📜
๕. จูฬยมกวคฺโค
๑. สาเลยฺยกสุตฺตํ
๔๓๙. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน สาลา นาม โกสลานํ พฺราหฺมณคาโม ตทวสริ. อสฺโสสุํ โข สาเลยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ สาลํ อนุปฺปตฺโต. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ; เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ’. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ.
อถ โข สาเลยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อปฺเปกจฺเจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ, สมฺโมทนียํ กถํ ¶ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ ภควโต สนฺติเก นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข สาเลยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ ¶ ? โก ปน, โภ โคตม, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ?
‘‘อธมฺมจริยาวิสมจริยาเหตุ โข, คหปตโย, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ. ธมฺมจริยาสมจริยาเหตุ ¶ โข, คหปตโย, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ ¶ .
‘‘น โข มยํ อิมสฺส โภโต โคตมสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส, วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส, วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานาม. สาธุ โน ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุ, ยถา มยํ อิมสฺส โภโต โคตมสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส, วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส, วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชาเนยฺยามา’’ติ. ‘‘เตน หิ, คหปตโย, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข สาเลยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา ¶ เอตทโวจ –
๔๔๐. ‘‘ติวิธํ โข, คหปตโย, กาเยน อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ, จตุพฺพิธํ วาจาย อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ, ติวิธํ มนสา อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ.
‘‘กถฺจ, คหปตโย, ติวิธํ กาเยน อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ? อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ, ลุทฺโท [ลุทฺโท ทารุโณ (ก.) ฏีกา โอโลเกตพฺพา] โลหิตปาณิ หตปฺปหเต นิวิฏฺโ อทยาปนฺโน ปาณภูเตสุ [สพฺพปาณภูเตสุ (สฺยา. กํ. ก.)].
‘‘อทินฺนาทายี โข ปน โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ, คามคตํ วา อรฺคตํ วา, ตํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ.
‘‘กาเมสุมิจฺฉาจารี โข ปน โหติ. ยา ตา มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สสฺสามิกา สปริทณฺฑา อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ, ตถารูปาสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ. เอวํ โข, คหปตโย, ติวิธํ กาเยน อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , คหปตโย, จตุพฺพิธํ วาจาย อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ? อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ มุสาวาที โหติ. สภาคโต วา ปริสาคโต วา, าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา, อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ – ‘เอหมฺโภ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ ¶ , โส อชานํ วา อาห – ‘ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห – ‘น ชานามี’ติ, อปสฺสํ วา อาห – ‘ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห – ‘น ปสฺสามี’ติ [โส อาห อชานํ วา อหํ ชานามีติ ชานํ วา อหํ น ชานามีติ อปสฺสํ วา อหํ ปสฺสามีติ ปสฺสํ วา อหํ น ปสฺสามีติ (ก.)]. อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ.
‘‘ปิสุณวาโจ โข ปน โหติ. อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา ¶ อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ สมคฺคานํ วา เภตฺตา [เภทกา (ก.), เภเทตา (สฺยา. กํ.), ตทฏฺกถายํ ปน เภตฺตาติ ทิสฺสติ], ภินฺนานํ วา อนุปฺปทาตา, วคฺคาราโม วคฺครโต วคฺคนนฺที วคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ.
‘‘ผรุสวาโจ โข ปน โหติ. ยา สา วาจา อณฺฑกา [กณฺฑกา (ก.)] กกฺกสา ปรกฏุกา ปราภิสชฺชนี โกธสามนฺตา อสมาธิสํวตฺตนิกา ¶ , ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ.
‘‘สมฺผปฺปลาปี โข ปน โหติ. อกาลวาที อภูตวาที อนตฺถวาที อธมฺมวาที อวินยวาที. อนิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ อกาเลน อนปเทสํ อปริยนฺตวตึ อนตฺถสํหิตํ. เอวํ โข, คหปตโย, จตุพฺพิธํ วาจาย อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ.
‘‘กถฺจ, คหปตโย, ติวิธํ มนสา อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ? อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ อภิชฺฌาลุ โหติ, ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ ตํ อภิชฺฌาตา โหติ – ‘อโห วต ยํ ปรสฺส ตํ มมสฺสา’’’ติ!
‘‘พฺยาปนฺนจิตฺโต โข ปน โหติ ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป – ‘อิเม สตฺตา หฺนฺตุ วา วชฺฌนฺตุ วา อุจฺฉิชฺชนฺตุ วา วินสฺสนฺตุ วา มา วา อเหสุ’’’นฺติ [มา วา อเหสุํ อิติ วาติ (สี. ปี. ก.)].
‘‘มิจฺฉาทิฏฺิโก โข ปน โหติ วิปรีตทสฺสโน – ‘นตฺถิ ทินฺนํ นตฺถิ ยิฏฺํ นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา ¶ , นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา ¶ เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. เอวํ โข, คหปตโย, ติวิธํ มนสา อธมฺมจริยาวิสมจริยา ¶ โหติ.
‘‘เอวํ อธมฺมจริยาวิสมจริยาเหตุ โข, คหปตโย, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ.
๔๔๑. ‘‘ติวิธํ โข, คหปตโย, กาเยน ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ, จตุพฺพิธํ วาจาย ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ, ติวิธํ มนสา ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ.
‘‘กถฺจ, คหปตโย, ติวิธํ กาเยน ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ? อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ.
‘‘อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ, คามคตํ วา อรฺคตํ วา, ตํ นาทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ.
‘‘กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปหาย กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ. ยา ตา มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สสฺสามิกา สปริทณฺฑา อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ, ตถารูปาสุ น จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ. เอวํ โข, คหปตโย, ติวิธํ กาเยน ธมฺมจริยาสมจริยา ¶ โหติ.
‘‘กถฺจ, คหปตโย, จตุพฺพิธํ วาจาย ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ? อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ. สภาคโต วา ปริสาคโต วา, าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา, อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ – ‘เอหมฺโภ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ, โส ¶ อชานํ วา อาห – ‘น ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห – ‘ชานามี’ติ, อปสฺสํ วา อาห – ‘น ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห ¶ – ‘ปสฺสามี’ติ. อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา น สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ.
‘‘ปิสุณํ ¶ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, อิโต สุตฺวา น อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา, สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา, สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ.
‘‘ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ. ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา – ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ.
‘‘สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ. กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ. เอวํ โข, คหปตโย, จตุพฺพิธํ วาจาย ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ.
‘‘กถฺจ, คหปตโย, ติวิธํ มนสา ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ? อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ อนภิชฺฌาลุ โหติ, ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ ตํ นาภิชฺฌาตา โหติ – ‘อโห วต ยํ ปรสฺส ตํ มมสฺสา’ติ!
‘‘อพฺยาปนฺนจิตฺโต โข ปน โหติ อปฺปทุฏฺมนสงฺกปฺโป – ‘อิเม สตฺตา อเวรา อพฺยาพชฺฌา อนีฆา สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’ติ.
‘‘สมฺมาทิฏฺิโก โข ปน โหติ อวิปรีตทสฺสโน – ‘อตฺถิ ทินฺนํ อตฺถิ ยิฏฺํ ¶ อตฺถิ หุตํ, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อตฺถิ อยํ โลโก อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ มาตา อตฺถิ ปิตา, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. เอวํ โข, คหปตโย, ติวิธํ มนสา ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ.
‘‘เอวํ ธมฺมจริยาสมจริยาเหตุ โข, คหปตโย, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ.
๔๔๒. ‘‘อากงฺเขยฺย ¶ ¶ ¶ เจ, คหปตโย, ธมฺมจารี สมจารี – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ขตฺติยมหาสาลานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ; านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ขตฺติยมหาสาลานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส ธมฺมจารี สมจารี.
‘‘อากงฺเขยฺย เจ, คหปตโย, ธมฺมจารี สมจารี – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺราหฺมณมหาสาลานํ…เป… คหปติมหาสาลานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ; านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา คหปติมหาสาลานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส ธมฺมจารี สมจารี.
‘‘อากงฺเขยฺย เจ, คหปตโย, ธมฺมจารี สมจารี – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชย’นฺติ; านํ โข ปเนตํ ¶ วิชฺชติ, ยํ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส ธมฺมจารี สมจารี.
‘‘อากงฺเขยฺย เจ, คหปตโย, ธมฺมจารี สมจารี – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ตาวตึสานํ เทวานํ…เป… ยามานํ เทวานํ… ตุสิตานํ เทวานํ… นิมฺมานรตีนํ เทวานํ… ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ… พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ; านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส ธมฺมจารี สมจารี.
‘‘อากงฺเขยฺย เจ, คหปตโย, ธมฺมจารี สมจารี – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อาภานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ; านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อาภานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส ธมฺมจารี สมจารี.
‘‘อากงฺเขยฺย เจ, คหปตโย, ธมฺมจารี สมจารี – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปริตฺตาภานํ เทวานํ…เป… อปฺปมาณาภานํ เทวานํ… อาภสฺสรานํ เทวานํ… ปริตฺตสุภานํ ¶ เทวานํ… อปฺปมาณสุภานํ เทวานํ… สุภกิณฺหานํ เทวานํ… เวหปฺผลานํ เทวานํ… อวิหานํ ¶ เทวานํ… อตปฺปานํ เทวานํ… สุทสฺสานํ เทวานํ… สุทสฺสีนํ เทวานํ… อกนิฏฺานํ เทวานํ… อากาสานฺจายตนูปคานํ เทวานํ… วิฺาณฺจายตนูปคานํ เทวานํ ¶ … อากิฺจฺายตนูปคานํ เทวานํ… เนวสฺานาสฺายตนูปคานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ; านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา เนวสฺานาสฺายตนูปคานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส ธมฺมจารี สมจารี.
‘‘อากงฺเขยฺย เจ, คหปตโย, ธมฺมจารี สมจารี – ‘อโห วตาหํ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ; านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โส อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส ธมฺมจารี สมจารี’’ติ.
๔๔๓. เอวํ ¶ วุตฺเต, สาเลยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย, จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ. เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอเต มยํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสเก โน ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปเต [ปาณุเปตํ (ก.)] สรณํ คเต’’ติ.
สาเลยฺยกสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปมํ.
๒. เวรฺชกสุตฺตํ
๔๔๔. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน เวรฺชกา พฺราหฺมณคหปติกา สาวตฺถิยํ ปฏิวสนฺติ เกนจิเทว กรณีเยน. อสฺโสสุํ ¶ โข เวรฺชกา พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ; เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ’. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ.
อถ โข เวรฺชกา พฺราหฺมณคหปติกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อปฺเปกจฺเจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ, สมฺโมทนียํ กถํ ¶ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ ภควโต สนฺติเก ¶ นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เวรฺชกา พฺราหฺมณคหปติกา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ, โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ? โก ปน, โภ โคตม, เหตุ, โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ?
‘‘อธมฺมจริยาวิสมจริยาเหตุ โข, คหปตโย, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ. ธมฺมจริยาสมจริยาเหตุ โข, คหปตโย ¶ , เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ.
‘‘น โข มยํ อิมสฺส โภโต โคตมสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส, วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส, วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานาม. สาธุ โน ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถา มยํ อิมสฺส โภโต โคตมสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส, วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส, วิตฺถาเรน อตฺถํ ¶ อาชาเนยฺยามา’’ติ. ‘‘เตน หิ, คหปตโย, สุณาถ สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ โภ’’ติ โข เวรฺชกา พฺราหฺมณคหปติกา ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
๔๔๕. ‘‘ติวิธํ โข, คหปตโย, กาเยน อธมฺมจารี วิสมจารี โหติ, จตุพฺพิธํ วาจาย อธมฺมจารี วิสมจารี โหติ, ติวิธํ มนสา อธมฺมจารี วิสมจารี โหติ.
‘‘กถฺจ, คหปตโย ¶ , ติวิธํ กาเยน อธมฺมจารี วิสมจารี โหติ? อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ. ลุทฺโท โลหิตปาณิ หตปฺปหเต นิวิฏฺโ อทยาปนฺโน ปาณภูเตสุ. อทินฺนาทายี โข ปน โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ… ตํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ. กาเมสุมิจฺฉาจารี โข ปน โหติ. ยา ตา มาตุรกฺขิตา… ตถารูปาสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ. เอวํ โข, คหปตโย, ติวิธํ กาเยน อธมฺมจารี วิสมจารี โหติ.
‘‘กถฺจ, คหปตโย, จตุพฺพิธํ วาจาย อธมฺมจารี วิสมจารี โหติ? อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ มุสาวาที โหติ. สภาคโต วา… สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ. ปิสุณวาโจ โข ปน โหติ. อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา… วคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ. ผรุสวาโจ โข ปน โหติ. ยา สา วาจา อณฺฑกา กกฺกสา… ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ. สมฺผปฺปลาปี โข ปน โหติ. อกาลวาที… อปริยนฺตวตึ อนตฺถสํหิตํ. เอวํ โข, คหปตโย, จตุพฺพิธํ วาจาย อธมฺมจารี วิสมจารี โหติ.
‘‘กถฺจ, คหปตโย, ติวิธํ มนสา อธมฺมจารี วิสมจารี โหติ? อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ อภิชฺฌาลุ โหติ…เป… ตํ มมสฺสา’ติ. พฺยาปนฺนจิตฺโต โข ปน โหติ ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป – อิเม สตฺตา หฺนฺตุ วา… มา วา อเหสุ’นฺติ. มิจฺฉาทิฏฺิโก โข ปน ¶ โหติ วิปรีตทสฺสโน – ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ… สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. เอวํ ¶ โข, คหปตโย, ติวิธํ มนสา อธมฺมจารี วิสมจารี โหติ.
‘‘เอวํ อธมฺมจริยาวิสมจริยาเหตุ โข, คหปตโย, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ.
๔๔๖. ‘‘ติวิธํ ¶ โข, คหปตโย, กาเยน ธมฺมจารี สมจารี โหติ, จตุพฺพิธํ วาจาย ธมฺมจารี สมจารี โหติ, ติวิธํ มนสา ธมฺมจารี สมจารี โหติ.
‘‘กถฺจ, คหปตโย, ติวิธํ กาเยน ธมฺมจารี สมจารี โหติ? อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ. อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, ยํ ตํ ปรสฺส… ตํ นาทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ. กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปหาย… ตถารูปาสุ น จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ. เอวํ โข, คหปตโย, ติวิธํ กาเยน ธมฺมจารี สมจารี โหติ.
‘‘กถฺจ, คหปตโย, จตุพฺพิธํ วาจาย ธมฺมจารี สมจารี โหติ? อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ. สภาคโต วา…เป… น สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ. ปิสุณํ วาจํ ปหาย… สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ. ผรุสํ วาจํ ปหาย… ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ. สมฺผปฺปลาปํ ปหาย… กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ ¶ . เอวํ โข, คหปตโย, จตุพฺพิธํ วาจาย ธมฺมจารี สมจารี โหติ.
‘‘กถฺจ, คหปตโย, ติวิธํ มนสา ธมฺมจารี สมจารี โหติ? อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ อนภิชฺฌาลุ โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ ตํ นาภิชฺฌาตา โหติ ‘อโห วต ยํ ปรสฺส, ตํ มมสฺสา’ติ. อพฺยาปนฺนจิตฺโต โข ปน โหติ อปฺปทุฏฺมนสงฺกปฺโป – ‘อิเม สตฺตา อเวรา อพฺยาพชฺฌา อนีฆา สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’ติ. สมฺมาทิฏฺิโก โข ปน โหติ อวิปรีตทสฺสโน – ‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ยิฏฺํ… สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. เอวํ โข, คหปตโย, ติวิธํ มนสา ธมฺมจารี สมจารี โหติ.
‘‘เอวํ ¶ ธมฺมจริยาสมจริยาเหตุ โข, คหปตโย, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ.
๔๔๗. ‘‘อากงฺเขยฺย เจ, คหปตโย, ธมฺมจารี สมจารี – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ขตฺติยมหาสาลานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ ¶ ; านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ขตฺติยมหาสาลานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส ธมฺมจารี สมจารี.
‘‘อากงฺเขยฺย เจ, คหปตโย, ธมฺมจารี สมจารี – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺราหฺมณมหาสาลานํ คหปติมหาสาลานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ; านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา คหปติมหาสาลานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ ¶ ? ตถา หิ โส ธมฺมจารี สมจารี.
‘‘อากงฺเกยฺย เจ, คหปตโย, ธมฺมจารี สมจารี – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ; านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส ธมฺมจารี สมจารี.
‘‘อากงฺเขยฺย เจ, คหปตโย, ธมฺมจารี สมจารี – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ตาวตึสานํ เทวานํ… ยามานํ เทวานํ… ตุสิตานํ เทวานํ… นิมฺมานรตีนํ เทวานํ… ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ… พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ; านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส ธมฺมจารี สมจารี.
‘‘อากงฺเขยฺย เจ, คหปตโย, ธมฺมจารี สมจารี – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อาภานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ; านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อาภานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส ธมฺมจารี สมจารี.
‘‘อากงฺเขยฺย ¶ เจ, คหปตโย, ธมฺมจารี สมจารี ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปริตฺตาภานํ เทวานํ…เป… อปฺปมาณาภานํ เทวานํ… อาภสฺสรานํ เทวานํ… ปริตฺตสุภานํ เทวานํ… อปฺปมาณสุภานํ เทวานํ… สุภกิณฺหานํ เทวานํ ¶ … เวหปฺผลานํ เทวานํ… อวิหานํ เทวานํ… อตปฺปานํ เทวานํ… สุทสฺสานํ เทวานํ… สุทสฺสีนํ เทวานํ… อกนิฏฺานํ เทวานํ… อากาสานฺจายตนูปคานํ เทวานํ… วิฺาณฺจายตนูปคานํ ¶ เทวานํ… อากิฺจฺายตนูปคานํ เทวานํ… เนวสฺานาสฺายตนูปคานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ; านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา เนวสฺานาสฺายตนูปคานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส ธมฺมจารี สมจารี.
‘‘อากงฺเขยฺย เจ คหปตโย ธมฺมจารี สมจารี – ‘อโห วตาหํ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ; านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ‘ยํ โส อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส ธมฺมจารี สมจารี’’’ติ.
๔๔๘. เอวํ วุตฺเต, เวรฺชกา พฺราหฺมณคหปติกา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย, จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอเต มยํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉาม ¶ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสเก โน ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปเต สรณํ คเต’’ติ.
เวรฺชกสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทุติยํ.
๓. มหาเวทลฺลสุตฺตํ
๔๔๙. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อายสฺมา มหาโกฏฺิโก สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา มหาโกฏฺิโก อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ ¶ –
‘‘‘ทุปฺปฺโ ทุปฺปฺโ’ติ, อาวุโส, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, ทุปฺปฺโติ วุจฺจตี’’ติ?
‘‘‘นปฺปชานาติ นปฺปชานาตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา ทุปฺปฺโติ วุจฺจติ.
‘‘กิฺจ นปฺปชานาติ? ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ นปฺปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ นปฺปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ นปฺปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ นปฺปชานาติ. ‘นปฺปชานาติ นปฺปชานาตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา ทุปฺปฺโติ วุจฺจตี’’ติ.
‘‘‘สาธาวุโส’ติ โข อายสฺมา มหาโกฏฺิโก อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ –
‘‘‘ปฺวา ปฺวา’ติ, อาวุโส, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, ปฺวาติ วุจฺจตี’’ติ?
‘‘‘ปชานาติ ปชานาตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา ปฺวาติ วุจฺจติ.
‘‘กิฺจ ปชานาติ? ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ¶ ¶ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ปชานาติ. ‘ปชานาติ ปชานาตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา ปฺวาติ วุจฺจตี’’ติ.
‘‘‘วิฺาณํ วิฺาณ’นฺติ, อาวุโส, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, วิฺาณนฺติ วุจฺจตี’’ติ?
‘‘‘วิชานาติ วิชานาตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา วิฺาณนฺติ วุจฺจติ.
