📜

๑. มูลปริยายวคฺโค

๑. มูลปริยายสุตฺตวณฺณนา

อพฺภนฺตรนิทานวณฺณนา

. เอวํ พาหิรนิทาเน วตฺตพฺพํ อติทิสิตฺวา อิทานิ อภนฺตรนิทานํ อาทิโต ปฏฺาย สํวณฺเณตุํ ‘‘ยํ ปเนต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมา สํวณฺณนํ กโรนฺเตน สํวณฺเณตพฺเพ ธมฺเม ปทวิภาคํ ปทตฺถฺจ ทสฺเสตฺวา ตโต ปรํ ปิณฺฑตฺตาทิทสฺสนวเสน สํวณฺณนา กาตพฺพา, ตสฺมา ปทานิ ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘เอวนฺติ นิปาตปท’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปทวิภาโคติ ปทานํ วิเสโส, น ปทวิคฺคโห. อถ วา ปทานิ จ ปทวิภาโค จ ปทวิภาโค, ปทวิคฺคโห จ ปทวิภาโค จ ปทวิภาโคติ วา เอกเสสวเสน ปทปทวิคฺคหา ปทวิภาคสทฺเทน วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ปทวิคฺคโห ‘‘สุภคฺจ ตํ วนฺจาติ สุภควนํ, สาลานํ ราชา, สาโล จ โส ราชา จ อิติปิ สาลราชา’’ติอาทิวเสน สมาสปเทสุ ทฏฺพฺโพ.

อตฺถโตติ ปทตฺถโต. ตํ ปน ปทตฺถํ อตฺถุทฺธารกฺกเมน ปมํ เอวํสทฺทสฺส ทสฺเสนฺโต ‘‘เอวํ-สทฺโท ตาวา’’ติอาทิมาห. อวธารณาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อิทมตฺถปุจฺฉาปริมาณาทิอตฺถานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตถา หิ ‘‘เอวํคตานิ ปุถุสิปฺปายตนานิ (ที. นิ. ๑.๑๖๓), เอววิโธ เอวมากาโร’’ติ จ อาทีสุ อิทํ-สทฺทสฺส อตฺเถ เอวํ-สทฺโท. คต-สทฺโท หิ ปการปริยาโย, ตถา วิธาการ-สทฺทา จ. ตถา หิ วิธยุตฺตคต-สทฺเท โลกิยา ปการตฺเถ วทนฺติ. ‘‘เอวํ สุ เต สุนฺหาตา สุวิลิตฺตา กปฺปิตเกสมสฺสู อามุกฺกมณิกุณฺฑลาภรณา โอทาตวตฺถวสนา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ปริจาเรนฺติ, เสยฺยถาปิ ตฺวํ เอตรหิ สาจริยโกติ. โน หิทํ, โภ โคตมา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๘๖) ปุจฺฉายํ. ‘‘เอวํลหุปริวตฺตํ (อ. นิ. ๑.๔๘) เอวมายุปริยนฺโต’’ติ (ปารา. ๑๒) จ อาทีสุ ปริมาเณ.

นนุ จ ‘‘เอวํ สุ เต สุนฺหาตา สุวิลิตฺตา, เอวมายุปริยนฺโต’’ติ เอตฺถ เอวํ-สทฺเทน ปุจฺฉนาการปริมาณาการานํ วุตฺตตฺตา อาการตฺโถ เอว เอวํ-สทฺโทติ? น, วิเสสสพฺภาวโต. อาการมตฺตวาจโก หิ เอวํ-สทฺโท อาการตฺโถติ อธิปฺเปโต ยถา ‘‘เอวํ พฺยา โข’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๓๔, ๓๙๖), น ปน อาการวิเสสวาจโก. เอวฺจ กตฺวา ‘‘เอวํ ชาเตน มจฺเจนา’’ติอาทีนิ อุปมาทิอุทาหรณานิ อุปปนฺนานิ โหนฺติ. ตถา หิ ‘‘ยถาปิ…เป… พหุ’’นฺติ (ธ. ป. ๕๓) เอตฺถ ปุปฺผราสิฏฺานิยโต มนุสฺสูปปตฺติ-สปฺปุริสูปนิสฺสย-สทฺธมฺมสฺสวน-โยนิโสมนสิการ- โภคสมฺปตฺติ-อาทิทานาทิ-ปุฺกิริยเหตุสมุทายโต โสภา-สุคนฺธตาทิคุณโยคโต มาลาคุณสทิสิโย ปหูตา ปุฺกิริยา มริตพฺพสภาวตาย มจฺเจน สตฺเตน กตฺตพฺพาติ โชติตตฺตา ปุปฺผราสิมาลาคุณาว อุปมา, เตสํ อุปมากาโร ยถา-สทฺเทน อนิยมโต วุตฺโตติ ‘‘เอวํ-สทฺโท อุปมาการนิคมนตฺโถ’’ติ วตฺตุํ ยุตฺตํ. โส ปน อุปมากาโร นิยมิยมาโน อตฺถโต อุปมาว โหตีติ อาห ‘‘อุปมายํ อาคโต’’ติ. ตถา ‘‘เอวํ อิมินา อากาเรน อภิกฺกมิตพฺพ’’นฺติอาทินา อุปทิสิยมานาย สมณสารุปฺปาย อากปฺปสมฺปตฺติยา โย ตตฺถ อุปทิสนากาโร, โส อตฺถโต อุปเทโส เอวาติ วุตฺตํ ‘‘เอวํ เต…เป… อุปเทเส’’ติ. ตถา ‘‘เอวเมตํ ภควา, เอวเมตํ สุคตา’’ติ เอตฺถ จ ภควตา ยถาวุตฺตมตฺถํ อวิปรีตโต ชานนฺเตหิ กตํ ตตฺถ สํวิชฺชมานคุณานํ ปกาเรหิ หํสนํ อุทคฺคตากรณํ สมฺปหํสนํ. โย ตตฺถ สมฺปหํสนากาโรติ โยเชตพฺพํ.

เอวเมวํ ปนายนฺติ เอตฺถ ครหณากาโรติ โยเชตพฺพํ, โส จ ครหณากาโร ‘‘วสลี’’ติอาทิขุํสนสทฺทสนฺนิธานโต อิธ เอวํ-สทฺเทน ปกาสิโตติ วิฺายติ. ยถา เจตฺถ, เอวํ อุปมาการาทโยปิ อุปมาทิวเสน วุตฺตานํ ปุปฺผราสิอาทิสทฺทานํ สนฺนิธานโต ทฏฺพฺพํ. เอวํ, ภนฺเตติ ปน ธมฺมสฺส สาธุกํ สวนมนสิกาเร สนฺนิโยชิเตหิ ภิกฺขูหิ อตฺตโน ตตฺถ ิตภาวสฺส ปฏิชานนวเสน วุตฺตตฺตา เอตฺถ เอวํ-สทฺโท วจนสมฺปฏิจฺฉนตฺโถ วุตฺโต. เตน เอวํ, ภนฺเต สาธุ, ภนฺเต, สุฏฺุ, ภนฺเตติ วุตฺตํ โหติ. เอวฺจ วเทหีติ ‘‘ยถาหํ วทามิ, เอวํ สมณํ อานนฺทํ วเทหี’’ติ โย เอวํ วทนากาโร อิทานิ วตฺตพฺโพ. โส เอวํสทฺเทน นิทสฺสียตีติ ‘‘นิทสฺสเน’’ติ วุตฺโตติ. เอวํ โนติ เอตฺถาปิ เตสํ ยถาวุตฺตธมฺมานํ อหิตทุกฺขาวหภาเว สนฺนิฏฺานชนนตฺถํ อนุมติคหณวเสน ‘‘สํวตฺตนฺติ วา โน วา, กถํ โว เอตฺถ โหตี’’ติ ปุจฺฉาย กตาย ‘‘เอวํ โน เอตฺถ โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา ตทาการสนฺนิฏฺานํ เอวํ-สทฺเทน วิภาวิตนฺติ วิฺายติ. โส ปน เตสํ ธมฺมานํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนากาโร นิยมิยมาโน อวธารณตฺโถ โหตีติ อาห ‘‘เอวํ โน เอตฺถ โหตีติอาทีสุ อวธารเณ’’ติ.

นานานยนิปุณนฺติ เอกตฺตนานตฺตอพฺยาปารเอวํธมฺมตาสงฺขาตา, นนฺทิยาวตฺตติปุกฺขลสีหวิกฺกีฬิตองฺกุสทิสาโลจนสงฺขาตา วา อาธาราทิเภทวเสน นานาวิธา นยา นานานยา, นยา วา ปาฬิคติโย, ตา จ ปฺตฺติอนุปฺตฺติอาทิวเสน สํกิเลสภาคิยาทิโลกิยาทิตทุภยโวมิสฺสกาทิวเสน กุสลาทิวเสน ขนฺธาทิวเสน สงฺคหาทิวเสน สมยวิมุตฺตาทิวเสน ปนาทิวเสน กุสลมูลาทิวเสน ติกปฺปฏฺานาทิวเสน จ นานปฺปการาติ นานานยา. เตหิ นิปุณํ สณฺหํ สุขุมนฺติ นานานยนิปุณํ. อาสโยว อชฺฌาสโย, เต จ สสฺสตาทิเภเทน, ตตฺถ จ อปฺปรชกฺขตาทิเภเทน อเนเก, อตฺตชฺฌาสยาทโย เอว วา สมุฏฺานํ อุปฺปตฺติเหตุ เอตสฺสาติ อเนกชฺฌาสยสมุฏฺานํ. อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนนฺติ อตฺถพฺยฺชนปริปุณฺณํ อุปเนตพฺพาภาวโต, สงฺกาสนปกาสน-วิวรณ-วิภชน-อุตฺตานีกรณ-ปฺตฺติวเสน ฉหิ อตฺถปเทหิ, อกฺขร-ปทพฺยฺชนาการนิรุตฺตินิทฺเทสวเสน ฉหิ พฺยฺชนปเทหิ จ สมนฺนาคตนฺติ วา อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

วิวิธปาฏิหาริยนฺติ เอตฺถ ปาฏิหาริยปทสฺส วจนตฺถํ (อุทา. อฏฺ. ๑; อิติวุ. อฏฺ. นิทานวณฺณนา; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑ เทวตาสํยุตฺต) ‘‘ปฏิปกฺขหรณโต, ราคาทิกิเลสาปนยนโต จ ปาฏิหาริย’’นฺติ วทนฺติ, ภควโต ปน ปฏิปกฺขา ราคาทโย น สนฺติ, เย หริตพฺพา. ปุถุชฺชนานมฺปิ วิคตูปกฺกิเลเส อฏฺคุณสมนฺนาคเต จิตฺเต หตปฏิปกฺเข อิทฺธิวิธํ ปวตฺตติ, ตสฺมา ตตฺถ ปวตฺตโวหาเรน จ น สกฺกา อิธ ‘‘ปาฏิหาริย’’นฺติ วตฺตุํ. สเจ ปน มหาการุณิกสฺส ภควโต เวเนยฺยคตา จ กิเลสา ปฏิปกฺขา, เตสํ หรณโต ‘‘ปาฏิหาริย’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ สติ ยุตฺตเมตํ. อถ วา ภควโต จ สาสนสฺส จ ปฏิปกฺขา ติตฺถิยา, เตสํ หรณโต ปาฏิหาริยํ. เต หิ ทิฏฺิหรณวเสน ทิฏฺิปกาสเน อสมตฺถภาเวน จ อิทฺธิอาเทสนานุสาสนีหิ หริตา อปนีตา โหนฺตีติ . ‘‘ปฏี’’ติ วา อยํ สทฺโท ‘‘ปจฺฉา’’ติ เอตสฺส อตฺถํ โพเธติ ‘‘ตสฺมึ ปฏิปวิฏฺมฺหิ, อฺโ อาคฺฉิ พฺราหฺมโณ’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๙๘๕; จูฬนิ. ๔) วิย, ตสฺมา สมาหิเต จิตฺเต วิคตูปกฺกิเลเส จ กตกิจฺเจน ปจฺฉา หริตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ ปาฏิหาริยํ, อตฺตโน วา อุปกฺกิเลเสสุ จตุตฺถชฺฌานมคฺเคหิ หริเตสุ ปจฺฉา หรณํ ปาฏิหาริยํ, อิทฺธิอาเทสนานุสาสนิโย จ วิคตูปกฺกิเลเสน กตกิจฺเจน จ สตฺตหิตตฺถํ ปุน ปวตฺเตตพฺพา, หริเตสุ จ อตฺตโน อุปกฺกิเลเสสุ ปรสตฺตานํ อุปกิเลสหรณานิ โหนฺตีติ ปาฏิหาริยานิ ภวนฺติ. ปาฏิหาริยเมว ปาฏิหาริยํ, ปาฏิหาริเย วา อิทฺธิอาเทสนานุสาสนิสมุทาเย ภวํ เอกเมกํ ปาฏิหาริยนฺติ วุจฺจติ. ปาฏิหาริยํ วา จตุตฺถชฺฌานํ มคฺโค จ ปฏิปกฺขหรณโต, ตตฺถ ชาตํ, ตสฺมึ วา นิมิตฺตภูเต, ตโต วา อาคตนฺติ ปาฏิหาริยํ. ตสฺส ปน อิทฺธิอาทิเภเทน วิสยเภเทน จ พหุวิธสฺส ภควโต เทสนายํ ลพฺภมานตฺตา อาห ‘‘วิวิธปาฏิหาริย’’นฺติ.

น อฺถาติ ภควโต สมฺมุขา สุตาการโต น อฺถาติ อตฺโถ, น ปน ภควโต เทสิตาการโต. อจินฺเตยฺยานุภาวา หิ ภควโต เทสนา. เอวฺจ กตฺวา ‘‘สพฺพปฺปกาเรน โก สมตฺโถ วิฺาตุ’’นฺติ อิทํ วจนํ สมตฺถิตํ ภวติ, ธารณพลทสฺสนฺจ น วิรุชฺฌติ สุตาการาวิรชฺฌนสฺส อธิปฺเปตตฺตา. น เหตฺถ อตฺถนฺตรตาปริหาโร ทฺวินฺนมฺปิ อตฺถานํ เอกวิสยตฺตา. อิตรถา เถโร ภควโต เทสนาย สพฺพถา ปฏิคฺคหเณ สมตฺโถ อสมตฺโถ จาติ อาปชฺเชยฺยาติ.

‘‘โย ปโร น โหติ, โส อตฺตา’’ติ เอวํ วุตฺตาย นิยกชฺฌตฺตสงฺขาตาย สสนฺตติยา วตฺตนโต ติวิโธปิ เม-สทฺโท กิฺจาปิ เอกสฺมึเยว อตฺเถ ทิสฺสติ, กรณสมฺปทานสามินิทฺเทสวเสน ปน วิชฺชมานํ เภทํ สนฺธายาห ‘‘เม-สทฺโท ตีสุ อตฺเถสุ ทิสฺสตี’’ติ.

กิฺจาปิ อุปสคฺโค กิริยํ วิเสเสติ, โชตกภาวโต ปน สติปิ ตสฺมึ สุตสทฺโท เอว ตํ ตมตฺถํ วทตีติ อนุปสคฺคสฺส สุตสทฺทสฺส อตฺถุทฺธาเร สอุปสคฺคสฺส คหณํ น วิรุชฺฌตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สอุปสคฺโค จ อนุปสคฺโค จา’’ติอาทิมาห. อสฺสาติ สุตสทฺทสฺส. กมฺมภาวสาธนานิ อิธ สุตสทฺเท สมฺภวนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘อุปธาริตนฺติ วา อุปธารณนฺติ วา อตฺโถ’’ติ. มยาติ อตฺเถ สตีติ ยทา เม-สทฺทสฺส กตฺตุวเสน กรณนิทฺเทโส, ตทาติ อตฺโถ. มมาติ อตฺเถ สตีติ ยทา สมฺพนฺธวเสน สามินิทฺเทโส, ตทา.

สุต-สทฺทสนฺนิธาเน ปยุตฺเตน เอวํ-สทฺเทน สวนกิริยาโชตเกน ภวิตพฺพนฺติ วุตฺตํ ‘‘เอวนฺติ โสตวิฺาณาทิวิฺาณกิจฺจนิทสฺสน’’นฺติ. อาทิ-สทฺเทน สมฺปฏิจฺฉนาทีนํ ปฺจทฺวาริกวิฺาณานํ ตทภินีหฏานฺจ มโนทฺวาริกวิฺาณานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. สพฺเพสมฺปิ วากฺยานํ เอว-การตฺถสหิตตฺตา ‘‘สุต’’นฺติ เอตสฺส สุตเมวาติ อยมตฺโถ ลพฺภตีติ อาห ‘‘อสฺสวนภาวปฏิกฺเขปโต’’ติ. เอเตน อวธารเณน นิราสงฺกตํ ทสฺเสติ. ยถา จ สุตํ สุตเมวาติ นิยเมตพฺพํ, ตํ สมฺมา สุตํ โหตีติ อาห ‘‘อนูนานธิกาวิปรีตคฺคหณนิทสฺสน’’นฺติ. อถ วา สทฺทนฺตรตฺถาโปหนวเสน สทฺโท อตฺถํ วทตีติ สุตนฺติ อสุตํ น โหตีติ อยเมตสฺส อตฺโถติ วุตฺตํ ‘‘อสฺสวนภาวปฏิกฺเขปโต’’ติ . อิมินา ทิฏฺาทิวินิวตฺตนํ กโรติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘น อิทํ มยา ทิฏฺํ, น สยมฺภุาเณน สจฺฉิกตํ, อถ โข สุตํ, ตฺจ โข สมฺมเทวา’’ติ. เตเนวาห – ‘‘อนูนานธิกาวิปรีตคฺคหณนิทสฺสน’’นฺติ. อวธารณตฺเถ วา เอวํ-สทฺเท อยมตฺถโยชนา กรียตีติ ตทเปกฺขสฺส สุต-สทฺทสฺส อยมตฺโถ วุตฺโต ‘‘อสฺสวนภาวปฏิกฺเขปโต’’ติ. เตเนวาห ‘‘อนูนานธิกาวิปรีตคฺคหณนิทสฺสน’’นฺติ. สวนสทฺโท เจตฺถ กมฺมตฺโถ เวทิตพฺโพ ‘‘สุยฺยตี’’ติ.

เอวํ สวนเหตุสุณนฺตปุคฺคลสวนวิเสสวเสน ปทตฺตยสฺส เอเกน ปกาเรน อตฺถโยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปการนฺตเรหิปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตถา เอว’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตสฺสาติ ยา สา ภควโต สมฺมุขา ธมฺมสฺสวนากาเรน ปวตฺตา มโนทฺวารวิฺาณวีถิ, ตสฺสา. สา หิ นานปฺปกาเรน อารมฺมเณ ปวตฺติตุํ สมตฺถา. ตถา จ วุตฺตํ ‘‘โสตทฺวารานุสาเรนา’’ติ. นานปฺปกาเรนาติ วกฺขมานานํ อเนกวิหิตานํ พฺยฺชนตฺถคฺคหณานํ นานากาเรน. เอเตน อิมิสฺสา โยชนาย อาการตฺโถ เอวํ-สทฺโท คหิโตติ ทีเปติ. ปวตฺติภาวปฺปกาสนนฺติ ปวตฺติยา อตฺถิภาวปฺปกาสนํ. สุตนฺติ ธมฺมปฺปกาสนนฺติ ยสฺมึ อารมฺมเณ วุตฺตปฺปการา วิฺาณวีถิ นานปฺปกาเรน ปวตฺตา, ตสฺส ธมฺมตฺตา วุตฺตํ, น สุตสทฺทสฺส ธมฺมตฺถตฺตา. วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส ปากฏีกรณํ ‘‘อยฺเหตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถ วิฺาณวีถิยาติ กรณตฺเถ กรณวจนํ. มยาติ กตฺตุอตฺเถ.

เอวนฺติ นิทฺทิสิตพฺพปฺปกาสนนฺติ นิทสฺสนตฺถํ เอวํ-สทฺทํ คเหตฺวา วุตฺตํ นิทสฺเสตพฺพสฺส นิทฺทิสิตพฺพตฺตาภาวาภาวโต. เตน เอวํ-สทฺเทน สกลมฺปิ สุตฺตํ ปจฺจามฏฺนฺติ ทสฺเสติ. สุต-สทฺทสฺส กิริยาสทฺทตฺตา สวนกิริยาย จ สาธารณวิฺาณปพนฺธปฏิพทฺธตฺตา ตตฺถ จ ปุคฺคลโวหาโรติ วุตฺตํ ‘‘สุตนฺติ ปุคฺคลกิจฺจปฺปกาสน’’นฺติ. น หิ ปุคฺคลโวหารรหิเต ธมฺมปพนฺเธ สวนกิริยา ลพฺภตีติ.

ยสฺส จิตฺตสนฺตานสฺสาติอาทิปิ อาการตฺถเมว เอวํ-สทฺทํ คเหตฺวา ปุริมโยชนาย อฺถา อตฺถโยชนํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ อาการปฺตฺตีติ อุปาทาปฺตฺติ เอว ธมฺมานํ ปวตฺติอาการูปาทานวเสน ตถา วุตฺตา. สุตนฺติ วิสยนิทฺเทโสติ โสตพฺพภูโต ธมฺโม สวนกิริยากตฺตุปุคฺคลสฺส สวนกิริยาวเสน ปวตฺติฏฺานนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. จิตฺตสนฺตานวินิมุตฺตสฺส ปรมตฺถโต กสฺสจิ กตฺตุ อภาเวปิ สทฺทโวหาเรน พุทฺธิปริกปฺปิตเภทวจนิจฺฉาย จิตฺตสนฺตานโต อฺํ วิย ตํสมงฺคึ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘จิตฺตสนฺตาเนนตํสมงฺคิโน’’ติ. สวนกิริยาวิสโยปิ โสตพฺพธมฺโม สวนกิริยาวเสน ปวตฺตจิตฺตสนฺตานสฺส อิธ ปรมตฺถโต กตฺตุภาวโต, สวนวเสน จิตฺตปฺปวตฺติยา เอว วา สวนกิริยาภาวโต ตํกิริยากตฺตุ จ วิสโย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ตํสมงฺคิโน กตฺตุวิสเย’’ติ. สุตาการสฺส จ เถรสฺส สมฺมานิจฺฉิตภาวโต อาห ‘‘คหณสนฺนิฏฺาน’’นฺติ. เอเตน วา อวธารณตฺถํ เอวํ-สทฺทํ คเหตฺวา อยมตฺถโยชนา กตาติ ทฏฺพฺพํ.

ปุพฺเพ สุตานํ นานาวิหิตานํ สุตฺตสงฺขาตานํ อตฺถพฺยฺชนานํ อุปธาริตรูปสฺส อาการสฺส นิทสฺสนสฺส, อวธารณสฺส วา ปกาสนสภาโว เอวํ-สทฺโทติ ตทาการาทิอุปธารณสฺส ปุคฺคลปฺตฺติยา อุปาทานภูตธมฺมปพนฺธพฺยาปารตาย วุตฺตํ – ‘‘เอวนฺติ ปุคฺคลกิจฺจนิทฺเทโส’’ติ. สวนกิริยา ปน ปุคฺคลวาทิโนปิ วิฺาณนิรเปกฺขา นตฺถีติ วิเสสโต วิฺาณพฺยาปาโรติ อาห ‘‘สุตนฺติ วิฺาณกิจฺจนิทฺเทโส’’ติ. ‘‘เม’’ติ สทฺทปฺปวตฺติยา เอกนฺเตเนว สตฺตวิสยตฺตา วิฺาณกิจฺจสฺส จ ตตฺเถว สโมทหิตพฺพโต ‘‘เมติ อุภยกิจฺจยุตฺตปุคฺคลนิทฺเทโส’’ติ วุตฺตํ. อวิชฺชมานปฺตฺติวิชฺชมานปฺตฺติสภาวา ยถากฺกมํ เอวํ-สทฺท – สุต-สทฺทานํ อตฺถาติ เต ตถารูป-ปฺตฺติ-อุปาทานภูต-ธมฺมปพนฺธพฺยาปารภาเวน ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘เอวนฺติ ปุคฺคลกิจฺจนิทฺเทโส, สุตนฺติ วิฺาณกิจฺจนิทฺเทโส’’ติ. เอตฺถ จ กรณกิริยากตฺตุกมฺมวิเสสปฺปกาสนวเสน ปุคฺคลพฺยาปารวิสยปุคฺคลพฺยาปารนิทสฺสนวเสน คหณาการคาหกตพฺพิสยวิเสสนิทฺเทสวเสน กตฺตุกรณพฺยาปารกตฺตุนิทฺเทสวเสน จ ทุติยาทโย จตสฺโส อตฺถโยชนา ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ.

สพฺพสฺสปิ สทฺทาธิคมนียสฺส อตฺถสฺส ปฺตฺติมุเขเนว ปฏิปชฺชิตพฺพตฺตา สพฺพปฺตฺตีนฺจ วิชฺชมานาทิวเสน ฉสุ ปฺตฺติเภเทสุ อนฺโตคธตฺตา เตสุ ‘‘เอว’’นฺติอาทีนํ ปฺตฺตีนํ สรูปํ นิทฺธาเรนฺโต อาห – ‘‘เอวนฺติ จ เมติ จา’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘เอว’’นฺติ จ ‘‘เม’’ติ จ วุจฺจมานสฺสตฺถสฺส อาการาทิโน ธมฺมานํ อสลฺลกฺขณภาวโต อวิชฺชมานปฺตฺติภาโวติ อาห – ‘‘สจฺจิกฏฺปรมตฺถวเสน อวิชฺชมานปฺตฺตี’’ติ. ตตฺถ สจฺจิกฏฺปรมตฺถวเสนาติ ภูตตฺถอุตฺตมตฺถวเสน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย มายามรีจิอาทโย วิย อภูตตฺโถ, อนุสฺสวาทีหิ คเหตพฺโพ วิย อนุตฺตมตฺโถ จ น โหติ, โส รูปสทฺทาทิสภาโว, รุปฺปนานุภวนาทิสภาโว วา อตฺโถ สจฺจิกฏฺโ ปรมตฺโถ จาติ วุจฺจติ, น ตถา ‘‘เอวํ เม’’ติ ปทานํ อตฺโถติ. เอตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘กิฺเหตฺถ ต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. สุตนฺติ ปน สทฺทายตนํ สนฺธายาห ‘‘วิชฺชมานปฺตฺตี’’ติ. เตเนว หิ ‘‘ยฺหิ ตํ เอตฺถ โสเตน อุปลทฺธ’’นฺติ วุตฺตํ, ‘‘โสตทฺวารานุสาเรน อุปลทฺธ’’นฺติ ปน วุตฺเต อตฺถพฺยฺชนาทิสพฺพํ ลพฺภติ.

ตํตํ อุปาทาย วตฺตพฺพโตติ โสตปถมาคเต ธมฺเม อุปาทาย เตสํ อุปธาริตาการาทิโน ปจฺจามสนวเสน ‘‘เอว’’นฺติ, สสนฺตติปริยาปนฺเน ขนฺเธ อุปาทาย ‘‘เม’’ติ วตฺตพฺพตฺตาติ อตฺโถ. ทิฏฺาทิสภาวรหิเต สทฺทายตเน ปวตฺตมาโนปิ สุตโวหาโร ‘‘ทุติยํ ตติย’’นฺติอาทิโก วิย ปมาทีนิ ทิฏฺมุตวิฺาเต อเปกฺขิตฺวาว ปวตฺโตติ อาห ‘‘ทิฏฺาทีนิ อุปนิธาย วตฺตพฺพโต’’ติ อสุตํ น โหตีติ หิ สุตนฺติ ปกาสิโตยมตฺโถติ. อตฺตนา ปฏิวิทฺธา สุตฺตสฺส ปการวิเสสา ‘‘เอว’’นฺติ เถเรน ปจฺจามฏฺาติ อาห ‘‘อสมฺโมหํ ทีเปตี’’ติ. นานปฺปการปฏิเวธสมตฺโถ โหตีติ เอเตน วกฺขมานสฺส สุตฺตสฺส นานปฺปการตํ ทุปฺปฏิวิชฺฌตฺจ ทสฺเสติ. สุตสฺส อสมฺโมสํ ทีเปตีติ สุตาการสฺส ยาถาวโต ทสฺสิยมานตฺตา วุตฺตํ. อสมฺโมเหนาติ สมฺโมหาภาเวน, ปฺาย เอว วา สวนกาลสมฺภูตาย ตทุตฺตรกาลปฺาสิทฺธิ. เอวํ อสมฺโมเสนาติ เอตฺถาปิ วตฺตพฺพํ. พฺยฺชนานํ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพ อากาโร นาติคมฺภีโร, ยถาสุตธารณเมว ตตฺถ กรณียนฺติ สติยา พฺยาปาโร อธิโก, ปฺา ตตฺถ คุณีภูตาติ วุตฺตํ ‘‘ปฺาปุพฺพงฺคมายา’’ติอาทิ ‘‘ปฺาย ปุพฺพงฺคมา’’ติ กตฺวา. ปุพฺพงฺคมตา เจตฺถ ปธานตา ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑, ๒) วิย. ปุพฺพงฺคมตาย วา จกฺขุวิฺาณาทีสุ อาวชฺชนาทีนํ วิย อปฺปธานตฺเต ปฺา ปุพฺพงฺคมา เอติสฺสาติ อยมฺปิ อตฺโถ ยุชฺชติ. เอวํ สติปุพฺพงฺคมายาติ เอตฺถาปิ วุตฺตนยานุสาเรน ยถาสมฺภวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนสฺสาติ อตฺถพฺยฺชนปริปุณฺณสฺส, สงฺกาสนปกาสนวิวรณวิภชนอุตฺตานีกรณปฺตฺติวเสน ฉหิ อตฺถปเทหิ, อกฺขรปทพฺยฺชนาการนิรุตฺตินิทฺเทสวเสน ฉหิ พฺยฺชนปเทหิ จ สมนฺนาคตสฺสาติ วา อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

โยนิโสมนสิการํ ทีเปติ เอวํ-สทฺเทน วุจฺจมานานํ อาการนิทสฺสนาวธารณตฺถานํ อวิปรีตสทฺธมฺมวิสยตฺตาติ อธิปฺปาโย. อวิกฺเขปํ ทีเปตีติ ‘‘มูลปริยายํ กตฺถ ภาสิต’’นฺติอาทิปุจฺฉาวเสน ปกรณปฺปตฺตสฺส วกฺขมานสฺส สุตฺตสฺส สวนํ สมาธานมนฺตเรน น สมฺภวตีติ กตฺวา วุตฺตํ. วิกฺขิตฺตจิตฺตสฺสาติอาทิ ตสฺเสวตฺถสฺส สมตฺถนวเสน วุตฺตํ. สพฺพสมฺปตฺติยาติ อตฺถพฺยฺชนเทสกปโยชนาทิสมฺปตฺติยา. อวิปรีตสทฺธมฺมวิสเยหิ วิย อาการนิทสฺสนาวธารณตฺเถหิ โยนิโสมนสิการสฺส, สทฺธมฺมสฺสวเนน วิย จ อวิกฺเขปสฺส ยถา โยนิโสมนสิกาเรน ผลภูเตน อตฺตสมฺมาปณิธิปุพฺเพกตปุฺตานํ สิทฺธิ วุตฺตา ตทวินาภาวโต, เอวํ อวิกฺเขเปน ผลภูเตน การณภูตานํ สทฺธมฺมสฺสวนสปฺปุริสูปนิสฺสยานํ สิทฺธิ ทสฺเสตพฺพา สิยา อสฺสุตวโต สปฺปุริสูปนิสฺสยรหิตสฺส จ ตทภาวโต. น หิ วิกฺขิตฺตจิตฺโตติอาทินา สมตฺถนวจเนน ปน อวิกฺเขเปน การณภูเตน สปฺปุริสูปนิสฺสเยน จ ผลภูตสฺส สทฺธมฺมสฺสวนสฺส สิทฺธิ ทสฺสิตา. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย ยุตฺโต สิยา – สทฺธมฺมสฺสวนสปฺปุริสูปนิสฺสยา เอกนฺเตน อวิกฺเขปสฺส การณํ พาหิรงฺคตฺตา, อวิกฺเขโป ปน สปฺปุริสูปนิสฺสโย วิย สทฺธมฺมสฺสวนสฺส เอกนฺตการณนฺติ. เอวมฺปิ อวิกฺเขเปน สปฺปุริสูปนิสฺสยสิทฺธิโชตนา น สมตฺถิตาว, โน น สมตฺถิตา วิกฺขิตฺตจิตฺตานํ สปฺปุริสปยิรุปาสนาภาวสฺส อตฺถสิทฺธตฺตา. เอตฺถ จ ปุริมํ ผเลน การณสฺส สิทฺธิทสฺสนํ นทีปูเรน วิย อุปริ วุฏฺิสพฺภาวสฺส, ทุติยํ การเณน ผลสฺส สิทฺธิทสฺสนํ ทฏฺพฺพํ เอกนฺตวสฺสินา วิย เมฆวุฏฺาเนน วุฏฺิปฺปวตฺติยา.

ภควโต วจนสฺส อตฺถพฺยฺชนปเภทปริจฺเฉทวเสน สกลสาสนสมฺปตฺติโอคาหนากาโร นิรวเสสปรหิตปาริปูริการณนฺติ วุตฺตํ ‘‘เอวํ ภทฺทโก อากาโร’’ติ. ยสฺมา น โหตีติ สมฺพนฺโธ. ปจฺฉิมจกฺกทฺวยสมฺปตฺตินฺติ อตฺตสมฺมาปณิธิปุพฺเพกตปุฺตาสงฺขาตํ คุณทฺวยํ. อปราปรวุตฺติยา เจตฺถ จกฺกภาโว, จรนฺติ เอเตหิ สตฺตา สมฺปตฺติภเวสูติ วา. เย สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, จกฺกานิ, เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสานํ จตุจกฺกํ วตฺตตี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๔.๓๑). ปุริมปจฺฉิมภาโว เจตฺถ เทสนากฺกมวเสน ทฏฺพฺโพ. ปจฺฉิมจกฺกทฺวยสิทฺธิยาติ ปจฺฉิมจกฺกทฺวยสฺส อตฺถิตาย. สมฺมาปณิหิตตฺโต ปุพฺเพ จ กตปุฺโ สุทฺธาสโย โหติ ตทสุทฺธิเหตูนํ กิเลสานํ ทูรีภาวโตติ อาห – ‘‘อาสยสุทฺธิ สิทฺธา โหตี’’ติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘สมฺมาปณิหิตํ จิตฺตํ, เสยฺยโส นํ ตโต กเร’’ติ (ธ. ป. ๔๓), ‘‘กตปุฺโสิ ตฺวํ อานนฺท, ปธานมนุยุฺช, ขิปฺปํ โหหิสิ อนาสโว’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๐๗) จ. เตเนวาห ‘‘อาสยสุทฺธิยา อธิคมพฺยตฺติสิทฺธี’’ติ. ปโยคสุทฺธิยาติ โยนิโสมนสิการปุพฺพงฺคมสฺส ธมฺมสฺสวนปโยคสฺส วิสทภาเวน. ตถา จาห ‘‘อาคมพฺยตฺติสิทฺธี’’ติ. สพฺพสฺส วา กายวจีปโยคสฺส นิทฺโทสภาเวน. ปริสุทฺธกายวจีปโยโค หิ วิปฺปฏิสาราภาวโต อวิกฺขิตฺตจิตฺโต ปริยตฺติยํ วิสารโท โหตีติ.

นานปฺปการปฏิเวธทีปเกนาติอาทินา อตฺถพฺยฺชเนสุ เถรสฺส เอวํสทฺทสุต-สทฺทานํ อสมฺโมหาสมฺโมสทีปนโต จตุปฏิสมฺภิทาวเสน อตฺถโยชนํ ทสฺเสติ. ตตฺถ โสตพฺพเภทปฏิเวธทีปเกนาติ เอเตน อยํ สุต-สทฺโท เอวํ-สทฺทสนฺนิธานโต, วกฺขมานาเปกฺขาย วา สามฺเเนว โสตพฺพธมฺมวิเสสํ อามสตีติ ทสฺเสติ. มโนทิฏฺิกรณา ปริยตฺติธมฺมานํ อนุเปกฺขนสุปฺปฏิเวธา วิเสสโต มนสิการปฏิพทฺธาติ เต วุตฺตนเยน โยนิโสมนสิการทีปเกน เอวํสทฺเทน โยเชตฺวา, สวนธารณวจีปริจยา ปริยตฺติธมฺมานํ วิเสเสน โสตาวธานปฏิพทฺธาติ เต อวิกฺเขปทีปเกน สุต-สทฺเทน โยเชตฺวา ทสฺเสนฺโต สาสนสมฺปตฺติยา ธมฺมสฺสวเน อุสฺสาหํ ชเนติ. ตตฺถ ธมฺมาติ ปริยตฺติธมฺมา. มนสานุเปกฺขิตาติ ‘‘อิธ สีลํ กถิตํ, อิธ สมาธิ, อิธ ปฺา, เอตฺตกา เอตฺถ อนุสนฺธิโย’’ติอาทินา นเยน มนสา อนุ อนุ เปกฺขิตา. ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธาติ นิชฺฌานกฺขนฺติภูตาย, าตปริฺาสงฺขาตาย วา ทิฏฺิยา ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตรูปารูปธมฺเม ‘‘อิติ รูปํ, เอตฺตกํ รูป’’นฺติอาทินา สุฏฺุ ววตฺถเปตฺวา ปฏิวิทฺธา.

สกเลน วจเนนาติ ปุพฺเพ ตีหิ ปเทหิ วิสุํ วิสุํ โยชิตตฺตา วุตฺตํ. อตฺตโน อทหนฺโตติ ‘‘มเมท’’นฺติ อตฺตนิ อฏฺเปนฺโต. อสปฺปุริสภูมินฺติ อกตฺุตํ ‘‘อิเธกจฺโจ ปาปภิกฺขุ ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ ปริยาปุณิตฺวา อตฺตโน ทหตี’’ติ (ปารา. ๑๙๕) เอวํ วุตฺตํ อนริยโวหาราวตฺถํ, สา เอว อนริยโวหาราวตฺถา อสทฺธมฺโม. นนุ จ อานนฺทตฺเถรสฺส ‘‘มเมทํ วจน’’นฺติ อธิมานสฺส, มหากสฺสปตฺเถราทีนฺจ ตทาสงฺกาย อภาวโต อสปฺปุริสภูมิสมติกฺกมาทิวจนํ นิรตฺถกนฺติ? นยิทเมวํ ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติ วทนฺเตน อยมฺปิ อตฺโถ วิภาวิโตติ ทสฺสนโต. เกจิ ปน ‘‘เทวตานํ ปริวิตกฺกาเปกฺขํ ตถาวจนนฺติ เอทิสี โจทนา อนวกาสาวา’’ติ วทนฺติ. ตสฺมึ กิร ขเณ เอกจฺจานํ เทวตานํ เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ ‘‘ภควา จ ปรินิพฺพุโต, อยฺจ อายสฺมา เทสนากุสโล, อิทานิ ธมฺมํ เทเสติ สกฺยกุลปฺปสุโต ตถาคตสฺส ภาตา จูฬปิตุปุตฺโต, กึ นุ โข สยํ สจฺฉิกตํ ธมฺมํ เทเสติ, อุทาหุ ภควโตเยว วจนํ ยถาสุต’’นฺติ. เอวํ ตทาสงฺกิตปฺปการโต อสปฺปุริสภูมิสโมกฺกมาทิโต อติกฺกมาทิ วิภาวิตนฺติ. อปฺเปตีติ นิทสฺเสติ. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถสุ ยถารหํ สตฺเต เนตีติ เนตฺติ, ธมฺโมเยว เนตฺติ ธมฺมเนตฺติ.

ทฬฺหตรนิวิฏฺา วิจิกิจฺฉา กงฺขา. นาติสํสปฺปนา มติเภทมตฺตา วิมติ. อสฺสทฺธิยํ วินาเสติ ภควตา เทสิตตฺตา, สมฺมุขาวสฺส ปฏิคฺคหิตตฺตา, ขลิตทุรุตฺตาทิคหณโทสาภาวโต จ. เอตฺถ จ ปมาทโย ติสฺโส อตฺถโยชนา อาการาทิอตฺเถสุ อคฺคหิตวิเสสเมว เอวํ-สทฺทํ คเหตฺวา ทสฺสิตา, ตโต ปรา จตสฺโส อาการตฺถเมว เอวํ-สทฺทํ คเหตฺวา วิภาวิตา, ปจฺฉิมา ปน ติสฺโส ยถากฺกมํ อาการตฺถํ นิทสฺสนตฺถํ อวธารณตฺถฺจ เอวํ-สทฺทํ คเหตฺวา โยชิตาติ ทฏฺพฺพํ.

เอก-สทฺโท อฺเสฏฺาสหายสงฺขฺยาทีสุ ทิสฺสติ. ตถา เหส ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ อิตฺเถเก อภิวทนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๗) อฺตฺเถ ทิสฺสติ , ‘‘เจตโส เอโกทิภาว’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๒๘) เสฏฺตฺเถ, ‘‘เอโก วูปกฏฺโ’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๔๐๕) อสหาเย, ‘‘เอโกว โข, ภิกฺขเว, ขโณ จ สมโย จ พฺรหฺมจริยวาสายา’’ติอาทีสุ สงฺขฺยายํ. อิธาปิ สงฺขฺยายนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เอกนฺติ คณนปริจฺเฉทนิทฺเทโส’’ติ. กาลฺจ สมยฺจาติ ยุตฺตกาลฺจ ปจฺจยสามคฺคิฺจ ขโณติ โอกาโส. ตถาคตุปฺปาทาทิโก หิ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส โอกาโส ตปฺปจฺจยปฏิลาภเหตุตฺตา. ขโณ เอว จ สมโย. โย ‘‘ขโณ’’ติ จ ‘‘สมโย’’ติ จ วุจฺจติ, โส เอโกวาติ หิ อตฺโถ มหาสมโยติ มหาสมูโห. สมโยปิ โขติ สิกฺขาปทปูรณสฺส เหตุปิ. สมยปฺปวาทเกติ ทิฏฺิปฺปวาทเก. ตตฺถ หิ นิสินฺนา ติตฺถิยา อตฺตโน อตฺตโน สมยํ ปวทนฺตีติ. อตฺถาภิสมยาติ หิตปฏิลาภา. อภิสเมตพฺโพติ อภิสมโย, อภิสมโย อตฺโถ อภิสมยฏฺโติ ปีฬนาทีนิ อภิสเมตพฺพภาเวน เอกีภาวํ อุปเนตฺวา วุตฺตานิ. อภิสมยสฺส วา ปฏิเวธสฺส วิสยภูโต อตฺโถ อภิสมยฏฺโติ. ตาเนว ตถา เอกตฺเตน วุตฺตานิ. ตตฺถ ปีฬนํ ทุกฺขสจฺจสฺส ตํสมงฺคิโน หึสนํ อวิปฺผาริกตากรณํ. สนฺตาโป ทุกฺขทุกฺขตาทิวเสน สนฺตาปนํ ปริทหนํ.

ตตฺถ สหการีการณํ สนฺนิชฺฌํ สเมติ สมเวตีติ สมโย, สมวาโย. สเมติ สมาคจฺฉติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ เอตฺถ ตทาธารปุคฺคเลหีติ สมโย, ขโณ. สเมติ เอตฺถ, เอเตน วา สํคจฺฉติ สตฺโต, สภาวธมฺโม วา สหชาตาทีหิ อุปฺปาทาทีหิ วาติ สมโย, กาโล. ธมฺมปฺปวตฺติมตฺตตาย อตฺถโต อภูโตปิ หิ กาโล ธมฺมปฺปวตฺติยา อธิกรณํ กรณํ วิย จ กปฺปนามตฺตสิทฺเธน รูเปน โวหรียตีติ. สมํ, สห วา อวยวานํ อยนํ ปวตฺติ อวฏฺานนฺติ สมโย, สมูโห ยถา ‘‘สมุทาโย’’ติ. อวยวสหาวฏฺานเมว หิ สมูโหติ. อวเสสปจฺจยานํ สมาคเม เอติ ผลํ เอตสฺมา อุปฺปชฺชติ ปวตฺตติ จาติ สมโย, เหตุ ยถา ‘‘สมุทโย’’ติ. สเมติ สํโยชนภาวโต สมฺพนฺโธ เอติ อตฺตโน วิสเย ปวตฺตติ, ทฬฺหคฺคหณภาวโต วา สํยุตฺตา อยนฺติ ปวตฺตนฺติ สตฺตา ยถาภินิเวสํ เอเตนาติ สมโย, ทิฏฺิ; ทิฏฺิสฺโชเนน หิ สตฺตา อติวิย พชฺฌนฺตีติ. สมิติ สงฺคติ สโมธานนฺติ สมโย, ปฏิลาโภ. สมยนํ, สมฺมา วา อยนํ อปคโมติ สมโย, ปหานํ. อภิมุขํ าเณน สมฺมา เอตพฺโพ อภิสเมตพฺโพติ อภิสมโย, ธมฺมานํ อวิปรีโต สภาโว. อภิมุขภาเวน สมฺมา เอติ คจฺฉติ พุชฺฌตีติ อภิสมโย, ธมฺมานํ อวิปรีตสภาวาวโพโธ. เอวํ ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ สมย-สทฺทสฺส ปวตฺติ เวทิตพฺพา. สมยสทฺทสฺส อตฺถุทฺธาเร อภิสมยสทฺทสฺส อุทาหรณํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อสฺสาติ สมยสทฺทสฺส . กาโล อตฺโถ สมวายาทีนํ อตฺถานํ อิธ อสมฺภวโต, เทสเทสกปริสานํ วิย สุตฺตสฺส นิทานภาเวน กาลสฺส อปทิสิตพฺพโต จ.

กสฺมา ปเนตฺถ อนิยมิตวเสเนว กาโล นิทฺทิฏฺโ, น อุตุสํวจฺฉราทิวเสน นิยเมตฺวาติ? อาห – ‘‘ตตฺถ กิฺจาปี’’ติอาทิ. อุตุสํวจฺฉราทิวเสน นิยมํ อกตฺวา สมยสทฺทสฺส วจเนน อยมฺปิ คุโณ ลทฺโธ โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เย วา อิเม’’ติอาทิมาห. สามฺโชตนา หิ วิเสเส อวติฏฺตีติ. ตตฺถ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารสมโย เทวสิกํ ฌานผลสมาปตฺตีหิ วีตินามนกาโล, วิเสสโต สตฺตสตฺตาหานิ. สุปฺปกาสาติ ทสสหสฺสิโลกธาตุสํกมฺปนโอภาสปาตุภาวาทีหิ ปากฏา. ยถาวุตฺตเภเทสุ เอว สมเยสุ เอกเทสํ ปการนฺตเรหิ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘โย จาย’’นฺติอาทิมาห. ตถา หิ าณกิจฺจสมโย อตฺตหิตปฏิปตฺติสมโย จ อภิสมฺโพธิสมโย, อริยตุณฺหีภาวสมโย ทิฏฺธมฺมสุขวิหารสมโย, กรุณากิจฺจปรหิตปฏิปตฺติธมฺมิกถาสมโย เทสนาสมโย เอว.

กรณวจเนน นิทฺเทโส กโตติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถาติ อภิธมฺมตทฺสุตฺตปทวินเยสุ. ตถาติ ภุมฺมกรเณหิ. อธิกรณตฺโถ อาธารตฺโถ. ภาโว นาม กิริยา, ตาย กิริยนฺตรลกฺขณํ ภาเวนภาวลกฺขณํ. ตตฺถ ยถา กาโล สภาวธมฺมปริจฺฉินฺโน สยํ ปรมตฺถโต อวิชฺชมาโนปิ อาธารภาเวน ปฺาโต ตงฺขณปฺปวตฺตานํ ตโต ปุพฺเพ ปรโต จ อภาวโต ‘‘ปุพฺพณฺเห ชาโต, สายนฺเห คจฺฉตี’’ติ จ อาทีสุ, สมูโห จ อวยววินิมุตฺโต อวิชฺชมาโนปิ กปฺปนามตฺตสิทฺโธ อวยวานํ อาธารภาเวน ปฺาปียติ ‘‘รุกฺเข สาขา, ยวราสิยํ สมฺภูโต’’ติอาทีสุ, เอวํ อิธาปีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อธิกรณฺหิ…เป… ธมฺมาน’’นฺติ. ยสฺมึ กาเล ธมฺมปุฺเช วา กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ตสฺมึ เอว กาเล ธมฺมปุฺเช จ ผสฺสาทโยปิ โหนฺตีติ อยฺหิ ตตฺถ อตฺโถ. ยถา จ ‘‘คาวีสุ ทุยฺหมานาสุ คโต, ทุทฺธาสุ อาคโต’’ติ โทหนกิริยาย คมนกิริยา ลกฺขียติ, เอวํ อิธาปิ ‘‘ยสฺมึ สมเย, ตสฺมึ สมเย’’ติ จ วุตฺเต ‘‘สตี’’ติ อยมตฺโถ วิฺายมาโน เอว โหติ ปทตฺถสฺส สตฺตาวิรหาภาวโตติ สมยสฺส สตฺตากิริยาย จิตฺตสฺส อุปฺปาทกิริยา ผสฺสาทีนํ ภวนกิริยา จ ลกฺขียติ. ยสฺมึ สมเยติ ยสฺมึ นวเม ขเณ, ยสฺมึ โยนิโสมนสิการาทิเหตุมฺหิ, ปจฺจยสมวาเย วา สติ กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ตสฺมึเยว ขเณ, เหตุมฺหิ, ปจฺจยสมวาเย วา ผสฺสาทโยปิ โหนฺตีติ อุภยตฺถ สมยสทฺเท ภุมฺมนิทฺเทโส กโต ลกฺขณภูตภาวยุตฺโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ขณ…เป… ลกฺขียตี’’ติ.

เหตุอตฺโถกรณตฺโถ จ สมฺภวติ ‘‘อนฺเนน วสติ, อชฺเฌเนน วสติ, ผรสุนา ฉินฺทติ, กุทาเลน ขณตี’’ติอาทีสุ วิย. วีติกฺกมฺหิ สุตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา โอติณฺณวตฺถุกํ ปุคฺคลํ ปฏิปุจฺฉิตฺวา วิครหิตฺวา จ ตํ ตํ วตฺถุํ โอติณฺณกาลํ อนติกฺกมิตฺวา เตเนว กาเลน สิกฺขาปทานิ ปฺเปนฺโต ภควา วิหรติ สิกฺขาปทปฺตฺติเหตุฺจ อเปกฺขมาโน ตติยปาราชิกาทีสุ วิย.

อจฺจนฺตเมว อารมฺภโต ปฏฺาย ยาว เทสนานิฏฺานํ ปรหิตปฏิปตฺติสงฺขาเตน กรุณาวิหาเรน. ตทตฺถโชตนตฺถนฺติ อจฺจนฺตสํโยคตฺถโชตนตฺถํ. อุปโยควจนนิทฺเทโส กโต ยถา ‘‘มาสํ อชฺเฌตี’’ติ.

โปราณาติ อฏฺกถาจริยา. อภิลาปมตฺตเภโทติ วจนมตฺเตน วิเสโส. เตน สุตฺตวินเยสุ วิภตฺติพฺยตฺตโย กโตติ ทสฺเสติ.

เสฏฺนฺติ เสฏฺวาจกํ วจนํ ‘‘เสฏฺ’’นฺติ วุตฺตํ เสฏฺคุณสหจรณโต. ตถา อุตฺตมนฺติ เอตฺถาปิ. คารวยุตฺโตติ ครุภาวยุตฺโต ครุคุณโยคโต, ครุกรณารหตาย วา คารวยุตฺโต. วุตฺโตเยว, น ปน อิธ วตฺตพฺโพ วิสุทฺธิมคฺคสฺส อิมิสฺสา อฏฺกถาย เอกเทสภาวโตติ อธิปฺปาโย.

อปโร นโย (สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑; สารตฺถ. ฏี. ๑.วินยานิสํสกถาวณฺณนา; วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๔๔; อิติวุ. อฏฺ. คนฺถารมฺภกถา) – ภาควาติ ภควา, ภตวาติ ภควา, ภาเค วนีติ ภควา, ภเค วนีติ ภควา, ภตฺตวาติ ภควา, ภเค วมีติ ภควา, ภาเค วมีติ ภควา.

ภควา ภตวา ภาเค, ภเค จ วนิ ภตฺตวา;

ภเค วมิ ตถา ภาเค, วมีติ ภควา ชิโน.

ตตฺถ กถํ ภาควาติ ภควา? เย เต สีลาทโย ธมฺมกฺขนฺธา คุณภาคา คุณโกฏฺาสา, เต อนฺสาธารณา นิรติสยา ตถาคตสฺส อตฺถิ อุปลพฺภนฺติ. ตถา หิสฺส สีลํ, สมาธิ, ปฺา, วิมุตฺติ, วิมุตฺติาณทสฺสนํ, หิรี, โอตฺตปฺปํ, สทฺธา, วีริยํ, สติ สมฺปชฺํ, สีลวิสุทฺธิ, ทิฏฺิวิสุทฺธิ, สมโถ, วิปสฺสนา, ตีณิ กุสลมูลานิ, ตีณิ สุจริตานิ, ตโย สมฺมาวิตกฺกา, ติสฺโส อนวชฺชสฺา, ติสฺโส ธาตุโย, จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, จตฺตาโร อริยมคฺคา, จตฺตาริ อริยผลานิ, จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา, จตุโยนิปฏิจฺเฉทกาณํ, จตฺตาโร อริยวํสา, จตฺตาริ เวสารชฺชาณานิ, ปฺจ ปธานิยงฺคานิ, ปฺจงฺคิโก สมฺมาสมาธิ, ปฺจาณิโก สมฺมาสมาธิ, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, ปฺจ นิสฺสารณียา ธาตุโย, ปฺจ วิมุตฺตายตนาณานิ, ปฺจ วิมุตฺติปริปาจนียา สฺา, ฉ อนุสฺสติฏฺานานิ, ฉ คารวา, ฉ นิสฺสารณียา ธาตุโย, ฉ สตตวิหารา, ฉ อนุตฺตริยานิ, ฉ นิพฺเพธภาคิยา สฺา, ฉ อภิฺา, ฉ อสาธารณาณานิ, สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา, สตฺต อริยธมฺมา, สตฺต อริยธนานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, สตฺต สปฺปุริสธมฺมา, สตฺต นิชฺชรวตฺถูนิ, สตฺต สฺา, สตฺต ทกฺขิเณยฺยปุคฺคลเทสนา, สตฺต ขีณาสวพลเทสนา, อฏฺ ปฺาปฏิลาภเหตุเทสนา, อฏฺ สมฺมตฺตานิ, อฏฺ โลกธมฺมาติกฺกมา, อฏฺ อารมฺภวตฺถูนิ, อฏฺ อกฺขณเทสนา, อฏฺ มหาปุริสวิตกฺกา, อฏฺ อภิภายตนเทสนา, อฏฺ วิโมกฺขา, นว โยนิโสมนสิการมูลกา ธมฺมา, นว ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคานิ, นว สตฺตาวาสเทสนา, นว อาฆาตปฏิวินยา, นว สฺา, นว นานตฺตา, นว อนุปุพฺพวิหารา, ทส นาถกรณา ธมฺมา, ทส กสิณายตนานิ, ทส กุสลกมฺมปถา, ทส สมฺมตฺตานิ, ทส อริยวาสา, ทส อเสกฺขธมฺมา, ทส ตถาคตพลานิ, เอกาทส เมตฺตานิสํสา, ทฺวาทส ธมฺมจกฺกาการา, เตรส ธุตคุณา, จุทฺทส พุทฺธาณานิ, ปฺจทส วิมุตฺติปริปาจนียา ธมฺมา, โสฬสวิธา อานาปานสฺสติ, โสฬส อปรนฺตปนียา ธมฺมา, อฏฺารส พุทฺธธมฺมา, เอกูนวีสติ ปจฺจเวกฺขณาณานิ, จตุจตฺตาลีส าณวตฺถูนิ, ปฺาส อุทยพฺพยาณานิ, ปโรปณฺณาส กุสลธมฺมา, สตฺตสตฺตติ าณวตฺถูนิ, จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสงฺขาสมาปตฺติสฺจาริมหาวชิราณํ, อนนฺตนยสมนฺตปฏฺานปวิจยปจฺจเวกฺขณเทสนาาณานิ ตถา อนนฺตาสุ โลกธาตูสุ อนนฺตานํ สตฺตานํ อาสยาทิวิภาวนาณานิ จาติ เอวมาทโย อนนฺตาปริมาณเภทา อนฺสาธารณา นิรติสยา คุณภาคา คุณโกฏฺาสา สํวิชฺชนฺติ อุปลพฺภนฺติ, ตสฺมา ยถาวุตฺตวิภาคา คุณภาคา อสฺส อตฺถีติ ‘‘ภาควา’’ติ วตฺตพฺเพ อา-การสฺส รสฺสตฺตํ กตฺวา ‘‘ภควา’’ติ วุตฺโต. เอวํ ตาว ภาควาติ ภควา.

ยสฺมา สีลาทโย สพฺเพ, คุณภาคา อเสสโต;

วิชฺชนฺติ สุคเต ตสฺมา, ภควาติ ปวุจฺจตีติ.

กถํ ภตวาติ ภควา? เย เต สพฺพโลกหิตาย อุสฺสุกฺกมาปนฺเนหิ มนุสฺสตฺตาทิเก อฏฺ ธมฺเม สโมธาเนตฺวา สมฺมาสมฺโพธิยา กตมหาภินีหาเรหิ มหาโพธิสตฺเตหิ ปริปูริตพฺพา ทานปารมี, สีล, เนกฺขมฺม, ปฺา, วีริย, ขนฺติ, สจฺจ, อธิฏฺาน, เมตฺตา, อุเปกฺขาปารมีติ ทส ปารมิโย ทส อุปปารมิโย ทส ปรมตฺถปารมิโยติ สมตึส ปารมิโย, ทานาทีนิ จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ, สจฺจาทีนิ จตฺตาริ อธิฏฺานานิ, องฺคปริจฺจาโค นยนธนรชฺชปุตฺตทารปริจฺจาโคติ ปฺจ มหาปริจาคา, ปุพฺพโยโค, ปุพฺพจริยา, ธมฺมกฺขานํ, าตตฺถจริยา, โลกตฺถจริยา, พุทฺธิจริยาติ เอวมาทโย, สงฺเขปโต วา สพฺเพ ปุฺาณสมฺภารา พุทฺธกรธมฺมา, เต มหาภินีหารโต ปฏฺาย กปฺปานํ สตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺเขยฺยานิ ยถา หานภาคิยา สํกิเลสภาคิยา ิติภาคิยา วา น โหนฺติ, อถ โข อุตฺตรุตฺตริ วิเสสภาคิยาว โหนฺติ, เอวํ สกฺกจฺจํ นิรนฺตรํ อนวเสสโต ภตา สมฺภตา อสฺส อตฺถีติ ‘‘ภตวา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ภควา’’ติ วุตฺโต นิรุตฺตินเยน ต-การสฺส ค-การํ กตฺวา. อถ วา ภตวาติ เตเยว ยถาวุตฺเต พุทฺธกรธมฺเม วุตฺตนเยเนว ภริ สมฺภริ, ปริปูเรสีติ อตฺโถ. เอวมฺปิ ภตวาติ ภควา.

สมฺมาสมฺโพธิยา สพฺเพ, ทานปารมิอาทิเก;

สมฺภาเร ภตวา นาโถ, เตนาปิ ภควา มโตติ.

กถํ ภาเค วนีติ ภควา? เย เต จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสงฺขา เทวสิกํ วฬฺชนกสมาปตฺติภาคา, เต อนวเสสโต โลกหิตตฺถํ อตฺตโน จ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถํ นิจฺจกปฺปํ วนิ ภชิ เสวิ พหุลมกาสีติ ภาเค วนีติ ภควา. อถ วา อภิฺเยฺยธมฺเมสุ กุสลาทีสุ ขนฺธาทีสุ จ เย เต ปริฺเยฺยาทิวเสน สงฺเขปโต วา จตุพฺพิธา อภิสมยภาคา, วิตฺถารโต ปน ‘‘จกฺขุ ปริฺเยฺยํ โสตํ…เป… ชรามรณํ ปริฺเยฺย’’นฺติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๒๑) อเนเก ปริฺเยฺยภาคา, ‘‘จกฺขุสฺส สมุทโย ปหาตพฺโพ…เป… ชรามรณสฺส สมุทโย ปหาตพฺโพ’’ติอาทินา ปหาตพฺพภาคา, ‘‘จกฺขุสฺส นิโรโธ…เป… ชรามรณสฺส นิโรโธ สจฺฉิกาตพฺโพ’’ติอาทินา สจฺฉิกาตพฺพภาคา, ‘‘จกฺขุสฺส นิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติอาทินา, ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทินา จ อเนกเภทา ภาเวตพฺพภาคา จ ธมฺมา, เต สพฺเพ วนิ ภชิ ยถารหํ โคจรภาวนาเสวนานํ วเสน เสวิ. เอวมฺปิ ภาเค วนีติ ภควา. อถ วา ‘‘เย อิเม สีลาทโย ธมฺมกฺขนฺธา สาวเกหิ สาธารณา คุณภาคา คุณโกฏฺาสา, กินฺติ นุ โข เต วิเนยฺยสนฺตาเนสุ ปติฏฺเปยฺย’’นฺติ มหากรุณาย วนิ อภิปตฺถยิ, สา จสฺส อภิปตฺถนา ยถาธิปฺเปตผลาวหา อโหสิ. เอวมฺปิ ภาเค วนีติ ภควา.

ยสฺมา เยฺยสมาปตฺติคุณภาเค อเสสโต;

ภชิ ปตฺถยิ สตฺตานํ, หิตาย ภควา ตโตติ.

กถํ ภเค วนีติ ภควา? สมาสโต ตาว กตปุฺเหิ ปโยคสมฺปนฺเนหิ ยถาวิภวํ ภชียนฺตีติ ภคา, โลกิยโลกุตฺตรา สมฺปตฺติโย. ตตฺถ โลกิเย ตาว ตถาคโต สมฺโพธิโต ปุพฺเพ โพธิสตฺตภูโต ปรมุกฺกํสคเต วนิ ภชิ เสวิ, ยตฺถ ปติฏฺาย นิรวเสสโต พุทฺธกรธมฺเม สมนฺนาเนนฺโต พุทฺธธมฺเม ปริปาเจสิ, พุทฺธภูโต ปน เต นิรวชฺชสุขูปสํหิเต อนฺสาธารเณ โลกุตฺตเรปิ วนิ ภชิ เสวิ, วิตฺถารโต ปน ปเทสรชฺชอิสฺสริยจกฺกวตฺติสมฺปตฺติ-เทวรชฺชสมฺปตฺติอาทิวเสน- ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺติาณทสฺสน-มคฺคภาวนาผลสจฺฉิ- กิริยาทิ-อุตฺตริมนุสฺสธมฺมวเสน จ อเนกวิหิเต อนฺสาธารเณ ภเค วนิ ภชิ เสวิ. เอวมฺปิ ภเค วนีติ ภควา.

ยา ตา สมฺปตฺติโย โลเก, ยา จ โลกุตฺตรา ปุถุ;

สพฺพา ตา ภชิ สมฺพุทฺโธ, ตสฺมาปิ ภควา มโตติ.

กถํ ภตฺตวาติ ภควา? ภตฺตา ทฬฺหภตฺติกา อสฺส พหู อตฺถีติ ภตฺตวา. ตถาคโต หิ มหากรุณาสพฺพฺุตฺาณาทิอปริมิตนิรุปมปภาวคุณวิเสสสมงฺคิภาวโต สพฺพสตฺตุตฺตโม, สพฺพานตฺถปริหารปุพฺพงฺคมาย นิรวเสสหิตสุขวิธานตปฺปราย นิรติสยาย ปโยคสมฺปตฺติยา สเทวมนุสฺสาย ปชาย อจฺจนฺตูปการิตาย ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณ-อสีติอนุพฺยฺชน-พฺยามปฺปภาทิอนฺสาธารณ- วิเสสปฏิมณฺฑิต-รูปกายตาย ยถาภุจฺจ-คุณาธิคเตน ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน โลกตฺตยพฺยาปินา สุวิปุเลน สุวิสุทฺเธน จ ถุติโฆเสน สมนฺนาคตตฺตา อุกฺกํสปารมิปฺปตฺตาสุ อปฺปิจฺฉตาสนฺตุฏฺิอาทีสุ สุปฺปติฏฺิตภาวโต ทสพลจตุเวสารชฺชาทินิรติสยคุณวิเสส-สมงฺคิภาวโต จ รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสนฺโน, โฆสปฺปมาโณ โฆสปฺปสนฺโน, ลูขปฺปมาโณ ลูขปฺปสนฺโน, ธมฺมปฺปมาโณ ธมฺมปฺปสนฺโนติ เอวํ จตุปฺปมาณิเก โลกสนฺนิวาเส สพฺพถาปิ ปสาทาวหภาเวน สมนฺตปาสาทิกตฺตา อปริมาณานํ สตฺตานํ สเทวมนุสฺสานํ อาทรพหุมานคารวายตนตาย ปรมเปมสมฺภตฺติฏฺานํ. เย ตสฺส โอวาเท ปติฏฺิตา อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา โหนฺติ, เกนจิ อสํหาริยา เตสํ ปสาทภตฺติ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา. ตถา หิ เต อตฺตโน ชีวิตปริจฺจาเคปิ ตตฺถ ปสาทํ น ปริจฺจชนฺติ, ตสฺส วา อาณํ ทฬฺหภตฺติภาวโต. เตเนวาห –

‘‘โย เว กตฺู กตเวทิ ธีโร;

กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จ โหตี’’ติ. (ชา. ๒.๑๗.๗๘);

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ, เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยํ มยา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ตํ มม สาวกา ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๘.๒๐; อุทา. ๔๕; จูฬว. ๓๘๕) จ.

เอวํ ภตฺตวาติ ภควา นิรุตฺตินเยน เอกสฺส ต-การสฺส โลปํ กตฺวา อิตรสฺส ค-การํ กตฺวา.

คุณาติสยยุตฺตสฺส, ยสฺมา โลกหิเตสิโน;

สมฺภตฺตา พหโว สตฺถุ, ภควา เตน วุจฺจตีติ.

กถํ ภเค วมีติ ภควา? ยสฺมา ตถาคโต โพธิสตฺตภูโตปิ ปุริมาสุ ชาตีสุ ปารมิโย ปูเรนฺโต ภคสงฺขาตํ สิรึ อิสฺสริยํ ยสฺจ วมิ, อุคฺคิริ, เขฬปิณฺฑํ วิย อนเปกฺโข ฉฑฺฑยิ; ปจฺฉิมตฺตภาเวปิ หตฺถาคตํ จกฺกวตฺติสิรึ เทวโลกาธิปจฺจสทิสํ จตุทีปิสฺสริยํ จกฺกวตฺติสมฺปตฺติสนฺนิสฺสยํ สตฺตรตนสมุชฺชลํ ยสฺจ ติณายปิ อมฺมาโน นิรเปกฺโข ปหาย อภินิกฺขมิตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, ตสฺมา อิเม สิริอาทิเก ภเค วมีติ ภควา. อถ วา ภานิ นาม นกฺขตฺตานิ, เตหิ สมํ คจฺฉนฺติ ปวตฺตนฺตีติ ภคา, สิเนรุยุคนฺธรอุตฺตรกุรุหิมวนฺตาทิภาชนโลกวิเสสสนฺนิสฺสยา โสภา กปฺปฏฺิยภาวโต, เตปิ ภเค วมิ ตนฺนิวาสิสตฺตาวาสสมติกฺกมนโต, ตปฺปฏิพทฺธฉนฺทราคปหาเนน ปชหีติ. เอวมฺปิ ภเค วมีติ ภควา.

จกฺกวตฺติสิรึ ยสฺมา, ยสํ อิสฺสริยํ สุขํ;

ปหาสิ โลกจิตฺตฺจ, สุคโต ภควา ตโตติ.

กถํ ภาเค วมีติ ภควา? ภาคา นาม สภาคธมฺมโกฏฺาสา, เต ขนฺธายตนธาตาทิวเสน, ตตฺถาปิ รูปเวทนาทิวเสน, ปถวิยาทิอตีตาทิวเสน จ อเนกวิธา. เต ภควา สพฺพํ ปปฺจํ สพฺพํ โยคํ สพฺพํ คนฺถํ สพฺพํ สํโยชนํ สมุจฺฉินฺทิตฺวา อมตํ ธาตุํ สมธิคจฺฉนฺโต วมิ อุคฺคิริ, อนเปกฺโข ฉฑฺฑยิ น ปจฺจาคมิ. ตถา เหส ‘‘สพฺพตฺถเมว ปถวึ อาปํ เตชํ วายํ, จกฺขุํ โสตํ ฆานํ ชิวฺหํ กายํ มนํ, รูเป สทฺเท คนฺเธ รเส โผฏฺพฺเพ ธมฺเม, จกฺขุวิฺาณํ…เป… มโนวิฺาณํ, จกฺขุสมฺผสฺสํ…เป… มโนสมฺผสฺสํ, จกฺขุสมฺผสฺสชํ เวทนํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ เวทนํ, จกฺขุสมฺผสฺสชํ สฺํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ สฺํ, จกฺขุสมฺผสฺสชํ เจตนํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ เจตนํ, รูปตณฺหํ…เป… ธมฺมตณฺหํ, รูปวิตกฺกํ…เป… ธมฺมวิตกฺกํ, รูปวิจารํ…เป… ธมฺมวิจาร’’นฺติอาทินา อนุปทธมฺมวิภาควเสนปิ สพฺเพว ธมฺมโกฏฺาเส อนวเสสโต วมิ อุคฺคิริ, อนเปกฺขปริจฺจาเคน ฉฑฺฑยิ. วุตฺตํ เหตํ ‘‘ยํ ตํ, อานนฺท, จตฺตํ วนฺตํ มุตฺตํ ปหีนํ ปฏินิสฺสฏฺํ, ตํ ตถาคโต ปุน ปจฺจาคมิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๘๓). เอวมฺปิ ภาเค วมีติ ภควา. อถ วา ภาเค วมีติ สพฺเพปิ กุสลากุสเล สาวชฺชานวชฺเช หีนปณีเต กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเค ธมฺเม อริยมคฺคาณมุเขน วมิ อุคฺคิริ อนเปกฺโข ปริจฺจชิ ปชหิ, ปเรสฺจ ตถตฺตาย ธมฺมํ เทเสสิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ธมฺมาปิ โว, ภิกฺขเว, ปหาตพฺพา, ปเคว อธมฺมา (ม. นิ. ๑.๒๔๐), กุลฺลูปมํ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ นิตฺถรณตฺถาย, โน คหณตฺถายา’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๒๔๐). เอวมฺปิ ภาเค วมีติ ภควา.

ขนฺธายตนธาตาทิ-ธมฺมภาคามเหสินา;

กณฺหสุกฺกา ยโต วนฺตา, ตโตปิ ภควา มโตติ.

เตน วุตฺตํ –

‘‘ภาควา ภตวา ภาเค, ภเค จ วนิ ภตฺตวา;

ภเค วมิ ตถา ภาเค, วมีติ ภควา ชิโน’’ติ.

ธมฺมสรีรํ ปจฺจกฺขํ กโรตีติ ‘‘โย โว, อานนฺท, มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปฺตฺโต, โส โว มมจฺจเยน สตฺถา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๖) วจนโต ธมฺมสฺส สตฺถุภาวปริยาโย วิชฺชตีติ กตฺวา วุตฺตํ. วชิรสงฺฆาตสมานกาโย ปเรหิ อเภชฺชสรีรตฺตา. น หิ ภควโต รูปกาเย เกนจิ สกฺกา อนฺตราโย กาตุนฺติ.

เทสนาสมฺปตฺตึ นิทฺทิสติ วกฺขมานสฺส สกลสฺส สุตฺตสฺส ‘‘เอว’’นฺติ นิทสฺสนโต. สาวกสมฺปตฺตึ นิทฺทิสติ ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺเตน ปฺจสุ าเนสุ ภควตา เอตทคฺเค ปิเตน มยา มหาสาวเกน สุตํ, ตฺจ โข มยาว สุตํ, น อนุสฺสุติกํ, น ปรมฺปราภตนฺติ อิมสฺส อตฺถสฺส ทีปนโต. กาลสมฺปตฺตึ นิทฺทิสติ ภควา-สทฺทสนฺนิธาเน ปยุตฺตสฺส สมย-สทฺทสฺส กาลสฺส พุทฺธุปฺปาทปฏิมณฺฑิตภาวทีปนโต. พุทฺธุปฺปาทปรมา หิ กาลสมฺปทา. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘กปฺปกสาเย กลิยุเค, พุทฺธุปฺปาโท อโห มหจฺฉริยํ;

หุตาวหมชฺเฌ ชาตํ, สมุทิตมกรนฺทมรวินฺท’’นฺติ. (ที. นิ. ฏี. ๑.๑; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑; อ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑ รูปาทิวคฺควณฺณนา);

ภควาติ เทสกสมฺปตฺตึ นิทฺทิสติ คุณวิสิฏฺสตฺตุตฺตมครุคารวาธิวจนภาวโต.

มงฺคลทิวโส สุขโณ สุนกฺขตฺตนฺติ อชฺช มงฺคลทิวโส, ตสฺมา สุนกฺขตฺตํ, ตตฺถาปิ อยํ สุขโณ. มา อติกฺกมีติ มา รตฺติวิภายนํ อนุทิกฺขนฺตานํ รตฺติ อติกฺกมีติ เอวํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อุกฺกาสุ ิตาสุ ิตาติ อุกฺกฏฺา (ที. นิ. ฏี. ๑.๒๕๕; อ. นิ. ฏี. ๒.๔.๓๖). อุกฺกาสุ วิชฺโชตลนฺตีสุ ิตา ปติฏฺิตาติ มูลวิภูชาทิปกฺเขเปน (ปาณินิ ๓.๒.๕) สทฺทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. นิรุตฺตินเยน วา อุกฺกาสุ ิตาสุ ิตา อาสีติ อุกฺกฏฺา. อปเร ปน ภณนฺติ ‘‘ภูมิภาคสมฺปตฺติยา มนุสฺสสมฺปตฺติยา อุปกรณสมฺปตฺติยา จ สา นครี อุกฺกฏฺคุณโยคโต ‘อุกฺกฏฺา’ติ นามํ ลภี’’ติ.

อวิเสเสนาติ น วิเสเสน, วิหารภาวสามฺเนาติ อตฺโถ. อิริยาปถ…เป… วิหาเรสูติ อิริยาปถวิหาโร ทิพฺพวิหาโร พฺรหฺมวิหาโร อริยวิหาโรติ เอเตสุ จตูสุ วิหาเรสุ. สมงฺคิปริทีปนนฺติ สมงฺคีภาวปริทีปนํ. เอตนฺติ ‘‘วิหรตี’’ติ เอตํ ปทํ. ตถา หิ ตํ ‘‘อิเธกจฺโจ คิหีหิ สํสฏฺโ วิหรติ สหนนฺที สหโสกี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑) อิริยาปถวิหาเร อาคตํ; ‘‘ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๖๐; วิภ. ๖๒๔) ทิพฺพวิหาเร; ‘‘โส เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๕๕๖; ๓.๓๐๘; ม. นิ. ๑.๗๗; ๒.๓๐๙; ๓.๒๓๐) พฺรหฺมวิหาเร; ‘‘โส โข อหํ อคฺคิเวสฺสน ตสฺสาเยว กถาย ปริโยสาเน ตสฺมึ เอว ปุริมสฺมึ สมาธินิมิตฺเต อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺเปมิ สนฺนิสาเทมิ เอโกทึ กโรมิ สมาทหามิ, เยน สุทํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) อริยวิหาเร.

ตตฺถ อิริยนํ วตฺตนํ อิริยา, กายปฺปโยโค. ตสฺสา ปวตฺตนุปายภาวโต านาทิ อิริยาปโถ. านสมงฺคี วา หิ กาเยน กิฺจิ กเรยฺย คมนาทีสุ อฺตรสมงฺคี วา. อถ วา อิริยติ ปวตฺตติ เอเตน อตฺตภาโว, กายกิจฺจํ วาติ อิริยา, ตสฺสา ปวตฺติยา อุปายภาวโต ปโถติ อิริยาปโถ, านาทิ เอว. โส จ อตฺถโต คตินิวตฺติอาทิอากาเรน ปวตฺโต จตุสนฺตติรูปปพนฺโธ เอว. วิหรณํ, วิหรติ เอเตนาติ วา วิหาโร, อิริยาปโถ เอว วิหาโร อิริยาปถวิหาโร. ทิวิ ภโวติ ทิพฺโพ. ตตฺถ พหุลปฺปวตฺติยา พฺรหฺมปาริสชฺชาทิเทวโลเก ภโวติ อตฺโถ. ตตฺถ โย ทิพฺพานุภาโว, ตทตฺถาย สํวตฺตตีติ วา ทิพฺโพ, อภิฺาภินีหารวเสน มหาคติกตฺตา วา ทิพฺโพ, ทิพฺโพ จ โส วิหาโร จาติ ทิพฺพวิหาโร, จตสฺโส รูปาวจรสมาปตฺติโย. อารุปฺปสมาปตฺติโยปิ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. พฺรหฺมูนํ, พฺรหฺมาโน วา วิหารา พฺรหฺมวิหารา, จตสฺโส อปฺปมฺาโย. อริยานํ, อริยา วา วิหารา อริยวิหารา, จตฺตาริ สามฺผลานิ. โส หิ ภควา เอกํ อิริยาปถพาธนนฺติอาทิ ยทิปิ ภควา เอเกนปิ อิริยาปเถน จิรตรํ กาลํ อตฺตภาวํ ปวตฺเตตุํ สกฺโกติ, ตถาปิ ‘‘อุปาทินฺนกสรีรสฺส นาม อยํ สภาโว’’ติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ยสฺมา วา ภควา ยตฺถ กตฺถจิ วสนฺโต เวเนยฺยานํ ธมฺมํ เทเสนฺโต, นานาสมาปตฺตีหิ จ กาลํ วีตินาเมนฺโต วสตีติ เวเนยฺยสตฺตานํ อตฺตโน จ วิวิธํ หิตสุขํ หรติ อุปเนติ อุปฺปาเทติ, ตสฺมา วิวิธํ หรตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

สุภคตฺตาติ สิรีกามานวเสน โสภนตฺตา. เตเนวาห ‘‘สุนฺทรสิริกตฺตา สุนฺทรกามตฺตา จา’’ติ. ฉณสมชฺชอุสฺสเวติ เอตฺถ ฉณํ นาม ผคฺคุนมาสาทีสุ อุตฺตรผคฺคุนาทิ-อภิลกฺขิตทิวเสสุ สปริชนานํ มนุสฺสานํ มงฺคลกรณํ. สมชฺชํ นาม นฏสมชฺชาทิ. อุสฺสโว นกฺขตฺตํ. ยตฺถ คามนิคมวาสิโน ตโย สตฺต วา ทิวเส นกฺขตฺตโฆสนํ กตฺวา ยถาวิภวํ อลงฺกตปฏิยตฺตา โภเค ปริภุฺชนฺตา นกฺขตฺตกีฬนํ กีฬนฺติ. เตสํ ตํ ตเถว โหตีติ เตสํ มนุสฺสานํ ตํ ปตฺถนํ ตนฺนิวาสิเทวตานุภาเวน เยภุยฺเยน ตเถว โหติ, ปตฺถนา สมิชฺฌตีติ อตฺโถ. พหุชนกนฺตตายาติ อิมินา ‘‘สุนฺทรกามตฺตา’’ติ เอตสฺเสว ปทสฺส ปการนฺตเรน อตฺถํ วิภาเวติ. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – กมนียฏฺเน สุฏฺุ ภชียตีติ สุภคํ, สุภา อคา รุกฺขา เอตฺถาติ วา สุภคํ, สุนฺทรกิตฺติโยคโต วา ‘‘สุภค’’นฺติ เอวมฺเปตฺถ อตฺถํ วณฺเณนฺติ. เกจิ ปน ‘‘สุภาควเน’’ติ ปนฺติ, ‘‘สุนฺทรภูมิภาเค วเน’’ติ จสฺส อตฺถํ วทนฺติ. สุภคสฺส นาม ยกฺขสฺส วนํ เตน ปริคฺคหิตตฺตาติ ‘‘สุภควน’’นฺติ อฺเ. วนนํ ภตฺตีติอตฺเถ ตํ วนนํ กาเรตีติ เอตสฺมึ อตฺเถ วนยตีติ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. เตเนวาห ‘‘อตฺตนิ สิเนหํ อุปฺปาเทตี’’ติ. ยาจนตฺเถ วนุเต อิติ วนนฺติ อุปจารกปฺปนาวเสน วน-สทฺโท เวทิตพฺโพ.

อุชุวํสาติ อุชุภูตวิฏปา. มหาสาลาติ มหารุกฺขา. อฺตรสฺมึ สาลมูเลติ อฺตรสฺส รุกฺขสฺส มูเล. วนปฺปติเชฏฺกรุกฺโขติ วนปฺปติภูโต เชฏฺกรุกฺโข. ตเมว เชฏฺกภาวนฺติ วนปฺปติภาเวนาคตํ เสฏฺภาวํ ปธานภาวํ. เตน หิ โส ‘‘สาลราชา’’ติ วุตฺโต. อุปคตานํ รฺชนฏฺเน ราชา, อฺสฺมิมฺปิ ตาทิเส รุกฺเข ราชโวหารํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุปติฏฺิตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ พฺราหฺมณ ธมฺมิกาติ อาลปนํ. นิปฺปริยาเยน สาขาทิมโต สงฺฆาตสฺส สุปฺปติฏฺิตภาวสาธเน อวยววิเสเส ปวตฺตมาโน มูล-สทฺโท. ยสฺมา ตํสทิเสสุ ตนฺนิสฺสเย ปเทเส จ รุฬฺหีวเสน ปริยายโต ปวตฺตติ, ตสฺมา ‘‘มูลานิ อุทฺธเรยฺยา’’ติ เอตฺถ นิปฺปริยายมูลํ อธิปฺเปตนฺติ เอเกน มูล-สทฺเทน วิเสเสตฺวา อาห ‘‘มูลมูเล ทิสฺสตี’’ติ ยถา ‘‘ทุกฺขทุกฺขํ (สํ. นิ. ๔.๓๒๗), รูปรูป’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๒.๔๔๙) จ. อสาธารณเหตุมฺหีติ อสาธารณการเณ. โลภสหคตจิตฺตุปฺปาทานํ เอว อาเวณิเก เนสํ สุปฺปติฏฺิตภาวสาธนโต มูลฏฺเน อุปการเก ปจฺจยธมฺเม ทิสฺสตีติ อตฺโถ.

ตตฺถาติ ‘‘เอกํ สมยํ ภควา อุกฺกฏฺายํ วิหรติ สุภควเน สาลราชมูเล’’ติ ยํ วุตฺตํ วากฺยํ, ตตฺต. สิยาติ กสฺสจิ เอวํ ปริวิตกฺโก สิยา, วกฺขมานากาเรน กทาจิ โจเทยฺย วาติ อตฺโถ. อถ ตตฺถ วิหรตีติ ยทิ สุภควเน สาลราชมูเล วิหรติ. น วตฺตพฺพนฺติ นานาานภูตตฺตา อุกฺกฏฺาสุภควนานํ, เอกํ สมยนฺติ จ วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. อิทานิ โจทโก ตเมว อตฺตโน อธิปฺปายํ ‘‘น หิ สกฺกา’’ติอาทินา วิวรติ. อิตโร สพฺพเมตํ อวิปรีตํ อตฺถํ อชานนฺเตน วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพ’’นฺติ อาห. ตตฺถ เอตนฺติ ‘‘อุกฺกฏฺายํ วิหรติ สุภควเน สาลราชมูเล’’ติ เอตํ วจนํ. เอวนฺติ ‘‘ยทิ ตาว ภควา’’ติอาทินา ยํ ตํ ภวตา โจทิตํ, ตํ อตฺถโต เอวํ น โข ปน ทฏฺพฺพํ, น อุภยตฺถ อปุพฺพอจริมํ วิหารทสฺสนตฺถนฺติ อตฺโถ.

อิทานิ อตฺตโน ยถาธิปฺเปตํ อวิปรีตํ อตฺถํ, ตสฺส จ ปฏิกจฺเจว วุตฺตภาวํ, เตน จ อปฺปฏิวิทฺธตฺตํ ปกาเสนฺโต ‘‘นนุ อโวจุมฺห…เป… สาลราชมูเล’’ติ อาห. เอวมฺปิ ‘‘สุภควเน สาลราชมูเล วิหรตี’’จฺเจว วตฺตพฺพํ, น ‘‘อุกฺกฏฺาย’’นฺติ โจทนํ มนสิ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘โคจรคามนิทสฺสนตฺถ’’นฺติอาทิ.

อวสฺสํ เจตฺถ โคจรคามกิตฺตนํ กาตพฺพํ. ตถา หิ ตํ ยถา สุภควนาทิกิตฺตนํ ปพฺพชิตานุคฺคหกรณาทิอเนกปฺปโยชนํ, เอวํ คหฏฺานุคฺคหกรณาทิวิวิธปฺปโยชนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุกฺกฏฺากิตฺตเนนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปจฺจยคฺคหเณน อุปสงฺกมนปยิรุปาสนานํ โอกาสทาเนน ธมฺมเทสนาย สรเณสุ สีเลสุ จ ปติฏฺาปเนน ยถูปนิสฺสยํ อุปริวิเสสาธิคมาวหเนน จ คหฏฺานคฺคหกรณํ, อุคฺคหปริปุจฺฉานํ กมฺมฏฺานานุโยคสฺส จ อนุรูปวสนฏฺานปริคฺคเหเนตฺถ ปพฺพชิตานุคฺคหกรณํ เวทิตพฺพํ. กรุณาย อุปคมนํ, น ลาภาทินิมิตฺตํ, ปฺาย อปคมนํ, น วิโรธาทินิมิตฺตนฺติ อุปคมนาปคมนานํ นิรุปกฺกิเลสตํ วิภาเวติ. ธมฺมิกสุขํ นาม อนวชฺชสุขํ. เทวานํ อุปการพหุลตา ชนวิวิตฺตตาย. ปจุรชนวิวิตฺตํ หิ านํ เทวา อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺนฺติ. ตทตฺถปรินิปฺผาทนนฺติ โลกตฺถนิปฺผาทนํ, พุทฺธกิจฺจสมฺปาทนนฺติ อตฺโถ. เอวมาทินาติ อาทิ-สทฺเทน อุกฺกฏฺากิตฺตนโต รูปกายสฺส อนุคฺคณฺหนํ ทสฺเสติ, สุภควนาทิกิตฺตนโต ธมฺมกายสฺส. ตถา ปุริเมน ปราธีนกิริยากรณํ, ทุติเยน อตฺตาธีนกิริยากรณํ. ปุริเมน วา กรุณากิจฺจํ, อิตเรน ปฺากิจฺจํ. ปุริเมน จสฺส ปรมาย อนุกมฺปาย สมนฺนาคมํ, ปจฺฉิเมน ปรมาย อุเปกฺขาย สมนฺนาคมํ ทีเปติ. ภควา หิ สพฺพสตฺเต ปรมาย อนุกมฺปาย อนุกมฺปติ, น จ ตตฺถ สิเนหโทสานุปติโต ปรมุเปกฺขกภาวโต, อุเปกฺขโก จ น จ ปรหิตสุขกรเณ อปฺโปสุกฺโก มหาการุณิกภาวโต.

ตสฺส มหาการุณิกตาย โลกนาถตา, อุเปกฺขกตาย อตฺตนาถตา. ตถา เหส โพธิสตฺตภูโต มหากรุณาย สฺโจทิตมานโส สกลโลกหิตาย อุสฺสุกฺกมาปนฺโน มหาภินีหารโต ปฏฺาย ตทตฺถนิปฺผาทนตฺถํ ปุฺาณสมฺภาเร สมฺปาเทนฺโต อปริมิตํ กาลํ อนปฺปกํ ทุกฺขมนุโภสิ, อุเปกฺขกตาย สมฺมา ปติเตหิ ทุกฺเขหิ น วิกมฺปิ. ตถา มหาการุณิกตาย สํสาราภิมุขตา, อุเปกฺขกตาย ตโต นิพฺพินฺทนา. ตถา อุเปกฺขกตาย นิพฺพานาภิมุขตา, มหาการุณิกตาย ตทธิคโม. ตถา มหาการุณิกตาย ปเรสํ อภึสาปนํ, อุเปกฺขกตาย สยํ ปเรหิ อภายนํ. มหาการุณิกตาย ปรํ รกฺขโต อตฺตโน รกฺขณํ, อุเปกฺขกตาย อตฺตานํ รกฺขโต ปเรสํ รกฺขณํ. เตนสฺส อตฺตหิตาย ปฏิปนฺนาทีสุ จตุตฺถปุคฺคลภาโว สิทฺโธ โหติ. ตถา มหาการุณิกตาย สจฺจาธิฏฺานสฺส จาคาธิฏฺานสฺส จ ปาริปูริ, อุเปกฺขกตาย อุปสมาธิฏฺานสฺส ปฺาธิฏฺานสฺส จ ปาริปูริ. เอวํ ปริสุทฺธาสยปโยคสฺส มหาการุณิกตาย โลกหิตตฺถเมว รชฺชสมฺปทาทิภวสมฺปตฺติยา อุปคมนํ, อุเปกฺขกตาย ติณายปิ อมฺมานสฺส ตโต อปคมนํ. อิติ สุวิสุทฺธอุปคมาปคมสฺส มหาการุณิกตาย โลกหิตตฺถเมว ทานวเสน สมฺปตฺตีนํ ปริจฺจชนา, อุเปกฺขกตาย จสฺส ผลสฺส อตฺตโน อปจฺจาสีสนา. เอวํ สมุทาคมนโต ปฏฺาย อจฺฉริยพฺภุตคุณสมนฺนาคตสฺส มหาการุณิกตาย ปเรสํ หิตสุขตฺถํ อติทุกฺกรการิตา, อุเปกฺขกตาย กายมฺปิ อนลํการิตา.

ตถา มหาการุณิกตาย จริมตฺตภาเว ชิณฺณาตุรมตทสฺสเนน สฺชาตสํเวโค, อุเปกฺขกตาย อุฬาเรสุ เทวโภคสทิเสสุ โภเคสุ นิรเปกฺโข มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิ. ตถา มหาการุณิกตาย ‘‘กิจฺฉํ วตายํ โลโก อาปนฺโน’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๕๗; สํ. นิ. ๒.๔, ๑๐) กรุณามุเขเนว วิปสฺสนารมฺโภ , อุเปกฺขกตาย พุทฺธภูตสฺส สตฺต สตฺตาหานิ วิเวกสุเขเนว วีตินามนํ. มหาการุณิกตาย ธมฺมคมฺภีรตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ธมฺมเทสนาย อปฺโปสุกฺกตํ อาปชฺชิตฺวาปิ มหาพฺรหฺมุโน อชฺเฌสนาปเทเสน โอกาสกรณํ, อุเปกฺขกตาย ปฺจวคฺคิยาทิ เวเนยฺยานํ อนนุรูปสมุทาจาเรปิ อนฺถาภาโว. มหาการุณิกตาย กตฺถจิ ปฏิฆาตาภาเวนสฺส สพฺพตฺถ อมิตฺตสฺาย อภาโว, อุเปกฺขกตาย กตฺถจิปิ อนุโรธาภาเวน สพฺพตฺถ สิเนหสนฺถวาภาโว. มหาการุณิกตาย คามาทีนํ อาสนฺนฏฺาเน วสนฺตสฺสปิ อุเปกฺขกตาย อรฺฏฺาเน เอว วิหรณํ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปุริเมน จสฺส ปรมาย อนฺนุกมฺปาย สมนฺนาคมํ, ปจฺฉิเมน ปรมาย อุเปกฺขาย สมนฺนาคมํ ทีเปตี’’ติ.

นฺติ ‘‘ตตฺรา’’ติ ปทํ. เทสกาลปริทีปนนฺติ เย เทสกาลา อิธ วิหรณกิริยาวิเสสนภาเวน วุตฺตา, เตสํ ปริทีปนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํ สมยํ…เป… ทีเปตี’’ติ อาห. ตํ-สทฺโท หิ วุตฺตสฺส อตฺถสฺส ปฏินิทฺเทโส, ตสฺมา อิธ กาลสฺส, เทสสฺส วา ปฏินิทฺเทโส ภวิตุํ อรหติ, น อฺสฺส. อยํ ตาว ตตฺร-สทฺทสฺส ปฏินิทฺเทสภาเว อตฺถวิภาวนา. ยสฺมา ปน อีทิเสสุ าเนสุ ตตฺร-สทฺโท ธมฺมเทสนาวิสิฏฺํ เทสํ กาลฺจ วิภาเวติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ภาสิตพฺพยุตฺเต วา เทสกาเล ทีเปตี’’ติ. เตน ตตฺราติ ยตฺถ ภควา ธมฺมเทสนตฺถํ ภิกฺขู อาลปิ อภาสิ, ตาทิเส เทเส, กาเล วาติ อตฺโถ. น หีติอาทินา ตเมวตฺถํ สมตฺเถติ. นนุ จ ยตฺถ ิโต ภควา ‘‘อกาโล โข ตาวา’’ติอาทินา พาหิยสฺส ธมฺมเทสนํ ปฏิกฺขิปิ, ตตฺเถว อนฺตรวีถิยํ ิโต ตสฺส ธมฺมํ เทเสตีติ? สจฺจเมตํ, อเทเสตพฺพกาเล อเทสนาย อิทํ อุทาหรณํ. เตเนวาห ‘‘อกาโล โข ตาวา’’ติ. ยํ ปน ตตฺถ วุตฺตํ ‘‘อนฺตรฆรํ ปวิฏฺมฺหา’’ติ (อุทา. ๑๐), ตมฺปิ ตสฺส อกาลภาวสฺเสว ปริยาเยน ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตสฺส หิ ตทา อทฺธานปริสฺสเมน รูปกาเย อกมฺมฺตา อโหสิ, พลวปีติเวเคน นามกาเย, ตทุภยสฺส วูปสมํ อาคเมนฺโต ปปฺจปริหารตฺถํ ภควา ‘‘อกาโล โข’’ติ ปริยาเยน ปฏิกฺขิปิ. อเทเสตพฺพเทเส อเทสนาย ปน อุทาหรณํ ‘‘อถ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔), วิหารโต นิกฺขมิตฺวา วิหารปจฺฉายายํ ปฺตฺเต อาสเน นิสีที’’ติ (ที. นิ. ๑.๓๖๓) จ เอวมาทิกํ อิธ อาทิ-สทฺเทน สงฺคหิตํ.

‘‘อถ โข โส, ภิกฺขเว, พาโล อิธ ปุพฺเพ รสาโท อิธ ปาปานิ กมฺมานิ กริตฺวา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๕๑) ปทปูรณมตฺเต โข-สทฺโท, ‘‘ทุกฺขํ โข อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๒๑) อวธารเณ, ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, สตฺถุ ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต สาวกา วิเวกํ นานุสิกฺขนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๑) อาทิกาลตฺเถ. วากฺยารมฺเภติ อตฺโถ. ตตฺถ ปทปูรเณน วจนาลงฺการมตฺตํ กตํ โหติ, อาทิกาลตฺเถน วากฺยสฺส อุปฺาสมตฺตํ, อวธารตฺเถน ปน นิยมทสฺสนํ, ตสฺมา อามนฺเตสิ เอวาติ อามนฺตเน นิยโม ทสฺสิโต โหตีติ.

‘‘ภควาติ โลกครุทีปน’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ปุพฺเพปิ ภควา-สทฺทสฺส อตฺโถ วุตฺโตติ? ยทิปิ ปุพฺเพ วุตฺโต, ตํ ปนสฺส ยถาวุตฺเต าเน วิหรณกิริยาย กตฺตุวิเสสทสฺสนตฺถํ กตํ, น อามนฺตนกิริยาย, อิธ ปน อามนฺตนกิริยาย, ตสฺมา ตทตฺถํ ปุน ‘‘ภควา’’ติ ปาฬิยํ วุตฺตนฺติ ตสฺสตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภควาติ โลกครุทีปน’’นฺติ อาห. กถาสวนยุตฺตปุคฺคลวจนนฺติ วกฺขมานาย มูลปริยายเทสนาย สวนโยคฺยปุคฺคลวจนํ. จตูสุปิ ปริสาสุ ภิกฺขู เอว เอทิสานํ เทสนานํ วิเสเสน ภาชนภูตา, อิติ สาติสยสาสนสมฺปฏิคฺคาหกภาวทสฺสนตฺถํ อิธ ภิกฺขุคหณนฺติ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สทฺทตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ภิกฺขโกติ ภิกฺขูติ ภิกฺขนธมฺมตาย ภิกฺขูติ อตฺโถ. ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ พุทฺธาทีหิปิ อชฺฌุปคตํ ภิกฺขาจริยํ อุฺฉาจริยํ อชฺฌุปคตตฺตา อนุฏฺิตตฺตา ภิกฺขู. โย หิ โกจิ อปฺปํ วา มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต, โส กสิโครกฺขาทีหิ ชีวิกากปฺปนํ หิตฺวา ลิงฺคสมฺปฏิจฺฉเนเนว ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคตตฺตา ภิกฺขุ, ปรปฏิพทฺธชีวิกตฺตา วา วิหารมชฺเฌ กาชภตฺตํ ภุฺชมาโนปิ ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ ภิกฺขุ, ปิณฺฑิยาโลปโภชนํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชาย อุสฺสาหชาตตฺตา วา ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ ภิกฺขูติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อาทินา นเยนาติ ‘‘ภินฺนปฏธโรติ ภิกฺขุ, ภินฺทติ ปาปเก อกุสเล ธมฺเมติ ภิกฺขุ, ภินฺนตฺตา ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ภิกฺขู’’ติอาทินา วิภงฺเค (วิภ. ๕๑๐) อาคตนเยน. าปเนติ อวโพธเน, ปฏิเวทเนติ อตฺโถ.

ภิกฺขนสีลตาติอาทีสุ ภิกฺขนสีลตา ภิกฺขเนน อาชีวนสีลตา, น กสิวณิชฺชาทีหิ อาชีวนสีลตา. ภิกฺขนธมฺมตา ‘‘อุทฺทิสฺส อริยา ติฏฺนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑๕๓; มิ. ป. ๔.๕.๙) เอวํ วุตฺตภิกฺขนสภาวตา, น สมฺภาวนาโกหฺสภาวตา. ภิกฺขเน สาธุการิตา ‘‘อุตฺติฏฺเ นปฺปมชฺเชยฺยา’’ติ (ธ. ป. ๑๖๘) วจนํ อนุสฺสริตฺวา ตตฺถ อปฺปมชฺชนา. อถ วา สีลํ นาม ปกติสภาโว, อิธ ปน ตทธิฏฺานํ. ธมฺโมติ วตํ. อปเร ปน ‘‘สีลํ นาม วตสมาทานํ, ธมฺโม นาม ปเวณีอาคตํ จาริตฺตํ, สาธุการิตาติ สกฺกจฺจการิตา อาทรกิริยา’’ติ วณฺเณนฺติ. หีนาธิกชนเสวิตนฺติ เย ภิกฺขุภาเว ิตาปิ ชาติมทาทิวเสน อุทฺธตา อุนฺนฬา. เย จ คิหิภาเว ปเรสุ อตฺถิกภาวมฺปิ อนุปคตตาย ภิกฺขาจริยํ ปรมกาปฺตํ มฺนฺติ, เตสํ อุภเยสมฺปิ ยถากฺกมํ ‘‘ภิกฺขโว’’ติ วจเนน หีนชเนหิ ทลิทฺเทหิ ปรมกาปฺตํ ปตฺเตหิ ปรกุเลสุ ภิกฺขาจริยาย ชีวิกํ กปฺเปนฺเตหิ เสวิตํ วุตฺตึ ปกาเสนฺโต อุทฺธตภาวนิคฺคหํ กโรติ, อธิกชเนหิ อุฬารโภคขตฺติยกุลาทิโต ปพฺพชิเตหิ พุทฺธาทีหิ อาชีววิโสธนตฺถํ เสวิตํ วุตฺตึ ปกาเสนฺโต ทีนภาวนิคฺคหํ กโรตีติ โยเชตพฺพํ. ยสฺมา ‘‘ภิกฺขโว’’ติ วจนํ อามนฺตนภาวโต อภิมุขีกรณํ, ปกรณโต สามตฺถิยโต จ สุสฺสูสาชนนํ สกฺกจฺจสวนมนสิการนิโยชนฺจ โหติ. ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภิกฺขโวติ อิมินา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ สาธุกสวนมนสิกาเรติ สาธุกสวเน สาธุกมนสิกาเร จ. กถํ ปน ปวตฺติตา สวนาทโย สาธุกํ ปวตฺติตา โหนฺตีติ? ‘‘อทฺธา อิมาย สมฺมาปฏิปตฺติยา สกลสาสนสมฺปตฺติ หตฺถคตา ภวิสฺสตี’’ติ อาทรคารวโยเคน, กถาทีสุ อปริภวนาทินา จ. วุตฺตํ หิ ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโต สทฺธมฺมํ ภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ. กตเมหิ ปฺจหิ? น กถํ ปริโภติ, น กถิกํ ปริโภติ, น อตฺตานํ ปริโภติ, อวิกฺขิตฺตจิตฺโต ธมฺมํ สุณาติ เอกคฺคจิตฺโต, โยนิโส จ มนสิ กโรติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว , ปฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโต สทฺธมฺมํ ภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺต’’นฺติ (อ. นิ. ๕.๑๕๑). เตเนวาห ‘‘สาธุกสวนมนสิการายตฺตา หิ สาสนสมฺปตฺตี’’ติ. สาสนสมฺปตฺติ นาม สีลาทินิปฺผตฺติ.

ปมํ อุปฺปนฺนตฺตา อธิคมวเสน. สตฺถุจริยานุวิธายกตฺตา สีลาทิคุณานุฏฺาเนน. ติณฺณํ ยานานํ วเสน อนุธมฺมปฏิปตฺติสพฺภาวโต สกลสาสนปฏิคฺคาหกตฺตา. สนฺติกตฺตาติ สมีปภาวโต. สนฺติกาวจรตฺตาติ สพฺพกาลํ สมฺปยุตฺตภาวโต. ยถานุสิฏฺนฺติ อนุสาสนิอนุรูปํ, อนุสาสนึ อนวเสสโต ปฏิคฺคเหตฺวาติ อตฺโถ. เอกจฺเจ ภิกฺขูเยว สนฺธายาติ เย สุตฺตปริโยสาเน ‘‘เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุ’’นฺติ วุตฺตา ปฺจสตา พฺราหฺมณปพฺพชิตา, เต สนฺธาย.

ปุพฺเพ สพฺพปริสสาธารณตฺเตปิ ภควโต ธมฺมเทสนาย ‘‘เชฏฺเสฏฺา’’ติอาทินา ภิกฺขูนํ เอว อามนฺตเน การณํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ภิกฺขู อามนฺเตตฺวาว ธมฺมเทสนาย ปโยชนํ ทสฺเสตุํ ‘‘กิมตฺถํ ปน ภควา’’ติ โจทนํ สมุฏฺาเปสิ. ตตฺถ อฺํ จินฺเตนฺตาติ อฺวิหิตา. วิกฺขิตฺตจิตฺตาติ อสมาหิตจิตฺตา. ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขนฺตาติ ตทา หิยฺโย ตโต ปรทิวเสสุ วา สุตธมฺมํ ปติ ปติ มนสา อเวกฺขนฺตา. ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ธมฺเม เทสิยมาเน อาทิโต ปฏฺาย เทสนํ สลฺลกฺเขตุํ สกฺโกนฺตีติ อิมเมวตฺถํ พฺยติเรกมุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘เต อนามนฺเตตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ภิกฺขโวตีติ จ สนฺธิวเสน อิ-การโลโป ทฏฺพฺโพ ‘‘ภิกฺขโว อิตี’’ติ. อยํ หิ อิติ-สทฺโท เหตุ-ปริสมาปนาทิปทตฺถวิปริยาย-ปการาวธารณนิทสฺสนาทิอเนกตฺถปฺปเภโท. ตถา เหส ‘‘รุปฺปตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา ‘รูป’นฺติ วุจฺจตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๗๙) เหตุอตฺเถ ทิสฺสติ; ‘‘ตสฺมา ติห เม, ภิกฺขเว, ธมฺมทายาทา ภวถ, มา อามิสทายาทา, อตฺถิ เม ตุมฺเหสุ อนุกมฺปา ‘กินฺติ เม สาวกา ธมฺมทายาทา ภเวยฺยุํ, โน อามิสทายาทา’ติ’’อาทีสุ ปริสมาปเน; ‘‘อิติ วา, อิติ เอวรูปา นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๑๓) อาทิอตฺเถ; ‘‘มาคณฺิโยติ ตสฺส พฺราหฺมณสฺส สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร นามํ นามกมฺมํ นามเธยฺยํ นิรุตฺติ พฺยฺชนมภิลาโป’’ติอาทีสุ (มหานิ. ๗๓) ปทตฺถวิปริยาเย; ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, สปฺปฏิภโย พาโล, อปฺปฏิภโย ปณฺฑิโต, สอุปทฺทโว พาโล, อนุปทฺทโว ปณฺฑิโต, สอุปสคฺโค พาโล, อนุปสคฺโค ปณฺฑิโต’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๒๔) ปกาเร; ‘‘อตฺถิ อิทปฺปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิติ ปุฏฺเน สตา, อานนฺท, อตฺถีติสฺส วจนียํ, กึ ปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิติ เจ วเทยฺย, ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิจฺจสฺส วจนีย’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๙๖) อวธารเณ; ‘‘สพฺพมตฺถีติ โข, กจฺจาน, อยเมโก อนฺโต, สพฺพํ นตฺถีติ โข, กจฺจาน, อยํ ทุติโย อนฺโต’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๑๕) นิทสฺสเน. อิธาปิ นิทสฺสเนว ทฏฺพฺโพ. ภิกฺขโวติ หิ อามนฺติตากาโร, ตเมส อิติ-สทฺโท นิทสฺเสติ ‘‘ภิกฺขโวติ อามนฺเตสี’’ติ. อิมินา นเยน ‘‘ภทฺทนฺเต’’ติอาทีสุปิ ยถารหํ อิติ-สทฺทสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปุพฺเพ ‘‘ภควา อามนฺเตสี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ภควโต ปจฺจสฺโสสุ’’นฺติ อิธ ‘‘ภควโต’’ติ สามิวจนํ อามนฺตนเมว สมฺพนฺธีอนฺตรํ อเปกฺขตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘ภควโต อามนฺตนํ ปฏิอสฺโสสุ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ภควโต’’ติ ปน อิทํ ปฏิสฺสวสมฺพนฺธเนน สมฺปทานวจนํ ยถา ‘‘เทวทตฺตสฺส ปฏิสฺสุโณตี’’ติ.

ยํ นิทานํ ภาสิตนฺติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถาห – กิมตฺถํ ปน ธมฺมวินยสงฺคเห กริยมาเน นิทานวจนํ, นนุ ภควตา ภาสิตวจนสฺเสว สงฺคโห กาตพฺโพติ? วุจฺจเต – เทสนาย ิติอสมฺโมสสทฺเธยฺยภาวสมฺปาทนตฺถํ. กาลเทสเทสกนิมิตฺตปริสาปเทเสหิ อุปนิพนฺธิตฺวา ปิตา หิ เทสนา จิรฏฺิติกา โหติ อสมฺโมสธมฺมา สทฺเธยฺยา จ, เทสกาลกตฺตุโสตุนิมิตฺเตหิ อุปนิพทฺโธ วิย โวหารวินิจฺฉโย. เตเนว จ อายสฺมตา มหากสฺสเปน ‘‘มูลปริยายสุตฺตํ อาวุโส, อานนฺท, กตฺถ ภาสิต’’นฺติอาทินา เทสาทิปุจฺฉาสุ กตาสุ ตาสํ วิสฺสชฺชนํ กโรนฺเตน ธมฺมภณฺฑาคาริเกน ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติอาทินา อิมสฺส สุตฺตสฺส นิทานํ ภาสิตํ. อปิจ สตฺถุสมฺปตฺติปกาสนตฺถํ นิทานวจนํ. ตถาคตสฺส หิ ภควโต ปุพฺพรจนานุมานาคมตกฺกาภาวโต สมฺมาสมฺพุทฺธภาวสิทฺธิ . น หิ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปุพฺพรจนาทีหิ อตฺโถ อตฺถิ สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตาณจารตาย เอกปฺปมาณตฺตา จ เยฺยธมฺเมสุ. ตถา อาจริยมุฏฺิธมฺมมจฺฉริยสาสนสาวกานุโรธาภาวโต ขีณาสวภาวสิทฺธิ. น หิ สพฺพโส ขีณาสวสฺส เต สมฺภวนฺตีติ สุวิสุทฺธสฺส ปรานุคฺคหปฺปวตฺติ. เอวํ เทสกสํกิเลสภูตานํ ทิฏฺิสีลสมฺปทาทูสกานํ อวิชฺชาตณฺหานํ อจฺจนฺตาภาวสํสูจเกหิ าณสมฺปทาปหานสมฺปทาภิพฺยฺชเกหิ จ สมฺพุทฺธวิสุทฺธภาเวหิ ปุริมเวสารชฺชทฺวยสิทฺธิ, ตโต เอว จ อนฺตรายิกนิยฺยานิกธมฺเมสุ สมฺโมหาภาวสิทฺธิโต ปจฺฉิมเวสารชฺชทฺวยสิทฺธีติ ภควโต จตุเวสารชฺชสมนฺนาคโม อตฺตหิตปรหิตปฏิปตฺติ จ นิทานวจเนน ปกาสิตา โหติ ตตฺถ ตตฺถ สมฺปตฺตปริยาย อชฺฌาสยานุรูปํ านุปฺปตฺติกปฏิภาเนน ธมฺมเทสนาทีปนโต, อิธ ปน ปถวีอาทีสุ วตฺถูสุ ปุถุชฺชนานํ ปฏิปตฺติวิภาคววตฺถาปกเทสนาทีปนโตติ โยเชตพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สตฺถุสมฺปตฺติปกาสนตฺถํ นิทานวจน’’นฺติ.

ตถา สาสนสมฺปตฺติปกาสนตฺถํ นิทานวจนํ. าณกรุณาปริคฺคหิตสพฺพกิริยสฺส หิ ภควโต นตฺถิ นิรตฺถิกา ปฏิปตฺติ, อตฺตหิตตฺถา วา. ตสฺมา ปเรสํ เอว อตฺถาย ปวตฺตสพฺพกิริยสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สกลมฺปิ กายวจีมโนกมฺมํ ยถาปวตฺตํ วุจฺจมานํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ สตฺตานํ อนุสาสนฏฺเน สาสนํ, น กพฺยรจนา, ตยิทํ สตฺถุจริตํ กาลเทสเทสกปริสาปเทเสหิ สทฺธึ ตตฺถ ตตฺถ นิทานวจเนหิ ยถารหํ ปกาสียติ, อิธ ปน ‘‘ปถวิยาทีสุ วตฺถูสู’’ติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว. เตน วุตฺตํ ‘‘สาสนสมฺปตฺติปกาสนตฺถํ นิทานวจน’’นฺติ. อปิจ สตฺถุโน ปมาณภาวปฺปกาสเนน สาสนสฺส ปมาณภาวทสฺสนตฺถํ นิทานวจนํ, ตฺจ เทสกปฺปมาณภาวทสฺสนํ เหฏฺา วุตฺตนยานุสาเรน ‘‘ภควา’’ติ จ อิมินา ปเทน วิภาวิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ภควา’’ติ อิมินา ตถาคตสฺส ราคโทสโมหาทิสพฺพกิเลสมลทุจฺจริตาทิโทสปฺปหานทีปเนน วจเนน อนฺสาธารณสุปริสุทฺธาณกรุณาทิคุณวิเสสโยคปริทีปเนน ตโต เอว สพฺพสตฺตุตฺตมภาวทีปเนน อยมตฺโถ สพฺพถา ปกาสิโต โหตีติ อิทเมตฺถ นิทานวจนปฺปโยชนสฺส มุขมตฺตทสฺสนํ.

อพฺภนฺตรนิทานวณฺณนา นิฏฺิตา.

สุตฺตนิกฺเขปวณฺณนา

นิกฺขิตฺตสฺสาติ เทสิตสฺส. เทสนาปิ หิ เทเสตพฺพสฺส สีลาทิอตฺถสฺส วิเนยฺยสนฺตาเนสุ นิกฺขิปนโต ‘‘นิกฺเขโป’’ติ วุจฺจติ. สุตฺตนิกฺเขปํ วิจาเรตฺวา วุจฺจมานา ปากฏา โหตีติ สามฺโต ภควโต เทสนาสมุฏฺานสฺส วิภาคํ ทสฺเสตฺวา ‘‘เอตฺถายํ เทสนา เอวํสมุฏฺานา’’ติ เทสนาย สมุฏฺาเน ทสฺสิเต สุตฺตสฺส สมฺมเทว นิทานปริชานเนน วณฺณนาย สุวิฺเยฺยตฺตา วุตฺตํ. เอวฺหิ ‘‘อสฺสุตวา ภิกฺขเว ปุถุชฺชโน’’ติอาทินา, ‘‘โยปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๘), ‘‘ตถาคโตปิ โข, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๒) จ ปวตฺตเทสนา อนุสนฺธิทสฺสนสุขตาย สุวิฺเยฺยา โหติ. ตตฺถ ยถา อเนกสตอเนกสหสฺสเภทานิปิ สุตฺตนฺตานิ สํกิเลสภาคิยาทิปธานนยวเสน โสฬสวิธตํ นาติวตฺตนฺติ, เอวํ อตฺตชฺฌาสยาทิสุตฺตนิกฺเขปวเสน จตุพฺพิธภาวนฺติ อาห ‘‘จตฺตาโร หิ สุตฺตนิกฺเขปา’’ติ.

เอตฺถ จ ยถา อตฺตชฺฌาสยสฺส อฏฺุปฺปตฺติยา จ ปรชฺฌาสยปุจฺฉาหิ สทฺธึ สํสคฺคเภโท สมฺภวติ ‘‘อตฺตชฺฌาสโย จ ปรชฺฌาสโย จ, อตฺตชฺฌาสโย จ ปุจฺฉาวสิโก จ, อฏฺุปฺปตฺติโก จ ปรชฺฌาสโย จ, อฏฺุปฺปตฺติโก จ ปุจฺฉาวสิโก จา’’ติ อชฺฌาสยปุจฺฉานุสนฺธิสพฺภาวโต, เอวํ ยทิปิ อฏฺุปฺปตฺติยา อตฺตชฺฌาสเยนปิ สํสคฺคเภโท สมฺภวติ, อตฺตชฺฌาสยาทีหิ ปน ปุรโต ิเตหิ อฏฺุปฺปตฺติยา สํสคฺโค นตฺถีติ นยิธ นิรวเสโส วิตฺถารนโย สมฺภวตีติ ‘‘จตฺตาโร สุตฺตนิกฺเขปา’’ติ วุตฺตํ, ตทนฺโตคธตฺตา วา สมฺภวนฺตานํ เสสนิกฺเขปานํ มูลนิกฺเขปวเสน จตฺตาโรว ทสฺสิตา. ตถาทสฺสนฺเจตฺถ อยํ สํสคฺคเภโท คเหตพฺโพติ.

ตตฺรายํ วจนตฺโถ – นิกฺขิปียตีติ นิกฺเขโป, สุตฺตํ เอว นิกฺเขโป สุตฺตนิกฺเขโป. อถ วา นิกฺขิปนํ นิกฺเขโป, สุตฺตสฺส นิกฺเขโป สุตฺตนิกฺเขโป, สุตฺตเทสนาติ อตฺโถ. อตฺตโน อชฺฌาสโย อตฺตชฺฌาสโย, โส อสฺส อตฺถิ การณภูโตติ อตฺตชฺฌาสโย. อตฺตโน อชฺฌาสโย เอตสฺสาติ วา อตฺตชฺฌาสโย. ปรชฺฌาสเยปิ เอเสว นโย. ปุจฺฉาย วโส ปุจฺฉาวโส, โส เอตสฺส อตฺถีติ ปุจฺฉาวสิโก. สุตฺตเทสนาวตฺถุภูตสฺส อตฺถสฺส อุปฺปตฺติ อตฺถุปฺปตฺติ, อตฺถุปฺปตฺติเยว อฏฺุปฺปตฺติ ตฺถ-การสฺส ฏฺ-การํ กตฺวา. สา เอตสฺส อตฺถีติ อฏฺุปฺปตฺติโก. อถ วา นิกฺขิปียติ สุตฺตํ เอเตนาติ สุตฺตนิกฺเขโป, อตฺตชฺฌาสยาทิ เอว. เอตสฺมึ ปน อตฺตวิกปฺเป อตฺตโน อชฺฌาสโย อตฺตชฺฌาสโย. ปเรสํ อชฺฌาสโย ปรชฺฌาสโย. ปุจฺฉียตีติ ปุจฺฉา, ปุจฺฉิตพฺโพ อตฺโถ. ปุจฺฉนวเสน ปวตฺตํ ธมฺมปฏิคฺคาหกานํ วจนํ ปุจฺฉาวสิกํ, ตเทว นิกฺเขป-สทฺทาเปกฺขาย ปุลฺลิงฺควเสน ‘‘ปุจฺฉาวสิโก’’ติ วุตฺตํ. ตถา อฏฺุปฺปตฺติ เอว อฏฺุปฺปตฺติโกติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อปิเจตฺถ ปเรสํ อินฺทฺริยปริปากาทิการณนิรเปกฺขตฺตา อตฺตชฺฌาสยสฺส วิสุํ สุตฺตนิกฺเขปภาโว ยุตฺโต เกวลํ อตฺตโน อชฺฌาสเยเนว ธมฺมตนฺติปนตฺถํ ปวตฺติตเทสนตฺตา. ปรชฺฌาสยปุจฺฉาวสิกานํ ปน ปเรสํ อชฺฌาสยปุจฺฉานํ เทสนาปวตฺติเหตุภูตานํ อุปฺปตฺติยํ ปวตฺติตานํ กถมฏฺุปฺปตฺติยํ อนวโรโธ, ปุจฺฉาวสิกอฏฺุปฺปตฺติกานํ วา ปรชฺฌาสยานุโรเธน ปวตฺติกานํ กถํ ปรชฺฌาสเย อนวโรโธติ? น โจเทตพฺพเมตํ. ปเรสฺหิ อภินีหารปริปุจฺฉาทิวินิมุตฺตสฺเสว สุตฺตเทสนาการณุปฺปาทสฺส อฏฺุปฺปตฺติภาเวน คหิตตฺตา ปรชฺฌาสยปุจฺฉาวสิกานํ วิสุํ คหณํ. ตถา หิ พฺรหฺมชาล (ที. นิ. ๑.๑) ธมฺมทายาทสุตฺตาทีนํ (ม. นิ. ๑.๒๙) วณฺณาวณฺณอามิสุปฺปาทาทิเทสนานิมิตฺตํ ‘‘อฏฺุปฺปตฺตี’’ติ วุจฺจติ. ปเรสํ ปุจฺฉํ วินา อชฺฌาสยํ เอว นิมิตฺตํ กตฺวา เทสิโต ปรชฺฌาสโย, ปุจฺฉาวเสน เทสิโต ปุจฺฉาวสิโกติ ปากโฏยมตฺโถติ.

อตฺตโนอชฺฌาสเยเนว กเถสิ ธมฺมตนฺติปนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. สมฺมปฺปธานสุตฺตนฺตหารโกติ อนุปุพฺเพน นิกฺขิตฺตานํ สํยุตฺตเก สมฺมปฺปธานปฏิสํยุตฺตานํ สุตฺตานํ อาวฬิ. ตถา อิทฺธิปาทหารกาทโย.

วิมุตฺติปริปาจนียา ธมฺมา สทฺธินฺทฺริยาทโย. อชฺฌาสยนฺติ อธิมุตฺตึ. ขนฺตินฺติ ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺตึ. มนนฺติ จิตฺตํ. อภินิหารนฺติ ปณิธานํ. พุชฺฌนภาวนฺติ พุชฺฌนสภาวํ, ปฏิวิชฺฌนาการํ วา.

อุปฺปนฺเน มาเน นิกฺขิตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. อิตฺถิลิงฺคาทีนิ ตีณิ ลิงฺคานิ. นามาทีนิ จตฺตาริ ปทานิ. ปมาทโย สตฺต วิภตฺติโย. มุฺจิตฺวา น กิฺจิ กเถติ สภาวนิรุตฺติยา ตเถว ปวตฺตนโต. คณฺิภูตํ ปทํ. ยถา หิ รุกฺขสฺส คณฺิฏฺานํ ทุพฺพินิพฺเพธํ ทุตฺตจฺฉิตฺจ โหติ, เอวเมวํ ยํ ปทํ อตฺถโต วิวริตุํ น สกฺกา, ตํ ‘‘คณฺิปท’’นฺติ วุจฺจติ. อนุปหจฺจาติ อนุทฺธริตฺวา.

เยน เยน สมฺพนฺธํ คจฺฉติ, ตสฺส ตสฺส อนวเสสตํ ทีเปตีติ อิมินา อิมสฺส สพฺพ-สทฺทสฺส สปฺปเทสตํ ทสฺเสติ. สพฺพ-สทฺโท หิ สพฺพสพฺพํ ปเทสสพฺพํ อายตนสพฺพํ สกฺกายสพฺพนฺติ จตูสุ วิสเยสุ ทิฏฺปฺปโยโค. ตถา เหส ‘‘สพฺเพ ธมฺมา สพฺพากาเรน พุทฺธสฺส ภควโต าณมุเข อาปาถมาคจฺฉนฺตี’’ติอาทีสุ (มหานิ. ๑๕๖; จูฬนิ. ๘๕; ปฏิ. ม. ๓.๖) สพฺพสพฺพสฺมึ อาคโต. ‘‘สพฺเพสํ โว, สาริปุตฺต, สุภาสิตํ ปริยาเยนา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๔๕) ปเทสสพฺพสฺมึ. ‘‘สพฺพํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ…เป… จกฺขุฺเจว รูปา จ…เป… มโน เจว ธมฺมา จา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๓) เอตฺถ อายตนสพฺพสฺมึ. ‘‘สพฺพํ สพฺพโต สฺชานาตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๕) สกฺกายสพฺพสฺมึ. ตตฺถ สพฺพสพฺพสฺมึ อาคโต นิปฺปเทโส, อิตเรสุ ตีสุปิ อาคโต สปฺปเทโส, อิธ ปน สกฺกายสพฺพสฺมึ เวทิตพฺโพ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘สกฺกายปริยาปนฺนา ปน เตภูมกธมฺมาว อนวเสสโต เวทิตพฺพา’’ติ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑ สุตฺตนิกฺเขปวณฺณนา).

สจฺเจสูติ อริยสจฺเจสุ. เอเต จตุโร ธมฺมาติ อิทานิ วุจฺจมาเน สจฺจาทิเก จตฺตาโร ธมฺเม สนฺธาย วทติ. ตตฺถ สจฺจนฺติ วจีสจฺจํ. ิตีติ วีริยํ, ‘‘ธิตี’’ติ วา ปาโ, โส เอวตฺโถ. จาโคติ อโลโภ. ทิฏฺํ โส อติวตฺตตีติ ยสฺมึ เอเต สจฺจาทโย ธมฺมา อุปลพฺภนฺติ, โส ทิฏฺํ อตฺตโน อมิตฺตํ อติกฺกมติ, น ตสฺส หตฺถตํ คจฺฉติ, อถ โข นํ อภิภวติ เอวาติ อตฺโถ. สภาเว วตฺตติ อสภาวธมฺมสฺส การณาสมฺภวโต. น หิ นิสฺสภาวา ธมฺมา เกนจิ นิพฺพตฺตียนฺติ. อตฺตโน ลกฺขณํ ธาเรนฺตีติ ยทิปิ ลกฺขณวินิมุตฺตา ธมฺมา นาม นตฺถิ, ตถาปิ ยถา ทิฏฺิตณฺหาปริกปฺปิตาการมตฺตา อตฺตสุภสุขสสฺสตาทโย, ปกติยาทโย, ทพฺพาทโย, ชีวาทโย, กายาทโย โลกโวหารมตฺตสิทฺธา คคณกุสุมาทโยว สจฺจิกฏฺปรมตฺถโต น อุปลพฺภนฺติ, น เอวเมเต, เอเต ปน สจฺจิกฏฺปรมตฺถภูตา อุปลพฺภนฺติ, ตโต เอว สตฺตาทิวิเสสวิรหโต ธมฺมมตฺตา สภาววนฺโตติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อตฺตโน ลกฺขณํ ธาเรนฺตี’’ติ วุตฺตํ . ภวติ หิ เภทาภาเวปิ สุขาวโพธนตฺถํ อุปจารมตฺตสิทฺเธน เภเทน นิทฺเทโส ยถา ‘‘สิลาปุตฺตกสฺส สรีร’’นฺติ. ธารียนฺติ วา ยถาสภาวโต อวธารียนฺติ ายนฺตีติ ธมฺมา, กกฺขฬผุสนาทโย.

อสาธารณเหตุมฺหีติ อสาธารณการเณ, สกฺกายธมฺเมสุ ตสฺส ตสฺส อาเวณิกปจฺจเยติ อตฺโถ. กึ ปน ตนฺติ? ตณฺหามานทิฏฺิโย, อวิชฺชาทโยปิ วา. ยเถว หิ ปถวีอาทีสุ มฺนาวตฺถูสุ อุปฺปชฺชมานา ตณฺหาทโย มฺนา เตสํ ปวตฺติยา มูลการณํ, เอวํ อวิชฺชาทโยปิ. ตถา หิ ‘‘อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’’ติอาทินา ‘‘อปริฺาตํ ตสฺสาติ วทามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒) ‘‘นนฺที ทุกฺขสฺส มูล’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๓) จ อนฺวยโต, ‘‘ขยา ราคสฺส…เป… วีตโมหตฺตา’’ติ พฺยติเรกโต จ เตสํ มูลการณภาโว วิภาวิโต.

ปริยาเยติ เทเสตพฺพมตฺถํ อวคเมติ โพธยตีติ ปริยาโย, เทสนา. ปริยายติ อตฺตโน ผลํ ปริคฺคเหตฺวา วตฺตติ ตสฺส วา การณภาวํ คจฺฉตีติ ปริยาโย, การณํ. ปริยายติ อปราปรํ ปริวตฺตตีติ ปริยาโย, วาโร. เอวํ ปริยายสทฺทสฺส เทสนาการณวาเรสุ ปวตฺติ เวทิตพฺพา. ยถารุตวเสน อคฺคเหตฺวา นิทฺธาเรตฺวา คเหตพฺพตฺถํ เนยฺยตฺถํ. เตภูมกา ธมฺมาว อนวเสสโต เวทิตพฺพา มฺนาวตฺถุภูตานํ สพฺเพสํ ปถวีอาทิธมฺมานํ อธิปฺเปตตฺตา.

การณเทสนนฺติ การณาปนํ เทสนํ. ตํ อตฺถนฺติ ตํ สพฺพธมฺมานํ มูลการณสงฺขาตํ, การณเทสนาสงฺขาตํ วา อตฺถํ. เตเนวาห ‘‘ตํ การณํ ตํ เทสน’’นฺติ. เอกตฺถเมตนฺติ เอตํ ปททฺวยํ เอกตฺถํ. สาธุ-สทฺโท เอว หิ ก-กาเรน วฑฺเฒตฺวา ‘‘สาธุก’’นฺติ วุตฺโต. เตเนว หิ สาธุสทฺทสฺส อตฺถํ วทนฺเตน อตฺถุทฺธารวเสน สาธุกสทฺโท อุทาหโฏ. ธมฺมรุจีติ ปุฺกาโม. ปฺาณวาติ ปฺวา. อทฺทุพฺโภติ อทูสโก, อนุปฆาตโกติ อตฺโถ. อิธาปีติ อิมสฺมึ มูลปริยายสุตฺเตปิ. อยนฺติ สาธุกสทฺโท. เอตฺเถว ทฬฺหีกมฺเมติ สกฺกจฺจกิริยายํ. อาณตฺติยนฺติ อาณาปเน. ‘‘สุณาถ สาธุกํ มนสิ กโรถา’’ติ หิ วุตฺเต สาธุกสทฺเทน สวนมนสิการานํ สกฺกจฺจกิริยา วิย ตทาณาปนมฺปิ วุตฺตํ โหติ. อายาจนตฺถตา วิย จสฺส อาณาปนตฺถตา เวทิตพฺพา.

อิทาเนตฺถ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพาติ สมฺพนฺโธ. โสตินฺทฺริยวิกฺเขปวารณํ สวเน นิโยชนวเสน กิริยนฺตรปฏิเสธนภาวโต, โสตํ โอทหถาติ อตฺโถ. มนินฺทฺริยวิกฺเขปนิวารณํ อฺจินฺตาปฏิเสธนโต. ปุริมนฺติ ‘‘สุณาถา’’ติ ปทํ. เอตฺถาติ สุณาถ, มนสิ กโรถา’’ติ ปททฺวเย, เอตสฺมึ วา อธิกาเร. พฺยฺชนวิปลฺลาสคฺคาหวารณํ โสตทฺวาเร วิกฺเขปปฏิพาหกตฺตา. น หิ ยาถาวโต สุณนฺตสฺส สทฺทโต วิปลฺลาสคฺคาโห โหติ. อตฺถวิปลฺลาสคฺคาหวารณํ มนินฺทฺริยวิกฺเขปปฏิพาหกตฺตา. น หิ สกฺกจฺจํ ธมฺมํ อุปธาเรนฺตสฺส อตฺถโต วิปลฺลาสคฺคาโห โหติ. ธมฺมสฺสวเน นิโยเชติ สุณาถาติ วิทหนโต. ธารณูปปริกฺขาสูติ อุปปริกฺขคฺคหเณน ตุลนตีรณาทิเก ทิฏฺิยา จ สุปฺปฏิเวธํ สงฺคณฺหาติ.

สพฺยฺชโนติ เอตฺถ ยถาธิปฺเปตมตฺถํ พฺยฺชยตีติ พฺยฺชนํ, สภาวนิรุตฺติ. สห พฺยฺชเนนาติ สพฺยฺชโน, พฺยฺชนสมฺปนฺโนติ อตฺโถ. อรณียโต อุปคนฺธพฺพโต อนุฏฺาตพฺพโต อตฺโถ, จตุปาริสุทฺธิสีลาทิโก. สห อตฺเถนาติ สาตฺโถ, อตฺถสมฺปนฺโนติ อตฺโถ. ธมฺมคมฺภีโรติอาทีสุ ธมฺโม นาม ตนฺติ. เทสนา นาม ตสฺสา มนสา ววตฺถาปิตาย ตนฺติยา เทสนา. อตฺโถ นาม ตนฺติยา อตฺโถ. ปฏิเวโธ นาม ตนฺติยา ตนฺติอตฺถสฺส จ ยถาภูตาวโพโธ. ยสฺมา เจเต ธมฺมเทสนาอตฺถปฏิเวธา สสาทีหิ วิย มหาสมุทฺโท มนฺทพุทฺธีหิ ทุกฺโขคาฬฺหา อลพฺภเนยฺยปติฏฺา จ, ตสฺมา คมฺภีรา. เตน วุตฺตํ ‘‘ยสฺมา อยํ ธมฺโม…เป… สาธุกํ มนสิ กโรถา’’ติ. เอตฺถ จ ปฏิเวธสฺส ทุกฺกรภาวโต ธมฺมตฺถานํ เทสนาาณสฺส ทุกฺกรภาวโต เทสนาย ทุกฺโขคาหตา, ปฏิเวธสฺส ปน อุปฺปาเทตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ตพฺพิสยาณุปฺปตฺติยา จ ทุกฺกรภาวโต ทุกฺโขคาหตา เวทิตพฺพา.

เทสนํ นาม อุทฺทิสนํ. ตสฺส นิทฺทิสนํ ภาสนนฺติ อิธาธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘วิตฺถารโตปิ นํ ภาสิสฺสามีติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. ปริพฺยตฺตํ กถนํ วา ภาสนํ. สาฬิกายิว นิคฺโฆโสติ สาฬิกาย อาลาโป วิย มธุโร กณฺณสุโข เปมนีโย. ปฏิภานนฺติ สทฺโท. อุทีรยีติ อุจฺจารียติ, วุจฺจติ วา.

เอวํวุตฺเต อุสฺสาหชาตาติ เอวํ ‘‘สุณาถ สาธุกํ มนสิ กโรถ ภาสิสฺสามี’’ติ วุตฺเต น กิร สตฺถา สงฺเขเปเนว เทเสสฺสติ, วิตฺถาเรนปิ ภาสิสฺสตีติ สฺชาตุสฺสาหา หฏฺตุฏฺา หุตฺวา. อิธาติ อิมินา วุจฺจมานอธิกรณํ ตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปฺปตฺติฏฺานภูตํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘เทสาปเทเส นิปาโต’’ติ. โลกนฺติ โอกาสโลกํ. อิธ ตถาคโต โลเกติ หิ ชาติเขตฺตํ, ตตฺถาปิ อยํ จกฺกวาโฬ อธิปฺเปโต. สมโณติ โสตาปนฺโน. ทุติโย สมโณติ สกทาคามี. วุตฺตฺเหตํ ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สมโณ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๑) ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ทุติโย สมโณ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหตี’’ติ จ (อ. นิ. ๔.๒๔๑). อิเธว ติฏฺมานสฺสาติ อิมิสฺสา เอว อินฺทสาลคุหายํ ติฏฺมานสฺส.

. อสฺสุตวาติ เอตฺถ (อ. นิ. ฏี. ๑.๑.๕๑) สุตนฺติ โสตทฺวารานุสาเรน อุปธาริตํ, อุปธารณํ วา, สุตํ อสฺสตฺถีติ สุตวา. วา-สทฺทสฺส หิ อตฺโถ อตฺถิตามตฺตาทิวเสน อเนกวิโธ. ตถา หิ ‘‘อนฺตวา อยํ โลโก ปริวฏุโม’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๕๔; ปฏิ. ม. ๑.๑๔๐) อตฺถิตามตฺตํ อตฺโถ. ‘‘ธนวา โภควา, ลาภี อนฺนสฺสา’’ติ จ อาทีสุ พหุภาโว. ‘‘โรควา โหติ โรคาภิภูโต’’ติอาทีสุ กายาพาโธ. ‘‘กุฏฺี กุฏฺจีวเรนา’’ติอาทีสุ นินฺทา, ‘‘อิสฺสุกี มจฺฉรี สโ มายาวิโน เกฏุภิโน’’ติอาทีสุ อภิณฺหโยโค. ‘‘ทณฺฑี ฉตฺตี อลมฺพรี’’ติอาทีสุ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๒) สํสคฺโค. ‘‘ปณฺฑิโต วาปิ เตน โส’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๖๓) อุปมานํ, สทิสภาโวติ อตฺโถ. ‘‘ตํ วาปิ ธีรา มุนึ เวทยนฺตี’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๒๑๓) สมุจฺจโย. ‘‘เก วา อิเม กสฺส วา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๒๙๖) สํสโย. ‘‘อยํ วา อิเมสํ สมณพฺราหฺมณานํ สพฺพพาโล สพฺพมูฬฺโห’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๑๘๑) วิภาวโน. ‘‘น วายํ กุมาโร มตฺตมฺาสี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) ปทปูรณํ. ‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๗๐) วิกปฺโป. ‘‘สกฺยปุตฺตสฺส สิรีมโต (ที. นิ. ๓.๒๗๗), สีลวโต สีลสมฺปตฺติยา กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๕๐; ๓.๓๑๖; อ. นิ. ๕.๒๑๓; มหาว. ๒๘๕) จ อาทีสุ ปสํสา. ‘‘ปฺวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๑๗, ๓๕๕) อติสโย. อิธาปิ อติสโย, ปสํสา วา อตฺโถ, ตสฺมา ยสฺส ปสํสิตํ, อติสเยน วา สุตํ อตฺถิ, โส สุตวาติ สํกิเลสวิทฺธํสนสมตฺถํ ปริยตฺติธมฺมสฺสวนํ, ตํ สุตฺวา ตถตฺตาย ปฏิปตฺติ จ ‘‘สุตวา’’ติ อิมินา สทฺเทน ปกาสิตา. อถ วา โสตพฺพยุตฺตํ สุตฺวา กตฺตพฺพนิปฺผตฺติวเสน สุณีติ สุตวา, ตปฺปฏิกฺเขเปน น สุตวาติ อสฺสุตวา.

