📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
มชฺฌิมนิกาโย
มูลปณฺณาสปาฬิ
๑. มูลปริยายวคฺโค
๑. มูลปริยายสุตฺตํ
๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อุกฺกฏฺายํ วิหรติ สุภควเน สาลราชมูเล. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยายํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
๒. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน อริยานํ อทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส อโกวิโท ¶ อริยธมฺเม อวินีโต, สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต – ปถวึ [ปวึ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปถวิโต สฺชานาติ; ปถวึ ปถวิโต สฺตฺวา ปถวึ มฺติ, ปถวิยา มฺติ, ปถวิโต มฺติ, ปถวึ เมติ มฺติ ¶ , ปถวึ อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘อาปํ อาปโต สฺชานาติ; อาปํ อาปโต สฺตฺวา อาปํ มฺติ, อาปสฺมึ มฺติ, อาปโต มฺติ, อาปํ เมติ มฺติ, อาปํ อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘เตชํ ¶ เตชโต สฺชานาติ; เตชํ เตชโต สฺตฺวา เตชํ มฺติ, เตชสฺมึ มฺติ, เตชโต มฺติ, เตชํ เมติ มฺติ, เตชํ อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘วายํ วายโต สฺชานาติ; วายํ วายโต สฺตฺวา วายํ มฺติ, วายสฺมึ มฺติ, วายโต มฺติ, วายํ เมติ มฺติ, วายํ อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ ¶ วทามิ.
๓. ‘‘ภูเต ภูตโต สฺชานาติ; ภูเต ภูตโต สฺตฺวา ภูเต มฺติ, ภูเตสุ มฺติ, ภูตโต มฺติ, ภูเต เมติ มฺติ, ภูเต อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘เทเว เทวโต สฺชานาติ; เทเว เทวโต สฺตฺวา เทเว มฺติ, เทเวสุ มฺติ, เทวโต มฺติ, เทเว เมติ มฺติ, เทเว อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘ปชาปตึ ปชาปติโต สฺชานาติ; ปชาปตึ ปชาปติโต สฺตฺวา ปชาปตึ มฺติ, ปชาปติสฺมึ มฺติ, ปชาปติโต มฺติ, ปชาปตึ เมติ มฺติ, ปชาปตึ อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘พฺรหฺมํ ¶ พฺรหฺมโต สฺชานาติ; พฺรหฺมํ พฺรหฺมโต สฺตฺวา พฺรหฺมํ มฺติ ¶ , พฺรหฺมสฺมึ มฺติ, พฺรหฺมโต มฺติ, พฺรหฺมํ เมติ มฺติ, พฺรหฺมํ อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘อาภสฺสเร อาภสฺสรโต สฺชานาติ; อาภสฺสเร อาภสฺสรโต สฺตฺวา อาภสฺสเร มฺติ, อาภสฺสเรสุ มฺติ, อาภสฺสรโต มฺติ, อาภสฺสเร เมติ มฺติ, อาภสฺสเร อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘สุภกิณฺเห สุภกิณฺหโต สฺชานาติ; สุภกิณฺเห สุภกิณฺหโต สฺตฺวา สุภกิณฺเห มฺติ, สุภกิณฺเหสุ มฺติ, สุภกิณฺหโต มฺติ, สุภกิณฺเห เมติ มฺติ, สุภกิณฺเห อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘เวหปฺผเล ¶ เวหปฺผลโต สฺชานาติ; เวหปฺผเล เวหปฺผลโต สฺตฺวา เวหปฺผเล มฺติ, เวหปฺผเลสุ มฺติ, เวหปฺผลโต มฺติ, เวหปฺผเล เมติ มฺติ, เวหปฺผเล อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘อภิภุํ อภิภูโต สฺชานาติ; อภิภุํ อภิภูโต สฺตฺวา อภิภุํ มฺติ, อภิภุสฺมึ มฺติ, อภิภูโต มฺติ, อภิภุํ เมติ มฺติ, อภิภุํ อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
๔. ‘‘อากาสานฺจายตนํ อากาสานฺจายตนโต สฺชานาติ; อากาสานฺจายตนํ อากาสานฺจายตนโต สฺตฺวา อากาสานฺจายตนํ มฺติ, อากาสานฺจายตนสฺมึ มฺติ, อากาสานฺจายตนโต มฺติ, อากาสานฺจายตนํ เมติ มฺติ, อากาสานฺจายตนํ อภินนฺทติ. ตํ ¶ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘วิฺาณฺจายตนํ วิฺาณฺจายตนโต สฺชานาติ; วิฺาณฺจายตนํ วิฺาณฺจายตนโต สฺตฺวา วิฺาณฺจายตนํ ¶ มฺติ, วิฺาณฺจายตนสฺมึ มฺติ, วิฺาณฺจายตนโต ¶ มฺติ, วิฺาณฺจายตนํ เมติ มฺติ, วิฺาณฺจายตนํ อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘อากิฺจฺายตนํ อากิฺจฺายตนโต สฺชานาติ; อากิฺจฺายตนํ อากิฺจฺายตนโต สฺตฺวา อากิฺจฺายตนํ มฺติ, อากิฺจฺายตนสฺมึ มฺติ, อากิฺจฺายตนโต มฺติ, อากิฺจฺายตนํ เมติ มฺติ, อากิฺจฺายตนํ อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘เนวสฺานาสฺายตนํ เนวสฺานาสฺายตนโต สฺชานาติ; เนวสฺานาสฺายตนํ เนวสฺานาสฺายตนโต สฺตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ มฺติ, เนวสฺานาสฺายตนสฺมึ มฺติ, เนวสฺานาสฺายตนโต มฺติ, เนวสฺานาสฺายตนํ เมติ มฺติ, เนวสฺานาสฺายตนํ อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
๕. ‘‘ทิฏฺํ ¶ ทิฏฺโต สฺชานาติ; ทิฏฺํ ทิฏฺโต สฺตฺวา ทิฏฺํ มฺติ, ทิฏฺสฺมึ มฺติ, ทิฏฺโต มฺติ, ทิฏฺํ เมติ มฺติ, ทิฏฺํ อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘สุตํ สุตโต สฺชานาติ; สุตํ สุตโต สฺตฺวา สุตํ ¶ มฺติ, สุตสฺมึ มฺติ, สุตโต มฺติ, สุตํ เมติ มฺติ, สุตํ อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘มุตํ มุตโต สฺชานาติ; มุตํ มุตโต สฺตฺวา มุตํ มฺติ, มุตสฺมึ มฺติ, มุตโต มฺติ, มุตํ เมติ มฺติ, มุตํ อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘วิฺาตํ วิฺาตโต สฺชานาติ; วิฺาตํ วิฺาตโต สฺตฺวา วิฺาตํ มฺติ, วิฺาตสฺมึ มฺติ, วิฺาตโต มฺติ, วิฺาตํ เมติ มฺติ, วิฺาตํ อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
๖. ‘‘เอกตฺตํ ¶ เอกตฺตโต สฺชานาติ; เอกตฺตํ เอกตฺตโต สฺตฺวา เอกตฺตํ มฺติ, เอกตฺตสฺมึ มฺติ, เอกตฺตโต มฺติ, เอกตฺตํ เมติ มฺติ, เอกตฺตํ อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘นานตฺตํ นานตฺตโต สฺชานาติ; นานตฺตํ นานตฺตโต สฺตฺวา นานตฺตํ มฺติ, นานตฺตสฺมึ มฺติ, นานตฺตโต มฺติ, นานตฺตํ เมติ มฺติ, นานตฺตํ อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘สพฺพํ สพฺพโต สฺชานาติ; สพฺพํ สพฺพโต สฺตฺวา สพฺพํ มฺติ, สพฺพสฺมึ ¶ มฺติ, สพฺพโต มฺติ, สพฺพํ เมติ มฺติ, สพฺพํ อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘นิพฺพานํ นิพฺพานโต สฺชานาติ; นิพฺพานํ นิพฺพานโต สฺตฺวา นิพฺพานํ มฺติ, นิพฺพานสฺมึ มฺติ ¶ , นิพฺพานโต มฺติ, นิพฺพานํ เมติ มฺติ, นิพฺพานํ อภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
ปุถุชฺชนวเสน ปมนยภูมิปริจฺเฉโท นิฏฺิโต.
๗. ‘‘โยปิ ¶ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสกฺโข [เสโข (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อปฺปตฺตมานโส อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมาโน วิหรติ, โสปิ ปถวึ ปถวิโต อภิชานาติ; ปถวึ ปถวิโต อภิฺาย [อภิฺตฺวา (ก.)] ปถวึ มา มฺิ [วา มฺติ], ปถวิยา มา มฺิ, ปถวิโต มา มฺิ, ปถวึ เมติ มา มฺิ, ปถวึ มาภินนฺทิ [วา อภินนฺทติ (สี.) ฏีกา โอโลเกตพฺพา]. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘ปริฺเยฺยํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘อาปํ…เป… เตชํ… วายํ… ภูเต… เทเว… ปชาปตึ… พฺรหฺมํ… อาภสฺสเร… สุภกิณฺเห… เวหปฺผเล… อภิภุํ… อากาสานฺจายตนํ… วิฺาณฺจายตนํ… อากิฺจฺายตนํ… เนวสฺานาสฺายตนํ… ทิฏฺํ… สุตํ… มุตํ… วิฺาตํ… เอกตฺตํ… นานตฺตํ… สพฺพํ… นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิชานาติ; นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิฺาย ¶ นิพฺพานํ มา มฺิ, นิพฺพานสฺมึ มา มฺิ, นิพฺพานโต มา มฺิ, นิพฺพานํ เมติ มา มฺิ, นิพฺพานํ มาภินนฺทิ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘ปริฺเยฺยํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
เสกฺขวเสน [สตฺถารวเสน (สี.), สตฺถุวเสน (สฺยา. ก.)] ทุติยนยภูมิปริจฺเฉโท นิฏฺิโต.
๘. ‘‘โยปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต, โสปิ ปถวึ ปถวิโต อภิชานาติ; ปถวึ ปถวิโต ¶ อภิฺาย ปถวึ น มฺติ, ปถวิยา น มฺติ, ปถวิโต น มฺติ, ปถวึ เมติ น มฺติ, ปถวึ นาภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘ปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘อาปํ…เป… เตชํ… วายํ… ภูเต… เทเว… ปชาปตึ… พฺรหฺมํ… อาภสฺสเร… สุภกิณฺเห… เวหปฺผเล… อภิภุํ… อากาสานฺจายตนํ… วิฺาณฺจายตนํ… อากิฺจฺายตนํ… เนวสฺานาสฺายตนํ… ทิฏฺํ… สุตํ… มุตํ… วิฺาตํ… เอกตฺตํ… นานตฺตํ… สพฺพํ… นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิชานาติ; นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิฺาย นิพฺพานํ น มฺติ, นิพฺพานสฺมึ น มฺติ, นิพฺพานโต น มฺติ, นิพฺพานํ เมติ น มฺติ, นิพฺพานํ นาภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘ปริฺาตํ ตสฺสา’ติ วทามิ.
ขีณาสววเสน ตติยนยภูมิปริจฺเฉโท นิฏฺิโต.
๙. ‘‘โยปิ ¶ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต, โสปิ ปถวึ ปถวิโต ¶ อภิชานาติ; ปถวึ ปถวิโต อภิฺาย ปถวึ น มฺติ, ปถวิยา น มฺติ, ปถวิโต น มฺติ, ปถวึ เมติ น มฺติ, ปถวึ นาภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ขยา ราคสฺส, วีตราคตฺตา.
‘‘อาปํ…เป… เตชํ… วายํ… ภูเต… เทเว… ปชาปตึ… พฺรหฺมํ… อาภสฺสเร… สุภกิณฺเห… เวหปฺผเล… อภิภุํ… อากาสานฺจายตนํ… วิฺาณฺจายตนํ… อากิฺจฺายตนํ ¶ … เนวสฺานาสฺายตนํ ¶ … ทิฏฺํ… สุตํ… มุตํ… วิฺาตํ… เอกตฺตํ… นานตฺตํ… สพฺพํ… นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิชานาติ; นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิฺาย นิพฺพานํ น มฺติ, นิพฺพานสฺมึ น มฺติ, นิพฺพานโต น มฺติ, นิพฺพานํ เมติ น มฺติ, นิพฺพานํ นาภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ขยา ราคสฺส, วีตราคตฺตา.
ขีณาสววเสน จตุตฺถนยภูมิปริจฺเฉโท นิฏฺิโต.
๑๐. ‘‘โยปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต, โสปิ ปถวึ ปถวิโต อภิชานาติ; ปถวึ ปถวิโต อภิฺาย ปถวึ น มฺติ, ปถวิยา น มฺติ, ปถวิโต น มฺติ, ปถวึ เมติ น มฺติ, ปถวึ นาภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ขยา โทสสฺส, วีตโทสตฺตา.
‘‘อาปํ…เป… เตชํ… วายํ… ภูเต… เทเว… ปชาปตึ… พฺรหฺมํ… อาภสฺสเร… สุภกิณฺเห… เวหปฺผเล… อภิภุํ… อากาสานฺจายตนํ… วิฺาณฺจายตนํ… อากิฺจฺายตนํ… เนวสฺานาสฺายตนํ… ทิฏฺํ… สุตํ… มุตํ… วิฺาตํ… เอกตฺตํ… นานตฺตํ… สพฺพํ… นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิชานาติ; นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิฺาย นิพฺพานํ น มฺติ, นิพฺพานสฺมึ น มฺติ, นิพฺพานโต น มฺติ, นิพฺพานํ เมติ น มฺติ, นิพฺพานํ นาภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ขยา โทสสฺส, วีตโทสตฺตา.
ขีณาสววเสน ปฺจมนยภูมิปริจฺเฉโท นิฏฺิโต.
๑๑. ‘‘โยปิ ¶ ¶ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต, โสปิ ปถวึ ปถวิโต อภิชานาติ; ปถวึ ปถวิโต อภิฺาย ปถวึ น มฺติ, ปถวิยา น มฺติ, ปถวิโต น มฺติ, ปถวึ เมติ น มฺติ, ปถวึ นาภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ขยา โมหสฺส, วีตโมหตฺตา.
‘‘อาปํ…เป… เตชํ… วายํ… ภูเต… เทเว… ปชาปตึ… พฺรหฺมํ… อาภสฺสเร… สุภกิณฺเห… เวหปฺผเล… อภิภุํ… อากาสานฺจายตนํ… วิฺาณฺจายตนํ… อากิฺจฺายตนํ ¶ … เนวสฺานาสฺายตนํ… ทิฏฺํ… สุตํ… มุตํ… วิฺาตํ… เอกตฺตํ… นานตฺตํ… สพฺพํ… นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิชานาติ; นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิฺาย นิพฺพานํ น มฺติ, นิพฺพานสฺมึ น มฺติ, นิพฺพานโต น มฺติ, นิพฺพานํ เมติ น มฺติ, นิพฺพานํ นาภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ขยา โมหสฺส, วีตโมหตฺตา.
ขีณาสววเสน ฉฏฺนยภูมิปริจฺเฉโท นิฏฺิโต.
๑๒. ‘‘ตถาคโตปิ, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปถวึ ปถวิโต อภิชานาติ; ปถวึ ปถวิโต อภิฺาย ปถวึ น มฺติ, ปถวิยา น มฺติ, ปถวิโต น มฺติ, ปถวึ เมติ น มฺติ, ปถวึ นาภินนฺทติ ¶ . ตํ กิสฺส เหตุ? ‘ปริฺาตนฺตํ ตถาคตสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘อาปํ…เป… เตชํ… วายํ… ภูเต… เทเว… ปชาปตึ… พฺรหฺมํ… อาภสฺสเร… สุภกิณฺเห… เวหปฺผเล… อภิภุํ… อากาสานฺจายตนํ… วิฺาณฺจายตนํ ¶ … อากิฺจฺายตนํ… เนวสฺานาสฺายตนํ… ทิฏฺํ… สุตํ… มุตํ… วิฺาตํ… เอกตฺตํ… นานตฺตํ… สพฺพํ… นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิชานาติ; นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิฺาย นิพฺพานํ น มฺติ, นิพฺพานสฺมึ น มฺติ, นิพฺพานโต น มฺติ, นิพฺพานํ เมติ น มฺติ, นิพฺพานํ นาภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘ปริฺาตนฺตํ ตถาคตสฺสา’ติ วทามิ.
ตถาคตวเสน สตฺตมนยภูมิปริจฺเฉโท นิฏฺิโต.
๑๓. ‘‘ตถาคโตปิ ¶ , ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปถวึ ปถวิโต อภิชานาติ; ปถวึ ปถวิโต อภิฺาย ปถวึ น มฺติ, ปถวิยา น มฺติ, ปถวิโต น มฺติ, ปถวึ เมติ น มฺติ, ปถวึ นาภินนฺทติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘นนฺที [นนฺทิ (สี. สฺยา.)] ทุกฺขสฺส มูล’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ‘ภวา ชาติ ภูตสฺส ชรามรณ’นฺติ. ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ‘ตถาคโต สพฺพโส ตณฺหานํ ขยา วิราคา นิโรธา จาคา ปฏินิสฺสคฺคา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’ติ วทามิ.
‘‘อาปํ ¶ …เป… เตชํ… วายํ… ภูเต… เทเว… ปชาปตึ… พฺรหฺมํ… อาภสฺสเร… สุภกิณฺเห… เวหปฺผเล… อภิภุํ… อากาสานฺจายตนํ… วิฺาณฺจายตนํ… อากิฺจฺายตนํ… เนวสฺานาสฺายตนํ… ทิฏฺํ… สุตํ… มุตํ… วิฺาตํ… เอกตฺตํ… นานตฺตํ… สพฺพํ… นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิชานาติ; นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิฺาย นิพฺพานํ น มฺติ, นิพฺพานสฺมึ น มฺติ, นิพฺพานโต น มฺติ, นิพฺพานํ เมติ น มฺติ, นิพฺพานํ นาภินนฺทติ. ตํ ¶ กิสฺส เหตุ? ‘นนฺที ทุกฺขสฺส มูล’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ‘ภวา ชาติ ภูตสฺส ชรามรณ’นฺติ. ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ‘ตถาคโต สพฺพโส ตณฺหานํ ขยา วิราคา นิโรธา จาคา ปฏินิสฺสคฺคา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’ติ วทามี’’ติ.
ตถาคตวเสน อฏฺมนยภูมิปริจฺเฉโท นิฏฺิโต.
อิทมโวจ ภควา. น เต ภิกฺขู [น อตฺตมนา เตภิกฺขู (สฺยา.), เต ภิกฺขู (ปี. ก.)] ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
มูลปริยายสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปมํ.
๒. สพฺพาสวสุตฺตํ
๑๔. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘สพฺพาสวสํวรปริยายํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ ¶ ¶ , สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
๑๕. ‘‘ชานโต อหํ, ภิกฺขเว, ปสฺสโต อาสวานํ ขยํ วทามิ, โน อชานโต โน อปสฺสโต. กิฺจ, ภิกฺขเว, ชานโต กิฺจ ปสฺสโต อาสวานํ ขยํ วทามิ? โยนิโส จ มนสิการํ อโยนิโส จ มนสิการํ. อโยนิโส, ภิกฺขเว, มนสิกโรโต อนุปฺปนฺนา เจว อาสวา อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา จ อาสวา ปวฑฺฒนฺติ; โยนิโส จ โข, ภิกฺขเว, มนสิกโรโต อนุปฺปนฺนา เจว อาสวา น อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา จ อาสวา ปหียนฺติ.
๑๖. ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อาสวา ทสฺสนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา สํวรา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา ปฏิเสวนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา อธิวาสนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา ปริวชฺชนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา วิโนทนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา ภาวนา ปหาตพฺพา.
ทสฺสนา ปหาตพฺพาสวา
๑๗. ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, อาสวา ทสฺสนา ปหาตพฺพา? อิธ, ภิกฺขเว ¶ , อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน – อริยานํ อทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส อโกวิโท อริยธมฺเม อวินีโต, สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต – มนสิกรณีเย ธมฺเม นปฺปชานาติ, อมนสิกรณีเย ธมฺเม นปฺปชานาติ. โส มนสิกรณีเย ธมฺเม อปฺปชานนฺโต อมนสิกรณีเย ธมฺเม อปฺปชานนฺโต, เย ธมฺมา น มนสิกรณียา, เต ธมฺเม มนสิ กโรติ, เย ธมฺมา มนสิกรณียา เต ธมฺเม น มนสิ กโรติ.
‘‘กตเม ¶ จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา น มนสิกรณียา เย ธมฺเม มนสิ กโรติ? ยสฺส, ภิกฺขเว, ธมฺเม มนสิกโรโต อนุปฺปนฺโน วา กามาสโว อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน วา กามาสโว ปวฑฺฒติ; อนุปฺปนฺโน วา ภวาสโว อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน วา ภวาสโว ปวฑฺฒติ; อนุปฺปนฺโน วา อวิชฺชาสโว อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน วา อวิชฺชาสโว ปวฑฺฒติ – อิเม ธมฺมา น มนสิกรณียา เย ธมฺเม มนสิ กโรติ.
‘‘กตเม ¶ จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา มนสิกรณียา เย ธมฺเม น มนสิ กโรติ? ยสฺส, ภิกฺขเว, ธมฺเม มนสิกโรโต อนุปฺปนฺโน วา กามาสโว น อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน วา กามาสโว ปหียติ; อนุปฺปนฺโน วา ภวาสโว น อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน วา ภวาสโว ปหียติ; อนุปฺปนฺโน วา อวิชฺชาสโว น อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน วา อวิชฺชาสโว ปหียติ – อิเม ธมฺมา มนสิกรณียา เย ธมฺเม น มนสิ กโรติ.
‘‘ตสฺส อมนสิกรณียานํ ¶ ธมฺมานํ มนสิการา มนสิกรณียานํ ธมฺมานํ อมนสิการา อนุปฺปนฺนา เจว อาสวา อุปฺปชฺชนฺติ อุปฺปนฺนา จ อาสวา ¶ ปวฑฺฒนฺติ.
๑๘. ‘‘โส เอวํ อโยนิโส มนสิ กโรติ – ‘อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธานํ? น นุ โข อโหสึ อตีตมทฺธานํ? กึ นุ โข อโหสึ อตีตมทฺธานํ? กถํ นุ โข อโหสึ อตีตมทฺธานํ? กึ หุตฺวา กึ อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธานํ? ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธานํ? น นุ โข ภวิสฺสามิ อนาคตมทฺธานํ? กึ นุ โข ภวิสฺสามิ อนาคตมทฺธานํ? กถํ นุ โข ภวิสฺสามิ อนาคตมทฺธานํ? กึ หุตฺวา กึ ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธาน’นฺติ? เอตรหิ วา ปจฺจุปฺปนฺนมทฺธานํ [ปจฺจุปฺปนฺนมทฺธานํ อารพฺภ (สฺยา.)] อชฺฌตฺตํ กถํกถี โหติ – ‘อหํ นุ โขสฺมิ? โน นุ โขสฺมิ? กึ นุ โขสฺมิ? กถํ นุ โขสฺมิ? อยํ นุ โข สตฺโต กุโต อาคโต? โส กุหึ คามี ภวิสฺสตี’ติ?
๑๙. ‘‘ตสฺส เอวํ อโยนิโส มนสิกโรโต ฉนฺนํ ทิฏฺีนํ อฺตรา ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ. ‘อตฺถิ เม อตฺตา’ติ วา อสฺส [วาสฺส (สี. สฺยา. ปี.)] สจฺจโต เถตโต ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ; ‘นตฺถิ เม อตฺตา’ติ วา อสฺส สจฺจโต เถตโต ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ; ‘อตฺตนาว อตฺตานํ สฺชานามี’ติ วา อสฺส สจฺจโต เถตโต ¶ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ; ‘อตฺตนาว อนตฺตานํ สฺชานามี’ติ วา อสฺส สจฺจโต เถตโต ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ; ‘อนตฺตนาว อตฺตานํ สฺชานามี’ติ วา อสฺส สจฺจโต เถตโต ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ; อถ วา ปนสฺส เอวํ ทิฏฺิ โหติ – ‘โย เม อยํ อตฺตา วโท เวเทยฺโย ตตฺร ตตฺร กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ วิปากํ ปฏิสํเวเทติ โส โข ปน เม อยํ อตฺตา นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต อวิปริณามธมฺโม ¶ สสฺสติสมํ ตเถว สฺสตี’ติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว ¶ , ทิฏฺิคตํ ทิฏฺิคหนํ ทิฏฺิกนฺตารํ ทิฏฺิวิสูกํ ทิฏฺิวิปฺผนฺทิตํ ทิฏฺิสํโยชนํ. ทิฏฺิสํโยชนสํยุตฺโต, ภิกฺขเว, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน น ปริมุจฺจติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ; ‘น ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมา’ติ วทามิ.
