📜
๑๑. ทสุตฺตรสุตฺตวณฺณนา
๓๕๐. อาวุโส ¶ ¶ ¶ ภิกฺขเวติ สาวกานํ อาลปนนฺติ สาวกานํ อามนฺตนวเสน อาลปนสมุทาจาโร, น เกวลํ ‘‘ภิกฺขเว’’ติ, โส ปน พุทฺธานํ อาลปนํ. เตนาห ‘‘พุทฺธา หี’’ติอาทิ. สตฺถุสมุทาจารวเสน อสมุทาจาโร เอเวตฺถ สตฺถุ อุจฺจฏฺาเน ปนํ. สมฺปติ อาคตตฺตา กตฺถจิ น นิพทฺโธ วาโส เอเตสนฺติ อนิพทฺธวาสา, อนฺเตวาสิกา. กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา สปฺปายเสนาสนํ คเวสนฺตา ยํ กิฺจิ ทิสํ คจฺฉนฺตีติ ทิสาคมนียา. อิทานิ ตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘พุทฺธกาเล’’ติอาทิ วุตฺตํ.
อสุภกมฺมฏฺานนฺติ เอกาทสวิธํ อสุภกมฺมฏฺานํ. ตตฺถาปิ ปุคฺคลเวมตฺตตํ ตฺวา ตทนุรูปํ ตทนุรูปเมว เทติ. โมหจริตสฺสปิ กามํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ สปฺปายํ, กมฺมฏฺานภาวนาย ปน ภาชนภูตํ กาตุํ สมฺโมหวิคมาย ปมํ อุทฺเทสปริปุจฺฉาธมฺมสฺสวนธมฺมสากจฺฉาสุ นิโยเชตพฺโพติ วุตฺตํ ‘‘โมหจริตสฺส…เป… อาจิกฺขตี’’ติ. สทฺธาจริตสฺส วิเสสโต ปุริมา ฉ อนุสฺสติโย สปฺปายา, ตาสํ ปน อนุยฺุชเน อยํ ปุพฺพภาคปฏิปตฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปสาทนียสุตฺตนฺเต’’ติอาทิ วุตฺตํ. าณจริตสฺสาติ พุทฺธิจริตสฺส, ตสฺส ปน มรณสฺสติ, อุปสมานุสฺสติ, จตุธาตุววตฺถานํ, อาหาเรปฏิกูลสฺา วิเสสโต สปฺปายา, เตสํ ปน อุปการธมฺมทสฺสนตฺถํ ‘‘อนิจฺจตาทิ…เป… กเถตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺเถวาติ สตฺถุ สนฺติเก เอว. เตมาสิกํ ปฏิปทนฺติ ตีหิ มาเสหิ สนฺนิฏฺาเปตพฺพํ ปฏิปทํ.
อิเม ภิกฺขูติ อิมิสฺสา ธมฺมเทสนาย ภาชนภูตา ภิกฺขู. ‘‘เอวํ อาคนฺตฺวา คจฺฉนฺเต ¶ ปน ภิกฺขู’’ติ อิทํ ‘‘พุทฺธกาเล’’ติอาทินา ตทุทฺเทสิกวเสน วุตฺตภิกฺขู สนฺธาย วุตฺตํ, น ‘‘อิเม ภิกฺขู’’ติ อนนฺตรํ วุตฺตภิกฺขู. เตนาห ‘‘เปเสตี’’ติ. อปโลเกถาติ อาปุจฺฉถ. ‘‘ปณฺฑิตา’’ติอาทิ เสวนภชเนสุ การณวจนํ. ‘‘โสตาปตฺติผเล วิเนตี’’ติอาทิ เยภุยฺยวเสน ¶ วุตฺตํ. อายสฺมา หิ ธมฺมเสนาปติ ภิกฺขู เยภุยฺเยน โสตาปตฺติผลํ ปาเปตฺวา วิสฺสชฺเชติ ‘‘เอวเมเต นิยตา สมฺโพธิปรายณา’’ติ. อายสฺมา ปน มหาโมคฺคลฺลาโน ‘‘สพฺพาปิ ภวูปปตฺติ ชิคุจฺฉิตพฺพาวา’’ติ ภิกฺขู เยภุยฺเยน อุตฺตมตฺถํเยว ปาเปติ.
สาวเกหิ ¶ วิเนตุํ สกฺกุเณยฺยา สาวกเวเนยฺยา นาม น สาวเกเหว วิเนตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สาวกเวเนยฺยา นามา’’ติอาทิ. ทสธา มาติกํ เปตฺวาติ เอกกโต ปฏฺาย ยาว ทสกา ทสธา ทสธา มาติกํ เปตฺวา วิภตฺโตติ ทสุตฺตโร. ทสุตฺตโร คโตติปิ ทสุตฺตโรติ เอกกโต ปฏฺาย ยาว ทสกา ทสหิ อุตฺตโร อธิโก หุตฺวา คโต ปวตฺโตติปิ ทสุตฺตโร. เอเกกสฺมึ ปพฺเพติ เอกกโต ปฏฺาย ยาว ทสกา ทสสุ ปพฺเพสุ เอเกกสฺมึ ปพฺเพ. ทส ทส ปฺหาติ ‘‘กตโม ธมฺโม พหุกาโร อปฺปมาโท กุสเลสุ ธมฺเมสู’’ติอาทินา ทส ทส ปฺหา. วิเสสิตาติ วิสฺสชฺชิตา. ทสุตฺตรํ ปวกฺขามีติ เทสิยมานํ เทสนํ นามกิตฺตนมุเขน ปฏิชานาติ วณฺณภณนตฺถํ. ปวกฺขามีติ ปกาเรหิ วกฺขามิ. ตถา เหตฺถ ปฺาสาธิกานํ ปฺจนฺนํ ปฺหสตานํ วเสน เทสนา ปวตฺตา. ธมฺมนฺติ อิธ ธมฺม-สทฺโท ปริยตฺติปริยาโย ‘‘อิธ ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๗๓) วิย. สุตฺตลกฺขโณ จายํ ธมฺโมติ อาห ‘‘ธมฺมนฺติ ¶ สุตฺต’’นฺติ. สฺวายํ ธมฺโม ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมานสฺส นิพฺพานาวโห. ตโต เอว วฏฺฏทุกฺขสมุจฺเฉทาย โหติ, ส จายมสฺส อานุภาโว สพฺเพสํ ขนฺธานํ ปโมจนุปายภาวโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิพฺพานปฺปตฺติยา’’ติอาทิมาห. เตน วุตฺตํ ‘‘นิพฺพานปฺปตฺติยา’’ติอาทิ.
อุจฺจํ กโรนฺโตติ อุทคฺคํ อุฬารํ ปณีตํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต, ปคฺคณฺหนฺโตติ อตฺโถ. เปมํ ชเนนฺโตติ ภตฺตึ อุปฺปาเทนฺโต. อิทฺจ เทสนาย ปคฺคณฺหนํ พุทฺธานมฺปิ อาจิณฺณํ เอวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอกายโน’’ติอาทิมาห.
เอกธมฺมวณฺณนา
๓๕๑. (ก) การ-สทฺโท อุป-สทฺเทน วินาปิ อุปการตฺถํ วทติ, ‘‘พหุการา, ภิกฺขเว, มาตาปิตโร ปุตฺตาน’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๒.๓๔) วิยาติ อาห ‘‘พหุกาโรติ พหูปกาโร’’ติ.
