📜
๘. สิงฺคาลสุตฺตวณฺณนา
นิทานวณฺณนา
๒๔๒. ปากาเรน ¶ ¶ ¶ ปริกฺขิตฺตนฺติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. โคปุรฏฺฏาลกยุตฺตนฺติ ทฺวารปาสาเทน เจว ตตฺถ ตตฺถ ปาการมตฺถเก ปติฏฺาปิตอฏฺฏาลเกหิ จ ยุตฺตํ. เวฬูหิ ปริกฺขิตฺตตฺตา, อพฺภนฺตเร ปุปฺผูปคผลูปครุกฺขสฺฉนฺนตฺตา จ นีโลภาสํ. ฉายูทกสมฺปตฺติยา, ภูมิภาคสมฺปตฺติยา จ มโนรมํ.
กาฬกเวเสนาติ กลนฺทกรูเปน. นิวาปนฺติ โภชนํ. ตนฺติ อุยฺยานํ.
‘‘โข ปนา’’ติ วจนาลงฺการมตฺตเมตนฺติ เตน สมเยนาติ อตฺถวจนํ ยุตฺตํ. คหปติ มหาสาโลติ คหปติภูโต มหาสาโร, ร-การสฺส ล-การํ กตฺวา อยํ นิทฺเทโส. วิภวสมฺปตฺติยา มหาสารปฺปตฺโต กุฏุมฺพิโก. ‘‘ปุตฺโต ปนสฺส อสฺสทฺโธ’’ติอาทิ อฏฺุปฺปตฺติโก ยํ สุตฺตนิกฺเขโปติ ตํ อฏฺุปฺปตฺตึ ทสฺเสตุํ อารทฺธํ. กมฺมผลสทฺธาย อภาเวน อสฺสทฺโธ. รตนตฺตเย ปสาทาภาเวน อปฺปสนฺโน. เอวมาหาติ เอวํ อิทานิ วุจฺจมานากาเรน วทติ.
ยาวชีวํ อนุสฺสรณียา โหติ หิเตสิตาย วุตฺตา ปจฺฉิมา วาจาติ อธิปฺปาเยน. ปุถุทิสาติ วิสุํ วิสุํ ทิสา, ตา ปน อเนกาติ อาห ‘‘พหุทิสา’’ติ.
๒๔๓. ‘‘น ตาว ปวิฏฺโ’’ติอาทีสุ วตฺตพฺพํ เหฏฺา วุตฺตเมว. น อิทาเนวาติ น อิมาย เอว เวลาย. กึ จรหีติ อาห ‘‘ปจฺจูสสมเยปี’’ติอาทิ. คิหิวินยนฺติ คิหีนํ คหฏฺานํ วินยตนฺติภูตํ ‘‘คิหินา เอวํ วตฺติตพฺพ’’นฺติ คหฏฺาจารสฺส คหฏฺวตฺตสฺส อนวเสสโต อิมสฺมึ ¶ สุตฺเต สวิเสสํ ¶ กตฺวา วุตฺตตฺตา. ตเถวาติ ยถา พุทฺธจกฺขุนา ทิฏฺํ, ตเถว ปสฺสิ. นมสฺสติ วตฺตวเสน กตฺตพฺพนฺติ คเหตฺวา ิตตฺตา.
ฉทิสาทิวณฺณนา
๒๔๔. วจนํ สุตฺวาว จินฺเตสิ พุทฺธานุภาเวน อตฺตสมฺมาปณิธานนิมิตฺเตน ปฺุพเลน จ โจทิยมาโน. น กิร ตา เอตาติ ตา ฉ ¶ ทิสา เอตา อิทานิ มยา นมสฺสิยมานา ปุรตฺถิมาทิกา น โหนฺติ กิราติ. นิปาตมตฺตนฺติ อนตฺถกภาวํ ตสฺส วทติ. ปุจฺฉาปทนฺติ ปุจฺฉาวจนํ.
ภควา คหปติปุตฺเตน นมสฺสิตพฺพา ฉ ทิสา ปุจฺฉิโต เทสนากุสลตาย อาทิโต เอว ตา อกเถตฺวา ตสฺส ตาว ปฏิปตฺติยา นํ ภาชนภูตํ กาตุํ วชฺชนียวชฺชนตฺถฺเจว เสวิตพฺพเสวนตฺถฺจ โอวาทํ เทนฺโต ‘‘ยโต โข คหปติปุตฺตา’’ติอาทินา เทสนํ อารภิ. ตตฺถ กมฺมกิเลสาติ กมฺมภูตา สํกิเลสา. กิลิสฺสนฺตีติ กิลิฏฺา มลีนา วิย ิตา, อุปตาปิตา จ โหนฺตีติ อตฺโถ. ตสฺมาติ กิลิสฺสนนิมิตฺตตฺตา. ยทิปิ สุราปานํ ปฺจเวรภาเวน อุปาสเกหิ ปริวชฺชนียํ, ตสฺส ปน อปายมุขภาเวน ปรโต วตฺตุกามตาย ปาณาติปาตาทิเก เอว สนฺธาย ‘‘จตฺตาโร’’ติ วุตฺตํ, น ‘‘ปฺจา’’ติ. ‘‘วิสุํ อกมฺมปถภาวโต จา’’ติ อปเร. ‘‘สุราปานมฺปิ ‘สุราเมรยปานํ, ภิกฺขเว, อาเสวิตํ ภาวิตํ พหุลีกตํ นิรยสํวตฺตนิก’นฺติอาทิ (อ. นิ. ๘.๔๐) วจนโต วิสุํ กมฺมปถภาเวน อาคตํ. ตถา หิ ตํ ทุจฺจริตกมฺมํ หุตฺวา ทุคฺคติคามิปิฏฺิวตฺตกภาเวน นิยต’’นฺติ เกจิ, เตสํ มเตน เอกาทส กมฺมปถา สิยุํ ¶ . ตสฺมา ยถาวุตฺเตสฺเวว กมฺมปเถสุ อุปการกตฺตสภาคตฺตวเสน อนุปฺปเวโส ทฏฺพฺโพติ ‘‘วิสุํ อกมฺมปถภาวโต จา’’ติ สุวุตฺตเมตํ. สุราปานสฺส โภคาปายมุขภาเวน วตฺตุกามตาย ‘‘จตฺตาโร’’ ตฺเวว อโวจ. ติฏฺติ เอตฺถ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ านํ, เหตูติ อาห ‘‘าเนหีติ การเณหี’’ติ. อเปนฺติ อปคจฺฉนฺติ, อเปติ วา เอเตหีติ อปายา, อปายานํ, อปายา เอว วา มุขานิ ทฺวารานีติ อปายมุขานิ. วินาสมุขานีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
กิฺจาปิ ‘‘อริยสาวกสฺสา’’ติ ปุพฺเพ สาธารณโต วุตฺตํ, วิเสสโต ปน ปมาย ภูมิยํ ิตสฺเสว วกฺขมานนโย ยุชฺชตีติ ‘‘โสติ โส โสตาปนฺโน’’ติ วุตฺตํ. ปาปก-สทฺโท นิหีนปริยาโยติ ‘‘ลามเกหี’’ติ วุตฺตํ. อปายทุกฺขํ, วฏฺฏทุกฺขฺจ ปาเปนฺตีติ วา ปาปกา, เตหิ ¶ ปาปเกหิ. ฉ ทิสา ปฏิจฺฉาเทนฺโตติ เตน เตน ภาเคน ทิสฺสนฺตีติ ‘‘ทิสา’’ติ สฺิเต ฉ ภาเค สตฺเต ยถา เตหิ สทฺธึ อตฺตโน ฉิทฺทํ น โหติ, เอวํ ปฏิจฺฉาเทนฺโต ปฏิสนฺธาเรนฺโต. วิชินนตฺถายาติ ¶ อภิภวนตฺถาย. โย หิ ทิฏฺธมฺมิกํ, สมฺปรายิกฺจ อนตฺถํ ปริวชฺชนวเสน อภิภวติ, ตโต เอว ตทุภยตฺถํ สมฺปาเทติ, โส อุภยโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน นาม โหติ ปจฺจตฺถิกนิคฺคณฺหนโต, สกตฺถสมฺปาทนโต จ. เตนาห ‘‘อยฺเจว โลโก’’ติอาทิ. ปาณาติปาตาทีนิ ปฺจ เวรานิ เวรปฺปสวนโต. อารทฺโธ โหตีติ สํสาธิโต โหติ, ตยิทํ สํสาธนํ กิตฺติสทฺเทน อิธ สตฺตานํ จิตฺตโตสเนน ¶ , เวราภาวาปาทเนน จ โหตีติ อาห ‘‘ปริโตสิโต เจว นิปฺผาทิโต จา’’ติ. ปุน ปฺจ เวรานีติ ปฺจ เวรผลานิ อุตฺตรปทโลเปน.
กตมสฺสาติ กตเม อสฺส. กิเลสสมฺปยุตฺตตฺตา กิเลโสติ ตํโยคโต ตํสทิสํ วทติ ยถา ‘‘ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ, (ที. นิ. ๑.๒๒๖; ม. นิ. ๑.๒๗๑, ๒๘๗, ๒๙๗; สํ. นิ. ๒.๑๕๒; อ. นิ. ๔.๑๒๓; ๕.๒๘; ปารา. ๑๑; ธ. ส. ๔๙๙; วิภ. ๕๐๘) นีลํ วตฺถ’’นฺติ จ. สมฺปยุตฺตตา เจตฺถ ตเทกฏฺตาย เวทิตพฺพา, น เอกุปฺปาทาทิตาย. เอวฺจ กตฺวา ปาณาติปาตกมฺมสฺส ทิฏฺิมานโลภาทีหิปิ กิลิฏฺตา สิทฺธา โหติ, มิจฺฉาจารสฺส โทสาทีหิ กิลิฏฺตา. เตนาห ‘‘สํกิเลโสเยวา’’ติอาทิ. ปุพฺเพ วุตฺตอตฺถวเสน ปน สมฺมุเขนปิ เนสํ กิเลสปริยาโย ลพฺภเตว. เอตทตฺถปริทีปกเมวาติ โย ‘‘ปาณาติปาโต โข’’ติอาทินา วุตฺโต, เอตสฺส อตฺถสฺส ปริทีปกเมว. ยทิ เอวํ กสฺมา ปุน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘คาถาพนฺธ’’นฺติ, ตสฺส อตฺถสฺส สุขคฺคหณตฺถํ ภควา คาถาพนฺธํ อโวจาติ อธิปฺปาโย.
