📜

๗. ลกฺขณสุตฺตวณฺณนา

ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณวณฺณนา

๑๙๙. อภินีหาราทิคุณมหตฺเตน มหนฺโต ปุริโสติ มหาปุริโส, โส ลกฺขียติ เอเตหีติ มหาปุริสลกฺขณานิ. ตํ มหาปุริสํ พฺยฺชยนฺติ ปกาเสนฺตีติ มหาปุริสพฺยฺชนานิ. มหาปุริโส นิมียติ อนุมียติ เอเตหีติ มหาปุริสนิมิตฺตานิ. เตนาห ‘‘อยํ…เป… การณานี’’ติ.

๒๐๐. ธาเรนฺตีติ ลกฺขณปาํ ธาเรนฺติ, เตน ลกฺขณานิ เต สรูปโต ชานนฺติ, น ปน สมุฏฺานโตติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘โน จ โข’’ติอาทิ, เตน อนฺสาธารณเมตํ, ยทิทํ มหาปุริสลกฺขณานํ การณวิภาวนนฺติ ทสฺเสติ. กสฺมา อาหาติ ยถาวุตฺตสฺส สุตฺตสฺส สมุฏฺานการณํ ปุจฺฉติ, อาจริโย ‘‘อฏฺุปฺปตฺติยา อนุรูปตฺตา’’ติ วตฺวา ตเมวสฺส อฏฺุปฺปตฺตึ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘สา ปนา’’ติอาทิมาห. สพฺพปาลิผุลฺโลติ สพฺพโส สมนฺตโต วิกสิตปุปฺโผ. วิกสนเมว หิ ปุปฺผสฺส นิปฺผตฺติ. ปาริจฺฉตฺตโก วิยาติ อนุสฺสวลทฺธมตฺตํ คเหตฺวา วทนฺติ. อุปฺปชฺชตีติ ลพฺภติ, นิพฺพตฺตตีติ อตฺโถ.

เยน กมฺเมนาติ เยน กุสลกมฺมุนา. ยํ นิพฺพตฺตนฺติ ยํ ยํ ลกฺขณํ นิพฺพตฺตํ. ทสฺสนตฺถนฺติ ตสฺส ตสฺส กุสลกมฺมสฺส สรูปโต, กิจฺจโต, ปวตฺติอาการวิเสสโต, ปจฺจยโต, ผลวิเสสโต จ ทสฺสนตฺถํ, เอเตเนว ปฏิปาฏิยา อุทฺทิฏฺานํ ลกฺขณานํ อสมุทฺเทสการณวิภาวนาย การณํ ทีปิตํ โหติ สมานการณานํ ลกฺขณานํ เอกชฺฌํ การณทสฺสนวเสนสฺส ปวตฺตตฺตา. เอวมาหาติ ‘‘พาหิรกาปิ อิสโย ธาเรนฺตี’’ติอาทินา อิมินา อิมินา ปกาเรน อาห.

สุปฺปติฏฺิตปาทตาลกฺขณวณฺณนา

๒๐๑. ‘‘ปุริมํชาตินฺติ ปุริมายํ ชาติยํ, ภุมฺมตฺเถ เอตํ อุปโยควจน’’นฺติ วทนฺติ. ‘‘ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธสนฺตาเน ิโต’’ติ วจนโต อจฺจนฺตสํโยเค วา อุปโยควจนํ. ยตฺถ ยตฺถ หิ ชาติยํ มหาสตฺโต ปุฺกมฺมํ กาตุํ อารภติ, อารภโต ปฏฺาย อจฺจนฺตเมว ตตฺถ ปุฺกมฺมปฺปสุโต โหติ. เตนาห ‘‘ทฬฺหสมาทาโน’’ติอาทิ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. นิวุตฺถกฺขนฺธา ‘‘ชาตี’’ติ วุตฺตา ขนฺธวินิมุตฺตาย ชาติยา อภาวโต, นิพฺพตฺติลกฺขณสฺส จ วิการสฺส อิธ อนุปยุชฺชนโต. ชาตวเสนาติ ชายนวเสน. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธา’’ติ อิมํ ปทํ อุปสํหรติ. ภวนวเสนาติ ปจฺจยโต นิพฺพตฺตนวเสน. นิวุตฺถวเสนาติ นิวุสิตตาวเสน. อาลยฏฺเนาติ อาวสิตภาเวน. นิวาสตฺโถ หิ นิเกตตฺโถ.

ตตฺถาติ เทวโลกาทิมฺหิ. อาทิ-สทฺเทน เอกจฺจํ ติรจฺฉานโยนึ สงฺคณฺหาติ. น สุกรนฺติ เทวคติยา เอกนฺตสุขตาย, ทุคฺคติยา เอกนฺตทุกฺขตาย, ทุกฺขพหุลตาย จ ปุฺกิริยาย โอกาโส น สุลภรูโป ปจฺจยสมวายสฺส ทุลฺลภภาวโต, อุปฺปชฺชมานา จ สา อุฬารา, วิปุลา จ น โหตีติ คติวเสนาปิ เขตฺตวิเสสตา อิจฺฉิตพฺพา ‘‘ติรจฺฉานคเต ทานํ ทตฺวา สตคุณา ทกฺขิณา ปาฏิกงฺขิตพฺพา, ปุถุชฺชนทุสฺสีเล ทานํ ทตฺวา สหสฺสคุณา ทกฺขิณา ปาฏิกงฺขิตพฺพา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๗๙) วจนโต . มนุสฺสคติยา ปน สุขพหุลตาย ปุฺกิริยาย โอกาโส สุลภรูโป ปจฺจยสมวายสฺส จ เยภุยฺเยน สุลภภาวโต. ยฺจ ตตฺถ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ตมฺปิ วิเสสโต ปุฺกิริยาย อุปนิสฺสโย โหติ, ทุกฺขูปนิสา สทฺธาติ. ยถา หิ อโยฆเนน สตฺถเก นิปฺผาทิยมาเน ตสฺส เอกนฺตโต อคฺคิมฺหิ ตาปนํ, อุทเกน วา เตมนํ เฉทนกิริยาสมตฺถตาย น วิเสสปจฺจโย, ตาเปตฺวา ปน สมานโยคโต อุทกเตมนํ ตสฺสา วิเสสปจฺจโย, เอวเมว สตฺตสนฺตานสฺส เอกนฺตทุกฺขสมงฺคิตา ทุกฺขพหุลตา เอกนฺตสุขสมงฺคิตา สุขพหุลตา จ ปุฺกิริยาสมตฺถตาย น วิเสสปจฺจโย, สติ ปน สมานโยคโต ทุกฺขสนฺตาปเน, สุขุมพฺรูหเน จ ลทฺธูปนิสฺสยา ปุฺกิริยา สมตฺถตาย สมฺภวติ, ตถา สติ อุปฺปชฺชมานา ปุฺกิริยา มหาชุติกา มหาวิปฺผารา ปฏิปกฺขจฺเฉทนสมตฺถา โหติ. ตสฺมา มนุสฺสภาโว ปุฺกิริยาย วิเสสปจฺจโย. เตน วุตฺตํ ‘‘ตตฺถ น สุกรํ, มนุสฺสภูตสฺเสว สุกร’’นฺติ.

อถ ‘‘มนุสฺสภูตสฺสา’’ติ เอตฺถ โก วจนตฺโถ? ‘‘มนสฺส อุสฺสนฺนตาย มนุสฺสาติ, สูรภาวสติมนฺตตาพฺรหฺมจริยโยคฺยตาทิคุณวเสน อุปจิตมนกา อุกฺกฏฺคุณจิตฺตาติ อตฺโถ. เก ปน เต? ชมฺพุทีปวาสิโน สตฺตวิเสสา. เตนาห ภควา –

‘ตีหิ, ภิกฺขเว, าเนหิ ชมฺพุทีปกา มนุสฺสา อุตฺตรกุรุเก จ มนุสฺเส อธิคฺคณฺหนฺติ เทเว จ ตาวตึเส. กตเมหิ ตีหิ? สูรา สติมนฺโต อิธ พฺรหฺมจริยวาโส’ติ (อ. นิ. ๙.๒๑; กถา. ๒๗๑).

ตถา หิ พุทฺธา ภควนฺโต, ปจฺเจกพุทฺธา, อคฺคสาวกา , มหาสาวกา, จกฺกวตฺติโน, อฺเ จ มหานุภาวา สตฺตา ตตฺเถว อุปฺปชฺชนฺติ. เต หิ สมานรูปาทิตาย ปน สทฺธึ ปริตฺตทีปวาสีหิ อิตรมหาทีปวาสิโนปิ มนุสฺสา ตฺเวว ปฺายึสู’’ติ เกจิ. อปเร ปน ภณนฺติ ‘‘โลภาทีหิ, อโลภาทีหิ จ สหิตสฺส มนสฺส อุสฺสนฺนตาย มนุสฺสา. เย หิ สตฺตา มนุสฺสชาติกา, เตสุ วิเสสโต โลภาทโย, อโลภาทโย จ อุสฺสนฺนา, เต โลภาทิอุสฺสนฺนตาย อปายมคฺคํ, อโลภาทิอุสฺสนฺนตาย สุคติมคฺคํ, นิพฺพานคามิมคฺคฺจ ปริปูเรนฺติ, ตสฺมา โลภาทีหิ, อโลภาทีหิ จ สหิตสฺส มนสฺส อุสฺสนฺนตาย ปริตฺตทีปวาสีหิ สทฺธึ จตุทีปวาสิโน สตฺตวิเสสา มนุสฺสาติ วุจฺจนฺตี’’ติ. โลกิยา ปน ‘‘มนุโน อปจฺจภาเวน มนุสฺสา’’ติ วทนฺติ. มนุ นาม ปมกปฺปิโก โลกมริยาทาย อาทิภูโต สตฺตานํ หิตาหิตวิธายโก กตฺตพฺพากตฺตพฺพตาสุ นิโยชนตาวเสน ปิตุฏฺานิโย, โย สาสเน ‘‘มหาสมฺมโต’’ติ วุจฺจติ อมฺหากํ มหาโพธิสตฺโต, ปจฺจกฺขโต, ปรมฺปรา จ ตสฺส โอวาทานุสาสนิยํ ิตา สตฺตา ปุตฺตสทิสตาย ‘‘มนุสฺสา, มานุสา’’ติ จ วุจฺจนฺติ. ตโต เอว หิ เต ‘‘มานวา, มนุชา’’ติ จ โวหรียนฺติ. มนุสฺสภูตสฺสาติ มนุสฺเสสุ ภูตสฺส ชาตสฺส, มนุสฺสภาวํ วา ปตฺตสฺสาติ อตฺโถ. อยฺจ นโย โลกิยมหาชนสฺส วเสน วุตฺโต. มหาโพธิสตฺตานํ ปน สนฺตานสฺส มหาภินีหารโต ปฏฺาย กุสลธมฺมปฏิปตฺติยํ สมฺมเทว อภิสงฺขตตฺตา เตสํ สุคติยํ, อตฺตโน อุปฺปชฺชนทุคฺคติยฺจ นิพฺพตฺตานํ กุสลกมฺมํ ครุตรเมวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อการณํ วา เอต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

เอวรูเปอตฺตภาเวติ หตฺถิอาทิอตฺตภาเว. ิเตน กตกมฺมํ น สกฺกา สุเขน ทีเปตุํ โลเก อปฺปฺาตรูปตฺตา. สุเขน ทีเปตุํ ‘‘อสุกสฺมึ เทเส อสุกสฺมึ นคเร อสุโก นาม ราชา, พฺราหฺมโณ หุตฺวา อิมํ กุสลกมฺมํ อกาสี’’ติ เอวํ สุวิฺาปยภาวโต. ถิรคฺคหโณติ อสิถิลคฺคาหี ถามปฺปตฺตคฺคหโณ. นิจฺจลคฺคหโณติ อจฺจลคฺคาหี ตตฺถ เกนจิปิ อสํหาริโย . ปฏิกุฏตีติ สํกุฏติ, ชิคุจฺฉนวเสน วิวฏฺฏติ วา. ปสาริยตีติ วิตฺถตํ โหติ เวปุลฺลํ ปาปุณาติ.

ตเวโส มหาสมุทฺทสทิโสติ เอโส อุทโกโฆ เตว มหาสมุทฺทสทิโส.

