📜
๒. สีหนาทวคฺโค
๑. จูฬสีหนาทสุตฺตวณฺณนา
๑๓๙. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ จูฬสีหนาทสุตฺตํ. ยสฺมา ปนสฺส อตฺถุปฺปตฺติโก นิกฺเขโป, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตฺวา จสฺส อนุปุพฺพปทวณฺณนํ กริสฺสาม. กตราย ปนิทํ อตฺถุปฺปตฺติยา นิกฺขิตฺตนฺติ? ลาภสกฺการปจฺจยา ติตฺถิยปริเทวิเต. ภควโต กิร ธมฺมทายาทสุตฺเต วุตฺตนเยน มหาลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชิ. จตุปฺปมาณิโก หิ อยํ โลกสนฺนิวาโส, รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสนฺโน, โฆสปฺปมาโณ โฆสปฺปสนฺโน, ลูขปฺปมาโณ ลูขปฺปสนฺโน, ธมฺมปฺปมาโณ ธมฺมปฺปสนฺโนติ อิเมสํ ปุคฺคลานํ วเสน จตุธา ิโต.
เตสํ อิทํ นานากรณํ – กตโม จ ปุคฺคโล รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสนฺโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อาโรหํ วา ปสฺสิตฺวา ปริณาหํ วา ปสฺสิตฺวา สณฺานํ วา ปสฺสิตฺวา ปาริปูรึ วา ปสฺสิตฺวา ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสนฺโน.
กตโม จ ปุคฺคโล โฆสปฺปมาโณ โฆสปฺปสนฺโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปรวณฺณนาย ปรโถมนาย ปรปสํสนาย ปรวณฺณหาริกาย, ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล โฆสปฺปมาโณ โฆสปฺปสนฺโน.
กตโม จ ปุคฺคโล ลูขปฺปมาโณ ลูขปฺปสนฺโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล จีวรลูขํ วา ปสฺสิตฺวา ปตฺตลูขํ วา ปสฺสิตฺวา, เสนาสนลูขํ วา ปสฺสิตฺวา วิวิธํ วา ทุกฺกรการิกํ ปสฺสิตฺวา ¶ ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติ, อยํ ¶ วุจฺจติ ปุคฺคโล ลูขปฺปมาโณ ลูขปฺปสนฺโน.
กตโม จ ปุคฺคโล ธมฺมปฺปมาโณ ธมฺมปฺปสนฺโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สีลํ วา ปสฺสิตฺวา สมาธึ วา ปสฺสิตฺวา ปฺํ วา ปสฺสิตฺวา ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ธมฺมปฺปมาโณ ธมฺมปฺปสนฺโนติ.
อิเมสุ ¶ จตูสุ ปุคฺคเลสุ รูปปฺปมาโณปิ ภควโต อาโรหปริณาหสณฺานปาริปูริวณฺณโปกฺขรตํ, อสีติอนุพฺยฺชนปฺปฏิมณฺฑิตตฺตา นานารตนวิจิตฺตมิว สุวณฺณมหาปฏํ, ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณสมากิณฺณตาย ตาราคณสมุชฺชลํ วิย คคนตลํ สพฺพผาลิผุลฺลํ วิย จ โยชนสตุพฺเพธํ ปาริจฺฉตฺตกํ อฏฺารสรตนุพฺเพธํ พฺยามปฺปภาปริกฺเขปํ สสฺสิริกํ อโนปมสรีรํ ทิสฺวา สมฺมาสมฺพุทฺเธเยว ปสีทติ.
โฆสปฺปมาโณปิ, ภควตา กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ทส ปารมิโย ทส อุปปารมิโย ทส ปรมตฺถปารมิโย ปูริตา องฺคปริจฺจาโค ปุตฺตทารปริจฺจาโค, รชฺชปริจฺจาโค อตฺตปริจฺจาโค นยนปริจฺจาโค จ กโตติอาทินา นเยน ปวตฺตํ โฆสํ สุตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺเธเยว ปสีทติ.
ลูขปฺปมาโณปิ ภควโต จีวรลูขํ ทิสฺวา ‘‘สเจ ภควา อคารํ อชฺฌาวสิสฺส, กาสิกวตฺถเมว อธารยิสฺส. ปพฺพชิตฺวา ปนาเนน สาณปํสุกูลจีวเรน สนฺตุสฺสมาเนน ภาริยํ กต’’นฺติ สมฺมาสมฺพุทฺเธเยว ปสีทติ. ปตฺตลูขมฺปิ ทิสฺวา – ‘‘อิมินา อคารํ อชฺฌาวสนฺเตน รตฺตวรสุวณฺณภาชเนสุ จกฺกวตฺติโภชนารหํ สุคนฺธสาลิโภชนํ ปริภุตฺตํ, ปพฺพชิตฺวา ปน ปาสาณมยํ ปตฺตํ อาทาย อุจฺจนีจกุลทฺวาเรสุ สปทานํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธปิณฺฑิยาโลเปน สนฺตุสฺสมาโน ภาริยํ กโรตี’’ติ สมฺมาสมฺพุทฺเธเยว ปสีทติ. เสนาสนลูขํ ทิสฺวาปิ – ‘‘อยํ อคารํ อชฺฌาวสนฺโต ติณฺณํ อุตูนํ อนุจฺฉวิเกสุ ตีสุ ปาสาเทสุ ติวิธนาฏกปริวาโร ทิพฺพสมฺปตฺตึ วิย รชฺชสิรึ อนุภวิตฺวา อิทานิ ปพฺพชฺชูปคโต รุกฺขมูลเสนาสนาทีสุ ทารุผลกสิลาปฏฺฏปีมฺจกาทีหิ สนฺตุสฺสมาโน ภาริยํ กโรตี’’ติ สมฺมาสมฺพุทฺเธเยว ¶ ปสีทติ. ทุกฺกรการิกมสฺส ทิสฺวาปิ – ‘‘ฉพฺพสฺสานิ นาม มุคฺคยูสกุลตฺถยูสหเรณุยูสาทีนํ ปสฏมตฺเตน ยาเปสฺสติ, อปฺปาณกํ ¶ ฌานํ ฌายิสฺสติ, สรีเร จ ชีวิเต จ อนเปกฺโข วิหริสฺสติ, อโห ทุกฺกรการโก ภควา’’ติ สมฺมาสมฺพุทฺเธเยว ปสีทติ.
ธมฺมปฺปมาโณปิ ¶ ภควโต สีลคุณํ สมาธิคุณํ ปฺาคุณํ ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺติสมฺปทํ อภิฺาปาริปูรึ ยมกปาฏิหาริยํ เทโวโรหณํ ปาถิกปุตฺตทมนาทีนิ จ อเนกานิ อจฺฉริยานิ ทิสฺวา สมฺมาสมฺพุทฺเธเยว ปสีทติ, เต เอวํ ปสนฺนา ภควโต มหนฺตํ ลาภสกฺการํ อภิหรนฺติ. ติตฺถิยานํ ปน พาเวรุชาตเก กากสฺส วิย ลาภสกฺกาโร ปริหายิตฺถ. ยถาห –
‘‘อทสฺสเนน โมรสฺส, สิขิโน มฺชุภาณิโน;
กากํ ตตฺถ อปูเชสุํ, มํเสน จ ผเลน จ.
ยทา จ สรสมฺปนฺโน, โมโร พาเวรุมาคมา;
อถ ลาโภ จ สกฺกาโร, วายสสฺส อหายถ.
ยาว นุปฺปชฺชติ พุทฺโธ, ธมฺมราชา ปภงฺกโร;
ตาว อฺเ อปูเชสุํ, ปุถู สมณพฺราหฺมเณ.
ยทา จ สรสมฺปนฺโน, พุทฺโธ ธมฺมมเทสยิ;
อถ ลาโภ จ สกฺกาโร, ติตฺถิยานํ อหายถา’’ติ. (ชา. ๑.๔.๑๕๓-๑๕๖);
เต เอวํ ปหีนลาภสกฺการา รตฺตึ เอกทฺวงฺคุลมตฺตํ โอภาเสตฺวาปิ สูริยุคฺคมเน ขชฺโชปนกา วิย หตปฺปภา อเหสุํ.
ยถา ¶ หิ ขชฺโชปนกา, กาฬปกฺขมฺหิ รตฺติยา;
นิทสฺสยนฺติ โอภาสํ, เอเตสํ วิสโย หิ โส.
ยทา จ รสฺมิสมฺปนฺโน, อพฺภุเทติ ปภงฺกโร;
อถ ขชฺชุปสงฺฆานํ, ปภา อนฺตรธายติ.
เอวํ ขชฺชุปสทิสา, ติตฺถิยาปิ ปุถู อิธ;
กาฬปกฺขูปเม โลเก, ทีปยนฺติ สกํ คุณํ.
ยทา จ พุทฺโธ โลกสฺมึ, อุเทติ อมิตปฺปโภ;
นิปฺปภา ติตฺถิยา โหนฺติ, สูริเย ขชฺชุปกา ยถาติ.
เต เอวํ นิปฺปภา หุตฺวา กจฺฉุปิฬกาทีหิ กิณฺณสรีรา ปรมปาริชฺุปตฺตา เยน พุทฺโธ เยน ธมฺโม เยน สงฺโฆ เยน จ มหาชนสฺส สนฺนิปาโต, เตน ¶ เตน คนฺตฺวา อนฺตรวีถิยมฺปิ ¶ สิงฺฆาฏเกปิ จตุกฺเกปิ สภายมฺปิ ตฺวา ปริเทวนฺติ –
‘‘กึ โภ สมโณเยว โคตโม สมโณ, มยํ อสฺสมณา; สมณสฺเสว โคตมสฺส สาวกา สมณา, อมฺหากํ สาวกา อสฺสมณา? สมณสฺเสว โคตมสฺส สาวกานฺจสฺส ทินฺนํ มหปฺผลํ, น อมฺหากํ, สาวกานฺจ โน ทินฺนํ มหปฺผลํ? นนุ สมโณปิ โคตโม สมโณ, มยมฺปิ สมณา. สมณสฺสปิ โคตมสฺส สาวกา สมณา, อมฺหากมฺปิ สาวกา สมณา. สมณสฺสปิ โคตมสฺส สาวกานฺจสฺส ทินฺนํ มหปฺผลํ, อมฺหากมฺปิ สาวกานฺจ โน ทินฺนํ มหปฺผลฺเจว? สมณสฺสปิ โคตมสฺส สาวกานฺจสฺส เทถ กโรถ, อมฺหากมฺปิ สาวกานฺจ โน เทถ สกฺกโรถ? นนุ สมโณ โคตโม ปุริมานิ ทิวสานิ อุปฺปนฺโน, มยํ ปน โลเก อุปฺปชฺชมาเนเยว อุปฺปนฺนา’’ติ.
เอวํ นานปฺปการํ วิรวนฺติ. อถ ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโยติ จตสฺโส ปริสา เตสํ สทฺทํ สุตฺวา ภควโต อาโรเจสุํ ‘‘ติตฺถิยา ภนฺเต อิทฺจิทฺจ กเถนฺตี’’ติ ¶ . ตํ สุตฺวา ภควา – ‘‘มา ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ติตฺถิยานํ วจเนน ‘อฺตฺร สมโณ อตฺถี’ติ สฺิโน อหุวตฺถา’’ติ วตฺวา อฺติตฺถิเยสุ สมณภาวํ ปฏิเสเธนฺโต อิเธว จ อนุชานนฺโต อิมิสฺสา อตฺถุปฺปตฺติยา อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณติ อิทํ สุตฺตํ อภาสิ.
ตตฺถ อิเธวาติ อิมสฺมึเยว สาสเน. อยํ ปน นิยโม เสสปเทสุปิ เวทิตพฺโพ. ทุติยาทโยปิ หิ สมณา อิเธว, น อฺตฺถ. สมโณติ โสตาปนฺโน. เตเนวาห – ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปโม สมโณ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ, อยํ, ภิกฺขเว, ปโม สมโณ’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๑).
ทุติโยติ สกทาคามี. เตเนวาห – ‘‘กตโม จ? ภิกฺขเว, ทุติโย สมโณ. อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ¶ ตนุตฺตา สกทาคามี โหติ, สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย สมโณ’’ติ.
ตติโยติ อนาคามี. เตเนวาห – ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ตติโย สมโณ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา ¶ โลกา. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย สมโณ’’ติ.
จตุตฺโถติ อรหา. เตเนวาห – ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ สมโณ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ สมโณ’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๑). อิติ อิมสฺมึ าเน จตฺตาโร ผลฏฺกสมณาว อธิปฺเปตา.
สฺุาติ ริตฺตา ตุจฺฉา. ปรปฺปวาทาติ จตฺตาโร สสฺสตวาทา, จตฺตาโร เอกจฺจสสฺสติกา, จตฺตาโร อนฺตานนฺติกา, จตฺตาโร อมราวิกฺเขปิกา, ทฺเว อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา, โสฬส สฺีวาทา, อฏฺ อสฺีวาทา, อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา, สตฺต อุจฺเฉทวาทา, ปฺจ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทาติ อิเม สพฺเพปิ พฺรหฺมชาเล อาคตา ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย. อิโต พาหิรานํ ปเรสํ ¶ วาทา ปรปฺปวาทา นาม. เต สพฺเพปิ อิเมหิ จตูหิ ผลฏฺกสมเณหิ สฺุา, น หิ เต เอตฺถ สนฺติ. น เกวลฺจ เอเตเหว สฺุา, จตูหิ ปน มคฺคฏฺกสมเณหิปิ จตุนฺนํ มคฺคานํ อตฺถาย อารทฺธวิปสฺสเกหิปีติ ทฺวาทสหิปิ สมเณหิ สฺุา เอว. อิมเมว อตฺถํ สนฺธาย ภควตา มหาปรินิพฺพาเน วุตฺตํ –
‘‘เอกูนตึโส วยสา สุภทฺท,
ยํ ปพฺพชึ กึ กุสลานุเอสี;
วสฺสานิ ปฺาส สมาธิกานิ,
ยโต อหํ ปพฺพชิโต สุภทฺท;
ายสฺส ธมฺมสฺส ปเทสวตฺตี,
อิโต พหิทฺธา สมโณปิ นตฺถิ.
‘‘ทุติโยปิ สมโณ นตฺถิ, ตติโยปิ สมโณ นตฺถิ, จตุตฺโถปิ สมโณ นตฺถิ. สฺุา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๔).
เอตฺถ ¶ หิ ปเทสวตฺตีติ อารทฺธวิปสฺสโก อธิปฺเปโต. ตสฺมา โสตาปตฺติมคฺคสฺส อารทฺธวิปสฺสกํ มคฺคฏฺํ ผลฏฺนฺติ ตโยปิ เอกโต กตฺวา สมโณปิ นตฺถีติ อาห. สกทาคามิมคฺคสฺส อารทฺธวิปสฺสกํ มคฺคฏฺํ ผลฏฺนฺติ ตโยปิ เอกโต กตฺวา ทุติโยปิ สมโณ นตฺถีติ อาห. อิตเรสุปิ ทฺวีสุ เอเสว นโย.
กสฺมา ปเนเต อฺตฺถ นตฺถีติ? อเขตฺตตาย. ยถา หิ น อารคฺเค สาสโป ติฏฺติ, น อุทกปิฏฺเ อคฺคิ ชลติ, น ปิฏฺิปาสาเณ พีชานิ รุหนฺติ, เอวเมว พาหิเรสุ ติตฺถายตเนสุ ¶ น อิเม สมณา อุปฺปชฺชนฺติ, อิมสฺมึเยว ปน สาสเน อุปฺปชฺชนฺติ. กสฺมา? เขตฺตตาย. เตสํ อเขตฺตตา จ เขตฺตตา จ อริยมคฺคสฺส อภาวโต จ ภาวโต จ เวทิตพฺพา. เตนาห ภควา –
‘‘ยสฺมึ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค น อุปลพฺภติ, สมโณปิ ตตฺถ ¶ น อุปลพฺภติ, ทุติโยปิ ตตฺถ สมโณ น อุปลพฺภติ, ตติโยปิ ตตฺถ สมโณ น อุปลพฺภติ, จตุตฺโถปิ ตตฺถ สมโณ น อุปลพฺภติ. ยสฺมิฺจ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค อุปลพฺภติ, สมโณปิ ตตฺถ อุปลพฺภติ, ทุติโยปิ ตตฺถ…เป…. จตุตฺโถปิ ตตฺถ สมโณ อุปลพฺภติ. อิมสฺมึ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค อุปลพฺภติ, อิเธว, สุภทฺท, สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ, อิธ ตติโย สมโณ, อิธ จตุตฺโถ สมโณ, สฺุา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๔).
เอวํ ยสฺมา ติตฺถายตนํ อเขตฺตํ, สาสนํ เขตฺตํ, ตสฺมา ยถา สุรตฺตหตฺถปาโท สูรเกสรโก สีโห มิคราชา น สุสาเน วา สงฺการกูเฏ วา ปฏิวสติ, ติโยชนสหสฺสวิตฺถตํ ปน หิมวนฺตํ อชฺโฌคาเหตฺวา มณิคุหายํเยว ปฏิวสติ. ยถา จ ฉทฺทนฺโต นาคราชา น โคจริยหตฺถิกุลาทีสุ นวสุ นาคกุเลสุ อุปฺปชฺชติ, ฉทฺทนฺตกุเลเยว อุปฺปชฺชติ. ยถา จ วลาหโก อสฺสราชา น คทฺรภกุเล วา โฆฏกกุเล วา อุปฺปชฺชติ, สินฺธุยา ตีเร ปน สินฺธวกุเลเยว อุปฺปชฺชติ. ยถา จ สพฺพกามททํ มโนหรํ มณิรตนํ น สงฺการกูเฏ ¶ วา ปํสุปพฺพตาทีสุ วา อุปฺปชฺชติ, เวปุลฺลปพฺพตพฺภนฺตเรเยว อุปฺปชฺชติ. ยถา จ ติมิรปิงฺคโล มจฺฉราชา น ขุทฺทกโปกฺขรณีสุ อุปฺปชฺชติ, จตุราสีติโยชนสหสฺสคมฺภีเร มหาสมุทฺเทเยว อุปฺปชฺชติ. ยถา จ ทิยฑฺฒโยชนสติโก สุปณฺณราชา น คามทฺวาเร เอรณฺฑวนาทีสุ ปฏิวสติ, มหาสมุทฺทํ ปน อชฺโฌคาเหตฺวา สิมฺพลิทหวเนเยว ปฏิวสติ. ยถา จ ธตรฏฺโ สุวณฺณหํโส น คามทฺวาเร อาวาฏกาทีสุ ปฏิวสติ, นวุติหํสสหสฺสปริวาโร หุตฺวา จิตฺตกูฏปพฺพเตเยว ปฏิวสติ. ยถา จ จตุทฺทีปิสฺสโร จกฺกวตฺติราชา ¶ น นีจกุเล อุปฺปชฺชติ, อสมฺภินฺนชาติขตฺติยกุเลเยว ปน อุปฺปชฺชติ. เอวเมว อิเมสุ สมเณสุ เอกสมโณปิ น อฺติตฺถายตเน อุปฺปชฺชติ, อริยมคฺคปริกฺขิตฺเต ปน พุทฺธสาสเนเยว อุปฺปชฺชติ. เตนาห ภควา ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ…เป… สฺุา ปรปฺปวาทา สมเณหิ สมเณภิ อฺเหี’’ติ.
สมฺมา สีหนาทํ นทถาติ เอตฺถ สมฺมาติ เหตุนา นเยน การเณน. สีหนาทนฺติ เสฏฺนาทํ อภีตนาทํ อปฺปฏินาทํ. อิเมสฺหิ จตุนฺนํ สมณานํ อิเธว อตฺถิตาย อยํ นาโท เสฏฺนาโท นาม โหติ อุตฺตมนาโท. ‘‘อิเม สมณา อิเธว อตฺถี’’ติ วทนฺตสฺส อฺโต ภยํ วา อาสงฺกา ¶ วา นตฺถีติ อภีตนาโท นาม โหติ. ‘‘อมฺหากมฺปิ สาสเน อิเม สมณา อตฺถี’’ติ ปูรณาทีสุ เอกสฺสาปิ อุฏฺหิตฺวา วตฺตุํ อสมตฺถตาย อยํ นาโท อปฺปฏินาโท นาม โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สีหนาทนฺติ เสฏฺนาทํ อภีตนาทํ อปฺปฏินาท’’นฺติ.
๑๔๐. านํ โข ปเนตํ วิชฺชตีติ อิทํ โข ปน การณํ วิชฺชติ. ยํ อฺติตฺถิยาติ เยน การเณน อฺติตฺถิยา. เอตฺถ จ ติตฺถํ ชานิตพฺพํ, ติตฺถกโร ชานิตพฺโพ ติตฺถิยา ชานิตพฺพา, ติตฺถิยสาวกา ชานิตพฺพา. ติตฺถํนาม ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย. เอตฺถ หิ สตฺตา ตรนฺติ อุปฺปลวนฺติ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรนฺติ, ตสฺมา ติตฺถนฺติ วุจฺจนฺติ. ตาสํ ทิฏฺีนํ อุปฺปาเทตา ติตฺถกโร นาม. ตสฺส ลทฺธึ คเหตฺวา ปพฺพชิตา ติตฺถิยา นาม. เตสํ ปจฺจยทายกา ติตฺถิยสาวกาติ เวทิตพฺพา. ปริพฺพาชกาติ คิหิพนฺธนํ ปหาย ปพฺพชฺชูปคตา. อสฺสาโสติ อวสฺสโย ปติฏฺา อุปตฺถมฺโภ. พลนฺติ ถาโม. เยน ตุมฺเหติ เยน อสฺสาเสน วา พเลน วา เอวํ วเทถ.
อตฺถิ ¶ โข โน, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธนาติ เอตฺถ อยํ สงฺเขปตฺโถ – โย โส ภควา สมตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพกิเลเส ภฺชิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, เตน ภควตา เตสํ เตสํ สตฺตานํ อาสยานุสยํ ชานตา, หตฺถตเล ปิตํ อามลกํ วิย สพฺพํ เยฺยธมฺมํ ปสฺสตา. อปิจ ปุพฺเพนิวาสาทีหิ ชานตา, ทิพฺเพน จกฺขุนา ปสฺสตา. ตีหิ วิชฺชาหิ ¶ ฉหิ วา ปน อภิฺาหิ ชานตา, สพฺพตฺถ อปฺปฏิหเตน สมนฺตจกฺขุนา ปสฺสตา. สพฺพธมฺมชานนสมตฺถาย ปฺาย ชานตา, สพฺพสตฺตานํ จกฺขุวิสยาตีตานิ ติโรกุฏฺฏาทิคตานิ วาปิ รูปานิ อติวิสุทฺเธน มํสจกฺขุนา ปสฺสตา. อตฺตหิตสาธิกาย สมาธิปทฏฺานาย ปฏิเวธปฺาย ชานตา, ปรหิตสาธิกาย กรุณาปทฏฺานาย เทสนาปฺาย ปสฺสตา. อรีนํ หตตฺตา ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา จ อรหตา, สมฺมา สามฺจ สจฺจานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน. อนฺตรายิกธมฺเม วา ชานตา, นิยฺยานิกธมฺเม ปสฺสตา. กิเลสารีนํ หตตฺตา อรหตา, สมฺมา สามํ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺเธนาติ, เอวํ จตุเวสารชฺชวเสน จตูหิ อากาเรหิ โถมิเตน จตฺตาโร ธมฺมา อกฺขาตา, เย มยํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมานา เอวํ วเทม, น ราชราชมหามตฺตาทีนํ อุปตฺถมฺภํ กายพลนฺติ.
สตฺถริ ¶ ปสาโทติ ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินา นเยน พุทฺธคุเณ อนุสฺสรนฺตานํ อุปฺปนฺนปฺปสาโท. ธมฺเม ปสาโทติ ‘‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม’’ติอาทินา นเยน ธมฺมคุเณ อนุสฺสรนฺตานํ อุปฺปนฺนปฺปสาโท. สีเลสุ ปริปูรการิตาติ อริยกนฺเตสุ สีเลสุ ปริปูรการิตา. อริยกนฺตสีลานิ นาม ปฺจสีลานิ. ตานิ หิ ภวนฺตรคโตปิ อริยสาวโก อตฺตโน อริยสาวกภาวํ อชานนฺโตปิ น วีติกฺกมติ. สเจปิ หิ นํ โกจิ วเทยฺย – ‘‘อิมํ สกลํ จกฺกวตฺติรชฺชํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ขุทฺทกมกฺขิกํ ชีวิตา โวโรเปหี’’ติ, อฏฺานเมตํ, ยํ โส ตสฺส วจนํ กเรยฺย. เอวํ อริยานํ สีลานิ กนฺตานิ ปิยานิ มนาปานิ. ตานิ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สีเลสุ ปริปูรการิตา’’ติ.
สหธมฺมิกา โข ปนาติ ภิกฺขุ ภิกฺขุนี สิกฺขมานา สามเณโร สามเณรี อุปาสโก อุปาสิกาติ เอเต สตฺต สหธมฺมจาริโน. เอเตสุ หิ ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สหธมฺมํ จรติ สมานสิกฺขตาย. ตถา ¶ ภิกฺขุนี ภิกฺขุนีหิ…เป… อุปาสิกา อุปาสิกาหิ, โสตาปนฺโน โสตาปนฺเนหิ, สกทาคามี…เป… อนาคามีหิ สหธมฺมํ จรติ. ตสฺมา สพฺเพเปเต สหธมฺมิกาติ วุจฺจนฺติ. อปิเจตฺถ อริยสาวกาเยว อธิปฺเปตา. เตสฺหิ ¶ ภวนฺตเรปิ มคฺคทสฺสนมฺหิ วิวาโท นตฺถิ, ตสฺมา เต อจฺจนฺตํ เอกธมฺมจาริตาย สหธมฺมิกา. อิมินา, ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ’’ติอาทินา นเยน สงฺฆํ อนุสฺสรนฺตานํ อุปฺปนฺนปฺปสาโท กถิโต. เอตฺตาวตา จตฺตาริ โสตาปนฺนสฺส องฺคานิ กถิตานิ โหนฺติ.
อิเม โข โน, อาวุโสติ, อาวุโส, อิเม จตฺตาโร ธมฺมา เตน ภควตา อมฺหากํ อสฺสาโส เจว พลฺจาติ อกฺขาตา, เย มยํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมานา เอวํ วเทม.
๑๔๑. โย อมฺหากํ สตฺถาติ อิมินา ปูรณกสฺสปาทิเก ฉ สตฺถาโร อปทิสฺสนฺติ. ยถา ปน อิทานิ สาสเน อาจริยุปชฺฌายาทีสุ ‘‘อมฺหากํ อาจริโย, อมฺหากํ อุปชฺฌาโย’’ติ เคหสิตเปมํ โหติ. เอวรูปํ เปมํ สนฺธาย ‘‘สตฺถริ ปสาโท’’ติ วทนฺติ. เถโร ปนาห – ‘‘ยสฺมา สตฺถา นาม น เอกสฺส, น ทฺวินฺนํ โหติ, สเทวกสฺส โลกสฺส เอโกว สตฺถา, ตสฺมา ติตฺถิยา ‘อมฺหากํ สตฺถา’ ติ เอกปเทเนว สตฺถารํ วิสุํ กตฺวา อิมินาว ปเทน วิรุทฺธา ปราชิตา’’ติ. ธมฺเม ปสาโทติ อิทํ ปน ยถา อิทานิ สาสเน ‘‘อมฺหากํ ทีฆนิกาโย อมฺหากํ ¶ มชฺฌิมนิกาโย’’ติ มมายนฺติ, เอวํ อตฺตโน อตฺตโน ปริยตฺติธมฺเม เคหสิตเปมํ สนฺธาย วทนฺติ. สีเลสูติ อชสีลโคสีลเมณฺฑกสีลกุกฺกุรสีลาทีสุ. อิธ โน อาวุโสติ เอตฺถ อิธาติ ปสาทํ สนฺธาย วทนฺติ. โก อธิปฺปยาโสติ โก อธิกปฺปโยโค. ยทิทนฺติ ยมิทํ ตุมฺหากฺเจว อมฺหากฺจ นานากรณํ วเทยฺยาถ. ตํ กึ นาม? ตุมฺหากมฺปิ หิ จตูสุ าเนสุ ปสาโท, อมฺหากมฺปิ. นนุ เอตสฺมึ ปสาเท ตุมฺเห จ อมฺเห จ ทฺเวธา ภินฺนสุวณฺณํ วิย เอกสทิสาติ วาจาย สมธุรา หุตฺวา อฏฺํสุ.
อถ เนสํ ตํ สมธุรตํ ภินฺทนฺโต ภควา เอวํ วาทิโนติอาทิมาห. ตตฺถ เอกา นิฏฺาติ ยา ตสฺส ปสาทสฺส ปริโยสานภูตา ¶ นิฏฺา, กึ สา เอกา, อุทาหุ ปุถูติ เอวํ ปุจฺฉถาติ วทติ. ยสฺมา ปน ตสฺมึ ตสฺมึ สมเย นิฏฺํ อปฺเปนฺโต นาม นตฺถิ, พฺราหฺมณานฺหิ พฺรหฺมโลโก นิฏฺา, มหาตาปสานํ อาภสฺสรา, ปริพฺพาชกานํ สุภกิณฺหา, อาชีวกานํ ‘‘อนนฺตมานโส’’ติ เอวํ ปริกปฺปิโต อสฺีภโว ¶ . อิมสฺมึ สาสเน ปน อรหตฺตํ นิฏฺา. สพฺเพว เจเต อรหตฺตเมว นิฏฺาติ วทนฺติ. ทิฏฺิวเสน ปน พฺรหฺมโลกาทีนิ ปฺเปนฺติ. ตสฺมา อตฺตโน อตฺตโน ลทฺธิวเสน เอกเมว นิฏฺํ ปฺเปนฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ ภควา สมฺมา พฺยากรมานาติอาทิมาห.
อิทานิ ภิกฺขูนมฺปิ เอกา นิฏฺา, ติตฺถิยานมฺปิ เอกา นิฏฺาติ ทฺวีสุ อฏฺฏการเกสุ วิย ิเตสุ ภควา อนุโยควตฺตํ ทสฺเสนฺโต สา ปนาวุโส, นิฏฺา สราคสฺส, อุทาหุ วีตราคสฺสาติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา ราครตฺตาทีนํ นิฏฺา นาม นตฺถิ. ยทิ สิยา, โสณสิงฺคาลาทีนมฺปิ สิยาติ อิมํ โทสํ ปสฺสนฺตานํ ติตฺถิยานํ ‘‘วีตราคสฺส อาวุโส สา นิฏฺา’’ติอาทินา นเยน พฺยากรณํ ทสฺสิตํ.
ตตฺถ วิทฺทสุโนติ ปณฺฑิตสฺส. อนุรุทฺธปฏิวิรุทฺธสฺสาติ ราเคน อนุรุทฺธสฺส โกเธน ปฏิวิรุทฺธสฺส. ปปฺจารามสฺส ปปฺจรติโนติ เอตฺถ อารมนฺติ เอตฺถาติ อาราโม. ปปฺโจ อาราโม อสฺสาติ ปปฺจาราโม. ปปฺเจ รติ อสฺสาติ ปปฺจรติ. ปปฺโจติ จ มตฺตปมตฺตาการภาเวน ปวตฺตานํ ตณฺหาทิฏฺิมานานเมตํ อธิวจนํ. อิธ ปน ตณฺหาทิฏฺิโยว อธิปฺเปตา. สราคสฺสาติอาทีสุ ปฺจสุ าเนสุ เอโกว กิเลโส อาคโต. ตสฺส อาการโต นานตฺตํ ¶ เวทิตพฺพํ. สราคสฺสาติ หิ วุตฺตฏฺาเน ปฺจกามคุณิกราควเสน คหิโต. สตณฺหสฺสาติ ภวตณฺหาวเสน. สอุปาทานสฺสาติ คหณวเสน. อนุรุทฺธปฏิวิรุทฺธสฺสาติ ยุคฬวเสน. ปปฺจารามสฺสาติ ปปฺจุปฺปตฺติทสฺสนวเสน. สราคสฺสาติ วา เอตฺถ อกุสลมูลวเสน คหิโต. สตณฺหสฺสาติ เอตฺถ ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานทสฺสนวเสน. เสสํ ปุริมสทิสเมว. เถโร ปนาห ‘‘กสฺมา เอวํ วิทฺธํเสถ? เอโกเยว หิ อยํ โลโภ รชฺชนวเสน ราโคติ วุตฺโต. ตณฺหากรณวเสน ตณฺหา. คหณฏฺเน อุปาทานํ. ยุคฬวเสน อนุโรธปฏิวิโรโธ. ปปฺจุปฺปตฺติทสฺสนฏฺเน ปปฺโจ’’ติ.
๑๔๒. อิทานิ ¶ อิเมสํ กิเลสานํ มูลภูตํ ทิฏฺิวาทํ ทสฺเสนฺโต ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ทิฏฺิโยติอาทิมาห.
ตตฺถ ภวทิฏฺีติ สสฺสตทิฏฺิ. วิภวทิฏฺีติ อุจฺเฉททิฏฺิ. ภวทิฏฺึ อลฺลีนาติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน สสฺสตทิฏฺึ อลฺลีนา. อุปคตาติ ¶ ตณฺหาทิฏฺิวเสเนว อุปคตา. อชฺโฌสิตาติ ตณฺหาทิฏฺิวเสเนว อนุปวิฏฺา. วิภวทิฏฺิยา เต ปฏิวิรุทฺธาติ เต สพฺเพ อุจฺเฉทวาทีหิ สทฺธึ – ‘‘ตุมฺเห อนฺธพาลา น ชานาถ, สสฺสโต อยํ โลโก, นายํ โลโก อุจฺฉิชฺชตี’’ติ ปฏิวิรุทฺธา นิจฺจํ กลหภณฺฑนปสุตา วิหรนฺติ. ทุติยวาเรปิ เอเสว นโย.
สมุทยฺจาติอาทีสุ ทฺเว ทิฏฺีนํ สมุทยา ขณิกสมุทโย ปจฺจยสมุทโย จ. ขณิกสมุทโย ทิฏฺีนํ นิพฺพตฺติ. ปจฺจยสมุทโย อฏฺ านานิ. เสยฺยถิทํ, ขนฺธาปิ ทิฏฺิฏฺานํ, อวิชฺชาปิ, ผสฺโสปิ, สฺาปิ, วิตกฺโกปิ, อโยนิโสมนสิกาโรปิ, ปาปมิตฺโตปิ, ปรโตโฆโสปิ ทิฏฺิฏฺานํ. ‘‘ขนฺธา เหตุ ขนฺธา ปจฺจโย ทิฏฺีนํ อุปาทาย สมุฏฺานฏฺเน. เอวํ ขนฺธาปิ ทิฏฺิฏฺานํ. อวิชฺชา… ผสฺโส… สฺา… วิตกฺโก… อโยนิโสมนสิกาโร… ปาปมิตฺโต… ปรโตโฆโส เหตุ, ปรโตโฆโส ปจฺจโย ทิฏฺีนํ อุปาทาย สมุฏฺานฏฺเน. เอวํ ปรโตโฆโสปิ ทิฏฺิฏฺานํ’’ (ปฏิ. ม. ๑.๑๒๔). อตฺถงฺคมาปิ ทฺเวเยว ขณิกตฺถงฺคโม ปจฺจยตฺถงฺคโม จ. ขณิกตฺถงฺคโม นาม ขโย วโย เภโท ปริเภโท อนิจฺจตา อนฺตรธานํ. ปจฺจยตฺถงฺคโม นาม โสตาปตฺติมคฺโค. โสตาปตฺติมคฺโค หิ ทิฏฺิฏฺานสมุคฺฆาโตติ วุตฺโต.
อสฺสาทนฺติ ¶ ทิฏฺิมูลกํ อานิสํสํ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ยํทิฏฺิโก สตฺถา โหติ, ตํทิฏฺิกา สาวกา โหนฺติ. ยํทิฏฺิกา สตฺถารํ สาวกา สกฺกโรนฺติ, ครุํ กโรนฺติ, มาเนนฺติ, ปูเชนฺติ, ลภนฺติ ตโตนิทานํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ. อยํ, ภิกฺขเว, ทิฏฺิยา ทิฏฺธมฺมิโก อานิสํโส’’ติ. อาทีนวนฺติ ทิฏฺิคฺคหณมูลกํ อุปทฺทวํ. โส วคฺคุลิวตํ อุกฺกุฏิกปฺปธานํ กณฺฏกาปสฺสยตา ปฺจาตปตปฺปนํ สานุปปาตปตนํ เกสมสฺสุลฺุจนํ อปฺโปณกํ ฌานนฺติอาทีนํ วเสนํ เวทิตพฺโพ. นิสฺสรณนฺติ ทิฏฺีนํ นิสฺสรณํ นาม นิพฺพานํ. ยถาภูตํ ¶ นปฺปชานนฺตีติ เย เอตํ สพฺพํ ยถาสภาวํ น ชานนฺติ. น ปริมุจฺจนฺติ ทุกฺขสฺมาติ สกลวฏฺฏทุกฺขโต ¶ น ปริมุจฺจนฺติ. อิมินา เอเตสํ นิฏฺา นาม นตฺถีติ ทสฺเสติ. ปริมุจฺจนฺติ ทุกฺขสฺมาติ สกลวฏฺฏทุกฺขโต ปริมุจฺจนฺติ. อิมินา เอเตสํ นิฏฺา นาม อตฺถีติ ทฺวินฺนํ อฏฺฏการกานํ อฏฺฏํ ฉินฺทนฺโต วิย สาสนสฺมึเยว นิฏฺาย อตฺถิตํ ปติฏฺเปติ.
๑๔๓. อิทานิ ทิฏฺิจฺเฉทนํ ทสฺเสนฺโต จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อุปาทานานีติอาทิมาห. เตสํ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตาเยว.
สพฺพุปาทานปริฺาวาทา ปฏิชานมานาติ มยํ สพฺเพสํ อุปาทานานํ ปริฺํ สมติกฺกมํ วทามาติ เอวํ ปฏิชานมานา. น สมฺมา สพฺพุปาทานปริฺนฺติ สพฺเพสํ อุปาทานานํ สมติกฺกมํ สมฺมา น ปฺเปนฺติ. เกจิ กามุปาทานมตฺตสฺส ปริฺํ ปฺเปนฺติ. เกจิ ทิฏฺุปาทานมตฺตสฺส ปฺเปนฺติ, เกจิ สีลพฺพตุปาทานสฺสาปิ. อตฺตวาทุปาทานสฺส ปน ปริฺํ ปฺเปนฺโต นาม นตฺถิ. เตสํ ปน เภทํ ทสฺเสนฺโต กามุปาทานสฺส ปริฺํ ปฺเปนฺตีติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺเพปิ กามุปาทานสฺส ปริฺํ ปฺเปนฺติเยว, ฉนฺนวุติ ปาสณฺฑาปิ หิ ‘‘กามา โข ปพฺพชิเตน น เสวิตพฺพา’’ติ วตฺถุปฏิเสวนํ กามํ กปฺปตีติ น ปฺเปนฺติ, อกปฺปิยเมว กตฺวา ปฺเปนฺติ. เย ปน เสวนฺติ, เต เถยฺเยน เสวนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘กามุปาทานสฺส ปริฺํ ปฺเปนฺตี’’ติ.
ยสฺมา ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทีนิ คเหตฺวา จรนฺติ. ‘‘สีเลน สุทฺธิ วเตน สุทฺธิ, ภาวนาย สุทฺธี’’ติ คณฺหนฺติ, อตฺตุปลทฺธึ น ปชหนฺติ, ตสฺมา น ทิฏฺุปาทานสฺส, น สีลพฺพตุปาทานสฺส ¶ , น อตฺตวาทุปาทานสฺส ปริฺํ ปฺเปนฺติ. ตํ กิสฺส เหตูติ ตํ อปฺาปนํ เอเตสํ กิสฺส เหตุ, กึ การณา? อิมานิ หิ เต โภนฺโตติ ยสฺมา เต โภนฺโต อิมานิ ตีณิ การณานิ ยถาสภาวโต น ชานนฺตีติ อตฺโถ. เย ปเนตฺถ ทฺวินฺนํ ปริฺานํ ปฺาปนการณํ ทิฏฺิฺเจว สีลพฺพตฺจ ‘‘เอตํ ปหาตพฺพ’’นฺติ ยถาสภาวโต ชานนฺติ. เต สนฺธาย ปรโต ทฺเว วารา วุตฺตา. ตตฺถ เย ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทีนิ คณฺหนฺติ, เต ทิฏฺุปาทานสฺส ปริฺํ ปฺเปนฺติ. เย ปน ‘‘น สีเลน สุทฺธิ, น วเตน สุทฺธิ, น ¶ ภาวนาย สุทฺธี’’ติ คณฺหนฺติ, เต สีลพฺพตุปาทานสฺส ปริฺํ ปฺเปนฺติ. อตฺตวาทุปาทานสฺส ปริฺํ ปน เอโกปิ ปฺเปตุํ น สกฺโกติ. อฏฺสมาปตฺติลาภิโนปิ หิ จนฺทิมสูริเย ปาณินา ¶ ปริมชฺชิตฺวา จรมานาปิ จ ติตฺถิยา ติสฺโส ปริฺา ปฺเปนฺติ. อตฺตวาทํ มฺุจิตุํ น สกฺโกนฺติ. ตสฺมา ปุนปฺปุนํ วฏฺฏสฺมึเยว ปตนฺติ. ปถวิชิคุจฺฉนสสโก วิย หิ เอเต.