(ข) วฑฺฒเน วุตฺเต นานนฺตริยตาย อุปฺปาทนํ วุตฺตเมว โหตีติ ‘‘ภาเวตพฺโพติ วฑฺเฒตพฺโพ’’ติ ¶ วุตฺโต. อุปฺปาทนปุพฺพิกา หิ วฑฺฒนาติ. นนุ ¶ จ ‘‘เอโก ธมฺโม อุปฺปาเทตพฺโพ’’ติ อุปฺปาทนํ เปตฺถ วิสุํ คหิตํ เอวาติ? อฺวิสยตฺตา ตสฺส นายํ วิโรโธ. ตถา หิ ‘‘เอโก ธมฺโม ปริฺเยฺโย’’ติ ตีหิปิ ปริฺาหิ ปริฺเยฺยตํ วตฺวาปิ ‘‘เอโก ธมฺโม ปหาตพฺโพ’’ติ ปหาตพฺพตา วุตฺตา.
(ค) ตีหิ ปริฺาหีติ าตตีรณปหานปริฺาหิ.
(ฆ) ปหานานุปสฺสนายาติ ปชหนวเสน ปวตฺตาย อนุปสฺสนาย. มิสฺสกวเสน เจตํ อนุปสฺสนาคหณํ ทฏฺพฺพํ.
(ง) สีลสมฺปทาทีนํ ปริหานาวโห ปริหานาย สํวตฺตนโก.
(จ) ฌานาทิวิเสสํ คเมตีติ วิเสสคามี.
(ฉ) ทุปฺปจฺจกฺขกโรติ อนุปจิตาณสมฺภาเรหิ ปจฺจกฺขํ กาตุํ อสกฺกุเณยฺโย.
(ฌ) อภิชานิตพฺโพติ ¶ อภิมุขํ าเณน ชานิตพฺโพ.
สพฺพตฺถ มาติกาสูติ ทุกาทิวเสน วุตฺตาสุ สพฺพาสุ มาติกาสุ. เอตฺถ จ อายสฺมา ธมฺมเสนาปติ เต ภิกฺขู ภาวนาย นิโยเชตฺวา อุตฺตมตฺเถ ปติฏฺาเปตุกาโม ปมํ ตาว ภาวนาย อุปการธมฺมํ อุทฺเทสวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘เอโก ธมฺโม พหุกาโร’’ติ วตฺวา เตน อุปการเกน อุปกตฺตพฺพํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอโก ธมฺโม ภาเวตพฺโพ’’ติ อาห. อยฺจ ภาวนา วิปสฺสนาวเสน อิจฺฉิตาติ อาห ‘‘เอโก ธมฺโม ปริฺเยฺโย’’ติ. ปริฺา จ นาม ยาวเทว ปหาตพฺพปชหนตฺถาติ อาห ‘‘เอโก ธมฺโม ปหาตพฺโพ’’ติ. ปชหนฺเตน จ หานภาคิยํ นีหริตฺวา วิเสสภาคิเย อวฏฺาตพฺพนฺติ อาห ‘‘เอโก ธมฺโม หานภาคิโย, เอโก ธมฺโม วิเสสภาคิโย’’ติ. วิเสสภาคิเย อวฏฺานฺจ ทุปฺปฏิวิชฺฌเนน, ทุปฺปฏิวิชฺฌปฏิวิชฺฌนฺเจ อิชฺฌติ, นิปฺผาเทตพฺพนิปฺผาทนํ สิทฺธเมว โหตีติ อาห ‘‘เอโก ธมฺโม ทุปฺปฏิวิชฺโฌ, เอโก ธมฺโม อุปฺปาเทตพฺโพ’’ติ. ตยิทํ ทฺวยํ อภิฺเยฺยาทิชานเนน โหตีติ อาห ‘‘เอโก ธมฺโม อภิฺเยฺโย’’ติ. อภิฺเยฺยฺเจ อภิฺาตํ, สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกตเมว โหตีติ. เอตฺตาวตา จ นิฏฺิตกิจฺโจว โหติ, นาสฺส อุตฺตริ กิฺจิ กรณียนฺติ เอวํ ตาว มหาเถโร เอกกวเสน ¶ เตสํ ภิกฺขูนํ ปฏิปตฺติวิธึ อุทฺทิสนฺโต อิมานิ ทส ปทานิ อิมินา อนุกฺกเมน อุทฺทิสิ.
(ก) เอวํ ¶ อนิยมโต อุทฺทิฏฺธมฺเม สรูปโต นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘กตโม เอโก ธมฺโม’’ติอาทินา เทสนํ อารภิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อิติ อายสฺมา สาริปุตฺโต’’ติอาทิ. เอส นโย ทุกาทีสุ. เวฬุกาโรติ เวโน. โส หิ เวฬุวิกาเรหิ กิลฺชาทิกรเณน ‘‘เวฬุกาโร’’ติ วุตฺโต. อนฺโต, พหิ จ สพฺพคตคณฺึ นีหรเณน นิคฺคณฺึ กตฺวา. เอเกกโกฏฺาเสติ เอกกาทีสุ ทสสุ โกฏฺาเสสุ เอเกกสฺมึ โกฏฺาเส.
สพฺพตฺถกํ อุปการกนฺติ สพฺพตฺถกเมว สมฺมา ปฏิปตฺติยา ¶ อุปการวนฺตํ. อิทานิ ตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘อยฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิปสฺสนาคพฺภํ คณฺหาปเนติ ยถา อุปริ วิปสฺสนา ปริปจฺจติ ติกฺขา วิสทา หุตฺวา มคฺเคน ฆเฏติ, เอวํ ปุพฺพภาควิปสฺสนาวฑฺฒเน. อตฺถปฏิสมฺภิทาทีสูติ อตฺถปฏิสมฺภิทาทีสุ นิปฺผาเทตพฺเพสุ, เตสํ สมฺภารสมฺภรณนฺติ อตฺโถ. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ. านาฏฺาเนสูติ าเน, อฏฺาเน จ ชานิตพฺเพ. มหาวิหารสมาปตฺติยนฺติ มหติยํ ฌานาทิวิหารสมาปตฺติยํ. วิปสฺสนาาณาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน มโนมยิทฺธิ อาทิกานิ สงฺคณฺหาติ. อฏฺสุ วิชฺชาสูติ อมฺพฏฺสุตฺเต (ที. นิ. ๑.๒๗๙) อาคตนยาสุ อฏฺสุ วิชฺชาสุ.
เตเนว ภควา โถเมตีติ โยชนา. นนฺติ อปฺปมาทํ.