๒๐. ‘‘สุตวา จ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก – อริยานํ ทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส โกวิโท อริยธมฺเม สุวินีโต, สปฺปุริสานํ ทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส โกวิโท สปฺปุริสธมฺเม สุวินีโต – มนสิกรณีเย ธมฺเม ปชานาติ อมนสิกรณีเย ธมฺเม ปชานาติ. โส มนสิกรณีเย ธมฺเม ปชานนฺโต อมนสิกรณีเย ธมฺเม ปชานนฺโต เย ธมฺมา น ¶ มนสิกรณียา เต ธมฺเม น มนสิ กโรติ, เย ธมฺมา มนสิกรณียา เต ธมฺเม มนสิ กโรติ.
‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา น มนสิกรณียา เย ธมฺเม น มนสิ กโรติ? ยสฺส, ภิกฺขเว, ธมฺเม มนสิกโรโต อนุปฺปนฺโน วา กามาสโว อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน วา กามาสโว ปวฑฺฒติ; อนุปฺปนฺโน วา ภวาสโว อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน วา ภวาสโว ปวฑฺฒติ; อนุปฺปนฺโน วา อวิชฺชาสโว อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน วา อวิชฺชาสโว ปวฑฺฒติ – อิเม ธมฺมา น มนสิกรณียา, เย ธมฺเม น มนสิ กโรติ.
‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา มนสิกรณียา เย ธมฺเม มนสิ กโรติ? ยสฺส, ภิกฺขเว, ธมฺเม มนสิกโรโต อนุปฺปนฺโน วา กามาสโว น อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน วา กามาสโว ปหียติ; อนุปฺปนฺโน วา ภวาสโว น อุปฺปชฺชติ ¶ , อุปฺปนฺโน วา ภวาสโว ปหียติ; อนุปฺปนฺโน วา อวิชฺชาสโว น อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน วา อวิชฺชาสโว ปหียติ – อิเม ธมฺมา มนสิกรณียา เย ธมฺเม มนสิ กโรติ.
‘‘ตสฺส อมนสิกรณียานํ ธมฺมานํ อมนสิการา มนสิกรณียานํ ธมฺมานํ มนสิการา อนุปฺปนฺนา เจว อาสวา น อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา จ อาสวา ปหียนฺติ.
๒๑. ‘‘โส ¶ ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ โยนิโส มนสิ กโรติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ โยนิโส มนสิ กโรติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ โยนิโส ¶ มนสิ กโรติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ โยนิโส มนสิ กโรติ. ตสฺส เอวํ โยนิโส มนสิกโรโต ตีณิ สํโยชนานิ ปหียนฺติ – สกฺกายทิฏฺิ, วิจิกิจฺฉา, สีลพฺพตปรามาโส. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, อาสวา ทสฺสนา ปหาตพฺพา.
สํวรา ปหาตพฺพาสวา
๒๒. ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, อาสวา สํวรา ปหาตพฺพา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา โยนิโส จกฺขุนฺทฺริยสํวรสํวุโต วิหรติ. ยฺหิสฺส, ภิกฺขเว, จกฺขุนฺทฺริยสํวรํ อสํวุตสฺส วิหรโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, จกฺขุนฺทฺริยสํวรํ สํวุตสฺส วิหรโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. ปฏิสงฺขา โยนิโส โสตินฺทฺริยสํวรสํวุโต วิหรติ…เป… ฆานินฺทฺริยสํวรสํวุโต วิหรติ…เป… ชิวฺหินฺทฺริยสํวรสํวุโต วิหรติ…เป… กายินฺทฺริยสํวรสํวุโต วิหรติ…เป… มนินฺทฺริยสํวรสํวุโต วิหรติ. ยฺหิสฺส, ภิกฺขเว ¶ , มนินฺทฺริยสํวรํ อสํวุตสฺส วิหรโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, มนินฺทฺริยสํวรํ สํวุตสฺส วิหรโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ.
‘‘ยฺหิสฺส, ภิกฺขเว, สํวรํ อสํวุตสฺส วิหรโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา ¶ , สํวรํ สํวุตสฺส วิหรโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, อาสวา สํวรา ปหาตพฺพา.
ปฏิเสวนา ปหาตพฺพาสวา
๒๓. ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, อาสวา ปฏิเสวนา ปหาตพฺพา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปฏิเสวติ – ‘ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตาย, อุณฺหสฺส ปฏิฆาตาย, ฑํสมกสวาตาตปสรีํสป- [สิรึสป (สี. สฺยา. ปี.)] สมฺผสฺสานํ ปฏิฆาตาย, ยาวเทว หิริโกปีนปฺปฏิจฺฉาทนตฺถํ’.
‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส ปิณฺฑปาตํ ปฏิเสวติ – ‘เนว ทวาย, น มทาย, น มณฺฑนาย, น ¶ วิภูสนาย, ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา ยาปนาย, วิหึสูปรติยา, พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย, อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ นวฺจ ¶ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามิ, ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสติ อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จ’ [จาติ (สี.)].
‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส เสนาสนํ ปฏิเสวติ – ‘ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตาย, อุณฺหสฺส ปฏิฆาตาย, ฑํสมกสวาตาตปสรีํสปสมฺผสฺสานํ ปฏิฆาตาย, ยาวเทว อุตุปริสฺสยวิโนทนปฏิสลฺลานารามตฺถํ’.
‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปฏิเสวติ – ‘ยาวเทว อุปฺปนฺนานํ เวยฺยาพาธิกานํ เวทนานํ ปฏิฆาตาย, อพฺยาพชฺฌปรมตาย’ [อพฺยาปชฺฌปรมตาย (สี. สฺยา. ปี.), อพฺยาปชฺชปรมตาย (ก.)].
‘‘ยฺหิสฺส, ภิกฺขเว, อปฺปฏิเสวโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา ¶ วิฆาตปริฬาหา, ปฏิเสวโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, อาสวา ปฏิเสวนา ปหาตพฺพา.
อธิวาสนา ปหาตพฺพาสวา
๒๔. ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, อาสวา อธิวาสนา ปหาตพฺพา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา โยนิโส ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺส, ชิฆจฺฉาย ปิปาสาย. ฑํสมกสวาตาตปสรีํสปสมฺผสฺสานํ, ทุรุตฺตานํ ทุราคตานํ วจนปถานํ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ [ติปฺปานํ (สี. สฺยา. ปี.)] ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อธิวาสกชาติโก โหติ.
‘‘ยฺหิสฺส, ภิกฺขเว, อนธิวาสยโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, อธิวาสยโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, อาสวา อธิวาสนา ปหาตพฺพา.
ปริวชฺชนา ปหาตพฺพาสวา
๒๕. ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, อาสวา ปริวชฺชนา ปหาตพฺพา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ¶ ปฏิสงฺขา โยนิโส จณฺฑํ หตฺถึ ปริวชฺเชติ, จณฺฑํ อสฺสํ ปริวชฺเชติ, จณฺฑํ โคณํ ปริวชฺเชติ, จณฺฑํ กุกฺกุรํ ปริวชฺเชติ, อหึ ขาณุํ กณฺฏกฏฺานํ ¶ โสพฺภํ ปปาตํ จนฺทนิกํ โอฬิคลฺลํ. ยถารูเป อนาสเน นิสินฺนํ ¶ ยถารูเป อโคจเร จรนฺตํ ยถารูเป ปาปเก มิตฺเต ภชนฺตํ วิฺู สพฺรหฺมจารี ปาปเกสุ าเนสุ โอกปฺเปยฺยุํ, โส ตฺจ อนาสนํ ตฺจ อโคจรํ เต จ ¶ ปาปเก มิตฺเต ปฏิสงฺขา โยนิโส ปริวชฺเชติ.
‘‘ยฺหิสฺส, ภิกฺขเว, อปริวชฺชยโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, ปริวชฺชยโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, อาสวา ปริวชฺชนา ปหาตพฺพา.
วิโนทนา ปหาตพฺพาสวา
๒๖. ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, อาสวา วิโนทนา ปหาตพฺพา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา โยนิโส อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ, อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ…เป… อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ…เป… อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ.
‘‘ยฺหิสฺส, ภิกฺขเว, อวิโนทยโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, วิโนทยโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, อาสวา วิโนทนา ปหาตพฺพา.
ภาวนา ปหาตพฺพาสวา
๒๗. ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, อาสวา ภาวนา ปหาตพฺพา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา โยนิโส สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ; ปฏิสงฺขา โยนิโส ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ…เป… วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ¶ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ.
‘‘ยฺหิสฺส, ภิกฺขเว ¶ , อภาวยโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, ภาวยโต เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, อาสวา ภาวนา ปหาตพฺพา.
๒๘. ‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เย อาสวา ทสฺสนา ปหาตพฺพา เต ทสฺสนา ปหีนา โหนฺติ, เย อาสวา สํวรา ปหาตพฺพา ¶ เต สํวรา ปหีนา โหนฺติ, เย อาสวา ปฏิเสวนา ปหาตพฺพา เต ปฏิเสวนา ปหีนา โหนฺติ, เย อาสวา อธิวาสนา ปหาตพฺพา เต อธิวาสนา ปหีนา โหนฺติ, เย อาสวา ปริวชฺชนา ปหาตพฺพา ¶ เต ปริวชฺชนา ปหีนา โหนฺติ, เย อาสวา วิโนทนา ปหาตพฺพา เต วิโนทนา ปหีนา โหนฺติ, เย อาสวา ภาวนา ปหาตพฺพา เต ภาวนา ปหีนา โหนฺติ; อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘ภิกฺขุ สพฺพาสวสํวรสํวุโต วิหรติ, อจฺเฉจฺฉิ [อจฺเฉชฺชิ (ก.)] ตณฺหํ, วิวตฺตยิ [วาวตฺตยิ (สี. ปี.)] สํโยชนํ, สมฺมา มานาภิสมยา อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสา’’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
สพฺพาสวสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทุติยํ.
๓. ธมฺมทายาทสุตฺตํ
๒๙. ¶ ¶ เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว, ภวถ, มา อามิสทายาทา. อตฺถิ เม ตุมฺเหสุ อนุกมฺปา – ‘กินฺติ เม สาวกา ธมฺมทายาทา ภเวยฺยุํ, โน อามิสทายาทา’ติ. ตุมฺเห จ เม, ภิกฺขเว, อามิสทายาทา ภเวยฺยาถ โน ธมฺมทายาทา, ตุมฺเหปิ เตน อาทิยา [อาทิสฺสา (สี. สฺยา. ปี.)] ภเวยฺยาถ – ‘อามิสทายาทา สตฺถุสาวกา วิหรนฺติ, โน ธมฺมทายาทา’ติ; อหมฺปิ เตน อาทิโย ภเวยฺยํ – ‘อามิสทายาทา สตฺถุสาวกา วิหรนฺติ, โน ธมฺมทายาทา’ติ. ตุมฺเห จ เม, ภิกฺขเว, ธมฺมทายาทา ภเวยฺยาถ, โน อามิสทายาทา, ตุมฺเหปิ เตน น อาทิยา ภเวยฺยาถ – ‘ธมฺมทายาทา สตฺถุสาวกา วิหรนฺติ, โน อามิสทายาทา’ติ; อหมฺปิ เตน น อาทิโย ภเวยฺยํ – ‘ธมฺมทายาทา สตฺถุสาวกา วิหรนฺติ, โน อามิสทายาทา’ติ. ตสฺมาติห เม, ภิกฺขเว, ธมฺมทายาทา ภวถ, มา อามิสทายาทา. อตฺถิ เม ¶ ตุมฺเหสุ อนุกมฺปา – ‘กินฺติ เม สาวกา ธมฺมทายาทา ภเวยฺยุํ, โน อามิสทายาทา’ติ.
๓๐. ‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, ภุตฺตาวี อสฺสํ ปวาริโต ปริปุณฺโณ ปริโยสิโต ¶ สุหิโต ยาวทตฺโถ; สิยา จ เม ปิณฺฑปาโต อติเรกธมฺโม ฉฑฺฑนียธมฺโม [ฉฑฺฑิยธมฺโม (สี. สฺยา. ปี.)]. อถ ทฺเว ภิกฺขู อาคจฺเฉยฺยุํ ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺย- [ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺล (สี. ปี.)] ปเรตา ¶ . ตฺยาหํ เอวํ วเทยฺยํ – ‘อหํ โขมฺหิ, ภิกฺขเว, ภุตฺตาวี ปวาริโต ปริปุณฺโณ ปริโยสิโต สุหิโต ยาวทตฺโถ; อตฺถิ จ เม อยํ ปิณฺฑปาโต อติเรกธมฺโม ฉฑฺฑนียธมฺโม. สเจ อากงฺขถ, ภฺุชถ, โน เจ ตุมฺเห ภฺุชิสฺสถ [สเจ ตุมฺเห น ภฺุชิสฺสถ (สี. สฺยา. ปี.)], อิทานาหํ อปฺปหริเต วา ฉฑฺเฑสฺสามิ, อปฺปาณเก วา อุทเก โอปิลาเปสฺสามี’ติ. ตตฺเรกสฺส ภิกฺขุโน เอวมสฺส – ‘ภควา โข ภุตฺตาวี ปวาริโต ปริปุณฺโณ ปริโยสิโต สุหิโต ยาวทตฺโถ; อตฺถิ จายํ ภควโต ปิณฺฑปาโต อติเรกธมฺโม ฉฑฺฑนียธมฺโม. สเจ มยํ น ภฺุชิสฺสาม, อิทานิ ภควา อปฺปหริเต วา ฉฑฺเฑสฺสติ, อปฺปาณเก วา อุทเก โอปิลาเปสฺสติ’ ¶ . วุตฺตํ โข ปเนตํ ภควตา – ‘ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว, ภวถ, มา อามิสทายาทา’ติ. อามิสฺตรํ โข ปเนตํ, ยทิทํ ปิณฺฑปาโต. ยํนูนาหํ อิมํ ปิณฺฑปาตํ อภฺุชิตฺวา อิมินาว ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺเยน เอวํ อิมํ รตฺตินฺทิวํ [รตฺติทิวํ (ก.)] วีตินาเมยฺย’’นฺติ. โส ตํ ปิณฺฑปาตํ อภฺุชิตฺวา เตเนว ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺเยน เอวํ ตํ รตฺตินฺทิวํ วีตินาเมยฺย. อถ ทุติยสฺส ภิกฺขุโน เอวมสฺส – ‘ภควา โข ภุตฺตาวี ปวาริโต ปริปุณฺโณ ปริโยสิโต สุหิโต ยาวทตฺโถ; อตฺถิ จายํ ภควโต ปิณฺฑปาโต อติเรกธมฺโม ฉฑฺฑนียธมฺโม. สเจ มยํ น ภฺุชิสฺสาม, อิทานิ ภควา อปฺปหริเต วา ฉฑฺเฑสฺสติ, อปฺปาณเก ¶ วา อุทเก โอปิลาเปสฺสติ. ยํนูนาหํ อิมํ ปิณฺฑปาตํ ภฺุชิตฺวา ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยํ ปฏิวิโนเทตฺวา [ปฏิวิเนตฺวา (สี. สฺยา. ปี.)] เอวํ อิมํ รตฺตินฺทิวํ วีตินาเมยฺย’นฺติ. โส ตํ ปิณฺฑปาตํ ภฺุชิตฺวา ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยํ ปฏิวิโนเทตฺวา เอวํ ตํ รตฺตินฺทิวํ วีตินาเมยฺย. กิฺจาปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตํ ปิณฺฑปาตํ ภฺุชิตฺวา ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยํ ปฏิวิโนเทตฺวา เอวํ ตํ รตฺตินฺทิวํ วีตินาเมยฺย, อถ โข อสุเยว เม ปุริโม ภิกฺขุ ปุชฺชตโร จ ปาสํสตโร จ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตฺหิ ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ทีฆรตฺตํ ¶ อปฺปิจฺฉตาย สนฺตุฏฺิยา สลฺเลขาย สุภรตาย วีริยารมฺภาย สํวตฺติสฺสติ. ตสฺมาติห เม, ภิกฺขเว, ธมฺมทายาทา ภวถ, มา อามิสทายาทา. อตฺถิ เม ตุมฺเหสุ อนุกมฺปา – ‘กินฺติ เม สาวกา ธมฺมทายาทา ภเวยฺยุํ, โน อามิสทายาทา’’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน [วตฺวา (สี. ปี.) เอวมีทิเสสุ าเนสุ] สุคโต อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.
๓๑. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ¶ ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –
‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, สตฺถุ ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต สาวกา วิเวกํ นานุสิกฺขนฺติ, กิตฺตาวตา จ ปน สตฺถุ ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต สาวกา วิเวกมนุสิกฺขนฺตี’’ติ? ‘‘ทูรโตปิ โข มยํ, อาวุโส, อาคจฺฉาม ¶ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถมฺาตุํ. สาธุ วตายสฺมนฺตํเยว สาริปุตฺตํ ปฏิภาตุ เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ; อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘เตน ¶ หาวุโส, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –
‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, สตฺถุ ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต สาวกา วิเวกํ นานุสิกฺขนฺติ? อิธาวุโส, สตฺถุ ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต สาวกา วิเวกํ นานุสิกฺขนฺติ, เยสฺจ ธมฺมานํ สตฺถา ปหานมาห, เต จ ธมฺเม นปฺปชหนฺติ, พาหุลิกา [พาหุลฺลิกา (สฺยา.)] จ โหนฺติ, สาถลิกา, โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา, ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา. ตตฺราวุโส, เถรา ภิกฺขู ตีหิ าเนหิ คารยฺหา ภวนฺติ. ‘สตฺถุ ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต สาวกา วิเวกํ นานุสิกฺขนฺตี’ติ – อิมินา ปเมน าเนน เถรา ภิกฺขู คารยฺหา ภวนฺติ. ‘เยสฺจ ธมฺมานํ สตฺถา ปหานมาห เต จ ธมฺเม นปฺปชหนฺตี’ติ – อิมินา ทุติเยน ¶ าเนน เถรา ภิกฺขู คารยฺหา ภวนฺติ. ‘พาหุลิกา จ, สาถลิกา, โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา, ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา’ติ – อิมินา ตติเยน าเนน เถรา ภิกฺขู คารยฺหา ภวนฺติ. เถรา, อาวุโส, ภิกฺขู อิเมหิ ตีหิ าเนหิ คารยฺหา ภวนฺติ. ตตฺราวุโส, มชฺฌิมา ภิกฺขู…เป… นวา ภิกฺขู ตีหิ าเนหิ คารยฺหา ภวนฺติ. ‘สตฺถุ ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต ¶ สาวกา วิเวกํ นานุสิกฺขนฺตี’ติ – อิมินา ปเมน าเนน นวา ภิกฺขู คารยฺหา ภวนฺติ. ‘เยสฺจ ธมฺมานํ สตฺถา ปหานมาห เต จ ธมฺเม นปฺปชหนฺตี’ติ – อิมินา ทุติเยน าเนน นวา ภิกฺขู คารยฺหา ภวนฺติ. ‘พาหุลิกา จ โหนฺติ, สาถลิกา, โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา, ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา’ติ – อิมินา ตติเยน าเนน นวา ภิกฺขู คารยฺหา ภวนฺติ. นวา, อาวุโส, ภิกฺขู อิเมหิ ตีหิ าเนหิ คารยฺหา ภวนฺติ. เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, สตฺถุ ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต สาวกา วิเวกํ นานุสิกฺขนฺติ.
๓๒. ‘‘กิตฺตาวตา จ, ปนาวุโส, สตฺถุ ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต สาวกา วิเวกมนุสิกฺขนฺติ ¶ ? อิธาวุโส, สตฺถุ ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต สาวกา วิเวกมนุสิกฺขนฺติ – เยสฺจ ธมฺมานํ สตฺถา ปหานมาห เต จ ธมฺเม ปชหนฺติ; น จ พาหุลิกา โหนฺติ, น สาถลิกา โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา. ตตฺราวุโส, เถรา ภิกฺขู ตีหิ าเนหิ ปาสํสา ภวนฺติ. ‘สตฺถุ ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต สาวกา วิเวกมนุสิกฺขนฺตี’ติ – อิมินา ปเมน าเนน เถรา ภิกฺขู ปาสํสา ภวนฺติ. ‘เยสฺจ ธมฺมานํ สตฺถา ปหานมาห เต จ ธมฺเม ปชหนฺตี’ติ – อิมินา ทุติเยน าเนน เถรา ภิกฺขู ปาสํสา ¶ ภวนฺติ. ‘น จ พาหุลิกา, น สาถลิกา โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา’ติ – อิมินา ตติเยน าเนน เถรา ภิกฺขู ปาสํสา ภวนฺติ. เถรา, อาวุโส, ภิกฺขู อิเมหิ ตีหิ าเนหิ ปาสํสา ภวนฺติ ¶ . ตตฺราวุโส, มชฺฌิมา ภิกฺขู…เป… นวา ภิกฺขู ตีหิ าเนหิ ปาสํสา ภวนฺติ. ‘สตฺถุ ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต สาวกา วิเวกมนุสิกฺขนฺตี’ติ – อิมินา ปเมน าเนน นวา ภิกฺขู ปาสํสา ภวนฺติ. ‘เยสฺจ ธมฺมานํ สตฺถา ปหานมาห เต จ ธมฺเม ปชหนฺตี’ติ – อิมินา ทุติเยน าเนน นวา ภิกฺขู ปาสํสา ภวนฺติ. ‘น จ พาหุลิกา, น สาถลิกา โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา’ติ – อิมินา ตติเยน าเนน นวา ภิกฺขู ปาสํสา ภวนฺติ. นวา, อาวุโส, ภิกฺขู อิเมหิ ¶ ตีหิ าเนหิ ปาสํสา ภวนฺติ. เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, สตฺถุ ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต สาวกา วิเวกมนุสิกฺขนฺติ.
๓๓. ‘‘ตตฺราวุโส, โลโภ จ ปาปโก โทโส จ ปาปโก. โลภสฺส จ ปหานาย โทสสฺส จ ปหานาย อตฺถิ มชฺฌิมา ปฏิปทา จกฺขุกรณี าณกรณี อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ. กตมา จ สา, อาวุโส, มชฺฌิมา ปฏิปทา จกฺขุกรณี าณกรณี อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ? อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, เสยฺยถิทํ [เสยฺยถีทํ (สี. สฺยา. ปี.)] – สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิ. อยํ โข สา, อาวุโส, มชฺฌิมา ปฏิปทา จกฺขุกรณี าณกรณี อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ.
‘‘ตตฺราวุโส, โกโธ จ ปาปโก อุปนาโห จ ¶ ปาปโก…เป… มกฺโข จ ปาปโก ปฬาโส จ ปาปโก, อิสฺสา จ ปาปิกา มจฺเฉรฺจ ปาปกํ, มายา จ ปาปิกา สาเยฺยฺจ ปาปกํ, ถมฺโภ จ ปาปโก สารมฺโภ ¶ จ ปาปโก, มาโน จ ปาปโก อติมาโน จ ปาปโก, มโท จ ปาปโก ปมาโท จ ปาปโก. มทสฺส จ ปหานาย ปมาทสฺส จ ปหานาย อตฺถิ มชฺฌิมา ปฏิปทา จกฺขุกรณี าณกรณี อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ. กตมา จ สา, อาวุโส, มชฺฌิมา ปฏิปทา จกฺขุกรณี าณกรณี อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ? อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิ. อยํ โข สา, อาวุโส, มชฺฌิมา ¶ ปฏิปทา จกฺขุกรณี าณกรณี อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตตี’’ติ.
อิทมโวจายสฺมา สาริปุตฺโต. อตฺตมนา เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
ธมฺมทายาทสุตฺตํ นิฏฺิตํ ตติยํ.