ตตฺถายํ อตฺถสลฺลาปิกา อุปมา – ปถวี กิร สสกํ อาห – ‘‘โภ สสกา’’ติ. สสโก อาห – ‘‘โก เอโส’’ติ. ‘‘กสฺมา มเมว อุปริ สพฺพอิริยาปเถ กปฺเปนฺโต อุจฺจารปสฺสาวํ กโรนฺโต มํ น ชานาสี’’ติ. ‘‘สุฏฺุ ตยา อหํ ทิฏฺโ, มยา อกฺกนฺตฏฺานมฺปิ องฺคุลคฺเคหิ ผุฏฺฏฺานํ วิย โหติ, วิสฺสฏฺอุทกํ อปฺปมตฺตกํ, กรีสํ กตกผลมตฺตํ. หตฺถิอสฺสาทีหิ ปน อกฺกนฺตฏฺานมฺปิ มหนฺตํ, ปสฺสาโวปิ เนสํ ฆฏมตฺโต โหติ, อุจฺจาโรปิ ปจฺฉิมตฺโต โหติ, อลํ มยฺหํ ตยา’’ติ อุปฺปติตฺวา อฺสฺมึ าเน ปติโต. ตโต นํ ปถวี อาห – ‘‘อเร ทูรํ คโตปิ นนุ มยฺหํ อุปริเยว ปติโตสี’’ติ. โส ปุน ตํ ชิคุจฺฉนฺโต อุปฺปติตฺวา อฺตฺถ ปติโต, เอวํ วสฺสสหสฺสมฺปิ อุปฺปติตฺวา ปตมาโน สสโก ปถวึ มฺุจิตุํ น สกฺโกติ. เอวเมวํ ติตฺถิยา สพฺพูปาทานปริฺํ ปฺเปนฺโตปิ กามุปาทานาทีนํ ติณฺณํเยว สมติกฺกมํ ปฺเปนฺติ. อตฺตวาทํ ปน มฺุจิตุํ น สกฺโกนฺติ, อสกฺโกนฺตา ปุนปฺปุนํ วฏฺฏสฺมึเยว ปตนฺตีติ.
เอวํ ยํ ติตฺถิยา สมติกฺกมิตุํ น สกฺโกนฺติ, ตสฺส วเสน ทิฏฺิจฺเฉทวาทํ วตฺวา อิทานิ ปสาทปจฺเฉทวาทํ ทสฺเสนฺโต เอวรูเป โข, ภิกฺขเว, ธมฺมวินเยติอาทิมาห. ตตฺถ ธมฺมวินเยติ ธมฺเม เจว วินเย จ, อุภเยนปิ อนิยฺยานิกสาสนํ ทสฺเสติ. ‘‘โย สตฺถริ ปสาโท ¶ โส น สมฺมคฺคโต’’ติ อนิยฺยานิกสาสนมฺหิ หิ สตฺถา กาลํ กตฺวา สีโหปิ โหติ, พฺยคฺโฆปิ โหติ, ทีปิปิ อจฺโฉปิ ตรจฺโฉปิ. สาวกา ปนสฺส มิคาปิ สูกราปิ ปสทาปิ โหนฺติ, โส ‘‘อิเม มยฺหํ ปุพฺเพ อุปฏฺากา ปจฺจยทายกา’’ติ ขนฺตึ วา เมตฺตํ วา อนุทฺทยํ วา อกตฺวา เตสํ อุปริ ปติตฺวา โลหิตํ ปิวติ, ถูลถูลมํสานิปิ ขาทติ. สตฺถา วา ปน พิฬาโร โหติ, สาวกา ¶ กุกฺกุฏา วา มูสิกา วา. อถ เน วุตฺตนเยเนว อนุกมฺปํ อกตฺวา ขาทติ. อถ วา สตฺถา นิรยปาโล โหติ, สาวกา เนรยิกสตฺตา. โส ‘‘อิเม มยฺหํ ปุพฺเพ อุปฏฺากา ปจฺจยทายกา’’ติ อนุกมฺปํ อกตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กโรติ, อาทิตฺเตปิ รเถ โยเชติ, องฺคารปพฺพตมฺปิ อาโรเปติ, โลหกุมฺภิยมฺปิ ขิปติ ¶ , อเนเกหิปิ ทุกฺขธมฺเมหิ สมฺปโยเชติ. สาวกา วา ปน กาลํ กตฺวา สีหาทโย โหนฺติ, สตฺถา มิคาทีสุ อฺตโร. เต ‘‘อิมํ มยํ ปุพฺเพ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหิมฺหา, สตฺถา โน อย’’นฺติ ตสฺมึ ขนฺตึ วา เมตฺตํ วา อนุทฺทยํ วา อกตฺวา วุตฺตนเยเนว อนยพฺยสนํ ปาเปนฺติ. เอวํ อนิยฺยานิกสาสเน โย สตฺถริ ปสาโท, โส น สมฺมคฺคโต โหติ, กฺจิ กาลํ คนฺตฺวาปิ ปจฺฉา วินสฺสติเยว.
โย ธมฺเม ปสาโทติ อนิยฺยานิกสาสนสฺมิฺหิ ธมฺเม ปสาโท นาม, อุคฺคหิตปริยาปุฏ – ธาริตวาจิตฺตมตฺตเก ตนฺติธมฺเม ปสาโท โหติ, วฏฺฏโมกฺโข ปเนตฺถ นตฺถิ. ตสฺมา โย เอตฺถ ปสาโท, โส ปุนปฺปุนํ วฏฺฏเมว คมฺภีรํ กโรตีติ สาสนสฺมึ อสมฺมคฺคโต อสภาวโต อกฺขายติ.
ยา สีเลสุ ปริปูรการิตาติ ยาปิ จ อนิยฺยานิกสาสเน อชสีลาทีนํ วเสน ปริปูรการิตา, สาปิ ยสฺมา วฏฺฏโมกฺขํ ภวนิสฺสรณํ น สมฺปาเปติ, สมฺปชฺชมานา ปน ติรจฺฉานโยนึ อาวหติ, วิปจฺจมานา นิรยํ, ตสฺมา สา น สมฺมคฺคตา อกฺขายติ. ยา สหธมฺมิเกสูติ อนิยฺยานิกสาสนสฺมิฺหิ เย สหธมฺมิกา, เตสุ ยสฺมา เอกจฺเจ กาลํ กตฺวา สีหาทโยปิ โหนฺติ, เอกจฺเจ มิคาทโย, ตตฺถ สีหาทิภูตา ‘‘อิเม อมฺหากํ สหธมฺมิกา อเหสุ’’นฺติ มิคาทิภูเตสุ ขนฺติอาทีนิ อกตฺวา ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เนสํ มหาทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺติ. ตสฺมา เอตฺถ สหธมฺมิเกสุ ปิยมนาปตาปิ อสมฺมคฺคตา อกฺขายติ.
อิทํ ปน สพฺพมฺปิ การณเภทํ เอกโต กตฺวา ทสฺเสนฺโต ภควา ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ ¶ , ภิกฺขเว, โหตีติอาทิมาห. ตตฺรายํ สํเขปตฺโถ – เอวฺเหตํ, ภิกฺขเว, โหติ, ยํ มยา วุตฺตํ ‘‘โย สตฺถริ ปสาโท โส น สมฺมคฺคโต อกฺขายตี’’ติอาทิ, ตํ เอวเมว โหติ. กสฺมา? ยสฺมา เต ปสาทาทโย ทุรกฺขาเต ธมฺมวินเย ¶ …เป… อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเตติ, เอตฺถ หิ ยถา ตนฺติ การณตฺเถ นิปาโต. ตตฺถ ทุรกฺขาเตติ ทุกฺกถิเต, ทุกฺขถิตตฺตาเยว ทุปฺปเวทิเต. โส ปเนส ยสฺมา มคฺคผลตฺถาย น นิยฺยาติ, ตสฺมา อนิยฺยานิโก. ราคาทีนํ อุปสมาย อสํวตฺตนโต อนุปสมสํวตฺตนิโก. น สมฺมาสมฺพุทฺเธน สพฺพฺุนา ¶ ปเวทิโตติ อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต. ตสฺมึ อนิยฺยานิเก อนุปสมสํวตฺตนิเก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเต. เอตฺตาวตา ภควา ติตฺถิเยสุ ปสาโท สุราปีตสิงฺคาเล ปสาโท วิย นิรตฺถโกติ ทสฺเสติ.
เอโก กิร กาฬสิงฺคาโล รตฺตึ นครํ ปวิฏฺโ สุราชลฺลิกํ ขาทิตฺวา ปุนฺนาควเน นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺโต สูริยุคฺคมเน ปพุชฺฌิตฺวา จินฺเตสิ ‘‘อิมสฺมึ กาเล น สกฺกา คนฺตุํ, พหู อมฺหากํ เวริโน, เอกํ วฺเจตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส เอกํ พฺราหฺมณํ คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อิมํ วฺเจสฺสามีติ ‘‘อยฺย พฺราหฺมณา’’ติ อาห. โก เอโส พฺราหฺมณํ ปกฺโกสตีติ. ‘‘อหํ, สามี, อิโต ตาว เอหีติ. กึ โภติ? มํ พหิคามํ เนหิ, อหํ เต ทฺเว กหาปณสตานิ ทสฺสามีติ. โสปิ นยิสฺสามีติ ตํ ปาเทสุ คณฺหิ. อเร พาล พฺราหฺมณ, น มยฺหํ กหาปณา ฉฑฺฑิตกา อตฺถิ, ทุลฺลภา กหาปณา, สาธุกํ มํ คณฺหาหีติ. กถํ โภ คณฺหามีติ? อุตฺตราสงฺเคน คณฺิกํ กตฺวา อํเส ลคฺเคตฺวา คณฺหาหีติ. พฺราหฺมโณ ตํ ตถา คเหตฺวา ทกฺขิณทฺวารสมีปฏฺานํ คนฺตฺวา เอตฺถ โอตาเรมีติ ปุจฺฉิ. กตรฏฺานํ นาม เอตนฺติ? มหาทฺวารํ เอตนฺติ. อเร พาล, พฺราหฺมณ, กึ ตว าตกา อนฺตรทฺวาเร กหาปณํ เปนฺติ, ปรโต มํ หรา’’ติ. โส ปุนปฺปุนํ โถกํ โถกํ คนฺตฺวา ‘‘เอตฺถ โอตาเรมิ เอตฺถ โอตาเรมี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เตน ตชฺชิโต เขมฏฺานํ คนฺตฺวา ตตฺถ โอตาเรหีติ วุตฺโต โอตาเรตฺวา สาฏกํ คณฺหิ. กาฬสิงฺคาโล อาห ‘‘อหํ เต ทฺเว กหาปณสตานิ ทสฺสามีติ อโวจํ. มยฺหํ ปน กหาปณา พหู, น ทฺเว กหาปณสตาเนว, ยาว อหํ กหาปเณ อาหรามิ, ตาว ตฺวํ สูริยํ โอโลเกนฺโต ติฏฺา’’ติ วตฺวา โถกํ คนฺตฺวา นิวตฺเตตฺวา ปุน พฺราหฺมณํ อาห ‘‘อยฺย พฺราหฺมณ มา อิโต โอโลเกหิ, สูริยเมว โอโลเกนฺโต ติฏฺา’’ติ. เอวฺจ ปน วตฺวา เกตกวนํ ปวิสิตฺวา ยถารุจึ ปกฺกนฺโต. พฺราหฺมณสฺสปิ สูริยํ ¶ โอโลเกนฺตสฺเสว นลาฏโต เจว กจฺเฉหิ จ เสทา มุจฺจึสุ. อถ นํ รุกฺขเทวตา อาห –
‘‘สทฺทหาสิ ¶ สิงฺคาลสฺส, สุราปีตสฺส พฺราหฺมณ;
สิปฺปิกานํ สตํ นตฺถิ, กุโต กํสสตา ทุเว’’ติ. (ชา. ๑.๑.๑๑๓);
เอวํ ยถา กาฬสิงฺคาเล ปสาโท นิรตฺถโก, เอวํ ติตฺถิเยสุปีติ.
๑๔๔. อนิยฺยานิกสาสเน ¶ ปสาทสฺส นิรตฺถกภาวํ ทสฺเสตฺวา นิยฺยานิกสาสเน ตสฺส สาตฺถกตํ ทสฺเสตุํ ตถาคโต จ โข, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ กามุปาทานสฺส ปริฺํ ปฺเปตีติ อรหตฺตมคฺเคน กามุปาทานสฺส ปหานปริฺํ สมติกฺกมํ ปฺเปติ, อิตเรสํ ติณฺณํ อุปาทานานํ โสตาปตฺติมคฺเคน ปริฺํ ปฺเปติ. เอวรูเป โข, ภิกฺขเว, ธมฺมวินเยติ, ภิกฺขเว, เอวรูเป ธมฺเม จ วินเย จ. อุภเยนปิ นิยฺยานิกสาสนํ ทสฺเสติ. สตฺถริ ปสาโทติ เอวรูเป สาสเน โย สตฺถริ ปสาโท, โส สมฺมคฺคโต อกฺขายติ, ภวทุกฺขนิสฺสรณาย สํวตฺตติ.
ตตฺริมานิ วตฺถูนิ – ภควา กิร เวทิยกปพฺพเต อินฺทสาลคุหายํ ปฏิวสติ. อเถโก อุลูกสกุโณ ภควติ คามํ ปิณฺฑาย ปวิสนฺเต อุปฑฺฒมคฺคํ อนุคจฺฉติ, นิกฺขมนฺเต อุปฑฺฒมคฺคํ ปจฺจุคฺคมนํ กโรติ. โส เอกทิวสํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ สายนฺหสมเย ภิกฺขุสงฺฆปริวุตํ นิสินฺนํ ปพฺพตา โอรุยฺห วนฺทิตฺวา ปกฺเข ปณาเมตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห สีสํ เหฏฺา กตฺวา ทสพลํ นมสฺสมาโน อฏฺาสิ. ภควา ตํ โอโลเกตฺวา สิตํ ปาตฺวากาสิ. อานนฺทตฺเถโร ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย สิตสฺส ปาตุกมฺมายา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ปสฺสานนฺท, อิมํ อุลูกสกุณํ, อยํ มยิ จ ภิกฺขุสงฺเฆ จ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา สตสหสฺสกปฺเป เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สํสริตฺวา โสมนสฺโส นาม ปจฺเจกพุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ อาห –
อุลูกมณฺฑลกฺขิก, เวทิยเก จิรทีฆวาสิก;
สุขิโตสิ ตฺวํ อยฺย โกสิย, กาลุฏฺิตํ ปสฺสสิ พุทฺธวรํ.
มยิ ¶ ¶ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ภิกฺขุสงฺเฆ อนุตฺตเร;
กปฺปานํ สตสหสฺสานิ, ทุคฺคเตโส น คจฺฉติ.
เทวโลกา จวิตฺวาน, กุสลมูเลน โจทิโต;
ภวิสฺสติ อนนฺตาโณ, โสมนสฺโสติ วิสฺสุโตติ.
อฺานิปิ เจตฺถ ราชคหนคเร สุมนมาลาการวตฺถุ มหาเภริวาทกวตฺถุ โมรชิกวตฺถุ วีณาวาทกวตฺถุ สงฺขธมกวตฺถูติ เอวมาทีนิ วตฺถูนิ ¶ วิตฺถาเรตพฺพานิ. เอวํ นิยฺยานิกสาสเน สตฺถริ ปสาโท สมฺมคฺคโต โหติ.
ธมฺเม ปสาโทติ นิยฺยานิกสาสนมฺหิ ธมฺเม ปสาโท สมฺมคฺคโต โหติ. สรมตฺเต นิมิตฺตํ คเหตฺวา สุณนฺตานํ ติรจฺฉานคตานมฺปิ สมฺปตฺติทายโก โหติ, ปรมตฺเถ กึ ปน วตฺตพฺพํ. อยมตฺโถ มณฺฑูกเทวปุตฺตาทีนํ วตฺถุวเสน เวทิตพฺโพ.
สีเลสุ ปริปูรการิตาติ นิยฺยานิกสาสนมฺหิ สีเลสุ ปริปูรการิตาปิ สมฺมคฺคตา โหติ, สคฺคโมกฺขสมฺปตฺตึ อาวหติ. ตตฺถ ฉตฺตมาณวกวตฺถุสามเณรวตฺถุอาทีนิ ทีเปตพฺพานิ.
สหธมฺมิเกสูติ นิยฺยานิกสาสเน สหธมฺมิเกสุ ปิยมนาปตาปิ สมฺมคฺคตา โหติ, มหาสมฺปตฺตึ อาวหติ. อยมตฺโถ วิมานเปตวตฺถูหิ ทีเปตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ขีโรทนมหมทาสึ, ภิกฺขุโน ปิณฺฑาย จรนฺตสฺส…เป…
ผาณิตํ…เป… อุจฺฉุขณฺฑิกํ… ติมฺพรุสกํ… กกฺการิกํ…
เอฬาลุกํ… วลฺลิปกฺกํ… ผารุสกํ… หตฺถปตากํ…
สากมุฏฺึ ¶ … ปุปฺผกมุฏฺึ… มูลกํ… นิมฺพมุฏฺึ…
อมฺพิกฺชิกํ… โทณินิมฺมชฺชนึ… กายพนฺธนํ…
อํสพทฺธกํ… อาโยคปฏฺฏํ… วิธูปนํ… ตาลวณฺฏํ…
โมรหตฺถํ… ฉตฺตํ… อุปาหนํ… ปูวํ โมทกํ…
สกฺขลิกํ ¶ อหมทาสึ, ภิกฺขุโน ปิณฺฑาย จรนฺตสฺส…เป…
ตสฺสา เม ปสฺส วิมานํ, อจฺฉรา กามวณฺณินีหมสฺมี’’ติ (วิ. ว. ๔๐๖).
ตํ กิสฺส เหตูติอาทิ วุตฺตนยานุสาเรเนว โยเชตฺวา เวทิตพฺพํ.
๑๔๕. อิทานิ ¶ เยสํ อุปาทานานํ ติตฺถิยา น สมฺมา ปริฺํ ปฺเปนฺติ, ตถาคโต ปฺเปติ, เตสํ ปจฺจยํ ทสฺเสตุํ อิเม จ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ กึนิทานาติอาทีสุ นิทานาทีนิ สพฺพาเนว การณเววจนานิ. การณฺหิ ยสฺมา ผลํ นิเทติ หนฺท, นํ คณฺหถาติ อปฺเปติ วิย, ตสฺมา นิทานนฺติ วุจฺจติ. ยสฺมา ตํ ตโต ชายติ สมุเทติ ปภวติ, ตสฺมา สมุทโย, ชาติ, ปภโวติ วุจฺจติ. อยํ ปเนตฺถ ปทตฺโถ – กึ นิทานํ เอเตสนฺติ กึนิทานา. โก สมุทโย เอเตสนฺติ กึสมุทยา. กา ชาติ เอเตสนฺติ กึชาติกา. โก ปภโว เอเตสนฺติ กึปภวา. ยสฺมา ปน เตสํ ตณฺหา ยถาวุตฺเตน อตฺเถน นิทานฺเจว สมุทโย จ ชาติ จ ปภโว จ, ตสฺมา ‘‘ตณฺหานิทานา’’ติอาทิมาห. เอวํ สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ปน ภควา น เกวลํ อุปาทานสฺเสว ปจฺจยํ ชานาติ, อุปาทานสฺส ปจฺจยภูตาย ตณฺหายปิ, ตณฺหาทิปจฺจยานํ เวทนาทีนมฺปิ ปจฺจยํ ชานาติเยว, ตสฺมา ตณฺหา จายํ, ภิกฺขเวติอาทิมาห.
ยโต ¶ จ โขติ ยสฺมึ กาเล. อวิชฺชา ปหีนา โหตีติ วฏฺฏมูลิกา อวิชฺชา อนุปฺปาทนิโรเธน ปหีนา โหติ. วิชฺชา อุปฺปนฺนาติ อรหตฺตมคฺควิชฺชา อุปฺปนฺนา. โส อวิชฺชาวิราคา วิชฺชุปฺปาทาติ. โส ภิกฺขุ อวิชฺชาย จ ปหีนตฺตา วิชฺชาย จ อุปฺปนฺนตฺตา. เนว กามุปาทานํ อุปาทิยตีติ เนว กามุปาทานํ คณฺหาติ น อุเปติ, น เสสานิ อุปาทานานิ. อนุปาทิยํ น ปริตสฺสตีติ เอวํ กิฺจิ อุปาทานํ อคฺคณฺหนฺโต ตณฺหาปริตสฺสนาย น ปริตสฺสติ. อปริตสฺสนฺติ อปริตสฺสนฺโต ตณฺหํ อนุปฺปาเทนฺโต. ปจฺจตฺตํเยว ปรินิพฺพายตีติ สยเมว กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายติ. เอวมสฺส อาสวกฺขยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ปจฺจเวกฺขณํ ทสฺเสนฺโต ขีณา ชาตีติอาทิมาห. ตํ วุตฺตตฺถเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬสีหนาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. มหาสีหนาทสุตฺตวณฺณนา
เวสาลินครวณฺณนา
๑๔๖. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ มหาสีหนาทสุตฺตํ. ตตฺถ เวสาลิยนฺติ เอวํนามเก นคเร. ตํ กิร อปราปรํ วิสาลีภูตตาย ‘‘เวสาลี’’ติ สงฺขํ คตํ. ตตฺรายํ อนุปุพฺพกถา – พาราณสิรฺโ กิร อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ คพฺโภ สณฺาสิ. สา ตฺวา รฺโ นิเวเทสิ. ราชา คพฺภปริหารํ อทาสิ. สา สมฺมา ปริหรียมานา คพฺภปริปากกาเล วิชายนฆรํ ปาวิสิ. ปฺุวนฺตีนํ ปจฺจูสสมเย คพฺภวุฏฺานํ โหติ, สา จ ตาสํ อฺตรา, เตน ปจฺจูสสมเย อลตฺตกปฏลพนฺธุชีวกปุปฺผสทิสํ มํสเปสึ วิชายิ. ตโต ‘‘อฺา เทวิโย สุวณฺณพิมฺพสทิเส ปุตฺเต วิชายนฺติ, อคฺคมเหสี มํสเปสินฺติ รฺโ ปุรโต มม อวณฺโณ อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา เตน อวณฺณภเยน ตํ มํสเปสึ เอกสฺมึ ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ปฏิกุชฺชิตฺวา ราชมุทฺทิกาย ลฺเฉตฺวา คงฺคาย โสเต ปกฺขิปาเปสิ. มนุสฺเสหิ ฉฑฺฑิตมตฺเต เทวตา อารกฺขํ สํวิทหึสุ. สุวณฺณปฏฺฏกฺเจตฺถ ชาติหิงฺคุลเกน ‘‘พาราณสิรฺโ อคฺคมเหสิยา ปชา’’ติ ลิขิตฺวา พนฺธึสุ. ตโต ตํ ภาชนํ อูมิภยาทีหิ อนุปทฺทุตํ คงฺคาโสเตน ปายาสิ.
เตน จ สมเยน อฺตโร ตาปโส โคปาลกกุลํ นิสฺสาย คงฺคาตีเร วิหรติ. โส ปาโตว คงฺคํ โอติณฺโณ ตํ ภาชนํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปํสุกูลสฺาย อคฺคเหสิ. อเถตฺถ ตํ อกฺขรปฏฺฏิกํ ราชมุทฺทิกาลฺฉนํ จ ทิสฺวา มฺุจิตฺวา ตํ มํสเปสึ อทฺทส, ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ ‘‘สิยา คพฺโภ, ตถา หิสฺส ทุคฺคนฺธปูติกภาโว นตฺถี’’ติ. อสฺสมํ เนตฺวา สุทฺเธ โอกาเส เปสิ. อถ อฑฺฒมาสจฺจเยน ทฺเว มํสเปสิโย อเหสุํ. ตาปโส ทิสฺวา สาธุตรํ เปสิ. ตโต ปุน อฑฺฒมาสจฺจเยน เอกเมกิสฺสา มํสเปสิยา หตฺถปาทสีสานมตฺถาย ปฺจ ปฺจ ปิฬกา อุฏฺหึสุ. อถ ตโต อฑฺฒมาสจฺจเยน เอกา มํสเปสิ สุวณฺณพิมฺพสทิโส ทารโก, เอกา ทาริกา อโหสิ.
เตสุ ¶ ตาปสสฺส ปุตฺตสิเนโห อุปฺปชฺชิ, องฺคุฏฺกโต จสฺส ขีรํ นิพฺพตฺติ. ตโต ปภุติ จ ¶ ขีรภตฺตํ อลภิตฺถ, โส ภตฺตํ ภฺุชิตฺวา ขีรํ ทารกานํ มุเข ¶ อาสิฺจติ. เตสํ อุทรํ ยํ ยํ ปวิสติ, ตํ ตํ สพฺพํ มณิภาชนคตํ วิย ทิสฺสติ, เอวํ นิจฺฉวี อเหสุํ. อปเร อาหุ ‘‘สิพฺเพตฺวา ปิตา วิย เนสํ อฺมฺํ ลีนา ฉวิ อโหสี’’ติ. เอวํ เต นิจฺฉวิตาย วา ลีนจฺฉวิตาย วา ลิจฺฉวีติ ปฺายึสุ.
ตาปโส ทารเก โปเสนฺโต อุสฺสูเร คามํ สิกฺขาย ปวิสติ, อติทิวา ปฏิกฺกมติ. ตสฺส ตํ พฺยาปารํ ตฺวา โคปาลกา อาหํสุ – ‘‘ภนฺเต, ปพฺพชิตานํ ทารกโปสนํ ปลิโพโธ, อมฺหากํ ทารเก เทถ, มยํ โปเสสฺสาม, ตุมฺเห อตฺตโน กมฺมํ กโรถา’’ติ. ตาปโส สาธูติ ปฏิสฺสุณิ. โคปาลกา ทุติยทิวเส มคฺคํ สมํ กตฺวา ปุปฺเผหิ โอกิริตฺวา ธชปฏากา อุสฺสาเปตฺวา ตูริเยหิ วชฺชมาเนหิ อสฺสมํ อาคตา. ตาปโส – ‘‘มหาปฺุา ทารกา อปฺปมาเทน วฑฺเฒถ, วฑฺเฒตฺวา จ อฺมฺํ อาวาหวิวาหํ กโรถ, ปฺจโครเสน ราชานํ โตเสตฺวา ภูมิภาคํ คเหตฺวา นครํ มาเปถ, ตตฺถ กุมารํ อภิสิฺจถา’’ติ วตฺวา ทารเก อทาสิ. เต สาธูติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ทารเก เนตฺวา โปเสสุํ.
ทารกา วุทฺธิมนฺวาย กีฬนฺตา วิวาทฏฺาเนสุ อฺเ โคปาลกทารเก หตฺเถนปิ ปาเทนปิ ปหรนฺติ. เต โรทนฺติ. ‘‘กิสฺส โรทถา’’ติ จ มาตาปิตูหิ วุตฺตา ‘‘อิเม นิมฺมาตาปิติกา ตาปสโปสิตา อมฺเห อติปหรนฺตี’’ติ วทนฺติ. ตโต เตสํ มาตาปิตโร ‘‘อิเม ทารกา อฺเ ทารเก วินาเสนฺติ ทุกฺขาเปนฺติ, น อิเม สงฺคเหตพฺพา, วชฺเชตพฺพา อิเม’’ติ อาหํสุ. ตโต ปภุติ กิร โส ปเทโส วชฺชีติ วุจฺจติ โยชนสติโก ปริมาเณน. อถ ตํ ปเทสํ โคปาลกา ราชานํ โตเสตฺวา อคฺคเหสุํ. ตตฺถ จ นครํ มาเปตฺวา โสฬสวสฺสุทฺเทสิกํ กุมารํ อภิสิฺจิตฺวา ราชานํ อกํสุ. ตาย จสฺส ทาริกาย สทฺธึ วิวาหํ กตฺวา กติกํ อกํสุ ‘‘พาหิรกทาริกา น อาเนตพฺพา, อิโต ทาริกา น กสฺสจิ ทาตพฺพา’’ติ. เตสํ ปมสํวาเสน ทฺเว ทารกา ชาตา ธีตา จ ปุตฺโต จ. เอวํ โสฬสกฺขตฺตุํ ทฺเว ทฺเว ชาตา. ตโต เตสํ ทารกานํ ยถากฺกมํ วฑฺฒนฺตานํ อารามุยฺยานนิวาสฏฺานปริวารสมฺปตฺตึ คเหตุํ อปฺปโหนฺตา นครํ ติกฺขตฺตุํ คาวุตนฺตเรน คาวุตนฺตเรน ¶ ปริกฺขิปึสุ ¶ . ตสฺส ปุนปฺปุนํ วิสาลีกตตฺตา เวสาลีตฺเวว นามํ ชาตํ. เตน วุตฺตํ ‘‘เวสาลิยนฺติ เอวํ นามเก นคเร’’ติ.
๐๑พหินคเรติ ¶ นครสฺส พหิ, น อมฺพปาลิวนํ วิย อนฺโตนครสฺมึ. อยํ ปน ชีวกมฺพวนํ วิย นครสฺส พหิทฺธา วนสณฺโฑ. เตน วุตฺตํ ‘‘พหินคเร’’ติ. อปรปุเรติ ปุรสฺส อปเร, ปจฺฉิมทิสายนฺติ อตฺโถ. วนสณฺเฑติ โส กิร วนสณฺโฑ นครสฺส ปจฺฉิมทิสายํ คาวุตมตฺเต าเน. ตตฺถ มนุสฺสา ภควโต คนฺธกุฏึ กตฺวา ตํ ปริวาเรตฺวา ภิกฺขูนํ รตฺติฏฺานทิวาฏฺานจงฺกมเลณกุฏิมณฺฑปาทีนิ ปติฏฺเปสุํ, ภควา ตตฺถ วิหรติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อปรปุเร วนสณฺเฑ’’ติ. สุนกฺขตฺโตติ ตสฺส นามํ. ลิจฺฉวีนํ ปน ปุตฺตตฺตา ลิจฺฉวิปุตฺโตติ วุตฺโต. อจิรปกฺกนฺโตติ วิพฺภมิตฺวา คิหิภาวูปคมเนน อธุนาปกฺกนฺโต. ปริสตีติ ปริสมชฺเฌ. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาติ เอตฺถ มนุสฺสธมฺมา นาม ทสกุสลกมฺมปถา. เต ปฏิเสเธตุํ น สกฺโกติ. กสฺมา? อุปารมฺภภยา. เวสาลิยฺหิ พหู มนุสฺสา รตนตฺตเย ปสนฺนา พุทฺธมามกา ธมฺมมามกา สงฺฆมามกา. เต ทสกุสลกมฺมปถมตฺตมฺปิ นตฺถิ สมณสฺส โคตมสฺสาติ วุตฺเต ตฺวํ กตฺถ ภควนฺตํ ปาณํ หนนฺตํ อทฺทส, กตฺถ อทินฺนํ อาทิยนฺตนฺติอาทีนิ วตฺวา อตฺตโน ปมาณํ น ชานาสิ? กึ ทนฺตา เม อตฺถีติ ปาสาณสกฺขรา ขาทสิ, อหินงฺคุฏฺเ คณฺหิตุํ วายมสิ, กกจทนฺเตสุ ปุปฺผาวฬิกํ กีฬิตุํ อิจฺฉสิ? มุขโต เต ทนฺเต ปาเตสฺสามาติ วเทยฺยุํ. โส เตสํ อุปารมฺภภยา เอวํ วตฺตุํ น สกฺโกติ.
เวสาลินครวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาทิวณฺณนา
ตโต อุตฺตรึ ปน วิเสสาธิคมํ ปฏิเสเธนฺโต อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมา อลมริยาณทสฺสนวิเสโสติ อาห.
ตตฺถ อลมริยํ าตุนฺติ อลมริโย, อริยภาวาย สมตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. าณทสฺสนเมว าณทสฺสนวิเสโส. อลมริโย จ โส าณทสฺสนวิเสโส จาติ อลมริยาณทสฺสนวิเสโส. าณทสฺสนนฺติ ทิพฺพจกฺขุปิ วิปสฺสนาปิ มคฺโคปิ ผลมฺปิ ปจฺจเวกฺขณาณมฺปิ ¶ สพฺพฺุตฺาณมฺปิ วุจฺจติ. ‘‘อปฺปมตฺโต สมาโน าณทสฺสนํ อาราเธตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๑๑) หิ เอตฺถ ทิพฺพจกฺขุ าณทสฺสนํ นาม. ‘‘าณทสฺสนาย ¶ จิตฺตํ อภินีหรติ ¶ อภินินฺนาเมตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๓๕) เอตฺถ วิปสฺสนาาณํ. ‘‘อภพฺพา เต าณทสฺสนาย อนุตฺตราย สมฺโพธายา’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๙๖) เอตฺถ มคฺโค. ‘‘อยมฺโ อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมา อลมริยาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุ วิหาโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๒๘) เอตฺถ ผลํ. ‘‘าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ, อกุปฺปา เม เจโตวิมุตฺติ, อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ (มหาว. ๑๖) เอตฺถ ปจฺจเวกฺขณาณํ. ‘‘าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ สตฺตาหกาลงฺกโต อาฬาโร กาฬาโม’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๔๐) เอตฺถ สพฺพฺุตฺาณํ. อิธ ปน โลกุตฺตรมคฺโค อธิปฺเปโต. ตฺหิ โส ภควโต ปฏิเสเธติ.
ตกฺกปริยาหตนฺติ อิมินา อาจริยํ ปฏิพาหติ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – สมเณน โคตเมน อาจริเย อุปสงฺกมิตฺวา สุขุมํ ธมฺมนฺตรํ คหิตํ นาม นตฺถิ, ตกฺกปริยาหตํ ปน ตกฺเกตฺวา เอวํ ภวิสฺสติ เอวํ ภวิสฺสตีติ ตกฺกปริยาหตํ ธมฺมํ เทเสตีติ. วีมํสานุจริตนฺติ อิมินา จสฺส โลกิยปฺํ อนุชานาติ. สมโณ โคตโม ปฺวา, โส ตํ ปฺาสงฺขาตํ อินฺทวชิรูปมํ วีมํสํ เอวํ วฏฺฏิสฺสติ, เอวํ วฏฺฏิสฺสตีติ อิโต จิโต จ อนุจราเปตฺวา วีมํสาย อนุจริตํ ธมฺมํ เทเสติ. สยํปฏิภานนฺติ อิมินาสฺส ธมฺเมสุ ปจฺจกฺขภาวํ ปฏิพาหติ. เอวํ หิสฺส อโหสิ – สมณสฺส โคตมสฺส สุขุมํ ธมฺมนฺตรํ วิปสฺสนา วา มคฺโค วา ผลํ วา ปจฺจเวกฺขณา วา นตฺถิ, อยํ ปน ลทฺธปริโส, ราชานํ จกฺกวตฺตึ วิย นํ จตฺตาโร วณฺณา ปริวาเรนฺติ, สุผุสิตํ ปนสฺส ทนฺตาวรณํ, มุทุกา ชิวฺหา, มธุโร สโร, อเนลคฬา วาจา, โส ยํ ยเทวสฺส อุปฏฺาติ, ตํ ตํ คเหตฺวา สยํปฏิภานํ กเถนฺโต มหาชนํ รฺเชตีติ.
ยสฺส จ ขฺวาสฺส อตฺถาย ธมฺโม เทสิโตติ ยสฺส จ โข อตฺถาย อสฺส ธมฺโม เทสิโต. เสยฺยถิทํ, ราคปฏิฆาตตฺถาย อสุภกมฺมฏฺานํ, โทสปฺปฏิฆาตตฺถาย เมตฺตาภาวนา, โมหปฏิฆาตตฺถาย ปฺจ ธมฺมา, วิตกฺกูปจฺเฉทาย ¶ อานาปานสฺสติ.
โส นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ โส ธมฺโม โย ตํ ยถาเทสิตํ กโรติ, ตสฺส ตกฺกรสฺส สมฺมา เหตุนา นเยน การเณน วฏฺฏทุกฺขกฺขยาย นิยฺยาติ คจฺฉติ ตมตฺถํ สาเธตีติ ¶ ทีเปติ ¶ . อิทํ ปเนส น อตฺตโน อชฺฌาสเยน วทติ. พุทฺธานฺหิ ธมฺโม อนิยฺยานิโกติ เอวเมวํ ปเวเทยฺย, น ปน สกฺโกติ วตฺตุํ. กสฺมา? อุปารมฺภภยา. เวสาลิยฺหิ พหู โสตาปนฺน-สกทาคามิ-อนาคามิอุปาสกา. เต เอวํ วเทยฺยุํ ‘‘สุนกฺขตฺต ตฺวํ ภควตา เทสิตธมฺโม อนิยฺยานิโกติ วทสิ, ยทิ อยํ ธมฺโม อนิยฺยานิโก, อิมสฺมึ นคเร อิเม กสฺมา เอตฺตกา โสตาปนฺนา ชาตา, เอตฺตกา สกทาคามี, เอตฺตกา อนาคามีติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน อุปารมฺภํ กเรยฺยุ’’นฺติ. โส อิมินา อุปารมฺภภเยน อนิยฺยานิโกติ วตฺตุํ อสกฺโกนฺโต อชฺชุเนน วิสฺสฏฺกณฺฑํ วิย อสฺส ธมฺโม อโมโฆ นิยฺยาติ, อพฺภนฺตเร ปนสฺส กิฺจิ นตฺถีติ วทติ.
อสฺโสสิ โขติ เวสาลิยํ พฺราหฺมณกุลเสฏฺิกุลาทีสุ ตตฺถ ตตฺถ ปริสมชฺเฌ เอวํ ภาสมานสฺส ตํ วจนํ สุณิ, น ปน ปฏิเสเธสิ. กสฺมา? การฺุตาย. เอวํ กิรสฺส อโหสิ อยํ กุทฺโธ ฌายมานํ เวฬุวนํ วิย ปกฺขิตฺตโลณํ อุทฺธนํ วิย จ โกธวเสน ปฏปฏายติ, มยา ปฏิพาหิโต ปน มยิปิ อาฆาตํ พนฺธิสฺสติ, เอวมสฺส ตถาคเต จ มยิ จาติ ทฺวีสุ ชเนสุ อาฆาโต อติภาริโย ภวิสฺสตีติ การฺุตาย น ปฏิเสเธสิ. อปิ จสฺส เอวํ อโหสิ, พุทฺธานํ อวณฺณกถนํ นาม ปุณฺณจนฺเท โทสาโรปนสทิสํ, โก อิมสฺส กถํ คณฺหิสฺสติ? สยเมว เขเฬ ปจฺฉินฺเน มุเข สุกฺเข โอรมิสฺสตีติ อิมินา การเณน น ปฏิเสเธสิ. ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโตติ ปิณฺฑปาตปริเยสนโต อปคโต.
๑๔๗. โกธโนติ จณฺโฑ ผรุโส. โมฆปุริโสติ ตุจฺฉปุริโส. ยสฺส หิ ตสฺมึ อตฺตภาเว มคฺคผลานํ อุปนิสฺสโย นตฺถิ, ตํ พุทฺธา ‘‘โมฆปุริโส’’ติ วทนฺติ. อุปนิสฺสเย สติปิ ตสฺมึ ขเณ มคฺเค วา ผเล วา อสติ ‘‘โมฆปุริโส’’ติ วทนฺติเยว. อิมสฺส ปน ตสฺมึ อตฺตภาเว มคฺคผลานํ ¶ อุปนิสฺสโย สมุจฺฉินฺโนเยว, เตน ตํ ‘‘โมฆปุริโส’’ติ อาห. โกธา จ ปนสฺส เอสา วาจา ภาสิตาติ เอสา จ ปนสฺส วาจา โกเธน ภาสิตา.
กสฺมา ¶ ปเนส ภควโต กุทฺโธติ? อยฺหิ ปุพฺเพ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ทิพฺพจกฺขุปริกมฺมํ ปุจฺฉิ. อถสฺส ภควา กเถสิ. โส ทิพฺพจกฺขุํ นิพฺพตฺเตตฺวา อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา เทวโลเก โอโลเกนฺโต นนฺทนวนจิตฺตลตาวนผารุสกวนมิสฺสกวเนสุ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวมาเน ¶ เทวปุตฺเต จ เทวธีตโร จ ทิสฺวา เอเตสํ เอวรูปาย อตฺตภาวสมฺปตฺติยา ิตานํ กีวมธุโร นุ โข สทฺโท ภวิสฺสตีติ สทฺทํ โสตุกาโม หุตฺวา ทสพลํ อุปสงฺกมิตฺวา ทิพฺพโสตธาตุปริกมฺมํ ปุจฺฉิ. ภควา ปนสฺส ทิพฺพโสตธาตุยา อุปนิสฺสโย นตฺถีติ ตฺวา ปริกมฺมํ น กเถสิ. น หิ พุทฺธา อุปนิสฺสยวิรหิต ตสฺส ปริกมฺมํ กเถนฺติ. โส ภควติ อาฆาตํ พนฺธิตฺวา จินฺเตสิ ‘‘อหํ สมณํ โคตมํ ปมํ ทิพฺพจกฺขุปริกมฺมํ ปุจฺฉึ, โส ‘มยฺหํ ตํ สมฺปชฺชตุ วา มา วา สมฺปชฺชตู’ติ กเถสิ. อหํ ปน ปจฺจตฺตปุริสกาเรน ตํ นิพฺพตฺเตตฺวา ทิพฺพโสตธาตุปริกมฺมํ ปุจฺฉึ, ตํ เม น กเถสิ. อทฺธาสฺส เอวํ โหติ ‘อยํ ราชปพฺพชิโต ทิพฺพจกฺขุาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา ทิพฺพโสตธาตุาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา เจโตปริยาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา อาสวานํ ขยาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา มยา สมสโม ภวิสฺสตี’ติ อิสฺสามจฺฉริยวเสน มยฺหํ น กเถตี’’ติ. ภิยฺโยโส อาฆาตํ พนฺธิตฺวา กาสายานิ ฉฑฺเฑตฺวา คิหิภาวํ ปตฺวาปิ น ตุณฺหีภูโต วิจรติ. ทสพลํ ปน อสตา ตุจฺเฉน อพฺภาจิกฺขนฺโต วิจรติ. เตนาห ภควา ‘‘โกธา จ ปนสฺส เอสา วาจา ภาสิตา’’ติ.
วณฺโณ เหโส, สาริปุตฺตาติ, สาริปุตฺต, ตถาคเตน สตสหสฺสกปฺปาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ปารมิโย ปูเรนฺเตน เอตทตฺถเมว วายาโม กโต ‘‘เทสนาธมฺโม เม นิยฺยานิโก ภวิสฺสตี’’ติ. ตสฺมา โย เอวํ วเทยฺย, โส วณฺณํเยว ตถาคตสฺส ภาสติ. วณฺโณ เหโส, สาริปุตฺต, ตถาคตสฺส คุโณ เอโส ตถาคตสฺส, น อคุโณติ ทสฺเสติ.
