📜

๔. อคฺคฺสุตฺตวณฺณนา

วาเสฏฺภารทฺวาชวณฺณนา

๑๑๑. เอตฺถาติ ‘‘ปุพฺพาราเม, มิคารมาตุปาสาเท’’ติ เอตสฺมึ ปททฺวเย. โกยํ ปุพฺพาราโม, กถฺจ ปุพฺพาราโม, กา จ มิคารมาตา, กถฺจสฺสา ปาสาโท อโหสีติ เอตสฺมึ อนฺโตลีเน อนุโยเค. อยํ อิทานิ วุจฺจมานา อนุปุพฺพิกถา อาทิโต ปฏฺาย สงฺเขเปเนว อนุปุพฺพิกถา. ปทุมุตฺตรํ ภควนฺตํ เอกํ อุปาสิกํ อคฺคุปฏฺายิกฏฺาเน เปนฺตึ ทิสฺวาน ตตฺถ สฺชาตคารวพหุมานา ตเมวตฺถํ ปุรกฺขตฺวา ภควนฺตํ นิมนฺเตตฺวา. เมณฺฑกปุตฺตสฺสาติ เมณฺฑกเสฏฺิปุตฺตสฺส. โสตาปนฺนา อโหสิ ตถา กตาธิการตฺตา.

มาตุฏฺาเน เปสิ อตฺตโน สีลาจารสมฺปตฺติยา ครุฏฺานิยตฺตา. อุปโยคนฺติ ตตฺถ ตตฺถ อปฺเปตพฺพฏฺาเน อปฺปนาวเสน วินิโยคํ อคมํสุ. อฺเหิ จ เวฬุริยโลหิตงฺกมสารคลฺลาทีหิ. ภสฺสตีติ โอตรติ. สุทฺธปาสาโทว น โสภตีติ เกวโล เอกปาสาโท เอว วิหาโร น โสภติ. นิยูหานิ พหูนิ นีหริตฺวา กตฺตพฺพเสนาสนานิ ‘‘ทุวฑฺฒเคหานี’’ติ วทนฺติ. มชฺเฌ คพฺโภ สมนฺตโต อนุปริยายโตติ เอวํ ทฺวิกฺขตฺตุํ วฑฺเฒตฺวา กตเสนาสนานิ ทุวฑฺฒเคหานิ. จูฬปาสาทาติ ขุทฺทกปาสาทา.

อุตฺตรเทวีวิหาโร นาม นครสฺส ปาจีนทฺวารสมีเป กตวิหาโร.

ติตฺถิยลิงฺคสฺส อคฺคหิตตฺตา เนว ติตฺถิยปริวาสํ วสนฺติ. อนุปสมฺปนฺนภาวโต อาปตฺติยา อาปนฺนาย อภาวโต น อาปตฺติปริวาสํ วสนฺติ. ภิกฺขุภาวนฺติ อุปสมฺปทํ. เตวิชฺชสุตฺตนฺติ อิมสฺมึ ทีฆนิกาเย เตวิชฺชสุตฺตํ สุตฺวา.

๑๑๓. อนุวตฺตมานาจงฺกมึสุ อนนุจงฺกมเน ยถาธิปฺเปตสฺส อตฺถสฺส ปุจฺฉนาทีนํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา. เตสนฺติ เตสํ ทฺวินฺนํ. เตนาห ‘‘ปณฺฑิตตโร’’ติ. อตฺถาติ ภวตฺถ. กุลสมฺปนฺนาติ สมฺปนฺนกุลา อุทิโตทิเต พฺราหฺมณกุเล อุปฺปนฺนา. พฺราหฺมณกุลาติ เกนจิ ปาริชุฺเน อนุปทฺทุตา เอว พฺราหฺมณกุลา. เตนาห ‘‘โภคาทิสมฺปนฺน’’นฺติอาทิ. อิเม พฺราหฺมณา อุจฺจา หุตฺวา ‘‘อิมํ วสลํ ปพฺพชฺชํ ปพฺพชึสู’’ติอาทินา ชาติอาทีนิ ฆฏฺเฏนฺตา อกฺโกสนฺติ. ปริภาสนฺตีติ ปริภวิตฺวา ภาสนฺติ. อตฺตโน อนุรูปายาติ อตฺตโน อชฺฌาสยสฺส อนุรูปาย. อนฺตรนฺตรา วิจฺฉิชฺช ปวตฺติยมานา ปริภาสา ปริปุณฺณา นาม น โหติ ขณฺฑภาวโต, ตพฺพิปริยายโต ปริปุณฺณา นาม โหตีติ อาห ‘‘อนฺตรา’’ติอาทิ.

อปฺปติฏฺตายาติ อปสฺสยรหิตตฺตา. วิภินฺโนติ วินฏฺโ.

อิตเร ตโย วณฺณาติ ขตฺติยาทโย วณฺณา หีนา. นนุ ขตฺติยาว เสฏฺา วณฺณา ยถา พุทฺธา เอตรหิ ขตฺติยกุเล เอว อุปฺปนฺนาติ? สจฺจเมตํ, เต ปน อตฺตโน มิจฺฉาภิมาเนน, มิจฺฉาคาเหน จ ‘‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ วจนมตฺตํ. ‘‘สุชฺฌนฺตีติ สุทฺธา โหนฺติ, น นินฺทํ ครหํ ปาปุณนฺตี’’ติ วทนฺติ. สุชฺฌนฺติ วา สํสารโต สุชฺฌนฺติ, น เสสา วณฺณา อสุกฺกชาติกตฺตา, มนฺตชฺเฌนาภาวโต จาติ. พฺรหฺมุโน มุขโต ชาตา เวทวจนโต ชาตาติ มุขโต ชาตา. ตโต เอว พฺรหฺมุโน มหาพฺรหฺมุโน เวทวจนโต วิชาตาติ พฺรหฺมชา. เตน ทุวิเธนาปิ นิมฺมิตาติ พฺรหฺมนิมฺมิตา. เวทเวทงฺคาทิพฺรหฺมทายชฺชํ อรหนฺตีติ พฺรหฺมทายาทา. มุณฺฑเก สมณเกติ เอตฺถ -กาโร ครหายนฺติ อาห ‘‘นินฺทนฺตา ชิคุจฺฉนฺตา วทนฺตี’’ติ. อิพฺเภติ สุทฺเท, เต ปน ฆรพนฺธเนน พทฺธา นิหีนตราติ อาห ‘‘คหปติเก’’ติ. กณฺเหติ กณฺหชาติเก. พนฺธนฏฺเน พนฺธุ, กสฺส ปน พนฺธูติ อาห ‘‘มารสฺส พนฺธุภูเต’’ติ. ปาทาปจฺเจติ ปาทโต ชาตาปจฺเจ. อยํ กิร พฺราหฺมณานํ ลทฺธิ ‘‘พฺราหฺมณา พฺรหฺมุโน มุขโต ชาตา, ขตฺติยา อุรโต, อูรูหิ เวสฺสา, ปาทโต สุทฺทา’’ติ.