๔. ภยเภรวสุตฺตํ
๓๔. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ [สาราณียํ (สี. สฺยา. ปี.)] วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เยเม, โภ โคตม, กุลปุตฺตา ภวนฺตํ โคตมํ อุทฺทิสฺส สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, ภวํ เตสํ โคตโม ปุพฺพงฺคโม, ภวํ เตสํ โคตโม พหุกาโร, ภวํ เตสํ โคตโม สมาทเปตา [สมาทาเปตา (?)]; โภโต จ ปน โคตมสฺส สา ชนตา ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชตี’’ติ. ‘‘เอวเมตํ, พฺราหฺมณ, เอวเมตํ, พฺราหฺมณ! เย เต, พฺราหฺมณ, กุลปุตฺตา มมํ อุทฺทิสฺส สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, อหํ เตสํ ปุพฺพงฺคโม, อหํ เตสํ พหุกาโร, อหํ เตสํ สมาทเปตา; มม จ ปน สา ชนตา ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชตี’’ติ. ‘‘ทุรภิสมฺภวานิ หิ โข, โภ โคตม, อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ, ทุกฺกรํ ปวิเวกํ, ทุรภิรมํ เอกตฺเต, หรนฺติ มฺเ มโน วนานิ สมาธึ อลภมานสฺส ภิกฺขุโน’’ติ ¶ . ‘‘เอวเมตํ, พฺราหฺมณ, เอวเมตํ, พฺราหฺมณ! ทุรภิสมฺภวานิ หิ โข, พฺราหฺมณ, อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ ¶ เสนาสนานิ, ทุกฺกรํ ปวิเวกํ, ทุรภิรมํ เอกตฺเต, หรนฺติ มฺเ มโน วนานิ สมาธึ อลภมานสฺส ภิกฺขุโน’’ติ.
๓๕. ‘‘มยฺหมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, ปุพฺเพว สมฺโพธา อนภิสมฺพุทฺธสฺส โพธิสตฺตสฺเสว สโต เอตทโหสิ – ‘ทุรภิสมฺภวานิ หิ โข อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ, ทุกฺกรํ ปวิเวกํ, ทุรภิรมํ เอกตฺเต, หรนฺติ มฺเ มโน วนานิ สมาธึ อลภมานสฺส ภิกฺขุโน’ติ. ตสฺส มยฺหํ พฺราหฺมณ, เอตทโหสิ – ‘เย โข เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา อปริสุทฺธกายกมฺมนฺตา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, อปริสุทฺธกายกมฺมนฺตสนฺโทสเหตุ หเว เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อกุสลํ ภยเภรวํ อวฺหายนฺติ. น โข ปนาหํ อปริสุทฺธกายกมฺมนฺโต อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวามิ; ปริสุทฺธกายกมฺมนฺโตหมสฺมิ. เย หิ โว อริยา ปริสุทฺธกายกมฺมนฺตา ¶ อรฺวนปตฺถานิ ¶ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ เตสมหํ อฺตโร’ติ. เอตมหํ, พฺราหฺมณ, ปริสุทฺธกายกมฺมตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ภิยฺโย ปลฺโลมมาปาทึ อรฺเ วิหาราย.
๓๖. ‘‘ตสฺส มยฺหํ, พฺราหฺมณ, เอตทโหสิ – ‘เย โข เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา อปริสุทฺธวจีกมฺมนฺตา…เป… อปริสุทฺธมโนกมฺมนฺตา ¶ …เป… อปริสุทฺธาชีวา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, อปริสุทฺธาชีวสนฺโทสเหตุ หเว เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อกุสลํ ภยเภรวํ อวฺหายนฺติ. น โข ปนาหํ อปริสุทฺธาชีโว อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวามิ; ปริสุทฺธาชีโวหมสฺมิ. เย หิ โว อริยา ปริสุทฺธาชีวา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ เตสมหํ อฺตโร’ติ. เอตมหํ, พฺราหฺมณ, ปริสุทฺธาชีวตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ภิยฺโย ปลฺโลมมาปาทึ อรฺเ วิหาราย.
๓๗. ‘‘ตสฺส มยฺหํ, พฺราหฺมณ, เอตทโหสิ – ‘เย โข เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา อภิชฺฌาลู กาเมสุ ติพฺพสาราคา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, อภิชฺฌาลุกาเมสุติพฺพสาราคสนฺโทสเหตุ หเว เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อกุสลํ ภยเภรวํ อวฺหายนฺติ. น โข ปนาหํ อภิชฺฌาลุ กาเมสุ ติพฺพสาราโค อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวามิ; อนภิชฺฌาลูหมสฺมิ. เย หิ โว อริยา อนภิชฺฌาลู อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ ¶ , เตสมหํ อฺตโร’ติ. เอตมหํ, พฺราหฺมณ, อนภิชฺฌาลุตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ภิยฺโย ปลฺโลมมาปาทึ อรฺเ วิหาราย.
๓๘. ‘‘ตสฺส มยฺหํ, พฺราหฺมณ, เอตทโหสิ – ‘เย โข เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา พฺยาปนฺนจิตฺตา ปทุฏฺมนสงฺกปฺปา อรฺวนปตฺถานิ ¶ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, พฺยาปนฺนจิตฺตปทุฏฺมนสงฺกปฺปสนฺโทสเหตุ หเว เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อกุสลํ ภยเภรวํ อวฺหายนฺติ. น โข ปนาหํ พฺยาปนฺนจิตฺโต ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวามิ; เมตฺตจิตฺโตหมสฺมิ. เย หิ โว อริยา เมตฺตจิตฺตา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ เตสมหํ อฺตโร’ติ. เอตมหํ, พฺราหฺมณ, เมตฺตจิตฺตตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ภิยฺโย ปลฺโลมมาปาทึ อรฺเ วิหาราย.
๓๙. ‘‘ตสฺส ¶ ¶ มยฺหํ, พฺราหฺมณ, เอตทโหสิ – ‘เย โข เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ถีนมิทฺธปริยุฏฺิตา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, ถีนมิทฺธปริยุฏฺานสนฺโทสเหตุ หเว เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อกุสลํ ภยเภรวํ อวฺหายนฺติ. น โข ปนาหํ ถีนมิทฺธปริยุฏฺิโต อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวามิ; วิคตถีนมิทฺโธหมสฺมิ. เย หิ โว อริยา วิคตถีนมิทฺธา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ เตสมหํ อฺตโร’ติ. เอตมหํ, พฺราหฺมณ, วิคตถีนมิทฺธตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ภิยฺโย ปลฺโลมมาปาทึ อรฺเ วิหาราย.
๔๐. ‘‘ตสฺส มยฺหํ, พฺราหฺมณ, เอตทโหสิ – ‘เย โข เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา อุทฺธตา อวูปสนฺตจิตฺตา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, อุทฺธตอวูปสนฺตจิตฺตสนฺโทสเหตุ ¶ หเว เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อกุสลํ ภยเภรวํ อวฺหายนฺติ. น โข ปนาหํ อุทฺธโต อวูปสนฺตจิตฺโต อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวามิ; วูปสนฺตจิตฺโตหมสฺมิ. เย หิ โว อริยา วูปสนฺตจิตฺตา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, เตสมหํ อฺตโร’ติ. เอตมหํ, พฺราหฺมณ, วูปสนฺตจิตฺตตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ภิยฺโย ปลฺโลมมาปาทึ อรฺเ วิหาราย.
๔๑. ‘‘ตสฺส มยฺหํ, พฺราหฺมณ, เอตทโหสิ – ‘เย โข เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา กงฺขี วิจิกิจฺฉี อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, กงฺขิวิจิกิจฺฉิสนฺโทสเหตุ หเว เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อกุสลํ ภยเภรวํ อวฺหายนฺติ. น โข ปนาหํ กงฺขี วิจิกิจฺฉี อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวามิ; ติณฺณวิจิกิจฺโฉหมสฺมิ. เย หิ โว อริยา ติณฺณวิจิกิจฺฉา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ เตสมหํ อฺตโร’ติ. เอตมหํ, พฺราหฺมณ, ติณฺณวิจิกิจฺฉตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ¶ ภิยฺโย ปลฺโลมมาปาทึ อรฺเ วิหาราย.
๔๒. ‘‘ตสฺส มยฺหํ, พฺราหฺมณ, เอตทโหสิ – ‘เย โข เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา อตฺตุกฺกํสกา ปรวมฺภี อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, อตฺตุกฺกํสนปรวมฺภนสนฺโทสเหตุ หเว เต โภนฺโต ¶ สมณพฺราหฺมณา อกุสลํ ภยเภรวํ อวฺหายนฺติ ¶ . น โข ปนาหํ อตฺตุกฺกํสโก ปรวมฺภี อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวามิ ¶ ; อนตฺตุกฺกํสโก อปรวมฺภีหมสฺมิ. เย หิ โว อริยา อนตฺตุกฺกํสกา อปรวมฺภี อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ เตสมหํ อฺตโร’ติ. เอตมหํ, พฺราหฺมณ, อนตฺตุกฺกํสกตํ อปรวมฺภิตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ภิยฺโย ปลฺโลมมาปาทึ อรฺเ วิหาราย.
๔๓. ‘‘ตสฺส มยฺหํ, พฺราหฺมณ, เอตทโหสิ – ‘เย โข เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ฉมฺภี ภีรุกชาติกา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, ฉมฺภิภีรุกชาติกสนฺโทสเหตุ หเว เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อกุสลํ ภยเภรวํ อวฺหายนฺติ. น โข ปนาหํ ฉมฺภี ภีรุกชาติโก อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวามิ; วิคตโลมหํโสหมสฺมิ. เย หิ โว อริยา วิคตโลมหํสา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ เตสมหํ อฺตโร’ติ. เอตมหํ, พฺราหฺมณ, วิคตโลมหํสตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ภิยฺโย ปลฺโลมมาปาทึ อรฺเ วิหาราย.
๔๔. ‘‘ตสฺส มยฺหํ, พฺราหฺมณ, เอตทโหสิ – ‘เย โข เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ลาภสกฺการสิโลกํ นิกามยมานา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, ลาภสกฺการสิโลกนิกามน [นิกามยมาน (สี. สฺยา.)] สนฺโทสเหตุ หเว เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อกุสลํ ภยเภรวํ อวฺหายนฺติ. น โข ปนาหํ ลาภสกฺการสิโลกํ นิกามยมาโน ¶ อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวามิ; อปฺปิจฺโฉหมสฺมิ. เย หิ โว อริยา อปฺปิจฺฉา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ เตสมหํ อฺตโร’ติ. เอตมหํ, พฺราหฺมณ, อปฺปิจฺฉตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ภิยฺโย ปลฺโลมมาปาทึ อรฺเ วิหาราย.
๔๕. ‘‘ตสฺส มยฺหํ, พฺราหฺมณ, เอตทโหสิ – ‘เย โข เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา กุสีตา หีนวีริยา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ ¶ , กุสีตหีนวีริยสนฺโทสเหตุ หเว เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อกุสลํ ภยเภรวํ อวฺหายนฺติ. น โข ปนาหํ กุสีโต หีนวีริโย อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวามิ; อารทฺธวีริโยหมสฺมิ. เย หิ โว อริยา อารทฺธวีริยา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ เตสมหํ อฺตโร’ติ. เอตมหํ, พฺราหฺมณ, อารทฺธวีริยตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ภิยฺโย ปลฺโลมมาปาทึ อรฺเ วิหาราย.
๔๖. ‘‘ตสฺส ¶ มยฺหํ, พฺราหฺมณ, เอตทโหสิ – ‘เย ¶ โข เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา มุฏฺสฺสตี อสมฺปชานา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, มุฏฺสฺสติอสมฺปชานสนฺโทสเหตุ หเว เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อกุสลํ ภยเภรวํ อวฺหายนฺติ. น โข ปนาหํ มุฏฺสฺสติ อสมฺปชาโน อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวามิ; อุปฏฺิตสฺสติหมสฺมิ. เย ¶ หิ โว อริยา อุปฏฺิตสฺสตี อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ เตสมหํ อฺตโร’ติ. เอตมหํ, พฺราหฺมณ, อุปฏฺิตสฺสติตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ภิยฺโย ปลฺโลมมาปาทึ อรฺเ วิหาราย.
๔๗. ‘‘ตสฺส มยฺหํ, พฺราหฺมณ, เอตทโหสิ – ‘เย โข เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา อสมาหิตา วิพฺภนฺตจิตฺตา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, อสมาหิตวิพฺภนฺตจิตฺตสนฺโทสเหตุ หเว เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อกุสลํ ภยเภรวํ อวฺหายนฺติ. น โข ปนาหํ อสมาหิโต วิพฺภนฺตจิตฺโต อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวามิ; สมาธิสมฺปนฺโนหมสฺมิ. เย หิ โว อริยา สมาธิสมฺปนฺนา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ เตสมหํ อฺตโร’ติ. เอตมหํ, พฺราหฺมณ, สมาธิสมฺปทํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ภิยฺโย ปลฺโลมมาปาทึ อรฺเ วิหาราย.
๔๘. ‘‘ตสฺส มยฺหํ, พฺราหฺมณ, เอตทโหสิ – ‘เย โข เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ทุปฺปฺา เอฬมูคา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, ทุปฺปฺเอฬมูคสนฺโทสเหตุ หเว เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อกุสลํ ภยเภรวํ อวฺหายนฺติ. น โข ปนาหํ ทุปฺปฺโ เอฬมูโค ¶ อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวามิ; ปฺาสมฺปนฺโนหมสฺมิ. เย หิ โว อริยา ปฺาสมฺปนฺนา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ เตสมหํ ¶ อฺตโร’ติ. เอตมหํ, พฺราหฺมณ, ปฺาสมฺปทํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ภิยฺโย ปลฺโลมมาปาทึ อรฺเ วิหาราย.
โสฬสปริยายํ นิฏฺิตํ.
๔๙. ‘‘ตสฺส ¶ มยฺหํ, พฺราหฺมณ, เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ ยา ตา รตฺติโย อภิฺาตา อภิลกฺขิตา – จาตุทฺทสี ปฺจทสี อฏฺมี จ ปกฺขสฺส – ตถารูปาสุ รตฺตีสุ ยานิ ตานิ อารามเจติยานิ วนเจติยานิ รุกฺขเจติยานิ ภึสนกานิ สโลมหํสานิ ตถารูเปสุ เสนาสเนสุ วิหเรยฺยํ อปฺเปว นามาหํ ภยเภรวํ ปสฺเสยฺย’นฺติ. โส โข อหํ, พฺราหฺมณ, อปเรน สมเยน ยา ตา รตฺติโย อภิฺาตา อภิลกฺขิตา – จาตุทฺทสี ปฺจทสี อฏฺมี จ ปกฺขสฺส – ตถารูปาสุ รตฺตีสุ ยานิ ตานิ อารามเจติยานิ วนเจติยานิ รุกฺขเจติยานิ ภึสนกานิ สโลมหํสานิ ตถารูเปสุ เสนาสเนสุ วิหรามิ. ตตฺถ จ เม, พฺราหฺมณ, วิหรโต มโค วา อาคจฺฉติ, โมโร วา กฏฺํ ¶ ปาเตติ, วาโต วา ปณฺณกสฏํ [ปณฺณสฏํ (สี. ปี.)] เอเรติ; ตสฺส มยฺหํ พฺราหฺมณ เอตทโหสิ [ตสฺส มยฺหํ เอวํ โหติ (สี. สฺยา.)] – ‘เอตํ นูน ตํ ภยเภรวํ อาคจฺฉตี’ติ. ตสฺส มยฺหํ, พฺราหฺมณ, เอตทโหสิ – ‘กึ นุ โข อหํ อฺทตฺถุ ภยปฏิกงฺขี [ภยปาฏิกงฺขี (สี.)] วิหรามิ? ยํนูนาหํ ยถาภูตํ ยถาภูตสฺส [ยถาภูตสฺส ยถาภูตสฺส (สี. สฺยา.)] เม ตํ ภยเภรวํ อาคจฺฉติ, ตถาภูตํ ตถาภูโตว [ยถาภูโต ยถาภูโตว (สี. สฺยา.)] ตํ ภยเภรวํ ปฏิวิเนยฺย’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, พฺราหฺมณ, จงฺกมนฺตสฺส ตํ ภยเภรวํ อาคจฺฉติ. โส โข อหํ, พฺราหฺมณ, เนว ตาว ติฏฺามิ ¶ น นิสีทามิ น นิปชฺชามิ, ยาว จงฺกมนฺโตว ตํ ภยเภรวํ ปฏิวิเนมิ. ตสฺส มยฺหํ, พฺราหฺมณ, ิตสฺส ตํ ภยเภรวํ อาคจฺฉติ. โส โข อหํ, พฺราหฺมณ, เนว ตาว จงฺกมามิ น นิสีทามิ น นิปชฺชามิ. ยาว ิโตว ตํ ภยเภรวํ ปฏิวิเนมิ. ตสฺส มยฺหํ, พฺราหฺมณ, นิสินฺนสฺส ตํ ภยเภรวํ อาคจฺฉติ. โส โข อหํ, พฺราหฺมณ, เนว ตาว นิปชฺชามิ น ติฏฺามิ ¶ น จงฺกมามิ, ยาว นิสินฺโนว ตํ ภยเภรวํ ปฏิวิเนมิ. ตสฺส มยฺหํ, พฺราหฺมณ, นิปนฺนสฺส ตํ ภยเภรวํ อาคจฺฉติ. โส โข อหํ, พฺราหฺมณ, เนว ตาว นิสีทามิ น ติฏฺามิ น จงฺกมามิ, ยาว นิปนฺโนว ตํ ภยเภรวํ ปฏิวิเนมิ.
๕๐. ‘‘สนฺติ โข ปน, พฺราหฺมณ, เอเก สมณพฺราหฺมณา รตฺตึเยว สมานํ ทิวาติ สฺชานนฺติ, ทิวาเยว สมานํ รตฺตีติ สฺชานนฺติ. อิทมหํ เตสํ สมณพฺราหฺมณานํ สมฺโมหวิหารสฺมึ วทามิ. อหํ โข ปน, พฺราหฺมณ, รตฺตึเยว สมานํ รตฺตีติ สฺชานามิ, ทิวาเยว สมานํ ทิวาติ สฺชานามิ. ยํ โข ตํ, พฺราหฺมณ, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อสมฺโมหธมฺโม สตฺโต โลเก อุปฺปนฺโน พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ, มเมว ตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อสมฺโมหธมฺโม สตฺโต โลเก อุปฺปนฺโน พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ.
๕๑. ‘‘อารทฺธํ ¶ ¶ โข ปน เม, พฺราหฺมณ, วีริยํ อโหสิ อสลฺลีนํ, อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา [อปฺปมฺมุฏฺา (สฺยา.)], ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคํ. โส โข อหํ, พฺราหฺมณ, วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสึ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ ¶ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสึ. ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหาสึ, สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทสึ; ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสึ. สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสึ.
๕๒. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมสึ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ ¶ อนุสฺสรามิ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป ¶ อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ. อยํ โข เม, พฺราหฺมณ, รตฺติยา ปเม ยาเม ปมา วิชฺชา อธิคตา, อวิชฺชา วิหตา วิชฺชา อุปฺปนฺนา, ตโม วิหโต อาโลโก อุปฺปนฺโน, ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต.
๕๓. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมสึ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสามิ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานามิ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ ¶ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา; เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา ¶ วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา ¶ สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา; เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสามิ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานามิ. อยํ โข เม, พฺราหฺมณ, รตฺติยา มชฺฌิเม ยาเม ทุติยา วิชฺชา อธิคตา, อวิชฺชา วิหตา วิชฺชา อุปฺปนฺนา, ตโม วิหโต อาโลโก อุปฺปนฺโน, ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต.
๕๔. ‘‘โส ¶ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมสึ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ. ‘อิเม อาสวา’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, ‘อยํ อาสวสมุทโย’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, ‘อยํ อาสวนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, ‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ. ตสฺส เม เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ อโหสิ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ อพฺภฺาสึ. อยํ ¶ โข เม, พฺราหฺมณ, รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม ตติยา วิชฺชา อธิคตา, อวิชฺชา วิหตา วิชฺชา อุปฺปนฺนา, ตโม วิหโต อาโลโก อุปฺปนฺโน, ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต.
๕๕. ‘‘สิยา โข ปน เต, พฺราหฺมณ, เอวมสฺส – ‘อชฺชาปิ นูน สมโณ โคตโม อวีตราโค อวีตโทโส อวีตโมโห, ตสฺมา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวตี’ติ. น โข ปเนตํ, พฺราหฺมณ, เอวํ ทฏฺพฺพํ. ทฺเว โข อหํ, พฺราหฺมณ, อตฺถวเส สมฺปสฺสมาโน อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวามิ – อตฺตโน จ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ สมฺปสฺสมาโน, ปจฺฉิมฺจ ชนตํ อนุกมฺปมาโน’’ติ.
๕๖. ‘‘อนุกมฺปิตรูปา ¶ วตายํ โภตา โคตเมน ปจฺฉิมา ชนตา ¶ , ยถา ตํ อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน. อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.
ภยเภรวสุตฺตํ นิฏฺิตํ จตุตฺถํ.
๕. อนงฺคณสุตฺตํ
๕๗. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส, ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –
‘‘จตฺตาโรเม, อาวุโส, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สางฺคโณว สมาโน ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ องฺคณ’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. อิธ ปนาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สางฺคโณว สมาโน ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ องฺคณ’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อิธาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อนงฺคโณว สมาโน ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ องฺคณ’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. อิธ ปนาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อนงฺคโณว สมาโน ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ องฺคณ’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตตฺราวุโส, ยฺวายํ ปุคฺคโล สางฺคโณว สมาโน ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ องฺคณ’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, อยํ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ สางฺคณานํเยว สตํ หีนปุริโส อกฺขายติ. ตตฺราวุโส, ยฺวายํ ปุคฺคโล สางฺคโณว สมาโน ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ องฺคณ’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ สางฺคณานํเยว สตํ เสฏฺปุริโส อกฺขายติ ¶ . ตตฺราวุโส, ยฺวายํ ปุคฺคโล อนงฺคโณว ¶ สมาโน ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ องฺคณ’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, อยํ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อนงฺคณานํเยว สตํ หีนปุริโส อกฺขายติ. ตตฺราวุโส, ยฺวายํ ปุคฺคโล อนงฺคโณว สมาโน ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ องฺคณ’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อนงฺคณานํเยว สตํ เสฏฺปุริโส อกฺขายตี’’ติ.
๕๘. เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –
‘‘โก นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, เหตุ โก ปจฺจโย เยนิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ สางฺคณานํเยว สตํ เอโก หีนปุริโส อกฺขายติ, เอโก เสฏฺปุริโส อกฺขายติ? โก ปนาวุโส ¶ สาริปุตฺต, เหตุ โก ¶ ปจฺจโย เยนิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อนงฺคณานํเยว สตํ เอโก หีนปุริโส อกฺขายติ, เอโก เสฏฺปุริโส อกฺขายตี’’ติ?
๕๙. ‘‘ตตฺราวุโส, ยฺวายํ ปุคฺคโล สางฺคโณว สมาโน ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ องฺคณ’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – น ฉนฺทํ ชเนสฺสติ น วายมิสฺสติ น วีริยํ อารภิสฺสติ ตสฺสงฺคณสฺส ปหานาย; โส สราโค สโทโส สโมโห สางฺคโณ สํกิลิฏฺจิตฺโต กาลํ กริสฺสติ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, กํสปาติ อาภตา อาปณา วา กมฺมารกุลา วา รเชน จ มเลน จ ปริโยนทฺธา. ตเมนํ สามิกา น เจว ปริภฺุเชยฺยุํ น จ ปริโยทเปยฺยุํ [ปริโยทาเปยฺยุํ (?)], รชาปเถ จ นํ นิกฺขิเปยฺยุํ. เอวฺหิ สา, อาวุโส, กํสปาติ อปเรน สมเยน สํกิลิฏฺตรา ¶ อสฺส มลคฺคหิตา’’ติ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, อาวุโส, ยฺวายํ ปุคฺคโล สางฺคโณว สมาโน ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ องฺคณ’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – น ฉนฺทํ ชเนสฺสติ น วายมิสฺสติ น วีริยํ อารภิสฺสติ ตสฺสงฺคณสฺส ปหานาย; โส สราโค สโทโส สโมโห สางฺคโณ สํกิลิฏฺจิตฺโต กาลํ กริสฺสติ.
‘‘ตตฺราวุโส, ยฺวายํ ปุคฺคโล สางฺคโณว สมาโน ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ องฺคณ’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – ฉนฺทํ ชเนสฺสติ วายมิสฺสติ วีริยํ อารภิสฺสติ ตสฺสงฺคณสฺส ปหานาย; โส อราโค อโทโส อโมโห อนงฺคโณ อสํกิลิฏฺจิตฺโต กาลํ กริสฺสติ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, กํสปาติ อาภตา อาปณา วา กมฺมารกุลา วา รเชน จ มเลน จ ปริโยนทฺธา. ตเมนํ สามิกา ปริภฺุเชยฺยฺุเจว ปริโยทเปยฺยฺุจ, น จ นํ รชาปเถ นิกฺขิเปยฺยุํ. เอวฺหิ ¶ สา, อาวุโส, กํสปาติ อปเรน สมเยน ปริสุทฺธตรา อสฺส ปริโยทาตา’’ติ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, อาวุโส, ยฺวายํ ปุคฺคโล สางฺคโณว สมาโน ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ องฺคณ’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – ฉนฺทํ ชเนสฺสติ วายมิสฺสติ วีริยํ อารภิสฺสติ ตสฺสงฺคณสฺส ปหานาย; โส อราโค อโทโส อโมโห อนงฺคโณ อสํกิลิฏฺจิตฺโต กาลํ กริสฺสติ.