ทียติ เอเตนาติ ทานํ, ปริจฺจาคเจตนา. ทิยฺยนวเสนาติ เทยฺยธมฺมสฺส ปริยตฺตํ กตฺวา ปริจฺจชนวเสน ทานํ. สํวิภาคกรณวเสนาติ ตสฺเสว อตฺตนา สทฺธึ ปรสฺส สํวิภชนวเสน สํวิภาโค, ตถาปวตฺตา เจตนา. สีลสมาทาเนติ สีลสฺส สมฺมเทว อาทาเน, คหเณ ปวตฺตเนติ อตฺโถ. ตํ ปวตฺติกาเลน ทสฺเสนฺโต ‘‘ปูรณกาเล’’ติ อาห. มาตุ หิโต มตฺเตยฺโย, ยสฺส ปน ธมฺมสฺส วเสน โส ‘‘มตฺเตยฺโย’’ติ วุจฺจติ, โส มตฺเตยฺยตาติ อาห ‘‘มาตุ กาตพฺพวตฺเต’’ติ. เอเสว นโย ‘‘เปตฺเตยฺยตายา’’ติอาทีสุ. อฺตรฺตเรสูติ อฺมฺวิสิฏฺเสุ อฺเสุ, เต ปน กุสลภาเวน วุตฺตา กุสลาติ อาห ‘‘เอวรูเปสู’’ติ. อธิกุสเลสูติ อภิวิสิฏฺเสุ กุสเลสุ, สา ปน อภิวิสิฏฺตา อุปาทายุปาทาย โหติ. ยํ ปเนตฺถ อุกฺกํสคตํ อธิกุสลํ, ตทุกฺกํสนเยน อิธาธิปฺเปตนฺติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺถิ กุสลา, อตฺถิ อธิกุสลา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นนุ ปฺาปารมิสงฺคหาณสมฺภารภูตา กุสลา ธมฺมา นิปฺปริยาเยน สพฺพฺุตฺาณปฏิลาภปจฺจยา กุสลา นาม, อิเม ปน มหาปุริสลกฺขณนิพฺพตฺตกา ปุฺสมฺภารภูตา กสฺมา ตถา วุตฺตาติ? สพฺเพสมฺปิ มหาโพธิสตฺตสนฺตานคตานํ ปารมิธมฺมานํ สพฺพฺุตฺาณปฏิลาภปจฺจยภาวโต. มหาภินีหารโต ปฏฺาย หิ มหาปุริโส ยํ กิฺจิ ปุฺํ กโรติ, สพฺพํ ตํ สมฺมาสมฺโพธิสมธิคมาเยว ปริณาเมติ. ตถา หิ สสมฺภาราพฺยาโส, ทีฆกาลาพฺยาโส, นิรนฺตราพฺยาโส, สกฺกจฺจาพฺยาโสติ จตฺตาโร อพฺยาสา จตุรธิฏฺานปริปูริตสมฺพนฺธา อนุปุพฺเพน มหาโพธิฏฺานา สมฺปชฺชนฺติ.

สกิมฺปีติ ปิ-สทฺเทน อเนกวารมฺปิ กตํ วิชาติเยน อนฺตริตํ สงฺคณฺหาติ. อภิณฺหกรเณนาติ พหุลีกาเรน. อุปจิตนฺติ อุปรูปริ วฑฺฒิตํ. ปิณฺฑีกตนฺติ ปิณฺฑโส กตํ. ราสีกตนฺติ ราสิภาเวน กตํ. อเนกกฺขตฺตุฺหิ ปวตฺติยมานํ กุสลกมฺมํ สนฺตาเน ตถาลทฺธปริภาวนํ ปิณฺฑีภูตํ วิย, ราสีภูตํ วิย จ โหติ. วิปากํ ปติ สํหจฺจการิภาวตฺตา จกฺกวาฬํ อติสมฺพาธํ ภวคฺคํ อตินีจํ, สเจ ปเน ตํ รูปํ สิยาติ อธิปฺปาโย. วิปุลตฺตาติ มหนฺตตฺตา. ยสฺมา ปน ตํ กมฺมํ เมตฺตากรุณาสติสมฺปชฺาหิ ปริคฺคหิตตาย ทุรสมุสฺสาริตํ ปมาณกรณธมฺมนฺติ ปมาณรหิตตาย ‘‘อปฺปมาณ’’นฺติ วตฺตพฺพตํ อรหติ, ตสฺมา ‘‘อปฺปมาณตฺตา’’ติ วุตฺตํ.

อธิภวตีติ ผลสฺส อุฬารภาเวน อภิภุยฺย ติฏฺติ. อตฺถโต ปณีตปณีตานํ โภคานํ ปฏิลาโภ เอวาติ อาห ‘‘อติเรกํ ลภตี’’ติ. อธิคจฺฉตีติ วินฺทติ, นิพฺพตฺตมาโนว เตน สมนฺนาคโต โหตีติ อตฺโถ. เอกเทเสน อผุสิตฺวา สพฺพปฺปเทเสหิ ผุสนโต สพฺพปฺปเทเสหิ ผุสนฺติโย เอเตสํ ปาทตลานํ สนฺตีติ ‘‘สพฺพาวนฺเตหิ ปาทตเลหี’’ติ วุตฺตํ. ยถา นิกฺขิปเน สพฺเพ ปาทตลปฺปเทสา สํหจฺจการิโน อนินฺนตาย สมภาวโต, เอวํ อุทฺธรเณปีติ วุตฺตํ ‘‘สมํ ผุสติ, สมํ อุทฺธรตี’’ติ. อิทานิ อิมสฺส มหาปุริสลกฺขณสฺส สมธิคเมน ลทฺธพฺพนิสฺสนฺทผลวิภาวนมุเขน อานุภาวํ วิภาเวตุํ ‘‘สเจปิ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นรกนฺติ อาวาฏํ. อนฺโต ปวิสติ สมภาวาปตฺติยา. ‘‘จกฺกลกฺขเณนปติฏฺาตพฺพฏฺาน’’นฺติ อิทํ ยํ ภูมิปฺปเทสํ ปาทตลํ ผุสติ, ตตฺถ จกฺกลกฺขณมฺปิ ผุสนวเสน ปติฏฺาตีติ กตฺวา วุตฺตํ. ตสฺส ปน ตถา ปติฏฺานํ สุปฺปติฏฺิตปาทตาย เอวาติ สุปฺปติฏฺิตปาทตาย อานุภาวกิตฺตเน ‘‘ลกฺขณนฺตรานยนํ กิมตฺถิย’’นฺติ น จินฺเตตพฺพํ. สีลเตเชนาติ สีลปฺปภาเวน. ปุฺเตเชนาติ กุสลปฺปภาเวน. ธมฺมเตเชนาติ าณปฺปภาเวน. ตีหิปิ ปเทหิ ภควโต พุทฺธภูตสฺส ธมฺมา คหิตา, ‘‘ทสนฺนํ ปารมีน’’นฺติ อิมินา พุทฺธกรธมฺมา คหิตา.

๒๐๒. มหาสมุทฺโทว สีมา สพฺพภูมิสฺสรภาวโต. ‘‘อขิลมนิมิตฺตมกณฺฏก’’นฺติ ตีหิปิ ปเทหิ เถยฺยาภาโวว วุตฺโตติ อาห ‘‘นิจฺโจร’’นฺติอาทิ . ขรสมฺผสฺสฏฺเนาติ ฆฏฺฏเนน ทุกฺขสมฺผสฺสภาเวน ขิลาติ. อุปทฺทวปจฺจยฏฺเนาติ อนตฺถเหตุตาย นิมิตฺตาติ. ‘‘อขิล’’นฺติอาทินา เอกจารีหิ โจราภาโว วุตฺโต, ‘‘นิรพฺพุท’’นฺติ อิมินา ปน คณพนฺธวเสน วิจรณโจราภาโว วุตฺโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘คุมฺพํ คุมฺพํ หุตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อวิกฺขมฺภนีโยติ น วิพนฺธนีโย เกนจิ อปฺปฏิพาหนีโย านโต อนิกฺกฑฺฒนีโย. ปฏิปกฺขํ อนิฏฺํ อตฺเถตีติ ปจฺจตฺถิโก, เอเตน ปากฏภาเวน วิโรธํ อกโรนฺโต เวริปุคฺคโล วุตฺโต. ปฏิวิรุทฺโธ อมิตฺโต ปจฺจามิตฺโต, เอเตน ปากฏภาเวน วิโรธํ กโรนฺโต เวริปุคฺคโล วุตฺโต. วิกฺขมฺเภตุํ นาสกฺขึสุ, อฺทตฺถุ สยเมว วิฆาตพฺยสนํ ปาปุณึสุ เจว สาวกตฺตฺจ ปเวเทสุํ.

‘‘กมฺม’’นฺติอาทีสุ กมฺมํ นาม พุทฺธภาวํ อุทฺทิสฺส กตูปจิโต ลกฺขณสํวตฺตนิโย ปุฺสมฺภาโร. เตนาห ‘‘สตสหสฺสกปฺปาธิกานี’’ติอาทิ. กมฺมสริกฺขกํ นาม ตสฺเสว ปุฺสมฺภารสฺส กรณกาเล เกนจิ อกมฺปนียสฺส ทฬฺหาวตฺถิตภาวสฺส อนุจฺฉวิโก สุปฺปติฏฺิตปาทตาสงฺขาตสฺส ลกฺขณสฺส ปเรหิ อวิกฺขมฺภนียตาย าปกนิมิตฺตภาโว, สฺวายํ นิมิตฺตภาโว ตสฺเสว ลกฺขณสฺสาติ อฏฺกถายํ ‘‘กมฺมสริกฺขกํ นาม…เป… มหาปุริสลกฺขณ’’นฺติ วุตฺตํ. านคมเนสุ ปาทานํ ทฬฺหาวตฺถิตภาโว ลกฺขณํ นาม. ปาทานํ ภูมิยํ สมํ นิกฺขิปนํ, ปาทตลานํ สพฺพภาเคหิ ผุสนํ, สมเมว อุทฺธรณํ, ตสฺมา สุฏฺุ สมํ สพฺพภาเคหิ ปติฏฺิตา ปาทา เอตสฺสาติ สุปฺปติฏฺิตปาโท, ตสฺส ภาโว สุปฺปติฏฺิตปาทตาติ วุจฺจติ ลกฺขณํ. สุฏฺุ สมํ ภูมิยา ผุสเนเนว หิ เนสํ ตตฺถ ทฬฺหาวตฺถิตภาโว สิทฺโธ, ยํ ‘‘กมฺมสริกฺขก’’นฺติ วุตฺตํ. ลกฺขณานิสํโสติ ลกฺขณปฏิลาภสฺส อุทฺรโย, ลกฺขณสํวตฺตนิยสฺส กมฺมสฺส อานิสํสผลนฺติ อตฺโถ. นิสฺสนฺทผลํ ปน เหฏฺา ภาวิตเมว.

๒๐๓. กมฺมาทิเภเทติ กมฺมกมฺมสริกฺขกลกฺขณ ลกฺขณานิสํสวิสฺิเต วิภาเค. คาถาพนฺธํ สนฺธาย วุตฺตํ, อตฺโถ ปน อปุพฺพํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. โปราณกตฺเถราติ อฏฺกถาจริยา. วณฺณนาคาถาติ โถมนาคาถา วุตฺตเมวตฺถํ คเหตฺวา โถมนาวเสน ปวตฺตตฺตา. อปรภาเคเถรา นาม ปาฬึ, อฏฺกถฺจ โปตฺถกาโรปนวเสน สมาคตา มหาเถรา, เย สาฏฺกถํ ปิฏกตฺตยํ โปตฺถการุฬฺหํ กตฺวา สทฺธมฺมํ อทฺธนิยจิรฏฺิติกํ อกํสุ. เอกปทิโกติ ‘‘ทฬฺหสมาทาโน อโหสี’’ติอาทิปาเ เอเกกปทคาหี. อตฺถุทฺธาโรติ ตทตฺถสฺส สุขคฺคหณตฺถํ คาถาพนฺธวเสน อุทฺธรณโต อตฺถุทฺธารภูโต, ตยิทํ ปาฬิยํ อาคตปทานิ คเหตฺวา คาถาพนฺธวเสน ตทตฺถวิจารณภาวทสฺสนํ, น ปน ธมฺมภณฺฑาคาริเกน ปิตภาวปฏิกฺขิปนนฺติ ทฏฺพฺพํ.

