📜
๔. มหายมกวคฺโค
๑. จูฬโคสิงฺคสุตฺตวณฺณนา
๓๒๕. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ จูฬโคสิงฺคสุตฺตํ. ตตฺถ นาติเก วิหรตีติ นาติกา นาม เอกํ ตฬากํ นิสฺสาย ทฺวินฺนํ จูฬปิติมหาปิติปุตฺตานํ ทฺเว คามา, เตสุ เอกสฺมึ คาเม. คิฺชกาวสเถติ อิฏฺกามเย อาวสเถ. เอกสฺมึ กิร สมเย ภควา มหาชนสงฺคหํ กโรนฺโต วชฺชิรฏฺเ จาริกํ จรมาโน นาติกํ อนุปฺปตฺโต. นาติกวาสิโน มนุสฺสา ภควโต มหาทานํ ทตฺวา ธมฺมกถํ สุตฺวา ปสนฺนหทยา, ‘‘สตฺถุ วสนฏฺานํ กริสฺสามา’’ติ มนฺเตตฺวา อิฏฺกาเหว ภิตฺติโสปานตฺถมฺเภ วาฬรูปาทีนิ ทสฺเสนฺโต ปาสาทํ กตฺวา สุธาย ลิมฺปิตฺวา มาลากมฺมลตากมฺมาทีนิ นิฏฺาเปตฺวา ภุมฺมตฺถรณมฺจปีาทีนิ ปฺเปตฺวา สตฺถุ นิยฺยาเตสุํ. อปราปรํ ปเนตฺถ มนุสฺสา ภิกฺขุสงฺฆสฺส รตฺติฏฺานทิวาฏฺานมณฺฑปจงฺกมาทีนิ การยึสุ. อิติ โส วิหาโร มหา อโหสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘คิฺชกาวสเถ’’ติ.
โคสิงฺคสาลวนทาเยติ ตตฺถ เอกสฺส เชฏฺกรุกฺขสฺส ขนฺธโต โคสิงฺคสณฺานํ หุตฺวา วิฏปํ อุฏฺหิ, ตํ รุกฺขํ อุปาทาย สพฺพมฺปิ ตํ วนํ โคสิงฺคสาลวนนฺติ สงฺขํ คตํ. ทาโยติ อวิเสเสน อรฺสฺเสตํ นามํ. ตสฺมา โคสิงฺคสาลวนทาเยติ โคสิงฺคสาลวนอรฺเติ อตฺโถ. วิหรนฺตีติ สามคฺคิรสํ อนุภวมานา วิหรนฺติ. อิเมสฺหิ กุลปุตฺตานํ อุปริปณฺณาสเก ปุถุชฺชนกาโล กถิโต, อิธ ขีณาสวกาโล. ตทา หิ เต ลทฺธสฺสาทา ลทฺธปติฏฺา อธิคตปฏิสมฺภิทา ขีณาสวา หุตฺวา สามคฺคิรสํ อนุภวมานา ตตฺถ วิหรึสุ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
เยน โคสิงฺคสาลวนทาโย เตนุปสงฺกมีติ ธมฺมเสนาปติมหาโมคฺคลฺลานตฺเถเรสุ วา อสีติมหาสาวเกสุ ¶ วา, อนฺตมโส ธมฺมภณฺฑาคาริกอานนฺทตฺเถรมฺปิ กฺจิ อนามนฺเตตฺวา สยเมว ปตฺตจีวรํ อาทาย อนีกา นิสฺสโฏ หตฺถี วิย, ยูถา นิสฺสโฏ กาฬสีโห วิย ¶ , วาตจฺฉินฺโน วลาหโก วิย เอกโกว อุปสงฺกมิ. กสฺมา ปเนตฺถ ภควา สยํ อคมาสีติ? ตโย กุลปุตฺตา ¶ สามคฺคิรสํ อนุภวนฺตา วิหรนฺติ, เตสํ ปคฺคณฺหนโต, ปจฺฉิมชนตํ อนุกมฺปนโต ธมฺมครุภาวโต จ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อหํ อิเม กุลปุตฺเต ปคฺคณฺหิตฺวา อุกฺกํสิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ธมฺมํ เนสํ เทเสสฺสามี’’ติ. เอวํ ตาว ปคฺคณฺหนโต อคมาสิ. อปรมฺปิสฺส อโหสิ – ‘‘อนาคเต กุลปุตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ สมคฺควาสํ วสนฺตานํ สนฺติกํ สยํ คนฺตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ธมฺมํ กเถตฺวา ตโย กุลปุตฺเต ปคฺคณฺหิ, โก นาม สมคฺควาสํ น วเสยฺยาติ สมคฺควาสํ วสิตพฺพํ มฺมานา ขิปฺปเมว ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺตี’’ติ. เอวํ ปจฺฉิมชนตํ อนุกมฺปนโตปิ อคมาสิ. พุทฺธา จ นาม ธมฺมครุโน โหนฺติ, โส จ เนสํ ธมฺมครุภาโว รถวินีเต อาวิกโตว. อิติ อิมสฺมา ธมฺมครุภาวโตปิ ธมฺมํ ปคฺคณฺหิสฺสามีติ อคมาสิ.
ทายปาโลติ อรฺปาโล. โส ตํ อรฺํ ยถา อิจฺฉิติจฺฉิตปฺปเทเสน มนุสฺสา ปวิสิตฺวา ตตฺถ ปุปฺผํ วา ผลํ วา นิยฺยาสํ วา ทพฺพสมฺภารํ วา น หรนฺติ, เอวํ วติยา ปริกฺขิตฺตสฺส ตสฺส อรฺสฺส โยชิเต ทฺวาเร นิสีทิตฺวา ตํ อรฺํ รกฺขติ, ปาเลติ. ตสฺมา ‘‘ทายปาโล’’ติ วุตฺโต. อตฺตกามรูปาติ อตฺตโน หิตํ กามยมานสภาวา หุตฺวา วิหรนฺติ. โย หิ อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิตฺวาปิ เวชฺชกมฺมทูตกมฺมปหิณคมนาทีนํ วเสน เอกวีสติอเนสนาหิ ชีวิกํ กปฺเปติ, อยํ น อตฺตกามรูโป นาม. โย ปน อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิตฺวา เอกวีสติอเนสนํ ปหาย จตุปาริสุทฺธิสีเล ปติฏฺาย พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา สปฺปายธุตงฺคํ อธิฏฺาย อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ จิตฺตรุจิยํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา คามนฺตํ ปหาย อรฺํ ปวิสิตฺวา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กุรุมาโน วิหรติ, อยํ อตฺตกาโม นาม. เตปิ ตโย กุลปุตฺตา เอวรูปา อเหสุํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อตฺตกามรูปา วิหรนฺตี’’ติ.
มา เตสํ อผาสุมกาสีติ เตสํ มา อผาสุกํ อกาสีติ ภควนฺตํ วาเรสิ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อิเม กุลปุตฺตา ¶ สมคฺคา วิหรนฺติ, เอกจฺจสฺส จ คตฏฺาเน ภณฺฑนกลหวิวาทา วตฺตนฺติ, ติขิณสิงฺโค จณฺฑโคโณ วิย โอวิชฺฌนฺโต วิจรติ, อเถกมคฺเคน ทฺวินฺนํ คมนํ น ¶ โหติ, กทาจิ อยมฺปิ เอวํ กโรนฺโต อิเมสํ กุลปุตฺตานํ สมคฺควาสํ ¶ ภินฺเทยฺย. ปาสาทิโก จ ปเนส สุวณฺณวณฺโณ สุรสคิทฺโธ มฺเ, คตกาลโต ปฏฺาย ปณีตทายกานํ อตฺตโน อุปฏฺากานฺจ วณฺณกถนาทีหิ อิเมสํ กุลปุตฺตานํ อปฺปมาทวิหารํ ภินฺเทยฺย. วสนฏฺานานิ จาปิ เอเตสํ กุลปุตฺตานํ นิพทฺธานิ ปริจฺฉินฺนานิ ติสฺโส จ ปณฺณสาลา ตโย จงฺกมา ตีณิ ทิวาฏฺานานิ ตีณิ มฺจปีานิ. อยํ ปน สมโณ มหากาโย วุฑฺฒตโร มฺเ ภวิสฺสติ. โส อกาเล อิเม กุลปุตฺเต เสนาสนา วุฏฺาเปสฺสติ. เอวํ สพฺพถาปิ เอเตสํ อผาสุ ภวิสฺสตี’’ติ. ตํ อนิจฺฉนฺโต, ‘‘มา เตสํ อผาสุกมกาสี’’ติ ภควนฺตํ วาเรสิ.
กึ ปเนส ชานนฺโต วาเรสิ, อชานนฺโตติ? อชานนฺโต. กิฺจาปิ หิ ตถาคตสฺส ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺาย ทสสหสฺสจกฺกวาฬกมฺปนาทีนิ ปาฏิหาริยานิ ปวตฺตึสุ, อรฺวาสิโน ปน ทุพฺพลมนุสฺสา สกมฺมปฺปสุตา ตานิ สลฺลกฺเขตุํ น สกฺโกนฺติ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ จ นาม ยทา อเนกภิกฺขุสหสฺสปริวาโร พฺยามปฺปภาย อสีติอนุพฺยฺชเนหิ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณสิริยา จ พุทฺธานุภาวํ ทสฺเสนฺโต วิจรติ, ตทา โก เอโสติ อปุจฺฉิตฺวาว ชานิตพฺโพ โหติ. ตทา ปน ภควา สพฺพมฺปิ ตํ พุทฺธานุภาวํ จีวรคพฺเภน ปฏิจฺฉาเทตฺวา วลาหกคพฺเภน ปฏิจฺฉนฺโน ปุณฺณจนฺโท วิย สยเมว ปตฺตจีวรมาทาย อฺาตกเวเสน อคมาสิ. อิติ นํ อชานนฺโตว ทายปาโล นิวาเรสิ.
เอตทโวจาติ เถโร กิร มา สมณาติ ทายปาลสฺส กถํ สุตฺวาว จินฺเตสิ – ‘‘มยํ ตโย ชนา อิธ วิหราม, อฺเ ปพฺพชิตา นาม นตฺถิ, อยฺจ ทายปาโล ปพฺพชิเตน วิย สทฺธึ กเถติ, โก นุ โข ภวิสฺสตี’’ติ ทิวาฏฺานโต วุฏฺาย ทฺวาเร ตฺวา มคฺคํ โอโลเกนฺโต ภควนฺตํ อทฺทส. ภควาปิ เถรสฺส สห ทสฺสเนเนว สรีโรภาสํ มฺุจิ, อสีติอนุพฺยฺชนวิราชิตา พฺยามปฺปภา ปสาริตสุวณฺณปโฏ วิย วิโรจิตฺถ. เถโร, ‘‘อยํ ทายปาโล ผณกตํ อาสิวิสํ ¶ คีวาย คเหตุํ หตฺถํ ปสาเรนฺโต วิย โลเก อคฺคปุคฺคเลน สทฺธึ กเถนฺโตว น ชานาติ, อฺตรภิกฺขุนา วิย สทฺธึ กเถตี’’ติ นิวาเรนฺโต เอตํ, ‘‘มา, อาวุโส ทายปาลา’’ติอาทิวจนํ อโวจ.
เตนุปสงฺกมีติ ¶ กสฺมา ภควโต ปจฺจุคฺคมนํ อกตฺวา อุปสงฺกมิ? เอวํ กิรสฺส อโหสิ ¶ – ‘‘มยํ ตโย ชนา สมคฺควาสํ วสาม, สจาหํ เอกโกว ปจฺจุคฺคมนํ กริสฺสามิ, สมคฺควาโส นาม น ภวิสฺสตี’’ติ ปิยมิตฺเต คเหตฺวาว ปจฺจุคฺคมนํ กริสฺสามิ. ยถา จ ภควา มยฺหํ ปิโย, เอวํ สหายานมฺปิ เม ปิโยติ, เตหิ สทฺธึ ปจฺจุคฺคมนํ กาตุกาโม สยํ อกตฺวาว อุปสงฺกมิ. เกจิ ปน เตสํ เถรานํ ปณฺณสาลทฺวาเร จงฺกมนโกฏิยา ภควโต อาคมนมคฺโค โหติ, ตสฺมา เถโร เตสํ สฺํ ททมาโนว คโตติ. อภิกฺกมถาติ อิโต อาคจฺฉถ. ปาเท ปกฺขาเลสีติ วิกสิตปทุมสนฺนิเภหิ ชาลหตฺเถหิ มณิวณฺณํ อุทกํ คเหตฺวา สุวณฺณวณฺเณสุ ปิฏฺิปาเทสุ อุทกมภิสิฺจิตฺวา ปาเทน ปาทํ ฆํสนฺโต ปกฺขาเลสิ. พุทฺธานํ กาเย รโชชลฺลํ นาม น อุปลิมฺปติ, กสฺมา ปกฺขาเลสีติ? สรีรสฺส อุตุคฺคหณตฺถํ, เตสฺจ จิตฺตสมฺปหํสนตฺถํ. อมฺเหหิ อภิหเฏน อุทเกน ภควา ปาเท ปกฺขาเลสิ, ปริโภคํ อกาสีติ เตสํ ภิกฺขูนํ พลวโสมนสฺสวเสน จิตฺตํ ปีณิตํ โหติ, ตสฺมา ปกฺขาเลสิ. อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ ภควา เอตทโวจาติ โส กิร เตสํ วุฑฺฒตโร.
๓๒๖. ตสฺส สงฺคเห กเต เสสานํ กโตว โหตีติ เถรฺเว เอตํ กจฺจิ โว อนุรุทฺธาติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ กจฺจีติ ปุจฺฉนตฺเถ นิปาโต. โวติ สามิวจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กจฺจิ อนุรุทฺธา ตุมฺหากํ ขมนียํ, อิริยาปโถ โว ขมติ? กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ โว ชีวิตํ ยาเปติ ฆฏิยติ? กจฺจิ ปิณฺฑเกน น กิลมถ, กจฺจิ ตุมฺหากํ สุลภปิณฺฑํ, สมฺปตฺเต โว ทิสฺวา มนุสฺสา อุฬุงฺกยาคุํ วา กฏจฺฉุภิกฺขํ วา ทาตพฺพํ มฺนฺตีติ ภิกฺขาจารวตฺตํ ปุจฺฉติ. กสฺมา? ปจฺจเยน อกิลมนฺเตน หิ สกฺกา สมณธมฺโม กาตุํ, วตฺตเมว วา เอตํ ปพฺพชิตานํ. อถ ¶ เตน ปฏิวจเน ทินฺเน, ‘‘อนุรุทฺธา, ตุมฺเห ราชปพฺพชิตา มหาปฺุา, มนุสฺสา ตุมฺหากํ อรฺเ วสนฺตานํ อทตฺวา กสฺส อฺสฺส ทาตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ, ตุมฺเห ปน เอตํ ภฺุชิตฺวา กึ นุ โข มิคโปตกา วิย อฺมฺํ สงฺฆฏฺเฏนฺตา วิหรถ, อุทาหุ สามคฺคิภาโว โว อตฺถี’’ติ สามคฺคิรสํ ปุจฺฉนฺโต, กจฺจิ ปน โว, อนุรุทฺธา, สมคฺคาติอาทิมาห.
ตตฺถ ขีโรทกีภูตาติ ยถา ขีรฺจ อุทกฺจ อฺมฺํ สํสนฺทติ, วิสุํ น โหติ, เอกตฺตํ วิย อุเปติ, กจฺจิ เอวํ สามคฺคิวเสน เอกตฺตูปคตจิตฺตุปฺปาทา ¶ วิหรถาติ ปุจฺฉติ. ปิยจกฺขูหีติ เมตฺตจิตฺตํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา โอโลกนจกฺขูนิ ปิยจกฺขูนิ นาม. กจฺจิ ตถารูเปหิ จกฺขูหิ อฺมฺํ สมฺปสฺสนฺตา วิหรถาติ ปุจฺฉติ. ตคฺฆาติ เอกํสตฺเถ นิปาโต. เอกํเสน ¶ มยํ, ภนฺเตติ วุตฺตํ โหติ. ยถา กถํ ปนาติ เอตฺถ ยถาติ นิปาตมตฺตํ. กถนฺติ การณปุจฺฉา. กถํ ปน ตุมฺเห เอวํ วิหรถ, เกน การเณน วิหรถ, ตํ เม การณํ พฺรูถาติ วุตฺตํ โหติ. เมตฺตํ กายกมฺมนฺติ เมตฺตจิตฺตวเสน ปวตฺตํ กายกมฺมํ. อาวิ เจว รโห จาติ สมฺมุขา เจว ปรมฺมุขา จ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ สมฺมุขา กายวจีกมฺมานิ สหวาเส ลพฺภนฺติ, อิตรานิ วิปฺปวาเส. มโนกมฺมํ สพฺพตฺถ ลพฺภติ. ยฺหิ สหวสนฺเตสุ เอเกน มฺจปีํ วา ทารุภณฺฑํ วา มตฺติกาภณฺฑํ วา พหิ ทุนฺนิกฺขิตฺตํ โหติ, ตํ ทิสฺวา เกนิทํ วฬฺชิตนฺติ อวฺํ อกตฺวา อตฺตนา ทุนฺนิกฺขิตฺตํ วิย คเหตฺวา ปฏิสาเมนฺตสฺส ปฏิชคฺคิตพฺพยุตฺตํ วา ปน านํ ปฏิชคฺคนฺตสฺส สมฺมุขา เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม โหติ. เอกสฺมึ ปกฺกนฺเต เตน ทุนฺนิกฺขิตฺตํ เสนาสนปริกฺขารํ ตเถว นิกฺขิปนฺตสฺส ปฏิชคฺคิตพฺพยุตฺตฏฺานํ วา ปน ปฏิชคฺคนฺตสฺส ปรมฺมุขา เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม โหติ. สหวสนฺตสฺส ปน เตหิ สทฺธึ มธุรํ สมฺโมทนียํ กถํ ปฏิสนฺถารกถํ สารณียกถํ ธมฺมีกถํ สรภฺํ สากจฺฉํ ปฺหปุจฺฉนํ ปฺหวิสฺสชฺชนนฺติ เอวมาทิกรเณ ¶ สมฺมุขา เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม โหติ. เถเรสุ ปน ปกฺกนฺเตสุ มยฺหํ ปิยสหาโย นนฺทิยตฺเถโร กิมิลตฺเถโร เอวํ สีลสมฺปนฺโน, เอวํ อาจารสมฺปนฺโนติอาทิคุณกถนํ ปรมฺมุขา เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม โหติ. มยฺหํ ปิยมิตฺโต นนฺทิยตฺเถโร กิมิลตฺเถโร อเวโร โหตุ, อพฺยาปชฺโช สุขี โหตูติ เอวํ สมนฺนาหรโต ปน สมฺมุขาปิ ปรมฺมุขาปิ เมตฺตํ มโนกมฺมํ โหติเยว.
นานา หิ โข โน, ภนฺเต, กายาติ กายฺหิ ปิฏฺํ วิย มตฺติกา วิย จ โอมทฺทิตฺวา เอกโต กาตุํ น สกฺกา. เอกฺจ ปน มฺเ จิตฺตนฺติ จิตฺตํ ปน โน หิตฏฺเน นิรนฺตรฏฺเน อวิคฺคหฏฺเน สมคฺคฏฺเน เอกเมวาติ ทสฺเสติ. กถํ ปเนตํ สกํ จิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อิตเรสํ จิตฺตวเสน วตฺตึสูติ? เอกสฺส ปตฺเต มลํ อุฏฺหติ, เอกสฺส จีวรํ กิลิฏฺํ โหติ, เอกสฺส ปริภณฺฑกมฺมํ โหติ. ตตฺถ ยสฺส ปตฺเต มลํ อุฏฺิตํ, เตน มมาวุโส, ปตฺเต มลํ อุฏฺิตํ ปจิตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺเต อิตเร มยฺหํ จีวรํ กิลิฏฺํ ¶ โธวิตพฺพํ, มยฺหํ ปริภณฺฑํ กาตพฺพนฺติ อวตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา ทารูนิ อาหริตฺวา ฉินฺทิตฺวา ปตฺตกฏาเห ปริภณฺฑํ กตฺวา ตโต ปรํ จีวรํ วา โธวนฺติ, ปริภณฺฑํ วา กโรนฺติ. มมาวุโส, จีวรํ กิลิฏฺํ โธวิตุํ วฏฺฏติ, มม ปณฺณสาลา อุกฺลาปา ปริภณฺฑํ กาตุํ วฏฺฏตีติ ปมตรํ อาโรจิเตปิ เอเสว นโย.
๓๒๗. สาธุ ¶ สาธุ, อนุรุทฺธาติ ภควา เหฏฺา น จ มยํ, ภนฺเต, ปิณฺฑเกน กิลมิมฺหาติ วุตฺเต น สาธุการมทาสิ. กสฺมา? อยฺหิ กพฬีกาโร อาหาโร นาม อิเมสํ สตฺตานํ อปายโลเกปิ เทวมนุสฺสโลเกปิ อาจิณฺณสมาจิณฺโณว. อยํ ปน โลกสนฺนิวาโส เยภุยฺเยน วิวาทปกฺขนฺโท, อปายโลเก เทวมนุสฺสโลเกปิ อิเม สตฺตา ปฏิวิรุทฺธา เอว, เอเตสํ สามคฺคิกาโล ทุลฺลโภ, กทาจิเทว โหตีติ สมคฺควาสสฺส ทุลฺลภตฺตา อิธ ภควา สาธุการมทาสิ. อิทานิ เตสํ อปฺปมาทลกฺขณํ ปุจฺฉนฺโต กจฺจิ ¶ ปน โว, อนุรุทฺธาติอาทิมาห. ตตฺถ โวติ นิปาตมตฺตํ ปจฺจตฺตวจนํ วา, กจฺจิ ตุมฺเหติ อตฺโถ. อมฺหากนฺติ อมฺเหสุ ตีสุ ชเนสุ. ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมตีติ คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺจาคจฺฉติ. อวกฺการปาตินฺติ อติเรกปิณฺฑปาตํ อปเนตฺวา ปนตฺถาย เอกํ สมุคฺคปาตึ โธวิตฺวา เปติ.
โย ปจฺฉาติ เต กิร เถรา น เอกโตว ภิกฺขาจารํ ปวิสนฺติ, ผลสมาปตฺติรตา เหเต. ปาโตว สรีรปฺปฏิชคฺคนํ กตฺวา วตฺตปฺปฏิปตฺตึ ปูเรตฺวา เสนาสนํ ปวิสิตฺวา กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทนฺติ. เตสุ โย ปมตรํ นิสินฺโน อตฺตโน กาลปริจฺเฉทวเสน ปมตรํ อุฏฺาติ; โส ปิณฺฑาย จริตฺวา ปฏินิวตฺโต ภตฺตกิจฺจฏฺานํ อาคนฺตฺวา ชานาติ – ‘‘ทฺเว ภิกฺขู ปจฺฉา, อหํ ปมตรํ อาคโต’’ติ. อถ ปตฺตํ ปิทหิตฺวา อาสนปฺาปนาทีนิ กตฺวา ยทิ ปตฺเต ปฏิวิสมตฺตเมว โหติ, นิสีทิตฺวา ภฺุชติ. ยทิ อติเรกํ โหติ, อวกฺการปาติยํ ปกฺขิปิตฺวา ปาตึ ปิธาย ภฺุชติ. กตภตฺตกิจฺโจ ปตฺตํ โธวิตฺวา โวทกํ กตฺวา ถวิกาย โอสาเปตฺวา ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานํ ปวิสติ. ทุติโยปิ อาคนฺตฺวาว ชานาติ – ‘‘เอโก ปมํ อาคโต, เอโก ปจฺฉโต’’ติ. โส สเจ ปตฺเต ภตฺตํ ปมาณเมว โหติ, ภฺุชติ. สเจ มนฺทํ, อวกฺการปาติโต คเหตฺวา ภฺุชติ. สเจ อติเรกํ ¶ โหติ, อวกฺการปาติยํ ปกฺขิปิตฺวา ปมาณเมว ภฺุชิตฺวา ปุริมตฺเถโร วิย วสนฏฺานํ ปวิสติ. ตติโยปิ อาคนฺตฺวาว ชานาติ – ‘‘ทฺเว ปมํ อาคตา, อหํ ปจฺฉโต’’ติ. โสปิ ทุติยตฺเถโร วิย ภฺุชิตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ ปตฺตํ โธวิตฺวา โวทกํ กตฺวา ถวิกาย โอสาเปตฺวา อาสนานิ อุกฺขิปิตฺวา ปฏิสาเมติ; ปานียฆเฏ วา ปริโภชนียฆเฏ วา อวเสสํ อุทกํ ฉฑฺเฑตฺวา ฆเฏ นิกุชฺชิตฺวา อวกฺการปาติยํ สเจ อวเสสภตฺตํ โหติ, ตํ วุตฺตนเยน ชหิตฺวา ปาตึ โธวิตฺวา ปฏิสาเมติ; ภตฺตคฺคํ สมฺมชฺชติ. ตโต กจวรํ ฉฑฺเฑตฺวา ¶ สมฺมชฺชนึ อุกฺขิปิตฺวา ¶ อุปจิกาหิ มุตฺตฏฺาเน เปตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย วสนฏฺานํ ปวิสติ. อิทํ เถรานํ พหิวิหาเร อรฺเ ภตฺตกิจฺจกรณฏฺาเน โภชนสาลายํ วตฺตํ. อิทํ สนฺธาย, ‘‘โย ปจฺฉา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
โย ปสฺสตีติอาทิ ปน เนสํ อนฺโตวิหาเร วตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ วจฺจฆฏนฺติ อาจมนกุมฺภึ. ริตฺตนฺติ ริตฺตกํ. ตุจฺฉนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. อวิสยฺหนฺติ อุกฺขิปิตุํ อสกฺกุเณยฺยํ, อติภาริยํ. หตฺถวิกาเรนาติ หตฺถสฺาย. เต กิร ปานียฆฏาทีสุ ยํกิฺจิ ตุจฺฉกํ คเหตฺวา โปกฺขรณึ คนฺตฺวา อนฺโต จ พหิ จ โธวิตฺวา อุทกํ ปริสฺสาเวตฺวา ตีเร เปตฺวา อฺํ ภิกฺขุํ หตฺถวิกาเรน อามนฺเตนฺติ, โอทิสฺส วา อโนทิสฺส วา สทฺทํ น กโรนฺติ. กสฺมา โอทิสฺส สทฺทํ น กโรนฺติ? ตํ ภิกฺขุํ สทฺโท พาเธยฺยาติ. กสฺมา อโนทิสฺส สทฺทํ น กโรนฺติ? อโนทิสฺส สทฺเท ทินฺเน, ‘‘อหํ ปุเร, อหํ ปุเร’’ติ ทฺเวปิ นิกฺขเมยฺยุํ, ตโต ทฺวีหิ กตฺตพฺพกมฺเม ตติยสฺส กมฺมจฺเฉโท ภเวยฺย. สํยตปทสทฺโท ปน หุตฺวา อปรสฺส ภิกฺขุโน ทิวาฏฺานสนฺติกํ คนฺตฺวา เตน ทิฏฺภาวํ ตฺวา หตฺถสฺํ กโรติ, ตาย สฺาย อิตโร อาคจฺฉติ, ตโต ทฺเว ชนา หตฺเถน หตฺถํ สํสิพฺพนฺตา ทฺวีสุ หตฺเถสุ เปตฺวา อุปฏฺเปนฺติ. ตํ สนฺธายาห – ‘‘หตฺถวิกาเรน ทุติยํ อามนฺเตตฺวา หตฺถวิลงฺฆเกน อุปฏฺเปมา’’ติ.
ปฺจาหิกํ โข ปนาติ จาตุทฺทเส ปนฺนรเส อฏฺมิยนฺติ อิทํ ตาว ปกติธมฺมสฺสวนเมว, ตํ อขณฺฑํ กตฺวา ปฺจเม ปฺจเม ทิวเส ทฺเว เถรา นาติวิกาเล นฺหายิตฺวา อนุรุทฺธตฺเถรสฺส วสนฏฺานํ คจฺฉนฺติ. ตตฺถ ตโยปิ นิสีทิตฺวา ติณฺณํ ปิฏกานํ อฺตรสฺมึ อฺมฺํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ ¶ , อฺมฺํ วิสฺสชฺเชนฺติ, เตสํ เอวํ กโรนฺตานํเยว อรุณํ อุคฺคจฺฉติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เอตฺตาวตา เถเรน ภควตา อปฺปมาทลกฺขณํ ปุจฺฉิเตน ปมาทฏฺาเนสุเยว อปฺปมาทลกฺขณํ วิสฺสชฺชิตํ โหติ. อฺเสฺหิ ภิกฺขูนํ ภิกฺขาจารํ ปวิสนกาโล, นิกฺขมนกาโล, นิวาสนปริวตฺตนํ, จีวรปารุปนํ, อนฺโตคาเม ปิณฺฑาย จรณํ ธมฺมกถนํ, อนุโมทนํ ¶ , คามโต นิกฺขมิตฺวา ภตฺตกิจฺจกรณํ, ปตฺตโธวนํ, ปตฺตโอสาปนํ, ปตฺตจีวรปฏิสามนนฺติ ปปฺจกรณฏฺานานิ เอตานิ. ตสฺมา เถโร อมฺหากํ เอตฺตกํ านํ มฺุจิตฺวา ปมาทกาโล นาม นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ปมาทฏฺาเนสุเยว อปฺปมาทลกฺขณํ วิสฺสชฺเชสิ.
๓๒๘. อถสฺส ¶ ภควา สาธุการํ ทตฺวา ปมชฺฌานํ ปุจฺฉนฺโต ปุน อตฺถิ ปน โวติอาทิมาห. ตตฺถ อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมาติ มนุสฺสธมฺมโต อุตฺตริ. อลมริยาณทสฺสนวิเสโสติ อริยภาวกรณสมตฺโถ าณวิเสโส. กิฺหิ โน สิยา, ภนฺเตติ กสฺมา, ภนฺเต, นาธิคโต ภวิสฺสติ, อธิคโตเยวาติ. ยาว เทวาติ ยาว เอว.
๓๒๙. เอวํ ปมชฺฌานาธิคเม พฺยากเต ทุติยชฺฌานาทีนิ ปุจฺฉนฺโต เอตสฺส ปน โวติอาทิมาห. ตตฺถ สมติกฺกมายาติ สมติกฺกมตฺถาย. ปฏิปฺปสฺสทฺธิยาติ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺถาย. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ปจฺฉิมปฺเห ปน โลกุตฺตราณทสฺสนวเสน อธิคตํ นิโรธสมาปตฺตึ ปุจฺฉนฺโต อลมริยาณทสฺสนวิเสโสติ อาห. เถโรปิ ปุจฺฉานุรูเปเนว พฺยากาสิ. ตตฺถ ยสฺมา เวทยิตสุขโต อเวทยิตสุขํ สนฺตตรํ ปณีตตรํ โหติ, ตสฺมา อฺํ ผาสุวิหารํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น สมนุปสฺสามาติ อาห.
๓๓๐. ธมฺมิยา กถายาติ สามคฺคิรสานิสํสปฺปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมิยา กถาย. สพฺเพปิ เต จตูสุ สจฺเจสุ ปรินิฏฺิตกิจฺจา, เตน เตสํ ปฏิเวธตฺถาย กิฺจิ กเถตพฺพํ นตฺถิ. สามคฺคิรเสน ปน อยฺจ อยฺจ อานิสํโสติ สามคฺคิรสานิสํสเมว เนสํ ภควา กเถสิ. ภควนฺตํ อนุสํยายิตฺวาติ อนุคนฺตฺวา. เต กิร ภควโต ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา โถกํ ¶ อคมํสุ, อถ ภควา วิหารสฺส ปริเวณปริยนฺตํ คตกาเล, ‘‘อาหรถ เม ปตฺตจีวรํ, ตุมฺเห อิเธว ติฏฺถา’’ติ ปกฺกามิ. ตโต ปฏินิวตฺติตฺวาติ ตโต ิตฏฺานโต นิวตฺติตฺวา. กึ นุ โข มยํ อายสฺมโตติ ภควนฺตํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชาทีนิ ¶ อธิคนฺตฺวาปิ อตฺตโน คุณกถาย อฏฺฏิยมานา อธิคมปฺปิจฺฉตาย อาหํสุ. อิมาสฺจ อิมาสฺจาติ ปมชฺฌานาทีนํ โลกิยโลกุตฺตรานํ. เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโตติ อชฺช เม อายสฺมนฺโต โลกิยสมาปตฺติยา วีตินาเมสุํ, อชฺช โลกุตฺตรายาติ เอวํ จิตฺเตน จิตฺตํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วิทิตํ. เทวตาปิ เมติ, ภนฺเต อนุรุทฺธ, อชฺช อยฺโย นนฺทิยตฺเถโร, อชฺช อยฺโย กิมิลตฺเถโร อิมาย จ อิมาย จ สมาปตฺติยา วีตินาเมสีติ เอวมาโรเจสุนฺติ อตฺโถ. ปฺหาภิปุฏฺเนาติ ตมฺปิ มยา สยํ วิทิตนฺติ วา เทวตาหิ อาโรจิตนฺติ วา เอตฺตเกเนว มุขํ เม สชฺชนฺติ กถํ สมุฏฺาเปตฺวา อปุฏฺเเนว เม น กถิตํ. ภควตา ปน ปฺหาภิปุฏฺเน ปฺหํ อภิปุจฺฉิเตน สตา พฺยากตํ, ตตฺร เม กึ น โรจถาติ อาห.
๓๓๑. ทีโฆติ ¶ ‘‘มณิ มาณิวโร ทีโฆ, อโถ เสรีสโก สหา’’ติ (ที. นิ. ๓.๒๙๓) เอวํ อาคโต อฏฺวีสติยา ยกฺขเสนาปตีนํ อพฺภนฺตโร เอโก เทวราชา. ปรชโนติ ตสฺเสว ยกฺขสฺส นามํ. เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ โส กิร เวสฺสวเณน เปสิโต เอตํ านํ คจฺฉนฺโต ภควนฺตํ สยํ ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา คิฺชกาวสถโต โคสิงฺคสาลวนสฺส อนฺตเร ทิสฺวา ภควา อตฺตนา ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา โคสิงฺคสาลวเน ติณฺณํ กุลปุตฺตานํ สนฺติกํ คจฺฉติ. อชฺช มหตี ธมฺมเทสนา ภวิสฺสติ. มยาปิ ตสฺสา เทสนาย ภาคินา ภวิตพฺพนฺติ อทิสฺสมาเนน กาเยน สตฺถุ ปทานุปทิโก คนฺตฺวา อวิทูเร ตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา สตฺถริ คจฺฉนฺเตปิ น คโต, – ‘‘อิเม เถรา กึ กริสฺสนฺตี’’ติ ทสฺสนตฺถํ ปน ตตฺเถว ิโต. อถ เต ทฺเว เถเร อนุรุทฺธตฺเถรํ ปลิเวเนฺเต ทิสฺวา, – ‘‘อิเม เถรา ภควนฺตํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชาทโย สพฺพคุเณ อธิคนฺตฺวาปิ ภควโตว มจฺฉรายนฺติ, น สหนฺติ, อติวิย นิลียนฺติ ปฏิจฺฉาเทนฺติ, น ทานิ เตสํ ปฏิจฺฉาเทตุํ ทสฺสามิ, ปถวิโต ยาว ¶ พฺรหฺมโลกา เอเตสํ คุเณ ปกาเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ.
ลาภา วต, ภนฺเตติ เย, ภนฺเต, วชฺชิรฏฺวาสิโน ภควนฺตฺจ อิเม จ ตโย กุลปุตฺเต ปสฺสิตุํ ลภนฺติ, วนฺทิตุํ ลภนฺติ, เทยฺยธมฺมํ ทาตุํ ลภนฺติ, ธมฺมํ โสตุํ ลภนฺติ, เตสํ ลาภา, ภนฺเต, วชฺชีนนฺติ อตฺโถ. สทฺทํ สุตฺวาติ ¶ โส กิร อตฺตโน ยกฺขานุภาเวน มหนฺตํ สทฺทํ กตฺวา สกลํ วชฺชิรฏฺํ อชฺโฌตฺถรนฺโต ตํ วาจํ นิจฺฉาเรสิ. เตน จสฺส เตสุ รุกฺขปพฺพตาทีสุ อธิวตฺถา ภุมฺมา เทวตา สทฺทํ อสฺโสสุํ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘สทฺทํ สุตฺวา’’ติ. อนุสฺสาเวสุนฺติ มหนฺตํ สทฺทํ สุตฺวา สาเวสุํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ยาว พฺรหฺมโลกาติ ยาว อกนิฏฺพฺรหฺมโลกา. ตฺเจปิ กุลนฺติ, ‘‘อมฺหากํ กุลโต นิกฺขมิตฺวา อิเม กุลปุตฺตา ปพฺพชิตา เอวํ สีลวนฺโต คุณวนฺโต อาจารสมฺปนฺนา กลฺยาณธมฺมา’’ติ เอวํ ตฺเจปิ กุลํ เอเต ตโย กุลปุตฺเต ปสนฺนจิตฺตํ อนุสฺสเรยฺยาติ เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อิติ ภควา ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฏฺเปสีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬโคสิงฺคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. มหาโคสิงฺคสุตฺตวณฺณนา
๓๓๒. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ มหาโคสิงฺคสุตฺตํ. ตตฺถ โคสิงฺคสาลวนทาเยติ อิทํ วสนฏฺานทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อฺเสุ หิ สุตฺเตสุ, ‘‘สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม’’ติ เอวํ ปมํ โคจรคามํ ทสฺเสตฺวา ปจฺฉา วสนฏฺานํ ทสฺเสติ. อิมสฺมึ ปน มหาโคสิงฺคสุตฺเต ภควโต โคจรคาโม อนิพนฺโธ, โกจิเทว โคจรคาโม ภวิสฺสติ. ตสฺมา วสนฏฺานเมว ปริทีปิตํ. อรฺนิทานกํ นาเมตํ สุตฺตนฺติ. สมฺพหุเลหีติ พหุเกหิ. อภิฺาเตหิ อภิฺาเตหีติ สพฺพตฺถ วิสฺสุเตหิ ปากเฏหิ. เถเรหิ สาวเกหิ สทฺธินฺติ ปาติโมกฺขสํวราทีหิ ถิรการเกเหว ธมฺเมหิ สมนฺนาคตตฺตา เถเรหิ, สวนนฺเต ชาตตฺตา สาวเกหิ สทฺธึ เอกโต. อิทานิ เต เถเร ¶ สรูปโต ทสฺเสนฺโต, อายสฺมตา จ สาริปุตฺเตนาติอาทิมาห. ตตฺถายสฺมา สาริปุตฺโต อตฺตโน สีลาทีหิ คุเณหิ พุทฺธสาสเน อภิฺาโต. จกฺขุมนฺตานํ คคนมชฺเฌ ิโต สูริโย วิย จนฺโท วิย, สมุทฺทตีเร ิตานํ ¶ สาคโร วิย จ ปากโฏ ปฺาโต. น เกวลฺจสฺส อิมสฺมึ สุตฺเต อาคตคุณวเสเนว มหนฺตตา เวทิตพฺพา, อิโต อฺเสํ ธมฺมทายาทสุตฺตํ อนงฺคณสุตฺตํ สมฺมาทิฏฺิสุตฺตํ สีหนาทสุตฺตํ รถวินีตํ มหาหตฺถิปโทปมํ มหาเวทลฺลํ จาตุมสุตฺตํ ทีฆนขํ อนุปทสุตฺตํ เสวิตพฺพาเสวิตพฺพสุตฺตํ สจฺจวิภงฺคสุตฺตํ ปิณฺฑปาตปาริสุทฺธิ สมฺปสาทนียํ สงฺคีติสุตฺตํ ทสุตฺตรสุตฺตํ ปวารณาสุตฺตํ (สํ. นิ. ๑.๒๑๕ อาทโย) สุสิมสุตฺตํ เถรปฺหสุตฺตํ มหานิทฺเทโส ปฏิสมฺภิทามคฺโค เถรสีหนาทสุตฺตํ อภินิกฺขมนํ เอตทคฺคนฺติ อิเมสมฺปิ สุตฺตานํ วเสน เถรสฺส มหนฺตตา เวทิตพฺพา. เอตทคฺคสฺมิฺหิ, ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ มหาปฺานํ ยทิทํ สาริปุตฺโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘-๑๘๙) วุตฺตํ.
มหาโมคฺคลฺลาโนปิ สีลาทิคุเณหิ เจว อิมสฺมึ สุตฺเต อาคตคุเณหิ จ เถโร วิย อภิฺาโต ปากโฏ มหา. อปิจสฺส อนุมานสุตฺตํ, จูฬตณฺหาสงฺขยสุตฺตํ มารตชฺชนิยสุตฺตํ ปาสาทกมฺปนํ สกลํ อิทฺธิปาทสํยุตฺตํ นนฺโทปนนฺททมนํ ยมกปาฏิหาริยกาเล เทวโลกคมนํ วิมานวตฺถุ เปตวตฺถุ เถรสฺส อภินิกฺขมนํ เอตทคฺคนฺติ อิเมสมฺปิ วเสน มหนฺตภาโว เวทิตพฺโพ ¶ . เอตทคฺคสฺมิฺหิ, ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ อิทฺธิมนฺตานํ ยทิทํ มหาโมคฺคลฺลาโน’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๙๐) วุตฺตํ.
