📜

๑๓. เตวิชฺชสุตฺตวณฺณนา

๕๑๘. เอวํ โลหิจฺจสุตฺตํ สํวณฺเณตฺวา อิทานิ เตวิชฺชสุตฺตํ สํวณฺเณนฺโต ยถานุปุพฺพํ สํวณฺณโนกาสสฺส ปตฺตภาวํ วิภาเวตุํ, โลหิจฺจสุตฺตสฺสานนฺตรํ สงฺคีตสฺส สุตฺตสฺส เตวิชฺชสุตฺตภาวํ วา ปกาเสตุํ ‘‘เอวํ เม สุตํ…เป… โกสเลสูติ เตวิชฺชสุตฺต’’นฺติ อาห. นามนฺติ นามมตฺตํ. ทิสาวาจีสทฺทโต ปยุชฺชมาโน เอนสทฺโท อทุรตฺเถ อิจฺฉิโต, ตปฺปโยเคน จ ปฺจมิยตฺเถ สามิวจนํ, ตสฺมา ‘‘อุตฺตเรนา’’ติ ปเทน อทูรตฺถโชตนํ, ปฺจมิยตฺเถ จ สามิวจนํ ทสฺเสตุํ ‘‘มนสากฏโต อวิทูเร อุตฺตรปสฺเส’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ทิสาวาจีสทฺทโต ปฺจมีวจนสฺส อทูรตฺถโชตนโต อทูรตฺถํ ทสฺเสตุํ เอนสทฺเทน เอวํ วุตฺต’’นฺติ เกจิ, สตฺตมิยตฺเถ เจตํ ตติยาวจนํ ‘‘ปุพฺเพน คามํ รมณีย’’นฺติอาทีสุ วิย. ‘‘อกฺขรจินฺตกา ปน เอน-สทฺทโยเค อวธิวาจินิ ปเท อุปโยควจนํ อิจฺฉนฺติ, อตฺโถ ปน สามิวเสเนว อิจฺฉิโต, ตสฺมา อิธ สามิวจนวเสเนว วุตฺต’’นฺติ (ที. นิ. ฏี. ๑.๕๑๘) อยํ อาจริยมติ. ตรุณอมฺพรุกฺขสณฺเฑติ ตรุณมฺพรุกฺขสมูเห. รุกฺขสมุทายสฺส หิ วนสมฺา.

๕๑๙. กุลจาริตฺตาทิสมฺปตฺติยาติ เอตฺถ อาทิสทฺเทน มนฺตชฺเฌนาภิรูปตาทิสมฺปตฺตึ สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ ตสฺมึ เทเส, กุเล วา. เต นิวาสฏฺาเนน วิเสเสนฺโต ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห. มนฺตสชฺฌายกรณตฺถนฺติ อาถพฺพณมนฺตานํ สชฺฌายกรณตฺถํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อฺเสํ พหูนํ ปเวสนํ นิวาเรตฺวา’’ติ. นทีตีเรติ อจิรวติยา นทิยา ตีเร.

มคฺคามคฺคกถาวณฺณนา

๕๒๐. ชงฺฆจารนฺติ จงฺกเมน, อิโต จิโต จ วิจรณํ. โส หิ ชงฺฆาสุ กิลมถวิโนทนตฺถํ จรณโต ‘‘ชงฺฆวิหาโร, ชงฺฆจาโร’’ติ จ วุตฺโต. เตนาห ปาฬิยํ ‘‘อนุจงฺกมนฺตานํ อนุวิจรนฺตาน’’นฺติ. จุณฺณมตฺติกาทิ นฺหานียสมฺภาโร. เตน วุตฺตนฺติ อุโภสุปิ อนุจงฺกมนานุวิจรณานํ ลพฺภนโต เอวํ วุตฺตํ. มคฺโค เจตฺถ พฺรหฺมโลกคมนูปายปฏิปทาภูโต อุชุมคฺโค. อิจฺฉิตฏฺานํ อุชุกํ มคฺคติ อุปคจฺฉติ เอเตนาติ หิ มคฺโค, ตทฺโ อมคฺโค, อ-สทฺโท วา วุทฺธิอตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตถา หิ ‘‘กตมํ นุ โข’’ติอาทินา มคฺคเมว ทสฺเสติ. ปฏิปทนฺติ พฺรหฺมโลกคามิมคฺคสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทํ.

อฺชสายโนติ อุชุมคฺคสฺส เววจนํ ปริยายทฺวยสฺส อติเรกตฺถทีปนโต ยถา ‘‘ปทฏฺาน’’นฺติ. ทุติยวิกปฺเป อฺชสสทฺโท อุชุกปริยาโย. นิยฺยาตีติ นิยฺยานิโย, โส เอว นิยฺยานิโกติ ทสฺเสติ ‘‘นิยฺยายนฺโต’’ติ อิมินา. นิยฺยานิโก นิยฺยาตีติ จ เอกนฺตนิยฺยานํ วุตฺตํ, คจฺฉนฺโต หุตฺวา คจฺฉตีติ อตฺโถ. กสฺมา มคฺโค ‘‘นิยฺยาตี’’ติ วุตฺโต, นนฺเวส คมเน อพฺยาปาโรติ? สจฺจํ. ยสฺมา ปนสฺส นิยฺยาตุ-ปุคฺคลวเสน นิยฺยานภาโว ลพฺภติ, ตสฺมา นิยฺยายนฺตปุคฺคลสฺส โยนิโส ปฏิปชฺชนวเสน นิยฺยายนฺโต มคฺโค ‘‘นิยฺยาตี’’ติ วุตฺโต. กโรตีติ อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปาเทติ. ตถา อุปฺปาเทนฺโตเยว หิ ตํ ปฏิปชฺชติ นาม. สห พฺเยติ วตฺตตีติ สหพฺโย, สหวตฺตนโก, ตสฺส ภาโว สหพฺยตาติ วุตฺตํ ‘‘สหภาวายา’’ติ. สหภาโวติ จ สโลกตา, สมีปตา วา เวทิตพฺพา. ตถา จาห ‘‘เอกฏฺาเน ปาตุภาวายา’’ติ. สกเมวาติ อตฺตโน อาจริเยน โปกฺขรสาตินา กถิตเมว. โถเมตฺวาติ ‘‘อยเมว อุชุมคฺโค อยมฺชสายโน’’ติอาทินา ปสํสิตฺวา. ตถา ปคฺคณฺหิตฺวา. ภารทฺวาโชปิ สกเมว อตฺตโน อาจริเยน ตารุกฺเขน กถิตเมว อาจริยวาทํ โถเมตฺวา ปคฺคณฺหิตฺวา วิจรตีติ โยชนา. เตน วุตฺตนฺติ ยถา ตถา วา อภินิวิฏฺภาเวน ปาฬิยํ วุตฺตํ.

