📜

๕. จูฬยมกวคฺโค

๑. สาเลยฺยกสุตฺตวณฺณนา

๔๓๙. เอวํเม สุตนฺติ สาเลยฺยกสุตฺตํ. ตตฺถ โกสเลสูติ โกสลา นาม ชานปทิโน ราชกุมารา. เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหีสทฺเทน โกสลาติ วุจฺจติ, ตสฺมึ โกสเลสุ ชนปเท. โปราณา ปนาหุ – ยสฺมา ปุพฺเพ มหาปนาทํ ราชกุมารํ นานานาฏกานิ ทิสฺวา สิตมตฺตมฺปิ อกโรนฺตํ สุตฺวา ราชา อาห – ‘‘โย มม ปุตฺตํ หสาเปติ, สพฺพาลงฺกาเรน นํ อลงฺกโรมี’’ติ. ตโต นงฺคลานิปิ ฉฑฺเฑตฺวา มหาชนกาเย สนฺนิปติเต มนุสฺสา สาติเรกานิ สตฺตวสฺสานิ นานากีฬิกาโย ทสฺเสตฺวา นํ หสาเปตุํ นาสกฺขึสุ. ตโต สกฺโก เทวนฏํ เปเสสิ. โส ทิพฺพนาฏกํ ทสฺเสตฺวา หสาเปสิ. อถ เต มนุสฺสา อตฺตโน อตฺตโน วสโนกาสาภิมุขา ปกฺกมึสุ. เต ปฏิปเถ มิตฺตสุหชฺชาทโย ทิสฺวา ปฏิสนฺถารํ กโรนฺตา, ‘‘กจฺจิ, โภ, กุสลํ, กจฺจิ, โภ, กุสล’’นฺติ อาหํสุ. ตสฺมา ตํ ‘‘กุสลํ กุสล’’นฺติ วจนํ อุปาทาย โส ปเทโส โกสลาติ วุจฺจตีติ.

จาริกํ จรมาโนติ อตุริตจาริกํ จรมาโน. มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธินฺติ สตํ วา สหสฺสํ วา สตสหสฺสํ วาติ เอวํ อปริจฺฉินฺเนน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ. พฺราหฺมณคาโมติ พฺราหฺมณานํ สโมสรณคาโมปิ พฺราหฺมณคาโมติ วุจฺจติ พฺราหฺมณานํ โภคคาโมปิ. อิธ สโมสรณคาโม อธิปฺเปโต. ตทวสรีติ ตํ อวสริ, สมฺปตฺโตติ อตฺโถ. วิหาโร ปเนตฺถ อนิยามิโต; ตสฺมา ตสฺส อวิทูเร พุทฺธานํ อนุจฺฉวิโก เอโก วนสณฺโฑ ภวิสฺสติ, สตฺถา ตํ วนสณฺฑํ คโตติ เวทิตพฺโพ. อสฺโสสุนฺติ สุณึสุ อุปลภึสุ. โสตทฺวารสมฺปตฺตวจนนิคฺโฆสานุสาเรน ชานึสุ. โขติ อวธารณตฺเถ ปทปูรณมตฺเต วา นิปาโต. ตตฺถ อวธารณตฺเถน อสฺโสสุํเยว , น เนสํ โกจิ สวนนฺตราโย อโหสีติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปทปูรเณน พฺยฺชนสิลิฏฺตามตฺตเมว.

อิทานิ ยมตฺถํ อสฺโสสุํ, ตํ ปกาเสตุํ สมโณ ขลุ, โภ, โคตโมติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สมิตปาปตฺตา สมโณติ เวทิตพฺโพ. ขลูติ อนุสฺสวนตฺเถ นิปาโต. โภติ เตสํ อฺมฺํ อาลปนมตฺตํ. โคตโมติ ภควโต โคตฺตวเสน ปริทีปนํ. ตสฺมา สมโณ ขลุ, โภ, โคตโมติ เอตฺถ สมโณ กิร, โภ, โคตมโคตฺโตติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สกฺยปุตฺโตติ อิทํ ปน ภควโต อุจฺจากุลปริทีปนํ. สกฺยกุลา ปพฺพชิโตติ สทฺธาปพฺพชิตภาวทีปนํ. เกนจิ ปาริชุฺเน อนภิภูโต อปริกฺขีณํเยว ตํ กุลํ ปหาย สทฺธาปพฺพชิโตติ วุตฺตํ โหติ. ตโต ปรํ วุตฺตตฺถเมว. ตํ โข ปนาติ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ อุปโยควจนํ, ตสฺส โข ปน โภโต โคตมสฺสาติ อตฺโถ. กลฺยาโณติ กลฺยาณคุณสมนฺนาคโต, เสฏฺโติ วุตฺตํ โหติ. กิตฺติสทฺโทติ กิตฺติเยว, ถุติโฆโส วา. อพฺภุคฺคโตติ สเทวกํ โลกํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อุคฺคโต. กินฺติ? ‘‘อิติปิ โส ภควา…เป… พุทฺโธ ภควา’’ติ.

ตตฺรายํ ปทสมฺพนฺโธ – โส ภควา อิติปิ อรหํ, อิติปิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… อิติปิ ภควาติ. อิมินา จ อิมินา จ การเณนาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ อารกตฺตา, อรีนํ อรานฺจ หตตฺตา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวาติ อิเมหิ ตาว การเณหิ โส ภควา อรหนฺติ เวทิตพฺโพติอาทินา นเยน มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา สพฺพาเนว เอตานิ ปทานิ วิสุทฺธิมคฺเค พุทฺธานุสฺสตินิทฺเทเส วิตฺถาริตานีติ ตโต เตสํ วิตฺถาโร คเหตพฺโพ.

สาธุ โข ปนาติ สุนฺทรํ โข ปน; อตฺถาวหํ สุขาวหนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตถารูปานํ อรหตนฺติ ยถารูโป โส ภวํ โคตโม, เอวรูปานํ อเนเกหิปิ กปฺปโกฏิสตสหสฺเสหิ ทุลฺลภทสฺสนานํ พฺยามปฺปภาปริกฺขิตฺเตหิ อสีติอนุพฺยฺชนรตนปฏิมณฺฑิเตหิ ทฺวตฺตึสฺมหาปุริสลกฺขณวเรหิ สมากิณฺณมโนรมสรีรานํ อตปฺปกทสฺสนานํ อติมธุรธมฺมนิคฺโฆสานํ, ยถาภูตคุณาธิคเมน โลเก อรหนฺโตติ ลทฺธสทฺทานํ อรหตํ. ทสฺสนํ โหตีติ ปสาทโสมฺมานิ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ทสฺสนมตฺตมฺปิ สาธุ โหติ. สเจ ปน อฏฺงฺคสมนฺนาคเตน พฺรหฺมสฺสเรน ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส เอกํ ปทมฺปิ โสตุํ ลภิสฺสาม, สาธุตรํเยว ภวิสฺสตีติ เอวํ อชฺฌาสยํ กตฺวา.

เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ สพฺพกิจฺจานิ ปหาย ตุฏฺมานสา อาคมํสุ. เอตทโวจุนฺติ ทุวิธา หิ ปุจฺฉา อคาริกปุจฺฉา อนคาริกปุจฺฉา จ. ตตฺถ ‘‘กึ, ภนฺเต, กุสลํ, กึ อกุสล’’นฺติ อิมินา นเยน อคาริกปุจฺฉา อาคตา. ‘‘อิเม โข, ภนฺเต, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา’’ติ อิมินา นเยน อนคาริกปุจฺฉา. อิเม ปน อตฺตโน อนุรูปํ อคาริกปุจฺฉํ ปุจฺฉนฺตา เอตํ, ‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย’’ติอาทิวจนํ อโวจุํ. เตสํ ภควา ยถา น สกฺโกนฺติ สลฺลกฺเขตุํ, เอวํ สํขิตฺเตเนว ตาว ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโต, อธมฺมจริยาวิสมจริยาเหตุ โข คหปตโยติอาทิมาห. กสฺมา ปน ภควา ยถา น สลฺลกฺเขนฺติ, เอวํ วิสฺสชฺเชสีติ? ปณฺฑิตมานิกา หิ เต; อาทิโตว มาติกํ อฏฺเปตฺวา ยถา สลฺลกฺเขนฺติ, เอวํ อตฺเถ วิตฺถาริเต, เทสนํ อุตฺตานิกาติ มฺนฺตา อวชานนฺติ, มยมฺปิ กเถนฺตา เอวเมว กเถยฺยามาติ วตฺตาโร ภวนฺติ. เตน เนสํ ภควา ยถา น สกฺโกนฺติ สลฺลกฺเขตุํ, เอวํ สํขิตฺเตเนว ตาว ปฺหํ วิสฺสชฺเชสิ. ตโต สลฺลกฺเขตุํ อสกฺโกนฺเตหิ วิตฺถารเทสนํ ยาจิโต วิตฺถาเรน เทเสตุํ, เตน หิ คหปตโยติอาทิมาห. ตตฺถ เตน หีติ การณตฺเถ นิปาโต. ยสฺมา มํ ตุมฺเห ยาจถ, ตสฺมาติ อตฺโถ.

๔๔๐. ติวิธนฺติ ตีหิ โกฏฺาเสหิ. กาเยนาติ กายทฺวาเรน. อธมฺมจริยาวิสมจริยาติ อธมฺมจริยสงฺขาตา วิสมจริยา. อยํ ปเนตฺถ ปทตฺโถ, อธมฺมสฺส จริยา อธมฺมจริยา, อธมฺมกรณนฺติ อตฺโถ. วิสมา จริยา, วิสมสฺส วา กมฺมสฺส จริยาติ วิสมจริยา. อธมฺมจริยา จ สา วิสมจริยา จาติ อธมฺมจริยาวิสมจริยา. เอเตนุปาเยน สพฺเพสุ กณฺหสุกฺกปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ลุทฺโทติ กกฺขโฬ. ทารุโณติ สาหสิโก. โลหิตปาณีติ ปรํ ชีวิตา โวโรเปนฺตสฺส ปาณี โลหิเตน ลิปฺปนฺติ. สเจปิ น ลิปฺปนฺติ, ตถาวิโธ โลหิตปาณีตฺเวว วุจฺจติ. หตปฺปหเต นิวิฏฺโติ หเต จ ปรสฺส ปหารทาเน , ปหเต จ ปรมารเณ นิวิฏฺโ. อทยาปนฺโนติ นิกฺกรุณตํ อาปนฺโน.

ยํ ตํ ปรสฺสาติ ยํ ตํ ปรสฺส สนฺตกํ. ปรวิตฺตูปกรณนฺติ ตสฺเสว ปรสฺส วิตฺตูปกรณํ ตุฏฺิชนนํ ปริกฺขารภณฺฑกํ. คามคตํ วาติ อนฺโตคาเม วา ปิตํ. อรฺคตํ วาติ อรฺเ รุกฺขคฺคปพฺพตมตฺถกาทีสุ วา ปิตํ. อทินฺนนฺติ เตหิ ปเรหิ กาเยน วา วาจาย วา อทินฺนํ. เถยฺยสงฺขาตนฺติ เอตฺถ เถโนติ โจโร. เถนสฺส ภาโว เถยฺยํ, อวหรณจิตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. สงฺขา สงฺขาตนฺติ อตฺถโต เอกํ, โกฏฺาสสฺเสตํ อธิวจนํ, ‘‘สฺานิทานา หิ ปปฺจสงฺขา’’ติอาทีสุ วิย. เถยฺยฺจ ตํ สงฺขาตฺจาติ เถยฺยสงฺขาตํ, เถยฺยจิตฺตสงฺขาโต เอโก จิตฺตโกฏฺาโสติ อตฺโถ . กรณตฺเถ เจตํ ปจฺจตฺตวจนํ, ตสฺมา เถยฺยสงฺขาเตนาติ อตฺถโต ทฏฺพฺพํ.

มาตุรกฺขิตาติอาทีสุ ยํ ปิตริ นฏฺเ วา มเต วา ฆาสจฺฉาทนาทีหิ ปฏิชคฺคมานา, วยปตฺตํ กุลฆเร ทสฺสามีติ มาตา รกฺขติ, อยํ มาตุรกฺขิตา นาม. เอเตนุปาเยน ปิตุรกฺขิตาทโยปิ เวทิตพฺพา. สภาคกุลานิ ปน กุจฺฉิคเตสุปิ คพฺเภสุ กติกํ กโรนฺติ – ‘‘สเจ มยฺหํ ปุตฺโต โหติ, ตุยฺหํ ธีตา, อฺตฺถ คนฺตุํ น ลภิสฺสติ, มยฺหํ ปุตฺตสฺเสว โหตู’’ติ. เอวํ คพฺเภปิ ปริคฺคหิตา สสฺสามิกา นาม. ‘‘โย อิตฺถนฺนามํ อิตฺถึ คจฺฉติ, ตสฺส เอตฺตโก ทณฺโฑ’’ติ เอวํ คามํ วา เคหํ วา วีถึ วา อุทฺทิสฺส ปิตทณฺฑา, ปน สปริทณฺฑา นาม. อนฺตมโส มาลาคุณปริกฺขิตฺตาปีติ ยา สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน, ‘‘เอสา เม ภริยา ภวิสฺสตี’’ติ สฺาย ตสฺสา อุปริ เกนจิ มาลาคุณํ ขิปนฺเตน มาลาคุณมตฺเตนาปิ ปริกฺขิตฺตา โหติ. ตถารูปาสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหตีติ เอวรูปาสุ อิตฺถีสุ สมฺมาทิฏฺิสุตฺเต วุตฺตมิจฺฉาจารลกฺขณวเสน วีติกฺกมํ กตฺตา โหติ.

สภาคโตติ สภายํ ิโต. ปริสาคโตติ ปริสายํ ิโต. าติมชฺฌคโตติ ทายาทานํ มชฺเฌ ิโต. ปูคมชฺฌคโตติ เสนีนํ มชฺเฌ ิโต. ราชกุลมชฺฌคโตติ ราชกุลสฺส มชฺเฌ มหาวินิจฺฉเย ิโต . อภินีโตติ ปุจฺฉนตฺถาย นีโต. สกฺขิปุฏฺโติ สกฺขึ กตฺวา ปุจฺฉิโต. เอหมฺโภ ปุริสาติ อาลปนเมตํ. อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วาติ อตฺตโน วา ปรสฺส วา หตฺถปาทาทิเหตุ วา ธนเหตุ วา. อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วาติ เอตฺถ อามิสนฺติ ลาโภ อธิปฺเปโต. กิฺจิกฺขนฺติ ยํ วา ตํ วา อปฺปมตฺตกํ. อนฺตมโส ติตฺติรวฏฺฏกสปฺปิปิณฺฑนวนีตปิณฺฑาทิมตฺตกสฺสปิ ลฺชสฺส เหตูติ อตฺโถ. สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหตีติ ชานนฺโตเยว มุสาวาทํ กตฺตา โหติ.

อิเมสํเภทายาติ เยสํ อิโตติ วุตฺตานํ สนฺติเก สุตํ โหติ, เตสํ เภทาย. อมูสํ เภทายาติ เยสํ อมุตฺราติ วุตฺตานํ สนฺติเก สุตํ โหติ, เตสํ เภทาย. อิติ สมคฺคานํ วา เภทกาติ เอวํ สมคฺคานํ วา ทฺวินฺนํ สหายกานํ เภทํ กตฺตา. ภินฺนานํ วา อนุปฺปทาตาติ สุฏฺุ กตํ ตยา, ตํ ปชหนฺเตน กติปาเหเนว เต มหนฺตํ อนตฺถํ กเรยฺยาติ เอวํ ภินฺนานํ ปุน อสํสนฺทนาย อนุปฺปทาตา อุปตฺถมฺเภตา การณํ ทสฺเสตาติ อตฺโถ. วคฺโค อาราโม อภิรติฏฺานมสฺสาติ วคฺคาราโม. วคฺครโตติ วคฺเคสุ รโต. วคฺเค ทิสฺวา วา สุตฺวา วา นนฺทตีติ วคฺคนนฺที. วคฺคกรณึ วาจนฺติ ยา วาจา สมคฺเคปิ สตฺเต วคฺเค กโรติ ภินฺทติ, ตํ กลหการณํ วาจํ ภาสิตา โหติ.

อณฺฑกาติ ยถา สโทเส รุกฺเข อณฺฑกานิ อุฏฺหนฺติ, เอวํ สโทสตาย ขุํสนาวมฺภนาทิวจเนหิ อณฺฑกา ชาตา. กกฺกสาติ ปูติกา. ยถา นาม ปูติกรุกฺโข กกฺกโส โหติ ปคฺฆริตจุณฺโณ, เอวํ กกฺกสา โหติ, โสตํ ฆํสมานา วิย ปวิสติ. เตน วุตฺตํ ‘‘กกฺกสา’’ติ. ปรกฏุกาติ ปเรสํ กฏุกา อมนาปา โทสชนนี. ปราภิสชฺชนีติ กุฏิลกณฺฏกสาขา วิย มมฺเมสุ วิชฺฌิตฺวา ปเรสํ อภิสชฺชนี คนฺตุกามานมฺปิ คนฺตุํ อทตฺวา ลคฺคนการี. โกธสามนฺตาติ โกธสฺส อาสนฺนา. อสมาธิสํวตฺตนิกาติ อปฺปนาสมาธิสฺส วา อุปจารสมาธิสฺส วา อสํวตฺตนิกา. อิติ สพฺพาเนว ตานิ สโทสวาจาย เววจนานิ.

อกาลวาทีติ อกาเลน วตฺตา. อภูตวาทีติ ยํ นตฺถิ, ตสฺส วตฺตา. อนตฺถวาทีติ อการณนิสฺสิตํ วตฺตา. อธมฺมวาทีติ อสภาวํ วตฺตา . อวินยวาทีติ อสํวรวินยปฏิสํยุตฺตสฺส วตฺตา. อนิธานวติ วาจนฺติ หทยมฺชูสายํ นิเธตุํ อยุตฺตํ วาจํ ภาสิตา โหติ. อกาเลนาติ วตฺตพฺพกาลสฺส ปุพฺเพ วา ปจฺฉา วา อยุตฺตกาเล วตฺตา โหติ. อนปเทสนฺติ สุตฺตาปเทสวิรหิตํ. อปริยนฺตวตินฺติ อปริจฺเฉทํ, สุตฺตํ วา ชาตกํ วา นิกฺขิปิตฺวา ตสฺส อุปลพฺภํ วา อุปมํ วา วตฺถุํ วา อาหริตฺวา พาหิรกถํเยว กเถติ. นิกฺขิตฺตํ นิกฺขิตฺตเมว โหติ. ‘‘สุตฺตํ นุ โข กเถติ ชาตกํ นุ โข, นสฺส อนฺตํ วา โกฏึ วา ปสฺสามา’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. ยถา วฏรุกฺขสาขานํ คตคตฏฺาเน ปาโรหา โอตรนฺติ, โอติณฺโณติณฺณฏฺาเน สมฺปชฺชิตฺวา ปุน วฑฺฒนฺติเยว . เอวํ อฑฺฒโยชนมฺปิ โยชนมฺปิ คจฺฉนฺติเยว, คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต ปน มูลรุกฺโข วินสฺสติ, ปเวณิชาตกาว ติฏฺนฺติ. เอวมยมฺปิ นิคฺโรธธมฺมกถิโก นาม โหติ; นิกฺขิตฺตํ นิกฺขิตฺตมตฺตเมว กตฺวา ปสฺเสเนว ปริหรนฺโต คจฺฉติ. โย ปน พหุมฺปิ ภณนฺโต เอตทตฺถมิทํ วุตฺตนฺติ อาหริตฺวา ชานาเปตุํ สกฺโกติ, ตสฺส กเถตุํ วฏฺฏติ. อนตฺถสํหิตนฺติ น อตฺถนิสฺสิตํ.

อภิชฺฌาตา โหตีติ อภิชฺฌาย โอโลเกตา โหติ. อโห วตาติ ปตฺถนตฺเถ นิปาโต. อภิชฺฌาย โอโลกิตมตฺตเกน เจตฺถ กมฺมปถเภโท น โหติ. ยทา ปน, ‘‘อโห วติทํ มม สนฺตกํ อสฺส, อหเมตฺถ วสํ วตฺเตยฺย’’นฺติ อตฺตโน ปริณาเมติ, ตทา กมฺมปถเภโท โหติ, อยมิธ อธิปฺเปโต.

พฺยาปนฺนจิตฺโตติ วิปนฺนจิตฺโต ปูติภูตจิตฺโต. ปทุฏฺมนสงฺกปฺโปติ โทเสน ทุฏฺจิตฺตสงฺกปฺโป. หฺนฺตูติ ฆาติยนฺตู. วชฺฌนฺตูติ วธํ ปาปุณนฺตุ. มา วา อเหสุนฺติ กิฺจิปิ มา อเหสุํ. อิธาปิ โกปมตฺตเกน กมฺมปถเภโท น โหติ. หฺนฺตูติอาทิจินฺตเนเนว โหติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ.

มิจฺฉาทิฏฺิโกติ อกุสลทสฺสโน. วิปรีตทสฺสโนติ วิปลฺลตฺถทสฺสโน. นตฺถิ ทินฺนนฺติ ทินฺนสฺส ผลาภาวํ สนฺธาย วทติ. ยิฏฺํ วุจฺจติ มหายาโค. หุตนฺติ ปเหณกสกฺกาโร อธิปฺเปโต, ตมฺปิ อุภยํ ผลาภาวเมว สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. สุกตทุกฺกฏานนฺติ สุกตทุกฺกฏานํ, กุสลากุสลานนฺติ อตฺโถ. ผลํ วิปาโกติ ยํ ผลนฺติ วา วิปาโกติ วา วุจฺจติ, ตํ นตฺถีติ วทติ. นตฺถิ อยํ โลโกติ ปรโลเก ิตสฺส อยํ โลโก นตฺถิ. นตฺถิ ปโร โลโกติ อิธ โลเก ิตสฺสปิ ปรโลโก นตฺถิ, สพฺเพ ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนฺตีติ ทสฺเสติ. นตฺถิ มาตา นตฺถิ ปิตาติ เตสุ สมฺมาปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺตีนํ ผลาภาววเสน วทติ. นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกาติ จวิตฺวา อุปปชฺชนกสตฺตา นาม นตฺถีติ วทติ. สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตีติ เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ อภิวิสิฏฺาย ปฺาย สยํ ปจฺจกฺขํ กตฺวา ปเวเทนฺติ, เต นตฺถีติ สพฺพฺุพุทฺธานํ อภาวํ ทีเปติ, เอตฺตาวตา ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺิ กถิตา โหติ.

๔๔๑. ปาณาติปาตํปหายาติอาทโย สตฺต กมฺมปถา จูฬหตฺถิปเท วิตฺถาริตา. อนภิชฺฌาทโย อุตฺตานตฺถาเยว.

๔๔๒. สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺยนฺติ สหภาวํ อุปคจฺเฉยฺยํ. พฺรหฺมกายิกานํ เทวานนฺติ ปมชฺฌานภูมิเทวานํ. อาภานํ เทวานนฺติ อาภา นาม วิสุํ นตฺถิ, ปริตฺตาภอปฺปมาณาภอาภสฺสรานเมตํ อธิวจนํ. ปริตฺตาภานนฺติอาทิ ปน เอกโต อคฺคเหตฺวา เตสํเยว เภทโต คหณํ. ปริตฺตสุภานนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อิติ ภควา อาสวกฺขยํ ทสฺเสตฺวา อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺเปสิ.

อิธ ตฺวา ปน เทวโลกา สมาเนตพฺพา. ติสฺสนฺนํ ตาว ฌานภูมีนํ วเสน นว พฺรหฺมโลกา, ปฺจ สุทฺธาวาสา จตูหิ อารูเปหิ สทฺธึ นวาติ อฏฺารส, เวหปฺผเลหิ สทฺธึ เอกูนวีสติ, เต อสฺํ ปกฺขิปิตฺวา วีสติ พฺรหฺมโลกา โหนฺติ, เอวํ ฉหิ กามาวจเรหิ สทฺธึ ฉพฺพีสติ เทวโลกา นาม. เตสํ สพฺเพสมฺปิ ภควตา ทสกุสลกมฺมปเถหิ นิพฺพตฺติ ทสฺสิตา.

ตตฺถ ฉสุ ตาว กามาวจเรสุ ติณฺณํ สุจริตานํ วิปาเกเนว นิพฺพตฺติ โหติ. อุปริเทวโลกานํ ปน อิเม กมฺมปถา อุปนิสฺสยวเสน กถิตา . ทส กุสลกมฺมปถา หิ สีลํ, สีลวโต จ กสิณปริกมฺมํ อิชฺฌตีติ. สีเล ปติฏฺาย กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปมชฺฌานภูมิยํ นิพฺพตฺตติ; ทุติยาทีนิ ภาเวตฺวา ทุติยชฺฌานภูมิอาทีสุ นิพฺพตฺตติ; รูปาวจรชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อนาคามิผเล ปติฏฺิโต ปฺจสุ สุทฺธาวาเสสุ นิพฺพตฺตติ; รูปาวจรชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา อรูปาวจรสมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตตฺวา จตูสุ อรูเปสุ นิพฺพตฺตติ; รูปารูปชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อสฺภโว ปน พาหิรกานํ ตาปสปริพฺพาชกานํ อาจิณฺโณติ อิธ น นิทฺทิฏฺโ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

สาเลยฺยกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. เวรฺชกสุตฺตวณฺณนา

๔๔๔. เอวํเม สุตนฺติ เวรฺชกสุตฺตํ. ตตฺถ เวรฺชกาติ เวรฺชวาสิโน. เกนจิเทว กรณีเยนาติ เกนจิเทว อนิยมิตกิจฺเจน. เสสํ สพฺพํ ปุริมสุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เกวลฺหิ อิธ อธมฺมจารี วิสมจารีติ เอวํ ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา กตา. ปุริมสุตฺเต ธมฺมาธิฏฺานาติ อยํ วิเสโส. เสสํ ตาทิสเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

เวรฺชกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. มหาเวทลฺลสุตฺตวณฺณนา

๔๔๙. เอวํเม สุตนฺติ มหาเวทลฺลสุตฺตํ. ตตฺถ อายสฺมาติ สคารวสปฺปติสฺสวจนเมตํ. มหาโกฏฺิโกติ ตสฺส เถรสฺส นามํ. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ ผลสมาปตฺติโต วุฏฺิโต. ทุปฺปฺโ ทุปฺปฺโติ เอตฺถ ปฺาย ทุฏฺํ นาม นตฺถิ, อปฺปฺโ นิปฺปฺโติ อตฺโถ. กิตฺตาวตา นุ โขติ การณปริจฺเฉทปุจฺฉา, กิตฺตเกน นุ โข เอวํ วุจฺจตีติ อตฺโถ. ปุจฺฉา จ นาเมสา อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา, ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา, วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา, อนุมติปุจฺฉา, กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาติ ปฺจวิธา โหติ. ตาสมิทํ นานากรณํ –

กตมา อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา? ปกติยา ลกฺขณํ อฺาตํ โหติ อทิฏฺํ อตุลิตํ อตีริตํ อวิภูตํ อวิภาวิตํ, ตสฺส าณาย ทสฺสนาย ตุลนาย ตีรณาย วิภูตาย วิภาวนตฺถาย ปฺหํ ปุจฺฉติ. อยํ อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา.

กตมา ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา? ปกติยา ลกฺขณํ าตํ โหติ ทิฏฺํ ตุลิตํ ตีริตํ วิภูตํ วิภาวิตํ, อฺเหิ ปณฺฑิเตหิ สทฺธึ สํสนฺทนตฺถาย ปฺหํ ปุจฺฉติ. อยํ ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา.

กตมา วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา? ปกติยา สํสยปกฺขนฺโท โหติ วิมติปกฺขนฺโท, ทฺเวฬฺหกชาโต, ‘‘เอวํ นุ โข, น นุ โข, กึ นุ โข, กถํ นุ โข’’ติ, โส วิมติจฺเฉทนตฺถาย ปฺหํ ปุจฺฉติ. อยํ วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา (มหานิ. ๑๕๐; จูฬนิ. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๒).

‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วาติ? อนิจฺจํ, ภนฺเต’’ติ (มหาว. ๒๑) เอวรูปา อนุมตึ คเหตฺวา ธมฺมเทสนากาเล ปุจฺฉา อนุมติปุจฺฉา นาม.

‘‘จตฺตาโรเม , ภิกฺขเว, สติปฏฺานา, กตเม จตฺตาโร’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๙๐) เอวรูปา ภิกฺขุสงฺฆํ สยเมว ปุจฺฉิตฺวา สยเมว วิสฺสชฺเชตุกามสฺส ปุจฺฉา กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา นาม. ตาสุ อิธ ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา อธิปฺเปตา.

เถโร หิ อตฺตโน ทิวาฏฺาเน นิสีทิตฺวา สยเมว ปฺหํ สมุฏฺเปตฺวา สยํ วินิจฺฉินนฺโต อิทํ สุตฺตํ อาทิโต ปฏฺาย มตฺถกํ ปาเปสิ. เอกจฺโจ หิ ปฺหํ สมุฏฺาเปตุํเยว สกฺโกติ น นิจฺเฉตุํ; เอกจฺโจ นิจฺเฉตุํ สกฺโกติ น สมุฏฺาเปตุํ; เอกจฺโจ อุภยมฺปิ น สกฺโกติ; เอกจฺโจ อุภยมฺปิ สกฺโกติ. เตสุ เถโร อุภยมฺปิ สกฺโกติเยว. กสฺมา? มหาปฺตาย. มหาปฺํ นิสฺสาย หิ อิมสฺมึ สาสเน สาริปุตฺตตฺเถโร, มหากจฺจานตฺเถโร, ปุณฺณตฺเถโร, กุมารกสฺสปตฺเถโร, อานนฺทตฺเถโร, อยเมว อายสฺมาติ สมฺพหุลา เถรา วิเสสฏฺานํ อธิคตา. น หิ สกฺกา ยาย วา ตาย วา อปฺปมตฺติกาย ปฺาย สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สาวกปารมีาณสฺส มตฺถกํ ปาปุณิตุํ, มหาปฺเน ปน สกฺกาติ มหาปฺตาย สาริปุตฺตตฺเถโร ตํ านํ อธิคโต. ปฺาย หิ เถเรน สทิโส นตฺถิ. เตเนว นํ ภควา เอตทคฺเค เปสิ – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ มหาปฺานํ ยทิทํ สาริปุตฺโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๙).

ตถา น สกฺกา ยาย วา ตาย วา อปฺปมตฺติกาย ปฺาย สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา สมาเนตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชตุํ, มหาปฺเน ปน สกฺกาติ มหาปฺตาย มหากจฺจานตฺเถโร ตตฺถ ปฏิพโล ชาโต, เตเนว นํ ภควา เอตทคฺเค เปสิ – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชนฺตานํ ยทิทํ มหากจฺจาโน’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๙๗).

ตถา น สกฺกา ยาย วา ตาย วา อปฺปมตฺติกาย ปฺาย สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ธมฺมกถํ กเถนฺเตน ทส กถาวตฺถูนิ อาหริตฺวา สตฺต วิสุทฺธิโย วิภชนฺเตน ธมฺมกถํ กเถตุํ, มหาปฺเน ปน สกฺกาติ มหาปฺตาย ปุณฺณตฺเถโร จตุปริสมชฺเฌ อลงฺกตธมฺมาสเน จิตฺตพีชนึ คเหตฺวา นิสินฺโน ลีฬายนฺโต ปุณฺณจนฺโท วิย ธมฺมํ กเถสิ. เตเนว นํ ภควา เอตทคฺเค เปสิ – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ธมฺมกถิกานํ ยทิทํ ปุณฺโณ มนฺตาณิปุตฺโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๙๖).

ตถา ยาย วา ตาย วา อปฺปมตฺติกาย ปฺาย สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ธมฺมํ กเถนฺโต อิโต วา เอตฺโต วา อนุกฺกมิตฺวา ยฏฺิโกฏึ คเหตฺวา อนฺโธ วิย, เอกปทิกํ ทณฺฑกเสตุํ อารุฬฺโห วิย จ คจฺฉติ. มหาปฺโ ปน จตุปฺปทิกํ คาถํ นิกฺขิปิตฺวา อุปมา จ การณานิ จ อาหริตฺวา เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ คเหตฺวา เหฏฺุปริยํ กโรนฺโต กเถสิ. มหาปฺตาย ปน กุมารกสฺสปตฺเถโร จตุปฺปทิกํ คาถํ นิกฺขิปิตฺวา อุปมา จ การณานิ จ อาหริตฺวา เตหิ สทฺธึ โยเชนฺโต ชาตสฺสเร ปฺจวณฺณานิ กุสุมานิ ผุลฺลาเปนฺโต วิย สิเนรุมตฺถเก วฏฺฏิสหสฺสํ เตลปทีปํ ชาเลนฺโต วิย เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ เหฏฺุปริยํ กโรนฺโต กเถสิ. เตเนว นํ ภควา เอตทคฺเค เปสิ – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ จิตฺตกถิกานํ ยทิทํ กุมารกสฺสโป’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๗).

ตถา ยาย วา ตาย วา อปฺปมตฺติกาย ปฺาย สมนฺนาคโต ภิกฺขุ จตูหิ มาเสหิ จตุปฺปทิกมฺปิ คาถํ คเหตุํ น สกฺโกติ. มหาปฺโ ปน เอกปเท ตฺวา ปทสตมฺปิ ปทสหสฺสมฺปิ คณฺหาติ. อานนฺทตฺเถโร ปน มหาปฺตาย เอกปทุทฺธาเร ตฺวา สกึเยว สุตฺวา ปุน อปุจฺฉนฺโต สฏฺิ ปทสหสฺสานิ ปนฺนรส คาถาสหสฺสานิ วลฺลิยา ปุปฺผานิ อากฑฺฒิตฺวา คณฺหนฺโต วิย เอกปฺปหาเรเนว คณฺหาติ. คหิตคหิตํ ปาสาเณ ขตเลขา วิย, สุวณฺณฆเฏ ปกฺขิตฺตสีหวสา วิย จ คหิตากาเรเนว ติฏฺติ. เตเนว นํ ภควา เอตทคฺเค เปสิ – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ คติมนฺตานํ ยทิทํ อานนฺโท , สติมนฺตานํ, ธิติมนฺตานํ, พหุสฺสุตานํ, อุปฏฺากานํ ยทิทํ อานนฺโท’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๙-๒๒๓).

น หิ สกฺกา ยาย วา ตาย วา อปฺปมตฺติกาย ปฺาย สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา จตุปฏิสมฺภิทาปเภทสฺส มตฺถกํ ปาปุณิตุํ. มหาปฺเน ปน สกฺกาติ มหาปฺตาย มหาโกฏฺิตตฺเถโร อธิคมปริปุจฺฉาสวนปุพฺพโยคานํ วเสน อนนฺตนยุสฺสทํ ปฏิสมฺภิทาปเภทํ ปตฺโต. เตเนว นํ ภควา เอตทคฺเค เปสิ – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ปฏิสมฺภิทาปตฺตานํ ยทิทํ มหาโกฏฺิโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๘).

อิติ เถโร มหาปฺตาย ปฺหํ สมุฏฺาเปตุมฺปิ นิจฺเฉตุมฺปีติ อุภยมฺปิ สกฺโกติ. โส ทิวาฏฺาเน นิสีทิตฺวา สยเมว สพฺพปฺเห สมุฏฺเปตฺวา สยํ วินิจฺฉินนฺโต อิทํ สุตฺตํ อาทิโต ปฏฺาย มตฺถกํ ปาเปตฺวา, ‘‘โสภนา วต อยํ ธมฺมเทสนา, เชฏฺภาติเกน นํ ธมฺมเสนาปตินา สทฺธึ สํสนฺทิสฺสามิ, ตโต อยํ ทฺวินฺนมฺปิ อมฺหากํ เอกมติยา เอกชฺฌาสเยน จ ปิตา อติครุกา ภวิสฺสติ ปาสาณจฺฉตฺตสทิสา, จตุโรฆนิตฺถรณตฺถิกานํ ติตฺเถ ปิตนาวา วิย, มคฺคคมนตฺถิกานํ สหสฺสยุตฺตอาชฺรโถ วิย พหุปการา ภวิสฺสตี’’ติ ทิฏฺสํสนฺทนตฺถํ ปฺหํ ปุจฺฉิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตาสุ อิธ ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา อธิปฺเปตา’’ติ.

นปฺปชานาตีติ เอตฺถ ยสฺมา นปฺปชานาติ, ตสฺมา ทุปฺปฺโติ วุจฺจตีติ อยมตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อิทํ ทุกฺขนฺติ นปฺปชานาตีติ อิทํ ทุกฺขํ, เอตฺตกํ ทุกฺขํ, อิโต อุทฺธํ นตฺถีติ ทุกฺขสจฺจํ ยาถาวสรสลกฺขณโต น ปชานาติ. อยํ ทุกฺขสมุทโยติ อิโต ทุกฺขํ สมุเทตีติ ปวตฺติทุกฺขปภาวิกา ตณฺหา สมุทยสจฺจนฺติ ยาถาวสรสลกฺขณโต น ปชานาติ. อยํ ทุกฺขนิโรโธติ อิทํ ทุกฺขํ อยํ ทุกฺขสมุทโย จ อิทํ นาม านํ ปตฺวา นิรุชฺฌตีติ อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ นิพฺพานํ นิโรธสจฺจนฺติ ยาถาวสรสลกฺขณโต น ปชานาติ. อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ อยํ ปฏิปทา ทุกฺขนิโรธํ คจฺฉตีติ มคฺคสจฺจํ ยาถาวสรสลกฺขณโต น ปชานาตีติ. อนนฺตรวาเรปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สงฺเขปโต ปเนตฺถ จตุสจฺจกมฺมฏฺานิโก ปุคฺคโล กถิโตติ เวทิตพฺโพ.

อยฺหิ อาจริยสนฺติเก จตฺตาริ สจฺจานิ สวนโต อุคฺคณฺหาติ. เปตฺวา ตณฺหํ เตภูมกา ธมฺมา ทุกฺขสจฺจํ, ตณฺหา สมุทยสจฺจํ, อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ นิพฺพานํ นิโรธสจฺจํ, ทุกฺขสจฺจํ ปริชานนฺโต สมุทยสจฺจํ ปชหนฺโต นิโรธปาปโน มคฺโค มคฺคสจฺจนฺติ เอวํ อุคฺคเหตฺวา อภินิวิสติ. ตตฺถ ปุริมานิ ทฺเว สจฺจานิ วฏฺฏํ, ปจฺฉิมานิ วิวฏฺฏํ, วฏฺเฏ อภินิเวโส โหติ, โน วิวฏฺเฏ, ตสฺมา อยํ อภินิวิสมาโน ทุกฺขสจฺเจ อภินิวิสติ.

ทุกฺขสจฺจํ นาม รูปาทโย ปฺจกฺขนฺธาติ ววตฺถเปตฺวา ธาตุกมฺมฏฺานวเสน โอตริตฺวา, ‘‘จตฺตาริ มหาภูตานิ จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทาย รูปํ รูป’’นฺติ ววตฺถเปติ. ตทารมฺมณา เวทนา สฺา สงฺขารา วิฺาณํ นามนฺติ เอวํ ยมกตาลกฺขนฺธํ ภินฺทนฺโต วิย ‘‘ทฺเวว อิเม ธมฺมา นามรูป’’นฺติ ววตฺถเปติ. ตํ ปเนตํ น อเหตุกํ สเหตุกํ สปฺปจฺจยํ, โก จสฺส ปจฺจโย อวิชฺชาทโย ธมฺมาติ เอวํ ปจฺจเย เจว ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเม จ ววตฺถเปตฺวา ‘‘สพฺเพปิ ธมฺมา หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจา’’ติ อนิจฺจลกฺขณํ อาโรเปติ, ตโต อุทยวยปฺปฏิปีฬนากาเรน ทุกฺขา, อวสวตฺตนากาเรน อนตฺตาติ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา สมฺมสนฺโต โลกุตฺตรมคฺคํ ปาปุณาติ.

มคฺคกฺขเณ จตฺตาริ สจฺจานิ เอกปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, เอกาภิสมเยน อภิสเมติ. ทุกฺขํ ปริฺาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ. สมุทยํ ปหานปฏิเวเธน, นิโรธํ สจฺฉิกิริยาปฏิเวเธน, มคฺคํ ภาวนาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ. ทุกฺขํ ปริฺาภิสมเยน อภิสเมติ, สมุทยํ ปหานาภิสมเยน, นิโรธํ สจฺฉิกิริยาภิสมเยน, มคฺคํ ภาวนาภิสมเยน อภิสเมติ. โส ตีณิ สจฺจานิ กิจฺจโต ปฏิวิชฺฌติ, นิโรธํ อารมฺมณโต. ตสฺมิฺจสฺส ขเณ อหํ ทุกฺขํ ปริชานามิ, สมุทยํ ปชหามิ, นิโรธํ สจฺฉิกโรมิ, มคฺคํ ภาเวมีติ อาโภคสมนฺนาหารมนสิการปจฺจเวกฺขณา นตฺถิ. เอตสฺส ปน ปริคฺคณฺหนฺตสฺเสว มคฺโค ตีสุ สจฺเจสุ ปริฺาทิกิจฺจํ สาเธนฺโตว นิโรธํ อารมฺมณโต ปฏิวิชฺฌตีติ.

ตสฺมา ปฺวาติ วุจฺจตีติ เอตฺถ เหฏฺิมโกฏิยา โสตาปนฺโน, อุปริมโกฏิยา ขีณาสโว ปฺวาติ นิทฺทิฏฺโ. โย ปน เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ ปาฬิโต จ อตฺถโต จ อนุสนฺธิโต จ ปุพฺพาปรโต จ อุคฺคเหตฺวา เหฏฺุปริยํ กโรนฺโต วิจรติ, อนิจฺจทุกฺขานตฺตวเสน ปริคฺคหมตฺตมฺปิ นตฺถิ, อยํ ปฺวา นาม, ทุปฺปฺโ นามาติ? วิฺาณจริโต นาเมส, ปฺวาติ น วตฺตพฺโพ. อถ โย ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา สมฺมสนฺโต อชฺช อชฺเชว อรหตฺตนฺติ จรติ, อยํ ปฺวา นาม, ทุปฺปฺโ นามาติ? ภชาปิยมาโน ปฺวาปกฺขํ ภชติ. สุตฺเต ปน ปฏิเวโธว กถิโต.

