📜

๒. อุทุมฺพริกสุตฺตวณฺณนา

นิคฺโรธปริพฺพาชกวตฺถุวณฺณนา

๔๙. อุทุมฺพริกายาติ สมฺพนฺเธ สามิวจนนฺติ อาห ‘‘อุทุมฺพริกาย เทวิยา สนฺตเก ปริพฺพาชการาเม’’ติ. ‘‘อุทุมฺพริกาย’’นฺติ วา ปาโ, ตถา สติ อธิกรเณ เอตํ ภุมฺมํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ อุทุมฺพริกาย รฺโ เทวิยา นิพฺพตฺติโต อาราโม อุทุมฺพริกา, ตสฺสํ อุทุมฺพริกายํ. เตนาห ‘‘อุทุมฺพริกาย เทวิยา สนฺตเก’’ติ. ตาย หิ นิพฺพตฺติโต ตสฺสา สนฺตโก. วรณาทิปาวเสน เจตฺถ นิพฺพตฺตตฺถโพธกสฺส สทฺทสฺส อทสฺสนํ. สนฺธาโนติ ภินฺนานมฺปิ เตสํ สนฺธาปเนน ‘‘สนฺธาโน’’ติ เอวํ ลทฺธนาโม. สํวณฺณิโตติ ปสํสิโต. อิริยตีติ ปวตฺตติ. อริเยน าเณนาติ กิเลเสหิ อารกตฺตา อริเยน โลกุตฺตเรน าเณน. อริยาย วิมุตฺติยาติ สุวิสุทฺธาย โลกุตฺตรผลวิมุตฺติยา.

ทิวา-สทฺโท ทิน-สทฺโท วิย ทิวสปริยาโย, ตสฺส วิเสสนภาเวน วุจฺจมาโน ทิวา-สทฺโท สวิเสสํ ทิวสภาคํ ทีเปตีติ อาห ‘‘ทิวสสฺส ทิวา’’ติอาทิ. ยสฺมา สมาปนฺนสฺส จิตฺตํ นานารมฺมณโต ปฏิสํหตํ โหติ, ฌานสมงฺคี จ ปวิเวกูปคมเนน สงฺคณิกาภาวโต เอกากิยาย นิลีโน วิย โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ตโต ตโต…เป… คโต’’ติ. มโน ภวนฺติ มนโส วิวฏฺฏนิสฺสิตํ วฑฺฒึ อาวหนฺตีติ มโนภาวนิยาติ อาห ‘‘มนวฑฺฒกาน’’นฺติอาทิ. อุนฺนมติ น สงฺกุจติ, อลีนฺจ โหตีติ อตฺโถ.

๕๑. ยาวตาติ ยาวนฺโตติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘ยตฺตกา’’ติ. เตสนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ. นิทฺธารณฺจ เกนจิ วิเสเสน อิจฺฉิตพฺพํ. เยหิ จ คุณวิเสเสหิ สมนฺนาคตา ภควโต สาวกา อุปาสกา ราชคเห ปฏิวสนฺติ, อยฺจ เตหิ สมนฺนาคโตติ อิมํ วิเสสํ ทีเปตุํ ‘‘เตสํ อพฺภนฺตโร’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ภควโต กิรา’’ติอาทิ.