อยฺหิ อ-กาโร ‘‘อเหตุกา ธมฺมา (ธ. ส. ๒.ทุกมาติกา), อภิกฺขุโก อาวาโส’’ติอาทีสุ (ปาจิ. ๑๐๔๖, ๑๐๔๗) ตํสหโยคนิวตฺติยํ อิจฺฉิโต. ‘‘อปจฺจยา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๗.ทุกมาติกา) ตํสมฺพนฺธีภาวนิวตฺติยํ. ปจฺจยุปฺปนฺนฺหิ ปจฺจยสมฺพนฺธีติ อปฺปจฺจยุปฺปนฺนตฺตา อตํสมฺพนฺธิตา เอตฺถ โชติตา. ‘‘อนิทสฺสนา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๙.ทุกมาติกา) ตํสภาวนิวตฺติยํ. นิทสฺสนฺหิ ทฏฺพฺพตา. อถ วา ปสฺสตีติ นิทสฺสนํ, จกฺขุวิฺาณํ, ตคฺคเหตพฺพภาวนิวตฺติยํ ยถา ‘‘อนาสวา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๑๕.ทุกมาติกา), ‘‘อปฺปฏิฆา ธมฺมา (ธ. ส. ๑๐.ทุกมาติกา), อนารมฺมณา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๕๕.ทุกมาติกา) ตํกิจฺจนิวตฺติยํ, ‘‘อรูปิโน ธมฺมา (ธ. ส. ๑๑.ทุกมาติกา) อเจตสิกา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๕๗.ทุกมาติกา) ตพฺภาวนิวตฺติยํ. ตทฺถา หิ เอตฺถ ปกาสิตา. ‘‘อมนุสฺโส’’ติ ตพฺภาวมตฺตนิวตฺติยํ. มนุสฺสมตฺตํ นตฺถิ, อฺํ สมานนฺติ. สทิสตา หิ เอตฺถ สูจิตา. ‘‘อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ, อนริโย’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๓) จ ตํสมฺภาวนียคุณนิวตฺติยํ. ครหา หิ อิธ ายติ. ‘‘กจฺจิ โภโต อนามยํ, อนุทรา กฺา’’ติ (ชา. ๒.๒๐.๑๒๙) ตทนปฺปภาวนิวตฺติยํ, ‘‘อนุปฺปนฺนา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๑๗.ติกมาติกา) ตํสทิสภาวนิวตฺติยํ. อตีตานฺหิ อุปฺปนฺนปุพฺพตฺตา อุปฺปาทิธมฺมานฺจ ปจฺจเยกเทสนิปฺผตฺติยา อารทฺธุปฺปาทิภาวโต กาลวิมุตฺตสฺส จ วิชฺชมานตฺตา อุปฺปนฺนานุกูลตา ปเคว ปจฺจุปฺปนฺนานนฺติ ตพฺพิทูรตาว เอตฺถ วิฺายติ ‘‘อเสกฺขา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๑๑.ติกมาติกา) ตทปริโยสานนิวตฺติยํ. ตนฺนิฏฺานฺหิ เอตฺถ ปกาสิตนฺติ. เอวมเนเกสํ อตฺถานํ โชตโก. อิธ ปน ‘‘อรูปิโน ธมฺมา อเจตสิกา ธมฺมา’’ติอาทีสุ วิย ตพฺภาวนิวตฺติยํ ทฏฺพฺโพ, อฺตฺเถติ อตฺโถ. เอเตนสฺส สุตาทิาณวิรหตํ ทสฺเสติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อาคมาธิคมาภาวา เยฺโย อสฺสุตวา อิตี’’ติ.

อิทานิ ตสฺส อตฺถํ วิวรนฺโต ยสฺมา ขนฺธธาตฺวาทิโกสลฺเลนปิ มฺนาปฏิเสธนสมตฺถํ พาหุสจฺจํ โหติ. ยถาห ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, พหุสฺสุโต โหติ? ยโต โข ภิกฺขุ ขนฺธกุสโล โหติ ธาตุ, อายตน, ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสโล โหติ, เอตฺตาวตา โข ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหตี’’ติ, ตสฺมา ‘‘ยสฺส หิ ขนฺธธาตุอายตนสจฺจปจฺจยาการสติปฏฺานาทีสูติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ วาจุคฺคตกรณํ อุคฺคโห. อตฺถปริปุจฺฉนํ ปริปุจฺฉา. กุสเลหิ สห โจทนาปริหรณวเสน วินิจฺฉยกรณํ วินิจฺฉโย. มคฺคผลนิพฺพานานิ อธิคโม.

พหูนํ (ธ. ส. มูลฏี. ๑๐๐๗) นานปฺปการานํ กิเลสสกฺกายทิฏฺีนํ อวิหตตฺตา ตา ชเนนฺติ, ตาหิ วา ชนิตาติ ปุถุชฺชนา. อวิฆาตเมว วา ชน-สทฺโท วทติ. ปุถุ สตฺถารานํ มุขมุลฺโลกิกาติ เอตฺถ ปุถุ ชนา สตฺถุปฏิฺา เอเตสนฺติ ปุถุชฺชนาติ วจนตฺโถ. ปุถุ สพฺพคตีหิ อวุฏฺิตาติ เอตฺถ ชเนตพฺพา, ชายนฺติ วา เอตฺถ สตฺตาติ ชนา, นานาคติโย, ตา ปุถู เอเตสนฺติ ปุถุชฺชนา. อิโต ปเร ชายนฺติ เอเตหีติ ชนา, อภิสงฺขาราทโย, เต เอเตสํ ปุถู วิชฺชนฺตีติ ปุถุชฺชนา. อภิสงฺขรณาทิอตฺโถ เอว วา ชน-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. โอฆา กาโมฆาทโย. ราคคฺคิอาทโย สนฺตาปา. เต เอว, สพฺเพปิ วา กิเลสา ปริฬาหา. ปุถุ ปฺจสุ กามคุเณสุ รตฺตาติ เอตฺถ ชายตีติ ชโน, ราโค เคโธติ เอวมาทิโก, ปุถุ ชโน เอเตสนฺติ ปุถุชฺชนา. ปุถูสุ วา ชนา ชาตา รตฺตาติ เอวํ ราคาทิอตฺโถ เอว วา ชนสทฺโท ทฏฺพฺโพ. รตฺตาติ วตฺถํ วิย รงฺคชาเตน จิตฺตสฺส วิปริณามกเรน ฉนฺทราเคน รตฺตา สารตฺตา. คิทฺธาติ อภิกงฺขนสภาเวน อภิชฺฌาเนน คิทฺธา เคธํ อาปนฺนา. คธิตาติ คนฺถิตา วิย ทุมฺโมจนียภาเวน ตตฺถ ปฏิพทฺธา. มุจฺฉิตาติ กิเลสวเสน วิสฺีภูตา วิย อนฺกิจฺจา มุจฺฉํ โมหมาปนฺนา. อชฺโฌสนฺนาติ อนฺสาธารเณ วิย กตฺวา คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา ิตา. ลคฺคาติ วงฺกทณฺฑเก วิย อาสตฺตา มหาปลิเป วา ยาว นาสิกคฺคา ปลิปนฺนปุริโส วิย อุทฺธริตุํ อสกฺกุเณยฺยภาเวน นิมุคฺคา , ลคิตาติ มกฺกฏาเลเป อาลคฺคภาเวน ปจฺจุฑฺฑิโต วิย มกฺกโฏ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ วเสน อาลคฺคิตา. ปลิพุทฺธาติ พทฺธา, อุปทฺทุตา วา. อาวุฏาติ อาวุนิตา, นิวุตาติ นิวาริตา. โอวุตาติ ปลิคุณฺิตา, ปริโยนทฺธา วา. ปิหิตาติ ปิทหิตา, ปฏิจฺฉนฺนาติ ปฏิจฺฉาทิตา. ปฏิกุชฺชิตาติ เหฏฺามุขชาตา. ปุถูนํ วา คณนปถมตีตานนฺติอาทินา ปุถุ ชโน ปุถุชฺชโนติ ทสฺเสติ.

‘‘อสฺสุตวา’’ติ เอเตน อวิชฺชนฺธตา วุตฺตาติ อาห ‘‘อนฺธปุถุชฺชโน วุตฺโต โหตี’’ติ. อารกตฺตา (สํ. นิ. ฏี. ๒.๓.๑) กิเลเสหิ มคฺเคน สมุจฺฉินฺนตฺตา. อนเยติ อวฑฺฒิยํ, อนตฺเถติ อตฺโถ. อนเย วา อนุปาเย. นอิริยนโต อวตฺตนโต. อเยติ วฑฺฒิยํ, อตฺเถ, อุปาเย วา. อรณียโตติ ปยิรุปาสิตพฺพโต. นิรุตฺตินเยน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา ปุริเมสุ อตฺถวิกปฺเปสุ. ปจฺฉิเม ปน สทฺทสตฺถวเสนปิ. ยทิปิ อริย-สทฺโท ‘‘เย หิ โว อริยา ปริสุทฺธกายกมฺมนฺตา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๕) วิสุทฺธาสยปโยเคสุ ปุถุชฺชเนสุปิ วตฺตติ. อิธ ปน อริยมคฺคาธิคเมน สพฺพโลกุตฺตรภาเวน จ อริยภาโว อธิปฺเปโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘พุทฺธา’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘ปจฺเจกพุทฺธา ตถาคตสาวกา จ สปฺปุริสา’’ติ อิทํ อริยา สปฺปุริสาติ อิธ วุตฺตปทานํ อตฺถํ อสงฺกรโต ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน นิปฺปริยายโต อริยสปฺปุริสภาวา อภินฺนสภาวา. ตสฺมา ‘‘สพฺเพว วา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

เอตฺตาวตาหิ พุทฺธสาวโก วุตฺโต. ตสฺส หิ เอกนฺเตน กลฺยาณมิตฺโต อิจฺฉิตพฺโพ ปรโตโฆสมนฺตเรน ปมมคฺคสฺส อนุปฺปชฺชนโต. วิเสสโต จสฺส ภควาว กลฺยาณมิตฺโต อธิปฺเปโต. วุตฺตฺเหตํ ‘‘มมฺหิ, อานนฺท, กลฺยาณมิตฺตํ อาคมฺม ชาติธมฺมา สตฺตา ชาติยา ปริมุจฺจนฺตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๕.๒). โส เอว จ อเวจฺจปสาทาธิคเมน ทฬฺหภตฺติ นาม. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ยํ มยา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ตํ มม สาวกา ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺตี’’ติ (อุทา. ๔๕). กตฺุตาทีหิ ปจฺเจกพุทฺธา พุทฺธาติ เอตฺถ กตํ ชานาตีติ กตฺู. กตํ วิทิตํ ปากฏํ กโรตีติ กตเวที. อเนเกสุปิ หิ กปฺปสตสหสฺเสสุ กตํ อุปการํ ชานนฺติ ปจฺเจกพุทฺธา ปากฏฺจ กโรนฺติ สติชนนอามิสปฏิคฺคหณาทินา , ตถา สํสารทุกฺขทุกฺขิตสฺส สกฺกจฺจํ กโรนฺติ กิจฺจํ, ยํ อตฺตนา กาตุํ สกฺกา. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน กปฺปานํ อสงฺขฺเยยฺยสหสฺเสสุปิ กตํ อุปการํ มคฺคผลานํ อุปนิสฺสยฺจ ชานาติ, ปากฏฺจ กโรติ, สีโห วิย จ เอวํ สพฺพตฺถ สกฺกจฺจเมว ธมฺมเทสนํ กโรนฺโต พุทฺธกิจฺจํ กโรติ. ยาย ปฏิปตฺติยา ทิฏฺา นาม โหนฺติ, ตสฺสา อปฺปฏิปชฺชนภาโว, ตตฺถ จ อาทราภาโว อริยานํ อทสฺสนสีลตา จ, น จ ทสฺสเน สาธุการิตา จ เวทิตพฺพา. จกฺขุนา อทสฺสาวีติ เอตฺต จกฺขุ นาม น มํสจกฺขุ เอว, อถ โข ทิพฺพจกฺขุปีติ อาห ‘‘ทิพฺพจกฺขุนา วา’’ติ. อริยภาโวติ เยหิ โยคโต ‘‘อริยา’’ติ วุจฺจนฺติ. เต มคฺคผลธมฺมา ทฏฺพฺพา.

ตตฺราติ าณทสฺสนสฺเสว ทสฺสนภาเว. วตฺถูติ อธิปฺเปตตฺถาปนการณํ. เอวํ วุตฺเตปีติ เอวํ อฺาปเทเสน อตฺตูปนายิกํ กตฺวา วุตฺเตปิ. ธมฺมนฺติ โลกุตฺตรธมฺมํ, จตุสจฺจธมฺมํ วา. อริยกรธมฺมา อนิจฺจานุปสฺสนาทโย วิปสฺสิยมานา อนิจฺจาทโย, จตฺตาริ วา อริยสจฺจานิ.

อวินีโตติ น วินีโต, อธิสีลสิกฺขาทิวเสน น สิกฺขิโต. เยสํ สํวรวินยาทีนํ อภาเวน อยํ อวินีโตติ วุจฺจติ, เต ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘ทุวิโธ วินโย นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สีลสํวโรติ ปาติโมกฺขสํวโร เวทิตพฺโพ, โส จ อตฺถโต กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม. สติสํวโรติ อินฺทฺริยรกฺขา, สา จ ตถาปวตฺตา สติ เอว. าณสํวโรติ ‘‘โสตานํ สํวรํ พฺรูมี’’ติ (สุ. นิ. ๑๐๔๐) วตฺวา ‘‘ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ วจนโต โสตสงฺขาตานํ ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตอวิชฺชาอวสิฏฺกิเลสานํ สํวโร ปิทหนํ สมุจฺเฉทาณนฺติ เวทิตพฺพํ. ขนฺติสํวโรติ อธิวาสนา, สา จ ตถาปวตฺตา ขนฺธา, อโทโส วา. ปฺาติ เอเก, ตํ อฏฺกถาย วิรุชฺฌติ. วีริยสํวโร กามวิตกฺกาทีนํ วิโนทนวเสน ปวตฺตํ วีริยเมว. เตน เตน คุณงฺเคน ตสฺส ตสฺส อคุณงฺคสฺส ปหานํ ตทงฺคปหานํ. วิกฺขมฺภเนน ปหานํ วิกฺขมฺภนปหานํ. เสสปทตฺถเยปิ เอเสว นโย.

อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรนาติอาทิ สีลสํวราทีนํ วิวรณํ. ตตฺถ สมุเปโตติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิสตฺโถ. เตน ‘‘สหคโต สมุปคโต’’ติอาทินา วิภงฺเค (วิภ. ๕๑๑) อาคตํ สํวรวิภงฺคํ ทสฺเสติ. เอส นโย เสเสสุปิ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ อนนฺตรสุตฺเต อาวิ ภวิสฺสติ.

กายทุจฺจริตาทีนนฺติ ทุสฺสีลฺยสงฺขาตานํ กายวจีทุจฺจริตาทีนํ มุฏฺสฺสจฺจสงฺขาตสฺส ปมาทสฺส อภิชฺฌาทีนํ วา อกฺขนฺติอฺาณโกสชฺชานฺจ. สํวรณโตติ ปิทหนโต ถกนโต. วินยนโตติ กายวาจาจิตฺตานํ วิรูปปฺปวตฺติยา วินยนโต อปนยนโต, กายทุจฺจริตาทีนํ วา วินยนโต, กายาทีนํ วา ชิมฺหปฺปวตฺตึ วิจฺฉินฺทิตฺวา อุชุกํ นยนโตติ อตฺโถ. ปจฺจยสมวาเย อุปฺปชฺชนารหานํ กายทุจฺจริตาทีนํ ตถา ตถา อนุปฺปาทนเมว สํวรณํ วินยนฺจ เวทิตพฺพํ.

ยํ ปหานนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘นามรูปปริจฺเฉทาทีสุ วิปสฺสนาาเณสู’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ นามรูปปริจฺเฉทปจฺจยปริคฺคหกงฺขาวิตรณานิ น วิปสฺสนาาณานิ สมฺมสนากาเรน อปฺปวตฺตนโต? สจฺจเมตํ. วิปสฺสนาาณสฺส ปน อธิฏฺานภาวโต เอวํ วุตฺตํ. ‘‘นามรูปมตฺตมิทํ, นตฺถิ เอตฺถ อตฺตา วา อตฺตนิยํ วา’’ติ เอวํ ปวตฺตาณํ นามรูปววตฺถานํ. สติ วิชฺชมาเน ขนฺธปฺจกสงฺขาเต กาเย, สยํ วา สตี ตสฺมึ กาเย ทิฏฺีติ สกฺกายทิฏฺิ. ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๑; ๔.๓๔๕) เอวํ ปวตฺตา มิจฺฉาทิฏฺิ. ตสฺเสว รูปารูปสฺส กมฺมาวิชฺชาทิปจฺจยปริคฺคณฺหนาณํ ปจฺจยปริคฺคโห. ‘‘นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสายา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๘) อาทินยปฺปวตฺตา อเหตุกทิฏฺิ. ‘‘อิสฺสรปุริสปชาปติปกติอณุกาลาทีหิ โลโก ปวตฺตติ นิวตฺตติ จา’’ติ ปวตฺตา วิสมเหตุทิฏฺิ. ตสฺเสวาติ ปจฺจยปริคฺคหสฺเสว. กงฺขาวิตรเณนาติ ยถา เอตรหิ นามรูปสฺส กมฺมาทิปจฺจยโต อุปฺปตฺติ, เอวํ อตีตานาคเตสุปีติ ตีสุปิ กาเลสุ วิจิกิจฺฉาปนยนาเณน. กถํกถีภาวสฺสาติ ‘‘อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) อาทินยปฺปวตฺตาย สํสยปฺปวตฺติยา. กลาปสมฺมสเนนาติ ‘‘ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๑.๓๖๑; ๒.๑๑๓; ๓.๘๖, ๘๙) ขนฺธปฺจกํ เอกาทสสุ โอกาเสสุ ปกฺขิปิตฺวา สมฺมสนวเสน ปวตฺเตน นยวิปสฺสนาาเณน . อหํ มมาติ คาหสฺสาติ อตฺตตฺตนิยคหณสฺส. มคฺคามคฺคววตฺถาเนนาติ มคฺคามคฺคาณวิสุทฺธิยา. อมคฺเค มคฺคสฺายาติ โอภาสาทิเก อมคฺเค ‘‘มคฺโค’’ติ อุปฺปนฺนสฺาย.

ยสฺมา สมฺมเทว สงฺขารานํ อุทยํ ปสฺสนฺโต ‘‘เอวเมว สงฺขารา อนุรูปการณโต อุปฺปชฺชนฺติ, น ปน อุจฺฉิชฺชนฺตี’’ติ คณฺหาติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อุทยทสฺสเนน อุจฺเฉททิฏฺิยา’’ติ. ยสฺมา ปน สงฺขารานํ วยํ ปสฺสนฺโต ‘‘ยทิปิเม สงฺขารา อวิจฺฉินฺนา วตฺตนฺติ, อุปฺปนฺนุปฺปนฺนา ปน อปฺปฏิสนฺธิกา นิรุชฺฌนฺเต วา’’ติ ปสฺสติ, ตสฺเสวํ ปสฺสโต กุโต สสฺสตคฺคาโห, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘วยทสฺสเนน สสฺสตทิฏฺิยา’’ติ. ภยทสฺสเนนาติ ภยตุปฏฺานาเณน. สภเยติ สพฺพภยานํ อากรภาวโต สกลทุกฺขวูปสมสงฺขาตสฺส ปรมสฺสาสสฺส ปฏิปกฺขภาวโต จ สภเย ขนฺธปฺจเก. อภยสฺายาติ ‘‘อภยํ เขม’’นฺติ อุปฺปนฺนสฺาย. อสฺสาทสฺา นาม ปฺจุปาทานกฺขนฺเธสุ อสฺสาทวเสน ปวตฺตสฺา, ยา ‘‘อาลยาภินิเวโส’’ติปิ วุจฺจติ. อภิรติสฺา ตตฺเถว อภิรติวเสน ปวตฺตสฺา, ยา ‘‘นนฺที’’ติปิ วุจฺจติ. อมุจฺจิตุกมฺยตา อาทานํ. อนุเปกฺขา สงฺขาเรหิ อนิพฺพินฺทนํ, สาลยตาติ อตฺโถ. ธมฺมฏฺิติยํ ปฏิจฺจสมุปฺปาเท ปฏิโลมภาโว สสฺสตุจฺเฉทคฺคาโห, ปจฺจยาการปฏิจฺฉาทกโมโห วา, นิพฺพาเน ปฏิโลมภาโว สงฺขาเรสุ รติ, นิพฺพานปฏิจฺฉาทกโมโห วา. สงฺขารนิมิตฺตคฺคาโหติ ยาทิสสฺส กิเลสสฺส อปฺปหีนตฺตา วิปสฺสนา สงฺขารนิมิตฺตํ น มุฺจติ, โส กิเลโส, โย ‘‘สํโยคาภินิเวโส’’ติปิ วุจฺจติ. สงฺขารนิมิตฺตคฺคหณสฺส อติกฺกมนเมว วา ปหานํ.

ปวตฺติ เอว ปวตฺติภาโว, ปริยุฏฺานนฺติ อตฺโถ. นีวรณาทิธมฺมานนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน นีวรณปกฺขิยา กิเลสา วิตกฺกวิจาราทโย จ คยฺหนฺติ.

จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ภาวิตตฺตา อจฺจนฺตํ อปฺปวตฺติภาเวน ยํ ปหานนฺติ สมฺพนฺโธ. เกน ปหานนฺติ? อริยมคฺเคเหวาติ วิฺายมาโนยมตฺโถ เตสํ ภาวิตตฺตา อปฺปวตฺติวจนโต. สมุทยปกฺขิกสฺสาติ เอตฺถ จตฺตาโรปิ มคฺคา จตุสจฺจาภิสมยาติ กตฺวา เตหิ ปหาตพฺเพน เตน เตน สมุทเยน สห ปหาตพฺพตฺตา สมุทยสภาคตฺตา, สจฺจวิภงฺเค จ สพฺพกิเลสานํ สมุทยภาวสฺส วุตฺตตฺตา ‘‘สมุทยปกฺขิกา’’ติ ทิฏฺิอาทโย วุจฺจนฺติ. ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตํ วุปสนฺตตา. สงฺขตนิสฺสฏตา สงฺขารสภาวาภาโว. ปหีนสพฺพสงฺขตนฺติ วิรหิตสพฺพสงฺขตํ, วิสงฺขารนฺติ อตฺโถ. ปหานฺจ ตํ วินโย จาติ ปหานวินโย ปุริเมน อตฺเถน, ทุติเยน ปน ปหียตีติ ปหานํ, ตสฺส วินโยติ โยเชตพฺพํ.

ภินฺนสํวรตฺตาติ นฏฺสํวรตฺตา, สํวราภาวโตติ อตฺโถ. เตน อสมาทินฺนสํวโรปิ สงฺคหิโต โหติ. สมาทาเนน หิ สมฺปาเทตพฺโพ สํวโร ตทภาเว น โหตีติ. เอวฺหิ โลเก วตฺตาโร โหนฺติ ‘‘มหา วต โน โภโค, โส นฏฺโ ตถา อกตตฺตา’’ติ. อริเยติ อริโย. ปจฺจตฺตวจนฺเหตํ. เอเสเสติ เอโส โส เอว, อตฺถโต อนฺโติ อตฺโถ. ตชฺชาเตติ อตฺถโต ตํสภาโว, สปฺปุริโส อริยสภาโว, อริโย จ สปฺปุริสสภาโวติ อตฺโถ.

ตํ อตฺถนฺติ ‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยาย’’นฺติ เอวํ วุตฺตมตฺถํ. กสฺมา ปเนตฺถ ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา กตาติ? ยเทตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ‘‘ยสฺมา ปุถุชฺชโน อปริฺาตวตฺถุโก’’ติอาทินา (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒) สยเมว วกฺขติ. ธมฺโม อธิฏฺานํ เอติสฺสาติ ธมฺมาธิฏฺานา, สภาวธมฺเม นิสฺสาย ปวตฺติตเทสนา. ธมฺมวเสเนว ปวตฺตา ปมา, ปุคฺคลวเสน อุฏฺหิตฺวา ปุคฺคลวเสเนว คตา ตติยา, อิตรา ธมฺมปุคฺคลานํ โวมิสฺสกวเสน. กสฺมา ปน ภควา เอวํ วิภาเคน ธมฺมํ เทเสตีติ? เวเนยฺยชฺฌาสเยน เทสนาวิลาเสน จ. เย หิ เวเนยฺยา ธมฺมาธิฏฺานาย ธมฺมเทสนาย สุเขน อตฺถํ ปฏิวิชฺฌนฺติ, เตสํ ตถา ธมฺมํ เทเสติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ยสฺสา จ ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา เทสนาวิลาสปฺปตฺโต โหติ, สายํ สุปฺปฏิวิทฺธา, ตสฺมา เทสนาวิลาสปฺปตฺโต ธมฺมิสฺสโร ธมฺมราชา ยถา ยถา อิจฺฉติ, ตถา ตถา ธมฺมํ เทเสตีติ เอวํ อิมินา เวเนยฺยชฺฌาสเยน เทสนาวิลาเสน จ เอวํ วิภาเคน ธมฺมํ เทเสตีติ เวทิตพฺโพ.

ฉธาตุโรติ ปถวิธาตุ อาโป-เตโช-วาโย-อากาสธาตุ วิฺาณธาตูติ อิเมสํ ฉนฺนํ ธาตูนํ วเสน ฉธาตุโร. ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา โสมนสฺสฏฺานิยํ รูปํ อุปวิจรตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๒๔) วุตฺตานํ ฉนฺนํ โสมนสฺสูปวิจารานํ, ฉนฺนํ โทมนสฺสอุเปกฺขูปวิจารานฺจ วเสน อฏฺารสมโนปวิจาโร. สจฺจาธิฏฺานาทิวเสน จตุราธิฏฺาโน. ปฺาจกฺขุนา ทิฏฺธมฺมิกสฺส สมฺปรายิกสฺส จ อตฺถสฺส อทสฺสนโต อนฺโธ, ทิฏฺธมฺมิกสฺเสว ทสฺสนโต เอกจกฺขุ, ทฺวินฺนมฺปิ ทสฺสนโต ทฺวิจกฺขุ, เวทิตพฺโพ.

สฺวายํ นิทฺทิสีติ สมฺพนฺโธ. สฺวายนฺติ จ โส อยํ, ยถาวุตฺตเทสนาวิภาคกุสโล ภควาติ อตฺโถ. อปริฺาตวตฺถุโกติ ตีหิ ปริฺาหิ อปริฺาตกฺขนฺโธ. ขนฺธา หิ ปริฺาตวตฺถุ. อปริฺามูลิกาติ ปริชานนาภาวนิมิตฺตา ตสฺมึ สติ ภาวโต. ปริฺานฺหิ อวิชฺชาทโย กิเลสา ปฏิปกฺขา ตมฺมูลิกา จ สพฺพมฺนาติ. อริยานํ อทสฺสาวีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. เตน ‘‘อริยธมฺมสฺส อโกวิโท’’ติอาทิกํ ปุถุชนสฺส วิเสสนภาเวน ปวตฺตํ ปาฬิเสสํ คณฺหาติ ปุถุชฺชนนิทฺเทสภาวโต. เตนาห ‘‘เอวํ ปุถุชฺชนํ นิทฺทิสี’’ติ.

สุตฺตนิกฺเขปวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปถวีวารวณฺณนา

ตสฺสาติ ปุถุชฺชนสฺส. วสติ เอตฺถ อารมฺมณกรณวเสนาติ อารมฺมณมฺปิ วตฺถูติ วุจฺจติ ปวตฺติฏฺานภาวโตติ อาห ‘‘ปถวีอาทีสุ วตฺถูสู’’ติ. สกฺกายธมฺมานมฺปิ อารมฺมณาทินา สติปิ มฺนาเหตุภาเว มฺนาเหตุกตฺเตเนว เตสํ นิพฺพตฺติโตติ วุตฺตํ ‘‘สพฺพสกฺกายธมฺมชนิตํ มฺน’’นฺติ. เอตฺถ จ ปถวีธาตุ เสสธาตูนํ สสมฺภาราสมฺภารภาวา สติปิ ปมาณโต สมภาเว สามตฺถิยโต อธิกานธิกภาเวน เวทิตพฺพา. สมฺภารนฺตีติ สมฺภารา, ปริวารา. ตํตํกลาเปหิ ลกฺขณปถวิยา เสสธมฺมา ยถารหํ ปจฺจยภาเวน ปริวารภาเวน จ ปวตฺตนฺติ. เตนาห ‘‘สา หิ วณฺณาทีหิ สมฺภาเรหิ สทฺธึ ปถวีติ สสมฺภารปถวี’’ติ. ปถวิโตติ เอตฺถ ปุถุลฏฺเน ปุถุวี, ปุถุวี เอว ปถวี. สา หิ สติปิ ปริจฺฉินฺนวุตฺติยํ สพฺเพสํ สกลาปภาวานํ อาธารภาเวน ปวตฺตมานา ปุถุลา ปตฺถฏา วิตฺถิณฺณาติ วตฺตพฺพตํ อรหติ, น ปน ตํ อนุปวิสิตฺวา ปวตฺตมานา อาปาทโย. สสมฺภารปถวิยา ปน ปุถุลภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. อารมฺมณปถวิยํ วฑฺฒนผรณฏฺเหิ ปุถุลฏฺโ, อิตรสฺมึ รุฬฺหิยาว ทฏฺพฺโพ. อารมฺมณปถวีติ ฌานสฺส อารมฺมณภูตํ ปถวีสงฺขาตํ ปฏิภาคนิมิตฺตํ. เตนาห ‘‘นิมิตฺตปถวีติปิ วุจฺจตี’’ติ. อาคมนวเสนาติ ปถวีกสิณภาวนาคมนวเสน. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘อาโป จ เทวา ปถวี, เตโช วาโย ตทาคมุ’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๓๔๐).

สพฺพาปีติ จตุพฺพิธา ปถวีปิ. อนุสฺสวาทิมตฺตลทฺธา มฺนา วตฺถุ โหติเยว. ตถา หิ ‘‘กกฺขฬํ ขริคต’’นฺติอาทินา (วิภ. ๑๗๓) ลกฺขณปถวีปิ อุทฺธรียติ. ยํ ปเนเก วทนฺติ ‘‘ลกฺขเณ ทิฏฺเ มฺนา นตฺถิ, สฺชานาตีติ วุตฺตสฺา จ ทิฏฺิคฺคาหสฺส มูลภูตา ปิณฺฑคฺคาหิตา, สา ลกฺขเณ นกฺขมติ, ตสฺมา ลกฺขณปถวี น คเหตพฺพา’’ติ, ตทยุตฺตํ ลกฺขณปฏิเวธสฺส อิธ อนธิปฺเปตตฺตา. เตนาห ‘‘โลกโวหารํ คเหตฺวา’’ติ. น จ สพฺพสฺา ปิณฺฑคฺคาหิกา , นาปิ ทิฏฺิคฺคาหสฺเสว มูลภูตา, ตสฺมา ลกฺขณปถวิยาปิ กายทฺวารานุสาเรน อฺถา จ อุปฏฺิตาย มฺนา ปวตฺตเตว. เตเนว จ ‘‘อนุสฺสวาทิมตฺตลทฺธา’’ติ วุตฺตํ. ปถวิโตติ ปจฺจเต นิสฺสกฺกวจนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปถวีติ สฺชานาตี’’ติ อาห. ยสฺมา จตุพฺพิธมฺปิ ปถวึ ‘‘ปถวี’ติ สฺชานนฺโต เตน เตน นเยน ปถวีโกฏฺาเสเนว สฺชานาตีติ วุจฺจติ, น อาปาทิโกฏฺาเสน, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปถวิภาเคน สฺชานาตี’’ติ. โลกโวหารํ คเหตฺวาติ โลกสมฺํ อวิชหิตฺวา. เอเตน ลกฺขณปถวิยมฺปิ โวหารมุเขเนวสฺสา ปวตฺตีติ ทสฺเสติ.

ยทิ โลกโวหาเรน ตตฺถ ปวตฺติ, โก เอตฺถ โทโส, นนุ อริยาปิ ‘‘อยฺหิ ภนฺเต มหาปถวี’’ติอาทินา โลกโวหาเรน ปวตฺตนฺตีติ? น เอตฺถ โวหารมตฺเต อวฏฺานํ อธิปฺเปตํ, อถ โข โวหารมุเขน มิจฺฉาภินิเวโสติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สฺาวิปลฺลาเสน สฺชานาตี’’ติ อาห. ตสฺสตฺโถ – อโยนิโสมนสิการสมฺภูตาย ‘‘สุภ’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตาย วิปรีตสฺาย สฺชานาตีติ. เอเตน ทุพฺพลา ตณฺหามานทิฏฺิมฺนา ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ. ยทิ เอวํ กสฺมา สฺา คหิตาติ? ปากฏภาวโต. ยถา นาม อคฺคิมฺหิ มถิยมาเน ยทา ธูโม อุปลพฺภติ, กิฺจาปิ ตทา วิชฺชเตว ปาวโก อวินาภาวโต, ปากฏภาวโต ปน ธูโม ชาโตติ วุจฺจติ, น อคฺคิ ชาโตติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. ยทิปิ ตตฺถ มฺนากิจฺจํ อตฺถิ, น ปน วิภูตํ อปากฏภาวโต สฺากิจฺจเมว วิภูตํ, ตํ ปน มฺนานุกูลํ มฺนาสหิตํ จาติ อาห ‘‘สฺาวิปลฺลาเสน สฺชานาตี’’ติ. เอวํ ปถวีภาคํ อมุฺจนฺโตเยว วา สฺชานาตีติ สมฺพนฺโธ. โย หิ วุตฺตปฺปเภทาย ปถวิยา ปถวิภาคํ อมุฺจนฺโตเยว อวิชหนฺโตเยว สีสปิณฺเฑ สุวณฺณสฺี วิย อนตฺตาทิสภาวํเยว ตํ อตฺตาทิวเสน สฺชานาติ, ตสฺส วเสน วุตฺตํ ‘‘ปถวี’’ติอาทิ. น วตฺตพฺพํ ปุถุชฺชนคฺคาหสฺส ยุตฺติมคฺคนนิวารณโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อุมฺมตฺตโก วิย…เป… คณฺหาตี’’ติ . อริยานํ อทสฺสาวิตาทิเภทนฺติ อริยานํ อทสฺสาวิตาทิวิเสสํ วทนฺเตน ภควตาว เอตฺถ ยถาวุตฺตสฺชานเน การณํ วุตฺตนฺติ โยชนา.

เอวนฺติ ‘‘ปถวิภาเคน สฺชานาตี’’ติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน. สฺชานิตฺวาติ ปุพฺพกาลกิริยานิทฺเทโสติ อาห ‘‘อปรภาเค…เป… คณฺหาตี’’ติ. ปปฺจสงฺขาติ ปปฺจโกฏฺาสา. ปปฺจนฺติ สตฺตา สํสาเร จิรายนฺติ เอเตหีติ ปปฺจา, มฺนฺติ ‘‘เอตํ มมา’’ติอาทินา ปริกปฺเปนฺติ เอตาหีติ มฺนาติ ทฺวีหิปิ ปริยาเยหิ ตณฺหาทโยว วุตฺตาติ อาห ‘‘ตณฺหามานทิฏฺิปปฺเจหิ อิธ มฺนานาเมน วุตฺเตหี’’ติ. อชฺสฺส ชฺโต, อเสยฺยาทิกสฺส เสยฺยาทิโต คหณโต ทิฏฺิมฺนา วิย ตณฺหามานมฺนาปิ อฺถา คาโห เอวาติ อาห ‘‘อฺถา คณฺหาตี’’ติ. อารมฺมณาภินิโรปนาทินา ภินฺนสภาวานมฺปิ วิตกฺกาทีนํ สาธารโณ อุปนิชฺฌายนสภาโว วิย อนุคิชฺฌนุณฺณติปรามสนสภาวานมฺปิ ตณฺหาทีนํ สาธารเณน อารมฺมณปริกปฺปนากาเรน ปวตฺติ มฺนาติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘ตีหิ มฺนาหิ มฺตี’’ติอาทิ. อสฺสาติ ปุถุชฺชนสฺส, อุทยพฺพยานุปสฺสนาทีสุ วิย สุขุมนเยนปิ มฺนาปวตฺติ อตฺถีติ วิภาวนสุขตาย ถูลํเยว ตํ ทสฺเสตุกาโม ‘‘โอฬาริกนเยนา’’ติอาห. โอฬาริเก หิ วิภาเค ทสฺสิเต สุขุมวิภาวนา สุกราติ ทสฺเสตุํ อยมตฺถโยชนา วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. อชฺฌตฺติกาติ อินฺทฺริยพทฺธา สตฺตสนฺตานปริยาปนฺนา นิยกชฺฌตฺตา วุตฺตา วิภงฺเค ปฏิสมฺภิทามคฺเค จ.

วิภงฺเคติ ธาตุวิภงฺเค (วิภ. ๑๗๓). พาหิราติ อนินฺทฺริยพทฺธา สงฺขารสนฺตานปริยาปนฺนา. กกฺขฬนฺติ ถทฺธํ. ขริคตนฺติ ผรุสํ. กกฺขฬภาโว กกฺขฬตฺตํ. กกฺขฬภาโวติ กกฺขฬสภาโว. พหิทฺธาติ อินฺทฺริยพทฺธโต พหิทฺธาภูตํ. อนุปาทินฺนนฺติ น อุปาทินฺนํ. อโยติ กาฬโลหํ. โลหนฺติ ชาติโลหํ วิชาติโลหํ กิตฺติมโลหํ ปิสาจโลหนฺติ จตุพฺพิธํ. ตตฺถ อโย สชฺฌุ สุวณฺณํ ติปุ สีสํ ตมฺพโลหํ เวกนฺตกโลหนฺติ อิมานิ สตฺต ชาติโลหานิ นาม. นาคนาสิกาโลหํ วิชาติโลหํ นาม. กํสโลหํ วฏฺฏโลหํ อารกุฏนฺติ ตีณิ กิตฺติมโลหานิ นาม. โมรกฺขกํ ปุถุกํ มลินกํ จปลกํ สลกํ อาฏลํ ภตฺตกํ ทุสิโลหนฺติ อฏฺ ปิสาจโลหานิ นาม. เตสุ เวกนฺตกโลหํ นาม สพฺพโลหจฺเฉทนสมตฺถา เอกา โลหชาติ. ตถา หิ ตํ วิกนฺตติ ฉินฺทตีติ วิกนฺตกนฺติ วุจฺจติ. วิกนฺตกเมว เวกนฺตกํ. นาคนาสิกาโลหํ โลหสทิสํ โลหวิชาติ หลิทฺทาทิวิชาติ วิย. ตถา หิ ตํ โลหาการํ โลหมลํ วิย ฆนสํหตํ หุตฺวา ติฏฺติ, ตาเปตฺวา ตาฬิตํ ปน ภินฺนํ ภินฺนํ หุตฺวา วิสรติ มุทุ มฏฺํ กมฺมนิยํ วา น โหติ. ติปุตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ กํสโลหํ. สีสตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ วฏฺฏโลหํ. ชสตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ อารกุฏํ. เตเนว ตํ กรเณน นิพฺพตฺตตฺตา กิตฺติมโลหนฺติ วุจฺจติ. ยํ ปน เกวลํ รสกธาตุ วินิคฺคตํ, ตํ ‘‘ปิตฺตล’’นฺติปิ วทนฺติ. ตํ อิธ นาธิปฺเปตํ, ยถาวุตฺตํ มิสฺสกเมว กตฺวา โยชิตํ กิตฺติมนฺติ วุตฺตํ. โมรกฺขกาทีนิ เอวํนามาเนเวตานิ. เตสุ ยสฺมา ปฺจ ชาติโลหานิ ปาฬิยํ วิสุํ วุตฺตาเนว, ตสฺมา เวกนฺตกโลเหน สทฺธึ วุตฺตาวเสสํ สพฺพํ อิธ โลหนฺติ เวทิตพฺพํ.

ติปูติ เสตติปุ. สีสนฺติ กาฬติปุ. สชฺฌนฺติ รชตํ. มุตฺตาติ หตฺถิกุมฺภชาทิกา อฏฺวิธาปิ มุตฺตา. ตถา หิ หตฺถิกุมฺภํ วราหทาา ภูชงฺคสีสํ วลาหกูฏํ เวฬู มจฺฉสีโร สงฺโข สิปฺปีติ อฏฺ มุตฺตาโยนิโย. ตตฺถ หตฺถิกุมฺภชา ปีตวณฺณา ปภาหีนา. วราหทาา วราหทาวณฺณาว. ภุชงฺคสีสชา นีลาทิวณฺณา สุวิสุทฺธา วฏฺฏลา จ. วลาหกชา ภาสุรา ทุพฺพิภาครูปา รตฺติภาเค อนฺธการํ วิธมนฺติโย ติฏฺนฺติ, เทวูปโภคา เอว จ โหนฺติ. เวฬุชา กรกุปลสมานวณฺณา น ภาสุรา, เต จ เวฬู อมนุสฺสโคจเร เอว ปเทเส ชายนฺติ. มจฺฉสีรชา ปาีนปิฏฺิสมานวณฺณา วฏฺฏลา ลฆโว จ โหนฺติ ปภาวิหีนา, เต จ มจฺฉา สมุทฺทมชฺเฌ เอว ชายนฺติ. สงฺขชา สงฺโขทรจฺฉวิวณฺณา โกลปฺปมาณาปิ โหนฺติ ปภาวิหีนาว. สิปฺปิชา ปภาวิเสสยุตฺตา โหนฺติ นานาสณฺานา. เอวํ ชาติโต อฏฺวิธาสุปิ มุตฺตาสุ ยา มจฺฉสงฺขสิปฺปิชา, ตา สามุทฺทิกา โหนฺติ, ภุชงฺคชาปิ กาจิ สามุทฺทิกา โหนฺติ, อิตรา อสามุทฺทิกา. ยสฺมา พหุลํ สามุทฺทิกาว มุตฺตา โลเก ทิสฺสนฺติ, ตตฺถาปิ สิปฺปิชาว, อิตรา กาทาจิกา. ตสฺมา สมฺโมหวิโนทนิยํ (วิภ. อฏฺ. ๑๗๓) ‘‘มุตฺตาติ สามุทฺทิกา มุตฺตา’’ติ วุตฺตํ.

มณีติ เปตฺวา ปาฬิอาคเต เวฬุริยาทิเก เสโส โชติรสาทิเภโท สพฺโพปิ มณิ. เวฬุริยนฺติ วํสวณฺณมณิ. สงฺโขติ สามุทฺทิกสงฺโข. สิลาติ กาฬสิลา ปณฺฑุสิลา เสตสิลาทิเภทา อฏฺปิ สิลา. รชตนฺติ กหาปณาทิกํ วุตฺตาวเสสํ รชตสมฺมตํ. ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ. โลหิตงฺโคติ รตฺตมณิ. มสารคลฺลนฺติ กพรมณิ ติณาทีสุ พหิภารา ตาลนาฬิเกราทโยปิ ติณํ นาม. อนฺโตสารํ ขทิราทิ อนฺตมโส ทารุขณฺฑมฺปิ กฏฺํ นาม. มุคฺคมตฺตโต ยาว มุฏฺิปฺปมาณา มรุมฺพา สกฺขรา นาม. มุคฺคมตฺตโต ปฏฺาย เหฏฺา วาลิกา นาม. กลนฺติ กปาลขณฺฑํ. ภูมีติ สสมฺภารปถวี. ปาสาโณติ อนฺโตมุฏฺิยํ อสณฺหนโต ปฏฺาย ยาว หตฺถิปฺปมาณํ ปาสาณํ, หตฺถิปฺปมาณโต ปน ปฏฺาย อุปริ ปพฺพโตติ. อยํ อโยอาทีสุ วิภาคนิทฺเทโส. นิมิตฺตปถวีติ ปฏิภาคนิมิตฺตภูตํ ปถวิกสิณํ. ตมฺปิ หิ ‘‘รูปาวจรติกจตุกฺกชฺฌานํ กุสลโต จ วิปากโต จ กิริยโต จ จตุตฺถสฺส ฌานสฺส วิปาโก อิเม ธมฺมา พหิทฺธารมฺมณา’’ติ วจนโต ‘‘พาหิรา ปถวี’’ติ วุจฺจติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยา จ อชฺฌตฺตารมฺมณตฺติเก นิมิตฺตปถวี, ตํ คเหตฺวา’’ติ. อุคฺคหนิมิตฺตฺเจตฺถ ตํคติกเมว ทฏฺพฺพํ, นิมิตฺตุปฺปตฺติโต ปน ปุพฺเพ ภูมิคฺคหเณเนว คหิตนฺติ.

ตีหิ มฺนาหีติ วุตฺตํ มฺนาตฺตยํ สปรสนฺตาเนสุ สงฺเขปโต โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อหํ ปถวี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อหํ ปถวีติอาทีนา อชฺฌตฺตวิสยํ ทิฏฺิมฺนํ มานมฺนฺจ ทสฺเสติ อตฺตาภินิเวสาหํการทีปนโต. มม ปถวีติ อิมินา ตณฺหามฺนํ มานมฺนมฺปิ วา ปริคฺคหภูตายปิ ปถวิยา เสยฺยาทิโต มานชปฺปนโต. เสสปททฺวเยปิ อิมินานเยน มฺนาวิภาโค เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ปถวิกสิณชฺฌานลาภี ฌานจกฺขุนา คหิตฌานารมฺมณํ ‘‘อตฺตา’’ติ อภินิวิสนฺโต ตฺจ เสยฺยาทิโต ทหนฺโต อตฺถโต ‘‘อหํ ปถวี’’ติ มฺติ นาม, ตเมว ‘‘อยํ มยฺหํ อตฺตา’’ติ คหเณ ปน ‘‘มม ปถวี’’ติ มฺติ นาม. ตถา ตํ ‘‘ปรปุริโส’’ติ วา ‘‘เทโว’’ติ วา วาทวเสน ‘‘อยเมว ปเรสํ อตฺตา’’ติ วา อภินิวิสนฺโต ‘‘ปโร ปถวี, ปรสฺส ปถวี’’ติ มฺติ นาม. อิมินา นเยน เสสปถวีสุปิ ยถารหํ จตุกฺกํ นิทฺธาเรตพฺพํ.

เอวํ ‘‘ปถวึ มฺตี’’ติ เอตฺถ จตุกฺกวเสน มฺนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ มฺนาวตฺถุํ มฺนาโย จ วิภชิตฺวา อเนกวิหิตํ ตสฺส มฺนาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อยนฺติ ยถาวุตฺโต ปุถุชฺชโน. ฉนฺทราคนฺติ พหลราคํ. อสฺสาเทตีติ นิกาเมติ, ‘‘อิเม เกสา มุทุสินิทฺธกุฺจิตนีโลภาสา’’ติอาทินา ตตฺถ รสํ วินฺทติ. อภินนฺทตีติ สปฺปีติกาย ตณฺหาย อภิมุโข นนฺทติ ปโมทติ. อภิวทตีติ อุปฺปนฺนํ ตณฺหาภินนฺทนาเวคํ หทเยน สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อโห เม เกสา’’ติ วาจํ นิจฺฉาเรติ. อชฺโฌสาย ติฏฺตีติ พลวตณฺหาภินิเวเสน คิลิตฺวา ปรินิฏฺาเปตฺวา ติฏฺติ. อฺตรํ วา ปน รชฺชนียวตฺถุนฺติ เกสาทิโต อฺตรํ วา กรจรณาทิปฺปเภทํ นิยกชฺฌตฺตปริยาปนฺนํ ราคุปฺปตฺติเหตุภูตํ วตฺถุํ. อิตีติ อิมินา สินิทฺธาทิปฺปกาเรนาติ ปตฺถยิตพฺพาการํ ปรามสติ. ตตฺถ นนฺทึ สมนฺนาเนตีติ เตสุ ภาวีสุ เกสาทีสุ สิทฺธํ วิย กตฺวา นนฺทึ ตณฺหํ สมนฺนาหรติ สมุปจาเรติ. ปณิทหตีติ ปตฺถนํ เปติ.

สมฺปตฺตึ นิสฺสาย ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ, วิปตฺตึ นิสฺสาย ‘‘หีโนหมสฺมี’’ติ มานํ ชเนตีติ โยชนา. ปถวีโกฏฺาสภูตานํ เกสาทีนํ สมฺปตฺติวิปตฺตีหิ มานชปฺปนา ปถวิยา มฺนา โหตีติ อาห ‘‘เอวํ อชฺฌตฺติกํ ปถวึ มานมฺนาย มฺตี’’ติ. อวยวพฺยติเรเกน สมุทายสฺส อภาวโต สมุทาโย ชีวาภินิเวโส อวยเวปิ โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ อาคตนเยน ปน เกสํ ‘ชีโว’ติ อภินิวิสตี’’ติ อาห. ‘‘เกสา นาเมเต อิสฺสรวิหิตา ปชาปตินิสฺสิตา อณุสฺจโย ปกติปริณาโม’’ติอาทินา นเยนเปตฺถ ทิฏฺิมฺนา เวทิตพฺพา.

อิมิสฺสา ปวตฺติยาติ นิกนฺติมานทิฏฺีนํ ปริยาทานสมุคฺฆาฏปฺปวตฺติยา. ‘‘เอตํ มมา’’ติอาทินา ยทิปิ ติสฺสนฺนมฺปิ มฺนานํ สมฺภโว ทสฺสิโต. ตณฺหามานมฺนานํ ปน เหฏฺา ทสฺสิตตฺตา ทิฏฺิมฺนา เอเวตฺถ วิเสสโต อุทฺธฏาติ เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘เอวมฺปิ อชฺฌตฺติกํ ปถวึ ทิฏฺิมฺนาย มฺตี’’ติ.

พาหิรมฺปิ ปถวึ ตีหิ มฺนาหิ มฺตีติ โยชนา. ตํ ปน มฺนาวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘กถ’’นฺติ อาห. ตสฺสตฺโถ เหฏฺา วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.

อยํชีโวติ อยํ กาฬโลหํ ‘‘ชีโว อตฺตา’’ติ อภินิวิสติ เอกจฺเจ นิคณฺา วิย. เอวํ พาหิรํ ปถวึ ทิฏฺิมฺนาย มฺตีติ เอตฺถาปิ ‘‘ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ, ยา จ พาหิรา ปถวีธาตู’’ติอาทินา นเยน อาเนตฺวา วตฺตพฺโพ.

ปถวีกสิณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. อยมฺปิ จ นโย ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ เอตฺเถว อนฺโตคโธติ ทฏฺพฺโพ กสิณานมฺปิ รูปสมฺาสมฺภาวโต. ปถวึ มฺตีติ เอตฺถ ยาทิโส มฺนาวตฺถุมฺนานํ วิตฺถารนโย วุตฺโต, ตาทิโส อิโต ปรํ วุตฺตนโยวาติ อาห ‘‘อิโต ปรํ สงฺเขเปเนว กถยิสฺสามา’’ติ, อตาทิโส ปน วิตฺถารโตปิ กถยิสฺสตีติ อตฺโถ.

ตสฺมาติ ยสฺมา ‘‘ปถวิยา’’ติ อิทํ ภุมฺมวจนํ, ตสฺมา, โส อตฺตปรตฺตทุปกรณานํ อาธารภาเวน ตํ มฺนาวตฺถุํ กปฺเปตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อหํ ปถวิยา’’ติอาทิ. นนุ จ อินฺทฺริยพทฺธานินฺทฺริยพทฺธปเภทสฺส ธมฺมปฺปพนฺธสฺส สสมฺภารปถวี จ อาธารนิสฺสโย, อิตรา อารมฺมณนิสฺสโย ตทารมฺมณสฺสาติ เอตฺถ นิพฺพิโรโธติ? น, มฺนาวตฺถุํ นิสฺสยภาเวน ปริกปฺปนโต. อยฺหิ ‘‘อห’’นฺติ ทิฏฺิมฺนาย มานมฺนาย จ วตฺถุภูตสฺส อตฺตโน ปถวิสนฺนิสฺสยํ กตฺวา ‘‘อหํ ปถวิยา’’ติ มฺติ, ตณฺหามฺนาย วตฺถุภูตสฺส อุปกรณสฺส ปถวึ สนฺนิสฺสยํ กตฺวา ‘‘มยฺหํ กิฺจนํ ปลิโพโธ ปถวิยา’’ติ มฺติ. ปโรติอาทีสุปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ยฺวายํ อตฺถนโยติ สมฺพนฺโธ. วุตฺโต ปฏิสมฺภิทามคฺเค. เอเตเนว นเยนาติ ยฺวายํ ‘‘โส โข ปน เม อตฺตา อิมสฺมึ รูเป’’ติ สมุทายสฺส อาธารภาวทีปโน อตฺถนโย วุตฺโต, เอเตเนว นเยน. น หิ อวยวพฺยติเรเกน สมุทาโย ลพฺภติ, ตสฺมา สมุทาเย วุตฺตวิธิ อวยเวปิ ลพฺภตีติ อธิปฺปาโย. เตนาห โส โข ปน เม อยํ อตฺตา อิมิสฺสา ปถวิยาติ มฺนฺโตติ. ตสฺมึเยว ปนสฺส อตฺตนีติ เอตฺถ อสฺสาติ ปุถุชฺชนสฺส. ตสฺมึเยว อตฺตนีติ อชฺฌตฺติกพาหิรปถวีสนฺนิสฺสเย อตฺตนิ. ‘‘ปถวิยา มฺตี’’ติ ปทสฺสายํ วณฺณนา. เอวํ ‘‘ปถวิยา มฺตี’’ติ เอตฺถ อตฺตวเสน ทิฏฺิมานตณฺหามฺนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปรวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ยทา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อสฺสาติ ปรสฺส. ตทาติ ปรวเสน มฺนายํ. ทิฏฺิมฺนา เอว ยุชฺชติ ตตฺถ นิจฺจาภินิเวสาทโย สมฺภวนฺตีติ กตฺวา. อวธารเณน มานตณฺหามฺนา นิวตฺเตติ. น หิ ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินา, ‘‘มยฺห’’นฺติ จ ปวตฺตลกฺขณา มานตณฺหา ปรสฺมึ ปรสฺส สนฺตกภาเวน คหิเต จ ปวตฺตนฺตีติ อธิปฺปาโย. อิตราโยปีติ มานตณฺหามฺนาโยปิ. อิจฺฉนฺติ อฏฺกถาจริยา. ปรสฺสปิ หิ ปถวีสนฺนิสฺสเยน สมฺปตฺติอิสฺสริยาทิกสฺส วเสน อตฺตนิ เสยฺยาทิภาวํ ทหโต ปณิทหโต จ จิตฺตํ ตถาภาวาย มานตณฺหามฺนา สมฺภวนฺตีติ อาจริยานํ อธิปฺปาโย. ‘‘ปโร ปถวี ปรสฺส ปถวี’’ติ เอตฺถาปิ อิเม ทฺเว ปการา สาธิปฺปายา นิทฺธาเรตพฺพา.

‘‘ปถวิโต สฺชานาตี’’ติ, ‘‘อาทิโต’’ติ จ อาทีสุ อนิสฺสกฺกวจเนปิ โต-สทฺโท ทิฏฺโติ อาห ‘‘ปถวิโตติ นิสฺสกฺกวจน’’นฺติ. สอุปกรณสฺสาติ หิรฺสุวณฺณคตสฺส ทาสโปริสาทินา วิตฺตุปกรเณน สอุปกรณสฺส, อตฺตโน วา ปรสฺส วา เตสํ อุปกรณสฺส วาติ อตฺโถ. ยถาวุตฺตปฺปเภทโตติ ลกฺขณาทิอชฺฌตฺติกาทิวุตฺตปฺปการวิภาคโต. อุปฺปตฺตึ วา นิคฺคมนํ วาติ ‘‘ตํ อณฺฑํ อโหสิ เหมมยํ, ตสฺมึ สยํ พฺรหฺมา อุปฺปนฺโน’’ติ พฺรหฺมณฺฑวาทวเสน วา ‘‘ทฺวีหิ อณูหิ ทฺวิอณุก’’นฺติ เอวํ ปวตฺตอณุกวาทวเสน วา ปถวิโต อุปฺปตฺตึ วา ‘‘สพฺโพยํ โลโก อิสฺสรโต วินิคฺคโต’’ติ อิสฺสรวาทวเสน อิสฺสรกุตฺตโต ปถวิโต นิคฺคมนํ วา มฺมาโนติ โยชนา. ปถวิโต วา อฺโ อาปาทิโก อตฺตาติ อธิปฺปาโย. เอตฺถ จ ปุริมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป การกลกฺขณํ นิสฺสกฺกวจนํ, ทุติยสฺมึ อุปปทลกฺขณนฺติ ทฏฺพฺพํ. อตฺตโน ปริคฺคหภูตปถวิโต สุขปฺปตฺตึ ตโต เอว จ ปเรหิ เสยฺยาทิภาวํ กปฺเปนฺตสฺส วเสนเปตฺถ ตณฺหามานมฺนา เวทิตพฺพา. อปเรติ สารสมาสาจริยา. ตโต อฺํ อปฺปมาณํ อตฺตานํ คเหตฺวาติ ปุพฺเพ ภาวิตอาปาทิอปฺปมาณกสิณวเสน วา กาปิลกาณาททิฏฺิวเสน วา อปฺปมาณํ พฺยาปินํ อตฺตานํ คเหตฺวา. ปถวิโตติ ปจฺฉา อภาวิตอวฑฺฒิตปถวีกสิณสงฺขาตปถวิโต. พหิทฺธาปิ เม อตฺตาติ อิโต ปถวิโต พหิปิ เม อตฺตาติ อธิปฺปาโย.

เกวลนฺติ อนวเสสํ. มหาปถวึ ตณฺหาวเสน มมายติ, อยฺจ นโย จตุทีปิสฺสริเย ิตสฺส ทีปจกฺกวตฺติโน จ ลพฺเภยฺย, มณฺฑลิกราชมหามตฺตกุฏุมฺพิกานมฺปิ วเสน ลพฺภเตว เตสมฺปิ ยถาปริคฺคหํ อนวเสเสตฺวา มฺนาย สมฺภวโต. ‘‘เอวํ มมา’’ติ คาหสฺส ‘‘เอโสหมสฺมึ, เอโส เม อตฺตา’’ติ คาหวิธูรตาย วุตฺตํ ‘‘เอกา ตณฺหามฺนา เอว ลพฺภตี’’ติ . อิมินา นเยนาติ วุตฺตมติเทสํ วิภาเวตุํ ‘‘สา จาย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สา จายนฺติ สา จ อยํ ตณฺหามฺนา โยเชตพฺพาติ สมฺพนฺโธ. ยถา ปน ทิฏฺิมฺนามฺิเต วตฺถุสฺมึ สิเนหํ มานฺจ อุปฺปาทยโต ตณฺหามานมฺนา สมฺภวนฺติ, เอวํ ตณฺหามฺนามฺิเตน วตฺถุนา อตฺตานํ เสยฺยาทิโต ทหโต ตฺจ อตฺตนิยํ นิจฺจํ ตถา ตํสามิภูตํ อตฺตานฺจ ปริกปฺเปนฺตสฺส อิตรมฺนาปิ สมฺภวนฺตีติ สกฺกา วิฺาตุํ. ‘‘เม’’ติ หิ อิมินา อตฺถคฺคหณมุเขเนว อตฺตนิยสมฺพนฺโธ ปกาสียตีติ.

อภินนฺทตีติ อิมินา ตณฺหาทิฏฺาภินิเวสานํ สงฺคหิตตฺตา เต ทสฺเสนฺโต ‘‘อสฺสาเทติ ปรามสติ จา’’ติ อาห. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทวเสน เจตสฺส ทฺวยสฺส อสงฺกรโต ปวตฺติ เวทิตพฺพา, เอกจิตฺตุปฺปาเทปิ วา อธิปติธมฺมานํ วิย ปุพฺพาภิสงฺขารวเสน ตสฺส ตสฺส พลวภาเวน ปวตฺติ. เอตสฺมึ อตฺเถติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน อภินนฺทนตฺเถ. เอตนฺติ ‘‘ปถวึ อภินนฺทตี’’ติ เอตํ ปทํ. เยสํ วิเนยฺยานํ เยหิ ปการวิเสเสหิ ธมฺมานํ วิภาวเน กเต วิเสสาธิคโม โหติ, เตสํ เตหิ ปการวิเสเสหิ ธมฺมวิภาวนํ. เยสํ ปน เยน เอเกเนว ปกาเรน ธมฺมวิภาวเน กเต วิเสสาธิคโม โหติ, เตสมฺปิ ตํ วตฺวา ธมฺมิสฺสรตาย ตทฺนิรวเสสปฺปการวิภาวนฺจ เทสนาวิลาโส. เตนาห ‘‘ปุพฺเพ มฺนาวเสน กิเลสุปฺปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อภินนฺทนาวเสน ทสฺเสนฺโต’’ติ. ธมฺมธาตุยาติ สมฺมาสมฺโพธิยา. สา หิ สพฺพเยฺยธมฺมํ ยถาสภาวโต ธาเรติ อุปธาเรติ, สกลฺจ วิเนยฺยสตฺตสงฺขาตธมฺมปฺปพนฺธํ อปายทุกฺขสํสารทุกฺขปตนโต ธาเรติ, สยฺจ อวิปรีตปวตฺติอาการา ธาตูติ ธมฺมธาตูติ อิธาธิปฺเปตา. สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานฺหิ มคฺคาณํ, มคฺคาณปทฏฺานฺจ สพฺพฺุตฺาณํ สมฺมาสมฺโพธีติ. สุปฺปฏิวิทฺธตฺตาติ สุฏฺุ ปฏิวิทฺธภาวโต, สมฺมา อธิคตตฺตาติ อตฺโถ. อภิกงฺขนสมฺปคฺคหปรามสนานํ วเสน อารมฺมเณ ปริกปฺปนาปวตฺติ มฺนา. ตตฺถ ‘‘มมํ, อห’’นฺติ จ อภินิเวสนํ ปริกปฺปนํ. เยน อชฺโฌสานํ โหติ, อยํ อภินนฺทนาติ อยเมเตสํ วิเสโส. สุตฺตาทิอวิรุทฺธาเยว อตฺตโนมติ อิจฺฉิตพฺพา, น อิตราติ สุตฺเตน ตสฺสา สงฺคหํ ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตฺเจต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เทสนาวิลาสวิภาวนสฺส ปน สเหตุกเหตุสมฺปยุตฺตทุกาทิเทสนาย นิพทฺธตา นิทฺธาเรตพฺพา.

ตสฺสาติ เตน. าตสทฺทสมฺพนฺเธน เหตํ กตฺตริ สามิวจนํ. ตสฺมาติ อปริฺาตตฺตา. ‘‘อปริฺาต’’นฺติ ปฏิกฺเขปมุเขน ยํ ปริชานนํ วุตฺตํ, ตํ อตฺถโต ติวิธา ปริฺา โหตีติ ตํ สรูปโต ปวตฺติอาการโต จ วิภาเวนฺโต ‘‘โย หี’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ยาย ปฺาย วิปสฺสนาภูมึ ปริชานาติ ปริจฺฉินฺทติ, สา ปริชานนปฺา าตปริฺา. สา หิ เตภูมกธมฺมชาตํ ‘‘อยํ วิปสฺสนาภูมี’’ติ าตํ วิทิตํ ปากฏํ กโรนฺตีเยว ลกฺขณรสาทิโต อชฺฌตฺติกาทิวิภาคโต จ ปริจฺฉิชฺช ชานาติ. อิธ ปน ปถวีธาตุวเสน เวทิตพฺพาติ วุตฺตํ ‘‘ปถวีธาตุํ ปริชานาตี’’ติอาทิ. ตีรณปริฺาติ กีรณวเสน ปริชานนกปฺา. สา หิ ปริวาเรหิ อนิจฺจตาทิอากาเรหิ อนิจฺจตาทิสภาวสฺส อุปาทานกฺขนฺธปฺจกสฺส ตีรณวเสน สมฺมสนวเสน ตํ ปริจฺฉิชฺช ชานาติ. อคฺคมคฺเคนาติ อรหตฺตมคฺเคน. โส หิ อนวเสสโต ฉนฺทราคํ ปชหติ. อคฺคมคฺเคนาติ วา อคฺคภูเตน มคฺเคน, โลกุตฺตรมคฺเคนาติ อตฺโถ. อุภยถาปิ หิ สมุจฺเฉทปหานการี เอว ปฺา นิปฺปริยาเยน ปหานปริฺาติ ทสฺเสติ.

นามรูปววตฺถานนฺติ เอเตน ปจฺจยปริคฺคโหปิ สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺโพ นามรูปสฺส เหตุววตฺถานภาวโต. โสปิ หิ เหตุปจฺจยมุเขน นามรูปสฺส ววตฺถานเมวาติ. กลาปสมฺมสนาทิวเสน ตีรณปริฺา อนิจฺจาทิวเสน สมฺมสนภาวโต. ตสฺมาติ ยสฺมา ตา ปริฺาโย นตฺถิ, ตสฺมา. อถ วา ตสฺมา อปริฺาตตฺตาติ ยสฺมา อปริฺาตา ปถวี, ตสฺมา อปริฺาตตฺตา ปถวิยา ตํ ปถวึ มฺติ จ อภินนฺทติ จาติ.

ปถวีวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

อาโปวาราทิวณฺณนา

อาปํอาปโตติ เอตฺถ อปฺโปติ, อปฺปายตีติ วา อาโป, ยสฺมึ สงฺฆาเต สยํ อตฺถิ, ตํ อาพนฺธนวเสน พฺยาเปตฺวา ติฏฺติ, ปริพฺรูเหตีติ วา อตฺโถ. อตฺถานํ อธิ อชฺฌตฺตํ. ปติ ปติ อตฺตานนฺติ ปจฺจตฺตํ. อุภเยนปิ สตฺตสนฺตานปริยาปนฺนเมว วทติ. อาโป อาโปคตนฺติอาทีสุ อาพนฺธนเมว อาโป, ตเทว อาโปสภาวํ คตตฺตา อาโปคตํ, สภาเวเนว อาปภาวํ ปตฺตนฺติ อตฺโถ. สิเนหนวเสน สิเนโห, โสเยว สิเนหนสภาวํ คตตฺตา สิเนหคตํ. พนฺธนตฺตํ รูปสฺสาติ อวินิพฺโภครูปสฺส พนฺธนภาโว, อวิปฺปกิรณวเสน สมฺปิณฺฑนนฺติ อตฺโถ. อุคฺคณฺหนฺโตติ ยถาปริจฺฉินฺเน อาโปมณฺฑเล ยถา อุคฺคหนิมิตฺตํ อุปลพฺภติ, ตถา นิมิตฺตํ คณฺหนฺโต. วุตฺโตติ ‘‘อาปสฺมิ’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตอาโป. โส หิ สสมฺภารอาโป, น ‘‘อาโปกสิณ’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตอาโป. เสสนฺติ อารมฺมณสมฺมุติอาปานํ สรูปวิภาวนํ. ‘‘อาปํ อาปโต ปชานาตี’’ติอาทิปาฬิยา อตฺถวิภาวนฺเจว ตตฺถ ตตฺถ มฺนาวิภาคทสฺสนฺจ ปถวิยํ วุตฺตสทิสเมวาติ. ตตฺถ ‘‘ปถวีกสิณเมโก สฺชานาตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๖๐; อ. นิ. ๑๐.๒๕) วุตฺตํ, อิธ ‘‘อาโปกสิณเมโก สฺชานาตี’’ติอาทินา วตฺตพฺพํ. ตตฺถ จ ‘‘ปถวีติ สฺชานาตี’’ติ วุตฺตํ, อิธ ปน ‘‘อาโปติ สฺชานาตี’’ติอาทินา วตฺตพฺพนฺติ เอวมาทิ เอว วิเสโส. เสสํ ตาทิสเมว. เตน วุตฺตํ ‘‘ปถวิยํ วุตฺตสทิสเมวา’’ติ. โย ปเนตฺถ วิเสโส, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เกวล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ มูลรโสติ มูลํ ปฏิจฺจ นิพฺพตฺตรโส. ขนฺธรสาทีสุปิ เอเสว นโย. ขีราทีนิ ปากฏาเนว. ยถา ปน เภสชฺชสิกฺขาปเท (ปารา. ๖๑๘-๖๒๕), น เอวมิธ นิยโม อตฺถิ. ยํ กิฺจิ ขีรํ ขีรเมว. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ภุมฺมานีติ อาวาฏาทีสุ ิตอุทกานิ. อนฺตลิกฺขานีติ ปถวึ อปฺปตฺตานิ วสฺโสทกานิ, ปตฺตานิ ปน ภุมฺมาเนว. เอวํ วุตฺตา จาติ -สทฺเทน หิโมทกกปฺปวินาสกอุทกปถวิยาอนฺโตอุทกปถวีสนฺธารกอุทกาทึ ปุพฺเพ อวุตฺตมฺปิ สมุจฺจิโนติ.

เตชํ เตชโตติ เอตฺถ เตชนฏฺเน เตโช, เตชนํ นาม ทหนปจนาทิสมตฺถํ นิสานํ, ยํ อุณฺหตฺตนฺติ วุจฺจติ. เยน จาติ เยน เตโชคเตน กุปิเตน. สนฺตปฺปตีติ อยํ กาโย สมนฺตโต ตปฺปติ เอกาหิกชราทิภาเวน อุสุมชาโต โหติ. เยน จ ชีรียตีติ เยน อยํ กาโย ชีรียติ, อินฺทฺริยเวกลฺลตํ พลปริกฺขยํ วลิตาทิภาวฺจ ปาปุณาติ. เยน จ ปริฑยฺหตีติ เยน กุปิเตน อยํ กาโย ปริโต ฑยฺหติ, โส จ ปุคฺคโล ฑยฺหามีติ สตโธตสปฺปิโคสีตจนฺทนาทิเลปฺเจว ตาลวณฺฏวาตฺจ ปจฺจาสีสติ. เยน จ อสิตปีตขายิตสายิตํ สมฺมา ปริณามํ คจฺฉตีติ เยน อสิตํ วา โอทนาทิ, ปีตํ วา ปานกาทิ, ขายิตํ วา ปิขชฺชกาทิ, สายิตํ วา อมฺพปกฺกมธุผาณิตาทิ สมฺมเทว ปริปากํ คจฺฉติ, รสาทิภาเวน วิเวกํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ สรีรสฺส ปกติอุสุมํ อติกฺกมิตฺวา อุณฺหภาโว สนฺตาโป, สรีรทหนวเสน ปวตฺโต มหาทาโห ปริทาโห, สตวารํ ตาเปตฺวา อุทเก ปกฺขิปิตฺวา อุทฺธฏสปฺปิ สตโธตสปฺปิ, รสรุธิรมํสเมทอฏฺิอฏฺิมิฺชสุกฺกา รสาทโย. ตตฺถ ปุริมา ตโย เตชา จตุสมุฏฺานา, ปจฺฉิโม กมฺมสมุฏฺาโนว.

เตโชภาวํ คตตฺตา เตโชคตํ. อุสฺมาติ อุณฺหากาโร. อุสฺมาว อุสฺมาภาวํ คตตฺตา อุสฺมาคตํ. อุสุมนฺติ จณฺฑอุสุมํ. ตเทว อุสุมคตํ, สภาเวเนว อุสุมภาวํ ปตฺตนฺติ อตฺโถ. กฏฺคฺคีติ กฏฺุปาทาโน อคฺคิ. สกลิกคฺคีอาทีสุปิ เอเสว นโย. สงฺการคฺคีติ กจวรํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนอคฺคิ. อินฺทคฺคีติ อสนิอคฺคิ. สนฺตาโปติ ชาลาย วา วีตจฺจิตงฺคารานํ วา สนฺตาโป . สูริยสนฺตาโปติ อาตโป. กฏฺสนฺนิจยสนฺตาโปติ กฏฺราสึ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนสนฺตาโป. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เอวํ วุตฺตา จาติ. จ-สทฺเทน เปตคฺคิกปฺปวินาสกคฺคินิรยคฺคิอาทิเก อวุตฺเตปิ สมุจฺจิโนติ.

วายํ วายโตติ เอตฺถ วายนฏฺเน วาโย. กิมิทํ วายนํ นาม? วิตฺถมฺภนํ, สมุทีรณํ วา, วายนํ คมนนฺติ เอเก. อุทฺธงฺคมา วาตาติ อุคฺคารหิกฺกาทิปวตฺตกา อุทฺธํ อาโรหนวาตา. อโธคมา วาตาติ อุจฺจารปสฺสาวาทินีหรณตา อโธ โอโรหนวาตา. กุจฺฉิสยา วาตาติ อนฺตานํ พหิวาตา. โกฏฺาสยา วาตาติ อนฺตานํ อนฺโตวาตา. องฺคมงฺคานุสาริโน วาตาติ ธมนีชาลานุสาเรน สกลสรีเร องฺคมงฺคานิ อนุสฏา สมิฺชนปสารณาทินิพฺพตฺตกา วาตา . สตฺถกวาตาติ สนฺธิพนฺธนานิ กตฺตริยา ฉินฺทนฺตา วิย ปวตฺตวาตา. ขุรกวาตาติ ขุเรน วิย หทยมํสเฉทนผาลนกวาตา. อุปฺปลกวาตาติ หทยมํสสฺส สมุปฺปาฏนกวาตา. อสฺสาโสติ อนฺโตปวิสนกนาสิกาวาโต. ปสฺสาโสติ พหินิกฺขมนนาสิกาวาโต. เอตฺถ จ ปุริมา สพฺเพ จตุสมุฏฺานา, อสฺสาสปสฺสาสา จิตฺตสมุฏฺานาว.

วาโยคตนฺติ วาโยว วาโยคตํ, สภาเวเนว วาโยภาวํ ปตฺตนฺติ อตฺโถ. ถมฺภิตตฺตํ รูปสฺสาติ อวินิพฺโภครูปสฺส ถมฺภิตภาโว. ปุรตฺถิมา วาตาติ ปุรตฺถิมทิสโต อาคตา วาตา. ปจฺฉิมาทีสุปิ เอเสว นโย. สรชาทีสุ สห รเชน สรชา, รชวิรหิตา สุทฺธา อรชา. สีตอุตุสมุฏฺานา, สีตวลาหกนฺตเร วา ชาตา สีตา. อุณฺหอุตุสมุฏฺานา, อุณฺหวลาหกนฺตเร วา ชาตา อุณฺหา. ปริตฺตาติ มนฺทา ตนุกวาตา. อธิมตฺตาติ พลววาตา. กาฬาติ กาฬวลาหกนฺตเร สมุฏฺิตา. เยหิ อพฺภาหโต ฉวิวณฺโณ กาฬโก โหติ, เตสํ เอตํ อธิวจนนฺติปิ เอเก. เวรมฺภวาตาติ โยชนโต อุปริ วายนวาตา. ปกฺขวาตาติ อนฺตมโส มกฺขิกายปิ ปกฺขายูหนวาตา. สุปณฺณวาตาติ ครุฬวาตา. กามํ เจเตปิ ปกฺขวาตาว, อุสฺสทวเสน ปน วิสุํ คหิตา. ตาลวณฺฏวาตาติ ตาลวณฺเณหิ กเตน, อฺเหิ วา กเตน เกนจิ มณฺฑลสณฺาเนน สมุฏฺาปิตวาตา. วิธูปนวาตาติ พีชนปตฺตเกน สมุฏฺาปิตวาตา. อิมานิ จ ตาลวณฺฏวิธูปนานิ อนุปฺปนฺนมฺปิ วาตํ อุปฺปาเทนฺติ, อุปฺปนฺนมฺปิ ปริวตฺเตนฺติ. อิธาปิ -สทฺโท อุทกสนฺธารกวาตกปฺปวินาสกวาตชาลาเปลฺลนกวาตาทิเก อวุตฺเตปิ สมุจฺจิโนติ. เอตฺถ จ ‘‘อาปํ มฺตี’’ติอาทีสุ ยสฺมา ตีหิ มฺนาหิ – ‘‘อหํ อาโปติ มฺติ, มม อาโปติ มฺตี’’ติอาทินา ปถวีวาเร วุตฺตนเยน สกฺกา มฺนาวิภาโค วิภาเวตุนฺติ วุตฺตํ ‘‘เสสํ วุตฺตนยเมวา’’ติ. ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนยานุสาเรน อิเมสุ ตีสุ วาเรสุ ยถารหํ มฺนาวิภาโค วิภาเวตพฺโพ.

เอตฺตาวตาติ เอตฺตเกน อิมินา จตุวารปริมาเณน เทสนาวิเสเสน. -สทฺโท พฺยติเรโก. เตน วกฺขมานํเยว วิเสสํ โชเตติ. ยฺวายนฺติ โย อยํ ลกฺขโณ นาม หาโร วุตฺโตติ สมฺพนฺโธ. โส ปน ลกฺขณหาโร ยํลกฺขโณ ตตฺถ วุตฺโต, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตมฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ วุตฺตมฺหิ เอกธมฺเมติ กุสลาทีสุ ขนฺธาทีสุ วา ยสฺมึ กสฺมิฺจิ เอกธมฺเม สุตฺเต สรูปโต นิทฺธารณวเสน วา กถิเต. เย ธมฺมา เอกลกฺขณา เตนาติ เย เกจิ ธมฺมา กุสลาทิภาเวน, รูปกฺขนฺธาทิภาเวน วา เตน วุตฺตธมฺเมน สมานลกฺขณา. วุตฺตา ภวนฺติ สพฺเพติ สพฺเพปิ กุสลาทิสภาวา, ขนฺธาทิสภาวา วา ธมฺมา สุตฺเต อวุตฺตาปิ ตาย สมานลกฺขณตาย วุตฺตา ภวนฺติ, อาเนตฺวา สํวณฺณนวเสนาติ อธิปฺปาโย.

เอตฺถ จ เอกลกฺขณาติ สมานลกฺขณา วุตฺตา. เตน สหจริตา สมานกิจฺจตา สมานเหตุตา สมานผลตา สมานารมฺมณตาติ เอวมาทีหิปิ อวุตฺตานํ วุตฺตานํ วิย นิทฺธารณํ เวทิตพฺพํ. อิตีติ อิมินา ปกาเรน. เตนาห ‘‘เอวํ เนตฺติยํ ลกฺขโณ นาม หาโร วุตฺโต’’ติ, เนตฺติปาฬิยํ (เนตฺติ. ๒๓) ปน ‘‘เย ธมฺมา เอกลกฺขณา เกจิ โส หาโร ลกฺขโณ นามา’’ติ ปาโ อาคโต. ตสฺส วเสนาติ ตสฺส ลกฺขณหารสฺส วเสน. รูปลกฺขณํ อนตีตตฺตาติ รุปฺปนสภาเวน สมานสภาวตฺตา. วทนฺเตน ภควตา. เอตาติ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ เอวํ วุตฺตทิฏฺี. เอตฺถ จ สกฺกายทิฏฺิมฺนาทสฺสเนเนว สกลรูปวตฺถุกา ตณฺหามานมฺนาปิ ทสฺสิตา เอวาติ ทฏฺพฺพํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ตสฺมึเยว ปนสฺส ทิฏฺิมฺนาย มฺิเต วตฺถุสฺมึ สิเนหํ มานฺจ อุปฺปาทยโต ตณฺหามานมฺนาปิ เวทิตพฺพา’’ติ. อถ วา ปถวึ อาปํ เตชํ วายํ เมติ มฺติ อภินนฺทตีติ จ วทนฺเตน วุตฺตนเยเนว สกลรูปวตฺถุกา ตณฺหามฺนา ตทนุสาเรน มานมฺนาปิ วุตฺตาว โหตีติ เอวมฺเปตฺถ อิตรมฺนาปิ นิทฺธาเรตพฺพา.

อาโปวาราทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภูตวาราทิวณฺณนา

. ‘‘ปถวึ มฺติ, ปถวิยา มฺตี’’ติอาทีหิ ปเทหิ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, รูปสฺมึ อตฺตานํ สมนุปสฺสตี’’ติอาทีนํ สกฺกายทิฏฺีนํ นิทฺธาริตตฺตา วุตฺตํ ‘‘เอวํ รูปมุเขน สงฺขารวตฺถุกํ มฺนํ วตฺวา’’ติ . เตสุ สงฺขาเรสุ สตฺเตสุปีติ ตทุปาทาเนสุปิ สตฺเตสุ . ธาตูสูติ ปถวีอาทีสุ จตูสุ ธาตูสุ. ‘‘ชาตํ ภูตํ สงฺขต’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๐๗; สํ. นิ. ๕.๓๗๙) ภูต-สทฺโท อุปฺปาเท ทิสฺสติ, สอุปสคฺโค ปน ‘‘ปภูตมริโย ปกโรติ ปุฺ’’นฺติอาทีสุ วิปุเล, ‘‘เยภุยฺเยน ภิกฺขูนํ ปริภูตรูโป’’ติอาทีสุ หึสเน, ‘‘สมฺภูโต สาณวาสี’’ติอาทีสุ (จูฬว. ๔๕๐) ปฺตฺติยํ, ‘‘อภิภูโต มาโร วิชิโต สงฺคาโม’’ติอาทีสุ วิมถเน, ‘‘ปราภูตรูโป โข อยํ อเจโล ปาถิกปุตฺโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๒๓, ๒๕, ๓๑, ๓๒) ปราชเย, ‘‘อนุภูตํ สุขทุกฺข’’นฺติอาทีสุ เวทิยเน, ‘‘วิภูตํ วิภาวิตํ ปฺายา’’ติอาทีสุ ปากฏีกรเณ ทิสฺสติ. เต สพฺเพ รุกฺขาทีสูติ. อาทิ-สทฺเทน สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา. ‘‘กาโล ฆสติ ภูตานีติ (ชา. ๑.๒.๑๙๐), ภูตา โลเก สมุสฺสย’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๒๒๐; สํ. นิ. ๑.๑๘๖) จ อาทีสุ อวิเสเสน สตฺตวาจโกปิ ภูตสทฺโท, อุปริ เทวาทิปเทหิ สตฺตวิเสสานํ คหิตตฺตา อิธ ตทวสิฏฺา ภูตสทฺเทน คยฺหนฺตีติ อาห ‘‘โน จ โข อวิเสเสนา’’ติ. เตเนวาห – ‘‘จาตุมหาราชิกานฺหิ เหฏฺา สตฺตา อิธ ภูตาติ อธิปฺเปตา’’ติ. โย หิ สตฺตนิกาโย ปริปุณฺณโยนิโก จตูหิปิ โยนีหิ นิพฺพตฺตนารโห, ตตฺถายํ ภูตสมฺา อณฺฑชาทิวเสน ภวนโต.

ภูเตติ วุตฺตเทสอาเทสิเต ภูเต. ภูตโต สฺชานาตีติ อิมินา ‘‘ภูตา’’ติ โลกโวหารํ คเหตฺวา ยถา ตตฺถ ตณฺหาทิมฺนา สมฺภวนฺติ, เอวํ วิปรีตสฺาย สฺชานนํ ปกาสียติ. สฺวายมตฺโถ เหฏฺา ‘‘ปถวิโต สฺชานาตี’’ติ เอตฺถ วุตฺตนยานุสาเรน สกฺกา ชานิตุนฺติ อาห ‘‘วุตฺตนยเมวา’’ติ. ยถา สุทฺธาวาสา สพฺพทา อภาวโต อิมํ เทสนํ นารุฬฺหา, เอวํ เนรยิกาปิ สพฺพมฺนานธิฏฺานโต. เอเตเนว เอกจฺจเปตานมฺเปตฺถ อสงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อปเร ปน ‘‘ทิฏฺิมฺนาธิฏฺานโต เตสมฺเปตฺถ สงฺคโห อิจฺฉิโตเยวา’’ติ วทนฺติ. ‘‘สมงฺคิภูตํ ปริจาเรนฺต’’นฺติอาทินา สุตฺเต วุตฺตนเยน. รชฺชตีติ ‘‘สุภา สุขิตา’’ติ วิปลฺลาสคฺคาเหน ตตฺถ ราคํ ชเนติ. เอวเมตฺถ รชฺชนฺโต จ น เกวลํ ทสฺสนวเสเนว, สวนาทิวเสนปิ รชฺชเตวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทิสฺวาปิ…เป… อุตฺวาปี’’ติ อาห. ตตฺถ ฆายนาทิวเสน รชฺชนํ เตหิ อนุภูตคนฺธมาลาทิวเสน เจว วิสภาควตฺถุภูตานํ เตสํ ปริโภควเสน จ ยถานุภวํ อนุสฺสรณวเสน จ เวทิตพฺพํ. เอวํ ภูเต ตณฺหามฺนาย มฺตีติ วุตฺตนเยน ภูเต ปฏิจฺจ ฉนฺทราคํ ชเนนฺโต เตสํ ปฏิปตฺตึ อสฺสาเทนฺโต อภินนฺทนฺโต อภิวทนฺโต อชฺโฌสาย ติฏฺนฺโต ‘‘อีทิสี อวตฺถา มม อนาคตมทฺธานํ สิยา’’ติอาทินา วา ปน นเยน ตตฺถ นนฺทึ สมนฺนาเนนฺโต ภูเต ตณฺหามฺนาย มฺตีติ อตฺโถ. อปฺปฏิลทฺธสฺส ขตฺติยมหาสาลาทิภาวสฺส, สมฺปตฺตึ วิปตฺตินฺติ ชาติวเสน อุกฺกฏฺฏนิหีนตํ. ทหตีติ เปติ. โยเอวรูโป มาโนติ โย เอโส ‘‘อยํ ปุพฺเพ มยา สทิโส, อิทานิ อยํ เสฏฺโ อยํ หีนตโร’’ติ อุปฺปนฺโน มาโน. อยํ วุจฺจติ มานาติมาโนติ อยํ ภาราติภาโร วิย ปุริมํ สทิสมานํ อุปาทาย มานาติมาโน นามาติ อตฺโถ.

นิจฺจาติอาทีสุ อุปฺปาทาภาวโต นิจฺจา, มรณาภาวโต ธุวา, สพฺพทา ภาวโต สสฺสตา. อนิจฺจปฏิปกฺขโต วา นิจฺจา, ถิรภาวโต ธุวา, สสฺสติสมตาย สสฺสตา, ชราทิวเสน วิปริณามสฺส อภาวโต อวิปริณามธมฺมาติ มฺติ. สพฺเพ สตฺตาติ โอฏฺโคณคทฺรภาทโย อนวเสสา สฺชนฏฺเน สตฺตา. สพฺเพ ปาณาติ ‘‘เอกินฺทฺริโย ปาโณ ทฺวินฺทฺริโย ปาโณ’’ติอาทิวเสน วุตฺตา อนวเสสา ปาณนฏฺเน ปาณา. สพฺเพ ภูตาติ อนวเสสา อณฺฑโกสาทีสุ ภูตา สฺชาตาติ ภูตา. สพฺเพ ชีวาติ สาลิยวโคธูมาทโย อนวเสสา ชีวนฏฺเน ชีวา. เตสุ หิ โส วิรูหภาเวน ชีวสฺี. อวสา อพลา อวีริยาติ เตสํ อตฺตโน วโส วา พลํ วา วีริยํ วา นตฺถีติ ทสฺเสติ. นิยติสงฺคติภาวปริณตาติ เอตฺถ นิยตีติ. นิยตตา, อจฺเฉชฺชสุตฺตาวุตอเภชฺชมณิ วิย อวิชหิตปกติตา. สงฺคตีติ ฉนฺนํ อภิชาตีนํ ตตฺถ สงฺคโม. ภาโวติ สภาโวเยว, กณฺฑกานํ ติขิณตา, กปิฏฺผลาทีนํ ปริมณฺฑลาทิตา, มิคปกฺขีนํ วิจิตฺตวณฺณาทิตาติ เอวมาทิโก. เอวํ นิยติยา จ สงฺคติยา จ ภาเว จ ปริณตา นานปฺปการตํ ปตฺตา. เยน หิ ยถา ภวิตพฺพํ, โส ตเถว ภวติ. เยน น ภวิตพฺพํ, โส น ภวตีติ ทสฺเสติ. ฉสฺเววาภิชาตีสูติ กณฺหาภิชาติอาทีสุ ฉสุ เอว อภิชาตีสุ ตฺวา สุขฺจ ทุกฺขฺจ ปฏิสํเวเทนฺติ, อฺา สุขทุกฺขภูมิ นตฺถีติ ทสฺเสติ. วา-สทฺเทน อนฺตาทิเภเท ทิฏฺาภินิเวเส สงฺคณฺหาติ.

อุปปตฺตินฺติ อิมินา ตสฺมึ ตสฺมึ สตฺตนิกาเย ภูตานํ สหพฺยตํ อากงฺขตีติ ทสฺเสติ. สุขุปฺปตฺตินฺติ อิมินา ปน ตตฺถ ตตฺถ อุปฺปนฺนสฺส สุขุปฺปตฺตึ. เอกจฺเจ ภูเต นิจฺจาติอาทินา เอกจฺจสสฺสติกทิฏฺึ ทสฺเสติ. อหมฺปิ ภูเตสุ อฺตโรสฺมีติ อิมินา ปน จตุตฺถํ เอกจฺจสสฺสติกวาทํ ทสฺเสติ.

ยโต กุโตจีติ อิสฺสรปุริสาทิเภทโต ยโต กุโตจิ. เอกา ตณฺหามฺนาว ลพฺภตีติ อิธาปิ เหฏฺา วุตฺตนเยน อิตรมฺนานมฺปิ สมฺภโว นิทฺธาเรตพฺโพ. วุตฺตปฺปกาเรเยว ภูเต ตณฺหาทิฏฺีหิ อภินนฺทตีติอาทินา วตฺตพฺพตฺตา อาห ‘‘วุตฺตนยเมวา’’ติ. โยชนา กาตพฺพาติ ‘‘โย ภูตปฺตฺติยา อุปาทานภูเต ขนฺเธ ปริชานาติ, โส ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานาตี’’ติอาทินา โยชนา กาตพฺพา. อปเร ปเนตฺถ ภูตคาโมปิ ภูต-สทฺเทน สงฺคหิโตติ รุกฺขาทิวเสนปิ มฺนาวิภาคํ โยเชตฺวา ทสฺเสนฺติ, ตถา มหาภูตวเสนปิ, ตํ อฏฺกถายํ นตฺถิ.

ภูมิวิเสสาทินา เภเทนาติ ภูมิวิเสสอุปปตฺติวิเสสาทิวิภาเคน. อิทฺธิยาติ ปุฺวิเสสนิพฺพตฺเตน อานุภาเวน. กิฺจาปิ เทว-สทฺโท ‘‘วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๑๐; ๓.๑๐๒; ๕.๑๔๖-๑๔๘; ม. นิ. ๑.๔๘๖; อ. นิ. ๑๐.๑๕; อิติวุ. ๒๗) อชฏากาเส อาคโต, ‘‘เทโว จ โถกํ โถกํ ผุสายตี’’ติอาทีสุ เมเฆ, ‘‘อยฺหิ เทว กุมาโร’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๔, ๓๕, ๓๖) ขตฺติเย อาคโต, ‘‘ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคิภูโต ปริจาเรติ เทโว มฺเ’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๑๘๓; ม. นิ. ๒.๒๑๑) วิย อิธ อุปปตฺติเทเวสุ อาคโต, เทว-สทฺเทน ปน วตฺตพฺพสตฺเต อนวเสสโต อุทฺธริตฺวา ตโต อิธาธิปฺเปเต ทสฺเสตุํ ‘‘เต ติวิธา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เสสา ฉ กามาวจรา อิธ เทวาติ อธิปฺเปตา อิตเรสํ ปทนฺตเรหิ นิวตฺติตตฺตาติ อธิปฺปาโย. ภูตา เทวาติ คหิเตสุ สตฺเตสุ ตณฺหาทิมฺนานํ ปวตฺตากาเรนปิ ติวิธลกฺขณนฺติ อาห ‘‘ภูตวาเร วุตฺตนเยน เวทิตพฺพา’’ติ.

‘‘อฺตรสฺส อุปาสกสฺส ปชาปติ อภิรูปา โหตี’’ติอาทีสุ (ปารา. ๑๖๘) ปชาปติ-สทฺโท ฆรณิยํ อาคโต, ‘‘ปชาปติ กามทายี สุวณฺณวณฺณา เม ปชา โหตู’’ติอาทีสุ ทิฏฺิคติกปริกปฺปิเต, ‘‘ปชาปติสฺส เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุลฺโลเกยฺยาถา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๒๔๙) เทวเชฏฺเก, อิธ ปน อธิปตีติ วทนฺติ, ตํ อุปริ พฺรหฺมุโน คยฺหมานตฺตา เตสํ มติมตฺตํ. เทวานนฺติ จาตุมหาราชิกาทิเทวานํ. มหาราชาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน สกฺกสุยามสนฺตุสฺสิตสุนิมฺมิตวสวตฺติโน คหิตา. เตสนฺติ มหาราชาทีนํ. สตฺตสงฺขาตายาติ กามภูมิยํ สตฺตสงฺขาตาย. ปชาปตินฺติ ปชาปติภาวํ. ปชาปติภาเวน หิ มานํ ชปฺเปนฺโต ปชาปตึ มานมฺนาย มฺตีติ วุตฺโต.

เอกา ทิฏฺิมฺนาว ยุชฺชตีติ วุตฺตํ, ปชาปติโน ปน สมิปตํ สโลกตํ วา อากงฺขโต, ตถาภาวาย จิตฺตํ ปณิทหโต, ตถาลทฺธพฺพาย สมฺปตฺติยา อตฺตโน เสยฺยาทิภาวํ ทหโต จ ตณฺหามานมฺนาปิ สมฺภวนฺตีติ สกฺกา วิฺาตุํ. เย จ ธมฺมาติ อายุวณฺณาทิเก วทติ. ปชาปตินฺติ เอตฺถาปิ เหฏฺา วุตฺตนเยน อิตรมฺนานมฺปิ สมฺภโว เวทิตพฺโพ.

พฺรูหิโตติ ปริวุทฺโธ. คุณวิเสเสหีติ ฌานาทีหิ วิสิฏฺเหิ คุเณหิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมตาย. พฺรหฺม-สทฺทสฺส สติปิ อวิเสสโต วิสิฏฺวาจกตฺเต ยตฺถ ยตฺถ ปนสฺส คุณวิเสสยุตฺตาทิรูปา ปวตฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สหสฺโสติ สหสฺสิยา โลกธาตุยา อธิปติภูโต. ปมาภินิพฺพตฺโตติ ปณีเตน ปมฌาเนน นิพฺพตฺโต, ปมชฺฌานภูมิยํ วา ปมํ อภินิพฺพตฺโต. คหิตาติ เวทิตพฺพา ปธานคฺคหเณน อปฺปธานานมฺปิ เกนจิ สมฺพนฺเธน คหิตภาวสิทฺธิโต. เอตฺถ จ พฺรหฺมาติ มหาพฺรหฺมา อธิปฺเปโต. โส หิ วณฺณวนฺตตาย เจว ทีฆายุกตาย จ พฺรหฺมปาริสชฺชาทีหิ มหนฺโต พฺรหฺมาติ มหาพฺรหฺมา, ตสฺส ปน ปุโรหิตฏฺาเน ิตาติ พฺรหฺมปุโรหิตา, ปริสายํ ภวา ปริจารกาติ พฺรหฺมปาริสชฺชาติ เวทิตพฺพา. อุกฺกฏฺเกปุคฺคลภาวโต ปชาปติสฺมึ วิย พฺรหฺมนิ มฺนา วตฺตตีติ วุตฺตํ ‘‘ปชาปติวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา’’ติ. ตถา หิ พหุปุคฺคลภาวสามฺโต อาภสฺสรวาราทีนํ ภูตวารสทิสตา วุตฺตา.

ยถาวุตฺตปภาย อาภาสนสีลา วา อาภสฺสรา. เอกตลวาสิโนติ อิทํ ฌานนฺตรภูมีนํ วิย เหฏฺุปริภาวาภาวโต วุตฺตํ, านานิ ปน เนสํ ปริจฺฉินฺนาเนว. อาภสฺสเรหิ ปริตฺตา อาภา เอเตสนฺติ ปริตฺตาภา. อปฺปมาณา อาภา เอเตสนฺติ อปฺปมาณาภา.

สุภาติ โสภนา ปภา. กฺจนปิณฺโฑ วิย สสฺสิริกา กฺจนปิณฺฑสสฺสิริกา. ตตฺถ โสภนาย ปภาย กิณฺณา สุภากิณฺณาติ วตฺตพฺเพ ภา-สทฺทสฺส รสฺสตฺตํ, อนฺติม-ณ-การสฺส ห-การฺจ กตฺวา ‘‘สุภกิณฺหา’’ติ วุตฺตา. สุภาติ จ เอกคฺฆนา นิจฺจลา ปภา วุจฺจติ, ปริตฺตา สุภา เอเตสนฺติ ปริตฺตสุภา. อปฺปมาณา สุภา เอเตสนฺติ อปฺปมาณสุภา.

วิปุลผลาติ วิปุลสนฺตสุขายุวณฺณาทิผลา.

สติปิ เทวพฺรหฺมาทีนํ ปุฺผเลน ฌานผเลน จ ปฏิปกฺขาภิภเว เยสํ ปน ปุถุชฺชนอสฺสตฺเตสุ อภิภูโวหาโร ปากโฏ นิรุฬฺโห จ, เตสํ วเสนายํ เทสนา ปวตฺตาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อสฺภวสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ. ยถา ปชาปติวาเร ‘‘อิเธกจฺโจ ปชาปติสฺมึเยวา’’ติอาทินา มฺนาปวตฺติ ทสฺสิตา, ตถา อิธาปิ ตํ ทสฺเสตุํ สกฺกาติ อาห ‘‘เสสํ ปชาปติวาเร วุตฺตนยเมวา’’ติ.

ภูตวาราทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

อากาสานฺจายตนวาราทิวณฺณนา

. เอวํ สตฺตวเสน ภูมิกฺกมทสฺสเน สุทฺธาวาสานํ อคฺคหเณ การณํ นิทฺธาเรนฺโต ‘‘เอวํ ภควา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อนาคามิขีณาสวาติ อนาคามิโน จ ขีณาสวา จ. กิฺจาปิ สุทฺธาวาสา อตฺเถว อเนกกปฺปสหสฺสายุกา, อุกฺกํสปริจฺเฉทโต ปน โสฬสกปฺปสหสฺสายุกาว, น ตโต ปรนฺติ อาห ‘‘กติปยกปฺปสหสฺสายุกา’’ติ. กามรูปภเวสุ ปวตฺตมานาปิ อากาสานฺจายตนาทิธมฺมา อรูปาวจรภาวโต ตํภูมิกโวหารํ น ลภนฺตีติ ‘‘ตตฺรูปปนฺนาเยวา’’ติ อวธาเรตฺวา วุตฺตํ. อภิภูวาเร วุตฺตนเยน เวทิตพฺพา ยถารหนฺติ อธิปฺปาโย. น เหตฺถ วณฺณวนฺตตาทิ สมฺภวตีติ. ปชาปติวาเรวุตฺตนเยนาติ เอตฺถ ‘‘อหมสฺมิ อรูโป ปหีนรูปปฏิฆสฺโ’’ติอาทินา มานมฺนา เวทิตพฺพา.

อากาสานฺจายตนวาราทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทิฏฺสุตวาราทิวณฺณนา

. รูปมุเขน มฺนาวตฺถุทสฺสนํ สงฺเขโปติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘วิตฺถารโตปี’’ติ. ตมฺปิ หิ ‘‘ยตฺถ เนว ปถวี, น อาโป, น เตโช, น วาโย, น อากาสานฺจายตน’’นฺติอาทิคฺคหณํ วิย สงฺเขปโต ปฺจโวการภวทสฺสนํ โหตีติ.

ทิฏฺนฺติ ยํ จกฺขุทฺวาเรน กตทสฺสนกิริยาสมาปนํ, ยฺจ จกฺขุ ทฺวยํ ปสฺสติ ปสฺสิสฺสติ สติ สมฺภเว ปสฺเสยฺย, ตํ สพฺพกาลนฺติ วิเสสวจนิจฺฉาย อภาวโต ทิฏฺนฺเตว วุตฺตํ ยถา ‘‘ทุทฺธ’’นฺติ. เตนาห ‘‘รูปายตนสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ. อยฺจ นโย สุตาทีสุปิ โยเชตพฺโพ. สตฺตาติ รูปาทีสุ สตฺตา วิสตฺตาติ สตฺตา. สฺชนฏฺเน สามฺสทฺโทปิ เจส สตฺต-สทฺโท ‘‘อิตฺถิรูเป’’ติ วิสยวิเสสิตตฺตา อิธ ปุริสวาจโก ทฏฺพฺโพ. รตฺตาติ วตฺถํ วิย รงฺคชาเตน จิตฺตสฺส วิปริณามการเกน ฉนฺทราเคน รตฺตา สารตฺตา. คิทฺธาติ อภิกงฺขนสภาเวน อภิคิชฺฌเนน คิทฺธา เคธํ อาปนฺนา. คธิตาติ คนฺถิตา วิย โลเภน ทุมฺโมจนียภาเวน อารมฺมเณ ปฏิพทฺธา. มุจฺฉิตาติ กิเลสวเสน วิสฺีภูตา วิย อนฺกิจฺจา มุจฺฉํ โมหํ อาปนฺนา. อชฺโฌสนฺนาติ วิสเย อฺสาธารเณ วิย กตฺวา คิลิตฺวา ปรินิฏฺาเปตฺวา วิย ิตา. อิมินาติ สุวณฺณวณฺณาทิอากาเรน. มงฺคลํ อมงฺคลนฺติ อีทิสํ ทิฏฺํ มงฺคลํ, อีทิสํ อมงฺคลนฺติ . รูปสฺมึ อตฺตานํ สมนุปสฺสนนเยนาติ อิทํ เวทนาทิอรูปธมฺเม, รูปายตนวินิมุตฺตสพฺพธมฺเม วา อตฺตโต คเหตฺวา ตโต อชฺฌตฺติกํ, พาหิรํ วา รูปายตนํ ตสฺโสกาสภาเวน ปริกปฺเปตฺวา ‘‘โส โข ปน เม อยํ อตฺตา อิมสฺมึ รูปายตเน’’ติ มฺนฺโต ทิฏฺสฺมึ มฺตีติ อิมํ นยํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ปถวิโต มฺตี’’ติอาทีสุ ยถา ‘‘สอุปกรณสฺส อตฺตโน วา ปรสฺส วา’’ติอาทิมฺนาปวตฺติ ทสฺสิตา, เอวํ ‘‘ทิฏฺโต มฺตี’’ติอาทีสุ สกฺกา ตํ ทสฺเสตุนฺติ อาห ‘‘เตสํ ปถวีวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพ’’นฺติ.

อาหจฺจาติ วิสยํ อนฺวาย, ปตฺวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อุปคนฺตฺวา’’ติ. อฺมฺสํสิเลเสติ จกฺขุรูปโสตสทฺทา วิย ทุเร อหุตฺวา อฺมฺํ อลฺลิยเน.

มนสา วิฺาตํ เกวลนฺติ อตฺโถ. อิตรานิปิ หิ มนสา วิฺายนฺตีติ. เสเสหิ สตฺตหิ อายตเนหิ ปฺตฺติยา อสงฺคหิตตฺตา ตมฺปิ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ธมฺมารมฺมณสฺส วา’’ติ วุตฺตํ. ทฺวีสุปิ วิกปฺเปสุ โลกุตฺตรานมฺปิ สงฺคโห อาปนฺโนติ อาห ‘‘อิธ ปน สกฺกายปริยาปนฺนเมว ลพฺภตี’’ติ. วิตฺถาโรติ มฺนานํ ปวตฺตนาการวิตฺถาโร. เอตฺถาติ เอเตสุ สุตวาราทีสุ.

ทิฏฺสุตวาราทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอกตฺตวาราทิวณฺณนา

. สมาปนฺนกวาเรนาติ สมาปนฺนกปฺปวตฺติยา, รูปาวจรารูปาวจรฌานปฺปวตฺติยาติ อตฺโถ. สา หิ เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ เอกากาเรน ปวตฺตตีติ กตฺวา ‘‘เอกตฺต’’นฺติ วุจฺจติ, เอวฺจ กตฺวา วิปากชฺฌานปฺปวตฺติปิ อิธ สมาปนฺนกวารคฺคหเณเนว คหิตาติ ทฏฺพฺพา. อสมาปนฺนกวาเรนาติ กามาวจรธมฺมปฺปวตฺติยา. อุปจารชฺฌาเนนปิ หิ จิตฺตํ น สมฺมา เอกตฺตํ คตนฺติ วุจฺจตีติ.

โยชนาติ มฺนาโยชนา. ภินฺทิตฺวาติ วิภชิตฺวา. สาสนนเยนาติ ปาฬินเยน. ตตฺถ ‘‘เอกตฺตํ มฺตี’’ติอาทีสุ ‘‘เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินา นเยน, ‘‘นานตฺตํ มฺตี’’ติอาทีสุ ปน ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตวิธึ อนุคนฺตฺวา มฺนา เวทิตพฺพา.

ปถวีวาราทีสุ วุตฺเตน จ อฏฺกถานเยนาติ ‘‘อหํ เวทนาติ มฺติ, มม เวทนาติ มฺตี’’ติอาทินา, ‘‘อหํ รูปนฺติ มฺติ, มม รูปนฺติ มฺตี’’ติอาทินา จาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ยถานุรูปํวีมํสิตฺวา’’ติ, เอกตฺตนานตฺตภาเวสุ โย โยชนานโย สมฺภวติ, ตทนุรูปํ วิจาเรตฺวาติ อตฺโถ. เกจีติ อภยคิริวาสิโน. อปเรติ สารสมาสาจริยา. ทิฏฺาภินิเวสํ วทนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ปุถุชฺชนสฺส มฺนา นาม สกฺกายํ ภินฺทิตฺวาว ยถาอุปฏฺิตวิสยวเสเนว ปวตฺตตีติ น ตตฺถ อยเมกตฺตนโย อยํ นานตฺตนโยติ วิภาควเสเนว, เอกตฺตสฺี อตฺตา โหตีติอาทีสุ จ อตฺตโน เอกตฺตนานตฺตสฺิตา วุตฺตา, น ปน เอกตฺตํ นานตฺตนฺติ เอวํ ปวตฺตสฺส ทิฏฺาภินิเวสสฺส เอกตฺตนานตฺตภาโวติ เอวเมตฺถ ตทุภยสฺส อิธ อนธิปฺเปตภาโว ทฏฺพฺโพ.

ยํ ยถาวุตฺตปุถุชฺชโน อนวเสสโต คณฺหนฺโต คเหตุํ สกฺโกติ, ตํ ตสฺส อนวเสสโต คเหตพฺพตํ อุปาทาย ‘‘สพฺพ’’นฺติ วุจฺจตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตเมวา’’ติ อาห, สกฺกายสพฺพนฺติ อตฺโถ. สพฺพสฺมิมฺปิ เตภูมกธมฺเม อาทีนวทสฺสเน อสติ นิพฺพิทาภาวโต อสฺสาทานุปสฺสนาย ตณฺหา วฑฺฒเตวาติ อาห ‘‘สพฺพํ อสฺสาเทนฺโต สพฺพํ ตณฺหามฺนาย มฺตี’’ติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘สํโยชนิเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน วิหรโต ตณฺหา ปวฑฺฒตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๕๓, ๕๗). ‘‘สพฺพมิทํ มยา นิมฺมิต’’นฺติ เตน นิมฺมิตมฺนาย อตฺตานํ เสยฺยาทิโต ทหนฺโต เตน มาเนน นิมฺมิตํ มฺติเยว นาม นิมฺมิตมฺนาย วินา ตถามานุปฺปตฺติยา อภาวโตติ อาห ‘‘อตฺตนา นิมฺมิตํ มฺนฺโต สพฺพํ มานมฺนาย มฺตี’’ติ. สพฺพํ นตฺถีติอาทินา นเยนาติ อาทิ-สทฺเทน นิยติวาทาทิเก สงฺคณฺหาติ. มหา เม อตฺตาติ อิมินา สพฺพโต อตฺตโน วิภูติปวตฺติวาทํ ทสฺเสติ. ‘‘สพฺพํ สพฺพตฺถก’’นฺติ ทิฏฺิวเสน – ‘‘อหํ สพฺพสฺมึ มยฺหํ กิฺจนํ ปลิโพโธ สพฺพสฺมึ, ปโร สพฺพสฺมึ ปรสฺส กิฺจนํ ปลิโพโธ สพฺพสฺมิ’’นฺติอาทินา นเยนเปตฺถ มฺนา สมฺภวตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เสสํ ปถวีวาเร วุตฺตนเยน เวทิตพฺพ’’นฺติ. อปิจ ‘‘สพฺโพยํ โลโก ปุริสมโย’’ติ เอวํทิฏฺิโก ปุริสสงฺขาตโต สพฺพโต, อตฺตโน อุปฺปตฺตึ วา นิคฺคมนํ วา มฺนฺโต ทิฏฺิมฺนาย สพฺพโต มฺติ, ตสฺมึเยว ปน ทิฏฺิมฺนาย มฺิเต วตฺถุสฺมึ สิเนหํ มานฺจ อุปฺปาทยโต ตณฺหามฺนา มานมฺนา จ เวทิตพฺพา. ตํเยว ปน สพฺพํ มยฺหํ อตฺตา กตฺตา สามีติ วา มฺนฺโต ‘‘สพฺพํ เม’’ติ มฺติ, ตถายํ ทิฏฺิตณฺหาภินนฺทนาหิ อภินนฺทนฺโต สพฺพํ อภินนฺทตีติ เอวมฺเปตฺถ มฺนานํ ปวตฺติ เวทิตพฺพา.

นฺติ สกฺกายํ. อุกฺกํสคตสุขสหิตฺหิ ขนฺธปฺจกํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาที นิพฺพานนฺติ มฺติ, ตํ ปนตฺถโต สกฺกาโยเยวาติ. เอกธาติ ปฺจวิธมฺปิ นิพฺพานภาเวน เอกชฺฌํ กตฺวา วุตฺตํ. ยโตติ ยสฺมา. ปฺจหิ กามคุเณหีติ มนาปิยรูปาทีหิ ปฺจหิ กามโกฏฺาเสหิ, พนฺธเนหิ วา. สมปฺปิโต สุฏฺุ อปฺปิโต อลฺลีโน หุตฺวา ิโต. สมงฺคิภูโตติ สมนฺนาคโต. ปริจาเรตีติ เตสุ กามคุเณสุ กามโกฏฺาเสสุ ยถาสุขํ อินฺทฺริยานิ จาเรติ สฺจาเรติ อิโต จิโต จ อุปเนติ. อถ วา ลฬติ รมติ กีฬติ. เอตฺถ ทฺวิธา กามคุณา มานุสกา เจว ทิพฺพา จ. มานุสกา จ มนฺธาตุกามคุณสทิสา, ทิพฺพา ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทวราชสฺส กามคุณสทิสา. เอวรูเป กาเม อุปคตานฺหิ เต ทิฏฺธมฺมนิพฺพานสมฺปตฺตึ ปฺเปนฺติ. เตนาห ‘‘เอตฺตาวตา โข…เป… โหตี’’ติ. ทิฏฺธมฺโมติ ปจฺจกฺขธมฺโม วุจฺจติ, ตตฺถ ตตฺถ ปฏิลทฺธตฺตภาวสฺเสตํ อธิวจนํ, ทิฏฺธมฺเม นิพฺพานํ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ทุกฺขวูปสมนํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ. ปรมํ อุตฺตมํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานนฺติ ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ, ตํ ปตฺโต โหตีติ อตฺโถ. ปฺจธา อาคตนฺติ ยถาวุตฺตกามคุณสุขสฺส เจว จตุพฺพิธรูปาวจรชฺฌานสุขสฺส จ วเสน ปาฬิยํ ปฺจปฺปกาเรน อาคตํ. นิพฺพานํ อสฺสาเทนฺโตติ ปรมํ สุขํ นิสฺสรณนฺติ มฺนาย อสฺสาเทนฺโต.

‘‘อิมสฺมึ นิพฺพาเน ปตฺเต น ชายติ, น ชีรติ, น มียตี’’ติ เอวมฺปิ นิพฺพานสฺมึ มฺติ. ‘‘อิโต ปรํ ปรมสฺสาสภูตํ นตฺถี’’ติ คณฺหนฺโต นิพฺพานโต มฺติ. ตยิทํ นิพฺพานํ มยา อธิคตํ, ตสฺมา ‘‘นิพฺพานํ เม’’ติ มฺติ. ตโตเยว ตํ นิพฺพานํ ทิฏฺาภินนฺทนาย อภินนฺทติ. อยํ ตาเวตฺถ ทิฏฺิมฺนา. ตสฺมึเยว ปน ทิฏฺิมฺนาย มฺิเต วตฺถุสฺมึ สิเนหํ มานฺจ อุปฺปาทยโต ตณฺหามานมฺนาปิ นิทฺธาเรตพฺพา.

ยาทิโสติ ยถารูโป, เยหิ เชคุจฺฉาทิสภาเวหิ ปสฺสิตพฺโพติ อตฺโถ. เอสาติ อยํ. เตนสฺส อตฺตโน สุณนฺตานฺจ ปจฺจกฺขสิทฺธตมาห. อสุภาทิสภาเวน สห วิชฺชมานานํ รูปาทิธมฺมานํ กาโย สมูโหติ สกฺกาโย, อุปาทานกฺขนฺธา. ตถาติ ตสฺส ภาวภูเตน ปฏิกูลตาทิปฺปกาเรน. สพฺพมฺนาติ ปถวีอาทิเก สรูปาวธารณาทิวิภาคภินฺเน วิสเย ปวตฺติยา อเนกวิหิตา สพฺพา ตณฺหามฺนา.

เชคุจฺโฉติ ชิคุจฺฉนีโย. เตนสฺส อสุภาชฺทุคฺคนฺธปฏิกูลภาวํ ทสฺเสติ. สิทุโรติ ขเณ ขเณ ภิชฺชนสภาโว. เตนสฺส อนิจฺจอทฺธุวขยวยปภงฺคุรสภาวํ ทสฺเสติ. อยนฺติ สกฺกาโย. ทุกฺโขติ น สุโข. เตนสฺส กิจฺฉกสิราพาธทุกฺขวุตฺติตํ ทสฺเสติ. อปริณายโกติ ปริณายกรหิโต. เตนสฺส อตฺตสุฺอสารวุตฺติตํ ทสฺเสติ. นฺติ สกฺกายํ. ปจฺจนีกโตติ สภาวปฏิปกฺขโต, สุภนิจฺจสุขอตฺตาทิโตติ อตฺโถ. คณฺหนฺติ คณฺหนฺโต, ตตฺถ สุภาทิคาหวเสน อภินิวิสนฺโตติ อตฺโถ.

อิทานิ ติสฺโสปิ มฺนา อุปมาหิ วิภาเวตุํ ‘‘สุภโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยถา มหาปริฬาเห วิปุลานตฺถาวเห จ อคฺคิมฺหิ สลภสฺส ปตนํ สุภสุขสฺาย, เอวํ ตาทิเส สกฺกาเย สลภสฺส ตณฺหามฺนาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘สุภโต…เป… ตณฺหาย มฺนา’’ติ อิมินา.

คูถาที กีฏโก คูถราสึ ลทฺธา อสมฺปนฺเนปิ ตสฺมึ สมฺปนฺนาการํ ปวตฺตยมาโน อตฺตานํ อุกฺกํเสติ, เอวมเนกาทีนเว เอกนฺตเภทินิ สกฺกาเย นิจฺจสฺํ อุปฏฺเปตฺวา สมฺปตฺติมเทน ตตฺถ พาโล มานํ ชปฺเปตีติ อิมมตฺถมาห ‘‘นิจฺจสฺํ…เป… มาเนน มฺนา’’ติ.

ยถา พาโล มุทฺธธาตุโก สมฺมูฬฺโห โกจิ อาทาเส อตฺตโน ปฏิพิมฺพํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มฺเ อาทาสสามิโก, ยทิ อหมิมํ คเหตฺวา ติฏฺเยฺยํ, อนตฺถมฺปิ เม กเรยฺยา’’ติ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายนฺโต ตตฺถ อวิชฺชมานเมว กิฺจิ วิชฺชมานํ กตฺวา คณฺหิ, ตถูปโม อยํ พาโล สกฺกาเย อตฺตตฺตนิยคาหํ คณฺหนฺโตติ อิมมตฺถํ ทีเปติ ‘‘อตฺตา…เป… ทิฏฺิยา โหติ มฺนา’’ติ อิมินา.

สุขุมํ มารพนฺธนํ เวปจิตฺติพนฺธนโตปิ สุขุมตรตฺตา. เตนาห ภควา ‘‘อโห สุขุมตรํ โข, ภิกฺขเว, มารพนฺธน’’นฺติ.

พหุนฺติ อติวิย, อเนกกฺขตฺตุํ วา. วิปฺผนฺทมาโนปิ สกฺกายํ นาติวตฺตติ สํสารํ นาติวตฺตนโต. ยถาห ‘‘เย เต, ภิกฺขเว, สมณา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ, เต, สกฺกายํเยว อนุปริธาวนฺติ เสยฺยถาปิ สา คทฺทุลพนฺธโน’’ติอาทิ. ยถา หิ สตฺตสุปิ อุจฺเฉทวิกปฺเปสุ สํสารนายิกานํ ตณฺหาทิฏฺีนํ ปหานํ สมฺภวติ, เอวํ สสฺสตวิกปฺเปสุปีติ กถฺจิ ปน ทิฏฺิคติกสฺส ภววิปฺปโมกฺโข. เตน วุตฺตํ ‘‘สกฺกายํ นาติวตฺตตี’’ติ.

สโสติ โส เอโส ปุถุชฺชโน. นิจฺจนฺติ สพฺพกาลํ.

นฺติ ตสฺมา สกฺกายมลีนสฺส ชาติยาทีนมนติวตฺตนโต. อสาตโตติ ทุกฺขโต.

ปสฺสํ เอวมิมนฺติ อสุภานิจฺจทุกฺขานตฺตสภาวํ ตํ สกฺกายํ วุตฺตปฺปกาเรน ยถาภูตวิปสฺสนาปฺาสหิตาย มคฺคปฺาย ปสฺสนฺโต. ปหายาติ สมุจฺเฉทวเสน สพฺพา มฺนาโย ปชหิตฺวา. สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตีติ สกลสฺมาปิ วฏฺฏทุกฺขโต ปมุจฺจตีติ.

เอกตฺตวาราทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปมนยวณฺณนา นิฏฺิตา.

เสกฺขวารทุติยนยวณฺณนา

. อธิปฺเปตสฺส อตฺถสฺส อนิยเมตฺวา วจนํ อุทฺเทโส, นิยเมตฺวา วจนํ นิทฺเทโสติ อาห ‘‘โยติ อุทฺเทสวจนํ, โสติ นิทฺเทสวจน’’นฺติ. สมฺปิณฺฑนตฺโถติ สมุจฺจยตฺโถ. สมฺปิณฺฑนฺจ สภาคตาวเสน โหตีติ อาห – ‘‘อารมฺมณสภาเคนา’’ติ, อารมฺมณสฺส สภาคตาย สทิสตายาติ อตฺโถ. เสกฺขํ ทสฺเสติ สามฺโชตนาย วิเสเส อวฏฺานโต, เสกฺขวิสยตฺตา จ ตสฺส วจนสฺส.

เกนฏฺเนาติ ยสฺมา าเณน อรณียโต อตฺโถ สภาโว, ตสฺมา เกนฏฺเน เกน สภาเวน เกน ลกฺขเณน เสกฺโข นาม โหตีติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน เสกฺขธมฺมาธิคเมน ปุคฺคเล เสกฺขโวหารปฺปวตฺติ, ตสฺมา ‘‘เสกฺขธมฺมปฏิลาภโต เสกฺโข’’ติ วุตฺตํ. เสกฺขธมฺมา นาม จตูสุ มคฺเคสุ, เหฏฺิเมสุ จ ตีสุ ผเลสุ สมฺมาทิฏฺิอาทโย. เตนาห ‘‘เสกฺขาย สมฺมาทิฏฺิยา…เป… เอตฺตาวตา โข ภิกฺขุ เสกฺโข โหตี’’ติ. เอวํ อภิธมฺมปริยาเยน เสกฺขลกฺขณํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สุตฺตนฺติกปริยาเยนปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สิกฺขตีติ อิมินา สิกฺขาตฺตยสมงฺคี อปรินิฏฺิตสิกฺโข เสกฺโขติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘สิกฺขตี’’ติอาทิ . สิกฺขาหิ นิจฺจสมาโยคทีปนตฺถฺเจตฺถ ‘‘สิกฺขติ สิกฺขตี’’ติ อาเมฑิตวจนํ. อถ วา สิกฺขนํ สิกฺขา, สา เอตสฺส สีลนฺติ เสกฺโข. โส หิ อปริโยสิตสิกฺขตฺตา ตทธิมุตฺตตฺตา จ เอกนฺเตน สิกฺขนสีโล, น อเสกฺโข วิย ปรินิฏฺิตสิกฺโข ตตฺถ ปฏิปฺปสฺสทฺธุสฺสุกฺโก, นาปิ วิสฺสฏฺสิกฺโข ปจุรชโน วิย ตตฺถ อนธิมุตฺโต. อถ วา อริยาย ชาติยา ตีสุ สิกฺขาสุ ชาโต, ตตฺถ วา ภโวติ เสกฺโข. อถ วา อิกฺขติ เอตายาติ อิกฺขา, มคฺคผลสมฺมาทิฏฺิ. สห อิกฺขายาติ เสกฺโข.

อนุโลมปฏิปทาย ปริปูรการีติ ยา สา สีลาทิกา วิปสฺสนนฺตา ทุกฺขนิโรธคามินิยา โลกุตฺตราย ปฏิปทาย อนุโลมนโต อนุโลมปฏิปทา, ตสฺสา สมฺปาทเนน ปริปูรการีติ. อิทานิ ตํ ปฏิปทํ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน ทสฺเสตุํ ‘‘สีลสมฺปนฺโน’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สีลสมฺปนฺโนติ ปาติโมกฺขสํวรสีเลน สมนฺนาคโต, ปริปุณฺณปาติโมกฺขสีโล วา. ปาติโมกฺขสีลฺหิ อิธ ‘‘สีล’’นฺติ อธิปฺเปตํ ปธานภาวโต. รูปาทิอารมฺมเณสุ อภิชฺฌาทีนํ ปวตฺตินิวารณสงฺขาเตน มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ ปิธาเนน อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร. ปริเยสนาทิวเสน โภชเน ปมาณชานเนน โภชเน มตฺตฺู. วิคตถินมิทฺโธ หุตฺวา รตฺตินฺทิวํ กมฺมฏฺานมนสิกาเร ยุตฺตตาย ชาคริยานุโยคมนุยุตฺโต. กถํ ปน ชาคริยานุโยโค โหตีติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุพฺพรตฺตา…เป… วิหรตี’’ติ วุตฺตํ. ยถาห ‘‘กถฺจ ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตํ ชาคริยานุโยคมนุยุตฺโต โหติ? อิธ ภิกฺขุ ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ จิตฺตํ ปริโสเธติ, รตฺติยา ปมํ ยามํ จงฺกเมน…เป… โสเธติ, เอวํ โข ภิกฺขุ ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตํ ชาคริยานุโยคมนุยุตฺโต โหตี’’ติ (วิภ. ๕๑๙). อิมสฺมึ ปนตฺเถติ ‘‘มฺติ, น มฺตี’’ติ จ วตฺตพฺพภาวสงฺขาเต อตฺเถ. โน ปุถุชฺชโน อธิปฺเปโต ‘‘อปฺปตฺตมานโส, อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมาโน’’ติ จ วุตฺตตฺตา.

สมฺปยุตฺตตฺตา มนสิ ภโวติ ราโค มานโส, มโน เอว มานสนฺติ กตฺวา จิตฺตํ มานสํ, อนวเสสโต มานํ สียติ สมุจฺฉินฺทตีติ อคฺคมคฺโค มานสํ, ตนฺนิพฺพตฺตตฺตา ปน อรหตฺตสฺส มานสตา ทฏฺพฺพา. ชเนสุตาติ ชเน สกลสตฺตโลเก วิสฺสุตา, ปตฺถฏยสาติ อตฺโถ.

นตฺถิ อิโต อุตฺตรนฺติ อนุตฺตรํ. ตํ ปน สพฺพเสฏฺํ โหนฺตํ เอกนฺตโต สทิสรหิตเมว โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อนุตฺตรนฺติ เสฏฺํ,อสทิสนฺติ อตฺโถ’’ติ. ปตฺถยมานสฺสาติ ตณฺหายนฺตสฺส. ปชปฺปิตานีติ มานชปฺปนานิ. ยสฺมิฺหิ วตฺถุสฺมึ ตณฺหายนา ปตฺถยมานมฺนา สมฺภวติ, ตสฺมึเยว ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทีนิ ปชปฺปิตานิ สมฺภวนฺตีติ อธิปฺปาโย. ปเวธีตนฺติ ปริวาสิตํ. ปกปฺปิเตสูติ ตณฺหาทิฏฺิกปฺเปหิ ปริกปฺปิเตสุ อารมฺมเณสุ. โสตนฺติ กิเลสโสตํ . ตสฺมิฺหิ ฉินฺเน อิตรโสตํ ฉินฺนเมวาติ. วิทฺธสฺตนฺติ วินาสิตํ. ตฺจ โข โลมหํสมตฺตมฺปิ อเสเสตฺวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วินฬีกต’’นฺติ, วิคตาวเสสํ กตนฺติ อตฺโถ. อธิมุตฺติยา อิธาธิปฺเปตปตฺถนา ปากฏา โหตีติ ‘‘ตนฺนินฺโน’’ติอาทิ วุตฺตํ, น ปน กุสลจฺฉนฺทสฺส อธิมุตฺติภาวโต. อธิมุจฺจนฺโตติ โอกปฺเปนฺโต.

สพฺพาการวิปรีตายาติ ‘‘สุภํ สุขํ นิจฺจ’’นฺติอาทีนํ สพฺเพสํ อตฺตนา คเหตพฺพาการานํ วเสน ตพฺพิปรีตตาย, อนวเสสโต ธมฺมสภาววิปรีตาการคาหินิยาติ อตฺโถ. อภิวิสิฏฺเน าเณนาติ อสมฺปชานนมิจฺฉาชานนานิ วิย น ธมฺมสภาวํ อปฺปตฺวา นาปิ อติกฺกมิตฺวา, อถ โข อวิรชฺฌิตฺวา ธมฺมสภาวสฺส อภิมุขภาวปฺปตฺติยา อภิวิสิฏฺเน าเณน, าตปริฺาธิฏฺานาย ตีรณปริฺาย ปหานปริฺเกเทเสน จาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปถวีติ…เป… วุตฺตํ โหตี’’ติ. ปถวีภาวนฺติ ปถวิยํ อภิฺเยฺยภาวํ. ลกฺขณปถวี หิ อิธาธิปฺเปตา, ปริฺเยฺยภาโว ปนสฺสา ‘‘อนิจฺจาติปี’’ติอาทินา คหิโตติ. อภิฺตฺวาติ าตตีรณปหานปริฺาหิ เหฏฺิมมคฺคาเณหิ จ อภิชานิตฺวา. มามฺีติ อปฺปหีนานํ มฺนานํ วเสน มาติ มฺตีติ มา, ปหีนานํ ปน วเสน น มฺตีติ อมฺี, มา จ โส อมฺี จ มามฺีติ เอวเมตฺถ ปทวิภาคโต อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ เยน ภาเคน อมฺี, เตน มฺีติ น วตฺตพฺโพ. เยน ปน ภาเคน มฺี, เตน อมฺีติ น วตฺตพฺโพติ. เอวํ ปฏิกฺเขปปฺปธานํ อตฺถํ ทสฺเสตุํ อฏฺกถายํ ‘‘มฺี จ น มฺี จ น วตฺตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ปฏิกฺเขปปฺปธานตา เจตฺถ ลพฺภมานานมฺปิ มฺนานํ ทุพฺพลภาวโต เวทิตพฺพา. เตเนวาห – ‘‘อิตรา ปน ตนุภาวํ คตา’’ติ. มาติ จ นิปาตปทเมตํ, อเนกตฺถา จ นิปาตาติ อธิปฺปาเยน ‘‘เอตสฺมิฺหิ อตฺเถ อิมํ ปทํ นิปาเตตฺวา วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. นิปาเตตฺวาติ จ ปกติอาทิวิภาคนิทฺธารเณ อนุมานนยํ มุฺจิตฺวา ยถาวุตฺเต อตฺเถ ปจฺจกฺขโตว ทสฺเสตฺวาติ อตฺโถ. ปุถุชฺชโน วิยาติ เอเตนสฺส อุปริมคฺควชฺฌตณฺหามานวเสน มฺนา น ปฏิกฺขิตฺตาติ ทีเปติ.

อถ วา มา มฺีติ ปริกปฺปกิริยาปฏิกฺเขปวจนเมตํ ‘‘มา รนฺธยุํ, มา ชีรี’’ติอาทีสุ วิย, น มฺเยฺยาติ วุตฺตฺโหติ. ยถา หิ ปุถุชฺชโน สพฺพโส อปฺปหีนมฺนตฺตา ‘‘มฺติ’’จฺเจว วตฺตพฺโพ, ยถา จ ขีณาสโว สพฺพโส ปหีนมฺนตฺตา น มฺติ เอว, น เอวํ เสกฺโข. ตสฺส หิ เอกจฺจา มฺนา ปหีนา, เอกจฺจา อปฺปหีนา, ตสฺมา อุภยภาวโต อุภยถาปิ น วตฺตพฺโพ. นนุ จ อุภยภาวโต อุภยถาปิ วตฺตพฺโพติ? น. ยา หิ อปฺปหีนา, ตาปิสฺส ตนุภาวํ คตาติ ตาหิปิ โส น มฺเยฺย วิภูตตราย มฺนาย อภาวโต, ปเคว อิตราหิ. เตนาห ภควา ‘‘มา มฺี’’ติ. เตน วุตฺตํ ‘‘มา มฺีติ ปริกปฺปกิริยาปฏิกฺเขปวจนเมตํ ‘มา รนฺธยุํ, มา ชีรี’ติอาทีสุ วิย, น มฺเยฺยาติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. อยฺจสฺส อมฺนา วตฺถุโน ปริฺเยฺยตฺตา, น อเสกฺขสฺส วิย ปริฺาตตฺตา. ยฺหิ เอกนฺตโต ปริชานิตพฺพํ ปริชานิตุํ สกฺกา, น ตตฺถ ตพฺพิธุเร วิย ปุถุชฺชนสฺส มฺนา สมฺภวนฺติ. เตนาห ‘‘ปริฺเยฺยํ ตสฺสาติ วทามี’’ติ.

โอกฺกนฺตนิยามตฺตาติ อนุปวิฏฺสมฺมตฺตนิยามตฺตา, โอติณฺณมคฺคโสตตฺตาติ อตฺโถ. สมฺโพธิปรายณตฺตาติ อุปริมคฺคสมฺโพธิปฏิสรณตฺตา, ตทธิคมาย นินฺนโปณปพฺภารภาวโตติ อตฺโถ. อุภเยนปิ ตสฺส อวสฺสํภาวินี เสสปริฺาติ ทสฺเสติ. ปริฺเยฺยนฺติ ปริชานิตพฺพภาเวน ิตํ, ปริฺาตุํ วา สกฺกุเณยฺยํ. ตปฺปฏิปกฺขโต อปริฺเยฺยํ. ปุถุชฺชนสฺส วิยาติ เอเตน อิธาธิปฺเปตปุถุชฺชนสฺส ปริฺเยฺยภาวาสงฺกา เอว นตฺถิ อนธิการโตติ ทสฺเสติ. ‘‘มาภินนฺที’’ติ เอตฺถาปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เสกฺขวารทุติยนยวณฺณนา นิฏฺิตา.

ขีณาสววารตติยาทินยวณฺณนา

. สภาโค ทิฏฺสจฺจตาทิสามฺเน. อารกา กิเลเสหิ อรหนฺติ ปทสฺส นิรุตฺตินเยน อตฺถํ วตฺวา ตํ ปาฬิยา สมาเนนฺโต ‘‘วุตฺตฺเจต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปาปกาติ ลามกฏฺเน ทุคฺคติสมฺปาปนฏฺเน จ ปาปกา. สาวชฺชฏฺเน อโกสลฺลสมฺภูตฏฺเน จ อกุสลา. สํกิเลสํ อรหนฺติ, ตตฺถ วา นิยุตฺตาติ สํกิเลสิกา. ปุนพฺภวสฺส กรณสีลา, ปุนพฺภวผลํ อรหนฺตีติ วา โปโนภวิกา. สห ทรเถน ปริฬาเหน ปวตฺตนฺตีติ สทรา. ทุกฺโข กฏุโก, ทุกฺขโม วา วิปาโก เอเตสนฺติ ทุกฺขวิปากา. อนาคเต ชาติยา เจว ชรามรณานฺจ วฑฺฒเนน ชาติชรามรณิยาติ. เอวเมเตสํ ปทานํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กามฺจายํ สุตฺตนฺตวณฺณนา, อภิธมฺมนโย ปน นิปฺปริยาโยติ เตน ทสฺเสนฺโต ‘‘จตฺตาโร อาสวา’’ติอาทิมาห. สมุจฺฉินฺนา ปฏิปฺปสฺสทฺธาติ น เกวลํ สมุจฺฉินฺนา เอว, อถ โข ปฏิปฺปสฺสทฺธาปีติ มคฺคกิจฺเจน สทิสํ ผลกิจฺจมฺปิ นิทฺธาเรติ.

สีลวิโสธนาทินา ครูนํ ปฏิปตฺติยา อนุกรณํ ครุสํวาโส. อริยมคฺคปฏิปตฺติ เอว อริยมคฺคสํวาโส. ทส อริยาวาสา นาม ปฺจงฺควิปฺปหีนตาทโย. เย สนฺธาย วุตฺตํ –

‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อริยาวาสา, เย อริยา อาวสึสุ วา อาวสนฺติ วา อาวสิสฺสนฺติ วา. กตเม ทส? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต, เอการกฺโข, จตุราปสฺเสโน, ปนุณฺณปจฺเจกสจฺโจ, สมวยสฏฺเสโน, อนาวิลสงฺกปฺโป, ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร, สุวิมุตฺตจิตฺโต, สุวิมุตฺตปฺโ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส อริยาวาสา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๙).

วุสฺสตีติ วา วุสิตํ, อริยมคฺโค, อริยผลฺจ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ อติสยวจนิจฺฉาวเสน อรหา ‘‘วุสิตวา’’ติ วุตฺโต. กรณียนฺติ ปริฺาปหานภาวนาสจฺฉิกิริยมาห. ตํ ปน ยสฺมา จตูหิ มคฺเคหิ จตูสุ สจฺเจสุ กตฺตพฺพตฺตา โสฬสวิธนฺติ เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘จตูหิ มคฺเคหิกรณีย’’นฺติ. สมฺมาวิมุตฺตสฺสาติ อคฺคมคฺคผลปฺาหิ สมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธีนํ วเสน สุฏฺุ วิมุตฺตสฺส. สนฺตจิตฺตสฺสาติ ตโต เอว สพฺพกิเลสทรถปริฬาหานํ วูปสนฺตจิตฺตสฺส. ภินฺนกิเลสสฺส ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน. กตสฺส ปริฺาทิกิจฺจสฺส ปฏิจโย ปุน กรณํ นตฺถิ, ตโต เอว กรณียํ น วิชฺชติ น อุปลพฺภติ.

ภาราติ โอสีทาปนฏฺเน ภารา วิยาติ ภารา. วุตฺตฺหิ ‘‘ภารา หเว ปฺจกฺขนฺธา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๓.๒๒). อตฺตโน โยนิโสมนสิการายตฺตนฺติ อตฺตุปนิพนฺธํ, สสนฺตานปริยาปนฺนตฺตา อตฺตานํ อวิชหนํ. ตยิทํ ยทิปิ สพฺพสฺมึ อนวชฺชธมฺเม สมฺภวติ, อกุปฺปสภาวาปริหานธมฺเมสุ ปน อคฺคภูเต อรหตฺเต สาติสยํ, เนตเรสูติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อตฺตโน ปรมตฺถฏฺเน วา’’ติ, อุตฺตมฏฺภาเวนาติ อตฺโถ.