‘‘ตตฺราวุโส ¶ , ยฺวายํ ปุคฺคโล อนงฺคโณว สมาโน ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ องฺคณ’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ ¶ – สุภนิมิตฺตํ มนสิ กริสฺสติ, ตสฺส สุภนิมิตฺตสฺส มนสิการา ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสสฺสติ; โส สราโค สโทโส สโมโห สางฺคโณ สํกิลิฏฺจิตฺโต ¶ กาลํ กริสฺสติ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, กํสปาติ อาภตา อาปณา วา กมฺมารกุลา วา ปริสุทฺธา ปริโยทาตา. ตเมนํ สามิกา น เจว ปริภฺุเชยฺยุํ น จ ปริโยทเปยฺยุํ, รชาปเถ จ นํ นิกฺขิเปยฺยุํ. เอวฺหิ สา, อาวุโส, กํสปาติ อปเรน สมเยน สํกิลิฏฺตรา อสฺส มลคฺคหิตา’’ติ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, อาวุโส, ยฺวายํ ปุคฺคโล อนงฺคโณว สมาโน ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ องฺคณ’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – สุภนิมิตฺตํ มนสิ กริสฺสติ, ตสฺส สุภนิมิตฺตสฺส มนสิการา ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสสฺสติ;โส สราโค สโทโส สโมโห สางฺคโณ สํกิลิฏฺจิตฺโตกาลํกริสฺสติ.
‘‘ตตฺราวุโส, ยฺวายํ ปุคฺคโล อนงฺคโณว สมาโน ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ องฺคณ’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – สุภนิมิตฺตํ น มนสิ กริสฺสติ, ตสฺส สุภนิมิตฺตสฺส อมนสิการา ราโค จิตฺตํ นานุทฺธํเสสฺสติ; โส อราโค อโทโส อโมโห อนงฺคโณ อสํกิลิฏฺจิตฺโต กาลํ กริสฺสติ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, กํสปาติ อาภตา อาปณา วา กมฺมารกุลา วา ปริสุทฺธา ปริโยทาตา. ตเมนํ สามิกา ปริภฺุเชยฺยฺุเจว ปริโยทเปยฺยฺุจ, น จ นํ รชาปเถ นิกฺขิเปยฺยุํ. เอวฺหิ สา, อาวุโส, กํสปาติ อปเรน สมเยน ปริสุทฺธตรา อสฺส ปริโยทาตา’’ติ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติ. ‘‘เอวเมว ¶ โข, อาวุโส, ยฺวายํ ปุคฺคโล อนงฺคโณว สมาโน ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ องฺคณ’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – สุภนิมิตฺตํ น มนสิ กริสฺสติ, ตสฺส สุภนิมิตฺตสฺส อมนสิการา ราโค จิตฺตํ นานุทฺธํเสสฺสติ; โส อราโค อโทโส อโมโห อนงฺคโณ อสํกิลิฏฺจิตฺโต กาลํ กริสฺสติ.
‘‘อยํ โข, อาวุโส โมคฺคลฺลาน ¶ , เหตุ อยํ ปจฺจโย เยนิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ สางฺคณานํเยว สตํ เอโก หีนปุริโส อกฺขายติ, เอโก เสฏฺปุริโส อกฺขายติ. อยํ ปนาวุโส โมคฺคลฺลาน, เหตุ อยํ ¶ ปจฺจโย เยนิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อนงฺคณานํเยว สตํ เอโก หีนปุริโส อกฺขายติ, เอโก เสฏฺปุริโส อกฺขายตี’’ติ.
๖๐. ‘‘องฺคณํ องฺคณนฺติ, อาวุโส, วุจฺจติ. กิสฺส นุ โข เอตํ, อาวุโส, อธิวจนํ ยทิทํ องฺคณ’’นฺติ? ‘‘ปาปกานํ โข เอตํ, อาวุโส, อกุสลานํ อิจฺฉาวจรานํ อธิวจนํ, ยทิทํ องฺคณ’’นฺติ.
‘‘านํ ¶ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อาปตฺติฺจ วต อาปนฺโน อสฺสํ, น จ มํ ภิกฺขู ชาเนยฺยุํ อาปตฺตึ อาปนฺโน’ติ. านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ ตํ ภิกฺขุํ ภิกฺขู ชาเนยฺยุํ – ‘อาปตฺตึ อาปนฺโน’ติ. ‘ชานนฺติ มํ ภิกฺขู อาปตฺตึ อาปนฺโน’ติ – อิติ โส กุปิโต โหติ อปฺปตีโต. โย เจว โข, อาวุโส, โกโป โย จ อปฺปจฺจโย – อุภยเมตํ องฺคณํ.
‘‘านํ ¶ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อาปตฺติฺจ วต อาปนฺโน อสฺสํ, อนุรโห มํ ภิกฺขู โจเทยฺยุํ, โน สงฺฆมชฺเฌ’ติ. านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ ตํ ภิกฺขุํ ภิกฺขู สงฺฆมชฺเฌ โจเทยฺยุํ, โน อนุรโห. ‘สงฺฆมชฺเฌ มํ ภิกฺขู โจเทนฺติ, โน อนุรโห’ติ – อิติ โส กุปิโต โหติ อปฺปตีโต. โย เจว โข, อาวุโส, โกโป โย จ อปฺปจฺจโย – อุภยเมตํ องฺคณํ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อาปตฺติฺจ วต อาปนฺโน อสฺสํ, สปฺปฏิปุคฺคโล มํ โจเทยฺย, โน อปฺปฏิปุคฺคโล’ติ. านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ ตํ ภิกฺขุํ อปฺปฏิปุคฺคโล โจเทยฺย, โน สปฺปฏิปุคฺคโล. ‘อปฺปฏิปุคฺคโล มํ โจเทติ, โน สปฺปฏิปุคฺคโล’ติ – อิติ โส กุปิโต โหติ อปฺปตีโต. โย เจว โข, อาวุโส, โกโป โย จ อปฺปจฺจโย – อุภยเมตํ องฺคณํ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต มเมว สตฺถา ปฏิปุจฺฉิตฺวา ปฏิปุจฺฉิตฺวา ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสยฺย, น อฺํ ภิกฺขุํ สตฺถา ปฏิปุจฺฉิตฺวา ปฏิปุจฺฉิตฺวา ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสยฺยา’ติ. านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อฺํ ภิกฺขุํ สตฺถา ปฏิปุจฺฉิตฺวา ¶ ปฏิปุจฺฉิตฺวา ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสยฺย, น ตํ ภิกฺขุํ ¶ สตฺถา ¶ ปฏิปุจฺฉิตฺวา ปฏิปุจฺฉิตฺวา ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสยฺย. ‘อฺํ ภิกฺขุํ สตฺถา ปฏิปุจฺฉิตฺวา ปฏิปุจฺฉิตฺวา ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ, น มํ สตฺถา ปฏิปุจฺฉิตฺวา ปฏิปุจฺฉิตฺวา ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสตี’ติ – อิติ โส กุปิโต โหติ อปฺปตีโต. โย เจว โข, อาวุโส, โกโป โย จ อปฺปจฺจโย – อุภยเมตํ องฺคณํ.
‘‘านํ ¶ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต มเมว ภิกฺขู ปุรกฺขตฺวา ปุรกฺขตฺวา คามํ ภตฺตาย ปวิเสยฺยุํ, น อฺํ ภิกฺขุํ ภิกฺขู ปุรกฺขตฺวา ปุรกฺขตฺวา คามํ ภตฺตาย ปวิเสยฺยุ’นฺติ. านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อฺํ ภิกฺขุํ ภิกฺขู ปุรกฺขตฺวา ปุรกฺขตฺวา คามํ ภตฺตาย ปวิเสยฺยุํ, น ตํ ภิกฺขุํ ภิกฺขู ปุรกฺขตฺวา ปุรกฺขตฺวา คามํ ภตฺตาย ปวิเสยฺยุํ. ‘อฺํ ภิกฺขุํ ภิกฺขู ปุรกฺขตฺวา ปุรกฺขตฺวา คามํ ภตฺตาย ปวิสนฺติ, น มํ ภิกฺขู ปุรกฺขตฺวา ปุรกฺขตฺวา คามํ ภตฺตาย ปวิสนฺตี’ติ – อิติ โส กุปิโต โหติ อปฺปตีโต. โย เจว โข, อาวุโส, โกโป โย จ อปฺปจฺจโย – อุภยเมตํ องฺคณํ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต อหเมว ลเภยฺยํ ภตฺตคฺเค อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑํ, น อฺโ ภิกฺขุ ลเภยฺย ภตฺตคฺเค อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑ’นฺติ. านํ โข ¶ ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อฺโ ภิกฺขุ ลเภยฺย ภตฺตคฺเค อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑํ, น โส ภิกฺขุ ลเภยฺย ภตฺตคฺเค อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑํ. ‘อฺโ ภิกฺขุ ลภติ ภตฺตคฺเค อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑํ, นาหํ ลภามิ ภตฺตคฺเค อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑ’นฺติ – อิติ โส กุปิโต โหติ อปฺปตีโต. โย เจว โข, อาวุโส, โกโป โย จ อปฺปจฺจโย – อุภยเมตํ องฺคณํ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต อหเมว ภตฺตคฺเค ภุตฺตาวี อนุโมเทยฺยํ, น อฺโ ภิกฺขุ ภตฺตคฺเค ภุตฺตาวี อนุโมเทยฺยา’ติ. านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อฺโ ภิกฺขุ ภตฺตคฺเค ภุตฺตาวี อนุโมเทยฺย, น โส ภิกฺขุ ภตฺตคฺเค ภุตฺตาวี อนุโมเทยฺย. ‘อฺโ ภิกฺขุ ภตฺตคฺเค ภุตฺตาวี ¶ อนุโมทติ, นาหํ ภตฺตคฺเค ภุตฺตาวี อนุโมทามี’ติ – อิติ โส กุปิโต โหติ อปฺปตีโต. โย เจว โข, อาวุโส, โกโป โย จ อปฺปจฺจโย – อุภยเมตํ องฺคณํ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต อหเมว อารามคตานํ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ, น อฺโ ภิกฺขุ อารามคตานํ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสยฺยา’ติ. านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อฺโ ภิกฺขุ ¶ อารามคตานํ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสยฺย, น โส ภิกฺขุ อารามคตานํ ¶ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสยฺย. ‘อฺโ ภิกฺขุ อารามคตานํ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ ¶ เทเสติ, นาหํ อารามคตานํ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสมี’ติ – อิติ โส กุปิโต โหติ อปฺปตีโต. โย เจว โข, อาวุโส, โกโป โย จ อปฺปจฺจโย – อุภยเมตํ องฺคณํ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต อหเมว อารามคตานํ ภิกฺขุนีนํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ…เป… อุปาสกานํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ…เป… อุปาสิกานํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ, น อฺโ ภิกฺขุ อารามคตานํ อุปาสิกานํ ธมฺมํ เทเสยฺยา’ติ. านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อฺโ ภิกฺขุ อารามคตานํ อุปาสิกานํ ธมฺมํ เทเสยฺย, น โส ภิกฺขุ อารามคตานํ อุปาสิกานํ ธมฺมํ เทเสยฺย. ‘อฺโ ภิกฺขุ อารามคตานํ อุปาสิกานํ ธมฺมํ เทเสติ, นาหํ อารามคตานํ อุปาสิกานํ ธมฺมํ เทเสมี’ติ – อิติ โส กุปิโต โหติ อปฺปตีโต. โย เจว โข, อาวุโส, โกโป โย จ อปฺปจฺจโย – อุภยเมตํ องฺคณํ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต มเมว ภิกฺขู สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ [ครุกเรยฺยุํ (สี. สฺยา. ปี.)] มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, น อฺํ ภิกฺขุํ ภิกฺขู สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุ’นฺติ. านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อฺํ ภิกฺขุํ ภิกฺขู สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, น ตํ ภิกฺขุํ ภิกฺขู สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ. ‘อฺํ ภิกฺขุํ ภิกฺขู สกฺกโรนฺติ ครุํ ¶ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ ¶ , น มํ ภิกฺขู สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺตี’ติ – อิติ โส กุปิโต โหติ อปฺปตีโต. โย เจว โข, อาวุโส, โกโป โย จ อปฺปจฺจโย – อุภยเมตํ องฺคณํ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต มเมว ภิกฺขุนิโย…เป… อุปาสกา…เป… อุปาสิกา สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, น อฺํ ภิกฺขุํ อุปาสิกา สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุ’นฺติ. านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อฺํ ภิกฺขุํ อุปาสิกา สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, น ตํ ภิกฺขุํ อุปาสิกา สกฺกเรยฺยุํ ครุํ ¶ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ. ‘อฺํ ภิกฺขุํ อุปาสิกา สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, น มํ อุปาสิกา สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺตี’ติ – อิติ โส กุปิโต โหติ อปฺปตีโต. โย เจว โข, อาวุโส, โกโป โย จ อปฺปจฺจโย – อุภยเมตํ องฺคณํ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต อหเมว ลาภี อสฺสํ ปณีตานํ จีวรานํ, น อฺโ ภิกฺขุ ลาภี อสฺส ปณีตานํ จีวราน’นฺติ. านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อฺโ ¶ ภิกฺขุ ลาภี อสฺส ปณีตานํ จีวรานํ, น โส ภิกฺขุ ลาภี อสฺส ปณีตานํ จีวรานํ. ‘อฺโ ภิกฺขุ ลาภี [ลาภี อสฺส (ก.)] ปณีตานํ จีวรานํ, นาหํ ลาภี ¶ [ลาภี อสฺสํ (ก.)] ปณีตานํ จีวราน’นฺติ – อิติ โส กุปิโต โหติ อปฺปตีโต. โย เจว โข, อาวุโส, โกโป โย จ อปฺปจฺจโย – อุภยเมตํ องฺคณํ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต อหเมว ลาภี อสฺสํ ปณีตานํ ปิณฺฑปาตานํ…เป… ปณีตานํ เสนาสนานํ…เป… ปณีตานํ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ, น อฺโ ภิกฺขุ ลาภี อสฺส ปณีตานํ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’นฺติ. านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ ยํ อฺโ ภิกฺขุ ลาภี อสฺส ปณีตานํ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ, น โส ภิกฺขุ ลาภี อสฺส ปณีตานํ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. ‘อฺโ ภิกฺขุ ¶ ลาภี [ลาภี อสฺส (ก.)] ปณีตานํ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ, นาหํ ลาภี [ลาภี อสฺสํ (ก.)] ปณีตานํ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’นฺติ – อิติ โส กุปิโต โหติ อปฺปตีโต. โย เจว โข, อาวุโส, โกโป โย จ อปฺปจฺจโย – อุภยเมตํ องฺคณํ.
‘‘อิเมสํ โข เอตํ, อาวุโส, ปาปกานํ อกุสลานํ อิจฺฉาวจรานํ อธิวจนํ, ยทิทํ องฺคณ’’นฺติ.
๖๑. ‘‘ยสฺส กสฺสจิ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิเม ปาปกา อกุสลา อิจฺฉาวจรา อปฺปหีนา ทิสฺสนฺติ เจว สูยนฺติ จ, กิฺจาปิ โส โหติ อารฺิโก ปนฺตเสนาสโน ปิณฺฑปาติโก ¶ สปทานจารี ปํสุกูลิโก ลูขจีวรธโร, อถ โข นํ สพฺรหฺมจารี น เจว สกฺกโรนฺติ น ครุํ กโรนฺติ น มาเนนฺติ น ปูเชนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เต หิ ตสฺส ¶ อายสฺมโต ปาปกา อกุสลา อิจฺฉาวจรา อปฺปหีนา ทิสฺสนฺติ เจว สูยนฺติ จ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, กํสปาติ อาภตา อาปณา วา กมฺมารกุลา วา ปริสุทฺธา ปริโยทาตา. ตเมนํ สามิกา อหิกุณปํ วา กุกฺกุรกุณปํ วา มนุสฺสกุณปํ วา รจยิตฺวา อฺิสฺสา กํสปาติยา ปฏิกุชฺชิตฺวา อนฺตราปณํ ปฏิปชฺเชยฺยุํ. ตเมนํ ชโน ทิสฺวา เอวํ วเทยฺย – ‘อมฺโภ, กิเมวิทํ หรียติ ชฺชฺํ วิยา’ติ? ตเมนํ อุฏฺหิตฺวา อปาปุริตฺวา [อวาปุริตฺวา (สี.)] โอโลเกยฺย. ตสฺส สหทสฺสเนน อมนาปตา จ สณฺเหยฺย, ปาฏิกุลฺยตา [ปฏิกูลตา (ก.), ปาฏิกูลฺยตา (สฺยา.)] จ สณฺเหยฺย, เชคุจฺฉตา จ [เชคุจฺฉิตา จ (ปี. ก.)] สณฺเหยฺย; ชิฆจฺฉิตานมฺปิ น โภตฺตุกมฺยตา อสฺส, ปเคว สุหิตานํ. เอวเมว โข, อาวุโส, ยสฺส กสฺสจิ ภิกฺขุโน อิเม ปาปกา อกุสลา อิจฺฉาวจรา อปฺปหีนา ทิสฺสนฺติ เจว สูยนฺติ จ, กิฺจาปิ โส โหติ อารฺิโก ปนฺตเสนาสโน ปิณฺฑปาติโก สปทานจารี ปํสุกูลิโก ลูขจีวรธโร, อถ โข นํ สพฺรหฺมจารี น เจว สกฺกโรนฺติ น ครุํ กโรนฺติ ¶ น มาเนนฺติ น ปูเชนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เต หิ ตสฺส อายสฺมโต ปาปกา อกุสลา อิจฺฉาวจรา อปฺปหีนา ทิสฺสนฺติ เจว สูยนฺติ จ.
๖๒. ‘‘ยสฺส กสฺสจิ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิเม ปาปกา อกุสลา อิจฺฉาวจรา ปหีนา ทิสฺสนฺติ เจว สูยนฺติ จ, กิฺจาปิ โส โหติ คามนฺตวิหารี ¶ เนมนฺตนิโก คหปติจีวรธโร, อถ โข นํ สพฺรหฺมจารี สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ ¶ ? เต หิ ตสฺส อายสฺมโต ปาปกา อกุสลา อิจฺฉาวจรา ปหีนา ทิสฺสนฺติ เจว สูยนฺติ จ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, กํสปาติ อาภตา อาปณา วา กมฺมารกุลา วา ปริสุทฺธา ปริโยทาตา. ตเมนํ สามิกา สาลีนํ โอทนํ วิจิตกาฬกํ [วิจินิตกาฬกํ (ก.)] อเนกสูปํ อเนกพฺยฺชนํ รจยิตฺวา อฺิสฺสา กํสปาติยา ปฏิกุชฺชิตฺวา อนฺตราปณํ ปฏิปชฺเชยฺยุํ. ตเมนํ ชโน ทิสฺวา เอวํ วเทยฺย – ‘อมฺโภ, กิเมวิทํ หรียติ ชฺชฺํ วิยา’ติ? ตเมนํ อุฏฺหิตฺวา อปาปุริตฺวา โอโลเกยฺย. ตสฺส สห ทสฺสเนน มนาปตา จ สณฺเหยฺย, อปฺปาฏิกุลฺยตา จ สณฺเหยฺย, อเชคุจฺฉตา จ สณฺเหยฺย; สุหิตานมฺปิ โภตฺตุกมฺยตา อสฺส, ปเคว ชิฆจฺฉิตานํ. เอวเมว โข, อาวุโส, ยสฺส กสฺสจิ ภิกฺขุโน อิเม ปาปกา อกุสลา อิจฺฉาวจรา ปหีนา ทิสฺสนฺติ เจว สูยนฺติ จ, กิฺจาปิ โส โหติ คามนฺตวิหารี เนมนฺตนิโก คหปติจีวรธโร, อถ โข นํ สพฺรหฺมจารี สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ ¶ . ตํ กิสฺส เหตุ? เต หิ ตสฺส อายสฺมโต ปาปกา อกุสลา อิจฺฉาวจรา ปหีนา ทิสฺสนฺติ เจว สูยนฺติ จา’’ติ.
๖๓. เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อุปมา มํ, อาวุโส สาริปุตฺต, ปฏิภาตี’’ติ. ‘‘ปฏิภาตุ ตํ, อาวุโส โมคฺคลฺลานา’’ติ. ‘‘เอกมิทาหํ, อาวุโส, สมยํ ราชคเห วิหรามิ คิริพฺพเช. อถ ขฺวาหํ, อาวุโส, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ¶ ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ. เตน โข ปน สมเยน สมีติ ยานการปุตฺโต รถสฺส เนมึ ตจฺฉติ. ตเมนํ ปณฺฑุปุตฺโต อาชีวโก ปุราณยานการปุตฺโต ปจฺจุปฏฺิโต โหติ. อถ โข, อาวุโส, ปณฺฑุปุตฺตสฺส อาชีวกสฺส ปุราณยานการปุตฺตสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘อโห วตายํ สมีติ ยานการปุตฺโต อิมิสฺสา เนมิยา อิมฺจ วงฺกํ อิมฺจ ชิมฺหํ อิมฺจ โทสํ ตจฺเฉยฺย, เอวายํ เนมิ อปคตวงฺกา อปคตชิมฺหา อปคตโทสา สุทฺธา อสฺส [สุทฺธาสฺส (สี. ปี.), สุทฺธา (ก.)] สาเร ปติฏฺิตา’ติ ¶ . ยถา ยถา โข, อาวุโส, ปณฺฑุปุตฺตสฺส อาชีวกสฺส ปุราณยานการปุตฺตสฺส เจตโส ปริวิตกฺโก โหติ, ตถา ตถา ¶ สมีติ ยานการปุตฺโต ตสฺสา เนมิยา ตฺจ วงฺกํ ตฺจ ชิมฺหํ ตฺจ โทสํ ตจฺฉติ. อถ โข, อาวุโส, ปณฺฑุปุตฺโต อาชีวโก ปุราณยานการปุตฺโต อตฺตมโน อตฺตมนวาจํ นิจฺฉาเรสิ – ‘หทยา หทยํ มฺเ อฺาย ตจฺฉตี’ติ.
‘‘เอวเมว โข, อาวุโส, เย เต ปุคฺคลา อสฺสทฺธา, ชีวิกตฺถา น สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, สา มายาวิโน เกตพิโน [เกฏุภิโน (พหูสุ)] อุทฺธตา อุนฺนฬา จปลา มุขรา วิกิณฺณวาจา, อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารา, โภชเน อมตฺตฺุโน, ชาคริยํ อนนุยุตฺตา, สามฺเ อนเปกฺขวนฺโต, สิกฺขาย น ติพฺพคารวา, พาหุลิกา สาถลิกา, โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา, ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา, กุสีตา หีนวีริยา มุฏฺสฺสตี อสมฺปชานา อสมาหิตา ¶ วิพฺภนฺตจิตฺตา ทุปฺปฺา เอฬมูคา, เตสํ อายสฺมา สาริปุตฺโต อิมินา ธมฺมปริยาเยน หทยา หทยํ มฺเ อฺาย ตจฺฉติ.