๑๑๔. ยสฺมา ปมกปฺปิกกาเล จตุวณฺณววตฺถานํ นตฺถิ, สพฺเพว สตฺตา เอกสทิสา, อปรภาเค ปน เตสํ ปโยคเภทวเสน อโหสิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘โปราณํ…เป… อชานนฺตา’’ติ. ลทฺธิภินฺทนตฺถายาติ ‘‘พฺราหฺมณา พฺรหฺมุโน ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา’’ติ เอวํ ปวตฺตาย ลทฺธิยา วินิเวนตฺถํ. ปุตฺตปฺปฏิลาภตฺถายาติ ‘‘เอวํ มยํ เปตฺติกํ อิณํ โสเธสฺสามา’’ติ ลทฺธิยํ ตฺวา ปุตฺตปฺปฏิลาภาย. อยฺเหตฺถ ธมฺมิกานํ พฺราหฺมณานํ อชฺฌาสโย. สฺชาตปุปฺผาติ รชสฺสลา. อิตฺถีนฺหิ กุมาริภาวปฺปตฺติโต ปฏฺาย ปจฺฉิมวยโต โอรํ อสติ วิพนฺเธ อฏฺเม อฏฺเม สตฺตาเห คพฺภาสยสฺิเต ตติเย อาวตฺเต กติปยา โลหิตปีฬกา สณฺหิตฺวา อคฺคหิตปุปฺผา เอว ภิชฺชนฺติ, ตโต โลหิตํ ปคฺฆรติ, ตตฺถ อุตุสมฺา, ปุปฺผสมฺา จ. เนสนฺติ พฺราหฺมณานํ. สจฺจวจนํ สิยาติ ‘‘พฺรหฺมุโน ปุตฺตา’’ติอาทิวจนํ สจฺจํ ยทิ สิยา, พฺราหฺมณีนํ…เป… มุขํ ภเวยฺย, น เจตํ อตฺถิ.

จตุวณฺณสุทฺธิวณฺณนา

๑๑๕. มุขจฺเฉทกวาทนฺติ ‘‘พฺราหฺมณา มหาพฺรหฺมุโน มุขโต ชาตา’’ติ วาทสฺส เฉทกวาทํ. อริยภาเว อสมตฺถาติ อนริยภาวาวหา. ปกติกาฬกาติ สภาเวเนว น สุทฺธา. กณฺโหติ กิลิฏฺโ อุปตาปโก. เตนาห ‘‘ทุกฺโขติ อตฺโถ’’ติ.

สุกฺกภาโว นาม ปริสุทฺธตาติ อาห ‘‘นิกฺกิเลสภาเวน ปณฺฑรา’’ติ. สุกฺโกติ น กิลิฏฺโ อนุปตาปโกติ วุตฺตํ ‘‘สุโขติ อตฺโถ’’ติ.

๑๑๖. อุภยโวกิณฺเณติ วจนวิปลฺลาเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อุภเยสุ โวกิณฺเณสู’’ติ. มิสฺสีภูเตสูติ ‘‘กทาจิ กณฺหา ธมฺมา, กทาจิ สุกฺกา ธมฺมา’’ติ เอวํ เอกสฺมึ สนฺตาเน, เอกสฺมึเยว จ อตฺตภาเว ปวตฺติยา มิสฺสีภูเตสุ, น ปน เอกชฺฌํ ปวตฺติยา. เอตฺถาติ อนนฺตรวุตฺตธมฺมาว อนฺวาธิฏฺาติ อาห ‘‘กณฺหสุกฺกธมฺเมสู’’ติ. ยสฺมา จ เต พฺราหฺมณา น เจว เต ธมฺเม อติกฺกนฺตา, ยาย จ ปฏิปทาย อติกฺกเมยฺยุํ, สาปิ เตสํ ปฏิปทา นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘วตฺตมานาปี’’ติ. นานุชานนฺติ อยถาภุจฺจวาทภาวโต. อนุชานนฺจ นาม อพฺภนุโมทนนฺติ ตทภาวํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘นานุโมทนฺติ, น ปสํสนฺตี’’ติ วุตฺตํ. จตุนฺนํ วณฺณานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ. เตสนฺติ ปน สมฺพนฺเธปิ วา สามิวจนํ. เต จ พฺราหฺมณา น เอวรูปา น เอทิสา, ยาทิโส อรหา เอกเทเสนาปิ เตน เตสํ สทิสตาภาวโต, ตสฺมา เตน การเณน เนสํ พฺราหฺมณานํ ‘‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ’’ติ วาทํ วิฺู ยถาภูตวาทิโน พุทฺธาทโย อริยา นานุชานนฺติ.

อารกตฺตาทีหีติ เอตฺถ กิเลสานํ อารกตฺตา ปหีนภาวโต ทูรตฺตา อรหํ, กิเลสารีนํ หตตฺตา อรหํ, สํสารจกฺกสฺส อรานํ หตตฺตา อรหํ, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา อรหํ, ปาปกรเณ รหาภาเวน อรหนฺติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๕ อาทโย), ตํ สํวณฺณนาสุ (วิสุทฺธิ. ฏี. ๑.๑๒๔) จ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ . อาสวานํ ขีณตฺตาติ จตุนฺนมฺปิ อาสวานํ อนวเสสโต ปหีนตฺตา. พฺรหฺมจริยวาสนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยวาสํ. ตสฺส วาสสฺส ปริโยสิตตฺตา วุตฺถวาโส, ทสนฺนมฺปิ วา อริยวาสานํ วุตฺถตฺตา วุตฺถวาโส. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อริยาวาสา, ยทริยา อาวสึสุ วา อาวสนฺติ วา อาวสิสฺสนฺติ วา. กตเม ทส? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต เอการกฺโข จตุราปสฺเสโน ปนุณฺณปจฺเจกสจฺโจ สมวยสเสโน อนาวิลสงฺกปฺโป ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร สุวิมุตฺตจิตฺโต สุวิมุตฺตปฺโ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส อริยาวาสา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๙).

วุสฺสตีติ วา วุสิตํ, อริยมคฺโค, อริยผลฺจ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ อติสยวจนิจฺฉาวเสน อรหา ‘‘วุสิตวา’’ติ วุตฺโต. กรณียํ นาม ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยาภาวนา ทุกฺขสฺสนฺตํ กาตุกาเมหิ เอกนฺตโต กตฺตพฺพตฺตา, ตํ ปน ยสฺมา จตูหิ มคฺเคหิ ปจฺเจกํ จตูสุ สจฺเจสุ กาตพฺพํ กตํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘จตูหิ…เป… กตกรณีโย’’ติ. โอสีทาปนฏฺเน ภารา วิยาติ ภารา, กิเลสา, ขนฺธา จ. วุตฺตฺหิ ‘‘ภารา หเว ปฺจกฺขนฺธา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๒๒) โอหาริโตติ อปนีโต. สโก อตฺโถ สทตฺโถติ เอตฺถ -กาโร ปทสนฺธิกโร. กามํ ทิฏฺิอาทโยปิ สํโยชนานิ เอว, ตถาปิ ตณฺหาย ภวสํโยชนฏฺโ สาติสโย. ยถาห ‘‘อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนาน’’นฺติ. (สํ. นิ. ๒.๑๒๕, ๑๒๖, ๑๒๗, ๑๓๒, ๑๓๔, ๑๓๖, ๑๔๒; ๓.๕.๕๒๐; กถา. ๗๕) ตโต สา เอว สุตฺเต (ที. นิ. ๒.๔๐๐; ม. นิ. ๑.๙๓, ๑๓๓; ๓.๓๗๓; สํ. นิ. ๓.๑๐๘๑; ปฏิ. ม. ๑.๓๔ อาทโย) สมุทยสจฺจภาเวน วุตฺตา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ภวสํโยชนํ วุจฺจติ ตณฺหา’’ติ. สมฺมทฺา วิมุตฺโตติ สมฺมา อฺาย ชานนภูตาย อคฺคมคฺคปฺาย สมฺมา ยถาภูตํ ยํ ยถา ชานิตพฺพํ, ตํ ตถา ชานิตฺวา วิมุตฺโต. อิมสฺมึ โลเกติ อิมสฺมึ สตฺตโลเก. อิธตฺตภาเวติ อิมสฺมึ อตฺตภาเว, ปรตฺตภาเวติ ปรสฺมึ อตฺตภาเว, อิธโลเก, ปรโลเก จาติ อตฺโถ.