จตุานาทิวณฺณนา
๒๔๖. ‘‘ปาปกมฺมํ กโรตี’’ติ กสฺมา อยํ อุทฺเทสนิทฺเทโส ปวตฺโตติ อนฺโตลีนโจทนํ สนฺธาย ‘‘อิทํ ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สุกฺกปกฺขวเสน หิ อุทฺเทโส กโต, กณฺหปกฺขวเสน จ นิทฺเทโส อารทฺโธ. การเกติ ปาปกมฺมสฺส การเก. อการโก ปากโฏ โหติ ยถา ปฏิปชฺชนฺโต ปาปํ กโรติ นาม, ตถา อปฺปฏิปชฺชนโต. สํกิเลสธมฺมวิวชฺชนปุพฺพกํ โวทานธมฺมปฏิปตฺติอาจิกฺขนํ อิธ เทสนาโกสลฺลํ. ปมตรํ การกํ ทสฺเสนฺโต อาห ยถา ‘‘วามํ มฺุจ ทกฺขิณํ คณฺหา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘) ตถา ¶ ¶ หิ ภควา อฏฺตึส มงฺคลานิ ทสฺเสนฺโต ‘‘อเสวนา จ พาลาน’’นฺติ (ขุ. ปา. ๕.๓; สุ. นิ. ๒๖๒) วตฺวา ‘‘ปณฺฑิตานฺจ ¶ เสวนา’’ติ (ขุ. ปา. ๕.๓; สุ. นิ. ๒๖๒) อโวจ. ฉนฺทาคตินฺติ เอตฺถ สนฺธิวเสน สรโลโปติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ฉนฺเทน เปเมน อคติ’’นฺติ. ฉนฺทาติ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกวจนนฺติ อาห ‘‘ฉนฺเทนา’’ติ. ฉนฺท-สทฺโท เจตฺถ ตณฺหาปริยาโย, น กุสลจฺฉนฺทาทิปริยาโยติ อาห ‘‘เปเมนา’’ติ. ปรปเทสูติ ‘‘โทสาคตึ คจฺฉนฺโต’’ติอาทีสุ วากฺเยสุ. ‘‘เอเสว นโย’’ติ อิมินา ‘‘โทเสน โกเปนา’’ติ เอวมาทิ อตฺถวจนํ อติทิสติ. มิตฺโตติ ทฬฺหมิตฺโต, สมฺภตฺโตติ อตฺโถ. สนฺทิฏฺโติ ทิฏฺมตฺตสหาโย. ปกติเวรวเสนาติ ปกติยา อุปฺปนฺนเวรวเสน, จิรกาลานุพนฺธวิโรธวเสนาติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘ตงฺขณุปฺปนฺนโกธวเสน วา’’ติ. ยํ วา ตํ วา อยุตฺตํ อการณํ วตฺวา. วิสเม โจราทิเก, วิสมานิ วา กายทุจฺจริตาทีนิ สมาทาย วตฺตเนน นิสฺสิโต วิสมนิสฺสิโต.
ฉนฺทาคติอาทีนิ น คจฺฉติ มคฺเคเนว จตุนฺนมฺปิ อคติคมนานํ ปหีนตฺตา, อคติคมนานีติ จ ตถาปวตฺตา อปายคมนียา อกุสลจิตฺตุปฺปาทา เวทิตพฺพา อคติ คจฺฉติ เอเตหีติ.
ยสฺสติ เตน กิตฺตียตีติ ยโส, ถุติโฆโส. ยสฺสติ เตน ปุเรจรานุจรภาเวน ปริวารียตีติ ยโส, ปริวาโรติ อาห ‘‘กิตฺติยโสปิ ปริวารยโสปี’’ติ. ปริหายตีติ ปุพฺเพ โย จ ยาวตเก ลพฺภติ, ตโต ปริโต หายติ ปริกฺขยํ คจฺฉติ.
ฉอปายมุขาทิวณฺณนา
๒๔๗. ปูเว ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ตชฺชํ อุทกํ ทตฺวา มทฺทิตฺวา กตา ¶ ปูวสุรา. เอวํ เสสสุราปิ. กิณฺณาติ ปน ตสฺสา สุราย พีชํ วุจฺจติ, เย ‘‘สุราโมทกา’’ ติปิ วุจฺจนฺติ, เต ปกฺขิปิตฺวา กตา กิณฺณปกฺขิตฺตา. หรีตกีสาสปาทินานาสมฺภาเรหิ สํโยชิตา สมฺภารสํยุตฺตา. มธุกตาลนาฬิเกราทิปุปฺผรโส จิรปาริวาสิโก ปุปฺผาสโว. ปนสาทิผลรโส ผลาสโว. มุทฺทิการโส มธฺวาสโว. อุจฺฉุรโส คุฬาสโว. หรีตกามลกกฏุกภณฺฑาทินานาสมฺภารานํ รโส จิรปาริวาสิโก สมฺภารสํยุตฺโต. ตํ สพฺพมฺปีติ ตํ สพฺพํ ทสวิธมฺปิ. มทกรณวเสน ¶ มชฺชํ ปิวนฺตํ มทยตีติ กตฺวา. สุราเมรยมชฺเช ปมาทฏฺานํ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานํ. อนุ อนุ โยโคติ ปุนปฺปุนํ ตํสมงฺคิตา. เตนาห ‘‘ปุนปฺปุนํ กรณ’’นฺติ, อปราปรํ ปวตฺตนนฺติ อตฺโถ. อุปฺปนฺนา เจว โภคา ปริหายนฺติ ปานพฺยสเนน พฺยสนกรณโต. อนุปฺปนฺนา จ นุปฺปชฺชนฺติ ปมตฺตสฺส กมฺมนฺเตสุ ายกรณาภาวโต. โภคานนฺติ ภฺุชิตพฺพฏฺเน ¶ ‘‘โภคา’’ติ ลทฺธนามานํ กามคุณานํ. อปายมุข-สทฺทสฺส อตฺโถ เหฏฺา วุตฺโต เอว. อเวลายาติ อยุตฺตเวลาย. ยทา วิจรโต อตฺถรกฺขาทโย น โหนฺติ. วิสิขาสุ จริยาติ รจฺฉาสุ วิจรณํ.
สมชฺชา วุจฺจติ มโห, ยตฺถ นจฺจานิปิ ปโยชียนฺติ, เตสํ ทสฺสนาทิอตฺถํ ตตฺถ อภิรติวเสน จรณํ อุปคมนํ สมชฺชาภิจรณํ. นจฺจาทิทสฺสนวเสนาติ นจฺจาทีนํ ทสฺสนาทิวเสนาติ อาทิสทฺทโลโป ทฏฺพฺโพ, ทสฺสเนน วา สวนมฺปิ คหิตํ วิรูเปกเสสนเยน. อาโลจนสภาวตาย วา ปฺจวิฺาณานํ สวนกิริยายปิ ทสฺสนสงฺเขปสมฺภวโต ‘‘ทสฺสนวเสน’’ อิจฺเจว วุตฺตํ. อิธ ¶ จิตฺตาลสิยตา อการณนฺติ ‘‘กายาลสิยตา’’ติ วุตฺตํ. ยุตฺตปฺปยุตฺตตาติ ตปฺปสุตตา อติเรกตรตาย.
สุราเมรยสฺส ฉอาทีนวาทิวณฺณนา
๒๔๘. สยํ ทฏฺพฺพนฺติ สนฺทิฏฺํ. สนฺทิฏฺเมว สนฺทิฏฺิกํ, ธนชานิสทฺทาเปกฺขาย ปน อิตฺถิลิงฺควเสน นิทฺเทโส, ทิฏฺธมฺมิกาติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘อิธโลกภาวินี’’ติ. สมํ, สมฺมา ปสฺสิตพฺพาติ วา สนฺทิฏฺิกา, ปานสมกาลภาวินีติ อตฺโถ. กลหปฺปวฑฺฒนี มิตฺตสฺส กลเห อนาทีนวทสฺสิภาวโต. เขตฺตํ อุปฺปตฺติฏฺานภาวโต. อายตนนฺติ วา การณํ, อากโร วาติ อตฺโถ. ปรโลเก อกิตฺตึ ปาปุณนฺติ อกิตฺติสํวตฺตนิยสฺส กมฺมสฺส ปสวนโต. โกปีนํ วา ปากฏภาเวน อกตฺตพฺพรหสฺสกมฺมํ. สุรามทมตฺตา จ ปุพฺเพ อตฺตนา กตํ ตาทิสํ กมฺมํ อมตฺตกาเล ฉาเทนฺตา วิจริตฺวา มตฺตกาเล ปจฺจตฺถิกานมฺปิ วิวรนฺติ ปากฏํ กโรนฺติ, เตน เตสํ สา สุรา ตสฺส โกปีนสฺส นิทํสนโต ‘‘โกปีนนิทํสนี’’ติ วุจฺจตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. กมฺมสฺสกตาปฺนฺติ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ยํ กิฺจิ โลกิยํ ปฺํ ทุพฺพลํ กโรติเยวา’’ติ หิ สกฺกา วิฺาตุํ. ตถา หิ พฺยติเรกมุเขน ตมตฺถํ ปติฏฺเปตุํ ¶ ‘‘มคฺคปฺํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อนฺโตมุขเมว น ปวิสตี’’ติ อิมินา สุราย มคฺคปฺาทุพฺพลกรณสฺส ทุรสมุสฺสาริตภาวมาห ¶ . นนุ เจวํ สุราย ตสฺสา ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ สามตฺถิยวิฆาโต อโจทิโต โหติ อริยานํ อนุปฺปโยคสฺเสว โจทิตตฺตาติ? นยิทํ เอวํ อุปโยโคปิ นาม สทา เตสํ นตฺถิ, กุโต กิจฺจกรณนฺติ อิมสฺส อตฺถสฺส วุตฺตตฺตา. อถ ปน อฏฺานปริกปฺปวเสนสฺสา กทาจิ สิยา อุปโยโค, ตถาปิ โส ตสฺสา ทุพฺพลิยํ อีสกมฺปิ กาตุํ นาลเมว สมฺมเทว ปฏิปกฺขทูรีภาเวน สุปฺปติฏฺิตภาวโต. เตนาห ‘‘มคฺคปฺํ ปน ทุพฺพลํ กาตุํ น สกฺโกตี’’ติ. มคฺคสีเสน เจตฺถ อริยานํ สพฺพสฺสาปิ โลกิยโลกุตฺตราย ¶ ปฺาย ทุพฺพลภาวาปาทาเน อสมตฺถตา ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ. ปชฺชติ เอเตน ผลนฺติ ปทํ, การณํ.