‘‘กิฺจ วิชานาติ? สุขนฺติปิ วิชานาติ, ทุกฺขนฺติปิ วิชานาติ, อทุกฺขมสุขนฺติปิ วิชานาติ. ‘วิชานาติ วิชานาตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา วิฺาณนฺติ วุจฺจตี’’ติ.
‘‘ยา จาวุโส, ปฺา ยฺจ วิฺาณํ – อิเม ธมฺมา สํสฏฺา อุทาหุ วิสํสฏฺา? ลพฺภา จ ปนิเมสํ ธมฺมานํ วินิพฺภุชิตฺวา [วินิพฺภุชฺชิตฺวา วินิพฺภุชฺชิตฺวา (ก.)] วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปฺาเปตุ’’นฺติ? ‘‘ยา จาวุโส, ปฺา ยฺจ วิฺาณํ – อิเม ธมฺมา สํสฏฺา, โน วิสํสฏฺา. น จ ลพฺภา อิเมสํ ธมฺมานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปฺาเปตุํ. ยํ หาวุโส [ยฺจาวุโส (สฺยา. กํ. ก.)], ปชานาติ ตํ วิชานาติ, ยํ วิชานาติ ตํ ปชานาติ. ตสฺมา ¶ อิเม ธมฺมา สํสฏฺา, โน วิสํสฏฺา. น จ ลพฺภา อิเมสํ ธมฺมานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปฺาเปตุ’’นฺติ.
‘‘ยา จาวุโส, ปฺา ยฺจ วิฺาณํ – อิเมสํ ธมฺมานํ สํสฏฺานํ โน วิสํสฏฺานํ กึ นานากรณ’’นฺติ? ‘‘ยา จาวุโส, ปฺา ยฺจ วิฺาณํ – อิเมสํ ¶ ธมฺมานํ สํสฏฺานํ โน วิสํสฏฺานํ ปฺา ภาเวตพฺพา, วิฺาณํ ปริฺเยฺยํ. อิทํ เนสํ นานากรณ’’นฺติ.
๔๕๐. ‘‘‘เวทนา เวทนา’ติ, อาวุโส, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส ¶ , เวทนาติ วุจฺจตี’’ติ?
‘‘‘เวเทติ เวเทตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา เวทนาติ วุจฺจติ.
‘‘กิฺจ ¶ เวเทติ? สุขมฺปิ เวเทติ, ทุกฺขมฺปิ เวเทติ, อทุกฺขมสุขมฺปิ เวเทติ. ‘เวเทติ เวเทตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา เวทนาติ วุจฺจตี’’ติ.
‘‘‘สฺา สฺา’ติ, อาวุโส, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, สฺาติ วุจฺจตี’’ติ?
‘‘‘สฺชานาติ สฺชานาตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา สฺาติ วุจฺจติ.
‘‘กิฺจ สฺชานาติ? นีลกมฺปิ สฺชานาติ, ปีตกมฺปิ สฺชานาติ, โลหิตกมฺปิ สฺชานาติ, โอทาตมฺปิ สฺชานาติ. ‘สฺชานาติ สฺชานาตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา สฺาติ วุจฺจตี’’ติ.
‘‘ยา จาวุโส, เวทนา ยา จ สฺา ยฺจ วิฺาณํ – อิเม ธมฺมา สํสฏฺา อุทาหุ วิสํสฏฺา? ลพฺภา จ ปนิเมสํ ธมฺมานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปฺาเปตุ’’นฺติ? ‘‘ยา จาวุโส, เวทนา ยา จ สฺา ยฺจ วิฺาณํ – อิเม ธมฺมา สํสฏฺา, โน วิสํสฏฺา. น จ ลพฺภา อิเมสํ ธมฺมานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปฺาเปตุํ. ยํ หาวุโส [ยฺจาวุโส (สฺยา. กํ. ก.)], เวเทติ ตํ สฺชานาติ, ยํ สฺชานาติ ตํ วิชานาติ. ตสฺมา อิเม ธมฺมา สํสฏฺา โน วิสํสฏฺา. น จ ลพฺภา อิเมสํ ธมฺมานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปฺาเปตุ’’นฺติ.
๔๕๑. ‘‘นิสฺสฏฺเน หาวุโส [นิสฺสฏฺเน ปนาวุโส (?)], ปฺจหิ อินฺทฺริเยหิ ปริสุทฺเธน มโนวิฺาเณน กึ เนยฺย’’นฺติ?
‘‘นิสฺสฏฺเน อาวุโส, ปฺจหิ อินฺทฺริเยหิ ปริสุทฺเธน มโนวิฺาเณน ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ ¶ เนยฺยํ, ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ เนยฺยํ, ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ เนยฺย’’นฺติ.
‘‘เนยฺยํ ปนาวุโส, ธมฺมํ เกน ปชานาตี’’ติ?
‘‘เนยฺยํ ¶ โข, อาวุโส, ธมฺมํ ปฺาจกฺขุนา ปชานาตี’’ติ.
‘‘ปฺา ปนาวุโส, กิมตฺถิยา’’ติ?
‘‘ปฺา โข, อาวุโส, อภิฺตฺถา ปริฺตฺถา ปหานตฺถา’’ติ.
๔๕๒. ‘‘กติ ¶ ¶ ปนาวุโส, ปจฺจยา สมฺมาทิฏฺิยา อุปฺปาทายา’’ติ?
‘‘ทฺเว โข, อาวุโส, ปจฺจยา สมฺมาทิฏฺิยา อุปฺปาทาย – ปรโต จ โฆโส, โยนิโส จ มนสิกาโร. อิเม โข, อาวุโส, ทฺเว ปจฺจยา สมฺมาทิฏฺิยา อุปฺปาทายา’’ติ.
‘‘กติหิ ปนาวุโส, องฺเคหิ อนุคฺคหิตา สมฺมาทิฏฺิ เจโตวิมุตฺติผลา จ โหติ เจโตวิมุตฺติผลานิสํสา จ, ปฺาวิมุตฺติผลา จ โหติ ปฺาวิมุตฺติผลานิสํสา จา’’ติ?
‘‘ปฺจหิ โข, อาวุโส, องฺเคหิ อนุคฺคหิตา สมฺมาทิฏฺิ เจโตวิมุตฺติผลา จ โหติ เจโตวิมุตฺติผลานิสํสา จ, ปฺาวิมุตฺติผลา จ โหติ ปฺาวิมุตฺติผลานิสํสา จ. อิธาวุโส, สมฺมาทิฏฺิ สีลานุคฺคหิตา จ โหติ, สุตานุคฺคหิตา จ โหติ, สากจฺฉานุคฺคหิตา จ โหติ, สมถานุคฺคหิตา จ โหติ, วิปสฺสนานุคฺคหิตา จ โหติ. อิเมหิ โข, อาวุโส, ปฺจหงฺเคหิ อนุคฺคหิตา สมฺมาทิฏฺิ เจโตวิมุตฺติผลา จ โหติ เจโตวิมุตฺติผลานิสํสา จ, ปฺาวิมุตฺติผลา จ โหติ ปฺาวิมุตฺติผลานิสํสา จา’’ติ.
‘‘ตโยเม, อาวุโส, ภวา – กามภโว ¶ , รูปภโว, อรูปภโว’’ติ.
‘‘กถํ ปนาวุโส, อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ โหตี’’ติ?
‘‘อวิชฺชานีวรณานํ ¶ โข, อาวุโส, สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ ตตฺรตตฺราภินนฺทนา – เอวํ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ โหตี’’ติ.
‘‘กถํ ปนาวุโส, อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ น โหตี’’ติ?
‘‘อวิชฺชาวิราคา โข, อาวุโส, วิชฺชุปฺปาทา ตณฺหานิโรธา – เอวํ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ น โหตี’’ติ.
๔๕๔. ‘‘กตมํ ปนาวุโส, ปมํ ฌาน’’นฺติ?
‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – อิทํ วุจฺจติ, อาวุโส, ปมํ ฌาน’’นฺติ.
‘‘ปมํ ปนาวุโส, ฌานํ กติองฺคิก’’นฺติ?
‘‘ปมํ โข, อาวุโส, ฌานํ ปฺจงฺคิกํ. อิธาวุโส, ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส ภิกฺขุโน วิตกฺโก จ วตฺตติ, วิจาโร จ ปีติ จ สุขฺจ จิตฺเตกคฺคตา จ. ปมํ โข, อาวุโส, ฌานํ เอวํ ปฺจงฺคิก’’นฺติ.
‘‘ปมํ ปนาวุโส, ฌานํ กตงฺควิปฺปหีนํ กตงฺคสมนฺนาคต’’นฺติ?
‘‘ปมํ โข, อาวุโส, ฌานํ ปฺจงฺควิปฺปหีนํ, ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ. อิธาวุโส, ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส ภิกฺขุโน กามจฺฉนฺโท ปหีโน ¶ โหติ, พฺยาปาโท ปหีโน โหติ, ถีนมิทฺธํ ปหีนํ โหติ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหีนํ ¶ โหติ, วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ; วิตกฺโก จ วตฺตติ, วิจาโร จ ปีติ จ สุขฺจ จิตฺเตกคฺคตา จ. ปมํ โข, อาวุโส, ฌานํ เอวํ ปฺจงฺควิปฺปหีนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคต’’นฺติ.
๔๕๕. ‘‘ปฺจิมานิ ¶ , อาวุโส, อินฺทฺริยานิ นานาวิสยานิ นานาโคจรานิ, น อฺมฺสฺส ¶ โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภนฺติ, เสยฺยถิทํ – จกฺขุนฺทฺริยํ, โสตินฺทฺริยํ, ฆานินฺทฺริยํ, ชิวฺหินฺทฺริยํ, กายินฺทฺริยํ. อิเมสํ โข, อาวุโส, ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ นานาวิสยานํ นานาโคจรานํ, น อฺมฺสฺส โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภนฺตานํ, กึ ปฏิสรณํ, โก จ เนสํ โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภตี’’ติ?
‘‘ปฺจิมานิ, อาวุโส, อินฺทฺริยานิ นานาวิสยานิ นานาโคจรานิ, น อฺมฺสฺส โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภนฺติ, เสยฺยถิทํ – จกฺขุนฺทฺริยํ, โสตินฺทฺริยํ, ฆานินฺทฺริยํ, ชิวฺหินฺทฺริยํ, กายินฺทฺริยํ. อิเมสํ โข, อาวุโส, ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ นานาวิสยานํ นานาโคจรานํ, น อฺมฺสฺส โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภนฺตานํ, มโน ปฏิสรณํ, มโน จ เนสํ โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภตี’’ติ.
๔๕๖. ‘‘ปฺจิมานิ, อาวุโส, อินฺทฺริยานิ, เสยฺยถิทํ – จกฺขุนฺทฺริยํ, โสตินฺทฺริยํ, ฆานินฺทฺริยํ, ชิวฺหินฺทฺริยํ, กายินฺทฺริยํ. อิมานิ โข, อาวุโส, ปฺจินฺทฺริยานิ กึ ปฏิจฺจ ติฏฺนฺตี’’ติ?
‘‘ปฺจิมานิ, อาวุโส, อินฺทฺริยานิ, เสยฺยถิทํ – จกฺขุนฺทฺริยํ, โสตินฺทฺริยํ, ฆานินฺทฺริยํ, ชิวฺหินฺทฺริยํ, กายินฺทฺริยํ. อิมานิ โข, อาวุโส, ปฺจินฺทฺริยานิ อายุํ ปฏิจฺจ ติฏฺนฺตี’’ติ.
‘‘อายุ ปนาวุโส, กึ ปฏิจฺจ ติฏฺตี’’ติ?
‘‘อายุ อุสฺมํ ปฏิจฺจ ติฏฺตี’’ติ.
‘‘อุสฺมา ปนาวุโส, กึ ปฏิจฺจ ติฏฺตี’’ติ?
‘‘อุสฺมา อายุํ ปฏิจฺจ ติฏฺตี’’ติ.
‘‘อิทาเนว โข มยํ, อาวุโส, อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ เอวํ อาชานาม – ‘อายุ ¶ อุสฺมํ ปฏิจฺจ ติฏฺตี’ติ. อิทาเนว ปน มยํ, อาวุโส, อายสฺมโต ¶ สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ เอวํ อาชานาม – ‘อุสฺมา อายุํ ปฏิจฺจ ติฏฺตี’ติ.
‘‘ยถา กถํ ปนาวุโส, อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ?
‘‘เตน หาวุโส, อุปมํ เต กริสฺสามิ; อุปมายปิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, เตลปฺปทีปสฺส ฌายโต อจฺจึ ปฏิจฺจ อาภา ปฺายติ, อาภํ ปฏิจฺจ อจฺจิ ปฺายติ; เอวเมว โข, อาวุโส, อายุ อุสฺมํ ปฏิจฺจ ติฏฺติ, อุสฺมา อายุํ ปฏิจฺจ ติฏฺตี’’ติ.
๔๕๗. ‘‘เตว ¶ นุ โข, อาวุโส, อายุสงฺขารา, เต เวทนิยา ธมฺมา อุทาหุ อฺเ อายุสงฺขารา อฺเ เวทนิยา ธมฺมา’’ติ? ‘‘น โข ¶ , อาวุโส, เตว อายุสงฺขารา เต เวทนิยา ธมฺมา. เต จ หาวุโส, อายุสงฺขารา อภวึสุ เต เวทนิยา ธมฺมา, น ยิทํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺนสฺส ภิกฺขุโน วุฏฺานํ ปฺาเยถ. ยสฺมา จ โข, อาวุโส, อฺเ อายุสงฺขารา อฺเ เวทนิยา ธมฺมา, ตสฺมา สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺนสฺส ภิกฺขุโน วุฏฺานํ ปฺายตี’’ติ.
‘‘ยทา นุ โข, อาวุโส, อิมํ กายํ กติ ธมฺมา ชหนฺติ; อถายํ กาโย อุชฺฌิโต อวกฺขิตฺโต เสติ, ยถา กฏฺํ อเจตน’’นฺติ?
‘‘ยทา โข, อาวุโส, อิมํ กายํ ตโย ธมฺมา ชหนฺติ – อายุ อุสฺมา จ วิฺาณํ; อถายํ กาโย อุชฺฌิโต อวกฺขิตฺโต เสติ, ยถา กฏฺํ อเจตน’’นฺติ.
‘‘ยฺวายํ, อาวุโส, มโต กาลงฺกโต, โย จายํ ภิกฺขุ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน – อิเมสํ กึ นานากรณ’’นฺติ?
‘‘ยฺวายํ, อาวุโส, มโต กาลงฺกโต ตสฺส กายสงฺขารา นิรุทฺธา ปฏิปฺปสฺสทฺธา ¶ , วจีสงฺขารา นิรุทฺธา ปฏิปฺปสฺสทฺธา, จิตฺตสงฺขารา นิรุทฺธา ปฏิปฺปสฺสทฺธา, อายุ ปริกฺขีโณ, อุสฺมา วูปสนฺตา, อินฺทฺริยานิ ปริภินฺนานิ. โย จายํ ภิกฺขุ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน ตสฺสปิ กายสงฺขารา นิรุทฺธา ปฏิปฺปสฺสทฺธา, วจีสงฺขารา นิรุทฺธา ปฏิปฺปสฺสทฺธา, จิตฺตสงฺขารา นิรุทฺธา ปฏิปฺปสฺสทฺธา, อายุ น ปริกฺขีโณ, อุสฺมา อวูปสนฺตา, อินฺทฺริยานิ วิปฺปสนฺนานิ. ยฺวายํ, อาวุโส, มโต กาลงฺกโต, โย จายํ ภิกฺขุ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน – อิทํ เนสํ นานากรณ’’นฺติ.
๔๕๘. ‘‘กติ ¶ ปนาวุโส, ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา’’ติ?
‘‘จตฺตาโร โข, อาวุโส, ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเม โข, อาวุโส, จตฺตาโร ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา’’ติ.
‘‘กติ ปนาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา’’ติ?
‘‘ทฺเว โข, อาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา ¶ – สพฺพนิมิตฺตานฺจ อมนสิกาโร, อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา มนสิกาโร. อิเม โข, อาวุโส, ทฺเว ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา’’ติ.
‘‘กติ ปนาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ิติยา’’ติ?
‘‘ตโย โข, อาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ¶ ิติยา ¶ – สพฺพนิมิตฺตานฺจ อมนสิกาโร, อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา มนสิกาโร, ปุพฺเพ จ อภิสงฺขาโร. อิเม โข, อาวุโส, ตโย ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ิติยา’’ติ.
‘‘กติ ปนาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา วุฏฺานายา’’ติ?
‘‘ทฺเว โข, อาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา วุฏฺานาย – สพฺพนิมิตฺตานฺจ มนสิกาโร, อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา อมนสิกาโร. อิเม โข, อาวุโส, ทฺเว ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา วุฏฺานายา’’ติ.
๔๕๙. ‘‘ยา จายํ, อาวุโส, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ, ยา จ อากิฺจฺา เจโตวิมุตฺติ, ยา จ สฺุตา เจโตวิมุตฺติ, ยา จ อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺติ – อิเม ธมฺมา นานาตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จ อุทาหุ เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ?
‘‘ยา จายํ, อาวุโส, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ, ยา จ อากิฺจฺา เจโตวิมุตฺติ, ยา จ สฺุตา เจโตวิมุตฺติ, ยา จ อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺติ – อตฺถิ โข, อาวุโส, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา นานาตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จ; อตฺถิ จ โข, อาวุโส, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา เอกตฺถา, พฺยฺชนเมว นานํ’’.
‘‘กตโม ¶ จาวุโส, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา นานาตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จ’’?
‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน ¶ เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาพชฺเฌน ผริตฺวา วิหรติ. กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ¶ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาพชฺเฌน ผริตฺวา วิหรติ. อยํ วุจฺจตาวุโส, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ’’.
‘‘กตมา จาวุโส, อากิฺจฺา เจโตวิมุตฺติ’’?
‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม นตฺถิ กิฺจีติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจตาวุโส, อากิฺจฺา เจโตวิมุตฺติ’’.
‘‘กตมา จาวุโส, สฺุตา เจโตวิมุตฺติ’’?
‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สฺุาคารคโต วา อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘สฺุมิทํ อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วา’ติ. อยํ ¶ วุจฺจตาวุโส, สฺุตา เจโตวิมุตฺติ’’.
‘‘กตมา จาวุโส, อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺติ’’?
‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพนิมิตฺตานํ อมนสิการา อนิมิตฺตํ เจโตสมาธึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจตาวุโส, อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺติ. อยํ โข, อาวุโส, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา นานาตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จ’’.
‘‘กตโม จาวุโส, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นานํ’’?
‘‘ราโค โข, อาวุโส, ปมาณกรโณ, โทโส ปมาณกรโณ, โมโห ปมาณกรโณ. เต ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ปหีนา ¶ อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. ยาวตา โข, อาวุโส, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติโย, อกุปฺปา ตาสํ เจโตวิมุตฺติ อคฺคมกฺขายติ. สา โข ปนากุปฺปา เจโตวิมุตฺติ สฺุา ราเคน, สฺุา โทเสน, สฺุา โมเหน. ราโค โข, อาวุโส, กิฺจโน, โทโส กิฺจโน, โมโห กิฺจโน. เต ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. ยาวตา โข, อาวุโส, อากิฺจฺา เจโตวิมุตฺติโย, อกุปฺปา ตาสํ เจโตวิมุตฺติ อคฺคมกฺขายติ. สา โข ปนากุปฺปา เจโตวิมุตฺติ สฺุา ราเคน, สฺุา โทเสน ¶ , สฺุา โมเหน. ราโค โข, อาวุโส, นิมิตฺตกรโณ, โทโส นิมิตฺตกรโณ, โมโห นิมิตฺตกรโณ. เต ¶ ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. ยาวตา โข, อาวุโส, อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺติโย, อกุปฺปา ตาสํ เจโตวิมุตฺติ อคฺคมกฺขายติ. สา โข ปนากุปฺปา เจโตวิมุตฺติ สฺุา ราเคน, สฺุา โทเสน, สฺุา โมเหน. อยํ โข, อาวุโส, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ.