วิฺาณํ วิฺาณนฺติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? เยน วิฺาเณน สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา เอส ปฺวา นาม ชาโต, ตสฺส อาคมนวิปสฺสนา วิฺาณํ กมฺมการกจิตฺตํ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ. สุขนฺติปิ วิชานาตีติ สุขเวทนมฺปิ วิชานาติ. อุปริปททฺวเยปิ เอเสว นโย. อิมินา เถโร ‘‘สุขํ เวทนํ เวทยมาโน สุขํ เวทนํ เวทยามีติ ปชานาตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๑๓; ที. นิ. ๒.๓๘๐) นเยน อาคตเวทนาวเสน อรูปกมฺมฏฺานํ กเถสิ. ตสฺสตฺโถ สติปฏฺาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

สํสฏฺาติ เอกุปฺปาทาทิลกฺขเณน สํโยคฏฺเน สํสฏฺา, อุทาหุ วิสํสฏฺาติ ปุจฺฉติ. เอตฺถ จ เถโร มคฺคปฺฺจ วิปสฺสนาวิฺาณฺจาติ อิเม ทฺเว โลกิยโลกุตฺตรธมฺเม มิสฺเสตฺวา ภูมนฺตรํ ภินฺทิตฺวา สมยํ อชานนฺโต วิย ปุจฺฉตีติ น เวทิตพฺโพ. มคฺคปฺาย ปน มคฺควิฺาเณน, วิปสฺสนาปฺาย จ วิปสฺสนาวิฺาเณเนว สทฺธึ สํสฏฺภาวํ ปุจฺฉตีติ เวทิตพฺโพ. เถโรปิสฺส ตเมวตฺถํ วิสฺสชฺเชนฺโต อิเม ธมฺมา สํสฏฺาติอาทิมาห. ตตฺถ น จ ลพฺภา อิเมสํ ธมฺมานนฺติ อิเมสํ โลกิยมคฺคกฺขเณปิ โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณปิ เอกโต อุปฺปนฺนานํ ทฺวินฺนํ ธมฺมานํ. วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวาติ วิสุํ วิสุํ กตฺวา วินิวฏฺเฏตฺวา, อารมฺมณโต วา วตฺถุโต วา อุปฺปาทโต วา นิโรธโต วา นานากรณํ ทสฺเสตุํ น สกฺกาติ อตฺโถ. เตสํ เตสํ ปน ธมฺมานํ วิสโย นาม อตฺถิ. โลกิยธมฺมํ ปตฺวา หิ จิตฺตํ เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, โลกุตฺตรํ ปตฺวา ปฺา.

สมฺมาสมฺพุทฺโธปิ หิ โลกิยธมฺมํ ปุจฺฉนฺโต, ‘‘ภิกฺขุ, ตฺวํ กตมํ ปฺํ อธิคโต, กึ ปมมคฺคปฺํ, อุทาหุ ทุติย ตติย จตุตฺถ มคฺคปฺ’’นฺติ น เอวํ ปุจฺฉติ. กึ ผสฺโส ตฺวํ, ภิกฺขุ, กึ เวทโน, กึ สฺโ, กึ เจตโนติ น จ ปุจฺฉติ, จิตฺตวเสน ปน, ‘‘กิฺจิตฺโต ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ (ปารา. ๑๓๕) ปุจฺฉติ. กุสลากุสลํ ปฺเปนฺโตปิ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, มโนเสฏฺา มโนมยา’’ติ (ธ. ป. ๑, ๒) จ, ‘‘กตเม ธมฺมา กุสลา? ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ (ธ. ส. ๑) จ เอวํ จิตฺตวเสเนว ปฺาเปติ. โลกุตฺตรํ ปุจฺฉนฺโต ปน กึ ผสฺโส ตฺวํ ภิกฺขุ, กึ เวทโน, กึ สฺโ, กึ เจตโนติ น ปุจฺฉติ. กตมา เต, ภิกฺขุ, ปฺา อธิคตา, กึ ปมมคฺคปฺา, อุทาหุ ทุติยตติยจตุตฺถมคฺคปฺาติ เอวํ ปฺาวเสเนว ปุจฺฉติ.

อินฺทฺริยสํยุตฺเตปิ ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานิ. กตมานิ ปฺจ? สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ. กตฺถ จ, ภิกฺขเว, สทฺธินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ โสตาปตฺติยงฺเคสุ เอตฺถ สทฺธินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ. กตฺถ จ, ภิกฺขเว, วีริยินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ สมฺมปฺปธาเนสุ เอตฺถ วีริยินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ. กตฺถ จ, ภิกฺขเว, สตินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ สติปฏฺาเนสุ เอตฺถ สตินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ. กตฺถ จ, ภิกฺขเว, สมาธินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ ฌาเนสุ เอตฺถ สมาธินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ. กตฺถ จ, ภิกฺขเว, ปฺินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ อริยสจฺเจสุ เอตฺถ ปฺินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพ’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๔๗๘). เอวํ สวิสยสฺมึเยว โลกิยโลกุตฺตรา ธมฺมา กถิตา.

ยถา หิ จตฺตาโร เสฏฺิปุตฺตา ราชาติ ราชปฺจเมสุ สหาเยสุ นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามาติ วีถึ โอติณฺเณสุ เอกสฺส เสฏฺิปุตฺตสฺส เคหํ คตกาเล อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว, ‘‘อิเมสํ ขาทนียํ โภชนียํ เทถ, คนฺธมาลาลงฺการาทีนิ เทถา’’ติ เคเห วิจาเรติ. ทุติยสฺส ตติยสฺส จตุตฺถสฺส เคหํ คตกาเล อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว, ‘‘อิเมสํ ขาทนียํ โภชนียํ เทถ, คนฺธมาลาลงฺการาทีนิ เทถา’’ติ เคเห วิจาเรติ. อถ สพฺพปจฺฉา รฺโ เคหํ คตกาเล กิฺจาปิ ราชา สพฺพตฺถ อิสฺสโรว, อิมสฺมึ ปน กาเล อตฺตโน เคเหเยว, ‘‘อิเมสํ ขาทนียํ โภชนียํ เทถ, คนฺธมาลาลงฺการาทีนิ เทถา’’ติ วิจาเรติ. เอวเมวํ โข สทฺธาปฺจมเกสุ อินฺทฺริเยสุ เตสุ สหาเยสุ เอกโต วีถึ โอตรนฺเตสุ วิย เอการมฺมเณ อุปฺปชฺชมาเนสุปิ ยถา ปมสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ โสตาปตฺติยงฺคานิ ปตฺวา อธิโมกฺขลกฺขณํ สทฺธินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. ยถา ทุติยสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ สมฺมปฺปธานานิ ปตฺวา ปคฺคหณลกฺขณํ วีริยินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. ยถา ตติยสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ สติปฏฺานานิ ปตฺวา อุปฏฺานลกฺขณํ สตินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. ยถา จตุตฺถสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ ฌานวิโมกฺเข ปตฺวา อวิกฺเขปลกฺขณํ สมาธินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. สพฺพปจฺฉา รฺโ เคหํ คตกาเล ปน ยถา อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, ราชาว เคเห วิจาเรติ, เอวเมว อริยสจฺจานิ ปตฺวา ปชานนลกฺขณํ ปฺินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ.

อิติ ปฏิสมฺภิทาปตฺตานํ อคฺเค ปิโต มหาโกฏฺิตตฺเถโร โลกิยธมฺมํ ปุจฺฉนฺโต จิตฺตํ เชฏฺกํ จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา ปุจฺฉิ; โลกุตฺตรธมฺมํ ปุจฺฉนฺโต ปฺํ เชฏฺกํ ปฺํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา ปุจฺฉิ. ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถโรปิ ตเถว วิสฺสชฺเชสีติ.

ยํ หาวุโส, ปชานาตีติ ยํ จตุสจฺจธมฺมมิทํ ทุกฺขนฺติอาทินา นเยน มคฺคปฺา ปชานาติ. ตํ วิชานาตีติ มคฺควิฺาณมฺปิ ตเถว ตํ วิชานาติ. ยํ วิชานาตีติ ยํ สงฺขารคตํ อนิจฺจนฺติอาทินา นเยน วิปสฺสนาวิฺาณํ วิชานาติ. ตํ ปชานาตีติ วิปสฺสนาปฺาปิ ตเถว ตํ ปชานาติ. ตสฺมา อิเม ธมฺมาติ เตน การเณน อิเม ธมฺมา. สํสฏฺาติ เอกุปฺปาทเอกนิโรธเอกวตฺถุกเอการมฺมณตาย สํสฏฺา.

ปฺา ภาเวตพฺพาติ อิทํ มคฺคปฺํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตํสมฺปยุตฺตํ ปน วิฺาณํ ตาย สทฺธึ ภาเวตพฺพเมว โหติ. วิฺาณํ ปริฺเยฺยนฺติ อิทํ วิปสฺสนาวิฺาณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตํสมฺปยุตฺตา ปน ปฺา เตน สทฺธึ ปริชานิตพฺพาว โหติ.

๔๕๐. เวทนา เวทนาติ อิทํ กสฺมา ปุจฺฉติ? เวทนาลกฺขณํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. เอวํ สนฺเตปิ เตภูมิกสมฺมสนจารเวทนาว อธิปฺเปตาติ สลฺลกฺเขตพฺพา. สุขมฺปิ เวเทตีติ สุขํ อารมฺมณํ เวเทติ อนุภวติ. ปรโต ปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ‘‘รูปฺจ หิทํ, มหาลิ, เอกนฺตทุกฺขํ อภวิสฺส, ทุกฺขานุปติตํ ทุกฺขาวกฺกนฺตํ อนวกฺกนฺตํ สุเขน, นยิทํ สตฺตา รูปสฺมึ สารชฺเชยฺยุํ. ยสฺมา จ โข, มหาลิ, รูปํ สุขํ สุขานุปติตํ สุขาวกฺกนฺตํ อนวกฺกนฺตํ ทุกฺเขน, ตสฺมา สตฺตา รูปสฺมึ สารชฺชนฺติ, สาราคา สํยุชฺชนฺติ, สํโยคา สํกิลิสฺสนฺติ. เวทนา จ หิทํ… สฺา… สงฺขารา… วิฺาณฺจ หิทํ, มหาลิ, เอกนฺตทุกฺขํ อภวิสฺส…เป… สํกิลิสฺสนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๐) อิมินา หิ มหาลิสุตฺตปริยาเยน อิธ อารมฺมณํ สุขํ ทุกฺขํ อทุกฺขมสุขนฺติ กถิตํ. อปิจ ปุริมํ สุขํ เวทนํ อารมฺมณํ กตฺวา อปรา สุขา เวทนา เวเทติ; ปุริมํ ทุกฺขํ เวทนํ อารมฺมณํ กตฺวา อปรา ทุกฺขา เวทนา เวเทติ; ปุริมํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ อารมฺมณํ กตฺวา อปรา อทุกฺขมสุขา เวทนา เวเทตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เวทนาเยว หิ เวเทติ, น อฺโ โกจิ เวทิตา นาม อตฺถีติ วุตฺตเมตํ.

สฺาสฺาติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? สพฺพสฺาย ลกฺขณํ. กึ สพฺพตฺถกสฺายาติ? สพฺพสฺาย ลกฺขณนฺติปิ สพฺพตฺถกสฺาย ลกฺขณนฺติปิ เอกเมเวตํ, เอวํ สนฺเตปิ เตภูมิกสมฺมสนจารสฺาว อธิปฺเปตาติ สลฺลกฺเขตพฺพา. นีลกมฺปิ สฺชานาตีติ นีลปุปฺเผ วา วตฺเถ วา ปริกมฺมํ กตฺวา อุปจารํ วา อปฺปนํ วา ปาเปนฺโต สฺชานาติ. อิมสฺมิฺหิ อตฺเถ ปริกมฺมสฺาปิ อุปจารสฺาปิ อปฺปนาสฺาปิ วฏฺฏติ. นีเล นีลนฺติ อุปฺปชฺชนกสฺาปิ วฏฺฏติเยว. ปีตกาทีสุปิ เอเสว นโย.

ยา จาวุโส, เวทนาติ เอตฺถ เวทนา, สฺา, วิฺาณนฺติ อิมานิ ตีณิ คเหตฺวา ปฺา กสฺมา น คหิตาติ? อสพฺพสงฺคาหิกตฺตา. ปฺาย หิ คหิตาย ปฺาย สมฺปยุตฺตาว เวทนาทโย ลพฺภนฺติ, โน วิปฺปยุตฺตา. ตํ ปน อคฺคเหตฺวา อิเมสุ คหิเตสุ ปฺาย สมฺปยุตฺตา จ วิปฺปยุตฺตา จ อนฺตมโส ทฺเว ปฺจวิฺาณธมฺมาปิ ลพฺภนฺติ. ยถา หิ ตโย ปุริสา สุตฺตํ สุตฺตนฺติ วเทยฺยุํ, จตุตฺโถ รตนาวุตสุตฺตนฺติ. เตสุ ปุริมา ตโย ตกฺกคตมฺปิ ปฏฺฏิวฏฺฏกาทิคตมฺปิ ยํกิฺจิ พหุํ สุตฺตํ ลภนฺติ อนฺตมโส มกฺกฏกสุตฺตมฺปิ. รตนาวุตสุตฺตํ ปริเยสนฺโต มนฺทํ ลภติ, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. เหฏฺโต วา ปฺา วิฺาเณน สทฺธึ สมฺปโยคํ ลภาปิตา วิสฺสฏฺตฺตาว อิธ น คหิตาติ วทนฺติ. ยํ หาวุโส, เวเทตีติ ยํ อารมฺมณํ เวทนา เวเทติ, สฺาปิ ตเทว สฺชานาติ. ยํ สฺชานาตีติ ยํ อารมฺมณํ สฺา สฺชานาติ, วิฺาณมฺปิ ตเทว วิชานาตีติ อตฺโถ.

อิทานิ สฺชานาติ วิชานาติ ปชานาตีติ เอตฺถ วิเสโส เวทิตพฺโพ. ตตฺถ อุปสคฺคมตฺตเมว วิเสโส. ชานาตีติ ปทํ ปน อวิเสโส. ตสฺสาปิ ชานนตฺเถ วิเสโส เวทิตพฺโพ. สฺา หิ นีลาทิวเสน อารมฺมณํ สฺชานนมตฺตเมว, อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ลกฺขณปฏิเวธํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ. วิฺาณํ นีลาทิวเสน อารมฺมณฺเจว สฺชานาติ, อนิจฺจาทิลกฺขณปฏิเวธฺจ ปาเปติ, อุสฺสกฺกิตฺวา ปน มคฺคปาตุภาวํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ. ปฺา นีลาทิวเสน อารมฺมณมฺปิ สฺชานาติ, อนิจฺจาทิวเสน ลกฺขณปฏิเวธมฺปิ ปาเปติ, อุสฺสกฺกิตฺวา มคฺคปาตุภาวํ ปาเปตุมฺปิ สกฺโกติ.

ยถา หิ เหรฺิกผลเก กหาปณราสิมฺหิ กเต อชาตพุทฺธิ ทารโก คามิกปุริโส มหาเหรฺิโกติ ตีสุ ชเนสุ โอโลเกตฺวา ิเตสุ อชาตพุทฺธิ ทารโก กหาปณานํ จิตฺตวิจิตฺตจตุรสฺสมณฺฑลภาวเมว ชานาติ, อิทํ มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคํ รตนสมฺมตนฺติ น ชานาติ. คามิกปุริโส จิตฺตาทิภาวฺเจว ชานาติ, มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภครตนสมฺมตภาวฺจ. ‘‘อยํ กูโฏ อยํ เฉโก อยํ กรโต อยํ สณฺโห’’ติ ปน น ชานาติ. มหาเหรฺิโก จิตฺตาทิภาวมฺปิ รตนสมฺมตภาวมฺปิ กูฏาทิภาวมฺปิ ชานาติ, ชานนฺโต จ ปน นํ รูปํ ทิสฺวาปิ ชานาติ, อาโกฏิตสฺส สทฺทํ สุตฺวาปิ, คนฺธํ ฆายิตฺวาปิ, รสํ สายิตฺวาปิ, หตฺเถน ครุกลหุกภาวํ อุปธาเรตฺวาปิ อสุกคาเม กโตติปิ ชานาติ, อสุกนิคเม อสุกนคเร อสุกปพฺพตจฺฉายาย อสุกนทีตีเร กโตติปิ, อสุกาจริเยน กโตติปิ ชานาติ. เอวเมวํ สฺา อชาตพุทฺธิทารกสฺส กหาปณทสฺสนํ วิย นีลาทิวเสน อารมฺมณมตฺตเมว สฺชานาติ. วิฺาณํ คามิกปุริสสฺส กหาปณทสฺสนํ วิย นีลาทิวเสน อารมฺมณมฺปิ สฺชานาติ, อนิจฺจาทิวเสน ลกฺขณปฏิเวธมฺปิ ปาเปติ. ปฺา มหาเหรฺิกสฺส กหาปณทสฺสนํ วิย นีลาทิวเสน อารมฺมณมฺปิ สฺชานาติ, อนิจฺจาทิวเสน ลกฺขณปฏิเวธมฺปิ ปาเปติ, อุสฺสกฺกิตฺวา มคฺคปาตุภาวมฺปิ ปาเปติ. โส ปน เนสํ วิเสโส ทุปฺปฏิวิชฺโฌ.

เตนาห อายสฺมา นาคเสโน – ‘‘ทุกฺกรํ, มหาราช, ภควตา กตนฺติ. กึ, ภนฺเต, นาคเสน ภควตา ทุกฺกรํ กตนฺติ? ทุกฺกรํ, มหาราช, ภควตา กตํ, อิเมสํ อรูปีนํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ เอการมฺมเณ ปวตฺตมานานํ ววตฺถานํ อกฺขาตํ, อยํ ผสฺโส, อยํ เวทนา, อยํ สฺา, อยํ เจตนา, อิทํ จิตฺต’’นฺติ (มิ. ป. ๒.๗.๑๖). ยถา หิ ติลเตลํ, สาสปเตลํ, มธุกเตลํ, เอรณฺฑกเตลํ, วสาเตลนฺติ อิมานิ ปฺจ เตลานิ เอกจาฏิยํ ปกฺขิปิตฺวา ทิวสํ ยมกมนฺเถหิ มนฺเถตฺวา ตโต อิทํ ติลเตลํ, อิทํ สาสปเตลนฺติ เอเกกสฺส ปาฏิเยกฺกํ อุทฺธรณํ นาม ทุกฺกรํ, อิทํ ตโต ทุกฺกรตรํ. ภควา ปน สพฺพฺุตฺาณสฺส สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ธมฺมิสฺสโร ธมฺมราชา อิเมสํ อรูปีนํ ธมฺมานํ เอการมฺมเณ ปวตฺตมานานํ ววตฺถานํ อกฺขาสิ. ปฺจนฺนํ มหานทีนํ สมุทฺทํ ปวิฏฺฏฺาเน, ‘‘อิทํ คงฺคาย อุทกํ, อิทํ ยมุนายา’’ติ เอวํ ปาฏิเยกฺกํ อุทกอุทฺธรเณนาปิ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๔๕๑. นิสฺสฏฺเนาติ นิสฺสเฏน ปริจฺจตฺเตน วา. ตตฺถ นิสฺสเฏนาติ อตฺเถ สติ ปฺจหิ อินฺทฺริเยหีติ นิสฺสกฺกวจนํ. ปริจฺจตฺเตนาติ อตฺเถ สติ กรณวจนํ เวทิตพฺพํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปฺจหิ อินฺทฺริเยหิ นิสฺสริตฺวา มโนทฺวาเร ปวตฺเตน ปฺจหิ วา อินฺทฺริเยหิ ตสฺส วตฺถุภาวํ อนุปคมนตาย ปริจฺจตฺเตนาติ. ปริสุทฺเธนาติ นิรุปกฺกิเลเสน. มโนวิฺาเณนาติ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานจิตฺเตน. กึ เนยฺยนฺติ กึ ชานิตพฺพํ. ‘‘ยํกิฺจิ เนยฺยํ นาม อตฺถิ ธมฺม’’นฺติอาทีสุ (มหานิ. ๖๙) หิ ชานิตพฺพํ เนยฺยนฺติ วุตฺตํ. อากาสานฺจายตนํ เนยฺยนฺติ กถํ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานจิตฺเตน อรูปาวจรสมาปตฺติ เนยฺยาติ? รูปาวจรจตุตฺถชฺฌาเน ิเตน อรูปาวจรสมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตตุํ สกฺกา โหติ. เอตฺถ ิตสฺส หิ สา อิชฺฌติ. ตสฺมา ‘‘อากาสานฺจายตนํ เนยฺย’’นฺติอาทิมาห. อถ เนวสฺานาสฺายตนํ กสฺมา น วุตฺตนฺติ? ปาฏิเยกฺกํ อภินิเวสาภาวโต. ตตฺถ หิ กลาปโต นยโต สมฺมสนํ ลพฺภติ, ธมฺมเสนาปติสทิสสฺสาปิ หิ ภิกฺขุโน ปาฏิเยกฺกํ อภินิเวโส น ชายติ. ตสฺมา เถโรปิ, ‘‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๙๔) กลาปโต นยโต สมฺมสิตฺวา วิสฺสชฺเชสีติ. ภควา ปน สพฺพฺุตฺาณสฺส หตฺถคตตฺตา เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยมฺปิ ปโรปฺาส ธมฺเม ปาฏิเยกฺกํ อํคุทฺธาเรเนว อุทฺธริตฺวา, ‘‘ยาวตา สฺาสมาปตฺติโย, ตาวตา อฺาปฏิเวโธ’’ติ อาห.

ปฺาจกฺขุนา ปชานาตีติ ทสฺสนปริณายกฏฺเน จกฺขุภูตาย ปฺาย ปชานาติ. ตตฺถ ทฺเว ปฺา สมาธิปฺา วิปสฺสนาปฺา จ. สมาธิปฺาย กิจฺจโต อสมฺโมหโต จ ปชานาติ. วิปสฺสนาปฺาย ลกฺขณปฏิเวเธน อารมฺมณโต ชานนํ กถิตํ. กิมตฺถิยาติ โก เอติสฺสา อตฺโถ. อภิฺตฺถาติอาทีสุ อภิฺเยฺเย ธมฺเม อภิชานาตีติ อภิฺตฺถา. ปริฺเยฺเย ธมฺเม ปริชานาตีติ ปริฺตฺถา. ปหาตพฺเพ ธมฺเม ปชหตีติ ปหานตฺถา. สา ปเนสา โลกิยาปิ อภิฺตฺถา จ ปริฺตฺถา จ วิกฺขมฺภนโต ปหานตฺถา. โลกุตฺตราปิ อภิฺตฺถา จ ปริฺตฺถา จ สมุจฺเฉทโต ปหานตฺถา. ตตฺถ โลกิยา กิจฺจโต อสมฺโมหโต จ ปชานาติ, โลกุตฺตรา อสมฺโมหโต.

๔๕๒. สมฺมาทิฏฺิยา อุปฺปาทายาติ วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิยา จ มคฺคสมฺมาทิฏฺิยา จ. ปรโต จ โฆโสติ สปฺปายธมฺมสฺสวนํ. โยนิโส จ มนสิกาโรติ อตฺตโน อุปายมนสิกาโร. ตตฺถ สาวเกสุ อปิ ธมฺมเสนาปติโน ทฺเว ปจฺจยา ลทฺธุํ วฏฺฏนฺติเยว. เถโร หิ กปฺปสตสหสฺสาธิกํ เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ ปารมิโย ปูเรตฺวาปิ อตฺตโน ธมฺมตาย อณุมตฺตมฺปิ กิเลสํ ปชหิตุํ นาสกฺขิ. ‘‘เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา’’ติ (มหาว. ๖๐) อสฺสชิตฺเถรโต อิมํ คาถํ สุตฺวาวสฺส ปฏิเวโธ ชาโต. ปจฺเจกพุทฺธานํ ปน สพฺพฺุพุทฺธานฺจ ปรโตโฆสกมฺมํ นตฺถิ, โยนิโสมนสิการสฺมึเยว ตฺวา ปจฺเจกโพธิฺจ สพฺพฺุตฺาณฺจ นิพฺพตฺเตนฺติ.

อนุคฺคหิตาติ ลทฺธูปการา. สมฺมาทิฏฺีติ อรหตฺตมคฺคสมฺมาทิฏฺิ. ผลกฺขเณ นิพฺพตฺตา เจโตวิมุตฺติ ผลํ อสฺสาติ เจโตวิมุตฺติผลา. ตเทว เจโตวิมุตฺติสงฺขาตํ ผลํ อานิสํโส อสฺสาติ เจโตวิมุตฺติผลานิสํสา. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ จตุตฺถผลปฺา ปฺาวิมุตฺติ นาม, อวเสสา ธมฺมา เจโตวิมุตฺตีติ เวทิตพฺพา. สีลานุคฺคหิตาติอาทีสุ สีลนฺติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. สุตนฺติ สปฺปายธมฺมสฺสวนํ. สากจฺฉาติ กมฺมฏฺาเน ขลนปกฺขลนจฺเฉทนกถา. สมโถติ วิปสฺสนาปาทิกา อฏฺ สมาปตฺติโย. วิปสฺสนาติ สตฺตวิธา อนุปสฺสนา. จตุปาริสุทฺธิสีลฺหิ ปูเรนฺตสฺส, สปฺปายธมฺมสฺสวนํ สุณนฺตสฺส, กมฺมฏฺาเน ขลนปกฺขลนํ ฉินฺทนฺตสฺส, วิปสฺสนาปาทิกาสุ อฏฺสมาปตฺตีสุ กมฺมํ กโรนฺตสฺส, สตฺตวิธํ อนุปสฺสนํ ภาเวนฺตสฺส อรหตฺตมคฺโค อุปฺปชฺชิตฺวา ผลํ เทติ.

ยถา หิ มธุรํ อมฺพปกฺกํ ปริภุฺชิตุกาโม อมฺพโปตกสฺส สมนฺตา อุทกโกฏฺกํ ถิรํ กตฺวา พนฺธติ. ฆฏํ คเหตฺวา กาเลน กาลํ อุทกํ อาสิฺจติ. อุทกสฺส อนิกฺขมนตฺถํ มริยาทํ ถิรํ กโรติ. ยา โหติ สมีเป วลฺลิ วา สุกฺขทณฺฑโก วา กิปิลฺลิกปุโฏ วา มกฺกฏกชาลํ วา, ตํ อปเนติ. ขณิตฺตึ คเหตฺวา กาเลน กาลํ มูลานิ ปริขณติ. เอวมสฺส อปฺปมตฺตสฺส อิมานิ ปฺจ การณานิ กโรโต โส อมฺโพ วฑฺฒิตฺวา ผลํ เทติ. เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. รุกฺขสฺส สมนฺตโต โกฏฺกพนฺธนํ วิย หิ สีลํ ทฏฺพฺพํ, กาเลน กาลํ อุทกสิฺจนํ วิย ธมฺมสฺสวนํ, มริยาทาย ถิรภาวกรณํ วิย สมโถ, สมีเป วลฺลิอาทีนํ หรณํ วิย กมฺมฏฺาเน ขลนปกฺขลนจฺเฉทนํ, กาเลน กาลํ ขณิตฺตึ คเหตฺวา มูลขณนํ วิย สตฺตนฺนํ อนุปสฺสนานํ ภาวนา. เตหิ ปฺจหิ การเณหิ อนุคฺคหิตสฺส อมฺพรุกฺขสฺส มธุรผลทานกาโล วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน อิเมหิ ปฺจหิ ธมฺเมหิ อนุคฺคหิตาย สมฺมาทิฏฺิยา อรหตฺตผลทานํ เวทิตพฺพํ.

๔๕๓. กติปนาวุโส, ภวาติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? มูลเมว คโต อนุสนฺธิ, ทุปฺปฺโ เยหิ ภเวหิ น อุฏฺาติ, เต ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. ตตฺถ กามภโวติ กามภวูปคํ กมฺมํ กมฺมาภินิพฺพตฺตา อุปาทินฺนกฺขนฺธาปีติ อุภยเมกโต กตฺวา กามภโวติ อาห. รูปารูปภเวสุปิ เอเสว นโย. อายตินฺติ อนาคเต. ปุนพฺภวสฺส อภินิพฺพตฺตีติ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ. อิธ วฏฺฏํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. ตตฺราตตฺราภินนฺทนาติ รูปาภินนฺทนา สทฺทาภินนฺทนาติ เอวํ ตหึ ตหึ อภินนฺทนา, กรณวจเน เจตํ ปจฺจตฺตํ. ตตฺรตตฺราภินนฺทนาย ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ โหตีติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา หิ คมนํ โหติ, อาคมนํ โหติ, คมนาคมนํ โหติ, วฏฺฏํ วตฺตตีติ วฏฺฏํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทสฺเสสิ. อิทานิ วิวฏฺฏํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘กถํ ปนาวุโส’’ติอาทิมาห. ตสฺส วิสฺสชฺชเน อวิชฺชาวิราคาติ อวิชฺชาย ขยนิโรเธน. วิชฺชุปฺปาทาติ อรหตฺตมคฺควิชฺชาย อุปฺปาเทน. กึ อวิชฺชา ปุพฺเพ นิรุทฺธา, อถ วิชฺชา ปุพฺเพ อุปฺปนฺนาติ? อุภยเมตํ น วตฺตพฺพํ. ปทีปุชฺชลเนน อนฺธการวิคโม วิย วิชฺชุปฺปาเทน อวิชฺชา นิรุทฺธาว โหติ. ตณฺหานิโรธาติ ตณฺหาย ขยนิโรเธน. ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ น โหตีติ เอวํ อายตึ ปุนพฺภวสฺส อภินิพฺพตฺติ น โหติ, คมนํ อาคมนํ คมนาคมนํ อุปจฺฉิชฺชติ, วฏฺฏํ น วตฺตตีติ วิวฏฺฏํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทสฺเสสิ.

๔๕๔. กตมํ ปนาวุโสติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? อุภโตภาควิมุตฺโต ภิกฺขุ กาเลน กาลํ นิโรธํ สมาปชฺชติ. ตสฺส นิโรธปาทกํ ปมชฺฌานํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. ปมํ ฌานนฺติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? นิโรธํ สมาปชฺชนเกน ภิกฺขุนา องฺคววตฺถานํ โกฏฺาสปริจฺเฉโท นาม ชานิตพฺโพ, อิทํ ฌานํ ปฺจงฺคิกํ จตุรงฺคิกํ ติวงฺคิกํ ทุวงฺคิกนฺติ องฺคววตฺถานํ โกฏฺาสปริจฺเฉทํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. วิตกฺโกติอาทีสุ ปน อภินิโรปนลกฺขโณ วิตกฺโก, อนุมชฺชนลกฺขโณ วิจาโร, ผรณลกฺขณา ปีติ, สาตลกฺขณํ สุขํ, อวิกฺเขปลกฺขณา จิตฺเตกคฺคตาติ อิเม ปฺจ ธมฺมา วตฺตนฺติ. กตงฺควิปฺปหีนนฺติ อิธ ปน กึ ปุจฺฉติ? นิโรธํ สมาปชฺชนเกน ภิกฺขุนา อุปการานุปการานิ องฺคานิ ชานิตพฺพานิ, ตานิ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ, วิสฺสชฺชนํ ปเนตฺถ ปากฏเมว. อิติ เหฏฺา นิโรธปาทกํ ปมชฺฌานํ คหิตํ, อุปริ ตสฺส อนนฺตรปจฺจยํ เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ปุจฺฉิสฺสติ. อนฺตรา ปน ฉ สมาปตฺติโย สํขิตฺตา, นยํ วา ทสฺเสตฺวา วิสฺสฏฺาติ เวทิตพฺพา.

๔๕๕. อิทานิ วิฺาณนิสฺสเย ปฺจ ปสาเท ปุจฺฉนฺโต ปฺจิมานิ, อาวุโสติอาทิมาห. ตตฺถ โคจรวิสยนฺติ โคจรภูตํ วิสยํ. อฺมฺสฺสาติ จกฺขุ โสตสฺส โสตํ วา จกฺขุสฺสาติ เอวํ เอเกกสฺส โคจรวิสยํ น ปจฺจนุโภติ. สเจ หิ นีลาทิเภทํ รูปารมฺมณํ สโมธาเนตฺวา โสตินฺทฺริยสฺส อุปเนยฺย, ‘‘อิงฺฆ ตาว นํ ววตฺถเปหิ วิภาเวหิ, กึ นาเมตํ อารมฺมณ’’นฺติ. จกฺขุวิฺาณฺหิ วินาปิ มุเขน อตฺตโน ธมฺมตาย เอวํ วเทยฺย – ‘‘อเร อนฺธพาล , วสฺสสตมฺปิ วสฺสสหสฺสมฺปิ ปริธาวมาโน อฺตฺร มยา กุหึ เอตสฺส ชานนกํ ลภิสฺสสิ, อาหร นํ จกฺขุปสาเท อุปเนหิ, อหเมตํ อารมฺมณํ ชานิสฺสามิ, ยทิ วา นีลํ ยทิ วา ปีตกํ, น หิ เอโส อฺสฺส วิสโย, มยฺเหเวโส วิสโย’’ติ. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย. เอวเมตานิ อฺมฺสฺส โคจรํ วิสยํ น ปจฺจนุโภนฺติ นาม. กึ ปฏิสรณนฺติ เอเตสํ กึ ปฏิสรณํ, กึ เอตานิ ปฏิสรนฺตีติ ปุจฺฉติ. มโน ปฏิสรณนฺติ ชวนมโน ปฏิสรณํ. มโน จ เนสนฺติ มโนทฺวาริกชวนมโน วา ปฺจทฺวาริกชวนมโน วา เอเตสํ โคจรวิสยํ รชฺชนาทิวเสน อนุโภติ. จกฺขุวิฺาณฺหิ รูปทสฺสนมตฺตเมว, เอตฺถ รชฺชนํ วา ทุสฺสนํ วา มุยฺหนํ วา นตฺถิ. เอตสฺมึ ปน ทฺวาเร ชวนํ รชฺชติ วา ทุสฺสติ วา มุยฺหติ วา. โสตวิฺาณาทีสุปิ เอเสว นโย.

ตตฺรายํ อุปมา – ปฺจ กิร ทุพฺพลโภชกา ราชานํ เสวิตฺวา กิจฺเฉน กสิเรน เอกสฺมึ ปฺจกุลิเก คาเม ปริตฺตกํ อายํ ลภึสุ. เตสํ ตตฺถ มจฺฉภาโค มํสภาโค ยุตฺติกหาปโณ วา, พนฺธกหาปโณ วา, มาปหารกหาปโณ วา, อฏฺกหาปโณ วา, โสฬสกหาปโณ วา, พาตฺตึสกหาปโณ วา, จตุสฏฺิกหาปโณ วา, ทณฺโฑติ เอตฺตกมตฺตเมว ปาปุณาติ. สตวตฺถุกํ ปฺจสตวตฺถุกํ สหสฺสวตฺถุกํ มหาพลึ ราชาว คณฺหาติ. ตตฺถ ปฺจกุลิกคาโม วิย ปฺจ ปสาทา ทฏฺพฺพา; ปฺจ ทุพฺพลโภชกา วิย ปฺจ วิฺาณานิ; ราชา วิย ชวนํ; ทุพฺพลโภชกานํ ปริตฺตกํ อายปาปุณนํ วิย จกฺขุวิฺาณาทีนํ รูปทสฺสนาทิมตฺตํ. รชฺชนาทีนิ ปน เอเตสุ นตฺถิ. รฺโ มหาพลิคฺคหณํ วิย เตสุ ทฺวาเรสุ ชวนสฺส รชฺชนาทีนิ เวทิตพฺพานิ.

๔๕๖. ปฺจิมานิ, อาวุโสติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? อนฺโตนิโรธสฺมึ ปฺจ ปสาเท. กิริยมยปวตฺตสฺมิฺหิ วตฺตมาเน อรูปธมฺมา ปสาทานํ พลวปจฺจยา โหนฺติ. โย ปน ตํ ปวตฺตํ นิโรเธตฺวา นิโรธสมาปตฺตึ สมาปนฺโน, ตสฺส อนฺโตนิโรเธ ปฺจ ปสาทา กึ ปฏิจฺจ ติฏฺนฺตีติ อิทํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. อายุํ ปฏิจฺจาติ ชีวิตินฺทฺริยํ ปฏิจฺจ ติฏฺนฺติ . อุสฺมํ ปฏิจฺจาติ ชีวิตินฺทฺริยํ กมฺมชเตชํ ปฏิจฺจ ติฏฺติ. ยสฺมา ปน กมฺมชเตโชปิ ชีวิตินฺทฺริเยน วินา น ติฏฺติ, ตสฺมา ‘‘อุสฺมา อายุํ ปฏิจฺจ ติฏฺตี’’ติ อาห. ฌายโตติ ชลโต. อจฺจึ ปฏิจฺจาติ ชาลสิขํ ปฏิจฺจ. อาภา ปฺายตีติ อาโลโก นาม ปฺายติ. อาภํ ปฏิจฺจ อจฺจีติ ตํ อาโลกํ ปฏิจฺจ ชาลสิขา ปฺายติ.

เอวเมว โข, อาวุโส, อายุ อุสฺมํ ปฏิจฺจ ติฏฺตีติ เอตฺถ ชาลสิขา วิย กมฺมชเตโช. อาโลโก วิย ชีวิตินฺทฺริยํ. ชาลสิขา หิ อุปฺปชฺชมานา อาโลกํ คเหตฺวาว อุปฺปชฺชติ. สา เตน อตฺตนา ชนิตอาโลเกเนว สยมฺปิ อณุ ถูลา ทีฆา รสฺสาติ ปากฏา โหติ. ตตฺถ ชาลปวตฺติยา ชนิตอาโลเกน ตสฺสาเยว ชาลปวตฺติยา ปากฏภาโว วิย อุสฺมํ ปฏิจฺจ นิพฺพตฺเตน กมฺมชมหาภูตสมฺภเวน ชีวิตินฺทฺริเยน อุสฺมาย อนุปาลนํ. ชีวิตินฺทฺริยฺหิ ทสปิ วสฺสานิ…เป… วสฺสสตมฺปิ กมฺมชเตชปวตฺตํ ปาเลติ. อิติ มหาภูตานิ อุปาทารูปานํ นิสฺสยปจฺจยาทิวเสน ปจฺจยานิ โหนฺตีติ อายุ อุสฺมํ ปฏิจฺจ ติฏฺติ. ชีวิตินฺทฺริยํ มหาภูตานิ ปาเลตีติ อุสฺมา อายุํ ปฏิจฺจ ติฏฺตีติ เวทิตพฺพา.

๔๕๗. อายุสงฺขาราติ อายุเมว. เวทนิยา ธมฺมาติ เวทนา ธมฺมาว. วุฏฺานํ ปฺายตีติ สมาปตฺติโต วุฏฺานํ ปฺายติ. โย หิ ภิกฺขุ อรูปปวตฺเต อุกฺกณฺิตฺวา สฺฺจ เวทนฺจ นิโรเธตฺวา นิโรธํ สมาปนฺโน, ตสฺส ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสน รูปชีวิตินฺทฺริยปจฺจยา อรูปธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ. เอวํ ปน รูปารูปปวตฺตํ ปวตฺตติ. ยถา กึ? ยถา เอโก ปุริโส ชาลาปวตฺเต อุกฺขณฺิโต อุทเกน ปหริตฺวา ชาลํ อปฺปวตฺตํ กตฺวา ฉาริกาย องฺคาเร ปิธาย ตุณฺหี นิสีทติ. ยทา ปนสฺส ปุน ชาลาย อตฺโถ โหติ, ฉาริกํ อปเนตฺวา องฺคาเร ปริวตฺเตตฺวา อุปาทานํ ทตฺวา มุขวาตํ วา ตาลวณฺฏวาตํ วา ททาติ. อถ ชาลาปวตฺตํ ปุน ปวตฺตติ. เอวเมว ชาลาปวตฺตํ วิย อรูปธมฺมา. ปุริสสฺส ชาลาปวตฺเต อุกฺกณฺิตฺวา อุทกปฺปหาเรน ชาลํ อปฺปวตฺตํ กตฺวา ฉาริกาย องฺคาเร ปิธาย ตุณฺหีภูตสฺส นิสชฺชา วิย ภิกฺขุโน อรูปปวตฺเต อุกฺกณฺิตฺวา สฺฺจ เวทนฺจ นิโรเธตฺวา นิโรธสมาปชฺชนํ. ฉาริกาย ปิหิตองฺคารา วิย รูปชีวิตินฺทฺริยํ. ปุริสสฺส ปุน ชาลาย อตฺเถ สติ ฉาริกาปนยนาทีนิ วิย ภิกฺขุโน ยถาปริจฺฉินฺนกาลาปคมนํ. อคฺคิชาลาย ปวตฺติ วิย ปุน อรูปธมฺเมสุ อุปฺปนฺเนสุ รูปารูปปวตฺติ เวทิตพฺพา.