๕๒. เตสนฺติ ปริพฺพาชกานํ. กถายาติ ติรจฺฉานกถาย. ทสฺสเนนาติ ทิฏฺิทสฺสเนน. อากปฺเปนาติ เวเสน. กุตฺเตนาติ กิริยาย. อาจาเรนาติ อฺมฺสฺมึ อาจริตพฺพอาจาเรน. วิหาเรนาติ รตฺตินฺทิวํ วิหริตพฺพวิหรเณน. อิริยาปเถนาติ านาทิอิริยาปเถน. อฺาการตาย อฺติตฺเถ นิยุตฺตาติ อฺติตฺถิยา. สงฺคนฺตฺวา สมาคนฺตฺวา ราสี หุตฺวา ปเรหิ นิสินฺนฏฺาเน. อรฺานิ จ ตานิ วนปตฺถานิ จาติ อรฺวนปตฺถานิ. ตตฺถ ยํ อรฺกงฺคนิปฺผาทกํ อารฺกานํ, ตํ ‘‘อรฺ’’นฺติ เวทิตพฺพํ. วนปตฺถนฺติ คามนฺตํ อติกฺกมิตฺวา มนุสฺสานํ อนุปจารฏฺานํ, ยตฺถ น กสียติ น วปฺปียติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘วนปตฺถนฺติ ทูรานเมตํ เสนาสนานํ อธิวจน’’นฺติ ‘‘วนปตฺถนฺติ วนสณฺฑานเมตํ เสนาสนานํ, วนปตฺถนฺติ ภีสนกานเมตํ, วนปตฺถนฺติ สโลมหํสานเมตํ, วนปตฺถนฺติ ปริยนฺตานเมตํ วนปตฺถนฺติ น มนุสฺสูปจารานเมตํ เสนาสนานํ อธิวจน’’นฺติ (วิภ. ๕๓๑). เตน วุตฺตํ ‘‘คามูปจารโต มุตฺตานี’’ติอาทิ. ปนฺตานีติ ปริยนฺตานิ อติทูรานิ. เตนาห ‘‘ทูรตรานี’’ติอาทิ. วิหารูปจาเรนาติ วิหารสฺส อุปจารปฺปเทเสน. อทฺธิกชนสฺสาติ มคฺคคามิโน ชนสฺส. มนฺทสทฺทานีติ อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทาภาวโต ตนุสทฺทานิ. มนุสฺเสหิ สมาคมฺม เอกชฺฌํ ปวตฺติตสทฺโท นิคฺโฆโส, ตสฺส ยสฺมา อตฺโถ ทุพฺพิภาวิโต โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อวิภาวิตตฺเถน นิคฺโฆเสนา’’ติ. วิคตวาตานีติ วิคตสทฺทานิ. ‘‘รหสฺส กรณสฺส ยุตฺตานี’’ติ อิมินาปิ เตสํ านานํ อรฺลกฺขณยุตฺตตํ, ชนวิวิตฺตตํ, วนวิวิตฺตเมว จ วิภาเวติ, ตถา ‘‘เอกีภาวสฺส อนุรูปานี’’ติ อิมินา.

๕๓. เกนาติ เหตุมฺหิ, สหโยเค จ กรณวจนนฺติ อาห ‘‘เกน การเณน เกน ปุคฺคเลน สทฺธิ’’นฺติ. เอโกปิ หิ วิภตฺตินิทฺเทโส อเนกตฺถวิภาวโน โหติ, ตถา ตทฺธิตตฺถปทสมาหาเรติ.

สํสนฺทนนฺติ อาลาปสลฺลาปวเสน กถาสํสนฺทนํ. าณพฺยตฺตภาวนฺติ พฺยตฺตาณภาวํ, โส ปน ปรสฺส วจเน อุตฺตรทานวเสน, ปเรน วา วุตฺตอุตฺตเร ปจฺจุตฺตรทานวเสน สิยาติ อาห ‘‘อุตฺตรปจฺจุตฺตรนเยนา’’ติ. โย หิ ปรสฺส วจนํ ติปุกฺขเลน นเยน รูเปติ, ตถา ปรสฺส รูปนวจนํ ชาติภาวํ อาปาเทติ, ตสฺส ตาทิสํ วจนสภาวํ าณเวยฺยตฺติยํ วิภาเวติ ปากฏํ กโรตีติ. สุฺาคาเรสุ นฏฺาติ สุฺาคาเรสุ นิวาเสสุ นฏฺา วินฏฺา อภาวํ คตา. นาสฺส ปฺา นสฺเสยฺย เตหิ เตหิ กตปุจฺฉนปฏิปุจฺฉนนิมิตฺตํ นานาปฏิภานุปฺปตฺติยา วิสารมาปนฺนํ ปุจฺฉิตํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชตุํ อสมตฺถตาย. โอโรเธยฺยามาติ นิรุสฺสาหํ วิย กโรนฺตา อวโรเธยฺยาม, ตํ ปรสฺส โอโรธนํ วาทชาเลน วินนฺธนํ วิย โหตีติ อาห ‘‘วินนฺเธยฺยามา’’ติ . ตทตฺถํ เตน ตุจฺฉกุมฺภินิทสฺสนํ กตํ, ตํ พฺยติเรกมุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘ปูริตฆโฏ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

พลํ ทีเปนฺโตติ อภูตเมว อตฺตโน าณพลํ ปกาเสนฺโต. อสมฺภินฺนนฺติ ชาติสมฺเภทาภาเวน อสมฺภินฺนํ. อฺชาติสมฺเภเท สติ อสฺสตรสฺส อสฺสสฺส ชาตภาโว วิย สีหสฺสปิ สีหถามาภาโว สิยาติ อาห ‘‘อสมฺภินฺนเกสรสีห’’นฺติ. านโส วาติ ตงฺขเณ เอว.