กุสลธมฺมานํ วจีสจฺจสฺส พหุการตํ, ตปฺปฏิปกฺขสฺส จ มุสาวาทสฺส มหาสาวชฺชตํ ทสฺเสตุํ อนนฺตรเมว กุสลกมฺมปถธมฺเม วทนฺโตปิ ตโต วจีสจฺจํ นีหริตฺวา กเถติ สจฺเจติ วา สนฺนิธาเนว ‘‘ธมฺเม’’ติ วุจฺจมานา กุสลกมฺมปถธมฺมา เอว ยุตฺตาติ วุตฺตํ ‘‘ธมฺเมติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺเม’’ติ. โคพลีพทฺทาเยน วา เอตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อินฺทฺริยทมเนติ อินฺทฺริยสํวเร. กุสลกมฺมปถคฺฆเณนสฺส วาริตฺตสีลเมว คหิตนฺติ อิตรมฺปิ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสตุํ สํยมสฺเสว คหณํ กตนฺติ ‘‘สํยเมติ สีลสํยเม’’ติ วุตฺตํ. สุจิ วุจฺจติ ปุคฺคโล ยสฺส ธมฺมสฺส วเสน, ตํ โสเจยฺยํ, กายสุจริตาทิ. เอตสฺเสว หิ วิภาคสฺส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตมฺปิ เจตํ ปุน วุตฺตํ, มโนโสเจยฺยคฺคหเณน วา ฌานาทิอุตฺตริมนุสฺสธมฺมานมฺปิ สงฺคณฺหนตฺถํ โสเจยฺยคฺคหณํ. อาลยภูตนฺติ สมถวิปสฺสนานํ อธิฏฺานภูตํ. อุโปสถกมฺมนฺติ อุโปสถทิวเส สมาทิยิตฺวา สมาจริตพฺพํ ปุฺกมฺมํ อุโปสโถ สหจรณาเยน. ‘‘อวิหึสายาติ สตฺตานํ อวิเหนายา’’ติ วทนฺติ, ตํ ปน สีลคฺคหเณเนว คหิตํ. ตสฺมา อวิหึสายาติ กรุณายาติ อตฺโถ. อวิหึสาคฺคหเณเนว เจตฺถ อปฺปมฺาสามฺเน จตฺตาโรปิ พฺรหฺมวิหารา อุปจาราวตฺถา คหิตา ลกฺขณหารนเยน. สกลนฺติ อนวเสสํ ปริปุณฺณํ. เอวเมตฺถ กามาวจรตฺตภาวปริยาปนฺนตฺตา ลกฺขณสฺส ตํสํวตฺตนิกกามาวจรกุสลธมฺมา เอว ปารมิตาสงฺคหปุฺสมฺภารภูตกายสุจริตาทีหิ ทฺวาทสธา วิภตฺตา เอว. คาถายํ ‘‘สจฺเจ’’ติอาทินา ทสธา สงฺคยฺห ทสฺสิตา. เอส นโย เสสลกฺขเณปิ.

อํนุภีติ คาถาสุขตฺถํ อการํ สานุนาสิกํ กตฺวา วุตฺตํ. พฺยฺชนานิ ลกฺขณานิ อาจิกฺขนฺตีติ เวยฺชนิกา.วิกฺขมฺเภตพฺพนฺติ ปฏิพาหิตพฺพํ ตสฺสาติ มหาปุริสสฺส, ตสฺส วา มหาปุริสลกฺขณสฺส. ลกฺขณสีเสน เจตฺถ ตํสํวตฺตนิกปุฺสมฺภาโร วุจฺจติ.

ปาทตลจกฺกลกฺขณวณฺณนา

๒๐๔. ภยํ นาม ภีติ, ตํ ปน อุพฺพิชฺชนากาเรน, อุตฺตสนากาเรน จ ปวตฺติยา ทุวิธนฺติ อาห ‘‘อุพฺเพคภยฺเจว อุตฺตาสภยฺจา’’ติ. ตทุภยมฺปิ ภยํ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อปนูทิตาติ ยถา โจราทโย วิลุปฺปนพนฺธนาทีนิ ปรสฺส น กโรนฺติ, กตฺจ ปจฺจาหรณาทินา ปฏิปากติกํ โหติ, เอวํ ยถา จ จณฺฑหตฺถิอาทโย ทูรโต ปริวชฺชิตา โหนฺติ, อปริวชฺชิเต ตสฺส ยถา าเน ิเตหิ อภิภโว น โหติ, เอวํ อปนูทิตา. อติวาเหตีติ อติกฺกาเมติ. ตํ านนฺติ ตํ สาสงฺกฏฺานํ. อสกฺโกนฺตานนฺติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ, อสกฺโกนฺเตติ อตฺโถ. อสกฺโกนฺตานนฺติ วา อนาทเร สามิวจนํ. สห ปริวาเรนาติ สปริวารํ. ตตฺถ กิฺจิ เทยฺยธมฺมํ เทนฺโต ยทา ตสฺส ปริวารภาเวน อฺมฺปิ เทยฺยธมฺมํ เทติ, เอวํ ตสฺส ตํ ทานมยํ ปุฺํ สปริวารํ นาม โหติ.

ตมตฺถํ วิตฺถาเรน ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ อนฺน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยถา เทยฺยธมฺมํ ตสฺส อนฺนทานสฺส ปริวาโร, เอวํ ตสฺส สกฺกจฺจกรณํ ปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ โข’’ติอาทิมาห. ยาคุภตฺตํ ทตฺวาว อทาสีติ โยชนา. เอส นโย อิโต ปรโตปิ. สุตฺตํ วฏฺเฏตีติ จีวรสฺส สิพฺพนสุตฺตกํ ทุวฏฺฏติวฏฺฏาทิวเสน วฏฺฏิตํ อกาสิ. รชนนฺติ อลฺลิอาทิรชนวตฺถุํ. ปณฺฑุปลาสนฺติ รชนุปคเมว ปณฺฑุวณฺณํ ปลาสํ.

เหฏฺิมานีติ อนฺนาทีนิ จตฺตาริ. นิสทคฺคหเณเนว นิสทโปโตปิ คหิโต. จีนปิฏฺํ สินฺธุรกจุณฺณํ. โกชวนฺติ อุทฺทโลมิเอกนฺตโลมิอาทิโกชวตฺถรณ. สุวิภตฺตอนฺตรานีติ สุฏฺุ วิภตฺตอนฺตรานิ, เอเตน จกฺกาวยวฏฺานานํ สุปริจฺฉินฺนตํ ทสฺเสติ.

ลทฺธาภิเสกา ขตฺติยา อตฺตโน วิชิเต วิสวิตาย พฺราหฺมณาทิเก จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ รฺเชตุํ สกฺโกนฺติ, น อิตราติ อาห ‘‘ราชาโนติ อภิสิตฺตา’’ติ. ราชโต ยถาลทฺธคามนิคมาทึ อิสฺสรวตาย ภุฺชนฺตีติ โภชกา, ตาทิโส โภโค เอเตสํ อตฺถิ , ตตฺถ วา นิยุตฺตาติ โภคิกา, เต เอว ‘‘โภคิยา’’ติ วุตฺตา. สปริวารํ ทานนฺติ วุตฺตนเยน สปริวารทานํ. ชานาตูติ ‘‘สเทวโก โลโก ชานาตู’’ติ อิมินา วิย อธิปฺปาเยน นิพฺพตฺตํ จกฺกลกฺขณนฺติ ลกฺขณสฺเสว กมฺมสริกฺขตา ทสฺสิตา. เอวํ สติ ติกเมว สิยา, น จตุกฺกํ, ตสฺมา จกฺกลกฺขณสฺส มหาปริวารตาย าปกนิมิตฺตภาโว กมฺมสริกฺขกํ นาม. เตเนวาห ‘‘สปริวารํ…เป… ชานาตูติ นิพฺพตฺต’’นฺติ. ‘‘ทีฆายุกตาย ตํ นิมิตฺต’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๒๐๗) จ วกฺขติ, ตถา ‘‘ตํ ลกฺขณํ ภวติ ตทตฺถโชตก’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๒๒๑) จ. นิสฺสนฺทผลํ ปน ปฏิปกฺขาภิภโว ทฏฺพฺโพ. เตเนวาห คาถายํ ‘‘สตฺตุมทฺทโน’’ติ.

๒๐๕. เอตนฺติ เอตํ คาถาพนฺธภูตํ วจนํ, ตํ ปนตฺถโต คาถา เอวาติ อาห ‘‘อิมา ตทตฺถปริทีปนา คาถา วุจฺจนฺตี’’ติ.

ปุรตฺถาติ วา ‘‘ปุเร’’ติ วุตฺตโตปิ ปุพฺเพ. ยสฺมา มหาปุริโส น อตีตาย เอกชาติยํ, นาปิ กติปยชาตีสุ, อถ โข ปุริมปุริมตราสุ ตถาว ปฏิปนฺโน, ตสฺมา ตตฺถ ปฏิปตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุเร ปุรตฺถา’’ติ วุตฺตํ. อิมิสฺสาปิ ชาติยํ อตีตกาลวเสน ‘‘ปุเรปุรตฺถา’’ติ วตฺตุํ ลพฺภาติ ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘ปุริมาสุ ชาตีสู’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิมิสฺสา’’ติอาทิ. เกจิ ‘‘อิมิสฺสา ชาติยา ปุพฺเพ ตุสิตเทวโลเก กตกมฺมปฏิกฺเขปวจน’’นฺติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ ตตฺถ ตาทิสสฺส กตกมฺมสฺส อภาวโต. อปนูทโนติ อปเนตา. อธิมุตฺโตติ ยุตฺตปยุตฺโต.

ปุฺกมฺเมนาติ ทานาทิปุฺกมฺเมน. เอวํ สนฺเตติ สตมตฺเตน ปุฺกมฺเมน เอเกกํ ลกฺขณํ นิพฺพตฺเตยฺย, เอวํ สติ. น โรจยึสูติ เกวลํ สตมตฺเตน ปุฺกมฺเมน ลกฺขณนิพฺพตฺตึ น โรจยึสุ อฏฺกถาจริยา. กถํ ปน โรจยึสูติ อาห ‘‘อนนฺเตสุ ปนา’’ติอาทิ. เอเกกํ กมฺมนฺติ เอเกกํ ทานาทิปุพฺพกมฺมํ. เอเกกํ สตคุณํ กตฺวาติ อนนฺตาสุ โลกธาตูสุ ยตฺตกา สตฺตา, เตหิ สพฺเพหิ ปจฺเจกํ สตกฺขตฺตุํ กตานิ ทานาทิปุฺกมฺมานิ ยตฺตกานิ, ตโต เอเกกํ ปุฺกมฺมํ มหาสตฺเตน สตคุณํ กตํ ‘‘สต’’นฺติ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา อิธ สต-สทฺโท พหุภาวปริยาโย, น สงฺขฺยาวจโนติ ทสฺเสติ ‘‘สตคฺฆิ สตํ เทวมนุสฺสา’’ติอาทีสุ วิย. เตนาห ‘‘ตสฺมา สตปุฺลกฺขโณติ อิมมตฺถํ โรจยึสู’’ติ.

อายตปณฺหิตาทิติลกฺขณวณฺณนา

๒๐๖. สรสจุติ นาม ชาตสฺส สตฺตสฺส ยาวชีวํ ชีวิตฺวา ปกติยา มรณํ. อากฑฺฒชิยสฺส ธนุทณฺฑสฺส วิย ปาทานํ อนฺโตมุขํ กุฏิลตาย อนฺโตวงฺกปาทตา. พหิมุขํ กุฏิลตาย พหิวงฺกปาทตา. ปาทตลสฺส มชฺเฌ อูนตาย อุกฺกุฏิกปาทตา. อคฺคปาเทน ขฺชนกา อคฺคโกณฺฑา. ปณฺหิปฺปเทเสน ขฺชนกา ปณฺหิโกณฺฑา. อุนฺนตกาเยนาติ อโนนตภาเวน สมุสฺสิตสรีเรน . มุฏฺิกตหตฺถาติ อาวุธาทีนํ คหณตฺถํ กตมุฏฺิหตฺถา. ผณหตฺถกาติ อฺมฺํ สํสฏฺงฺคุลิหตฺถา. อิทเมตฺถ กมฺมสริกฺขกนฺติ อิทํ อิเมสํ ติณฺณมฺปิ ลกฺขณานํ ตถาคตสฺส ทีฆายุกตาย าปกนิมิตฺตภาโว เอตฺถ อายตปณฺหิตา, ทีฆงฺคุลิตา พฺรหฺมุชุคตฺตตาติ เอตสฺมึ ลกฺขณตฺตเย กมฺมสริกฺขกตฺตํ. นิสฺสนฺทผลํ ปน อนนฺตรายตาทิ ทฏฺพฺพํ.

