณฺหาพนฺธนโต. ตณฺหาพนฺธนฺหิ ถิรํ ทฬฺหพนฺธนํ ทุมฺโมจนียํ. ยถาห –

‘‘สารตฺตรตฺตา มณิกุณฺฑเลสุ,

ปุตฺเตสุ ทาเรสุ จ ยา อเปกฺขา;

เอตํ ทฬฺหํ พนฺธนมาหุ ธีรา,

โอหารินํ สิถิลํ ทุปฺปมุฺจ’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๔๖; ชา. ๑.๒.๑๐๒);

กิเลสพนฺธนาติ วา ทสวิธสํโยชนโต. มหาวิทุคฺคํ นาม จตฺตาโร โอฆา มหนฺตํ ชลวิทุคฺคํ วิย อนุปจิตกุสลสมฺภาเรหิ ทุคฺคมฏฺเน.

อคฺคฺปฺตฺติกถาวณฺณนา

๓๖. อิมสฺส ปทสฺส. อิทํ นาม โลกสฺส อคฺคนฺติ ชานิตพฺพํ, ตํ อคฺคฺํ, โส ปน โลกสฺส อุปฺปตฺติกฺกโม ปวตฺติ ปเวณี จาติ อาห ‘‘โลกุปฺปตฺติจริยวํส’’นฺติ. สมฺมาสมฺโพธิโต อุตฺตริตรํ นาม กิฺจิ นตฺถิ ปชานิตพฺเพสุ, ตํ ปน โกฏึ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ยาว สพฺพฺุตฺาณา ปชานามี’’ติ อาห. ‘‘มม ปชานนา’’ติ อสฺสาเทนฺโต ตณฺหาวเสน, ‘‘อหํ ปชานามี’’ติ อภินิวิสนฺโต ทิฏฺิวเสน, ‘‘สุฏฺุ ปชานามิ สมฺมา ปชานามี’’ติ ปคฺคณฺหนฺโต มานวเสน น ปรามสามีติ โยชนา. ‘‘ปจฺจตฺตฺเวา’’ติ ปทํ ‘‘นิพฺพุติ วิทิตา’’ติ ปททฺวเยนาปิ โยเชตพฺพํ ‘‘ปจฺจตฺตํเยว อุปฺปาทิตา นิพฺพุติ จ ปจฺจตฺตํเยว วิทิตา’’ติ, สยมฺภุาเณน นิพฺพตฺติตา นิพฺพุติ สยเมว วิทิตาติ อตฺโถ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘ปจฺจตฺต’’นฺติ ปทํ วิวิธวิภตฺติกํ หุตฺวา อาวุตฺตินเยน อาวตฺตตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺตนาเยว อตฺตนี’’ติ วุตฺตํ. อวิทิตนิพฺพานาติ อปฺปฏิลทฺธนิพฺพานา มิจฺฉาปฏิปนฺนตฺตา. ปชานนมฺปิ หิ ตทธิคมวเสเนว เวทิตพฺพํ. เอติ อิฏฺภาเวน ปวตฺตตีติ อโย, สุขํ. ตปฺปฏิกฺเขเปน อนโย, ทุกฺขํ. ตเทว หิตสุขสฺส พฺยสนโต พฺยสนํ.

๓๗. ตํ ทสฺเสนฺโตติ ภควาปิ ‘‘อฺติตฺถิโย ตตฺถ สารสฺี’’ติ ตํ ทสฺเสนฺโต. อาธิปจฺจภาเวนาติ อาธิปจฺจสภาเวน. ยสฺส อาจริยวาทสฺส วเสน ปุริโส ‘‘อาจริโย’’ติ วุจฺจติ, โส อาจริยวาโท อาจริยภาโวติ อาห ‘‘อาจริยภาวํ อาจริยวาท’’นฺติ. เอตฺถาติ อาจริยวาเท. อิติ กตฺวาติ อิมินา การเณน. โสติ อาจริยวาโท. ‘‘อคฺคฺํ’’ ตฺเวว วุตฺโต อคฺคฺวิสยตฺตา. เกน วิหิตนฺติ เกน ปกาเรน วิหิตํ. เตนาห ‘‘เกน วิหิตํ กินฺติ วิหิต’’นฺติ. พฺรหฺมชาเลติ พฺรหฺมชาลสํวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๘). ตตฺถ หิ วิตฺถารโต วุตฺตวิธึ อิธ อติทิสติ, ปาฬิ ปน ตตฺถ เจว อิธ จ เอกสทิสา วาติ.

๔๑. ขิฑฺฑา ปโทสิกา มูลภูตา เอตฺถ สนฺตีติ ขิฑฺฑาปโทสิกํ, อาจริยกํ. เตเนวาห ‘‘ขิฑฺฑาปโทสิกมูลก’’นฺติ. มโนปโทสิกนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

๔๗. เยน วจเนน อพฺภาจิกฺขนฺติ, ตสฺส อวิชฺชมานตา นาม อตฺถวเสเนวาติ อาห ‘‘อสํวิชฺชมานฏฺเนา’’ติ. ตุจฺฉา, มุสาติ จ กรณตฺเถ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘ตุจฺเฉน, มุสาวาเทนา’’ติ. วจนสฺส อนฺโตสารํ นาม อวิปรีโต อตฺโถติ ตทภาเวนาห ‘‘อนฺโตสารวิรหิเตนา’’ติ. อภิอาจิกฺขนฺตีติ อภิภวิตฺวา ฆฏฺเฏนฺตา กเถนฺติ, อกฺโกสนฺตีติ อตฺโถ. วิปรีตสฺโติ อยาถาวสฺโ. สุภํ วิโมกฺขนฺติ ‘‘สุภ’’นฺติ วุตฺตวิโมกฺขํ. วณฺณกสิณนฺติ สุนีลกสุปีตกาทิวณฺณกสิณํ. สพฺพนฺติ ยํ สุภํ, อสุภฺจ วณฺณกสิณํ, ตฺจ สพฺพํ. น อสุภนฺติ อสุภมฺปิ ‘‘อสุภ’’นฺติ ตสฺมึ สมเย น สฺชานาติ, อถ โข ‘‘สุภํ’’ ตฺเวว สฺชานาตีติ อตฺโถ. วิปรีตา อยาถาวคาหิตาย, อยาถาววาทิตาย จ.

๔๘. ยสฺมา โส ปริพฺพาชโก อวิสฺสฏฺมิจฺฉาคาหิตาย สมฺมา อปฺปฏิปชฺชิตุกาโม สมฺมาปฏิปนฺนํ วิย มํ สมโณ โคตโม, ภิกฺขโว จ สฺชานนฺตูติ อธิปฺปาเยน ‘‘ตถา ธมฺมํ เทเสตุ’’นฺติอาทิมาห, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘มยา เอตสฺส…เป… วฏฺฏตี’’ติ. มมฺมนฺติ มมฺมปฺปเทสํ ปีฬาชนนฏฺานํ. สุฏฺูติ สกฺกจฺจํ. ยถา น วินสฺสติ, เอวํ อนุรกฺข.

วาสนายาติ กิเลสกฺขยาวหาย ปฏิปตฺติยา วาสนาย. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.

ปาถิกสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.