๕๔. ‘‘สุมาคธา นาม นที’’ติ เกจิ, ตํ มิจฺฉาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุมาคธา นาม โปกฺขรณี’’ติ วตฺวา ตสฺสา โปกฺขรณิภาวสฺส สุตฺตนฺตเร อาคตตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺสา ตีเร’’ติอาทิ วุตฺตํ. โมรานํ นิวาโป เอตฺถาติ โมรนิวาโป. พฺยธิกรณานมฺปิ หิ ปทานํ พาหิรตฺถสมาโส โหติเยว ยถา ‘‘อุรสิโลโม’’ติ. อถ วา นิวุตฺถํ เอตฺถาติ นิวาโป, โมรานํ นิวาโป โมรนิวาโป, โมรานํ นิวาปทินฺนฏฺานํ. เตนาห ‘‘ยตฺถ โมราน’’นฺติอาทิ. ยสฺมา นิคฺโรโธ ตโปชิคุจฺฉวาโท, สาสเน จ ภิกฺขู อตฺตกิลมถานุโยคํ วชฺเชตฺวา ภาวนานุโยเคน ปรมสฺสาสปฺปตฺเต วิหรนฺเต ปสฺสติ, ตสฺมา ‘‘กถํ นุ โข สมโณ โคตโม กายกิลมเถน วินาว สาวเก วิเนตี’’ติ สฺชาตสนฺเทโห ‘‘โก นาม โส’’ติอาทินา ภควนฺตํ ปุจฺฉิ. อสฺสสติ อนุสงฺกิตปริสงฺกิโต โหติ เอเตนาติ อสฺสาโส, ปีติโสมนสฺสนฺติ อาห ‘‘อสฺสาสปฺปตฺตาติ ตุฏฺิปฺปตฺตา โสมนสฺสปฺปตฺตา’’ติ. อธิโก เสฏฺโ อาสโย นิสฺสโย อชฺฌาสโยติ อาห ‘‘อุตฺตมนิสฺสยภูต’’นฺติ. อาทิภูตํ ปุราตนํ เสฏฺจริยํ อาทิพฺรหฺมจริยํ, โลกุตฺตรมคฺคนฺติ อตฺโถ. ตถา เหส สพฺพพุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวเกหิ เตเนว อากาเรน อธิคโต. เตนาห ‘‘ปุราณ…เป… อริยมคฺค’’นฺติ. ตถา หิ ตํ ภควา ‘‘อทฺทส ปุราณํ มคฺคํ ปุราณมฺชส’’นฺติ อโวจ. ปูเรตฺวา ภาวนาปาริปูริวเสน. ‘‘ปูเรตฺวา’’ติ วา อิทํ ‘‘อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริย’’นฺติ เอตฺถ ปาเสโสติ วทนฺติ. ‘‘อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริยํ ปฏิชานนฺติ อสฺสาสปฺปตฺตา’’ติ เอวํ วา เอตฺถ โยชนา.

ตโปชิคุจฺฉาวาทวณฺณนา

๕๕. ปกตา หุตฺวา วิจฺฉินฺนา วิปฺปกตาติ อาห ‘‘อนิฏฺิตาว หุตฺวา ิตา’’ติ.

๕๖. วีริเยน ปาปชิคุจฺฉนวาโทติ ลูขปฏิปตฺติสาธเนน วีริเยน อตฺตตณฺหาวิโนทนวเสน ปาปกสฺส ชิคุจฺฉนวาโท. ชิคุจฺฉตีติ ชิคุจฺโฉ, ตพฺภาโว เชคุจฺฉํ, อธิกํ เชคุจฺฉํ อธิเชคุจฺฉํ, อติวิย ปาปชิคุจฺฉนํ, ตสฺมึ อธิเชคุจฺเฉ. กายทฬฺหีพหุลํ ตปตีติ ตโป, อตฺตกิลมถานุโยควเสน ปวตฺตํ วีริยํ, เตน กายทฬฺหีพหุลตานิมิตฺตสฺส ปาปสฺส ชิคุจฺฉนํ, วิรชฺชนมฺปิ ตโปชิคุจฺฉาติ อาห ‘‘วีริเยน ปาปชิคุจฺฉา’’ติ. ฆาสจฺฉาทนเสนาสนตณฺหาวิโนทนมุเขน อตฺตสฺเนหวิรชฺชนนฺติ อตฺโถ. อุปริ วุจฺจมาเนสุ นานากาเรสุ อเจลกาทิวเตสุ เอกชฺฌํ สมาทินฺนานํ ปริโสธนเมเวตฺถ ปาริปูรณํ, น สพฺเพสํ อนวเสสโต สมาทานํ ตสฺส อสมฺภวโตติ อาห ‘‘ปริปุณฺณาติ ปริสุทฺธา’’ติ. ปริโสธนฺจ เนสํ สกสมยสิทฺเธน นเยน ปฏิปชฺชนเมว. วิปริยาเยน อปริสุทฺธตา เวทิตพฺพา.