ถามสมฺปนฺเนนาติ าณพลสมนฺนาคเตน. ทีเปตฺวาติ ‘‘เอวมฺปิ อปฺปมาโท กุสลานํ ธมฺมานํ สมฺปาทเน พหุปกาโร’’ติ ปกาเสตฺวา. ยํ กิฺจิ อนวชฺชปกฺขิกมตฺถํ อปฺปมาเท ปกฺขิปิตฺวา กเถตุํ ยุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ กิฺจี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
(ข) กายคตาสตีติ รสฺสํ อกตฺวา นิทฺเทโส, นิทฺเทเสน วา เอตํ สมาสปทํ ทฏฺพฺพํ. ‘‘อฏฺิกานิ ปฺุชกิตานิ เตโรวสฺสิกานิ…เป… ปูตีนิ จุณฺณิกชาตานี’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๗๙) เอวํ ปวตฺตมนสิกาโร ‘‘จุณฺณิกมนสิกาโร’’ติ วทนฺติ. อปเร ปน ภณนฺติ ‘‘จุณฺณิกอิริยาปเถสุ ปวตฺตมนสิกาโร’’ติ. เอตฺถ อุปฺปนฺนสติยาติ เอตสฺมึ ยถาวุตฺเต เอกูนตึสวิเธ าเน อุปฺปนฺนาย สติยา. สุขสมฺปยุตฺตาติ นิปฺปริยายโต สุขสมฺปยุตฺตา, ปริยายโต ปน จตุตฺถชฺฌาเน อุเปกฺขาปิ ‘‘สุข’’นฺติ วตฺตพฺพตํ ลภติ สนฺตสภาวตฺตา.
(ค) ปจฺจยภูโต ¶ ¶ ¶ อารมฺมณาทิวิสโยปิ อารมฺมณภาเวน วโณ วิย อาสเว ปคฺฆรติ, โส สมฺปโยคสมฺภวาภาเวปิ สห อาสเวหีติ สาสโว. ตถา อุปาทานานํ หิโตติ อุปาทานิโย. อิตรถา ปน ปจฺจยภาเวน วิธิ ปฏิกฺเขโป.
(ฆ) อสฺมีติ มาโนติ ‘‘อสฺมี’’ติ ปวตฺโต มาโน.
(จ) วิปริยาเยนาติ ‘‘อนิจฺเจ อนิจฺจ’’นฺติอาทินา นเยน ปวตฺโต ปถมนสิกาโร.
(ฉ) อิธ ปน วิปสฺสนานนฺตโร มคฺโค ‘‘อานนฺตริโก เจโตสมาธี’’ติ อธิปฺเปโต. กสฺมา? วิปสฺสนาย อนนฺตรตฺตา, อตฺตโน วา ปวตฺติยา อนนฺตรํ ผลทายกตฺตา. สทฺทตฺถโต ปน อนนฺตรํ ผลํ อนนฺตรํ, ตสฺมึ อนนฺตเร นิยุตฺตา, ตํ วา อรหติ, อนนฺตรปโยชโนติ วา อานนฺตริโก.
(ช) ผลนฺติ ผลปฺา. ปจฺจเวกฺขณปฺา อธิปฺเปตา อกุปฺปารมฺมณตาย.
(ฌ) อตฺตโน ผลํ อาหรตีติ อาหาโร, ปจฺจโยติ อาห ‘‘อาหารฏฺิติกาติ ปจฺจยฏฺิติกา’’ติ. อยํ เอโก ธมฺโมติ อยํ ปจฺจยสงฺขาโต เอโก ธมฺโมติ ปจฺจยตาสมฺเน เอกํ กตฺวา วทติ. าตปริฺาย อภิฺายาติ าตปริฺาสงฺขาตาย อภิฺาย.
() อกุปฺปา เจโตวิมุตฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติ อกุปฺปภาเวน อุกฺกํสคตตฺตา. อฺถา สพฺพาปิ ผลสมาปตฺติโย อกุปฺปา เอว ปฏิปกฺเขหิ อโกปนียตฺตา.
อภิฺายาติ ‘‘อภิฺเยฺโย’’ติ เอตฺถ ลทฺธอภิฺาย. ปริฺายาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปหาตพฺพสจฺฉิกาตพฺเพหีติ ปหาตพฺพสจฺฉิกาตพฺพปเทหิ. ปหานปริฺาว กถิตา ปหานสจฺฉิกิริยานํ เอกาวารตาย ปริฺาย สเหว อิชฺฌนโต. สจฺฉิกาตพฺโพติ วิเสสโต ผลํ กถิตํ. เอกสฺมึเยว ¶ สตฺตเม เอว ปเท ลพฺภติ. ผลํ ปน อเนเกสุปิ ปเทสุ ลพฺภติ ปมฏฺมนวมทสเมสุ ลพฺภนโต. ยสฺมา ¶ ตํ นิปฺปริยายโต ทสเม เอว ลพฺภติ, อิตเรสุ ปริยายโต ตสฺมา ‘‘ลพฺภติ เอวา’’ติ สาสงฺกํ วทติ.
สภาวโต วิชฺชมานาติ เยน พหุการาทิสภาเวน เทสิตา, เตน สภาเวน ปรมตฺถโต อุปลพฺภมานา ¶ . ยาถาวาติ อวิปรีตา. ตถาสภาวาติ ตํสภาวา. น ตถา น โหนฺตีติ อวิตถตฺตา ตถาว โหนฺติ. ตโต เอว วุตฺตปฺปการโต อฺถา น โหนฺตีติ ปฺจหิปิ ปเทหิ เตสํ ธมฺมานํ ยถาภูตเมว วทติ. สมฺมาติ าเยน. ยํ ปน าตํ, ตํ เหตุยุตฺตํ การณยุตฺตเมว โหตีติ อาห ‘‘เหตุนา การเณนา’’ติ. โอกปฺปนํ ชเนสีติ ชินวจนภาเวน อภิปฺปสาทํ อุปฺปาเทสิ.
เอกธมฺมวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทฺเวธมฺมวณฺณนา
๓๕๒. (ก) ‘‘สพฺพตฺถา’’ ติ อิทํ ‘‘สีลปูรณาทีสู’’ติ เอเตน สทฺธึ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘สีลปูรณาทีสุ สพฺพตฺถ อปฺปมาโท วิย อุปการกา’’ติ เอเตน สติสมฺปชฺานมฺปิ อปฺปมาทสฺส วิย สพฺพตฺถ อุปการกตา ปกาสิตา โหติ อตฺถโต นาติวิลกฺขณตฺตา ตโต เตสํ. สติอวิปฺปวาโส หิ อปฺปมาโท, โส จ อตฺถโต สพฺพตฺถ อวิชหิตา สติ เอว, สา จ โข าณสมฺปยุตฺตา เอว ทฏฺพฺพา, อิตราย ตถารูปสมตฺถตาภาวโต.
(ข) เตสํ ปฺจสตมตฺตานํ ภิกฺขูนํ ปุพฺพภาคปฏิปตฺติวเสน เทสิตตฺตา ปุพฺพภาคา กถิตา.
(ฉ) อโยนิโสมนสิกาโร สํกิเลสสฺส มูลการณภาเวน ปวตฺโต เหตุ, ปริพฺรูหนภาเวน ปวตฺโต ปจฺจโย. โยนิโสมนสิกาเรปิ เอเสว นโย. ยถา จ สตฺตานํ สํกิเลสาย, วิสุทฺธิยา จ ปจฺจยภูตา อโยนิโสมนสิกาโร, โยนิโสมนสิกาโรติ ‘‘อิเม ทฺเว ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา’’ติ ¶ เอตฺถ นีหริตฺวา วุตฺตา, เอวํ อิเมหิ ธมฺมา นีหริตฺวา วตฺตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อสุภชฺฌานาทโย จตฺตาโร วิสํโยคา นาม กามโยคาทิปฏิปกฺขภาวโต ¶ . ‘‘เอวํ ปเภทา’’ติ อิมินา ‘‘อวิชฺชาภาคิโน ธมฺมา, วิชฺชาภาคิโน ธมฺมา, กณฺหา ธมฺมา, สุกฺกา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๑๐๑, ๑๐๔) เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.