๑๑๗. อนฺตรวิรหิตาติ วิภาควิรหิตา. เตนาห ‘‘อตฺตโน กุเลน สทิสา’’ติ. อนุยนฺตีติ อนุยนฺตา, อนุยนฺตา เอว อานุยนฺตา, อนุวตฺตกา. เตนาห ‘‘วสวตฺติโน’’ติ.

๑๑๘. นิวิฏฺาติ สทฺเธยฺยวตฺถุสฺมึ อนุปวิสนวเสน นิวิฏฺา. ตโต เอว ตสฺมึ อธิกํ นิวิสนโต อภินิวิฏฺา. อจลฏฺิตาติ อจลภาเว ิตา.

นฺติ ยํ กเถตพฺพธมฺมํ อนุปธาเรตฺวา, ตทตฺถฺจ อปฺปจฺจกฺขํ กตฺวา กถนํ, เอตํ อฏฺานํ อการณํ ตสฺส โพธิมูเลเยว สมุจฺฉินฺนตฺตา. วิจฺฉินฺทชนนตฺถนฺติ รตนตฺตยสทฺธาย วิจฺฉินฺทสฺส อุปฺปาทนตฺถํ, อฺถตฺตายาติ อตฺโถ. โสติ มาโร. มุสาวาทํ กาตุํ นาสกฺขีติ อาคตผลสฺส อริยสาวกสฺส ปุรโต มุสา วตฺตุํ น วิสหิ, ตสฺมา อาม มาโรสฺมีติ ปฏิชานิ. สิลาปถวิยนฺติ รตนมยสิลาปถวิยํ. สิเนรุํ กิร ปริวาเรตฺวา ิโต ภูมิปฺปเทโส สตฺตรตนมโย, ‘‘สุวณฺณมโย’’ติ เกจิ, สา วิตฺถารโต, อุพฺเพธโต อเนกโยชนสหสฺสปริมาณา อติวิย นิจฺจลา. กึ ตฺวํ เอตฺถาติ กึ การณา ตฺวํ เอตฺถ. ‘‘ิโต’’ติ อจฺฉรํ ปหริ. าตุํ อสกฺโกนฺโตติ อริยสาวกสฺส ปุรโต าตุํ อสกฺโกนฺโต. อยฺหิ อริยธมฺมาธิคมสฺส อานุภาโว, ยํ มาโรปิ นาม มหานุภาโว อุชุกํ ปฏิปฺปริตุํ น สกฺโกติ.

มคฺโค เอว มูลํ มคฺคมูลํ, ตสฺส. สฺชาตตฺตา อุปฺปนฺนตฺตา. เตน มคฺคมูเลน ปติฏฺิตสนฺตาเน ลทฺธปติฏฺา. ภควโต เทสนาธมฺมํ นิสฺสาย อริยาย ชาติยา ชาโต ‘‘ภควนฺตํ นิสฺสาย อริยภูมิยํ ชาโต’’ติ วุตฺโต. ‘‘อุเร วสิตฺวา’’ติ อิทํ ธมฺมโฆสสฺส อุรโต สมุฏฺานตาย วุตฺตํ. อุเร วายามชนิตาภิชาติตาย วา โอรโส. มุขโต ชาเตน ชาโต ‘‘มุขโต ชาโต’’ติ วุตฺโต. การณการเณปิ หิ การเณ วิย โวหาโร โหติ ‘‘ติเณหิ ภตฺตํ สิทฺธ’’นฺติ. เกจิ ปน ‘‘วิโมกฺขมุขสฺส วเสน ชาตตฺตา มุขโต ชาโต’’ติ วทนฺติ, ตตฺถาปิ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปุริเมนตฺเถน โยนิโช, เสทโช, มุขโชติ ตีสุ สมฺพนฺเธสุ มุขเชน สมฺพนฺเธน ภควโต ปุตฺตภาโว วิภาวิโต. อตฺถทฺวเยนาปิ ธมฺมชภาโวเยว ทีปิโต. อริยธมฺมปฺปตฺติโต ลทฺธวิเสโส หุตฺวา ปวตฺโต ตทุตฺตรกาลิโก ขนฺธสนฺตาโน ‘‘อริยธมฺมโต ชาโต’’ติ เวทิตพฺโพ, อริยธมฺมํ วา มคฺคผลํ นิสฺสาย, อุปนิสฺสาย จ ชาโต สพฺโพปิ ธมฺมปฺปพนฺโธ ‘‘อริยธมฺมโต ชาโต’’ติ คเหตพฺโพ. เตสํ ปน อริยธมฺมานํ อปริโยสิตกิจฺจตาย อริยภาเวน อภินิพฺพตฺติมตฺตํ อุปาทาย ‘‘อริยธมฺมโต ชาตตฺตา’’ติ วุตฺตํ. ปริโยสิตกิจฺจตาย ตถา นิพฺพตฺติปาริปูรึ อุปาทาย ‘‘นิมฺมิตตฺตา’’ติ วุตฺตํ, ยโต ‘‘ธมฺมโช ธมฺมนิมฺมิโต’’ติ วุตฺตํ. ‘‘นวโลกุตฺตรธมฺมทายํ อาทิยตีติ ธมฺมทายาโท’’ ติปิ ปาโ. อสฺสาติ ‘‘ภควโตมฺหิปุตฺโต’’ติอาทินา วุตฺตสฺส วากฺยสฺส. อตฺถํ ทสฺเสนฺโตติ ภาวตฺถํ ปกาเสนฺโต. ตถาคตสฺส อนฺสาธารณสีลาทิธมฺมกฺขนฺธสฺส สมูหนิเวสวเสน ธมฺมกายตาย น กิฺจิ วตฺตพฺพํ อตฺถิ, สตฺถุฏฺานิยสฺส ปน ธมฺมกายตํ ทสฺเสตุํ ‘‘กสฺมา ตถาคโต ธมฺมกาโยติ วุตฺโต’’ติ สยเมว ปุจฺฉํ สมุฏฺาเปตฺวา ‘‘ตถาคโต หี’’ติอาทินา ตมตฺถํ วิสฺสชฺเชติ. หทเยน จินฺเตตฺวาติ ‘‘อิมํ ธมฺมํ อิมสฺส เทเสสฺสามี’’ติ ตสฺส อุปคตสฺส เวเนยฺยชนสฺส โพธนตฺถํ จิตฺเตน จินฺเตตฺวา. วาจาย อภินีหรีติ สทฺธมฺมเทสนาวาจาย กรวีกรุตมฺชุนา พฺรหฺมสฺสเรน เวเนยฺยสนฺตานาภิมุขํ ตทชฺฌาสยานุรูปํ หิตมตฺถํ นีหริ อุปเนสิ. เตนาติ เตน การเณน เอวํสทฺธมฺมาธิมุตฺติภาเวน. อสฺสาติ ตถาคตสฺส. ธมฺมมยตฺตาติ ธมฺมภูตตฺตา. อิธาธิปฺเปตธมฺโม เสฏฺฏฺเน พฺรหฺมภูโตติ อาห ‘‘ธมฺมกายตฺตา เอว พฺรหฺมกาโย’’ติ. สพฺพโส อธมฺมํ ปชหิตฺวา อนวเสสโต ธมฺโม เอว ภูโตติ ธมฺมภูโต. ตถารูโป จ ยสฺมา สภาวโต ธมฺโม เอวาติ วตฺตพฺพตํ อรหตีติ อาห ‘‘ธมฺมสภาโว’’ติ.