อายุ อุสฺมา จ วิฺาณนฺติ รูปชีวิตินฺทฺริยํ, กมฺมชเตโชธาตุ, จิตฺตนฺติ อิเม ตโย ธมฺมา ยทา อิมํ รูปกายํ ชหนฺติ, อถายํ อเจตนํ กฏฺํ วิย ปถวิยํ ฉฑฺฑิโต เสตีติ อตฺโถ. วุตฺตฺเจตํ –

‘‘อายุ อุสฺมา จ วิฺาณํ, ยทา กายํ ชหนฺติมํ;

อปวิทฺโธ ตทา เสติ, ปรภตฺตํ อเจตน’’นฺติ. (สํ. นิ. ๓.๙๕);

กายสงฺขาราติ อสฺสาสปสฺสาสา. วจีสงฺขาราติ วิตกฺกวิจารา. จิตฺตสงฺขาราติ สฺาเวทนา. อายูติ รูปชีวิตินฺทฺริยํ. ปริภินฺนานีติ อุปหตานิ, วินฏฺานีติ อตฺโถ. ตตฺถ เกจิ ‘‘นิโรธสมาปนฺนสฺส จิตฺตสงฺขาราว นิรุทฺธา’’ติ วจนโต จิตฺตํ อนิรุทฺธํ โหติ, ตสฺมา สจิตฺตกา อยํ สมาปตฺตีติ วทนฺติ. เต วตฺตพฺพา – ‘‘วจีสงฺขาราปิสฺส นิรุทฺธา’’ติ วจนโต วาจา อนิรุทฺธา โหติ, ตสฺมา นิโรธํ สมาปนฺเนน ธมฺมมฺปิ กเถนฺเตน สชฺฌายมฺปิ กโรนฺเตน นิสีทิตพฺพํ สิยา. ‘‘โย จายํ มโต กาลงฺกโต, ตสฺสาปิ จิตฺตสงฺขารา นิรุทฺธา’’ติ วจนโต จิตฺตํ อนิรุทฺธํ ภเวยฺย, ตสฺมา กาลงฺกเต มาตาปิตโร วา อรหนฺเต วา ฌาปยนฺเตน อนนฺตริยกมฺมํ กตํ ภเวยฺย. อิติ พฺยฺชเน อภินิเวสํ อกตฺวา อาจริยานํ นเย ตฺวา อตฺโถ อุปปริกฺขิตพฺโพ. อตฺโถ หิ ปฏิสรณํ, น พฺยฺชนํ.

อินฺทฺริยานิ วิปฺปสนฺนานีติ กิริยมยปวตฺตสฺมิฺหิ วตฺตมาเน พหิทฺธา อารมฺมเณสุ ปสาเท ฆฏฺเฏนฺเตสุ อินฺทฺริยานิ กิลมนฺตานิ อุปหตานิ มกฺขิตานิ วิย โหนฺติ, วาตาทีหิ อุฏฺิเตน รเชน จตุมหาปเถ ปิตอาทาโส วิย. ยถา ปน ถวิกายํ ปกฺขิปิตฺวา มฺชูสาทีสุ ปิโต อาทาโส อนฺโตเยว วิโรจติ, เอวํ นิโรธํ สมาปนฺนสฺส ภิกฺขุโน อนฺโตนิโรเธ ปฺจ ปสาทา อติวิโรจนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อินฺทฺริยานิ วิปฺปสนฺนานี’’ติ.

๔๕๘. กติปนาวุโส, ปจฺจยาติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? นิโรธสฺส อนนฺตรปจฺจยํ เนวสฺานาสฺายตนํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. วิสฺสชฺชเน ปนสฺส สุขสฺส จ ปหานาติ จตฺตาโร อปคมนปจฺจยา กถิตา. อนิมิตฺตายาติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? นิโรธโต วุฏฺานกผลสมาปตฺตึ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. อวเสสสมาปตฺติวุฏฺานฺหิ ภวงฺเคน โหติ, นิโรธา วุฏฺานํ ปน วิปสฺสนานิสฺสนฺทาย ผลสมาปตฺติยาติ ตเมว ปุจฺฉติ. สพฺพนิมิตฺตานนฺติ รูปาทีนํ สพฺพารมฺมณานํ. อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา มนสิกาโรติ สพฺพนิมิตฺตาปคตาย นิพฺพานธาตุยา มนสิกาโร. ผลสมาปตฺติสหชาตํ มนสิการํ สนฺธายาห. อิติ เหฏฺา นิโรธปาทกํ ปมชฺฌานํ คหิตํ, นิโรธสฺส อนนฺตรปจฺจยํ เนวสฺานาสฺายตนํ คหิตํ, อิธ นิโรธโต วุฏฺานกผลสมาปตฺติ คหิตาติ.

อิมสฺมึ าเน นิโรธกถา กเถตพฺพา โหติ. สา, ‘‘ทฺวีหิ พเลหิ สมนฺนาคตตฺตา ตโย จ สงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา โสฬสหิ าณจริยาหิ นวหิ สมาธิจริยาหิ วสีภาวตาปฺา นิโรธสมาปตฺติยา าณ’’นฺติ เอวํ ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๑.๘๓) อาคตา. วิสุทฺธิมคฺเค ปนสฺสา สพฺพากาเรน วินิจฺฉยกถา กถิตา.

อิทานิ วลฺชนสมาปตฺตึ ปุจฺฉนฺโต กติ ปนาวุโส, ปจฺจยาติอาทิมาห. นิโรธโต หิ วุฏฺานกผลสมาปตฺติยา ิติ นาม น โหติ, เอกํ ทฺเว จิตฺตวารเมว ปวตฺติตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. อยฺหิ ภิกฺขุ สตฺต ทิวเส อรูปปวตฺตํ นิโรเธตฺวา นิสินฺโน นิโรธวุฏฺานกผลสมาปตฺติยํ น จิรํ ติฏฺติ. วลฺชนสมาปตฺติยํ ปน อทฺธานปริจฺเฉโทว ปมาณํ. ตสฺมา สา ิติ นาม โหติ. เตนาห – ‘‘อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ิติยา’’ติ. ตสฺสา จิรฏฺิตตฺถํ กติ ปจฺจยาติ อตฺโถ. วิสฺสชฺชเน ปนสฺสา ปุพฺเพ จ อภิสงฺขาโรติ อทฺธานปริจฺเฉโท วุตฺโต. วุฏฺานายาติ อิธ ภวงฺควุฏฺานํ ปุจฺฉติ. วิสฺสชฺชเนปิสฺสา สพฺพนิมิตฺตานฺจมนสิกาโรติ รูปาทินิมิตฺตวเสน ภวงฺคสหชาตมนสิกาโร วุตฺโต.

๔๕๙. ยา จายํ, อาวุโสติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? อิธ อฺํ อภินวํ นาม นตฺถิ. เหฏฺา กถิตธมฺเมเยว เอกโต สโมธาเนตฺวา ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ. กตฺถ ปน เต กถิตา? ‘‘นีลมฺปิ สฺชานาติ ปีตกมฺปิ, โลหิตกมฺปิ, โอทาตกมฺปิ สฺชานาตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๐) เอตสฺมิฺหิ าเน อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ กถิตา. ‘‘นตฺถิ กิฺจีติ อากิฺจฺายตนนฺติ เนยฺย’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๔๕๑) เอตฺถ อากิฺจฺํ. ‘‘ปฺาจกฺขุนา ปชานาตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๑) เอตฺถ สุฺตา. ‘‘กติ ปนาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ิติยา วุฏฺานายา’’ติ เอตฺถ อนิมิตฺตา. เอวํ เหฏฺา กถิตาว อิมสฺมึ าเน เอกโต สโมธาเนตฺวา ปุจฺฉติ. ตํ ปน ปฏิกฺขิปิตฺวา เอตา ตสฺมึ ตสฺมึ าเน นิทฺทิฏฺาวาติ วตฺวา อฺเ จตฺตาโร ธมฺมา เอกนามกา อตฺถิ. เอโก ธมฺโม จตุนามโก อตฺถิ, เอตํ ปากฏํ กตฺวา กถาเปตุํ อิธ ปุจฺฉตีติ อฏฺกถายํ สนฺนิฏฺานํ กตํ. ตสฺสา วิสฺสชฺชเน อยํ วุจฺจตาวุโส, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺตีติ อยํ ผรณอปฺปมาณตาย อปฺปมาณา นาม. อยฺหิ อปฺปมาเณ วา สตฺเต ผรติ, เอกสฺมิมฺปิ วา สตฺเต อเสเสตฺวา ผรติ.

อยํ วุจฺจตาวุโส, อากิฺจฺาติ อารมฺมณกิฺจนสฺส อภาวโต อากิฺจฺา. อตฺเตน วาติ อตฺต ภาวโปสปุคฺคลาทิสงฺขาเตน อตฺเตน สุฺํ. อตฺตนิเยน วาติ จีวราทิปริกฺขารสงฺขาเตน อตฺตนิเยน สุฺํ. อนิมิตฺตาติ ราคนิมิตฺตาทีนํ อภาเวเนว อนิมิตฺตา, อรหตฺตผลสมาปตฺตึ สนฺธายาห. นานตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จาติ พฺยฺชนมฺปิ เนสํ นานา อตฺโถปิ. ตตฺถ พฺยฺชนสฺส นานตา ปากฏาว. อตฺโถ ปน, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ ภูมนฺตรโต มหคฺคตา เอว โหติ รูปาวจรา; อารมฺมณโต สตฺต ปฺตฺติอารมฺมณา. อากิฺจฺา ภุมฺมนฺตรโต มหคฺคตา อรูปาวจรา; อารมฺมณโต น วตฺตพฺพารมฺมณา. สุฺตา ภุมฺมนฺตรโต กามาวจรา; อารมฺมณโต สงฺขารารมฺมณา. วิปสฺสนา หิ เอตฺถ สุฺตาติ อธิปฺเปตา. อนิมิตฺตา ภุมฺมนฺตรโต โลกุตฺตรา; อารมฺมณโต นิพฺพนารมฺมณา.

ราโคโข, อาวุโส, ปมาณกรโณติอาทีสุ ยถา ปพฺพตปาเท ปูติปณฺณรสอุทกํ นาม โหติ กาฬวณฺณํ; โอโลเกนฺตานํ พฺยามสตคมฺภีรํ วิย ขายติ. ยฏฺึ วา รชฺชุํ วา คเหตฺวา มินนฺตสฺส ปิฏฺิปาโทตฺถรณมตฺตมฺปิ น โหติ. เอวเมวํ ยาว ราคาทโย นุปฺปชฺชนฺติ, ตาว ปุคฺคลํ สฺชานิตุํ น สกฺกา โหนฺติ, โสตาปนฺโน วิย, สกทาคามี วิย, อนาคามี วิย จ ขายติ. ยทา ปนสฺส ราคาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, ตทา รตฺโต ทุฏฺโ มูฬฺโหติ ปฺายติ. อิติ เอเต ‘‘เอตฺตโก อย’’นฺติ ปุคฺคลสฺส ปมาณํ ทสฺเสนฺโต วิย อุปฺปชฺชนฺตีติ ปมาณกรณา นาม วุตฺตา. ยาวตา โข, อาวุโส, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติโยติ ยตฺตกา อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติโย. กิตฺตกา ปน ตา? จตฺตาโร พฺรหฺมวิหารา, จตฺตาโร มคฺคา, จตฺตาริ จ ผลานีติ ทฺวาทส. ตตฺถ พฺรหฺมวิหารา ผรณอปฺปมาณตาย อปฺปมาณา. เสสา ปมาณกรณานํ กิเลสานํ อภาเวน อปฺปมาณา. นิพฺพานมฺปิ อปฺปมาณเมว, เจโตวิมุตฺติ ปน น โหติ, ตสฺมา น คหิตํ. อกุปฺปาติ อรหตฺตผลเจโตวิมุตฺติ; สา หิ ตาสํ สพฺพเชฏฺิกา, ตสฺมา อคฺคมกฺขายตีติ วุตฺตา. ราโค โข, อาวุโส, กิฺจโนติ ราโค อุปฺปชฺชิตฺวา ปุคฺคลํ กิฺจติ มทฺทติ ปลิพุนฺธติ. ตสฺมา กิฺจโนติ วุตฺโต. มนุสฺสา กิร โคเณหิ ขลํ มทฺทาเปนฺโต กิฺเจหิ กปิล, กิฺเจหิ กาฬกาติ วทนฺติ. เอวํ มทฺทนตฺโถ กิฺจนตฺโถติ เวทิตพฺโพ. โทสโมเหสุปิ เอเสว นโย. อากิฺจฺา เจโตวิมุตฺติโย นาม นว ธมฺมา อากิฺจฺายตนฺจ มคฺคผลานิ จ. ตตฺถ อากิฺจฺายตนํ กิฺจนํ อารมฺมณํ อสฺส นตฺถีติ อากิฺจฺํ. มคฺคผลานิ กิฺจนานํ มทฺทนานํ ปลิพุนฺธนกิเลสานํ นตฺถิตาย อากิฺจฺานิ. นิพฺพานมฺปิ อากิฺจฺํ, เจโตวิมุตฺติ ปน น โหติ, ตสฺมา น คหิตํ.

ราโค โข, อาวุโส, นิมิตฺตกรโณติอาทีสุ ยถา นาม ทฺวินฺนํ กุลานํ สทิสา ทฺเว วจฺฉกา โหนฺติ. ยาว เตสํ ลกฺขณํ น กตํ โหติ, ตาว ‘‘อยํ อสุกกุลสฺส วจฺฉโก, อยํ อสุกกุลสฺสา’’ติ น สกฺกา โหนฺติ ชานิตุํ. ยทา ปน เตสํ สตฺติสูลาทีสุ อฺตรํ ลกฺขณํ กตํ โหติ, ตทา สกฺกา โหนฺติ ชานิตุํ. เอวเมว ยาว ปุคฺคลสฺส ราโค นุปฺปชฺชติ, ตาว น สกฺกา โหติ ชานิตุํ อริโย วา ปุถุชฺชโน วาติ. ราโค ปนสฺส อุปฺปชฺชมาโนว สราโค นาม อยํ ปุคฺคโลติ สฺชานนนิมิตฺตํ กโรนฺโต วิย อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ‘‘นิมิตฺตกรโณ’’ติ วุตฺโต. โทสโมเหสุปิ เอเสว นโย.

อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺติ นาม เตรส ธมฺมา – วิปสฺสนา, จตฺตาโร อารุปฺปา, จตฺตาโร มคฺคา, จตฺตาริ จ ผลานีติ. ตตฺถ วิปสฺสนา นิจฺจนิมิตฺตํ สุขนิมิตฺตํ อตฺตนิมิตฺตํ อุคฺฆาเฏตีติ อนิมิตฺตา นาม. จตฺตาโร อารุปฺปา รูปนิมิตฺตสฺส อภาเวน อนิมิตฺตา นาม. มคฺคผลานิ นิมิตฺตกรณานํ กิเลสานํ อภาเวน อนิมิตฺตานิ. นิพฺพานมฺปิ อนิมิตฺตเมว, ตํ ปน เจโตวิมุตฺติ น โหติ, ตสฺมา น คหิตํ. อถ กสฺมา สุฺตา เจโตวิมุตฺติ น คหิตาติ? สา, ‘‘สุฺา ราเคนา’’ติอาทิวจนโต สพฺพตฺถ อนุปวิฏฺาว, ตสฺมา วิสุํ น คหิตา . เอกตฺถาติ อารมฺมณวเสน เอกตฺถา. อปฺปมาณํ อากิฺจฺํ สุฺตํ อนิมิตฺตนฺติ หิ สพฺพาเนตานิ นิพฺพานสฺเสว นามานิ. อิติ อิมินา ปริยาเยน เอกตฺถา. อฺสฺมึ ปน าเน อปฺปมาณา โหนฺติ, อฺสฺมึ อากิฺจฺา อฺสฺมึ สุฺตา อฺสฺมึ อนิมิตฺตาติ อิมินา ปริยาเยน นานาพฺยฺชนา. อิติ เถโร ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฏฺเปสีติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

มหาเวทลฺลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จูฬเวทลฺลสุตฺตวณฺณนา

๔๖๐. เอวํเม สุตนฺติ จูฬเวทลฺลสุตฺตํ. ตตฺถ วิสาโข อุปาสโกติ วิสาโขติ เอวํนามโก อุปาสโก. เยน ธมฺมทินฺนาติ เยน ธมฺมทินฺนา นาม ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ. โก ปนายํ วิสาโข? กา ธมฺมทินฺนา? กสฺมา อุปสงฺกมีติ? วิสาโข นาม ธมฺมทินฺนาย คิหิกาเล ฆรสามิโก. โส ยทา ภควา สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌิตฺวา ปวตฺตวรธมฺมจกฺโก ยสาทโย กุลปุตฺเต วิเนตฺวา อุรุเวลํ ปตฺวา ตตฺถ ชฏิลสหสฺสํ วิเนตฺวา ปุราณชฏิเลหิ ขีณาสวภิกฺขูหิ สทฺธึ ราชคหํ คนฺตฺวา พุทฺธทสฺสนตฺถํ ทฺวาทสนหุตาย ปริสาย สทฺธึ อาคตสฺส พิมฺพิสารมหาราชสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. ตทา รฺา สทฺธึ อาคเตสุ ทฺวาทสนหุเตสุ เอกํ นหุตํ อุปาสกตฺตํ ปฏิเวเทสิ, เอกาทส นหุตานิ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสุ สทฺธึ รฺา พิมฺพิสาเรน. อยํ อุปาสโก เตสํ อฺตโร, เตหิ สทฺธึ ปมทสฺสเนว โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาย, ปุน เอกทิวสํ ธมฺมํ สุตฺวา สกทาคามิผลํ ปตฺวา, ตโต อปรภาเคปิ เอกทิวสํ ธมฺมํ สุตฺวา อนาคามิผเล ปติฏฺิโต. โส อนาคามี หุตฺวา เคหํ อาคจฺฉนฺโต ยถา อฺเสุ ทิวเสสุ อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต สิตํ กุรุมาโน อาคจฺฉติ, เอวํ อนาคนฺตฺวา สนฺตินฺทฺริโย สนฺตมานโส หุตฺวา อคมาสิ.

ธมฺมทินฺนา สีหปฺชรํ อุคฺฆาเฏตฺวา วีถึ โอโลกยมานา ตสฺส อาคมนาการํ ทิสฺวา, ‘‘กึ นุ โข เอต’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตสฺส ปจฺจุคฺคมนํ กุรุมานา โสปานสีเส ตฺวา โอลมฺพนตฺถํ หตฺถํ ปสาเรสิ. อุปาสโก อตฺตโน หตฺถํ สมิฺเชสิ. สา ‘‘ปาตราสโภชนกาเล ชานิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. อุปาสโก ปุพฺเพ ตาย สทฺธึ เอกโต ภุฺชติ. ตํ ทิวสํ ปน ตํ อนปโลเกตฺวา โยคาวจรภิกฺขุ วิย เอกโกว ภุฺชิ. สา, ‘‘สายนฺหกาเล ชานิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. อุปาสโก ตํทิวสํ สิริคพฺภํ น ปาวิสิ, อฺํ คพฺภํ ปฏิชคฺคาเปตฺวา กปฺปิยมฺจกํ ปฺปาเปตฺวา นิปชฺชิ. อุปาสิกา, ‘‘กึ นุ ขฺวสฺส พหิทฺธา ปตฺถนา อตฺถิ, อุทาหุ เกนจิเทว ปริเภทเกน ภินฺโน, อุทาหุ มยฺเหว โกจิ โทโส อตฺถี’’ติ พลวโทมนสฺสา หุตฺวา, ‘‘เอกํ ทฺเว ทิวเส วสิตกาเล สกฺกา าตุ’’นฺติ ตสฺส อุปฏฺานํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ.

อุปาสโก, ‘‘กึ ธมฺมทินฺเน อกาเล อาคตาสี’’ติ ปุจฺฉิ. อาม อยฺยปุตฺต, อาคตามฺหิ, น ตฺวํ ยถา ปุราโณ, กึ นุ เต พหิทฺธา ปตฺถนา อตฺถีติ? นตฺถิ ธมฺมทินฺเนติ. อฺโ โกจิ ปริเภทโก อตฺถีติ? อยมฺปิ นตฺถีติ. เอวํ สนฺเต มยฺเหว โกจิ โทโส ภวิสฺสตีติ. ตุยฺหมฺปิ โทโส นตฺถีติ. อถ กสฺมา มยา สทฺธึ ยถา ปกติยา อาลาปสลฺลาปมตฺตมฺปิ น กโรถาติ? โส จินฺเตสิ – ‘‘อยํ โลกุตฺตรธมฺโม นาม ครุ ภาริโย น ปกาเสตตพฺโพ, สเจ โข ปนาหํ น กเถสฺสามิ, อยํ หทยํ ผาเลตฺวา เอตฺเถว กาลํ กเรยฺยา’’ติ ตสฺสานุคฺคหตฺถาย กเถสิ – ‘‘ธมฺมทินฺเน อหํ สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นาม อธิคโต, ตํ อธิคตสฺส เอวรูปา โลกิยกิริยา น วฏฺฏติ. ยทิ ตฺวํ อิจฺฉสิ, ตว จตฺตาลีส โกฏิโย มม จตฺตาลีส โกฏิโยติ อสีติโกฏิธนํ อตฺถิ, เอตฺถ อิสฺสรา หุตฺวา มม มาติฏฺาเน วา ภคินิฏฺาเน วา ตฺวา วส. ตยา ทินฺเนน ภตฺตปิณฺฑมตฺตเกน อหํ ยาเปสฺสามิ. อเถวํ น กโรสิ, อิเม โภเค คเหตฺวา กุลเคหํ คจฺฉ, อถาปิ เต พหิทฺธา ปตฺถนา นตฺถิ, อหํ ตํ ภคินิฏฺาเน วา ธิตุฏฺาเน วา เปตฺวา โปเสสฺสามี’’ติ.

สา จินฺเตสิ – ‘‘ปกติปุริโส เอวํ วตฺตา นาม นตฺถิ. อทฺธา เอเตน โลกุตฺตรวรธมฺโม ปฏิวิทฺโธ. โส ปน ธมฺโม กึ ปุริเสเหว ปฏิพุชฺฌิตพฺโพ, อุทาหุ มาตุคาโมปิ ปฏิวิชฺฌิตุํ สกฺโกตี’’ติ วิสาขํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข เอโส ธมฺโม ปุริเสเหว ลภิตพฺโพ, มาตุคาเมนปิ สกฺกา ลทฺธุ’’นฺติ? กึ วเทสิ ธมฺมทินฺเน, เย ปฏิปนฺนกา, เต เอตสฺส ทายาทา, ยสฺส ยสฺส อุปนิสฺสโย อตฺถิ, โส โส เอตํ ปฏิลภตีติ. เอวํ สนฺเต มยฺหํ ปพฺพชฺชํ อนุชานาถาติ. สาธุ ภทฺเท, อหมฺปิ ตํ เอตสฺมึเยว มคฺเค โยเชตุกาโม, มนํ ปน เต อชานมาโน น กเถมีติ ตาวเทว พิมฺพิสารสฺส รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ.

ราชา , ‘‘กึ, คหปติ, อกาเล อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิ. ธมฺมทินฺนา, ‘‘มหาราช, ปพฺพชิสฺสามี’’ติ วทตีติ. กึ ปนสฺส ลทฺธุํ วฏฺฏตีติ? อฺํ กิฺจิ นตฺถิ, โสวณฺณสิวิกํ เทว, ลทฺธุํ วฏฺฏติ นครฺจ ปฏิชคฺคาเปตุนฺติ. ราชา โสวณฺณสิวิกํ ทตฺวา นครํ ปฏิชคฺคาเปสิ. วิสาโข ธมฺมทินฺนํ คนฺโธทเกน นหาเปตฺวา สพฺพาลงฺกาเรหิ อลงฺการาเปตฺวา โสวณฺณสิวิกาย นิสีทาเปตฺวา าติคเณน ปริวาราเปตฺวา คนฺธปุปฺผาทีหิ ปูชยมาโน นครวาสนํ กโรนฺโต วิย ภิกฺขุนิอุปสฺสยํ คนฺตฺวา, ‘‘ธมฺมทินฺนํ ปพฺพาเชถายฺเย’’ติ อาห. ภิกฺขุนิโย ‘‘เอกํ วา ทฺเว วา โทเส สหิตุํ วฏฺฏติ คหปตี’’ติ อาหํสุ. นตฺถยฺเย โกจิ โทโส, สทฺธาย ปพฺพชตีติ. อเถกา พฺยตฺตา เถรี ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิตฺวา เกเส โอหาเรตฺวา ปพฺพาเชสิ. วิสาโข, ‘‘อภิรมยฺเย, สฺวากฺขาโต ธมฺโม’’ติ วนฺทิตฺวา ปกฺกามิ.

ตสฺสา ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย ลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชิ. เตเนว ปลิพุทฺธา สมณธมฺมํ กาตุํ โอกาสํ น ลภติ. อถาจริย-อุปชฺฌายเถริโย คเหตฺวา ชนปทํ คนฺตฺวา อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ จิตฺตรุจิตํ กมฺมฏฺานํ กถาเปตฺวา สมณธมฺมํ กาตุํ อารทฺธา, อภินีหารสมฺปนฺนตฺตา ปน นาติจิรํ กิลมิตฺถ.

อิโต ปฏฺาย หิ สตสหสฺสกปฺปมตฺถเก ปทุมุตฺตโร นาม สตฺถา โลเก อุทปาทิ. ตทา เอสา เอกสฺมึ กุเล ทาสี หุตฺวา อตฺตโน เกเส วิกฺกิณิตฺวา สุชาตตฺเถรสฺส นาม อคฺคสาวกสฺส ทานํ ทตฺวา ปตฺถนมกาสิ. สา ตาย ปตฺถนาภินีหารสมฺปตฺติยา นาติจิรํ กิลมิตฺถ, กติปาเหเนว อรหตฺตํ ปตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ เยนตฺเถน สาสเน ปพฺพชิตา, โส มตฺถกํ ปตฺโต, กึ เม ชนปทวาเสน, มยฺหํ าตกาปิ ปุฺานิ กริสฺสนฺติ, ภิกฺขุนิสงฺโฆปิ ปจฺจเยหิ น กิลมิสฺสติ, ราชคหํ คจฺฉามี’’ติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ คเหตฺวา ราชคหเมว อคมาสิ. วิสาโข, ‘‘ธมฺมทินฺนา กิร อาคตา’’ติ สุตฺวา, ‘‘ปพฺพชิตฺวา นจิรสฺเสว ชนปทํ คตา, คนฺตฺวาปิ นจิรสฺเสว ปจฺจาคตา, กึ นุ โข ภวิสฺสติ, คนฺตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ ทุติยคมเนน ภิกฺขุนิอุปสฺสยํ อคมาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข วิสาโข อุปาสโก เยน ธมฺมทินฺนา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมี’’ติ.

เอตทโวจาติ เอตํ สกฺกาโยติอาทิวจนํ อโวจ. กสฺมา อโวจาติ? เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อภิรมสิ นาภิรมสิ, อยฺเย’’ติ เอวํ ปุจฺฉนํ นาม น ปณฺฑิตกิจฺจํ, ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ อุปเนตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามิ, ปฺหพฺยากรเณน ตสฺสา อภิรตึ วา อนภิรตึ วา ชานิสฺสามีติ, ตสฺมา อโวจ. ตํ สุตฺวาว ธมฺมทินฺนา อหํ, อาวุโส วิสาข, อจิรปพฺพชิตา สกายํ วา ปรกายํ วา กุโต ชานิสฺสามีติ วา, อฺตฺเถริโย อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉาติ วา อวตฺวา อุปนิกฺขิตฺตํ สมฺปฏิจฺฉมานา วิย, เอกปาสกคณฺึ โมเจนฺตี วิย คหนฏฺาเน หตฺถิมคฺคํ นีหรมานา วิย ขคฺคมุเขน สมุคฺคํ วิวรมานา วิย จ ปฏิสมฺภิทาวิสเย ตฺวา ปฺหํ วิสฺสชฺชมานา, ปฺจ โข อิเม, อาวุโส วิสาข, อุปาทานกฺขนฺธาติอาทิมาห. ตตฺถ ปฺจาติ คณนปริจฺเฉโท. อุปาทานกฺขนฺธาติ อุปาทานานํ ปจฺจยภูตา ขนฺธาติ เอวมาทินา นเยเนตฺถ อุปาทานกฺขนฺธกถา วิตฺถาเรตฺวา กเถตพฺพา. สา ปเนสา วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตา เอวาติ ตตฺถ วิตฺตาริตนเยเนว เวทิตพฺพา. สกฺกายสมุทยาทีสุปิ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตเมว.

อิทํ ปน จตุสจฺจพฺยากรณํ สุตฺวา วิสาโข เถริยา อภิรตภาวํ อฺาสิ. โย หิ พุทฺธสาสเน อุกฺกณฺิโต โหติ อนภิรโต, โส เอวํ ปุจฺฉิตปุจฺฉิตปฺหํ สณฺฑาเสน เอเกกํ ปลิตํ คณฺหนฺโต วิย, สิเนรุปาทโต วาลุกํ อุทฺธรนฺโต วิย วิสฺสชฺเชตุํ น สกฺโกติ. ยสฺมา ปน อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ โลเก จนฺทิมสูริยา วิย พุทฺธสาสเน ปากฏานิ, ปริสมชฺเฌ คโต หิ ภควาปิ มหาเถราปิ สจฺจาเนว ปกาเสนฺติ; ภิกฺขุสงฺโฆปิ ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย กุลปุตฺเต จตฺตาริ นาม กึ, จตฺตาริ อริยสจฺจานีติ ปฺหํ อุคฺคณฺหาเปติ. อยฺจ ธมฺมทินฺนา อุปายโกสลฺเล ิตา ปณฺฑิตา พฺยตฺตา นยํ คเหตฺวา สุเตนปิ กเถตุํ สมตฺถา, ตสฺมา ‘‘น สกฺกา เอติสฺสา เอตฺตาวตา สจฺจานํ ปฏิวิทฺธภาโว าตุํ, สจฺจวินิพฺโภคปฺหพฺยากรเณน สกฺกา าตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา เหฏฺา กถิตานิ ทฺเว สจฺจานิ ปฏินิวตฺเตตฺวา คุฬฺหํ กตฺวา คณฺิปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉนฺโต ตฺเว นุ โข, อยฺเยติอาทิมาห.

ตสฺส วิสฺสชฺชเน น โข, อาวุโส วิสาข, ตฺเว อุปาทานนฺติ อุปาทานสฺส สงฺขารกฺขนฺเธกเทสภาวโต น ตํเยว อุปาทานํ เต ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, นาปิ อฺตฺร ปฺจหิ อุปาทานกฺขนฺเธหิ อุปาทานํ. ยทิ หิ ตฺเว สิยา, รูปาทิสภาวมฺปิ อุปาทานํ สิยา. ยทิ อฺตฺร สิยา, ปรสมเย จิตฺตวิปฺปยุตฺโต อนุสโย วิย ปณฺณตฺติ วิย นิพฺพานํ วิย จ ขนฺธวินิมุตฺตํ วา สิยา, ฉฏฺโ วา ขนฺโธ ปฺเปตพฺโพ ภเวยฺย, ตสฺมา เอวํ พฺยากาสิ. ตสฺสา พฺยากรณํ สุตฺวา ‘‘อธิคตปติฏฺา อย’’นฺติ วิสาโข นิฏฺมคมาสิ. น หิ สกฺกา อขีณาสเวน อสมฺพทฺเธน อวิตฺถายนฺเตน ปทีปสหสฺสํ ชาเลนฺเตน วิย เอวรูโป คุฬฺโห ปฏิจฺฉนฺโน ติลกฺขณาหโต คมฺภีโร ปฺโห วิสฺสชฺเชตุํ. นิฏฺํ คนฺตฺวา ปน, ‘‘อยํ ธมฺมทินฺนา สาสเน ลทฺธปติฏฺา อธิคตปฏิสมฺภิทา เวสารชฺชปฺปตฺตา ภวมตฺถเก ิตา มหาขีณาสวา, สมตฺถา มยฺหํ ปุจฺฉิตปฺหํ กเถตุํ, อิทานิ ปน นํ โอวตฺติกสารํ ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ ปุจฺฉนฺโต, กถํ ปนายฺเยติอาทิมาห.

๔๖๑. ตสฺส วิสฺสชฺชเน อสฺสุตวาติอาทิ มูลปริยาเย วิตฺถาริตเมว. รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ, ‘‘อิเธกจฺโจ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ. ยํ รูปํ โส อหํ, โย อหํ ตํ รูปนฺติ รูปฺจ อตฺตฺจ อทฺวยํ สมนุปสฺสติ. เสยฺยถาปิ นาม เตลปฺปทีปสฺส ฌายโต ยา อจฺจิ โส วณฺโณ, โย วณฺโณ สา อจฺจีติ อจฺจิฺจ วณฺณฺจ อทฺวยํ สมนุปสฺสติ. เอวเมว อิเธกจฺโจ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ…เป… อทฺวยํ สมนุปสฺสตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๓๑) เอวํ รูปํ อตฺตาติ ทิฏฺิปสฺสนาย ปสฺสติ. รูปวนฺตํ วา อตฺตานนฺติ อรูปํ อตฺตาติ คเหตฺวา ฉายาวนฺตํ รุกฺขํ วิย ตํ อตฺตานํ รูปวนฺตํ สมนุปสฺสติ. อตฺตนิ วา รูปนฺติ อรูปเมว อตฺตาติ คเหตฺวา ปุปฺผสฺมึ คนฺธํ วิย อตฺตนิ รูปํ สมนุปสฺสติ. รูปสฺมึ วา อตฺตานนฺติ อรูปเมว อตฺตาติ คเหตฺวา กรณฺฑาย มณึ วิย อตฺตานํ รูปสฺมึ สมนุปสฺสติ. เวทนํ อตฺตโตติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

ตตฺถ, รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ สุทฺธรูปเมว อตฺตาติ กถิตํ. รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํ. เวทนํ อตฺตโต… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ อิเมสุ สตฺตสุ าเนสุ อรูปํ อตฺตาติ กถิตํ. เวทนาวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา เวทนํ, เวทนาย วา อตฺตานนฺติ เอวํ จตูสุ ขนฺเธสุ ติณฺณํ ติณฺณํ วเสน ทฺวาทสสุ าเนสุ รูปารูปมิสฺสโก อตฺตา กถิโต. ตตฺถ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ… เวทนํ… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ อิเมสุ ปฺจสุ าเนสุ อุจฺเฉททิฏฺิ กถิตา, อวเสเสสุ สสฺสตทิฏฺีติ. เอวเมตฺถ ปนฺนรส ภวทิฏฺิโย, ปฺจ วิภวทิฏฺิโย โหนฺติ. น รูปํ อตฺตโตติ เอตฺถ รูปํ อตฺตาติ น สมนุปสฺสติ. อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ปน สมนุปสฺสติ. น รูปวนฺตํ อตฺตานํ…เป… น วิฺาณสฺมึ อตฺตานนฺติ อิเม ปฺจกฺขนฺเธ เกนจิ ปริยาเยน อตฺตโต น สมนุปสฺสติ, สพฺพากาเรน ปน อนิจฺจา ทุกฺขา อนตฺตาติ สมนุปสฺสติ.

เอตฺตาวตา เถริยา, ‘‘เอวํ โข, อาวุโส วิสาข, สกฺกายทิฏฺิ โหตี’’ติ เอวํ ปุริมปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺติยา เอตฺตเกน คมนํ โหติ, อาคมนํ โหติ, คมนาคมนํ โหติ, วฏฺฏํ วตฺตตีติ วฏฺฏํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทสฺสิตํ. เอวํ โข, อาวุโส วิสาข, สกฺกายทิฏฺิ น โหตีติ ปจฺฉิมํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺติยา เอตฺตเกน คมนํ น โหติ, อาคมนํ น โหติ, คมนาคมนํ น โหติ, วฏฺฏํ นาม น วตฺตตีติ วิวฏฺฏํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทสฺสิตํ.

๔๖๒. กตโม ปนายฺเย, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ อยํ ปฺโห เถริยา ปฏิปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺโพ ภเวยฺย – ‘‘อุปาสก, ตยา เหฏฺา มคฺโค ปุจฺฉิโต, อิธ กสฺมา มคฺคเมว ปุจฺฉสี’’ติ. สา ปน อตฺตโน พฺยตฺตตาย ปณฺฑิจฺเจน ตสฺส อธิปฺปายํ สลฺลกฺเขสิ – ‘‘อิมินา อุปาสเกน เหฏฺา ปฏิปตฺติวเสน มคฺโค ปุจฺฉิโต ภวิสฺสติ, อิธ ปน ตํ สงฺขตาสงฺขตโลกิยโลกุตฺตรสงฺคหิตาสงฺคหิตวเสน ปุจฺฉิตุกาโม ภวิสฺสตี’’ติ. ตสฺมา อปฺปฏิปุจฺฉิตฺวาว ยํ ยํ ปุจฺฉิ, ตํ ตํ วิสฺสชฺเชสิ. ตตฺถ สงฺขโตติ เจติโต กปฺปิโต ปกปฺปิโต อายูหิโต กโต นิพฺพตฺติโต สมาปชฺชนฺเตน สมาปชฺชิตพฺโพ. ตีหิ จ โข, อาวุโส วิสาข, ขนฺเธหิ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สงฺคหิโตติ เอตฺถ ยสฺมา มคฺโค สปฺปเทโส, ตโย ขนฺธา นิปฺปเทสา, ตสฺมา อยํ สปฺปเทสตฺตา นครํ วิย รชฺเชน นิปฺปเทเสหิ ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิโต. ตตฺถ สมฺมาวาจาทโย ตโย สีลเมว, ตสฺมา เต สชาติโต สีลกฺขนฺเธน สงฺคหิตาติ. กิฺจาปิ หิ ปาฬิยํ สีลกฺขนฺเธติ ภุมฺเมน วิย นิทฺเทโส กโต, อตฺโถ ปน กรณวเสน เวทิตพฺโพ. สมฺมาวายามาทีสุ ปน ตีสุ สมาธิ อตฺตโน ธมฺมตาย อารมฺมเณ เอกคฺคภาเวน อปฺเปตุํ น สกฺโกติ. วีริเย ปน ปคฺคหกิจฺจํ สาเธนฺเต สติยา จ อปิลาปนกิจฺจํ สาเธนฺติยา ลทฺธูปกาโร หุตฺวา สกฺโกติ.

ตตฺรายํ อุปมา – ยถา หิ ‘‘นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามา’’ติ อุยฺยานํ ปวิฏฺเสุ ตีสุ สหาเยสุ เอโก สุปุปฺผิตํ จมฺปกรุกฺขํ ทิสฺวา หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวาปิ คเหตุํ น สกฺกุเณยฺย. อถสฺส ทุติโย โอนมิตฺวา ปิฏฺึ ทเทยฺย, โส ตสฺส ปิฏฺิยํ ตฺวาปิ กมฺปมาโน คเหตุํ น สกฺกุเณยฺย . อถสฺส อิตโร อํสกูฏํ อุปนาเมยฺย, โส เอกสฺส ปิฏฺิยํ ตฺวา เอกสฺส อํสกูฏํ โอลุพฺภ ยถารุจิ ปุปฺผานิ โอจินิตฺวา ปิฬนฺธิตฺวา นกฺขตฺตํ กีเฬยฺย. เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. เอกโต อุยฺยานํ ปวิฏฺา ตโย สหายกา วิย หิ เอกโต ชาตา สมฺมาวายามาทโย ตโย ธมฺมา. สุปุปฺผิตจมฺปโก วิย อารมฺมณํ. หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวาปิ คเหตุํ อสกฺโกนฺโต วิย อตฺตโน ธมฺมตาย อารมฺมเณ เอกคฺคภาเวน อปฺเปตุํ อสกฺโกนฺโต สมาธิ. ปิฏฺึ ทตฺวา โอนตสหาโย วิย วายาโม. อํสกูฏํ ทตฺวา ิตสหาโย วิย สติ. ยถา เตสุ เอกสฺส ปิฏฺิยํ ตฺวา เอกสฺส อํสกูฏํ โอลุพฺภ อิตโร ยถารุจิ ปุปฺผํ คเหตุํ สกฺโกติ, เอวเมวํ วีริเย ปคฺคหกิจฺจํ สาเธนฺเต, สติยา จ อปิลาปนกิจฺจํ สาเธนฺติยา ลทฺธุปกาโร สมาธิ สกฺโกติ อารมฺมเณ เอกคฺคภาเวน อปฺเปตุํ. ตสฺมา สมาธิเยเวตฺถ สชาติโต สมาธิกฺขนฺเธน สงฺคหิโต. วายามสติโย ปน กิริยโต สงฺคหิตา โหนฺติ.

สมฺมาทิฏฺิสมฺมาสงฺกปฺเปสุปิ ปฺา อตฺตโน ธมฺมตาย อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ อารมฺมณํ นิจฺเฉตุํ น สกฺโกติ, วิตกฺเก ปน อาโกเฏตฺวา อาโกเฏตฺวา เทนฺเต สกฺโกติ. กถํ? ยถา หิ เหรฺิโก กหาปณํ หตฺเถ เปตฺวา สพฺพภาเคสุ โอโลเกตุกาโม สมาโนปิ น จกฺขุทเลเนว ปริวตฺเตตุํ สกฺโกติ, องฺคุลิปพฺเพหิ ปน ปริวตฺเตตฺวา อิโต จิโต จ โอโลเกตุํ สกฺโกติ. เอวเมว น ปฺา อตฺตโน ธมฺมตาย อนิจฺจาทิวเสน อารมฺมณํ นิจฺเฉตุํ สกฺโกติ, อภินิโรปนลกฺขเณน ปน อาหนนปริยาหนนรเสน วิตกฺเกน อาโกเฏนฺเตน วิย ปริวตฺเตนฺเตน วิย จ อาทายา ทินฺนเมว วินิจฺเฉตุํ สกฺโกติ. ตสฺมา อิธาปิ สมฺมาทิฏฺิเยว สชาติโต ปฺากฺขนฺเธน สงฺคหิตา. สมฺมาสงฺกปฺโป ปน กิริยโต สงฺคหิโต โหติ. อิติ อิเมหิ ตีหิ ขนฺเธหิ มคฺโค สงฺคหํ คจฺฉติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตีหิ จ โข, อาวุโส วิสาข, ขนฺเธหิ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สงฺคหิโต’’ติ.