อิทมโวจายสฺมา สาริปุตฺโต. อตฺตมโน อายสฺมา มหาโกฏฺิโก อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
มหาเวทลฺลสุตฺตํ นิฏฺิตํ ตติยํ.
๔. จูฬเวทลฺลสุตฺตํ
๔๖๐. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. อถ โข วิสาโข อุปาสโก เยน ธมฺมทินฺนา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมทินฺนํ ภิกฺขุนึ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วิสาโข อุปาสโก ธมฺมทินฺนํ ภิกฺขุนึ เอตทโวจ – ‘‘‘สกฺกาโย สกฺกาโย’ติ, อยฺเย, วุจฺจติ. กตโม นุ โข, อยฺเย, สกฺกาโย วุตฺโต ภควตา’’ติ? ‘‘ปฺจ โข อิเม, อาวุโส วิสาข, อุปาทานกฺขนฺธา สกฺกาโย วุตฺโต ภควตา, เสยฺยถิทํ – รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สฺุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ. อิเม โข, อาวุโส วิสาข, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา สกฺกาโย วุตฺโต ภควตา’’ติ.
‘‘สาธยฺเย’’ติ โข วิสาโข อุปาสโก ธมฺมทินฺนาย ภิกฺขุนิยา ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ธมฺมทินฺนํ ภิกฺขุนึ อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘‘สกฺกายสมุทโย สกฺกายสมุทโย’ติ, อยฺเย, วุจฺจติ. กตโม นุ โข, อยฺเย, สกฺกายสมุทโย วุตฺโต ภควตา’’ติ? ‘‘ยายํ, อาวุโส วิสาข, ตณฺหา โปโนพฺภวิกา นนฺทีราคสหคตา ตตฺรตตฺราภินนฺทินี, เสยฺยถิทํ – กามตณฺหา ภวตณฺหา วิภวตณฺหา; อยํ โข, อาวุโส วิสาข, สกฺกายสมุทโย วุตฺโต ภควตา’’ติ.
‘‘‘สกฺกายนิโรโธ ¶ สกฺกายนิโรโธ’ติ, อยฺเย, วุจฺจติ. กตโม นุ โข, อยฺเย, สกฺกายนิโรโธ วุตฺโต ภควตา’’ติ?
‘‘โย ¶ โข, อาวุโส วิสาข, ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ จาโค ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโย; อยํ โข, อาวุโส วิสาข, สกฺกายนิโรโธ วุตฺโต ภควตา’’ติ.
‘‘‘สกฺกายนิโรธคามินี ปฏิปทา สกฺกายนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ, อยฺเย, วุจฺจติ. กตมา นุ โข, อยฺเย, สกฺกายนิโรธคามินี ปฏิปทา วุตฺตา ภควตา’’ติ?
‘‘อยเมว โข, อาวุโส วิสาข, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สกฺกายนิโรธคามินี ปฏิปทา วุตฺตา ภควตา, เสยฺยถิทํ ¶ – สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธี’’ติ.
‘‘ตฺเว นุ โข, อยฺเย, อุปาทานํ เต [เตว (สี.)] ปฺจุปาทานกฺขนฺธา อุทาหุ อฺตฺร ปฺจหุปาทานกฺขนฺเธหิ อุปาทาน’’นฺติ? ‘‘น โข, อาวุโส วิสาข, ตฺเว อุปาทานํ เต ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, นาปิ ¶ อฺตฺร ปฺจหุปาทานกฺขนฺเธหิ อุปาทานํ. โย โข, อาวุโส วิสาข, ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฉนฺทราโค ตํ ตตฺถ อุปาทาน’’นฺติ.
๔๖๑. ‘‘กถํ ปนายฺเย, สกฺกายทิฏฺิ โหตี’’ติ? ‘‘อิธาวุโส วิสาข, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน, อริยานํ อทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส อโกวิโท อริยธมฺเม อวินีโต, สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต, รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํ. เวทนํ…เป… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, วิฺาณวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา วิฺาณํ, วิฺาณสฺมึ วา อตฺตานํ. เอวํ โข ¶ , อาวุโส วิสาข, สกฺกายทิฏฺิ โหตี’’ติ.
‘‘กถํ ปนายฺเย, สกฺกายทิฏฺิ น โหตี’’ติ?
‘‘อิธาวุโส วิสาข, สุตวา อริยสาวโก, อริยานํ ทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส โกวิโท อริยธมฺเม สุวินีโต, สปฺปุริสานํ ทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส โกวิโท สปฺปุริสธมฺเม สุวินีโต, น รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, น อตฺตนิ วา รูปํ, น รูปสฺมึ วา อตฺตานํ. น เวทนํ…เป… น สฺํ… น สงฺขาเร…เป… น วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น วิฺาณวนฺตํ วา อตฺตานํ ¶ , น อตฺตนิ วา วิฺาณํ, น วิฺาณสฺมึ วา อตฺตานํ. เอวํ โข, อาวุโส วิสาข, สกฺกายทิฏฺิ น โหตี’’ติ.
๔๖๒. ‘‘กตโม ปนายฺเย, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ?
‘‘อยเมว โข, อาวุโส วิสาข, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต ¶ สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธี’’ติ. ‘‘อริโย ปนายฺเย, อฏฺงฺคิโก มคฺโค สงฺขโต อุทาหุ อสงฺขโต’’ติ?
‘‘อริโย โข, อาวุโส วิสาข, อฏฺงฺคิโก มคฺโค สงฺขโต’’ติ ¶ .
‘‘อริเยน นุ โข, อยฺเย, อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน ตโย ขนฺธา สงฺคหิตา อุทาหุ ตีหิ ขนฺเธหิ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สงฺคหิโต’’ติ?
‘‘น โข, อาวุโส วิสาข, อริเยน อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน ตโย ขนฺธา สงฺคหิตา; ตีหิ จ โข, อาวุโส วิสาข, ขนฺเธหิ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สงฺคหิโต. ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาวาจา โย จ สมฺมากมฺมนฺโต โย จ สมฺมาอาชีโว อิเม ธมฺมา ¶ สีลกฺขนฺเธ สงฺคหิตา. โย จ สมฺมาวายาโม ยา จ สมฺมาสติ โย จ สมฺมาสมาธิ อิเม ธมฺมา สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตา. ยา จ สมฺมาทิฏฺิ โย จ สมฺมาสงฺกปฺโป, อิเม ธมฺมา ปฺากฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ.
‘‘กตโม ปนายฺเย, สมาธิ, กตเม ธมฺมา สมาธินิมิตฺตา, กตเม ธมฺมา สมาธิปริกฺขารา, กตมา สมาธิภาวนา’’ติ?
‘‘ยา โข, อาวุโส วิสาข, จิตฺตสฺส เอกคฺคตา อยํ สมาธิ; จตฺตาโร สติปฏฺานา สมาธินิมิตฺตา; จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา สมาธิปริกฺขารา. ยา เตสํเยว ธมฺมานํ อาเสวนา ภาวนา พหุลีกมฺมํ, อยํ เอตฺถ สมาธิภาวนา’’ติ.
๔๖๓. ‘‘กติ ปนายฺเย, สงฺขารา’’ติ?
‘‘ตโยเม, อาวุโส วิสาข, สงฺขารา – กายสงฺขาโร, วจีสงฺขาโร, จิตฺตสงฺขาโร’’ติ.
‘‘กตโม ปนายฺเย, กายสงฺขาโร, กตโม วจีสงฺขาโร, กตโม จิตฺตสงฺขาโร’’ติ?
‘‘อสฺสาสปสฺสาสา โข, อาวุโส วิสาข, กายสงฺขาโร, วิตกฺกวิจารา วจีสงฺขาโร, สฺา จ เวทนา จ จิตฺตสงฺขาโร’’ติ.
‘‘กสฺมา ปนายฺเย, อสฺสาสปสฺสาสา กายสงฺขาโร, กสฺมา วิตกฺกวิจารา วจีสงฺขาโร, กสฺมา สฺา จ เวทนา จ จิตฺตสงฺขาโร’’ติ?
‘‘อสฺสาสปสฺสาสา โข, อาวุโส ¶ วิสาข, กายิกา เอเต ธมฺมา กายปฺปฏิพทฺธา, ตสฺมา อสฺสาสปสฺสาสา กายสงฺขาโร. ปุพฺเพ โข, อาวุโส วิสาข, วิตกฺเกตฺวา วิจาเรตฺวา ปจฺฉา วาจํ ภินฺทติ, ตสฺมา วิตกฺกวิจารา วจีสงฺขาโร. สฺา จ เวทนา จ เจตสิกา เอเต ธมฺมา ¶ จิตฺตปฺปฏิพทฺธา, ตสฺมา สฺา จ เวทนา จ จิตฺตสงฺขาโร’’ติ.
๔๖๔. ‘‘กถํ ¶ ปนายฺเย, สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติ โหตี’’ติ?
‘‘น โข, อาวุโส วิสาข, สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชนฺตสฺส ภิกฺขุโน เอวํ โหติ – ‘อหํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชิสฺส’นฺติ วา, ‘อหํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชามี’ติ วา, ‘อหํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน’ติ วา. อถ ขฺวาสฺส ปุพฺเพว ตถา จิตฺตํ ภาวิตํ โหติ ยํ ตํ ตถตฺตาย อุปเนตี’’ติ.
‘‘สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชนฺตสฺส ¶ ปนายฺเย, ภิกฺขุโน กตเม ธมฺมา ปมํ นิรุชฺฌนฺติ – ยทิ วา กายสงฺขาโร, ยทิ วา วจีสงฺขาโร, ยทิ วา จิตฺตสงฺขาโร’’ติ? ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชนฺตสฺส โข, อาวุโส วิสาข, ภิกฺขุโน ปมํ นิรุชฺฌติ วจีสงฺขาโร, ตโต กายสงฺขาโร, ตโต จิตฺตสงฺขาโร’’ติ.
‘‘กถํ ปนายฺเย, สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺานํ โหตี’’ติ?
‘‘น โข, อาวุโส วิสาข, สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺหนฺตสฺส ภิกฺขุโน เอวํ โหติ – ‘อหํ สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺหิสฺส’นฺติ วา, ‘อหํ สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺหามี’ติ วา, ‘อหํ สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺิโต’ติ วา. อถ ขฺวาสฺส ปุพฺเพว ตถา จิตฺตํ ภาวิตํ โหติ ยํ ตํ ตถตฺตาย อุปเนตี’’ติ.
‘‘สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺหนฺตสฺส ปนายฺเย, ภิกฺขุโน กตเม ธมฺมา ปมํ อุปฺปชฺชนฺติ – ยทิ วา กายสงฺขาโร, ยทิ วา วจีสงฺขาโร, ยทิ ¶ วา จิตฺตสงฺขาโร’’ติ? ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺหนฺตสฺส โข, อาวุโส วิสาข, ภิกฺขุโน ปมํ อุปฺปชฺชติ จิตฺตสงฺขาโร, ตโต กายสงฺขาโร, ตโต วจีสงฺขาโร’’ติ.
‘‘สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺิตํ ปนายฺเย, ภิกฺขุํ กติ ผสฺสา ผุสนฺตี’’ติ? ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺิตํ โข, อาวุโส ¶ วิสาข, ภิกฺขุํ ตโย ผสฺสา ผุสนฺติ – สฺุโต ผสฺโส, อนิมิตฺโต ผสฺโส, อปฺปณิหิโต ผสฺโส’’ติ.
‘‘สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺิตสฺส ปนายฺเย, ภิกฺขุโน กึนินฺนํ จิตฺตํ โหติ กึโปณํ กึปพฺภาร’’นฺติ? ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺิตสฺส โข, อาวุโส วิสาข, ภิกฺขุโน วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหติ, วิเวกโปณํ วิเวกปพฺภาร’’นฺติ.
๔๖๕. ‘‘กติ ¶ ปนายฺเย, เวทนา’’ติ?
‘‘ติสฺโส โข อิมา, อาวุโส วิสาข, เวทนา – สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติ.
‘‘กตมา ปนายฺเย, สุขา เวทนา, กตมา ทุกฺขา เวทนา, กตมา อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติ?
‘‘ยํ โข, อาวุโส วิสาข, กายิกํ วา เจตสิกํ วา สุขํ สาตํ เวทยิตํ – อยํ สุขา เวทนา. ยํ โข, อาวุโส วิสาข, กายิกํ วา เจตสิกํ วา ทุกฺขํ อสาตํ เวทยิตํ – อยํ ทุกฺขา เวทนา. ยํ โข, อาวุโส วิสาข, กายิกํ วา เจตสิกํ วา เนว สาตํ นาสาตํ เวทยิตํ – อยํ อทุกฺขมสุขา ¶ เวทนา’’ติ.
‘‘สุขา ปนายฺเย, เวทนา กึสุขา กึทุกฺขา, ทุกฺขา เวทนา กึสุขา กึทุกฺขา, อทุกฺขมสุขา เวทนา กึสุขา กึทุกฺขา’’ติ?
‘‘สุขา โข, อาวุโส วิสาข, เวทนา ิติสุขา วิปริณามทุกฺขา; ทุกฺขา เวทนา ิติทุกฺขา วิปริณามสุขา ¶ ; อทุกฺขมสุขา เวทนา าณสุขา อฺาณทุกฺขา’’ติ.
‘‘สุขาย ปนายฺเย, เวทนาย กึ อนุสโย อนุเสติ, ทุกฺขาย เวทนาย กึ อนุสโย อนุเสติ, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย กึ อนุสโย อนุเสตี’’ติ?
‘‘สุขาย โข, อาวุโส วิสาข, เวทนาย ราคานุสโย อนุเสติ, ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย อนุเสติ, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสโย อนุเสตี’’ติ.
‘‘สพฺพาย นุ โข, อยฺเย, สุขาย เวทนาย ราคานุสโย อนุเสติ, สพฺพาย ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย อนุเสติ, สพฺพาย อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสโย อนุเสตี’’ติ?
‘‘น โข, อาวุโส วิสาข, สพฺพาย สุขาย เวทนาย ราคานุสโย อนุเสติ, น สพฺพาย ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย อนุเสติ, น สพฺพาย อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสโย อนุเสตี’’ติ.
‘‘สุขาย ¶ ปนายฺเย, เวทนาย กึ ปหาตพฺพํ, ทุกฺขาย เวทนาย กึ ปหาตพฺพํ, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย กึ ปหาตพฺพ’’นฺติ?
‘‘สุขาย โข, อาวุโส วิสาข, เวทนาย ราคานุสโย ปหาตพฺโพ, ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย ปหาตพฺโพ, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสโย ปหาตพฺโพ’’ติ.
‘‘สพฺพาย ¶ นุ โข, อยฺเย, สุขาย เวทนาย ราคานุสโย ปหาตพฺโพ, สพฺพาย ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย ปหาตพฺโพ, สพฺพาย อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสโย ปหาตพฺโพ’’ติ?
‘‘น โข, อาวุโส วิสาข, สพฺพาย สุขาย เวทนาย ราคานุสโย ปหาตพฺโพ, น สพฺพาย ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย ปหาตพฺโพ ¶ , น สพฺพาย อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสโย ปหาตพฺโพ. อิธาวุโส วิสาข, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ราคํ เตน ปชหติ, น ตตฺถ ราคานุสโย อนุเสติ. อิธาวุโส วิสาข, ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘กุทาสฺสุ นามาหํ ตทายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามิ ยทริยา เอตรหิ อายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’ติ? อิติ อนุตฺตเรสุ วิโมกฺเขสุ ปิหํ อุปฏฺาปยโต ¶ อุปฺปชฺชติ ปิหาปฺปจฺจยา โทมนสฺสํ. ปฏิฆํ เตน ปชหติ, น ตตฺถ ปฏิฆานุสโย อนุเสติ. อิธาวุโส วิสาข, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา, ทุกฺขสฺส จ ปหานา, ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา, อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อวิชฺชํ เตน ปชหติ, น ตตฺถ อวิชฺชานุสโย อนุเสตี’’ติ.
๔๖๖. ‘‘สุขาย ปนายฺเย, เวทนาย กึ ปฏิภาโค’’ติ?
‘‘สุขาย โข, อาวุโส วิสาข, เวทนาย ทุกฺขา เวทนา ปฏิภาโค’’ติ.
‘‘ทุกฺขาย ปนฺนายฺเย, เวทนาย กึ ปฏิภาโค’’ติ?
‘‘ทุกฺขาย โข, อาวุโส วิสาข, เวทนาย สุขา เวทนา ปฏิภาโค’’ติ.
‘‘อทุกฺขมสุขาย ปนายฺเย, เวทนาย กึ ปฏิภาโค’’ติ?
‘‘อทุกฺขมสุขาย โข, อาวุโส วิสาข, เวทนาย อวิชฺชา ปฏิภาโค’’ติ.
‘‘อวิชฺชาย ปนายฺเย, กึ ปฏิภาโค’’ติ?
‘‘อวิชฺชาย โข, อาวุโส วิสาข, วิชฺชา ปฏิภาโค’’ติ.
‘‘วิชฺชาย ปนายฺเย, กึ ปฏิภาโค’’ติ?
‘‘วิชฺชาย โข, อาวุโส วิสาข, วิมุตฺติ ปฏิภาโค’’ติ.
‘‘วิมุตฺติยา ปนายฺเย ¶ , กึ ปฏิภาโค’’ติ?
‘‘วิมุตฺติยา โข, อาวุโส วิสาข, นิพฺพานํ ปฏิภาโค’’ติ.
‘‘นิพฺพานสฺส ปนายฺเย, กึ ปฏิภาโค’’ติ? ‘‘อจฺจยาสิ, อาวุโส [อจฺจสราวุโส (สี. ปี.), อจฺจสฺสราวุโส (สฺยา. กํ.)] วิสาข, ปฺหํ, นาสกฺขิ ปฺหานํ ปริยนฺตํ คเหตุํ. นิพฺพาโนคธฺหิ, อาวุโส วิสาข, พฺรหฺมจริยํ, นิพฺพานปรายนํ นิพฺพานปริโยสานํ. อากงฺขมาโน จ ตฺวํ, อาวุโส วิสาข, ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปุจฺเฉยฺยาสิ, ยถา จ เต ภควา พฺยากโรติ ตถา นํ ธาเรยฺยาสี’’ติ.
๔๖๗. อถ โข วิสาโข อุปาสโก ธมฺมทินฺนาย ภิกฺขุนิยา ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ธมฺมทินฺนํ ภิกฺขุนึ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วิสาโข อุปาสโก ยาวตโก อโหสิ ธมฺมทินฺนาย ภิกฺขุนิยา สทฺธึ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสิ. เอวํ วุตฺเต, ภควา วิสาขํ อุปาสกํ เอตทโวจ – ‘‘ปณฺฑิตา, วิสาข, ธมฺมทินฺนา ภิกฺขุนี, มหาปฺา, วิสาข, ธมฺมทินฺนา ภิกฺขุนี. มํ เจปิ ตฺวํ, วิสาข, เอตมตฺถํ ปุจฺเฉยฺยาสิ, อหมฺปิ ตํ เอวเมวํ พฺยากเรยฺยํ, ยถา ¶ ตํ ธมฺมทินฺนาย ภิกฺขุนิยา พฺยากตํ. เอโส เจเวตสฺส [เอโสเวตสฺส (สฺยา. กํ.)] อตฺโถ. เอวฺจ นํ [เอวเมตํ (สี. สฺยา. กํ.)] ธาเรหี’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน วิสาโข อุปาสโก ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
จูฬเวทลฺลสุตฺตํ นิฏฺิตํ จตุตฺถํ.