๑๑๙. เสฏฺจฺเฉทกวาทนฺติ ‘‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๑๖) เอวํ วุตฺตเสฏฺภาวจฺเฉทกวาทํ. อปเรนปิ นเยนาติ ยถาวุตฺตเสฏฺจฺเฉทกวาทโต อปเรนปิ โปราณกโลกุปฺปตฺติทสฺสนนเยน. เสฏฺจฺเฉท…เป… ทสฺเสตุนฺติ โสปิ หิ ‘‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ, หีนา อฺเ วณฺณา’’ติ, ‘‘พฺราหฺมณา พฺรหฺมุโน ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา พฺรหฺมชา’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๑๔) จ เอวํ ปวตฺตาย มิจฺฉาทิฏฺิยา วินิเวโน ชาติพฺราหฺมณานํ เสฏฺภาวสฺส เฉทนโต เสฏฺจฺเฉทนวาโท นาม โหตีติ ทสฺเสตุนฺติ อตฺโถ.

อิตฺถภาวนฺติ อิมํ ปการตํ มนุสฺสภาวํ. สามฺโชตนา หิ วิเสเส อวติฏฺติ, ปกรณวเสน วา อยมตฺโถ อวจฺฉินฺโน ทฏฺพฺโพ. มเนเนวนิพฺพตฺตาติ พาหิรปจฺจเยน วินา เกวลํ อุปจารฌานมนสาว นิพฺพตฺตา. ยาย อุปจารชฺฌานเจตนาย เต ตตฺถ นิพฺพตฺตา, นีวรณวิกฺขมฺภนาทินา อุฬาโร ตสฺสา ปวตฺติวิเสโส, ตสฺมา ฌานผลกปฺโป ตสฺสา ผลวิเสโสติ อาห ‘‘พฺรหฺมโลเก วิยา’’ติอาทิ. ‘‘สยํปภา’’ติ ปทานํ ตตฺถ สูริยาโลกาทีหิ วินา อนฺธการํ วิธมนฺตา สยเมว ปภาสนฺตีติ สยํปภา, อนฺตลิกฺเข อากาเส จรนฺตีติ อนฺตลิกฺขจรา, ตทฺกามาวจรสตฺตานํ วิย สรีรสฺส วิจรณฏฺานสฺส อสุภตาภาวโต สุภํ, สุเภว ติฏฺนฺตีติ สุภฏฺายิโนติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

รสปถวิปาตุภาววณฺณนา

๑๒๐. สพฺพํ จกฺกวาฬนฺติ อนวเสสํ โกฏิสตสหสฺสํ จกฺกวาฬํ. สมตนีติ สฺฉาเทนฺตี วิปฺผริ, สา ปน ตสฺมึ อุทเก ปติฏฺิตา อโหสีติ อาห ‘‘ปติฏฺหี’’ติ. วณฺเณนสมฺปนฺนาติ สมฺปนฺนวณฺณา. มกฺขิกณฺฑกรหิตนฺติ มกฺขิกาหิ จ ตาสํ อณฺฑเกหิ จ รหิตํ.

อตีตานนฺตเรปิ กปฺเป โลโลเยว. กสฺมา? เอวํ จิรปริจิตโลลตาวเสน สพฺพปมํ ตถา อกาสีติ ทสฺเสติ. กิเมวิทนฺติ ‘‘วณฺณโต, คนฺธโต จ ตาว าตํ, รสโต ปน กิเมวิทํ ภวิสฺสตี’’ติ สํสยชาโต วทติ. ติฏฺตีติ อฏฺาสิ.

จนฺทิมสูริยาทิปาตุภาววณฺณนา

๑๒๑. อาลุปฺปการกนฺติ เอตฺถ อาโลปปริยาโย อาลุปฺป-สทฺโทติ อาห ‘‘อาโลปํ กตฺวา’’ติ. ปจฺจกฺขภูตานมฺปิ จนฺทิมสูริยานํ ปวตฺติยํ โลกิยานํ สมฺโมโห โหติ, ตํ วิธมิตุํ ‘‘โก ปน เตส’’นฺติอาทินา อฏฺ ปฺหาวิสฺสชฺชนานิ คหิตานิ. ตตฺถ เตสนฺติ จนฺทิมสูริยานํ. กสฺมินฺติ กสฺมึ าเน. ‘‘โก อุปรี’’ติ เอเตเนว โก เหฏฺาติ อยมตฺโถ วุตฺโตเยว. ตถา ‘‘โก สีฆํ คจฺฉตี’’ติ อิมินา โก สณิกํ คจฺฉตีติ อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโตเยว. วีถิโยติ คมนวีถิโย. เอกโตติ เอกสฺมึ ขเณ ปาตุภวนฺติ. สูริยมณฺฑเล ปน อตฺถงฺคเต จนฺทมณฺฑลํ ปฺายิตฺถ. ฉนฺทํ ตฺวา วาติ รุจึ ตฺวา วิย.

อุภยนฺติ อนฺโต, พหิ จ.

อุชุกนฺติ อายามโต, วิตฺถารโต, อุพฺเพธโต จ. ปริมณฺฑลโตติ ปริกฺเขปโต.

อุชุกํ สณิกํ คจฺฉติ อมาวาสิยํ สูริเยน สทฺธึ คจฺฉนฺโต ทิวเส ทิวเส โถกํ โถกํ โอหียนฺโต ปุณฺณมาสิยํ อุปฑฺฒมคฺคเมว โอหียนโต. ติริยํ สีฆํ คจฺฉติ เอกสฺมิมฺปิ มาเส กทาจิ ทกฺขิณโต, กทาจิ อุตฺตรโต ทสฺสนโต. ‘‘ทฺวีสุ ปสฺเสสู’’ติ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ. จนฺทสฺส ปุรโต, ปจฺฉโต, สมฺจ ตารกา คจฺฉนฺติเยว. อตฺตโน านนฺติ อตฺตโน คมนฏฺานํ. น วิชหนฺติ อตฺตโน วีถิยาว คจฺฉนโต. สูริยสฺส อุชุกํ คมนสฺส สีฆตา จนฺทสฺส คมนํ อุปาทาย เวทิตพฺพา. ติริยํ คมนํ ทกฺขิณทิสโต อุตฺตรทิสาย, อุตฺตรทิสโต จ ทกฺขิณทิสาย คมนํ ทนฺธํ ฉหิ ฉหิ มาเสหิ อิชฺฌนโต. โสติ สูริโย. กาฬปกฺขอุโปสถโตติ กาฬปกฺเข อุโปสเถ จนฺเทน สเหว คนฺตฺวา ตโต ปรํ. ปาฏิปททิวเสติ สุกฺกปกฺขปาฏิปททิวเส. โอหาย คจฺฉติ อตฺตโน สีฆคามิตาย, ตสฺส จ ทนฺธคามิตาย. เลขาวิย ปฺายติ ปจฺฉิมทิสายํ. ยาว อุโปสถทิวสาติ ยาว สุกฺกปกฺขอุโปสถทิวสา. ‘‘จนฺโท อนุกฺกเมน วฑฺฒิตฺวา’’ติ อิทํ อุปริภาคโต ปติตสูริยาโลกตาย เหฏฺโต ปวตฺตาย สูริยสฺส ทูรภาเวน ทิวเส ทิวเส อนุกฺกเมน ปริหายมานาย อตฺตโน ฉายาย วเสน อนุกฺกเมน จนฺทมณฺฑลปฺปเทสสฺส วฑฺฒมานสฺส วิย ทิสฺสมานตาย วุตฺตํ, ตสฺมา อนุกฺกเมน วฑฺฒิตฺวา วิย. อุโปสถทิวเส ปุณฺณมายํ ปริปุณฺโณ โหติ, ปริปุณฺณมณฺฑโล หุตฺวา ทิสฺสตีติ อตฺโถ. ธาวิตฺวา คณฺหาติ จนฺทสฺส ทนฺธคติตาย, อตฺตโน จ สีฆคติตาย. อนุกฺกเมน หายิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อนุกฺกเมน วฑฺฒิตฺวา’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ปน ฉายาย หายมานตาย มณฺฑลํ วฑฺฒมานํ วิย ทิสฺสติ, อิธ ฉายาย วฑฺฒมานตาย มณฺฑลํ หายมานํ วิย ทิสฺสติ.