อิทานิ เอกจิตฺตกฺขณิกํ มคฺคสมาธึ สนิมิตฺตํ สปริกฺขารํ ปุจฺฉนฺโต, กตโม ปนายฺเยติอาทิมาห. ตสฺส วิสฺสชฺชเน จตฺตาโร สติปฏฺานา มคฺคกฺขเณ จตุกิจฺจสาธนวเสน อุปฺปนฺนา สติ, สา สมาธิสฺส ปจฺจยตฺเถน นิมิตฺตํ. จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จตุกิจฺจสาธนวเสเนว อุปฺปนฺนํ วีริยํ, ตํ ปริวารฏฺเน ปริกฺขาโร โหติ. เตสํเยว ธมฺมานนฺติ เตสํ มคฺคสมฺปยุตฺตธมฺมานํ. อาเสวนาติอาทีสุ เอกจิตฺตกฺขณิกาเยว อาเสวนาทโย วุตฺตาติ.

วิตณฺฑวาที ปน, ‘‘เอกจิตฺตกฺขณิโก นาม มคฺโค นตฺถิ, ‘เอวํ ภาเวยฺย สตฺต วสฺสานี’ติ หิ วจนโต สตฺตปิ วสฺสานิ มคฺคภาวนา โหติ, กิเลสา ปน ลหุ ฉิชฺชนฺตา สตฺตหิ าเณหิ ฉิชฺชนฺตี’’ติ วทติ. โส ‘‘สุตฺตํ อาหรา’’ติ วตฺตพฺโพ. อทฺธา อฺํ อปสฺสนฺโต, ‘‘ยา เตสํเยว ธมฺมานํ อาเสวนา ภาวนา พหุลีกมฺม’’นฺติ อิทเมว สุตฺตํ อาหริตฺวา, ‘‘อฺเน จิตฺเตน อาเสวติ, อฺเน ภาเวติ, อฺเน พหุลีกโรตี’’ติ วกฺขติ. ตโต วตฺตพฺโพ – ‘‘กึ ปนิทํ, สุตฺตํ เนยฺยตฺถํ นีตตฺถ’’นฺติ. ตโต วกฺขติ – ‘‘นีตตฺถํ ยถา สุตฺตํ ตเถว อตฺโถ’’ติ. ตสฺส อิทํ อุตฺตรํ – เอวํ สนฺเต เอกํ จิตฺตํ อาเสวมานํ อุปฺปนฺนํ, อปรมฺปิ อาเสวมานํ, อปรมฺปิ อาเสวมานนฺติ เอวํ ทิวสมฺปิ อาเสวนาว ภวิสฺสติ, กุโต ภาวนา, กุโต พหุลีกมฺมํ? เอกํ วา ภาวยมานํ อุปฺปนฺนํ อปรมฺปิ ภาวยมานํ อปรมฺปิ ภาวยมานนฺติ เอวํ ทิวสมฺปิ ภาวนาว ภวิสฺสติ, กุโต อาเสวนา กุโต พหุลีกมฺมํ? เอกํ วา พหุลีกโรนฺตํ อุปฺปนฺนํ, อปรมฺปิ พหุลีกโรนฺตํ, อปรมฺปิ พหุลีกโรนฺตนฺติ เอวํ ทิวสมฺปิ พหุลีกมฺมเมว ภวิสฺสติ กุโต อาเสวนา, กุโต ภาวนาติ.

อถ วา เอวํ วเทยฺย – ‘‘เอเกน จิตฺเตน อาเสวติ, ทฺวีหิ ภาเวติ, ตีหิ พหุลีกโรติ. ทฺวีหิ วา อาเสวติ, ตีหิ ภาเวติ, เอเกน พหุลีกโรติ . ตีหิ วา อาเสวติ, เอเกน ภาเวติ, ทฺวีหิ พหุลีกโรตี’’ติ. โส วตฺตพฺโพ – ‘‘มา สุตฺตํ เม ลทฺธนฺติ ยํ วา ตํ วา อวจ. ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺเตน นาม อาจริยสฺส สนฺติเก วสิตฺวา พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา อตฺถรสํ วิทิตฺวา วตฺตพฺพํ โหติ. เอกจิตฺตกฺขณิกาว อยํ อาเสวนา, เอกจิตฺตกฺขณิกา ภาวนา, เอกจิตฺตกฺขณิกํ พหุลีกมฺมํ. ขยคามิโลกุตฺตรมคฺโค พหุลจิตฺตกฺขณิโก นาม นตฺถิ, ‘เอกจิตฺตกฺขณิโกเยวา’ติ สฺาเปตพฺโพ. สเจ สฺชานาติ, สฺชานาตุ, โน เจ สฺชานาติ, คจฺฉ ปาโตว วิหารํ ปวิสิตฺวา ยาคุํ ปิวาหี’’ติ อุยฺโยเชตพฺโพ.

๔๖๓. กติ ปนายฺเย สงฺขาราติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? เย สงฺขาเร นิโรเธตฺวา นิโรธํ สมาปชฺชติ, เต ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. เตเนวสฺส อธิปฺปายํ ตฺวา เถรี, ปุฺาภิสงฺขาราทีสุ อเนเกสุ สงฺขาเรสุ วิชฺชมาเนสุปิ, กายสงฺขาราทโยว อาจิกฺขนฺตี, ตโยเม, อาวุโสติอาทิมาห. ตตฺถ กายปฏิพทฺธตฺตา กาเยน สงฺขรียติ กรียติ นิพฺพตฺตียตีติ กายสงฺขาโร. วาจํ สงฺขโรติ กโรติ นิพฺพตฺเตตีติ วจีสงฺขาโร. จิตฺตปฏิพทฺธตฺตา จิตฺเตน สงฺขรียติ กรียติ นิพฺพตฺตียตีติ จิตฺตสงฺขาโร. กตโม ปนายฺเยติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? อิเม สงฺขารา อฺมฺมิสฺสา อาลุฬิตา อวิภูตา ทุทฺทีปนา. ตถา หิ, กายทฺวาเร อาทานคหณมุฺจนโจปนานิ ปาเปตฺวา อุปฺปนฺนา อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา ทฺวาทส อกุสลเจตนาติ เอวํ กุสลากุสลา วีสติ เจตนาปิ อสฺสาสปสฺสาสาปิ กายสงฺขาราตฺเวว วุจฺจนฺติ. วจีทฺวาเร หนุสํโจปนํ วจีเภทํ ปาเปตฺวา อุปฺปนฺนา วุตฺตปฺปการาว วีสติ เจตนาปิ วิตกฺกวิจาราปิ วจีสงฺขาโรตฺเวว วุจฺจนฺติ. กายวจีทฺวาเรสุ โจปนํ อปตฺตา รโห นิสินฺนสฺส จินฺตยโต อุปฺปนฺนา กุสลากุสลา เอกูนตึส เจตนาปิ สฺา จ เวทนา จาติ อิเม ทฺเว ธมฺมาปิ จิตฺตสงฺขาโรตฺเวว วุจฺจนฺติ. เอวํ อิเม สงฺขารา อฺมฺมิสฺสา อาลุฬิตา อวิภูตา ทุทฺทีปนา. เต ปากเฏ วิภูเต กตฺวา กถาเปสฺสามีติ ปุจฺฉติ.

กสฺมา ปนายฺเยติ อิธ กายสงฺขาราทินามสฺส ปทตฺถํ ปุจฺฉติ. ตสฺส วิสฺสชฺชเน กายปฺปฏิพทฺธาติ กายนิสฺสิตา, กาเย สติ โหนฺติ, อสติ น โหนฺติ. จิตฺตปฺปฏิพทฺธาติ จิตฺตนิสฺสิตา, จิตฺเต สติ โหนฺติ, อสติ น โหนฺติ.

๔๖๔. อิทานิ กึ นุ โข เอสา สฺาเวทยิตนิโรธํ วลฺเชติ, น วลฺเชติ. จิณฺณวสี วา ตตฺถ โน จิณฺณวสีติ ชานนตฺถํ ปุจฺฉนฺโต, กถํ ปนายฺเย, สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติ โหตีติอาทิมาห. ตสฺส วิสฺสชฺชเน สมาปชฺชิสฺสนฺติ วา สมาปชฺชามีติ วา ปททฺวเยน เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติกาโล กถิโต. สมาปนฺโนติ ปเทน อนฺโตนิโรโธ. ตถา ปุริเมหิ ทฺวีหิ ปเทหิ สจิตฺตกกาโล กถิโต, ปจฺฉิเมน อจิตฺตกกาโล. ปุพฺเพว ตถา จิตฺตํ ภาวิตํ โหตีติ นิโรธสมาปตฺติโต ปุพฺเพ อทฺธานปริจฺเฉทกาเลเยว, เอตฺตกํ กาลํ อจิตฺตโก ภวิสฺสามีติ อทฺธานปริจฺเฉทจิตฺตํ ภาวิตํ โหติ. ยํ ตํ ตถตฺตาย อุปเนตีติ ยํ เอวํ ภาวิตํ จิตฺตํ, ตํ ปุคฺคลํ ตถตฺตาย อจิตฺตกภาวาย อุปเนติ.

ปมํ นิรุชฺฌติ วจีสงฺขาโรติ เสสสงฺขาเรหิ ปมํ ทุติยชฺฌาเนเยว นิรุชฺฌติ. ตโต กายสงฺขาโรติ ตโต ปรํ กายสงฺขาโร จตุตฺถชฺฌาเน นิรุชฺฌติ. ตโต จิตฺตสงฺขาโรติ ตโต ปรํ จิตฺตสงฺขาโร อนฺโตนิโรเธ นิรุชฺฌติ. วุฏฺหิสฺสนฺติ วา วุฏฺหามีติ วา ปททฺวเยน อนฺโตนิโรธกาโล กถิโต. วุฏฺิโตติ ปเทน ผลสมาปตฺติกาโล. ตถา ปุริเมหิ ทฺวีหิ ปเทหิ อจิตฺตกกาโล กถิโต, ปจฺฉิเมน สจิตฺตกกาโล. ปุพฺเพว ตถา จิตฺตํ ภาวิตํ โหตีติ นิโรธสมาปตฺติโต ปุพฺเพ อทฺธานปริจฺเฉทกาเลเยว เอตฺตกํ กาลํ อจิตฺตโก หุตฺวา ตโต ปรํ สจิตฺตโก ภวิสฺสามีติ อทฺธานปริจฺเฉทจิตฺตํ ภาวิตํ โหติ. ยํ ตํ ตถตฺตาย อุปเนตีติ ยํ เอวํ ภาวิตํ จิตฺตํ, ตํ ปุคฺคลํ ตถตฺตาย สจิตฺตกภาวาย อุปเนติ. อิติ เหฏฺา นิโรธสมาปชฺชนกาโล คหิโต, อิธ นิโรธโต วุฏฺานกาโล.

อิทานิ นิโรธกถํ กเถตุํ วาโรติ นิโรธกถา กเถตพฺพา สิยา, สา ปเนสา, ‘‘ทฺวีหิ พเลหิ สมนฺนาคตตฺตา ตโย จ สงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา โสฬสหิ าณจริยาหิ นวหิ สมาธิจริยาหิ วสีภาวตาปฺา นิโรธสมาปตฺติยา าณ’’นฺติ มาติกํ เปตฺวา สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค กถิตา. ตสฺมา ตตฺถ กถิตนเยเนว คเหตพฺพา . โก ปนายํ นิโรโธ นาม? จตุนฺนํ ขนฺธานํ ปฏิสงฺขา อปฺปวตฺติ. อถ กิมตฺถเมตํ สมาปชฺชนฺตีติ. สงฺขารานํ ปวตฺเต อุกฺกณฺิตา สตฺตาหํ อจิตฺตกา หุตฺวา สุขํ วิหริสฺสาม, ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ นาเมตํ, ยทิทํ นิโรโธติ เอตทตฺถํ สมาปชฺชนฺติ.

ปมํ อุปฺปชฺชติ จิตฺตสงฺขาโรติ นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส หิ ผลสมาปตฺติจิตฺตํ ปมํ อุปฺปชฺชติ. ตํสมฺปยุตฺตํ สฺฺจ เวทนฺจ สนฺธาย, ‘‘ปมํ อุปฺปชฺชติ จิตฺตสงฺขาโร’’ติ อาห. ตโต กายสงฺขาโรติ ตโต ปรํ ภวงฺคสมเย กายสงฺขาโร อุปฺปชฺชติ. กึ ปน ผลสมาปตฺติ อสฺสาสปสฺสาเส น สมุฏฺาเปตีติ? สมุฏฺาเปติ. อิมสฺส ปน จตุตฺถชฺฌานิกา ผลสมาปตฺติ, สา น สมุฏฺาเปติ. กึ วา เอเตน ผลสมาปตฺติ ปมชฺฌานิกา วา โหตุ, ทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานิกา วา, สนฺตาย สมาปตฺติยา วุฏฺิตสฺส ภิกฺขุโน อสฺสาสปสฺสาสา อพฺโพหาริกา โหนฺติ. เตสํ อพฺโพหาริกภาโว สฺชีวตฺเถรวตฺถุนา เวทิตพฺโพ. สฺชีวตฺเถรสฺส หิ สมาปตฺติโต วุฏฺาย กึสุกปุปฺผสทิเส วีตจฺจิตงฺคาเร มทฺทมานสฺส คจฺฉโต จีวเร อํสุมตฺตมฺปิ น ฌายิ, อุสุมาการมตฺตมฺปิ นาโหสิ, สมาปตฺติผลํ นาเมตนฺติ วทนฺติ. เอวเมวํ สนฺตาย สมาปตฺติยา วุฏฺิตสฺส ภิกฺขุโน อสฺสาสปสฺสาสา อพฺโพหาริกา โหนฺตีติ ภวงฺคสมเยเนเวตํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ตโต วจีสงฺขาโรติ ตโต ปรํ กิริยมยปวตฺตวฬฺชนกาเล วจีสงฺขาโร อุปฺปชฺชติ. กึ ภวงฺคํ วิตกฺกวิจาเร น สมุฏฺาเปตีติ? สมุฏฺาเปติ. ตํสมุฏฺานา ปน วิตกฺกวิจารา วาจํ อภิสงฺขาตุํ น สกฺโกนฺตีติ กิริยมยปวตฺตวฬฺชนกาเลเนวตํ กถิตํ. สุฺโต ผสฺโสติอาทโย สคุเณนาปิ อารมฺมเณนาปิ กเถตพฺพา. สคุเณน ตาว สุฺตา นาม ผลสมาปตฺติ, ตาย สหชาตํ ผสฺสํ สนฺธาย สุฺโต ผสฺโสติ วุตฺตํ. อนิมิตฺตาปณิหิเตสุปิเอเสว นโย. อารมฺมเณน ปน นิพฺพานํ ราคาทีหิ สุฺตฺตา สุฺํ นาม, ราคนิมิตฺตาทีนํ อภาวา อนิมิตฺตํ, ราคโทสโมหปฺปณิธีนํ อภาวา อปฺปณิหิตํ. สุฺตํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนผลสมาปตฺติยํ ผสฺโส สุฺโต นาม. อนิมิตฺตาปณิหิเตสุปิ เอเสว นโย.

อปรา อาคมนิยกถา นาม โหติ, สุฺตา, อนิมิตฺตา, อปฺปณิหิตาติ หิ วิปสฺสนาปิ วุจฺจติ. ตตฺถ โย ภิกฺขุ สงฺขาเร อนิจฺจโต ปริคฺคเหตฺวา อนิจฺจโต ทิสฺวา อนิจฺจโต วุฏฺาติ, ตสฺส วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา อนิมิตฺตา นาม โหติ. โย ทุกฺขโต ปริคฺคเหตฺวา ทุกฺขโต ทิสฺวา ทุกฺขโต วุฏฺาติ, ตสฺส อปฺปณิหิตา นาม. โย อนตฺตโต ปริคฺคเหตฺวา อนตฺตโต ทิสฺวา อนตฺตโต วุฏฺาติ, ตสฺส สุฺตา นาม. ตตฺถ อนิมิตฺตวิปสฺสนาย มคฺโค อนิมิตฺโต นาม, อนิมิตฺตมคฺคสฺส ผลํ อนิมิตฺตํ นาม. อนิมิตฺตผลสมาปตฺติสหชาเต ผสฺเส ผุสนฺเต อนิมิตฺโต ผสฺโส ผุสตีติ วุจฺจติ. อปฺปณิหิตสุฺเตสุปิ เอเสว นโย. อาคมนิเยน กถิเต ปน สุฺโต วา ผสฺโส อนิมิตฺโต วา ผสฺโส อปฺปณิหิโต วา ผสฺโสติ วิกปฺโป อาปชฺเชยฺย, ตสฺมา สคุเณน เจว อารมฺมเณน จ กเถตพฺพํ. เอวฺหิ ตโย ผสฺสา ผุสนฺตีติ สเมติ.

วิเวกนินฺนนฺติอาทีสุ นิพฺพานํ วิเวโก นาม, ตสฺมึ วิเวเก นินฺนํ โอนตนฺติ วิเวกนินฺนํ. อฺโต อาคนฺตฺวา เยน วิเวโก, เตน วงฺกํ วิย หุตฺวา ิตนฺติ วิเวกโปณํ. เยน วิเวโก, เตน ปตมานํ วิย ิตนฺติ วิเวกปพฺภารํ.

๔๖๕. อิทานิ ยา เวทนา นิโรเธตฺวา นิโรธสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, ตา ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉนฺโต กติ ปนายฺเย, เวทนาติ อาห. กายิกํ วาติอาทีสุ ปฺจทฺวาริกํ สุขํ กายิกํ นาม, มโนทฺวาริกํ เจตสิกํ นามาติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ สุขนฺติ สภาวนิทฺเทโส. สาตนฺติ ตสฺเสว มธุรภาวทีปกํ เววจนํ. เวทยิตนฺติ เวทยิตภาวทีปกํ, สพฺพเวทนานํ สาธารณวจนํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ิติสุขา วิปริณามทุกฺขาติอาทีสุ สุขาย เวทนาย อตฺถิภาโว สุขํ, นตฺถิภาโว ทุกฺขํ. ทุกฺขาย เวทนาย อตฺถิภาโว ทุกฺขํ, นตฺถิภาโว สุขํ. อทุกฺขมสุขาย เวทนาย ชานนภาโว สุขํ, อชานนภาโว ทุกฺขนฺติ อตฺโถ.

กึ อนุสโย อนุเสตีติ กตโม อนุสโย อนุเสติ. อปฺปหีนฏฺเน สยิโต วิย โหตีติ อนุสยปุจฺฉํ ปุจฺฉติ. น โข, อาวุโส วิสาข, สพฺพาย สุขาย เวทนาย ราคานุสโย อนุเสตีติ น สพฺพาย สุขาย เวทนาย ราคานุสโย อนุเสติ. น สพฺพาย สุขาย เวทนาย โส อปฺปหีโน, น สพฺพํ สุขํ เวทนํ อารพฺภ อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. กึ ปหาตพฺพนฺติ อยํ ปหานปุจฺฉา นาม.

ราคํ เตน ปชหตีติ เอตฺถ เอเกเนว พฺยากรเณน ทฺเว ปุจฺฉา วิสฺสชฺเชสิ. อิธ ภิกฺขุ ราคานุสยํ วิกฺขมฺเภตฺวา ปมชฺฌานํ สมาปชฺชติ, ฌานวิกฺขมฺภิตํ ราคานุสยํ ตถา วิกฺขมฺภิตเมว กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อนาคามิมคฺเคน สมุคฺฆาเตติ. โส อนาคามิมคฺเคน ปหีโนปิ ตถา วิกฺขมฺภิตตฺตาว ปมชฺฌาเน นานุเสติ นาม. เตนาห – ‘‘น ตตฺถ ราคานุสโย อนุเสตี’’ติ. ตทายตนนฺติ ตํ อายตนํ, ปรมสฺสาสภาเวน ปติฏฺานภูตํ อรหตฺตนฺติ อตฺโถ. อิติ อนุตฺตเรสูติ เอวํ อนุตฺตรา วิโมกฺขาติ ลทฺธนาเม อรหตฺเต. ปิหํ อุปฏฺาปยโตติ ปตฺถนํ ปฏฺเปนฺตสฺส. อุปฺปชฺชติ ปิหาปจฺจยา โทมนสฺสนฺติ ปตฺถนาย ปฏฺปนมูลกํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. ตํ ปเนตํ น ปตฺถนาย ปฏฺปนมูลกํ อุปฺปชฺชติ, ปตฺเถตฺวา อลภนฺตสฺส ปน อลาภมูลกํ อุปฺปชฺชมานํ, ‘‘อุปฺปชฺชติ ปิหาปจฺจยา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ กิฺจาปิ โทมนสฺสํ นาม เอกนฺเตน อกุสลํ, อิทํ ปน เสวิตพฺพํ โทมนสฺสํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. โยคิโน หิ เตมาสิกํ ฉมาสิกํ วา นวมาสิกํ วา ปฏิปทํ คณฺหนฺติ. เตสุ โย ตํ ตํ ปฏิปทํ คเหตฺวา อนฺโตกาลปริจฺเฉเทเยว อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสามีติ ฆเฏนฺโต วายมนฺโต น สกฺโกติ ยถาปริจฺฉินฺนกาเลน ปาปุณิตุํ, ตสฺส พลวโทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, อาฬินฺทิกวาสิมหาผุสฺสเทวตฺเถรสฺส วิย อสฺสุธารา ปวตฺตนฺติ. เถโร กิร เอกูนวีสติวสฺสานิ คตปจฺจาคตวตฺตํ ปูเรสิ. ตสฺส, ‘‘อิมสฺมึ วาเร อรหตฺตํ คณฺหิสฺสามิ, อิมสฺมึ วาเร วิสุทฺธิปวารณํ ปวาเรสฺสามี’’ติ มานสํ พนฺธิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺตสฺเสว เอกูนวีสติวสฺสานิ อติกฺกนฺตานิ. ปวารณาทิวเส อาคเต เถรสฺส อสฺสุปาเตน มุตฺตทิวโส นาม นาโหสิ. วีสติเม ปน วสฺเส อรหตฺตํ ปาณุณิ.

ปฏิฆํเตน ปชหตีติ เอตฺถ โทมนสฺเสเนว ปฏิฆํ ปชหติ. น หิ ปฏิเฆเนว ปฏิฆปฺปหานํ, โทมนสฺเสน วา โทมนสฺสปฺปหานํ นาม อตฺถิ. อยํ ปน ภิกฺขุ เตมาสิกาทีสุ อฺตรํ ปฏิปทํ คเหตฺวา อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘‘ปสฺส ภิกฺขุ, กึ ตุยฺหํ สีเลน หีนฏฺานํ อตฺถิ, อุทาหุ วีริเยน, อุทาหุ ปฺาย, นนุ เต สีลํ สุปริสุทฺธํ วีริยํ สุปคฺคหิตํ ปฺา สูรา หุตฺวา วหตี’’ติ. โส เอวํ ปฏิสฺจิกฺขิตฺวา, ‘‘น ทานิ ปุน อิมสฺส โทมนสฺสสฺส อุปฺปชฺชิตุํ ทสฺสามี’’ติ วีริยํ ทฬฺหํ กตฺวา อนฺโตเตมาเส วา อนฺโตฉมาเส วา อนฺโตนวมาเส วา อนาคามิมคฺเคน ตํ สมุคฺฆาเตติ. อิมินา ปริยาเยน ปฏิเฆเนว ปฏิฆํ, โทมนสฺเสเนว โทมนสฺสํ ปชหติ นาม.

น ตตฺถ ปฏิฆานุสโย อนุเสตีติ ตตฺถ เอวรูเป โทมนสฺเส ปฏิฆานุสโย นานุเสติ. น ตํ อารพฺภ อุปฺปชฺชติ, ปหีโนว ตตฺถ ปฏิฆานุสโยติ อตฺโถ. อวิชฺชํ เตน ปชหตีติ อิธ ภิกฺขุ อวิชฺชานุสยํ วิกฺขมฺเภตฺวา จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชติ, ฌานวิกฺขมฺภิตํ อวิชฺชานุสยํ ตถา วิกฺขมฺภิตเมว กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตมคฺเคน สมุคฺฆาเตติ. โส อรหตฺตมคฺเคน ปหีโนปิ ตถา วิกฺขมฺภิตตฺตาว จตุตฺถชฺฌาเน นานุเสติ นาม. เตนาห – ‘‘น ตตฺถ อวิชฺชานุสโย อนุเสตี’’ติ.

๔๖๖. อิทานิ ปฏิภาคปุจฺฉํ ปุจฺฉนฺโต สุขาย ปนายฺเยติอาทิมาห. ตสฺส วิสฺสชฺชเน ยสฺมา สุขสฺส ทุกฺขํ, ทุกฺขสฺส จ สุขํ ปจฺจนีกํ, ตสฺมา ทฺวีสุ เวทนาสุ วิสภาคปฏิภาโค กถิโต. อุเปกฺขา ปน อนฺธการา อวิภูตา ทุทฺทีปนา, อวิชฺชาปิ ตาทิสาวาติ เตเนตฺถ สภาคปฏิภาโค กถิโต. ยตฺตเกสุ ปน าเนสุ อวิชฺชา ตมํ กโรติ, ตตฺตเกสุ วิชฺชา ตมํ วิโนเทตีติ วิสภาคปฏิภาโค กถิโต. อวิชฺชาย โข, อาวุโสติ เอตฺถ อุโภเปเต ธมฺมา อนาสวา โลกุตฺตราติ สภาคปฏิภาโคว กถิโต. วิมุตฺติยา โข, อาวุโสติ เอตฺถ อนาสวฏฺเน โลกุตฺตรฏฺเน อพฺยากตฏฺเน จ สภาคปฏิภาโคว กถิโต. อจฺจยาสีติ เอตฺถ ปฺหํ อติกฺกมิตฺวา คโตสีติ อตฺโถ. นาสกฺขิ ปฺหานํ ปริยนฺตํ คเหตุนฺติ ปฺหานํ ปริจฺเฉทปมาณํ คเหตุํ นาสกฺขิ, อปฺปฏิภาคธมฺมสฺส ปฏิภาคํ ปุจฺฉิ. นิพฺพานํ นาเมตํ อปฺปฏิภาคํ , น สกฺกา นีลํ วา ปีตกํ วาติ เกนจิ ธมฺเมน สทฺธึ ปฏิภาคํ กตฺวา ทสฺเสตุํ. ตฺจ ตฺวํ อิมินา อธิปฺปาเยน ปุจฺฉสีติ อตฺโถ.

เอตฺตาวตา จายํ อุปาสโก ยถา นาม สตฺตเม ฆเร สลากภตฺตํ ลภิตฺวา คโต ภิกฺขุ สตฺต ฆรานิ อติกฺกมฺม อฏฺมสฺส ทฺวาเร ิโต สพฺพานิปิ สตฺต เคหานิ วิรทฺโธว น อฺาสิ, เอวเมวํ อปฺปฏิภาคธมฺมสฺส ปฏิภาคํ ปุจฺฉนฺโต สพฺพาสุปิ สตฺตสุ สปฺปฏิภาคปุจฺฉาสุ วิรทฺโธว โหตีติ เวทิตพฺโพ. นิพฺพาโนคธนฺติ นิพฺพานพฺภนฺตรํ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺํ. นิพฺพานปรายนนฺติ นิพฺพานํ ปรํ อยนมสฺส ปรา คติ, น ตโต ปรํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. นิพฺพานํ ปริโยสานํ อวสานํ อสฺสาติ นิพฺพานปริโยสานํ.

๔๖๗. ปณฺฑิตาติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตา, ธาตุกุสลา อายตนกุสลา ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสลา านาฏฺานกุสลาติ อตฺโถ. มหาปฺาติ มหนฺเต อตฺเถ มหนฺเต ธมฺเม มหนฺตา นิรุตฺติโย มหนฺตานิ ปฏิภานานิ ปริคฺคณฺหนสมตฺถาย ปฺาย สมนฺนาคตา. ยถา ตํ ธมฺมทินฺนายาติ ยถา ธมฺมทินฺนาย ภิกฺขุนิยา พฺยากตํ, อหมฺปิ ตํ เอวเมวํ พฺยากเรยฺยนฺติ. เอตฺตาวตา จ ปน อยํ สุตฺตนฺโต ชินภาสิโต นาม ชาโต, น สาวกภาสิโต. ยถา หิ ราชยุตฺเตหิ ลิขิตํ ปณฺณํ ยาว ราชมุทฺทิกาย น ลฺฉิตํ โหติ, น ตาว ราชปณฺณนฺติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ; ลฺฉิตมตฺตํ ปน ราชปณฺณํ นาม โหติ, ตถา, ‘‘อหมฺปิ ตํ เอวเมว พฺยากเรยฺย’’นฺติ อิมาย ชินวจนมุทฺทิกาย ลฺฉิตตฺตา อยํ สุตฺตนฺโต อาหจฺจวจเนน ชินภาสิโต นาม ชาโต. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

จูฬเวทลฺลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. จูฬธมฺมสมาทานสุตฺตวณฺณนา

๔๖๘. เอวํเม สุตนฺติ จูฬธมฺมสมาทานสุตฺตํ. ตตฺถ ธมฺมสมาทานานีติ ธมฺโมติ คหิตคหณานิ. ปจฺจุปฺปนฺนสุขนฺติ ปจฺจุปฺปนฺเน สุขํ, อายูหนกฺขเณ สุขํ สุกรํ สุเขน สกฺกา ปูเรตุํ. อายตึ ทุกฺขวิปากนฺติ อนาคเต วิปากกาเล ทุกฺขวิปากํ. อิมินา อุปาเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๔๖๙. นตฺถิ กาเมสุ โทโสติ วตฺถุกาเมสุปิ กิเลสกาเมสุปิ โทโส นตฺถิ. ปาตพฺยตํ อาปชฺชนฺตีติ เต วตฺถุกาเมสุ กิเลสกาเมน ปาตพฺยตํ ปิวิตพฺพตํ, ยถารุจิ ปริภุฺชิตพฺพตํ อาปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. โมฬิพทฺธาหีติ โมฬึ กตฺวา พทฺธเกสาหิ. ปริพฺพาชิกาหีติ ตาปสปริพฺพาชิกาหิ. เอวมาหํสูติ เอวํ วทนฺติ. ปริฺํ ปฺเปนฺตีติ ปหานํ สมติกฺกมํ ปฺเปนฺติ. มาลุวาสิปาฏิกาติ ทีฆสณฺานํ มาลุวาปกฺกํ. ผเลยฺยาติ อาตเปน สุสฺสิตฺวา ภิชฺเชยฺย. สาลมูเลติ สาลรุกฺขสฺส สมีเป. สนฺตาสํ อาปชฺเชยฺยาติ กสฺมา อาปชฺชติ? ภวนวินาสภยา. รุกฺขมูเล ปติตมาลุวาพีชโต หิ ลตา อุปฺปชฺชิตฺวา รุกฺขํ อภิรุหติ. สา มหาปตฺตา เจว โหติ พหุปตฺตา จ, โกวิฬารปตฺตสทิเสหิ ปตฺเตหิ สมนฺนาคตา. อถ ตํ รุกฺขํ มูลโต ปฏฺาย วินนฺธมานา สพฺพวิฏปานิ สฺฉาเทตฺวา มหนฺตํ ภารํ ชเนตฺวา ติฏฺติ. สา วาเต วา วายนฺเต เทเว วา วสฺสนฺเต โอฆนํ ชเนตฺวา ตสฺส รุกฺขสฺส สพฺพสาขาปสาขํ ภฺชติ, ภูมิยํ นิปาเตติ. ตโต ตสฺมึ รุกฺเข ปติฏฺิตวิมานํ ภิชฺชติ นสฺสติ. อิติ สา ภวนวินาสภยา สนฺตาสํ อาปชฺชติ.

อารามเทวตาติ ตตฺถ ตตฺถ ปุปฺผารามผลาราเมสุ อธิวตฺถา เทวตา. วนเทวตาติ อนฺธวนสุภควนาทีสุ วเนสุ อธิวตฺถา เทวตา. รุกฺขเทวตาติ อภิลกฺขิเตสุ นเฬรุปุจิมนฺทาทีสุ รุกฺเขสุ อธิวตฺถา เทวตา. โอสธิติณวนปฺปตีสูติ หรีตกีอามลกีอาทีสุ โอสธีสุ ตาลนาฬิเกราทีสุ ติเณสุ วนเชฏฺเกสุ จ วนปฺปติรุกฺเขสุ อธิวตฺถา เทวตา. วนกมฺมิกาติ วเน กสนลายนทารุอาหรณโครกฺขาทีสุ เกนจิเทว กมฺเมน วา วิจรกมนุสฺสา. อุทฺธเรยฺยุนฺติ ขาเทยฺยุํ. วิลมฺพินีติ วาเตน ปหตปหตฏฺาเนสุ เกฬึ กโรนฺตี วิย วิลมฺพนฺตี. สุโข อิมิสฺสาติ เอวรูปาย มาลุวาลตาย สมฺผสฺโสปิ สุโข, ทสฺสนมฺปิ สุขํ. อยํ เม ทารกานํ อาปานมณฺฑลํ ภวิสฺสติ, กีฬาภูมิ ภวิสฺสติ, ทุติยํ เม วิมานํ ปฏิลทฺธนฺติ ลตาย ทสฺสเนปิ สมฺผสฺเสปิ โสมนสฺสชาตา เอวมาห.

วิฏภึ กเรยฺยาติ สาขานํ อุปริ ฉตฺตากาเรน ติฏฺเยฺย. โอฆนํ ชเนยฺยาติ เหฏฺา ฆนํ ชเนยฺย. อุปริ อารุยฺห สกลํ รุกฺขํ ปลิเวเตฺวา ปุน เหฏฺา ภสฺสมานา ภูมึ คณฺเหยฺยาติ อตฺโถ. ปทาเลยฺยาติ เอวํ โอฆนํ กตฺวา ปุน ตโต ปฏฺาย ยาว มูลา โอติณฺณสาขาหิ อภิรุหมานา สพฺพสาขา ปลิเวเนฺตี มตฺถกํ ปตฺวา เตเนว นิยาเมน ปุน โอโรหิตฺวา จ อภิรุหิตฺวา จ สกลรุกฺขํ สํสิพฺพิตฺวา อชฺโฌตฺถรนฺตี สพฺพสาขา เหฏฺา กตฺวา สยํ อุปริ ตฺวา วาเต วา วายนฺเต เทเว วา วสฺสนฺเต ปทาเลยฺย. ภินฺเทยฺยาติ อตฺโถ. ขาณุมตฺตเมว ติฏฺเยฺย, ตตฺถ ยํ สาขฏฺกวิมานํ โหติ, ตํ สาขาสุ ภิชฺชมานาสุ ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชิตฺวา สพฺพสาขาสุ ภินฺนาสุ สพฺพํ ภิชฺชติ. รุกฺขฏฺกวิมานํ ปน ยาว รุกฺขสฺส มูลมตฺตมฺปิ ติฏฺติ, ตาว น นสฺสติ. อิทํ ปน วิมานํ สาขฏฺกํ, ตสฺมา สพฺพสาขาสุ สํภิชฺชมานาสุ ภิชฺชิตฺถ. เทวตา ปุตฺตเก คเหตฺวา ขาณุเก ิตา ปริเทวิตุํ อารทฺธา.

๔๗๑. ติพฺพราคชาติโกติ พหลราคสภาโว. ราคชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทตีติ ติพฺพราคชาติกตฺตา ทิฏฺเ ทิฏฺเ อารมฺมเณ นิมิตฺตํ คณฺหาติ. อถสฺส อาจริยุปชฺฌายา ทณฺฑกมฺมํ อาณาเปนฺติ. โส อภิกฺขณํ ทณฺฑกมฺมํ กโรนฺโต ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ, นตฺเวว วีติกฺกมํ กโรติ. ติพฺพโทสชาติโกติ อปฺปมตฺติเกเนว กุปฺปติ, ทหรสามเณเรหิ สทฺธึ หตฺถปรามาสาทีนิ กโรนฺโตว กเถติ. โสปิ ทณฺฑกมฺมปจฺจยา ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. โมหชาติโก ปน อิธ กตํ วา กตโต อกตํ วา อกตโต น สลฺลกฺเขติ, ตานิ ตานิ กิจฺจานิ วิราเธติ. โสปิ ทณฺฑกมฺมปจฺจยา ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ.

๔๗๒. น ติพฺพราคชาติโกติอาทีนิ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพานิ. กสฺมา ปเนตฺถ โกจิ ติพฺพราคาทิชาติโก โหติ, โกจิ น ติพฺพราคาทิชาติโก? กมฺมนิยาเมน. ยสฺส หิ กมฺมายูหนกฺขเณ โลโภ พลวา โหติ, อโลโภ มนฺโท, อโทสาโมหา พลวนฺโต, โทสโมหา มนฺทา, ตสฺส มนฺโท อโลโภ โลภํ ปริยาทาตุํ น สกฺโกติ, อโทสาโมหา ปน พลวนฺโต โทสโมเห ปริยาทาตุํ สกฺโกนฺติ. ตสฺมา โส เตน กมฺเมน ทินฺนปฏิสนฺธิวเสน นิพฺพตฺโต ลุทฺโธ โหติ, สุขสีโล อกฺโกธโน ปฺวา วชิรูปมาโณ.

ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ โลภโทสา พลวนฺโต โหนฺติ, อโลภาโทสา มนฺทา, อโมโห พลวา, โมโห มนฺโท, โส ปุริมนเยเนว ลุทฺโธ เจว โหติ ทุฏฺโ จ, ปฺวา ปน โหติ วชิรูปมาโณ ทตฺตาภยตฺเถโร วิย.

ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ โลภาโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ, อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว ลุทฺโธ เจว โหติ ทนฺโธ จ, สุขสีลโก ปน โหติ อกฺโกธโน.

ตถา ยสฺส กมฺมายูหนกฺขเณ ตโยปิ โลภโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ, อโลภาทโย มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว ลุทฺโธ เจว โหติ ทุฏฺโ จ มูฬฺโห จ.

ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ อโลภโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ, อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว อปฺปกิเลโส โหติ, ทิพฺพารมฺมณมฺปิ ทิสฺวา นิจฺจโล, ทุฏฺโ ปน โหติ ทนฺธปฺโ จ.

ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ อโลภาโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ, อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว อลุทฺโธ เจว โหติ สุขสีลโก จ, มูฬฺโห ปน โหติ.

ตถา ยสฺส กมฺมายูหนกฺขเณ อโลภโทสาโมหา พลวนฺโต โหนฺติ, อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว อลุทฺโธ เจว โหติ ปฺวา จ, ทุฏฺโ ปน โหติ โกธโน.

ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ ตโยปิ อโลภาทโย พลวนฺโต โหนฺติ, โลภาทโย มนฺทา, โส มหาสงฺฆรกฺขิตตฺเถโร วิย อลุทฺโธ อทุฏฺโ ปฺวา จ โหติ.

เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

จูฬธมฺมสมาทานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. มหาธมฺมสมาทานสุตฺตวณฺณนา

๔๗๓. เอวํเม สุตฺตนฺติ มหาธมฺมสมาทานสุตฺตํ. ตตฺถ เอวํกามาติ เอวํอิจฺฉา. เอวํฉนฺทาติ เอวํอชฺฌาสยา. เอวํอธิปฺปายาติ เอวํลทฺธิกา. ตตฺราติ ตสฺมึ อนิฏฺวฑฺฒเน เจว อิฏฺปริหาเน จ. ภควํมูลกาติ ภควา มูลํ เอเตสนฺติ ภควํมูลกา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิเม, ภนฺเต, อมฺหากํ ธมฺมา ปุพฺเพ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺเธน อุปฺปาทิตา, ตสฺมึ ปรินิพฺพุเต เอกํ พุทฺธนฺตรํ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิเม ธมฺเม อุปฺปาเทตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสิ, ภควตา ปน โน อิเม ธมฺมา อุปฺปาทิตา. ภควนฺตฺหิ นิสฺสาย มยํ อิเม ธมฺเม อาชานาม ปฏิวิชฺฌามาติ เอวํ ภควํมูลกา โน, ภนฺเต, ธมฺมาติ. ภควํเนตฺติกาติ ภควา หิ ธมฺมานํ เนตา วิเนตา อนุเนตาติ. ยถาสภาวโต ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ นามํ คเหตฺวา ทสฺสิตา ธมฺมา ภควํเนตฺติกา นาม โหนฺติ. ภควํปฏิสรณาติ จตุภูมกา ธมฺมา สพฺพฺุตฺาณสฺส อาปาถํ อาคจฺฉมานา ภควติ ปฏิสรนฺติ นามาติ ภควํปฏิสรณา. ปฏิสรนฺตีติ โอสรนฺติ สโมสรนฺติ. อปิจ มหาโพธิมณฺเฑ นิสินฺนสฺส ภควโต ปฏิเวธวเสน ผสฺโส อาคจฺฉติ, อหํ ภควา กินฺนาโมติ? ตฺวํ ผุสนฏฺเน ผสฺโส นาม. เวทนา, สฺา, สงฺขารา, วิฺาณํ อาคจฺฉติ. อหํ ภควา กินฺนามนฺติ? ตฺวํ วิชานนฏฺเน วิฺาณํ นามาติ เอวํ จตุภูมกธมฺมานํ ยถาสภาวโต ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ นามํ คณฺหนฺโต ภควา ธมฺเม ปฏิสรตีติปิ ภควํปฏิสรณา. ภควนฺตฺเว ปฏิภาตูติ ภควโตเยว เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ อุปฏฺาตุ, ตุมฺเหเยว โน กเถตฺวา เทถาติ อตฺโถ.

๔๗๔. เสวิตพฺเพติ นิสฺสยิตพฺเพ. ภชิตพฺเพติ อุปคนฺตพฺเพ. ยถา ตํ อวิทฺทสุโนติ ยถา อวิทุโน พาลสฺส อนฺธปุถุชฺชนสฺส. ยถา ตํ วิทฺทสุโนติ ยถา วิทุโน เมธาวิโน ปณฺฑิตสฺส.

๔๗๕. อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานนฺติ ปุริมสุตฺเต อุปฺปฏิปาฏิอากาเรน มาติกา ปิตา , อิธ ปน ยถาธมฺมรเสเนว สตฺถา มาติกํ เปสิ. ตตฺถ ธมฺมสมาทานนฺติ ปาณาติปาตาทีนํ ธมฺมานํ คหณํ.