๕๒๑-๕๒๒. อนิยฺยานิกาวาติ อปฺปาฏิหาริกาว, อฺมฺสฺส วาเท โทสํ ทสฺเสตฺวา อวิปรีตตฺถทสฺสนตฺถํ อุตฺตรรหิตา เอวาติ อตฺโถ. ตุลนฺติ มานปตฺถตุลํ. อฺมฺวาทสฺส อาทิโตว วิรุทฺธคฺคหณํ วิคฺคโห, สฺเวว วิวทนวเสน อปราปรํ อุปฺปนฺโน วิวาโทติ อาห ‘‘ปุพฺพุปฺปตฺติโก’’ติอาทิ. ทุวิโธปิ เอโสติ วิคฺคโห, วิวาโทติ ทฺวิธา วุตฺโตปิ เอโส วิโรโธ. นานาอาจริยานํ วาทโตติ นานารุจิกานํ อาจริยานํ วาทภาวโต. นานาวาโท นานาวิโธ วาโทติ กตฺวา, อธุนา ปน ‘‘นานาอาจริยานํ วาโท นานาวาโท’’ติ ปาโ.

๕๒๓. เอกสฺสาปีติ ตุมฺเหสุ ทฺวีสุ เอกสฺสาปิ. เอกสฺมินฺติ สกวาทปรวาเทสุ เอกสฺมิมฺปิ. สํสโย นตฺถีติ ‘‘มคฺโค นุ โข, น มคฺโค’’ติ วิจิกิจฺฉา นตฺถิ, อฺชสานฺชสาภาเว ปน สํสโย. เตน วุตฺตํ ‘‘เอส กิรา’’ติอาทิ เอวํ สตีติ ยทิ สพฺพตฺถ มคฺคสฺิโน, เอวํ สติ ‘‘กิสฺมึ โว วิคฺคโห’’ติ ภควา ปุจฺฉติ. อิติสทฺเทน เจตฺถ อาทฺยตฺเถน วิวาโท, นานาวาโท จ สงฺคหิโต.

๕๒๔. ‘‘อิจฺฉิตฏฺานํ อุชุกํ มคฺคติ อุปคจฺฉติ เอเตนาติ มคฺโค, อุชุมคฺโค. ตทฺโ อมคฺโค, อ-สทฺโท วา วุทฺธิอตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ เหฏฺา วุตฺโตวายมตฺโถ. อนุชุมคฺเคติ เอตฺถาปิ อ-สทฺโท วุทฺธิอตฺโถ จ ยุชฺชติ. ตเมว วตฺถุนฺติ สพฺเพสมฺปิ พฺราหฺมณานํ มคฺคสฺส มคฺคภาวสงฺขาตํ, สกมคฺคสฺส อุชุมคฺคภาวสงฺขาตฺจ วตฺถุํ. สพฺเพ เตติ สพฺเพ เต นานาอาจริเยหิ วุตฺตมคฺคา, เย ปาฬิยํ ‘‘อทฺธริยา พฺราหฺมณา’’ติอาทินา วุตฺตา. อยเมตฺถ ปาฬิอตฺโถ – อทฺธโร นาม ยฺวิเสโส, ตทุปโยคิภาวโต อทฺธริยานิ วุจฺจนฺติ ยชูนิ, ตานิ สชฺฌายนฺตีติ อทฺธริยา, ยชุเวทิโน. ติตฺติรินา นาม อิสินา กตา มนฺตาติ ติตฺติรา, เต สชฺฌายนฺตีติ ติตฺติริยา, ยชุเวทิโน เอว. ยชุเวทสาขา เหสา, ยทิทํ ติตฺติรนฺติ. ฉนฺโท วุจฺจติ วิเสสโต สามเวโท, ตํ สเรน กายนฺตีติ ฉนฺโทกา, สามเวทิโน. ‘‘ฉนฺโทคา’’ติปิ ตติยกฺขเรน ปนฺติ, โส เอวตฺโถ. พหโว อิริโย โถมนา เอตฺถาติ พวฺหาริ, อิรุเวโท, ตํ อธียนฺตีติ พวฺหาริชฺฌา.

พหูนีติ เอตฺถายํ อุปมาสํสนฺทนา – ยถา เต นานามคฺคา เอกํสโต ตสฺส คามสฺส วา นิคมสฺส วา ปเวสาย โหนฺติ, เอวํ พฺราหฺมเณหิ ปฺาปิยมานาปิ นานามคฺคา เอกํสโต พฺรหฺมโลกูปคมนาย พฺรหฺมุนา สหพฺยตาย โหนฺตีติ.

๕๒๕. ปฏิชานิตฺวา ปจฺฉา นิคฺคยฺหมานา อวชานนฺตีติ ปุพฺเพ นิทฺโทสตํ สลฺลกฺขมานา ปฏิชานิตฺวา ปจฺฉา สโทสภาเวน นิคฺคยฺหมานา ‘‘เนตํ มม วจน’’นฺติ อวชานนฺติ, น ปฏิชานนฺตีติ อตฺโถ.