‘‘เย ปน เต กุลปุตฺตา สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, อสา อมายาวิโน อเกตพิโน อนุทฺธตา อนุนฺนฬา อจปลา อมุขรา อวิกิณฺณวาจา, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารา, โภชเน มตฺตฺุโน, ชาคริยํ อนุยุตฺตา, สามฺเ อเปกฺขวนฺโต, สิกฺขาย ติพฺพคารวา, น พาหุลิกา ¶ น สาถลิกา, โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา, ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา, อารทฺธวีริยา ปหิตตฺตา อุปฏฺิตสฺสตี สมฺปชานา สมาหิตา เอกคฺคจิตฺตา ปฺวนฺโต อเนฬมูคา, เต อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส อิมํ ธมฺมปริยายํ สุตฺวา ปิวนฺติ มฺเ, ฆสนฺติ มฺเ วจสา เจว มนสา จ – ‘สาธุ วต, โภ, สพฺรหฺมจารี อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาเปตี’ติ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, อิตฺถี วา ปุริโส วา ทหโร ยุวา มณฺฑนกชาติโก สีสํนฺหาโต อุปฺปลมาลํ วา วสฺสิกมาลํ วา อติมุตฺตกมาลํ [อธิมุตฺตกมาลํ (สฺยา.)] วา ลภิตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ ปฏิคฺคเหตฺวา อุตฺตมงฺเค สิรสฺมึ ปติฏฺเปยฺย, เอวเมว โข, อาวุโส, เย เต กุลปุตฺตา สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, อสา อมายาวิโน อเกตพิโน อนุทฺธตา อนุนฺนฬา อจปลา อมุขรา อวิกิณฺณวาจา, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารา, โภชเน มตฺตฺุโน, ชาคริยํ อนุยุตฺตา, สามฺเ อเปกฺขวนฺโต, สิกฺขาย ติพฺพคารวา, น ¶ พาหุลิกา น สาถลิกา, โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา, ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา, อารทฺธวีริยา ปหิตตฺตา อุปฏฺิตสฺสตี ¶ สมฺปชานา สมาหิตา เอกคฺคจิตฺตา ปฺวนฺโต อเนฬมูคา, เต อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส อิมํ ธมฺมปริยายํ สุตฺวา ปิวนฺติ มฺเ, ฆสนฺติ มฺเ วจสา เจว มนสา จ – ‘สาธุ วต, โภ, สพฺรหฺมจารี อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาเปตี’ติ. อิติห เต อุโภ มหานาคา อฺมฺสฺส สุภาสิตํ สมนุโมทึสู’’ติ.
อนงฺคณสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปฺจมํ.
๖. อากงฺเขยฺยสุตฺตํ
๖๔. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘สมฺปนฺนสีลา, ภิกฺขเว, วิหรถ สมฺปนฺนปาติโมกฺขา; ปาติโมกฺขสํวรสํวุตา วิหรถ อาจารโคจรสมฺปนฺนา อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวิโน; สมาทาย สิกฺขถ สิกฺขาปเทสุ.
๖๕. ‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ อสฺสํ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’ติ [มนาโป ครุภาวนิโย จาติ (สี.)], สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺโต อนิรากตชฺฌาโน วิปสฺสนาย สมนฺนาคโต พฺรูเหตา สฺุาคารานํ.
‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘ลาภี อสฺสํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺโต อนิรากตชฺฌาโน วิปสฺสนาย สมนฺนาคโต พฺรูเหตา สฺุาคารานํ.
‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘เยสาหํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสน คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริภฺุชามิ เตสํ เต การา มหปฺผลา อสฺสุ ¶ มหานิสํสา’ติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺโต อนิรากตชฺฌาโน วิปสฺสนาย สมนฺนาคโต พฺรูเหตา สฺุาคารานํ.
‘‘อากงฺเขยฺย ¶ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘เย มํ [เย เม (สี. สฺยา.)] าตี สาโลหิตา เปตา กาลงฺกตา [กาลกตา (สี. สฺยา. ปี.)] ปสนฺนจิตฺตา อนุสฺสรนฺติ เตสํ ตํ มหปฺผลํ อสฺส มหานิสํส’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺโต อนิรากตชฺฌาโน วิปสฺสนาย สมนฺนาคโต พฺรูเหตา สฺุาคารานํ.
๖๖. ‘‘อากงฺเขยฺย ¶ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘อรติรติสโห อสฺสํ, น จ มํ อรติ สเหยฺย, อุปฺปนฺนํ อรตึ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหเรยฺย’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี…เป… พฺรูเหตา สฺุาคารานํ.
‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘ภยเภรวสโห อสฺสํ, น จ มํ ภยเภรวํ สเหยฺย, อุปฺปนฺนํ ภยเภรวํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหเรยฺย’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี…เป… พฺรูเหตา สฺุาคารานํ.
‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี อสฺสํ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี’ติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี…เป… พฺรูเหตา สฺุาคารานํ.
‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา, เต กาเยน ผุสิตฺวา วิหเรยฺย’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี…เป… พฺรูเหตา สฺุาคารานํ.
๖๗. ‘‘อากงฺเขยฺย ¶ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน อสฺสํ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’ติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี…เป… พฺรูเหตา สฺุาคารานํ.
‘‘อากงฺเขยฺย ¶ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี อสฺสํ สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กเรยฺย’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี…เป… พฺรูเหตา สฺุาคารานํ.
‘‘อากงฺเขยฺย ¶ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก อสฺสํ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา’ติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี…เป… ¶ พฺรูเหตา สฺุาคารานํ.
๖๘. ‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุภเวยฺยํ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา อสฺสํ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก อสฺสํ; อาวิภาวํ ติโรภาวํ; ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺเฉยฺยํ, เสยฺยถาปิ อากาเส; ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กเรยฺยํ, เสยฺยถาปิ อุทเก; อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺเฉยฺยํ, เสยฺยถาปิ ปถวิยํ; อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กเมยฺยํ, เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ; อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปรามเสยฺยํ ปริมชฺเชยฺยํ; ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตยฺย’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี…เป… พฺรูเหตา สฺุาคารานํ.
‘‘อากงฺเขยฺย ¶ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุเณยฺยํ – ทิพฺเพ จ มานุเส จ เย ทูเร สนฺติเก จา’ติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี…เป… พฺรูเหตา สฺุาคารานํ.
‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชาเนยฺยํ – สราคํ วา จิตฺตํ สราคํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วีตราคํ วา จิตฺตํ วีตราคํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ; สโทสํ วา จิตฺตํ สโทสํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วีตโทสํ วา จิตฺตํ วีตโทสํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ; สโมหํ วา จิตฺตํ สโมหํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วีตโมหํ วา จิตฺตํ วีตโมหํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ; สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ สํขิตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ วิกฺขิตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ; มหคฺคตํ วา จิตฺตํ มหคฺคตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ อมหคฺคตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ; สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ สอุตฺตรํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ อนุตฺตรํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ; สมาหิตํ วา จิตฺตํ สมาหิตํ ¶ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, อสมาหิตํ วา จิตฺตํ อสมาหิตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ; วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ อวิมุตฺตํ จิตฺตนฺติ ¶ ปชาเนยฺย’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี…เป… พฺรูเหตา สฺุาคารานํ.
‘‘อากงฺเขยฺย ¶ ¶ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสเรยฺยํ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติ สตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโนติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสเรยฺย’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี…เป… พฺรูเหตา สฺุาคารานํ.
‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺเสยฺยํ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชาเนยฺยํ – อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา; อิเม วา ปน โภนฺโต ¶ สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนาติ, อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺเสยฺยํ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชาเนยฺย’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺโต อนิรากตชฺฌาโน วิปสฺสนาย สมนฺนาคโต พฺรูเหตา สฺุาคารานํ.
๖๙. ‘‘อากงฺเขยฺย ¶ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเวธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ¶ อุปสมฺปชฺช ¶ วิหเรยฺย’นฺติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺโต อนิรากตชฺฌาโน วิปสฺสนาย สมนฺนาคโต พฺรูเหตา สฺุาคารานํ.
‘‘สมฺปนฺนสีลา, ภิกฺขเว, วิหรถ สมฺปนฺนปาติโมกฺขา; ปาติโมกฺขสํวรสํวุตา วิหรถ อาจารโคจรสมฺปนฺนา อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวิโน; สมาทาย สิกฺขถ สิกฺขาปเทสู’’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
อากงฺเขยฺยสุตฺตํ นิฏฺิตํ ฉฏฺํ.
๗. วตฺถสุตฺตํ
๗๐. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, วตฺถํ สํกิลิฏฺํ มลคฺคหิตํ; ตเมนํ รชโก ยสฺมึ ยสฺมึ รงฺคชาเต อุปสํหเรยฺย – ยทิ นีลกาย ยทิ ปีตกาย ยทิ โลหิตกาย ยทิ มฺชิฏฺกาย [มฺเชฏฺกาย (สี. ปี.), มฺเชฏฺิกาย (สฺยา.)] ทุรตฺตวณฺณเมวสฺส อปริสุทฺธวณฺณเมวสฺส. ตํ กิสฺส เหตุ? อปริสุทฺธตฺตา, ภิกฺขเว, วตฺถสฺส. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, จิตฺเต สํกิลิฏฺเ, ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, วตฺถํ ปริสุทฺธํ ปริโยทาตํ; ตเมนํ รชโก ยสฺมึ ยสฺมึ รงฺคชาเต อุปสํหเรยฺย – ยทิ นีลกาย ยทิ ปีตกาย ยทิ โลหิตกาย ยทิ มฺชิฏฺกาย – สุรตฺตวณฺณเมวสฺส ปริสุทฺธวณฺณเมวสฺส. ตํ กิสฺส เหตุ? ปริสุทฺธตฺตา, ภิกฺขเว, วตฺถสฺส. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, จิตฺเต อสํกิลิฏฺเ, สุคติ ปาฏิกงฺขา.
๗๑. ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา? อภิชฺฌาวิสมโลโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส, พฺยาปาโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส, โกโธ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส, อุปนาโห จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส, มกฺโข ¶ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส, ปฬาโส จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส, อิสฺสา ¶ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส, มจฺฉริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส, มายา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส, สาเยฺยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส, ถมฺโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส, สารมฺโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส, มาโน จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส, อติมาโน จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส, มโท จิตฺตสฺส ¶ อุปกฺกิเลโส, ปมาโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส.
๗๒. ‘‘ส โข โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อภิชฺฌาวิสมโลโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อภิชฺฌาวิสมโลภํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ; ‘พฺยาปาโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา พฺยาปาทํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ ¶ ; ‘โกโธ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา โกธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ; ‘อุปนาโห จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อุปนาหํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ; ‘มกฺโข จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา มกฺขํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ; ‘ปฬาโส จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา ปฬาสํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ; ‘อิสฺสา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อิสฺสํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ; ‘มจฺฉริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา มจฺฉริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ; ‘มายา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา มายํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ; ‘สาเยฺยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา สาเยฺยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ; ‘ถมฺโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา ถมฺภํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ; ‘สารมฺโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ ¶ – อิติ วิทิตฺวา สารมฺภํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ; ‘มาโน จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา มานํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ; ‘อติมาโน จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อติมานํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ; ‘มโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา มทํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ; ‘ปมาโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา ปมาทํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติ.
๗๓. ‘‘ยโต โข [ยโต จ โข (สี. สฺยา.)], ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ‘อภิชฺฌาวิสมโลโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อภิชฺฌาวิสมโลโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ¶ ปหีโน โหติ, ‘พฺยาปาโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา พฺยาปาโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ; ‘โกโธ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา โกโธ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ; ‘อุปนาโห จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อุปนาโห จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ; ‘มกฺโข จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา มกฺโข จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ; ‘ปฬาโส จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา ปฬาโส จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ; ‘อิสฺสา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อิสฺสา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ; ‘มจฺฉริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา มจฺฉริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ; ‘มายา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา มายา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ; ‘สาเยฺยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ ¶ – อิติ วิทิตฺวา สาเยฺยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ; ‘ถมฺโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา ถมฺโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ; ‘สารมฺโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา สารมฺโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน ¶ โหติ; ‘มาโน จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา มาโน จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ; ‘อติมาโน จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อติมาโน จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ; ‘มโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา มโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ; ‘ปมาโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา ปมาโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติ.
๗๔. ‘‘โส พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ; ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ; สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, อุชุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ายปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, สามีจิปฺปฏิปนฺโน ¶ ภควโต สาวกสงฺโฆ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ, อฏฺ ปุริสปุคฺคลา. เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย ¶ , อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ.
๗๕. ‘‘ยโถธิ [ยโตธิ (อฏฺกถายํ ปานฺตรํ)] โข ปนสฺส จตฺตํ โหติ วนฺตํ มุตฺตํ ปหีนํ ปฏินิสฺสฏฺํ, โส ‘พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโตมฺหี’ติ ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ; ‘ธมฺเม…เป… สงฺเฆ ¶ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโตมฺหี’ติ ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ; ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. ‘ยโถธิ โข ปน เม จตฺตํ วนฺตํ มุตฺตํ ปหีนํ ปฏินิสฺสฏฺ’นฺติ ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ; ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ.
๗๖. ‘‘ส โข โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํสีโล เอวํธมฺโม เอวํปฺโ สาลีนํ เจปิ ปิณฺฑปาตํ ภฺุชติ วิจิตกาฬกํ อเนกสูปํ อเนกพฺยฺชนํ, เนวสฺส ตํ โหติ อนฺตรายาย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, วตฺถํ สํกิลิฏฺํ มลคฺคหิตํ อจฺโฉทกํ อาคมฺม ปริสุทฺธํ โหติ ปริโยทาตํ ¶ , อุกฺกามุขํ วา ปนาคมฺม ชาตรูปํ ปริสุทฺธํ โหติ ปริโยทาตํ, เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํสีโล เอวํธมฺโม เอวํปฺโ สาลีนํ เจปิ ปิณฺฑปาตํ ภฺุชติ วิจิตกาฬกํ อเนกสูปํ อเนกพฺยฺชนํ ¶ , เนวสฺส ตํ โหติ อนฺตรายาย.
๗๗. ‘‘โส เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ [จตุตฺถึ (สี. ปี.)]. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ; กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน ¶ เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ.
๗๘. ‘‘โส ‘อตฺถิ อิทํ, อตฺถิ หีนํ, อตฺถิ ปณีตํ, อตฺถิ อิมสฺส สฺาคตสฺส อุตฺตรึ นิสฺสรณ’นฺติ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ ¶ . อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘ภิกฺขุ สินาโต อนฺตเรน สินาเนนา’’’ติ.
๗๙. เตน โข ปน สมเยน สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ. อถ โข สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ ¶ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘คจฺฉติ ปน ภวํ โคตโม พาหุกํ นทึ สินายิตุ’’นฺติ? ‘‘กึ, พฺราหฺมณ, พาหุกาย นทิยา? กึ พาหุกา นที กริสฺสตี’’ติ? ‘‘โลกฺขสมฺมตา [โลขฺยสมฺมตา (สี.), โมกฺขสมฺมตา (ปี.)] หิ, โภ โคตม, พาหุกา นที พหุชนสฺส, ปฺุสมฺมตา หิ, โภ โคตม, พาหุกา นที พหุชนสฺส, พาหุกาย ปน นทิยา พหุชโน ปาปกมฺมํ กตํ ปวาเหตี’’ติ. อถ โข ภควา สุนฺทริกภารทฺวาชํ พฺราหฺมณํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –
‘‘พาหุกํ อธิกกฺกฺจ, คยํ สุนฺทริกํ มปิ [สุนฺทริกามปิ (สี. สฺยา. ปี.), สุนฺทริกํ มหึ (อิติปิ)];
สรสฺสตึ ปยาคฺจ, อโถ พาหุมตึ นทึ;
นิจฺจมฺปิ พาโล ปกฺขนฺโท [ปกฺขนฺโน (สี. สฺยา. ปี.)], กณฺหกมฺโม น สุชฺฌติ.
‘‘กึ ¶ สุนฺทริกา กริสฺสติ, กึ ปยาคา [ปยาโค (สี. สฺยา. ปี.)] กึ พาหุกา นที;
เวรึ กตกิพฺพิสํ นรํ, น หิ นํ โสธเย ปาปกมฺมินํ.
‘‘สุทฺธสฺส ¶ เว สทา ผคฺคุ, สุทฺธสฺสุโปสโถ สทา;
สุทฺธสฺส สุจิกมฺมสฺส, สทา สมฺปชฺชเต วตํ;
อิเธว สินาหิ พฺราหฺมณ, สพฺพภูเตสุ กโรหิ เขมตํ.
‘‘สเจ มุสา น ภณสิ, สเจ ปาณํ น หึสสิ;
สเจ อทินฺนํ นาทิยสิ, สทฺทหาโน อมจฺฉรี;
กึ กาหสิ คยํ คนฺตฺวา, อุทปาโนปิ เต คยา’’ติ.
๘๐. เอวํ ¶ วุตฺเต, สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. ลเภยฺยาหํ โภโต โคตมสฺส สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ. อลตฺถ โข สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํ. อจิรูปสมฺปนฺโน ¶ โข ปนายสฺมา ภารทฺวาโช เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเวธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ อพฺภฺาสิ. อฺตโร โข ปนายสฺมา ภารทฺวาโช อรหตํ อโหสีติ.
วตฺถสุตฺตํ นิฏฺิตํ สตฺตมํ.
๘. สลฺเลขสุตฺตํ
๘๑. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อายสฺมา มหาจุนฺโท สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ¶ อายสฺมา มหาจุนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยา อิมา, ภนฺเต, อเนกวิหิตา ทิฏฺิโย โลเก อุปฺปชฺชนฺติ – อตฺตวาทปฏิสํยุตฺตา วา โลกวาทปฏิสํยุตฺตา วา – อาทิเมว นุ โข, ภนฺเต, ภิกฺขุโน มนสิกโรโต เอวเมตาสํ ทิฏฺีนํ ปหานํ โหติ, เอวเมตาสํ ทิฏฺีนํ ปฏินิสฺสคฺโค โหตี’’ติ?
๘๒. ‘‘ยา อิมา, จุนฺท, อเนกวิหิตา ทิฏฺิโย โลเก อุปฺปชฺชนฺติ – อตฺตวาทปฏิสํยุตฺตา วา โลกวาทปฏิสํยุตฺตา วา – ยตฺถ เจตา ทิฏฺิโย อุปฺปชฺชนฺติ ยตฺถ จ อนุเสนฺติ ยตฺถ จ สมุทาจรนฺติ ตํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เม โส อตฺตา’ติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺา ปสฺสโต เอวเมตาสํ ทิฏฺีนํ ปหานํ โหติ, เอวเมตาสํ ทิฏฺีนํ ปฏินิสฺสคฺโค โหติ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ วิวิจฺเจว ¶ กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘สลฺเลเขน วิหรามี’ติ. น โข ปเนเต, จุนฺท, อริยสฺส วินเย สลฺเลขา วุจฺจนฺติ. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารา เอเต ¶ อริยสฺส วินเย วุจฺจนฺติ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘สลฺเลเขน วิหรามี’ติ. น โข ปเนเต, จุนฺท, อริยสฺส วินเย สลฺเลขา วุจฺจนฺติ. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารา เอเต อริยสฺส วินเย วุจฺจนฺติ.
‘‘านํ ¶ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหเรยฺย, สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทยฺย, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘สลฺเลเขน วิหรามี’ติ. น โข ปเนเต, จุนฺท, อริยสฺส วินเย สลฺเลขา ¶ วุจฺจนฺติ. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารา เอเต อริยสฺส วินเย วุจฺจนฺติ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ ¶ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘สลฺเลเขน วิหรามี’ติ. น โข ปเนเต, จุนฺท, อริยสฺส วินเย สลฺเลขา วุจฺจนฺติ. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารา เอเต อริยสฺส วินเย วุจฺจนฺติ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา, ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา, นานตฺตสฺานํ อมนสิการา, ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘สลฺเลเขน วิหรามี’ติ. น โข ปเนเต, จุนฺท, อริยสฺส วินเย สลฺเลขา วุจฺจนฺติ. สนฺตา เอเต วิหารา อริยสฺส วินเย วุจฺจนฺติ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘สลฺเลเขน วิหรามี’ติ. น โข ปเนเต, จุนฺท, อริยสฺส วินเย สลฺเลขา วุจฺจนฺติ. สนฺตา เอเต วิหารา อริยสฺส วินเย วุจฺจนฺติ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘สลฺเลเขน วิหรามี’ติ. น โข ปเนเต, จุนฺท, อริยสฺส วินเย สลฺเลขา ¶ วุจฺจนฺติ. สนฺตา เอเต วิหารา อริยสฺส วินเย วุจฺจนฺติ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘สลฺเลเขน วิหรามี’ติ ¶ . น ¶ โข ปเนเต, จุนฺท, อริยสฺส วินเย สลฺเลขา วุจฺจนฺติ. สนฺตา เอเต วิหารา อริยสฺส วินเย วุจฺจนฺติ.
๘๓. ‘‘อิธ โข ปน โว, จุนฺท, สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร วิหึสกา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อวิหึสกา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร ปาณาติปาตี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร อทินฺนาทายี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร ¶ อพฺรหฺมจารี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ พฺรหฺมจารี ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร มุสาวาที ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ มุสาวาทา ปฏิวิรตา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร ปิสุณวาจา [ปิสุณา วาจา (สี. ปี.)] ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรตา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร ผรุสวาจา [ผรุสา วาจา (สี. ปี.)] ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรตา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร สมฺผปฺปลาปี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรตา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร อภิชฺฌาลู ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อนภิชฺฌาลู ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร พฺยาปนฺนจิตฺตา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อพฺยาปนฺนจิตฺตา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร มิจฺฉาทิฏฺี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ สมฺมาทิฏฺี ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร มิจฺฉาสงฺกปฺปา ¶ ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ สมฺมาสงฺกปฺปา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร มิจฺฉาวาจา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ สมฺมาวาจา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร มิจฺฉากมฺมนฺตา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ สมฺมากมฺมนฺตา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร มิจฺฉาอาชีวา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ สมฺมาอาชีวา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร มิจฺฉาวายามา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ สมฺมาวายามา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร มิจฺฉาสตี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ สมฺมาสตี ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร มิจฺฉาสมาธิ ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ สมฺมาสมาธี ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร มิจฺฉาาณี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ สมฺมาาณี ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร มิจฺฉาวิมุตฺตี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ สมฺมาวิมุตฺตี ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย.
‘‘‘ปเร ถีนมิทฺธปริยุฏฺิตา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ วิคตถีนมิทฺธา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย ¶ . ‘ปเร อุทฺธตา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อนุทฺธตา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร วิจิกิจฺฉี [เวจิกิจฺฉี (สี. ปี. ก.)] ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ ติณฺณวิจิกิจฺฉา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร โกธนา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อกฺโกธนา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร อุปนาหี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อนุปนาหี ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร ¶ มกฺขี ภวิสฺสนฺติ ¶ , มยเมตฺถ อมกฺขี ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร ¶ ปฬาสี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อปฬาสี ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร อิสฺสุกี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อนิสฺสุกี ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร มจฺฉรี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อมจฺฉรี ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร สา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อสา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร มายาวี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อมายาวี ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร ถทฺธา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อตฺถทฺธา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร อติมานี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อนติมานี ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร ทุพฺพจา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ สุวจา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร ปาปมิตฺตา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ กลฺยาณมิตฺตา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร ปมตฺตา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อปฺปมตฺตา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร อสฺสทฺธา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ สทฺธา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร อหิริกา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ หิริมนา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร อโนตฺตาปี [อโนตฺตปฺปี (ก.)] ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ โอตฺตาปี ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร อปฺปสฺสุตา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ พหุสฺสุตา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร กุสีตา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อารทฺธวีริยา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร มุฏฺสฺสตี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อุปฏฺิตสฺสตี ภวิสฺสามา’ติ ¶ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร ทุปฺปฺา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ ปฺาสมฺปนฺนา ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย. ‘ปเร สนฺทิฏฺิปรามาสี อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อสนฺทิฏฺิปรามาสี อนาธานคฺคาหี สุปฺปฏินิสฺสคฺคี ภวิสฺสามา’ติ สลฺเลโข กรณีโย.
๘๔. ‘‘จิตฺตุปฺปาทมฺปิ โข อหํ, จุนฺท, กุสเลสุ ธมฺเมสุ พหุการํ [พหูปการํ (ก.)] วทามิ, โก ปน วาโท กาเยน วาจาย อนุวิธียนาสุ! ตสฺมาติห, จุนฺท, ‘ปเร วิหึสกา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อวิหึสกา ภวิสฺสามา’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตพฺพํ. ‘ปเร ปาณาติปาตี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา ¶ ภวิสฺสามา’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตพฺพํ…‘ปเร สนฺทิฏฺิปรามาสี ¶ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อสนฺทิฏฺิปรามาสี อนาธานคฺคาหี สุปฺปฏินิสฺสคฺคี ภวิสฺสามา’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตพฺพํ.