๔๗๖. อวิชฺชาคโตติ อวิชฺชาย สมนฺนาคโต.

๔๗๗. วิชฺชาคโตติ วิชฺชาย สมนฺนาคโต ปฺวา.

๔๗๘. สหาปิ ทุกฺเขนาติ เอตฺถ มิจฺฉาจาโร อภิชฺฌา มิจฺฉาทิฏฺีติ อิเม ตาว ตโย ปุพฺพเจตนาย จ อปรเจตนาย จาติ ทฺวินฺนํ เจตนานํ วเสน ทุกฺขเวทนา โหนฺติ. สนฺนิฏฺาปกเจตนา ปน สุขสมฺปยุตฺตา วา อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตา วา โหติ. เสสา ปาณาติปาตาทโย สตฺต ติสฺสนฺนมฺปิ เจตนานํ วเสน ทุกฺขเวทนา โหนฺติ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสนา’’ติ. โทมนสฺสเมว เจตฺถ ทุกฺขนฺติ เวทิตพฺพํ. ปริเยฏฺึ วา อาปชฺชนฺตสฺส ปุพฺพภาคปรภาเคสุ กายิกํ ทุกฺขมฺปิ วฏฺฏติเยว.

๔๗๙. สหาปิสุเขนาติ เอตฺถ ปาณาติปาโต ผรุสวาจา พฺยาปาโทติ อิเม ตาว ตโย ปุพฺพเจตนาย จ อปรเจตนาย จาติ ทฺวินฺนํ เจตนานํ วเสน สุขเวทนา โหนฺติ. สนฺนิฏฺาปกเจตนา ปน ทุกฺขสมฺปยุตฺตาว โหติ. เสสา สตฺต ติสฺสนฺนมฺปิ เจตนานํ วเสน สุขเวทนา โหนฺติเยว. สหาปิ โสมนสฺเสนาติ โสมนสฺสเมว เจตฺถ สุขนฺติ เวทิตพฺพํ. อิฏฺโผฏฺพฺพสมงฺคิโน วา ปุพฺพภาคปรภาเคสุ กายิกํ สุขมฺปิ วฏฺฏติเยว.

๔๘๐. ตติยธมฺมสมาทาเน อิเธกจฺโจ มจฺฉพนฺโธ วา โหติ, มาควิโก วา, ปาณุปฆาตํเยว นิสฺสาย ชีวิกํ กปฺเปติ. ตสฺส ครุฏฺานิโย ภิกฺขุ อกามกสฺเสว ปาณาติปาเต อาทีนวํ, ปาณาติปาตวิรติยา จ อานิสํสํ กเถตฺวา สิกฺขาปทํ เทติ. โส คณฺหนฺโตปิ ทุกฺขิโต โทมนสฺสิโตว หุตฺวา คณฺหาติ. อปรภาเค กติปาหํ วีตินาเมตฺวา รกฺขิตุํ อสกฺโกนฺโตปิ ทุกฺขิโตว โหติ, ตสฺส ปุพฺพาปรเจตนา ทุกฺขสหคตาว โหนฺติ. สนฺนิฏฺาปกเจตนา ปน สุขสหคตา วา อุเปกฺขาสหคตา วาติ เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ . อิติ ปุพฺพภาคปรภาคเจตนาว สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ – ‘‘สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสนา’’ติ. โทมนสฺสเมว เจตฺถ ทุกฺขนฺติ เวทิตพฺพํ.

๔๘๑. จตุตฺถธมฺมสมาทาเน ทสสุปิ ปเทสุ ติสฺโสปิ ปุพฺพภาคาปรภาคสนฺนิฏฺาปกเจตนา สุขสมฺปยุตฺตา โหนฺติเยว, ตํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ – ‘‘สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสนา’’ติ. โสมนสฺสเมว เจตฺถ สุขนฺติ เวทิตพฺพํ.

๔๘๒. ติตฺตกาลาพูติ ติตฺตกรสอลาพุ. วิเสน สํสฏฺโติ หลาหลวิเสน สมฺปยุตฺโต มิสฺสิโต ลุฬิโต. นจฺฉาเทสฺสตีติ น รุจฺจิสฺสติ น ตุฏฺึ กริสฺสติ. นิคจฺฉสีติ คมิสฺสสิ. อปฺปฏิสงฺขาย ปิเวยฺยาติ ตํ อปฺปจฺจเวกฺขิตฺวา ปิเวยฺย.

๔๘๓. อาปานียกํโสติ อาปานียสฺส มธุรปานกสฺส ภริตกํโส. วณฺณสมฺปนฺโนติ ปานกวณฺณาทีหิ สมฺปนฺนวณฺโณ, กํเส ปกฺขิตฺตปานกวเสน ปานกกํโสปิ เอวํ วุตฺโต. ฉาเทสฺสตีติ ตฺหิ หลาหลวิสํ ยตฺถ ยตฺถ ปกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺส ตสฺเสว รสํ เทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉาเทสฺสตี’’ติ.

๔๘๔. ปูติมุตฺตนฺติ มุตฺตเมว. ยถา หิ มนุสฺสภาโว สุวณฺณวณฺโณ ปูติกาโยตฺเวว, ตทหุชาตาปิ คโลจิลตา ปูติลตาตฺเวว วุจฺจติ. เอวํ ตงฺขณํ คหิตํ ตรุณมฺปิ มุตฺตํ ปูติมุตฺตเมว. นานาเภสชฺเชหีติ หรีตกามลกาทีหิ นาโนสเธหิ. สุขี อสฺสาติ อโรโค สุวณฺณวณฺโณ สุขี ภเวยฺย.

๔๘๕. ทธิ จ มธุ จาติ สุปริสุทฺธํ ทธิ จ สุมธุรํ มธุ จ. เอกชฺฌํ สํสฏฺนฺติ เอกโต กตฺวา มิสฺสิตํ อาลุฬิตํ. ตสฺส ตนฺติ ตสฺส ตํ จตุมธุรเภสชฺชํ ปิวโต รุจฺเจยฺย. อิทฺจ ยํ ภคนฺทรสํสฏฺํ โลหิตํ ปกฺขนฺทติ, น ตสฺส เภสชฺชํ, อาหารํ ถมฺเภตฺวา มคฺคํ อวลฺชํ กโรติ. ยํ ปน ปิตฺตสํสฏฺํ โลหิตํ, ตสฺเสตํ เภสชฺชํ สีตลกิริยาย ปริยตฺตภูตํ.

๔๘๖. วิทฺเธติ อุพฺพิทฺเธ. เมฆวิคเมน ทูรีภูเตติ อตฺโถ. วิคตวลาหเกติ อปคตเมเฆ, เทเวติ อากาเส. อากาสคตํ ตมคตนฺติ อากาสคตํ ตมํ. ปุถุสมณพฺราหฺมณปรปฺปวาเทติ ปุถูนํ สมณพฺราหฺมณสงฺขาตานํ ปเรสํ วาเท. อภิวิหจฺจาติ อภิหนฺตฺวา. ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจเต จาติ สรทกาเล มชฺฌนฺหิกสมเย อาทิจฺโจว โอภาสํ มุฺจติ ตปติ วิชฺโชตตีติ.

อิทํ ปน สุตฺตํ เทวตานํ อติวิย ปิยํ มนาปํ. ตตฺริทํ วตฺถุ – ทกฺขิณทิสายํ กิร หตฺถิโภคชนปเท สงฺครวิหาโร นาม อตฺถิ. ตสฺส โภชนสาลทฺวาเร สงฺครรุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา รตฺติภาเค เอกสฺส ทหรสฺส สรภฺวเสน อิทํ สุตฺตํ โอสาเรนฺตสฺส สุตฺวา สาธุการํ อทาสิ. ทหโร กึ เอโสติ อาห. อหํ, ภนฺเต, อิมสฺมึ รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตาติ. กสฺมึ เทวเต ปสนฺนาสิ, กึ สทฺเท, อุทาหุ สุตฺเตติ? สทฺโท นาม, ภนฺเต, ยสฺส กสฺสจิ โหติเยว, สุตฺเต ปสนฺนามฺหิ. สตฺถารา เชตวเน นิสีทิตฺวา กถิตทิวเส จ อชฺช จ เอกพฺยฺชเนปิ นานํ นตฺถีติ. อสฺโสสิ ตฺวํ เทวเต สตฺถารา กถิตทิวเสติ? อาม, ภนฺเต. กตฺถ ิตา อสฺโสสีติ? เชตวนํ, ภนฺเต, คตามฺหิ, มเหสกฺขาสุ ปน เทวตาสุ อาคจฺฉนฺตีสุ ตตฺถ โอกาสํ อลภิตฺวา อิเธว ตฺวา อสฺโสสินฺติ. เอตฺถ ิตาย สกฺกา สุตฺถุ สทฺโท โสตุนฺติ? ตฺวํ ปน, ภนฺเต, มยฺหํ สทฺทํ สุณสีติ? อาม เทวเตติ. ทกฺขิณกณฺณปสฺเส นิสีทิตฺวา กถนกาโล วิย, ภนฺเต, โหตีติ. กึ ปน เทวเต สตฺถุ รูปํ ปสฺสสีติ? สตฺถา มเมว โอโลเกตีติ มฺมานา สณฺาตุํ น สกฺโกมิ, ภนฺเตติ. วิเสสํ ปน นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺขิตฺถ เทวเตติ. เทวตา ตตฺเถว อนฺตรธายิ. ตํ ทิวสํ กิเรส เทวปุตฺโต โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิโต. เอวมิทํ สุตฺตํ เทวตานํ ปิยํ มนาปํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

มหาธมฺมสมาทานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. วีมํสกสุตฺตวณฺณนา

๔๘๗. เอวํเม สุตนฺติ วีมํสกสุตฺตํ. ตตฺถ วีมํสเกนาติ ตโย วีมํสกา – อตฺถวีมํสโก สงฺขารวีมํสโก สตฺถุวีมํสโกติ. เตสุ, ‘‘ปณฺฑิตา หาวุโส, มนุสฺสา วีมํสกา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๒) เอตฺถ อตฺถวีมํสโก อาคโต. ‘‘ยโต โข, อานนฺท, ภิกฺขุ ธาตุกุสโล จ โหติ, อายตนกุสโล จ โหติ, ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสโล จ โหติ, านาฏฺานกุสโล จ โหติ, เอตฺตาวตา โข, อานนฺท, ปณฺฑิโต ภิกฺขุ วีมํสโกติ อลํ วจนายา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๔) เอตฺถ สงฺขารวีมํสโก อาคโต. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต สตฺถุวีมํสโก อธิปฺเปโต. เจโตปริยายนฺติ จิตฺตวารํ จิตฺตปริจฺเฉทํ. สมนฺเนสนาติ เอสนา ปริเยสนา อุปปริกฺขา. อิติ วิฺาณายาติ เอวํ วิชานนตฺถาย.

๔๘๘. ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ตถาคโต สมนฺเนสิตพฺโพติ อิธ กลฺยาณมิตฺตูปนิสฺสยํ ทสฺเสติ. มหา หิ เอส กลฺยาณมิตฺตูปนิสฺสโย นาม. ตสฺส มหนฺตภาโว เอวํ เวทิตพฺโพ – เอกสฺมึ หิ สมเย อายสฺมา อานนฺโท อุปฑฺฒํ อตฺตโน อานุภาเวน โหติ, อุปฑฺฒํ กลฺยาณมิตฺตานุภาเวนาติ จินฺเตตฺวา อตฺตโน ธมฺมตาย นิจฺเฉตุํ อสกฺโกนฺโต ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ, – ‘‘อุปฑฺฒมิทํ, ภนฺเต, พฺรหฺมจริยสฺส, ยทิทํ กลฺยาณมิตฺตตา กลฺยาณสหายตา กลฺยาณสมฺปวงฺกตา’’ติ. ภควา อาห – ‘‘มา เหวํ, อานนฺท, มา เหวํ, อานนฺท, สกลเมวิทํ, อานนฺท, พฺรหฺมจริยํ ยทิทํ กลฺยาณมิตฺตตา กลฺยาณสหายตา, กลฺยาณสมฺปวงฺกตา. กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส, อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวสฺสติ, อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกริสฺสติ. กถฺจานนฺท, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต…เป… อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวติ, อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกโรติ. อิธานนฺท, ภิกฺขุ สมฺมาทิฏฺึ ภาเวติ…เป… สมฺมาสมาธึ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ เอวํ โข, อานนฺท, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต…เป… พหุลีกโรติ, ตทมินาเปตํ, อานนฺท, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ. ยถา สกลเมวิทํ พฺรหฺมจริยํ ยทิทํ กลฺยาณมิตฺตตา กลฺยาณสหายตา กลฺยาณสมฺปวงฺกตา. มมฺหิ, อานนฺท, กลฺยาณมิตฺตํ อาคมฺม ชาติธมฺมา สตฺตา ชาติยา ปริมุจฺจนฺติ. ชราธมฺมา…เป… โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสธมฺมา สตฺตา โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาเสหิ ปริมุจฺจนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒).

ภิกฺขูนํ พาหิรงฺคสมฺปตฺตึ กเถนฺโตปิ อาห – ‘‘พาหิรํ, ภิกฺขเว, องฺคนฺติ กริตฺวา นาฺํ เอกงฺคมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ มหโต อตฺถาย สํวตฺตติ, ยถยิทํ, ภิกฺขเว, กลฺยาณมิตฺตตา. กลฺยาณมิตฺตตา, ภิกฺขเว, มหโต อตฺถาย สํวตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๑๓). มหาจุนฺทสฺส กิเลสสลฺเลขปฏิปทํ กเถนฺโตปิ, ‘‘ปเร ปาปมิตฺตา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ กลฺยาณมิตฺตา ภวิสฺสามาติ สลฺเลโข กรณีโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๘๓) อาห. เมฆิยตฺเถรสฺส วิมุตฺติปริปาจนิยธมฺเม กเถนฺโตปิ, ‘‘อปริปกฺกาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา ปฺจ ธมฺมา ปริปากาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ปฺจ? อิธ, เมฆิย, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต โหติ’’ติ (อุทา. ๓๑) กลฺยาณมิตฺตูปนิสฺสยเมว วิเสเสสิ. ปิยปุตฺตสฺส ราหุลตฺเถรสฺส อภิณฺโหวาทํ เทนฺโตปิ –

‘‘มิตฺเต ภชสฺสุ กลฺยาเณ, ปนฺตฺจ สยนาสนํ;

วิวิตฺตํ อปฺปนิคฺโฆสํ, มตฺตฺู โหหิ โภชเน.

จีวเร ปิณฺฑปาเต จ, ปจฺจเย สยนาสเน;

เอเตสุ ตณฺหํ มากาสิ, มา โลกํ ปุนราคมี’’ติ. (สุ. นิ. ๓๔๐, ๓๔๑) –

กลฺยาณมิตฺตูปนิสฺสยเมว สพฺพปมํ กเถสิ. เอวํ มหา เอส กลฺยาณมิตฺตูปนิสฺสโย นาม. อิธาปิ ตํ ทสฺเสนฺโต ภควา ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ตถาคโต สมนฺเนสิตพฺโพติ เทสนํ อารภิ. ปณฺฑิโต ภิกฺขุ ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ตถาคตํ เอสตุ คเวสตูติ อตฺโถ. เอเตน ภควา อยํ มหาชจฺโจติ วา, ลกฺขณสมฺปนฺโนติ วา, อภิรูโป ทสฺสนีโยติ วา, อภิฺาโต อภิลกฺขิโตติ วา, อิมํ นิสฺสายาหํ จีวราทโย ปจฺจเย ลภิสฺสามีติ วา, เอวํ จินฺเตตฺวา มํ นิสฺสาย วสนกิจฺจํ นตฺถิ. โย ปน เอวํ สลฺลกฺเขติ, ‘‘ปโหติ เม เอส สตฺถา หุตฺวา สตฺถุกิจฺจํ สาเธตุ’’นฺติ, โส มํ ภชตูติ สีหนาทํ นทติ. พุทฺธสีหนาโท กิร นาเมส สุตฺตนฺโตติ.

อิทานิ เต ทฺเว ธมฺเม ทสฺเสนฺโต จกฺขุโสตวิฺเยฺเยสูติ อาห. ตตฺถ สตฺถุ กายิโก สมาจาโร วีมํสกสฺส จกฺขุวิฺเยฺโย ธมฺโม นาม. วาจสิโก สมาจาโร โสตวิฺเยฺโย ธมฺโม นาม. อิทานิ เตสุ สมนฺเนสิตพฺพาการํ ทสฺเสนฺโต เย สํกิลิฏฺาติอาทิมาห. ตตฺถ สํกิลิฏฺาติ กิเลสสมฺปยุตฺตา. เต จ น จกฺขุโสตวิฺเยฺยา. ยถา ปน อุทเก จลนฺเต วา ปุปฺผุฬเก วา มุฺจนฺเต อนฺโต มจฺโฉ อตฺถีติ วิฺายติ, เอวํ ปาณาติปาตาทีนิ วา กโรนฺตสฺส, มุสาวาทาทีนิ วา ภณนฺตสฺส กายวจีสมาจาเร ทิสฺวา จ สุตฺวา จ ตํสมุฏฺาปกจิตฺตํ สํกิลิฏฺนฺติ วิฺายติ. ตสฺมา เอวมาห. สํกิลิฏฺจิตฺตสฺส หิ กายวจีสมาจาราปิ สํกิลิฏฺาเยว นาม. น เต ตถาคตสฺส สํวิชฺชนฺตีติ น เต ตถาคตสฺส อตฺถิ. น อุปลพฺภนฺตีติ เอวํ ชานาตีติ อตฺโถ. นตฺถิตาเยว หิ เต น อุปลพฺภนฺติ น ปฏิจฺฉนฺนตาย. ตถา หิ ภควา เอกทิวสํ อิเมสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขุสงฺฆํ ปวาเรนฺโต อาห – ‘‘หนฺท ทานิ, ภิกฺขเว, ปวาเรมิ โว, น จ เม กิฺจิ ครหถ กายิกํ วา วาจสิกํ วา’’ติ. เอวํ วุตฺเต อายสฺมา สาริปุตฺโต อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘น โข มยํ, ภนฺเต, ภควโต กิฺจิ ครหาม กายิกํ วา วาจสิกํ วา. ภควา หิ, ภนฺเต, อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, อสฺชาตสฺส มคฺคสฺส สฺชาเนตา, อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตา, มคฺคฺู มคฺควิทู มคฺคโกวิโท. มคฺคานุคา จ, ภนฺเต, เอตรหิ สาวกา วิหรนฺติ ปจฺฉาสมนฺนาคตา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๑๕). เอวํ ปริสุทฺธา ตถาคตสฺส กายวจีสมาจารา. อุตฺตโรปิ สุทํ มาณโว ตถาคตสฺส กายวจีทฺวาเร อนาราธนียํ กิฺจิ ปสฺสิสฺสามีติ สตฺต มาเส อนุพนฺธิตฺวา ลิกฺขามตฺตมฺปิ น อทฺทส. มนุสฺสภูโต วา เอส พุทฺธภูตสฺส กายวจีทฺวาเร กึ อนาราธนียํ ปสฺสิสฺสติ? มาโรปิ เทวปุตฺโต โพธิสตฺตสฺส สโต มหาภินิกฺขมนโต ปฏฺาย ฉพฺพสฺสานิ คเวสมาโน กิฺจิ อนาราธนียํ นาทฺทส, อนฺตมโส เจโตปริวิตกฺกมตฺตมฺปิ. มาโร กิร จินฺเตสิ – ‘‘สจสฺส วิตกฺกิตมตฺตมฺปิ อกุสลํ ปสฺสิสฺสามิ, ตตฺเถว นํ มุทฺธนิ ปหริตฺวา ปกฺกมิสฺสามี’’ติ. โส ฉพฺพสฺสานิ อทิสฺวา พุทฺธภูตมฺปิ เอกํ วสฺสํ อนุพนฺธิตฺวา กิฺจิ วชฺชํ อปสฺสนฺโต คมนสมเย วนฺทิตฺวา –

‘‘มหาวีร มหาปุฺํ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;

สพฺพเวรภยาตีตํ, ปาเท วนฺทามิ โคตม’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๑๕๙) –

คาถํ วตฺวา คโต.

วีติมิสฺสาติ กาเล กณฺหา, กาเล สุกฺกาติ เอวํ โวมิสฺสกา. โวทาตาติ ปริสุทฺธา นิกฺกิเลสา. สํวิชฺชนฺตีติ โวทาตา ธมฺมา อตฺถิ อุปลพฺภนฺติ. ตถาคตสฺส หิ ปริสุทฺธา กายสมาจาราทโย. เตนาห – ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส อรกฺเขยฺยานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ปริสุทฺธกายสมาจาโร, ภิกฺขเว, ตถาคโต, นตฺถิ ตถาคตสฺส กายทุจฺจริตํ, ยํ ตถาคโต รกฺเขยฺย, ‘มา เม อิทํ ปโร อฺาสี’ติ. ปริสุทฺธวจีสมาจาโร… ปริสุทฺธมโนสมาจาโร… ปริสุทฺธาชีโว, ภิกฺขเว, ตถาคโต , นตฺถิ ตถาคตสฺส มิจฺฉาชีโว, ยํ ตถาคโต รกฺเขยฺย, มา เม อิทํ ปโร อฺาสี’’ติ (อ. นิ. ๗.๕๘).

อิมํ กุสลํ ธมฺมนฺติ อิมํ อนวชฺชํ อาชีวฏฺมกสีลํ. ‘‘อยมายสฺมา สตฺถา กึ นุ โข ทีฆรตฺตํ สมาปนฺโน อติจิรกาลโต ปฏฺาย อิมินา สมนฺนาคโต, อุทาหุ อิตฺตรสมาปนฺโน หิยฺโย วา ปเร วา ปรสุเว วา ทิวเส สมาปนฺโน’’ติ เอวํ คเวสตูติ อตฺโถ. เอกจฺเจน หิ เอกสฺมึ าเน วสนฺเตน พหุ มิจฺฉาชีวกมฺมํ กตํ, ตํ ตตฺถ กาลาติกฺกเม ปฺายติ, ปากฏํ โหติ. โส อฺตรํ ปจฺจนฺตคามํ วา สมุทฺทตีรํ วา คนฺตฺวา ปณฺณสาลํ กาเรตฺวา อารฺโก วิย หุตฺวา วิหรติ. มนุสฺสา สมฺภาวนํ อุปฺปาเทตฺวา ตสฺส ปณีเต ปจฺจเย เทนฺติ. ชนปทวาสิโน ภิกฺขู ตสฺส ปริหารํ ทิสฺวา, ‘‘อติทปฺปิโต วตายํ อายสฺมา, โก นุ โข เอโส’’ติ ปริคฺคณฺหนฺตา, ‘‘อสุกฏฺาเน อสุกํ นาม มิจฺฉาชีวํ กตฺวา ปกฺกนฺตภิกฺขู’’ติ ตฺวา น สกฺกา อิมินา สทฺธึ อุโปสโถ วา ปวารณา วา กาตุนฺติ สนฺนิปติตฺวา ธมฺเมน สเมน อุกฺเขปนียาทีสุ อฺตรํ กมฺมํ กโรนฺติ. เอวรูปาย ปฏิจฺฉนฺนปฏิปตฺติยา อตฺถิภาวํ วา นตฺถิภาวํ วา วีมํสาเปตุํ เอวมาห.

เอวํชานาตีติ ทีฆรตฺตํ สมาปนฺโน, น อิตฺตรสมาปนฺโนติ ชานาติ. อนจฺฉริยํ เจตํ. ยํ ตถาคตสฺส เอตรหิ สพฺพฺุตํ ปตฺตสฺส ทีฆรตฺตํ อาชีวฏฺมกสีลํ ปริสุทฺธํ ภเวยฺย. ยสฺส โพธิสตฺตกาเลปิ เอวํ อโหสิ.

อตีเต กิร คนฺธารราชา จ เวเทหราชา จ ทฺเวปิ สหายกา หุตฺวา กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา รชฺชานิ ปุตฺตานํ นิยฺยาเตตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา เอกสฺมึ อรฺคามเก ปิณฺฑาย จรนฺติ. ปจฺจนฺโต นาม ทุลฺลภโลโณ โหติ. ตโต อโลณํ ยาคุํ ลภิตฺวา เอกิสฺสาย สาลาย นิสีทิตฺวา ปิวนฺติ. อนฺตรนฺตเร มนุสฺสา โลณจุณฺณํ อาหริตฺวา เทนฺติ. เอกทิวสํ เอโก เวเทหิสิสฺส ปณฺเณ ปกฺขิปิตฺวา โลณจุณฺณํ อทาสิ . เวเทหิสิ คเหตฺวา อุปฑฺฒํ คนฺธาริสิสฺส-สนฺติเก เปตฺวา อุปฑฺฒํ อตฺตโน สนฺติเก เปสิ. ตโต โถกํ ปริภุตฺตาวเสสํ ทิสฺวา, ‘‘มา อิทํ นสฺสี’’ติ ปณฺเณน เวเตฺวา ติณคหเน เปสิ. ปุน เอกสฺมึ ทิวเส ยาคุปานกาเล สตึ กตฺวา โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา คนฺธาริสึ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘อิโต โถกํ คณฺหถ อาจริยา’’ติ อาห. กุโต เต ลทฺธํ เวเทหิสีติ? ตสฺมึ ทิวเส ปริภุตฺตาวเสสํ ‘‘มา นสฺสี’’ติ มยา ปิตนฺติ. คนฺธาริสิ คเหตุํ น อิจฺฉติ, อโลณกํเยว ยาคุํ ปิวิตฺวา เวเทหํ อิสึ อโวจ –

‘‘หิตฺวา คามสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ โสฬส;

โกฏฺาคารานิ ผีตานิ, สนฺนิธึ ทานิ กุพฺพสี’’ติ. (ชา. ๑.๗.๗๖);

เวเทหิสิ อโวจ – ‘‘ตุมฺเห รชฺชํ ปหาย ปพฺพชิตา, อิทานิ กสฺมา โลณจุณฺณมตฺตสนฺนิธิการณา ปพฺพชฺชาย อนุจฺฉวิกํ น กโรถา’’ติ? กึ มยา กตํ เวเทหิสีติ? อถ นํ อาห –

‘‘หิตฺวา คนฺธารวิสยํ, ปหูตธนธาริยํ;

ปสาสนโต นิกฺขนฺโต, อิธ ทานิ ปสาสสี’’ติ. (ชา. ๑.๗.๗๗);

คนฺธาโร อาห –

‘‘ธมฺมํ ภณามิ เวเทห, อธมฺโม เม น รุจฺจติ;

ธมฺมํ เม ภณมานสฺส, น ปาปมุปลิมฺปตี’’ติ. (ชา. ๑.๗.๗๘);

เวเทโห อาห –

‘‘เยน เกนจิ วณฺเณน, ปโร ลภติ รุปฺปนํ;

มหตฺถิยมฺปิ เจ วาจํ, น ตํ ภาเสยฺย ปณฺฑิโต’’ติ. (ชา. ๑.๗.๗๙);

คนฺธาโร อาห –

‘‘กามํ รุปฺปตุ วา มา วา, ภุสํว วิกิรียตุ;

ธมฺมํ เม ภณมานสฺส, น ปาปมุปลิมฺปตี’’ติ. (ชา. ๑.๗.๘๐);

ตโต เวเทหิสิ ยสฺส สกาปิ พุทฺธิ นตฺถิ, อาจริยสนฺติเก วินยํ น สิกฺขติ, โส อนฺธมหึโส วิย วเน จรตีติ จินฺเตตฺวา อาห –

‘‘โน เจ อสฺส สกา พุทฺธิ, วินโย วา สุสิกฺขิโต;

วเน อนฺธมหึโสว, จเรยฺย พหุโก ชโน.

ยสฺมา จ ปนิเธกจฺเจ, อาเจรมฺหิ สุสิกฺขิตา;

ตสฺมา วินีตวินยา, จรนฺติ สุสมาหิตา’’ติ. (ชา. ๑.๗.๘๑-๘๒);

เอวฺจ ปน วตฺวา เวเทหิสิ อชานิตฺวา มยา กตนฺติ คนฺธาริสึ ขมาเปสิ. เต อุโภปิ ตปํ จริตฺวา พฺรหฺมโลกํ อคมํสุ. เอวํ ตถาคตสฺส โพธิสตฺตกาเลปิ ทีฆรตฺตํ อาชีวฏฺมกสีลํ ปริสุทฺธํ อโหสิ.

อุตฺตชฺฌาปนฺโน อยมายสฺมา ภิกฺขุ ยสปตฺโตติ อยมายสฺมา อมฺหากํ สตฺถา ภิกฺขุ ตฺตํ ปฺาตภาวํ ปากฏภาวํ อชฺฌาปนฺโน นุ โข, สยฺจ ปริวารสมฺปตฺตึ ปตฺโต นุ โข โนติ. เตน จสฺส ปฺาตชฺฌาปนฺนภาเวน ยสสนฺนิสฺสิตภาเวน จ กึ เอกจฺเจ อาทีนวา สนฺทิสฺสนฺติ อุทาหุ โนติ เอวํ สมนฺเนสนฺตูติ ทสฺเสติ. น ตาว, ภิกฺขเวติ, ภิกฺขเว, ยาว ภิกฺขุ น ราชราชมหามตฺตาทีสุ อภิฺาตภาวํ วา ปริวารสมฺปตฺตึ วา อาปนฺโน โหติ, ตาว เอกจฺเจ มานาติมานาทโย อาทีนวา น สํวิชฺชนฺติ อุปสนฺตูปสนฺโต วิย โสตาปนฺโน วิย สกทาคามี วิย จ วิหรติ. อริโย นุ โข ปุถุชฺชโน นุ โขติปิ าตุํ น สกฺกา โหติ.

ยโตจ โข, ภิกฺขเวติ ยทา ปน อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ าโต โหติ ปริวารสมฺปนฺโน วา, ตทา ติณฺเหน สิงฺเคน โคคณํ วิชฺฌนฺโต ทุฏฺโคโณ วิย, มิคสงฺฆํ อภิมทฺทมาโน ทีปิ วิย จ อฺเ ภิกฺขู ตตฺถ ตตฺถ วิชฺฌนฺโต อคารโว อสภาควุตฺติ อคฺคปาเทน ภูมึ ผุสนฺโต วิย จรติ. เอกจฺโจ ปน กุลปุตฺโต ยถา ยถา าโต โหติ ยสสฺสี, ตถา ตถา ผลภารภริโต วิย สาลิ สุฏฺุตรํ โอนมติ, ราชราชมหามตฺตาทีสุ อุปสงฺกมนฺเตสุ อกิฺจนภาวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา สมณสฺํ อุปฏฺเปตฺวา ฉินฺนวิสาณอุสโภ วิย, จณฺฑาลทารโก วิย จ โสรโต นิวาโต นีจจิตฺโต หุตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส เจว สเทวกสฺส จ โลกสฺส, หิตาย สุขาย ปฏิปชฺชติ. เอวรูปํ ปฏิปตฺตึ สนฺธาย ‘‘นาสฺส อิเธกจฺเจ อาทีนวา’’ติ อาห.

ตถาคโต ปน อฏฺสุ โลกธมฺเมสุ ตาที, โส หิ ลาเภปิ ตาที, อลาเภปิ ตาที, ยเสปิ ตาที, อยเสปิ ตาที, ปสํสายปิ ตาที, นินฺทายปิ ตาที, สุเขปิ ตาที, ทุกฺเขปิ ตาที, ตสฺมา สพฺพากาเรน นาสฺส อิเธกจฺเจ อาทีนวา สํวิชฺชนฺติ. อภยูปรโตติ อภโย หุตฺวา อุปรโต, อจฺจนฺตูปรโต สตตูปรโตติ อตฺโถ. น วา ภเยน อุปรโตติปิ อภยูปรโต. จตฺตาริ หิ ภยานิ กิเลสภยํ วฏฺฏภยํ ทุคฺคติภยํ อุปวาทภยนฺติ. ปุถุชฺชโน จตูหิปิ ภเยหิ ภายติ. เสกฺขา ตีหิ, เตสฺหิ ทุคฺคติภยํ ปหีนํ, อิติ สตฺต เสกฺขา ภยูปรตา, ขีณาสโว อภยูปรโต นาม, ตสฺส หิ เอกมฺปิ ภยํ นตฺถิ. กึ ปรวาทภยํ นตฺถีติ? นตฺถิ. ปรานุทฺทยํ ปน ปฏิจฺจ, ‘‘มาทิสํ ขีณาสวํ ปฏิจฺจ สตฺตา มา นสฺสนฺตู’’ติ อุปวาทํ รกฺขติ. มูลุปฺปลวาปิวิหารวาสี ยสตฺเถโร วิย.

เถโร กิร มูลุปฺปลวาปิคามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถสฺส อุปฏฺากกุลทฺวารํ ปตฺตสฺส ปตฺตํ คเหตฺวา ถณฺฑิลปีกํ นิสฺสาย อาสนํ ปฺเปสุํ. อมจฺจธีตาปิ ตํเยว ปีกํ นิสฺสาย ปรโตภาเค นีจตรํ อาสนํ ปฺาเปตฺวา นิสีทิ. เอโก เนวาสิโก ภิกฺขุ ปจฺฉา ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ ทฺวาเร ตฺวาว โอโลเกนฺโต เถโร อมจฺจธีตรา สทฺธึ เอกมฺเจ นิสินฺโนติ สลฺลกฺเขตฺวา, ‘‘อยํ ปํสุกูลิโก วิหาเรว อุปสนฺตูปสนฺโต วิย วิหรติ, อนฺโตคาเม ปน อุปฏฺายิกาหิ สทฺธึ เอกมฺเจ นิสีทตี’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘กึ นุ โข มยา ทุทฺทิฏฺ’’นฺติ ปุนปฺปุนํ โอโลเกตฺวา ตถาสฺีว หุตฺวา ปกฺกามิ. เถโรปิ ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา วสนฏฺานํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย นิสีทิ. เนวาสิโกปิ กตภตฺตกิจฺโจ วิหารํ คนฺตฺวา, ‘‘ตํ ปํสุกูลิกํ นิคฺคณฺหิตฺวา วิหารา นิกฺกฑฺฒิสฺสามี’’ติ อสฺตนีหาเรน เถรสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ปริโภคฆฏโต อุลุงฺเกน อุทกํ คเหตฺวา มหาสทฺทํ กโรนฺโต ปาเท โธวิ. เถโร, ‘‘โก นุ โข อยํ อสฺตจาริโก’’ติ อาวชฺชนฺโต สพฺพํ ตฺวา, ‘‘อยํ มยิ มนํ ปโทเสตฺวา อปายูปโค มา อโหสี’’ติ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา กณฺณิกามณฺฑลสมีเป ปลฺลงฺเกน นิสีทิ. เนวาสิโก ทุฏฺากาเรน ฆฏิกํ อุกฺขิปิตฺวา ทฺวารํ วิวริตฺวา อนฺโต ปวิฏฺโ เถรํ อปสฺสนฺโต, ‘‘เหฏฺามฺจํ ปวิฏฺโ ภวิสฺสตี’’ติ โอโลเกตฺวา ตตฺถาปิ อปสฺสนฺโต นิกฺขมิตุํ อารภิ. เถโร อุกฺกาสิ. อิตโร อุทฺธํ โอโลเกนฺโต ทิสฺวา อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต เอวมาห – ‘‘ปติรูปํ เต, อาวุโส, ปํสุกูลิก เอวํ อานุภาวสมฺปนฺนสฺส อุปฏฺายิกาย สทฺธึ เอกมฺเจ นิสีทิตุ’’นฺติ. ปพฺพชิตา นาม, ภนฺเต, มาตุคาเมน สทฺธึ น เอกมฺเจ นิสีทนฺติ, ตุมฺเหหิ ปน ทุทฺทิฏฺเมตนฺติ. เอวํ ขีณาสวา ปรานุทฺทยาย อุปวาทํ รกฺขนฺติ.

ขยา ราคสฺสาติ ราคสฺส ขเยเนว. วีตราคตฺตา กาเม น ปฏิเสวติ, น ปฏิสงฺขาย วาเรตฺวาติ. ตฺเจติ เอวํ ตถาคตสฺส กิเลสปฺปหานํ ตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ิตนิสินฺนกาลาทีสุปิ จตุปริสมชฺเฌ อลงฺกตธมฺมาสเน นิสีทิตฺวาปิ อิติปิ สตฺถา วีตราโค วีตโทโส วีตโมโห วนฺตกิเลโส ปหีนมโล อพฺภา มุตฺตปุณฺณจนฺโท วิย สุปริสุทฺโธติ เอวํ ตถาคตสฺส กิเลสปฺปหาเน วณฺณํ กถยมานํ ตํ วีมํสกํ ภิกฺขุํ ปเร เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ เจติ อตฺโถ.

อาการาติ การณานิ. อนฺวยาติ อนุพุทฺธิโย. สงฺเฆ วา วิหรนฺโตติ อปฺเปกทา อปริจฺฉินฺนคณนสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มชฺเฌ วิหรนฺโต. เอโก วา วิหรนฺโตติ อิจฺฉามหํ, ภิกฺขเว , อฑฺฒมาสํ ปฏิสลฺลียิตุนฺติ, เตมาสํ ปฏิสลฺลียิตุนฺติ เอวํ ปฏิสลฺลาเน เจว ปาลิเลยฺยกวนสณฺเฑ จ เอกโก วิหรนฺโต. สุคตาติ สุฏฺุคตา สุปฺปฏิปนฺนา การกา ยุตฺตปยุตฺตา. เอวรูปาปิ หิ เอกจฺเจ ภิกฺขู อตฺถิ. ทุคฺคตาติ ทุฏฺุคตา ทุปฺปฏิปนฺนา กายทฬฺหิพหุลา วิสฺสฏฺกมฺมฏฺานา. เอวรูปาปิ เอกจฺเจ อตฺถิ. คณมนุสาสนฺตีติ คณพนฺธเนน พทฺธา คณารามา คณพหุลิกา หุตฺวา คณํ ปริหรนฺติ. เอวรูปาปิ เอกจฺเจ อตฺถิ. เตสํ ปฏิปกฺขภูตา คณโต นิสฺสฏา วิสํสฏฺา วิปฺปมุตฺตวิหาริโนปิ อตฺถิ.

อามิเสสุ สนฺทิสฺสนฺตีติ อามิสคิทฺธา อามิสจกฺขุกา จตุปจฺจยอามิสตฺถเมว อาหิณฺฑมานา อามิเสสุ สนฺทิสฺสมานกภิกฺขูปิ อตฺถิ. อามิเสน อนุปลิตฺตา จตูหิ ปจฺจเยหิ วินิวตฺตมานสา อพฺภา มุตฺตจนฺทสทิสา หุตฺวา วิหรมานาปิ อตฺถิ. นายมายสฺมา ตํ เตน อวชานาตีติ อยํ อายสฺมา สตฺถา ตาย ตาย ปฏิปตฺติยา ตํ ตํ ปุคฺคลํ นาวชานาติ, อยํ ปฏิปนฺโน การโก, อยํ คณโต นิสฺสโฏ วิสํสฏฺโ. อยํ อามิเสน อนุปลิตฺโต ปจฺจเยหิ วินิวตฺตมานโส อพฺภา มุตฺโต จนฺทิมา วิยาติ เอวมสฺส เคหสิตวเสน อุสฺสาทนาปิ นตฺถิ. อยํ ทุปฺปฏิปนฺโน อการโก กายทฬฺหิพหุโล วิสฺสฏฺกมฺมฏฺาโน, อยํ คณพนฺธนพทฺโธ, อยํ อามิสคิทฺโธ โลโล อามิสจกฺขุโกติ เอวมสฺส เคหสิตวเสน อปสาทนาปิ นตฺถีติ อตฺโถ. อิมินา กึ กถิตํ โหติ? ตถาคตสฺส สตฺเตสุ ตาทิภาโว กถิโต โหติ. อยฺหิ –

‘‘วธกสฺส เทวทตฺตสฺส, โจรสฺสงฺคุลิมาลิโน;

ธนปาเล ราหุเล จ, สพฺเพสํ สมโก มุนี’’ติ. (มิ. ป. ๖.๖.๕);

๔๘๙. ตตฺร, ภิกฺขเวติ เตสุ ทฺวีสุ วีมํสเกสุ. โย, ‘‘เก ปนายสฺมโต อาการา’’ติ ปุจฺฉายํ อาคโต คณฺิวีมํสโก จ, โย ‘‘อภยูปรโต อยมายสฺมา’’ติ อาคโต มูลวีมํสโก จ. เตสุ มูลวีมํสเกน ตถาคโตว อุตฺตริ ปฏิปุจฺฉิตพฺโพ. โส หิ ปุพฺเพ ปรสฺเสว กถาย นิฏฺงฺคโต. ปโร จ นาม ชานิตฺวาปิ กเถยฺย อชานิตฺวาปิ. เอวมสฺส กถา ภูตาปิ โหติ อภูตาปิ, ตสฺมา ปรสฺเสว กถาย นิฏฺํ อคนฺตฺวา ตโต อุตฺตริ ตถาคโตว ปฏิปุจฺฉิตพฺโพติ อตฺโถ.

พฺยากรมาโนติ เอตฺถ ยสฺมา ตถาคตสฺส มิจฺฉาพฺยากรณํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา สมฺมา มิจฺฉาติ อวตฺวา พฺยากรมาโนตฺเวว วุตฺตํ. เอตํ ปโถหมสฺมิเอตํ โคจโรติ เอส มยฺหํ ปโถ เอส โคจโรติ อตฺโถ. ‘‘เอตาปาโถ’’ติปิ ปาโ, ตสฺสตฺโถ มยฺหํ อาชีวฏฺมกสีลํ ปริสุทฺธํ, สฺวาหํ ตสฺส ปริสุทฺธภาเวน วีมํสกสฺส ภิกฺขุโน าณมุเข เอตาปาโถ, เอวํ อาปาถํ คจฺฉามีติ วุตฺตํ โหติ. โน จ เตน ตมฺมโยติ เตนปิ จาหํ ปริสุทฺเธน สีเลน น ตมฺมโย, น สตณฺโห, ปริสุทฺธสีลตฺตาว นิตฺตณฺโหหมสฺมีติ ทีเปติ.