๕๗. ‘‘เอกํ ปฺหมฺปิ น กเถตี’’ติ ปมํ อตฺตนา ปุจฺฉิตปฺหสฺส อกถิตตฺตา วุตฺตํ.

ตปนิสฺสิตโกติ อตฺตกิลมถานุโยคสงฺขาตํ ตปํ นิสฺสาย สมาทาย วตฺตนโก. สีหนาเทติ สีหนาทสุตฺตวณฺณนายํ. ยสฺมา ตตฺถ วิตฺถาริตนเยน เวทิตพฺพานิ, ตสฺมา ตสฺสา อตฺถปฺปกาสนาย วุตฺตนเยนปิ เวทิตพฺพานิ.

อุปกฺกิเลสวณฺณนา

๕๘. ‘‘สมฺมา อาทิยตี’’ติ วตฺวา สมฺมา อาทิยนฺจสฺส ทฬฺหคฺคาโห เอวาติ อาห ‘‘ทฬฺหํ คณฺหาตี’’ติ. ‘‘สาสนาวจเรนาปิ ทีเปตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกจฺโจ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ, เตน ธุตงฺคธรตามตฺเตน อตฺตมนตา, ปริปุณฺณสงฺกปฺปตา สมฺมาปฏิปตฺติยา อุปกฺกิเลโสติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ, น ยถาวุตฺตตปสมาทานธุตงฺคธรตานํ สติปิ อนิยฺยานิกตฺเต สทิสตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

‘‘ทุวิธสฺสาปีติ ‘อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป’ติ จ เอวํ อุปกฺกิเลสเภเทน วุตฺตสฺส ทุวิธสฺสาปิ ตปสฺสิโน’’ติ เกจิ. ยสฺมา ปน อฏฺกถายํ สาสนิกวเสนาปิ อตฺโถ ทีปิโต, ตสฺมา พาหิรกสฺส, สาสนิกสฺส จาติ เอวํ ทุวิธสฺสาปิ ตปสฺสิโนติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตถา เจว หิ อุปริปิ อตฺถวณฺณนํ วกฺขตีติ. เอตฺตาวตาติ ยทิทํ ‘‘โก อฺโ มยา สทิโส’’ติ เอวํ อติมานสฺส, อนิฏฺิตกิจฺจสฺเสว จ ‘‘อลเมตฺตาวตา’’ติ เอวํ อติมานสฺส จ อุปฺปาทนํ, เอตฺตาวตา.

อุกฺกํสตีติ อุกฺกฏฺํ กโรติ. อุกฺขิปตีติ อฺเสํ อุปริ ขิปติ, ปคฺคณฺหาตีติ อตฺโถ. ปรํ สํหาเรตีติ ปรํ สํหรํ นิหีนํ กโรติ. อวกฺขิปตีติ อโธ ขิปติ, อวมฺตีติ อตฺโถ.

มานมทกรเณนาติ มานสงฺขาตสฺส มทสฺส กรเณน อุปฺปาทเนน. มุจฺฉิโตโหตีติ มุจฺฉาปนฺโน โหติ, สา ปน มุจฺฉาปตฺติ อภิชฺฌาสีลพฺพตปรามาสกายคนฺเถหิ คธิตจิตฺตตา, ตตฺถ จ อติลคฺคภาโวติ อาห ‘‘คธิโต อชฺโฌสนฺโน’’ติ. ปมชฺชนฺเจตฺถ ปมชฺชนเมวาติ อาห ‘‘ปมาทมาปชฺชตี’’ติ. เกวลํ ธุตงฺคสุทฺธิโก หุตฺวา กมฺมฏฺานํ อนนุยุฺชนฺโต ตาย เอว ธุตงฺคสุทฺธิกตาย อตฺตุกฺกํสนาทิวเสน ปวตฺเตยฺยาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สาสเน’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ธุตงฺคเมว…เป… ปจฺเจตี’’ติ.

๕๙. เตเยว ปจฺจยา. สุฏฺุ กตฺวา ปฏิสงฺขริตฺวา ลทฺธาติ อาทรคารวโยเคน สกฺกจฺจํ อภิสงฺขริตฺวา ทานวเสน อุปนยวเสน ลทฺธา. วณฺณภณนนฺติ คุณกิตฺตนํ. อสฺสาติ ตปสฺสิโน.