อยมฺปิ ¶ หิ นาม สาริปุตฺตาติอาทินา กึ ทสฺเสติ? สุนกฺขตฺเตน ปฏิสิทฺธสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส อตฺตนิ อตฺถิตํ ทสฺเสติ. ภควา กิร อยํ, สาริปุตฺต, สุนกฺขตฺโต โมฆปุริโส นตฺถิ ตถาคตสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺโมติ วทติ. มยฺหฺจ สพฺพฺุตฺาณํ นาม อตฺถิ, อิทฺธิวิธาณํ นาม อตฺถิ, ทิพฺพโสตธาตุาณํ นาม อตฺถิ, เจโตปริยาณํ นาม อตฺถิ, ทสพลาณํ ¶ นาม อตฺถิ, จตุเวสารชฺชาณํ นาม อตฺถิ, อฏฺสุ ปริสาสุ อกมฺปนาณํ นาม อตฺถิ, จตุโยนิปริจฺเฉทกาณํ นาม อตฺถิ, ปฺจคติปริจฺเฉทกาณํ นาม อตฺถิ, สพฺเพปิ เจเต อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาเยว. เอวรูเปสุ อุตฺตริมนุสฺสธมฺเมสุ เอกสฺสาปิ วิชานนสมตฺถํ ธมฺมนฺวยมตฺตมฺปิ นาม เอตสฺส โมฆปุริสสฺส น ภวิสฺสตีติ เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ อยมฺปิ หิ นาม สาริปุตฺตาติอาทินา นเยน อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ อนฺเวตีติ อนฺวโย, ชานาติ ¶ , อนุพุชฺฌตีติ อตฺโถ. ธมฺมสฺส อนฺวโย ธมฺมนฺวโย, ตํ ตํ สพฺพฺุตฺาณาทิธมฺมํ ชานนปฺาเยตํ อธิวจนํ. ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทีหิ เอวรูปมฺปิ นาม มยฺหํ สพฺพฺุตฺาณสงฺขาตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ วิชฺชมานเมว อตฺถีติ ชานิตุํ ตสฺส โมฆปุริสสฺส ธมฺมนฺวโยปิ น ภวิสฺสตีติ ทสฺเสติ. อิทฺธิวิธาณาทีสุปิ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา.
อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทสพลาณาทิวณฺณนา
๑๔๘. เอตฺถ จ กิฺจาปิ เจโตปริยาณานนฺตรํ ติสฺโส วิชฺชา วตฺตพฺพา สิยุํ, ยสฺมา ปน ตาสุ วุตฺตาสุ อุปริ ทสพลาณํ น ปริปูรติ, ตสฺมา ตา อวตฺวา ตถาคตสฺส ทสพลาณํ ปริปูรํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ทส โข ปนิมานิ สาริปุตฺตาติอาทิมาห. ตตฺถ ตถาคตพลานีติ อฺเหิ อสาธารณานิ ตถาคตสฺเสว พลานิ. ยถา วา ปุพฺพพุทฺธานํ พลานิ ปฺุุสฺสยสมฺปตฺติยา อาคตานิ, ตถา อาคตพลานีติปิ อตฺโถ. ตตฺถ ทุวิธํ ตถาคตพลํ กายพลฺจ าณพลฺจ. เตสุ กายพลํ หตฺถิกุลานุสาเรน เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –
‘‘กาลาวกฺจ คงฺเคยฺยํ, ปณฺฑรํ ตมฺพปิงฺคลํ;
คนฺธมงฺคลเหมฺจ, อุโปสถฉทฺทนฺติเม ทสา’’ติ.
อิมานิ ¶ หิ ทส หตฺถิกุลานิ. ตตฺถ กาลาวกนฺติ ปกติหตฺถิกุลํ ทฏฺพฺพํ. ยํ ทสนฺนํ ปุริสานํ กายพลํ, ตํ เอกสฺส กาลาวกหตฺถิโน. ยํ ทสนฺนํ กาลาวกานํ พลํ, ตํ เอกสฺส คงฺเคยฺยสฺส. ยํ ทสนฺนํ คงฺเคยฺยานํ, ตํ เอกสฺส ปณฺฑรสฺส. ยํ ทสนฺนํ ปณฺฑรานํ, ตํ เอกสฺส ตมฺพสฺส. ยํ ทสนฺนํ ตมฺพานํ, ตํ เอกสฺส ปิงฺคลสฺส. ยํ ทสนฺนํ ปิงฺคลานํ, ตํ เอกสฺส คนฺธหตฺถิโน. ยํ ทสนฺนํ คนฺธหตฺถีนํ, ตํ เอกสฺส มงฺคลสฺส. ยํ ทสนฺนํ มงฺคลานํ, ตํ เอกสฺส เหมวตสฺส. ยํ ทสนฺนํ เหมวตานํ, ตํ เอกสฺส อุโปสถสฺส. ยํ ¶ ทสนฺนํ อุโปสถานํ, ตํ เอกสฺส ฉทฺทนฺตสฺส. ยํ ทสนฺนํ ฉทฺทนฺตานํ ตํ เอกสฺส ตถาคตสฺส. นารายนสงฺฆาตพลนฺติปิ อิทเมว วุจฺจติ ¶ . ตเทตํ ปกติหตฺถิคณนาย หตฺถีนํ โกฏิสหสฺสานํ ปุริสคณนาย ทสนฺนํ ปุริสโกฏิสหสฺสานํ พลํ โหติ. อิทํ ตาว ตถาคตสฺส กายพลํ.
าณพลํ ปน ปาฬิยํ ตาว อาคตเมว. ทสพลาณํ, จตุเวสารชฺชาณํ, อฏฺสุ ปริสาสุ อกมฺปนาณํ, จตุโยนิปริจฺเฉทกาณํ, ปฺจคติปริจฺเฉทกาณํ. สํยุตฺตเก (สํ. นิ. ๒.๓๔) อาคตานิ เตสตฺตติ าณานิ สตฺตสตฺตติ าณานีติ เอวํ อฺานิปิ อเนกานิ าณสหสฺสานิ, เอตํ าณพลํ นาม. อิธาปิ าณพลเมว อธิปฺเปตํ. าณฺหิ อกมฺปิยฏฺเน อุปตฺถมฺภนฏฺเน จ พลนฺติ วุตฺตํ.
เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโตติ เยหิ ทสหิ าณพเลหิ อุเปโต สมุเปโต. อาสภํ านนฺติ เสฏฺฏฺานํ อุตฺตมฏฺานํ. อาสภา วา ปุพฺพพุทฺธา, เตสํ านนฺติ อตฺโถ. อปิจ ควสตเชฏฺโก อุสโภ, ควสหสฺสเชฏฺโก วสโภ. วชสตเชฏฺโก วา อุสโภ, วชสหสฺสเชฏฺโก วสโภ. สพฺพควเสฏฺโ สพฺพปริสฺสยสโห เสโต ปาสาทิโก มหาภารวโห อสนิสตสทฺเทหิปิ อกมฺปนิโย นิสโภ, โส อิธ อุสโภติ อธิปฺเปโต. อิทมฺปิ หิ ตสฺส ปริยายวจนํ. อุสภสฺส อิทนฺติ อาสภํ. านนฺติ จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา อจลฏฺานํ. อิทํ ปน อาสภํ วิยาติ อาสภํ. ยเถว หิ นิสภสงฺขาโต อุสโภ อุสภพเลน สมนฺนาคโต จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา ¶ อจลฏฺาเนน ติฏฺติ, เอวํ ตถาคโตปิ ทสหิ ตถาคตพเลหิ สมนฺนาคโต จตูหิ เวสารชฺชปาเทหิ อฏฺปริสปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา สเทวเก โลเก เกนจิ ปจฺจตฺถิเกน ปจฺจามิตฺเตน อกมฺปิโย อจลฏฺาเนน ติฏฺติ. เอวํ ติฏฺมาโนว ตํ อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, อุปคจฺฉติ น ปจฺจกฺขาติ อตฺตนิ อาโรเปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อาสภํ านํ ปฏิชานาตี’’ติ.
ปริสาสูติ อฏฺสุ ปริสาสุ. สีหนาทํ นทตีติ เสฏฺนาทํ อภีตนาทํ นทติ, สีหนาทสทิสํ วา นาทํ นทติ. อยมตฺโถ สีหนาทสุตฺเตน ¶ ทีเปตพฺโพ. ยถา วา สีโห สหนโต หนนโต จ สีโหติ วุจฺจติ, เอวํ ตถาคโต โลกธมฺมานํ สหนโต ปรปฺปวาทานฺจ หนนโต สีโหติ วุจฺจติ. เอวํ วุตฺตสฺส สีหสฺส นาทํ สีหนาทํ. ตตฺถ ยถา สีโห สีหพเลน สมนฺนาคโต สพฺพตฺถ วิสารโท วิคตโลมหํโส สีหนาทํ นทติ, เอวํ ตถาคตสีโหปิ ตถาคตพเลหิ สมนฺนาคโต อฏฺสุ ¶ ปริสาสุ วิสารโท วิคตโลมหํโส อิติ รูปนฺติอาทินา นเยน นานาวิธเทสนาวิลาสสมฺปนฺนํ สีหนาทํ นทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปริสาสุ สีหนาทํ นทตี’’ติ. พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตตีติ เอตฺถ พฺรหฺมนฺติ เสฏฺํ อุตฺตมํ วิสิฏฺํ. จกฺก-สทฺโท ปนายํ –
สมฺปตฺติยํ ลกฺขเณ จ, รถงฺเค อิริยาปเถ;
ทาเน รตนธมฺมูร-จกฺกาทีสุ จ ทิสฺสติ;
ธมฺมจกฺเก อิธ มโต, ตฺจ ทฺเวธา วิภาวเย.
‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, จกฺกานิ, เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสาน’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓๑) หิ อยํ สมฺปตฺติยํ ทิสฺสติ. ‘‘ปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานี’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๕) เอตฺถ ลกฺขเณ. ‘‘จกฺกํว วหโต ปท’’นฺติ (ธ. ป. ๑) เอตฺถ รถงฺเค. ‘‘จตุจกฺกํ นวทฺวาร’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๙) เอตฺถ อิริยาปเถ. ‘‘ททํ ภฺุช มา จ ปมาโท, จกฺกํ ปวตฺตย สพฺพปาณิน’’นฺติ (ชา. ๑.๗.๑๔๙) เอตฺถ ทาเน. ‘‘ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุรโหสี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๔๓) เอตฺถ รตนจกฺเก. ‘‘มยา ปวตฺติตํ จกฺก’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๖๒) เอตฺถ ธมฺมจกฺเก. ‘‘อิจฺฉาหตสฺส โปสสฺส, จกฺกํ ภมติ มตฺถเก’’ติ (ชา. ๑.๑.๑๐๔; ๑.๕.๑๐๓) เอตฺถ อุรจกฺเก. ‘‘ขุรปริยนฺเตน เจปิ จกฺเกนา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๖) เอตฺถ ¶ ปหรณจกฺเก. ‘‘อสนิวิจกฺก’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๖๑; สํ. นิ. ๒.๑๖๒) เอตฺถ อสนิมณฺฑเล. อิธ ปนายํ ธมฺมจกฺเก อธิปฺเปโต.
ตํ ปน ธมฺมจกฺกํ ทุวิธํ โหติ ปฏิเวธาณฺเจว เทสนาาณฺจ. ตตฺถ ปฺาปภาวิตํ อตฺตโน อริยพลาวหํ ปฏิเวธาณํ. กรุณาปภาวิตํ สาวกานํ อริยพลาวหํ เทสนาาณํ. ตตฺถ ปฏิเวธาณํ อุปฺปชฺชมานํ อุปฺปนฺนนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ อภินิกฺขมนโต ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. ตุสิตภวนโต วา ยาว มหาโพธิปลฺลงฺเก ¶ อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. ทีปงฺกรทสพลโต ปฏฺาย วา ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. เทสนาาณมฺปิ ปวตฺตมานํ ปวตฺตนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ ยาว อฺาตโกณฺฑฺสฺส โสตาปตฺติมคฺคา ปวตฺตมานํ, ผลกฺขเณ ปวตฺตํ นาม. เตสุ ปฏิเวธาณํ ¶ โลกุตฺตรํ, เทสนาาณํ โลกิยํ. อุภยมฺปิ ปเนตํ อฺเหิ อสาธารณํ, พุทฺธานํเยว โอรสาณํ.
อิทานิ เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ยานิ อาทิโตว ‘‘ทส โข ปนิมานิ, สาริปุตฺต, ตถาคตสฺส ตถาคตพลานี’’ติ นิกฺขิตฺตานิ, ตานิ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ กตมานิ ทส? อิธ, สาริปุตฺต, ตถาคโต านฺจ านโตติอาทิมาห. ตตฺถ านฺจ านโตติ การณฺจ การณโต. การณฺหิ ยสฺมา ตตฺถ ผลํ ติฏฺติ ตทายตฺตวุตฺติยาย อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จ, ตสฺมา านนฺติ วุจฺจติ. ตํ ภควา ‘‘เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ เหตู ปจฺจยา อุปฺปาทาย, ตํ ตํ านํ. เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ น เหตู น ปจฺจยา อุปฺปาทาย, ตํ ตํ อฏฺาน’’นฺติ ปชานนฺโต านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาติ. อภิธมฺเม ปเนตํ, ‘‘ตตฺถ กตมํ ตถาคตสฺส านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ าณ’’นฺติอาทินา (วิภ. ๘๐๙) นเยน วิตฺถาริตเมว. ยมฺปีติ เยน าเณน. อิทมฺปิ, สาริปุตฺต, ตถาคตสฺสาติ อิทมฺปิ านาฏฺานาณํ ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ นาม โหตีติ อตฺโถ. เอวํ สพฺพปเทสุ โยชนา เวทิตพฺพา.
กมฺมสมาทานานนฺติ ¶ สมาทิยิตฺวา กตานํ กุสลากุสลกมฺมานํ, กมฺมเมว วา กมฺมสมาทานํ. านโส เหตุโสติ ปจฺจยโต เจว เหตุโต จ. ตตฺถ คติอุปธิกาลปโยคา วิปากสฺส านํ. กมฺมํ เหตุ. อิมสฺส ปน าณสฺส วิตฺถารกถา ‘‘อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺตี’’ติอาทินา (วิภ. ๘๑๐) นเยน อภิธมฺเม อาคตาเยว.
สพฺพตฺถคามินินฺติ สพฺพคติคามินึ อคติคามินิฺจ. ปฏิปทนฺติ มคฺคํ. ยถาภูตํ ปชานาตีติ พหูสุปิ มนุสฺเสสุ เอกเมว ปาณํ ฆาเตนฺเตสุ อิมสฺส ¶ เจตนา นิรยคามินี ภวิสฺสติ, อิมสฺส เจตนา ติรจฺฉานโยนิคามินีติ อิมินา นเยน เอกวตฺถุสฺมิมฺปิ กุสลากุสลเจตนาสงฺขาตานํ ปฏิปตฺตีนํ อวิปรีตโต สภาวํ ชานาติ. อิมสฺส จ าณสฺส วิตฺถารกถา ‘‘ตตฺถ กตมํ ตถาคตสฺส สพฺพตฺถคามินึ ปฏิปทํ ยถาภูตํ าณํ? อิธ ตถาคโต อยํ ¶ มคฺโค อยํ ปฏิปทา นิรยคามีติ ปชานาตี’’ติอาทินา (วิภ. ๘๑๑) นเยน อภิธมฺเม อาคตาเยว.
อเนกธาตุนฺติ จกฺขุธาตุอาทีหิ กามธาตุอาทีหิ วา ธาตูหิ พหุธาตุํ. นานาธาตุนฺติ ตาสํเยว ธาตูนํ วิลกฺขณตาย นานปฺปการธาตุํ. โลกนฺติ ขนฺธายตนธาตุโลกํ. ยถาภูตํ ปชานาตีติ ตาสํ ตาสํ ธาตูนํ อวิปรีตโต สภาวํ ปฏิวิชฺฌติ. อิทมฺปิ าณํ ‘‘ตตฺถ กตมํ ตถาคตสฺส อเนกธาตุนานาธาตุโลกํ ยถาภูตํ าณํ, อิธ ตถาคโต ขนฺธนานตฺตํ ปชานาตี’’ติอาทินา นเยน อภิธมฺเม วิตฺถาริตเมว.
นานาธิมุตฺติกตนฺติ หีนาทีหิ อธิมุตฺตีหิ นานาธิมุตฺติกภาวํ. อิทมฺปิ าณํ, ‘‘ตตฺถ กตมํ ตถาคตสฺส สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตํ ยถาภูตํ าณํ, อิธ ตถาคโต ปชานาติ สนฺติ สตฺตา หีนาธิมุตฺติกา’’ติ อาทินา นเยน อภิธมฺเม วิตฺถาริตเมว.
ปรสตฺตานนฺติ ปธานสตฺตานํ. ปรปุคฺคลานนฺติ ตโต ปเรสํ หีนสตฺตานํ. เอกตฺถเมว วา เอตํ ¶ ปททฺวยํ. เวเนยฺยวเสน ปน ทฺเวธา วุตฺตํ. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตนฺติ สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ ปรภาวํ อปรภาวฺจ, วุทฺธิฺจ หานิฺจาติ อตฺโถ. อิมสฺสปิ าณสฺส วิตฺถารกถา – ‘‘ตตฺถ กตมํ ตถาคตสฺส ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ ยถาภูตํ าณํ, อิธ ตถาคโต สตฺตานํ อาสยํ ปชานาติ อนุสยํ ปชานาตี’’ติอาทินา (วิภ. ๘๑๔) นเยน อภิธมฺเม อาคตาเยว.
ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนนฺติ ปมาทีนํ จตุนฺนํ ฌานานํ รูปี รูปานิ ปสฺสตีติอาทีนํ อฏฺนฺนํ วิโมกฺขานํ สวิตกฺกสวิจาราทีนํ ติณฺณํ สมาธีนํ ปมชฺฌานสมาปตฺติอาทีนฺจ นวนฺนํ อนุปุพฺพสมาปตฺตีนํ. สํกิเลสนฺติ หานภาคิยธมฺมํ. โวทานนฺติ วิเสสภาคิยธมฺมํ. วุฏฺานนฺติ ‘‘โวทานมฺปิ วุฏฺานํ. ตมฺหา ¶ ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ (วิภ. ๘๒๘) เอวํ วุตฺตปคุณชฺฌานฺเจว ภวงฺคผลสมาปตฺติโย จ. เหฏฺิมํ เหฏฺิมฺหิ ปคุณชฺฌานํ อุปริมสฺส อุปริมสฺส ปทฏฺานํ โหติ. ตสฺมา ‘‘โวทานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. ภวงฺเคน ปน สพฺพชฺฌาเนหิ วุฏฺานํ โหติ. ผลสมาปตฺติยา นิโรธสมาปตฺติโต ¶ วุฏฺานํ โหติ. ตํ สนฺธาย ‘‘ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. อิทมฺปิ าณํ ‘‘ตตฺถ กตมํ ตถาคตสฺส ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนํ สํกิเลสํ โวทานํ วุฏฺานํ ยถาภูตํ าณํ, ฌายีติ จตฺตาโร ฌายี, อตฺเถกจฺโจ ฌายี สมฺปตฺตึเยว สมานํ วิปตฺตีติ ปจฺเจตี’’ติอาทินา (วิภ. ๘๒๘) นเยน อภิธมฺเม วิตฺถาริตํ. สตฺตนฺนํ าณานํ วิตฺถารกถาวินิจฺฉโย สมฺโมหวิโนทนิยํ วิภงฺคฏฺกถายํ วุตฺโต. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติทิพฺพจกฺขุาณกถา วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตา. อาสวกฺขยกถา ภยเภรเว.
๑๔๙. อิมานิ โข สาริปุตฺตาติ ยานิ ปุพฺเพ ‘‘ทส โข ปนิมานิ, สาริปุตฺต, ตถาคตสฺส ตถาคตพลานี’’ติ อโวจํ, อิมานิ ตานีติ อปฺปนํ กโรติ. ตตฺถ ¶ ปรวาทีกถา โหติ – ทสพลาณํ นาม ปาฏิเยกฺกํ นตฺถิ, สพฺพฺุตฺาณสฺเสวายํ ปเภโทติ. ตํ น ตถา ทฏฺพฺพํ. อฺเมว หิ ทสพลาณํ, อฺํ สพฺพฺุตฺาณํ. ทสพลาณฺหิ สกสกกิจฺจเมว ชานาติ. สพฺพฺุตาณํ ตมฺปิ ตโต อวเสสมฺปิ ปชานาติ. ทสพลาเณสุ หิ ปมํ การณาการณเมว ชานาติ. ทุติยํ กมฺมนฺตรวิปากนฺตรเมว. ตติยํ กมฺมปริจฺเฉทเมว. จตุตฺถํ ธาตุนานตฺตการณเมว. ปฺจมํ สตฺตานํ อชฺฌาสยาธิมุตฺติเมว. ฉฏฺํ อินฺทฺริยานํ ติกฺขมุทุภาวเมว. สตฺตมํ ฌานาทีหิ สทฺธึ เตสํ สํกิเลสาทิเมว. อฏฺมํ ปุพฺเพนิวุตฺถขนฺธสนฺตติเมว. นวมํ สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิเมว. ทสมํ สจฺจปริจฺเฉทเมว. สพฺพฺุตฺาณํ ปน เอเตหิ ชานิตพฺพฺจ ตโต อุตฺตริฺจ ปชานาติ. เอเตสํ ปน กิจฺจํ น สพฺพํ กโรติ. ตฺหิ ฌานํ หุตฺวา อปฺเปตุํ น สกฺโกติ, อิทฺธิ หุตฺวา วิกุพฺพิตุํ น สกฺโกติ, มคฺโค หุตฺวา กิเลเส เขเปตุํ น สกฺโกติ. อปิจ ปรวาที เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘‘ทสพลาณํ นาม เอตํ สวิตกฺกสวิจารํ อวิตกฺกวิจารมตฺตํ อวิตกฺกอวิจารํ กามาวจรํ รูปาวจรํ อรูปาวจรํ โลกิยํ โลกุตฺตร’’นฺติ? ชานนฺโต ปฏิปาฏิยา สตฺต าณานิ สวิตกฺกสวิจารานีติ วกฺขติ. ตโต ปรานิ ทฺเว ¶ อวิตกฺกอวิจารานีติ วกฺขติ. อาสวกฺขยาณํ สิยา สวิตกฺกสวิจารํ, สิยา อวิตกฺกวิจารมตฺตํ, สิยา อวิตกฺกอวิจารนฺติ วกฺขติ. ตถา ปฏิปาฏิยา สตฺต กามาวจรานิ, ตโต ปรานิ ทฺเว รูปาวจรานิ, อวสาเน เอกํ โลกุตฺตรนฺติ วกฺขติ, สพฺพฺุตฺาณํ ปน สวิตกฺกสวิจารเมว กามาวจรเมว โลกิยเมวาติ วกฺขติ.
เอวเมตฺถ ¶ อนุปทวณฺณนํ กตฺวา อิทานิ ยสฺมา ตถาคโต ปมํเยว านาฏฺานาเณน เวเนยฺยสตฺตานํ อาสวกฺขยาธิคมสฺส เจว อนธิคมสฺส จ านาฏฺานภูตํ กิเลสาวรณาภาวํ ปสฺสติ, โลกิยสมฺมาทิฏฺิฏฺานทสฺสนโต นิยตมิจฺฉาทิฏฺิฏฺานาภาวทสฺสนโต จ. อถ เนสํ กมฺมวิปากาเณน วิปากาวรณาภาวํ ปสฺสติ, ติเหตุกปฏิสนฺธิทสฺสนโต. สพฺพตฺถคามินีปฏิปทาาเณน ¶ กมฺมาวรณาภาวํ ปสฺสติ, อนนฺตริยกมฺมาภาวทสฺสนโต. เอวํ อนาวรณานํ อเนกธาตุนานาธาตุาเณน อนุกูลธมฺมเทสนตฺถํ จริยวิเสสํ ปสฺสติ, ธาตุเวมตฺตทสฺสนโต. อถ เนสํ นานาธิมุตฺติกตาาเณน อธิมุตฺตึ ปสฺสติ, ปโยคํ อนาทิยิตฺวาปิ อธิมุตฺติวเสน ธมฺมเทสนตฺถํ. อเถวํ ทิฏฺาธิมุตฺตีนํ ยถาสตฺติ ยถาพลํ ธมฺมํ เทเสตุํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาเณน อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ ปสฺสติ, สทฺธาทีนํ ติกฺขมุทุภาวทสฺสนโต. เอวํ ปริฺาตินฺทฺริยปโรปริยตฺตา ปน เต สเจ ทูเร โหนฺติ, ปมชฺฌานาทีสุ วสีภูตตฺตา อิทฺธิวิเสเสน เต ขิปฺปํ อุปคจฺฉติ. อุปคนฺตฺวา จ เนสํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน ปุพฺพชาติภาวนํ, ทิพฺพจกฺขุาณานุภาวโต ปตฺตพฺเพน เจโตปริยาเณน สมฺปติ จิตฺตวิเสสํ ปสฺสนฺโต อาสวกฺขยาณานุภาเวน อาสวกฺขยคามินิยา ปฏิปทาย วิคตสมฺโมหตฺตา อาสวกฺขยาย ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺมา อิมินา อนุกฺกเมน อิมานิ ทสพลานิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.
ตํ, สาริปุตฺต, วาจํ อปฺปหายาติอาทีสุ ปุน เอวรูปึ วาจํ น วกฺขามีติ วทนฺโต ตํ วาจํ ปชหติ นาม. ปุน เอวรูปํ จิตฺตํ น อุปฺปาเทสฺสามีติ จินฺเตนฺโต จิตฺตํ ปชหติ นาม. ปุน เอวรูปํ ทิฏฺึ น คณฺหิสฺสามีติ ปชหนฺโต ทิฏฺึ ปฏินิสฺสชฺชติ นาม, ตถา อกโรนฺโต เนว ปชหติ, น ปฏินิสฺสชฺชติ. โส ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเยติ ยถา นิรยปาเลหิ อาหริตฺวา นิรเย ปิโต, เอวํ นิรเย ปิโตเยวาติ เวทิตพฺโพ.
อิทานิสฺส ¶ อตฺถสาธกํ อุปมํ ทสฺเสนฺโต เสยฺยถาปีติอาทิมาห. ตตฺถ สีลสมฺปนฺโนติอาทีสุ โลกิยโลกุตฺตรา สีลสมาธิปฺา เวทิตพฺพา. โลกุตฺตรวเสเนว วินิวตฺเตตุมฺปิ วฏฺฏติ. อยฺหิ สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีเวหิ สีลสมฺปนฺโน, สมฺมาวายามสติสมาธีหิ สมาธิสมฺปนฺโน, สมฺมาทิฏฺิสงฺกปฺเปหิ ปฺาสมฺปนฺโน, โส เอวํ สีลาทิสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ยถา ทิฏฺเว ธมฺเม อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว อฺํ อาราเธติ อรหตฺตํ ปาปุณาติ, เอวํสมฺปทมิทํ, สาริปุตฺต, วทามิ อิมมฺปิ ¶ การณํ เอวรูปเมว ¶ . ยถา หิ มคฺคานนฺตรํ อวิรชฺฌิตฺวาว ผลํ นิพฺพตฺตติ, เอวเมว อิมสฺสาปิ ปุคฺคลสฺส จุติอนนฺตรํ อวิรชฺฌิตฺวาว นิรเย ปฏิสนฺธิ โหตีติ ทสฺเสติ. สกลสฺมิฺหิ พุทฺธวจเน อิมาย อุปมาย คาฬฺหตรํ กตฺวา วุตฺตอุปมา นาม นตฺถิ.
๑๕๐. เวสารชฺชานีติ เอตฺถ สารชฺชปฏิปกฺโข เวสารชฺชํ, จตูสุ าเนสุ สารชฺชาภาวํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปนฺนโสมนสฺสมยาณสฺเสตํ นามํ. สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโตติ อหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, สพฺเพ ธมฺมา มยา อภิสมฺพุทฺธาติ เอวํ ปฏิชานโต ตว. อนภิสมฺพุทฺธาติ อิเม นาม ธมฺมา ตยา อนภิสมฺพุทฺธา. ตตฺร วตาติ เตสุ วต อนภิสมฺพุทฺธาติ เอวํ ทสฺสิตธมฺเมสุ. สหธมฺเมนาติ สเหตุนา สการเณน วจเนน สุนกฺขตฺโต วิย วิปฺปลปนฺโต อปฺปมาณํ. นิมิตฺตเมตนฺติ เอตฺถ ปุคฺคโลปิ ธมฺโมปิ นิมิตฺตนฺติ อธิปฺเปโต. ตํ ปุคฺคลํ น ปสฺสามิ, โย มํ ปฏิโจเทสฺสติ, ตํ ธมฺมํ น ปสฺสามิ, ยํ ทสฺเสตฺวา อยํ นาม ธมฺโม ตยา อนภิสมฺพุทฺโธติ มํ ปฏิโจเทสฺสตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เขมปฺปตฺโตติ เขมํ ปตฺโต, เสสปททฺวยํ อิมสฺเสว เววจนํ. สพฺพฺเหตํ เวสารชฺชาณเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ทสพลสฺส หิ อยํ นาม ธมฺโม ตยา อนภิสมฺพุทฺโธติ โจทกํ ปุคฺคลํ วา โจทนาการณํ อนภิสมฺพุทฺธธมฺมํ วา อปสฺสโต สภาวพุทฺโธเยว วา สมาโน อหํ พุทฺโธสฺมีติ วทามีติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส พลวตรํ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. เตน สมฺปยุตฺตํ าณํ เวสารชฺชํ นาม. ตํ สนฺธาย ‘‘เขมปฺปตฺโต’’ติอาทิมาห. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อนฺตรายิกา ธมฺมาติ เอตฺถ ปน อนฺตรายํ กโรนฺตีติ อนฺตรายิกา, เต อตฺถโต สฺจิจฺจ วีติกฺกนฺตา สตฺต อาปตฺติกฺขนฺธา. สฺจิจฺจ วีติกฺกนฺตฺหิ อนฺตมโส ทุกฺกฏ-ทุพฺภาสิตมฺปิ มคฺคผลานํ อนฺตรายํ กโรติ. อิธ ปน เมถุนธมฺโม ¶ อธิปฺเปโต. เมถุนํ เสวโต หิ ยสฺส กสฺสจิ นิสฺสํสยเมว มคฺคผลานํ อนฺตราโย โหติ. ยสฺส โข ปน เตสุ อตฺถายาติ ราคกฺขยาทีสุ ยสฺส อตฺถาย. ธมฺโม เทสิโตติ อสุภภาวนาทิธมฺโม กถิโต ¶ . ตตฺร วต มนฺติ ตสฺมึ อนิยฺยานิกธมฺเม มํ. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
ทสพลาณาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อฏฺปริสวณฺณนา
๑๕๑. ‘‘อฏฺ ¶ โข อิมา สาริปุตฺตา’’ติ อิทํ กสฺมา อารทฺธํ? เวสารชฺชาณสฺส พลทสฺสนตฺถํ. ยถา หิ พฺยตฺตํ ปริสํ อชฺโฌคาเหตฺวา วิฺูนํ จิตฺตํ อาราธนสมตฺถาย กถาย ธมฺมกถิกสฺส เฉกภาโว ปฺายติ, เอวํ อิมา อฏฺ ปริสา ปตฺวา เวสารชฺชาณสฺส เวสารชฺชภาโว สกฺกา าตุนฺติ เวสารชฺชาณสฺส พลํ ทสฺเสนฺโต, อฏฺ โข อิมา สาริปุตฺตาติอาทิมาห.
ตตฺถ ขตฺติยปริสาติ ขตฺติยานํ สนฺนิปติตฺวา นิสินฺนฏฺานํ, เอส นโย สพฺพตฺถ. มารกายิกานํ ปน สนฺนิปติตฺวา นิสินฺนฏฺานํ มารปริสา เวทิตพฺพา, น มารานํ. สพฺพาปิ เจตา ปริสา อุคฺคฏฺานทสฺสนวเสน คหิตา. มนุสฺสา หิ ‘‘เอตฺถ ราชา นิสินฺโน’’ติ ปกติวจนมฺปิ วตฺตุํ น สกฺโกนฺติ, กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจนฺติ. เอวํ อุคฺคา ขตฺติยปริสา. พฺราหฺมณา ตีสุ เวเทสุ กุสลา โหนฺติ, คหปตโย นานาโวหาเรสุ เจว อกฺขรจินฺตาย จ. สมณา สกวาทปรวาเทสุ กุสลา โหนฺติ. เตสํ มชฺเฌ ธมฺมกถากถนํ นาม อติวิย ภาโร. อมนุสฺสาปิ อุคฺคา โหนฺติ. อมนุสฺโสติ หิ วุตฺตมตฺเตปิ มนุสฺสานํ สกลสรีรํ สงฺกมฺปติ, เตสํ รูปํ วา ทิสฺวา สทฺทํ วา สุตฺวา สตฺตา วิสฺิโน โหนฺติ. เอวํ อมนุสฺสปริสา อุคฺคา. ตาสุปิ ธมฺมกถากถนํ นาม อติวิย ภาโร. อิติ อุคฺคฏฺานทสฺสนวเสน ตา คหิตาติ เวทิตพฺพา.
อชฺโฌคาหตีติ อนุปวิสติ. อเนกสตํ ขตฺติยปริสนฺติ พิมฺพิสารสมาคม าติสมาคม ลิจฺฉวีสมาคมสทิสํ. อฺเสุปิ จกฺกวาเฬสุ ลพฺภติเยว. กึ ปน ภควา อฺานิ จกฺกวาฬานิปิ คจฺฉตีติ? อาม คจฺฉติ. กีทิโส หุตฺวา? ยาทิสา เต, ตาทิโสเยว. เตเนวาห ‘‘อภิชานามิ ¶ โข ปนาหํ, อานนฺท, อเนกสตํ ขตฺติยปริสํ อุปสงฺกมิตา, ตตฺถ ยาทิสโก เตสํ ¶ วณฺโณ โหติ, ตาทิสโก มยฺหํ วณฺโณ โหติ. ยาทิสโก เตสํ สโร โหติ, ตาทิสโก มยฺหํ สโร โหติ. ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสมิ สมาทเปมิ สมุตฺเตเชมิ สมฺปหํเสมิ. ภาสมานฺจ มํ น ชานนฺติ ‘โก นุ โข อยํ ภาสติ เทโว วา มนุสฺโส วา’ติ. ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อนฺตรธายามิ ¶ . อนฺตรหิตฺจ มํ น ชานนฺติ ‘โก นุ โข อยํ อนฺตรหิโต เทโว วา มนุสฺโส วา’’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๗๒).
ขตฺติยา เกยูรงฺคทมาลาคนฺธาทิวิภูสิตา นานาวิราควสนา อามุกฺกมณิกุณฺฑลา โมฬิธรา โหนฺติ. กึ ภควาปิ เอวํ อตฺตานํ มณฺเฑติ? เต จ โอทาตาปิ โหนฺติ กาฬาปิ มํคุลจฺฉวีปิ. กึ สตฺถาปิ เอวรูโป โหตีติ? สตฺถา อตฺตโน ปพฺพชิตวเสเนว คจฺฉติ, เตสํ ปน ตาทิโส หุตฺวา อุปฏฺาติ, คนฺตฺวา ราชาสเน นิสินฺนํ อตฺตานํ ทสฺเสติ, เตสํ ‘‘อชฺช อมฺหากํ ราชา อติวิย วิโรจตี’’ติ โหติ. เต จ ภินฺนสฺสราปิ โหนฺติ คคฺคสฺสราปิ กากสฺสราปิ. สตฺถา พฺรหฺมสฺสเรเนว ธมฺมํ กเถติ. ตาทิสโก มยฺหํ สโร โหตีติ อิทํ ปน ภาสนฺตรํ สนฺธาย กถิตํ. มนุสฺสานํ ปน ตํ สุตฺวา ‘‘อชฺช ราชา มธุเรน สเรน กเถตี’’ติ โหติ. กเถตฺวา ปกฺกนฺเต จ ภควติ ปุน ราชานํ อาคตํ ทิสฺวา ‘‘โก นุ โข อย’’นฺติ วีมํสา อุปฺปชฺชติ.
อิทํ วุตฺตํ โหติ – โก นุ โข อยํ อิมสฺมึ าเน อิทาเนว มาคธภาสาย สีหฬภาสาย มธุเรน สเรน กเถนฺโต อนฺตรหิโต, กึ เทโว, อุทาหุ มนุสฺโสติ? กิมตฺถํ ปเนวํ อชานนฺตานํ ธมฺมํ เทเสตีติ? วาสนตฺถาย. เอวํ สุโตปิ หิ ธมฺโม อนาคเต ปจฺจโย โหติเยวาติ อนาคตํ ปฏิจฺจ เทเสตีติ.
สนฺนิสินฺนปุพฺพนฺติ สงฺคมฺม นิสินฺนปุพฺพํ. สลฺลปิตปุพฺพนฺติ อาลาปสลฺลาโป กตปุพฺโพ. สากจฺฉาติ ธมฺมสากจฺฉาปิ สมาปชฺชิตปุพฺพา. อเนกสตํ พฺราหฺมณปริสนฺติอาทีนมฺปิ โสณทณฺฑสมาคมาทิวเสน เจว อฺจกฺกวาฬวเสน จ สมฺภโว เวทิตพฺโพ.
อฏฺปริสวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุโยนิวณฺณนา
๑๕๒. จตสฺโส ¶ โข อิมา, สาริปุตฺต, โยนิโยติ เอตฺถ โยนีติ ขนฺธโกฏฺาสสฺสปิ การณสฺสปิ ปสฺสาวมคฺคสฺสปิ นามํ. ‘‘จตสฺโส นาคโยนิโย จตสฺโส สุปณฺณโยนิโย’’ติ (สํ. นิ. ๓.๓๔๒, ๓๙๒) เอตฺถ ¶ หิ ขนฺธโกฏฺาโส โยนิ นาม. ‘‘โยนิ เหสา ¶ ภูมิช ผลสฺส อธิคมายา’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๒๗) เอตฺถ การณํ. ‘‘น จาหํ พฺราหฺมณํ พฺรูมิ, โยนิชํ มตฺติสมฺภว’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๔๕๗; ธ. ป. ๓๙๖) เอตฺถ ปสฺสาวมคฺโค. อิธ ปน ขนฺธโกฏฺาโส โยนีติ อธิปฺเปโต. ตตฺถ อณฺเฑ ชาตา อณฺฑชา. ชลาพุมฺหิ ชาตา ชลาพุชา. สํเสเท ชาตา สํเสทชา. วินา เอเตหิ การเณหิ อุปฺปติตฺวา วิย นิพฺพตฺตา อภินิพฺพตฺตาติ โอปปาติกา. อภินิพฺภิชฺช ชายนฺตีติ ภินฺทิตฺวา นิกฺขมนวเสน ชายนฺติ. ปูติกุณเป วาติอาทีหิ อนิฏฺฏฺานาเนว ทสฺสิตานิ. อิฏฺเสุปิ สปฺปิเตลมธุผาณิตาทีสุ สตฺตา ชายนฺติ เอว. เทวาติอาทีสุ จาตุมหาราชิกโต ปฏฺาย อุปริเทวา โอปปาติกาว โหนฺติ. ภูมเทวา ปน จตุโยนิกา. เอกจฺเจ จ มนุสฺสาติ มนุสฺเสสุ เกจิ เทวา วิย โอปปาติกา จ โหนฺติ. เยภุยฺเยน ปเนเต ชลาพุชาว, อณฺฑชาปิ เอตฺถ โกนฺตปุตฺตา ทฺเวภาติยตฺเถรา วิย, สํเสทชาปิ ปทุมคพฺเภ นิพฺพตฺตโปกฺขรสาติพฺราหฺมณปทุมวติเทวีอาทโย วิย, เอวํ วินิปาติเกสุ นิชฺฌามตณฺหิกเปตา เนรยิกา วิย โอปปาติกาเยว, อวเสสา จตุโยนิกาปิ โหนฺติ. ยถา เต เอวํ ยกฺขาปิ สพฺพจตุปฺปทปกฺขิชาติทีฆชาติอาทโยปิ สพฺเพ จตุโยนิกาเยว.
จตุโยนิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจคติวณฺณนา
๑๕๓. ปฺจ โข อิมา, สาริปุตฺต, คติโยติ เอตฺถ สุกตทุกฺกฏกมฺมวเสน คนฺตพฺพาติ คติโย. อปิจ คติคติ นิพฺพตฺติคติ อชฺฌาสยคติ วิภวคติ นิปฺผตฺติคตีติ พหุวิธา คติ นาม. ตตฺถ ‘‘ตํ คตึ เปจฺจ คจฺฉามี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๘๔) จ, ‘‘ยสฺส คตึ น ชานนฺติ, เทวา คนฺธพฺพมานุสา’’ติ (ธ. ป. ๔๒๐) จ อยํ คติคติ นาม. ‘‘อิเมสํ โข อหํ ภิกฺขูนํ สีลวนฺตานํ เนว ชานามิ คตึ วา อคตึ วา’’ติ (ม. นิ. ๑.๕๐๘) อยํ นิพฺพตฺติคติ นาม. ‘‘เอวมฺปิ โข เต อหํ พฺรหฺเม ¶ คตึ จ ปชานามิ ชุติฺจ ปชานามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๕๐๓) อยํ อชฺฌาสยคติ นาม. ‘‘วิภโว คติ ธมฺมานํ, นิพฺพานํ อรหโต คตี’’ติ (ปริ. ๓๓๙) อยํ วิภวคติ นาม. ‘‘ทฺเวเยว คติโย ภวนฺติ ¶ อนฺา’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๕๘; ๒.๓๔) อยํ นิปฺผตฺติคติ นาม. ตาสุ อิธ คติคติ อธิปฺเปตา.