๕. จูฬธมฺมสมาทานสุตฺตํ
๔๖๘. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ อายตึ ทุกฺขวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว ¶ , ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขฺเจว อายติฺจ ทุกฺขวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขํ อายตึ สุขวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขฺเจว อายติฺจ สุขวิปากํ’’.
๔๖๙. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ อายตึ ทุกฺขวิปากํ? สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘นตฺถิ กาเมสุ โทโส’ติ. เต กาเมสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชนฺติ. เต โข โมฬิพทฺธาหิ [โมฬิพนฺธาหิ (สฺยา. กํ. ก.)] ปริพฺพาชิกาหิ ปริจาเรนฺติ. เต เอวมาหํสุ – ‘กึสุ นาม เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กาเมสุ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมานา กามานํ ปหานมาหํสุ, กามานํ ปริฺํ ปฺเปนฺติ? สุโข อิมิสฺสา ปริพฺพาชิกาย ตรุณาย มุทุกาย โลมสาย พาหาย สมฺผสฺโส’ติ เต กาเมสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชนฺติ. เต กาเมสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ¶ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ. เต ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวทยนฺติ. เต เอวมาหํสุ – ‘อิทํ โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กาเมสุ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมานา กามานํ ปหานมาหํสุ, กามานํ ปริฺํ ปฺเปนฺติ, อิเม หิ มยํ กามเหตุ กามนิทานํ ¶ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวทยามา’ติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส มาลุวาสิปาฏิกา ผเลยฺย. อถ โข ตํ, ภิกฺขเว, มาลุวาพีชํ อฺตรสฺมึ สาลมูเล นิปเตยฺย. อถ โข, ภิกฺขเว, ยา ตสฺมึ สาเล อธิวตฺถา เทวตา สา ภีตา สํวิคฺคา สนฺตาสํ อาปชฺเชยฺย. อถ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมึ สาเล อธิวตฺถาย เทวตาย มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา อารามเทวตา วนเทวตา รุกฺขเทวตา โอสธิติณวนปฺปตีสุ อธิวตฺถา เทวตา สงฺคมฺม สมาคมฺม เอวํ สมสฺสาเสยฺยุํ – ‘มา ภวํ ภายิ, มา ภวํ ภายิ; อปฺเปว นาเมตํ มาลุวาพีชํ ¶ โมโร วา คิเลยฺย [โมโร วา คิเลยฺย, โคธา วา ขาเทยฺย (ก.)], มโค วา ขาเทยฺย, ทวฑาโห [วนทาโห (ก.)] วา ฑเหยฺย, วนกมฺมิกา วา อุทฺธเรยฺยุํ, อุปจิกา วา อุฏฺเหยฺยุํ [อุทฺรเภยฺยุํ (สี. ปี. ก.)], อพีชํ วา ปนสฺสา’ติ. อถ โข ตํ, ภิกฺขเว, มาลุวาพีชํ เนว โมโร คิเลยฺย, น มโค ขาเทยฺย, น ทวฑาโห ฑเหยฺย, น วนกมฺมิกา อุทฺธเรยฺยุํ, น อุปจิกา อุฏฺเหยฺยุํ, พีชฺจ ปนสฺส ตํ ปาวุสฺสเกน เมเฆน อภิปฺปวุฏฺํ ¶ สมฺมเทว วิรุเหยฺย. สาสฺส มาลุวาลตา ตรุณา มุทุกา โลมสา วิลมฺพินี, สา ตํ สาลํ อุปนิเสเวยฺย. อถ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมึ สาเล อธิวตฺถาย เทวตาย เอวมสฺส – ‘กึสุ นาม เต ¶ โภนฺโต มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา อารามเทวตา วนเทวตา รุกฺขเทวตา โอสธิติณวนปฺปตีสุ อธิวตฺถา เทวตา มาลุวาพีเช อนาคตภยํ สมฺปสฺสมานา สงฺคมฺม สมาคมฺม เอวํ สมสฺสาเสสุํ [สมสฺสาเสยฺยุํ (ก.)] – ‘‘มา ภวํ ภายิ มา ภวํ ภายิ, อปฺเปว นาเมตํ มาลุวาพีชํ โมโร วา คิเลยฺย, มโค วา ขาเทยฺย, ทวฑาโห วา ฑเหยฺย, วนกมฺมิกา วา อุทฺธเรยฺยุํ, อุปจิกา วา อุฏฺเหยฺยุํ, อพีชํ วา ปนสฺสา’’ติ; สุโข อิมิสฺสา มาลุวาลตาย ตรุณาย มุทุกาย โลมสาย วิลมฺพินิยา สมฺผสฺโส’ติ. สา ตํ สาลํ อนุปริหเรยฺย. สา ตํ สาลํ อนุปริหริตฺวา อุปริ วิฏภึ [วิฏปํ (สฺยา. ฏฺ.)] กเรยฺย. อุปริ วิฏภึ กริตฺวา โอฆนํ ชเนยฺย. โอฆนํ ชเนตฺวา เย ตสฺส สาลสฺส มหนฺตา มหนฺตา ขนฺธา เต ปทาเลยฺย. อถ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมึ สาเล อธิวตฺถาย เทวตาย เอวมสฺส – ‘อิทํ โข เต โภนฺโต มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา อารามเทวตา วนเทวตา รุกฺขเทวตา โอสธิติณวนปฺปตีสุ อธิวตฺถา เทวตา มาลุวาพีเช อนาคตภยํ สมฺปสฺสมานา สงฺคมฺม สมาคมฺม เอวํ สมสฺสาเสสุํ [สมสฺสาเสยฺยุํ (ก.)] – ‘‘มา ภวํ ภายิ มา ภวํ ภายิ, อปฺเปว นาเมตํ มาลุวาพีชํ โมโร วา คิเลยฺย, มโค ¶ วา ขาเทยฺย, ทวฑาโห วา ฑเหยฺย, วนกมฺมิกา วา อุทฺธเรยฺยุํ, อุปจิกา วา อุฏฺเหยฺยุํ อพีชํ วา ปนสฺสา’’ติ. ยฺจาหํ [ยํ วาหํ (ก.), สฺวาหํ (สฺยา. กํ.)] มาลุวาพีชเหตุ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวทยามี’ติ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, สนฺติ เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน ‘นตฺถิ กาเมสุ โทโส’ติ ¶ . เต กาเมสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชนฺติ. เต โมฬิพทฺธาหิ ปริพฺพาชิกาหิ ปริจาเรนฺติ. เต เอวมาหํสุ – ‘กึสุ นาม เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กาเมสุ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมานา กามานํ ปหานมาหํสุ, กามานํ ปริฺํ ปฺเปนฺติ? สุโข อิมิสฺสา ปริพฺพาชิกาย ตรุณาย มุทุกาย โลมสาย พาหาย สมฺผสฺโส’ติ. เต กาเมสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชนฺติ. เต กาเมสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ. เต ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา ¶ กฏุกา เวทนา เวทยนฺติ. เต เอวมาหํสุ – ‘อิทํ โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กาเมสุ อนาคตภยํ สมฺปสฺสมานา กามานํ ปหานมาหํสุ, กามานํ ปริฺํ ปฺเปนฺติ. อิเม หิ ¶ มยํ กามเหตุ กามนิทานํ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวทยามา’ติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ อายตึ ทุกฺขวิปากํ.
๔๗๐. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขฺเจว อายติฺจ ทุกฺขวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อเจลโก โหติ มุตฺตาจาโร หตฺถาปเลขโน, นเอหิภทฺทนฺติโก, นติฏฺภทฺทนฺติโก, นาภิหฏํ, น อุทฺทิสฺสกตํ, น นิมนฺตนํ สาทิยติ, โส น กุมฺภิมุขา ปฏิคฺคณฺหาติ, น กโฬปิมุขา ปฏิคฺคณฺหาติ, น เอฬกมนฺตรํ, น ทณฺฑมนฺตรํ, น มุสลมนฺตรํ, น ทฺวินฺนํ ภฺุชมานานํ, น คพฺภินิยา, น ปายมานาย, น ปุริสนฺตรคตาย, น สงฺกิตฺตีสุ, น ยตฺถ สา อุปฏฺิโต ¶ โหติ, น ยตฺถ มกฺขิกา สณฺฑสณฺฑจารินี, น มจฺฉํ, น มํสํ, น สุรํ, น เมรยํ, น ถุโสทกํ ปิวติ. โส เอกาคาริโก วา โหติ เอกาโลปิโก, ทฺวาคาริโก วา โหติ ทฺวาโลปิโก…เป… สตฺตาคาริโก วา โหติ สตฺตาโลปิโก. เอกิสฺสาปิ ทตฺติยา ยาเปติ, ทฺวีหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ… สตฺตหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ. เอกาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ, ทฺวีหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ… สตฺตาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ. อิติ เอวรูปํ อทฺธมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. โส สากภกฺโข วา โหติ ¶ , สามากภกฺโข วา โหติ, นีวารภกฺโข วา โหติ, ททฺทุลภกฺโข วา โหติ, หฏภกฺโข วา โหติ, กณภกฺโข วา โหติ, อาจามภกฺโข วา โหติ, ปิฺากภกฺโข วา โหติ, ติณภกฺโข วา โหติ, โคมยภกฺโข วา โหติ, วนมูลผลาหาโร ยาเปติ ปวตฺตผลโภชี. โส สาณานิปิ ธาเรติ, มสาณานิปิ ธาเรติ, ฉวทุสฺสานิปิ ธาเรติ, ปํสุกูลานิปิ ธาเรติ, ติรีฏานิปิ ธาเรติ, อชินมฺปิ ธาเรติ, อชินกฺขิปมฺปิ ธาเรติ, กุสจีรมฺปิ ธาเรติ, วากจีรมฺปิ ธาเรติ, ผลกจีรมฺปิ ธาเรติ, เกสกมฺพลมฺปิ ธาเรติ, วาฬกมฺพลมฺปิ ธาเรติ, อุลูกปกฺขมฺปิ ธาเรติ, เกสมสฺสุโลจโกปิ โหติ, เกสมสฺสุโลจนานุโยคมนุยุตฺโต, อุพฺภฏฺโกปิ โหติ, อาสนปฏิกฺขิตฺโต, อุกฺกุฏิโกปิ โหติ อุกฺกุฏิกปฺปธานมนุยุตฺโต, กณฺฏกาปสฺสยิโกปิ โหติ, กณฺฏกาปสฺสเย เสยฺยํ ¶ กปฺเปติ [ปสฺส ม. นิ. ๑.๑๕๕ มหาสีหนาทสุตฺเต], สายตติยกมฺปิ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. อิติ เอวรูปํ อเนกวิหิตํ กายสฺส อาตาปนปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ ¶ . โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขฺเจว อายติฺจ ทุกฺขวิปากํ.
๔๗๑. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขํ อายตึ สุขวิปากํ? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปกติยา ติพฺพราคชาติโก โหติ, โส อภิกฺขณํ ราคชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; ปกติยา ติพฺพโทสชาติโก โหติ, โส อภิกฺขณํ โทสชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; ปกติยา ติพฺพโมหชาติโก โหติ, โส อภิกฺขณํ โมหชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. โส สหาปิ ทุกฺเขน, สหาปิ โทมนสฺเสน, อสฺสุมุโขปิ รุทมาโน ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขํ อายตึ สุขวิปากํ.
๔๗๒. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขฺเจว อายติฺจ สุขวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปกติยา น ติพฺพราคชาติโก โหติ, โส น อภิกฺขณํ ราคชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; ปกติยา น ติพฺพโทสชาติโก โหติ, โส น อภิกฺขณํ โทสชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; ปกติยา น ติพฺพโมหชาติโก โหติ ¶ , โส น อภิกฺขณํ โมหชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. โส วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ¶ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขฺเจว อายติฺจ สุขวิปากํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ธมฺมสมาทานานี’’ติ.
อิทมโวจ ¶ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
จูฬธมฺมสมาทานสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปฺจมํ.
๖. มหาธมฺมสมาทานสุตฺตํ
๔๗๓. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว, สตฺตา เอวํกามา เอวํฉนฺทา เอวํอธิปฺปายา – ‘อโห วต อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา ธมฺมา ปริหาเยยฺยุํ, อิฏฺา กนฺตา มนาปา ธมฺมา อภิวฑฺเฒยฺยุ’นฺติ. เตสํ, ภิกฺขเว, สตฺตานํ เอวํกามานํ เอวํฉนฺทานํ เอวํอธิปฺปายานํ อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, อิฏฺา กนฺตา มนาปา ธมฺมา ปริหายนฺติ. ตตฺร ตุมฺเห, ภิกฺขเว, กํ เหตุํ ปจฺเจถา’’ติ? ‘‘ภควํมูลกา ¶ โน, ภนฺเต, ธมฺมา, ภควํเนตฺติกา, ภควํปฏิสรณา. สาธุ วต, ภนฺเต, ภควนฺตฺเว ปฏิภาตุ เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ; ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
๔๗๔. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน, อริยานํ อทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส อโกวิโท อริยธมฺเม อวินีโต, สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต, เสวิตพฺเพ ธมฺเม น ชานาติ อเสวิตพฺเพ ธมฺเม น ชานาติ, ภชิตพฺเพ ¶ ธมฺเม น ชานาติ อภชิตพฺเพ ธมฺเม น ชานาติ. โส เสวิตพฺเพ ธมฺเม อชานนฺโต อเสวิตพฺเพ ธมฺเม อชานนฺโต, ภชิตพฺเพ ธมฺเม อชานนฺโต อภชิตพฺเพ ธมฺเม อชานนฺโต, อเสวิตพฺเพ ธมฺเม เสวติ เสวิตพฺเพ ธมฺเม น เสวติ, อภชิตพฺเพ ธมฺเม ภชติ ภชิตพฺเพ ธมฺเม น ภชติ. ตสฺส อเสวิตพฺเพ ธมฺเม เสวโต เสวิตพฺเพ ธมฺเม อเสวโต, อภชิตพฺเพ ธมฺเม ภชโต ภชิตพฺเพ ธมฺเม อภชโต อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา ธมฺมา ¶ อภิวฑฺฒนฺติ, อิฏฺา กนฺตา มนาปา ธมฺมา ปริหายนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, ภิกฺขเว, โหติ ยถา ตํ อวิทฺทสุโน.
‘‘สุตวา จ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก, อริยานํ ทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส โกวิโท อริยธมฺเม ¶ สุวินีโต, สปฺปุริสานํ ทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส โกวิโท สปฺปุริสธมฺเม สุวินีโต, เสวิตพฺเพ ธมฺเม ชานาติ อเสวิตพฺเพ ธมฺเม ชานาติ, ภชิตพฺเพ ธมฺเม ชานาติ อภชิตพฺเพ ธมฺเม ชานาติ. โส เสวิตพฺเพ ธมฺเม ชานนฺโต อเสวิตพฺเพ ธมฺเม ชานนฺโต, ภชิตพฺเพ ธมฺเม ชานนฺโต อภชิตพฺเพ ธมฺเม ชานนฺโต, อเสวิตพฺเพ ธมฺเม น เสวติ เสวิตพฺเพ ธมฺเม เสวติ, อภชิตพฺเพ ธมฺเม น ภชติ ภชิตพฺเพ ธมฺเม ภชติ. ตสฺส อเสวิตพฺเพ ธมฺเม อเสวโต เสวิตพฺเพ ธมฺเม เสวโต, อภชิตพฺเพ ธมฺเม อภชโต ภชิตพฺเพ ธมฺเม ภชโต, อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา ธมฺมา ปริหายนฺติ, อิฏฺา กนฺตา มนาปา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. ตํ ¶ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, ภิกฺขเว, โหติ ยถา ตํ วิทฺทสุโน.
๔๗๕. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขฺเจว อายติฺจ ทุกฺขวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ¶ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ อายตึ ทุกฺขวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขํ อายตึ สุขวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขฺเจว อายติฺจ สุขวิปากํ.
๔๗๖. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ [ยทิทํ (สี.)] ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขฺเจว อายติฺจ ทุกฺขวิปากํ, ตํ อวิทฺวา อวิชฺชาคโต ยถาภูตํ นปฺปชานาติ – ‘อิทํ โข ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขฺเจว อายติฺจ ทุกฺขวิปาก’นฺติ. ตํ อวิทฺวา อวิชฺชาคโต ยถาภูตํ อปฺปชานนฺโต ตํ เสวติ, ตํ น ปริวชฺเชติ. ตสฺส ตํ เสวโต, ตํ อปริวชฺชยโต, อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, อิฏฺา กนฺตา มนาปา ธมฺมา ปริหายนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, ภิกฺขเว, โหติ ยถา ตํ อวิทฺทสุโน.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ อายตึ ทุกฺขวิปากํ ตํ อวิทฺวา อวิชฺชาคโต ยถาภูตํ นปฺปชานาติ – ‘อิทํ โข ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ ¶ อายตึ ทุกฺขวิปาก’นฺติ. ตํ อวิทฺวา อวิชฺชาคโต ยถาภูตํ อปฺปชานนฺโต ตํ เสวติ, ตํ น ปริวชฺเชติ. ตสฺส ตํ เสวโต, ตํ ¶ อปริวชฺชยโต, อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, อิฏฺา กนฺตา มนาปา ธมฺมา ปริหายนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, ภิกฺขเว, โหติ ยถา ตํ อวิทฺทสุโน.
‘‘ตตฺร ¶ , ภิกฺขเว, ยมิทํ ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขํ อายตึ สุขวิปากํ, ตํ อวิทฺวา อวิชฺชาคโต ยถาภูตํ นปฺปชานาติ – ‘อิทํ โข ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขํ อายตึ สุขวิปาก’นฺติ. ตํ อวิทฺวา อวิชฺชาคโต ยถาภูตํ อปฺปชานนฺโต ตํ น เสวติ, ตํ ปริวชฺเชติ. ตสฺส ตํ อเสวโต, ตํ ปริวชฺชยโต, อนิฏฺา ¶ อกนฺตา อมนาปา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, อิฏฺา กนฺตา มนาปา ธมฺมา ปริหายนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, ภิกฺขเว, โหติ ยถา ตํ อวิทฺทสุโน.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขฺเจว อายติฺจ สุขวิปากํ, ตํ อวิทฺวา อวิชฺชาคโต ยถาภูตํ นปฺปชานาติ – ‘อิทํ โข ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขฺเจว อายติฺจ สุขวิปาก’นฺติ. ตํ อวิทฺวา อวิชฺชาคโต ยถาภูตํ อปฺปชานนฺโต ตํ น เสวติ, ตํ ปริวชฺเชติ. ตสฺส ตํ อเสวโต, ตํ ปริวชฺชยโต, อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, อิฏฺา กนฺตา มนาปา ธมฺมา ปริหายนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, ภิกฺขเว, โหติ ยถา ตํ อวิทฺทสุโน.
๔๗๗. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขฺเจว อายติฺจ ทุกฺขวิปากํ ตํ วิทฺวา วิชฺชาคโต ยถาภูตํ ปชานาติ – ‘อิทํ ¶ โข ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขฺเจว อายติฺจ ทุกฺขวิปาก’นฺติ. ตํ วิทฺวา วิชฺชาคโต ยถาภูตํ ปชานนฺโต ตํ น เสวติ, ตํ ปริวชฺเชติ. ตสฺส ตํ อเสวโต, ตํ ปริวชฺชยโต, อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา ธมฺมา ปริหายนฺติ, อิฏฺา กนฺตา มนาปา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, ภิกฺขเว, โหติ ยถา ตํ วิทฺทสุโน.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ อายตึ ทุกฺขวิปากํ ตํ วิทฺวา วิชฺชาคโต ยถาภูตํ ปชานาติ – ‘อิทํ โข ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ อายตึ ทุกฺขวิปาก’นฺติ. ตํ วิทฺวา วิชฺชาคโต ยถาภูตํ ปชานนฺโต ตํ น เสวติ, ตํ ปริวชฺเชติ. ตสฺส ตํ อเสวโต, ตํ ปริวชฺชยโต ¶ , อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา ธมฺมา ปริหายนฺติ, อิฏฺา กนฺตา มนาปา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, ภิกฺขเว, โหติ ยถา ตํ วิทฺทสุโน.