มหากสฺสโปปิ สีลาทิคุเณหิ เจว อิมสฺมึ สุตฺเต อาคตคุเณหิ จ เถโร วิย อภิฺาโต ปากโฏ มหา. อปิจสฺส จีวรปริวตฺตนสุตฺตํ ชิณฺณจีวรสุตฺตํ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔ อาทโย) จนฺโทปมํ สกลํ กสฺสปสํยุตฺตํ มหาอริยวํสสุตฺตํ เถรสฺส อภินิกฺขมนํ เอตทคฺคนฺติ อิเมสมฺปิ วเสน มหนฺตภาโว เวทิตพฺโพ. เอตทคฺคสฺมิฺหิ, ‘‘เอตทคฺคํ ¶ , ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ธุตวาทานํ ยทิทํ มหากสฺสโป’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๙๑) วุตฺตํ.
อนุรุทฺธตฺเถโรปิ ¶ สีลาทิคุเณหิ เจว อิมสฺมึ สุตฺเต อาคตคุเณหิ จ เถโร วิย อภิฺาโต ปากโฏ มหา. อปิจสฺส จูฬโคสิงฺคสุตฺตํ นฬกปานสุตฺตํ อนุตฺตริยสุตฺตํ อุปกฺกิเลสสุตฺตํ อนุรุทฺธสํยุตฺตํ มหาปุริสวิตกฺกสุตฺตํ เถรสฺส อภินิกฺขมนํ เอตทคฺคนฺติ อิเมสมฺปิ วเสน มหนฺตภาโว เวทิตพฺโพ. เอตทคฺคสฺมิฺหิ, ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ทิพฺพจกฺขุกานํ ยทิทํ อนุรุทฺโธ’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๙๒) วุตฺตํ.
อายสฺมตา จ เรวเตนาติ เอตฺถ ปน ทฺเว เรวตา ขทิรวนิยเรวโต จ กงฺขาเรวโต จ. ตตฺถ ขทิรวนิยเรวโต ธมฺมเสนาปติตฺเถรสฺส กนิฏฺภาติโก, น โส อิธ อธิปฺเปโต. ‘‘อกปฺปิโย คุโฬ, อกปฺปิยา มุคฺคา’’ติ (มหาว. ๒๗๒) เอวํ กงฺขาพหุโล ปน เถโร อิธ เรวโตติ อธิปฺเปโต. โสปิ สีลาทิคุเณหิ เจว อิมสฺมึ สุตฺเต อาคตคุเณหิ จ เถโร วิย อภิฺาโต ปากโฏ มหา. อปิจสฺส อภินิกฺขมเนนปิ เอตทคฺเคนปิ มหนฺตภาโว เวทิตพฺโพ. เอตทคฺคสฺมิฺหิ, ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ฌายีนํ ยทิทํ กงฺขาเรวโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๐๔) วุตฺตํ.
อานนฺทตฺเถโรปิ สีลาทิคุเณหิ เจว อิมสฺมึ สุตฺเต อาคตคุเณหิ จ เถโร วิย อภิฺาโต ปากโฏ มหา. อปิจสฺส เสกฺขสุตฺตํ พาหิติกสุตฺตํ อาเนฺชสปฺปายํ โคปกโมคฺคลฺลานํ พหุธาตุกํ จูฬสฺุตํ มหาสฺุตํ อจฺฉริยพฺภุตสุตฺตํ ภทฺเทกรตฺตํ มหานิทานํ มหาปรินิพฺพานํ ¶ สุภสุตฺตํ จูฬนิยโลกธาตุสุตฺตํ อภินิกฺขมนํ เอตทคฺคนฺติ อิเมสมฺปิ วเสน มหนฺตภาโว เวทิตพฺโพ. เอตทคฺคสฺมิฺหิ, ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ พหุสฺสุตานํ ยทิทํ อานนฺโท’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๙-๒๒๓) วุตฺตํ.
อฺเหิ จ อภิฺาเตหิ อภิฺาเตหีติ น เกวลฺจ เอเตเหว, อฺเหิ จ มหาคุณตาย ปากเฏหิ อภิฺาเตหิ พหูหิ ¶ เถเรหิ สาวเกหิ สทฺธึ ภควา โคสิงฺคสาลวนทาเย วิหรตีติ อตฺโถ. อายสฺมา หิ สาริปุตฺโต สยํ มหาปฺโ อฺเปิ พหู มหาปฺเ ภิกฺขู คเหตฺวา ตทา ทสพลํ ปริวาเรตฺวา วิหาสิ. อายสฺมา ¶ มหาโมคฺคลฺลาโน สยํ อิทฺธิมา, อายสฺมา มหากสฺสโป สยํ ธุตวาโท, อายสฺมา อนุรุทฺโธ สยํ ทิพฺพจกฺขุโก, อายสฺมา เรวโต สยํ ฌานาภิรโต, อายสฺมา อานนฺโท สยํ พหุสฺสุโต อฺเปิ พหู พหุสฺสุเต ภิกฺขู คเหตฺวา ตทา ทสพลํ ปริวาเรตฺวา วิหาสิ, เอวํ ตทา เอเต จ อฺเ จ อภิฺาตา มหาเถรา ตึสสหสฺสมตฺตา ภิกฺขู ทสพลํ ปริวาเรตฺวา วิหรึสูติ เวทิตพฺพา.
ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ ผลสมาปตฺติวิเวกโต วุฏฺิโต. เยนายสฺมา มหากสฺสโป เตนุปสงฺกมีติ เถโร กิร ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต ปจฺฉิมโลกธาตุํ โอโลเกนฺโต วนนฺเต กีฬนฺตสฺส มตฺตขตฺติยสฺส กณฺณโต ปตมานํ กุณฺฑลํ วิย, สํหริตฺวา สมุคฺเค ปกฺขิปมานํ รตฺตกมฺพลํ วิย, มณินาคทนฺตโต ปตมานํ สตสหสฺสคฺฆนิกํ สุวณฺณปาตึ วิย จ อตฺถํ คจฺฉมานํ ปริปุณฺณปณฺณาสโยชนํ สูริยมณฺฑลํ อทฺทส. ตทนนฺตรํ ปาจีนโลกธาตุํ โอโลเกนฺโต เนมิยํ คเหตฺวา ปริวตฺตยมานํ รชตจกฺกํ วิย, รชตกูฏโต นิกฺขมนฺตํ ขีรธารามณฺฑํ วิย, สปกฺเข ปปฺโผเฏตฺวา คคนตเล ปกฺขนฺทมานํ เสตหํสํ วิย จ เมฆวณฺณาย สมุทฺทกุจฺฉิโต อุคฺคนฺตฺวา ปาจีนจกฺกวาฬปพฺพตมตฺถเก สสลกฺขณปฺปฏิมณฺฑิตํ เอกูนปณฺณาสโยชนํ จนฺทมณฺฑลํ อทฺทส. ตโต สาลวนํ โอโลเกสิ. ตสฺมิฺหิ สมเย สาลรุกฺขา มูลโต ปฏฺาย ยาว อคฺคา สพฺพปาลิผุลฺลา ทุกูลปารุตา วิย, มุตฺตากลาปวินทฺธา วิย จ วิโรจึสุ. ภูมิตลํ ปุปฺผสนฺถรปูชาย ปฏิมณฺฑิตํ วิย, ตตฺถ ตตฺถ นิปตนฺเตน ปุปฺผเรณุนา ลาขารเสน สิฺจมานํ วิย จ อโหสิ. ภมรมธุกรคณา กุสุมเรณุมทมตฺตา อุปคายมานา วิย วนนฺตเรสุ วิจรนฺติ. ตทา จ อุโปสถทิวโสว โหติ. อถ เถโร, ‘‘กาย นุ โข อชฺช รติยา วีตินาเมสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ, อริยสาวกา จ นาม ปิยธมฺมสฺสวนา โหนฺติ. อถสฺส ¶ ¶ เอตทโหสิ – ‘‘อชฺช มยฺหํ เชฏฺภาติกสฺส ธมฺมเสนาปติตฺเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมรติยา วีตินาเมสฺสามี’’ติ. คจฺฉนฺโต ปน เอกโกว อคนฺตฺวา ‘‘มยฺหํ ปิยสหายํ มหากสฺสปตฺเถรํ คเหตฺวา คมิสฺสามี’’ติ นิสินฺนฏฺานโต วุฏฺาย จมฺมขณฺฑํ ปปฺโผเฏตฺวา เยนายสฺมา มหากสฺสโป เตนุปสงฺกมิ.
เอวมาวุโสติ ¶ โข อายสฺมา มหากสฺสโปติ เถโรปิ ยสฺมา ปิยธมฺมสฺสวโนว อริยสาวโก, ตสฺมา ตสฺส วจนํ สุตฺวา คจฺฉาวุโส, ตฺวํ, มยฺหํ สีสํ วา รุชฺชติ ปิฏฺิ วาติ กิฺจิ เลสาปเทสํ อกตฺวา ตุฏฺหทโยว, ‘‘เอวมาวุโส’’ติอาทิมาห. ปฏิสฺสุตฺวา จ นิสินฺนฏฺานโต วุฏฺาย จมฺมขณฺฑํ ปปฺโผเฏตฺวา มหาโมคฺคลฺลานํ อนุพนฺธิ. ตสฺมึ สมเย ทฺเว มหาเถรา ปฏิปาฏิยา ิตานิ ทฺเว จนฺทมณฺฑลานิ วิย, ทฺเว สูริยมณฺฑลานิ วิย, ทฺเว ฉทฺทนฺตนาคราชาโน วิย, ทฺเว สีหา วิย, ทฺเว พฺยคฺฆา วิย จ วิโรจึสุ. อนุรุทฺธตฺเถโรปิ ตสฺมึ สมเย ทิวาฏฺาเน นิสินฺโน ทฺเว มหาเถเร สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สนฺติกํ คจฺฉนฺเต ทิสฺวา ปจฺฉิมโลกธาตุํ โอโลเกนฺโต สูริยํ วนนฺตํ ปวิสนฺตํ วิย, ปาจีนโลกธาตุํ โอโลเกนฺโต จนฺทํ วนนฺตโต อุคฺคจฺฉนฺตํ วิย, สาลวนํ โอโลเกนฺโต สพฺพปาลิผุลฺลเมว สาลวนฺจ ทิสฺวา อชฺช อุโปสถทิวโส, อิเม จ เม เชฏฺภาติกา ธมฺมเสนาปติสฺส สนฺติกํ คจฺฉนฺติ, มหนฺเตน ธมฺมสฺสวเนน ภวิตพฺพํ, อหมฺปิ ธมฺมสฺสวนสฺส ภาคี ภวิสฺสามีติ นิสินฺนฏฺานโต วุฏฺาย จมฺมขณฺฑํ ปปฺโผเฏตฺวา มหาเถรานํ ปทานุปทิโก หุตฺวา นิกฺขมิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อายสฺมา จ มหาโมคฺคลฺลาโน อายสฺมา จ มหากสฺสโป อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมึสู’’ติ. อุปสงฺกมึสูติ. ปฏิปาฏิยา ิตา ตโย จนฺทา วิย, สูริยา วิย, สีหา วิย จ วิโรจมานา อุปสงฺกมึสุ.
๓๓๓. เอวํ อุปสงฺกมนฺเต ปน เต มหาเถเร อายสฺมา อานนฺโท อตฺตโน ทิวาฏฺาเน นิสินฺโนเยว ทิสฺวา, ‘‘อชฺช มหนฺตํ ธมฺมสฺสวนํ ภวิสฺสติ, มยาปิ ตสฺส ภาคินา ภวิตพฺพํ, น โข ปน เอกโกว คมิสฺสามิ, มยฺหํ ปิยสหายมฺปิ เรวตตฺเถรํ คเหตฺวา คมิสฺสามี’’ติ สพฺพํ มหาโมคฺคลฺลานสฺส มหากสฺสปสฺส อนุรุทฺธสฺส อุปสงฺกมเน วุตฺตนเยเนว ¶ วิตฺถารโต เวทิตพฺพํ. อิติ เต ทฺเว ชนา ปฏิปาฏิยา ิตา ทฺเว จนฺทา วิย, สูริยา วิย, สีหา วิย จ วิโรจมานา อุปสงฺกมึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อทฺทสา โข อายสฺมา สาริปุตฺโต’’ติอาทิ ¶ . ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจาติ ทูรโตว ทิสฺวา อนุกฺกเมน กถาอุปจารํ สมฺปตฺตเมตํ, ‘‘เอตุ โข อายสฺมา’’ติอาทิวจนํ อโวจ. รมณียํ, อาวุโสติ เอตฺถ ทุวิธํ รามเณยฺยกํ วนรามเณยฺยกํ ปุคฺคลรามเณยฺยกฺจ. ตตฺถ วนํ นาม นาคสลฬสาลจมฺปกาทีหิ ¶ สฺฉนฺนํ โหติ พหลจฺฉายํ ปุปฺผผลูปคํ วิวิธรุกฺขํ อุทกสมฺปนฺนํ คามโต นิสฺสฏํ, อิทํ วนรามเณยฺยกํ นาม. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –
‘‘รมณียานิ อรฺานิ, ยตฺถ น รมตี ชโน;
วีตราคา รมิสฺสนฺติ, น เต กามคเวสิโน’’ติ. (ธ. ป. ๙๙);
วนํ ปน สเจปิ อุชฺชงฺคเล โหติ นิรุทกํ วิรลจฺฉายํ กณฺฏกสมากิณฺณํ, พุทฺธาทโยเปตฺถ อริยา วิหรนฺติ, อิทํ ปุคฺคลรามเณยฺยกํ นาม. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –
‘‘คาเม วา ยทิ วารฺเ, นินฺเน วา ยทิ วา ถเล;
ยตฺถ อรหนฺโต วิหรนฺติ, ตํ ภูมิรามเณยฺยก’’นฺติ. (ธ. ป. ๙๘);
อิธ ปน ตํ ทุวิธมฺปิ ลพฺภติ. ตทา หิ โคสิงฺคสาลวนํ สพฺพปาลิผุลฺลํ โหติ กุสุมคนฺธสุคนฺธํ, สเทวเก เจตฺถ โลเก อคฺคปุคฺคโล สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตึสสหสฺสมตฺเตหิ อภิฺาตภิกฺขูหิ สทฺธึ วิหรติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘รมณียํ, อาวุโส อานนฺท, โคสิงฺคสาลวน’’นฺติ.
โทสินาติ โทสาปคตา, อพฺภํ มหิกา ธูโม รโช ราหูติ อิเมหิ ปฺจหิ อุปกฺกิเลเสหิ วิรหิตาติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพปาลิผุลฺลาติ สพฺพตฺถ ปาลิผุลฺลา, มูลโต ปฏฺาย ยาว อคฺคา อปุปฺผิตฏฺานํ นาม นตฺถิ. ทิพฺพา มฺเ คนฺธา สมฺปวนฺตีติ ทิพฺพา มนฺทารปุปฺผโกวิฬารปาริจฺฉตฺตกจนฺทนจุณฺณคนฺธา วิย สมนฺตา ปวายนฺติ, สกฺกสุยาสนฺตุสิตนิมฺมานรติปรนิมฺมิตมหาพฺรหฺมานํ โอติณฺณฏฺานํ วิย วายนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
กถํรูเปน ¶ , อาวุโส อานนฺทาติ อานนฺทตฺเถโร เตสํ ปฺจนฺนํ เถรานํ สงฺฆนวโกว. กสฺมา เถโร ¶ ตํเยว ปมํ ปุจฺฉตีติ? มมายิตตฺตา. เต หิ ทฺเว เถรา อฺมฺํ มมายึสุ. สาริปุตฺตตฺเถโร, ‘‘มยา กตฺตพฺพํ สตฺถุ อุปฏฺานํ กโรตี’’ติ อานนฺทตฺเถรํ มมายิ. อานนฺทตฺเถโร ภควโต สาวกานํ อคฺโคติ สาริปุตฺตตฺเถรํ มมายิ, กุลทารเก ปพฺพาเชตฺวา สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหาเปสิ. สาริปุตฺตตฺเถโรปิ ตเถว อกาสิ. เอวํ เอกเมเกน อตฺตโน ปตฺตจีวรํ ¶ ทตฺวา ปพฺพาเชตฺวา อุปชฺฌํ คณฺหาปิตานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ อเหสุํ. อายสฺมา อานนฺโท ปณีตานิ จีวราทีนิปิ ลภิตฺวา เถรสฺเสว เทติ.
เอโก กิร พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ – ‘‘พุทฺธรตนสฺส จ สงฺฆรตนสฺส จ ปูชา ปฺายติ, กถํ นุ โข ธมฺมรตนํ ปูชิตํ นาม โหตี’’ติ? โส ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปุจฺฉิ. ภควา อาห – ‘‘สเจสิ, พฺราหฺมณ, ธมฺมรตนํ ปูชิตุกาโม, เอกํ พหุสฺสุตํ ปูเชหี’’ติ พหุสฺสุตํ, ภนฺเต, อาจิกฺขถาติ ภิกฺขุสงฺฆํ ปุจฺฉติ. โส ภิกฺขุสงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา พหุสฺสุตํ, ภนฺเต, อาจิกฺขถาติ อาห. อานนฺทตฺเถโร พฺราหฺมณาติ. พฺราหฺมโณ เถรํ สหสฺสคฺฆนิเกน จีวเรน ปูเชสิ. เถโร ตํ คเหตฺวา ภควโต สนฺติกํ อคมาสิ. ภควา ‘‘กุโต, อานนฺท, ลทฺธ’’นฺติ อาห. เอเกน, ภนฺเต, พฺราหฺมเณน ทินฺนํ, อิทํ ปนาหํ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทาตุกาโมติ. เทหิ, อานนฺทาติ. จาริกํ ปกฺกนฺโต, ภนฺเตติ. อาคตกาเล เทหีติ. สิกฺขาปทํ, ภนฺเต, ปฺตฺตนฺติ. กทา ปน สาริปุตฺโต อาคมิสฺสตีติ? ทสาหมตฺเตน, ภนฺเตติ. ‘‘อนุชานามิ, อานนฺท, ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ นิกฺขิปิตุ’’นฺติ (ปารา. ๔๖๑; มหาว. ๓๔๗) สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ. สาริปุตฺตตฺเถโรปิ ตเถว ยํกิฺจิ มนาปํ ลภติ, ตํ อานนฺทตฺเถรสฺส เทติ. เอวํ เต เถรา อฺมฺํ มมายึสุ, อิติ มมายิตตฺตา ปมํ ปุจฺฉิ.
อปิจ อนุมติปุจฺฉา นาเมสา ขุทฺทกโต ปฏฺาย ปุจฺฉิตพฺพา โหติ. ตสฺมา เถโร จินฺเตสิ – ‘‘อหํ ปมํ อานนฺทํ ปุจฺฉิสฺสามิ, อานนฺโท อตฺตโน ปฏิภานํ พฺยากริสฺสติ. ตโต เรวตํ, อนุรุทฺธํ, มหากสฺสปํ, มหาโมคฺคลฺลานํ ¶ ปุจฺฉิสฺสามิ. มหาโมคฺคลฺลาโน อตฺตโน ปฏิภานํ พฺยากริสฺสติ. ตโต ปฺจปิ เถรา มํ ปุจฺฉิสฺสนฺติ, อหมฺปิ อตฺตโน ปฏิภานํ พฺยากริสฺสามี’’ติ. เอตฺตาวตาปิ อยํ ธมฺมเทสนา สิขาปฺปตฺตา เวปุลฺลปฺปตฺตา น ภวิสฺสติ, อถ มยํ สพฺเพปิ ทสพลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสาม, สตฺถา สพฺพฺุตฺาเณน พฺยากริสฺสติ. เอตฺตาวตา อยํ ธมฺมเทสนา สิขาปฺปตฺตา เวปุลฺลปฺปตฺตา ภวิสฺสติ. ยถา หิ ชนปทมฺหิ ¶ อุปฺปนฺโน อฏฺโฏ คามโภชกํ ปาปุณาติ, ตสฺมึ นิจฺฉิตุํ อสกฺโกนฺเต ชนปทโภชกํ ปาปุณาติ, ตสฺมึ อสกฺโกนฺเต มหาวินิจฺฉยอมจฺจํ, ตสฺมึ อสกฺโกนฺเต ¶ เสนาปตึ, ตสฺมึ อสกฺโกนฺเต อุปราชํ, ตสฺมึ วินิจฺฉิตุํ อสกฺโกนฺเต ราชานํ ปาปุณาติ, รฺา วินิจฺฉิตกาลโต ปฏฺาย อฏฺโฏ อปราปรํ น สฺจรติ, ราชวจเนเนว ฉิชฺชติ. เอวเมวํ อหฺหิ ปมํ อานนฺทํ ปุจฺฉิสฺสามิ…เป… อถ มยํ สพฺเพปิ ทสพลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสาม, สตฺถา สพฺพฺุตฺาเณน พฺยากริสฺสติ. เอตฺตาวตา อยํ ธมฺมเทสนา สิขาปฺปตฺตา เวปุลฺลปฺปตฺตา ภวิสฺสติ. เอวํ อนุมติปุจฺฉํ ปุจฺฉนฺโต เถโร ปมํ อานนฺทตฺเถรํ ปุจฺฉิ.
พหุสฺสุโต โหตีติ พหุ อสฺส สุตํ โหติ, นวงฺคํ สตฺถุสาสนํ ปาฬิอนุสนฺธิปุพฺพาปรวเสน อุคฺคหิตํ โหตีติ อตฺโถ. สุตธโรติ สุตสฺส อาธารภูโต. ยสฺส หิ อิโต คหิตํ อิโต ปลายติ, ฉิทฺทฆเฏ อุทกํ วิย น ติฏฺติ, ปริสมชฺเฌ เอกํ สุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถตุํ วา วาเจตุํ วา น สกฺโกติ, อยํ น สุตธโร นาม. ยสฺส ปน อุคฺคหิตํ พุทฺธวจนํ อุคฺคหิตกาลสทิสเมว โหติ, ทสปิ วีสติปิ วสฺสานิ สชฺฌายํ อกโรนฺตสฺส น นสฺสติ, อยํ สุตธโร นาม. สุตสนฺนิจโยติ สุตสฺส สนฺนิจยภูโต. ยถา หิ สุตํ หทยมฺชูสาย สนฺนิจิตํ สิลายํ เลขา วิย, สุวณฺณฆเฏ ปกฺขิตฺตสีหวสา วิย จ อชฺโฌสาย ติฏฺติ, อยํ สุตสนฺนิจโย นาม. ธาตาติ ิตา ปคุณา. เอกจฺจสฺส หิ อุคฺคหิตํ พุทฺธวจนํ ธาตํ ปคุณํ นิจฺจลิตํ น โหติ, อสุกสุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถหีติ วุตฺเต สชฺฌายิตฺวา สํสนฺทิตฺวา สมนุคฺคาหิตฺวา ชานิสฺสามีติ วทติ. เอกจฺจสฺส ธาตํ ปคุณํ ¶ ภวงฺคโสตสทิสํ โหติ, อสุกสุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถหีติ วุตฺเต อุทฺธริตฺวา ตเมว กเถติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ธาตา’’ติ.
วจสา ปริจิตาติ สุตฺตทสก-วคฺคทสก-ปณฺณาสทสกานํ วเสน วาจาย สชฺฌายิตา. มนสานุเปกฺขิตาติ จิตฺเตน อนุเปกฺขิตา, ยสฺส วาจาย สชฺฌายิตํ พุทฺธวจนํ มนสา จินฺเตนฺตสฺส ตตฺถ ตตฺถ ปากฏํ โหติ. มหาทีปํ ชาเลตฺวา ิตสฺส รูปคตํ วิย ปฺายติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา’’ติ. ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธาติ อตฺถโต จ การณโต จ ปฺาย สุปฺปฏิวิทฺธา. ปริมณฺฑเลหิ ¶ ปทพฺยฺชเนหีติ เอตฺถ ปทเมว อตฺถสฺส พฺยฺชนโต ปทพฺยฺชนํ, ตํ อกฺขรปาริปูรึ กตฺวา ทสวิธพฺยฺชนพุทฺธิโย อปริหาเปตฺวา วุตฺตํ ¶ ปริมณฺฑลํ นาม โหติ, เอวรูเปหิ ปทพฺยฺชเนหีติ อตฺโถ. อปิจ โย ภิกฺขุ ปริสติ ธมฺมํ เทเสนฺโต สุตฺตํ วา ชาตกํ วา นิกฺขปิตฺวา อฺํ อุปารมฺภกรํ สุตฺตํ อาหรติ, ตสฺส อุปมํ กเถติ, ตทตฺถํ โอหาเรติ, เอวมิทํ คเหตฺวา เอตฺถ ขิปนฺโต เอกปสฺเสเนว ปริหรนฺโต กาลํ ตฺวา วุฏฺหติ. นิกฺขิตฺตสุตฺตํ ปน นิกฺขตฺตมตฺตเมว โหติ, ตสฺส กถา อปริมณฺฑลา นาม โหติ. โย ปน สุตฺตํ วา ชาตกํ วา นิกฺขิปิตฺวา พหิ เอกปทมฺปิ อคนฺตฺวา ปาฬิยา อนุสนฺธิฺจ ปุพฺพาปรฺจ อมกฺเขนฺโต อาจริเยหิ ทินฺนนเย ตฺวา ตุลิกาย ปริจฺฉินฺทนฺโต วิย, คมฺภีรมาติกาย อุทกํ เปเสนฺโต วิย, ปทํ โกฏฺเฏนฺโต สินฺธวาชานีโย วิย คจฺฉติ, ตสฺส กถา ปริมณฺฑลา นาม โหติ. เอวรูปึ กถํ สนฺธาย – ‘‘ปริมณฺฑเลหิ ปทพฺยฺชเนหี’’ติ วุตฺตํ.
อนุปฺปพนฺเธหีติ เอตฺถ โย ภิกฺขุ ธมฺมํ กเถนฺโต สุตฺตํ วา ชาตกํ วา อารภิตฺวา อารทฺธกาลโต ปฏฺาย ตุริตตุริโต อรณึ มนฺเถนฺโต วิย, อุณฺหขาทนียํ ขาทนฺโต วิย, ปาฬิยา อนุสนฺธิปุพฺพาปเรสุ คหิตํ คหิตเมว อคฺคหิตํ อคฺคหิตเมว จ กตฺวา ปุราณปณฺณนฺตเรสุ จรมานํ โคธํ อุฏฺเปนฺโต วิย ตตฺถ ตตฺถ ปหรนฺโต โอสาเปนฺโต โอหาย คจฺฉติ. โยปิ ธมฺมํ กเถนฺโต ¶ กาเลน สีฆํ กาเลน ทนฺธํ กาเลน มหาสทฺทํ กาเลน ขุทฺทกสทฺทํ กโรติ. ยถา เปตคฺคิ กาเลน ชลติ, กาเลน นิพฺพายติ, เอวเมว อิธ เปตคฺคิธมฺมกถิโก นาม โหติ, ปริสาย อุฏฺาตุกามาย ปุนปฺปุนํ อารภติ. โยปิ กเถนฺโต ตตฺถ ตตฺถ วิตฺถายติ, นิตฺถุนนฺโต กนฺทนฺโต วิย กเถติ, อิเมสํ สพฺเพสมฺปิ กถา อปฺปพนฺธา นาม โหติ. โย ปน สุตฺตํ อารภิตฺวา อาจริเยหิ ทินฺนนเย ิโต อจฺฉินฺนธารํ กตฺวา นทีโสตํ วิย ปวตฺเตติ, อากาสคงฺคโต ภสฺสมานํ อุทกํ วิย นิรนฺตรํ กถํ ปวตฺเตติ, ตสฺส กถา อนุปฺปพนฺธา โหติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ¶ ‘‘อนุปฺปพนฺเธหี’’ติ. อนุสยสมุคฺฆาตายาติ สตฺตนฺนํ อนุสยานํ สมุคฺฆาตตฺถาย. เอวรูเปนาติ เอวรูเปน พหุสฺสุเตน ภิกฺขุนา ตถารูเปเนว ภิกฺขุสเตน ภิกฺขุสหสฺเสน วา สงฺฆาฏิกณฺเณน วา สงฺฆาฏิกณฺณํ, ปลฺลงฺเกน วา ปลฺลงฺกํ อาหจฺจ นิสินฺเนน โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺย. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๓๓๔. ปฏิสลฺลานํ อสฺส อาราโมติ ปฏิสลฺลานาราโม. ปฏิสลฺลาเน รโตติ ปฏิสลฺลานรโต.
๓๓๕. สหสฺสํ ¶ โลกานนฺติ สหสฺสํ โลกธาตูนํ. เอตฺตกฺหิ เถรสฺส ธุวเสวนํ อาวชฺชนปฏิพทฺธํ, อากงฺขมาโน ปน เถโร อเนกานิปิ จกฺกวาฬสหสฺสานิ โวโลเกติเยว. อุปริปาสาทวรคโตติ สตฺตภูมกสฺส วา นวภูมกสฺส วา ปาสาทวรสฺส อุปริ คโต. สหสฺสํ เนมิมณฺฑลานํ โวโลเกยฺยาติ ปาสาทปริเวเณ นาภิยา ปติฏฺิตานํ เนมิวฏฺฏิยา เนมิวฏฺฏึ อาหจฺจ ิตานํ เนมิมณฺฑลานํ สหสฺสํ วาตปานํ วิวริตฺวา โอโลเกยฺย, ตสฺส นาภิโยปิ ปากฏา โหนฺติ, อราปิ อรนฺตรานิปิ เนมิโยปิ. เอวเมว โข, อาวุโสติ, อาวุโส, เอวํ อยมฺปิ ทิพฺพจกฺขุโก ภิกฺขุ ทิพฺเพน จกฺขุนา อติกฺกนฺตมานุสเกน สหสฺสํ โลกานํ โวโลเกติ. ตสฺส ปาสาเท ิตปุริสสฺส จกฺกนาภิโย วิย จกฺกวาฬสหสฺเส สิเนรุสหสฺสํ ปากฏํ โหติ. อรา วิย ทีปา ปากฏา โหนฺติ. อรนฺตรานิ วิย ทีปฏฺิตมนุสฺสา ปากฏา โหนฺติ. เนมิโย วิย จกฺกวาฬปพฺพตา ปากฏา โหนฺติ.
๓๓๖. อารฺิโกติ สมาทิณฺณอรฺธุตงฺโค. เสสปเทสุปิ ¶ เอเสว นโย.
๓๓๗. โน จ สํสาเทนฺตีติ น โอสาเทนฺติ. สเหตุกฺหิ สการณํ กตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ วิสฺสชฺชิตุมฺปิ อสกฺโกนฺโต สํสาเทติ นาม. เอวํ น กโรนฺตีติ อตฺโถ. ปวตฺตินี โหตีติ นทีโสโตทกํ วิย ปวตฺตติ.
๓๓๘. ยาย ¶ วิหารสมาปตฺติยาติ ยาย โลกิยาย วิหารสมาปตฺติยา, ยาย โลกุตฺตราย วิหารสมาปตฺติยา.
๓๓๙. สาธุ สาธุ สาริปุตฺตาติ อยํ สาธุกาโร อานนฺทตฺเถรสฺส ทินฺโน. สาริปุตฺตตฺเถเรน ปน สทฺธึ ภควา อาลปติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ยถา ตํ อานนฺโทวาติ ยถา อานนฺโทว สมฺมา พฺยากรณมาโน พฺยากเรยฺย, เอวํ พฺยากตํ อานนฺเทน อตฺตโน อนุจฺฉวิกเมว, อชฺฌาสยานุรูปเมว พฺยากตนฺติ อตฺโถ. อานนฺทตฺเถโร หิ อตฺตนาปิ พหุสฺสุโต, อชฺฌาสโยปิสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อโห วต สาสเน สพฺรหฺมจารี พหุสฺสุตา ภเวยฺยุ’’นฺติ. กสฺมา? พหุสฺสุตสฺส หิ กปฺปิยากปฺปิยํ สาวชฺชานวชฺชํ, ครุกลหุกํ สเตกิจฺฉาเตกิจฺฉํ ปากฏํ โหติ. พหุสฺสุโต อุคฺคหิตพุทฺธวจนํ อาวชฺชิตฺวา อิมสฺมึ าเน สีลํ กถิตํ, อิมสฺมึ ¶ สมาธิ, อิมสฺมึ วิปสฺสนา, อิมสฺมึ มคฺคผลนิพฺพานานีติ สีลสฺส อาคตฏฺาเน สีลํ ปูเรตฺวา, สมาธิสฺส อาคตฏฺาเน สมาธึ ปูเรตฺวา วิปสฺสนาย อาคตฏฺาเน วิปสฺสนาคพฺภํ คณฺหาเปตฺวา มคฺคํ ภาเวตฺวา ผลํ สจฺฉิกโรติ. ตสฺมา เถรสฺส เอวํ อชฺฌาสโย โหติ – ‘‘อโห วต สพฺรหฺมจารี เอกํ วา ทฺเว วา ตโย วา จตฺตาโร วา ปฺจ วา นิกาเย อุคฺคเหตฺวา อาวชฺชนฺตา สีลาทีนํ อาคตฏฺาเนสุ สีลาทีนิ ปริปูเรตฺวา อนุกฺกเมน มคฺคผลนิพฺพานานิ สจฺฉิกเรยฺยุ’’นฺติ. เสสวาเรสุปิ เอเสว นโย.
๓๔๐. อายสฺมา หิ เรวโต ฌานชฺฌาสโย ฌานาภิรโต, ตสฺมาสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อโห วต สพฺรหฺมจารี เอกิกา นิสีทิตฺวา กสิณปริกมฺมํ กตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ สจฺฉิกเรยฺยุ’’นฺติ. ตสฺมา เอวํ พฺยากาสิ.
๓๔๑. อายสฺมา ¶ อนุรุทฺโธ ทิพฺพจกฺขุโก, ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อโห วต สพฺรหฺมจารี อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทิพฺเพน จกฺขุนา อเนเกสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ จวมาเน จ อุปปชฺชมาเน จ สตฺเต ทิสฺวา วฏฺฏภเยน จิตฺตํ สํเวเชตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ สจฺฉิกเรยฺยุ’’นฺติ. ตสฺมา เอวํ พฺยากาสิ.
๓๔๒. อายสฺมา มหากสฺสโป ธุตวาโท, ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อโห วต สพฺรหฺมจารี ธุตวาทา หุตฺวา ธุตงฺคานุภาเวน ปจฺจยตณฺหํ มิลาเปตฺวา อปเรปิ นานปฺปกาเร กิเลเส ธุนิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ สจฺฉิกเรยฺยุ’’นฺติ. ตสฺมา เอวํ พฺยากาสิ.
๓๔๓. อายสฺมา ¶ มหาโมคฺคลฺลาโน สมาธิปารมิยา มตฺถกํ ปตฺโต, สุขุมํ ปน จิตฺตนฺตรํ ขนฺธนฺตรํ ธาตฺวนฺตรํ อายตนนฺตรํ ฌาโนกฺกนฺติกํ อารมฺมโณกฺกนฺติกํ องฺคววตฺถานํ อารมฺมณววตฺถานํ องฺคสงฺกนฺติ อารมฺมณสงฺกนฺติ เอกโตวฑฺฒนํ อุภโตวฑฺฒนนฺติ อาภิธมฺมิกธมฺมกถิกสฺเสว ปากฏํ. อนาภิธมฺมิโก หิ ธมฺมํ กเถนฺโต – ‘‘อยํ สกวาโท อยํ ปรวาโท’’ติ น ชานาติ. สกวาทํ ทีเปสฺสามีติ ปรวาทํ ทีเปติ, ปรวาทํ ทีเปสฺสามีติ สกวาทํ ทีเปติ, ธมฺมนฺตรํ วิสํวาเทติ. อาภิธมฺมิโก สกวาทํ สกวาทนิยาเมเนว ¶ , ปรวาทํ ปรวาทนิยาเมเนว ทีเปติ, ธมฺมนฺตรํ น วิสํวาเทติ. ตสฺมา เถรสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อโห วต สพฺรหฺมจารี อาภิธมฺมิกา หุตฺวา สุขุเมสุ าเนสุ าณํ โอตาเรตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ สจฺฉิกเรยฺยุ’’นฺติ. ตสฺมา เอวํ พฺยากาสิ.
๓๔๔. อายสฺมา สาริปุตฺโต ปฺาปารมิยา มตฺถกํ ปตฺโต, ปฺวาเยว จ จิตฺตํ อตฺตโน วเส วตฺเตตุํ สกฺโกติ, น ทุปฺปฺโ. ทุปฺปฺโ หิ อุปฺปนฺนสฺส จิตฺตสฺส วเส วตฺเตตฺวา อิโต จิโต จ วิปฺผนฺทิตฺวาปิ กติปาเหเนว คิหิภาวํ ปตฺวา อนยพฺยสนํ ปาปุณาติ. ตสฺมา เถรสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อโห วต สพฺรหฺมจารี อจิตฺตวสิกา หุตฺวา จิตฺตํ อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา สพฺพานสฺส วิเสวิตวิปฺผนฺทิตานิ ภฺชิตฺวา อีสกมฺปิ พหิ นิกฺขมิตุํ อเทนฺตา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ¶ โลกุตฺตรธมฺมํ สจฺฉิกเรยฺยุ’’นฺติ. ตสฺมา เอวํ พฺยากาสิ.
๓๔๕. สพฺเพสํ โว, สาริปุตฺต, สุภาสิตํ ปริยาเยนาติ สาริปุตฺต, ยสฺมา สงฺฆารามสฺส นาม พหุสฺสุตภิกฺขูหิปิ โสภนการณํ อตฺถิ, ฌานาภิรเตหิปิ, ทิพฺพจกฺขุเกหิปิ, ธุตวาเทหิปิ, อาภิธมฺมิเกหิปิ, อจิตฺตวสิเกหิปิ โสภนการณํ อตฺถิ. ตสฺมา สพฺเพสํ ¶ โว สุภาสิตํ ปริยาเยน, เตน เตน การเณน สุภาสิตเมว, โน ทุพฺภาสิตํ. อปิจ มมปิ สุณาถาติ อปิจ มมปิ วจนํ สุณาถ. น ตาวาหํ อิมํ ปลฺลงฺกํ ภินฺทิสฺสามีติ น ตาว อหํ อิมํ จตุรงฺควีริยํ อธิฏฺาย อาภุชิตํ ปลฺลงฺกํ ภินฺทิสฺสามิ, น โมเจสฺสามีติ อตฺโถ. อิทํ กิร ภควา ปริปากคเต าเณ รชฺชสิรึ ปหาย กตาภินิกฺขมโน อนุปุพฺเพน โพธิมณฺฑํ อารุยฺห จตุรงฺควีริยํ อธิฏฺาย อปราชิตปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา ทฬฺหสมาทาโน หุตฺวา นิสินฺโน ติณฺณํ มารานํ มตฺถกํ ภินฺทิตฺวา ปจฺจูสสมเย ทสสหสฺสิโลกธาตุํ อุนฺนาเทนฺโต สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌิ, ตํ อตฺตโน มหาโพธิปลฺลงฺกํ สนฺธาย เอวมาห. อปิจ ปจฺฉิมํ ชนตํ อนุกมฺปมาโนปิ ปฏิปตฺติสารํ ปุถุชฺชนกลฺยาณกํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. ปสฺสติ หิ ภควา – ‘‘อนาคเต เอวํ อชฺฌาสยา กุลปุตฺตา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิสฺสนฺติ, ‘ภควา มหาโคสิงฺคสุตฺตํ กเถนฺโต อิธ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺฉาภตฺตํ…เป… เอวรูเปน โข, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยาติ อาห, มยํ ภควโต อชฺฌาสยํ คณฺหิสฺสามา’ติ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา จตุรงฺควีริยํ อธิฏฺาย ทฬฺหสมาทานา หุตฺวา ‘อรหตฺตํ อปฺปตฺวา อิมํ ปลฺลงฺกํ น ภินฺทิสฺสามา’ติ สมณธมฺมํ กาตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ, เต เอวํ ปฏิปนฺนา กติปาเหเนว ¶ ชาติชรามรณสฺส อนฺตํ กริสฺสนฺตี’’ติ, อิมํ ปจฺฉิมํ ชนตํ อนุกมฺปมาโน ปฏิปตฺติสารํ ปุถุชฺชนกลฺยาณกํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. เอวรูเปน โข, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยาติ, สาริปุตฺต, เอวรูเปน ภิกฺขุนา นิปฺปริยาเยเนว โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยาติ ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฏฺเปสีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาโคสิงฺคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. มหาโคปาลกสุตฺตวณฺณนา
๓๔๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ มหาโคปาลกสุตฺตํ. ตตฺถ ติสฺโส กถา เอกนาฬิกา, จตุรสฺสา, นิสินฺนวตฺติกาติ. ตตฺถ ปาฬึ วตฺวา เอเกกปทสฺส อตฺถกถนํ เอกนาฬิกา นาม. อปณฺฑิตํ โคปาลกํ ทสฺเสตฺวา, อปณฺฑิตํ ¶ ภิกฺขุํ ทสฺเสตฺวา, ปณฺฑิตํ โคปาลกํ ทสฺเสตฺวา, ปณฺฑิตํ ภิกฺขุํ ทสฺเสตฺวาติ จตุกฺกํ พนฺธิตฺวา กถนํ จตุรสฺสา นาม. อปณฺฑิตํ โคปาลกํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนํ, อปณฺฑิตํ ภิกฺขุํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนํ, ปณฺฑิตํ โคปาลกํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนํ, ปณฺฑิตํ ภิกฺขุํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนนฺติ อยํ นิสินฺนวตฺติกา นาม. อยํ อิธ สพฺพาจริยานํ อาจิณฺณา.
เอกาทสหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหีติ เอกาทสหิ อคุณโกฏฺาเสหิ. โคคณนฺติ โคมณฺฑลํ. ปริหริตุนฺติ ปริคฺคเหตฺวา วิจริตุํ. ผาตึ กาตุนฺติ วฑฺฒึ อาปาเทตุํ. อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. น รูปฺู โหตีติ คณนโต วา วณฺณโต วา รูปํ น ชานาติ. คณนโต น ชานาติ นาม อตฺตโน คุนฺนํ สตํ วา สหสฺสํ วาติ สงฺขฺยํ น ชานาติ. โส คาวีสุ หฏาสุ วา ปลาตาสุ วา โคคณํ คเณตฺวา, อชฺช เอตฺติกา น ทิสฺสนฺตีติ ทฺเว ตีณิ คามนฺตรานิ วา อฏวึ วา วิจรนฺโต น ปริเยสติ, อฺเสํ คาวีสุ อตฺตโน โคคณํ ปวิฏฺาสุปิ โคคณํ คเณตฺวา, ‘‘อิมา เอตฺติกา คาโว น อมฺหาก’’นฺติ ยฏฺิยา โปเถตฺวา น นีหรติ, ตสฺส นฏฺา คาวิโย นฏฺาว โหนฺติ. ปรคาวิโย คเหตฺวา วิจรนฺตํ โคสามิกา ทิสฺวา, ‘‘อยํ เอตฺตกํ กาลํ อมฺหากํ เธนุํ คณฺหาตี’’ติ ตชฺเชตฺวา อตฺตโน คาวิโย คเหตฺวา คจฺฉนฺติ. ตสฺส โคคโณปิ ปริหายติ, ปฺจโครสปริโภคโตปิ ปริพาหิโร โหติ. วณฺณโต น ชานาติ นาม – ‘‘เอตฺติกา คาโว เสตา, เอตฺติกา รตฺตา, เอตฺติกา กาฬา, เอตฺติกา กพรา เอตฺติกา นีลา’’ติ น ชานาติ, โส คาวีสุ หฏาสุ วา…เป… ปฺจโครสปริโภคโตปิ ปริพาหิโร โหติ.
น ลกฺขณกุสโล โหตีติ คาวีนํ สรีเร กตํ ธนุสตฺติสูลาทิเภทํ ลกฺขณํ น ชานาติ ¶ , โส คาวีสุ หฏาสุ วา ปลาตาสุ วา อชฺช อสุกลกฺขณา จ อสุกลกฺขณา จ คาโว ¶ น ทิสฺสนฺติ…เป… ปฺจโครสปริโภคโตปิ ปริพาหิโร โหติ.
น อาสาฏิกํ หาเรตาติ คุนฺนํ ขาณุกณฺฏกาทีหิ ปหฏฏฺาเนสุ วโณ โหติ. ตตฺถ นีลมกฺขิกา อณฺฑกานิ ปาเตนฺติ, เตสํ อาสาฏิกาติ นาม. ตานิ ทณฺเฑน อปเนตฺวา เภสชฺชํ ทาตพฺพํ โหติ. พาโล ¶ โคปาลโก ตถา น กโรติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘น อาสาฏิกํ หาเรตา โหตี’’ติ. ตสฺส คุนฺนํ วณา วฑฺฒนฺติ, คมฺภีรา โหนฺติ, ปาณกา กุจฺฉึ ปวิสนฺติ, คาโว เคลฺาภิภูตา เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุํ, น ปานียํ ปาตุํ สกฺโกนฺติ. ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ, โคณานํ ชโว หายติ, อุภเยสํ ชีวิตนฺตราโย โหติ. เอวมสฺส โคคโณปิ ปริหายติ, ปฺจโครสโตปิ ปริพาหิโร โหติ.
น วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหตีติ คุนฺนํ วุตฺตนเยเนว สฺชาโต วโณ เภสชฺชํ ทตฺวา วาเกน วา จีรเกน วา พนฺธิตฺวา ปฏิจฺฉาเทตพฺโพ โหติ. พาโล โคปาลโก ตถา น กโรติ, อถสฺส คุนฺนํ วเณหิ ยูสา ปคฺฆรนฺติ, ตา อฺมฺํ นิฆํเสนฺติ, เตน อฺเสมฺปิ วณา ชายนฺติ. เอวํ คาโว เคลฺาภิภูตา เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุํ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น ธูมํ กตฺตา โหตีติ อนฺโตวสฺเส ฑํสมกสาทีนํ อุสฺสนฺนกาเล โคคเณ วชํ ปวิฏฺเ ตตฺถ ตตฺถ ธูโม กาตพฺโพ โหติ, อปณฺฑิโต โคปาลโก ตํ น กโรติ. โคคโณ สพฺพรตฺตึ ฑํสาทีหิ อุปทฺทุโต นิทฺทํ อลภิตฺวา ปุนทิวเส อรฺเ ตตฺถ ตตฺถ รุกฺขมูลาทีสุ นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายติ, เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุํ…เป… ปฺจโครสปริโภคโตปิ ปริพาหิโร โหติ.
น ติตฺถํ ชานาตีติ ติตฺถํ สมนฺติ วา วิสมนฺติ วา สคาหนฺติ วา นิคฺคาหนฺติ วา น ชานาติ, โส อติตฺเถน คาวิโย โอตาเรติ. ตาสํ วิสมติตฺเถ ปาสาณาทีนิ อกฺกมนฺตีนํ ปาทา ภิชฺชนฺติ, สคาหํ คมฺภีรํ ติตฺถํ โอติณฺณา กุมฺภีลาทโย คาหา คณฺหนฺติ. อชฺช เอตฺติกา คาโว นฏฺา, อชฺช เอตฺติกาติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. เอวมสฺส โคคโณปิ ปริหายติ, ปฺจโครสโตปิ ปริพาหิโร โหติ.
น ¶ ปีตํ ชานาตีติ ปีตมฺปิ อปีตมฺปิ น ชานาติ. โคปาลเกน หิ ‘‘อิมาย คาวิยา ปีตํ, อิมาย น ปีตํ, อิมาย ปานียติตฺเถ โอกาโส ลทฺโธ, อิมาย น ¶ ลทฺโธ’’ติ เอวํ ปีตาปีตํ ชานิตพฺพํ โหติ. อยํ ปน ทิวสภาคํ อรฺเ โคคณํ รกฺขิตฺวา ปานียํ ปาเยสฺสามีติ นทึ วา ¶ ตฬากํ วา คเหตฺวา คจฺฉติ. ตตฺถ มหาอุสภา จ อนุอุสภา จ พลวคาวิโย จ ทุพฺพลานิ เจว มหลฺลกานิ จ โครูปานิ สิงฺเคหิ วา ผาสุกาหิ วา ปหริตฺวา อตฺตโน โอกาสํ กตฺวา อูรุปฺปมาณํ อุทกํ ปวิสิตฺวา ยถากามํ ปิวนฺติ. อวเสสา โอกาสํ อลภมานา ตีเร ตฺวา กลลมิสฺสกํ อุทกํ ปิวนฺติ, อปีตา เอว วา โหนฺติ. อถ เน โคปาลโก ปิฏฺิยํ ปหริตฺวา ปุน อรฺํ ปเวเสติ, ตตฺถ อปีตคาวิโย ปิปาสาย สุกฺขมานา ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุํ น สกฺโกนฺติ, ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ, โคณานํ ชโว หายติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น วีถึ ชานาตีติ ‘‘อยํ มคฺโค สโม เขโม, อยํ วิสโม สาสงฺโก สปฺปฏิภโย’’ติ น ชานาติ. โส สมํ เขมํ มคฺคํ วชฺเชตฺวา โคคณํ อิตรํ มคฺคํ ปฏิปาเทติ, ตตฺถ คาโว สีหพฺยคฺฆาทีนํ คนฺเธน โจรปริสฺสเยน วา อภิภูตา ภนฺตมิคสปฺปฏิภาคา คีวํ อุกฺขิปิตฺวา ติฏฺนฺติ, เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทนฺติ, น ปานียํ ปิวนฺติ, ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น โคจรกุสโล โหตีติ โคปาลเกน หิ โคจรกุสเลน ภวิตพฺพํ, ปฺจาหิกวาโร วา สตฺตาหิกวาโร วา ชานิตพฺโพ, เอกทิสาย โคคณํ จาเรตฺวา ปุนทิวเส ตตฺถ น จาเรตพฺโพ. มหตา หิ โคคเณน จิณฺณฏฺานํ เภริตลํ วิย สุทฺธํ โหติ นิตฺติณํ, อุทกมฺปิ อาลุฬียติ. ตสฺมา ปฺจเม วา สตฺตเม วา ทิวเส ปุน ตตฺถ จาเรตุํ วฏฺฏติ, เอตฺตเกน หิ ติณมฺปิ ปฏิวิรุหติ, อุทกมฺปิ ปสีทติ. อยํ ปน อิมํ ปฺจาหิกวารํ วา สตฺตาหิกวารํ วา น ชานาติ, ทิวเส ทิวเส รกฺขิตฏฺาเนเยว รกฺขติ. อถสฺส โคคโณ หริตติณํ น ลภติ, สุกฺขติณํ ขาทนฺโต กลลมิสฺสกํ อุทกํ ปิวติ, ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
อนวเสสโทหี จ โหตีติ ปณฺฑิตโคปาลเกน ยาว วจฺฉกสฺส มํสโลหิตํ สณฺาติ, ตาว ¶ เอกํ ทฺเว ถเน เปตฺวา สาวเสสโทหินา ภวิตพฺพํ. อยํ วจฺฉกสฺส กิฺจิ อนวเสเสตฺวา ทุหติ, ขีรปโก วจฺโฉ ขีรปิปาสาย สุกฺขติ, สณฺาตุํ ¶ อสกฺโกนฺโต กมฺปมาโน ¶ มาตุ ปุรโต ปติตฺวา กาลงฺกโรติ. มาตา ปุตฺตกํ ทิสฺวา, ‘‘มยฺหํ ปุตฺตโก อตฺตโน มาตุขีรํ ปาตุมฺปิ น ลภตี’’ติ ปุตฺตโสเกน น ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุํ, น ปานียํ ปาตุํ สกฺโกติ, ถเนสุ ขีรํ ฉิชฺชติ. เอวมสฺส โคคโณปิ ปริหายติ, ปฺจโครสโตปิ ปริพาหิโร โหติ.
คุนฺนํ ปิตุฏฺานํ กโรนฺตีติ โคปิตโร. คาโว ปริณยนฺติ ยถารุจึ คเหตฺวา คจฺฉนฺตีติ โคปริณายกา. น อติเรกปูชายาติ ปณฺฑิโต หิ โคปาลโก เอวรูเป อุสเภ อติเรกปูชาย ปูเชติ, ปณีตํ โคภตฺตํ เทติ, คนฺธปฺจงฺคุลิเกหิ มณฺเฑติ, มาลํ ปิลนฺเธติ, สิงฺเค สุวณฺณรชตโกสเก จ ธาเรติ, รตฺตึ ทีปํ ชาเลตฺวา เจลวิตานสฺส เหฏฺา สยาเปติ. อยํ ปน ตโต เอกสกฺการมฺปิ น กโรติ, อุสภา อติเรกปูชํ อลภมานา โคคณํ น รกฺขนฺติ, ปริสฺสยํ น วาเรนฺติ. เอวมสฺส โคคโณ ปริหายติ, ปฺจโครสโต ปริพาหิโร โหติ.
๓๔๗. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. น รูปฺู โหตีติ, ‘‘จตฺตาริ มหาภูตานิ จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูป’’นฺติ เอวํ วุตฺตรูปํ ทฺวีหากาเรหิ น ชานาติ คณนโต วา สมุฏฺานโต วา. คณนโต น ชานาติ นาม, ‘‘จกฺขายตนํ, โสต-ฆาน-ชิวฺหา-กายายตนํ, รูป-สทฺท-คนฺธ-รส-โผฏฺพฺพายตนํ, อิตฺถินฺทฺริยํ, ปุริสินฺทฺริยํ, ชีวิตินฺทฺริยํ, กายวิฺตฺติ, วจีวิฺตฺติ, อากาสธาตุ, อาโปธาตุ, รูปสฺส ลหุตา, มุทุตา, กมฺมฺตา, อุปจโย, สนฺตติ, ชรตา, รูปสฺส อนิจฺจตา, กพฬีกาโร อาหาโร’’ติ เอวํ ปาฬิยํ อาคตา ปฺจวีสติ รูปโกฏฺาสาติ น ชานาติ. เสยฺยถาปิ โส โคปาลโก คณนโต คุนฺนํ รูปํ น ชานาติ, ตถูปโม อยํ ภิกฺขุ. โส คณนโต รูปํ อชานนฺโต รูปํ ปริคฺคเหตฺวา อรูปํ ววตฺถเปตฺวา รูปารูปํ ปริคฺคเหตฺวา ปจฺจยํ สลฺลกฺเขตฺวา ลกฺขณํ อาโรเปตฺวา กมฺมฏฺานํ มตฺถกํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ. โส ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส โคคโณ น วฑฺฒติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน สีลสมาธิวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพาเนหิ น วฑฺฒติ, ยถา ¶ จ โส โคปาลโก ปฺจหิ โครเสหิ ปริพาหิโร โหติ, เอวํ อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน, อเสกฺเขน สมาธิ, ปฺา, วิมุตฺติ, วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธนาติ ปฺจหิ ธมฺมกฺขนฺเธหิ ปริพาหิโร โหติ.
สมุฏฺานโต ¶ ¶ น ชานาติ นาม, ‘‘เอตฺตกํ รูปํ เอกสมุฏฺานํ, เอตฺตกํ ทฺวิสมุฏฺานํ, เอตฺตกํ ติสมุฏฺานํ, เอตฺตกํ จตุสมุฏฺานํ, เอตฺตกํ น กุโตจิสมุฏฺาตี’’ติ น ชานาติ. เสยฺยถาปิ โส โคปาลโก วณฺณโต คุนฺนํ รูปํ น ชานาติ, ตถูปโม อยํ ภิกฺขุ. โส สมุฏฺานโต รูปํ อชานนฺโต รูปํ ปริคฺคเหตฺวา อรูปํ ววตฺถเปตฺวา…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น ลกฺขณกุสโล โหตีติ กมฺมลกฺขโณ พาโล, กมฺมลกฺขโณ ปณฺฑิโตติ เอวํ วุตฺตํ กุสลากุสลํ กมฺมํ ปณฺฑิตพาลลกฺขณนฺติ น ชานาติ. โส เอวํ อชานนฺโต พาเล วชฺเชตฺวา ปณฺฑิเต น เสวติ, พาเล วชฺเชตฺวา ปณฺฑิเต อเสวนฺโต กปฺปิยากปฺปิยํ กุสลากุสลํ สาวชฺชานวชฺชํ ครุกลหุกํ สเตกิจฺฉอเตกิจฺฉํ การณาการณํ น ชานาติ; ตํ อชานนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ. โส ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส โคคโณ น วฑฺฒติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน ยถาวุตฺเตหิ สีลาทีหิ น วฑฺฒติ, โคปาลโก วิย จ ปฺจหิ โครเสหิ ปฺจหิ ธมฺมกฺขนฺเธหิ ปริพาหิโร โหติ.
น อาสาฏิกํ หาเรตา โหตีติ อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกนฺติ เอวํ วุตฺเต กามวิตกฺกาทิเก น วิโนเทติ, โส อิมํ อกุสลวิตกฺกํ อาสาฏิกํ อหาเรตฺวา วิตกฺกวสิโก หุตฺวา วิจรนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ, โส ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหตีติ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา นิมิตฺตคฺคาหี โหตีติอาทินา นเยน สพฺพารมฺมเณสุ นิมิตฺตํ คณฺหนฺโต ยถา โส โคปาลโก วณํ น ปฏิจฺฉาเทติ, เอวํ สํวรํ น สมฺปาเทติ. โส วิวฏทฺวาโร วิจรนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น ธูมํ กตฺตา โหตีติ โส โคปาลโก ธูมํ วิย ธมฺมเทสนาธูมํ น กโรติ, ธมฺมกถํ วา สรภฺํ วา อุปนิสินฺนกถํ วา อนุโมทนํ วา น กโรติ ¶ . ตโต นํ มนุสฺสา พหุสฺสุโต คุณวาติ น ชานนฺติ, เต คุณาคุณํ อชานนฺตา จตูหิ ปจฺจเยหิ สงฺคหํ น กโรนฺติ ¶ . โส ปจฺจเยหิ ¶ กิลมมาโน พุทฺธวจนํ สชฺฌายํ กาตุํ วตฺตปฏิปตฺตึ ปูเรตุํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น ติตฺถํ ชานาตีติ ติตฺถภูเต พหุสฺสุตภิกฺขู น อุปสงฺกมติ, อุปสงฺกมนฺโต, ‘‘อิทํ, ภนฺเต, พฺยฺชนํ กถํ โรเปตพฺพํ, อิมสฺส ภาสิตสฺส โก อตฺโถ, อิมสฺมึ าเน ปาฬิ กึ วเทติ, อิมสฺมึ าเน อตฺโถ กึ ทีเปตี’’ติ เอวํ น ปริปุจฺฉติ น ปริปฺหติ, น ชานาเปตีติ อตฺโถ. ตสฺส เต เอวํ อปริปุจฺฉโต อวิวฏฺเจว น วิวรนฺติ, ภาเชตฺวา น ทสฺเสนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ น อุตฺตานีกโรนฺติ, อปากฏํ น ปากฏํ กโรนฺติ. อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาานิเยสุ ธมฺเมสูติ อเนกวิธาสุ กงฺขาสุ เอกํ กงฺขมฺปิ น ปฏิวิโนเทนฺติ. กงฺขา เอว หิ กงฺขาานิยา ธมฺมา นาม. ตตฺถ เอกํ กงฺขมฺปิ น นีหรนฺตีติ อตฺโถ. โส เอวํ พหุสฺสุตติตฺถํ อนุปสงฺกมิตฺวา สกงฺโข กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ. ยถา จ โส โคปาลโก ติตฺถํ น ชานาติ, เอวํ อยมฺปิ ภิกฺขุ ธมฺมติตฺถํ น ชานาติ, อชานนฺโต อวิสเย ปฺหํ ปุจฺฉติ, อภิธมฺมิกํ อุปสงฺกมิตฺวา กปฺปิยากปฺปิยํ ปุจฺฉติ, วินยธรํ อุปสงฺกมิตฺวา รูปารูปปริจฺเฉทํ ปุจฺฉติ. เต อวิสเย ปุฏฺา กเถตุํ น สกฺโกนฺติ, โส อตฺตนา สกงฺโข กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น ปีตํ ชานาตีติ ยถา โส โคปาลโก ปีตาปีตํ น ชานาติ, เอวํ ธมฺมูปสฺหิตํ ปาโมชฺชํ น ชานาติ น ลภติ, สวนมยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ นิสฺสาย อานิสํสํ น วินฺทติ, ธมฺมสฺสวนคฺคํ คนฺตฺวา สกฺกจฺจํ น สุณาติ, นิสินฺโน นิทฺทายติ, กถํ กเถติ, อฺวิหิตโก โหติ, โส สกฺกจฺจํ ธมฺมํ อสุณนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น วีถึ ชานาตีติ โส โคปาลโก มคฺคามคฺคํ วิย, – ‘‘อยํ โลกิโย อยํ โลกุตฺตโร’’ติ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ยถาภูตํ น ปชานาติ. อชานนฺโต โลกิยมคฺเค อภินิวิสิตฺวา โลกุตฺตรํ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น โคจรกุสโล โหตีติ โส โคปาลโก ปฺจาหิกวาเร ¶ สตฺตาหิกวาเร วิย จตฺตาโร สติปฏฺาเน ¶ , ‘‘อิเม โลกิยา อิเม โลกุตฺตรา’’ติ ยถาภูตํ น ปชานาติ. อชานนฺโต สุขุมฏฺาเนสุ อตฺตโน ¶ าณํ จราเปตฺวา โลกิยสติปฏฺาเน อภินิวิสิตฺวา โลกุตฺตรํ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
อนวเสสโทหี จ โหตีติ ปฏิคฺคหเณ มตฺตํ อชานนฺโต อนวเสสํ ทุหติ. นิทฺเทสวาเร ปนสฺส อภิหฏฺุํ ปวาเรนฺตีติ อภิหริตฺวา ปวาเรนฺติ. เอตฺถ ทฺเว อภิหารา วาจาภิหาโร จ ปจฺจยาภิหาโร จ. วาจาภิหาโร นาม มนุสฺสา ภิกฺขุสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘วเทยฺยาถ, ภนฺเต, เยนตฺโถ’’ติ ปวาเรนฺติ. ปจฺจยาภิหาโร นาม วตฺถาทีนิ วา เตลผาณิตาทีนิ วา คเหตฺวา ภิกฺขุสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต, ยาวตเกน อตฺโถ’’ติ วทนฺติ. ตตฺร ภิกฺขุ มตฺตํ น ชานาตีติ ภิกฺขุ เตสุ ปจฺจเยสุ ปมาณํ น ชานาติ, – ‘‘ทายกสฺส วโส เวทิตพฺโพ, เทยฺยธมฺมสฺส วโส เวทิตพฺโพ, อตฺตโน ถาโม เวทิตพฺโพ’’ติ รถวินีเต วุตฺตนเยน ปมาณยุตฺตํ อคฺคเหตฺวา ยํ อาหรนฺติ, ตํ สพฺพํ คณฺหาตีติ อตฺโถ. มนุสฺสา วิปฺปฏิสาริโน น ปุน อภิหริตฺวา ปวาเรนฺติ. โส ปจฺจเยหิ กิลมนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
เต น อติเรกปูชาย ปูเชตา โหตีติ โส โคปาลโก มหาอุสเภ วิย เต เถเร ภิกฺขู อิมาย อาวิ เจว รโห จ เมตฺตาย กายกมฺมาทิกาย อติเรกปูชาย น ปูเชติ. ตโต เถรา, – ‘‘อิเม อมฺเหสุ ครุจิตฺตีการํ น กโรนฺตี’’ติ นวเก ภิกฺขู ทฺวีหิ สงฺคเหหิ น สงฺคณฺหนฺติ, น อามิสสงฺคเหน จีวเรน วา ปตฺเตน วา ปตฺตปริยาปนฺเนน วา วสนฏฺาเนน วา. กิลมนฺเต มิลายนฺเตปิ นปฺปฏิชคฺคนฺติ. ปาฬึ วา อฏฺกถํ วา ธมฺมกถาพนฺธํ วา คุยฺหคนฺถํ วา น สิกฺขาเปนฺติ. นวกา เถรานํ สนฺติกา สพฺพโส อิเม ทฺเว สงฺคเห อลภมานา อิมสฺมึ สาสเน ปติฏฺาตุํ น สกฺโกนฺติ. ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส โคคโณ น วฑฺฒติ, เอวํ สีลาทีนิ น วฑฺฒนฺติ. ยถา จ โส โคปาลโก ปฺจหิ โครเสหิ ปริพาหิโร โหติ, เอวํ ปฺจหิ ธมฺมกฺขนฺเธหิ ปริพาหิรา โหนฺติ. สุกฺกปกฺโข กณฺหปกฺเข วุตฺตวิปลฺลาสวเสน โยเชตฺวา เวทิตพฺโพติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาโคปาลกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. จูฬโคปาลกสุตฺตวณฺณนา
๓๕๐. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ จูฬโคปาลกสุตฺตํ. ตตฺถ อุกฺกเจลายนฺติ เอวํนามเก นคเร. ตสฺมึ กิร มาปิยมาเน รตฺตึ คงฺคาโสตโต มจฺโฉ ถลํ ปตฺโต. มนุสฺสา เจลานิ เตลปาติยํ เตเมตฺวา อุกฺกา กตฺวา มจฺฉํ คณฺหึสุ. นคเร นิฏฺิเต ตสฺส นามํ กโรนฺเต อมฺเหหิ นครฏฺานสฺส คหิตทิวเส เจลุกฺกาหิ มจฺโฉ คหิโตติ อุกฺกเจลา-ตฺเววสฺส นามํ อกํสุ. ภิกฺขู อามนฺเตสีติ ยสฺมึ าเน นิสินฺนสฺส สพฺพา คงฺคา ปากฏา หุตฺวา ปฺายติ, ตาทิเส วาลิกุสฺสเท คงฺคาติตฺเถ สายนฺหสมเย มหาภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นิสีทิตฺวา มหาคงฺคํ ปริปุณฺณํ สนฺทมานํ โอโลเกนฺโต, – ‘‘อตฺถิ นุ โข อิมํ คงฺคํ นิสฺสาย โกจิ ปุพฺเพ วฑฺฒิปริหานึ ปตฺโต’’ติ อาวชฺชิตฺวา, ปุพฺเพ เอกํ พาลโคปาลกํ นิสฺสาย อเนกสตสหสฺสา โคคณา อิมิสฺสา คงฺคาย อาวฏฺเฏ ปติตฺวา สมุทฺทเมว ปวิฏฺา, อปรํ ปน ปณฺฑิตโคปาลกํ นิสฺสาย อเนกสตสหสฺสโคคณสฺส โสตฺถิ ชาตา วฑฺฒิ ชาตา อาโรคฺยํ ชาตนฺติ อทฺทส. ทิสฺวา อิมํ การณํ นิสฺสาย ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสสฺสามีติ จินฺเตตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ.
มาคธโกติ มคธรฏฺวาสี. ทุปฺปฺชาติโกติ นิปฺปฺสภาโว ทนฺโธ มหาชโฬ. อสมเวกฺขิตฺวาติ อสลฺลกฺเขตฺวา อนุปธาเรตฺวา. ปตาเรสีติ ตาเรตุํ อารภิ. อุตฺตรํ ตีรํ สุวิเทหานนฺติ คงฺคาย โอริเม ตีเร มคธรฏฺํ, ปาริเม ตีเร วิเทหรฏฺํ, คาโว มคธรฏฺโต วิเทหรฏฺํ เนตฺวา รกฺขิสฺสามีติ อุตฺตรํ ตีรํ ปตาเรสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อุตฺตรํ ตีรํ สุวิเทหาน’’นฺติ. อามณฺฑลิกํ กริตฺวาติ มณฺฑลิกํ กตฺวา. อนยพฺยสนํ อาปชฺชึสูติ อวฑฺฒึ วินาสํ ปาปุณึสุ, มหาสมุทฺทเมว ปวิสึสุ. เตน หิ โคปาลเกน คาโว โอตาเรนฺเตน คงฺคาย โอริมตีเร สมติตฺถฺจ ¶ วิสมติตฺถฺจ โอโลเกตพฺพํ อสฺส, มชฺเฌ คงฺคาย คุนฺนํ วิสฺสมฏฺานตฺถํ ทฺเว ตีณิ วาลิกตฺถลานิ สลฺลกฺเขตพฺพานิ อสฺสุ. ตถา ปาริมตีเร ตีณิ จตฺตาริ ติตฺถานิ, อิมสฺมา ติตฺถา ภฏฺา อิมํ ติตฺถํ คณฺหิสฺสนฺติ, อิมสฺมา ภฏฺา อิมนฺติ. อยํ ปน พาลโคปาลโก โอริมตีเร คุนฺนํ โอตรณติตฺถํ สมํ วา วิสมํ วา อโนโลเกตฺวาว มชฺเฌ ¶ คงฺคาย คุนฺนํ วิสฺสมฏฺานตฺถํ ทฺเว ตีณิ วาลิกตฺถลานิปิ อสลฺลกฺเขตฺวาว ปรตีเร จตฺตาริ ¶ ปฺจ อุตฺตรณติตฺถานิ อสมเวกฺขิตฺวาว อติตฺเถเนว คาโว โอตาเรสิ. อถสฺส มหาอุสโภ ชวนสมฺปนฺนตาย เจว ถามสมฺปนฺนตาย จ ติริยํ คงฺคาย โสตํ เฉตฺวา ปาริมํ ตีรํ ปตฺวา ฉินฺนตฏฺเจว กณฺฏกคุมฺพคหนฺจ ทิสฺวา, ‘‘ทุพฺพินิวิฏฺเมต’’นฺติ ตฺวา ธุรคฺค-ปติฏฺาโนกาสมฺปิ อลภิตฺวา ปฏินิวตฺติ. คาโว มหาอุสโภ นิวตฺโต มยมฺปิ นิวตฺติสฺสามาติ นิวตฺตา. มหโต โคคณสฺส นิวตฺตฏฺาเน อุทกํ ฉิชฺชิตฺวา มชฺเฌ คงฺคาย อาวฏฺฏํ อุฏฺเปสิ. โคคโณ อาวฏฺฏํ ปวิสิตฺวา สมุทฺทเมว ปตฺโต. เอโกปิ โคโณ อโรโค นาม นาโหสิ. เตนาห – ‘‘ตตฺเถว อนยพฺยสนํ อาปชฺชึสู’’ติ.
อกุสลา อิมสฺส โลกสฺสาติ อิธ โลเก ขนฺธธาตายตเนสุ อกุสลา อเฉกา, ปรโลเกปิ เอเสว นโย. มารเธยฺยํ วุจฺจติ เตภูมกธมฺมา. อมารเธยฺยํ นว โลกุตฺตรธมฺมา. มจฺจุเธยฺยมฺปิ เตภูมกธมฺมาว. อมจฺจุเธยฺยํ นว โลกุตฺตรธมฺมา. ตตฺถ อกุสลา อเฉกา. วจนตฺถโต ปน มารสฺส เธยฺยํ มารเธยฺยํ. เธยฺยนฺติ านํ วตฺถุ นิวาโส โคจโร. มจฺจุเธยฺเยปิ เอเสว นโย. เตสนฺติ เตสํ เอวรูปานํ สมณพฺราหฺมณานํ, อิมินา ฉ สตฺถาโร ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา.
๓๕๑. เอวํ กณฺหปกฺขํ นิฏฺเปตฺวา สุกฺกปกฺขํ ทสฺเสนฺโต ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ พลวคาโวติ ทนฺตโคเณ เจว เธนุโย จ. ทมฺมคาโวติ ทเมตพฺพโคเณ เจว อวิชาตคาโว จ. วจฺฉตเรติ วจฺฉภาวํ ตริตฺวา ิเต พลววจฺเฉ. วจฺฉเกติ เธนุปเก ตรุณวจฺฉเก ¶ . กิสาพลเกติ อปฺปมํสโลหิเต มนฺทถาเม. ตาวเทว ชาตโกติ ตํทิวเส ชาตโก. มาตุโครวเกน วุยฺหมาโนติ มาตา ปุรโต ปุรโต หุํหุนฺติ โครวํ กตฺวา สฺํ ททมานา อุเรน อุทกํ ฉินฺทมานา คจฺฉติ, วจฺฉโก ตาย โครวสฺาย เธนุยา วา อุเรน ฉินฺโนทเกน คจฺฉมาโน ‘‘มาตุโครวเกน วุยฺหมาโน’’ติ วุจฺจติ.
๓๕๒. มารสฺส ¶ โสตํ เฉตฺวาติ อรหตฺตมคฺเคน มารสฺส ตณฺหาโสตํ เฉตฺวา. ปารํ คตาติ มหาอุสภา นทีปารํ วิย สํสารปารํ นิพฺพานํ คตา. ปารํ อคมํสูติ มหาอุสภานํ ปารงฺคตกฺขเณ คงฺคาย โสตสฺส ตโย โกฏฺาเส อติกฺกมฺม ิตา มหาอุสเภ ปารํ ปตฺเต ทิสฺวา เตสํ คตมคฺคํ ปฏิปชฺชิตฺวา ปารํ อคมํสุ. ปารํ คมิสฺสนฺตีติ จตุมคฺควชฺฌานํ กิเลสานํ ตโย ¶ โกฏฺาเส เขเปตฺวา ิตา อิทานิ อรหตฺตมคฺเคน อวเสสํ ตณฺหาโสตํ เฉตฺวา พลวคาโว วิย นทีปารํ สํสารปารํ นิพฺพานํ คมิสฺสนฺตีติ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ธมฺมานุสาริโน, สทฺธานุสาริโนติ อิเม ทฺเว ปมมคฺคสมงฺคิโน.
ชานตาติ สพฺพธมฺเม ชานนฺเตน พุทฺเธน. สุปฺปกาสิโตติ สุกถิโต. วิวฏนฺติ วิวริตํ. อมตทฺวารนฺติ อริยมคฺโค. นิพฺพานปตฺติยาติ ตทตฺถาย วิวฏํ. วินฬีกตนฺติ วิคตมานนฬํ กตํ. เขมํ ปตฺเถถาติ กตฺตุกมฺยตาฉนฺเทน อรหตฺตํ ปตฺเถถ, กตฺตุกามา นิพฺพตฺเตตุกามา โหถาติ อตฺโถ. ‘‘ปตฺต’ตฺถา’’ติปิ ปาโ. เอวรูปํ สตฺถารํ ลภิตฺวา ตุมฺเห ปตฺตาเยว นามาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. ภควา ปน ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฏฺเปสีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬโคปาลกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จูฬสจฺจกสุตฺตวณฺณนา
๓๕๓. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ จูฬสจฺจกสุตฺตํ. ตตฺถ มหาวเน กูฏาคารสาลายนฺติ มหาวนํ นาม สยํชาตํ อโรปิมํ สปริจฺเฉทํ มหนฺตํ วนํ. กปิลวตฺถุสามนฺตา ¶ ปน มหาวนํ หิมวนฺเตน สห เอกาพทฺธํ อปริจฺเฉทํ หุตฺวา มหาสมุทฺทํ อาหจฺจ ิตํ. อิทํ ตาทิสํ น โหติ. สปริจฺเฉทํ มหนฺตํ วนนฺติ มหาวนํ. กูฏาคารสาลา ปน มหาวนํ นิสฺสาย กเต อาราเม กูฏาคารํ อนฺโตกตฺวา หํสวฏฺฏกจฺฉนฺเนน กตา สพฺพาการสมฺปนฺนา พุทฺธสฺส ภควโต คนฺธกุฏิ เวทิตพฺพา.
สจฺจโก ¶ นิคณฺปุตฺโตติ ปุพฺเพ กิร เอโก นิคณฺโ จ นิคณฺี จ ปฺจ ปฺจ วาทสตานิ อุคฺคเหตฺวา, วาทํ อาโรเปสฺสามาติ ชมฺพุทีเป วิจรนฺตา เวสาลิยํ สมาคตา. ลิจฺฉวิราชาโน ทิสฺวา, – ‘‘ตฺวํ โก, ตฺวํ กา’’ติ ปุจฺฉึสุ. นิคณฺโ – ‘‘อหํ วาทํ อาโรเปสฺสามีติ ชมฺพุทีเป วิจรามี’’ติ อาห. นิคณฺีปิ ตถา อาห. ลิจฺฉวิโน, ‘‘อิเธว อฺมฺํ วาทํ อาโรเปถา’’ติ อาหํสุ. นิคณฺี อตฺตนา อุคฺคหิตานิ ปฺจวาทสตานิ ปุจฺฉิ, นิคณฺโ กเถสิ. นิคณฺเน ปุจฺฉิเตปิ นิคณฺี กเถสิเยว. เอกสฺสปิ น ชโย, น ปราชโย, อุโภ สมสมาว อเหสุํ. ลิจฺฉวิโน, – ‘‘ตุมฺเห อุโภปิ สมสมา อาหิณฺฑิตฺวา กึ กริสฺสถ, อิเธว วสถา’’ติ เคหํ ทตฺวา พลึ ปฏฺเปสุํ. เตสํ สํวาสมนฺวาย จตสฺโส ธีตโร ชาตา, – เอกา สจฺจา นาม, เอกา โลลา นาม, เอกา ปฏาจารา นาม, เอกา อาจารวตี นาม. ตาปิ ปณฺฑิตาว อเหสุํ, มาตาปิตูหิ อุคฺคหิตานิ ปฺจ ปฺจ วาทสตานิ อุคฺคเหสุํ. ตา วยปตฺตา มาตาปิตโร อโวจุํ – ‘‘อมฺหากํ อมฺมา กุเล ทาริกา นาม หิรฺสุวณฺณาทีนิ ทตฺวา กุลฆรํ เปสิตปุพฺพา นาม นตฺถิ. โย ปน อคาริโก ตาสํ วาทํ มทฺทิตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ปาทปริจาริกา โหนฺติ. โย ปพฺพชิโต ตาสํ มทฺทิตุํ สกฺโกติ, ตสฺส สนฺติเก ปพฺพชนฺติ. ตุมฺเห กึ กริสฺสถา’’ติ? มยมฺปิ เอวเมว กริสฺสามาติ. จตสฺโสปิ ปริพฺพาชิกเวสํ คเหตฺวา, ‘‘อยํ ชมฺพุทีโป นาม ชมฺพุยา ปฺายตี’’ติ ชมฺพุสาขํ คเหตฺวา จาริกํ ปกฺกมึสุ. ยํ คามํ ปาปุณนฺติ, ตสฺส ทฺวาเร ปํสุปฺุเช ¶ วา วาลิกปฺุเช วา ชมฺพุธชํ เปตฺวา, – ‘‘โย วาทํ อาโรเปตุํ สกฺโกติ, โส อิมํ มทฺทตู’’ติ วตฺวา คามํ ปวิสนฺติ. เอวํ คาเมน คามํ วิจรนฺติโย สาวตฺถึ ปาปุณิตฺวา ตเถว คามทฺวาเร ชมฺพุธชํ ¶ เปตฺวา สมฺปตฺตมนุสฺสานํ อาโรเจตฺวา อนฺโตนครํ ปวิฏฺา.
เตน สมเยน ภควา สาวตฺถึ นิสฺสาย เชตวเน วิหรติ. อถายสฺมา สาริปุตฺโต คิลาเน ปุจฺฉนฺโต อชคฺคิตฏฺานํ ชคฺคนฺโต อตฺตโน กิจฺจมหนฺตตาย อฺเหิ ภิกฺขูหิ ทิวาตรํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิสนฺโต คามทฺวาเร ชมฺพุธชํ ทิสฺวา, – ‘‘กิมิท’’นฺติ ทารเก ปุจฺฉิ. เต ตมตฺถํ อาโรเจสุํ. เตน หิ มทฺทถาติ. น สกฺโกม, ภนฺเต, ภายามาติ. ‘‘กุมารา ¶ มา ภายถ, ‘เกน อมฺหากํ ชมฺพุธโช มทฺทาปิโต’ติ วุตฺเต, พุทฺธสาวเกน สาริปุตฺตตฺเถเรน มทฺทาปิโต, วาทํ อาโรเปตุกามา เชตวเน เถรสฺส สนฺติกํ คจฺฉถาติ วเทยฺยาถา’’ติ อาห. เต เถรสฺส วจนํ สุตฺวา ชมฺพุธชํ มทฺทิตฺวา ฉฑฺเฑสุํ. เถโร ปิณฺฑาย จริตฺวา วิหารํ คโต. ปริพฺพาชิกาปิ คามโต นิกฺขมิตฺวา, ‘‘อมฺหากํ ธโช เกน มทฺทาปิโต’’ติ ปุจฺฉึสุ. ทารกา ตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ปริพฺพาชิกา ปุน คามํ ปวิสิตฺวา เอเกกํ วีถึ คเหตฺวา, – ‘‘พุทฺธสาวโก กิร สาริปุตฺโต นาม อมฺเหหิ สทฺธึ วาทํ กริสฺสติ, โสตุกามา นิกฺขมถา’’ติ อาโรเจสุํ. มหาชโน นิกฺขมิ, เตน สทฺธึ ปริพฺพาชิกา เชตวนํ อคมึสุ.
เถโร – ‘‘อมฺหากํ วสนฏฺาเน มาตุคามสฺส อาคมนํ นาม อผาสุก’’นฺติ วิหารมชฺเฌ นิสีทิ. ปริพฺพาชิกาโย คนฺตฺวา เถรํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘ตุมฺเหหิ อมฺหากํ ธโช มทฺทาปิโต’’ติ? อาม, มยา มทฺทาปิโตติ. มยํ ตุมฺเหหิ สทฺธึ วาทํ กริสฺสามาติ. สาธุ กโรถ, กสฺส ปุจฺฉา กสฺส วิสฺสชฺชนํ โหตูติ? ปุจฺฉา นาม อมฺหากํ ปตฺตา, ตุมฺเห ปน มาตุคามา นาม ปมํ ปุจฺฉถาติ อาห. ตา จตสฺโสปิ จตูสุ ทิสาสุ ตฺวา มาตาปิตูนํ สนฺติเก อุคฺคหิตํ วาทสหสฺสํ ปุจฺฉึสุ. เถโร ขคฺเคน กุมุทนาฬํ ฉินฺทนฺโต วิย ปุจฺฉิตํ ปุจฺฉิตํ นิชฺชฏํ นิคฺคณฺึ กตฺวา กเถสิ, กเถตฺวา ปุน ปุจฺฉถาติ อาห. เอตฺตกเมว, ภนฺเต, มยํ ชานามาติ. เถโร อาห – ‘‘ตุมฺเหหิ วาทสหสฺสํ ปุจฺฉิตํ มยา กถิตํ, อหํ ปน เอกํ เยว ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามิ, ตํ ตุมฺเห กเถถา’’ติ. ตา เถรสฺส วิสยํ ทิสฺวา, ‘‘ปุจฺฉถ, ภนฺเต, พฺยากริสฺสามา’’ติ วตฺตุํ นาสกฺขึสุ. ‘‘วท, ภนฺเต, ชานมานา ¶ พฺยากริสฺสามา’’ติ ปุน อาหํสุ.