๒๔๙. อตฺตาปิสฺส อกาลจาริสฺส อคุตฺโต สรสโต อรกฺขิโต อุปกฺกมโตปิ ปริวชฺชนียานํ อปริวชฺชนโต. เตนาห ‘‘อเวลาย จรนฺโต หี’’ติอาทิ. กณฺฏกาทีนิปีติ ปิ-สทฺเทน โสพฺภาทิเก สงฺคณฺหาติ. เวริโนปีติ ปิ-สทฺเทน โจราทิกา สงฺคยฺหนฺติ. ปุตฺตทาราติ เอตฺถ ปุตฺตคฺคหเณน ปุตฺตีปิ คหิตาติ อาห ‘‘ปุตฺตธีตโร’’ติ. พหิ ปตฺถนนฺติ กามปตฺถนาวเสน อนฺโตเคหสฺสิตโต นิพทฺธวตฺถุโต พหิทฺธา ปตฺถนํ กตฺวา. อฺเหิ กตปาปกมฺเมสูติ ปเรหิ กตาสุ ปาปกิริยาสุ. สงฺกิตพฺโพ โหติ อกาเล ตตฺถ ตตฺถ จรณโต. รุหติ ยสฺมึ ปเทเส โจริกา ปวตฺตา, ตตฺถ ปเรหิ ทิฏฺตฺตา. วตฺตุํ น สกฺกาติ ‘‘เอตฺตกํ ทุกฺขํ, เอตฺตกํ โทมนสฺส’’นฺติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วตฺตุํ น สกฺกา. ตํ สพฺพมฺปิ วิกาลจาริมฺหิ ปุคฺคเล อาหริตพฺพํ ตสฺส อุปริ ปกฺขิปิตพฺพํ โหติ. กถํ? อฺสฺมึ ปุคฺคเล ตถารูเป อาสงฺกิตพฺเพ อสติ. อิตีติ เอวํ. โสติ วิกาลจารี. ปุรกฺขโต ¶ ปุรโต อตฺตโน อุปริ อาสงฺกนฺเต กตฺวา จรติ.
๒๕๐. นฏนาฏกาทินจฺจนฺติ นเฏหิ นาฏเกหิ นจฺจิตพฺพนาฏกาทินจฺจวิธิ. อาทิ-สทฺเทน อวสิฏฺํ สพฺพํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘ตตฺถ คนฺตพฺพํ โหตี’’ติ วตฺวา ตตฺถสฺส คมเนน ยถา อนุปฺปนฺนานํ โภคานํ อนุปฺปาโท, อุปฺปนฺนานฺจ วินาโส โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. คีตนฺติ สรคตํ, ปกรณคตํ ¶ , ตาฬคตํ, อปธานคตนฺติ คนฺธพฺพสตฺถวิหิตํ อฺมฺปิ สพฺพํ คีตํ เวทิตพฺพํ. วาทิตนฺติ วีณาเวณุมุทิงฺคาทิวาทนํ. อกฺขานนฺติ ภารตยุทฺธสีตาหรณาทิอกฺขานํ. ปาณิสฺสรนฺติ กํสตาฬํ, ‘‘ปาณิตาฬ’’นฺติปิ วทนฺติ. กุมฺภถูนนฺติ จตุรสฺสอมฺพณกตาฬํ. ‘‘กุฏเภริสทฺโท’’ติ เกจิ. ‘‘เอเสว นโย’’ติ อิมินา ‘‘กสฺมึ าเน’’ติอาทินา นจฺเจ วุตฺตมตฺถํ คีตาทีสุ อติทิสติ.
๒๕๑. ชยนฺติ ชูตํ ชินนฺโต. เวรนฺติ ชิเตน กีฬกปุริเสน ชยนิมิตฺตํ อตฺตโน อุปริ เวรํ วิโรธํ ปสวติ อุปฺปาเทติ. ตฺหิสฺส เวรปสวนํ ทสฺเสตุํ ‘‘ชิตํ มยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ชิโนติ ชูตปราชยาปนฺนาย ธนชานิยา ชิโน. เตนาห ‘‘อฺเน ชิโต สมาโน’’ติอาทิ. วิตฺตํ อนุโสจตีติ ตํ ชินํ วิตฺตํ อุทฺทิสฺส อนุตฺถุนติ. วินิจฺฉยฏฺาเนติ ยสฺมึ กิสฺมิฺจิ อฏฺฏวินิจฺฉยฏฺาเน. สกฺขิปุฏฺสฺสาติ ¶ สกฺขิภาเวน ปุฏฺสฺส. อกฺขโสณฺโฑติ อกฺขธุตฺโต. ชูตกโรติ ชูตปมาทฏฺานานุยุตฺโต. ตฺวมฺปิ นาม กุลปุตฺโตติ กุลปุตฺโต นาม ตฺวํ, น ¶ มยํ ตยิ โกลปุตฺติยํ อิทานิ ปสฺสามาติ อธิปฺปาโย. ฉินฺนภินฺนโกติ ฉินฺนภินฺนหิโรตฺตปฺโป, อหิริโก อโนตฺตปฺปีติ อตฺโถ. ตสฺส การณาติ ตสฺส อตฺถาย.
อนิจฺฉิโตติ น อิจฺฉิโต. โปสิตพฺพา ภวิสฺสติ ชูตปราชเยน สพฺพกาลํ ริตฺตตุจฺฉภาวโต.
ปาปมิตฺตตาย ฉอาทีนวาทิวณฺณนา
๒๕๒. อกฺขธุตฺตาติ อกฺเขสุ ธุตฺตา, อกฺขนิมิตฺตํ อตฺถวินาสกา. อิตฺถิโสณฺฑาติ อิตฺถีสุ โสณฺฑา, อิตฺถิสมฺโภคนิมิตฺตํ อาตปฺปนกา. ตถา ภตฺตโสณฺฑาทโย เวทิตพฺพา. ปิปาสาติ อุปรูปริ สุราปิปาสา. เตนาห ‘‘ปานโสณฺฑา’’ติ. เนกติกาทโย เหฏฺา วุตฺตา เอว. เมตฺติอุปฺปตฺติฏฺานตาย มิตฺตา โหนฺติ. ตสฺมาติ ปาปมิตฺตตาย.
๒๕๓. กมฺมนฺตนฺติ กมฺมํ, ยถา สุตฺตํเยว สุตฺตนฺโต, เอวํ กมฺมํเยว กมฺมนฺโต, ตํ กาตุํ คจฺฉามาติ วุตฺโต. กมฺมํ วา อนฺโต นิฏฺานํ คจฺฉติ เอตฺถาติ กมฺมนฺโต, กมฺมกรณฏฺานํ, ตํ คจฺฉามาติ วุตฺโต.
ปนฺนสขาติ ¶ สุรํ ปาตุํ ปนฺเน ปฏิปชฺชนฺเต เอว สขาติ ปนฺนสขา. เตนาห ‘‘อยเมวตฺโถ’’ติ. ‘‘สมฺมิยสมฺมิโย’’ติ วจนเมตฺถ อตฺถีติ สมฺมิยสมฺมิโย. เตนาห ‘‘สมฺมสมฺมาติ วทนฺโต’’ติ. สหาโย โหตีติ สหาโย วิย โหติ. โอตารเมว คเวสตีติ รนฺธเมว ปริเยสติ อนตฺถมสฺส กาตุกาโม. เวรปฺปสโวติ ปเรหิ อตฺตนิ เวรสฺส ปสวนํ อนุปวตฺตนํ. เตนาห ‘‘เวรพหุลตา’’ติ. ปเรสํ กริยมาโน อนตฺโถ เอตฺถ อตฺถีติ อนตฺโถ, ตพฺภาโว อนตฺถตาติ อาห ‘‘อนตฺถการิตา’’ติ. โย หิ ปเรสํ ¶ อนตฺถํ กโรติ, โส อตฺถโต อตฺตโน อนตฺถกาโร นาม, ตสฺมา อนตฺถตาติ อุภยานตฺถการิตา. อริโย วุจฺจติ สตฺโต, กุจฺฉิโต อริโย กทริโย. ยสฺส ธมฺมสฺส วเสน โส ‘‘กทริโย’’ติ วุจฺจติ, โส ธมฺโม กทริยตา, มจฺฉริยํ. ตํ ปน ทุพฺพิสชฺชนียภาเว ิตํ สนฺธายาห ‘‘สุฏฺุ กทริยตา ถทฺธมจฺฉริยภา’’โวติ. อวิปณฺณสภาวโต อุฏฺาตุํ อสกฺโกนฺโต จ อิณํ คณฺหนฺโต สํสีทนฺโตว อิณํ วิคาหติ นาม. สูริเย อนุคฺคเต เอว กมฺมนฺเต อนารภนฺโต รตฺตึ อนุฏฺานสีโล.