ยาย วีถิยา สูริเย คจฺฉนฺเต วสฺสวลาหกา เทวปุตฺตา สูริยาภิตาปสนฺตตฺตา อตฺตโน วิมานโต น นิกฺขมนฺติ, กีฬาปสุตา หุตฺวา น วิจรนฺติ, ตทา กิร สูริยสฺส วิมานํ ปกติมคฺคโต อโธ โอตริตฺวา วิจรติ, ตสฺส โอรุยฺห จรเณเนว จนฺทวิมานมฺปิ อโธ โอรุยฺห จรติ ตคฺคติกตฺตา, ตสฺมา สา วีถิ อุทกาภาเวน อชานุรูปตาย ‘‘อชวีถี’’ติ สมฺํ คตา. ยาย ปน วีถิยา สูริเย คจฺฉนฺเต วสฺสวลาหกา เทวปุตฺตา สูริยาภิตาปาภาวโต อภิณฺหํ อตฺตโน วิมานโต พหิ นิกฺขมิตฺวา กีฬาปสุตา อิโต จิโต จ วิจรนฺติ, ตทา กิร สูริยวิมานํ ปกติมคฺคโต อุทฺธํ อารุหิตฺวา วิจรติ, ตสฺส อุทฺธํ อารุยฺห จรเณเนว จนฺทวิมานมฺปิ อุทฺธํ อารุยฺห จรติ ตคฺคติกตฺตา, ตคฺคติกตา จ สมานคตินา วาตมณฺฑเลน วิมานสฺส เผลฺลิตพฺพตฺตา, ตสฺมา สา วีถิ อุทกพหุภาเวน นาคานุรูปตาย ‘‘นาควีถี’’ติ สมฺํ คตา. ยทา สูริโย อุทฺธมนารุหนฺโต, อโธ จ อโนตรนฺโต ปกติมคฺเคเนว คจฺฉติ, ตทา วสฺสวลาหกา ยถากาลํ, ยถารุจิ จ วิมานโต นิกฺขมิตฺวา สุเขน วิจรนฺติ, เตน กาเลน กาลํ วสฺสนโต โลเก อุตุสมตา โหติ, ตาย อุตุสมตาย เหตุภูตาย สา จนฺทิมสูริยานํ คติ ควานุรูปตาย ‘‘โควีถี’’ติ สมฺํ คตา. เตน วุตฺตํ ‘‘อชวีถี’’ติอาทิ.

เอวํ ‘‘กติ เนสํ วีถิโย’’ติ ปฺหํ วิสฺสชฺเชตฺวา ‘‘กถํ วิจรนฺตี’’ติ ปฺหํ วิสฺสชฺเชตุํ ‘‘จนฺทิมสูริยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สิเนรุโต พหิ นิกฺขมนฺตีติ สิเนรุสมีเปน ตํ ปทกฺขิณํ กตฺวา คจฺฉนฺตา ตโต คมนวีถิโต พหิ อตฺตโน ติริยคมเนน จกฺกวาฬาภิมุขา นิกฺขมนฺติ. อนฺโต วิจรนฺตีติ เอวํ ฉ มาเส ขเณ ขเณ สิเนรุโต อปสกฺกนวเสน ตโต นิกฺขมิตฺวา จกฺกวาฬสมีปํ ปตฺตา, ตโตปิ ฉ มาเส ขเณ ขเณ อปสกฺกนวเสน นิกฺขมิตฺวา สิเนรุสมีปํ ปาปุณนฺตา อนฺโต วิจรนฺติ. อิทานิ ตเมวตฺถํ สงฺเขเปน วุตฺตํ วิวริตุํ ‘‘เตหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สิเนรุสฺส, จกฺกวาฬสฺส จ ยํ านํ เวมชฺฌํ, ตสฺส, สิเนรุสฺส จ ยํ านํ เวมชฺฌํ, เตน คจฺฉนฺตา ‘‘สิเนรุสมีเปนวิจรนฺตี’’ติ วุตฺตา, น สิเนรุสฺส อคฺคาฬินฺทอลฺลีนา. จกฺกวาฬสมีเปน จริตฺวาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. มชฺเฌนาติ สิเนรุสฺส, จกฺกวาฬสฺส จ อุชุกํ เวมชฺเฌน มคฺเคน. จิตฺรมาเส มชฺเฌนาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

เอกปฺปหาเรนาติ เอกเวลาย, เอเกเนว วา อตฺตโน เอกปฺปหาเรน. มชฺฌนฺหิโกติ ิตมชฺฌนฺหิโก กาโล โหติ. ตทา หิ สูริยมณฺฑลํ อุคฺคจฺฉนฺตํ หุตฺวาปิ อิมสฺมึ ทีเป ิตสฺส อุปฑฺฒเมว ทิสฺสติ, อุตฺตรกุรูสุ ิตสฺส โอคจฺฉนฺตํ หุตฺวา. เอวฺหิ เอกเวลายเมว ตีสุ ทีเปสุ อาโลกกรณํ.

เยสุ กตฺติกาทินกฺขตฺตสมฺา, ตานิปิ ตารกรูปานิ เยวาติ วุตฺตํ ‘‘เสสตารกรูปานิ จา’’ติ, นกฺขตฺตสฺิตตารกรูปโต อวสิฏฺตารกรูปานีติ อตฺโถ. อุภยานิปิ ตานิ เทวตานํ วสนกวิมานานีติ เวทิตพฺพานิ. รา-สทฺโท ติยติ ฉิชฺชติ เอตฺถาติ รตฺติ, สตฺตานํ สทฺทสฺส วูปสมนกาโลติ อตฺโถ. ทิพฺพนฺติ สตฺตา กีฬนฺติ โชตนฺติ เอตฺถาติ ทิวา. สตฺตานํ อายุํ มินนฺโต วิย สิยติ อนฺตํ กโรตีติ มาโส. ตํ ตํ กิริยํ อรติ วตฺเตตีติ อุตุ. ตํ ตํ สตฺตํ, ธมฺมปฺปวตฺติฺจ สงฺคมฺม วทนฺโต วิย สรติ วตฺเตตีติ สํวจฺฉโร.