เถโร ¶ อยํ ปน กุลปุตฺเต ปพฺพาเชตฺวา ปมํ สิกฺขาเปตพฺพปฺโหติ วตฺวา, – ‘‘เอกํ นาม กิ’’นฺติ ปุจฺฉิ. ตา เนว อนฺตํ, น โกฏึ อทฺทสํสุ. เถโร กเถถาติ อาห. น ปสฺสาม, ภนฺเตติ. ตุมฺเหหิ วาทสหสฺสํ ปุจฺฉิตํ มยา กถิตํ, มยฺหํ ตุมฺเห เอกํ ปฺหมฺปิ กเถตุํ น สกฺโกถ, เอวํ สนฺเต กสฺส ชโย กสฺส ปราชโยติ? ตุมฺหากํ, ภนฺเต, ชโย, อมฺหากํ ปราชโยติ. อิทานิ กึ กริสฺสถาติ? ตา มาตาปิตูหิ วุตฺตวจนํ อาโรเจตฺวา, ‘‘ตุมฺหากํ สนฺติเก ปพฺพชิสฺสามา’’ติ อาหํสุ. ตุมฺเห มาตุคามา นาม อมฺหากํ สนฺติเก ปพฺพชิตุํ น วฏฺฏติ, อมฺหากํ ปน สาสนํ คเหตฺวา ¶ ภิกฺขุนิอุปสฺสยํ คนฺตฺวา ปพฺพชถาติ. ตา สาธูติ เถรสฺส สาสนํ คเหตฺวา ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปพฺพชึสุ. ปพฺพชิตา จ ปน อปฺปมตฺตา อาตาปินิโย หุตฺวา นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณึสุ.
อยํ สจฺจโก ตาสํ จตุนฺนมฺปิ กนิฏฺภาติโก. ตาหิ จตูหิปิ อุตฺตริตรปฺโ, มาตาปิตูนมฺปิ สนฺติกา วาทสหสฺสํ, ตโต พหุตรฺจ พาหิรสมยํ อุคฺคเหตฺวา กตฺถจิ อคนฺตฺวา ราชทารเก สิปฺปํ สิกฺขาเปนฺโต ตตฺเถว เวสาลิยํ วสติ, ปฺาย อติปูริตตฺตา กุจฺฉิ เม ภิชฺเชยฺยาติ ภีโต อยปฏฺเฏน กุจฺฉึ ปริกฺขิปิตฺวา จรติ, อิมํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สจฺจโก นิคณฺปุตฺโต’’ติ.
ภสฺสปฺปวาทโกติ ภสฺสํ วุจฺจติ กถามคฺโค, ตํ ปวทติ กเถตีติ ภสฺสปฺปวาทโก. ปณฺฑิตวาโทติ อหํ ปณฺฑิโตติ เอวํ วาโท. สาธุสมฺมโต พหุชนสฺสาติ ยํ ยํ นกฺขตฺตจาเรน อาทิสติ, ตํ ตํ เยภุยฺเยน ตเถว โหติ, ตสฺมา อยํ สาธุลทฺธิโก ภทฺทโกติ เอวํ สมฺมโต มหาชนสฺส. วาเทน วาทํ สมารทฺโธติ กถามคฺเคน โทสํ อาโรปิโต. อายสฺมา อสฺสชีติ สาริปุตฺตตฺเถรสฺส อาจริโย อสฺสชิตฺเถโร. ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมมาโนติ ตโต ตโต ลิจฺฉวิราชเคหโต ตํ ตํ เคหํ คมนตฺถาย อนุจงฺกมมาโน. เยนายสฺมา อสฺสชิ เตนุปสงฺกมีติ กสฺมา อุปสงฺกมิ? สมยชานนตฺถํ.
เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อหํ ‘สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ อาโรเปสฺสามี’ติ อาหิณฺฑามิ, ‘สมยํ ปนสฺส น ชานามี’ติ น อาโรเปสึ. ปรสฺส หิ สมยํ ¶ ตฺวา อาโรปิโต วาโท สฺวาโรปิโต นาม โหติ. อยํ ปน สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก ปฺายติ อสฺสชิตฺเถโร ¶ ; โส อตฺตโน สตฺถุ สมเย โกวิโท, เอตาหํ ปุจฺฉิตฺวา กถํ ปติฏฺาเปตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ อาโรเปสฺสามี’’ติ. ตสฺมา อุปสงฺกมิ. วิเนตีติ กถํ วิเนติ, กถํ สิกฺขาเปตีติ ปุจฺฉติ. เถโร ปน ยสฺมา ทุกฺขนฺติ วุตฺเต อุปารมฺภสฺส โอกาโส โหติ, มคฺคผลานิปิ ปริยาเยน ทุกฺขนฺติ อาคตานิ, อยฺจ ทุกฺขนฺติ วุตฺเต เถรํ ปุจฺเฉยฺย – ‘‘โภ อสฺสชิ, กิมตฺถํ ตุมฺเห ปพฺพชิตา’’ติ. ตโต ‘‘มคฺคผลตฺถายา’’ติ วุตฺเต, – ‘‘นยิทํ, โภ อสฺสชิ, ตุมฺหากํ สาสนํ นาม, มหาอาฆาตนํ นาเมตํ, นิรยุสฺสโท นาเมส, นตฺถิ ตุมฺหากํ สุขาสา, อุฏฺายุฏฺาย ทุกฺขเมว ชิราเปนฺตา อาหิณฺฑถา’’ติ โทสํ อาโรเปยฺย, ตสฺมา ¶ ปรวาทิสฺส ปริยายกถํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ยถา เอส อปฺปติฏฺโ โหติ, เอวมสฺส นิปฺปริยายกถํ กเถสฺสามีติ จินฺเตตฺวา, ‘‘รูปํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจ’’นฺติ อิมํ อนิจฺจานตฺตวเสเนว กถํ กเถติ. ทุสฺสุตนฺติ โสตุํ อยุตฺตํ.
๓๕๔. สนฺถาคาเรติ ราชกุลานํ อตฺถานุสาสนสนฺถาคารสาลายํ. เยน เต ลิจฺฉวี เตนุปสงฺกมีติ เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อหํ ปุพฺเพ สมยํ อชานนภาเวน สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ น อาโรเปสึ, อิทานิ ปนสฺส มหาสาวเกน กถิตํ สมยํ ชานามิ, อิเม จ มม อนฺเตวาสิกา ปฺจสตา ลิจฺฉวี สนฺนิปติตา. เอเตหิ สทฺธึ คนฺตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ อาโรเปสฺสามี’’ติ ตสฺมา อุปสงฺกมิ. าตฺตเรนาติ าเตสุ อภิฺาเตสุ ปฺจวคฺคิยตฺเถเรสุ อฺตเรน. ปติฏฺิตนฺติ ยถา เตน ปติฏฺิตํ. สเจ เอวํ ปติฏฺิสฺสติ, อถ ปน อฺเทว วกฺขติ, ตตฺร มยา กึ สกฺกา กาตุนฺติ อิทาเนว ปิฏฺึ ปริวตฺเตนฺโต อาห. อากฑฺเฒยฺยาติ อตฺตโน อภิมุขํ กฑฺเฒยฺย. ปริกฑฺเฒยฺยาติ ปุรโต ปฏิปณาเมยฺย. สมฺปริกฑฺเฒยฺยาติ กาเลน อากฑฺเฒยฺย, กาเลน ปริกฑฺเฒยฺย. โสณฺฑิกากิลฺชนฺติ สุราฆเร ปิฏฺกิลฺชํ. โสณฺฑิกาธุตฺโตติ สุราธุตฺโต. วาลํ กณฺเณ คเหตฺวาติ สุราปริสฺสาวนตฺถวิกํ โธวิตุกาโม ¶ กสฏนิธุนนตฺถํ อุโภสุ กณฺเณสุ คเหตฺวา. โอธุเนยฺยาติ อโธมุขํ กตฺวา ธุเนยฺย. นิทฺธุเนยฺยาติ อุทฺธํมุขํ กตฺวา ธุเนยฺย. นิปฺโผเฏยฺยาติ ปุนปฺปุนํ ปปฺโผเฏยฺย. สาณโธวิกํ นามาติ เอตฺถ มนุสฺสา สาณสาฏกกรณตฺถํ สาณวาเก คเหตฺวา มุฏฺึ มุฏฺึ พนฺธิตฺวา อุทเก ปกฺขิปนฺติ. เต ตติยทิวเส สุฏฺุ กิลินฺนา โหนฺติ. อถ มนุสฺสา อมฺพิลยาคุสุราทีนิ อาทาย ตตฺถ คนฺตฺวา สาณมุฏฺึ คเหตฺวา, ทกฺขิณโต วามโต สมฺมุขา จาติ ตีสุ ผลเกสุ สกึ ทกฺขิณผลเก, สกึ วามผลเก, สกึ สมฺมุขผลเก ปหรนฺตา อมฺพิลยาคุสุราทีนิ ภฺุชนฺตา ปิวนฺตา ขาทนฺตา ¶ โธวนฺติ. มหนฺตา กีฬา โหติ. รฺโ นาโค ตํ กีฬํ ทิสฺวา คมฺภีรํ อุทกํ อนุปวิสิตฺวา โสณฺฑาย อุทกํ คเหตฺวา สกึ กุมฺเภ สกึ ปิฏฺิยํ สกึ อุโภสุ ปสฺเสสุ สกึ อนฺตรสตฺถิยํ ปกฺขิปนฺโต กีฬิตฺถ. ตทุปาทาย ตํ กีฬิตชาตํ สาณโธวิกํ นาม วุจฺจติ ¶ , ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘สาณโธวิกํ นาม กีฬิตชาตํ กีฬตี’’ติ. กึ โส ภวมาโน สจฺจโก นิคณฺปุตฺโต, โย ภควโต วาทํ อาโรเปสฺสตีติ โย สจฺจโก นิคณฺปุตฺโต ภควโต วาทํ อาโรเปสฺสติ, โส กึ ภวมาโน กึ ยกฺโข ภวมาโน อุทาหุ อินฺโท, อุทาหุ พฺรหฺมา ภวมาโน ภควโต วาทํ อาโรเปสฺสติ? น หิ สกฺกา ปกติมนุสฺเสน ภควโต วาทํ อาโรเปตุนฺติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.
๓๕๕. เตน โข ปน สมเยนาติ ยสฺมึ สมเย สจฺจโก อารามํ ปาวิสิ, ตสฺมึ. กิสฺมึ ปน สมเย ปาวิสีติ? มหามชฺฌนฺหิกสมเย. กสฺมา ปน ตสฺมึ สมเย จงฺกมนฺตีติ? ปณีตโภชนปจฺจยสฺส ถินมิทฺธสฺส วิโนทนตฺถํ. ทิวาปธานิกา วา เต. ตาทิสานฺหิ ปจฺฉาภตฺตํ จงฺกมิตฺวา นฺหตฺวา สรีรํ อุตุํ คณฺหาเปตฺวา นิสชฺช สมณธมฺมํ กโรนฺตานํ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. เยน เต ภิกฺขูติ โส กิร กุหึ สมโณ โคตโมติ ปริเวณโต ปริเวณํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิตฺวา ปวิสิสฺสามีติ วิโลเกนฺโต อรฺเ หตฺถี วิย จงฺกเม จงฺกมมาเน ปํสุกูลิกภิกฺขู ทิสฺวา เตสํ สนฺติกํ อคมาสิ. ตํ สนฺธาย, ‘‘เยน เต ภิกฺขู’’ติอาทิ วุตฺตํ. กหํ ¶ นุ โข, โภติ กตรสฺมึ อาวาเส วา มณฺฑเป วาติ อตฺโถ. เอส, อคฺคิเวสฺสน, ภควาติ ตทา กิร ภควา ปจฺจูสกาเล มหากรุณา สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ สพฺพฺุตฺาณชาลํ ปตฺถริตฺวา โพธเนยฺยสตฺตํ โอโลเกนฺโต อทฺทส – ‘‘สฺเว สจฺจโก นิคณฺปุตฺโต มหตึ ลิจฺฉวิปริสํ คเหตฺวา มม วาทํ อาโรเปตุกาโม อาคมิสฺสตี’’ติ. ตสฺมา ปาโตว สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวาโร เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต มหาปริสาย นิสีทิตุํ สุขฏฺาเน นิสีทิสฺสามีติ คนฺธกุฏึ อปวิสิตฺวา มหาวเน อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. เต ภิกฺขู ภควโต วตฺตํ ทสฺเสตฺวา อาคตา, สจฺจเกน ปุฏฺา ทูเร นิสินฺนํ ภควนฺตํ ทสฺเสนฺตา, ‘‘เอส อคฺคิเวสฺสน ภควา’’ติ อาหํสุ.
มหติยา ลิจฺฉวิปริสาย สทฺธินฺติ เหฏฺา ปฺจมตฺเตหิ ลิจฺฉวิสเตหิ ปริวุโตติ วุตฺตํ. เต ¶ เอตสฺส อนฺเตวาสิกาเยว, อนฺโตเวสาลิยํ ปน สจฺจโก ปฺจมตฺตานิ ลิจฺฉวิราชสตานิ คเหตฺวา, ‘‘วาทตฺถิโก ภควนฺตํ อุปสงฺกมนฺโต’’ติ สุตฺวา ทฺวินฺนํ ปณฺฑิตานํ กถาสลฺลาปํ โสสฺสามาติ ¶ เยภุยฺเยน มนุสฺสา นิกฺขนฺตา, เอวํ สา ปริสา มหตี อปริจฺฉินฺนคณนา อโหสิ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อฺชลึ ปณาเมตฺวาติ เอเต อุภโตปกฺขิกา, เต เอวํ จินฺเตสุํ – ‘‘สเจ โน มิจฺฉาทิฏฺิกา โจเทสฺสนฺติ, ‘กสฺมา ตุมฺเห สมณํ โคตมํ วนฺทิตฺถา’ติ, เตสํ, ‘กึ อฺชลิมตฺตกรเณนปิ วนฺทิตํ โหตี’ติ วกฺขาม. สเจ โน สมฺมาทิฏฺิกา โจเทสฺสนฺติ, ‘กสฺมา ภควนฺตํ น วนฺทิตฺถา’ติ, ‘กึ สีเสน ภูมึ ปหรนฺเตเนว วนฺทิตํ โหติ, นนุ อฺชลิกมฺมมฺปิ วนฺทนา เอวา’ติ วกฺขามา’’ติ. นาม โคตฺตนฺติ, โภ โคตม, อหํ อสุกสฺส ปุตฺโต ทตฺโต นาม มิตฺโต นาม อิธ อาคโตติ วทนฺตา นามํ สาเวนฺติ นาม. โภ โคตม, อหํ วาสิฏฺโ นาม กจฺจาโน นาม อิธ อาคโตติ วทนฺตา โคตฺตํ สาเวนฺติ นาม. เอเต กิร ทลิทฺทา ชิณฺณกุลปุตฺตา ปริสมชฺเฌ นามโคตฺตวเสน ปากฏา ภวิสฺสามาติ เอวํ อกํสุ. เย ปน ตุณฺหีภูตา นิสีทึสุ, เต เกราฏิกา เจว อนฺธพาลา จ. ตตฺถ เกราฏิกา, ‘‘เอกํ ทฺเว กถาสลฺลาเป กโรนฺโต วิสฺสาสิโก โหติ, อถ วิสฺสาเส สติ ¶ เอกํ ทฺเว ภิกฺขา อทาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ ตโต อตฺตานํ โมเจนฺตา ตุณฺหี นิสีทนฺติ. อนฺธพาลา อฺาณตาเยว อวกฺขิตฺตมตฺติกาปิณฺโฑ วิย ยตฺถ กตฺถจิ ตุณฺหีภูตา นิสีทนฺติ.
๓๕๖. กิฺจิเทว เทสนฺติ กฺจิ โอกาสํ กิฺจิ การณํ, อถสฺส ภควา ปฺหปุจฺฉเน อุสฺสาหํ ชเนนฺโต อาห – ปุจฺฉ, อคฺคิเวสฺสน, ยทากงฺขสีติ. ตสฺสตฺโถ – ‘‘ปุจฺฉ ยทิ อากงฺขสิ, น เม ปฺหวิสฺสชฺชเน ภาโร อตฺถิ’’. อถ วา ‘‘ปุจฺฉ ยํ อากงฺขสิ, สพฺพํ เต วิสฺสชฺเชสฺสามี’’ติ สพฺพฺุปวารณํ ปวาเรสิ อสาธารณํ ปจฺเจกพุทฺธอคฺคสาวมหาสาวเกหิ. เต หิ ยทากงฺขสีติ น วทนฺติ, สุตฺวา เวทิสฺสามาติ วทนฺติ. พุทฺธา ปน ‘‘ปุจฺฉาวุโส, ยทากงฺขสี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๓๗) วา, ‘‘ปุจฺฉ, มหาราช, ยทากงฺขสี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๒) วา,
‘‘ปุจฺฉ วาสว มํ ปฺหํ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ;
ตสฺส ตสฺเสว ปฺหสฺส, อหํ อนฺตํ กโรมิ เต’’ อิติ. (ที. นิ. ๒.๓๕๖) วา,
‘‘เตน ¶ หิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, สเก อาสเน นิสีทิตฺวา ปุจฺฉ ยทากงฺขสี’’ติ (ม. นิ. ๓.๘๕) วา,
‘‘พาวริสฺส ¶ จ ตุยฺหํ วา, สพฺเพสํ สพฺพสํสยํ;
กตาวกาสา ปุจฺฉวฺโห, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉถา’’ติ. (สุ. นิ. ๑๐๓๖) วา,
‘‘ปุจฺฉ มํ สภิย ปฺหํ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ;
ตสฺส ตสฺเสว ปฺหสฺส, อหํ อนฺตํ กโรมิ เต’’ อิติ. (สุ. นิ. ๕๑๗) วา –
เตสํ เตสํ ยกฺขนรินฺทเทวสมณพฺราหฺมณปริพฺพาชกานํ สพฺพฺุปวารณํ ปวาเรนฺติ. อนจฺฉริยฺเจตํ, ยํ ภควา พุทฺธภูมึ ปตฺวา เอตํ ปวารณํ ปวาเรยฺย. โย โพธิสตฺตภูมิยํ ปเทสาเณปิ ิโต
‘‘โกณฺฑฺ ปฺหานิ วิยากโรหิ,
ยาจนฺติ ตํ อิสโย สาธุรูปา;
โกณฺฑฺ เอโส มนุเชสุ ธมฺโม,
ยํ วุทฺธมาคจฺฉติ เอส ภาโร’’ติ. (ชา. ๒.๑๗.๖๐) –
เอวํ ¶ สกฺกาทีนํ อตฺถาย อิสีหิ ยาจิโต
‘‘กตาวกาสา ปุจฺฉนฺตุ โภนฺโต,
ยํ กิฺจิ ปฺหํ มนสาภิปตฺถิตํ;
อหฺหิ ตํ ตํ โว วิยากริสฺสํ,
ตฺวา สยํ โลกมิมํ ปรฺจา’’ติ. (ชา. ๒.๑๗.๖๑);
เอวํ ¶ สรภงฺคกาเล, สมฺภวชาตเก จ สกลชมฺพุทีปํ ติกฺขตฺตุํ วิจริตฺวา ปฺหานํ อนฺตกรํ อทิสฺวา สุจิรเตน พฺราหฺมเณน ปฺหํ ปุฏฺโ โอกาเส การิเต, ชาติยา สตฺตวสฺโส รถิกายํ ปํสุํ กีฬนฺโต ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อนฺตรวีถิยํ นิสินฺโนว –
‘‘ตคฺฆ เต อหมกฺขิสฺสํ, ยถาปิ กุสโล ตถา;
ราชา จ โข ตํ ชานาติ, ยทิ กาหติ วา น วา’’ติ. (ชา. ๑.๑๖.๑๗๒) –
สพฺพฺุปวารณํ ปวาเรสิ.
เอวํ ภควตา สพฺพฺุปวารณาย ปวาริตาย อตฺตมโน ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต, ‘‘กถํ ปน, โภ โคตมา’’ติอาทิมาห.
อถสฺส ¶ ภควา, ‘‘ปสฺสถ, โภ, อฺํ สาวเกน กถิตํ, อฺํ สตฺถา กเถติ, นนุ มยา ปฏิกจฺเจว วุตฺตํ, ‘สเจ ตถา ปติฏฺิสฺสติ, ยถาสฺส สาวเกน ปติฏฺิตํ, เอวาหํ วาทํ อาโรเปสฺสามี’ติ. อยํ ปน อฺเมว กเถติ, ตตฺถ กึ มยา สกฺกา กาตุ’’นฺติ เอวํ นิคณฺสฺส วจโนกาโส มา โหตูติ เหฏฺา อสฺสชิตฺเถเรน กถิตนิยาเมเนว กเถนฺโต, เอวํ โข อหํ, อคฺคิเวสฺสนาติอาทิมาห. อุปมา มํ, โภ โคตม, ปฏิภาตีติ, โภ โคตม, มยฺหํ เอกา อุปมา อุปฏฺาติ, อาหรามิ ตํ อุปมนฺติ วทติ. ปฏิภาตุ ตํ, อคฺคิเวสฺสนาติ อุปฏฺาตุ เต, อคฺคิเวสฺสน, อาหร ตํ อุปมํ วิสตฺโถติ ภควา อโวจ. พลกรณียาติ พาหุพเลน กตฺตพฺพา กสิวาณิชฺชาทิกา กมฺมนฺตา. รูปตฺตายํ ปุริสปุคฺคโลติ รูปํ อตฺตา อสฺสาติ รูปตฺตา, รูปํ อตฺตาติ คเหตฺวา ิตปุคฺคลํ ทีเปติ. รูเป ปติฏฺายาติ ตสฺมึ อตฺตาติ คหิตรูเป ปติฏฺหิตฺวา. ปฺุํ วา อปฺุํ วา ปสวตีติ กุสลํ วา อกุสลํ วา ปฏิลภติ. เวทนตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. อิมินา กึ ทีเปติ? อิเม ปฺจกฺขนฺธา อิเมสํ สตฺตานํ ปถวี วิย ปติฏฺา, เต อิเมสุ ปฺจสุ ขนฺเธสุ ปติฏฺาย กุสลากุสลกมฺมํ นาม อายูหนฺติ. ตุมฺเห เอวรูปํ วิชฺชมานเมว อตฺตานํ ปฏิเสเธนฺโต ปฺจกฺขนฺธา ¶ อนตฺตาติ ทีเปถาติ อติวิย สการณํ กตฺวา อุปมํ อาหริ. อิมินา จ นิคณฺเน อาหฏโอปมฺมํ นิยตเมว ¶ , สพฺพฺุพุทฺธโต อฺโ ตสฺส กถํ ฉินฺทิตฺวา วาเท โทสํ ทาตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. ทุวิธา หิ ปุคฺคลา พุทฺธเวเนยฺยา จ สาวกเวเนยฺยา จ. สาวกเวเนยฺเย สาวกาปิ วิเนนฺติ พุทฺธาปิ. พุทฺธเวเนยฺเย ปน สาวกา วิเนตุํ น สกฺโกนฺติ, พุทฺธาว วิเนนฺติ. อยมฺปิ นิคณฺโ พุทฺธเวเนยฺโย, ตสฺมา เอตสฺส วาทํ ฉินฺทิตฺวา อฺโ โทสํ ทาตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. เตนสฺส ภควา สยเมว วาเท โทสทสฺสนตฺถํ นนุ ตฺวํ, อคฺคิเวสฺสนาติอาทิมาห.
อถ นิคณฺโ จินฺเตสิ – ‘‘อติวิย สมโณ โคตโม มม วาทํ ปติฏฺเปติ, สเจ อุปริ โกจิ โทโส ภวิสฺสติ, มมํ เอกกํเยว นิคฺคณฺหิสฺสติ. หนฺทาหํ อิมํ วาทํ มหาชนสฺสาปิ มตฺถเก ปกฺขิปามี’’ติ, ตสฺมา เอวมาห – อหมฺปิ, โภ โคตม, เอวํ วทามิ รูปํ เม อตฺตา…เป… วิฺาณํ เม อตฺตาติ, อยฺจ มหตี ชนตาติ. ภควา ปน นิคณฺโต สตคุเณนปิ ¶ สหสฺสคุเณนปิ สตสหสฺสคุเณนปิ วาทีวรตโร, ตสฺมา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ นิคณฺโ อตฺตานํ โมเจตฺวา มหาชนสฺส มตฺถเก วาทํ ปกฺขิปติ, นาสฺส อตฺตานํ โมเจตุํ ทสฺสามิ, มหาชนโต นิวตฺเตตฺวา เอกกํเยว นํ นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ. อถ นํ กิฺหิ เต, อคฺคิเวสฺสนาติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – นายํ ชนตา มม วาทํ อาโรเปตุํ อาคตา, ตฺวํเยว สกลํ เวสาลึ สํวฏฺฏิตฺวา มม วาทํ อาโรเปตุํ อาคโต, ตสฺมา ตฺวํ สกเมว วาทํ นิเวเหิ, มา มหาชนสฺส มตฺถเก ปกฺขิปสีติ. โส ปฏิชานนฺโต อหฺหิ, โภ โคตมาติอาทิมาห.
๓๕๗. อิติ ภควา นิคณฺสฺส วาทํ ปติฏฺเปตฺวา, เตน หิ, อคฺคิเวสฺสนาติ ปุจฺฉํ อารภิ. ตตฺถ เตน หีติ การณตฺเถ นิปาโต. ยสฺมา ตฺวํ ปฺจกฺขนฺเธ อตฺตโต ปฏิชานาสิ, ตสฺมาติ อตฺโถ. สกสฺมึ วิชิเตติ อตฺตโน รฏฺเ. ฆาเตตายํ วา ฆาเตตุนฺติ ฆาตารหํ ฆาเตตพฺพยุตฺตกํ ฆาเตตุํ ¶ . ชาเปตายํ วา ชาเปตุนฺติ ธนชานิรหํ ชาเปตพฺพยุตฺตํ ชาเปตุํ ชิณฺณธนํ กาตุํ. ปพฺพาเชตายํ วา ปพฺพาเชตุนฺติ สกรฏฺโต ปพฺพาชนารหํ ปพฺพาเชตุํ, นีหริตุํ. วตฺติตฺุจ อรหตีติ วตฺตติ เจว วตฺติตฺุจ อรหติ. วตฺติตุํ ยุตฺโตติ ทีเปติ. อิติ นิคณฺโ อตฺตโน วาทเภทนตฺถํ อาหฏการณเมว อตฺตโน มารณตฺถาย อาวุธํ ติขิณํ กโรนฺโต วิย วิเสเสตฺวา ทีเปติ, ยถา ตํ พาโล. เอวํ เม รูปํ โหตูติ มม รูปํ เอวํวิธํ โหตุ, ปาสาทิกํ อภิรูปํ อลงฺกตปฺปฏิยตฺตํ สุวณฺณโตรณํ วิย สุสชฺชิตจิตฺตปโฏ วิย จ มนาปทสฺสนนฺติ. เอวํ เม รูปํ ¶ มา อโหสีติ มม รูปํ เอวํวิธํ มา โหตุ, ทุพฺพณฺณํ ทุสฺสณฺิตํ วลิตปลิตํ ติลกสมากิณฺณนฺติ.
ตุณฺหี อโหสีติ นิคณฺโ อิมสฺมึ าเน วิรทฺธภาวํ ตฺวา, ‘‘สมโณ โคตโม มม วาทํ ภินฺทนตฺถาย การณํ อาหริ, อหํ พาลตาย ตเมว วิเสเสตฺวา ทีเปสึ, อิทานิ นฏฺโมฺหิ, สเจ วตฺตตีติ วกฺขามิ, อิเม ราชาโน อุฏฺหิตฺวา, ‘อคฺคิเวสฺสน, ตฺวํ มม รูเป วโส วตฺตตีติ วทสิ, ยทิ เต รูเป วโส วตฺตติ, กสฺมา ตฺวํ ยถา อิเม ลิจฺฉวิราชาโน ¶ ตาวตึสเทวสทิเสหิ อตฺตภาเวหิ วิโรจนฺติ อภิรูปา ปาสาทิกา, เอวํ น วิโรจสี’ติ. สเจ น วตฺตตีติ วกฺขามิ, สมโณ โคตโม อุฏฺหิตฺวา, ‘อคฺคิเวสฺสน, ตฺวํ ปุพฺเพ วตฺตติ เม รูปสฺมึ วโสติ วตฺวา อิทานิ ปฏิกฺขิปสี’ติ วาทํ อาโรเปสฺสติ. อิติ วตฺตตีติ วุตฺเตปิ เอโก โทโส, น วตฺตตีติ วุตฺเตปิ เอโก โทโส’’ติ ตุณฺหี อโหสิ. ทุติยมฺปิ ภควา ปุจฺฉิ, ทุติยมฺปิ ตุณฺหี อโหสิ. ยสฺมา ปน ยาวตติยํ ภควตา ปุจฺฉิเต อพฺยากโรนฺตสฺส สตฺตธา มุทฺธา ผลติ, พุทฺธา จ นาม สตฺตานํเยว อตฺถาย กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ปารมีนํ ปูริตตฺตา สตฺเตสุ พลวอนุทฺทยา โหนฺติ. ตสฺมา ยาวตติยํ อปุจฺฉิตฺวา อถ โข ภควา สจฺจกํ นิคณฺปุตฺตํ เอตทโวจ – เอตํ ‘‘พฺยากโรหี ทานี’’ติอาทิวจนํ อโวจ.
ตตฺถ สหธมฺมิกนฺติ สเหตุกํ สการณํ. วชิรํ ปาณิมฺหิ อสฺสาติ วชิรปาณิ. ยกฺโขติ น โย วา โส วา ยกฺโข, สกฺโก เทวราชาติ เวทิตพฺโพ. อาทิตฺตนฺติ ¶ อคฺคิวณฺณํ. สมฺปชฺชลิตนฺติ สุฏฺุ ปชฺชลิตํ. สโชติภูตนฺติ สมนฺตโต โชติภูตํ, เอกคฺคิชาลภูตนฺติ อตฺโถ. ิโต โหตีติ มหนฺตํ สีสํ, กนฺทลมกุลสทิสา ทาา, ภยานกานิ อกฺขินาสาทีนีติ เอวํ วิรูปรูปํ มาเปตฺวา ิโต. กสฺมา ปเนส อาคโตติ? ทิฏฺิวิสฺสชฺชาปนตฺถํ. อปิจ, ‘‘อหฺเจว โข ปน ธมฺมํ เทเสยฺยํ, ปเร จ เม น อาชาเนยฺยุ’’นฺติ เอวํ ธมฺมเทสนาย อปฺโปสฺสุกฺกภาวํ อาปนฺเน ภควติ สกฺโก มหาพฺรหฺมุนา สทฺธึ อาคนฺตฺวา, ‘‘ภควา ธมฺมํ เทเสถ, ตุมฺหากํ อาณาย อวตฺตมาเน มยํ วตฺตาเปสฺสาม, ตุมฺหากํ ธมฺมจกฺกํ โหตุ, อมฺหากํ อาณาจกฺก’’นฺติ ปฏิฺมกาสิ. ตสฺมา ‘‘อชฺช สจฺจกํ ตาเสตฺวา ปฺหํ วิสฺสชฺชาเปสฺสามี’’ติ อาคโต.
ภควา ¶ เจว ปสฺสติ, สจฺจโก จ นิคณฺปุตฺโตติ ยทิ หิ ตํ อฺเปิ ปสฺเสยฺยุํ. ตํ การณํ อครุ อสฺส, ‘‘สมโณ โคตโม สจฺจกํ อตฺตโน วาเท อโนตรนฺตํ ตฺวา ยกฺขํ อาวาเหตฺวา ทสฺเสสิ, ตโต สจฺจโก ภเยน กเถสี’’ติ วเทยฺยุํ. ตสฺมา ภควา เจว ปสฺสติ สจฺจโก จ. ตสฺส ตํ ทิสฺวาว สกลสรีรโต เสทา มุจฺจึสุ, อนฺโตกุจฺฉิ วิปริวตฺตมานา มหารวํ รวิ. โส ‘‘อฺเปิ นุ โข ปสฺสนฺตี’’ติ โอโลเกนฺโต ¶ กสฺสจิ โลมหํสมตฺตมฺปิ น อทฺทส. ตโต – ‘‘อิทํ ภยํ มเมว อุปฺปนฺนํ. สจาหํ ยกฺโขติ วกฺขามิ, ‘กึ ตุยฺหเมว อกฺขีนิ อตฺถิ, ตฺวเมว ยกฺขํ ปสฺสสิ, ปมํ ยกฺขํ อทิสฺวา สมเณน โคตเมน วาทสงฺฆาเฏ ขิตฺโตว ยกฺขํ ปสฺสสี’ติ วเทยฺยุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา – ‘‘น ทานิ เม อิธ อฺํ ปฏิสรณํ อตฺถิ, อฺตฺร สมณา โคตมา’’ติ มฺมาโน, อถ โข สจฺจโก นิคณฺปุตฺโต…เป… ภควนฺตํ เอตทโวจ. ตาณํ คเวสีติ ตาณนฺติ คเวสมาโน. เลณํ คเวสีติ เลณนฺติ คเวสมาโน. สรณํ คเวสีติ สรณนฺติ คเวสมาโน. เอตฺถ จ ตายติ รกฺขตีติ ตาณํ. นิลียนฺติ เอตฺถาติ เลณํ. สรตีติ สรณํ, ภยํ หึสติ วิทฺธํเสตีติ อตฺโถ.
๓๕๘. มนสิ กริตฺวาติ มนมฺหิ กตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุปธาเรตฺวา. เอวํ เม เวทนา โหตูติ กุสลาว โหตุ, สุขาว โหตุ. เอวํ เม สฺา โหตูติ กุสลาว โหตุ, สุขาว โหตุ, โสมนสฺสสมฺปยุตฺตาว โหตูติ. สงฺขารวิฺาเณสุปิ เอเสว นโย. มา อโหสีติ เอตฺถ ปน วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ ¶ เวทิตพฺโพ. กลฺลํ นูติ ยุตฺตํ นุ. สมนุปสฺสิตุนฺติ ‘‘เอตํ มม เอโสหมสฺมิ เอโส เม อตฺตา’’ติ เอวํ ตณฺหามานทิฏฺิวเสน ปสฺสิตุํ. โน หิทํ, โภ โคตมาติ น ยุตฺตเมตํ, โภ โคตม. อิติ ภควา ยถา นาม เฉโก อหิตุณฺฑิโก สปฺปทฏฺวิสํ เตเนว สปฺเปน ปุน ฑํสาเปตฺวา อุพฺพาเหยฺย, เอวํ ตสฺสํเยว ปริสติ สจฺจกํ นิคณฺปุตฺตํ เตเนว มุเขน ปฺจกฺขนฺธา อนิจฺจา ทุกฺขา อนตฺตาติ วทาเปสิ. ทุกฺขํ อลฺลีโนติ อิมํ ปฺจกฺขนฺธทุกฺขํ ตณฺหาทิฏฺีหิ อลฺลีโน. อุปคโต อชฺโฌสิโตติปิ ตณฺหาทิฏฺิวเสเนว เวทิตพฺโพ. ทุกฺขํ เอตํ มมาติอาทีสุ ปฺจกฺขนฺธทุกฺขํ ตณฺหามานทิฏฺิวเสน สมนุปสฺสตีติ อตฺโถ. ปริชาเนยฺยาติ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ตีรณปริฺาย ปริโต ชาเนยฺย. ปริกฺเขเปตฺวาติ ขยํ วยํ อนุปฺปาทํ อุปเนตฺวา.
๓๕๙. นวนฺติ ¶ ตรุณํ. อกุกฺกุกชาตนฺติ ปุปฺผคฺคหณกาเล อนฺโต องฺคุฏฺปฺปมาโณ เอโก ฆนทณฺฑโก นิพฺพตฺตติ, เตน วิรหิตนฺติ อตฺโถ. ริตฺโตติ สฺุโ อนฺโตสารวิรหิโต. ริตฺตตฺตาว ตุจฺโฉ. อปรทฺโธติ ปราชิโต. ภาสิตา โข ปน เตติ อิทํ ภควา ตสฺส มุขรภาวํ ¶ ปกาเสตฺวา นิคฺคณฺหนฺโต อาห. โส กิร ปุพฺเพ ปูรณาทโย ฉ สตฺถาโร อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉติ. เต วิสฺสชฺเชตุํ น สกฺโกนฺติ. อถ เนสํ ปริสมชฺเฌ มหนฺตํ วิปฺปการํ อาโรเปตฺวา อุฏฺาย ชยํ ปเวเทนฺโต คจฺฉติ. โส สมฺมาสมฺพุทฺธมฺปิ ตเถว วิเหเสฺสามีติ สฺาย อุปสงฺกมิตฺวา –
‘‘อมฺโภ โก นาม ยํ รุกฺโข, สินฺนปตฺโต สกณฺฏโก;
ยตฺถ เอกปฺปหาเรน, อุตฺตมงฺคํ วิภิชฺชิต’’นฺติ.
อยํ ขทิรํ อาหจฺจ อสารกรุกฺขปริจิโต มุทุตุณฺฑสกุโณ วิย สพฺพฺุตฺาณสารํ อาหจฺจ าณตุณฺฑเภทํ ปตฺโต สพฺพฺุตฺาณสฺส ถทฺธภาวํ อฺาสิ. ตทสฺส ปริสมชฺเฌ ¶ ปกาเสนฺโต ภาสิตา โข ปน เตติอาทิมาห. นตฺถิ เอตรหีติ อุปาทินฺนกสรีเร เสโท นาม นตฺถีติ น วตฺตพฺพํ, เอตรหิ ปน นตฺถีติ วทติ. สุวณฺณวณฺณํ กายํ วิวรีติ น สพฺพํ กายํ วิวริ. พุทฺธา นาม คณฺิกํ ปฏิมฺุจิตฺวา ปฏิจฺฉนฺนสรีรา ปริสติ ธมฺมํ เทเสนฺติ. อถ ภควา คลวาฏกสมฺมุขฏฺาเน จีวรํ คเหตฺวา จตุรงฺคุลมตฺตํ โอตาเรสิ. โอตาริตมตฺเต ปน ตสฺมึ สุวณฺณวณฺณา รสฺมิโย ปฺุชปฺุชา หุตฺวา สุวณฺณฆฏโต รตฺตสุวณฺณรสธารา วิย, รตฺตวณฺณวลาหกโต วิชฺชุลตา วิย จ นิกฺขมิตฺวา สุวณฺณมุรชสทิสํ มหาขนฺธํ อุตฺตมสิรํ ปทกฺขิณํ กุรุมานา อากาเส ปกฺขนฺทึสุ. กสฺมา ปน ภควา เอวมกาสีติ? มหาชนสฺส กงฺขาวิโนทนตฺถํ. มหาชโน หิ สมโณ โคตโม มยฺหํ เสโท นตฺถีติ วทติ, สจฺจกสฺส ตาว นิคณฺปุตฺตสฺส ยนฺตารุฬฺหสฺส วิย เสทา ปคฺฆรนฺติ. สมโณ ปน โคตโม ฆนทุปฏฺฏจีวรํ ปารุปิตฺวา นิสินฺโน, อนฺโต เสทสฺส อตฺถิตา วา นตฺถิตา วา กถํ สกฺกา าตุนฺติ กงฺขํ กเรยฺย, ตสฺส กงฺขาวิโนทนตฺถํ เอวมกาสิ. มงฺกุภูโตติ นิตฺเตชภูโต. ปตฺตกฺขนฺโธติ ปติตกฺขนฺโธ. อปฺปฏิภาโนติ อุตฺตริ อปฺปสฺสนฺโต. นิสีทีติ ปาทงฺคุฏฺเกน ภูมึ กสมาโน นิสีทิ.
๓๖๐. ทุมฺมุโขติ ¶ น วิรูปมุโข, อภิรูโป หิ โส ปาสาทิโก. นามํ ปนสฺส เอตํ. อภพฺโพ ตํ โปกฺขรณึ ปุน โอตริตุนฺติ สพฺเพสํ อฬานํ ¶ ภคฺคตฺตา ปจฺฉินฺนคมโน โอตริตุํ อภพฺโพ, ตตฺเถว กากกุลลาทีนํ ภตฺตํ โหตีติ ทสฺเสติ. วิสูกายิกานีติ ทิฏฺิวิสูกานิ. วิเสวิตานีติ ทิฏฺิสฺจริตานิ. วิปฺผนฺทิตานีติ ทิฏฺิวิปฺผนฺทิตานิ. ยทิทํ วาทาธิปฺปาโยติ เอตฺถ ยทิทนฺติ นิปาตมตฺตํ; วาทาธิปฺปาโย หุตฺวา วาทํ อาโรเปสฺสามีติ อชฺฌาสเยน อุปสงฺกมิตุํ อภพฺโพ; ธมฺมสฺสวนาย ปน อุปสงฺกเมยฺยาติ ทสฺเสติ. ทุมฺมุขํ ลิจฺฉวิปุตฺตํ เอตทโวจาติ กสฺมา อโวจ ¶ ? ทุมฺมุขสฺส กิรสฺส อุปมาหรณกาเล เสส ลิจฺฉวิกุมาราปิ จินฺเตสุํ – ‘‘อิมินา นิคณฺเน อมฺหากํ สิปฺปุคฺคหณฏฺาเน จิรํ อวมาโน กโต, อยํ ทานิ อมิตฺตสฺส ปิฏฺึ ปสฺสิตุํ กาโล. มยมฺปิ เอเกกํ อุปมํ อาหริตฺวา ปาณิปฺปหาเรน ปติตํ มุคฺคเรน โปเถนฺโต วิย ตถา นํ กริสฺสาม, ยถา น ปุน ปริสมชฺเฌ สีสํ อุกฺขิปิตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ, เต โอปมฺมานิ กริตฺวา ทุมฺมุขสฺส กถาปริโยสานํ อาคมยมานา นิสีทึสุ. สจฺจโก เตสํ อธิปฺปายํ ตฺวา, อิเม สพฺเพว คีวํ อุกฺขิปิตฺวา โอฏฺเหิ จลมาเนหิ ิตา; สเจ ปจฺเจกา อุปมา หริตุํ ลภิสฺสนฺติ, ปุน มยา ปริสมชฺเฌ สีสํ อุกฺขิปิตุํ น สกฺกา ภวิสฺสติ, หนฺทาหํ ทุมฺมุขํ อปสาเทตฺวา ยถา อฺสฺส โอกาโส น โหติ, เอวํ กถาวารํ ปจฺฉินฺทิตฺวา สมณํ โคตมํ ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ตสฺมา เอตทโวจ. ตตฺถ อาคเมหีติ ติฏฺ, มา ปุน ภณาหีติ อตฺโถ.