อตฺถาติ ธนานิ. อติกฺกมนฺตีติ อปคจฺฉนฺติ. อถ วา อตฺถาติ กิจฺจานิ. อติกฺกมนฺตีติ ¶ อติกฺกนฺตกาลานิ โหนฺติ, เตสํ อติกฺกโมปิ อตฺถโต ธนานเมว อติกฺกโม. อิมินา กถามคฺเคนาติ อิมินา ‘‘ยโต โข คหปติปุตฺตา’’ติอาทิ (ที. นิ. ๓.๒๔๔) นยปฺปวตฺเตน กถาสงฺขาเตน หิตาธิคมูปาเยน. เอตฺตกํ กมฺมนฺติ จตฺตาโร กมฺมกิเลสา, จตฺตาริ อคติคมนานิ, ฉ โภคานํ อปายมุขานีติ เอวํ วุตฺตํ จุทฺทสวิธํ ปาปกมฺมํ.
มิตฺตปติรูปกวณฺณนา
๒๕๔. อนตฺโถติ ‘‘โภคชานิ, อายสกฺยํ, ปริสมชฺเฌ มงฺกุภาโว, สมฺมูฬฺหมรณ’’นฺติ เอวํ อาทิโก ทิฏฺธมฺมิโก ‘‘ทุคฺคติปริกิเลโส, สุคติยฺจ อปฺปายุกตา, พหฺวาพาธตา, อติทลิทฺทตา, อปฺปนฺนปานตา’’ติ เอวํ อาทิโก จ อนตฺโถ อุปฺปชฺชติ. ยานิ กานิจิ ภยานีติ อตฺตานุวาทภยปรานุวาทภยทณฺฑภยาทีนิ โลเก ลพฺภมานานิ ยานิ กานิจิ ภยานิ. อุปทฺทวาติ อนฺตรายา. อุปสคฺคาติ สรีเรน สํสฏฺานิ วิย ¶ อุปรูปริ อุปฺปชฺชนกานิ พฺยสนานิ. อฺทตฺถูติ เอกนฺเตนาติ เอตสฺมึ อตฺเถ นิปาโต ‘‘อฺทตฺถุทโส’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๔๒) วิยาติ วุตฺตํ ‘‘เอกํเสนา’’ติ. ยํ กิฺจิ คหณโยคฺยํ หรติเยว คณฺหาติเยว. วาจา ¶ เอว ปรมา เอตสฺส กมฺมนฺติ วจีปรโม. เตนาห ‘‘วจนมตฺเตเนวา’’ติอาทิ. อนุปฺปิยนฺติ ตกฺกนํ, ยํ วา ‘‘รุจี’’ติ วุจฺจติ เยหิ สุราปานาทีหิ โภคา อเปนฺติ วิคจฺฉนฺติ, เตสุ เตสํ อปาเยสุ พฺยสนเหตูสุ สหาโย โหติ.
๒๕๕. หารโกเยว โหติ, น ทายโก, ตมสฺส เอกํสโต หารกภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘สหายสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยํ กิฺจิ อปฺปกนฺติ ปุปฺผผลาทิ ยํ กิฺจิ ปริตฺตํ วตฺถุํ ทตฺวา, พหุํ ปตฺเถติ พหุํ มหคฺฆํ วตฺถยุคาทึ ปจฺจาสีสติ. ทาโส วิย หุตฺวา มิตฺตสฺส ตํ ตํ กิจฺจํ กโรนฺโต กถํ อมิตฺโต นาม ชาโตติ อาห ‘‘อย’’นฺติอาทิ. ยสฺส กิจฺจํ กโรติ อนตฺถปริหารตฺถํ, อตฺตโน มิตฺตภาวทสฺสนตฺถฺจ, ตํ เสวติ. อตฺถการณาติ วฑฺฒินิมิตฺตํ, อยเมเตสํ เภโท.
๒๕๖. ปเรติ ปรทิวเส. น อาคโต สีติ อาคโต นาโหสิ. ขีณนฺติ ตาทิสสฺส, อสุกสฺส จ ทินฺนตฺตา. สสฺสสงฺคเหติ สสฺสโต กาตพฺพธฺสงฺคเห กเต.
๒๕๗. ‘‘ทานาทีสุ ยํ กิฺจิ กโรมา’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ สมฺม กโรมา’’ติ อนุชานาตีติ อิมมตฺถํ ‘‘กลฺยาเณปิ เอเสว นโย’’ติ อติทิสติ. นนุ เอวํ อนุชานนฺโต อยํ ¶ มิตฺโต เอว, น อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโกติ? อนุปฺปิยภาณีทสฺสนมตฺตเมตํ. สหาเยน วา เทสกาลํ, ตสฺมึ วา กเต อุปฺปชฺชนกวิโรธาทึ อสลฺลกฺเขตฺวา ‘‘กโรมา’’ติ วุตฺเต โย ตํ ชานนฺโต เอว ‘‘สาธุ สมฺม กโรมา’’ติ อนุปฺปิยํ ภณติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘กลฺยาณํ ปิสฺส อนุชานาตี’’ติ. เตน วุตฺตํ ‘‘กลฺยาเณปิ เอเสว นโย’’ติ.
๒๕๙. มิตฺตปติรูปกา เอเต มิตฺตาติ เอวํ ชานิตฺวา.
สุหทมิตฺตวณฺณนา
๒๖๐. สุนฺทรหทยาติ ¶ เปมสฺส อตฺถิวเสน ภทฺทจิตฺตา.
๒๖๑. ปมตฺตํ รกฺขตีติ เอตฺถ ปมาทวเสน กิฺจิ ¶ อยุตฺเต กเต ตาทิเส กาเล รกฺขณํ ‘‘ภีตสฺส สรณํ โหตี’’ติ อิมินาว ตํ คหิตนฺติ ตโต อฺเมว ปมตฺตสฺส รกฺขณวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘มชฺชํ ปิวิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เคเห อารกฺขํ อสํวิหิตสฺส พหิคมนมฺปิ ปมาทปกฺขิกเมวาติ ‘‘สหาโย พหิคโต วา โหตี’’ติ วุตฺตํ. ภยํ หรนฺโตติ ภยํ ปฏิพาหนฺโต. โภคเหตุตาย ผลูปจาเรน ธนํ ‘‘โภค’’นฺติ วทติ. กิจฺจกรณีเยติ ขุทฺทเก, มหนฺเต จ กาตพฺเพ อุปฺปนฺเน.
๒๖๒. นิคูหิตุํ ยุตฺตกถนฺติ นิคูหิตุํ ฉาเทตุํ ยุตฺตกถํ, นิคูหิตุํ วา ยุตฺตา กถา เอตสฺสาติ นิคูหิตุํ ยุตฺตกถํ, อตฺตโน กมฺมํ. รกฺขตีติ อนาวิกโรนฺโต ฉาเทติ. ชีวิตมฺปีติ ปิ-สทฺเทน กิมงฺคํ ปน อฺํ ปริคฺคหิตวตฺถุนฺติ ทสฺเสติ.
๒๖๓. ปสฺสนฺเตสุ ปสฺสนฺเตสูติ อาเมฑิตวจเนน นิวาริยมานสฺส ปาปสฺส ปุนปฺปุนํ กรณํ ทีเปติ. ปุนปฺปุนํ กโรนฺโต หิ ปาปโต วิเสเสน นิวาเรตพฺโพ โหติ. สรเณสูติ สรเณสุ วตฺตสฺสุ อภินฺนานิ กตฺวา ปฏิปชฺช, สรเณสุ วา อุปาสกภาเวน วตฺตสฺสุ. นิปุณนฺติ สณฺหํ. การณนฺติ กมฺมสฺสกตาทิเภทยุตฺตํ. อิทํ กมฺมนฺติ อิมํ ทานาทิเภทํ กุสลกมฺมํ. ‘‘กมฺม’’นฺติ สาธารณโต วุตฺตสฺสาปิ ตสฺส ‘‘สคฺเค นิพฺพตฺตนฺตี’’ติ ปทนฺตรสนฺนิธาเนน สทฺธาหิโรตฺตปฺปาโลภาทิคุณธมฺมสมงฺคิตา วิย กุสลภาโว โชติโต โหติ. สทฺธาทโย หิ ธมฺมา สคฺคคามิมคฺโค. ยถาห –
‘‘สทฺธา ¶ หิริยํ กุสลฺจ ทานํ,
ธมฺมา เอเต สปฺปุริสานุยาตา;
เอตฺหิ มคฺคํ ทิวิยํ วทนฺติ,
เอเตน หิ คจฺฉติ เทวโลก’’นฺติ. (อ. นิ. ๘.๓๒);
๒๖๔. ภวนํ ¶ ¶ สมฺปตฺติวฑฺฒนํ ภโวติ อตฺโถ, ตปฺปฏิกฺเขเปน อภโวติ อาห ‘‘อภเวน อวุฑฺฒิยา’’ติ. ปาริชฺุนฺติ ชานิ. อนตฺตมโน โหตีติ อตฺตมโน น โหติ อนุกมฺปกภาวโต. อฺทตฺถุ ตํ อภวํ อตฺตนิ อาปติตํ วิย มฺติ. อิทานิ ตํ ภวํ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘ตถารูป’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. วิรูโปติ พีภจฺโฉ. น ปาสาทิโกติ ตสฺเสว เววจนํ. สุชาโตติ สุนฺทรชาติโก ชาติสมฺปนฺโน.