๘๕. ‘‘เสยฺยถาปิ, จุนฺท, วิสโม มคฺโค อสฺส, ตสฺส [มคฺโค ตสฺสาสฺส (สี. สฺยา. ปี.)] อฺโ สโม มคฺโค ปริกฺกมนาย; เสยฺยถา วา ปน, จุนฺท, วิสมํ ติตฺถํ อสฺส, ตสฺส อฺํ สมํ ติตฺถํ ปริกฺกมนาย; เอวเมว ¶ โข, จุนฺท, วิหึสกสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อวิหึสา โหติ ปริกฺกมนาย, ปาณาติปาติสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส ปาณาติปาตา เวรมณี โหติ ปริกฺกมนาย, อทินฺนาทายิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อทินฺนาทานา เวรมณี โหติ ปริกฺกมนาย, อพฺรหฺมจาริสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อพฺรหฺมจริยา เวรมณี โหติ ปริกฺกมนาย ¶ , มุสาวาทิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส มุสาวาทา เวรมณี โหติ ปริกฺกมนาย, ปิสุณวาจสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส ปิสุณาย วาจาย เวรมณี โหติ ปริกฺกมนาย, ผรุสวาจสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส ผรุสาย วาจาย เวรมณี โหติ ปริกฺกมนาย, สมฺผปฺปลาปิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺผปฺปลาปา เวรมณี โหติ ปริกฺกมนาย, อภิชฺฌาลุสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อนภิชฺฌา โหติ ปริกฺกมนาย, พฺยาปนฺนจิตฺตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อพฺยาปาโท โหติ ปริกฺกมนาย, มิจฺฉาทิฏฺิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาทิฏฺิ โหติ ปริกฺกมนาย, มิจฺฉาสงฺกปฺปสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาสงฺกปฺโป โหติ ปริกฺกมนาย, มิจฺฉาวาจสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาวาจา โหติ ปริกฺกมนาย, มิจฺฉากมฺมนฺตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมากมฺมนฺโต โหติ ปริกฺกมนาย, มิจฺฉาอาชีวสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาอาชีโว โหติ ปริกฺกมนาย, มิจฺฉาวายามสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาวายาโม โหติ ปริกฺกมนาย, มิจฺฉาสติสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาสติ โหติ ปริกฺกมนาย, มิจฺฉาสมาธิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาสมาธิ โหติ ปริกฺกมนาย, มิจฺฉาาณิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาาณํ โหติ ปริกฺกมนาย, มิจฺฉาวิมุตฺติสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาวิมุตฺติ โหติ ปริกฺกมนาย.
‘‘ถีนมิทฺธปริยุฏฺิตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส วิคตถินมิทฺธตา โหติ ปริกฺกมนาย, อุทฺธตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อนุทฺธจฺจํ ¶ โหติ ปริกฺกมนาย, วิจิกิจฺฉิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส ติณฺณวิจิกิจฺฉตา โหติ ปริกฺกมนาย, โกธนสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส ¶ อกฺโกโธ โหติ ปริกฺกมนาย, อุปนาหิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อนุปนาโห โหติ ปริกฺกมนาย, มกฺขิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อมกฺโข โหติ ปริกฺกมนาย, ปฬาสิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อปฬาโส โหติ ปริกฺกมนาย ¶ , อิสฺสุกิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อนิสฺสุกิตา โหติ ปริกฺกมนาย, มจฺฉริสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อมจฺฉริยํ โหติ ปริกฺกมนาย, สสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อสาเยฺยํ โหติ ปริกฺกมนาย, มายาวิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อมายา [อมายาวิตา (ก.)] โหติ ปริกฺกมนาย, ถทฺธสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อตฺถทฺธิยํ โหติ ปริกฺกมนาย, อติมานิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อนติมาโน โหติ ปริกฺกมนาย, ทุพฺพจสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส โสวจสฺสตา โหติ ปริกฺกมนาย, ปาปมิตฺตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส กลฺยาณมิตฺตตา โหติ ปริกฺกมนาย, ปมตฺตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อปฺปมาโท โหติ ปริกฺกมนาย, อสฺสทฺธสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สทฺธา โหติ ปริกฺกมนาย, อหิริกสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส หิรี โหติ ปริกฺกมนาย, อโนตฺตาปิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส โอตฺตปฺปํ โหติ ปริกฺกมนาย, อปฺปสฺสุตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส พาหุสจฺจํ โหติ ปริกฺกมนาย, กุสีตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส วีริยารมฺโภ โหติ ปริกฺกมนาย, มุฏฺสฺสติสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อุปฏฺิตสฺสติตา โหติ ปริกฺกมนาย, ทุปฺปฺสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส ปฺาสมฺปทา โหติ ปริกฺกมนาย ¶ , สนฺทิฏฺิปรามาสิ-อาธานคฺคาหิ-ทุปฺปฏินิสฺสคฺคิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อสนฺทิฏฺิปรามาสิอนาธานคฺคาหิ-สุปฺปฏินิสฺสคฺคิตา โหติ ปริกฺกมนาย.
๘๖. ‘‘เสยฺยถาปิ, จุนฺท, เย เกจิ อกุสลา ธมฺมา สพฺเพ เต อโธภาคงฺคมนียา [อโธภาวงฺคมนียา (สี. สฺยา. ปี.)], เย เกจิ กุสลา ธมฺมา สพฺเพ เต อุปริภาคงฺคมนียา [อุปริภาวงฺคมนียา (สี. สฺยา. ปี.)], เอวเมว โข, จุนฺท, วิหึสกสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อวิหึสา โหติ อุปริภาคาย [อุปริภาวาย (สี. สฺยา. ก.)], ปาณาติปาติสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส ปาณาติปาตา เวรมณี โหติ อุปริภาคาย…เป… สนฺทิฏฺิปรามาสิ-อาธานคฺคาหิ-ทุปฺปฏินิสฺสคฺคิสฺส ¶ ปุริสปุคฺคลสฺส อสนฺทิฏฺิปรามาสิ-อนาธานคฺคาหิ-สุปฺปฏินิสฺสคฺคิตา โหติ อุปริภาคาย.
๘๗. ‘‘โส วต, จุนฺท, อตฺตนา ปลิปปลิปนฺโน ปรํ ปลิปปลิปนฺนํ อุทฺธริสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โส วต, จุนฺท, อตฺตนา อปลิปปลิปนฺโน ปรํ ¶ ปลิปปลิปนฺนํ อุทฺธริสฺสตีติ านเมตํ วิชฺชติ. โส วต, จุนฺท, อตฺตนา อทนฺโต อวินีโต อปรินิพฺพุโต ปรํ ทเมสฺสติ วิเนสฺสติ ปรินิพฺพาเปสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โส วต ¶ , จุนฺท, อตฺตนา ทนฺโต วินีโต ปรินิพฺพุโต ปรํ ทเมสฺสติ วิเนสฺสติ ปรินิพฺพาเปสฺสตีติ านเมตํ วิชฺชติ. เอวเมว โข, จุนฺท, วิหึสกสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อวิหึสา โหติ ปรินิพฺพานาย, ปาณาติปาติสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส ปาณาติปาตา เวรมณี โหติ ปรินิพฺพานาย. อทินฺนาทายิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อทินฺนาทานา เวรมณี ¶ โหติ ปรินิพฺพานาย. อพฺรหฺมจาริสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อพฺรหฺมจริยา เวรมณี โหติ ปรินิพฺพานาย. มุสาวาทิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส มุสาวาทา เวรมณี โหติ ปรินิพฺพานาย. ปิสุณวาจสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส ปิสุณาย วาจาย เวรมณี โหติ ปรินิพฺพานาย. ผรุสวาจสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส ผรุสาย วาจาย เวรมณี โหติ ปรินิพฺพานาย. สมฺผปฺปลาปิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺผปฺปลาปา เวรมณี โหติ ปรินิพฺพานาย. อภิชฺฌาลุสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อนภิชฺฌา โหติ ปรินิพฺพานาย. พฺยาปนฺนจิตฺตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อพฺยาปาโท โหติ ปรินิพฺพานาย. มิจฺฉาทิฏฺิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาทิฏฺิ โหติ ปรินิพฺพานาย. มิจฺฉาสงฺกปฺปสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาสงฺกปฺโป โหติ ปรินิพฺพานาย. มิจฺฉาวาจสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาวาจา โหติ ปรินิพฺพานาย. มิจฺฉากมฺมนฺตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมากมฺมนฺโต โหติ ปรินิพฺพานาย. มิจฺฉาอาชีวสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาอาชีโว โหติ ปรินิพฺพานาย. มิจฺฉาวายามสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาวายาโม โหติ ปรินิพฺพานาย. มิจฺฉาสติสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาสติ โหติ ปรินิพฺพานาย. มิจฺฉาสมาธิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาสมาธิ โหติ ปรินิพฺพานาย. มิจฺฉาาณิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาาณํ โหติ ปรินิพฺพานาย. มิจฺฉาวิมุตฺติสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สมฺมาวิมุตฺติ โหติ ปรินิพฺพานาย.
‘‘ถีนมิทฺธปริยุฏฺิตสฺส ¶ ปุริสปุคฺคลสฺส วิคตถินมิทฺธตา โหติ ปรินิพฺพานาย. อุทฺธตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อนุทฺธจฺจํ โหติ ปรินิพฺพานาย. วิจิกิจฺฉิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส ติณฺณวิจิกิจฺฉตา โหติ ปรินิพฺพานาย. โกธนสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อกฺโกโธ โหติ ปรินิพฺพานาย. อุปนาหิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อนุปนาโห โหติ ปรินิพฺพานาย. มกฺขิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อมกฺโข โหติ ปรินิพฺพานาย. ปฬาสิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อปฬาโส ¶ โหติ ปรินิพฺพานาย. อิสฺสุกิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อนิสฺสุกิตา โหติ ปรินิพฺพานาย. มจฺฉริสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อมจฺฉริยํ โหติ ปรินิพฺพานาย. สสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อสาเยฺยํ โหติ ปรินิพฺพานาย. มายาวิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อมายา โหติ ปรินิพฺพานาย. ถทฺธสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อตฺถทฺธิยํ โหติ ปรินิพฺพานาย. อติมานิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อนติมาโน โหติ ปรินิพฺพานาย. ทุพฺพจสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส โสวจสฺสตา โหติ ปรินิพฺพานาย. ปาปมิตฺตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส กลฺยาณมิตฺตตา โหติ ปรินิพฺพานาย. ปมตฺตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อปฺปมาโท ¶ โหติ ปรินิพฺพานาย. อสฺสทฺธสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สทฺธา โหติ ปรินิพฺพานาย. อหิริกสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส หิรี โหติ ปรินิพฺพานาย. อโนตฺตาปิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส โอตฺตปฺปํ โหติ ปรินิพฺพานาย. อปฺปสฺสุตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส พาหุสจฺจํ โหติ ปรินิพฺพานาย. กุสีตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส วีริยารมฺโภ โหติ ปรินิพฺพานาย. มุฏฺสฺสติสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส ¶ อุปฏฺิตสฺสติตา โหติ ปรินิพฺพานาย. ทุปฺปฺสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส ¶ ปฺาสมฺปทา โหติ ปรินิพฺพานาย. สนฺทิฏฺิปรามาสิ-อาธานคฺคาหิ-ทุปฺปฏินิสฺสคฺคิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อสนฺทิฏฺิปรามาสิ-อนาธานคฺคาหิ-สุปฺปฏินิสฺสคฺคิตา โหติ ปรินิพฺพานาย.
๘๘. ‘‘อิติ โข, จุนฺท, เทสิโต มยา สลฺเลขปริยาโย, เทสิโต จิตฺตุปฺปาทปริยาโย, เทสิโต ปริกฺกมนปริยาโย, เทสิโต อุปริภาคปริยาโย, เทสิโต ปรินิพฺพานปริยาโย. ยํ โข, จุนฺท, สตฺถารา กรณียํ สาวกานํ หิเตสินา อนุกมฺปเกน อนุกมฺปํ อุปาทาย, กตํ โว ตํ มยา. ‘เอตานิ, จุนฺท, รุกฺขมูลานิ, เอตานิ สฺุาคารานิ, ฌายถ, จุนฺท, มา ปมาทตฺถ, มา ปจฺฉาวิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ’ – อยํ โข อมฺหากํ อนุสาสนี’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา มหาจุนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
จตุตฺตาลีสปทา วุตฺตา, สนฺธโย ปฺจ เทสิตา;
สลฺเลโข นาม สุตฺตนฺโต, คมฺภีโร สาครูปโมติ.
สลฺเลขสุตฺตํ นิฏฺิตํ อฏฺมํ.
๙. สมฺมาทิฏฺิสุตฺตํ
๘๙. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –
‘‘‘สมฺมาทิฏฺิ [สมฺมาทิฏฺี (สี. สฺยา.)] สมฺมาทิฏฺี’ติ, อาวุโส, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ?
‘‘ทูรโตปิ โข มยํ, อาวุโส, อาคจฺเฉยฺยาม อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถมฺาตุํ. สาธุ วตายสฺมนฺตํเยว สาริปุตฺตํ ปฏิภาตุ เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ. อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, อาวุโส, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –
‘‘ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก อกุสลฺจ ปชานาติ, อกุสลมูลฺจ ปชานาติ, กุสลฺจ ปชานาติ, กุสลมูลฺจ ปชานาติ ¶ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน ¶ สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺมํ. กตมํ ปนาวุโส, อกุสลํ, กตมํ อกุสลมูลํ, กตมํ กุสลํ, กตมํ กุสลมูลํ? ปาณาติปาโต โข, อาวุโส, อกุสลํ, อทินฺนาทานํ อกุสลํ, กาเมสุมิจฺฉาจาโร อกุสลํ, มุสาวาโท อกุสลํ, ปิสุณา วาจา [ปิสุณวาจา (ก.)] อกุสลํ, ผรุสา วาจา [ผรุสวาจา (ก.)] อกุสลํ, สมฺผปฺปลาโป อกุสลํ, อภิชฺฌา อกุสลํ, พฺยาปาโท อกุสลํ, มิจฺฉาทิฏฺิ อกุสลํ – อิทํ วุจฺจตาวุโส อกุสลํ. กตมฺจาวุโส, อกุสลมูลํ? โลโภ อกุสลมูลํ, โทโส อกุสลมูลํ, โมโห อกุสลมูลํ – อิทํ วุจฺจตาวุโส, อกุสลมูลํ.
‘‘กตมฺจาวุโส ¶ ¶ , กุสลํ? ปาณาติปาตา เวรมณี กุสลํ, อทินฺนาทานา เวรมณี กุสลํ, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี กุสลํ, มุสาวาทา เวรมณี กุสลํ, ปิสุณาย วาจาย เวรมณี กุสลํ, ผรุสาย วาจาย เวรมณี กุสลํ, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี กุสลํ, อนภิชฺฌา กุสลํ, อพฺยาปาโท กุสลํ, สมฺมาทิฏฺิ กุสลํ – อิทํ วุจฺจตาวุโส, กุสลํ. กตมฺจาวุโส, กุสลมูลํ? อโลโภ กุสลมูลํ, อโทโส กุสลมูลํ, อโมโห กุสลมูลํ – อิทํ วุจฺจตาวุโส, กุสลมูลํ.
‘‘ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก เอวํ อกุสลํ ปชานาติ, เอวํ อกุสลมูลํ ปชานาติ, เอวํ กุสลํ ปชานาติ, เอวํ กุสลมูลํ ปชานาติ, โส สพฺพโส ราคานุสยํ ปหาย, ปฏิฆานุสยํ ปฏิวิโนเทตฺวา, ‘อสฺมี’ติ ทิฏฺิมานานุสยํ สมูหนิตฺวา, อวิชฺชํ ปหาย วิชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา, ทิฏฺเวธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน ¶ สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ.
๙๐. ‘‘สาธาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อุตฺตริ [อุตฺตรึ (สี. สฺยา. ปี.)] ปฺหํ อปุจฺฉุํ [อปุจฺฉึสุ (สฺยา.)] – ‘‘สิยา ปนาวุโส, อฺโปิ ปริยาโย ยถา อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ?
‘‘สิยา, อาวุโส. ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก อาหารฺจ ปชานาติ, อาหารสมุทยฺจ ปชานาติ, อาหารนิโรธฺจ ปชานาติ, อาหารนิโรธคามินึ ปฏิปทฺจ ปชานาติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ ¶ สทฺธมฺมํ. กตโม ปนาวุโส, อาหาโร, กตโม อาหารสมุทโย, กตโม อาหารนิโรโธ, กตมา อาหารนิโรธคามินี ปฏิปทา? จตฺตาโรเม, อาวุโส, อาหารา ภูตานํ วา สตฺตานํ ิติยา, สมฺภเวสีนํ วา อนุคฺคหาย. กตเม จตฺตาโร? กพฬีกาโร อาหาโร โอฬาริโก ¶ วา สุขุโม วา, ผสฺโส ทุติโย, มโนสฺเจตนา ตติยา, วิฺาณํ จตุตฺถํ. ตณฺหาสมุทยา อาหารสมุทโย, ตณฺหานิโรธา อาหารนิโรโธ, อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค อาหารนิโรธคามินี ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ ¶ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต ¶ , สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิ’.
‘‘ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก เอวํ อาหารํ ปชานาติ, เอวํ อาหารสมุทยํ ปชานาติ, เอวํ อาหารนิโรธํ ปชานาติ, เอวํ อาหารนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส สพฺพโส ราคานุสยํ ปหาย, ปฏิฆานุสยํ ปฏิวิโนเทตฺวา, ‘อสฺมี’ติ ทิฏฺิมานานุสยํ สมูหนิตฺวา, อวิชฺชํ ปหาย วิชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา, ทิฏฺเวธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ.
๙๑. ‘‘สาธาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อุตฺตริ ปฺหํ อปุจฺฉุํ – ‘‘สิยา ปนาวุโส, อฺโปิ ปริยาโย ยถา อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ?
‘‘สิยา, อาวุโส. ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก ทุกฺขฺจ ปชานาติ, ทุกฺขสมุทยฺจ ปชานาติ, ทุกฺขนิโรธฺจ ปชานาติ, ทุกฺขนิโรธคามินึ ปฏิปทฺจ ปชานาติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺมํ. กตมํ ปนาวุโส, ทุกฺขํ, กตโม ทุกฺขสมุทโย, กตโม ทุกฺขนิโรโธ, กตมา ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา? ชาติปิ ทุกฺขา, ชราปิ ทุกฺขา, มรณมฺปิ ทุกฺขํ, โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาปิ ทุกฺขา, อปฺปิเยหิ สมฺปโยโคปิ ทุกฺโข, ปิเยหิ วิปฺปโยโคปิ ทุกฺโข, ยมฺปิจฺฉํ น ¶ ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ, สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา [ปฺจุปาทานกฺขนฺธาปิ (ก.)] ทุกฺขา – อิทํ วุจฺจตาวุโส, ทุกฺขํ. กตโม จาวุโส, ทุกฺขสมุทโย? ยายํ ตณฺหา ¶ โปโนพฺภวิกา นนฺทีราคสหคตา [โปโนภวิกา (สี. ปี.)] ตตฺรตตฺราภินนฺทินี [นนฺทิราคสหคตา (สี. ปี.)], เสยฺยถิทํ, กามตณฺหา ภวตณฺหา ¶ วิภวตณฺหา – อยํ วุจฺจตาวุโส, ทุกฺขสมุทโย. กตโม จาวุโส, ทุกฺขนิโรโธ? โย ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ จาโค ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโย – อยํ วุจฺจตาวุโส, ทุกฺขนิโรโธ. กตมา จาวุโส, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา? อยเมว ¶ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, เสยฺยถิทํ, สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ – อยํ วุจฺจตาวุโส, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา.
‘‘ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก เอวํ ทุกฺขํ ปชานาติ, เอวํ ทุกฺขสมุทยํ ปชานาติ, เอวํ ทุกฺขนิโรธํ ปชานาติ, เอวํ ทุกฺขนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส สพฺพโส ราคานุสยํ ปหาย, ปฏิฆานุสยํ ปฏิวิโนเทตฺวา, ‘อสฺมี’ติ ทิฏฺิมานานุสยํ สมูหนิตฺวา, อวิชฺชํ ปหาย วิชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา, ทิฏฺเวธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ.
๙๒. ‘‘สาธาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อุตฺตริ ปฺหํ อปุจฺฉุํ – ‘‘สิยา ปนาวุโส, อฺโปิ ปริยาโย ยถา อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน ¶ สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ?
‘‘สิยา, อาวุโส. ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก ชรามรณฺจ ปชานาติ, ชรามรณสมุทยฺจ ปชานาติ, ชรามรณนิโรธฺจ ปชานาติ, ชรามรณนิโรธคามินึ ปฏิปทฺจ ปชานาติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺมํ. กตมํ ปนาวุโส, ชรามรณํ, กตโม ชรามรณสมุทโย, กตโม ชรามรณนิโรโธ, กตมา ชรามรณนิโรธคามินี ปฏิปทา? ยา เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย ชรา ชีรณตา ขณฺฑิจฺจํ ปาลิจฺจํ วลิตฺตจตา อายุโน สํหานิ อินฺทฺริยานํ ปริปาโก – อยํ วุจฺจตาวุโส, ชรา. กตมฺจาวุโส, มรณํ? ยา [ยํ (ปี. ก.), สติปฏฺานสุตฺเตปิ] เตสํ เตสํ สตฺตานํ ¶ ตมฺหา ตมฺหา สตฺตนิกายา จุติ จวนตา เภโท อนฺตรธานํ มจฺจุ มรณํ กาลํกิริยา ขนฺธานํ เภโท, กเฬวรสฺส นิกฺเขโป, ชีวิตินฺทฺริยสฺสุปจฺเฉโท – อิทํ วุจฺจตาวุโส, มรณํ. อิติ อยฺจ ชรา อิทฺจ มรณํ – อิทํ วุจฺจตาวุโส, ชรามรณํ. ชาติสมุทยา ชรามรณสมุทโย, ชาตินิโรธา ชรามรณนิโรโธ, อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ชรามรณนิโรธคามินี ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ.
‘‘ยโต ¶ โข, อาวุโส, อริยสาวโก เอวํ ชรามรณํ ปชานาติ, เอวํ ชรามรณสมุทํ ปชานาติ, เอวํ ชรามรณนิโรธํ ปชานาติ, เอวํ ¶ ชรามรณนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส สพฺพโส ราคานุสยํ ปหาย…เป… ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ.
๙๓. ‘‘สาธาวุโส’’ติ โข…เป… อปุจฺฉุํ – สิยา ปนาวุโส…เป… ¶ ‘‘สิยา, อาวุโส. ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก ชาติฺจ ปชานาติ, ชาติสมุทยฺจ ปชานาติ, ชาตินิโรธฺจ ปชานาติ, ชาตินิโรธคามินึ ปฏิปทฺจ ปชานาติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺมํ. กตมา ปนาวุโส, ชาติ, กตโม ชาติสมุทโย, กตโม ชาตินิโรโธ, กตมา ชาตินิโรธคามินี ปฏิปทา? ยา เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย ชาติ สฺชาติ โอกฺกนฺติ อภินิพฺพตฺติ ขนฺธานํ ปาตุภาโว, อายตนานํ ปฏิลาโภ – อยํ วุจฺจตาวุโส, ชาติ. ภวสมุทยา ชาติสมุทโย, ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ, อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ชาตินิโรธคามินี ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ.
‘‘ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก เอวํ ชาตึ ปชานาติ, เอวํ ชาติสมุทยํ ปชานาติ, เอวํ ชาตินิโรธํ ปชานาติ, เอวํ ชาตินิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส สพฺพโส ราคานุสยํ ปหาย…เป… ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ ¶ โหติ, อุชุคตาสฺส ¶ ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ.
๙๔. ‘‘สาธาวุโส’’ติ โข…เป… อปุจฺฉุํ – สิยา ปนาวุโส…เป… ‘‘สิยา, อาวุโส. ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก ภวฺจ ปชานาติ, ภวสมุทยฺจ ปชานาติ, ภวนิโรธฺจ ปชานาติ, ภวนิโรธคามินึ ปฏิปทฺจ ปชานาติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ ¶ สทฺธมฺมํ. กตโม ปนาวุโส, ภโว, กตโม ภวสมุทโย, กตโม ภวนิโรโธ, กตมา ภวนิโรธคามินี ปฏิปทา? ตโยเม, อาวุโส, ภวา – กามภโว, รูปภโว, อรูปภโว. อุปาทานสมุทยา ภวสมุทโย, อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ, อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภวนิโรธคามินี ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ.
‘‘ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก เอวํ ภวํ ปชานาติ, เอวํ ภวสมุทยํ ปชานาติ, เอวํ ภวนิโรธํ ปชานาติ, เอวํ ภวนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส สพฺพโส ราคานุสยํ ปหาย…เป… ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ.