สุตฺตนฺตนโย นาม ปริยายนโยติ นิปฺปริยายนเยน สํโยชนานิ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภวราคอิสฺสามจฺฉริยสํโยชน’’นฺติ อาห, น ปน ‘‘รูปราโค’’ติอาทินา. ภเวสุ สํโยชนฺตีติ กิเลสกมฺมวิปากวฏฺฏานํ ปจฺจโย หุตฺวา นิสฺสริตุํ อปฺปทานวเสน พนฺธนฺติ. สติปิ หิ อฺเสํ ตปฺปจฺจยภาเว น วินา สํโยชนานิ เตสํ ตปฺปจฺจยภาโว อตฺถิ, โอรมฺภาคิยอุทฺธมฺภาคิยสงฺคหิเตหิ จ เตหิ ตํตํภวนิพฺพตฺตกกมฺมนิยโม ภวนิยโม จ โหติ , น จ อุปจฺฉินฺนสํโยชนสฺส กตานิปิ กมฺมานิ ภวํ นิพฺพตฺเตนฺตีติ เตสํเยว สํโยชนฏฺโ ทฏฺพฺโพ.

สมฺมา อฺายาติ อาชานนภูตาย อคฺคมคฺคปฺาย สมฺมา ยถาภูตํ ทุกฺขาทีสุ โย ยถา ชานิตพฺโพ, ตํ ตถา ชานิตฺวา. จิตฺตวิมุตฺติ สพฺพสฺส จิตฺตสํกิเลสสฺส วิสฺสคฺโค. นิพฺพานาธิมุตฺติ นิพฺพาเน อธิมุจฺจนํ ตตฺถ นินฺนโปณปพฺภารตา. นฺติ ปถวีอาทิกํ. ปริฺาตํ, น ปุถุชฺชนสฺส วิย อปริฺาตํ, เสกฺขสฺส วิย ปริฺเยฺยํ วา. ตสฺมาติ ปริฺาตตฺตา.

จตุตฺถปฺจมฉฏฺวารา ตตฺถ ตตฺถ กิเลสนิพฺพานกิตฺตนวเสน ปวตฺตตฺตา นิพฺพานวารา นาม. ตตฺถ ปถวีอาทีนํ ปริฺาตตฺตา อมฺนา, สา ปน ปริฺา ราคาทีนํ ขเยน สิทฺธาติ อิมสฺส อตฺถสฺส ทีปนวเสน ปาฬิ ปวตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปริฺาตํ ตสฺสาติ สพฺพปเทหิ โยเชตฺวาปุนขยา ราคสฺส วีตราคตฺตาติ โยเชตพฺพํ. เอส นโย อิตเรสู’’ติ อาห. ตตฺถ อิตเรสูติ ปฺจมฉฏฺวาเรสุ. ยทิ เอวํ กสฺมา ปาฬิ เอวํ น ทิสฺสตีติ อาห ‘‘เทสนา ปน เอกตฺถ วุตฺตํ สพฺพตฺถ วุตฺตเมว โหตีติ สํขิตฺตา’’ติ.

น ขยา ราคสฺส วีตราโค สพฺพโส อปฺปหีนราคตฺตา. วิกฺขมฺภิตราโค หิ โสติ. พาหิรกคฺคหณฺเจตฺถ ตถาภาวสฺเสว เตสุ ลพฺภนโต, น เตสุ เอว ตถาภาวสฺส ลพฺภนโต. อิทานิ ยา สา ‘‘ปริฺาตํ ตสฺสา’’ติ สพฺพปเทหิ โยชนา วุตฺตา, ตํ วินาปิ นิพฺพานวารอตฺถโยชนํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ มฺนํ น มฺตีติ มฺนา นปฺปวตฺตตีติ อตฺโถ. มฺนาย มฺิตพฺพตฺเตปิ ตสฺสา วตฺถุอนฺโตคธตฺตาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

ยทิปิ ปริฺาตปทํ อคฺคเหตฺวา นิพฺพานวารเทสนา ปวตฺตา, เอวมฺปิ ‘‘ขยา’’ติอาทิปเทหิ ปริฺาสิทฺธิ เอว ปกาสียตีติ โก เตสํ วิเสโสติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ. มคฺคภาวนาปาริปูริทสฺสนตฺถํ วุตฺโต, มคฺคกิจฺจนฺตา หิ ปริฺาโยติ อธิปฺปาโย. อิตเร…เป… เวทิตพฺพา วีตราคาทิกิตฺตนโตติ. ทฺวีหิ วา การเณหีติ ยถาวุตฺตการณทฺวเยน. อสฺสาติ ขีณาสวสฺส. อยํ วิเสโสติ อิทานิ วุจฺจมาโน วิเสโส. ยทิปิ ขีณาสโว เอกนฺเตน วีตราโค วีตโทโส วีตโมโห เอว จ โหติ, ยาย ปน ปุพฺพภาคปฏิปทาย วีตราคตาทโย สวิเสสาติ วตฺตพฺพตํ ลภนฺติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตีสุ หี’’ติอาทิมาห . ‘‘รตฺโต อตฺถํ น ชานาตี’’ติอาทินา (เนตฺติ. ๑๑) ราเค อาทีนวํ ปสฺสโต ‘‘ราโค จ นาม สุขาภิสงฺเคน อุปฺปชฺชติ, สุขฺจ วิปริณามโต ทุกฺขํ. ปเคว อิตร’’นฺติ สเหตุเก ราเค อาทีนวทสฺสนํ ทุกฺขานุปสฺสนาย นิมิตฺตํ, ทุกฺขานุปสฺสนา จ ปณิธิยา ปฏิปกฺขภาวโต อปฺปณิหิตวิโมกฺขํ ปริปุเรตีติ อาห ‘‘ราเค…เป… วีตราโค โหตี’’ติ. ตถา ‘‘ทุฏฺโ อตฺถํ น ชานาตี’’ติอาทินา (อิติวุ. ๘๘) โทเส อาทีนวํ ปสฺสโต ‘‘โทโส จ นาม ทุกฺขํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ, ตฺจ อุภยํ อนวฏฺิตํ อิตฺตรํ ปภงฺคู’’ติ สเหตุเก โทเส อาทีนวทสฺสนํ อนิจฺจานุปสฺสนาย นิมิตฺตํ, อนิจฺจานุปสฺสนา จ นิจฺจนิมิตฺตาทีนํ ปฏิปกฺขภาวโต อนิมิตฺตวิโมกฺขํ ปริปูเรตีติ อาห ‘‘โทเส…เป… โหตี’’ติ. ตถา ‘‘มูฬฺโห อตฺถํ น ชานาตี’’ติอาทินา (อิติวุ. ๘๘) โมเห อาทีนวํ ปสฺสโต ‘‘โมโห นาม ยถาสภาวคฺคหณสฺส ปริพฺภมนฺโต’’ติ โมหสฺส วิกฺขมฺภนํ อนตฺตานุปสฺสนาย นิมิตฺตํ, อนตฺตานุปสฺสนาย จ อตฺตาภินิเวสสฺส ปฏิปกฺขภาวโต สุฺตํ วิโมกฺขํ ปริปูเรตีติ อาห ‘‘โมเห…เป… วีตโมโห โหตี’’ติ.

เอวํ สนฺเตติ ยทิ วีตราคตาทโย วิโมกฺขวิภาเคน วุตฺตา, เอวํ สนฺเต. ตสฺมาติ ยสฺมา วิโมกฺขมุขวิโมกฺขานํ วเสน นิยเมตฺวา น วุตฺตํ, ตสฺมา. ยํ กิฺจิ อรหโต สมฺภวนฺตํ วิภชิตฺวา วุจฺจตีติ วารตฺตยเทสนา กตาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ยํ อรหโต’’ติอาทินา.

เอวํ วิมุตฺติวิภาเคน ขีณาสวสฺส วิภาคํ วารตฺตยเทสนานิพนฺธนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อวิภาเคนปิ ตตฺถ ปริฺาวิสยสฺส อนุสยวิสยสฺส จ วิภาคํ ตสฺส นิพนฺธนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อวิเสเสนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุเปกฺขาเวทนา วิเสสโต สงฺขารทุกฺขํ สมฺโมหาธิฏฺานนฺติ วุตฺตํ ‘‘สงฺขาร…เป… โมโห’’ติ. เสสํ วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยเมว.

ขีณาสววารตติยาทินยวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตถาคตวารสตฺตมนยวณฺณนา

๑๒. เยหิ (ที. นิ. อภิ. ฏี. ๑.๗.จูฬสีลวณฺณนา; อ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑๗๐) คุณวิเสเสหิ นิมิตฺตภูเตหิ ภควติ ‘‘ตถาคโต’’ติ อยํ สมฺา ปวตฺตา, ตํ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อฏฺหิ การเณหิ ภควา ตถาคโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. คุณเนมิตฺตกาเนว หิ ภควโต สพฺพานิ นามานิ. ยถาห –

‘‘อสงฺขฺเยยฺยานิ นามานิ, สคุเณน มเหสิโน;

คุเณน นามมุทฺเธยฺยํ, อปิ นามสหสฺสโต’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. ๑๓๑๓; อุทา. อฏฺ. ๕๓; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๗๖; ที. นิ. อภิ. ฏี. ๑.๗.จูฬสีลวณฺณนา; อ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑๗๐) –

ตถา อาคโตติ เอตฺถ อาการนิยมนวเสน โอปมฺมสมฺปฏิปาทนตฺโถ ตถา-สทฺโท. สามฺโชตนา หิ วิเสเส อวติฏฺตีติ ปฏิปาทคมนตฺโถ อาคต-สทฺโท, น าณคมนตฺโถ ‘‘ตถลกฺขณํ อาคโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๗; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๒; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๓.๗๘; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑๗๐; อุทา. อฏฺ. ๑๘; อิติวุ. อฏฺ. ๓๘; เถรคา. อฏฺ. ๑.๑.๓; พุ. วํ. อฏฺ. ๒.พาหิรนิทาน; มหานิ. อฏฺ. ๑๔) วิย, นาปิ กายคมนาทิอตฺโถ ‘‘อาคโต โข มหาสมโณ, มาคธานํ คิริพฺพช’’นฺติอาทีสุ (มหาว. ๖๓) วิย. ตตฺถ ยทาการนิยมนวเสน โอปมฺมสมฺปฏิปาทนตฺโถ ตถา-สทฺโท, ตํ กรุณาปฺปธานตฺตา มหากรุณามุเขน ปุริมพุทฺธานํ อาคมนปฏิปทํ อุทาหรณวเสน สามฺโต ทสฺเสนฺโต ยํตํสทฺทานํ เอกนฺตสมฺพนฺธภาวโต ‘‘ยถา สพฺพโลก…เป… อาคตา’’ติ สาธารณโต วตฺวา ปุน ตํ ปฏิปทํ มหาปทานสุตฺตาทีสุ (ที. นิ. ๒.๔) สมฺพหุลนิทฺเทเสน สุปากฏานํ อาสนฺนานฺจ วิปสฺสีอาทีนํ ฉนฺนํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ วเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา วิปสฺสี ภควา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เยน อภินีหาเรนาติ มนุสฺสตฺต-ลิงฺคสมฺปตฺติ-เหตุ-สตฺถารทสฺสน-ปพฺพชฺชา-อภิฺาทิคุณสมฺปตฺติ-อธิการ-ฉนฺทานํ วเสน อฏฺงฺคสมนฺนาคเตน กายปณิธานมหาปณิธาเนน. สพฺเพสฺหิ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ กายปณิธานํ อิมินาว นีหาเรน สมิชฺฌตีติ.

เอวํ มหาภินีหารวเสน ‘‘ตถาคโต’’ติ ปทสฺส อตฺถํ วตฺวา อิทานิ ปารมีปูรณวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา ยถา วิปสฺสี ภควา…เป… ยถา กสฺสโป ภควา ทานปารมึ ปูเรตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิมสฺมึ ปน าเน สุตฺตนฺติกานํ มหาโพธิยานปฏิปทาย โกสลฺลชนนตฺถํ ปารมีกถา วตฺตพฺพา, สา ปน สพฺพาการสมฺปนฺนา จริยาปิฏกวณฺณนาย (จริยา. ปกิณฺณกกถา) วิตฺถารโต นิทฺทิฏฺา, ตสฺมา อตฺถิเกหิ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. ยถา ปน ปุพฺเพ วิปสฺสีอาทโย สมฺมาสมฺพุทฺธา อภินีหารสมฺปตฺติยํ ปติฏฺาย สุวิสุทฺธาย ปฏิปทาย อนวเสสโต สมฺมเทว สพฺพา ปารมิโย ปริปูเรสุํ, เอวํ อมฺหากมฺปิ ภควา ปริปูเรสีติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘สมตฺตึ สปารมิโย ปูเรตฺวา’’ติ. สติปิ องฺคปริจฺจาคาทีนํ ทานปารมิภาเว ปริจฺจาควิเสสภาวทสฺสนตฺถฺเจว สุทุกฺกรภาวทสฺสนตฺถฺจ ‘‘ปฺจ มหาปริจฺจาเค’’ติ วิสุํ คหณํ, ตโตเยว จ องฺคปริจฺจาคโต วิสุํ นยนปริจฺจาคคฺคหณมฺปิ กตํ, ปริคฺคหปริจฺจาคภาวสามฺเปิ ธนรชฺชปริจฺจาคโต ปุตฺตทารปริจฺจาคคฺคหณฺจ กตํ.

คตปจฺจาคติกวตฺตปูรณาทิกาย ปุพฺพภาคปฏิปทาย สทฺธึ อภิฺาสมาปตฺตินิปฺผาทนํ ปุพฺพโยโค, ทานาทีสุเยว สาติสยปฏิปตฺตินิปฺผาทนํ ปุพฺพจริยา, สา จริยาปิฏกสงฺคหิตา. อภินีหาโร ปุพฺพโยโค, ทานาทิปฏิปตฺติ, กายวิเวกวเสน เอกจริยา วา ปุพฺพจริยาติ เกจิ. ทานาทีนฺเจว อปฺปิจฺฉตาทีนฺจ สํสารนิพฺพาเนสุ อาทีนวานิสํสานฺจ วิภาวนวเสน สตฺตานํ โพธิตฺตเย ปติฏฺาปนปริปาจนวเสน จ ปวตฺตา กถา ธมฺมกฺขานํ, าตีนํ อตฺถจริยา าตตฺถจริยา, สาปิ กรุณาย วเสเนว. อาทิ-สทฺเทน โลกตฺถจริยาทโย สงฺคณฺหาติ. กมฺมสฺสกตาณวเสน, อนวชฺชกมฺมายตนสิปฺปายตนวิชฺชาฏฺานปริจยวเสน ขนฺธายตนาทิปริจยวเสน, ลกฺขณตฺตยตีรณวเสน จ าณจาโร พุทฺธิจริยา, สา ปน อตฺถโต ปฺาปารมีเยว, าณสมฺภารทสฺสนตฺถํ วิสุํ คหณํ. โกฏีติ ปริยนฺโต, อุกฺกํโสติ อตฺโถ.

จตฺตาโร สติปฏฺาเน ภาเวตฺวา พฺรูเหตฺวาติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ภาเวตฺวาติ อุปฺปาเทตฺวา. พฺรูเหตฺวาติ วฑฺเฒตฺวา. สติปฏฺานาทิคฺคหเณน อาคมนปฏิปทํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทสฺเสติ. วิปสฺสนาสหคตา เอว วา สติปฏฺานาทโย ทฏฺพฺพา. เอตฺถ จ ‘‘เยน อภินีหาเรนา’’ติอาทินา อาคมนปฏิปทาย อาทึ ทสฺเสติ, ‘‘ทานปารมี’’ติอาทินา มชฺฌํ, ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺาเน’’ติอาทินา ปริโยสานนฺติ เวทิตพฺพํ.

สมฺปติชาโตติ มุหุตฺตชาโต มนุสฺสานํ หตฺถโต มุตฺตมตฺโต, น มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺตมตฺโต. นิกฺขนฺตมตฺตฺหิ มหาสตฺตํ ปมํ พฺรหฺมาโน สุวณฺณชาเลน ปฏิคฺคณฺหึสุ, เตสํ หตฺถโต จตฺตาโร มหาราชาโน อชินปฺปเวณิยา, เตสํ หตฺถโต มนุสฺสา ทุกูลจุมฺพฏเกน ปฏิคฺคณฺหึสุ, มนุสฺสานํ หตฺถโต มุจฺจิตฺวา ปถวิยํ ปติฏฺิโตติ. ยถาห ภควา มหาปทานเทสนายํ. เสตมฺหิ ฉตฺเตติ ทิพฺพเสตจฺฉตฺเต. อนุธารียมาเนติ ธารียมาเน. เอตฺถ จ ฉตฺตคฺคหเณเนว ขคฺคาทีนิ ปฺจ กกุธภณฺฏานิปิ วุตฺตาเนวาติ ทฏฺพฺพํ. ขคฺคตาลวณฺฏโมรหตฺถกวาลพีชนีอุณฺหีสปฏฺฏาปิ หิ ฉตฺเตน สห ตทา อุปฏฺิตา อเหสุํ, ฉตฺตาทีนิเยว จ ตทา ปฺายึสุ, น ฉตฺตาทิคฺคาหกา. สพฺพา จ ทิสาติ ทสปิ ทิสา. นยิทํ สพฺพทิสาวิโลกนํ สตฺตปทวีติหารุตฺตรกาลํ ทฏฺพฺพํ. มหาสตฺโต หิ มนุสฺสานํ หตฺถโต มุจฺจิตฺวา ปุรตฺถิมทิสํ โอโลเกสิ. ตตฺถ เทวมนุสฺสา คนฺธมาลาทีหิ ปูชยมานา ‘‘มหาปุริส อิธ ตุมฺเหหิ สทิโสปิ นตฺถิ, กุโต อุตฺตริตโร’’ติ อาหํสุ. เอวํ จตสฺโส ทิสา, จตสฺโส อนุทิสา; เหฏฺา, อุปรีติ สพฺพา ทิสา อนุวิโลเกตฺวา สพฺพตฺถ อตฺตนา สทิสํ อทิสฺวา ‘‘อยํ อุตฺตรา ทิสา’’ติ ตตฺถ สตฺตปทวีติหาเรน อคมาสิ. อาสภินฺติ อุตฺตมํ. อคฺโคติ สพฺพปโม. เชฏฺโ เสฏฺโติ จ ตสฺเสว เววจนํ. อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโวติ อิมสฺมึ อตฺตภาเว ปตฺตพฺพํ อรหตฺตํ พฺยากาสิ.

อเนเกสํ วิเสสาธิคมานํ ปุพฺพนิมิตฺตภาเวนาติ สํขิตฺเตน วุตฺตมตฺถํ ‘‘ยฺหี’’ติอาทินา วิตฺถารโต ทสฺเสติ. ตตฺถ เอตฺถาติ –

‘‘อเนกสาขฺจ สหสฺสมณฺฑลํ,

ฉตฺตํ มรู ธารยุมนฺตลิกฺเข;

สุวณฺณทณฺฑา วีติปตนฺติ จามรา,

น ทิสฺสเร จามรฉตฺตคาหกา’’ติ. (สุ. นิ. ๖๙๓);

อิมิสฺสา คาถาย. สพฺพฺุตฺาณเมว สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตจารตาย อนาวรณาณนฺติ อาห ‘‘สพฺพฺุตานาวรณาณปฏิลาภสฺสา’’ติ. ตถา อยํ ภควาปิ คโต…เป… ปุพฺพนิมิตฺตภาเวนาติ เอเตน อภิชาติยํ ธมฺมตาวเสน อุปฺปชฺชนกวิเสสา สพฺพโพธิสตฺตานํ สาธารณาติ ทสฺเสติ. ปารมิตานิสฺสนฺทา หิ เตติ.

วิกฺกมีติ อคมาสิ. มรูติ เทวา. สมาติ วิโลกนสมตาย สมา สทิสิโย. มหาปุริโส หิ ยถา เอกํ ทิสํ วิโลเกสิ, เอวํ เสสทิสาปิ, น กตฺถจิ วิโลกเน วิพนฺโธ ตสฺส อโหสีติ. สมาติ วา วิโลเกตุํ ยุตฺตา, วิสมรหิตาติ อตฺโถ. น หิ ตทา โพธิสตฺตสฺส วิรูปพีภจฺฉวิสมรูปานิ วิโลเกตุํ อยุตฺตานิ ทิสาสุ อุปฏฺหนฺตีติ.

เอวํ ‘‘ตถา คโต’’ติ กายคมนฏฺเน คต-สทฺเทน ตถาคต-สทฺทํ นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ าณคมนฏฺเน ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เนกฺขมฺเมนาติ อโลภปฺปธาเนน กุสลจิตฺตุปฺปาเทน . กุสลา หิ ธมฺมา อิธ เนกฺขมฺมํ, น ปพฺพชฺชาทโย, ‘‘ปมชฺฌาน’’นฺติ (ที. นิ. อภิ. ฏี. ๑.๗.จูฬสีลวณฺณนา; อ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑๗๐) จ วทนฺติ. ปหายาติ ปชหิตฺวา. คโต อธิคโต, ปฏิปนฺโน อุตฺตริวิเสสนฺติ อตฺโถ. ปหายาติ วา ปหานเหตุ, ปหานลกฺขณํ วา. เหตุลกฺขณตฺโถ หิ อยํ ปหาย-สทฺโท. กามจฺฉนฺทาทิปฺปหานเหตุกํ ‘‘คโต’’ติ เหตฺถ วุตฺตํ คมนํ อวโพโธ, ปฏิปตฺติ เอว วา กามจฺฉนฺทาทิปฺปหาเนน จ ลกฺขียตีติ. เอส นโย ปทาเลตฺวาติอาทีสุปิ. อพฺยาปาเทนาติ เมตฺตาย. อาโลกสฺายาติ วิภูตํ กตฺวา มนสิกรเณน (ที. นิ. อภิ. ฏี. ๑.๗.จูฬสีลวณฺณนา) อุปฏฺิตอาโลกสฺจานเนน. อวิกฺเขเปนาติ สมาธินา. ธมฺมววตฺถาเนนาติ กุสลาทิธมฺมานํ ยาถาวนิจฺฉเยน. ‘‘สปฺปจฺจยนามรูปววตฺถาเนนา’’ติปิ วทนฺติ.

เอวํ กามจฺฉนฺทาทินีวรณปฺปหาเนน ‘‘อภิชฺฌํ โลเก ปหายา’’ติอาทินา (วิภ. ๕๐๘) วุตฺตาย ปมชฺฌานสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทาย ภควโต ตถาคตภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สห อุปาเยน อฏฺหิ สมาปตฺตีหิ อฏฺารสหิ จ มหาวิปสฺสนาหิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘าเณนา’’ติอาทิมาห. นามรูปปริคฺคหกงฺขาวิตรณานฺหิ วินิพนฺธภูตสฺส โมหสฺส ทูรีกรเณน าตปริฺายํ ิตสฺส อนิจฺจสฺาทโย สิชฺฌนฺติ, ตถา ฌานสมาปตฺตีสุ อภิรตินิมิตฺเตน ปาโมชฺเชน. ตตฺถ ‘‘อนภิรติยา วิโนทิตาย ฌานาทีนํ สมธิคโม’’ติ สมาปตฺติวิปสฺสนานํ อรติวิโนทนอวิชฺชาปทาลนาทีนิ อุปาโย, อุปฺปฏิปาฏินิทฺเทโส ปน นีวรณสภาวาย อวิชฺชาย เหฏฺา นิวรเณสุปิ สงฺคหทสฺสนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. สมาปตฺติวิหารปฺปเวสวิพนฺธเนน นีวรณานิ กวาฏสทิสานีติ อาห ‘‘นีวรณกวาฏํ อุคฺฆาเฏตฺวา’’ติ. ‘‘รตฺตึ อนุวิตกฺเกตฺวา อนุวิจาเรตฺวา ทิวา กมฺมนฺเต ปโยเชตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๕๑) วุตฺตฏฺาเน วิตกฺกวิจารา ธูมายนาติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘วิตกฺกวิจารธูม’’นฺติ. กิฺจาปิ ปมชฺฌานุปจาเรเยว ทุกฺขํ, จตุตฺถชฺฌานุปจาเร จ สุขํ ปหียติ, อติสยปฺปหานํ ปน สนฺธายาห ‘‘จตุตฺถชฺฌาเนน สุขทุกฺขํ ปหายา’’ติ.

อนิจฺจสฺส, อนิจฺจนฺติ จ อนุปสฺสนา อนิจฺจานุปสฺสนา, เตภูมกธมฺมานํ อนิจฺจตํ คเหตฺวา ปวตฺตาย วิปสฺสนาเยตํ นามํ. นิจฺจสฺนฺติ สงฺขตธมฺเมสุ ‘‘นิจฺจา สสฺสตา’’ติ เอวํปวตฺตมิจฺฉาสฺํ. สฺาสีเสน ทิฏฺิจิตฺตานมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ. นิพฺพิทานุปสฺสนายาติ สงฺขาเรสุ นิพฺพิชฺชนากาเรน ปวตฺตาย อนุปสฺสนาย. นนฺทินฺติ สปฺปีติกตณฺหํ. วิราคานุปสฺสนายาติ สงฺขาเรสุ วิรชฺชนากาเรน ปวตฺตาย อนุปสฺสนาย. นิโรธานุปสฺสนายาติ สงฺขารานํ นิโรธสฺส อนุปสฺสนาย. ยถา วา สงฺขารา นิรุชฺฌนฺติเยว, อายตึ ปุนพฺภววเสน น อุปฺปชฺชนฺติ, เอวํ อนุปสฺสนา นิโรธานุปสฺสนา. เตเนวาห ‘‘นิโรธานุปสฺสนาย นิโรเธติ, โน สมุเทตี’’ติ. มุจฺจิตุกมฺยตา หิ อยํ พลปฺปตฺตาติ. ปฏินิสฺสชฺชนากาเรน ปวตฺตา อนุปสฺสนา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา, ปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนา หิ อยํ. อาทานนฺติ นิจฺจาทิวเสน คหณํ. สนฺตติสมูหกิจฺจารมฺมณานํ วเสน เอกตฺตคฺคหณํ ฆนสฺา. อายูหนํ อภิสงฺขรณํ. อวตฺถาวิเสสาปตฺติ วิปริณาโม. ธุวสฺนฺติ ถิรภาวคฺคหณํ. นิมิตฺตนฺติ สมูหาทิฆนวเสน สกิจฺจปริจฺเฉทตาย จ สงฺขารานํ สวิคฺคหคฺคหณํ. ปณิธินฺติ ราคาทิปณิธึ. สา ปนตฺถโต ตณฺหาวเสน สงฺขาเรสุ นินฺนตา. อภินิเวสนฺติ อตฺตานุทิฏฺึ.

อนิจฺจทุกฺขาทิวเสน สพฺพธมฺมตีรณํ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนา. สาราทานาภินิเวสนฺติ อสาเรสุ สารคฺคหณวิปลฺลาสํ. อิสฺสรกุตฺตาทิวเสน โลโก สมุปฺปนฺโนติ อภินิเวโส สมฺโมหาภินิเวโส. เกจิ ปน ‘‘อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธานนฺติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) ปวตฺตสํสยาปตฺติ สมฺโมหาภินิเวโส’’ติ วทนฺติ. สงฺขาเรสุ เลณตาณภาวคฺคหณํ อาลยาภินิเวโส. ‘‘อาลยรตา อาลยสมฺมุทิตา’’ติ (ที. นิ. ๒.๖๔, ๖๗; ม. นิ. ๑.๒๘๑; ๒.๓๓๗; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๗, ๘) วจนโต อาลโย ตณฺหา, สาเยว จกฺขาทีสุ รูปาทีสุ จ อภินิวิสนวเสน ปวตฺติยา อาลยาภินิเวโสติ เกจิ. ‘‘เอวํวิธา สงฺขารา ปฏินิสฺสชฺชียนฺตี’’ติ ปวตฺตํ าณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนา. วฏฺฏโต วิคตตฺตา วิวฏฺฏํ, นิพฺพานํ, ตตฺถ อารมฺมณกรณสงฺขาเตน อนุปสฺสเนน ปวตฺติยา วิวฏฺฏานุปสฺสนา, โคตฺรภู. สํโยคาภินิเวสนฺติ สํยุชฺชนวเสน สงฺขาเรสุ นิวิสนํ. ทิฏฺเกฏฺเติ ทิฏฺิยา สหชาเตกฏฺเ ปหาเนกฏฺเ จ. โอฬาริเกติ อุปริมคฺควชฺฌกิเลเส อเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ, อฺถา ทสฺสเนน ปหาตพฺพาปิ ทุติยมคฺควชฺเฌหิ โอฬาริกาติ. อณุสหคเตติ อณุภูเต. อิทํ เหฏฺิมมคฺควชฺเฌ อเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ. สพฺพกิเลเสติ อวสิฏฺสพฺพกิเลเส. น หิ ปมาทิมคฺเคหิ ปหีนา กิเลสา ปุน ปหียนฺตีติ.

กกฺขฬตฺตํ กถินภาโว. ปคฺฆรณํ ทฺรวภาโว. โลกิยวายุนา ภสฺตสฺส วิย เยน วายุนา ตํตํกลาปสฺส อุทฺธุมายนํ, ถทฺธภาโว วา, ตํ วิตฺถมฺภนํ. วิชฺชมาเนปิ กลาปนฺตรภูตานํ กลาปนฺตรภูเตหิ สมฺผุฏฺภาเว ตํตํภูตวิวิตฺตตา รูปปริยนฺโต อากาโสติ เยสํ โย ปริจฺเฉโท, เตหิ โส อสมฺผุฏฺโว, อฺถา ภูตานํ ปริจฺเฉทสภาโว น สิยา พฺยาปีภาวาปตฺติโต, อพฺยาปิตาว อสมฺผุฏฺตาติ ยสฺมึ กลาเป ภูตานํ ปริจฺเฉโท, เตหิ อสมฺผุฏฺภาโว อสมฺผุฏฺลกฺขณํ. เตนาห ภควา อากาสธาตุนิทฺเทเส (ธ. ส. ๖๓๗) ‘‘อสมฺผุฏฺํ จตูหิ มหาภูเตหี’’ติ.

วิโรธิปจฺจยสนฺนิปาเต วิสทิสุปฺปตฺติ รุปฺปนํ. เจตนาปธานตฺตา สงฺขารกฺขนฺธธมฺมานํ เจตนาวเสเนตํ วุตฺตํ ‘‘สงฺขารานํ อภิสงฺขรณลกฺขณ’’นฺติ. ตถา หิ สุตฺตนฺตภาชนีเย สงฺขารกฺขนฺธวิภงฺเค (วิภ. ๙๒) ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา เจตนา’’ติอาทินา เจตนาว วิภตฺตา. อภิสงฺขรณลกฺขณา จ เจตนา. ยถาห ‘‘ตตฺถ กตโม ปุฺาภิสงฺขาโร? กุสลา เจตนา กามาวจรา’’ติอาทิ. ผรณํ สวิปฺผาริกตา. อสฺสทฺธิเยติ อสทฺธิยเหตุ. นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ. เอส นโย โกสชฺเชติอาทีสุ. อุปสมลกฺขณนฺติ กายจิตฺตปริฬาหูปสมลกฺขณํ. ลีนุทฺธจฺจรหิเต อธิจิตฺเต ปวตฺตมาเน ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ อพฺยาวฏตาย อชฺฌุเปกฺขนํ ปฏิสงฺขานํ ปกฺขปาตุปจฺเฉทโต.

มุสาวาทาทีนํ วิสํวาทนาทิกิจฺจตาย ลูขานํ อปริคฺคาหกานํ ปฏิปกฺขภาวโต ปริคฺคาหกสภาวา สมฺมาวาจา สินิทฺธภาวโต สมฺปยุตฺตธมฺเม สมฺมาวาจาปจฺจยสุภาสิตานํ โสตารฺจ ปุคฺคลํ ปริคฺคณฺหาตีติ ตสฺสา ปริคฺคาหลกฺขณํ วุตฺตํ. กายิกกิริยา กิฺจิ กตฺตพฺพํ สมุฏฺาเปติ, สยฺจ สมุฏฺหนํ ฆฏนํ โหตีติ สมฺมากมฺมนฺต สงฺขาตาย วิรติยา สมุฏฺานลกฺขณํ ทฏฺพฺพํ. สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วา อุกฺขิปนํ สมุฏฺาปนํ กายิกกิริยาย ภารุกฺขิปนํ วิย. ชีวมานสฺส สตฺตสฺส, สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วา ชีวิตินฺทฺริยปฺปวตฺติยา, อาชีวสฺเสว วา สุทฺธิ โวทานํ. สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส จิตฺตสฺส สํกิเลสปกฺเข ปติตุํ อทตฺวา สมฺมเทว ปคฺคณฺหนํ ปคฺคโห.

‘‘สงฺขารา’’ติ อิธ เจตนา อธิปฺเปตาติ วุตฺตํ ‘‘สงฺขารานํ เจตนาลกฺขณ’’นฺติ. นมนํ อารมฺมณาภิมุขภาโว. อายตนํ ปวตฺตนํ. อายตนานํ วเสน หิ อายสงฺขาตานํ จิตฺตเจตสิกานํ ปวตฺติ. ตณฺหาย เหตุลกฺขณนฺติ วฏฺฏสฺส ชนกเหตุภาโว, มคฺคสฺส ปน นิพฺพานสมฺปาปกตฺตนฺติ อยเมเตสํ วิเสโส.

ตถลกฺขณํ อวิปรีตสภาโว. เอกรโส อฺมฺานติวตฺตนํ อนูนานธิกภาโว. ยุคนทฺธา สมถวิปสฺสนาว. สทฺธาปฺา ปคฺคหาวิกฺเขปาติปิ วทนฺติ.

ขีโณติ กิเลเส เขปตีติ ขโย, มคฺโค. อนุปฺปาทปริโยสานตาย อนุปฺปาโท, ผลํ. ปสฺสทฺธิ กิเลสวูปสโม. ฉนฺทสฺสาติ กตฺตุกามตาฉนฺทสฺส. มูลลกฺขณํ ปติฏฺาภาโว. สมุฏฺานภาโว สมุฏฺานลกฺขณํ อารมฺมณปฏิปาทกตาย สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อุปฺปตฺติเหตุตา. สโมธานํ วิสยาทิสนฺนิปาเตน คเหตพฺพากาโร, ยา สงฺคตีติ วุจฺจติ. สมํ สห โอทหนฺติ อเนน สมฺปยุตฺตธมฺมาติ วา สโมธานํ, ผสฺโส. สโมสรนฺติ สนฺนิปตนฺติ เอตฺถาติ สโมสรณํ. เวทนาย วินา อปฺปวตฺตมานา สมฺปยุตฺตธมฺมา เวทนานุภวนนิมิตฺตํ สโมสฏา วิย โหนฺตีติ เอวํ วุตฺตํ. โคปานสีนํ กูฏํ วิย สมฺปยุตฺตานํ ปาโมกฺขภาโว ปมุขลกฺขณํ. ตโต, เตสํ วา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อุตฺตริ ปธานนฺติ ตตุตฺตริ, ปฺุตฺตรา หิ กุสลา ธมฺมา. วิมุตฺติยาติ ผลสฺส. ตฺหิ สีลาทิคุณสารสฺส ปรมุกฺกํสภาเวน สารํ. อยฺจ ลกฺขณวิภาโค ฉธาตุปฺจฌานงฺคาทิวเสน ตํตํสุตฺตปทานุสาเรน โปราณฏฺกถายํ อาคตนเยน จ กโตติ ทฏฺพฺพํ. ตถา หิ ปุพฺเพ วุตฺโตปิ โกจิ ธมฺโม ปริยายนฺตรปกาสนตฺถํ ปุน ทสฺสิโต. ตโต เอว จ ‘‘ฉนฺทมูลกา กุสลา ธมฺมา มนสิการสมุฏฺานา ผสฺสสโมธานา เวทนาสโมสรณา’’ติ, ‘‘ปฺุตฺตรา กุสลา ธมฺมา’’ติ, ‘‘วิมุตฺติสารมิทํ พฺรหฺมจริย’’นฺติ, ‘‘นิพฺพาโนคธฺหิ อาวุโส พฺรหฺมจริยํ นิพฺพานปริโยสาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๔๖๖) จ สุตฺตปทานํ วเสน ‘‘ฉนฺทสฺส มูลลกฺขณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

ตถธมฺมา นาม จตฺตาริ อริยสจฺจานิ อวิปรีตสภาวตฺตา. ตถานิ ตํสภาวตฺตา. อวิตถานิ อมุสาสภาวตฺตา. อนฺถานิ อฺาการรหิตตฺตา. ชาติปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโติ ชาติปจฺจยา สมฺภูตํ หุตฺวา สหิตสฺส อตฺตโน ปจฺจยานุรูปสฺส อุทฺธํ อาคตภาโว, อนุปวตฺตนฏฺโติ อตฺโถ. อถ วา สมฺภูตฏฺโ จ สมุทาคตฏฺโ จ สมฺภูตสมุทาคตฏฺโ, น ชาติโต ชรามรณํ น โหติ, น จ ชาตึ วินา อฺโต โหตีติ ชาติปจฺจยสมฺภูตฏฺโ. อิตฺถฺจ ชาติโต สมุทาคจฺฉตีติ ชาติปจฺจยสมุทาคตฏฺโ, ยา ยา ชาติ ยถา ยถา ปจฺจโย โหติ, ตทนุรูปํ ปาตุภาโวติ อตฺโถ. อวิชฺชาย สงฺขารานํ ปจฺจยฏฺโติ เอตฺถาปิ น อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย น โหติ, น จ อวิชฺชํ วินา สงฺขารา อุปฺปชฺชนฺติ, ยา ยา อวิชฺชา เยสํ เยสํ สงฺขารานํ ยถา ยถา ปจฺจโย โหติ, อยํ อวิชฺชาย สงฺขารานํ ปจฺจยฏฺโ ปจฺจยภาโวติ อตฺโถ.

ภควา ตํ สพฺพาการโต ชานาติ ปสฺสตีติ สมฺพนฺโธ. เตนาติ ภควตา. ตํ วิภชฺชมานนฺติ โยเชตพฺพํ. นฺติ รุปายตนํ. อิฏฺานิฏฺาทีติ อาทิ-สทฺเทน มชฺฌตฺตํ สงฺคณฺหาติ, ตถา อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนปริตฺตอชฺฌตฺตพหิทฺธาตทุภยาทิเภทํ. ลพฺภมานกปทวเสนาติ ‘‘รูปายตนํ ทิฏฺํ, สทฺทายตนํ สุตํ, คนฺธายตนํ รสายตนํ โผฏฺพฺพายตนํ มุตํ, สพฺพํ รูปํ มนสา วิฺาต’’นฺติ (ธ. ส. ๙๖๖) วจนโต ทิฏฺปทฺจ วิฺาตปทฺจ รูปารมฺมเณ ลพฺภติ, รูปารมฺมณํ อิฏฺํ อนิฏฺํ มชฺฌตฺตํ ปริตฺตํ อตีตํ อนาคตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา ทิฏฺํ วิฺาตํ รูปํ รูปายตนํ รูปธาตุ วณฺณนิภา สนิทสฺสนํ สปฺปฏิฆํ นีลํ ปีตกนฺติ เอวมาทีหิ อเนเกหิ นาเมหิ.

เตรสหิ วาเรหีติ รูปกณฺเฑ (ธ. ส. ๖๑๖) อาคเต เตรส นิทฺเทสวาเร สนฺธายาห. เอเกกสฺมิฺจ วาเร จตุนฺนํ จตุนฺนํ ววตฺถาปนนยานํ วเสน ‘‘ทฺเวปฺาสาย นเยหี’’ติ อาห. ตถเมว อวิปรีตทสฺสิตาย อปฺปฏิวตฺติยเทสนตาย จ. ‘‘ชานามิ อภิฺาสิ’’นฺติ วตฺตมานาตีตกาเลสุ าณปฺปวตฺติทสฺสเนน อนาคเตปิ าณปฺปวตฺติ วุตฺตาเยวาติ ทฏฺพฺพา. วิทิต-สทฺโท อนามฏฺกาลวิเสโส เวทิตพฺโพ ‘‘ทิฏฺํ สุตํ มุต’’นฺติอาทีสุ (ธ. ส. ๙๖๖) วิย. น อุปฏฺาสีติ อตฺตตฺตนิยวเสน น อุปคจฺฉิ. ยถา รูปารมฺมณาทโย ธมฺมา ยํสภาวา ยํปการา จ, ตถา เน ปสฺสติ ชานาติ คจฺฉตีติ ตถาคโตติ เอวํ ปทสมฺภโว เวทิตพฺโพ. เกจิ ปน ‘‘นิรุตฺตินเยน ปิโสทราทิปกฺเขเปน (ปาณินิ ๖.๓.๑๐๙) วา ทสฺสิ-สทฺทสฺส โลปํ, อาคต-สทฺทสฺส จาคมํ กตฺวา ตถาคโต’’ติ วณฺเณนฺติ.

นิทฺโทสตาย อนุปวชฺชํ. ปกฺขิปิตพฺพาภาเวน อนูนํ. อปเนตพฺพาภาเวน อนธิกํ. อตฺถพฺยฺชนาทิสมฺปตฺติยา สพฺพาการปริปุณฺณํ. โน อฺถาติ ‘‘ตเถวา’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ พฺยติเรเกน สมฺปาเทติ. เตน ยทตฺถํ ภาสิตํ, เอกนฺเตน ตทตฺถนิปฺผาทนโต ยถา ภาสิตํ ภควตา, ตเถวาติ อวิปรีตเทสนตํ ทสฺเสติ. คทอตฺโถติ เอเตน ตถํ คทตีติ ตถาคโตติ ท-การสฺส ต-กาโร กโต นิรุตฺตินเยนาติ ทสฺเสติ.

ตถา คตมสฺสาติ ตถาคโต. คตนฺติ จ กายวาจาปวตฺตีติ อตฺโถ. ตถาติ จ วุตฺเต ยํตํสทฺทานํ อพฺยภิจาริสมฺพนฺธิตาย ยถาติ อยมตฺโถ อุปฏฺิโตเยว โหติ, กายวจีกิริยานฺจ อฺมฺานุโลเมน วจนิจฺฉายํ กายสฺส วาจา, วาจาย จ กาโย สมฺพนฺธีภาเวน อุปติฏฺตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ภควโต หี’’ติอาทิ. อิมสฺมึ ปน อตฺเถ ตถาวาทีตาย ตถาคโตติ อยมฺปิ อตฺโถ สิทฺโธ โหติ. โส ปน ปุพฺเพ ปการนฺตเรน ทสฺสิโตติ อาห ‘‘เอวํ ตถาการิตาย ตถาคโต’’ติ.

ติริยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสูติ เอเตน ยเทเก ‘‘ติริยํ วิย อุปริ อโธ จ สนฺติ โลกธาตุโย’’ติ วทนฺติ, ตํ ปฏิเสเธติ. เทสนาวิลาโสเยว เทสนาวิลาสมโย ยถา ‘‘ปุฺมยํ, ทานมย’’นฺติอาทีสุ.

นิปาตานํ วาจกสทฺทสนฺนิธาเน ตทตฺถโชตนภาเวน ปวตฺตนโต คต-สทฺโทเยว อวคตตฺถํ อตีตตฺถฺจ วทตีติ อาห ‘‘คโตติ อวคโต อตีโต’’ติ.

อถ วา อภินีหารโต ปฏฺาย ยาว สมฺมาสมฺโพธิ, เอตฺถนฺตเร มหาโพธิยานปฏิปตฺติยา หานฏฺานสํกิเลสนิวตฺตีนํ อภาวโต ยถา ปณิธานํ, ตถา คโต อภินีหารานุรูปํ ปฏิปนฺโนติ ตถาคโต. อถ วา มหิทฺธิกตาย ปฏิสมฺภิทานํ อุกฺกํสาธิคเมน อนาวรณาณตาย จ กตฺถจิปิ ปฏิฆาตาภาวโต ยถา รุจิ, ตถา กายวจีจิตฺตานํ คตานิ คมนานิ ปวตฺติโย เอตสฺสาติ ตถาคโต. ยสฺมา จ โลเก วิธ-ยุตฺต-คต-ปฺปการ-สทฺทา สมานตฺถา ทิสฺสนฺติ. ตสฺมา ยถาวิธา วิปสฺสีอาทโย ภควนฺโต, อยมฺปิ ภควา ตถาวิโธติ ตถาคโต, ยถายุตฺตา จ เต ภควนฺโต, อยมฺปิ ภควา ตถายุตฺโตติ ตถาคโต. อถ วา ยสฺมา สจฺจํ ตจฺฉํ ตถนฺติ าณสฺเสตํ อธิวจนํ, ตสฺมา ตเถน าเณน อาคโตติ ตถาคโต. เอวมฺปิ ตถาคต-สทฺทสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ปหาย กามาทิมเล ยถา คตา,

สมาธิาเณหิ วิปสฺสิอาทโย;

มเหสิโน สกฺยมุนี ชุตินฺธโร,

ตถา คโต เตน มโต ตถาคโต.

ตถฺจ ธาตายตนาทิลกฺขณํ,

สภาวสามฺวิภาคเภทโต;

สยมฺภุาเณน ชิโน สมาคโต,

ตถาคโต วุจฺจติ สกฺยปุงฺคโว.

ตถานิ สจฺจานิ สมนฺตจกฺขุนา,

ตถา อิทปฺปจฺจยตา จ สพฺพโส;

อนฺเนยฺเยน ยโต วิภาวิตา,

ยาถาวโต เตน ชิโน ตถาคโต.

อเนกเภทาสุปิ โลกธาตุสุ,

ชินสฺส รูปายตนาทิโคจเร;

วิจิตฺรเภทํ ตถเมว ทสฺสนํ,

ตถาคโต เตน สมนฺตโลจโน.

ยโต จ ธมฺมํ ตถเมว ภาสติ,

กโรติ วาจายนุโลมมตฺตโน;

คุเณหิ โลกํ อภิภุยฺยิรียติ,

ตถาคโต เตนปิ โลกนายโก.

ยถาภินีหารมโต ยถารุจิ,

ปวตฺตวาจา ตนุจิตฺตภาวโต;

ยถาวิธา เยน ปุรา มเหสิโน,

ตถาวิโธ เตน ชิโน ตถาคโตติ. (อิติวุ. อฏฺ. ๓๘; ที. นิ. ฏี. ๑.๗ จูฬสีลวณฺณนา);

อารกตฺตาติอาทีนํ ปทานํ อตฺโถ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๕) พุทฺธานุสฺสติสํวณฺณนาย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. สมฺมา สามฺจ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตาติ อิมินาสฺส ปโรปเทสรหิตสฺส สพฺพากาเรน สพฺพธมฺมาวโพธนสมตฺถสฺส อากงฺขาปฏิพทฺธวุตฺติโน อนาวรณาณสงฺขาตสฺส สพฺพฺุตฺาณสฺส อธิคโม ทสฺสิโต.

นนุ จ (อิติวุ. อฏฺ. ๓๘) สพฺพฺุตฺาณโต อฺํ อนาวรณาณํ, อฺถา ฉ อสาธารณาณานิ พุทฺธาณานีติ วจนํ วิรุชฺเฌยฺยาติ? น วิรุชฺฌติ วิสยปฺปวตฺติเภทวเสน อฺเหิ อสาธารณาณภาวทสฺสนตฺถํ เอกสฺเสว าณสฺส ทฺวิธา วุตฺตตฺตา. เอกเมว หิ ตํ าณํ อนวเสสสงฺขตาสงฺขตสมฺมุติธมฺมวิสยตาย สพฺพฺุตฺาณํ, ตตฺถ จ อาวรณาภาวโต นิสฺสงฺคจารมุปาทาย อนาวรณาณนฺติ วุตฺตํ. ยถาห ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๙) ‘‘สพฺพํ สงฺขตาสงฺขตมนวเสสํ ชานาตีติ สพฺพฺุตฺาณํ, ตตฺถาวรณํ นตฺถีติ อนาวรณาณ’’นฺติอาทิ, ตสฺมา นตฺถิ เนสํ อตฺถโต เภโท, เอกนฺเตน เจตํ เอวมิจฺฉิตพฺพํ, อฺถา สพฺพฺุตานาวรณาณานํ สาวรณตา อสพฺพธมฺมารมฺมณตา จ อาปชฺเชยฺย. น หิ ภควโต าณสฺส อณุมตมฺปิ อาวรณํ อตฺถิ, อนาวรณาณสฺส จ อสพฺพธมฺมารมฺมณภาเว ยตฺถ ตํ นปฺปวตฺตติ, ตตฺถาวรณสพฺภาวโต อนาวรณภาโวเยว น สิยา. อถ วา ปน โหตุ อฺเมว อนาวรณาณํ สพฺพฺุตฺาณโต, อิธ ปน สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตวุตฺติตาย อนาวรณาณนฺติ สพฺพฺุตฺาณเมว อธิปฺเปตํ, ตสฺส จาธิคเมน ภควา สพฺพฺู สพฺพวิทู สมฺมาสมฺพุทฺโธติ จ วุจฺจติ, น สกิเมว สพฺพธมฺมาวโพธโต. ตถา จ วุตฺตํ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๒) ‘‘วิโมกฺขนฺติกเมตํ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ โพธิยา มูเล สห สพฺพฺุตฺาณสฺส ปฏิลาภา สจฺฉิกา ปฺตฺติ ยทิทํ พุทฺโธ’’ติ. สพฺพธมฺมาวโพธนสมตฺถาณสมธิคเมน หิ ภควโต สนฺตาเน อนวเสสธมฺเม ปฏิวิชฺฌิตุํ สมตฺถตา อโหสีติ.

เอตฺถาห – กึ ปนิทํ าณํ ปวตฺตมานํ สกึเยว สพฺพสฺมึ วิสเย ปวตฺตติ, อุทาหุ กเมนาติ. กิฺเจตฺถ – ยทิ ตาว สกึเยว สพฺพสฺมึ วิสเย ปวตฺตติ, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนอชฺฌตฺตพหิทฺธาทิเภเทน ภินฺนานํ สงฺขตธมฺมานํ อสงฺขตสมฺมุติธมฺมานฺจ เอกชฺฌํ อุปฏฺาเน ทูรโต จิตฺตปฏํ อเวกฺขนฺตสฺส วิย ปฏิวิภาเคนาวโพโธ น สิยา, ตถา จ สติ ‘‘สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ วิปสฺสนฺตานํ อนตฺตากาเรน วิย สพฺเพ ธมฺมา อนิรูปิตรูเปน ภควโต าณสฺส วิสยา โหนฺตีติ อาปชฺชติ. เยปิ ‘‘สพฺพเยฺยธมฺมานํ ิตลกฺขณวิสยํ วิกปฺปรหิตํ สพฺพกาลํ พุทฺธานํ าณํ ปวตฺตติ, เตน เต สพฺพวิทูติ วุจฺจนฺติ. เอวฺจ กตฺวา ‘จรํ สมาหิโต นาโค, ติฏฺนฺโตปิ สมาหิโต’ติ อิทมฺปิ วจนํ สุวุตฺตํ โหตี’’ติ วทนฺติ, เตสมฺปิ วุตฺตโทสานติวตฺติ. ิตลกฺขณารมฺมณตาย หิ อตีตานาคตสมฺมุติธมฺมานํ ตทภาวโต เอกเทสวิสยเมว ภควโต าณํ สิยา, ตสฺมา สกึเยว าณํ ปวตฺตตีติ น ยุชฺชติ.

อถ กเมน สพฺพสฺมึ วิสเย าณํ ปวตฺตติ, เอวมฺปิ น ยุชฺชติ. น หิ ชาติภูมิสภาวาทิวเสน ทิสาเทสกาลาทิวเสน จ อเนกเภทภินฺเน เนยฺเย กเมน คยฺหมาเน ตสฺส อนวเสสปฏิเวโธ สมฺภวติ อปริยนฺตภาวโต เยฺยสฺส. เย ปน ‘‘อตฺถสฺส อวิสํวาทนโต เยฺยสฺส เอกเทสํ ปจฺจกฺขํ กตฺวา เสเสปิ เอวนฺติ อธิมุจฺจิตฺวา ววตฺถาปเนน สพฺพฺู ภควา, ตฺจ าณํ อนนุมานิกํ สํสยาภาวโต. สํสยานุพนฺธฺหิ โลเก อนุมานาณ’’นฺติ วทนฺติ, เตสมฺปิ ตํ น ยุตฺตํ. สพฺพสฺส หิ อปฺปจฺจกฺขภาเว อตฺถสฺส อวิสํวาทเนน เยฺยสฺส เอกเทสํ ปจฺจกฺขํ กตฺวา เสเสปิ เอวนฺติ อธิมุจฺจิตฺวา ววตฺถาปนสฺส อสมฺภวโต. ยฺหิ ตํ เสสํ, ตํ อปฺปจฺจกฺขนฺติ. อถ ตมฺปิ ปจฺจกฺขํ, ตสฺส เสสภาโว เอว น สิยาติ? สพฺพเมตํ อการณํ. กสฺมา? อวิสยวิจารณภาวโต. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘พุทฺธวิสโย ภิกฺขเว, อจินฺเตยฺโย น จินฺเตตพฺโพ, โย จินฺเตยฺย, อุมฺมาทสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสา’’ติ (อ. นิ. ๔.๗๗). อิทํ ปเนตฺถ สนฺนิฏฺานํ – ยํ กิฺจิ ภควตา าตุํ อิจฺฉิตํ สกลเมกเทโส วา, ตตฺถ อปฺปฏิหตวุตฺติตาย ปจฺจกฺขโต าณํ ปวตฺตติ, นิจฺจสมาธานฺจ วิกฺเขปาภาวโต, าตุํ อิจฺฉิตสฺส จ สกลสฺส อวิสยภาเว ตสฺส อากงฺขาปฏิพทฺธวุตฺติตา น สิยา, เอกนฺเตเนว จ สา อิจฺฉิตพฺพา ‘‘สพฺเพ ธมฺมา พุทฺธสฺส ภควโต อาวชฺชนปฏิพทฺธา อากงฺขปฏิพทฺธา มนสิการปฏิพทฺธา จิตฺตุปฺปาทปฏิพทฺธา’’ติ (มหานิ. ๖๙, ๑๕๖; จูฬนิ. ๘๕; ปฏิ. ม. ๓.๕) วจนโต. อตีตานาคตวิสยมฺปิ ภควโต าณํ อนุมานาคมตกฺกคหณวิรหิตตฺตา ปจฺจกฺขเมว.

นนุ จ เอตสฺมิมฺปิ ปกฺเข ยทา สกลํ าตุํ อิจฺฉิตํ, ตทา สกึเยว สกลวิสยตาย อนิรูปิตรูเปน ภควโต าณํ ปวตฺเตยฺยาติ วุตฺตโทสานติวตฺติเยวาติ? น, ตสฺส วิโสธิตตฺตา. วิโสธิโต หิ โส พุทฺธวิสโย อจินฺเตยฺโยติ. อฺถา ปจุรชนาณสมานวุตฺติตาย พุทฺธานํ ภควนฺตานํ าณสฺส อจินฺเตยฺยตา น สิยา, ตสฺมา สกลธมฺมารมฺมณมฺปิ ตํ เอกธมฺมารมฺมณํ วิย สุววตฺถาปิเตเยว เต ธมฺเม กตฺวา ปวตฺตตีติ อิทเมตฺถ อจินฺเตยฺยํ, อนนฺตฺจ าณํ เยฺยํ วิย. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ยาวตกํ เยฺยํ, ตาวตกํ าณํ. ยาวตกํ าณํ, ตาวตกํ เยฺยํ. เยฺยปริยนฺติกํ าณํ, าณปริยนฺติกํ เยฺย’’นฺติ (มหานิ. ๖๙, ๑๕๖; จูฬนิ. ๘๕; ปฏิ. ม. ๓.๕). เอวเมกชฺฌํ, วิสุํ สกึ, กเมน วา อิจฺฉานุรูปํ สมฺมา สามฺจ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ.

นฺติ ยถาวุตฺตํ ปถวีอาทิเภทํ. ปริฺาตนฺติ ปริโต สมนฺตโต สพฺพาการโต าตํ, ตํ ปริชานิตพฺพภาวํ กิฺจิ อเสเสตฺวา าตนฺติ อตฺโถ. อยเมว หิ อตฺโถ ‘‘ปริฺาตนฺต’’นฺติ อิมินาปิ ปเทน ปกาสิโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปริฺาตนฺตํ นามา’’ติอาทิมาห. เตน เตน มคฺเคน กิเลสปฺปหาเนน วิเสโส นตฺถีติ อิทํ ตํตํมคฺควชฺฌกิเลสานํ พุทฺธานํ สาวกานฺจ เตน เตน มคฺเคเนว ปหาตพฺพภาวสามฺํ สนฺธาย วุตฺตํ, น สาวเกหิ พุทฺธานํ กิเลสปฺปหานวิเสสาภาวโต. ตถา หิ สมฺมาสมฺพุทฺธา เอว สวาสนกิเลเส ชหนฺติ, น สาวกา. เอกเทสเมวาติ อตฺตโน สนฺตานคตเมว. สสนฺตติปริยาปนฺนธมฺมปริฺามตฺเตนปิ หิ จตุสจฺจกมฺมฏฺานภาวนา สมิชฺฌติ. เตเนวาห – ‘‘อิมสฺมึเยว พฺยามมตฺเต กเฬวเร สสฺิมฺหิ สมนเก โลกฺจ ปฺเปมิ โลกสมุทยฺจ ปฺเปมี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๑.๑๐๗; อ. นิ. ๔.๔๕). อณุปฺปมาณมฺปิ…เป… นตฺถิ, ยโต ฉตฺตึสโกฏิสตสหสฺสมุเขน พุทฺธานํ มหาวชิราณํ ปวตฺตตีติ วทนฺติ.

ตถาคตวารสตฺตมนยวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตถาคตวารอฏฺมนยวณฺณนา

๑๓. ปุริมตณฺหาติ ปุริมตเรสุ ภเวสุ นิพฺพตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนตฺตภาวเหตุภูตา ตณฺหา. ตคฺคหเณเนว จ อตีตทฺธสงฺคหา อวิชฺชาสงฺขารา สทฺธึ อุปาทาเนน สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา. เอตฺถาติ ‘‘ภวา ชาตี’’ติ เอตสฺมึ ปเท. เตน อุปปตฺติภเวนาติ ‘‘ภวา ชาตี’’ติ ชาติสีเสน วุตฺตอุปปตฺติภเวน. ภูตสฺสาติ นิพฺพตฺตสฺส. โส ปน ยสฺมา สตฺโต นาม โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สตฺตสฺสา’’ติ. เอวฺจ ชานิตฺวาติ อิมินา ‘‘ภูตสฺส ชรามรณ’’นฺติ เอตฺถาปิ ‘‘อิติ วิทิตฺวา’’ติ อิทํ ปทํ อาเนตฺวา โยเชตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.

ยทิปิ เตภูมกา อุปาทานกฺขนฺธา ‘‘ยํ กิฺจิ รูป’’นฺติอาทินา (วิภ. ๒; ม. นิ. ๑.๒๔๔) เอกาทสสุ โอกาเสสุ ปกฺขิปิตพฺพา สมฺมสิตพฺพา จ, เต ปน ยสฺมา ภควตา ‘‘กิมฺหิ นุ โข สติ ชรามรณํ โหติ, กึปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติอาทินา (ที. นิ. ๒.๕๗; สํ. นิ. ๒.๔, ๑๐) ปฏิจฺจสมุปฺปาทมุเขน สมฺมสิตา, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท จ ปวตฺติปวตฺติเหตุภาวโต ปุริมสจฺจทฺวยเมว โหติ, ตสฺมา ตทภิสมยํ ‘‘มฺนาภาวเหตุ ปจฺจยาการปฏิเวโธ’’ติ วิภาเวนฺโต ‘‘ยํ โพธิรุกฺขมูเล…เป… ทสฺเสนฺโต’’ติ อาห. สํขิปฺปนฺติ เอตฺถ อวิชฺชาทโย วิฺาณาทโย จาติ สงฺเขปา, อตีเต เหตุอาทโย ‘‘เหตุ, ผล’’นฺติ เอวํ สํขิปฺปนฺตีติ วา สงฺเขปา, อวิชฺชาทโย วิฺาณาทโย จ. สงฺเขป-สทฺโท ภาคาธิวจนนฺติ ทฏฺพฺโพ. เตนาห ‘‘โกฏฺาสาติ อตฺโถ’’ติ. เต ปน อตีเต เหตุสงฺเขโป, เอตรหิ ผลสงฺเขโป, เอตรหิ เหตุสงฺเขโป, อายตึ ผลสงฺเขโปติ จตฺตาโร สงฺเขปา เอตสฺสาติ จตุสงฺเขโป, ตํ จตุสงฺเขปํ. เหตุผลสนฺธิ, ผลเหตุสนฺธิ, ปุน เหตุผลสนฺธีติ เอวํ ตโย สนฺธี เอตสฺสาติ ติสนฺธิ, ตํ ติสนฺธึ. อตีตปจฺจุปฺปนฺนานาคตเภทา ตโย อทฺธา เอตสฺสาติ ติยทฺโธ, ตํ ติยทฺธํ. สรูปโต อวุตฺตาปิ ตสฺมึ ตสฺมึ สงฺเขเป อากิรียนฺติ อวิชฺชาสงฺขาราทิคฺคหเณหิ ปกาสียนฺตีติ อาการา, อตีตเหตุอาทีนํ วา ปการา อาการา, เต เอเกกสงฺเขเป ปฺจ ปฺจ กตฺวา วีสติ อาการา เอตสฺสาติ วีสตากาโร, ตํ วีสตาการํ.

เอสสพฺโพติ เอส จตุสงฺเขปาทิปเภโท อนวเสโส ปจฺจโย. ปจฺจยลกฺขเณนาติ ปจฺจยภาเวน อตฺตโน ผลสฺส ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส ปจฺจยภาเวน, อวินาภาวลกฺขเณนาติ อตฺโถ. ยถา หิ ตณฺหํ วินา อวิชฺชาทโย วิฺาณสฺส ปจฺจยา น โหนฺติ, เอวํ ตณฺหาปิ อวิชฺชาทิเก วินาติ. เอตฺถ ทุกฺขคฺคหเณน วิฺาณนามรูปสฬายตนผสฺสเวทนานํ, ภวคฺคหเณน จ ตณฺหาสงฺขารุปาทานานํ คหิตตา วุตฺตนยา เอวาติ น อุทฺธฏา.

อิทานิ เต วีสติ อากาเร ปฏิสมฺภิทามคฺคปาฬิยา วิภาเวตุํ ‘‘เอวเมเต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๔๗) ปุริมกมฺมภวสฺมินฺติ ปุริเม กมฺมภเว, อตีตชาติยํ กมฺมภเว กยิรมาเนติ อตฺโถ. โมโห อวิชฺชาติ โย ตทา ทุกฺขาทีสุ โมโห, เยน มูฬฺโห กมฺมํ กโรติ, สา อวิชฺชา. อายูหนา สงฺขาราติ ตํ ตํ กมฺมํ กโรนฺโต ทานุปกรณาทิ สชฺชนาทิวเสน ยา ปุริมเจตนาโย, เต สงฺขารา. ปฏิคฺคาหกานํ ปน หตฺเถ เทยฺยธมฺมํ ปติฏฺาปยโต เจตนา ภโว. เอกาวชฺชนชวเนสุ วา ปุริมา เจตนา อายูหนา สงฺขารา, สตฺตมา ภโว. ยา กาจิ วา ปน เจตนา ภโว, สมฺปยุตฺตา อายูหนา สงฺขารา. นิกนฺติ ตณฺหาติ ยํ กมฺมํ กโรนฺตสฺส อุปปตฺติภเว ตสฺส ผลสฺส นิกามนา ปตฺถนา, สา ตณฺหา นาม. อุปคมนํ อุปาทานนฺติ ยํ กมฺมภวสฺส ปจฺจยภูตํ ‘‘อิทํ กมฺมํ กตฺวา อสุกสฺมึ นาม าเน กาเม เสวิสฺสามิ อุจฺฉิชฺชิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตํ อุปคมนํ คหณํ ปรามสนํ, อิทํ อุปาทานํ นาม. เจตนา ภโวติ ทฺวีสุ อตฺถวิกปฺเปสุ วุตฺตสฺส อายูหนสฺส อวสาเน วุตฺตเจตนา, ตติเย ปน อายูหนสมฺปยุตฺตเจตนา ภโว. อิติ อิเม ปฺจ ธมฺมา ปุริมกมฺมภวสฺมึ อิธ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยาติ อิเม ยถาวุตฺตา โมหาทโย ปฺจ ธมฺมา อตีตกมฺมภวสิทฺธา เอตรหิ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยภูตาติ อตฺโถ.

อิธ ปฏิสนฺธิวิฺาณนฺติ ยํ ภวนฺตรปฏิสนฺธานวเสน อุปฺปนฺนตฺตา ปฏิสนฺธีติ วุจฺจติ, ตํ วิฺาณํ. โอกฺกนฺติ นามรูปนฺติ ยา คพฺเภ รูปารูปธมฺมานํ โอกฺกนฺติ อาคนฺตฺวา ปวิสนฺตี วิย, อิทํ นามรูปํ. ปสาโท อายตนนฺติ อิทํ จกฺขาทิปฺจายตนวเสน วุตฺตํ. ผุฏฺโ ผสฺโสติ โย อารมฺมณํ ผุฏฺโ ผุสนฺโต อุปฺปนฺโน, อยํ ผสฺโส. เวทยิตํเวทนาติ ยํ ปฏิสนฺธิวิฺาเณน วา สฬายตนปจฺจเยน วา ผสฺเสน สหุปฺปนฺนํ วิปากเวทยิตํ, สา เวทนา. อิติ อิเม…เป… ปจฺจยาติ อิเม วิฺาณาทโย ปฺจ โกฏฺาสิกา ธมฺมา ปุริมภเว กตสฺส กมฺมสฺส กมฺมวฏฺฏสฺส ปจฺจยา, ปจฺจยภาวโต ตํ ปฏิจฺจ อิธ เอตรหิ อุปปตฺติภวสฺมึ อุปปตฺติภวภาเวน วา โหนฺตีติ อตฺโถ.

อิธปริปกฺกตฺตา อายตนานํ โมโหติ ปริปกฺกายตนสฺส กมฺมกรณกาเล อสมฺโมหํ ทสฺเสติ. ทหรสฺส หิ จิตฺตปฺปวตฺติ ภวงฺคพหุลา เยภุยฺเยน ภวนฺตรชนกกมฺมายูหนสมตฺถา น โหตีติ. กมฺมกรณกาเลติ จ อิมินา สพฺโพ กมฺมสฺส ปจฺจยภูโต สมฺโมโห คหิโต, น สมฺปยุตฺโตว. เสสํ วุตฺตนยเมว.

ปทโยชนายาติ ‘‘ตสฺมา’’ติอาทีนํ ปทานํ สมฺพนฺเธน สห. อตฺถนิคมนนฺติ อิมสฺมึ อฏฺมวาเร เทสนตฺถนิคมนํ. นนฺทีติ เอวํ วุตฺตานํ สพฺพตณฺหานนฺติ ‘‘นนฺที ทุกฺขสฺส มูล’’นฺติ เอวํ นนฺทนตฺถสามฺโต เอกวจเนน วุตฺตานํ สพฺพตณฺหานํ สนฺตานารมฺมณสมฺปยุตฺตธมฺมปฺปวตฺติอาการาทิเภเทน อเนกเภทานํ สพฺพาสํ ตณฺหานํ. ขยเววจนาเนวาติ สมุจฺเฉทปหานเววจนาเนว. ‘‘อจฺจนฺตกฺขยา’’ติ หิ วุตฺตํ. จตุมคฺคกิจฺจสาธารณเมตนฺติ จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ปหานกิจฺจสฺส สาธารณํ สามฺโต คหณํ เอตํ ขยาทิวจนนฺติ อตฺโถ. เตสํ ปน มคฺคานํ กเมน ปวตฺตนํ กิจฺจกเมเนว ทสฺเสตุํ ‘‘วิราคา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตโต…เป… โยเชตพฺพ’’นฺติ อาห. ตถา สติปิ ขยาทิสทฺทานํ ปหานปริยายภาเว ปหาตพฺพาย ปน วิสยเภทภินฺนาย ตณฺหาย อนวเสสโต ปหีนภาวทีปนตฺถํ ขยาทิปริยายนฺตรคฺคหณํ กตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยาหี’’ติอาทิมาห. ยถาวุตฺตสฺชนนาทิเหตุภูตาย ตณฺหาย ปหีนตฺตา ตปฺปหานทีปนํ กตฺวา วุจฺจมานํ ขยาทิวจนํ น กถฺจิ ธมฺมตํ วิโลเมตีติ วุตฺตํ ‘‘น กิฺจิ วิรุชฺฌตี’’ติ.

อุตฺตรวิรหิตนฺติ อตฺตานํ อุตฺตริตุํ สมตฺถตฺตา อุตฺตเรน อธิเกน วิรหิตํ. อยฺจสฺส อุตฺตรวิรหตา อตฺตโน เสฏฺภาเวนาติ อาห ‘‘สพฺพเสฏฺ’’นฺติ. ยถา สมฺมา-สํ-สทฺทา ‘‘อวิปรีตํ, สาม’’นฺติ อิเมสํ ปทานํ อตฺถํ วทนฺติ, เอวํ ปาสํสโสภนตฺเถปีติ อาห ‘‘สมฺมา สามฺจ โพธึ ปสตฺถํ สุนฺทรฺจ โพธิ’’นฺติ. พุชฺฌิ เอตฺถ ปฏิวิชฺฌิ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, สพฺพมฺปิ วา เนยฺยนฺติ รุกฺโข โพธิ, พุชฺฌติ เอเตนาติ ปน มคฺโค โพธิ, ตถา สพฺพฺุตฺาณํ, นิพฺพานํ ปน พุชฺฌิตพฺพโต โพธีติ อยเมตฺถ สาธนวิภาโค ทฏฺพฺโพ. ปณฺณตฺติยมฺปิ อตฺเถว โพธิ-สทฺโท ‘‘โพธิราชกุมาโร’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๓๒๔; จูฬว. ๒๖๘). อปเรติ สารสมาสาจริยา. เอตฺถ จ สอุปสคฺคสฺส โพธิ-สทฺทสฺส อตฺถุทฺธาเร อนุปสคฺคานํ อุทาหรเณ การณํ เหฏฺา วุตฺตเมว.

โลกุตฺตรภาวโต วา ตตฺถาปิ เหฏฺิมมคฺคานํ วิย ตตุตฺตริมคฺคาภาวโต จ ‘‘สิยา นุ โข อนุตฺตรา โพธี’’ติ อาสงฺกํ สนฺธาย ตํ วิธมิตุํ ‘‘สาวกาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อภินีหารสมฺปตฺติยา ผลวิเสสภูเตหิ าณวิเสเสหิ เอกจฺเจหิ สกเลหิ สทฺธึ สมิชฺฌมาโน มคฺโค อริยานํ ตํ ตํ าณวิเสสาทึ เทนฺโต วิย โหตีติ ตสฺส อสพฺพคุณทายกตฺตํ วุตฺตํ. เตน อนฺสาธารณาภินีหารสมฺปทาสิทฺธสฺส นิรติสย-คุณานุพนฺธสฺส วเสน อรหตฺตมคฺโค อนุตฺตรา โพธิ นาม โหตีติ ทสฺเสติ. สาวกปารมิาณํ อฺเหิ สาวเกหิ อสาธารณํ มหาสาวกานํเยว อาเวณิกํ าณํ. ปจฺเจกํ สจฺจานิ พุทฺธวนฺโตติ ปจฺเจกพุทฺธา. นนุ จ สพฺเพปิ อริยา ปจฺเจกเมว สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺติ ธมฺมสฺส ปจฺจตฺตํ เวทนียภาวโตติ? สจฺจํ, นยิทมีทิสํ ปฏิเวธํ สนฺธาย วุตฺตํ, ยถา ปน สาวกา อฺสนฺนิสฺสเยน สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺติ ปรโตโฆเสน วินา เตสํ ทสฺสนมคฺคสฺส อนุปฺปชฺชนโต, ยถา จ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อฺเสํ นิสฺสยภาเวน สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌนฺติ, น เอวเมเต, เอเต ปน อปรเนยฺยา หุตฺวา อปริณายกภาเวน สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปจฺเจกํ สจฺจานิ พุทฺธวนฺโตติ ปจฺเจกพุทฺธา’’ติ.

อิตีติ กรียติ อุจฺจารียตีติ อิติกาโร, อิติ-สทฺโท. การณตฺโถ อนิยมรูเปนาติ อธิปฺปาโย, ตสฺมาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘ยสฺมา จา’’ติ. ปุพฺเพ ปน อิติ-สทฺทํ ปการตฺถํ กตฺวา ‘‘เอวํ ชานิตฺวา’’ติ วุตฺตํ, อิธาปิ ตํ ปการตฺถเมว กตฺวา อโถ ยุชฺชติ. กถํ? วิทิตฺวาติ หิ ปทํ เหตุอตฺเถ ทฏฺพฺพํ ‘‘ปฺาย จสฺส ทิสฺวา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๗๑), ‘‘ฆตํ ปิวิตฺวา พลํ โหตี’’ติ จ เอวมาทีสุ วิย, ตสฺมา ปการตฺเถปิ อิติ-สทฺเท ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส วิทิตตฺตาติ อยํ อตฺโถ ลพฺภเตว. ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ วิทิตฺวาติ เอตฺถาปิ เหตุอตฺเถ วิทิตฺวา-สทฺเท ยถาวุตฺตา อตฺถโยชนา ยุชฺชเตว. เอตฺถ จ ปมวิกปฺเป ปฏิจฺจสมุปาทสฺส วิทิตตฺถํ มฺนาภาวสฺส การณํ วตฺวา ตณฺหามูลกสฺส ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส ทสฺสิตตฺตา เอตฺถ ตณฺหาปฺปหานํ สมฺมาสมฺโพธิยา อธิคมนการณํ อุทฺธตนฺติ ทสฺสิตํ, ตสฺมา ‘‘ปถวึ น มฺตี’’ติอาทิ นิคมนํ ทฏฺพฺพํ. ทุติยวิกปฺเป ปน ปฏิจฺจสมุปฺปาทเวทนํ ตณฺหาปฺปหานสฺส การณํ วุตฺตํ, ตํ อภิสมฺโพธิยา อภิสมฺโพธิมฺนาภาวสฺสาติ อยมตฺโถ ทสฺสิโตติ อยเมเตสํ ทฺวินฺนํ อตฺถวิกปฺปานํ วิเสโส, ตสฺมา ‘‘นนฺที ทุกฺขสฺส มูล’’นฺติ วุตฺตํ.

ตํ กุโต ลพฺภตีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ยตฺถ ยตฺถ หี’’ติอาทิ. สาสนยุตฺติ อยํ สาสเนปิ เอวํ สมฺพนฺโธ ทิสฺสตีติ กตฺวา. โลเกปิ หิ ยํ-ตํ-สทฺทานํ อพฺยภิจาริสมฺพนฺธตา สิทฺธา.

เอวํ อภิสมฺพุทฺโธติ วทามีติ อภิสมฺพุทฺธภาวสฺส คหิตตฺตา, อสพฺพฺุนา เอวํ เทเสตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา จ ‘‘สพฺพฺุตฺาณํ ทสฺเสนฺโต’’ติอาทิมาห.

วิจิตฺรนยเทสนาวิลาสยุตฺตนฺติ ปุถุชฺชนวาราทิวิภาคภินฺเนหิ วิจิตฺเตหิ ตนฺติ นเยหิ, ลกฺขณกมฺมตณฺหามฺนาทิวิภาคภินฺเนหิ วิจิตฺเตหิ อตฺถนเยหิ, อภินนฺทนปจฺจยาการาทิวิเสสาปเทสสิทฺเธน เทสนาวิลาเสน จ ยุตฺตํ. ยถา เต น ชานนฺติ, ตถา เทเสสีติ อิมินาปิ ภควโต เทสนาวิลาสํเยว วิภาเวติ. ตํเยว กิร ปถวินฺติ เอตฺถ ปถวีคหณํ อุปลกฺขณมตฺตํ อาปาทิวเสนปิ, ตถา ‘‘กีทิสา นุ โข อิธ ปถวี อธิปฺเปตา, กสฺมา จ ภูตรูปานิเยว คหิตานิ, น เสสรูปานี’’ติอาทินาปิ เตสํ สํสยุปฺปตฺติ นิทฺธาเรตพฺพา. อถ วา กถํ นามิทนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ปการตฺโถ. เตน อิมสฺมึ สุตฺเต สพฺพายปิ เตสํ สํสยุปฺปตฺติยา ปริคฺคหิตตฺตา ทฏฺพฺพา. อนฺตนฺติ มริยาทํ, เทสนาย อนฺตํ ปริจฺเฉทนฺติ อตฺโถ, โย อนุสนฺธีติ วุจฺจติ. โกฏินฺติ ปริยนฺตํ, เทสนาย ปริโยสานนฺติ อตฺโถ. อุภเยน สุตฺเต อชฺฌาสยานุสนฺธิ ยถานุสนฺธีติ วทติ.

อนฺตรากถาติ กมฺมฏฺานมนสิการอุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนํ อนฺตรา อฺา เอกา ตถา. วิปฺปกถาติ อนิฏฺิตา สิขํ อปฺปตฺตา. กงฺขณานุรูเปนาติ ตสฺมึ ขเณ ธมฺมสภายํ สนฺนิปติตานํ ภิกฺขูนํ อชฺฌาสยานุรูเปน. อิทนฺติ อิทานิ วุจฺจมานํ มูลปริยายชาตกํ.

ทิสาปาโมกฺโขติ ปณฺฑิตภาเวน สพฺพทิสาสุ ปมุขภูโต. พฺราหฺมโณติ พฺรหฺมํ อณตีติ พฺราหฺมโณ, มนฺเต สชฺฌายตีติ อตฺโถ. ติณฺณํ เวทานนฺติ อิรุเวท-ยชุเวท-สามเวทานํ. ปารคูติ อตฺถโส พฺยฺชนโส จ ปารํ ปริยนฺตํ คโต. สห นิฆณฺฑุนา จ เกฏุเภน จาติ สนิฆณฺฑุเกฏุภา, เตสํ. นิฆณฺฑูติ รุกฺขาทีนํ เววจนปฺปกาสกํ สตฺถํ. เกฏุภนฺติ กิริยากปฺปวิกปฺโป, กวีนํ อุปการาวหํ สตฺถํ. สห อกฺขรปฺปเภเทนาติ สากฺขรปฺปเภทา, เตสํ, สิกฺขานิรุตฺติสหิตานนฺติ อตฺโถ. อิติหาสปฺจมานนฺติ อาถพฺพณเวทํ จตุตฺถํ กตฺวา ‘‘อิติห อส, อิติห อสา’’ติ อีทิสวจนปฏิสํยุตฺโต ปุราณกถาสงฺขาโต อิติหาโส ปฺจโม เอเตสนฺติ อิติหาสปฺจมา, เตสํ. ปทํ ตทวเสสฺจ พฺยากรณํ กายติ อชฺเฌติ เวเทติ จาติ ปทโก, เวยฺยากรโณ. โลกายตํ วุจฺจติ วิตณฺฑสตฺถํ. มหาปุริสานํ พุทฺธาทีนํ ลกฺขณทีปนคนฺโถ มหาปุริสลกฺขณํ. เตสุ อนูโน ปริปูรการีติ อนวโย.

มนฺเตติ เวเท. ยทิปิ เวโท ‘‘มนฺโต, พฺรหฺมํ, กปฺโป’’ติ ติวิโธ, มนฺโต เอว ปน มูลเวโท, ตทตฺถวิวรณํ พฺรหฺมํ, ตตฺถ วุตฺตนเยน ยฺกิริยาวิธานํ กปฺโป. เตน วุตฺตํ ‘‘มนฺเตติ เวเท’’ติ. ปณฺฑิตาติ ปฺาวนฺโต. ตถา หิ เต ปุถุปฺาตาย พหุํ สหสฺสทฺวิสหสฺสาทิปริมาณํ คนฺถํ ปากฏํ กตฺวา คณฺหนฺติ อุคฺคณฺหนฺติ, ชวนปฺตาย ลหุํ สีฆํ คณฺหนฺติ, ติกฺขปฺตาย สุฏฺุ อวิรชฺฌนฺตา อุปธาเรนฺติ, สติเนปกฺกสมฺปตฺติยา คหิตฺจ เนสํ น วินสฺสติ น สมฺมุสฺสตีติ. สพฺพมฺปิ สิปฺปนฺติ อฏฺารสวิชฺชาฏฺานาทิเภทํ สิกฺขิตพฺพฏฺเน สิปฺปนฺติ สงฺขฺยํ คตํ สพฺพํ พาหิรกสตฺถํ โมกฺขาวหสมฺมตมฺปิ น โมกฺขํ อาวหตีติ อาห ‘‘ทิฏฺธมฺมสมฺปรายหิต’’นฺติ. สมฺปิณฺฑิตา หุตฺวาติ ยถา มิตฺตา, ตถา ปิณฺฑิตวเสน สนฺนิปติตา หุตฺวา. ‘‘เอวํ คยฺหมาเน อาทินา วิรุชฺเฌยฺย, เอวํ อนฺเตนา’’ติ จินฺเตนฺตา าตุํ อิจฺฉิตสฺส อตฺถสฺส ปุพฺเพนาปรํ อวิรุทฺธํ นิจฺฉยํ คเหตุํ อสกฺโกนฺตา น อาทึ, น อนฺตํ อทฺทสํสุ.

โลมสานีติ โลมวนฺตานิ, ฆนเกสมสฺสุวานีติ อตฺโถ. เกสาปิ หิ โลมคฺคหเณน คยฺหนฺติ ยถา ‘‘โลมนขํ ผุสิตฺวา สุทฺธิ กาตพฺพา’’ติ. กณฺณํ วิยาติ กณฺณํ, ปฺา, ตาย สุตฺวา กาตพฺพกิจฺจสาธนโต วุตฺตํ ‘‘กณฺณวาติ ปฺวา’’ติ.

ยสฺมา สตฺตานํ คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล อายุวณฺณาทิปริกฺขโย โหติ, ตสฺมา ตํ กาเลน กตํ วิย กตฺวา วุตฺตํ ‘‘เนสํ อายุ…เป… ขาทตีติ วุจฺจตี’’ติ.

อภิฺายาติ กุสลาทิเภทํ ขนฺธาทิเภทฺจ เทเสตพฺพํ ธมฺมํ, เวเนยฺยานฺจ อาสยานุสยจริยาวิมุตฺติอาทิเภทํ, ตสฺส จ เนสํ เทเสตพฺพปฺปการํ ยาถาวโต อภิชานิตฺวา. ธมฺมํ เทเสมีติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกนิพฺพานหิตาวหํ สทฺธมฺมํ กถยามิ. โนอนภิฺายาติ ยถา พาหิรกา อสมฺมาสมฺพุทฺธตฺตา วุตฺตวิธึ อชานนฺตายํ กิฺจิ ตกฺกปริยาหตํ วีมํสานุจริตํ สยํปฏิภานํ กเถนฺติ, เอวํ น เทเสมีติ อตฺโถ. สนิทานนฺติ สการณํ, เวเนยฺยานํ อชฺฌาสยวเสน วา ปุจฺฉาย วา อฏฺุปฺปตฺติยา วา สนิมิตฺตํ เหตุอุทาหรณสหิตฺจาติ อตฺโถ. สปฺปาฏิหาริยนฺติ สนิสฺสรณํ สปฺปฏิหรณํ, ปจฺจนีกปฏิหรเณน สปฺปาฏิหาริยเมว กตฺวา เทเสมีติ อตฺโถ. อปเร ปน ‘‘ยถารหํ อิทฺธิอาเทสนานุสาสนิปาฏิหาริยสหิต’’นฺติ วทนฺติ, อนุสาสนิปาฏิหาริยหิตา ปน เทสนา นตฺถีติ. หิตูปเทสนา โอวาโท, สา เอว อนุสาสนี. อโนติณฺณวตฺถุวิสโย วา โอวาโท, โอติณฺณวตฺถุวิสยา อนุสาสนี. ปมูปเทโส วา โอวาโท, อิตรา อนุสาสนี. อลฺจ ปนาติ ยุตฺตเมว. นิฏฺมคมาสีติ อตฺถสิทฺธึ คตา.

ตถาคตวารอฏฺมนยวณฺณนา นิฏฺิตา.

อยํ ตาเวตฺถ อฏฺกถาย ลีนตฺถวณฺณนา.

เนตฺตินยวณฺณนา

อิทานิ (ที. นิ. ฏี. ๑.๑๔๙; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.เนตฺตินยวณฺณนา; อ. นิ. ฏี. เนตฺตินยวณฺณนา) ปกรณนเยน ปาฬิยา อตฺถวณฺณนํ กริสฺสาม. สา ปนายํ อตฺถวณฺณนา ยสฺมา เทสนาย สมุฏฺานปโยชนภาชเนสุ ปิณฺฑตฺเถสุ จ นิทฺธาริเตสุ สุตรา โหติ สุวิฺเยฺยา จ, ตสฺมา สุตฺตเทสนาย สมุฏฺานาทีนิ ปมํ นิทฺธารยิสฺสาม. ตตฺถ สมุฏฺานํ ตาว ปริยตฺตึ นิสฺสาย มานุปฺปาโท, ปโยชนํมานมทฺทนํ. วุตฺตฺหิ อฏฺกถายํ ‘‘สุตปริยตฺตึ…เป… อารภี’’ติ. อปิจ เวเนยฺยานํ ปถวีอาทิภูตาทิเภทภินฺเน สกฺกาเย ปุถุชฺชนสฺส เสกฺขาทิอริยสฺส จ สทฺธึ เหตุนา มฺนามฺนวเสน ปวตฺติวิภาคานวโพโธ สมุฏฺานํ, ยถาวุตฺตวิภาคาวโพโธ ปโยชนํ, เวเนยฺยานฺหิ วุตฺตปฺปกาเร วิสเย ยถาวุตฺตานํ ปุคฺคลานํ สทฺธึ เหตุนา มฺนามฺนวเสน ปวตฺติวิภาคาวโพโธ ปโยชนํ.

อปิจ สมุฏฺานํ นาม เทสนานิทานํ. ตํ สาธารณํ อสาธารณนฺติ ทุวิธํ. ตตฺถ สาธารณมฺปิ อชฺฌตฺติกพาหิรเภทโต ทุวิธํ. ตตฺถ สาธารณํ อชฺฌตฺติกสมุฏฺานํ นาม โลกนาถสฺส มหากรุณา. ตาย หิ สมุสฺสาหิตสฺส ภควโต เวเนยฺยานํ ธมฺมเทสนาย จิตฺตํ อุทปาทิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สตฺเตสุ จ การุฺตํ ปฏิจฺจ พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกสี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๒๘๓; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๙). เอตฺถ จ เหตาวตฺถายปิ มหากรุณาย สงฺคโห ทฏฺพฺโพ ยาวเทว สํสารมโหฆโต สทฺธมฺมเทสนาหตฺถทาเนหิ สตฺตสนฺตารณตฺถํ ตทุปฺปตฺติโต. ยถา จ มหากรุณา, เอวํ สพฺพฺุตฺาณํ ทสพลาณาทีนิ จ เทสนาย อพฺภนฺตรสมุฏฺานภาเว วตฺตพฺพานิ. สพฺพมฺปิ หิ เยฺยธมฺมํ, เตสํ เทเสตพฺพปฺปการํ, สตฺตานฺจ อาสยานุสยาทึ ยาถาวโต ชานนฺโต ภควา านาฏฺานาทีสุ โกสลฺเลน เวเนยฺยชฺฌาสยานุรูปํ วิจิตฺตนยเทสนํ ปวตฺเตสีติ. พาหิรํ ปน สาธารณํ สมุฏฺานํ ทสสหสฺสพฺรหฺมปริวาริตสฺส สหมฺปติมหาพฺรหฺมุโน อชฺเฌสนํ. ตทชฺเฌสนุตฺตรกาลฺหิ ธมฺมคมฺภีรตาปจฺจเวกฺขณาชนิตํ อปฺโปสฺสุกฺกตํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตฺวา ธมฺมสฺสามี ธมฺมเทสนาย อุสฺสาหชาโต อโหสิ. อสาธารณมฺปิ อมฺภนฺตรพาหิรเภทโต ทุวิธเมว. ตตฺถ อพฺภนฺตรํ ยาย มหากรุณาย เยน จ เทสนาาเณน อิทํ สุตฺตํ ปวตฺติตํ, ตทุภยํ เวทิตพฺพํ. พาหิรํ ปน ปฺจสตานํ พฺราหฺมณชาติกานํ ภิกฺขูนํ ปริยตฺตึ นิสฺสาย มานุปฺปาทนํ, วุตฺตเมว ตํ อฏฺกถายํ.

ปโยชนมฺปิ สาธารณํ อสาธารณนฺติ ทุวิธํ. ตตฺถ สาธารณํ อนุกฺกเมน ยาว อนุปาทาปรินิพฺพานํ วิมุตฺติรสตฺตา ภควโต เทสนาย. เตเนวาห ‘‘เอตทตฺถา ตถา, เอตทตฺถา มนฺตนา’’ติอาทิ (ปริ. ๓๖๖). เอเตเนว จ สํสารจกฺกนิวตฺติ สทฺธมฺมจกฺกปฺปวตฺติ สสฺสตาทิมิจฺฉาวาทนิรากรณํ สมฺมาวาทปุเรกฺขาโร อกุสลมูลสมูหนนํ กุสลมูลสํโรปนํ อปายทฺวารปิทหนํ สคฺคโมกฺขทฺวารวิวรณํ ปริยุฏฺานวูปสมนํ อนุสยสมุคฺฆาตนํ ‘‘มุตฺโต โมเจสฺสามี’’ติ (อุทา. อฏฺ. ๑๘; อิติวุ. อฏฺ. ๓๘) ปุริมปฏิฺาอวิสํวาทนํ ตปฺปฏิปกฺขมารมโนรถวิสํวาทนํ ติตฺถิยธมฺมนิมฺมถนํ พุทฺธธมฺมปติฏฺาปนนฺติ เอวมาทีนมฺปิ ปโยชนานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อสาธารณํ ปน เตสํ ภิกฺขูนํ มานมทฺทนํ. วุตฺตฺเจตํ อฏฺกถายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑) ‘‘เทสนากุสโล ภควา มานภฺชนตฺถํ ‘สพฺพธมฺมมูลปริยาย’นฺติ เทสนํ อารภี’’ติ. อุภยมฺเปตํ พาหิยเมว. สเจ ปน เวเนยฺยสนฺตานคตมฺปิ เทสนาพลสิทฺธิสงฺขาตํ ปโยชนํ อธิปฺปายสมิชฺฌนภาวโต ยถาธิปฺเปตตฺถสิทฺธิยา ยถาการุณิกสฺส ภควโตปิ ปโยชนเมวาติ คณฺเหยฺย, อิมินา ปริยาเยนสฺส อพฺภนฺตรตาปิ เวทิตพฺพา.

อปิจ เวเนยฺยานํ ปถวีอาทิภูตาทิวิภาคภินฺเน สกฺกาเย ปุถุชฺชนสฺส เสกฺขาทิอริยสฺส จ สทฺธึ เหตุนา มฺนามฺนวเสน ปวตฺติวิภาคานวโพโธ สมุฏฺานํ, อิมสฺส สุตฺตสฺส ยถาวุตฺตวิภาคาวโพโธ ปโยชนนฺติ วุตฺโตวายมตฺโถ. เวเนยฺยานฺหิ วุตฺตปฺปกาเร วิสเย ยถาวุตฺตานํ ปุคฺคลานํ สทฺธึ เหตุนา มฺนามฺนานํ วเสน ปวตฺติวิภาคาวโพโธ อิมํ เทสนํ ปโยเชติ ‘‘ตนฺนิปฺผาทนปรายํ เทสนา’’ติ กตฺวา. ยฺหิ เทสนาย สาเธตพฺพํ ผลํ, ตํ อากงฺขิตพฺพตฺตา เทสกํ เทสนาย ปโยเชตีติ ปโยชนนฺติ วุจฺจติ. ตถา เวเนยฺยานํ สพฺพโส เอกเทสโต จ มฺนานํ อปฺปหานํ, ตตฺถ จ อาทีนวาทสฺสนํ, นิรงฺกุสานํ มฺนานํ อเนกาการโวหารสฺส สกฺกาเย ปวตฺติวิเสสสฺส อชานนํ, ตตฺถ จ ปหีนมฺนานํ ปฏิปตฺติยา อชานนํ, ตณฺหามุเขน ปจฺจยาการสฺส จ อนวโพโธติ เอวมาทีนิ จ ปโยชนานิ อิธ เวทิตพฺพานิ.

ภูมิตฺตยปริยาปนฺเนสุ อสงฺขาตธมฺมวิปฺปกตปริฺาทิกิจฺจสงฺขาตธมฺมานํ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส จ ปฏิปตฺตึ อชานนฺตา อสทฺธมฺมสฺสวนธารณปริจยมนสิการปรา สทฺธมฺมสฺสวน-ธารณปริจยปฏิเวธวิมุขา จ เวเนยฺยา อิมิสฺสา เทสนาย ภาชนํ. ปิณฺฑตฺถา ปน ‘‘อสฺสุตวา’’ติอาทินา อโยนิโสมนสิการพหุลีกาโร อกุสลมูล-สมาโยโค โอลียนาติธาวนาปริคฺคโห อุปายวินิพทฺธานุพฺรูหนา มิจฺฉาภินิเวสสมนฺนาคโม อวิชฺชาตณฺหา-ปริสุทฺธิ วฏฺฏตฺตยานุปรโม อาสโวฆโยคคนฺถาคติตณฺหุปฺปาทุปาทานาวิโยโค เจโตขิล-เจโตวินิพทฺธอภินนฺทน-นีวรณสงฺคานติกฺกโม วิวาทมูลาปริจฺจาโค อนุสยานุปจฺเฉโท มิจฺฉตฺตานติวตฺตนํ ตณฺหามูลธมฺมสนฺนิสฺสยตา อกุสลกมฺมปถานุโยโค สพฺพกิเลส-ปริฬาหสารทฺธกายจิตฺตตาติ เอวมาทโย ทีปิตา โหนฺติ. ‘‘ปถวึ ปถวิโต สฺชานาตี’’ติอาทินา ตณฺหาวิจริตนิทฺเทโส มานชปฺปนา วิปริเยสาภินิเวโส สํกิเลโส สกฺกายปริคฺคโห พาลลกฺขณาปเทโส วงฺกตฺตยวิภาวนานุโยโค พหุการปฏิปกฺขทีปนา ติวิธนิสฺสยสํสูจนา อาสวกฺขยกถนนฺติ เอวมาทโย ทีปิตา โหนฺติ.

โสฬสหารวณฺณนา

๑. เทสนาหารวณฺณนา

ตตฺถ เย อุปาทานกฺขนฺธธมฺเม อุปาทาย ปถวีอาทิภูตาทิเภทา ปฺตฺติ, เต ปฺตฺติปฏิปาทนภาเวน ชาติชรามรณวิเสสนทุกฺขปริยาเยน จ วุตฺตา ตณฺหาวชฺชา เตภูมกธมฺมา ทุกฺขสจฺจํ. มฺนาภินนฺทนนนฺทีปริยาเยหิ วุตฺตา ตณฺหา สมุทยสจฺจํ. อยํ ตาว สุตฺตนฺตนโย. อภิธมฺมนเย ปน ยถาวุตฺตตณฺหาย สทฺธึ ‘‘อสฺสุตวา’’ติอาทินา ทีปิตา อวิชฺชาทโย, มฺนาปริยาเยน คหิตา มานทิฏฺิโย, ภวปเทน คหิโต กมฺมภโว จาติ สพฺเพปิ กิเลสาภิสงฺขารา สมุทยสจฺจํ. อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ นิโรธสจฺจํ. อริยธมฺมคฺคหเณน, ปริฺาภิกฺขุเสกฺขาภิฺาคหเณหิ, ราคาทิขยวจเนหิ, สมฺมาสมฺโพธิคหเณน จ มคฺคสจฺจํ. เกจิ ปน ตณฺหากฺขยาทิวจเนหิ นิโรธสจฺจํ อุทฺธรนฺติ, ตํ อฏฺกถาย วิรุชฺฌติ ตตฺถ ตณฺหากฺขยาทีนํ มคฺคกิจฺจภาวสฺส อุทฺธฏตฺตา.

ตตฺถ สมุทเยน อสฺสาโท, ทุกฺเขน อาทีนโว, มคฺคนิโรเธหิ นิสฺสรณํ, เตสํ ภิกฺขูนํ มานภฺชนํ ผลํ, ตถา ‘‘ยถาวุตฺตวิภาคาวโพโธ’’ติอาทินา วุตฺตํ ปโยชนฺจ. ตสฺส นิปฺผตฺติการณตฺตา เทสนาย วิจิตฺตตา จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ ยาถาวโต สภาวูปธารณฺจ อุปาโย, ปถวีอาทีสุ ปุถุชฺชนาทีนํ ปวตฺติทสฺสนาปเทเสน ปถวีอาทโย เอกนฺตโต ปริชานิตพฺพา, มฺนา จ ปหาตพฺพาติ อยเมตฺถ ภควโต อาณตฺตีติ. อยํ เทสนาหาโร.

๒. วิจยหารวณฺณนา

มฺนานํ สกฺกายสฺส อวิเสสเหตุภาวโต, กสฺสจิปิ ตตฺถ อเสสิตพฺพโต จ สพฺพคหณํ, สภาวธารณโต นิสฺสตฺตนิชฺชีวโต จ ธมฺมคฺคหณํ, ปติฏฺาภาวโต อาเวณิกเหตุภาวโต จ มูลคฺคหณํ, การณภาวโต เทสนตฺถสมฺภวโต จ ปริยายคฺคหณํ, สมฺมุขภาวโต สมฺปทานตฺถสมฺภวโต จ ‘‘โว’’ติ วจนํ, ตถารูปคุณโยคโต อภิมุขีกรณโต จ ‘‘ภิกฺขเว’’ติ อาลปนํ. เทเสตุํ สมตฺถภาวโต เตสํ สตุปฺปาทนตฺถฺจ ‘‘เทเสสฺสามี’’ติ ปฏิชานนํ, เทเสตพฺพตาย ปฏิฺาตภาวโต, ยถาปฏิฺฺจ เทสนโต ‘‘ต’’นฺติ ปจฺจามสนํ, โสตพฺพภาวโต, สวนตฺถสฺส จ เอกนฺเตน นิปฺผาทนโต ‘‘สุณาถา’’ติ วุตฺตํ. สกฺกาตพฺพโต, สกฺกจฺจกิริยาย เอว จ ตทตฺถสิทฺธิโต ‘‘สาธุก’’นฺติ วุตฺตํ. ธมฺมสฺส มนสิกรณียโต ตทธีนตฺตา จ สพฺพสมฺปตฺตีนํ ‘‘มนสิ กโรถา’’ติ วุตฺตํ ยถาปริฺาตาย เทสนาย ปริพฺยตฺตภาวโต วิตฺถารตฺถสมฺภวโต จ ‘‘ภาสิสฺสามี’’ติ วุตฺตํ. ภควโต สเทวเกน โลเกน สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพวจนตฺตา, ตสฺส จ ยถาธิปฺเปตตฺถสาธนโต ‘‘เอว’’นฺติ วุตฺตํ. สตฺถุ อุตฺตมคารวฏฺานภาวโต, ตตฺถ จ คารวสฺส อุฬารปุฺภาวโต ‘‘ภนฺเต’’ติ วุตฺตํ. ภิกฺขูนํ ตถากิริยาย นิจฺฉิตภาวโต วจนาลงฺการโต จ ‘‘โข’’ติ วุตฺตํ. สวนสฺส ปฏิชานิตพฺพโต, ตถา เตหิ ปฏิปนฺนตฺตา จ ‘‘ปจฺจสฺโสสุ’’นฺติ วุตฺตํ ปจฺจกฺขภาวโต, สกลสฺสปิ เอกชฺฌํ กรณโต ‘‘เอต’’นฺติ วุตฺตํ.

วุจฺจมานสฺส ปุคฺคลสฺส โลกปริยาปนฺนตฺตา โลกาธารตฺตา จ โลกํ อุปาทาย ‘‘อิธา’’ติ วุตฺตํ. ปฏิเวธพาหุสจฺจาภาวโต ปริยตฺติพาหุสจฺจาภาวโต จ ‘‘อสฺสุตวา’’ติ วุตฺตํ. ปุถูสุ, ปุถุ วา ชนภาวโต ‘‘ปุถุชฺชโน’’ติ วุตฺตํ. อนริยธมฺมวิรหโต อริยธมฺมสมนฺนาคมโต จ ‘‘อริยาน’’นฺติ วุตฺตํ. อริยภาวกราย ปฏิปตฺติยา อภาวโต, ตตฺถ โกสลฺลทมถาภาวโต ‘‘อริยานํ อทสฺสาวี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อสนฺตธมฺมสฺสวนโต สนฺตธมฺมสมนฺนาคมโต สพฺภิ ปาสํสิยโต จ ‘‘สปฺปุริสาน’’นฺติ วุตฺตํ. สปฺปุริสภาวกราย ปฏิปตฺติยา อภาวโต, ตตฺถ จ โกสลฺลทมถาภาวโต ‘‘สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปถวีวตฺถุกานํ มฺนานํ, อุปริ วุจฺจมานานฺจมฺนานํ มูลกตฺตา ปปฺจสงฺขานํ ‘‘ปถวึ ปถวิโต สฺชานาตี’’ติ วุตฺตํ. อนฺธปุถุชฺชนสฺส อหํการ-มมํการานํ กตฺถจิปิ อปฺปหีนตฺตา ‘‘ปถวึ มฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ปุพฺเพ อคฺคหิตตฺตา, สามฺโต จ คยฺหมานตฺตา, ปุคฺคลสฺส ปถวีอาทิอารมฺมณสภาคตาย ลพฺภมานตฺตา จ ‘‘โยปี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘โย’’ติ อนิยเมน คหิตสฺส นิยเมตพฺพโต ปฏินิทฺทิสิตพฺพโต จ; ‘‘โส’’ติ วุตฺตํ สาติสยํ สํสาเร ภยสฺส อิกฺขนโต กิเลสเภทนสมฺภวโต จ ‘‘ภิกฺขู’’ติ วุตฺตํ. สิกฺขาหิ สมนฺนาคมโต เสกฺขธมฺมปฏิลาภโต จ ‘‘เสกฺโข’’ติ วุตฺตํ. มนสา ลทฺธพฺพสฺส อรหตฺตสฺส อนธิคตตฺตา อธิคมนียโต จ ‘‘อปฺปตฺตมานโส’’ติ วุตฺตํ. อปเรน อนุตฺตรณียโต, ปรํ อนุจฺฉวิกภาเวน อุตฺตริตฺวา ิตตฺตา จ ‘‘อนุตฺตร’’นฺติ วุตฺตํ. โยเคน ภาวนาย กามโยคาทิโต จ เขมํ สิวํ อนุปทฺทวนฺติ ‘‘โยคกฺเขม’’นฺติ วุตฺตํ. ฉนฺทปฺปวตฺติยา อุสฺสุกฺกาปตฺติยา จ ‘‘ปตฺถยมาโน’’ติ วุตฺตํ. ตทตฺถสฺส สพฺพโส สพฺพอิริยาปถวิหารสฺส สมถวิปสฺสนาวิหารสฺส ทิพฺพวิหารสฺส จ วเสน ‘‘วิหรตี’’ติ วุตฺตํ. เสกฺขสฺส สพฺพโส อภิฺเยฺยภาวฺเจว ปริฺเยฺยภาวฺจ าเณน อภิภวิตฺวา ชานนโต ‘‘อภิชานาตี’’ติ วุตฺตํ. เสกฺขสฺส สพฺพโส อปฺปหีนมฺนตาย อภาวโต ‘‘มา มฺี’’ติ วุตฺตํ. เสสํ วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพํ. อิมินา นเยน อิโต ปรํ สพฺพปเทสุ วินิจฺฉโย กาตพฺโพ. สกฺกา หิ อฏฺกถํ ตสฺสา ลีนตฺถวณฺณนฺจ อนุคนฺตฺวา อยมตฺโถ วิฺูหิ วิภาเวตุนฺติ อติวิตฺถารภเยน น วิตฺถารยิมฺห. อิติ อนุปทวิจยโต วิจโย หาโร.

๓. ยุตฺติหารวณฺณนา

สกฺกายสฺส สพฺพมฺนานํ มูลภาโว ยุชฺชติ ปริกปฺปมตฺตกตฺตา โลกวิจิตฺตสฺส. พฺยาหุสจฺจทฺวยรหิตสฺส อนฺธปุถุชฺชนภาโว ยุชฺชติ ปุถุกิเลสาภิสงฺขารชนนาทิสภาวตฺตา. ยถาวุตฺตปุถุชฺชนสฺส วา วุตฺตปฺปการพาหุสจฺจาภาโว ยุชฺชติ ตสฺมึ สติ สพฺภาวโต. ตตฺถ อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส อริยานํ สปฺปุริสานฺจ อทสฺสาวิตาทิ ยุชฺชติ อริยกรธมฺมานํ อริยภาวสฺส จ เตน อทิฏฺตฺตา อปฺปฏิปนฺนตฺตา จ ตถา ตสฺส ปถวิยา ‘‘อหํ ปถวี, มม ปถวี, ปโร ปถวี’’ติ สฺชานนํ ยุชฺชติ อหํการมมํการานํ สพฺเพน สพฺพํ อปฺปหีนตฺตา. ตถา สฺชานโต จสฺส ปถวึ กมฺมาทิกรณาทิวเสน คเหตฺวา นานปฺปการโต มฺนาปวตฺติ ยุชฺชติ สฺานิทานตฺตา ปปฺจสงฺขานํ. โย มฺติ, ตสฺส อปริฺาตวตฺถุกตา ยุชฺชติ ปริฺาย วินา มฺนาปหานาภาวโต. ‘‘อาปํ อาปโต สฺชานาตี’’ติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อปริโยสิตสิกฺขสฺส อปฺปตฺตมานสตา ยุชฺชติ กตกิจฺจตาภาวโต. เสกฺขสฺส สโต โยคกฺเขมปตฺถนา ยุชฺชติ ตทธิมุตฺตภาวโต. ตถา ตสฺส ปถวิยา อภิชานนา ยุชฺชติ ปริฺาปหาเนสุ มตฺตโส การิภาวโต. ตโต เอว จสฺส ‘‘มา มฺี’’ติ วตฺตพฺพตา ยุชฺชติ วตฺถุปริฺาย วิย มฺนาปหานสฺสปิ วิปฺปกตภาวโต. เสกฺขสฺส ปถวิยา ปริฺเยฺยตา ยุชฺชติ ปริฺาตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา สพฺพโส อปริฺาตตฺตา จ. ‘‘อาปํ อาปโต’’ติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อรหตฺตาทิยุตฺตสฺส ปถวิยาทีนํ อภิชานนา มฺนาภาโว จ ยุชฺชติ สงฺขาตธมฺมตฺตา, สพฺพโส กิเลสานํ ปหีนตฺตา, ตโต เอว จสฺส วีตราคาทิภาโว ตโต สมฺมเทว จ ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส ปฏิวิทฺธตาติ. อยํ ยุตฺติหาโร.

๔. ปทฏฺานหารวณฺณนา

กิสฺโสปิ มฺนา สกฺกายสฺส ปทฏฺานํ, มฺนานํ อโยนิโสมนสิกาโร ปทฏฺานํ, สุตทฺวยวิรโห อนฺธปุถุชฺชนภาวสฺส ปทฏฺานํ, โส อริยานํ อทสฺสาวิตาย ปทฏฺานํ, สา อริยธมฺมสฺส อโกวิทตาย ปทฏฺานํ, สา อริยธมฺเม อวินีตตาย ปทฏฺานํ. ‘‘สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สฺาวิปลฺลาโส มฺนานํ ปทฏฺานํ. สฺานิทานา หิ ปปฺจสงฺขาติ. มฺนาสุ จ ตณฺหามฺนา อิตรมฺนานํ ปทฏฺานํ ‘‘ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิต’’นฺติ, (ที. นิ. ๑.๑๐๕-๑๐๙) ‘‘ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; มหาว. ๑) จ วจนโต, ตณฺหาคตสฺเสว จ ‘‘เสยฺโยหมสฺมิ’’นฺติอาทินา มานชปฺปนาสพฺภาวตา. สพฺพาปิ วา มฺนา สพฺพาสํ มฺนานํ ปทฏฺานํ . ‘‘อุปาทานปจฺจยา ตณฺหา’’ติ หิ วจนโต ทิฏฺิปิ ตณฺหาย ปทฏฺานํ. ‘‘อหมสฺมิ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๒; ๓.๓๙) อาทิวจนโต มาโนปิ ทิฏฺิยา ปทฏฺานํ. ตถา ‘‘อสฺมีติ สติ อิตฺถํสฺมีติ โหติ, เอวํสฺมีติ โหติ, อฺถาสฺมีติ โหตี’’ติอาทิวจนโต มานสฺสปิ ตณฺหาย ปทฏฺานตา ลพฺภเตว. เสกฺขา ธมฺมา สปฺปเทสโต มฺนาปหานสฺส ปทฏฺานํ. อเสกฺขา นิปฺปเทสโต มฺนาปหานสฺส ปทฏฺานํ. กมฺมภโว จ ชาติยา ปทฏฺานํ. ชาติ ชรามรณสฺส ปทฏฺานํ. ปจฺจยาการสฺส ยถาภูตาวโพโธ สมฺมาสมฺโพธิยา ปทฏฺานนฺติ. อยํ ปทฏฺาโน หาโร.

๕. ลกฺขณหารวณฺณนา

‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยาย’’นฺติ เอตฺถ มูลคฺคหเณน มูลปริยายคฺคหเณน วา ยถา ตณฺหามานทิฏฺิโย คยฺหนฺติ, เอวํ โทสโมหาทีนมฺปิ สกฺกายมูลธมฺมานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ สกฺกายสฺส มูลภาเวน เอกลกฺขณตฺตา. ‘‘อสฺสุตวา’’ติ อิมินา ยถา ตสฺส ปุคฺคลสฺส ปริยตฺติปฏิเวธสทฺธมฺมานํ อภาโว คยฺหติ, เอวํ ปฏิปตฺติสทฺธมฺมสฺสปิ อภาโว คยฺหติ สทฺธมฺมภาเวน เอกลกฺขณตฺตา. อริยานํ อทสฺสนกามตาทิลกฺขณา. ‘‘อริยธมฺมสฺส อโกวิโท’’ติ อิมินา อริยธมฺมาธิคมสฺส วิพนฺธภูตํ อฺาณํ. ‘‘อริยธมฺเม อวินีโต’’ติ อิมินา อริยวินยาภาโว. โส ปนตฺถโต อริยวินเย อปฺปฏิปตฺติ เอว วาติ ตีหิปิ ปเทหิ ยถาวุตฺตวิสยา มิจฺฉาทิฏฺิ วิจิกิจฺฉา จ คหิตาว โหนฺติ. ตคฺคหเณน จ สพฺเพปิ อกุสลา ธมฺมา สงฺคหิตาว โหนฺติ สํกิเลสลกฺขเณน เอกลกฺขณตฺตา. ‘‘สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

‘‘ปถวึ ปถวิโต สฺชานาตี’’ติ อิทํ ทิฏฺิมฺนาทีนํ สฺาย การณภาวทสฺสนํ. ตตฺถ ยถา สฺา, เอวํ วิตกฺกผสฺสาวิชฺชาอโยนิโสมนสิการาทโยปิ ตาสํ การณนฺติ อตฺถโต เตสมฺเปตฺถ สงฺคโห วุตฺโต โหติ มฺนานํ การณภาเวน เอกลกฺขณตฺตา. ‘‘มฺตี’’ติ อิมินา มฺนากิจฺเจน ตณฺหามานทิฏฺิโย คหิตา ตาสํ กิเลสสภาวตฺตา. ตคฺคหเณเนว วิจิกิจฺฉาทินมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ กิเลสลกฺขเณน เอกลกฺขณตฺตา. ตถา ตณฺหาย เหตุสภาวตฺตา ตคฺคหเณเนว อวสิฏฺากุสลเหตูนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ เหตุลกฺขเณน เอกลกฺขณตฺตา. ตถา ตณฺหาทิฏฺีนํ อาสวาทิสภาวตฺตา ตคฺคหเณเนว อวสิฏฺาสโวฆโยคคนฺถนีวรณาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ อาสวาทิสภาวตฺตา เอกลกฺขณตฺตา. ตถา ‘‘ปถวึ มฺตี’’ติอาทินา ปถวีอาทีนํ รูปสภาวตฺตา ตพฺพิสยานฺจ มฺนานํ รูปวิสยตฺตา ตคฺคหเณเนว สกลรูปกฺขนฺธวิสยาปิ มฺนา ทสฺสิตา โหนฺติ รูปวิสยลกฺขเณน อาสํ เอกลกฺขณตฺตา. เอวํ จกฺขายตนาทิวิสยาปิ มฺนา นิทฺธาเรตพฺพา. ‘‘อปริฺาต’’นฺติ ปริฺาปฏิกฺเขเปน ตปฺปฏิพทฺธกิเลสานํ ปหานปฏิกฺเขโปติ ทฏฺพฺโพ มคฺคกิจฺจภาเวน ปริฺาปหานานํ เอกลกฺขณตฺตา. อิมินา นเยน เสเสสุปิ ยถารหํ เอกลกฺขณา นิทฺธาเรตพฺพาติ. อยํ ลกฺขโณ หาโร.

๖. จตุพฺยูหหารวณฺณนา

ปถวีอาทีสุ วตฺถูสุ พฺยฺชนจฺฉายาย อตฺถํ คเหตฺวา ธมฺมคมฺภีรตํ อสลฺลกฺเขตฺวา อสทฺธมฺมสฺสวนาทินา วฺจิตา หุตฺวา สทฺธมฺมสฺสวนธารณปริจยมนสิการวิมุขา ปถวีอาทีสุ วตฺถูสุ ปุถุชฺชนเสกฺขาเสกฺขตถาคตานํ ปฏิปตฺติวิเสสํ อชานนฺตา จ เวเนยฺยา อิมิสฺสา เทสนาย นิทานํ. เต ‘‘กถํ นุ โข ยถาวุตฺตโทสวินิมุตฺตา ยถาวุตฺตฺจ วิเสสํ ชานนฺตา สมฺมาปฏิปตฺติยา อุภยหิตปรายณา สเวยฺยุ’’นฺติ อยเมตฺถ ภควโต อธิปฺปาโย. ปทนิพฺพจนํ นิรุตฺตํ, ตํ ‘‘เอว’’นฺติอาทินิทานปทานํ, ‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยาย’’นฺติอาทิปาฬิปทานฺจ อฏฺกถายํ, ตสฺสา ลีนตฺถวณฺณนายฺเจว วุตฺตนเยน สุวิฺเยฺยตฺตา อติวิตฺถารภเยน น วิตฺถารยิมฺห.

ปทปทตฺถเทสนานิกฺเขปสุตฺตสนฺธิวเสน ปฺจวิธา สนฺธิ. ตตฺถ ปทสฺส ปทนฺตเรน สมฺพนฺโธ ปทสนฺธิ, ตถา ปทตฺถสฺส ปทตฺถนฺตเรน สมฺพนฺโธ ปทตฺถสนฺธิ, โย ‘‘กิริยาการกสมฺพนฺโธ’’ติ วุจฺจติ. นานานุสนฺธิกสฺส สุตฺตสฺส ตํตํอนุสนฺธีหิ สมฺพนฺโธ, เอกานุสนฺธิกสฺส ปน ปุพฺพาปรสมฺพนฺโธ เทสนาสนฺธิ. ยา อฏฺกถายํ ‘‘ปุจฺฉานุสนฺธิ อชฺฌาสยานุสนฺธิ ยถานุสนฺธี’’ติ ติธา วิภตฺตา. อชฺฌาสโย เจตฺถ อตฺตชฺฌาสโย ปรชฺฌาสโยติ ทฺวิธา เวทิตพฺโพ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา นิทานวณฺณนายํ วุตฺตเมว. นิกฺเขปสนฺธิ จตุนฺนํ สุตฺตนิกฺเขปานํ วเสน เวทิตพฺโพ. สุตฺตสนฺธิ อิธ ปมนิกฺเขปวเสเนว เวทิตพฺโพ. กสฺมา ปเนตฺถ มูลปริยายสุตฺตเมว ปมํ นิกฺขิตฺตนฺติ? นายมนุโยโค กตฺถจิ นปฺปวตฺตติ, อปิจ ยสฺมา มฺนามูลกํ สกฺกายํ, สพฺพมฺนา จ ตตฺถ เอว อเนกเภทภินฺนา ปวตฺตติ, น ตสฺสา สวิสยาย เลสมตฺตมฺปิ สารํ อตฺถีติ ปถวีอาทิวิภาคภินฺเนสุ มฺนาสุ จ สาติสยํ นิพฺเพธวิราคสฺชนนี อุปริ เสกฺขาเสกฺขตถาคตคุณวิภาวนี จ อยํ เทสนา. สุตฺตนฺตเทสนา จ วิเสสโต ทิฏฺิวินิเวนกถา, ตสฺมา สนิสฺสยสฺส ทิฏฺิคฺคาหสฺส อาทิโต อสารภาวทีปนํ อุปริ จ สพฺเพสํ อริยานํ คุณวิเสสวิภาวนมิทํ สุตฺตํ ปมํ นิกฺขิตฺตํ. กิฺจ สกฺกาเย มฺนามฺนามุเขน ปวตฺตินิวตฺตีสุ อาทีนวานิสํสวิภาวนโต สพฺเพสํ ปุคฺคลานํ ปฏิปตฺติวิภาคโต จ อิทเมว สุตฺตํ ปมํ นิกฺขิตฺตํ.

ยํ ปน เอกิสฺสา เทสนาย เทสนนฺตเรน สทฺธึ สํสนฺทนํ, อยมฺปิ เทสนาสนฺธิ, สา เอวํ เวทิตพฺพา. ‘‘อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน…เป… นิพฺพานํ อภินนฺทตี’’ติ อยํ เทสนา. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน…เป… สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต มนสิกรณีเย ธมฺเม นปฺปชานาติ, อมนสิกรณีเย จ ธมฺเม นปฺปชานาติ, โส มนสิกรณีเย ธมฺเม อปฺปชานนฺโต อมนสิกรณีเย จ ธมฺเม อปฺปชานนฺโต เย ธมฺมา น มนสิกรณียา, เต ธมฺเม มนสิ กโรติ…เป… อนุปฺปนฺโน วา กามาสโว อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน วา กามาสโว ปวฑฺฒติ. อนุปฺปนฺโน วา ภวาสโว อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน วา ภวาสโว ปวฑฺฒติ, อนุปฺปนฺโน วา อวิชฺชาสโว อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน วา อวิชฺชาสโว ปวฑฺฒตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๗) อิมาย เทสนาย สํสนฺทติ. ตถา ‘‘ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ สุภนิมิตฺตํ มนสิ กริสฺสติ, ตสฺส สุภนิมิตฺตสฺส มนสิการา ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสสฺสติ, โส สราโค สโทโส สโมโห สางฺคโณ สํกิลิฏฺจิตฺโต กาลํ กริสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๕๙) อิมาย เทสนาย สํสนฺทติ. ตถา ‘‘จกฺขุฺจาวุโส ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา. ยํ เวเทติ ตํ สฺชานาติ, ยํ สฺชานาติ ตํ วิตกฺเกติ, ยํ วิตกฺเกติ ตํ ปปฺเจติ, ยํ ปปฺเจติ ตโตนิทานํ ปุริสํ ปปฺจสฺาสงฺขา สมุทาจรนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๐๔) อิมาย เทสนาย สํสนฺทติ. ตถา ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, อสุตวา ปุถุชฺชโน…เป… สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต รูปํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ. เวทนํ…เป…, สฺํ…เป…, สงฺขาเร…เป…, วิฺาณํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ. ยมฺปิ ตํ ทิฏฺํ…เป… ยมฺปิ ตํ ทิฏฺิฏฺานํ, โส โลโก โส อตฺตา โส เปจฺจ ภวิสฺสามิ นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต อวิปริณามธมฺโม สสฺสติสมํ ตเถว สฺสามีติ, ตมฺปิ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔๑) อิมาย เทสนาย สํสนฺทติ.

‘‘โยปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ…เป… นิพฺพานํ มาภินนฺที’’ติ อยํ เทสนา. ‘‘อิธ, เทวานมินฺท, ภิกฺขุโน สุตํ โหติ ‘สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสายา’ติ, เอวฺเจตํ, เทวานมินฺท, ภิกฺขุโน สุตํ โหติ ‘สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสายา’ติ, โส สพฺพํ ธมฺมํ อภิชานาติ, สพฺพํ ธมฺมํ อภิฺาย สพฺพํ ธมฺมํ ปริชานาติ, สพฺพํ ธมฺมํ ปริฺาย ยํ กิฺจิ เวทนํ เวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, โส ตาสุ เวทนาสุ อนิจฺจานุปสฺสี วิหรติ, วิราคานุปสฺสี วิหรติ, นิโรธานุปสฺสี วิหรติ, ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี วิหรตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๙๐) อิมาย เทสนาย สํสนฺทติ. ‘‘โยปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ…เป… อภิสมฺพุทฺโธติ วทามี’’ติ อยํ เทสนา ‘‘สุตวา จ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก…เป… สปฺปุริสธมฺเม สุวินีโต รูปํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ, เวทนํ…เป…, สฺํ…เป…, สงฺขาเร…เป…, วิฺาณํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ. ยมฺปิ ตํ ทิฏฺํ สุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมฺปิ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ. ยมฺปิ ตํ ทิฏฺิฏฺานํ, โส โลโก โส อตฺตา โส เปจฺจ ภวิสฺสามิ ‘นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต อปิ ปริณามธมฺโม สสฺสติสมํ ตเถว สฺสามี’ติ, ตมฺปิ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ. โส เอวํ สมนุปสฺสนฺโต น ปริตสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔๑) เอวมาทิเทสนาหิ สํสนฺทตีติ, อยํ จตุพฺยูโห หาโร.

๗. อาวตฺตหารวณฺณนา

‘‘อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’’ติ อิมินา โยนิโสมนสิการปฏิกฺเขปมุเขน อโยนิโสมนสิการปริคฺคโห ทีปิโต. ‘‘อริยานํ อทสฺสาวี’’ติอาทินา สปฺปุริสูปนิสฺสยาทิปฏิกฺเขปมุเขน อสปฺปุริสูปนิสฺสยาทิปริคฺคโห ทีปิโต. เตสุ ปุริมนเยน อาสยวิปตฺติ กิตฺติตา, ทุติเยน ปโยควิปตฺติ. ปุริเมน จสฺส กิเลสวฏฺฏํ, ตฺจ ยโต วิปากวฏฺฏนฺติ สกลํ สํสารจกฺกมาวตฺตติ. ‘‘ปถวึ มฺตี’’ติอาทินา ตตฺถ ติสฺโส มฺนา วุตฺตา. ตาสุ ตณฺหามฺนา ‘‘เอตํ มมา’’ติ ตณฺหาคฺคาโห, มานมฺนา ‘‘เอโสหมสฺมี’’ติ มานคฺคาโห, ทิฏฺิมฺนา ‘‘เอโส เม อตฺตา’’ติ ทิฏฺิคฺคาโห. ตตฺถ ตณฺหาคฺคาเหน ‘‘ตณฺหํ ปฏิจฺจปริเยสนา’’ติอาทิกา (ที. นิ. ๒.๑๐๓; ที. นิ. ๓.๓๕๙; อ. นิ. ๓.๒๓; วิภ. ๙๖๓) นว ตณฺหามูลกา ธมฺมา อาวตฺตนฺติ. มานคฺคาเหน ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทิกา นว มานวิธา อาวตฺตนฺติ. ทิฏฺิคฺคาเหน ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทิกา (สํ. นิ. ๔.๓๔๕) วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฏฺิ อาวตฺตติ. ตีสุ จ คาเหสุ ยาย สฺาย ตณฺหาคฺคาหสฺส วิกฺขมฺภนา, สา ทุกฺขสฺา ทุกฺขานุปสฺสนา. ยาย สฺาย มานคฺคาหสฺส วิกฺขมฺภนา, สา อนิจฺจสฺา อนิจฺจานุปสฺสนา. ยาย ปน สฺาย ทิฏฺิคฺคาหสฺส วิกฺขมฺภนา, สา อนตฺตสฺา อนตฺตานุปสฺสนา. ตตฺถ ปมคฺคาหวิสภาคโต อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุขํ อาวตฺตติ, ทุติยคฺคาหวิสภาคโต อนิมิตฺตวิโมกฺขมุขํ อาวตฺตติ, ตติยคฺคาหวิสภาคโต สุฺตวิโมกฺขมุขํ อาวตฺตติ.

เสกฺขคฺคหเณน อริยาย สมฺมาทิฏฺิยา สงฺคโห, ตโต จ ปรโตโฆสโยนิโสมนสิการา ทีปิตา โหนฺติ. ปรโตโฆเสน จ สุตวา อริยสาวโกติ อาวตฺตติ, โยนิโสมนสิกาเรน นว โยนิโสมนสิการมูลกา ธมฺมา อาวตฺตนฺติ, จตุพฺพิธฺจ สมฺปตฺติจกฺกํ. ‘‘มา มฺี’’ติ มฺนานํ วิปฺปกตปฺปหานตาคหเณน เอกจฺจาสวปริกฺขโย ทีปิโต โหติ, เตน จ สทฺธาวิมุตฺตทิฏฺิปฺปตฺตกายสกฺขิภาวา อาวตฺตนฺติ. ‘‘อรหํ ขีณาสโว’’ติอาทินา อเสกฺขา สีลกฺขนฺธาทโย ทสฺสิตา โหนฺติ, สีลกฺขนฺธาทิปาริปูริยา จ ทส นาถกรณา ธมฺมา อาวตฺตนฺติ. ‘‘น มฺตี’’ติ มฺนาปฏิกฺเขเปน ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ‘‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’’ติ สมฺมาปฏิปตฺติ ทสฺสิตา, ตาย จ สาติสยา นิกนฺติปริยาทานมานสมุคฺฆาฏนทิฏฺิอุคฺฆาฏนานิ ปกาสิตานีติ อปฺปณิหิตานิมิตฺต-สุฺตวิโมกฺขา อาวตฺตนฺติ.

‘‘ตถาคโต’’ติอาทินา สพฺพฺุคุณา วิภาวิตาติ ตทวินาภาวโต ทสพล-จตุเวสารชฺชอสาธารณาณอาเวณิกพุทฺธธมฺมา อาวตฺตนฺติ. ‘‘นนฺที ทุกฺขสฺส มูล’’นฺติอาทินา สทฺธึ เหตุนา วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตนฺติ ปวตฺตินิวตฺติตทุภยเหตุวิภาวเนน จตฺตาริ อริยสจฺจานิ อาวตฺตนฺติ. ‘‘ตณฺหานํ ขยา’’ติอาทินา ตณฺหปฺปหานาปเทเสน ตเทกฏฺภาวโต ทิยฑฺฒสฺส กิเลสสหสฺสสฺส ปหานํ อาวตฺตติ. ‘‘สพฺพโส ตณฺหานํ ขยา สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’’ติ จ วุตฺตตฺตา ‘‘นนฺที ทุกฺขสฺส มูล’’นฺติ, ‘‘อิติ วิทิตฺวา’’ติอาทินา วุตฺตสฺส มฺนาภาวเหตุภูตสฺส ปจฺจยาการเวทนสฺส สาวเกหิ อสาธารณาณจารภาโว ทสฺสิโต, เตน จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสมาปตฺติสฺจาริ ภควโต มหาวชิราณํ อาวตฺตตีติ. อยํ อาวตฺโต หาโร.

๘. วิภตฺติหารวณฺณนา

‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยาย’’นฺติ เอตฺถ สพฺพธมฺมา นาม เตภูมกา ธมฺมา สกฺกายสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เตสํ มฺนา ปทฏฺานํ ปปฺจสงฺขานิมิตฺตตฺตา โลกวิจิตฺตสฺส. ตยิเม กุสลา อกุสลา อพฺยากตาติ ติวิธา. เตสุ กุสลานํ โยนิโสมนสิการาทิ ปทฏฺานํ, อกุสลานํ อโยนิโสมนสิการาทิ, อพฺยากตานํ กมฺมภวอาวชฺชนภูตรูปาทิ ปทฏฺานํ. ตตฺถ กุสลา กามาวจราทิวเสน ภูมิโต ติวิธา, ตถา อพฺยากตา จิตฺตุปฺปาทสภาวา, อจิตฺตุปฺปาทสภาวา ปน กามาวจราว ตถา อกุสลา. ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธสุตกิจฺจาภาเวน ติวิโธ อสฺสุตวา. อนฺธกลฺยาณวิภาเคน ทุวิโธ ปุถุชฺชโน. สมฺมาสมฺพุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกเภเทน ติวิธา อริยา. มํสจกฺขุทิพฺพจกฺขุปฺาจกฺขูหิ ทสฺสนาภาเวน ติวิโธ อทสฺสาวี. มคฺคผลนิพฺพานเภเทน ติวิโธ, นววิโธ วา อริยธมฺโม. สวนธารณปริจยมนสิการปฏิเวธวเสน ปฺจวิธา อริยธมฺมสฺส โกวิทตา. ตทภาวโต อโกวิโท. สํวรปหานเภเทน ทุวิโธ, ทสวิโธ วา อริยธมฺมวินโย, ตทภาวโต อริยธมฺเม อวินีโต. เอตฺถ ปทฏฺานวิภาโค เหฏฺา ทสฺสิโตเยว. ‘‘สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี’’ติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ‘‘ปถวึ มฺตี’’ติอาทีสุ มฺนาวตฺถุวิภาโค ปาฬิยํ อาคโตว, ตถา อชฺฌตฺติกพาหิราทิโก จ อนฺตรวิภาโค.

มฺนา ปน ตณฺหามานทิฏฺิวเสน สงฺเขปโต ติวิธา, วิตฺถารโต ปน ตณฺหามฺนา ตาว กามตณฺหาทิวเสน อฏฺสตวิธา, ตถา ‘‘อสฺมีติ สติ อิตฺถํสฺมีติ โหตี’’ติอาทินา. เอวํ มานมฺนาปิ. ‘‘อสฺมีติ สติ อิตฺถํสฺมีติ โหตี’’ติอาทินา ปปฺจตฺตยํ อุทฺทิฏฺํ นิทฺทิฏฺฺจาติ . เอเตน ทิฏฺิมฺนายปิ อฏฺสตวิธตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อปิจ เสยฺยสฺส ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินา มานมฺนาย นววิธตา ตทนฺตรเภเทน อเนกวิธตา จ เวทิตพฺพา. อยฺจ อตฺโถ หีนตฺติกตฺถวณฺณนาย วิภาเวตพฺโพ. ทิฏฺิมฺนาย ปน พฺรหฺมชาเล อาคตนเยน ทฺวาสฏฺิวิธตา ตทนฺตรเภเทน อเนกวิธตา จ เวทิตพฺพา. ‘‘อปริฺาต’’นฺติ เอตฺถ าตปริฺาทิวเสน เจว รูปมุขาทิอภินิเวสเภทาทิวเสน จ ปริฺานํ อเนกวิธตา เวทิตพฺพา. ตถา อฏฺมกาทิวเสน เสกฺขวิภาโค ปฺาวิมุตฺตาทิวเสน อเสกฺขวิภาโค จ. อยเมตฺถ ธมฺมวิภาโค. ปทฏฺานวิภาโค จ ภูมิวิภาโค จ วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพาติ. อยํ วิภตฺติหาโร.

๙. ปริวตฺตหารวณฺณนา

‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยาย’’นฺติ เอตฺถ ‘‘สพฺพธมฺมา’’ติ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา คหิตา, เตสํ มูลการณนฺติ จ ตณฺหามานทิฏฺิโย. ตถา อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน…เป… สปฺปุริสธมฺเม อวินีโตติ. ยาวกีวฺจ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ สุภโต สุขโต นิจฺจโต อตฺตโต สมนุปสฺสนวเสน ‘‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ ตณฺหามานทิฏฺิคาหา น สมุจฺฉิชฺชนฺติ, ตาว เนสํ ปพนฺธูปรโม สุปินนฺเตปิ น เกนจิ ลทฺธปุพฺโพ. ยทา ปน เนสํ อสุภโต ทุกฺขโต อนิจฺจโต อนตฺตโต สมนุปสฺสนวเสน ‘‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’’ติ ปวตฺตมานา อปฺปณิหิตานิมิตฺตสุฺตานุปสฺสนา อุสฺสกฺกิตฺวา อริยมคฺคาธิคมาย สํวตฺตนฺติ, อถ เนสํ ปพนฺธูปรโม โหติ อจฺจนฺตอปฺปฺตฺติกภาวูปคมนโต. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺพธมฺมาติ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา คหิตา, เตสํ มูลการณนฺติ จ ตณฺหามานทิฏฺิโย’’ติ. ตถา อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน…เป… สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต ตีหิปิ มฺนาหิ ปถวึ มฺติ ยาว นิพฺพานํ อภินนฺทติ, ตีหิปิ ปริฺาหิ ตสฺส ตํ วตฺถุ อปริฺาตนฺติ กตฺวา. ยสฺส ปน ตํ วตฺถุ ตีหิ ปริฺาหิ ปริฺาตํ, น โส อิตโร วิย ตํ มฺติ. เตนาห ภควา ‘‘สุตวา จ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก…เป… สปฺปุริสธมฺเม สุวินีโต รูปํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ, เวทนํ…เป… อสติ น ปริตสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔๑). เสกฺโข ปถวึ มา มฺิ, ยาว นิพฺพานํ มาภินนฺทิ, อรหา สมฺมาสมฺพุทฺโธ จ ปถวึ น มฺติ, ยาว นิพฺพานํ นาภินนฺทติ, มฺนามฺิเตสุ วตฺถูสุ มตฺตโส สพฺพโส จ ปริฺาภิสมยสํสิทฺธิยา ปหานาภิสมยนิพฺพตฺติโต. ยสฺส ปน เตสุ วตฺถูสุ สพฺพโส มตฺตโส วา ปริฺา เอว นตฺถิ, กุโต ปหานํ, โส ยถาปริกปฺปํ นิรงฺกุสาหิ มฺนาหิ ‘‘เอตํ มมา’’ติอาทินา มฺเตว. เตนาห ภควา ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน…เป… สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต รูปํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ, เวทนํ…เป…, สฺ…เป…’’นฺติอาทิ (ม. นิ. ๑.๒๔๑). อยํ ปริวตฺโต หาโร.

๑๐. เววจนหารวณฺณนา

‘‘สพฺพธมฺมา สกลธมฺมา อนวเสสธมฺมา’’ติ ปริยายวจนํ, ‘‘มูลปริยายํ มูลการณํ อสาธารณเหตุ’’นฺติ ปริยายวจนํ, ‘‘มูลปริยายนฺติ วา มูลเทสนํ การณตถน’’นฺติ ปริยายวจนํ, ‘‘โว ตุมฺหากํ ตุมฺห’’นฺติ ปริยายวจนํ, ‘‘ภิกฺขเว, สมณา ตปสฺสิโน’’ติ ปริยายวจนํ, ‘‘เทเสสฺสามี กเถสฺสามี ปฺเปสฺสามี’’ติ ปริยายวจนํ, ‘‘สุณาถ โสตํ โอทหถ โสตทฺวารานุสาเรน อุปธาเรถา’’ติ ปริยายวจนํ, ‘‘สาธุกํ สมฺมา สกฺกจฺจ’’นฺติ ปริยายวจนํ, ‘‘มนสิ กโรถ จิตฺเต เปถ สมนฺนาหรถา’’ติ ปริยายวจนํ, ‘‘ภาสิสฺสามิ พฺยตฺตํ กเถสฺสามิ วิภชิสฺสามี’’ติ ปริยายวจนํ, ‘‘เอวํ, ภนฺเต, สาธุ สุฏฺุ ภนฺเต’’ติ ปริยายวจนํ, ‘‘ปจฺจสฺโสสุํ สมฺปฏิจฺฉึสุ สมฺปฏิคฺคเหสุ’’นฺติ ปริยายวจนํ. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ เววจนํ วตฺตพฺพนฺติ. อยํ เววจโน หาโร.