(ฌ) ปจฺจเยหิ ¶ สเมจฺจ สมฺภุยฺย กตตฺตา ปฺจกฺขนฺธา สงฺขตา ธาตุ. เกนจิ อนภิสงฺขตตฺตา นิพฺพานํ อสงฺขตา ธาตุ.
() ติสฺโส วิชฺชา วิชฺชนฏฺเน, วิทิตกรณฏฺเน จ วิชฺชา. วิมุตฺตีติ อรหตฺตผลํ ปฏิปกฺขโต สพฺพโส วิมุตฺตตฺตา.
อภิฺาทีนีติ อภิฺาปฺาทีนิ. เอกกสทิสาเนว ปุริมวาเร วิย วิภชฺช กเถตพฺพโต. มคฺโค กถิโตติ เอตฺถ ‘‘มคฺโคว กถิโต’’ติ เอวมตฺถํ อคฺคเหตฺวา ‘‘มคฺโค กถิโตวา’’ติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ ‘‘อนุปฺปาเท าณ’’นฺติ อิมินา ผลสฺส คหิตตฺตา. สจฺฉิกาตพฺพปเท ผลํ กถิตนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘ผลเมว กถิต’’นฺติ อคฺคเหตฺวา ‘‘ผลํ กถิตเมวา’’ติ อตฺโถ คเหตพฺโพ วิชฺชาคฺคหเณน ตทฺสฺส สงฺคหิตตฺตา. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ เอวรูเปสุ าเนสุ.
ทฺเวธมฺมวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตโยธมฺมวณฺณนา
๓๕๓. (ฉ) โสติ อนาคามิมคฺโค. สพฺพโส กามานํ นิสฺสรณํ สมุจฺเฉทวเสน ปชหนโต. อารุปฺเป อรหตฺตมคฺโค นาม อรูปชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺโน อคฺคมคฺโค. ปุน อุปฺปตฺตินิวารณโตติ รูปานํ อุปฺปตฺติยา สพฺพโส นิวารณโต. นิรุชฺฌนฺติ สงฺขารา เอเตนาติ นิโรโธ, อคฺคมคฺโค. เตน หิ กิเลสวฏฺเฏ นิโรธิเต อิตรมฺปิ วฏฺฏทฺวยํ นิโรธิตเมว โหติ. ตสฺส ปน นิโรธสฺส ปริโยสานตฺตา อคฺคผลํ ‘‘นิโรโธ’’ติ วตฺตพฺพตํ ลพฺภตีติ อาห ‘‘อรหตฺตผลํ ¶ นิโรโธติ อธิปฺเปต’’นฺติ. ‘‘อรหตฺตผเลน หิ นิพฺพาเน ทิฏฺเ’’ ติ อิทํ อรหตฺตมคฺเคน นิพฺพานทสฺสนสฺสายํ นิพฺพตฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘อรหตฺตสงฺขาตนิโรธสฺส ปจฺจยตฺตา’’ ติ อิทมฺปิ วจนํ สมตฺถิตํ โหติ.
(ช) อตีตํ ¶ สารมฺมณนฺติ อตีตโกฏฺาสารมฺมณํ าณํ, อตีตา ขนฺธายตนธาตุโย อารพฺภ ¶ ปวตฺตนกาณนฺติ อตฺโถ. ‘‘มคฺโค กถิโตวา’’ติ อวธารณํ ทฏฺพฺพํ, ตถา ‘‘สจฺฉิกาตพฺเพ ผลํ กถิตเมวา’’ติ.
() อาสวานํ ขเย าณนฺติ จ อาสวานํ ขยนฺเต าณนฺติ อธิปฺปาโย, อฺถา มคฺโค กถิโต สิยา.
ตโยธมฺมวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุธมฺมวณฺณนา
๓๕๔. (ก) ทารุมยํ จกฺกํ ทารุจกฺกํ, ตถา รตนจกฺกํ. อาณฏฺเน ธมฺโม เอว ธมฺมจกฺกํ. อิริยาปถานํ อปราปรปฺปวตฺติโต อิริยาปถจกฺกํ, ตถา สมฺปตฺติจกฺกํ เวทิตพฺพํ.
อนุจฺฉวิเก เทเสติ ปฺุกิริยาย, สมฺมาปฏิปตฺติยา อนุรูปเทเส. เสวนํ กาเลน กาลํ อุปสงฺกมนํ. ภชนํ ภตฺติวเสน ปยิรุปาสนํ. อตฺตโน สมฺมา ปนนฺติ อตฺตโน จิตฺตสนฺตานสฺส โยนิโส ปนํ สทฺธาทีสุ นิเวสนนฺติ อาห ‘‘สเจ’’ติอาทิ. อิทเมเวตฺถ ปมาณนฺติ อิทเมว ปุพฺเพกตปฺุตาสงฺขาตํ สมฺปตฺติจกฺกเมตฺถ เอเตสุ สมฺปตฺติจกฺเกสุ ปมาณภูตํ อิตเรสํ การณภาวโต. เตนาห ‘‘เยน หี’’ติอาทิ. โส เอว จ กตปฺุโ ปุคฺคโล อตฺตานํ สมฺมา เปติ อกตปฺุสฺส ตทภาวโต. ปโม โลกิโยว, ตตฺถาปิ กามาวจโรว. อิธาติ อิมสฺมึ ทสุตฺตรสุตฺเต. ปุพฺพภาเค โลกิยาวาติ มคฺคสฺส ปุพฺพภาเค ปวตฺตนกา โลกิยา เอว. ตตฺถ การณํ วุตฺตเมว.
(จ) กามโยควิสํโยโค อนาคามิมคฺโค, ทิฏฺิโยควิสํโยโค โสตาปตฺติมคฺโค, อิตเร ทฺเว อรหตฺตมคฺโคติ เอวํ อนาคามิมคฺคาทิวเสน เวทิตพฺพา.
(ฉ) ปมสฺส ¶ ฌานสฺส ลาภินฺติ ยฺวายํ อปฺปคุณสฺส ปมสฺส ฌานสฺส ลาภี, ตํ. กามสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺตีติ ตโต วุฏฺิตํ ¶ อารมฺมณวเสน กามสหคตา หุตฺวา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ โจเทนฺติ ตุเทนฺติ. ตสฺส กามานุปกฺขนฺทานํ สฺามนสิการานํ ¶ วเสน โส ปมชฺฌานสมาธิ หายติ ปริหายติ, ตสฺมา ‘‘หานภาคิโย สมาธี’’ติ วุตฺโต. ตทนุธมฺมตาติ ตทนุรูปสภาโว. ‘‘สติ สนฺติฏฺตี’’ติ อิทํ มิจฺฉาสตึ สนฺธาย วุตฺตํ. ยสฺส หิ ปมชฺฌานานุรูปสภาวา ปมชฺฌานํ สนฺตโต ปณีตโต ทิสฺวา อสฺสาทยมานา อเปกฺขมานา อภินนฺทมานา นิกนฺติ โหติ, ตสฺส นิกนฺติวเสน โส ปมชฺฌานสมาธิ เนว หายติ, น วฑฺฒติ, ิติโกฏฺาสิโก โหติ, เตน วุตฺตํ ‘‘ิติภาคิโย สมาธี’’ติ.