๖๐. โวทาสนฺติ พฺยาสนํ, วิภชฺชนนฺติ อตฺโถ. ตํ ปเนตฺถ วิภชฺชนํ ทฺวิธา อิจฺฉิตนฺติ อาห ‘‘ทฺเวภาคํ อาปชฺชตี’’ติ. ทฺเว ภาเค กโรติ รุจฺจนารุจฺจนวเสน . เคธชาโตติ สฺชาตเคโธ. มุจฺฉนํ นาม สติวิปฺปวาเสเนว โหติ, น สติยา สตีติ อาห ‘‘สมุฏฺสฺสตี’’ติ. อาทีนวมตฺตมฺปีติ คธิตาทิภาเวน ปริโภเค อาทีนวมตฺตมฺปิ น ปสฺสติ. มตฺตฺุตาติ ปริโภเค มตฺตฺุตา. ปจฺจเวกฺขณปริโภคมตฺตมฺปีติ ปจฺจเวกฺขณมตฺเตน ปริโภคมฺปิ เอกวารํ ปจฺจเวกฺขิตฺวาปิ ปริภุฺชนมฺปิ น กโรติ.

๖๑. วิจกฺกสณฺานาติ วิปุลตมจกฺกสณฺานา. สพฺพสฺส ภุฺชนโต อโยกูฏสทิสา ทนฺตา เอว ทนฺตกูฏํ.อปสาเทตีติ ปสาเทติ. อเจลกาทิวเสนาติ อเจลกวตาทิวเสน. ลูขาชีวินฺติ สลฺเลขปฏิปตฺติยา ลูขชีวิกํ.

๖๒. ตปํ กโรตีติ ภาวนามนสิการลกฺขณํ ตปํ จรติ จรนฺโต วิย โหติ. จงฺกมํ โอตรติ ภาวนํ อนุยุฺชนฺโต วิย. วิหารงฺคณํ สมฺมชฺชติ วตฺตปฏิปตฺตึ ปูเรนฺโต วิย.

‘‘อาทสฺสยมาโน’’ติ วา ปาโ.

กิฺจิวชฺชนฺติ กิฺจิ กายิกํ วา วาจสิกํ วา โทสํ. ทิฏฺิคตนฺติ วิปรีตทสฺสนํ. อรุจฺจมานนฺติ อตฺตโน สิทฺธนฺเต ปฏิกฺขิตฺตภาเวน อรุจฺจมานํ. รุจฺจติ เมติ ‘‘กปฺปติ เม’’ติ วทติ. อนุชานิตพฺพนฺติ ตจฺฉาวิปรีตภูตภาเวน ‘‘เอวเมต’’นฺติ อนุชานิตพฺพํ. สวนมโนหาริตาย ‘‘สาธุ สุฏฺู’’ติ อนุโมทิตพฺพํ.

๖๓. กุชฺฌนสีลตาย โกธโน. วุตฺตลกฺขโณ อุปนาโห เอตสฺส อตฺถีติ อุปนาหี. เอวํภูโต จ ตํสมงฺคี โหตีติ ‘‘สมนฺนาคโต โหตี’’ติ วุตฺตํ. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ.

อยํ ปน วิเสโส – อิสฺสติ อุสูยตีติ อุสฺสุกี. สนํ อสนฺตคุณสมฺภาวนํ สโ, โส เอตสฺส อตฺถีติ สโ. สนฺตโทสปฏิจฺฉาทนสภาวา มายา, มายา เอตสฺส อตฺถีติ มายาวี. ครุฏฺานิยานมฺปิ ปณิปาตากรณลกฺขณํ ถมฺภนํ ถทฺธํ, ตเมตฺถ อตฺถีติ ถทฺโธ. คุเณหิ สมานํ, อธิกฺจ อติกฺกมิตฺวา นิหีนํ กตฺวา มฺนสีลตาย อติมานี. อสนฺตคุณสมฺภาวนตฺถิกตาสงฺขาตา ปาปา ลามกา อิจฺฉา เอตสฺสาติ ปาปิจฺโฉ. มิจฺฉา วิปรีตา ทิฏฺิ เอตสฺสาติ มิจฺฉาทิฏฺิโก. ‘‘อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’นฺติ (ม. นิ. ๑๘๗, ๒๐๒, ๔๒๗; ๓.๒๗, ๒๙; อุทา. ๕๕; มหานิ. ๒๐; เนตฺติ. ๕๘) เอวํ อตฺตนา อตฺตาภินิวิฏฺตาย สตา ทิฏฺิ สนฺทิฏฺิ, ตเมว ปรามสตีติ สนฺทิฏฺิปรามาสี. อฏฺกถายํ ปน ‘‘สยํ ทิฏฺิ สนฺทิฏฺี’’ติ วตฺถุวเสน อตฺโถ วุตฺโต. อา พาฬฺหํ วิย ธียตีติ อาธานนฺติ อาห ‘‘ทฬฺหํ สุฏฺุ ปิต’’นฺติ. ยถาคหิตํ คาหํ ปฏินิสฺสชฺชนสีโล ปฏินิสฺสคฺคี, ตปฺปฏิกฺเขเปน ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี. ปฏิเสธตฺโถ หิ อยํ ทุ-สทฺโท ยถา ‘‘ทุปฺปฺโ, (ม. นิ. ๑.๔๔๙) ทุสฺสีโล’’ติ (อ. นิ. ๕.๒๑๓; ๑๐.๗๕; ปารา. ๑๙๕; ธ. ป. ๓๐๘) จ.