๕๒๗-๕๒๙. เตเตวิชฺชาติ เตวิชฺชกา เต พฺราหฺมณา. เอวสทฺเทน าปิโต อตฺโถ อิธ นตฺถีติ ว-กาโร คหิโต, โส จ อนตฺถโกวาติ ทสฺเสติ ‘‘อาคมสนฺธิมตฺต’’นฺติ อิมินา, วณฺณาคเมน ปทนฺตรสนฺธิมตฺตํ กตนฺติ อตฺโถ. อนฺธปเวณีติ อนฺธปนฺติ. ‘‘ปณฺณาสสฏฺิ อนฺธา’’ติ อิทํ ตสฺสา อนฺธปเวณิยา มหโต คจฺฉคุมฺพสฺส อนุปริคมนโยคฺยตาทสฺสนํ. เอวฺหิ เต ‘‘สุจิรํ เวลํ มยํ มคฺคํ คจฺฉามา’’ติ สฺิโน โหนฺติ. อนฺธานํ ปรมฺปรสํสตฺตวจเนน ยฏฺิคาหกวิรหตา ทสฺสิตาติ วุตฺตํ ‘‘ยฏฺิคาหเกนา’’ติอาทิ. ตทุทาหรณํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘เอโก กิรา’’ติอาทิ อารทฺธํ. อนุปริคนฺตฺวาติ กฺจิ กาลํ อนุกฺกเมน สมนฺตโต คนฺตฺวา. กจฺฉนฺติ กจฺฉพนฺธทุสฺสกณฺณํ. ‘‘กจฺฉํ พนฺธนฺตี’’ติอาทีสุ (จูฬว. อฏฺ. ๒๘๐; วิ. สงฺค. อฏฺ. ๓๔.๔๒) วิย หิ กจฺฉสทฺโท นิพฺพสนวิเสสปริยาโย. อปิจ กจฺฉนฺติ อุปกจฺฉกฏฺานํ. ‘‘สมฺพาโธ นาม อุโภ อุปกจฺฉกา มุตฺตกรณ’’นฺติอาทีสุ (ปาจิ. ๘๐๐) วิย หิ กาเยกเทสวาจโก กจฺฉสทฺโท. จกฺขุมาติ ยฏฺิคาหกํ วทติ. ‘‘ปุริโม’’ติอาทิ ยถาวุตฺตกฺกเมน เวทิตพฺโพ. นามกฺเวาติ อตฺถาภาวโต นามมตฺตเมว, ตํ ปน ภาสิตํ เตหิ สารสฺิตมฺปิ นามมตฺตตาย อสารภาวโต นิหีนเมวาติ อตฺถมตฺตํ ทสฺเสติ ‘‘ลามกํเยวา’’ติ อิมินา.

๕๓๐. โยติ พฺรหฺมโลโก. ยโตติ ภุมฺมตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ. สามฺโชตนาย วิเสเส อวติฏฺนโต วิเสสปรามสนํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมึ กาเล’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อุคฺคมนกาเล’’ติอาทินา ปกรณาธิคตมาห. อายาจนฺตีติ อุคฺคมนํ ปตฺเถนฺติ. กสฺมา? โลกสฺส พหุการภาวโต. ตถา โถมนาทีสุ. โสมฺโมติ สีตโล. อยํ กิร พฺราหฺมณานํ ลทฺธิ ‘‘ปุพฺเพพฺราหฺมณานมายาจนาย จนฺทิมสูริยา’คนฺตฺวา โลเก โอภาสํ กโรนฺตี’’ติ.

๕๓๒. อิธ ปน กึ วตฺตพฺพนฺติ อิมสฺมึ ปน อปฺปจฺจกฺขภูตสฺส พฺรหฺมุโน สหพฺยตาย มคฺคเทสเน เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ กึ วตฺตพฺพํ อตฺถิ, เย ปจฺจกฺขภูตานมฺปิ จนฺทิมสูริยานํ สหพฺยตาย มคฺคํ เทเสตุํ น สกฺโกนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ยตฺถา’’ติ อิมินา ‘‘อิธา’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ ปจฺจามสติ.

อจิรวตีนทีอุปมากถาวณฺณนา

๕๔๒. สมภริตาติ สมฺปุณฺณา. ตโต เอว กากเปยฺยา. ปาราติ ปาริมตีร, อาลปนเมตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อมฺโภ’’ติ วุตฺตํ. อปารนฺติ โอริมตีรํ. เอหีติ อาคจฺฉาหิ. วตาติ เอกํเสน. อถ คมิสฺสสิ, เอวํ สติ เอหีติ โยชนา. ‘‘อตฺถิเม’’ติอาทิ อวฺหานการณํ.

๕๔๔. ปฺจสีล…เป… เวทิตพฺพา ยมนิยมาทิพฺราหฺมณธมฺมานํ ตทนฺโตคธภาวโต. ตพฺพิปรีตาติ ปฺจสีลาทิวิปรีตา ปฺจเวราทโย. อินฺทนฺติ อินฺทนามกํ เทวปุตฺตํ, สกฺกํ วา. ‘‘อจิรวติยา ตีเร นิสินฺโน’’ติ อิมินา ยสฺสา ตีเร นิสินฺโน, ตเทว อุปมํ กตฺวา อาหรติ ธมฺมราชา ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธตฺตาติ ทสฺเสติ. ‘‘ปุนปี’’ติ วตฺวา ‘‘อปรมฺปี’’ติ วจนํ อิตรายปิ นทีอุปมาย สงฺคณฺหนตฺถํ.