๓๖๑. ติฏฺเตสา, โภ โคตมาติ, โภ โคตม, เอสา อมฺหากฺเจว อฺเสฺจ ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ วาจา ติฏฺตุ. วิลาปํ วิลปิตํ มฺเติ เอตฺหิ วจนํ วิลปิตํ วิย โหติ, วิปฺปลปิตมตฺตํ โหตีติ อตฺโถ. อถ วา ติฏฺเตสาติ เอตฺถ กถาติ อาหริตฺวา วตฺตพฺพา. วาจาวิลาปํ วิลปิตํ มฺเติ เอตฺถ ปนิทํ วาจานิจฺฉารณํ วิลปิตมตฺตํ มฺเ โหตีติ อตฺโถ.
อิทานิ ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต กิตฺตาวตาติอาทิมาห. ตตฺถ เวสารชฺชปตฺโตติ าณปตฺโต. อปรปฺปจฺจโยติ อปรปฺปตฺติโย. อถสฺส ภควา ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโต อิธ, อคฺคิเวสฺสนาติอาทิมาห, ตํ อุตฺตานตฺถเมว. ยสฺมา ปเนตฺถ ปสฺสตีติ วุตฺตตฺตา เสกฺขภูมิ ทสฺสิตา. ตสฺมา อุตฺตริ อเสกฺขภูมึ ปุจฺฉนฺโต ทุติยํ ปฺหํ ปุจฺฉิ, ตมฺปิสฺส ภควา พฺยากาสิ ¶ . ตตฺถ ¶ ทสฺสนานุตฺตริเยนาติอาทีสุ ทสฺสนานุตฺตริยนฺติ โลกิยโลกุตฺตรา ปฺา. ปฏิปทานุตฺตริยนฺติ โลกิยโลกุตฺตรา ปฏิปทา. วิมุตฺตานุตฺตริยนฺติ โลกิยโลกุตฺตรา วิมุตฺติ. สุทฺธโลกุตฺตรเมว วา คเหตฺวา ทสฺสนานุตฺตริยนฺติ อรหตฺตมคฺคสมฺมาทิฏฺิ. ปฏิปทานุตฺตริยนฺติ เสสานิ มคฺคงฺคานิ. วิมุตฺตานุตฺตริยนฺติ อคฺคผลวิมุตฺติ. ขีณาสวสฺส วา นิพฺพานทสฺสนํ ทสฺสนานุตฺตริยํ ¶ นาม. มคฺคงฺคานิ ปฏิปทานุตฺตริยํ. อคฺคผลํ วิมุตฺตานุตฺตริยนฺติ เวทิตพฺพํ. พุทฺโธ โส ภควาติ โส ภควา สยมฺปิ จตฺตาริ สจฺจานิ พุทฺโธ. โพธายาติ ปเรสมฺปิ จตุสจฺจโพธาย ธมฺมํ เทเสติ. ทนฺโตติอาทีสุ ทนฺโตติ นิพฺพิเสวโน. ทมถายาติ นิพฺพิเสวนตฺถาย. สนฺโตติ สพฺพกิเลสวูปสเมน สนฺโต. สมถายาติ กิเลสวูปสมาย. ติณฺโณติ จตุโรฆติณฺโณ. ตรณายาติ จตุโรฆตรณาย. ปรินิพฺพุโตติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต. ปรินิพฺพานายาติ กิเลสปรินิพฺพานตฺถาย.
๓๖๒. ธํสีติ คุณธํสกา. ปคพฺพาติ วาจาปาคพฺพิเยน สมนฺนาคตา. อาสาเทตพฺพนฺติ ฆฏฺเฏตพฺพํ. อาสชฺชาติ ฆฏฺเฏตฺวา. นตฺเวว ภวนฺตํ โคตมนฺติ ภวนฺตํ โคตมํ อาสชฺช กสฺสจิ อตฺตโน วาทํ อนุปหตํ สกลํ อาทาย ปกฺกมิตุํ ถาโม นตฺถีติ ทสฺเสติ. น หิ ภควา หตฺถิอาทโย วิย กสฺสจิ ชีวิตนฺตรายํ กโรติ. อยํ ปน นิคณฺโ อิมา ติสฺโส อุปมา น ภควโต อุกฺกํสนตฺถํ อาหริ, อตฺตุกฺกํสนตฺถเมว อาหริ. ยถา หิ ราชา กฺจิ ปจฺจตฺถิกํ ฆาเตตฺวา เอวํ นาม สูโร เอวํ ถามสมฺปนฺโน ปุริโส ภวิสฺสตีติ ปจฺจตฺถิกํ โถเมนฺโตปิ อตฺตานเมว โถเมติ. เอวเมว โสปิ สิยา หิ, โภ โคตม, หตฺถึ ปภินฺนนฺติอาทีหิ ภควนฺตํ อุกฺกํเสนฺโตปิ มยเมว สูรา มยํ ปณฺฑิตา มยํ พหุสฺสุตาเยว เอวํ ปภินฺนหตฺถึ วิย, ชลิตอคฺคิกฺขนฺธํ วิย, ผณกตอาสีวิสํ วิย จ วาทตฺถิกา สมฺมาสมฺพุทฺธํ อุปสงฺกมิมฺหาติ อตฺตานํเยว อุกฺกํเสติ. เอวํ อตฺตานํ อุกฺกํเสตฺวา ภควนฺตํ นิมนฺตยมาโน อธิวาเสตุ เมติอาทิมาห. ตตฺถ อธิวาเสตูติ สมฺปฏิจฺฉตุ. สฺวาตนายาติ ยํ เม ตุมฺเหสุ การํ กโรโต สฺเว ภวิสฺสติ ปฺฺุจ ปีติปาโมชฺชฺจ, ตทตฺถาย. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนาติ ภควา ¶ กายงฺคํ วา วาจงฺคํ วา อโจเปตฺวา อพฺภนฺตเรเยว ขนฺตึ ธาเรนฺโต ตุณฺหีภาเวน อธิวาเสสิ. สจฺจกสฺส อนุคฺคหกรณตฺถํ มนสาว สมฺปฏิจฺฉีติ วุตฺตํ โหติ.
๓๖๓. ยมสฺส ปติรูปํ มฺเยฺยาถาติ เต กิร ลิจฺฉวี ตสฺส ปฺจถาลิปากสตานิ นิจฺจภตฺตํ ¶ อาหรนฺติ ¶ . ตเทว สนฺธาย เอส สฺเว ตุมฺเห ยํ อสฺส สมณสฺส โคตมสฺส ปติรูปํ กปฺปิยนฺติ มฺเยฺยาถ, ตํ อาหเรยฺยาถ; สมณสฺส หิ โคตมสฺส ตุมฺเห ปริจารกา กปฺปิยากปฺปิยํ ยุตฺตายุตฺตํ ชานาถาติ วทติ. ภตฺตาภิหารํ อภิหรึสูติ อภิหริตพฺพํ ภตฺตํ อภิหรึสุ. ปณีเตนาติ อุตฺตเมน. สหตฺถาติ สหตฺเถน. สนฺตปฺเปตฺวาติ สุฏฺุ ตปฺเปตฺวา, ปริปุณฺณํ สุหิตํ ยาวทตฺถํ กตฺวา. สมฺปวาเรตฺวาติ สุฏฺุ ปวาเรตฺวา, อลํ อลนฺติ หตฺถสฺาย ปฏิกฺขิปาเปตฺวา. ภุตฺตาวินฺติ ภุตฺตวนฺตํ. โอนีตปตฺตปาณินฺติ ปตฺตโต โอนีตปาณึ, อปนีตหตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘โอนิตฺตปตฺตปาณิ’’นฺติปิ ปาโ, ตสฺสตฺโถ, โอนิตฺตํ นานาภูตํ ปตฺตํ ปาณิโต อสฺสาติ โอนิตฺตปตฺตปาณี. ตํ โอนิตฺตปตฺตปาณึ, หตฺเถ จ ปตฺตฺจ โธวิตฺวา เอกมนฺเต ปตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา นิสินฺนนฺติ อตฺโถ. เอกมนฺตํ นิสีทีติ ภควนฺตํ เอวํภูตํ ตฺวา เอกสฺมึ โอกาเส นิสีทีติ อตฺโถ. ปฺฺุจาติ ยํ อิมสฺมึ ทาเน ปฺุํ, อายตึ วิปากกฺขนฺธาติ อตฺโถ. ปฺุมหีติ วิปากกฺขนฺธานํเยว ปริวาโร. ตํ ทายกานํ สุขาย โหตูติ ตํ อิเมสํ ลิจฺฉวีนํ สุขตฺถาย โหตุ. อิทํ กิร โส อหํ ปพฺพชิโต นาม, ปพฺพชิเตน จ น ยุตฺตํ อตฺตโน ทานํ นิยฺยาเตตุนฺติ เตสํ นิยฺยาเตนฺโต เอวมาห. อถ ภควา ยสฺมา ลิจฺฉวีหิ สจฺจกสฺส ทินฺนํ, น ภควโต. สจฺจเกน ปน ภควโต ทินฺนํ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทีเปนฺโต ยํ โข, อคฺคิเวสฺสนาติอาทิมาห. อิติ ภควา นิคณฺสฺส มเตน วินาเยว อตฺตโน ทินฺนํ ทกฺขิณํ นิคณฺสฺส นิยฺยาเตสิ, สา จสฺส อนาคเต วาสนา ภวิสฺสตีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬสจฺจกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. มหาสจฺจกสุตฺตวณฺณนา
๓๖๔. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ มหาสจฺจกสุตฺตํ. ตตฺถ เอกํ สมยนฺติ จ เตน โข ปน สมเยนาติ จ ปุพฺพณฺหสมยนฺติ จ ตีหิ ปเทหิ เอโกว สมโย วุตฺโต. ภิกฺขูนฺหิ วตฺตปฏิปตฺตึ ¶ กตฺวา มุขํ โธวิตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เจติยํ วนฺทิตฺวา กตรํ คามํ ปวิสิสฺสามาติ วิตกฺกมาฬเก ิตกาโล นาม โหติ. ภควา เอวรูเป สมเย รตฺตทุปฏฺฏํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ปํสุกูลจีวรํ เอกํสํ ปารุปิตฺวา คนฺธกุฏิโต นิกฺขมฺม ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต คนฺธกุฏิปมุเข อฏฺาสิ. ตํ สนฺธาย, – ‘‘เอกํ สมยนฺติ จ เตน โข ปน สมเยนาติ จ ปุพฺพณฺหสมย’’นฺติ จ วุตฺตํ. ปวิสิตุกาโมติ ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสามีติ เอวํ กตสนฺนิฏฺาโน. เตนุปสงฺกมีติ กสฺมา อุปสงฺกมีติ? วาทาโรปนชฺฌาสเยน. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘ปุพฺเพปาหํ อปณฺฑิตตาย สกลํ เวสาลิปริสํ คเหตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปริสมชฺเฌ มงฺกุ ชาโต. อิทานิ ตถา อกตฺวา เอกโกว คนฺตฺวา วาทํ อาโรเปสฺสามิ. ยทิ สมณํ โคตมํ ปราเชตุํ สกฺขิสฺสามิ, อตฺตโน ลทฺธึ ทีเปตฺวา ชยํ กริสฺสามิ. ยทิ สมณสฺส โคตมสฺส ชโย ภวิสฺสติ, อนฺธกาเร นจฺจํ วิย น โกจิ ชานิสฺสตี’’ติ นิทฺทาปฺหํ นาม คเหตฺวา อิมินา วาทชฺฌาสเยน อุปสงฺกมิ.
อนุกมฺปํ อุปาทายาติ สจฺจกสฺส นิคณฺปุตฺตสฺส อนุกมฺปํ ปฏิจฺจ. เถรสฺส กิรสฺส เอวํ อโหสิ – ‘‘ภควติ มุหุตฺตํ นิสินฺเน พุทฺธทสฺสนํ ธมฺมสฺสวนฺจ ลภิสฺสติ. ตทสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย สํวตฺติสฺสตี’’ติ. ตสฺมา ภควนฺตํ ยาจิตฺวา ปํสุกูลจีวรํ จตุคฺคุณํ ปฺเปตฺวา นิสีทตุ ภควาติ อาห. ‘‘การณํ อานนฺโท วทตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. ภควนฺตํ เอตทโวจาติ ยํ ปน ปฺหํ โอวฏฺฏิกสารํ กตฺวา อาทาย อาคโต ตํ เปตฺวา ปสฺเสน ตาว ปริหรนฺโต เอตํ สนฺติ, โภ โคตมาติอาทิวจนํ อโวจ.
๓๖๕. ผุสนฺติ หิ เต, โภ โคตมาติ เต สมณพฺราหฺมณา สรีเร อุปฺปนฺนํ สารีริกํ ทุกฺขํ เวทนํ ผุสนฺติ ลภนฺติ, อนุภวนฺตีติ อตฺโถ. อูรุกฺขมฺโภติ ขมฺภกตอูรุภาโว, อูรุถทฺธตาติ ¶ อตฺโถ. วิมฺหยตฺถวเสน ปเนตฺถ ภวิสฺสตีติ อนาคตวจนํ กตํ. กายนฺวยํ โหตีติ กายานุคตํ ¶ โหติ กายสฺส วสวตฺติ. กายภาวนาติ ¶ ปน วิปสฺสนา วุจฺจติ, ตาย จิตฺตวิกฺเขปํ ปาปุณนฺโต นาม นตฺถิ, อิติ นิคณฺโ อสนฺตํ อภูตํ ยํ นตฺถิ, ตเทวาห. จิตฺตภาวนาติปิ สมโถ วุจฺจติ, สมาธิยุตฺตสฺส จ ปุคฺคลสฺส อูรุกฺขมฺภาทโย นาม นตฺถิ, อิติ นิคณฺโ อิทํ อภูตเมว อาห. อฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ – ‘‘ยเถว ‘ภูตปุพฺพนฺติ วตฺวา อูรุกฺขมฺโภปิ นาม ภวิสฺสตี’ติอาทีนิ วทโต อนาคตรูปํ น สเมติ, ตถา อตฺโถปิ น สเมติ, อสนฺตํ อภูตํ ยํ นตฺถิ, ตํ กเถตี’’ติ.
โน กายภาวนนฺติ ปฺจาตปตปฺปนาทึ อตฺตกิลมถานุโยคํ สนฺธายาห. อยฺหิ เตสํ กายภาวนา นาม. กึ ปน โส ทิสฺวา เอวมาห? โส กิร ทิวาทิวสฺส วิหารํ อาคจฺฉติ, ตสฺมึ โข ปน สมเย ภิกฺขู ปตฺตจีวรํ ปฏิสาเมตฺวา อตฺตโน อตฺตโน รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ ปฏิสลฺลานํ อุปคจฺฉนฺติ. โส เต ปฏิสลฺลีเน ทิสฺวา จิตฺตภาวนามตฺตํ เอเต อนุยฺุชนฺติ, กายภาวนา ปเนเตสํ นตฺถีติ มฺมาโน เอวมาห.
๓๖๖. อถ นํ ภควา อนุยฺุชนฺโต กินฺติ ปน เต, อคฺคิเวสฺสน, กายภาวนา สุตาติ อาห. โส ตํ วิตฺถาเรนฺโต เสยฺยถิทํ, นนฺโท วจฺโฉติอาทิมาห. ตตฺถ นนฺโทติ ตสฺส นามํ. วจฺโฉติ โคตฺตํ. กิโสติ นามํ. สํกิจฺโจติ โคตฺตํ. มกฺขลิโคสาโล เหฏฺา อาคโตว. เอเตติ เอเต ตโย ชนา, เต กิร กิลิฏฺตปานํ มตฺถกปตฺตา อเหสุํ. อุฬารานิ อุฬารานีติ ปณีตานิ ปณีตานิ. คาเหนฺติ นามาติ พลํ คณฺหาเปนฺติ นาม. พฺรูเหนฺตีติ วฑฺเฒนฺติ. เมเทนฺตีติ ชาตเมทํ กโรนฺติ. ปุริมํ ปหายาติ ปุริมํ ทุกฺกรการํ ปหาย. ปจฺฉา อุปจินนฺตีติ ปจฺฉา อุฬารขาทนียาทีหิ สนฺตปฺเปนฺติ, วฑฺเฒนฺติ. อาจยาปจโย โหตีติ วฑฺฒิ จ อวฑฺฒิ จ โหติ, อิติ อิมสฺส กายสฺส กาเลน วฑฺฒิ, กาเลน ปริหานีติ วฑฺฒิปริหานิมตฺตเมว ปฺายติ, กายภาวนา ปน น ปฺายตีติ ทีเปตฺวา จิตฺตภาวนํ ปุจฺฉนฺโต, ‘‘กินฺติ ปน เต, อคฺคิเวสฺสน, จิตฺตภาวนา สุตา’’ติ อาห. น สมฺปายาสีติ สมฺปาเทตฺวา กเถตุํ นาสกฺขิ, ยถา ตํ พาลปุถุชฺชโน.
๓๖๗. กุโต ¶ ¶ ปน ตฺวนฺติ โย ตฺวํ เอวํ โอฬาริกํ ทุพฺพลํ กายภาวนํ น ชานาสิ? โส ¶ ตฺวํ กุโต สณฺหํ สุขุมํ จิตฺตภาวนํ ชานิสฺสสีติ. อิมสฺมึ ปน าเน โจทนาลยตฺเถโร, ‘‘อพุทฺธวจนํ นาเมตํ ปท’’นฺติ พีชนึ เปตฺวา ปกฺกมิตุํ อารภิ. อถ นํ มหาสีวตฺเถโร อาห – ‘‘ทิสฺสติ, ภิกฺขเว, อิมสฺส จาตุมหาภูติกสฺส กายสฺส อาจโยปิ อปจโยปิ อาทานมฺปิ นิกฺเขปนมฺปี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๖๒). ตํ สุตฺวา สลฺลกฺเขสิ – ‘‘โอฬาริกํ กายํ ปริคฺคณฺหนฺตสฺส อุปฺปนฺนวิปสฺสนา โอฬาริกาติ วตฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ.
๓๖๘. สุขสาราคีติ สุขสาราเคน สมนฺนาคโต. สุขาย เวทนาย นิโรธา อุปฺปชฺชติ ทุกฺขา เวทนาติ น อนนฺตราว อุปฺปชฺชติ, สุขทุกฺขานฺหิ อนนฺตรปจฺจยตา ปฏฺาเน (ปฏฺา. ๑.๒.๔๕-๔๖) ปฏิสิทฺธา. ยสฺมา ปน สุเข อนิรุทฺเธ ทุกฺขํ นุปฺปชฺชติ, ตสฺมา อิธ เอวํ วุตฺตํ. ปริยาทาย ติฏฺตีติ เขเปตฺวา คณฺหิตฺวา ติฏฺติ. อุภโตปกฺขนฺติ สุขํ เอกํ ปกฺขํ ทุกฺขํ เอกํ ปกฺขนฺติ เอวํ อุภโตปกฺขํ หุตฺวา.
๓๖๙. อุปฺปนฺนาปิ สุขา เวทนา จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, ภาวิตตฺตา กายสฺส. อุปฺปนฺนาปิ ทุกฺขา เวทนา จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, ภาวิตตฺตา จิตฺตสฺสาติ เอตฺถ กายภาวนา วิปสฺสนา, จิตฺตภาวนา สมาธิ. วิปสฺสนา จ สุขสฺส ปจฺจนีกา, ทุกฺขสฺส อาสนฺนา. สมาธิ ทุกฺขสฺส ปจฺจนีโก, สุขสฺส อาสนฺโน. กถํ? วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส หิ อทฺธาเน คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต ตตฺถ ตตฺถ อคฺคิอุฏฺานํ วิย โหติ, กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจนฺติ, มตฺถกโต อุสุมวฏฺฏิอุฏฺานํ วิย โหตีติ จิตฺตํ หฺติ วิหฺติ วิปฺผนฺทติ. เอวํ ตาว วิปสฺสนา สุขสฺส ปจฺจนีกา, ทุกฺขสฺส อาสนฺนา. อุปฺปนฺเน ปน กายิเก วา เจตสิเก วา ทุกฺเข ตํ ทุกฺขํ วิกฺขมฺเภตฺวา สมาปตฺตึ สมาปนฺนสฺส สมาปตฺติกฺขเณ ทุกฺขํ ทูราปคตํ โหติ, อนปฺปกํ สุขํ โอกฺกมติ. เอวํ สมาธิ ทุกฺขสฺส ปจฺจนีโก, สุขสฺส อาสนฺโน. ยถา วิปสฺสนา สุขสฺส ปจฺจนีกา, ทุกฺขสฺส อาสนฺนา, น ตถา สมาธิ. ยถา สมาธิ ทุกฺขสฺส ปจฺจนีโก, สุขสฺส อาสนฺโน, น จ ตถา วิปสฺสนาติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อุปฺปนฺนาปิ สุขา ¶ เวทนา จิตฺตํ น ปริยาทาย ¶ ติฏฺติ, ภาวิตตฺตา กายสฺส. อุปฺปนฺนาปิ ทุกฺขา เวทนา จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, ภาวิตตฺตา จิตฺตสฺสา’’ติ.
๓๗๐. อาสชฺช ¶ อุปนียาติ คุเณ ฆฏฺเฏตฺวา เจว อุปเนตฺวา จ. ตํ วต เมติ ตํ วต มม จิตฺตํ.
๓๗๑. กิฺหิ โน สิยา, อคฺคิเวสฺสนาติ, อคฺคิเวสฺสน, กึ น ภวิสฺสติ, ภวิสฺสเตว, มา เอวํ สฺี โหหิ, อุปฺปชฺชิเยว เม สุขาปิ ทุกฺขาปิ เวทนา, อุปฺปนฺนาย ปนสฺสา อหํ จิตฺตํ ปริยาทาย าตุํ น เทมิ. อิทานิสฺส ตมตฺถํ ปกาเสตุํ อุปริ ปสาทาวหํ ธมฺมเทสนํ เทเสตุกาโม มูลโต ปฏฺาย มหาภินิกฺขมนํ อารภิ. ตตฺถ อิธ เม, อคฺคิเวสฺสน, ปุพฺเพว สมฺโพธา…เป… ตตฺเถว นิสีทึ, อลมิทํ ปธานายาติ อิทํ สพฺพํ เหฏฺา ปาสราสิสุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส, ตตฺถ โพธิปลฺลงฺเก นิสชฺชา, อิธ ทุกฺกรการิกา.
๓๗๔. อลฺลกฏฺนฺติ อลฺลํ อุทุมฺพรกฏฺํ. สสฺเนหนฺติ สขีรํ. กาเมหีติ วตฺถุกาเมหิ. อวูปกฏฺาติ อนปคตา. กามจฺฉนฺโทติอาทีสุ กิเลสกาโมว ฉนฺทกรณวเสน ฉนฺโท. สิเนหกรณวเสน สฺเนโห. มุจฺฉากรณวเสน มุจฺฉา. ปิปาสากรณวเสน ปิปาสา. อนุทหนวเสน ปริฬาโหติ เวทิตพฺโพ. โอปกฺกมิกาติ อุปกฺกมนิพฺพตฺตา. าณาย ทสฺสนาย อนุตฺตราย สมฺโพธายาติ สพฺพํ โลกุตฺตรมคฺคเววจนเมว.
อิทํ ปเนตฺถ โอปมฺมสํสนฺทนํ – อลฺลํ สขีรํ อุทุมฺพรกฏฺํ วิย หิ กิเลสกาเมน วตฺถุกามโต อนิสฺสฏปุคฺคลา. อุทเก ปกฺขิตฺตภาโว วิย กิเลสกาเมน ตินฺตตา; มนฺถเนนาปิ อคฺคิโน อนภินิพฺพตฺตนํ วิย กิเลสกาเมน วตฺถุกามโต อนิสฺสฏานํ โอปกฺกมิกาหิ เวทนาหิ โลกุตฺตรมคฺคสฺส อนธิคโม. อมนฺถเนนาปิ อคฺคิโน อนภินิพฺพตฺตนํ วิย เตสํ ปุคฺคลานํ วินาปิ โอปกฺกมิกาหิ เวทนาหิ โลกุตฺตรมคฺคสฺส อนธิคโม. ทุติยอุปมาปิ อิมินาว นเยน เวทิตพฺพา. อยํ ปน วิเสโส, ปุริมา สปุตฺตภริยปพฺพชฺชาย อุปมา; ปจฺฉิมา พฺราหฺมณธมฺมิกปพฺพชฺชาย.
๓๗๖. ตติยอุปมาย ¶ ¶ โกฬาปนฺติ ฉินฺนสิเนหํ นิราปํ. ถเล นิกฺขิตฺตนฺติ ปพฺพตถเล วา ภูมิถเล วา นิกฺขิตฺตํ. เอตฺถาปิ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – สุกฺขโกฬาปกฏฺํ วิย หิ กิเลสกาเมน วตฺถุกามโต นิสฺสฏปุคฺคลา, อารกา อุทกา ถเล นิกฺขิตฺตภาโว วิย กิเลสกาเมน ¶ อตินฺตตา. มนฺถเนนาปิ อคฺคิโน อภินิพฺพตฺตนํ วิย กิเลสกาเมน วตฺถุกามโต นิสฺสฏานํ อพฺโภกาสิกเนสชฺชิกาทิวเสน โอปกฺกมิกาหิปิ เวทนาหิ โลกุตฺตรมคฺคสฺส อธิคโม. อฺสฺส รุกฺขสฺส สุกฺขสาขาย สทฺธึ ฆํสนมตฺเตเนว อคฺคิโน อภินิพฺพตฺตนํ วิย วินาปิ โอปกฺกมิกาหิ เวทนาหิ สุขาเยว ปฏิปทาย โลกุตฺตรมคฺคสฺส อธิคโมติ. อยํ อุปมา ภควตา อตฺตโน อตฺถาย อาหฏา.
๓๗๗. อิทานิ อตฺตโน ทุกฺกรการิกํ ทสฺเสนฺโต, ตสฺส มยฺหนฺติอาทิมาห. กึ ปน ภควา ทุกฺกรํ อกตฺวา พุทฺโธ ภวิตุํ น สมตฺโถติ? กตฺวาปิ อกตฺวาปิ สมตฺโถว. อถ กสฺมา อกาสีติ? สเทวกสฺส โลกสฺส อตฺตโน ปรกฺกมํ ทสฺเสสฺสามิ. โส จ มํ วีริยนิมฺมถนคุโณ หาเสสฺสตีติ. ปาสาเท นิสินฺโนเยว หิ ปเวณิอาคตํ รชฺชํ ลภิตฺวาปิ ขตฺติโย น ตถาปมุทิโต โหติ, ยถา พลกายํ คเหตฺวา สงฺคาเม ทฺเว ตโย สมฺปหาเร ทตฺวา อมิตฺตมถนํ กตฺวา ปตฺตรชฺโช. เอวํ ปตฺตรชฺชสฺส หิ รชฺชสิรึ อนุภวนฺตสฺส ปริสํ โอโลเกตฺวา อตฺตโน ปรกฺกมํ อนุสฺสริตฺวา, ‘‘อสุกฏฺาเน อสุกกมฺมํ กตฺวา อสุกฺจ อสุกฺจ อมิตฺตํ เอวํ วิชฺฌิตฺวา เอวํ ปหริตฺวา อิมํ รชฺชสิรึ ปตฺโตสฺมี’’ติ จินฺตยโต พลวโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. เอวเมวํ ภควาปิ สเทวกสฺส โลกสฺส ปรกฺกมํ ทสฺเสสฺสามิ, โส หิ มํ ปรกฺกโม อติวิย หาเสสฺสติ, โสมนสฺสํ อุปฺปาเทสฺสตีติ ทุกฺกรมกาสิ.
อปิจ ปจฺฉิมํ ชนตํ อนุกมฺปมาโนปิ อกาสิเยว, ปจฺฉิมา หิ ชนตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ปารมิโย ปูเรตฺวาปิ ปธานํ ปทหิตฺวาว สพฺพฺุตฺาณํ ปตฺโต, กิมงฺคํ ปน มยนฺติ ปธานวีริยํ กตฺตพฺพํ มฺิสฺสติ; เอวํ สนฺเต ขิปฺปเมว ชาติชรามรณสฺส อนฺตํ กริสฺสตีติ ปจฺฉิมํ ชนตํ อนุกมฺปมาโน อกาสิเยว.
ทนฺเตภิทนฺตมาธายาติ ¶ เหฏฺาทนฺเต อุปริทนฺตํ เปตฺวา. เจตสา จิตฺตนฺติ กุสลจิตฺเตน อกุสลจิตฺตํ. อภินิคฺคณฺเหยฺยนฺติ นิคฺคณฺเหยฺยํ. อภินิปฺปีเฬยฺยนฺติ ¶ นิปฺปีเฬยฺยํ. อภิสนฺตาเปยฺยนฺติ ตาเปตฺวา วีริยนิมฺมถนํ กเรยฺยํ. สารทฺโธติ สทรโถ. ปธานาภิตุนฺนสฺสาติ ปธาเนน อภิตุนฺนสฺส, วิทฺธสฺส สโตติ อตฺโถ.
๓๗๘. อปฺปาณกนฺติ ¶ นิรสฺสาสกํ. กมฺมารคคฺคริยาติ กมฺมารสฺส คคฺครนาฬิยา. สีสเวทนา โหนฺตีติ กุโตจิ นิกฺขมิตุํ อลภมาเนหิ วาเตหิ สมุฏฺาปิตา พลวติโย สีสเวทนา โหนฺติ. สีสเวํ ทเทยฺยาติ สีสเวนํ ทเทยฺย. เทวตาติ โพธิสตฺตสฺส จงฺกมนโกฏิยํ ปณฺณสาลปริเวณสามนฺตา จ อธิวตฺถา เทวตา.
ตทา กิร โพธิสตฺตสฺส อธิมตฺเต กายทาเห อุปฺปนฺเน มุจฺฉา อุทปาทิ. โส จงฺกเมว นิสินฺโน หุตฺวา ปปติ. ตํ ทิสฺวา เทวตา เอวมาหํสุ – ‘‘วิหาโรตฺเวว โส อรหโต’’ติ, ‘‘อรหนฺโต นาม เอวรูปา โหนฺติ มตกสทิสา’’ติ ลทฺธิยา วทนฺติ. ตตฺถ ยา เทวตา ‘‘กาลงฺกโต’’ติ อาหํสุ, ตา คนฺตฺวา สุทฺโธทนมหาราชสฺส อาโรเจสุํ – ‘‘ตุมฺหากํ ปุตฺโต กาลงฺกโต’’ติ. มม ปุตฺโต พุทฺโธ หุตฺวา กาลงฺกโต, โน อหุตฺวาติ? พุทฺโธ ภวิตุํ นาสกฺขิ, ปธานภูมิยํเยว ปติตฺวา กาลงฺกโตติ. นาหํ สทฺทหามิ, มม ปุตฺตสฺส โพธึ อปตฺวา กาลงฺกิริยา นาม นตฺถีติ.
อปรภาเค สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตฺวา อนุปุพฺเพน ราชคหํ คนฺตฺวา กปิลวตฺถุํ อนุปฺปตฺตสฺส สุทฺโธทนมหาราชา ปตฺตํ คเหตฺวา ปาสาทํ อาโรเปตฺวา ยาคุขชฺชกํ ทตฺวา อนฺตราภตฺตสมเย เอตมตฺถํ อาโรเจสิ – ตุมฺหากํ ภควา ปธานกรณกาเล เทวตา อาคนฺตฺวา, ‘‘ปุตฺโต เต, มหาราช, กาลงฺกโต’’ติ อาหํสูติ. กึ สทฺทหสิ มหาราชาติ? น ภควา สทฺทหินฺติ. อิทานิ, มหาราช, สุปินปฺปฏิคฺคหณโต ปฏฺาย อจฺฉริยานิ ปสฺสนฺโต กึ สทฺทหิสฺสสิ? อหมฺปิ พุทฺโธ ชาโต, ตฺวมฺปิ พุทฺธปิตา ชาโต, ปุพฺเพ ปน มยฺหํ อปริปกฺเก าเณ โพธิจริยํ จรนฺตสฺส ธมฺมปาลกุมารกาเลปิ สิปฺปํ อุคฺคเหตุํ คตสฺส, ‘‘ตุมฺหากํ ปุตฺโต ธมฺมปาลกุมาโร กาลงฺกโต, อิทมสฺส อฏฺี’’ติ ¶ เอฬกฏฺึ อาหริตฺวา ทสฺเสสุํ, ตทาปิ ตุมฺเห, ‘‘มม ปุตฺตสฺส อนฺตรามรณํ นาม นตฺถิ, นาหํ สทฺทหามี’’ติ อโวจุตฺถ, มหาราชาติ อิมิสฺสา อฏฺุปฺปตฺติยา ภควา มหาธมฺมปาลชาตกํ กเถสิ.
๓๗๙. มา ¶ โข ตฺวํ มาริสาติ สมฺปิยายมานา อาหํสุ. เทวตานํ กิรายํ ปิยมนาปโวหาโร, ยทิทํ มาริสาติ. อชชฺชิตนฺติ อโภชนํ. หลนฺติ วทามีติ อลนฺติ วทามิ, อลํ อิมินา เอวํ มา กริตฺถ, ยาเปสฺสามหนฺติ เอวํ ปฏิเสเธมีติ อตฺโถ.
๓๘๐-๑. มงฺคุรจฺฉวีติ ¶ มงฺคุรมจฺฉจฺฉวิ. เอตาว ปรมนฺติ ตาสมฺปิ เวทนานเมตํเยว ปรมํ, อุตฺตมํ ปมาณํ. ปิตุ สกฺกสฺส กมฺมนฺเต…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตาติ รฺโ กิร วปฺปมงฺคลทิวโส นาม โหติ, ตทา อเนกปฺปการํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาเทนฺติ. นครวีถิโย โสธาเปตฺวา ปุณฺณฆเฏ ปาเปตฺวา ธชปฏากาทโย อุสฺสาเปตฺวา สกลนครํ เทววิมานํ วิย อลงฺกโรนฺติ. สพฺเพ ทาสกมฺมกราทโย อหตวตฺถนิวตฺถา คนฺธมาลาทิปฏิมณฺฑิตา ราชกุเล สนฺนิปตนฺติ. รฺโ กมฺมนฺเต นงฺคลสตสหสฺสํ โยชียติ. ตสฺมึ ปน ทิวเส เอเกน อูนํ อฏฺสตํ โยเชนฺติ. สพฺพนงฺคลานิ สทฺธึ พลิพทฺทรสฺมิโยตฺเตหิ ชาณุสฺโสณิสฺส รโถ วิย รชตปริกฺขิตฺตานิ โหนฺติ. รฺโ อาลมฺพนนงฺคลํ รตฺตสุวณฺณปริกฺขิตฺตํ โหติ. พลิพทฺทานํ สิงฺคานิปิ รสฺมิปโตทาปิ สุวณฺณปริกฺขิตฺตา โหนฺติ. ราชา มหาปริวาเรน นิกฺขมนฺโต ปุตฺตํ คเหตฺวา อคมาสิ.
กมฺมนฺตฏฺาเน เอโก ชมฺพุรุกฺโข พหลปตฺตปลาโส สนฺทจฺฉาโย อโหสิ. ตสฺส เหฏฺา กุมารสฺส สยนํ ปฺเปตฺวา อุปริ สุวณฺณตารกขจิตํ วิตานํ พนฺธาเปตฺวา สาณิปากาเรน ปริกฺขิปาเปตฺวา อารกฺขํ เปตฺวา ราชา สพฺพาลงฺการํ อลงฺกริตฺวา อมจฺจคณปริวุโต นงฺคลกรณฏฺานํ อคมาสิ. ตตฺถ ราชา สุวณฺณนงฺคลํ คณฺหาติ. อมจฺจา เอเกนูนอฏฺสตรชตนงฺคลานิ คเหตฺวา อิโต จิโต จ กสนฺติ. ราชา ปน โอรโต ปารํ คจฺฉติ, ปารโต วา โอรํ คจฺฉติ. เอตสฺมึ าเน มหาสมฺปตฺติ โหติ, โพธิสตฺตํ ปริวาเรตฺวา นิสินฺนา ธาติโย รฺโ สมฺปตฺตึ ปสฺสิสฺสามาติ อนฺโตสาณิโต พหิ นิกฺขนฺตา. โพธิสตฺโต ¶ อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต กฺจิ อทิสฺวา เวเคน อุฏฺาย ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อานาปาเน ปริคฺคเหตฺวา ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺเตสิ. ธาติโย ขชฺชโภชฺชนฺตเร วิจรมานา โถกํ จิรายึสุ, เสสรุกฺขานํ ¶ ฉายา นิวตฺตา, ตสฺส ปน รุกฺขสฺส ปริมณฺฑลา หุตฺวา อฏฺาสิ. ธาติโย อยฺยปุตฺโต เอกโกติ เวเคน สาณึ อุกฺขิปิตฺวา อนฺโต ปวิสมานา โพธิสตฺตํ สยเน ปลฺลงฺเกน นิสินฺนํ ตฺจ ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา คนฺตฺวา รฺโ อาโรจยึสุ – ‘‘กุมาโร เทว, เอวํ นิสินฺโน อฺเสํ รุกฺขานํ ฉายา นิวตฺตา, ชมฺพุรุกฺขสฺส ปริมณฺฑลา ิตา’’ติ. ราชา เวเคนาคนฺตฺวา ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา, ‘‘อิทํ เต, ตาต, ทุติยํ วนฺทน’’นฺติ ปุตฺตํ วนฺทิ. อิทเมตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ปิตุ สกฺกสฺส กมฺมนฺเต…เป… ปมชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตา’’ติ. สิยา นุ โข เอโส มคฺโค โพธายาติ ภเวยฺย นุ โข เอตํ อานาปานสฺสติปมชฺฌานํ พุชฺฌนตฺถาย มคฺโคติ. สตานุสาริวิฺาณนฺติ ¶ นยิทํ โพธาย มคฺโค ภวิสฺสติ, อานาปานสฺสติปมชฺฌานํ ปน ภวิสฺสตีติ เอวํ เอกํ ทฺเว วาเร อุปฺปนฺนสติยา อนนฺตรํ อุปฺปนฺนวิฺาณํ สตานุสาริวิฺาณํ นาม. ยํ ตํ สุขนฺติ ยํ ตํ อานาปานสฺสติปมชฺฌานสุขํ.
๓๘๒. ปจฺจุปฏฺิตา โหนฺตีติ ปณฺณสาลปริเวณสมฺมชฺชนาทิวตฺตกรเณน อุปฏฺิตา โหนฺติ. พาหุลฺลิโกติ ปจฺจยพาหุลฺลิโก. อาวตฺโต พาหุลฺลายาติ รสคิทฺโธ หุตฺวา ปณีตปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย อาวตฺโต. นิพฺพิชฺช ปกฺกมึสูติ อุกฺกณฺิตฺวา ธมฺมนิยาเมเนว ปกฺกนฺตา โพธิสตฺตสฺส สมฺโพธึ ปตฺตกาเล กายวิเวกสฺส โอกาสทานตฺถํ ธมฺมตาย คตา. คจฺฉนฺตา จ อฺฏฺานํ อคนฺตฺวา พาราณสิเมว อคมํสุ. โพธิสตฺโต เตสุ คเตสุ อทฺธมาสํ กายวิเวกํ ลภิตฺวา โพธิมณฺเฑ อปราชิตปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌิ.
๓๘๓. วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทิ ภยเภรเว วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๓๘๗. อภิชานามิ โข ปนาหนฺติ อยํ ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธิ. นิคณฺโ กิร จินฺเตสิ – ‘‘อหํ สมณํ โคตมํ เอกํ ปฺหํ ปุจฺฉึ. สมโณ โคตโม ‘อปราปิ มํ, อคฺคิเวสฺสน, อปราปิ มํ, อคฺคิเวสฺสนา’ติ ปริโยสานํ อทสฺเสนฺโต กเถติเยว. กุปิโต นุ โข’’ติ? อถ ภควา, อคฺคิเวสฺสน ¶ , ตถาคเต อเนกสตาย ปริสาย ธมฺมํ เทเสนฺเต กุปิโต ¶ สมโณ โคตโมติ เอโกปิ วตฺตา นตฺถิ, ปเรสํ โพธนตฺถาย ปฏิวิชฺฌนตฺถาย เอว ตถาคโต ธมฺมํ เทเสตีติ ทสฺเสนฺโต อิมํ ธมฺมเทสนํ อารภิ. ตตฺถ อารพฺภาติ สนฺธาย. ยาวเทวาติ ปโยชนวิธิ ปริจฺเฉทนิยมนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปเรสํ วิฺาปนเมว ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนาย ปโยชนํ, ตสฺมา น เอกสฺเสว เทเสติ, ยตฺตกา วิฺาตาโร อตฺถิ, สพฺเพสํ เทเสตีติ. ตสฺมึเยว ปุริมสฺมินฺติ อิมินา กึ ทสฺเสตีติ? สจฺจโก กิร จินฺเตสิ – ‘‘สมโณ โคตโม อภิรูโป ปาสาทิโก สุผุสิตํ ทนฺตาวรณํ, ชิวฺหา มุทุกา, มธุรํ วากฺกรณํ, ปริสํ รฺเชนฺโต มฺเ วิจรติ, อนฺโต ปนสฺส จิตฺเตกคฺคตา นตฺถี’’ติ. อถ ภควา, อคฺคิเวสฺสน, น ตถาคโต ปริสํ รฺเชนฺโต วิจรติ, จกฺกวาฬปริยนฺตายปิ ปริสาย ตถาคโต ธมฺมํ เทเสติ, อสลฺลีโน อนุปลิตฺโต เอตฺตกํ เอกวิหารี, สฺุตผลสมาปตฺตึ อนุยุตฺโตติ ทสฺเสตุํ เอวมาห.