อวิตกฺกสหคตาติ อวิตกฺกํ ทุติยชฺฌานํ สนฺตโต ปณีตโต มนสิ กโรโต อารมฺมณวเสน อวิตกฺกสหคตา สฺามนสิการา. สมุทาจรนฺตีติ ปคุณปมชฺฌานโต วุฏฺิตํ ทุติยชฺฌานาธิคมตฺถาย โจเทนฺติ ตุเทนฺติ, ตสฺส อุปริ ทุติยชฺฌานุปกฺขนฺทานํ สฺามนสิการานํ วเสน โส ปมชฺฌานสมาธิ วิเสสภูตสฺส ทุติยชฺฌานสฺส อุปฺปตฺติปทฏฺานตาย ‘‘วิเสสภาคิโย สมาธี’’ติ วุตฺโต. นิพฺพิทาสหคตาติ ตเมว ปมชฺฌานลาภึ ฌานโต วุฏฺิตํ นิพฺพิทาสงฺขาเตน วิปสฺสนาาเณน สหคตา. วิปสฺสนาาณฺหิ ฌานงฺเคสุ ปเภเทน อุปฏฺหนฺเตสุ นิพฺพินฺทติ อุกฺกณฺติ, ตสฺมา ‘‘นิพฺพิทา’’ติ วุจฺจติ. สมุทาจรนฺตีติ นิพฺพานสจฺฉิกรณตฺถาย โจเทนฺติ ตุเทนฺติ. วิราคูปสฺหิโตติ วิราคสงฺขาเตน นิพฺพาเนน อุปสฺหิโต. วิปสฺสนาาณฺหิ ‘‘สกฺกา อิมินา มคฺเคน วิราคํ นิพฺพานํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ ปวตฺติโต ‘‘วิราคูปสฺหิต’’นฺติ วุจฺจติ, ตํสมฺปยุตฺตา สฺามนสิการาปิ วิราคูปสฺหิตา เอว นาม. ตสฺส เตสํ สฺามนสิการานํ วเสน โส ปมชฺฌานสมาธิ อริยมคฺคปฏิเวธสฺส ¶ ปทฏฺานตาย ‘‘นิพฺเพธภาคิโย สมาธี’’ติ วุตฺโต. สพฺพสมาปตฺติโยติ ทุติยชฺฌานาทิกา สพฺพา สมาปตฺติโย. อตฺโถ เวทิตพฺโพติ หานภาคิยาทิอตฺโถ ตาว วิตฺถาเรตฺวา เวทิตพฺโพ.
มคฺโค กถิโต จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ อุทฺธฏตฺตา. ผลํ กถิตํ สรูเปเนว.
จตุธมฺมวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจธมฺมวณฺณนา
๓๕๕. (ข) ‘‘ปฺจงฺคิโก ¶ ¶ สมฺมาสมาธี’’ติ สมาธิองฺคภาเวน ปฺา อุทฺทิฏฺาติ ปีติผรณตาทิวจเนน หิ ตเมว วิภชติ. เตนาห ‘‘ปีตึ ผรมานา อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิ.‘‘โส อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๔๒๗) นเยน ปีติยา, สุขสฺส จ ผรณํ เวทิตพฺพํ. สราควิราคตาทิวิภาคทสฺสนวเสน ปเรสํ เจโต ผรมานา. อาโลกผรเณติ กสิณาโลกสฺส ผรเณ สติ เตเนว อาโลเกน ผริตปฺปเทเส. ตสฺส สมาธิสฺส รูปทสฺสนปจฺจยตฺตา ปจฺจเวกฺขณาณํ ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตํ.
ปีติผรณตา สุขผรณตาติ อารมฺมเณ ตฺวา จตุตฺถชฺฌานสฺส อุปฺปาทนโต ตา ‘‘ปาทา วิยา’’ติ วุตฺตา. เจโตผรณตา อาโลกผรณตาติ ตํตํกิจฺจสาธนโต ตา ‘‘หตฺถา วิยา’’ติ วุตฺตา. อภิฺาปาทกชฺฌานํ สมาธานสฺส สรีรภาวโต ‘‘มชฺฌิมกาโย วิยา’’ติ วุตฺตํ. ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตํ อุตฺตมงฺคภาวโต ‘‘สีสํ วิยา’’ติ วุตฺตํ.
(ช) สพฺพโส กิเลสทุกฺขทรถปริฬาหานํ วิคตตฺตา โลกิยสมาธิสฺส สาติสยเมตฺถ สุขนฺติ วุตฺตํ ‘‘อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ สุขตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนสุโข’’ติ. ปุริมสฺส ปุริมสฺส วเสน ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ ลทฺธาเสวนตาย สนฺตตรปณีตตรภาวปฺปตฺติ โหตีติ อาห ‘‘ปุริโม ปุริโม…เป… สุขวิปาโก’’ติ.
กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิยาติ กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสมฺภเนน ¶ ลทฺธตฺตา. กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิภาวนฺติ กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสมฺภนภาวํ. ลทฺธตฺตา ปตฺตตฺตา ตพฺภาวํ อุปคตตฺตา. โลกิยสมาธิสฺส ปจฺจนีกานิ นีวรณปมชฺฌานนิกนฺติอาทีนิ นิคฺคเหตพฺพานิ, อฺเ กิเลสา วาเรตพฺพา, อิมสฺส ปน อรหตฺตสมาธิสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธสพฺพกิเลสตฺตา น นิคฺคเหตพฺพํ, วาเรตพฺพฺจ อตฺถีติ มคฺคานนฺตรํ สมาปตฺติกฺขเณ จ อปฺปโยเคน อธิคตตฺตา, ปิตตฺตา จ อปริหานวเสน วา ปิตตฺตา นสงฺขารนิคฺคยฺหวาริวาวโฏ. ‘‘สติเวปุลฺลปฺปตฺตตฺตา’’ติ เอเตน อปฺปวตฺตมานายปิ สติยา ¶ สติพหุลตาย สโต เอว นามาติ ทสฺเสติ, ‘‘ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสนา’’ติ เอเตน ปริจฺฉินฺทนสติยา สโตติ ทสฺเสติ. เสเสสุ าณงฺเคสุ. ปฺจาณิโกติ เอตฺถ วุตฺตสมาธิมุเขน ปฺจ าณาเนว อุทฺทิฏฺานิ, นิทฺทิฏฺานิ จ.
มคฺโค ¶ กถิโต อินฺทฺริยสีเสน สมฺมาวายามาทีนํ กถิตตฺตา. ผลํ กถิตํ อเสกฺขานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ กถิตตฺตา.
ปฺจธมฺมวณฺณนา นิฏฺิตา.
ฉธมฺมวณฺณนา
๓๕๖. มคฺโค กถิโตติ เอตฺถ วตฺตพฺพํ เหฏฺา วุตฺตเมว.