๕๔๖. กามยิตพฺพฏฺเนาติ กามนียภาเวน. พนฺธนฏฺเนาติ กามยิตพฺพโต สตฺตานํ จิตฺตสฺส อาพนฺธนภาเวน. กามฺจายํ คุณสทฺโท อตฺถนฺตเรสุปิ ทิฏฺปโยโค, เตสํ ปเนตฺถ อสมฺภวโต ปาริเสสาเยน พนฺธนฏฺโเยว ยุตฺโตติ ทสฺเสตุํ อยมตฺถุทฺธาโร อารทฺโธ. อหตานนฺติ อโธตานํ อภินวานํ. เอตฺถาติ ขนฺธกปาฬิปเท ปฏลฏฺโติ ปฏลสทฺทสฺส, ปฏลสงฺขาโต วา อตฺโถ. คุณฏฺโติ คุณสทฺทสฺส อตฺโถ นาม. เอส นโย เสเสสุปิ. อจฺเจนฺตีติ อติกฺกมฺม ปวตฺตนฺติ. เอตฺถาติ โสมนสฺสชาตกปาฬิปเท. ทกฺขิณาติ ติรจฺฉานคเต ทานเจตนา. เอตฺถาติ ทกฺขิณวิภงฺคสุตฺตปเท (ม. นิ. ๓.๓๗๙) มาลาคุเณติ มาลาทาเม. เอตฺถาติ สติปฏฺาน- (ที. นิ. ๒.๓๗๘; ม. นิ. ๑.๑๐๙) ธมฺมปทปาฬิปเทสุ, (ธ. ป. ๕๓) นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ โกฏฺาสาปธานสีลาทิสุกฺกาทิสมฺปทาชิยาสุปิ ปวตฺตนโต. โหติ เจตฺถ –

‘‘คุโณ ปฏลราสานิสํเส โกฏฺาสพนฺธเน;

สีลสุกฺกาทฺยปธาเน, สมฺปทาย ชิยาย จา’’ติ.

เอเสวาติ พนฺธนฏฺโ เอว. น หิ รูปาทีนํ กาเมตพฺพภาเว วุจฺจมาเน ปฏลฏฺโ ยุชฺชติ ตถา กาเมตพฺพตาย อนธิปฺเปตตฺตา. ราสฏฺาทีสุปิ เอเสว นโย. ปาริเสสโต ปน พนฺธนฏฺโว ยุชฺชติ. ยทคฺเคน หิ เนสํ กาเมตพฺพตา, ตทคฺเคน พนฺธนภาโวติ.

โกฏฺาสฏฺโปิ เจตฺถ ยุชฺชเตว จกฺขุวิฺเยฺยาทิโกฏฺาสภาเวน เนสํ กาเมตพฺพโต. โกฏฺาเส จ คุณสทฺโท ทิสฺสติ ‘‘ทิคุณํ วฑฺเฒตพฺพ’’นฺติอาทีสุ วิย.

‘‘อสงฺขฺเยยฺยานิ นามานิ, สคุเณน มเหสิโน;

คุเณน นามมุทฺเธยฺยํ, อปิ นามสหสฺสโต’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. ๑๓๑๓; อุทา. อฏฺ. ๕๓; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๑.๗๖) –

อาทีสุ ปน สมฺปทาฏฺโ คุณสทฺโท, โสปิ อิธ น ยุชฺชตีติ อนุทฺธโฏ.

ทสฺสนเมว อิธ วิชานนนฺติ อาห ‘‘ปสฺสิตพฺพา’’ติ. ‘‘โสตวิฺาเณน โสตพฺพา’’ติอาทิอตฺถํ ‘‘เอเตนุปาเยนา’’ติ อติทิสติ. คเวสิตาปิ ‘‘อิฏฺา’’ติ วุจฺจนฺติ, เต อิธ นาธิปฺเปตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปริยิฏฺา วา โหนฺตุ มา วา’’ติ วุตฺตํ. อิจฺฉิตา เอว หิ อิธ อิฏฺา, เตนาห ‘‘อิฏฺารมฺมณภูตา’’ติ, สุขารมฺมณภูตาติ อตฺโถ. กามนียาติ กาเมตพฺพา. อิฏฺภาเวน มนํ อปฺปยนฺติ วฑฺเฒนฺตีติ มนาปา. ปิยชาติกาติ ปิยสภาวา. อารมฺมณํ กตฺวาติ อตฺตานมารมฺมณํ กตฺวา. กมฺมภูเต อารมฺมเณ สติ ราโค อุปฺปชฺชตีติ ตํ การณภาเวน นิทสฺเสนฺโต ‘‘ราคุปฺปตฺติการณภูตา’’ติ อาห.

เคเธนาติ โลเภน. อภิภูตา หุตฺวา ปฺจ กามคุเณ ปริภุฺชนฺตีติ โยชนา. มุจฺฉาการนฺติ โมหนาการํ. อธิโอสนฺนาติ อธิคยฺห อชฺโฌสาย อวสนฺนา. เตน วุตฺตํ ‘‘โอคาฬฺหา’’ติ. สานนฺติ อวสานํ. ปรินิฏฺานปฺปตฺตาติ คิลิตฺวา ปรินิฏฺาปนวเสน ปรินิฏฺานํ อุยฺยาตา. อาทีนวนฺติ กามปริโภเค สมฺปติ, อายติฺจ โทสํ อปสฺสนฺตา. ฆาสจฺฉาทนาทิสมฺโภคนิมิตฺตสํกิเลสโต นิสฺสรนฺติ อปคจฺฉนฺติ เอเตนาติ นิสฺสรณํ, โยนิโส ปจฺจเวกฺขิตฺวา เตสํ ปริโภคปฺา. ตทภาวโต อนิสฺสรณปฺาติ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทเมตฺถา’’ติอาทิมาห. ปจฺจเวกฺขณปริโภควิรหิตาติ ยถาวุตฺตปจฺจเวกฺขณาเณน ปริโภคโต วิรหิตา.