‘‘ตตฺร ¶ , ภิกฺขเว, ยมิทํ ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขํ อายตึ สุขวิปากํ ตํ วิทฺวา วิชฺชาคโต ยถาภูตํ ปชานาติ – ‘อิทํ โข ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขํ อายตึ สุขวิปาก’นฺติ. ตํ วิทฺวา วิชฺชาคโต ยถาภูตํ ปชานนฺโต ตํ เสวติ, ตํ น ปริวชฺเชติ. ตสฺส ตํ เสวโต, ตํ อปริวชฺชยโต, อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา ธมฺมา ปริหายนฺติ, อิฏฺา กนฺตา มนาปา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, ภิกฺขเว, โหติ ยถา ตํ วิทฺทสุโน.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขฺเจว อายติฺจ สุขวิปากํ ¶ ตํ วิทฺวา วิชฺชาคโต ยถาภูตํ ปชานาติ – ‘อิทํ โข ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขฺเจว อายติฺจ สุขวิปาก’นฺติ. ตํ วิทฺวา วิชฺชาคโต ยถาภูตํ ปชานนฺโต ตํ เสวติ, ตํ น ปริวชฺเชติ. ตสฺส ตํ เสวโต, ตํ อปริวชฺชยโต, อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา ธมฺมา ปริหายนฺติ, อิฏฺา กนฺตา มนาปา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, ภิกฺขเว, โหติ ยถา ตํ วิทฺทสุโน.
๔๗๘. ‘‘กตมฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขฺเจว อายติฺจ ทุกฺขวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน ปาณาติปาตี โหติ, ปาณาติปาตปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน อทินฺนาทายี โหติ, อทินฺนาทานปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน กาเมสุ มิจฺฉาจารี โหติ, กาเมสุ มิจฺฉาจารปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน มุสาวาที โหติ, มุสาวาทปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน ปิสุณวาโจ โหติ, ปิสุณวาจาปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน ผรุสวาโจ โหติ, ผรุสวาจาปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน สมฺผปฺปลาปี โหติ, สมฺผปฺปลาปปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ ¶ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน อภิชฺฌาลุ ¶ โหติ, อภิชฺฌาปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, พฺยาปาทปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ, มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. โส ¶ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขฺเจว อายติฺจ ทุกฺขวิปากํ.
๔๗๙. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ อายตึ ทุกฺขวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน ปาณาติปาตี โหติ, ปาณาติปาตปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน อทินฺนาทายี โหติ, อทินฺนาทานปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน มุสาวาที โหติ, มุสาวาทปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน ปิสุณวาโจ โหติ, ปิสุณวาจาปจฺจยา จ สุขํ ¶ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน ผรุสวาโจ โหติ, ผรุสวาจาปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน สมฺผปฺปลาปี โหติ, สมฺผปฺปลาปปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ ¶ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน อภิชฺฌาลุ โหติ, อภิชฺฌาปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, พฺยาปาทปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ, มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ อายตึ ทุกฺขวิปากํ.
๔๘๐. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขํ อายตึ สุขวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, ปาณาติปาตา เวรมณีปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ ¶ ; สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา เวรมณีปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณีปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา เวรมณีปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ ¶ , ปิสุณาย วาจาย เวรมณีปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ ¶ ; สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ผรุสาย วาจาย เวรมณีปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ, สมฺผปฺปลาปา เวรมณีปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน อนภิชฺฌาลุ โหติ, อนภิชฺฌาปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, อพฺยาปาทปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ ทุกฺเขน ¶ สหาปิ โทมนสฺเสน สมฺมาทิฏฺิ โหติ, สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขํ อายตึ สุขวิปากํ.
๔๘๑. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขฺเจว อายติฺจ สุขวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, ปาณาติปาตา เวรมณีปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา เวรมณีปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณีปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ สุเขน ¶ สหาปิ โสมนสฺเสน มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา เวรมณีปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ปิสุณาย วาจาย ¶ เวรมณีปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ผรุสาย วาจาย เวรมณีปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ, สมฺผปฺปลาปา เวรมณีปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน อนภิชฺฌาลุ โหติ, อนภิชฺฌาปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, อพฺยาปาทปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ; สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสน สมฺมาทิฏฺิ โหติ, สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ สุขํ โสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. อิทํ, วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขฺเจว ¶ อายติฺจ สุขวิปากํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ธมฺมสมาทานานิ.
๔๘๒. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ติตฺตกาลาพุ วิเสน สํสฏฺโ. อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ชีวิตุกาโม อมริตุกาโม สุขกาโม ทุกฺขปฺปฏิกูโล. ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, อยํ ติตฺตกาลาพุ วิเสน สํสฏฺโ, สเจ อากงฺขสิ ปิว [ปิป (สี. ปี.)]. ตสฺส ¶ เต ปิวโต [ปิปโต (สี. ปี.)] เจว นจฺฉาเทสฺสติ ¶ วณฺเณนปิ คนฺเธนปิ รเสนปิ, ปิวิตฺวา [ปีตฺวา (สี.)] จ ปน มรณํ วา นิคจฺฉสิ มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’นฺติ. โส ตํ อปฺปฏิสงฺขาย ปิเวยฺย, นปฺปฏินิสฺสชฺเชยฺย. ตสฺส ตํ ปิวโต เจว นจฺฉาเทยฺย วณฺเณนปิ คนฺเธนปิ รเสนปิ, ปิวิตฺวา จ ปน มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ. ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ธมฺมสมาทานํ วทามิ, ยมิทํ ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขฺเจว อายติฺจ ทุกฺขวิปากํ.
๔๘๓. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อาปานียกํโส วณฺณสมฺปนฺโน คนฺธสมฺปนฺโน รสสมฺปนฺโน. โส จ โข วิเสน สํสฏฺโ. อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ชีวิตุกาโม อมริตุกาโม สุขกาโม ทุกฺขปฺปฏิกูโล. ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, อยํ อาปานียกํโส วณฺณสมฺปนฺโน คนฺธสมฺปนฺโน รสสมฺปนฺโน. โส จ โข วิเสน สํสฏฺโ, สเจ อากงฺขสิ ปิว. ตสฺส เต ปิวโตหิ [ปิวโตปิ (ก.)] โข ฉาเทสฺสติ วณฺเณนปิ คนฺเธนปิ รเสนปิ, ปิวิตฺวา จ ปน มรณํ วา นิคจฺฉสิ มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’นฺติ. โส ตํ อปฺปฏิสงฺขาย ¶ ปิเวยฺย, นปฺปฏินิสฺสชฺเชยฺย. ตสฺส ตํ ปิวโตหิ โข ฉาเทยฺย วณฺเณนปิ คนฺเธนปิ รเสนปิ, ปิวิตฺวา จ ปน มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ. ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ธมฺมสมาทานํ วทามิ, ยมิทํ ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ อายตึ ทุกฺขวิปากํ.
๔๘๔. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปูติมุตฺตํ นานาเภสชฺเชหิ สํสฏฺํ. อถ ¶ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ปณฺฑุกโรคี. ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, อิทํ ปูติมุตฺตํ นานาเภสชฺเชหิ สํสฏฺํ, สเจ อากงฺขสิ ปิว. ตสฺส เต ปิวโตหิ โข นจฺฉาเทสฺสติ วณฺเณนปิ คนฺเธนปิ รเสนปิ, ปิวิตฺวา จ ปน สุขี ภวิสฺสสี’ติ. โส ตํ ปฏิสงฺขาย ปิเวยฺย, นปฺปฏินิสฺสชฺเชยฺย. ตสฺส ตํ ปิวโตหิ โข นจฺฉาเทยฺย วณฺเณนปิ คนฺเธนปิ รเสนปิ, ปิวิตฺวา ¶ จ ปน สุขี อสฺส. ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ธมฺมสมาทานํ วทามิ, ยมิทํ ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขํ อายตึ สุขวิปากํ.
๔๘๕. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทธิ จ มธุ จ สปฺปิ จ ผาณิตฺจ เอกชฺฌํ สํสฏฺํ. อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย โลหิตปกฺขนฺทิโก. ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, อิทํ ¶ ทธึ จ มธุํ จ สปฺปึ จ ผาณิตฺจ เอกชฺฌํ สํสฏฺํ, สเจ อากงฺขสิ ปิว. ตสฺส เต ปิวโต เจว ฉาเทสฺสติ วณฺเณนปิ คนฺเธนปิ รเสนปิ, ปิวิตฺวา จ ปน สุขี ภวิสฺสสี’ติ. โส ตํ ปฏิสงฺขาย ปิเวยฺย, นปฺปฏินิสฺสชฺเชยฺย. ตสฺส ตํ ปิวโต เจว ฉาเทยฺย วณฺเณนปิ คนฺเธนปิ รเสนปิ, ปิวิตฺวา จ ปน สุขี อสฺส. ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ธมฺมสมาทานํ วทามิ, ยมิทํ ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขฺเจว อายติฺจ สุขวิปากํ.
๔๘๖. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, วสฺสานํ ปจฺฉิเม มาเส สรทสมเย วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อาทิจฺโจ นภํ อพฺภุสฺสกฺกมาโน สพฺพํ อากาสคตํ ตมคตํ อภิวิหจฺจ ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจเต จ; เอวเมว ¶ โข, ภิกฺขเว, ยมิทํ ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขฺเจว อายติฺจ สุขวิปากํ ตทฺเ ปุถุสมณพฺราหฺมณปรปฺปวาเท อภิวิหจฺจ ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจเต จา’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
มหาธมฺมสมาทานสุตฺตํ นิฏฺิตํ ฉฏฺํ.
๗. วีมํสกสุตฺตํ
๔๘๗. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘วีมํสเกน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ปรสฺส เจโตปริยายํ อชานนฺเตน [อาชานนฺเตน (ปี. ก.), อชานนฺเตน กินฺติ (?)] ตถาคเต สมนฺเนสนา กาตพฺพา ‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วา โน วา’ อิติ วิฺาณายา’’ติ. ‘‘ภควํมูลกา โน, ภนฺเต, ธมฺมา, ภควํเนตฺติกา ภควํปฏิสรณา; สาธุ วต, ภนฺเต, ภควนฺตํเยว ปฏิภาตุ เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ; ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ ¶ . ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
๔๘๘. ‘‘วีมํสเกน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ปรสฺส เจโตปริยายํ อชานนฺเตน ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ตถาคโต สมนฺเนสิตพฺโพ จกฺขุโสตวิฺเยฺเยสุ ธมฺเมสุ – ‘เย สํกิลิฏฺา จกฺขุโสตวิฺเยฺยา ธมฺมา, สํวิชฺชนฺติ วา เต ตถาคตสฺส โน วา’ติ? ตเมนํ สมนฺเนสมาโน เอวํ ชานาติ – ‘เย สํกิลิฏฺา จกฺขุโสตวิฺเยฺยา ธมฺมา, น เต ตถาคตสฺส สํวิชฺชนฺตี’ติ.
‘‘ยโต นํ สมนฺเนสมาโน เอวํ ชานาติ – ‘เย สํกิลิฏฺา จกฺขุโสตวิฺเยฺยา ธมฺมา, น เต ตถาคตสฺส สํวิชฺชนฺตี’ติ, ตโต นํ อุตฺตรึ สมนฺเนสติ – ‘เย วีติมิสฺสา จกฺขุโสตวิฺเยฺยา ธมฺมา, สํวิชฺชนฺติ วา เต ตถาคตสฺส โน ¶ วา’ติ? ตเมนํ สมนฺเนสมาโน เอวํ ชานาติ – ‘เย วีติมิสฺสา จกฺขุโสตวิฺเยฺยา ธมฺมา, น เต ตถาคตสฺส สํวิชฺชนฺตี’ติ.
‘‘ยโต นํ สมนฺเนสมาโน เอวํ ชานาติ – ‘เย วีติมิสฺสา จกฺขุโสตวิฺเยฺยา ธมฺมา, น เต ตถาคตสฺส สํวิชฺชนฺตี’ติ, ตโต นํ อุตฺตรึ สมนฺเนสติ – ‘เย โวทาตา จกฺขุโสตวิฺเยฺยา ¶ ธมฺมา, สํวิชฺชนฺติ วา เต ตถาคตสฺส โน วา’ติ? ตเมนํ สมนฺเนสมาโน เอวํ ¶ ชานาติ – ‘เย โวทาตา จกฺขุโสตวิฺเยฺยา ธมฺมา, สํวิชฺชนฺติ เต ตถาคตสฺสา’ติ.
‘‘ยโต นํ สมนฺเนสมาโน เอวํ ชานาติ – ‘เย โวทาตา จกฺขุโสตวิฺเยฺยา ธมฺมา, สํวิชฺชนฺติ เต ตถาคตสฺสา’ติ, ตโต นํ อุตฺตรึ สมนฺเนสติ – ‘ทีฆรตฺตํ สมาปนฺโน อยมายสฺมา อิมํ กุสลํ ธมฺมํ, อุทาหุ อิตฺตรสมาปนฺโน’ติ? ตเมนํ สมนฺเนสมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ทีฆรตฺตํ สมาปนฺโน อยมายสฺมา อิมํ กุสลํ ธมฺมํ, นายมายสฺมา อิตฺตรสมาปนฺโน’ติ.
‘‘ยโต นํ สมนฺเนสมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ทีฆรตฺตํ สมาปนฺโน อยมายสฺมา อิมํ กุสลํ ธมฺมํ, นายมายสฺมา อิตฺตรสมาปนฺโน’ติ, ตโต นํ อุตฺตรึ สมนฺเนสติ – ‘ตฺตชฺฌาปนฺโน อยมายสฺมา ภิกฺขุ ยสปฺปตฺโต, สํวิชฺชนฺตสฺส อิเธกจฺเจ อาทีนวา’ติ? น ตาว, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อิเธกจฺเจ อาทีนวา สํวิชฺชนฺติ ยาว น ตฺตชฺฌาปนฺโน โหติ ยสปฺปตฺโต. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตฺตชฺฌาปนฺโน โหติ ยสปฺปตฺโต ¶ , อถสฺส อิเธกจฺเจ อาทีนวา สํวิชฺชนฺติ. ตเมนํ สมนฺเนสมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ตฺตชฺฌาปนฺโน อยมายสฺมา ภิกฺขุ ยสปฺปตฺโต, นาสฺส อิเธกจฺเจ อาทีนวา สํวิชฺชนฺตี’ติ.
‘‘ยโต นํ สมนฺเนสมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ตฺตชฺฌาปนฺโน อยมายสฺมา ¶ ภิกฺขุ ยสปฺปตฺโต, นาสฺส อิเธกจฺเจ อาทีนวา สํวิชฺชนฺตี’ติ, ตโต นํ อุตฺตรึ สมนฺเนสติ – ‘อภยูปรโต อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ภยูปรโต; วีตราคตฺตา กาเม น เสวติ ขยา ราคสฺสา’ติ? ตเมนํ สมนฺเนสมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อภยูปรโต อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ภยูปรโต; วีตราคตฺตา กาเม น เสวติ ขยา ราคสฺสา’ติ. ตฺเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุํ ปเร เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘เก ปนายสฺมโต อาการา, เก อนฺวยา, เยนายสฺมา เอวํ วเทสิ – อภยูปรโต อยมายสฺมา, นายมายสฺมา ภยูปรโต; วีตราคตฺตา กาเม น เสวติ ขยา ราคสฺสา’ติ. สมฺมา พฺยากรมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ พฺยากเรยฺย – ‘ตถา หิ ปน อยมายสฺมา สงฺเฆ วา วิหรนฺโต เอโก วา วิหรนฺโต, เย จ ตตฺถ สุคตา เย จ ตตฺถ ทุคฺคตา, เย จ ตตฺถ คณมนุสาสนฺติ, เย จ อิเธกจฺเจ อามิเสสุ สํทิสฺสนฺติ, เย จ อิเธกจฺเจ อามิเสน อนุปลิตฺตา, นายมายสฺมา ตํ เตน อวชานาติ ¶ . สมฺมุขา โข ปน เมตํ ภควโต ¶ สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อภยูปรโตหมสฺมิ, นาหมสฺมิ ภยูปรโต, วีตราคตฺตา กาเม น เสวามิ ขยา ราคสฺสา’ติ.
๔๘๙. ‘‘ตตฺร ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโตว อุตฺตรึ ปฏิปุจฺฉิตพฺโพ – ‘เย สํกิลิฏฺา จกฺขุโสตวิฺเยฺยา ธมฺมา, สํวิชฺชนฺติ วา เต ตถาคตสฺส โน วา’ติ? พฺยากรมาโน, ภิกฺขเว, ตถาคโต เอวํ พฺยากเรยฺย – ‘เย สํกิลิฏฺา จกฺขุโสตวิฺเยฺยา ธมฺมา, น เต ตถาคตสฺส สํวิชฺชนฺตี’’’ติ.
‘‘เย วีติมิสฺสา จกฺขุโสตวิฺเยฺยา ธมฺมา, สํวิชฺชนฺติ วา เต ตถาคตสฺส โน วาติ? พฺยากรมาโน, ภิกฺขเว, ตถาคโต เอวํ พฺยากเรยฺย – ‘เย วีติมิสฺสา จกฺขุโสตวิฺเยฺยา ธมฺมา, น เต ตถาคตสฺส สํวิชฺชนฺตี’ติ.
‘‘เย โวทาตา จกฺขุโสตวิฺเยฺยา ธมฺมา, สํวิชฺชนฺติ วา เต ตถาคตสฺส โน วาติ? พฺยากรมาโน, ภิกฺขเว, ตถาคโต เอวํ พฺยากเรยฺย – ‘เย โวทาตา จกฺขุโสตวิฺเยฺยา ธมฺมา, สํวิชฺชนฺติ เต ตถาคตสฺส; เอตํปโถหมสฺมิ, เอตํโคจโร [เอตปโถหมสฺมิ เอตโคจโร (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], โน จ เตน ตมฺมโย’ติ.
‘‘เอวํวาทึ โข, ภิกฺขเว, สตฺถารํ อรหติ สาวโก อุปสงฺกมิตุํ ธมฺมสฺสวนาย. ตสฺส สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อุตฺตรุตฺตรึ ปณีตปณีตํ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคํ. ยถา ยถา โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อุตฺตรุตฺตรึ ปณีตปณีตํ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคํ ตถา ตถา โส ตสฺมึ ธมฺเม อภิฺาย อิเธกจฺจํ ธมฺมํ ธมฺเมสุ ¶ นิฏฺํ คจฺฉติ, สตฺถริ ปสีทติ – ‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ’ติ. ตฺเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุํ ปเร เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘เก ปนายสฺมโต อาการา, เก อนฺวยา, เยนายสฺมา เอวํ วเทสิ – สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา ¶ , สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ’ติ? สมฺมา พฺยากรมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ พฺยากเรยฺย – ‘อิธาหํ, อาวุโส, เยน ภควา เตนุปสงฺกมึ ธมฺมสฺสวนาย. ตสฺส เม ภควา ธมฺมํ เทเสติ อุตฺตรุตฺตรึ ปณีตปณีตํ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคํ. ยถา ยถา เม, อาวุโส ¶ , ภควา ธมฺมํ เทเสติ อุตฺตรุตฺตรึ ปณีตปณีตํ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคํ ตถา ตถาหํ ตสฺมึ ธมฺเม อภิฺาย อิเธกจฺจํ ธมฺมํ ธมฺเมสุ นิฏฺมคมํ, สตฺถริ ปสีทึ – สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ภควตา, ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ’ติ.