๑๑. ปฺตฺติหารวณฺณนา

‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยาย’’นฺติ เอตฺถ สพฺพธมฺมา นาม สกฺกายธมฺมา, เต ขนฺธวเสน ปฺจธา ปฺตฺตา, อายตนวเสน ทฺวาทสธา, ธาตุวเสน อฏฺารสธา ปฺตฺตา. ‘‘มูล’’นฺติ วา ‘‘มูลปริยาย’’นฺติ วา มฺนา วุตฺตา, ตา ตณฺหามานทิฏฺิวเสน ติธา อนฺตรเภเทน อเนกธา จ ปฺตฺตา. อถ วา ‘‘สพฺพธมฺมา’’ติ เตภูมกธมฺมานํ สงฺคหปฺตฺติ, ‘‘มูลปริยาย’’นฺติ เตสํ ปภวปฺตฺติ, ‘‘โว’’ติ สมฺปทานปฺติ, ‘‘เทเสสฺสามิ ภาสิสฺสามี’’ติ ปฏิฺาปฺตฺติ, ‘‘สุณาถ สาธุกํ มนสิ กโรถา’’ติ จ อาณาปนปฺตฺติ, ‘‘อสฺสุตวา’’ติ ปฏิเวธวิมุขตาปฺตฺติ เจว ปริยตฺติวิมุขตาปฺตฺติ จ, ‘‘ปุถุชฺชโน’’ติ อนริยปฺตฺติ, สา อริยธมฺมปฏิกฺเขปปฺตฺติ เจว อริยธมฺมวิรหปฺตฺติ จ, ‘‘อริยาน’’นฺติ อสมปฺตฺติ เจว สมปฺตฺติ จ. ตตฺถ อสมปฺตฺติ ตถาคตปฺตฺติ, สมปฺตฺติ ปจฺเจกพุทฺธานฺเจว อุภโตภาควิมุตฺตาทีนฺจ วเสน อฏฺวิธา เวทิตพฺพา. ‘‘อริยานํ อทสฺสาวี’’ติอาทิ ทสฺสนภาวนาปฏิกฺเขปปฺตฺติ, ‘‘ปถวึ มฺตี’’ติอาทิ ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ ทฺวาทสนฺนํ อายตนานํ อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ สมฺมสนุปคานํ อินฺทฺริยานํ นิกฺเขปปฺตฺติ เจว ปภวปฺตฺติ จ, ตถา วิปลฺลาสานํ กิจฺจปฺตฺติ ปริยุฏฺานํ ทสฺสนปฺตฺติ กิเลสานํ ผลปฺตฺติ อภิสงฺขารานํ วิรูหนปฺตฺติ ตณฺหาย อสฺสาทนปฺตฺติ ทิฏฺิยา วิปฺผนฺทนปฺตฺติ, ‘‘เสกฺขา’’ติ สทฺธานุสารีสทฺธาวิมุตฺตทิฏฺิปฺปตฺตกายสกฺขีนํ ทสฺสนปฺตฺติ เจว ภาวนาปฺตฺติ จ ‘‘อปฺปตฺตมานโส’’ติ เสกฺขธมฺมานํ ิติปฺตฺติ, ‘‘อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมาโน’’ติ ปฺาย อภินิพฺพิทาปฺตฺติ, ‘‘อภิชานาตี’’ติ อภิฺเยฺยธมฺมานํ อภิฺาปฺตฺติ, ทุกฺขสฺส ปริฺาปฺตฺติ, สมุทยสฺส ปหานปฺตฺติ, นิโรธสฺส สจฺฉิกิริยาปฺตฺติ, มคฺคสฺส ภาวนาปฺตฺติ, ‘‘มา มฺี’’ติ มฺนานํ ปฏิกฺเขปปฺตฺติ, สมุทยสฺส ปหานปฺตฺติ. อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ วิตฺถาเรตพฺพํ. อยํ ปฺตฺติ หาโร.

๑๒. โอตรณหารวณฺณนา

‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยาย’’นฺติ เอตฺถ สพฺพธมฺมา นาม โลกิยา ปฺจกฺขนฺธา ทฺวาทสายตนานิ อฏฺารส ธาตุโย ทฺเว สจฺจานิ เอกูนวิสติ อินฺทฺริยานิ ทฺวาทสปทิโก ปจฺจยากาโรติ, อยํ สพฺพธมฺมคฺคหเณน ขนฺธาทิมุเขน เทสนาย โอตรณํ. ‘‘มูล’’นฺติ วา ‘‘มูลปริยาย’’นฺติ วา มฺนา วุตฺตา, ตา อตฺถโต ตณฺหา มาโน ทิฏฺิ จาติ เตสํ สงฺขารกฺขนฺธสงฺคโหติ อยํ ขนฺธมุเขน โอตรณํ. ตถา ‘‘ธมฺมายตนธมฺมธาตูหิ สงฺคโห’’ติ อยํ อายตนมุเขน ธาตุมุเขน จ โอตรณํ. ‘‘อสฺสุตวา’’ติ อิมินา สุตสฺส วิพนฺธภูตา อวิชฺชาทโย คหิตา, ‘‘ปุถุชฺชโน’’ติ อิมินา เยสํ กิเลสาภิสงฺขารานํ ชนนาทินา ปุถุชฺชโนติ วุจฺจติ, เต กิเลสาภิสงฺขาราทโย คหิตา, ‘‘อริยานํ อทสฺสาวี’’ติอาทินา เยสํ กิเลสธมฺมานํ วเสน อริยานํ อทสฺสาวิอาทิภาโว โหติ, เต ทิฏฺิมานาวิชฺชาทโย คหิตาติ สพฺเพหิ เตหิ สงฺขารกฺขนฺธสงฺคโหติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว โอตรณํ เวทิตพฺพํ. ‘‘สฺชานาติ มฺติ อภิชานาติ น มฺตี’’ติ เอตฺถาปิ สฺชานนมฺนาอภิชานนานุปสฺสนานํ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนตฺตา วุตฺตนเยเนว โอตรณํ เวทิตพฺพํ. ตถา เสกฺขคฺคหเณน เสกฺขา, ‘‘อรห’’นฺติอาทินา อเสกฺขา สีลกฺขนฺธาทโย คหิตาติ เอวมฺปิ ขนฺธมุเขน โอตรณํ, อายตนธาตาทิมุเขน จ โอตรณํ เวทิตพฺพํ. ตถา ‘‘น มฺตี’’ติ ตณฺหาคาหาทิปฏิกฺเขเปน ทุกฺขานุปสฺสนาทโย คหิตา, เตสํ วเสน อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุขาทีหิ โอตรณํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ปริฺาต’’นฺติ อิมินา ปริชานนกิจฺเจน ปวตฺตมานา โพธิปกฺขิยธมฺมา คยฺหนฺตีติ สติปฏฺานาทิมุเขน โอตรณํ เวทิตพฺพํ. นนฺทิคฺคหเณน ภวคฺคหเณน ตณฺหาคหเณน จ สมุทยสจฺจํ, ทุกฺขคฺคหเณน ชาติชรามรณคฺคหเณน จ ทุกฺขสจฺจํ, ‘‘ตณฺหานํ ขยา’’ติอาทินา นิโรธสจฺจํ, อภิสมฺโพธิยา คหเณน มคฺคสจฺจํ คหิตนฺติ อริยสจฺเจหิ โอตรณนฺติ. อยํ โอตรโณ หาโร.

๑๓. โสธนหารวณฺณนา

‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยายํ โว, ภิกฺขเว…เป… อิธ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวา…เป… ปถวึ ปถวิโต สฺชานาตี’’ติ อารมฺโภ. ‘‘ปถวึ ปถวิยา สฺตฺวา ปถวึ มฺตี’’ติ ปทสุทฺธิ, โน อารมฺภสุทฺธิ. ตถา ‘‘ปถวิยา มฺติ ปถวิโต มฺติ ปถวึ เมติ มฺติ ปถวึ อภินนฺทตี’’ติ ปทสุทฺธิ, โน อารมฺภสุทฺธิ. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ อปริฺาตํ ตสฺสาติ วทามี’’ติ ปทสุทฺธิ เจว อารมฺภสุทฺธิ จ. เสสวาเรสุปิ เอเสว นโยติ. อยํ โสธโน หาโร.

๑๔. อธิฏฺานหารวณฺณนา

‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยาย’’นฺติ เอตฺถ สพฺพธมฺมคฺคหณํ สามฺโต อธิฏฺานํ. ‘‘ปถวึ อาป’’นฺติอาทิ ปน ตํ อวิกปฺเปตฺวา วิเสสวจนํ. ตถา ‘‘มูลปริยาย’’นฺติ สามฺโต อธิฏฺานํ, ตํ อวิกปฺเปตฺวา วิเสสวจนํ ‘‘ปถวึ มฺติ…เป… อภินนฺทตี’’ติ. ‘‘ปถวึ มฺตี’’ติ จ สามฺโต อธิฏฺานํ ตณฺหาทิคฺคาหานํ สาธารณตฺตา มฺนาย, ตํ อวิกปฺเปตฺวา วิเสสวจนํ ‘‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ, เอวํ สุตฺตนฺตรปทานิปิ อาเนตฺวา วิเสสวจนํ นิทฺธาเรตพฺพํ. เสสวาเรสุปิ เอเสว นโย. ‘‘เสกฺโข’’ติ สามฺโต อธิฏฺานํ, ตํ อวิกปฺเปตฺวา วิเสสวจนํ ‘‘กายสกฺขี ทิฏฺิปฺปตฺโต สทฺธาวิมุตฺโต สทฺธานุสารี ธมฺมานุสารี’’ติ. ตถา ‘‘เสกฺโข’’ติ สามฺโต อธิฏฺานํ, ตํ อวิกปฺเปตฺวา วิเสสวจนํ ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสกฺขาย สมฺมาทิฏฺิยา สมนฺนาคโต โหติ…เป… เสกฺเขน สมฺมาสมาธินา สมนฺนาคโต โหตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๓). ‘‘อรห’’นฺติ สามฺโต อธิฏฺานํ, ตํ อวิกปฺเปตฺวา วิเสสวจนํ ‘‘อุภโตภาควิมุตฺโต ปฺาวิมุตฺโต (ปุ. ป. ๑๓.๒; ๑๕.๑ มาติกา), เตวิชฺโช ฉฬภิฺโ’’ติ (ปุ. ป. ๗.๒๖, ๒๗ มาติกา) จ. ‘‘ขีณาสโว’’ติ สามฺโต อธิฏฺานํ, ตํ อวิกปฺเปตฺวา วิเสสวจนํ ‘‘กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถา’’ติอาทิ (ปารา. ๑๔). เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ‘‘อภิชานาตี’’ติ สามฺโต อธิฏฺานํ, ตํ อวิกปฺเปตฺวา วิเสสวจนํ ‘‘มฺตี’’ติ. มฺนาภาโว หิสฺส ปหานปฏิเวธสิทฺโธ, ปหานปฏิเวโธ จ ปริฺาสจฺฉิกิริยาภาวนาปฏิเวเธหิ น วินาติ สพฺเพปิ อภิฺาวิเสสา มฺนาปฏิกฺเขเปน อตฺถโต คหิตาว โหนฺตีติ. ตถา ‘‘อรห’’นฺติ สามฺโต อธิฏฺานํ, ตํ อวิกปฺเปตฺวา วิเสสวจนํ ‘‘วีตราคตฺตา วีตโทสตฺตา วีตโมหตฺตา’’ติ. อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ สามฺวิเสสนิทฺธารณา เวทิตพฺพา. อยํ อธิฏฺาโน หาโร.

๑๔. ปริกฺขารหารวณฺณนา

‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยาย’’นฺติ เอตฺถ สพฺพธมฺมา นาม ปริยาปนฺนธมฺมา, เต กุสลากุสลาพฺยากตเภเทน ติวิธา. เตสุ กุสลานํ โยนิโสมนสิกาโร อโลภาทโย จ เหตู, อกุสลานํ อโยนิโสมนสิกาโร โลภาทโย จ เหตู, อพฺยากเตสุ วิปากานํ ยถาสกํ กมฺมํ, อิตเรสํ ภวงฺคมาวชฺชนสมนฺนาหาราทิ จ เหตู. เอตฺถ จ สปฺปุริสูปนิสฺสยาทิโก ปจฺจโย เหตุมฺหิ เอว สมวรุฬฺโห, โส ตตฺถ อาทิ-สทฺเทน สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺโพ. ‘‘มูล’’นฺติ วุตฺตานํ มฺนานํ เหตุภาโว ปาฬิยํ วุตฺโต เอว. มฺนาสุ ปน ตณฺหามฺนาย อสฺสาทานุปสฺสนา เหตุ. ‘‘สฺโชนิเยสุ ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน ตณฺหา ปวฑฺฒตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๕๒) หิ วุตฺตํ. มานมฺนาย ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตโลโภ เหตุ เกวลํ สํสคฺควเสน ‘‘อหมสฺมี’’ติ ปวตฺตนโต. ทิฏฺิมฺนาย เอกตฺตนยาทีนํ อยาถาวคฺคาโห เหตุ, อสฺสุตภาโว ปุถุชฺชนภาวสฺส เหตุ, โส อริยานํ อทสฺสนสีลตาย, สา อริยธมฺมสฺส อโกวิทตาย, สา อริยธมฺเม อวินีตตาย เหตุ, สพฺพา จายํ เหตุปรมฺปรา ปถวีอาทีสุ ‘‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ ติสฺสนฺนํ มฺนานํ เหตุ, เสกฺขารหาทิภาวา ปน มตฺตโส สพฺพโส จ มฺนาภาวสฺส เหตูติ. อยํ ปริกฺขาโร หาโร.

๑๖. สมาโรปนหารวณฺณนา

‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยาย’’นฺติอาทีสุ มูลปริยายคฺคหเณน อสฺสุตวาคหเณน สฺชานนมฺนาปริฺาคหเณหิ จ สํกิเลสธมฺมา ทสฺสิตา, เต จ สงฺเขปโต ติวิธา ตณฺหาสํกิเลโส ทิฏฺิสํกิเลโส ทุจฺจริตสํกิเลโสติ. ตตฺถ ตณฺหาสํกิเลโส ตณฺหาสํกิเลสสฺส, ทิฏฺิสํกิเลสสฺส, ทุจฺจริตสํกิเลสสฺส จ ปทฏฺานํ, ตถา ทิฏฺิสํกิเลโส ทิฏฺิสํกิเลสสฺส, ตณฺหาสํกิเลสสฺส, ทุจฺจริตสํกิเลสสฺส จ ปทฏฺานํ, ทุจฺจริตสํกิเลโสปิ ทุจฺจริตสํกิเลสสฺส, ตณฺหาสํกิเลสสฺส, ทิฏฺิสํกิเลสสฺส จ ปทฏฺานํ. เตสุ ตณฺหาสํกิเลโส อตฺถโต โลโภว, โย ‘‘โลโภ ลุพฺภนา ลุพฺภิตตฺตํ สาราโค สารชฺชนา สารชฺชิตตฺต’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๓๘๙) อเนเกหิ ปริยาเยหิ วิภตฺโต. ตถา ทิฏฺิเยว ทิฏฺิสํกิเลโส, โย ‘‘ทิฏฺิคตํ ทิฏฺิคหนํ ทิฏฺิกนฺตาโร ทิฏฺิวิสูกํ ทิฏฺิวิปฺผนฺทิต’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๑๑๐๕) อเนเกหิ ปริยาเยหิ, ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๓๐) ทฺวาสฏฺิยา ปเภเทหิ จ วิภตฺโต. ทุจฺจริตสํกิเลโส ปน อตฺถโต ทุสฺสีลฺยเจตนา เจว เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมา จ, ยา ‘‘กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ กายวิสมํ วจีวิสม’’นฺติ (วิภ. ๙๑๓, ๙๒๔), ‘‘ปาณาติปาโต อทินฺนาทาน’’นฺติ (วิภ. ๙๑๓) จ อาทินา อเนเกหิ ปริยาเยหิ, อเนเกหิ ปเภเทหิ จ วิภตฺตา.

เตสุ ตณฺหาสํกิเลสสฺส สมโถ ปฏิปกฺโข, ทิฏฺิสํกิเลสสฺส วิปสฺสนา, ทุจฺจริตสํกิเลสสฺส สีลํ ปฏิปกฺโข. เต ปน สีลาทโย ธมฺมา อิธ ปริฺาคหเณน เสกฺขคฺคหเณน ‘‘อรห’’นฺติอาทินา อริยตาทิคฺคหเณน จ คหิตา. ตตฺถ สีเลน ทุจฺจริตสํกิเลสปฺปหานํ สิชฺฌติ, ตถา ตทงฺคปฺปหานํ วีติกฺกมปฺปหานฺจ, สมเถน ตณฺหาสํกิเลสปฺปหานํ สิชฺฌติ, ตถา วิกฺขมฺภนปฺปหานํ ปริยุฏฺานปฺปหานฺจ. วิปสฺสนาย ทิฏฺิสํกิเลสปฺปหานํ สิชฺฌติ, ตถา สมุจฺเฉทปฺปหานํ อนุสยปฺปหานฺจ. ตตฺถ ปุพฺพภาเค สีเล ปติฏฺิตสฺส สมโถ, สมเถ ปติฏฺิตสฺส วิปสฺสนา, มคฺคกฺขเณ ปน สมกาลเมว ภวนฺติ. ปุพฺเพเยว หิ สุปริสุทฺธกายวจีกมฺมสฺส สุปริสุทฺธาชีวสฺส จ สมถวิปสฺสนา อารทฺธา คพฺภํ คณฺหนฺติโย ปริปากํ คจฺฉนฺติโย วุฏฺานคามินิวิปสฺสนํ ปริพฺรูเหนฺติ, วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺตี มคฺเคน ฆเฏนฺติ มคฺคกฺขเณ สมถวิปสฺสนา ปริปูเรติ. อถ มคฺคกฺขเณ สมถวิปสฺสนาภาวนาปาริปูริยา อนวเสสสํกิเลสธมฺมํ สมุจฺฉินฺทนฺติโย นิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺตีติ. อยํ สมาโรปโน หาโร.

โสฬสหารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจวิธนยวณฺณนา

๑. นนฺทิยาวฏฺฏนยวณฺณนา

‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยาย’’นฺติอาทีสุ สพฺพธมฺมมูลคฺคหเณน มฺนาคหเณน จ ตณฺหามานทิฏฺิโย คหิตา. มฺนานมฺปิ หิ มฺนา การณนฺติ ทสฺสิโตยมตฺโถ. ‘‘อสฺสุตวา’’ติอาทินา อวิชฺชามานทิฏฺิโย คหิตา, สพฺเพปิ วา สํกิเลสธมฺมา, ตถา สฺาอปริฺาตคฺคหเณน. ‘‘ขีณาสโว ปริกฺขีณภวสฺโชโน’’ติ เอตฺถ ปน อาสวา สฺโชนานิ จ สรูปโต คหิตานิ, ตถา นนฺทิคฺคหเณน ตณฺหาคหเณน จ ตณฺหา, เอวมฺเปตฺถ สรูปโต ปริยายโต จ ตณฺหา อวิชฺชา ตปฺปกฺขิยธมฺมา จ คหิตา. ตตฺถ ตณฺหาย วิเสสโต รูปธมฺมา อธิฏฺานํ, อวิชฺชาย อรูปธมฺมา, เต ปน สพฺพธมฺมคฺคหเณน ปถวีอาทิคฺคหเณน จ ทสฺสิตา เอว. ตาสํ สมโถ วิปสฺสนา จ ปฏิปกฺโข, เตสเมตฺถ คเหตพฺพากาโร เหฏฺา ทสฺสิโต เอว. สมถสฺส เจโตวิมุตฺติ ผลํ , วิปสฺสนาย ปฺาวิมุตฺติ. ตถา หิ ตา ‘‘ราควิราคา’’ติอาทินา วิเสเสตฺวา วุจฺจนฺติ, อิมาสเมตฺถ คหณํ สมฺมทฺาวิมุตฺตวีตราคาทิวจเนหิ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ตณฺหาวิชฺชา สมุทยสจฺจํ, ตปฺปกฺขิยธมฺมา ปน ตคฺคหเณเนว คหิตาติ เวทิตพฺพา. เตสํ อธิฏฺานภูตา วุตฺตปฺปเภทา รูปารูปธมฺมา ทุกฺขสจฺจํ, เตสํ อปฺปวตฺติ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปชานนา ปฏิปทา มคฺคสจฺจํ. ตณฺหาคหเณน เจตฺถ มายา-สาเยฺย-มานาติมาน-มทปฺปมาท-ปาปิจฺฉตา-ปาปมิตฺตตา-อหิริกาโนตฺตปฺปาทิวเสน อกุสลปกฺโข เนตพฺโพ, อวิชฺชาคหเณน วิปรีตมนสิการ-โกธูปนาห-มกฺข-ปฬาส-อิสฺสา-มจฺฉริย- สารมฺภโทวจสฺสตา-ภวทิฏฺิ-วิภวทิฏฺิอาทิวเสน อกุสลปกฺโข เนตพฺโพ, วุตฺตวิปริยาเยน อมายาอสาเยฺยาทิอวิปรีตมนสิการาทิวเสน, ตถา สมถปกฺขิยานํ สทฺธินฺทฺริยาทีนํ วิปสฺสนาปกฺขิยานํ อนิจฺจสฺาทีนฺจ วเสน โวทานปกฺโข เนตพฺโพติ. อยํ นนฺทิยาวฏฺฏสฺส น ยสฺส ภูมิ.

๒. ติปุกฺขลนยวณฺณนา

ตถา วุตฺตนเยน สรูปโต ปริยายโต จ คหิเตสุ ตณฺหาวิชฺชาตปฺปกฺขิยธมฺเมสุ ตณฺหา โลโภ, อวิชฺชา โมโห, อวิชฺชาย สมฺปยุตฺโต โลหิเต สติ ปุพฺโพ วิย ตณฺหาย สติ สิชฺฌมาโน อาฆาโต โทโส, อิติ ตีหิ อกุสลมูเลหิ คหิเตหิ, ตปฺปฏิปกฺขโต มฺนาปฏิกฺเขปปริฺาคหณาทีหิ จ กุสลมูลานิ สิทฺธานิเยว โหนฺติ. อิธาปิ ‘‘โลโภ สพฺพานิ วา สาสวกุสลากุสลมูลานิ สมุทยสจฺจํ, เตหิ นิพฺพตฺตา, เตสํ อธิฏฺานโคจรภูตา จ อุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขสจฺจ’’นฺติอาทินา สจฺจโยชนา เวทิตพฺพา. ผลํ ปเนตฺถ ตโย วิโมกฺขา, ตีหิ ปน อกุสลมูเลหิ ติวิธทุจฺจริต-สํกิเลสมล-วิสมอกุสล-สฺา-วิตกฺกาทิวเสน อกุสลปกฺโข เนตพฺโพ. ตถา ตีหิ กุสลมูเลหิ ติวิธสุจริต-สมกุสล-สฺา-วิตกฺก-สทฺธมฺม-สมาธิ-วิโมกฺขมุข-วิโมกฺขา-ทิวเสน กุสลปกฺโข เนตพฺโพติ. อยํ ติปุกฺขลสฺส นยสฺส ภูมิ.

๓. สีหวิกฺกีฬิตนยวณฺณนา

ตถา วุตฺตนเยน สรูปโต ปริยายโต จ คหิเตสุ ตณฺหาวิชฺชาตปฺปกฺขิยธมฺเมสุ วิเสสโต ตณฺหาทิฏฺีนํ วเสน อสุเภ ‘‘สุภ’’นฺติ , ทุกฺเข ‘‘สุข’’นฺติ จ วิปลฺลาสา, อวิชฺชาทิฏฺีนํ วเสน อนิจฺเจ ‘‘นิจฺจ’’นฺติ, อนตฺตนิ ‘‘อตฺตา’’ติ จ วิปลฺลาสา เวทิตพฺพา. เตสํ ปฏิปกฺขโต มฺนาปฏิกฺเขปปริฺาคหณาทิสิทฺเธหิ สติวีริยสมาธิปฺินฺทฺริเยหิ จตฺตาริ สติปฏฺานานิ สิทฺธาเนว โหนฺติ. ตตฺถ จตูหิ อินฺทฺริเยหิ จตฺตาโร ปุคฺคลา นิทฺทิสิตพฺพา. กถํ? ทุวิโธ หิ ตณฺหาจริโต มุทินฺทฺริโย ติกฺขินฺทฺริโยติ, ตถา ทิฏฺิจริโต. เตสํ ปโม อสุเภ ‘‘สุภ’’นฺติ วิปริยาสคฺคาหี สติพเลน ยถาภูตํ กายสภาวํ สลฺลกฺเขนฺโต ตํ วิปลฺลาสํ สมุคฺฆาเฏตฺวา สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมติ. ทุติโย อสุเข ‘‘สุข’’นฺติ วิปริยาสคฺคาหี ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๑๐; ม. นิ. ๑.๒๖; อ. นิ. ๔.๑๔, ๑๑๔; อ. นิ. ๖.๕๘) วุตฺเตน วีริยสํวรภูเตน วีริยพเลน ตํ วิปลฺลาสํ วิธเมนฺโต สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมติ. ตติโย อนิจฺเจ ‘‘นิจฺจ’’นฺติ อยาถาวคฺคาหี สมาธิพเลน สมาหิตจิตฺโต สงฺขารานํ ขณิกภาวสลฺลกฺขเณน ตํ วิปลฺลาสํ สมุคฺฆาเฏนฺโต อริยภูมึ โอกฺกมติ. จตุตฺโถ สนฺตติสมูหกิจฺจารมฺมณฆนวฺจิตตาย ผสฺสาทิธมฺมปุฺชมตฺเต อนตฺตนิ ‘‘อตฺตา’’ติ มิจฺฉาภินิเวสี จตุโกฏิกสุฺตามนสิกาเรน ตํ มิจฺฉาภินิเวสํ วิทฺธํเสนฺโต สามฺผลํ สจฺฉิกโรติ.

อิธาปิ สุภสฺาสุขสฺาหิ จตูหิปิ วา วิปลฺลาเสหิ สมุทยสจฺจํ, เตสํ อธิฏฺานารมฺมณภูตา ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขสจฺจนฺติอาทินา สจฺจโยชนา เวทิตพฺพา. ผลํ ปเนตฺถ จตฺตาริ สามฺผลานิ, จตูหิ จิตฺตวิปลฺลาเสหิ จตุราสโวฆ-โยค-กายคนฺถ-อคติ-ตณฺหุปฺปาท-สลฺลุปาทาน-วิฺาณฏฺิติ-อปริฺาทิวเสน อกุสลปกฺโข เนตพฺโพ. ตถา จตูหิ สติปฏฺาเนหิ จตุพฺพิธฌาน-วิหาราธิฏฺาน-สุขภาคิยธมฺม-อปฺปมฺา-สมฺมปฺปธาน-อิทฺธิปาทา- ทิวเสน โวทานปกฺโข เนตพฺโพติ. อยํ สีหวิกฺกีฬิตสฺส นยสฺส ภูมิ.

๔-๕. ทิสาโลจน-องฺกุสนยทฺวยวณฺณนา

อิเมสํ ปน ติณฺณํ อตฺถนยานํ สิทฺธิยา โวหาเรน นยทฺวยํ สิทฺธเมว โหติ. ตถา หิ อตฺถนยานํ ทิสาภูตธมฺมานํ สมาโลจนํ ทิสาโลจนํ, เตสํ สมานยนํ องฺกุโสติ ปฺจปิ นยา นิยุตฺตาติ เวทิตพฺพา.

ปฺจวิธนยวณฺณนา นิฏฺิตา.

สาสนปฏฺานวณฺณนา

อิทฺจ สุตฺตํ โสฬสวิเธ สุตฺตนฺตปฏฺาเน สํกิเลสนิพฺเพธาเสกฺขภาคิยํ, สพฺพภาคิยเมว วา ‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยาย’’นฺติ เอตฺถ สพฺพธมฺมคฺคหเณน โลกิยกุสลานมฺปิ สงฺคหิตตฺตา. อฏฺวีสติวิเธน ปน สุตฺตนฺตปฏฺาเน โลกิยโลกุตฺตรสพฺพธมฺมาธิฏฺานํ าณเยฺยํ ทสฺสนภาวนํ สกวจนํ วิสฺสชฺชนียํ กุสลากุสลํ อนุฺาตํ ปฏิกฺขิตฺตํ จาติ เวทิตพฺพํ.

เนตฺตินยวณฺณนา นิฏฺิตา.

มูลปริยายสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๒. สพฺพาสวสุตฺตวณฺณนา

๑๔. อปุพฺพปทวณฺณนาติ อตฺถสํวณฺณนาวเสน เหฏฺา อคฺคหิตตาย อปุพฺพสฺส อภินวสฺส ปทสฺส วณฺณนา อตฺถวิภชนา. ‘‘หิตฺวา ปุนปฺปุนาคตมตฺถ’’นฺติ หิ วุตฺตํ. นิวาสฏฺานภูตา ภูตปุพฺพนิวาสฏฺานภูตา, นิวาสฏฺาเน วา ภูตา นิพฺพตฺตา นิวาสฏฺานภูตา, ตตฺถ มาปิตาติ อตฺโถ. ยถา กากนฺที มากนฺที โกสมฺพีติ ยถา กากนฺทสฺส อิสิโน นิวาสฏฺาเน มาปิตา นครี กากนฺที, มากนฺทสฺส นิวาสฏฺาเน มาปิตา มากนฺที, กุสมฺพสฺสนิวาสฏฺาเน มาปิตา โกสมฺพีติ วุจฺจติ, เอวํ สาวตฺถีติ ทสฺเสติ. อุปเนตฺวา สมีเป กตฺวา ภุฺชิตพฺพโต อุปโภโค, สวิฺาณกวตฺถุ. ปริโต สพฺพทา ภุฺชิตพฺพโต ปริโภโค, นิวาสนปารุปนาทิ อวิฺาณกวตฺถุ. สพฺพเมตฺถ อตฺถีติ นิรุตฺตินเยน สาวตฺถี-สทฺทสิทฺธิมาห. สตฺถสมาโยเคติ สตฺถสฺส นคริยา สมาคเม, สตฺเถ ตํ นครํ อุปคเตติ อตฺโถ. ปุจฺฉิเต สตฺถิกชเนหิ.

สโมหิตนฺติ สนฺนิจิตํ. รมฺมนฺติ อนฺโต พหิ จ ภูมิภาคสมฺปตฺติยา เจว อารามุยฺยานสมฺปตฺติยา จ รมณียํ. ทสฺสเนยฺยนฺติ วิสิขาสนฺนิเวสสมฺปตฺติยา เจว ปาสาทกูฏาคาราทิสมฺปตฺติยา จ ทสฺสนียํ ปสฺสิตพฺพยุตฺตํ. อุปโภคปริโภควตฺถุสมฺปตฺติยา เจว นิวาสสุขตาย จ นิพทฺธวาสํ วสนฺตานํ อิตเรสฺจ สตฺตานํ มนํ รเมตีติ มโนรมํ. ทสหิ สทฺเทหีติ หตฺถิสทฺโท, อสฺส-รถ-เภริ-สงฺข-มุทิงฺค-วีณา-คีต สมฺมตาฬสทฺโท, อสฺนาถ-ปิวถ-ขาทถาติ-สทฺโทติ อิเมหิ ทสหิ สทฺเทหิ. อวิวิตฺตนฺติ น วิวิตฺตํ, สพฺพกาลํ โฆสิตนฺติ อตฺโถ.

วุทฺธึ เวปุลฺลตํ ปตฺตนฺติ ตนฺนิวาสี สตฺตวุทฺธิยา วุทฺธึ, ตาย ปริวุทฺธิตาเยว วิปุลภาวํ ปตฺตํ, พหุชนํ อากิณฺณมนุสฺสนฺติ อตฺโถ. วิตฺตูปกรณสมิทฺธิยา อิทฺธํ. สพฺพกาลํ สุภิกฺขภาเวน ผีตํ. อนฺตมโส วิฆาสาเท อุปาทาย สพฺเพสํ กปณทฺธิกวนิพฺพกยาจกานมฺปิ อิจฺฉิ ตตฺถนิปฺผตฺติยา มนุฺํ ชาตํ, ปเคว อิสฺสริเย ิตานนฺติ ทสฺสนตฺถํ ปุน ‘‘มโนรม’’นฺติ วุตฺตํ. อฬกมนฺทาวาติ อาฏานาฏาทีสุ ทสสุ เวสฺสวณมหาราชสฺส นครีสุ อฬกมนฺทา นาม เอกา นครี, ยา โลเก อฬากา เอว วุจฺจติ . สา ยถา ปุฺกมฺมีนํ อาวาสภูตา อารามรามเณยฺยกาทินา โสภคฺคปฺปตฺตา, เอวํ สาวตฺถีปีติ วุตฺตํ ‘‘อฬกมนฺทาวา’’ติ. เทวานนฺติ เวสฺสวณปกฺขิยานํ จาตุมหาราชิกเทวานํ.

ชินาตีติ อิมินา โสต-สทฺโท วิย กตฺตุสาธโน เชต-สทฺโทติ ทสฺเสติ. รฺาติ ปเสนทิโกสลราเชน. ราชคตํ ชยํ อาโรเปตฺวา กุมาโร ชิตวาติ เชโตติ วุตฺโต. มงฺคลกพฺยตายาติอาทินา ‘‘เชยฺโย’’ติ เอตสฺมึ อตฺเถ ‘‘เชโต’’ติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. สพฺพกามสมิทฺธิตายาติ สพฺเพหิ อุปโภคปริโภควตฺถูหิ ผีตภาเวน วิภวสมฺปนฺนตายาติ อตฺโถ. สมิทฺธาปิ มจฺฉริโน กิฺจิ น เทนฺตีติ อาห ‘‘วิคตมลมจฺเฉรตายา’’ติ, ราคโทสาทิมลานฺเจว มจฺฉริยสฺส จ อภาเวนาติ อตฺโถ. สมิทฺธา อมจฺฉริโนปิ จ กรุณาสทฺธาทิคุณวิรหิตา อตฺตโน สนฺตกํ ปเรสํ น ทเทยฺยุนฺติ อาห ‘‘กรุณาทิคุณสมงฺคิตาย จา’’ติ. เตนาติ อนาถานํ ปิณฺฑทาเนน. สทฺทตฺถโต ปน ทาตพฺพภาเวน สพฺพกาลํ อุปฏฺปิโต อนาถานํ ปิณฺโฑ เอตสฺส อตฺถีติ อนาถปิณฺฑิโก. ปฺจวิธเสนาสนงฺคสมฺปตฺติยาติ ‘‘นาติทูรํ นจฺจาสนฺนํ คมนาคมนสมฺปนฺน’’นฺติ เอกํ องฺคํ, ‘‘ทิวา อปฺปากิณฺณํ รตฺตึ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆส’’นฺติ เอกํ, ‘‘อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺส’’นฺติ เอกํ, ‘‘ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน วิหรนฺตสฺส อปฺปกสิเรน อุปฺปชฺชนฺติ จีวร…เป… ปริกฺขารา’’ติ เอกํ, ‘‘ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา’’ติ เอกํ, เอวเมเตหิ ปฺจวิธเสนาสนงฺเคหิ สมฺปนฺนตาย. ยทิ เชตวนํ ตถํ อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราโมติ อาห ‘‘โส หี’’ติอาทิ.

กีตกาลโต ปฏฺาย อนาถปิณฺฑิกสฺเสว ตํ วนํ, อถ กสฺมา อุภินฺนํ ปริกิตฺตนนฺติ อาห ‘‘เชตวเน’’ติอาทิ. ‘‘ยทิปิ โส ภูมิภาโค โกฏิสนฺถเรน มหาเสฏฺินา กีโต, รุกฺขา ปน เชเตน น วิกฺกีตาติ เชตวนนฺติ วตฺตพฺพตํ ลภี’’ติ วทนฺติ.

กสฺมา อิทํ สุตฺตมภาสีติ กเถตุกมฺยตาย สุตฺตนิกฺเขปํ ปุจฺฉติ. สามฺโต หิ ภควโต เทสนาการณํ ปากฏเมวาติ. โก ปนายํ สุตฺตนิกฺเขโปติ? อตฺตชฺฌาสโย. ปเรหิ อนชฺฌิฏฺโ เอว หิ ภควา อตฺตโน อชฺฌาสเยน อิมํ สุตฺตํ เทเสตีติ อาจริยา. ยสฺมา ปเนส ภิกฺขูนํ อุปกฺกิลิฏฺจิตฺตตํ วิทิตฺวา ‘‘อิเม ภิกฺขู อิมาย เทสนาย อุปกฺกิเลสวิโสธนํ กตฺวา อาสวกฺขยาย ปฏิปชฺชิสฺสนฺตี’’ติ อยํ เทสนา อารทฺธา, ตสฺมา ปรชฺฌาสโยติ อปเร. อุภยมฺปิ ปน ยุตฺตํ. อตฺตชฺฌาสยาทีนฺหิ สํสคฺคเภทสฺส สมฺภโว เหฏฺา ทสฺสิโตวาติ. เตสํ ภิกฺขูนนฺติ ตทา ธมฺมปฏิคฺคาหตภิกฺขูนํ. อุปกฺกิเลสวิโสธนนฺติ สมถวิปสฺสนุปกฺกิเลสโต จิตฺตสฺส วิโสธนํ. ปมฺหิ ภควา อนุปุพฺพิกถาทินา ปฏิปตฺติยา สํกิเลสํ นีหริตฺวา ปจฺฉา สามุกฺกํสิกํ เทสนํ เทเสติ เขตฺเต ขาณุกณฺฏกคุมฺพาทิเก อวหริตฺวา กสนํ วิย, ตสฺมา กมฺมฏฺานเมว อวตฺวา อิมาย อนุปุพฺพิยา เทสนา ปวตฺตาติ อธิปฺปาโย.

สํวรภูตนฺติ สีลสํวราทิสํวรภูตํ สํวรณสภาวํ การณํ, ตํ ปน อตฺถโต ทสฺสนาทิ เอวาติ เวทิตพฺพํ. สํวริตาติ ปวตฺติตุํ อปฺปทานวเสน สมฺมา, สพฺพถา วา วาริตา. เอวํภูตา จ ยสฺมา ปวตฺติทฺวารปิธาเนน ปิหิตา นาม โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘วิทหิตา หุตฺวา’’ติ. เอวํ อจฺจนฺติกสฺส สํวรสฺส การณภูตํ อนจฺจนฺติกํ สํวรํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อจฺจนฺติกเมว สํวรํ ทสฺเสนฺโต ยสฺมึ ทสฺสนาทิมฺหิ สติ อุปฺปชฺชนารหา อาสวา น อุปฺปชฺชนฺติ, โส เตสํ อนุปฺปาโท นิโรโธ ขโย ปหานนฺติ จ วุจฺจมาโน อตฺถโต อปฺปวตฺติมตฺตนฺติ ตสฺส จ ทสฺสนาทิ การณนฺติ อาห ‘‘เยน การเณน อนุปฺปาทนิโรธสงฺขาตํ ขยํ คจฺฉนฺติ ปหียนฺติ นปฺปวตฺตนฺติ, ตํ การณนฺติ อตฺโถ’’ติ.

จกฺขุโตปิ…เป… มนโตปีติ (ธ. ส. มูลฏี. ๑๔-๑๙) จกฺขุวิฺาณาทิวีถีสุ ตทนุคตมโนวิฺาณวีถีสุ จ กิฺจาปิ กุสลาทีนมฺปิ ปวตฺติ อตฺถิ, กามาสวาทโย เอว ปน วณโต ยูสํ วิย ปคฺฆรณกอสุจิภาเวน สนฺทนฺติ, ตสฺมา เต เอว ‘‘อาสวา’’ติ วุจฺจนฺติ. ตตฺถ หิ ปคฺฆรณอสุจิมฺหิ นิรุฬฺโห อาสว-สทฺโทติ. ธมฺมโต ยาว โคตฺรภุนฺติ ตโต ปรํ มคฺคผเลสุ อปฺปวตฺตนโต วุตฺตํ. เอเต หิ อารมฺมณวเสน ธมฺเม คจฺฉนฺตา ตโต ปรํ น คจฺฉนฺติ. นนุ ตโต ปรํ ภวงฺคาทีนิปิ คจฺฉนฺตีติ เจ? น, เตสมฺปิ ปุพฺเพ อาลมฺพิเตสุ โลกิยธมฺเมสุ สาสวภาเวน อนฺโตคธตฺตา ตโต ปรตาภาวโต. เอตฺถ จ โคตฺรภุวจเนน โคตฺรภุโวทานผลสมาปตฺติปุเรจาริกปริกมฺมานิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. ปมมคฺคปุเรจาริกเมว วา โคตฺรภุ อวธินิทสฺสนภาเวน คหิตํ, ตโต ปรํ ปน มคฺคผลสมานตาย อฺเสุ มคฺเคสุ มคฺควีถิยํ สมาปตฺติวีถิยํ นิโรธานนฺตรฺจ ปวตฺตมาเนสุ ผเลสุ นิพฺพาเน จ อาสวานํ ปวตฺติ นิวาริตาติ เวทิตพฺพํ. สวนฺตีติ คจฺฉนฺติ, อารมฺมณกรณวเสน ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. อวธิอตฺโถ อา-กาโร, อวธิ จ มริยาทาภิวิธิเภทโต ทุวิโธ. ตตฺถ มริยาทํ กิริยํ พหิ กตฺวา ปวตฺตติ ยถา ‘‘อาปาฏลิปุตฺตา วุฏฺโ เทโว’’ติ. อภิวิธิ ปน กิริยํ พฺยาเปตฺวา ปวตฺตติ ยถา ‘‘อาภวคฺคา ภควโต ยโส ปวตฺตตี’’ติ. อภิวิธิอตฺโถ จายํ อา-กาโร อิธ คหิโตติ วุตฺตํ ‘‘อนฺโตกรณตฺโถ’’ติ.

มทิราทโยติ อาทิ-สทฺเทน สินฺธวกาทมฺพริกาโปติกาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. จิรปาริวาสิยฏฺโ วิรปริวุตฺถตา ปุราณภาโว. อวิชฺชา นาโหสีติอาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ ภวตณฺหายา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๖๒) อิทํ สุตฺตํ สงฺคหิตํ. อวิชฺชาสวภวาสวานํ จิรปริวุตฺถตาย ทสฺสิตาย ตพฺภาวภาวิโน กามาสวสฺส จิรปริวุตฺถตา ทสฺสิตาว โหติ. อฺเสุ จ ยถาวุตฺเต ธมฺเม โอกาสฺจ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตมาเนสุ มานาทีสุ วิชฺชมาเนสุ อตฺตตฺตนิยาทิคฺคาหวเสน อภิพฺยาปนํ มทกรณวเสน อาสวสทิสตา จ เอเตสํเยว, น อฺเสนฺติ เอเตสฺเวว อาสว-สทฺโท นิรุฬฺโหติ ทฏฺพฺโพ. น เจตฺถ ทิฏฺาสโว นาคโตติ คเหตพฺพํ ภวตณฺหาย วิย ภวทิฏฺิยาปิ ภวาสวคฺคหเณเนว คหิตตฺตา. อายตํ อนาทิกาลิกตฺตา. ปสวนฺตีติ ผลนฺติ. น หิ ตํ กิฺจิ สํสารทุกฺขํ อตฺถิ, ยํ อาสเวหิ วินา อุปฺปชฺเชยฺย. ปุริมานิ เจตฺถาติ เอตฺถ เอเตสุ จตูสุ อตฺถวิตปฺเปสุ ปุริมานิ ตีณิ. ยตฺถาติ เยสุ สุตฺตาภิธมฺมปเทเสสุ. ตตฺถ ยุชฺชนฺติ กิเลเสสุเยว ยถาวุตฺตสฺส อตฺถตฺตยสฺส สมฺภวโต. ปจฺฉิมํ ‘‘อายตํ วา สํสารทุกฺขํ สวนฺตี’’ติ วุตฺตนิพฺพจนํ. กมฺเมปิ ยุชฺชติ ทุกฺขปฺปสวนสฺส กิเลสกมฺมสาธารณตฺตา.

ทิฏฺธมฺมา วุจฺจนฺติ ปจฺจกฺขภูตา ขนฺธา, ทิฏฺธมฺเม ภวา ทิฏฺธมฺมิกา. วิวาทมูลภูตาติ วิวาทสฺส มูลการณภูตา โกธูปนาห-มกฺข-ปฬาส-อิสฺสา-มจฺฉริย-มายา-สาเยฺย-ถมฺภ-สารมฺภ-มานาติมานา.

เยน เทวูปปตฺยสฺสาติ เยน กมฺมกิเลสปฺปกาเรน อาสเวน เทเวสุ อุปปตฺติ นิพฺพตฺติ อสฺส มยฺหนฺติ สมฺพนฺโธ. คนฺธพฺโพ วา วิหงฺคโม อากาสจารี อสฺสนฺติ วิภตฺตึ ปริณาเมตฺวา โยเชตพฺพํ. เอตฺถ จ ยกฺขคนฺธพฺพตาย วินิมุตฺตา สพฺพา เทวคติ เทวคฺคหเณน คหิตา. อวเสสา จ อกุสลา ธมฺมาติ อกุสลกมฺมโต อวเสสา อกุสลา ธมฺมา อาสวาติ อาคตาติ สมฺพนฺโธ.

ปฏิฆาตายาติ ปฏิเสธนาย. ปรูปวา…เป… อุปทฺทวาติ อิทํ ยทิ ภควา สิกฺขาปทํ น ปฺเปยฺย, ตโต อสทฺธมฺมปฺปฏิเสวนอทินฺนาทานปาณาติปาตาทิเหตุ เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ ปรูปวาทาทโย ทิฏฺธมฺมิกา นานปฺปการา อนตฺถา, เย จ ตนฺนิมิตฺตา เอว นิรยาทีสุ นิพฺพตฺตสฺส ปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณาทิวเสน มหาทุกฺขานุภวาทิปฺปการา อนตฺถา, เต สนฺธาย วุตฺตํ. เต ปเนเตติ เอเต กามราคาทิกิเลส-เตภูมกกมฺมปรูปวาทาทิอุปทฺทวปฺปการา อาสวา. ยตฺถาติ ยสฺมึ วินยาทิปาฬิปเทเส. ยถาติ เยน ทุวิธาทิปฺปกาเรน อฺเสุ จ สุตฺตนฺเตสุ อาคตาติ สมฺพนฺโธ.

นิรยํ คเมนฺตีติ นิรยคามินิยา. ฉกฺกนิปาเต อาหุเนยฺยสุตฺเต. ตตฺถ หิ อาสวา ฉธา อาคตา อาสว-สทฺทาภิเธยฺยสฺส อตฺถสฺส ปเภโทปจาเรน อาสว-ปเท ปเภโทติ วุตฺโต, โกฏฺาสตฺโถ วา ปท-สทฺโทติ อาสวปเทติ อาสวปฺปกาเร สทฺทโกฏฺาเส อตฺถโกฏฺาเส วาติ อตฺโถ.

ตถาหีติ ตสฺมา สํวรณํ ปิทหนํ ปวตฺติตุํ อปฺปทานํ, เตเนว การเณนาติ อตฺโถ. สีลาทิสํวเร อธิปฺเปเต ปวตฺติตุํ อปฺปทานวเสน ถกนภาวสามฺโต ทฺวารํ สํวริตฺวาติ เคหทฺวารสํวรณมฺปิ อุทาหฏํ. สีลสํวโรติอาทิ เหฏฺา มูลปริยายวณฺณนาย วุตฺตมฺปิ อิมสฺส สุตฺตสฺส อตฺถวณฺณนํ ปริปุณฺณํ กตฺวา วตฺตุกาโม ปุน วทติ. ยุตฺตํ ตาว สีลสติาณานํ สํวรตฺโถ ปาฬิยํ ตถา อาคตตฺตา, ขนฺติวีริยานํ ปน กถนฺติ อาห ‘‘เตสฺจา’’ติอาทิ. ตสฺสตฺโถ – ยทิปิ ‘‘ขโม โหติ…เป… สีตสฺส อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติอาทินิทฺเทเส ขนฺติวีริยานํ สํวรปริยาโย นาคโต, อุทฺเทเส ปน สพฺพาสวสํวรปริยายนฺติ สํวรปริยาเยน คหิตตฺตา อตฺเถว เตสํ สํวรภาโวติ.

ปุพฺเพ สีลสติาณานํ ปานฺตเรน สํวรภาโว ทสฺสิโตติ อิทานิ ตํ อิมินาปิ สุตฺเตน คหิตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ขนฺติวีริยสํวรา วุตฺตาเยว ‘‘ขโม โหติ สีตสฺสา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๔) ปาฬิยา ทสฺสนวเสน. ‘‘ตฺจ อนาสนํ, ตฺจ อโคจร’’นฺติ อยํ ปเนตฺถ สีลสํวโรติ ตฺจ ‘‘ยถารูเป’’ติอาทินา วุตฺตํ อยุตฺตํ อนิยตวตฺถุกํ รโห ปฏิจฺฉนฺนาสนํ, ตฺจ ยถาวุตฺตํ อยุตฺตํ เวสิยาทิโคจรํ, ‘‘ปฏิสงฺขาโยนิโส ปริวชฺเชตี’’ติ อาคตํ ยํ ปริวชฺชนํ, อยํ ปน เอตฺถ เอตสฺมึ สุตฺเต อาคโต สีลสํวโรติ อตฺโถ. อนาสนปริวชฺชเนน หิ อนาจารปริวชฺชนํ วุตฺตํ, อนาจาราโคจรปริวชฺชนํ จาริตฺตสีลตายสีลสํวโร. ตถา หิ ภควตา ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรตี’’ติ (วิภ. ๕๐๘) สีลสํวรวิภชเน อาจารโคจรสมฺปตฺตึ ทสฺเสนฺเตน ‘‘อตฺถิ อนาจาโร, อตฺถิ อโคจโร’’ติอาทินา (วิภ. ๕๑๓, ๕๑๔) อนาจาราโคจรา วิภชิตฺวา ทสฺสิตา. อิทฺจ เอกเทเสน สมุทายนิทสฺสนํ ทฏฺพฺพํ สมุทฺทปพฺพตนิทสฺสนํ วิย.

สพฺพตฺถ ปฏิสงฺขา าณสํวโรติ เอตฺถ ‘‘โยนิโสมนสิกาโร, ปฏิสงฺขา าณสํวโร’’ติ วตฺตพฺพํ . น หิ ทสฺสนปหาตพฺพนิทฺเทเส ปฏิสงฺขาคหณํ อตฺถิ, ‘‘โยนิโส มนสิ กโรตี’’ติ ปน วุตฺตํ. โยนิโสมนสิกรณมฺปิ อตฺถโต ปฏิสงฺขา าณสํวรเมวาติ เอวํ ปน อตฺเถ คยฺหมาเน ยุตฺตเมตํ สิยา. เกจิ ปน ‘‘ยตฺถ ยตฺถ ‘อิธ ปฏิสงฺขา โยนิโส’ติ อาคตํ , ตํ สพฺพํ สนฺธาย ‘สพฺพตฺถ ปฏิสงฺขา าณสํวโร’ติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. เตสํ มเตน ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ โยนิโส มนสิ กโรตี’’ติอาทิกสฺส าณสํวเรน จ อสงฺคโห สิยา, ‘‘ทสฺสนํ ปฏิเสวนา ภาวนา จ าณสํวโร’’ติ จ วจนํ วิรุชฺเฌยฺย, ตสฺมา วุตฺตนเยเนเวตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘สพฺพตฺถ ปฏิสงฺขา าณสํวโร’’ติ อิมินา สตฺตสุปิ าเนสุ ยํ าณํ, โส าณสํวโรติ ปริวชฺชนาทิวเสน วุตฺตา สีลาทโย สีลสํวราทโยติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต. เอวํ สติ สํวรานํ สงฺกโร วิย โหตีติ เต อสงฺกรโต ทสฺเสตุํ ‘‘อคฺคหิตคฺคหเณนา’’ติ วุตฺตํ ปริวชฺชนวิเสสสํวราธิวาสนวิโนทนานํ สีลสํวราทิภาเวน คหิตตฺตา, ตถา อคฺคหิตานํ คหเณนาติ อตฺโถ. เต ปน อคฺคหิเต สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘ทสฺสนํ ปฏิเสวนา ภาวนา’’ติ อาห.

เอเตน สีลสํวราทินา กรณภูเตน, การณภูเตน วา. ธมฺมาติ กุสลากุสลธมฺมา. สีลสํวราทินา หิ สหชาตโกฏิยา, อุปนิสฺสยโกฏิยา วา ปจฺจยภูเตน อนุปฺปนฺนา กุสลา ธมฺมา อุปฺปตฺตึ คจฺฉนฺติ อุปฺปชฺชนฺติ, ตถา อนิรุทฺธา อกุสลา ธมฺมา นิโรธํ คจฺฉนฺติ นิรุชฺฌนฺตีติ อตฺโถ. ปาฬิยํ ปน ‘‘อนุปฺปนฺนา เจว อาสวา น อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา จ อาสวา ปหียนฺตี’’ติ อกุสลธมฺมานํ อนุปฺปาทปหานานิ เอว วุตฺตานิ, น กุสลธมฺมานํ อุปฺปาทาทโยติ? นยิทเมวํ ทฏฺพฺพํ, ‘‘โยนิโส จ โข, ภิกฺขเว, มนสิกโรโต’’ติอาทินา กุสลธมฺมานมฺปิ อุปฺปตฺติ ปกาสิตาว อาสวสํวรณสฺส ปธานภาเวน คหิตตฺตา. ตถา หิ ปริโยสาเนปิ ‘‘เย อาสวา ทสฺสนา ปหาตพฺพา, เต ทสฺสนา ปหีนา โหนฺตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๘) อาสวปฺปหานเมว ปธานํ กตฺวา นิคมิตํ.

๑๕. ชานโต ปสฺสโตติ เอตฺถ ทสฺสนมฺปิ ปฺาจกฺขุนาว ทสฺสนํ อธิปฺเปตํ, น มํสจกฺขุนา ทิพฺพจกฺขุนา วาติ อาห ‘‘ทฺเวปิ ปทานิ เอกตฺถานี’’ติ. เอวํ สนฺเตปีติ ปททฺวยสฺส เอกตฺถตฺเถปิ. าณลกฺขณนฺติ าณสฺส สภาวํ, วิสยสฺส ยถาสภาวาวโพธนนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ชานนลกฺขณฺหิ าณ’’นฺติ. าณปฺปภาวนฺติ าณานุภาวํ, าณกิจฺจํ วิสโยภาสนนฺติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘าเณน วิวเฏ ธมฺเม’’ติ. ‘‘ชานโต ปสฺสโต’’ติ จ ชานนทสฺสนมุเขน ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา ปวตฺตาติ อาห ‘‘าณลกฺขณํ าณปฺปภาวํ อุปาทาย ปุคฺคลํ นิทฺทิสตี’’ติ. ชานโต ปสฺสโตติ ‘‘โยนิโส จ มนสิการํ อโยนิโส จ มนสิการ’’นฺติ วกฺขมานตฺตา โยนิโสมนสิการวิสยชานนํ, อโยนิโสมนสิการวิสยทสฺสนํ. ตฺจ โข ปน เนสํ อาสวานํ ขยูปายสภาวสฺส อธิปฺเปตตฺตา อุปฺปาทนานุปฺปาทนวเสน น อารมฺมณมตฺเตนาติ อยมตฺโถ ยุตฺโตติ อาห ‘‘โยนิโสมนสิการํ…เป… อยเมตฺถ สาโร’’ติ.

‘‘ชานโต’’ติ วตฺวา ชานนฺจ อนุสฺสวาการปฏิวิตกฺกมตฺตวเสน น อิธาธิปฺเปตํ, อถ โข รูปาทิ วิย จกฺขุวิฺาเณน โยนิโสมนสิการาโยนิโสมนสิกาเร ปจฺจกฺเข กตฺวา เตสํ อุปฺปาทวเสน ทสฺสนนฺติ อิมมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘ปสฺสโต’’ติ วุตฺตนฺติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อฺตฺถาปิ หิ ‘‘เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต (อิติวุ. ๑๐๒), ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสติ (ม. นิ. ๑.๒๐๓), เอวํ ชานนฺตา เอวํ ปสฺสนฺตา (ม. นิ. ๑.๔๐๗), อชานตํ อปสฺสต’’นฺติ จ อาทีสุ าณกิจฺจสฺส สามฺวิเสสทีปนวเสเนตํ ปททฺวยํ อาคตนฺติ. เกจีติ อภยคิริวาสิสารสมาสาจริยา. เต หิ ‘‘สมาธินา ชานโต วิปสฺสนาย ปสฺสโต ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสติ, เอวํ ชานนา สมโถ, ปสฺสนา วิปสฺสนา’’ติ จ อาทินา ปปฺเจนฺติ. เตติ ปปฺจา. อิมสฺมึ อตฺเถติ ‘‘ชานโต’’ติอาทินยปฺปวตฺเต อิมสฺมึ สุตฺตปทอตฺเถ นิทฺธาริยมาเน. น ยุชฺชนฺติ ชานนทสฺสนานํ โยนิโสมนสิการาโยนิโสมนสิการวิสยภาวสฺส ปาฬิยํ วุตฺตตฺตา.

อาสวปฺปหานํ อาสวานํ อจฺจนฺตปฺปหานํ. โส ปน เนสํ อนุปฺปาโท สพฺเพน สพฺพํ ขีณตา อภาโว เอวาติ อาห ‘‘อาสวานํ อจฺจนฺตขยมสมุปฺปาทํขีณาการํ นตฺถิภาว’’นฺติ. อุชุมคฺคานุสาริโนติ กิเลสวงฺกสฺส กายวงฺกาทีนฺจ ปหาเนน อุชุภูเต สวิปสฺสเน เหฏฺิมมคฺเค อนุสฺสรนฺตสฺส. ตเทว หิสฺส สิกฺขนํ. ขยสฺมึ ปมํ าณํ. ตโต อฺา อนนฺตราติ ขยสงฺขาเต อคฺคมคฺเค ตปฺปริยาปนฺนเมว าณํ ปมํ อุปฺปชฺชติ , ตทนนฺตรํ ปน อฺํ อรหตฺตนฺติ. ยทิปิ คาถายํ ‘‘ขยสฺมึ’’อิจฺเจว วุตฺตํ, สมุจฺเฉทวเสน ปน อาสเวหิ ขีโณตีติ มคฺโค ขโยติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘มคฺโค อาสวกฺขโยติ วุตฺโต’’ติ. สมโณติ สมิตปาโป อธิปฺเปโต. โส ปน ขีณาสโว โหตีติ ‘‘อาสวานํ ขยา’’ติ อิมสฺส ผลปริยายตา วุตฺตา, นิปฺปริยาเยน ปน อาสวกฺขโย มคฺโค, เตน ปตฺตพฺพโต ผลํ. เอเตเนว นิพฺพานสฺสปิ อาสวกฺขยภาโว วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

‘‘ชานโต ปสฺสโต’’ติ ชานโต เอว ปสฺสโต เอวาติ เอวเมตฺถ นิยโม อิจฺฉิโต, น อฺถา วิเสสาภาวโต อนิฏฺสาธนโต จาติ ตสฺส นิยมสฺส ผลํ ทสฺเสตุํ ‘‘โน อชานโต โนอปสฺสโต’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘โย ปน น ชานาติ น ปสฺสติ, ตสฺส เนว วทามีติ อตฺโถ’’ติ. อิมินา ทูรีกตาโยนิโสมนสิกาโร อิธาธิปฺเปโต, โยนิโสมนสิกาโร จ อาสวกฺขยสฺส เอกนฺติกการณนฺติ ทสฺเสติ. เอเตนาติ ‘‘โน อชานโต โน อปสฺสโต’’ติ วจเนน. เต ปฏิกฺขิตฺตาติ เก ปน เตติ? ‘‘พาเล จ ปณฺฑิเต จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ (ที. นิ. ๑.๑๖๘; ม. นิ. ๒.๒๒๘), อเหตู อปจฺจยา สตฺตา วิสุชฺฌนฺตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๘; ม. นิ. ๒.๒๒๗) เอวมาทิวาทา. เตสุ หิ เกจิ อภิชาติสงฺกนฺติมตฺเตน ภวสงฺกนฺติมตฺเตน จ สํสารสุทฺธึ ปฏิชานนฺติ, อฺเ อิสฺสรปชาปติกาลาทิวเสน, ตยิทํ สพฺพํ ‘‘สํสาราทีหี’’ติ เอตฺเถว สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

ปุริเมน วา ปททฺวเยนาติ ‘‘ชานโต, ปสฺสโต’’ติ อิมินา ปททฺวเยน. อุปาโย วุตฺโต ‘‘อาสวกฺขยสฺสา’’ติ อธิการโต วิฺายติ. อิมินาติ ‘‘โน อชานโต, โน อปสฺสโต’’ติ อิมินา ปททฺวเยน. อนุปาโย เอว หิ อาสวานํ ขยสฺส ยทิทํ โยนิโส จ อโยนิโส จ มนสิการสฺส อชานนํ อทสฺสนฺจ, เตน ตถตฺตาย อปฺปฏิปตฺติโต มิจฺฉาปฏิปตฺติโต จ. นนุ ‘‘ปสฺสโต’’ติ อิมินา อโยนิโสมนสิกาโร ยถา น อุปฺปชฺชติ, เอวํ ทสฺสเน อธิปฺเปเต ปุริเมเนว อนุปายปฏิเสโธ วุตฺโต โหตีติ? น โหติ, อโยนิโสมนสิการานุปฺปาทนสฺสปิ อุปายภาวโต สติพเลน สํวุตจกฺขุนฺทฺริยาทิตา วิย สมฺปชฺพเลเนว นิจฺจาทิวเสน อภูตชานนาภาโว โหตีติ. เตนาห ‘‘สงฺเขเปน…เป… โหตี’’ติ. ตตฺถ สงฺเขเปนาติ สมาเสน, อนฺวยโต พฺยติเรกโต จ วิตฺถารํ อกตฺวาติ อตฺโถ. าณํ…เป… ทสฺสิตํ โหติ ‘‘ชานโต’’ติอาทินา าณสฺเสว คหิตตฺตา. ยทิ เอวํ ‘‘สฺวายํ สํวโร’’ติอาทิ กถํ นียตีติ? าณสฺส ปธานภาวทสฺสนตฺถํ เอวมยํ เทสนา กตาติ นายํ โทโส, ตถา อฺตฺถาปิ ‘‘อริยํ โว ภิกฺขเว สมฺมาสมาธึ เทเสสฺสามิ สอุปนิสํ สปริกฺขาร’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๑๓๖) วิตฺถาโร.

ทพฺพชาติโกติ ทพฺพรูโป. โส หิ ทฺรพฺโยติ วุจฺจติ ‘‘ทฺรพฺยํ วินสฺสติ นาทฺรพฺย’’นฺติอาทีสุ. ทพฺพชาติโก วา สารสภาโว, สารุปฺปสีลาจาโรติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘น โข ทพฺพ ทพฺพา เอวํ นิพฺเพเนฺตี’’ติ (ปารา. ๓๘๔, ๓๙๑; จูฬว. ๑๙๓). วตฺตสีเส ตฺวาติ วตฺตํ อุตฺตมงฺคํ, ธุรํ วา กตฺวา. โย หิ ปริสุทฺธาชีโว กาตุํ อชานนฺตานํ สพฺรหฺมจารีนํ, อตฺตโน วา วาตาตปาทิปฏิพาหนตฺถํ ฉตฺตาทีนิ กโรติ, โส วตฺตสีเส ตฺวา กโรติ นาม. ปทฏฺานํ น โหตีติ น วตฺตพฺพา นาถกรณธมฺมภาเวน อุปนิสฺสยภาวโต. วุตฺตฺหิ ‘‘ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กิจฺจกรณียานิ, ตตฺถ ทกฺโข โหตี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๔๙๗).

อุปายมนสิกาโรติ กุสลธมฺมปฺปวตฺติยา การณภูโต มนสิกาโร. ปถมนสิกาโรติ ตสฺสา เอว มคฺคภูโต มนสิกาโร. อนิจฺจาทีสุ อนิจฺจนฺติอาทินาติ อนิจฺจทุกฺขอสุภอนตฺตสภาเวสุ ธมฺเมสุ ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อสุภํ อนตฺตา’’ติอาทินา เอว นเยน, อวิปรีตสภาเวนาติ อตฺโถ. สจฺจานุโลมิเกน วาติ สจฺจาภิสมยสฺส อนุโลมวเสน. จิตฺตสฺส อาวฏฺฏนาติอาทินา อาวฏฺฏนาย ปจฺจยภูตา ตโต ปุริมุปฺปนฺนา มโนทฺวาริกา กุสลชวนปฺปวตฺติ ผลโวหาเรน ตถา วุตฺตา. ตสฺสา หิ วเสน สา กุสลุปฺปตฺติยา อุปนิสฺสโย โหติ. อาวชฺชนา หิ ภวงฺคจิตฺตํ อาวฏฺฏยตีติ อาวฏฺฏนา. อนุ อนุ อาวฏฺเฏตีติ อนฺวาวฏฺฏนา. ภวงฺคารมฺมณโต อฺํ อาภุชตีติ อาโภโค. สมนฺนาหรตีติ สมนฺนาหาโร. ตเทวารมฺมณํ อตฺตานํ อนุพนฺธิตฺวา อุปฺปชฺชมานํ มนสิ กโรติ เปตีติ มนสิกาโร. อยํ วุจฺจตีติ อยํ อุปายปถมนสิการลกฺขโณ โยนิโสมนสิกาโร นาม วุจฺจติ, ยสฺส วเสน ปุคฺคโล ทุกฺขาทีนิ สจฺจานิ อาวชฺชิตุํ สกฺโกติ . อโยนิโสมนสิกาเร สจฺจปฏิกูเลนาติ สจฺจาภิสมยสฺส อนนุโลมวเสน. เสสํ โยนิโสมนสิกาเร วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺพํ.

ยุตฺตินฺติ อุปปตฺติสาธนยุตฺตึ, เหตุนฺติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘ยสฺมา’’ติอาทิ. เอตฺถาติ ‘‘อโยนิโส ภิกฺขเว…เป… ปหียนฺตี’’ติ เอตสฺมึ ปาเ. ตตฺถาติ วากฺโยปฺาสนํ. กสฺมา ปเนตฺถ อยมุทฺเทสนิทฺเทโส ปริวตฺโตติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘โยนิโส’’ติอาทิ. ตตฺถ มนสิการปทํ ทฺวินฺนํ สาธารณนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘โยนิโส อโยนิโสติ อิเมหิ ตาว ทฺวีหิ ปเทหี’’ติ วุตฺตํ. โยนิโสติ หิ โยนิโสมนสิกาโร, อโยนิโสติ จ อโยนิโสมนสิกาโร ตตฺถ อนุวตฺตนโต วกฺขมานตฺตา จ. สติปิ อนตฺถุปฺปตฺติสามฺเ ภวาทีสุ ปุคฺคลสฺส พหุลิสามฺํ ทสฺเสตฺวา ตํ ปริวตฺติตฺวา วิเสสทสฺสนตฺตํ นาวาทิ อุปมาตฺตยคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ. จกฺกยนฺตํ อาหฏฆฏียนฺตนฺติ วทนฺติ.

อนุปฺปนฺนาติ อนิพฺพตฺตา. อารมฺมณวิเสสวเสน ตสฺส อนุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา, น รูปารมฺมณาทิอารมฺมณสามฺเน, นาปิ อาสววเสน. เตนาห ‘‘อนนุภูตปุพฺพํ อารมฺมณํ…เป… อฺถา หิ อนมตคฺเค สํสาเร อนุปฺปนฺนา นาม อาสวา น สนฺตี’’ติ. วตฺถุนฺติ สวิฺาณกาวิฺาณกปฺปเภทํ อาสวุปฺปตฺติการณํ. อารมฺมณํ อารมฺมณปจฺจยภูตรูปาทีนิ . อิทานิ อาสววเสนปิ อนุปฺปนฺนปริยาโย ลพฺภตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อนุภูตปุพฺเพปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปกติสุทฺธิยาติ ปุพฺพจริยโต กิเลสทูรีภาวสิทฺธาย สุทฺธิปกติตาย. ปาฬิยา อุทฺทิสนํ อุทฺเทโส, อตฺถกถนํ ปริปุจฺฉา. อชฺฌยนํ ปริยตฺติ, จีวรสิพฺพาทิ นวกมฺมํ, สมถวิปสฺสนานุโยโค โยนิโสมนสิกาโร. ตาทิเสนาติ ยาทิเสน ‘‘มนุฺวตฺถู’’ติมนสิการาทินา กามาสวาทโย สมฺภเวยฺยุํ, ตาทิเสน. อาสวานํ วฑฺฒิ นาม ปริยุฏฺานติพฺพตาย เวทิตพฺพา, สา จ อภิณฺหุปฺปตฺติยา พหุลีการโตติ เต ลทฺธาเสวนา พหุลภาวํ ปตฺตา มทฺทนฺตา ผรนฺตา ฉาเทนฺตา อนฺธาการํ กโรนฺตา อปราปรํ อุปฺปชฺชมานา เอกสนฺตานนเยน ‘‘อุปฺปนฺนา ปวฑฺฒนฺตี’’ติ วุจฺจนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชมานา อุปฺปนฺนา ปวฑฺฒนฺตีติ วุจฺจนฺตี’’ติ. อิโต อฺถาติ อิโต อปราปรุปฺปนฺนานํ เอกตฺตคฺคหณโต อฺถา วฑฺฒิ นาม นตฺถิ ขณิกภาวโต.

โส จ ชานาตีติ ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหาภาวมาห. การกสฺเสวาติ ยุตฺตโยคสฺเสว. ยสฺส ปนาติอาทินา อนุทฺเทสิกํ กตฺวา วุตฺตมตฺถํ ปุราตนสฺส ปุริสาติสยสฺส ปฏิปตฺติทสฺสเนน ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘มณฺฑลารามวาสีมหาติสฺสภูตตฺเถรสฺส วิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตฺหิ สพฺรหฺมจารีนํ อายตึ ตถาปฏิปตฺติการณํ โหติ, ยโต เอทิสํ วตฺถุ วุจฺจติ. ตสฺมึ เยวาติ มณฺฑลาราเมเยว. อาจริยํ อาปุจฺฉิตฺวาติ อตฺตโน อุทฺเทสาจริยํ กมฺมฏฺานคฺคหณตฺถํ คนฺตุํ อาปุจฺฉิตฺวา. อาจริยํ วนฺทิตฺวาติ กมฺมฏฺานทายกํ มหารกฺขิตตฺเถรํ วนฺทิตฺวา. อุทฺเทสมคฺคนฺติ ยถาอารทฺธํ อุทฺเทสปพนฺธํ. ตทา กิร มุขปาเเนว พหู เอกชฺฌํ อุทฺทิสาเปตฺวา มโนสชฺฌายวเสน ธมฺมํ สชฺฌายนฺติ. ตตฺถายํ เถโร ปฺวนฺตตาย อุทฺเทสํ คณฺหนฺตานํ ภิกฺขูนํ โธรยฺโห, โส ‘‘อิทานาหํ อนาคามี, กึ มยฺหํ อุทฺเทเสนา’’ติ สงฺโกจํ อนาปชฺชิตฺวา ทุติยทิวเส อุทฺเทสกาเล อาจริยํ อุปสงฺกมิ. ‘‘อุปฺปนฺนา ปหียนฺตี’’ติ เอตฺถ อุปฺปนฺนสทิสา ‘‘อุปฺปนฺนา’’ติ วุตฺตา, น ปจฺจุปฺปนฺนา. น หิ ปจฺจุปฺปนฺเนสุ อาสเวสุ มคฺเคน ปหานํ สมฺภวตีติ อาห ‘‘เย ปน…เป… นตฺถี’’ติ. วตฺตมานุปฺปนฺนา ขณตฺตยสมงฺคิโน. เตสํ ปฏิปตฺติยา ปหานํ นตฺถิ อุปฺปชฺชนารหานํ ปจฺจยฆาเตน อนุปฺปาทนเมว ตาย ปหานนฺติ.

๑๖. ยทิ เอวํ ทุติยปทํ กิมตฺถิยนฺติ? ปททฺวยคฺคหณํ อาสวานํ อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนภาวสมฺภวทสฺสนตฺถฺเจว ปหายกวิภาเคน ปหาตพฺพวิภาคทสฺสนตฺถฺจ. เตนาห ‘‘อิทเมว ปทํ คเหตฺวา’’ติ. อฺมฺปีติ าณโต อฺมฺปิ สติสํวราทึ. ทสฺสนาติ อิทํ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกวจนนฺติ ทสฺสเนนาติ เหตุมฺหิ กรณวจเนน ตทตฺถํ วิวรติ. เอส นโยติ ตเมวตฺถํ อติทิสติ. ทสฺสเนนาติ โสตาปตฺติมคฺเคน. โส หิ ปมํ นิพฺพานทสฺสนโต ‘‘ทสฺสน’’นฺติ วุจฺจติ. ยทิปิ ตํ โคตฺรภุ ปมตรํ ปสฺสติ, ทิสฺวา ปน กตฺตพฺพกิจฺจสฺส กิเลสปฺปหานสฺส อกรณโต น ตํ ทสฺสนนฺติ วุจฺจติ. อาวชฺชนฏฺานิยฺหิ ตํ าณํ มคฺคสฺส, นิพฺพานารมฺมณตฺตสามฺเน เจตํ วุตฺตํ, น นิพฺพานปฏิวิชฺฌเนน, ตสฺมา ธมฺมจกฺขุ ปุนปฺปุนํ นิพฺพตฺตเนน ภาวนํ อปฺปตฺตํ ทสฺสนํ นาม, ธมฺมจกฺขุฺจ ปริฺาทิกิจฺจกรณวเสน จตุสจฺจธมฺมทสฺสนํ ตทภิสมโยติ นุตฺเถตฺถ โคตฺรภุสฺส ทสฺสนภาวปฺปตฺติ . อยฺจ วิจาโร ปรโต อฏฺกถายเมว (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๒) อาคมิสฺสติ. สพฺพตฺถาติ ‘‘สํวรา ปหาตพฺพา’’ติอาทีสุ. สํวราติ สํวเรน, ‘‘สํวโร’’ติ เจตฺถ สติสํวโร เวทิตพฺโพ. ปฏิเสวติ เอเตนาติ ปฏิเสวนํ, ปจฺจเยสุ อิทมตฺถิกตาาณํ. อธิวาเสติ ขมติ เอตายาติ อธิวาสนา, สีตาทีนํ ขมนากาเรน ปวตฺโต อโทโส, ตปฺปธานา วา จตฺตาโร กุสลกฺขนฺธา. ปริวชฺเชติ เอเตนาติ ปริวชฺชนํ, วาฬมิคาทีนํ ปริหรณวเสน ปวตฺตา เจตนา, ตถาปวตฺตา วา จตฺตาโร กุสลกฺขนฺธา. กามวิตกฺกาทิเก วิโนเทติ วิตุทติ เอเตนาติ วิโนทนํ, กุสลวีริยํ. ปมมคฺเคน ทิฏฺเ จตุสจฺจธมฺเม ภาวนาวเสน อุปฺปชฺชนโต ภาวนา, เสสมคฺคตฺตยํ. น หิ ตํ อทิฏฺปุพฺพํ กิฺจิ ปสฺสติ, เอวํ ทสฺสนาทีนํ วจนตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ทสฺสนาปหาตพฺพอาสววณฺณนา

๑๗. กุสลากุสลธมฺเมหิ อาลมฺพิยมานาปิ อารมฺมณธมฺมา อาวชฺชนมุเขเนว ตพฺภาวํ คจฺฉนฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มนสิกรณีเย’’ติ ปทสฺส ‘‘อาวชฺชิตพฺเพ’’ติ อตฺถมาห. หิตสุขาวหภาเวน มนสิกรณํ อรหนฺตีติ มนสิกรณียา, ตปฺปฏิปกฺขโต อมนสิกรณียาติ อาห ‘‘อมนสิกรณีเยติ ตพฺพิปรีเต’’ติ. เสสปเทสูติ ‘‘มนสิกรณีเย ธมฺเม อปฺปชานนฺโต’’ติอาทีสุ. ยสฺมา กุสลธมฺเมสุปิ สุภสุขนิจฺจาทิวเสน มนสิกาโร อสฺสาทนาทิเหตุตาย สาวชฺโช อหิตทุกฺขาวโห อกุสลธมฺเมสุปิ อนิจฺจาทิวเสน มนสิกาโร นิพฺพิทาทิเหตุตาย อนวชฺโช หิตสุขาวโห, ตสฺมา ‘‘ธมฺมโต นิยโม นตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘อาการโต ปน อตฺถี’’ติ อาห.

วา-สทฺโท เยภุยฺเยน ‘‘มมํ วา หิ ภิกฺขเว (ที. นิ. ๑.๕, ๖), เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๘๖; ม. นิ. ๒.๗๙, ๘๐) วิกปฺปตฺโถ ทิฏฺโ, น สมุจฺจยตฺโถติ ตตฺถ สมุจฺจยตฺเถ ปโยคํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวฺจ กตฺวา สมุจฺจยตฺถทีปกํ ปเนตํ สุตฺตปทํ สมุทาหฏํ.

กามาสโวติ ปฺจกามคุณสงฺขาเต กาเม อาสโว กามาสโว. เตนาห ‘‘ปฺจกามคุณิโก ราโค’’ติ. ภวาสวํ ปน เปตฺวา สพฺโพ โลโภ กามาสโวติ ยุตฺตํ สิยา. รูปารูปภเวติ กมฺมุปปตฺติเภทโต ทุวิเธปิ รูปารูปภเว ฉนฺทราโค. ฌานนิกนฺตีติ ฌานสฺสาโท. ‘‘สุนฺทรมิทํ านํ นิจฺจํ ธุว’’นฺติอาทินา อสฺสาเทนฺตสฺส อุปฺปชฺชมาโน สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ราโค ภเว อาสโวติ ภวาสโว. เอวนฺติ สพฺพทิฏฺีนํ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิสงฺคหโต ภวาสเวเนว ทิฏฺาสโว คหิโต ตํสหคตราคตายาติ อธิปฺปาโย. อปเร ปน ‘‘ทิฏฺาสโว อวิชฺชาสเวน จ สงฺคหิโต’’ติ วทนฺติ. เอตฺถ จ ‘‘ภวาสโว จตูสุ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺตโลภสหคตจิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชตี’’ติ (ธ. ส. ๑๔๖๕) วจนโต ทิฏฺิสมฺปยุตฺตราคสฺส ภวาสวภาโว วิจาเรตพฺโพ, อถ ‘‘กามสหคตา สฺามนสิการา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๓๓๒) วิย อารมฺมณกรณตฺโถ สหคตตฺโถ, เอวํ สติ ภวาสเว ทิฏฺาสวสฺส สโมธานคมนํ กตํ น สิยา. น หิ ตมฺปโยคตพฺภาวาทิเก อสติ ตํสงฺคโห ยุตฺโต, ตสฺมา ยถาวุตฺตปาฬึ อนุสาเรน ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตโลโภปิ กามาสโวติ ยุตฺตํ สิยา. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกทุกฺขานฺหิ การณภูตา กามาสวาทโยปิ ทฺวิธา วุตฺตา.

อภิธมฺเม (ธ. ส. ๑๑๐๓) จ กามาสวนิทฺเทเส ‘‘กาเมสูติ กามราคทิฏฺิราคาทีนํ อารมฺมณภูเตสุ เตภูมเกสุ วตฺถุกาเมสู’’ติ อตฺโถ สมฺภวติ. ตตฺถ หิ อุปฺปชฺชมานา สา ตณฺหา สพฺพาปิ น กามจฺฉนฺทาทินามํ น ลภตีติ. ยทิ ปน โลโภ กามาสวภวาสววินิมุตฺโตปิ สิยา, โส ยทา ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺเตสุ จิตฺเตสุ อุปฺปชฺชติ, ตทา เตน สมฺปยุตฺโต อวิชฺชาสโว อาสววิปฺปยุตฺโตติ โทมนสฺสวิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตสฺส วิย ตสฺสปิ อาสววิปฺปยุตฺตตา วตฺตพฺพา สิยา ‘‘จตูสุ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺตโลภสหคตจิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปนฺโน โมโห สิยา อาสวสมฺปยุตฺโต, สิยา อาสววิปฺปยุตฺโต’’ติ. ‘‘กามาสโว อฏฺสุ โลภสหคตจิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชตี’ติ (ธ. ส. ๑๔๖๕), ‘‘กามาสวํ ปฏิจฺจ ทิฏฺาสโว อวิชฺชาสโว’’ติ (ปฏฺา. ๓.๓.๑๐๙) จ วจนโต ทิฏฺิสหคตราโค กามาสโว น โหตีติ น สกฺกา วตฺตุํ. กิฺจ อภิชฺฌากามราคานํ วิเสโส อาสวทฺวยเอกาสวภาโว สิยา, น อภิชฺฌาย จ โนอาสวภาโวติ โนอาสวโลภสฺส สพฺภาโว วิจาเรตพฺโพ. น หิ อตฺถิ อภิธมฺเม ‘‘อาสโว จ โนอาสโว จ ธมฺมา อาสวสฺส ธมฺมสฺส อาสวสฺส จ โนอาสวสฺส จ ธมฺมสฺส เหตุปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๓.๓.๑๖-๑๗) สตฺตโม นวโม จ ปฺโห. คณนายฺจ ‘‘เหตุยา สตฺตา’’ติ (ปฏฺา. ๓.๓.๔๐) วุตฺตํ, โน ‘‘นวา’’ติ. ทิฏฺิสมฺปยุตฺเต ปน โลเภ โนอาสเว วิชฺชมาเน สตฺตมนวมาปิ ปฺหา วิสฺสชฺชนํ ลเภยฺยุํ, คณนาย จ ‘‘เหตุยา นวา’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา, น ปน วุตฺตํ. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเต จ โลเภ โนอาสเว วิชฺชมาเน วตฺตพฺพํ วุตฺตเมว. ยสฺมา ปน สุตฺตนฺตเทสนา นาม ปริยายกถา, น อภิธมฺมเทสนา วิย นิปฺปริยายกถา, ตสฺมา พลวกามราคสฺเสว กามาสวํ ทสฺเสตุํ ‘‘กามาสโวติ ปฺจกามคุณิโก ราโค’’ติ วุตฺตํ, ตถา ภวาภินนฺทนนฺติ.

สามฺเน ภวาสโว ทิฏฺาสวํ อนฺโตคธํ กตฺวา อิธ ตโย เอว อาสวา วุตฺตาติ ตสฺส ตทนฺโตคธตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ ทิฏฺาสโว’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตถา หิ วกฺขติ ภวาสวสฺส อนิมิตฺตวิโมกฺขปฏิปกฺขตํ. จตูสุ สจฺเจสุ อฺาณนฺติ อิทํ สุตฺตนฺตนยํ นิสฺสาย วุตฺตํ. สุตฺตนฺตสํวณฺณนา เหสาติ, ตทนฺโตคธตฺตา วา ปุพฺพนฺตาทีนํ. ยถา อตฺถโต กามาสวาทโย ววตฺถาปิตา, ตถา เนสํ อุปฺปาทวฑฺฒิโย ทสฺเสนฺโต ‘‘กามคุเณ’’ติอาทิมาห. อสฺสาทโต มนสิกโรโตติ ‘‘สุภสุขา’’ติอาทินา อสฺสาทนวเสน มนสิ กโรนฺตสฺส. จตุวิปลฺลาสปทฏฺานภาเวนาติ สุภสฺาทีนํ วตฺถุภาเวน. วุตฺตนยปจฺจนีกโตติ ‘‘กามา นาเมเต อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา’’ติอาทินา กามคุเณสุ อาทีนวทสฺสนปุพฺพกเนกฺขมฺมปฏิปตฺติยา ฉนฺทราคํ วิกฺขมฺภยโต สมุจฺฉินฺทนฺตสฺส จ อนุปฺปนฺโน จ กามาสโว น อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน จ ปหียติ. ตถา มหคฺคตธมฺเมสุ เจว สกลเตภูมกธมฺเมสุ จ อาทีนวทสฺสนปุพฺพกอนิจฺจาทิมนสิการวเสน นิสฺสรณปฏิปตฺติยา อนุปฺปนฺนา จ ภวาสวอวิชฺชาสวา น อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา จ ปหียนฺตีติ เอวํ ตณฺหาปกฺเข วุตฺตสฺส นยสฺส ปฏิปกฺขโต สุกฺกปกฺเข วิตฺถาโร เวทิตพฺโพ.

ตโย เอวาติ อภิธมฺเม วิย ‘‘จตฺตาโร’’ติ อวตฺวา กสฺมา ตโย เอว อาสวา อิธ อิมิสฺสํ ทสฺสนาปหาตพฺพกถายํ วุตฺตา? ตตฺถ กามาสวสฺส ตณฺหาปณิธิภาวโต อปฺปณิหิตวิโมกฺขปฏิปกฺขตา เวทิตพฺพา. ภเวสุ นิจฺจคฺคาหานุสารโต เยภุยฺยโต ภวราคสมฺปตฺติโต ภวาสวสฺส อนิมิตฺตวิโมกฺขปฏิปกฺขตา, ภวทิฏฺิยา ปน ภวาสวภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, อนตฺตสฺาย าณานุภาวสิทฺธิโต อวิชฺชาสวสฺส สุฺตวิโมกฺขปฏิปกฺขตา. เอตฺถาติ เอติสฺสํ อาสวกถายํ. วณฺณิตนฺติ กถิตํ. อเภทโตติ สามฺโต.

๑๘. กามาสวาทีนนฺติ มนุสฺสโลกเทวโลกคมนียานํ กามาสวาทีนํ. นิรยาทิคมนียา ปน กามาสวาทโย ‘‘ทสฺสนา ปหาตพฺเพ อาสเว’’ติ เอตฺเถว สมารุฬฺหา. อถ วา ยทคฺเคน โส ปุคฺคโลทสฺสนาปหาตพฺพานํ อาสวานํ อธิฏฺานํ, ตทคฺเคน กามาสวาทีนมฺปิ อธิฏฺานํ. น หิ สมฺาเภเทน วตฺถุเภโท อตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺตาวตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘สามฺโต วุตฺตาน’’นฺติ. กสฺมา ปเนตฺถ ทสฺสนาปหาตพฺเพสุ อาสเวสุ ทสฺเสตพฺเพสุ ‘‘อโหสึ นุ โข อห’’นฺติอาทินา วิจิกิจฺฉา ทสฺสิตาติ อาห ‘‘วิจิกิจฺฉาสีเสน เจตฺถา’’ติอาทิ. เอวนฺติ ยถา โสฬสวตฺถุกา วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชติ, เอวํ อโยนิโสมนสิกาโรติ.

วิชฺชมานตํ อวิชฺชมานตฺจาติ (สํ. นิ. ฏี. ๒.๒.๒๐) สสฺสตาสงฺกํ นิสฺสาย ‘‘อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธาน’’นฺติ อตีเต อตฺตโน วิชฺชมานตํ, อธิจฺจสมุปฺปตฺติอาสงฺกํ นิสฺสาย ‘‘ยโต ปภุติ อหํ, ตโต ปุพฺเพ น นุ โข อโหสิ’’นฺติ อตีเต อตฺตโน อวิชฺชมานตฺจ กงฺขติ. กสฺมา? วิจิกิจฺฉาย อาการทฺวยาวลมฺพนโต. ตสฺสา ปน อตีตวตฺถุตาย คหิตตฺตา สสฺสตาธิจฺจสมุปฺปตฺติอาการนิสฺสยตา ทสฺสิตา. เอวํ อาสปฺปนปริสปฺปนาปวตฺติกํ กตฺถจิปิ อปฺปฏิวตฺติเหตุภูตํ วิจิกิจฺฉํ กสฺมา อุปฺปาเทตีติ น โจเทตพฺพเมตนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘กึ การณนฺติ น วตฺตพฺพ’’นฺติ. สฺเวว ปุถุชฺชนภาโว เอว. ยทิ เอวํ ตสฺส อโยนิโสมนสิกาเรเนว ภวิตพฺพนฺติ อาปนฺนนฺติ อาห ‘‘นนุ จ ปุถุชฺชโนปิ โยนิโส มนสิ กโรตี’’ติ. ตตฺถาติ โยนิโสมนสิกรเณ.

ชาติลิงฺคูปปตฺติโยติ ขตฺติยพฺราหฺมณาทิชาตึ คหฏฺปพฺพชิตาทิลิงฺคํ เทวมนุสฺสาทิอุปปตฺติฺจ. นิสฺสายาติ อุปาทาย.

ตสฺมึ กาเล สตฺตานํ มชฺฌิมปฺปมาณํ, เตน ยุตฺโต ปมาณิโก, ตทภาวโต, ตโต อตีตภาวโต วา อปฺปมาณิโก เวทิตพฺโพ. เกจีติ สารสมาสาจริยา. เต หิ ‘‘กถํ นุ โขติ อิสฺสเรน วา พฺรหฺมุนา วา ปุพฺพกเตน วา อเหตุโต วา นิพฺพตฺโตติ จินฺเตตี’’ติ อาหุ. เตน วุตฺตํ ‘‘เหตุโต กงฺขตีติ วทนฺตี’’ติ. อเหตุโต นิพฺพตฺติกงฺขาปิ หิ เหตุปรามสนเมวาติ.

ปรมฺปรนฺติ ปุพฺพาปรปฺปวตฺตึ. อทฺธานนฺติ กาลาธิวจนํ, ตฺจ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ ทฏฺพฺพํ.

วิชฺชมานตํ อวิชฺชมานตฺจาติ สสฺสตาสงฺกํ นิสฺสาย ‘‘ภวิสฺสามิ นุ โข อหมนาคตมทฺธาน’’นฺติ อนาคเต อตฺตโน วิชฺชมานตํ, อุจฺเฉทาสงฺกํ นิสฺสาย ‘‘ยสฺมิฺจ อตฺตภาเว อหํ, ตโต ปรํ น นุ โข ภวิสฺสามี’’ติ อนาคเต อตฺตโน อวิชฺชมานตฺจ กงฺขตีติ เหฏฺา วุตฺตนเยน โยเชตพฺพํ.

ปจฺจุปฺปนฺนมทฺธานนฺติ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนสฺส อิธาธิปฺเปตตฺตา ‘‘ปฏิสนฺธึ อาทึ กตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อิทํ กถํ อิทํ กถ’’นฺติ ปวตฺตนโต กถํกถา, วิจิกิจฺฉา, สา อสฺส อตฺถีติ กถํกถีติ อาห ‘‘วิจิกิจฺโฉ โหตี’’ติ. กา เอตฺถ จินฺตา, อุมฺมตฺตโก วิย หิ พาลปุถุชฺชโนติ ปฏิกจฺเจว วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. ตํ มหามาตาย ปุตฺตํ. มุณฺเฑสุนฺติ มุณฺเฑน อนิจฺฉนฺตํ ชาครณกาเล น สกฺกาติ สุตฺตํ มุณฺเฑสุํ กุลธมฺมตาย ยถา ตํ เอกจฺเจ กุลตาปสา, ราชภเยนาติ จ วทนฺติ.

สีติภูตนฺติ อิทํ มธุรกภาวปฺปตฺติยา การณวจนํ. ‘‘เสติภูต’’นฺติปิ ปาโ, อุทเก จิรฏฺาเนน เสตภาวํ ปตฺตนฺติ อตฺโถ.

อตฺตโน ขตฺติยภาวํ กงฺขติ กณฺโณ วิย สูตปุตฺตสฺี. ชาติยา วิภาวิยมานาย ‘‘อห’’นฺติ ตสฺส อตฺตโน ปรามสนํ สนฺธายาห ‘‘เอวฺหิ สิยา กงฺขา’’ติ. มนุสฺสาปิ จ ราชาโน วิยาติ มนุสฺสาปิ เกจิ เอกจฺเจ ราชาโน วิยาติ อธิปฺปาโย.

วุตฺตนยเมว ‘‘สณฺานาการํ นิสฺสายา’’ติอาทินา. เอตฺถาติ ‘‘กถํ นุ โขสฺมี’’ติ ปเท. อพฺภนฺตเร ชีโวติ ปรปริกปฺปิตํ อนฺตรตฺตานํ วทติ. โสฬสํสาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน สรีร-ปริมาณ-ปริมณฺฑล-องฺคุฏฺยวปรมาณุ-ปริมาณตาทิเก สงฺคณฺหาติ.

‘‘สตฺตปฺตฺติ ชีววิสยา’’ติ ทิฏฺิคติกานํ มติมตฺตํ, ปรมตฺถโต ปน สา อตฺตภาววิสยาวาติ อาห ‘‘อตฺตภาวสฺส อาคติคติฏฺาน’’นฺติ, ยตายํ อาคโต, ยตฺถ จ คมิสฺสติ, ตํ านนฺติ อตฺโถ.

๑๙. ยถา อยํ วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชตีติ อยํ วุตฺตปฺปเภทา วิจิกิจฺฉา ยถา อุปฺปชฺชติ, เอวํ อโยนิโส มนสิกโรโต. เอเตน วิจิกิจฺฉาย อตฺตาภินิเวสสนฺนิสฺสยตมาห. ยถา หิ วิจิกิจฺฉา อตฺตาภินิเวสํ นิสฺสาย ปวตฺตติ, ยโต สา สสฺสตาธิจฺจสมุปฺปตฺติสสฺสตุจฺเฉทาการาวลมฺพินี วุตฺตา, เอวํ อตฺตาภินิเวโสปิ ตํ นิสฺสาย ปวตฺตติ ‘‘อโหสึ นุ โข อห’’นฺติอาทินา อนฺโตคธาหํการสฺส กถํกถิภาวสฺส อตฺตคฺคาหสนฺนิสฺสยภาวโต. เตเนวาห ‘‘สวิจิกิจฺฉสฺส อโยนิโสมนสิการสฺส ถามคตตฺตา’’ติ. วิกปฺปตฺโถติ อนิยมตฺโถ. ‘‘อฺตรา ทิฏฺิ อุปฺปชฺชตี’’ติ หิ วุตฺตํ. สุฏฺุ ทฬฺหภาเวนาติ อภินิเวสสฺส อติวิย ถามคตภาเวน. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ ภเว. ปจฺจุปฺปนฺนเมวาติ อวธารเณน อนาคเต อตฺถิภาวํ นิวตฺเตติ, น อตีเต ตตฺถปิ สติ อตฺถิตาย อุจฺเฉทคฺคาหสฺส สพฺภาวโต. อตีเต เอว นตฺถิ, น อนาคเตปีติ อธิปฺปาโย.

สฺากฺขนฺธสีเสนาติ สฺากฺขนฺธปมุเขน, สฺากฺขนฺธํ ปมุขํ กตฺวาติ อตฺโถ. ขนฺเธติ ปฺจปิ ขนฺเธ. อตฺตาติ คเหตฺวาติ ‘‘สฺชานนสภาโว เม อตฺตา’’ติ อภินิวิสฺส. ปกาเสตพฺพํ วตฺถุํ วิย, อตฺตานมฺปิ ปกาเสนฺโต ปทีโป วิย, สฺชานิตพฺพํ นีลาทิอารมฺมณํ วิย อตฺตานมฺปิ สฺชานาตีติ เอวํทิฏฺิโตปิ ทิฏฺิคติโต โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อตฺตนาว อตฺตานํ สฺชานามี’’ติ. สฺวายมตฺโถ สฺํ ตทฺตรธมฺเม จ ‘‘อตฺตา อนตฺตา’’ติ จ คหณวเสน โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สฺากฺขนฺธสีเสนา’’ติอาทิ. เอตฺถ จ ขนฺธวินิมุตฺโต อตฺตาติ คณฺหโต สสฺสตทิฏฺิ, ขนฺธํ ปน ‘‘อตฺตา’’ติ คณฺหโต อุจฺเฉททิฏฺีติ อาห ‘‘สพฺพาปิ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิโยวา’’ติ.

อภินิเวสาการาติ วิปริเยสาการา. วทตีติ อิมินา การกเวทกสตฺตานํ หิตสุขาวโพธนสมตฺถตํ อตฺตโน ทีเปติ. เตนาห ‘‘วจีกมฺมสฺส การโก’’ติ. เวเทตีติ เวทิโย, เวทิโยว เวเทยฺโย. อีทิสานฺหิ ปทานํ พหุลา กตฺตุสาธนตํ สทฺทสตฺถวิทู มฺนฺติ. อุปฺปาทวโต เอกนฺเตเนว วโย อิจฺฉิตพฺโพ, สติ จ อุทยพฺพยตฺเต เนว นิจฺจตาติ ‘‘นิจฺโจ’’ติ วทนฺตสฺส อธิปฺปายํ วิวรนฺโต อาห ‘‘อุปฺปาทวยรหิโต’’ติ. สารภูโตติ นิจฺจตาย เอว สารภาโว. สพฺพกาลิโกติ สพฺพสฺมึ กาเล วิชฺชมาโน. ปกติภาวนฺติ สภาวภูตํ ปกตึ, ‘‘วโท’’ติอาทินา วา วุตฺตํ ปกติสงฺขาตํ สภาวํ. สสฺสติสมนฺติ สสฺสติยา สมํ สสฺสติสมํ, ถาวรํ นิจฺจกาลนฺติ อตฺโถ. ตเถว สฺสตีติ เยนากาเรน ปุพฺเพ อฏฺาสิ, เอตรหิ ติฏฺติ, ตเถว เตนากาเรน อนาคเตปิ สฺสตีติ อตฺโถ.

ปจฺจกฺขนิทสฺสนํ อิทํ-สทฺทสฺส อาสนฺนปจฺจกฺขภาวํ กตฺวา. ทิฏฺิเยว ทิฏฺิคตนฺติ คต-สทฺทสฺส ปทวฑฺฒนมตฺตตํ อาห. ทิฏฺีสุคตนฺติ มิจฺฉาทิฏฺีสุ ปริยาปนฺนนฺติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘ทฺวาสฏฺิทิฏฺิอนฺโตคธตฺตา’’ติ. ทิฏฺิยา คมนมตฺตนฺติ ทิฏฺิยา คหณมตฺตํ. ยถา ปน ปพฺพตชลวิทุคฺคานิ ทุนฺนิคฺคมนานิ, เอวํ ทิฏฺิคฺคาโหปีติ อาห ‘‘ทุนฺนิคฺคมนฏฺเน คหน’’นฺติ. ตํ นาม อุทกํ, ตํ คเหตฺวา ตํ อติกฺกมิตพฺพโต กนฺตาโร, นิรุทกวนํ, ตํ ปวนนฺติปิ วุจฺจติ. อฺโ ปน อรฺปเทโส ทุรติกฺกมนฏฺเน กนฺตาโร วิยาติ, เอวํ ทิฏฺิปีติ อาห ‘‘ทุรติกฺกมนฏฺเนา’’ติอาทิ. วินิวิชฺฌนํ วิตุทนํ. วิโลมนํ วิปริณามภาโว. อนวฏฺิตสภาวตาย วิจลิตํ วิปฺผนฺทิตนฺติ อาห ‘‘กทาจี’’ติอาทิ. อนฺทุพนฺธนาทิ วิย นิสฺสริตุํ อปฺปทานวเสน อเสริภาวกรณํ พนฺธนฏฺโ, กิเลสกมฺมวิปากวฏฺฏานํ ปจฺจยภาเวน ทูรคตมฺปิ อากฑฺฒิตฺวา สํโยชนํ สํโยชนฏฺโ, ทิฏฺิปิ ตถารูปาติ วุตฺตํ ‘‘ทิฏฺิสํโยชน’’นฺติ. พนฺธนตฺถํ ทสฺเสนฺโต กิจฺจสิทฺธิยาติ อธิปฺปาโย. เตเนวาห ‘‘ทิฏฺิสํโยชเนน…เป… มุจฺจตี’’ติ. ตตฺถ เอเตหีติ อิมินา ชาติอาทิทุกฺขสฺส ปจฺจยภาวมาห. ชาติอาทิเก ทุกฺขธมฺเม สรูปโต ทสฺเสตฺวาปิ ‘‘น ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมา’’ติ วทนฺเตน ภควตา ทิฏฺิสํโยชนํ นาม สพฺพานตฺถกรํ มหาสาวชฺชํ สพฺพสฺสปิ ทุกฺขสฺส มูลภูตนฺติ อยมตฺโถ วิภาวิโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘กึ วา พหุนา, สกลวฏฺฏทุกฺขโตปิ น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ.

๒๐. นนุ เจตฺถ ทิฏฺิสํโยชนทสฺสเนน สีลพฺพตปรามาโสปิ ทสฺเสตพฺโพ, เอวฺหิ ทสฺสเนน ปหาตพฺพา อาสวา อนวเสสโต ทสฺสิตา โหนฺตีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ยสฺมา’’ติอาทิ. สีลพฺพตปรามาโส กามาสวาทิคฺคหเณเนว คหิโต โหติ กามาสวาทิเหตุกตฺตา ตสฺส. อปฺปหีนกามราคาทิโก หิ กามสุขตฺถํ วา ภวสุทฺธตฺถํ วา เอวํ ภววิสุทฺธิ โหตีติ สีลพฺพตานิ ปรามสนฺติ, ‘‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๘๖; ม. นิ. ๒.๗๙), ‘‘ตตฺถ นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต อวิปริณามธมฺโม สสฺสติสมํ ตเถว สฺสามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๙), ‘‘สีเลน สุทฺธิ วเตน สุทฺธิ สีลพฺพเตน สุทฺธี’’ติ (ธ. ส. ๑๒๒๒) จ สุตฺเตวุตฺตํ สีลพฺพตํ ปรามสนฺติ. ตตฺถ ภวสุขภววิสุทฺธิอตฺถนฺติ ภวสุขตฺถฺจ ภววิสุทฺธิอตฺถฺจ. ตสฺส คหิตตฺตาติ สีลพฺพตปรามาสสฺส ทิฏฺิคฺคหเณน คหิตตฺตา ยถา ‘‘ทิฏฺิคตานํ ปหานายา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๒๗๗). เตสนฺติ ทสฺสนปหาตพฺพานํ. ทสฺเสตุํ ปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย. ตพฺพิปรีตสฺสาติ โยนิโสมนสิกโรโต กลฺยาณปุถุชฺชนสฺส.

ตสฺสาติ ‘‘สุตวา’’ติอาทิปาสฺส. ตาวาติ ‘‘สุตวา’’ติ อิโต ปฏฺาย ยาว ‘‘โส อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ปทํ, ตาว อิมํ ปทํ อวธึ กตฺวาติ อตฺโถ. เหฏฺา วุตฺตนเยนาติ อริยสปฺปุริส-อริยธมฺม-สปฺปุริสธมฺม-มนสิกรณีย-อมนสิกรณียปทานํ ยถากฺกมํ มูลปริยาเย อิธ คเหตฺวา วุตฺตนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. วุตฺตปจฺจนีกโตติ ‘‘สุตวา อริยสาวโก, อริยานํ ทสฺสาวี, สปฺปุริสานํ ทสฺสาวี’’ติ เอเตสํ ปทานํ สพฺพากาเรน วุตฺตวิปรีตโต อตฺโถ เวทิตพฺโพ, โกวิทวินีตปทานํ ปน น สพฺพปฺปกาเรน วุตฺตวิปรีตโต. อรหา หิ นิปฺปริยาเยน อริยธมฺเม โกวิโท อริยธมฺเม สุวินีโต จ นาม. เตนาห ‘‘ปจฺจนีกโต จ สพฺพากาเรน…เป… อริยสาวโกติ เวทิตพฺโพ’’ติ. สงฺขารุเปกฺขาาณํ สิขาปฺปตฺตวิปสฺสนา. เกจิ ปน ‘‘ภงฺคาณโต ปฏฺาย สิขาปตฺตวิปสฺสนา’’ติ วทนฺติ, ตทยุตฺตํ . ตทนุรูเปน อตฺเถนาติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส อนุรูเปน อริยฏฺเน, น ปฏิเวธวเสนาติ อธิปฺปาโย. กลฺยาณปุถุชฺชโน หิ อยํ. ยถา จสฺส ‘‘โยปิ กลฺยาณปุถุชฺชโน’’ติ อารภิตฺวา ‘‘โสปิ วุจฺจติ สิกฺขตีติ เสกฺโข’’ติ ปริยาเยน เสกฺขสุตฺเต (สํ. นิ. ๕.๑๓) เสกฺขภาโว วุตฺโต, เอวํ อิธ อริยสาวกภาโว วุตฺโต. วุฏฺานคามินีวิปสฺสนาลกฺขเณหิ เย อริยสปฺปุริสธมฺมวินยสงฺขาตา โพธิปกฺขิยธมฺมา ติสฺโส สิกฺขา เอว วา สมฺภวนฺติ, เตสํ วเสน อิมสฺส อริยสาวกาทิภาโว วุตฺโต . เตนาห ‘‘ตทนุรูเปน อตฺเถนา’’ติ. อริยสฺส สาวโกติ วา อริยสาวกตฺเถน เอว วุตฺโต ยถา ‘‘อคมา ราชคหํ พุทฺโธ’’ติ (สุ. นิ. ๔๑๐). สิขาปฺปตฺตวิปสฺสนาคฺคหณฺเจตฺถ วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อนิวตฺติปฏิปทายํ ิตสฺส คหณตฺถนฺติ ยถาวุตฺตา อตฺถสํวณฺณนา สุฏฺุตรํ ยุชฺชเตว.

๒๑. ยถา ธาตุมุเขน วิปสฺสนํ อภินิวิฏฺโ ธาตุกมฺมฏฺานิโก อายตนาทิมุเขน อภินิวิฏฺโ อายตนาทิกมฺมฏฺานิโก, เอวํ สจฺจมุเขน อภินิวิฏฺโติ วุตฺตํ ‘‘จตุสจฺจกมฺมฏฺานิโก’’ติ. จตุโรฆนิตฺถรณตฺถิเกหิ กาตพฺพโต กมฺมํ, ภาวนา. กมฺมเมว วิเสสาธิคมสฺส านํ การณนฺติ, กมฺเม วา ยถาวุตฺตนฏฺเน านํ อวฏฺานํ ภาวนารมฺโภกมฺมฏฺานํ, ตเทว จตุสจฺจมุเขน ปวตฺตํ เอตสฺส อตฺถีติ จตุสจฺจกมฺมฏฺานิโก. อุภยํ นปฺปวตฺตติ เอตฺถาติ อปฺปวตฺติ. อุคฺคหิตจตุสจฺจกมฺมฏฺาโนติ จ จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ ปาฬิโต อตฺถโต จ อุคฺคเหตฺวา มนสิการโยคฺคํ กตฺวา ิโต. วิปสฺสนามคฺคํ สมารุฬฺโหติ สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสเน ปติฏฺาย ตเทว นามรูปํ อนิจฺจาทิโต สมฺมสนฺโต. สมนฺนาหรตีติ วิปสฺสนาวชฺชนํ สนฺธายาห, ตสฺมา ยถา ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ วิปสฺสนาาณํ ปวตฺตติ, เอวํ สมนฺนาหรติ อาวชฺชตีติ อตฺโถ. กถํ ปเนตฺถ ‘‘มนสิ กโรตี’’ติ อิมินา ‘‘วิปสฺสตี’’ติ อยมตฺโถ วุตฺโต โหตีติ อาห ‘‘เอตฺถ…เป… วุตฺตา’’ติ. เอตฺถาติ จ อิมสฺมึ สุตฺเตติ อตฺโถ. วิปสฺสตีติ จ ยถา อุปริ วิเสสาธิคโม โหติ, เอวํ าณจกฺขุนา วิปสฺสติ, โอโลเกตีติ อตฺโถ. มคฺโคปิ วตฺตพฺโพ. ปุริมฺหิ สจฺจทฺวยํ คมฺภีรตฺตา ทุทฺทสํ, อิตรํ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรํ.

อภินิเวโสติ วิปสฺสนาภินิเวโส วิปสฺสนาปฏิปตฺติ. ตทารมฺมเณติ ตํ รูปกฺขนฺธํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺเต. ยาถาวสรสลกฺขณํ ววตฺถเปตฺวาติ อวิปรีตํ อตฺตโน อารมฺมณํ สภาวจฺเฉทนาทิกิจฺจฺเจว อฺาณาทิลกฺขณฺจ อสงฺกรโต หทเย เปตฺวา. อิมินา ปุพฺเพ นามรูปปริจฺเฉเท กเตปิ ธมฺมานํ สลกฺขณววตฺถาปนํ ปจฺจยปริคฺคเหน สุววตฺถาปิตํ นาม โหตีติ ทสฺเสติ ยถา ‘‘ทฺวิกฺขตฺตุํ พทฺธํ สุพทฺธ’’นฺติ. เอวฺหิ าตปริฺาย กิจฺจํ สิทฺธํ นาม โหติ. ปจฺจยโต ปจฺจยุปฺปนฺนโต จ ววตฺถาปิตตฺตา ปากฏภาเวน สิทฺเธนปิ สิทฺธภาโว ปากโฏ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อหุตฺวา โหนฺตี’’ติ. อนิจฺจลกฺขณํ อาโรเปตีติ อสโต หิ อุปฺปาเทน ภวิตพฺพํ, น สโต, อุปฺปาทวนฺตโต จ เนสํ เอกนฺเตน อิจฺฉิตพฺพา ปจฺจยายตฺตวุตฺติภาวโต, สติ อุปฺปาเท อวสฺสํภาวี นิโรโธติ นตฺเถว นิจฺจตาวกาโสติ. สูปฏฺิตานิจฺจตาย จ อุทยพฺพยธมฺเมหิ อภิณฺหปฏิปีฬนโต ทุกฺขมนฏฺเน ทุกฺขํ. เตนาห ‘‘อุทยพฺพยปฏิปีฬิตตฺตา ทุกฺขาติ ทุกฺขลกฺขณํ อาโรเปตี’’ติ. กตฺถจิปิ สงฺขารคเต ‘‘มา ชีริ มา พฺยาธิยี’’ติ อลพฺภนโต นตฺถิ วสวตฺตนนฺติ อาห ‘‘อวสวตฺตนโต อนตฺตาติ อนตฺตลกฺขณํ อาโรเปตี’’ติ. ปฏิปาฏิยาติ อุทยพฺพยาณาทิปรมฺปราย.

ตสฺมึ ขเณติ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ. เอกปฏิเวเธเนวาติ เอกาเณเนว ปฏิวิชฺฌเนน. ปฏิเวโธ ปฏิฆาตาภาเวน วิสเย นิสฺสงฺคจารสงฺขาตํ นิพฺพิชฺฌนํ. อภิสมโย อวิรชฺฌิตฺวา วิสยสฺส อธิคมสงฺขาโต อวโพโธ. ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, เอตฺตกํ ทุกฺขํ, น อิโต ภิยฺโย’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ชานนเมว วุตฺตนเยน ปฏิเวโธติ ปริฺาปฏิเวโธ. อยํ ยถา าเณ ปวตฺเต ปจฺฉา ทุกฺขสฺส สรูปาทิปริจฺเฉเท สมฺโมโห น โหติ, ตถา ปวตฺตึ คเหตฺวา วุตฺโต, น ปน มคฺคาณสฺส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทินาปิ วตฺตนโต. เตนาห ‘‘น หิสฺส ตสฺมึ สมเย’’ติอาทิ. ปหีนสฺส ปุน อปฺปหาตพฺพตาย ปกฏฺํ หานํ จชนํ สมุจฺฉินฺทนํ ปหานํ, ปหานเมว วุตฺตนเยน ปฏิเวโธติ ปหานปฏิเวโธ. อยมฺปิ เยน กิเลเสน อปฺปหียมาเนน มคฺคภาวนาย น ภวิตพฺพํ, อสติ จ มคฺคภาวนาย โย อุปฺปชฺเชยฺย, ตสฺส กิเลสสฺส ปทฆาตํ กโรนฺตสฺส อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาเทนฺตสฺส าณสฺส ตถาปวตฺติยา ปฏิฆาตาภาเวน นิสฺสงฺคจารํ อุปาทาย เอวํ วุตฺโต. สจฺฉิกิริยา ปจฺจกฺขกรณํ, อนุสฺสวาการปริวิตกฺกาทิเก มุฺจิตฺวา สรูปโต อารมฺมณกรณํ อิทํ ตนฺติ ยถาสภาวโต คหณํ, สา เอว วุตฺตนเยน ปฏิเวโธติ สจฺฉิกิริยาปฏิเวโธ. อยํ ปน ยสฺส อาวรณสฺส อสมุจฺฉินฺทนโต าณํ นิโรธํ อาลมฺพิตุํ น สกฺโกติ, ตสฺส สมุจฺฉินฺทนโต ตํ สรูปโต วิภาวิตเมว ปวตฺตตีติ เอวํ วุตฺโต.

ภาวนา อุปฺปาทนา วฑฺฒนา จ, ตตฺถ ปมมคฺเค อุปฺปาทนฏฺเน, ทุติยาทีสุ วฑฺฒนฏฺเน, อุภยตฺถาปิ วา อุภยถาปิ เวทิตพฺพํ. ปมมคฺโคปิ หิ ยถารหํ วุฏฺานคามินิยํ ปวตฺตํ ปริชานนาทึ วฑฺเฒนฺโต ปวตฺโตติ ตตฺถาปิ วฑฺฒนฏฺเน ภาวนา สกฺกา วิฺาตุํ. ทุติยาทีสุปิ อปฺปหีนกิเลสปฺปหานโต ปุคฺคลนฺตรสาธนโต อุปฺปาทนฏฺเน ภาวนา, สา เอว วุตฺตนเยน ปฏิเวโธติ ภาวนา ปฏิเวโธ. อยมฺปิ หิ ยถา าเณ ปวตฺเต ปจฺฉา มคฺคธมฺมานํ สรูปปริจฺเฉเท สมฺโมโห น โหติ, ตถา ปวตฺติเมว คเหตฺวา วุตฺโต, ติฏฺตุ ตาว ยถาธิคตมคฺคธมฺมํ ยถาปวตฺเตสุ ผลธมฺเมสุปิ อยํ ยถาธิคตสจฺจธมฺเมสุ วิย วิคตสมฺโมโหว โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๙๙, ๓๕๖; มหาว. ๒๗, ๕๗). ยโต จสฺส ธมฺมตาสฺโจทิตา ยถาธิคตสจฺจธมฺมาวลมฺพินิโย มคฺควีถิโต ปรโต มคฺคผลปหีนาวสิฏฺกิเลสนิพฺพานานํ ปจฺจเวกฺขณา ปวตฺตนฺติ. ทุกฺขสจฺจธมฺมา หิ สกฺกายทิฏฺิอาทโย. อยฺจ อตฺถวณฺณนา ‘‘ปริฺาภิสมเยนา’’ติอาทีสุปิ วิภาเวตพฺพา. เอกาภิสมเยน อภิสเมตีติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภูตตรํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘โน จ โข อฺมฺเน าเณนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

วิตณฺฑวาที ปนาห ‘‘อริยมคฺคาณํ จตูสุ สจฺเจสุ นานาภิสมยวเสน กิจฺจกรณํ, น เอกาภิสมยวเสน. ตฺหิ กาเลน ทุกฺขํ ปชานาติ, กาเลน สมุทยํ ปชหติ, กาเลน นิโรธํ สจฺฉิกโรติ, กาเลน มคฺคํ ภาเวติ, อฺถา เอกสฺส าณสฺส เอกสฺมึ ขเณ จตุกิจฺจกรณํ น ยุชฺชติ. น หิทํ กตฺถจิ ทิฏฺมฺปิ สุตฺตํ อตฺถี’’ติ. โส วตฺตพฺโพ – ยทิ อริยมคฺคาณํ นานาภิสมยวเสน สจฺจานิ อภิสเมติ, น เอกาภิสมยวเสน, เอวํ สนฺเต ปจฺเจกมฺปิ สจฺเจสุ นานกฺขเณเนว ปวตฺเตยฺย, น เอกกฺขเณน, ตถา สติ ทุกฺขาทีนํ เอกเทเสกเทสเมว ปริชานาติ ปชหตีติ อาปชฺชตีติ นานาภิสมเย ปมมคฺคาทีหิ ปหาตพฺพานํ สฺโชนตฺตยาทีนํ เอกเทเสกเทสปฺปหานํ สิยาติ เอกเทสโสตาปตฺติมคฺคฏฺาทิตา, ตโต เอว เอกเทสโสตาปนฺนาทิตา จ อาปชฺชติ อนนฺตรผลตฺตา โลกุตฺตรกุสลานํ, น จ ตํ ยุตฺตํ. น หิ กาลเภเทน วินา โส เอว โสตาปนฺโน จ อโสตาปนฺโน จาติ สกฺกา วิฺาตุํ.

อปิจายํ นานาภิสมยวาที เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘มคฺคาณํ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺตํ กึ อารมฺมณโต ปฏิวิชฺฌติ, อุทาหุ กิจฺจโต’’ติ? ชานมาโน ‘‘กิจฺจโต’’ติ วเทยฺย, ‘‘กิจฺจโต ปฏิวิชฺฌนฺตสฺส กึ นานาภิสมเยนา’’ติ วตฺวา ปฏิปาฏิยานิทสฺสเนน สฺาเปตพฺโพ. อถ ‘‘อารมฺมณโต’’ติ วเทยฺย, เอวํ สนฺเต ตสฺส าณสฺส วิปสฺสนาาณสฺส วิย ทุกฺขสมุทยานํ อจฺจนฺตปริฺาสมุจฺเฉทา น ยุตฺตา อนิสฺสฏตฺตา. ตถา มคฺคทสฺสนํ. น หิ มคฺโค สยเมว อตฺตานํ อารพฺภ ปวตฺตตีติ ยุตฺตํ, มคฺคนฺตรปริกปฺปนาย ปน อนวฏฺานํ อาปชฺชติ, ตสฺมา ตีณิ สจฺจานิ กิจฺจโต, นิโรธํ กิจฺจโต จ อารมฺมณโต จ ปฏิวิชฺฌตีติ เอวํ อสมฺโมหโต ปฏิวิชฺฌนฺตสฺส มคฺคาณสฺส นตฺเถว นานาภิสมโย. วุตฺตฺเหตํ ‘‘โย ภิกฺขเว ทุกฺขํ ปสฺสติ, ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสตี’’ติอาทิ. น เจตํ กาลนฺตรทสฺสนํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โย นุ โข, อาวุโส, ทุกฺขํ ปสฺสติ, ทุกฺขสมุทยมฺปิ …เป… ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทมฺปิ โส ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๐) เอกจฺจทสฺสนสมงฺคิโน อฺสจฺจทสฺสนสมงฺคิภาววิจารณายํ ตทตฺถสาธนตฺถํ อายสฺมตา ควมฺปติตฺเถเรน อาภตตฺตา, ปจฺเจกฺจ สจฺจตฺตยทสฺสนสฺส โยชิตตฺตา, อฺถา ปุริมทิฏฺสฺส ปุน อทสฺสนโต สมุทยาทิทสฺสนมโยชนิยํ สิยา. น หิ โลกุตฺตรมคฺโค โลกิยมคฺโค วิย กตการีภาเวน ปวตฺตติ สมุจฺเฉทกตฺตา, ตถา โยชเนน จ สพฺพทสฺสนํ ทสฺสนนฺตรปรมนฺติ ทสฺสนานุปรโม สิยาติ เอวํ อาคมโต ยุตฺติโต จ นานาภิสมโย น ยุชฺชตีติ สฺาเปตพฺโพ. เอวํ เจ สฺตฺตึ คจฺฉติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ คจฺฉติ, อภิธมฺเม (กถา. ๒๗๔) โอธิโสกถาย สฺาเปตพฺโพติ.

นิโรธํ อารมฺมณโตติ นิโรธเมว อารมฺมณโตติ นิยโม คเหตพฺโพ, น อารมฺมณโตวาติ. เตน นิโรเธ กิจฺจโตปิ ปฏิเวโธ สิทฺโธ โหติ. ตสฺมึ สมเยติ สจฺจานํ อภิสมเย. วีสติวตฺถุกาติอาทิ ‘‘ตีณิ สฺโชนานี’’ติ วุตฺตานํ สรูปทสฺสนํ. จตูสุ อาสเวสูติ อิทํ อภิธมฺมนเยน วุตฺตํ, น สุตฺตนฺตนเยน. น หิ สุตฺเต กตฺถจิ จตฺตาโร อาสวา อาคตา อตฺถิ. ยทิ วิจิกิจฺฉา น อาสโว, อถ กสฺมา ‘‘สกฺกายทิฏฺิ วิจิกิจฺฉา สีลพฺพตปรามาโส, อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, อาสวา ทสฺสนา ปหาตพฺพา’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ทสฺสนา ปหาตพฺพา’’ติอาทิ. เอตฺถ ปริยาปนฺนตฺตาติ เอเตน สมฺมาสงฺกปฺปสฺส วิย ปฺากฺขนฺเธ กิจฺจสภาคตาย อิธ วิจิกิจฺฉาย อาสวสงฺคโห กโตติ ทสฺเสติ.

สพฺโพ อตฺตคฺคาโห สกฺกายทิฏฺิวินิมุตฺโต นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘ฉนฺนํ ทิฏฺีนํ…เป… วิภตฺตา’’ติ. สา หิ ทิฏฺิ เอกสฺมึ จิตฺตุปฺปาเท สนฺตาเน จ ิตํ เอกฏฺํ, ตตฺถ ปมํ สหชาเตกฏฺํ, อิตรํ ปหาเนกฏฺํ, ตทุภยมฺปิ นิทฺธาเรตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ทิฏฺาสเวหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สพฺพถาปีติ สพฺพปฺปกาเรน, สหชาเตกฏฺปหาเนกฏฺปฺปกาเรหีติ อตฺโถ. อวเสสาติ ทิฏฺาสวโต อวสิฏฺา. ตโยปิ อาสวาติ กามาสวภวาสวอวิชฺชาสวา. ตถา หิ ปุพฺเพ ‘‘จตูสุ อาสเวสู’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมาติ ยสฺมา พหู เอเวตฺถ อาสวา ปหาตพฺพา, ตสฺมา พหุวจนนิทฺเทโส กโต ‘‘อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, อาสวา ทสฺสนา ปหาตพฺพา’’ติ. โปราณานนฺติ อฏฺกถาจริยานํ, ‘‘ปุราตนานํ มชฺฌิมภาณกาน’’นฺติ จ วทนฺติ.

ทสฺสนา ปหาตพฺพาติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว.

ทสฺสนาปหาตพฺพอาสววณฺณนา นิฏฺิตา.

สํวราปหาตพฺพอาสววณฺณนา

๒๒. สํวราทีหีติ สํวรปฏิเสวนอธิวาสนปริวชฺชนวิโนทเนหิ. สพฺเพสมฺปีติ จตุนฺนมฺปิ อริยมคฺคานํ. อยนฺติ สํวราปหาตพฺพาทิกถา ปุพฺพภาคปฏิปทาติ เวทิตพฺพา. ตถา หิ เหฏฺา ‘‘อุปกฺกิเลสวิโสธนํ อาทึ กตฺวา อาสวกฺขยปฏิปตฺติทสฺสนตฺถ’’นฺติ สุตฺตนฺตเทสนาย ปโยชนํ วุตฺตํ. น หิ สกฺกา อาทิโต เอว อริยมคฺคํ ภาเวตุํ, อถ โข สมาทินฺนสีโล อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร ‘‘สงฺขาเยกํ ปฏิเสวติ, สงฺขาเยกํ อธิวาเสติ, สงฺขาเยกํ ปริวชฺเชติ, สงฺขาเยกํ วิโนเทตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๘; ม. นิ. ๒.๑๖๘) เอวํ วุตฺตํ จตุราปสฺเสนปฏิปตฺตึ ปฏิปชฺชมาโน สมฺมสนวิธึ โอตริตฺวา อนุกฺกเมน วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา อาสเว เขเปติ. เตนาห ภควา ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร, น อายตเกเนว ปปาโต, เอวํ โข, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา, น อายตเกเนว อฺาปฏิเวโธ’’ติ (อ. นิ. ๘.๒๐; อุทา. ๔๕; จูฬว. ๓๘๕).

อิธาติ อยํ อิธ-สทฺโท สพฺพาการโต อินฺทฺริยสํวรสํวุตสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิสฺสยภูตสาสนปริทีปโน, อฺสาสนสฺส ตถาภาวปฏิเสธโน จาติ วุตฺตํ ‘‘อิมสฺมึ สาสเน’’ติ. อาทีนวปฏิสงฺขาติ อาทีนวปจฺจเวกฺขณา. สมฺปลิมฏฺนฺติ (อ. นิ. ฏี. ๓.๖.๕๘) ฆํสิตํ. อนุพฺยฺชนโสติ หตฺถปาทหสิตกถิตวิโลกิตาทิปฺปการภาคโส. ตฺหิ อโยนิโส มนสิกโรโต กิเลสานํ อนุ อนุ พฺยฺชนโต ‘‘อนุพฺยฺชน’’นฺติ วุจฺจติ. นิมิตฺตคฺคาโหติ อิตฺถิปุริสนิมิตฺตาทิกสฺส วา กิเลสวตฺถุภูตสฺส วา นิมิตฺตสฺส คาโห. อาทิตฺตปริยายนเยนาติ อาทิตฺตปริยาเย (สํ. นิ. ๔.๒๘; มหาว. ๕๔) อาคตนเยน เวทิตพฺพา อาทีนวปฏิสงฺขาติ โยชนา. ยถา อิตฺถิยา อินฺทฺริยนฺติ อิตฺถินฺทฺริยํ, น เอวมิทํ, อิทํ ปน จกฺขุเมว อินฺทฺริยนฺติ จกฺขุนฺทฺริยนฺติ. ติตฺถกาโก วิยาติ ติตฺเถ กาโก ติตฺถกาโก, นทิยา สมติกฺกมนติตฺเถ นิยตฏฺิติโก. อาวาฏกจฺฉโปติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

เอวํ ตปฺปฏิพทฺธวุตฺติตาย จกฺขุนฺทฺริเย นิยตฏฺาโน สํวโร จกฺขุนฺทฺริยสํวโร. มุฏฺสฺสจฺจํ สติปฏิปกฺขา อกุสลธมฺมา. ยทิปิ อฺตฺถ อสงฺเขยฺยมฺปิ ภวงฺคจิตฺตํ นิรนฺตรํ อุปฺปชฺชติ, ปสาทฆฏฺฏนาวชฺชนุปฺปาทานํ ปน อนฺตเร ทฺเว เอว ภวงฺคจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ อยํ จิตฺตนิยาโมติ อาห ภวงฺเค ‘‘ทฺวิกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธ’’ติ.

ชวนกฺขเณปน สเจ ทุสฺสีลฺยํ วาติอาทิ (วิสุทฺธิ. ฏี. ๑.๑๕; ธ. ส. มูลฏี. ๑๓๕๒) ปุน อวจนตฺถํ อิเธว สพฺพํ วุตฺตนฺติ ฉสุ ทฺวาเรสุ ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺพํ. น หิ ปฺจทฺวาเร กายวจีทุจฺจริตสงฺขาโต ทุสฺสีลฺยสํวโร อตฺถีติ โส มโนทฺวารวเสน, อิตโร ฉนฺนมฺปิ ทฺวารานํ วเสน โยเชตพฺโพ. มุฏฺสฺสจฺจาทีนฺหิ สติปฏิปกฺขาทิลกฺขณานํ อกุสลธมฺมานํ สิยา ปฺจทฺวาเร อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว กายิกวาจสิกวีติกฺกมภูตสฺส ทุสฺสีลฺยสฺส ตตฺถ อุปฺปตฺติ ปฺจทฺวาริกชวนานํ อวิฺตฺติชนกตฺตาติ.

ยถา กินฺติ เยน ปกาเรน ชวเน อุปฺปชฺชมาโน อสํวโร ‘‘จกฺขุทฺวาเร อสํวโร’’ติ วุจฺจติ, ตํ นิทสฺสนํ กินฺติ อตฺโถ. ยถาติอาทินา นครทฺวาเร อสํวเร สติ ตํสมฺพนฺธานํ ฆราทีนํ อสํวุตตา วิย ชวเน อสํวเร สติ ตํสมฺพนฺธานํ ทฺวาราทีนํ อสํวุตตาติ อฺาสํวเร อฺาสํวุตตาสามฺเมว นิทสฺเสติ, น ปุพฺพาปรสามฺํ, อนฺโตพหิสามฺํ วา. สมฺพนฺโธ จ ชวเนน ทฺวาราทีนํ เอกสนฺตติปริยาปนฺนตาย เอว ทฏฺพฺโพ. ปจฺจยภาเวน ปุริมนิปฺผนฺนํ ชวนกาเล อสนฺตมฺปิ ภวงฺคาทิ ผลนิปฺผตฺติยา จกฺขาทิ วิย สนฺตํเยว นาม. น หิ ธรมานํเยว ‘‘สนฺต’’นฺติ วุจฺจติ, ตสฺมา สติ ทฺวารภวงฺคาทิเก ปจฺฉา อุปฺปชฺชมานํ ชวนํ พาหิรํ วิย กตฺวา นครทฺวารสมานํ วุตฺตํ. อิตรฺจ อนฺโตนครฆราทิสมานํ. ชวนสฺส หิ ปรมตฺถโต อสติปิ พาหิรภาเว อิตรสฺส จ อพฺภนฺตรภาเว ‘‘ปภสฺสรมิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺ’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๔๙) อาทิวจนโต อาคนฺตุกภูตสฺส กทาจิ กทาจิ อุปฺปชฺชมานสฺส ชวนสฺส พาหิรภาโว, ตพฺพิธุรสภาวสฺส อิตรสฺส อพฺภนฺตรภาโว จ ปริยายโต เวทิตพฺโพ. ชวเน วา อสํวเร อุปฺปนฺเน ตโต ปรํ ทฺวารภวงฺคาทีนํ อสํวรเหตุภาวาปตฺติโต นครทฺวารสทิเสน ชวเนน ปวิสิตฺวา ทุสฺสีลฺยาทิโจรานํ ทฺวารภวงฺคาทีสุ มุสนํ กุสลภณฺฑวินาสนํ ทฏฺพฺพํ. อุปฺปนฺเน หิ อสํวเร ทฺวาราทีนํ ตสฺส เหตุภาโว ปฺายติ, โส จ อุปฺปชฺชมาโนเยว ทฺวาราทีนํ สํวรูปนิสฺสยภาวํ ปฏิพาเหนฺโตเยว ปวตฺตตีติ อยฺเหตฺถ อสํวราทีนํ ปวตฺตินโย. ปฺจทฺวาเร รูปาทิอารมฺมเณ อาปาถคเต ยถาปจฺจยํ อกุสลชวเน อุปฺปชฺชิตฺวา ภวงฺคํ โอติณฺเณ มโนทฺวาริกชวนํ ตํเยว อารมฺมณํ กตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ, ปุน ตสฺมึเยว ทฺวาเร ‘‘อิตฺถี ปุริโส’’ติอาทินา วิสยํ ววตฺถเปตฺวา ชวนํ ภวงฺคํ โอตรติ, ปุน วาเร รชฺชนาทิวเสน ชวนํ ชวติ, ปุนปิ ยทิ ตาทิสํ อารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ, ตํสทิสเมว ปฺจทฺวาเร รูปาทีสุ ชวนํ อุปฺปชฺชติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เอวเมว ชวเน ทุสฺสีลฺยาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ตสฺมึ อสํวเร สติ ทฺวารมฺปิ อคุตฺต’’นฺติอาทิ. อยํ ตาว อสํวรปกฺเข อตฺถวณฺณนา.

สํวรปกฺเขปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สํวเรน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล สํวุโตติ วุตฺโตติ อาห ‘‘อุเปโตติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. เอกชฺฌํ กตฺวาติ ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต’’ติ ปทฺจ อตฺถโต อภินฺนํ สมานํ กตฺวา. อยเมว เจตฺถ อตฺโถสุนฺทรตโร อุปริปาฬิยา สํสนฺทนโต. เตนาห ‘‘ตถาหี’’ติอาทิ. ยนฺติ อาเทโสติ อิมินา ลิงฺควิปลฺลาเสน สทฺธึ วจนวิปลฺลาโส กโตติ ทสฺเสติ, นิปาตปทํ วา เอตํ ปจฺจตฺตปุถุวจนตฺถํ. วิฆาตกราติ จิตฺตวิฆาตกรณา จิตฺตทุกฺขนิพฺพตฺตกา จ. ยถาวุตฺตกิเลสเหตุกา ทาหานุพนฺธา วิปากา เอว วิปากปริฬาหา. ยถา ปเนตฺถ อาสวา อฺเ จ วิฆาตกรา กิเลสวิปากปริฬาหา สมฺภวนฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘จกฺขุทฺวาเรหี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว. เอตฺถ จ สํวรณูปาโย, สํวริตพฺพํ, สํวโร, ยโต โส สํวโร, ยตฺถ สํวโร, ยฺจ สํวรผลนฺติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพ. กถํ? ปฏิสงฺขา โยนิโสติ หิ สํวรณูปาโย. จกฺขุนฺทฺริยํ สํวริตพฺพํ. สํวรคฺคหเณน คหิตา สติ สํวโร. อสํวุตสฺสาติ สํวรณาวธิ. อสํวรโต หิ สํวรณํ. สํวริตพฺพคฺคหเณน สิทฺโธ อิธ สํวรวิสโย. จกฺขุนฺทฺริยฺหิ สํวราณํ รูปารมฺมเณ สํวรียตีติ อวุตฺตสิทฺโธยมตฺโถ. อาสวตนฺนิมิตฺตกิเลสาทิปริฬาหาภาโว ผลํ. เอวํ โสตทฺวาราทีสุปิ โยเชตพฺพํ. สพฺพตฺเถวาติ มโนทฺวาเร ปฺจทฺวาเร จาติ สพฺพสฺมึ ทฺวาเร.

สํวราปหาตพฺพอาสววณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฏิเสวนาปหาตพฺพอาสววณฺณนา

๒๓. ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรนฺติอาทีสุ ‘‘สีตสฺส ปฏิฆาตายา’’ติอาทินา วุตฺตํ ปจฺจเวกฺขณเมว โยนิโส ปฏิสงฺขา. อีทิสนฺติ เอวรูปํ อิฏฺารมฺมณํ. ภวปตฺถนาย อสฺสาทยโตติ ภวปตฺถนามุเขน ภาวิตํ อารมฺมณํ อสฺสาเทนฺตสฺส. จีวรนฺติ นิวาสนาทิ ยํ กิฺจิ จีวรํ. ปฏิเสวตีติ นิวาสนาทิวเสน ปริภุฺชติ. ยาวเทวาติ ปโยชนปริมาณนิยมนํ. สีตปฏิฆาตาทิเยว หิ โยคิโน จีวรปฏิเสวเน ปโยชนํ. สีตสฺสาติ ธาตุกฺโขภโต วา อุตุปริณามโต วา อุปฺปนฺนสีตสฺส. ปฏิฆาตายาติ ปฏิพาหนตฺถํ ตปฺปจฺจยสฺส วิการสฺส วิโนทนตฺถํ. อุณฺหสฺสาติ อคฺคิสนฺตาปโต อุปฺปนฺนสฺส อุณฺหสฺส. ฑํสาทโย ปากฏาเยว. ปุน ยาวเทวาติ นิยตปโยชนปริมาณนิยมนํ. นิยตฺหิ ปโยชนํ จีวรปฏิเสวนสฺส หิริโกปีนปฏิจฺฉาทนํ, อิตรํ กทาจิ กทาจิ . หิริโกปีนนฺติ สมฺพาธฏฺานํ . ยสฺมิฺหิ องฺเค วิวเฏ หิรีกุปฺปติ วินสฺสติ, ตํ หิริยา โกปนโต หิริโกปีนํ, ตสฺส ปฏิจฺฉาทนตฺถํ จีวรํ ปฏิเสวติ.