๕๔๘-๙. อาวรนฺตีติ กุสลธมฺมุปฺปตฺตึ อาทิโต วาเรนฺติ. นิวาเรนฺตีติ นิรวเสสโต วารยนฺติ. โอนนฺธนฺตีติ โอคาหนฺตา วิย ฉาเทนฺติ. ปริโยนนฺธนฺตีติ สพฺพโส ฉาเทนฺติ. อาวรณาทีนํ วเสนาติ ยถาวุตฺตานํ อาวรณาทิอตฺถานํ วเสน. เต หิ อาเสวนพลวตาย ปุริมปุริเมหิ ปจฺฉิมปจฺฉิมา ทฬฺหตรตมาทิภาวปฺปตฺตา.

สํสนฺทนกถาวณฺณนา

๕๕๐. อิตฺถิปริคฺคเห สติ ปุริสสฺส ปฺจกามคุณปริคฺคโห ปริปุณฺโณ เอว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อิตฺถิปริคฺคเหน สปริคฺคโห’’ติ. ‘‘อิตฺถิปริคฺคเหน อปริคฺคโห’’ติ จ อิทํ เตวิชฺชพฺราหฺมเณสุ ทิสฺสมานปริคฺคหานํ ทุฏฺุลฺลตมปริคฺคหาภาวทสฺสนํ. เอวํ ภูตานํ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ กา พฺรหฺมุนา สํสนฺทนา, พฺรหฺมา ปน สพฺเพน สพฺพํ อปริคฺคโหติ. เวรจิตฺเตน อเวโร, กุโต เอตสฺส เวรปโยโคติ อธิปฺปาโย. จิตฺตเคลฺสงฺขาเตนาติ จิตฺตุปฺปาทเคลฺสฺิเตน, อิมินา ตสฺส รูปกายเคลฺภาโว วุตฺโต โหติ. พฺยาปชฺเฌนาติ ทุกฺเขน. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจาทีหีติ เอตฺถ อาทิสทฺเทน ตเทกฏฺา สํกิเลสธมฺมา สงฺคยฺหนฺติ. อโตเยเวตฺถ ‘‘อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจาภาวโต’’ติ ตทุภยาภาวมตฺตเหตุวจนํ สมตฺถิตํ โหติ. อปฺปฏิปตฺติเหตุภูตาย วิจิกิจฺฉาย สติ น กทาจิ จิตฺตํ ปุริสสฺส วเส วตฺตติ, ปหีนาย ปน ตาย สิยา จิตฺตสฺส ปุริสวเส วตฺตนนฺติ อาห ‘‘วิจิกิจฺฉายา’’ติอาทิ. จิตฺตคติกาติ จิตฺตวสิกา. เตน วุตฺตํ ‘‘จิตฺตสฺส วเส วตฺตนฺตี’’ติ. น ตาทิโสติ พฺราหฺมณา วิย น จิตฺตวสิโก โหติ, อถ โข วสีภูตฌานาภิฺตาย จิตฺตํ อตฺตโน วเส วตฺเตตีติ วสวตฺตี.

๕๕๒. พฺรหฺมโลกมคฺเคติ พฺรหฺมโลกคามิมคฺเค ปฏิปชฺชิตพฺเพ, ปฺาเปตพฺเพ วา, ตํ ปฺเปนฺตาติ อธิปฺปาโย. อุปคนฺตฺวาติ มิจฺฉาปฏิปตฺติยา อุปสงฺกมิตฺวา, ปฏิชานิตฺวา วา. สมตลนฺติ สฺายาติ มตฺถเก เอกงฺคุลํ วา อุปฑฺฒงฺคุลํ วา สุกฺขตาย สมตลนฺติ สฺาย. ปงฺกํ โอติณฺณา วิยาติ อเนกโปริสํ มหาปงฺกํ โอติณฺณา วิย. อนุปฺปวิสนฺตีติ อปายมคฺคํ พฺรหฺมโลกมคฺคสฺาย โอคาหนฺติ. ตโต เอว สํสีทิตฺวา วิสาทํ ปาปุณนฺติ. เอวนฺติ ‘‘สมตล’’นฺติอาทินา วุตฺตนเยน. สํสีทิตฺวาติ นิมุชฺชิตฺวา . มรีจิกายาติ มิคตณฺหิกาย กตฺตุภูตาย. วฺเจตฺวาติ นทีสทิสํ ปกาสเนน วฺเจตฺวา. วายมานาติ วายมมานา, อยเมว วา ปาโ. สุกฺขตรณํ มฺเ ตรนฺตีติ สุกฺขนทีตรณํ ตรนฺติ มฺเ. อภินฺเนปิ เภทวจนเมตํ. ตสฺมาติ ยสฺมา เตวิชฺชา อมคฺคเมว ‘‘มคฺโค’’ติ อุปคนฺตฺวา สํสีทนฺติ, ตสฺมา. ยถา เตติ เต ‘‘สมตล’’นฺติ สฺาย ปงฺกํ โอติณฺณา สตฺตา หตฺถปาทาทีนํ สํภฺชนํ ปริภฺชนํ ปาปุณนฺติ ยถา. อิเธว จาติ อิมสฺมิฺจ อตฺตภาเว. สุขํ วา สาตํ วา น ลภนฺตีติ ฌานสุขํ วา วิปสฺสนาสาตํ วา น ลภนฺติ, กุโต มคฺคสุขํ วา นิพฺพานสาตํ วาติ อธิปฺปาโย. มคฺคทีปกนฺติ ‘‘มคฺคทีปก’’ มิจฺเจว เตหิ อภิมตํ. เตวิชฺชกนฺติ เตวิชฺชตฺถาปกํ. ปาวจนนฺติ ปกฏฺวจนสมฺมตํ ปาํ. เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานนฺติ สมฺพนฺเธ สามิวจนํ. อิริณนฺติ อรฺานิยา อิทํ อธิวจนนฺติ อาห ‘‘อคามกํ มหารฺ’’นฺติ. อนุปโภครุกฺเขหีติ มิครุรุอาทีนมฺปิ อนุปโภคารเหหิ กึ ปกฺกาทิวิสรุกฺเขหิ. ยตฺถาติ ยสฺมึ วเน. ปริวตฺติตุมฺปิ น สกฺกา โหนฺติ มหากณฺฏกคจฺฉคหนตาย. าตีนํ พฺยสนํ วินาโส าติพฺยสนํ. เอวํ โภคสีลพฺยสเนสุปิ. โรโค เอว พฺยสติ วิพาธตีติ โรคพฺยสนํ. เอวํ ทิฏฺิพฺยสเนปิ.

