📜
๙. อาฏานาฏิยสุตฺตวณฺณนา
ปมภาณวารวณฺณนา
๒๗๕. ‘‘จตุทฺทิสํ ¶ ¶ ¶ รกฺขํ เปตฺวา’’ติ อิทํ ทฺวีสุ าเนสุ จตูสุ ทิสาสุ ปิตํ รกฺขํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ตทุภยํ ทสฺเสตุํ ‘‘อสุรเสนายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อตฺตโน หิ อธิกาเร, อตฺตโน รกฺขาย จ อปฺปมชฺชเนน เตสํ อิทํ ทฺวีสุ าเนสุ จตูสุ ทิสาสุ อารกฺขฏฺปนํ. ยฺหิ ตํ อสุรเสนาย ปฏิเสธนตฺถํ เทวปุเร จตูสุ ทิสาสุ สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส อารกฺขฏฺปนํ, ตํ อตฺตโน อธิกาเร อปฺปมชฺชนํ. ยํ ปน เนสํ ภควโต สนฺติกํ อุปสงฺกมเน จตูสุ ทิสาสุ อารกฺขฏฺปนํ, ตํ อตฺตโน กตา รกฺขาย อปฺปมชฺชนํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อสุรเสนาย นิวารณตฺถ’’นฺติอาทิ. ปาฬิยํ จตุทฺทิสนฺติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนนฺติ ภุมฺมวเสน ตทตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘จตูสุ ทิสาสู’’ติ อาห. อารกฺขํ เปตฺวาติ เวสฺสวณาทโย จตฺตาโร มหาราชาโน อตฺตนา อตฺตนา รกฺขิตพฺพทิสาสุ อารกฺขํ เปตฺวา คุตฺตึ สมฺมเทว วิทหิตฺวา. พลคุมฺพํ เปตฺวาติ ยกฺขเสนาทิเสนาพลสมูหํ เปตฺวา. โอวรณํ เปตฺวาติ ปฏิปกฺขนิเสธนสมตฺถํ อาวรณํ เปตฺวา. อิติ ตีหิ ปเทหิ ยถากฺกมํ ปจฺเจกํ เทวนครทฺวารสฺส อนฺโต, ทฺวารสมีเป, ทฺวารโต พหิ, ทิสารกฺขาวสโนติ ติวิธาย รกฺขาย ปิตภาโว วา ทีปิโต. เตนาห ‘‘เอวํ สกฺกสฺส…เป… กตฺวา’’ติ. สตฺต พุทฺเธ อารพฺภาติ เอตฺถ สตฺเตว พุทฺเธ อารพฺภ ปริพนฺธนการณํ มหาปทานฏีกายํ (ที. นิ. ฏี. ๒.๑๒) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ธมฺมอาณนฺติ ธมฺมมยํ อาณํ, สตฺถุ ธมฺมจกฺกนฺติ อตฺโถ. ‘‘ปริสโต พาหิรภาโว, อสมฺโภโค’’ติ เอวมาทึ อิทฺจิทฺจ วิวชฺชนกรณํ ¶ กริสฺสามาติ. สาวนนฺติ จตุนฺนมฺปิ ปริสานํ ติกฺขตฺตุํ ปริวาเรน อนุสาวนํ, ยถา สกฺโก เทวานมินฺโท อสุรเสนาย นิวารณตฺถํ จตูสุ ทิสาสุ อารกฺขํ ปาเปติ, เอวํ มหาราชาโนปิ ตาทิเส กิจฺจวิเสเส อตฺตโน อารกฺขํ เปนฺติ. อิเมสมฺปิ หิ ตโต สาสงฺกํ สปฺปฏิภยนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อตฺตโนปี’’ติอาทิ.
อภิกฺกนฺตาติ ¶ อติกฺกนฺตา, วิคตาติ อตฺโถติ อาห ‘‘ขเย ทิสฺสตี’’ติ. เตเนว หิ ‘‘นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม’’ติ อนนฺตรํ วุตฺตํ. อภิกฺกนฺตตโรติ ¶ อติวิย กนฺตตโร. ตาทิโส จ สุนฺทโร ภทฺทโก นาม โหตีติ อาห ‘‘สุนฺทเร ทิสฺสตี’’ติ.
โกติ เทวนาคยกฺขคนฺธพฺพาทีสุ โก กตโม. เมติ มม. ปาทานีติ ปาเท. อิทฺธิยาติ อิมาย เอวรูปาย เทวิทฺธิยา. ‘‘ยสสา’’ติ อิมินา เอทิเสน ปริวาเรน, ปริจฺเฉเทน จ. ชลนฺติ วิชฺโชตมาโน. อภิกฺกนฺเตนาติ อติวิย กนฺเตน กมนีเยน อภิรูเปน. วณฺเณนาติ สรีรวณฺณนิภาย. สพฺพา โอภาสยํ ทิสาติ ทสปิ ทิสา ปภาเสนฺโต จนฺโท วิย, สูริโย วิย จ เอโกภาสํ เอกาโลกํ กโรนฺโตติ คาถาย อตฺโถ. อภิรูเปติ อุฬารรูเป สมฺปนฺนรูเป. อพฺภนุโมทเนติ สมฺปหํสเน. อิธ ปนาติ ‘‘อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา’’ติ เอตสฺมึ ปเท. เตนาติ ขยปริยายตฺตา.
รูปายตนาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน อกฺขราทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สุวณฺณวณฺโณติ สุวณฺณจฺฉวีติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘ฉวิย’’นฺติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘กฺจนสนฺนิภตฺตโจ’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๕; ๓.๒๐๐, ๒๑๘; ม. นิ. ๒.๓๘๖) สฺูฬฺหาติ สงฺคนฺถิตา. วณฺณาติ คุณวณฺณนาติ อาห ‘‘ถุติย’’นฺติ, โถมนายนฺติ อตฺโถ. กุลวคฺเคติ ขตฺติยาทิกุลโกฏฺาเส. ตตฺถ ‘‘อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน’’ติอาทินา วณฺณิตพฺพฏฺเน วณฺโณ, ฉวิ. วณฺณนฏฺเน วณฺโณ, ถุติ. อภิตฺถวนฏฺเน วณฺโณ, ถุติ, อฺมฺํ อสงฺกรโต ¶ วณฺณิตพฺพโต เปตพฺพโต วณฺโณ, ขตฺติยาทิกุลวคฺโค. วณฺณียติ าปียติ เอเตนาติ วณฺโณ, าปกํ การณํ. วณฺณนโต ถูลรสฺสาทิภาเวน อุปฏฺานโต วณฺโณ, สณฺานํ. ‘‘มหนฺตํ ขุทฺทกํ, มชฺฌิม’’นฺติ วณฺเณตพฺพโต ปมาเณตพฺพโต วณฺโณ, ปมาณํ. วณฺณียติ จกฺขุนา วิวรียตีติ วณฺโณ, รูปายตนนฺติ เอวํ ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ วณฺณ-สทฺทสฺส ปวตฺติ เวทิตพฺพา. โสติ วณฺณสทฺโท. ฉวิยํ ทฏฺพฺโพ รูปายตเน คยฺหมานสฺส ฉวิมุเขเนว คเหตพฺพโต. ‘‘ฉวิคตา ปน วณฺณธาตุ เอว สุวณฺณวณฺโณติ เอตฺถ วณฺณคฺคหเณน คหิตา’’ติ อปเร.