๔๙๐. ‘‘ยสฺส ¶ กสฺสจิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ อากาเรหิ อิเมหิ ปเทหิ อิเมหิ พฺยฺชเนหิ ตถาคเต สทฺธา นิวิฏฺา โหติ มูลชาตา ปติฏฺิตา, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อาการวตี สทฺธา ทสฺสนมูลิกา, ทฬฺหา; อสํหาริยา สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ตถาคเต ธมฺมสมนฺเนสนา โหติ. เอวฺจ ปน ตถาคโต ธมฺมตาสุสมนฺนิฏฺโ โหตี’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
วีมํสกสุตฺตํ นิฏฺิตํ สตฺตมํ.
๘. โกสมฺพิยสุตฺตํ
๔๙๑. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม. เตน โข ปน สมเยน โกสมฺพิยํ ภิกฺขู ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ. เต น เจว อฺมฺํ สฺาเปนฺติ น จ สฺตฺตึ อุเปนฺติ, น จ อฺมฺํ นิชฺฌาเปนฺติ, น จ นิชฺฌตฺตึ อุเปนฺติ. อถ โข อฺตโร ¶ ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, โกสมฺพิยํ ภิกฺขู ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ, เต น เจว อฺมฺํ สฺาเปนฺติ, น จ สฺตฺตึ อุเปนฺติ, น จ อฺมฺํ นิชฺฌาเปนฺติ, น จ นิชฺฌตฺตึ อุเปนฺตี’’ติ.
อถ โข ภควา อฺตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, มม วจเนน เต ภิกฺขู อามนฺเตหิ – ‘สตฺถา โว อายสฺมนฺเต อามนฺเตตี’’’ติ. ‘‘เอวํ ¶ , ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา อายสฺมนฺเต อามนฺเตตี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู ตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ ¶ นิสินฺเน โข เต ภิกฺขู ภควา เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรถ, เต น เจว อฺมฺํ สฺาเปถ, น จ สฺตฺตึ อุเปถ, น จ อฺมฺํ นิชฺฌาเปถ, น จ นิชฺฌตฺตึ อุเปถา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, ยสฺมึ ตุมฺเห สมเย ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ ¶ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรถ, อปิ นุ ตุมฺหากํ ตสฺมึ สมเย เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ, เมตฺตํ วจีกมฺมํ…เป… เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘อิติ กิร, ภิกฺขเว, ยสฺมึ ตุมฺเห สมเย ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรถ, เนว ตุมฺหากํ ¶ ตสฺมึ สมเย เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ, น เมตฺตํ วจีกมฺมํ…เป… น เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ. อถ กิฺจรหิ ตุมฺเห, โมฆปุริสา, กึ ชานนฺตา กึ ปสฺสนฺตา ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรถ, เต น เจว อฺมฺํ สฺาเปถ, น จ สฺตฺตึ อุเปถ, น จ อฺมฺํ นิชฺฌาเปถ, น จ นิชฺฌตฺตึ อุเปถ ¶ ? ตฺหิ ตุมฺหากํ, โมฆปุริสา, ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.
๔๙๒. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ฉยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สารณียา ปิยกรณา ครุกรณา สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ฉ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เมตฺตํ วจีกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ¶ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกิภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต ลาภา ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา อนฺตมโส ปตฺตปริยาปนฺนมตฺตมฺปิ, ตถารูเปหิ ลาเภหิ อปฺปฏิวิภตฺตโภคี โหติ สีลวนฺเตหิ สพฺรหฺมจารีหิ สาธารณโภคี. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยานิ ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺุปฺปสตฺถานิ ¶ อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ ตถารูเปสุ สีเลสุ สีลสามฺคโต วิหรติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม ¶ สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย ตถารูปาย ทิฏฺิยา ทิฏฺิสามฺคโต วิหรติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘อิเม โข, ภิกฺขเว, ฉ สารณียา ธมฺมา ปิยกรณา ครุกรณา สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตนฺติ. อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ฉนฺนํ สารณียานํ ธมฺมานํ เอตํ อคฺคํ เอตํ สงฺคาหิกํ [สงฺคาหกํ (?)] เอตํ สงฺฆาฏนิกํ – ยทิทํ ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กูฏาคารสฺส เอตํ อคฺคํ เอตํ สงฺคาหิกํ เอตํ สงฺฆาฏนิกํ ยทิทํ กูฏํ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว ¶ , อิเมสํ ฉนฺนํ สารณียานํ ธมฺมานํ เอตํ อคฺคํ เอตํ สงฺคาหิกํ เอตํ สงฺฆาฏนิกํ ¶ ยทิทํ ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย.
๔๙๓. ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สฺุาคารคโต วา อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อตฺถิ นุ ¶ โข เม ตํ ปริยุฏฺานํ อชฺฌตฺตํ อปฺปหีนํ, เยนาหํ ปริยุฏฺาเนน ปริยุฏฺิตจิตฺโต ยถาภูตํ นปฺปชาเนยฺยํ น ปสฺเสยฺย’นฺติ? สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กามราคปริยุฏฺิโต โหติ, ปริยุฏฺิตจิตฺโตว โหติ. สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ พฺยาปาทปริยุฏฺิโต โหติ, ปริยุฏฺิตจิตฺโตว โหติ. สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ถีนมิทฺธปริยุฏฺิโต โหติ, ปริยุฏฺิตจิตฺโตว โหติ. สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปริยุฏฺิโต โหติ, ปริยุฏฺิตจิตฺโตว โหติ. สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺิโต โหติ, ปริยุฏฺิตจิตฺโตว โหติ. สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิธโลกจินฺตาย ปสุโต โหติ, ปริยุฏฺิตจิตฺโตว โหติ. สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปรโลกจินฺตาย ปสุโต โหติ, ปริยุฏฺิตจิตฺโตว โหติ. สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภณฺฑนชาโต กลหชาโต วิวาทาปนฺโน อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺโต วิหรติ, ปริยุฏฺิตจิตฺโตว โหติ ¶ . โส เอวํ ปชานาติ – ‘นตฺถิ โข เม ตํ ปริยุฏฺานํ อชฺฌตฺตํ อปฺปหีนํ, เยนาหํ ปริยุฏฺาเนน ปริยุฏฺิตจิตฺโต ยถาภูตํ นปฺปชาเนยฺยํ น ปสฺเสยฺยํ. สุปฺปณิหิตํ เม มานสํ สจฺจานํ โพธายา’ติ. อิทมสฺส ปมํ าณํ อธิคตํ โหติ อริยํ โลกุตฺตรํ อสาธารณํ ปุถุชฺชเนหิ.
๔๙๔. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อิมํ นุ โข อหํ ทิฏฺึ อาเสวนฺโต ภาเวนฺโต พหุลีกโรนฺโต ลภามิ ปจฺจตฺตํ สมถํ, ลภามิ ปจฺจตฺตํ นิพฺพุติ’นฺติ? โส เอวํ ปชานาติ – ‘อิมํ โข อหํ ทิฏฺึ อาเสวนฺโต ภาเวนฺโต พหุลีกโรนฺโต ลภามิ ปจฺจตฺตํ ¶ สมถํ, ลภามิ ปจฺจตฺตํ นิพฺพุติ’นฺติ. อิทมสฺส ทุติยํ าณํ อธิคตํ โหติ อริยํ โลกุตฺตรํ อสาธารณํ ปุถุชฺชเนหิ.
๔๙๕. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยถา รูปายาหํ ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต, อตฺถิ นุ โข อิโต พหิทฺธา อฺโ สมโณ ¶ วา พฺราหฺมโณ วา ¶ ตถารูปาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต’ติ? โส เอวํ ปชานาติ – ‘ยถารูปายาหํ ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต, นตฺถิ อิโต พหิทฺธา อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ตถารูปาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต’ติ. อิทมสฺส ตติยํ าณํ อธิคตํ โหติ อริยํ โลกุตฺตรํ อสาธารณํ ปุถุชฺชเนหิ.
๔๙๖. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยถารูปาย ธมฺมตาย ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สมนฺนาคโต, อหมฺปิ ตถารูปาย ธมฺมตาย สมนฺนาคโต’ติ. กถํรูปาย จ, ภิกฺขเว, ธมฺมตาย ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สมนฺนาคโต? ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ทิฏฺิสมฺปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส – ‘กิฺจาปิ ตถารูปึ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, ยถารูปาย อาปตฺติยา วุฏฺานํ ปฺายติ, อถ โข นํ ขิปฺปเมว สตฺถริ วา วิฺูสุ วา สพฺรหฺมจารีสุ เทเสติ วิวรติ อุตฺตานีกโรติ; เทเสตฺวา วิวริตฺวา อุตฺตานีกตฺวา อายตึ สํวรํ อาปชฺชติ’. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทหโร กุมาโร มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก หตฺเถน วา ปาเทน วา องฺคารํ อกฺกมิตฺวา ขิปฺปเมว ปฏิสํหรติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ธมฺมตา เอสา ทิฏฺิสมฺปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส – ‘กิฺจาปิ ตถารูปึ ¶ อาปตฺตึ อาปชฺชติ ยถารูปาย อาปตฺติยา วุฏฺานํ ปฺายติ, อถ โข นํ ขิปฺปเมว สตฺถริ วา วิฺูสุ วา สพฺรหฺมจารีสุ เทเสติ วิวรติ ¶ อุตฺตานีกโรติ; เทเสตฺวา วิวริตฺวา อุตฺตานีกตฺวา อายตึ สํวรํ อาปชฺชติ’. โส เอวํ ปชานาติ – ‘ยถารูปาย ธมฺมตาย ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สมนฺนาคโต, อหมฺปิ ตถารูปาย ธมฺมตาย สมนฺนาคโต’ติ. อิทมสฺส จตุตฺถํ าณํ อธิคตํ โหติ อริยํ โลกุตฺตรํ อสาธารณํ ปุถุชฺชเนหิ.
๔๙๗. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยถารูปาย ธมฺมตาย ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สมนฺนาคโต, อหมฺปิ ตถารูปาย ธมฺมตาย สมนฺนาคโต’ติ. กถํรูปาย จ, ภิกฺขเว, ธมฺมตาย ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สมนฺนาคโต? ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ทิฏฺิสมฺปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส – ‘กิฺจาปิ ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กึกรณียานิ ตตฺถ อุสฺสุกฺกํ อาปนฺโน โหติ, อถ ขฺวาสฺส ติพฺพาเปกฺขา โหติ อธิสีลสิกฺขาย อธิจิตฺตสิกฺขาย อธิปฺาสิกฺขาย’. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, คาวี ตรุณวจฺฉา ถมฺพฺจ อาลุมฺปติ วจฺฉกฺจ อปจินติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว ¶ , ธมฺมตา เอสา ทิฏฺิสมฺปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส – ‘กิฺจาปิ ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กึกรณียานิ ตตฺถ อุสฺสุกฺกํ อาปนฺโน โหติ, อถ ขฺวาสฺส ติพฺพาเปกฺขา โหติ อธิสีลสิกฺขาย อธิจิตฺตสิกฺขาย อธิปฺาสิกฺขาย’. โส เอวํ ปชานาติ – ‘ยถารูปาย ธมฺมตาย ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล ¶ สมนฺนาคโต, อหมฺปิ ตถารูปาย ธมฺมตาย สมนฺนาคโต’ติ. อิทมสฺส ปฺจมํ าณํ อธิคตํ โหติ อริยํ โลกุตฺตรํ อสาธารณํ ปุถุชฺชเนหิ.
๔๙๘. ‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยถารูปาย พลตาย ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สมนฺนาคโต, อหมฺปิ ตถารูปาย พลตาย สมนฺนาคโต’ติ. กถํรูปาย จ, ภิกฺขเว, พลตาย ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สมนฺนาคโต? พลตา เอสา, ภิกฺขเว, ทิฏฺิสมฺปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส ยํ ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย เทสิยมาเน อฏฺึกตฺวา มนสิกตฺวา สพฺพเจตสา [สพฺพเจตโส (สี. สฺยา. กํ. ปี.), สพฺพํ เจตสา (ก.)] สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสโต ธมฺมํ สุณาติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘ยถารูปาย พลตาย ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สมนฺนาคโต, อหมฺปิ ตถารูปาย พลตาย สมนฺนาคโต’ติ. อิทมสฺส ฉฏฺํ าณํ อธิคตํ โหติ อริยํ โลกุตฺตรํ อสาธารณํ ปุถุชฺชเนหิ.
๔๙๙. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยถารูปาย พลตาย ¶ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สมนฺนาคโต, อหมฺปิ ตถารูปาย พลตาย สมนฺนาคโต’ติ. กถํรูปาย จ, ภิกฺขเว, พลตาย ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สมนฺนาคโต? พลตา เอสา, ภิกฺขเว, ทิฏฺิสมฺปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส ยํ ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย เทสิยมาเน ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘ยถารูปาย พลตาย ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล ¶ สมนฺนาคโต, อหมฺปิ ตถารูปาย พลตาย สมนฺนาคโต’ติ. อิทมสฺส สตฺตมํ าณํ อธิคตํ โหติ อริยํ โลกุตฺตรํ อสาธารณํ ปุถุชฺชเนหิ.
๕๐๐. ‘‘เอวํ สตฺตงฺคสมนฺนาคตสฺส โข, ภิกฺขเว, อริยสาวกสฺส ธมฺมตา สุสมนฺนิฏฺา โหติ โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย. เอวํ สตฺตงฺคสมนฺนาคโต ¶ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก โสตาปตฺติผลสมนฺนาคโต โหตี’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
โกสมฺพิยสุตฺตํ นิฏฺิตํ อฏฺมํ.
๙. พฺรหฺมนิมนฺตนิกสุตฺตํ
๕๐๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘เอกมิทาหํ, ภิกฺขเว, สมยํ อุกฺกฏฺายํ วิหรามิ สุภควเน สาลราชมูเล. เตน โข ปน, ภิกฺขเว, สมเยน พกสฺส พฺรหฺมุโน เอวรูปํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ – ‘อิทํ นิจฺจํ, อิทํ ธุวํ, อิทํ สสฺสตํ, อิทํ เกวลํ, อิทํ อจวนธมฺมํ, อิทฺหิ น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, อิโต จ ปนฺํ อุตฺตริ นิสฺสรณํ นตฺถี’ติ. อถ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, พกสฺส พฺรหฺมุโน เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว – อุกฺกฏฺายํ สุภควเน สาลราชมูเล อนฺตรหิโต ตสฺมึ พฺรหฺมโลเก ปาตุรโหสึ. อทฺทสา โข มํ, ภิกฺขเว, พโก พฺรหฺมา ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ; ทิสฺวาน มํ เอตทโวจ – ‘เอหิ โข, มาริส, สฺวาคตํ, มาริส! จิรสฺสํ โข, มาริส, อิมํ ปริยายมกาสิ ยทิทํ อิธาคมนาย. อิทฺหิ, มาริส, นิจฺจํ, อิทํ ธุวํ, อิทํ สสฺสตํ, อิทํ เกวลํ, อิทํ อจวนธมฺมํ, อิทฺหิ น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ. อิโต จ ปนฺํ อุตฺตริ นิสฺสรณํ นตฺถี’’’ติ.
เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภิกฺขเว, พกํ พฺรหฺมานํ เอตทโวจํ ¶ – ‘‘อวิชฺชาคโต วต, โภ, พโก พฺรหฺมา; อวิชฺชาคโต วต, โภ, พโก พฺรหฺมา; ยตฺร หิ นาม อนิจฺจํเยว สมานํ นิจฺจนฺติ วกฺขติ, อทฺธุวํเยว สมานํ ธุวนฺติ วกฺขติ, อสสฺสตํเยว สมานํ สสฺสตนฺติ วกฺขติ, อเกวลํเยว สมานํ ¶ เกวลนฺติ วกฺขติ, จวนธมฺมํเยว สมานํ อจวนธมฺมนฺติ วกฺขติ; ยตฺถ จ ปน ชายติ ชียติ มียติ จวติ อุปปชฺชติ ตฺจ วกฺขติ – ‘อิทฺหิ น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชตี’ติ; สนฺตฺจ ปนฺํ อุตฺตริ นิสฺสรณํ ‘นตฺถฺํ อุตฺตริ นิสฺสรณ’นฺติ วกฺขตี’’ติ.
๕๐๒. ‘‘อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, มาโร ปาปิมา อฺตรํ พฺรหฺมปาริสชฺชํ อนฺวาวิสิตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘ภิกฺขุ, ภิกฺขุ, เมตมาสโท เมตมาสโท, เอโส หิ, ภิกฺขุ, พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา ¶ อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโ สชิตา [สชฺชิตา (สฺยา. กํ. ก.), สฺชิตา (สี. ปี.)] วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ. อเหสุํ โข เย, ภิกฺขุ, ตยา ปุพฺเพ สมณพฺราหฺมณา โลกสฺมึ ปถวีครหกา ปถวีชิคุจฺฉกา, อาปครหกา อาปชิคุจฺฉกา, เตชครหกา เตชชิคุจฺฉกา, วายครหกา วายชิคุจฺฉกา, ภูตครหกา ภูตชิคุจฺฉกา, เทวครหกา เทวชิคุจฺฉกา, ปชาปติครหกา ปชาปติชิคุจฺฉกา, พฺรหฺมครหกา พฺรหฺมชิคุจฺฉกา – เต กายสฺส เภทา ปาณุปจฺเฉทา หีเน กาเย ปติฏฺิตา อเหสุํ. เย ปน, ภิกฺขุ, ตยา ปุพฺเพ สมณพฺราหฺมณา โลกสฺมึ ปถวีปสํสกา ปถวาภินนฺทิโน, อาปปสํสกา อาปาภินนฺทิโน, เตชปสํสกา เตชาภินนฺทิโน, วายปสํสกา ¶ วายาภินนฺทิโน, ภูตปสํสกา ภูตาภินนฺทิโน, เทวปสํสกา เทวาภินนฺทิโน, ปชาปติปสํสกา ปชาปตาภินนฺทิโน, พฺรหฺมปสํสกา พฺรหฺมาภินนฺทิโน – เต กายสฺส เภทา ปาณุปจฺเฉทา ปณีเต กาเย ปติฏฺิตา. ตํ ตาหํ, ภิกฺขุ, เอวํ วทามิ – ‘อิงฺฆ ตฺวํ, มาริส, ยเทว เต พฺรหฺมา อาห ตเทว ตฺวํ กโรหิ, มา ตฺวํ พฺรหฺมุโน วจนํ อุปาติวตฺติตฺโถ’. สเจ โข ตฺวํ, ภิกฺขุ, พฺรหฺมุโน วจนํ อุปาติวตฺติสฺสสิ, เสยฺยถาปิ นาม ปุริโส สิรึ อาคจฺฉนฺตึ ทณฺเฑน ปฏิปฺปณาเมยฺย, เสยฺยถาปิ วา ปน, ภิกฺขุ, ปุริโส นรกปฺปปาเต ปปตนฺโต หตฺเถหิ จ ปาเทหิ จ ปถวึ วิราเธยฺย, เอวํ สมฺปทมิทํ, ภิกฺขุ, ตุยฺหํ ภวิสฺสติ. ‘อิงฺฆํ ตฺวํ, มาริส, ยเทว เต พฺรหฺมา อาห ตเทว ตฺวํ กโรหิ, มา ตฺวํ พฺรหฺมุโน วจนํ อุปาติวตฺติตฺโถ. นนุ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ปสฺสสิ พฺรหฺมปริสํ สนฺนิปติต’นฺติ? อิติ โข มํ, ภิกฺขเว, มาโร ปาปิมา พฺรหฺมปริสํ อุปเนสิ.