๕๕๔. นนุ ชาตสทฺเทเนว อยมตฺโถ สิทฺโธติ โจทนมปเนติ ‘‘โย หี’’ติอาทินา. ชาโต หุตฺวา สํวฑฺฒิโต ชาตสํวฑฺโฒติ อาจริเยน (ที. นิ. ฏี. ๑.๕๕๔) วุตฺตํ, ชาโต จ โส สํวฑฺโฒ จาติ ชาตสํวฑฺโฒติ ปน ยุชฺชติ วิเสสนปรนิปาตตฺตา. น สพฺพโส ปจฺจกฺขา โหนฺติ ปริจยาภาวโต. จิรนิกฺขนฺโตติ นิกฺขนฺโต หุตฺวา จิรกาโล. จิรํ นิกฺขนฺตสฺส อสฺสาติ หิ จิรนิกฺขนฺโต. ‘‘ชาตสํวฑฺโฒ’’ติ ปททฺวเยน อตฺถสฺส ปริปุณฺณาภาวโต ‘‘ตเมน’’นฺติ กมฺมปทํ ‘‘ตาวเทว อวสฏ’’นฺติ ปุน วิเสเสตีติ วุตฺตํ โหติ. ทนฺธายิตตฺตนฺติ วิสฺสชฺชเน มนฺทตฺตํ สณิกวุตฺติ, ตํ ปน สํสยวเสน จิรายนํ นาม โหตีติ อาห ‘‘กงฺขาวเสน จิรายิตตฺต’’นฺติ. วิตฺถายิตตฺตนฺติ สารชฺชิตตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน วิตฺถายิตตฺตํ นาม ถมฺภิตตฺตนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘ถทฺธภาวคฺคหณ’’นฺติ วุตฺตํ. อปฺปฏิหตภาวํ ทสฺเสติ ตสฺเสว อนาวรณาณภาวโต. นนฺเวตมฺปิ อนฺตรายปฏิหตํ สิยาติ อาสงฺกํ ปริหรติ ‘‘ตสฺส หี’’ติอาทินา. มาราวฏฺฏนาทิวเสนาติ เอตฺถ จกฺขุโมหมุจฺฉากาลาทิ สงฺคยฺหติ. น สกฺกาตสฺส เกนจิ อนฺตราโย กาตุํ จตูสุ อนนฺตรายิกธมฺเมสุ ปริยาปนฺนภาวโต.

๕๕๕. อุอิจฺจุปสคฺคโยเค ลุมฺปสทฺโท, ลุปิสทฺโท วา อุทฺธรณตฺโถ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อุทฺธรตู’’ติ. อุปสคฺควิเสเสน หิ ธาตุสทฺทา อตฺถวิเสสวุตฺติโน โหนฺติ ยถา ‘‘อาทาน’’นฺติ. ปชาสทฺโท ปกรณาธิคตตฺตา ทารกวิสโยติ อาห ‘‘พฺราหฺมณทารก’’นฺติ.

พฺรหฺมโลกมคฺคเทสนาวณฺณนา

๕๕๖-๗. ‘‘อปุพฺพนฺติ อิมินา สํวณฺเณตพฺพตาการณํ ทีเปติ. ยสฺส อติสเยน พลํ อตฺถิ, โส พลวาติ วุตฺตํ ‘‘พลสมฺปนฺโน’’ติ. สงฺขํ ธเมตีติ สงฺขธมโก, สงฺขํ ธมยิตฺวา ตโต สทฺทปวตฺตโก. ‘‘พลวา’’ติอาทิวิเสสนํ กิมตฺถิยนฺติ อาห ‘‘ทุพฺพโล หี’’ติอาทิ. พลวโต ปน สงฺขสทฺโทติ สมฺพนฺโธ. อปฺปนาว วฏฺฏติ ปฏิปกฺขโต สมฺมเทว เจตโส วิมุตฺติภาวโต, ตสฺมา เอวํ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.

ปมาณกตํ กมฺมํ นาม กามาวจรํ วุจฺจติ ปมาณกรานํ สํกิเลสธมฺมานํ อวิกฺขมฺภนโต. ตถา หิ ตํ พฺรหฺมวิหารปุพฺพภาคภูตํ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวา โอทิสฺสกาโนทิสฺสกทิสาผรณวเสน วฑฺเฒตุํ น สกฺกา. วุตฺตวิปริยายโต ปน รูปารูปาวจรํ อปฺปมาณกตํ กมฺมํ นาม. เตนาห ‘‘ตฺหี’’ติอาทิ. ตตฺถ อรูปาวจเร โอทิสฺสกาโนทิสฺสกวเสน ผรณํ น ลพฺภติ, ตถา ทิสาผรณฺจ. เกจิ ปน ‘‘ตํ อาคมนวเสน ลพฺภตี’’ติ วทนฺติ, ตทยุตฺตํ. น หิ พฺรหฺมวิหารนิสฺสนฺโท อารุปฺปํ, อถ โข กสิณนิสฺสนฺโท, ตสฺมา ยํ สุภาวิตํ วสีภาวํ ปาปิตํ อารุปฺปํ, ตํ อปฺปมาณกตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ยํ วา สาติสยํ พฺรหฺมวิหารภาวนาย อภิสงฺขเตน สนฺตาเนน นิพฺพตฺติตํ, ยฺจ พฺรหฺมวิหารสมาปตฺติโต วุฏฺาย สมาปนฺนํ อรูปาวจรชฺฌานํ, ตํ อิมินา ปริยาเยน ผรณปมาณวเสน อปฺปมาณกต’’นฺติ อปเร. วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.