อุตฺตรุตฺตรึปณีตปณีตนฺติ อุตฺตรุตฺตรึ เจว ปณีตตรฺจ กตฺวา เทเสติ. กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคนฺติ กณฺหํ เจว สุกฺกฺจ, ตฺจ โข สปฺปฏิภาคํ สวิปกฺขํ กตฺวา, กณฺหํ ปฏิพาหิตฺวา สุกฺกนฺติ สุกฺกํ ปฏิพาหิตฺวา กณฺหนฺติ เอวํ สปฺปฏิภาคํ กตฺวา กณฺหสุกฺกํ เทเสติ. กณฺหํ เทเสนฺโตปิ สอุสฺสาหํ สวิปากํ เทเสติ, สุกฺกํ เทเสนฺโตปิ สอุสฺสาหํ สวิปากํ เทเสติ. อภิฺาย อิเธกจฺจํ ธมฺมํ ธมฺเมสุ นิฏฺํ คจฺฉตีติ ตสฺมึ เทสิเต ธมฺเม เอกจฺจํ ปฏิเวธธมฺมํ อภิฺาย เตน ปฏิเวธธมฺเมน เทสนาธมฺเม นิฏฺํ คจฺฉติ. สตฺถริ ปสีทตีติ เอวํ ธมฺเม นิฏฺํ คนฺตฺวา ภิยฺโยโสมตฺตาย สมฺมาสมฺพุทฺโธ โส ภควาติ สตฺถริ ปสีทติ. เตน ปน ภควตา โย ธมฺโม อกฺขาโต, โสปิ สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม นิยฺยานิกตฺตา. ยฺวาสฺส ตํ ธมฺมํ ปฏิปนฺโน สงฺโฆ, โสปิ สุปฺปฏิปนฺโน วงฺกาทิโทสรหิตํ ปฏิปทํ ปฏิปนฺนตฺตาติ เอวํ ธมฺเม สงฺเฆปิ ปสีทติ. ตฺเจติ ตํ เอวํ ปสนฺนํ ตตฺถ ตตฺถ ติณฺณํ รตนานํ วณฺณํ กเถนฺตํ ภิกฺขุํ.

๔๙๐. อิเมหิ อากาเรหีติ อิเมหิ สตฺถุวีมํสนการเณหิ. อิเมหิ ปเทหีติ อิเมหิ อกฺขรสมฺปิณฺฑนปเทหิ. อิเมหิ พฺยฺชเนหีติ อิเมหิ อิธ วุตฺเตหิ อกฺขเรหิ. สทฺธา นิวิฏฺาติ โอกปฺปนา ปติฏฺิตา. มูลชาตาติ โสตาปตฺติมคฺควเสน สฺชาตมูลา. โสตาปตฺติมคฺโค หิ สทฺธาย มูลํ นาม. อาการวตีติ การณํ ปริเยสิตฺวา คหิตตฺตา สการณา. ทสฺสนมูลิกาติ โสตาปตฺติมคฺคมูลิกา. โส หิ ทสฺสนนฺติ วุจฺจติ. ทฬฺหาติ ถิรา. อสํหาริยาติ หริตุํ น สกฺกา. สมเณน วาติ สมิตปาปสมเณน วา. พฺราหฺมเณน วาติ พาหิตปาปพฺราหฺมเณน วา. เทเวน วาติ อุปปตฺติเทเวน วา. มาเรน วาติ วสวตฺติมาเรน วา, โสตาปนฺนสฺส หิ วสวตฺติมาเรนาปิ สทฺธา อสํหาริยา โหติ สูรมฺพฏฺสฺส วิย.

โส กิร สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา โสตาปนฺโน หุตฺวา เคหํ อาคโต. อถ มาโร ทฺวตฺตึสวรลกฺขณปฺปฏิมณฺฑิตํ พุทฺธรูปํ มาเปตฺวา ตสฺส ฆรทฺวาเร ตฺวา – ‘‘สตฺถา อาคโต’’ติ สาสนํ ปหิณิ. สูโร จินฺเตสิ, ‘‘อหํ อิทาเนว สตฺถุ สนฺติกา ธมฺมํ สุตฺวา อาคโต, กึ นุ โข ภวิสฺสตี’’ติ อุปสงฺกมิตฺวา สตฺถุสฺาย วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. มาโร อาห – ‘‘ยํ เต มยา, สูรมฺพฏฺ, รูปํ อนิจฺจํ…เป… วิฺาณํ อนิจฺจนฺติ กถิตํ, ตํ อนุปธาเรตฺวาว สหสา มยา เอวํ วุตฺตํ. ตสฺมา ตฺวํ รูปํ นิจฺจํ…เป… วิฺาณํ นิจฺจนฺติ คณฺหาหี’’ติ. สูโร จินฺเตสิ – ‘‘อฏฺานเมตํ, ยํ พุทฺธา อนุปธาเรตฺวา อปจฺจกฺขํ กตฺวา กิฺจิ กเถยฺยุํ, อทฺธา อยํ มยฺหํ วิพาธนตฺถํ มาโร อาคโต’’ติ. ตโต นํ ตฺวํ มาโรติ อาห. โส มุสาวาทํ กาตุํ นาสกฺขิ, อาม มาโรสฺมีติ ปฏิชานิ. กสฺมา อาคโตสีติ วุตฺเต ตว สทฺธาจาลนตฺถนฺติ อาห. กณฺห ปาปิม, ตฺวํ ตาว เอกโก ติฏฺ, ตาทิสานํ มารานํ สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ มม สทฺธํ จาเลตุํ อสมตฺถํ, มคฺเคน อาคตา สทฺธา นาม สิลาปถวิยํ ปติฏฺิตสิเนรุ วิย อจลา โหติ, กึ ตฺวํ เอตฺถาติ อจฺฉรํ ปหริ. โส าตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเถวนฺตรธายิ. พฺรหฺมุนา วาติ พฺรหฺมกายิกาทีสุ อฺตรพฺรหฺมุนา วา. เกนจิ วา โลกสฺมินฺติ เอเต สมณาทโย เปตฺวา อฺเนปิ เกนจิ วา โลกสฺมึ หริตุํ น สกฺกา. ธมฺมสมนฺเนสนาติ สภาวสมนฺเนสนา. ธมฺมตาสุสมนฺนิฏฺโติ ธมฺมตาย สุสมนฺนิฏฺโ, สภาเวเนว สุฏฺุ สมนฺเนสิโต โหตีติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

วีมํสกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. โกสมฺพิยสุตฺตวณฺณนา

๔๙๑. เอวํเม สุตนฺติ โกสมฺพิยสุตฺตํ. ตตฺถ โกสมฺพิยนฺติ เอวํนามเก นคเร. ตสฺส กิร นครสฺส อารามโปกฺขรณีอาทีสุ เตสุ เตสุ าเนสุ โกสมฺพรุกฺขาว อุสฺสนฺนา อเหสุํ, ตสฺมา โกสมฺพีติ สงฺขํ อคมาสิ. กุสมฺพสฺส นาม อิสิโน อสฺสมโต อวิทูเร มาปิตตฺตาติปิ เอเก. โฆสิตาราเมติ โฆสิตเสฏฺินา การิเต อาราเม.

ปุพฺเพ กิร อทฺทิลรฏฺํ นาม อโหสิ. ตโต โกตูหลโก นาม ทลิทฺโท ฉาตกภเยน สปุตฺตทาโร เกทารปริจฺฉินฺนํ สุภิกฺขํ รฏฺํ คจฺฉนฺโต ปุตฺตํ วหิตุํ อสกฺโกนฺโต ฉฑฺเฑตฺวา อคมาสิ. มาตา นิวตฺติตฺวา ตํ คเหตฺวา คตา. เต เอกํ โคปาลกคามกํ ปวิสึสุ, โคปาลกานฺจ ตทา ปหตปายโส ปฏิยตฺโต โหติ, ตโต ปายสํ ลภิตฺวา ภุฺชึสุ. อถ โส ปุริโส ปหูตปายสํ ภุฺชิตฺวา ชิราเปตุํ อสกฺโกนฺโต รตฺติภาเค กาลํ กตฺวา ตตฺเถว สุนขิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา กุกฺกุโร ชาโต. โส โคปาลกสฺส ปิโย อโหสิ มนาโป, โคปาลโก จ ปจฺเจกพุทฺธํ อุปฏฺาสิ. ปจฺเจกพุทฺโธปิ ภตฺตกิจฺจาวสาเน กุกฺกุรสฺส เอกํ ปิณฺฑํ เทติ. โส ปจฺเจกพุทฺเธ สิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา โคปาลเกน สทฺธึ ปณฺณสาลมฺปิ คจฺฉติ.

โส โคปาลเก อสนฺนิหิเต ภตฺตเวลาย สยเมว คนฺตฺวา กาลาโรจนตฺถํ ปณฺณสาลทฺวาเร ภุสฺสติ, อนฺตรามคฺเคปิ จณฺฑมิเค ทิสฺวา ภุสฺสิตฺวา ปลาเปติ. โส ปจฺเจกพุทฺเธ มุทุเกน จิตฺเตน กาลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติ. ตตฺรสฺส โฆสกเทวปุตฺโตตฺเวว นามํ อโหสิ. โส เทวโลกโต จวิตฺวา โกสมฺพิยํ เอกสฺมึ กุลฆเร นิพฺพตฺติ. ตํ อปุตฺตโก เสฏฺิ ตสฺส มาตาปิตูนํ ธนํ ทตฺวา ปุตฺตํ กตฺวา อคฺคเหสิ. อถ โส อตฺตโน ปุตฺเต ชาเต สตฺตกฺขตฺตุํ มาราเปตุํ อุปกฺกมิ. โส ปุฺวนฺตตาย สตฺตสุปิ าเนสุ มรณํ อปฺปตฺวา อวสาเน เอกาย เสฏฺิธีตาย เวยฺยตฺติเยน ลทฺธชีวิโก อปรภาเค ปิตุอจฺจเยน เสฏฺิฏฺานํ ปตฺวา โฆสิตเสฏฺิ นาม ชาโต. อฺเปิ โกสมฺพิยํ กุกฺกุฏเสฏฺิ ปาวาริกเสฏฺีติ ทฺเว เสฏฺิโน สนฺติ. อิเมหิ สทฺธึ ตโย อเหสุํ.

เตน จ สมเยน เตสํ สหายกานํ เสฏฺีนํ กุลูปกา ปฺจสตา อิสโย ปพฺพตปาเท วสึสุ. เต กาเลน กาลํ โลณมฺพิลเสวนตฺถาย มนุสฺสปถํ อาคจฺฉนฺติ. อเถกสฺมึ วาเร คิมฺหสมเย มนุสฺสปถํ อาคจฺฉนฺตา นิรุทกมหากนฺตารํ อติกฺกมิตฺวา กนฺตารปริโยสาเน มหนฺตํ นิคฺโรธรุกฺขํ ทิสฺวา จินฺเตสุํ – ‘‘ยาทิโส อยํ รุกฺโข, อทฺธา เอตฺถ มเหสกฺขาย เทวตาย ภวิตพฺพํ, สาธุ วตสฺส, สเจ โน ปานียํ วา โภชนียํ วา ทเทยฺยา’’ติ. เทวตา อิสีนํ อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา อิเมสํ สงฺคหํ กริสฺสามีติ อตฺตโน อานุภาเวน วิฏปนฺตรโต นงฺคลสีสมตฺตํ อุทกธารํ ปวตฺเตสิ. อิสิคโณ รชตกฺขนฺธสทิสํ อุทกวฏฺฏึ ทิสฺวา อตฺตโน ภาชเนหิ อุทกํ คเหตฺวา ปริโภคํ กตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘เทวตาย อมฺหากํ ปริโภคอุทกํ ทินฺนํ, อิทํ ปน อคามกํ มหาอรฺํ, สาธุ วตสฺส, สเจ โน อาหารมฺปิ ทเทยฺยา’’ติ. เทวตา อิสีนํ อุปสํกปฺปนวเสน ทิพฺพานิ ยาคุขชฺชกาทีนิ ทตฺวา สนฺตปฺเปสิ. อิสโย จินฺตยึสุ – ‘‘เทวตาย อมฺหากํ ปริโภคอุทกมฺปิ โภชนมฺปิ สพฺพํ ทินฺนํ, สาธุ วตสฺส, สเจ โน อตฺตานํ ทสฺเสยฺยา’’ติ.

เทวตา เตสํ อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา อุปฑฺฒกายํ ทสฺเสสิ. เต อาหํสุ – ‘‘เทวเต, มหตี เต สมฺปตฺติ, กึ กมฺมํ กตฺวา อิมํ สมฺปตฺตึ อธิคตาสี’’ติ? ภนฺเต, นาติมหนฺตํ ปริตฺตกํ กมฺมํ กตฺวาติ. อุปฑฺฒอุโปสถกมฺมํ นิสฺสาย หิ เทวตาย สา สมฺปตฺติ ลทฺธา.

อนาถปิณฺฑิกสฺส กิร เคเห อยํ เทวปุตฺโต กมฺมกาโร อโหสิ. เสฏฺิสฺส หิ เคเห อุโปสถทิวเสสุ อนฺตมโส ทาสกมฺมกาเร อุปาทาย สพฺโพ ชโน อุโปสถิโก โหติ. เอกทิวสํ อยํ กมฺมกาโร เอกโกว ปาโต อุฏฺาย กมฺมนฺตํ คโต. มหาเสฏฺิ นิวาปํ ลภนมนุสฺเส สลฺลกฺเขนฺโต เอตสฺเสเวกสฺส อรฺํ คตภาวํ ตฺวา อสฺส สายมาสตฺถาย นิวาปํ อทาสิ. ภตฺตการิกา ทาสี เอกสฺเสว ภตฺตํ ปจิตฺวา อรฺโต อาคตสฺส ภตฺตํ วฑฺเฒตฺวา อทาสิ, กมฺมกาโร อาห – ‘‘อฺเสุ ทิวเสสุ อิมสฺมึ กาเล เคหํ เอกสทฺทํ อโหสิ, อชฺช อติวิย สนฺนิสินฺนํ, กึ นุ โข เอต’’นฺติ ? ตสฺส สา อาจิกฺขิ – ‘‘อชฺช อิมสฺมึ เคเห สพฺเพ มนุสฺสา อุโปสถิกา, มหาเสฏฺิ ตุยฺเหเวกสฺส นิวาปํ อทาสี’’ติ. เอวํ อมฺมาติ? อาม สามีติ. อิมสฺมึ กาเล อุโปสถํ สมาทินฺนสฺส อุโปสถกมฺมํ โหติ น โหตีติ มหาเสฏฺึ ปุจฺฉ อมฺมาติ? ตาย คนฺตฺวา ปุจฺฉิโต มหาเสฏฺิ อาห – ‘‘สกลอุโปสถกมฺมํ น โหติ, อุปฑฺฒกมฺมํ ปน โหติ, อุโปสถิโก โหตู’’ติ . กมฺมกาโร ภตฺตํ อภุฺชิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา อุโปสถิโก หุตฺวา วสนฏฺานํ คนฺตฺวา นิปชฺชิ. ตสฺส อาหารปริกฺขีณกายสฺส รตฺตึ วาโต กุปฺปิ. โส ปจฺจูสสมเย กาลํ กตฺวา อุปฑฺฒอุโปสถกมฺมนิสฺสนฺเทน มหาวฏฺฏนิอฏวิยํ นิคฺโรธรุกฺเข เทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส ตํ ปวตฺตึ อิสีนํ อาโรเจสิ.

อิสโย ตุมฺเหหิ มยํ พุทฺโธ, ธมฺโม, สงฺโฆติ อสุตปุพฺพํ สาวิตา, อุปฺปนฺโน นุ โข โลเก พุทฺโธติ? อาม, ภนฺเต, อุปฺปนฺโนติ. อิทานิ กุหึ วสตีติ? สาวตฺถึ นิสฺสาย เชตวเน, ภนฺเตติ. อิสโย ติฏฺถ ตาว ตุมฺเห มยํ สตฺถารํ ปสฺสิสฺสามาติ หฏฺตุฏฺา นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน โกสมฺพินครํ สมฺปาปุณึสุ. มหาเสฏฺิโน, ‘‘อิสโย อาคตา’’ติ ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา, ‘‘สฺเว อมฺหากํ ภิกฺขํ คณฺหถ, ภนฺเต’’ติ นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเส อิสิคณสฺส มหาทานํ อทํสุ. อิสโย ภุฺชิตฺวาว คจฺฉามาติ อาปุจฺฉึสุ. ตุมฺเห, ภนฺเต, อฺสฺมึ กาเล เอกมฺปิ มาสํ ทฺเวปิ ตโยปิ จตฺตาโรปิ มาเส วสิตฺวา คจฺฉถ. อิมสฺมึ ปน วาเร หิยฺโย อาคนฺตฺวา อชฺเชว คจฺฉามาติ วทถ, กิมิทนฺติ? อาม คหปตโย พุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน, น โข ปน สกฺกา ชีวิตนฺตราโย วิทิตุํ, เตน มยํ ตุริตา คจฺฉามาติ. เตน หิ, ภนฺเต, มยมฺปิ คจฺฉาม, อมฺเหหิ สทฺธึเยว คจฺฉถาติ. ตุมฺเห อคาริยา นาม มหาชฏา, ติฏฺถ ตุมฺเห, มยํ ปุเรตรํ คมิสฺสามาติ นิกฺขมิตฺวา เอกสฺมึ าเน ทฺเวปิ ทิวสานิ อวสิตฺวา ตุริตคมเนเนว สาวตฺถึ ปตฺวา เชตวนวิหาเร สตฺถุ สนฺติกเมว อคมํสุ. สตฺถุ มธุรธมฺมกถํ สุตฺวา สพฺเพว ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ.

เตปิ ตโย เสฏฺิโน ปฺจหิ ปฺจหิ สกฏสเตหิ สปฺปิมธุผาณิตาทีนิ เจว ปฏฺฏุนฺนทุกูลาทีนิ จ อาทาย โกสมฺพิโต นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ ปตฺวา เชตวนสามนฺเต ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. สตฺถา ติณฺณมฺปิ สหายกานํ มธุรธมฺมกถํ กเถสิ. เต พลวโสมนสฺสชาตา สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเส มหาทานํ อทํสุ. ปุน นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเสติ เอวํ อฑฺฒมาสํ ทานํ ทตฺวา, ‘‘อมฺหากํ ชนปทํ อาคมนาย ปฏิฺํ เทถา’’ติ ปาทมูเล นิปชฺชึสุ. ภควา, ‘‘สุฺาคาเร โข คหปตโย ตถาคตา อภิรมนฺตี’’ติ อาห. เอตฺตาวตา ปฏิฺา ทินฺนา นาม โหตีติ คหปตโย สลฺลกฺเขตฺวา ทินฺนา โน ภควตา ปฏิฺาติ ทสพลํ วนฺทิตฺวา นิกฺขมิตฺวา อนฺตรามคฺเค โยชเน โยชเน าเน วิหารํ กาเรตฺวา อนุปุพฺเพน โกสมฺพึ ปตฺวา, ‘‘โลเก พุทฺโธ อุปฺปนฺโน’’ติ กถยึสุ. ตโยปิ ชนา อตฺตโน อตฺตโน อาราเม มหนฺตํ ธนปริจฺจาคํ กตฺวา ภควโต วสนตฺถาย วิหาเร การาปยึสุ. ตตฺถ กุกฺกุฏเสฏฺินา การิโต กุกฺกุฏาราโม นาม อโหสิ. ปาวาริกเสฏฺินา อมฺพวเน การิโต ปาวาริกมฺพวโน นาม อโหสิ. โฆสิเตน การิโต โฆสิตาราโม นาม อโหสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘โฆสิตเสฏฺินา การิเต อาราเม’’ติ.

ภณฺฑนชาตาติอาทีสุ กลหสฺส ปุพฺพภาโค ภณฺฑนํ นาม, ตํ ชาตํ เอเตสนฺติ ภณฺฑนชาตา. หตฺถปรามาสาทิวเสน มตฺถกํ ปตฺโต กลโห ชาโต เอเตสนฺติ กลหชาตา. วิรุทฺธภูตํ วาทนฺติ วิวาทํ, ตํ อาปนฺนาติ วิวาทาปนฺนา. มุขสตฺตีหีติ วาจาสตฺตีหิ. วิตุทนฺตาติ วิชฺฌนฺตา. เต น เจว อฺมฺํ สฺาเปนฺติ น จ สฺตฺตึ อุเปนฺตีติ เต อตฺถฺจ การณฺจ ทสฺเสตฺวา เนว อฺมฺํ ชานาเปนฺติ. สเจปิ สฺาเปตุํ อารภนฺติ, ตถาปิ สฺตฺตึ น อุเปนฺติ, ชานิตุํ น อิจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. นิชฺฌตฺติยาปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ นิชฺฌตฺตีติ สฺตฺติเววจนเมเวตํ. กสฺมา ปเนเต ภณฺฑนชาตา อเหสุนฺติ? อปฺปมตฺตเกน การเณน.

ทฺเว กิร ภิกฺขู เอกสฺมึ อาวาเส วสนฺติ วินยธโร จ สุตฺตนฺติโก จ. เตสุ สุตฺตนฺติโก ภิกฺขุ เอกทิวสํ วจฺจกุฏึ ปวิฏฺโ อาจมนอุทกาวเสสํ ภาชเน เปตฺวาว นิกฺขมิ. วินยธโร ปจฺฉา ปวิฏฺโ ตํ อุทกํ ทิสฺวา นิกฺขมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ ปุจฺฉิ, อาวุโส, ตยา อิทํ อุทกํ ปิตนฺติ? อาม, อาวุโสติ. ตฺวเมตฺถ อาปตฺติภาวํ น ชานาสีติ? อาม น ชานามีติ. โหติ, อาวุโส, เอตฺถ อาปตฺตีติ. สเจ โหติ เทเสสฺสามีติ. สเจ ปน เต, อาวุโส, อสฺจิจฺจ อสติยา กตํ, นตฺถิ เต อาปตฺตีติ. โส ตสฺสา อาปตฺติยา อนาปตฺติทิฏฺิ อโหสิ.

วินยธโร อตฺตโน นิสฺสิตกานํ, ‘‘อยํ สุตฺตนฺติโก อาปตฺตึ อาปชฺชมาโนปิ น ชานาตี’’ติ อาโรเจสิ. เต ตสฺส นิสฺสิตเก ทิสฺวา – ‘‘ตุมฺหากํ อุปชฺฌาโย อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาปิ อาปตฺติภาวํ น ชานาตี’’ติ อาหํสุ. เต คนฺตฺวา อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส อาโรเจสุํ. โส เอวมาห – ‘‘อยํ วินยธโร ปุพฺเพ ‘อนาปตฺตี’ติ วตฺวา อิทานิ ‘อาปตฺตี’ติ วทติ, มุสาวาที เอโส’’ติ. เต คนฺตฺวา, ‘‘ตุมฺหากํ อุปชฺฌาโย มุสาวาที’’ติ เอวํ อฺมฺํ กลหํ วฑฺฒยึสุ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

ภควนฺตํ เอตทโวจาติ เอตํ, ‘‘อิธ, ภนฺเต, โกสมฺพิยํ ภิกฺขู ภณฺฑนชาตา’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ตฺจ โข เนว ปิยกมฺยตาย น เภทาธิปฺปาเยน, อถ โข อตฺถกามตาย หิตกามตาย. สามคฺคิการโก กิเรส ภิกฺขุ, ตสฺมาสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยถา อิเม ภิกฺขู วิวาทํ อารทฺธา, น สกฺกา มยา, นาปิ อฺเน ภิกฺขุนา สมคฺคา กาตุํ, อปฺเปว นาม สเทวเก โลเก อปฺปฏิปุคฺคโล ภควา สยํ วา คนฺตฺวา, อตฺตโน วา สนฺติกํ ปกฺโกสาเปตฺวา เอเตสํ ภิกฺขูนํ ขนฺติเมตฺตาปฏิสํยุตฺตํ สารณียธมฺมเทสนํ กเถตฺวา สามคฺคึ กเรยฺยา’’ติ อตฺถกามตาย หิตกามตาย คนฺตฺวา อโวจ.

๔๙๒. ฉยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สารณียาติ เหฏฺา กลหภณฺฑนวเสน เทสนา อารทฺธา. อิมสฺมึ าเน ฉ สารณียา ธมฺมา อาคตาติ เอวมิทํ โกสมฺพิยสุตฺตํ ยถานุสนฺธินาว คตํ โหติ. ตตฺถ สารณียาติ สริตพฺพยุตฺตา อทฺธาเน อติกฺกนฺเตปิ น ปมุสฺสิตพฺพา. โย เต ธมฺเม ปูเรติ, ตํ สพฺรหฺมจารีนํ ปิยํ กโรนฺตีติ ปิยกรณา. ครุํ กโรนฺตีติ ครุกรณา. สงฺคหายาติ สงฺคหณตฺถาย. อวิวาทายาติ อวิวาทนตฺถาย. สามคฺคิยาติ สมคฺคภาวตฺถาย . เอกีภาวายาติ เอกีภาวตฺถาย นินฺนานากรณาย. สํวตฺตนฺตีติ ภวนฺติ. เมตฺตํ กายกมฺมนฺติ เมตฺตจิตฺเตน กตฺตพฺพํ กายกมฺมํ. วจีกมฺมมโนกมฺเมสุปิ เอเสว นโย. อิมานิ ภิกฺขูนํ วเสน อาคตานิ, คิหีสุปิ ลพฺภนฺติเยว. ภิกฺขูนฺหิ เมตฺตจิตฺเตน อาภิสมาจาริกธมฺมปูรณํ เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม. คิหีนํ เจติยวนฺทนตฺถาย โพธิวนฺทนตฺถาย สงฺฆนิมนฺตนตฺถาย คมนํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺเ ภิกฺขู ทิสฺวา ปจฺจุคฺคมนํ ปตฺตปฏิคฺคหณํ อาสนปฺาปนํ อนุคมนนฺติ เอวมาทิกํ เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม.

ภิกฺขูนํ เมตฺตจิตฺเตน อาจารปฺตฺติสิกฺขาปทํ, กมฺมฏฺานกถนํ ธมฺมเทสนา เตปิฏกมฺปิ พุทฺธวจนํ เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม. คิหีนฺจ, ‘‘เจติยวนฺทนตฺถาย คจฺฉาม, โพธิวนฺทนตฺถาย คจฺฉาม, ธมฺมสฺสวนํ กริสฺสาม, ปทีปมาลาปุปฺผปูชํ กริสฺสาม, ตีณิ สุจริตานิ สมาทาย วตฺติสฺสาม, สลากภตฺตาทีนิ ทสฺสาม, วสฺสาวาสิกํ ทสฺสาม, อชฺช สงฺฆสฺส จตฺตาโร ปจฺจเย ทสฺสาม, สงฺฆํ นิมนฺเตตฺวา ขาทนียาทีนิ สํวิทหถ, อาสนานิ ปฺาเปถ, ปานียํ อุปฏฺเปถ, สงฺฆํ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา อาเนถ, ปฺตฺตาสเน นิสีทาเปตฺวา ฉนฺทชาตา อุสฺสาหชาตา เวยฺยาวจฺจํ กโรถา’’ติอาทิกถนกาเล เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม.

ภิกฺขูนํ ปาโตว อุฏฺาย สรีรปฏิชคฺคนํ เจติยงฺคณวตฺตาทีนิ จ กตฺวา วิวิตฺตาสเน นิสีทิตฺวา, ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู สุขี โหนฺตุ, อเวรา อพฺยาปชฺฌา’’ติ จินฺตนํ เมตฺตํ มโนกมฺมํ นาม. คิหีนํ ‘‘อยฺยา สุขี โหนฺตุ, อเวรา อพฺยาปชฺฌา’’ติ จินฺตนํ เมตฺตํ มโนกมฺมํ นาม.

อาวิ เจว รโห จาติ สมฺมุขา จ ปรมฺมุขา จ. ตตฺถ นวกานํ จีวรกมฺมาทีสุ สหายภาวูปคมนํ สมฺมุขา เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม. เถรานํ ปน ปาทโธวนวนฺทนพีชนทานาทิเภทมฺปิ สพฺพํ สามีจิกมฺมํ สมฺมุขา เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม. อุภเยหิปิ ทุนฺนิกฺขิตฺตานํ ทารุภณฺฑาทีนํ เตสุ อวมฺํ อกตฺวา อตฺตนา ทุนฺนิกฺขิตฺตานํ วิย ปฏิสามนํ ปรมฺมุขา เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม. เทวตฺเถโร ติสฺสตฺเถโรติ เอวํ ปคฺคยฺห วจนํ สมฺมุขา เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม. วิหาเร อสนฺตํ ปน ปริปุจฺฉนฺตสฺส, กุหึ อมฺหากํ เทวตฺเถโร, อมฺหากํ ติสฺสตฺเถโร กทา นุ โข อาคมิสฺสตีติ เอวํ มมายนวจนํ ปรมฺมุขา เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม. เมตฺตาสิเนหสินิทฺธานิ ปน นยนานิ อุมฺมีเลตฺวา สุปฺปสนฺเนน มุเขน โอโลกนํ สมฺมุขา เมตฺตํ มโนกมฺมํ นาม. เทวตฺเถโร, ติสฺสตฺเถโร อโรโค โหตุ อปฺปาพาโธติ สมนฺนาหรณํ ปรมฺมุขา เมตฺตํ มโนกมฺมํ นาม.

ลาภาติ จีวราทโย ลทฺธปจฺจยา. ธมฺมิกาติ กุหนาทิเภทํ มิจฺฉาชีวํ วชฺเชตฺวา ธมฺเมน สเมน ภิกฺขาจริยวตฺเตน อุปฺปนฺนา. อนฺตมโส ปตฺตปริยาปนฺนมตฺตมฺปีติ ปจฺฉิมโกฏิยา ปตฺเต ปริยาปนฺนํ ปตฺตสฺส อนฺโตคตํ ทฺวตฺติกฏจฺฉุภิกฺขามตฺตมฺปิ. อปฺปฏิวิภตฺตโภคีติ เอตฺถ ทฺเว ปฏิวิภตฺตานิ นาม อามิสปฏิวิภตฺตํ ปุคฺคลปฏิวิภตฺตฺจ. ตตฺถ, ‘‘เอตฺตกํ ทสฺสามิ, เอตฺตกํ น ทสฺสามี’’ติ เอวํ จิตฺเตน วิภชนํ อามิสปฏิวิภตฺตํ นาม. ‘‘อสุกสฺส ทสฺสามิ, อสุกสฺส น ทสฺสามี’’ติ เอวํ จิตฺเตน วิภชนํ ปน ปุคฺคลปฏิวิภตฺตํ นาม. ตทุภยมฺปิ อกตฺวา โย อปฺปฏิวิภตฺตํ ภุฺชติ, อยํ อปฺปฏิวิภตฺตโภคี นาม.

สีลวนฺเตหิสพฺรหฺมจารีหิ สาธารณโภคีติ เอตฺถ สาธารณโภคิโน อิทํ ลกฺขณํ, ยํ ยํ ปณีตํ ลพฺภติ, ตํ ตํ เนว ลาเภน ลาภํ ชิคีสนามุเขน คิหีนํ เทติ, น อตฺตนา ปริภุฺชติ; ปฏิคฺคณฺหนฺโตว สงฺเฆน สาธารณํ โหตูติ คเหตฺวา คณฺฑึ ปหริตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ สงฺฆสนฺตกํ วิย ปสฺสติ. อิทํ ปน สารณียธมฺมํ โก ปูเรติ, โก น ปูเรตีติ? ทุสฺสีโล ตาว น ปูเรติ. น หิ ตสฺส สนฺตกํ สีลวนฺตา คณฺหนฺติ. ปริสุทฺธสีโล ปน วตฺตํ อขณฺเฑนฺโต ปูเรติ.

ตตฺริทํ วตฺตํ – โย หิ โอทิสฺสกํ กตฺวา มาตุ วา ปิตุ วา อาจริยุปชฺฌายาทีนํ วา เทติ, โส ทาตพฺพํ เทติ, สารณียธมฺโม ปนสฺส น โหติ, ปลิโพธชคฺคนํ นาม โหติ. สารณียธมฺโม หิ มุตฺตปลิโพธสฺเสว วฏฺฏติ, เตน ปน โอทิสฺสกํ เทนฺเตน คิลานคิลานุปฏฺากอาคนฺตุกคมิกานฺเจว นวปพฺพชิตสฺส จ สงฺฆาฏิปตฺตคฺคหณํ อชานนฺตสฺส ทาตพฺพํ. เอเตสํ ทตฺวา อวเสสํ เถราสนโต ปฏฺาย โถกํ โถกํ อทตฺวา โย ยตฺตกํ คณฺหาติ, ตสฺส ตตฺตกํ ทาตพฺพํ. อวสิฏฺเ อสติ ปุน ปิณฺฑาย จริตฺวา เถราสนโต ปฏฺาย ยํ ยํ ปณีตํ, ตํ ตํ ทตฺวา เสสํ ปริภุฺชิตพฺพํ, ‘‘สีลวนฺเตหี’’ติ วจนโต ทุสฺสีลสฺส อทาตุมฺปิ วฏฺฏติ.

อยํ ปน สารณียธมฺโม สุสิกฺขิตาย ปริสาย สุปูโร โหติ, โน อสิกฺขิตาย ปริสาย. สุสิกฺขิตาย หิ ปริสาย โย อฺโต ลภติ, โส น คณฺหาติ, อฺโต อลภนฺโตปิ ปมาณยุตฺตเมว คณฺหาติ, น อติเรกํ. อยฺจ ปน สารณียธมฺโม เอวํ ปุนปฺปุนํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธํ ลทฺธํ เทนฺตสฺสาปิ ทฺวาทสหิ วสฺเสหิ ปูรติ, น ตโต โอรํ. สเจ หิ ทฺวาทสเมปิ วสฺเส สารณียธมฺมปูรโก ปิณฺฑปาตปูรํ ปตฺตํ อาสนสาลายํ เปตฺวา นหายิตุํ คจฺฉติ, สงฺฆตฺเถโร จ กสฺเสโส ปตฺโตติ? สารณียธมฺมปูรกสฺสาติ วุตฺเต – ‘‘อาหรถ น’’นฺติ สพฺพํ ปิณฺฑปาตํ วิจาเรตฺวา ภุฺชิตฺวา จ ริตฺตปตฺตํ เปติ. อถ โส ภิกฺขุ ริตฺตปตฺตํ ทิสฺวา, ‘‘มยฺหํ อเสเสตฺวาว ปริภุฺชึสู’’ติ โทมนสฺสํ อุปฺปาเทติ, สารณียธมฺโม ภิชฺชติ, ปุน ทฺวาทส วสฺสานิ ปูเรตพฺโพ โหติ, ติตฺถิยปริวาสสทิโส เหส. สกึ ขณฺเฑ ชาเต ปุน ปูเรตพฺโพว. โย ปน, ‘‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม ปตฺตคตํ อนาปุจฺฉาว สพฺรหฺมจารี ปริภุฺชนฺตี’’ติ โสมนสฺสํ ชเนติ, ตสฺส ปุณฺโณ นาม โหติ.

เอวํ ปูริตสารณียธมฺมสฺส ปน เนว อิสฺสา, น มจฺฉริยํ โหติ, โส มนุสฺสานํ ปิโย โหติ, สุลภปจฺจโย; ปตฺตคตมสฺส ทียมานมฺปิ น ขียติ, ภาชนียภณฺฑฏฺาเน อคฺคภณฺฑํ ลภติ, ภเย วา ฉาตเก วา สมฺปตฺเต เทวตา อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชนฺติ.

ตตฺริมานิ วตฺถูนิ – เลณคิริวาสี ติสฺสตฺเถโร กิร มหาคิริคามํ อุปนิสฺสาย วสติ. ปฺาส มหาเถรา นาคทีปํ เจติยวนฺทนตฺถาย คจฺฉนฺตา คิริคาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา กิฺจิ อลทฺธา นิกฺขมึสุ. เถโร ปวิสนฺโต เต ทิสฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ลทฺธํ, ภนฺเต’’ติ? วิจริมฺหา, อาวุโสติ. โส อลทฺธภาวํ ตฺวา อาห – ‘‘ยาวาหํ, ภนฺเต, อาคจฺฉามิ, ตาว อิเธว โหถา’’ติ. มยํ, อาวุโส, ปฺาส ชนา ปตฺตเตมนมตฺตมฺปิ น ลภิมฺหาติ. เนวาสิกา นาม, ภนฺเต, ปฏิพลา โหนฺติ, อลภนฺตาปิ ภิกฺขาจารมคฺคสภาวํ ชานนฺตีติ. เถรา อาคมึสุ. เถโร คามํ ปาวิสิ. ธุรเคเหเยว มหาอุปาสิกา ขีรภตฺตํ สชฺเชตฺวา เถรํ โอโลกยมานา ิตา เถรสฺส ทฺวารํ สมฺปตฺตสฺเสว ปตฺตํ ปูเรตฺวา อทาสิ. โส ตํ อาทาย เถรานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต’’ติ สงฺฆตฺเถรมาห. เถโร, ‘‘อมฺเหหิ เอตฺตเกหิ กิฺจิ น ลทฺธํ, อยํ สีฆเมว คเหตฺวา อาคโต, กึ นุ โข’’ติ เสสานํ มุขํ โอโลเกสิ. เถโร โอโลกนากาเรเนว ตฺวา – ‘‘ธมฺเมน สเมน ลทฺธปิณฺฑปาโต, นิกฺกุกฺกุจฺจา คณฺหถ ภนฺเต’’ติอาทิโต ปฏฺาย สพฺเพสํ ยาวทตฺถํ ทตฺวา อตฺตนาปิ ยาวทตฺถํ ภุฺชิ.

อถ นํ ภตฺตกิจฺจาวสาเน เถรา ปุจฺฉึสุ – ‘‘กทา, อาวุโส, โลกุตฺตรธมฺมํ ปฏิวิชฺฌี’’ติ? นตฺถิ เม, ภนฺเต, โลกุตฺตรธมฺโมติ. ฌานลาภีสิ, อาวุโสติ? เอตมฺปิ เม, ภนฺเต, นตฺถีติ. นนุ, อาวุโส, ปาฏิหาริยนฺติ? สารณียธมฺโม เม, ภนฺเต, ปูริโต, ตสฺส เม ธมฺมสฺส ปูริตกาลโต ปฏฺาย สเจปิ ภิกฺขุสตสหสฺสํ โหติ, ปตฺตคตํ น ขียตีติ. สาธุ สาธุ, สปฺปุริส, อนุจฺฉวิกมิทํ ตุยฺหนฺติ. อิทํ ตาว ปตฺตคตํ น ขียตีติ เอตฺถ วตฺถุ.

อยเมว ปน เถโร เจติยปพฺพเต คิริภณฺฑมหาปูชาย ทานฏฺานํ คนฺตฺวา, ‘‘อิมสฺมึ าเน กึ วรภณฺฑ’’นฺติ ปุจฺฉติ. ทฺเว สาฏกา, ภนฺเตติ. เอเต มยฺหํ ปาปุณิสฺสนฺตีติ. ตํ สุตฺวา อมจฺโจ รฺโ อาโรเจสิ – ‘‘เอโก ทหโร เอวํ วทตี’’ติ. ‘‘ทหรสฺเสวํ จิตฺตํ, มหาเถรานํ ปน สุขุมสาฏกา วฏฺฏนฺตี’’ติ วตฺวา, ‘‘มหาเถรานํ ทสฺสามี’’ติ เปสิ. ตสฺส ภิกฺขุสงฺเฆ ปฏิปาฏิยา ิเต เทนฺตสฺส มตฺถเก ปิตาปิ เต สาฏกา หตฺถํ นาโรหนฺติ, อฺเว อาโรหนฺติ. ทหรสฺส ทานกาเล ปน หตฺถํ อารุฬฺหา. โส ตสฺส หตฺเถ เปตฺวา อมจฺจสฺส มุขํ โอโลเกตฺวา ทหรํ นิสีทาเปตฺวา ทานํ ทตฺวา สงฺฆํ วิสฺสชฺเชตฺวา ทหรสฺส สนฺติเก นิสีทิตฺวา, ‘‘กทา, ภนฺเต, อิมํ ธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตฺถา’’ติ อาห. โส ปริยาเยนปิ อสนฺตํ อวทนฺโต, ‘‘นตฺถิ มยฺหํ, มหาราช, โลกุตฺตรธมฺโม’’ติ อาห. นนุ, ภนฺเต, ปุพฺเพว อวจุตฺถาติ? อาม, มหาราช, สารณียธมฺมปูรโก อหํ, ตสฺส เม ธมฺมสฺส ปูริตกาลโต ปฏฺาย ภาชนียภณฺฑฏฺาเน อคฺคภณฺฑํ ปาปุณาตีติ. สาธุ สาธุ, ภนฺเต, อนุจฺฉวิกมิทํ ตุมฺหากนฺติ วนฺทิตฺวา ปกฺกามิ. อิทํ ภาชนียภณฺฑฏฺาเน อคฺคภณฺฑํ ปาปุณาตีติ เอตฺถ วตฺถุ.