นิรโยติอาทีสุ ¶ นิรติอตฺเถน นิรสฺสาทฏฺเน นิรโย. ติริยํ อฺฉิตาติ ติรจฺฉานา. เตสํ โยนิ ติรจฺฉานโยนิ. เปจฺจภาวํ ปตฺตานํ วิสโยติ เปตฺติวิสโย. มนโส อุสฺสนฺนตฺตา มนุสฺสา. ปฺจหิ กามคุเณหิ อตฺตโน อตฺตโน อานุภาเวหิ จ ทิพฺพนฺตีติ เทวา. นิรยฺจาหํ, สาริปุตฺตาติอาทีสุ นิรโยติ สทฺธึ โอกาเสน ขนฺธา. ติรจฺฉานโยนึ จาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. มคฺคํ ปฏิปทนฺติ อุภเยนาปิ วุตฺตคติสํวตฺตนิก กมฺมเมว ทสฺเสติ. ยถา จ ปฏิปนฺโนติ เยน มคฺเคน ยาย ปฏิปทาย ปฏิปนฺโนติ อุภยมฺปิ เอกโต กตฺวา นิทฺทิสติ. อปายนฺติอาทีสุ วฑฺฒิสงฺขาตา สุขสงฺขาตา วา อยา อเปตตฺตา อปาโย. ทุกฺขสฺส คติ ปฏิสรณนฺติ ทุคฺคติ. ทุกฺกฏการิโน เอตฺถ วินิปตนฺตีติ วินิปาโต. นิพฺพานฺจาหนฺติ อิทํ ปน น เกวลํ คติคติเมว, คตินิสฺสรณํ นิพฺพานมฺปิ ชานามีติ ทสฺสนตฺถมาห. อิธ มคฺโค ปฏิปทาติ อุภเยนาปิ อริยมคฺโคว วุตฺโต.
ปฺจคติวณฺณนา นิฏฺิตา.
าณปฺปวตฺตาการวณฺณนา
๑๕๔. อิทานิ ยถาวุตฺเตสุ สตฺตสุ าเนสุ อฏฺสุ าเนสุ อตฺตโน าณปฺปวตฺตาการํ ทสฺเสนฺโต อิธาหํ, สาริปุตฺตาติอาทิมาห.
ตตฺถ เอกนฺตทุกฺขาติ นิจฺจทุกฺขา นิรนฺตรทุกฺขา. ติพฺพาติ พหลา. กฏุกาติ ขรา. เสยฺยถาปีติอาทีนิ โอปมฺมทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ. ตตฺถ กาสูติ อาวาโฏปิ วุจฺจติ ราสิปิ.
‘‘กินฺนุ สนฺตรมาโนว, กาสุํ ขณสิ สารถิ;
ปุฏฺโ เม สมฺม อกฺขาหิ, กึ กาสุยา กริสฺสสี’’ติ. (ชา. ๒.๒๒.๓) –
เอตฺถ ¶ หิ อาวาโฏ กาสุ นาม.
‘‘องฺคารกาสุํ ¶ อปเร ผุนนฺติ, นรา รุทนฺตา ปริทฑฺฒคตฺตา’’ติ. (ชา. ๒.๒๒.๔๖๒) –
เอตฺถ ราสิ. อิธ ปน อาวาโฏ อธิปฺเปโต. เตเนวาห ‘‘สาธิกโปริสา’’ติ. ตตฺถ สาธิกํ โปริสํ ปมาณํ อสฺสาติ สาธิกโปริสา, อติเรกปฺจรตนาติ อตฺโถ. วีตจฺจิกานํ วีตธูมานนฺติ เอตํ ปริฬาหสฺส พลวภาวทีปนตฺถํ วุตฺตํ, อจฺจิยา วา สติ ธูเม วา สติ, วาโต สมุฏฺาติ, เตน ปริฬาโห น พลวา โหติ. ฆมฺมปเรโตติ ฆมฺมานุคโต ¶ . ตสิโตติ ชาตตณฺโห. ปิปาสิโตติ อุทกํ ปาตุกาโม. เอกายเนน มคฺเคนาติ เอกปเถเนว มคฺเคน, อนุกฺกมนิเยน อุโภสุ ปสฺเสสุ นิรนฺตรกณฺฏกรุกฺขคหเนน. ปณิธายาติ องฺคารกาสุยํ ปตฺถนา นาม นตฺถิ, องฺคารกาสุํ อารพฺภ ปน อิริยาปถสฺส ปิตตฺตา เอวํ วุตฺตํ.
เอวเมว โขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – องฺคารกาสุ วิย หิ นิรโย ทฏฺพฺโพ. องฺคารกาสุมคฺโค วิย นิรยูปคํ กมฺมํ. มคฺคารุฬฺโห วิย กมฺมสมงฺคี ปุคฺคโล. จกฺขุมา ปุริโส วิย ทิพฺพจกฺขุโก ภควา. ยถา โส ปุริโส มคฺคารุฬฺหํ ทิสฺวา วิชานาติ ‘‘อยํ อิมินา มคฺเคน คนฺตฺวา องฺคารกาสุยํ ปติสฺสตี’’ติ, เอวเมวํ ภควา ปาณาติปาตาทีสุ ยํกิฺจิ กมฺมํ อายูหนฺตํ เอวํ ชานาติ ‘‘อยํ อิมํ กมฺมํ กตฺวา นิรเย นิพฺพตฺติสฺสตฺตี’’ติ. ยถา โส ปุริโส อปรภาเค ตํ องฺคารกาสุยา ปติตํ ปสฺสติ, เอวเมว ภควา อปรภาเค ‘‘โส ปุริโส ตํ กมฺมํ กตฺวา กุหึ นิพฺพตฺโต’’ติ อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทิพฺพจกฺขุนา โอโลเกนฺโต นิรเย นิพฺพตฺตํ ปสฺสติ ปฺจวิธพนฺธนาทิมหาทุกฺขํ อนุภวนฺตํ. ตตฺถ กิฺจาปิ ตสฺส กมฺมายูหนกาเล อฺโ วณฺโณ, นิรเย นิพฺพตฺตสฺส อฺโ. อถาปิ ‘‘โส สตฺโต ตํ กมฺมํ กตฺวา กตฺถ นิพฺพตฺโต’’ติ โอโลเกนฺตสฺส อเนกสหสฺสานํ สตฺตานํ มชฺเฌ ิโตปิ ‘‘อยํ โส’’ติ โสเยว สตฺโต อาปาถํ อาคจฺฉติ, ‘‘ทิพฺพจกฺขุพลํ นาม เอต’’นฺติ วทนฺติ.
ทุติยอุปมายํ ยสฺมา องฺคารกาสุยํ วิย คูถกูเป ปริฬาโห นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘เอกนฺตทุกฺขา’’ติ อวตฺวา ‘‘ทุกฺขา’’ติอาทิมาห. เอตฺถาปิ ปุริมนเยเนว โอปมฺมสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ ¶ . อิมมฺปิ หิ ปุคฺคลํ ภควา หตฺถิโยนิอาทีสุ ¶ ยตฺถ กตฺถจิ นิพฺพตฺตํ วธพนฺธนอากฑฺฒนวิกฑฺฒนาทีหิ มหาทุกฺขํ อนุภวมานํ ปสฺสติเยว.
ตติยอุปมายํ ตนุปตฺตปลาโสติ น อพฺภปฏลํ วิย ตนุปณฺโณ, วิรฬปณฺณตฺตํ ปนสฺส สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ. กพรจฺฉาโยติ วิรฬจฺฉาโย. ทุกฺขพหุลาติ เปตฺติวิสยสฺมิฺหิ ¶ ทุกฺขเมว พหุลํ, สุขํ ปริตฺตํ กทาจิ อนุภวิตพฺพํ โหติ, ตสฺมา เอวมาห. เอตฺถาปิ ปุริมนเยเนว โอปมฺมสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ.
จตุตฺถอุปมายํ พหลปตฺตปลาโสติ นิรนฺตรปณฺโณ ปตฺตสฺฉนฺโน. สนฺตจฺฉาโยติ ปาสาณจฺฉตฺตํ วิย ฆนจฺฉาโย. สุขพหุลา เวทนาติ มนุสฺสโลเก ขตฺติยกุลาทีสุ สุขพหุลา เวทนา เวทยิตพฺพา โหติ, ตา เวทยมานํ นิปนฺนํ วา นิสินฺนํ วา ปสฺสามีติ ทสฺเสติ. อิธาปิ โอปมฺมสํสนฺทนํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.
ปฺจมอุปมายํ ปาสาโทติ ทีฆปาสาโท. อุลฺลิตฺตาวลิตฺตนฺติ อนฺโต เจว อุลฺลิตฺตํ พหิ จ อวลิตฺตํ. ผุสิตคฺคฬนฺติ ทฺวารพาหาหิ สทฺธึ สุปิหิตกวาฏํ. โคนกตฺถโตติ จตุรงฺคุลาธิกโลเมน กาฬโกชเวน อตฺถโต. ปฏิกตฺถโตติ อุณฺณามเยน เสตอตฺถรเณน อตฺถโต. ปฏลิกตฺถโตติ ฆนปุปฺผเกน อุณฺณามยอตฺถรเณน อตฺถโต. กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรโณติ กทลิมิคจมฺมมเยน อุตฺตมปจฺจตฺถรเณน อตฺถโต. ตํ กิร ปจฺจตฺถรณํ เสตวตฺถสฺส อุปริ กทลิมิคจมฺมํ อตฺถริตฺวา สิพฺเพตฺวา กโรนฺติ. สอุตฺตรจฺฉโทติ สห อุตฺตรจฺฉเทน, อุตฺตริพทฺเธน รตฺตวิตาเนน สทฺธินฺติ อตฺโถ. อุภโตโลหิตกูปธาโนติ สีสูปธานฺจ ปาทูปธานฺจาติ ปลฺลงฺกสฺส อุภโต ปิตโลหิตกูปธาโน. อิธาปิ อุปมาสํสนฺทนํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อยํ ปเนตฺถ อปรภาคโยชนา, ยถา โส ปุริโส มคฺคารุฬฺหเมว ชานาติ ‘‘อยํ เอเตน มคฺเคน คนฺตฺวา ปาสาทํ อารุยฺห กูฏาคารํ ปวิสิตฺวา ปลฺลงฺเก นิสีทิสฺสติ วา นิปชฺชิสฺสติ วา’’ติ, เอวเมวํ ภควา ทานาทีสุ ปฺุกิริยวตฺถูสุ ยํกิฺจิ กุสลกมฺมํ อายูหนฺตํเยว ปุคฺคลํ ทิสฺวา ‘‘อยํ อิมํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ ชานาติ. ยถา โส ปุริโส อปรภาเค ¶ ¶ ตํ ปาสาทํ อารุยฺห กูฏาคารํ ปวิสิตฺวา ปลฺลงฺเก นิสินฺนํ วา นิปนฺนํ วา เอกนฺตสุขํ นิรนฺตรสุขํ เวทนํ เวทยมานํ ปสฺสติ, เอวเมวํ ภควา อปรภาเค ‘‘โส ตํ กลฺยาณํ กตฺวา กุหึ นิพฺพตฺโต’’ติ อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทิพฺพจกฺขุนา โอโลเกนฺโต เทวโลเก ¶ นิพฺพตฺตํ ปสฺสติ, นนฺทนวนาทีสุ อจฺฉราสงฺฆปริวุตํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวมานํ.
าณปฺปวตฺตาการวณฺณนา นิฏฺิตา.
อาสวกฺขยวารวณฺณนา
อาสวกฺขยวาเร ‘‘ทิพฺเพน จกฺขุนา’’ติ อวตฺวา ‘‘ตเมนํ ปสฺสามี’’ติ วุตฺตํ. ตํ กสฺมาติ เจ? นิยมาภาวา. อิมฺหิ ปุคฺคลํ ทิพฺพจกฺขุนาปิ ปสฺสิสฺสติ, เจโตปริยาเณนาปิ ชานิสฺสติ, สพฺพฺุตฺาเณนปิ ชานิสฺสติเยว. เอกนฺตสุขา เวทนาติ อิทํ กิฺจาปิ เทวโลกสุเขน สทฺธึ พฺยฺชนโต เอกํ, อตฺถโต ปน นานา โหติ. เทวโลกสุขฺหิ ราคปริฬาหาทีนํ อตฺถิตาย น เอกนฺเตเนว สุขํ. นิพฺพานสุขํ ปน สพฺพปริฬาหานํ วูปสมาย สพฺพากาเรน เอกนฺตสุขํ. อุปมายมฺปิ ‘‘ยถา ปาสาเท เอกนฺตสุขา’’ติ วุตฺตํ. ตํ มคฺคปริฬาหสฺส อวูปสนฺตตาย ฉาตชฺฌตฺตตาย ปิปาสาภิภูตตาย จ น เอกนฺตเมว สุขํ. วนสณฺเฑ ปน โปกฺขรณิยํ โอรุยฺห รโชชลฺลสฺส ปวาหิตตฺตา มคฺคทรถสฺส วูปสนฺตตาย ภิสมูลขาทเนน เจว มธุโรทกปาเนน จ ขุปฺปิปาสานํ วินีตตาย อุทกสาฏกํ ปริวตฺเตตฺวา มฏฺทุกูลํ นิวาเสตฺวา ตณฺฑุลตฺถวิกํ อุสฺสีสเก กตฺวา อุทกสาฏกํ ปีเฬตฺวา หทเย เปตฺวา มนฺทมนฺเทน จ วาเตน พีชยมานสฺส นิปนฺนตฺตา สพฺพากาเรน เอกนฺตสุขํ โหติ.
เอวเมว โขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – โปกฺขรณี วิย หิ อริยมคฺโค ทฏฺพฺโพ. โปกฺขรณิมคฺโค วิย ปุพฺพภาคปฏิปทา. มคฺคารุฬฺโห วิย ปฏิปทาสมงฺคีปุคฺคโล. จกฺขุมา ปุริโส วิย ทิพฺพจกฺขุ ภควา. วนสณฺโฑ วิย นิพฺพานํ. ยถา โส ปุริโส มคฺคารุฬฺหํ ทิสฺวาว ชานาติ ‘‘อยํ อิมินา มคฺเคน คนฺตฺวา โปกฺขรณิยํ นฺหตฺวา รมณีเย วนสณฺเฑ รุกฺขมูเล นิสีทิสฺสติ วา นิปชฺชิสฺสติ วา’’ติ, เอวเมวํ ภควา ปฏิปทํ ปูเรนฺตเมว นามรูปํ ¶ ปริจฺฉินฺทนฺตเมว ปจฺจยปริคฺคหํ กโรนฺตเมว ลกฺขณารมฺมณาย วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตเมว ชานาติ ‘‘อยํ อิมํ ปฏิปทํ ปูเรตฺวา สพฺพอาสเว เขเปตฺวา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตินฺติ เอวํ วุตฺตํ ผลสมาปตฺตึ อุปสมฺปชฺช ¶ วิหริสฺสตี’’ติ. ยถา ¶ โส ปุริโส อปรภาเค ตายํ โปกฺขรณิยํ นฺหตฺวา วนสณฺฑํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนํ วา นิปนฺนํ วา เอกนฺตสุขํ เวทนํ เวทยมานํ ปสฺสติ, เอวเมว ภควา อปรภาเค ตํ ปุคฺคลํ ปฏิปทํ ปูเรตฺวา มคฺคํ ภาเวตฺวา ผลํ สจฺฉิกตฺวา นิโรธสยนวรคตํ นิพฺพานารมฺมณํ ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา เอกนฺตสุขํ เวทนํ เวทยมานํ ปสฺสติ.
อาสวกฺขยวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุกฺกรการิกาทิสุทฺธิวณฺณนา
๑๕๕. ‘‘อภิชานามิ โข ปนาหํ, สาริปุตฺต, จตุรงฺคสมนฺนาคต’’นฺติ อิทํ กสฺมา อารทฺธํ? ปาฏิเยกฺกํ อนุสนฺธิวเสน อารทฺธํ. อยํ กิร สุนกฺขตฺโต ทุกฺกรการิกาย สุทฺธิ โหตีติ เอวํ ลทฺธิโก. อถสฺส ภควา มยา เอกสฺมึ อตฺตภาเว ตฺวา จตุรงฺคสมนฺนาคตํ ทุกฺกรํ กตํ, ทุกฺกรการโก นาม มยา สทิโส นตฺถิ. ทุกฺกรกาเรน สุทฺธิยา สติ อหเมว สุทฺโธ ภเวยฺยนฺติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. อปิจ อยํ สุนกฺขตฺโต ทุกฺกรการิกาย ปสนฺโน, โส จสฺส ปสนฺนภาโว, ‘‘อทฺทสา โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต อเจลํ โกรกฺขตฺติยํ จตุกฺกุณฺฑิกํ ฉมานิกิณฺณํ ภกฺขสํ มุเขน ขาทนฺตํ มุเขน ภฺุชนฺตํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ ‘สาธุ รูโป วต, โภ, อยํ สมโณ จตุกฺกุณฺฑิโก ฉมานิกิณฺณํ ภกฺขสํ มุเขเนว ขาทติ, มุเขเนว ภฺุชตี’’’ติ เอวมาทินา ปาถิกสุตฺเต (ที. นิ. ๓.๗) อาคตนเยน เวทิตพฺโพ.
อถ ภควา อยํ ทุกฺกรการิกาย ปสนฺโน, มยา จ เอตสฺมึ อตฺตภาเว ตฺวา จตุรงฺคสมนฺนาคตํ ทุกฺกรํ กตํ, ทุกฺกรกาเร ปสีทนฺเตนาปิ อเนน มยิ ปสีทิตพฺพํ สิยา, โสปิสฺส ปสาโท มยิ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต อิมํ เทสนํ อารภิ.
ตตฺร ¶ พฺรหฺมจริยนฺติ ทานมฺปิ เวยฺยาวจฺจมฺปิ สิกฺขาปทมฺปิ พฺรหฺมวิหาราปิ ธมฺมเทสนาปิ เมถุนวิรติปิ สทารสนฺโตโสปิ อุโปสโถปิ อริยมคฺโคปิ สกลสาสนมฺปิ อชฺฌาสโยปิ วีริยมฺปิ วุจฺจติ.
‘‘กึ ¶ เต วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ,
กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;
อิทฺธี ชุตี พลวีริยูปปตฺติ,
อิทฺจ เต นาค มหาวิมานํ.
อหฺจ ¶ ภริยา จ มนุสฺสโลเก,
สทฺธา อุโภ ทานปตี อหุมฺหา;
โอปานภูตํ เม ฆรํ ตทาสิ,
สนฺตปฺปิตา สมณพฺราหฺมณา จ.
ตํ เม วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ,
ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;
อิทฺธี ชุตี พลวีริยูปปตฺติ,
อิทฺจ เม ธีร มหาวิมาน’’นฺติ. (ชา. ๒.๒๒.๑๕๙๒, ๑๕๙๓, ๑๕๙๕) –
อิมสฺมิฺหิ ปุณฺณกชาตเก ทานํ พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺตํ.
‘‘เกน ปาณิ กามทโท, เกน ปาณิ มธุสฺสโว;
เกน เต พฺรหฺมจริเยน, ปฺุํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌติ.
เตน ปาณิ กามทโท, เตน ปาณิ มธุสฺสโว;
เตน เม พฺรหฺมจริเยน, ปฺุํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌตี’’ติ. (เป. ว. ๒๗๕) –
อิมสฺมึ ¶ องฺกุรเปตวตฺถุสฺมึ เวยฺยาวจฺจํ พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺตํ. ‘‘เอวํ โข ตํ, ภิกฺขเว, ติตฺติริยํ นาม พฺรหฺมจริยํ อโหสี’’ติ (จูฬว. ๓๑๑) อิมสฺมึ ติตฺติรชาตเก ปฺจสิกฺขาปทํ พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺตํ. ‘‘ตํ โข ปน เม ปฺจสิข พฺรหฺมจริยํ เนว นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย, ยาวเทว พฺรหฺมโลกูปปตฺติยา’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๒๙) อิมสฺมึ มหาโควินฺทสุตฺเต พฺรหฺมวิหารา พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺตํ. ‘‘เอกสฺมึ พฺรหฺมจริยสฺมึ, สหสฺสํ มจฺจุหายิน’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๑๘๔) เอตฺถ ธมฺมเทสนา พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺตา. ‘‘ปเร อพฺรหฺมจารี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ พฺรหฺมจารี ภวิสฺสามา’’ติ (ม. นิ. ๑.๘๓) สลฺเลขสุตฺเต เมถุนวิรติ พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺตา.
‘‘มยฺจ ¶ ภริยา นาติกฺกมาม,
อมฺเห จ ภริยา นาติกฺกมนฺติ;
อฺตฺร ตาหิ พฺรหฺมจริยํ จราม,
ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร’’ติ. (ชา. ๑.๑๐.๙๗) –
มหาธมฺมปาลชาตเก สทารสนฺโตโส พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺโต.
‘‘หีเนน พฺรหฺมจริเยน, ขตฺติเย อุปปชฺชติ;
มชฺฌิเมน จ เทวตฺตํ, อุตฺตเมน วิสุชฺฌตี’’ติ. (ชา. ๑.๘.๗๕) –
เอวํ ¶ นิมิชาตเก อตฺตทมนวเสน กโต อฏฺงฺคิโก อุโปสโถ พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺโต. ‘‘อิทํ โข ปน เม, ปฺจสิข, พฺรหฺมจริยํ เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย…เป… อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๒๙) มหาโควินฺทสุตฺตสฺมิฺเว อริยมคฺโค พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺโต. ‘‘ตยิทํ พฺรหฺมจริยํ อิทฺธฺเจว ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิต’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๑๗๔) ปาสาทิกสุตฺเต สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สาสนํ พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺตํ.
‘‘อปิ ¶ อตรมานานํ, ผลาสาว สมิชฺฌติ;
วิปกฺกพฺรหฺมจริโยสฺมิ, เอวํ ชานาหิ คามณี’’ติ. (ชา. ๑.๑.๘) –
เอตฺถ อชฺฌาสโย พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺโต. อิธ ปน วีริยํ พฺรหฺมจริยนฺติ อธิปฺเปตํ. วีริยพฺรหฺมจริยสฺส หิ อิทเมว สุตฺตํ. ตเทตํ เอกสฺมึ อตฺตภาเว จตุพฺพิธสฺส ทุกฺกรสฺส กตตฺตา จตุรงฺคสมนฺนาคตนฺติ วุตฺตํ.
ตปสฺสี สุทํ โหมีติ สุทนฺติ นิปาตมตฺตํ, ตปนิสฺสิตโก โหมีติ อตฺโถ. ปรมตปสฺสีติ ปรโม ตปสฺสี, ตปนิสฺสิตกานํ อุตฺตโม. ลูโข สุทํ โหมีติ ลูโข โหมิ. เชคุจฺฉีติ ปาปเชคุจฺฉิโก. ปวิวิตฺโต สุทํ โหมีติ ปวิวิตฺโต อหํ โหมิ. ตตฺราสฺสุ เม อิทํ, สาริปุตฺตาติ ตตฺร จตุรงฺเค พฺรหฺมจริเย อิทํ มม ตปสฺสิตาย โหติ, ตปนิสฺสิตกภาเว มยฺหํ อิทํ อเจลกาทิตปสฺสิตกตฺตํ โหตีติ ทสฺเสติ.
ตตฺถ ¶ อเจลโกติ นิจฺเจโล นคฺโค. มุตฺตาจาโรติ วิสฏฺาจาโร, อุจฺจารกมฺมาทีสุ โลกิยกุลปุตฺตาจาเรน วิรหิโต, ิตโกว อุจฺจารํ กโรมิ, ปสฺสาวํ กโรมิ, ขาทามิ ภฺุชามิ จ. หตฺถาปเลขโนติ หตฺเถ ปิณฺฑมฺหิ ิเต ชิวฺหาย หตฺถํ อปลิขามิ, อุจฺจารํ วา กตฺวา หตฺถสฺมิฺเว ทณฺฑกสฺี หุตฺวา หตฺเถน อปลิขามีติ ทสฺเสติ. เต กิร ทณฺฑกํ สตฺโตติ ปฺเปนฺติ, ตสฺมา เตสํ ปฏิปทํ ปูเรนฺโต เอวมกาสิ. ภิกฺขาคหณตฺถํ เอหิ ภทฺทนฺเตติ วุตฺโต น เอตีติ น เอหิภทฺทนฺติโก. เตน หิ ติฏฺ ภทฺทนฺเตติ วุตฺโตปิ น ติฏฺตีติ น ติฏฺภทฺทนฺติโก. ตทุภยมฺปิ ¶ ติตฺถิยา เอวํ เอตสฺส วจนํ กตํ ภวิสฺสตีติ น กโรนฺติ. อหมฺปิ เอวํ อกาสินฺติ ทสฺเสติ. อภิหฏนฺติ ปุเรตรํ คเหตฺวา อาหฏํ ภิกฺขํ. อุทฺทิสฺสกตนฺติ อิทํ ตุมฺเห อุทฺทิสฺส กตนฺติ เอวํ อาโรจิตภิกฺขํ. น นิมนฺตนนฺติ อสุกํ นาม กุลํ วา วีถึ วา คามํ วา ปวิเสยฺยาถาติ เอวํ นิมนฺติตภิกฺขมฺปิ น สาทิยามิ น คณฺหามิ.
น กุมฺภิมุขาติ กุมฺภิโต อุทฺธริตฺวา ทิยฺยมานํ ภิกฺขํ น คณฺหามิ. น กโฬปิมุขาติ กโฬปีติ อุกฺขลิ วา ปจฺฉิ วา. ตโตปิ น คณฺหามิ. กสฺมา? กุมฺภิกโฬปิโย ¶ มํ นิสฺสาย กฏจฺฉุนา ปหารํ ลภนฺตีติ. น เอฬกมนฺตรนฺติ อุมฺมารํ อนฺตรํ กตฺวา ทิยฺยมานํ น คณฺหามิ. กสฺมา? อยํ มํ นิสฺสาย อนฺตรกรณํ ลภตีติ. ทณฺฑมุสเลสุปิ เอเสว นโย. น ทฺวินฺนนฺติ ทฺวีสุ ภฺุชมาเนสุ เอกสฺมึ อุฏฺาย เทนฺเต น คณฺหามิ. กสฺมา? กพฬนฺตราโย โหตีติ. น คพฺภินิยาติอาทีสุ ปน คพฺภินิยา กุจฺฉิยํ ทารโก กิลมติ, ปายนฺติยา ทารกสฺส ขีรนฺตราโย โหติ, ปุริสนฺตรคตาย รติอนฺตราโย โหตีติ น คณฺหามิ. น สํกิตฺตีสูติ สํกิตฺเตตฺวา กตภตฺเตสุ. ทุพฺภิกฺขสมเย กิร อเจลกสาวกา อเจลกานํ อตฺถาย ตโต ตโต ตณฺฑุลาทีนิ สมาทเปตฺวา ภตฺตํ ปจนฺติ. อุกฺกฏฺาเจลโก ตโตปิ น ปฏิคฺคณฺหาติ.
น ยตฺถ สาติ ยตฺถ สุนโข ปิณฺฑํ ลภิสฺสามีติ อุปฏฺิโต โหติ, ตตฺถ ตสฺส อทตฺวา อาหฏํ น คณฺหามิ. กสฺมา? เอตสฺส ปิณฺฑนฺตราโย โหตีติ. สณฺฑสณฺฑจารินีติ สมูหสมูหจารินี, สเจ หิ อเจลกํ ทิสฺวา อิมสฺส ภิกฺขํ ทสฺสามาติ มานุสกา ภตฺตเคหํ ปวิสนฺติ. เตสุ จ ปวิสนฺเตสุ กโฬปิมุขาทีสุ นิลีนา มกฺขิกา อุปฺปติตฺวา สณฺฑสณฺฑา จรนฺติ. ตโต ¶ อาหฏํ ภิกฺขํ น คณฺหามิ. กสฺมา? มํ นิสฺสาย มกฺขิกานํ โคจรนฺตราโย ชาโตติ, อหมฺปิ ตถา อกาสึ. น ถุโสทกนฺติ สพฺพสสฺสสมฺภาเรหิ กตํ โลณโสวีรกํ. เอตฺถ จ สุราปานเมว สาวชฺชํ, อยํ ปน สพฺเพสุปิ สาวชฺชสฺี.
เอกาคาริโกติ โย เอกสฺมิฺเว เคเห ภิกฺขํ ลภิตฺวา นิวตฺตติ. เอกาโลปิโกติ โย เอเกเนว อาโลเปน ยาเปติ. ทฺวาคาริกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอกิสฺสาปิ ทตฺติยาติ เอกาย ¶ ทตฺติยา. ทตฺติ นาม เอกา ขุทฺทกปาติ โหติ, ยตฺถ อคฺคภิกฺขํ ปกฺขิปิตฺวา เปนฺติ. เอกาหิกนฺติ เอกทิวสนฺตริกํ. อทฺธมาสิกนฺติ อทฺธมาสนฺตริกํ. ปริยายภตฺตโภชนนฺติ วารภตฺตโภชนํ. เอกาหวาเรน ทฺวีหวาเรน สตฺตาหวาเรน อฑฺฒมาสวาเรนาติ เอวํ ทิวสวาเรน อาภตํ ภตฺตโภชนํ.
สากภกฺโขติ อลฺลสากภกฺโข. สามากภกฺโขติ สามากตณฺฑุลภกฺโข. นีวาราทีสุ นีวารา นาม ตาว อรฺเ สยํชาตวีหิชาติ. ททฺทุลนฺติ จมฺมกาเรหิ จมฺมํ ลิขิตฺวา ฉฑฺฑิตกสฏํ. หฏํ วุจฺจติ สิเลโสปิ เสวาโลปิ กณิการาทิรุกฺขนิยฺยาโสปิ. กณนฺติ กุณฺฑกํ ¶ . อาจาโมติ ภตฺตอุกฺขลิกาย ลคฺโค ฌามโอทโน, ตํ ฉฑฺฑิตฏฺาเน คเหตฺวา ขาทติ. ‘‘โอทนกฺชิย’’นฺติปิ วทนฺติ. ปิฺากาทโย ปากฏา เอว. ปวตฺตผลโภชีติ ปติตผลโภชี.
สาณานีติ สาณวากโจฬานิ. มสาณานีติ มิสฺสกโจฬานิ. ฉวทุสฺสานีติ มตสรีรโต ฉฑฺฑิตวตฺถานิ. เอรกติณาทีนิ วา คนฺเถตฺวา กตนิวาสนานิ. ปํสุกูลานีติ ปถวิยํ ฉฑฺฑิตนนฺตกานิ. ติริตานีติ รุกฺขตฺตจวตฺถานิ. อชินนฺติ อชินมิคจมฺมํ. อชินกฺขิปนฺติ ตเทว มชฺเฌ ผาลิตํ. สขุรกนฺติปิ วทนฺติ. กุสจีรนฺติ กุสติณํ คนฺเถตฺวา กตจีรํ. วากจีรผลกจีเรสุปิ เอเสว นโย. เกสกมฺพลนฺติ มนุสฺสเกเสหิ กตกมฺพลํ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ยานิ กานิจิ, ภิกฺขเว, ตนฺตาวุตานํ วตฺถานํ, เกสกมฺพโล เตสํ ปฏิกุฏฺโ อกฺขายติ. เกสกมฺพโล, ภิกฺขเว, สีเต สีโต, อุณฺเห อุณฺโห, ทุพฺพณฺโณ ทุคฺคนฺโธ ทุกฺขสมฺผโส’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๓๘). วาลกมฺพลนฺติ อสฺสวาลาทีหิ กตกมฺพลํ. อุลูกปกฺขกนฺติ อุลูกปตฺตานิ คนฺเถตฺวา กตนิวาสนํ. อุพฺภฏฺโกติ อุทฺธํ ิตโก. อุกฺกุฏิกปฺปธานมนุยุตฺโตติ อุกฺกุฏิกวีริยํ อนุยุตฺโต, คจฺฉนฺโตปิ อุกฺกุฏิโกว หุตฺวา อุปฺปติตฺวา ¶ อุปฺปติตฺวา คจฺฉติ. กณฺฏกาปสฺสยิโกติ ¶ อยกณฺฏเก วา ปกติกณฺฏเก วา ภูมิยํ โกฏฺเฏตฺวา ตตฺถ จมฺมํ อตฺถริตฺวา านจงฺกมาทีนิ กโรมีติ ทสฺเสติ. เสยฺยนฺติ สยนฺโตปิ ตตฺเถว เสยฺยํ กปฺเปมิ. สายํ ตติยมสฺสาติ สายตติยกํ. ปาโต มชฺฌนฺหิเก สายนฺติ ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ ปาปํ ปวาเหสฺสามีติ อุทโกโรหนานุโยคํ อนุยุตฺโต วิหรามีติ ทสฺเสติ.
๑๕๖. เนกวสฺสคณิกนฺติ เนกวสฺสคณสฺชาตํ. รโชชลฺลนฺติ รชมลํ, อิทํ อตฺตโน รโชชลฺลกวตสมาทานกาลํ สนฺธาย วทติ. เชคุจฺฉิสฺมินฺติ ปาปชิคุจฺฉนภาเว. ยาว อุทกพินฺทุมฺหิปีติ ยาว อุทกเถวเกปิ มม ทยา ปจฺจุปฏฺิตา โหติ, โก ปน วาโท อฺเสุ สกฺขรกลทณฺฑกวาลิกาทีสุ. เต กิร อุทกพินฺทุํ จ เอเต จ สกฺขรกลาทโย ขุทฺทกปาณาติ ปฺเปนฺติ. เตนาห ‘‘ยาว อุทกพินฺทุมฺหิปิ เม ทยา ปจฺจุปฏฺิตา โหตี’’ติ. อุทกพินฺทุมฺปิ น หนามิ น วินาเสมิ, กึ การณา. มาหํ ขุทฺทเก ปาเณ วิสมคเต สงฺฆาตํ อาปาเทสินฺติ. นินฺนถลติณคฺครุกฺขสาขาทีสุ วิสมฏฺาเน คเต อุทกพินฺทุสงฺขาเต ขุทฺทกปาเณ สงฺฆาตํ ¶ วธํ มา อาปาเทสินฺติ. เอตมตฺถํ ‘‘สโตว อภิกฺกมามี’’ติ ทสฺเสติ. อเจลเกสุ กิร ภูมึ อกฺกนฺตกาลโต ปภุติ สีลวา นาม นตฺถิ. ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺตาปิ ทุสฺสีลาว หุตฺวา คจฺฉนฺติ, อุปฏฺากานํ เคเห ภฺุชนฺตาปิ ทุสฺสีลาว หุตฺวา ภฺุชนฺติ. อาคจฺฉนฺตาปิ ทุสฺสีลาว หุตฺวา อาคจฺฉนฺติ. ยทา ปน โมรปิฺเฉน ผลกํ สมฺมชฺชิตฺวา สีลํ อธิฏฺาย นิสีทนฺติ, ตทา สีลวนฺตา นาม โหนฺติ.
วนกมฺมิกนฺติ กนฺทมูลผลาผลาทีนํ อตฺถาย วเน วิจรนฺตํ. วเนน วนนฺติ วนโต วนํ, เอส นโย สพฺพตฺถ. สํปตามีติ คจฺฉามิ. อารฺโกติ อรฺเ ชาตวุทฺโธ, อิทํ อตฺตโน อาชีวกกาลํ สนฺธาย วทติ. โพธิสตฺโต กิร ปาสณฺฑปริคฺคณฺหณตฺถาย ตํ ปพฺพชฺชํ ปพฺพชิ, นิรตฺถกภาวํ ปน ตฺวาปิ น อุปฺปพฺพชฺชิโต, โพธิสตฺตา หิ ยํ ยํ านํ อุเปนฺติ, ตโต อนิวตฺติตธมฺมา โหนฺติ, ปพฺพชิตฺวา ปน มา มํ โกจิ อทฺทสาติ ตโตว อรฺํ ปวิฏฺโ. เตเนวาห ‘‘มา มํ เต อทฺทสํสุ อหฺจ มา เต อทฺทส’’นฺติ.
โคฏฺาติ ¶ โควชา. ปฏฺิตคาโวติ นิกฺขนฺตคาโว. ตตฺถ จตุกฺกุณฺฑิโกติ วนนฺเตเยว ิโต โคปาลกานํ คาวีหิ สทฺธึ อปคตภาวํ ทิสฺวา ¶ ทฺเว หตฺเถ ทฺเว จ ชณฺณุกานิ ภูมิยํ เปตฺวา เอวํ จตุกฺกุณฺฑิโก อุปสงฺกมิตฺวาติ อตฺโถ. ตานิ สุทํ อาหาเรมีติ มหลฺลกวจฺฉกานํ โคมยานิ กสฏานิ นิโรชานิ โหนฺติ, ตสฺมา ตานิ วชฺเชตฺวา ยานิ ตรุณวจฺฉกานํ ขีรปาเนเนว วฑฺฒนฺตานํ สโอชานิ โคมยานิ ตานิ กุจฺฉิปูรํ ขาทิตฺวา ปุน วนสณฺฑเมว ปวิสติ. ตํ สนฺธายาห ‘‘ตานิ สุทํ อาหาเรมี’’ติ. ยาวกีวฺจ เมติ ยตฺตกํ กาลํ มม สกํ มุตฺตกรีสํ อปริกฺขีณํ โหติ. ยาว เม ทฺวารวฬฺโช ปวตฺติตฺถ, ตาว ตเทว อาหาเรมีติ อตฺโถ. กาเล ปน คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต ปริกฺขีณมํสโลหิโต อุปจฺฉินฺนทฺวารวฬฺโช วจฺฉกานํ โคมยานิ อาหาเรมิ. มหาวิกฏโภชนสฺมินฺติ มหนฺเต วิกฏโภชเน, อปกติโภชเนติ อตฺโถ.
๑๕๗. ตตฺราสฺสุทํ, สาริปุตฺต, ภึสนกสฺส วนสณฺฑสฺส ภึสนกตสฺมึ โหตีติ. ตตฺราติ ปุริมวจนาเปกฺขนํ. สุทนฺติ ปทปูรณมตฺเต นิปาโต. สาริปุตฺตาติ อาลปนํ. อยํ ปเนตฺถ อตฺถโยชนา – ตตฺราติ ยํ วุตฺตํ อฺตรํ ภึสนกํ วนสณฺฑนฺติ, ตตฺร โย โส ภึสนโก วนสณฺโฑ ¶ วุตฺโต, ตสฺส ภึสนกสฺส วนสณฺฑสฺส ภึสนกตสฺมึ โหติ, ภึสนกกิริยาย โหตีติ อตฺโถ. กึ โหติ? อิทํ โหติ, โย โกจิ อวีตราโค…เป… โลมานิ หํสนฺตีติ.
อถ วา ตตฺราติ สามิอตฺเถ ภุมฺมํ. สุ อิติ นิปาโต. กึ สุ นาม เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณาติอาทีสุ วิย. อิทนฺติ อธิปฺเปตมตฺถํ ปจฺจกฺขํ วิย กตฺวา ทสฺสนวจนํ. สุทนฺติ สุ อิทํ, สนฺธิวเสน อิการโลโป เวทิตพฺโพ. จกฺขุนฺทฺริยํ อิตฺถินฺทฺริยํ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ กึ สูธวิตฺตนฺติอาทีสุ วิย. อยํ ปเนตฺถ อตฺถโยชนา, ตสฺส, สาริปุตฺต, ภึสนกสฺส วนสณฺฑสฺส ภึสนกตสฺมึ อิทํสุ โหตีติ. ภึสนกตสฺมินฺติ ภึสนกภาเวติ อตฺโถ. เอกสฺส ตการสฺส โลโป ทฏฺพฺโพ. ‘‘ภึสนกตฺตสฺมิ’’นฺติเยว วา ปาโ ¶ , ภึสนกตาย อิติ วา วตฺตพฺเพ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต, นิมิตฺตตฺเถ เจตํ ภุมฺมวจนํ. ตสฺมา เอวํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ, ภึสนกภาเว อิทํสุ โหติ, ภึสนกภาวนิมิตฺตํ ภึสนกภาวเหตุ, ภึสนกภาวปจฺจยา อิทํสุ โหติ. โย โกจิ อวีตราโค ตํ วนสณฺฑํ ปวิสติ. เยภุยฺเยน โลมานิ หํสนฺติ ¶ พหุตรานิ โลมานิ หํสนฺติ, อุทฺธํ มุขานิ สูจิสทิสานิ กณฺฏกสทิสานิ จ หุตฺวา ติฏฺนฺติ, อปฺปานิ น หํสนฺติ, พหุตรานํ วา สตฺตานํ หํสนฺติ, อปฺปกานํ อติสูรปุริสานํ น หํสนฺตีติ.
อนฺตรฏฺกาติ มาฆมาสสฺส อวสาเน จตสฺโส, ผคฺคุณมาสสฺส อาทิมฺหิ จตสฺโสติ เอวํ อุภินฺนํ อนฺตเร อฏฺรตฺติ. อพฺโภกาเสติ มหาสตฺโต หิมปาตสมเย รตฺตึ อพฺโภกาเส วิหรติ, อถสฺส โลมกูเปสุ อาวุตมุตฺตา วิย หิมพินฺทูนิ ติฏฺนฺติ, สรีรํ เสตทุกูลปารุตํ วิย โหติ. ทิวา วนสณฺเฑติ ทิวา หิมพินฺทูสุ สูริยาตปสมฺผสฺเสน วิคเตสุ อสฺสาโสปิ ภเวยฺย, อยํ ปน สูริเย อุคฺคจฺฉนฺเตเยว วนสณฺฑํ ปวิสติ, ตตฺราปิสฺส สูริยาตเปน ปคฺฆรนฺตํ หิมํ สรีเรเยว ปตติ. ทิวา อพฺโภกาเส วิหรามิ รตฺตึ วนสณฺเฑติ คิมฺหกาเล กิเรส ทิวา อพฺโภกาเส วิหาสิ, เตนสฺส กจฺเฉหิ เสทธารา มุจฺจึสุ, รตฺตึ อสฺสาโส ภเวยฺย, อยํ ปน สูริเย อตฺถํ คจฺฉนฺเตเยว วนสณฺฑํ ปวิสติ. อถสฺส ทิวา คหิตอุสฺเม วนสณฺเฑ องฺคารกาสุยํ ปกฺขิตฺโต วิย อตฺตภาโว ปริทยฺหิตฺถ. อนจฺฉริยาติ อนุอจฺฉริยา. ปฏิภาสีติ อุปฏฺาสิ.
โสตตฺโตติ ¶ ทิวา อาตเปน รตฺตึ วนอุสฺมาย สุตตฺโต. โสสินฺโนติ รตฺตึ หิเมน ทิวา หิโมทเกน สุฏฺุ ตินฺโต. ภึสนเกติ ภยชนเก. นคฺโคติ นิจฺเจโล. นิวาสนปารุปเน หิ สติ สีตํ วา อุณฺหํ วา น อติพาเธยฺย, ตมฺปิ เม นตฺถีติ ทสฺเสติ. น จคฺคิมาสิโนติ อคฺคิมฺปิ น อุปคโต. เอสนาปสุโตติ สุทฺธิเอสนตฺถาย ปสุโต, ปยุตฺโต. มุนีติ, ตทา อตฺตานํ มุนีติ กตฺวา กเถติ.