๒๐๗. ภายิตพฺพวตฺถุนิมิตฺตํ อุปฺปชฺชมานมฺปิ ภยํ อตฺตสิเนหเหตุกํ ปหีนสิเนหสฺส ตทภาวโตติ อาห ‘‘ยถา มยฺหํ มรณโต ภยํ มม ชีวิตํ ปิย’’นฺติ. สุจิณฺเณนาติ สุฏฺุ กตูปจิเตน สุจริตกมฺมุนา.

จวิตฺวาติ สคฺคโต จวิตฺวา. ‘‘สุชาตคตฺโต สุภุโช’’ติ อาทโย สรีราวยวคุณา อิเมหิ ลกฺขเณหิ อวินาภาวิโนติ ทสฺเสตุํ วุตฺตา. จิรยปนายาติ อตฺตภาวสฺส จิรกาลํ ปวตฺตนาย. เตนาห ‘‘ทีฆายุกภาวายา’’ติ. ตโตติ จกฺกวตฺตี หุตฺวา ยาปนโต. วสิปฺปตฺโตติ ฌานาทีสุ วสีภาวฺเจว เจโตวสิภาวฺจ ปตฺโต หุตฺวา, กถํ อิทฺธิภาวนาย อิทฺธิปาทภาวนายาติ อตฺโถ. ยาเปติ จิรตรนฺติ โยชนา.

สตฺตุสฺสทตาลกฺขณวณฺณนา

๒๐๘. รโส ชาโต เอเตสนฺติ รสิตานิ, มหารสานิ. เตนาห ‘‘รสสมฺปนฺนาน’’นฺติ. ปิฏฺขชฺชกาทีนีติ ปูปสกฺขลิโมทกาทีนิ. อาทิ-สทฺเทน ปน กทลิผลาทึ สงฺคณฺหาติ. ปิฏฺํ ปกฺขิปิตฺวา ปจิตพฺพปายสํ ปิฏฺปายสํ. อาทิ-สทฺเทน ตถารูปโภชฺชยาคุอาทึ สงฺคณฺหาติ.

อิธ กมฺมสริกฺขกํ นาม สตฺตุสฺสทตาลกฺขณสฺส ปณีตลาภิตาย าปกนิมิตฺตภาโว. อิมินา นเยน ตตฺถ ตตฺถ ลกฺขเณ กมฺมสริกฺขกํ นิทฺธาเรตฺวา โยเชตพฺพํ.

๒๐๙. อุตฺตโม อคฺครสทายโกติ สพฺพสตฺตานํ อุตฺตโม โลกนาโถ อคฺคานํ ปณีตานํ รสานํ ทายโก. อุตฺตมานํ อคฺครสานนฺติ ปณีเตสุปิ ปณีตรสานํ. ขชฺชโภชฺชาทิโชตกนฺติ ขชฺชโภชฺชาทิลาภโชตกํ. ลาภสํวตฺตนิกสฺส กมฺมสฺส ผลํ ‘‘ลาภสํวตฺตนิก’’นฺติ การณูปจาเรน วทติ. ตทตฺถโชตกนฺติ วา ตสฺส ปณีตโภชนทายกตฺตสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส โชตกํ. ตทาธิคจฺฉตีติ เอตฺถ อา-กาโร นิปาตมตฺตนฺติ อาห ‘‘ตํ อธิคจฺฉตี’’ติ. ลาภิรุตฺตมนฺติ ร-กาโร ปทสนฺธิกโร.

กรจรณาทิลกฺขณวณฺณนา

๒๑๐. ปพฺพชิตปริกฺขารํ ปตฺตจีวราทึ คิหิปริกฺขารํ วตฺถาวุธยานสยนาทึ.

สพฺพนฺติ สพฺพํ อุปการํ. มกฺเขตฺวา นาเสติ มกฺขิภาเว ตฺวา. เตเลน วิย มกฺเขตีติ สตโธตเตเลน มกฺเขติ วิย. อตฺถสํวฑฺฒนกถายาติ หิตาวหกถาย. กถาคหณฺเจตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ. ปเรสํ หิตาวโห กายปโยโคปิ อตฺถจริยา. อฏฺกถายํ ปน วจีปโยควเสเนว อตฺถจริยา วุตฺตา.

สมานตฺตตายาติ สทิสภาเว สมานฏฺาเน ปเนน, ตํ ปนสฺส สมานฏฺาเน ปนํ อตฺตสทิสตากรณํ, สุเขน เอกสมฺโภคตา, อตฺตโน สุขุปฺปตฺติยํ; ตสฺส จ ทุกฺขุปฺปตฺติยํ เตน อตฺตโน เอกสมฺโภคตาติ อาห ‘‘สมานสุขทุกฺขภาเวนา’’ติ. สา จ สมานสุขทุกฺขตา เอกโต นิสชฺชาทินา ปากฏา โหตีติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอกาสเน’’ติอาทิมาห. น หิ สกฺกา เอกปริโภโค กาตุํ ชาติยา หีนตฺตา. ตถา อกริยมาเนจ โส กุชฺฌติ โภเคน อธิกตฺตา, ตสฺมา ทุสฺสงฺคโห. น หิ โส เอกปริโภคํ อิจฺฉติ ชาติยา หีนภาวโต. น อกริยมาเน จ กุชฺฌติ โภเคน หีนภาวโต. อุโภหีติ ชาติโภเคหิ. สทิโสปิ สุสงฺคโห เอกสทิสภาเวเนว อิตเรน สห เอกปริโภคสฺส ปจฺจาสีสาย, อกรเณ จ ตสฺส กุชฺฌนสฺสาภาวโต. อทียมาเนปิ กิสฺมิฺจิ อามิเส อกริยมาเนปิ สงฺคเห. น ปาปเกน จิตฺเตน ปสฺสติ เปสลภาวโต. ตโต เอว ปริโภโคปิ…เป… โหติ.เอวรูปนฺติ คิหี เจ, อุโภหิ สทิสํ; ปพฺพชิโต เจ, สีลวนฺตนฺติ อธิปฺปาโย.

สุสงฺคหิตาวโหนฺตีติ สุฏฺุ สงฺคหิตา เอว โหนฺติ ทฬฺหภตฺติภาวโต. เตนาห ‘‘น ภิชฺชนฺตี’’ติ.

ทานาทิสงฺคหกมฺมนฺติ ทานาทิเภทํ ปรสงฺคณฺหนวเสน ปวตฺตํ กุสลกมฺมํ.

๒๑๑. อนวฺาเตน อปริภูเตน สมฺภาวิเตน. ปโมโท วุจฺจติ หาโส, น อปฺปโมเทนาติ เอตฺถ ปฏิเสธทฺวเยน โส เอว วุตฺโต. โส จ โอทคฺยสภาวตฺตา น ทีโน ธมฺมูปสฺหิตตฺตา น คพฺภยุตฺโตติ อาห ‘‘น ทีเนน น คพฺภิเตนาติ อตฺโถ’’ติ. สตฺตานํ อคณฺหนคุเณนาติ โยชนา.

อติรุจิรนฺติ อติวิย รุจิรกตํ, ตํ ปน ปสฺสนฺตานํ ปสาทาวหนฺติ อาห ‘‘สุปาสาทิก’’นฺติ. สุฏฺุ เฉกนฺติ อติวิย สุนฺทรํ. วิธาตพฺโพติ วิธาตุํ สนฺทิสิตุํ สกฺกุเณยฺโย. ปิยํ วทตีติ ปิยวทู ยถา ‘‘สพฺพวิทู’’ติ. สุขเมว สุขตา, ตํ สุขตํ. ธมฺมฺจอนุธมฺมฺจาติ โลกุตฺตรธมฺมฺเจว ตสฺส อนุรูปปุพฺพภาคธมฺมฺจ.

อุสฺสงฺขปาทาทิลกฺขณวณฺณนา

๒๑๒. ‘‘อตฺถูปสํหิต’’นฺติ อิมินา วฏฺฏนิสฺสิตา ธมฺมกถา วุตฺตาติ อาห ‘‘อิธโลกปรโลกตฺถนิสฺสิต’’นฺติ. ‘‘ธมฺมูปสํหิต’’นฺติ อิมินา วิวฏฺฏนิสฺสิตา, ตสฺมา ทสกุสลกมฺมปถา วิวฏฺฏสนฺนิสฺสยา เวทิตพฺพา. นิทํเสสีติ สนฺทสฺเสสิ เต ธมฺเม ปจฺจกฺเข กตฺวา ปกาเสสิ. นิทํสนกถนฺติ ปากฏกรณกถํ. เชฏฺฏฺเน อคฺโค, ปาสํสฏฺเน เสฏฺโ, ปมุขฏฺเน ปาโมกฺโข, ปธานฏฺเน อุตฺตโม, หิตสุขตฺถิเกหิ ปการโต วรณียโต รชนียโต ปวโรติ เอวํ อตฺถวิเสสวาจีนมฺปิ ‘‘อคฺโค’’ติอาทีนํ ปทานํ ภาวตฺถสฺส เภทาภาวโต ‘‘สพฺพานิ อฺมฺเววจนานี’’ติ อาห.

อุทฺธงฺคมนียาติ สุณนฺตานํ อุปรูปริ วิเสสํ คเมนฺตีติ อุทฺธงฺคมนียา. สงฺขาย อโธ ปิฏฺิปาทสมีเป เอว ปติฏฺิตตฺตา อโธสงฺขา ปาทา เอตสฺสาติ อโธสงฺขปาโท. สงฺขาติ จ โคปฺผกานมิทํ นามํ.

๒๑๓. ธมฺมทานยฺนฺติ ธมฺมทานสงฺขาตํ ยฺํ.

สุฏฺุสณฺิตาติ สมฺมเทว สณฺิตา. ปิฏฺิปาทสฺส อุปริ ปกติองฺคุเลน จตุรงฺคุเล ชงฺฆาปเทเส นิคูฬฺหา อปฺายมานรูปา หุตฺวา ิตาติ อตฺโถ.

เอณิชงฺฆลกฺขณวณฺณนา

๒๑๔. สิปฺปนฺติ สิกฺขิตพฺพฏฺเน ‘‘สิปฺป’’นฺติ ลทฺธนามํ สตฺตานํ ชีวิกาเหตุภูตํ อาชีววิธึ. ชีวิกตฺถํ, สตฺตานํ อุปการตฺถฺจ เวทิตพฺพฏฺเน วิชฺชา, มนฺตสตฺถาทิ. จรนฺติ เตน สุคตึ, สุขฺจ คจฺฉนฺตีติ จรณํ. กมฺมสฺสกตาาณํ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘กมฺม’’นฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘กมฺมนฺติ กมฺมสฺสกตาชานนปฺา’’ติ. ตานิ เจวาติ ปุพฺเพ วุตฺตหตฺถิอาทีนิ เจว. สตฺต รตนานีติ มุตฺตาทีนิ สตฺต รตนานิ. -สทฺเทน รฺโ อุปโภคภูตานํ วตฺถเสยฺยาทีนํ สงฺคโห. รฺโ อนุจฺฉวิกานีติ รฺโ ปริภุฺชนโยคฺยานิ. สพฺเพสนฺติ ‘‘ราชารหานี’’ติอาทินา วุตฺตานํ สพฺเพสํเยว เอกชฺฌํ คหณํ. พุทฺธานํ ปริสา นาม โอธิโส อโนธิโส จ สมิตปาปา, ตถตฺถาย ปฏิปนฺนา จ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สมณานํ โกฏฺาสภูตา จตสฺโส ปริสา’’ติ.