๙๕. ‘‘สาธาวุโส’’ติ โข…เป… อปุจฺฉุํ – สิยา ปนาวุโส…เป… ‘‘สิยา, อาวุโส. ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก อุปาทานฺจ ปชานาติ, อุปาทานสมุทยฺจ ¶ ปชานาติ, อุปาทานนิโรธฺจ ปชานาติ, อุปาทานนิโรธคามินึ ปฏิปทฺจ ปชานาติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺมํ. กตมํ ปนาวุโส, อุปาทานํ, กตโม อุปาทานสมุทโย, กตโม อุปาทานนิโรโธ, กตมา อุปาทานนิโรธคามินี ปฏิปทา? จตฺตาริมานิ, อาวุโส, อุปาทานานิ ¶ – กามุปาทานํ, ทิฏฺุปาทานํ, สีลพฺพตุปาทานํ, อตฺตวาทุปาทานํ. ตณฺหาสมุทยา อุปาทานสมุทโย, ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ, อยเมว อริโย ¶ อฏฺงฺคิโก มคฺโค อุปาทานนิโรธคามินี ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ.
‘‘ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก เอวํ อุปาทานํ ปชานาติ, เอวํ อุปาทานสมุทยํ ปชานาติ, เอวํ อุปาทานนิโรธํ ปชานาติ, เอวํ อุปาทานนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส สพฺพโส ราคานุสยํ ปหาย…เป… ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ.
๙๖. ‘‘สาธาวุโส’’ติ ¶ โข…เป… อปุจฺฉุํ – สิยา ปนาวุโส…เป… ‘‘สิยา, อาวุโส. ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก ตณฺหฺจ ปชานาติ, ตณฺหาสมุทยฺจ ปชานาติ, ตณฺหานิโรธฺจ ปชานาติ, ตณฺหานิโรธคามินึ ปฏิปทฺจ ปชานาติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน ¶ สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺมํ. กตมา ปนาวุโส, ตณฺหา, กตโม ตณฺหาสมุทโย, กตโม ตณฺหานิโรโธ, กตมา ตณฺหานิโรธคามินี ปฏิปทา? ฉยิเม, อาวุโส, ตณฺหากายา – รูปตณฺหา, สทฺทตณฺหา, คนฺธตณฺหา, รสตณฺหา, โผฏฺพฺพตณฺหา, ธมฺมตณฺหา. เวทนาสมุทยา ตณฺหาสมุทโย, เวทนานิโรธา ตณฺหานิโรโธ, อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ตณฺหานิโรธคามินี ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ.
‘‘ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก เอวํ ตณฺหํ ปชานาติ, เอวํ ตณฺหาสมุทยํ ปชานาติ, เอวํ ตณฺหานิโรธํ ปชานาติ, เอวํ ตณฺหานิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส สพฺพโส ราคานุสยํ ปหาย…เป… ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ.
๙๗. ‘‘สาธาวุโส’’ติ โข…เป… อปุจฺฉุํ – สิยา ปนาวุโส…เป… ‘‘สิยา, อาวุโส. ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก เวทนฺจ ปชานาติ, เวทนาสมุทยฺจ ปชานาติ, เวทนานิโรธฺจ ปชานาติ, เวทนานิโรธคามินึ ปฏิปทฺจ ปชานาติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก ¶ สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺมํ. กตมา ปนาวุโส, เวทนา, กตโม เวทนาสมุทโย, กตโม เวทนานิโรโธ, กตมา เวทนานิโรธคามินี ¶ ปฏิปทา? ฉยิเม, อาวุโส, เวทนากายา – จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา, โสตสมฺผสฺสชา เวทนา, ฆานสมฺผสฺสชา เวทนา, ชิวฺหาสมฺผสฺสชา เวทนา, กายสมฺผสฺสชา เวทนา, มโนสมฺผสฺสชา เวทนา. ผสฺสสมุทยา เวทนาสมุทโย, ผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธ, อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค เวทนานิโรธคามินี ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ.
‘‘ยโต ¶ ¶ โข, อาวุโส, อริยสาวโก เอวํ เวทนํ ปชานาติ, เอวํ เวทนาสมุทยํ ปชานาติ, เอวํ เวทนานิโรธํ ปชานาติ, เอวํ เวทนานิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส สพฺพโส ราคานุสยํ ปหาย…เป… ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ.
๙๘. ‘‘สาธาวุโส’’ติ โข…เป… อปุจฺฉุํ – สิยา ปนาวุโส…เป… ‘‘สิยา, อาวุโส. ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก ผสฺสฺจ ปชานาติ, ผสฺสสมุทยฺจ ปชานาติ, ผสฺสนิโรธฺจ ปชานาติ, ผสฺสนิโรธคามินึ ปฏิปทฺจ ปชานาติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺมํ. กตโม ปนาวุโส, ผสฺโส, กตโม ผสฺสสมุทโย, กตโม ผสฺสนิโรโธ, กตมา ผสฺสนิโรธคามินี ปฏิปทา? ฉยิเม, อาวุโส, ผสฺสกายา – จกฺขุสมฺผสฺโส, โสตสมฺผสฺโส ¶ , ฆานสมฺผสฺโส, ชิวฺหาสมฺผสฺโส, กายสมฺผสฺโส, มโนสมฺผสฺโส. สฬายตนสมุทยา ผสฺสสมุทโย, สฬายตนนิโรธา ผสฺสนิโรโธ, อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ผสฺสนิโรธคามินี ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ.
‘‘ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก เอวํ ผสฺสํ ปชานาติ, เอวํ ผสฺสสมุทยํ ปชานาติ, เอวํ ผสฺสนิโรธํ ปชานาติ, เอวํ ผสฺสนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส สพฺพโส ราคานุสยํ ปหาย…เป… ทุกฺขสฺสนฺตกโร ¶ โหติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ.
๙๙. ‘‘สาธาวุโส’’ติ โข…เป… อปุจฺฉุํ – สิยา ปนาวุโส…เป… ‘‘สิยา, อาวุโส. ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก สฬายตนฺจ ปชานาติ, สฬายตนสมุทยฺจ ปชานาติ, สฬายตนนิโรธฺจ ปชานาติ, สฬายตนนิโรธคามินึ ปฏิปทฺจ ปชานาติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน ¶ สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺมํ. กตมํ ปนาวุโส, สฬายตนํ, กตโม สฬายตนสมุทโย, กตโม สฬายตนนิโรโธ, กตมา สฬายตนนิโรธคามินี ปฏิปทา ¶ ? ฉยิมานิ, อาวุโส, อายตนานิ – จกฺขายตนํ, โสตายตนํ, ฆานายตนํ, ชิวฺหายตนํ, กายายตนํ, มนายตนํ. นามรูปสมุทยา สฬายตนสมุทโย, นามรูปนิโรธา สฬายตนนิโรโธ, อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สฬายตนนิโรธคามินี ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ.
‘‘ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก เอวํ สฬายตนํ ปชานาติ, เอวํ สฬายตนสมุทยํ ปชานาติ, เอวํ สฬายตนนิโรธํ ปชานาติ ¶ , เอวํ สฬายตนนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส สพฺพโส ราคานุสยํ ปหาย…เป… ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ.
๑๐๐. ‘‘สาธาวุโส’’ติ โข…เป… อปุจฺฉุํ – สิยา ปนาวุโส…เป… ‘‘สิยา, อาวุโส. ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก นามรูปฺจ ปชานาติ, นามรูปสมุทยฺจ ปชานาติ, นามรูปนิโรธฺจ ปชานาติ, นามรูปนิโรธคามินึ ปฏิปทฺจ ปชานาติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺมํ. กตมํ ปนาวุโส, นามรูปํ, กตโม นามรูปสมุทโย, กตโม นามรูปนิโรโธ, กตมา นามรูปนิโรธคามินี ปฏิปทา? เวทนา, สฺา, เจตนา, ผสฺโส, มนสิกาโร ¶ – อิทํ วุจฺจตาวุโส, นามํ; จตฺตาริ จ มหาภูตานิ, จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูปํ – อิทํ วุจฺจตาวุโส, รูปํ. อิติ อิทฺจ นามํ อิทฺจ รูปํ – อิทํ วุจฺจตาวุโส, นามรูปํ. วิฺาณสมุทยา นามรูปสมุทโย, วิฺาณนิโรธา นามรูปนิโรโธ, อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค นามรูปนิโรธคามินี ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ.
‘‘ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก เอวํ ¶ นามรูปํ ปชานาติ, เอวํ นามรูปสมุทยํ ปชานาติ, เอวํ นามรูปนิโรธํ ปชานาติ, เอวํ นามรูปนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส สพฺพโส ¶ ราคานุสยํ ปหาย…เป… ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ.
๑๐๑. ‘‘สาธาวุโส’’ติ โข…เป… อปุจฺฉุํ – สิยา ปนาวุโส…เป… ‘‘สิยา, อาวุโส. ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก วิฺาณฺจ ปชานาติ, วิฺาณสมุทยฺจ ปชานาติ, วิฺาณนิโรธฺจ ปชานาติ, วิฺาณนิโรธคามินึ ปฏิปทฺจ ปชานาติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺมํ. กตมํ ปนาวุโส, วิฺาณํ, กตโม วิฺาณสมุทโย, กตโม วิฺาณนิโรโธ, กตมา วิฺาณนิโรธคามินี ปฏิปทา? ฉยิเม, อาวุโส, วิฺาณกายา – จกฺขุวิฺาณํ, โสตวิฺาณํ, ฆานวิฺาณํ, ชิวฺหาวิฺาณํ, กายวิฺาณํ, มโนวิฺาณํ. สงฺขารสมุทยา วิฺาณสมุทโย, สงฺขารนิโรธา วิฺาณนิโรโธ, อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค วิฺาณนิโรธคามินี ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ.
‘‘ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก เอวํ วิฺาณํ ปชานาติ, เอวํ วิฺาณสมุทยํ ปชานาติ, เอวํ วิฺาณนิโรธํ ปชานาติ, เอวํ วิฺาณนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ ¶ , โส สพฺพโส ¶ ราคานุสยํ ปหาย…เป… ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ.
๑๐๒. ‘‘สาธาวุโส’’ติ ¶ โข…เป… อปุจฺฉุํ – สิยา ปนาวุโส…เป… ‘‘สิยา, อาวุโส. ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก สงฺขาเร จ ปชานาติ, สงฺขารสมุทยฺจ ปชานาติ, สงฺขารนิโรธฺจ ปชานาติ, สงฺขารนิโรธคามินึ ปฏิปทฺจ ปชานาติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺมํ. กตเม ปนาวุโส, สงฺขารา, กตโม สงฺขารสมุทโย, กตโม ¶ สงฺขารนิโรโธ, กตมา สงฺขารนิโรธคามินี ปฏิปทา? ตโยเม, อาวุโส, สงฺขารา – กายสงฺขาโร, วจีสงฺขาโร, จิตฺตสงฺขาโร. อวิชฺชาสมุทยา สงฺขารสมุทโย, อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธ, อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สงฺขารนิโรธคามินี ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ.
‘‘ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก เอวํ สงฺขาเร ปชานาติ, เอวํ สงฺขารสมุทยํ ปชานาติ, เอวํ สงฺขารนิโรธํ ปชานาติ, เอวํ สงฺขารนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส สพฺพโส ราคานุสยํ ปหาย, ปฏิฆานุสยํ ปฏิวิโนเทตฺวา, ‘อสฺมี’ติ ทิฏฺิมานานุสยํ สมูหนิตฺวา, อวิชฺชํ ปหาย วิชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา, ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ¶ ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ.
๑๐๓. ‘‘สาธาวุโส’’ติ โข…เป… อปุจฺฉุํ – สิยา ปนาวุโส…เป… ‘‘สิยา, อาวุโส. ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก อวิชฺชฺจ ปชานาติ, อวิชฺชาสมุทยฺจ ปชานาติ, อวิชฺชานิโรธฺจ ปชานาติ, อวิชฺชานิโรธคามินึ ปฏิปทฺจ ปชานาติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺมํ. กตมา ปนาวุโส, อวิชฺชา, กตโม อวิชฺชาสมุทโย, กตโม อวิชฺชานิโรโธ, กตมา อวิชฺชานิโรธคามินี ปฏิปทา? ยํ โข, อาวุโส, ทุกฺเข อฺาณํ, ทุกฺขสมุทเย อฺาณํ, ทุกฺขนิโรเธ อฺาณํ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อฺาณํ – อยํ วุจฺจตาวุโส, อวิชฺชา. อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย, อาสวนิโรธา อวิชฺชานิโรโธ, อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค อวิชฺชานิโรธคามินี ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ.
‘‘ยโต ¶ โข, อาวุโส, อริยสาวโก เอวํ อวิชฺชํ ปชานาติ, เอวํ อวิชฺชาสมุทยํ ปชานาติ, เอวํ อวิชฺชานิโรธํ ปชานาติ, เอวํ อวิชฺชานิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส สพฺพโส ราคานุสยํ ปหาย, ปฏิฆานุสยํ ปฏิวิโนเทตฺวา, ‘อสฺมี’ติ ทิฏฺิมานานุสยํ สมูหนิตฺวา, อวิชฺชํ ปหาย วิชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา, ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก ¶ สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ.
๑๐๔. ‘‘สาธาวุโส’’ติ ¶ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อุตฺตริ ปฺหํ อปุจฺฉุํ – ‘‘สิยา ปนาวุโส, อฺโปิ ปริยาโย ¶ ยถา อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ?
‘‘สิยา, อาวุโส. ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก อาสวฺจ ปชานาติ, อาสวสมุทยฺจ ปชานาติ, อาสวนิโรธฺจ ปชานาติ, อาสวนิโรธคามินึ ปฏิปทฺจ ปชานาติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ, อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺมํ. กตโม ปนาวุโส, อาสโว, กตโม อาสวสมุทโย, กตโม อาสวนิโรโธ, กตมา อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทาติ? ตโยเม, อาวุโส, อาสวา – กามาสโว, ภวาสโว, อวิชฺชาสโว. อวิชฺชาสมุทยา อาสวสมุทโย, อวิชฺชานิโรธา อาสวนิโรโธ, อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ.
‘‘ยโต โข, อาวุโส, อริยสาวโก เอวํ อาสวํ ปชานาติ, เอวํ อาสวสมุทยํ ปชานาติ, เอวํ อาสวนิโรธํ ¶ ปชานาติ, เอวํ อาสวนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ปชานาติ, โส สพฺพโส ราคานุสยํ ปหาย, ปฏิฆานุสยํ ปฏิวิโนเทตฺวา, ‘อสฺมี’ติ ทิฏฺิมานานุสยํ สมูหนิตฺวา, อวิชฺชํ ปหาย วิชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา, ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ โหติ ¶ , อุชุคตาสฺส ทิฏฺิ, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ.
อิทมโวจายสฺมา สาริปุตฺโต. อตฺตมนา เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
สมฺมาทิฏฺิสุตฺตํ นิฏฺิตํ นวมํ. [อิโต ปรํ เกสุจิ โปตฺถเกสุ อิมาปิ คาถาโย§เอวํ ทิสฺสนฺติ –§ทุกฺขํ ชรามรณํ อุปาทานํ, สฬายตนํ นามรูปํ. วิฺาณํ ยา สา ปเร, กตมา ปนาวุโส ปทานํ§กึ ชาติ ตณฺหา จ เวทนา, อวิชฺชาย จตุกฺกนโย. จตฺตาริ ปเร กตมา, ปนาวุโส ปทานํ เกวลํ§อาหาโร จ ภโว ผสฺโส, สงฺขาโร อาสวปฺจโม. ยาว ปฺจ ปเร กตมา, ปนาวุโส ปทานํ กึ§กตมนฺติ ฉพฺพิธา วุตฺตํ, กตมานิ จตุพฺพิธานิ. กตโม ปฺจวิโธ วุตฺโต, สพฺเพสํ เอกสงฺขานํ ปฺจนยปทานิ จาติ ]
๑๐. มหาสติปฏฺานสุตฺตํ
๑๐๕. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา กุรูสุ วิหรติ กมฺมาสธมฺมํ นาม กุรูนํ นิคโม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
อุทฺเทโส
๑๐๖. ‘‘เอกายโน อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา, โสกปริเทวานํ ¶ [ปริทฺทวานํ (สี. ปี.)] สมติกฺกมาย, ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย, ายสฺส อธิคมาย, นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ จตฺตาโร สติปฏฺานา.
‘‘กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ.
อุทฺเทโส นิฏฺิโต.
กายานุปสฺสนา อานาปานปพฺพํ
๑๐๗. ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สฺุาคารคโต วา นิสีทติ, ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา, อุชุํ กายํ ปณิธาย, ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส สโตว อสฺสสติ, สโตว [สโต (สี. สฺยา.)] ปสฺสสติ. ทีฆํ ¶ วา อสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, ทีฆํ วา ปสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ, รสฺสํ วา อสฺสสนฺโต ‘รสฺสํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, รสฺสํ วา ปสฺสสนฺโต ¶ ‘รสฺสํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ, ‘สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘สพฺพกายปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ ¶ , ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทกฺโข ภมกาโร วา ภมการนฺเตวาสี วา ทีฆํ วา อฺฉนฺโต ‘ทีฆํ อฺฉามี’ติ ปชานาติ, รสฺสํ วา อฺฉนฺโต ‘รสฺสํ อฺฉามี’ติ ปชานาติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, ทีฆํ วา ปสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ, รสฺสํ วา อสฺสสนฺโต ‘รสฺสํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, รสฺสํ วา ปสฺสสนฺโต ‘รสฺสํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ; ‘สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘สพฺพกายปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. อิติ อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ; สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา กายสฺมึ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา กายสฺมึ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา กายสฺมึ วิหรติ. ‘อตฺถิ กาโย’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ. ยาวเทว ¶ าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข [เอวมฺปิ (สี. สฺยา. ปี.)], ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ.
อานาปานปพฺพํ นิฏฺิตํ.
กายานุปสฺสนา อิริยาปถปพฺพํ
๑๐๘. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คจฺฉนฺโต วา ‘คจฺฉามี’ติ ปชานาติ, ิโต วา ‘ิโตมฺหี’ติ ปชานาติ, นิสินฺโน วา ‘นิสินฺโนมฺหี’ติ ¶ ปชานาติ, สยาโน วา ‘สยาโนมฺหี’ติ ปชานาติ. ยถา ยถา วา ปนสฺส กาโย ปณิหิโต โหติ ตถา ตถา นํ ปชานาติ. อิติ อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ; สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา กายสฺมึ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา กายสฺมึ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา กายสฺมึ วิหรติ. ‘อตฺถิ ¶ ¶ กาโย’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ. ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ.
อิริยาปถปพฺพํ นิฏฺิตํ.
กายานุปสฺสนา สมฺปชานปพฺพํ
๑๐๙. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหติ, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี โหติ, สมิฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี โหติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี โหติ, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี โหติ, อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี โหติ, คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี โหติ. อิติ อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ…เป… เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ.
สมฺปชานปพฺพํ นิฏฺิตํ.
กายานุปสฺสนา ปฏิกูลมนสิการปพฺพํ
๑๑๐. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา, อโธ เกสมตฺถกา, ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มํสํ ¶ นฺหารุ [นหารุ (สี. สฺยา. ปี.)] อฏฺิ อฏฺิมิฺชํ วกฺกํ หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุพฺโพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺต’นฺติ [มุตฺตํ มตฺถลุงฺคนฺติ (ก.)].
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุภโตมุขา ปุโตฬิ [มูโตฬี (สี. สฺยา. ปี.)] ปูรา นานาวิหิตสฺส ธฺสฺส, เสยฺยถิทํ – สาลีนํ ¶ วีหีนํ มุคฺคานํ มาสานํ ติลานํ ตณฺฑุลานํ. ตเมนํ จกฺขุมา ปุริโส มฺุจิตฺวา ปจฺจเวกฺเขยฺย – ‘อิเม สาลี อิเม วีหี อิเม ¶ มุคฺคา อิเม มาสา อิเม ติลา อิเม ตณฺฑุลา’ติ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา, อโธ เกสมตฺถกา, ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา…เป… มุตฺต’นฺติ.
‘‘อิติ อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ…เป… เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ.
ปฏิกูลมนสิการปพฺพํ นิฏฺิตํ.
กายานุปสฺสนา ธาตุมนสิการปพฺพํ
๑๑๑. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ ยถาิตํ ยถาปณิหิตํ ธาตุโส ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, ทกฺโข โคฆาตโก วา โคฆาตกนฺเตวาสี วา คาวึ วธิตฺวา จตุมหาปเถ [จาตุมฺมหาปเถ (สี. สฺยา. ปี.)] พิลโส วิภชิตฺวา นิสินฺโน อสฺส. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ ยถาิตํ ยถาปณิหิตํ ธาตุโส ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ. อิติ อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ…เป… ¶ เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว ¶ , ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ.
ธาตุมนสิการปพฺพํ นิฏฺิตํ.
กายานุปสฺสนา นวสิวถิกปพฺพํ
๑๑๒. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิตํ เอกาหมตํ วา ทฺวีหมตํ วา ตีหมตํ วา อุทฺธุมาตกํ วินีลกํ วิปุพฺพกชาตํ. โส อิมเมว กายํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’ติ [เอตํ อนตีโตติ (สี. ปี.)]. อิติ อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ…เป… เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิตํ กาเกหิ วา ขชฺชมานํ กุลเลหิ วา ขชฺชมานํ คิชฺเฌหิ วา ขชฺชมานํ กงฺเกหิ วา ขชฺชมานํ สุนเขหิ วา ขชฺชมานํ พฺยคฺเฆหิ วา ขชฺชมานํ ทีปีหิ วา ขชฺชมานํ สิงฺคาเลหิ วา [คิชฺเฌหิ วา ขชฺชมานํ, สุวาเนหิ วา ขชฺชมานํ, สิคาเลหิ วา (สฺยา. ปี.)] ขชฺชมานํ วิวิเธหิ วา ปาณกชาเตหิ ขชฺชมานํ. โส อิมเมว กายํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’ติ. อิติ อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ…เป… เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิตํ อฏฺิกสงฺขลิกํ สมํสโลหิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ…เป… อฏฺิกสงฺขลิกํ นิมํสโลหิตมกฺขิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ…เป… อฏฺิกสงฺขลิกํ อปคตมํสโลหิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ…เป… อฏฺิกานิ อปคตสมฺพนฺธานิ ¶ [อปคตนฺหารุสมฺพนฺธานิ (สฺยา.)] ทิสา วิทิสา วิกฺขิตฺตานิ, อฺเน หตฺถฏฺิกํ อฺเน ปาทฏฺิกํ ¶ อฺเน โคปฺผกฏฺิกํ [‘‘อฺเน โคปฺผกฏฺิก’’นฺติ อิทํ สี. สฺยา. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] อฺเน ชงฺฆฏฺิกํ อฺเน อูรุฏฺิกํ อฺเน กฏิฏฺิกํ [อฺเน กฏฏฺิกํ อฺเน ปิฏฺฏฺิกํ อฺเน กณฺฏกฏฺิกํ อฺเน ผาสุกฏฺิกํ อฺเน อุรฏฺิกํ อฺเน อํสฏฺิกํ อฺเน พาหุฏฺิกํ (สฺยา.)] อฺเน ผาสุกฏฺิกํ อฺเน ปิฏฺิฏฺิกํ อฺเน ขนฺธฏฺิกํ [อฺเน กฏฏฺิกํ อฺเน ปิฏฺฏฺิกํ อฺเน กณฺฏกฏฺิกํ อฺเน ผาสุกฏฺิกํ อฺเน อุรฏฺิกํ อฺเน อํสฏฺิกํ อฺเน พาหุฏฺิกํ (สฺยา.)] อฺเน คีวฏฺิกํ อฺเน หนุกฏฺิกํ อฺเน ทนฺตฏฺิกํ อฺเน สีสกฏาหํ. โส อิมเมว กายํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’ติ. อิติ อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ…เป… เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิตํ, อฏฺิกานิ เสตานิ สงฺขวณฺณปฏิภาคานิ [สงฺขวณฺณูปนิภานิ (สี. สฺยา. ปี.)] …เป… อฏฺิกานิ ปฺุชกิตานิ เตโรวสฺสิกานิ…เป… อฏฺิกานิ ปูตีนิ จุณฺณกชาตานิ ¶ . โส อิมเมว กายํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’ติ. อิติ อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานุปสฺสี ¶ วิหรติ, พหิทฺธา วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ; สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา กายสฺมึ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา กายสฺมึ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา กายสฺมึ วิหรติ. ‘อตฺถิ กาโย’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ. ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ.