ฉวฏฺิกานีติ อุปฑฺฒทฑฺฒานิ อฏฺีนิ. อุปธายาติ ยถา สีสูปธานฺจ ปาทูปธานฺจ ปฺายติ, เอวํ สนฺถริตฺวา ตตฺถ เสยฺยํ กปฺเปมีติ ทสฺเสติ. คามณฺฑลาติ ¶ โคปาลทารกา. เต กิร โพธิสตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา, สุเมธ, ตฺวํ อิมสฺมึ าเน กสฺมา นิสินฺโน, กเถหีติ วทนฺติ. โพธิสตฺโต อโธมุโข นิสีทติ, น กเถติ. อถ นํ เต อกเถตุํ น ทสฺสามาติ ปริวาเรตฺวา โอฏฺุภนฺติ สรีเร เขฬํ ปาเตนฺติ. โพธิสตฺโต ¶ เอวมฺปิ น กเถติ. อถ นํ ตฺวํ น กเถสีติ โอมุตฺเตนฺติ ปสฺสาวมสฺส อุปริ วิสฺสชฺเชนฺติ. โพธิสตฺโต เอวมฺปิ น กเถติเยว. ตโต นํ กเถหิ กเถหีติ ปํสุเกน โอกิรนฺติ. โพธิสตฺโต เอวมฺปิ น กเถติเยว. อถสฺส น กเถสีติ ทณฺฑกสลากา คเหตฺวา กณฺณโสเตสุ ปเวเสนฺติ. โพธิสตฺโต ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา อธิวาเสนฺโต กสฺสจิ กิฺจิ น กริสฺสามีติ มตโก วิย อจฺฉติ. เตนาห ‘‘น โข ปนาหํ, สาริปุตฺต, อภิชานามิ เตสุ ปาปกํ จิตฺตํ อุปฺปาเทตา’’ติ. น มยา เตสุ ปาปกํ จิตฺตมฺปิ อุปฺปาทิตนฺติ อตฺโถ. อุเปกฺขาวิหารสฺมึ โหตีติ อุเปกฺขาวิหาโร โหติ. วิหาโร เอว หิ วิหารสฺมินฺติ วุตฺโต. เตเนว จ ‘‘อิทํสุ เม’’ติ เอตฺถาปิ อยํสุ เมติ เอวํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมินา นเยน อฺานิปิ เอวรูปานิ ปทานิ เวทิตพฺพานิ. อิมินา อิโต เอกนวุติกปฺเป ปูริตํ อุเปกฺขาวิหารํ ทสฺเสติ. ยํ สนฺธายาห –
‘‘สุขปตฺโต น รชฺชามิ, ทุกฺเข น โหมิ ทุมฺมโน;
สพฺพตฺถ ตุลิโต โหมิ, เอสา เม อุเปกฺขาปารมี’’ติ.
ทุกฺกรการิกาทิสุทฺธิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อาหารสุทฺธิวณฺณนา
๑๕๘. อาหาเรน ¶ สุทฺธีติ โกลาทินา เอกจฺเจน ปริตฺตกอาหาเรน สกฺกา สุชฺฌิตุนฺติ เอวํทิฏฺิโน โหนฺติ. เอวมาหํสูติ เอวํ วทนฺติ. โกเลหีติ ปทเรหิ. โกโลทกนฺติ โกลานิ มทฺทิตฺวา กตปานกํ. โกลวิกตินฺติ โกลสาฬวโกลปูวโกลคุฬาทิโกลวิการํ. เอตปรโมติ เอตํ ปมาณํ ปรมํ อสฺสาติ เอตปรโม. ตทา เอกนวุติกปฺปมตฺถเก ปน น เพลุวปกฺกตาลปกฺกปมาโณ โกโล โหติ, ยํ เอตรหิ โกลสฺส ปมาณํ, เอตฺตโกว โหตีติ อตฺโถ.
๑๕๙. อธิมตฺตกสิมานนฺติ อติวิย กิสภาวํ. อาสีติกปพฺพานิ วา กาฬปพฺพานิ วาติ ยถา อาสีติกวลฺลิยา วา กาฬวลฺลิยา วา สนฺธิฏฺาเนสุ มิลายิตฺวา มชฺเฌ อุนฺนตุนฺนตานิ โหนฺติ, เอวํ มยฺหํ องฺคปจฺจงฺคานิ โหนฺตีติ ทสฺเสติ. โอฏฺปทนฺติ ¶ ยถา โอฏฺสฺส ปทํ มชฺเฌ คมฺภีรํ โหติ, เอวเมวํ โพธิสตฺตสฺส มิลาเต มํสโลหิเต วจฺจทฺวารสฺส อนฺโตปวิฏฺตฺตา อานิสทํ มชฺเฌ คมฺภีรํ โหติ. อถสฺส ภูมิยํ นิสินฺนฏฺานํ สรโปงฺเขน ¶ อกฺกนฺตํ วิย มชฺเฌ อุนฺนตํ โหติ. วฏฺฏนาวฬีติ ยถา รชฺชุยา อาวุนิตฺวา กตา วฏฺฏนาวฬี วฏฺฏนานํ อนฺตรนฺตรา นินฺนา โหติ, วฏฺฏนฏฺาเนสุ อุนฺนตา, เอวํ ปิฏฺิกณฺฏโก อุนฺนตาวนโต โหติ, ชรสาลาย โคปานสิโยติ ชิณฺณสาลาย โคปานสิโย, ตา วํสโต มุจฺจิตฺวา มณฺฑเล ปติฏฺหนฺติ, มณฺฑลโต มุจฺจิตฺวา ภูมิยนฺติ; เอวํ เอกา อุปริ โหติ, เอกา เหฏฺาติ โอลุคฺควิลุคฺคา ภวนฺติ. โพธิสตฺตสฺส ปน น เอวํ ผาสุฬิโย, ตสฺส หิ โลหิเต ฉินฺเน มํเส มิลาเต ผาสุฬนฺตเรหิ จมฺมานิ เหฏฺา โอติณฺณานิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
โอกฺขายิกาติ เหฏฺา อนุปวิฏฺา. ตสฺส กิร โลหิเต ฉินฺเน มํเส มิลาเต อกฺขิอาวาฏกา มตฺถลุงฺคํ อาหจฺจ อฏฺํสุ, เตนสฺส เอวรูปา อกฺขิตารกา อเหสุํ. อามกจฺฉินฺโนติ อติตรุณกาเล ฉินฺโน, โส หิ วาตาตเปน สํผุสติ เจว มิลายติ จ. ยาวสฺสุ เม, สาริปุตฺตาติ, สาริปุตฺต, มยฺหํ อุทรจฺฉวิ ยาว ปิฏฺิกณฺฏกํ อลฺลีนา โหติ. อถ วา ยาวสฺสุ เม, สาริปุตฺต, ภาริยภาริยา อโหสิ ทุกฺกรการิกา, มยฺหํ อุทรจฺฉวิ ยาว ปิฏฺิกณฺฏกํ อลฺลีนา อโหสีติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปิฏฺิกณฺฏกํเยว ปริคฺคณฺหามีติ ¶ สหอุทรจฺฉวึ คณฺหามิ. อุทรจฺฉวึเยว ปริคฺคณฺหามีติ สหปิฏฺิกณฺฏกํ คณฺหามิ. อวกุชฺโช ปปตามีติ ตสฺส หิ อุจฺจารปสฺสาวตฺถาย นิสินฺนสฺส ปสฺสาโว เนว นิกฺขมติ, วจฺจํ ปน เอกํ ทฺเว กฏกฏฺิมตฺตํ นิกฺขมติ. พลวทุกฺขํ อุปฺปาเทติ. สรีรโต เสทา มุจฺจนฺติ, ตตฺเถว อวกุชฺโช ภูมิยํ ปตติ. เตนาห ‘‘อวกุชฺโช ปปตามี’’ติ. ตเมว กายนฺติ ตํ เอกนวุติกปฺปมตฺถเก กายํ. มหาสจฺจกสุตฺเต ปน ปจฺฉิมภวิกกายํ สนฺธาย อิมเมว กายนฺติ อาห. ปูติมูลานีติ มํเส วา โลหิเต วา สติ ติฏฺนฺติ. ตสฺส ปน อภาเว จมฺมขณฺเฑ โลมานิ วิย หตฺเถเยว ลคฺคนฺติ, ตํ สนฺธายาห ‘‘ปูติมูลานิ โลมานิ กายสฺมา ปตนฺตี’’ติ.
อลมริยาณทสฺสนวิเสสนฺติ ¶ อริยภาวํ กาตุํ สมตฺถํ โลกุตฺตรมคฺคํ. อิมิสฺสาเยว อริยาย ปฺายาติ วิปสฺสนาปฺาย อนธิคมา. ยายํ อริยาติ ยา อยํ มคฺคปฺา อธิคตา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา เอตรหิ วิปสฺสนาปฺาย อธิคตตฺตา มคฺคปฺา อธิคตา, เอวํ เอกนวุติกปฺปมตฺถเก ¶ วิปสฺสนาปฺาย อนธิคตตฺตา โลกุตฺตรมคฺคปฺํ นาธิคโตสฺมีติ, มชฺฌิมภาณกตฺเถรา ปนาหุ, อิมิสฺสาเยวาติ วุตฺตปฺาปิ ยายํ อริยาติ วุตฺตปฺาปิ มคฺคปฺาเยว. อถ เน ภิกฺขู อาหํสุ ‘‘เอวํ สนฺเต มคฺคสฺส อนธิคตตฺตา มคฺคํ นาธิคโตสฺมีติ อิทํ วุตฺตํ โหติ, ภนฺเต’’ติ. อาวุโส, กิฺจาปิ ทีเปตุํ น สกฺโกมิ, ทฺเวปิ ปน มคฺคปฺาเยวาติ, เอตเทว เจตฺถ ยุตฺตํ. อิตรถา หิ ยา อยนฺติ นิทฺเทโส อนนุรูโป สิยา.
อาหารสุทฺธิวณฺณนา นิฏฺิตา.
สํสารสุทฺธิอาทิวณฺณนา
๑๖๐. สํสาเรน สุทฺธีติ พหุกํ สํสริตฺวา สุชฺฌนฺตีติ วทนฺติ. อุปปตฺติยา สุทฺธีติ พหุกํ อุปปชฺชิตฺวา สุชฺฌนฺตีติ วทนฺติ. อาวาเสน สุทฺธีติ พหูสุ าเนสุ วสิตฺวา สุชฺฌนฺตีติ วทนฺติ. ตีสุปิ าเนสุ สํสรณกวเสน สํสาโร. อุปปชฺชนกวเสน อุปปตฺติ. วสนกวเสน อาวาโสติ ขนฺธาเยว วุตฺตา. ยฺเนาติ พหุยาเค ยชิตฺวา สุชฺฌนฺตีติ วทนฺติ. มุทฺธาวสิตฺเตนาติ ¶ ตีหิ สงฺเขหิ ขตฺติยาภิเสเกน มุทฺธนิ อภิสิตฺเตน. อคฺคิปาริจริยายาติ พหุอคฺคิปริจรเณน สุชฺฌนฺตีติ วทนฺติ.
๑๖๑. ทหโรติ ตรุโณ. ยุวาติ โยพฺพเนน สมนฺนาคโต. สุสุกาฬเกโสติ สุฏฺุ กาฬเกโส. ภทฺเรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโตติ อิมินาสฺส เยน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต ยุวา, ตํ โยพฺพนํ ภทฺทํ ลทฺธกนฺติ ทสฺเสติ. ปเมน วยสาติ ปมวโย นาม เตตฺตึส วสฺสานิ, เตน สมนฺนาคโตติ อตฺโถ, ปฺาเวยฺยตฺติเยนาติ ปฺาเวยฺยตฺติภาเวน. ชิณฺโณติ ชราชิณฺโณ. วุทฺโธติ วฑฺฒิตฺวา ิตองฺคปจฺจงฺโค. มหลฺลโกติ ชาติมหลฺลโก. อทฺธคโตติ พหุอทฺธานํ คโต จิรกาลาติกฺกนฺโต. วโย อนุปฺปตฺโตติ วสฺสสตสฺส ตติยโกฏฺาสํ ปจฺฉิมวยํ อนุปฺปตฺโต. อาสีติโก เม วโย วตฺตตีติ อิมํ กิร สุตฺตํ ภควา ปรินิพฺพานสํวจฺฉเร กเถสิ. ตสฺมา เอวมาห. ปรมายาติ อุตฺตมาย. สติยาติอาทีสุ ปทสตมฺปิ ปทสหสฺสมฺปิ วทนฺตสฺเสว คหณสมตฺถตา ¶ สติ นาม. ตเทว อาธารณอุปนิพนฺธนสมตฺถตา คติ นาม. เอวํ คหิตํ ธาริตํ สชฺฌายํ กาตุํ ¶ สมตฺถวีริยํ ธิติ นาม. ตสฺส อตฺถฺจ การณฺจ ทสฺสนสมตฺถตา ปฺาเวยฺยตฺติยํ นาม.
ทฬฺหธมฺมา ธนุคฺคโหติ ทฬฺหํ ธนุํ คเหตฺวา ิโต อิสฺสาโส. ทฬฺหธนุ นาม ทฺวิสหสฺสถามํ วุจฺจติ, ทฺวิสหสฺสถามํ นาม ยสฺส อาโรปิตสฺส ชิยาพทฺโธ โลหสีสาทีนํ ภาโร ทณฺเฑ คเหตฺวา ยาว กณฺฑปฺปมาณา อุกฺขิตฺตสฺส ปถวิโต มุจฺจติ. สิกฺขิโตติ ทส ทฺวาทส วสฺสานิ อาจริยกุเล อุคฺคหิตสิปฺโป. กตหตฺโถติ โกจิ สิปฺปเมว อุคฺคณฺหาติ. กตหตฺโถ น โหติ, อยํ ปน กตหตฺโถ จิณฺณวสีภาโว. กตูปาสโนติ ราชกุลาทีสุ ทสฺสิตสิปฺโป. ลหุเกน อสเนนาติ อนฺโต สุสิรํ กตฺวา ตูลาทีนิ ปูเรตฺวา กตลาขาปริกมฺเมน สลฺลหุกกณฺเฑน. เอวํ กตฺหิ เอกอุสภคามี ทฺเว อุสภานิ คจฺฉติ, อฏฺอุสภคามี โสฬสอุสภานิ คจฺฉติ. อปฺปกสิเรนาติ นิทุกฺเขน. อติปาเตยฺยาติ อติกฺกเมยฺย. เอวํ อธิมตฺตสติมนฺโตติ ยถา โส ธนุคฺคโห ตํ วิทตฺถิจตุรงฺคุลฉายํ สีฆํ เอว อติกฺกเมติ, เอวํ ปทสตมฺปิ ปทสหสฺสมฺปิ อุคฺคเหตุํ อุปธาเรตุํ สชฺฌายิตุํ อตฺถการณานิ จ อุปปริกฺขิตุํ สมตฺถาติ อตฺโถ. อฺตฺร อสิตปีตขายิตสายิตาติ อสิตปีตาทีนิ หิ ภควตาปิ กาตพฺพานิ โหนฺติ, ภิกฺขูหิปิ. ตสฺมา เตสํ กรณมตฺตกาลํ เปตฺวาติ ทสฺเสติ.
อปริยาทินฺนาเยวาติ ¶ อปริกฺขีณาเยว. สเจ หิ เอโก ภิกฺขุ กายานุปสฺสนํ ปุจฺฉติ, อฺโ เวทนานุปสฺสนํ, อฺโ จิตฺตานุปสฺสนํ, อยฺโย ธมฺมานุปสฺสนํ. อิมินา ปุฏฺํ อหํ ปุจฺฉิสฺสามีติ เอโก เอกํ น โอโลเกติ. เอวํ สนฺเตปิ เตสํ วาโร ปฺายติ. เอวํ พุทฺธานํ ปน วาโร น ปฺายติ, วิทตฺถิจตุรงฺคุลฉายํ อติกฺกมโต ปุเรตรํเยว ภควา จุทฺทสวิเธน กายานุปสฺสนํ, นววิเธน เวทนานุปสฺสนํ, โสฬสวิเธน จิตฺตานุปสฺสนํ, ปฺจวิเธน ธมฺมานุปสฺสนํ กเถติ. ติฏฺนฺตุ วา ตาว เอเต จตฺตาโร. สเจ หิ อฺเ จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเนสุ, อฺเ อิทฺธิปาเทสุ, อฺเ ปฺจ อินฺทฺริเยสุ, อฺเ ปฺจ พเลสุ, อฺเ สตฺต โพชฺฌงฺเคสุ, อฺเ อฏฺ มคฺคงฺเคสุ ปฺหํ ปุจฺเฉยฺยุํ, ตมฺปิ ภควา ¶ กเถยฺย. ติฏฺนฺตุ วา เอเต อฏฺ. สเจ อฺเ สตฺตตึส ชนา โพธิปกฺขิเยสุ ปฺหํ ¶ ปุจฺเฉยฺยุํ, ตมฺปิ ภควา ตาวเทว กเถยฺย. กสฺมา? ยาวตา หิ โลกิยมหาชนา เอกํ ปทํ กเถนฺติ. ตาว อานนฺทตฺเถโร อฏฺ ปทานิ กเถติ. อานนฺทตฺเถเร ปน เอกํ ปทํ กเถนฺเตเยว ภควา โสฬสปทานิ กเถติ. กสฺมา? ภควโต หิ ชิวฺหา มุทุกา ทนฺตาวรณํ สุผุสิตํ วจนํ อคลิตํ ภวงฺคปริวาโส ลหุโก. เตนาห ‘‘อปริยาทินฺนาเยวสฺส, สาริปุตฺต, ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนา’’ติ.
ตตฺถ ธมฺมทเสนาติ ตนฺติปนา. ธมฺมปทพฺยฺชนนฺติ ปาฬิยา ปทพฺยฺชนํ, ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส พฺยฺชนกํ อกฺขรํ. ปฺหปฏิภานนฺติ ปฺหพฺยากรณํ. อิมินา กึ ทสฺเสติ? ตถาคโต ปุพฺเพ ทหรกาเล อกฺขรานิ สมฺปิณฺเฑตฺวา ปทํ วตฺตุํ สกฺโกติ, ปทานิ สมฺปิณฺเฑตฺวา คาถํ วตฺตุํ สกฺโกติ, จตุอกฺขเรหิ วา อฏฺอกฺขเรหิ วา โสฬสอกฺขเรหิ วา ปเทหิ ยุตฺตาย คาถาย อตฺถํ วตฺตุํ สกฺโกติ. อิทานิ ปน มหลฺลกกาเล อกฺขรานิ สมฺปิณฺเฑตฺวา ปทํ วา, ปทานิ สมฺปิณฺเฑตฺวา คาถํ วา, คาถาย อตฺถํ วา วตฺตุํ น สกฺโกตีติ เอวํ นตฺถิ. ทหรกาเล จ มหลฺลกกาเล จ สพฺพเมตํ ตถาคตสฺส อปริยาทินฺนเมวาติ อิมํ ทสฺเสติ. มฺจเกน เจปิ มนฺติ อิทํ พุทฺธพลทีปนตฺถเมว ปริกปฺเปตฺวา อาห. ทสพลํ ปน มฺจเก อาโรเปตฺวา คามนิคมราชธานิโย ปริหรณกาโล นาม นตฺถิ. ตถาคตา หิ ปฺจเม อายุโกฏฺาเส ขณฺฑิจฺจาทีหิ อนภิภูตา สุวณฺณวณฺณสรีรสฺส เววณฺณิเย อนนุปฺปตฺเต เทวมนุสฺสานํ ปิยมนาปกาเลเยว ปรินิพฺพายนฺติ.
๑๖๒. นาคสมาโลติ ตสฺส เถรสฺส นามํ. ปมโพธิยฺหิ วีสติวสฺสพฺภนฺตเร อุปวานนาคิตเมฆิยตฺเถรา ¶ วิย อยมฺปิ ภควโต อุปฏฺาโก อโหสิ. พีชยมาโนติ มนฺทมนฺเทน ตาลวณฺฏวาเตน ภควโต อุตุสุขํ สมุฏฺาปยมาโน. เอตทโวจาติ สกลสุตฺตนฺตํ สุตฺวา ภควโต ปุพฺพจริตํ ทุกฺกรการกํ อาคมฺม ปสนฺโน เอตํ ‘‘อจฺฉริยํ ภนฺเต’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ อจฺฉรํ ปหริตุํ ยุตฺตนฺติ อจฺฉริยํ. อภูตปุพฺพํ ภูตนฺติ อพฺภุตํ. อุภเยนปิ อตฺตโน วิมฺหยเมว ¶ ทีเปติ. โก นาโม อยํ ภนฺเตติ อิทํ ภทฺทโก วตายํ ธมฺมปริยาโย, หนฺทสฺส ภควนฺตํ อายาจิตฺวา นามํ คณฺหาเปมีติ อธิปฺปาเยน อาห. อถสฺส ภควา นามํ คณฺหนฺโต ตสฺมา ติห ตฺวนฺติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ, ยสฺมา อิทํ สุตฺตํ สุตฺวา ตว โลมานิ หฏฺานิ, ตสฺมา ติห ตฺวํ ¶ , นาคสมาล, อิมํ ธมฺมปริยายํ ‘‘โลมหํสน ปริยาโย’’ตฺเวว นํ ธาเรหีติ.
สํสารสุทฺธิอาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาสีหนาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. มหาทุกฺขกฺขนฺธสุตฺตวณฺณนา
๑๖๓. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ มหาทุกฺขกฺขนฺธสุตฺตํ. ตตฺถ วินยปริยาเยน ตโย ชนา สมฺพหุลาติ วุจฺจนฺติ, ตโต ปรํ สงฺโฆ. สุตฺตนฺตปริยาเยน ตโย ตโย เอว, ตโต อุทฺธํ สมฺพหุลาติ วุจฺจนฺติ. อิธ สุตฺตนฺตปริยาเยน สมฺพหุลาติ เวทิตพฺพา. ปิณฺฑาย ปาวิสึสูติ ปวิฏฺา, เต ปน น ตาว ปวิฏฺา, ปวิสิสฺสามาติ นิกฺขนฺตตฺตา ปน ปวิสึสูติ วุตฺตา. ยถา คามํ คมิสฺสามีติ นิกฺขนฺตปุริโส ตํ คามํ อปฺปตฺโตปิ ‘‘กุหึ อิตฺถนฺนาโม’’ติ วุตฺเต ‘‘คามํ คโต’’ติ วุจฺจติ, เอวํ. ปริพฺพาชกานํ อาราโมติ เชตวนโต อวิทูเร อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม อตฺถิ, ตํ สนฺธาย เอวมาหํสุ. สมโณ, อาวุโสติ, อาวุโส, ตุมฺหากํ สตฺถา สมโณ โคตโม. กามานํ ปริฺนฺติ กามานํ ปหานํ สมติกฺกมํ ปฺเปติ. รูปเวทนาสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ ติตฺถิยา สกสมยํ ชานนฺตา กามานํ ปริฺํ ปฺเปยฺยุํ ปมชฺฌานํ วทมานา, รูปานํ ปริฺํ ปฺเปยฺยุํ อรูปภวํ วทมานา, เวทนานํ ปริฺํ ปฺเปยฺยุํ อสฺภวํ วทมานา. เต ปน ‘‘อิทํ นาม ปมชฺฌานํ อยํ รูปภโว อยํ อรูปภโว’’ติปิ น ชานนฺติ. เต ปฺเปตุํ อสกฺโกนฺตาปิ เกวลํ ‘‘ปฺเปม ปฺเปมา’’ติ วทนฺติ. ตถาคโต กามานํ ปริฺํ อนาคามิมคฺเคน ปฺเปติ, รูปเวทนานํ อรหตฺตมคฺเคน ¶ . เต เอวํ มหนฺเต วิเสเส วิชฺชมาเนปิ อิธ โน, อาวุโส, โก วิเวโสติอาทิมาหํสุ.
ตตฺถ อิธาติ อิมสฺมึ ปฺาปเน. ธมฺมเทสนาย วา ธมฺมเทสนนฺติ ยทิทํ สมณสฺส วา โคตมสฺส ธมฺมเทสนาย สทฺธึ อมฺหากํ ธมฺมเทสนํ, อมฺหากํ วา ธมฺมเทสนาย สทฺธึ สมณสฺส โคตมสฺส ธมฺมเทสนํ อารพฺภ นานากรณํ วุจฺเจถ, ตํ กินฺนามาติ วทนฺติ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย ¶ . อิติ เวมชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณํ วิย สาสเนน สทฺธึ อตฺตโน ลทฺธิวจนมตฺเตน สมธุรํ ปยึสุ. เนว อภินนฺทึสูติ เอวเมตนฺติ น สมฺปฏิจฺฉึสุ. นปฺปฏิกฺโกสึสูติ นยิทํ เอวนฺติ นปฺปฏิเสเธสุํ. กสฺมา? เต กิร ติตฺถิยา นาม อนฺธสทิสา, ชานิตฺวา วา อชานิตฺวา วา กเถยฺยุนฺติ ¶ นาภินนฺทึสุ, ปริฺนฺติ วจเนน อีสกํ สาสนคนฺโธ อตฺถีติ นปฺปฏิกฺโกสึสุ. ชนปทวาสิโน วา เต สกสมยปรสมเยสุ น สุฏฺุ กุสลาติปิ อุภยํ นากํสุ.
๑๖๕. น เจว สมฺปายิสฺสนฺตีติ สมฺปาเทตฺวา กเถตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. อุตฺตริฺจ วิฆาตนฺติ อสมฺปายนโต อุตฺตริมฺปิ ทุกฺขํ อาปชฺชิสฺสนฺติ. สมฺปาเทตฺวา กเถตุํ อสกฺโกนฺตานํ นาม หิ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ยถา ตํ, ภิกฺขเว, อวิสยสฺมินฺติ เอตฺถ ยถาติ การณวจนํ, ตนฺติ นิปาตมตฺตํ. ยสฺมา อวิสเย ปฺโห ปุจฺฉิโต โหตีติ อตฺโถ. สเทวเกติ สห เทเวหิ สเทวเก. สมารกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวํ ตีณิ านานิ โลเก ปกฺขิปิตฺวา ทฺเว ปชายาติ ปฺจหิปิ สตฺตโลกเมว ปริยาทิยิตฺวา เอตสฺมึ สเทวกาทิเภเท โลเก ตํ เทวํ วา มนุสฺสํ วา น ปสฺสามีติ ทีเปติ. อิโต วา ปน สุตฺวาติ อิโต วา ปน มม สาสนโต สุตฺวา อตถาคโตปิ อตถาคตสาวโกปิ อาราเธยฺย ปริโตเสยฺย. อฺถา อาราธนํ นาม นตฺถีติ ทสฺเสติ.
๑๖๖. อิทานิ อตฺตโน เตสํ ปฺหานํ เวยฺยากรเณน จิตฺตาราธนํ ทสฺเสนฺโต โก จ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. กามคุณาติ กามยิตพฺพฏฺเน กามา. พนฺธนฏฺเน คุณา. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อหตานํ วตฺถานํ ทฺวิคุณํ สงฺฆาฏิ’’นฺติ (มหาว. ๓๔๘) เอตฺถ หิ ปฏลฏฺโ คุณฏฺโ. ‘‘อจฺเจนฺติ ¶ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย, วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๔) เอตฺถ ราสฏฺโ คุณฏฺโ. ‘‘สตคุณา ทกฺขิณา ปาฏิกงฺขิตพฺพา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๗๙) เอตฺถ อานิสํสฏฺโ คุณฏฺโ. ‘‘อนฺตํ อนฺตคุณํ (ขุ. ปา. ๓ ทฺวตฺตึสากาเร; ที. นิ. ๒.๓๗๗) กยิรา มาลาคุเณ พหู’’ติ (ธ. ป. ๕๓) เอตฺถ พนฺธนฏฺโ คุณฏฺโ. อิธาปิ เอเสว อธิปฺเปโต, เตน วุตฺตํ ‘‘พนฺธนฏฺเน คุณา’’ติ. จกฺขุวิฺเยฺยาติ ¶ จกฺขุวิฺาเณน ปสฺสิตพฺพา. เอเตนุปาเยน โสตวิฺเยฺยาทีสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิฏฺาติ ปริยิฏฺา วา โหนฺตุ มา วา, อิฏฺารมฺมณภูตาติ อตฺโถ. กนฺตาติ กมนียา. มนาปาติ มนวฑฺฒนกา. ปิยรูปาติ ปิยชาติกา. กามูปสํหิตาติ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชมาเนน กาเมน อุปสํหิตา. รชนียาติ รชฺชนิยา, ราคุปฺปตฺติการณภูตาติ อตฺโถ.
๑๖๗. ยทิ มุทฺทายาติอาทีสุ มุทฺทาติ องฺคุลิปพฺเพสุ สฺํ เปตฺวา หตฺถมุทฺทา. คณนาติ อจฺฉิทฺทคณนา. สงฺขานนฺติ ปิณฺฑคณนา. ยาย เขตฺตํ โอโลเกตฺวา อิธ เอตฺตกา วีหี ภวิสฺสนฺติ ¶ , รุกฺขํ โอโลเกตฺวา อิธ เอตฺตกานิ ผลานิ ภวิสฺสนฺติ, อากาสํ โอโลเกตฺวา อิเม อากาเส สกุณา เอตฺตกา นาม ภวิสฺสนฺตีติ ชานนฺติ.
กสีติ กสิกมฺมํ. วณิชฺชาติ ชงฺฆวณิชฺชถลวณิชฺชาทิวณิปฺปโถ. โครกฺขนฺติ อตฺตโน วา ปเรสํ วา คาโว รกฺขิตฺวา ปฺจโครสวิกฺกเยน ชีวนกมฺมํ. อิสฺสตฺโถ วุจฺจติ อาวุธํ คเหตฺวา อุปฏฺานกมฺมํ. ราชโปริสนฺติ อาวุเธน ราชกมฺมํ กตฺวา อุปฏฺานํ. สิปฺปฺตรนฺติ คหิตาวเสสํ หตฺถิอสฺสสิปฺปาทิ. สีตสฺส ปุรกฺขโตติ ลกฺขํ วิย สรสฺส สีตสฺส ปุรโต, สีเตน พาธียมาโนติ อตฺโถ. อุณฺเหปิ เอเสว นโย. ฑํสาทีสุ ฑํสาติ ปิงฺคลมกฺขิกา. มกสาติ สพฺพมกฺขิกา, สรีสปาติ เย เกจิ สริตฺวา คจฺฉนฺติ. ริสฺสมาโนติ รุปฺปมาโน, ฆฏฺฏิยมาโน. มียมาโนติ มรมาโน. อยํ, ภิกฺขเวติ, ภิกฺขเว, อยํ มุทฺทาทีหิ ชีวิกกปฺปนํ อาคมฺม สีตาทิปจฺจโย อาพาโธ. กามานํ อาทีนโวติ กาเมสุ อุปทฺทโว, อุปสฺสคฺโคติ อตฺโถ. สนฺทิฏฺิโกติ ปจฺจกฺโข ¶ สามํ ปสฺสิตพฺโพ. ทุกฺขกฺขนฺโธติ ทุกฺขราสิ. กามเหตูติอาทีสุ ปจฺจยฏฺเน กามา อสฺส เหตูติ กามเหตุ. มูลฏฺเน กามา นิทานมสฺสาติ กามนิทาโน. ลิงฺควิปลฺลาเสน ปน กามนิทานนฺติ วุตฺโต. การณฏฺเน กามา อธิกรณํ อสฺสาติ กามาธิกรโณ. ลิงฺควิปลฺลาเสเนว ปน กามาธิกรณนฺติ วุตฺโต. กามานเมว เหตูติ อิทํ นิยมวจนํ, กามปจฺจยา อุปฺปชฺชติเยวาติ อตฺโถ.
อุฏฺหโตติ ¶ อาชีวสมุฏฺาปกวีริเยน อุฏฺหนฺตสฺส. ฆฏโตติ ตํ วีริยํ ปุพฺเพนาปรํ ฆเฏนฺตสฺส. วายมโตติ วายามํ ปรกฺกมํ ปโยคํ กโรนฺตสฺส. นาภินิปฺผชฺชนฺตีติ น นิปฺผชฺชนฺติ, หตฺถํ นาภิรุหนฺติ. โสจตีติ จิตฺเต อุปฺปนฺนพลวโสเกน โสจติ. กิลมตีติ กาเย อุปฺปนฺนทุกฺเขน กิลมติ. ปริเทวตีติ วาจาย ปริเทวติ. อุรตฺตาฬินฺติ อุรํ ตาเฬตฺวา. กนฺทตีติ โรทติ. สมฺโมหํ อาปชฺชตีติ วิสฺี วิย สมฺมูฬฺโห โหติ. โมฆนฺติ ตุจฺฉํ. อผโลติ นิปฺผโล. อารกฺขาธิกรณนฺติ อารกฺขการณา. กินฺตีติ เกน นุ โข อุปาเยน. ยมฺปิ เมติ ยมฺปิ มยฺหํ กสิกมฺมาทีนิ กตฺวา อุปฺปาทิตํ ธนํ อโหสิ. ตมฺปิ โน นตฺถีติ ตมฺปิ อมฺหากํ อิทานิ นตฺถิ.
๑๖๘. ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, กามเหตูติอาทินาปิ การณํ ทสฺเสตฺวาว อาทีนวํ ทีเปติ. ตตฺถ ¶ กามเหตูติ กามปจฺจยา ราชาโนปิ ราชูหิ วิวทนฺติ. กามนิทานนฺติ ภาวนปุํสกํ, กาเม นิทานํ กตฺวา วิวทนฺตีติ อตฺโถ. กามาธิกรณนฺติปิ ภาวนปุํสกเมว, กาเม อธิกรณํ กตฺวา วิวทนฺตีติ อตฺโถ. กามานเมว เหตูติ คามนิคมนครเสนาปติปุโรหิตฏฺานนฺตราทีนํ กามานเมว เหตุ วิวทนฺตีติ อตฺโถ. อุปกฺกมนฺตีติ ปหรนฺติ. อสิจมฺมนฺติ อสิฺเจว เขฏกผลกาทีนิ จ. ธนุกลาปํ สนฺนยฺหิตฺวาติ ธนุํ คเหตฺวา สรกลาปํ สนฺนยฺหิตฺวา. อุภโตพฺยูฬนฺติ อุภโต ราสิภูตํ. ปกฺขนฺทนฺตีติ ปวิสนฺติ. อุสูสูติ กณฺเฑสุ. วิชฺโชตลนฺเตสูติ วิปริวตฺตนฺเตสุ. เต ตตฺถาติ เต ตสฺมึ สงฺคาเม.
อทฺทาวเลปนา ¶ อุปการิโยติ เจตฺถ มนุสฺสา ปาการปาทํ อสฺสขุรสณฺาเนน อิฏฺกาหิ จินิตฺวา อุปริ สุธาย ลิมฺปนฺติ. เอวํ กตา ปาการปาทา อุปการิโยติ วุจฺจนฺติ. ตา ตินฺเตน กลเลน สิตฺตา อทฺทาวเลปนา นาม โหนฺติ. ปกฺขนฺทนฺตีติ ตาสํ เหฏฺา ติขิณอยสูลาทีหิ วิชฺฌียมานาปิ ปาการสฺส ปิจฺฉิลภาเวน อาโรหิตุํ อสกฺโกนฺตาปิ อุปธาวนฺติเยว. ฉกณกายาติ กุถิตโคมเยน. อภิวคฺเคนาติ สตทนฺเตน. ตํ อฏฺทนฺตากาเรน กตฺวา ‘‘นครทฺวารํ ภินฺทิตฺวา ¶ ปวิสิสฺสามา’’ติ อาคเต อุปริทฺวาเร ิตา ตสฺส พนฺธนโยตฺตานิ ฉินฺทิตฺวา เตน อภิวคฺเคน โอมทฺทนฺติ.
๑๖๙. สนฺธิมฺปิ ฉินฺทนฺตีติ ฆรสนฺธิมฺปิ ฉินฺทนฺติ. นิลฺโลปนฺติ คาเม ปหริตฺวา มหาวิโลปํ กโรนฺติ. เอกาคาริกนฺติ ปณฺณาสมตฺตาปิ สฏฺิมตฺตาปิ ปริวาเรตฺวา ชีวคฺคาหํ คเหตฺวา อาหราเปนฺติ. ปริปนฺเถปิ ติฏฺนฺตีติ ปนฺถทูหนกมฺมํ กโรนฺติ. อฑฺฒทณฺฑเกหีติ มุคฺคเรหิ ปหารสาธนตฺถํ วา จตุหตฺถทณฺฑํ ทฺเวธา เฉตฺวา คหิตทณฺฑเกหิ. พิลงฺคถาลิกนฺติ กฺชิยอุกฺขลิกมฺมการณํ, ตํ กโรนฺตา สีสกปาลํ อุปฺปาเฏตฺวา ตตฺตํ อโยคุฬํ สณฺฑาเสน คเหตฺวา ตตฺถ ปกฺขิปนฺติ, เตน มตฺถลุงฺคํ ปกฺกุถิตฺวา อุปริ อุตฺตรติ. สงฺขมุณฺฑิกนฺติ สงฺขมุณฺฑกมฺมการณํ, ตํ กโรนฺตา อุตฺตโรฏฺอุภโตกณฺณจูฬิกคฬวาฏปริจฺเฉเทน จมฺมํ ฉินฺทิตฺวา สพฺพเกเส เอกโต คณฺึ กตฺวา ทณฺฑเกน วลฺลิตฺวา อุปฺปาเฏนฺติ, สห เกเสหิ จมฺมํ อุฏฺหติ. ตโต สีสกฏาหํ ถูลสกฺขราหิ ฆํสิตฺวา โธวนฺตา สงฺขวณฺณํ กโรนฺติ.
ราหุมุขนฺติ ราหุมุขกมฺมการณํ, ตํ กโรนฺตา สงฺกุนา มุขํ วิวริตฺวา อนฺโตมุเข ทีปํ ชาเลนฺติ ¶ ¶ . กณฺณจูฬิกาหิ วา ปฏฺาย มุขํ นิขาทเนน ขณนฺติ. โลหิตํ ปคฺฆริตฺวา มุขํ ปูเรติ. โชติมาลิกนฺติ สกลสรีรํ เตลปิโลติกาย เวเตฺวา อาลิมฺปนฺติ. หตฺถปชฺโชติกนฺติ หตฺเถ เตลปิโลติกาย เวเตฺวา ทีปํ วิย ชาเลนฺติ. เอรกวตฺติกนฺติ เอรกวตฺตกมฺมการณํ, ตํ กโรนฺตา คีวโต ปฏฺาย จมฺมพทฺเธ กนฺติตฺวา โคปฺผเก เปนฺติ. อถ นํ โยตฺเตหิ พนฺธิตฺวา กฑฺฒนฺติ. โส อตฺตโน จมฺมพทฺเธ อกฺกมิตฺวา อกฺกมิตฺวา ปตติ. จีรกวาสิกนฺติ จีรกวาสิกกมฺมการณํ, ตํ กโรนฺตา ตเถว จมฺมพทฺเธ กนฺติตฺวา กฏิยํ เปนฺติ. กฏิโต ปฏฺาย กนฺติตฺวา โคปฺผเกสุ เปนฺติ. อุปริเมหิ เหฏฺิมสรีรํ จีรกนิวาสนนิวตฺถํ วิย โหติ. เอเณยฺยกนฺติ เอเณยฺยกกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา อุโภสุ กปฺปเรสุ จ ชาณูสุ จ อยวลยานิ ทตฺวา อยสูลานิ โกฏฺเฏนฺติ. โส จตูหิ อยสูเลหิ ภูมิยํ ปติฏฺหติ. อถ นํ ปริวาเรตฺวา อคฺคึ กโรนฺติ. ‘‘เอเณยฺยโก โชติปริคฺคโห ยถา’’ติ ¶ อาคตฏฺาเนปิ อิทเมว วุตฺตํ. ตํ กาเลน กาลํ สูลานิ อปเนตฺวา จตูหิ อฏฺิโกฏีหิเยว เปนฺติ. เอวรูปา การณา นาม นตฺถิ.
พฬิสมํสิกนฺติ อุภโตมุเขหิ พฬิเสหิ ปหริตฺวา จมฺมมํสนฺหารูนิ อุปฺปาเฏนฺติ. กหาปณิกนฺติ สกลสรีรํ ติณฺหาหิ วาสีหิ โกฏิโต ปฏฺาย กหาปณมตฺตํ กหาปณมตฺตํ ปาเตนฺตา โกฏฺเฏนฺติ. ขาราปตจฺฉิกนฺติ สรีรํ ตตฺถ ตตฺถ อาวุเธหิ ปหริตฺวา โกจฺเฉหิ ขารํ ฆํสนฺติ. จมฺมสํสนฺหารูนิ ปคฺฆริตฺวา สวนฺติ. อฏฺิกสงฺขลิกาว ติฏฺติ. ปลิฆปริวตฺติกนฺติ เอเกน ปสฺเสน นิปชฺชาเปตฺวา กณฺณจฺฉิทฺเท อยสูลํ โกฏฺเฏตฺวา ปถวิยา เอกาพทฺธํ กโรนฺติ. อถ นํ ปาเท คเหตฺวา อาวิชฺฌนฺติ. ปลาลปีกนฺติ เฉโก การณิโก ฉวิจมฺมํ อจฺฉินฺทิตฺวา นิสทโปเตหิ อฏฺีนิ ภินฺทิตฺวา เกเสสุ คเหตฺวา อุกฺขิปนฺติ. มํสราสิเยว โหติ, อถ นํ เกเสเหว ปริโยนนฺธิตฺวา คณฺหนฺติ. ปลาลวฏฺฏึ วิย กตฺวา ปน เวเนฺติ. สุนเขหิปีติ ¶ กติปยานิ ทิวสานิ อาหารํ อทตฺวา ฉาตเกหิ สุนเขหิ ขาทาเปนฺติ. เต มุหุตฺเตน อฏฺิสงฺขลิกเมว กโรนฺติ. สมฺปรายิโกติ สมฺปราเย ทุติยตฺตภาเว วิปาโกติ อตฺโถ.