สตฺตธมฺมวณฺณนา
๓๕๗. () เหตุนาติ อาทิอนฺตวนฺตโต, อนจฺจนฺติกโต, ตาวกาลิกโต, นิจฺจปฏิกฺเขปโตติ เอวํ อาทินา เหตุนา. นเยนาติ ‘‘ยถา อิเม สงฺขารา เอตรหิ, เอวํ อตีเต, อนาคเต จ อนิจฺจา สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา’’ติ อตีตานาคเตสุ นยนนเยน. กามํ ขีณาสวสฺส สพฺเพสํ สงฺขารานํ อนิจฺจตาทิ สุทิฏฺา สุปฺปฏิวิทฺธา, ตํ ปน อสมฺโมหนวเสน กิจฺจโต, วิปสฺสนาย ปน อารมฺมณกรณวเสนาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วิปสฺสนาาเณน สุทิฏฺา โหนฺตี’’ติ. กิเลสวเสน อุปฺปชฺชมาโน ปริฬาโห วตฺถุกามสนฺนิสฺสโย ¶ , วตฺถุกามาวสฺสโย จาติ วุตฺตํ ‘‘ทฺเวปิ สปริฬาหฏฺเน องฺคารกาสุ วิยา’’ติ. นินฺนสฺเสวาติ [นินฺนสฺส (อฏฺกถายํ)] นินฺนภาวสฺเสว. อนฺโต วุจฺจติ ลามกฏฺเน ตณฺหา. พฺยนฺตํ วิคตนฺตํ ภูตนฺติ พฺยนฺตีภูตนฺติ อาห ‘‘นิรติภูตํ, [นิยติภูตํ (อฏฺกถายํ) วิคตนฺติภูตํ (?)] นิตฺตณฺหนฺติ อตฺโถ’’ติ. อิธ สตฺตเก. ภาเวตพฺพปเท มคฺโค กถิโต โพชฺฌงฺคานํ วุตฺตตฺตา.
ปมภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
อฏฺธมฺมวณฺณนา
๓๕๘. (ก) อาทิพฺรหฺมจริยิกายาติ ¶ ¶ อาทิพฺรหฺมจริยา เอว อาทิพฺรหฺมจริยิกา ยถา ‘‘วินโย เอว เวนยิโก’’ติ, ตสฺสา อาทิพฺรหฺมจริยิกาย. กา ปน สาติ อาห ‘‘ปฺายา’’ติ. สิกฺขตฺตยสงฺคหสฺสาติ อธิสีลสิกฺขาทิสิกฺขตฺตยสงฺคหสฺส. อุปจารชฺฌานสหคตา ตรุณสมถปฺาว อุทยพฺพยานุปสฺสนาวเสน ปวตฺตา ตรุณวิปสฺสนาปฺา [ตรุณสมถวิปสฺสนาปฺา (อฏฺกถายํ)]. อาทิภูตายาติ ปมาวยวภูตาย, เทสนาวเสน เจตํ วุตฺตํ. อุปฺปตฺติกาเล ปน นตฺถิ มคฺคธมฺมานํ อาทิมชฺฌปริโยสานตา เอกจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนตฺตา เอกชฺฌํเยว อุปฺปชฺชนโต. เปมนฺติ ทฬฺหภตฺติ, ตํ ปน วลฺลภวเสน ปวตฺตมานํ เคหสิตสทิสํ โหตีติ ‘‘เคหสิตเปม’’นฺติ วุตฺตํ. ครุกรณวเสน ปวตฺติยา ครุ จิตฺตํ เอตสฺสาติ ครุจิตฺโต, ตสฺส ภาโว ครุจิตฺตภาโว, ครุมฺหิ ครุกาโร. ‘‘กิเลสา น อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ วตฺวา ตตฺถ การณมาห ‘‘โอวาทานุสาสนึ ลภตี’’ติ. ครูนฺหิ สนฺติเก โอวาทานุสาสนึ ลภิตฺวา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชนฺตสฺส กิเลสา น อุปฺปชฺชนฺติ. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ.
(ฉ) เปตาติ เปตมหิทฺธิกา. อสุรานนฺติ เทวาสุรานํ. เปตาสุรา ปน เปตา เอวาติ เตสํ เปเตหิ สงฺคโห ¶ อวุตฺตสิทฺโธว. อาวาหนํ คจฺฉนฺตีติ สมฺโภคสํสคฺคมุเขน เปเตเหว อสุรานํ สงฺคหเณ การณํ ทสฺเสติ.
(ช) อปฺปิจฺฉสฺสาติ นิอิจฺฉสฺส. อภาวตฺโถ เหตฺถ อปฺป-สทฺโท ‘‘อปฺปฑํสมกสวาตาตปา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๑๐.๑๑) วิย. ปจฺจเยสุ อปฺปิจฺโฉ ปจฺจยอปฺปิจฺโฉ, จีวราทิปจฺจเยสุ อิจฺฉารหิโต. อธิคมอปฺปิจฺโฉติ ฌานาทิอธิคมวิภาวเน อิจฺฉารหิโต. ปริยตฺติอปฺปิจฺโฉติ ปริยตฺติยํ พาหุสจฺจวิภาวเน อิจฺฉารหิโต. ธุตงฺคอปฺปิจฺโฉติ ธุตงฺเคสุ อปฺปิจฺโฉ ธุตงฺควิภาเวน อิจฺฉารหิโต. สนฺตคุณนิคูหเนนาติ อตฺตนิ สํวิชฺชมานานํ ฌานาทิคุณานฺเจว พาหุสจฺจคุณสฺส จ ธุตงฺคคุณสฺส จ นิคูหเนน ฉาทเนน. สมฺปชฺชตีติ นิปฺปชฺชติ สิชฺฌติ. โน มหิจฺฉสฺสาติ มหติยา อิจฺฉาย สมนฺนาคตสฺส, อิจฺฉํ วา มหนฺตสฺส โน สมฺปชฺชติ อนุธมฺมสฺสาปิ อนิจฺฉนโต.
ปวิวิตฺตสฺสาติ ¶ ปกาเรหิ วิวิตฺตสฺส. เตนาห ‘‘กายจิตฺตอุปธิวิเวเกหิ วิวิตฺตสฺสา’’ติ. ‘‘อฏฺอารมฺภวตฺถุวเสนา’’ติ ¶ เอเตน ภาวนาภิโยควเสน เอกีภาโวว อิธ ‘‘กายวิเวโก’’ติ อธิปฺเปโต, น คณสงฺคณิกาภาวมตฺตนฺติ ทสฺเสติ. กมฺมนฺติ โยคกมฺมํ.
สตฺเตหิ กิเลเสหิ จ สงฺคณนํ สโมธานํ สงฺคณิกา, สา อารมิตพฺพฏฺเน อาราโม เอตสฺสาติ สงฺคณิการาโม, ตสฺส. เตนาห ‘‘คณสงฺคณิกาย เจวา’’ติอาทิ. อารทฺธวีริยสฺสาติ ปคฺคหิตวีริยสฺส, ตฺจ โข อุปธิวิเวเก นินฺนตาวเสน ‘‘อยํ ธมฺโม’’ติ วจนโต. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ. วิวฏฺฏสนฺนิสฺสิตํเยว หิ สมาธานํ อิธาธิปฺเปตํ, ตถา ปฺาปิ. กมฺมสฺสกตาปฺาย หิ ปติฏฺโต กมฺมวเสน ‘‘ภเวสุ นานปฺปกาโร อนตฺโถ’’ติ ¶ ชานนฺโต กมฺมกฺขยกราณํ อภิปตฺเถติ, ตทตฺถฺจ อุสฺสาหํ กโรติ. มานาทโย สตฺตสนฺตานํ สํสาเร ปปฺเจนฺติ วิตฺถาเรนฺตีติ ปปฺจาติ อาห ‘‘นิปฺปปฺจสฺสาติ วิคตมานตณฺหาทิฏฺิปปฺจสฺสา’’ติ.