รูปาวจรารูปาวจรกมฺเมติ รูปาวจรกมฺเม จ อรูปาวจรกมฺเม จ สติ. น โอหียติ น ติฏฺตีติ กตูปจิตมฺปิ กามาวจรกมฺมํ ยถาธิคเต มหคฺคตชฺฌาเน อปริหีเน ตํ อภิภวิตฺวา ปฏิพาหิตฺวา สยํ โอหียกํ หุตฺวา ปฏิสนฺธึ ทาตุํ สมตฺถภาเว น ติฏฺติ. ‘‘น อวสิสฺสตี’’ติ เอตสฺส หิ อตฺถวจนํ ‘‘น โอหียตี’’ติ, ตเทตํ ‘‘น อวติฏฺตี’’ติ เอตสฺส วิเสสวจนํ, ปริยายวจนํ วา. เตนาห ‘‘กึ วุตฺตํ โหตี’’ติอาทิ. ลคฺคิตุนฺติ อาวริตุํ นิเสเธตุํ. าตุนฺติ ปฏิพลํ หุตฺวา ปติฏฺาตุํ. ผริตฺวาติ ปฏิผริตฺวา. ปริยาทิยิตฺวาติ ตสฺส สามตฺถิยํ เขเปตฺวา. โอกาสํ คเหตฺวาติ วิปากทาโนกาสํ คเหตฺวา, อิมินา ‘‘ลคฺคิตุํ วา าตุํ วา’’ติ วจนเมว วิตฺถาเรตีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘อถ โข’’ติอาทิ อตฺถาปตฺติทสฺสนํ. กมฺมสฺส ปริยาทิยนํ นาม ตสฺส วิปากุปฺปาทนํ นิเสเธตฺวา อตฺตโน วิปากุปฺปาทนเมวาติ อาห ‘‘ตสฺสา’’ติอาทิ. ตสฺสาติ กามาวจรกมฺมสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา. สยเมวาติ รูปารูปาวจรกมฺมเมว. พฺรหฺมสหพฺยตํ อุปเนติ อสติ ตาทิสานํ เจโตปณิธิวิเสเสติ อธิปฺปาโย. ติสฺสพฺรหฺมาทีนํ วิย หิ มหาปุฺานํ เจโตปณิธิวิเสเสน มหคฺคตกมฺมํ ปริตฺตกมฺมสฺส วิปากํ น ปฏิพาหตีติ ทฏฺพฺพํ.

อถ มหคฺคตสฺส ครุกกมฺมสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา ปริตฺตํ ลหุกกมฺมํ กถมตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรตีติ? ตีสุปิ กิร วินยคณฺิปเทสุ เอวํ วุตฺตํ ‘‘นิกนฺติพเลเนว ฌานํ ปริหายติ, ตโต ปริหีนฌานตฺตา ปริตฺตกมฺมํ ลทฺโธกาส’’นฺติ. เกจิ ปน วทนฺติ ‘‘อนีวรณาวตฺถาย นิกนฺติยา ฌานสฺส ปริหานิ วีมํสิตฺวา คเหตพฺพา’’ติ. อิทเมตฺถ ยุตฺตตรการณํ – อสติปิ มหคฺคตกมฺมุโน วิปากปฏิพาหนสมตฺเถ ปริตฺตกมฺเม ‘‘อิชฺฌติ ภิกฺขเว สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา สีลสฺสา’’ติ (ที. นิ. ๑.๕๐๔; สํ. นิ. ๔.๓๕๒; อ. นิ. ๘.๓๕) วจนโต กามภเว เจโตปณิธิ มหคฺคตกมฺมสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา ปริตฺตกมฺมุโน วิปาโกกาสํ กโรตีติ. เอวํ เมตฺตาทิวิหารีติ วุตฺตนเยน อปฺปนาปตฺตานํ เมตฺตาทีนํ พฺรหฺมวิหารานํ วเสน วิหารี.

๕๕๙. ปมมุปนิธาย ทุติยํ, กิเมตํ, ยมุปนิธียตีติ วุตฺตํ ‘‘ปมเมวา’’ติอาทิ. มชฺฌิมปณฺณาสเก สงฺคีตนฺติ อชฺฌาหริตฺวา สมฺพนฺโธ. ปุนปฺปุนํ สรณคมนํ ทฬฺหตรํ, มหปฺผลตรฺจ, ตสฺมา ทุติยมฺปิ สรณคมนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. กติปาหจฺจเยนาติ ทฺวีหตีหจฺจเยน . ปพฺพชิตฺวาติ สามเณรปพฺพชฺชํ คเหตฺวา. อคฺคฺสุตฺตมฺปิ (ที. นิ. ๓.๑๑๒) อมุํเยว วาเสฏฺมารพฺภ กเถสิ, นาฺนฺติ าเปตุํ ‘‘อคฺคฺสุตฺเต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาคตนเยน อุปสมฺปทฺเจว อรหตฺตฺจ อลตฺถุํ ปฏิลภึสูติ อตฺโถ. ยเมตฺถ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตเทตํ สุวิฺเยฺยเมว.