๑๗๐. ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานนฺติ นิพฺพานํ. นิพฺพานฺหิ อาคมฺม กาเมสุ ฉนฺทราโค วินียติ เจว ปหียติ จ, ตสฺมา นิพฺพานํ ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานนฺติ จ วุตฺตํ. สามํ วา กาเม ปริชานิสฺสนฺตีติ สยํ วา เต กาเม ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานิสฺสนฺติ. ตถตฺตายาติ ตถภาวาย. ยถาปฏิปนฺโนติ ยาย ปฏิปทาย ปฏิปนฺโน.
๑๗๑. ขตฺติยกฺา ¶ วาติอาทิ อปริตฺเตน วิปุเลน กุสเลน คหิตปฏิสนฺธิกํ วตฺถาลงฺการาทีนิ ลภนฏฺาเน นิพฺพตฺตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ปนฺนรสวสฺสุทฺเทสิกาติ ปนฺนรสวสฺสวยา. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. วยปเทสํ กสฺมา คณฺหาติ? วณฺณสมฺปตฺติทสฺสนตฺถํ. มาตุคามสฺส หิ ทุคฺคตกุเล นิพฺพตฺตสฺสาปิ เอตสฺมึ กาเล โถกํ โถกํ วณฺณายตนํ ปสีทติ. ปุริสานํ ปน วีสติวสฺสกาเล ปฺจวีสติวสฺสกาเล ปสนฺนํ โหติ. นาติทีฆาติอาทีหิ ฉโทสวิรหิตํ สรีรสมฺปตฺตึ ทีเปติ. วณฺณนิภาติ วณฺโณเยว.
ชิณฺณนฺติ ¶ ชราชิณฺณํ. โคปานสิวงฺกนฺติ โคปานสี วิย วงฺกํ. โภคฺคนฺติ ภคฺคํ, อิมินาปิสฺส วงฺกภาวเมว ทีเปติ. ทณฺฑปรายณนฺติ ทณฺฑปฏิสรณํ ทณฺฑทุติยํ. ปเวธมานนฺติ กมฺปมานํ. อาตุรนฺติ ชราตุรํ. ขณฺฑทนฺตนฺติ ชิณฺณภาเวน ขณฺฑิตทนฺตํ. ปลิตเกสนฺติ ปณฺฑรเกสํ. วิลูนนฺติ ลฺุจิตฺวา คหิตเกสํ วิย ขลฺลาฏํ. ขลิตสิรนฺติ มหาขลฺลาฏสีสํ. วลินนฺติ สฺชาตวลึ. ติลกาหตคตฺตนฺติ เสตกาฬติลเกหิ วิกิณฺณสรีรํ. อาพาธิกนฺติ พฺยาธิกํ. ทุกฺขิตนฺติ ทุกฺขปตฺตํ.
พาฬฺหคิลานนฺติ อธิมตฺตคิลานํ. สิวถิกาย ฉฑฺฑิตนฺติ อามกสุสาเน ปาติตํ. เสสเมตฺถ สติปฏฺาเน วุตฺตเมว. อิธาปิ นิพฺพานํเยว ฉนฺทราควินโย.
๑๗๓. เนว ตสฺมึ สมเย อตฺตพฺยาพาธายาติ ตสฺมึ สมเย อตฺตโนปิ ทุกฺขตฺถาย น เจเตติ. อพฺยาพชฺฌํเยวาติ นิทฺทุกฺขเมว ¶ .
๑๗๔. ยํ, ภิกฺขเว, เวทนา อนิจฺจาติ, ภิกฺขเว, ยสฺมา เวทนา อนิจฺจา, ตสฺมา อยํ อนิจฺจาทิอากาโรว เวทนาย อาทีนโวติ อตฺโถ, นิสฺสรณํ วุตฺตปฺปการเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาทุกฺขกฺขนฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. จูฬทุกฺขกฺขนฺธสุตฺตวณฺณนา
๑๗๕. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ จูฬทุกฺขกฺขนฺธสุตฺตํ. ตตฺถ สกฺเกสูติ เอวํนามเก ชนปเท. โส หิ ชนปโท สกฺยานํ ราชกุมารานํ วสนฏฺานตฺตา สกฺยาตฺเวว สงฺขฺยํ คโต. สกฺยานํ ปน อุปฺปตฺติ อมฺพฏฺสุตฺเต อาคตาว. กปิลวตฺถุสฺมินฺติ เอวํนามเก นคเร. ตฺหิ กปิลสฺส อิสิโน นิวาสฏฺาเน กตตฺตา กปิลวตฺถูติ วุตฺตํ, ตํ โคจรคามํ กตฺวา. นิคฺโรธาราเมติ นิคฺโรโธ นาม สกฺโก, โส าติสมาคมกาเล กปิลวตฺถุํ อาคเต ภควติ อตฺตโน อาราเม วิหารํ กาเรตฺวา ภควโต นิยฺยาเตสิ, ตสฺมึ วิหรตีติ อตฺโถ. มหานาโมติ อนุรุทฺธตฺเถรสฺส ภาตา ภควโต จุฬปิตุปุตฺโต. สุทฺโธทโน ¶ สุกฺโกทโน สกฺโกทโน โธโตทโน อมิโตทโนติ อิเม ปฺจ ชนา ภาตโร. อมิตา นาม เทวี เตสํ ภคินี. ติสฺสตฺเถโร ตสฺสา ปุตฺโต. ตถาคโต จ นนฺทตฺเถโร จ สุทฺโธทนสฺส ปุตฺตา, มหานาโม จ อนุรุทฺธตฺเถโร จ สุกฺโกทนสฺส. อานนฺทตฺเถโร อมิโตทนสฺส, โส ภควโต กนิฏฺโ. มหานาโม มหลฺลกตโร สกทาคามี อริยสาวโก.
ทีฆรตฺตนฺติ มยฺหํ สกทาคามิผลุปฺปตฺติโต ปฏฺาย จิรรตฺตํ ชานามีติ ทสฺเสติ. โลภธมฺมาติ โลภสงฺขาตา ธมฺมา, นานปฺปการกํ โลภํเยว สนฺธาย วทติ. อิตเรสุปิ ทฺวีสุ เอเสว นโย. ปริยาทาย ติฏฺนฺตีติ เขเปตฺวา ติฏฺนฺติ. อิทฺหิ ปริยาทานํ นาม ‘‘สพฺพํ หตฺถิกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ อสฺสกายํ สพฺพํ รถกายํ สพฺพํ ปตฺติกายํ ปริยาทิยิตฺวา ชีวนฺตํเยว นํ โอสชฺเชยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๑๒๖) เอตฺถ คหเณ อาคตํ. ‘‘อนิจฺจสฺา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา สพฺพํ ¶ กามราคํ ปริยาทิยตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๐๒) เอตฺถ เขปเน. อิธาปิ เขปเน อธิปฺเปตํ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปริยาทิยิตฺวาติ เขเปตฺวา’’ติ.
เยน เม เอกทา โลภธมฺมาปีติ เยน มยฺหํ เอเกกสฺมึ กาเล โลภธมฺมาปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺตีติ ปุจฺฉติ. อยํ กิร ราชา ‘‘สกทาคามิมคฺเคน โลภโทสโมหา นิรวเสสา ปหียนฺตี’’ติ สฺี อโหสิ, อยํ ‘‘อปฺปหีนํ เม อตฺถี’’ติปิ ชานาติ, อปฺปหีนกํ ¶ อุปาทาย ปหีนกมฺปิ ปุน ปจฺฉโตวาวตฺตตีติ สฺี โหติ. อริยสาวกสฺส เอวํ สนฺเทโห อุปฺปชฺชตีติ? อาม อุปฺปชฺชติ. กสฺมา? ปณฺณตฺติยา อโกวิทตฺตา. ‘‘อยํ กิเลโส อสุกมคฺควชฺโฌ’’ติ อิมิสฺสา ปณฺณตฺติยา อโกวิทสฺส หิ อริยสาวกสฺสปิ เอวํ โหติ. กึ ตสฺส ปจฺจเวกฺขณา นตฺถีติ? อตฺถิ. สา ปน น สพฺเพสํ ปริปุณฺณา โหติ. เอโก หิ ปหีนกิเลสเมว ปจฺจเวกฺขติ. เอโก อวสิฏฺกิเลสเมว, เอโก มคฺคเมว, เอโก ผลเมว, เอโก นิพฺพานเมว. อิมาสุ ปน ปฺจสุ ปจฺจเวกฺขณาสุ เอกํ วา ทฺเว วา โน ลทฺธุํ น วฏฺฏติ. อิติ ยสฺส ปจฺจเวกฺขณา น ปริปุณฺณา, ตสฺส มคฺควชฺฌกิเลสปณฺณตฺติยํ อโกวิทตฺตา เอวํ โหติ.
๑๗๖. โส ¶ เอว โข เตติ โสเยว โลโภ โทโส โมโห จ ตว สนฺตาเน อปฺปหีโน, ตฺวํ ปน ปหีนสฺี อโหสีติ ทสฺเสติ. โส จ หิ เตติ โส ตุยฺหํ โลภโทสโมหธมฺโม. กาเมติ ทุวิเธ กาเม. น ปริภฺุเชยฺยาสีติ มยํ วิย ปพฺพเชยฺยาสีติ ทสฺเสติ.
๑๗๗. อปฺปสฺสาทาติ ปริตฺตสุขา. พหุทุกฺขาติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกทุกฺขเมเวตฺถ พหุกํ. พหุปายาสาติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิโก อุปายาสกิเลโสเยเวตฺถ พหุ. อาทีนโวติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิโก อุปทฺทโว. เอตฺถ ภิยฺโยติ เอเตสุ กาเมสุ อยํ อาทีนโวเยว พหุ. อสฺสาโท ปน หิมวนฺตํ อุปนิธาย สาสโป วิย อปฺโป, ปริตฺตโก. อิติ เจปิ มหานามาติ มหานาม เอวํ เจปิ อริยสาวกสฺส. ยถาภูตนฺติ ยถาสภาวํ. สมฺมา นเยน การเณน ปฺาย สุฏฺุ ทิฏฺํ โหตีติ ทสฺเสติ. ตตฺถ ปฺายาติ วิปสฺสนาปฺาย, เหฏฺามคฺคทฺวยาเณนาติ อตฺโถ. โส ¶ จาติ โส เอว มคฺคทฺวเยน ทิฏฺกามาทีนโว อริยสาวโก. ปีติสุขนฺติ อิมินา สปฺปีติกานิ ทฺเว ฌานานิ ทสฺเสติ. อฺํ วา ตโต สนฺตตรนฺติ ตโต ฌานทฺวยโต สนฺตตรํ อฺํ อุปริฌานทฺวยฺเจว มคฺคทฺวยฺจ. เนว ตาว อนาวฏฺฏี กาเมสุ โหตีติ อถ โข โส ทฺเว มคฺเค ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโตปิ อริยสาวโก อุปริ ฌานานํ วา มคฺคานํ วา อนธิคตตฺตา เนว ตาว กาเมสุ อนาวฏฺฏี โหติ, อนาวฏฺฏิโน อนาโภโค น โหติ. อาวฏฺฏิโน สาโภโคเยว โหติ. กสฺมา? จตูหิ ฌาเนหิ วิกฺขมฺภนปฺปหานสฺส, ทฺวีหิ มคฺเคหิ สมุจฺเฉทปฺปหานสฺส อภาวา.
มยฺหมฺปิ ¶ โขติ น เกวลํ ตุยฺเหว, อถ โข มยฺหมฺปิ. ปุพฺเพว สมฺโพธาติ มคฺคสมฺโพธิโต ปมตรเมว. ปฺาย สุทิฏฺํ โหตีติ เอตฺถ โอโรธนาฏกา ปชหนปฺา อธิปฺเปตา. ปีติสุขํ นาชฺฌคมนฺติ สปฺปีติกานิ ทฺเว ฌานานิ น ปฏิลภึ. อฺํ วา ตโต สนฺตตรนฺติ อิธ อุปริ ฌานทฺวยํ เจว จตฺตาโร จ มคฺคา อธิปฺเปตา. ปจฺจฺาสินฺติ ปฏิอฺาสึ.
๑๗๙. เอกมิทาหํ มหานาม สมยนฺติ กสฺมา อารทฺธํ? อยํ ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธิ. เหฏฺา กามานํ อสฺสาโทปิ อาทีนโวปิ กถิโต ¶ , นิสฺสรณํ น กถิตํ, ตํ กเถตุํ อยํ เทสนา อารทฺธา. กามสุขลฺลิกานุโยโค หิ เอโก อนฺโต อตฺตกิลมถานุโยโค เอโกติ อิเมหิ อนฺเตหิ มุตฺตํ มม สาสนนฺติ อุปริ ผลสมาปตฺติสีเสน สกลสาสนํ ทสฺเสตุมฺปิ อยํ เทสนา อารทฺธา.
คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเตติ ตสฺส ปพฺพตสฺส คิชฺฌสทิสํ กูฏํ อตฺถิ, ตสฺมา คิชฺฌกูโฏติ วุจฺจติ. คิชฺฌา วา ตสฺส กูเฏสุ นิวสนฺตีติปิ คิชฺฌกูโฏติ วุจฺจติ. อิสิคิลิปสฺเสติ อิสิคิลิปพฺพตสฺส ปสฺเส. กาฬสิลายนฺติ กาฬวณฺเณ ปิฏฺิปาสาเณ. อุพฺภฏฺกา โหนฺตีติ อุทฺธํเยว ิตกา โหนฺติ อนิสินฺนา. โอปกฺกมิกาติ อุพฺภฏฺกาทินา อตฺตโน อุปกฺกเมน นิพฺพตฺติตา. นิคณฺโ, อาวุโสติ อฺํ การณํ วตฺตุํ อสกฺโกนฺตา นิคณฺสฺส อุปริ ปกฺขิปึสุ. สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวีติ ¶ โส อมฺหากํ สตฺถา อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ สพฺพํ ชานาติ ปสฺสตีติ ทสฺเสติ. อปริเสสํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาตีติ โส อมฺหากํ สตฺถา อปริเสสํ ธมฺมํ ชานนฺโต อปริเสสสงฺขาตํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาติ, ปฏิชานนฺโต จ เอวํ ปฏิชานาติ ‘‘จรโต จ เม ติฏฺโต จ…เป… ปจฺจุปฏฺิต’’นฺติ. ตตฺถ สตตนฺติ นิจฺจํ. สมิตนฺติ ตสฺเสว เววจนํ.
๑๘๐. กึ ปน ตุมฺเห, อาวุโส, นิคณฺา ชานาถ เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณนฺติ อิทํ ภควา ปุริโส นาม ยํ กโรติ, ตํ ชานาติ. วีสติกหาปเณ อิณํ คเหตฺวา ทส ทตฺวา ‘‘ทส เม ทินฺนา ทส อวสิฏฺา’’ติ ชานาติ, เตปิ ทตฺวา ‘‘สพฺพํ ทินฺน’’นฺติ ชานาติ. เขตฺตสฺส ตติยภาคํ ลายิตฺวา ‘‘เอโก ภาโค ลายิโต, ทฺเว อวสิฏฺา’’ติ ชานาติ. ปุน เอกํ ลายิตฺวา ¶ ‘‘ทฺเว ลายิตา, เอโก อวสิฏฺโ’’ติ ชานาติ. ตสฺมิมฺปิ ลายิเต ‘‘สพฺพํ นิฏฺิต’’นฺติ ชานาติ, เอวํ สพฺพกิจฺเจสุ กตฺจ อกตฺจ ชานาติ, ตุมฺเหหิปิ ตถา าตพฺพํ สิยาติ ทสฺเสติ. อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานนฺติ อิมินา อกุสลํ ปหาย กุสลํ ภาเวตฺวา สุทฺธนฺตํ ปตฺโต นิคณฺโ นาม ตุมฺหากํ สาสเน อตฺถีติ ปุจฺฉติ.
เอวํ สนฺเตติ ตุมฺหากํ เอวํ อชานนภาเว สติ. ลุทฺทาติ ลุทฺทาจารา. โลหิตปาณิโนติ ปาเณ ชีวิตา โวโรเปนฺตา โลหิเตน มกฺขิตปาณิโน. ปาณํ หิ หนนฺตสฺสปิ ยสฺส โลหิเตน ปาณิ น มกฺขิยติ ¶ , โสปิ โลหิตปาณีตฺเวว วุจฺจติ. กุรูรกมฺมนฺตาติ ทารุณกมฺมา. มาตริ ปิตริ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณาทีสุ จ กตาปราธา. มาควิกาทโย วา กกฺขฬกมฺมา.
น โข, อาวุโส, โคตมาติ อิทํ นิคณฺา ‘‘อยํ อมฺหากํ วาเท โทสํ เทติ, มยมฺปิสฺส โทสํ อาโรเปมา’’ติ มฺมานา อารภึสุ. ตสฺสตฺโถ, ‘‘อาวุโส, โคตม ยถา ตุมฺเห ปณีตจีวรานิ ธาเรนฺตา สาลิมํโสทนํ ภฺุชนฺตา เทววิมานวณฺณาย คนฺธกุฏิยา วสมานา สุเขน สุขํ อธิคจฺฉถ, น เอวํ สุเขน สุขํ อธิคนฺตพฺพํ. ยถา ปน มยํ อุกฺกุฏิกปฺปธานาทีหิ นานปฺปการณํ ทุกฺขํ อนุภวาม, เอวํ ทุกฺเขน สุขํ อธิคนฺตพฺพ’’นฺติ. สุเขน จ หาวุโสติ อิทํ สเจ สุเขน จ สุขํ อธิคนฺตพฺพํ สิยา. ราชา อธิคจฺเฉยฺยาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ ¶ . ตตฺถ มาคโธติ มคธรฏฺสฺส อิสฺสโร. เสนิโยติ ตสฺส นามํ. พิมฺพีติ อตฺตภาวสฺส นามํ. โส ตสฺส สารภูโต ทสฺสนีโย ปาสาทิโก อตฺตภาวสมิทฺธิยา พิมฺพิสาโรติ วุจฺจติ. สุขวิหาริตโรติ อิทํ เต นิคณฺา รฺโ ตีสุ ปาสาเทสุ ติวิธวเยหิ นาฏเกหิ สทฺธึ สมฺปตฺติอนุภวนํ สนฺธาย วทนฺติ. อทฺธาติ เอกํเสน. สหสา อปฺปฏิสงฺขาติ สาหสํ กตฺวา, อปฺปจฺจเวกฺขิตฺวาว ยถา รตฺโต ราควเสน ทุฏฺโ โทสวเสน มูฬฺโห โมหวเสน ภาสติ, เอวเมวํ วาจา ภาสิตาติ ทสฺเสติ.
ตตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามีติ ตสฺมึ อตฺเถ ปุจฺฉิสฺสามิ. ยถา โว ขเมยฺยาติ ยถา ตุมฺหากํ รุจฺเจยฺย. ปโหตีติ สกฺโกติ.
อนิฺชมาโนติ อจลมาโน. เอกนฺตสุขํ ปฏิสํเวทีติ นิรนฺตรสุขํ ปฏิสํเวที. ‘‘อหํ โข ¶ , อาวุโส, นิคณฺา ปโหมิ…เป… เอกนฺตสุขํ ปฏิสํเวที’’ติ อิทํ อตฺตโน ผลสมาปตฺติสุขํ ทสฺเสนฺโต อาห. เอตฺถ จ กถาปติฏฺาปนตฺถํ ราชวาเร สตฺต อาทึ กตฺวา ปุจฺฉา กตา. สตฺต รตฺตินฺทิวานิ นปฺปโหตีติ หิ วุตฺเต ฉ ปฺจ จตฺตารีติ สุขํ ปุจฺฉิตุํ โหติ. สุทฺธวาเร ปน สตฺตาติ วุตฺเต ปุน ฉ ปฺจ จตฺตารีติ วุจฺจมานํ อนจฺฉริยํ โหติ, ตสฺมา เอกํ อาทึ กตฺวา เทสนา กตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬทุกฺขกฺขนฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อนุมานสุตฺตวณฺณนา
๑๘๑. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ อนุมานสุตฺตํ. ตตฺถ ภคฺเคสูติ เอวํนามเก ชนปเท, วจนตฺโถ ปเนตฺถ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺโพ. สุสุมารคิเรติ เอวํนามเก นคเร. ตสฺส กิร นครสฺส วตฺถุปริคฺคหทิวเส อวิทูเร อุทกรหเท สุํสุมาโร สทฺทมกาสิ, คิรํ นิจฺฉาเรสิ. อถ นคเร นิฏฺิเต สุํสุมารคิรํ ตฺเววสฺส นามํ อกํสุ. เภสกฬาวเนติ เภสกฬานามเก วเน. ‘‘เภสคฬาวเน’’ติปิ ปาโ. มิคทาเยติ ตํ วนํ มิคปกฺขีนํ อภยทินฺนฏฺาเน ชาตํ, ตสฺมา มิคทาโยติ วุจฺจติ.
ปวาเรตีติ ¶ อิจฺฉาเปติ. วทนฺตูติ โอวาทานุสาสนิวเสน วทนฺตุ, อนุสาสนฺตูติ อตฺโถ. วจนีโยมฺหีติ อหํ ตุมฺเหหิ วตฺตพฺโพ, อนุสาสิตพฺโพ โอวทิตพฺโพติ อตฺโถ. โส จ โหติ ทุพฺพโจติ โส จ ทุกฺเขน วตฺตพฺโพ โหติ, วุตฺโต น สหติ. โทวจสฺสกรเณหีติ ทุพฺพจภาวการเกหิ อุปริ อาคเตหิ โสฬสหิ ธมฺเมหิ. อปฺปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนินฺติ โย หิ วุจฺจมาโน ตุมฺเห มํ กสฺมา วทถ, อหํ อตฺตโน กปฺปิยากปฺปิยํ สาวชฺชานวชฺชํ อตฺถานตฺถํ ชานามีติ วทติ. อยํ อนุสาสนึ ปทกฺขิณโต น คณฺหาติ, วามโต คณฺหาติ, ตสฺมา อปฺปทกฺขิณคฺคาหีติ วุจฺจติ.
ปาปิกานํ อิจฺฉานนฺติ ลามกานํ อสนฺตสมฺภวนปตฺถนานํ. ปฏิปฺผรตีติ ปฏิวิรุทฺโธ, ปจฺจนีโก หุตฺวา ติฏฺติ, อปสาเทตีติ กึ นุ โข ตุยฺหํ พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส ภณิเตน, ตฺวมฺปิ นาม ภณิตพฺพํ มฺิสฺสสีติ เอวํ ฆฏฺเฏติ. ปจฺจาโรเปตีติ, ตฺวมฺปิ โขสิ อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตํ ตาว ปฏิกโรหีติ เอวํ ปฏิอาโรเปติ.
อฺเนฺํ ปฏิจรตีติ อฺเน การเณน วจเนน วา อฺํ การณํ วจนํ วา ปฏิจฺฉาเทติ. ‘‘อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ วุตฺเต ‘‘โก อาปนฺโน, กึ อาปนฺโน, กิสฺมึ อาปนฺโน, กํ ภณถ, กึ ภณถา’’ติ วา วทติ. ‘‘เอวรูปํ กิฺจิ ตยา ทิฏฺ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘น สุณามี’’ติ ¶ โสตํ วา อุปเนติ. พหิทฺธา กถํ อปนาเมตีติ ‘‘อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ ปุฏฺโ ‘‘ปาฏลิปุตฺตํ คโตมฺหี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘น ตว ปาฏลิปุตฺตคมนํ ปุจฺฉาม, อาปตฺตึ ¶ ปุจฺฉามา’’ติ วุตฺเต ‘‘ตโต ราชเคหํ คโตมฺหี’’ติ, ราชเคหํ วา ยาหิ พฺราหฺมณเคหํ วา, อาปตฺตึ อาปนฺโนสีติ. ตตฺถ เม สูกรมํสํ ลทฺธนฺติอาทีนิ วทนฺโต กถํ พหิทฺธา วิกฺขิปติ.
อปทาเนติ อตฺตโน จริยาย. น สมฺปายตีติ, อาวุโส, ตฺวํ กุหึ วสสิ, กํ นิสฺสาย วสสีติ วา, ยํ ตฺวํ วเทสิ ‘‘มยา เอส อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโน ทิฏฺโ’’ติ. ตฺวํ ตสฺมึ สมเย กึ กโรสิ, อยํ กึ กโรติ, กตฺถ วา ตฺวํ อจฺฉสิ กตฺถ วา อยนฺติอาทินา นเยน จริยํ ปุฏฺโ สมฺปาเทตฺวา กเถตุํ น สกฺโกติ.
๑๘๓. ตตฺราวุโสติ ¶ , อาวุโส, เตสุ โสฬสสุ ธมฺเมสุ. อตฺตนาว อตฺตานํ เอวํ อนุมินิตพฺพนฺติ เอวํ อตฺตนาว อตฺตา อนุเมตพฺโพ ตุเลตพฺโพ ตีเรตพฺโพ.
๑๘๔. ปจฺจเวกฺขิตพฺพนฺติ ปจฺจเวกฺขิตพฺโพ. อโหรตฺตานุสิกฺขินาติ ทิวาปิ รตฺติมฺปิ สิกฺขนฺเตน, รติฺจ ทิวา จ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สิกฺขนฺเตน ปีติปาโมชฺชเมว อุปฺปาเทตพฺพนฺติ อตฺโถ.
อจฺเฉ วา อุทกปตฺเตติ ปสนฺเน วา อุทกภาชเน. มุขนิมิตฺตนฺติ มุขปฏิพิมฺพํ. รชนฺติ อาคนฺตุกรชํ. องฺคณนฺติ ตตฺถ ชาตกํ ติลกํ วา ปิฬกํ วา. สพฺเพปิเม ปาปเก อกุสเล ธมฺเม ปหีเนติ อิมินา สพฺพปฺปหานํ กเถสิ. กถํ? เอตฺตกา อกุสลา ธมฺมา ปพฺพชิตสฺส นานุจฺฉวิกาติ ปฏิสงฺขานํ อุปฺปาทยโต หิ ปฏิสงฺขานปฺปหานํกถิตํ โหติ. สีลํ ปทฏฺานํ กตฺวา กสิณปริกมฺมํ อารภิตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตนฺตสฺส วิกฺขมฺภนปฺปหานํ กถิตํ. สมาปตฺตึ ปทฏฺานํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺตสฺส ตทงฺคปฺปหานํ กถิตํ. วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา มคฺคํ ภาเวนฺตสฺส สมุจฺเฉทปฺปหานํ กถิตํ. ผเล อาคเต ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ, นิพฺพาเน อาคเต นิสฺสรณปฺปหานนฺติ เอวํ อิมสฺมึ สุตฺเต สพฺพปฺปหานํ กถิตํว โหติ.
อิทฺหิ ¶ สุตฺตํ ภิกฺขุปาติโมกฺขํ นามาติ โปราณา วทนฺติ. อิทํ ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ. ปาโต เอว วสนฏฺานํ ปวิสิตฺวา นิสินฺเนน ‘‘อิเม เอตฺตกา กิเลสา อตฺถิ นุ โข มยฺหํ นตฺถี’’ติ ปจฺจเวกฺขิตพฺพา. สเจ อตฺถีติ ปสฺสติ, เตสํ ปหานาย วายมิตพฺพํ. โน เจ ปสฺสติ, สุปพฺพชิโตสฺมีติ ¶ อตฺตมเนน ภวิตพฺพํ. ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา รตฺติฏฺาเน วา ทิวาฏฺาเน วา นิสีทิตฺวาปิ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ. สายํ วสนฏฺาเน นิสีทิตฺวาปิ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ. ติกฺขตฺตุํ อสกฺโกนฺเตน ทฺเว วาเร ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ. ทฺเว วาเร อสกฺโกนฺเตน ปน อวสฺสํ เอกวารํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ, อปฺปจฺจเวกฺขิตุํ น วฏฺฏตีติ วทนฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อนุมานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. เจโตขิลสุตฺตวณฺณนา
๑๘๕. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ เจโตขิลสุตฺตํ. ตตฺถ เจโตขิลาติ จิตฺตสฺส ถทฺธภาวา กจวรภาวา ขาณุกภาวา. เจตโส วินิพนฺธาติ จิตฺตํ พนฺธิตฺวา มุฏฺิยํ กตฺวา วิย คณฺหนฺตีติ เจตโส วินิพนฺธา. วุทฺธินฺติอาทีสุ สีเลน วุทฺธึ, มคฺเคน วิรุฬฺหึ, นิพฺพาเนน เวปุลฺลํ. สีลสมาธีหิ วา วุทฺธึ, วิปสฺสนามคฺเคหิ วิรุฬฺหึ, ผลนิพฺพาเนหิ เวปุลฺลํ. สตฺถริ กงฺขตีติ สตฺถุ สรีเร วา คุเณ วา กงฺขติ. สรีเร กงฺขมาโน ทฺวตฺตึสวรลกฺขณปฺปฏิมณฺฑิตํ นาม สรีรํ อตฺถิ นุ โข นตฺถีติ กงฺขติ, คุเณ กงฺขมาโน อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนชานนสมตฺถํ สพฺพฺุตฺาณํ อตฺถิ นุ โข นตฺถีติ กงฺขติ. วิจิกิจฺฉตีติ วิจินนฺโต กิจฺฉติ, ทุกฺขํ อาปชฺชติ, วินิจฺเฉตุํ น สกฺโกติ. นาธิมุจฺจตีติ เอวเมตนฺติ อธิโมกฺขํ น ปฏิลภติ. น สมฺปสีทตีติ คุเณสุ โอตริตฺวา นิพฺพิจิกิจฺฉภาเวน ปสีทิตุํ, อนาวิโล ภวิตุํ น สกฺโกติ. อาตปฺปายาติ กิเลสสนฺตาปกวีริยกรณตฺถาย. อนุโยคายาติ ปุนปฺปุนํ โยคาย. สาตจฺจายาติ สตตกิริยาย ปธานายาติ ปทหนตฺถาย. อยํ ปโม เจโตขิโลติ อยํ สตฺถริ วิจิกิจฺฉาสงฺขาโต ปโม จิตฺตสฺส ถทฺธภาโว, เอวเมตสฺส ภิกฺขุโน อปฺปหีโน โหติ. ธมฺเมติ ปริยตฺติธมฺเม จ ปฏิเวธธมฺเม จ. ปริยตฺติธมฺเม กงฺขมาโน, เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ จตุราสีติ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานีติ วทนฺติ, อตฺถิ นุ โข เอตํ นตฺถีติ กงฺขติ. ปฏิเวธธมฺเม กงฺขมาโน วิปสฺสนานิสฺสนฺโท มคฺโค นาม, มคฺคนิสฺสนฺโท ผลํ นาม, สพฺพสงฺขารปฏินิสฺสคฺโค นิพฺพานํ นามาติ วทนฺติ. ตํ อตฺถิ นุ โข นตฺถีติ กงฺขติ. สงฺเฆ กงฺขตีติ สุปฺปฏิปนฺโนติอาทีนํ ปทานํ วเสน เอวรูปํ ปฏิปทํ ปฏิปนฺนา ¶ จตฺตาโร มคฺคฏฺา จตฺตาโร ผลฏฺาติ อฏฺนฺนํ ปุคฺคลานํ สมูหภูโต สงฺโฆ นาม, โส อตฺถิ นุ โข นตฺถีติ กงฺขติ. สิกฺขาย กงฺขมาโน อธิสีลสิกฺขา นาม อธิจิตฺตสิกฺขา นาม อธิปฺาสิกฺขา ¶ นามาติ วทนฺติ. สา อตฺถิ นุ โข นตฺถีติ กงฺขติ. อยํ ปฺจโมติ อยํ สพฺรหฺมจารีสุ โกปสงฺขาโต ปฺจโม จิตฺตสฺส ถทฺธภาโว กจวรภาโว ขาณุกภาโว.
๑๘๖. วินิพนฺเธสุ ¶ กาเมติ วตฺถุกาเมปิ กิเลสกาเมปิ. กาเยติ อตฺตโน กาเย. รูเปติ พหิทฺธา รูเป. ยาวทตฺถนฺติ ยตฺตกํ อิจฺฉติ, ตตฺตกํ. อุทราวเทหกนฺติ อุทรปูรํ. ตฺหิ อุทรํ อวเทหนโต อุทราวเทหกนฺติ วุจฺจติ. เสยฺยสุขนฺติ มฺจปีสุขํ, อุตุสุขํ วา. ปสฺสสุขนฺติ ยถา สมฺปริวตฺตกํ สยนฺตสฺส ทกฺขิณปสฺสวามปสฺสานํ สุขํ โหติ, เอวํ อุปฺปนฺนสุขํ. มิทฺธสุขนฺติ นิทฺทาสุขํ. อนุยุตฺโตติ ยุตฺตปยุตฺโต วิหรติ.
ปณิธายาติ ปตฺถยิตฺวา. สีเลนาติอาทีสุ สีลนฺติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. วตนฺติ วตสมาทานํ. ตโปติ ตปจรณํ. พฺรหฺมจริยนฺติ เมถุนวิรติ. เทโว วา ภวิสฺสามีติ มเหสกฺขเทโว วา ภวิสฺสามิ. เทวฺตโร วาปิ อปฺเปสกฺขเทเวสุ วา อฺตโร.
๑๘๙. อิทฺธิปาเทสุ ฉนฺทํ นิสฺสาย ปวตฺโต สมาธิ ฉนฺทสมาธิ. ปธานภูตา สงฺขารา ปธานสงฺขารา. สมนฺนาคตนฺติ เตหิ ธมฺเมหิ อุเปตํ. อิทฺธิยา ปาทํ, อิทฺธิภูตํ วา ปาทนฺติ อิทฺธิปาทํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย, อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน อิทฺธิปาทวิภงฺเค อาคโต เยว. วิสุทฺธิมคฺเคปิสฺส อตฺโถ ทีปิโต. อิติ อิเมหิ จตูหิ อิทฺธิปาเทหิ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ กถิตํ. อุสฺโสฬฺหีเยว ปฺจมีติ เอตฺถ อุสฺโสฬฺหีติ สพฺพตฺถ กตฺตพฺพวีริยํ ทสฺเสติ. อุสฺโสฬฺหีปนฺนรสงฺคสมนฺนาคโตติ ปฺจ เจโตขิลปฺปหานานิ ปฺจ วินิพนฺธปฺปหานานิ จตฺตาโร อิทฺธิปาทา อุสฺโสฬฺหีติ เอวํ อุสฺโสฬฺหิยา สทฺธึ ปนฺนรสหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต. ภพฺโพติ อนุรูโป, อนุจฺฉวิโก. อภินิพฺภิทายาติ าเณน กิเลสเภทาย. สมฺโพธายาติ จตุมคฺคสมฺโพธาย. อนุตฺตรสฺสาติ เสฏฺสฺส. โยคกฺเขมสฺสาติ จตูหิ โยเคหิ เขมสฺส อรหตฺตสฺส. อธิคมายาติ ปฏิลาภาย. เสยฺยถาติ โอปมฺมตฺเถ นิปาโต. ปีติ สมฺภาวนตฺเถ. อุภเยนปิ เสยฺยถาปิ นาม, ภิกฺขเวติ ทสฺเสติ ¶ .
กุกฺกุฏิยา ¶ อณฺฑานิ อฏฺ วา ทส วา ทฺวาทส วาติ เอตฺถ ปน กิฺจาปิ กุกฺกุฏิยา วุตฺตปฺปการโต อูนาธิกานิปิ อณฺฑานิ โหนฺติ, วจนสิลิฏฺตาย ปน เอวํ วุตฺตํ. เอวฺหิ โลเก สิลิฏฺํ วจนํ โหติ. ตานสฺสูติ ตานิ อสฺสุ, ภเวยฺยุนฺติ อตฺโถ. กุกฺกุฏิยา สมฺมา อธิสยิตานีติ ตาย ชเนตฺติยา กุกฺกุฏิยา ปกฺเข ปสาเรตฺวา เตสํ อุปริ สยนฺติยา สมฺมา อธิสยิตานิ. สมฺมา ปริเสทิตานีติ กาเลน กาลํ อุตุํ คาหาเปนฺติยา สุฏฺุ สมนฺตโต เสทิตานิ ¶ อุสฺมีกตานิ. สมฺมา ปริภาวิตานีติ กาเลน กาลํ สุฏฺุ สมนฺตโต ภาวิตานิ, กุกฺกุฏคนฺธํ คาหาปิตานีติ อตฺโถ. กิฺจาปิ ตสฺสา กุกฺกุฏิยาติ ตสฺสา กุกฺกุฏิยา อิมํ ติวิธกิริยากรเณน อปฺปมาทํ กตฺวา กิฺจาปิ น เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย. อถ โข ภพฺพาว เตติ อถ โข เต กุกฺกุฏโปตกา วุตฺตนเยน โสตฺถินา อภินิพฺภิชฺชิตุํ ภพฺพาว. เต หิ ยสฺมา ตาย กุกฺกุฏิยา เอวํ ตีหากาเรหิ ตานิ อณฺฑานิ ปริปาลียมานานิ น ปูตีนิ โหนฺติ. โยปิ เนสํ อลฺลสิเนโห, โสปิ ปริยาทานํ คจฺฉติ, กปาลํ ตนุกํ โหติ, ปาทนขสิขา จ มุขตุณฺฑกฺจ ขรํ โหติ, สยํ ปริปากํ คจฺฉติ, กปาลสฺส ตนุตฺตา พหิ อาโลโก อนฺโต ปฺายติ, ตสฺมา ‘‘จิรํ วต มยํ สงฺกุฏิตหตฺถปาทา สมฺพาเธ สยิมฺหา, อยฺจ พหิ อาโลโก ทิสฺสติ, เอตฺถ ทานิ โน สุขวิหาโร ภวิสฺสตี’’ติ นิกฺขมิตุกามา หุตฺวา กปาลํ ปาเทน ปหรนฺติ, คีวํ ปสาเรนฺติ, ตโต ตํ กปาลํ ทฺเวธา ภิชฺชติ. อถ เต ปกฺเข วิธุนนฺตา ตงฺขณานุรูปํ วิรวนฺตา นิกฺขมนฺติเยว, นิกฺขมิตฺวา จ คามกฺเขตฺตํ อุปโสภยมานา วิจรนฺติ.
เอวเมว โขติ อิทํ โอปมฺมสมฺปฏิปาทนํ. ตํ เอวํ อตฺเถน สํสนฺเทตฺวา เวทิตพฺพํ – ตสฺสา กุกฺกุฏิยา อณฺเฑสุ ติวิธกิริยากรณํ วิย หิ อิมสฺส ภิกฺขุโน อุสฺโสฬฺหีปนฺนรเสหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตภาโว. กุกฺกุฏิยา ติวิธกิริยาสมฺปาทเนน อณฺฑานํ อปูติภาโว วิย ปนฺนรสงฺคสมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน วิปสฺสนาาณสฺส อปริหานิ. ตสฺสา ติวิธกิริยากรเณน อณฺฑานํ อลฺลสิเนหปริยาทานํ วิย ตสฺส ภิกฺขุโน ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน ภวตฺตยานุคตนิกนฺติสิเนหปริยาทานํ ¶ . อณฺฑกลาปานํ ตนุภาโว วิย ¶ ภิกฺขุโน อวิชฺชณฺฑโกสสฺส ตนุภาโว. กุกฺกุฏโปตกานํ ปาทนขมุตุณฺฑกานํ ถทฺธขรภาโว วิย ภิกฺขุโน วิปสฺสนาาณสฺส ติกฺขขรวิปฺปสนฺนสูรภาโว. กุกฺกุฏโปตกานํ ปริณามกาโล วิย ภิกฺขุโน วิปสฺสนาาณสฺส ปริณามกาโล วฑฺฒิตกาโล คพฺภคฺคหณกาโล. กุกฺกุฏโปตกานํ ปาทนขสิขาย วา มุขตุณฺฑเกน วา อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ปกฺเข ปปฺโผเฏตฺวา โสตฺถินา อภินิกฺขมนกาโล วิย ตสฺส ภิกฺขุโน วิปสฺสนาาณคพฺภํ คณฺหาเปตฺวา วิจรนฺตสฺส ตชฺชาติกํ อุตุสปฺปายํ วา โภชนสปฺปายํ วา ปุคฺคลสปฺปายํ วา ธมฺมสฺสวนสปฺปายํ วา ลภิตฺวา เอกาสเน นิสินฺนสฺเสว วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺตสฺส อนุปุพฺพาธิคเตน อรหตฺตมคฺเคน อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา อภิฺาปกฺเข ปปฺโผเฏตฺวา โสตฺถินา ¶ อรหตฺตปฺปตฺตกาโล เวทิตพฺโพ. ยถา ปน กุกฺกุฏโปตกานํ ปริณตภาวํ ตฺวา มาตาปิ อณฺฑโกสํ ภินฺทติ, เอวํ ตถารูปสฺส ภิกฺขุโน าณปริปากํ ตฺวา สตฺถาปิ –
‘‘อุจฺฉินฺท สิเนหมตฺตโน, กุมุทํ สารทิกํว ปาณินา;
สนฺติมคฺคเมว พฺรูหย, นิพฺพานํ สุคเตน เทสิต’’นฺติ. (ธ. ป. ๒๘๕) –
อาทินา นเยน โอภาสํ ผริตฺวา คาถาย อวิชฺชณฺฑโกสํ ปหรติ, โส คาถาปริโยสาเน อวิชฺชาณฺฑโกสํ ภินฺทิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตโต ปฏฺาย ยถา เต กุกฺกุฏโปตกา คามกฺเขตฺตํ อุปโสภยมานา ตตฺถ ตตฺถ วิจรนฺติ, เอวํ อยมฺปิ มหาขีณาสโว นิพฺพานรมฺมณํ ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา สงฺฆารามํ อุปโสภยมาโน วิจรติ.
อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต จตฺตาริ ปหานานิ กถิตานิ. กถํ? เจโตขิลานฺหิ เจโตวินิพนฺธานํ ปหาเนน ปฏิสงฺขานปฺปปหานํ กถิตํ, อิทฺธิปาเทหิ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ กถิต, มคฺเค อาคเต สมุจฺเฉทปฺปหานํ กถิตํ, ผเล อาคเต ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ กถิตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
เจโตขิลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. วนปตฺถปริยายสุตฺตวณฺณนา
๑๙๐. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ วนปตฺถปริยายํ. ตตฺถ วนปตฺถปริยายนฺติ วนปตฺถการณํ, วนปตฺถเทสนํ วา.