เกวลปริปุณฺณนฺติ เอกเทสมฺปิ อเสเสตฺวา นิรวเสสโตว ปริปุณฺณนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘อนวเสสตา อตฺโถ’’ติ. เกวลกปฺปาติ กปฺป-สทฺโท นิปาโต ปทปูรณมตฺตํ, เกวลํ อิจฺเจว อตฺโถ ¶ . เกวล-สทฺโท พหุลวาจีติ อาห ‘‘เยภุยฺยตา อตฺโถ’’ติ. เกจิ ปน ‘‘อีสกํ อสมตฺตา เกวลกปฺปา’’ติ วทนฺติ. เอวํ สติ อนวเสสตฺโถ เอว เกวล-สทฺทตฺโถ สิยา, อนตฺถนฺตเรน ปน กปฺป-สทฺเทน ปทวฑฺฒนํ กตํ เกวลเมว เกวลกปฺปนฺติ. อถ วา กปฺปนียตา, ปฺาเปตพฺพตา ¶ เกวลกปฺปา. อพฺยามิสฺสตา วิชาติเยน อสงฺกรา สุทฺธตา. อนติเรกตา ตํปรมตา วิเสสาภาโว. เกวลกปฺปนฺติ เกวลํ ทฬฺหํ กตฺวาติ อตฺโถ. เกวลํ วุจฺจติ นิพฺพานํ สพฺพสงฺขตวิวิตฺตตฺตา. ตํ เอตสฺส อธิคตํ อตฺถีติ เกวลี, สจฺฉิกตนิโรโธ ขีณาสโว.
กปฺป-สทฺโท ¶ ปนายํ ส-อุปสคฺโค, อนุปสคฺโค จาติ อธิปฺปาเยน โอกปฺปนิยปเท ลพฺภมานํ กปฺปนิยสทฺทมตฺตํ นิทสฺเสติ, อฺถา กปฺป-สทฺทสฺส อตฺถุทฺธาเร โอกปฺปนิยปทํ อนิทสฺสนเมว สิยา. สมณกปฺเปหีติ วินยกฺกมสิทฺเธหิ สมณโวหาเรหิ. นิจฺจกปฺปนฺติ นิจฺจกาลํ. ปฺตฺตีติ นามฺเหตํ ตสฺส อายสฺมโต, ยทิทํ กปฺโปติ. กปฺปิตเกสมสฺสูติ กตฺตริยา เฉทิตเกสมสฺสุ. ทฺวงฺคุลกปฺโปติ มชฺฌนฺหิกเวลาย วีติกฺกนฺตาย ทฺวงฺคุลตาวิกปฺโป. เลโสติ อปเทโส. อนวเสสํ ผริตุํ สมตฺถสฺส โอภาสสฺส เกนจิ การเณน เอกเทสผรณมฺปิ สิยา, อยํ ปน สพฺพโสว ผรีติ ทสฺเสตุํ สมนฺตตฺโถ กปฺป-สทฺโท คหิโตติ อาห ‘‘อนวเสสํ สมนฺตโต’’ติ.
ยสฺมา เทวตานํ สรีรปฺปภา ทฺวาทสโยชนมตฺตํ านํ, ตโต ภิยฺโยปิ ผริตฺวา ติฏฺติ, ตถา วตฺถาภรณาทีหิ สมุฏฺิตา ปภา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘จนฺทิมา วิย, สูริโย วิย จ เอโกภาสํ เอกํ ปชฺโชตํ กริตฺวา’’ติ. กสฺมา เอเต มหาราชาโน ภควโต สนฺติเก นิสีทึสุ? นนุ เยภุยฺเยน เทวตา ภควโต สนฺติกํ อุปคตา ตฺวาว กเถตพฺพํ กเถนฺตา คจฺฉนฺตีติ? สจฺจเมตํ, อิธ ปน นิสีทเน การณํ อตฺถิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เทวตาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อิทํ ปริตฺตํ นาม สตฺตพุทฺธปฏิสํยุตฺตํ ครุ, ตสฺมา น อมฺเหหิ ตฺวา คเหตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ปริตฺตคารววเสน นิสีทึสุ.
๒๗๖. กสฺมา ปเนตฺถ เวสฺสวโณ เอว กเถสิ, น อิตเรสุ โย โกจีติ? ตตฺถ การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิสฺสาสิโก ¶ อภิณฺหํ อุปสงฺกมเนน. พฺยตฺโตติ วิสารโท, ตฺจสฺส เวยฺยตฺติยํ สุฏฺุ สิกฺขิตภาเวนาติ อาห ‘‘สุสิกฺขิโต’’ติ. มนุสฺเสสุ วิย หิ เทเวสุปิ โกจิเทว ปุริมชาติปริจเยน สุสิกฺขิโต โหติ, ตตฺราปิ โกจิเทว ยถาธิปฺเปตมตฺถํ วตฺตุํ สมตฺโถ ปริปุณฺณปทพฺยฺชนาย โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต. ‘‘มเหสกฺขา’’ติ อิมสฺส อตฺถวจนํ ‘‘อานุภาวสมฺปนฺนา’’ติ, มเหสกฺขาติ วา มหาปริวาราติ อตฺโถ. ปาณาติปาเต ¶ อาทีนวทสฺสเนเนว ตํ วิปริยายโต ตโต เวรมณิยํ อานิสํโส ปากโฏ โหตีติ ‘‘อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา’’ อิจฺเจว วุตฺตํ. เตสุ เสนาสเนสูติ ยานิ ‘‘อรฺวนปฺปตฺถานี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๓๔-๔๕) วุตฺตานิ ¶ ภิกฺขูนํ วสนฏฺานภูตานิ อรฺายตนานิ, เตสุ ภิกฺขูหิ สยิตพฺพโต, อาสิตพฺพโต จ เสนาสนสฺิเตสุ. นิพทฺธวาสิโนติ รุกฺขปพฺพตปฏิพทฺเธสุ วิมาเนสุ นิจฺจวาสิตาย นิพทฺธวาสิโน. พทฺธตฺตาติ คาถาภาเวน คนฺถิตตฺตา สมฺพนฺธิตตฺตา.
‘‘อุคฺคณฺหาตุ ภนฺเต ภควา’’ติ อตฺตนา วุจฺจมานํ ปริตฺตํ ภควนฺตํ อุคฺคณฺหาเปตุกาโม เวสฺสวโณ อโวจาติ อธิปฺปาเยน โจทโก ‘‘กึ ปน ภควโต อปฺปจฺจกฺขธมฺโม นาม อตฺถี’’ติ โจเทสิ. อาจริโย สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตาณจารสฺส ภควโต น กิฺจิ อปฺปจฺจกฺขนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘นตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘อุคฺคณฺหาตุ ภนฺเต ภควา’’ติ วทโต เวสฺสวณสฺส อธิปฺปายํ วิวรนฺโต ‘‘โอกาสกรณตฺถ’’นฺติอาทิมาห. ยถา หิ ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต เทวานํ ตาวตึสานํ, พฺรหฺมุโน จ สนงฺกุมารสฺส สมฺมุขา อตฺตโน ยถาสุตํ ธมฺมํ ภควโต สนฺติกํ อุปคนฺตฺวา ปเวเทติ, เอวมยมฺปิ มหาราชา อิตเรหิ สทฺธึ อาฏานาฏนคเร คาถาวเสน พนฺธิตํ ปริตฺตํ ภควโต ปเวเทตุํ โอกาสํ กาเรนฺโต ‘‘อุคฺคณฺหาตุ ภนฺเต ภควา’’ติ อาห, น นํ ตสฺส ปริยาปุณเน นิโยเชนฺโต. ตสฺมา อุคฺคณฺหาตูติ ยถิทํ ปริตฺตํ มยา ปเวทิตมตฺตเมว หุตฺวา จตุนฺนํ ปริสานํ จิรกาลํ หิตาวหํ โหติ, เอวํ อุทฺธํ อารกฺขาย คณฺหาตุ, สมฺปฏิจฺฉตูติ อตฺโถ. สตฺถุ กถิเตติ สตฺถุ อาโรจิเต, จตุนฺนํ ปริสานํ สตฺถุ กถเน วาติ อตฺโถ. สุขวิหารายาติ ¶ ยกฺขาทีหิ อวิหึสาย ลทฺธพฺพสุขวิหาราย.