พฺราหฺมณติสฺสภเย ปน ภาตรคามวาสิโน นาคตฺเถริยา อนาโรเจตฺวาว ปลายึสุ. เถรี ปจฺจูสกาเล, ‘‘อติวิย อปฺปนิคฺโฆโส คาโม, อุปธาเรถ ตาวา’’ติ ทหรภิกฺขุนิโย อาห. ตา คนฺตฺวา สพฺเพสํ คตภาวํ ตฺวา อาคมฺม เถริยา อาโรเจสุํ. สา สุตฺวา, ‘‘มา ตุมฺเห เตสํ คตภาวํ จินฺตยิตฺถ, อตฺตโน อุทฺเทสปริปุจฺฉาโยนิโสมนสิกาเรสุเยว โยคํ กโรถา’’ติ วตฺวา ภิกฺขาจารเวลาย ปารุปิตฺวา อตฺตทฺวาทสมา คามทฺวาเร นิคฺโรธรุกฺขมูเล อฏฺาสิ. รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา ทฺวาทสนฺนมฺปิ ภิกฺขุนีนํ ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา, ‘‘อยฺเย, อฺตฺถ มา คจฺฉถ, นิจฺจํ อิเธว เอถา’’ติ อาห. เถริยา ปน กนิฏฺภาตา นาคตฺเถโร นาม อตฺถิ. โส, ‘‘มหนฺตํ ภยํ, น สกฺกา อิธ ยาเปตุํ, ปรตีรํ คมิสฺสามาติ อตฺตทฺวาทสโมว อตฺตโน วสนฏฺานา นิกฺขนฺโต เถรึ ทิสฺวา คมิสฺสามี’’ติ ภาตรคามํ อาคโต. เถรี, ‘‘เถรา อาคตา’’ติ สุตฺวา เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา, กึ อยฺยาติ ปุจฺฉิ. โส ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิ. สา, ‘‘อชฺช เอกทิวสํ วิหาเรเยว วสิตฺวา สฺเวว คมิสฺสถา’’ติ อาห. เถรา วิหารํ อคมํสุ.

เถรี ปุนทิวเส รุกฺขมูเล ปิณฺฑาย จริตฺวา เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘อิมํ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชถา’’ติ อาห. เถโร, ‘‘วฏฺฏิสฺสติ เถรี’’ติ วตฺวา ตุณฺหี อฏฺาสิ. ธมฺมิโก ตาตา ปิณฺฑปาโต กุกฺกุจฺจํ อกตฺวา ปริภุฺชถาติ. วฏฺฏิสฺสติ เถรีติ. สา ปตฺตํ คเหตฺวา อากาเส ขิปิ, ปตฺโต อากาเส อฏฺาสิ. เถโร, ‘‘สตฺตตาลมตฺเต ิตมฺปิ ภิกฺขุนีภตฺตเมว, เถรีติ วตฺวา ภยํ นาม สพฺพกาลํ น โหติ, ภเย วูปสนฺเต อริยวํสํ กถยมาโน, ‘โภ ปิณฺฑปาติก ภิกฺขุนีภตฺตํ ภุฺชิตฺวา วีตินามยิตฺถา’ติ จิตฺเตน อนุวทิยมาโน สนฺถมฺเภตุํ น สกฺขิสฺสามิ, อปฺปมตฺตา โหถ เถริโย’’ติ มคฺคํ อารุหิ.

รุกฺขเทวตาปิ, ‘‘สเจ เถโร เถริยา หตฺถโต ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิสฺสติ, น นํ นิวตฺเตสฺสามิ, สเจ ปน น ปริภุฺชิสฺสติ, นิวตฺเตสฺสามี’’ติ จินฺตยมานา ตฺวา เถรสฺส คมนํ ทิสฺวา รุกฺขา โอรุยฺห ปตฺตํ, ภนฺเต, เทถาติ ปตฺตํ คเหตฺวา เถรํ รุกฺขมูลํเยว อาเนตฺวา อาสนํ ปฺาเปตฺวา ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา กตภตฺตกิจฺจํ ปฏิฺํ กาเรตฺวา ทฺวาทส ภิกฺขุนิโย, ทฺวาทส จ ภิกฺขู สตฺต วสฺสานิ อุปฏฺหิ. อิทํ เทวตา อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชนฺตีติ เอตฺถ วตฺถุ, ตตฺร หิ เถรี สารณียธมฺมปูริกา อโหสิ.

อขณฺฑานีติอาทีสุ ยสฺส สตฺตสุ อาปตฺติกฺขนฺเธสุ อาทิมฺหิ วา อนฺเต วา สิกฺขาปทํ ภินฺนํ โหติ, ตสฺส สีลํ ปริยนฺเต ฉินฺนสาฏโก วิย ขณฺฑํ นาม. ยสฺส ปน เวมชฺเฌ ภินฺนํ, ตสฺส มชฺเฌ ฉิทฺทสาฏโก วิย ฉิทฺทํ นาม โหติ. ยสฺส ปน ปฏิปาฏิยา ทฺเว ตีณิ ภินฺนานิ, ตสฺส ปิฏฺิยํ วา กุจฺฉิยํ วา อุฏฺิเตน วิสภาควณฺเณน กาฬรตฺตาทีนํ อฺตรวณฺณา คาวี วิย สพลํ นาม โหติ. ยสฺส ปน อนฺตรนฺตรา ภินฺนานิ, ตสฺส อนฺตรนฺตรา วิสภาคพินฺทุจิตฺรา คาวี วิย กมฺมาสํ นาม โหติ. ยสฺส ปน สพฺเพน สพฺพํ อภินฺนานิ, ตสฺส ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ นาม โหนฺติ. ตานิ ปเนตานิ ตณฺหาทาสพฺยโต โมเจตฺวา ภุชิสฺสภาวกรณโต ภุชิสฺสานิ. พุทฺธาทีหิ วิฺูหิ ปสตฺถตฺตา วิฺุปฺปสตฺถานิ. ตณฺหาทิฏฺีหิ อปรามฏฺตฺตา, ‘‘อิทํ นาม ตฺวํ อาปนฺนปุพฺโพ’’ติ เกนจิ ปรามฏฺุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา จ อปรามฏฺานิ. อุปจารสมาธึ วา อปฺปนาสมาธึ วา สํวตฺตยนฺตีติ สมาธิสํวตฺตนิกานีติ วุจฺจนฺติ. สีลสามฺคโตวิหรตีติ เตสุ เตสุ ทิสาภาเคสุ วิหรนฺเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สมานภาวูปคตสีโล วิหรติ . โสตาปนฺนาทีนฺหิ สีลํ สมุทฺทนฺตเรปิ เทวโลเกปิ วสนฺตานํ อฺเสํ โสตาปนฺนาทีนํ สีเลน สมานเมว โหติ, นตฺถิ มคฺคสีเล นานตฺตํ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

ยายํ ทิฏฺีติ มคฺคสมฺปยุตฺตา สมฺมาทิฏฺิ. อริยาติ นิทฺโทสา. นิยฺยาตีติ นิยฺยานิกา. ตกฺกรสฺสาติ โย ตถาการี โหติ. ทุกฺขกฺขยายาติ สพฺพทุกฺขกฺขยตฺถํ. ทิฏฺิสามฺคโตติ สมานทิฏฺิภาวํ อุปคโต หุตฺวา วิหรติ. อคฺคนฺติ เชฏฺกํ. สพฺพโคปานสิโย สงฺคณฺหาตีติ สงฺคาหิกํ. สพฺพโคปานสีนํ สงฺฆาฏํ กโรตีติ สงฺฆาฏนิกํ. สงฺฆาฏนิยนฺติ อตฺโถ. ยทิทํ กูฏนฺติ ยเมตํ กูฏาคารกณฺณิกาสงฺขาตํ กูฏํ นาม. ปฺจภูมิกาทิปาสาทา หิ กูฏพทฺธาว ติฏฺนฺติ. ยสฺมึ ปติเต มตฺติกํ อาทึ กตฺวา สพฺเพ ปตนฺติ. ตสฺมา เอวมาห. เอวเมว โขติ ยถา กูฏํ กูฏาคารสฺส, เอวํ อิเมสมฺปิ สารณียธมฺมานํ ยา อยํ อริยา ทิฏฺิ, สา อคฺคา จ สงฺคาหิกา จ สงฺฆาฏนิยา จาติ ทฏฺพฺพา.

๔๙๓. กถฺจ, ภิกฺขเว, ยายํ ทิฏฺีติ เอตฺถ, ภิกฺขเว, ยายํ โสตาปตฺติมคฺคทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ วุตฺตา, สา กถํ เกน การเณน นิยฺยาตีติ อตฺโถ. ปริยุฏฺิตจิตฺโตว โหตีติ เอตฺตาวตาปิ ปริยุฏฺิตจิตฺโตเยว นาม โหตีติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. สุปฺปณิหิตํ เม มานสนฺติ มยฺหํ จิตฺตํ สุฏฺุ ปิตํ. สจฺจานํ โพธายาติ จตุนฺนํ สจฺจานํ โพธตฺถาย. อริยนฺติอาทีสุ ตํ าณํ ยสฺมา อริยานํ โหติ, น ปุถุชฺชนานํ, ตสฺมา อริยนฺติ วุตฺตํ. เยสํ ปน โลกุตฺตรธมฺโมปิ อตฺถิ, เตสํเยว โหติ, น อฺเสํ, ตสฺมา โลกุตฺตรนฺติ วุตฺตํ. ปุถุชฺชนานํ ปน อภาวโต อสาธารณํ ปุถุชฺชเนหีติ วุตฺตํ. เอส นโย สพฺพวาเรสุ.

๔๙๔. ลภามิ ปจฺจตฺตํ สมถนฺติ อตฺตโน จิตฺเต สมถํ ลภามีติ อตฺโถ. นิพฺพุติยมฺปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ สมโถติ เอกคฺคตา. นิพฺพุตีติ กิเลสวูปสโม.

๔๙๕. ตถารูปาย ทิฏฺิยาติ เอวรูปาย โสตาปตฺติมคฺคทิฏฺิยา.

๔๙๖. ธมฺมตายาติ สภาเวน. ธมฺมตา เอสาติ สภาโว เอส. วุฏฺานํ ปฺายตีติ สงฺฆกมฺมวเสน วา เทสนาย วา วุฏฺานํ ทิสฺสติ. อริยสาวโก หิ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต ครุกาปตฺตีสุ กุฏิการสทิสํ, ลหุกาปตฺตีสุ สหเสยฺยาทิสทิสํ อจิตฺตกาปตฺตึเยว อาปชฺชติ, ตมฺปิ อสฺจิจฺจ, โน สฺจิจฺจ, อาปนฺนํ น ปฏิจฺฉาเทติ. ตสฺมา อถ โข นํ ขิปฺปเมวาติอาทิมาห. ทหโรติ ตรุโณ. กุมาโรติ น มหลฺลโก. มนฺโทติ จกฺขุโสตาทีนํ มนฺทตาย มนฺโท. อุตฺตานเสยฺยโกติ อติทหรตาย อุตฺตานเสยฺยโก, ทกฺขิเณน วา วาเมน วา ปสฺเสน สยิตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ. องฺคารํ อกฺกมิตฺวาติ อิโต จิโต จ ปสาริเตน หตฺเถน วา ปาเทน วา ผุสิตฺวา. เอวํ ผุสนฺตานํ ปน มนุสฺสานํ น สีฆํ หตฺโถ ฌายติ, ตถา หิ เอกจฺเจ หตฺเถน องฺคารํ คเหตฺวา ปริวตฺตมานา ทูรมฺปิ คจฺฉนฺติ. ทหรสฺส ปน หตฺถปาทา สุขุมาลา โหนฺติ, โส ผุฏฺมตฺเตเนว ทยฺหมาโน จิรีติ สทฺทํ กโรนฺโต ขิปฺปํ ปฏิสํหรติ, ตสฺมา อิธ ทหโรว ทสฺสิโต. มหลฺลโก จ ทยฺหนฺโตปิ อธิวาเสติ, อยํ ปน อธิวาเสตุํ น สกฺโกติ. ตสฺมาปิ ทหโรว ทสฺสิโต. เทเสตีติ อาปตฺติปฏิคฺคาหเก สภาคปุคฺคเล สติ เอกํ ทิวสํ วา รตฺตึ วา อนธิวาเสตฺวา รตฺตึ จตุรงฺเคปิ ตเม สภาคภิกฺขุโน วสนฏฺานํ คนฺตฺวา เทเสติเยว.

๔๙๗. อุจฺจาวจานีติ อุจฺจนีจานิ. กึ กรณียานีติ กึ กโรมีติ เอวํ วตฺวา กตฺตพฺพกมฺมานิ. ตตฺถ อุจฺจกมฺมํ นาม จีวรสฺส กรณํ รชนํ เจติเย สุธากมฺมํ อุโปสถาคารเจติยฆรโพธิฆเรสุ กตฺตพฺพกมฺมนฺติ เอวมาทิ. อวจกมฺมํ นาม ปาทโธวนมกฺขนาทิขุทฺทกกมฺมํ, อถ วา เจติเย สุธากมฺมาทิ อุจฺจกมฺมํ นาม. ตตฺเถว กสาวปจนอุทกานยนกุจฺฉกรณ นิยฺยาสพนฺธนาทิ อวจกมฺมํ นาม. อุสฺสุกฺกํ อาปนฺโน โหตีติ อุสฺสุกฺกภาวํ กตฺตพฺพตํ ปฏิปนฺโน โหติ. ติพฺพาเปกฺโข โหตีติ พหลปตฺถโน โหติ. ถมฺพฺจอาลุมฺปตีติ ติณฺจ อาลุมฺปมานา ขาทติ. วจฺฉกฺจ อปจินาตีติ วจฺฉกฺจ อปโลเกติ. ตรุณวจฺฉา หิ คาวี อรฺเ เอกโต อาคตํ วจฺฉกํ เอกสฺมึ าเน นิปนฺนํ ปหาย ทูรํ น คจฺฉติ, วจฺฉกสฺส อาสนฺนฏฺาเน จรมานา ติณํ อาลุมฺปิตฺวา คีวํ อุกฺขิปิตฺวา เอกนฺตํ วจฺฉกเมว จ วิโลเกติ, เอวเมว โสตาปนฺโน อุจฺจาวจานิ กึ กรณียานิ กโรนฺโต ตนฺนินฺโน โหติ, อสิถิลปูรโก ติพฺพจฺฉนฺโท พหลปตฺถโน หุตฺวาว กโรติ.

ตตฺริทํ วตฺถุ – มหาเจติเย กิร สุธากมฺเม กริยมาเน เอโก อริยสาวโก เอเกน หตฺเถน สุธาภาชนํ, เอเกน กุจฺฉํ คเหตฺวา สุธากมฺมํ กริสฺสามีติ เจติยงฺคณํ อารุฬฺโห. เอโก กายทฬฺหิพหุโล ภิกฺขุ คนฺตฺวา เถรสฺส สนฺติเก อฏฺาสิ. เถโร อฺสฺมึ สติ ปปฺโจ โหตีติ ตสฺมา านา อฺํ านํ คโต. โสปิ ภิกฺขุ ตตฺเถว อคมาสิ. เถโร ปุน อฺํ านนฺติ เอวํ กติปยฏฺาเน อาคตํ, – ‘‘สปฺปุริส มหนฺตํ เจติยงฺคณํ กึ อฺสฺมึ าเน โอกาสํ น ลภถา’’ติ อาห. น อิตโร ปกฺกามีติ.

๔๙๘. พลตาย สมนฺนาคโตติ พเลน สมนฺนาคโต. อฏฺึ กตฺวาติ อตฺถิกภาวํ กตฺวา, อตฺถิโก หุตฺวาติ อตฺโถ. มนสิกตฺวาติ มนสฺมึ กริตฺวา. สพฺพเจตสา สมนฺนาหริตฺวาติ อปฺปมตฺตกมฺปิ วิกฺเขปํ อกโรนฺโต สกลจิตฺเตน สมนฺนาหริตฺวา. โอหิตโสโตติ ปิตโสโต. อริยสาวกา หิ ปิยธมฺมสฺสวนา โหนฺติ, ธมฺมสฺสวนคฺคํ คนฺตฺวา นิทฺทายมานา วา เยน เกนจิ สทฺธึ สลฺลปมานา วา วิกฺขิตฺตจิตฺตา วา น นิสีทนฺติ, อถ โข อมตํ ปริภุฺชนฺตา วิย อติตฺตาว โหนฺติ ธมฺมสฺสวเน, อถ อรุณํ อุคฺคจฺฉติ. ตสฺมา เอวมาห.

๕๐๐. ธมฺมตาสุสมนฺนิฏฺา โหตีติ สภาโว สุฏฺุ สมนฺเนสิโต โหติ. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยายาติ กรณวจนํ , โสตาปตฺติผลสจฺฉิกตาเณนาติ อตฺโถ. เอวํ สตฺตงฺคสมนฺนาคโตติ เอวํ อิเมหิ สตฺตหิ มหาปจฺจเวกฺขณาเณหิ สมนฺนาคโต. อยํ ตาว อาจริยานํ สมานกถา. โลกุตฺตรมคฺโค หิ พหุจิตฺตกฺขณิโก นาม นตฺถิ.

วิตณฺฑวาที ปน เอกจิตฺตกฺขณิโก นาม มคฺโค นตฺถิ, ‘‘เอวํ ภาเวยฺย สตฺต วสฺสานี’’ติ หิ วจนโต สตฺตปิ วสฺสานิ มคฺคภาวนา โหนฺติ. กิเลสา ปน ลหุ ฉิชฺชนฺตา สตฺตหิ าเณหิ ฉิชฺชนฺตีติ วทติ. โส สุตฺตํ อาหราติ วตฺตพฺโพ, อทฺธา อฺํ สุตฺตํ อปสฺสนฺโต, ‘‘อิทมสฺส ปมํ าณํ อธิคตํ โหติ, อิทมสฺส ทุติยํ าณํ…เป… อิทมสฺส สตฺตมํ าณํ อธิคตํ โหตี’’ติ อิมเมว อาหริตฺวา ทสฺเสสฺสติ. ตโต วตฺตพฺโพ กึ ปนิทํ สุตฺตํ เนยฺยตฺถํ นีตตฺถนฺติ. ตโต วกฺขติ – ‘‘นีตตฺถตฺถํ, ยถาสุตฺตํ ตเถว อตฺโถ’’ติ. โส วตฺตพฺโพ – ‘‘ธมฺมตา สุสมนฺนิฏฺา โหติ โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยายาติ เอตฺถ โก อตฺโถ’’ติ? อทฺธา โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยายตฺโถติ วกฺขติ. ตโต ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘มคฺคสมงฺคี ผลํ สจฺฉิกโรติ, ผลสมงฺคี’’ติ. ชานนฺโต, ‘‘ผลสมงฺคี สจฺฉิกโรตี’’ติ วกฺขติ. ตโต วตฺตพฺโพ, – ‘‘เอวํ สตฺตงฺคสมนฺนาคโต โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก โสตาปตฺติผลสมนฺนาคโต โหตีติ อิธ มคฺคํ อภาเวตฺวา มณฺฑูโก วิย อุปฺปติตฺวา อริยสาวโก ผลเมว คณฺหิสฺสติ. มา สุตฺตํ เม ลทฺธนฺติ ยํ วา ตํ วา อวจ. ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺเตน นาม อาจริยสนฺติเก วสิตฺวา พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา อตฺถรสํ วิทิตฺวา วตฺตพฺพํ โหตี’’ติ. ‘‘อิมานิ สตฺต าณานิ อริยสาวกสฺส ปจฺจเวกฺขณาณาเนว, โลกุตฺตรมคฺโค พหุจิตฺตกฺขณิโก นาม นตฺถิ, เอกจิตฺตกฺขณิโกเยวา’’ติ สฺาเปตพฺโพ. สเจ สฺชานาติ สฺชานาตุ. โน เจ สฺชานาติ, ‘‘คจฺฉ ปาโตว วิหารํ ปวิสิตฺวา ยาคุํ ปิวาหี’’ติ อุยฺโยเชตพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

โกสมฺพิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. พฺรหฺมนิมนฺตนิกสุตฺตวณฺณนา

๕๐๑. เอวํเม สุตนฺติ พฺรหฺมนิมนฺตนิกสุตฺตํ. ตตฺถ ปาปกํ ทิฏฺิคตนฺติ ลามกา สสฺสตทิฏฺิ. อิทํ นิจฺจนฺติ อิทํ สห กาเยน พฺรหฺมฏฺานํ อนิจฺจํ ‘‘นิจฺจ’’นฺติ วทติ. ธุวาทีนิ ตสฺเสว เววจนานิ. ตตฺถ ธุวนฺติ ถิรํ. สสฺสตนฺติ สทา วิชฺชมานํ. เกวลนฺติ อขณฺฑํ สกลํ. อจวนธมฺมนฺติ อจวนสภาวํ. อิทฺหิ น ชายตีติอาทีสุ อิมสฺมึ าเน โกจิ ชายนโก วา ชียนโก วา มียนโก วา จวนโก วา อุปปชฺชนโก วา นตฺถีติ สนฺธาย วทติ. อิโต จ ปนฺนฺติ อิโต สห กายกา พฺรหฺมฏฺานา อุตฺตริ อฺํ นิสฺสรณํ นาม นตฺถีติ เอวมสฺส ถามคตา สสฺสตทิฏฺิ อุปฺปนฺนา โหติ. เอวํวาที ปน โส อุปริ ติสฺโส ฌานภูมิโย จตฺตาโร มคฺคา จตฺตาริ ผลานิ นิพฺพานนฺติ สพฺพํ ปฏิพาหติ. อวิชฺชาคโตติ อวิชฺชาย คโต สมนฺนาคโต อฺาณี อนฺธีภูโต. ยตฺร หิ นามาติ โย นาม.

๕๐๒. อถ โข, ภิกฺขเว, มาโร ปาปิมาติ มาโร กถํ ภควนฺตํ อทฺทส? โส กิร อตฺตโน ภวเน นิสีทิตฺวา กาเลน กาลํ สตฺถารํ อาวชฺเชติ – ‘‘อชฺช สมโณ โคตโม กตรสฺมึ คาเม วา นิคเม วา วสตี’’ติ. อิมสฺมึ ปน กาเล อาวชฺชนฺโต, ‘‘อุกฺกฏฺํ นิสฺสาย สุภควเน วิหรตี’’ติ ตฺวา, ‘‘กตฺถ นุ โข คโต’’ติ โอโลเกนฺโต พฺรหฺมโลกํ คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา, ‘‘สมโณ โคตโม พฺรหฺมโลกํ คจฺฉติ, ยาว ตตฺถ ธมฺมกถํ กเถตฺวา พฺรหฺมคณํ มม วิสยา นาติกฺกเมติ, ตาว คนฺตฺวา ธมฺมเทสนายํ วิฉนฺทํ กริสฺสามี’’ติ สตฺถุ ปทานุปทิโก คนฺตฺวา พฺรหฺมคณสฺส อนฺตเร อทิสฺสมาเนน กาเยน อฏฺาสิ. โส, ‘‘สตฺถารา พกพฺรหฺมา อปสาทิโต’’ติ ตฺวา พฺรหฺมุโน อุปตฺถมฺโภ หุตฺวา อฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, มาโร ปาปิมา’’ติ.

พฺรหฺมปาริสชฺชํ อนฺวาวิสิตฺวาติ เอกสฺส พฺรหฺมปาริสชฺชสฺส สรีรํ ปวิสิตฺวา. มหาพฺรหฺมานํ ปน พฺรหฺมปุโรหิตานํ วา อนฺวาวิสิตุํ น สกฺโกติ. เมตมาสโทติ มา เอตํ อปสาทยิตฺถ. อภิภูติ อภิภวิตฺวา ิโต เชฏฺโก. อนภิภูโตติ อฺเหิ อนภิภูโต. อฺทตฺถูติ เอกํสวจเน นิปาโต. ทสฺสนวเสน ทโส, สพฺพํ ปสฺสตีติ ทีเปติ. วสวตฺตีติ สพฺพชนํ วเส วตฺเตติ. อิสฺสโรติ โลเก อิสฺสโร. กตฺตา นิมฺมาตาติ โลกสฺส กตฺตา จ นิมฺมาตา จ, ปถวีหิมวนฺตสิเนรุจกฺกวาฬมหาสมุทฺทจนฺทิมสูริยา จ อิมินา นิมฺมิตาติ ทีเปติ.

เสฏฺโ สชิตาติ อยํ โลกสฺส อุตฺตโม จ สชิตา จ. ‘‘ตฺวํ ขตฺติโย นาม โหหิ, ตฺวํ พฺราหฺมโณ นาม, เวสฺโส นาม, สุทฺโท นาม, คหฏฺโ นาม, ปพฺพชิโต นาม, อนฺตมโส โอฏฺโ โหหิ, โคโณ โหหี’’ติ เอวํ สตฺตานํ วิสชฺเชตา อยนฺติ ทสฺเสติ. วสี ปิตา ภูตภพฺยานนฺติ อยํ จิณฺณวสิตาย วสี, อยํ ปิตา ภูตานฺจ ภพฺยานฺจาติ วทติ. ตตฺถ อณฺฑชชลาพุชา สตฺตา อนฺโตอณฺฑโกเส เจว อนฺโตวตฺถิมฺหิ จ ภพฺยา นาม, พหิ นิกฺขนฺตกาลโต ปฏฺาย ภูตา. สํเสทชา ปมจิตฺตกฺขเณ ภพฺยา, ทุติยโต ปฏฺาย ภูตา. โอปปาติกา ปมอิริยาปเถ ภพฺยา, ทุติยโต ปฏฺาย ภูตาติ เวทิตพฺพา. เต สพฺเพปิ เอตสฺส ปุตฺตาติ สฺาย, ‘‘ปิตา ภูตภพฺยาน’’นฺติ อาห.

ปถวีครหกาติ ยถา ตฺวํ เอตรหิ, ‘‘อนิจฺจา ทุกฺขา อนตฺตา’’ติ ปถวึ ครหสิ ชิคุจฺฉสิ, เอวํ เตปิ ปถวีครหกา อเหสุํ, น เกวลํ ตฺวํเยวาติ ทีเปติ. อาปครหกาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. หีเน กาเย ปติฏฺิตาติ จตูสุ อปาเยสุ นิพฺพตฺตา. ปถวีปสํสกาติ ยถา ตฺวํ ครหสิ, เอวํ อครหิตฺวา, ‘‘นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อจฺเฉชฺชา อเภชฺชา อกฺขยา’’ติ เอวํ ปถวีปสํสกา ปถวิยา วณฺณวาทิโน อเหสุนฺติ วทติ. ปถวาภินนฺทิโนติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน ปถวิยา อภินนฺทิโน. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ปณีเต กาเย ปติฏฺิตาติ พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตา. ตํ ตาหนฺติ เตน การเณน ตํ อหํ. อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต. อุปาติวตฺติตฺโถติ อติกฺกมิตฺถ. ‘‘อุปาติวตฺติโต’’ติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. ทณฺเฑน ปฏิปฺปณาเมยฺยาติ จตุหตฺเถน มุคฺครทณฺเฑน โปเถตฺวา ปลาเปยฺย. นรกปปาเตติ สตโปริเส มหาโสพฺเภ. วิราเธยฺยาติ หตฺเถน คหณยุตฺเต วา ปาเทน ปติฏฺานยุตฺเต วา าเน คหณปติฏฺานานิ กาตุํ น สกฺกุเณยฺย. นนุ ตฺวํ ภิกฺขุ ปสฺสสีติ ภิกฺขุ นนุ ตฺวํ อิมํ พฺรหฺมปริสํ สนฺนิปติตํ โอภาสมานํ วิโรจมานํ โชตยมานํ ปสฺสสีติ พฺรหฺมุโน โอวาเท ิตานํ อิทฺธานุภาวํ ทสฺเสติ. อิติ โข มํ, ภิกฺขเว, มาโร ปาปิมา พฺรหฺมปริสํ อุปเนสีติ, ภิกฺขเว , มาโร ปาปิมา นนุ ตฺวํ ภิกฺขุ ปสฺสสิ พฺรหฺมปริสํ ยเสน จ สิริยา จ โอภาสมานํ วิโรจมานํ โชตยมานํ, ยทิ ตฺวมฺปิ มหาพฺรหฺมุโน วจนํ อนติกฺกมิตฺวา ยเทว เต พฺรหฺมา วทติ, ตํ กเรยฺยาสิ, ตฺวมฺปิ เอวเมวํ ยเสน จ สิริยา จ วิโรเจยฺยาสีติ เอวํ วทนฺโต มํ พฺรหฺมปริสํ อุปเนสิ อุปสํหริ. มา ตฺวํ มฺิตฺโถติ มา ตฺวํ มฺิ. มาโร ตฺวมสิ ปาปิมาติ ปาปิม ตฺวํ มหาชนสฺส มารณโต มาโร นาม, ปาปกํ ลามกํ มหาชนสฺส อยสํ กรณโต ปาปิมา นามาติ ชานามิ.

๕๐๓. กสิณํ อายุนฺติ สกลํ อายุํ. เต โข เอวํ ชาเนยฺยุนฺติ เต เอวํ มหนฺเตน ตโปกมฺเมน สมนฺนาคตา, ตฺวํ ปน ปุริมทิวเส ชาโต, กึ ชานิสฺสสิ, ยสฺส เต อชฺชาปิ มุเข ขีรคนฺโธ วายตีติ ฆฏฺเฏนฺโต วทติ. ปถวึ อชฺโฌสิสฺสสีติ ปถวึ อชฺโฌสาย คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา ตณฺหามานทิฏฺีหิ คณฺหิสฺสสิ. โอปสายิโก เม ภวิสฺสสีติ มยฺหํ สมีปสโย ภวิสฺสสิ, มํ คจฺฉนฺตํ อนุคจฺฉิสฺสสิ, ิตํ อุปติฏฺิสฺสสิ, นิสินฺนํ อุปนิสีทิสฺสสิ, นิปนฺนํ อุปนิปชฺชิสฺสสีติ อตฺโถ. วตฺถุสายิโกติ มม วตฺถุสฺมึ สยนโก. ยถากามกรณีโย พาหิเตยฺโยติ มยา อตฺตโน รุจิยา ยํ อิจฺฉามิ, ตํ กตฺตพฺโพ, พาหิตฺวา จ ปน ชชฺฌริกาคุมฺพโตปิ นีจตโร ลกุณฺฑฏกตโร กาตพฺโพ ภวิสฺสสีติ อตฺโถ.

อิมินา เอส ภควนฺตํ อุปลาเปติ วา อปสาเทติ วา. อุปลาเปติ นาม สเจ โข ตฺวํ, ภิกฺขุ, ตณฺหาทีหิ ปถวึ อชฺโฌสิสฺสสิ, โอปสายิโก เม ภวิสฺสสิ, มยิ คจฺฉนฺเต คมิสฺสสิ, ติฏฺนฺเต สฺสสิ, นิสินฺเน นิสีทิสฺสสิ, นิปนฺเน นิปชฺชิสฺสสิ, อหํ ตํ เสสชนํ ปฏิพาหิตฺวา วิสฺสาสิกํ อพฺภนฺตริกํ กริสฺสามีติ เอวํ ตาว อุปลาเปติ นาม. เสสปเทหิ ปน อปสาเทติ นาม. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สเจ ตฺวํ ปถวึ อชฺโฌสิสฺสสิ, วตฺถุสายิโก เม ภวิสฺสสิ, มม คมนาทีนิ อาคเมตฺวา คมิสฺสสิ วา สฺสสิ วา นิสีทิสฺสสิ วา นิปชฺชิสฺสสิ วา, มม วตฺถุสฺมึ มยฺหํ อารกฺขํ คณฺหิสฺสสิ, อหํ ปน ตํ ยถากามํ กริสฺสามิ พาหิตฺวา จ ชชฺฌริกาคุมฺพโตปิ ลกุณฺฑกตรนฺติ เอวํ อปสาเทติ นาม. อยํ ปน พฺรหฺมา มานนิสฺสิโต, ตสฺมา อิธ อปสาทนาว อธิปฺเปตา. อาปาทีสุปิ เอเสว นโย.

อปิจเต อหํ พฺรหฺเมติ อิทานิ ภควา, ‘‘อยํ พฺรหฺมา มานนิสฺสิโต ‘อหํ ชานามี’ติ มฺติ, อตฺตโน ยเสน สมฺมตฺโต สรีรํ ผุสิตุมฺปิ สมตฺถํ กิฺจิ น ปสฺสติ, โถกํ นิคฺคเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ คติฺจ ปชานามีติ นิปฺผตฺติฺจ ปชานามิ. ชุติฺจาติ อานุภาวฺจ ปชานามิ. เอวํ มเหสกฺโขติ เอวํ มหายโส มหาปริวาโร.

ยาวตา จนฺทิมสูริยา ปริหรนฺตีติ ยตฺตเก าเน จนฺทิมสูริยา วิจรนฺติ. ทิสา ภนฺติ วิโรจนาติ ทิสาสุ วิโรจมานา โอภาสนฺติ, ทิสา วา เตหิ วิโรจมานา โอภาสนฺติ. ตาว สหสฺสธา โลโกติ ตตฺตเกน ปมาเณน สหสฺสธา โลโก, อิมินา จกฺกวาเฬน สทฺธึ จกฺกวาฬสหสฺสนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ เต วตฺตเต วโสติ เอตฺถ จกฺกวาฬสหสฺเส ตุยฺหํ วโส วตฺตติ. ปโรปรฺจ ชานาสีติ เอตฺถ จกฺกวาฬสหสฺเส ปโรปเร อุจฺจนีเจ หีนปฺปณีเต สตฺเต ชานาสิ. อโถ ราควิราคินนฺติ น เกวลํ, ‘‘อยํ อิทฺโธ อยํ ปกติมนุสฺโส’’ติ ปโรปรํ, ‘‘อยํ ปน สราโค อยํ วีตราโค’’ติ เอวํ ราควิราคินมฺปิ ชนํ ชานาสิ. อิตฺถํภาวฺถาภาวนฺติ อิตฺถํภาโวติ อิทํ จกฺกวาฬํ. อฺถาภาโวติ อิโต เสสํ เอกูนสหสฺสํ. สตฺตานํ อาคตึ คตินฺติ เอตฺถ จกฺกวาฬสหสฺเส ปฏิสนฺธิวเสน สตฺตานํ อาคตึ, จุติวเสน คตึ จ ชานาสิ. ตุยฺหํ ปน อติมหนฺโตหมสฺมีติ สฺา โหติ, สหสฺสิพฺรหฺมา นาม ตฺวํ, อฺเสํ ปน ตยา อุตฺตริ ทฺวิสหสฺสานํ ติสหสฺสานํ จตุสหสฺสานํ ปฺจสหสฺสานํ ทสสหสฺสานํ สตสหสฺสานฺจ พฺรหฺมานํ ปมาณํ นตฺถิ, จตุหตฺถาย ปิโลติกาย ปฏปฺปมาณํ กาตุํ วายมนฺโต วิย มหนฺโตสฺมีติ สฺํ กโรสีติ นิคฺคณฺหาติ.

๕๐๔. อิธูปปนฺโนติ อิธ ปมชฺฌานภูมิยํ อุปปนฺโน. เตน ตํ ตฺวํ น ชานาสีติ เตน การเณน ตํ กายํ ตฺวํ น ชานาสิ. เนว เต สมสโมติ ชานิตพฺพฏฺานํ ปตฺวาปิ ตยา สมสโม น โหมิ. อภิฺายาติ อฺาย. กุโต นีเจยฺยนฺติ ตยา นีจตรภาโว ปน มยฺหํ กุโต.

เหฏฺูปปตฺติโก กิเรส พฺรหฺมา อนุปฺปนฺเน พุทฺธุปฺปาเท อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา กสิณปริกมฺมํ กตฺวา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานภูมิยํ เวหปฺผลพฺรหฺมโลเก ปฺจกปฺปสติกํ อายุํ คเหตฺวา นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา เหฏฺฏูปปตฺติกํ กตฺวา ตติยชฺฌานํ ปณีตํ ภาเวตฺวา สุภกิณฺหพฺรหฺมโลเก จตุสฏฺิกปฺปํ อายุํ คเหตฺวา นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ทุติยชฺฌานํ ภาเวตฺวา อาภสฺสเรสุ อฏฺกปฺปํ อายุํ คเหตฺวา นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ปมชฺฌานํ ภาเวตฺวา ปมชฺฌานภูมิยํ กปฺปายุโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ, โส ปมกาเล อตฺตนา กตกมฺมฺจ นิพฺพตฺตฏฺานฺจ อฺาสิ, กาเล ปน คจฺฉนฺเต อุภยํ ปมุสฺสิตฺวา สสฺสตทิฏฺึ อุปฺปาเทสิ. เตน นํ ภควา, ‘‘เตน ตํ ตฺวํ น ชานาสิ…เป… กุโต นีเจยฺย’’นฺติ อาห.

อถ พฺรหฺมา จินฺเตสิ – ‘‘สมโณ โคตโม มยฺหํ อายุฺจ นิพฺพตฺตฏฺานฺจ ปุพฺเพกตกมฺมฺจ ชานาติ, หนฺท นํ ปุพฺเพ กตกมฺมํ ปุจฺฉามี’’ติ สตฺถารํ อตฺตโน ปุพฺเพกตกมฺมํ ปุจฺฉิ. สตฺถา กเถสิ.

ปุพฺเพ กิเรส กุลฆเร นิพฺพตฺติตฺวา กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา, ‘‘ชาติชราพฺยาธิมรณสฺส อนฺตํ กริสฺสามี’’ติ นิกฺขมฺม อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา อภิฺาปาทกชฺฌานลาภี หุตฺวา คงฺคาตีเร ปณฺณสาลํ กาเรตฺวา ฌานรติยา วีตินาเมติ. ตทา จ กาเลน กาลํ สตฺถวาหา ปฺจหิ สกฏสเตหิ มรุกนฺตารํ ปฏิปชฺชนฺติ. มรุกนฺตาเร ปน ทิวา น สกฺกา คนฺตุํ, รตฺตึ คมนํ โหติ. อถ ปุริมสกฏสฺส อคฺคยุเค ยุตฺตพลิพทฺทา คจฺฉนฺตา นิวตฺติตฺวา อาคตมคฺคาภิมุขาว อเหสุํ. อิตรสกฏานิ ตเถว นิวตฺติตฺวา อรุเณ อุคฺคเต นิวตฺติตภาวํ ชานึสุ. เตสฺจ ตทา กนฺตารํ อติกฺกมนทิวโส อโหสิ. สพฺพํ ทารุทกํ ปริกฺขีณํ, ตสฺมา, ‘‘นตฺถิ ทานิ อมฺหากํ ชีวิต’’นฺติ จินฺเตตฺวา โคเณ จกฺเกสุ พนฺธิตฺวา มนุสฺสา สกฏปจฺฉายายํ ปวิสิตฺวา นิปชฺชึสุ . ตาปโสปิ กาลสฺเสว ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ปณฺณสาลทฺวาเร นิสินฺโน คงฺคํ โอโลกยมาโน อทฺทส คงฺคํ มหตา อุทโกเฆน วุยฺหมานํ ปวตฺติตมณิกฺขนฺธํ วิย อาคจฺฉนฺตึ. ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อตฺถิ นุ โข อิมสฺมึ โลเก เอวรูปสฺส มธุโรทกสฺส อลาเภน กิลิสฺสมานา สตฺตา’’ติ. โส เอวํ อาวชฺชนฺโต มรุกนฺตาเร ตํ สตฺถํ ทิสฺวา, ‘‘อิเม สตฺตา มา นสฺสนฺตู’’ติ, ‘‘อิโต มหา อุทกกฺขนฺโธ ฉิชฺชิตฺวา มรุกนฺตาเร สตฺถาภิมุโข คจฺฉตู’’ติ อภิฺาจิตฺเตน อธิฏฺาสิ. สหจิตฺตุปฺปาเทน มาติการุฬฺหํ วิย อุทกํ ตตฺถ อคมาสิ. มนุสฺสา อุทกสทฺเทน วุฏฺาย อุทกํ ทิสฺวา หตฺถตุฏฺา นฺหายิตฺวา ปิวิตฺวา โคเณปิ ปาเยตฺวา โสตฺถินา อิจฺฉิตฏฺานํ อคมํสุ. สตฺถา ตํ พฺรหฺมุโน ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต –

‘‘ยํ ตฺวํ อปาเยสิ พหู มนุสฺเส,

ปิปาสิเต ฆมฺมนิ สมฺปเรเต;

ตํ เต ปุราณํ วตสีลวตฺตํ,

สุตฺตปฺปพุทฺโธว อนุสฺสรามี’’ติ. (ชา. ๑.๗.๗๑) –

อิมํ คาถมาห.

อปรสฺมึ สมเย ตาปโส คงฺคาตีเร ปณฺณสาลํ มาเปตฺวา อารฺกํ คามํ นิสฺสาย วสติ. เตน จ สมเยน โจรา ตํ คามํ ปหริตฺวา หตฺถสารํ คเหตฺวา คาวิโย จ กรมเร จ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ. คาโวปิ สุนขาปิ มนุสฺสาปิ มหาวิรวํ วิรวนฺติ. ตาปโส ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึ นุ โข เอต’’นฺติ อาวชฺชนฺโต, ‘‘มนุสฺสานํ ภยํ อุปฺปนฺน’’นฺติ ตฺวา, ‘‘มยิ ปสฺสนฺเต อิเม สตฺตา มา นสฺสนฺตู’’ติ อภิฺาปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อภิฺาจิตฺเตน โจรานํ ปฏิปเถ จตุรงฺคินิเสนํ มาเปสิ กมฺมสชฺชํ อาคจฺฉนฺตึ. โจรา ทิสฺวา, ‘‘ราชา’’ติ เต มฺมานา วิโลปํ ฉฑฺเฑตฺวา ปกฺกมึสุ. ตาปโส ‘‘ยํ ยสฺส สนฺตกํ, ตํ ตสฺเสว โหตู’’ติ อธิฏฺาสิ, ตํ ตเถว อโหสิ. มหาชโน โสตฺถิภาวํ ปาปุณิ. สตฺถา อิทมฺปิ ตสฺส ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต –

‘‘ยํ เอณิกูลสฺมึ ชนํ คหีตํ,

อโมจยี คยฺหก นียมานํ;

ตํ เต ปุราณํ วตสีลวตฺตํ,

สุตฺตปฺปพุทฺโธว อนุสฺสรามี’’ติ. (ชา. ๑.๗.๗๒) –

อิมํ คาถมาห. เอตฺถ เอณิกูลสฺมินฺติ คงฺคาตีเร.