๑๙๑. วนปตฺถํ อุปนิสฺสาย วิหรตีติ มนุสฺสูปจาราติกฺกนฺตํ วนสณฺฑเสนาสนํ นิสฺสาย สมณธมฺมํ กโรนฺโต วิหรติ. อนุปฏฺิตาติอาทีสุ ปุพฺเพ อนุปฏฺิตา สติ ตํ อุปนิสฺสาย วิหรโตปิ น อุปฏฺาติ, ปุพฺเพ อสมาหิตํ จิตฺตํ น สมาธิยติ, ปุพฺเพ อปริกฺขีณา อาสวา น ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, ปุพฺเพ อนนุปฺปตฺตํ อนุตฺตรํ โยคกฺเขมสงฺขาตํ อรหตฺตฺจ น ปาปุณาตีติ อตฺโถ. ชีวิตปริกฺขาราติ ชีวิตสมฺภารา. สมุทาเนตพฺพาติ สมาหริตพฺพา. กสิเรน สมุทาคจฺฉนฺตีติ ทุกฺเขน อุปฺปชฺชนฺติ. รตฺติภาคํ วา ทิวสภาคํ วาติ รตฺติโกฏฺาเส วา ทิวสโกฏฺาเส วา. เอตฺถ จ รตฺติภาเค ปฏิสฺจิกฺขมาเนน ตฺวา รตฺตึเยว ปกฺกมิตพฺพํ, รตฺตึ จณฺฑวาฬาทีนํ ปริพนฺเธ สติ อรุณุคฺคมนํ อาคเมตพฺพํ. ทิวสภาเค ตฺวา ทิวาว ปกฺกมิตพฺพํ, ทิวา ปริพนฺเธ สติ สูริยตฺถงฺคมนํ อาคเมตพฺพํ.
๑๙๒. สงฺขาปีติ เอวํ สมณธมฺมสฺส อนิปฺผชฺชนภาวํ ชานิตฺวา. อนนฺตรวาเร ปน สงฺขาปีติ เอวํ สมณธมฺมสฺส นิปฺผชฺชนภาวํ ชานิตฺวา.
๑๙๔. ยาวชีวนฺติ ยาว ชีวิตํ ปวตฺตติ, ตาว วตฺถพฺพเมว.
๑๙๕. โส ปุคฺคโลติ ปทสฺส นานุพนฺธิตพฺโพติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อนาปุจฺฉาติ อิธ ปน ตํ ปุคฺคลํ อนาปุจฺฉา ปกฺกมิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
๑๙๗. สงฺขาปีติ เอวํ สมณธมฺมสฺส อนิปฺผชฺชนภาวํ ตฺวา โส ปุคฺคโล นานุพนฺธิตพฺโพ, ตํ อาปุจฺฉา ปกฺกมิตพฺพํ.
๑๙๘. อปิ ¶ ปนุชฺชมาเนนาปีติ อปิ นิกฺกฑฺฒียมาเนนาปิ. เอวรูโป หิ ปุคฺคโล สเจปิ ทารุกลาปสตํ วา อุทกฆฏสตํ วา วาลิกมฺพณสตํ วา ทณฺฑํ อาหราเปติ, มา อิธ วสีติ นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, ตํ ตํ ขมาเปตฺวา ยาวชีวํ วตฺถพฺพเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
วนปตฺถปริยายสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. มธุปิณฺฑิกสุตฺตวณฺณนา
๑๙๙. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ มธุปิณฺฑิกสุตฺตํ. ตตฺถ มหาวนนฺติ หิมวนฺเตน สทฺธึ เอกาพทฺธํ อโรปิมํ ชาติวนํ, น ยถา เวสาลิยํ โรปิตาโรปิตมิสฺสกํ. ทิวาวิหารายาติ ทิวา ปฏิสลฺลานตฺถาย. เพลุวลฏฺิกายาติ ตรุณเพลุวรุกฺขสฺส. ทณฺฑปาณีติ น ชราทุพฺพลตาย ทณฺฑหตฺโถ. อยฺหิ ตรุโณ ปมวเย ิโต, ทณฺฑจิตฺตตาย ปน สุวณฺณทณฺฑํ คเหตฺวา วิจรติ, ตสฺมา ทณฺฑปาณีติ วุตฺโต. ชงฺฆาวิหารนฺติ ชงฺฆากิลมถวิโนทนตฺถํ ชงฺฆาจารํ. อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโนติ อารามทสฺสน-วนทสฺสน-ปพฺพตทสฺสนาทีนํ อตฺถาย อิโต จิโต จ วิจรมาโน. อธิจฺจนิกฺขมโน กิเรส กทาจิ เทว นิกฺขมิตฺวา เอวํ วิจรติ. ทณฺฑโมลุพฺภาติ ทณฺฑํ โอลุมฺภิตฺวา โคปาลกทารโก วิย ทณฺฑํ ปุรโต เปตฺวา ทณฺฑมตฺถเก ทฺเว หตฺเถ ปติฏฺาเปตฺวา ปิฏฺิปาณึ หนุเกน อุปฺปีเฬตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ.
๒๐๐. กึวาทีติ กึทิฏฺิโก. กิมกฺขายีติ กึ กเถติ. อยํ ราชา ภควนฺตํ อวนฺทิตฺวา ปฏิสนฺถารมตฺตกเมว กตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉติ. ตมฺปิ น อฺาตุกามตาย, อจิตฺตีกาเรน ปุจฺฉติ. กสฺมา? เทวทตฺตสฺส ปกฺขิโก กิเรส. เทวทตฺโต อตฺตโน สนฺติกํ อาคจฺฉมาเน ตถาคเต ภินฺทติ. โส กิร เอวํ วเทติ ‘‘สมโณ โคตโม อมฺหากํ กุเลน สทฺธึ เวรี, น โน กุลสฺส วุทฺธึ อิจฺฉติ. ภคินีปิ เม จกฺกวตฺติปริโภคา, ตํ ปหาย ‘นสฺสเตสา’ติ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิ. ภาคิเนยฺโยปิ เม จกฺกวตฺติพีชนฺติ ตฺวา อมฺหากํ กุลสฺส วฑฺฒิยา อตุสฺสนฺโต ‘นสฺสเตต’นฺติ ตมฺปิ ทหรกาเลเยว ปพฺพาเชสิ. อหํ ปน เตน วินา วตฺติตุํ อสกฺโกนฺโต อนุปพฺพชิโต. เอวํ ปพฺพชิตมฺปิ มํ ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย น อุชุเกหิ อกฺขีหิ โอโลเกติ. ปริสมชฺเฌ ภาสนฺโตปิ มหาผรสุนา ปหรนฺโต วิย อาปายิโก เทวทตฺโตติอาทีนิ ภาสตี’’ติ. เอวํ อยมฺปิ ราชา เทวทตฺเตน ภินฺโน, ตสฺมา เอวมกาสิ.
อถ ¶ ภควา ยถา อยํ ราชา มยา ปฺเห ปุจฺฉิเต น กเถตีติ วตฺตุํ น ลภติ, ยถา ¶ จ ภาสิตสฺส อตฺถํ น ชานาติ, เอวมสฺส ¶ กเถสฺสามีติ ตสฺสานุจฺฉวิกํ กเถนฺโต ยถาวาที โขติอาทิมาห.
ตตฺถ น เกนจิ โลเก วิคฺคยฺห ติฏฺตีติ โลเก เกนจิ สทฺธึ วิคฺคาหิกกถํ น กโรติ น วิวทติ. ตถาคโต หิ โลเกน สทฺธึ น วิวทติ; โลโก ปน ตถาคเตน สทฺธึ อนิจฺจนฺติ วุตฺเต นิจฺจนฺติ วทมาโน, ทุกฺขํ, อนตฺตา, อสุภนฺติ วุตฺเต สุภนฺติ วทมาโน วิวทติ. เตเนวาห ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, โลเกน วิวทามิ, โลโกว โข, ภิกฺขเว, มยา วิวทติ, ตถา น, ภิกฺขเว, ธมฺมวาที เกนจิ โลกสฺมึ วิวทติ, อธมฺมวาทีว โข, ภิกฺขเว, วิวทตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๙๔). ยถาติ เยน การเณน. กาเมหีติ วตฺถุกาเมหิปิ กิเลสกาเมหิปิ. ตํ พฺราหฺมณนฺติ ตํ ขีณาสวํ พฺราหฺมณํ. อกถํกถินฺติ นิพฺพิจิกิจฺฉํ. ฉินฺนกุกฺกุจฺจนฺติ วิปฺปฏิสารกุกฺกุจฺจสฺส เจว หตฺถปาทกุกฺกุจฺจสฺส จ ฉินฺนตฺตา ฉินฺนกุกฺกุจฺจํ. ภวาภเวติ ปุนปฺปุนพฺภเว, หีนปณีเต วา ภเว, ปณีโต หิ ภโว วุทฺธิปฺปตฺโต อภโวติ วุจฺจติ. สฺาติ กิเลสสฺา. กิเลสาเยว วา อิธ สฺานาเมน วุตฺตา, ตสฺมา เยน การเณน กาเมหิ วิสํยุตฺตํ วิหรนฺตํ ตํ โลเก นินฺนาวาทึ ขีณาสวพฺราหฺมณํ กิเลสสฺา นานุเสนฺติ, ตฺจ การณํ อหํ วทามีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อิติ ภควา อตฺตโน ขีณาสวภาวํ ทีเปติ. นิลฺลาเฬตฺวาติ นีหริตฺวา กีฬาเปตฺวา. ติวิสาขนฺติ ติสาขํ. นลาฏิกนฺติ วลิภงฺคํ นลาเฏ ติสฺโส ราชิโย ทสฺเสนฺโต วลิภงฺคํ วุฏฺาเปตฺวาติ อตฺโถ. ทณฺฑโมลุพฺภาติ ทณฺฑํ อุปฺปีเฬตฺวา. ‘‘ทณฺฑมาลุพฺภา’’ติปิ ปาโ, คเหตฺวา ปกฺกามีติ อตฺโถ.
๒๐๑. อฺตโรติ นาเมน อปากโฏ เอโก ภิกฺขุ. โส กิร อนุสนฺธิกุสโล, ภควตา ยถา ทณฺฑปาณี น ชานาติ, ตถา มยา กถิตนฺติ วุตฺเต กินฺติ นุ โข ภควตา อวิฺเยฺยํ กตฺวา ปฺโห กถิโตติ อนุสนฺธึ คเหตฺวา ทสพลํ ยาจิตฺวา อิมํ ปฺหํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปากฏํ กริสฺสามีติ อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ทสนขสมุชฺชลํ ¶ อฺชลึ ปคฺคยฺห กึวาที ปน, ภนฺเต ภควาติอาทิมาห.
ยโตนิทานนฺติ ¶ ภาวนปุํสกํ เอตํ, เยน การเณน ยสฺมึ การเณ สตีติ อตฺโถ. ปปฺจสฺาสงฺขาติ เอตฺถ สงฺขาติ โกฏฺาโส. ปปฺจสฺาติ ตณฺหามานทิฏฺิปปฺจสมฺปยุตฺตา สฺา ¶ , สฺานาเมน วา ปปฺจาเยว วุตฺตา. ตสฺมา ปปฺจโกฏฺาสาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. สมุทาจรนฺตีติ ปวตฺตนฺติ. เอตฺถ เจ นตฺถิ อภินนฺทิตพฺพนฺติ ยสฺมึ ทฺวาทสายตนสงฺขาเต การเณ สติ ปปฺจสฺาสงฺขา สมุทาจรนฺติ, เอตฺถ เอกายตนมฺปิ เจ อภินนฺทิตพฺพํ อภิวทิตพฺพํ อชฺโฌสิตพฺพํ นตฺถีติ อตฺโถ. ตตฺถ อภินินฺทิตพฺพนฺติ อหํ มมนฺติ อภินนฺทิตพฺพํ. อภิวทิตพฺพนฺติ อหํ มมาติ วตฺตพฺพํ. อชฺโฌสิตพฺพนฺติ อชฺโฌสิตฺวา คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา คเหตพฺพยุตฺตํ. เอเตเนตฺถ ตณฺหาทีนํเยว อปฺปวตฺตึ กเถติ. เอเสวนฺโตติ อยํ อภินนฺทนาทีนํ นตฺถิภาโวว ราคานุสยาทีนํ อนฺโต. เอเสว นโย สพฺพตฺถ.
ทณฺฑาทานาทีสุ ปน ยาย เจตนาย ทณฺฑํ อาทิยติ, สา ทณฺฑาทานํ. ยาย สตฺถํ อาทิยติ ปรามสติ, สา สตฺถาทานํ. มตฺถกปฺปตฺตํ กลหํ. นานาคาหมตฺตํ วิคฺคหํ. นานาวาทมตฺตํ วิวาทํ. ตุวํ ตุวนฺติ เอวํ ปวตฺตํ ตุวํ ตุวํ. ปิยสฺุกรณํ เปสฺุํ. อยถาสภาวํ มุสาวาทํ กโรติ, สา มุสาวาโทติ เวทิตพฺพา. เอตฺเถเตติ เอตฺถ ทฺวาทสสุ อายตเนสุ เอเต กิเลสา. กิเลสา หิ อุปฺปชฺชมานาปิ ทฺวาทสายตนานิ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนฺติ, นิรุชฺฌมานาปิ ทฺวาทสสุ อายตเนสุเยว นิรุชฺฌนฺติ. เอวํ ยตฺถุปฺปนฺนา, ตตฺเถว นิรุทฺธา โหนฺติ. สฺวายมตฺโถ สมุทยสจฺจปฺเหน ทีเปตพฺโพ –
‘‘สา โข ปเนสา ตณฺหา กตฺถ อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, กตฺถ นิวิสมานา นิวิสตี’’ติ วตฺวา – ‘‘ยํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ. กิฺจ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ? จกฺขุ โลเก ปิยรูปํ สาตรูป’’นฺติอาทินา (วิภ. ๒๐๓) นเยน ทฺวาทสสุเยว อายตเนสุ ตสฺสา อุปฺปตฺติ จ นิโรโธ จ วุตฺโต. ยเถว จ ตณฺหา ทฺวาทสสุ อายตเนสุ อุปฺปชฺชิตฺวา ¶ นิพฺพานํ อาคมฺม นิรุทฺธาปิ อายตเนสุ ปุน สมุทาจารสฺส อภาวโต อายตเนสุเยว นิรุทฺธาติ วุตฺตา, เอวมิเมปิ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อายตเนสุ นิรุชฺฌนฺตีติ เวทิตพฺพา. อถ วา ยฺวายํ อภินนฺทนาทีนํ อภาโวว ราคานุสยาทีนํ ¶ อนฺโตติ วุตฺโต. เอตฺเถเต ราคานุสยาทีนํ อนฺโตติ ลทฺธโวหาเร นิพฺพาเน ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ. ยฺหิ ยตฺถ นตฺถิ, ตํ ตตฺถ นิรุทฺธํ นาม โหติ, สฺวายมตฺโถ นิโรธปฺเหน ทีเปตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ทุติยํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส ¶ วิตกฺกวิจารา วจีสงฺขารา ปฏิปฺปสฺสทฺธา โหนฺตี’’ติอาทิ (ปฏิ. ม. ๑.๘๓).
๒๐๒. สตฺถุ เจว สํวณฺณิโตติ สตฺถารา จ ปสํสิโต. วิฺูนนฺติ อิทมฺปิ กรณตฺเถ สามิวจนํ, ปณฺฑิเตหิ สพฺรหฺมจารีหิ จ สมฺภาวิโตติ อตฺโถ. ปโหตีติ สกฺโกติ.
๒๐๓. อติกฺกมฺเมว มูลํ อติกฺกมฺม ขนฺธนฺติ สาโร นาม มูเล วา ขนฺเธ วา ภเวยฺย, ตมฺปิ อติกฺกมิตฺวาติ อตฺโถ. เอวํสมฺปทนฺติ เอวํสมฺปตฺติกํ, อีทิสนฺติ อตฺโถ. อติสิตฺวาติ อติกฺกมิตฺวา. ชานํ ชานาตีติ ชานิตพฺพเมว ชานาติ. ปสฺสํ ปสฺสตีติ ปสฺสิตพฺพเมว ปสฺสติ. ยถา วา เอกจฺโจ วิปรีตํ คณฺหนฺโต ชานนฺโตปิ น ชานาติ, ปสฺสนฺโตปิ น ปสฺสติ, น เอวํ ภควา. ภควา ปน ชานนฺโต ชานาติเยว, ปสฺสนฺโต ปสฺสติเยว. สฺวายํ ทสฺสนปริณายกฏฺเน จกฺขุภูโต. วิทิตกรณฏฺเน าณภูโต. อวิปรีตสภาวฏฺเน ปริยตฺติธมฺมปฺปวตฺตนโต วา หทเยน จินฺเตตฺวา วาจาย นิจฺฉาริตธมฺมมโยติ ธมฺมภูโต. เสฏฺฏฺเน พฺรหฺมภูโต. อถ วา จกฺขุ วิย ภูโตติ จกฺขุภูโตติ เอวเมเตสุ ปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สฺวายํ ธมฺมสฺส วตฺตนโต วตฺตา. ปวตฺตาปนโต ปวตฺตา. อตฺถํ นีหริตฺวา ทสฺสนสมตฺถตาย อตฺถสฺส นินฺเนตา. อมตาธิคมาย ปฏิปตฺตึ ททาตีติ อมตสฺส ทาตา. อครุํ กตฺวาติ ปุนปฺปุนํ อายาจาเปนฺโตปิ หิ ครุํ กโรติ นาม, อตฺตโน สาวกปารมีาเณ ตฺวา สิเนรูปาทโต วาลุกํ อุทฺธรมาโน วิย ทุพฺพิฺเยฺยํ กตฺวา กเถนฺโตปิ ครุํ กโรติเยว นาม. เอวํ อกตฺวา อมฺเห ปุนปฺปุนํ อยาจาเปตฺวา สุวิฺเยฺยมฺปิ โน กตฺวา กเถหีติ วุตฺตํ โหติ.
๒๐๔. ยํ ¶ โข โน อาวุโสติ เอตฺถ กิฺจาปิ ‘‘ยํ โข โว’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา, เต ปน ภิกฺขู อตฺตนา สทฺธึ สงฺคณฺหนฺโต ‘‘ยํ โข โน’’ติ อาห. ยสฺมา วา อุทฺเทโสว เตสํ อุทฺทิฏฺโว. ภควา ปน เถรสฺสาปิ เตสมฺปิ ¶ ภควาว. ตสฺมา ภควาติ ปทํ สนฺธายปิ เอวมาห, ยํ โข อมฺหากํ ภควา ตุมฺหากํ สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวาติ อตฺโถ.
จกฺขฺุจาวุโสติอาทีสุ อยมตฺโถ, อาวุโส, นิสฺสยภาเวน จกฺขุปสาทฺจ อารมฺมณภาเวน ¶ จตุสมุฏฺานิกรูเป จ ปฏิจฺจ จกฺขุวิฺาณํ นาม อุปฺปชฺชติ. ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโสติ เตสํ ติณฺณํ สงฺคติยา ผสฺโส นาม อุปฺปชฺชติ. ตํ ผสฺสํ ปฏิจฺจ สหชาตาทิวเสน ผสฺสปจฺจยา เวทนา อุปฺปชฺชติ. ตาย เวทนาย ยํ อารมฺมณํ เวเทติ, ตเทว สฺา สฺชานาติ, ยํ สฺา สฺชานาติ, ตเทว อารมฺมณํ วิตกฺโก วิตกฺเกติ. ยํ วิตกฺโก วิตกฺเกติ, ตเทวารมฺมณํ ปปฺโจ ปปฺเจติ. ตโตนิทานนฺติ เอเตหิ จกฺขุรูปาทีหิ การเณหิ. ปุริสํ ปปฺจสฺาสงฺขา สมุทาจรนฺตีติ ตํ อปริฺาตการณํ ปุริสํ ปปฺจโกฏฺาสา อภิภวนฺติ, ตสฺส ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. ตตฺถ ผสฺสเวทนาสฺา จกฺขุวิฺาเณน สหชาตา โหนฺติ. วิตกฺโก จกฺขุวิฺาณานนฺตราทีสุ สวิตกฺกจิตฺเตสุ ทฏฺพฺโพ. ปปฺจสงฺขา ชวเนน สหชาตา โหนฺติ. ยทิ เอวํ กสฺมา อตีตานาคตคฺคหณํ กตนฺติ? ตถา อุปฺปชฺชนโต. ยเถว หิ เอตรหิ จกฺขุทฺวาริโก ปปฺโจ จกฺขฺุจ รูเป จ ผสฺสเวทนาสฺาวิตกฺเก จ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺโน, เอวเมวํ อตีตานาคเตสุปิ จกฺขุวิฺเยฺเยสุ รูเปสุ ตสฺสุปฺปตฺตึ ทสฺเสนฺโต เอวมาห.
โสตฺจาวุโสติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ฉฏฺทฺวาเร ปน มนนฺติ ภวงฺคจิตฺตํ. ธมฺเมติ เตภูมกธมฺมารมฺมณํ. มโนวิฺาณนฺติ อาวชฺชนํ วา ชวนํ วา. อาวชฺชเน คหิเต ผสฺสเวทนาสฺาวิตกฺกา อาวชฺชนสหชาตา โหนฺติ. ปปฺโจ ชวนสหชาโต. ชวเน คหิเต สหาวชฺชนกํ ภวงฺค มโน นาม โหติ, ตโต ผสฺสาทโย สพฺเพปิ ชวเนน สหชาตาว. มโนทฺวาเร ปน ยสฺมา อตีตาทิเภทํ สพฺพมฺปิ อารมฺมณํ โหติ, ตสฺมา อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเนสูติ อิทํ ยุตฺตเมว.
อิทานิ ¶ วฏฺฏํ ทสฺเสนฺโต โส วตาวุโสติ เทสนํ อารภิ. ผสฺสปฺตฺตึ ปฺเปสฺสตีติ ผสฺโส นาม เอโก ธมฺโม อุปฺปชฺชตีติ เอวํ ผสฺสปฺตฺตึ ปฺเปสฺสติ, ทสฺเสสฺสตีติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. เอวํ อิมสฺมึ สติ อิทํ โหตีติ ทฺวาทสายตนวเสน สกลํ วฏฺฏํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ทฺวาทสายตนปฏิกฺเขปวเสน วิวฏฺฏํ ทสฺเสนฺโต โส วตาวุโส จกฺขุสฺมึ ¶ อสตีติ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เอวํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชตฺวา อิทานิ สาวเกน ปฺโห กถิโตติ มา นิกฺกงฺขา อหุวตฺถ, อยํ ¶ ภควา สพฺพฺุตาณตุลํ คเหตฺวา นิสินฺโน, อิจฺฉมานา ตเมว อุปสงฺกมิตฺวา นิกฺกงฺขา โหถาติ อุยฺโยเชนฺโต อากงฺขมานา จ ปนาติอาทิมาห.
๒๐๕. อิเมหิ อากาเรหีติ อิเมหิ การเณหิ ปปฺจุปฺปตฺติยา ปาฏิเยกฺกการเณหิ เจว วฏฺฏวิวฏฺฏการเณหิ จ. อิเมหิ ปเทหีติ อิเมหิ อกฺขรสมฺปิณฺฑเนหิ. พฺยฺชเนหีติ ปาฏิเยกฺกอกฺขเรหิ. ปณฺฑิโตติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคโต. จตูหิ วา การเณหิ ปณฺฑิโต ธาตุกุสโล อายตนกุสโล ปจฺจยาการกุสโล การณาการณกุสโลติ. มหาปฺโติ มหนฺเต อตฺเถ มหนฺเต ธมฺเม มหนฺตา นิรุตฺติโย มหนฺตานิ ปฏิภานานิ ปริคฺคหณสมตฺถาย มหาปฺาย สมนฺนาคโต. ยถา ตํ มหากจฺจาเนนาติ ยถา มหากจฺจาเนน พฺยากตํ, ตํ สนฺธาย ตนฺติ วุตฺตํ. ยถา มหากจฺจาเนน พฺยากตํ, อหมฺปิ ตํ เอวเมวํ พฺยากเรยฺเยนฺติ อตฺโถ.
มธุปิณฺฑิกนฺติ มหนฺตํ คุฬปูวํ พทฺธสตฺตุคุฬกํ วา. อเสจนกนฺติ อเสจิตพฺพกํ. สปฺปิผาณิตมธุสกฺกราทีสุ อิทํ นาเมตฺถ มนฺทํ อิทํ พหุกนฺติ น วตฺตพฺพํ สมโยชิตรสํ. เจตโสติ จินฺตกชาติโก. ทพฺพชาติโกติ ปณฺฑิตสภาโว. โก นาโม อยนฺติ อิทํ เถโร อติภทฺทโก อยํ ธมฺมปริยาโย, ทสพลสฺส สพฺพฺุตฺาเณเนวสฺส นามํ คณฺหาเปสฺสามีติ จินฺเตตฺวา อาห. ตสฺมาติ ยสฺมา มธุปิณฺฑิโก วิย มธุโร, ตสฺมา มธุปิณฺฑิกปริยาโยตฺเวว นํ ธาเรหีติ วทติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มธุปิณฺฑิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ทฺเวธาวิตกฺกสุตฺตวณฺณนา
๒๐๖. ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ ทฺเวธาวิตกฺกสุตฺตํ. ตตฺถ ทฺวิธา กตฺวา ทฺวิธา กตฺวาติ ทฺเว ทฺเว ภาเค กตฺวา. กามวิตกฺโกติ กามปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก. พฺยาปาทวิตกฺโกติ พฺยาปาทปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก. วิหึสาวิตกฺโกติ วิหึสาปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก. เอกํ ภาคนฺติ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริโก วา สุขุโม วา สพฺโพ ปายํ วิตกฺโก อกุสลปกฺขิโกเยวาติ ตโยปิ กามพฺยาปาทวิหึสาวิตกฺเก เอกํ โกฏฺาสมกาสึ. กาเมหิ นิสฺสโฏ เนกฺขมฺมปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก เนกฺขมฺมวิตกฺโก นาม, โส ยาว ปมชฺฌานา วฏฺฏติ. อพฺยาปาทปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก อพฺยาปาทวิตกฺโก, โส เมตฺตาปุพฺพภาคโต ปฏฺาย ยาว ปมชฺฌานา วฏฺฏติ. อวิหึสาปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก อวิหึสาวิตกฺโก, โส กรุณาปุพฺพภาคโต ปฏฺาย ยาว ปมชฺฌานา วฏฺฏติ. ทุติยํ ภาคนฺติ สพฺโพปายํ กุสลปกฺขิโกเยวาติ ทุติยํ โกฏฺาสมกาสึ. อิมินา โพธิสตฺตสฺส วิตกฺกนิคฺคหณกาโล กถิโต.
โพธิสตฺตสฺส หิ ฉพฺพสฺสานิ ปธานํ ปทหนฺตสฺส เนกฺขมฺมวิตกฺกาทโย ปฺุชปฺุชา มหานทิยํ โอฆา วิย ปวตฺตึสุ. สติสมฺโมเสน ปน สหสา กามวิตกฺกาทโย อุปฺปชฺชิตฺวา กุสลวารํ ปจฺฉินฺทิตฺวา สยํ อกุสลชวนวารา หุตฺวา ติฏฺนฺติ. ตโต โพธิสตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ อิเม กามวิตกฺกาทโย กุสลวารํ ปจฺฉินฺทิตฺวา ติฏฺนฺติ, หนฺทาหํ อิเม วิตกฺเก ทฺเว ภาเค กตฺวา วิหรามี’’ติ กามวิตกฺกาทโย อกุสลปกฺขิกาติ เอกํ ภาคํ กโรติ เนกฺขมฺมวิตกฺกาทโย กุสลปกฺขิกาติ เอกํ. อถ ปุน จินฺเตสิ – ‘‘อกุสลปกฺขโต อาคตํ วิตกฺกํ มนฺเตน กณฺหสปฺปํ อุปฺปีเฬตฺวา คณฺหนฺโต วิย อมิตฺตํ คีวาย อกฺกมนฺโต วิย จ นิคฺคเหสฺสามิ, นาสฺส วฑฺฒิตุํ ทสฺสามิ. กุสลปกฺขโต อาคตํ วิตกฺกํ เมฆสมเย เมฆํ วิย สุเขตฺเต สาลกลฺยาณิโปตกํ วิย จ สีฆํ วฑฺเฒสฺสามี’’ติ. โส ตถา กตฺวา อกุสลวิตกฺเก นิคฺคณฺหิ, กุสลวิตกฺเก วฑฺเฒสิ. เอวํ อิมินา โพธิสตฺตสฺส วิตกฺกนิคฺคหณนกาโล กถิโตติ เวทิตพฺโพ.
๒๐๗. อิทานิ ¶ ¶ ยถาสฺส เต วิตกฺกา อุปฺปชฺชึสุ, ยถา จ เน นิคฺคเหสิ, ตํ ทสฺเสนฺโต ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อปฺปมตฺตสฺสาติ สติยา ¶ อวิปฺปวาเส ิตสฺส. อาตาปิโนติ อาตาปวีริยวนฺตสฺส. ปหิตตฺตสฺสาติ เปสิตจิตฺตสฺส. อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโกติ โพธิสตฺตสฺส ฉพฺพสฺสานิ ปธานํ ปทหโต รชฺชสุขํ วา อารพฺภ, ปาสาเท วา นาฏกานิ วา โอโรเธ วา กิฺจิเทว วา สมฺปตฺตึ อารพฺภ กามวิตกฺโก นาม น อุปฺปนฺนปุพฺโพ. ทุกฺกรการิกาย ปนสฺส อาหารูปจฺเฉเทน อธิมตฺตกสิมานํ ปตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘น สกฺกา อาหารูปจฺเฉเทน วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ, ยํนูนาหํ โอฬาริกํ อาหารํ อาหาเรยฺย’’นฺติ. โส อุรุเวลํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. มนุสฺสา – ‘‘มหาปุริโส ปุพฺเพ อาหริตฺวา ทินฺนมฺปิ น คณฺหิ, อทฺธาสฺส อิทานิ มโนรโถ มตฺถกํ ปตฺโต, ตสฺมา สยเมว อาคโต’’ติ ปณีตปณีตํ อาหารํ อุปหรึสุ. โพธิสตฺตสฺส อตฺตภาโว นจิรสฺเสว ปากติโก อโหสิ. ชราชิณฺณตฺตภาโว หิ สปฺปายโภชนํ ลภิตฺวาปิ ปากติโก น โหติ. โพธิสตฺโต ปน ทหโร. เตนสฺส สปฺปายโภชนํ ภฺุชโต อตฺตภาโว น จิรสฺเสว ปากติโก ชาโต, วิปฺปสนฺนานิ อินฺทฺริยานิ, ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ, สมุคฺคตตาราคณํ วิย นภํ ปริปุณฺณทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณปฺปฏิมณฺฑิตสรีรํ อโหสิ. โส ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘ตาว กิลนฺโต นาม อตฺตภาโว เอวํ ปฏิปากติโก ชาโต’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตโน ปฺามหนฺตตาย เอวํ ปริตฺตกมฺปิ วิตกฺกํ คเหตฺวา กามวิตกฺโกติ อกาสิ.
ปณฺณสาลาย ปุรโต นิสินฺโน จมรปสทควยโรหิตมิคาทิเก มคคเณ มนฺุสทฺทรวเน โมรวนกุกฺกุฏาทิเก ปกฺขิคเณ นีลุปฺปลกุมุทกมลาทิสฺฉนฺนานิ ปลฺลลานิ นานากุสุมสฺฉนฺนวิฏปา วนราชิโย มณิกฺขนฺธนิมฺมลชลปวาหฺจ นทึ เนรฺชรํ ปสฺสติ. ตสฺส เอวํ โหติ ‘‘โสภนา วติเม มิคชาตา ปกฺขิคณา ปลฺลลานิ วนราชิโย นที เนรฺชรา’’ติ. โส ตมฺปิ เอวํ ปริตฺตกํ วิตกฺกํ คเหตฺวา กามวิตกฺกมกาสิ, เตนาห ‘‘อุปฺปชฺชติ กามวิตกฺโก’’ติ.
อตฺตพฺยาพาธายปีติ ¶ อตฺตทุกฺขายปิ. เอเสวนโย สพฺพตฺถ. กึ ปน มหาสตฺตสฺส อุภยทุกฺขาย สํวตฺตนกวิตกฺโก นาม อตฺถีติ? นตฺถิ. อปริฺายํ ิตสฺส ปน วิตกฺโก ยาว อุภยพฺยาพาธาย สํวตฺตตีติ เอตานิ ตีณิ นามานิ ลภติ, ตสฺมา เอวมาห. ปฺานิโรธิโกติ ¶ อนุปฺปนฺนาย ¶ โลกิยโลกุตฺตราย ปฺาย อุปฺปชฺชิตุํ น เทติ, โลกิยปฺํ ปน อฏฺสมาปตฺติปฺจาภิฺาวเสน อุปฺปนฺนมฺปิ สมุจฺฉินฺทิตฺวา ขิปตีติ ปฺานิโรธิโก. วิฆาตปกฺขิโกติ ทุกฺขโกฏฺาสิโก. อสงฺขตํ นิพฺพานํ นาม, ตํ ปจฺจกฺขํ กาตุํ น เทตีติ อนิพฺพานสํวตฺตนิโก. อพฺภตฺถํ คจฺฉตีติ ขยํ นตฺถิภาวํ คจฺฉติ. อุทกปุปฺผุฬโก วิย นิรุชฺฌติ. ปชหเมวาติ ปชหิเมว. วิโนทเมวาติ นีหริเมว. พฺยนฺตเมว นํ อกาสินฺติ วิคตนฺตํ นิสฺเสสํ ปริวฏุมํ ปริจฺฉินฺนเมว นํ อกาสึ.
๒๐๘. พฺยาปาทวิตกฺโกติ น โพธิสตฺตสฺส ปรูปฆาตปฺปฏิสํยุตฺโต นาม วิตกฺโก จิตฺเต อุปฺปชฺชติ, อถสฺส อติวสฺสอจฺจุณฺหอติสีตาทีนิ ปน ปฏิจฺจ จิตฺตวิปริณามภาโว โหติ, ตํ สนฺธาย ‘‘พฺยาปาทวิตกฺโก’’ติ อาห. วิหึสาวิตกฺโกติ น มหาสตฺตสฺส ปเรสํ ทุกฺขุปฺปาทนปฺปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก อุปฺปชฺชติ, จิตฺเต ปน อุทฺธตากาโร อเนกคฺคตากาโร โหติ, ตํ คเหตฺวา วิหึสาวิตกฺกมกาสิ. ปณฺณสาลาทฺวาเร นิสินฺโน หิ สีหพฺยคฺฆาทิเก วาฬมิเค สูกราทโย ขุทฺทมิเค วิหึสนฺเต ปสฺสติ. อถ โพธิสตฺโต อิมสฺมิมฺปิ นาม อกุโตภเย อรฺเ อิเมสํ ติรจฺฉานคตานํ ปจฺจตฺถิกา อุปฺปชฺชนฺติ, พลวนฺโต ทุพฺพเล ขาทนฺติ, พลวนฺตขาทิตา วตฺตนฺตีติ การฺุํ อุปฺปาเทติ. อฺเปิ พิฬาราทโย กุกฺกุฏมูสิกาทีนิ ขาทนฺเต ปสฺสติ, คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ มนุสฺเส ราชกมฺมิเกหิ อุปทฺทุเต วธพนฺธาทีนิ อนุภวนฺเต อตฺตโน กสิวณิชฺชาทีนิ กมฺมานิ กตฺวา ชีวิตุํ น ลภนฺตีติ การฺุํ อุปฺปาเทติ, ตํ สนฺธาย ‘‘อุปฺปชฺชติ วิหึสาวิตกฺโก’’ติ อาห. ตถา ตถาติ เตน เตน อากาเรน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กามวิตกฺกาทีสุ ยํ ยํ วิตกฺเกติ, ยํ ยํ วิตกฺกํ ปวตฺเตติ, เตน เตเน จสฺสากาเรน กามวิตกฺกาทิภาโว เจตโส ¶ น หิ โหตีติ. ปหาสิ เนกฺขมฺมวิตกฺกนฺติ เนกฺขมฺมวิตกฺกํ ปชหติ. พหุลมกาสีติ พหุลํ กโรติ. ตสฺส ตํ กามวิตกฺกาย จิตฺตนฺติ ตสฺส ตํ จิตฺตํ กามวิตกฺกตฺถาย. ยถา กามวิตกฺกสมฺปยุตฺตํ ¶ โหติ, เอวเมวํ นมตีติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
อิทานิ อตฺถทีปิกํ อุปมํ ทสฺเสนฺโต เสยฺยถาปี ติอาทิมาห. ตตฺถ กิฏฺสมฺพาเธติ สสฺสสมฺพาเธ. อาโกเฏยฺยาติ อุชุกํ ปิฏฺิยํ ปหเรยฺย. ปฏิโกเฏยฺยาติ ติริยํ ผาสุกาสุ ปหเรยฺย. สนฺนิรุนฺเธยฺยาติ อาวริตฺวา ติฏฺเยฺย. สนฺนิวาเรยฺยาติ อิโต จิโต จ คนฺตุํ น ทเทยฺย ¶ . ตโตนิทานนฺติ เตน การเณน, เอวํ อรกฺขิตานํ คุนฺนํ ปเรสํ สสฺสขาทนการเณนาติ อตฺโถ. พาโล หิ โคปาโลโก เอวํ คาโว อรกฺขมาโน ‘‘อยํ อมฺหากํ ภตฺตเวตนํ ขาทติ, อุชุํ คาโว รกฺขิตุมฺปิ น สกฺโกติ, กุเลหิ สทฺธึ เวรํ คณฺหาเปตี’’ติ โคสามิกานมฺปิ สนฺติกา วธาทีนิ ปาปุณาติ, กิฏฺสามิกานมฺปิ. ปณฺฑิโต ปน อิมานิ จตฺตาริ ภยานิ สมฺปสฺสนฺโต คาโว สาธุกํ รกฺขติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อาทีนวนฺติ อุปทฺทวํ. โอการนฺติ ลามกํ, ขนฺเธสุ วา โอตารํ. สํกิเลสนฺติ กิลิฏฺภาวํ. เนกฺขมฺเมติ เนกฺขมฺมมฺหิ. อานิสํสนฺติ วิสุทฺธิปกฺขํ. โวทานปกฺขนฺติ อิทํ ตสฺเสว เววจนํ, กุสลานํ ธมฺมานํ เนกฺขมฺมมฺหิ วิสุทฺธิปกฺขํ อทฺทสนฺติ อตฺโถ.
๒๐๙. เนกฺขมฺมนฺติ จ กาเมหิ นิสฺสฏํ สพฺพกุสลํ, เอกธมฺเม สงฺคยฺหมาเน นิพฺพานเมว. ตตฺริทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – กิฏฺสมฺพาธํ วิย หิ รูปาทิอารมฺมณํ, กูฏคาโว วิย กูฏจิตฺตํ, ปณฺฑิตโคปาลโก วิย โพธิสตฺโต, จตุพฺพิธภยํ วิย อตฺตปรูภยพฺยาพาธาย สํวตฺตนวิตกฺโก, ปณฺฑิตโคปาลกสฺส จตุพฺพิธํ ภยํ ทิสฺวา กิฏฺสมฺพาเธ อปฺปมาเทน โครกฺขณํ วิย โพธิสตฺตสฺส ฉพฺพสฺสานิ ปธานํ ปทหโต อตฺตพฺยาพาธาทิภยํ ทิสฺวา รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ ยถา กามวิตกฺกาทโย น อุปฺปชฺชนฺติ, เอวํ จิตฺตรกฺขณํ. ปฺาวุทฺธิโกติอาทีสุ อนุปฺปนฺนาย โลกิยโลกุตฺตรปฺาย อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนาย จ วุทฺธิยา สํวตฺตตีติ ¶ ปฺาวุทฺธิโก. น ทุกฺขโกฏฺาสาย สํวตฺตตีติ อวิฆาตปกฺขิโก. นิพฺพานธาตุสจฺฉิกิริยาย สํวตฺตตีติ นิพฺพานสํวตฺตนิโก. รตฺตึ เจปิ นํ, ภิกฺขเว, อนุวิตกฺเกยฺยนฺติ สกลรตฺตึ เจปิ ตํ วิตกฺกํ ปวตฺเตยฺยํ. ตโตนิทานนฺติ ตํมูลกํ. โอหฺเยฺยาติ อุคฺฆาตีเยยฺย, อุทฺธจฺจาย สํวตฺเตยฺยาติ ¶ อตฺโถ. อาราติ ทูเร. สมาธิมฺหาติ อุปจารสมาธิโตปิ อปฺปนาสมาธิโตปิ. โส โข อหํ, ภิกฺขเว, อชฺฌตฺตเมว จิตฺตนฺติ โส อหํ, ภิกฺขเว, มา เม จิตฺตํ สมาธิมฺหา ทูเร โหตูติ อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺเปมิ, โคจรชฺฌตฺเต เปมีติ อตฺโถ. สนฺนิสาเทมีติ ตตฺเถว จ นํ สนฺนิสีทาเปมิ. เอโกทึ กโรมีติ เอกคฺคํ กโรมิ. สมาทหามีติ สมฺมา อาทหามิ, สุฏฺุ อาโรเปมีติ อตฺโถ. มา เม จิตฺตํ อูหฺีติ มา มยฺหํ จิตฺตํ อุคฺฆาตียิตฺถ, มา อุทฺธจฺจาย สํวตฺตตูติ อตฺโถ.
๒๑๐. อุปฺปชฺชติ อพฺยาปาทวิตกฺโก…เป… อวิหึสาวิตกฺโกติ เอตฺถ โย โส อิมาย เหฏฺา ¶ วุตฺตตรุณวิปสฺสนาย สทฺธึ อุปฺปนฺนวิตกฺโก กามปจฺจนีกฏฺเน เนกฺขมฺมวิตกฺโกติ วุตฺโต. โสเยว พฺยาปาทปจฺจนีกฏฺเน อพฺยาปาทวิตกฺโกติ จ วิหึสาปจฺจนีกฏฺเน อวิหึสาวิตกฺโกติ จ วุตฺโต.