‘‘เอวํ ¶ วุตฺเต, อหํ, ภิกฺขเว, มารํ ปาปิมนฺตํ เอตทโวจํ – ‘ชานามิ โข ตาหํ, ปาปิม; มา ตฺวํ มฺิตฺโถ – น มํ ชานาตี’ติ. มาโร ตฺวมสิ, ปาปิม. โย เจว, ปาปิม, พฺรหฺมา, ยา จ พฺรหฺมปริสา, เย จ พฺรหฺมปาริสชฺชา, สพฺเพว ตว หตฺถคตา สพฺเพว ตว วสํคตา. ตุยฺหฺหิ, ปาปิม, เอวํ โหติ – ‘เอโสปิ เม อสฺส หตฺถคโต, เอโสปิ เม อสฺส วสํคโต’ติ. อหํ โข ปน, ปาปิม, เนว ตว หตฺถคโต เนว ตว วสํคโต’’ติ.
๕๐๓. ‘‘เอวํ ¶ วุตฺเต, ภิกฺขเว, พโก พฺรหฺมา มํ เอตทโวจ – ‘อหฺหิ, มาริส, นิจฺจํเยว ¶ สมานํ นิจฺจนฺติ วทามิ, ธุวํเยว ¶ สมานํ ธุวนฺติ วทามิ, สสฺสตํเยว สมานํ สสฺสตนฺติ วทามิ, เกวลํเยว สมานํ เกวลนฺติ วทามิ, อจวนธมฺมํเยว สมานํ อจวนธมฺม’นฺติ วทามิ, ยตฺถ จ ปน น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ ตเทวาหํ วทามิ – ‘อิทฺหิ น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชตี’ติ. อสนฺตฺจ ปนฺํ อุตฺตริ นิสฺสรณํ ‘นตฺถฺํ อุตฺตริ นิสฺสรณ’นฺติ วทามิ. อเหสุํ โข, ภิกฺขุ, ตยา ปุพฺเพ สมณพฺราหฺมณา โลกสฺมึ ยาวตกํ ตุยฺหํ กสิณํ อายุ ตาวตกํ เตสํ ตโปกมฺมเมว อโหสิ. เต โข เอวํ ชาเนยฺยุํ – ‘สนฺตฺจ ปนฺํ อุตฺตริ นิสฺสรณํ อตฺถฺํ อุตฺตริ นิสฺสรณนฺติ, อสนฺตํ วา อฺํ อุตฺตริ นิสฺสรณํ นตฺถฺํ อุตฺตริ นิสฺสรณ’นฺติ. ตํ ตาหํ, ภิกฺขุ, เอวํ วทามิ – ‘น เจวฺํ อุตฺตริ นิสฺสรณํ ทกฺขิสฺสสิ, ยาวเทว จ ปน กิลมถสฺส วิฆาตสฺส ภาคี ภวิสฺสสิ. สเจ โข ตฺวํ, ภิกฺขุ, ปถวึ อชฺโฌสิสฺสสิ, โอปสายิโก เม ภวิสฺสสิ วตฺถุสายิโก, ยถากามกรณีโย พาหิเตยฺโย. สเจ อาปํ… เตชํ… วายํ… ภูเต… เทเว… ปชาปตึ… พฺรหฺมํ อชฺโฌสิสฺสสิ, โอปสายิโก เม ภวิสฺสสิ วตฺถุสายิโก, ยถากามกรณีโย พาหิเตยฺโย’ติ.
‘‘อหมฺปิ โข เอวํ, พฺรหฺเม, ชานามิ – สเจ ปถวึ อชฺโฌสิสฺสามิ, โอปสายิโก เต ภวิสฺสามิ วตฺถุสายิโก, ยถากามกรณีโย ¶ พาหิเตยฺโย. ‘สเจ อาปํ… เตชํ… วายํ… ภูเต… เทเว… ปชาปตึ… พฺรหฺมํ อชฺโฌสิสฺสามิ, โอปสายิโก เต ภวิสฺสามิ วตฺถุสายิโก, ยถากามกรณีโย พาหิเตยฺโย’ติ อปิ จ เต อหํ, พฺรหฺเม, คติฺจ ปชานามิ, ชุติฺจ ปชานามิ – เอวํ มหิทฺธิโก พโก พฺรหฺมา, เอวํ มหานุภาโว พโก พฺรหฺมา, เอวํ มเหสกฺโข พโก พฺรหฺมา’’ติ.
‘‘ยถากถํ ¶ ปน เม ตฺวํ, มาริส, คติฺจ ปชานาสิ, ชุติฺจ ปชานาสิ – ‘เอวํ มหิทฺธิโก พโก พฺรหฺมา, เอวํ มหานุภาโว พโก พฺรหฺมา, เอวํ มเหสกฺโข พโก พฺรหฺมา’ติ?
‘‘ยาวตา จนฺทิมสูริยา, ปริหรนฺติ ทิสา ภนฺติ วิโรจนา;
ตาว สหสฺสธา โลโก, เอตฺถ เต วตฺตเต [วตฺตตี (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วโส.
‘‘ปโรปรฺจ ¶ [ปโรวรฺจ (สี. ปี.)] ชานาสิ, อโถ ราควิราคินํ;
อิตฺถภาวฺถาภาวํ, สตฺตานํ อาคตึ คติ’’นฺติ.
‘‘เอวํ โข เต อหํ, พฺรหฺเม, คติฺจ ปชานามิ ชุติฺจ ปชานามิ – ‘เอวํ มหิทฺธิโก พโก พฺรหฺมา, เอวํ มหานุภาโว พโก ¶ พฺรหฺมา, เอวํ มเหสกฺโข พโก พฺรหฺมา’ติ.
๕๐๔. ‘‘อตฺถิ โข, พฺรหฺเม, อฺโ กาโย, ตํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ; ตมหํ ชานามิ ปสฺสามิ. อตฺถิ โข, พฺรหฺเม, อาภสฺสรา นาม กาโย ยโต ตฺวํ จุโต อิธูปปนฺโน. ตสฺส เต อติจิรนิวาเสน สา สติ ปมุฏฺา, เตน ตํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ; ตมหํ ชานามิ ปสฺสามิ. เอวมฺปิ โข อหํ, พฺรหฺเม, เนว เต สมสโม อภิฺาย, กุโต นีเจยฺยํ? อถ ¶ โข อหเมว ตยา ภิยฺโย. อตฺถิ โข, พฺรหฺเม, สุภกิณฺโห นาม กาโย, เวหปฺผโล นาม กาโย, อภิภู นาม กาโย, ตํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ; ตมหํ ชานามิ ปสฺสามิ. เอวมฺปิ โข อหํ, พฺรหฺเม, เนว เต สมสโม อภิฺาย, กุโต นีเจยฺยํ? อถ โข อหเมว ตยา ภิยฺโย. ปถวึ โข อหํ, พฺรหฺเม, ปถวิโต อภิฺาย ยาวตา ปถวิยา ปถวตฺเตน อนนุภูตํ ตทภิฺาย ปถวึ นาปโหสึ, ปถวิยา นาปโหสึ, ปถวิโต นาปโหสึ, ปถวึ เมติ นาปโหสึ, ปถวึ นาภิวทึ. เอวมฺปิ โข อหํ, พฺรหฺเม, เนว เต สมสโม อภิฺาย, กุโต นีเจยฺยํ? อถ โข อหเมว ตยา ภิยฺโย. อาปํ โข อหํ, พฺรหฺเม…เป… เตชํ โข อหํ, พฺรหฺเม…เป… วายํ โข อหํ, พฺรหฺเม…เป… ภูเต โข อหํ, พฺรหฺเม…เป… เทเว โข อหํ, พฺรหฺเม…เป… ปชาปตึ โข อหํ, พฺรหฺเม…เป… พฺรหฺมํ โข อหํ, พฺรหฺเม…เป… อาภสฺสเร โข อหํ, พฺรหฺเม…เป… สุภกิณฺเห โข อหํ, พฺรหฺเม… ¶ …เป… เวหปฺผเล โข อหํ, พฺรหฺเม…เป… อภิภุํ โข อหํ, พฺรหฺเม…เป… สพฺพํ โข อหํ, พฺรหฺเม, สพฺพโต อภิฺาย ยาวตา สพฺพสฺส สพฺพตฺเตน อนนุภูตํ ตทภิฺาย สพฺพํ นาปโหสึ สพฺพสฺมึ นาปโหสึ สพฺพโต นาปโหสึ สพฺพํ เมติ นาปโหสึ, สพฺพํ นาภิวทึ. เอวมฺปิ โข อหํ, พฺรหฺเม, เนว เต สมสโม อภิฺาย, กุโต นีเจยฺยํ? อถ โข อหเมว ตยา ภิยฺโย’’ติ.
‘‘สเจ ¶ โข, มาริส, สพฺพสฺส สพฺพตฺเตน อนนุภูตํ, ตทภิฺาย มา เหว เต ริตฺตกเมว อโหสิ, ตุจฺฉกเมว อโหสี’’ติ ¶ .
‘‘‘วิฺาณํ อนิทสฺสนํ อนนฺตํ สพฺพโต ปภํ’, ตํ ปถวิยา ปถวตฺเตน อนนุภูตํ, อาปสฺส อาปตฺเตน อนนุภูตํ, เตชสฺส เตชตฺเตน อนนุภูตํ, วายสฺส วายตฺเตน อนนุภูตํ, ภูตานํ ภูตตฺเตน อนนุภูตํ, เทวานํ เทวตฺเตน อนนุภูตํ, ปชาปติสฺส ปชาปติตฺเตน อนนุภูตํ, พฺรหฺมานํ พฺรหฺมตฺเตน อนนุภูตํ, อาภสฺสรานํ อาภสฺสรตฺเตน อนนุภูตํ, สุภกิณฺหานํ สุภกิณฺหตฺเตน อนนุภูตํ, เวหปฺผลานํ เวหปฺผลตฺเต ¶ อนนุภูตํ, อภิภุสฺส อภิภุตฺเตน อนนุภูตํ, สพฺพสฺส สพฺพตฺเตน อนนุภูตํ’’.
‘‘หนฺท จรหิ [หนฺท จ หิ (สี. ปี.)] เต, มาริส, ปสฺส อนฺตรธายามี’’ติ. ‘หนฺท จรหิ เม ตฺวํ, พฺรหฺเม, อนฺตรธายสฺสุ, สเจ วิสหสี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, พโก พฺรหฺมา ‘อนฺตรธายิสฺสามิ สมณสฺส โคตมสฺส, อนฺตรธายิสฺสามิ สมณสฺส โคตมสฺสา’ติ เนวสฺสุ เม สกฺโกติ อนฺตรธายิตุํ.
‘‘เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภิกฺขเว, พกํ พฺรหฺมานํ เอตทโวจํ – ‘หนฺท จรหิ เต พฺรหฺเม อนฺตรธายามี’ติ. ‘หนฺท จรหิ เม ตฺวํ, มาริส, อนฺตรธายสฺสุ สเจ วิสหสี’ติ. อถ โข อหํ, ภิกฺขเว, ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสึ – ‘เอตฺตาวตา พฺรหฺมา จ พฺรหฺมปริสา จ พฺรหฺมปาริสชฺชา จ สทฺทฺจ เม โสสฺสนฺติ [สทฺทเมว สุยฺยนฺติ (ก.)], น จ มํ ทกฺขนฺตี’ติ. อนฺตรหิโต อิมํ คาถํ อภาสึ –
‘‘ภเววาหํ ภยํ ทิสฺวา, ภวฺจ วิภเวสินํ;
ภวํ นาภิวทึ กิฺจิ, นนฺทิฺจ น อุปาทิยิ’’นฺติ.
‘‘อถ ¶ ¶ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา จ พฺรหฺมปริสา จ พฺรหฺมปาริสชฺชา จ อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตา อเหสุํ – ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ! สมณสฺส โคตมสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา, น จ วต โน อิโต ปุพฺเพ ทิฏฺโ วา, สุโต วา, อฺโ ¶ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํ มหิทฺธิโก เอวํ มหานุภาโว ยถายํ สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต. ภวรามาย วต, โภ, ปชาย ภวรตาย ภวสมฺมุทิตาย สมูลํ ภวํ อุทพฺพหี’ติ.
๕๐๕. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, มาโร ปาปิมา อฺตรํ พฺรหฺมปาริสชฺชํ อนฺวาวิสิตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘สเจ โข ตฺวํ, มาริส, เอวํ ปชานาสิ, สเจ ตฺวํ เอวํ อนุพุทฺโธ, มา สาวเก อุปเนสิ, มา ปพฺพชิเต; มา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสสิ, มา ปพฺพชิตานํ; มา สาวเกสุ เคธิมกาสิ, มา ปพฺพชิเตสุ. อเหสุํ โข, ภิกฺขุ, ตยา ปุพฺเพ สมณพฺราหฺมณา โลกสฺมึ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา ปฏิชานมานา ¶ . เต สาวเก อุปเนสุํ ปพฺพชิเต, สาวกานํ ธมฺมํ เทเสสุํ ปพฺพชิตานํ, สาวเกสุ เคธิมกํสุ ปพฺพชิเตสุ, เต สาวเก อุปเนตฺวา ปพฺพชิเต, สาวกานํ ธมฺมํ เทเสตฺวา ปพฺพชิตานํ, สาวเกสุ เคธิตจิตฺตา ปพฺพชิเตสุ, กายสฺส เภทา ปาณุปจฺเฉทา หีเน กาเย ปติฏฺิตา. อเหสุํ เย ปน, ภิกฺขุ, ตยา ปุพฺเพ สมณพฺราหฺมณา โลกสฺมึ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา ปฏิชานมานา. เต น สาวเก อุปเนสุํ น ปพฺพชิเต, น สาวกานํ ธมฺมํ เทเสสุํ น ปพฺพชิตานํ, น สาวเกสุ ¶ เคธิมกํสุ น ปพฺพชิเตสุ, เต น สาวเก อุปเนตฺวา น ปพฺพชิเต, น สาวกานํ ธมฺมํ เทเสตฺวา น ปพฺพชิตานํ, น สาวเกสุ เคธิตจิตฺตา น ปพฺพชิเตสุ, กายสฺส เภทา ปาณุปจฺเฉทา ปณีเต กาเย ปติฏฺิตา. ตํ ตาหํ, ภิกฺขุ, เอวํ วทามิ – อิงฺฆ ตฺวํ, มาริส, อปฺโปสฺสุกฺโก ทิฏฺธมฺมสุขวิหารมนุยุตฺโต วิหรสฺสุ, อนกฺขาตํ กุสลฺหิ, มาริส, มา ปรํ โอวทาหี’ติ.
‘‘เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภิกฺขเว, มารํ ปาปิมนฺตํ เอตทโวจํ – ‘ชานามิ โข ตาหํ, ปาปิม, มา ตฺวํ มฺิตฺโถ – น มํ ชานาตี’ติ. มาโร ตฺวมสิ, ปาปิม. น มํ ตฺวํ, ปาปิม, หิตานุกมฺปี เอวํ วเทสิ; อหิตานุกมฺปี มํ ตฺวํ, ปาปิม, เอวํ วเทสิ. ตุยฺหฺหิ, ปาปิม, เอวํ โหติ – ‘เยสํ สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสสฺสติ, เต เม วิสยํ อุปาติวตฺติสฺสนฺตี’ติ. อสมฺมาสมฺพุทฺธาว ปน เต ¶ , ปาปิม, สมานา สมฺมาสมฺพุทฺธามฺหาติ ปฏิชานึสุ. อหํ โข ปน, ปาปิม, สมฺมาสมฺพุทฺโธว สมาโน สมฺมาสมฺพุทฺโธมฺหีติ ปฏิชานามิ. เทเสนฺโตปิ หิ, ปาปิม, ตถาคโต สาวกานํ ธมฺมํ ตาทิโสว อเทเสนฺโตปิ หิ, ปาปิม, ตถาคโต สาวกานํ ธมฺมํ ตาทิโสว. อุปเนนฺโตปิ หิ, ปาปิม, ตถาคโต สาวเก ¶ ตาทิโสว, อนุปเนนฺโตปิ หิ, ปาปิม, ตถาคโต สาวเก ตาทิโสว. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถาคตสฺส, ปาปิม, เย อาสวา สํกิเลสิกา โปโนพฺภวิกา สทรา ทุกฺขวิปากา อายตึ ชาติชรามรณิยา – เต ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ ¶ อนุปฺปาทธมฺมา. เสยฺยถาปิ, ปาปิม, ตาโล มตฺถกจฺฉินฺโน อภพฺโพ ปุน วิรูฬฺหิยา; เอวเมว โข, ปาปิม, ตถาคตสฺส เย อาสวา สํกิเลสิกา โปโนพฺภวิกา สทรา ทุกฺขวิปากา อายตึ ชาติชรามรณิยา – เต ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมาติ.
‘‘อิติ หิทํ มารสฺส จ อนาลปนตาย พฺรหฺมุโน จ อภินิมนฺตนตาย, ตสฺมา อิมสฺส เวยฺยากรณสฺส พฺรหฺมนิมนฺตนิกํเตว อธิวจน’’นฺติ.
พฺรหฺมนิมนฺตนิกสุตฺตํ นิฏฺิตํ นวมํ.
๑๐. มารตชฺชนียสุตฺตํ
๕๐๖. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภคฺเคสุ วิหรติ สุสุมารคิเร เภสกฬาวเน มิคทาเย. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน อพฺโภกาเส จงฺกมติ. เตน โข ปน สมเยน มาโร ปาปิมา อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส กุจฺฉิคโต โหติ โกฏฺมนุปวิฏฺโ. อถ โข อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กึ นุ โข เม กุจฺฉิ ครุคโร วิย [ครุ ครุ วิย (สี. ปี. ฏีกายํ ปานฺตรํ)]? มาสาจิตํ มฺเ’’ติ. อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน จงฺกมา โอโรหิตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ปจฺจตฺตํ โยนิโส มนสากาสิ. อทฺทสา โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน มารํ ปาปิมนฺตํ กุจฺฉิคตํ โกฏฺมนุปวิฏฺํ. ทิสฺวาน ¶ มารํ ปาปิมนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘นิกฺขม, ปาปิม; นิกฺขม, ปาปิม! มา ตถาคตํ วิเหเสสิ, มา ตถาคตสาวกํ. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ. อถ โข มารสฺส ปาปิมโต เอตทโหสิ – ‘‘อชานเมว โข มํ อยํ สมโณ อปสฺสํ เอวมาห – ‘นิกฺขม, ปาปิม; นิกฺขม, ปาปิม! มา ตถาคตํ วิเหเสสิ, มา ตถาคตสาวกํ. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’ติ. โยปิสฺส โส สตฺถา โสปิ มํ เนว ขิปฺปํ ชาเนยฺย, กุโต ปน [กุโต จ ปน (สฺยา.)] มํ อยํ สาวโก ชานิสฺสตี’’ติ? อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ¶ มารํ ปาปิมนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอวมฺปิ โข ตาหํ, ปาปิม, ชานามิ, มา ตฺวํ มฺิตฺโถ – ‘น มํ ชานาตี’ติ. มาโร ตฺวมสิ, ปาปิม; ตุยฺหฺหิ, ปาปิม, เอวํ โหติ – ‘อชานเมว โข มํ อยํ สมโณ อปสฺสํ เอวมาห – นิกฺขม, ปาปิม; นิกฺขม, ปาปิม! มา ตถาคตํ วิเหเสสิ, มา ตถาคตสาวกํ. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายาติ. โยปิสฺส โส สตฺถา โสปิ มํ เนว ขิปฺปํ ชาเนยฺย, กุโต ปน มํ อยํ สาวโก ชานิสฺสตี’’’ติ?
อถ โข มารสฺส ปาปิมโต เอตทโหสิ – ‘‘ชานเม โข มํ อยํ สมโณ ปสฺสํ เอวมาห – ‘นิกฺขม, ปาปิม; นิกฺขม, ปาปิม! มา ตถาคตํ วิเหเสสิ, มา ตถาคตสาวกํ. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’’ติ. อถ โข มาโร ปาปิมา อายสฺมโต ¶ มหาโมคฺคลฺลานสฺส มุขโต อุคฺคนฺตฺวา ปจฺจคฺคเฬ อฏฺาสิ.