๒๗๗. สตฺตปิ ¶ พุทฺธา จกฺขุมนฺโต ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมภาเว วิเสสาภาวโต. ตสฺมาติ ยสฺมา จกฺขุมภาโว วิย สพฺพภูตานุกมฺปิตาทโย สพฺเพปิ วิเสสา สตฺตนฺนมฺปิ พุทฺธานํ สาธารณา, ตสฺมา, คุณเนมิตฺตกาเนว วา ยสฺมา พุทฺธานํ นามานิ นาม, น ลิงฺคิกาวตฺถิกยาทิจฺฉกานิ, ตสฺมา พุทฺธานํ คุณวิเสสทีปนานิ ‘‘จกฺขุมนฺตสฺสา’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๒๗๗) วุตฺตานิ เอตานิ เอเกกสฺส สตฺต สตฺต นามานิ โหนฺติ. เตสํ นามานํ สาธารณภาวํ อตฺถวเสน โยเชตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺเพปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สพฺพภูตานุกมฺปิโนติ อนฺสาธารณมหากรุณาย สพฺพสตฺตานํ อนุกมฺปิกา. นฺหาตกิเลสตฺตาติ อฏฺงฺคิเกน อริยมคฺคชเลน สปรสนฺตาเนสุ นิรวเสสโต โธตกิเลสมลตฺตา. มารเสนาปมทฺทิโนติ สปริวาเร ปฺจปิ มาเร ปมทฺทิตวนฺโต. วุสิตวนฺโตติ มคฺคพฺรหฺมจริยวาสํ, ทสวิธํ อริยวาสฺจ วุสิตวนฺโต. วุสิตวนฺตตาย เอว พาหิตปาปตา วุตฺตา โหตีติ ‘‘พฺราหฺมณสฺสา’’ติ ปทํ อนามฏฺํ. วิมุตฺตาติ อนฺสาธารณานํ ปฺจนฺนมฺปิ วิมุตฺตีนํ วเสน นิรวเสสโต มุตฺตา. องฺคโตติ สรีรงฺคโต, าณงฺคโต จ, ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณ- (ที. นิ. ๒.๓๓; ๓.๒๐๐; ม. นิ. ๒.๓๘๕) อสีติอนุพฺยฺชเนหิ นิกฺขมนปฺปภา, พฺยามปฺปภา, เกตุมาลาอุณฺหีสปฺปภา ¶ จ สรีรงฺคโต นิกฺขมนกรสฺมิโย, ยมกมหาปาฏิหาริยาทีสุ อุปฺปชฺชนกปฺปภา าณงฺคโต นิกฺขมนกรสฺมิโย. น เอตาเนว ‘‘จกฺขุมา’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๒๗๗) วุตฺตานิ สตฺต นามานิ, อถ โข อฺานิปิ พหูนิ อปริมิตานิ นามานิ. กถนฺติ อาห ‘‘อสงฺขฺเยยฺยานิ นามานิ สคุเณน มเหสิโนติ วุตฺต’’นฺติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๓๑๓; อุทา. อฏฺ. ๕๓; ปฏิ. อฏฺ. ๗๖). เกน วุตฺตํ? ธมฺมเสนาปตินา.
ยทิ เอวํ กสฺมา เวสฺสวโณ เอตาเนว คณฺหีติ อาห ‘‘อตฺตโน ปากฏนามวเสนา’’ติ. ขีณาสวา ¶ ชนาติ อธิปฺเปตา. เต หิ กมฺมกิเลเสหิ ชาตาปิ เอวํ น ปุน ชายิสฺสนฺตีติ อิมินา อตฺเถน ชนา. ยถาห ‘‘โย จ กาลฆโส ภูโต’’ติ (ชา. ๑.๒.๑๙๐) เทสนาสีสมตฺตนฺติ นิทสฺสนมตฺตนฺติ อตฺโถ, อวยเวน วา สมุทายุปลกฺขณเมตํ. สติ จ ปิสุณวาจปฺปหาเน ¶ ผรุสวาจา ปหีนาว โหติ, ปเคว จ มุสาวาโทติ ‘‘อปิสุณา’’ อิจฺเจว วุตฺตา. มหตฺตาติ มหา อตฺตา สภาโว เอเตสนฺติ มหตฺตา. เตนาห ‘‘มหนฺตภาวํ ปตฺตา’’ติ. มหนฺตาติ วา มหา อนฺตา, ปรินิพฺพานปริโยสานาติ วุตฺตํ โหติ. มหนฺเตหิ วา สีลาทีหิ สมนฺนาคตา. อยํ ตาว อฏฺกถายํ อาคตนเยน อตฺโถ. อิตเรสํ ปน มเตน พุทฺธาทีหิ อริเยหิ มหนียโต ปูชนียโต มหํ นาม นิพฺพานํ, มหมนฺโต เอเตสนฺติ มหนฺตา, นิพฺพานทิฏฺาติ อตฺโถ. นิสฺสารทาติ สารชฺชรหิตา, นิพฺภยาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘วิคตโลมหํสา’’ติ.
หิตนฺติ หิตจิตฺตํ, สตฺตานํ หิเตสีติ อตฺโถ. ยถาภูตํ วิปสฺสิสุนฺติ ปฺจุปาทานกฺขนฺเธสุ สมุทยาทิโต ยาถาวโต วิวิเธนากาเรน ปสฺสึสุ. ‘‘เย จาปี’’ติ ปุพฺเพ ปจฺจตฺตพหุวจเนน อนิยมโต วุตฺเต เตสมฺปีติ อตฺถํ สมฺปทานพหุวจนวเสน นิยเมตฺวา ‘‘นมตฺถู’’ติ จ ปทํ อาเนตฺวา โยเชติ ยํ ตํ-สทฺทานํ อพฺยภิจาริตสมฺพนฺธภาวโต. วิปสฺสึสุ นมสฺสนฺตีติ วา โยชนา. ปมคาถายาติ ‘‘เย จาปิ นิพฺพุตา โลเก’’ติ ¶ เอวํ วุตฺตคาถาย. ทุติยคาถายาติ ตทนฺตรคาถาย. ตตฺถ เทสนามุขมตฺตนฺติ อิตเรสมฺปิ พุทฺธานํ นามคฺคหเณ ปตฺเต อิมสฺเสว ภควโต นามคฺคหณํ ตถา เทสนาย มุขมตฺตํ, ตสฺมา เตปิ อตฺถโต คหิตา เอวาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อยมฺปิ หี’’ติอาทิ. ตตฺถ อยนฺติ อยํ คาถา. ปุริมโยชนายํ ตสฺสาติ วิเสสิตพฺพตาย อภาวโต ‘‘ยนฺติ นิปาตมตฺต’’นฺติ วุตฺตํ, อิธ ปน ‘‘ตสฺส นมตฺถู’’ติ เอวํ สมฺพนฺธสฺส จ อิจฺฉิตตฺตา ‘‘ย’’นฺติ นามปทํ อุปโยเคกวจนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํ นมสฺสนฺติ โคตม’’นฺติ อาห.