๑๒๒. วิวชฺชนํ วิวชฺโช, โส เอว เววชฺชํ, วณฺณสฺส เววชฺชํ วณฺณเววชฺชํ, วณฺณสมฺปตฺติยา วิคโม, ตสฺส ปน อตฺถิตา ‘‘วณฺณเววชฺชตา’’ติ วุตฺตา. เตนาห ‘‘วิวชฺชภาโว’’ติ. เตสนฺติ วณฺณวนฺตานํ สตฺตานํ. อติมานปฺปจฺจยาติ ทุพฺพณฺณวมฺภนวเสน อติกฺกมฺม อตฺตโน วณฺณํ ปฏิจฺจ มานปจฺจยา, มานสมฺปคฺคณฺหนนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. สาติสโย รโส เอติสฺสา อตฺถีติ รสาติ ลทฺธมานาย, อนุภาสึสูติ อนุโรธวเสน ภาสึสุ. โลกุปฺปตฺติวํสกถนฺติ โลกุปฺปตฺติวํสชํ ปเวณีกถํ, อาทิกาเล อุปฺปนฺนํ ปเวณีอาคตกถนฺติ อตฺโถ. ‘‘อนุปตนฺตี’’ติปิ ปาโ, โส เอวตฺโถ.

ภูมิปปฺปฏกปาตุภาวาทิวณฺณนา

๑๒๓. เอทิโส หุตฺวาติ อหิจฺฉตฺตกสทิโส หุตฺวา.

๑๒๔. ปทาลตาติ ‘‘ปทา’’ติ เอวํนามา เอกา ลตา, สา ปน ยสฺมา สมฺปนฺนวณฺณคนฺธรสา, ตสฺมา ‘‘ภทฺทลตา’’ติ วุตฺตา. นาฬิกาติ นาฬิวลฺลิ. อหายีติ นสฺสิ.

๑๒๕. อกฏฺปาโกติ อกฏฺเเยว าเน อุปฺปชฺชิตฺวา ปจฺจนโก, นีวาโร วิย สฺชาโต หุตฺวา นิปฺปชฺชนโกติ อตฺโถ. กโณ ‘‘กุณฺฑก’’นฺติ จ วุจฺจติ. ถุสนฺติ ตณฺฑุลํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิตตฺตโจ, ตทภาวโต ‘‘อกโณ, อถุโส’’ติ สาลิ วุตฺโต. ‘‘ปฏิวิรูฬฺห’’นฺติ อิทํ ปกฺกภาวสฺส การณวจนํ. ปฏิวิรูฬฺหโต หิ ตํ ปกฺกนฺติ. ยสฺมึ าเน สายํ ปกฺโก สาลิ คหิโต, ตเทว านํ ทุติยทิวเส ปาโต ปกฺเกน สาลินา ปริปุณฺณํ หุตฺวา ติฏฺตีติ อาห ‘‘สายํ คหิตฏฺานํ ปาโต ปกฺกํ โหตี’’ติอาทิ. อลายิตนฺติ ลายิตฏฺานมฺปิ เตสํ กมฺมปฺปจฺจยา อลายิตเมว หุตฺวา อนูนํ ปริปุณฺณเมว ปฺายติ, น เกวลํ ปฺายนเมว, อถ โข ตถาภูตเมว หุตฺวา ติฏฺติ.

อิตฺถิปุริสลิงฺคาทิปาตุภาววณฺณนา

๑๒๖. ‘‘มนุสฺสกาเล’’ติ อิทํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูตานํเยว ตตฺถ อิทานิ นิกนฺติวเสน อุปฺปตฺติ โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ, เทวตานมฺปิ ปุริมชาติยํ อิตฺถิภาเว ิตานํ ตตฺถ วิราคาทิปุริสตฺตปฺปจฺจเย อสติ ตทา อิตฺถิลิงฺคเมว ปาตุภวติ. ปุริสตฺตปจฺจเยติ ‘‘อตฺตโนปิ อนิสฺสรตา, สพฺพกาลํ ปรายตฺตวุตฺติตา, รชสฺสลตา วฺจตา, คพฺภธารณํ, ปมาย ปกติยา นิหีนปกติตา, สูรวีรตาภาโว, ‘อปฺปกา ชนา’ติ ‘หีเฬตพฺพตา’ติ เอวมาทิ อาทีนวปจฺจเวกฺขณปุพฺพกมฺปิ อิตฺถิภาเว ‘อลํ อิตฺถิภาเวน, น หิ อิตฺถิภาเว ตฺวา จกฺกวตฺติสิรึ, น สกฺกมารพฺรหฺมสิริโย ปจฺจนุภวิตุํ, น ปจฺเจกโพธึ, น สมฺมาสมฺโพธึ อธิคนฺตุํ สกฺกา’ติ เอวํ อิตฺถิภาววิรชฺชนํ, ‘ยถาวุตฺตอาทีนววิรหโต อุตฺตมปกติภาวโต สมฺปทมิทํ ปุริสตฺตํ นาม เสฏฺํ อุตฺตมํ, เอตฺถ ตฺวา สกฺกา เอตา สมฺปตฺติโย สมฺปาปุณิตุ’นฺติ เอวํ ปุริสตฺตภาเว สมฺภาวนาปุพฺพกํ ปตฺถนาปนํ, ‘ตตฺถ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตตา’ติ’’ เอวมาทิเก ปุริสภาวสฺส ปจฺจยภูเต ธมฺเม. ปูเรตฺวา วฑฺเฒตฺวา. ปจฺจกฺขํ ภูตํ, สทิสฺจ ทิฏฺธมฺมิกํ, สมฺปรายิกฺจ สุวิปุลํ อนตฺถํ อจินฺเตตฺวา ปุริสสฺส กาเมสุ มิจฺฉาจรณํ เกวลํ อิตฺถิยํ อาสาปตฺติ ผเลเนวาติ อาสาอาปตฺติ อิตฺถิภาวาวหาปิ โหติเยว. ตนฺนินฺนโปณปพฺภารภาเวน ตนฺนิกนฺติยา นิมิตฺตภาวาปตฺติโตติ วุตฺตํ ‘‘ปุริโส อิตฺถตฺตภาวํ ลภนฺโต กาเมสุมิจฺฉาจารํ นิสฺสาย ลภตี’’ติ. ตทาติ ยถาวุตฺเต ปมกปฺปิกกาเล. ปกติยาติ สภาเวน. มาตุคามสฺสาติ ปุริมตฺตภาเว มาตุคามภูตสฺส. ปุริสสฺสาติ เอตฺถาปิ ‘‘ปกติยา’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. อุปนิชฺฌายตนฺติ อุเปจฺจ นิชฺฌายนฺตานํ. ยถา อฺมฺสฺมึ สาราโค อุปฺปชฺชติ, เอวํ สาเปกฺขภาเวน โอโลเกนฺตานํ. ราคปริฬาโหติ ราคโช ปริฬาโห.

นิพฺพุยฺหมานายาติ ปริณตา หุตฺวา นิยฺยมานาย.