๕๐๗. อทฺทสา ¶ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน มารํ ปาปิมนฺตํ ปจฺจคฺคเฬ ิตํ; ทิสฺวาน มารํ ปาปิมนฺตํ เอตทโวจ – ‘เอตฺถาปิ โข ตาหํ, ปาปิม, ปสฺสามิ; มา ตฺวํ มฺิตฺโถ ‘‘น มํ ปสฺสตี’’ติ. เอโส ตฺวํ, ปาปิม, ปจฺจคฺคเฬ ิโต. ภูตปุพฺพาหํ, ปาปิม, ทูสี นาม มาโร อโหสึ, ตสฺส เม กาฬี นาม ภคินี. ตสฺสา ตฺวํ ปุตฺโต. โส เม ตฺวํ ภาคิเนยฺโย อโหสิ. เตน โข ปน, ปาปิม, สมเยน กกุสนฺโธ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน โหติ. กกุสนฺธสฺส โข ปน, ปาปิม, ภควโต อรหโต ¶ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วิธุรสฺชีวํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. ยาวตา โข ปน, ปาปิม, กกุสนฺธสฺส ภควโต ¶ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาวกา. เตสุ น จ โกจิ อายสฺมตา วิธุเรน สมสโม โหติ ยทิทํ ธมฺมเทสนาย. อิมินา โข เอวํ [เอตํ (สี. สฺยา. ปี.)], ปาปิม, ปริยาเยน อายสฺมโต วิธุรสฺส วิธุโรเตว [วิธุรสฺส วิธุโร วิธุโรตฺเวว (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สมฺา อุทปาทิ.
‘‘อายสฺมา ปน, ปาปิม, สฺชีโว อรฺคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สฺุาคารคโตปิ อปฺปกสิเรเนว สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชติ. ภูตปุพฺพํ, ปาปิม, อายสฺมา สฺชีโว อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน นิสินฺโน โหติ. อทฺทสํสุ โข, ปาปิม, โคปาลกา ปสุปาลกา กสฺสกา ปถาวิโน อายสฺมนฺตํ สฺชีวํ อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺนํ นิสินฺนํ; ทิสฺวาน เตสํ เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ! อยํ สมโณ นิสินฺนโกว กาลงฺกโต! หนฺท นํ ทหามา’ติ. อถ โข เต, ปาปิม, โคปาลกา ปสุปาลกา กสฺสกา ปถาวิโน ติณฺจ กฏฺฺจ โคมยฺจ สํกฑฺฒิตฺวา อายสฺมโต สฺชีวสฺส กาเย อุปจินิตฺวา อคฺคึ ทตฺวา ปกฺกมึสุ. อถ โข, ปาปิม, อายสฺมา สฺชีโว ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ตาย สมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา จีวรานิ ปปฺโผเฏตฺวา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อทฺทสํสุ โข เต, ปาปิม, โคปาลกา ปสุปาลกา กสฺสกา ปถาวิโน อายสฺมนฺตํ สฺชีวํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ; ทิสฺวาน เนสํ ¶ เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ! อยํ สมโณ นิสินฺนโกว กาลงฺกโต, สฺวายํ ปฏิสฺชีวิโต’ติ ¶ . อิมินา โข เอวํ, ปาปิม, ปริยาเยน อายสฺมโต สฺชีวสฺส สฺชีโวเตว [สฺชีโว สฺชีโวตฺเวว (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สมฺา อุทปาทิ.
๕๐๘. ‘‘อถ โข, ปาปิม, ทูสิสฺส มารสฺส เอตทโหสิ – ‘อิเมสํ โข อหํ ภิกฺขูนํ สีลวนฺตานํ กลฺยาณธมฺมานํ เนว ชานามิ อาคตึ วา คตึ วา. ยํนูนาหํ พฺราหฺมณคหปติเก อนฺวาวิเสยฺยํ ¶ – เอถ, ตุมฺเห ภิกฺขู สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม อกฺโกสถ ปริภาสถ โรเสถ วิเหเสถ. อปฺเปว นาม ตุมฺเหหิ อกฺโกสิยมานานํ ปริภาสิยมานานํ โรสิยมานานํ วิเหสิยมานานํ สิยา จิตฺตสฺส อฺถตฺตํ, ยถา ตํ ทูสี ¶ มาโร ลเภถ โอตาร’นฺติ. อถ โข เต, ปาปิม, ทูสี มาโร พฺราหฺมณคหปติเก อนฺวาวิสิ – ‘เอถ, ตุมฺเห ภิกฺขู สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม อกฺโกสถ ปริภาสถ โรเสถ วิเหเสถ. อปฺเปว นาม ตุมฺเหหิ อกฺโกสิยมานานํ ปริภาสิยมานานํ โรสิยมานานํ วิเหสิยมานานํ สิยา จิตฺตสฺส อฺถตฺตํ, ยถา ตํ ทูสี มาโร ลเภถ โอตาร’นฺติ.
‘‘อถ โข เต, ปาปิม, พฺราหฺมณคหปติกา อนฺวาวิสิฏฺา ทูสินา มาเรน ภิกฺขู สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ โรเสนฺติ วิเหเสนฺติ – ‘อิเม ปน มุณฺฑกา สมณกา อิพฺภา กิณฺหา [กณฺหา (สฺยา. กํ. ก.)] พนฺธุปาทาปจฺจา ‘‘ฌายิโนสฺมา ฌายิโนสฺมา’’ติ ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา มธุรกชาตา ฌายนฺติ ปชฺฌายนฺติ นิชฺฌายนฺติ อปชฺฌายนฺติ. เสยฺยถาปิ นาม อุลูโก ¶ รุกฺขสาขายํ มูสิกํ มคฺคยมาโน ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติ; เอวเมวิเม มุณฺฑกา สมณกา อิพฺภา กิณฺหา พนฺธุปาทาปจฺจา ‘‘ฌายิโนสฺมา ฌายิโนสฺมา’’ติ ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา มธุรกชาตา ฌายนฺติ ปชฺฌายนฺติ นิชฺฌายนฺติ อปชฺฌายนฺติ. เสยฺยถาปิ นาม โกตฺถุ นทีตีเร มจฺเฉ มคฺคยมาโน ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติ; เอวเมวิเม มุณฺฑกา สมณกา อิพฺภา กิณฺหา พนฺธุปาทาปจฺจา ‘‘ฌายิโนสฺมา ฌายิโนสฺมา’’ติ ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา มธุรกชาตา ฌายนฺติ ปชฺฌายนฺติ นิชฺฌายนฺติ อปชฺฌายนฺติ. เสยฺยถาปิ นาม พิฬาโร สนฺธิสมลสงฺกฏีเร มูสิกํ มคฺคยมาโน ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติ; เอวเมวิเม มุณฺฑกา สมณกา อิพฺภา กิณฺหา พนฺธุปาทาปจฺจา ‘‘ฌายิโนสฺมา ฌายิโนสฺมา’’ติ ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา มธุรกชาตา ฌายนฺติ ปชฺฌายนฺติ นิชฺฌายนฺติ อปชฺฌายนฺติ. เสยฺยถาปิ นาม คทฺรโภ วหจฺฉินฺโน สนฺธิสมลสงฺกฏีเร ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติ, เอวเมวิเม มุณฺฑกา สมณกา อิพฺภา กิณฺหา พนฺธุปาทาปจฺจา ‘‘ฌายิโนสฺมา ฌายิโนสฺมา’’ติ ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา มธุรกชาตา ฌายนฺติ ปชฺฌายนฺติ นิชฺฌายนฺติ อปชฺฌายนฺตี’’ติ.
‘‘เย โข ปน, ปาปิม, เตน สมเยน มนุสฺสา กาลงฺกโรนฺติ เยภุยฺเยน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ.
๕๐๙. ‘‘อถ ¶ ¶ ¶ โข, ปาปิม, กกุสนฺโธ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภิกฺขู ¶ อามนฺเตสิ – ‘อนฺวาวิฏฺา โข, ภิกฺขเว, พฺราหฺมณคหปติกา ทูสินา มาเรน – เอถ, ตุมฺเห ภิกฺขู สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม อกฺโกสถ ปริภาสถ โรเสถ วิเหเสถ, อปฺเปว นาม ตุมฺเหหิ อกฺโกสิยมานานํ ปริภาสิยมานานํ โรสิยมานานํ วิเหสิยมานานํ สิยา จิตฺตสฺส อฺถตฺตํ, ยถา ตํ ทูสี มาโร ลเภถ โอตาร’นฺติ. เอถ, ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรถ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาพชฺเฌน ผริตฺวา วิหรถ. กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรถ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาพชฺเฌน ผริตฺวา วิหรถา’ติ.
‘‘อถ โข เต, ปาปิม, ภิกฺขู กกุสนฺเธน ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน เอวํ โอวทิยมานา เอวํ อนุสาสิยมานา อรฺคตาปิ รุกฺขมูลคตาปิ สฺุาคารคตาปิ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรึสุ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาพชฺเฌน ผริตฺวา วิหรึสุ. กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรึสุ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาพชฺเฌน ผริตฺวา วิหรึสุ ¶ .
๕๑๐. ‘‘อถ โข, ปาปิม, ทูสิสฺส มารสฺส เอตทโหสิ – ‘เอวมฺปิ โข อหํ กโรนฺโต อิเมสํ ภิกฺขูนํ สีลวนฺตานํ กลฺยาณธมฺมานํ เนว ชานามิ อาคตึ วา คตึ วา, ยํนูนาหํ พฺราหฺมณคหปติเก อนฺวาวิเสยฺยํ – เอถ, ตุมฺเห ภิกฺขู สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม สกฺกโรถ ครุํ กโรถ มาเนถ ¶ ปูเชถ ¶ , อปฺเปว นาม ตุมฺเหหิ สกฺกริยมานานํ ครุกริยมานานํ มานิยมานานํ ปูชิยมานานํ สิยา จิตฺตสฺส อฺถตฺตํ, ยถา ตํ ทูสี มาโร ลเภถ โอตาร’นฺติ ¶ . อถ โข เต, ปาปิม, ทูสี มาโร พฺราหฺมณคหปติเก อนฺวาวิสิ – ‘เอถ, ตุมฺเห ภิกฺขู สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม สกฺกโรถ ครุํ กโรถ มาเนถ ปูเชถ, อปฺเปว นาม ตุมฺเหหิ สกฺกริยมานานํ ครุกริยมานานํ มานิยมานานํ ปูชิยมานานํ สิยา จิตฺตสฺส อฺถตฺตํ, ยถา ตํ ทูสี มาโร ลเภถ โอตาร’นฺติ. อถ โข เต, ปาปิม, พฺราหฺมณคหปติกา อนฺวาวิฏฺา ทูสินา มาเรน ภิกฺขู สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ.
‘‘เย โข ปน, ปาปิม, เตน สมเยน มนุสฺสา กาลงฺกโรนฺติ เยภุยฺเยน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ.
๕๑๑. ‘‘อถ ¶ โข, ปาปิม, กกุสนฺโธ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘อนฺวาวิฏฺา โข, ภิกฺขเว, พฺราหฺมณคหปติกา ทูสินา มาเรน – เอถ, ตุมฺเห ภิกฺขู สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม สกฺกโรถ ครุํ กโรถ มาเนถ ปูเชถ, อปฺเปว นาม ตุมฺเหหิ สกฺกริยมานานํ ครุกริยมานานํ มานิยมานานํ ปูชิยมานานํ สิยา จิตฺตสฺส อฺถตฺตํ, ยถา ตํ ทูสี มาโร ลเภถ โอตารนฺติ. เอถ, ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อสุภานุปสฺสิโน กาเย วิหรถ, อาหาเร ปฏิกูลสฺิโน, สพฺพโลเก อนภิรติสฺิโน [อนภิรตสฺีโน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสิโน’ติ.
‘‘อถ โข เต, ปาปิม, ภิกฺขู กกุสนฺเธน ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน เอวํ โอวทิยมานา เอวํ อนุสาสิยมานา อรฺคตาปิ รุกฺขมูลคตาปิ สฺุาคารคตาปิ อสุภานุปสฺสิโน กาเย วิหรึสุ, อาหาเร ปฏิกูลสฺิโน, สพฺพโลเก อนภิรติสฺิโน, สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสิโน.
๕๑๒. ‘‘อถ โข, ปาปิม, กกุสนฺโธ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อายสฺมตา วิธุเรน ปจฺฉาสมเณน คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถ โข, ปาปิม, ทูสี มาโร อฺตรํ กุมารกํ ¶ [กุมารํ (สี. ปี.)] อนฺวาวิสิตฺวา สกฺขรํ คเหตฺวา อายสฺมโต วิธุรสฺส สีเส ปหารมทาสิ; สีสํ โวภินฺทิ [สีสํ เต ภินฺทิสฺสามีติ (ก.)]. อถ โข, ปาปิม, อายสฺมา วิธุโร ภินฺเนน สีเสน โลหิเตน คฬนฺเตน กกุสนฺธํเยว ภควนฺตํ ¶ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธิ. อถ โข ¶ , ปาปิม, กกุสนฺโธ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ นาคาปโลกิตํ อปโลเกสิ ¶ – ‘น วายํ ทูสี มาโร มตฺตมฺาสี’ติ. สหาปโลกนาย จ ปน, ปาปิม, ทูสี มาโร ตมฺหา จ านา จวิ มหานิรยฺจ อุปปชฺชิ.
‘‘ตสฺส โข ปน, ปาปิม, มหานิรยสฺส ตโย นามเธยฺยา โหนฺติ – ฉผสฺสายตนิโก อิติปิ, สงฺกุสมาหโต อิติปิ, ปจฺจตฺตเวทนิโย อิติปิ. อถ โข มํ, ปาปิม, นิรยปาลา อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจุํ – ยทา โข เต [ยโต เต (ก.)], มาริส, สงฺกุนา สงฺกุ หทเย สมาคจฺเฉยฺย. อถ นํ ตฺวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘วสฺสสหสฺสํ เม นิรเย ปจฺจมานสฺสา’ติ. โส โข อหํ, ปาปิม, พหูนิ วสฺสานิ พหูนิ วสฺสสตานิ พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ ตสฺมึ มหานิรเย อปจฺจึ. ทสวสฺสสหสฺสานิ ตสฺเสว มหานิรยสฺส อุสฺสเท อปจฺจึ วุฏฺานิมํ นาม เวทนํ เวทิยมาโน. ตสฺส มยฺหํ, ปาปิม, เอวรูโป กาโย โหติ, เสยฺยถาปิ มนุสฺสสฺส. เอวรูปํ สีสํ โหติ, เสยฺยถาปิ มจฺฉสฺส.
‘‘กีทิโส นิรโย อาสิ, ยตฺถ ทูสี อปจฺจถ;
วิธุรํ สาวกมาสชฺช, กกุสนฺธฺจ พฺราหฺมณํ.
‘‘สตํ อาสิ อโยสงฺกู, สพฺเพ ปจฺจตฺตเวทนา;
อีทิโส นิรโย อาสิ, ยตฺถ ทูสี อปจฺจถ;
วิธุรํ สาวกมาสชฺช, กกุสนฺธฺจ พฺราหฺมณํ.
‘‘โย เอตมภิชานาติ, ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโก;
ตาทิสํ ¶ ภิกฺขุมาสชฺช, กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
‘‘มชฺเฌ สรสฺส ติฏฺนฺติ, วิมานา กปฺปฏฺายิโน;
เวฬุริยวณฺณา รุจิรา, อจฺจิมนฺโต ปภสฺสรา;
อจฺฉรา ตตฺถ นจฺจนฺติ, ปุถุ นานตฺตวณฺณิโย.
‘‘โย ¶ ¶ ¶ เอตมภิชานาติ, ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโก;
ตาทิสํ ภิกฺขุมาสชฺช, กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
‘‘โย เว พุทฺเธน โจทิโต, ภิกฺขุ สงฺฆสฺส เปกฺขโต;
มิคารมาตุปาสาทํ, ปาทงฺคุฏฺเน กมฺปยิ.
‘‘โย เอตมภิชานาติ, ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโก;
ตาทิสํ ภิกฺขุมาสชฺช, กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
‘‘โย เวชยนฺตํ ปาสาทํ, ปาทงฺคุฏฺเน กมฺปยิ;
อิทฺธิพเลนุปตฺถทฺโธ, สํเวเชสิ จ เทวตา.
‘‘โย เอตมภิชานาติ, ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโก;
ตาทิสํ ภิกฺขุมาสชฺช, กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
‘‘โย เวชยนฺตปาสาเท, สกฺกํ โส ปริปุจฺฉติ;
อปิ วาสว ชานาสิ, ตณฺหากฺขยวิมุตฺติโย;
ตสฺส สกฺโก วิยากาสิ, ปฺหํ ปุฏฺโ ยถาตถํ.
‘‘โย เอตมภิชานาติ, ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโก;
ตาทิสํ ภิกฺขุมาสชฺช, กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
‘‘โย พฺรหฺมํ ปริปุจฺฉติ, สุธมฺมายาภิโต สภํ;
อชฺชาปิ ¶ ตฺยาวุโส ทิฏฺิ, ยา เต ทิฏฺิ ปุเร อหุ;
ปสฺสสิ วีติวตฺตนฺตํ, พฺรหฺมโลเก ปภสฺสรํ.
‘‘ตสฺส ¶ พฺรหฺมา วิยากาสิ, อนุปุพฺพํ ยถาตถํ;
น เม มาริส สา ทิฏฺิ, ยา เม ทิฏฺิ ปุเร อหุ.
‘‘ปสฺสามิ วีติวตฺตนฺตํ, พฺรหฺมโลเก ปภสฺสรํ;
โสหํ อชฺช กถํ วชฺชํ, อหํ นิจฺโจมฺหิ สสฺสโต.
‘‘โย เอตมภิชานาติ, ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโก;
ตาทิสํ ภิกฺขุมาสชฺช, กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
‘‘โย มหาเมรุโน กูฏํ, วิโมกฺเขน อผสฺสยิ;
วนํ ปุพฺพวิเทหานํ, เย จ ภูมิสยา นรา.
‘‘โย เอตมภิชานาติ, ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโก;
ตาทิสํ ภิกฺขุมาสชฺช, กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
‘‘น ¶ เว อคฺคิ เจตยติ [เวยติ (สี.)], ‘อหํ พาลํ ฑหามี’ติ;
พาโล จ ชลิตํ อคฺคึ, อาสชฺช นํ ส ฑยฺหติ.
‘‘เอวเมว ตุวํ มาร, อาสชฺช นํ ตถาคตํ;
สยํ ฑหิสฺสสิ อตฺตานํ, พาโล อคฺคึว สํผุสํ.
‘‘อปฺุํ ปสวี มาโร, อาสชฺช นํ ตถาคตํ;
กินฺนุ มฺสิ ปาปิม, น เม ปาปํ วิปจฺจติ.
‘‘กโรโต จียติ ปาปํ, จิรรตฺตาย อนฺตก;
มาร นิพฺพินฺท พุทฺธมฺหา, อาสํ มากาสิ ภิกฺขุสุ.
‘‘อิติ ¶ มารํ อตชฺเชสิ, ภิกฺขุ เภสกฬาวเน;
ตโต โส ทุมฺมโน ยกฺโข, นตตฺเถวนฺตรธายถา’’ติ.
มารตชฺชนียสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทสมํ.
จูฬยมกวคฺโค นิฏฺิโต ปฺจโม.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
สาเลยฺย เวรฺชทุเว จ ตุฏฺิ, จูฬมหาธมฺมสมาทานฺจ;
วีมํสกา โกสมฺพิ จ พฺราหฺมโณ, ทูสี จ มาโร ทสโม จ วคฺโค.
สาเลยฺยวคฺโค นิฏฺิโต ปฺจโม.
อิทํ วคฺคานมุทฺทานํ –
มูลปริยาโย เจว, สีหนาโท จ อุตฺตโม;
กกโจ เจว โคสิงฺโค, สาเลยฺโย จ อิเม ปฺจ.
มูลปณฺณาสกํ สมตฺตํ.