๒๗๘. ‘‘ยโต ¶ อุคฺคจฺฉติ สูริโย’’ติอาทิกํ กสฺมา อารทฺธํ? ยํ เย ยกฺขาทโย สตฺถุ ธมฺมอาณํ, อตฺตโน จ ราชาณํ นาทิยนฺติ, เตสํ ‘‘อิทฺจิทฺจ นิคฺคหํ กริสฺสามา’’ติ สาวนํ กาตุกามา ตตฺถ ตตฺถ ทฺวิสหสฺสปริตฺตทีปปริวาเรสุ จตูสุ มหาทีเปสุ อตฺตโน อาณาย วตฺตานํ อตฺตโน ปุตฺตานํ, อฏฺวีสติยา ยกฺขเสนาปติอาทีนฺจ สตฺถริ ปสาทคารวพหุมานฺจ ปเวเทตฺวา นิคฺคหารหานํ สนฺตชฺชนตฺถํ อารทฺธํ. ตตฺถ ¶ ‘‘ยโต อุคฺคจฺฉตี’’ติอาทีสุ ‘‘ยโต านโต อุเทตี’’ติ วุจฺจติ, กุโต ปน านโต อุเทตีติ วุจฺจติ? ปุพฺพวิเทหวาสีนํ ตาว มชฺฌนฺหิกฏฺาเน ิโต ชมฺพุทีปวาสีนํ อุเทตีติ วุจฺจติ, อุตฺตรกุรุกานํ ปน โอคฺคจฺฉตีติ อิมินา นเยน เสสทีเปสุปิ สูริยสฺส อุคฺคจฺฉโนคฺคจฺฉนปริยาโย เวทิตพฺโพ. อยฺจ อตฺโถ เหฏฺา อคฺคฺสุตฺตวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๑๒๑) ปกาสิโต เอว. อทิติยา ปุตฺโตติ โลกสมุทาจารวเสน วุตฺตํ. โลกิยา หิ เทเว อทิติยา ปุตฺตา, อสุเร อติถิยา ปุตฺตาติ วทนฺติ. อาทิปฺปนโต ปน อาทิจฺโจ, เอกปฺปหาเรเนว ตีสุ ทีเปสุ อาโลกวิทํสเนน สมุชฺชลนโตติ อตฺโถ. มณฺฑลีติ เอตฺถ อี-กาโร ภุสตฺโถติ อาห ‘‘มหนฺตํ มณฺฑลํ อสฺสาติ มณฺฑลี’’ติ. มหนฺตํ หิสฺส วิมานมณฺฑลํ ปฺาสโยชนายามวิตฺถารโต. ‘‘สํวรีปิ ¶ นิรุชฺฌตี’’ติ อิมินาว ทิวโสปิ ชายตีติ อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. รตฺติ อนฺตรธายตีติ สิเนรุปจฺฉายาลกฺขณสฺส อนฺธการสฺส วิคจฺฉนโต.
อุทกรหโทติ ชลธิ. ‘‘ตสฺมึ าเน’’ติ อิทํ ปุรตฺถิมสมุทฺทสฺส อุปริภาเคน สูริยสฺส คมนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตถา หิ ชมฺพุทีเป ิตานํ ปุรตฺถิมสมุทฺทโต สูริโย อุคฺคจฺฉนฺโต วิย อุปฏฺาติ. เตนาห ‘‘ยโต อุคฺคจฺฉติ สูริโย’’ติ. สมุทฺทนฏฺเน อตฺตนิ ปติตสฺส สมฺมเทว, สพฺพโส จ อุนฺทนฏฺเน กิเลทนฏฺเน สมุทฺโท. สมุทฺโท หิ กิเลทนฏฺโ รหโท. สาริโตทโกติ อเนกานิ โยชนสหสฺสานิ วิตฺถิณฺโณทโก, สริตา นทิโย อุทเก เอตสฺสาติ วา สริโตทโก.
สิเนรุปพฺพตราชา จกฺกวาฬสฺส เวมชฺเฌ ิโต, ตํ ปธานํ กตฺวา วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘อิโตติ สิเนรุโต’’ติ วตฺวา ตถา ปน ทิสาววตฺถานํ อนวฏฺิตนฺติ ‘‘เตสํ นิสินฺนฏฺานโต วา’’ติ วุตฺตํ. เตสนฺติ จตุนฺนํ มหาราชานํ. นิสินฺนฏฺานํ อาฏานาฏนครํ. ตตฺถ หิ นิสินฺนา เต อิมํ ปริตฺตํ พนฺธึสุ. เตสํ นิสินฺนฏฺานโตติ วา สตฺถุ สนฺติเก เตสํ นิสินฺนฏฺานโต. อุภยถาปิ สูริยสฺส อุทยฏฺานา ปุรตฺถิมา ทิสา นาม โหติ. ปุริมปกฺขํเยเวตฺถ วณฺเณนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อิโต สา ปุริมา ทิสา’’ติ. สูริโย, ปน จนฺทนกฺขตฺตาทโย จ สิเนรุํ ทกฺขิณโต, จกฺกวาฬปพฺพตฺจ วามโต กตฺวา ปริวตฺเตนฺติ. ยตฺถ ¶ จ เนสํ อุคฺคมนํ ปฺายติ, สา ปุรตฺถิมา ¶ ทิสา. ยตฺถ โอกฺกมนํ ปฺายติ, สา ปจฺฉิมา ทิสา. ทกฺขิณปสฺเส ¶ อุตฺตรา ทิสา, วามปสฺเส ทกฺขิณา ทิสาติ จตุมหาทีปวาสีนํ ปจฺเจกํ สิเนรุ อุตฺตราทิสายเมว, ตสฺมา อนวฏฺิตา ทิสาววตฺถาติ อาห ‘‘อิติ นํ อาจิกฺขติ ชโน’’ติ. ยํ ทิสนฺติ ยํ ปุรตฺถิมทิสํ ยสสฺสีติ มหาปริวาโร. โกฏิสตสหสฺสปริมาณา หิ เทวตา อภิณฺหํ ปริวาเรนฺติ. จนฺทนนาครุกฺขาทีสุ โอสธิติณวนปฺปติสุคนฺธานํ อพฺพนโต, เตหิ ทิตฺตภาวูปคมนโต ‘‘คนฺธพฺพา’’ติ ลทฺธนามานํ จาตุมหาราชิกเทวานํ อธิปติ ภาวโต. เม สุตนฺติ เอตฺถ เมติ นิปาตมตฺตํ. สุตนฺติ วิสฺสุตนฺติ อตฺโถ. อยฺเหตฺถ โยชนา – ตสฺส ธตรฏฺมหาราชสฺส ปุตฺตาปิ พหโว. กิตฺตกา? อสีติ, ทส เอโก จ. เอกนามา. กถํ? อินฺทนามา. ‘‘มหปฺผลา’’ติ จ สุตํ วิสฺสุตเมตํ โลเกติ.
อาทิจฺโจ โคตมโคตฺโต, ภควาปิ โคตมโคตฺโต, อาทิจฺเจน สมานโคตฺตตาย อาทิจฺโจ พนฺธุ เอตสฺสาติปิ อาทิจฺจพนฺธุ, อาทิจฺจสฺส วา พนฺธูติ อาทิจฺจพนฺธุ, ตํ อาทิจฺจพนฺธุนํ.อนวชฺเชนาติ อวชฺชปฏิปกฺเขน พฺรหฺมวิหาเรน. สเมกฺขสิ โอธิโส, อโนธิโส จ ผรเณน โอโลเกสิอาสยานุสยจริยาธิมุตฺติอาทิวิภาคาวโพธวเสน. วตฺวา วนฺทนฺตีติ ‘‘โลกสฺส อนุกมฺปโก’’ติ กิตฺเตตฺวา วนฺทนฺติ. สุตํ เนตนฺติ สุตํ นนูติ เอตสฺมึ อตฺเถ นุ-สทฺโท. อฏฺกถายํ ปน โนกาโรยนฺติ อธิปฺปาเยน อมฺเหหีติ อตฺโถ วุตฺโต. เอตนฺติ เอตํ ตถา ปริกิตฺเตตฺวา อมนุสฺสานํ เทวตานํ วนฺทนํ. วทนฺติ ธตรฏฺมหาราชสฺส ปุตฺตา.