อิติ สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย ปรมสุขุมคมฺภีรทุรนุโพธตฺถปริทีปนาย สุวิมลวิปุลปฺาเวยฺยตฺติยชนนาย อชฺชวมทฺทวโสรจฺจสทฺธาสติธิติพุทฺธิขนฺติวีริยาทิธมฺมสมงฺคินา สาฏฺกเถ ปิฏกตฺตเย อสงฺคาสํหีรวิสารทาณจารินา อเนกปฺปเภทสกสมยสมยนฺตรคหนชฺโฌคาหินา มหาคณินา มหาเวยฺยากรเณน าณาภิวํสธมฺมเสนาปตินามเถเรน มหาธมฺมราชาธิราชครุนา กตาย สาธุวิลาสินิยา นาม ลีนตฺถปกาสนิยา เตวิชฺชสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปกาสนา.

เตวิชฺชสุตฺตสํวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตตฺริทํ สาธุวิลาสินิยา สาธุวิลาสินิตฺตสฺมึ โหติ –

พฺยฺชนฺเจว อตฺโถ จ, วินิจฺฉโย จ สพฺพถา;

สาธเกน วินา วุตฺโต, นตฺถิ เจตฺถ ยโต ตโต.

สมฺปสฺสตํ สุธีมตํ, สาธูนํ จิตฺตโตสนํ;

กโรติ วิวิธํ สายํ, เตน สาธุวิลาสินีติ.

นิคมนกถา

เอตฺตาวตา จ –

สทฺธมฺเม ปาฏวตฺถาย, สาสนสฺส จ วุทฺธิยา;

วณฺณนา ยา สมารทฺธา, สีลกฺขนฺธกถาย สา.

สาธุวิลาสินี นาม, สพฺพโส ปรินิฏฺิตา;

ปณฺณาสาย สาธิกาย, ภาณวารปฺปมาณโต.

อเนกเสติภินฺโท โย, อนนฺตพลวาหโน;

สิรีปวราทินาโม, ราชา นานารฏฺิสฺสโร.

ชมฺพุทีปตเล รมฺเม, มรมฺมวิสเย อกา;

ตมฺพทีปรฏฺเ ปุรํ, อมรปุรนามกํ.

มณฺฑลาจลสามนฺตํ, เอราวตีนทิสฺสิตํ;

นานาชนานมาวาสํ, เหมปาสาทลงฺกตํ.

ตตฺราภิเสกปตฺโต โส, รชฺชํ กาเรสิ ธมฺมโต;

ราชาคารมหาถูปํ, อกาสิ สมฺปสาทนํ.

อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยฺจ, ปหาย ชินสาสนํ;

วิโสเธสิ ยถาภูตํ, สตตํ ทฬฺหมานโส.

เตเนว การิเต รมฺเม, ฉายูทกสมปฺปิเต;

ทฺวิปาการปริกฺขิตฺเต, ภาวนาภิรตารเห.

มหามุนิสมฺา ยา, สมฺพุทฺธสมฺมุขา กตา;

ปฏิมา ตํปาสาทมฺหา, อุชุอาสนฺนทกฺขิเณ.

อโสการามอาราเม , ปฺจภูมิมหาลเย;

รตนภูมิกิตฺติ วฺหเย, ธมฺมปาสาทลงฺกเต.

ตถา ทกฺขิณเทวิยา, นครสมีเป กเต;

ปุพฺพุตฺตเร ชยภูมิ-กิตฺตาภิธานเกปิ จ.

ตเถวุตฺตรเทวิยา , นครพฺภนฺตเร กเต;

โสณฺณคุหถูปนฺติเก, ปริมาณกนามเก.

ตถา จ อุปราเชน, กเต นครปจฺฉิเม;

มหาคุหถูปนฺติเก, มงฺคลาวาสนามเก.

อิติ โสณฺณวิหาเรสุ, วสํเนเกสุ วารโต;

สกฺกโต สพฺพราชูนํ, ติกฺขตฺตุํ ลทฺธลฺฉโน.

าณาภิวํสธมฺมเสนาปตีติ สุวิขฺยาโต;

ทฺเววิภงฺคาทิธารณา, อุปชฺฌาจริยตํ ปตฺโต.

ลงฺกาทีปาคตานมฺปิ, ปรทีปนิวาสินํ;

ภิกฺขูนํ วาจโก ธมฺมํ, ปฏิปตฺตึ นิโยชโก.

ยํ นิสฺสาย วิโสเธสิ, สาสนํ เอส ภูปติ;

อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนํ, โส’กาสิ วณฺณนํ อิมํ.

สมฺพุทฺธปรินิพฺพานา, ปฺจตาลีสเก’ทฺธเก;

ติสเต ทฺวิสหสฺเส จ, สมฺปตฺเต สา สุนิฏฺิตา.

เปฏกาลงฺการวฺหยํ, เนตฺติสํวณฺณนํ สุภํ;

อิมฺจ สงฺขโรนฺเตน, ยํ ปุฺํ ปสุตํ มยา.

อฺมฺปิ เตน ปุฺเน, ปตฺวาน โพธิมุตฺตมํ;

ตารยิตฺวา พหู สตฺเต, โมเจยฺยํ ภวพนฺธนา.

สทา รกฺขนฺตุ ราชาโน, ธมฺเมเนว ปชํ อิมํ;

นิรตา ปุฺกมฺเมสุ, โชเตนฺตุ ชินสาสนํ.

อิเม จ ปาณิโน สพฺเพ, สพฺพทา นิรุปทฺทวา;

นิจฺจํ กลฺยาณสงฺกปฺปา, ปปฺโปนฺตุ อมตํ ปทนฺติ.

อิติ ทีฆนิกายฏฺกถาย สีลกฺขนฺธวคฺคสํวณฺณนาย

สาธุวิลาสินี นาม อภินวฏีกา สมตฺตา.

สีลกฺขนฺธวคฺคอภินวฏีกา นิฏฺิตา.