๒๖๕. ชลนฺติ ชลนฺโต. อคฺคีวาติ อคฺคิกฺขนฺโธ วิย. ภาสตีติ วิโรจติ. ยสฺมาสฺส ภควตา สวิเสสํ วิโรจนํ โลเก ปากฏภาวฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘ชลํ อคฺคีว ภาสตี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา ยทา อคฺคิ สวิเสสํ วิโรจติ, ยตฺถ จ ิโต ทูเร ิตานมฺปิ ปฺายติ, ตํ ทสฺสนาทิวเสน ตมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘รตฺติ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
‘‘ภมรสฺเสว อิรียโต’’ติ เอเตเนวสฺส โภคสํหรณํ ธมฺมิกํ าโยเปตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺตานมฺปี’’ติอาทิมาห. ราสึ กโรนฺตสฺสาติ ยถาสฺส ธนธฺาทิโภคชาตํ สมฺปิณฺฑิตํ ราสิภูตํ หุตฺวา ติฏฺติ, เอวํ อิรียโต อายูหนฺตสฺส จ. จกฺกปฺปมาณนฺติ รถจกฺกปฺปมาณํ. นิจยนฺติ วุฑฺฒึ ปริวุฑฺฒึ. ‘‘โภคา สนฺนิจยํ ยนฺตี’’ติ เกจิ ปนฺติ.
สมาหตฺวาติ สํหริตฺวา. อลํ-สทฺโท ‘‘อลเมว สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทิตุํ, อลํ วิรชฺชิตุ’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๗๒; สํ. นิ. ๒.๑๒๔, ๑๒๙, ๑๓๔, ๑๔๓) ยุตฺตนฺติ อิมมตฺถํ โชเตติ, ‘‘อลมริยาณทสฺสนวิเสส’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๒๘) ปริยตฺตนฺติ. โย เวิตตฺโตติอาทีสุ ¶ (สุ. นิ. ๒๑๗) วิย อตฺต-สทฺโท สภาวปริยาโยติ ตํ สพฺพํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยุตฺตสภาโว’’ติอาทิมาห. สณฺเปตุนฺติ สมฺมา เปตุํ, สมฺมเทว ปวตฺเตตุนฺติ อตฺโถ.
เอวํ วิภชนฺโตติ เอวํ วุตฺตนเยน อตฺตโน ธนํ จตุธา วิภชนฺโต วิภชนเหตุ มิตฺตานิ คนฺถติ โสฬส กลฺยาณมิตฺตานิ เมตฺตาย อชีราปเนน ปพนฺธติ. เตนาห ‘‘อเภชฺชมานานิ เปตี’’ติ ¶ . กถํ ปน วุตฺตนเยน จตุธา โภคานํ วิภชเนน มิตฺตานิ คนฺถตีติ อาห ‘‘ยสฺส หี’’ติอาทิ. เตนาห ภควา ‘‘ททํ มิตฺตานิ คนฺถตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๔๖). ภฺุเชยฺยาติ ¶ อุปภฺุเชยฺย, อุปยฺุเชยฺย จาติ อตฺโถ. สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกาทีนํ ทานวเสน เจว อธิวตฺถเทวตาทีนํ เปตพลิวเสน, นฺหาปิตาทีนํ เวตนวเสน จ วินิโยโคปิ อุปโยโค เอว. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘อิเมสุ ปนา’’ติอาทิ อาโย นาม เหฏฺิมนฺเตน วยโต จตุคฺคุโณ อิจฺฉิตพฺโพ, อฺถา วโย อวิจฺเฉทวเสน น สนฺตาเนยฺย, นิเธยฺย, ภาเชยฺย จ อสมฺภเตติ วุตฺตํ ‘‘ทฺวีหิ กมฺมํ ปโยชเย’’ติ. นิเธตฺวาติ นิทหิตฺวา, ภูมิคตํ กตฺวาติ อตฺโถ. ราชาทิวเสนาติ อาทิ-สทฺเทน อคฺคิอุทกโจรทุพฺภิกฺขาทิเก สงฺคณฺหาติ. นฺหาปิตาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน กุลาลรชกาทีนํ สงฺคโห.
ฉทฺทิสาปฏิจฺฉาทนกณฺฑวณฺณนา
๒๖๖. จตูหิ การเณหีติ น ฉนฺทคมนาทีหิ จตูหิ การเณหิ ¶ . อกุสลํ ปหายาติ ‘‘จตฺตาโร กมฺมกิเลสา’’ติ วุตฺตํ อกุสลฺเจว อคติคมนากุสลฺจ ปชหิตฺวา. ฉหิ การเณหีติ สุราปานาทีสุ อาทีนวทสฺสนสงฺขาเตหิ ฉหิ การเณหิ. สุราปานานุโยคาทิเภทํ ฉพฺพิธํ โภคานํ อปายมุขํ วินาสมุขํ วชฺเชตฺวา. โสฬส มิตฺตานีติ อุปการาทิวเสน จตฺตาโร, ปมตฺตรกฺขณาทิกิจฺจวิเสสวเสน ปจฺเจกํ จตฺตาโร จตฺตาโร กตฺวา โสฬสวิเธ กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺโต ภชนฺโต. สตฺถวาณิชฺชาทิมิจฺฉาชีวํ ปหาย าเยเนว วตฺตนโต ธมฺมิเกน อาชีเวน ชีวติ. นมสฺสิตพฺพาติ อุปการวเสน, คุณวเสน จ นมสฺสิตพฺพา สพฺพทา นเตน หุตฺวา วตฺติตพฺพา. ทิสา-สทฺทสฺส อตฺโถ เหฏฺา วุตฺโต เอว. อาคมนภยนฺติ ตตฺถ สมฺมา อปฺปฏิปตฺติยา, มิจฺฉาปฏิปตฺติยา จ อุปฺปชฺชนกอนตฺโถ. โส หิ ภายนฺติ เอตสฺมาติ ‘‘ภย’’นฺติ วุจฺจติ. เยน การเณน มาตาปิตุอาทโย ปุรตฺถิมาทิภาเวน อปทิฏฺา, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุพฺพุปการิตายา’’ติอาทิ วุตฺตํ, เตน อตฺถสริกฺขตาย เนสํ ปุรตฺถิมาทิภาโวติ ทสฺเสติ. ตถา หิ มาตาปิตโร ปุตฺตานํ ปุรตฺถิมภาเวน ตาว อุปการิภาเวน ทิสฺสนโต, อปทิสฺสนโต จ ปุรตฺถิมา ทิสา. อาจริยา อนฺเตวาสิกสฺส ทกฺขิณภาเวน, หิตาหิตํ ปติกุสลภาเวน ทกฺขิณารหตาย จ วุตฺตนเยน ทกฺขิณา ทิสา. อิมินา นเยน ‘‘ปจฺฉิมา ทิสา’’ติอาทีสุ ยถารหํ ¶ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ฆราวาสสฺส ทุกฺขพหุลตาย เต เต จ กิจฺจวิเสสา ยถาอุปฺปติตทุกฺขนิตฺถรณตฺถาติ วุตฺตํ ‘‘เต เต ทุกฺขวิเสเส อุตฺตรตี’’ติ. ยสฺมา ทาสกมฺมกรา สามิกสฺส ปาทานํ ปยิรุปาสนวเสน เจว ตทนุจฺฉวิกกิจฺจสาธนวเสน จ เยภุยฺเยน ¶ สนฺติกาวจรา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปาทมูเล ปติฏฺานวเสนา’’ติ. คุเณหีติ อุปริภาวาวเหหิ คุเณหิ. อุปริ ิตภาเวนาติ ¶ สคฺคมคฺเค โมกฺขมคฺเค จ ปติฏฺิตภาเวน.
๒๖๗. ภโตติ โปสิโต, ตํ ปน ภรณํ ชาตกาลโต ปฏฺาย สุขปจฺจยูปหรเณน ทุกฺขปจฺจยาปหรเณน จ เตหิ ปวตฺติตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ถฺํ ปาเยตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ชคฺคิโตติ ปฏิชคฺคิโต. เตติ มาตาปิตโร.
มาตาปิตูนํ สนฺตกํ เขตฺตาทึ อวินาเสตฺวา รกฺขิตํ เตสํ ปรมฺปราย ิติยา การณํ โหตีติ ‘‘ตํ รกฺขนฺโต กุลวํสํ สณฺเปติ นามา’’ติ วุตฺตํ. อธมฺมิกวํสโตติ ‘‘กุลปฺปเทสาทินา อตฺตนา สทิสํ เอกํ ปุริสํ ฆเฏตฺวา วา คีวายํ วา หตฺเถ วา พนฺธมณิยํ วา หาเรตพฺพ’’นฺติ เอวํ อาทินา ปวตฺตอธมฺมิกปเวณิโต. หาเรตฺวาติ อปเนตฺวา ตํ คาหํ วิสฺสชฺชาเปตฺวา. มาตาปิตโร ตโต คาหโต วิเวจเนเนว หิ อายตึ เตสํ ปรมฺปราหาริกา สิยา. ธมฺมิกวํเสติ หึสาทิวิรติยา ธมฺมิเก วํเส ธมฺมิกาย ปเวณิยํ. เปนฺโตติ ปติฏฺเปนฺโต. สลากภตฺตาทีนิ อนุปจฺฉินฺทิตฺวาติ สลากภตฺตทานาทีนิ อวิจฺฉินฺทิตฺวา.