๒๗๙. เยน ¶ เปตา ปวุจฺจนฺตีติ เอตฺถ วจนเสเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ, น ยถารุตวเสเนวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เยน ทิสาภาเคน นีหรียนฺตูติ วุจฺจนฺตี’’ติ อาห. ฑยฺหนฺตุ วาติ เปเต สนฺธาย วทติ. ฉิชฺชนฺตุ วา หตฺถปาทาทิเก ปิสุณา ปิฏฺิมํสิกา. หฺนฺตุ ปาณาติปาติโนติอาทิกา. ปวุจฺจนฺตีติ วา สมุจฺจนฺติ, ‘‘อลํ เตส’’นฺติ สมาจินียนฺตีติ อตฺโถ. เอวฺหิ วจนเสเสน วินา เอว อตฺโถ สิทฺโธ โหติ. รหสฺสงฺคนฺติ พีชํ สนฺธาย วทติ.
๒๘๐. ยสฺมึ ทิสาภาเค สูริโย อตฺถํ คจฺฉตีติ เอตฺถ ‘‘ยโต านโต อุเทตี’’ติ เอตฺถ วุตฺตนยานุสาเรน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๒๘๑. เยน ¶ ทิสาภาเคน อุตฺตรกุรุ รมฺโม อวฏฺิโต, อิโต สา อุตฺตรา ทิสาติ โยชนา ¶ . มหาเนรูติ มหนฺโต, มหนีโย จ เนรุสงฺขาโต ปพฺพโต. เตนาห ‘‘มหาสิเนรุ ปพฺพตราชา’’ติ. รชตมยํ. ตถา หิ ตสฺส ปภาย อชฺโฌตฺถตํ ตสฺสํ ทิสายํ สมุทฺโททกํ ขีรํ วิย ปฺายติ. มณิมยนฺติ อินฺทนีลมยํ. ตถา หิ ทกฺขิณทิสาย สมุทฺโททกํ เยภุยฺเยน นีลวณฺณํ หุตฺวา ปฺายติ, ตถา อากาสํ. มนุสฺสา ชายนฺติ. กถํ ชายนฺติ? อมมา อปริคฺคหาติ โยชนา. มมตฺตวิรหิตาติ ‘‘อิทํ มม อิทํ มมา’’ติ มมงฺการวิรหิตาติ อธิปฺปาโย. ยทิ เตสํ ‘‘อยํ มยฺหํ ภริยา’’ติ ปริคฺคโห นตฺถิ, ‘‘อยํ เม มาตา, อยํ ภคินี’’ติ เอวรูปา อิธ วิย มริยาทาปิ น สิยา มาตุอาทิภาวสฺส อชานนโตติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘มาตรํ วา’’ติอาทิ. ฉนฺทราโค นุปฺปชฺชตีติ เอตฺถ ‘‘ธมฺมตาสิทฺธสฺส สีลสฺส อานุภาเวน ปุตฺเต ¶ ทิฏฺมตฺเต เอว มาตุ ถนโต ถฺํ ปคฺฆรติ, เตน สฺาเณน เนสํ มาตริ ปุตฺตสฺส มาตุสฺา, มาตุ จ ปุตฺเต ปุตฺตสฺา ปจฺจุปฏฺิตา’’ติ เกจิ.
นงฺคลาติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘นงฺคลานิปี’’ติ. อกฏฺเติ อกสิเต อกตกสิกมฺเม.
ตณฺฑุลาว ตสฺส ผลนฺติ สตฺตานํ ปฺุานุภาวเหตุกา ถุสาทิอภาเวน ตณฺฑุลา เอว ตสฺส สาลิสฺส ผลํ. ตุณฺฑิกิรนฺติ ปจนภาชนสฺส นามนฺติ วุตฺตํ ‘‘อุกฺขลิย’’นฺติ. อากิริตฺวาติ ตณฺฑุลานิ ปกฺขิปิตฺวา. นิทฺธูมงฺคาเรนาติ ธูมงฺคารรหิเตน เกวเลน อคฺคินา. โชติกปาสาณโต อคฺคิมฺหิ อุฏฺหนฺเต กุโต ธูมงฺคารานํ สมฺภโว. โภชนนฺติ โอทนเมวาธิปฺเปตนฺติ ‘‘โภชนเมวา’’ติ อวธารณํ กตฺวา เตน นิวตฺเตตพฺพํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อฺโ สูโป วา พฺยฺชนํ วา น โหตี’’ติ อาห. ยทิ เอวํ รสวิเสสยุตฺโต เตสํ อาหาโร น โหตีติ? โนติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภฺุชนฺตานํ…เป… รโส โหตี’’ติ อาห. มจฺฉริยจิตฺตํ นาม น โหตีติ ธมฺมตาสิทฺธสฺส สีลสฺส อานุภาเวน. ตถา หิ เต กตฺถจิปิ อมมา ปริคฺคหาว หุตฺวา วสนฺติ.
อปิจ ¶ ตตฺถ อุตฺตรกุรุกานํ ปฺุานุภาวสิทฺโธ อยมฺปิ วิเสโส เวทิตพฺโพ – ตตฺถ กิร เตสุ เตสุ ปเทเสสุ ฆนจิตปตฺตสฺฉนฺนสาขาปสาขา กูฏาคารูปมา มโนรมา รุกฺขา เตสํ มนุสฺสานํ นิเวสนกิจฺจํ สาเธนฺติ, ยตฺถ สุขํ นิวสนฺติ, อฺเปิ ตตฺถ รุกฺขา สุชาตา สพฺพทาปิ ปุปฺผิตคฺคา ติฏฺนฺติ, ชลาสยาปิ วิกสิตกมลกุวลยปุณฺฑรีกโสคนฺธิกาทิปุปฺผสฺฉนฺนา สพฺพกาลํ ปรมสุคนฺธํ สมนฺตโต ปวายนฺตา ¶ ติฏฺนฺติ. สรีรมฺปิ เตสํ อติทีฆตาทิโทสรหิตํ อาโรหปริณาหสมฺปนฺนํ ชราย อนภิภูตตฺตา วลิปลิตาทิโทสรหิตํ ยาวตายุกํ อปริกฺขีณชวพลปรกฺกมโสภเมว หุตฺวา ติฏฺติ. อนุฏฺานผลูปชีวิตาย น จ ¶ เนสํ กสิวาณิชฺชาทิวเสน, อาหารปริเยฏฺิวเสน ทุกฺขํ อตฺถิ, ตโต เอว น ทาสทาสิกมฺมกราทิปริคฺคโห อตฺถิ, น จ ตตฺถ สีตุณฺหฑํสมกสวาตาตปสรีสปวาฬาทิปริสฺสโย อตฺถิ. ยถา นาเมตฺถ คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส ปจฺจูสเวลายํ สมสีตุณฺหอุตุ โหติ, เอวเมว สพฺพกาลํ สมสีตุณฺโหว อุตุ โหติ, น จ เตสํ โกจิ อุปฆาโต, วิเหสา วา อุปฺปชฺชติ. อกฏฺปากิมเมว สาลึ อกณํ อถุสํ สุคนฺธํ ตณฺฑุลผลํ ปริภฺุชนฺตานํ เนสํ กุฏฺํ, คณฺโฑ, กิลาโส, โสโส, กาโส, สาโส, อปมาโร, ชโรติ เอวมาทิโก น โกจิ โรโค อุปฺปชฺชติ. น เต ขุชฺชา วา วามนกา วา กาณา วา กุณี วา ขฺชา วา ปกฺขหตา วา วิกลงฺคา วา วิกลินฺทฺริยา วา โหนฺติ. อิตฺถิโยปิ ตตฺถ นาติทีฆา นาติรสฺสา นาติกิสา นาติถูลา นาติกาฬา นาจฺโจทาตา โสภคฺคปฺปตฺตรูปา โหนฺติ. ตถา หิ ทีฆงฺคุลี ตมฺพนขี ลมฺพตฺถนา ตนุมชฺฌา ปุณฺณจนฺทมุขี วิสาลกฺขี มุทุคตฺตา สํหิตูรู โอทาตทนฺตา คมฺภีรนาภี ตนุชงฺฆา ทีฆนีลเวลฺลิตเกสี ปุถุลสุโสณี นาติโลมานาโลมา สุภคา อุตุสุขสมฺผสฺสา สณฺหา สขิลสมฺภาสา นานาภรณวิภูสิตา วิจรนฺติ. สพฺพทา หิ โสฬสวสฺสุทฺเทสิกา วิย โหนฺติ. ปุริสา จ ปฺจวีสติวสฺสุทฺเทสิกา วิย, น ปุตฺตทาเรสุ รชฺชนฺติ. อยํ ตตฺถ ธมฺมตา.