สิปฺปาทิวาจนนฺติ สิปฺปานํ สิกฺขาปนํ. ปาฬิยมฺปิ หิ ‘‘วาเจตา’’ติ วาจนสีเสน สิกฺขาปนํ ทสฺสิตํ. อุกฺกุฏิกาสนนฺติ ตํตํเวยฺยาวจฺจกรเณน อุกฺกุฏิกสฺส นิสชฺชา. ปโยชนวเสน เคหโต เคหํ คามโต คามํ ชงฺฆาโย กิลเมตฺวา เปสนํ ชงฺฆเปสนิกา. ลิขิตฺวา ปาติตํ วิย โหติ อปริปุณฺณภาวโต. อนุปุพฺพอุคฺคตวฏฺฏิตนฺติ โคปฺผกฏฺานโต ปฏฺาย ยาว ชาณุปฺปเทสา มํสูปจยสฺส อนุกฺกเมน สมนฺตโต วฑฺฒิตตฺตา อนุปุพฺเพน อุคฺคตํ หุตฺวา สุวฏฺฏิตํ. เอณิชงฺฆลกฺขณนฺติ สณฺานมตฺเตน เอณิมิคชงฺฆาสทิสชงฺฆลกฺขณํ.

๒๑๕. ‘‘ยตุปฆาตายา’’ติ เอตฺถ -กาโร ปทสนฺธิกโร, อนุนาสิกโลเปน นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ย’’นฺติอาทิ. ‘‘อุทฺธคฺคโลมา สุขุมตฺตโจตฺถตา’’ติ วุตฺตตฺตา โจทเกน ‘‘กึ ปน อฺเน กมฺเมน อฺํ ลกฺขณํ นิพฺพตฺตตี’’ติ โจทิโต, อาจริโย ‘‘น นิพฺพตฺตตี’’ติ วตฺวา ‘‘ยทิ เอวํ อิธ กสฺมา ลกฺขณนฺตรํ กถิต’’นฺติ อนฺโตลีนเมว โจทนํ ปริหรนฺโต ‘‘ยํ ปน นิพฺพตฺตตีติ…เป… อิธ วุตฺต’’นฺติ อาห. ตตฺถ ยํ ปน นิพฺพตฺตตีติ ยํ ลกฺขณํ วุจฺจมานลกฺขณนิพฺพตฺตเกน กมฺมุนา นิพฺพตฺตติ. ตํ อนุพฺยฺชนํ โหตีติ ตํ ลกฺขณํ วุจฺจมานสฺส ลกฺขณสฺส อนุกูลลกฺขณํ นาม โหติ. ตสฺมา เตน การเณน อิธ เอณิชงฺฆลกฺขณกถเน ‘‘อุทฺธคฺคโลมา สุขุมตฺตโจตฺถตา’’ติ ลกฺขณนฺตรํ วุตฺตํ.

สุขุมจฺฉวิลกฺขณวณฺณนา

๒๑๖. สมิตปาปฏฺเนสมณํ, น ปพฺพชฺชามตฺเตน. พาหิตปาปฏฺเน พฺราหฺมณํ, น ชาติมตฺเตน.

มหนฺตานํ อตฺถานํ ปริคฺคณฺหนโต มหตี ปฺา เอตสฺสาติ มหาปฺโ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโยติ อาห ‘‘มหาปฺาทีหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ’’ติ. นานตฺตนฺติ ยาหิ มหาปฺาทีหิ สมนฺนาคตตฺตา ภควา ‘‘มหาปฺโ’’ติอาทินา กิตฺตียติ, ตาสํ มหาปฺาทีนํ อิทํ นานตฺตํ อยํ เวมตฺตตา.

ยสฺส กสฺสจิ วิเสสโต อรูปธมฺมสฺส มหตฺตํ นาม กิจฺจสิทฺธิยา เวทิตพฺพนฺติ ตทสฺสา กิจฺจสิทฺธิยา ทสฺเสนฺโต ‘‘มหนฺเต สีลกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เหตุมหนฺตตาย, ปจฺจยมหนฺตตาย, นิสฺสยมหนฺตตาย, ปเภทมหนฺตตาย, กิจฺจมหนฺตตาย, ผลมหนฺตตาย, อานิสํสมหนฺตตาย จ สีลกฺขนฺธสฺส มหนฺตภาโว เวทิตพฺโพ. ตตฺถ เหตุ อโลภาทโย. ปจฺจโย หิโรตฺตปฺปสทฺธาสติวีริยาทโย. นิสฺสโย สาวกโพธิปจฺเจกโพธิสมฺมาสมฺโพธินิยตตา, ตํสมงฺคิโน จ ปุริสวิเสสา. ปเภโท จาริตฺตวาริตฺตาทิวิภาโค. กิจฺจํ ตทงฺคาทิวเสน ปฏิปกฺขวิธมนํ. อานิสํโส ปิยมนาปตาทิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค, (วิสุทฺธิ. ๑.๖) อากงฺเขยฺยสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๑.๖๕) จ อาคตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อิมินา นเยน สมาธิกฺขนฺธาทีนมฺปิ มหนฺตตา ยถารหํ วิตฺถาเรตฺวา เวทิตพฺพา. านาานานํ ปน มหาวิสยตาย, สา พหุธาตุกสุตฺเต อาคตนเยน เวทิตพฺพา. วิหารสมาปตฺติโย สมาธิกฺขนฺธนิทฺธารณนเยน เวทิตพฺพา. อริยสจฺจานํ สกลสาสนสงฺคหโต, โส สจฺจวิภงฺค- (วิภ. ๑๘๙) ตํสํวณฺณนาสุ (วิภ. อฏฺ. ๑๘๙) อาคตนเยน, สติปฏฺานา ทีนํ สติปฏฺานวิภงฺคาทีสุ, (วิภ. ๓๕๕) ตํสํวณฺณนาสุ (วิภ. อฏฺ. ๓๕๕) จ อาคตนเยน, สามฺผลานํ มหโต หิตสฺส, มหโต สุขสฺส, มหโต อตฺถสฺส, มหโต โยคกฺเขมสฺส นิพฺพตฺติภาวโต, สนฺตปณีตนิปุณอตกฺกาวจรปณฺฑิตเวทนียภาวโต จ; อภิฺานํ มหาสมฺภารโต, มหาวิสยโต, มหากิจฺจโต, มหานุภาวโต, มหานิพฺพตฺติโต จ, นิพฺพานสฺส มทนิมฺมทนาทิมหตฺตสิทฺธิโต มหนฺตตา เวทิตพฺพา.

ปุถุปฺาติ เอตฺถาปิ วุตฺตนยานุสาเรน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – นานาขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ‘‘อยํ รูปกฺขนฺโธ นาม…เป… อยํ วิฺาณกฺขนฺโธ นามา’’ติ เอวํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ นานากรณํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ. เตสุปิ ‘‘เอกวิเธน รูปกฺขนฺโธ, เอกาทสวิเธน รูปกฺขนฺโธ. เอกวิเธน เวทนากฺขนฺโธ, พหุวิเธน เวทนากฺขนฺโธ. เอกวิเธน สฺากฺขนฺโธ. เอกวิเธน สงฺขารกฺขนฺโธ. เอกวิเธน วิฺาณกฺขนฺโธ, พหุวิเธน วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ เอวํ เอเกกสฺส ขนฺธสฺส อตีตาทิเภทวเสนาปิ นานากรณํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ. ตถา ‘‘อิทํ จกฺขายตนํ นาม…เป...อิทํ ธมฺมายตนํ นาม. ตตฺถ ทสายตนา กามาวจรา, ทฺเว จตุภูมกา’’ติ เอวํ อายตนานํ นานตฺตํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ. นานาธาตูสูติ ‘‘อยํ จกฺขุธาตุ นาม…เป… อยํ มโนวิฺาณธาตุ นาม. ตตฺถ โสฬส ธาตุโย กามาวจรา, ทฺเว ธาตุโย จตุภูมิกา’’ติ เอวํ นานาธาตูสุ าณํ ปวตฺตติ, ตยิทํ อุปาทินฺนกธาตุวเสน วุตฺตํ. ปจฺเจกพุทฺธานมฺปิ หิ ทฺวินฺนฺจ อคฺคสาวกานํ อุปาทินฺนกธาตูสุ เอวํ นานากรณํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ, ตฺจ โข เอกเทสโตว, น นิปฺปเทสโต. อนุปาทินฺนกธาตูนํ ปน ลกฺขณาทิมตฺตเมว ชานนฺติ, น นานากรณํ. สพฺพฺุพุทฺธานเมว ปน ‘‘อิมาย นามธาตุยา อุสฺสนฺนตฺตา อิมสฺส รุกฺขสฺส ขนฺโธ เสโต, อิมสฺส กาโฬ, อิมสฺส มฏฺโ, อิมสฺส พหลตฺตโจ , อิมสฺส ตนุตโจ. อิมสฺส ปตฺตํ วณฺณสณฺานาทิวเสน เอวรูปํ. อิมสฺส ปุปฺผํ นีลํ, อิมสฺส ปีตกํ, โลหิตกํ, โอทาตํ, สุคนฺธํ, ทุคฺคนฺธํ. ผลํ ขุทฺทกํ, มหนฺตํ, ทีฆํ, วฏฺฏํ, สุสณฺานํ, ทุสฺสณฺานํ, มฏฺํ, ผรุสํ, สุคนฺธํ, ทุคฺคนฺธํ, มธุรํ, ติตฺตกํ, อมฺพิลํ, กฏุกํ, กสาวํ. กณฺฏโก ติขิโณ, อติขิโณ, อุชุโก, กุฏิโล, กณฺโห, นีโล, โอทาโต โหตี’’ติ ธาตุนานตฺตํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ.

นานาปฏิจฺจสมุปฺปาเทสูติ อชฺฌตฺตพหิทฺธาเภทโต จ นานาปเภเทสุ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคสุ. อวิชฺชาทิองฺคานิ หิ ปจฺเจกํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺิตานิ. เตนาห สงฺขารปิฏเก ‘‘ทฺวาทส ปจฺจยา ทฺวาทส ปฏิจฺจสมุปฺปาทา’’ติ. นานาสุฺตมนุปลพฺเภสูติ นานาสภาเวสุ นิจฺจสาราทิวิรหิเตสุ สุฺตภาเวสุ ตโต เอว อิตฺถิปุริสอตฺตตฺตนิยาทิวเสน อนุปลพฺภนสภาเวสุ ปกาเรสุ. -กาโร เหตฺถ ปทสนฺธิกโร. นานาอตฺเถสูติ อตฺถปฏิสมฺภิทาย วิสยภูเตสุ ปจฺจยุปฺปนฺนาทิวเสน นานาวิเธสุ อตฺเถสุ. ธมฺเมสูติ ธมฺมปฏิสมฺภิทาย วิสยภูเตสุ ปจฺจยาทิวเสน นานาวิเธสุ ธมฺเมสุ. นิรุตฺตีสูติ เตสํเยว อตฺถธมฺมานํ นิทฺธารณวจนสงฺขาเตสุ นานานิรุตฺตีสุ. ปฏิภาเนสูติ อตฺถปฏิสมฺภิทาทีสุ วิสยภูเตสุ ‘‘อิมานิ าณานิ อิทมตฺถโชตกานี’’ติ (วิภ. ๗๒๖, ๗๒๙, ๗๓๑, ๗๓๒, ๗๓๔, ๗๓๖, ๗๓๙) ตถา ตถา ปฏิภานโต อุปติฏฺนโต ‘‘ปฏิภานานี’’ติ ลทฺธนาเมสุ นานาาเณสุ. ‘‘ปุถุนานาสีลกฺขนฺเธสู’’ติอาทีสุ สีลสฺส ปุถุตฺตํ วุตฺตเมว, อิตเรสํ ปน วุตฺตนยานุสาเรน สุวิฺเยฺยตฺตา ปากฏเมว. ยํ ปน อภินฺนํ เอกเมว นิพฺพานํ, ตตฺถ อุปจารวเสน ปุถุตฺตํ คเหตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปุถุชฺชนสาธารเณ ธมฺเม สมติกฺกมฺมา’’ติ, เตนสฺส มทนิมฺมทนาทิปริยาเยน ปุถุตฺตํ ปริทีปิตํ โหติ.