ทายชฺชํ ปฏิปชฺชามีติ เอตฺถ ยสฺมา ทายปฏิลาภสฺส โยคฺยภาเวน วตฺตมาโนเยว ทายชฺชํ ปฏิปชฺชติ นาม, น อิตโร, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘มาตาปิตโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทารเกติ ปุตฺเต. วินิจฺฉยํ ปตฺวาติ ‘‘ปุตฺตสฺส จชวิสฺสชฺชน’’นฺติ เอวํ อาคตํ วินิจฺฉยํ อาคมฺม. ทายชฺชํ ปฏิปชฺชามีติ วุตฺตนฺติ ‘‘ทายชฺชํ ปฏิปชฺชามี’’ ติ อิทํ จตุตฺถํ วตฺตนฏฺานํ วุตฺตํ. เตสนฺติ มาตาปิตูนํ. ตติยทิวสโต ปฏฺายาติ มตทิวสโต ตติยทิวสโต ปฏฺาย.
ปาปโต ¶ นิวารณํ นาม อนาคตวิสยํ. สมฺปตฺตวตฺถุโตปิ หิ นิวารณํ วีติกฺกเม อนาคเต เอว สิยา, น วตฺตมาเน. นิพฺพตฺติตา ปน ปาปกิริยา ¶ ครหณมตฺตปฏิการาติ อาห ‘‘กตมฺปิ ครหนฺตี’’ติ. นิเวเสนฺตีติ ปติฏฺเปนฺติ. วุตฺตปฺปการา มาตาปิตโร อนวชฺชเมว สิปฺปํ สิกฺขาเปนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘มุทฺทาคณนาทิสิปฺป’’นฺติ. รูปาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน โภคปริวาราทึ สงฺคณฺหาติ. อนุรูเปนาติ อนุจฺฉวิเกน.
นิจฺจภูโต สมโย อภิณฺหกรณกาโล. อภิณฺหตฺโถ หิ อยํ นิจฺจ-สทฺโท ‘‘นิจฺจปหํสิโต นิจฺจปหฏฺโ’’ติอาทีสุ วิย. ยุตฺตปตฺตกาโล เอว สมโย กาลสมโย. ‘‘อุฏฺาย ¶ สมุฏฺายา’’ติ อิมินาสฺส นิจฺจเมว ทาเน เตสํ ยุตฺตปยุตฺตตํ ทสฺเสติ. สิขาปนํ ทารกกาเล. อาวาหวิวาหํ ปุตฺตธีตูนํ โยพฺพนปฺปตฺตกาเล.
ตํ ภยํ ยถา นาคจฺฉติ, เอวํ ปิหิตา โหติ ‘‘ปุรตฺถิมา ทิสา’’ติ วิภตฺตึ ปริณาเมตฺวา โยชนา. ยถา ปน ตํ ภยํ อาคจฺเฉยฺย, ยถา จ นาคจฺเฉยฺย, ตทุภยํ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิปฺปฏิปนฺนาติ ‘‘ภโต เน ภริสฺสามี’’ติอาทินา อุตฺตสมฺมาปฏิปตฺติยา อการเณน เจว ตปฺปฏิปกฺขมิจฺฉาปฏิปตฺติยา อกรเณน จ วิปฺปฏิปนฺนา ปุตฺตา อสฺสุ. เอตํ ภยนฺติ เอตํ ‘‘มาตาปิตูนํ อปฺปติรูปาติ วิฺูนํ ครหิตพฺพตาภยํ, ปรวาทภย’’นฺติ เอวมาทิ อาคจฺเฉยฺย ปุตฺเตสุ. ปุตฺตานํ นานุรูปาติ เอตฺถ ‘‘ปุตฺตาน’’นฺติ ปทํ เอตํ ภยํ ปุตฺตานํ อาคจฺเฉยฺยาติ เอวํ อิธาปิ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตาทิสานฺหิ มาตาปิตูนํ ปุตฺตานํ โอวาทานุสาสนิโย ทาตุํ สมตฺถกาลโต ปฏฺาย ตา เตสํ ทาตพฺพา เอวาติ กตฺวา ตถา วุตฺตํ. ปุตฺตานฺหิ วเสนายํ เทสนา อนาคตา สมฺมาปฏิปนฺเนสุ อุโภสุ อตฺตโน, มาตาปิตูนฺจ ¶ วเสน อุปฺปชฺชนกตาย สพฺพํ ภยํ น โหติ สมฺมาปฏิปนฺนตฺตา. เอวํ ปฏิปนฺนตฺตา เอว ปฏิจฺฉนฺนา โหติ ตตฺถ กาตพฺพปฏิสนฺถารสฺส สมฺมเทว กตตฺตา. เขมาติ อนุปทฺทวา. ยถาวุตฺตสมฺมาปฏิปตฺติยา อกรเณน หิ อุปฺปชฺชนกอุปทฺทวา กรเณน น โหนฺตีติ.
‘‘น โข เต’’ติอาทินา วุตฺโต สงฺคีติอนารุฬฺโห ภควตา ตทา ตสฺส วุตฺโต ปรมฺปราคโต อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘ภควา สิงฺคาลกํ เอตทโวจา’’ติ. อยฺหีติ เอตฺถ หิ-สทฺโท อวธารเณ. ตถา หิ ‘‘โน อฺา’’ติ อฺทิสํ นิวตฺเตติ.
๒๖๘. อาจริยํ ¶ ทูรโตว ทิสฺวา อุฏฺานวจเนเนว ตสฺส ปจฺจุคฺคมนาทิสามีจิกิริยา อวุตฺตสิทฺธาติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา’’ติอาทิมาห. อุปฏฺาเนนาติ ปยิรุปาสเนน. ติกฺขตฺตุํอุปฏฺานคมเนนาติ ปาโต, มชฺฌนฺหิเก, สายนฺติ ตีสุ กาเลสุ อุปฏฺานตฺถํ อุปคมเนน. สิปฺปุคฺคหณตฺถํ ปน อุปคมนํ อุปฏฺานนฺโตคธํ ปโยชนวเสน คมนภาวโตติ อาห ‘‘สิปฺปุคฺคหณ…เป… โหตี’’ติ. โสตุํ อิจฺฉา สุสฺสูสา, สา ปน อาจริเย สิกฺขิตพฺพสิกฺเข จ อาทรคารวปุพฺพิกา อิจฺฉิตพฺพา ‘‘อทฺธา อิมินา สิปฺเปน สิกฺขิเตน เอวรูปํคุณํ ปฏิลภิสฺสามี’’ติ. ตถาภูตฺจ ตํ สวนํ สทฺธาปุพฺพงฺคมํ โหตีติ อาห ‘‘สทฺทหิตฺวา สวเนนา’’ติ. วุตฺตเมวตฺถํ พฺยติเรกวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘อสทฺทหิตฺวา…เป… นาธิคจฺฉตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ตสฺสตฺโถ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ. ยํ สนฺธาย ‘‘อวเสสขุทฺทกปาริจริยายา’’ติ วุตฺตํ, ตํ วิภชนํ อนวเสสโต ทสฺเสตุํ ‘‘อนฺเตวาสิเกน หี’’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ. ปจฺจุปฏฺานาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อาสนปฺาปนํ พีชนนฺติ เอวมาทึ สงฺคณฺหาติ. อนฺเตวาสิกวตฺตนฺติ ¶ อนฺเตวาสิเกน อาจริยมฺหิ สมฺมาวตฺติตพฺพวตฺตํ. สิปฺปปฏิคฺคหเณนาติ สิปฺปคนฺถสฺส สกฺกจฺจํ อุคฺคหเณน. ตสฺส หิ สุฏฺุ อุคฺคหเณน ตทนุสาเรนสฺส ปโยโคปิ สมฺมเทว อุคฺคหิโต โหตีติ. เตนาห ‘‘โถกํ คเหตฺวา’’ติอาทิ.
สุวินีตํ วิเนนฺตีติ อิธ อาจารวินโย อธิปฺเปโต. สิปฺปสฺมึ ปน สิกฺขาปนวินโย ‘‘สุคฺคหิตํ คาหาเปนฺตี’’ติ อิมินาว สงฺคหิโตติ วุตฺตํ ‘‘เอวํ เต นิสีทิตพฺพ’’นฺติอาทิ. อาจริยา หิ นาม อนฺเตวาสิเก น ทิฏฺธมฺมิเก เอว วิเนนฺติ, อถ โข สมฺปรายิเกปีติ อาห ‘‘ปาปมิตฺตา วชฺเชตพฺพา’’ติ. สิปฺปคนฺถสฺส อุคฺคณฺหนํ นาม ยาวเทว ปโยคสมฺปาทนตฺถนฺติ อาห ‘‘ปโยคํ ทสฺเสตฺวา คณฺหาเปนฺตี’’ติ. มิตฺตามจฺเจสูติ อตฺตโน มิตฺตามจฺเจสุ. ปฏิยาเทนฺตีติ ปริคฺคเหตฺวา นํ มมตฺตวเสน ปฏิยาเทนฺติ. ‘‘อยํ อมฺหากํ อนฺเตวาสิโก’’ติอาทินา หิ อตฺตโน ปริคฺคหิตทสฺสนมุเขน เจว ‘‘พหุสฺสุโต’’ติอาทินา ตสฺส คุณปริคฺคณฺหนมุเข จ ตํ เตสํ ปฏิยาเทนฺติ. สพฺพทิสาสุ รกฺขํ กโรนฺติ จาตุทฺทิสภาวสมฺปาทเนนสฺส สพฺพตฺถ สุขชีวิภาวสาธนโต. เตนาห ‘‘อุคฺคหิตสิปฺโป หี’’ติอาทิ. สตฺตานฺหิ ทุวิธา สรีรรกฺขา อพฺภนฺตรปริสฺสยปฏิฆาเตน, พาหิรปริสฺสยปฏิฆาเตน จ. ตตฺถ ¶ อพฺภนฺตรปริสฺสโย ขุปฺปิปาสาทิเภโท, โส ลาภสิทฺธิยา ปฏิหฺติ ตาย ตชฺชาปริหารสํวิธานโต. พาหิรปริสฺสโย โจรอมนุสฺสาทิเหตุโก, โส วิชฺชาสิทฺธิยา ปฏิหฺติ ตาย ตชฺชาปริหารสํวิธานโต. เตน วุตฺตํ ‘‘ยํ ยํ ทิส’’นฺติอาทิ.