ปริสุทฺธปปฏิกปฺปตฺตกถาวณฺณนา

๖๔. อิธ นิคฺโรธ ตปสฺสีติ ยถานุกฺกนฺตํ ปุริมปาฬึ นิคมนวเสน เอกเทเสน ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘เอวํ ภควา’’ติอาทิ. คหิตลทฺธินฺติ ‘‘อเจลกาทิภาโว เสยฺโย, เตน จ สํสารสุทฺธิ โหตี’’ติ เอวํ คหิตลทฺธึ. รกฺขิตํ ตปนฺติ ตาย ลทฺธิยา สมาทิยิตฺวา รกฺขิตํ อเจลกวตาทิตปํ. ‘‘สพฺพเมว สํกิลิฏฺ’’นฺติ อิมินา ยํ วกฺขติ ปริสุทฺธปาฬิวณฺณนายํ ‘‘ลูขตปสฺสิโน เจว ธุตงฺคธรสฺส จ วเสน โยชนา เวทิตพฺพา’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๖๔), ตสฺส ปริกปฺปิตรูปสฺส ลูขสฺส ตปสฺสิโนติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโยติ ทสฺเสติ. ‘‘ปริสุทฺธปาฬิทสฺสนตฺถ’’นฺติ จ อิมินา ติตฺถิยานํ วเสน ปาฬิ เยเวตฺถ ลพฺภติ, น ปน ตทตฺโถติ ทสฺเสติ. วุตฺตวิปกฺขวเสนาติ วุตฺตสฺส อตฺถสฺส ปฏิปกฺขวเสน, ปฏิกฺเขปวเสนาติ อตฺโถ. ตสฺมึ าเนติ เหตุอตฺเถ ภุมฺมนฺติ ตสฺส เหตุอตฺเถน กรณวจเนน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอวํ โส เตนา’’ติอาทิมาห. อุตฺตริ วายมมาโนติ ยถาสมาทินฺเนหิ ธุตธมฺเมหิ อปริตุฏฺโ, อปริโยสิตสงฺกปฺโป จ หุตฺวา อุปริ ภาวนานุโยควเสน สมฺมาวายามํ กโรนฺโต.

๖๙. อิโต ปรนฺติ อิโต ยถาวุตฺตนยโต ปรํ. อคฺคภาวํ วา สารภาวํ วาติ ตโปชิคุจฺฉาย อคฺคภาวํ วา สารภาวํ วา อชานนฺโต. ‘‘อยเมวสฺส อคฺคภาโว สารภาโว’’ติ มฺมาโน ‘‘อคฺคปฺปตฺตา, สารปฺปตฺตา จา’’ติ อาห.

ปริสุทฺธตจปฺปตฺตาทิกถาวณฺณนา

๗๐. ยมนํ สํยมนํ ยาโม, หึสาทีนํ อกรณวเสน จตุพฺพิโธ ยาโมว จาตุยาโม, โส เอว สํวโร, เตน สํวุโต คุตฺตสพฺพทฺวาโร จาตุยามสํวรสํวุโต. เตนาห ‘‘จตุพฺพิเธน สํวเรน ปิหิโต’’ติ. อติปาตนํ หึสนนฺติ อาห ‘‘ปาณํ น หนตี’’ติ. โลภจิตฺเตน ภาวิตํ สมฺภาวิตนฺติ กตฺวา ภาวิตํ นาม ปฺจ กามคุณา. อยฺจ เตสุ เตสํเยว สมุทาจาโร มคฺโคฏฺาปกํ วิยาติ อาห ‘‘เตสํ สฺายา’’ติ.