เมถุนธมฺมสมาจารวณฺณนา

๑๒๗. โคมยปิณฺฑมตฺตมฺปิ นาลตฺถาติ สมฺมเทว วิวาหกมฺมํ นาลตฺถาติ อธิปฺปาเยน วทนฺติ. ปาตพฺยตนฺติ ตสฺมึ อสทฺธมฺเม กิเลสกาเมน ปิวิตพฺพตํ กิฺจิ ปิวิตพฺพวตฺถุํ ปิวนฺตา วิย อติวิย โตเสตฺวา ปริภุฺชิตพฺพตํ อาปชฺชึสุ, ปาตพฺยตนฺติ วา ปริภุฺชนกตํ อาปชฺชึสุ อุปคจฺฉึสุ. ปริโภคตฺโถ หิ อยํ ปา-สทฺโท, กตฺตุสาธโน จ ตพฺย-สทฺโท, ยถารุจิ ปริภุฺชึสูติ อตฺโถ.

สนฺนิธิการกนฺติ สนฺนิธิการํ, -กาโร ปทวฑฺฒนมตฺตนฺติ อาห ‘‘สนฺนิธึ กตฺวา’’ติ. อปทานนฺติ อวขณฺฑนํ. เอเกกสฺมึ าเนติ ยตฺถ ยตฺถ วหิตํ, ตสฺมึ ตสฺมึ เอเกกสฺมึ าเน. คุมฺพคุมฺพาติ ปุฺชปุฺชา.

สาลิวิภาควณฺณนา

๑๒๘. สีมํ เปยฺยามาติ ‘‘อยํ ภูมิภาโค อสุกสฺส, อยํ ภูมิภาโค อสุกสฺสา’’ติ เอวํ ปริจฺเฉทํ กเรยฺยาม. ตํ อคฺคํ กตฺวาติ ตํ อาทึ กตฺวา.

มหาสมฺมตราชวณฺณนา

๑๓๐. ปกาเสตพฺพนฺติ โทสวเสน ปกาเสตพฺพํ. ขิปิตพฺพนฺติ เขปํ กาตพฺพํ. เตนาห ‘‘หาเรตพฺพ’’นฺติ, สตฺตนิกายโต นีหริตพฺพํ.

เนสนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ.

๑๓๑. อกฺขรนฺติ นิรุตฺตึ. สา หิ มหาชเนน สมฺมโตติ นิทฺธาเรตฺวา วตฺตพฺพโต นิรุตฺติ , ตสฺมึเยว นิรูฬฺหภาวโต , อฺตฺถ อสฺจรณโต อกฺขรนฺติ จ วุจฺจติ, ตถา สงฺขาตพฺพโต สงฺขา, สมฺายตีติ สมฺา, ปฺาปนโต ปฺตฺติ, โวหรณโต โวหาโร. อุปฺปนฺโนติ ปวตฺโต. น เกวลํ อกฺขรเมวาติ น เกวลํ สมฺากรณเมว. เขตฺตสามิโนติ ตํ ตํ ภูมิภาคํ ปริคฺคเหตฺวา ิตสตฺตา. ตีหิ สงฺเขหีติ ติวิธกิริยาภิสงฺขเตหิ ตีหิ สงฺเขหิ ขตฺติยาทีหิ ตีหิ วณฺเณหิ ปริคฺคหิเตหิ. ‘‘ขตฺติยานุยนฺตพฺราหฺมณคหปติกเนคมชานปเทหิ ตีหิ คหปตีหิ ปริคฺคหิเตหี’’ติ จ วทนฺติ. อคฺคนฺติ าเตนาติ อคฺคํ กุลนฺติ าเตน. ขตฺติยกุลฺหิ โลเก สพฺพเสฏฺํ. ยถาห ‘‘ขตฺติโย เสฏฺโ ชเนตสฺมึ, เย โคตฺตปฏิสาริโน’’ติ, (ที. นิ. ๑.๒๗๗; ๓.๑๔๐; ม. นิ. ๒.๓๐; สํ. นิ. ๑.๑๘๒, ๒๔๕) อเภโทปจาเรน ปน อกฺขรสฺส ขตฺติยสทฺทสฺสปิ เสฏฺตาติ ปาฬิยํ ‘‘อคฺคฺเน อกฺขเรนา’’ติ วุตฺตํ. อิทานิ อเภโทปจาเรน วินา เอว อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อคฺเค วา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

พฺราหฺมณมณฺฑลาทิวณฺณนา

๑๓๒. เยน อนารมฺภภาเวน พาหิตากุสลา ‘‘พฺราหฺมณา’’ติ วุตฺตา, ตเมว ตาว ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘วีตงฺคารา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ตทตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปจิตฺวา’’ติอาทิมาห. ตเมนนฺติ วจนวิปลฺลาเสน นิทฺเทโสติ อาห ‘‘เต เอเต’’ติ. อภิสงฺขโรนฺตาติ จิตฺตมนฺตภาเวน อฺมฺํ อภิวิสิฏฺเ กโรนฺตา, พฺราหฺมณากปฺปภาเวน สงฺขโรนฺตา จ. วาเจนฺตาติ ปเรสํ กเถนฺตา, เย ตถา คนฺเถ กาตุํ น ชานนฺติ. อจฺฉนฺตีติ อาสนฺติ, อุปวิสนฺตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘วสนฺตี’’ติ. อจฺเฉนฺตีติ กาลํ เขเปนฺติ. หีนสมฺมตํ ฌานภาวนานุโยคํ ฉฑฺเฑตฺวา คนฺเถ ปสุตตาทีปนโต. เสฏฺสมฺมตํ ชาตํ ‘‘เวทธรา โสตฺติยา สุพฺราหฺมณาติ เอวํ เสฏฺสมฺมตํ ชาตํ.

๑๓๓. เมถุนธมฺมํ สมาทิยิตฺวาติ ชายาปติกภาเวน ทฺวยํ ทฺวยํ นิวาสํ อชฺฌุปคนฺตฺวา. วาณิชกมฺมาทิเกติ อาทิ-สทฺเทน กสิกมฺมาทึ สงฺคณฺหาติ.

๑๓๔. ลุทฺทาจารกมฺมขุทฺทาจารกมฺมุนาติ ปรวิเหนาทิลุทฺทาจารกมฺมุนา, นฬการทารุกมฺมาทิขุทฺทาจารกมฺมุนา จ. สุทฺทนฺติ เอตฺถ สุ-อิติ สีฆตฺเถ นิปาโต. ทา-อิติ ครหณตฺเถติ อาห ‘‘สุทฺทํ สุทฺทํ ลหุํ ลหุํ กุจฺฉิตํ คจฺฉนฺตี’’ติ.

๑๓๕. อหูติ กาลวิปลฺลาสวเสน วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โหติ โข’’ติ อาห. อิมินาติ ‘‘อิเมหิ โข, วาเสฏฺ, จตูหิ มณฺฑเลหิ สมณมณฺฑลสฺส อภินิพฺพตฺติ โหตี’’ติ อิมินา วจเนน. อิมํ ทสฺเสตีติ สมณมณฺฑลํ นาม…เป… สุทฺธึ ปาปุณนฺตีติ อิมํ อตฺถชาตํ ทสฺเสติ. ยทิ อิเมหิ…เป… อภินิพฺพตฺติ โหติ, เอวํ สนฺเต อิมาเนว จตฺตาริ มณฺฑลานิ ปธานานิ, สมณมณฺฑลํ อปฺปธานํ ตโต อภินิพฺพตฺตตฺตาติ? นยิทเมวนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สมณมณฺฑลํ อนุวตฺตนฺติ คุเณหิ วิสิฏฺภาวโต. คุโณ หิ วิฺูนํ อนุวตฺตนเหตุ, น โกลปุตฺติยํ, วณฺณโปกฺขรตา, วากฺกรณมตฺตํ วา. เตนาห ‘‘ธมฺเมเนว อนุวตฺตนฺติ, โน อธมฺเมนา’’ติ. โส ธมฺโม จ โลกุตฺตโรว อธิปฺเปโต, เยน สํสารโต วิสุชฺฌติ, ตสฺมา สมณมณฺฑลนฺติ จ สาสนิกเมว สมณคณํ วทตีติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘สมณมณฺฑลฺหี’’ติอาทิ.