ปิณฺฑปาตนฺติ ยํ กิฺจิ อาหารํ. โส หิ ปิณฺโฑลฺเยน ภิกฺขนาย ปตฺเต ปตนโต ตตฺถ ตตฺถ ลทฺธภิกฺขาปิณฺฑานํ ปาโต สนฺนิปาโตติ ‘‘ปิณฺฑปาโต’’ติ วุจฺจติ. เนว ทวายาติ น กีฬนาย. น มทายาติ น พลมทมานมทปุริสมทตฺถํ. น มณฺฑนายาติ น องฺคปจฺจงฺคานํ ปีณนภาวตฺถํ. น วิภูสนายาติ น เตสํเยว โสภนตฺถํ, ฉวิสมฺปติอตฺถนฺติ อตฺโถ. อิมานิ จ ปทานิ ยถากฺกมํ โมห-โทส-สณฺาน-วณฺณ-ราคูปนิสฺสย-ปหานตฺถานิ เวทิตพฺพานิ. ปุริมํ วา ทฺวยํ อตฺตโน อตฺตโน สํกิเลสุปฺปตฺตินิเสธนตฺถํ, อิตรํ ปรสฺสปิ. จตฺตาริปิ กามสุขลฺลิกานุโยคสฺส ปหานตฺถํ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. กายสฺสาติ รูปกายสฺส. ิติยา ยาปนายาติ ปพนฺธฏฺิตตฺถฺเจว ปวตฺติยา อวิจฺเฉทนตฺถฺจ จิรกาลฏฺิตตฺถํ ชีวิตินฺทฺริยสฺส ปวตฺตาปนตฺถํ. วิหึสูปรติยาติ ชิฆจฺฉาทุกฺขสฺส อุปรมณตฺถํ. พฺรหฺมจริยานุคฺคหายาติ สาสนมคฺคพฺรหฺมจริยานํ อนุคฺคหตฺถํ. อิตีติ เอวํ อิมินา อุปาเยน. ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามีติ ปุราณํ อภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกเวทนํ ปฏิหนิสฺสามิ. นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามีติ นวํ ภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกเวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามีติ. ตสฺสา หิ อนุปฺปนฺนาย อนุปฺปชฺชนตฺถเมว อาหารํ ปริภุฺชติ. เอตฺถ จ อภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกเวทนา นาม ยถาปวตฺตา ชิฆจฺฉานิมิตฺตา เวทนา. สา หิ อภุฺชนฺตสฺส ภิยฺโย ภิยฺโย ปวฑฺฒนวเสน อุปฺปชฺชติ, ภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกเวทนาปิ ขุทานิมิตฺตาว องฺคทาหสูลาทิเวทนา อปฺปวตฺตา. สา หิ ภุตฺตปจฺจยา อนุปฺปนฺนาว น อุปฺปชฺชิสฺสตีติ. วิหึสานิมิตฺตตา เจตาสํ วิหึสาย วิเสโส.

ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสตีติ ยาปนา จ เม จตุนฺนํ อิริยาปถานํ ภวิสฺสติ. ยาปนายาติ อิมินา ชีวิตินฺทฺริยยาปนา วุตฺตา, อิธ จตุนฺนํ อิริยาปถานํ อวิจฺเฉทสงฺขาตา ยาปนาติ อยเมตาสํ วิเสโส. อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จาติ อยุตฺตปริเยสนปฏิคฺคหณปริโภคปริวชฺชเนน อนวชฺชตา, ปริมิตปริโภเคน ผาสุวิหาโร. อสปฺปายาปริมิตโภชนปจฺจยา อรติตนฺทีวิชมฺภิตาวิฺุครหาทิโทสาภาเวน วา อนวชฺชตา, สปฺปายปริมิตโภชนปจฺจยา กายพลสมฺภเวน ผาสุวิหาโร. ยาวทตฺถอุทราวเทหกโภชนปริวชฺชเนน เสยฺยสุขปสฺสสุขมิทฺธสุขาทีนํ อภาวโต อนวชฺชตา, จตุปฺจาโลปมตฺตฺีนโภชเนน จตุอิริยาปถโยคฺยตาปาทนโต ผาสุวิหาโร. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป, อภุตฺวา อุทกํ ปิเว;

อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ. (เถรคา. ๙๘๓);

เอตฺตาวตา ปโยชนปริคฺคโห, มชฺฌิมา จ ปฏิปทา ทีปิตา โหติ.

เสนาสนนฺติ สยนฺจ อาสนฺจ. ยตฺถ หิ วิหาราทิเก เสติ นิปชฺชติ, อาสติ นิสีทติ, ตํ เสนาสนํ. อุตุปริสฺสยวิโนทนปฏิสลฺลานารามตฺถนฺติ อุตุเยว ปริสหนฏฺเน ปริสฺสโย, สรีราพาธจิตฺตวิกฺเขปกโร, อถ วา ยถาวุตฺโต อุตุ จ สีหพฺยคฺฆาทิปากฏปริสฺสโย จ ราคโทสาทิปฏิจฺฉนฺนปริสฺสโย จ อุตุปริสฺสโย, ตสฺส วิโนทนตฺถฺเจว เอกีภาวสุขตฺถฺจ. อิทฺจ จีวรปฏิเสวเน หิริโกปีนปฏิจฺฉาทนํ วิย ตสฺส นิยตปโยชนนฺติ ปุน ‘‘ยาวเทวา’’ติ วุตฺตํ.

คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารนฺติ โรคสฺส ปจฺจนีกปฺปวตฺติยา คิลานปจฺจโย, ตโต เอว ภิสกฺกสฺส อนุฺาตวตฺถุตาย เภสชฺชํ, ชีวิตสฺส ปริวารสมฺภารภาเวหิ ปริกฺขาโร จาติ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาโร, ตํ. อุปฺปนฺนานนฺติ ชาตานํ นิพฺพตฺตานํ. เวยฺยาพาธิกานนฺติ พฺยาพาธโต ธาตุกฺโขภโต จ ตนฺนิพฺพตฺตโรคโต จ ชาตานํ. เวทนานนฺติ ทุกฺขเวทนานํ. อพฺยาพชฺฌปรมตายาติ นิทฺทุกฺขปรมภาวาย ปฏิเสวามีติ โยชนา. เอวเมตฺถ สงฺเขเปเนว ปาฬิวณฺณนา เวทิตพฺพา. นวเวทนุปฺปาทนโตปีติ น เกวลํ อายตึ เอว วิปากปริฬาหา, อถ โข อติโภชนปจฺจยา อลํสาฏกาทีนํ วิย นวเวทนุปฺปาทนโตปิ เวทิตพฺพาติ อตฺโถ.

ปฏิเสวนาปหาตพฺพอาสววณฺณนา นิฏฺิตา.

อธิวาสนาปหาตพฺพอาสววณฺณนา

๒๔. ขโมติ ขมนโก. กมฺมฏฺานิกสฺส จลนํ นาม กมฺมฏฺานปริจฺจาโคติ อาห ‘‘จลติ กมฺปติ กมฺมฏฺานํ วิชหตี’’ติ. อธิมตฺตมฺปิ อุณฺหํ สหติ, สหนฺโต จ น นคฺคสมณาทโย วิย สหติ, อถ โข กมฺมฏฺานาวิชหเนนาติ อาห ‘‘สฺเวว เถโร วิยา’’ติ. พหิจงฺกเมติ เลณโต พหิ จงฺกเม. อุณฺหภเยเนวาติ นรกคฺคิอุณฺหภเยเนว. เตนาห ‘‘อวีจิมหานิรยํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา’’ติ, ตมฺปิ ‘‘มยา อเนกกฺขตฺตุํ อนุภูตํ, อิทํ ปน ตโต มุทุตร’’นฺติ เอวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา. เอตฺถาติ เอตสฺมึ าเน. อคฺคิสนฺตาโปว เวทิตพฺโพ สูริยสนฺตาปสฺส ปรโต วุจฺจมานตฺตา.

ปริสุทฺธสีโลหมสฺมีติ สพฺพถาปิ ‘‘วิสุทฺธสีโลหมสฺมี’’ติ มรณํ อคฺคเหตฺวา อวิปฺปฏิสารมูลิกํ ปีตึ อุปฺปาเทสิ. สห ปีตุปฺปาทาติ ผรณปีติยา อุปฺปาเทน สเหว. วิสํ นิวตฺติตฺวาติ ปีติเวเคน อชฺโฌตฺถตํ ทฏฺมุเขเนว ภสฺสิตฺวา. ตตฺเถวาติ สปฺเปน ทฏฺฏฺาเนเยว. จิตฺเตกคฺคตํ ลภิตฺวาติ ‘‘ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๔๖๖; ๓.๓๕๙; สํ. นิ. ๕.๓๗๖; อ. นิ. ๓.๙๖; ๑๑.๑๒) นเยน สมาธานํ ปาปุณิตฺวา.

ปจฺจเยสุ สนฺโตโส ภาวนาย จ อารมิตพฺพฏฺานตาย อาราโม อสฺสาติ ปจฺจยสนฺโตสภาวนาราโม, ตสฺส ภาโว ปจฺจย…เป… รามตา, ตาย. มหาเถโรติ วุฑฺฒตโร เถโร. วจนเมว ตทตฺถํ าเปตุกามานํ ปโถติ วจนปโถ.

อสุขฏฺเน วา ติพฺพา. ยฺหิ น สุขํ, ตํ อนิฏฺํ ‘‘ติพฺพ’’นฺติ วุจฺจติ. เอวํสภาโวติ ‘‘อธิวาสนชาติโย’’ติ ปทสฺส อตฺถมาห. มุหุตฺเตน ขเณว วาเต หทยํ ผาเลตุํ อารทฺเธเยว. อนาคามี หุตฺวา ปรินิพฺพายีติ อรหตฺตํ ปตฺวา ปรินิพฺพายิ.

เอวํ สพฺพตฺถาติ ‘‘อุณฺเหน ผุฏฺสฺส สีตํ ปตฺถยโต’’ติอาทินา สพฺพตฺถ อุณฺหาทินิมิตฺตํ กามาสวุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา, สีตํ วา อุณฺหํ วา อนิฏฺนฺติ อธิปฺปาโย. อตฺตคฺคาเห สติ อตฺตนิยคฺคาโหติ อาห ‘‘มยฺหํ สีตํ อุณฺหนฺติ คาโห ทิฏฺาสโว’’ติ. สีตาทิเก อุปคเต สหนฺตี ขมนฺตี เต อตฺตโน อุปริ วาเสนฺตี วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อาโรเปตฺวา วาเสติเยวา’’ติ . น นิรสฺสตีติ น วิธุนติ. โย หิ สีตาทิเก น สหติ, โส เต นิรสฺสนฺโต วิธุนนฺโต วิย โหตีติ.

อธิวาสนาปหาตพฺพอาสววณฺณนา นิฏฺิตา.

ปริวชฺชนาปหาตพฺพอาสววณฺณนา

๒๕. อหํสมโณติ (อ. นิ. ฏี. ๓.๖.๕๘) ‘‘อหํ สมโณ, กึ มม ชีวิเตน วา มรเณน วา’’ติ เอวํ อจินฺเตตฺวาติ อธิปฺปาโย. ปจฺจเวกฺขิตฺวาติ คามปฺปเทสํ ปโยชนาทิฺจ ปจฺจเวกฺขิตฺวา. ปฏิกฺกมตีติ หตฺถิอาทีนํ สมีปคมนโต อปกฺกมติ. กณฺฏกา ยตฺถ ติฏฺนฺติ, ตํ กณฺฏกฏฺานํ. อมนุสฺสทุฏฺานีติ อมนุสฺสสฺจาเรน ทูสิตานิ, สปริสฺสยานีติ อตฺโถ. สมานนฺติ สมํ, อวิสมนฺติ อตฺโถ. อกาสิ วา ตาทิสํ อนาจารํ.

สีลสํวรสงฺขาเตนาติ ‘‘กถํ ปริวชฺชนํ สีล’’นฺติ ยเทตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. อปิจ ‘‘จณฺฑํ หตฺถึ ปริวชฺเชตี’’ติ วจนโต หตฺถิอาทิปริวชฺชนมฺปิ ภควโต วจนานุฏฺานนฺติ กตฺวา อาจารสีลเมวาติ เวทิตพฺพํ.

ปริวชฺชนาปหาตพฺพอาสววณฺณนา นิฏฺิตา.

วิโนทนาปหาตพฺพอาสววณฺณนา

๒๖. อิติปีติ อิมินา การเณน, อโยนิโสมนสิการสมุฏฺิตตฺตาปิ โลภาทิสหคตตฺตาปิ กุสลปฏิปกฺขโตปีติอาทีหิ การเณหิ อยํ วิตกฺโก อกุสโลติ อตฺโถ. อิมินา นเยน สาวชฺโชติอาทีสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ อกุสโลติอาทินา ทิฏฺธมฺมิกํ กามวิตกฺกสฺส อาทีนวํ ทสฺเสติ, ทุกฺขวิปาโกติ อิมินา สมฺปรายิกํ. อตฺตพฺยาพาธาย สํวตฺตตีติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน อาทีนววิภาวนา เวทิตพฺพา. อุปฺปนฺนสฺส กามวิตกฺกสฺส อนธิวาสนํ นาม ปุน ตาทิสสฺส อนุปฺปาทนํ, ตํ ปนสฺส ปหานํ วิโนทนํ พฺยนฺติกรณํ อนภาวคมนนฺติ จ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ ปาฬิยํ ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติ วตฺวา ‘‘ปชหตี’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนธิวาเสนฺโต กึ กโรตีติ ปชหตี’’ติอาทิมาห. ปหานฺเจตฺถ วิกฺขมฺภนเมว, น สมุจฺเฉโทติ ทสฺเสตุํ ‘‘วิโนเทตี’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ วิกฺขมฺภนวเสเนว อตฺโถ ทสฺสิโต.

กามวิตกฺโกติ สมฺปโยคโต อารมฺมณโต จ กามสหคโต วิตกฺโก. เตนาห ‘‘กามปฏิสํยุตฺโตตกฺโก’’ติอาทิ. กามปฏิสํยุตฺโตติ หิ กามราคสงฺขาเตน กาเมน สมฺปยุตฺโต วตฺถุกามสงฺขาเตน ปฏิพทฺโธ จ. อุปฺปนฺนุปฺปนฺเนติ เตสํ ปาปวิตกฺกานํ อุปฺปาทาวตฺถาคหณํ วา กตํ สิยา อนวเสสคฺคหณํ วา. เตสุ ปมํ สนฺธายาห ‘‘อุปนฺนมตฺเต’’ติ, สมฺปติชาเตติ อตฺโถ. อนวเสสคฺคหณํ พฺยาปนิจฺฉาย โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สตกฺขตฺตุมฺปิ อุปฺปนฺเน’’ติ วุตฺตํ. าติวิตกฺโกติ ‘‘อมฺหากํ าตโย สุขชีวิโน สมฺปตฺติยุตฺตา’’ติอาทินา เคหสฺสิตเปมวเสน าตเก อารพฺภ อุปฺปนฺนวิตกฺโก. ชนปทวิตกฺโกติ ‘‘อมฺหากํ ชนปโท สุภิกฺโข สมฺปนฺนสสฺโส รมณีโย’’ติอาทินา เคหสฺสิตเปมวเสเนว ชนปทํ อารพฺภ อุปฺปนฺนวิตกฺโก. อุกฺกุฏิกปฺปธานาทีหิ ทุกฺเข นิชฺชิณฺเณ สมฺปราเย อตฺตา สุขี โหติ อมโรติ ทุกฺกรการิกาย ปฏิสํยุตฺโต อมรตฺถาย วิตกฺโก, ตํ วา อารพฺภ อมราวิกฺเขปทิฏฺิสหคโต อมโร จ โส วิตกฺโก จาติ อมรวิตกฺโก. ปรานุทฺทยตาปฏิสํยุตฺโตติ ปเรสุ อุปฏฺากาทีสุ สหนนฺทิกาทิวเสน ปวตฺโต อนุทฺทยตาปติรูปโก เคหสฺสิตเปเมน ปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก. ลาภสกฺการสิโลกปฏิสํยุตฺโตติ จีวราทิลาเภน เจว สกฺกาเรน จ กิตฺติสทฺเทน จ อารมฺมณกรณวเสน ปฏิสํยุตฺโต. อนวฺตฺติปฏิสํยุตฺโตติ ‘‘อโห วต มํ ปเร น อวชาเนยฺยุํ, น เหฏฺา กตฺวา มฺเยฺยุํ, ปาสาณจฺฉตฺตํ วิย ครุํ กเรยฺยุ’’นฺติ อุปฺปนฺนวิตกฺโก.

กามวิตกฺโก กามสงฺกปฺปนสภาวตฺตา กามสงฺกปฺปปวตฺติยา สาติสยตฺตา จ กามนากาโรติ อาห ‘‘กามวิตกฺโก ปเนตฺถ กามาสโว’’ติ. ตพฺพิเสโสติ กามาสววิเสโส, ราคสหวุตฺตีติ อธิปฺปาโย. กามวิตกฺกาทิเก วิโนเทติ อตฺตโน สนฺตานโต นีหรติ เอเตนาติ วิโนทนํ, วีริยนฺติ อาห ‘‘วีริยสํวรสงฺขาเตน วิโนทเนนา’’ติ.

วิโนทนาปหาตพฺพอาสววณฺณนา นิฏฺิตา.

ภาวนาปหาตพฺพอาสววณฺณนา

๒๗. ‘‘สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาวิตา พหุลีกตา วิชฺชาวิมุตฺติโย ปริปูเรนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๘๗) วจนโต วิชฺชาวิมุตฺตีนํ อนธิคโม ตโต จ สกลวฏฺฏทุกฺขานติวตฺติ อภาวนาย อาทีนโว, วุตฺตวิปริยาเยน ภควโต โอรสปุตฺตภาวาทิวเสน จ ภาวนาย อานิสํโส เวทิตพฺโพ. อุปริมคฺคตฺตยสมยสมฺภูตาติ ทุติยาทิมคฺคกฺขเณ ชาตา, ภาวนาธิการโต ทุติยมคฺคาทิปริยาปนฺนาติ อตฺโถ. นนุ จ เต โลกุตฺตรา เอว, กสฺมา วิเสสนํ กตนฺติ? นยิทํ วิเสสนํ, วิเสสิตพฺพํ ปเนตํ, โลกุตฺตรโพชฺฌงฺคา เอว อธิปฺเปตา, เต จ โข อุปริมคฺคตฺตยสมยสมฺภูตาติ. โพชฺฌงฺเคสุ อสมฺโมหตฺถนฺติ วิปสฺสนาฌานมคฺคผลโพชฺฌงฺเคสุ สมฺโมหาภาวตฺถํ. มิสฺสกนเยน หิ โพชฺฌงฺเคสุ วุจฺจมาเนสุ ตทงฺคาทิวิเวกทสฺสนวเสน วิปสฺสนาโพชฺฌงฺคาทโย วิภชิตฺวา วุจฺจนฺติ, น นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรโพชฺฌงฺคา เอวาติ โพชฺฌงฺเคสุ สมฺโมโห น โหติ โพชฺฌงฺคภาวนาปฏิปตฺติยา จ สมฺมเทว ปกาสิตตฺตา. อิธ ปนาติ อิมสฺมึ สุตฺเต, อิมสฺมึ วา อธิกาเร. โลกุตฺตรนโย เอว คเหตพฺโพ ภาวนามคฺคสฺส อธิกตตฺตา.

อาทิปทานนฺติ (อ. นิ. ฏี. ๑.๑.๔๑๘) ‘‘สติสมฺโพชฺฌงฺค’’นฺติ เอวมาทีนํ ตสฺมึ ตสฺมึ วากฺเย อาทิภูตานํ ปทานํ. อตฺถโตติ วิเสสวเสน สามฺวเสน จ ปทตฺถโต. ลกฺขณาทีหีติ ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานโต. กมโตติ อนุปุพฺพิโต. อนูนาธิกโตติ ตาวตฺตกโต. วิภาวินาติ วิฺุนา.

สติสมฺโพชฺฌงฺเคติ สติสมฺโพชฺฌงฺคปเท. สรณฏฺเนาติ อนุสฺสรณฏฺเน. จิรกตาทิเภทํ อารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา านํ, อนิสฺสชฺชนํ วา อุปฏฺานํ. อุทเก อลาพุ วิย ปิลวิตฺวา คนฺตุํ อทตฺวา ปาสาณสฺส วิย นิจฺจลสฺส อารมฺมณสฺส ปนํ สารณํ อสมฺมุฏฺตากรณํ อปิลาปนํ. วุตฺตมฺปิ เหตํ มิลินฺทปฺเห. ภณฺฑาคาริโกติ ภณฺฑโคปโก. อปิลาเป กโรติ อปิลาเปติ. เถเรนาติ นาคเสนตฺเถเรน. สมฺโมสปจฺจนีกํ กิจฺจํ อสมฺโมโส, น สมฺโมสาภาวมตฺตํ. โคจราภิมุขภาวปจฺจุปฏฺานาติ กายาทิอารมฺมณาภิมุขภาวปจฺจุปฏฺานา.

โพธิยา ธมฺมสามคฺคิยา, องฺโค อวยโว, โพธิสฺส วา อริยสาวกสฺส องฺโค การณํ. ปติฏฺานายูหนา โอฆตรณสุตฺตวณฺณนายํ (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑) –

‘‘กิเลสวเสน ปติฏฺานํ, อภิสงฺขารวเสน อายูหนา. ตณฺหาทิฏฺีหิ ปติฏฺานํ, อวเสสกิเลสาภิสงฺขาเรหิ อายูหนา. ตณฺหาวเสน ปติฏฺานํ, ทิฏฺิวเสน อายูหนา. สสฺสตทิฏฺิยา ปติฏฺานํ, อุจฺเฉททิฏฺิยา อายูหนา. ลีนวเสน ปติฏฺานํ, อุทฺธจฺจวเสน อายูหนา. กามสุขานุโยควเสน ปติฏฺานํ, อตฺตกิลมถานุโยควเสน อายูหนา. สพฺพากุสลาภิสงฺขารวเสน ปติฏฺานํ, สพฺพโลกิยกุสลาภิสงฺขารวเสน อายูหนา’’ติ –

วุตฺเตสุ ปกาเรสุ อิธ อวุตฺตานํ วเสน เวทิตพฺพา. ยา หิ อยํ โพธีติ วุจฺจตีติ โยเชตพฺพํ . ‘‘พุชฺฌตี’’ติ ปทสฺส ปฏิพุชฺฌตีติ อตฺโถติ อาห ‘‘กิเลสสนฺตานนิทฺทาย อุฏฺหตี’’ติ. ตํ ปน ปฏิพุชฺฌนํ อตฺถโต จตุนฺนํ สจฺจานํ ปฏิเวโธ, นิพฺพานสฺเสว วา สจฺฉิกิริยาติ อาห ‘‘จตฺตารี’’ติอาทิ. ฌานงฺคมคฺคงฺคาทโย วิยาติ ยถา องฺคานิ เอว ฌานมคฺคา, น องฺควินิมุตฺตา, เอวมิธาปีติ อตฺโถ. เสนงฺครถงฺคาทโย วิยาติ เอเตน ปุคฺคลปฺตฺติยา อวิชฺชมานปฺตฺติภาวํ ทสฺเสติ.

โพธาย สํวตฺตนฺตีติ โพชฺฌงฺคาติ อิทํ การณตฺโถ องฺค-สทฺโทติ กตฺวา วุตฺตํ. พุชฺฌนฺตีติ โพธิโย, โพธิโย เอว องฺคาติ โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ ‘‘พุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา’’ติ. อนุพุชฺฌนฺตีติ วิปสฺสนาทีนํ การณานํ พุชฺฌิตพฺพานฺจ สจฺจานํ อนุรูปํ พุชฺฌนฺติ. ปฏิพุชฺฌนฺตีติ กิเลสนิทฺทาย อุฏฺหนโต ปจฺจกฺขภาเวน วา ปฏิมุขํ พุชฺฌนฺติ. สมฺพุชฺฌนฺตีติ อวิปรีตภาเวน สมฺมา จ พุชฺฌนฺติ. เอวํ อุปสคฺคานํ อตฺถวิเสสทีปนตา ทฏฺพฺพา. โพธิ-สทฺโท หิ สพฺพวิเสสยุตฺตํ พุชฺฌนํ สามฺเน คเหตฺวา ิโต.

วิจินาตีติ ‘‘ตยิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทินา วีมํสติ. โอภาสนํ ธมฺมานํ ยถาภูตสภาวปฏิจฺฉาทกสฺส สมฺโมหสฺส วิทฺธํสนํ ยถา อาโลโก อนฺธการสฺส. ยสฺมึ ธมฺเม สติ วีโร นาม โหติ, โส ธมฺโม วีรภาโว. อีรยิตพฺพโตติ ปวตฺเตตพฺพโต. โกสชฺชปกฺขโต ปติตุํ อปฺปทานวเสน สมฺปยุตฺตานํ ปคฺคณฺหนํ ปคฺคโห. อุปตฺถมฺภนํ อนุพลปฺปทานํ. โอสีทนํ ลยาปตฺติ, ตปฺปฏิปกฺขโต อโนสีทนํ ทฏฺพฺพํ. ปีณยตีติ ตปฺเปติ วฑฺเฒติ วา. ผรณํ ปณีตรูเปหิ กายสฺส พฺยาปนํ. ตุฏฺิ นาม ปีติ. อุทคฺคภาโว โอทคฺยํ, กายจิตฺตานํ อุกฺขิปนนฺติ อตฺโถ. กายจิตฺตทรถปสฺสมฺภนโตติ กายทรถสฺส จิตฺตทรถสฺส จ ปสฺสมฺภนโต วูปสมนโต. กาโยติ เจตฺถ เวทนาทโย ตโย ขนฺธา. ทรโถ สารมฺโภ, ทุกฺขโทมนสฺสปจฺจยานํ อุทฺธจฺจาทิกิเลสานํ, ตปฺปธานานํ วา จตุนฺนํ ขนฺธานํ อธิวจนํ. อุทฺธจฺจาทิกิเลสปฏิปกฺขภาโว ทฏฺพฺโพ, เอวฺเจตฺถ ปสฺสทฺธิยา อปริปฺผนฺทนสีติภาโว ทฏฺพฺโพ อสารทฺธภาวโต. เตนาห ภควา ‘‘ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ’’ติ (ม. นิ. ๑.๕๒).

สมาธานโตติ สมฺมา จิตฺตสฺส อาธานโต ปนโต. อวิกฺเขโป สมฺปยุตฺตานํ อวิกฺขิตฺตตา, เยน สสมฺปยุตฺตา ธมฺมา อวิกฺขิตฺตา โหนฺติ, โส ธมฺโม อวิกฺเขโปติ. อวิสาโร อตฺตโน เอว อวิสรณสภาโว. สมฺปิณฺฑนํ สมฺปยุตฺตานํ อวิปฺปกิณฺณภาวาปาทนํ นฺหานียจุณฺณานํ อุทกํ วิย. จิตฺตฏฺิติปจฺจุปฏฺาโนติ ‘‘จิตฺตสฺส ิตี’’ติ (ธ. ส. ๑๑) วจนโต จิตฺตสฺส ปพนฺธิติปจฺจุปฏฺาโน. อชฺฌุเปกฺขนโตติ อุทาสีนภาวโต. สาติ โพชฺฌงฺคอุเปกฺขา . สมปฺปวตฺเต ธมฺเม ปฏิสฺจิกฺขติ อุปปตฺติโต อิกฺขติ ตทาการา หุตฺวา ปวตฺตตีติ ปฏิสงฺขานลกฺขณา, เอวฺจ กตฺวา ‘‘ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา คหเณ มชฺฌตฺตตา’’ติ อุเปกฺขากิจฺจาธิมตฺตตาย สงฺขารุเปกฺขา วุตฺตา. สมฺปยุตฺตธมฺมานํ ยถาสกกิจฺจกรณวเสน สมํ ปวตฺตนปจฺจยตา สมวาหิตา. อลีนานุทฺธตปฺปวตฺติปจฺจยตา อูนาธิกตานิวารณํ. สมฺปยุตฺตานํ อสมปฺปวตฺติเหตุกปกฺขปาตํ อุปจฺฉินฺทนฺตี วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปกฺขปาตุปจฺเฉทรสา’’ติ. อชฺฌุเปกฺขนเมว มชฺฌตฺตภาโว.

สพฺพสฺมึ ลีนปกฺเข อุทฺธจฺจปกฺเข จ อตฺถิกา ปตฺถนียา อิจฺฉิตพฺพาติ สพฺพตฺถิกา, ตํ สพฺพตฺถิกํ. สมานกฺขณปวตฺตีสุ สตฺตสุปิ สมฺโพชฺฌงฺเคสุ วาจาย กมปฺปวตฺติโต ปฏิปาฏิยา วตฺตพฺเพสุ ยํ กิฺจิ ปมํ อวตฺวา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺเสว ปมํ วจนสฺส การณํ สพฺเพสํ อุปการกตฺตนฺติ วุตฺตํ ‘‘สพฺเพส’’นฺติอาทิ. สพฺเพสนฺติ จ ลีนุทฺธจฺจปกฺขิกานํ, อฺถา สพฺเพปิ สพฺเพสํ ปจฺจยาติ.

‘‘กสฺมา สตฺเตว โพชฺฌงฺคา วุตฺตา’’ติ โจทโก สทฺธาโลภาทีนมฺปิ โพชฺฌงฺคภาวํ อาสงฺกติ, อิตโร สติอาทีนํเยว ภาวนาย อุปการตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ลีนุทฺธจฺจปฏิปกฺขโต สพฺพตฺถิกโต จา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ลีนสฺสาติ อติสิถิลวีริยตาทีหิ ภาวนาวีถึ อโนตริตฺวา สํกุฏิตสฺส จิตฺตสฺส. ตทา หิ ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคา น ภาเวตพฺพา. ตฺหิ เอเตหิ อลฺลติณาทีหิ วิย ปริตฺโต อคฺคิ ทุสฺสมุฏฺาปิยํ โหตีติ. เตนาห ภควา ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส ปริตฺตํ อคฺคึ อุชฺชาเลตุกาโม อสฺส, โส ตตฺถ อลฺลานิ เจว ติณานิ ปกฺขิเปยฺยา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔). ธมฺมวิจยวีริยปีติสมฺโพชฺฌงฺคา ปน ภาเวตพฺพา, สุกฺขติณาทีหิ วิย ปริตฺโต อคฺคิ ลีนํ จิตฺตํ เอเตหิ สุสมุฏฺาปิยํ โหตีติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยสฺมิฺจ โข’’ติอาทิ. ตตฺถ ยถาสกํ อาหารวเสน ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ ภาวนา เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, กุสลากุสลา ธมฺมา…เป… ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย…เป… สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒). ตตฺถ สภาวสามฺลกฺขณปฏิเวธวเสน ปวตฺตมนสิกาโร…เป… ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ภาเวติ นาม.

อุทฺธจฺจสฺสาติ จิตฺตสฺส อจฺจารทฺธวีริยตาทีหิ สีติภาวปติฏฺิตภาวํ อโนติณฺณตาย, ตทา ธมฺมวิจยวีริยปีติสมฺโพชฺฌงฺคา น ภาเวตพฺพา. ตฺหิ เอเตหิ สุกฺขติณาทีหิ วิย อคฺคิกฺขนฺโธ ทุวูปสมยํ โหติ. เตนาห ภควา ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตุกาโม อสฺส, โส ตตฺถ สุกฺขานิ เจว ติณานิ ปกฺขิเปยฺยา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔). ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคา ปน ภาเวตพฺพา, อลฺลติณาทีหิ วิย อคฺคิกฺขนฺโธ อุทฺธตํ จิตฺตํ เอเตหิ สุวูปสมยํ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยสฺมิฺจ โข’’ติอาทิ. เอตฺถาปิ ยถาสกํ อาหารวเสน ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ ภาวนา เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, กายปสฺสทฺธิ จิตฺตปสฺสทฺธิ…เป… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒). ตตฺถ ยถาสฺส ปสฺสทฺธิอาทโย อุปฺปนฺนปุพฺพา, ตํ อาการํ สลฺลกฺเขตฺวา เตสํ อุปฺปาทนวเสน ตถา มนสิกโรนฺโตว ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ภาเวติ นาม. สติสมฺโพชฺฌงฺโค ปน สพฺพตฺถ พหูปกาโร. โส หิ จิตฺตํ ลีนปกฺขิกานํ ปสฺสทฺธิอาทีนํ วเสน ลยาปตฺติโต, อุทฺธจฺจปกฺขิกานฺจ ธมฺมวิจยาทีนํ วเสน อุทฺธจฺจปาตโต รกฺขติ, ตสฺมา โส โลณธูปนํ วิย สพฺพพฺยฺชเนสุ สพฺพกมฺมิกอมจฺโจ วิย จ ราชกิจฺเจสุ สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺโพ. เตนาห ‘‘สติฺจ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพตฺถิกํ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔).

ตฺวา าตพฺพาติ (สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑๒๙) สมฺพนฺโธ. วฑฺฒิ นาม เวปุลฺลํ ภิยฺโยภาโว ปุนปฺปุนํ อุปฺปาโท เอวาติ อาห ‘‘ปุนปฺปุนํ ชเนตี’’ติ. อภิวุทฺธึ ปาเปนฺโต นิพฺพตฺเตติ. วิวิตฺตตาติ วิวิตฺตภาโว. โย หิ วิเวจนียโต วิวิจฺจติ, ยํ วิวิจฺจิตฺวา ิตํ, ตทุภยํ อิธ วิวิตฺตภาวสามฺเน ‘‘วิวิตฺตตา’’ติ วุตฺตํ. เตสุ ปุริโม วิเวจนียโต วิวิจฺจมานตาย วิเวกสงฺขาตาย วิวิจฺจนกิริยาย สมงฺคี ธมฺมสมูโห ตาย เอว วิวิจฺจนกิริยาย วเสน วิเวโกติ คหิโต. อิตโร สพฺพโส ตโต ตโต วิวิตฺตสภาวตาย. ตตฺถ ยสฺมึ ธมฺมปุฺเช สติสมฺโพชฺฌงฺโค วิวิจฺจนกิริยาย ปวตฺตติ, ตํ ยถาวุตฺตาย วิวิจฺจมานตาย วิเวกสงฺขาตํ นิสฺสาเยว ปวตฺตติ, อิตรํ ปน ตนฺนินฺนตาตทารมฺมณตาหีติ วุตฺตํ ‘‘วิเวเก นิสฺสิต’’นฺติ. ยถา วา วิเวกวเสน ปวตฺตํ ฌานํ ‘‘วิเวกช’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ วิเวกวเสน ปวตฺโต โพชฺฌงฺโค ‘‘วิเวกนิสฺสิโต’’ติ ทฏฺพฺโพ. นิสฺสยฏฺโ จ วิปสฺสนามคฺคานํ วเสน มคฺคผลานํ เวทิตพฺโพ. อสติปิ ปุพฺพาปรภาเว ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาทา’’ติ เอตฺถ ปจฺจยานํ สมุปฺปาทนํ วิย อภินฺนธมฺมาธารา นิสฺสยนภาวนา สมฺภวนฺตีติ. อยเมวาติ วิเวโก เอว. วิเวโก หิ ปหานวินยวิราคนิโรธา จ สมานตฺถา.

ตทงฺคสมุจฺเฉทนิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตตํ วตฺวา ปฏิปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตตาย อวจนํ ‘‘สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวตี’’ติอาทินา ภาเวตพฺพานํ โพชฺฌงฺคานํ อิธ วุตฺตตฺตา. ภาวิตพฺโพชฺฌงฺคสฺส หิ เย สจฺฉิกาตพฺพา ผลโพชฺฌงฺคา, เตสํ กิจฺจํ ปฏิปสฺสทฺธิวิเวโก. อชฺฌาสยโตติ ‘‘นิพฺพานํ สจฺฉิกริสฺสามี’’ติ มหนฺตอชฺฌาสยโต. ยทิปิ วิปสฺสนากฺขเณ สงฺขารารมฺมณํ จิตฺตํ, สงฺขาเรสุ ปน อาทีนวํ สุฏฺุ ทิสฺวา ตปฺปฏิปกฺเข นิพฺพาเน อธิมุตฺตตาย อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตตา ทาหาภิภูตสฺส ปุคฺคลสฺส สีตนินฺนจิตตฺตา วิย. น ปฏิสิทฺธา วิปสฺสนาปาทเกสุ กสิณารมฺมณาทิฌาเนสุ สติอาทีนํ นิพฺเพธภาคิยตฺตา. อนุทฺธรนฺตา ปน วิปสฺสนา วิย โพธิยา มคฺคสฺส อาสนฺนการณํ ฌานํ น โหติ, นาปิ ตถา เอกนฺติกํ การณํ, น จ วิปสฺสนากิจฺจสฺส วิย ฌานกิจฺจสฺส นิฏฺานํ มคฺโคติ กตฺวา น อุทฺธรนฺติ. เอตฺถ จ กสิณคฺคหเณน ตทายตฺตานิ อารุปฺปานิปิ คหิตานีติ ทฏฺพฺพานิ. ตานิปิ หิ วิปสฺสนาปาทกานิ นิพฺเพธภาคิยานิ จ โหนฺตีติ วตฺตุํ วฏฺฏติ ตนฺนินฺนภาวสพฺภาวโต. ยทคฺเคน หิ นิพฺพานนินฺนตา, ตทคฺเคน ผลนินฺนตาปิ สิยา. ‘‘กุทาสฺสุ นามาหํ ตทายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕) อาทิวจนมฺเปตสฺส อตฺถสฺส สาธกํ.

โวสฺสคฺค-สทฺโท ปริจฺจาคตฺโถ ปกฺขนฺทนตฺโถ จาติ โวสฺสคฺคสฺส ทุวิธตา วุตฺตา. โวสฺสชฺชนฺหิ ปหานํ, วิสฺสฏฺภาเวน นิราสงฺกปวติ จ, ตสฺมา วิปสฺสนากฺขเณ ตทงฺควเสน, มคฺคกฺขเณ สมุจฺเฉทวเสน ปฏิปกฺขสฺส ปหานํ โวสฺสคฺโค, ตถา วิปสฺสนากฺขเณ ตนฺนินฺนภาเวน, มคฺคกฺขเณ อารมฺมณกรเณน วิสฺสฏฺสภาวโต โวสฺสคฺโคติ เวทิตพฺพํ. ยถาวุตฺเตน ปกาเรนาติ ตทงฺคสมุจฺเฉทปกาเรน ตนฺนินฺนตทารมฺมณกรณปกาเรน จ. ปุพฺเพ โวสฺสคฺค-ปทสฺเสว อตฺถสฺส วุตฺตตฺตา อาห ‘‘สกเลน วจเนนา’’ติ. ปริณมนฺตํ วิปสฺสนากฺขเณ, ปริณตํ มคฺคกฺขเณ. ปริณาโม นาม ปริปาโกติ อาห ‘‘ปริปจฺจนฺตํ ปริปกฺกฺจา’’ติ. ปริปาโก จ อาเสวนลาเภน อาหิตสามตฺถิยสฺส กิเลสสฺส ปริจฺจชิตุํ นิพฺพานฺจ ปกฺขนฺทิตุํ ติกฺขวิสทสภาโว. เตนาห ‘‘อยฺหี’’ติอาทิ. เอส นโยติ ยฺวายํ ‘‘ตทงฺควิเวกนิสฺสิต’’นฺติอาทินา สติสมฺโพชฺฌงฺเค วุตฺโต, เสเสสุ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทีสุปิ เอส นโยติ เอวํ ตตฺถ เนตพฺพนฺติ อตฺโถ.

เอวํ อาทิกมฺมิกานํ โพชฺฌงฺเคสุ อสมฺโมหตฺถํ มิสฺสกนยํ วตฺวา อิทานิ นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรโพชฺฌงฺควเสน อตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘อิธ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิธ ปนาติ อิมสฺมึ สพฺพาสวสุตฺตนฺเต. มคฺโค เอว โวสฺสคฺควิปริณามี ภาวนามคฺคสฺส อิธ อธิปฺเปตตฺตา. ตฺจ โขติ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ. สมุจฺเฉทโตติ สมุจฺฉินฺทนโต.

ทิฏฺาสวสฺส ปมมคฺควชฺฌตฺตา ‘‘ตโย อาสวา’’ติ วุตฺตํ. เตปิ อนปายคมนียา เอว เวทิตพฺพา อปายคมนียานํ ทสฺสเนเนว ปหีนตฺตา. สติปิ สมฺโพชฺฌงฺคานํ เยภุยฺเยน มคฺคภาเว ตตฺถ ตตฺถ สมฺโพชฺฌงฺคสภาวานํ มคฺคธมฺมานํ วเสน วุตฺตมคฺคตฺตยสมฺปยุตฺตา โพชฺฌงฺคาติ ปจฺเจกโพชฺฌงฺเค ‘‘โพชฺฌงฺคภาวนายา’’ติ อิมินา คณฺหนฺโต ‘‘มคฺคตฺตยสมฺปยุตฺตายา’’ติ อาห.

ภาวนาปหาตพฺพอาสววณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๘. โถเมนฺโตติ อาสวปฺปหานสฺส สุทุกฺกรตฺตา ตาย เอว ทุกฺกรกิริยาย ตํ อภิตฺถวนฺโต. อสฺสาติ ปหีนาสวภิกฺขุโน. อานิสํสนฺติ ตณฺหาจฺเฉทาทิทุกฺขกฺขยปริโยสานํ อุทฺรยํ. เอเตหิ ปหานาทิสํกิตฺตเนหิ. อุสฺสุกฺกํ ชเนนฺโตติ เอวํ ธมฺมสฺสามินาปิ อภิตฺถวนียํ มหานิสํสฺจ อาสวปฺปหานนฺติ ตตฺถ อาทรสหิตํ อุสฺสาหํ อุปฺปาเทนฺโต. ทสฺสเนเนว ปหีนาติ ทสฺสเนน ปหีนา เอว. เตน วุตฺตํ ‘‘น อปฺปหีเนสุเยว ปหีนสฺี’’ติ.

สพฺพ-สทฺเทน อาสวานํ, อาสวสํวรานฺจ สมฺพนฺธวเสน ทุติยปมวิกปฺปานํ เภโท ทฏฺพฺโพ. ทสฺสนาภิสมยาติ ปริฺาภิสมยา ปริฺากิจฺจสิทฺธิยา. เตนาห ‘‘กิจฺจวเสนา’’ติ, อสมฺโมหปฏิเวเธนาติ อตฺโถ. สมุสฺสโย กาโย, อตฺตภาโว วา.

อนวชฺชปีติโสมนสฺสสหิตํ จิตฺตํ ‘‘อตฺตโน’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ อตฺถาวหตฺตา, น ตพฺพิปรีตํ อนตฺถาวหตฺตาติ ปีติสมฺปยุตฺตจิตฺตตํ สนฺธายาห ‘‘อตฺตมนาติ สกมนา’’ติ. เตนาห ‘‘ตุฏฺมนา’’ติ. อตฺตมนาติ วา ปีติโสมนสฺเสหิ คหิตมนา. ยสฺมา ปน เตหิ คหิตตา สมฺปยุตฺตตาว, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปีติโสมนสฺเสหิ วา สมฺปยุตฺตมนา’’ติ. ยเทตฺถ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยตฺตา จาติ เวทิตพฺพํ.

สพฺพาสวสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๓. ธมฺมทายาทสุตฺตวณฺณนา

๒๙. ตสฺมาตํ ทสฺเสตฺวาติ ยสฺมา สุตฺตนฺตวณฺณนา สุตฺตนิกฺเขปํ ทสฺเสตฺวา วุจฺจมานา ปากฏา โหติ, ยสฺมา จสฺส ธมฺมทายาทสุตฺตสฺส อฏฺุปฺปตฺติโก นิกฺเขโป, ตสฺมา ตํ นิกฺเขปํ ทสฺเสตฺวา, กเถตฺวาติ อตฺโถ. ลาภสกฺกาเรติ (สํ. นิ. ฏี. ๒.๒.๖๓) ลาภสกฺการสงฺขาตาย อฏฺุปฺปตฺติยาติ เกจิ, ลาภสกฺกาเร วา อฏฺุปฺปตฺติยาติ อปเร. ยา หิ ลาภสกฺการนิมิตฺตํ ตทา ภิกฺขูสุ ปจฺจยพาหุลฺลิกตา ชาตา, ตํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา ภควา อิมํ เทเสสีติ. ยมกมหาเมโฆติ เหฏฺาโอลมฺพนอุปริอุคฺคมนวเสน สตปฏโล สหสฺสปฏโล ยุคฬมหาเมโฆ. ติฏฺนฺติ เจว ภควติ กตฺถจิ นิพทฺธวาสํ วสนฺเต, จาริกํ ปน คจฺฉนฺเต อนุพนฺธนฺติ จ. ภิกฺขูนมฺปิ เยภุยฺเยน กปฺปสตสหสฺสํ ตโต ภิยฺโยปิ ปูริตทานปารมิสฺจยตฺตา ตทา มหาลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชีติ วุตฺตํ ‘‘เอวํ ภิกฺขุสงฺฆสฺสปี’’ติ.

สกฺกโตติ สกฺการปฺปโต. ครุกโตติ ครุการปฺปตฺโต. มานิโตติ พหุมโต มนสา ปิยายิโต จ. ปูชิโตติ มาลาทิปูชาย เจว จตุปจฺจยาภิปูชาย จ ปูชิโต. อปจิโตติ อปจายนปฺปตฺโต. ยสฺส หิ จตฺตาโร ปจฺจเย สกฺกตฺวาปิ อภิสงฺขเต ปณีตปณีเต อุปเนนฺติ, โส สกฺกโต. ยสฺมึ ครุภาวํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา เต เทนฺติ, โส ครุกโต. ยํ มนสา ปิยายนฺติ พหุมฺนฺติ จ, โส พหุมโต. ยสฺส สพฺพเมตํ ปูชาวเสน กโรนฺติ, โส ปูชิโต. ยสฺส อภิวาทนปจฺจุฏฺานฺชลิกมฺมาทิวเสน ปรมนิปจฺจการํ กโรนฺติ, โส อปจิโต. ภควติ ภิกฺขุสงฺเฆ จ โลโก เอวํ ปฏิปนฺโน. เตน วุตฺตํ ‘‘เตน โข ปน…เป… ปริกฺขาราน’’นฺติ. ลาภคฺคยสคฺคปตฺตนฺติ ลาภสฺส จ ยสสฺส จ อคฺคํ อุกฺกํสํ ปตฺตํ.

ปจฺจยา จีวราทโย ครุกาตพฺพา เอเตสนฺติ ปจฺจยครุกา, อามิสจกฺขุกาติ อตฺโถ. ปจฺจเยสุ คิทฺธา คธิตา ปจฺจยานํ พหุลภาวาย ปฏิปนฺนาติ ปจฺจยพาหุลิกา. ภควโตปิ ปากฏา อโหสิ ปกติจาริตฺตวเสนาติ อธิปฺปาโย อฺถา อปากฏสฺเสว อภาวโต. ธมฺมสภาวจินฺตาวเสน ปวตฺตํ สโหตฺตปฺปาณํ ธมฺมสํเวโค, อิธ ปน โส ภิกฺขูนํ ลาภครุตาธมฺมวเสน เวทิตพฺโพ. สมณธมฺมวุตฺตีติ สมณธมฺมกรณํ. สาติ ธมฺมทายาทเทสนา. ปฏิพิมฺพทสฺสนวเสน สพฺพกายสฺส ทสฺสนโยคฺโค อาทาโสติ สพฺพกายิกอาทาโส.

ปิตุ-ทายํ, เตน ทาตพฺพํ, ตโต ลทฺธพฺพํ อรหภาเวน อาทิยนฺตีติ ทายาทา, ปุตฺตา. ตฺจ โลเก อามิสเมว, สาสเน ปน ธมฺโมปีติ ตตฺถ ยํ สาวชฺชํ อนิยฺยานิกฺจ, ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา, ยํ นิยฺยานิกํ อนวชฺชฺจ, ตตฺถ ภิกฺขู นิโยเชนฺโต ภควา อโวจ ‘‘ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว, ภวถ, มา อามิสทายาทา’’ติ. ธมฺมสฺส เม ทายาทาติ มม ธมฺมสฺส โอคาหิโน, ธมฺมภาคภาคิโนติ อตฺโถ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘ธมฺมโกฏฺาสสฺเสว สามิโน’’ติ (ม. นิ. อฏฺ.๑.๒๙). นิพฺพตฺติตธมฺโมติ อสํกิเลสิกานุตฺตราทิภาเวน ธมฺมสามฺโต นิทฺธาริตธมฺโม. ปริยาเยติ สภาวโต ปริวตฺเตตฺวา าเปติ เอเตนาติ ปริยาโย, เลโส, เลสการณํ วา. ตทภาวโต นิปฺปริยายธมฺโม มคฺคปฺปตฺติยา อปายปตนาทิโต อจฺจนฺตเมว วารณโต. อิตโร วุตฺตวิปริยายโต ปริยายธมฺโม อจฺจนฺตํ อปายทุกฺขวฏฺฏทุกฺขปาตนโต ปรมฺปราย วารณโต. ยถา หิ โลกิยํ กุสลํ ทานสีลาทิ วิวฏฺฏํ อุทฺทิสฺส นิพฺพตฺติตํ, อยํ ตํ อสมฺปาเทนฺตมฺปิ ตํ สมฺปาปกสฺส ธมฺมสฺส นิพฺพตฺตการณภาวปริยาเยน ปริยายธมฺโม นาม โหติ, เอวํ ตํ วฏฺฏํ อุทฺทิสฺส นิพฺพตฺติตํ, ยํ ตณฺหาทีหิ สวิเสสํ อามสิตพฺพโต อามิสนฺติ โลเก ปากฏํ อจฺฉาทนโภชนาทิ, ตสฺส, ตํสทิสสฺส จ ผลวิเสสสฺส นิมิตฺตภาวปริยาเยน ปริยายามิสนฺติ วุจฺจตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยํ ปนิทํ…เป… อิทํ ปริยายามิสํ นามา’’ติ.

‘‘สกลเมว หิทํ, อานนฺท, พฺรหฺมจริยสฺส ยทิทํ กลฺยาณมิตฺตตา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒, ๓) อาทิวจนโต สาวเกหิ อธิคโตปิ โลกุตฺตรธมฺโม สตฺถุเยวาติ วตฺตพฺพตํ อรหตีติ วุตฺตํ ‘‘นิปฺปริยายธมฺโมปิ ภควโตเยว สนฺตโก’’ติ. สาวกานฺหิ ธมฺมทิฏฺิปจฺจยสฺสปิ โยนิโสมนสิการสฺส วิเสสปจฺจโย ปรโตโฆโส จ ตถาคตาธีโนติ เตหิ ปฏิวิทฺโธปิ ธมฺโม ธมฺมสฺสามิโนเยวาติ วตฺตุํ ยุตฺตํ. เตนาห ‘‘ภควตา หี’’ติอาทิ. ตตฺถ อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺสาติ กสฺสปสฺส ภควโต สาสนนฺตรธานโต ปภุติ ยาว อิมสฺมา พุทฺธุปฺปาทา อสมฺโพธวเสน น อุปฺปนฺนสฺส อริยมคฺคสฺส. อุปฺปาเทตาติ นิพฺพตฺเตตา. ตํ ปเนตํ มคฺคสฺส ภควโต นิพฺพตฺตนํ, น ปจฺเจกพุทฺธานํ วิย สสนฺตาเนเยว, อถ โข ปรสนฺตาเนปีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อสฺชาตสฺส มคฺคสฺส สฺชเนตา,อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตา’’ติ วุตฺตํ. ตยิทํ มคฺคสฺส อุปฺปาทนํ สฺชานนฺจ อตฺถโต ชานนฺเว อสมฺโมหปฏิเวธภาวโตติ วุตฺตํ ‘‘มคฺคฺู มคฺควิทู’’ติ. อกฺขานํ ปนสฺส สุกุสลภาเวนาติ วุตฺตํ ‘‘มคฺคโกวิโท’’ติ. สตฺถารา ยถาคตํ มคฺคํ อนุคจฺฉนฺตีติ มคฺคานุคา ภควโต เอว ตํ มคฺคํ สุฏฺุ อธิคมนโต. ปจฺฉา ปรโต สมฺมา อนุ อนุ อาคตา ปฏิปนฺนาติ ปจฺฉา สมนฺนาคตา.

ชานํ ชานาตีติ ชานิตพฺพเมว อภิฺเยฺยาทิเภทํ ชานาติ เอกนฺตหิตปฏิปตฺติโต. ปสฺสํ ปสฺสตีติ ตถา ปสฺสิตพฺพเมว ปสฺสติ. อถ วา ชานํ ชานาตีติ สพฺพฺุตฺาเณน ชานิตพฺพํ ชานาติเยว. น หิ ปเทสาเณน ชานิตพฺพํ สพฺพํ เอกนฺตโต ชานาติ. ปสฺสํ ปสฺสตีติ ทิพฺพจกฺขุ ปฺาจกฺขุ ธมฺมจกฺขุ พุทฺธจกฺขุ สมนฺตจกฺขุสงฺขาเตหิ ปฺจหิ จกฺขูหิ ปสฺสิตพฺพํ ปสฺสติเยว. อถ วา ชานํ ชานาตีติ ยถา อฺเ สวิปลฺลาสา กามรูปปริฺาวาทิโน ชานนฺตาปิ วิปลฺลาสวเสน ชานนฺติ, น เอวํ ภควา. ภควา ปน ปหีนวิปลฺลาสตฺตา ชานนฺโต ชานาติเยว, ทิฏฺิทสฺสนสฺส จ อภาวา ปสฺสนฺโต ปสฺสติเยวาติ อตฺโถ. จกฺขุภูโตติ ปฺาจกฺขุมยตฺตา ตสฺส จ ปตฺตตฺตา สตฺเตสุ จ ตทุปฺปาทนโต ทสฺสนปริณายกฏฺเน โลกสฺส จกฺขุ วิย ภูโต. าณภูโตติ เอตสฺส จ เอวเมว อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ธมฺมา โพธิปกฺขิยา, พฺรหฺมา มคฺโค, เตหิ อุปฺปนฺนตฺตา, เตสํวา ปตฺตตฺตา อธิคตตฺตา, โลกสฺส จ ตทุปฺปาทนโต ‘‘ธมฺมภูโต,พฺรหฺมภูโต’’ติ จ เวทิตพฺโพ. วตฺตาติ จตุสจฺจธมฺมํ วทตีติ วตฺตา. จิรํ สจฺจปฺปฏิเวธํ ปวตฺเตนฺโต วทตีติ ปวตฺตา. อตฺถสฺส นินฺเนตาติ ธมฺมตาสงฺขาตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานฺจ นิทฺธาเรตฺวา ทสฺเสตา, ปาปยิตา วา. อมตสฺส ทาตาติ อมตํ สจฺฉิกิริยํ สตฺเตสุ อุปฺปาเทนฺโต อมตํ ททาตีติ อมตสฺส ทาตา. โพธิปกฺขิยธมฺมานํ ตทายตฺตภาวโต ธมฺมสฺสามี.

‘‘ยา จ นิพฺพานสมฺปตฺติ, สพฺพเมเตน ลพฺภติ;

สุโข วิปาโก ปุฺานํ, อธิปฺปาโย สมิชฺฌติ. (เปฏโก. ๒๓);

นิพฺพานปฏิสํยุตฺโต, สพฺพสมฺปตฺติทายโก’’ติ –

เอวมาทึ ภควโต วจนํ สุตฺวา เอว ภิกฺขู ทานาทิปุฺานํ วิวฏฺฏสนฺนิสฺสยตํ ชานนฺติ, น อฺถาติ วุตฺตํ ‘‘ปริยายธมฺโมปิ…เป… ปฏิลภตี’’ติ. ‘‘เอทิสํ ปริภุฺจิตพฺพ’’นฺติ กปฺปิยสฺส จ จีวราทิปจฺจยสฺส ภควโต วจเนน วินา ปฏิคฺคโหปิ ภิกฺขูนํ น สมฺภวติ, กุโต ปริโภโคติ อาห ‘‘นิปฺปริยายามิสมฺปี’’ติอาทิ.

ปริยายามิสสฺส ภควโต สนฺตกภาโว ปริยายธมฺมสฺส ตพฺภาเวเนว ทีปิโต. ตเทว สามิภาวํ ทสฺเสนฺโตติ สมฺพนฺโธ. ตสฺมาติ อตฺตาธีนปฏิลาภปฏิคฺคหตาย อตฺตโน สนฺตกตฺตา จ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ธมฺมามิเส.

ปจฺจยา จีวราทโย ปรมา ปาปุณิตพฺพภาเวน อุตฺตมมริยาทา เอตสฺส น อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อปฺปิจฺฉตาทโย จาติ ปจฺจยปรโม, ลาภครูติ อตฺโถ. ตณฺหุปฺปาเทสูติ ‘‘จีวรเหตุ วา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, ปิณฺฑปาตเสนาสนอิติภวาภวเหตุ วา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๑๑; อ. นิ. ๔.๙; อิติวุ. ๑๐๕) เอวํ วุตฺเตสุ จตูสุ ตณฺหุปฺปตฺติโกฏฺาเสสุ. อปฺปิจฺฉตาสนฺตุฏฺิสลฺเลขปวิเวกาทโย อปฺปิจฺฉตาทโย.

ตตฺถาติ ตสฺมึ โอวาเท, เตสุ วา ธมฺมปฏิคฺคาหเกสุ ภิกฺขูสุ. ภวิสฺสติ วา เยสํ ตตฺถาติ โยชนา. อิมสฺมึ ปกฺเข ตตฺถาติ ตสฺมึ โอวาเท อิจฺเจว อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อธิปฺปาโย อามิสทายาทตาย อุปฺปชฺชนกอนตฺถานุปฺปาทสฺส ธมฺมทายาทตาย อุปฺปชฺชนกอฏฺุปฺปตฺติยา จ อากงฺขา. เตนาห ‘‘ปสฺสตี’’ติอาทิ. ตตฺถ อามิเส อุปกฺขลิตานนฺติ อามิสเหตุ วิปฺปฏิปนฺนานํ. อตีตกาเลติ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล. กปิลสฺส ภิกฺขุโน วตฺถุ กปิลสุตฺเตน, ‘‘สงฺฆาฏิปิอาทิตฺตา โหตี’’ติอาทินา ลกฺขณสุตฺเตน (สํ. นิ. ๒.๒๑๘) จ วิภาเวตพฺพํ. อามิสครุโก อปฺปคฺฆภาเวน กูฏกหาปโณ วิย นิตฺเตโช สมณเตเชน อนุชฺชลโต นิพฺพุตงฺคาโร วิย นิปฺปโภ จ โหตีติ โยชนา. ตโตติ ปจฺจยครุกภาวโต. วิวตฺติตจิตฺโตติ วินิวตฺติตมานโส, สลฺเลขวุตฺตีติ อตฺโถ.

ธมฺมทายาทาติ เอตฺตาวตา อนฺโตคธาวธารณํ วจนนฺติ เตน อวธารเณน นิวตฺติตมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘มา อามิสทายาทา’’ติ ปฏิกฺเขโป ทสฺสิโต. ตเถว จ วิภาเวตุํ อธิปฺปายานิสํสวิภาวเนสุปิ ทสฺสิโต, ตถา อาทีนววิภาวเนน ธมฺมทายาทตาปฏิกฺเขโป. อปทิสิตพฺพาติ เหฏฺา กตฺวา วตฺตพฺพาติ. อาทิยาติ เอตฺถ ยสฺมา อา-กาโร มริยาทตฺโถ, ตสฺมา ธมฺมทายาทตาวิธุเรน อามิสทายาทภาเวน เหตุภูเตน, กรณภูเตน วา อาทิยํ วิเวจนํ วิฺูหิ วิสุํ กรณํ ววตฺถานสฺส โหตีติ อาห ‘‘วิสุํ กาตพฺพา’’ติ. เตนาห ‘‘วิฺูหิ คารยฺหา ภเวยฺยาถาติ วุตฺตํ โหตี’’ติ.

‘‘อตฺถิ เม ตุมฺเหสุ อนุกมฺปา…เป… โน อามิสทายาทา’’ติ ภิกฺขูสุ อตฺตโน กรุณายนากิตฺตนํ เตสํ มุทุกรณํ, ‘‘อหมฺปิ เตนา’’ติอาทิ ปน ตโตปิ สวิเสสํ มุทุกรณนฺติ อาห ‘‘อตีว มุทุกรณตฺถ’’นฺติ.

นาฬกปฏิปทาทโย นาฬกสุตฺตาทีสุ (สุ. นิ. ๖๘๔-๗๒๘) อาคตปฏิปตฺติโย. ตา ปน ยสฺมา นาฬกตฺเถราทีหิ ปฏิปนฺนา ปรมสลฺเลขวุตฺติภูตา อติอุกฺกฏฺปฏิปตฺติโย, ตสฺมา อิธ ธมฺมทายาทปฏิปทาย อุทาหรณภาเวน อุทฺธฏา. สกฺขิภูตาติ ตาย ปฏิปตฺติยา วุจฺจมานาย ‘‘กึ เม วินา ปฏิปชฺชนโก อตฺถี’’ติ อสทฺทหนฺตานํ ปจฺจกฺขกรเณน สกฺขิภูตา. อิมสฺมินฺติ ‘‘ตุมฺเห จ เม ภิกฺขเว ธมฺมทายาทา’’ติอาทิเก วากฺเย. เสสนฺติ ‘‘ตุมฺเห จ เม’’ติอาทิกํ สุกฺกปกฺเข อาคตํ ปาฬิปทํ. วุตฺตนยปจฺจนีเกนาติ ‘‘เตน ธมฺมทายาทภาเวน โน อามิสทายาทภาเวนา’’ติ เอวํ กณฺหปกฺเข วุตฺตนยสฺส ปฏิปกฺเขน.

๓๐. โถมนํ สุตฺวาติ ปฏิปชฺชนกสฺส ปุคฺคลสฺส ปสํสนํ สุตฺวา ยถา ตํ สปริสสฺส อายสฺมโต อุปเสนสฺส ปฏิปตฺติยา สีลโถมนํ สุตฺวา. นิปาตปทนฺติ อิมินา อิธ-สทฺทสฺส อนตฺถกตมาห. ปวาริโตติ ปฏิกฺเขปิโต. โย หิ ภุฺชนฺโต โภชเนน ติตฺโต ปริเวสเกน อุปนีตโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, โส เตน ปวาริเตน ปฏิกฺเขปิโต นาม โหติ. เตนาห ‘‘ปวาริโตติ…เป… วุตฺตํ โหตี’’ติ. ปกาเรหิ ทิฏฺาทีหิ วาเรติ สงฺฆาทิเก ยาจาเปติ ภตฺเต กโรติ เอตายาติ ปวารณา, อาปตฺติวิโสธนาย อตฺตโวสฺสคฺโค โอกาสทานํ. สา ปน ยสฺมา เยภุยฺเยน วสฺสํวุตฺเถหิ กาตพฺพา วุตฺตา, ตสฺมา ‘‘วสฺสํวุตฺถปวารณา’’ติ วุตฺตํ. ปวาเรติ ปจฺจเย อิจฺฉาเปติ เอตายาติ ปวารณา, จีวราทีหิ อุปนิมนฺตนา. ปการยุตฺตา วารณาติ ปวารณา, วิปฺปกตโภชนตาทิจตุรงฺคสหิโต โภชนปฏิกฺเขโป. สา ปน ยสฺมา อนติริตฺตโภชนนิมิตฺตาย อาปตฺติยา การณํ โหติ, ตสฺมา ‘‘อนติริตฺตปวารณา’’ติ วุตฺตา. ยาวทตฺถโภชนสฺส ปวารณา ยาวทตฺถปวารณา, ปริโยสิตโภชนสฺส อุปนีตาหารปฏิกฺเขโปติ อตฺโถ.

‘‘ภุตฺตาวี’’ติ วจนโต โภชนปาริปูริตา อิธาธิปฺเปตาติ อาห ‘‘ปริปุณฺโณติ โภชเนน ปริปุณฺโณ’’ติ. ปริโยสิโตติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย ‘‘โภชเนน โภชนกิริยาย ปริโยสิโต’’ติ. อฏฺกถายํ ปน อธิปฺเปตตฺถํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตุํ โภชน-สทฺทสฺส โลโป วุตฺโต. ธาโตติ ติตฺโต. สาธกานีติ าปกานิ. ปริโยสิตโภชนํ สุหิตยาวทตฺถตาคหเณหิ ภุตฺตาวิตาทโย, ภุตฺตาวิตาทิคฺคหเณหิ วา อิตเร โพธิตา โหนฺตีติ อฺมฺํ เนสํ าปกาเปตพฺพตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โย หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ ฉหิปิ ปเทหิ อุทราวเทหกํ โภชนํ ทสฺสิตํ , ตฺจ โข ปริกปฺปนาวเสน. น หิ ภควา เอวํ ภุฺชติ. เตนาห ‘‘สพฺพฺเจตํ ปริกปฺเปตฺวา วุตฺต’’นฺติ.

‘‘สิยา เอว, นาปิ สิยา’’ติ จ อิทํ อตฺถทฺวยมฺปิ อิธ สมฺภวตีติ วุตฺตํ ‘‘อิธ อุภยมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ. อถาติ อนนฺตรํ, มม โภชนสมนนฺตรเมวาติ อตฺโถ. ตํ ปน ยสฺมา ยถาวุตฺตกาลปจฺจามสนํ โหติ, ตสฺมา ‘‘ตมฺหิ กาเล’’ติ วุตฺตํ. อปฺปรุฬฺหหริเตติ รุหมานติณาทิหริตรหิเต. อภาวตฺโถ จ อยํ อปฺป-สทฺโท ‘‘อปฺปิจฺโฉ’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๕๒, ๓๓๖; สํ. นิ. ๒.๑๔๘) วิย.

กถิเตปีติ ปิ-สทฺโท อวุตฺตสมุจฺจยตฺโถ. เตน วาปสมีกรณาทึ สงฺคณฺหาติ. ตถา เหส วุตฺต-สทฺโท ‘‘โน จ โข ปฏิวุตฺต’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๒๘๙) วาปสมีกรเณ ทิสฺสติ, ‘‘ปนฺนโลโม ปรทตฺตวุตฺโต’’ติอาทีสุ (จูฬว. ๓๓๒) ชีวิตวุตฺติยํ, ‘‘ปณฺฑุปลาโส พนฺธนา ปวุตฺโต’’ติอาทีสุ (ปารา. ๙๒; ปาจิ. ๖๖๖; มหาว. ๑๒๙; ม. นิ. ๓.๕๙) อปคเม, ‘‘คีตํ ปวุตฺตํ สมิหิต’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๘๕) ปาวจนภาเวน ปวตฺติเต, โลเก ปน ‘‘วุตฺตํ ปรายณ’’นฺติอาทีสุ (มหาภาส ๗.๒.๒๖) อชฺเฌเน ทิสฺสตีติ.

น เอตฺถ ปิณฺฑปาตโภชเนน ธมฺมทายาทตา นิวาริตา, ปิณฺฑปาตโภชนํ ปน อนาทริตฺวา ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺตีติ เอตฺถ การณํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปิณฺฑปาตํ…เป… วีตินาเมยฺยา’’ติ. ตตฺถ วีตินาเมยฺยาติ กมฺมฏฺานานุโยเคน เขเปยฺย. เตนาห ‘‘อาทิตฺตสีสูปมํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา’’ติ. อาทิตฺตสีสูปมนฺติอาทิตฺตสีสูปมสุตฺตํ.

กิฺจาปีติ อยํ ‘‘ยทิปี’’ติ อิมินา สมานตฺโถ นิปาโต. นิปาโต จ นาม ยตฺถ ยตฺถ วากฺเย ปยุชฺชติ, เตน เตน วตฺตพฺพตฺถโชตโก โหตีติ อิธ ‘‘ปิณฺฑปาต’’นฺติอาทินา อนุฺาปสํสาวเสน วุจฺจมานสฺส อตฺถสฺส โชตโกติ อธิปฺปาเยน ‘‘อนุชานนปสํสนตฺเถ นิปาโต’’ติ วุตฺตํ, อนุฺาปสํสารมฺเภ ปน ‘‘อสมฺภาวนตฺเถ’’ติ วุตฺตํ สิยา ปุริเมเยว สมฺภาวนาวิภาวนโต อธิกตฺตานุโลมโต จ.

เอกวารํ ปวตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺขิปนํ กถํ ทีฆรตฺตํ อปฺปิจฺฉตาทีนํ การณํ โหตีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ตสฺส หี’’ติอาทิ. ตตฺถ อตฺริจฺฉตาติ อตฺร อิจฺฉตีติ อตฺริจฺโฉ, ตสฺส ภาโว อตฺริจฺฉตา, อตฺถโต ปรลาภปตฺถนา. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ปุริเมเยว สกลาเภน อสนฺตุฏฺิ, ปรลาเภ จ ปตฺถนา, เอตํ อตฺริจฺฉตาลกฺขณ’’นฺติ (วิภ. อฏฺ. ๘๔๙). ปาปิจฺฉตาติ อสนฺตคุณสมฺภาวนาธิปฺปายตา. ปาปา อิจฺฉา เอตสฺสาติ ปาปิจฺโฉ, ตสฺส ภาโว ปาปิจฺฉตา. ยถาห ‘‘อสนฺตคุณสมฺภาวนตา ปฏิคฺคหเณ จ อมตฺตฺุตา, เอตํ ปาปิจฺฉลกฺขณ’’นฺติ (วิภ. อฏฺ. ๘๕๑). มหนฺตานิ วตฺถูนิ อิจฺฉติ, มหตี วา ตสฺส อิจฺฉาติ มหิจฺโฉ, ตสฺส ภาโว มหิจฺฉตา. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สนฺตคุณสมฺภาวนตา ปฏิคฺคหเณ จ อมตฺตฺุตา, เอตํ มหิจฺฉลกฺขณ’’นฺติ. ปจฺจเวกฺขมาโน นิวาเรสฺสตีติ โยชนา. อสฺส ภิกฺขุโน สํวตฺติสฺสติ ปิณฺฑปาตปฏิกฺเขโป.

มหิจฺโฉ ปุคฺคโล ยถา ปจฺจยทานวเสน ปจฺจยทายเกหิ ภริตุํ อสกฺกุเณยฺโย, เอวํ ปจฺจยปริเยสนวเสน อตฺตนาปีติ วุตฺตํ ‘‘อตฺตโนปิอุปฏฺากานมฺปิ ทุพฺภโร โหตี’’ติ. สทฺธาเทยฺยสฺส วินิปาตวเสน ปวตฺติยา อฺสฺส ฆเร ฉฑฺเฑนฺโต. ริตฺตปตฺโตวาติ เยสุ กุเลสุ ปฏิปิณฺฑวเสน ปวตฺตติ, เตสํ สพฺพปจฺฉิมํ อตฺตโน ยถาลทฺธํ ทตฺวา ตตฺถ กิฺจิ อลทฺธา ริตฺตปตฺโต วิหารํ ปวิสิตฺวา นิปชฺชติ ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺเยนาติ อธิปฺปาโย. ยถาลทฺธปจฺจยปริโภเคน, ปุน ปริเยสนานาปชฺชเนน อตฺตโน สุภรตา, ยถาลทฺธปจฺจเยน อวฺํ อกตฺวา สนฺโตสาปตฺติยา อุปฏฺากานํ สุภรตา เวทิตพฺพา.

กถาวตฺถูนีติ อปฺปิจฺฉตาทิปฏิสํยุตฺตานํ กถานํ วตฺถูนีติ กถาวตฺถูนิ, อปฺปิจฺฉตาทโย เอว. ตีณีติ ตีณิ กถาวตฺถูนิ. อภิสลฺเลขิกาติ อติวิย กิเลเส สลฺลิขตีติ อภิสลฺเลโข, อปฺปิจฺฉ ตาทิคุณสมุทาโย, โส เอติสฺสา อตฺถีติ อภิสลฺเลขิกา, มหิจฺฉตาทีนํ ตนุภาวาย ยุตฺตรูปา อปฺปิจฺฉตาทิปฏิสํยุตฺตตา. เจโตวินีวรณสปฺปายาติ กุสลจิตฺตุปฺปตฺติยา นิวารกานํ นีวรณานํ ทูรีภาวกรเณน เจโตวินีวรณสงฺขาตานํ สมถวิปสฺสนานํ สปฺปายา. สมถวิปสฺสนาจิตฺตสฺเสว วา วิภูติภาวกรณาย สปฺปายา อุปการิกาติ เจโตวินีวรณสปฺปายา. เอกนฺตนิพฺพิทายาติอาทิ เยน นิพฺพิทาทิอานิสํเสน อยํ กถา อภิสลฺเลขิกา เจโตวินีวรณสปฺปายา จ นาม โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ เอกนฺตนิพฺพิทายาติ เอกํเสน วฏฺฏทุกฺขโต นิพฺพินฺทนตฺถาย. วิราคาย นิโรธายาติ ตสฺเสว วิรชฺชนตฺถฺจ นิรุชฺฌนตฺถฺจ. อุปสมายาติ สพฺพกิเลสวูปสมาย. อภิฺายาติ สพฺพสฺสปิ อภิฺเยฺยสฺส อภิชานนาย. สมฺโพธายาติ จตุมคฺคสมฺโพธาย. นิพฺพานายาติ อนุปาทิเสสนิพฺพานาย. เอเตสุ หิ อาทิโต ตีหิ วิปสฺสนา วุตฺตา, ปุน ตีหิ มคฺโค, อิตเรน นิพฺพานํ. เตน สมถวิปสฺสนา อาทึ กตฺวา นิพฺพานปริโยสาโน อยํ สพฺโพ อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม ทสกถาวตฺถุลาภิโน สมฺภวตีติ ทสฺเสติ. ปริปูเรสฺสนฺตีติ ตํสภาวโต อุปการโต จ สํวตฺติสฺสนฺติ. อปฺปิจฺฉตาทโย หิ เอกวารอุปฺปนฺนา อุปริ ตทตฺถาย สํวตฺติสฺสนฺติ. กถาวตฺถุปริปูรณํ สิกฺขาปริปูรณฺจ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

อมตํ นิพฺพานนฺติ อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุํ. อิตรา ปน เสกฺขาเสกฺขธมฺมปาริปูริยา ปริปุณฺณา. นิพฺพานปาริปูริ เจตฺถ ตทาวหธมฺมปาริปูริวเสน ปริยายโต วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อิทานิ ยายํ อปฺปิจฺฉตาทีนํ อนุกฺกมปริวุทฺธิยา คุณปาริปูริตา, ตํ อุปมาย สาเธนฺโต ‘‘เสยฺยถาปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปาวุสฺสโกติ วสฺสานมาเส อุฏฺิโต. โส หิ จิรานุปฺปวตฺติ โหติ. ปพฺพตกนฺทรา ปพฺพเตสุ อุปจฺจกาธิจฺจกาปภวนิชฺฌราทินทิโย. สรสาขาติ ยตฺถ อุปริอุนฺนตปเทสโต อุทกํ อาคนฺตฺวา ติฏฺติ เจว สนฺทติ จ, เต. กุโสพฺภา ขุทฺทกตฬากา. กุนฺนทิโยติ ปพฺพตปาทโต นิกฺขนฺตา ขุทฺทกนทิโย. ตา หิ มหานทิโย โอตรนฺติโย ปริปูเรนฺติ. ปรมธมฺมทายาทนฺติ ปรมํ อุตฺตมํ ธมฺมทายาทภาวํ, ปรมํ ธมฺมทายชฺชํ วา. เต ภิกฺขูติ เต ธมฺมปฏิคฺคาหเก ภิกฺขู. สนฺนิโยเชนฺโตติ มูลคุเณหิ อปฺปิจฺฉตาทีหิ โยเชนฺโต.

อุคฺคเหตฺวาติ อตฺถโต พฺยฺชนโต จ อุปธารณวเสน คเหตฺวา อวิปรีตํ คเหตฺวา. สํสนฺเทตฺวาติ มม เทสนานุสาเรน มมชฺฌาสยํ อวิรชฺฌิตฺวา. ยถา อิเธว จินฺเตสีติ ยถา อิมิสฺสา ธมฺมทายาทเทสนาย จินฺเตสิ, เอวํ อฺตฺถาปิ ธมฺมโถมนตฺถํ คนฺธกุฏึ ปวิสนฺโต จินฺเตสิ. เอกชฺฌาสยายาติ สมานาธิปฺปายาย. มติยาติ ปฺาย. อยํ เทสนา อคฺคาติอาทิ ภควา ธมฺมเสนาปตึ คุณโต เอว ปคฺคณฺหาตีติ กตฺวา วุตฺตํ.

จิตฺตคติยาติ จิตฺตวเสน กายสฺส ปริณามเนน ‘‘อยํ กาโย อิทํ จิตฺตํ วิย โหตู’’ติ กายสฺส จิตฺเตน สมานคติกตาธิฏฺาเนน. กถํ ปน กาโย ทนฺธปฺปวตฺติโก ลหุปริวตฺตนจิตฺเตน สมานคติโก โหตีติ? น สพฺพถา สมานคติโก. ยเถว หิ กายวเสน จิตฺตปริณามเน จิตฺตํ สพฺพถา กาเยน สมานคติกํ น โหติ. น หิ ตทา จิตฺตํ สภาวสิทฺเธน อตฺตโน ขเณน อวตฺติตฺวา ทนฺธวุตฺติกสฺส รูปธมฺมสฺส ขเณน วตฺติตุํ สกฺโกติ, ‘‘อิทํ จิตฺตํ อยํ กาโย วิย โหตู’’ติ ปน อธิฏฺาเนน ทนฺธคติกสฺส กายสฺส อนุวตฺตนโต ยาว อิจฺฉิตฏฺานปฺปตฺติ, ตาว กายคตึ อนุโลเมนฺตเมว หุตฺวา สนฺตานวเสน ปวตฺตมานํ จิตฺตํ กายคติกํ กตฺวา ปริณามิตํ นาม โหติ, เอวํ ‘‘อยํ กาโย อิทํ จิตฺตํ วิย โหตู’’ติ อธิฏฺาเนน ปเคว ลหุสฺาย สุขุมสฺาย จ สมฺปาทิตตฺตา อภาวิติทฺธิปาทานํ วิย ทนฺธํ อวตฺติตฺวา ยถา ลหุํ กติปยจิตฺตวาเรเหว อิจฺฉิตฏฺานปฺปตฺติ โหติ , เอวํ ปวตฺตมาโน กาโย จิตฺตคติกภาเวเนว ปริณามิโต นาม โหติ, น เอกจิตฺตกฺขเณเนว ปวตฺติยา. เอวฺจ กตฺวา พาหุสมิฺชนปฺปสารณูปมาปิ อุปจาเรน วินา สุฏฺุตรํ ยุตฺตา โหติ, อฺถา ธมฺมตาวิโลมิตา สิยา. น หิ ธมฺมานํ ลกฺขณฺถตฺตํ อิทฺธิพเลน กาตุํ สกฺกา, ภาวฺถตฺตเมว ปน สกฺกาติ.

๓๑. ภควโต อธิปฺปายานุรูปํ ภิกฺขูนฺจ อชฺฌาสยํ ตฺวาติ วจนเสโส. เทสกาเล วิย ภาชนมฺปิ โอโลเกตฺวา เอว มหาเถโร ธมฺมํ กเถติ. ปกฺกนฺตสฺสาติ อิทํ อนาทเร สามิวจนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปกฺกนฺตสฺส สโต’’ติอาทิมาห. กิตฺตเกนาติ เกน ปริมาเณน. ตํ ปน ปริมาณํ ยสฺมา ปริเมยฺยสฺส อตฺถสฺส ปริจฺฉินฺทนํ โหติ, ตสฺมา ‘‘กิตฺตาวตาติ ปริจฺเฉทวจน’’นฺติ อาห. นุกาโร ปุจฺฉายนฺติ อยํ นุ-สทฺโท อิเธว ปุจฺฉายํ อาคโตติ กตฺวา วุตฺตํ. นุ-สทฺเทน เหตฺถ โชติยมาโน อตฺโถ กึ-สทฺเทน ปริมาโณ อตฺโถ ปริเมยฺยตฺโถ จ. เอตฺถ สํกิเลสปกฺโข วิเวกสฺส อนนุสิกฺขนํ อามิสทายาทตา, โวทานปกฺโข ตสฺส อนุสิกฺขนํ ธมฺมทายาทตาติ. ตีหิ วิเวเกหีติ วิเวกตฺตยคฺคหณํ ตทนฺโตคธตฺตา วิเวกปฺจกสฺส. วิเวกปฺจกคฺคหเณ ปนสฺส สรูเปน กายวิเวโก คหิโต น สิยา, ตทายตฺตตฺตา วา สตฺถารา ตทา ปยุชฺชมานวิเวกทสฺสนวเสน ‘‘ตีหิ วิเวเกหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฺตรมฺปีติ กสฺมา วุตฺตํ. น หิ กายวิเวกมตฺเตน ธมฺมทายาทภาโว สิชฺฌตีติ? น, วิเวกทฺวยสนฺนิสฺสยสฺเสว กายวิเวกสฺส อิธาธิปฺเปตตฺตา. เอวฺจ กตฺวา จิตฺตวิเวกคฺคหณมฺปิ สมตฺถิตํ โหติ. น หิ โลกิยชฺฌานาธิคมมตฺเตน นิปฺปริยายโต สตฺถุธมฺมทายาทภาโว อิจฺฉิโต, นิพฺพานาธิคเมน ปน โส อิจฺฉิโต, ตสฺมา สพฺพาปิ สาสเน วิเวกานุสิกฺขนา นิพฺพานโปณา นิพฺพานปพฺภารา นิพฺพาโนคธา จาติ วุตฺตํ ‘‘ติณฺณํ วิเวกานํ อฺตรมฺปี’’ติ. อสติ อาโลเก อนฺธกาโร วิย อสติ ธมฺมทายาทตาย เอกํสิยา อามิสทายาทตาติ อาห ‘‘อามิสทายาทาว โหนฺตี’’ติ. เอส นโย สุกฺกปกฺเขปีติ กณฺหปกฺขโต สาธารณวเสน ลพฺภมานํ อตฺถสามฺํ อติทิสติ, น อตฺถวิเสสํ ตสฺส วิสทิสตฺตา, อตฺถวิเสสเมว วา อติทิสติ วิสทิสูทาหรณูปายาเยน. ‘‘ติณฺณํ วิเวกานํ อฺตร’’นฺติ อิทํ อิธ น ลพฺภติ. ตโยปิ หิ วิเวกา, เตสุ เอโก วา อิตรทฺวยสนฺนิสฺสโย อิธ ลพฺภติ.

ทูรโตปีติ ทูรฏฺานโตปิ. เตนาห ‘‘ติโรรฏฺโตปี’’ติอาทิ. กามํ ‘‘ปฏิภาตู’’ติ เอตฺถ ปฏิ-สทฺทาเปกฺขาย ‘‘สาริปุตฺต’’นฺติ อุปโยควจนํ, อตฺโถ ปน สามิวจนวเสเนว เวทิตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อายสฺมโตเยว สาริปุตฺตสฺสา’’ติ. ภาโค โหตูติ อิมินาภาคตฺโถ ปฏิ-สทฺโทติ ทสฺเสติ ลกฺขณาทิอตฺถานํ อิธ อยุชฺชนโต. เตนาห ‘‘เอวํ สทฺทลกฺขเณน สเมตี’’ติ. ทิสฺสตูติ าเณน ทิสฺสตุ, ปสฺสตูติ วา อตฺโถ. อุปฏฺาตูติ าณสฺส ปจฺจุปติฏฺตุ. อุคฺคเหสฺสนฺตีติ วาจุคฺคตํ กริสฺสนฺติ. วาจุคฺคตกรณฺหิ อุคฺคโห. ปริยาปุณิสฺสนฺตีติ ตสฺเสว เววจนํ. ปุริปุจฺฉนาทินา วา อตฺถสฺส จิตฺเต อาปาทนํ ปฏฺปนํ ปริยาปุณนํ. การณวจนนฺติ ยถาวุตฺตสฺส การณภาเวน วจนํ ‘‘เหตุมฺหิ กรณวจน’’นฺติ กตฺวา. วุตฺตตฺถปจฺจามสนํ ตํ-สทฺเทน กรียตีติ. เตนาห ‘‘ยสฺมา’’ติอาทิ.

เอเกเนวากาเรนาติ อามิสทายาทตาสิทฺเธน อาทิยตาสงฺขาเตน เอเกเนว ปกาเรน. ตเมว หิ อาการํ สนฺธายาห ‘‘ภควตา วุตฺตมตฺถ’’นฺติ. อฺถา ‘‘สตฺถุ ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต สาวกา วิเวกํ นานุสิกฺขนฺตี’ติ เอเกเนว อากาเรน โส อตฺโถ เถเรนปิ วุตฺโต. ตีหิ อากาเรหีติ อามิสทายาทปฏิปทาภูเตหิ ติณฺณํ วิเวกานํ อนนุสิกฺขนากาเรหิ. เอตฺตาวตาติ ‘‘อิธาวุโส…เป… นานุสิกฺขนฺตี’’ติ เอตฺตเกน กณฺหปกฺเข อุทฺเทสปาเน.

วิตฺถารโต สุวิภตฺโต โหติ อนวเสสโต สมฺมเทว นิทฺทิฏฺตฺตา. นนุ จ อุทฺเทเส สตฺถุโนปิ อาทิยตา ภควตา คหิตา, สา น นิทฺทิฏฺาติ อนุโยคํ สนฺธายาห ‘‘โส จ โข’’ติอาทิ. สาวเก อนุคฺคณฺหนฺตสฺสาติ ‘‘อามิสทายาทา สตฺถุ สาวกา’’ติ สตฺถุ ปรปฺปวาทปริหรณตฺถมฺปิ ‘‘ตุมฺเหหิ ธมฺมทายาเทหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ เอวํ สาวเก อนุกมฺปมานสฺส. สาวกานํ ตํ น ยุตฺตํ สามีจิอภาวโตติ โยชนา. เอส นโยติ ยทิทํ ‘‘เอตฺตาวตายํ ภควา’’ติอาทินา กณฺหปกฺเข อุทฺเทสสฺส อตฺถวิภาคทสฺสนมุเขน สมฺพนฺธทสฺสนํ, เอส นโย สุกฺกปกฺเขปิ สมฺพนฺธทสฺสเนติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อยํ ตาเวตฺถ อนุสนฺธิกฺกมโยชนา’’ติ, สตฺถารา เทสิตาย อุทฺเทสเทสนาย มหาเถเรน เทสิตาย จ อนุสนฺธิกฺกเมน สมฺพนฺโธติ อตฺโถ. ยถานุสนฺธิ เอว เจตฺถ อนุสนฺธิ เวทิตพฺโพ.

อจฺจนฺตปวิวิตฺตสฺสาติ เอกนฺตอุปธิวิเวโก วิย อิตเรปิ วิเวโก สตฺถุ เอกนฺติกาวาติ. อนุสิกฺขนํ นาม อนุ อนุ ปูรณนฺติ ตปฺปฏิกฺเขเปน อาห ‘‘น ปริปูเรนฺตี’’ติ, น ปริพฺรูเหนฺตีติ อตฺโถ, น ปริปูเรนฺตีติ วา น ปริปาเลนฺตีติ อตฺโถ. ยทคฺเคน หิ วิเวกํ นานุสิกฺขนฺติ, ตทคฺเคน น ปริพฺรูเหนฺติ, น ปริปาเลนฺตีติ วา วตฺตพฺพตํ ลภนฺตีติ. กสฺมา ปเนตฺถ ‘‘วิเวกํ นานุสิกฺขนฺตี’’ติ อุทฺเทเส วิย อวิเสสวจเน กายวิเวกสฺเสว คหณํ กตนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ยทิ ปนา’’ติอาทิ. ปุจฺฉายาติ ปุจฺฉาโต อวิเสโส สิยา วิภาคสฺส อลพฺภมานตฺตา วิสฺสชฺชนสฺส. นนุ จ ‘‘วิเวกํ นานุสิกฺขนฺตี’’ติ อวิเสสวจนโต ปาฬิยํ วิภาโค น ลพฺภเตวาติ? น, ปทนฺตเรน วิภาวิตตฺตา. เตนาห ‘‘เยสฺจ ธมฺมาน’’นฺติอาทิ. พฺยากรณปกฺโขติ วิสฺสชฺชนปกฺโข. วิสฺสชฺชนฺจ น ปุจฺฉา วิย อวิเสสโชตนา , อถ โข ยถาธิปฺเปตตฺถวิภชนนฺติ อธิปฺปาโย. อิมินา ปเทนาติ ‘‘วิเวกํ นานุสิกฺขนฺตี’’ติ อิมินา ปเทน กายวิเวกํ อปริปูริยมานํ ทสฺเสตีติ อธิปฺปาโย. จิตฺตวิเวกํ อุปธิวิเวกนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

เอตฺถ จ นปฺปชหนฺตีติ ปหาตพฺพธมฺมานํ ปหานาภาววจนํ ปหานลกฺขณวิเวกาภาวทีปนํ, ตํ วตฺวา ปุน ‘‘วิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา’’ติ วจนํ ตโต สาติสยวิเวกาภาวทีปนนฺติ ตทุภยวิเวกาภาวทสฺสเนน ‘‘เยสฺจ ธมฺมาน’’นฺติอาทินาว ปาริเสสาเยน ‘‘วิเวกํ นานุสิกฺขนฺตี’’ติ อิมินา วิเวกทฺวยมูลภูตกายวิเวกาภาวทสฺสนํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อวิคตตณฺหตาย ตํ ตํ ปริกฺขารชาตํ พหุํ ลนฺติ อาทิยนฺตีติ พหุลา, พหุลา เอว พาหุลิกา ยถา ‘‘เวนยิโก’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔๖; อ. นิ. ๘.๑๑; ปารา. ๘). เต ปน ยสฺมา ปจฺจยพหุลภาวาย ยุตฺตปฺปยุตฺตา นาม โหนฺติ, ตสฺมา อาห ‘‘จีวราทิพาหุลฺลาย ปฏิปนฺนา’’ติ. สิกฺขาย อาทรภาวาภาวโต สิถิลํ อทฬฺหํ คณฺหนฺตีติ ‘‘สาถลิกา’’ติ วุตฺตํ. สิถิลนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส, สิถิล-สทฺเทน วา สมานตฺถสฺส สาถล-สทฺทสฺส วเสน ‘‘สาถลิกา’’ติ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. อวคมนฏฺเนาติ อโธคมนฏฺเน , โอรมฺภาคิยภาเวนาติ อตฺโถ. อุปธิวิเวเกติ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคตาย อุปธีหิ วิวิตฺเต. โอโรปิตธุราติ อุชฺฌิตุสฺสาหา.

อนิยเมเนวาติ กิฺจิ วิเสสํ อนามสิตฺวา ‘‘สาวกา’’ติ อวิเสเสเนว. นิยเมนฺโต‘‘เถรา’’ติอาทินา. ทสวสฺเส อุปาทายาติ ทสวสฺสโต ปฏฺาย. อิสฺสริเยติ ‘‘เสฏฺิฏฺานํ เสนาปติฏฺาน’’นฺติอาทีสุ วิย. อจิรกฺขโณภาเสน ลกฺขเวธโก อกฺขณเวธิ. ิติยนฺติ อวฏฺาเน. านโสติ ตงฺขเณเยว. ติฏฺตีติ อาธาราเธยฺยภาเวนาติ อาห ‘‘ตทายตฺตวุตฺติภาเวนา’’ติ. อุเปกฺขานุพฺรูหนา สตฺตสงฺขาเรสุ อุทาสีนตาปิ อสงฺขตาธิคมสฺส อุปาโยติ ตพฺพิปริยายโต จีวราทิมณฺฑนา น อุปธิวิเวกปาริปูริยา สํวตฺตตีติ อาห ‘‘จีวรปตฺต…เป… อปูรยมานา’’ติ. ตตฺถาติ เถรวาเร. อิธาติ มชฺฌิมนวกวาเรสุ. ตถา หิ ‘‘มชฺฌิมเถรกาเล’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๓๒. อิมสฺมิฺจ กณฺหปกฺเขติ อิมสฺมิฺจ นิทฺเทสวาเร กณฺหปกฺเข, น อุทฺเทสวาเร กณฺหปกฺเข. อุทฺเทสวาเร ปน กณฺหปกฺเข วุตฺตวิปริยาเยน คเหตพฺพตฺโถ ‘‘เอส นโย สุกฺกปกฺเขปี’’ติ อติเทเสน ทสฺสิโต. วุตฺตปจฺจนีกนเยนาติ ‘‘กายวิเวกํ นานุสิกฺขนฺติ น ปริปูเรนฺตี’’ติอาทินา วุตฺตสฺส อตฺถสฺส ปจฺจนีกนเยน, ‘‘กายวิเวกํ อนุสิกฺขนฺติ ปริปูเรนฺตี’’ติอาทินา นเยน. เอตฺถาติ เอตสฺมึ สุกฺกปกฺเข. สงฺเขโปติ อตฺถสงฺเขโป. โยชนปรมฺปรายาติ คามนฺตโต ทูรภาเวน เอกํ ทฺเว ตีณีติ เอวํ โยชนานํ ปฏิปาฏิยา. อรฺวนปตฺถานีติ อรฺเสุ วนสณฺฑภูตานิ. ปนฺตานีติ ปริยนฺตานิ. อุปคนฺตุํ ยุตฺตกาโล ชราชิณฺณกาโล โคจรคาเม ทูเร คมนาคมนสมตฺถตาภาวโต. ‘‘เอวํ คุณวนฺเตสุ ทินฺนํ อโห สุทินฺน’’นฺติ ปจฺจยทายกานํ ปสาทํ ชเนนฺติ. ปาสํสาติ ปสํสิตพฺพา. อยมฺปิ มหาเถโรติอาทิ เอกํ อปฺปมาทวิหารินํ วุทฺธตรํ นิทฺทิสิตฺวา วทนฺตานํ วเสน วุตฺตํ. ปวิฏฺโ วิเวกฏฺานํ. สายํ นิกฺขมติ โยนิโสมนสิการํ อุปพฺรูเหตฺวาติ อธิปฺปาโย. กสิณปริกมฺมํ กโรติ, น ยํ กิฺจิ กิจฺจนฺตรํ. สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตติ, น โมฆมนสิการํ. สพฺพถาติอาทิโต ตาว ตทงฺควเสน กิเลเสหิ จิตฺตํ วิเวเจนฺโต ตโต วิกฺขมฺภนวเสน สมุจฺเฉทวเสน ปฏิปสฺสทฺธิวเสนาติ สพฺพปฺปกาเรน จิตฺตวิเวกํ ปูเรติ. ปํสุกูลานิ ธาเรตีติ อิมินา พาหุลิกตาภาวํ ทสฺเสติ, อสิถิลํ สาสนํคเหตฺวาติ อิมินา สาถลิกตาภาวํ, วิคตนีวรโณติ อิมินา โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรตํ, ผลสมาปตฺตินฺติอาทินา ปวิเวกปุพฺพงฺคมตํ ทสฺเสติ.

๓๓. ตตฺราวุโสติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. เตน ‘‘โลโภ จ ปาปโก’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ อุปริเทสนํ อนวเสสโต ปริยาทิยติ. โก อนุสนฺธีติ ยา สา ภควตา สํกิเลสปกฺเขน สห ธมฺมทายาทปฏิปตฺติภาวินี ‘‘ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว, ภวถ, มา อามิสทายาทา’’ติอาทินา เทสนา อุทฺทิฏฺา, ตํ ‘‘สตฺถุ ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต’’ติอาทินา อารภิตฺวา อฏฺารสวารปฏิมณฺฑิตาย นิทฺเทสเทสนาย วิภชิตฺวา ตโต ปรํ ‘‘ตตฺราวุโส โลโภ จ ปาปโก’’ติอาทินยาย อุปริเทสนาย สมฺพนฺธํ ปุจฺฉติ. เอวนฺติ สํกิเลสปกฺเข ‘‘นปฺปชหนฺตี’’ติ ปหานาภาวทสฺสนวเสน, โวทานปกฺเข ‘‘ปชหนฺตี’’ติ ปหานสพฺภาวทสฺสนวเสนาติ เอวํ. อนิทฺธาริตสรูปา ยํ-ตํ-สทฺเทหิ ธมฺม-สทฺเทน สามฺโต เย ปหาตพฺพธมฺมา วุตฺตา, เต สรูปโต ทสฺเสตุนฺติ โยชนา. อิเม เตติ เอตฺถ กสฺมา โลภาทโย เอว ปหาตพฺพธมฺมา วุตฺตา, นนุ อิโต อฺเปิ โมหทิฏฺิวิจิกิจฺฉาทโย ปหาตพฺพธมฺมา สนฺตีติ? สจฺจํ สนฺติ, เต ปน โลภาทีหิ ตเทกฏฺตา คหิตา เอว โหนฺตีติ วุตฺตา. อถ วา อิเมสํเยเวตฺถ คหเณ การณํ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ.

อิทานิ อุปจเยน อนุสนฺธึ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สาวกานํ ยสฺส ธมฺมสฺส ทายาทภาโว สตฺถุ อภิรุจิโต, โส ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺาเน ภาเวตี’’ติอาทินา อกตฺเถตฺวา ‘‘วิเวกํ อนุสิกฺขนฺติ, เต จ ธมฺเม ปชหนฺติ, น จ พาหุลิกา’’ติอาทินา กถิตตฺตา เหฏฺา ปริยาเยเนว ธมฺโม กถิโตติ วุตฺตํ. ‘‘เต จ ธมฺเม นปฺปชหนฺติ, โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา’’ติอาทินา อามิสํ ปริยาเยนปิ กถิตํ. ‘‘สิยา จ เม ปิณฺฑปาโต’’ติอาทินา, ‘‘พาหุลิกา จ โหนฺตี’’ติอาทินา จ อามิสํ นิปฺปริยาเยนปิ กถิตํ. อถ วา ยายํ ภควตา อามิสทายาทปฏิกฺเขปนา ธมฺมทายาทตา วุตฺตา, ยฺจ ตทตฺถํ วิภชนฺเตน มหาเถเรน อตฺตนา วิเวกานุสิกฺขนาทิ วุตฺตํ, ตทุภยํ เหตุวเสน วิภาเวตุํ ‘‘ตตฺราวุโส, โลโภ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ . เหตุนิโรเธน หิ สํกิเลสปกฺขสฺส, นิโรธเหตุสมฺปาทเนน จ โวทานปกฺขสฺส ตปฺปาปกตา.

อตีตเทสนานิทสฺสนนฺติ อตีตาย เถเรน ยถาเทสิตาย เทสนาย จ ปจฺจามสนํ. เตเนวาห ‘‘สตฺถุ ปวิวิตฺตสฺส…เป… เทสนายนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. ตตฺถาติ ยํ วุตฺตํ วิเสสโต ‘‘เยสํ ธมฺมานํ สตฺถา ปหานมาหา’’ติ, เอตสฺมึ ปเท. ตตฺถ หิ ปหาตพฺพธมฺมา โลภาทโย สามฺโต วุตฺตา. ลามกาติ นิหีนา. โลภโทสา หิ เหตุโต ปจฺจยโต สภาวโต ผลโต นิสฺสนฺทโต สํกิลิฏฺปกติกา, อายตึ ทุกฺขสฺส ปาปนฏฺเน วา ปาปกา. ลุพฺภนลกฺขโณติ อารมฺมณสฺส อภิคิชฺฌนลกฺขโณ. ตถา หิ โส ลุพฺภนฺติ เตน, สยํ วา ลุพฺภติ, ลุพฺภนมตฺตเมว วา ตนฺติ ‘‘โลโภ’’ติ วุจฺจติ. รสาทีสุ อภิสงฺครโส, อปริจฺจาคปจฺจุปฏฺาโน, สํโยชนิเยสุ ธมฺเมสุ อสฺสาททสฺสนปทฏฺาโน. ทุสฺสนลกฺขโณติ อารมฺมเณ พฺยาปชฺชนลกฺขโณ. ตถา หิ โส ทุสฺสนฺติ เตน, สยํ วา ทุสฺสติ, ทุสฺสนมตฺตเมว วา ตนฺติ ‘‘โทโส’’ติ วุจฺจติ. รสาทีสุ วิสปฺปนรโส, สนิสฺสยทหนรโส วา, ทุสฺสนปจฺจุปฏฺาโน, อาฆาตวตฺถุปทฏฺาโน.

เตสูติอาทินา ทสฺสเนน โลภโทสานํ เอกนฺตโต ปหาตพฺพตาทสฺสนํ. อามิสทายาทสฺส ปจฺจยานํ ลาเภ โหตีติ อิทํ โลภสฺส อารมฺมณคฺคหณสภาวตํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตณฺหาย วเสน ปน อนุคิชฺฌนํ สนฺธาย ‘‘อลทฺธํ ปตฺเถตี’’ติ อาห. อลาเภ ปจฺจยานํ อามิสทายาทสฺส โหตีติ อาเนตฺวา โยชนา. อลภนฺโตติ เอตฺถ ‘‘ปจฺจเย’’ติ วิภตฺตึ ปริณาเมตฺวา โยเชตพฺพํ. วิฆาตวาติ ‘‘ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ, ตมฺปิ ทุกฺข’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๒๐; วิภ. ๑๙๐) วจนโต อิจฺฉาวิฆาตวา. โลโภ จ เทยฺยธมฺเม โหติ อามิสทายาทสฺสาติ สมฺพนฺโธ. เอส นโย อนนฺตรปเทปิ. เทยฺยธมฺเมติ จ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ สตฺตเกลายนาทิวเสนปิ ตสฺส โลภุปฺปตฺติสพฺภาวโต. ‘‘ตณฺหํ ปฏิจฺจ ปริเยสนา, ปริเยสนํ ปฏิจฺจ ลาโภ’’ติ เอวมาทโย นว ตณฺหามูลกา. ปริปูเรติ อามิสทายาโทติ วิภตฺติวิปริณาโม เวทิตพฺโพ. อาวาสมจฺฉริยาทีนิ ปฺจ มจฺฉริยานิ.

มคฺคนฺติ อริยมคฺคํ. โส หิ กิเลเส มาเรนฺโต คจฺฉติ, นิพฺพานตฺถิเกหิ จ มคฺคียติ, สยํ วา สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน นิพฺพานํ มคฺคตีติ นิปฺปริยาเยน ‘‘มคฺโค’’ติ วุจฺจติ. เอโก อนฺโตติ อิตเรน อสมฺมิสฺโส เอโก โกฏฺาโส, หีนตาย วา ลามกฏฺเน เอโก อนฺโต. กามํ อฺเปิ กุสลธมฺมา เอเต อนฺเต อสมฺปโยคโต น อุเปนฺติ, เตหิ วิมุตฺตา เอว, อยํ ปน อจฺจนฺตวิมุตฺติยา น อุเปตีติ อาห ‘‘วิมุตฺโต เอเตหิ อนฺเตหี’’ติ. ตสฺมาติ อนฺตทฺวยวิมุตฺตตฺตา. เอเตสํ มชฺเฌ ภวตฺตาติ อิทํ มคฺคสฺส อุภยนฺตวิมุตฺตตาย เอว วุตฺตํ, น ตปฺปริยาปนฺนตาย, วฏฺฏทุกฺขนิสฺสรณตฺถิเกหิ ปฏิปชฺชิตพฺพโต จ. ตถาติ ยถา อิตเรน อสมฺมิสฺสฏฺเน ลามกฏฺเน จ โลโภ เอโก อนฺโต, ตถา กามสุขลฺลิกานุโยโคติ อตฺโถ. เอส นโย เสเสสุปิ. มคฺคสฺส อนุปคมนฺจ เนสํ อนฺตานํ สพฺพโส อปฺปวตฺติกรเณเนว ทฏฺพฺพํ. ปุริมนเยนาติ ‘‘เอเต ทฺเว อนฺเต น อุเปตี’’ติอาทินา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน.

สจฺจานนฺติ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ. ทสฺสนปริณายกฏฺเนาติ ทสฺสนสฺส ปริฺาภิสมยาทิเภทสฺส ปริโต สพฺพถา นยนฏฺเน ปวตฺตนฏฺเน. จกฺขุกรณีติ ธมฺมจกฺขุสฺส กรณี นิปฺผาทิกา. ตยิทํ สติปิ ปฏิปทาย ธมฺมจกฺขุโต อนฺตฺเต อวยววเสน สิชฺฌมาโน อตฺโถ สมุทาเยน กโต นาม โหตีติ อุปจารวเสน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘มคฺโคเยว หิ มคฺคตฺถาย สํวตฺตติ มคฺเคน กาตพฺพกิจฺจกรณโต’’ติ. าณายาติ ยาถาวโต ชานนาย. เตนาห ‘‘วิทิตกรณฏฺเนา’’ติ. วิเสสาตภาวาปาทนฺหิ วิทิตกรณํ. วูปสมนโตติ สมุจฺฉินฺทนวเสน วูปสมนโต. ทุกฺขาทีนํ ปริฺเยฺยาทิภาโว วิย อภิฺเยฺยภาโวปิ มคฺควเสเนว ปากโฏ โหตีติ อาห ‘‘จตุนฺนมฺปิ สจฺจานํ อภิฺเยฺยภาวทสฺสนโต’’ติ, วิภาวนโตติ อตฺโถ. สมฺโพโธติ มคฺโค ‘‘สมฺพุชฺฌติ เอเตนา’’ติ กตฺวา. ตสฺสตฺถายาติ มคฺคกิจฺจตฺถาย. น หิ มคฺคโต อฺโ มคฺคกิจฺจกโร อตฺถิ. เตนาห ‘‘มคฺโคเยว หี’’ติอาทิ. อถ วา สมฺมาทิฏฺิ อุปฺปชฺชมานา สหชาตาทิปจฺจยภาเวน อิตเร อุปฺปาเทติ, เอวํ เสสมคฺคธมฺมาปีติ เอวมฺปิ มคฺคตฺถาย สํวตฺตนํ เวทิตพฺพํ. สจฺฉิกิริยาย ปจฺจกฺขกมฺมายาติ สจฺฉิกรณสงฺขาตปจฺจกฺขกมฺมาย. นิพฺพานายาติ วา อนุปาทิเสสนิพฺพานาย. อุปสมายาติ อิมินา สอุปาทิเสสนิพฺพานํ คหิตนฺติ. อยนฺติ ‘‘สา หิ สจฺจาน’’นฺติอาทินา ยถาวุตฺโต อตฺถนโย. เอตฺถาติ ‘‘จกฺขุกรณี’’ติอาทีสุ ปเทสุ. สาโร สุนฺทโร อนปนีโต. อิโต อฺถาติ ‘‘ทุกฺขสฺส ปริฺาย ทิฏฺิวิสุทฺธึ กโรตีติ จกฺขุกรณี’’ติอาทินา อตฺถวณฺณนาปปฺโจ เกวลํ วิตฺถารตฺถาย.

อยเมวาติ เอตฺถ อยนฺติ อิมินา อตฺตโน อฺเสฺจ ตสฺสํ ปริสายํ อริยานํ มคฺคสฺส ปจฺจกฺขภาวํ ทสฺเสติ. อาสนฺนปจฺจกฺขวาจี หิ อยํ-สทฺโท. อฺมคฺคปฏิเสธนตฺถนฺติ อฺสฺส นิพฺพานคามิมคฺคสฺส อตฺถิภาวปฏิเสธนตฺถํ. สตฺตาปฏิกฺเขโป หิ อิธ ปฏิเสธนํ อลพฺภมานตฺตา อฺสฺส มคฺคสฺส. พุทฺธาทีนํ สาธารณภาโว อนฺตา. เตนาห พฺรหฺมา สหมฺปติ –

‘‘เอกายนํ ชาติขยนฺตทสฺสี,

มคฺคํ ปชานาติ หิตานุกมฺปี;

เอเตน มคฺเคน ตรึสุ ปุพฺเพ,

ตริสฺสนฺติ เย จ ตรนฺติ โอฆ’’นฺติ. (สํ. นิ. ๕.๓๘๔, ๔๐๙; มหานิ. ๑๙๑; จูฬนิ. ๑๐๗, ๑๒๑; เนตฺติ. ๑๗๐);

อารกตฺตาติ อิมินา นิรุตฺตินเยน อริย-สทฺทสิทฺธิมาห. อริปหานายาติ อตฺถวจนมตฺตํ. อรโย ปาปธมฺมา ยนฺติ อปคมนฺติ เอเตนาติ อริโย. อริเยน เทสิโตติ เอตฺถ อริยสฺส ภควโต อยนฺติ อริโย. อริยภาวปฺปฏิลาภายาติ เอตฺถ อริยกโร อริโยติ อุตฺตรปทโลเปน อริย-สทฺทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. ยสฺมา มคฺคงฺคสมุทาเย มคฺคโวหาโร โหติ, สมุทาโย จ สมุทายีหิ สมนฺนาคโต นาม โหตีติ อาห ‘‘อฏฺหิ องฺเคหิ อุเปตตฺตา’’ติ, ตสฺมา อตฺตโน อวยวภูตานิ อฏฺ องฺคานิ เอตสฺส สนฺตีติ อฏฺงฺคิโก. ยสฺมา ปน ปรมตฺถโต องฺคานิเยว มคฺโค, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘น จ องฺควินิมุตฺโต’’ติ ยถา ‘‘ฉฬงฺโค เวโท’’ติ. สทิสูทาหรณํ ปน ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺจงฺคิกตูริยาทีนิ วิยา’’ติ อาห. อาทิ-สทฺเทน จตุรงฺคินี เสนาติ เอวมาทีนํ สงฺคโห. มาเรนฺโต คจฺฉตีติ นิรุตฺตินเยน สทฺทสิทฺธิมาห. มคฺคตีติ คเวสติ. อริยมคฺโค หิ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรนฺโต ตํ คเวสนฺโต วิย โหตีติ. มคฺคียติ นิพฺพานตฺถิเกหิ วิวฏฺฏูปนิสฺสยปุฺกรณโต ปฏฺาย ตทตฺถํ ปฏิปตฺติโต. คมฺมตีติ เอเตน อาทิอนฺตวิปริยาเยน สทฺทสิทฺธิมาห ยถา ‘‘กกู’’ติ. ‘‘เสยฺยถิทนฺติ นิปาโต’’ติ วตฺวา ตสฺส สพฺพลิงฺควิภตฺติวจนสาธารณตาย ‘‘กตมานิ ตานิ อฏฺงฺคานี’’ติ วุตฺตํ. นนุ จ องฺคานิ สมุทิตานิ มคฺโค อนฺตมโส สตฺตงฺควิกลสฺส อริยมคฺคสฺส อภาวโตติ? สจฺจเมตํ สจฺจปฏิเวเธน, มคฺคปจฺจยตาย ปน ยถาสกํ กิจฺจกรเณน ปจฺเจกมฺปิ ตานิ มคฺโคเยวาติ อาห ‘‘เอกเมกฺหิ องฺคํ มคฺโคเยวา’’ติ, อฺถา สมุทิตานมฺปิ เนสํ มคฺคกิจฺจํ น สมฺภเวยฺยาติ. อิทานิ ตเมวตฺถํ ปาฬิยา สมตฺเถตุํ ‘‘สมฺมาทิฏฺิมคฺโค เจว เหตุ จา’’ติ วุตฺตํ.

สมฺมา อวิปรีตํ ปริฺาภิสมยาทิวเสน จตุนฺนํ สจฺจานํ ทสฺสนํ ปฏิวิชฺฌนํ ลกฺขณํ เอติสฺสาติ สมฺมาทสฺสนลกฺขณา. สมฺมา อวิปรีตํ สมฺปยุตฺตธมฺเม นิพฺพานารมฺมเณ อภินิโรปนํ อปฺปนาลกฺขณํ เอตสฺสาติ สมฺมาอภินิโรปนลกฺขโณ มุสาวาทาทีนํ วิสํวาทนาทิกิจฺจตาย ลูขานํ อปริคฺคาหกานํ ปฏิปกฺขภาวโต สินิทฺธสภาวตฺตา สมฺปยุตฺตธมฺเม, สมฺมาวาจปฺปจฺจยสุภาสิตโสตารฺจ ชนํ สมฺมเทว ปริคฺคณฺหาตีติ สมฺมาวาจา สมฺมาปริคฺคโห ลกฺขณํ เอติสฺสาติ สมฺมาปริคฺคหลกฺขณา. ยถา กายิกา กิริยา กิฺจิ กตฺตพฺพํ สมุฏฺาเปติ, สยฺจ สมุฏฺหนํ ฆฏนํ โหติ, ตถา สมฺมากมฺมนฺตสงฺขาตา วิรติปีติ สมฺมาสมุฏฺานลกฺขโณ สมฺมากมฺมนฺโต. สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วา อุกฺขิปนํ สมุฏฺานํ กายิกกิริยาย ภารุกฺขิปนํ วิย. ชีวมานสฺส สตฺตสฺส, สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วา สุทฺธิ โวทานํ, อาชีวสฺเสว วา ชีวิตปฺปวตฺติยา สุทฺธิ โวทานํ เอเตนาติ สมฺมาโวทานลกฺขโณ สมฺมาอาชีโว. โกสชฺชปกฺเข ปติตุํ อทตฺวา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ ปคฺคณฺหนํ อนุพลปฺปทานํ ปคฺคโห. อารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา านํ, ตสฺส วา อนิสฺสชฺชนํ อุปฏฺานํ. อารมฺมเณ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ สมฺมา, สมํ วา อาธานํ สมาธานํ. สมฺมา สงฺกปฺเปติ สมฺปยุตฺตธมฺเม อารมฺมเณ อภินิโรเปตีติ สมฺมาสงฺกปฺโป. สมฺมา วทติ เอตายาติ สมฺมาวาจา. สมฺมา กโรติ เอเตนาติ สมฺมากมฺมํ, ตเทว สมฺมากมฺมนฺโต. สมฺมา อาชีวติ เอเตนาติ สมฺมาอาชีโว. สมฺมา วายมติ อุสฺสหติ เอเตนาติ สมฺมาวายาโม. สมฺมา สรติ อนุสฺสรตีติ สมฺมาสติ. สมฺมา สมาธิยติ จิตฺตํ เอเตนาติ สมฺมาสมาธีติ เอวํ สมฺมาสงฺกปฺปาทีนํ นิพฺพจนํ เวทิตพฺพํ.

มิจฺฉาทิฏฺินฺติ สพฺพมฺปิ มิจฺฉาทสฺสนํ. ตปฺปจฺจนียกิเลเสติ เอตฺถ ตํ-สทฺเทน สมฺมาทิฏฺิ. น หิ มิจฺฉาทิฏฺิยา กิเลสา ปจฺจนียา, อถ โข สมฺมาทิฏฺิยา. อวิชฺชฺจาติ อวิชฺชาคฺคหณํ ตสฺสา สํกิเลสธมฺมานํ ปมุขภาวโต. เตนาห ‘‘อวิชฺชา, ภิกฺขเว, ปุพฺพงฺคมา อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑). ทสฺสนนิวารกสฺส สมฺโมหสฺส สมุคฺฆาเตน อสมฺโมหโต. เอตฺถ จ มิจฺฉาทิฏฺึ…เป… ปชหตีติ เอเตน ปหานาภิสมยํ, นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติ เอเตน สจฺฉิกิริยาภิสมยํ, สมฺปยุตฺตธมฺเมติอาทินา ภาวนาภิสมยํ สมฺมาทิฏฺิกิจฺจํ ทสฺเสติ. ปริฺาภิสมโย ปน นานนฺตริยตาย อตฺถโต วุตฺโต เอว โหตีติ ทฏฺพฺโพ.

กถํ ปน เอกเมว าณํ เอกสฺมึ ขเณ จตฺตาริ กิจฺจานิ สาเธนฺตํ ปวตฺตติ. น หิ ตาทิสํ โลเก ทิฏฺํ, น อาคโม วา ตาทิโส อตฺถีติ น วตฺตพฺพํ. ยถา หิ ปทีโป เอกสฺมึเยว ขเณ วฏฺฏึ ทหติ, สฺเนหํ ปริยาทิยติ, อนฺธการํ วิธมติ, อาโลกฺจ วิทํเสติ, เอวเมตํ าณนฺติ ทฏฺพฺพํ. มคฺคสมงฺคิสฺส าณํ ทุกฺเขเปตํ าณํ, ทุกฺขสมุทเยเปตํ าณํ , ทุกฺขนิโรเธเปตํ าณํ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทายเปตํ าณนฺติ สุตฺตปทํ (วิภ. ๗๕๔) เอตฺถ อุทาหริตพฺพํ. ยถา จ สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพภาเค ทุกฺขาทีสุ วิสุํ วิสุํ ปวตฺติตฺวา มคฺคกฺขเณ เอกาว จตุนฺนํ าณานํ กิจฺจํ สาเธนฺตี ปวตฺตติ, เอวํ สมฺมาสงฺกปฺปาทโย ปุพฺพภาเค เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทินามกา หุตฺวา กามสงฺกปฺปาทีนํ ปชหนวเสน วิสุํ วิสุํ ปวตฺติตฺวา มคฺคกฺขเณ ติณฺณํ จตุนฺนฺจ กิจฺจํ สาเธนฺตา ปวตฺตนฺติ. สมฺมาสมาธิ ปน ปุพฺพภาเคปิ มคฺคกฺขเณปิ นานาเยว หุตฺวา ปวตฺตตีติ กามฺเจตฺถ สมฺมาทิฏฺิยา สพฺเพปิ ปาปธมฺมา ปฏิปกฺขา, อุชุวิปจฺจนีกตาทสฺสนวเสน ปน สมฺมาทิฏฺิยา กิจฺจนิทฺเทเส มิจฺฉาทิฏฺิคฺคหณํ กตํ. เตเนว จ ‘‘ตปฺปจฺจนียกิเลเส จา’’ติ วุตฺตํ.

เยสํ กิเลสานํ อนุปจฺฉินฺทเน สมฺมาทิฏฺิ น อุปฺปชฺเชยฺย, เต มิจฺฉาทิฏฺิยา สหเชกฏฺตาย ตเทกฏฺาว ตปฺปจฺจนียกิเลสา ทฏฺพฺพา. สมฺมาสงฺกปฺปาทีนํ กิจฺจนิทฺเทเสปิ เอเสว นโย. โสตาปตฺติมคฺคาทิวเสน จตฺตาโร โลกุตฺตรมคฺคภาวสามฺเน เอกโต กตฺวา. โลภโทสา สมุทยสจฺจํ, ยสฺส ปน โส สมุทโย ตํ ทุกฺขสจฺจํ, ปหานภาโว มคฺคสจฺจํ, ยตฺถ ตํ ปหานํ, ตํ นิโรธสจฺจนฺติ อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ. กสฺมา ปเนตฺถ โลภโทสานํ วิสุํ อาทิโต จ คหณํ? วิสุํ คหณํ ตาว ตถาพุชฺฌนกานํ ปุคฺคลานํ อชฺฌาสยวเสน, อิเมหิ โลภโทเสหิ อามิสทายาทตา, ตปฺปหาเนน จ ธมฺมทายาทตาติ ทสฺสนตฺถํ, ตทนุสาเรน จตุสจฺจโยชนาย เอวํ เอเกกสฺส นิยฺยานมุขํ โหตีติ ทสฺสนตฺถฺจ. เสสวาเรสุปิ เอเสว นโย. อาทิโต คหณํ ปน อติวิย โอฬาริกตาย สุปากฏภาวโต วกฺขมานานํ อฺเสฺจ ปาปธมฺมานํ มูลภาวโต ตเทกฏฺตาย จ เวทิตพฺพํ.

กุชฺฌนลกฺขโณติ กุปฺปนสภาโว, จิตฺตสฺส พฺยาปชฺชนาติ อตฺโถ. จณฺฑิกฺกํ ลุทฺทตา, กุรุรภาโวติ อตฺโถ. อาฆาตกรณรโสติ ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติอาทินา จิตฺเต อาฆาตสฺส กรณรโส. ทุสฺสนปจฺจุปฏฺาโนติ สปรสนฺตานสฺส วินาสนปจฺจุปฏฺาโน ลทฺโธกาโส วิย สปตฺโต. อุปนนฺธนํ นานปฺปการสฺส อุปรูปริ นนฺธนํ วิย โหตีติ กตฺวา. ตถา เหส ‘‘เวรอปฺปฏินิสฺสชฺชนรโส, โกธานุปพนฺธภาวปจฺจุปฏฺาโน’’ติ จ วุตฺโต. อปรกาเล อุปนาโหติอาทีติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อุปนยฺหนา อุปนยฺหิตตฺตํ อาปนา ปนา สณฺปนา อนุสํสนฺทนา อนุปฺปพนฺธนา ทฬฺหีกมฺม’’นฺติอาทีนํ (วิภ. ๘๙๑) นิทฺเทสปทานํ อตฺถวณฺณนํ สงฺคยฺหติ. อุปนาหสมงฺคี หิ ปุคฺคโล เวรสฺส อนิสฺสชฺชนโต อาทิตฺตปูติอลาตํ วิย ชลติ เอว, จิตฺตฺจสฺส โธวิยมานํ อจฺฉจมฺมํ วิย, มสิมกฺขิตปิโลติกา วิย จ น สุชฺฌเตว.

ปรคุณมกฺขนลกฺขโณติ อุทกปุฺฉนิยา อุทกํ วิย ปเรสํ คุณานํ มกฺขนสภาโว. ตถาภูโต จายํ อตฺตโน การกํ คูเถน ปหรนฺตํ คูโถ วิย ปมตรํ มกฺเขติ เอวาติ ทฏฺพฺโพ. ตถา เหสฺส สปรสนฺตาเนสุ คุณํ มกฺเขตีติ มกฺโขติ วุจฺจติ. ยุคคฺคาโห สมธุรคฺคหณํ อสมานสฺสปิ อภูตสฺส สมาโรปนํ. สมภาวกรณํ สมีกรณํ. ปเรสํ คุณปฺปมาเณน อตฺตโน คุณานํ อุปฏฺานํ ปจฺจุปฏฺเปตีติ อาห ‘‘ปเรสํ คุณปฺปมาเณน อุปฏฺานปจฺจุปฏฺาโน’’ติ. ตถา เหส ปเรสํ คุเณ ฑํสิตฺวา วิย อตฺตโน คุเณหิ สเม กโรตีติ ปฬาโสติ วุจฺจติ.

ปรสมฺปตฺติขียนํ ปรสมฺปตฺติยา อุสูยนํ. อิสฺสติ ปรสมฺปตฺตึ น สหตีติ อิสฺสา. ตถา เหสา ‘‘ปรสมฺปตฺติยา อกฺขมนลกฺขณา’’ติ วุจฺจติ. ตตฺถาติ ปรสมฺปตฺติยํ. อนภิรติรสา อภิรติปฏิปกฺขกิจฺจา. วิมุขภาวปจฺจุปฏฺานา ปรสมฺปตฺตึ ปสฺสิตุมฺปิ อปฺปทานโต. นิคูหนลกฺขณํ อตฺตโน สมฺปตฺติยา ปเรหิ สาธารณภาวาสหนโต. อสุขายนํ น สุขนํ ทุกฺขนํ, อโรจนนฺติ อธิปฺปาโย.

กตสฺส กายทุจฺจริตาทิปาปสฺส ปฏิจฺฉาทนํ กตปาปปฏิจฺฉาทนํ. ตสฺส ปาปสฺส อาวรณภาเวน ปจฺจุปติฏฺตีติ ตทาวรณปจฺจุปฏฺานา, มายา, ยาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ภสฺมฉนฺโน วิย องฺคาโร, อุทกฉนฺโน วิย ขาณุ, ปิโลติกปฏิจฺฉาทิตํ วิย จ สตฺถํ โหติ. อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนํ อตฺตนิ อวิชฺชมานสีลาทิคุณวิภาวนํ, เยน สาเยฺเยน สมนฺนาคตสฺส ปุคฺคลสฺส อสนฺตคุณสมฺภาวเนน จิตฺตานุรูปกิริยาวิหรโต ‘‘เอวํจิตฺโต, เอวํกิริโย’’ติ ทุพฺพิฺเยฺยตฺตา กุจฺฉึ วา ปิฏฺึ วา ชานิตุํ น สกฺกา. ยโต –

‘‘วาเมน สูกโร โหติ, ทกฺขิเณน อชามิโค;

สเรน เนลโก โหติ, วิสาเณน ชรคฺคโว’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๒๙๖; วิภ. อฏฺ. ๘๙๔; มหานิ. อฏฺ. ๑๖๖) –

เอวํ วุตฺตยกฺกสูกรสทิโส โหติ.

จิตฺตสฺส อุทฺธุมาตภาโว ถทฺธลูขภาโว. อปฺปติสฺสยวุตฺตีติ อนิวาตวุตฺติ. อมทฺทวากาเรน ปจฺจุปติฏฺติ, อมทฺทวตํ วา ปจฺจุปฏฺเปตีติ อมทฺทวตาปจฺจุปฏฺาโน, ถมฺโภ, เยน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล คิลิตนงฺคลสีโส วิย อชคโร, วาตภริตภสฺตา วิย จ ถทฺโธ หุตฺวา ครุฏฺานิเย จ ทิสฺวา โอนมิตุมฺปิ น อิจฺฉติ, ปริยนฺเตเนว จรติ. กรณสฺส อุตฺตรกิริยา กรณุตฺตริยํ. วิเสสโต ปจฺจนีกภาโว วิปจฺจนีกตา. ปเรน หิ กิสฺมิฺจิ กเต ตทฺทิคุณํ กรณวเสน สารมฺโภ ปวตฺตติ.

เสยฺยาทิอากาเรหิ อุนฺนมนํ อุนฺนติ. โอมาโนปิ หิ เอวํ กรณมุเขน สมฺปคฺคหวเสเนว ปวตฺตติ. ‘‘อหมสฺมิ เสยฺโย’’ติอาทินา อหํกรณํ สมฺปคฺคโห อหงฺกาโร. ปเร อภิภวิตฺวา อธิกํ อุนฺนมนํ อพฺภุนฺนติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปุพฺพกาเล อตฺตานํ หีนโต ทหติ อปรกาเล เสยฺยโต’’ติ (วิภ. ๘๗๗).

มตฺตภาโว ชาติอาทึ ปฏิจฺจ จิตฺตสฺส มชฺชนากาโร, ยสฺส วา ธมฺมสฺส วเสน ปุคฺคโล มตฺโต นาม โหติ, โส ธมฺโม มตฺตภาโว. มทคฺคาหณรโส มทสฺส คาหณกิจฺโจ. มโท หิ อตฺตโน มชฺชนาการํ สมฺปยุตฺตธมฺเม คาเหนฺโต วิย ปวตฺตมาโน ตํสมงฺคึ ปุคฺคลมฺปิ ตถา กโรนฺโต วิย โหติ. อหงฺการวเสน ปุคฺคลํ อนิฏฺํ กโรนฺโต จิตฺตสฺส อุมฺมาทภาโว วิย โหตีติ อุมฺมาทปจฺจุปฏฺาโน. สติยา อนิคฺคณฺหิตฺวา จิตฺตสฺส โวสฺสชฺชนํ จิตฺตโวสฺสคฺโค, สติวิรหิโตติ อตฺโถ. ยถาวุตฺตสฺส โวสฺสคฺคสฺส อนุปฺปทานํ ปุนปฺปุนํ วิสฺสชฺชนํ โวสฺสคฺคานุปฺปทานํ. อิเมสํ โกธาทีนํ โลภาทีนมฺปิ วา. ลกฺขณาทีนีติ ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานานิ. ปทฏฺานํ ปน ธมฺมนฺตรตาย น คหิตํ. นิพฺพจนํ ‘‘กุชฺฌตีติ โกโธ, อุปนยฺหตีติ อุปนาโห’’ติอาทินา สุวิฺเยฺยเมวาติ น วุตฺตํ, อตฺถโต ปน โกโธ โทโส เอว, ตถา อุปนาโห. ปวตฺติอาการมตฺตโต หิ กโต เนสํ เภโท, มกฺขปฬาสสารมฺภา ตทาการปฺปวตฺตา ปฏิฆสหคตจิตฺตุปฺปาทธมฺมา, มายาสาเยฺยถมฺภมทปฺปมาทา ตทาการปฺปวตฺตา โลภสหคตจิตฺตุปฺปาทธมฺมา. ถมฺโภ วา มานวิเสโส จิตฺตสฺส ถทฺธภาเวน คเหตพฺพโต, ตถา มโท. ตถา หิ โส ‘‘มาโน มฺนา’’ติอาทินา วิภงฺเค (วิภ. ๘๗๘) นิทฺทิฏฺโ. อิธ ปน มานาติมานานํ วิสุํ คหิตตฺตา มชฺชนากาเรน ปวตฺตธมฺมา เอว ‘‘มโท’’ติ คเหตพฺพา. เสสานํ ธมฺมนฺตรภาโว ปากโฏ เอว.

กสฺมา ปเนตฺถ เอเต เอว อฏฺ ทุกา คหิตา, กิมิโต อฺเปิ กิเลสธมฺมา นตฺถีติ? โน นตฺถิ, อิเม ปน อามิสทายาทสฺส สวิเสสํ กิเลสาย สํวตฺตนฺตีติ ตํ วิเสสํ วิภาเวนฺเตน อามิสทายาทสฺส โลภาทีนํ ปวตฺตนาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิเสสโต’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เอตฺถาติ เอเตสุ โลภาทีสุ. อลภนฺโต อามิสนฺติ อธิปฺปาโย. ตตุตฺตริ อุปฺปนฺโน โกโธติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. สนฺเตปีติ วิชฺชมาเนปิ. อิสฺสตีติ อิสฺสํ ชเนติ. ปทุสฺสตีติ ตสฺเสว เววจนํ. ตถา หิ สา ‘‘อิสฺสติ ทุสฺสติ ปทุสฺสตี’’ติอาทินา นิทฺทิฏฺา. ยสฺมา วา อิสฺสํ ชเนนฺโต เอกํสโต ปทุฏฺจิตฺโต เอว โหติ, ตสฺมา ‘‘ปทุสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. อสฺสาติ อามิสทายาทสฺส. เอวํ ปฏิปนฺโนติ เอวํ อสนฺตคุณปฺปกาสนํ ปฏิปทํ ปฏิปนฺโน. โอวทิตุํ อสกฺกุเณยฺโยติ เอเตน ถมฺโภ นาม โทวจสฺสกรโณ ธมฺโมติ ทสฺเสติ. กิฺจิ วทติ โอวาททานวเสน. ถมฺเภน…เป… มฺนฺโตติ อิมินา จ ถมฺภสฺส มานวิเสสภาวํ ทสฺเสติ, ถมฺเภน วา เหตุนาติ อตฺโถ. มตฺโต สมาโนติ มตฺโต โหนฺโต. กาม…เป… ปมชฺชตีติ เอเตน มทวเสน เอกํสโต ปมาทมาปชฺชตีติ ทสฺเสติ.

เอวนฺติ อิมินา อามิสทายาทสฺส โลภาทีนํ อุปฺปตฺติกฺกมทสฺสเนเนว อิธ ปาฬิยํ เนสํ เทสนากฺกโมปิ ทสฺสิโตติ ทฏฺพฺโพ. น เกวลํ อิเมเหว, อถ โข อฺเหิ จ เอวรูเปหิ ปาปเกหิ ธมฺเมหิ อปริมุตฺโต โหตีติ สมฺพนฺโธ. เก ปน เตติ? อตฺริจฺฉตามหิจฺฉตาทโยติ. เอวํ มหาทีนวา อามิสทายาทตาติ ตโต พลวตโร สํเวโค ชเนตพฺโพติ อยเมตฺถ โอวาโท เวทิตพฺโพ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ สุตฺเต. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ วาเรสุ. นิพฺพิเสโสเยวาติ เอเตเนว ปมตรํ อิธ ทสฺสิตสจฺจโยชนานเยน สพฺพวาเรสุ โยเชตพฺโพติ เวทิตพฺโพ.

าณปริจยปาฏวตฺถนฺติ มคฺคสฺส อฏฺงฺคสตฺตงฺคตาทิวิเสสวิภาวนาย าณสฺส อาเสวนฏฺเน ปริจโย าณปริจโย, ตสฺส ปฏุภาวตฺถํ โกสลฺลตฺถํ. เอตฺถาติ อริยมคฺเค. เภโทติ วิเสโส. กโมติ องฺคานํ เทสนานุปุพฺพี. ภาวนานโยติ ภาวนาวิธิ. ‘‘กทาจิ อฏฺงฺคิโก, กทาจิ สตฺตงฺคิโก’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวรนฺโต ปุน ‘‘อยํ หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โลกุตฺตรปมชฺฌานวเสนาติ โลกุตฺตรสฺส ปมชฺฌานสฺส วเสน. เอตฺถ จ เกจิ ฌานธมฺมา มคฺคสภาวาติ เอกนฺตโต ฌานํ มคฺคโต วิสุํ กตฺวา วตฺตุํ น สกฺกาติ ‘‘โลกุตฺตรปมชฺฌานสหิโต’’ติ อวตฺวา ‘‘โลกุตฺตรปมชฺฌานวเสน’’อิจฺเจว วุตฺตํ. อถ วา โลกุตฺตรปมชฺฌานวเสนาติ โลกุตฺตรา หุตฺวา ปมชฺฌานสฺส วเสนาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อริยมคฺโค หิ วิปสฺสนาย ปาทกภูตสฺส, สมฺมสิตสฺส วา ปมชฺฌานสฺส วเสน อฏฺงฺคิโก โหติ. อถ วา อฌานลาภิโน สุกฺขวิปสฺสกสฺส, ฌานลาภิโน วา ปาทกมกตฺวา ปมชฺฌานสฺส, ปกิณฺณกสงฺขารานํ วา สมฺมสเน อุปฺปนฺโน อริยมคฺโค อฏฺงฺคิโก โหติ, สฺวาสฺส อฏฺงฺคิกภาโว ปมชฺฌานิกภาเวนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปมชฺฌานวเสนา’’ติ อาห. เอวํ ‘‘อวเสสชฺฌานวเสนา’’ติ เอตฺถาติ ยถารหํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ยทิ อริยมคฺโค สตฺตงฺคิโกปิ โหติ, อถ กสฺมา ปาฬิยํ ‘‘อฏฺงฺคิโก’’อิจฺเจว วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อุกฺกฏฺนิทฺเทสโต’’ติอาทิ. ยถา เจตฺถ ปฏิปทาย มคฺควเสน อฏฺงฺคิกสตฺตงฺคิกเภโท , เอวํ โพชฺฌงฺควเสน สตฺตงฺคิกฉฬงฺคิกเภโท เวทิตพฺโพ อปฺปีติกชฺฌานวเสน ฉฬงฺคิกตฺตา, มคฺควเสน ปน เทสนา อาคตาติ สฺวายํ เภโท อฏฺกถายํ น อุทฺธโฏ. อิโต ปรนฺติ อิโต อฏฺงฺคโต ปรํ อุกฺกํสโต, อวกํสโต ปน สตฺตงฺคโต ปรํ มคฺคงฺคํ นาม นตฺถีติ. นนุ มคฺควิภงฺเค (วิภ. ๔๙๓-๕๐๒) ปฺจงฺคิกวาเร ปฺเจว มคฺคงฺคานิ อุทฺธฏานิ, มหาสฬายตเน (ม. นิ. ๓.๔๓๑) จ ‘‘ยา ตถาภูตสฺส ทิฏฺิ, โย ตถาภูตสฺส สงฺกปฺโป, โย ตถาภูตสฺส วายาโม, ยา ตถาภูตสฺส สติ, โย ตถาภูตสฺส สมาธิ, สฺวาสฺส โหติ สมฺมาสมาธี’’ติ วตฺวา ปุพฺพภาควเสน ปน ‘‘ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว สุปริสุทฺโธ โหตี’’ติ สมฺมาวาจาทโย อาคตาติ? สจฺจเมตํ, ตํ ปน สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ ปฺจนฺนํ การาปกงฺคานํ อติเรกกิจฺจทสฺสนวเสน วุตฺตํ, ตสฺมา น อริยมคฺโค สมฺมาวาจาทิวิรหิโต อตฺถีติ ‘‘อิโต ปรฺหิ มคฺคงฺคํ นตฺถี’’ติ สุวุตฺตเมตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

สพฺพกุสลานนฺติ สพฺเพสํ กุสลธมฺมานํ. นิทฺธารเณ เจตํ สามิวจนํ. กามาวจราทิวเสน ตํตํกุสลธมฺเมสุ สา สมฺมาทิฏฺิ เสฏฺา. ตสฺสา เสฏฺภาเวน หิ ‘‘ปฺาชีวึ ชีวิตมาหุ เสฏฺ’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๘๔) วุตฺตํ, มคฺคสมฺมาทิฏฺิยา ปน สพฺพเสฏฺภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. กุสลวาเรติ กุสลุปฺปตฺติสมเย. ปุพฺพงฺคมา กุสลาทิธมฺมานํ ยาถาวสภาวโพเธน สมฺปยุตฺตธมฺมานํ ปริณายกภาวโต. เตเนวาห ‘‘สมฺมาทิฏฺึ สมฺมาทิฏฺีติ ปชานาตี’’ติอาทิ. สา สมฺมาทิฏฺิ ปภโว เอตสฺสาติ ตปฺปภโว, สมฺมาสงฺกปฺโป. สมฺมาทสฺสนวเสน หิ สมฺมาสงฺกปฺโป โหติ. ตโต อภินิพฺพตฺตานีติ ตปฺปภวาภินิพฺพตฺตานิ. ตปฺปภวาภินิพฺพตฺตานิปิ ‘‘ตทภินิพฺพตฺตานี’’ติ วุจฺจนฺติ การณการเณปิ การณูปจารโตติ อาห ‘‘ตปฺปภวาภินิพฺพตฺตานิ เสสงฺคานี’’ติ. เตนาห ‘‘สมฺมาทิฏฺิสฺสา’’ติอาทิ. ยถา หิ สมฺมาทสฺสนํ สมฺมาวิตกฺกนสฺส วิเสสปจฺจโย, เอวํ สมฺมาวิตกฺกนํ สมฺมาปริคฺคหสฺส สมฺมาปริคฺคโห สมฺมาสมุฏฺานสฺส, สมฺมาสมุฏฺานํ สมฺมาโวทานสฺส, สมฺมาโวทานํ สมฺมาวายามสฺส, สมฺมาวายาโม สมฺมาอุปฏฺานสฺส, สมฺมาอุปฏฺานํ สมฺมาธานสฺส วิเสสปจฺจโย, ตสฺมา ‘‘ปุริมํ ปุริมํ ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส วิเสสปจฺจโย โหตี’’ติ อิมินา วิเสสปจฺจยภาวทสฺสนตฺเถน กเมน เอตานิ สมฺมาทิฏฺิอาทีนิ องฺคานิ วุตฺตานีติ ทสฺสิตานิ.