เอตนฺติ อภิหรณํ, หีนาย อนาวตฺตนฺจ. เตนาห ‘‘โส อภิหรตีติ อาทิลกฺขณ’’นฺติ. อภิหรตีติ อภิพุทฺธึ เนติ. เตนาห ‘‘อุปรูปริ วฑฺเฒตี’’ติ. จกฺกวตฺตินาปิ ปพฺพชิตสฺส อภิวาทนาทิ กรียเตวาติ ปพฺพชฺชา เสฏฺา คุณวิเสสโยคโต, โทสวิรหิตโต จ, ยโต สา ปณฺฑิตปฺตฺตา วุตฺตา. คิหิภาโว ปน นิหีโน ตทุภยาภาวโตติ อาห ‘‘หีนาย คิหิภาวตฺถายา’’ติ.

๗๑. ตจปฺปตฺตาติ ตจํ ปตฺตา, ตจสทิสา โหตีติ อตฺโถ.

๗๔. ติตฺถิยานํ วเสนาติ ติตฺถิยานํ สมยวเสน. เนสนฺติ ติตฺถิยานํ. นฺติ ทิพฺพจกฺขุํ. สีลสมฺปทาติ สพฺพาการสมฺปนฺนํ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. ตจสารสมฺปตฺติโตติ ตจตโปชิคุจฺฉายาสารสมฺปตฺติโต. วิเสสภาวนฺติ วิเสสสภาวํ.

อเจลกปาฬิมตฺตมฺปีติ อเจลกปาฬิอาคตตฺถมตฺตมฺปิ นตฺถิ, ตสฺมา มยํ อนสฺสาม วินฏฺาติ อตฺโถ. -กาโร วา นิปาตมตฺตํ, นสฺสามาติ วินสฺสาม. กุโต ปริสุทฺธปาฬีติ กุโต เอว อมฺเหสุ ปริสุทฺธปาฬิอาคตปฏิปตฺติ. เอส นโย เสเสสุปิ. สุติวเสนาปีติ โสตปถาคมนมตฺเตนาปิ น ชานาม.

นิคฺโรธสฺสปชฺฌายนวณฺณนา

๗๕. อสฺสาติ สนฺธานสฺส คหปติสฺส. กกฺขฬนฺติ ผรุสํ. ทุราสทวจนนฺติ อวตฺตพฺพวจนํ. ยสฺมา ผรุสวจนํ ยํ อุทฺทิสฺส ปยุตฺตํ, ตสฺมึ ขมาปิเต ขมาปกสฺส ปฏิปากติกํ โหติ, ตสฺมา ‘‘อยํ มยี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๗๖. โพธตฺถาย ธมฺมํ เทเสติ, น อตฺตโน พุทฺธภาวโฆสนตฺถาย. วาทตฺถายาติ ปรวาทภฺชนวาทตฺถาย. ราคาทิสมนตฺถาย ธมฺมํ เทเสติ, น อนฺเตวาสิกมฺยตาย. โอฆนิตฺถรณตฺถายาติ จตุโรฆนิตฺถรณตฺถาย ธมฺมํ เทเสติ สพฺพโส โอรปาราติณฺณมาวหตฺตา เทสนาย. สพฺพกิเลสปรินิพฺพานตฺถาย ธมฺมํ เทเสติ กิเลสานํ เลเสนปิ เทสนาย อปรามฏฺภาวโต.

พฺรหฺมจริยปริโยสานาทิวณฺณนา

๗๗. อิทํ สพฺพมฺปีติ สตฺตวสฺสโต ปฏฺาย ยาว ‘‘สตฺตาห’’นฺติ ปทํ, อิทํ สพฺพมฺปิ วจนํ. อสโ ปน อมายาวี อุชุชาติโก ติกฺขปฺโ อุคฺฆฏิตฺูติ อธิปฺปาโย. โส หิ ตํมุหุตฺเตเนว อรหตฺตํ ปตฺตุํ สกฺขิสฺสตีติ. วงฺกวงฺโกติ กายวงฺกาทีหิปิ วงฺเกหิ วงฺโก ชิมฺโห กุฏิโล. ‘‘สํ ปนาหํ อนุสาสิตุํ น สกฺโกมี’’ติ น อิทํ ภควา กิลาสุภาเวเนว วทติ, อถ โข ตสฺส อภาชนภาเวเนว.