สตฺตาหิกเมว จ ตตฺถ อิตฺถิปุริสา กามรติยา วิหรนฺติ, ตโต วีตราคา ยถาสกํ คจฺฉนฺติ. น ตตฺถ อิธ วิย คพฺโภกฺกนฺติมูลกํ, คพฺภปริหรณมูลกํ ¶ , วิชายนมูลกํ วา ทุกฺขํ โหติ. รตฺตกฺจุกโต กฺจนปฏิมา ¶ วิย ทารกา มาตุกุจฺฉิโต อมกฺขิตา เอว เสมฺหาทินา สุเขเนว นิกฺขมนฺติ, อยํ ตตฺถ ธมฺมตา.
มาตา ปน ปุตฺตํ วา ธีตรํ วา วิชายิตฺวา เตสํ วิจรณปฺปเทเส เปตฺวา อนเปกฺขา ยถารุจิ คจฺฉติ. เตสํ ตตฺถ สยิตานํ เย ปสฺสนฺติ ปุริสา, อิตฺถิโย วา, เต อตฺตโน องฺคุลิโย อุปนาเมนฺติ, เตสํ กมฺมพเลน ตโต ขีรํ ปวตฺตติ, เตน ทารกา ยาเปนฺติ. เอวํ ปน วฑฺฒนฺตา กติปยทิวเสเหว ลทฺธพลา หุตฺวา ทาริกา อิตฺถิโย อุปคจฺฉนฺติ, ทารกา ปุริเส. กปฺปรุกฺขโต เอว จ เตสํ ตตฺถ ตตฺถ วตฺถาภรณานิ นิปฺปชฺชนฺติ. นานาวิราควณฺณวิจิตฺตานิ หิ สุขุมานิ มุทุสุขสมฺผสฺสานิ วตฺถานิ ตตฺถ ตตฺถ กปฺปรุกฺเขสุ โอลมฺพนฺตานิ อิฏฺนฺติ. นานาวิธรํสิชาลสมุชฺชลวิวิธวณฺณรตนวินทฺธานิ อเนกวิธมาลากมฺมลตากมฺมภิตฺติกมฺมวิจิตฺตานิ สีสูปคคีวูปคหตฺถูปคกฏูปคปาทูปคานิ โสวณฺณมยานิ อาภรณานิ จ กปฺปรุกฺขโต โอลมฺพนฺติ. ตถา วีณามุทิงฺคปณวสมฺมตาฬสงฺขวํสเวตาฬปริวานิวลฺลกีปภุติกา ตูริยภณฺฑาปิ ตโต ตโต โอลมฺพนฺติ. ตตฺถ จ พหู ผลรุกฺขา กุมฺภมตฺตานิ ¶ ผลานิ ผลนฺติ มธุรรสานิ, ยานิ ปริภฺุชิตฺวา เต สตฺตาหมฺปิ ขุปฺปิปาสาหิ น พาธียนฺติ. นชฺโชปิ ตตฺถ สุวิสุทฺธชลา สุปติตฺถา รมณียา อกทฺทมา วาลุกตลา นาติสีตา นาจฺจุณฺหา สุรภิคนฺธีหิ ชลชปุปฺเผหิ สฺฉนฺนา สพฺพกาลํ สุรภึ วายนฺติโย สนฺทนฺติ. น ตตฺถ กณฺฏกติณกกฺขฬคจฺฉลตา โหนฺติ, อกณฺฏกา ปุปฺผผลสมฺปนฺนา เอว โหนฺติ. จนฺทนนาครุกฺขา สยเมว รสํ ปคฺฆรนฺติ ¶ . นฺหายิตุกามา จ นทีติตฺเถ เอกชฺฌํ วตฺถาภรณานิ เปตฺวา นทึ โอตริตฺวา นฺหตฺวา อุตฺติณฺณุตฺติณฺณา อุปริฏฺิมํ วตฺถาภรณํ คณฺหนฺติ, น เตสํ เอวํ โหติ ‘‘อิทํ มม, อิทํ ปรสฺสา’’ติ, ตโต เอว น เตสํ โกจิ วิคฺคโห วา วิวาโท วา. สตฺตาหิกา เอว จ เนสํ กามรติกีฬา โหติ, ตโต วีตราคา วิย วิจรนฺติ. ยตฺถ จ รุกฺเข สยิตุกามา โหนฺติ, ตตฺเถว สยนํ อุปลภนฺติ. มเต จ สตฺเต ทิสฺวา น โรทนฺติ, น โสจนฺติ, ตฺจ มณฺฑยิตฺวา นิกฺขิปนฺติ. ตาวเทว จ เนสํ ตถารูปา สกุณา อุปคนฺตฺวา มตํ ทีปนฺตรํ เนนฺติ. ตสฺมา สุสานํ วา อสุจิฏฺานํ วา ตตฺถ นตฺถิ. น จ ตโต มตา นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนึ วา เปตฺติวิสยํ วา อุปปชฺชนฺติ. ‘‘ธมฺมตาสิทฺธสฺส ปฺจสีลสฺส อานุภาเวน เต ¶ เทวโลเก นิพฺพตฺตนฺตี’’ติ วทนฺติ. วสฺสสหสฺสเมว จ เนสํ สพฺพกาลํ อายุปฺปมาณํ. สพฺพเมตํ เตสํ ปฺจสีลํ วิย ธมฺมตาสิทฺธํ เอวาติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ อุตฺตรกุรุทีเป.
เอกขุรํ กตฺวาติ อเนกสผมฺปิ เอกสผํ วิย กตฺวา, อสฺสํ วิย กตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘คาวิ’’นฺติ วตฺวา ปุน ‘‘ปสุ’’นฺติ วุตฺตตฺตา คาวิโต อิตโร สพฺโพ จตุปฺปโท อิธ ‘‘ปสู’’ติ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘เปตฺวา คาวิ’’นฺติ.
ตสฺสาติ คพฺภินิตฺถิยา. ปิฏฺิ โอนมิตุํ สหตีติ กุจฺฉิยา ครุภารตาย เตสํ อารุฬฺหกาเล ปิฏฺิ โอนมติ, เตสํ นิสชฺชํ สหติ ปลฺลงฺเก นิสินฺนา วิย โหนฺติ. สมฺมาทิฏฺิเกติ กมฺมปถสมฺมาทิฏฺิยา สมฺมาทิฏฺิเก. เอตฺถาติ ชมฺพุทีเป. เอตฺถ หิ ชนปทโวหาโร, น อุตฺตรกุรุมฺหิ. ตถา หิ ‘‘ปจฺจนฺติมมิลกฺขุวาสิเก’’ติ จ วุตฺตํ.