อชฺฌตฺตเมวาติ ¶ โคจรชฺฌตฺตเมว. สนฺนิสาเทมีติ สนฺนิสีทาเปมิ, ตถาคโต หิ ยสฺมึ ขเณ ปริสา สาธุการํ เทติ, ตสฺมึ ขเณ ปุพฺพาโภเคน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, สาธุการสทฺทสฺส นิคฺโฆเส อวิจฺฉินฺเนเยว สมาปตฺติโต วุฏฺาย ิตฏฺานโต ปฏฺาย ธมฺมํ เทเสติ, พุทฺธานฺหิ ภวงฺคปริวาโส ลหุโก โหตีติ อสฺสาสวาเร ปสฺสาสวาเร สมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺติ. เยน สุทํ นิจฺจกปฺปนฺติ เยน สฺุเน ผลสมาธินา นิจฺจกาลํ วิหรามิ, ตสฺมึ สมาธินิมิตฺเต จิตฺตํ สณฺเปมิ สมาทหามีติ ทสฺเสติ.
โอกปฺปนิยเมตนฺติ สทฺทหนิยเมตํ. เอวํ ภควโต เอกคฺคจิตฺตตํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อิทานิ อตฺตโน โอวฏฺฏิกสารํ กตฺวา อานีตปฺหํ ปุจฺฉนฺโต อภิชานาติ โข ปน ภวํ โคตโม ทิวา สุปิตาติ อาห. ยถา หิ สุนโข นาม อสมฺภินฺนขีรปกฺกปายสํ สปฺปินา โยเชตฺวา อุทรปูรํ โภชิโตปิ คูถํ ทิสฺวา อขาทิตฺวา คนฺตุํ น สกฺกา, อขาทมาโน ¶ ฆายิตฺวาปิ คจฺฉติ, อฆายิตฺวาว คตสฺส กิรสฺส สีสํ รุชฺชติ; เอวเมวํ อิมสฺสปิ สตฺถา อสมฺภินฺนขีรปกฺกปายสสทิสํ อภินิกฺขมนโต ปฏฺาย ยาว อาสวกฺขยา ปสาทนียํ ธมฺมเทสนํ เทเสติ. เอตสฺส ปน เอวรูปํ ธมฺมเทสนํ ¶ สุตฺวา สตฺถริ ปสาทมตฺตมฺปิ น อุปฺปนฺนํ, ตสฺมา โอวฏฺฏิกสารํ กตฺวา อานีตปฺหํ อปุจฺฉิตฺวา คนฺตุํ อสกฺโกนฺโต เอวมาห. ตตฺถ ยสฺมา ถินมิทฺธํ สพฺพขีณาสวานํ อรหตฺตมคฺเคเนว ปหียติ, กายทรโถ ปน อุปาทินฺนเกปิ โหติ อนุปาทินฺนเกปิ. ตถา หิ กมลุปฺปลาทีนิ เอกสฺมึ กาเล วิกสนฺติ, เอกสฺมึ มกุลานิ โหนฺติ, สายํ เกสฺจิ รุกฺขานมฺปิ ปตฺตานิ ปติลียนฺติ, ปาโต วิปฺผาริกานิ โหนฺติ. เอวํ อุปาทินฺนกสฺส กายสฺส ทรโถเยว ทรถวเสน ภวงฺคโสตฺจ อิธ นิทฺทาติ อธิปฺเปตํ, ตํ ขีณาสวานมฺปิ โหติ. ตํ สนฺธาย, ‘‘อภิชานามห’’นฺติอาทิมาห. สมฺโมหวิหารสฺมึ วทนฺตีติ สมฺโมหวิหาโรติ วทนฺติ.
๓๘๙. อาสชฺช อาสชฺชาติ ฆฏฺเฏตฺวา ฆฏฺเฏตฺวา. อุปนีเตหีติ อุปเนตฺวา กถิเตหิ. วจนปฺปเถหีติ วจเนหิ. อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวาติ อลนฺติ จิตฺเตน สมฺปฏิจฺฉนฺโต อภินนฺทิตฺวา วาจายปิ ปสํสนฺโต อนุโมทิตฺวา. ภควตา อิมสฺส นิคณฺสฺส ทฺเว สุตฺตานิ กถิตานิ. ปุริมสุตฺตํ เอโก ภาณวาโร, อิทํ ทิยฑฺโฒ, อิติ อฑฺฒติเย ภาณวาเร สุตฺวาปิ อยํ นิคณฺโ เนว อภิสมยํ ปตฺโต, น ปพฺพชิโต, น สรเณสุ ปติฏฺิโต. กสฺมา เอตสฺส ภควา ¶ ธมฺมํ เทเสสีติ? อนาคเต วาสนตฺถาย. ปสฺสติ หิ ภควา, ‘‘อิมสฺส อิทานิ อุปนิสฺสโย นตฺถิ, มยฺหํ ปน ปรินิพฺพานโต สมธิกานํ ทฺวินฺนํ วสฺสสตานํ อจฺจเยน ตมฺพปณฺณิทีเป สาสนํ ปติฏฺหิสฺสติ. ตตฺรายํ กุลฆเร นิพฺพตฺติตฺวา สมฺปตฺเต กาเล ปพฺพชิตฺวา ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคเหตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา กาฬพุทฺธรกฺขิโต นาม มหาขีณาสโว ภวิสฺสตี’’ติ. อิทํ ทิสฺวา อนาคเต วาสนตฺถาย ธมฺมํ เทเสสิ.
โสปิ ตตฺเถว ตมฺพปณฺณิทีปมฺหิ สาสเน ปติฏฺิเต เทวโลกโต จวิตฺวา ทกฺขิณคิริวิหารสฺส ภิกฺขาจารคาเม เอกสฺมึ อมจฺจกุเล นิพฺพตฺโต ปพฺพชฺชาสมตฺถโยพฺพเน ปพฺพชิตฺวา เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ อุคฺคเหตฺวา คณํ ปริหรนฺโต ¶ มหาภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อุปชฺฌายํ ปสฺสิตุํ อคมาสิ. อถสฺส อุปชฺฌาโย สทฺธิวิหาริกํ โจเทสฺสามีติ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ อุคฺคเหตฺวา อาคเตน เตน สทฺธึ มุขํ ทตฺวา กถามตฺตมฺปิ น อกาสิ. โส ปจฺจูสสมเย วุฏฺาย เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา, – ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, มยิ คนฺถกมฺมํ กตฺวา ตุมฺหากํ สนฺติกํ อาคเต มุขํ ทตฺวา กถามตฺตมฺปิ น ¶ กริตฺถ, โก มยฺหํ โทโส’’ติ ปุจฺฉิ. เถโร อาห – ‘‘ตฺวํ, อาวุโส, พุทฺธรกฺขิต เอตฺตเกเนว ‘ปพฺพชฺชากิจฺจํ เม มตฺถกํ ปตฺต’นฺติ สฺํ กโรสี’’ติ. กึ กโรมิ, ภนฺเตติ? คณํ วิโนเทตฺวา ตฺวํ ปปฺจํ ฉินฺทิตฺวา เจติยปพฺพตวิหารํ คนฺตฺวา สมณธมฺมํ กโรหีติ. โส อุปชฺฌายสฺส โอวาเท ตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา ปฺุวา ราชปูชิโต หุตฺวา มหาภิกฺขุสงฺฆปริวาโร เจติยปพฺพตวิหาเร วสิ.
ตสฺมิฺหิ กาเล ติสฺสมหาราชา อุโปสถกมฺมํ กโรนฺโต เจติยปพฺพเต ราชเลเณ วสติ. โส เถรสฺส อุปฏฺากภิกฺขุโน สฺํ อทาสิ – ‘‘ยทา มยฺหํ อยฺโย ปฺหํ วิสฺสชฺเชติ, ธมฺมํ วา กเถติ, ตทา เม สฺํ ทเทยฺยาถา’’ติ. เถโรปิ เอกสฺมึ ธมฺมสฺสวนทิวเส ภิกฺขุสงฺฆปริวาโร กณฺฏกเจติยงฺคณํ อารุยฺห เจติยํ วนฺทิตฺวา กาฬติมฺพรุรุกฺขมูเล อฏฺาสิ. อถ นํ เอโก ปิณฺฑปาติกตฺเถโร กาฬการามสุตฺตนฺเต ปฺหํ ปุจฺฉิ. เถโร นนุ, อาวุโส, อชฺช ธมฺมสฺสวนทิวโสติ อาห. อาม, ภนฺเต, ธมฺมสฺสวนทิวโสติ. เตน หิ ปีกํ อาเนถ, อิเธว นิสินฺนา ธมฺมสฺสวนํ กริสฺสามาติ. อถสฺส รุกฺขมูเล อาสนํ ปฺเปตฺวา อทํสุ. เถโร ปุพฺพคาถา วตฺวา กาฬการามสุตฺตํ อารภิ. โสปิสฺส อุปฏฺากทหโร รฺโ ¶ สฺํ ทาเปสิ. ราชา ปุพฺพคาถาสุ อนิฏฺิตาสุเยว ปาปุณิ. ปตฺวา จ อฺาตกเวเสเนว ปริสนฺเต ตฺวา ติยามรตฺตึ ิตโกว ธมฺมํ สุตฺวา เถรสฺส, อิทมโวจ ภควาติ วจนกาเล ¶ สาธุการํ อทาสิ. เถโร ตฺวา, กทา อาคโตสิ, มหาราชาติ ปุจฺฉิ. ปุพฺพคาถา โอสารณกาเลเยว, ภนฺเตติ. ทุกฺกรํ เต มหาราช, กตนฺติ. นยิทํ, ภนฺเต, ทุกฺกรํ, ยทิ ปน เม อยฺยสฺส ธมฺมกถํ อารทฺธกาลโต ปฏฺาย เอกปเทปิ อฺวิหิตภาโว อโหสิ, ตมฺพปณฺณิทีปสฺส ปโตทยฏฺินิตุทนมตฺเตปิ าเน สามิภาโว นาม เม มา โหตูติ สปถมกาสิ.
ตสฺมึ ปน สุตฺเต พุทฺธคุณา ปริทีปิตา, ตสฺมา ราชา ปุจฺฉิ – ‘‘เอตฺตกาว, ภนฺเต, พุทฺธคุณา, อุทาหุ อฺเปิ อตฺถี’’ติ. มยา กถิตโต, มหาราช, อกถิตเมว พหุ อปฺปมาณนฺติ. อุปมํ, ภนฺเต, กโรถาติ. ยถา, มหาราช ¶ , กรีสสหสฺสมตฺเต สาลิกฺเขตฺเต เอกสาลิสีสโต อวเสสสาลีเยว พหู, เอวํ มยา กถิตคุณา อปฺปา, อวเสสา พหูติ. อปรมฺปิ, ภนฺเต, อุปมํ กโรถาติ. ยถา, มหาราช, มหาคงฺคาย โอฆปุณฺณาย สูจิปาสํ สมฺมุขํ กเรยฺย, สูจิปาเสน คตอุทกํ อปฺปํ, เสสํ พหุ, เอวเมว มยา กถิตคุณา อปฺปา, อวเสสา พหูติ. อปรมฺปิ, ภนฺเต, อุปมํ กโรถาติ. อิธ, มหาราช, จาตกสกุณา นาม อากาเส กีฬนฺตา วิจรนฺติ. ขุทฺทกา สา สกุณชาติ, กึ นุ โข ตสฺส สกุณสฺส อากาเส ปกฺขปสารณฏฺานํ พหุ, อวเสโส อากาโส อปฺโปติ? กึ, ภนฺเต, วทถ, อปฺโป ตสฺส ปกฺขปสารโณกาโส, อวเสโสว พหูติ. เอวเมว, มหาราช, อปฺปกา มยา พุทฺธคุณา กถิตา, อวเสสา พหู อนนฺตา อปฺปเมยฺยาติ. สุกถิตํ, ภนฺเต, อนนฺตา พุทฺธคุณา อนนฺเตเนว อากาเสน อุปมิตา. ปสนฺนา มยํ อยฺยสฺส, อนุจฺฉวิกํ ปน กาตุํ น สกฺโกม. อยํ เม ทุคฺคตปณฺณากาโร อิมสฺมึ ตมฺพปณฺณิทีเป อิมํ ติโยชนสติกํ รชฺชํ อยฺยสฺส เทมาติ. ตุมฺเหหิ, มหาราช, อตฺตโน ปสนฺนากาโร กโต, มยํ ปน อมฺหากํ ทินฺนํ รชฺชํ ตุมฺหากํเยว เทม, ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรหิ มหาราชาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาสจฺจกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. จูฬตณฺหาสงฺขยสุตฺตวณฺณนา
๓๙๐. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ จูฬตณฺหาสงฺขยสุตฺตํ. ตตฺถ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเทติ ปุพฺพารามสงฺขาเต วิหาเร มิคารมาตุยา ปาสาเท. ตตฺรายํ อนุปุพฺพีกถาอตีเต สตสหสฺสกปฺปมตฺถเก เอกา อุปาสิกา ปทุมุตฺตรํ ภควนฺตํ นิมนฺเตตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สตสหสฺสํ ทานํ ทตฺวา ภควโต ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา, ‘‘อนาคเต ตุมฺหาทิสสฺส พุทฺธสฺส อคฺคุปฏฺายิกา โหมี’’ติ ปตฺถนมกาสิ. สา กปฺปสตสหสฺสํ เทเวสุ เจว มนุสฺเสสุ จ สํสริตฺวา อมฺหากํ ภควโต ¶ กาเล ภทฺทิยนคเร เมณฺฑกเสฏฺิปุตฺตสฺส ธนฺชยสฺส เสฏฺิโน คเห สุมนเทวิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ชาตกาเล จสฺสา วิสาขาติ นามํ อกํสุ. สา ยทา ภควา ภทฺทิยนครํ อคมาสิ, ตทา ปฺจหิ ทาริกาสเตหิ สทฺธึ ภควโต ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา ปมทสฺสนมฺหิเยว โสตาปนฺนา อโหสิ. อปรภาเค สาวตฺถิยํ มิคารเสฏฺิปุตฺตสฺส ปุณฺณวฑฺฒนกุมารสฺส เคหํ คตา, ตตฺถ นํ มิคารเสฏฺิ มาติฏฺาเน เปสิ, ตสฺมา มิคารมาตาติ วุจฺจติ.
ปติกุลํ คจฺฉนฺติยา จสฺสา ปิตา มหาลตาปิฬนฺธนํ นาม การาเปสิ. ตสฺมึ ปิฬนฺธเน จตสฺโส วชิรนาฬิโย อุปโยคํ อคมํสุ, มุตฺตานํ เอกาทส นาฬิโย, ปวาฬานํ ทฺวาวีสติ นาฬิโย, มณีนํ เตตฺตึส นาฬิโย, อิติ เอเตหิ จ อฺเหิ จ สตฺตวณฺเณหิ รตเนหิ นิฏฺานํ อคมาสิ. ตํ สีเส ปฏิมุกฺกํ ยาว ปาทปิฏฺิยา ภสฺสติ, ปฺจนฺนํ หตฺถีนํ พลํ ธารยมานาว นํ อิตฺถี ธาเรตุํ สกฺโกติ. สา อปรภาเค ทสพลสฺส อคฺคุปฏฺายิกา หุตฺวา ตํ ปสาธนํ วิสฺสชฺเชตฺวา นวหิ โกฏีหิ ภควโต วิหารํ การยมานา กรีสมตฺเต ภูมิภาเค ปาสาทํ กาเรสิ. ตสฺส อุปริภูมิยํ ปฺจ คพฺภสตานิ โหนฺติ, เหฏฺาภูมิยํ ปฺจาติ คพฺภสหสฺสปฺปฏิมณฺฑิโต อโหสิ. สา ‘‘สุทฺธปาสาโทว น โสภตี’’ติ ตํ ปริวาเรตฺวา ปฺจ ทฺวิกูฏเคหสตานิ, ปฺจ ¶ จูฬปาสาทสตานิ, ปฺจ ทีฆสาลสตานิ จ การาเปสิ. วิหารมโห จตูหิ มาเสหิ นิฏฺานํ อคมาสิ.
มาตุคามตฺตภาเว ¶ ิตาย วิสาขาย วิย อฺิสฺสา พุทฺธสาสเน ธนปริจฺจาโค นาม นตฺถิ, ปุริสตฺตภาเว ิตสฺส จ อนาถปิณฺฑิกสฺส วิย อฺสฺส พุทฺธสาสเน ธนปริจฺจาโค นาม นตฺถิ. โส หิ จตุปฺาสโกฏิโย วิสฺสชฺเชตฺวา สาวตฺถิยา ทกฺขิณภาเค อนุราธปุรสฺส มหาวิหารสทิเส าเน เชตวนมหาวิหารํ นาม กาเรสิ. วิสาขา, สาวตฺถิยา ปาจีนภาเค อุตฺตมเทวีวิหารสทิเส าเน ปุพฺพารามํ นาม กาเรสิ. ภควา อิเมสํ ทฺวินฺนํ กุลานํ อนุกมฺปาย สาวตฺถึ นิสฺสาย วิหรนฺโต อิเมสุ ทฺวีสุ วิหาเรสุ นิพทฺธวาสํ วสิ. เอกํ อนฺโตวสฺสํ เชตวเน วสติ, เอกํ ปุพฺพาราเม, เอตสฺมึ ปน สมเย ภควา ปุพฺพาราเม วิหรติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท’’ติ.
กิตฺตาวตา ¶ นุ โข, ภนฺเตติ กิตฺตเกน นุ โข, ภนฺเต. สํขิตฺเตน ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺโต โหตีติ ตณฺหาสงฺขเย นิพฺพาเน ตํ อารมฺมณํ กตฺวา วิมุตฺตจิตฺตตาย ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺโต นาม สํขิตฺเตน กิตฺตาวตา โหติ? ยาย ปฏิปตฺติยา ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺโต โหติ, ตํ เม ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ปุพฺพภาคปฺปฏิปทํ สํขิตฺเตน เทเสถาติ ปุจฺฉติ. อจฺจนฺตนิฏฺโติ ขยวยสงฺขาตํ อนฺตํ อตีตาติ อจฺจนฺตา. อจฺจนฺตา นิฏฺา อสฺสาติ อจฺจนฺตนิฏฺโ, เอกนฺตนิฏฺโ สตตนิฏฺโติ อตฺโถ. อจฺจนฺตํ โยคกฺเขมีติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี, นิจฺจโยคกฺเขมีติ อตฺโถ. อจฺจนฺตํ พฺรหฺมจารีติ อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี, นิจฺจพฺรหฺมจารีติ อตฺโถ. อจฺจนฺตํ ปริโยสานมสฺสาติ ปุริมนเยเนว อจฺจนฺตปริโยสาโน. เสฏฺโ เทวมนุสฺสานนฺติ เทวานฺจ มนุสฺสานฺจ เสฏฺโ อุตฺตโม. เอวรูโป ภิกฺขุ กิตฺตาวตา โหติ, ขิปฺปเมตสฺส สงฺเขเปเนว ปฏิปตฺตึ กเถถาติ ภควนฺตํ ยาจติ. กสฺมา ปเนส เอวํ เวคายตีติ? กีฬํ อนุภวิตุกามตาย.
อยํ กิร อุยฺยานกีฬํ อาณาเปตฺวา จตูหิ มหาราชูหิ จตูสุ ทิสาสุ อารกฺขํ คาหาเปตฺวา ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวสงฺเฆน ปริวุโต อฑฺฒติยาหิ นาฏกโกฏีหิ สทฺธึ เอราวณํ ¶ อารุยฺห อุยฺยานทฺวาเร ิโต อิมํ ปฺหํ สลฺลกฺเขสิ – ‘‘กิตฺตเกน นุ โข ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตสฺส ขีณาสวสฺส สงฺเขปโต อาคมนิยปุพฺพภาคปฏิปทา โหตี’’ติ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ ปฺโห อติวิย สสฺสิริโก, สจาหํ อิมํ ปฺหํ อนุคฺคณฺหิตฺวาว อุยฺยานํ ปวิสิสฺสามิ, ฉทฺวาริเกหิ อารมฺมเณหิ นิมฺมถิโต น ปุน อิมํ ปฺหํ สลฺลกฺเขสฺสามิ ¶ , ติฏฺตุ ตาว อุยฺยานกีฬา, สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา อุคฺคหิตปฺโห อุยฺยาเน กีฬิสฺสามี’’ติ หตฺถิกฺขนฺเธ อนฺตรหิโต ภควโต สนฺติเก ปาตุรโหสิ. เตปิ จตฺตาโร มหาราชาโน อารกฺขํ คเหตฺวา ิตฏฺาเนเยว ิตา, ปริจาริกเทวสงฺฆาปิ นาฏกานิปิ เอราวโณปิ นาคราชา ตตฺเถว อุยฺยานทฺวาเร อฏฺาสิ, เอวเมส กีฬํ อนุภวิตุกามตาย เวคายนฺโต เอวมาห.
สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสายาติ เอตฺถ สพฺเพ ธมฺมา นาม ปฺจกฺขนฺธา ทฺวาทสายตนานิ อฏฺารส ธาตุโย. เต สพฺเพปิ ตณฺหาทิฏฺิวเสน อภินิเวสาย ¶ นาลํ น ปริยตฺตา น สมตฺถา น ยุตฺตา, กสฺมา? คหิตากาเรน อติฏฺนโต. เต หิ นิจฺจาติ คหิตาปิ อนิจฺจาว สมฺปชฺชนฺติ, สุขาติ คหิตาปิ ทุกฺขาว สมฺปชฺชนฺติ, อตฺตาติ คหิตาปิ อนตฺตาว สมฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา นาลํ อภินิเวสาย. อภิชานาตีติ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ าตปริฺาย อภิชานาติ. ปริชานาตีติ ตเถว ตีรณปริฺาย ปริชานาติ. ยํกิฺจิ เวทนนฺติ อนฺตมโส ปฺจวิฺาณสมฺปยุตฺตมฺปิ ยํกิฺจิ อปฺปมตฺตกมฺปิ เวทนํ อนุภวติ. อิมินา ภควา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส เวทนาวเสน นิพฺพตฺเตตฺวา อรูปปริคฺคหํ ทสฺเสติ. สเจ ปน เวทนากมฺมฏฺานํ เหฏฺา น กถิตํ ภเวยฺย, อิมสฺมึ าเน กเถตพฺพํ สิยา. เหฏฺา ปน กถิตํ, ตสฺมา สติปฏฺาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อนิจฺจานุปสฺสีติ เอตฺถ อนิจฺจํ เวทิตพฺพํ, อนิจฺจานุปสฺสนา เวทิตพฺพา, อนิจฺจานุปสฺสี เวทิตพฺโพ. ตตฺถ อนิจฺจนฺติ ปฺจกฺขนฺธา, เต หิ อุปฺปาทวยฏฺเน อนิจฺจา. อนิจฺจานุปสฺสนาติ ปฺจกฺขนฺธานํ ขยโต วยโต ทสฺสนาณํ. อนิจฺจานุปสฺสีติ เตน าเณน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ¶ . ตสฺมา ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี วิหรตี’’ติ อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต วิหรตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
วิราคานุปสฺสีติ เอตฺถ ทฺเว วิราคา ขยวิราโค จ อจฺจนฺตวิราโค จ. ตตฺถ สงฺขารานํ ขยวยโต อนุปสฺสนาปิ, อจฺจนฺตวิราคํ นิพฺพานํ วิราคโต ทสฺสนมคฺคาณมฺปิ วิราคานุปสฺสนา. ตทุภยสมางฺคีปุคฺคโล วิราคานุปสฺสี นาม, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘วิราคานุปสฺสี’’ติ, วิราคโต อนุปสฺสนฺโตติ อตฺโถ. นิโรธานุปสฺสิมฺหิปิ เอเสว นโย, นิโรโธปิ หิ ขยนิโรโธ จ อจฺจนฺตนิโรโธ จาติ ทุวิโธเยว. ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสีติ เอตฺถ ปฏินิสฺสคฺโค วุจฺจติ โวสฺสคฺโค, โส จ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโคติ ทุวิโธ โหติ ¶ . ตตฺถ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโคติ วิปสฺสนา, สา หิ ตทงฺควเสน กิเลเส จ ขนฺเธ จ โวสฺสชฺชติ. ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโคติ มคฺโค, โส หิ นิพฺพานํ อารมฺมณํ อารมฺมณโต ปกฺขนฺทติ. ทฺวีหิปิ วา การเณหิ โวสฺสคฺโคเยว, สมุจฺเฉทวเสน ขนฺธานํ กิเลสานฺจ โวสฺสชฺชนโต, นิพฺพานฺจ ปกฺขนฺทนโต. ตสฺมา กิเลเส จ ขนฺเธ จ ปริจฺจชตีติ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค, นิโรเธ นิพฺพานธาตุยา จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโคติ อุภยมฺเปตํ มคฺเค สเมติ. ตทุภยสมงฺคีปุคฺคโล อิมาย ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย สมนฺนาคตตฺตา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี นาม โหติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี’’ติ. น กิฺจิ โลเก อุปาทิยตีติ ¶ กิฺจิ เอกมฺปิ สงฺขารคตํ ตณฺหาวเสน น อุปาทิยติ น คณฺหาติ น ปรามสติ. อนุปาทิยํ น ปริตสฺสตีติ อคฺคณฺหนฺโต ตณฺหาปริตสฺสนาย น ปริตสฺสติ. ปจฺจตฺตฺเว ปรินิพฺพายตีติ สยเมว กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายติ. ขีณา ชาตีติอาทินา ปนสฺส ปจฺจเวกฺขณาว ทสฺสิตา. อิติ ภควา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส สํขิตฺเตน ขีณาสวสฺส ปุพฺพภาคปฺปฏิปทํ ปุจฺฉิโต สลฺลหุกํ กตฺวา สํขิตฺเตเนว ขิปฺปํ กเถสิ.
๓๙๑. อวิทูเร นิสินฺโน โหตีติ อนนฺตเร กูฏาคาเร นิสินฺโน โหติ. อภิสเมจฺจาติ าเณน อภิสมาคนฺตฺวา, ชานิตฺวาติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กึ นุ โข เอส ชานิตฺวา อนุโมทิ, อุทาหุ ¶ อชานิตฺวา วาติ. กสฺมา ปนสฺส เอวมโหสีติ? เถโร กิร น ภควโต ปฺหวิสฺสชฺชนสทฺทํ อสฺโสสิ, สกฺกสฺส ปน เทวรฺโ, ‘‘เอวเมตํ ภควา เอวเมตํ สุคตา’’ติ อนุโมทนสทฺทํ อสฺโสสิ. สกฺโก กิร เทวราชา มหตา สทฺเทน อนุโมทิ. อถ กสฺมา น ภควโต สทฺทํ อสฺโสสีติ? ยถาปริสวิฺาปกตฺตา. พุทฺธานฺหิ ธมฺมํ กเถนฺตานํ เอกาพทฺธาย จกฺกวาฬปริยนฺตายปิ ปริสาย สทฺโท สุยฺยติ, ปริยนฺตํ ปน มฺุจิตฺวา องฺคุลิมตฺตมฺปิ พหิทฺธา น นิจฺฉรติ. กสฺมา? เอวรูปา มธุรกถา มา นิรตฺถกา อคมาสีติ. ตทา ภควา มิคารมาตุปาสาเท สตฺตรตนมเย กูฏาคาเร สิริคพฺภมฺหิ นิสินฺโน โหติ, ตสฺส ทกฺขิณปสฺเส สาริปุตฺตตฺเถรสฺส วสนกูฏาคารํ, วามปสฺเส มหาโมคฺคลฺลานสฺส, อนฺตเร ฉิทฺทวิวโรกาโส นตฺถิ, ตสฺมา เถโร น ภควโต สทฺทํ อสฺโสสิ, สกฺกสฺเสว อสฺโสสีติ.
ปฺจหิ ¶ ตูริยสเตหีติ ปฺจงฺคิกานํ ตูริยานํ ปฺจหิ สเตหิ. ปฺจงฺคิกํ ตูริยํ นาม อาตตํ วิตตํ อาตตวิตตํ สุสิรํ ฆนนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ. ตตฺถ อาตตํ นาม จมฺมปริโยนทฺเธสุ เภริอาทีสุ เอกตลตูริยํ. วิตตํ นาม อุภยตลํ. อาตตวิตตํ นาม ตนฺติพทฺธปณวาทิ. สุสิรํ วํสาทิ. ฆนํ สมฺมาทิ. สมปฺปิโตติ อุปคโต. สมงฺคีภูโตติ ตสฺเสว เววจนํ. ปริจาเรตีติ ตํ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต ตโต ตโต อินฺทฺริยานิ จาเรติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปริวาเรตฺวา วชฺชมาเนหิ ปฺจหิ ตูริยสเตหิ สมนฺนาคโต หุตฺวา ทิพฺพสมฺปตฺตึ ¶ อนุภวตี. ปฏิปณาเมตฺวาติ อปเนตฺวา, นิสฺสทฺทานิ การาเปตฺวาติ อตฺโถ. ยเถว หิ อิทานิ สทฺธา ราชาโน ครุภาวนิยํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา – ‘‘อสุโก นาม อยฺโย อาคจฺฉติ, มา, ตาตา, คายถ, มา วาเทถ, มา นจฺจถา’’ติ นาฏกานิ ปฏิวิเนนฺติ, สกฺโกปิ เถรํ ทิสฺวา เอวมกาสิ. จิรสฺสํ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, อิมํ ปริยายมกาสีติ เอวรูปํ โลเก ปกติยา ปิยสมุทาหารวจนํ โหติ, โลกิยา หิ จิรสฺสํ อาคตมฺปิ อนาคตปุพฺพมฺปิ มนาปชาติยํ อาคตํ ทิสฺวา, – ‘‘กุโต ภวํ อาคโต, จิรสฺสํ ภวํ ¶ อาคโต, กถํ เต อิธาคมนมคฺโค าโต มคฺคมูฬฺโหสี’’ติอาทีนิ วทนฺติ. อยํ ปน อาคตปุพฺพตฺตาเยว เอวมาห. เถโร หิ กาเลน กาลํ เทวจาริกํ คจฺฉติเยว. ตตฺถ ปริยายมกาสีติ วารมกาสิ. ยทิทํ อิธาคมนายาติ โย อยํ อิธาคมนาย วาโร, ตํ, ภนฺเต, จิรสฺสมกาสีติ วุตฺตํ โหติ. อิทมาสนํ ปฺตฺตนฺติ โยชนิกํ มณิปลฺลงฺกํ ปฺปาเปตฺวา เอวมาห.
๓๙๒. พหุกิจฺจา พหุกรณียาติ เอตฺถ เยสํ พหูนิ กิจฺจานิ, เต พหุกิจฺจา. พหุกรณียาติ ตสฺเสว เววจนํ. อปฺเปว สเกน กรณีเยนาติ สกรณียเมว อปฺปํ มนฺทํ, น พหุ, เทวานํ กรณียํ ปน พหุ, ปถวิโต ปฏฺาย หิ กปฺปรุกฺขมาตุคามาทีนํ อตฺถาย อฏฺฏา สกฺกสฺส สนฺติเก ฉิชฺชนฺติ, ตสฺมา นิยเมนฺโต อาห – อปิจ เทวานํเยว ตาวตึสานํ กรณีเยนาติ. เทวานฺหิ ธีตา จ ปุตฺตา จ องฺเก นิพฺพตฺตนฺติ, ปาทปริจาริกา อิตฺถิโย สยเน นิพฺพตฺตนฺติ, ตาสํ มณฺฑนปสาธนการิกา เทวธีตา สยนํ ปริวาเรตฺวา นิพฺพตฺตนฺติ, เวยฺยาวจฺจกรา อนฺโตวิมาเน นิพฺพตฺตนฺติ, เอเตสํ อตฺถาย อฏฺฏกรณํ นตฺถิ. เย ปน สีมนฺตเร นิพฺพตฺตนฺติ, เต ‘‘มม สนฺตกา ตว สนฺตกา’’ติ นิจฺเฉตุํ อสกฺโกนฺตา อฏฺฏํ กโรนฺติ, สกฺกํ เทวราชานํ ปุจฺฉนฺติ, โส ยสฺส วิมานํ อาสนฺนตรํ, ตสฺส สนฺตโกติ วทติ. สเจ ทฺเวปิ สมฏฺาเน ¶ โหนฺติ, ยสฺส วิมานํ โอโลเกนฺโต ิโต, ตสฺส สนฺตโกติ วทติ. สเจ เอกมฺปิ น โอโลเกติ, ตํ อุภินฺนํ กลหุปจฺเฉทนตฺถํ อตฺตโน สนฺตกํ กโรติ. ตํ สนฺธาย, ‘‘เทวานํเยว ตาวตึสานํ กรณีเยนา’’ติ อาห. อปิจสฺส เอวรูปํ กีฬากิจฺจมฺปิ กรณียเมว.
ยํ ¶ โน ขิปฺปเมว อนฺตรธายตีติ ยํ อมฺหากํ สีฆเมว อนฺธกาเร รูปคตํ วิย น ทิสฺสติ. อิมินา – ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตํ ปฺหวิสฺสชฺชนํ น สลฺลกฺเขมี’’ติ ทีเปติ. เถโร – ‘‘กสฺมา นุ โข อยํ ยกฺโข อสลฺลกฺขณภาวํ ทีเปติ, ปสฺเสน ปริหรตี’’ติ อาวชฺชนฺโต – ‘‘เทวา นาม มหามูฬฺหา โหนฺติ. ฉทฺวาริเกหิ อารมฺมเณหิ นิมฺมถียมานา อตฺตโน ภุตฺตาภุตฺตภาวมฺปิ ปีตาปีตภาวมฺปิ น ชานนฺติ, อิธ กตเมตฺถ ปมุสฺสนฺตี’’ติ อฺาสิ. เกจิ ¶ ปนาหุ – ‘‘เถโร เอตสฺส ครุ ภาวนิโย, ตสฺมา ‘อิทาเนว โลเก อคฺคปุคฺคลสฺส สนฺติเก ปฺหํ อุคฺคเหตฺวา อาคโต, อิทาเนว นาฏกานํ อนฺตรํ ปวิฏฺโติ เอวํ มํ เถโร ตชฺเชยฺยา’ติ ภเยน เอวมาหา’’ติ. เอตํ ปน โกหฺํ นาม โหติ, น อริยสาวกสฺส เอวรูปํ โกหฺํ นาม โหติ, ตสฺมา มูฬฺหภาเวเนว น สลฺลกฺเขสีติ เวทิตพฺพํ. อุปริ กสฺมา สลฺลกฺเขสีติ? เถโร ตสฺส โสมนสฺสสํเวคํ ชนยิตฺวา ตมํ นีหริ, ตสฺมา สลฺลกฺเขสีติ.
อิทานิ สกฺโก ปุพฺเพ อตฺตโน เอวํ ภูตการณํ เถรสฺส อาโรเจตุํ ภูตปุพฺพนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สมุปพฺยูฬฺโหติ สนฺนิปติโต ราสิภูโต. อสุรา ปราชินึสูติ อสุรา ปราชยํ ปาปุณึสุ. กทา ปเนเต ปราชิตาติ? สกฺกสฺส นิพฺพตฺตกาเล. สกฺโก กิร อนนฺตเร อตฺตภาเว มคธรฏฺเ มจลคาเม มโฆ นาม มาณโว อโหสิ, ปณฺฑิโต พฺยตฺโต, โพธิสตฺตจริยา วิยสฺส จริยา อโหสิ. โส เตตฺตึส ปุริเส คเหตฺวา กลฺยาณมกาสิ. เอกทิวสํ อตฺตโนว ปฺาย อุปปริกฺขิตฺวา คามมชฺเฌ มหาชนสฺส สนฺนิปติตฏฺาเน กจวรํ อุภยโต อปพฺพหิตฺวา ตํ านํ อติรมณียมกาสิ, ปุน ตตฺเถว มณฺฑปํ กาเรสิ, ปุน คจฺฉนฺเต กาเล สาลํ กาเรสิ. คามโต จ นิกฺขมิตฺวา คาวุตมฺปิ อฑฺฒโยชนมฺปิ ติคาวุตมฺปิ โยชนมฺปิ วิจริตฺวา เตหิ สหาเยหิ สทฺธึ วิสมํ สมํ อกาสิ. เต สพฺเพปิ เอกจฺฉนฺทา ตตฺถ ตตฺถ เสตุยุตฺตฏฺาเนสุ เสตุํ, มณฺฑปสาลาโปกฺขรณีมาลาคจฺฉโรปนาทีนํ ยุตฺตฏฺาเนสุ มณฺฑปาทีนิ กโรนฺตา พหุํ ปฺุมกํสุ ¶ . มโฆ สตฺต วตปทานิ ปูเรตฺวา กายสฺส เภทา สทฺธึ สหาเยหิ ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติ.
ตสฺมึ ¶ กาเล อสุรคณา ตาวตึสเทวโลเก ปฏิวสนฺติ. สพฺเพ เต เทวานํ สมานายุกา สมานวณฺณา จ โหนฺติ, เต สกฺกํ สปริสํ ทิสฺวา อธุนา นิพฺพตฺตา นวกเทวปุตฺตา อาคตาติ มหาปานํ สชฺชยึสุ. สกฺโก เทวปุตฺตานํ สฺํ ¶ อทาสิ – ‘‘อมฺเหหิ กุสลํ กโรนฺเตหิ น ปเรหิ สทฺธึ สาธารณํ กตํ, ตุมฺเห คณฺฑปานํ มา ปิวิตฺถ ปีตมตฺตเมว กโรถา’’ติ. เต ตถา อกํสุ. พาลอสุรา คณฺฑปานํ ปิวิตฺวา มตฺตา นิทฺทํ โอกฺกมึสุ. สกฺโก เทวานํ สฺํ ทตฺวา เต ปาเทสุ คาหาเปตฺวา สิเนรุปาเท ขิปาเปสิ, สิเนรุสฺส เหฏฺิมตเล อสุรภวนํ นาม อตฺถิ, ตาวตึสเทวโลกปฺปมาณเมว. ตตฺถ อสุรา วสนฺติ. เตสมฺปิ จิตฺตปาฏลิ นาม รุกฺโข อตฺถิ. เต ตสฺส ปุปฺผนกาเล ชานนฺติ – ‘‘นายํ ตาวตึสา, สกฺเกน วฺจิตา มย’’นฺติ. เต คณฺหถ นนฺติ วตฺวา สิเนรุํ ปริหรมานา เทเว วุฏฺเ วมฺมิกปาทโต วมฺมิกมกฺขิกา วิย อภิรุหึสุ. ตตฺถ กาเลน เทวา ชินนฺติ, กาเลน อสุรา. ยทา เทวานํ ชโย โหติ, อสุเร ยาว สมุทฺทปิฏฺา อนุพนฺธนฺติ. ยทา อสุรานํ ชโย โหติ, เทเว ยาว เวทิกปาทา อนุพนฺธนฺติ. ตสฺมึ ปน สงฺคาเม เทวานํ ชโย อโหสิ, เทวา อสุเร ยาว สมุทฺทปิฏฺา อนุพนฺธึสุ. สกฺโก อสุเร ปลาเปตฺวา ปฺจสุ าเนสุ อารกฺขํ เปสิ. เอวํ อารกฺขํ ทตฺวา เวทิกปาเท วชิรหตฺถา อินฺทปฏิมาโย เปสิ. อสุรา กาเลน กาลํ อุฏฺหิตฺวา ตา ปฏิมาโย ทิสฺวา, ‘‘สกฺโก อปฺปมตฺโต ติฏฺตี’’ติ ตโตว นิวตฺตนฺติ. ตโต ปฏินิวตฺติตฺวาติ วิชิตฏฺานโต นิวตฺติตฺวา. ปริจาริกาโยติ มาลาคนฺธาทิกมฺมการิกาโย.
๓๙๓. เวสฺสวโณ จ มหาราชาติ โส กิร สกฺกสฺส วลฺลโภ, พลววิสฺสาสิโก, ตสฺมา สกฺเกน สทฺธึ อคมาสิ. ปุรกฺขตฺวาติ ปุรโต กตฺวา. ปวิสึสูติ ปวิสิตฺวา ปน อุปฑฺฒปิหิตานิ ทฺวารานิ กตฺวา โอโลกยมานา อฏฺํสุ. อิทมฺปิ, มาริส โมคฺคลฺลาน, ปสฺส เวชยนฺตสฺส ปาสาทสฺส รามเณยฺยกนฺติ, มาริส โมคฺคลฺลาน, อิทมฺปิ เวชยนฺตสฺส ปาสาทสฺส รามเณยฺยกํ ปสฺส, สุวณฺณตฺถมฺเภ ปสฺส, รชตตฺถมฺเภ มณิตฺถมฺเภ ปวาฬตฺถมฺเภ โลหิตงฺคตฺถมฺเภ มสารคลฺลตฺถมฺเภ มุตฺตตฺถมฺเภ สตฺตรตนตฺถมฺเภ, เตสํเยว สุวณฺณาทิมเย ฆฏเก วาฬรูปกานิ จ ปสฺสาติ ¶ เอวํ ถมฺภปนฺติโย อาทึ กตฺวา รามเณยฺยกํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. ยถา ตํ ปุพฺเพกตปฺุสฺสาติ ¶ ยถา ปุพฺเพ กตปฺุสฺส อุปโภคฏฺาเนน โสภิตพฺพํ, เอวเมวํ โสภตีติ อตฺโถ. อติพาฬฺหํ ¶ โข อยํ ยกฺโข ปมตฺโต วิหรตีติ อตฺตโน ปาสาเท นาฏกปริวาเรน สมฺปตฺติยา วเสน อติวิย มตฺโต.
อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสีติ อิทฺธิมกาสิ. อาโปกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา ปาสาทปติฏฺิโตกาสํ อุทกํ โหตูติ อิทฺธึ อธิฏฺาย ปาสาทกณฺณิเก ปาทงฺคุฏฺเกน ปหริ. โส ปาสาโท ยถา นาม อุทกปิฏฺเ ปิตปตฺตํ มุขวฏฺฏิยํ องฺคุลิยา ปหฏํ อปราปรํ กมฺปติ จลติ น สนฺติฏฺติ. เอวเมวํ สํกมฺปิ สมฺปกมฺปิ สมฺปเวธิ, ถมฺภปิฏฺสงฺฆาฏกณฺณิกโคปานสิอาทีนิ กรกราติ สทฺทํ มฺุจนฺตานิ ปติตุํ วิย อารทฺธานิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สงฺกมฺเปสิ สมฺปกมฺเปสิ สมฺปเวเธสี’’ติ. อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตาติ อโห อจฺฉริยํ, อโห อพฺภุตนฺติ เอวํ สฺชาตอจฺฉริยอพฺภุตา เจว สฺชาตตุฏฺิโน จ อเหสุํ อุปฺปนฺนพลวโสมนสฺสา. สํวิคฺคนฺติ อุพฺพิคฺคํ. โลมหฏฺชาตนฺติ ชาตโลมหํสํ, กฺจนภิตฺติยํ ปิตมณินาคทนฺเตหิ วิย อุทฺธคฺเคหิ โลเมหิ อากิณฺณสรีรนฺติ อตฺโถ. โลมหํโส จ นาเมส โสมนสฺเสนปิ โหติ โทมนสฺเสนปิ, อิธ ปน โสมนสฺเสน ชาโต. เถโร หิ สกฺกสฺส โสมนสฺสเวเคน สํเวเชตุํ ตํ ปาฏิหาริยมกาสิ. ตสฺมา โสมนสฺสเวเคน สํวิคฺคโลมหฏฺํ วิทิตฺวาติ อตฺโถ.
๓๙๔. อิธาหํ, มาริสาติ อิทานิสฺส ยสฺมา เถเรน โสมนสฺสสํเวคํ ชนยิตฺวา ตมํ วิโนทิตํ, ตสฺมา สลฺลกฺเขตฺวา เอวมาห. เอโส นุ เต, มาริส, โส ภควา สตฺถาติ, มาริส, ตฺวํ กุหึ คโตสีติ วุตฺเต มยฺหํ สตฺถุ สนฺติกนฺติ วเทสิ, อิมสฺมึ เทวโลเก เอกปาทเกน วิย ติฏฺสิ, ยํ ตฺวํ เอวํ วเทสิ, เอโส นุ เต, มาริส, โส ภควา สตฺถาติ ปุจฺฉึสุ. สพฺรหฺมจารี เม เอโสติ เอตฺถ กิฺจาปิ เถโร อนคาริโย อภินีหารสมฺปนฺโน อคฺคสาวโก, สกฺโก อคาริโย, มคฺคพฺรหฺมจริยวเสน ปเนเต สพฺรหฺมจาริโน โหนฺติ, ตสฺมา เอวมาห. อโห ¶ นูน เต โส ภควา สตฺถาติ สพฺรหฺมจารี ตาว เต เอวํมหิทฺธิโก, โส ปน เต ภควา สตฺถา อโห นูน มหิทฺธิโกติ สตฺถุ อิทฺธิปาฏิหาริยทสฺสเน ชาตาภิลาปา หุตฺวา เอวมาหํสุ.
๓๙๕. าตฺตรสฺสาติ ¶ ปฺาตฺตรสฺส, สกฺโก หิ ปฺาตานํ อฺตโร. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว, เทสนํ ปน ภควา ยถานุสนฺธินาว นิฏฺาเปสีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬตณฺหาสงฺขยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. มหาตณฺหาสงฺขยสุตฺตวณฺณนา
๓๙๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ มหาตณฺหาสงฺขยสุตฺตํ. ตตฺถ ทิฏฺิคตนฺติ อลคทฺทูปมสุตฺเต ลทฺธิมตฺตํ ทิฏฺิคตนฺติ วุตฺตํ, อิธ สสฺสตทิฏฺิ. โส จ ภิกฺขุ พหุสฺสุโต, อยํ อปฺปสฺสุโต, ชาตกภาณโก ภควนฺตํ ชาตกํ กเถตฺวา, ‘‘อหํ, ภิกฺขเว, เตน สมเยน เวสฺสนฺตโร อโหสึ, มโหสโธ, วิธุรปณฺฑิโต, เสนกปณฺฑิโต, มหาชนโก ราชา อโหสิ’’นฺติ สโมธาเนนฺตํ สุณาติ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม รูปเวทนาสฺาสงฺขารา ตตฺถ ตตฺเถว นิรุชฺฌนฺติ, วิฺาณํ ปน อิธโลกโต ปรโลกํ, ปรโลกโต อิมํ โลกํ สนฺธาวติ สํสรตี’’ติ สสฺสตทสฺสนํ อุปฺปนฺนํ. เตนาห – ‘‘ตเทวิทํ วิฺาณํ สนฺธาวติ สํสรติ อนฺ’’นฺติ.
สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปน, ‘‘วิฺาณํ ปจฺจยสมฺภวํ, สติ ปจฺจเย อุปฺปชฺชติ, วินา ปจฺจยํ นตฺถิ วิฺาณสฺส สมฺภโว’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา อยํ ภิกฺขุ พุทฺเธน อกถิตํ กเถติ, ชินจกฺเก ปหารํ เทติ, เวสารชฺชาณํ ปฏิพาหติ, โสตุกามํ ชนํ วิสํวาเทติ, อริยปเถ ติริยํ นิปติตฺวา มหาชนสฺส อหิตาย ทุกฺขาย ปฏิปนฺโน. ยถา นาม รฺโ รชฺเช มหาโจโร อุปฺปชฺชมาโน มหาชนสฺส อหิตาย ทุกฺขาย อุปฺปชฺชติ, เอวํ ชินสาสเน โจโร ¶ หุตฺวา มหาชนสฺส อหิตาย ทุกฺขาย อุปฺปนฺโนติ เวทิตพฺโพ. สมฺพหุลา ภิกฺขูติ ชนปทวาสิโน ปิณฺฑปาติกภิกฺขู. เตนุปสงฺกมึสูติ อยํ ปริสํ ลภิตฺวา สาสนมฺปิ อนฺตรธาเปยฺย, ยาว ปกฺขํ น ลภติ, ตาวเทว นํ ทิฏฺิคตา วิเวเจมาติ สุตสุตฏฺานโตเยว อฏฺตฺวา อนิสีทิตฺวา อุปสงฺกมึสุ.
๓๙๘. กตมํ ตํ สาติ วิฺาณนฺติ สาติ ยํ ตฺวํ วิฺาณํ สนฺธาย วเทสิ, กตมํ ตํ วิฺาณนฺติ? ยฺวายํ, ภนฺเต, วโท เวเทยฺโย ตตฺร ตตฺร กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ วิปากํ ปฏิสํเวเทตีติ, ภนฺเต, โย อยํ วทติ เวทยติ, โย จายํ ตหึ ตหึ กุสลากุสลกมฺมานํ วิปากํ ปจฺจนุโภติ. อิทํ, ภนฺเต, วิฺาณํ, ยมหํ สนฺธาย วเทมีติ ¶ . กสฺส นุ โข นามาติ ¶ กสฺส ขตฺติยสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา เวสฺสสุทฺทคหฏฺปพฺพชิตเทวมนุสฺสานํ วา อฺตรสฺส.
๓๙๙. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสีติ กสฺมา อามนฺเตสิ? สาติสฺส กิร เอวํ อโหสิ – ‘‘สตฺถา มํ ‘โมฆปุริโส’ติ วทติ, น จ โมฆปุริโสติ วุตฺตมตฺเตเนว มคฺคผลานํ อุปนิสฺสโย น โหติ. อุปเสนมฺปิ หิ วงฺคนฺตปุตฺตํ, ‘อติลหุํ โข ตฺวํ โมฆปุริส พาหุลฺลาย อาวตฺโต’ติ (มหาว. ๗๕) ภควา โมฆปุริสวาเทน โอวทิ. เถโร อปรภาเค ฆเฏนฺโต วายมนฺโต ฉ อภิฺา สจฺฉากาสิ. อหมฺปิ ตถารูปํ วีริยํ ปคฺคณฺหิตฺวา มคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตสฺสามี’’ติ. อถสฺส ภควา ฉินฺนปจฺจโย อยํ สาสเน อวิรุฬฺหธมฺโมติ ทสฺเสนฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ. อุสฺมีกโตติอาทิ เหฏฺา วุตฺตาธิปฺปายเมว. อถ โข ภควาติ อยมฺปิ ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธิ. สาติสฺส กิร เอตทโหสิ – ‘‘ภควา มยฺหํ มคฺคผลานํ อุปนิสฺสโย นตฺถีติ วทติ, กึ สกฺกา อุปนิสฺสเย อสติ กาตุํ? น หิ ตถาคตา สอุปนิสฺสยสฺเสว ธมฺมํ เทเสนฺติ, ยสฺส กสฺสจิ เทเสนฺติเยว. อหํ พุทฺธสฺส สนฺติกา สุคโตวาทํ ลภิตฺวา สคฺคสมฺปตฺตูปคํ กุสลํ กริสฺสามี’’ติ. อถสฺส ภควา, ‘‘นาหํ, โมฆปุริส, ตุยฺหํ โอวาทํ วา อนุสาสนึ วา เทมี’’ติ สุคโตวาทํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺโต อิมํ เทสนํ อารภิ. ตสฺสตฺโถ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อิทานิ ปริสาย ¶ ลทฺธึ โสเธนฺโต, ‘‘อิธาหํ ภิกฺขู ปฏิปุจฺฉิสฺสามี’’ติอาทิมาห. ตํ สพฺพมฺปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๔๐๐. อิทานิ วิฺาณสฺส สปฺปจฺจยภาวํ ทสฺเสตุํ ยํ ยเทว, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จาติ สหาวชฺชเนน ภวงฺคมนฺจ เตภูมกธมฺเม จ ปฏิจฺจ. กฏฺฺจ ปฏิจฺจาติอาทิ โอปมฺมนิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เตน กึ ทีเปติ? ทฺวารสงฺกนฺติยา อภาวํ. ยถา หิ กฏฺํ ปฏิจฺจ ชลมาโน อคฺคิ อุปาทานปจฺจเย สติเยว ชลติ, ตสฺมึ อสติ ปจฺจยเวกลฺเลน ตตฺเถว ¶ วูปสมฺมติ, น สกลิกาทีนิ สงฺกมิตฺวา สกลิกคฺคีติอาทิสงฺขฺยํ คจฺฉติ, เอวเมว จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปนฺนํ วิฺาณํ ตสฺมึ ทฺวาเร จกฺขุรูปอาโลกมนสิการสงฺขาเต ปจฺจยมฺหิ สติเยว อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ อสติ ปจฺจยเวกลฺเลน ตตฺเถว นิรุชฺฌติ, น โสตาทีนิ สงฺกมิตฺวา โสตวิฺาณนฺติอาทิสงฺขฺยํ คจฺฉติ ¶ . เอส นโย สพฺพวาเรสุ. อิติ ภควา นาหํ วิฺาณปฺปวตฺเต ทฺวารสงฺกนฺติมตฺตมฺปิ วทามิ, อยํ ปน สาติ โมฆปุริโส ภวสงฺกนฺตึ วทตีติ สาตึ นิคฺคเหสิ.
๔๐๑. เอวํ วิฺาณสฺส สปฺปจฺจยภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปน ปฺจนฺนมฺปิ ขนฺธานํ สปฺปจฺจยภาวํ ทสฺเสนฺโต, ภูตมิทนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ภูตมิทนฺติ อิทํ ขนฺธปฺจกํ ชาตํ ภูตํ นิพฺพตฺตํ, ตุมฺเหปิ ตํ ภูตมิทนฺติ, ภิกฺขเว, ปสฺสถาติ. ตทาหารสมฺภวนฺติ ตํ ปเนตํ ขนฺธปฺจกํ อาหารสมฺภวํ ปจฺจยสมฺภวํ, สติ ปจฺจเย อุปฺปชฺชติ เอวํ ปสฺสถาติ ปุจฺฉติ. ตทาหารนิโรธาติ ตสฺส ปจฺจยสฺส นิโรธา. ภูตมิทํ โนสฺสูติ ภูตํ นุ โข อิทํ, น นุ โข ภูตนฺติ. ตทาหารสมฺภวํ โนสฺสูติ ตํ ภูตํ ขนฺธปฺจกํ ปจฺจยสมฺภวํ นุ โข, น นุ โขติ. ตทาหารนิโรธาติ ตสฺส ปจฺจยสฺส นิโรธา. นิโรธธมฺมํ โนสฺสูติ ตํ ธมฺมํ นิโรธธมฺมํ นุ โข, น นุ โขติ. สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโตติ อิทํ ขนฺธปฺจกํ ชาตํ ภูตํ นิพฺพตฺตนฺติ ยาถาวสรสลกฺขณโต วิปสฺสนาปฺาย สมฺมา ปสฺสนฺตสฺส. ปฺาย สุทิฏฺนฺติ วุตฺตนเยเนว วิปสฺสนาปฺาย สุฏฺุ ทิฏฺํ. เอวํ เย เย ตํ ปุจฺฉํ สลฺลกฺเขสุํ, เตสํ เตสํ ปฏิฺํ คณฺหนฺโต ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ สปฺปจฺจยภาวํ ทสฺเสติ.
อิทานิ ยาย ปฺาย เตหิ ตํ สปฺปจฺจยํ สนิโรธํ ขนฺธปฺจกํ สุทิฏฺํ, ตตฺถ นิตฺตณฺหภาวํ ปุจฺฉนฺโต อิมํ เจ ตุมฺเหติอาทิมาห. ตตฺถ ทิฏฺินฺติ วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺึ ¶ . สภาวทสฺสเนน ปริสุทฺธํ. ปจฺจยทสฺสเนน ปริโยทาตํ. อลฺลีเยถาติ ตณฺหาทิฏฺีหิ อลฺลียิตฺวา วิหเรยฺยาถ. เกลาเยถาติ ตณฺหาทิฏฺีหิ กีฬมานา วิหเรยฺยาถ ¶ . ธนาเยถาติ ธนํ วิย อิจฺฉนฺตา เคธํ อาปชฺเชยฺยาถ. มมาเยถาติ ตณฺหาทิฏฺีหิ มมตฺตํ อุปฺปาเทยฺยาถ. นิตฺถรณตฺถาย โน คหณตฺถายาติ โย โส มยา จตุโรฆนิตฺถรณตฺถาย กุลฺลูปโม ธมฺโม เทสิโต, โน นิกนฺติวเสน คหณตฺถาย. อปิ นุ ตํ ตุมฺเห อาชาเนยฺยาถาติ. วิปริยาเยน สุกฺกปกฺโข เวทิตพฺโพ.
๔๐๒. อิทานิ เตสํ ขนฺธานํ ปจฺจยํ ทสฺเสนฺโต, จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อาหาราติอาทิมาห, ตมฺปิ วุตฺตตฺถเมว. ยถา ปน เอโก อิมํ ชานาสีติ วุตฺโต, ‘‘น เกวลํ อิมํ, มาตรมฺปิสฺส ชานามิ, มาตุ มาตรมฺปี’’ติ เอวํ ปเวณิวเสน ชานนฺโต สุฏฺุ ชานาติ นาม. เอวเมวํ ภควา น เกวลํ ขนฺธมตฺตเมว ชานาติ, ขนฺธานํ ปจฺจยมฺปิ เตสมฺปิ ปจฺจยานํ ¶ ปจฺจยนฺติ เอวํ สพฺพปจฺจยปรมฺปรํ ชานาติ. โส ตํ, พุทฺธพลํ ทีเปนฺโต อิทานิ ปจฺจยปรมฺปรํ ทสฺเสตุํ, อิเม จ, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อาหาราติอาทิมาห. ตํ วุตฺตตฺถเมว. อิติ โข, ภิกฺขเว, อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา…เป… ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตีติ เอตฺถ ปน ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถา วิตฺถาเรตพฺพา ภเวยฺย, สา วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตาว.
๔๐๔. อิมสฺมึ สติ อิทํ โหตีติ อิมสฺมึ อวิชฺชาทิเก ปจฺจเย สติ อิทํ สงฺขาราทิกํ ผลํ โหติ. อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชตีติ อิมสฺส อวิชฺชาทิกสฺส ปจฺจยสฺส อุปฺปาทา อิทํ สงฺขาราทิกํ ผลํ อุปฺปชฺชติ, เตเนวาห – ‘‘ยทิทํ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา…เป… สมุทโย โหตี’’ติ. เอวํ วฏฺฏํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิวฏฺฏํ ทสฺเสนฺโต, อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธาติอาทิมาห. ตตฺถ อวิชฺชาย ตฺเววาติ อวิชฺชาย เอว ตุ. อเสสวิราคนิโรธาติ วิราคสงฺขาเตน มคฺเคน อเสสนิโรธา อนุปฺปาทนิโรธา. สงฺขารนิโรโธติ สงฺขารานํ อนุปฺปาทนิโรโธ โหติ, เอวํ นิรุทฺธานํ ปน สงฺขารานํ นิโรธา วิฺาณนิโรโธ โหติ, วิฺาณาทีนฺจ นิโรธา นามรูปาทีนิ นิรุทฺธานิเยว โหนฺตีติ ทสฺเสตุํ สงฺขารนิโรธา วิฺาณนิโรโธติอาทึ วตฺวา เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ ¶ โหตีติ วุตฺตํ. ตตฺถ เกวลสฺสาติ สกลสฺส, สุทฺธสฺส วา, สตฺตวิรหิตสฺสาติ อตฺโถ. ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ ¶ ทุกฺขราสิสฺส. นิโรโธ โหตีติ อนุปฺปาโท โหติ.
๔๐๖. อิมสฺมึ อสตีติอาทิ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพํ.
๔๐๗. เอวํ วฏฺฏวิวฏฺฏํ กเถตฺวา อิทานิ อิมํ ทฺวาทสงฺคปจฺจยวฏฺฏํ สห วิปสฺสนาย มคฺเคน ชานนฺตสฺส ยา ปฏิธาวนา ปหียติ, ตสฺสา อภาวํ ปุจฺฉนฺโต อปิ นุ ตุมฺเห, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ เอวํ ชานนฺตาติ เอวํ สหวิปสฺสนาย มคฺเคน ชานนฺตา. เอวํ ปสฺสนฺตาติ ตสฺเสว เววจนํ. ปุพฺพนฺตนฺติ ปุริมโกฏฺาสํ, อตีตขนฺธธาตุอายตนานีติ อตฺโถ. ปฏิธาเวยฺยาถาติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน ปฏิธาเวยฺยาถ. เสสํ สพฺพาสวสุตฺเต วิตฺถาริตเมว.
อิทานิ เนสํ ตตฺถ นิจฺจลภาวํ ปุจฺฉนฺโต, อปิ นุ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอวํ ชานนฺตา เอวํ ปสฺสนฺตา เอวํ วเทยฺยาถ, สตฺถา โน ครูติอาทิมาห. ตตฺถ ครูติ ภาริโก อกามา อนุวตฺติตพฺโพ ¶ . สมโณติ พุทฺธสมโณ. อฺํ สตฺถารํ อุทฺทิเสยฺยาถาติ อยํ สตฺถา อมฺหากํ กิจฺจํ สาเธตุํ น สกฺโกตีติ อปิ นุ เอวํสฺิโน หุตฺวา อฺํ พาหิรกํ สตฺถารํ อุทฺทิเสยฺยาถ. ปุถุสมณพฺราหฺมณานนฺติ เอวํสฺิโน หุตฺวา ปุถูนํ ติตฺถิยสมณานํ เจว พฺราหฺมณานฺจ. วตโกตูหลมงฺคลานีติ วตสมาทานานิ จ ทิฏฺิกุตูหลานิ จ ทิฏฺสุตมุตมงฺคลานิ จ. ตานิ สารโต ปจฺจาคจฺเฉยฺยาถาติ เอตานิ สารนฺติ เอวํสฺิโน หุตฺวา ปฏิอาคจฺเฉยฺยาถ. เอวํ นิสฺสฏฺานิ จ ปุน คณฺเหยฺยาถาติ อตฺโถ. สามํ าตนฺติ สยํ าเณน าตํ. สามํ ทิฏฺนฺติ สยํ ปฺาจกฺขุนา ทิฏฺํ. สามํ วิทิตนฺติ สยํ วิภาวิตํ ปากฏํ กตํ. อุปนีตา โข เม ตุมฺเหติ มยา, ภิกฺขเว, ตุมฺเห อิมินา สนฺทิฏฺิกาทิสภาเวน ธมฺเมน นิพฺพานํ อุปนีตา, ปาปิตาติ อตฺโถ. สนฺทิฏฺิโกติอาทีนมตฺโถ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริโต. อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตนฺติ เอตํ วจนมิทํ ตุมฺเหหิ สามํ าตาทิภาวํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
๔๐๘. ติณฺณํ โข ปน, ภิกฺขเวติ กสฺมา อารภิ? นนุ เหฏฺา วฏฺฏวิวฏฺฏวเสน เทสนา มตฺถกํ ปาปิตาติ? อาม ปาปิตา. อยํ ปน ปาฏิเอกฺโก อนุสนฺธิ ¶ , ‘‘อยฺหิ โลกสนฺนิวาโส ปฏิสนฺธิสมฺมูฬฺโห, ตสฺส สมฺโมหฏฺานํ ¶ วิทฺธํเสตฺวา ปากฏํ กริสฺสามี’’ติ อิมํ เทสนํ อารภิ. อปิจ วฏฺฏมูลํ อวิชฺชา, วิวฏฺฏมูลํ พุทฺธุปฺปาโท, อิติ วฏฺฏมูลํ อวิชฺชํ วิวฏฺฏมูลฺจ พุทฺธุปฺปาทํ ทสฺเสตฺวาปิ, ‘‘ปุน เอกวารํ วฏฺฏวิวฏฺฏวเสน เทสนํ มตฺถกํ ปาเปสฺสามี’’ติ อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ สนฺนิปาตาติ สโมธาเนน ปิณฺฑภาเวน. คพฺภสฺสาติ คพฺเภ นิพฺพตฺตนกสตฺตสฺส. อวกฺกนฺติ โหตีติ นิพฺพตฺติ โหติ. กตฺถจิ หิ คพฺโภติ มาตุกุจฺฉิ วุตฺโต. ยถาห –
‘‘ยเมกรตฺตึ ปมํ, คพฺเภ วสติ มาณโว;
อพฺภุฏฺิโตว โส ยาติ, ส คจฺฉํ น นิวตฺตตี’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๖๓);
กตฺถจิ คพฺเภ นิพฺพตฺตนสตฺโต. ยถาห – ‘‘ยถา โข, ปนานนฺท, อฺา อิตฺถิกา นว วา ทส วา มาเส คพฺภํ กุจฺฉินา ปริหริตฺวา วิชายนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๐๕). อิธ สตฺโต อธิปฺเปโต, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ โหตี’’ติ.
อิธาติ ¶ อิมสฺมึ สตฺตโลเก. มาตา จ อุตุนี โหตีติ อิทํ อุตุสมยํ สนฺธาย วุตฺตํ. มาตุคามสฺส กิร ยสฺมึ โอกาเส ทารโก นิพฺพตฺตติ, ตตฺถ มหตี โลหิตปีฬกา สณฺหิตฺวา ภิชฺชิตฺวา ปคฺฆรติ, วตฺถุ สุทฺธํ โหติ, สุทฺเธ วตฺถุมฺหิ มาตาปิตูสุ เอกวารํ สนฺนิปติเตสุ ยาว สตฺต ทิวสานิ เขตฺตเมว โหติ. ตสฺมึ สมเย หตฺถคฺคาหเวณิคฺคาหาทินา องฺคปรามสเนนปิ ทารโก นิพฺพตฺตติเยว. คนฺธพฺโพติ ตตฺรูปคสตฺโต. ปจฺจุปฏฺิโต โหตีติ น มาตาปิตูนํ สนฺนิปาตํ โอโลกยมาโน สมีเป ิโต ปจฺจุปฏฺิโต นาม โหติ. กมฺมยนฺตยนฺติโต ปน เอโก สตฺโต ตสฺมึ โอกาเส นิพฺพตฺตนโก โหตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. สํสเยนาติ ‘‘อโรโค นุ โข ภวิสฺสามิ อหํ วา, ปุตฺโต วา เม’’ติ เอวํ มหนฺเตน ชีวิตสํสเยน. โลหิตฺเหตํ, ภิกฺขเวติ ตทา กิร มาตุโลหิตํ ตํ านํ สมฺปตฺตํ ปุตฺตสิเนเหน ปณฺฑรํ โหติ. ตสฺมา เอวมาห. วงฺกกนฺติ คามทารกานํ กีฬนกํ ขุทฺทกนงฺคลํ. ฆฏิกา วุจฺจติ ทีฆทณฺเฑน รสฺสทณฺฑกํ ปหรณกีฬา. โมกฺขจิกนฺติ สมฺปริวตฺตกกีฬา, อากาเส วา ทณฺฑกํ คเหตฺวา ภูมิยํ วา สีสํ เปตฺวา เหฏฺุปริยภาเวน ปริวตฺตนกีฬนนฺติ ¶ วุตฺตํ โหติ. จิงฺคุลกํ วุจฺจติ ตาลปณฺณาทีหิ กตํ วาตปฺปหาเรน ปริพฺภมนจกฺกํ ¶ . ปตฺตาฬฺหกํ วุจฺจติ ปณฺณนาฬิกา, ตาย วาลิกาทีนิ มินนฺตา กีฬนฺติ. รถกนฺติ ขุทฺทกรถํ. ธนุกมฺปิ ขุทฺทกธนุเมว.
๔๐๙. สารชฺชตีติ ราคํ อุปฺปาเทติ. พฺยาปชฺชตีติ พฺยาปาทํ อุปฺปาเทติ. อนุปฏฺิตกายสตีติ กาเย สติ กายสติ, ตํ อนุปฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ. ปริตฺตเจตโสติ อกุสลจิตฺโต. ยตฺถสฺส เต ปาปกาติ ยสฺสํ ผลสมาปตฺติยํ เอเต นิรุชฺฌนฺติ, ตํ น ชานาติ นาธิคจฺฉตีติ อตฺโถ. อนุโรธวิโรธนฺติ ราคฺเจว โทสฺจ. อภินนฺทตีติ ตณฺหาวเสน อภินนฺทติ, ตณฺหาวเสเนว อโห สุขนฺติอาทีนิ วทนฺโต อภิวทติ. อชฺโฌสาย ติฏฺตีติ ตณฺหาอชฺโฌสานคหเณน คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา คณฺหาติ. สุขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา อภินนฺทตุ, ทุกฺขํ กถํ อภินนฺทตีติ? ‘‘อหํ ทุกฺขิโต มม ทุกฺข’’นฺติ คณฺหนฺโต อภินนฺทติ นาม. อุปฺปชฺชติ นนฺทีติ ตณฺหา อุปฺปชฺชติ. ตทุปาทานนฺติ สาว ตณฺหา คหณฏฺเน อุปาทานํ นาม. ตสฺส อุปาทานปจฺจยา ภโว…เป… สมุทโย โหตีติ, อิทฺหิ ภควตา ปุน เอกวารํ ทฺวิสนฺธิ ติสงฺเขปํ ปจฺจยาการวฏฺฏํ ทสฺสิตํ.
๔๑๐-๔. อิทานิ ¶ วิวฏฺฏํ ทสฺเสตุํ อิธ, ภิกฺขเว, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชตีติอาทิมาห. ตตฺถ อปฺปมาณเจตโสติ อปฺปมาณํ โลกุตฺตรํ เจโต อสฺสาติ อปฺปมาณเจตโส, มคฺคจิตฺตสมงฺคีติ อตฺโถ. อิมํ โข เม ตุมฺเห, ภิกฺขเว, สํขิตฺเตน ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตึ ธาเรถาติ, ภิกฺขเว, อิมํ สํขิตฺเตน เทสิตํ มยฺหํ, ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺติเทสนํ ตุมฺเห นิจฺจกาลํ ธาเรยฺยาถ มา ปมชฺเชยฺยาถ. เทสนา หิ เอตฺถ วิมุตฺติปฏิลาภเหตุโต วิมุตฺตีติ วุตฺตา. มหาตณฺหาชาลตณฺหาสงฺฆาฏปฏิมุกฺกนฺติ ตณฺหาว สํสิพฺพิตฏฺเน มหาตณฺหาชาลํ, สงฺฆฏิตฏฺเน สงฺฆาฏนฺติ วุจฺจติ; อิติ อิมสฺมึ มหาตณฺหาชาเล ตณฺหาสงฺฆาเฏ จ อิมํ สาตึ ภิกฺขุํ เกวฏฺฏปุตฺตํ ปฏิมุกฺกํ ธาเรถ. อนุปวิฏฺโ อนฺโตคโธติ นํ ธาเรถาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาตณฺหาสงฺขยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. มหาอสฺสปุรสุตฺตวณฺณนา
๔๑๕. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ มหาอสฺสปุรสุตฺตํ. ตตฺถ องฺเคสูติ องฺคา นาม ชานปทิโน ราชกุมารา, เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหีสทฺเทน ‘‘องฺคา’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมึ องฺเคสุ ชนปเท. อสฺสปุรํ นาม องฺคานํ นิคโมติ อสฺสปุรนฺติ นครนาเมน ลทฺธโวหาโร องฺคานํ ชนปทสฺส เอโก นิคโม, ตํ โคจรคามํ กตฺวา วิหรตีติ อตฺโถ. ภควา เอตทโวจาติ เอตํ ‘‘สมณา สมณาติ โว, ภิกฺขเว, ชโน สฺชานาตี’’ติอาทิวจนมโวจ.
กสฺมา ปน เอวํ อโวจาติ. ตสฺมึ กิร นิคเม มนุสฺสา สทฺธา ปสนฺนา พุทฺธมามกา ธมฺมมามกา สงฺฆมามกา, ตทหุปพฺพชิตสามเณรมฺปิ วสฺสสติกตฺเถรสทิสํ กตฺวา ปสํสนฺติ; ปุพฺพณฺหสมยํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปิณฺฑาย ปวิสนฺตํ ทิสฺวา พีชนงฺคลาทีนิ คเหตฺวา เขตฺตํ คจฺฉนฺตาปิ, ผรสุอาทีนิ คเหตฺวา อรฺํ ปวิสนฺตาปิ ตานิ อุปกรณานิ นิกฺขิปิตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิสีทนฏฺานํ อาสนสาลํ วา มณฺฑปํ วา รุกฺขมูลํ วา สมฺมชฺชิตฺวา อาสนานิ ปฺเปตฺวา อรชปานียํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ นิสีทาเปตฺวา ยาคุขชฺชกาทีนิ ทตฺวา กตภตฺตกิจฺจํ ภิกฺขุสงฺฆํ อุยฺโยเชตฺวา ตโต ตานิ อุปกรณานิ อาทาย เขตฺตํ วา อรฺํ วา คนฺตฺวา อตฺตโน กมฺมานิ กโรนฺติ, กมฺมนฺตฏฺาเนปิ เนสํ อฺา กถา นาม นตฺถิ. จตฺตาโร มคฺคฏฺา จตฺตาโร ผลฏฺาติ อฏฺ ปุคฺคลา อริยสงฺโฆ นาม; เต ‘‘เอวรูเปน สีเลน, เอวรูเปน อาจาเรน, เอวรูปาย ปฏิปตฺติยา สมนฺนาคตา ลชฺชิโน เปสลา อุฬารคุณา’’ติ ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว วณฺณํ กเถนฺติ. กมฺมนฺตฏฺานโต อาคนฺตฺวา ภุตฺตสายมาสา ฆรทฺวาเร นิสินฺนาปิ, สยนิฆรํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนาปิ ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว วณฺณํ กเถนฺติ. ภควา เตสํ มนุสฺสานํ นิปจฺจการํ ทิสฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ ปิณฺฑปาตาปจายเน นิโยเชตฺวา เอตทโวจ.
เย ธมฺมา สมณกรณา จ พฺราหฺมณกรณา จาติ เย ธมฺมา สมาทาย ปริปูริตา สมิตปาปสมณฺจ ¶ พาหิตปาปพฺราหฺมณฺจ กโรนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สมณสฺส สมณิยานิ สมณกรณียานิ ¶ . กตมานิ ตีณิ? อธิสีลสิกฺขาสมาทานํ, อธิจิตฺตสิกฺขาสมาทานํ ¶ , อธิปฺาสิกฺขาสมาทาน’’นฺติ (อ. นิ. ๓.๘๒) เอตฺถ ปน สมเณน กตฺตพฺพธมฺมา วุตฺตา. เตปิ จ สมณกรณา โหนฺติเยว. อิธ ปน หิโรตฺตปฺปาทิวเสน เทสนา วิตฺถาริตา. เอวํ โน อยํ อมฺหากนฺติ เอตฺถ โนติ นิปาตมตฺตํ. เอวํ อยํ อมฺหากนฺติ อตฺโถ. มหปฺผลา มหานิสํสาติ อุภยมฺปิ อตฺถโต เอกเมว. อวฺฌาติ อโมฆา. สผลาติ อยํ ตสฺเสว อตฺโถ. ยสฺสา หิ ผลํ นตฺถิ, สา วฺฌา นาม โหติ. สอุทฺรยาติ สวฑฺฒิ, อิทํ สผลตาย เววจนํ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพนฺติ, ภิกฺขเว, เอวํ ตุมฺเหหิ สิกฺขิตพฺพํ. อิติ ภควา อิมินา เอตฺตเกน าเนน หิโรตฺตปฺปาทีนํ ธมฺมานํ วณฺณํ กเถสิ. กสฺมา? วจนปถปจฺฉินฺทนตฺถํ. สเจ หิ โกจิ อจิรปพฺพชิโต พาลภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘‘ภควา หิโรตฺตปฺปาทิธมฺเม สมาทาย วตฺตถาติ วทติ, โก นุ โข เตสํ สมาทาย วตฺตเน อานิสํโส’’ติ? ตสฺส วจนปถปจฺฉินฺทนตฺถํ. อยฺจ อานิสํโส, อิเม หิ ธมฺมา สมาทาย ปริปูริตา สมิตปาปสมณํ นาม พาหิตปาปพฺราหฺมณํ นาม กโรนฺติ, จตุปจฺจยลาภํ อุปฺปาเทนฺติ, ปจฺจยทายกานํ มหปฺผลตํ สมฺปาเทนฺติ, ปพฺพชฺชํ อวฺฌํ สผลํ สอุทฺรยํ กโรนฺตีติ วณฺณํ อภาสิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปน วณฺณกถา สติปฏฺาเน (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๓) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.
๔๑๖. หิโรตฺตปฺเปนาติ ‘‘ยํ หิรียติ หิรียิตพฺเพน, โอตฺตปฺปติ โอตฺตปฺปิตพฺเพนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๓๑) เอวํ วิตฺถาริตาย หิริยา เจว โอตฺตปฺเปน จ. อปิเจตฺถ อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี, พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ. อตฺตาธิปเตยฺยา หิรี, โลกาธิปเตยฺยํ โอตฺตปฺปํ. ลชฺชาสภาวสณฺิตา หิรี, ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺปํ, วิตฺถารกถา ปเนตฺถ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตา. อปิจ อิเม ทฺเว ธมฺมา โลกํ ปาลนโต โลกปาลธมฺมา นามาติ กถิตา. ยถาห – ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺติ. กตเม ทฺเว? หิรี จ โอตฺตปฺปฺจ ¶ . อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺติ. อิเม จ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุกฺกา ธมฺมา โลกํ น ปาเลยฺยุํ, นยิธ ปฺาเยถ, ‘มาตา’ติ วา, ‘มาตุจฺฉา’ติ วา, ‘มาตุลานี’ติ วา, ‘อาจริยภริยา’ติ วา, ‘ครูนํ ทารา’ติ วา, สมฺเภทํ ¶ โลโก อคมิสฺส, ยถา อเชฬกา กุกฺกุฏสูกรา โสณสิงฺคาลา’’ติ (อ. นิ. ๒.๙). อิเมเยว ชาตเก ‘‘เทวธมฺมา’’ติ กถิตา. ยถาห –
‘‘หิริโอตฺตปฺปสมฺปนฺนา ¶ , สุกฺกธมฺมสมาหิตา;
สนฺโต สปฺปุริสา โลเก, เทวธมฺมาติ วุจฺจเร’’ติ. (ชา. ๑.๑.๖);
มหาจุนฺทตฺเถรสฺส ปน กิเลสสลฺเลขนปฏิปทาติ กตฺวา ทสฺสิตา. ยถาห – ‘‘ปเร อหิริกา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ หิริมนา ภวิสฺสามาติ สลฺเลโข กรณีโย. ปเร อโนตฺตาปี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ โอตฺตาปี ภวิสฺสามาติ สลฺเลโข กรณีโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๘๓). อิเมว มหากสฺสปตฺเถรสฺส โอวาทูปสมฺปทาติ กตฺวา ทสฺสิตา. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ตสฺมา ติห เต, กสฺสป, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ, ติพฺพํ เม หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺิตํ ภวิสฺสติ เถเรสุ นเวสุ มชฺฌิเมสูติ. เอวฺหิ เต, กสฺสป, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔). อิธ ปเนเต สมณธมฺมา นามาติ ทสฺสิตา.
ยสฺมา ปน เอตฺตาวตา สามฺตฺโถ มตฺถกํ ปตฺโต นาม โหติ, ตสฺมา อปเรปิ สมณกรณธมฺเม ทสฺเสตุํ สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, ตุมฺหากนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สามฺตฺโถติ สํยุตฺตเก ตาว, ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, สามฺํ? อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. เสยฺยถิทํ, สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ, อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สามฺํ. กตโม จ, ภิกฺขเว, สามฺตฺโถ? โย, ภิกฺขเว, ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สามฺตฺโถ’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๖) มคฺโค ‘‘สามฺ’’นฺติ, ผลนิพฺพานานิ ‘‘สามฺตฺโถ’’ติ วุตฺตานิ. อิมสฺมึ ปน าเน มคฺคมฺปิ ผลมฺปิ เอกโต กตฺวา สามฺตฺโถ กถิโตติ เวทิตพฺโพ. อาโรจยามีติ กเถมิ. ปฏิเวทยามีติ ชานาเปมิ.
๔๑๗. ปริสุทฺโธ โน กายสมาจาโรติ เอตฺถ กายสมาจาโร ปริสุทฺโธ อปริสุทฺโธติ ทุวิโธ. โย หิ ภิกฺขุ ปาณํ ¶ หนติ อทินฺนํ อาทิยติ, กาเมสุ มิจฺฉา จรติ, ตสฺส กายสมาจาโร อปริสุทฺโธ นาม, อยํ ปน กมฺมปถวเสเนว วาริโต. โย ปน ปาณินา วา เลฑฺฑุนา ¶ วา ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา ปรํ โปเถติ วิเหเติ, ตสฺส กายสมาจาโร ¶ อปริสุทฺโธ นาม, อยมฺปิ สิกฺขาปทพทฺเธเนว ปฏิกฺขิตฺโต. อิมสฺมึ สุตฺเต อุภยมฺเปตํ อกเถตฺวา ปรมสลฺเลโข นาม กถิโต. โย หิ ภิกฺขุ ปานียฆเฏ วา ปานียํ ปิวนฺตานํ, ปตฺเต วา ภตฺตํ ภฺุชนฺตานํ กากานํ นิวารณวเสน หตฺถํ วา ทณฺฑํ วา เลฑฺฑุํ วา อุคฺคิรติ, ตสฺส กายสมาจาโร อปริสุทฺโธ. วิปรีโต ปริสุทฺโธ นาม. อุตฺตาโนติ อุคฺคโต ปากโฏ. วิวโฏติ อนาวโฏ อสฺฉนฺโน. อุภเยนาปิ ปริสุทฺธตํเยว ทีเปติ. น จ ฉิทฺทวาติ สทา เอกสทิโส อนฺตรนฺตเร ฉิทฺทรหิโต. สํวุโตติ กิเลสานํ ทฺวาร ปิทหเนน ปิทหิโต, น วชฺชปฏิจฺฉาทนตฺถาย.