เอตฺตาวตา โพธิสตฺตสฺส สมาปตฺตึ นิสฺสาย วิปสฺสนาปฏฺปนกาโล กถิโต. ยสฺส หิ สมาธิปิ ตรุโณ, วิปสฺสนาปิ. ตสฺส วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อติจิรํ นิสินฺนสฺส กาโย กิลมติ, อนฺโต อคฺคิ วิย อุฏฺหติ, กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจนฺติ, มตฺถกโต อุสุมวฏฺฏิ วิย อุฏฺหติ, จิตฺตํ หฺติ วิหฺติ วิปฺผนฺทติ. โส ปุน สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ตํ ปริทเมตฺวา มุทุกํ กตฺวา สมสฺสาเสตฺวา ปุน วิปสฺสนํ ปฏฺเปติ. ตสฺส ปุน อติจิรํ นิสินฺนสฺส ตเถว โหติ. โส ปุน สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ตเถว กโรติ. วิปสฺสนาย หิ พหูปการา สมาปตฺติ.
ยถา โยธสฺส ผลกโกฏฺโก นาม พหูปกาโร โหติ, โส ตํ นิสฺสาย สงฺคามํ ปวิสติ, ตตฺถ หตฺถีหิปิ อสฺเสหิปิ โยเธหิปิ สทฺธึ กมฺมํ กตฺวา อาวุเธสุ วา ขีเณสุ ภฺุชิตุกามตาทิภาเว ¶ วา สติ นิวตฺติตฺวา ผลกโกฏฺกํ ปวิสิตฺวา อาวุธานิปิ คณฺหาติ, วิสฺสมติปิ, ภฺุชติปิ, ปานียมฺปิ ปิวติ, สนฺนาหมฺปิ ปฏิสนฺนยฺหติ, ตํ ตํ กตฺวา ปุน สงฺคามํ ปวิสติ, ตตฺถ กมฺมํ กตฺวา ปุน อุจฺจาราทิปีฬิโต วา เกนจิเทว วา กรณีเยน ผลกโกฏฺกํ ปวิสติ. ตตฺถ สนฺถมฺภิตฺวา ปุน ¶ สงฺคามํ ปวิสติ, เอวํ โยธสฺส ผลกโกฏฺโก วิย วิปสฺสนาย พหูปการา สมาปตฺติ.
สมาปตฺติยา ปน สงฺคามนิตฺถรณกโยธสฺส ผลกโกฏฺกโตปิ วิปสฺสนา พหูปการตรา. กิฺจาปิ หิ สมาปตฺตึ นิสฺสาย วิปสฺสนํ ปฏฺเปติ, วิปสฺสนา ปน ถามชาตา สมาปตฺติมฺปิ รกฺขติ. ถามชาตํ กโรติ.
ยถา หิ ถเล นาวมฺปิ นาวาย ภณฺฑมฺปิ สกฏภารํ กโรนฺติ. อุทกํ ปตฺวา ปน สกฏมฺปิ สกฏภณฺฑมฺปิ ยุตฺตโคเณปิ นาวาภารํ กโรนฺติ. นาวา ติริยํ โสตํ ฉินฺทิตฺวา โสตฺถินา สุปฏฺฏนํ คจฺฉติ, เอวเมวํ กิฺจาปิ สมาปตฺตึ นิสฺสาย วิปสฺสนํ ปฏฺเปติ, วิปสฺสนา ¶ ปน ถามชาตา สมาปตฺติมฺปิ รกฺขติ, ถามชาตํ กโรติ. ถลํ ปตฺวา สกฏํ วิย หิ สมาปตฺติ. อุทกํ ปตฺวา นาวา วิย วิปสฺสนา. อิติ โพธิสตฺตสฺส เอตฺตาวตา สมาปตฺตึ นิสฺสาย วิปสฺสนาปฏฺปนกาโล กถิโตติ เวทิตพฺโพ.
ยฺเทวาติอาทิ กณฺหปกฺเข วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ, อิธาปิ อตฺถทีปิกํ อุปมํ ทสฺเสตุํ เสยฺยถาปีติอาทิมาห. ตตฺถ คามนฺตสมฺภเตสูติ คามนฺตํ อาหเฏสุ. สติกรณียเมว โหตีติ เอตา คาโวติ สติอุปฺปาทนมตฺตเมว กาตพฺพํ โหติ. อิโต จิโต จ คนฺตฺวา อาโกฏนาทิกิจฺจํ นตฺถิ. เอเต ธมฺมาติ เอเต สมถวิปสฺสนา ธมฺมาติ สตุปฺปาทนมตฺตเมว กาตพฺพํ โหติ. อิมินา โพธิสตฺตสฺส สมถวิปสฺสนานํ ถามชาตกาโล กถิโต. ตทา กิรสฺส สมาปตฺตึ อปฺปนตฺถาย นิสินฺนสฺส อฏฺ สมาปตฺติโย เอกาวชฺชเนน อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา นิสินฺโน สตฺต อนุปสฺสนา เอกปฺปหาเรเนว อารุฬฺโห โหติ.
๒๑๕. เสยฺยถาปีติ อิธ กึ ทสฺเสติ? อยํ ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธิ, สตฺตานฺหิ หิตูปจารํ อตฺตโน สตฺถุภาวสมฺปทฺจ ¶ ทสฺเสนฺโต ภควา อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ อรฺเติ อฏวิยํ. ปวเนติ วนสณฺเฑ. อตฺถโต หิ อิทํ ทฺวยํ เอกเมว, ปมสฺส ปน ทุติยํ เววจนํ. อโยคกฺเขมกาโมติ จตูหิ โยเคหิ เขมํ นิพฺภยฏฺานํ อนิจฺฉนฺโต ภยเมว อิจฺฉนฺโต ¶ . โสวตฺถิโกติ สุวตฺถิภาวาวโห. ปีติคมนีโยติ ตุฏฺึ คมนีโย. ‘‘ปีตคมนีโย’’ติ วา ปาโ. ปิทเหยฺยาติ สาขาทีหิ ถเกยฺย. วิวเรยฺยาติ วิสทมุขํ กตฺวา วิวฏํ กเรยฺย. กุมฺมคฺคนฺติ อุทกวนปพฺพตาทีหิ สนฺนิรุทฺธํ อมคฺคํ. โอทเหยฺย โอกจรนฺติ เตสํ โอเก จรมานํ วิย เอกํ ทีปกมิคํ เอกสฺมึ าเน เปยฺย. โอกจาริกนฺติ ทีฆรชฺชุยา พนฺธิตํเยว มิคึ.
มิคลุทฺทโก หิ อรฺํ มิคานํ วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ‘‘อิธ วสนฺติ, อิมินา มคฺเคน นิกฺขมนฺติ, เอตฺถ จรนฺติ, เอตฺถ ปิวนฺติ, อิมินา มคฺเคน ปวิสนฺตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา มคฺคํ ปิธาย กุมฺมคฺคํ วิวริตฺวา โอกจรฺจ โอกจาริกฺจ เปตฺวา สยํ ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน สตฺตึ คเหตฺวา ติฏฺติ. อถ สายนฺหสมเย มิคา อกุโตภเย อรฺเ จริตฺวา ปานียํ ปิวิตฺวา มิคโปตเกหิ สทฺธึ กีฬมานา วสนฏฺานสนฺติกํ อาคนฺตฺวา โอกจรฺจ โอกจาริกฺจ ทิสฺวา ¶ ‘‘สหายกา โน อาคตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ นิราสงฺกา ปวิสนฺติ, เต มคฺคํ ปิหิตํ ทิสฺวา ‘‘นายํ มคฺโค, อยํ มคฺโค ภวิสฺสตี’’ติ กุมฺมคฺคํ ปฏิปชฺชนฺติ. มิคลุทฺทโก น ตาว กิฺจิ กโรติ, ปวิฏฺเสุ ปน สพฺพปจฺฉิมํ สณิกํ ปหรติ. โส อุตฺตสติ, ตโต สพฺเพ อุตฺตสิตฺวา ‘‘ภยํ อุปฺปนฺน’’นฺติ ปุรโต โอโลเกนฺตา อุทเกน วา วเนน วา ปพฺพเตน วา สนฺนิรุทฺธํ มคฺคํ ทิสฺวา อุโภหิ ปสฺเสหิ องฺคุลิสงฺขลิกํ วิย คหนวนํ ปวิสิตุํ อสกฺโกนฺตา ปวิฏฺมคฺเคเนว นิกฺขมิตุํ อารภนฺติ. ลุทฺทโก เตสํ นิวตฺตนภาวํ ตฺวา อาทิโต ปฏฺาย ตึสมฺปิ จตฺตาลีสมฺปิ มิเค ฆาเตติ. อิทํ สนฺธาย เอวฺหิ โส, ภิกฺขเว, มหามิคสงฺโฆ อปเรน สมเยน อนยพฺยสนํ อาปชฺเชยฺยาติ วุตฺตํ.
‘‘นนฺทีราคสฺเสตํ อธิวจนํ, อวิชฺชาเยตํ อธิวจน’’นฺติ เอตฺถ ยสฺมา อิเม สตฺตา อวิชฺชาย อฺาณา หุตฺวา นนฺทีราเคน อาพนฺธิตฺวา รูปารมฺมณาทีนิ อุปนีตา วฏฺฏทุกฺขสตฺติยา ¶ ฆาตํ ลภนฺติ. ตสฺมา ภควา โอกจรํ นนฺทีราโคติ, โอกจาริกํ อวิชฺชาติ กตฺวา ทสฺเสสิ.
มิคลุทฺทโก หิ เอกทาปิ เตสํ สาขาภงฺเคน สรีรํ ปฺุฉิตฺวา มนุสฺสคนฺธํ อปเนตฺวา โอกจรํ เอกสฺมึ าเน เปตฺวา โอกจาริกํ สห รชฺชุยา วิสฺสชฺเชตฺวา อตฺตานํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา สตฺตึ อาทาย โอกจรสฺส สนฺติเก ติฏฺติ, โอกจาริกา มิคคณสฺส จรณฏฺานาภิมุขี คจฺฉติ ¶ . ตํ ทิสฺวา มิคา สีสานิ อุกฺขิปิตฺวา ติฏฺนฺติ, สาปิ สีสํ อุกฺขิปิตฺวา ติฏฺติ, เต ‘‘อมฺหากํ สมชาติกา อย’’นฺติ โคจรํ คณฺหนฺติ. สาปิ ติณานิ ขาทนฺตี วิย สณิกํ อุปคจฺฉติ. อารฺิโก ยูถปติมิโค ตสฺสา วาตํ ลภิตฺวา สกภริยํ วิสฺสชฺเชตฺวา ตทภิมุโข โหติ.
สตฺตานฺหิ นวนวเมว ปิยํ โหติ. โอกจาริกา อารฺิกสฺส มิคสฺส อจฺจาสนฺนภาวํ อทตฺวา ตทภิมุขีว ปจฺฉโต ปฏิกฺกมิตฺวา โอกจรสฺส สนฺติกํ คจฺฉติ, ยตฺถ ยตฺถสฺสา รชฺชุ ลคฺคติ, ตตฺถ ตตฺถ ขุเรน ปหริตฺวา โมเจติ, อารฺิโก มิโค โอกจรํ ทิสฺวา โอกจาริกาย สมฺมตฺโต หุตฺวา โอกจเร อุสูยํ กตฺวา ปิฏฺึ นาเมตฺวา สีสํ กมฺเปนฺโต ติฏฺติ, ตสฺมึ ขเณ สตฺตึ ชิวฺหาย เลหนฺโตปิ ‘‘กึ เอต’’นฺติ น ชานาติ, โอกจโรปิ ¶ สจสฺส อุปริภาเคน ตํ มิคํ ปหริตุํ สุขํ โหติ, ปิฏฺึ นาเมติ. สจสฺส เหฏฺาภาเคน ปหริตุํ สุขํ โหติ, หทยํ อุนฺนาเมติ. อถ ลุทฺทโก อารฺิกํ มิคํ สตฺติยา ปหริตฺวา ตตฺเถว ฆาเตตฺวา มํสํ อาทาย คจฺฉติ. เอวเมว ยถา โส มิโค โอกจาริกาย สมฺมตฺโต โอกจเร อุสูยํ กตฺวา สตฺตึ ชิวฺหาย เลหนฺโตปิ กิฺจิ น ชานาติ, ตถา อิเม สตฺตา อวิชฺชาย สมฺมตฺตา อนฺธภูตา กิฺจิ อชานนฺตา รูปาทีสุ นนฺทีราคํ อุปคมฺม วฏฺฏทุกฺขสตฺติยา วธํ ลภนฺตีติ ภควา โอกจรํ นนฺทีราโคติ, โอกจาริกํ อวิชฺชาติ กตฺวา ทสฺเสสิ.
อิติ โข, ภิกฺขเว, วิวโฏ มยา เขโม มคฺโคติ อิติ โข, ภิกฺขเว, มยา อิเมสํ สตฺตานํ หิตจรเณน สมฺมาสมฺโพธึ ปตฺวา อหํ พุทฺโธสฺมีติ ตุณฺหีภูเตน อนิสีทิตฺวา ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนโต ปฏฺาย ธมฺมํ เทเสนฺเตน วิวโฏ เขโม อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, ปิหิโต กุมฺมคฺโค ¶ , อฺาตโกณฺฑฺาทีนํ ภพฺพปุคฺคลานํ อูหโต โอกจโร นนฺทีราโค ทฺเวธา เฉตฺวา ปาติโต, นาสิตา โอกจาริกา อวิชฺชา สพฺเพน สพฺพํ สมุคฺฆาติตาติ อตฺตโน หิตูปจารํ ทสฺเสสิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
ทฺเวธาวิตกฺกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. วิตกฺกสณฺานสุตฺตวณฺณนา
๒๑๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ วิตกฺกสณฺานสุตฺตํ. ตตฺถ อธิจิตฺตมนุยุตฺเตนาติ ทสกุสลกมฺมปถวเสน อุปฺปนฺนํ จิตฺตํ จิตฺตเมว, วิปสฺสนาปาทกอฏฺสมาปตฺติจิตฺตํ ตโต จิตฺตโต อธิกํ จิตฺตนฺติ อธิจิตฺตํ. อนุยุตฺเตนาติ ตํ อธิจิตฺตํ อนุยุตฺเตน, ตตฺถ ยุตฺตปฺปยุตฺเตนาติ อตฺโถ.
ตตฺรายํ ภิกฺขุ ปุเรภตฺตํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต นิสีทนํ อาทาย อสุกสฺมึ รุกฺขมูเล วา วนสณฺเฑ วา ปพฺพตปาเท วา ปพฺภาเร วา สมณธมฺมํ กริสฺสามีติ นิกฺขมนฺโตปิ, ตตฺถ คนฺตฺวา หตฺเถหิ วา ปาเทหิ วา นิสชฺชฏฺานโต ติณปณฺณานิ อปเนนฺโตปิ อธิจิตฺตํ อนุยุตฺโตเยว. นิสีทิตฺวา ปน หตฺถปาเท โธวิตฺวา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา มูลกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วิหรนฺโตปิ อธิจิตฺตํ อนุยุตฺโตเยว.
นิมิตฺตานีติ การณานิ. กาเลน กาลนฺติ สมเย สมเย. น นุ จ กมฺมฏฺานํ นาม มุหุตฺตมฺปิ อฉฑฺเฑตฺวา นิรนฺตรํ มนสิกาตพฺพํ, กสฺมา ภควา ‘‘กาเลน กาล’’นฺติ อาหาติ. ปาฬิยฺหิ อฏฺตึส กมฺมฏฺานานิ วิภตฺตานิ, เตสุ ภิกฺขุนา อตฺตโน จิตฺตรุจิตํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา นิสินฺเนน ยาว โกจิเทว อุปกฺกิเลโส นุปฺปชฺชติ, ตาว อิเมสํ นิมิตฺตานํ มนสิการกิจฺจํ นตฺถิ. ยทา ปน อุปฺปชฺชติ, ตทา อิมานิ คเหตฺวา จิตฺเต อุปฺปนฺนํ อพฺพุทํ นีหริตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต เอวมาห.
ฉนฺทูปสํหิตาติ ฉนฺทสหคตา ราคสมฺปยุตฺตา. อิเมสํ ปน ติณฺณํ วิตกฺกานํ เขตฺตฺจ อารมฺมณฺจ ชานิตพฺพํ. ตตฺถ ฉนฺทูปสฺหิตานํ อฏฺ ¶ โลภสหคตจิตฺตานิ เขตฺตํ, โทสูปสฺหิตานํ ทฺเว โทมนสฺสสหคตานิ, โมหูปสฺหิตานํ ทฺวาทสปิ อกุสลจิตฺตานิ. วิจิกิจฺฉาอุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตจิตฺตานิ ปน ทฺเว เอเตสํ ปาฏิปุคฺคลิกํ เขตฺตํ. สพฺเพสมฺปิ สตฺตา เจว สงฺขารา จ อารมฺมณํ, อิฏฺานิฏฺอสมเปกฺขิเตสุ หิ สตฺเตสุ จ สงฺขาเรสุ จ เต อุปฺปชฺชนฺติ ¶ . อฺมฺปิ นิมิตฺตํ มนสิกาตพฺพํ กุสลูปสํหิตนฺติ ตโต นิมิตฺตโต อฺํ กุสลนิสฺสิตํ นิมิตฺตํ มนสิกาตพฺพํ. ตตฺถ อฺํ นิมิตฺตํ นาม ฉนฺทูปสฺหิเต วิตกฺเก สตฺเตสุ อุปฺปนฺเน อสุภภาวนา อฺํ นิมิตฺตํ นาม. สงฺขาเรสุ อุปฺปนฺเน อนิจฺจมนสิกาโร อฺํ นิมิตฺตํ ¶ นาม. โทสูปสฺหิเต สตฺเตสุ อุปฺปนฺเน เมตฺตาภาวนา อฺํ นิมิตฺตํ นาม. สงฺขาเรสุ อุปฺปนฺเน ธาตุมนสิกาโร อฺํ นิมิตฺตํ นาม. โมหูปสฺหิเต ยตฺถ กตฺถจิ อุปฺปนฺเน ปฺจธมฺมูปนิสฺสโย อฺํ นิมิตฺตํ นาม.
อิมสฺส หตฺถา วา โสภนา ปาทา วาติอาทินา นเยน หิ สตฺเตสุ โลเภ อุปฺปนฺเน อสุภโต อุปสํหริตพฺพํ. กิมฺหิ สารตฺโตสิ? เกเสสุ สารตฺโตสิ. โลเมสุ…เป… มุตฺเตสุ สารตฺโตสิ. อยํ อตฺตภาโว นาม ตีหิ อฏฺิสเตหิ อุสฺสาปิโต, นวหิ นฺหารุสเตหิ อาพทฺโธ, นวหิ มํสเปสิสเตหิ อนุลิตฺโต, อลฺลจมฺเมน ปริโยนทฺโธ, ฉวิราเคน ปฏิจฺฉนฺโน, นวหิ วณมุเขหิ นวนวุติโลมกูปสหสฺเสหิ จ อสุจิ ปคฺฆรติ, กุณปปูริโต, ทุคฺคนฺโธ, เชคุจฺโฉ, ปฏิกูโล, ทฺวตฺตึสกุณปสฺจโย, นตฺเถตฺถ สารํ วา วรํ วาติ เอวํ อสุภโต อุปสํหรนฺตสฺส สตฺเตสุ อุปฺปนฺโน โลโภ ปหียติ, เตนสฺส อสุภโต อุปสํหรณํ อฺํ นิมิตฺตํ นาม โหติ.
ปตฺตจีวราทีสุ สงฺขาเรสุ โลเภ อุปฺปนฺเน ทฺวีหากาเรหิ สงฺขารมชฺฌตฺตตํ สมุฏฺาเปตีติ สติปฏฺานวณฺณนายํ วุตฺตนเยน อสฺสามิกตาวกาลิกภาววเสน มนสิกโรโต โส ปหียติ. เตนสฺส อนิจฺจโต มนสิกาโร อฺํ นิมิตฺตํ นาม โหติ. สตฺเตสุ โทเส อุปฺปนฺเน ปน อาฆาตวินยกกโจปโมวาทาทีนํ วเสน เมตฺตา ภาเวตพฺพา, ตํ ภาวยโต โทโส ปหียติ, เตนสฺส เมตฺตาภาวนา อฺํ นิมิตฺตํ นาม โหติ. ขาณุกณฺฏกติณปณฺณาทีสุ ¶ ปน โทเส อุปฺปนฺเน ตฺวํ กสฺส กุปฺปสิ, กึ ปถวีธาตุยา, อุทาหุ อาโปธาตุยา, โก วา ปนายํ กุปฺปติ นาม, กึ ปถวีธาตุ อุทาหุ อาโปธาตูติอาทินา นเยน ธาตุมนสิการํ กโรนฺตสฺส โทโส ปหียติ. เตนสฺส ธาตุมนสิกาโร อฺํ นิมิตฺตํ นาม โหติ.
โมเห ปน ยตฺถ กตฺถจิ อุปฺปนฺเน –
‘‘ครูสํวาโส ¶ อุทฺเทโส, อุทฺทิฏฺปริปุจฺฉนํ;
กาเลน ธมฺมสฺสวนํ, านาฏฺานวินิจฺฉโย;
ปฺจ ธมฺมูปนิสฺสาย, โมหธาตุ ปหียตี’’ติ. –
อิเม ¶ ปฺจ ธมฺมา อุปนิสฺสิตพฺพา. ครุํ อุปนิสฺสาย วิหรนฺโต หิ ภิกฺขุ – ‘‘อาจริโย คามปฺปเวสนํ อนาปุจฺฉนฺตสฺส ปตฺตกาเล วตฺตํ อกโรนฺตสฺส ฆฏสตอุทกาหรณาทิทณฺฑกมฺมํ กโรตี’’ติ ยตฺตปฺปฏิยตฺโต โหติ, อถสฺส โมโห ปหียติ. อุทฺเทสํ คณฺหนฺโตปิ – ‘‘อาจริโย อุทฺเทสกาเล อุทฺเทสํ อคฺคณฺหนฺตสฺส อสาธุกํ สชฺฌายนฺตสฺส จ ทณฺฑกมฺมํ กโรตี’’ติ ยตฺตปฺปฏิยตฺโต โหติ, เอวมฺปิสฺส โมโห ปหียติ. ครุภาวนีเย ภิกฺขู อุปสํกมิตฺวา ‘‘อิทํ ภนฺเต กถํ อิมสฺส โก อตฺโถ’’ติ ปริปุจฺฉนฺโต กํขํ วิโนเทติ, เอวมฺปิสฺส โมโห ปหียติ. กาเลน ธมฺมสวนฏฺานํ คนฺตฺวา สกฺกจฺจํ ธมฺมํ สุณนฺตสฺสาปิ เตสุ เตสุ าเนสุ อตฺโถ ปากโฏ โหติ. เอวมฺปิสฺส โมโห ปหียติ. อิทมสฺส การณํ, อิทํ น การณนฺติ านาฏฺานวินิจฺฉเย เฉโก โหติ, เอวมฺปิสฺส โมโห ปหียติ. เตนสฺส ปฺจธมฺมูปนิสฺสโย อฺํ นิมิตฺตํ นาม โหติ.
อปิจ อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ ยํกิฺจิ ภาเวนฺตสฺสาปิ อิเม วิตกฺกา ปหียนฺติ เอว. อิมานิ ปน นิมิตฺตานิ อุชุวิปจฺจนีกานิ ปฏิปกฺขภูตานิ. อิเมหิ ปหีนา ราคาทโย สุปฺปหีนา โหนฺติ. ยถา หิ อคฺคึ อลฺลกฏฺเหิปิ ปํสูหิปิ สาขาทีหิปิ โปเถตฺวา นิพฺพาเปนฺติเยว, อุทกํ ปน อคฺคิสฺส อุชุวิปจฺจนีกํ, เตน นิพฺพุโต สุนิพฺพุโต โหติ, เอวมิเมหิ นิมิตฺเตหิ ปหีนา ราคาทโย สุปฺปหีนา โหนฺติ. ตสฺมา เอตานิ กถิตานีติ เวทิตพฺพานิ.
กุสลูปสํหิตนฺติ ¶ กุสลนิสฺสิตํ กุสลสฺส ปจฺจยภูตํ. อชฺฌตฺตเมวาติ โคจรชฺฌตฺตํเยว. ปลคณฺโฑติ วฑฺฒกี. สุขุมาย อาณิยาติ ยํ อาณึ นีหริตุกาโม โหติ, ตโต สุขุมตราย สารทารุอาณิยา. โอฬาริกํ อาณินฺติ จนฺทผลเก วา สารผลเก วา อาโกฏิตํ วิสมาณึ. อภินิหเนยฺยาติ มุคฺคเรน อาโกเฏนฺโต หเนยฺย. อภินีหเรยฺยาติ เอวํ อภินิหนนฺโต ผลกโต นีหเรยฺย. อภินิวเสยฺยาติ อิทานิ พหุ นิกฺขนฺตาติ ตฺวา หตฺเถน จาเลตฺวา ¶ นิกฺกฑฺเฒยฺย ¶ . ตตฺถ ผลกํ วิย จิตฺตํ, ผลเก วิสมาณี วิย อกุสลวิตกฺกา, สุขุมาณี วิย อฺํ อสุภภาวนาทิกุสลนิมิตฺตํ, สุขุมาณิยา โอฬาริกาณินีหรณํ วิย อสุภภาวนาทีหิ กุสลนิมิตฺเตหิ เตสํ วิตกฺกานํ นีหรณํ.
๒๑๗. อหิกุณเปนาติอาทิ อติเชคุจฺฉปฏิกูลกุณปทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. กณฺเ อาสตฺเตนาติ เกนจิเทว ปจฺจตฺถิเกน อาเนตฺวา กณฺเ พทฺเธน ปฏิมุกฺเกน. อฏฺฏิเยยฺยาติ อฏฺโฏ ทุกฺขิโต ภเวยฺย. หราเยยฺยาติ ลชฺเชยฺย. ชิคุจฺเฉยฺยาติ สฺชาตชิคุจฺโฉ ภเวยฺย.
ปหียนฺตีติ เอวํ อิมินาปิ การเณน เอเต อกุสลา ธมฺมา สาวชฺชา ทุกฺขวิปากาติ อตฺตโน ปฺาพเลน อุปปริกฺขโต อหิกุณปาทีนิ วิย ชิคุจฺฉนฺตสฺส ปหียนฺติ. โย ปน อตฺตโน ปฺาพเลน อุปปริกฺขิตุํ น สกฺโกติ, เตน อาจริยํ วา อุปชฺฌายํ วา อฺตรํ วา ครุฏฺานิยํ สพฺรหฺมจารึ สงฺฆตฺเถรํ วา อุปสงฺกมิตฺวา ฆณฺฑึ ปหริตฺวา ภิกฺขุสงฺฆเมว วา สนฺนิปาเตตฺวา อาโรเจตพฺพํ, พหุนฺหิ สนฺนิปาเต ภวิสฺสเตว เอโก ปณฺฑิตมนุสฺโส, สฺวายํ เอวํ เอเตสุ อาทีนโว ทฏฺพฺโพติ กเถสฺสติ, กายวิจฺฉินฺทนียกถาทีหิ วา ปน เต วิตกฺเก นิคฺคณฺหิสฺสตีติ.
๒๑๘. อสติอมนสิกาโร อาปชฺชิตพฺโพติ เนว โส วิตกฺโก สริตพฺโพ น มนสิกาตพฺโพ, อฺวิหิตเกน ภวิตพฺพํ. ยถา หิ รูปํ อปสฺสิตุกาโม ปุริโส อกฺขีนิ นิมีเลยฺย, เอวเมว มูลกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา นิสินฺเนน ภิกฺขุนา จิตฺตมฺหิ ¶ วิตกฺเก อุปฺปนฺเน อฺวิหิตเกน ภวิตพฺพํ. เอวมสฺส โส วิตกฺโก ปหียติ, ตสฺมึ ปหีเน ปุน กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา นิสีทิตพฺพํ.
สเจ น ปหียติ, อุคฺคหิโต ธมฺมกถาปพนฺโธ โหติ, โส มหาสทฺเทน สชฺฌายิตพฺโพ. เอวมฺปิ เจ อฺวิหิตกสฺส สโต โส น ปหียติ. ถวิกาย มุฏฺิโปตฺถโก โหติ, ยตฺถ จ พุทฺธวณฺณาปิ ธมฺมวณฺณาปิ ลิขิตา โหนฺติ, ตํ นีหริตฺวา วาเจนฺเตน อฺวิหิตเกน ภวิตพฺพํ. เอวมฺปิ เจ น ปหียติ, ถวิกโต อรณิสหิตานิ นีหริตฺวา ‘‘อยํ ¶ อุตฺตรารณี อยํ อธรารณี’’ติ อาวชฺเชนฺเตน อฺวิหิตเกน ภวิตพฺพํ. เอวมฺปิ เจ น ปหียติ, สิปาฏิกํ ¶ นีหริตฺวา ‘‘อิทํ อารกณฺฏกํ นาม, อยํ ปิปฺผลโก นาม, อิทํ นขจฺเฉทนํ นาม, อยํ สูจิ นามา’’ติ ปริกฺขารํ สมนฺนาเนนฺเตน อฺวิหิตเกน ภวิตพฺพํ. เอวมฺปิ เจ น ปหียติ, สูจึ คเหตฺวา จีวเร ชิณฺณฏฺานํ สิพฺพนฺเตน อฺวิหิตเกน ภวิตพฺพํ. เอวํ ยาว น ปหียติ, ตาว ตํ ตํ กุสลกมฺมํ กโรนฺเตน อฺวิหิตเกน ภวิตพฺพํ. ปหีเน ปุน มูลกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา นิสีทิตพฺพํ, นวกมฺมํ ปน น ปฏฺเปตพฺพํ. กสฺมา? วิตกฺเก ปจฺฉินฺเน กมฺมฏฺานมนสิการสฺส โอกาโส น โหติ.
โปราณกปณฺฑิตา ปน นวกมฺมํ กตฺวาปิ วิตกฺกํ ปจฺฉินฺทึสุ. ตตฺริทํ วตฺถุ – ติสฺสสามเณรสฺส กิร อุปชฺฌาโย ติสฺสมหาวิหาเร วสติ. ติสฺสสามเณโร ‘‘ภนฺเต อุกฺกณฺิโตมฺหี’’ติ อาห. อถ นํ เถโร ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร นฺหานอุทกํ ทุลฺลภํ, มํ คเหตฺวา จิตฺตลปพฺพตํ คจฺฉาหี’’ติ อาห. โส ตถา อกาสิ. ตตฺถ นํ เถโร อาห ‘‘อยํ วิหาโร อจฺจนฺตสงฺฆิโก, เอกํ ปุคฺคลิกฏฺานํ กโรหี’’ติ. โส สาธุ ภนฺเตติ อาทิโต ปฏฺาย สํยุตฺตนิกายํ ปพฺภารโสธนํ เตโชธาตุกสิณปริกมฺมนฺติ ตีณีปิ เอกโต อารภิตฺวา กมฺมฏฺานํ อปฺปนํ ปาเปสิ, สํยุตฺตนิกายํ ปริโยสาเปสิ, เลณกมฺมํ นิฏฺาเปสิ, สพฺพํ กตฺวา อุปชฺฌายสฺส สฺํ อทาสิ. อุปชฺฌาโย ‘‘ทุกฺเขน เต สามเณร กตํ, อชฺช ตาว ตฺวํเยว วสาหี’’ติ อาห. โส ตํ รตฺตึ เลเณ วสนฺโต อุตุสปฺปายํ ลภิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ¶ ปตฺวา ตตฺเถว ปรินิพฺพายิ. ตสฺส ธาตุโย คเหตฺวา เจติยํ อกํสุ. อชฺชาปิ ติสฺสตฺเถรเจติยนฺติ ปฺายติ. อิทํ ปพฺพํ อสติปพฺพํ นาม.
๒๑๙. อิมสฺมึ ตฺวา วิตกฺเก นิคฺคณฺหิตุํ อสกฺโกนฺโต อิธ ตฺวา นิคฺคณฺหิสฺสตีติ วิตกฺกมูลเภทํ ปพฺพํ ทสฺเสนฺโต ปุน ตสฺส เจ ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ วิตกฺกสงฺขารสณฺานํ มนสิกาตพฺพนฺติ สงฺขโรตีติ สงฺขาโร, ปจฺจโย, การณํ มูลนฺติ อตฺโถ. สนฺติฏฺติ เอตฺถาติ สณฺานํ, วิตกฺกสงฺขารสฺส สณฺานํ วิตกฺกสงฺขารสณฺานํ, ตํ มนสิกาตพฺพนฺติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ, อยํ วิตกฺโก กึ เหตุ กึ ปจฺจยา กึ การณา อุปฺปนฺโนติ วิตกฺกานํ มูลฺจ มูลมูลฺจ มนสิกาตพฺพนฺติ. กึ นุ โข อหํ สีฆํ ¶ คจฺฉามีติ เกน นุ โข การเณน อหํ สีฆํ คจฺฉามิ? ยํนูนาหํ สณิกํ คจฺเฉยฺยนฺติ กึ เม อิมินา สีฆคมเนน, สณิกํ คจฺฉิสฺสามีติ ¶ จินฺเตสิ. โส สณิกํ คจฺเฉยฺยาติ โส เอวํ จินฺเตตฺวา สณิกํ คจฺเฉยฺย. เอส นโย สพฺพตฺถ.
ตตฺถ ตสฺส ปุริสสฺส สีฆคมนกาโล วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน วิตกฺกสมารุฬฺหกาโล. ตสฺส สณิกคมนกาโล วิย อิมสฺส วิตกฺกจารปจฺเฉทนกาโล. ตสฺส ิตกาโล วิย อิมสฺส วิตกฺกจาเร ปจฺฉินฺเน มูลกมฺมฏฺานํ จิตฺโตตรณกาโล. ตสฺส นิสินฺนกาโล วิย อิมสฺส วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตกาโล. ตสฺส นิปนฺนกาโล วิย อิมสฺส นิพฺพานารมฺมณาย ผลสมาปตฺติยา ทิวสํ วีติวตฺตนกาโล. ตตฺถ อิเม วิตกฺกา กึ เหตุกา กึ ปจฺจยาติ วิตกฺกานํ มูลมูลํ คจฺฉนฺตสฺส วิตกฺกจาโร สิถิโล โหติ. ตสฺมึ สิถิลีภูเต มตฺถกํ คจฺฉนฺเต วิตกฺกา สพฺพโส นิรุชฺฌนฺติ. อยมตฺโถ ทุทฺทุภชาตเกนปิ ทีเปตพฺโพ –
สสกสฺส กิร เพลุวรุกฺขมูเล นิทฺทายนฺตสฺส เพลุวปกฺกํ วณฺฏโต ฉิชฺชิตฺวา กณฺณมูเล ปติตํ. โส ตสฺส สทฺเทน ‘‘ปถวี ภิชฺชตี’’ติ สฺาย อุฏฺหิตฺวา เวเคน ปลายิ. ตํ ทิสฺวา ปุรโต อฺเปิ จตุปฺปทา ปลายึสุ. ตทา โพธิสตฺโต สีโห โหติ. โส จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ปถวี นาม กปฺปวินาเส ภิชฺชติ, อนฺตรา ปถวีเภโท นาม นตฺถิ, ยํนูนาหํ ¶ มูลมูลํ คนฺตฺวา อนุวิชฺเชยฺย’’นฺติ. โส หตฺถินาคโต ปฏฺาย ยาว สสกํ ปุจฺฉิ ‘‘ตยา, ตาต, ปถวี ภิชฺชมานา ทิฏฺา’’ติ. สโส ‘‘อาม เทวา’’ติ อาห. สีโห ‘‘เอหิ, โภ, ทสฺเสหี’’ติ. สโส ‘‘น สกฺโกมิ สามี’’ติ. ‘‘เอหิ, เร, มา ภายี’’ติ สณฺหมุทุเกน คเหตฺวา คโต สโส รุกฺขสฺส อวิทูเร ตฺวา –
‘‘ทุทฺทุภายติ ภทฺทนฺเต, ยสฺมึ เทเส วสามหํ;
อหมฺเปตํ น ชานามิ, กิเมตํ ทุทฺทุภายตี’’ติ. (ชา. ๑.๔.๘๕) –
คาถมาห. โพธิสตฺโต ‘‘ตฺวํ เอตฺเถว ติฏฺา’’ติ รุกฺขมูลํ คนฺตฺวา สสกสฺส นิปนฺนฏฺานํ อทฺทส, เพลุวปกฺกํ อทฺทส, อุทฺธํ โอเลเกตฺวา วณฺฏํ อทฺทส, ทิสฺวา ‘‘อยํ สโส เอตฺถ นิปนฺโน, นิทฺทายมาโน อิมสฺส กณฺณมูเล ¶ ปติตสฺส สทฺเทน ‘ปถวี ภิชฺชตี’ติ เอวํสฺี หุตฺวา ปลายี’’ติ ¶ ตฺวา ตํ การณํ สสํ ปุจฺฉิ. สโส ‘‘อาม, เทวา’’ติ อาห. โพธิสตฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘เพลุว ปติตํ สุตฺวา, ทุทฺทุภนฺติ สโส ชวิ;
สสสฺส วจนํ สุตฺวา, สนฺตตฺตา มิควาหินี’’ติ. (ชา. ๑.๔.๘๖);
ตโต โพธิสตฺโต ‘‘มา ภายถา’’ติ มิคคเณ อสฺสาเสสิ. เอวํ วิตกฺกานํ มูลมูลํ คจฺฉนฺตสฺส วิตกฺกา ปหียนฺติ.
๒๒๐. อิมสฺมึ วิตกฺกมูลเภทปพฺเพ ตฺวา วิตกฺเก นิคฺคณฺหิตุํ อสกฺโกนฺเตน ปน เอวํ นิคฺคณฺหิตพฺพาติ อปรมฺปิ การณํ ทสฺเสนฺโต ปุน ตสฺส เจ, ภิกฺขเวติอาทิมาห.
ทนฺเตภิทนฺตมาธายาติ เหฏฺาทนฺเต อุปริทนฺตํ เปตฺวา. เจตสา จิตฺตนฺติ กุสลจิตฺเตน อกุสลจิตฺตํ อภินิคฺคณฺหิตพฺพํ. พลวา ปุริโสติ ยถา ถามสมฺปนฺโน มหาพโล ปุริโส ทุพฺพลํ ปุริสํ สีเส วา คเล วา ขนฺเธ วา คเหตฺวา อภินิคฺคณฺเหยฺย อภินิปฺปีเฬยฺย อภิสนฺตาเปยฺย สนฺตตฺตํ กิลนฺตํ มุจฺฉาปเรตํ วิย กเรยฺย, เอวเมว ภิกฺขุนา วิตกฺเกหิ สทฺธึ ปฏิมลฺเลน หุตฺวา ‘‘เก จ ตุมฺเห โก จาห’’นฺติ อภิภวิตฺวา – ‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตุ สรีเร อุปสุสฺสตุ มํสโลหิต’’นฺติ (อ. นิ. ๒.๕) เอวํ มหาวีริยํ ¶ ปคฺคยฺห วิตกฺกา นิคฺคณฺหิตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต อิม อตฺถทีปิกํ อุปมํ อาหริ.
๒๒๑. ยโต โข, ภิกฺขเวติ อิทํ ปริยาทานภาชนิยํ นาม, ตํ อุตฺตานตฺถเมว. ยถา ปน สตฺถาจริโย ติโรรฏฺา อาคตํ ราชปุตฺตํ ปฺจาวุธสิปฺปํ อุคฺคณฺหาเปตฺวา ‘‘คจฺฉ, อตฺตโน รฏฺเ รชฺชํ คณฺห. สเจ เต อนฺตรามคฺเค โจรา อุฏฺหนฺติ, ธนุนา กมฺมํ กตฺวา คจฺฉ. สเจ เต ธนุ นสฺสติ วา ภิชฺชติ วา สตฺติยา อสินา’’ติ เอวํ ปฺจหิปิ อาวุเธหิ กตฺตพฺพํ ทสฺเสตฺวา อุยฺโยเชติ. โส ตถา กตฺวา สกรฏฺํ คนฺตฺวา รชฺชํ คเหตฺวา รชฺชสิรึ อนุโภติ. เอวเมวํ ภควา อธิจิตฺตมนุยุตฺตํ ภิกฺขุํ อรหตฺตคหณตฺถาย อุยฺโยเชนฺโต – ‘‘สจสฺส อนฺตรา อกุสลวิตกฺกา อุปฺปชฺชนฺติ, อฺนิมิตฺตปพฺเพ ตฺวา เต นิคฺคณฺหิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ¶ ¶ ปาปุณิสฺสติ. ตตฺถ อสกฺโกนฺโต อาทีนวปพฺเพ ตฺวา, ตตฺราปิ อสกฺโกนฺโต อสติปพฺเพ ตฺวา, ตตฺราปิ อสกฺโกนฺโต วิตกฺกมูลเภทปพฺเพ ตฺวา, ตตฺราปิ อสกฺโกนฺโต อภินิคฺคณฺหนปพฺเพ ตฺวา วิตกฺเก นิคฺคณฺหิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ อิมานิ ปฺจ ปพฺพานิ เทเสสิ.
วสี วิตกฺกปริยายปเถสูติ วิตกฺกจารปเถสุ จิณฺณวสี ปคุณวสีติ วุจฺจติ. ยํ วิตกฺกํ อากงฺขิสฺสตีติ อิทํ อสฺส วสีภาวาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อยฺหิ ปุพฺเพ ยํ วิตกฺกํ วิตกฺเกตุกาโม โหติ, ตํ น วิตกฺเกติ. ยํ น วิตกฺเกตุกาโม โหติ, ตํ วิตกฺเกติ. อิทานิ ปน วสีภูตตฺตา ยํ วิตกฺกํ วิตกฺเกตุกาโม โหติ, ตํเยว วิตกฺเกติ. ยํ น วิตกฺเกตุกาโม, น ตํ วิตกฺเกติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยํ วิตกฺกํ อากงฺขิสฺสติ, ตํ วิตกฺกํ วิตกฺเกสฺสติ. ยํ วิตกฺกํ นากงฺขิสฺสติ, น ตํ วิตกฺกํ วิตกฺเขสฺสตี’’ติ. อจฺเฉจฺฉิ ตณฺหนฺติอาทิ สพฺพาสวสุตฺเต วุตฺตเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
วิตกฺกสณฺานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
มูลปณฺณาสฏฺกถาย ปโม ภาโค นิฏฺิโต.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
มชฺฌิมนิกาเย
มูลปณฺณาส-อฏฺกถา
(ทุติโย ภาโค)