นวสิวถิกปพฺพํ นิฏฺิตํ.
จุทฺทสกายานุปสฺสนา นิฏฺิตา.
เวทนานุปสฺสนา
๑๑๓. ‘‘กถฺจ ¶ ¶ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขํ วา [สุขํ, ทุกฺขํ, อทุกฺขมสุขํ (สี. สฺยา. ปี. ก.)] เวทนํ เวทยมาโน ‘สุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ; ทุกฺขํ วา [สุขํ, ทุกฺขํ อทุกฺขมสุขํ (สี. สฺยา. ปี. ก.)] เวทนํ เวทยมาโน ‘ทุกฺขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ; อทุกฺขมสุขํ วา เวทนํ เวทยมาโน ‘อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ; สามิสํ วา สุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘สามิสํ สุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ; นิรามิสํ วา สุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘นิรามิสํ สุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ; สามิสํ วา ทุกฺขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘สามิสํ ทุกฺขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ; นิรามิสํ วา ทุกฺขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘นิรามิสํ ทุกฺขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ; สามิสํ วา อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘สามิสํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ; นิรามิสํ วา อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘นิรามิสํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ; อิติ อชฺฌตฺตํ วา เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ; สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา เวทนาสุ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา เวทนาสุ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา เวทนาสุ วิหรติ. ‘อตฺถิ เวทนา’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ. ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต จ วิหรติ ¶ , น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ.
เวทนานุปสฺสนา นิฏฺิตา.
จิตฺตานุปสฺสนา
๑๑๔. ‘‘กถฺจ ¶ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สราคํ วา จิตฺตํ ‘สราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตราคํ วา จิตฺตํ ‘วีตราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ; สโทสํ วา จิตฺตํ ‘สโทสํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตโทสํ วา จิตฺตํ ‘วีตโทสํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ; สโมหํ วา จิตฺตํ ‘สโมหํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตโมหํ วา จิตฺตํ ‘วีตโมหํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ; สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘สํขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘วิกฺขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ; มหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘มหคฺคตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘อมหคฺคตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ; สอุตฺตรํ ¶ วา จิตฺตํ ‘สอุตฺตรํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘อนุตฺตรํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ; สมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘สมาหิตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อสมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘อสมาหิตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ; วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘วิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘อวิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ. อิติ อชฺฌตฺตํ วา จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ; สมุทยธมฺมานุปสฺสี ¶ วา จิตฺตสฺมึ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา จิตฺตสฺมึ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา จิตฺตสฺมึ วิหรติ. ‘อตฺถิ จิตฺต’นฺติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ. ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ ¶ . เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ.
จิตฺตานุปสฺสนา นิฏฺิตา.
ธมฺมานุปสฺสนา นีวรณปพฺพํ
๑๑๕. ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ปฺจสุ นีวรเณสุ. กถฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ปฺจสุ นีวรเณสุ?
‘‘อิธ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ กามจฺฉนฺทํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ กามจฺฉนฺโท’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ กามจฺฉนฺทํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ กามจฺฉนฺโท’ติ ปชานาติ; ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.
‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ พฺยาปาทํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ พฺยาปาโท’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ พฺยาปาทํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ พฺยาปาโท’ติ ปชานาติ; ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส พฺยาปาทสฺส ¶ อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส พฺยาปาทสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส พฺยาปาทสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.
‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ถีนมิทฺธํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ถีนมิทฺธ’นฺติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ถีนมิทฺธํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ถีนมิทฺธ’นฺติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส ถีนมิทฺธสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ¶ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส ถีนมิทฺธสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส ถีนมิทฺธสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.
‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจ’นฺติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจ’นฺติ ปชานาติ; ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.
‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ วิจิกิจฺฉํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ วิจิกิจฺฉา’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ วิจิกิจฺฉํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ วิจิกิจฺฉา’ติ ปชานาติ; ยถา จ อนุปฺปนฺนาย วิจิกิจฺฉาย อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนาย วิจิกิจฺฉาย ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนาย วิจิกิจฺฉาย อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.
‘‘อิติ อชฺฌตฺตํ วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ; สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ ¶ , สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ. ‘อตฺถิ ธมฺมา’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ. ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย ¶ อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ปฺจสุ นีวรเณสุ.
นีวรณปพฺพํ นิฏฺิตํ.
ธมฺมานุปสฺสนา ขนฺธปพฺพํ
๑๑๖. ‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี ¶ วิหรติ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ. กถฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม; อิติ เวทนา, อิติ เวทนาย สมุทโย, อิติ เวทนาย อตฺถงฺคโม; อิติ สฺา, อิติ สฺาย สมุทโย, อิติ สฺาย อตฺถงฺคโม; อิติ สงฺขารา, อิติ สงฺขารานํ สมุทโย, อิติ สงฺขารานํ อตฺถงฺคโม; อิติ วิฺาณํ, อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย, อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ; อิติ อชฺฌตฺตํ วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ; สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ. ‘อตฺถิ ธมฺมา’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ. ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ.
ขนฺธปพฺพํ นิฏฺิตํ.
ธมฺมานุปสฺสนา อายตนปพฺพํ
๑๑๗. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ. กถฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ฉสุ ¶ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ?
‘‘อิธ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขฺุจ ปชานาติ, รูเป จ ปชานาติ, ยฺจ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สํโยชนํ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส สํโยชนสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.
‘‘โสตฺจ ¶ ปชานาติ, สทฺเท จ ปชานาติ, ยฺจ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สํโยชนํ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส สํโยชนสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.
‘‘ฆานฺจ ปชานาติ, คนฺเธ จ ปชานาติ, ยฺจ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สํโยชนํ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส สํโยชนสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.
‘‘ชิวฺหฺจ ปชานาติ, รเส จ ปชานาติ, ยฺจ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สํโยชนํ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส สํโยชนสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.
‘‘กายฺจ ปชานาติ, โผฏฺพฺเพ จ ปชานาติ, ยฺจ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สํโยชนํ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส สํโยชนสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.
‘‘มนฺจ ปชานาติ, ธมฺเม จ ปชานาติ, ยฺจ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สํโยชนํ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส สํโยชนสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.
‘‘อิติ ¶ อชฺฌตฺตํ วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ; สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ. ‘อตฺถิ ธมฺมา’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ. ยาวเทว าณมตฺตาย ¶ ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต ¶ จ วิหรติ น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ.
อายตนปพฺพํ นิฏฺิตํ.
ธมฺมานุปสฺสนา โพชฺฌงฺคปพฺพํ
๑๑๘. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ สตฺตสุ โพชฺฌงฺเคสุ. กถฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ สตฺตสุ โพชฺฌงฺเคสุ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ สติสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘นตฺถิ เม ¶ อชฺฌตฺตํ สติสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตฺจ ปชานาติ.
‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตฺจ ปชานาติ.
‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตฺจ ปชานาติ.
‘‘สนฺตํ ¶ วา อชฺฌตฺตํ ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ ¶ , ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตฺจ ปชานาติ.
‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตฺจ ปชานาติ.
‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตฺจ ปชานาติ.
‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตฺจ ปชานาติ ¶ .
‘‘อิติ อชฺฌตฺตํ วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ; สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ. ‘อตฺถิ ธมฺมา’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ. ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ สตฺตสุ โพชฺฌงฺเคสุ.
โพชฺฌงฺคปพฺพํ นิฏฺิตํ [โพชฺฌงฺคปพฺพํ นิฏฺิตํ. ปมภาณวารํ (สฺยา.)].
ธมฺมานุปสฺสนา สจฺจปพฺพํ
๑๑๙. ‘‘ปุน ¶ ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ จตูสุ อริยสจฺเจสุ. กถฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ จตูสุ อริยสจฺเจสุ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ.
ปมภาณวาโร นิฏฺิโต.
ทุกฺขสจฺจนิทฺเทโส
๑๒๐. ‘‘กตมฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อริยสจฺจํ? ชาติปิ ทุกฺขา, ชราปิ ทุกฺขา, มรณมฺปิ ทุกฺขํ, โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาปิ ทุกฺขา, อปฺปิเยหิ สมฺปโยโคปิ ทุกฺโข, ปิเยหิ วิปฺปโยโคปิ ทุกฺโข [‘‘อปฺปิเยหิ…เป… วิปฺปโยโคปิ ทุกฺโข’’ติ ปาโ เจว ตํนิทฺเทโส จ สี. ปี. โปตฺถเกสุ น ทิสฺสติ, สุมงฺคลวิลาสินิยํปิ ตํสํวณฺณนา นตฺถิ], ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ, สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา [ปฺจุปาทานกฺขนฺธาปิ (ก.)] ทุกฺขา.
๑๒๑. ‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ชาติ? ยา เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย ชาติ สฺชาติ โอกฺกนฺติ อภินิพฺพตฺติ ขนฺธานํ ปาตุภาโว อายตนานํ ปฏิลาโภ, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ชาติ.
๑๒๒. ‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ชรา? ยา เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย ชรา ชีรณตา ขณฺฑิจฺจํ ปาลิจฺจํ วลิตฺตจตา อายุโน สํหานิ อินฺทฺริยานํ ปริปาโก, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ชรา.
๑๒๓. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, มรณํ? ยํ [สุมงฺคลวิลาสินี โอโลเกตพฺพา] เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหา ตมฺหา สตฺตนิกายา จุติ จวนตา เภโท อนฺตรธานํ มจฺจุ มรณํ กาลงฺกิริยา ขนฺธานํ เภโท กเฬวรสฺส นิกฺเขโป ชีวิตินฺทฺริยสฺสุปจฺเฉโท, อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, มรณํ.
๑๒๔. ‘‘กตโม ¶ จ, ภิกฺขเว, โสโก? โย โข, ภิกฺขเว, อฺตรฺตเรน พฺยสเนน ¶ สมนฺนาคตสฺส อฺตรฺตเรน ¶ ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺสฺส โสโก โสจนา โสจิตตฺตํ อนฺโตโสโก อนฺโตปริโสโก, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, โสโก.
๑๒๕. ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปริเทโว? โย โข, ภิกฺขเว, อฺตรฺตเรน พฺยสเนน สมนฺนาคตสฺส อฺตรฺตเรน ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺสฺส อาเทโว ปริเทโว อาเทวนา ปริเทวนา อาเทวิตตฺตํ ปริเทวิตตฺตํ, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปริเทโว.
๑๒๖. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ? ยํ โข, ภิกฺขเว, กายิกํ ทุกฺขํ กายิกํ อสาตํ กายสมฺผสฺสชํ ทุกฺขํ อสาตํ เวทยิตํ, อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ.
๑๒๗. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, โทมนสฺสํ? ยํ โข, ภิกฺขเว, เจตสิกํ ทุกฺขํ เจตสิกํ อสาตํ มโนสมฺผสฺสชํ ทุกฺขํ อสาตํ เวทยิตํ, อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, โทมนสฺสํ.
๑๒๘. ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อุปายาโส? โย โข, ภิกฺขเว, อฺตรฺตเรน พฺยสเนน สมนฺนาคตสฺส อฺตรฺตเรน ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺสฺส อายาโส อุปายาโส อายาสิตตฺตํ อุปายาสิตตฺตํ, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อุปายาโส.
๑๒๙. ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อปฺปิเยหิ สมฺปโยโค ทุกฺโข? อิธ ยสฺส เต โหนฺติ อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา รูปา สทฺทา คนฺธา รสา โผฏฺพฺพา ธมฺมา, เย วา ปนสฺส เต โหนฺติ อนตฺถกามา อหิตกามา อผาสุกกามา อโยคกฺเขมกามา, ยา เตหิ สทฺธึ สงฺคติ สมาคโม สโมธานํ มิสฺสีภาโว, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อปฺปิเยหิ สมฺปโยโค ทุกฺโข.
๑๓๐. ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปิเยหิ วิปฺปโยโค ทุกฺโข? อิธ ยสฺส เต โหนฺติ อิฏฺา กนฺตา มนาปา รูปา สทฺทา คนฺธา ¶ รสา โผฏฺพฺพา ธมฺมา, เย วา ปนสฺส เต โหนฺติ อตฺถกามา หิตกามา ผาสุกกามา โยคกฺเขมกามา มาตา วา ปิตา วา ภาตา วา ภคินี วา มิตฺตา วา อมจฺจา วา าติสาโลหิตา วา, ยา เตหิ สทฺธึ อสงฺคติ อสมาคโม ¶ อสโมธานํ อมิสฺสีภาโว, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปิเยหิ วิปฺปโยโค ทุกฺโข.
๑๓๑. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ? ชาติธมฺมานํ, ภิกฺขเว ¶ , สตฺตานํ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ – ‘อโห วต มยํ น ชาติธมฺมา อสฺสาม, น จ วต โน ชาติ อาคจฺเฉยฺยา’ติ. น โข ปเนตํ อิจฺฉาย ปตฺตพฺพํ, อิทมฺปิ ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ. ชราธมฺมานํ, ภิกฺขเว, สตฺตานํ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ – ‘อโห วต มยํ น ชราธมฺมา อสฺสาม, น จ วต โน ชรา อาคจฺเฉยฺยา’ติ. น โข ปเนตํ อิจฺฉาย ปตฺตพฺพํ, อิทมฺปิ ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ. พฺยาธิธมฺมานํ, ภิกฺขเว, สตฺตานํ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ – ‘อโห วต มยํ น พฺยาธิธมฺมา อสฺสาม, น จ วต โน พฺยาธิ อาคจฺเฉยฺยา’ติ. น โข ปเนตํ อิจฺฉาย ปตฺตพฺพํ, อิทมฺปิ ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ. มรณธมฺมานํ, ภิกฺขเว, สตฺตานํ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ – ‘อโห วต มยํ น มรณธมฺมา อสฺสาม, น จ วต โน มรณํ อาคจฺเฉยฺยา’ติ. น โข ปเนตํ อิจฺฉาย ปตฺตพฺพํ, อิทมฺปิ ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ. โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสธมฺมานํ, ภิกฺขเว, สตฺตานํ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ – ‘อโห วต มยํ น โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสธมฺมา อสฺสาม, น จ วต โน โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสธมฺมา อาคจฺเฉยฺยุ’นฺติ. น โข ปเนตํ อิจฺฉาย ปตฺตพฺพํ, อิทมฺปิ ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ.
๑๓๒. ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา? เสยฺยถิทํ – รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สฺุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อริยสจฺจํ.
สมุทยสจฺจนิทฺเทโส
๑๓๓. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ทุกฺขสมุทยํ [ทุกฺขสมุทโย (สฺยา.)] อริยสจฺจํ? ยายํ ตณฺหา ¶ โปโนพฺภวิกา [โปโนภวิกา (สี. ปี.)] นนฺทีราคสหคตา [นนฺทิราคสหคตา (สี. สฺยา. ปี.)] ตตฺรตตฺราภินนฺทินี. เสยฺยถิทํ – กามตณฺหา ภวตณฺหา วิภวตณฺหา.
‘‘สา ¶ โข ปเนสา, ภิกฺขเว, ตณฺหา กตฺถ อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, กตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ? ยํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.
‘‘กิฺจ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ? จกฺขุ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ. โสตํ โลเก…เป… ฆานํ โลเก… ชิวฺหา ¶ โลเก… กาโย โลเก… มโน โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.
‘‘รูปา โลเก… สทฺทา โลเก… คนฺธา โลเก… รสา โลเก… โผฏฺพฺพา โลเก… ธมฺมา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.
‘‘จกฺขุวิฺาณํ โลเก… โสตวิฺาณํ โลเก… ฆานวิฺาณํ โลเก… ชิวฺหาวิฺาณํ โลเก… กายวิฺาณํ โลเก… มโนวิฺาณํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.
‘‘จกฺขุสมฺผสฺโส โลเก… โสตสมฺผสฺโส โลเก… ฆานสมฺผสฺโส โลเก… ชิวฺหาสมฺผสฺโส โลเก… กายสมฺผสฺโส โลเก… มโนสมฺผสฺโส โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.
‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… โสตสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… ฆานสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… ชิวฺหาสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… กายสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… มโนสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.
‘‘รูปสฺา โลเก… สทฺทสฺา ¶ โลเก… คนฺธสฺา โลเก… รสสฺา โลเก… โผฏฺพฺพสฺา โลเก… ธมฺมสฺา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.
‘‘รูปสฺเจตนา ¶ โลเก… สทฺทสฺเจตนา โลเก… คนฺธสฺเจตนา โลเก… รสสฺเจตนา โลเก… โผฏฺพฺพสฺเจตนา โลเก… ธมฺมสฺเจตนา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.
‘‘รูปตณฺหา โลเก… สทฺทตณฺหา โลเก… คนฺธตณฺหา โลเก… รสตณฺหา โลเก… โผฏฺพฺพตณฺหา ¶ โลเก… ธมฺมตณฺหา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.
‘‘รูปวิตกฺโก โลเก… สทฺทวิตกฺโก โลเก… คนฺธวิตกฺโก โลเก… รสวิตกฺโก โลเก… โผฏฺพฺพวิตกฺโก โลเก… ธมฺมวิตกฺโก โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.
‘‘รูปวิจาโร โลเก… สทฺทวิจาโร โลเก… คนฺธวิจาโร โลเก… รสวิจาโร โลเก… โผฏฺพฺพวิจาโร โลเก… ธมฺมวิจาโร โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจํ.
นิโรธสจฺจนิทฺเทโส
๑๓๔. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ทุกฺขนิโรธํ [ทุกฺขนิโรโธ (สฺยา.)] อริยสจฺจํ? โย ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ จาโค ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโย.
‘‘สา โข ปเนสา, ภิกฺขเว, ตณฺหา กตฺถ ปหียมานา ปหียติ, กตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ? ยํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.
‘‘กิฺจ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ? จกฺขุ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ¶ ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ. โสตํ โลเก…เป… ฆานํ โลเก… ชิวฺหา โลเก… กาโย โลเก… มโน ¶ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.
‘‘รูปา โลเก… สทฺทา โลเก… คนฺธา โลเก… รสา โลเก… โผฏฺพฺพา โลเก… ธมฺมา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.
‘‘จกฺขุวิฺาณํ ¶ โลเก… โสตวิฺาณํ โลเก… ฆานวิฺาณํ โลเก… ชิวฺหาวิฺาณํ โลเก… กายวิฺาณํ โลเก… มโนวิฺาณํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.
‘‘จกฺขุสมฺผสฺโส โลเก… โสตสมฺผสฺโส โลเก… ฆานสมฺผสฺโส โลเก… ชิวฺหาสมฺผสฺโส โลเก… กายสมฺผสฺโส โลเก… มโนสมฺผสฺโส โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.
‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… โสตสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… ฆานสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… ชิวฺหาสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… กายสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… มโนสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.
‘‘รูปสฺา โลเก… สทฺทสฺา โลเก… คนฺธสฺา โลเก… รสสฺา โลเก… โผฏฺพฺพสฺา โลเก… ธมฺมสฺา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.
‘‘รูปสฺเจตนา โลเก… สทฺทสฺเจตนา โลเก… คนฺธสฺเจตนา โลเก… รสสฺเจตนา โลเก… โผฏฺพฺพสฺเจตนา โลเก… ธมฺมสฺเจตนา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ ¶ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.
‘‘รูปตณฺหา โลเก… สทฺทตณฺหา โลเก… คนฺธตณฺหา โลเก… รสตณฺหา โลเก… โผฏฺพฺพตณฺหา โลเก… ธมฺมตณฺหา โลเก ปิยรูปํ ¶ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.
‘‘รูปวิตกฺโก โลเก… สทฺทวิตกฺโก โลเก… คนฺธวิตกฺโก โลเก… รสวิตกฺโก โลเก… โผฏฺพฺพวิตกฺโก โลเก… ธมฺมวิตกฺโก โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.
‘‘รูปวิจาโร โลเก… สทฺทวิจาโร โลเก… คนฺธวิจาโร โลเก… รสวิจาโร โลเก… โผฏฺพฺพวิจาโร ¶ โลเก… ธมฺมวิจาโร โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ. เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌามานา นิรุชฺฌติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ.
มคฺคสจฺจนิทฺเทโส
๑๓๕. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ? อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิ.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ? ยํ โข, ภิกฺขเว, ทุกฺเข าณํ, ทุกฺขสมุทเย าณํ, ทุกฺขนิโรเธ าณํ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย าณํ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกปฺโป? เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป อพฺยาปาทสงฺกปฺโป อวิหึสาสงฺกปฺโป. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกปฺโป.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา? มุสาวาทา เวรมณี [เวรมณิ (ก.)], ปิสุณาย วาจาย เวรมณี, ผรุสาย วาจาย เวรมณี, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี ¶ . อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมนฺโต? ปาณาติปาตา เวรมณี, อทินฺนาทานา เวรมณี, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมนฺโต.
‘‘กตโม ¶ จ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก มิจฺฉาอาชีวํ ปหาย สมฺมาอาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาวายาโม? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา อสมฺโมสาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมาวายาโม.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาสติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี ¶ สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน ¶ สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมาสติ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาสมาธิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ, สโต จ สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมาสมาธิ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ.
๑๓๖. ‘‘อิติ ¶ อชฺฌตฺตํ วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ; สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ. ‘อตฺถิ ธมฺมา’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ. ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ¶ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ จตูสุ อริยสจฺเจสุ.
สจฺจปพฺพํ นิฏฺิตํ.
ธมฺมานุปสฺสนา นิฏฺิตา.
๑๓๗. ‘‘โย ¶ หิ โกจิ, ภิกฺขเว, อิเม จตฺตาโร สติปฏฺาเน เอวํ ภาเวยฺย สตฺต วสฺสานิ, ตสฺส ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา; สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา.
‘‘ติฏฺนฺตุ, ภิกฺขเว, สตฺต วสฺสานิ. โย หิ โกจิ ¶ , ภิกฺขเว, อิเม จตฺตาโร สติปฏฺาเน เอวํ ภาเวยฺย ฉ วสฺสานิ…เป… ปฺจ วสฺสานิ… จตฺตาริ วสฺสานิ… ตีณิ วสฺสานิ… ทฺเว วสฺสานิ… เอกํ วสฺสํ… ติฏฺตุ, ภิกฺขเว, เอกํ วสฺสํ. โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, อิเม จตฺตาโร สติปฏฺาเน เอวํ ภาเวยฺย สตฺต มาสานิ, ตสฺส ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา; สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา. ติฏฺนฺตุ, ภิกฺขเว, สตฺต มาสานิ. โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, อิเม จตฺตาโร สติปฏฺาเน เอวํ ภาเวยฺย ฉ มาสานิ…เป… ปฺจ มาสานิ… จตฺตาริ มาสานิ… ตีณิ มาสานิ… ทฺเว มาสานิ… เอกํ มาสํ… อฑฺฒมาสํ… ติฏฺตุ, ภิกฺขเว, อฑฺฒมาโส. โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, อิเม จตฺตาโร สติปฏฺาเน เอวํ ภาเวยฺย สตฺตาหํ, ตสฺส ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา’’ติ.
๑๓๘. ‘‘‘เอกายโน ¶ อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย ¶ นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ จตฺตาโร สติปฏฺานา’ติ. อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
มหาสติปฏฺานสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทสมํ.
มูลปริยายวคฺโค นิฏฺิโต ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ – [อิโต ปรํ เกสุจิ โปตฺถเกสุ อิมาปิ คาถาโย เอวํ ทิสฺสนฺติ –§อชรํ อมตํ อมตาธิคมํ, ผลมคฺคนิทสฺสนํ ทุกฺขนุทํ. สหิตตฺตํ มหารสหสฺสกรํ, ภูตมิติ สารํ วิวิธํ สุณาถ.§ตฬากํ วสุปูริตํ ฆมฺมปเถ, ติวิธคฺคิปิเฬสิตนิพฺพาปนํ. พฺยาธิปนุทนโอสธโย, ปจฺฉิมสุตฺตปวรา ปิตา.§มธุมนฺทวรสามทานํ, ขิฑฺฑารติ ชนนิมนุสงฺฆาตํ. ตถา สุตฺเต เวยฺยากรณา ปิตา, สกฺยปุตฺตานมภิทมนตฺถาย.§ปฺาสํ จ ทิยฑฺฒสตํ, ทฺเว จ เวยฺยากรณํ อปเร จ. เตวนามคตํ จ อนุปุพฺพํ, เอกมนา นิสาเมถ มุทคฺคํ.]
มูลสุสํวรธมฺมทายาทา, เภรวานงฺคณากงฺเขยฺยวตฺถํ;
สลฺเลขสมฺมาทิฏฺิสติปฏฺํ, วคฺควโร อสโม สุสมตฺโต.