ภาวนานโยติ สมถวิปสฺสนานํ ยุคนทฺธภาเวน ปวตฺโต ภาวนาวิธิ. อยฺหิ อริยมคฺคกฺขเณ ภาวนาวิธิ. ตสฺส ปน ปุพฺพภาเค ภาวนานโย กสฺสจิ สมถปุพฺพงฺคโม โหติ , กสฺสจิ วิปสฺสนาปุพฺพงฺคโมติ. ตํ วิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘โกจี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ปโม สมถยานิกสฺส วเสน วุตฺโต, ทุติโย วิปสฺสนายานิกสฺส. เตนาห ‘‘อิเธกจฺโจ’’ติอาทิ. นฺติ สมถํ สมาธึ, ฌานธมฺเมติ วา อตฺโถ. ตํสมฺปยุตฺเตติ สมาธิสมฺปยุตฺเต, ฌานสมฺปยุตฺเต วา ธมฺเม. อยฺจ นโย เยภุยฺเยน สมถยานิกา อรูปมุเขน, ตตฺถาปิ ฌานมุเขน วิปสฺสนาภินิเวสํ กโรนฺตีติ กตฺวา วุตฺโต. วิปสฺสนํ ภาวยโตติ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธึ อารภิตฺวา ยถาธิคตํ ตรุณวิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺตสฺส. มคฺโค สฺชายตีติ ปุพฺพภาคิโย โลกิยมคฺโค อุปฺปชฺชติ. อาเสวติ นิพฺพิทานุปสฺสนาวเสน. ภาเวติ มุฺจิตุกมฺยตาวเสน. พหุลีกโรติ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาวเสน. อาเสวติ วา ภยตูปฏฺานาณวเสน. พหุลีกโรติ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาวเสน. สํโยชนานิ ปหียนฺติ,อนุสยา พฺยนฺตี โหนฺติ มคฺคปฏิปาฏิยา.

สมถํ อนุปฺปาเทตฺวาวาติ อวธารเณน อุปจารสมาธึ นิวตฺเตติ, น ขณิกสมาธึ. น หิ ขณิกสมาธึ วินา วิปสฺสนา สมฺภวติ. วิปสฺสนาปาริปูริยาติ วิปสฺสนาย ปริปุณฺณตาย วุฏฺานคามินิภาวปฺปตฺติยา. ตตฺถชาตานนฺติ ตสฺมึ อริยมคฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนานํ สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ ธมฺมานํ. นิทฺธารเณ เจตํ สามิวจนํ. ววสฺสคฺคารมฺมณโตติ ววสฺสคฺคสฺส อารมฺมณตาย. ววสฺสคฺโค โวสฺสคฺโค ปฏินิสฺสคฺโคติ จ อปวคฺโคติ จ อตฺถโต เอกํ, นิพฺพานนฺติ วุตฺตํ โหติ, ตสฺมา นิพฺพานสฺส อารมฺมณกรเณนาติ อตฺโถ. จิตฺตสฺส เอกคฺคตาติ มคฺคสมฺมาสมาธิมาห. อริยมคฺโค หิ เอกนฺต สมาหิโต อสมาธานเหตูนํ กิเลสานํ สมุจฺเฉทนโต. เสสํ วุตฺตนยเมว.

ยุคนทฺธาวโหนฺติ ตทา สมาธิปฺานํ สมรสตาย อิจฺฉิตพฺพโต. มคฺคกฺขเณ หิ น สมถภาวนายํ วิย สมาธิ, วิปสฺสนาภาวนายํ วิย จ ปฺา กิจฺจโต อธิกา อิจฺฉิตพฺพา, สมรสตาย ปน อฺมฺสฺส อนติวตฺตนฏฺเน ทฺเวปิ ยุคนทฺธา วิย ปวตฺตนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สมถวิปสฺสนา ยุคนทฺธาว โหนฺตี’’ติ.

ธมฺมทายาทสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๔. ภยเภรวสุตฺตวณฺณนา

๓๔. เอวํเม สุตนฺติ ภยเภรวสุตฺตํ. โก นิกฺเขโป? เกจิ ตาว เอวมาหุ ‘‘ปุจฺฉาวสิโก นิกฺเขโป’’ติ. ทุวิธา หิ ปุจฺฉา ปากฏาปากฏเภทโต. ตตฺถ ยสฺสา เทสนาย นิมิตฺตภูโต าตุํ อิจฺฉิโต อตฺโถ กึ-สทฺทปุพฺพเกน ปกาสียติ, สา ปากฏา ปุจฺฉา ยถา ‘‘กึสูธ วิตฺตํ ปุริสสฺส เสฏฺ’’นฺติ เอวมาทิ (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๘๓). ยสฺสา ปน เทสนาย นิมิตฺตภูโต าตุํ อิจฺฉิโต อตฺโถ กึ-สทฺทรหิเตน เกวเลเนว สทฺทปโยเคน ปกาสียติ, สา อปากฏา ปุจฺฉา. าตุํ อิจฺฉิโต หิ อตฺโถ ‘‘ปฺหา, ปุจฺฉา’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมาเยว อิธ ‘‘เย เม โภ โคตมา’’ติอาทิกา อปากฏาติ ‘‘ปุจฺฉาวสิโก นิกฺเขโป’’ติ. ตยิทํ อการณํ, ยสฺมา โส พฺราหฺมโณ ‘‘เยเม โภ โคตมา’’ติอาทีนิ วทนฺโต น ตตฺถ กงฺขี วิจิกิจฺฉี สํสยมาปนฺโน อโวจ, อถ โข อตฺตนา ยถานิจฺฉิตมตฺถํ ภควติ ปสาทภาวพหุมานํ ปเวเทนฺโต กเถสิ. เตนาห ‘‘ภควติ ปสาทํ อลตฺถา’’ติอาทิ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๓๔). วิหาเรติ วิหารเก นิวาเส. อวิจฺฉินฺเนเยวาติ ปวตฺตมาเนเยว. ปททฺวยสฺสปิ วสนฺเต เอวาติ อตฺโถ. เอตํ ปุโรหิตฏฺานํ อุณฺหีสาทิกกุธภณฺเฑหิ สทฺธึ ลทฺธํ, ตถา จ ‘‘อสฺส รฺา ทินฺน’’นฺติ วทนฺติ. เตนาห ‘‘ตํ ตสฺส รฺา ทินฺน’’นฺติ. พฺรหฺมนฺติ เวทํ. โส ปน มนฺตพฺรหฺมกปฺปวเสน ติวิโธ. ตตฺถ มนฺตา ปธานํ มูลภาวโต, เย อฏฺกาทีหิ ปวุตฺตา, อิตเร ตนฺนิสฺสเยน ชาตา, เตน เตสํเยว คหณํ ‘‘มนฺเต สชฺฌายตี’’ติ . เต หิ คุตฺตภาสิตพฺพตาย ‘‘มนฺตา’’ติ วุจฺจนฺติ. อิทเมว หีติ อวธารเณน ‘‘พฺรหฺมโต ชาตา’’ติอาทิกํ นิรุตฺตึ ปฏิกฺขิปติ.

เยน วา การเณนาติ (สารตฺถ. ฏี. เวรฺชกณฺฑวณฺณนายํ ๒; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑; อ. นิ. ฏี. ๒.๒.๑๖) เหตุมฺหิ อิทํ กรณวจนํ. เหตุอตฺโถ หิ กิริยาการณํ, น กรณํ วิย กิริยตฺโถ, ตสฺมา นานปฺปการคุณวิเสสาธิคมตฺถา อิธ อุปสงฺกมนกิริยาติ ‘‘อนฺเนน วสตี’’ติอาทีสุ วิย เหตุอตฺถเมเวตํ กรณวจนํ ยุตฺตํ, น กรณตฺถํ ตสฺส อยุชฺชมานตฺตาติ วุตฺตํ ‘‘เยน วา การเณนา’’ติอาทิ. ภควโต สตตปฺปวตฺตนิรติสยสาทุวิปุลามตรสสทฺธมฺมผลตาย สาทุผลนิจฺจผลิตมหารุกฺเขน ภควา อุปมิโต, สาทุผลูปโภคาธิปฺปายคฺคหเณเนว หิ มหารุกฺขสฺส สาทุผลตา คหิตาติ.

อุปสงฺกมีติ อุปสงฺกนฺโต. สมฺปตฺตุกามตาย หิ กิฺจิ านํ คจฺฉนฺโต ตํตํปเทสาติกฺกมเนน อุปสงฺกมิ, อุปสงฺกนฺโตติ วา วตฺตพฺพตํ ลภติ. เตนาห ‘‘คโตติ วุตฺตํ โหตี’’ติ, อุปคโตติ อตฺโถ. อุปสงฺกมิตฺวาติ ปุพฺพกาลกิริยานิทฺเทโสติ อาห ‘‘อุปสงฺกมนปริโยสานทีปน’’นฺติ. ตโตติ ยํ านํ ปตฺโต ‘‘อุปสงฺกมี’’ติ วุตฺโต, ตโต อุปคตฏฺานโต. ยถา ขมนียาทีนิ ปุจฺฉนฺโตติ (สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑๑๒) ยถา ภควา ‘‘กจฺจิ เต พฺราหฺมณ ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนีย’’นฺติอาทินา ขมนียาทีนิ ปุจฺฉนฺโต เตน พฺราหฺมเณน สทฺธึ สมปฺปวตฺตโมโท อโหสิ ปุพฺพภาสิตาย, ตทนุกรเณน เอวํ โสปิ พฺราหฺมโณ ภควตา สทฺธึ สมปฺปวตฺตโมโท อโหสีติ โยชนา. ตํ ปน สมปฺปวตฺตโมทตํ อุปมาย ทสฺเสตุํ ‘‘สีโตทกํ วิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สมฺโมทิตนฺติ สํสนฺทิตํ. เอกีภาวนฺติ สมฺโมทนกิริยาย สมานตํ เอกรูปตํ. ขมนียนฺติ ‘‘อิทํ จตุจกฺกํ นวทฺวารํ สรีรยนฺตํ ขณภงฺคุรตาย สภาวโต ทุสฺสหํ, กจฺจิ ขมิตุํ สกฺกุเณยฺย’’นฺติ ปุจฺฉติ. ยาปนียนฺติ ปจฺจยายตฺตวุตฺติกํ จิรปฺปพนฺธสงฺขาตาย ยาปนาย กจฺจิ ยาเปตุํ สกฺกุเณยฺยํ. สีสโรคาทิอาพาธาภาเวน กจฺจิ อปฺปาพาธํ. ทุกฺขชีวิกาภาเวน กจฺจิ อปฺปาตงฺกํ. ตํตํกิจฺจกรเณ อุฏฺานสุขตาย กจฺจิ ลหุฏฺานํ. ตทนรูปพลโยคโต กจฺจิ พลํ. สุขวิหารสพฺภาเวน กจฺจิ ผาสุวิหาโร อตฺถีติ ตตฺถ ตตฺถ กจฺจิ-สทฺทํ โยเชตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

พลวปฺปตฺตา ปีติ ปีติเยว. ตรุณปีติ ปาโมชฺชํ. สมฺโมทนํ ชเนติ กโรตีติ สมฺโมทนิกํ, ตเทว สมฺโมทนียนฺติ อาห ‘‘สมฺโมทชนนโต’’ติ. สมฺโมทิตพฺพโต สมฺโมทนียนฺติ อิมํ ปน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺโมทิตุํ ยุตฺตภาวโต’’ติ อาห. สริตพฺพภาวโตติ อนุสฺสริตพฺพภาวโต. ‘‘สรณีย’’นฺติ วตฺตพฺเพ ทีฆํ กตฺวา ‘‘สารณีย’’นฺติ วุตฺตํ. สุยฺยมานสุขโตติ อาปาถมธุรตํ อาห, อนุสฺสริยมานสุขโตติ วิมทฺทรมณียตํ. พฺยฺชนปริสุทฺธตายาติ สภาวนิรุตฺติภาเวน ตสฺสา กถาย วจนจาตุริยมาห, อตฺถปริสุทฺธตายาติ อตฺถสฺส นิรุปกฺกิเลสตํ. อเนเกหิ ปริยาเยหีติ อเนเกหิ การเณหิ.

อภิทูรอจฺจาสนฺนปฏิกฺเขเปน นาติทูรนาจฺจาสนฺนํ นาม คหิตํ, ตํ ปน อวกํสโต อุภินฺนํ ปสาริตหตฺถสงฺฆฏฺฏเนน ทฏฺพฺพํ. คีวํ ปสาเรตฺวาติ คีวํ ปริวตฺตนวเสน ปสาเรตฺวา.

เยเมติ เอตฺถ สนฺธิวเสน อิการโลโปติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เย อิเม’’ติอาทิมาห. อุจฺจากุลีนตาย ชาติวเสน อภิชาตา ชาติกุลปุตฺตา. เตนาห ‘‘อุจฺจากุลปฺปสุตา’’ติ. อาจารสมฺปตฺติยา อภิชาตา อาจารกุลปุตฺตา. เตนาห ‘‘อาจารสมฺปนฺนา’’ติ. ยตฺถ กตฺถจิ อปากเฏปิ กุเล. เตน พฺราหฺมเณน อธิปฺเปตา ภิกฺขูสุ ทุวิธาปิ สํวิชฺชนฺตีติ อาห ‘‘อิธ ปน ทฺวีหิปิ การเณหิ กุลปุตฺตาเยวา’’ติ.

สทฺธาติ อิทํ กรณตฺเถ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘สทฺธายา’’ติ, สทฺธาติ วา สทฺทหิตฺวาติ อตฺโถ. อิมสฺมึ ปกฺเข ปาฬิยํ ย-การโลเปน นิทฺเทโสติ ทฏฺพฺพํ. อคารโตติ อคารวาสโต, อุตฺตรปทโลเปน, นิสฺสยูปจาเรน วา อยํ นิทฺเทโสติ. ภิกฺขนสีลตาทิลกฺขโณ ภิกฺขุภาโว ปพฺพชฺชาสหจริตาย สทฺธึ ภิกฺขุภาวํ อนฺวาจินนฺโตติ อาห ‘‘ปพฺพชฺชํ ภิกฺขุภาวฺจา’’ติ. กมฺมวาจาลกฺขเณ ปน ภิกฺขุภาเว อธิปฺเปเต สมุจฺจยตฺโถ -สทฺโท ทฏฺพฺโพ. อนคารสฺส ภาโวติ เอเตน ปพฺพชฺชานิสฺสิโต สุวิสุทฺโธ สีลาจารคุณวิเสโส คหิโต, กสิโครกฺขาทิกมฺมปฏิกฺเขโป อิธ อนุปฺปาทาทีหิ เวทิตพฺโพ. เสสคฺคหเณ ปน สรณคมนาทิวเสน ปพฺพชฺชาย, สรณคมนาทิวเสน อุปสมฺปทาย จ อเนกเภทตฺตา อาห ‘‘สพฺพถาปี’’ติ, เตน เตน ปกาเรนาติ อตฺโถ. ปุรโตคามิตา ปฏิปตฺติคมเนน, น กายคมเนนาติ อาห ‘‘นายโก’’ติ , สมฺมาปฏิปตฺติยา นิพฺพานสมฺปาปโกติ อตฺโถ. หิตกิริยายาติ ทิฏฺธมฺมิกาทิหิตจริยาย. คาหณํ อธิสีลาทีสุ อจฺจนฺตาย นิโยชนํ, น กถนมตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘คาเหตา’’ติ วตฺวา ‘‘สิกฺขาเปตา’’ติ อาห. ทิฏฺานุคตินฺติ ทิฏฺิยา อนุคมนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทสฺสนานุคติ’’นฺติ วตฺวา สิกฺขาตฺตยสงฺคหํ ภควโต สาสนํ เตน ทิฏฺตฺตา ทิฏฺิ, ตสฺส ตสฺเสว ขมนวเสน ขนฺติ, รุจฺจนวเสน รุจิ, ตํทิฏฺิขนฺติรุจิกาว ภควโต สาวกาติ อาห ‘‘ยํทิฏฺิโก’’ติอาทิ.

เอส กิร อลตฺถาติ สมฺพนฺโธ. เทวปุตฺเต วิยาติอาทิ กสฺสจิ ปาริชุฺสฺส อภาวทีปนโต ‘‘สทฺธายา’’ติอาทินา วุตฺตสฺส ปพฺพชิตภาวสฺส ปากฏีกรณํ. สทฺธาย ฆรา นิกฺขมฺม ปพฺพชิตฺวาติ อิทํ หฏฺปหฏฺาทิภาวสฺส การณวจนํ. ฆาสจฺฉาทนปรมตาย สนฺตุฏฺเติ อิทํ อนุสฺสงฺกิตาปริสงฺกิตตาย การณวจนนฺติ ทฏฺพฺพํ.

เอวเมตนฺติอาทินา อาเมฑิตวจนํ สมฺปหํสนวเสน, ปสาทวเสน วา กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตถา หิ เอวํ-สทฺโท สมฺปฏิจฺฉนตฺโถ อพฺภนุโมทนตฺโถ จ วุตฺโต. มมนฺติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ, นิปาตปทํ วา เอตํ ‘‘ม’’นฺติ อิมินา สมานตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. อาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน นชีวิกาปกตาทึ สงฺคณฺหาติ อีทิสานํเยวาติ สทฺธาปพฺพชฺชาย วิภาวิตอนภิชฺฌาลุอาทิสภาวานํเยว, น อิตเรสํ อภิชฺฌาลุสภาวานํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘สงฺฆาฏิกณฺเณ เจปิ เม, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คเหตฺวา ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺโธ อสฺส ปเท ปทํ นิกฺขิปนฺโต, โส จ โหติ อภิชฺฌาลุ กาเมสุ ติพฺพสาราโค พฺยาปนฺนจิตฺโต ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป มุฏฺสฺสติ อสมฺปชาโน อสมาหิโต วิพฺภนฺตจิตฺโต ปากฏินฺทฺริโย, อถ โข อารกาว มม อหฺจ ตสฺสา’’ติ (อิติวุ. ๙๒).

อชฺโฌคาเหตฺวา อธิปฺเปตตฺถํ สมฺภวิตุํ สาเธตุํ ทุกฺขานีติ ทุรภิสมฺภวานิ. อฏฺกถายํ ปน ตตฺถ นิวาโสเยว ทุกฺโขติ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺภวิตุํ ทุกฺขานิ ทุสฺสหานี’’ติ วุตฺตํ. อรฺวนปตฺถานีติ อรฺลกฺขณปฺปตฺตานิ วนสณฺฑานิ. วนปตฺถ-สทฺโท หิ สณฺฑภูเต รุกฺขสมูเหปิ วตฺตตีติ อรฺคฺคหณํ. กิฺจาปีติ อนุชานนสมฺภาวนตฺเถ นิปาโต. กึ อนุชานาติ? นิปฺปริยายโต อรฺาภาวํ ‘‘คามโต พหิ อรฺ’’นฺติ. เตนาห ‘‘นิปฺปริยาเยนา’’ติอาทิ. กึ สมฺภาเวติ? อารฺกงฺคนิปฺผาทกตฺตํ. ยฺหิ อารฺกงฺคนิปฺผาทกํ, ตํ วิเสสโต ‘‘อรฺ’’นฺติ วุตฺตนฺติ. เตเนวาห ‘‘ยํ ตํ ปฺจธนุสติก’’นฺติอาทิ. นิกฺขมิตฺวา พหิอินฺทขีลาติ อินฺทขีลโต พหิ นิกฺขมิตฺวา, ตโต พหิ ปฏฺายาติ อตฺโถ. พหิ อินฺทขีลาติ ยตฺถ ทฺเว ตีณิ อินฺทขีลานิ, ตตฺถ พหิทฺธา อินฺทขีลโต ปฏฺาย, ยตฺถ ตํ นตฺถิ, ตตฺถ ตทรหฏฺานโต ปฏฺายาติ วทนฺติ. ยสฺมา พหิ อินฺทขีลโต ปฏฺาย มนุสฺสูปจาเร ภยเภรวํ นตฺถิ, ตสฺมา อิธ นาธิปฺเปตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

คามนฺตนฺติ คามสมีปํ. อนุปจารฏฺานนฺติ นิจฺจกิจฺจวเสน นุปจริตพฺพฏฺานํ. เตนาห ‘‘ยตฺถ น กสียติ น วปียตี’’ติ. ปนฺตานีติ อิมินา ‘‘ปริยนฺตาน’’นฺติ อิมสฺส ปริยายสฺส อิธ ปาฬิยํ คหิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘ปริยนฺตานนฺติ อิมเมกํ ปริยายํ เปตฺวา’’ติ. ทูรานนฺติ ปน อยํ ปริยาโย เปตพฺโพ สิยา ตสฺสาปิ ‘‘ปนฺตานี’’ติ อิมินาว อตฺถโต คหิตตฺตา, ตถา สติ ‘‘น มนุสฺสูปจาราน’’นฺติ เอทิสานมฺปิ เปตพฺพตา อาปชฺชติ, ตสฺมา สทฺทโต เอว ปนํ ทฏฺพฺพํ. ปวิเวกนฺติ ปการโต, ปกาเรหิ วา วิเวจนํ, รูปาทิปุถุตฺตารมฺมเณ ปการโต คมนาทิอิริยาปถปฺปกาเรหิ อตฺตโน กายสฺส วิเวจนํ คจฺฉโตปิ ติฏฺโตปิ นิสชฺชโตปิ เอกสฺเสว ปวตฺตติ. เตเนว หิ วิเวเจตพฺพานํ วิเวจนาการสฺส จ เภทโต พหุวิธตฺตา เต เอกตฺเตน คเหตฺวา ‘‘ปวิเวก’’นฺติ เอกวจเนน วุตฺตํ. ทุกฺกรํ ปวิเวกนฺติ วา ปวิเวกํ กตฺตุํ น สุขนฺติ อตฺโถ. เอกีภาเวติ เอกิกภาเว. ทฺวยํทฺวยาราโมติ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ ภาวาภิรโต. หรนฺติ วิยาติ สํหรนฺติ วิย วิฆาตุปฺปาทเนน. เตนาห ‘‘ฆสนฺติ วิยา’’ติ, ภยสนฺตาสุปฺปาทเนน ขาทิตุํ อาคตา ยกฺขรกฺขสปิสาจาทโย วิยาติ อธิปฺปาโย. อีทิสสฺสาติ อลทฺธสมาธิโน. ติณปณฺณมิคาทิสทฺเทหีติ วาเตริตานํ ติณปณฺณาทีนํ มิคปกฺขิอาทีนฺจ ภึสนเกหิ เภรเวหิ สทฺเทหิ วิวิเธหิ จ อฺเหิ ขาณุอาทีหิ ยกฺขาทิอากาเรหิ อุปฏฺิเตหิ ภึสนเกหิ. เอวํ ทุกฺกรํ ทุรภิสมฺภวํ นาม กโรนฺโต อโห อจฺฉริยา เอเตติ วิมฺหิโต.

กายกมฺมนฺตวารกถาวณฺณนา

๓๕. โสฬสสุาเนสูติ ‘‘เย โข เกจี’’ติอาทินา ปาฬิยํ วกฺขมาเนสุ โสฬสสุ การเณสุ. อปริสุทฺธกายกมฺมนฺตตาทโย อรฺเ วิหรนฺตานํ จิตฺตุตฺราสนิมิตฺตตาย วิเสสโต วิกฺเขปาวหา, ปริสุทฺธกายกมฺมนฺตตาทโย ปน ตทภาวโต เตสํ อวิกฺเขปาวหา. เตนาห ‘‘อปริสุทฺธกายกมฺมนฺตสนฺโทสเหตู’’ติอาทิ. โสฬสสูติ จ โวทานปกฺขํเยว คเหตฺวา วุตฺตํ. สํกิเลสคฺคหณมฺปิ ยาวเทว โวทานทสฺสนตฺถนฺติ. อารมฺมณปริคฺคหรหิตานนฺติ อปริสุทฺธกายกมฺมนฺตาทิกสฺส อรฺเ ทิฏฺสฺส ตสฺส อารมฺมณสฺส ‘‘เย โข เกจี’’ติอาทินา ปาฬิยํ อาคตนเยน ปริคฺคณฺหนาณรหิตานํ. อารมฺมณปริคฺคหยุตฺตานนฺติ เอตฺถ วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อตฺตนาติ ภควนฺตํ สนฺธาย วทติ, สยนฺติ อตฺโถ. ตาทิโสติ อารมฺมณปริคฺคหยุตฺโต.

สมฺพุชฺฌติ เอเตนาติ สมฺโพโธ, อริยมคฺโคติ อาห ‘‘อริยมคฺคปฺปตฺติโต’’ติ. อคฺคมคฺคาธิคมาธีโน พุทฺธานํ สพฺพฺุตฺาณาธิคโมติ อาห ‘‘อนภิสมฺพุทฺธสฺสาติ อปฺปฏิวิทฺธจตุสจฺจสฺสา’’ติ. อนวเสสโต เยฺยํ, พุชฺฌิตุํ อรหตีติ โพธิ, มหาวีริยตาทินา ตตฺถ วิเสสโยคโต สตฺโตติ อาห ‘‘พุชฺฌนกสตฺตสฺสา’’ติ. เตนาห ‘‘สมฺมาสมฺโพธิ’’นฺติอาทิ. นิยตภาวปฺปตฺติโต ปฏฺาย มหาสตฺตา ยถา มหาโพธิยานปฏิปทา หานภาคิยา, ิติภาคิยา วา น โหติ, อถ โข วิเสสภาคิยา นิพฺเพธภาคิยา จ โหติ, ตถา ปฏิปชฺชนโต โพธิยํ นินฺนโคณปพฺภารา เอวาติ อาห ‘‘โพธิยา วา สตฺตสฺเสว ลคฺคสฺเสวา’’ติ. เตนาห ‘‘ทีปงฺกรสฺส หี’’ติอาทิ. อฏฺธมฺมสโมธาเนนาติ –

‘‘มนุสฺสตฺตํ ลิงฺคสมฺปตฺติ, เหตุ สตฺถารทสฺสนํ;

ปพฺพชฺชา คุณสมฺปตฺติ, อธิกาโร จ ฉนฺทตา’’ติ. (พุ. วํ. ๒.๕๙) –

อิเมสํ อภินีหารสฺส องฺคภูตานํ อฏฺนฺนํ ธมฺมานํ สโมธาเนน สมวธาเนน.

ปพฺพชฺชูปคตาติ ปพฺพชฺชํ อุปคตา. เตน ปพฺพชฺชามตฺเตน สมณา, น สมิตปาปตายาติ ทสฺเสติ. ชาติมตฺเตน อิธ พฺราหฺมณาติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘โภวาทิโน วา’’ติ. เต หิ ‘‘โภ โภ’’ติ วทนสีลา, เตนาห ‘‘โภวาที นาม โส โหติ, สเจ โหติ สกิฺจโน’’ติ (ธ. ป. ๓๙๖; สุ. นิ. ๖๒๕). ปาณาติปาตาทินาติ อาทิ-สทฺเทน อทินฺนาทานํ อพฺรหฺมจริยฺจ สงฺคณฺหาติ. อปริสุทฺเธนาติ จ วิเสสนํ กายกมฺมนฺตาเปกฺขาย, น ปาณาติปาตาทิอเปกฺขาย. น หิ ปาณาติปาตาทิโก ตสฺส ปุพฺพภาคปโยโค จ โกจิ ปริสุทฺโธ นาม อตฺถิ. ภายนฏฺเน ภยํ, ภีรุตาวหฏฺเน เภรวํ. สนฺโทสเหตูติ สโทสเหตุ. ส-สทฺโท หิ อิธ สานุสาโร วุตฺโต. เตนาห ‘‘อตฺตโน โทสสฺส เหตู’’ติ. เอกนฺเตน จิตฺตุตฺราสลกฺขณสฺส ภยสฺส วเสน ‘‘สาวชฺช’’นฺติ วุตฺตํ. จิตฺตุตฺราโส หิ เอกนฺตสาวชฺโช ภายนฏฺเน ภยฺจาติ. อกฺเขมนฺติ อิทํ อุภยวเสน. จิตฺตุตฺราโสปิ หิ สรีรจิตฺตานํ อนตฺถาวหโต อกฺเขม, ตถา ภยานการมฺมณมฺปีติ. อฏฺกถายํ ปน อตฺถทฺวยํ ยถาสงฺขฺยํ โยชิตํ. สยํ ปริกปฺปิตภยานการมฺมณนิมิตฺตํ จิตฺตุตฺราสสมุปฺปาทนวเสน อาเนนฺตา ภยเภรวํ อวฺหายนฺติ วิย โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘อวฺหายนฺตีติ ปกฺโกสนฺตี’’ติ. เตติ มาริตมนุสฺสานํ าติมิตฺตาทโย. คจฺฉํ คหนภูตํ มหนฺตํ กณฺฏกสณฺฑํ, คุมฺพํ นาติมหนฺตนฺติ วทนฺติ. คจฺฉนฺติ ปน ติณวนํ เวทิตพฺพํ, ‘‘คจฺเฉ รุฬฺหติเณ’’ติ วุตฺตํ, คุมฺพํ กณฺฏกลตาทิภริตาวิรุฬฺหํ. พทฺธา วธิตา วิยาติ พทฺธา หุตฺวา ตาฬิยมานา วิย.

‘‘น โข ปนาติ เอตฺถ โขติ อวธารณตฺเถ นิปาโต, ปนา’’ติ วิเสสตฺเถ. เตเนตํ ทสฺเสติ ‘‘อฺเ สมณพฺราหฺมณา วิย อหํ อปริสุทฺธกายกมฺมนฺโต หุตฺวา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ น โข ปน ปฏิเสวามิ, ปริสุทฺธกายกมฺมนฺโตเยว ปน หุตฺวา ตานิ ปฏิเสวามี’’ติ. เอวํ วา เอตฺถ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา. ‘‘ปริสุทฺธกายกมฺมนฺโตหมสฺมี’’ติ หิ เตน อวธารเณน วิภาวิตตฺถทสฺสนํ. เตสมหํ อฺตโรติ ตาย ปริสุทฺธกายกมฺมตาย เตสํ อริยานํ อหํ อฺตโรติ กายกมฺมปาริสุทฺธิยา มหาสตฺโต อตฺตานํ อริเยสุ ปกฺขิปติ. ปรมสลฺเลขภาวปฺปตฺตา หิ ตทา โพธิสตฺตสฺส กายกมฺมปาริสุทฺธิ , ตถา วจีกมฺมาทิปาริสุทฺธิ, ยโต มาโร รนฺธคเวสี หุตฺวา ฉพฺพสฺสานิ นิรนฺตรํ อนุพนฺโธ อนฺตรํ น ลภติ. เตนาห –

‘‘สตฺต วสฺสานิ ภควนฺตํ, อนุพนฺธึ ปทาปทํ;

โอตารํ นาธิคจฺฉิสฺสํ, สมฺพุทฺธสฺส สตีมโต’’ติ. (สุ. นิ. ๔๔๘);

ภิยฺโยติ อธิกํ สวิเสสํ, อุปรูปริ วา. ภีตตสิตา ภยูปทฺทเวน ฉมฺภิตสรีรา หฏฺโลมา โหนฺติ, อภีตาตสิตา ปน ภยูปทฺทวาภาวโต อหฏฺโลมา เขเมน โสตฺถินา ติฏฺนฺตีติ เตสํ เขมปฺปตฺติ โสตฺถิภาโว วา ปนฺนโลมตาย ปากโฏ โหตีติ ปาฬิยํ ‘‘ปลฺโลม’’นฺติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ปนฺนโลมต’’นฺติอาทิ. เอตฺถ จ ภิยฺโย ปลฺโลมมาปาทึ อรฺเ วิหารายาติ ปฏิฺานิทฺเทโส. ปริสุทฺธกายกมฺมนฺโตหมสฺมีติ เหตุทสฺสนํ. ‘‘เย หิ โว อริยา’’ติ สทิสูทาหรณทสฺสนํ. เย โข เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วาติ วิสทิสูทาหรณทสฺสนํ. เสสานิ อนฺวยพฺยติเรกวิภาวนานีติ ทฏฺพฺพนฺติ อยเมตฺถ ยุตฺติวิภาวนา. อิมินา นเยน เสสวาเรสุปิ ยุตฺติวิภาวนา เวทิตพฺพา.

กายกมฺมนฺตวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วจีกมฺมนฺตวาราทิกถาวณฺณนา

๓๖. อปริสุทฺเธน มุสาวาทาทินาติ เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. อาทิ-สทฺเทน ปน สงฺคหิตํ เตสฺจ มุสาวาทาทีนํ ปวตฺติเภทํ ภยเภรวาวฺหานมุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว.

ภณฺเฑสูติ สวิฺาณกาวิฺาณเกสุ ภณฺเฑสุ. อุปฺปาเทตฺวาติ อตฺตโน ปริณามวเสน อภิชฺฌาสงฺขาตํ วิสมโลภํ อุปฺปาเทตฺวา. กุชฺฌิตฺวาติ วินาสจินฺตาวเสน ปรสฺส กุชฺฌิตฺวา. เอวฺหิ เนสํ ‘‘เยสํ อปรชฺฌิมฺหา, เต อิทานิ อนุพนฺธิตฺวา’’ติอาทินา ปจฺฉา อาสงฺกุปฺปตฺติ สิยา. ‘‘เอเต อมฺหากํ ปริคฺคหวตฺถุํ คเหตุกามา มฺเ, วินาสํ กาตุกามา มฺเ’’ติ ยถา ปเร ปรโต เตสํ อภิชฺฌาพฺยาปาทปฺปวตฺตึ ปริคฺคณฺหนฺติ, ตาทิสํ มโนกมฺมนฺตํ สนฺธาย ‘‘เต ปเรส’’นฺติอาทิ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. กามํ อกุสลกายกมฺมวจีกมฺมปวตฺติกาเลปิ อภิชฺฌาทโย ปวตฺตนฺติเยว, ตทา ปน เต เจตนาปกฺขิกา วา อพฺโพหาริกา วาติ มโนกมฺมนฺตวาเร เอว อภิชฺฌาทิวเสน โยชนา กตา. อถ วา ทฺวารนฺตเร ปวตฺตานมฺปิ ปาณาติปาตาทีนํ วจีกมฺมาทิภาวาภาโว วิย ทฺวารนฺตเร ปวตฺตานมฺปิ อภิชฺฌาทีนํ กายกมฺมาทิภาวาภาโว, มโนกมฺมภาโว เอว ปน สิทฺโธติ กตฺวา มโนกมฺมนฺตวาเร เอว อภิชฺฌาทโย อุทฺธฏา. ตถา หิ วุตฺตํ –

‘‘ทฺวาเร จรนฺติ กมฺมานิ, น ทฺวารา ทฺวารจาริโน;

ตสฺมา ทฺวาเรหิ กมฺมานิ, อฺมฺํ ววตฺถิตา’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. ๑.กายกมฺมทฺวาร);

กิฺจาปิ อฏฺกถายํ สาสเน ปพฺพชิตวเสน อาชีววาเร ภยเภรวาวฺหานํ โยชิตํ, ‘‘เย โข เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา’’ติ ปน วจนโต พาหิรกวเสน คหฏฺวเสน จ โยชนา เวทิตพฺพา. คหฏฺานมฺปิ หิ ชาติธมฺมกุลธมฺมเทสธมฺมวิโลมนวเสน อฺถาปิ มิจฺฉาชีโว ลพฺภเตว, ตาย เอว จ อาชีววิปตฺติยา อฺถา วา เนสํ อรฺวาโส สมฺภเวยฺยาติ.

๓๗. เอวํ อาชีวฏฺมกสีลวเสน ภยเภรวํ ทสฺเสตฺวา ตโต ปรํ นีวรณปฺปหานาทิวเสน ตํ ทสฺเสตุํ เทสนา วฑฺฒิตาติ ตทตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘อิโต ปร’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ นีวรณวเสน ปุน วุตฺตาติ อยมธิปฺปาโย – เอวํ สีลวิสุทฺธิมตฺตมฺปิ อรฺเ วิหรโต ภยเภรวาภาวํ อาวหติ, กิมงฺคํ ปน นีวรณานิ ปหาย อปฺปนาสมาธึ, อุปจารสมาธิเมว วา สมฺปาทยโตติ สมาธิสมฺปทาย ภยเภรวาภาวเหตุกํ ทสฺเสตุํ อุปริ เทสนา วฑฺฒิตาติ อกุสลมโนกมฺมนฺตภาเวน คหิตาปิ อภิชฺฌาพฺยาปาทา นีวรณวเสน ปุน วุตฺตาติ อธิปฺปาโย. อภิ-ปุพฺโพ ฌา-สทฺโท อภิชฺฌายนตฺโถติ อาห ‘‘ปรภณฺฑาทิอภิชฺฌายนสีลา’’ติ. วตฺถุกาเมสูติ รูปาทีสุ กิเลสกามสฺส วตฺถุภูเตสุ กาเมสุ. พหลกิเลสราคาติ ถิรมูลทุมฺโมจนียตาหิ อชฺโฌสาเน ปภูตกิเลสกามา. อภิชฺฌา เจตฺถ อปฺปตฺตวิสยปตฺถนา, ติพฺพสาราโค สมฺปตฺติวิสยาภินิเวโส. เต หิ โลภาภิภูตา ปุคฺคลา อตฺตนิ ติพฺพสาเปกฺขตาย เอว โลภาภิภูตตาย อววตฺถิตารมฺมณา อวินิจฺฉิตวิสยา อรฺเ ตํ ตํ วิสยํ อนุปธาริตฺวา วิหรนฺติ, รชฺชุอาทีนิ ยาถาวโต น สลฺลกฺเขนฺติ. เตนาห ‘‘เตส’’นฺติอาทิ. อุปฏฺาติ สนฺตจิตฺตตาย. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘อากุลจิตฺตา’’ติ. ‘‘อิทานิมฺห นฏฺา’’ติ ตสนฺติ วิตสนฺติ, อาคนฺตฺวา พาธิยมานา วิย โหนฺติ, เอวํ ตํ ภยเภรวํ อตฺตนิ สมาโรปนฏฺเน อวฺหายนฺติ ปกฺโกสนฺตีติ โยชนํ สนฺธายาห ‘‘เสสํ ตาทิสเมวา’’ติ. ‘‘อนภิชฺฌาลุหมสฺมี’’ติ ปาฬิปเท จิรปริจิตอโลภชฺฌาสยตาย กมลทเล ชลพินฺทุ วิย อลคฺคมานสตฺตา สพฺพตฺถ อนเปกฺโขหมสฺมีติ อตฺโถ.

๓๘. ปกติภาววิชหเนนาติ ปริสุทฺธภาวสงฺขาตสฺส จ ปกติภาวสฺส วิชหเนน. สาวชฺชธมฺมสมุปฺปตฺติยา หิ จิตฺตสฺส อนวชฺชภาโว ชหิโต โหตีติ. วิปนฺนจิตฺตาติ กิเลสาสุจิทูสิตตาย กุถิตจิตฺตา. เตนาห ‘‘กิเลสานุคตํ…เป… ปูติกํ โหตี’’ติ. ปทุฏฺมนสงฺกปฺปาติ วิสสํสฏฺมุตฺตํ วิย โทเสน ปทูสิตจิตฺตสงฺกปฺปา. วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘เต อววตฺถิตารมฺมณา โหนฺตี’’ติอาทินา อภิชฺฌาลุวาเร วุตฺตนเยเนว. ยถา หิ โลภวเสน, เอวํ โทสาทิวเสนปิ อววตฺถิตารมฺมณา โหนฺตีติ. สพฺพตฺถาติ เหฏฺา อุปริ จาติ สพฺพตฺถ าเนสุ วณฺเณตพฺพา.

๓๙. ‘‘ยา จิตฺตสฺส อกลฺลตา อกมฺมฺตา’’ติ วจนโต ถินํ จิตฺตสฺส เคลฺภาเวน คหณํ คจฺฉตีติ อาห ‘‘จิตฺตเคลฺภูเตน ถิเนนา’’ติ. ตถา ‘‘ยา กายสฺส อกลฺลตา อกมฺมฺตา’’ติ (ธ. ส. ๑๑๖๓) วจนโต มิทฺธํ วิเสสโต นามกายสฺส เคลฺภาเวน คหณํ คจฺฉตีติ อาห ‘‘เสสนามกายเคลฺภูเตน มิทฺเธนา’’ติ. เสสคฺคหณฺเจตฺถ จิตฺตนิวตฺตนตฺถํ. อิทฺจ มิทฺธํ รูปกายสฺสปิ เคลฺาวหนฺติ ทฏฺพฺพํ นิทฺทาย เหตุภาวโต. ตถา หิ ตํ ‘‘นิทฺทา จปลายิกา’’ติ นิทฺทิฏฺํ. เตนาห ‘‘เต นิทฺทาพหุลา โหนฺตี’’ติ.

๔๐. อุทฺธจฺจปกติกาติ อุทฺธจฺจสีลา อนวฏฺิตสภาวา. อนวฏฺานรสฺหิ อุทฺธจฺจํ. เตนาห ‘‘วิปฺผนฺทมานจิตฺตา’’ติอาทิ. อิธาติ ‘‘อวูปสนฺตจิตฺตา’’ติ อิมสฺมึ ปเท. กุกฺกุจฺจํ คเหตุํ วฏฺฏติ สํวณฺณนาวเสน ปจฺฉานุตาปสฺสปิ จิตฺตสฺส อวูปสมกรตฺตา. อุทฺธจฺจํ ปน สรูเปเนว คหิตนฺติ อธิปฺปาโย.

๔๑. เอกเมวิทํ ปฺจมํ นีวรณํ ยทิทํ กงฺขา วิจิกิจฺฉาติ จ. ยทิ เอวํ กสฺมา ทฺวิธา กตฺวา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘กึ นุ โข’’ติอาทิ. กงฺขนโตติ สํสยนโต. วิจิกิจฺฉาติ วุจฺจติ ‘‘ธมฺมสภาวํ วิจินนฺโต เอตาย กิจฺฉติ, วิคตา ติกิจฺฉา วา’’ติ กตฺวา.

๔๒. เอวํ นีวรณาภาวกิตฺตนมุเขน สมาธิสมฺปทาย ภยเภรวาภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺตุกฺกํสนาทิอภาวกิตฺตนมุเขน ปฺาสมฺปทาย ภยเภรวาภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘เย โข เกจี’’ติอาทินา อุปริ เทสนา วฑฺฒิตา, ตทตฺถํ วิวริตุํ ‘‘อตฺตุกฺกํสนกา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุกฺกํเสนฺติ มานวเสน ปคฺคณฺหเนน. เตนาห ‘‘อุจฺเจ าเน เปนฺตี’’ติ. ถินมิทฺธอุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจวิจิกิจฺฉาวาเรสุ คยฺหมานํ อภิชฺฌาลุวารสทิสนฺติ ตตฺถ ตํ อนามสิตฺวา อตฺตุกฺกํสกวาเร กิฺจิ วิสทิสํ อตฺถีติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เต กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

๔๓. ฉมฺภนํ ฉมฺโภ, กายสฺส ฉมฺภิตตฺตเหตุภูโต พลวจิตฺตุตฺราโส. โส เอเตสํ อตฺถีติ ฉมฺภี. เตนาห ‘‘กายถมฺภนา’’ติอาทิ. ภีรุกชาติกาติ ภายนกสีลา. เอกเมว เจตํ สาวชฺชภยํ กาเย ฉมฺภิตตฺตสฺส, จิตฺเต จ กาเย จ ถทฺธภาวสฺส อุปฺปาทนวเสน ‘‘ฉมฺโภ ภีรุตา’’ติ จ วุจฺจตีติ ตํสมงฺคิโน สมณพฺราหฺมณา ‘‘ฉมฺภี ภีรุกชาติกา’’ติ วุตฺตา, อิธ ภยเภรวํ สรูเปเนว คหิตํ.

๔๔. ลพฺภติ ปาปุณียตีติ ลาภสทฺทสฺส กมฺมสาธนตฺตมาห. สกฺกจฺจํ กาตพฺโพ ทาตพฺโพติ สกฺกาโร. ตทตฺถทีปกนฺติ ลาภาทึ ปหาย อรฺเ วสโต ภยเภรวาวฺหายนํ นตฺถีติ ทีปกํ. โส กิร ลาภครุตาเยว ปิโย คาโม เอตสฺสาติ ‘‘ปิยคามิโก’’ติ นามํ ลภติ. กมฺมมุตฺโตติ ชราชิณฺณตฺตา กมฺมํ กาตุํ น สกฺโกตีติ สามิเกหิ วิสฺสฏฺโ.

๔๕. อลสภาเวน สมฺมาวายามสฺส อกรณโต กุจฺฉิตํ สีทนฺตีติ กุสีตา. วีรสฺส ภาโว, กมฺมํ วา วีริยํ, วิธินา วา อีเรตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ วีริยํ, สมฺมาวายาโม. เตน หีนา หีนวีริยา. กายวิฺตฺติยา สมุฏฺานวเสน ปวตฺตวีริยํ กายิกวีริยํ, วตฺตกรณจงฺกมนาทีสุ ทฏฺพฺพํ. นิสชฺช สยิตฺวา จ กมฺมฏฺานมนสิการวเสน ปวตฺตวีริยํ เจตสิกวีริยํ. ตตฺถ ปุริมํ วิเสสโต โกสชฺชปฏิปกฺขตาวเสน, ทุติยํ วีริยารมฺภตาวเสน ปากฏํ โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กุสีตา’’ติอาทิมาห. เต หิ หีนวีริยา อลสตาเยว อารมฺมณววตฺถานมตฺตมฺปิ กาตุํ น สกฺโกนฺติ.

๔๖. นฏฺสฺสตีติ อลพฺภมานสฺสติ, ปจฺจยเวกลฺเลน วิชฺชมานายปิ สติยา สติกิจฺจํ กาตุํ อสมตฺถตาย เอวํ วุตฺตํ. น สมฺปชานาติ อสมฺปชานา. ตํโยคนิวตฺติยฺจายํ -กาโร ‘‘อเหตุกา ธมฺมา (ธ. ส. ๒.ทุกมาติกา), อภิกฺขุโก อาวาโส’’ติอาทีสุ (จูฬว. ๗๖) วิยาติ อาห ‘‘ปฺารหิตา’’ติ. นนุ โสฬสโม ปฺาวาโร, อยํ สติวาโร, ตตฺถ กสฺมา สํกิเลสปกฺเข ปฺา คหิตาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘อิมสฺส จา’’ติอาทิ. สติภาชนียเมเวตํ, ยทิทํ จุทฺทสโม วาโร, ปฺา ปเนตฺถ จุทฺทสเม วาเร เกวลา สติ ทุพฺพลาติ สติทุพฺพลฺยทีปนตฺถํ ‘‘อสมฺปชานา’’ติ ปฏิกฺเขปมุเขน วุตฺตา. อิทานิ วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘ทุวิธา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๔๗. อปฺปนาสมาธินา, อุปจารสมาธินา วา จิตฺตํ อารมฺมเณ สมํ, สมฺมา วา อาหิตํ นาม โหติ, นาฺถาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อสมาหิตาติ อุปจารปฺปนาสมาธิวิรหิตา’’ติ อาห . วิพฺภนฺตจิตฺตาติ อนวฏฺิตจิตฺตา. ปุพฺเพ นีวรณภาวสามฺเน อุทฺธจฺจํ คหิตํ ‘‘อุทฺธตา อวูปสนฺตจิตฺตา’’ติ, อิธ สมาธานาภาเวน อุทฺธจฺจเหตุโก จิตฺตวิพฺภโม วุตฺโต ‘‘อสมาหิตา วิพฺภนฺตจิตฺตา’’ติ, อยเมเตสํ วิเสโส. ปุพฺเพ วุตฺตนเยนาติ ปุพฺเพ ‘‘อุทฺธจฺเจน หิ เอการมฺมเณ จิตฺตํ วิปฺผนฺทติ ธชยฏฺิยํ วาเตน ปฏากา วิยา’’ติ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๔๐) วุตฺตนเยน. สพฺพํ ปุพฺพสทิสเมวาติ ภยเภรวาวฺหายนสฺส อภิชฺฌาลุวาเร วุตฺตสทิสตํ สนฺธาย วทติ.

๔๘. ทุปฺปฺาติ เอตฺถ ทุ-สทฺโท ‘‘ทุสฺสีโล’’ติอาทีสุ วิย อภาวตฺโถ, น ‘‘ทุคฺคติ, ทุปฺปฏิปนฺโน’’ติอาทีสุ วิย ครหตฺโถติ ทสฺเสตุํ ‘‘นิปฺปฺานเมตํ อธิวจน’’นฺติ วตฺวา ‘‘ปฺา ปน ทุฏฺา นาม นตฺถี’’ติ วุตฺตํ. เตติ ทุปฺปฺา. สพฺพตฺถาติ จตูสุปิ ปาวิกปฺเปสุ. เอลนฺติ วา โทโส วุจฺจติ. เตนาห ‘‘ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา’’ติ. ตถา หิ สีลํ ‘‘เนลงฺค’’นฺติ วุตฺตํ. ทุปฺปฺา จ กเถนฺตา สโทสเมว กถํ กเถนฺติ อปณฺฑิตภาวโต. เตเนวาห ‘‘ทุพฺภาสิตภาสี’’ติ. ตสฺมา เอลสพฺภาวโต เอลํ มุขํ เอเตสนฺติ เอลมูคาติ วุตฺตาติ เอวมฺปิ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยาย ปฺาย วเสน ‘‘ปฺาสมฺปนฺโน’’ติ วุตฺตํ, ตํ พฺยติเรกมุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘โน จ โข’’ติอาทิ วุตฺตํ. นนุ จ โพธิสตฺตา พหุลวิปสฺสนาปฺาย สมนฺนาคตา โหนฺตีติ? โหนฺติ, ตทา ปน โพธิสตฺเตน น วิปสฺสนารมฺโภ กโต, โน จ วิปสฺสนาปฺา อธิปฺเปตาติ วุตฺตํ ‘‘โน จ โข วิปสฺสนาปฺายา’’ติ.

เกจิ ปเนตฺถ ‘‘สทฺธาวิรหิตา อปริสุทฺธกายกมฺมนฺตาทโย วิย ภยเภรวาวฺหายนสฺส วิเสสการณํ, นาปิ สทฺธาลุตา ปลฺโลมตายาติ สทฺธาวาโร อนุทฺธโฏ’’ติ วทนฺติ, ตํ อการณํ. กมฺมผเล หิ สทฺทหนฺโต กมฺมปฏิสรณตํเยว นิสฺสาย ภยเภรวํ ติณายปิ อมฺมาโน ปลฺโลมตมาปชฺเชยฺย. ยสฺมา ปน วีริยาทโย สทฺธาย วินา นปฺปวตฺตนฺตีติ เตสํ อุปนิสฺสยภูตา สหชาตา จ สา ตคฺคหเณเนว คหิตา โหตีติ วิสุํ น อุทฺธฏา. ตถา หิ สา ฌานสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทายมฺปิ น อุทฺธฏา, กึ วา เอตาย สทฺธาย, อทฺธา สา อิมสฺมึ อารมฺมณปริคฺคหฏฺาเน น คเหตพฺพาว, ตโต ธมฺมสฺสามินา อิธ น อุทฺธฏา, เอวํ อฺเสุปิ เอทิเสสุ าเนสุ นิจฺฉโย กาตพฺโพ. ยถานุโลมเทสนา หิ สุตฺตนฺตกถาติ.

วจีกมฺมนฺตวาราทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

โสฬสฏฺานารมฺมณปริคฺคโห นิฏฺิโต.

ภยเภรวเสนาสนาทิวณฺณนา

๔๙. โสฬสารมฺมณานีติ โสฬสฏฺานานิ อารมฺมณานิ. เอวรูปาสุ รตฺตีสูติ จาตุทฺทสีอาทิกา อุปริ วกฺขมานา รตฺติโย สนฺธาย วทติ . เอวรูเป เสนาสเนติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ยาติ อนิยมโต อุทฺทิฏฺานํ ปุน ‘‘ตา’’ติ วจนํ นิทฺเทโส วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ยา ตาติ อุภยเมตํ รตฺตีนํเยว อุทฺเทสนิทฺเทสวจน’’นฺติ. อภีติ ลกฺขณตฺเถ ‘‘อฺเ จ อภิฺาตา พฺราหฺมณมหาสาลา’’ติอาทีสุ วิย. กถํ ปเนตฺถ ลกฺขณตฺถตา เวทิตพฺพา? ลกฺขียติ เอเตนาติ ลกฺขณนฺติ อาห ‘‘จนฺทปาริปูริยา’’ติอาทิ. ปุณฺณมาสิยํ จนฺทปาริปูริยา อมาวาสิยํ จนฺทปริกฺขเยน. อาทิ-สทฺเทน จนฺทสฺส อุปฑฺฒมณฺฑลตาราหุคฺคหตาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อุปสคฺคมตฺตเมว อภิ-สทฺโท ลกฺขิตสทฺเทเนว ลกฺขณตฺถสฺส วิฺายมานตฺตาติ อธิปฺปาโย.

ปมทิวสโต ปภุตีติ ปมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย. ยสฺมา โจทโก ภควโต กาเล อนภิลกฺขิตาปิ อปรภาเค อภิลกฺขิตา ชาตา, ตสฺมา ตํ อภิลกฺขณียตํ อุปาทาย ‘‘สพฺพทสฺสินา ภควตา ปฺจมี กสฺมา น คหิตา’’ติ โจเทติ, อิตโร สพฺพกาลิกาสุ จาตุทฺทสีอาทีสุ คยฺหมานาสุ อสพฺพกาลิกาย กถํ คหณนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘อสพฺพกาลิกตฺตา’’ติ ปริหรติ.

ตถาวิธาสูติ ‘‘อภิฺาตา’’ติอาทินา ยถา วุตฺตา, ตถาวิธาสุ. เทวตาธิฏฺิตภาเวน อารามาทีนํ โลกสฺส เจติยภาโวติ อาห ‘‘ปูชนียฏฺเนา’’ติ. มนุสฺสา เยภุยฺเยน คามาทีนํ ทฺวาเรสุ ตถารูเป รุกฺเข เจติยฏฺานิเย กตฺวา โวหรนฺตีติ อาห ‘‘คามนิคมาทิทฺวาเรสู’’ติอาทิ. ทสฺสนมตฺเตนปิ สวนมตฺเตนปิ ภยุปฺปาทเนน ปากติกสตฺเต ภึเสนฺตีติ ภึสนกานิ. เตนาห ‘‘ภยชนกานี’’ติอาทิ. ภายติ เอตสฺมาติ ภยํ, อติวิย สปฺปฏิภยํ เภรวํ.

อายาจนอุปหารกรณารหนฺติ ตํตํพลิกมฺมปณิธิกมฺมกรณโยคฺคํ. ปุปฺผธูป…เป… ธรณิตลนฺติ อิทํ ยถาปฏิสูเตน สุปฺปาทินา อุปหารกรณทสฺสนํ. โกฏฺเฏนฺโตติ ปหรนฺโต, สิงฺคปฺปหารขุรปฺปหาเรหิ สทฺทํ กโรนฺโตติ อธิปฺปาโย. สพฺพจตุปฺปทานํ อิธ มโคติ นามํ, น ‘‘อจฺฉจมฺมํ มิคจมฺมํ เอฬกจมฺม’’นฺติอาทีสุ (มหาว. ๒๕๙) วิย, โรหิโตติอาทิ มิควิเสสานนฺติ อธิปฺปาโย. จาเลตฺวาติ อคฺคมทฺทเนน จาเลตฺวา. โมรคฺคหณฺเจตฺถ อุปลกฺขณนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อิธ สพฺพปกฺขิคหณํ อธิปฺเปต’’นฺติ. เอส นโยติ อิทํ ยถา ‘‘โมโร วา’’ติ เอตฺถ วา-สทฺโท อวุตฺตวิกปฺปนตฺโถ, เอวํ ‘‘มิโค วา’’ติ เอตฺถาปีติ มิคสทฺทสฺส วิเสสตฺถวุตฺติตํ สนฺธายาห. อิโต ปภูตีติ ‘‘ยํนูนาหํ ยา ตา รตฺติโย’’ติอาทินา ภยเภรวสฺส คเวสนจินฺตนโต ปภุติ, น คเวสนารมฺภโต ปภุติ. ‘‘อปฺเปว นามาหํ ภยเภรวํ ปสฺเสยฺย’’นฺติ เอตฺถาปิ หิ อารมฺมณเมว ภยเภรวํ. สุขารมฺมณํ รูปํ สุขมิว ‘‘รูปํ สุขํ สุขานุปติตํ สุขาวกฺกนฺต’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๖๐). กถํ ภยคฺคหเณน จ รูปารมฺมณคฺคหณนฺติ อาห ‘‘ปริตฺตสฺส จา’’ติอาทิ. ‘‘อาคจฺฉตี’’ติ วจนโต คเวสนารมฺภโต ปภุติ ‘‘เอตํ ภย’’นฺติ อารมฺมณํ อธิปฺเปตนฺติ เกจิ ‘‘ตํ น ปสฺเสยฺย’’นฺติ จกฺขุนา ทสฺสนสฺส อธิปฺเปตตฺตา, ตสฺมา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ คเหตพฺโพ. ภยํ อากงฺขมาโนติ อุปปริกฺขนวเสน อหํ ภยวตฺถุํ อากงฺขนฺโต วิหรามิ, ตํ กิมตฺถิยํ, เอตฺตโกปิ ภยสมนฺนาหาโร มยฺหํ อยุตฺโตติ อธิปฺปาโย.

ยํ ปการํ ภูโต ยถาภูโต, โส ปเนตฺถ ปกาโร อิริยาปถวเสน ยุตฺโต ปาฬิยํ ตถา อาคตตฺตาติ อาห ‘‘เยน เยน อิริยาปเถน ภูตสฺสา’’ติ. ภวิตสฺสาติ อิทํ ‘‘ภูตสฺสา’’ติ อิมินา สมานตฺถํ ปทนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘สมงฺคีภูตสฺสา’’ติ ปทํ ปุริมปทโลเปน ภูตสฺสาติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมงฺคีภูตสฺส วา’’ติ อาห. ภยเภรวารมฺมเณติ ภยเภรวาภิมเต อารมฺมเณ. เนว มหาสตฺโต ติฏฺตีติอาทิ ‘‘ตถาภูโต จ ตํ ปฏิวิเนยฺย’’นฺติ ยถา จินฺติตํ, ตถา ปฏิปนฺนภาวทสฺสนํ. อิริยาปถปฏิปาฏิ นาม านคมนนิสชฺชานิปชฺชาติ วทนฺติ, อุปฺปฏิปาฏิ ปน ปมํ นิปชฺชา, ปุน นิสชฺชา, ปุน านํ, ปจฺฉา คมนนฺติ เอวํ เวทิตพฺพา. อาสนฺนปฏิปาฏิยาติ คมนสฺส ตาว านํ อาสนฺนํ, านสฺส นิสชฺชา คมนฺจ, นิสชฺชาย นิปชฺชา านฺจ, นิปชฺชาย นิสชฺชา อาสนฺนา. อิธ ปน คมนสฺส านํ, านสฺส จ คมนํ, นิสชฺชาย จ นิปชฺชา, นิปชฺชาย จ นิสชฺชา อาสนฺนภาเวน คหิตา, อิตเร ปรมฺปราวเสนาติ เวทิตพฺพา. ภิกฺขุสฺส ปน อิริยาปถา สมฺปตฺตปฏิปาฏิยา วิย อปราปรุปฺปตฺติวเสน วุจฺจนฺติ.

ภยเภรวเสนาสนาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

อสมฺโมหวิหารวณฺณนา

๕๐. อยฺจ เม สพฺพโส ภยเภรวาภาโว วิเสสโต อสมฺโมหธมฺมตฺตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สนฺติโข ปนา’’ติอาทินา อุปริ เทสนา วฑฺฒิตาติ อยํ วา เอตฺถ อนุสนฺธิ. ฌายีนํ สมฺโมหฏฺาเนสูติ อิมินา อชฺฌายีนํ สมฺโมหฏฺาเนสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. อตฺถีติ อิทํ นิปาตปทํ ปุถุวจนมฺปิ โหติ ‘‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๗๓-๓๗๔; ม. นิ. ๑.๑๑๐; ๓.๑๕๔; สํ. นิ. ๔.๑๒๗; ขุ. ปา. ๓.ทฺวตึสาการ) วิยาติ ‘‘สนฺตี’’ติ ปทสฺส อตฺถทสฺสนวเสน วุตฺตํ. กึ ขณตฺตยสมงฺคิตาย เต อตฺถิ, โนติ อาห ‘‘สํวิชฺชนฺติ อุปลพฺภนฺตี’’ติ, มหติ โลกสนฺนิวาเส เอทิสาปิ สํวิชฺชนฺติ าเณน คเหตพฺพตาย อุปลพฺภนฺตีติ. โอทาตกสิณลาภีติ อปฺปมาณโอทาตกสิณลาภี. เอวํ หิสฺส สมนฺตโต อาโลโก วิย อุปฏฺาติ. ปริกมฺมนฺติ สมาปตฺติปุพฺพภาคมาห. เอตฺตกํ สูริเย คเต วุฏฺหามีติ,โน จ โข อทฺธานปริจฺเฉเท กุสโล โหติ, เกวลํ ‘‘ทิวา เอว วุฏฺหามี’’ติ มนสิการํ อุปฺปาเทสิ. วิสทํ โหติ สพฺพํ อารมฺมณชาตํ, ทิพฺพจกฺขุนา ปสฺสนฺตสฺส วิย วิภูตํ. อวิสทนฺติ เอตฺถ วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวํสฺิโนติ รตฺตึ ‘‘ทิวา’’ติ, ทิวา จ ‘‘รตฺตี’’ติ เอวํสฺิโน.

อนฺโตเสนาสเน รตฺตึ นิสินฺโน โหตีติ รตฺติ-สทฺโท อชฺฌาหริตพฺโพ. ปริตฺตาสนาทีหิ, อฺเหิ วา การเณหิ. คมฺภีราย ภูมิคพฺภสทิสาย ฆนวนปฏิจฺฉนฺนาย พหลตรชาลวนปฏลปฏิจฺฉนฺนาย. อนฺตรหิตสูริยาโลเก กาเลติ เอเตเนว ทิวาติ อวุตฺตสิทฺโธ. สมฺโมหวิหาโร นาม พหุวิโธติ อาห ‘‘สมฺโมหวิหารานํ อฺตร’’นฺติ.

ปากโฏ โพธิสตฺตสฺส รตฺตินฺทิวปริจฺเฉโท อนฺตมโส ลวตุฏิขณสฺสปิ อุปาทาย สุววตฺถิตตฺตา, ตถา รตฺติทิวสโกฏฺาสปริจฺเฉโท อตฺตนา กาตพฺพกิจฺจวเสน กาลาณวเสน จ.

กาลถมฺเภ ลทฺธพฺพฉายาวเสน ทฺวงฺคุลกาเล. ยามฆณฺฏิกํ ปหรติ สงฺฆสฺส ตํตํวตฺตกรณตฺถํ. มุคฺครนฺติ ฆณฺฏิกปฺปหรณมุคฺครํ. ยามยนฺตํ ปตติ อฺเหิ ภิกฺขูหิ โยชิตนฺติ อธิปฺปาโย. ยาว อฺเ ภิกฺขู โภชนสาลํ อุปคจฺฉนฺติ, ตาว ทิวาวิหารฏฺานํ คนฺตฺวา สมณธมฺมํ กโรติ.

ยํ โข ตนฺติ เอตฺถ นฺติ อนิยมุทฺเทโส, โขติ อวธารเณ, ยเมว ปุคฺคลนฺติ อตฺโถ. นฺติ วุจฺจมานาการวจนํ. มเมวาติ มํ เอว. อสมฺโมหสภาโวติ สภาวภูตอสมฺโมโห. ‘‘อุปฺปนฺโน’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘มนุสฺสโลเก’’ติ วุตฺตํ. ปฺาสมฺปตฺติยาติ ยาถาวโต หิตสฺส ชานนสมตฺเถน อตฺตโน ปฺาคุเณน, น เกวลํ อชฺฌาสเยเนว หิเตสิตา, อถ โข ปโยเคนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘หิตูปเทสโก’’ติ อาห. อชฺฌาสเยน ปน หิเตสิตา ‘‘โลกานุกมฺปายา’’ติ อิมินา ทสฺสิตา. อุปกรเณหิ วินา น กทาจิ โภคสุขํ อุปกรณทานฺจ จาคสมฺปตฺติเหตุกนฺติ อาห ‘‘จาคสมฺปตฺติยา…เป… ทายโก’’ติ. เมตฺตาสมฺปตฺติยา หิตูปสํหาเรน รกฺขิตา. กรุณาสมฺปตฺติยา ทุกฺขาปนยเนน โคปายิตา. นนุ จ ปุพฺเพปิ วุตฺตํ ‘‘หิตาย สุขายา’’ติ, อถ กสฺมา ปุน ตํ คหิตนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘อิธ เทวมนุสฺสคฺคหเณนา’’ติอาทิ. เตน ปุพฺเพ อวิเสสโต หิตาทีนิ ทสฺสิตานิ, อิทานิ วิเสสโต สห ปโยชเนน ตานิ ทสฺสิตานีติ ทีเปติ. นิพฺพานโต ปโร ปรโม อตฺโถ นาม นตฺถีติ อาห ‘‘ปรมตฺถตฺตายา’’ติ. หิโนติ นิพฺพานํ คจฺฉตีติ หิตํ, มคฺโค. อุกฺกํสโต สุขตฺถํ อริยผลนฺติ อาห ‘‘ตโต อุตฺตริ สุขาภาวโต’’ติ.

อสมฺโมหวิหารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปุพฺพภาคปฏิปทาทิวณฺณนา

๕๑. อสมฺโมหวิหารนฺติ อสมฺโมหวุตฺตึ, อสมฺโมหสมฺโพธินฺติ วา อตฺโถ. นฺติ สมถวิปสฺสนาภาวนาสงฺขาตํ ปฏิปทํ. ปุพฺพภาคโต ปภุตีติ ภาวนาย ปุพฺพภาควีริยารมฺภาทิโต ปฏฺาย. เกจีติ อุตฺตรวิหารวาสิโน.

โพธิมณฺเฑติ (สารตฺถ. ฏี. ๑.๑๑.เวรฺชกณฺฑวณฺณนา; อ. นิ. ฏี. ๓.๘.๑๑) โพธิสงฺขาตสฺส าณสฺส มณฺฑภาวปฺปตฺเต าเน. จตุรงฺคนฺติ ‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ, อฏฺิ จ อวสิสฺสตู’’ติอาทินา (ม. นิ. ๒.๑๘๔; สํ. นิ. ๒.๒๓๗; อ. นิ. ๒.๕; ๘.๑๓; มหานิ. ๑๗, ๑๙๖) วุตฺตจตุรงฺคสมนฺนาคตํ. ปคฺคหิตนฺติ อารมฺภํ สิถิลํ อกตฺวา ทฬฺหปรกฺกมสงฺขาตุสฺสหนภาเวน คหิตํ. เตนาห ‘‘อสิถิลปฺปวตฺติตนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. อสลฺลีนนฺติ อสงฺกุจิตํ โกสชฺชวเสน สงฺโกจํ อนาปนฺนํ.

อุปฏฺิตาติ โอคาหนสงฺขาเตน อปิลาปนภาเวน อารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา ิตา. เตนาห ‘‘อารมฺมณาภิมุขีภาเวนา’’ติ. สมฺโมสสฺส วิทฺธํสนวเสน ปวตฺติยา น สมฺมุฏฺาติ อสมฺมุฏฺา. กิฺจาปิ จิตฺตมิว จิตฺตปสฺสทฺธิวเสน กายปสฺสทฺธิวเสเนว กาโย ปสฺสทฺโธ โหติ, ตถาปิ ยสฺมา กายปสฺสทฺธิ อุปฺปชฺชมานา จิตฺตปสฺสทฺธิยา สเหว อุปฺปชฺชติ, น วินา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘กายจิตฺตปสฺสทฺธิสมฺภเวนา’’ติ . รูปกาโยปิ ปสฺสทฺโธเยว โหติ กายปสฺสทฺธิยา อุภเยสมฺปิ กายานํ ปสฺสมฺภนาวหตฺตา. โส จ โข กาโย. วิคตทรโถติ วิคตกิเลสทรโถ. นามกาเย หิ วิคตทรเถ รูปกาโยปิ วูปสนฺตทรถปริฬาโห โหติ. สมฺมา อาหิตนฺติ นานารมฺมเณสุ วิธาวนสงฺขาตวิกฺเขปํ วิจฺฉินฺทิตฺวา เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ อวิกฺขิตฺตภาวาปาทาเนน สมฺมเทว อาหิตํ. เตนาห ‘‘สุฏฺุ ปิต’’นฺติอาทิ. จิตฺตสฺส อเนกคฺคภาโว วิกฺเขปวเสน จฺจลตา, สา สติ เอกคฺคตาย น โหตีติ อาห ‘‘เอกคฺคํ อจลํ นิปฺผนฺทน’’นฺติ. เอตฺตาวตาติ ‘‘อารทฺธํ โข ปนา’’ติอาทินา วีริยสติปสฺสทฺธิสมาธีนํ กิจฺจสิทฺธิทสฺสเนน. นนุ จ สทฺธาปฺานมฺปิ กิจฺจสิทฺธิ ฌานสฺส ปุพฺพปฏิปทาย อิจฺฉิตพฺพาติ? สจฺจํ อิจฺฉิตพฺพา, สา ปน นานนฺตริยภาเวน อวุตฺตสิทฺธาติ น คหิตา. อสติ หิ สทฺธาย วีริยารมฺภาทีนํ อสมฺภโวเยว, ปฺาปริคฺคเห จ เนสํ อสติ ปฺายารมฺภาทิภาโว น สิยา. ตถา อสลฺลีนาสมฺโมสตาทโย วีริยาทีนนฺติ อสลฺลีนตาทิคฺคหเณเนเวตฺถ ปฺากิจฺจสิทฺธิ คหิตาติ ทฏฺพฺพํ. ฌานภาวนายํ วา สมาธิกิจฺจํ อธิกํ อิจฺฉิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ สมาธิปริโยสานาว ฌานสฺส ปุพฺพปฏิปทา กถิตาติ ทฏฺพฺพํ.

วุตฺตํ, ตสฺมา อิธ น วตฺตพฺพํ. วิสุทฺธิมคฺโค หิ อิมิสฺสา สํวณฺณนาย เอกเทสภูโตติ วุตฺโตวายมตฺโถติ. วิหรตีติ อาคตํ ปรุทฺเทสิกตฺตา วิหารสฺส. อิธ วิหาสินฺติ อาคตํ อตฺถุทฺเทสิกตฺตา. อิทํ กิร สพฺพพุทฺธานํ อวิชหิตนฺติ อาห ‘‘อานาปานสฺสติกมฺมฏฺาน’’นฺติ. รูปวิราคภาวนาวเสน (สารตฺถ. ฏี. ๑.๑๒.เนรฺชกณฺฑวณฺณนา) ปวตฺโต จตุพฺพิโธปิ อรูปชฺฌานวิเสโส จตุตฺถชฺฌานสงฺคโห เอวาติ อาห ‘‘จตฺตาริ ฌานานี’’ติ. ยุตฺตํ ตาว จิตฺเตกคฺคตา ภโวกฺกมนตฺถตา วิย วิปสฺสนาปาทกตาปิ จตุนฺนํ ฌานานํ สาธารณาติ เตสํ วเสน ‘‘จตฺตาริ ฌานานี’’ติ วจนํ, อภิฺาปาทกตา ปน นิโรธปาทกตา จ จตุตฺถสฺเสว ฌานสฺส อาเวณิกา, สา กถํ จตุนฺนํ ฌานานํ สาธารณา วุตฺตาติ? ปรมฺปราธิฏฺานภาวโต. ปทฏฺานปทฏฺานมฺปิ หิ ปทฏฺานนฺเตว วุจฺจติ, การณการณมฺปิ การณนฺติ ยถา ‘‘ติเณหิ สตฺตํ สิทฺธ’’นฺติ, เอวฺจ กตฺวา ปโยชนนิทฺเทเส อฏฺสมาปตฺติคฺคหณํ สมตฺถิตํ โหติ. จิตฺเตกคฺคตตฺถานีติ จิตฺตสมาธานตฺถานิ, ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถานีติ อตฺโถ. จิตฺเตกคฺคตาสีเสน หิ ทิฏฺธมฺมสุขวิหาโร วุตฺโต, สุกฺขวิปสฺสกขีณาสววเสน เจตํ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘เอกคฺคจิตฺตา สุขํ ทิวสํ วิหริสฺสามา’’ติ. ภโวกฺกมนตฺถานีติ ภเวสุ นิพฺพตฺติอตฺถานิ.

ยสฺมา (สารตฺถ. ฏี. ๑.๑๒.เนรฺชกณฺฑวณฺณนา) โพธิสตฺเตน โพธิมณฺฑูปสงฺกมนโต ปุพฺเพปิ จริมภเว จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺติตปุพฺพํ, ตทา ปน ตํ นิพฺพตฺติตมตฺตเมว อโหสิ, น วิปสฺสนาทิปาทกํ , ตสฺมา ‘‘โพธิรุกฺขมูเล นิพฺพตฺติต’’นฺติ ตโต วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. วิปสฺสนาปาทกนฺติ วิปสฺสนารมฺเภ วิปสฺสนาย ปาทกํ. อภิฺาปาทกนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. พุทฺธานฺหิ ปมารมฺเภ เอว ปาทกชฺฌาเนน ปโยชนํ อโหสิ, น ตโต ปรํ อุปริมคฺคาธิคมผลสมาปตฺติอภิฺาวฬฺชนาทิอตฺถํ. อภิสมฺโพธิสมธิคมโต ปฏฺาย หิ สพฺพํ าณสมาธิกิจฺจํ อากงฺขมตฺตปฏิพทฺธเมวาติ. สพฺพกิจฺจสาธกนฺติ อนุปุพฺพวิหาราทิสพฺพกิจฺจสาธกํ. สพฺพโลกิยโลกุตฺตรคุณทายกนฺติ เอตฺถ วิปสฺสนาภิฺาปาทกตฺตา เอว จตุตฺถสฺส ฌานสฺส ภควโต สพฺพโลกิยโลกุตฺตรคุณทายกตา เวทิตพฺพา. สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานฺหิ มคฺคาณํ, มคฺคาณปทฏฺานฺจ สพฺพฺุตฺาณํ อภิสมฺโพธิ, ตทธิคมสมกาลเมว ภควโต สพฺเพ พุทฺธคุณา หตฺถคตา อเหสุํ, จตุตฺถชฺฌานสนฺนิสฺสโย จ มคฺคาธิคโมติ.

ปุพฺพภาคปฏิปทาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปุพฺเพนิวาสกถาวณฺณนา

๕๒. ทฺวินฺนํวิชฺชานนฺติ ปุพฺเพนิวาสาณทิพฺพจกฺขุาณสงฺขาตานํ ทฺวินฺนํ วิชฺชานํ. อนุปทวณฺณนาติ ตาสํ วิชฺชานํ นิทฺเทสปาฬิยา อนุปทวณฺณนา. ภาวนานโยติ อุปฺปาทนวิธิ. ‘‘โส’’ติ ปจฺจตฺตวจนสฺส อหํ-สทฺเทน สมฺพนฺธเน การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อภินินฺนาเมสิ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปาฬิยํ วา ‘‘อภินินฺนาเมสิ’’นฺติ อุตฺตมปุริสสฺส โยโคติ อหํ-สทฺเทน อาเนตฺวา วุจฺจมาเน ตทตฺโถ ปากโฏ โหตีติ ‘‘โส อห’’นฺติ วุตฺตํ. อภินีหรินฺติ จิตฺตํ ฌานารมฺมณโต อปเนตฺวา ปุพฺเพนิวาสาภิมุขํ เปเสสึ, ปุพฺเพนิวาสนินฺนํ ปุพฺเพนิวาสโปณํ ปุพฺเพนิวาสปพฺภารํ อกาสินฺติ อตฺโถ.

ปุพฺเพอตีตชาตีสุ นิวุตฺถกฺขนฺธา ปุพฺเพนิวาโส. นิวุตฺถาติ จ อชฺฌาวุตฺถา อนุภูตา อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธา, โคจรนิวาเสน นิวุตฺถธมฺมา วา อตฺตโน วิฺาเณนวิฺาตา, ปรวิฺาณวิฺาตาปิ วา ฉินฺนวฏุมกานุสฺสรณาทีสุ, ตํ ปุพฺเพนิวาสํ ยาย สติยา อนุสฺสรติ, ตาย สมฺปยุตฺตํ าณํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติฺาณํ. ปฏินิวตฺตนฺตสฺสาติ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรณวเสน ยาวทิจฺฉกํ คนฺตฺวา ปจฺจาคจฺฉนฺตสฺส. ตสฺมาติ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส การณภาเวน ปจฺจามสนํ, ปฏินิวตฺตนฺตสฺส ปจฺจเวกฺขณภาวโตติ วุตฺตํ โหติ. อิธูปปตฺติยาติ อิธ จริมภเว อุปปตฺติยา. อนนฺตรนฺติ อตีตานนฺตรมาห. อมุตฺราติ อมุกสฺมึ ภเวติ อตฺโถ. อุทปาทินฺติ อุปฺปชฺชึ. ตาหิ เทวตาหีติ ตุสิตาเทวตาหิ. เอกโคตฺโตติ ตุสิตโคตฺเตน เอกโคตฺโต. มหาโพธิสตฺตานํ สนฺตานสฺส ปริโยสานาวตฺถาย เทวโลกูปปตฺติชนกํ นาม อกุสเลน กมฺมุนา อนุปทฺทุตเมว โหตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘ทุกฺขํ ปน สงฺขารทุกฺขเมวา’’ติ วุตฺตํ. มหาปุฺานมฺปิ ปน เทวปุตฺตานํ ปุพฺพนิมิตฺตุปฺปตฺติกาลาทีสุ อนิฏฺารมฺมณสมาโยโค โหติเยวาติ ‘‘กทาจิ ทุกฺขทุกฺขสฺสปิ สมฺภโว นตฺถี’’ติ น สกฺกา วตฺตุํ. สตฺตปฺาส…เป… ปริยนฺโตติ อิทํ มนุสฺสานํ วสฺสคณนาวเสน วุตฺตํ. ตตฺถ เทวานํ วสฺสคณนาย ปน จตุสหสฺสเมว.

อตีตภเว (สารตฺถ. ฏี. ๑.๑๒.ปุพฺเพนิวาสกถายํ) ขนฺธา ตปฺปฏิพทฺธนามโคตฺตานิ จ สพฺพํ ปุพฺเพนิวาสนฺเตว สงฺคหิตนฺติ อาห ‘‘กึ วิทิตํ กโรติ? ปุพฺเพนิวาส’’นฺติ. โมโห ปฏิจฺฉาทกฏฺเน‘‘ตโม’’ติ วุจฺจติ ‘‘ตโม วิยา’’ติ กตฺวา. โอภาสกรณฏฺเนาติ กาตพฺพโต กรณํ, โอภาโสว กรณํ, อตฺตโน ปจฺจเยน โอภาสภาเวน นิพฺพตฺเตตพฺพฏฺเนาติ อตฺโถ. เสสํ ปสํสาวจนนฺติ ปฏิปกฺขวิธมนปวตฺติวิเสสานํ โพธนโต วุตฺตํ. อวิชฺชา วิหตาติ เอเตน วิชฺชนฏฺเน วิชฺชาติ อยมฺปิ อตฺโถ ทีปิโตติ ทฏฺพฺพํ. ยสฺมา วิชฺชา อุปฺปนฺนาติ เอเตน วิชฺชาปฏิปกฺขา อวิชฺชา, ปฏิปกฺขตา จสฺสา ปหาตพฺพภาเวน วิชฺชาย จ ปหายกภาเวนาติ ทสฺเสติ. เอส นโย อิตรสฺมิมฺปิ ปททฺวเยติ อิมินา ตโม วิหโต วินฏฺโ. กสฺมา? ยสฺมา อาโลโก อุปฺปนฺโนติ อิมมตฺถํ อติทิสติ. เปสิตตฺตสฺสาติ ยถาธิปฺเปตตฺถสิทฺธึ ปติ วิสฺสฏฺจิตฺตสฺส. ยถา อปฺปมตฺตสฺสาติ อฺสฺสปิ กสฺสจิ มาทิสสฺสาติ อธิปฺปาโย.

ปุพฺเพนิวาสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทิพฺพจกฺขุาณกถาวณฺณนา

๕๓. อิธาติ ภยเภรวสุตฺเต วุตฺตํ. อิธ อยํ วิเสโสติ โยชนา. วุตฺตสทิสเมว ‘‘เมติ มยา’’ติอาทินา. ปริกมฺมกิจฺจนฺติ ‘‘อภิฺาปาทกจตุตฺถชฺฌานโต วุฏฺาย สพฺพปจฺฉิมา นิสชฺชา อาวชฺชิตพฺพา’’ติอาทินา, กสิณารมฺมณํ อภิฺาปาทกชฺฌานํ สพฺพากาเรน อภินีหารกฺขมํ กตฺวา’’ติอาทินา จ วุตฺเตน ปริกมฺเมน กิจฺจํ ปโยชนํ นตฺถิ. เตน อิธ อตฺโถติ เตน ภาวนานเยน อิธ ปาฬิยา อตฺถวณฺณนายํ อตฺโถ นตฺถิ ตถาภาวนาย อิธ อนธิปฺเปตตฺตาติ อธิปฺปาโย.

ทิพฺพจกฺขุาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อาสวกฺขยาณกถาวณฺณนา

๕๔. วิปสฺสนาปาทกนฺติ (สารตฺถ. ฏี. ๑.๑๔.อาสวกฺขยาณกถายํ; ที. นิ. ฏี. ๑.๒๔๘; อ. นิ. ฏี. ๒.๓.๕๙) วิปสฺสนาย ปทฏฺานภูตํ. วิปสฺสนา จ ติวิธา วิปสฺสนกปุคฺคลเภเทน. มหาโพธิสตฺตานฺหิ ปจฺเจกโพธิสตฺตานฺจ วิปสฺสนา จินฺตามยาณสํวทฺธิตตฺตา สยมฺภุาณภูตา, อิตเรสํ สุตมยาณสํวทฺธิตตฺตา ปโรปเทสสมฺภูตา, สา ‘‘เปตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ อวเสสรูปารูปชฺฌานานํ อฺตรโต วุฏฺายา’’ติอาทินา อเนกธา อรูปมุขวเสน จตุธาตุววตฺถาเน วุตฺตานํ เตสํ เตสํ ธาตุปริคฺคหมุขานํ อฺตรมุขวเสน อเนกธาว วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๐๖) นานานยโต วิภาวิตา. มหาโพธิสตฺตานํ ปน จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสมุเขน ปเภทคมนโต นานานยํ สพฺพฺุตฺาณสนฺนิสฺสยสฺส อริยมคฺคาณสฺส อธิฏฺานภูตํ ปุพฺพภาคาณคพฺภํ คณฺหาเปนฺตํ ปริปากํ คจฺฉนฺตํ ปรมคมฺภีรสณฺหสุขุมตรํ อนฺสาธารณํ วิปสฺสนาาณํ โหติ, ยํ อฏฺกถาสุ มหาวชิราณนฺติ วุจฺจติ. ยสฺส จ ปวตฺติวิภาเคน จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสปฺปเภทสฺส ปาทกภาเวน สมาปชฺชิยมานา จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสงฺขา เทวสิกํ สตฺถุ วฬฺชนกสมาปตฺติโย วุจฺจนฺติ, สฺวายํ พุทฺธานํ วิปสฺสนาจาโร ปรมตฺถมฺชูสาย วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาย (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๔๔) อุทฺเทสโต ทสฺสิโต, อตฺถิเกหิ ตโต คเหตพฺโพติ.

อาสวานํ เขปนโต สมุจฺฉินฺทนโต อาสวกฺขโย, อริยมคฺโค, อุกฺกฏฺนิทฺเทสวเสน อรหตฺตมคฺคคฺคหณํ. อาสวานํ ขเย าณํ อาสวกฺขยาณนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺร เจตํ าณ’’นฺติ วตฺวา ขเยติ จ อาธาเร ภุมฺมํ, น วิสเยติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตปฺปริยา ปนฺนตฺตา’’ติ อาห. อิทํ ทุกฺขนฺติ ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส ตทา ปจฺจกฺขโต คหิตภาวทสฺสนํ. เอตฺตกํ ทุกฺขนฺติ ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส ตทา ปจฺจกฺขโต คหิตภาวทสฺสนํ. เอตฺตกํ ทุกฺขนฺติ ตสฺส ปริจฺฉิชฺช คหิตภาวทสฺสนํ. น อิโต ภิยฺโยติ อนวเสเสตฺวา คหิตภาวทสฺสนํ. เตนาห ‘‘สพฺพมฺปิทุกฺขสจฺจ’’นฺติอาทิ. สรสลกฺขณปฏิเวเธนาติ สภาวสงฺขาตสฺส ลกฺขณสฺส อสมฺโมหโต ปฏิวิชฺฌเนน. อสมฺโมหปฏิเวโธติ จ ยถา ตสฺมึ าเณ ปวตฺเต ปจฺฉา ทุกฺขสฺส สรูปาทิปริจฺเฉเท สมฺโมโห น โหติ, ตถา ปวตฺติ. เตนาห ‘‘ยถาภูตํ อพฺภฺาสิ’’นฺติ. ยํ านํ ปตฺวาติ ยํ นิพฺพานํ มคฺคสฺส อารมฺมณปจฺจยฏฺเน การณภูตํ อาคมฺม. ตทุภยวโต หิ ปุคฺคลสฺส ปตฺติ ตทุภยสฺส ปตฺตีติ วุตฺตํ. ปตฺวาติ วา ปาปุณนเหตุ. อปฺปวตฺตินฺติ อปฺปวตฺตินิมิตฺตํ. เต วา นปฺปวตฺตนฺติ เอตฺถาติ อปฺปวตฺติ, นิพฺพานํ. ตสฺสาติ ทุกฺขนิโรธสฺส. สมฺปาปกนฺติ สจฺฉิกิริยาวเสน สมฺมเทว ปาปกํ.

กิเลสวเสนาติ อาสวสงฺขาตกิเลสวเสน. ยสฺมา อาสวานํ ทุกฺขสจฺจปริยาโย ตปฺปริยาปนฺนตฺตา, เสสสจฺจานฺจ ตํสมุทยาทิปริยาโย อตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ. ‘‘ปริยายโต’’ติ. ทสฺเสนฺโต สจฺจานีติ โยชนา. อาสวานํเยว เจตฺถ คหณํ ‘‘อาสวานํ ขยาณายา’’ติ อารทฺธตฺตา. ตถา หิ อาสววิมุตฺติ สีเสเนว สพฺพสํกิเลสวิมุตฺติ วุตฺตา. ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสิ’’นฺติอาทินา มิสฺสกมคฺโค อิธ กถิโตติ ‘‘สห วิปสฺสนาย โกฏิปฺปตฺตํ มคฺคํ กเถตี’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ สจฺจปฏิเวธสฺส ตทา อตีตกาลิกตฺตา ‘‘ยถาภูตํ อพฺภฺาสิ’’นฺติ วตฺวาปิ อภิสมยกาเล ตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนตํ อุปาทาย ‘‘เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต’’ติ วตฺตมานกาเลน นิทฺเทโส กโต. โส จ กามํ มคฺคกฺขณโต ปรํ ยาวชฺชตนา อตีตกาลิโก เอว, สพฺพปมํ ปนสฺส อตีตกาลิกตฺตํ ผลกฺขเณน เวทิตพฺพนฺติ อาห ‘‘วิมุจฺจิตฺถาติ อิมินา ผลกฺขณํ ทสฺเสตี’’ติ. ชานโต ปสฺสโตติ วา เหตุนิทฺเทโสยํ. ชานนเหตุ ทสฺสนเหตุ กามาสวา จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถาติ โยชนา. ภวาสวคฺคหเณเนว เจตฺถ ภวราคสฺส วิย ภวทิฏฺิยาปิ สมวโรโธติ ทิฏฺาสวสฺสปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

ขีณาชาตีติอาทีหิ ปเทหิ. ตสฺสาติ ปจฺจเวกฺขณาณสฺส. ภูมีนฺติ ปวตฺติฏฺานํ. น ตาวสฺส อตีตา ชาติ ขีณา มคฺคภาวนายาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ การณมาห ‘‘ปุพฺเพว ขีณตฺตา’’ติ. น อนาคตา อสฺสชาติ ขีณาติ โยชนา. น อนาคตาติ จ อนาคตตฺตสามฺํ คเหตฺวา เลเสน โจเทติ. เตนาห ‘‘อนาคเต วายามาภาวโต’’ติ, อนาคตวิเสโส ปเนตฺถ อธิปฺเปโต, ตสฺส จ เขปเน วายาโมปิ ลพฺภเตว. เตนาห ‘‘ยา ปน มคฺคสฺสา’’ติอาทิ. เอกจตุปฺจโวการภเวสูติ ภวตฺตยคฺคหณํ วุตฺตนเยน อนวเสสโต ชาติยา ขีณภาวทสฺสนตฺถํ. นฺติ ยถาวุตฺตํ ชาตึ. โสติ ภควา.

พฺรหฺมจริยวาโส นาม อิธ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส นิพฺพตฺตนเมวาติ อาห ‘‘นิฏฺิต’’นฺติ. สมฺมาทิฏฺิยา จตูสุ สจฺเจสุ ปริฺาทิกิจฺจสาธนวเสน ปวตฺตมานาย สมฺมา สงฺกปฺปาทีนมฺปิ ทุกฺขสจฺเจ ปริฺาภิสมยานุคุณา ปวตฺติ, อิตรสจฺเจสุ จ เนสํ ปหานาภิสมยาทิวเสน ปวตฺติ ปากฏา เอว. เตน วุตฺตํ ‘‘จตูหิ มคฺเคหิ ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาวเสนา’’ติ. อิตฺถตฺตายาติ อิเม ปการา อิตฺถํ, ตพฺภาโว อิตฺถตฺตํ, ตทตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. เต ปน ปการา อริยมคฺคพฺยาปารภูตา ปริฺาทโย อิธาธิปฺเปตาติ อาห ‘‘เอวํโสฬสกิจฺจภาวายา’’ติ. เต หิ มคฺคํ ปจฺจเวกฺขโต มคฺคานุภาเวน ปากฏา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, ปริฺาทีสุ จ ปหานเมว ปธานํ ตทตฺถตฺตา อิตเรสนฺติ อาห ‘‘กิเลสกฺขยายวา’’ติ. ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขณวเสน วา เอตํ วุตฺตํ. อิตฺถตฺตายาติ นิสฺสกฺเก สมฺปทานวจนนฺติ อาห ‘‘อิตฺถภาวโต’’ติ. อปรํ อนาคตํ. อิเม ปน จริมตฺตภาวสงฺขาตา ปฺจกฺขนฺธา. ปริฺาตา ติฏฺนฺตีติ เอเตน เตสํ อปฺปติฏฺตํ ทสฺเสติ. อปริฺามูลกา หิ ปติฏฺา. ยถาห ‘‘กพฬีกาเร เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร อตฺถิ ราโค อตฺถิ นนฺที อตฺถิ ตณฺหา, ปติฏฺิตํ ตตฺถ วิฺาณํ วิรูฬฺห’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๖๔; มหานิ. ๗; กถา. ๒๙๖). เตเนวาห ‘‘ฉินฺนมูลกา รุกฺขา วิยา’’ติอาทิ.

ปจฺจเวกฺขณาณปริคฺคหิตํ, น ปมทุติยาณทฺวยาธิคมํ วิย เกวลนฺติ อธิปฺปาโย. ทสฺเสนฺโต นิคมนวเสนาติ อธิปฺปาโย. สรูปโต หิ ตํ ปุพฺเพ ทสฺสิตเมวาติ. ปุพฺเพนิวาสาเณน อตีตารมฺมณสภาคตาย ตพฺภาวีภาวโต จ อตีตํสาณํ สงฺคเหตฺวาติ โยชนา. ตตฺถ อตีตํสาณนฺติ อตีตขนฺธายตนธาตุสงฺขาเต อตีตโกฏฺาเส อปฺปฏิหตํ าณํ. ทิพฺพจกฺขุนาติ สปริภณฺเฑน ทิพฺพจกฺขุาเณน. ปจฺจุปฺปนฺนํโส จ อนาคตํโส จ ปจฺจุปฺปนฺนานาคตํสํ, ตตฺถ าณํ ปจฺจุปฺปนฺนานาคตํสาณํ. สกลโลกิยโลกุตฺตรคุณนฺติ เอเตน สพฺพํ โลกํ อุตฺตริตฺวา อภิภุยฺย ิตตฺตา สพฺพฺุตฺาณสฺส วิย เสสาสาธารณาณสฺส พลาณอาเวณิกพุทฺธธมฺมาทีนมฺปิ อนฺสาธารณานํ พุทฺธคุณานํ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘สพฺเพปิ สพฺพฺุคุเณ สงฺคเหตฺวา’’ติ.

อาสวกฺขยาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อรฺวาสการณวณฺณนา

๕๕. สิยา โข ปน เต พฺราหฺมณาติ เอตฺถ สิยาติ ‘‘อปฺเปวา’’ติ อิมินา สมานตฺโถ นิปาโต , ตสฺมา ‘พฺราหฺมณ, อปฺเปว โข ปน เต เอวมสฺสา’ติ อตฺโถ. ยํ ปน อฏฺกถายํ ‘‘กทาจี’’ติ วุตฺตํ, ตมฺปิ อิมเมวตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ อการณํ พฺราหฺมเณน ปริกปฺปิตมตฺถํ ปฏิปกฺขิปิตฺวา อตฺตโน อธิปฺเปตํ การณํ ทสฺเสนฺโต. อตฺโถว ผลํ ตทธีนวุตฺติตาย วโส เอตสฺสาติ อตฺถวโส, เหตูติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อตฺตโน จ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารนฺติ เอเตน สตฺถา อตฺตโน วิเวกาภิรตึ ปกาเสตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทิฏฺธมฺโม นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิริยาปถวิหารานนฺติ อิริยาปถปวตฺตีนํ. ตปฺปวตฺติโย หิ เอกสฺมึ อิริยาปเถ อุปฺปนฺนทุกฺขํ อฺเน อิริยาปเถน วิจฺฉินฺทิตฺวา หรณโต วิหาราติ วุจฺจนฺติ. ปจฺฉิมฺจ ชนตํ อนุกมฺปมาโนติ เอเตน โย อาทิโต พฺราหฺมเณน ‘‘ภวํ เตสํ โคตโม ปุพฺพงฺคโม…เป… ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชตี’’ติ วุตฺโต, โย จ ตถา ‘‘เอวเมตํ พฺราหฺมณา’’ติอาทินา อตฺตนา สมฺปฏิจฺฉิโต, ตเมว อตฺถํ นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโต ยถานุสนฺธินาว สตฺถา เทสนํ นิฏฺาเปสิ.

อรฺวาสการณวณฺณนา นิฏฺิตา.

เทสนานุโมทนาวณฺณนา

๕๖. เอวํ นิฏฺาปิตาย เทสนาย พฺราหฺมโณ ตตฺถ ภควติ ปสาทํ ปเวเทนฺโต ‘‘อภิกฺกนฺต’’นฺติอาทิมาห. อภิกฺกนฺตาติ (สารตฺถ. ฏี. ๑.๑๕.เทสนานุโมทนกถา; ที. นิ. ฏี. ๑.๒๕๐; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑; อ. นิ. ฏี. ๒.๒.๑๖) อติกฺกนฺตา, วิคตาติ อตฺโถติ อาห ‘‘ขเย ทิสฺสตี’’ติ. เตเนว หิ ‘‘นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม’’ติ วุตฺตํ. อภิกฺกนฺตตโรติ อติวิย กนฺตตโร มโนรโม. ตาทิโส จ สุนฺทโร ภทฺทโก นาม โหตีติ อาห ‘‘สุนฺทเร ทิสฺสตี’’ติ.

โกติ เทวนาคยกฺขคนฺธพฺพาทีสุ โก กตโม. เมติ มม. ปาทานีติ ปาเท. อิทฺธิยาติ อิมาย เอวรูปาย เทวิทฺธิยา. ยสสาติ อิมินา เอทิเสน ปริวาเรน ปริชเนน. ชลนฺติ วิชฺโชตมาโน. อภิกฺกนฺเตนาติ อติวิย กนฺเตน กมนีเยน อภิรูเปน. วณฺเณนาติ ฉวิวณฺเณน สรีรวณฺณนิภาย. สพฺพา โอภาสยํ ทิสาติ ทสปิ ทิสา โอภาเสนฺโต ปภาเสนฺโต, จนฺโท วิย สูริโย วิย จ เอโกภาสํ เอกาโลกํ กโรนฺโตติ คาถาย อตฺโถ. อภิรูเปติ อุฬารรูเป สมฺปนฺนรูเป.

‘‘โจโร โจโร, สปฺโป สปฺโป’’ติอาทีสุ ภเย อาเมฑิตํ. ‘‘วิชฺฌ วิชฺฌ, ปหร ปหรา’’ติอาทีสุ โกเธ, ‘‘สาธุ สาธูติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๒๗; สํ. นิ. ๒.๑๒๗; ๓.๓๕; ๕.๑๐๘๕) ปสํสายํ, ‘‘คจฺฉ คจฺฉ, ลุนาหิ ลุนาหี’’ติอาทีสุ ตุริเต, ‘‘อาคจฺฉ อาคจฺฉา’’ติอาทีสุ โกตูหเล, ‘‘พุทฺโธ พุทฺโธติ จินฺเตนฺโต’’ติอาทีสุ (พุ. วํ. ๒.๔๔) อจฺฉเร, ‘‘อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, อภิกฺกมถายสฺมนฺโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๒๐; อ. นิ. ๙.๑๑) หาเส, ‘‘กหํ เอกปุตฺตก, กหํ เอกปุตฺตกา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๓๕๓; สํ. นิ. ๒.๖๓) โสเก, ‘‘อโห สุขํ อโห สุข’’นฺติอาทีสุ (อุทา. ๒๐; ที. นิ. ๓.๓๐๕; จูฬว. ๓๓๒) ปสาเท. -สทฺโท อวุตฺตสมุจฺจยตฺโถ. เตน ครหาอสมฺมานาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ ‘‘ปาโป ปาโป’’ติอาทีสุ ครหายํ. ‘‘อภิรูปก อภิรูปกา’’ติอาทีสุ อสมฺมาเน ทฏฺพฺพํ.

นยิทํ อาเมฑิตวเสน ทฺวิกฺขตฺตุํ วุตฺตํ, อถ โข อตฺถทฺวยวเสนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. อภิกฺกนฺตนฺติ วจนํ อเปกฺขิตฺวา นปุํสกลิงฺควเสน วุตฺตํ, ตํ ปน ภควโต วจนํ ธมฺมสฺส เทสนาติ กตฺวา ตถา วุตฺตํ. อตฺถมตฺตทสฺสนํ วา เอตํ, ตสฺมา อตฺถวเสน ลิงฺควิภตฺติวิปริณาโม เวทิตพฺโพ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. โทสนาสนโตติ ราคาทิกิเลสโทสวิธมนโต, คุณาธิคมนโตติ สีลาทิคุณานํ สมฺปาปนโต. เย คุเณ เทสนา อธิคเมติ, เตสุ ปธานภูตา ทสฺเสตพฺพาติ เต ปธานภูเต ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘สทฺธาชนนโต ปฺาชนนโต’’ติ วุตฺตํ. สทฺธาปมุขา หิ โลกิยา คุณา, ปฺาปมุขา โลกุตฺตรา. สีลาทิอตฺถสมฺปตฺติยา สาตฺถโต, สภาวนิรุตฺติสมฺปตฺติยา สพฺยฺชนโต. สุวิฺเยฺยสทฺทปโยคตาย อุตฺตานปทโต, สณฺหสุขุมภาเวน ทุพฺพิฺเยฺยตฺถตาย คมฺภีรตฺถโต. สินิทฺธมุทุมธุรสทฺทปโยคตาย กณฺณสุขโต, วิปุลวิสุทฺธเปมนียตฺถตาย หทยงฺคมโต. มานาติมานวิธมเนน อนตฺตุกฺกํสนโต, ถมฺภสารมฺภมทฺทเนน อปรวมฺภนโต. หิตาธิปฺปายปวตฺติยา ปเรสํ ราคปริฬาหาทิวูปสมเนน จ กรุณาสีตลโต, กิเลสนฺธการวิธมเนน ปฺาวทาตโต. กรวีกรุตมฺชุตาย อาปาถรมณียโต, ปุพฺพาปราวิรุทฺธสุวิสุทฺธตฺถตาย วิมทฺทกฺขมโต. อาปาถรมณียตาย เอว สุยฺยมานสุขโต, วิมทฺทกฺขมตาย หิตชฺฌาสยปฺปวตฺติตตาย จ วีมํสิยมานหิตโต. เอวมาทีหีติ อาทิสทฺเทน สํสารจกฺกนิวตฺตนโต, สทฺธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนโต, มิจฺฉาวาทวิธมนโต, สมฺมาวาทปติฏฺาปนโต, อกุสลมูลสมุทฺธรณโต, กุสลมูลสํโรปนโต, อปายทฺวารปิธานโต, สคฺคมคฺคทฺวารวิวรณโต, ปริยุฏฺานวูปสมนโต, อนุสยสมุคฺฆาตนโตติ เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

อโธมุขฏฺปิตนฺติ เกนจิ อโธมุขํ ปิตํ. เหฏฺามุขชาตนฺติ สภาเวเนว เหฏฺามุขชาตํ. อุคฺฆาเฏยฺยาติ วิวฏํ กเรยฺย. หตฺเถ คเหตฺวาติ ‘‘ปุรตฺถาภิมุโข, อุตฺตราภิมุโข วา คจฺฉา’’ติอาทีนิ อวตฺวา หตฺเถ คเหตฺวา ‘‘นิสฺสนฺเทหํ เอส มคฺโค, เอวํ คจฺฉา’’ติ วเทยฺย. กาฬปกฺขจาตุทฺทสีติ กาฬปกฺเข จาตุทฺทสี.

นิกุชฺชิตํ อาเธยฺยสฺส อนาธารภูตํ ภาชนํ อาธารภาวาปาทนวเสน อุกฺกุชฺเชยฺย. เหฏฺามุขชาตตาย สทฺธมฺมวิมุขํ, อโธมุขฏฺปิตตาย อสทฺธมฺเม ปติตนฺติ เอวํ ปททฺวยํ ยถารหํ โยเชตพฺพํ, น ยถาสงฺขฺยํ. กามํ กามจฺฉนฺทาทโยปิ ปฏิจฺฉาทกา, มิจฺฉาทิฏฺิ ปน สวิเสสํ ปฏิจฺฉาทิกาติ อาห ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิคหนปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ. เตนาห ภควา ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิปรมาหํ, ภิกฺขเว, วชฺชํ วทามี’’ติ (อ. นิ. ๑.๓๑๐). สพฺโพ อปายคามิมคฺโค กุมฺมคฺโค ‘‘กุจฺฉิโต มคฺโค’’ติ กตฺวา. สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ อุชุปฏิปกฺขตาย มิจฺฉาทิฏฺิอาทโย อฏฺ มิจฺฉตฺตธมฺมา มิจฺฉามคฺโค. เตเนว หิ ตทุภยปฏิปกฺขตํ สนฺธาย ‘‘สคฺคโมกฺขมคฺคํ อาจิกฺขนฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. สปฺปิอาทิสนฺนิสฺสโย ปทีโป น ตถา อุชฺชโล, ยถา เตลสนฺนิสฺสโยติ เตลปชฺโชตคฺคหณํ. เอเตหิ ปริยาเยหีติ เอเตหิ นิกุชฺชิตุกฺกุชฺชนปฏิจฺฉนฺนวิวรณาทิอุปโมปมิตพฺพปกาเรหิ, เอเตหิ วา ยถาวุตฺเตหิ โสฬสารมฺมณปริคฺคหอสมฺโมหวิหารทิพฺพวิหารวิภาวนปริยาเยหิ วิชฺชาตฺตยวิภาวนาปเทเสน อตฺตโน สพฺพฺุคุณวิภาวนปริยาเยหิ จ. เตนาห ‘‘อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต’’ติ.

เทสนานุโมทนาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปสนฺนการวณฺณนา

ปสนฺนการนฺติ ปสนฺเนหิ กาตพฺพํ สกฺการํ. สรณนฺติ ปฏิสรณํ. เตนาห ‘‘ปรายณ’’นฺติ. ปรายณภาโว จ อนตฺถนิเสธเนน อตฺถสมฺปฏิปาทเนน จ โหตีติ อาห ‘‘อฆสฺส ตาตา หิตสฺส จ วิธาตา’’ติ. อฆสฺสาติ ทุกฺขโตติ วทนฺติ, ปาปโตติ ปน ยุตฺตํ. นิสฺสกฺเก เจตํ สามิวจนํ. เอตฺถ จ นายํ คมิ-สทฺโท นี-สทฺทาทโย วิย ทฺวิกมฺมโก, ตสฺมา ยถา ‘‘อชํ คามํ เนตี’’ติ วุจฺจติ, เอวํ ‘‘โคตมํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ วตฺตุํ น สกฺกา, ‘‘สรณนฺติ คจฺฉามี’’ติ ปน วตฺตพฺพํ. อิติ-สทฺโท เจตฺถ ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ, ตสฺส จายมตฺโถ – คมนฺจ ตทธิปฺปาเยน ภชนํ, ตถา ชานนํ วาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิติ อิมินา อธิปฺปาเยนา’’ติอาทิมาห . ตตฺถ ภชามีติอาทีสุ ปุริมสฺส ปุริมสฺส ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ อตฺถวจนํ. ภชนํ วา สรณาธิปฺปาเยน อุปสงฺกมนํ, เสวนํ สนฺติกาวจรตา, ปยิรุปาสนํ วตฺตปฏิวตฺตกรเณน อุปฏฺานนฺติ เอวํ สพฺพถาปิ อนฺสรณตํเยว ทีเปติ. ‘‘คจฺฉามี’’ติ ปทสฺส กถํ ‘‘พุชฺฌามี’’ติ อยมตฺโถ ลพฺภตีติ อาห ‘‘เยสฺหี’’ติอาทิ.

อธิคตมคฺเค,สจฺฉิกตนิโรเธติ ปททฺวเยนปิ ผลฏฺา เอว ทสฺสิตา, น มคฺคฏฺาติ เต ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน จา’’ติ อาห. นนุ จ กลฺยาณปุถุชฺชโนปิ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชตีติ วุจฺจตีติ? กิฺจาปิ วุจฺจติ, นิปฺปริยาเยน ปน มคฺคฏฺา เอว ตถา วตฺตพฺพา, น อิตเร นิยาโมกฺกมนาภาวโต. ตถา หิ เต เอว ‘‘อปาเยสุ อปตมาเน ธาเรตี’’ติ วุตฺตา. สมฺมตฺตนิยาโมกฺกมเนน หิ อปายวินิมุตฺติสมฺภโว. อกฺขายตีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, ปการตฺโถ วา. เตน ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ สุตฺตปทํ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐) สงฺคณฺหาติ, วิตฺถาโรติ วา อิมินา. เอตฺถ จ อริยมคฺโค นิยฺยานิกตาย, นิพฺพานํ ตสฺส ตทตฺถสิทฺธิเหตุตายาติ อุภยเมเวตฺถ นิปฺปริยาเยน ธมฺโมติ วุตฺโต. นิพฺพานฺหิ อารมฺมณปจฺจยภูตํ ลภิตฺวา อริยมคฺคสฺส ตทตฺถสิทฺธิ, อริยผลานํ ‘‘ยสฺมา ตาย สทฺธาย อวูปสนฺตายา’’ติอาทิวจนโต มคฺเคน สมุจฺฉินฺนานํ กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหานกิจฺจตาย นิยฺยานานุคุณตาย นิยฺยานปริโยสานตาย จ. ปริยตฺติธมฺมสฺส ปน นิยฺยานธมฺมสมธิคมเหตุตายาติ อิมินา ปริยาเยน ธมฺมภาโว ลพฺภติ เอว, สฺวายมตฺโถ ปาารุฬฺโห เอวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น เกวล’’นฺติอาทิมาห.

กามราโค ภวราโคติ เอวมาทิเภโท สพฺโพปิ ราโค วิรชฺชติ ปหียติ เอเตนาติ ราควิราโคติ มคฺโค กถิโต. เอชาสงฺขาตาย ตณฺหาย อนฺโตนิชฺฌานลกฺขณสฺส โสกสฺส จ ตทุปฺปตฺติยํ สพฺพโส ปริกฺขีณตฺตา อเนชมโสกนฺติ ผลํ กถิตํ. อปฺปฏิกูลนฺติ อวิโรธทีปนโต เกนจิ อวิรุทฺธํ, อิฏฺํ ปณีตนฺติ วา อตฺโถ. ปคุณรูเปน ปวตฺติตตฺตา, ปกฏฺคุณวิภาวนโต วา ปคุณํ. ยถาห ‘‘วิหึสสฺี ปคุณํ น ภาสึ, ธมฺมํ ปณีตํ มนุเชสุ พฺรหฺเม’’ติ. สพฺพธมฺมกฺขนฺธา กถิตาติ โยชนา.

ทิฏฺิสีลสงฺฆาเตนาติ ‘‘ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย, ตถารูปาย ทิฏฺิยา ทิฏฺิสามฺคโต วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๔, ๓๕๖; ม. นิ. ๑.๔๙๒; ๓.๕๔) เอวํ วุตฺตาย ทิฏฺิยา, ‘‘ยานิ ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺุปฺปสตฺถานิ อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ , ตถารูเปหิ สีเลหิ สีลสามฺคโต วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๔; ม. นิ. ๑.๔๙๒; ๓.๕๔; อ. นิ. ๖.๑๒; ปริ. ๒๗๔) เอวํ วุตฺตานํ สีลานฺจ สํหตภาเวน, ทิฏฺิสีลสามฺเนาติ อตฺโถ. สํหโตติ ฆฏิโต. อริยปุคฺคลา หิ ยตฺถ กตฺถจิ ทูเร ิตาปิ อตฺตโน คุณสามคฺคิยา สํหตา เอว. อฏฺ จ ปุคฺคล ธมฺมทสา เตติ เต ปุริสยุควเสน จตฺตาโรปิ ปุคฺคลวเสน อฏฺเว อริยธมฺมสฺส ปจฺจกฺขทสฺสาวิตาย ธมฺมทสา. ตีณิ วตฺถูนิ สรณนฺติ คมเนน ติกฺขตฺตุํ คมเนน จ ตีณิ สรณคมนานิ. ปฏิเวเทสีติ อตฺตโน หทยคตํ วาจาย ปเวเทสิ.

ปสนฺนการวณฺณนา นิฏฺิตา.

สรณคมนกถาวณฺณนา

สรณคมนสฺส วิสยปเภทผลสํกิเลสเภทานํ วิย กตฺตุ จ วิภาวนา ตตฺถ โกสลฺลาย โหตีติ ‘‘สรณคมเนสุ โกสลฺลตฺถํสรณํ…เป… เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ เตน วินา สรณคมนสฺเสว อสมฺภวโต. กสฺมา ปเนตฺถ โวทานํ น คหิตํ, นนุ โวทานวิภาวนาปิ ตตฺถ โกสลฺลาวหาติ? สจฺจเมตํ, ตํ ปน สํกิเลสคฺคหเณเนว อตฺถโต ทีปิตํ โหตีติ น คหิตํ. ยานิ หิ เตสํ สํกิเลสการณานิ อฺาณาทีนิ, เตสํ สพฺเพน สพฺพํ อนุปฺปนฺนานํ อนุปฺปาทเนน, อุปฺปนฺนานฺจ ปหาเนน โวทานํ โหตีติ. หึสตฺถสฺส สร-สทฺทสฺส วเสเนตํ ปทํ ทฏฺพฺพนฺติ ‘‘หึสตีติ สรณ’’นฺติ วตฺวา ตํ ปน หึสนํ เกสํ, กถํ, กสฺส วาติ โจทนํ โสเธนฺโต ‘‘สรณคตาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ภยนฺติ วฏฺฏภยํ. สนฺตาสนฺติ จิตฺตุตฺราสํ. เตเนว เจตสิกทุกฺขสฺส คหิตตฺตา ทุกฺขนฺติ อิธ กายิกํ ทุกฺขํ. ทุคฺคติปริกิเลสนฺติ ทุคฺคติปริยาปนฺนํ สพฺพํ ทุกฺขํ. ตยิทํ สพฺพํ ปรโต ผลกถายํ อาวิ ภวิสฺสติ. เอตนฺติ ‘‘สรณ’’นฺติ ปทํ.

เอวํ อวิเสสโต สรณสทฺทสฺส อตฺถํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิเสสโต ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. หิเต ปวตฺตมาเนนาติ ‘‘สมฺปนฺนสีลา, ภิกฺขเว, วิหรถา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๖๔, ๖๙) อตฺเถ นิโยชเนน. อหิตา จ นิวตฺตเนนาติ ‘‘ปาณาติปาตสฺส โข ปาปโก วิปาโก ปาปกํ อภิสมฺปราย’’นฺติอาทินา อาทีนวทสฺสนาทิมุเขน อนตฺถโต วินิวตฺตเนน. ภยํ หึสตีติ หิตาหิเตสุ อปฺปวตฺติปวตฺติเหตุกํ พฺยสนํ อปฺปวตฺติกรเณน วินาเสติ . ภวกนฺตารา อุตฺตารเณน มคฺคสงฺขาโต ธมฺโม, อิตโร อสฺสาสทาเนน สตฺตานํ ภยํ หึสตีติ โยชนา. การานนฺติ ทานวเสน ปูชาวเสน จ อุปนีตานํ สกฺการานํ. วิปุลผลปฏิลาภกรเณน สตฺตานํ ภยํ หึสติ อนุตฺตรทกฺขิเณยฺยภาวโตติ อธิปฺปาโย. อิมินาปิ ปริยาเยนาติ อิมินาปิ วิภชิตฺวา วุตฺเตน การเณน.

‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ’’ติ เอวํ ปวตฺโต ตตฺถ รตนตฺตเย ปสาโท ตปฺปสาโท, ตเทว รตนตฺตยํ ครุ เอตสฺสาติ ตคฺครุ, ตสฺส ภาโว ตคฺครุตา, ตปฺปสาโท จ ตคฺครุตา จ ตปฺปสาทตคฺครุตา, ตาหิ. วิธุตทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสมฺโมหอสฺสทฺธิยาทิตาย วิหตกิเลโส. ‘‘ตเทว รตนตฺตยํ ปรายณํ คติ ตาณํ เลณ’’นฺติ เอวํ อากาเรน ปวตฺติยา ตปฺปรายณตาการปวตฺโต จิตฺตุปฺปาโท สรณคมนํ ‘‘สรณนฺติ คจฺฉติ เอเตนา’’ติ. ตํสมงฺคีติ เตน ยถาวุตฺตจิตฺตุปฺปาเทน สมนฺนาคโต. เอวํ อุเปตีติ เอวํ ภชติ เสวติ ปยิรุปาสติ, เอวํ วา ชานาติ พุชฺฌตีติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ ปสาทคฺคหเณน โลกิยสรณคมนมาห. ตฺหิ ปสาทปฺปธานํ, น าณปฺปธานํ. ครุตาคหเณน โลกุตฺตรํ. อริยา หิ รตนตฺตยํ คุณาภิฺาตาย ปาสาณจฺฉตฺตํ วิย ครุํ กตฺวา ปสฺสนฺติ, ตสฺมา ตปฺปสาเทน วิกฺขมฺภนวเสน วิหตกิเลโส ตคฺครุตาย สมุจฺเฉทวเสนาติ โยเชตพฺพํ. ตปฺปรายณตา ปเนตฺถ ตคฺคติกตาติ ตาย จตุพฺพิธมฺปิ วกฺขมานํ สรณคมนํ คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อวิเสเสน วา ปสาทครุตา โชติตาติ ปสาทคฺคหเณน อเวจฺจปฺปสาทสฺส อิตรสฺส จ คหณํ, ตถา ครุตาคหเณนาติ อุภเยนปิ อุภยํ สรณคมนํ โยเชตพฺพํ.

มคฺคกฺขเณ อิชฺฌตีติ โยชนา. นิพฺพานารมฺมณํ หุตฺวาติ เอเตน อตฺถโต จตุสจฺจาธิคโมเยว โลกุตฺตรํ สรณคมนนฺติ ทสฺเสติ. ตตฺถ หิ นิพฺพานธมฺโม สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน, มคฺคธมฺโม ภาวนาภิสมยวเสน ปฏิวิชฺฌิยมาโนเยว สรณคมนตฺตํ สาเธติ, พุทฺธคุณา ปน สาวกโคจรภูตา ปริฺาภิสมยวเสน, ตถา อริยสงฺฆคุณา. เตนาห ‘‘กิจฺจโต สกเลปิ รตนตฺตเย อิชฺฌตี’’ติ, อิชฺฌนฺตฺจ สเหว อิชฺฌติ, น โลกิยํ วิย ปฏิปาฏิยา อสมฺโมหปฏิเวเธน ปฏิวิทฺธตฺตาติ อธิปฺปาโย. เย ปน วทนฺติ ‘‘น สรณคมนํ นิพฺพานารมฺมณํ หุตฺวา ปวตฺตติ, มคฺคสฺส อธิคตตฺตา ปน อธิคตเมว โหติ เอกจฺจานํ เตวิชฺชาทีนํ โลกิยวิชฺชาทโย วิยา’’ติ, เตสํ โลกิยเมว สรณคมนํ สิยา, น โลกุตฺตรํ, ตฺจ อยุตฺตํ ทุวิธสฺสปิ อิจฺฉิตพฺพตฺตา. นฺติ โลกิยสรณคมนํ. สทฺธาปฏิลาโภ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา’’ติอาทินา. สทฺธามูลิกาติ ยถาวุตฺตสทฺธาปุพฺพงฺคมา สมฺมาทิฏฺิ พุทฺธสุพุทฺธตํ ธมฺมสุธมฺมตํ สงฺฆสุปฺปฏิปติฺจ โลกิยาวโพธวเสเนว สมฺมา าเยน ทสฺสนโต. ‘‘สทฺธามูลิกา สมฺมาทิฏฺี’’ติ เอเตน สทฺธูปนิสฺสยา ยถาวุตฺตลกฺขณา ปฺา โลกิยสรณคมนนฺติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ทิฏฺิชุกมฺมนฺติ วุจฺจตี’’ติ ‘‘ทิฏฺิ เอว อตฺตโน ปจฺจเยหิ อุชุํ กรียตี’’ติ กตฺวา. ทิฏฺิ วา อุชุํ กรียติ เอเตนาติ ทิฏฺิชุกมฺมํ, ตถา ปวตฺโต จิตฺตุปฺปาโท . เอวฺจ กตฺวา ‘‘ตปฺปรายณตาการปวตฺโต จิตฺตุปฺปาโท’’ติ อิทฺจ วจนํ สมตฺถิตํ โหติ. สทฺธาปุพฺพงฺคมสมฺมาทิฏฺิคฺคหณํ ปน จิตฺตุปฺปาทสฺส ตปฺปธานตายาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘สทฺธาปฏิลาโภ’’ติ อิมินา มาตาทีหิ อุสฺสาหิตทารกาทีนํ วิย าณวิปฺปยุตฺตสรณคมนํ ทสฺเสติ, ‘‘สมฺมาทิฏฺี’’ติ อิมินา าณสมฺปยุตฺตสรณคมนํ.

ตยิทํ โลกิยํ สรณคมนํ. อตฺตา สนฺนิยฺยาตียติ อปฺปียติ ปริจฺจชียติ เอเตนาติ อตฺตสนฺนิยฺยาตนํ, ยถาวุตฺตํ ทิฏฺิชุกมฺมํ. ตํ รตนตฺตยํ ปรายณํ ปฏิสรณํ เอตสฺสาติ ตปฺปรายโณ, ปุคฺคโล, จิตฺตุปฺปาโท วา, ตสฺส ภาโว ตปฺปรายณตา, ยถาวุตฺตทิฏฺิชุกมฺมเมว. สรณนฺติ อธิปฺปาเยน สิสฺสภาวํ อนฺเตวาสิกภาวํ อุปคจฺฉติ เอเตนาติ สิสฺสภาวูปคมนํ. สรณคมนาธิปฺปาเยเนว ปณิปตติ เอเตนาติ ปณิปาโต. สพฺพตฺถ ยถาวุตฺตทิฏฺิชุกมฺมวเสเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อตฺตปริจฺจชนนฺติ สํสารทุกฺขนิตฺถรณตฺถํ อตฺตโน อตฺตภาวสฺส ปริจฺจชนํ. เอส นโย เสเสสุปิ. พุทฺธาทีนํเยวาติ อวธารณํ อิตเรสุปิ สรณคมนวิเสเสสุ ยถารหํ วตฺตพฺพํ. เอวฺหิ ตทฺนิวตฺตนํ กตํ โหติ.

เอวํ อตฺตสนฺนิยาตนาทีนิ เอเกน ปกาเรน ทสฺเสตฺวา อิทานิ อปเรหิปิ ปกาเรหิ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. เตน ปริยายนฺตเรหิปิ อตฺตสนฺนิยฺยาตนาทิ กตเมว โหติ อตฺถสฺส อภินฺนตฺตาติ ทสฺเสติ. อาฬวกาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน สาตาคิริเหมวตาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. นนุ เจเต อาฬวกาทโย มคฺเคเนว อาคตสรณคมนา, กถํ เตสํ ตปฺปรายณตาสรณคมนํ วุตฺตนฺติ? มคฺเคนาคตสรณคมเนหิปิ ‘‘โส อหํ วิจริสฺสามิ คามา คาม’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๑.๒๔๖) เตหิ ตปฺปรายณตาการสฺส ปเวทิตตฺตา ตถา วุตฺตํ.

าติ…เป… วเสนาติ เอตฺถ าติวเสน ภยวเสน อาจริยวเสน ทกฺขิเณยฺยวเสนาติ ปจฺเจกํ ‘‘วเสนา’’ติ ปทํ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ าติวเสนาติ าติภาววเสน. เอวํ เสเสสุปิ. ทกฺขิเณยฺยปณิปาเตนาติ ทกฺขิเณยฺยตาเหตุเกน ปณิปาเตน. อิตเรหีติ าติภาวาทิวสปฺปวตฺเตหิ ตีหิ ปณิปาเตหิ. อิตเรหีติอาทินา สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วนฺทตีติ ปณิปาตสฺส ลกฺขณวจนํ. เอวรูปนฺติ ทิฏฺธมฺมิกํ สนฺธาย วทติ. สมฺปรายิกฺหิ นิยฺยานิกํ วา อนุสาสนํ ปจฺจาสีสนฺโต ทกฺขิเณยฺยปณิปาตเมว กโรตีติ อธิปฺปาโย. สรณคมนปฺปเภโทติ สรณคมนวิภาโค.

อริยมคฺโคเยว โลกุตฺตรสรณคมนนฺติ อาห ‘‘จตฺตาริ สามฺผลานิ วิปากผล’’นฺติ. สพฺพทุกฺขกฺขโยติ สกลสฺส วฏฺฏทุกฺขสฺส อนุปฺปาทนิโรโธ. เอตนฺติ ‘‘จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, สมฺมปฺปฺาย ปสฺสตี’’ติ (ธ. ป. ๑๙๐) เอวํ วุตฺตํ อริยสจฺจทสฺสนํ.

นิจฺจโต อนุปคมนาทิวเสนาติ นิจฺจนฺติ อคฺคหณาทิวเสน. อฏฺานนฺติ เหตุปฏิกฺเขโป. อนวกาโสติ ปจฺจยปฏิกฺเขโป. อุภเยนปิ การณเมว ปฏิกฺขิปติ. นฺติ เยน การเณน. ทิฏฺิสมฺปนฺโนติ มคฺคทิฏฺิยา สมฺปนฺโน โสตาปนฺโน. กฺจิ สงฺขารนฺติ จตุภูมเกสุ สงฺขตสงฺขาเรสุ เอกสงฺขารมฺปิ. นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺยาติ ‘‘นิจฺโจ’’ติ คณฺเหยฺย. สุขโต อุปคจฺเฉยฺยาติ ‘‘เอกนฺตสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’’ติ (ที. นิ. ๑.๗๖) เอวํ อตฺตทิฏฺิวเสน สุขโต คาหํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน ปน อริยสาวโก ปริฬาหวูปสมนตฺถํ มตฺตหตฺถิปริตฺตาสิโต วิย โจกฺขพฺราหฺมโณ อุกฺการภูมึ กฺจิ สงฺขารํ สุขโต อุปคจฺฉติ. อตฺตวาเร กสิณาทิปฺตฺติสงฺคหณตฺถํ ‘‘สงฺขาร’’นฺติ อวตฺวา ‘‘กฺจิ ธมฺม’’นฺติ วุตฺตํ. อิเมสุปิ วาเรสุ จตุภูมกวเสเนว ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ เตภูมกวเสเนว วา. ยํ ยฺหิ ปุถุชฺชโน คาหวเสน คณฺหาติ, ตโต ตโต อริยสาวโก คาหํ วินิเวเติ. มาตรนฺติอาทีสุ ชนิกา มาตา, ชนโก ปิตา, มนุสฺสภูโต ขีณาสโว อรหาติ อธิปฺเปโต. กึ ปน อริยสาวโก อฺํ ชีวิตา โวโรเปยฺยาติ? เอตมฺปิ อฏฺานํ, ปุถุชฺชนภาวสฺส ปน มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถํ อริยสาวกสฺส ผลทีปนตฺถฺเจวํ วุตฺตํ. ทุฏฺจิตฺโต วธกจิตฺเตน ปทุฏฺจิตฺโต. โลหิตํ อุปฺปาเทยฺยาติ ชีวมานกสรีเร ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนมตฺตมฺปิ โลหิตํ อุปฺปาเทยฺย. สงฺฆํ ภินฺเทยฺยาติ สมานสํวาสกํ สมานสีมายํ ิตํ สงฺฆํ ‘กมฺเมน อุทฺเทเสน โวหรนฺโต อนุสฺสาวเนน สลากคฺคาเหนา’’ติ (ปริ. ๔๕๘) เอวํ วุตฺเตหิ ปฺจหิ การเณหิ ภินฺเทยฺย . อฺํ สตฺถารนฺติ อฺํ ติตฺถกรํ ‘‘อยํ เม สตฺถา’’ติ เอวํ คณฺเหยฺยาติ เนตํ านํ วิชฺชตีติ อตฺโถ.

น เต คมิสฺสนฺติ อปายภูมินฺติ เต พุทฺธํ สรณํ คตา ตนฺนิมิตฺตํ อปายภูมึ น คมิสฺสนฺติ, เทวกายํ ปน ปริปูเรสฺสนฺตีติ อตฺโถ.

ทสหิาเนหีติ ทสหิ การเณหิ. อธิคฺคณฺหนฺตีติ อธิภวนฺติ. เวลามสุตฺตาทิวเสนาปีติ เอตฺถ ‘‘จตุราสีติสหสฺสสงฺขานํ สุวณฺณปาติรูปิยปาติกํสปาตีนํ ยถากฺกมํ รูปิยสุวณฺณหิรฺปูรานํ กรีสสฺส จตุตฺถภาวปฺปมาณานํ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตานํ จตุราสีติยา หตฺถิสหสฺสานํ จตุราสีติยา อสฺสสหสฺสานํ จตุราสีติยา รถสหสฺสานํ จตุราสีติยา เธนุสหสฺสานํ จตุราสีติยา กฺาสหสฺสานํ จตุราสีติยา ปลฺลงฺกสหสฺสานํ จตุราสีติยา วตฺถโกฏิสหสฺสานํ อปริมาณสฺส จ ขชฺชโภชฺชาทิเภทสฺส อาหารสฺส ปริจฺจชนวเสน สตฺตมาสาธิกานิ สตฺต สํวจฺฉรานิ นิรนฺตรํ ปวตฺตเวลามมหาทานโต เอกสฺส โสตาปนฺนสฺส ทินฺนทานํ มหปฺผลตรํ, ตโต สตํ โสตาปนฺนานํ ทินฺนทานโต เอกสฺส สกทาคามิสฺส, ตโต เอกสฺส อนาคามิสฺส, ตโต เอกสฺส อรหโต, ตโต เอกสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส, ตโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส, ตโต พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ทินฺนทานํ มหปฺผลตรํ, ตโต จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส วิหารกรณํ, ตโต สรณคมนํ มหปฺผลตร’’นฺติ อิมมตฺถํ ทีเปนฺตสฺส เวลามสุตฺตสฺส (อ. นิ. ๙.๒๐) วเสน. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ยํ คหปติ, เวลาโม พฺราหฺมโณ ทานํ อทาสิ มหาทานํ, โย เอกํ ทิฏฺิสมฺปนฺนํ โภเชยฺย, อิทํ ตโต มหปฺผลตร’’นฺติอาทิ (อ. นิ. ๙.๒๐). เวลามสุตฺตาทีติ อาทิ-สทฺเทน อคฺคปฺปสาทสุตฺตาทีนํ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐) สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

อฺาณํ วตฺถุตฺตยสฺส คุณานํ อชานนํ ตตฺถ สมฺโมโห, ‘‘พุทฺโธ นุ โข, น นุ โข พุทฺโธ’’ติอาทินา วิจิกิจฺฉา สํสโย,มิจฺฉาาณํ ตสฺส คุณานํ อคุณภาวปริกปฺปเนน วิปรีตคฺคาโห. อาทิ-สทฺเทน อนาทราคารวาทีนํ สงฺคโห. น มหาชุติกนฺติ น อุชฺชลํ, อปริสุทฺธํ อปริโยทาตนฺติ อตฺโถ. น มหาวิปฺผารนฺติ อนุฬารํ. สาวชฺโชติ ทิฏฺิตณฺหาทิวเสน สโทโส. โลกิยํ สรณคมนํ สิกฺขาสมาทานํ วิย อคฺคหิตกาลปริจฺเฉทํ ชีวิตปริยนฺตเมว โหติ, ตสฺมา ตสฺส ขนฺธเภเทน เภโทติ อาห ‘‘อนวชฺโช กาลกิริยายา’’ติ. โสติ อนวชฺโช สรณคมนเภโท. สติปิ อนวชฺชตฺเต อิฏฺผโลปิ น โหตีติ อาห ‘‘อผโล’’ติ.

สรณคมนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุปาสกวิธิกถาวณฺณนา

โกอุปาสโกติ สรูปปุจฺฉา, ตสฺมา กึลกฺขโณ อุปาสโกติ วุตฺตํ โหติ. กสฺมาติ เหตุปุจฺฉา. เตน เกน ปวตฺตินิมิตฺเตน อุปาสกสทฺโท ตสฺมึ ปุคฺคเล นิรุฬฺโหติ ทสฺเสติ. กิมสฺส สีลนฺติ กีทิสํ อสฺส อุปาสกสฺส สีลํ, กิตฺตเกน สีเลนายํ สีลสมฺปนฺโน นาม โหตีติ อตฺโถ. โก อาชีโวติ โก อสฺส สมฺมาอาชีโว, โส ปน มิจฺฉาชีวสฺส ปริวชฺชเนน โหตีติ โสปิ วิภชียตีติ. กา วิปตฺตีติ กา อสฺส สีลสฺส, อาชีวสฺส วา วิปตฺติ. อนนฺตรสฺส หิ วิธิ วา ปฏิเสโธ วา. กา สมฺปตฺตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

โย โกจีติ ขตฺติยาทีสุ โย โกจิ. เตน สรณคมนเมเวตฺถ การณํ, น ชาติอาทิวิเสโสติ ทสฺเสติ. อุปาสนโตติ เตเนว สรณคมเนน ตตฺถ จ สกฺกจฺจการิตาย อาทรคารวพหุมานาทิโยเคน ปยิรุปาสนโต. เวรมณิโยติ เวรํ วุจฺจติ ปาณาติปาตาทิทุสฺสีลฺยํ, ตสฺส มณนโต หนนโต วินาสนโต เวรมณิโย, ปฺจ วิรติโย วิรติปฺปธานตฺตา ตสฺส สีลสฺส. เตเนวาห ตตฺถ ตตฺถ ‘‘ปฏิวิรโต โหตี’’ติ.

มิจฺฉาวณิชฺชาติ น สมฺมาวณิชฺชา อยุตฺตวณิชฺชา อสารุปฺปวณิชฺชา. ปหายาติ อกรเณเนว ปชหิตฺวา. ธมฺเมนาติ ธมฺมโต อนเปเตน. เตน อฺมฺปิ อธมฺมิกํ ชีวิกํ ปฏิกฺขิปติ. สเมนาติ อวิสเมน. เตน กายวิสมาทิทุจฺจริตํ วชฺเชตฺวา กายสมาทินา สุจริเตน ชีวนํ ทสฺเสติ. สตฺถวณิชฺชาติ อาวุธภณฺฑํ กตฺวา วา กาเรตฺวา วา ยถากตํ วา ปฏิลภิตฺวา ตสฺส วิกฺกโย. สตฺถวณิชฺชาติ มนุสฺสวิกฺกโย . มํสวณิชฺชาติ สูนการาทโย วิย มิคสูกราทิเก โปเสตฺวา มํสํ สมฺปาเทตฺวา วิกฺกโย. มชฺชวณิชฺชาติ ยํ กิฺจิ มชฺชํ โยเชตฺวา ตสฺส วิกฺกโย. วิสวณิชฺชาติ วิสํ โยเชตฺวา, วิสํ คเหตฺวา วา ตสฺส วิกฺกโย. ตตฺถ สตฺถวณิชฺชา ปโรปโรธนิมิตฺตตาย อกรณียา วุตฺตา, สตฺตวณิชฺชา อภุชิสฺสภาวกรณโต, มํสวิสวณิชฺชา วธเหตุโต, มชฺชวณิชฺชา ปมาทฏฺานโต.