ตสฺส รฺโติ เวสฺสวณมหาราชสฺส. อิติ โส อตฺตานเมว ปรํ วิย กตฺวา วทติ. เอเสว นโย ปรโตปิ. พหุวิธํ ¶ นานารตนวิจิตฺตํ นานาสณฺานํ รถาทิ ทิพฺพยานํ อุปฏฺิตเมว โหติ สุทนฺตวาหนยุตฺตํ, น เนสํ ยานานํ อุปฏฺาปเน อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชิตพฺพํ อตฺถิ. เอตานีติ หตฺถิยานาทีนิ. เนสนฺติ เวสฺสวณปริจาริกานํ. กปฺปิตานิ หุตฺวา อุฏฺิตานิ อารุหิตุํ อุปกปฺปนยานานิ. นิปนฺนาปิ นิสินฺนาปิ วิจรนฺติ จนฺทิมสูริยา วิย ยถาสกํ วิมาเนสุ.
นครา ¶ อหูติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘นครานิ ภวึสูติ อตฺโถ’’ติ. อาฏานาฏา นามาติ อิตฺถิลิงฺควเสน ลทฺธนามํ นครํ อาสิ.
ตสฺมึ ตฺวาติ ตสฺมึ ปเทเส ปรกุสิฏนาฏานามเก นคเร ตฺวา. ตโต อุชุํ อุตฺตรทิสายํ. เอตสฺสาติ กสิวนฺตนครสฺส. อปรภาเค อปรโกฏฺาเส, ปรโต อิจฺเจว อตฺโถ.
กุเวโรติ ตสฺส ปุริมชาติสมุทาคตํ นามนฺติ เตเนว ปสงฺเคน เยนายํ สมฺปตฺติ อธิคตา, ตทสฺส ปุพฺพกมฺมํ อาจิกฺขิตุํ ‘‘อยํ กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุจฺฉุวปฺปนฺติ อุจฺฉุสสฺสํ. อวเสสสาลาหีติ อวเสสยนฺตสาลาหิ, นิสฺสกฺกวจนฺเจตํ. ตตฺเถวาติ ปฺุตฺถํ ทินฺนสาลายเมว.
ปฏิเอสนฺโตติ ¶ ปติ ปติ อตฺเถ เอสนฺโต วีมํสนฺโต. น เกวลํ เต วีมํสนฺติ เอว, อถ โข ตมตฺถํ ปติฏฺาเปนฺตีติ อาห ‘‘วิสุํ วิสุํ อตฺเถ อุปปริกฺขมานา อนุสาสมานา’’ติ. ยกฺขรฏฺิกาติ ยกฺขรฏฺาธิปติโน. ยกฺขา จ เวสฺสวณสฺส รฺโ นิเวสนทฺวาเร นิยุตฺตา จาติ ยกฺขโทวาริกา, เตสํ ยกฺขโทวาริกานํ.
ยสฺมา ธรณีโปรกฺขณิโต ปุราโณทกํ ภสฺสยนฺตํ เหฏฺา วุฏฺิ หุตฺวา นิกฺขมติ, ตสฺมา ตํ ตโต คเหตฺวา เมเฆหิ ปวุฏฺํ วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ยโต โปกฺขรณิโต อุทกํ คเหตฺวา เมฆา ปวสฺสนฺตี’’ติ. ยโตติ ยโต ธรณีโปกฺขรณิโต. สภาติ ¶ ยกฺขานํ อุปฏฺานสภา.
ตสฺมึ าเนติ ตสฺสา โปกฺขรณิยา ตีเร ยกฺขานํ วสนวเน. สทา ผลิตาติ นิจฺจกาลํ สฺชาตผลา. นิจฺจปุปฺผิตาติ นิจฺจํ สฺชาตปุปฺผา. นานาทิชคณายุตาติ นานาวิเธหิ ทิชคเณหิ ยุตฺตา. เตหิ ปน สกุณสงฺเฆหิ อิโต จิโต จ สมฺปตนฺเตหิ ปริพฺภมนฺเตหิ ยสฺมา สา โปกฺขรณี อากุลา วิย โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘วิวิธปกฺขิสงฺฆสมากุลา’’ติ. โกฺจสกุเณหีติ สารสสกุนฺเตหิ.
‘‘เอวํ วิรวนฺตาน’’นฺติ อิมินา ตถา วสฺสิตวเสน ‘‘ชีวฺชีวกา’’ติ อยํ เตสํ สมฺาติ ทสฺเสติ. อุฏฺวจิตฺตกาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เตนาห ‘‘เอวํ วสฺสมานา’’ติ. โปกฺขรสาตกาติ โปกฺขรสณฺานตาย ‘‘โปกฺขรสาตกา’’ติ เอวํ ลทฺธนามา.
สพฺพกาลํ ¶ โสภตีติ สพฺพอุตูสุ โสภติ, น ตสฺสา เหมนฺตาทิวเสน โสภาวิรโต อตฺถิ. เอวํภูตา จ นิจฺจํ ปุปฺผิตชลชถลชปุปฺผตาย, ผลภารภริตรุกฺขปริวาริตตาย, อฏฺงฺคสมนฺนาคตสลิลตาย จ นิรนฺตรํ โสภติ.
๒๘๒. ปริกมฺมนฺติ ปุพฺพุปจารํ. ปริโสเธตฺวาติ เอกกฺขรสฺสาปิ อวิราธนวเสน อาจริยสนฺติเก สพฺพํ โสเธตฺวา. สุฏฺุ อุคฺคหิตาติ ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนาย โปริยา วาจาย วิสฺสฏฺาย อเนลคฬาย อตฺถสฺส วิฺาปนียา สมฺมเทว อุคฺคหิตา. ตถา หิ ‘‘อตฺถฺจ พฺยฺชนฺจ ปริโสเธตฺวา’’ติ วุตฺตํ. อตฺถํ ชานโต เอว หิ พฺยฺชนํ ปริสุชฺฌติ, โน อชานโต. ปทพฺยฺชนานีติ ปทฺเจว พฺยฺชนฺจ อหาเปตฺวา. เอวฺหิ ปริปุณฺณา นาม ¶ โหตีติ. วิสํวาเทตฺวาติ อฺถา กตฺวา. เตชวนฺตํ น โหติ วิรชฺฌนโต เจว วิมฺหยตฺถภาวโต ¶ จ. สพฺพโสติ อนวเสสโต อาทิมชฺฌปริโยสานโต. เตชวนฺตํ โหตีติ สภาวนิรุตฺตึ อวิราเธตฺวา สุปฺปวตฺติภาเวน สาธนโต. เอวํ ปโยควิปตฺตึ ปหาย ปโยคสมฺปตฺติยา สติ ปริตฺตสฺส อตฺถสาธกตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อชฺฌาสยวิปตฺตึ ปหาย อชฺฌาสยสมฺปตฺติยา อตฺถสาธกตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ลาภเหตู’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิทํ ปริตฺตภณนํ สตฺตานํ อนตฺถปฏิพาหนเหตูติ ตสฺส าณกรุณาปุพฺพกตา นิสฺสรณปกฺโข. เมตฺตํ ปุเรจาริกํ กตฺวาติ เมตฺตามนสิกาเรน สตฺเตสุ หิตผรณํ ปุรกฺขตฺวา.