ทุจฺจริตาทิกถาวณฺณนา

๑๓๖. มิจฺฉาทิฏฺิวเสน สมาทินฺนกมฺมํ นาม ‘‘โก อนุพนฺธิตพฺโพ. อโชตคฺคิโสฏฺิมิโส’’ติอาทินา ยฺวิธานาทิวเสน ปวตฺติตํ หึสาทิปาปกมฺมํ. มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสฺสาติ ‘‘เอส สทฺธาธิคโต เทวยาโน, เยน ยนฺติ ปุตฺติโน วิโสกา’’ติอาทินา ปวตฺติตสฺส มิจฺฉาทิฏฺิสหคตกมฺมสฺส. สมาทานํ ตสฺส ตถา ปวตฺตนํ, ตสฺสา วา ทิฏฺิยา อุปคมนํ.

๑๓๗. ทฺวยการีติ กุสลากุสลทฺวยสฺส กตฺตา. ตยิทํ ทฺวยํ ยสฺมา เอกชฺฌํ นปฺปวตฺตติ, ตสฺมา อาห ‘‘กาเลนา’’ติอาทิ. เอกกฺขเณ อุภยวิปากทานฏฺานํ นาม นตฺถิ เอกสฺมึ ขเณ จิตฺตทฺวยูปสฺหิตาย สตฺตสนฺตติยา อภาวโต. ยถา ปน ทฺวยการิโน สุขทุกฺขปฏิสํเวทิตา สมฺภวติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เยน ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวํภูโตติ วิกลาวยโว. ทฺเวปิหิ กุสลากุสลกมฺมานิ กตูปจิตานิ สภาวโต พลวนฺตาเนว โหนฺติ, ตสฺมา มรณกาเล อุปฏฺหนฺติ . เตสุ อกุสลํ พลวตรํ โหติ ปจฺจยลาภโต. นิกนฺติอาทโย หิ ปจฺจยวิเสสา อกุสลสฺเสว สภาคา, น กุสลสฺส, ตสฺมา กตูปจิตภาเวน สมานพเลสุปิ กุสลากุสเลสุ ปจฺจยลาเภน วิปจฺจิตุํ ลทฺโธกาสตาย กุสลโต อกุสลํ พลวตรํ โหตีติ, ตถาภูตมฺปิ ตํ ยถา วิปากทาเน ลทฺโธกาสสฺส กุสลสฺสาปิ อวสโร โหติ, ตถา ลทฺธปจฺจยํ ปฏิสนฺธิทานาภิมุขํ กุสลํ ปฏิพาหิตฺวา ปฏิสนฺธึ เทนฺตํ ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺตาเปตีติ. ‘‘อกุสลํ พลวตรํ โหตี’’ติ เอตฺถ ‘‘อกุสลํ เจ พลวตรํ โหติ, ตํ กุสลํ ปฏิพาหิตฺวา’’ติ วุตฺตนเยเนว อตฺถํ วตฺวา เตสุ กุสลํ เจ พลวตรํ โหติ, ตฺจ อกุสลํ ปฏิพาหิตฺวา มนุสฺสโยนิยํ นิพฺพตฺตาเปติ, อกุสลํ ปวตฺติเวทนียํ โหติ, อถ นํ ตํ กาณมฺปิ กโรติ ขุชฺชมฺปิ ปีสปฺปิมฺปิ กุจฺฉิโรคาทีหิ วา อุปทฺทุตํ. เอวํ โส ปวตฺติยํ นานปฺปการํ ทุกฺขํ ปจฺจนุภวตีติ อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที โหตี’’ติ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – วุตฺตกาเล วา กาเรน สมานพเลสุ กุสลากุสลกมฺเมสุ อุปฏฺหนฺเตสุ มรณสฺส อาสนฺนเวลายํ ยทิ พลวตรานิ กุสลชวนานิ ชวนฺติ, ยถาอุปฏฺิตํ อกุสลํ ปฏิพาหิตฺวา กุสลํ วุตฺตนเยน ปฏิสนฺธึ เทติ. อถ พลวตรานิ อกุสลชวนานิ ชวนฺติ, ยถาอุปฏฺิตํ กุสลํ ปฏิพาหิตฺวา อกุสลํ วุตฺตนเยเนว ปฏิสนฺธึ เทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? อุภินฺนํ กมฺมานํ สมานพลวภาวโต, ปจฺจยนฺตรสาเปกฺขโต จาติ, สพฺพํ วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.

โพธิปกฺขิยภาวนาวณฺณนา

๑๓๘. โพธิ วุจฺจติ มคฺคสมฺมาทิฏฺิ, จตฺตาริ อริยสจฺจานิ พุชฺฌตีติ กตฺวา, สภาวโต, ตํสภาวโต จ ตสฺสา ปกฺเข ภวาติ โพธิปกฺขิยา, สติวีริยาทโย ธมฺมา, เตสํ โพธิปกฺขิยานํ. ปฏิปาฏิยาติ โพธิปกฺขิยเทสนาปฏิปาฏิยา. ภาวนํ อนุคนฺตฺวาติ อนุกฺกเมน ปวตฺตํ ภาวนํ ปตฺวา. เตนาห ‘‘ปฏิปชฺชิตฺวา’’ติ. สอุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา วเสน ขีณาสวสฺส เสฏฺภาวํ โลกสฺส ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตุํ สกฺกา, น อิตราย สพฺพโส อปฺตฺติภาวูปคมเน ตสฺส อทสฺสนโตติ วุตฺตํ ‘‘ปรินิพฺพาตีติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายตี’’ติ. วินิวตฺเตตฺวาติ ตโต จตุวณฺณโต นีหริตฺวา.

๑๔๐. ตเมวตฺถนฺติ ‘‘ขีณาสโวว เทวมนุสฺเสสุ เสฏฺโ’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ.

เสฏฺจฺเฉทกวาทเมวาติ ชาติพฺราหฺมณานํ เสฏฺภาวสมุจฺเฉทกเมว กถํ. ทสฺเสตฺวา ภาสิตฺวา. สุตฺตนฺตํ วินิวตฺเตตฺวาติ ปุพฺเพ โลกิยธมฺมสนฺทสฺสนวเสน ปวตฺตํ อคฺคฺสุตฺตํ ‘‘สตฺตนฺนํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ ภาวนมนฺวายา’’ติอาทินา ตโต วินิวตฺเตตฺวา นีหริตฺวา เตน อสํสฏฺํ กตฺวา. อาวชฺชนฺตาติ สมนฺนาหรนฺตา. อนุมชฺชนฺตาติ ปุพฺเพนาปรํ อตฺถโต วิจรนฺตาติ.

อคฺคฺสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.