ตสฺเสวาติ ปฺจเวรมณิลกฺขณสฺส สีลสฺส เจว ปฺจมิจฺฉาวณิชฺชาลกฺขณสฺส อาชีวสฺส จ. วิปตฺตีติ เภโท ปโกโป จ. ยายาติ ยาย ปฏิปตฺติยา. จณฺฑาโลติ อุปาสกจณฺฑาโล. มลนฺติ อุปาสกมลํ. ปติกิฏฺโติ อุปาสกนิหีโน. พุทฺธาทีสุ กมฺมกมฺมผเลสุ จ สทฺธาวิปริยาโย อสฺสทฺธิยํ มิจฺฉาธิโมกฺโข. ยถาวุตฺเตน อสฺสทฺธิเยน สมนฺนาคโต อสฺสทฺโธ. ยถาวุตฺต สีลวิปตฺติ อาชีววิปตฺติวเสน ทุสฺสีโล. ‘‘อิมินา ทิฏฺาทินา อิทํ นาม มงฺคลํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ พาลชนปริกปฺปิตโกตูหลสงฺขาเตน ทิฏฺสุตมุตมงฺคเลน สมนฺนาคโต โกตูหลมงฺคลิโก. มงฺคลํ ปจฺเจตีติ ทิฏฺมงฺคลาทิเภทํ มงฺคลเมว ปตฺติยายติ. โน กมฺมนฺติ กมฺมสฺสกตํ โน ปตฺติยายติ. อิโต พหิทฺธาติ อิโต สพฺพฺุพุทฺธสาสนโต พหิทฺธา พาหิรกสมเย. ทกฺขิเณยฺยํ ปริเยสตีติ ทุปฺปฏิปนฺนํ ทกฺขิณารหสฺี คเวสติ. ปุพฺพการํ กโรตีติ ทานมานนาทิกํ กุสลกิริยํ ปมํ กโรติ. เอตฺถ จ ทกฺขิเณยฺยปริเยสนปุพฺพกาเร เอกํ กตฺวา ปฺจ ธมฺมา เวทิตพฺพา.

วิปตฺติยํ วุตฺตวิปริยาเยน สมฺปตฺติ าตพฺพา. อยํ ปน วิเสโส – จตุนฺนมฺปิ ปริสานํ รติชนนฏฺเน อุปาสโกว รตนํ อุปาสกรตนํ. คุณโสภากิตฺติสทฺทสุคนฺธตาหิ อุปาสโกว ปทุมํ อุปาสกปทุมํ. ตถา อุปาสกปุณฺฑรีโก.

อาทิมฺหีติ อาทิอตฺเถ. โกฏิยนฺติ ปริยนฺตโกฏิยํ. วิหารคฺเคนาติ โอวรกโกฏฺาเสน, ‘‘อิมสฺมึ คพฺเภ วสนฺตานํ อิทํ นาม ปนสผลํ ปาปุณาตี’’ติอาทินา ตํตํวสนฏฺานโกฏฺาเสนาติ อตฺโถ. อชฺชตนฺติ อชฺชอิจฺเจว อตฺโถ.

ปาเณหิอุเปตนฺติ อิมินา ตสฺส สรณคมนสฺส อาปาณโกฏิกตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยาว เม ชีวิตํ ปวตฺตตี’’ติอาทินา วตฺวา ปุน ชีวิเตน ตํ วตฺถุตฺตยํ ปฏิปูเชนฺโต ‘‘สรณคมนํ รกฺขามี’’ติ อุปฺปนฺนํ ตสฺส พฺราหฺมณสฺส อธิปฺปายํ วิภาเวนฺโต ‘‘อหฺหี’’ติอาทิมาห. ปาเณหิ อุเปตนฺติ หิ ยาว เม ปาณา ธรนฺติ, ตาว สรณํ อุเปตํ, อุเปนฺโต จ น วาจามตฺเตน, น เอกวารํ จิตฺตุปฺปาทนมตฺเตน, อถ โข ปาเณ ปริจฺจชิตฺวาปิ ยาวชีวํ อุเปตนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

อุปาสกวิธิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภยเภรวสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๕. อนงฺคณสุตฺตวณฺณนา

๕๗. อายสฺมาสาริปุตฺโตติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, เอวมาทิกนฺติ อตฺโถ. เตน ‘‘ภิกฺขู อามนฺเตสี’’ติอาทิกํ สพฺพํ สุตฺตํ สงฺคณฺหาติ. เตนาห ‘‘อนงฺคณสุตฺต’’นฺติ. ตสฺส โก นิกฺเขโป? อตฺตชฺฌาสโย. ปเรหิ อนชฺฌิฏฺโเยว หิ มหาเถโร อิมํ เทสนํ อารภิ. เกจิ ปนาหุ ‘‘เอกจฺเจ ภิกฺขู สํกิลิฏฺจิตฺเต ทิสฺวา เตสํ จิตฺตสํกิเลสปฺปหานาย เจว เอกจฺจานํ อายตึ อนุปฺปาทนาย จ อยํ เทสนา อารทฺธา’’ติ. เอวํ สพฺพสุตฺเตสูติ ยถา เอตฺถ อนงฺคณสุตฺเต, เอวํ อิโต ปเรสูติ สพฺเพสุปิ สุตฺเตสุ อนุตฺตานอปุพฺพปทวณฺณนา เอว กรียติ. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. คณนปริจฺเฉโทติ คณเนน ปริจฺฉินฺทนํ. อิทฺหิ อปฺปรชกฺขมหารชกฺขตาวเสน ทุวิเธ สตฺเต ปจฺเจกํ อตฺถฺุตานตฺถฺุตาวเสน ทฺวิธา กตฺวา ‘‘จตฺตาโร’’ติ อนวเสสปริยาทานํ. วชฺชีปุตฺตกาทโย วิย ปุคฺคลวาทีติ น คเหตพฺพํ โลกสมฺานุสาเรน อตฺถํ ปฏิวิชฺฌิตุํ สมตฺถานํ วเสน เทสนาย อารทฺธตฺตา, อยฺจ เทสนานโย สตฺถุ นิสฺสาย เอวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อยฺหี’’ติอาทิมาห.

สมฺมุติปรมตฺถเทสนากถาวณฺณนา

ตตฺถ (อ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑๗๐) สมฺมุติยา เทสนา สมฺมุติเทสนา, ปรมตฺถสฺส เทสนา ปรมตฺถเทสนา. ตตฺถาติ สมฺมุติปรมตฺถเทสนาสุ, น สมฺมุติปรมตฺเถสุ. เตนาห ‘‘เอวรูปา สมฺมุติเทสนา, เอวรูปา ปรมตฺถเทสนา’’ติ. ตตฺริทํ สมฺมุติปรมตฺถานํ ลกฺขณํ – ยสฺมึ ภินฺเน, พุทฺธิยา อวยววินิพฺโภเค วา กเต น ตํสมฺา, สา ฆฏปฏาทิปฺปเภทา สมฺมุติ, ตพฺพิปริยายโต ปรมตฺโถ. น หิ กกฺขฬผุสนาทิสภาเว อยํ นโย ลพฺภติ, ตตฺถ รูปาทิธมฺมํ สมูหสนฺตานวเสน ปวตฺตมานํ อุปาทาย ปุคฺคลโวหาโรติ อาห ‘‘ปุคฺคโลติ สมฺมุติเทสนา’’ติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อุปฺปาทวยวนฺโต สภาวธมฺมา น นิจฺจาติ อาห ‘‘อนิจฺจนฺติ ปรมตฺถเทสนา’’ติ. เอส นโย เสสปเทสุปิ. นนุ ขนฺธเทสนาปิ สมฺมุติเทสนาว. ขนฺธฏฺโ หิ ราสฏฺโ, โกฏฺาสฏฺโ วาติ? สจฺจเมตํ, อยํ ปน ขนฺธสมฺา ผสฺสาทีสุ ตชฺชาปฺตฺติ วิย ปรมตฺถสนฺนิสฺสยา ตสฺส อาสนฺนตรา, ปุคฺคลสมฺาทโย วิย น ทูเรติ ปรมตฺถสงฺคหตา วุตฺตา, ขนฺธสีเสน วา ตทุปาทานา สภาวธมฺมา เอว คหิตา. นนุ จ สภาวธมฺมา สพฺเพปิ สมฺมุติมุเขเนว เทสนํ อาโรหนฺติ, น สมุเขนาติ สพฺพาปิ เทสนา สมฺมุติเทสนาว สิยาติ? นยิทเมวํ เทเสตพฺพธมฺมวิภาเคน เทสนาวิภาคสฺส อธิปฺเปตตฺตา, น จ สทฺโท เกนจิ ปวตฺตินิมิตฺเตน วินา อตฺถํ ปกาเสตีติ.

สมฺมุติวเสน เทสนํ สุตฺวาติ ‘‘อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป โหติ อตฺตปริตาปานุโยคมนุยุตฺโต’’ติอาทินา (ม. นิ. ๒.๔๑๓; ปุ. ป. ๑๐.๒๕ มาติกา) สมฺมุติมุเขน ปวตฺติตํ เทสนํ สุตมยาณุปฺปาทนวเสน สุตฺวา. อตฺถํ ปฏิวิชฺฌิตฺวาติ ตทนุสาเรน จตุสจฺจสงฺขาตํ อตฺถํ สห วิปสฺสนาย มคฺเคน ปฏิวิชฺฌิตฺวา. โมหํ ปหายาติ ตเทกฏฺเหิ กิเลเสหิ สทฺธึ อนวเสสํ โมหํ ปชหิตฺวา. วิเสสนฺติ นิพฺพานสงฺขาตํ อรหตฺตสงฺขาตฺจ วิเสสํ. เตสนฺติ ตาทิสานํ วิเนยฺยานํ. ปรมตฺถวเสนาติ ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๔๗๒-๔๗๔) ปรมตฺถธมฺมวเสน. เสสํ อนนฺตรนเย วุตฺตสทิสเมว. ตตฺถาติ ตสฺสํ สมฺมุติวเสน ปรมตฺถวเสน จ เทสนายํ. เทสภาสากุสโลติ นานาเทสภาสาสุ กุสโล. ติณฺณํ เวทานนฺติ นิทสฺสนมตฺตํ, ติณฺณํ เวทานํ สิปฺปคนฺถานมฺปีติ อธิปฺปาโย สิปฺปุคฺคหณฺหิ ปรโต วกฺขติ. สิปฺปานิ วา เวทนฺโตคเธ กตฺวา ‘‘ติณฺณํ เวทาน’’นฺติ วุตฺตํ. กเถตพฺพภาเวน ิตานิ, น กตฺถจิ สนฺนิหิตภาเวนาติ เวทานมฺปิ กเถตพฺพภาเวเนว อวฏฺานํ ทีเปนฺโต ‘‘คุยฺหา ตยี นิหิตา คยฺหตี’’ติ มิจฺฉาวาทํ ปฏิกฺขิปติ. นานาวิธา เทสภาสา เอเตสนฺติ นานาเทสภาสา.

ปรโม อุตฺตโม อตฺโถ ปรมตฺโถ, ธมฺมานํ ยถาภูตสภาโว. โลกสงฺเกตมตฺตสิทฺธา สมฺมุติ. ยทิ เอวํ กถํ สมฺมุติกถาย สจฺจตาติอาห ‘‘โลกสมฺมุติการณา’’ติ, โลกสมฺํ นิสฺสาย ปวตฺตนโต. โลกสมฺาย หิ อภินิเวเสน วินา าปนา เอกจฺจสฺส สุตสฺส สาวนา วิย น มุสา อนติธาวิตพฺพโต ตสฺสา. เตนาห ภควา ‘‘ชนปทนิรุตฺตึ นาภินิเวเสยฺย, สมฺํ นาติธาเวยฺยา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๓๒). ธมฺมานนฺติ สภาวธมฺมานํ. ภูตการณาติ ยถาภูตสภาวํ นิสฺสาย ปวตฺตนโต. สมฺมุตึ โวหรนฺตสฺสาติ ‘‘ปุคฺคโล สตฺโต’’ติอาทินา โลกสมฺํ กเถนฺตสฺส.

หิโรตฺตปฺปทีปนตฺถนฺติ โลกปาลนกิจฺเจ หิโรตฺตปฺปธมฺเม กิจฺจโต ปกาเสตุํ. เตสฺหิ กิจฺจํ สตฺตสนฺตาเนเยว ปากฏํ โหตีติ ปุคฺคลาธิฏฺานาย กถาย ตํ วตฺตพฺพํ. เอส นโย เสเสสุปิ. ยสฺมิฺหิ จิตฺตุปฺปาเท กมฺมํ อุปฺปนฺนํ, ตํสนฺตาเน เอว ตสฺส ผลสฺส อุปฺปตฺติ กมฺมสฺสกตา. เอวฺหิ กตวิฺาณนาโส อกตาคโม วา นตฺถีติ สา ปุคฺคลาธิฏฺานาย เอว กถาย ทีเปตพฺพา. เตหิ สตฺเตหิ กาตพฺพา ปุฺาทิกิริยา ปจฺจตฺตปุริสกาโรปิ สนฺตานวเสน นิปฺผาเทตพฺพโต ปุคฺคลาธิฏฺานาย เอว กถาย ทีเปตพฺโพ.

อานนฺตริยทีปนตฺถนฺติ จุติอนนฺตรํ ผลํ อนนฺตรํ นาม, ตสฺมึ อนนฺตเร นิยุตฺตานิ, ตนฺนิพฺพตฺตเนน อนนฺตรกรณสีลานิ, อนนฺตรปโยชนานิ วาติ อานนฺตริยานิ, มาตุฆาตาทีนิ, เตสํ ทีปนตฺถํ. ตานิปิ หิ สนฺตานวเสน นิปฺผาเทตพฺพโต ‘‘มาตรํ ชีวิตา โวโรเปตี’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓) ปุคฺคลาธิฏฺานาย เอว กถาย ทีเปตพฺพานิ, ตถา ‘‘โส เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๕๕๖; ๓.๓๐๘; ม. นิ. ๑.๗๗; ๒.๓๐๙; ๓.๒๓๐; วิภ. ๖๔๒, ๖๔๓) ‘‘โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ เอกมฺปิ ชาติ’’นฺติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๔๔, ๒๔๕; ม. นิ. ๑.๑๔๘, ๓๘๔, ๔๓๑; ปารา. ๑๒) ‘‘อตฺถิ ทกฺขิณา ทายกโต วิสุชฺฌติ, โน ปฏิคฺคาหกโต’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๓๘๑) จ ปวตฺตา พฺรหฺมวิหารปุพฺเพนิวาสทกฺขิณาวิสุทฺธิกถา ปุคฺคลาธิฏฺานาย เอว กถาย ทีเปตพฺพา สตฺตสนฺตานวิสยตฺตา. ‘‘อฏฺ ปุริสปุคฺคลา (สํ. นิ. ๑.๒๔๙), น สมยวิมุตฺโต ปุคฺคโล’’ติอาทินา (ปุ. ป. ๑) จ ปรมตฺถํ กเถนฺโตปิ โลกสมฺมุติยา อปฺปหานตฺถํ ปุคฺคลกถํ กเถสิ. เอเตน วุตฺตาวเสสาย กถาย ปุคฺคลาธิฏฺานภาเว ปโยชนํ สามฺวเสน สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. กามฺเจตํ สพฺพํ อปริฺาตวตฺถุกานํ วเสน วุตฺตํ, ปริฺาตวตฺถุกานมฺปิ ปน เอวํ เทสนา สุขาวหา โหติ.

มหาชโนติ โลกิยมหาชโน. น ชานาติ ฆนวินิพฺโภคาภาเวน ธมฺมกิจฺจสฺส อสลฺลกฺขเณน. ตตฺถ ‘‘กึ นาเมตํ, กถํ นาเมต’’นฺติ สํสยปกฺขนฺทตาย สมฺโมหํ อาปชฺชติ. วิรุทฺธาภินิเวสิตาย ปฏิสตฺตุ โหติ. ชานาติ จิรปริจิตตฺถา โวหารกถาย. ตโต เอว น สมฺโมหมาปชฺชติ, น ปฏิสตฺตุ โหติ.

นปฺปชหนฺติ โวหารมุเขน ปรมตฺถสฺส ทีปนโต. สมฺาคหณวเสน โลเกน ายติ สมฺายติ โวหรียตีติ โลกสมฺา, ตาย โลกสมฺาย. ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส วิภาวเน โลเกน นิจฺฉิตํ, นิยตํ วา วุจฺจติ โวหรียตีติ โลกนิรุตฺติ, ตสฺสํ โลกนิรุตฺติยํ. ตถา โลเกน อภิลปียตีติ โลกสมฺตาย โลกาภิลาโป, ตสฺมึ โลกาภิลาเป ิตาเยว อปฺปหานโต. ปุคฺคลวาทิโน วิย ปรมตฺถวเสน อคฺคเหตฺวา.

สนฺโตติ เอตฺถ สนฺตสทฺโท ‘‘ทีฆํ สนฺตสฺส โยชน’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๗๐) กิลนฺตภาเว อาคโต, ‘‘อยฺจ วิตกฺโก อยฺจ วิจาโร สนฺตา โหนฺติ สมิตา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๕๗๖) นิรุทฺธภาเว อาคโต, ‘‘อธิคโต โข มฺยายํ ธมฺโม คมฺภีโร ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ สนฺโต ปณีโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๖๗; ม. นิ. ๑.๒๘๑; ๒.๓๓๗; สํ. นิ. ๒.๑๗๒; มหาว. ๗) สนฺตาณโคจรตาย, ‘‘อุปสนฺตสฺส สทา สติมโต’’ติอาทีสุ (อุทา. ๒๗) กิเลสวูปสเม, ‘‘สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺตี’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๕) สาธูสุ, ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, มหาโจรา สนฺโต สํวิชฺชมานา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๑๙๕) อตฺถิภาเว, อิธาปิ อตฺถิภาเวเยว. โส จ ปุคฺคลสมฺพนฺเธน วุตฺตตฺตา โลกสมฺาวเสนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โลกสงฺเกตวเสน อตฺถี’’ติ อาห. อตฺถีติ เจตํ นิปาตปทํ ทฏฺพฺพํ ‘‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๗๓-๓๗๔; ม. นิ. ๑.๑๑๐; ๓.๑๕๔; อ. นิ. ๖.๒๙; ๑๐.๖๐) วิย. สํวิชฺชมานาติ ปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุปลพฺภมานา’’ติ อาห. ยฺหิ สํวิชฺชติ, ตํ อุปลพฺภตีติ. องฺคนฺติ เอเตหิ ตํสมงฺคิปุคฺคลา นิหีนภาวํ คจฺฉนฺตีติ องฺคณานิ, ราคาทโย. อฺชติ มกฺเขตีติ องฺคณํ, มลาทิ. อฺเชติ ตตฺถ ิตํ อหุนฺทรตาย อภิพฺยฺเชตีติ องฺคณํ, วิวโฏ ภูมิปเทโส. โทสาทีนํ ปวตฺติอาการวิเสสตาย นานปฺปการา พหุลปฺปวตฺติยา ติพฺพกิเลสา. ปาปกานนฺติ ลามกานํ. อกุสลานนฺติ อโกสลฺลสมฺภูตานํ. อิจฺฉาวจรานนฺติ อิจฺฉาวเสน ปวตฺตานํ. สห องฺคเณนาติ องฺคณนฺติ ลทฺธนาเมน ยถาวุตฺตกิเลเสน สห วตฺตติ.

อตฺถีติปิ น ชานาติ ตาทิสสฺส โยนิโสมนสิการสฺส อภาวา. เยสํ กิเลสานํ อตฺถิตา, เตสํ สปฺปฏิภยตา วิเสสโต ชานิตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อิเม กิเลสา นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กกฺขฬาติ ผรุสา. วาฬาติ กุรุรา. น คหิตพฺพาติ น อุปฺปาเทตพฺพา. ยาถาวสรสโตติ ยถาภูตสภาวโต. เอวฺจาติ ‘‘อิเม กิเลสา นามา’’ติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน. เยน วา เตน วาติ นวกมฺเมสุ วา ปริยตฺติธุตงฺคาทีสุ วา เยน วา เตน วา. ตตฺราติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ตํ ปน นิทฺธารณํ สงฺคณานงฺคณสมุทายโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘จตูสุ ปุคฺคเลสู’’ติ วตฺวา ปุน ตเทกเทสโต ทสฺเสนฺโต ‘‘เตสุ วา ทฺวีสุ สางฺคเณสู’’ติ อาห. ตฺหิ ทฺวยํ ปมํ หีนเสฏฺภาเวน นิทฺธารียติ ปมํ อุทฺทิฏฺตฺตา. นิทฺธารณฺหิ กฺวจิ กุโตจิ เกนจิ โหตีติ.

๕๘. กิฺจาปิ อฺตฺถ ‘‘ชนโก เหตุ, ปริคฺคาหโต ปจฺจโย, อสาธารโณ เหตุ, สาธารโณ ปจฺจโย, สภาโค เหตุ, อสภาโค ปจฺจโย, ปุพฺพกาลิโก เหตุ, สหปฺปวตฺโต ปจฺจโย’’ติอาทินา เหตุปจฺจยา วิภชฺช วุจฺจนฺติ, อิธ ปน ‘‘จตฺตาโร โข, ภิกฺขเว, มหาภูตา เหตู, จตฺตาโร มหาภูตา ปจฺจยา รูปกฺขนฺธสฺส ปฺาปนายา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๘๕) วิย เหตุปจฺจยสทฺทา สมานตฺถาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อุภเยนปิ การณเมวปุจฺฉตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อุภเยนาติ เหตุปจฺจยวจนทฺวเยน. ปุจฺฉติ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เทสนํ วฑฺเฒตุกาโม. กิฺจาปีติ อนุชานนสมฺภาวนตฺเถ นิปาโต. กึ อนุชานาติ? สมาเนปิ ทฺวินฺนํ สางฺคณภาเว ตสฺสา ปชานนาปฺปชานนเหตุกตํ เตสํ เสฏฺหีนตํ. กึ สมฺภาเวติ? เถรสฺส วิจิตฺตปฏิภานตาย นานาเหตูปมาหิ อลงฺกตฺวา ยถาปุจฺฉิตสฺส อตฺถสฺส ปากฏกรณํ. เตนาห ‘‘นปฺปชานาตี’’ติอาทิ. เหตุ เจว ปจฺจโย จ เสฏฺหีนภาเว. ตถาอกฺขาตพฺพตาปิ หิ เตสํ ตนฺนิมิตฺตา เอวาติ.

๕๙. นฺติ เตสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ หีนเสฏฺตาย การณํ. โอปมฺเมหิ ปากฏตรํ กตฺวา ทสฺเสตุํ. เอตนฺติ สุตฺเต อนนฺตรํ วุจฺจมานํ วีริยารมฺภาภาเวน องฺคณสฺส อปฺปหานํ. เตนาห ‘‘น ฉนฺทํ…เป… สนฺธายาหา’’ติ. กตฺตุกมฺยตาฉนฺธนฺติ กตฺตุกมฺยตาสงฺขาตํ องฺคณสฺส ปหาตุกมฺยตาวเสน อุปฺปชฺชนกกุสลธมฺมจฺฉนฺทํ. น ชเนสฺสตีติ น อุปฺปาเทสฺสติ. กุสโล วายาโม นาม ฉนฺทโต พลวาติ อาห ‘‘ตโต พลวตรํ วายามํ น กริสฺสตี’’ติ, ฉนฺทมฺปิ อนุปฺปาเทนฺโต กถํ ตชฺชํ วายามํ กริสฺสตีติ อธิปฺปาโย. ถามคตวีริยํ อุสฺโสฬฺหีภาวปฺปตฺตํ ทฬฺหํ วีริยํ. สางฺคณคฺคหเณเนว องฺคณานํ กิเลสวตฺถุตาย จิตฺตสฺส สํกิลิฏฺตาย สทฺธาย ปุน สํกิลิฏฺคฺคหณํ สวิเสสํ กิลิฏฺภาววิภาวนนฺติ อาห ‘‘สุฏฺุตรํ กิลิฏฺจิตฺโต’’ติ. มลินจิตฺโตติอาทีสุปิ ‘‘เตหิเยวา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. อุกฺขลิปุจฺฉนโจฬกสฺส วิย วสาปีตปิโลติกา วิย จ ทุมฺโมจนียภาเวน มลคฺคหณํ มลีนตา, ปีฬนํ หึสนํ อวิปฺผาริกตากรณํ วิพาธนํ ทรถปริฬาหุปฺปาทเนน ปริทหนํ อุปตาปนํ, กาลนฺติ กาลนํ, ยถาคหิตสฺส อตฺตภาวสฺส เขปนํ อายุกฺขยนฺติ อตฺโถ. กริสฺสตีติ ปวตฺเตสฺสติ, ปาปุณิสฺสตีติ วุตฺตํ โหติ. ตถาภูโต จ ปาณํ จชิสฺสติ นามาติ อาห ‘‘มริสฺสตี’’ติ.

เสยฺยถาปีติ อุปมานิทสฺสเน นิปาโต. ตทตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา นามา’’ติ อาห. ปํสุอาทินาติ อาทิ-สทฺเทน ชลฺลาทีนํ สงฺคโห, ฆํสนาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน ฉาริกาปริมชฺชนาทีนํ สงฺคโหติ. ‘‘อภิรูปาย กฺา ทาตพฺพา’’ติอาทีสุ วิย อนฺตเรนปิ อติสยตฺถโพธกสทฺเทน อติสยตฺโถ ายตีติ อาห ‘‘มลคฺคหิตตราติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. ปฏิปุจฺฉาวจนนฺติ อนุมติปุจฺฉาวิเสโส. เอวํกริยมานาติ อปริโภค-อปริโยทปนรโชปถนิกฺขิปเนหิ กิลิฏฺภาวํ อาปาทิยมานา. โอปมฺมํ สมฺปฏิปาเทนฺโตติ ยถูปนีตํ อุปมํ อุปเมยฺยตฺเถน สมํ กตฺวา ปฏิปาเทนฺโต, สํสนฺเทนฺโตติ อตฺโถ. สางฺคโณ ปุคฺคโลติ สางฺคโณ ตสฺมึ อตฺตภาเว อสุชฺฌนกปุคฺคโล. อาปณาทิโต กุลฆรํ อานีตสฺส มลคฺคหิตกํสภาชนสฺส ตตฺถ ลทฺธพฺพาย วิสุทฺธิยา อลาภโต ยถา อนุกฺกเมน สํกิลิฏฺตรภาโว, เอวํ ฆรโต นิกฺขนฺตสฺส ปุคฺคลสฺส ปพฺพชฺชาย ลทฺธพฺพาย วิสุทฺธิยา อลาภโต อนุกฺกเมน สํกิลิฏฺตรภาโวติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สํกิลิฏฺกํสปาติยา’’ติอาทิมาห. สํกิลิฏฺตรภาโว จ นาม ปพฺพชิตสฺส อาชีววิปตฺติวเสน วา สิยา อาจารทิฏฺิสีลวิปตฺตีสุ อฺตรวเสน วาติ ตํ สพฺพํ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺส ปุคฺคลสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปาจิตฺติยวีติกฺกมนคฺคหเณน หิ เอกจฺจทิฏฺิวิปตฺติยาปิ สงฺคโห โหตีติ. เอตฺถ ิตสฺสาติ เอติสฺสํ อาชีววิปตฺติยํ ิตสฺส. อิมินา นเยน เสเสสุปิ ยถารหํ วตฺตพฺพํ. สพฺพปริสสาธารณา มหาเถรสฺส เทสนา, ตสฺมา คหปติวเสนปิ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ อุกฺกํสคตสํกิลิฏฺตรภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มาตุฆาตาทิอานนฺตริยกรณ’’นฺติ อาห. อวิโสเธตฺวาติ ยถา อตฺตโน สีเล วา ทิฏฺิยา วา วิสุทฺธิ โหติ, เอวํ กิเลสมลินจิตฺตสนฺตานํ อวิโสเธตฺวา.

ภพฺพปุคฺคโลติ อุปนิสฺสยาทิสมฺปตฺติยา ตสฺมึ อตฺตภาเว วิสุทฺธปุคฺคโล. อาทึ กตฺวาติ อิมินา โธวนฆํสนาทีหิ ปริโยทปนํ อาทิมนฺตํ กตฺวา วทติ. สุทฺธฏฺานํ ยตฺถ วา น รเชน โอกิรียติ. ทณฺฑกมฺมํ กตฺวาติ ‘‘เอตฺตกา อุทกา, วาลุกา วา อาเนตพฺพา’’ติ ทณฺฑกมฺมํ กตฺวา. เอตฺถ ิตสฺสาติ ปริสุทฺเธ สีเล ิตสฺส. สมฺมาวตฺตปฏิปตฺติสีเลหิ สีลวิสุทฺธิ ทสฺสิตา. วตฺตปฏิปตฺติยาปิ หิ องฺคณานํ วิกฺขมฺภนํ สิยา. ตถา หิสฺสา สํกิลิฏฺกํสปาติยา ปริสุทฺธปริโยทาตภาโว อุปมาภาเวน วุตฺโต. ปนฺตเสนาสนวาโส กิเลสวิกฺขมฺภนํ กิเลสานํ ตทงฺคนิวารณํ. โสตาปตฺติผลาธิคโม…เป… อรหตฺตสจฺฉิกิริยาติ สตฺตสุปิ าเนสุ ‘‘ปริสุทฺธปริโยทาตภาโว วิยา’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ปพฺพชิตสฺส หิ วิสุทฺธิ นาม เหฏฺิมนฺเตน สีลวิสุทฺธิยา วา สิยา กมฺมฏฺานานุโยควเสน วิเวกวาเสน ฌานสฺสาธิคเมน วา วิปสฺสนาภาวนาย วา สามฺผลาธิคเมน วาติ.

ราคฏฺานิยนฺติ ราคุปฺปตฺติเหตุภูตํ. วิสภาคารมฺมณํ สนฺธาย วทติ ‘‘อิฏฺารมฺมณ’’นฺติ. ตสฺมินฺติ อิฏฺารมฺมเณ. วิปนฺนสฺสตีติ มุฏฺสฺสติ. ตํ นิมิตฺตนฺติ สุภนิมิตฺตํ. อาวชฺชิสฺสตีติ อโยนิโส อาวชฺชิสฺสติ. สยเมว อฺเน อโวมิสฺโส. กุสลวารปจฺฉินฺทนเมว เจตฺถ อนุทฺธํสนํ ทฏฺพฺพํ. เสสนฺติ ‘‘สางฺคโณ สํกิลิฏฺจิตฺโต’’ติอาทิ. วุตฺตนยานุสาเรนาติ ปมวาเร วุตฺตนยานุสาเรน. สพฺพนฺติ มาตุฆาตาทิอานนฺตริยกรณปริโยสานํ สพฺพํ อุปมาสํสนฺทนวจนํ.

อติวิรหาภาวโตติ สติสมฺโมสาภาวโต, อุปฏฺิตสฺสติ ภาวโตติ อตฺโถ. เสสนฺติ ‘‘โส อราโค’’ติอาทิ. ‘‘โธวนฆํสนสณฺหฉาริกาปริมชฺชนาทีหี’’ติอาทินา ทุติยวารานุสาเรน. ‘‘โก นุ โข’’ติอาทิ ปุจฺฉาวเสน อาคตํ, อิทํ นิคมนวเสนาติ อยเมว วิเสโส.

๖๐. องฺคณนฺติ ตตฺถ ตตฺถ นามโต เอว วิภาวิตํ, น ปน สภาวโต, ปเภทโต วาติ สภาวาทิโต วิภาวนํ สนฺธายาห ‘‘นานปฺปการโต ปากฏํ การาเปตุกาเมนา’’ติ. อิจฺฉาย อวจรานนฺติ อิจฺฉาวเสน อวจรณานํ. โอติณฺณานนฺติ จิตฺตสนฺตานํ อนุปวิฏฺานํ. เต ปน ตตฺถ ปจฺจยวเสน นิพฺพตฺตตฺตา ปวตฺตา นาม โหนฺตีติ อาห ‘‘ปวตฺตาน’’นฺติ. นานปฺปการานนฺติ วิสยเภเทน ปวตฺติอาการเภเทน จ นานาวิธานํ. เยนการเณน. น เกวลํ ลาภตฺถิกตา เอว, อถ โข ปุฺวนฺตตา สกฺกตครุกตา จ เอตฺถ การณภาเวน คเหตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปกติยาปิ จา’’ติอาทิมาห. เตน ลาภตฺถิโกปิ น โย โกจิ เอวํ จิตฺตํ อุปฺปาเทติ ปุฺวา สมฺภาวนีโยติ ทสฺเสติ. เถรา อวชฺชปฏิจฺฉาทนภเยน มชฺฌิมานํ อาโรเจนฺติ, ตถา มชฺฌิมา นวกานํ, นวกา ปน อตฺตโน นวกภาเวน วิฆาสาทาทีนํ อาโรเจนฺติ ‘‘ปสฺสถ ตุมฺหากํ เถรสฺส กมฺม’’นฺติ. วิฆาสาทาทโย นาม ‘‘อีทิสสฺส สนฺติเก โอวาทตฺถํ ตุมฺเห อาคตา’’ติ ภิกฺขุนีนํ อาโรเจนฺติ. น จ มํ ภิกฺขู ชาเนยฺยุนฺติ น จ วต มํ ภิกฺขู ชาเนยฺยุํ, อโห วต มํ ภิกฺขู น ชาเนยฺยุนฺติ โยชนา. านํ โข ปเนตนฺติ เอตฺถ โข-สทฺโท อวธารณตฺโถ, ปน-สทฺโท วจนาลงฺกาโรติ อาห ‘‘อตฺถิเยวา’’ติ. ปุพฺเพ อิจฺฉุปฺปาทวารวณฺณนาย วุตฺตนเยน. อิติ-สทฺโท อิธ อาสนฺนการณตฺโถติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมินา การเณนา’’ติ อาห . อิทฺจ โกปอปฺปจฺจยานเมว คหณํ. ตาทิสานนฺติ โกปอปฺปจฺจยาธิภูตานนฺติ อธิปฺปาโย.

อนุรโหติ อนุรูเป รหสิ. เอวเมว หิ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิหารปจฺจนฺเต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปุริมสทิสเมวาติ ‘‘ลาภตฺถิโก หี’’ติอาทินา วุตฺเตน ปุริเมน โยชนานเยน สทิสเมว.

โจทนาย ปฏิปุคฺคลภาโว, โจทนา จ อาปตฺติยาติ จุทิตเกน โจทกสฺส สมานภาโว อาปตฺติอาปนฺนตายาติ อาห ‘‘สมาโนติ สาปตฺติโก’’ติ. สปฺปฏิปุคฺคเลเนวสฺส โจทนิจฺฉาย การณํ วิภาเวตุํ ‘‘อย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. น จายํ สาปตฺติกตาย เอว สมานตํ อิจฺฉติ, อถ โข อฺถาปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. อฺเน วา ปฏิปุคฺคเลน สปฺปฏิปุคฺคโล. อยฺหิ ‘‘สปฺปฏิปุคฺคโลว มํ โจเทยฺยา’’ติ อิจฺฉติ ‘‘เอวาหํ ตสฺส ปฏิปุคฺคเลหิ สทฺธึ เอกชฺฌาสโย หุตฺวา ตสฺส อุปริ กิฺจิ วตฺตุํ กาตุํ วา ลภิสฺสามี’’ติ มฺมาโน. อิมสฺมึ ปน ปกฺเข โน อปฺปฏิปุคฺคโลติ นตฺถิ เอตสฺส ปฏิปุคฺคโลติ อปฺปฏิปุคฺคโลติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

‘‘อโห วตา’’ติ อิทํ ปทํ ทิสฺสตีติ สมฺพนฺโธ, อิมสฺส ปุคฺคลสฺส อิจฺฉาจาเร ิตตฺตา ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสยฺยาติ วจนโต ‘‘ตฺจ โข อนุมติปุจฺฉายา’’ติ วุตฺตํ. น เหส ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขู’’ติอาทินา กิฺจิ วีติกฺกมํ อุทฺทิสฺส ภควตา ปุจฺฉิตพฺพตํ อิจฺฉติ. โน มคฺคํ วา ผลํ วา วิปสฺสนํ วา อนฺตรํ กตฺวาติ มคฺคภาวนํ วา ผลสจฺฉิกิริยํ วา สิขาปฺปตฺตวิปสฺสนานุโยคํ วา นิโรธสมาปชฺชนํ วา ฌานสมาปชฺชนเมว วา อนฺตรํ การณํ กตฺวา ภควตา อตฺตานํ ปฏิปุจฺฉิตพฺพํ โน อิจฺฉติ. นิจฺจํ อนิจฺจนฺติอาทินา อนุมติคฺคหณวเสน ปุจฺฉิตพฺพํ อิจฺฉติ, อุตฺตานเมว กตฺวา ปุจฺฉิตพฺพํ อิจฺฉตีติ อตฺโถ. อุปหรนฺเต ปสฺสตีติ สมฺพนฺโธ. อภพฺพฏฺานภิกฺขุตาย นิหริสฺสนฺติ สาสนโต.

ตํ สมฺปตฺตินฺติ ปริวารสมฺปตฺติฺเจว ภิกฺขูหิ กริยมานํ สกฺการครุการสมฺปตฺติฺจ. คเหตฺวา ปริภุฺชนฺติ มยา สํวิภาเค กริยมาเน. สยเมว ปฺายตีติ สยเมว คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ ปุรโต อตฺตานํ ทสฺเสติ, ปุรโต วสนฺตํ ปน ภิกฺขุ ปุรกฺขตฺวา คจฺฉนฺติเยวาติ อธิปฺปาโย.

ทกฺขิโณทกนฺติ อคฺคโต อุปนียมานํ ทกฺขิโณทกํ. ยโต เอว-กาโร, ตโต อฺตฺถ นิยโม อิจฺฉิโต. อวธารณตฺถํ วา เอว-การคฺคหณนฺติ กตฺวา อหเมว ลเภยฺยนฺติ อหํ ลเภยฺยเมวาติ เอวเมตํ อวธารณํ ทฏฺพฺพนฺติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อหเมว ลเภยฺยนฺติ อิจฺฉา นาติมหาสาวชฺชา’’ติ, อฺถา ยถารุตวเสน อวธารเณ คยฺหมาเน ‘‘น อฺเ ลเภยฺยุ’’นฺติ อยเมเวตฺถ อตฺโถ สิยาติ. ปาสาทิโก โหตีติ อิทํ ตสฺส อคฺคาสนาทิปจฺจาสีสนาย การณทสฺสนํ.

อนุโมทนนฺติ มงฺคลามงฺคเลสุ อนุโมทนาวเสน ปวตฺเตตพฺพธมฺมกถํ. ขณฺฑานุโมทนนฺติ อนุโมทเนกเทสํ. ‘‘ปุพฺเพ อนุโมทิตปุพฺโพ อนุโมทตู’’ติ อวตฺวา เถเรน วุตฺตมตฺเตเยว.

ตาทิเสสุ าเนสูติ ตาทิเสสุ เปสลานํ พหุสฺสุตานํ วสนฏฺาเนสุ. สพฺพมฺปิ รตึ ปวตฺตนโต สพฺพรตฺติกานิ. วินิจฺฉยกุสลานนฺติ อเนกวิหิเตสุ กงฺขฏฺานิเยสุ กงฺขาวินยนาย ตํ ตํ ปฺหานํ วินิจฺฉเย กุสลานํ เฉกานํ. เตสุ เตสุ ธมฺมกถิเกสุ อชฺฌิฏฺเสุ วาเรน ธมฺมํ กเถนฺเตสุ ‘‘อยํ พฺยตฺโต’’ติ ธมฺมชฺเฌสเกน อชฺฌิฏฺตฺตา โอกาสํ อลภมาโน.

สกฺกจฺจฺจกเรยฺยุนฺติ ภิกฺขู ยํ มม อภิวาทนปจฺจุฏฺานฺชลิกมฺมสามีจิกมฺมาทึ กโรนฺติ. ตํ อาทเรเนว กเรยฺยุํ, ยฺจ เม ปริกฺขารชาตํ ปฏิยาเทนฺติ, ตมฺปิ สุนฺทรํ สมฺมเทว อภิสงฺขตํ กเรยฺยุนฺติ อตฺโถ. ภาริยนฺติ ปาสาณจฺฉตฺตํ วิย ครุกาตพฺพํ. เอตํ วิธินฺติ เอตํ ‘‘สกฺกเรยฺยุ’’นฺติอาทินา วุตฺตสกฺการาทิวิธึ. เตนาติ เตน การเณน, พาหุสจฺจาทิคุณวิเสสวโต เอว สกฺการาทีนํ อรหตฺตาติ อตฺโถ. เอวรูปนฺติ อีทิสํ ‘‘ปิโย ครู’’ติอาทินา (อ. นิ. ๗.๓๗) วุตฺตปฺปการํ. เอวํ กเรยฺยุนฺติ เอวํ ‘‘สกฺกเรยฺยุ’’นฺติอาทินา วุตฺตปฺปการํ สกฺการาทึ กเรยฺยุํ. เอส นโยติ โยยํ ภิกฺขุวาเร วุตฺตวิธิ, เอเสว นโย. อิโต ปเรสุ ภิกฺขุนีวาราทีสุ วาเรสุ.

อหเมว ลาภี อสฺสนฺติ เอตฺถาปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อวธารณํ คเหตพฺพํ. ปิณฺฑปาตสฺส ปณีตตา อุปเสจนาทิวเสนาติ อาห ‘‘สปฺปิเตลมธุสกฺขราทิปูริตาน’’นฺติ . มฺจปีาทีนนฺติ นิทสฺสนมตฺตํ อุตุสปฺปายานํ นิวาตานํ ผสฺสิตตลานํ ปิหิตทฺวารกวาฬวาตปานาทีนมฺปิ ปณีตเสนาสนภาวโต. อาทิ-สทฺเทน วา เตสมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. สพฺพตฺถาปีติ สพฺเพสุ เตสุ จตูสุปิ ปจฺจยวาเรสุ.

๖๑. กายกมฺมํ ทิสฺวาติ อิทํ น กายกมฺมํ จกฺขุวิฺเยฺยํ, กายกมฺมุนา ปน สห ปวตฺตํ โอฏฺปริปฺผนฺทนํ ภากุฏิกรณํ กายงฺคาทิทสฺสนํ กายกมฺมทสฺสนํ วิย โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. วจีกมฺมํ สุตฺวาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย, ตสฺมา กายวิการชนกา ธมฺมา ‘‘ทิสฺสนฺตี’’ติ วุตฺตา, วจีวิการชนกา ‘‘สูยนฺตี’’ติ. ตโต เอว จ เต ปจฺจกฺขกาเล สมฺมุขกาเล ทิสฺสนฺติ นาม. ติโรกฺขกาเล อสมฺมุขกาเล สูยนฺติ นาม. อนุรูปโต คหณํ อนุคฺคโห. อารฺิกตฺตนฺติ ตสฺส ภิกฺขุโน ธุตคุณตฺตานุรูปโต คณฺหาติ. เตนาห ‘‘อารฺิกตฺตํ อนุคฺคณฺหาตี’’ติ. อรฺเ นิวาโส อสฺสาติ อารฺิโก. ปนฺตํ ปริยนฺตํ ทูรตรํ เสนาสนํ อสฺสาติ ปนฺตเสนาสโน. ตํ ปน อตฺถมตฺเตน ทสฺเสนฺเตน ‘‘ปนฺตเสนาสเน วสตี’’ติ วุตฺตํ. ภิกฺขาสงฺขาตานํ ปิณฺฑานํ ปาโต ปิณฺฑาปาโต, ตํ ปิณฺฑปาตํ อุฺฉติ คเวสตีติ ปิณฺฑปาติโก. ปิณฺฑาย ปติตุํ จริตุํ วตเมตสฺสาติ วา ปิณฺฑปาติ, โส เอว ปิณฺฑปาติโก. ทานโต อวขณฺฑนโต อเปตํ อปทานํ, สห อปทาเนน สปทานํ, อนวขณฺฑนํ. อนุฆรํ จรณสีโล สปทานจารี. อุนฺนตภาเวน ปํสุกูลํ วิย ปํสุกูลํ, ปํสุ วิย วา กุจฺฉิตภาวํ อุลติ คจฺฉตีติ ปํสุกูลํ, ตสฺส ธารณํ อิธ ปํสุกูลํ, ตํ สีลมสฺสาติ ปํสุกูลิโก.

ตีหิการเณหิ ลูขํ เวทิตพฺพํ อคฺฆผสฺสวณฺณปริหานิโต อปํสุกูลมฺปิ, โก ปน วาโท ปํสุกูลนฺติ อธิปฺปาโย. ถูลทีฆสุตฺตเกนาติ ถูเลน โอลมฺพมาเนน ทีฆสุตฺตเกน. วณฺเณนาติ เอตฺถ ผสฺเสนปิ ปริหายตีติ วตฺตพฺพํ. ตฺหิ ตตฺถ ขรผสฺสมฺปิ โหติเยวาติ. กสฺมา ปน ปาฬิยํ อารฺิกาทิคฺคหเณน จตฺตาโรว ธุตคุณา วุตฺตาติ? ปธานตฺตา, ตคฺคหเณเนว จ อิโต ปเรสมฺปิ สุขปริโภคตาย คหณสมฺภวโต. โย หิ อารฺิโก ปนฺตเสนาสโน, ตสฺส อพฺโภกาสิก-รุกฺขมูลิก-เนสชฺชิก-ยถาสนฺถติก-โสสานิกงฺคานิ สุปริปูรานิ. โย จ ปิณฺฑปาติโก สปทานจารี จ, ตสฺส ปตฺตปิณฺฑิกขลุปจฺฉาภตฺติกเอกาสนิกงฺคานิ. โย ปน ปํสุกูลิโก, ตสฺส เตจีวริกงฺคํ สุปริหรเมวาติ. ปธานตฺตา หิ ภควตาปิ ‘‘กทาหํ นนฺทํ ปสฺเสยฺยํ, อารฺํ ปํสุกูลิก’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๒.๒๔๒; เนตฺติ. ๑๐๐) ตตฺถ ตตฺถ อารฺิกาทโย เอว คยฺหนฺติ. เอตฺตกาติ ปาฬิยํ อาคตานํ ปริจฺฉิชฺช คหณเมตํ, น เอตฺตกา สพฺเพปิ เอกสฺส เอกํสโต สมฺภวนฺติ, นาปิ เอตฺตกาเยว ปาปธมฺมา ปหาตพฺพา. น หิ มกฺขปฬาสาทีนํ อปฺปหีนภาเวปิ สพฺรหฺมจารี เนว สกฺกโรนฺติ…เป… น ปูเชนฺตีติ.

ตมตฺถนฺติ ‘‘ยสฺส กสฺสจี’’ติอาทินา วุตฺตมตฺถํ. อุปมาย ปากฏํ กโรนฺโตติ อนฺวยโต พฺยติเรกโต จ อุทาหรเณน วิภาเวนฺโต. อหิกุณปาทีนํ อติปฏิกูลชิคุจฺฉนียตา อติวิย ทุคฺคนฺธตาย. สา จ อหีนํ ติขิณโกปตาย, กุกฺกุรมนุสฺสานํ โอทนกุมฺมาสูปจยตาย สรีรสฺส โหตีติ วทนฺติ. อิเมสนฺติ อหิอาทีนํ. วฑฺเฒตฺวาติ อุปรูปริ ขิปเนน รจิตํ กตฺวา. ตํ ปน วฑฺฒิตํ เตน จ ภาชนํ ปูริตํ โหตีติ อาห ‘‘วฑฺเฒตฺวา ปริปูเรตฺวา’’ติ. ชนสฺส ทสฺสนโยคฺยํ ทสฺสนียํ ชฺํ, ตํ ปรมปริสุทฺธํ มโนหรฺจ โหตีติ อาห ‘‘โจกฺขโจกฺข’’นฺติ. อภินวนิวิฏฺา มหามาตา วธุกา. สา ปน ปุตฺตลาภโยคฺยตํ อุปาทาย มงฺคลวจเนน ‘‘ชนี’’ติ วุจฺจติ, ตสฺสา นิยฺยมานํ ปณฺณาการํ ชนิยา หรตีติ ชฺํ. อุภยตฺถาติ อตฺถทฺวเย. ปุนรุตฺตนฺติ อาเมฑิตวจนมาห. น มนาปํ เอตสฺสาติ อมนาโป, ตสฺส ภาโว อมนาปตา, ตถาปวตฺโต จิตฺตุปฺปาโทติ อาห ‘‘อมนาปํ อิทนฺติ…เป… อธิวจน’’นฺติ. พุทฺธเวสตฺตา ลิงฺคสฺส ปริสุทฺธกํสปาติสทิสกา. กุณปรจนํ วิย อิจฺฉาวจเรหิ สนฺตานสฺส ภริตภาโว. โส ปน เตสํ อปฺปหีนตายาติ อาห ‘‘อิจฺฉาวจรานํ อปฺปหาน’’นฺติ.

๖๒. ‘‘เตน คามนฺตวิหารํ อนุคฺคณฺหาตี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘อารฺิกตฺต’’นฺติ ปน โปตฺถเก ลิขิตํ. น หิ สุกฺกปกฺเข ปาฬิยํ อารฺิกคฺคหณํ อตฺถิ, สติ จ อิจฺฉาวจรปฺปหาเน คามนฺตวิหาโร เอกนฺเตน น ปฏิกฺขิปิตพฺโพ, อิจฺฉิตพฺโพว ตาทิสานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมปฏิจฺฉาทนโต . ตถา หิ วกฺขติ ‘‘อปฺปิจฺฉตาสมุฏฺาเนหี’’ติอาทิ. สาลิวรภตฺตรจนํ วิย อิจฺฉาวจรปฺปหานํ มนุฺภาวโต ติตฺติเหตุโต จ.

๖๓. มํนฺติ จ อุปโยควจนํ ปฏิ-สทฺทโยเคน, อตฺโถ ปน สมฺปทานเมวาติ อาห ‘‘มยฺหํ ตุยฺห’’นฺติ จ. ‘‘สมเย’’ติ ภุมฺมตฺเถ ‘‘สมย’’นฺติ อุปโยควจนํ. คิชฺฌกูฏปณฺฑวอิสิคิลิเวภารเวปุลฺลปพฺพตานํ วเสน สมนฺตโต คิริปริกฺเขเปน. ราชคเหติ สมีปตฺเถ ภุมฺมวจนนฺติ อาห ‘‘ตํ นิสฺสาย วิหรามี’’ติ.

ปุราณยานการปุตฺโตติ ปุราเณ ปพฺพชิตโต ปุพฺเพ ยานการปุตฺโต ตถาปฺาโต. ชิมฺหนฺติ โคมุตฺตกุฏิลํ. เตนาห ‘‘สปฺปคตมคฺคสทิส’’นฺติ. โสติ ปณฺฑุปุตฺโต. อิตโรติ สมิติ. จินฺติตฏฺานเมวาติ จินฺติตจินฺติตฏฺานเมว ตจฺฉติ, ตฺจ โข น ตสฺส จิตฺตานุสาเรน, อถ โข อตฺตโน สุตฺตานุสาเรน ตจฺฉนฺโต ยานการปุตฺโต. จิตฺตนฺติ อตฺตโน จิตฺเตน มม จิตฺตํ ชานิตฺวา วิย.

‘‘น สทฺธาย ปพฺพชิโต’’ติ อิมินาว กมฺมผลสทฺธาย อภาโว เนสํ ปกาสิโตติ อาห ‘‘อสฺสทฺธาติ พุทฺธธมฺมสงฺเฆสุ สทฺธาวิรหิตา’’ติ. ปพฺพชิตานํ ชีวิกา อตฺโถ เอเตสนฺติ ชีวิกตฺถา. เตนาห ‘‘อิณภยาทีหี’’ติอาทิ. เกราฏิกํ วุจฺจติ สาเยฺยํ. สานํ คุณวาณิชกานํ กมฺมํ สาเยฺยนฺติ อาห ‘‘สาเยฺยฺหี’’ติอาทิ. ตุจฺฉสภาเวน มาโน นโฬ วิยาติ นโฬ, มานสงฺขาโต อุคฺคโต นโฬ เอเตสนฺติ อุนฺนฬา. เตนาห ‘‘อุฏฺิตตุจฺฉมานา’’ติ. ลหุกตาย วา จปลา. ผรุสวจนตาย ขรวจนา. ติรจฺฉานกถาพหุลตาย นิรตฺถกวจนปลาปิโน. อสํวุตกมฺมทฺวาราติ อิทํ กมฺมทฺวาราทีนํ อสํวุตภาโว อุปฺปตฺติทฺวารานํ อสํวุตตาย เอว โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. อถ วา ฉสุ อินฺทฺริเยสูติ นิมิตฺเต ภุมฺมํ, ฉสุ อินฺทฺริเยสุ นิมิตฺตภูเตสุ อสํวุตกมฺมทฺวาราติ อตฺโถ. ยา มตฺตาติ โภชเน อยุตฺตปริเยสน-อยุตฺตปฏิคฺคหณ-อยุตฺตปริโภเค วชฺเชตฺวา ยุตฺตปริเยสน-ยุตฺตปฏิคฺคหณ-ยุตฺตปริโภคสงฺขาตา ยา มตฺตา อปฺปมตฺเตหิ ชานิตพฺพา. เตนาห ‘‘ยุตฺตตา’’ติ. ชาคเรติ รตฺตินฺทิวํ อาวรณิเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตปริโสธนสงฺขาเต ชาคเร. เตสํ ชาคริตาย อธิสีลสิกฺขาย คารวรหิตานํ อิตรสิกฺขาสุ ปติฏฺา เอว นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สิกฺขาปเทสุ พหุลคารวา น โหนฺตี’’ติ วตฺวา ตเมว คารวาภาวํ สรูเปน วิภาเวนฺโต ‘‘อาปตฺติวีติกฺกมพหุลา’’ติ อาห.

ปกติยาปิ สิทฺธาย รตนตฺตยสทฺธาย กมฺมผลสทฺธาย จ สทฺธา. ปิวนฺติ มฺเ ยถา ตํ ทฺรวภูตํ อมตํ ลทฺธา. ฆสนฺติ มฺเ ยถา ตํ พหลปิณฺฑิกสุธาโภชนํ ลทฺธา. อตฺตมนวาจํ นิจฺฉาเรนฺตา ‘‘สาธุ สาธู’’ติ. ตเมว ปน สาธุการํ หทเย เปตฺวา อพฺภนุโมทนฺตา. เอตฺถ จ อตฺตมนวาจานิจฺฉารณํ ปิวนสทิสํ กตฺวา วุตฺตํ พหิทฺธาภาวโต, มนสา อพฺภนุโมทนํ ปน อพฺภนฺตรภาวโต ฆสนสทิสํ วุตฺตํ. สงฺขาทนชฺโฌหรณฺหิ ฆสนนฺติ. รสฺสฺจ เอกวจนํ โหตีติ อาห ‘‘รสฺเส สติ สาริปุตฺตสฺส อุปริ โหตี’’ติ. ทีฆฺจ พหุวจนํ โหตีติ อาห ‘‘ทีเฆ สติ สพฺรหฺมจารีน’’นฺติ. ‘‘อุปริ โหตี’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. อาลสิยพฺยสนาทีหีติ อาลสิเยน วา าติพฺยสนาทีหิ วา. ‘‘มหานาคาติ วุจฺจนฺตี’’ติ วตฺวา ตตฺถ การณํ วิภาเวนฺโต ‘‘ตตฺรา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘น คจฺฉนฺตีติ นาคา, น อาคจฺฉนฺตีติ นาคา, น อาคุํ กโรนฺตีติ นาคา’’ติ โย วิวิโธ วจนตฺโถ อิจฺฉิโต, ตํ วิจาเรตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ฉนฺทาทีหี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ ปน เยฺยาวโพธาย วจนโต อปฺปมตฺตการณํ.

สยเมว อาคุํ น กโรติ สพฺพถา มคฺเคน ปหีนอาคุตฺตา. โส กามโยคาทิเก สพฺพสํโยเค ทสวิธสํโยชนปฺปเภทานิ จ สพฺพพนฺธนานิ วิสชฺช ชหิตฺวา สพฺพตฺถ ยกฺขาทีสุ, สพฺเพสุ วา ภเวสุ เกนจิ สงฺเคน น สชฺชติ ตีหิ จ วิมุตฺตีหิ วิมุตฺโต, ตโต เอว อิฏฺาทีสุ ตาทิภาวปฺปตฺติยา ตาทิ, โส วุตฺตลกฺขเณน ตถตฺตา ตํสภาวตฺตา นาโค ปวุจฺจเตติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติ. อฺเหิ ขีณาสวนาเคหิ อคฺคสาวกตฺตา คุณวิเสสโยคโต ปุชฺชตรา จ ปาสํสตรา จ. สมํ อนุโมทิสุนฺติ อฺมฺสฺส สุภาสิตโต สมฺปฏิจฺฉเนน สมปฺปวตฺตโมทตาย สมํ สทิสํ อพฺภนุโมทึสุ. ตํ ปน สมนุโมทนํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทินา ปาฬิวเสเนว ทสฺเสติ.

สมฺมุติปรมตฺถเทสนากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อนงฺคณสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๖. อากงฺเขยฺยสุตฺตวณฺณนา

๖๔. สมฺปนฺนนฺติ ปริปุณฺณํ, สมนฺตโต ปนฺนํ ปตฺตนฺติ สมฺปนฺนํ. เตนาห ‘‘อิทํ ปริปุณฺณสมฺปนฺนํ นามา’’ติ. นฺติ ‘‘สุวา’’ติ วุตฺตํ สุวคณํ. สมฺปนฺโนติ สมฺมเทว ปนฺโน คโต อุปคโต. เตนาห ‘‘สมนฺนาคโต’’ติ. สมฺปนฺนนฺติ สมฺปตฺติยุตฺตํ. สา ปเนตฺถ รสสมฺปตฺติ อธิปฺเปตา สามฺโชตนาย วิเสเส อวฏฺานโต. เตนาห ‘‘เสยฺยถาปิ ขุทฺทมธุํ อเนฬก’’นฺติ, นิทฺโทสนฺติ อตฺโถ. เตน วุตฺตํ ‘‘อิทํ มธุรสมฺปนฺนํ นามา’’ติ. สีลสฺส อนวเสสสมาทาเนน อขณฺฑาทิภาวาปตฺติยา จ ปริปุณฺณสีลา. สมาทานโต ปฏฺาย อจฺฉินฺทนโต สีลสมงฺคิโน. สมาทานโต หิ อจฺจนฺตวิโรธิธมฺมานุปฺปตฺติยา สีลสมงฺคิตา เวทิตพฺพา, เจตนาทีนํ ปน สีลนลกฺขณานํ ธมฺมานํ ปวตฺติกฺขเณ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๙) วุตฺตา, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว วิตฺถารกถา เวทิตพฺพาติ อธิปฺปาโย.

เขตฺตปาริปูรีติ นิสฺสิตปาริปูริยา นิสฺสยปาริปูริมาห นิสฺสิตกมฺมวิปตฺติสมฺปตฺติวิสยตฺตา ยถา ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติ. ตถา หิ เขตฺเตน ขณฺฑปูติอาทิโทโส วุตฺโต. เขตฺตํ ขณฺฑํ โหตีติ อปริปูรํ โหติ สสฺสปาริปูริยา อภาวโต. เตเนวาห ‘‘สสฺสํ น อุฏฺเตี’’ติ. ปาทมตฺตสฺสปิ อเนกมฺพณผลนโต มหปฺผลํ โหติ. กิสลยปลาลาทิพหุตาย มหานิสํสํ. เอวเมวนฺติ ยถา ขิตฺตํ พีชํ ขณฺฑาทิจตุโทสวเสน อปริปุณฺณํ โหติ, ตทภาเวน จ ปริปุณฺณํ, เอวํ สีลํ ขณฺฑาทิจตุโทสวเสน อปริปุณฺณํ โหติ, ตทภาเวน จ ปริปุณฺณนฺติ, จตุโทสตทภาวสามฺเมว นิทสฺสนนิทสฺสิตพฺพวิปตฺติสมฺปตฺตีสุ ทสฺเสติ. มหปฺผลํ โหติ วิปากผเลน. มหานิสํสนฺติ วิปุลานิสํสํ. สฺวายํ อานิสํโส อิธ ปาฬิยํ นานปฺปกาเรน วิตฺถารียติ.

เอตฺตาวตา กิราติ (อ. นิ. ฏี. ๒.๒.๓๗; อ. นิ. ฏี. ๓.๑๐.๗๑-๗๔) กิร-สทฺโท อรุจิสูจนตฺโถ. เตเนตฺถ อาจริยวาทสฺส อตฺตโน อรุจฺจนภาวํ ทีเปติ. สมฺปนฺนสีลาติ อนามฏฺวิเสสํ สามฺโต สีลสงฺเขเปน คหิตํ. ตฺจ จตุพฺพิธนฺติ อาจริยตฺเถโร ‘‘จตุปาริสุทฺธิสีลํ อุทฺทิสิตฺวา’’ติ อาห. ตตฺถาติ จตุปาริสุทฺธิสีเล. เชฏฺกสีลนฺติ (สํ. นิ. ฏี. ๓.๕.๔๑๒) ปธานสีลํ. อุภยตฺถาติ อุทฺเทสนิทฺเทเส. อิธ นิทฺเทเส วิย อุทฺเทเสปิ ปาติโมกฺขสํวโร ภควตา วุตฺโต ‘‘สมฺปนฺนสีลา’’ติ วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย . สีลคฺคหณฺหิ ปาฬิยํ ปาติโมกฺขสํวรวเสน อาคตํ. เตนาห ‘‘ปาติโมกฺขสํวโรเยวา’’ติอาทิ. ตตฺถ อวธารเณน อิตเรสํ ติณฺณํ เอกเทเสน ปาติโมกฺขนฺโตคธภาวํ ทีเปติ. ตถา หิ อโนโลกิโยโลกเน อาชีวเหตุ ฉสิกฺขาปทวีติกฺกเม คิลานปจฺจยสฺส อปจฺจเวกฺขิตปริโภเค จ อาปตฺติ วิหิตาติ. ตีณีติ อินฺทฺริยสํวรสีลาทีนิ. สีลนฺติ วุตฺตฏฺานํ นาม อตฺถีติ สีลปริยาเยน เตสํ กตฺถจิ สุตฺเต คหิตฏฺานํ นาม กึ อตฺถิ ยถา ปาติโมกฺขสํวโรติ อาจริยสฺส สมฺมุขตฺตา อปฏิกฺขิปนฺโตว อุปจาเรน ปุจฺฉนฺโต วิย วทติ. เตนาห ‘‘อนนุชานนฺโต’’ติ. ฉทฺวารรกฺขามตฺตกเมวาติ ตสฺส สลฺลหุกภาวมาห จิตฺตาธิฏฺานมตฺเตน ปฏิปากติกภาวาปตฺติโต. อิตรทฺวเยปิ เอเสว นโย. ปจฺจยุปฺปตฺติมตฺตกนฺติ ผเลน เหตุํ ทสฺเสติ. อุปฺปาทนเหตุกา หิ ปจฺจยานํ อุปฺปตฺติ. อิทมตฺถนฺติ อิทํ ปโยชนํ อิมสฺส ปจฺจยสฺส ปริภุฺชเนติ อธิปฺปาโย. นิปฺปริยาเยนาติ อิมินา อินฺทฺริยสํวราทีนิ ตีณิ ปธานสฺส สีลสฺส ปริวารวเสน ปวตฺติยา ปริยายสีลานิ นามาติ ทสฺเสติ.

อิทานิ ปาติโมกฺขสํวรสฺเสว ปธานภาวํ พฺยติเรกโต อนฺวยโต จ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โสติ ปาติโมกฺขสํวโร. เสสานีติ อินฺทฺริยสํวราทีนิ. ตสฺเสวาติ ‘‘สมฺปนฺนสีลา’’ติ เอตฺถ ยํ สีลํ วุตฺตํ, ตสฺเสว. สมฺปนฺนปาติโมกฺขาติ เอตฺถ ปาติโมกฺขคฺคหเณน เววจนํ วตฺวา ตํ วิตฺถาเรตฺวา…เป… อาทิมาห. ยถา อฺถาปิ ‘‘อิธ ภิกฺขุ สีลวา โหตี’’ติ (มหานิ. ๑๙๙) ปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย อุทฺทิฏฺํ สีลํ ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรตี’’ติ (วิภ. ๕๐๘; มหานิ. ๑๙๙) นิทฺทิฏฺํ.

ปาติโมกฺขสํวรสํวุตาติ โย นํ ปาติ รกฺขติ, ตํ โมกฺเขติ โมเจติ อาปายิกาทีหิ ทุกฺเขหีติ ‘‘ปาติโมกฺข’’นฺติ ลทฺธนาเมน สิกฺขาปทสีเลน ปิหิตกายวจีทฺวารา. เต ปน ยสฺมา เอวํภูตา เตน สมนฺนาคตา นาม โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปาติโมกฺขสํวเรน สมนฺนาคตา’’ติ.

อปโร นโย (อุทา. อฏฺ. ๓๑; อิติวุ. อฏฺ. ๙๗) – กิเลสานํ พลวภาวโต, ปาปกิริยาย สุกรภาวโต, ปุฺกิริยาย จ ทุกฺกรภาวโต พหุกฺขตฺตุํ อปาเยสุ ปตนสีโลติ ปาตี, ปุถุชฺชโน. อนิจฺจตาย วา ภวาทีสุ กมฺมเวคกฺขิตฺโต ฆฏียนฺตํ วิย อนวฏฺาเนน ปริพฺภมนโต คมนสีโลติ ปาตี, มรณวเสน วา ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย อตฺตภาวสฺส ปาตนสีโลติ ปาตี, สตฺตสนฺตาโน, จิตฺตเมว วา, ตํ ปาตึ สํสารทุกฺขโต โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺขํ. จิตฺตสฺส หิ วิโมกฺเขน สตฺโต วิมุตฺโตติ วุจฺจติ. วุตฺตฺหิ ‘‘จิตฺตโวทานา วิสุชฺฌนฺตี’’ติ, ‘‘อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’’นฺติ (มหาว. ๒๘) จ.

อถ วา อวิชฺชาทินา เหตุนา สํสาเร ปตติ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ ปาตี. ‘‘อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ สนฺธาวตํ สํสรต’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๒๕) หิ วุตฺตํ. ตสฺส ปาติโน สตฺตสฺส ตณฺหาทิสํกิเลสตฺตยโต โมกฺโข เอเตนาติ ปาติโมกฺโข. ‘‘กณฺเกาโล’’ติอาทีนํ วิย สมาสสิทฺธิ เวทิตพฺพา.

อถ วา ปาเตติ วินิปาเตติ ทุกฺเขติ ปาติ, จิตฺตํ. วุตฺตฺหิ ‘‘จิตฺเตน นียติ โลโก, จิตฺเตน ปริกสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๖๒). ตสฺส ปาติโน โมกฺโข เอเตนาติ ปาติโมกฺโข. ปตติ วา เอเตน อปายทุกฺเข สํสารทุกฺเข จาติ ปาตี, ตณฺหาทิสํกิเลโส. วุตฺตฺหิ ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ (สํ. นิ. ๑.๕๗), ตณฺหาทุติโย ปุริโส’’ติ (อิติวุ. ๑๕, ๑๐๕; อ. นิ. ๔.๙) จ อาทิ. ตโต ปาติโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺโข.

อถ วา ปตติ เอตฺถาติ ปาตี, ฉ อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ. วุตฺตฺหิ ‘‘ฉสุ โลโก สมุปฺปนฺโน, ฉสุ กุพฺพติ สนฺถว’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๗๐; สุ. นิ. ๑๗๑). ตโต อชฺฌตฺติกพาหิรายตนสงฺขาตโต ปาติโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺโข. อถ วา ปาโต วินิปาโต อสฺส อตฺถีติ ปาตี, สํสาโร. ตโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺโข. อถ วา สพฺพโลกาธิปติภาวโต ธมฺมิสฺสโร ภควา ‘‘ปตี’’ติ วุจฺจติ, มุจฺจติ เอเตนาติ โมกฺโข, ปติโน โมกฺโข เตน ปฺตฺตตฺตาติ ปาติโมกฺโข . ปาติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺโข. สพฺพคุณานํ วา มูลภาวโต อุตฺตมฏฺเน ปติ จ โส ยถาวุตฺตตฺเถน โมกฺโข จาติ ปาติโมกฺโข. ปาติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺโข. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ปาติโมกฺขนฺติอาทิเมตํ มุขเมตํ ปมุขเมต’’นฺติ (มหาว. ๑๓๕) วิตฺถาโร.

อถ วา -อิติ ปกาเร, อตีติ อจฺจนฺตตฺเถ นิปาโต, ตสฺมา ปกาเรหิ อจฺจนฺตํ โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺโข. อิทฺหิ สีลํ สยํ ตทงฺควเสน, สมาธิสหิตํ ปฺาสหิตฺจ วิกฺขมฺภนวเสน, สมุจฺเฉทวเสน จ อจฺจนฺตํ โมกฺเขติ โมเจตีติ ปาติโมกฺโข. ปติ ปติ โมกฺโขติ วา ปาติโมกฺโข, ตมฺหา ตมฺหา วีติกฺกมโทสโต ปจฺเจกํ โมกฺโขติ อตฺโถ. ปาติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺโข. โมกฺโข วา นิพฺพานํ, ตสฺส โมกฺขสฺส ปติพิมฺพภูโตติ ปาติโมกฺโข . สีลสํวโร หิ นิพฺเพธภาคิโย สูริยสฺส อรุณุคฺคมนํ วิย นิพฺพานสฺส อุทยภูโต ตปฺปฏิภาโค วิย โหติ ยถารหํ กิเลสนิพฺพาปนโตติ ปาติโมกฺโข. ปาติโมกฺโขเยว ปาติโมกฺโข. อถ วา โมกฺขํ ปติ วตฺตติ โมกฺขาภิมุขนฺติ วา ปาติโมกฺขํ. ปาติโมกฺขเมว ปาติโมกฺขนฺติ เอวเมตฺถ ปาติโมกฺขสทฺทสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อาจารโคจรสมฺปนฺนาติ กายิกวาจสิกอวีติกฺกมสงฺขาเตน อาจาเรน เจว นเวสิยโคจรตาทิสงฺขาเตน โคจเรน จ สมฺปนฺนา, สมฺปนฺนอาจารโคจราติ อตฺโถ. อปฺปมตฺเตสูติ อติปริตฺตเกสุ อนาปตฺติคมนีเยสุ, ทุกฺกฏทุพฺภาสิตมตฺเตสูติ อปเร. วชฺเชสูติ คารยฺเหสุ. เต ปน เอกนฺตโต อกุสลสภาวา โหนฺตีติ อาห ‘‘อกุสลธมฺเมสู’’ติ. ภยทสฺสิโนติ ภยโต ทสฺสนสีลา, ปรมาณุมตฺตมฺปิ วชฺชํ สิเนรุปฺปมาณํ วิย กตฺวา ภายนสีลา. สมฺมา อาทิยิตฺวาติ สมฺมเทว สกฺกจฺจํ สพฺพโส จ อาทิยิตฺวา. สิกฺขาปเทสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมนฺติ สมุทายโต อวยวนิทฺธารณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สิกฺขาปเทสุ ตํ ตํ สิกฺขาปทํ สมาทิยิตฺวา สิกฺขถา’’ติ อตฺถมาห. สิกฺขาปทเมว หิ สมาทาตพฺพํ สิกฺขิตพฺพฺจาติ อธิปฺปาโย. ยํ กิฺจิ สิกฺขาโกฏฺาเสสูติ สิกฺขาโกฏฺาเสสุ มูลปฺตฺติอนุปฺติสพฺพตฺถปฺตฺติปเทสปฺตฺติอาทิเภทํ ยํ กิฺจิ สิกฺขิตพฺพํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ ปูเรตพฺพํ สีลํ. ตํ ปน ทฺวารวเสน ทุวิธเมวาติ อาห ‘‘กายิกํ วาจสิกฺจา’’ติ. อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป สิกฺขาปเทสูติ อาธาเร ภุมฺมํ สิกฺขาภาเคสุ กสฺสจิ วิสุํ อคฺคหณโต. เตนาห ‘‘ตํ สพฺพ’’นฺติ.

๖๕. กสฺมา อารทฺธนฺติ (อ. นิ. ฏี. ๓.๑๐.๗๑-๗๔) เทสนาย การณปุจฺฉา. สีลานิสํสทสฺสนตฺถนฺติ ปโยชนนิทฺเทโส. โก อตฺโถ กฺว อตฺโถ กฺว นิปาติตาติ? นยิทเมวํ ทฏฺพฺพํ. สีลานิสํสทสฺสนตฺถนฺติ หิ เอตฺถ พฺยติเรกโต ยํ สีลานิสํสสฺส อทสฺสนํ, ตํ อิมิสฺสา เทสนาย การณนฺติ กสฺมา อารทฺธนฺติ วิเนยฺยานํ สีลานิสํสสฺส อทสฺสนโตติ อตฺถโต อาปนฺโน เอว โหตีติ. เตนาห ‘‘สเจปี’’ติอาทิ. สีลานิสํสทสฺสนตฺถนฺติ ปน อิมสฺส อตฺถํ วิวริตุํ ‘‘เตส’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อานิสํโสติ อุทโย. ‘‘สีลวา สีลสมฺปนฺโน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคโลกํ อุปปชฺชตี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๕๐; ๓.๓๑๖; อ. นิ. ๕.๒๑๓; มหาว. ๒๘๕) ปน วิปากผลมฺปิ ‘‘อานิสํโส’’ติ วุตฺตํ. โก วิเสโสติ โก ผลวิเสโส. กา วฑฺฒีติ โก อพฺภุทโย. วิชฺชมาโนปิ คุโณ ยาถาวโต วิภาวิโต เอว อภิรุจึ อุปฺปาเทติ, น อวิภาวิโต, ตสฺมา เอกนฺตโต อานิสํสกิตฺตนํ อิจฺฉิตพฺพเมวาติ ทสฺเสตุํ วิสกณฺฏกวาณิโช อุทาหโฏ.

ตตฺถ คุโฬ นาม อุจฺฉุรสํ ปจิตฺวา จุณฺณาทีหิ มิสฺสิตฺวา สมฺปิณฺฑเน ปิณฺฑีภูตํ. ผาณิตํ อปิณฺฑิตํ ทฺรวีภูตํ. ขณฺฑํ ภิชฺชนกฺขมํ. สกฺขรา นาม ผลิกสทิสา. สกฺขราทีนิติ อาทิ-สทฺเทน มจฺฉณฺฑิกานํ สงฺคโห. ตสฺมึ กาเล คุฬาทีสุ วิสกณฺฏกโวหาโร อปจฺจนฺตเทเส ปจุโรติ ‘‘ปจฺจนฺตคามํ คนฺตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ทารเก จ ปลาเปสุํ ‘‘วิสกณฺฏกํ มา คณฺหนฺตู’’ติ.

ปิโยติ ปิยายิตพฺโพ. ปิยสฺส นาม ทสฺสนํ เอกนฺตโต อภินนฺทิตพฺพํ โหตีติ อาห ‘‘วิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสิตพฺโพ’’ติ. ปีติสมุฏฺานปสนฺนโสมฺมรูปปริคฺคหฺหิ จกฺขุ ‘‘ปิยจกฺขู’’ติ วุจฺจติ. เตสนฺติ สพฺรหฺมจารีนํ. มนวฑฺฒนโกติ ปีติมนสฺส ปริพฺรูหนโต อุปรูปริ ปีติจิตฺตสฺส อุปฺปาทโก. ครุฏฺานิโยติ ครุกรณสฺส านภูโต. ชานํ ชานาตีติ าเณน ชานิตพฺพํ ชานาติ. ยถา วา อฺเ อชานนฺตาปิ ชานนฺตา วิย ปวตฺตนฺติ, น เอวมยํ, อยํ ปน ชานนฺโต เอว ชานาติ . ปสฺสํ ปสฺสตีติ ทสฺสนภูเตน ปฺาจกฺขุนา ปสฺสิตพฺพํ ปสฺสติ, ปสฺสนฺโต เอว วา ปสฺสติ. เอวํ สมฺภาวนีโยติ เอวํ วิฺุตาย ปณฺฑิตภาเวน สมฺภาเวตพฺโพ.

สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการีติ สีเลสุ ปริปูรการี เอว ภเวยฺยาติ เอวํ อุตฺตรปทาวธารณํ ทฏฺพฺพํ. เอวฺหิ อิมินา ปเทน อุปริสิกฺขาทฺวยํ อนิวตฺติตเมว โหติ. ยถา ปน สีเลสุ ปริปูรการี นาม โหติ, ตํ ผเลน ทสฺเสตุํ ‘‘อชฺฌตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. วิปสฺสนาธิฏฺานสมาธิสํวตฺตนิกตาย หิ อิธ สีลสฺส ปาริปูรี, น เกวลํ อขณฺฑาทิภาวมตฺตํ. เตนาห ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ อขณฺฑานิ…เป… สมาธิสํวตฺตนิกานี’’ติ. เอวฺจ กตฺวา อุปริ สิกฺขาทฺวยํ สีลสฺส สมฺภารภาเวน คหิตนฺติ สีลสฺเสเวตฺถ ปธานคฺคหณํ สิทฺธํ โหติ. ตถา หิ จิตฺเตกคฺคตาสงฺขารปริคฺคหานํ สีลสฺสานุรกฺขณภาวํ วกฺขติ. ยํ ปน วกฺขติ ‘‘สิกฺขตฺตยเทสนา ชาตา’’ติ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๖๕), ตํ อิตราสมฺปิ สิกฺขานํ อิธ คหิตตามตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปธานภาเวน คหิตตํ. ยทิ เอวํ กถํ สีลสฺส อปฺปมตฺตกตาวจนํ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อปฺปมตฺตกํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, โอรมตฺตก’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๗). ตํ ปุถุชฺชนโคจรํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตถา หิ ตตฺถ น นิปฺปเทสโต สีลํ วิภตฺตํ, เอวํ กตฺวา ตตฺถ สีลมตฺตกนฺติ มตฺตคฺคหณํ สมตฺถิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อนูเนนาติ อขณฺฑาทิภาเวน, กสฺสจิ วา อหาปเนน อุปปนฺเนน. อากาเรนาติ กรเณน สมฺปาทเนน. จิตฺตสมเถติ จิตฺตสมาธาเน. ยุตฺโตติ อวิยุตฺโต ปสุโต. โย สพฺเพน สพฺพํ ฌานภาวนํ อนนุยุตฺโต, โส ตํ พหิ นีหรติ นาม. โย อารภิตฺวา อนฺตรา สงฺโกจํ อาปชฺชติ , โส ตํ วินาเสติ นาม. โย ปน อีทิโส อหุตฺวา ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, โส อนิรากตชฺฌาโนติ ทสฺเสนฺโต ‘‘พหิ อนีหฏชฺฌาโน’’ติอาทิมาห.

อนิจฺจสฺส เตภูมกธมฺมสฺส, อนิจฺจนฺติ วา อนุปสฺสนา อนิจฺจานุปสฺสนา. ตถา ทุกฺขานุปสฺสนา อนตฺตานุปสฺสนา จ. ตสฺเสว นิพฺพินฺทนากาเรน ปวตฺตา อนุปสฺสนา นิพฺพิทานุปสฺสนา. วิรชฺชนากาเรน ปวตฺตา อนุปสฺสนา วิราคานุปสฺสนา. นิโรธสฺส อนุปสฺสนา นิโรธานุปสฺสนา. ปฏินิสฺสชฺชนวเสน ปวตฺตา อนุปสฺสนา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา. สุฺาคารคโต ภิกฺขุ ตตฺถ ลทฺธกายวิเวกตาย สมถวิปสฺสนาวเสน จิตฺตวิเวกํ ปริพฺรูเหนฺโต ยถานุสิฏฺํ ปฏิปตฺติยา โลกํ สาสนฺจ อตฺตโน วิเสสาธิคมฏฺานภูตํ สุฺาคารฺจ อุปโสภยมาโน คุณวิเสสาธิฏฺานภาวาปาทเนน วิฺูนํ อตฺถโต ตํ พฺรูเหนฺโต นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘พฺรูเหตา สุฺาคาราน’’นฺติ. เตนาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ. อยเมว สุฺาคารานุพฺรูหนวิฺุปฺปสตฺถานํ ภาชนํ, น เสนาสนปติฏฺาปนนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เอกภูมกาทิ…เป… ทฏฺพฺโพ’’ติ. สุฺาคารคฺคหเณน เจตฺถ อรฺรุกฺขมูลาทิ สพฺพํ ปธานานุโยคกฺขมํ เสนาสนํ คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

ตณฺหาวิจริตเทสนาติ ‘‘อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทายา’’ติ (วิภ. ๙๓๗) อาทินยปฺปวตฺตํ ตณฺหาวิจริตสุตฺตํ. ตณฺหาปทฏฺานตฺตาติ ตณฺหาสนฺนิสฺสยตฺตา. น หิ ตณฺหาวิรหิตา มานทิฏฺิปวตฺติ อตฺถิ. มานทิฏฺิโย โอสริตฺวาติ ทสฺเสตพฺพตาย มานทิฏฺิโย โอคาเหตฺวาติ อตฺโถ. คหณตฺถเมว หิ เทเสตพฺพธมฺมสฺส เทสนาย โอสรณํ. ตณฺหามานทิฏฺิโย ปปฺจตฺตยํ สตฺตสนฺตานสฺส สํสาเร ปปฺจนโต อนุปฺปพนฺธนวเสน วิตฺถารณโต. สีลปทฏฺานตฺตาติ สีลาธิฏฺานตฺตา.

อธิจิตฺตสิกฺขา วุตฺตาติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. วิปสฺสนาวเสน สุฺาคารวฑฺฒเนติ โยชนา. ทฺเวปิ สิกฺขาติ อธิจิตฺตาธิปฺาสิกฺขา. สงฺคเหตฺวาติ อธิสีลสิกฺขาย สทฺธึ สงฺคเหตฺวา วุตฺตา. ยทิ เอวมยํ สิกฺขตฺตยเทสนา ชาตาติ สิกฺขตฺตยานิสํสปฺปกาสนี สิยาติ อนุโยคํ สนฺธายาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. อินฺทฺริยสํวโร วิย ปาติโมกฺขสํวรสฺส จตุปาริสุทฺธิสีลสฺส อารกฺขภูตา จิตฺเตกคฺคตา วิปสฺสนา จ อิธ คหิตาติ ตทุภยํ อปฺปธานํ, สีลเมว ปน ปธานภาเวน คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘สีลานุรกฺขิกา เอวา’’ติอาทิ.

พลวตรสุขนฺติ สมุปฺปนฺนพฺยาธิทุกฺขโต พลวตรํ, ตํ อภิภวิตุํ สมตฺถํ ฌานสุขํ อุปฺปชฺชติ. พลวมมตฺตํ โหติ, เตน ทฬฺหอตฺตสิเนเหน วิลุตฺตหทโย กุสลธมฺเม ฉฑฺเฑนฺโต โส ตถารูเปสุ…เป… โปเสตา โหติ. พลวมมตฺตํ วา สิเนโห น โหติ ‘‘สุทฺโธ สงฺขารปุฺโช’’ติ ยาถาวทสฺสเนน อหํการมมํการาภาวโต. ทุพฺภิกฺขภเย ขุทาภิภวํ สนฺธายาห ‘‘สเจปิสฺส อนฺตานิ พหิ นิกฺขมนฺตี’’ติ. พฺยาธิภยํ สนฺธายาห ‘‘อุสฺสุสฺสติ วิสุสฺสนี’’ติ. อาทิ-สทฺเทน คหิตํ โจรภยํ สนฺธายาห ‘‘ขณฺฑาขณฺฑิโก วา’’ติ. อุภยสฺสาติ สมถวิปสฺสนาทฺวยสฺส. เอตฺถ จ ‘‘อชฺฌตฺตํ เจโต…เป… สุฺาคาราน’’นฺติ อิเมหิ วิเสสนิพฺเพธภาคิยภาวาปาทเนน สีลํ รกฺขิตุํ สมตฺถา เอว จิตฺเตกคฺคตาวิปสฺสนา คหิตา. ยสฺมา ปรโต ฌานวิโมกฺขผลาภิฺาณอธิฏฺานภาโว สีลสฺส อุทฺธโฏ, ตสฺมา ตสฺส ภิยฺโยปิ สมฺภารภูตา เอว จิตฺเตกคฺคตา วิปสฺสนา ตตฺถ ตตฺถ คหิตาติ เวทิตพฺพา.

สีลาทีติ อาทิ-สทฺเทน ยถาวุตฺตจิตฺเตกคฺคตาวิปสฺสนา สงฺคณฺหาติ, สีลสฺส วา มูลการณภูตํ สพฺพํ กมฺมสฺสกตาณฺจ สงฺคณฺหาติ กมฺมปถสมฺมาทิฏฺึ วา. สีลฺหิ ตทฺมฺปิ ปุฺกิริยาวตฺถุ เตเนว ปริโสธิตํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํสนฺติ. ลาภี อสฺสนฺติ ลาภา สาย สํวรณสีลปริปูรณํ ปาฬิยํ อาคตํ กิมีทิสํ ภควา อนุชานาตีติ? น ภควา สภาเวน อีทิสํ อนุชานาติ, มหาการุณิกตาย ปน ปุคฺคลชฺฌาสเยน เอวํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น เจตฺถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ฆาเสสนํ ฉินฺนกโถ น วาจํ ปยุตฺตํ ภเณติ ฉินฺนกโถ มูโค วิย หุตฺวา โอภาสปริกถานิมิตฺตวิฺตฺติปยุตฺตํ ฆาเสสนํ วาจํ น ภเณ น กเถยฺยาติ อตฺโถ. ปุคฺคลชฺฌาสยวเสนาติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘เยสฺหี’’ติอาทิมาห. รโส สภาวภูโต อานิสํโส รสานิสํโส.

ปจฺจยทานการาติ จีวราทิปจฺจยวเสน ทานการา. ‘‘เทวานํ วา’’ติ วุตฺตวจนํ ปากฏีกาตุมาห ‘‘เทวาปี’’ติอาทิ. ‘‘ปฺจิเม คหปตโย อานิสํสา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๕๐) อนิสํสสทฺโท ผลปริยาโยปิ โหตีติ อาห ‘‘อุภยเมตํ อตฺถโต เอก’’นฺติ.

สสฺสุสสุรา จ ตปฺปกฺขิกา จ สสฺสุสสุรปกฺขิกา. เต าติโยนิสมฺพนฺเธน อาวาหวิวาหสมฺพนฺธวเสน สมฺพนฺธา าตี. สาโลหิตาติ โยนิสมฺพนฺธวเสน. เอกโลหิตสมฺพทฺธาติ เอเกน สมาเนน โลหิตสมฺพนฺเธน สมฺพทฺธา. เปจฺจภาวํ คตาติ เปตูปปตฺติวเสน นิพฺพตฺตึ อุปคตา. เต ปน ยสฺมา อิธ กตกาลกิริยา กาเลน กตชีวิตุปจฺเฉทา โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘กาลกตา’’ติ. ปสนฺนจิตฺโตติ ปสนฺนจิตฺตโก. กาลกโต ปิตา วา มาตา วา เปตโยนึ อุปปนฺโนติ อธิการโต วิฺายตีติ วุตฺตํ ‘‘มหานิสํสเมว โหตี’’ติ, ตสฺส ตถา สีลสมฺปนฺนตฺตาติ อธิปฺปาโย. อริยภาเว ปน สติ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. เตนาห ‘‘อเนกานิ กปฺปสตสหสฺสานี’’ติอาทิ. พหุการนฺติ พหุปการํ. อุปสงฺกมนนฺติ อภิวาทนาทิวเสน อุปคมนํ. ปยิรุปาสนนฺติ อุปฏฺานนฺติ.

๖๖. อชฺโฌตฺถริตาติ มทฺทิตา. อุกฺกณฺาติ ริฺจนา อนภิรติ อนนุโยโค. สีลวา ภิกฺขุ อตฺตโน สีลขณฺฑภเยน สมาหิโต วิปสฺสโก จ ปจฺจยฆาเตน อรติยา รติยา จ สหิตา อภิภวิตาว โหตีติ อาห ‘‘สีลาทิคุณยุตฺเตเนวา’’ติอาทิ.

จิตฺตุตฺราโส ภายตีติ ภยํ. อารมฺมณํ ภายติ เอตสฺมาติ ภยํ. ปุริมวารสทิสตฺตา วุตฺตนยเมวาติ อติทิสิตฺวาปิ ปุน ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สีลาทิคุณยุตฺโต หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เถรสฺส เหฏฺา นิสินฺนตฺตา เทวตาย ทารกา สกภาเวน สณฺาตุํ สุเขน วตฺติตุํ อสกฺโกนฺตา อสมตฺถา.

อธิกํ เจโตติ อภิเจโต, อุปจารชฺฌานจิตฺตํ. ตสฺส ปน อธิกตา ปากติกกามาวจรจิตฺเตหิ สุนฺทรตาย สปฏิปกฺขโต วิสุทฺธิยา จาติ อาห ‘‘อภิกฺกนฺตํ วิสุทฺธิจิตฺต’’นฺติ. อธิจิตฺตนฺติ สมาธิมาห, โส จ อุปจารสมาธิ ทฏฺพฺโพ. วิเวกชํ ปีติสุขํ, สมาธิชํ ปีติสุขํ, อปีติชํ ฌานสุขํ, สติปาริสุทฺธิชํ ฌานสุขนฺติ จตุพฺพิธมฺปิ ฌานสุขํ ปฏิปกฺขโต นิกฺขนฺตตํ อุปาทาย ‘‘เนกฺขมฺมสุข’’นฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘เนกฺขมฺมสุขํ วินฺทนฺตี’’ติ. อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สมาปชฺชิตุํ สมตฺโถติ อิมินา เตสุ ฌาเนสุ สมาปชฺชนวสีภาวมาห, ‘‘นิกามลาภี’’ติ ปน วจนโต อาวชฺชนาธิฏฺานปจฺจเวกฺขณวสิโยปิ วุตฺตา เอวาติ เวทิตพฺพา. สุเขเนว ปจฺจนีกธมฺเม วิกฺขมฺเภตฺวาติ เอเตน เตสํ ฌานสุขขิปฺปาภิฺตฺจ ทสฺเสติ. วิปุลานนฺติ เวปุลฺลํ ปาปิตานํ. ฌานานํ วิปุลตา นาม สุภาวิตภาเวน จิรตรปฺปตฺติ, สา จ ปริจฺเฉทานุรูปาว อิจฺฉิตพฺพฺพาติ ‘‘วิปุลาน’’นฺติ วตฺวา ‘‘ยถาปริจฺเฉเทเยว วุฏฺาตุํ สมตฺโถติ วุตฺตํโหตี’’ติ อาห. ปริจฺเฉทกาลฺหิ อปฺปตฺวาว วุฏฺหนฺโต อกสิรลาภี น โหติ ยาวทิจฺฉกํ ปวตฺเตตุํ อสมตฺถตฺตา. อิทานิ เตเยว ยถาวุตฺเต สมาปชฺชนาทิวสีภาเว พฺยติเรกวเสน วิภาเวตุํ ‘‘เอกจฺโจ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ลาภีเยว โหตีติ อิทํ ปฏิลทฺธมตฺตสฺส ฌานสฺส วเสน วุตฺตํ. ตถาติ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ. ปาริพนฺธิเกติ วสีภาวสฺส ปจฺจนีกธมฺเม. ฌานาธิคมสฺส ปน ปจฺจนีกธมฺมา ปเคว วิกฺขมฺภิตา, อฺถา ฌานาธิคโม เอว น สิยา. กิจฺเฉน วิกฺขมฺเภตีติ กิจฺเฉน วิโสเธติ. กามาทีนวปจฺจเวกฺขณาทีหิ กามจฺฉนฺทาทีนํ วิย อฺเสมฺปิ สมาธิปาริพนฺธิกานํ ทูรสมุสฺสารณํ อิธ วิกฺขมฺภนํ วิโสธนฺจาติ เวทิตพฺพํ. นาฬิกายนฺตนฺติ กาลมานนาฬิกายนฺตํ อาห.

วิเสเสน รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานํ สพฺพโส วสีภาวาปาทิตํ อภิฺาปาทกนฺติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อภิฺาปาทเก ฌาเน วุตฺเต’’ติ. อรูปชฺฌานมฺปิ ปน อธิฏฺานตาย ปาทกเมว จุทฺทสธา จิตฺตปริทมเนน วินา ตทภาวโต. ‘‘เอวมภิฺาปาทเก รูปาวจรชฺฌาเน วุตฺเต รูปาวจรตาย กิฺจาปิ อภิฺานํ โลกิยวาโร อาคโต’’ติ อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย. นฺติ อภิฺาวารํ. จตฺตาริ…เป… อริยมคฺคา สีลานํ อานิสํโส สมฺปนฺนสีลสฺเสว ลาภโต. ปริยาทิยิตฺวาติ คเหตฺวา.

องฺคสนฺตตายาติ นีวรณาทีนํ ปจฺจนีกธมฺมานํ สุทูรตรภาเวน ฌานงฺคานํ วูปสนฺตตาย, นิพฺพุตสพฺพทรถปริฬาหตายาติ อตฺโถ, ยโต เตสํ ฌานานํ ปณีตตราทิภาโว. อารมฺมณสนฺตตายาติ รูปปฏิฆาทิวิคมเนน สณฺหสุขุมาทิภาวปฺปตฺตสนฺตภาเวน. ยทคฺเคน หิ เนสํ ภาวนาภิสมยสพฺภาวิตสณฺหสุขุมาการานิ อารมฺมณานิ สนฺตานิ, ตทคฺเคน ฌานงฺคานํ สนฺตตา เวทิตพฺพา. อารมฺมณสนฺตตาย สนฺตตา โลกุตฺตรธมฺมารมฺมณาหิ ปจฺจเวกฺขณาหิ ทีเปตพฺพา. วิมุตฺตา วิเสเสน มุตฺตา. เย หิ ฌานธมฺมา ตถาปวตฺตปุพฺพภาคภาวนาหิ ตพฺพิเสสตาย สาติสยํ ปฏิปกฺขธมฺเมหิ วิมุตฺติวเสน ปวตฺตนฺติ, ตโต เอว ตถาวิมุตฺตตาย ปิตุ องฺเก วิสฺสฏฺองฺคปจฺจงฺโค วิย กุมาโร นิราสงฺกภาเวน อารมฺมเณ อธิมุตฺตา จ ปวตฺตนฺติ, เต วิโมกฺขาติ วุจฺจนฺติ. เตนาห ‘‘วิโมกฺขาติ ปจฺจนีกธมฺเมหิ วิมุตฺตตฺตา อารมฺมเณ จ อธิมุตฺตตฺตา’’ติ . ยทิปิ อารมฺมณสมติกฺกมวเสน ปตฺตพฺพานิ อารุปฺปานิ, น องฺคาติกฺกมวเสน, ตถาปิ ยสฺมา อารมฺมเณ อวิรตฺตสฺส ฌานสมติกฺกโม น โหติ, สมติกฺกนฺเตสุ จ ฌาเนสุ อารมฺมณํ สมติกฺกนฺตเมว โหติ, ตสฺมา อารมฺมณสมติกฺกมํ อวตฺวา ‘‘รูปาวจรชฺฌาเน อติกฺกมิตฺวา’’ติ อิจฺเจว วุตฺตํ. อติกฺกมฺม รูเปติ ปาฬิยํ ‘‘สมฺปาเทตพฺพา, ปสฺสิตพฺพา’’ติ วา กิฺจิ ปทํ อิจฺฉิตพฺพํ, อสุตปริกปฺปเนน ปน ปโยชนํ นตฺถีติ ‘‘สนฺตาติ ปทสมฺพนฺโธ’’ติ วุตฺตํ. เอวฺจ กตฺวา เตน วิราคภาเวน เตสํ สนฺตตาติ อยมฺปิ อตฺโถ วิภาวิโต โหติ. รูปชฺฌานาทีนํ วิย นตฺถิ เอเตสํ อารมฺมณภูตํ วา ผลภูตํ วา รูปนฺติ อรูปา. อรูปา เอว อารุปฺปา. เตนาห ‘‘อารมฺมณโต จ วิปากโต จ รูปวิรหิตา’’ติ. นามกาเยนาติ สหชาตนามสมูเหน.

๖๗. สํโยเชนฺตีติ พนฺธนฺติ. เกหีติ อาห ‘‘ขนฺธคตี’’ติอาทิ. อสมุจฺฉินฺนราคาทิกสฺส หิ ขนฺธาทีนํ อายตึ ขนฺธาทีหิ สมฺพนฺโธ, สมุจฺฉินฺนราคาทิกสฺส ปน ตํ นตฺถิ กตานมฺปิ กมฺมานํ อสมตฺถภาวาปตฺติโตติ. ราคาทีนํ อนฺวยโต จ สํโยชนฏฺโ สิทฺโธติ อาห ‘‘ขนฺธคติ…เป… วุจฺจนฺตี’’ติ. ปริกฺขเยนาติ สมุจฺเฉเทน สพฺพโส อายตึ อนุปฺปชฺชเนน. ปฏิปกฺขธมฺมานํ อนวเสสโต สวนโต ปีฬนโต โสโต, อริยมคฺโคติ อาห ‘‘โสโตติ จ มคฺคสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ. ตํ โสตํ อาทิโต ปนฺโน อธิคจฺฉีติ โสตาปนฺโน, อฏฺมโก. เตนาห ‘‘ตํสมงฺคีปุคฺคลสฺสา’’ติ, ปมมคฺคกฺขเณ ปุคฺคลสฺสาติ อธิปฺปาโย. อิธ ปน ปนฺน-สทฺโท ‘‘ผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๘.๕๙) วิย วตฺตมานกาลิโกติ อาห ‘‘มคฺเคน ผลสฺส นามํ ทินฺน’’นฺติ. อภีตกาลิกตฺเต ปน สรสโตว นามลาโภ สิยา. วิรูปํ สทุกฺขํ สอุปายาสํ นิปาเตตีติ วินิปาโต, อปายทุกฺเข ขิปนโก. ธมฺโมติ สภาโว. เตนาห ‘‘อตฺตาน’’นฺติอาทิ. กสฺมาติ อวินิปาตธมฺมตาย การณํ ปุจฺฉติ. อปายํ คเมนฺตีติ อปายคมนียา. สมฺพุชฺฌตีติ สมฺโพธิ, อริยมคฺโค. โส ปน ปมมคฺคสฺส อธิคตตฺตา อวสิฏฺโ เอว อธิคนฺธพฺพภาเวน อิจฺฉิตพฺโพติ อาห ‘‘อุปริมคฺคตฺตย’’นฺติ.

วณฺณภณนตฺถํ วุตฺตานิ,น ปหาตพฺพานีติ อธิปฺปาโย. โอฬาริกานํ ราคาทีนํ สมุจฺฉินฺทนวเสน ปวตฺตมาโน ทุติยมคฺโค อวสิฏฺานํ เตสํ ตนุภาวาปตฺติยา อุปฺปนฺโน นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา’’ติ. อธิจฺจุปฺปตฺติยาติ กทาจิ กรหจิ อุปฺปชฺชเนน. ปริยุฏฺานมนฺทตายาติ สมุทาจารมุทุตาย. อภิณฺหํ น อุปฺปชฺชนฺติ ตชฺชสฺส อโยนิโสมนสิการสฺส อนิพทฺธภาวโต. มนฺทมนฺทา อุปฺปชฺชนฺติ วิปลฺลาสานํ ตปฺปจฺจยานฺจ โมหมานาทีนํ มุทุตรภาวโต. พหลาว อุปฺปชฺชนฺติ วตฺถุปฏิเสวนโตติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ตถา หี’’ติอาทิ.

สกึ อาคมนธมฺโมติ ปฏิสนฺธิวเสน สกึเยว อาคมนสภาโว. เอกวารํเยว…เป… อาคนฺตฺวาติ อิมินา ปฺจสุ สกทาคามีสุ จตฺตาโร วชฺเชตฺวา เอโกเยว คหิโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โยปิ หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยฺวายํ ปฺจมโก สกทาคามี ‘‘อิธ มคฺคํ ภาเวตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺโต, ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ปุน อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายตี’’ติ วุตฺโต, ตสฺส เอกพีชินา สทฺธึ กึ นานากรณนฺติ? เอกพีชิสฺส เอกา ปฏิสนฺธิ, สกทาคามิสฺส ทฺเว ปฏิสนฺธิโยติ อิทํ เตสํ นานากรณํ. ยสฺส หิ โสตาปนฺนสฺส เอกํเยว ขนฺธพีชํ, น เอกํ อตฺตภาวคฺคหณํ, โส เอกพีชีติ.

เหฏฺาติ ‘‘อมหคฺคตภูมิย’’นฺติ เหฏฺา สมฺพนฺธเนน. เหฏฺาภาคสฺส หิตาติ เหฏฺาภาคิยา, เตสํ. ตานีติ โอรพฺภาคิยสํโยชนานิ. กามาวจเร นิพฺพตฺตติเยว อชฺฌตฺตํ สํโยชนตฺตา. ตถา เหส ทูรโตปิ อาวตฺติธมฺโม เอวาติ ทสฺเสตุํ คิลพฬิสมจฺฉาทโย อุปมาภาเวน วุตฺตา. โอปปาติโกติ อิมินา คพฺภวาสทุกฺขาภาวมาห. ตตฺถ ปรินิพฺพายีติ อิมินา เสสทุกฺขาภาวํ. ตตฺถ ปรินิพฺพานตา จสฺส กามโลเก ขนฺธพีชสฺส อปุนาโรหวเสเนวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อนาวตฺติธมฺโม’’ติ วุตฺตํ.

๖๘. เกวลาติ โลกิยาภิฺาหิ อสมฺมิสฺสา. โลกิยปฺจาภิฺาโยปิ สีลานํ อานิสํโส ตทวินาภาวโต. ตาปิ ทสฺเสตุํ อากงฺเขยฺย เจ…เป… เอวมาทิมาหาติ โยชนา. อาสวานํ อนวเสสปฺปหานโต อรหตฺตมคฺโคเยว วิเสสโต ‘‘อาสวกฺขโย’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหตีติ วุตฺตํ ‘‘อาสวกฺขเย กถิเต’’ติ, อฺถา สพฺพาปิ ฉฬภิฺา อาสวกฺขโย เอวาติ. อิเมสํ คุณานนฺติ โลกิยาภิฺานํ . ยถา ปุริสสฺส มุณฺฑิตํ สีสํ สิขาวิรหิตตฺตา น โสภติ, เอวํ เทสนาย สีสภูตาปิ อคฺคมคฺคกถา โลกิยาภิฺารหิตา น โสภตีติ อาห ‘‘อยํ กถา มุณฺฑาภิฺากถา นาม ภเวยฺยา’’ติ. อิทฺธิวิกุพฺพนาติ อิทฺธิ จ วิกุพฺพนา จ. วิกุพฺพนคฺคหเณน เจตฺถ วิกุพฺพนิทฺธิมาห, อิทฺธิคฺคหเณน ตทฺํ สพฺพฺจ อภิฺากิจฺจํ. ยุตฺตฏฺาเนเยวาติ โลกิยาภิฺานํ นิพฺพตฺตนสฺส วิย เทสนาย ยุตฺตฏฺาเนเยว. เอเตน น เกวลํ เทสนกฺกเมเนวายํ เทสนา, อถ โข ปฏิปตฺติกฺกเมนปีติ ทสฺเสติ. วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๓๖๙) วุตฺตา, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาติ อธิปฺปาโย.

๖๙. อาสวานํ ขยาติ เหฏฺิมมคฺเคน เขปิตาวสิฏฺานํ อาสวานํ อรหตฺตมคฺเคน สมุจฺฉินฺทนโต. ยสฺมา อรหตฺตมคฺโค น เกวลํ อาสเวเยว เขเปติ, อถ โข อวสิฏฺเ สพฺพกิเลเสปิ, ตสฺมา อาห ‘‘สพฺพกิเลสานํ ขยา’’ติ. ลกฺขณมตฺตฺเหตฺถ อาสวคฺคหณํ, อาสวานํ อารมฺมณภาวสฺสปิ อนุปคมนโต อนาสวํ. ยสฺมา ปน ตตฺถ อาสวานํ เลโสปิ นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อาสววิรหิต’’นฺติ. สมาธิ วุตฺโต เจโตสีเสน ยถา ‘‘จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวย’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๓, ๑๙๒; เปฏโก. ๒๒; มิ. ป. ๒.๑.๙) อธิปฺปาโย. ราคโต วิมุตฺตตฺตา อวิชฺชาย วิมุตฺตตฺตาติ อิทํ อุชุวิปจฺจนีกปฏิปฺปสฺสทฺธิทสฺสนํ ทฏฺพฺพํ, น ตทฺเสํ ปาปธมฺมานํ อปฺปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา. อิทานิ ตเมว สมาธิปฺานํ ราคาวิชฺชาปฏิปกฺขตํ อาคเมน ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตํ เจต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. สมถผลนฺติ สมถสฺส ผลํ โลกิยสมถภาวนาย หิ วิปสฺสนาคตาย อาหิตผลสฺส โลกุตฺตรสมถสฺส สริกฺขกผโล เจโตวิมุตฺติ. วิปสฺสนาผลนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อตฺตโนเยวาติ สุตมยาณาทินา วิย ปรปจฺจยตํ นยคฺคาหฺจ มุฺจิตฺวา ปรโตโฆสานุคตภาวนาธิคมภูตตาย อตฺตโนเยว ปฺาย ปจฺจกฺขํ กตฺวา สยมฺภุาณภูตายาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อปรปฺปจฺจเยน ตฺวา’’ติ.

สพฺพมฺปิ ตนฺติ สพฺพมฺปิ สตฺตรสวิธํ ตํ ยถาวุตฺตํ สีลานิสํสํ. ยถา อานิสํสวนฺเต สมฺมเทว สมฺปาทิเต ตทานิสํสา ทสฺสิตา เอว โหนฺติ ตทายตฺตภาวโต, เอวํ อานิสํสปธานโยคฺยภาเวน ทสฺสิเต ตทานิสํสา ทสฺสิตา เอว โหนฺตีติ อาห ‘‘สมฺปิณฺเฑตฺวา ทสฺเสนฺโต’’ติ. วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส ปุนวจนํ นิคมนนฺติ วุตฺตํ ‘‘นิคมนํ อาหา’’ติ. ปุพฺเพติ เทสนารมฺเภ. เอวํ วุตฺตนฺติ ‘‘สมฺปนฺนสีลา’’ติ เอวมาทินา อากาเรน วุตฺตํ. อิทํ สพฺพมฺปีติ อิทํ ‘‘สมฺปนฺนสีลา’’ติอาทิกํ สพฺพมฺปิ วจนํ. เอตํ ปฏิจฺจาติ เอตํ สมฺปนฺนสีลสฺส ภิกฺขุโน ยถาวุตฺตสตฺตรสวิธานิสํสภาคิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิทเมว หิ ‘‘อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ วจนํ สนฺธาย ‘‘สพฺพมฺปิ ตํ สีลานิสํสํ สมฺปิณฺเฑตฺวา ทสฺเสนฺโต’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถอาทิโต ฉหิ อานิสํเสหิ ปริตฺตภูมิกา สมฺปตฺติ คหิตา, ตทนฺตรํ ปฺจหิ โลกิยาภิฺาหิ จ มหคฺคตภูมิกา, อิตเรหิ โลกุตฺตรภูมิกาติ เอวํ จตุภูมิกสมฺปทานิสํสสีลํ นาเมตํ มหนฺตํ มหานุภาวํ, ตสฺมา ตํสมฺปาทเน สกฺกจฺจการิตา อปฺปมตฺเตน ภวิตพฺพํ.

อากงฺเขยฺยสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๗. วตฺถสุตฺตวณฺณนา

๗๐. ฉาเทตพฺพํ านํ วสติ ปฏิจฺฉาเทตีติ วตฺถํ. ยํ สมานํ วิย น สพฺพโส มิโนติ, มานสฺส ปน สมีเป, ตํ อุปมานํ. อุปมียติ เอตายาติ อุปมา, อุปมาย โพธกวจนํ อุปมาวจนํ. กตฺถจิ สุตฺเต. อตฺถนฺติ อุปมิยตฺถํ. ปมํ อุปมํ วตฺวา ตทนนฺตรํ อตฺถํ วตฺวา ปุน อุปมํ วทนฺโต ‘‘อุปมาย อตฺถํ ปริวาเรตฺวา ทสฺเสตี’’ติ วุตฺโต. อตฺเถน อุปมํ ปริวาเรตฺวาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อิทานิ เต จตฺตาโรปิ ปกาเร สุตฺเต อาคตนเยเนว ทสฺเสนฺโต ‘‘เสยฺยถาปิสฺสุ, ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ทฺเว อคาราติ ทฺเว ปฏิวิสฺสกฆรา. สทฺวาราติ สมฺมุขทฺวารา.

สฺวายนฺติ โส อยํ เอวํ อุปมาทสฺสนวเสนปิ นานานเยนปิ ธมฺมเทสโก ภควา. เอกจฺจานํ เวเนยฺยานํ อตฺถสฺส สุขาวโพโธ ปมํ อุปมาทสฺสเน เหตุ, เอวํ ปมํ อตฺถทสฺสเน, อุปมาย อตฺถปริวารเณ, อตฺเถน อุปมาปริวารเณ จา’’ติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘เอส นโย สพฺพตฺถา’’ติ อิมินา. ธมฺมธาตุยาติ สพฺพฺุตฺาณสฺส. ตฺหิ ธมฺมธาตุปริยาปนฺนตฺตา ยถาวุตฺตธมฺเม จ สพฺเพปิ เยฺยธมฺเม จ ปทหติ ยถาสภาวโต พุชฺฌติ โพเธติ จาติ ธาตุ, ธียนฺติ วา ธมฺมา เอตาย สพฺพาการโต ายนฺติ าปิยนฺติ จาติ ธมฺมธาตุ. ตสฺสา ปน สุฏฺุ สจฺจสมฺปฏิเวธวเสน ลทฺธตฺตา สุปฺปฏิวิทฺธตฺตาติ, ยทคฺเคน วา เยฺยํ ตาย สุปฺปฏิวิทฺธํ, ตทคฺเคน สาปิสฺส สุปฺปฏิวิทฺธา เอวาติ อาห ‘‘สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา’’ติ.

ปกติปริโยทาตสฺส จิตฺตสฺส อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺภาวทสฺสนตฺถํ สํกิลิฏฺวตฺถทสฺสนนฺติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ปกติปริสุทฺธํ วตฺถ’’นฺติ. รชาทินาติ เอตฺถรโช นาม เรณุ. อาทิ-สทฺเทน อณุตชฺชาริธูมาทิกํ วตฺถสฺส อปริสุทฺธิการณํ สงฺคณฺหาติ. สพฺพโส กิลิสฺสติ วินสฺสติ วิสุทฺธิ เอเตนาติ สํกิเลโส, เตน สํกิเลเสน ปํสุรชาทินา สํกิลิฏฺํ วณฺณวินาสเนน วิทูสิตํ. มลํ มสิ. ชลฺลิกา วุจฺจติ โลณปฏลาทิ ฉวิยา อุปริ ิตํ สรีรมลํ. อาทิสทฺเทน สรีรชลฺลเมว อสฺสุเขฬสิงฺฆาณิกาทิกํ ตทฺมลํ สงฺคณฺหาติ. คหิตตฺตาติ ปริโยนนฺธนวเสน คหิตตฺตา. รชนฺติ สตฺตา เตนาติ รงฺคํ, รงฺคเมว รงฺคชาตํ ยถา โกปเมว โกปชาตํ. อุปนาเมยฺยาติ ปกฺขิเปยฺย. นีลกตฺถายาติ นีลวณฺณตฺถาย. ปลาสนีลาทิเกติ อาทิ-สทฺเทน กาฬสามาทึ สงฺคณฺหาติ. หลิทฺทิกกุธเสลาทิเก ปีตกรงฺเค. ลาขาปตฺตงฺครสาทิเก โลหิตกรงฺเค. มหารชนโลทฺทกนฺทุลาทิเก มนฺทรตฺตรงฺเค. ทุฏฺุ รชิตวณฺณํ อปภสฺสรํ. เตนาห ‘‘อปริสุทฺธวณฺณเมวสฺสา’’ติ. อีทิสนฺติ ทุรตฺตวณฺณํ. ตสฺมึ วตฺเถ รงฺคชาตํ สยํ สุปริสุทฺธํ สมานํ กิสฺส เหตุ เกน รตฺตวณฺณํ อปริสุทฺธํ โหตีติ รงฺคชาตสฺส นิทฺโทสตํ วทติ. เตนาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ.

สํกิเลสปกฺขํ ทสฺเสนฺเตน อสํกิลิฏฺเมว วตฺถํ อุทาหริตพฺพนฺติ ปากโฏยมตฺโถ, สํกิลิฏฺวตฺถนิทสฺสเนน ปน ‘‘สิยา นุ โข อฺโปิ โกจิ วิเสโส’’ติ อธิปฺปาเยน ปุจฺฉติ ‘‘กสฺมา ปนา’’ติอาทินา. อิตโร อตฺถวิเสโสติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วายามมหปฺผลทสฺสนตฺถ’’นฺติอาทิมาห. เอตฺถ จ สํกิลิฏฺจิตฺตวิโสธนวิธาเน สํกิลิฏฺวตฺถํ นิทสฺสตพฺพนฺติ ปฏิฺา, วายามมหปฺผลทสฺสนตฺถนฺติ เหตุอตฺโถ. ยถา หีติอาทิ อนฺวยตฺโถ. น ตตฺถ ชาติกาฬเก วิยาติอาทิ พฺยติเรกตฺโถ. สทิสูทาหรณํ ปน มลคฺคหิตกํสปาติอาทิ ทฏฺพฺพํ. เอวํ จิตฺตมฺปีติอาทิ โอปมฺมตฺถสฺส อุปเมยฺยอุปนยนํ. ตตฺถ ปกติยาติ อกิตฺติเมน สภาเวน. ตนฺติ จิตฺตํ. สามฺคฺคหณฺเจตํ จิตฺตภาวาวิเสสโต. เตนาห ‘‘สกเลปี’’ติ. ปณฺฑรเมว น สํกิลิฏฺํ สํกิเลเสหิ อสมนฺนาคตภาวโต. นนุ กิริยามยจิตฺเตหิ วิปากสนฺตาเน วิเสสาธานํ ลพฺภติ, อฺถา กตวินาสา กตพฺภาคมา อาปชฺเชยฺยุํ? กิฺจาปิ ลพฺภติ, ตสฺส สํกิเลโส วฏฺฏุปนิสฺสโย, อสุทฺธิ วา น โหติ, อสํกิเลโส วิวฏฺฏุปนิสฺสโย, วิสุทฺธิ วา น โหติ เอว. อุปกฺกิลิฏฺนฺติ ปเนตํ อุปกฺกิเลสนารหสฺส จิตฺตสฺส วเสน วุตฺตํ, น วิปากปพนฺธสฺส. เตนาห ‘‘ปภสฺสรมิทํ ภิกฺขเว จิตฺต’’นฺติ, ‘‘ปณฺฑรเมวา’’ติ จ. ตฺจ โขติ ปน สกสนฺตติปริยาปนฺนตาย เนสํ เกวลํ เอกตฺตนยวเสน วุตฺตํ, น วิปากธมฺมานํ กิเลสาสมงฺคิภาวโต. อถ วา อุปกฺกิลิฏฺนฺติ อิมินา อุปกฺกิเลสเหตุ ตตฺถ วิชฺชมานํ วิเสสาธานมาห, น ‘‘สํกิลิฏฺา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๗๗.ทุกมาติกา) วิย ตํสมงฺคิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. วิโสธิยมานนฺติ วิปสฺสนาปฺาย อนุกฺกเมน สพฺพุปกฺกิเลเสหิ วิโมจิยมานํ. สกฺกา อคฺคมคฺคกฺขเณ ปภสฺสรตรํ กาตุํ, ยโต น ปุน อุปกฺกิลิสฺสติ. เอวนฺติอาทิ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส นิคมนํ.

ทุฏฺคติปริปูรณวเสน ปฏิปชฺชนํ ปฏิปตฺติ. สา เอว กิเลสทรถปริฬาหาทิวเสน อุปายาสทุกฺขา, กุจฺฉิตา วา คติ ปวตฺติ, ทุคฺคติเหตูติ วา ทุคฺคติ, ทุคฺคติยา ปน ปฏิปตฺติยา คนฺธพฺพโต, ตสฺสา วา นิปฺผนฺนภาวโต กุจฺฉิโต, ทุกฺขา จ คตีติ ทุคฺคติ. สํกิลิฏฺจิตฺโตติ อิทํ ตสฺสา ปฏิปตฺติยา ทุคฺคติภาวทสฺสนตฺถํ, น วิเสสนตฺถํ. น หิ อสํกิลิฏฺจิตฺตสฺส ปาณฆาตาทิวเสน ปวตฺติ. สํกิลิฏฺจิตฺโตติ ลาภาสาย สพฺพโส กิลิฏฺจิตฺโต . ทูเตยฺยปหิณคมนนฺติ ทูเตยฺยํ วุจฺจติ ทุตกมฺมํ, คิหีนํ ปณฺณํ วา สาสนํ วา คเหตฺวา ตตฺถ ตตฺถ คมนํ, ปหิณคมนํ ฆราฆรํ เปสิตสฺส ขุทฺทกคมนํ, ทูเตยฺยคมนํ ปหิณคมนฺจ คจฺฉติ. เวชฺชกมฺมนฺติ อนนุฺาเต าเน ลาภาสาย คหฏฺานํ เภสชฺชํ กโรติ. สงฺฆเภทกถา ปรโต อาคมิสฺสติ. เวฬุทานาทีหีติ เวฬุทานปตฺตทานปุปฺผทานาทีหิ มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปติ. สกลมฺปีติ ‘‘อตฺถิ อนาจาโร, อตฺถิ อโคจโร’’ติอาทินา วิภงฺเค (วิภ. ๕๑๓, ๕๑๔) อาคตํ สพฺพมฺปิ อนาจารํ อโคจรฺจ จรณวเสน ปริปูเรติ.

‘‘นิรยมฺปิ…เป… เปตฺติวิสยมฺปิ คจฺฉตี’’ติ วตฺวา ตตฺถ เปตฺติวิสยคมนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมณยกฺโข นาม โหตี’’ติอาทิมาห.

สุกฺกปกฺเข ปริสุทฺธนฺติ สพฺพโส วิสุทฺธํ อสํกิลิฏฺํ. ปริสุทฺธตฺตา เอว ปริโยทาตํ, ปภสฺสรนฺติ อตฺโถ. สุรตฺตวณฺณเมวสฺสาติ สุฏฺุ รตฺตวณฺณเมว อสฺส. ปริสุทฺธวณฺณเมวสฺสาติ นีลวณฺโณปิสฺส ปริสุทฺโธ จ ภเวยฺยาติ เอวมาทึ สนฺธายาห ‘‘กณฺหปกฺเข วุตฺตปจฺจนีเกเนว เวทิตพฺพา’’ติ. รงฺคชาตนฺติอาทิ ปน ตตฺถ วุตฺตวเสเนว เวทิตพฺพํ. ปฏิปตฺติสุคติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปฏิปตฺติทุคฺคติอาทีสุ วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺพํ. ปริสุทฺธจิตฺโตติ สุทฺธาสโย. ทส กุสลกมฺมปเถ ปริปูเรตีติ อิทํ กณฺหปกฺเข ‘‘ทส อกุสลกมฺมปเถ ปริปูเรตี’’ติ วุตฺตสฺส ปฏิปกฺขทสฺสนวเสน วุตฺตํ. ยถา หิ ตตฺถ อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทิฏฺิคฺคหเณน กมฺมปถสํสนฺทนนเยน กมฺมปถํ อปฺปตฺตาย จ อคาริยสฺส ตถารูปาย มิจฺฉาปฏิปตฺติยา สงฺคโห อิจฺฉิโต, เอวํ อิธาปิ อนภิชฺฌาอพฺยาปาทสมฺมาทิฏฺิคฺคหเณน อโลภาโทสาโมหวเสน ปวตฺตา อคาริยสฺส สมฺมาปฏิปตฺติ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ, น กมฺมปถปฺปตฺตาวาติ. มนุสฺสมหนฺตตนฺติ ชาติรูปโภคาธิปเตยฺยาทิวเสน มนุสฺเสสุ มหนฺตภาวํ. ทสหิ าเนหิ อฺเสํ เทวานํ อภิภโว เทวมหนฺตตา. ปฏิปตฺติ สุคติยา ภาชิยมานตฺตา ‘‘อนาคามิมคฺคํ ภาเวตี’’ติ ตถา อนาคามิภาวนํ ปาเปตฺวา ปิตา. คหิตคฺคหเณน สุขานุภวฏฺานสฺส อธิปฺเปตตฺตา ตทภาวโต อสฺิภวํ อนาทิยนฺโต ‘‘ทสสุ วา พฺรหฺมภวเนสู’’ติอาทิมาห.

๗๑. สกภณฺเฑ ฉนฺทราโค อภิชฺฌายนฏฺเน อภิชฺฌา, อภิชฺฌายนาติ อตฺโถ. ปรภณฺเฑ ฉนฺทราโค วิสมํ ลุพฺภตีติ วิสมโลโภ. เอวมฺปิ อภิชฺฌาวิสมโลภานํ วิเสโส โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺตโน สนฺตกํ ตํสทิสฺจ ยุตฺตฏฺานํ. ยํ ยาจิตํ, อปฺปกสิเรน วา สกฺกา ลทฺธุํ, ตํ ปตฺตฏฺานํ. ปรทารครุทาราติ อยุตฺตฏฺานํ. ยํ อปตฺถนิยํ, ยสฺส วา ปตฺถนาย พฺยสนํ อาปชฺชติ, ตํ อปฺปตฺตฏฺานํ. เถโรติ มหาสงฺฆรกฺขิตตฺเถโร, เยน อฏฺกถา โปตฺถกํ อาโรปิตา. โส หิ อนฺเตวาสิเกสุ สากจฺฉนฺเตสุ เอวมาห. โสปิ อิมสฺมึเยว สุตฺเต วินิพฺโภโค น ลพฺภติ จิตฺตสํกิเลสสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เตนาห ‘‘ยุตฺเต วา’’ติอาทิ. อโยนิโสมนสิการวเสน อุปฺปชฺชนโต สมฺปตฺติ อายติฺจ ทุกฺขสฺเสว อุปฺปาทนโต น โกจิ โลโภ อวิสโม นาม. อภิชฺฌายนฏฺเนาติ ยสฺส กสฺสจิ อารมฺมณสฺส ยุตฺตสฺส อยุตฺตสฺส อปฺปตฺตสฺส จ อภิชฺชายนวเสน อภิปตฺถนาวเสน จ ปวตฺตา ตณฺหา อภิชฺฌาติ โลภโต นิพฺพิเสสนฺติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘เอกตฺถเมตํ พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ. ทูเสตีติ สภาวสนฺตํ อสํกิเลสํ วินาเสติ อวิสุทฺธํ กโรติ. เตนาห ‘‘โอภาสิตุํ น เทตี’’ติ. ‘‘อิเม สตฺตา อุจฺฉิชฺชนฺตุ วินสฺสนฺตู’’ติ สตฺเตสุ พฺยาปชฺชนาการปฺปวตฺติยา พฺยาปาโท นววิธอาฆาตวตฺถุสมฺภโว วุตฺโต. โกโธ ปน สงฺขาเรสุปิ ปวตฺตนโต ทสวิธอาฆาตวตฺถุสมฺภโว วุตฺโต. อุภยมฺปิ ปฏิฆเมว, ปวตฺตนานตฺตโต ภินฺทิตฺวา วุตฺโต. กุชฺฌนวเสเนว จิตฺตปริโยนนฺธโน ‘‘อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ ม’’นฺติอาทินา.

สุฏฺุ กตํ กรณํ สุกตํ, ตสฺส ปุพฺพการิตาลกฺขณสฺส คุณสฺส วินาสโน อุทกปุฺฉนิยา วิย สรีรานุคตํ อุทกํ ปุฺฉนฺโต มกฺโข. ตถา หิ โส ปเรสํ คุณานํ มกฺขนฏฺเน ‘‘มกฺโข’’ติ วุจฺจติ. อิทานิ อนคาริยสฺส วาติอาทินา สงฺเขเปน วุตฺตตฺถํ วิตฺถาเรน ทสฺเสตุํ ‘‘อนคาริโยปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. นิสินฺนกถาปริกถาทิวเสน ธมฺมสฺส กถา ธมฺมกถานโย, เอกตฺตาทิธมฺมนีติ เอว วา. ปกรณํ สตฺต ปกรณานิ, ตตฺถ โกสลฺลํ ธมฺมกถานยปกรณโกสลฺลํ. อาทิ-สทฺเทน วินยกฺกเม จตูสุ มหานิกาเยสุ จ โกสลฺลํ สงฺคณฺหาติ. อจิตฺตีกโตติ จิตฺตีการรหิโต. ยถา จายนฺติ อิมินา ยถายํ มกฺโข จิตฺตํ ทูเสติ, เอวํ ปฬาโสปิ จิตฺตํ ทูเสติ, ตสฺมา อุปกฺกิเลโสติ ทสฺเสติ. อนิยตา คติ นิยาโมกฺกมนาภาวโต. อาทิ-สทฺเทน ‘‘รตฺตฺู จิรปพฺพชิเต ปุคฺคเล อชฺโฌตฺถริตฺวา ‘ตฺวมฺปิ อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิโต, อหมฺปิ ปพฺพชิโต, ตฺวมฺปิ สีลมตฺเต ิโต อหมฺปี’ติ’’ เอวมาทีนํ สงฺคโห. ยุคคฺคาหคาหีติ ‘‘ตว วา มม วา โก วิเสโส’’ติ อสมมฺปิ สมํ กตฺวา สมธุรคฺคาหคณฺหนโก. ขียนา อุสูยนา. อตฺตโน สมฺปตฺติยา นิคูหนํ ตสฺส ปเรหิ สาธารณภาวาสหเนน โหตีติ ‘‘ปเรหิ สาธารณภาวํ อสหมานํ’’อิจฺเจว วุตฺตํ. การเณ หิ คหิเต ผลมฺปิ คหิตเมว โหตีติ. อฺถา อตฺตโน ปเวทนกปุคฺคโล เกราฏิโก, ‘‘เนกติกวาณิโช’’ติปิ วทนฺติ. สปฺปมุขา มจฺฉวาลา เอกา มจฺฉชาติ อายตนมจฺโฉ. เตนาห ‘‘อายตนมจฺโฉ นามา’’ติอาทิ. พทฺธจโรติ อนฺเตวาสี.

สพฺพโส อมทฺทิตสภาเวน วา ตภริตภตฺตสทิสสฺส ถทฺธภาวสฺส อโนนมิตทณฺฑสทิสตาย ปคฺคหิตสิรอนิวาตวุตฺติการสฺส จ กรณโต วา ตภริต…เป… กรโณ. ตทุตฺตริกรโณติ ยํ เยน กตํ ทุจฺจริตํ วา สุจริตํ วา, ตทุตฺตริ, ตสฺส ทฺวิคุณํ วา กรโณ. อตฺตโน มณฺฑนาทิอตฺถํ ปเรน กตํ อลงฺการาทึ. ปริยาปุณาติ วา กเถติ วา อตฺตโน พลานุรูปํ. กามํ นิกายทฺวยคฺคหณาทิวเสน ปวตฺโต เสวิตพฺพมาโน เอว, ตถาปิสฺส สํกิเลสปกฺขตฺตา วุตฺตํ ‘‘มานํ อนิสฺสายา’’ติ.

อุณฺณติวเสนาติ ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินา จิตฺตสฺส ปคฺคหณวเสน. ปุพฺเพ เกนจิ อตฺตานํ สทิสํ กตฺวา ปจฺฉา ตโต อธิกโต ทหนโต อุปฺปชฺชนโก อติมาโน. มทคฺคหณากาโร ชาติอาทึ ปฏิจฺจ มชฺชนากาโร, โสปิ อตฺถโต มาโน เอว. ปมาโท ตถาปวตฺโต จิตฺตุปฺปาโท.

ตสฺมา โลภมาทึ กตฺวา ทสฺเสตีติ โลภสฺส อาทิโต คหเณ การณํ วิภาเวตุกาโม ปุจฺฉติ. ปมุปฺปตฺติโตติ ตตฺถ ตตฺถ ภเว สพฺพปมํ อุปฺปชฺชนโต. สตฺตานฺหิ ยถาธิคตํ ฌานาทิวิเสสํ อารพฺภ ปจฺจเวกฺขณา วิย ยถาลทฺธํ อุปปติภวํ อารพฺภ นิกนฺติ เอว. เตนาห ‘‘สพฺพสตฺตาน’’นฺติอาทิ. ยถาสมฺภวํ อิตเรติ อิตเร พฺยาปาทาทโย ยถาปจฺจยํ อุปฺปชฺชนฺติ, โลภสฺส วิย อาทิโต อสุกสฺส อนนฺตรํ อสุโกติ วา น เนสํ นิยโม อตฺถีติ อตฺโถ. กึ ปน เอเต โสฬเสว จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา, อุทาหุ อฺเปิ สนฺตีติ อนุโยคํ สนฺธาย อฺเปิ สนฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น จ เอเต’’ติอาทิมาห. ยทิ เอวํ กสฺมา เอตฺตกา เอว อิธ วุตฺตาติ. นยทสฺสนวเสนาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เอเตน ปน…เป… เวทิตพฺพา’’ติ. เตน ถินมิทฺธอุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจ-วิจิกิจฺฉา-อตฺตุกฺกํสน-ปรวพฺภนฉมฺภิตตฺตา- ภีรุกตา-อหิริกาโนตฺตปฺป-อตฺติจฺฉตา-ปาปิจฺฉตา-มหิจฺฉตาทโย สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพํ.

๗๒. สํกิเลสํทสฺเสตฺวาติ สํกิลิฏฺวตฺตนิทสฺสเนน สงฺเขเปน วุตฺตํ สํกิเลสํ วิภาเคน ทสฺเสตฺวา. โวทานํ ทสฺเสนฺโตติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เอวํ ชานิตฺวาติ ‘‘อภิชฺฌา วิสมโลโภ เอกนฺเตเนว จิตฺตสฺส อุปฺปกฺกิเลโส’’ติ สภาวโต สมุทยโต นิโรธโต นิโรธูปายโต จ ปุพฺพภาคปฺาย เจว เหฏฺิมมคฺคทฺวยปฺาย จ ชานิตฺวา. ปชหตีติ เอตฺถ อจฺจนฺตปฺปหานเมว อธิปฺเปตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมุจฺเฉทปฺปหานวเสน อริยมคฺเคน ปชหตี’’ติ อาห. อริยมคฺเคนาติ อนาคามิมคฺเคน. เตน หิ ปหานํ อิธ สพฺพวาเรสุ อธิปฺเปตํ. กิเลสปฏิปาฏิ อิธ กิเลสานํ เทสนากฺกโม. มคฺคปฏิปาฏิปน จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ เทสนากฺกโมปิ ตาย เทสนาย ปฏิปชฺชนกฺกโมปิ ตาย ปฏิปตฺติยา อุปฺปตฺติกฺกโมปิ. ตตฺถ เย เย กิเลสา เยน เยน มคฺเคน ปหียนฺติ, มคฺคปฏิปาฏึ อโนโลเกตฺวา เตสํ เตสํ กิเลสานํ เตน เตน มคฺเคน ปหานทสฺสนํ กิเลสปฏิปาฏิ น กิเลสานํ อุปฺปตฺติกฺกโม อิธ เทสนากฺกโม จาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อภิชฺฌา วิสมโลโภ’’ติอาทิมาห. เยน เยน ปน มคฺเคน เย เย กิเลสา ปหียนฺติ มคฺคานุปุพฺพิยา, เตน เตน มคฺเคน เตสํ เตสํ กิเลสานํ ปหานทสฺสนํ มคฺคปฏิปาฏิยา ปหานทสฺสนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โสตาปตฺติมคฺเคนา’’ติอาทิมาห.

อิมสฺมึ ปน าเนติ ‘‘ส โข โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขู’’ติอาทินา อาคโต อิมสฺมึ ปหานวาเร. อิเม กิเลสาติ อิเม ยถาวุตฺตา กิเลสา. โสตาปตฺติมคฺควชฺฌา วา โหนฺตุ เสสมคฺควชฺฌา วาเหฏฺา ทสฺสิตมคฺคปฏิปาฏิวเสน. ตตฺถ ปน เย ตติยมคฺควชฺฌา, เตสํ อนาคามิมคฺเคเนว ปหาเน วตฺตพฺพํ นตฺถิ, เยสํ ปเนตฺถ เหฏฺิมมคฺควชฺฌานํ อิธ สงฺคเห การณํ ปจฺฉา วตฺตุกาเมน อคฺคมคฺควชฺฌานํ อนาทิยิตฺวา กสฺมา ตติยมคฺควชฺฌานเมว คหณํ กตนฺติ อาห ‘‘อยเมตฺถ ปเวณิมคฺคาคโต สมฺภโว’’ติ, อยํ อิมสฺส สุตฺตสฺส เอตสฺมึ าเน อาจริยปเวณิยา กถามคฺโค ตโต อาคโต อตฺถสมฺภโว อตฺถตตฺวนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ เหฏฺิมมคฺควชฺฌานํ อิธ สงฺคเห การณํ ปจฺฉา วตฺตุกาโม อคฺคมคฺควชฺฌานํ อคฺคหเณ ยุตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘โส จา’’ติอาทิมาห. เตนาติ จตุตฺถมคฺเคน. เสสานนฺติ พฺยาปาทาทีนํ . เยปีติ มกฺขาทิเก สนฺธายาห. ตํสมุฏฺาปกจิตฺตานนฺติ เตสํ มกฺขาทีนํ สมุฏฺาปกจิตฺตุปฺปาทานํ. ตตฺถ มกฺข-ปฬาส-อิสฺสา-มจฺฉริย-สมุฏฺาปกํ ปฏิฆทฺวยจิตฺตํ, วิเสสโต ปฺจกามคุณโลเภน สโ มายาวี จ โหติ, ปฺจกามคุณิกราโค จ อนาคามิมคฺเคเนว นิรวเสสโต ปหียติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ตํสมุฏฺาปกจิตฺตานํ อปฺปหีนตฺตา’’ติ. เตปิ สุปฺปหีนา โหนฺตีติ สมฺพนฺโธ. นฺติ ปมมคฺเคเนว ปหานํ ปุพฺพาปเรน น สนฺธิยติ ‘‘ยโถธิ โข’’ติ เอตฺถ โอธิวจนสฺส มคฺคตฺตยวาจกตฺตา. รตนตฺตเย อเวจฺจปฺปสาโท นาม อริยกนฺตสีลํ วิย โสตาปนฺนสฺส องฺคานิ, เต จ ปหานโต ปจฺฉา นิทฺทิฏฺา, ตสฺมา อิธ วุตฺตปฺปหานํ วิกฺขมฺภนปหานเมวาติ เกจิ วทนฺติ. เตสํ อิจฺฉามตฺตเมว ยถาวุตฺตปหานสฺเสว วเสน อเวจฺจปฺปสาทานํ โอธิโส ปหานสฺส วิภาวิตตฺตา, สฺวายมตฺโถ เหฏฺา ยุตฺติโตปิ ปกาสิโตเยว.

๗๔. เอกเมเกน ปเทน โยเชตพฺพํ, ยโต เอกเมกสฺสปิ อุปกฺกิเลสสฺส สภาวาทิโต ทสฺสนํ นิยฺยานมุขํ โหติ, ตถา เจว เหฏฺา สํวณฺณิตํ. อนาคามิมคฺควเสน ปหานํ วตฺวา ปสาทสฺส อุทฺธฏตฺตา วุตฺตํ ‘‘อนาคามิมคฺเคน โลกุตฺตรปฺปสาโท อาคโต’’ติ. ยทิ เอวํ กสฺมา ‘‘โลกิโย อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตนฺติ? ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินยปฺปวตฺตสฺส โลกิยตฺตา. นิพฺพานารมฺมโณ เอว หิ โลกุตฺตโร ปสาโท. ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทิวจเนน โลกิยํ, อเวจฺจปฺปสาทวจเนน โลกุตฺตรนฺติ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกํ ปสาทํ ทสฺเสนฺโต. อเวจฺจ รตนตฺตยคุเณ ยาถาวโต ตฺวา ปสาโท อเวจฺจปฺปสาโท. โส ปน ยสฺมา มคฺเคนาคตตฺตา เกนจิ อกมฺปนิโย อปฺปธํสิโย จ โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อจเลน อจฺจุเตนา’’ติ. ตตฺถ โลกุตฺตโร สพฺพโส พุทฺธคุณาทีสุ สมฺโมหํ วิทฺธํเสนฺโต ตตฺถ กิจฺจโต ปวตฺตติ, อิตโร อารมฺมณวเสน เต อารพฺภ. ตํ วิธินฺติ ตํ ตสฺส อุปฺปนฺนปฺปการํ. อนุสฺสติฏฺานานีติ อนุสฺสติกมฺมฏฺานานิ.