‘‘วตฺถุํ วา’’ติอาทิ ปุพฺเพ จตุปริสมชฺเฌ กตาย สาธนาย ภควโต ปเวทนํ. ฆรวตฺถุนฺติ วสนเคหํ. นิพทฺธวาสนฺติ ปรเคเหปิ เนวาสิกภาเวน วาสํ น ลเภยฺย, ยํ ปน มหาราชานํ, ยกฺขเสนาปตีนฺจ อชานนฺตานํเยว กทาจิ วสิตฺวา คมนํ, ตํ อปฺปมาณนฺติ อธิปฺปาโย. สมิตินฺติ ยกฺขาทิสมาคมํ. กามํ ปาฬิยํ ‘‘น เม โส’’ติ อาคตํ, อิตเรสมฺปิ ปน มหาราชานมตฺตนา เอกชฺฌาสยตาย เตสมฺปิ อชฺฌาสยํ หทเย เปตฺวา เวสฺสวโณ ตถา อโวจ. กฺํ อนุ อนุ วหิตุํ อยุตฺโต อนาวยฺโห, สพฺพกาลํ กฺํ ลทฺธุํ อยุตฺโตติ อตฺโถ, ตํ อนาวยฺหํ. เตนาห ‘‘น อาวาหยุตฺต’’นฺติ. น วิวยฺหนฺติ อวิวยฺหํ, กฺํ คเหตุมยุตฺตนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘น วิวาหยุตฺต’’นฺติ. อาหิโต อหํมาโน เอตฺถาติ อตฺตา, อตฺตภาโว. อตฺตา ¶ วิสยภูโต เอตาสํ อตฺถีติ อตฺตา, ปริภาสา, ตาหิ. ปริยตฺตํ กตฺวา วจเนน ปริปุณฺณาหิ. ยถา ยกฺขา อกฺโกสิตพฺพา, เอวํ ปวตฺตา อกฺโกสา ยกฺขอกฺโกสา นาม, เตหิ. เต ปน ‘‘กฬารกฺขิ กฬารทนฺตา กาฬวณฺณา’’ติ เอวํ อาทโย.
วิรุทฺธาติ ¶ วิรุชฺฌนกา ปเรหิ วิโรธิโน. รภสาติ สารมฺภกาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘กรณุตฺตริยา’’ติ. รภสาติ วา สาหสิกา. สามิโน มนโส อสฺสวาติ มนสฺสา, กิงฺกรา. เย หิ ‘‘กึ กโรมิ ภทฺทนฺเต’’ติ สามิกสฺส วเส วตฺตนฺติ, เต เอวํ วุจฺจนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยกฺขเสนาปตีนํ เย มนสฺสา, เตส’’นฺติ. อาณาย อวโรธิตุปจารา อวรุทฺธา, เต ปน อาณาวโต ปจฺจตฺถิกา นาม โหนฺตีติ ‘‘ปจฺจามิตฺตา เวริโน’’ติ วุตฺตํ. อุชฺฌาเปตพฺพนฺติ เหฏฺา กตฺวา จินฺตาเปตพฺพํ, ตํ ¶ ปน อุชฺฌาปนํ เตสํ นีจกิริยาย ชานาปนํ โหตีติ อาห ‘‘ชานาเปตพฺพา’’ติ.
ปริตฺตปริกมฺมกถาวณฺณนา
ปริตฺตสฺส ปริกมฺมํ กเถตพฺพนฺติ อาฏานาฏิยปริตฺตสฺส ปริกมฺมํ ปุพฺพุปจารฏฺานิยํ เมตฺตสุตฺตาทิ กเถตพฺพํ. เอวฺหิ ตํ ลทฺธาเสวนํ หุตฺวา เตชวนฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘ปมเมว หี’’ติอาทิ. ปิฏฺํ วา มํสํ วาติ วา-สทฺโท อนิยมตฺโถ, เตน มจฺฉฆตสูปาทึ สงฺคณฺหาติ. โอตารํ ลภนฺติ อตฺตนา ปิยายิตพฺพอาหารวเสน ปิยายิตพฺพฏฺานวเสน จ. ‘‘ปริตฺต…เป… นิสีทิตพฺพ’’นฺติ อิมินาว ปริตฺตการกสฺส ภิกฺขุโน ปริสุทฺธิปิ อิจฺฉิตพฺพาติ ทสฺเสติ.
‘‘ปริตฺตการโก…เป… สมฺปริวาริเตนา’’ติ อิทํ ปริตฺตกรเณ พาหิรรกฺขาสํวิธานํ. ‘‘เมตฺตจิตฺตํ …เป… กาตพฺพ’’นฺติ อิทํ อพฺภนฺตรรกฺขา อุภยโต ¶ รกฺขาสํวิธานํ. เอวฺหิ อมนุสฺสา ปริตฺตกรณสฺส อนฺตรายํ กาตุํ น วิสหนฺติ. มงฺคลกถา วตฺตพฺพา ปุพฺพุปจารวเสน. สพฺพสนฺนิปาโตติ ตสฺมึ วิหาเร, ตสฺมึ วา คามเขตฺเต สพฺเพสํ ภิกฺขูนํ สนฺนิปาโต. โฆเสตพฺโพ,‘‘เจติยงฺคเณ สพฺเพหิ สนฺนิปติตพฺพ’’นฺติ. อนาคนฺตุํ นาม น ลพฺภติ อมนุสฺเสน พุทฺธาณาภเยน, ราชาณาภเยน จ. คหิตกาปเทเสน อมนุสฺโสว ปุจฺฉิโต โหตีติ อาห ‘‘อมนุสฺสคฺคหิตโก ‘ตฺวํ โก นามา’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ’’ติ. มาลาคนฺธาทีสุ ปูชนตฺถํ วินิยฺุชิยมาเนสุ. ปตฺตีติ ตุยฺหํ ปตฺติทานํ. ปิณฺฑปาเต ปตฺตีติ ปิณฺฑปาเต ทิยฺยมาเน ปตฺติทานํ. เทวตานนฺติ ยกฺขเสนาปตีนํ. ปริตฺตํ ภณิตพฺพนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘เมตฺตจิตฺตํ ปุเรจาริกํ กตฺวา’’ติ จ ‘‘มงฺคลกถา วตฺตพฺพา’’ติ จ ‘‘วิหารสฺส อุปวเน’’ติ เอวมาทิ จ สพฺพํ คิหีนํ ปริตฺตกรเณ วุตฺตํ ปริกมฺมํ กาตพฺพเมว.
สรีเร อธิมุจฺจตีติ สรีรํ อนุปวิสิตฺวา วิย อาวิสนฺโต ยถา คหิตกสฺส วเสน น วตฺตติ, อตฺตโน เอว วเสน วตฺตติ, เอวํ อธิมุจฺจติ อธิฏฺหิตฺวา ติฏฺติ. เตนาห ‘‘อาวิสตีติ ¶ ตสฺเสว เววจน’’นฺติ. ลคฺคตีติ ตตฺเถว ลคฺโค อลฺลีโน โหติ. เตนาห ‘‘น อเปตี’’ติ. โรคํ ¶ วฑฺเฒนฺโตติ ธาตูนํ สมภาเวน วตฺติตุํ อปฺปทานวเสน อุปฺปนฺนํ โรคํ วฑฺเฒนฺโต. ธาตูนํ วิสมภาวาปตฺติยา จ อาหารสฺส จ อรุจฺจเนน คหิตกสฺส สรีเร โลหิตํ สุสฺสติ, มํสํ มิลายติ, ตํ ปนสฺส ยกฺโข ธาตุกฺโขภนิมิตฺตตาย กโรนฺโต วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อปฺปมํสโลหิตํ กโรนฺโต’’ติ.
๒๘๓. เตสํ นามานิ อินฺทาทินามภาเวน โวหริตพฺพโต. ตโตติ ¶ ตโต อาโรจนโต ปรํ. เตติ ยกฺขเสนาปตโย. โอกาโส น ภวิสฺสตีติ ภิกฺขุภิกฺขุนิโย, อุปาสกอุปาสิกาโย วิเหเตุํ อวสโร น ภวิสฺสติ สมฺมเทว อารกฺขาย วิหิตตฺตาติ.
อาฏานาฏิยสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.