เอวํ วิสยวเสน ปฺาย มหตฺตํ, ปุถุตฺตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมฺปยุตฺตธมฺมวเสน หาสภาวํ, ปวตฺติอาการวเสน ชวนภาวํ, กิจฺจวเสน ติกฺขาทิภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘กตมา หาสปฺา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ หาสพหุโลติ ปีติพหุโล. เสสปทานิ ตสฺเสว เววจนานิ. สีลํ ปริปูเรตีติ หฏฺปหฏฺโ อุทคฺคุทคฺโค หุตฺวา เปตฺวา อินฺทฺริยสํวรํ ตสฺส วิสุํ วุตฺตตฺตา อนวเสสสีลํ ปริปูเรติ. ปีติโสมนสฺสสหคตา หิ ปฺา อภิรติวเสน อารมฺมเณ ผุลฺลิตวิกสิตา วิย ปวตฺตติ, น เอวํ อุเปกฺขาสหคตา. ปุน สีลกฺขนฺธนฺติ อริยสีลกฺขนฺธมาห. ‘‘สมาธิกฺขนฺธ’’นฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

สพฺพํ ตํ รูปํ อนิจฺจโต ขิปฺปํ ชวตีติ ยา รูปธมฺเม ‘‘อนิจฺจา’’ติ สีฆเวเคน ปวตฺตติ, ปฏิปกฺขทูรภาเวน ปุพฺพาภิสงฺขารสฺส สาติสยตฺตา อินฺเทน วิสฺสฏฺวชิรํ วิย ลกฺขณํ อวิรชฺฌนฺตี อทนฺธายนฺตี รูปกฺขนฺเธ อนิจฺจลกฺขณํ เวคสา ปฏิวิชฺฌติ, สา ชวนปฺา นามาติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เอวํ ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาวเสน ชวนปฺํ ทสฺเสตฺวา พลววิปสฺสนาวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘รูป’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ขยฏฺเนาติ ยตฺถ ยตฺถ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชนโต ขยสภาวตฺตา. ภยฏฺเนาติ ภยานกภาวโต. อสารกฏฺเนาติ อสารกภาวโต อตฺตสารวิรหโต, นิจฺจสาราทิวิรหโต จ. ตุลยิตฺวาติ ตุลนภูตาย วิปสฺสนาปฺาย ตุเลตฺวา. ตีรยิตฺวาติ ตาย เอว ตีรณภูตาย ตีรยิตฺวา. วิภาวยิตฺวาติ ยาถาวโต ปกาเสตฺวา ปจฺจกฺขํ กตฺวา. วิภูตํ กตฺวาติ ปากฏํ กตฺวา. รูปนิโรเธติ รูปกฺขนฺธนิโรธเหตุภูเต นิพฺพาเน นินฺนโปณปพฺภารภาเวน. อิทานิ สิขาปฺปตฺตวิปสฺสนาวเสน ชวนปฺํ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘รูป’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาวเสนา’’ติ เกจิ.

าณสฺส ติกฺขภาโว นาม สวิเสสํ ปฏิปกฺขปหาเนน เวทิตพฺโพติ. ‘‘ขิปฺปํ กิเลเส ฉินฺทตีติ ติกฺขปฺา’’ติ วตฺวา เต ปน กิเลเส วิภาเคน ทสฺเสนฺโต ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺก’’นฺติอาทิมาห. ติกฺขปฺโ ขิปฺปาภิฺโ โหติ, ปฏิปทา จสฺส น จลตีติ อาห ‘‘เอกสฺมึ อาสเน จตฺตาโร อริยมคฺคา…เป… อธิคตา โหนฺตี’’ติอาทิ.

‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา, สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา’’ติ ยาถาวโต ทสฺสเนน สจฺจปฺปฏิเวโธ อิชฺฌติ, น อฺถาติ การณมุเขน นิพฺเพธิกปฺํ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพสงฺขาเรสุ อุพฺเพคพหุโล โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุพฺเพคพหุโลติ วุตฺตนเยน สพฺพสงฺขาเรสุ อภิณฺหปวตฺตสํเวโค. อุตฺตาสพหุโลติ าณุตฺตาสวเสน สพฺพสงฺขาเรสุ พหุโส อุตฺราสมานโส , เอเตน อาทีนวานุปสฺสนมาห. ‘‘อุกฺกณฺนพหุโล’’ติ ปน อิมินา นิพฺพิทานุปสฺสนมาห , ‘‘อรติพหุโล’’ติอาทินา ตสฺสา เอว อปราปรุปฺปตฺตึ. พหิมุโขติ สพฺพสงฺขารโต พหิภูตํ นิพฺพานํ อุทฺทิสฺส ปวตฺตาณมุโข, ตถา วา ปวตฺติตวิโมกฺขมุโข. นิพฺพิชฺฌนํ นิพฺเพโธ, โส เอติสฺสา อตฺถิ, นิพฺพิชฺฌตีติ วา นิพฺเพธิกา, สา เอว ปฺา นิพฺเพธิกปฺา. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต อวิภตฺตํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา, อุตฺตานตฺถตฺตา จ สุวิฺเยฺยเมว.

๒๑๗. ปพฺพชิตํ อุปาสิตาติ เอตฺถ ยาทิสํ ปพฺพชิตํ อุปาสโต ปฺาปฏิลาโภ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปณฺฑิตํ ปพฺพชิต’’นฺติ วุตฺตํ. อุปาสนฺเจตฺถ อุปฏฺานวเสน อิจฺฉิตํ, น อุปนิสีทนมตฺเตนาติ อาห ‘‘ปยิรุปาสิตา’’ติ. อตฺถนฺติ หิตํ. อพฺภนฺตรํ กริตฺวาติ อพฺภนฺตรคตํ กตฺวา. เตนาห ‘‘อตฺถยุตฺต’’นฺติ. ภาวนปุํสกนิทฺเทโส จายํ, หิตูปสฺหิตํ กตฺวาติ อตฺโถ. อนฺตร-สทฺโท วา จิตฺตปริยาโย ‘‘ยสฺสนฺตรโต น สนฺติ โกปา’’ติอาทีสุ (อุทา. ๒๐) วิย. ตสฺมา อตฺถนฺตโรติ หิตชฺฌาสโยติ อตฺโถ.

ปฏิลาภตฺถาย คเตนาติ ปฏิลาภตฺถาย ปวตฺเตน, ปฏิลาภสํวตฺตนิเยนาติ อตฺโถ. อุปฺปาเท จ นิมิตฺเต จ เฉกาติ อุปฺปาทวิธิมฺหิ เจว นิมิตฺตวิธิมฺหิ จ กุสลา. อุปฺปาทนิมิตฺตโกวิทตาสีเสน เจตฺถ ลกฺขณโกสลฺลเมว ทสฺเสติ. อถ วา เสสลกฺขณานํ นิพฺพตฺติยา พุทฺธานํ, จกฺกวตฺตีนฺจ อุปฺปาโท อนุมียติ, ยานิ เตหิ ลทฺธพฺพอานิสํสานิ นิมิตฺตานิ , ตสฺมึ อุปฺปาเท จ นิมิตฺเต จ อนุมินนาทิวเสน เฉกา นิปุณาติ อตฺโถ. ตฺวา ปสฺสิสฺสตีติ าเณน ชานิตฺวา ปสฺสิสฺสติ, น จกฺขุวิฺาเณนาติ อธิปฺปาโย.

อตฺถานุสาสนีสูติ อตฺถานํ หิตานํ อนุสาสนีสุ. ยสฺมา อนตฺถปฏิวชฺชนปุพฺพิกา สตฺตานํ อตฺถปฏิปตฺติ, ตสฺมา อนตฺโถปิ ปริจฺฉิชฺช คเหตพฺโพ, ชานิตพฺโพ จาติ วุตฺตํ ‘‘อตฺถานตฺถํ ปริคฺคาหกานิ าณานี’’ติ, ยโต ‘‘อายุปายโกสลฺลํ วิย อปายโกสลฺลมฺปิ อิจฺฉิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.

สุวณฺณวณฺณลกฺขณวณฺณนา

๒๑๘. ปฏิสงฺขานพเลน โกธวินเยน อกฺโกธโน, น ภาวนาพเลนาติ ทสฺเสตุํ ‘‘น อนาคามิมคฺเคนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ อกฺโกธวสิกตฺตาติ เอวํ มฆมาณโว วิย น โกธวสํ คตตฺตา. นาภิสชฺชีติ กุชฺฌนวเสเนว น อภิสชฺชิ. ยฺหิ โกธสฺส อุปฺปตฺติฏฺานภูเต อารมฺมเณ อุปนาหสฺส ปจฺจยภูตํ กุชฺฌนวเสน อภิสชฺชนํ, ตํ อิธาธิปฺเปตํ, น ลุพฺภนวเสน. เตนาห ‘‘กุฏิลกณฺฏโก วิยา’’ติอาทิ. โส หิ ยตฺถ ลคฺคติ, ตํ โขเภนฺโต เอว ลคฺคติ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ ตสฺมึ มมฺมฏฺาเน. มมฺมนฺติ ผุฏฺมตฺเตปิ รุชฺชนฏฺานํ. ปุพฺพุปฺปตฺติโกติ ปมุปฺปนฺโน. ตโต พลวตโร พฺยาปาโท ลทฺธาเสวนตาย จิตฺตสฺส พฺยาปชฺชนโต. ตโต พลวตราปติตฺถิยนาติ สาติสยํ ลทฺธาเสวนตาย ตโต พฺยาปาทาวตฺถายปิ พลวตรา ปติตฺถิยนา ปจฺจตฺถิกภาเวน ถามปฺปตฺติโต.

สุขุมตฺถรณาทีติ อาทิ-สทฺเทน ปณีตโภชนียาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ โภชนทานสฺสปิ วณฺณสมฺปทานิมิตฺตภาวโต. เตนาห ภควา ‘‘โภชนํ ภิกฺขเว ททมาโน ทายโก ปฏิคฺคาหกานํ…เป… อายุํ เทติ, วณฺณํ เทตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๓๗) ตถา จ วกฺขติ ‘‘อามิสทาเนน วา’’ติ.

๒๑๙. ติ อทาสิ. เทโวติ เมโฆ, ปชฺชุนฺโน เอว วา. วรตโรติ อุตฺตมตโร. ปพฺพชฺชาย วิสทิสาวตฺถาทิ ภาวโต น ปพฺพชฺชาติ อปพฺพชฺชา, คิหิภาโว. อจฺฉาเทนฺติ โกปีนํ ปฏิจฺฉาเทนฺติ เอเตหีติ อจฺฉาทนานิ, นิวาสนานิ, เตสํ อจฺฉาทนานฺเจว เสส วตฺถานฺจ โกชวาทิ อุตฺตมปาวุรณานฺจ. วินาโสติ กตสฺส กมฺมสฺส อวิปจฺจิตฺวา วินาโส.

โกโสหิตวตฺถคุยฺหลกฺขณวณฺณนา

๒๒๐. สมาเนตาติ สมฺมเทว อาเนตา สมาคเมตา. รชฺเช ปติฏฺิเตน สกฺกา กาตุํ พหุภติกสฺเสว อิชฺฌนโต. กตฺตา นาม นตฺถีติ วชฺชํ ปฏิจฺฉาเทนฺตีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ, กโรนฺติ วชฺชปฏิจฺฉาทนกมฺมนฺติ วา. นนุ วชฺชปฏิจฺฉาทนกมฺมํ นาม สาวชฺชนฺติ? สจฺจํ สาวชฺชํ สํกิลิฏฺจิตฺเตน ปฏิจฺฉาเทนฺตสฺส, อิทํ ปน อสํกิลิฏฺจิตฺเตน ปรสฺส อุปฺปชฺชนกอนตฺถํ ปริหรณวเสน ปวตฺตํ อธิปฺเปตํ. ‘‘าติสงฺคหํ กโรนฺเตนา’’ติ เอเตน าตตฺถจริยาวเสน ตํ กมฺมํ ปวตฺตตีติ ทสฺเสติ.

๒๒๑. อมิตฺตตาปนาติ อมิตฺตานํ ตปนสีลา, อมิตฺตตาปนํ โหตุ วา มา วา เอวํสภาวาติ อตฺโถ. น หิ จกฺกวตฺติโน ปุตฺตานํ อมิตฺตา นาม เกจิ โหนฺติ, เย เต ภเวยฺยุํ, จกฺกานุภาเวเนว สพฺเพปิ ขตฺติยาทโย อนุวตฺตกา เตสํ ภวนฺติ.

ปมภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปริมณฺฑลาทิลกฺขณวณฺณนา

๒๒๒. สมนฺติ สมานํ. เตน เตน โลเก วิฺาตคุเณน สมํ สมานํ ชานาติ, ยโต ตตฺถ ปฏิปชฺชนวิธินาว อิตรสฺมึ ปฏิปชฺชติ. สยํ ชานาตีติ อปรเนยฺโย หุตฺวา สยเมว ชานาติ. ปุริสํ ชานาตีติ วา ‘‘อยํ เสฏฺโ, อยํ มชฺฌิโม, อยํ นิหีโน’’ติ ตํ ตํ ปุริสํ ยาถาวโต ชานาติ. ปุริสวิเสสํ ชานาตีติ ตสฺมึ ตสฺมึ ปุริเส วิชฺชมานํ วิเสสํ ชานาติ, ยโต ตตฺถ ตตฺถ อนุรูปทานปทานาทิปฏิปตฺติยา ยุตฺตปตฺตการี โหติ. เตนาห ‘‘อยมิทมรหตี’’ติอาทิ.

สมฺปตฺติปฏิลาภฏฺเนาติ ทิฏฺธมฺมิกาทิสมฺปตฺตีนํ ปฏิลาภาปนฏฺเน. สมสงฺคหกมฺมนฺติ สมํ ชานิตฺวา ตทนุรูปํ ตสฺส ตสฺส สงฺคณฺหนกมฺมํ.

๒๒๓. ตุลยิตฺวาติ ตีรยิตฺวา. ปฏิวิจินิตฺวาติ วีมํสิตฺวา. นิปุณโยคโต นิปุณา, อติวิย นิปุณา อตินิปุณา, สา ปน เตสํ นิปุณตา สณฺหสุขุมา ปฺาติ อาห ‘‘สุขุมปฺา’’ติ.

สีหปุพฺพทฺธกายาทิลกฺขณวณฺณนา

๒๒๔. เขมกาโมติ อนุปทฺทวกาโม. กมฺมสฺสกตาาณํ สตฺตานํ วฑฺฒิอาวหํ สพฺพสมฺปตฺติวิธายกนฺติ อาห ‘‘ปฺายาติ กมฺมสฺสกตาปฺายา’’ติ.

สมนฺตปริปูรานีติ สมนฺตโต สพฺพภาเคหิ ปริปุณฺณานิ. ตโต เอว อหีนานิ อนูนานิ. ธนาทีหีติ ธนธฺาทีหิ.

๒๒๕. โอกปฺปนสทฺธา สทฺเธยฺยวตฺถุํ โอกฺกนฺทิตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา สทฺทหนสทฺธา. สา เอว ปสาทนียวตฺถุสฺมิมฺปิ อภิปฺปสีทนวเสน ปวตฺติยา ปสาทสทฺธา.ปริยตฺติสวเนนาติ สตฺตานํ หิตสุขาวหาย ปริยตฺติยา สวเนน. ธารณปริจยาทีนํ ตํมูลกตฺตา ตถา วุตฺตํ. เอเตสนฺติ สทฺธาทีนํ. สห หานธมฺเมนาติ สหานธมฺโม, น สหานธมฺโมติ อสหานธมฺโม, ตสฺส ภาโว อสหานธมฺมตา, ตํ อสหานธมฺมตํ, อปริหานิยสภาวนฺติ อตฺโถ.

รสคฺคสคฺคิตาลกฺขณวณฺณนา

๒๒๖. ติลผลมตฺตมฺปิ โภชนํ. สพฺพตฺถ ผรตีติ สพฺพา รสาหรณิโย อนุสฺสรนฺตํ สภาเวน สพฺพสฺมึ กาเย ผรติ. สมา หุตฺวา วหนฺตีติ อวิสมา อุชุกา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ.

อาโรคฺยกรณกมฺมนฺติ อโรคภาวกรํ สตฺตานํ อวิเหนกมฺมํ. มธุราทิเภทํ รสํ คสติ หรติ เอเตหิ, สยเมว วา ตํ คสนฺติ คิลนฺติ อนฺโต ปเวเสนฺตีติ รสคฺคสา, รสคฺคสานํ อคฺคา รสคฺคสคฺคา, เต เอตฺถ สนฺตีติ รสคฺคสคฺคี, ตเทว ลกฺขณํ. ภวติ หิ อภินฺเนปิ วตฺถุสฺมึ ตคฺคตวิเสสาวโพธนตฺถํ ภินฺนํ วิย กตฺวา โวหาโร ยถา ‘‘สิลาปุตฺตกสฺส สรีร’’นฺติ . รสคฺคสคฺคิตาสงฺขาตํ วา ลกฺขณํ รสคฺคสคฺคิลกฺขณํ.

๒๒๗. วธ-สทฺโท ‘‘อตฺตานํ วธิตฺวา วธิตฺวา โรทตี’’ติอาทีสุ (ปาจิ. ๘๗๙) พาธนตฺโถปิ โหตีติ ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘มารณวเธนา’’ติ วุตฺตํ, มารณสงฺขาเตน วเธนาติ อตฺโถ. พาธนตฺโถ เอว วา วธ-สทฺโท, มารเณน, พาธเนน จาติ อตฺโถ. อุพฺพาธนายาติ พนฺธนาคาเร ปกฺขิปิตฺวา อุทฺธํ อุทฺธํ พาธเนน. เตนาห ‘‘พนฺธนาคารปฺปเวสเนนา’’ติ.

อภินีลเนตฺตาทิลกฺขณวณฺณนา

๒๒๘. วิสฏนฺติ กุชฺฌนวเสน วินิสฏํ กตฺวา. เตนาห ‘‘กกฺกฏโก วิยา’’ติอาทิ. วิสาจีติ วิรูปํ สาจิตกํ, วิชิมฺหนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘วงฺกกฺขิโกฏิยา’’ติ , กุฏิลอกฺขิโกฏิปาเตนาติ อตฺโถ. วิเจยฺย เปกฺขิตาติ อุชุกํ อโนโลเกตฺวา ทิฏฺิปาตํ วิจาเรตฺวา โอโลเกตฺวา. เตนาห ‘‘โย กุชฺฌิตฺวา’’ติอาทิ. ปโรติ กุชฺฌิโต. น โอโลเกติ ตํ สมฺมุขา คจฺฉนฺตํ กุชฺฌิตฺวา น โอโลเกติ, ปรมฺมุขา. วิเตยฺยาติ วิรูปํ ติริยํ, วิฺูนํ โอโลกนกฺกมํ วีติกฺกมิตฺวาติ อตฺโถ. ชิมฺหํ อโนโลเกตฺวา อุชุกํ โอโลกนํ นาม กุฏิลภาวกรานํ ปาปธมฺมานํ อภาชนอุชุกตจิตฺตตสฺเสว โหตีติ อาห ‘‘อุชุมโน หุตฺวา อุชุํ เปกฺขิตา’’ติ. ยถา จ อุชุํ เปกฺขิตา โหตีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. ปสฏนฺติ อุมฺมีลนวเสน สมฺมเทว ปตฺถฏํ. วิปุลํ วิตฺถตนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. ปิยํ ปิยายิตพฺพํ ทสฺสนํ โอโลกนํ เอตสฺสาติ ปิยทสฺสโน.

กาโณติ อกฺขีนิ นิมฺมีเลตฺวา เปกฺขนโก. กากกฺขีติ เกกรกฺโข. วงฺกกฺขีติ ชิมฺหเปกฺขนโก. อาวิลกฺขีติ อากุลทิฏฺิปาโต. นีลปีตโลหิตเสตกาฬวณฺณานํ วเสน ปฺจวณฺโณ. ตตฺถ ปีตโลหิตวณฺณา เสตมณฺฑลคตราชิวเสน, นีลเสตกาฬวณฺณา ปน ตํตํมณฺฑลวเสเนว เวทิตพฺพา. ‘‘ปสาโทติ ปน เตสํ วณฺณานํ ปสนฺนาการํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ เกจิ. ปฺจวณฺโณ ปสาโทติ ปน ยถาวุตฺตปฺจวณฺณปริวาโร, เตหิ วา ปฏิมณฺฑิโต ปสาโทติ อตฺโถ. เนตฺตสมฺปตฺติกรานีติ ‘‘ปฺจวณฺณปสาทตา ติโรหิตวิทูรคตทสฺสนสมตฺถตา’’ติ เอวมาทิ จกฺขุสมฺปทาย การณานิ. ลกฺขณสตฺเถ ยุตฺตาติ ลกฺขณสตฺเถ อายุตฺตา สุกุสลา.

อุณฺหีสสีสลกฺขณวณฺณนา

๒๓๐. ปุพฺพงฺคโมติ เอตฺถ ปุพฺพงฺคมตา นาม ปมุขตา, เชฏฺเสฏฺกภาโว พหุชนสฺส อนุวตฺตนียตาติ อาห ‘‘คณเชฏฺโก’’ติอาทิ.

ปุพฺพงฺคมตาติ ปุพฺพงฺคมสฺส กมฺมํ. ยสฺส หิ กายสุจริตาทิกมฺมสฺส วเสน มหาปุริโส พหุชนสฺส ปุพฺพงฺคโม อโหสิ, ตทสฺส กมฺมํ ‘‘ปุพฺพงฺคมตา’’ติ อธิปฺเปตํ, น ปุพฺพงฺคมภาโว. เตนาห ‘‘อิธ กมฺมํ นาม ปุพฺพงฺคมตา’’ติ. ปีติปาโมชฺเชนปริปุณฺณสีโสติ ปีติยา, ปาโมชฺเชน จ สมฺปุณฺณปฺาสีโส พหุลํ โสมนสฺสสหคตาณสมฺปยุตฺตจิตฺตสมงฺคี เอว หุตฺวา วิจรติ. มหาปุริโสติ มหาปุริสชาติโก.

๒๓๑. พหุชนนฺติ สามิอตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘พหุชนสฺสา’’ติ. ปริภุฺชนฏฺเน ปฏิโภโค, อุปโยควตฺถุ ปฏิโภโค, ตสฺส หิตาติ ปฏิโภคิยา. เทสกาลํ ตฺวา ตทุปกรณูปฏฺานาทิ เวยฺยาวจฺจกรา สตฺตา. อภิหรนฺตีติ พฺยาหรนฺติ. ตสฺส ตสฺส เวยฺยาวจฺจสฺส ปฏิหรณโต ปวตฺตนกรณโต ปฏิหาโร, เวยฺยาวจฺจกโร, ตสฺส ภาโว ปฏิหารกนฺติ อาห ‘‘เวยฺยาวจฺจกรภาว’’นฺติ. วิสวนํ วิสโว, กามกาโร วสิตา, โส เอตสฺส อตฺถีติ วิสวีติ อาห ‘‘จิณฺณวสี’’ติ.

เอเกกโลมตาทิลกฺขณวณฺณนา

๒๓๒. อุปวตฺตตีติ อนุกูลภาวํ อุเปจฺจ วตฺตติ. เตนาห ‘‘อชฺฌาสยํ อนุวตฺตตี’’ติ.

เอเกกโลมลกฺขณนฺติ เอเกกสฺมึ โลมกูเป เอเกกโลมตาลกฺขณํ. เอเกเกหิ โลเมหีติ อฺเสํ สรีเร เอเกกสฺมิมฺปิ โลมกูเป อเนกานิปิ โลมานิ อุฏฺหนฺติ, น ตถาคตสฺส. เตหิ ปุน ปจฺเจกํ โลมกูเปสุ เอเกเกเหว อุปฺปนฺเนหิ กุณฺฑลาวตฺเตหิ ปทกฺขิณาวตฺตกชาเตหิ นิจิตํ วิย สรีรํ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘เอเกกโลมูปจิตงฺควา’’ติ.

จตฺตาลีสาทิลกฺขณวณฺณนา

๒๓๔. อภินฺทิตพฺพปริโสติ ปเรหิ เกนจิ สงฺคเหน สงฺคเหตฺวา, ยุตฺติการณํ ทสฺเสตฺวา วา น ภินฺทิตพฺพปริโส.

อปิสุณวาจายาติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ, เปสุฺสฺส ปฏิปกฺขภูตํ กุสลกมฺมํ. ปิสุณา วาจา เอตสฺสาติ ปิสุณวาโจ, ตสฺส ปิสุณวาจสฺส ปุคฺคลสฺส. อปริปุณฺณาติ จตฺตารีสโต อูนภาเวน น ปริปุณฺณา. วิรฬาติ สวิวรา.

ปหูตชิวฺหาทิลกฺขณวณฺณนา

๒๓๖. อาเทยฺยวาโจติ อาทรคารววเสน อาทาตพฺพวจโน. ‘‘เอวเมต’’นฺติ คเหตพฺพวจโน สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตสาสโน.