มคฺโค กถิโต สรูเปเนว.
นวธมฺมวณฺณนา
๓๕๙. (ข) วิสุทฺธินฺติ าณทสฺสนวิสุทฺธึ, อจฺจนฺตวิสุทฺธิเมว วา. จตุปาริสุทฺธิสีลนฺติ ปาติโมกฺขสํวราทินิรุปกฺกิลิฏฺตาย จตุพฺพิธปริสุทฺธิวนฺตํ สีลํ. ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคนฺติ ปุคฺคลสฺส ปริสุทฺธิยา ปธานภูตํ องฺคํ. เตนาห ‘‘ปริสุทฺธภาวสฺส ปธานงฺค’’นฺติ. สมถสฺส วิสุทฺธิภาโว โวทานํ ปคุณภาเวน ปริจฺฉินฺนนฺติ อาห ‘‘อฏฺ ปคุณสมาปตฺติโย’’ติ. วิคตุปกฺกิเลสฺหิ ‘‘ปคุณ’’นฺติ วตฺตพฺพตํ ลพฺภติ, น สอุปกฺกิเลสํ หานภาคิยาทิภาวปฺปตฺติโต. สตฺตทิฏฺิมลวิสุทฺธิโต นามรูปปริจฺเฉโท ทิฏฺิวิสุทฺธิ. ปจฺจยปริคฺคโห อทฺธตฺตยกงฺขามลวิธมนโต กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ. ยสฺมา นามรูปํ นาม สปฺปจฺจยเมว, ตสฺมา ตํ ปริคฺคณฺหนฺเตน อตฺถโต ตสฺส สปฺปจฺจยตาปิ ปริคฺคหิตา เอว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ทิฏฺิวิสุทฺธีติ สปฺปจฺจยํ นามรูปทสฺสน’’นฺติ. ยสฺมา ปน นามรูปสฺส ปจฺจยํ ปริคฺคณฺหนฺเตน ตีสุ อทฺธาสุ กงฺขามลวิตรณปจฺจยาการาวโพธวเสเนว โหติ, ตสฺมา ‘‘ปจฺจยาการาณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ ยถา กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ ‘‘ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติ วุจฺจติ. มคฺคามคฺเค าณนฺติ มคฺคามคฺเค ววตฺถเปตฺวา ิตาณํ. าณนฺติ ¶ อิธ ตรุณวิปสฺสนา กถิตา เตสํ ภิกฺขูนํ อชฺฌาสยวเสน ‘‘าณทสฺสนวิสุทฺธี’’ติ วุฏฺานคามินิยา วิปสฺสนาย วุจฺจมานตฺตา. ยทิ ‘‘าณทสฺสนวิสุทฺธี’’ติ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา อธิปฺเปตา, ‘‘ปฺา’’ติ จ ¶ อรหตฺตผลปฺา, มคฺโค ปน กถนฺติ ¶ ? มคฺโค พหุการปเท วิราคคฺคหเณน คหิโต. วกฺขติ หิ ‘‘อิธ พหุการปเท มคฺโค กถิโต’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๕๙).
(ฉ) จกฺขาทิธาตุนานตฺตนฺติ จกฺขาทิรูปาทิจกฺขุวิฺาณาทิธาตูนํ เวมตฺตตํ นิสฺสาย. จกฺขุสมฺผสฺสาทินานตฺตนฺติ จกฺขุสมฺผสฺสโสตสมฺผสฺสฆานสมฺผสฺสาทิสมฺผสฺสวิภาคํ. สฺานานตฺตนฺติ เอตฺถ รูปสฺาทิสฺานานตฺตมฺปิ ลพฺภเตว, ตํ ปน กามสฺาทิคฺคหเณเนว คยฺหติ. กามสฺาทีติ อาทิ-สทฺเทน พฺยาปาทสฺาทีนํ คหณํ. สฺานิทานตฺตา ปปฺจสงฺขานํ ‘‘สฺานานตฺตํ ปฏิจฺจ สงฺกปฺปนานตฺต’’นฺติ วุตฺตํ, ‘‘ยํ สงฺกปฺเปติ, ตํ ปปฺเจตี’’ติ วจนโต ‘‘สงฺกปฺปนานตฺตํ ปฏิจฺจ ฉนฺทนานตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ฉนฺทนานตฺตนฺติ จ ตณฺหาฉนฺทสฺส นานตฺตํ. รูปปริฬาโหติ รูปวิสโย รูปาภิปตฺถนาวเสน ปวตฺโต กิเลสปริฬาโห. สทฺทปริฬาโหติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. กิเลโส หิ อุปฺปชฺชมาโน อปฺปตฺเตปิ อารมฺมเณ ปตฺโต วิย ปริฬาโหว อุปฺปชฺชติ. ตถาภูตสฺส ปน กิเลสฉนฺทสฺส วเสน รูปาทิปริเยสนา โหตีติ อาห ‘‘ปริฬาหนานตฺตตาย รูปปริเยสนาทินานตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ. ตถา ปริเยสนฺตสฺส สเจ ตํ รูปาทิ ลพฺเภยฺย, ตํ สนฺธายาห ‘‘ปริเยสนาทินานตฺตตาย รูปปฏิลาภาทินานตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ.
(ช) มรณานุปสฺสนาาเณติ มรณสฺส อนุปสฺสนาวเสน ปวตฺตาเณ, มรณานุสฺสติสหคตปฺายาติ อตฺโถ. อาหารํ ปริคฺคณฺหนฺตสฺสาติ คมนาทิวเสน อาหารํ ปฏิกฺกูลโต ปริคฺคณฺหนฺตสฺส. อุกฺกณฺนฺตสฺสาติ นิพฺพินฺทนฺตสฺส กตฺถจิปิ อสชฺชนฺตสฺส.
ทสธมฺมวณฺณนา
๓๖๐. (ฌ) นิชฺชรการณานีติ ¶ ปชหนการณานิ. อิมสฺมึ อภิฺาปเท มคฺโค กถียตีติ กตฺวา ‘‘อยํ เหฏฺา..เป… ปุน คหิตา’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘อิธ อภิฺาปเท มคฺโค กถิโต’’ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๖๐) กิฺจาปิ นิชฺชิณฺณา มิจฺฉาทิฏฺีติ ¶ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ยถา มิจฺฉาทิฏฺิ วิปสฺสนาย นิชฺชิณฺณาปิ น สมุจฺฉินฺนาติ สมุจฺเฉทปฺปหานทสฺสนตฺถํ ปุน คหิตา, เอวํ มิจฺฉาสงฺกปฺปาทโยปิ วิปสฺสนาย ปหีนาปิ อสมุจฺฉินฺนตาย อิธ ปุน คหิตาติ อยมตฺโถ ‘‘มิจฺฉาสงฺกปฺโป’’ติอาทีสุ สพฺพปเทสุ วตฺตพฺโพติ ทสฺเสติ ‘‘เอวํ สพฺพปเทสุ นโย เนตพฺโพ’’ติ อิมินา.