๗๘. ปกติยา อาจริโยติ โย เอว ตุมฺหากํ อิโต ปุพฺเพ ปกติยา อาจริโย อโหสิ, โส เอว อิทานิปิ ปุพฺพาจิณฺณวเสน อาจริโย โหตุ, น มยํ ตุมฺเห อนฺเตวาสิเก กาตุกามาติ อธิปฺปาโย. มยํ ตุมฺหากํ อุทฺเทเสน อตฺถิกา, ธมฺมตนฺติ เมว ปน ตุมฺเห าเปตุกามมฺหาติ อธิปฺปาโย. อาชีวโตติ ชีวิกาย วุตฺติโต. อกุสลาติ โกฏฺาสํ ปตฺตาติ อกุสลาติ ตํ ตํ โกฏฺาสตํเยว อุปคตา. กิเลสทรถสมฺปยุตฺตาติ กิเลสทรถสหิตา ตํสมฺพนฺธนโต . ชาติชรามรณานํ หิตาติ ชาติชรามรณิยา. สํกิเลโส เอตฺถ อตฺถิ, สํกิเลเส วา นิยุตฺตาติ สํกิเลสิกา. โวทานํ วุจฺจติ วิสุทฺธิ, ตสฺส ปจฺจยภูตตฺตา โวทานิยา. ตถาภูตา เจเต โวทาเปนฺตีติ อาห ‘‘สตฺเต โวทาเปนฺตี’’ติ. สิขาปฺปตฺตา ปฺาย ปาริปูริเวปุลฺลตา มคฺคผลวเสเนว อิจฺฉิตพฺพาติ อาห ‘‘มคฺคปฺา…เป… เวปุลฺลต’’นฺติ. อุโภปิ วา เอตานิ ปาริปูริเวปุลฺลานิ. ยา หิ ตสฺส ปาริปูรี, สา เอว เวปุลฺลตาติ. ตโตติ สํกิเลสธมฺมปฺปหานโวทานธมฺมาภิพุทฺธิเหตุ.

๗๙. ‘‘ยถา มาเรนา’’ติ นยิทํ นิทสฺสนวเสน วุตฺตํ, อถ โข ตถาภาวกถนเมวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘มาโร กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อถาติ มาเรน เตสํ ปริยุฏฺานปฺปตฺติโต ปจฺฉา อฺาสีติ โยชนา. กสฺมา ปน ภควา ปเคว น อฺาสีติ? อนาวชฺชิตตฺตา. มารํ ปฏิพาหิตฺวาติ มาเรน เตสุ กตํ ปริยุฏฺานํ วิธเมตฺวา, น เตสํ สติ ปโยชเน พุทฺธานํ ทุกฺกรํ. โสติ มคฺคผลุปฺปตฺติเหตุ. เตสํ ปริพฺพาชกานํ.

ผุฏฺาติ ปริยุฏฺานวเสน ผุฏฺา. ยตฺราติ นิทฺธารเณ ภุมฺมนฺติ อาห ‘‘เยสู’’ติ. อฺาณตฺถนฺติ อาชานนตฺถํ, อุปสคฺคมตฺตฺเจตฺถ อา-กาโรติ อาห ‘‘ชานนตฺถ’’นฺติ, วีมํสนตฺถนฺติ อตฺโถ. จิตฺตํ นุปฺปนฺนนฺติ ‘‘ชานาม ตาวสฺส ธมฺม’’นฺติ อาชานนตฺถํ ‘‘พฺรหฺมจริยํ จริสฺสามา’’ติ เอกสฺมึ ทิวเส เอกวารมฺปิ เตสํ จิตฺตํ นุปฺปนฺนํ. สตฺตาโห ปน วุจฺจมาโน เอเตสํ กึ กริสฺสตีติ โยชนา. สตฺตาหํ ปูเรตุนฺติ สตฺตาหํ พฺรหฺมจริยํ ปูเรตุํ, พฺรหฺมจริยวเสน วา สตฺตาหํ ปูเรตุนฺติ อตฺโถ. ปรวาทภินฺทนนฺติ ปรวาทมทฺทนํ. สกวาทสมุสฺสาปนนฺติ สกวาทปคฺคณฺหนํ. วาสนายาติ สจฺจสมฺปฏิเวธวาสนาย. เนสนฺติ จ ปกรณวเสน วุตฺตํ. ตทฺเสมฺปิ หิ ภควโต สมฺมุขา, ปรมฺปราย จ เทวมนุสฺสานํ สุณนฺตานํ วาสนาย ปจฺจโย เอวาติ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.

อุทุมฺพริกสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.