ปุพฺเพ ‘‘อุคฺคหิตสิปฺโป หี’’ติอาทินา สิปฺปสิกฺขาปเนเนว ลาภุปฺปตฺติยา ทิสาสุ ปริตฺตาณกรณํ ทสฺสิตํ, อิทานิ ‘‘ยํ วา โส’’ติอาทินา ตสฺส อุคฺคหิตสิปฺปสฺส นิปฺผตฺติวเสน คุณกิตฺตนมุเขน ¶ ปคฺคณฺหเนนปิ ลาภุปฺปตฺติยาติ อยเมเตสํ วิกปฺปานํ เภโท. เสสนฺติ ‘‘ปฏิจฺฉนฺนา โหตี’’ติอาทิกํ ปาฬิอาคตํ, ‘‘เอวฺจ ปน วตฺวา’’ติอาทิกํ อฏฺกถาคตฺจ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ทุติยทิสาวาเร. ปุริมนเยเนวาติ ปุพฺเพ ปมทิสาวาเร วุตฺตนเยเนว.
๒๖๙. สมฺมานนา นาม สมฺภาวนา, สา ปน อตฺถจริยาลกฺขณา จ ทานลกฺขณา จ จตุตฺถปฺจมฏฺาเนเหว สงฺคหิตาติ ปิยวจนลกฺขณํ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺภาวิตกถากถเนนา’’ติ วุตฺตํ. วิคตมานนา วิมานนา, น วิมานนา อวิมานนา, วิมานนาย อกรณํ. เตนาห ‘‘ยถา ทาสกมฺมกราทโย’’ติอาทิ. สามิเกน หิ วิมานิตานํ อิตฺถีนํ สพฺโพ ปริชโน วิมาเนติเยว ¶ . ปริจรนฺโตติ อินฺทฺริยานิ ปริจรนฺโต. ตํ อติจรติ นาม ตํ อตฺตโน คิหินึ อติมฺิตฺวา อคเณตฺวา วตฺตนโต. อิสฺสริยโวสฺสคฺเคนาติ เอตฺถ ยาทิโส อิสฺสริยโวสฺสคฺโค คิหินิยา อนุจฺฉวิโก, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภตฺตเคเห วิสฺสฏฺเ’’ติ อาห. เคเห เอว ตฺวา วิจาเรตพฺพมฺปิ หิ กสิวาณิชฺชาทิกมฺมํ กุลิตฺถิยา ภาโร น โหติ, สามิกสฺเสว ภาโร, ตโต อาคตสาปเตยฺยํ ปน ตาย สุคุตฺตํ กตฺวา เปตพฺพํ โหติ. ‘‘สพฺพํ อิสฺสริยํ วิสฺสฏฺํ นาม โหตี’’ติ เอตา มฺนฺตีติ อธิปฺปาโย. อิตฺถิโย นาม ปุตฺตลาเภน วิย มหคฺฆวิปุลาลงฺการลาเภนปิ น สนฺตุสฺสนฺเตวาติ ตาสํ โตสนํ อลงฺการทานนฺติ อาห ‘‘อตฺตโน วิภวานุรูเปนา’’ติ.
กุลิตฺถิยา สํวิหิตพฺพกมฺมนฺตา นาม อาหารสมฺปาทนวิจารปฺปการาติ อาห ‘‘ยาคุภตฺตปจนกาลาทีนี’’ติอาทิ. สมฺมานนาทีหิ ยถารหํ ¶ ปิยวจเนหิ เจว โภชนทานาทีหิ จ ปเหณกเปสนาทีหิ อฺโต, ตตฺเถว วา อุปฺปนฺนสฺส ปณฺณาการสฺส ฉณทิวสาทีสุ เปเสตพฺพปิยภณฺเฑหิ จ สงฺคหิตปริชนา. เคหสามินิยา ¶ อนฺโตเคหชโน นิจฺจํ สงฺคหิโต เอวาติ วุตฺตํ ‘‘อิธ ปริชโน นาม…เป… าติชโน’’ติ. อาภตธนนฺติ พาหิรโต อนฺโตเคหํ ปเวสิตธนํ. คิหินิยา นาม ปมํ อาหารสมฺปาทเน โกสลฺลํ อิจฺฉิตพฺพํ, ตตฺถ จ ยุตฺตปยุตฺตตา, ตโต สามิกสฺส อิตฺถิชนายตฺเตสุ กิจฺจากิจฺเจสุ, ตโต ปุตฺตานํ ปริชนสฺส กาตพฺพกิจฺเจสูติ อาห ‘‘ยาคุภตฺตสมฺปาทนาทีสู’’ติอาทิ. ‘‘นิกฺโกสชฺชา’’ติ วตฺวา ตเมว นิกฺโกสชฺชตํ พฺยติเรกโต, อนฺวยโต จ วิภาเวตุํ ‘‘ยถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิธาติ อิมสฺมึ ตติยทิสาวาเร. ปุริมนเยเนวาติ ปมทิสาวาเร วุตฺตนเยเนว. อิติ ภควา ‘‘ปจฺฉิมา ทิสา ปุตฺตทารา’’ติ อุทฺทิสิตฺวาปิ ทารวเสเนว ปจฺฉิมํ ทิสํ วิสฺสชฺเชสิ, น ปุตฺตวเสน. กสฺมา? ปุตฺตา หิ ทารกกาเล อตฺตโน มาตุ อนุคฺคณฺหเนเนว อนุคฺคหิตา โหนฺติ อนุกมฺปิตา, วิฺุตํ ปตฺตกาเล ปน ยถา เตปิ ตทา อนุคฺคเหตพฺพา, สฺวายํ วิธิ ‘‘ปาปา นิวาเรนฺตี’’ติอาทินา ปมทิสาวาเร ทสฺสิโต เอวาติ กึ ปุน วิสฺสชฺชเนนาติ. ทานาทิสงฺคหวตฺถูสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมวาติ.
๒๗๐. จตฺตาริปิ านานิ ลงฺฆิตฺวา ปฺจมเมว านํ วิวริตุํ ‘‘อวิสํวาทนตายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺส ยสฺส นามํ คณฺหาตีติ สหาโย อตฺถิกภาเวน ยสฺส ยสฺส วตฺถุโน นามํ กเถติ. อวิสํวาเทตฺวาติ เอตฺถ ทุวิธํ อวิสํวาทนํ วาจาย, ปโยเคน จาติ ตํ ทุวิธมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘‘อิทมฺปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ทาเนนา’’ติ จ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ อิตรสงฺคหวตฺถุวเสนปิ อวิสํวาเทตฺวา สงฺคณฺหนสฺส ลพฺภนโต, อิจฺฉิตพฺพโต ¶ จ. อปรา ปจฺฉิมา ปชา อปรปชา, อปราปรํ อุปฺปนฺนา วา ปชา อปรปชา. ปฏิปูชนา นาม มมายนา, สกฺการกิริยา จาติ ตทุภยํ ทสฺเสตุํ ‘‘เกลายนฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. มมายนฺตีติ มมตฺตํ กโรนฺติ.
๒๗๑. ยถาพลํ กมฺมนฺตสํวิธาเนนาติ ทาสกมฺมกรานํ ¶ ยถาพลํ พลานุรูปํ เตสํ เตสํ กมฺมนฺตานํ สํวิทหเนน วิจารเณน, การาปเนนาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ทหเรหี’’ติอาทิ. ภตฺตเวตนานุปฺปทาเนนาติ ตสฺส ตสฺส ทาสกมฺมกรสฺส อนุรูปํ ภตฺตสฺส, เวตนสฺส จ ปทาเนน ¶ . เตเนวาห ‘‘อยํ ขุทฺทกปุตฺโต’’ติอาทิ. เภสชฺชาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน สปฺปายาหารวสนฏฺานาทึ สงฺคณฺหาติ. สาตภาโว เอว รสานํ อจฺฉริยตาติ อาห ‘‘อจฺฉริเย มธุรรเส’’ติ. เตสนฺติ ทาสกมฺมกรานํ. โวสฺสชฺชเนนาติ กมฺมกรณโต วิสฺสชฺชเนน. เวลํ ตฺวาติ ‘‘ปหาราวเสโส, อุปฑฺฒปหาราวเสโส วา ทิวโส’’ติ เวลํ ชานิตฺวา. โย โกจิ มหุสฺสโว ฉโณ นาม. กตฺติกุสฺสโว, ผคฺคุณุสฺสโวติ เอวํ นกฺขตฺตสลฺลกฺขิโต มหุสฺสโว นกฺขตฺตํ.ปุพฺพุฏฺายิตา, ปจฺฉานิปาติตา จ มหาสุทสฺสเน วุตฺตา เอวาติ อิธ อนามฏฺา.
ทินฺนาทายิโนติ ปุพฺพปทาวธารณวเสน สาวธารณวจนนฺติ อวธารเณน นิวตฺติตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โจริกาย กิฺจิ อคฺคเหตฺวา’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘สามิเกหิ ทินฺนสฺเสว อาทายิโน’’ติ. น มยํ กิฺจิ ลภามาติ อนุชฺฌายิตฺวาติ ปฏิเสธทฺวเยน เตหิ ลทฺธพฺพสฺส ลาภํ ทสฺเสติ. ‘‘กึ เอตสฺส กมฺเมน กเตนาติ อนุชฺฌายิตฺวา’’ติ อิทํ ตุฏฺหทยตาย การณทสฺสนํ ปฏิปกฺขทูรีภาวโต. ตุฏฺหทยตาทสฺสนมฺปิ กมฺมสฺส สุกตการิตาย การณทสฺสนํ. กิตฺติ เอว วณฺโณ กิตฺติวณฺโณ, ตํ กิตฺติวณฺณํ คุณกถํ หรนฺติ, ตํ ตํ ทิสํ อุปาหรนฺตีติ กิตฺติวณฺณหรา. ตถา ตถา กิตฺเตตพฺพโต หิ กิตฺติ ¶ , คุโณ, เตสํ วณฺณนํ กถนํ วณฺโณ. เตนาห ‘‘คุณกถาหารกา’’ติ.