เอตฺถ ¶ จาติ ‘‘สมฺมาวิมุตฺติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺตี’’ติ เอตสฺมึ ปาฬิปเท. เอตฺถ จ สมุจฺเฉทวเสน, ปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน จ ปฏิปกฺขธมฺมา สมฺมเทว วิมุจฺจนํ สมฺมาวิมุตฺติ, ตปฺปจฺจยา จ มคฺคผเลสุ อฏฺ อินฺทฺริยานิ ภาวนาปาริปูรึ อุปคจฺฉนฺตีติ มคฺคสมฺปยุตฺตานิปิ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ อุทฺธฏานิ. มคฺควเสน หิ ผเลสุ ภาวนา ปาริปูรี นามาติ. อภินนฺทนฏฺเนาติ อติวิย สิเนหนฏฺเนิทฺหิ. โสมนสฺสินฺทฺริยํ อุกฺกํสคตสาตสภาวํ สมฺปยุตฺตธมฺเม สิเนหนฺตํ เตเมนฺตํ วิย ปวตฺตติ. ปวตฺตสนฺตติอาธิปเตยฺยฏฺเนาติ วิปากสนฺตานสฺส ชีวเน อธิปติภาเวน. ‘‘เอว’’นฺติอาทิ วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส นิคมนํ.
อทฺเธน สห ฉฏฺานิ ปฺหสตานิ, ปฺาสาธิกานิ สห ปฺหสตานีติ อตฺโถ.
เอตฺถ จ อายสฺมา ธมฺมเสนาปติ ‘‘ทสสุ นาถกรณธมฺเมสุ ¶ ปติฏฺาย ทสกสิณายตนานิ ภาเวนฺโต ทสอายตนมุเขน ปริฺํ ปฏฺเปตฺวา ปริฺเยฺยธมฺเม ปริชานนฺโต ทสมิจฺฉตฺเต, ทสอกุสลกมฺมปเถ จ ปหาย ทสกุสลกมฺมปเถสุ จ อวฏฺิโต ทสสุ อริยาวาเสสุ อาวสิตุกาโม ทสสฺา อุปฺปาเทนฺโต ทสนิชฺชรวตฺถูนิ อภิฺาย ทสอเสกฺขธมฺเม อธิคจฺฉตี’’ติ เตสํ ภิกฺขูนํ โอวาทํ มตฺถกํ ปาเปนฺโต เทสนํ นิฏฺเปสิ. ปโมทวเสน ปฏิคฺคณฺหนํ อภินนฺทนนฺติ อาห ‘‘สาธุ สาธูติ อภินนฺทนฺตา สิรสา สมฺปฏิจฺฉึสู’’ติ. ตาย อตฺตมนตายาติ ตาย ยถาเทสิตเทสนาคตาย ปหฏฺจิตฺตตาย, ตตฺถ ยถาลทฺธอตฺถเวทธมฺมเวเทหีติ อตฺโถ. อิมเมว สุตฺตํ อาวชฺชมานาติ อิมสฺมึ สุตฺเต ตตฺถ ตตฺถ อาคเต อภิฺเยฺยาทิเภเท ธมฺเม อภิชานนาทิวเสน สมนฺนาหรนฺตา. สห ปฏิสมฺภิทาหิ…เป… ปติฏฺหึสูติ อตฺตโน อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตาย, เถรสฺส จ เทสนานุภาเวน ยถารทฺธํ ¶ วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺเกตฺวา ปฏิสมฺภิทาปริวาราย อภิฺาย สณฺหึสูติ.
สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย
ทสุตฺตรสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.
นิฏฺิตา จ ปาถิกวคฺคฏฺกถาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.
ปาถิกวคฺคฏีกา นิฏฺิตา.
นิคมนกถาวณฺณนา
เถรานํ ¶ ¶ ¶ มหากสฺสปาทีนํ วํโส ปเวณี อนฺวโย เอตสฺสาติ เถรวํสนฺวโย, เตน; จตุมหานิกาเยสุ เถริเยนาติ อตฺโถ.
ทสพลสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส คุณคณานํ ปริทีปนโต ทสพลคุณคณปริทีปนสฺส. อยฺหิ อาคโม พฺรหฺมชาลาทีสุ, มหาปทานาทีสุ, สมฺปสาทนียาทีสุ จ ตตฺถ ตตฺถ วิเสสโต พุทฺธคุณานํ ปกาสนวเสน ปวตฺโตติ. ตถา หิ วุตฺตํ อาทิโต ‘‘สทฺธาวหคุณสฺสา’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา).
มหาฏฺกถาย สารนฺติ ทีฆนิกายมหาอฏฺกถายํ อตฺถสารํ.
เอกูนสฏฺิมตฺโตติ โถกํ อูนภาวโต มตฺต-สทฺทคฺคหณํ.
มูลกฏฺกถาสารนฺติ ปุพฺเพ วุตฺตํ ทีฆนิกายมหาอฏฺกถาสารเมว ปุน นิคมนวเสน วทติ. อถ วา มูลกฏฺกถาสารนฺติ โปราณฏฺกถาสุ อตฺถสารํ, เตเนตํ ทสฺเสติ ‘‘ทีฆนิกายมหาอฏฺกถายํ อตฺถสารํ อาทาย อิมํ สุมงฺคลวิลาสินึ กโรนฺโต เสสมหานิกายานมฺปิ มูลกฏฺกถาสุ อิธ วินิโยคกฺขมํ อตฺถสารํ อาทายเยว อกาสิ’’นฺติ.
‘‘มหาวิหารวาสีน’’นฺติ [มหาวิหาเร นิวาสินํ (อฏฺกถายํ)] จ อิทํ ปุริมปจฺฉิมปเทหิ สทฺธึ สมฺพนฺธิตพฺพํ ‘‘มหาวิหารวาสีนํ สมยํ ปกาสยนฺตึ, มหาวิหารวาสีนํ มูลกฏฺกถาสารํ อาทายา’’ติ จ. เตน ปฺุเน. โหตุ สพฺโพ สุขี โลโกติ กามาวจราทิวิภาโค สพฺโพปิ สตฺตโลโก ยถารหํ โพธิตฺตยาธิคมนวเสน สมฺปตฺเตน นิพฺพานสุเขน สุขิโต โหตูติ สเทวกสฺส โลกสฺส อจฺจนฺตสุขาธิคมาย อตฺตโน ปฺุํ ปริณาเมติ.
ปริมาณโต สาธิกฏฺวีสสหสฺสนวุติภาณวารา นิฏฺิตาติ. ปริมาณโต สาธิกฏฺวีสสหสฺสมตฺตคนฺเถน ทีฆนิกายฏีกา รจิตาจริยธมฺมปาเลน.
มิจฺฉาทิฏฺาทิโจเรหิ ¶ ¶ , สีลาทิธนสฺจยํ;
รกฺขณตฺถาย สกฺกจฺจํ, มฺชูสํ วิย การิตนฺติ. (เอตฺถนฺตเร ปาโ ปจฺฉา ลิขิโต)
นิฏฺิตา สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.
ทีฆนิกายฏีกา นิฏฺิตา.