๔๑๘. วจีสมาจาเรปิ โย ภิกฺขุ มุสา วทติ, ปิสุณํ กเถติ, ผรุสํ ภาสติ, สมฺผํ ปลปติ, ตสฺส วจีสมาจาโร อปริสุทฺโธ นาม. อยํ ปน กมฺมปถวเสน วาริโต. โย ปน คหปติกาติ วา ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา อาทีหิ ขุํเสนฺโต วทติ, ตสฺส วจีสมาจาโร อปริสุทฺโธ นาม. อยํ ปน สิกฺขาปทพทฺเธเนว ปฏิกฺขิตฺโต. อิมสฺมึ สุตฺเต อุภยมฺเปตํ อกเถตฺวา ปรมสลฺเลโข นาม กถิโต. โย หิ ภิกฺขุ ทหเรน วา สามเณเรน วา, ‘‘กจฺจิ, ภนฺเต, อมฺหากํ อุปชฺฌายํ ปสฺสถา’’ติ วุตฺเต, สมฺพหุลา, อาวุโส, ภิกฺขุภิกฺขุนิโย เอกสฺมึ ปเทเส วิจทึสุ, อุปชฺฌาโย เต วิกฺกายิกสากภณฺฑิกํ อุกฺขิปิตฺวา คโต ภวิสฺสตี’’ติอาทินา นเยน หสาธิปฺปาโยปิ เอวรูปํ กถํ กเถติ, ตสฺส วจีสมาจาโร อปริสุทฺโธ. วิปรีโต ปริสุทฺโธ นาม.
๔๑๙. มโนสมาจาเร โย ภิกฺขุ อภิชฺฌาลุ พฺยาปนฺนจิตฺโต มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ, ตสฺส มโนสมาจาโร อปริสุทฺโธ นาม. อยํ ปน กมฺมปถวเสเนว วาริโต. โย ปน อุปนิกฺขิตฺตํ ชาตรูปรชตํ สาทิยติ, ตสฺส มโนสมาจาโร อปริสุทฺโธ นาม. อยมฺปิ สิกฺขาปทพทฺเธเนว ปฏิกฺขิตฺโต. อิมสฺมึ สุตฺเต อุภยมฺเปตํ อกเถตฺวา ปรมสลฺเลโข นาม กถิโต. โย ปน ภิกฺขุ กามวิตกฺกํ วา พฺยาปาทวิตกฺกํ ¶ ¶ วา วิหึสาวิตกฺกํ วา วิตกฺเกติ, ตสฺส มโนสมาจาโร อปริสุทฺโธ. วิปรีโต ปริสุทฺโธ นาม.
๔๒๐. อาชีวสฺมึ โย ภิกฺขุ อาชีวเหตุ เวชฺชกมฺมํ ปหิณคมนํ คณฺฑผาลนํ กโรติ, อรุมกฺขนํ เทติ, เตลํ ปจตีติ เอกวีสติอเนสนาวเสน ชีวิกํ กปฺเปติ. โย วา ปน วิฺาเปตฺวา ภฺุชติ, ตสฺส อาชีโว อปริสุทฺโธ นาม. อยํ ปน สิกฺขาปทพทฺเธเนว ปฏิกฺขิตฺโต. อิมสฺมึ สุตฺเต อุภยมฺเปตํ อกเถตฺวา ปรมสลฺเลโข นาม กถิโต. โย หิ ภิกฺขุ สปฺปินวนีตเตลมธุผาณิตาทีนิ ลภิตฺวา, ‘‘สฺเว วา ปุนทิวเส วา ภวิสฺสตี’’ติ ¶ สนฺนิธิการกํ ปริภฺุชติ, โย วา ปน นิมฺพงฺกุราทีนิ ทิสฺวา สามเณเร วทติ – ‘‘อํงฺกุเร ขาทถา’’ติ, สามเณรา เถโร ขาทิตุกาโมติ กปฺปิยํ กตฺวา เทนฺติ, ทหเร ปน สามเณเร วา ปานียํ ปิวถ, อาวุโสติ วทติ, เต เถโร ปานียํ ปิวิตุกาโมติ ปานียสงฺขํ โธวิตฺวา เทนฺติ, ตมฺปิ ปริภฺุชนฺตสฺส อาชีโว อปริสุทฺโธ นาม โหติ. วิปรีโต ปริสุทฺโธ นาม.
๔๒๒. มตฺตฺูติ ปริเยสนปฏิคฺคหณปริโภเคสุ มตฺตฺู, ยุตฺตฺู, ปมาณฺู.
๔๒๓. ชาคริยมนุยุตฺตาติ รตฺตินฺทิวํ ฉ โกฏฺาเส กตฺวา เอกสฺมึ โกฏฺาเส นิทฺทาย โอกาสํ ทตฺวา ปฺจ โกฏฺาเส ชาคริยมฺหิ ยุตฺตา ปยุตฺตา. สีหเสยฺยนฺติ เอตฺถ กามโภคิเสยฺยา, เปตเสยฺยา, สีหเสยฺยา, ตถาคตเสยฺยาติ จตสฺโส เสยฺยา. ตตฺถ ‘‘เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว, กามโภคี สตฺตา วาเมน ปสฺเสน เสนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๖) อยํ กามโภคิเสยฺยา, เตสุ หิ เยภุยฺเยน ทกฺขิณปสฺเสน สยาโน นาม นตฺถิ.
‘‘เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว, เปตา อุตฺตานา เสนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๖) อยํ เปตเสยฺยา, เปตา หิ อปฺปมํสโลหิตตฺตา อฏฺิสงฺฆาตชฏิตา เอเกน ปสฺเสน สยิตุํ น สกฺโกนฺติ, อุตฺตานาว เสนฺติ.
‘‘เยภุยฺเยน ¶ , ภิกฺขเว, สีโห มิคราชา นงฺคุฏฺํ อนฺตรสตฺถิมฺหิ อนุปกฺขิปิตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน เสตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๖) อยํ สีหเสยฺยา. เตชุสฺสทตฺตา หิ สีโห มิคราชา ทฺเว ปุริมปาเท เอกสฺมึ าเน ปจฺฉิมปาเท เอกสฺมึ เปตฺวา นงฺคุฏฺํ อนฺตรสตฺถิมฺหิ ปกฺขิปิตฺวา ปุริมปาทปจฺฉิมปาทนงฺคุฏฺานํ ิโตกาสํ สลฺลกฺเขตฺวา ทฺวินฺนํ ปุริมปาทานํ มตฺถเก สีสํ เปตฺวา สยติ ¶ . ทิวสมฺปิ สยิตฺวา ปพุชฺฌมาโน น อุตฺราสนฺโต ปพุชฺฌติ. สีสํ ปน อุกฺขิปิตฺวา ปุริมปาทานํ ิโตกาสํ สลฺลกฺเขติ. สเจ กิฺจิ านํ วิชหิตฺวา ิตํ โหติ, ‘‘นยิทํ ตุยฺหํ ชาติยา, น สูรภาวสฺส จ อนุรูป’’นฺติ อนตฺตมโน หุตฺวา ตตฺเถว สยติ, น โคจราย ปกฺกมติ. อวิชหิตฺวา ิเต ปน ‘‘ตุยฺหํ ชาติยา สูรภาวสฺส จ อนุรูปมิท’’นฺติ หฏฺตุฏฺโ อุฏฺาย สีหวิชมฺภิตํ วิชมฺภิตฺวา เกสรภารํ วิธุนิตฺวา ¶ ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา โคจราย ปกฺกมติ. จตุตฺถชฺฌานเสยฺยา ปน ตถาคตเสยฺยาติ วุจฺจติ. ตาสุ อิธ สีหเสยฺยา อาคตา. อยฺหิ เตชุสฺสทอิริยาปถตฺตา อุตฺตมเสยฺยา นาม. ปาเท ปาทนฺติ ทกฺขิณปาเท วามปาทํ. อจฺจาธายาติ อติอาธาย อีสกํ อติกฺกมฺม เปตฺวา, โคปฺผเกน หิ โคปฺผเก, ชาณุนา วา ชาณุมฺหิ สงฺฆฏฺฏิยมาเน อภิณฺหํ เวทนา อุปฺปชฺชติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ น โหติ, เสยฺยา อผาสุกา โหติ. ยถา ปน น สงฺฆฏฺเฏติ, เอวํ อติกฺกมฺม ปิเต เวทนา นุปฺปชฺชติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, เสยฺยา ผาสุกา โหติ, ตสฺมา เอวมาห.
๔๒๕. อภิชฺฌํ โลเกติอาทิ จูฬหตฺถิปเท วิตฺถาริตํ.
๔๒๖. ยา ปนายํ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเวติ อุปมา วุตฺตา. ตตฺถ อิณํ อาทายาติ วฑฺฒิยา ธนํ คเหตฺวา. พฺยนฺตี กเรยฺยาติ วิคตนฺตานิ กเรยฺย. ยถา เตสํ กากณิกมตฺโตปิ ปริยนฺโต นาม นาวสิสฺสติ, เอวํ กเรยฺย, สพฺพโส ปฏินิยฺยาเตยฺยาติ อตฺโถ. ตโตนิทานนฺติ อาณณฺยนิทานํ. โส หิ อณโณมฺหีติ อาวชฺชนฺโต พลวปาโมชฺชํ ลภติ, พลวโสมนสฺสมธิคจฺฉติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺส’’นฺติ.
วิสภาคเวทนุปฺปตฺติยา กกเจเนว จตุอิริยาปถํ ฉินฺทนฺโต อาพาธตีติ อาพาโธ, สฺวาสฺส อตฺถีติ อาพาธิโก. ตํสมุฏฺาเนน ทุกฺเขน ¶ ทุกฺขิโต. อธิมตฺตคิลาโนติ พาฬฺหคิลาโน. นจฺฉาเทยฺยาติ อธิมตฺตพฺยาธิปเรตตาย น รุจฺเจยฺย. พลมตฺตาติ พลเมว, พลฺจสฺส กาเย น ภเวยฺยาติ อตฺโถ. ตโตนิทานนฺติ อาโรคฺยนิทานํ, ตสฺส หิ อโรโคมฺหีติ อาวชฺชยโต ตทุภยํ โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺส’’นฺติ. น ¶ จสฺส กิฺจิ โภคานํ วโยติ กากณิกมตฺตมฺปิ โภคานํ วโย น ภเวยฺย. ตโตนิทานนฺติ พนฺธนาโมกฺขนิทานํ, เสสํ วุตฺตนเยเนว สพฺพปเทสุ โยเชตพฺพํ. อนตฺตาธีโนติ น อตฺตนิ อธีโน, อตฺตโน รุจิยา กิฺจิ กาตุํ น ลภติ. ปราธีโนติ ปเรสุ อธีโน, ปรสฺเสว รุจิยา ปวตฺตติ. น เยน กามํ คโมติ เยน ทิสาภาเคนสฺส กาโม โหติ. อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ คมนาย, เตน คนฺตุํ น ลภติ. ทาสพฺยาติ ทาสภาวา. ภุชิสฺโสติ อตฺตโน สนฺตโก ¶ . ตโตนิทานนฺติ ภุชิสฺสนิทานํ. กนฺตารทฺธานมคฺคนฺติ กนฺตารํ อทฺธานมคฺคํ, นิรุทกํ ทีฆมคฺคนฺติ อตฺโถ. ตโตนิทานนฺติ เขมนฺตภูมินิทานํ.
อิเม ปฺจ นีวรเณ อปฺปหีเนติ เอตฺถ ภควา อปฺปหีนํ กามจฺฉนฺทนีวรณํ อิณสทิสํ, เสสานิ โรคาทิสทิสานิ กตฺวา ทสฺเสติ. ตตฺรายํ สทิสตา – โย หิ ปเรสํ อิณํ คเหตฺวา วินาเสติ. โส เตหิ อิณํ เทหีติ วุจฺจมาโนปิ ผรุสํ วุจฺจมาโนปิ พชฺฌมาโนปิ ปหริยมาโนปิ กิฺจิ ปฏิพาหิตุํ น สกฺโกติ, สพฺพํ ติติกฺขติ, ติติกฺขการณฺหิสฺส ตํ อิณํ โหติ. เอวเมวํ โย ยมฺหิ กามจฺฉนฺเทน รชฺชติ, ตณฺหาคเณน ตํ วตฺถุํ คณฺหาติ, โส เตน ผรุสํ วุจฺจมาโนปิ พชฺฌมาโนปิ ปหริยมาโนปิ สพฺพํ ติติกฺขติ. ติติกฺขการณฺหิสฺส โส กามจฺฉนฺโท โหติ ฆรสามิเกหิ วธียมานานํ อิตฺถีนํ วิยาติ. เอวํ อิณํ วิย กามจฺฉนฺโท ทฏฺพฺโพ.
ยถา ปน ปิตฺตโรคาตุโร มธุสกฺกราทีสุปิ ทินฺเนสุ ปิตฺตโรคาตุรตาย เตสํ รสํ น วินฺทติ, ติตฺตกํ ติตฺตกนฺติ อุคฺคิรติเยว. เอวเมวํ พฺยาปนฺนจิตฺโต หิตกาเมหิ อาจริยุปชฺฌาเยหิ อปฺปมตฺตกมฺปิ โอวทียมาโน โอวาทํ น คณฺหาติ, ‘‘อติ วิย เม ตุมฺเห อุปทฺทเวถา’’ติอาทีนิ วตฺวา วิพฺภมติ. ปิตฺตโรคาตุรตาย โส ปุริโส มธุสกฺกราทิรสํ วิย, โกธาตุรตาย ¶ ฌานสุขาทิเภทํ สาสนรสํ น วินฺทตีติ. เอวํ โรโค วิย พฺยาปาโท ทฏฺพฺโพ.
ยถา ¶ ปน นกฺขตฺตทิวเส พนฺธนาคาเร พทฺโธ ปุริโส นกฺขตฺตสฺส เนว อาทึ, น มชฺฌํ, น ปริโยสานํ ปสฺสติ. โส ทุติยทิวเส มุตฺโต, ‘‘อโห หิยฺโย นกฺขตฺตํ มนาปํ, อโห นจฺจํ, อโห คีต’’นฺติอาทีนิ สุตฺวาปิ ปฏิวจนํ น เทติ. กึ การณา? นกฺขตฺตสฺส อนนุภูตตฺตา. เอวเมวํ ¶ ถินมิทฺธาภิภูโต ภิกฺขุ วิจิตฺตนเยปิ ธมฺมสฺสวเน ปวตฺตมาเน เนว ตสฺส อาทึ, น มชฺฌํ, น ปริโยสานํ ชานาติ. โส อุฏฺิเต ธมฺมสฺสวเน, ‘‘อโห ธมฺมสฺสวนํ, อโห การณํ, อโห อุปมา’’ติ ธมฺมสฺสวนสฺส วณฺณํ ภณมานานํ สุตฺวาปิ ปฏิวจนํ น เทติ. กึ การณา? ถินมิทฺธวเสน ธมฺมกถาย อนนุภูตตฺตาติ. เอวํ พนฺธนาคารํ วิย ถินมิทฺธํ ทฏฺพฺพํ.
ยถา ปน นกฺขตฺตํ กีฬนฺโตปิ ทาโส, ‘‘อิทํ นาม อจฺจายิกํ กรณียํ อตฺถิ, สีฆํ, ตตฺถ คจฺฉ, โน เจ คจฺฉสิ, หตฺถปาทํ วา เต ฉินฺทามิ กณฺณนาสํ วา’’ติ วุตฺโต สีฆํ คจฺฉติเยว, นกฺขตฺตสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ อนุภวิตุํ น ลภติ. กสฺมา? ปราธีนตาย. เอวเมวํ วินเย อปฺปกตฺุนา วิเวกตฺถาย อรฺํ ปวิฏฺเนาปิ กิสฺมิฺจิเทว อนฺตมโส กปฺปิยมํเสปิ อกปฺปิยมํสสฺาย อุปฺปนฺนาย วิเวกํ ปหาย สีลวิโสธนตฺถํ วินยธรสฺส สนฺติเก คนฺตพฺพํ โหติ. วิเวกสุขํ อนุภวิตุํ น ลภติ. กสฺมา? อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจาภิภูตตายาติ, เอวํ ทาสพฺยํ วิย อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ทฏฺฏพฺพํ.
ยถา ปน กนฺตารทฺธานมคฺคปฏิปนฺโน ปุริโส โจเรหิ มนุสฺสานํ วิลุตฺโตกาสํ ปหโตกาสฺจ ทิสฺวา ทณฺฑกสทฺเทนปิ สกุณสทฺเทนปิ โจรา อาคตาติ อุสฺสงฺกิตปริสงฺกิโต โหติ, คจฺฉติปิ, ติฏฺติปิ, นิวตฺตติปิ, คตฏฺานโต อาคตฏฺานเมว พหุตรํ โหติ. โส กิจฺเฉน กสิเรน เขมนฺตภูมึ ปาปุณาติ วา, น วา ปาปุณาติ. เอวเมวํ ยสฺส อฏฺสุ าเนสุ วิจิกิจฺฉา อุปฺปนฺนา โหติ. โส ‘‘พุทฺโธ นุ โข, น นุ โข พุทฺโธ’’ติอาทินา นเยน วิจิกิจฺฉนฺโต อธิมุจฺจิตฺวา สทฺธาย คณฺหิตุํ น สกฺโกติ. อสกฺโกนฺโต มคฺคํ วา ผลํ วา น ปาปุณาตีติ ยถา ¶ กนฺตารทฺธานมคฺเค ‘‘โจรา อตฺถิ นตฺถี’’ติ ปุนปฺปุนํ อาสปฺปนปริสปฺปนํ อปริโยคาหนํ ฉมฺภิตตฺต จิตฺตสฺส อุปฺปาเทนฺโต เขมนฺตปตฺติยา อนฺตรายํ กโรติ, เอวํ วิจิกิจฺฉาปิ ‘‘พุทฺโธ นุ โข น พุทฺโธ’’ติอาทินา นเยน ปุนปฺปุนํ อาสปฺปนปริสปฺปนํ อปริโยคาหนํ ฉมฺภิตตฺตํ จิตฺตสฺส อุปฺปาทยมานา อริยภูมิปฺปตฺติยา อนฺตรายํ กโรตีติ กนฺตารทฺธานมคฺโค วิย ทฏฺพฺพา.
อิทานิ ¶ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อาณณฺยนฺติ เอตฺถ ภควา ปหีนกามจฺฉนฺทนีวรณํ อาณณฺยสทิสํ, เสสานิ อาโรคฺยาทิสทิสานิ กตฺวา ทสฺเสติ. ตตฺรายํ สทิสตา – ยถา หิ ปุริโส อิณํ อาทาย กมฺมนฺเต ปโยเชตฺวา สมิทฺธกมฺมนฺโต, ‘‘อิทํ อิณํ นาม ปลิโพธมูล’’นฺติ จินฺเตตฺวา สวฑฺฒิกํ อิณํ นิยฺยาเตตฺวา ปณฺณํ ผาลาเปยฺย. อถสฺส ตโต ปฏฺาย เนว โกจิ ทูตํ เปเสติ, น ปณฺณํ, โส อิณสามิเก ทิสฺวาปิ สเจ อิจฺฉติ, อาสนา อุฏฺหติ, โน เจ, น อุฏฺหติ. กสฺมา? เตหิ สทฺธึ นิลฺเลปตาย อลคฺคตาย. เอวเมว ภิกฺขุ, ‘‘อยํ กามจฺฉนฺโท นาม ปลิโพธมูล’’นฺติ สติปฏฺาเน วุตฺตนเยเนว ฉ ธมฺเม ภาเวตฺวา กามจฺฉนฺทนีวรณํ ¶ ปชหติ. ตสฺเสวํ ปหีนกามจฺฉนฺทสฺส ยถา อิณมุตฺตสฺส ปุริสสฺส อิณสามิเก ทิสฺวา เนว ภยํ น ฉมฺภิตตฺตํ โหติ. เอวเมว ปรวตฺถุมฺหิ เนว สงฺโค น พนฺโธ โหติ. ทิพฺพานิปิ รูปานิ ปสฺสโต กิเลโส น สมุทาจรติ. ตสฺมา ภควา อาณณฺยมิว กามจฺฉนฺทปฺปหานมาห.
ยถา ปน โส ปิตฺตโรคาตุโร ปุริโส เภสชฺชกิริยาย ตํ โรคํ วูปสเมตฺวา ตโต ปฏฺาย มธุสกฺกราทีนํ รสํ วินฺทติ. เอวเมวํ ภิกฺขุ, ‘‘อยํ พฺยาปาโท นาม อนตฺถการโก’’ติ ฉ ธมฺเม ภาเวตฺวา พฺยาปาทนีวรณํ ปชหติ. โส เอวํ ปหีนพฺยาปาโท ยถา ปิตฺตโรควิมุตฺโต ปุริโส มธุสกฺกราทีนิ มธุรานิ สมฺปิยายมาโน ปฏิเสวติ. เอวเมวํ อาจารปณฺณตฺติอาทีนิ สิกฺขาปิยมาโน สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สมฺปิยายมาโน สิกฺขติ. ตสฺมา ภควา อาโรคฺยมิว พฺยาปาทปฺปหานมาห.
ยถา ¶ โส นกฺขตฺตทิวเส พนฺธนาคารํ ปเวสิโต ปุริโส อปรสฺมึ นกฺขตฺตทิวเส, ‘‘ปุพฺเพปิ อหํ ปมาทโทเสน พทฺโธ ตํ นกฺขตฺตํ นานุภวามิ, อิทานิ อปฺปมตฺโต ภวิสฺสามี’’ติ ยถาสฺส ปจฺจตฺถิกา โอกาสํ น ลภนฺติ. เอวํ อปฺปมตฺโต หุตฺวา นกฺขตฺตํ อนุภวิตฺวา – ‘‘อโห นกฺขตฺตํ อโห นกฺขตฺต’’นฺติ อุทานํ อุทาเนสิ. เอวเมว ภิกฺขุ, ‘‘อิทํ ถินมิทฺธํ นาม มหาอนตฺถกร’’นฺติ ฉ ธมฺเม ภาเวตฺวา ถินมิทฺธนีวรณํ ปชหติ. โส เอวํ ปหีนถินมิทฺโธ ยถา พนฺธนา มุตฺโต ปุริโส สตฺตาหมฺปิ นกฺขตฺตสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ ¶ อนุภวติ. เอวเมวํ ภิกฺขุ ธมฺมนกฺขตฺตสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ อนุภวนฺโต สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตสฺมา ภควา พนฺธนา โมกฺขมิว ถินมิทฺธปฺปหานมาห.
ยถา ปน ทาโส กฺจิเทว มิตฺตํ อุปนิสฺสาย สามิกานํ ธนํ ทตฺวา อตฺตานํ ภุชิสฺสํ กตฺวา ตโต ปฏฺาย ยํ อิจฺฉติ, ตํ กเรยฺย. เอวเมว ภิกฺขุ, ‘‘อิทํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ นาม มหาอนตฺถกร’’นฺติ ฉ ธมฺเม ภาเวตฺวา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปชหติ. โส เอวํ ปหีนุทฺธจฺจกุกฺกุจฺโจ ยถา ภุชิสฺโส ปุริโส ยํ อิจฺฉติ, ตํ กโรติ. น ตํ โกจิ พลกฺกาเรน ตโต นิวตฺเตติ. เอวเมวํ ภิกฺขุ ยถาสุขํ เนกฺขมฺมปฏิปทํ ปฏิปชฺชติ, น นํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ¶ พลกฺกาเรน ตโต นิวตฺเตติ. ตสฺมา ภควา ภุชิสฺสํ วิย อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปฺปหานมาห.
ยถา พลวา ปุริโส หตฺถสารํ คเหตฺวา สชฺชาวุโธ สปริวาโร กนฺตารํ ปฏิปชฺเชยฺย. ตํ โจรา ทูรโตว ทิสฺวา ปลาเยยฺยุํ. โส โสตฺถินา ตํ กนฺตารํ นิตฺถริตฺวา เขมนฺตํ ปตฺโต หฏฺตุฏฺโ อสฺส. เอวเมวํ ภิกฺขุ, ‘‘อยํ วิจิกิจฺฉา นาม อนตฺถการิกา’’ติ ฉ ธมฺเม ภาเวตฺวา วิจิกิจฺฉํ ปชหติ. โส เอวํ ปหีนวิจิกิจฺโฉ ยถา พลวา สชฺชาวุโธ สปริวาโร ปุริโส นิพฺภโย โจเร ติณํ วิย อคเณตฺวา โสตฺถินา นิกฺขมิตฺวา เขมนฺตภูมึ ปาปุณาติ. เอวเมวํ ทุจฺจริตกนฺตารํ นิตฺถริตฺวา ปรมเขมนฺตภูมึ อมตํ นิพฺพานํ ปาปุณาติ. ตสฺมา ภควา เขมนฺตภูมึ วิย วิจิกิจฺฉาปหานมาห.
๔๒๗. อิมเมว กายนฺติ อิมํ กรชกายํ. อภิสนฺเทตีติ เตเมติ สฺเนเหติ, สพฺพตฺถ ปวตฺตปีติสุขํ กโรติ. ปริสนฺเทตีติ สมนฺตโต สนฺเทติ. ปริปูเรตีติ วายุนา ภสฺตํ วิย ปูเรติ. ปริปฺผรตีติ สมนฺตโต ผุสติ ¶ . สพฺพาวโต กายสฺสาติ อสฺส ภิกฺขุโน สพฺพโกฏฺาสวโต กายสฺส. กิฺจิ อุปาทินฺนกสนฺตติปวตฺติฏฺาเน ฉวิมํสโลหิตานุคตํ อณุมตฺตมฺปิ านํ ปมชฺฌานสุเขน อผุฏฺํ นาม น โหติ. ทกฺโขติ เฉโก ปฏิพโล นฺหานียจุณฺณานิ กาตฺุเจว โยเชตฺุจ สนฺเนตฺุจ. กํสถาเลติ เยน เกนจิ ¶ โลเหน กตภาชเน. มตฺติกภาชนํ ปน ถิรํ น โหติ, สนฺเนนฺตสฺส ภิชฺชติ, ตสฺมา ตํ น ทสฺเสติ. ปริปฺโผสกํ ปริปฺโผสกนฺติ สิฺจิตฺวา สิฺจิตฺวา. สนฺเนยฺยาติ วามหตฺเถน กํสถาลํ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน ปมาณยุตฺตํ อุทกํ สิฺจิตฺวา สิฺจิตฺวา ปริมทฺทนฺโต ปิณฺฑํ กเรยฺย. สฺเนหานุคตาติ อุทกสิเนเหน อนุคตา. สฺเนหปเรตาติ อุทกสิเนเหน ปริคตา. สนฺตรพาหิราติ สทฺธึ อนฺโตปเทเสน เจว พหิปเทเสน จ, สพฺพตฺถกเมว อุทกสิเนเหน ผุฏาติ อตฺโถ. น จ ปคฺฆริณีติ น พินฺทุ พินฺทุ อุทกํ ปคฺฆรติ, สกฺกา โหติ หตฺเถนปิ ทฺวีหิปิ ตีหิปิ องฺคุลีหิ คเหตุํ โอวฏฺฏิกมฺปิ กาตุนฺติ อตฺโถ.
๔๒๘. ทุติยชฺฌานสุขอุปมายํ อุพฺภิโตทโกติ อุพฺภินฺนอุทโก, น เหฏฺา อุพฺภิชฺชิตฺวา อุคฺคจฺฉนอุทโก, อนฺโตเยว ปน อุพฺภิชฺชนอุทโกติ อตฺโถ. อายมุขนฺติ อาคมนมคฺโค. เทโวติ ¶ เมโฆ. กาเลนกาลนฺติ กาเล กาเล, อนฺวทฺธมาสํ วา อนุทสาหํ วาติ อตฺโถ. ธารนฺติ วุฏฺึ. นานุปฺปเวจฺเฉยฺยาติ น ปเวเสยฺย, น วสฺเสยฺยาติ อตฺโถ. สีตา วาริธารา อุพฺภิชฺชิตฺวาติ สีตํ วาริ ตํ อุทกรหทํ ปูรยมานํ อุพฺภิชฺชิตฺวา. เหฏฺา อุคฺคจฺฉนอุทกฺหิ อุคฺคนฺตฺวา อุคฺคนฺตฺวา ภิชฺชนฺตํ อุทกํ โขเภติ. จตูหิ ทิสาหิ ปวิสนอุทกํ ปุราณปณฺณติณกฏฺทณฺฑกาทีหิ อุทกํ โขเภติ. วุฏฺิอุทกํ ธารานิปาตปุปฺผุฬเกหิ อุทกํ โขเภติ. สนฺนิสินฺนเมว ปน หุตฺวา อิทฺธินิมฺมิตมิว อุปฺปชฺชมานํ อุทกํ อิมํ ปเทสํ ผรติ, อิมํ ปเทสํ น ผรตีติ นตฺถิ. เตน อผุโฏกาโส นาม น โหตีติ. ตตฺถ รหโท วิย กรชกาโย, อุทกํ วิย ทุติยชฺฌานสุขํ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๔๒๙. ตติยชฺฌานสุขอุปมายํ ¶ อุปฺปลานิ เอตฺถ สนฺตีติ อุปฺปลินี. เสสปททฺวเยสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ เสตรตฺตนีเลสุ ยํกิฺจิ อุปฺปลํ อุปฺปลเมว, อูนกสตปตฺตํ ปุณฺฑรีกํ, สตปตฺตํ ปทุมํ. ปตฺตนิยมํ วา วินาปิ เสตํ ปทุมํ, รตฺตํ ปุณฺฑรีกนฺติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโย. อุทกานุคฺคตานีติ อุทกโต น อุคฺคตานิ. อนฺโตนิมุคฺคโปสีนีติ ¶ อุทกตลสฺส อนฺโต นิมุคฺคานิเยว หุตฺวา โปสีนิ, วฑฺฒีนีติ อตฺโถ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๔๓๐. จตุตฺถชฺฌานสุขอุปมายํ ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตนาติ เอตฺถ นิรุปกฺกิเลสฏฺเน ปริสุทฺธํ. ปภสฺสรฏฺเน ปริโยทาตํ เวทิตพฺพํ. โอทาเตน วตฺเถนาติ อิทํ อุตุผรณตฺถํ วุตฺตํ. กิลิฏฺวตฺเถน หิ อุตุผรณํ น โหติ, ตงฺขณโธตปริสุทฺเธน อุตุผรณํ พลวํ โหติ. อิมิสฺสา หิ อุปมาย วตฺถํ วิย กรชกาโย. อุตุผรณํ วิย จตุตฺถชฺฌานสุขํ. ตสฺมา ยถา สุนฺหาตสฺส ปุริสสฺส ปริสุทฺธํ วตฺถํ สสีสํ ปารุปิตฺวา นิสินฺนสฺส สรีรโต อุตุ สพฺพเมว วตฺถํ ผรติ, น โกจิ วตฺถสฺส อผุโฏกาโส โหติ. เอวํ จตุตฺถชฺฌานสุเขน ภิกฺขุโน กรชกายสฺส น โกจิ โอกาโส อผุโฏ โหตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. จตุตฺถชฺฌานจิตฺตเมว วา วตฺถํ วิย, ตํสมุฏฺานรูปํ อุตุผรณํ วิย. ยถา หิ กตฺถจิ โอทาตวตฺเถ กายํ อปฺผุสนฺเตปิ ตํสมุฏฺาเนน อุตุนา สพฺพตฺถกเมว กาโย ผุฏฺโ โหติ. เอวํ จตุตฺถชฺฌานสมุฏฺิเตน สุขุมรูเปน สพฺพตฺถกเมว ภิกฺขุโน กรชกาโย ผุโฏ โหตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
๔๓๑. ปุพฺเพนิวาสาณอุปมายํ ¶ ตํทิวสํ กตกิริยา ปากฏา โหตีติ ตํทิวสํ คตคามตฺตยเมว คหิตํ. ตตฺถ คามตฺตยํ คตปุริโส วิย ปุพฺเพนิวาสาณลาภี ทฏฺพฺโพ. ตโย คามา วิย ตโย ภวา ทฏฺพฺพา. ตสฺส ปุริสสฺส ตีสุ คาเมสุ ตํทิวสํ กตกิริยาย อาวิภาโว วิย ปุพฺเพนิวาสาย จิตฺตํ อภินีหริตฺวา นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน ตีสุ ภเวสุ กตกิริยาย อาวิภาโว ทฏฺพฺโพ.
๔๓๒. ทิพฺพจกฺขุอุปมายํ ¶ ทฺเว อคาราติ ทฺเว ฆรา. สทฺวาราติ สมฺมุขทฺวารา. อนุจงฺกมนฺเตติ อปราปรํ สฺจรนฺเต. อนุวิจรนฺเตติ อิโต จิโต จ วิจรนฺเต, อิโต ปน เคหา นิกฺขมิตฺวา เอตํ เคหํ, เอตสฺมา วา นิกฺขมิตฺวา อิมํ เคหํ ปวิสนวเสนปิ ทฏฺพฺพา. ตตฺถ ทฺเว อคารา สทฺวารา วิย จุติปฏิสนฺธิโย, จกฺขุมา ¶ ปุริโส วิย ทิพฺพจกฺขุาณลาภี, จกฺขุมโต ปุริสสฺส ทฺวินฺนํ เคหานํ อนฺตเร ตฺวา ปสฺสโต ทฺเว อคาเร ปวิสนกนิกฺขมนกปุริสานํ ปากฏกาโล วิย ทิพฺพจกฺขุลาภิโน อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา โอโลเกนฺตสฺส จวนกอุปปชฺชนกสตฺตานํ ปากฏกาโล. กึ ปน เต าณสฺส ปากฏา, ปุคฺคลสฺสาติ? าณสฺส. ตสฺส ปากฏตฺตา ปน ปุคฺคลสฺส ปากฏาเยวาติ.
๔๓๓. อาสวกฺขยาณอุปมายํ ปพฺพตสงฺเขเปติ ปพฺพตมตฺถเก. อนาวิโลติ นิกฺกทฺทโม. สิปฺปิโย จ สมฺพุกา จ สิปฺปิสมฺพุกํ. สกฺขรา จ กถลา จ สกฺขรกถลํ. มจฺฉานํ คุมฺพา ฆฏาติ มจฺฉคุมฺพํ. ติฏฺนฺตมฺปิ จรนฺตมฺปีติ เอตฺถ สกฺขรกถลํ ติฏฺติเยว, อิตรานิ จรนฺติปิ ติฏฺนฺติปิ. ยถา ปน อนฺตรนฺตรา ิตาสุปิ นิสินฺนาสุปิ วิชฺชมานาสุปิ, ‘‘เอตา คาโว จรนฺตี’’ติ จรนฺติโย อุปาทาย อิตราปิ จรนฺตีติ วุจฺจนฺติ. เอวํ ติฏฺนฺตเมว สกฺขรกถลํ อุปาทาย อิตรมฺปิ ทฺวยํ ติฏฺนฺตนฺติ วุตฺตํ. อิตรฺจ ทฺวยํ จรนฺตํ อุปาทาย สกฺขรกถลมฺปิ จรนฺตนฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ จกฺขุมโต ปุริสสฺส ตีเร ตฺวา ปสฺสโต สิปฺปิสมฺพุกาทีนํ วิภูตกาโล วิย อาสวานํ ขยาย จิตฺตํ นีหริตฺวา นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน จตุนฺนํ สจฺจานํ วิภูตกาโล ทฏฺพฺโพ.
๔๓๔. อิทานิ สตฺตหากาเรหิ สลิงฺคโต สคุณโต ขีณาสวสฺส นามํ คณฺหนฺโต, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมโณ อิติปีติอาทิมาห. ตตฺถ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมโณ ¶ โหตีติอาทีสุ, ภิกฺขเว, เอวํ ภิกฺขุ สมิตปาปตฺตา สมโณ โหติ. พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมโณ โหติ. นฺหาตกิเลสตฺตา นฺหาตโก โหติ, โธตกิเลสตฺตาติ อตฺโถ. จตุมคฺคาณสงฺขาเตหิ เวเทหิ อกุสลธมฺมานํ คตตฺตา เวทคู โหติ, วิทิตตฺตาติ อตฺโถ. เตเนว วิทิตาสฺส โหนฺตีติอาทิมาห. กิเลสานํ สุตตฺตา โสตฺติโย โหติ, นิสฺสุตตฺตา ¶ อปหตตฺตาติ อตฺโถ. กิเลสานํ อารกตฺตา อริโย โหติ, หตตฺตาติ อตฺโถ. เตหิ อารกตฺตา อรหํ โหติ, ทูรีภูตตฺตาติ อตฺโถ. เสสํ สพตฺถ ปากฏเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาอสฺสปุรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. จูฬอสฺสปุรสุตฺตวณฺณนา
๔๓๕. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ จูฬอสฺสปุรสุตฺตํ. ตสฺส เทสนาการณํ ปุริมสทิสเมว. สมณสามีจิปฺปฏิปทาติ สมณานํ อนุจฺฉวิกา สมณานํ อนุโลมปฺปฏิปทา.
๔๓๖. สมณมลานนฺติอาทีสุ เอเต ธมฺมา อุปฺปชฺชมานา สมเณ มลิเน กโรนฺติ มลคฺคหิเต, ตสฺมา ‘‘สมณมลา’’ติ วุจฺจนฺติ. เอเตหิ สมณา ทุสฺสนฺติ, ปทุสฺสนฺติ, ตสฺมา สมณโทสาติ วุจฺจนฺติ. เอเต อุปฺปชฺชิตฺวา สมเณ กสเฏ นิโรเช กโรนฺติ มิลาเปนฺติ, ตสฺมา สมณกสฏาติ วุจฺจนฺติ. อาปายิกานํ านานนฺติ อปาเย นิพฺพตฺตาปกานํ การณานํ. ทุคฺคติเวทนิยานนฺติ ทุคฺคติยํ วิปากเวทนาย ปจฺจยานํ. มตชํ นามาติ มนุสฺสา ติขิณํ อยํ อเยน สุฆํสิตฺวา ตํ อยจุณฺณํ มํเสน สทฺธึ มทฺทิตฺวา โกฺจสกุเณ ขาทาเปนฺติ. เต อุจฺจารํ กาตุํ อสกฺโกนฺตา มรนฺติ. โน เจ มรนฺติ, ปหริตฺวา มาเรนฺติ. อถ เตสํ กุจฺฉึ ผาเลตฺวา นํ อุทเกน โธวิตฺวา จุณฺณํ คเหตฺวา มํเสน สทฺธึ มทฺทิตฺวา ปุน ขาทาเปนฺตีติ เอวํ สตฺต วาเร ขาทาเปตฺวา คหิเตน อยจุณฺเณน อาวุธํ กโรนฺติ. สุสิกฺขิตา จ นํ อยการา พหุหตฺถกมฺมมูลํ ลภิตฺวา กโรนฺติ. ตํ มตสกุณโต ชาตตฺตา ‘‘มตช’’นฺติ วุจฺจติ, อติติขิณํ โหติ. ปีตนิสิตนฺติ อุทกปีตฺเจว สิลาย จ สุนิฆํสิตํ. สงฺฆาฏิยาติ โกสิยา. สมฺปารุตนฺติ ปริโยนทฺธํ. สมฺปลิเวิตนฺติ สมนฺตโต เวิตํ.
๔๓๗. รโชชลฺลิกสฺสาติ ¶ รโชชลฺลธาริโน. อุทโกโรหกสฺสาติ ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ อุทกํ โอโรหนฺตสฺส. รุกฺขมูลิกสฺสาติ รุกฺขมูลวาสิโน. อพฺโภกาสิกสฺสาติ อพฺโภกาสวาสิโน. อุพฺภฏฺกสฺสาติ อุทฺธํ ิตกสฺส. ปริยายภตฺติกสฺสาติ มาสวาเรน วา อฑฺฒมาสวาเรน วา ภฺุชนฺตสฺส. สพฺพเมตํ พาหิรสมเยเนว กถิตํ. อิมสฺมิฺหิ สาสเน จีวรธโร ภิกฺขุ สงฺฆาฏิโกติ น วุจฺจติ. รโชชลฺลธารณาทิวตานิ อิมสฺมึ สาสเน นตฺถิเยว. พุทฺธวจนสฺส พุทฺธวจนเมว นามํ, น มนฺตาติ. รุกฺขมูลิโก, อพฺโภกาสิโกติ เอตฺตกํเยว ปน ลพฺภติ. ตมฺปิ พาหิรสมเยเนว กถิตํ. ชาตเมว ¶ นนฺติ ตํทิวเส ชาตมตฺตํเยว ¶ นํ. สงฺฆาฏิกํ กเรยฺยุนฺติ สงฺฆาฏิกํ วตฺถํ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ สงฺฆาฏิกํ กเรยฺยุํ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
๔๓๘. วิสุทฺธมตฺตานํ สมนุปสฺสตีติ อตฺตานํ วิสุชฺฌนฺตํ ปสฺสติ. วิสุทฺโธติ ปน น ตาว วตฺตพฺโพ. ปาโมชฺชํ ชายตีติ ตุฏฺากาโร ชายติ. ปมุทิตสฺส ปีตีติ ตุฏฺสฺส สกลสรีรํ โขภยมานา ปีติ ชายติ. ปีติมนสฺส กาโยติ ปีติสมฺปยุตฺตสฺส ปุคฺคลสฺส นามกาโย. ปสฺสมฺภตีติ วิคตทรโถ โหติ. สุขํ เวเทตีติ กายิกมฺปิ เจตสิกมฺปิ สุขํ เวทิยติ. จิตฺตํ สมาธิยตีติ อิมินา เนกฺขมฺมสุเขน สุขิตสฺส จิตฺตํ สมาธิยติ, อปฺปนาปตฺตํ วิย โหติ. โส เมตฺตาสหคเตน เจตสาติ เหฏฺา กิเลสวเสน อารทฺธา เทสนา ปพฺพเต วุฏฺวุฏฺิ วิย นทึ ยถานุสนฺธินา พฺรหฺมวิหารภาวนํ โอติณฺณา. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตเมว. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, โปกฺขรณีติ มหาสีหนาทสุตฺเต มคฺโค โปกฺขรณิยา อุปมิโต, อิธ สาสนํ อุปมิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อาสวานํ ขยา สมโณ โหตีติ สพฺพกิเลสานํ สมิตตฺตา ปรมตฺถสมโณ โหตีติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬอสฺสปุรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุตฺถวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.