พทฺธชิวฺหาติ ยถา สุเขน ปริวตฺตติ, เอวํ สิราทีหิ ปลิพุทฺธชิวฺหา. คูฬฺหชิวฺหาติ รสพหลตาย คูฬฺหคณฺฑสทิสชิวฺหา. ทฺวิชิวฺหาติ อคฺเค กปฺปภาเวน ทฺวิธาภูตชิวฺหา. มมฺมนาติ อปฺปริปฺปุฏตลาปา. ขรผรุสกกฺกสาทิวเสน สทฺโท ภิชฺชติ ภินฺนกาโร โหติ. วิจฺฉินฺทิตฺวา ปวตฺตสฺสรตาย ฉินฺนสฺสรา วา. อเนกาการตาย ภินฺนสฺสรา วา. กากสฺส วิย อมนุฺสฺสรตาย กากสฺสรา วา. มธุโรติ อิฏฺเ, กมฺมผเลน วตฺถุโน สุวิสุทฺธตฺตา. เปมนีโยติ ปีติสฺชนโน, ปิยายิตพฺโพ วา.

๒๓๗. อกฺโกสยุตฺตตฺตาติ อกฺโกสุปสฺหิตตฺตา อกฺโกสวตฺถุสหิตตฺตา. อาพาธกรินฺติ ฆฏฺฏนวเสน ปเรสํ ปีฬาวหํ. พหุโน ชนสฺส อวมทฺทนโต, ปมทฺทาภาวกรณโต วา พหุชนปฺปมทฺทนํ. อพาฬฺหนฺติ วา เอตฺถ -กาโร วุทฺธิอตฺโถ ‘‘อเสกฺขา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ติกมาติกา ๑๑) วิย, ตสฺมา อติวิย พาฬฺหํ ผรุสํ คิรนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. น ภณีติ เจตฺถ ‘‘น อภณิ น ภณี’’ติ สรโลเปน นิทฺเทโส. สุสํหิตนฺติ สุฏฺุ สํหิตํ. เกน ปน สุฏฺุ สํหิตํ? ‘‘มธุร’’นฺติ อนนฺตรเมว วุตฺตตฺตา มธุรตายาติ วิฺายติ, กา ปนสฺส มธุรตาติ อาห ‘‘สุฏฺุ เปมสํหิต’’นฺติ. อุปโยคปุถุตฺตวิสโย ยํ วาจา-สทฺโทติ อาห ‘‘วาจาโย’’ติ, สา จสฺสา อุปโยคปุถุตฺตวิสยตา ‘‘หทยคามินิโย’’ติ ปเทน สมานาธิกรณตาย ทฏฺพฺพา. ‘‘กณฺณสุข’’นฺติ ปาเ ภาวนปุํสกนิทฺเทโสยนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เวทยถาติ กาลวิปลฺลาเสนายํ นิทฺเทโสติ อาห ‘‘เวทยิตฺถา’’ติ. พฺรหฺมสฺสรตนฺติ เสฏฺสฺสรตํ, พฺรหฺมุโน สรสทิสสฺสรตํ วา. พหูนํ พหุนฺติ พหูนํ ชนานํ พหุํ สุภณิตนฺติ โยชนา.

สีหหนุลกฺขณวณฺณนา

๒๓๘. อปฺปธํสิโกติ อปฺปธํสิโย. -การสฺส หิ -การํ กตฺวา อยํ นิทฺเทโส ยถา ‘‘นิยฺยานิกา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๙๗) คุณโตติ อตฺตนา อธิคตคุณโต. านโตติ ยถาิตฏฺานนฺตรโต.

ปลาปกถายาติ สมฺผปฺปลาปกถาย. อนฺโตปวิฏฺหนุกา เอกโต, อุภโต วา สํกุจิตวิสุกา. วงฺกหนุกา เอกปสฺเสน กุฏิลวิสุกา. ปพฺภารหนุกา ปุรโต โอลมฺพมานวิสุกา.

๒๓๙. วิกิณฺณวจนา นาม สมฺผปฺปลาปิโน, ตปฺปฏิกฺเขเปน อวิกิณฺณวจนา มหาโพธิสตฺตา. วาจา เอว ตทตฺถาธิคมุปายตาย ‘‘พฺยาปฺปโถ’’ติ วุตฺตาติ อาห ‘‘อวิกิณฺณ…เป… วจนปโถ อสฺสา’’ติ. ‘‘ทฺวีหิ ทฺวีหี’’ติ นยิทํ อาเมฑิตวจนํ อสมานาธิกรณโต, อถ โข ทฺวีหิ ทิคุณตาทสฺสนนฺติ อาห ‘‘ทฺวีหิ ทฺวีหีติ จตูหี’’ติ. ตสฺมา ‘‘ทฺวิทุคมา’’ติ จตุคมา วุตฺตาติ อาห ‘‘จตุปฺปทาน’’นฺติ. ตถาสภาโวติ ยถาสฺส วุตฺตนเยน เกนจิ อปฺปธํสิยตา โหติ คุเณหิ, ตถาสภาโว.

สมทนฺตาทิลกฺขณวณฺณนา

๒๔๐. วิสุทฺธสีลาจารตาย ปริสุทฺธา สมนฺตโต สพฺพถา วา สุทฺธา ปุคฺคลา ปริวารา เอตสฺสาติ ปริสุทฺธปริวาโร.

๒๔๑. ปหาสีติ ตทงฺควเสน, วิกฺขมฺภนวเสน จ ปริจฺจชิ. ติทิวํ ตาวตึสภวนํ ปุรํ นครํ เอเตสนฺติ ติทิวปุรา, ตาวตึสเทวา, เตสํ วโร ติทิวปุรวโร, อินฺโท. เตน ติทิวปุรวเรน. เตนาห ‘‘สกฺเกนา’’ติ. ลปนฺติ กเถนฺติ เอเตนาติ ลปนํ, มุขนฺติ อาห ‘‘ลปนชนฺติ มุขช’’นฺติ. สุฏฺุ ธวลตาย สุกฺกา, อีสกมฺปิ อสํกิลิฏฺตาย สุจิ. สุนฺทรสณฺานตาย สุฏฺุ ภาวนโต, วิปสฺสนโต จ โสภนา. กามํ ชนานํ มนุสฺสานํ นิวาสนฏฺานาทิภาเวน ปติฏฺาภูโต เทสวิเสโส ‘‘ชนปโท’’ติ วุจฺจติ, อิธ ปน สปริวารจตุมหาทีปสฺิโต สพฺโพ ปเทโส ตถา วุตฺโตติ อาห ‘‘จกฺกวาฬปริจฺฉินฺโน ชนปโท’’ติ. นนุ จ ยถาวุตฺโต ปเทโส สมุทฺทปริจฺฉินฺโน, น จกฺกวาฬปพฺพตปริจฺฉินฺโนติ? โส ปเทโส จกฺกวาฬปริจฺฉินฺโนปิ โหตีติ ตถา วุตฺตํ . เย วา สมุทฺทนิสฺสิตา, จกฺกวาฬปาทนิสฺสิตา จ สตฺตา, เตสํ เต เต ปเทสา ปติฏฺาติ เตปิ สงฺคณฺหนฺโต ‘‘จกฺกวาฬปริจฺฉินฺโน’’ติ อโวจ. จกฺกวาฬปริจฺฉินฺโนติ จ จกฺกวาเฬน ปริจฺฉินฺโนติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตสฺสาติ ตสฺส จกฺกวตฺติโน. ปุน ตสฺสาติ ตสฺส ชนปทสฺส. พหุชน สุขนฺติ เอตฺถ ปจฺจตฺตพหุวจนโลเปน พหุชนคฺคหณนฺติ อาห ‘‘พหุชนา’’ติ. ยถา ปน เต หิตสุขํ จรนฺติ, ตํ วิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘สมานสุขทุกฺขา หุตฺวา’’ติ วุตฺตํ. วิคตปาโปติ สพฺพโส สมุจฺฉินฺทเนน วินิทฺธุตปาปธมฺโม. ทรโถ วุจฺจติ กายิโก, เจตสิโก จ ปริฬาโห. ตตฺถ เจตสิกปริฬาโห ‘‘วิคตปาโป’’ติ อิมินาว วุตฺโตติ อาห ‘‘วิคตกายิกทรถกิลมโถ’’ติ. ราคาทโย ยสฺมึ สนฺตาเน อุปฺปนฺนา, ตสฺส มลีนภาวกรเณน มลา. กจวรภาเวน ขิลา. สตฺตานํ มหานตฺถกรตฺตา วิเสสโต โทโส กลีติ วุตฺตํ ‘‘โทสกลีนฺจา’’ติ. ปนูเทหีติ สมุจฺฉินฺทนวเสน สสนฺตานโต นีหารเกหิ, ปชหนเกหีติ อตฺโถ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

เอตฺถ จ ยสฺมา สพฺเพสมฺปิ ลกฺขณานํ มหาปุริสสนฺตานคตปุฺสมฺภารเหตุกภาเวน สพฺพํเยว ตํ ปุฺกมฺมํ สพฺพสฺส ลกฺขณสฺส การณํ วิสิฏฺรูปตฺตา ผลสฺส. น หิ อภินฺนรูปการณํ ภินฺนสภาวสฺส ผลสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ สกฺโกติ, ตสฺมา ยสฺส ยสฺส ลกฺขณสฺส ยํ ยํ ปุฺกมฺมํ วิเสสการณํ, ตํ ตํ วิภาเคน ทสฺเสนฺตี อยํ เทสนา ปวตฺตา. ตตฺถ ยถา ยาทิสํ กายสุจริตาทิปุฺกมฺมํ สุปฺปติฏฺิตปาทตาย การณํ วุตฺตํ, ตาทิสเมว ‘‘อุณฺหีสสีสตาย’’ การณนฺติ น สกฺกา วตฺตุํ ทฬฺหสมาทานตาวิสิฏฺสฺส ตสฺส สุปฺปติฏฺิตปาทตาย การณภาเวน วุตฺตตฺตา, อิตรสฺส จ ปุพฺพงฺคมตาวิสิฏฺสฺส วุตฺตตฺตา, เอวํ ยาทิสํ อายตปณฺหิตาย การณํ, น ตาทิสเมว ทีฆงฺคุลิตาย, พฺรหฺมุชุคตฺตตาย จ การณํ วิสิฏฺรูปตฺตา ผลสฺส. น หิ อภินฺนรูปการณํ ภินฺนสภาวสฺส ผลสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ สกฺโกติ. ตตฺถ ยถา เอเกเนว กมฺมุนา จกฺขาทินานินฺทฺริยุปฺปตฺติยํ อวตฺถาเภทโต, สามตฺถิยเภทโต วา กมฺมเภโท อิจฺฉิตพฺโพ. น หิ ยทวตฺถํ กมฺมํ จกฺขุสฺส การณํ, ตทวตฺถเมว โสตาทีนํ การณํ โหติ อภินฺนสามตฺถิยํ วา, ตสฺมา ปฺจายตนิกตฺตภาวปตฺถนาภูตา ปุริมนิปฺผนฺนา กามตณฺหา ปจฺจยวเสน วิสิฏฺสภาวา กมฺมสฺส วิสิฏฺสภาวผลนิพฺพตฺตนสมตฺถตาสาธนวเสน ปจฺจโย โหตีติ เอกมฺปิ อเนกวิธผลนิพฺพตฺตนสมตฺถตาวเสน อเนกรูปตํ อาปนฺนํ วิย โหติ, เอวมิธาปิ ‘‘เอกมฺปิ ปาณาติปาตา เวรมณิวเสน ปวตฺตํ กุสลกมฺมํ อายตปณฺหิตาทีนํ ติณฺณมฺปิ ลกฺขณานํ นิพฺพตฺตกํ โหตี’’ติ วุจฺจมาเนปิ น โกจิ วิโรโธ. เตน วุตฺตํ ‘‘โส ตสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา…เป… อิมานิ ตีณิ มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภตี’’ติ นานากมฺมุนา ปน เตสํ นิพฺพตฺติยํ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, ปาฬิยํ ปน ‘‘ตสฺส กมฺมสฺสา’’ติ เอกวจนนิทฺเทโส สามฺวเสนาติ ทฏฺพฺโพ. เอวฺจ กตฺวา สตปุฺลกฺขณวจนํ สมตฺถิตํ โหติ. ‘‘อิมานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภตี’’ติอาทีสุปิ เอเสว นโยติ.

ลกฺขณสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.