๒๗๒. การณภูตา เมตฺตา เอเตสํ อตฺถีติ เมตฺตานิ, กายกมฺมาทีนิ. ยานิ ปน ตานิ ยถา ยถา จ สมฺภวนฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘วิหารคมน’’นฺติอาทีสุ ‘‘เมตฺตจิตฺตํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา’’ติ ปทํ อาหริตฺวา โยเชตพฺพํ. อนาวฏทฺวารตายาติ เอตฺถ ทฺวารํ นาม อโลภชฺฌาสยตา ทานสฺส มุขภาวโต. ตสฺส สโต เทยฺยธมฺมสฺส ทาตุกามตา อนาวฏตา เอวฺหิ ฆรมาวสนฺโต กุลปุตฺโต เคหทฺวาเร ปิหิเตปิ อนาวฏทฺวาโร เอว, อฺถา อปิหิเตปิ ฆรทฺวาเร อาวฏทฺวาโร เอวาติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. วิวริตฺวาปิ วสนฺโตติ วจนเสโส. ปิทหิตฺวาปีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ‘‘สีลวนฺเตสู’’ติ อิทํ ปฏิคฺคาหกโต ทกฺขิณวิสุทฺธิทสฺสนตฺถํ ¶ วุตฺตํ. กรุณาเขตฺเตปิ ¶ ทาเนน อนาวฏทฺวารตา เอว. ‘‘สนฺตฺเวา’’ติ อิมินา อสนฺตํ นตฺถิวจนํ ปุจฺฉิตปฏิวจนํ วิย อิจฺฉิตพฺพํ เอวาติ ทสฺเสติ วิฺูนํ อตฺถิกานํ จิตฺตมทฺทวกรณโต. ‘‘ปุเรภตฺตํ ปริภฺุชิตพฺพก’’นฺติ อิทํ ยาวกาลิเก เอว อามิสภาวสฺส นิรุฬฺหตาย วุตฺตํ.
‘‘สพฺเพ สตฺตา’’ติ อิทํ เตสํ สมณพฺราหฺมณานํ อชฺฌาสยสมฺปตฺติทสฺสนํ ปกฺขปาตาภาวทีปนโต, โอธิโส ผรณายปิ เมตฺตาภาวนาย ลพฺภนโต. ยาย กุสลาภิวฑฺฒิอากงฺขาย เตสํ อุปฏฺากานํ, ตถา เนสํ เคหปวิสนํ, ตํ สนฺธายาห ‘‘ปวิสนฺตาปิ กลฺยาเณน เจตสา อนุกมฺปนฺติ นามา’’ติ. สุตสฺส ปริโยทาปนํ นาม ตสฺส ยาถาวโต อตฺถํ วิภาเวตฺวา วิจิกิจฺฉาตมวิธมเนน วิโสธนนฺติ อาห ‘‘อตฺถํ กเถตฺวา กงฺขํ วิโนเทนฺตี’’ติ. สวนํ นาม ธมฺมสฺส ยาวเทว สมฺมาปฏิปชฺชนาย อสติ ตสฺมึ ตสฺส นิรตฺถกภาวโต, ตสฺมา สุตสฺส ปริโยทาปนํ นาม ¶ สมฺมาปฏิปชฺชาปนนฺติ อาห ‘‘ตถตฺตาย วา ปฏิปชฺชาเปนฺตี’’ติ.
๒๗๓. อลมตฺโตติ สมตฺถสภาโว, โส จ อตฺถโต สมตฺโถ เอวาติ ‘‘อคารํ อชฺฌาวสนสมตฺโถ’’ติ วุตฺตํ. ทิสานมสฺสนฏฺาเนติ ยถาวุตฺตทิสานํ ปจฺจุปฏฺานสฺิเต นมสฺสนการเณ. ปณฺฑิโต หุตฺวา กุสโล เฉโก ลภเต ยสนฺติ โยชนา. สณฺหคุณโยคโต สณฺโห, สณฺหคุโณติ ปเนตฺถ สุขุมนิปุณปฺา, มุทุวาจาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุขุม…เป… ภณเนน วา’’ติ วุตฺตํ. ทิสานมสฺสนฏฺาเนนาติ เยน าเณน ยถาวุตฺตา ฉ ทิสา วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชนฺโต นมสฺสติ นาม, ตํ าณํ ทิสานมสฺสนฏฺานํ, เตน ปฏิภานวา. เตน หิ ตํตํกิจฺจยุตฺตปตฺตวเสน ปฏิปชฺชนฺโต อิธ ‘‘ปฏิภานวา’’ติ วุตฺโต. นิวาตวุตฺตีติ ปณิปาตสีโล. อตฺถทฺโธติ น ถทฺโธ ถมฺภรหิโตติ จิตฺตสฺส อุทฺธุมาตลกฺขเณน ถมฺภิตภาเวน วิรหิโต. อุฏฺานวีริยสมฺปนฺโนติ กายิเกน วีริเยน สมนฺนาคโต. นิรนฺตรกรณวเสนาติ อารทฺธสฺส กมฺมสฺส สตตการิตาวเสน. านุปฺปตฺติยา ปฺายาติ ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺถกิจฺเจ อุปฏฺิเต านโส ตงฺขเณ เอว อุปฺปชฺชนกปฺาย.
สงฺคหกโรติ ยถารหํ สตฺตานํ สงฺคณฺหนโก. มิตฺตกโรติ มิตฺตภาวกโร, โส ปน อตฺถโต มิตฺเต ปริเยสนโก นาม โหตีติ ¶ วุตฺตํ ‘‘มิตฺตคเวสโน’’ติ. ยถาวุตฺตํ วทํ วจนํ ชานาตีติ วทฺูติ อาห ‘‘ปุพฺพการินา วุตฺตวจนํ ชานาตี’’ติ. อิทานิ ตเมวตฺถํ สงฺเขเปน วุตฺตํ วิตฺถารวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘สหายกสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปุพฺเพ ยถาปวตฺตาย วาจาย ชานเน ¶ วทฺุตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อาการสลฺลกฺขเณน อปฺปวตฺตาย วาจาย ชานเนปิ วทฺุตํ ทสฺเสตุํ ¶ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘เยน เยน วา ปนา’’ติอาทินา วจนียตฺถตํ วทฺู-สทฺทสฺส ทสฺเสติ. เนตาติ ยถาธิปฺเปตมตฺถํ ปจฺจกฺขโต ปาเปตา. เตนาห ‘‘ตํ ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ปฺาย เนตา’’ติ. เนติ ตํ ตมตฺถนฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. ปุนปฺปุนํ เนตีติ อนุ อนุ เนติ, ตํ ตมตฺถนฺติ อาเนตฺวา โยชนา.
ตสฺมึ ตสฺมินฺติ ตสฺมึ ตสฺมึ ทานาทีหิ สงฺคเหหิ สงฺคเหตพฺเพ ปุคฺคเล. อาณิยาติ อกฺขสีสคตาย อาณิยา. ยายโตติ คจฺฉโต. ปุตฺตการณาติ ปุตฺตนิมิตฺตํ. ปุตฺตเหตุกฺหิ ปุตฺเตน กตฺตพฺพํ มานํ วา ปูชํ วา.
อุปโยควจเนติ อุปโยคตฺเถ. วุจฺจตีติ วจนํ, อตฺโถ. อุปโยควจเน วา วตฺตพฺเพ. ปจฺจตฺตนฺติ ปจฺจตฺตวจนํ. สมฺมา เปกฺขนฺตีติ สมฺมเทว กาตพฺเพ เปกฺขนฺติ. ปสํสนียาติ ปสํสิตพฺพา. ภวนฺติ เอเต สงฺคเหตพฺเพ ตตฺถ ปุคฺคเล ยถารหํ ปวตฺเตนฺตาติ อธิปฺปาโย.
๒๗๔. ‘‘อิติ ภควา’’ติอาทิ นิคมนํ. ยา ทิสาติ ยา มาตาปิตุอาทิลกฺขณา ปุรตฺถิมาทิทิสา. นมสฺสาติ นมสฺเสยฺยาสีติ อตฺโถ ‘‘ยถา กถํ ปนา’’ติอาทิกาย คหปติปุตฺตสฺส ปุจฺฉาย วเสน เทสนาย อารทฺธตฺตา ‘‘ปุจฺฉาย ตฺวา’’ติ วุตฺตํ. อกถิตํ นตฺถิ คิหีหิ กตฺตพฺพกมฺเม อปฺปมาทปฏิปตฺติยา อนวเสสโต กถิตตฺตา. มาตาปิตุอาทีสุ หิ เตหิ จ ปฏิปชฺชิตพฺพปฏิปตฺติยา นิรวเสสโต กถเนเนว ราชาทีสุปิ ปฏิปชฺชิตพฺพวิธิ อตฺถโต กถิโต เอว โหตีติ. คิหิโน วินียนฺติ, วินยํ อุเปนฺติ เอเตนาติ คิหิวินโย. ยถานุสิฏฺนฺติ ยถา อิธ สตฺถารา อนุสิฏฺํ คิหิจาริตฺตํ ¶ , ตถา เตน ปกาเรน ตํ อวิราเธตฺวา. ปฏิปชฺชมานสฺส วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขาติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ วุทฺธิเยว อิจฺฉิตพฺพา อวสฺสมฺภาวินีติ.
สิงฺคาลสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.