ปุน เอกสฺมึ สมเย อุปริคงฺคาวาสิกํ กุลํ เหฏฺาคงฺคาวาสิเกน กุเลน สทฺธึ มิตฺตสนฺถวํ กตฺวา นาวาสงฺฆาฏํ พนฺธิตฺวา พหุํ ขาทนียโภชนียฺเจว คนฺธมาลาทีนิ จ อาโรเปตฺวา คงฺคาโสเตน อาคจฺฉติ. มนุสฺสา ขาทมานา ภุฺชมานา นจฺจนฺตา คายนฺตา เทววิมาเนน คจฺฉนฺตา วิย พลวโสมนสฺสา อเหสุํ. คงฺเคยฺยโก นาโค ทิสฺวา กุปิโต, ‘‘อิเม มยิ สฺมฺปิ น กโรนฺติ, อิทานิ เน สมุทฺทเมว ปาเปสฺสามี’’ติ มหนฺตํ อตฺตภาวํ มาเปตฺวา อุทกํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา อุฏฺาย ผณํ กตฺวา สุสฺสูการํ กโรนฺโต อฏฺาสิ. มหาชโน ทิสฺวา ภีโต วิสฺสรมกาสิ. ตาปโส ปณฺณสาลาย นิสินฺโน สุตฺวา, ‘‘อิเม คายนฺตา นจฺจนฺตา โสมนสฺสชาตา อาคจฺฉนฺติ, อิทานิ ปน ภยรวํ รวึสุ, กึ นุ โข’’ติ อาวชฺชนฺโต นาคราชํ ทิสฺวา, ‘‘มยิ ปสฺสนฺเต อิเม สตฺตา มา นสฺสนฺตู’’ติ อภิฺาปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา สุปณฺณวณฺณํ มาเปตฺวา นาคราชสฺส ทสฺเสสิ. นาคราชา ภีโต ผณํ สํหริตฺวา อุทกํ ปวิฏฺโ. มหาชโน โสตฺถิภาวํ ปาปุณิ. สตฺถา อิทมฺปิ ตสฺส ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต –

‘‘คงฺคาย โสตสฺมึ คหีตนาวํ,

ลุทฺเทน นาเคน มนุสฺสกปฺปา;

อโมจยิตฺถ พลสา ปสยฺห,

ตํ เต ปุราณํ วตสีลวตฺตํ;

สุตฺตปฺปพุทฺโธว อนุสฺสรามี’’ติ. (ชา. ๑.๗.๗๓) –

อิมํ คาถมาห.

อปรสฺมึ สมเย เอส อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา เกสโว นาม ตาปโส อโหสิ. เตน สมเยน อมฺหากํ โพธิสตฺโต กปฺโป นาม มาณโว เกสวสฺส พทฺธจโร อนฺเตวาสิโก หุตฺวา อาจริยสฺส กึการปฏิสฺสาวี มนาปจารี พุทฺธิสมฺปนฺโน อตฺถจโร อโหสิ. เกสโว ตํ วินา วตฺติตุํ นาสกฺขิ, ตํ นิสฺสาเยว ชีวิกํ กปฺเปสิ. สตฺถา อิทมฺปิ ตสฺส ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต –

‘‘กปฺโป จ เต พทฺธจโร อโหสิ,

สมฺพุทฺธิมนฺตํ วตินํ อมฺิ;

ตํ เต ปุราณํ วตสีลวตฺตํ,

สุตฺตปฺปพุทฺโธว อนุสฺสรามี’’ติ. (ชา. ๑.๗.๗๔) –

อิมํ คาถมาห.

เอวํ พฺรหฺมุโน นานตฺตภาเวสุ กตกมฺมํ สตฺถา ปกาเสสิ. สตฺถริ กเถนฺเตเยว พฺรหฺมา สลฺลกฺเขสิ, ทีปสหสฺเส อุชฺชลิเต รูปานิ วิย สพฺพกมฺมานิสฺส ปากฏานิ อเหสุํ. โส ปสนฺนจิตฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘อทฺธา ปชานาสิ มเมตมายุํ,

อฺมฺปิ ชานาสิ ตถา หิ พุทฺโธ;

ตถา หิ ตายํ ชลิตานุภาโว,

โอภาสยํ ติฏฺติ พฺรหฺมโลก’’นฺติ. (ชา. ๑.๗.๗๕);

อถสฺส ภควา อุตฺตริ อสมสมตํ ปกาเสนฺโต ปถวึ โข อหํ พฺรหฺเมติอาทิมาห. ตตฺถ ปถวิยา ปถวตฺเตน อนนุภูตนฺติ ปถวิยา ปถวิสภาเวน อนนุภูตํ อปฺปตฺตํ. กึ ปน ตนฺติ? นิพฺพานํ. ตฺหิ สพฺพสฺมา สงฺขตา นิสฺสฏตฺตา ปถวิสภาเวน อปฺปตฺตํ นาม. ตทภิฺายาติ ตํ นิพฺพานํ ชานิตฺวา สจฺฉิกตฺวา. ปถวึ นาปโหสินฺติ ปถวึ ตณฺหาทิฏฺิมานคาเหหิ น คณฺหึ. อาปาทีสุปิ เอเสว นโย. วิตฺถาโร ปน มูลปริยาเย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

สเจ โข เต, มาริส, สพฺพสฺส สพฺพตฺเตนาติ อิทเมว พฺรหฺมา อตฺตโน วาทิตาย สพฺพนฺติ อกฺขรํ นิทฺทิสิตฺวา อกฺขเร โทสํ คณฺหนฺโต อาห. สตฺถา ปน สกฺกายํ สนฺธาย ‘‘สพฺพ’’นฺติ วทติ, พฺรหฺมา สพฺพสพฺพํ สนฺธาย. ตฺวํ ‘‘สพฺพ’’นฺติ วทสิ, ‘‘สพฺพสฺส สพฺพตฺเตน อนนุภูต’’นฺติ วทสิ, ยทิ สพฺพํ อนนุภูตํ นตฺถิ, อถสฺส อนนุภูตํ อตฺถิ. มา เหว เต ริตฺตกเมวอโหสิตุจฺฉกเมว อโหสีติ ตุยฺหํ วจนํ ริตฺตกํ มา โหตุ, ตุจฺฉกํ มา โหตูติ สตฺถารํ มุสาวาเทน นิคฺคณฺหาติ.

สตฺถา ปน เอตสฺมา พฺรหฺมุนา สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน วาทีตโร, ตสฺมา อหํ สพฺพฺจ วกฺขามิ, อนนุภูตฺจ วกฺขามิ, สุณาหิ เมติ ตสฺส วาทมทฺทนตฺถํ การณํ อาหรนฺโต วิฺาณนฺติอาทิมาห. ตตฺถ วิฺาณนฺติ วิชานิตพฺพํ. อนิทสฺสนนฺติ จกฺขุวิฺาณสฺส อาปาถํ อนุปคมนโต อนิทสฺสนํ นาม, ปททฺวเยนปิ นิพฺพานเมว วุตฺตํ. อนนฺตนฺติ ตยิทํ อุปฺปาทวยอนฺตรหิตตฺตา อนนฺตํ นาม. วุตฺตมฺปิ เหตํ –

‘‘อนฺตวนฺตานิ ภูตานิ, อสมฺภูตํ อนนฺตกํ;

ภูเต อนฺตานิ ทิสฺสนฺติ, ภูเต อนฺตา ปกาสิตา’’ติ.

สพฺพโตปภนฺติ สพฺพโส ปภาสมฺปนฺนํ. นิพฺพานโต หิ อฺโ ธมฺโม สปภตโร วา โชติวนฺตตโร วา ปริสุทฺธตโร วา ปณฺฑรตโร วา นตฺถิ. สพฺพโต วา ตถา ปภูตเมว, น กตฺถจิ นตฺถีติ สพฺพโตปภํ. ปุรตฺถิมทิสาทีสุ หิ อสุกทิสาย นาม นิพฺพานํ นตฺถีติ น วตฺตพฺพํ. อถ วา ปภนฺติ ติตฺถสฺส นามํ, สพฺพโต ปภมสฺสาติ สพฺพโตปภํ. นิพฺพานสฺส กิร ยถา มหาสมุทฺทสฺส ยโต ยโต โอตริตุกามา โหนฺติ, ตํ ตเทว ติตฺถํ, อติตฺถํ นาม นตฺถิ. เอวเมวํ อฏฺตึสาย กมฺมฏฺาเนสุ เยน เยน มุเขน นิพฺพานํ โอตริตุกามา โหนฺติ, ตํ ตเทว ติตฺถํ. นิพฺพานสฺส อติตฺถํ นาม กมฺมฏฺานํ นตฺถิ. เตน วุตฺตํ สพฺพโตปภนฺติ. ตํ ปถวิยา ปถวตฺเตนาติ ตํ นิพฺพานํ ปถวิยา ปถวีสภาเวน ตโต ปเรสํ อาปาทีนํ อาปาทิสภาเวน จ อนนุภูตํ. อิติ ยํ ตุมฺหาทิสานํ วิสยภูตํ สพฺพเตภูมกธมฺมชาตํ ตสฺส สพฺพตฺเตน ตํ วิฺาณํ อนิทสฺสนํ อนนฺตํ สพฺพโตปตํ อนนุภูตนฺติ วาทํ ปติฏฺเปสิ.

ตโต พฺรหฺมา คหิตคหิตํ สตฺถารา วิสฺสชฺชาปิโต กิฺจิ คเหตพฺพํ อทิสฺวา ลฬิตกํ กาตุกาโม หนฺท จรหิ เต, มาริส, อนฺตรธายามีติ อาห. ตตฺถ อนฺตรธายามีติ อทิสฺสมานกปาฏิหาริยํ กโรมีติ อาห. สเจ วิสหสีติ ยทิ สกฺโกสิ มยฺหํ อนฺตรธายิตุํ, อนฺตรธายสิ , ปาฏิหาริยํ กโรหีติ. เนวสฺสุ เม สกฺโกติ อนฺตรธายิตุนฺติ มยฺหํ อนฺตรธายิตุํ เนว สกฺโกติ. กึ ปเนส กาตุกาโม อโหสีติ? มูลปฏิสนฺธึ คนฺตุกาโม อโหสิ. พฺรหฺมานฺหิ มูลปฏิสนฺธิกอตฺตภาโว สุขุโม, อฺเสํ อนาปาโถ, อภิสงฺขตกาเยเนว ติฏฺนฺติ. สตฺถา ตสฺส มูลปฏิสนฺธึ คนฺตุํ น อทาสิ. มูลปฏิสนฺธึ วา อคนฺตฺวาปิ เยน ตเมน อตฺตานํ อนฺตรธาเปตฺวา อทิสฺสมานโก ภเวยฺย, สตฺถา ตํ ตมํ วิโนเทสิ, ตสฺมา อนฺตรธายิตุํ นาสกฺขิ. โส อสกฺโกนฺโต วิมาเน นิลียติ, กปฺปรุกฺเข นิลียติ, อุกฺกุฏิโก นิสีทติ. พฺรหฺมคโณ เกฬิมกาสิ – ‘‘เอส โข พโก พฺรหฺมา วิมาเน นิลียติ, กปฺปรุกฺเข นิลียติ, อุกฺกุฏิโก นิสีทติ, พฺรหฺเม ตฺวํ อนฺตรหิโตมฺหี’’ติ สฺํ อุปฺปาเทสิ นามาติ. โส พฺรหฺมคเณน อุปฺปณฺฑิโต มงฺกุ อโหสิ.

เอวํ วุตฺเต อหํ, ภิกฺขเวติ, ภิกฺขเว, เอเตน พฺรหฺมุนา, ‘‘หนฺท จรหิ เต, มาริส, อนฺตรธายามี’’ติ เอวํ วุตฺเต ตํ อนฺตรธายิตุํ อสกฺโกนฺตํ ทิสฺวา อหํ เอตทโวจํ. อิมํ คาถมภาสินฺติ กสฺมา ภควา คาถมภาสีติ? สมณสฺส โคตมสฺส อิมสฺมึ าเน อตฺถิภาโว วา นตฺถิภาโว วา กถํ สกฺกา ชานิตุนฺติ เอวํ พฺรหฺมคณสฺส วจโนกาโส มา โหตูติ อนฺตรหิโตว คาถมภาสิ.

ตตฺถ ภเววาหํ ภยํ ทิสฺวาติ อหํ ภเว ภยํ ทิสฺวาเยว. ภวฺจ วิภเวสินนฺติ อิมฺจ กามภวาทิติวิธมฺปิ สตฺตภวํ วิภเวสินํ วิภวํ คเวสมานํ ปริเยสมานมฺปิ ปุนปฺปุนํ ภเวเยว ทิสฺวา. ภวํ นาภิวทินฺติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน กิฺจิ ภวํ น อภิวทึ, น คเวสินฺติ อตฺโถ. นนฺทิฺจ น อุปาทิยินฺติ ภวตณฺหํ น อุปคฺฉึ, น อคฺคเหสินฺติ อตฺโถ. อิติ จตฺตาริ สจฺจานิ ปกาเสนฺโต สตฺถา ธมฺมํ เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน เทสนานุสาเรน วิปสฺสนาคพฺภํ คาหาเปตฺวา ทสมตฺตานิ พฺรหฺมสหสฺสานิ มคฺคผลามตปานํ ปิวึสุ.

อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตาติ อจฺฉริยชาตา อพฺภุตชาตา ตุฏฺิชาตา จ อเหสุํ. สมูลํ ภวํ อุทพฺพหีติ โพธิมณฺเฑ อตฺตโน ตาย ตาย เทสนาย อฺเสมฺปิ พหูนํ เทวมนุสฺสานํ สมูลกํ ภวํ อุทพฺพหิ, อุทฺธริ อุปฺปาเฏสีติ อตฺโถ.

๕๐๕. ตสฺมึ ปน สมเย มาโร ปาปิมา โกธาภิภูโต หุตฺวา, ‘‘มยิ วิจรนฺเตเยว สมเณน โคตเมน ธมฺมกถํ กเถตฺวา ทสมตฺตานิ พฺรหฺมสหสฺสานิ มม วสํ อติวตฺติตานี’’ติ โกธาภิภูตตาย อฺตรสฺส พฺรหฺมปาริสชฺชสฺส สรีเร อธิมุจฺจิ, ตํ ทสฺเสตุํ อถ โข, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ สเจ ตฺวํ เอวํ อนุพุทฺโธติ สเจ ตฺวํ เอวํ อตฺตนาว จตฺตาริ สจฺจานิ อนุพุทฺโธ. มา สาวเก อุปเนสีติ คิหิสาวเก วา ปพฺพชิตสาวเก วา ตํ ธมฺมํ มา อุปนยสิ. หีเน กาเย ปติฏฺิตาติ จตูสุ อปาเยสุ ปติฏฺิตา. ปณีเต กาเย ปติฏฺิตาติ พฺรหฺมโลเก ปติฏฺิตา. อิทํ เก สนฺธาย วทติ? พาหิรปพฺพชฺชํ ปพฺพชิเต ตาปสปริพฺพาชเก. อนุปฺปนฺเน หิ พุทฺธุปฺปาเท กุลปุตฺตา ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา กสฺสจิ กิฺจิ อวิจาเรตฺวา เอกจรา หุตฺวา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺชึสุ, เต สนฺธาย เอวมาห. อนกฺขาตํ กุสลฺหิ มาริสาติ ปเรสํ อนกฺขาตํ อโนวทนํ ธมฺมกถาย อกถนํ กุสลํ เอตํ เสยฺโย. มา ปรํ โอวทาหีติ กาเลน มนุสฺสโลกํ, กาเลน เทวโลกํ, กาเลน พฺรหฺมโลกํ, กาเลน นาคโลกํ อาหิณฺฑนฺโต มา วิจริ, เอกสฺมึ าเน นิสินฺโน ฌานมคฺคผลสุเขน วีตินาเมหีติ. อนาลปนตายาติ อนุลฺลปนตาย. พฺรหฺมุโน จ อภินิมนฺตนตายาติ พกพฺรหฺมุโน จ อิทฺหิ, มาริส, นิจฺจนฺติอาทินา นเยน สห กายเกน พฺรหฺมฏฺาเนน นิมนฺตนวจเนน. ตสฺมาติ เตน การเณน. อิมสฺส เวยฺยากรณสฺส พฺรหฺมนิมนฺตนิกํตฺเวว อธิวจนํ สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ ชาตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

พฺรหฺมนิมนฺตนิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. มารตชฺชนียสุตฺตวณฺณนา

๕๐๖. เอวํเม สุตนฺติ มารตชฺชนียสุตฺตํ. ตตฺถ โกฏฺมนุปวิฏฺโติ กุจฺฉึ ปวิสิตฺวา อนฺตานํ อนฺโต อนุปวิฏฺโ, ปกฺกาสยฏฺาเน นิสินฺโน. ครุคโร วิยาติ ครุกครุโก วิย ถทฺโธ ปาสาณปุฺชสทิโส. มาสาจิตํมฺเติ มาสภตฺตํ ภุตฺตสฺส กุจฺฉิ วิย มาสปูริตปสิพฺพโก วิย ตินฺตมาโส วิย จาติ อตฺโถ. วิหารํ ปวิสิตฺวาติ สเจ อาหารโทเสน เอส ครุภาโว, อพฺโภกาเส จงฺกมิตุํ น สปฺปายนฺติ จงฺกมา โอโรหิตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา ปกติปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. ปจฺจตฺตํ โยนิโส มนสากาสีติ, ‘‘กึ นุ โข เอต’’นฺติ อาวชฺชมาโน อตฺตโนเยว อุปาเยน มนสิ อกาสิ. สเจ ปน เถโร อตฺตโน สีลํ อาวชฺเชตฺวา, ‘‘ยํ หิยฺโย วา ปเร วา ปรสุเว วา ปริภุตฺตํ อวิปกฺกมตฺถิ, อฺโ วา โกจิ วิสภาคโทโส, สพฺพํ ชีรตุ ผาสุกํ โหตู’’ติ หตฺเถน กุจฺฉึ ปรามสิสฺส, มาโร ปาปิมา วิลียิตฺวา อคมิสฺส. เถโร ปน ตถา อกตฺวา โยนิโส มนสิ อกาสิ. มา ตถาคตํ วิเหเสสีติ ยถา หิ ปุตฺเตสุ วิเหสิเตสุ มาตาปิตโร วิเหสิตาว โหนฺติ, สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิเกสุ วิเหสิเตสุ อาจริยุปชฺฌายา วิเหสิตาว, ชนปเท วิเหสิเต ราชา วิเหสิโตว โหติ, เอวํ ตถาคตสาวเก วิเหสิเต ตถาคโต วิเหสิโตว โหติ. เตนาห – ‘‘มา ตถาคตํ วิเหเสสี’’ติ.

ปจฺจคฺคเฬ อฏฺาสีติ ปติอคฺคเฬว อฏฺาสิ. อคฺคฬํ วุจฺจติ กวาฏํ, มุเขน อุคฺคนฺตฺวา ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา พหิปณฺณสาลาย กวาฏํ นิสฺสาย อฏฺาสีติ อตฺโถ.

๕๐๗. ภูตปุพฺพาหํ ปาปิมาติ กสฺมา อิทํ เทสนํ อารภิ? เถโร กิร จินฺเตสิ – ‘‘อากาสฏฺกเทวตานํ ตาว มนุสฺสคนฺโธ โยชนสเต ิตานํ อาพาธํ กโรติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘โยชนสตํ โข ราชฺ มนุสฺสคนฺโธ เทเว อุพฺพาธตี’ติ (ที. นิ. ๒.๔๑๕). อยํ ปน มาโร นาคริโก ปริโจกฺโข มเหสกฺโข อานุภาวสมฺปนฺโน เทวราชา สมาโน มม กุจฺฉิยํ ปวิสิตฺวา อนฺตานํ อนฺโต ปกฺกาสโยกาเส นิสินฺโน อติวิย ปทุฏฺโ ภวิสฺสติ. เอวรูปํ นาม เชคุจฺฉํ ปฏิกูลํ โอกาสํ ปวิสิตฺวา นิสีทิตุํ สกฺโกนฺตสฺส กิมฺํ อกรณียํ ภวิสฺสติ, กึ อฺํ ลชฺชิสฺสติ, ตฺวํ มม าติโกติ ปน วุตฺเต มุทุภาวํ อนาปชฺชมาโน นาม นตฺถิ, หนฺทสฺส าติโกฏึ ปฏิวิชฺฌิตฺวา มุทุเกเนว นํ อุปาเยน วิสฺสชฺเชสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อิมํ เทสนมารภิ.

โส เม ตฺวํ ภาคิเนยฺโย โหสีติ โส ตฺวํ ตสฺมึ กาเล มยฺหํ ภาคิเนยฺโย โหสิ. อิทํ ปเวณิวเสน วุตฺตํ. เทวโลกสฺมึ ปน มารสฺส ปิตุ วํโส ปิตามหสฺส วํโส รชฺชํ กโรนฺโต นาม นตฺถิ, ปุฺวเสน เทวโลเก เทวราชา หุตฺวา นิพฺพตฺโต, ยาวตายุกํ ตฺวา จวติ. อฺโ เอโก อตฺตนา กเตน กมฺเมน ตสฺมึ าเน อธิปติ หุตฺวา นิพฺพตฺตติ. อิติ อยํ มาโรปิ ตทา ตโต จวิตฺวา ปุน กุสลํ กตฺวา อิมสฺมึ กาเล ตสฺมึ อธิปติฏฺาเน นิพฺพตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

วิธุโรติ วิคตธุโร, อฺเหิ สทฺธึ อสทิโสติ อตฺโถ. อปฺปกสิเรนาติ อปฺปทุกฺเขน. ปสุปาลกาติ อเชฬกปาลกา. ปถาวิโนติ มคฺคปฏิปนฺนา. กาเย อุปจินิตฺวาติ สมนฺตโต จิตกํ พนฺธิตฺวา. อคฺคึ ทตฺวา ปกฺกมึสูติ เอตฺตเกน สรีรํ ปริยาทานํ คมิสฺสตีติ จิตกสฺส ปมาณํ สลฺลกฺเขตฺวา จตูสุ ทิสาสุ อคฺคึ ทตฺวา ปกฺกมึสุ. จิตโก ปทีปสิขา วิย ปชฺชลิ, เถรสฺส อุทกเลณํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนกาโล วิย อโหสิ. จีวรานิ ปปฺโผเฏตฺวาติ สมาปตฺติโต วุฏฺาย วิคตธูเม กึสุกวณฺเณ องฺคาเร มทฺทมาโน จีวรานิ วิธุนิตฺวา. สรีเร ปนสฺส อุสุมมตฺตมฺปิ นาโหสิ, จีวเรสุ อํสุมตฺตมฺปิ นชฺฌายิ, สมาปตฺติผลํ นาเมตํ.

๕๐๘. อกฺโกสถาติ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสถ. ปริภาสถาติ วาจาย ปริภาสถ. โรเสถาติ ฆฏฺเฏถ. วิเหเสถาติ ทุกฺขาเปถ. สพฺพเมตํ วาจาย ฆฏฺฏนสฺเสว อธิวจนํ. ยถา ตํ ทูสี มาโรติ ยถา เอเตสํ ทูสี มาโร. ลเภถ โอตารนฺติ ลเภถ ฉิทฺทํ, กิเลสุปฺปตฺติยา อารมฺมณํ ปจฺจยํ ลเภยฺยาติ อตฺโถ. มุณฺฑกาติอาทีสุ มุณฺเฑ มุณฺฑาติ สมเณ จ สมณาติ วตฺตุํ วฏฺเฏยฺย, อิเม ปน หีเฬนฺตา มุณฺฑกา สมณกาติ อาหํสุ. อิพฺภาติ คหปติกา. กิณฺหาติ กณฺหา, กาฬกาติ อตฺโถ. พนฺธุปาทาปจฺจาติ เอตฺถ พนฺธูติ พฺรหฺมา อธิปฺเปโต . ตฺหิ พฺราหฺมณา ปิตามโหติ โวหรนฺติ. ปาทานํ อปจฺจา ปาทาปจฺจา, พฺรหฺมุโน ปิฏฺิปาทโต ชาตาติ อธิปฺปาโย. เตสํ กิร อยํ ลทฺธิ – ‘‘พฺราหฺมณา พฺรหฺมุโน มุขโต นิกฺขนฺตา, ขตฺติยา อุรโต, เวสฺสา นาภิโต, สุทฺทา ชาณุโต, สมณา ปิฏฺิปาทโต’’ติ.

ฌายิโนสฺมา ฌายิโนสฺมาติ ฌายิโน มยํ ฌายิโน มยนฺติ. มธุรกชาตาติ อาลสิยชาตา. ฌายนฺตีติ จินฺตยนฺติ. ปชฺฌายนฺตีติอาทีนิ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตานิ. มูสิกํ มคฺคยมาโนติ สายํ โคจรตฺถาย สุสิรรุกฺขโต นิกฺขนฺตํ รุกฺขสาขาย มูสิกํ ปริเยสนฺโต. โส กิร อุปสนฺตูปสนฺโต วิย นิจฺจโลว ติฏฺติ, สมฺปตฺตกาเล มูสิกํ สหสา คณฺหาติ. โกตฺถูติ สิงฺคาโล, โสโณติปิ วทนฺติ. สนฺธิสมลสงฺกฏิเรติ สนฺธิมฺหิ จ สมเล จ สงฺกฏิเร จ. ตตฺถ สนฺธิ นาม ฆรสนฺธิ. สมโล นาม คูถนิทฺธมนปนาฬิ. สงฺกฏิรํ นาม สงฺการฏฺานํ. วหจฺฉินฺโนติ กนฺตารโต นิกฺขนฺโต ฉินฺนวโห. สนฺธิสมลสงฺกฏิเรติ สนฺธิมฺหิ วา สมเล วา สงฺกฏิเร วา. โสปิ หิ พทฺธคตฺโต วิย นิจฺจโล ฌายติ.

นิรยํ อุปปชฺชนฺตีติ สเจ มาโร มนุสฺสานํ สรีเร อธิมุจฺจิตฺวา เอวํ กเรยฺย, มนุสฺสานํ อกุสลํ น ภเวยฺย, มารสฺเสว ภเวยฺย. สรีเร ปน อนธิมุจฺจิตฺวา วิสภาควตฺถุํ วิปฺปฏิสารารมฺมณํ ทสฺเสติ, ตทา กิร โส ภิกฺขู ขิปฺปํ คเหตฺวา มจฺเฉ อชฺโฌตฺถรนฺเต วิย, ชาลํ คเหตฺวา มจฺเฉ คณฺหนฺเต วิย, เลปยฏฺึ โอฑฺเฑตฺวา สกุเณ พนฺธนฺเต วิย, สุนเขหิ สทฺธึ อรฺเ มิควํ จรนฺเต วิย, มาตุคาเม คเหตฺวา อาปานภูมิยํ นิสินฺเน วิย, นจฺจนฺเต วิย, คายนฺเต วิย, ภิกฺขุนีนํ รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ วิสภาคมนุสฺเส นิสินฺเน วิย, ิเต วิย จ กตฺวา ทสฺเสสิ. มนุสฺสา อรฺคตาปิ วนคตาปิ วิหารคตาปิ วิปฺปฏิสารารมฺมณํ ปสฺสิตฺวา อาคนฺตฺวา อฺเสํ กเถนฺติ – ‘‘สมณา เอวรูปํ อสฺสมณกํ อนนุจฺฉวิกํ กโรนฺติ, เอเตสํ ทินฺเน กุโต กุสลํ, มา เอเตสํ กิฺจิ อทตฺถา’’ติ. เอวํ เต มนุสฺสา ทิฏฺทิฏฺฏฺาเน สีลวนฺเต อกฺโกสนฺตา อปุฺํ ปสวิตฺวา อปายปูรกา อเหสุํ. เตน วุตฺตํ ‘‘นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ.

๕๐๙. อนฺวาวิฏฺาติ อาวฏฺฏิตา. ผริตฺวา วิหรึสูติ น เกวลํ ผริตฺวา วิหรึสุ. กกุสนฺธสฺส ปน ภควโต โอวาเท ตฺวา อิเม จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ.

๕๑๐. อาคตึวา คตึ วาติ ปฏิสนฺธิวเสน อาคมนฏฺานํ วา, จุติวเสน คมนฏฺานํ วา น ชานามิ. สิยา จิตฺตสฺส อฺถตฺตนฺติ โสมนสฺสวเสน อฺถตฺตํ ภเวยฺย. สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตีติ อิธาปิ ปุริมนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยถา หิ ปุพฺเพ วิปฺปฏิสารกรํ อารมฺมณํ ทสฺเสติ, เอวมิธาปิ ปสาทกรํ. โส กิร ตทา มนุสฺสานํ ทสฺสนฏฺาเน ภิกฺขู อากาเส คจฺฉนฺเต วิย, ิเต วิย ปลฺลงฺเกน นิสินฺเน วิย, อากาเส สูจิกมฺมํ กโรนฺเต วิย, โปตฺถกํ วาเจนฺเต วิย, อากาเส จีวรํ ปสาเรตฺวา กายํ อุตุํ คณฺหาเปนฺเต วิย, นวปพฺพชิเต อากาเสน จรนฺเต วิย, ตรุณสามเณเร อากาเส ตฺวา ปุปฺผานิ โอจินนฺเต วิย กตฺวา ทสฺเสสิ. มนุสฺสา อรฺคตาปิ วนคตาปิ วิหารคตาปิ ปพฺพชิตานํ ตํ ปฏิปตฺตึ ทิสฺวา อาคนฺตฺวา อฺเสํ กเถนฺติ – ‘‘ภิกฺขูสุ อนฺตมโส สามเณราปิ เอวํมหิทฺธิโก มหานุภาวา, เอเตสํ ทินฺนํ มหปฺผลํ นาม โหติ, เอเตสํ เทถ สกฺกโรถา’’ติ. ตโต มนุสฺสา ภิกฺขุสงฺฆํ จตูหิ ปจฺจเยหิ สกฺกโรนฺตา พหุํ ปุฺํ กตฺวา สคฺคปถปูรกา อเหสุํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ.

๕๑๑. เอถ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อสุภานุปสฺสิโน กาเย วิหรถาติ ภควา สกลชมฺพุทีปํ อาหิณฺฑนฺโต อนฺตมโส ทฺวินฺนมฺปิ ติณฺณมฺปิ ภิกฺขูนํ วสนฏฺานํ คนฺตฺวา –

‘‘อสุภสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต เมถุนธมฺมสมาปตฺติยา จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ น สมฺปสาริยติ, อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ.

อาหาเร ปฏิกูลสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต รสตณฺหาย จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ น สมฺปสาริยติ, อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ.

สพฺพโลเก อนภิรติสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต โลกจิตฺเรสุ จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ น สมฺปสาริยติ, อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ.

อนิจฺจสฺาปริจิเตน , ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต ลาภสกฺการสิโลเก จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ น สมฺปสาริยติ, อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาตี’’ติ (อ. นิ. ๗.๔๙) เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา –

เอถ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อสุภานุปสฺสี กาเย วิหรถ, อาหาเร ปฏิกูลสฺิโน สพฺพโลเก อนภิรติสฺิโน สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสิโนติ. อิมานิ จตฺตาริ กมฺมฏฺานานิ กเถสิ. เตปิ ภิกฺขู อิเมสุ จตูสุ กมฺมฏฺาเนสุ กมฺมํ กโรนฺตา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สพฺพาสเว เขเปตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ, อิมานิปิ จตฺตาริ กมฺมฏฺานานิ ราคสนฺตานิ โทสโมหสนฺตานิ ราคปฏิฆาตานิ โทสโมหปฏิฆาตานิ จาติ.

๕๑๒. สกฺขรํ คเหตฺวาติ อนฺโตมุฏฺิยํ ติฏฺนปมาณํ ปาสาณํ คเหตฺวา. อยฺหิ พฺราหฺมณคหปติเกหิ ภิกฺขู อกฺโกสาเปตฺวาปิ, พฺราหฺมณคหปติกานํ วเสน ภิกฺขุสงฺฆสฺส ลาภสกฺการํ อุปฺปาทาเปตฺวาปิ, โอตารํ อลภนฺโต อิทานิ สหตฺถา อุปกฺกมิตุกาโม อฺตรสฺส กุมารสฺส สรีเร อธิมุจฺจิตฺวา เอวรูปํ ปาสาณํ อคฺคเหสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สกฺขรํ คเหตฺวา’’ติ.

สีสํ โว ภินฺทีติ สีสํ ภินฺทิ, มหาจมฺมํ ฉิชฺชิตฺวา มํสํ ทฺเวธา อโหสิ. สกฺขรา ปนสฺส สีสกฏาหํ อภินฺทิตฺวา อฏฺึ อาหจฺเจว นิวตฺตา. นาคาปโลกิตํ อปโลเกสีติ ปหารสทฺทํ สุตฺวา ยถา นาม หตฺถินาโค อิโต วา เอตฺโต วา อปโลเกตุกาโม คีวํ อปริวตฺเตตฺวา สกลสรีเรเนว นิวตฺติตฺวา อปโลเกติ. เอวํ สกลสรีเรเนว นิวตฺติตฺวา อปโลเกสิ. ยถา หิ มหาชนสฺส อฏฺีนิ โกฏิยา โกฏึ อาหจฺจ ิตานิ, ปจฺเจกพุทฺธานํ องฺกุสลคฺคานิ, น เอวํ พุทฺธานํ. พุทฺธานํ ปน สงฺขลิกานิ วิย เอกาพทฺธานิ หุตฺวา ิตานิ, ตสฺมา ปจฺฉโต อปโลกนกาเล น สกฺกา โหติ คีวํ ปริวตฺเตตุํ. ยถา ปน หตฺถินาโค ปจฺฉาภาคํ อปโลเกตุกาโม สกลสรีเรเนว ปริวตฺตติ, เอวํ ปริวตฺติตพฺพํ โหติ. ตสฺมา ภควา ยนฺเตน ปริวตฺติตา สุวณฺณปฏิมา วิย สกลสรีเรเนว นิวตฺติตฺวา อปโลเกสิ , อปโลเกตฺวา ิโต ปน, ‘‘น วายํ ทูสี มาโร มตฺตมฺาสี’’ติ อาห. ตสฺสตฺโถ, อยํ ทูสี มาโร ปาปํ กโรนฺโต เนว ปมาณํ อฺาสิ, ปมาณาติกฺกนฺตมกาสีติ.

สหาปโลกนายาติ กกุสนฺธสฺส ภควโต อปโลกเนเนว สห ตงฺขณฺเว. ตมฺหา จ านา จวีติ ตมฺหา จ เทวฏฺานา จุโต, มหานิรยํ อุปปนฺโนติ อตฺโถ. จวมาโน หิ น ยตฺถ กตฺถจิ ิโต จวติ, ตสฺมา วสวตฺติเทวโลกํ อาคนฺตฺวา จุโต, ‘‘สหาปโลกนายา’’ติ จ วจนโต น ภควโต อปโลกิตตฺตา จุโตติ เวทิตพฺโพ, จุติกาลทสฺสนมตฺตเมว เหตํ. อุฬาเร ปน มหาสาวเก วิรทฺธตฺตา กุทาริยา ปหฏํ วิยสฺส อายุ ตตฺเถว ฉิชฺชิตฺวา คตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตโย นามเธยฺยา โหนฺตีติ ตีณิ นามานิ โหนฺติ. ฉผสฺสายตนิโกติ ฉสุ ผสฺสายตเนสุ ปาฏิเยกฺกาย เวทนาย ปจฺจโย.

สงฺกุสมาหโตติ อยสูเลหิ สมาหโต. ปจฺจตฺตเวทนิโยติ สยเมว เวทนาชนโก. สงฺกุนา สงฺกุ หทเย สมาคจฺเฉยฺยาติ อยสูเลน สทฺธึ อยสูลํ หทยมชฺเฌ สมาคจฺเฉยฺย. ตสฺมึ กิร นิรเย อุปปนฺนานํ ติคาวุโต อตฺตภาโว โหติ, เถรสฺสาปิ ตาทิโส อโหสิ. อถสฺส หิ นิรยปาลา ตาลกฺขนฺธปมาณานิ อยสูลานิ อาทิตฺตานิ สมฺปชฺชลิตานิ สโชติภูตานิ สยเมว คเหตฺวา ปุนปฺปุนํ นิวตฺตมานา, – ‘‘อิมินา เต าเนน จินฺเตตฺวา ปาปํ กต’’นฺติ ปูวโทณิยํ ปูวํ โกฏฺเฏนฺโต วิย หทยมชฺฌํ โกฏฺเฏตฺวา, ปณฺณาส ชนา ปาทาภิมุขา ปณฺณาส ชนา สีสาภิมุขา โกฏฺเฏตฺวา คจฺฉนฺติ, เอวํ คจฺฉนฺตา ปฺจหิ วสฺสสเตหิ อุโภ อนฺเต ปตฺวา ปุน นิวตฺตมานา ปฺจหิ วสฺสสเตหิ หทยมชฺฌํ อาคจฺฉนฺติ. ตํ สนฺธาย เอวํ วุตฺตํ.

วุฏฺานิมนฺติ วิปากวุฏฺานเวทนํ. สา กิร มหานิรเย เวทนาโต ทุกฺขตรา โหติ, ยถา หิ สิเนหปานสตฺตาหโต ปริหารสตฺตาหํ ทุกฺขตรํ, เอวํ มหานิรยทุกฺขโต อุสฺสเท วิปากวุฏฺานเวทนา ทุกฺขตราติ วทนฺติ. เสยฺยถาปิ มจฺฉสฺสาติ ปุริสสีสฺหิ วฏฺฏํ โหติ, สูเลน ปหรนฺตสฺส ปหาโร านํ น ลภติ ปริคลติ, มจฺฉสีสํ อายตํ ปุถุลํ, ปหาโร านํ ลภติ , อวิรชฺฌิตฺวา กมฺมการณา สุกรา โหติ, ตสฺมา เอวรูปํ สีสํ โหติ.

๕๑๓. วิธุรํ สาวกมาสชฺชาติ วิธุรํ สาวกํ ฆฏฺฏยิตฺวา. ปจฺจตฺตเวทนาติ สยเมว ปาฏิเยกฺกเวทนาชนกา. อีทิโส นิรโย อาสีติ อิมสฺมึ าเน นิรโย เทวทูตสุตฺเตน ทีเปตพฺโพ. กณฺห-ทุกฺขํ นิคจฺฉสีติ กาฬก-มาร, ทุกฺขํ วินฺทิสฺสสิ. มชฺเฌ สรสฺสาติ มหาสมุทฺทสฺส มชฺเฌ อุทกํ วตฺถุํ กตฺวา นิพฺพตฺตวิมานานิ กปฺปฏฺิติกานิ โหนฺติ, เตสํ เวฬุริยสฺส วิย วณฺโณ โหติ, ปพฺพตมตฺถเก ชลิตนฬคฺคิกฺขนฺโธ วิย จ เนสํ อจฺจิโย โชตนฺติ, ปภสฺสรา ปภาสมฺปนฺนา โหนฺติ, เตสุ วิมาเนสุ นีลเภทาทิวเสน นานตฺตวณฺณา อจฺฉรา นจฺจนฺติ. โย เอตมภิชานาตีติ โย เอตํ วิมานวตฺถุํ ชานาตีติ อตฺโถ. เอวเมตฺถ วิมานเปตวตฺถุเกเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปาทงฺคุฏฺเน กมฺปยีติ อิทํ ปาสาทกมฺปนสุตฺเตน ทีเปตพฺพํ. โย เวชยนฺตํ ปาสาทนฺติ อิทํ จูฬตณฺหาสงฺขยวิมุตฺติสุตฺเตน ทีเปตพฺพํ. สกฺกํ โส ปริปุจฺฉตีติ อิทมฺปิ เตเนว ทีเปตพฺพํ. สุธมฺมายาภิโต สภนฺติ สุธมฺมสภาย สมีเป, อยํ ปน พฺรหฺมโลเก สุธมฺมสภาว, น ตาวตึสภวเน. สุธมฺมสภาวิรหิโต หิ เทวโลโก นาม นตฺถิ.

พฺรหฺมโลเก ปภสฺสรนฺติ พฺรหฺมโลเก มหาโมคฺคลฺลานมหากสฺสปาทีหิ สาวเกหิ สทฺธึ ตสฺส เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา นิสินฺนสฺส ภควโต โอภาสํ. เอกสฺมิฺหิ สมเย ภควา พฺรหฺมโลเก สุธมฺมาย เทวสภาย สนฺนิปติตฺวา, – ‘‘อตฺถิ นุ โข โกจิ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํมหิทฺธิโก. โย อิธ อาคนฺตุํ สกฺกุเณยฺยา’’ติ จินฺเตนฺตสฺเสว พฺรหฺมคณสฺส จิตฺตมฺาย ตตฺถ คนฺตฺวา พฺรหฺมคณสฺส มตฺถเก นิสินฺโน เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา มหาโมคฺคลฺลานาทีนํ อาคมนํ จินฺเตสิ. เตปิ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา ปจฺเจกํ ทิสาสุ นิสีทึสุ, สกลพฺรหฺมโลโก เอโกภาโส อโหสิ. สตฺถา จตุสจฺจปฺปกาสนํ ธมฺมํ เทเสสิ, เทสนาปริโยสาเน อเนกานิ พฺรหฺมสหสฺสานิ มคฺคผเลสุ ปติฏฺหึสุ. ตํ สนฺธายิมา คาถา วุตฺตา, โส ปนายมตฺโถ อฺตรพฺรหฺมสุตฺเตน ทีเปตพฺโพ.

วิโมกฺเขนอผสฺสยีติ ฌานวิโมกฺเขน ผุสิ. วนนฺติ ชมฺพุทีปํ. ปุพฺพวิเทหานนฺติ ปุพฺพวิเทหานฺจ ทีปํ. เย จ ภูมิสยา นราติ ภูมิสยา นรา นาม อปรโคยานกา จ อุตฺตรกุรุกา จ. เตปิ สพฺเพ ผุสีติ วุตฺตํ โหติ. อยํ ปน อตฺโถ นนฺโทปนนฺททมเนน ทีเปตพฺโพ. วตฺถุ วิสุทฺธิมคฺเค อิทฺธิกถาย วิตฺถาริตํ. อปุฺํ ปสวีติ อปุฺํ ปฏิลภิ. อาสํ มา อกาสิ ภิกฺขูสูติ ภิกฺขู วิเหเสมีติ เอตํ อาสํ มา อกาสิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

มารตชฺชนียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

มูลปณฺณาสฏฺกถา นิฏฺิตา.