๗๕. โสมนสฺสาทีติ อาทิ-สทฺเทน าณาทีนิ สงฺคณฺหาติ. โจรานํ อภิณฺหํ สฺจรณฏฺานตาย ปจฺจนฺตคฺคหณํ. ปจฺจเวกฺขโตติ ‘‘อสุกสฺมิฺจ าเน อิเม จิเม โจรา เอวฺจ เอวฺจ วินาสิตา’’ติ ปจฺจเวกฺขโต รฺโ วิย.

โย โย โอธิ ยโถธิ. ยถา-สทฺโท พฺยาปนิจฺฉายํ, โข สทฺโท อวธารเณติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สกสกโอธิวเสน จตฺตเมว โหตี’’ติอาทิมาห. เตน ‘‘วนฺต’’นฺติอาทีสุปิ อวธาเรตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. สกสกโอธิวเสนาติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘ทฺเว โอธี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยํมคฺควชฺฌาติ เยน มคฺเคน อนวเสสโต ปหาตพฺพา. อนวเสสปฺปหานวเสน หิ ตํตํมคฺควชฺฌานํ กิเลสานํ ตทฺมคฺควชฺเฌหิ อสมฺมิสฺสตา, อฺถา เย สกสกโอธิวเสน อุปริมคฺควชฺฌา, เต เหฏฺิมมคฺเคหิ ปหีนาปายคมนียาทิสภาวา เอว เตหิ ปหียนฺตีติ ปหานวเสน สมฺมิสฺสา สิยุํ. เตน เตเยว ปหีนา โหนฺตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตตุตฺตริปีติ ตโต ปหานนิมิตฺตโสมนสฺสุปฺปตฺติโต อุทฺธมฺปิ. ปฏิปกฺเขสุ โอธิโส ปวตฺติกิจฺจตฺตา โอธีติ เหฏฺา ตโย มคฺคา วุจฺจนฺติ. เต หีติอาทิ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส วิวรณํ. อิมสฺส ภิกฺขุโนติ อนาคามึ สนฺธายาห. เตน วุตฺตํ ‘‘เหฏฺามคฺคตฺตเยน จตฺต’’นฺติ.

เกจิ จตฺตมฺปิ คณฺหนฺติ, นยิทเมวนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘วนฺต’’นฺติ วุตฺตํ. น หิ ยํ เยน วนฺตํ, โส ปุน ตํ อาทิยติ. เตนาห ‘‘อนาทิยนภาวทสฺสนวเสนา’’ติ. วนฺตมฺปิ กิฺจิ สสนฺตติลคฺคํ สิยา, นยิทเมวนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘มุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘สนฺตติโต วินิโมจนวเสนา’’ติ. มุตฺตมฺปิ กิฺจิ มุตฺตพนฺธนา วิย ผลํ กุหิฺจิ ติฏฺติ, น เอวมิทนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ปหีน’’นฺติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘กฺวจิ อนวฏฺานทสฺสนวเสนา’’ติ. ยถา กิฺจิ ทุนฺนิสฺสฏฺํ ปุน อาทาย สมฺมเทว นิสฺสฏฺํ ปฏินิสฺสฏฺนฺติ วุจฺจติ, เอวํ วิปสฺสนาย นิสฺสฏฺํ อาทินฺนสทิสํ มคฺเคน ปหีนํ ปฏินิสฺสฏฺํ นาม โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ปฏินิสฺสฏฺ’’นฺติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อาทินฺนปุพฺพสฺส ปฏินิสฺสคฺคทสฺสนวเสนา’’ติ. น กาปุริเสน วิย ปรมฺมุเขน นิสฺสฏฺํ , อถ โข อภิมุเขเนว นิสฺสฏฺนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ปฏินิสฺสฏฺ’’นฺติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ปฏิมุขํ วา’’ติอาทิ. อุปคนฺตพฺพโตติ อตฺตโน หิตสุขํ ปจฺจาสีสนฺเตน เอกนฺเตน อธิคนฺตพฺพโต. ธารณโตติ ตํสมงฺคีนํ อปายปาตโต สนฺธารเณน. คนฺโถ‘‘เวโท’’ติ วุจฺจติ ‘‘วิทนฺติ เอเตนา’’ติ, เวเทหิ าเณหิ คโต ปฏิปนฺโนติ เวทคู. อภิชฺาติ ชาเนยฺย. เวทชาตาติ อุปฺปนฺนโสมนสฺสา. าณํ ‘‘เวโท’’ติ วุจฺจติ ‘‘เวทิตพฺพํ เวเทตี’’ติ. โสมนสฺสํ ‘‘เวโท’’ติ วุจฺจติ อารมฺมณรสํ วินฺทติ อนุภวตีติ.

อุปฺปนฺนนฺติ อเวจฺจปฺปสาทํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ. วุตฺตปฺปการเมว เวทนฺติ ‘‘โสมนสฺสํ โสมนสฺสมยาณฺจา’’ติ เอวํ วุตฺตปฺปการเมว. อตฺถเวทนฺติ อตฺเถ เหตุผเล เวทํ. ธมฺมเวทนฺติ ธมฺเม เหตุมฺหิ เวทํ. เตนาห ‘‘อเวจฺจปฺปสาทสฺส เหตุ’’นฺติอาทิ. อิธ ธมฺมตฺถสทฺทา เหตุผลปริยายาติ อิมมตฺถํ ปาฬิยา เอว ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตเมว อตฺถฺจ ธมฺมฺจาติ อตฺโถ ธมฺโมติ จ วุตฺตํ อเวจฺจปฺปสาทนิมิตฺตํ ยถาวุตฺตํ กิเลสปฺปหานฺจ. อตฺถธมฺมานิสํสภูตํ เวทนฺติ ยถาวุตฺตอตฺถธมฺมานิสํสภูตํ โสมนสฺสมยาณสงฺขาตํ เวทฺจ. ปาโมชฺชนฺติ ตรุณปีตึ อาห. ปจฺจเวกฺขณาการปฺปวตฺเตนาติ เอเตน ปจฺจเวกฺขณา เอเวตฺถ อนวชฺชสภาวตาย ธมฺโมติ วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ. ปีติ ชายตีติ ปรปฺปจฺจยํ พลวปีติมาห. ปีณิตมนสฺสาติ ปสฺสทฺธิอาวเหหิ อุฬาเรหิ ปีติเวเคหิ ติตฺตจิตฺตสฺส. กาโยติ นามกาโย. วูปสนฺตทรโถติ กิเลสปริฬาหานํ ทูรีภาเวน สุฏฺุ อุปสนฺตทรโถ. ปจฺจเวกฺขณเหตุกํ จิตฺตสฺส สมาธานํ อิธ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘อปฺปิตํ วิย อจลํ ติฏฺตี’’ติ.

๗๖. กามํ ‘‘พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโตมฺหิ, ธมฺเม สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโตมฺหี’’ติ อิทมฺปิ ตสฺสา ปจฺจเวกฺขณาย ปวตฺติอาการปกาสนเมว, อิทํ ปน วิเสสโต รตนตฺตเย อุปฺปนฺนโสมนสฺสาทิปฺปกาสนปทํ. ‘‘ยโถธิ โข ปนา’’ติ อิทมฺปิ สวิเสสํ ปจฺจเวกฺขณาการปฺปกาสนปทนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘อิทานิ ยโถธิ…เป… ปกาเสตฺวา’’ติ วุตฺตํ. จตฺตาโรปิ ปน วารา ปจฺจเวกฺขณาการปฺปกาสนวเสน เจว โสมนสฺสาทิอานิสํสทสฺสนวเสน จ วุตฺตาติ สกฺกา วิฺาตุํ อุภยตฺถาปิ อุภยสฺส วุตฺตตฺตา. ยทิปิ อริยมคฺโค เอกจิตฺตกฺขณิโก น ปุน อุปฺปชฺชติ, ปฏิปกฺขสฺส ปน เตน สุปฺปหีนตฺตา ตํสมงฺคี อปริหานธมฺโม ตํสีลาทิภาเวเนว วุจฺจตีติ อาห ‘‘ตสฺส อนาคามิมคฺคสมฺปยุตฺตํ สีลกฺขนฺธํ ทสฺเสตี’’ติอาทิ. ‘‘เอวํธมฺมา เต ภควนฺโต อเหสุ’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๓; ม. นิ. ๓.๑๙๗-๑๙๘; สํ. นิ. ๕.๓๗๘) วิย อิธ ธมฺม-สทฺโท สมาธิปริยาโยติ อาห ‘‘สมาธิกฺขนฺธํ ปฺากฺขนฺธฺจ ทสฺเสตี’’ติ. ตถา หิ โส สมฺปยุตฺตธมฺเม เอการมฺมเณ อวิกฺขิปมาเน อวิปฺปกิณฺเณ อวิสเฏ กตฺวา สมํ, สมฺมา จ อาทหนฺโต ตถา เต ธาเรตีติ จ วตฺตพฺพตํ อรหตีติ ธมฺโมติ จ วุจฺจติ. อเนกรูปานนฺติ อเนกปฺปการานํ. อนฺตราโย นาม อปฺปฏิลทฺธสฺส วา อลพฺภนวเสน, ปฏิลทฺธสฺส วา ปริหานวเสน, ตทุภยมฺปิ อิธ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มคฺคสฺส วา’’ติอาทิมาห. เนวสฺส ตํ โหติ อนฺตรายายาติ ตสฺส อนาคามิโน ปิณฺฑปาตโภชนํ เนว โหติ อนฺตรายาย อุกฺกํสคตาย ปจฺจเวกฺขณาย ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชนโต. ตฺจสฺสา อุกฺกํสคมนํ หตปฏิปกฺขตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มคฺเคน วิสุทฺธจิตฺตตฺตา’’ติ อาห.

เอตฺถาติ เอตสฺมึ อนฺตรายาภาเว. เอตเทว วิสุทฺธจิตฺตตฺตเมว การณํ. เอตฺถ จ ‘‘เนวสฺส ตํ โหติ อนฺตรายายา’’ติ อิมินา เหฏฺา วุตฺตปฺปหานํ อนาคามิมคฺเคเนวาติ สิทฺธํ โหติ. อนาคามิโน หิ สพฺพโส กามราโค ปหีโน โหติ, รสตณฺหาย อภาวโต ตาทิสปิณฺฑปาตปริโภโค อคฺคมคฺคาธิคเม กถฺจิปิ อนฺตรายาย น โหตีติ. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, วตฺถ’’นฺติ วทนฺโต ภควาอาทิมฺหิ อตฺตนา อุปนีตวตฺถูปมํ อนุสนฺเธติ. อุทกสฺส อจฺฉภาโว ปงฺกเสวาลปณกาทิมลาภาเวน ปสนฺนตาย, ตพฺพิปริยายโต พหลตาติ อาห ‘‘อจฺฉนฺติ วิปฺปสนฺน’’นฺติ. วณฺณนิภาย วิคตสํกิเลสตาย สมุชฺชลนํ ปภสฺสรตาย วตฺถสฺส, ตํ ปริโยทาตนฺติ วตฺตพฺพตํ ลภตีติ อาห ‘‘ปริโยทาตํ ปภสฺสรตายา’’ติ. อุกฺกํ พนฺเธยฺยาติ องฺคารกปลฺลํ ยถา ทารุฆฏิกงฺคาราทิเกน น ภิชฺชติ, เอวํ ตนุมตฺติกาเลปาทินา พนฺเธยฺย. เมฆปฏลโต เวรมฺภวาตธาราสงฺฆฏฺฏนโต วิชฺชุตา วิย เกวลํ วาตธาราสงฺฆฏฺฏนชนิตา ปภา อุกฺกาปภา, สา ปน ยสฺมา ทฺวินฺนํ วาตธารานํ เวคสมฺภูตสงฺฆฏฺฏนเหตุกา, ตสฺมา การณวเสน ‘‘วาตเวโค อุกฺกา’’ติ วุตฺตํ.

๗๗. ยถานุสนฺธิวเสนาติอาทิมฺหิ อุฏฺิตเทสนาย อนุรูปา อนุสนฺธิ ยถานุสนฺธิ, ตสฺสา วเสน. พฺยติเรกทสฺสนํ วิย หิ สาเธตพฺพสฺส อาทิมฺหิ อุฏฺิตเทสนาย ปฏิปกฺขทสฺสนมฺปิ อนุรูปเทสนาว สมฺมเทว ปติฏฺาปนภาวโต, ยถา ตํ อาวตฺตหารโยชนายํ วิสภาคธมฺมาวตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ยถานุสนฺธิวเสน เทสนา อาคตา’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถาเรนฺโต ตปฺปสงฺเคน อิตเรปิ อนุสนฺธี ทสฺเสตุํ ‘‘ตโย หี’’ติอาทิมาห. พหิทฺธาติ พาหิเรสุ วตฺถูสุ. อสติ ปริตสฺสนาติ ตณฺหาทิฏฺิปริตสฺสนาภาโว. วิสฺสชฺชิตสุตฺตวเสนาติ ‘‘อิธ ภิกฺขุ เอกจฺจสฺสา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๔๒) วิสฺสชฺชิตสุตฺตวเสน. เยน ธมฺเมนาติ สีลาทิโวทานธมฺเมสุ อกฺขนฺติยาทิสํกิเลสธมฺเมสุ จ เยน เยน ธมฺเมน. ฉ อภิฺา อาคตาติ อิมินา ‘‘อนุรูปธมฺมวเสน วา’’ติ วุตฺตวิกปฺปํ ทสฺเสติ, เสเสหิ ‘‘ปฏิปกฺขวเสน วา’’ติ วุตฺตวิกปฺปํ. อกฺขนฺติยา หิ กกจูปโมวาโท (ม. นิ. ๑.๒๒๒) ปฏิปกฺโข, ตถา ทิฏฺิยา ‘‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’’ติ เอวํ ปฏิภาคา สุฺตากาเรน. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. ‘‘จิตฺเต สํกิลิฏฺเ ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา’’ติ (ม. นิ. ๑.๗๐) เหฏฺา กิเลสเทสนา อาคตา. สพฺโพติ อนวเสโส. สพฺพากาเรนาติ อาทีนวานิสํสปจฺจเวกฺขณปุคฺคลโทสชานนาทินา สพฺพปฺปกาเรน.

๗๘. ‘‘เมตฺตา ภาเวตพฺพา พฺยาปาทสฺส ปหานายา’’ติอาทิวจนโต (อ. นิ. ๙.๑) เมตฺตาทโย พฺยาปาทวิเหสารติราคานํ ปฏิปกฺขา. ยสฺมา ‘‘โส อตฺถี’’ติอาทินา ภควตา อนาคามิโน อคฺคมคฺคาธิคมนํ จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา กถิตํ, ตสฺมา ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทานิสฺสา’’ติอาทิมาห.

พฺรหฺมวิหารธมฺเมติ พฺรหฺมวิหาเร เจว พฺรหฺมวิหารสหคตธมฺเม จ. เตนาห ‘‘นามวเสนา’’ติ. ววตฺถเปตฺวาติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. นามนฺติปิ หิ อีทิเสสุ าเนสุ จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา วุจฺจนฺติ. อิมินา นเยนาติ เอเตน ภูตนิสฺสิตานํ เสสุปาทายธมฺมานํ สพฺเพสมฺปิ ปหาตพฺพตณฺหาวชฺชานํ เตภูมกธมฺมานํ ปริคฺคหวิธึ อุลฺลิงฺเคติ. สภาวโต วิชฺชมานํ ตํ อตฺตปจฺจกฺขํ กตฺวา าเณน ยาถาวโต ปฏิวิชฺฌิยมานตํ อุปาทาย ‘‘อตฺถิ อิท’’นฺติ ยถาววตฺถาปิตํ นามรูปํ. เตเนวาห ‘‘เอตฺตาวตาเนน ทุกฺขสจฺจววตฺถานํ กตํ โหตี’’ติ. สาวธารณฺเจตํ วจนํ, โลกสมฺาสิทฺธํ สตฺตอิตฺถิปุริสาทิ วิย, อิโต พาหิรกปริกปฺปิตํ ปกติอาทิ ทฺรพฺยาทิ ชีวาทิ กายาทิ วิย จ น ปรมตฺถโต นตฺถิ, อตฺเถวาติ วุตฺตํ โหติ. ปชานาตีติ ปุพฺพภาเค ตาว ลกฺขณรสาทิวเสน เจว ปฏิคฺคหวิภาควเสน จ ปการโต ชานาติ, อปรภาเค ปน ปริฺาภิสมยวเสน ปฏิวิชฺฌนฺโต ชานาติ. เอกนฺตหีนา นาม อกุสลธมฺมา สมฺปติ อายติฺจ ทุกฺขมูลตฺตา, ตตฺถาปิ วิเสสโต ตณฺหาติ อาห ‘‘ทุกฺขสฺส สมุทยํ ปฏิวิชฺฌนฺโต อตฺถิ หีนนฺติปชานาตี’’ติ. อตฺตโน ปจฺจเยหิ ปธานภาวํ นีตตฺตา ปณีตนฺติ อิมินา อตฺเถน อริยมคฺโคว ‘‘ปณีต’’นฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘ปหานุปายํ วิจินนฺโต อตฺถิ ปณีตนฺติ ปชานาตี’’ติ. ‘‘อุตฺตมฏฺเน จ ปณีต’’นฺติ วุจฺจมาเน นิโรธสจฺจสฺสปิ สงฺคโห สิยา, ตสฺส ปน ปทนฺตเรน สงฺคหิตตฺตา วุตฺตนเยเนเวตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อปฺปมฺามุเขน วิปสฺสนาภินิเวสสฺเสว กตตฺตา ‘‘พฺรหฺมวิหารสฺาคตสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สพฺพสฺสปิ เตภูมกสฺส สฺาคตสฺสา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. น เจตฺถ อสงฺคโห ตสฺสาปิ สฺาย อาคตภาวโต. โลกํ อุตฺตริตฺวา สมติกฺกมิตฺวา นิสฺสริตฺวา วิสํยุตฺตํ หุตฺวา ิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อุตฺตริ นิสฺสรณํ นิพฺพาน’’นฺติ.

จตูหิอากาเรหีติ ‘‘อตฺถิ หีน’’นฺติอาทีหิ จตูหิ ปกาเรหิ. อนฺวยาณตาย อนุโพธภูตาย วิปสฺสนาปฺาย ชานนตฺโถ ธมฺมาณตาย ปฏิเวธภูตาย มคฺคปฺาย ทสฺสนตฺโถ สภาวสิทฺโธติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิปสฺสนาปฺาย จตฺตาริ สจฺจานิ ชานนโต มคฺคปฺาย ปสฺสโต’’ติ วุตฺตํ. ภยเภรเว วุตฺตนเยเนวาติ ภยเภรวสุตฺตวณฺณนายํ อตฺตนา วุตฺตอตฺถวจนตฺถปาเน อิธ ปาสฺส สทิสตฺตา อติทิสนฺโต ‘‘กามาสวาปิ…เป… ปชานาตี’’ติ อาห. เอตฺถ จ ยสฺมา ‘‘กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ…เป… อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจตี’’ติ ‘‘ขีณา ชาตี’’ติอาทีนิ วทตา ภควตา จตุตฺถมคฺโค นิทฺทิฏฺโ, ตสฺมา ยํ เหฏฺา อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘โส จ อุปริ จตุตฺถมคฺคสฺเสว นิทฺทิฏฺตฺตา ยุชฺชตี’’ติ, ตํ สุวุตฺตเมวาติ ทฏฺพฺพํ.

ตสฺส โจทนตฺถายาติ ตสฺส พฺราหฺมณสฺส ภควา อตฺตโน โจทนตฺถาย ‘‘ปุจฺฉ มํ ตฺวํ พฺราหฺมณ ยเทตฺถ ตยา มนสาภิสมีหิต’’นฺติ โจทนาย, โอกาสทานตฺถายาติ อธิปฺปาโย. เทสนาสนฺนิสฺสโย พฺราหฺมณสฺส ตถารูโป เอตฺถ อชฺฌาสโยปิ นตฺถีติ ยถาวุตฺตอนุสนฺธิตฺตยวินิมุตฺตตฺตา ‘‘ปาฏิเยกฺกํ อนุสนฺธึ อาหา’’ติ วุตฺตํ. จิตฺตคตตฺตา อพฺภนฺตเรน. กิเลสวุฏฺานสินาเนนาติ กิเลสมลปวาหเนน ราคปริฬาหาทิวูปสมกเรน จ อฏฺงฺคิกอริยมคฺคสลิลสินาเนน.

๗๙. ธมฺมสภามณฺฑปํ ตาวเทว อุปคตตฺตา พาหุกา นทิโต อาคตํ วิย มฺมาโน. อริยผลมทฺทนจุณฺณาทโย เตลสิเนหสฺส วิเวจเนน . ลูขภาโว โลกํ, ตํ เอติสฺสา อตฺถีติ โลกาติ สมฺมตา. โลกฺขสมฺมตคฺคหเณน ‘‘ตถา สา นที โลเก ปากฏา’’ติ เอวํ ปวตฺตํ อตฺตโน มิจฺฉาคาหํ ทีเปติ. เตนาห ‘‘วิสุทฺธภาวํ เทตีติ เอวํ สมฺมตา’’ติ. ปาปปวาหเนน สมฺปรายิกาทิสมฺปตฺติอาวหโต โลกสฺส หิตา โลกฺยา. โลกฺยาติ สมฺมตาติ สพฺพํ ปุริมสทิสํ. เตนาห ‘‘เสฏฺํ โลกํ คมยตีติ เอวํ สมฺมตา’’ติ. ปุฺสมฺมตาติ ปุชฺชภวผลนิพฺพตฺตเนน สตฺตานํ ปุนเนน วิโสธเนน ปุฺาติ สมฺมตา. ตทตฺถทีปนตฺถเมวาติ ตสฺสา ปุพฺเพ อาคตเทสนาย อตฺถทีปนตฺถเมว. วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส ปุน ทีปนํ กิมตฺถิยนฺติ อาห ‘‘คาถารุจิกาน’’นฺติ. จุณฺณิกวจนํ อสมฺภาเวนฺตา ตถา จ วุตฺเต อตฺถมพุชฺฌนกา ปชฺชวจนํ สมฺภาเวนฺตา ตถา จ วุตฺเต พุชฺฌนกา คาถารุจิกา. วิเสสตฺถทีปนตฺถนฺติ วิสิฏฺทีปนตฺถํ, ปุริมเทสนาย อฺทีปนตฺถนฺติ อตฺโถ.

‘‘คจฺฉติ ปน ภวํ โคตโม พาหุกํ นทึ สินายิตุ’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๗๘) เหฏฺา วุตฺตตฺตา พาหุกนฺติ อิทเมว เอตฺถ ตทตฺถทีปกํ. เสสานิ อธิกกฺกาทิวจนานิ ตโต วิสิฏฺสฺส อตฺถสฺส โพธนโต วิเสสตฺถทีปกานิ. กสฺมา ปเนตฺถ ภควตา พฺราหฺมเณน อวุตฺตานิ อธิกกฺกาทีนิ คหิตานีติ อาห ‘‘ยเถว หี’’ติอาทิ. กกฺกนฺติ นฺหานปิณฺฑํ อธิปฺเปตํ, นฺหายิตฺวา อธิกํ กกฺกํ เอตฺถ คณฺหนฺตีติ อธิกกฺกํ. เตนาห ‘‘นฺหานสมฺภารวเสนา’’ติอาทิ. มณฺฑลวาปิสณฺานนฺติ วฏฺฏโปกฺขรณีสณฺานํ. นทิโยติ วิสุํ นทิโย, น อธิกกฺกาทีนิ วิย ติตฺถมตฺตํ.

ตีหิ ปเทหีติ สุนฺทริกาปยาคพาหุกาปเทหิ. จตฺตารีติ อธิกกฺกาทีนิ จตฺตาริ. วุตฺตาเนว โหนฺตีติ โลกสมฺมตาลกฺขเณน เอกลกฺขณตา พฺราหฺมณสฺส อธิปฺปาเยน, ปรมตฺถโต ปน ปาปปวาหลกฺขเณน เอกลกฺขณตฺตา. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. กิฺจิ ปาปสุทฺธึ น กโรนฺติเยว. น หิ นํ โสธเยติ นํ ปุคฺคลํ น โสธเย. เวรกิพฺพิสภาวํ อปฺปตฺตา นาม กมฺมปถภาวํ อปฺปตฺตา. เตนาห ‘‘ขุทฺทเกหี’’ติ.

ปฏิหนนฺโตติ อยุตฺตภาวทสฺสเนน ตํ ทิฏฺึ ปฏิพาหนฺโต. ตตฺถายํ ปฏิพาหนวิธิ ยถา ยํ กิฺจิ อุทโกโรหนํ น ปาปปวาหนํ, เอวํ โย โกจิ นกฺขตฺตโยโค ปาปเหตูนํ ปฏิปกฺขาภาวโต. ยฺหิ วินาเสติ, โส ตสฺส ปฏิปกฺโข. ยถา อาโลโก อนฺธการสฺส วิชฺชา จ อวิชฺชาย, น เอวํ อุทโกโรหนํ นกฺขตฺตโยโค วา ปาปเหตูนํ โลภาทีนํ ปฏิปกฺโข, ตสฺมา นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ ‘‘น อุทโกโรหนาทิ ปาปปวาหน’’นฺติ. นิจฺจํ ผคฺคุนีนกฺขตฺตนฺติ สุทฺธสีลาทิกสฺส สพฺพกาลํ มงฺคลทิวโส เอวาติ อธิปฺปาโย. อิตโรติ สีลาทิวเสน อสุทฺโธ. นิจฺจเมว อุโปสโถ อริยุโปสเถน อุปวุตฺถภาวโต. สุทฺธสฺสาติ ปริสุทฺธมโนสมาจารสฺส. สุจิกมฺมสฺสาติ ปริสุทฺธกายวจีสมาจารสฺส. เตนาห ‘‘นิกฺกิเลสตายา’’ติอาทิ. กุสลูปสฺหิตนฺติ อนวชฺชภาวูปคตํ. วตสมาทานนฺติ ธุตธมฺมสมาทานาทิ สมฺปนฺนเมว โหติ, นาสฺส วิปตฺติ อตฺถีติ อตฺโถ. มม สาสเนเยว สินาหิ, ยทิ อจฺจนฺตเมว สุทฺธึ อิจฺฉสีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘สเจ’’ติอาทิ. เขมตนฺติ เขมภาวํ. ยถา สพฺพภูตานิ ตปวเสน เขมปฺปตฺตานิ อภยปฺปตฺตานิ โหนฺติ, เอวํ กโรหีติ ตํ เหฏฺา ทสฺสิตํ เมตฺตาทิภาวนํ พฺราหฺมณสฺส สงฺเขเปน อุปทิสนฺเตนสฺส เอกจฺจสมาธิสมฺปทา ตทวินาภาวินี ปฺาสมฺปทา จ ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘มโนทฺวารสุทฺธิ ทสฺสิตา’’ติ.

ตสฺส ปน สมฺปทาทฺวยสฺส นิสฺสยภูตํ สีลสมฺปทํ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ มุสา น ภณสี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ยถา ‘‘สเจ มุสา น ภณสี’’ติอาทินา มุสาวาท-ปาณาติปาต-อทินฺนาทาน-ปฏิวิรติวจเนน อวเสสกายวจีทุจฺจริตวิรตีปิ วุตฺตา เอว โหติ ลกฺขณหารนเยน, เอวํ ‘‘สทฺทหาโน อมจฺฉรี’’ติ สทฺธาทิธนสมฺปทานิโยชเนเนว อวเสสอริยธนสมฺปทานิโยชนมฺปิ สิทฺธเมว โหตีติ สทฺธาทโย วิมุตฺติปริปาจนียธมฺมา พฺราหฺมณสฺส ปกาสิตา เอวาติ เวทิตพฺพา. เตเนวาห ‘‘อิมาย เอว ปฏิปตฺติยา กิเลสสุทฺธี’’ติ. คยา สมฺมตตรา พาหุกาทีหิปีติ อธิปฺปาโย.

๘๐. เอโกติ อสหาโย, เอสา ปนสฺส อสหายตา เอกีภาเวนาติ. น หิสฺส ตาว ตณฺหาทุติยตา วิคตา. เตเนวาห ‘‘น จิรสฺเสวา’’ติอาทิ. เอกคฺคหเณเนว กาเยน วูปกฏฺตา วุตฺตาติ อาห ‘‘วุปกฏฺโ จิตฺตวิเวเกนา’’ติ. เตน ‘‘ทิวา จงฺกเมน นิสชฺชายา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๔๒๓; ๓.๗๕; วิภ. ๕๑๙; มหานิ. ๑๖๑) อาคตํ ชาคริยานุโยคมาห. ตถาภูตสฺส จสฺส เอกาทสหิ อคฺคีหิ อาทิตฺเต ตโย ภเว ปสฺสโต ยถา ปมาทสฺส เลโสปิ นาโหสิ, เอวํ กมฺมฏฺานํ พฺรูเหนฺโต สมฺมเทว ปทหติ. กตฺถจิ สงฺขารคเต อนเปกฺขจิตฺโต นิพฺพานาธิมุตฺโต เอว วิหาสีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปฺปมตฺโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ขีณา ชาตีติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

วตฺถสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๘. สลฺเลขสุตฺตวณฺณนา

๘๑. ‘‘จุนฺโท’’ติ ตสฺส มหาเถรสฺส นามํ, ปูชาวเสน ปน มหาจุนฺโทติ วุจฺจติ ยถา ‘‘มหาโมคฺคลฺลาโน’’ติ. อตฺตโน วา จุนฺทํ นาม ภาคิเนยฺยตฺเถรํ อุปาทาย อายสฺมโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ภาตา อยํ มหาเถโร ‘‘มหาจุนฺโท’’ติ ปฺายิตฺถ ยถา ‘‘มหาปนฺถโก’’ติ. สายนฺหสมยนฺติ ภุมฺมตฺเถ เอกํ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘สายนฺหกาเล’’ติ. น เหตฺถ อจฺจนฺต สํโยโค สมฺภวตีติ. สตฺตสงฺขาเรหีติ สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกอุปาสกาทิสตฺเตหิ เจว รูปารมฺมณาทิสงฺขาเรหิ จ. ปฏินิวตฺติตฺวาติ อปสกฺกิตฺวา. นิลียนนฺติ วิเวจนํ กายจิตฺเตหิ ตโต วิวิตฺตตา. เอกีภาโวติ หิ กายวิเวกมาห, ปวิเวโกติ จิตฺตวิเวกํ. ตโต วุฏฺิโตติ ตโต ทุวิธวิเวกโต ภวงฺคุปฺปตฺติยา, สพฺรหฺมจารีหิ สมาคเมน จ อเปโต. อภิวาทาเปตฺวาติ อภิวาทํ กาเรตฺวา. เอวนฺติ ยถาวุตฺตอภิวาทวเสน. ปคฺคยฺหาติ อุนฺนาเมตฺวา. อนุปจฺฉินฺนภวมูลานํ ตาว เอวํ อภิวาโท โหตุ, อุจฺฉินฺนภวมูลานํ กิมตฺถิโยติ อาห ‘‘เอตํ อาจิณฺณํ ตถาคตาน’’นฺติ. เตน น ตถาคตา สมฺปรายิกํเยว สตฺตานํ สุขํ อาสีสนฺติ, อถ โข ทิฏฺธมฺมิกมฺปีติ ทฏฺพฺพํ. กสฺมา เอวํ ตถาคตา อภิวทนฺตีติ ตตฺถ การณมาห ‘‘สุขกามา หี’’ติอาทิ. ปุถุกายาติ พหู สตฺตกายา. ยกฺขาติ เทวา. เต หิ ปูชนียตาย ‘‘ยกฺขา’’ติ วุจฺจนฺติ. อภิวทนฺตีติ อาสีสิตเมวตฺถํ าณกรุณาหิ อภิมุขํ กตฺวา วทนฺติ.

ยาติ อนิยมโต คหิตา นิยมโต ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมา’’ติ อาห. อิมาติ จ อาสนฺนปจฺจกฺขวจนนฺติ อาห ‘‘อภิมุขํ กโรนฺโตวิยา’’ติ , ตํ ตํ ทิฏฺิคติกํ จิตฺตคตํ สมฺมุขา วิย กโรนฺโตติ อตฺโถ. ทิฏฺิโยติ ปุริมปทโลเปน ปาฬิยํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิโย’’ติ อาห. สตฺเตสุ ทิฏฺิคตจิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชมานา, สตฺเตสุ วา วิสยภูเตสุ อารพฺภ อุปฺปชฺชมานา ‘‘สตฺเตสุ ปาตุภวนฺตี’’ติ วุตฺตา. อตฺตวาเทนาติ อตฺตานํ อารพฺภ ปวตฺเตน วจเนน. ปฏิสํยุตฺตาติ ‘‘อตฺถิ อตฺตา’’ติ คาเห คาหเณ จ วิสยภาเวน ปฏิสํยุตฺตา. ทิฏฺิคติเกน ทิฏฺึ คาหนฺเตหิ คหเณ คาหาปเณ จ ทิฏฺิ ทิฏฺิวาทสฺส วิสโยติ เตน ปฏิสํยุตฺตา นาม โหติ. ‘‘อตฺถิ อตฺตา’’ติ เอวํ ปวตฺตา ทิฏฺิ อิธ อตฺตวาทปฏิสํยุตฺตา, น ตสฺสา วิสยภูโต อตฺตา. สา จ วิสยภาวโต ตถาปวตฺเตน วาเทน ปฏิสํยุตฺตา. โลกวาทปฺปฏิสํยุตฺตาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. วีสติ ภวนฺติ ตโต ปรํ อตฺตวาทวตฺถุโน อภาวา . ปฺจปิ หิ อุปาทานกฺขนฺเธ ปจฺเจกํ ‘‘อตฺตา’’ติ เต จ อตฺตโน นิสฺสยภาเวน คณฺหโต เอตาสํ ทิฏฺีนํ สมฺภโว, ตพฺพินิมุตฺโต ปนายํ วิสโย อตฺตคฺคหณากาโร จ นตฺถีติ. สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จาติ รูปาทีสุ อฺตรํ ‘‘อตฺตา’’ติ, ‘‘โลโก’’ติ วา คเหตฺวา ตํ สสฺสโต สพฺพกาลภาวี นิจฺโจ ธุโวติ. ยถาห ‘‘รูปี อตฺตา เจว โลโก จ สสฺสโต จาติ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปตี’’ติอาทิ. สสฺสโตติอาทีสุ ปโม สสฺสตวาทวเสน อตฺตคฺคาโห, ทุติโย อุจฺเฉทวาทวเสน, ตติโย เอกจฺจสสฺสตวาทวเสน, จตุตฺโถ ตกฺกีวาทวเสน ปวตฺโต, อมราวิกฺเขปวเสน วา ปวตฺโต อตฺตคฺคาโห. อนฺตวาติ อตฺตโน ปริจฺเฉทตาวเสน. อนนฺตวาติ อปริจฺเฉทตาวเสน. อนฺตวา จ อนนฺตวา จาติ ตทุภยวเสน, อิตโร ตกฺกีวาทวเสน ปวตฺโต อตฺตคฺคาโห. เอวํ ปวตฺตตฺตา อฏฺ โหนฺตีติ โยชนา.

อาทิเมวาติ อาทิมนสิการเมว. ตํ ปน สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘วิปสฺสนามิสฺสกปมมนสิการเมวา’’ติ อาห. อปฺปตฺวาปิ โสตาปตฺติมคฺคนฺติ อิมินา อวธารเณน นิวตฺติตํ ทสฺเสติ. นามรูปปริจฺเฉทโต ปภุติ ยาว อุทยพฺพยทสฺสนํ, อยํ อิธ อาทิมนสิกาโรติ อธิปฺเปโต ปฺาภาวนาย อารมฺภภาวโต. อุทยพฺพยานุปสฺสนาสหิตตาย จสฺส วิปสฺสนามิสฺสกตา วจนํ. เอวนฺติ อิมสฺส อตฺถวจนํ ‘‘เอตฺตเกเนวอุปาเยนา’’ติ , ยถาวุตฺตอาทิมนสิกาเรนาติ อตฺโถ. เอตาสนฺติ ยถาวุตฺตานํ อตฺตวาทโลกวาทปฏิสํยุตฺตานํ ทิฏฺีนํ. กามฺจ ตาสํ เตน ตทงฺควเสน ปหานํ โหติเยว, ตํ ปน นาธิปฺเปตํ, ตสฺมา สมุจฺเฉทวเสน ปหานํ ปฏินิสฺสคฺโค จ โหตีติ ปุจฺฉติ. สพฺพโส สมุจฺฉินฺนสํโยชนตาย อนธิมานิโกปิ สมาโน. ‘‘อริยธมฺโม อธิคโต’’ติ มาโน อธิมาโน, โส เยสํ อตฺถิ เต อธิมานิกา, เตสํ อุทยพฺพยาณาธิคเมน อธิมานุปฺปตฺติ ตทวสาโน จ มนสิกาโรติ อธิปฺเปโต. เตน ทิฏฺีนํ ปหานํ น โหตีติ กถาปนตฺถํ อยํ ปุจฺฉาติ อาห ‘‘อธิมานปฺปหานตฺถํ ปุจฺฉตี’’ติ. ‘‘อาทิเมว นุ โข…เป… ปฏินิสฺสคฺโค โหตี’’ติ อนภิสเมตาวี วิย วทนฺโต อธิมาเน ิโต วิย โหตีติ อาห ‘‘อธิมานิโก วิย หุตฺวา’’ติ. โสติ เถโร. เตสํ อตฺถายาติ เตสํ อตฺตโน อนฺเตวาสิกานํ ภควตา เอตสฺส มิจฺฉาคาหสฺส วิเวจนตฺถาย. เถโร กิร ธมฺมเสนาปติ วิย สทฺธึ อตฺตโน อนฺเตวาสิเกหิ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิ.

๘๒. ยตฺถาติ วิสเย ภุมฺมํ. ทิฏฺีนฺหิ อารมฺมณนิทสฺสนเมตนฺติ. ยสฺมา ทิฏฺีนํ อนุสยนภูมิปิ สมุทาจรณฏฺานมฺปิ ขนฺธา เอว, ตสฺมา อาห ‘‘ยตฺถ เจตา ทิฏฺิโย อุปฺปชฺชนฺตี ติอาทิ ปฺจกฺขนฺเธ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. รูปํ อภินิวิสฺสาติ ‘‘อิทํ รูปํ มม อตฺตา’’ติ ทิฏฺาภินิเวสวเสน อภินิวิสิตฺวา อารพฺภ. อภินิวิสมานา เอว หิ ทิฏฺิ นํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ. ‘‘โส อตฺตา’’ติอาทีสุ ยทิทํ จกฺขาทิสงฺคหํ รูปํ, สหพุทฺธินิพนฺธนตาย โส เม อตฺตา, สุขาสุขํ เอตฺถ โลกิยตีติ โส โลโก. ‘‘โสเอวาหํ เปจฺจ ปรโลเก ภวิสฺสามีติ ตถาภาเวน นิจฺโจ, ถิรภาเวน ธุโว, สพฺพทาภาวิตาย สสฺสโต, นิพฺพิการตาย อวิปริณามธมฺโมติ อตฺโถ. ยทิ ปฺจกฺขนฺเธ สนฺธาย วุตฺตํ, กถเมกวจนนฺติ อาห ‘‘อารมฺมณวเสนา’’ติอาทิ. นานา กรียติ เอเตนาติ นานากรณํ, วิเสโส. ชาติวเสนาติ อุปฺปตฺติวเสน. เย หิ อนิพฺพตฺตปุพฺพา สมานาวตฺถา, เต อุปฺปาทสงฺขาตวิการสมงฺคิตาย อุปฺปชฺชนฺตีติ สมฺํ ลภนฺติ. เตนาห ‘‘ชาติวเสนา’’ติอาทิ. ปุนปฺปุนํ อาเสวิตาติ อนาทิมติ สํสาเร อปราปรุปฺปตฺติยา ลทฺธาเสวนา. เอเตน กิเลสานํ ภาวนฏฺเน อนุสยตฺถํ วิเสเสติ . ถามคตาติ ถามภาวํ อุปคตา. เอเตน อนุสเย สภาวโต ทสฺเสติ. ถามคมนนฺติ จ กามราคาทีนํ อนฺสาธารโณ สภาโว. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ถามคโต อนุสเย ปชหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๒๑). อปฺปฏิวินีตาติ สมุจฺเฉทวินยวเสน น ปฏิวินีตา. อปฺปหีนา หิ ถามคตา กิเลสา อนุเสนฺตีติ วุจฺจนฺติ. เอเตน เตสํ การณลาเภ สติ อุปฺปชฺชนารหตํ ทสฺเสติ. สมุทาจรนฺตีติ อภิภวนฺติ. เอเตน เตสํ วีติกฺกมปฺปตฺตตํ ทสฺเสติ. อุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อิมินาว ปริยุฏฺานาวตฺถา ทสฺสิตา.

ตํ ปฺจกฺขนฺธปฺปเภทํ อารมฺมณนฺติ ยํ ตํ ‘‘ยตฺถ เจตา ทิฏฺิโย อุปฺปชฺชนฺตี’’ติอาทินา วุตฺตํ รูปุปาทานกฺขนฺธาทิปฺจกฺขนฺธปเภทํ ทิฏฺีนํ อารมฺมณํ. เอตํ มยฺหํ น โหตีติ เอตํ ขนฺธปฺจกํ มยฺหํ สนฺตกํ น โหติ มม กิฺจนปลิโพธภาเวน คเหตพฺพตาย อภาวโต. เตนสฺส ปรมตฺถโต ตณฺหาวตฺถุภาวํ ปฏิกฺขิปติ ตาวกาลิกาทิภาวโต. อหมฺปิ เอโส น อสฺมีติ เอโส ปฺจกฺขนฺธปเภโท อหมฺปิ น อสฺมิ, อหนฺติ โส คเหตพฺโพ น โหตีติ อตฺโถ. เอเตนสฺส มานวตฺถุภาวํ ปฏิกฺขิปติ อนิจฺจทุกฺขเชคุจฺฉาทิภาวโต. เอโส เม อตฺตาปิ น โหติ อตฺตสภาวสฺส ตตฺถ อภาวโต มมฺจสฺส กิฺจนปลิโพธภาเวน คเหตพฺพตาย อภาวโต.

ตณฺหาว มมนฺติ คณฺหาติ เอเตนาติ ตณฺหาคาโห. ตํ คณฺหนฺโตติ ตํ อุปฺปาเทนฺโต. เตนาห ‘‘ตณฺหาปปฺจํ คณฺหาตี’’ติ. ปปฺเจติ สนฺตานํ วิตฺถาเรนฺโต สตฺเต สํสาเร จิรายตีติ ปปฺโจ. ยถา วุตฺตปเภทนฺติ อฏฺสตตณฺหาวิจริตปเภทํ. ตณฺหาปปฺจํ ปฏิกฺขิปติ ขนฺธปฺจกสฺส ตณฺหาวตฺถุกาภาววิภาวเนนาติ อธิปฺปาโย. ปรโต ปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ทิฏฺเกฏฺาติ ทิฏฺิยา ปหาเนกฏฺา. เตน เตสํ ปมมคฺควชฺฌตํ ทสฺเสติ. สหเชกฏฺา ปน ทิฏฺิยา ตณฺหา เอว, น มาโน, สา จ โข อปายคมนียา. ยถา อตฺถีติ เยน อนิจฺจทุกฺขาสุภานตฺตากาเรน อตฺถิ, ตถา ปสฺสนฺโต ยถาภูตํ ปสฺสติ นาม. เตนาห ‘‘ขนฺธปฺจกฺหี’’ติอาทิ. เอเตเนว อากาเรนาติ รุปฺปนาทิอนิจฺจาทิอากาเรเนว. คยฺหมานมฺปิ อปฺปหีนวิปลฺลาเสหิ. เตนากาเรนาติ ‘‘เอตํ มม’’นฺติอาทิอากาเรน. เนวตฺถิ ยถาภูตทสฺสนวิปลฺลาสานํ ตทภาวโต. สุฏฺุ ปสฺสนฺตสฺสาติ ยถา ปุน ตถา น ปสฺสิตพฺพํ, เอวํ สุฏฺุ สาติสยํ ปสฺสนฺตสฺส.

น อาทิมนสิกาเรเนว ทิฏฺิปฺปหานํ โหติ, อธิมานิกานํ ปน อธิมานมตฺตเมตํ ทสฺสนํ. มคฺเคเนว ตํ โหตีติ อิมมตฺถํ วิภาเวนฺโต ‘‘โสตาปตฺติมคฺเคน ทิฏฺิปฺปหานํ ทสฺเสตฺวา’’ติ อาห. วิภชนฺโตติ อธิมานิกานํ ฌานานิ อสลฺเลขภาเวน วิภชนฺโต. พาลปุถุชฺชนานํ เนว อุปฺปชฺชติ อการกภาวโต. น อริยสาวกานํ ปหีนาธิมานปจฺจยตฺตา. น อฏฺานนิโยชโก สปฺปายกมฺมฏฺาเนเยว นิโยชนโต.

เถโร ‘‘ยทตฺถํ สงฺโฆ ปกฺโกสติ, โส อตฺโถ ตตฺถ วาสีนํ อาคตาคตานํ อิธ อิชฺฌตี’’ติ ตํ อุทิกฺขนฺโต สงฺเฆน ยาวตติยํ ปหิโตปิ น คโต น อคารเวน. เตนาห ‘‘กิเมต’’นฺติอาทิ. ปณฺฑิโต หิ ตตฺถ อตฺตโน กิจฺจเมว กโรตีติ อฺตรํ วุฑฺฒปพฺพชิตํ ปาเหสิ. กิเมตนฺติ สงฺฆสฺส อาณาย อกรณํ นาม กิเมตนฺติ กรเณ อาทรํ ทีเปนฺโต เอวมาห. สฏฺิวสฺสาตีโตติ อปฺปตฺเต ปตฺตสฺี เอว สฏฺิวสฺสาตีโต. ยสฺมา เปสลา เปสเลหิ สทฺธึ สํสนฺทนฺติ สมานาธิมุตฺติตาย, ตสฺมา เถโร ‘‘สาธาวุโส’’ติ วตฺวา หตฺถิมาปนาทึ สพฺพํ อกาสิ.

ตาทิโสวาติ อนนฺตรํ วุตฺตตฺเถรสทิโสว อปฺปตฺเต ปตฺตสฺี เอว สฏฺิวสฺสาตีโตติ อตฺโถ. ปทุมคุมฺพนฺติ กมลสณฺฑํ. ปาสาทํ ปาวิสิ วิสฺสฏฺํ โอโลกเนนสฺส ปุถุชฺชนภาโว อตฺตนาว ปฺายิสฺสตีติ. ติสฺสมหาวิหาเร กิร เถรา ภิกฺขู ตทา ‘‘สกจิตฺตํ ปสีทตี’’ติ วจนํ ปูเชนฺตา กาลสฺเสว เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชิตฺวา เอตฺตการมฺมณเมว พุทฺธารมฺมณปีตึ อุปฺปาเทตฺวา ทิวเส ทิวเส ตถา กโรนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตสฺมิฺจ สมเย’’ติอาทิ. ‘‘ธมฺมทินฺน, อิธ ปตฺตจีวรํ เปตี’’ติ วตฺตาปิ ปฏิสนฺถารวเสน กิฺจิ ปุจฺฉิตาปิ นาโหสิ. คุณํ ชานาตีติ นิมุชฺชนาทีสุ วิวรทานาทินา คุณํ ชานาติ วิย. ตุมฺเห ปน น ชานิตฺถ อาคนฺตุกวตฺตสฺสปิ อกรณโต. สตฺถุอาณาวิลงฺฆินี กีทิสี สา สงฺฆสฺส กติกา? กติกา จ นาม สิกฺขาปทาวิโรเธน อนุวตฺเตตพฺพา, เอตฺตกมฺปิ อชานนฺเตหิ เม สํวาโส นตฺถีติ อากาเส อพฺภุกฺกมิ.

ยํตสฺส เอวมสฺส สลฺเลเขน วิหรามีติ โย ‘‘ปมชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยา’’ติ วุตฺโต, ตสฺส ภิกฺขุโน ยํ ‘‘ปมชฺฌานสงฺขาตํ ปฏิปตฺติวิธานํ กิเลเส สลฺเลขติ, เตน สลฺเลเขน อหํ วิหรามี’’ติ อธิมานวเสน เอวมสฺส เอวํ ภเวยฺย านเมตํ วิชฺชตีติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ตํ น ยุชฺชตีติ ตํ อธิมานิกสฺส ‘‘ยถาวิภงฺคํ ปมชฺฌานํ สลฺเลโข’’ติ ปริวิตกฺกิตํ น ยุชฺชติ ยุตฺตํ น โหติ. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทิ. ตตฺถ สมฺมา สพฺพโส จ กิเลเส ลิขตีติ สลฺเลโข, อริยมคฺโค. ตทุปายวิปสฺสนา สลฺเลขปฏิปทา. ยํ ปน ฌานํ วิปสฺสนาปาทกํ, ตมฺปิ ฌานํ ปริยาเยน มคฺคปาทกํ โหติเยว. เตนาห ‘‘อวิปสฺสนาปาทกตฺตา’’ติอาทิ.

ฌานธมฺมวเสนาติ วิตกฺกาทิปฺจกชฺฌานธมฺมวเสน. จิตฺตุปฺปาทวเสน อเนกวารํ ปวตฺตมานมฺปิ ฌานํ เอกาวชฺชนตาย เอกวีถิปริยาปนฺนตฺตา เอกา สมาปตฺติ เอวาติ ‘‘ปุนปฺปุนํ สมาปตฺติวเสนา’’ติ วุตฺตํ. จตฺตาริ อรูปชฺฌานานิ ยถาสกํ เอเกกสฺมึเยว อารมฺมเณ ปวตฺตนฺตีติ อาห ‘‘อารมฺมณเภทาภาวโต’’ติ. ปุริมการณทฺวยวเสเนวาติ ‘‘ฌานธมฺมวเสน, ปุนปฺปุนํ สมาปตฺติวเสนา’’ติ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการการณทฺวยวเสเนว.

เตสํ อรูปชฺฌานานํ กิเลสปริฬาหาภาเวน นิพฺพุตานิ องฺคานิ, ภาวนาวิเสสวเสน สุขุมานิ อารมฺมณานิ. ตสฺมา ตานีติ เตสํ วเสน ตานิ ฌานานิ สนฺตานิ, ตสฺมา ‘‘สนฺตา เอเต วิหารา’’ติ วุตฺตํ. เตสํ จตุนฺนมฺปีติ จตุนฺนมฺปิ เตสํ อรูปชฺฌานานํ.

๘๓. โสติ อธิมานิโก ภิกฺขุ, อฺโ วา อิโต พาหิรโก ตาปสปริพฺพาชกาทิโก น หิ สมฺมสติ. ตตฺถ อธิมานิโก อปฺปตฺเต ปตฺตสฺิตาย น สมฺมสติ, อิตโร อวิสยตาย. ยตฺถาติ ยสฺมึ สลฺเลขวตฺถุสฺมึ, อวิหึสกตาทีหิ จตุจตฺตาลีสาย อากาเรหิ.

อฏฺ สมาปตฺติโย นาม กิเลสานํ วิกฺขมฺภนวเสน ปวตฺตา อุตฺตรุตฺตริ สนฺตปณีตา ธมฺมา, น ตถา โลกิยา อวิหึสาทโย. ตตฺถ กถํ อวิหึสาทโย เอว สลฺเลขภาเวน วุตฺตา, น อิตราติ อิมมตฺถํ วิภาเวนฺโต โจทโก ‘‘กสฺมา ปนา’’ติอาทิมาห. อิตโร กามํ สมาปตฺติโย สนฺตปณีตสภาวา, วฏฺฏปาทกตาย ปน กิเลสานํ สลฺเลขปฏิปทา น โหนฺติ, อวิหึสาทโย ปน วิวฏฺฏปาทกา สลฺเลขปฏิปทาติ อิมมตฺถํ วิภาเวนฺโต ‘‘โลกุตฺตรปาทกตฺตา’’ติอาทิมาห. อิมินาเยว อฏฺสมาปตฺตีหิ อวิหึสาทีนํ วิเสสทีปเกน สุตฺเตน ยถา มหปฺผลตรํ โหติ, ตํ ปการชาตํ เวทิตพฺพํ. อิทฺหิ ทกฺขิเณยฺยตรตาย ทกฺขิณาย มหปฺผลตรตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. นนุ ตตฺถ ‘‘โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน’’ติ อาคตํ, น ‘‘สรณคโต’’ติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘สรณคมนโต ปฏฺายา’’ติอาทิ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๓.๓๗๙) ‘‘เหฏฺิมโกฏิยา ติสรณํ คโต อุปาสโกปิ โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน นามา’’ติ. โย หิ วฏฺฏทุกฺขํ สมติกฺกมิตุกาโม ปสนฺนจิตฺโต รตนตฺตยํ สรณํ คจฺฉติ, ตสฺส ตํ อธิสีลาทีนํ อุปนิสฺสโย หุตฺวา อนุกฺกเมน ทสฺสนมคฺคาธิคมาย สํวตฺเตยฺยาติ.

วิหึสาทิวตฺถุนฺติ ยเทตํ วิหึสาทีนํ วตฺถุํ วทาม, อิมสฺมึ วิหึสาทิวตฺถุสฺมึ. อนฺตมิจฺฉาทิฏฺิฺจ มิจฺฉตฺตานํ อาทิมิจฺฉาทิฏฺิฺจาติ อิทํ เทสนากฺกมํ สนฺธาย วุตฺตํ. มิสฺเสตฺวาติ มิจฺฉาทิฏฺิภาวสามฺเน เอกชฺฌํ กตฺวา. ตถาติ อิมินา ยถา กมฺมปถมิจฺฉตฺตานํ อนฺเต อาทิมฺหิ จ วุตฺตมิจฺฉาทิฏฺึ มิสฺเสตฺวา เอกชฺฌํ วุตฺตํ, ตถา เตสํ อนฺเต วุตฺตสมฺมาทิฏฺีติ อิมมตฺถํ อุปสํหรติ.

ปาณนฺติ โวหารโต สตฺตํ, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. อติปาเตนฺติ สรเสเนว ปตนสภาวํ อติจฺจ อนฺตรา เอว ปาเตนฺติ, อติกฺกมฺม วา สตฺถาทีหิ อภิภวิตฺวา ปาเตนฺติ. อทินฺนนฺติ ปรสนฺตกํ. อาทิยนฺตีติ คณฺหนฺติ. สลฺเลขตีติ สมํ เลขติ, ปชหตีติ อตฺโถ. กมฺมปถกถา เอสาติ ‘‘อตฺถภฺชนก’’นฺติ วุตฺตํ. ปิยสุฺกรณโต ปิสุณา, ปิสติ ปเร สตฺเต หึสตีติ วา ปิสุณา. ผรุสาติ ลูขา, นิฏฺุราติ อตฺโถ. นิรตฺถกนฺติ อตฺถรหิตํ อตฺตโน ปเรสฺจ หิตวินิมุตฺตํ. มิจฺฉาติ วิปรีตา นิจฺจาทิวเสน ปวตฺติยา. ปาปิกาติ ลามิกา. เอกนฺตากุสลตาย วิฺูหิ พุทฺธาทีหิ ครหิตา. นตฺถิ ทินฺนนฺติ อาทิวตฺถุกายาติ ทสวตฺถุกมิจฺฉาทิฏฺิมาห. นตฺถิกภาวาภินิเวสนวเสน กมฺมปถปฺปตฺติเยวสฺสา กมฺมปถปริยาปนฺนตา. ‘‘รูปํ อตฺตา’’’ติอาทินยปฺปวตฺตา อตฺตทิฏฺิ มคฺคนฺตรายกรตฺตา อนิยฺยานิกทิฏฺิ. อนิยฺยานิกตฺตา เอว หิสฺสา มิจฺฉตฺตปริยาปนฺนตา. สมฺมาติ อวิปรีตา, ตโต เอว โสภนา สุนฺทรา, พุทฺธาทีหิ ปสตฺถตฺตา วิฺุปฺปสตฺถา. เสสเมตฺถ มิจฺฉาทิฏฺิยํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ.

อสุภาทีสุ สุภาทิอาการคฺคหณโต อยาถาวอนิยฺยานิกา อโยนิโส อุปฺปตฺติยา. อกุสลาติ อยาถาวาอนิยฺยานิกา อกุสลา สงฺกปฺปา. เอส นโยติ อิมินา ‘‘อยาถาวา อนิยฺยานิกา อกุสลา วาจา’’ติอาทินา ตตฺถ ตตฺถ อยาถาวาทิอตฺถํ อติทิสติ. วาจาติ เจตนา อธิปฺเปตา, ตถา กมฺมนฺตาชีวาสติ จ. เยภุยฺเยน อตีตานุสฺสรณวเสน ปวตฺติโต ‘‘อตีตํ จินฺตยโต’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ โลเก เอวํ วทนฺติ ‘‘ยํ เม ปหูตํ ธนํ อโหสิ, ตํ ปมาทวเสน ปน พหุํ ขีณ’’นฺติ. สติปติรูปเกนาติ ‘‘จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา’’ติ เอวํ วุตฺตสตุปฺปตฺติปติรูปเกน. อุปฺปตฺตินฺติ จิตฺตุปฺปตฺตึ. ตถาปวตฺตจิตฺตุปฺปาโท หิ มิจฺฉาสติ. สา ปน โกธวเสน วา ‘‘อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ ม’’นฺติอาทินา (ธ. ป. ๓) อุปนยฺหนฺตสฺส, ราควเสน วา ‘‘ยานิสฺส ตานิ ปุพฺเพ มาตุคาเมน สทฺธึ หสิตลปิตกีฬิตานิ อนุสฺสรตี’’ติ (อ. นิ. ๗.๕๐) วุตฺตนเยน สุภโต อนุสฺสรนฺตสฺส, ทิฏฺิวเสน วา ‘‘โส โข ปน เม อตฺโต นิจฺโจ ธุโว’’ติอาทินา มิจฺฉาอภินิวิสนฺตสฺสาติ เอวมาทินา นเยน ปวตฺตตีติ เวทิตพฺพา.

อุปายจินฺตาวเสนาติ ขิปฺปชาลกุมินาทุหลาทิอุปกรณสํวิธานาทีสุ ยุตฺติจินฺตนาทิวเสน ปาปํ กตฺวา วิปฺปฏิสารนิมิตฺตํ, ‘‘สุกตํ มยา’’ติ ปาโมชฺชนิมิตฺตํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขณากาเรน โมโห อฺาณํ. ตตฺถ ปน ‘‘อสิเว สิวา’’ติ โวหาโร วิย าณโวหาโร. มิจฺฉาสภาวตฺตา ปน มิจฺฉาาณํตฺเวว วุจฺจติ. เอกูนวีสติเภทํ ปจฺจเวกฺขณาณํ สมฺมา เปกฺขิตตฺตา สมฺมาาณํ วุจฺจติ, อิตรํ ปน ฌานาทิปจฺจเวกฺขณาณํ สมฺมาทิฏฺิยาว สงฺคยฺหติ. รูปารูปสมาปตฺติลาภิตามตฺเตน วฏฺฏโต อวิมุตฺตาเยว สมานา ‘‘วิมุตฺตา มย’’นฺติ เอวํสฺิโน. ปกติปุริสนฺตราณสงฺขาตายํ, คุณวิยุตฺตสฺส อตฺตโน สกตฺตนิ อวฏฺานสงฺขาตายํ, อตฺตโน มหาพฺรหฺมุนา สโลกตา ตสฺส สมีปตาสํยุชฺชนสงฺขาตายํ วา อวิมุตฺติยํ วิมุตฺติสฺิโน. เอกนฺตากุสลตาย หีนตฺตา ปาปิกา. อยาถาวตาย วิปรีตา. ยถาวุตฺเตนาติ ‘‘อวิมุตฺตาเยว สมานา’’ติ วุตฺตปฺปกาเรน. ‘‘มยเมตฺถ สมฺมาทิฏฺิ ภวิสฺสามา’’ติอาทีสุ ผลสมฺมาทิฏฺิอาทีนิปิ มคฺคสมฺมาทิฏฺิอาทิปกฺขิกาเนวาติ อธิปฺปาเยน ‘‘ผลสมฺปยุตฺตานิ…เป… เวทิตพฺพา’’ติ วุตฺตํ. สพฺเพปิ ปน ผลธมฺเม วิมุตฺติกฺขนฺธสงฺคหโต ‘‘วิมุตฺตี’’ติ วุจฺจมาเน น โกจิ วิโรโธ. เอตฺถ สมฺมาวิมุตฺติสงฺขาเต สลฺเลขวตฺถุมฺหิ.

ยทิ นีวรณวเสน วุตฺตานิ, ตสฺมา ตีเณว วุตฺตานีติ อาห ‘‘อภิชฺฌาลู’’ติอาทิ. ปริยุฏฺานปฺปตฺตา ถินมิทฺธปริยุฏฺิตา. ยสฺส ธมฺมสฺส อตฺถิตาย อุทฺธตา นาม โหนฺติ, โส ธมฺโม อุทฺธจฺจนฺติ อาห ‘‘อุทฺทจฺเจน สมนฺนาคตาติ อุทฺธตา’’ติ. วิจินนฺตาติ ธมฺโมติ วา อธมฺโมติ วา อาทินา ยํ กิฺจิ สภาวํ วินิจฺฉินนฺตา. อุปนาหนสีลาติ ปรสฺส อตฺตโน จิตฺเต อนุพนฺธนสีลา. อิสฺสนฺตีติ อุสูยนฺติ. สยนฺตีติ สา อฺถา อตฺตานํ อฺถา ปเวทนกา. เต ปน ยสฺมา น ยถาภูตวาทิโน, ตสฺมา อาห ‘‘น สมฺมา ภาสนฺตีติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. วุตฺตปจฺจนีกนเยนาติ ‘‘น โกธนา อกฺโกธนา’’ติอาทินา วุตฺตอตฺถปฏิปกฺขนเยน.

ทุกฺขํ วโจ เอเตสุ วิปฺปฏิกูลคฺคาหิตาย วิปจฺจนีกคาเหสูติ ทุพฺพจา. เต ปน วจนกฺขมา น โหนฺตีติ อาห ‘‘วตฺตุํ ทุกฺขา’’ติอาทิ. หีนาจารตาย ทุกฺขสฺส วา สมฺปาปกตาย ปาปกา. อสทฺธมฺมวเสนาติ อสปฺปุริสธมฺมวเสน. อตฺตนา วิเสสิตพฺพวเสน กายวิฺตฺติอาทีนํ กายกมฺมทฺวาราทิภาโว วิย อสฺสทฺธิยาทิอสทฺธมฺมสมนฺนาคเมนอสตํ อสปฺปุริสานํ ธมฺมานนฺติ ตานิเยว อสฺสทฺธิยาทีนิ อสทฺธมฺมา นาม, เตสํ วเสนาห ‘‘สทฺธา เอเตสํ นตฺถี’’ติ ยถา ตํ ‘‘ทุปฺปฺา’’ติ. สุตฺตเคยฺยาทิ อปฺปํ สุตํ เอเตสนฺติ อปฺปสฺสุตา, สุเตน อนุปปนฺนา. นตฺถีติ คเหตพฺพนฺติ อิมินา อภาวตฺโถ อยํ อปฺป-สทฺโท ‘‘อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสาน’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๑๐.๑๑) วิยาติ ทสฺเสติ. สมฺมาปฏิปตฺติยา อนารมฺภนโต กุจฺฉิตา คารยฺหา สีทนฺติ โอสีทนฺติ สํกิเลสปกฺเขติ กุสีตา ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา. อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย อารทฺธํ ปคฺคหิตํ วีริยํ เอเตสนฺติ อารทฺธวีริยา. อนุปฺปาทเนน มุฏฺา นฏฺา สติ เอเตสนฺติ มุฏฺสฺสตี. ทุฏฺาติ ทูสิตา. ทุปฺปฺา นาม ทูสิตภาโว ปฏิปกฺเขน วินาสิตภาโวติ อาห ‘‘นฏฺปฺาติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. เหฏฺา สมฺมาทิฏฺิคฺคหเณน กมฺมสฺสกตาปฺาย มคฺคสมฺมาทิฏฺิยา จ คหิตตฺตา สุพฺพจกลฺยาณมิตฺตตาปริวาราหิ อิธ สทฺธาทีหิ วิปสฺสนาสมฺภารสฺส อุทฺธฏตฺตา จ วุตฺตํ ‘‘อิธ วิปสฺสนาปฺา เวทิตพฺพา’’ติ. เตนาห ‘‘วิปสฺสนาสมฺภาโร หี’’ติอาทิ. ยุตฺตึ อนเปกฺขิตฺวาปิ อยมตฺโถ คเหตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โปราณานํ อาณา’’ติ.

โลกุตฺตรคุณานํ อนฺตรายกรนฺติ โลกุตฺตรคุณานํ อธิคมสฺส อนฺตรายกรํ. สนฺทิฏฺินฺติ สํ อตฺตโน ทิฏฺึ, ยํ วา ตํ วา อตฺตนา ยถาคหิตทิฏฺินฺติ อตฺโถ. สภาวํ อติกฺกมิตฺวา ปรโต อามสนโต ปรามาสี. ทฬฺหคฺคาหีติ ‘‘อิทเมว สจฺจ’’นฺติ ถิรคฺคาหคฺคาหี. ปฏินิสฺสคฺคีติ ปฏินิสฺสชฺชนโก. กุมฺโมวาติ ยถา กจฺฉโป อตฺตโน ปาทาทิเก องฺเค เกนจิ ฆฏฺฏิโต สพฺพานิ องฺคานิ อตฺตโน กปาเลเยว สโมทหติ, น พหิ นีหรติ, เอวมยมฺปิ ‘‘น สุนฺทโร ตว คาโห, ฉฑฺเฑหิ น’’นฺติ วุตฺโต ตํ น วิสฺสชฺเชติ. อนฺโตเยว อตฺตโน หทเย เอว เปตฺวา ตํ วทติ. กุมฺภีลคฺคาหนฺติ สํสุมารคฺคาหํ. คณฺหนฺตีติ ยถา สํสุมารา คหิตํ น วิสฺสชฺเชนฺติ, เอวํ คณฺหนฺติ.

๘๔. เอวํจตุจตฺตาลีสาย อากาเรหีติ อวิหึสนาทีหิ จตุอธิกจตฺตาลีสปฺปกาเรหิ. กสฺมา ปเนตฺถ อวิหึสา อาทิโต วุตฺตา? สพฺพคุณานํ มูลภาวโต. อวิหึสาติ หิ กรุณาเยตํ อธิวจนํ, สา จ วิเสสโต สีลสฺส มูลการณํ ปรูปฆาตลกฺขณา ทุสฺสีลฺยา โอรมาปนโต. ยถา หิ ปาณาติปาโต ปรูปฆาตลกฺขโณ, ตถา ปเรสํ สาปเตยฺยาวหรณํ, สตฺติปฺปหารโตปิ ธนสฺสาวหาโร ครุตโรติ. ตถา อพฺรหฺมจริยํ คพฺภธารณาทิทุกฺขาวหนโต, ปรทาราติกฺกเม ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ปเรสํ วิสํวาทนเภทนมมฺมฆฏฺฏนานํ ปรูปฆาตภาโว ปากโฏ เอว, สมฺผปฺปลาโป อตฺถคฺคาหาปนโต อนตฺถุปฺปาทนโต, อภิชฺฌา อทินฺนาทานาทิเหตุโต, พฺยาปาโท ปาณาติปาตาทิเหตุโต, มิจฺฉาทิฏฺิ สพฺพานตฺถเหตุโต ปรูปฆาตลกฺขณา, มิจฺฉาทิฏฺิ ธมฺมิกปฏิฺโปิ ปาณาติปาตาทีนิ กโรติ, ปเร จ ตตฺถ นิโยเชติ, กิมงฺคํ ปน อิตเร. วิหึสลกฺขณา ทุสฺสีลฺยา โอรมา อวิหึสลกฺขณา วิเสสโต สีลสฺส พลวการณํ. สีลปทฏฺาโน จ สมาธิ, สมาธิปทฏฺานา จ ปฺาติ สพฺพคุณานํ มูลภูตา อวิหึสา. อปิจ อุฬารชฺฌาสยานํ นิสมฺมการีนํ ธีรานํ อุตฺตมปุริสานํ สีลํ วิย สมาธิปฺาปิ ปเรสํ หิตสุขาวหาว สมฺปชฺชนฺตีติ เอวมฺปิ กรุณา สพฺพคุณานํ มูลนฺติ สา อาทิโต วุตฺตา.

ตโต ปรํ วิเสสโต ‘‘อวิหึสาสมุฏฺานา อิเม ธมฺมา’’ติ ทสฺสนตฺถํ กุสลกมฺมปถธมฺมา คหิตา. ตโต อิทํ คุณานํ มูลภูตํ สีลํ, เอตฺถ ปติฏฺิเตน อิเม ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพาติ ทสฺสนตฺถํ อฏฺ สมฺมตฺตา คหิตา. เตสํ วิโสธนาย ปฏิปนฺนสฺส อาทิโต เอวํ โหตีติ ทสฺสนตฺถํ นีวรณวิเวโก คหิโต, อาทิโต นีวรณทฺวยสฺส อคฺคหเณ คหิตาคหิตการณํ อฏฺกถาย วุตฺตเมว. โกธสฺส ปน พฺยาปาทโต เภโท วตฺถสุตฺตวณฺณนายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๗๑) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. โกธาทิปฺปหาเนน เจตฺถ สลฺเลขสิทฺธีติ ทสฺสนตฺถํ ตโต อุปกฺกิเลสวิสุทฺธิ คหิตา. สา จ สุพฺพจกลฺยาณมิตฺตอปฺปมตฺตตาหิ สิชฺฌตีติ ทสฺสนตฺถํ ปกิณฺณกา คหิตา. สมฺปนฺนโสวจสฺสตาทิคุณสฺส อิเม ธมฺมา ปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, วิปสฺสนํ ปริพฺรูเหตฺวา อริยมคฺคาธิคมาย สํวตฺตนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ สทฺธมฺมา คหิตา. เอวํภูตสฺส อยํ มิจฺฉาคาโห โลกุตฺตรคุณาธิคมสฺส อนฺตรายกโร, ตสฺมา โส ทูรโต วชฺเชตพฺโพ, เอวํ ยถาวุตฺตาย สมฺมาปฏิปตฺติยา อริยมคฺคํ อธิคจฺฉนฺโต สลฺเลขํ มตฺถกํ ปาเปตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘สนฺทิฏฺิปรามาสี’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ เอวเมเตสํ จตุจตฺตาลีสาย สลฺเลขาการานํ คหณปโยชนํ อนุปุพฺพี จ เวทิตพฺพา. ปโยคโต สลฺเลขปฏิปทํ ปฏิปชฺชิตุํ อสกฺโกนฺตานํ จิตฺตุปฺปาโทปิ พหูปกาโรติ อาห ‘‘จิตฺตุปฺปาทสฺสปิ พหูปการตํ ทสฺเสตุ’’นฺติ.

กุสเลสุธมฺเมสูติ อวิหึสาทีสุ ยถาวุตฺตอนวชฺชธมฺเมสุ. อนุวิธิยนาติ จิตฺตุปฺปาทสฺส กายวาจาหิ อนุวิธานา. เตสํ ธมฺมานนฺติ อวิหึสาทิธมฺมานํ, เตสํ วา จิตฺตุปฺปาทวเสน ปวตฺตธมฺมานํ. อิทานิ ยถาวุตฺตธมฺมํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘กสฺมา ปนา’’ติอาทิ อารทฺธํ. สรณคมนํ วาจาย วิฺาเปตุํ อสกฺโกนฺตสฺส วเสน วุตฺตํ ‘‘กาเยน วา’’ติ. ‘‘สีลํ กาเยน สมาทิยตี’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ ตถา ตถา ปวตฺตสลฺลหุกกามาวจรกุสลจิตฺตุปฺปตฺตึ อุปาทาย ตถารูปกุสลกายวจีกมฺมานํ พหูปการตา วุตฺตาติ น สภาวโต จิตฺตุปฺปาทสฺส พหูปการตํ ายตีติ ทฏฺพฺพํ.

๘๕. หิตาธิคมายาติ ทิฏฺธมฺมิกาทิหิตสมฺปตฺติยา, อริยมคฺคาธิคมาย เอว วา. อริยมคฺโค หิ เอกนฺตหิตตฺตา หิโต นาม. ปริวชฺชนวเสน กมนํ ปวตฺติ ปริกฺกมนนฺติ อาห ‘‘ปริกฺกมนาย ปริวชฺชนตฺถายา’’ติ. สมฺมาทสฺสนุปายสํวิธาเนน อวิหึสา ปฏิยตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน. สุเขเนวาติ อกิจฺเฉเนว. เอเตเนว อุปาเยนาติ เอเตเนว อวิหึสาปเท วุตฺเตน วิธินา. สพฺพปทานีติ เสสานิ เตจตฺตาลีส ปทานิ.

๘๖. อกุสลา ปฏิสนฺธิอชนกา นาม อุทฺธจฺจสหคตจิตฺตุปฺปาทธมฺมา อฺเปิ ปวตฺติวิปากมตฺตทายิโน, ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา วิปากชนกา, ปจฺจยเวกลฺเลน วิปจฺจิตุํ อลทฺโธกาสา อโหสิกมฺมาทโย วา อชนกา. ชาติวเสนาติ อกุสลชาติวเสน. อโธภาคงฺคมนียาติ อปายคมนียา. เอวํนามาติ นามคฺคหเณน สภาวํ อุปลกฺเขติ สติ ปจฺจยสมวาเย ตํสภาวานติวตฺตนโต. เตนาห ‘‘วิปากกาเล อนิฏฺากนฺตวิปากตฺตา’’ติ. วุตฺตนเยเนว กุสลปกฺโข เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส, อิธ ปฏิสนฺธิอชนกา อภิฺาสหคตธมฺมา, เสสํ วุตฺตสทิสเมว. สพฺเพ อกุสลาติ เอตฺถ วิหึสเมกํ เปตฺวา อิตเร สพฺเพ อกุสลา อุปมาภูตา. วิหึสา หิ อุปเมยฺยํ. สพฺเพ กุสลาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เอเตเนว อุปาเยนาติ ยถา วิหึสานํ อุปเมยฺยตา, ตทวเสสานํ กุสลากุสลานํ อุปมาภาโว วุตฺโต, อิมินา นเยน อกุสลํ ปาณาติปาตาทิอกุสเลน อิตเรน, กุสลฺจ ปาณาติปาตาปฏิวิรติอาทิกุสเลน อิตเรน อุปเมตพฺพํ.

๘๗. ปรินิพฺพาปเนติ กิเลสปริฬาหวูปสมเน. ปริโต ลิมฺปนฏฺเน ปลิปํ วุจฺจติ มหากทฺทมํ, ตํ ปน เอกนฺตโต คมฺภีรมฺปิ โหตีติ ‘‘คมฺภีรกทฺทเมนิมุคฺโค’’ติ วุตฺตํ. ปลิปํ วิย ปลิปนฺติ ปฺจ กามคุณา วุจฺจนฺติ, ตสฺมา เอวํ อิทานิ วุจฺจมาเนน อุปโมปเมยฺยสํสนฺทนนเยน เอตฺถ อิมสฺมึ าเน อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา. น หิ ตํ การณนฺติ เอตฺถ การณํ นาม หตฺถสฺส วา ปาทสฺส วา อปลิปนฺนภาโว, โส ปน นตฺถิ. เอส นโย อุปเมยฺเยปิ.

ตตฺถ สิยา กสฺสจิ ปริวิตกฺโก ‘‘ภควโต เทสนานุภาเวน ภิกฺขุอาทโย กเถนฺตี’’ติ. ‘‘ภควาเยว หิ ตตฺถ อุทฺธรตี’’ติ วตฺวา อุปมาย ตทตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘รฺโ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปุถุชฺชนา ตาวติฏฺนฺตุ, สาวกสิขาปฺปตฺตวิเสสานมฺปิ อริยานํ เทสนา สตฺถุเยว เทสนาติ ทสฺเสตุํ ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิมาห. ตถา หิ เตหิ เทสิตสุตฺตานิ พุทฺธวจนเมว, เตสํ เทสนาย ลทฺธวิเสสาปิ อริยา พุทฺธปุตฺตาเยวาติ.

อนิพฺพิสตายาติ อนิพฺพิเสวนตาย. อสิกฺขิตวินยตายาติ ปฺจนฺนํ วินยานํ สาทรํ อสิกฺขิตภาเวน. เต ปน วินยา ติสฺสนฺนํ สิกฺขานํ สิกฺขาปเนน โหตีติ อาห ‘‘ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขาเปสฺสตี’’ติ. กึ ปน ตนฺติ? ‘‘านเมตํ วิชฺชตี’’ติ เอตฺถ วุตฺตํ กึ ปน านนฺติ อาห ‘‘อปลิปปลิปนฺนตฺต’’นฺติอาทิ. ยสฺมา ปาฬิยํ ‘‘โส วต จุนฺทา’’ติอาทินา สามฺตฺถํ อุปมาภาเวน คเหตฺวา วิเสสตฺโถ อุปเมยฺยภาเวน วุตฺโต, ตสฺมา ตมตฺถํ ‘‘เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติอาทินา สาธารณโต วตฺวา ปุน อสาธารณโต วิวรนฺโต ‘‘กึ วุตฺตํ โหตี’’ติอาทิมาห. ปรสฺส วิหึสาเจตนํ นิพฺพาเปสฺสตีติ อิทํ โย อวิหึสาสงฺขาตํ สมฺมาปฏิปตฺตึ ทิสฺวา ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺโต ธมฺมเทสนาย ปโร อวิหึสโก โหติ, ตาทิสํ สนฺธาย วุตฺตํ. อาเทสนฺหิ ตสฺส วจนนฺติ. เตนาห ‘‘อยํ ยา เอสา วิหึสกสฺสา’’ติ. ปุพฺเพ วิหึสกสฺส มิจฺฉาปฏิปชฺชนฺตสฺส. วิหึสาปหานาย มคฺคํ ภาวยโตติอาทินา อตฺตโน เอว อวิหึสาย วิหึสาปรินิพฺพานาย สํวตฺตนมาห. เตนาห ‘‘ปรินิพฺพุโต วิยา’’ติอาทิ. สพฺพปเทสูติ ‘‘ปาณาติปาติสฺสา’’ติอาทินา อาคเตสุ เตจตฺตาลีสาย ปเทสุ.

๘๘. เอวนฺติ เทสิตาการปรามสนํ. ตสฺสาติ สลฺเลขสฺส. ‘‘อตฺถิ ขฺเวส พฺราหฺมณ, ปริยาโย’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๘.๑๑; ปารา. ๓-๑๐) วิย ปริยาย-สทฺโท การณตฺโถติ อาห ‘‘สลฺเลขการณ’’นฺติ. เตสํ วเสนาติ สลฺเลขานํ วเสน. เมตฺตาย อุปสํหรณวเสน หิตํ เอสนฺเตน. กรุณาย วเสน อนุกมฺปมาเนน. ปริคฺคเหตฺวาติ ปริโต คเหตฺวา, ปริตฺวาติ อตฺโถ. ปริจฺจาติ ปริโต อิตฺวา, สมนฺตโต ผริตฺวา อิจฺเจว อตฺโถ. มา ปมชฺชิตฺถาติ ‘‘ฌายถา’’ติ วุตฺตสมถวิปสฺสนานํ อฺาเณน, อฺเน วา เกนจิ ปมาทการเณน มา ปมาทํ อาปชฺชิตฺถ. นิยฺยานิกสาสเน หิ อกตฺตพฺพกรณมฺปิ ปมาโทติ. วิปตฺติกาเลติ สตฺตอสปฺปายาทิวิปตฺติยุตฺตกาเล. ยถาวุตฺตา ปฺจ ปริยายา อฺเปิ สพฺเพ สาสนคุณา อิเธว สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ อาห ‘‘ฌายถ, มา ปมาทตฺถาติ ตุมฺหากํ อนุสาสนี’’ติ.

สลฺเลขสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๙. สมฺมาทิฏฺิสุตฺตวณฺณนา

๘๙. กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาเอวาติ อวธารเณน อิตรา จตสฺโส ปุจฺฉา นิวตฺเตติ อิตราสํ อสมฺภวโต, ตตฺถ ยถาปุจฺฉิตสฺส อตฺถสฺส วิสฺสชฺชนโต จ ‘‘อยํ สมฺมาทิฏฺี’’ติ ยาถาวโต อชานนฺตาปิ ปุถุชฺชนา พาหิรกตาปสาทโย อตฺตโน สมานสีเล ิตํ สมฺมาทิฏฺีติ วทนฺติ. อนุสฺสวาทิวเสนาปีติ อนุสฺสวาการปริวิตกฺกทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติวเสนปิ. ยถาสมงฺคิตาการสฺส อตฺถสฺส เอวเมตนฺติ นิชฺฌานกฺขมาปนโต เอกนฺตโต ยาถาวคฺคาโห โหตีติ อาห ‘‘อตฺตปจฺจกฺเขนปี’’ติ, ยาถาวโต ลกฺขณสฺส ปฏิวิทฺธตฺตา อตฺตโน ปจฺจกฺขภาเวนาติ อตฺโถ. พหุนฺนํ วจนํ อุปาทายาติ อิมินา สาสเน โลเก จ นิรุฬฺหตาย อยํ อาเมฑิตปโยโคติ สาสนสฺส นิรุฬฺหตาย จ สมฺปสาทํ อุปาทายปิ ตทุภยิโก อาเมฑิตปโยโค ทฏฺพฺโพ. อตฺถนฺติ วจนตฺถํ. ลกฺขณนฺติ สภาวํ. อุปาทายาติ คเหตฺวา. โสภนายาติ สุนฺทราย. ปสตฺถายาติ ปสํสาย. เตสุ ปุริเมน ธมฺมานํ ยถาสภาวาวโพธสงฺขาตํ สมฺมาทิฏฺิสภาวํ ทสฺเสติ. เตน หิ สา สพฺพธมฺเม อภิภวิตฺวา โสภติ. ทุติเยน สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ ปริณายิกภาวํ. เตน หิ สา สมฺปยุตฺตธมฺเม าณมเย วิย ตํสมงฺคินฺจ ปุคฺคลํ าณปิณฺฑํ วิย กโรติ, ตสฺส ‘‘ปณฺฑิโต นิปุโณ เฉโก วิฺู วิภาวี’’ติอาทินา ทิสาสุ ปสํสา ปตฺถรติ.

กมฺมสฺสกตาาณนฺติ กมฺมํ สโก เอตสฺสาติ กมฺมสฺสโก, ตสฺส ภาโว กมฺมสฺสกตา, ตตฺถ าณํ ‘‘อิทํ กมฺมํ สตฺตานํ สกํ, อิทํ โน สก’’นฺติ เอวํ ชานนาณํ. สจฺจานุโลมิกาณนฺติ อริยสจฺจานํ ปฏิเวธสฺส อนุโลมโต สจฺจานุโลมิกํ าณํ, วิปสฺสนาาณํ. โน สจฺจานุโลมิกายาติ พาหิรโก สจฺจานุโลมิกาย สมฺมาทิฏฺิยา โน สมฺมาทิฏฺิ สพฺเพน สพฺพํ ตสฺส อภาวโต. ตตฺถ การณมาห ‘‘อตฺตทิฏฺิปรามาสกตฺตา’’ติ. กมฺมสฺส กตาทิฏฺิ ปน พาหิรกสฺส อตฺตทิฏฺึ อนุรุชฺฌนฺตี ปวตฺตติ ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺติโต. สาสนิโก ทฺวีหิปีติ สาสนิโก ปุถุชฺชโน กมฺมสฺสกตาาณาทีหิ ทฺวีหิปิ สมฺมาทิฏฺิ. โอกฺกนฺตสมฺมตฺตนิยามตฺตา ‘‘เสกฺโข นิยตายา’’ติ วุตฺตํ. อเสกฺขาย สมฺมาทิฏฺิยา สมฺมาทิฏฺีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตีสุปิ ปุคฺคเลสุ เสกฺโข อิธ สมฺมาทิฏฺีติ อธิปฺเปโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิยตาย นิยฺยานิกายา’’ติอาทิมาห.

อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ ปาฬิยา วิภาเวตุํ ‘‘เตเนวาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อนฺตทฺวยนฺติ ‘‘สสฺสตํ, อุจฺเฉทํ, กามสุขํ, อตฺตกิลมถ’’นฺติ เอตํ อนฺตทฺวยํ. ลีนุทฺธจฺจปติฏฺานายูหนนฺตทฺวยสฺส อนุปคมนํ อตฺถสิทฺธเมว. อุชุภาเวนาติ อุชุสภาเวน มคฺเคน, มชฺฌิมาย ปฏิปตฺติยาติ อตฺโถ. ธมฺเม ปสาทคฺคหเณน สตฺถริ สงฺเฆ จ ปสาโทปิ คหิโตเยว โหตีติ ‘‘ธมฺเม’’อิจฺเจว วุตฺโต ตทวินาภาวโต. ยสฺมา เอส นิยตาย สมฺมาทิฏฺิยา สมนฺนาคโต สมฺมาทิฏฺีติ อธิปฺเปโต, ตฺจ วฏฺฏโต นิยฺยานํ วิวฏฺฏาธิคเมน โหตีติ อาห ‘‘อาคโต อิมํ สทฺธมฺม’’นฺติ. นิพฺพานฺหิ สนฺโต สทา วิชฺชมาโน ธมฺโมติ กตฺวา สทฺธมฺโมติ อิมํ ผเลหิ อสาธารเณน ปริยาเยน วตฺตพฺพตํ ลภติ. ตยิทมสฺส อาคมํ สจฺฉิกิริยาภิสมโย, โส จ ปหานาภิสมยาทีหิ สเหว อิธ อิชฺฌตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺพทิฏฺิคหนานี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺพทิฏฺิคหนานิ วินิพฺเพเนฺโต สพฺพกิเลเส ปชหนฺโตติ ปททฺวเยน ปน ปหานาภิสมยมาห, ชาติสํสารา นิกฺขมนฺโตติ อิมินา ปริฺาภิสมยํ. สมติกฺกมตฺโถ หิ ปริฺตฺโถ. ปฏิปตฺตึ ปรินิฏฺเปนฺโตติ อิมินา ภาวนาภิสมยนฺติ ทฏฺพฺพํ.

กาลปริจฺเฉทวจนนฺติ ปริจฺฉิชฺชตีติ ปริจฺเฉโท, กาโล เอว ปริจฺเฉโท กาลปริจฺเฉโท, โย โส อกุสลปชานนาทินา ปริจฺฉินฺโน มคฺควุฏฺานกาโล มคฺคกฺขโณ, ตสฺส วจนนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ยสฺมึ กาเล’’ติ. อกุสลฺจาติ -สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. เตน วกฺขมานํ อกุสลมูลาทึ สมุจฺจิโนติ. ทสากุสลกมฺมปถนฺติ กุโตยํ วิเสโส, ยาวตา อนิทฺธาริตวิเสสํ อกุสลํ คหิตนฺติ? น สามฺโชตนาย วิเสเส อวฏฺานโต. กึ วา อิมาย ยุตฺติจินฺตาย, ยสฺมา ปมวาเรน อุทฺเทสวเสน เทสิตสฺส อตฺถสฺส วิตฺถารเทสนา ทุติยวาโร. เตเนวาห ‘‘กตมํ ปนาวุโส’’ติอาทิ. ยสฺมา โลกุตฺตรา สมฺมาทิฏฺิ อิธ อธิปฺเปตา, ตสฺมา นิโรธารมฺมณาย ปชานนาย มคฺคปฺาย กิจฺจวเสน สมฺโมหโต ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ทสอกุสลกมฺมปถํ ปฏิวิชฺฌนฺโต ‘‘อกุสลํ ปชานาตี’’ติ วุจฺจตีติ อตฺโถ. ตสฺสาติ อกุสลกมฺมปถสงฺขาตสฺส ทุกฺขสฺส. เตเนว ปกาเรนาติ ‘‘นิโรธารมฺมณาย ปชานนาย กิจฺจวเสนา’’ติ วุตฺตปฺปกาเรน.

กุสลนฺติ เอตฺถายํ วจนตฺโถ – กุจฺฉิเต ปาปธมฺเม สลยติ จลยติ กมฺเปตีติ กุสลํ, กุจฺฉิเตน วา อากาเรน สยนฺตีติ กุสา, ปาปกา ธมฺมา. เต กุเส ลุนาติ ฉินฺทตีติ กุสลํ. กุจฺฉิตานํ วา สานโต ตนุกรณโต าณํ กุสํ นาม, เตน ลาตพฺพํ คเหตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ กุสลํ. ยถา วา กุโส อุภยภาคคตํ หตฺถปเทสํ ลุนาติ, เอวมิทํ อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนวเสน อุภยภาคคตํ สํกิเลสปกฺขํ ลุนาติ ฉินฺทติ, ตสฺมา กุโส วิย ลุนาตีติ กุสลํ. กุจฺฉิตานํ วา สาวชฺชธมฺมานํ สลนโต สํวรณโต กุสลํ. กุสลธมฺมวเสน หิ อกุสลา มนจฺฉฏฺเสุ ทฺวาเรสุ อปฺปวตฺติยา สํวุตา โหนฺติ. กุจฺฉิเต วา ปาปธมฺเม สลยติ คเมติ อปเนตีติ กุสลํ. กุจฺฉิตานํ วา ปาณาติปาตาทีนํ สานโต นิสานโต เตชนโต กุสา, โทสโลภาทโย. สาทีนววเสน เจตนาย ติกฺขภาวปฺปตฺติยา ปาณาติปาตาทีนํ มหาสาวชฺชตา. เต กุเส ลุนาติ ฉินฺทตีติ กุสลํ. กุจฺฉิตานํ วา สานโต อนฺตกรณโต วินาสนโต กุสานิ, ปุฺกิริยวเสน ปวตฺตานิ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ. เตหิ ลาตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ กุสลํ. ‘‘กุ’’อิติ วา ภูมิ วุจฺจติ, อธิฏฺานภาเวน ตํสทิสสฺส อตฺตโน นิสฺสยภูตสฺส รูปารูปปพนฺธสฺส สมฺปติ อายติฺจ อนุทเหน วินาสนโต กุํ สสนฺตีติ กุสา, ราคาทโย. เต วิย อตฺตโน นิสฺสยสฺส ลวนโต ฉินฺทนโต กุสลํ. ปโยคสมฺปาทิตา หิ กุสลธมฺมา อจฺจนฺตเมว รูปารูปธมฺเม อปฺปวตฺติกรเณน สมุจฺฉินฺทนฺติ. กุสลสฺส มูลนฺติ กุสลมูลํ, สุปฺปติฏฺิตภาวสาธเนน กุสลสฺส ปติฏฺา นิทานนฺติ อตฺโถ. อกุสลมูลนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

อกุสลนฺติ ปน น กุสลํ อกุสลํ, กุสลธมฺมานํ ปฏิปกฺขวเสน อกุสลนฺติ ปทสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวฺหิ อาโรคฺยานวชฺชสุขวิปากโกสลฺลสมฺภูตฏฺเน กุสลํ วุจฺจตีติ. ยถา ยํ ธมฺมชาตํ น อโรคํ น อวชฺชํ น สุขวิปากํ น จ โกสลฺลสมฺภูตํ, ตํ อกุสลนฺติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต โหติ. เอวํ ยํ น กุจฺฉิตานํ สลนสภาวํ, น กุเสน, กุเสหิ วา ปวตฺเตตพฺพํ, น จ กุโส วิย ลวนกํ, ตํ อกุสลํ นามาติ อยมฺปิ อตฺโถ ทสฺสิโตติ เวทิตพฺโพ. วตฺถุปชานนาติ ทุกฺขาทิวตฺถุโน ปชานนา ปฏิเวโธ. ตถา พุชฺฌนกปุคฺคลานํ อชฺฌาสยวเสน เทสนา ปวตฺตาติ อาห ‘‘อกุสลาทิปชานเนนาปี’’ติ. เตเนว จ สํขิตฺเตน เทสนา ปวตฺตา. ภาวนามนสิกาโร ปน ‘‘สพฺพํ ภิกฺขเว อภิฺเยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๔๖; ปฏิ. ม. ๑.๓) วจนโต อนวเสสโต รูปารูปธมฺมานํ ปริคฺคหวเสเนว ปวตฺตติ. เตนาห ‘‘เทสนาเยวา’’ติอาทิ. ตตฺถ มนสิการปฏิเวโธติ ปุพฺพภาเค ปวตฺตวิปสฺสนามนสิกาโร อริยมคฺคปฏิเวโธ จ. กสฺสจิ อโกปนโต วิตฺถารวเสเนว วุตฺตํ วิปสฺสนํ อนุยุฺชนฺตา มคฺคํ ปฏิวิชฺฌนฺตาปิ วิตฺถารนเยเนว ปฏิวิชฺฌนฺตีติ อตฺโถ วิสุทฺธิกฺกมสฺส อภาวโต.

ภิกฺขูติ มหาวิหาเร ธมฺมสงฺคีติวเสน ปฺจนิกายมณฺฑเล นิสินฺนภิกฺขู. เถโรติ ตตฺถ สงฺฆตฺเถโรติ วทนฺติ. วตฺถสุตฺตวณฺณนายํ วุตฺตนเยน ปน มหาสงฺฆรกฺขิตตฺเถรสฺส อนฺเตวาสิกภิกฺขู สนฺธาย ‘‘อาหํสู’’ติ วุตฺตํ. เถโรติ ปน มหาสงฺฆรกฺขิตตฺเถโร. โส หิ อิมสฺมึ มชฺฌิมนิกาเย ตํ ตํ วินิจฺฉยํ กเถสิ. ราสิโตติ ปิณฺฑโต, เอกชฺฌนฺติ อตฺโถ.

อกุสลกมฺมปถวณฺณนา

อโกสลฺลปฺปวตฺติยาติ โกสลฺลปฏิปกฺขโต อโกสลฺลํ วุจฺจติ อฺาณํ, ตโต ปวตฺตนโต, อโกสลฺลสมฺภูตตฺตาติ อตฺโถ. าณปฏิปกฺโข อฺาณํ มิตฺตปฏิปกฺโข อมิตฺโต วิย กุสลปฏิปกฺโข อกุสลํ กุสเลน ปหาตพฺพตฺตา, น ปน กุสลานํ ปหายตตฺตา. กุสลเมว หิ ปโยคสมฺปาทิตํ อกุสลํ ปชหติ. สห อวชฺเชหิ โลภาทีหิ วตฺตตีติ สาวชฺชํ. ทุกฺโข อนิฏฺโ จตุกฺขนฺธ-สงฺขาโต วิปาโก เอตสฺสาติ ทุกฺขวิปากํ. ตตฺถ สาวชฺชวจเนน อกุสลานํ ปวตฺติทุกฺขตํ ทสฺเสติ, ทุกฺขวิปากวจเนน วิปากทุกฺขตํ. ปุริมฺหิ ปวตฺติสมฺภววเสน อกุสลสฺส ลกฺขณวจนํ, ปจฺฉิมํ ตาลนฺตเร วิปากุปฺปาทนสมตฺถตาวเสน. ตถา ปุริเมน อกุสลสฺส อวิสุทฺธสภาวตํ ทสฺเสติ, ปจฺฉิเมน อวิสุทฺธวิปากตํ. ปุริเมน อกุสลํ กุสลสภาวโต นิวตฺเตติ, ปจฺฉิเมน อพฺยากตสภาวโต สวิปากตฺตทีปกตฺตา ปจฺฉิมสฺส. ปุริเมน วา อวชฺชวนฺตตาทสฺสนโต กิจฺจฏฺเน รเสน อนตฺถชนนรสตํ ทสฺเสติ, ปจฺฉิเมน สมฺปตฺติอตฺเถน อนิฏฺวิปากรสตํ. ปุริเมน จ อุปฏฺานาการฏฺเน ปจฺจุปฏฺาเนน สํกิเลสปจฺจุปฏฺานตํ, ปจฺฉิเมน ผลฏฺเน ทุกฺขวิปากปจฺจุปฏฺานตํ. ปุริเมน จ อโยนิโสมนสิการํ อกุสลสฺส ปทฏฺานํ ปกาเสติ. ตโต หิ ตํ สาวชฺชํ ชาตํ, ปจฺฉิเมน อกุสลสฺส อฺเสํ ปทฏฺานภาวํ วิภาเวติ. ตฺหิ ทุกฺขวิปากสฺส การณนฺติ. สํกิลิฏฺนฺติ สํกิเลเสหิ สมนฺนาคตํ, ทสหิ กิเลสวตฺถูหิ วิพาธิตํ, อุปตาปิตํ วา เตหิ วิทูสิตํ มลีนกตฺจาติ อตฺโถ. อิทฺจสฺส ทุกฺขวิปากตฺจาติ อตฺเถ อิทฺจ ทุกฺขวิปากตํ อปจฺจกฺขตาย อสทฺทหนฺตานํ ปจฺจกฺขโต อาทีนวทสฺสเนน สํเวชนตฺถํ วุตฺตํ. สาธารณา สพฺพสฺสปิ อกุสลสฺส.

สรเสเนว (ธ. ส. มูลฏี. ๑) ปตนสภาวสฺส อนฺตรา เอว อตีว ปาตนํ อติปาโต, สณิกํ ปติตุํ อทตฺวา สีฆํ ปาตนนฺติ อตฺโถ. อติกฺกมฺมวา สตฺถาทีหิ อภิภวิตฺวา ปาตนํ อติปาโต. ปโยควตฺถุมหนฺตตาทีหิ มหาสาวชฺชตา เตหิ ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชมานาย เจตนาย พลวภาวโต. เอกสฺส หิ ปโยคสฺส สหสา นิปฺผาทนวเสน สกิจฺจสาธิกาย พหุกฺขตฺตุํ ปวตฺตชวเนหิ ลทฺธาเสวนาย จ สนฺนิฏฺาปกเจตนาย วเสน ปโยคสฺส มหนฺตภาโว. สติปิ กทาจิ ขุทฺทเก เจว มหนฺเต จ ปาเณ ปโยคสฺส สมภาเว มหนฺตํ หนนฺตสฺส เจตนา ติพฺพาการา อุปฺปชฺชตีติ วตฺถุสฺส มหนฺตภาโว. อิติ อุภยมฺเปตํ เจตนาย พลวภาเวเนว โหตีติ. ยถาวุตฺตปจฺจยปริยาเยปิ ตํตํปจฺจเยหิ เจตนาย พลวตาย เอว มหาสาวชฺชภาโว เวทิตพฺโพ. ปโยควตฺถุอาทิปจฺจยานฺหิ อมหตฺเตปิ หนฺตพฺพสฺส คุณวนฺตตาย มหาสาวชฺชตา, ตพฺพิปริยาเยน อปฺปสาวชฺชตา จ วตฺถุสฺส มหตฺตามหตฺเตสุ วิย ทฏฺพฺพา. กิเลสานํ อุปกฺกมานํ ทฺวินฺนฺจ มุทุตาย ติพฺพตาย จ อปฺปสาวชฺชตา มหาสาวชฺชตาปิ โยเชตพฺพา. ปาโณ ปาณสฺิตา วธกจิตฺตฺจ ปุพฺพภาคิยาปิ โหนฺติ, อุปกฺกโม วธกเจตนาสมุฏฺาปิโต. ปฺจ สมฺภารา หิ ปาณาติปาตเจตนาติ สา ปฺจสมฺภารวินิมุตฺตา ทฏฺพฺพา. อยฺจ วิจาโร อทินฺนาทานาทีสุปิ ยถารหํ วตฺตพฺโพ. วิชฺฌนปหรณาทิวเสน สหตฺเถนนิพฺพตฺโต สาหตฺถิโก, อาณาปนวเสน ปวตฺโต อาณตฺติโก, อุสุสตฺติยนฺตปาสาณาทินิสฺสชฺชนวเสน ปวตฺโต นิสฺสคฺคิโย, อทุหลสชฺชนาทิวเสน ปวตฺโต ถาวโร, อาถพฺพณิกาทีนํ วิย มนฺตปริชปฺปนวเสน ปวตฺโต วิชฺชามโย, กมฺมวิปากชิทฺธิมโย อิทฺธิมโย ทาาโกฏนาทีนิ วิย.

ยทิ ‘‘มม อิท’’นฺติ ปเรน ปริคฺคหิตํ อทินฺนํ, อุตฺตานเสยฺยกทารกสนฺตเก กถํ ตสฺส ปริคฺคหสฺาย เอว อภาวโตติ อาห ‘‘ยตฺถ ปโร’’ติอาทิ. ปโร นาม วิฺู วา อวิฺู วา อตฺถิ ตสฺส วตฺถุสฺส สามิโก. อวิฺูปิ หิ วิฺุกาเล ยถากามํ กโรนฺโต อทณฺฑารโหติ. มนฺตปริชปฺปเนน ปรสนฺตกหรณํ วิชฺชามโย, วินา มนฺเตน ปรสนฺตกสฺส กายวจีปโยเคหิ ปริกฑฺฒนํ ตาทิเสนิทฺธิวเสน อิทฺธิมโย ปโยโคติ อทินฺนาทาเน ฉ ปโยคาสาหตฺถิกาทโย วุตฺตา. ยถานุรูปนฺติ เอตฺถ สาหตฺถิโก ตาว ปฺจนฺนมฺปิ อวหารานํ วเสน ปวตฺตติ, ตถา อาณตฺติโย นิสฺสคฺคิโย จ. ถาวโร เถยฺยาวหารปสยฺหาวหารปฏิจฺฉนฺนาวหารวเสน. ตถา เสสาปีติ ทฏฺพฺพํ.

เมถุนสมาจาเรสูติ สทาราสนฺโตส-ปรทารคมนวเสน ทุวิเธสุ เมถุนสมาจาเรสุ. อยเมวหิ เภโท อิธาธิปฺเปโต. โคตฺตรกฺขิตา สโคตฺเตหิ รกฺขิตา. ธมฺมรกฺขิตา สหธมฺมิเกหิ รกฺขิตา. สารกฺขา สสามิกา. ยสฺสา คมเน รฺา ทณฺโฑ ปิโต, สา สปริทณฺฑา. ภริยภาวตฺถํ ธเนน กีตา ธนกฺกีตา. ฉนฺเทน วสนฺตี ฉนฺทวาสินี. โภคตฺถํ วสนฺตี โภควาสินี. ปฏตฺถํ วสนฺตี ปฏวาสินี. อุทกปตฺตํ อามสิตฺวา คหิตา โอทปตฺตกินี. จุมฺพฏกํ อปเนตฺวา คหิตา โอภฏจุมฺพฏา. กรมรานีตา ธชาหตา. ตงฺขณิกา มุหุตฺติกา. อภิภวิตฺวา วีติกฺกเม มิจฺฉาจาโร มหาสาวชฺโช, น ตถา ทฺวินฺนํ สมานฉนฺทตาย. อภิภวิตฺวา วีติกฺกมเน สติปิ มคฺเคนมคฺคปฏิปตฺติอธิวาสเน ปุริมุปฺปนฺนเสวนาภิสนฺธิปโยคาภาวโต มิจฺฉาจาโร น โหติ อภิภุยฺยมานสฺสาติ วทนฺติ. เสวนาจิตฺเต สติ ปโยคาภาโว อปฺปมาณํ เยภุยฺเยน อิตฺถิยา เสวนาปโยคสฺส อภาวโต. ตถา สติ ปุเรตรํ เสวนาจิตฺตสฺส อุปฏฺาเนปิ ตสฺสา มิจฺฉาจาโร น สิยา, ตถา ปุริสสฺสปิ เสวนาปโยคาภาเวติ, ตสฺมา อตฺตโน รุจิยา ปวตฺติตสฺส วเสน ตโย, พลกฺกาเรน ปวตฺติตสฺส วเสน ตโยติ สพฺเพปิ อคฺคหิตคฺคหเณน จตฺตาโร สมฺภาราติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อตฺถภฺชโกติ กมฺมปถวเสน วุตฺตํ. กมฺมปถกถา เหสาติ. อสฺสาติ วิสํวาทกสฺส. มุสา วทติ เอเตนาติ เจตนา มุสาวาโท, อิมสฺมึ ปกฺเข อตถากาเรน วตฺถุโน วิฺาปนปโยโค มุสา, ตํสมุฏฺาปิกา เจตนามุสาวาโทติ วุตฺตตฺตา ตโต อฺถา วตฺตุํ ‘‘อปโร นโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. อตฺตโน สนฺตกํ อทาตุกามตายาติอาทิ มุสาวาทสามฺเน วุตฺตํ. หสาธิปฺปาเยนปิ วิสํวาทนปุรกฺขารสฺส มุสาวาโท. ปรสฺสาติ วิสํวาทนวเสน วิฺาเปตพฺพสฺส. โสติ มุสาวาทปโยโค.

สุฺภาวนฺติ ปีติวิรหิตตาย ริตฺตภาวํ. ผรุสสทฺทตาย เนว กณฺณสุขา. อตฺถวิปนฺนตาย น หทยสุขา. สํกิลิฏฺจิตฺตสฺสาติ โทเสน, โลเภน วา ทูสิตจิตฺตสฺส.

เอกนฺตผรุสา เจตนาติ เอเตน ทุฏฺจิตฺตตํเยว วิภาเวติ, ทุฏฺจิตฺตตา จสฺส อมรณาธิปฺปายวเสน ทฏฺพฺพา. สติ หิ มรณาธิปฺปาเย อตฺถสิทฺธิ, ตทภาเว ปาณาติปาตพฺยาปาทา สิยุนฺติ. ยํ ปฏิจฺจ ผรุสวาจา ปยุชฺชติ, ตสฺส สมฺมุขาว สีสํ เอติ. ปรมฺมุขาปิ สีสํ เอติ เอวาติ อปเร. ตตฺถายํ อธิปฺปาโย ยุตฺโต สิยา – สมฺมุขา ปโยเค อคารวาทีนํ พลวภาวโต สิยา เจตนา พลวตี, ปรสฺส จ ตทตฺถวิฺาปนํ, น ตถา อสมฺมุขาติ. ยถา จ อกฺโกสิเต มเต อาฬหเน กตา ขมาปนา อุปวาทนฺตรายํ นิวตฺเตติ, เอวํ ปรมฺมุขา ปยุตฺตา ผรุสวาจา โหติเยวาติ สกฺกา วิฺาตุํ. ตสฺสาติ เอกนฺตผรุสเจตนาย เอว ผรุสวาจาภาวสฺส อาวิภาวตฺถํ. มมฺมจฺเฉทโก สวนผรุสตายาติ อธิปฺปาโย. จิตฺตสณฺหาตาย ผรุสวาจา น โหติ กมฺมปถา’ปฺปตฺตตฺตา, กมฺมภาวํ ปน น สกฺกา วาเรตุํ. เอวํ อนฺวยวเสน เจตนาผรุสตาย ผรุสวาจํ สาเธตฺวา อิทานิ ตเมว พฺยติเรกวเสน สาเธตุํ ‘‘วจนสณฺหตายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอสาติ ผรุสวาจา. กมฺมปถภาวํ อปฺปตฺตา อปฺปสาวชฺชา, อิตรา มหาสาวชฺชา. ตถา กิเลสานํ มุทุติพฺพตาเภเทหิ สพฺพํ ปุริมสทิสํ.

อาเสวนํ พหุลีกรณํ. ยํ อุทฺทิสฺส ปวตฺติโต, เตน อคฺคหิเต อปฺปสาวชฺโช, คหิเต มหาสาวชฺโช กมฺมปถปฺปตฺติโต. โย โกจิ ปน สมฺผปฺปลาโป ทฺวีหิ สมฺภาเรหิ สิชฺฌติ. กิเลสานํ มุทุติพฺพตาวเสนปิ อปฺปสาวชฺชมหาสาวชฺชตา เวทิตพฺพา.

อตฺตโน ปริณามนํ จิตฺเตเนวาติ เวทิตพฺพํ. หิตสุขํ พฺยาปาทยตีติ โย ตํ อุปฺปาเทติ, ตสฺส หิตสุขํ วินาเสติ. อโห วตาติ อิมินา อจฺจนฺตวินาสจินฺตนํ ทีเปติ. เอวํ หิสฺส ทารุณปวตฺติยา กมฺมปถปฺปตฺติ. ยถาภุจฺจคหณาภาเวนาติ ยาถาวคฺคาหสฺส อภาเวน อนิจฺจาทิสภาวสฺส นิจฺจาทิโต คหเณน. มิจฺฉา ปสฺสตีติ วิตถํ ปสฺสติ. สมฺผปฺปลาโป วิยาติ อิมินา อาเสวนสฺส มนฺทตาย อปฺปสาวชฺชตํ, มหนฺตตาย มหาสาวชฺชตํ ทสฺเสติ. คหิตาการวิปรีตตาติ มิจฺฉาทิฏฺิยา คหิตาการสฺส วิปรีตภาโว. วตฺถุโนติ ตสฺสา อยถาภูตสภาวมาห. ตถาภาเวนาติ คหิตากาเรเนว ตสฺส ทิฏฺิคติกสฺส, ตสฺส วา วตฺถุโน อุปฏฺานํ เอวเมตํ, น อิโต อฺถาติ.

ธมฺมโตติ สภาวโต. โกฏฺาสโตติ ผสฺสปฺจมกาทีสุ จิตฺตงฺคโกฏฺาเสสุ ยํ โกฏฺาสา โหนฺติ, ตโตติ อตฺโถ. เจตนาธมฺมาติ เจตนาสภาวา.

ปฏิปาฏิยา สตฺตาติ เอตฺถ นนุ เจตนา อภิธมฺเม กมฺมปเถสุ น วุตฺตาติ ปฏิปาฏิยา สตฺตนฺนํ กมฺมปถภาโว น ยุตฺโตติ? น, อวจนสฺส อฺเหตุกตฺตา. น หิ ตตฺถ เจตนาย อกมฺมปถตฺตา กมฺมปถราสิมฺหิ อวจนํ, กทาจิ ปน กมฺมปโถ โหติ, น สพฺพทาติ กมฺมปถภาวสฺส อนิยตตฺตา อวจนํ. ยทา ปน กมฺมปโถ โหติ, ตทา กมฺมปถราสิสงฺคโห น นิวาริโต. เอตฺถาห – ยทิ เจตนาย สพฺพทา กมฺมปถภาวาภาวโต อนิยโต กมฺมปถภาโวติ กมฺมปถราสิมฺหิ อวจนํ, นนุ อภิชฺฌาทีนํ กมฺมปถภาวํ อปฺปตฺตานํ อตฺถิตาย อนิยโต กมฺมปถภาโวติ เตสมฺปิ กมฺมปถราสิมฺหิ อวจนํ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ กมฺมปถตาตํสภาคตาหิ เตสํ ตตฺถ วุตฺตตฺตา. ยทิ เอวํ เจตนาปิ ตตฺถ วตฺตพฺพา สิยา? สจฺจเมตํ, สา ปน ปาณาติปาตาทิกาติ ปากโฏ, ตสฺสา กมฺมปถภาโวติ น วุตฺตา สิยา. เจตนาย หิ – ‘‘เจตนาหํ, ภิกฺขเว, กมฺมํ วทามิ (อ. นิ. ๖.๖๓; กถา. ๕๓๙), ติวิธา, ภิกฺขเว, กายสฺเจตนา อกุสลํ กายกมฺม’’นฺติอาทิวจนโต (กถา. ๕๓๙) กมฺมภาโว ปากโฏ, กมฺมํเยว จ สุคติทุคฺคตีนํ ตตฺถ อุปฺปชฺชนกสุขทุกฺขานฺจ ปถภาเวน ปวตฺตํ กมฺมปโถติ วุจฺจตีติ ปากโฏ ตสฺสา กมฺมปถภาโว, อภิชฺฌาทีนํ ปน เจตนาสมีหนภาเวน สุจริตทุจฺจริตภาโว เจตนาชนิตปิฏฺิวฏฺฏกภาเวน สุคติทุคฺคติตทุปฺปชฺชนกสุขทุกฺขานํ ปถภาโว จาติ น ตถา ปากโฏ กมฺมปถภาโวติ เตเยว เตน สภาเวน ทสฺเสตุํ อภิธมฺเม เจตนา กมฺมปถราสิภาเวน น วุตฺตา , อตถาชาติยกตฺตา วา เจตนา เตหิ สทฺธึ น วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. มูลํ ปตฺวาติ มูลเทสนํ ปตฺวา, มูลสภาเวสุ ธมฺเมสุ วุจฺจมาเนสูติ อตฺโถ.

อทินฺนาทานํ สตฺตารมฺมณนฺติ อิทํ ‘‘ปฺจ สิกฺขาปทา ปริตฺตารมฺมณา เอว วา’’ติ อิมาย ปฺหปุจฺฉกปาฬิยา วิรุชฺฌติ. ยฺหิ ปาณาติปาตาทิทุสฺสีลฺยสฺส อารมฺมณํ, ตเทว ตํ เวรมณิยา อารมฺมณํ. วีติกฺกมิตพฺพวตฺถุโต เอว หิ วิรตีติ. สตฺตารมฺมณนฺติ วา สตฺตสงฺขาตํ สงฺขารารมฺมณเมว อุปาทาย วุตฺตนฺติ นายํ วิโรโธ. ตถา หิ วุตฺตํ สมฺโมหวิโนทนิยํ (วิภ. อฏฺ. ๗๑๔) ‘‘ยานิ สิกฺขาปทานิ เอตฺถ สตฺตารมฺมณานีติ วุตฺตานิ, ตานิ ยสฺมา สตฺโตติ สงฺขฺยํ คตํ สงฺขารเมว อารมฺมณํ กโรนฺตี’’ติ. วิสภาควตฺถุโน ‘‘อิตฺถี, ปุริโส’’ติ คเหตพฺพโต สตฺตารมฺมโณติ เอเก. ‘‘เอโก ทิฏฺโ, ทฺเว สุตา’’ติอาทินา สมฺผปฺปลปเน ทิฏฺสุตมุตวิฺาตวเสน. ตถา อภิชฺฌาติ เอตฺถ ตถา-สทฺโท ‘‘ทิฏฺสุตมุตวิฺาตวเสนา’’ติ อิทมฺปิ อุปสํหรติ, น สตฺตสงฺขารารมฺมณตํ เอว ทสฺสนาทิวเสน อภิชฺฌายนโต. ‘‘นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา’’ติ ปวตฺตมานาปิ มิจฺฉาทิฏฺิ เตภูมกธมฺมวิสยาวาติ อธิปฺปาเยนสฺสา สงฺขารารมฺมณตา วุตฺตา. กถํ ปน มิจฺฉาทิฏฺิยา สพฺเพ เตภูมกธมฺมา อารมฺมณํ โหนฺตีติ? สาธารณโต. ‘‘นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’ติ หิ ปวตฺตมานาย อตฺถโต รูปารุปาวจรธมฺมาปิ คหิตา เอว โหนฺตีติ.

สุขพหุลตาย ราชาโน หสมานาปิ ‘‘โจรํ ฆาเตถา’’ติ วทนฺติ, หาโส ปน เตสํ อฺวิสโยติ อาห ‘‘สนฺนิฏฺาปก…เป… โหตี’’ติ.

เกสฺจีติ สหชาตานํ อทินฺนาทานาทีนํ. สมฺปยุตฺตปภาวกฏฺเนาติ สมฺปยุตฺโต หุตฺวา อุปฺปาทกฏฺเน. เกสฺจีติ อสหชาตานํ. อุปนิสฺสยปจฺจยฏฺเนาติ เอเตน มูลฏฺเน โลภสฺส อุปการตํ นิวตฺเตติ. สุปฺปติฏฺิตภาวสาธนฏฺโ หิ มูลฏฺโ, โส จ เหตุปจฺจยตาอวินาภาวี, เตน เจตฺถ มูลมิว มูลนฺติ คเหตพฺพํ, นิปฺปริยายโต ปน ปุพฺเพ ‘‘เกสฺจี’’ติ วุตฺตานํ สหชาตานํ มูลภาโว เวทิตพฺโพ. รตฺโต โขติอาทินา สุตฺตปเทนปิ ปาณาติปาตาทีนํ อกุสลานํ โลภสฺส มูลการณตํ วิภาเวติ, น มูลฏฺเนุปการตฺถํ อวิเสสโต เตสํ เหตุปจฺจยตฺตาภาวโต.

อกุสลกมฺมปถวณฺณนา นิฏฺิตา.

กุสลกมฺมปถวณฺณนา

เวรนฺติ ปาณาติปาตาทิปาปธมฺมํ. โส หิ เวรเหตุตาย ‘‘เวร’’นฺติ วุจฺจติ, ตํ มณติ ‘‘มยิ อิธ ิตาย กถมาคจฺฉสี’’ติ ตชฺเชนฺตี วิย นิวาเรตีติ เวรมณี. เตนาห ‘‘ปชหตี’’ติ. ‘‘วิรมณี’’ติ วตฺตพฺเพ นิรุตฺตินเยน เอว-การํ กตฺวา เอวํ วุตฺตํ. วิภงฺเค (วิภ. ๗๐๓, ๗๐๔) เอว นิทฺทิสนวเสน เอวํ วุตฺตา. อสมาทินฺนสีลสฺส สมฺปตฺตโต ยถาอุปฏฺิตวีติกฺกมิตพฺพวตฺถุโต วิรติ สมฺปตฺตวิรติ, สมาทานวเสน อุปฺปนฺนา วิรติ สมาทานวิรติ, สมาทานวเสน อุปฺปนฺนา วิรติ สมาทานวิรติ, กิเลสานํ สมุจฺฉินฺทนวเสน ปวตฺตาวิรติ สมุจฺเฉทวิรติ.

ชีวมานสสสฺส มํสรุธิรสมฺมิสฺสตาย อลฺลสสมํสํ. มุฺจิ สพฺพตฺถ สมกรุณตาย. สจฺจํ วตฺวา ‘‘เอเตน สจฺจวชฺเชน มยฺหํ มาตุ โรโค สมฺมตู’’ติ อธิฏฺาสิ.

มหาสปฺโปติ อชคโร. มุฺจิตฺวา อคมาสิ สีลเตเชน.

โกสลฺลํ วุจฺจติ าณํ, โกสลฺเลน, โกสลฺลโต วา ปวตฺติยา อุปคมนโต. กุจฺฉิตสยนโตติ กุจฺฉิเตนากาเรน สยนโต อนุสยนโต, ปวตฺตนโต วา. ‘‘เวรมณิกุสลา’’ติ วตฺตพฺพาปิ ปุจฺฉานุรูปํ วิสฺสชฺชนนฺติ ‘‘กุสลา’’ติ น วุตฺตา, ‘‘กุสล’’นฺตฺเวว วุตฺตา.

กามฺเจตฺถ ปาฬิยํ วิรติโยว อาคตา, สิกฺขาปทวิภงฺเค (วิภ. ๗๐๔) ปน เจตนาปิ อาหริตฺวา ทีปิตาติ ตทุภยมฺปิ คณฺหนฺโต ‘‘เจตนาปิ วฏฺฏนฺติ วิรติโยปี’’ติ อาห.

อนภิชฺฌา หิ มูลํ ปตฺวา กมฺมปถโกฏฺาสํ ปตฺวา อนภิชฺฌาติ วุตฺตธมฺโม มูลโต อโลโภ กุสลมูลํ โหตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย.

ทุสฺสีลฺยารมฺมณา ตทารมฺมณา ชีวิตินฺทฺริยาทิอารมฺมณา กถํ ทุสฺสีลฺยานิ ปชหนฺตีติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

อนภิชฺฌา…เป… วิรมนฺตสฺสาติ อภิชฺฌํ ปชหนฺตสฺสาติ อตฺโถ. น หิ มโนทุจฺจริตโต วิรติ อตฺถิ อนภิชฺฌาทีเหว ตปฺปหานสิทฺธิโต. เตสุ อโลโภติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ อกุสลมูเลสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

อปฺปนาวารนฺติ นิคมนวารํ. เอเกน นเยนาติ เวทนาทิวเสน อรูปมุเขเนว อเนกวิเธสุ วิปสฺสนากมฺมฏฺาเนสุ เอเกน กมฺมฏฺานนเยน. ‘‘เปตฺวา อภิชฺฌํ นว อกุสลกมฺมปถา’’ติ วตฺตพฺพํ. ทสาติ วา อิทํ ‘‘กุสลกมฺมปถา’’ติ อิมินา สมฺพนฺธิตพฺพํ ‘‘อกุสลกมฺมปถา จ ทส กุสลกมฺมปถา จา’’ติ. ‘‘เปตฺวา อภิชฺฌ’’นฺติ หิ อิมินาว อกุสลกมฺมปถานํ นวภาโว วุตฺโต โหติ. อถ วา ทสาติ อิทํ อุภยถาปิ สมฺพนฺธิตพฺพํ. อภิชฺฌา หิ ปหาตพฺพาปิ สติ ปริฺเยฺยตํ นาติวตฺตตีติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘รูปตณฺหา ปิยรูปํ สาตรูป’’นฺติอาทิ, ตสฺมา สา ตาย ปริฺเยฺยตาย ทุกฺขสจฺเจปิ สงฺคหํ ลภเตว, ปหาตพฺพํ ปน อุปาทาย ‘‘เปตฺวา อภิชฺฌ’’นฺติ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘ปริยาเยน ปน สพฺเพปิ กมฺมปถา ทุกฺขสจฺจ’’นฺติ. อภิชฺฌาโลภานํ ปวตฺติอาการสิทฺธเภทํ อุปาทาย ‘‘อิเม ทฺเว ธมฺมา’’ติ วุตฺตํ. สุตฺตนฺตนเยน ตณฺหา ‘‘สมุทยสจฺจ’’นฺติ วุตฺตาติ อาห ‘‘นิปฺปริยาเยน สมุทยสจฺจ’’นฺติ. อปฺปวตฺตีติ อปฺปวตฺตินิมิตฺตมาห ยถา ‘‘ราคกฺขโย โทสกฺขโย’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๑๔). สปฺปจฺจยตาย สงฺขตสภาเว ทุกฺขสจฺเจ คหิเต อปฺปจฺจยตาย อสงฺขตํ นิโรธสจฺจํ ปฏิปกฺขโต อาวตฺตติ, เอกนฺตสาวชฺเช อาจยคามิลกฺขเณ สมุทยสจฺเจ คหิเต สาวชฺชา วิคมนํ อปจยคามิลกฺขณํ มคฺคสจฺจํปฏิปกฺขโต อาวตฺตตีติ ทฺเว อาวตฺตหารวเสน เวทิตพฺพานีติ วุตฺตํ. เตเนวาห เนตฺติยํ (เนตฺติ. ๔.นิทฺเทสวาร) –

‘‘เอกมฺหิ ปทฏฺาเน, ปริเยสติ เสสกํ ปทฏฺานํ;

อาวตฺตติ ปฏิปกฺเข, อาวตฺโต นาม โส หาโร’’ติ.

สพฺพากาเรนาติ กามราครูปราคาทิสพฺพปฺปกาเรหิ, สพฺพโต วา อปายคมนียาทิอาการโต, ตตฺถ กิฺจิปิ อนวเสเสตฺวา วา. สพฺพากาเรเนวาติ สพฺพาการโต. นีหริตฺวาติ อปเนตฺวา, สมุจฺฉินฺทิตฺวาอิจฺเจว อตฺโถ. กฺจิ ธมฺมํ อนวการีกริตฺวาติ รูปเวทนาทีสุ กฺจิ เอกธมฺมมฺปิ อวินิพฺโภคํ กตฺวา, เอเกกโต อคฺคเหตฺวา สมูหโตว คเหตฺวาติ อตฺโถ. อสฺมีติ อหมสฺมีติ มานคฺคาหวเสน. โส ปน ยสฺมา ปฺจกฺขนฺเธ นิรวเสสโต คณฺหาติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมูหคฺคหณากาเรนา’’ติ. ยสฺมา เจตฺถ อคฺคมคฺคจิตฺตํ วุจฺจติ, ตสฺมา อาห ‘‘ทิฏฺิสทิสํ มานานุสย’’นฺติ. ‘‘ยํ รูปํ ตํ อห’’นฺติอาทินา ยถา ทิฏฺิ รูปาทึ ‘‘อหมสฺมี’’ติ คณฺหนฺตี ปวตฺตติ, เอวํ มาโนปิ ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินาติ อาห ‘‘มานานุสโย อสฺมีติ ปวตฺตตฺตา ทิฏฺิสทิโส’’ติ. ปริจฺเฉทกโรติ โอสานปริจฺเฉทกโร อิโต ปรํ ทุกฺขสฺสาภาวกรณโต. กมฺมปถเทสนายาติ กมฺมปถมุเขน ปวตฺตจตุสจฺจเทสนาย. มนสิการปฺปฏิเวธวเสนาติ วิปสฺสนามนสิการมคฺคปฺปฏิเวธวเสน.

กุสลกมฺมปถวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

อาหารวารวณฺณนา

๙๐. อาหรตีติ (สํ. นิ. ฏี. ๒.๒.๑๑) อาเนติ, อุปฺปาเทติ อุปตฺถมฺเภติ จาติ อตฺโถ. นิพฺพตฺตาติ ปสุตา. ตโต ปฏฺาย หิ โลเก ชาตโวหาโร. ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปน ปฏฺาย ยาว มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมนํ, ตาว สมฺภเวสิโน. เอส ตาว คพฺภเสยฺยเกสุ ภูตสมฺภเวสิวิภาโค, อิตเรสุ ปน ปมจิตฺตาทิวเสน วุตฺโต. สมฺภว-สทฺโท เจตฺถ คพฺภเสยฺยกานํ วเสน ปสูติปริยาโย, อิตเรสํ วเสน อุปฺปตฺติปริยาโย. ปมจิตฺตปมอิริยาปถกฺขเณสุ หิ เต สมฺภวํ อุปฺปตฺตึ เอสนฺติ อุปคจฺฉนฺติ นาม, น ตาว ภูตา อุปฺปตฺติยา น สุปฺปติฏฺิตตฺตา. ภูตาเยว สพฺพโส ภเวสนาย สมุจฺฉินฺนตฺตา. น ปุน ภวิสฺสนฺตีติ อวธารเณน นิวตฺติตมตฺถํ ทสฺเสติ, ‘‘โย จ กาลฆโส ภูโต’’ติอาทีสุ (ชา. ๑.๒.๑๙๐) ภูต-สทฺทสฺส ขีณาสววาจิตา ทฏฺพฺพา. วา-สทฺโท เจตฺถ สมฺปิณฺฑนตฺโถ ‘‘อคฺคินา วา อุทเกน วา’’ติอาทีสุ (อุทา. ๗๖) วิย.

ยถาสกํ ปจฺจยภาเวน อตฺตภาวสฺส ปฏฺปนเมเวตฺถอาหาเรหิ กาตพฺพอนุคฺคโหติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘วจนเภโท…เป… เอโกเยวา’’ติ. สตฺตสฺส อุปฺปนฺนธมฺมานนฺติ สตฺตสฺสสนฺตาเน อุปฺปนฺนธมฺมานํ. ยถา ‘‘วสฺสสตํ ติฏฺตี’’ติ วุตฺเต อนุปฺปพนฺธวเสน ปวตฺตตีติ วุตฺตํ โหติ, เอวํ ิติยาติ อนุปฺปพนฺธวเสน ปวตฺติยาติ อตฺโถ, สา ปน อวิจฺเฉโทติ อาห ‘‘อวิจฺเฉทายา’’ติ. อนุปฺปพนฺธธมฺมุปฺปตฺติยา สตฺตสนฺตาโน อนุคฺคหิโต นาม โหตีติ อาห ‘‘อนุปฺปนฺนานํ อุปฺปาทายา’’ติ. เอตานีติ ิติอนุคฺคหปทานิ. อุภยตฺถ ทฏฺพฺพานิ, น ยถาสงฺขฺยํ.

วตฺถุคตา โอชา วตฺถุ วิย เตน สทฺธึ อาหริตพฺพตํ คจฺฉตีติ วุตฺตํ ‘‘อชฺโฌหริตพฺพโต อาหาโร’’ติ. นิพฺพตฺติตโอชํ ปน สนฺธาย ‘‘กพฬีการาหาโร โอชฏฺมกรูปานิ อาหรตี’’ติ วกฺขติ. โอฬาริกตา อปฺโปชตาย, น วตฺถุโน ถูลตาย, กถินตาย วา, ตสฺมา ยสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปริตฺตา โอชา โหติ, ตํ โอฬาริกํ. สปฺปาทโย ทุกฺขุปฺปาทกตาย โอฬาริกาเวทิตพฺพา. วิสาณาทีนํ ติวสฺสฉฑฺฑิตานํ ปูติภูตฺตตา มุทุกตาติ วทนฺติ, ตรจฺฉเขฬเตมิกตาย ปน ตถาภูตานํ เตสํ มุทุกตา. ธมฺมสภาโว เหส. สสานํอาหาโร สุขุโม ตรุณติณสสฺสขาทนโต. สกุณานํ อาหาโร สุขุโม ติณพีชาทิขาทนโต. ปจฺจนฺตวาสีนํ สุขุโม, เตสฺหิ สากปณฺณสุกฺขกุรปทุมปตฺตมฺปิ อาหาโรติ. เตสํ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ. สุขุโมตฺเววาติ น กิฺจิ อุปาทาย, อถ โข สุขุโม อิจฺเจว นิฏฺํ ปตฺโต ตโต ปรํ สุขุมสฺส อภาวโต.

วตฺถุวเสน ปเนตฺถ อาหารสฺส โอฬาริกสุขุมตา วุตฺตา, สา จสฺส อปฺโปชมโหชตาหิ เวทิตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริสฺสมนฺติ ขุทาวเสน อุปฺปนฺนํ สรีรเขทํ. วิโนเทตีติ วตฺถุ ตสฺส วิโนทนมตฺตํ กโรติ. น ปน สกฺโกติ ปาเลตุนฺติ สรีรํ ยาเปตุํ นปฺปโหติ นิสฺสารตฺตา. น สกฺโกติ ปริสฺสมํ วิโนเทตุํ อามาสยสฺส อปูรณโต.

ฉพฺพิโธปีติ อิมินา กสฺสจิปิ ผสฺสสฺส อนวเสสิตพฺพตมาห. อาหารสฺสเทสนากฺกเมเนเวตฺถ ผสฺสาทีนํ ทุติยาทิตา, น อฺเน การเณนาติ อาห ‘‘เทสนานโย เอวา’’ติอาทิ. มนโส สฺเจตนา, น สตฺตสฺสาติ ทสฺสนตฺถํ มโนคหณํ ยถา ‘‘จิตฺตสฺส ิติ (ธ. ส. ๑๑), เจโตวิมุตฺติ จา’’ติ (ม. นิ. ๑.๖๙) อาห ‘‘มโนสฺเจตนาติ เจตนา เอวา’’ติ. จิตฺตนฺติ ยํ กิฺจิ จิตฺตํ, น วิปากวิฺาณเมว.

ปุพฺเพ ‘‘อาหารนฺติ ปจฺจย’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘ยทิ ปจฺจยฏฺโ อาหารฏฺโ’’ติอาทินา โจเทติ. อถ กสฺมา อิเมเยว จตฺตาโร วุตฺตาติ อถ กสฺมา จตฺตาโรว วุตฺตา, อิเม เอว จ วุตฺตาติ โยชนา. วิเสสปจฺจยตฺตาติ เอเตน ยถา อฺเ ปจฺจยธมฺมา อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส ปจฺจยาว โหนฺติ, อิเม ปน ตถา จ โหนฺติ อฺถา จาติ สมาเนปิ ปจฺจยตฺเต อติเรกปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมา อาหาราติ วุตฺตาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ. อิทานิ ตํ อติเรกปจฺจยตํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิเสสปจฺจโย หี’’ติอาทิ อารทฺธํ. วิเสสปจฺจโย รูปกายสฺส กพฬีกาโร อาหาโร อุปตฺถมฺภกภาวโต. เตนาห อฏฺกถายํ (วิสุทฺธิ. ๒.๗๐๘; ปฏฺา. อฏฺ. ปจฺจยุทฺเทสวณฺณนา) ‘‘รูปารูปานํ อุปตฺถมฺภกตฺเตน อุปการกา จตฺตาโร อาหารา อาหารปจฺจโย’’ติ. อุปตฺถมฺภกตฺตฺหิ สติปิ ชนกตฺเต อรูปีนํ อาหารานํ อาหารชรูปสมุฏฺาปกรูปาหารสฺส จ โหติ, อสติ ปน อุปตฺถมฺภกตฺเต อาหารานํ ชนกตฺตํ นตฺถีติ อุปตฺถมฺภกตฺตํ ปธานํ. ชนยมาโนปิ หิ อาหาโร อวิจฺเฉทวเสน อุปตฺถมฺภยมาโน เอว ชเนตีติ อุปตฺตมฺภกภาโว เอว อาหารภาโว. เวทนาย ผสฺโส วิเสสปจฺจโย. ‘‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติ หิ วุตฺตํ. ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ (อุทา. ๑; ม. นิ. ๓.๑๒๖) วจนโต วิฺาณสฺสมโนสฺเจตนา. ‘‘เจตนา ติวิธํ ภวํ ชเนตี’’ติ หิ วุตฺตํ. ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ ปน วจนโต นามรูปสฺส วิฺาณํ วิเสสปจฺจยา. น หิ โอกฺกนฺติวิฺาณาภาเว นามรูปสฺส อตฺตสมฺภโว. ยถาห ‘‘วิฺาณฺจ หิ, อานนฺท, มาตุกุจฺฉิสฺมึ น โอกฺกมิสฺสถ, อปิ นุ โข นามรูปํ มาตุกุจฺฉิสฺมึ สมุจฺจิสฺสถา’’ติอาทิ (ที. นิ. ๒.๑๑๕). วุตฺตเมวตฺถํ สุตฺเตน สาเธตุํ ‘‘ยถาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

เอวํ ยทิปิ ปจฺจยฏฺโ อาหารฏฺโ, วิเสสปจฺจยตาย ปน อิเม เอว อาหาราติ วุตฺตาติ ตํ เนสํ วิเสสปจฺจยตํ อวิภาคโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘โก ปเนตฺถา’’ติอาทิ อารทฺธํ. มุเข ปิตมตฺโตเยว อสงฺขาทิโต, ตตฺตเกนปิ อพฺภนฺตรสฺส อาหารสฺส ปจฺจโย โหติ เอว. เตนาห ‘‘อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปตี’’ติ. สุขเวทนาย หิโต สุขเวทนิโย. สพฺพถาปีติ จกฺขุสมฺผสฺสาทิวเสน. ยตฺตกา ผสฺสสฺส ปการเภทา, เตสํ วเสน สพฺพปฺปกาโรปิ ผสฺสาหาโร. ยถารหํ ติสฺโส เวทนา อาหรติ, อนาหารโก นตฺถิ.

สพฺพถาปีติ อิธาปิ ผสฺสาหาเร วุตฺตนยานุสาเรน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ติสนฺตติวเสนาติ กายทสกํ ภาวทสกํ วตฺถุทสกนฺติ ติวิธสนฺตติวเสน. สหชาตาทิปจฺจยนเยนาติ สหชาตาทิปจฺจยวิธินา. ปฏิสนฺธิวิฺาณฺหิ อตฺตนา สหชาตนามสฺส สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากินฺทฺริยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ ปจฺจโย โหนฺโตเยว อาหารปจฺจยตาย ตํ อาหาเรตี วุตฺตํ, สหชาตรูเปสุ ปน วตฺถุโน สมฺปยุตฺตปจฺจยํ เปตฺวา วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน, เสสรูปสฺส อฺมฺปจฺจยฺจ เปตฺวา วุตฺตนเยเนวโยชนา กาตพฺพา. ตานีติ นปุํสกนิทฺเทโส อนปุํสกานมฺปิ นปุํสเกหิ สห วจนโต.

สาสวากุสลากุสลเจตนาว วุตฺตา. วิเสสปจฺจยภาวทสฺสนํ เหตนฺติ. เตนาห ‘‘อวิเสเสน ปนา’’ติอาทิ. ปฏิสนฺธิวิฺาณเมว วุตฺตนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ยถา ตสฺส ตสฺส ผลสฺส วิเสสโต ปจฺจยตาย เอเตสํ อาหารฏฺโ, เอวํ อวิเสสโตปีติ ทสฺสนฺเตน ‘‘อวิเสเสน ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตํสมฺปยุตฺตตํสมุฏฺานธมฺมานนฺติ เตหิ ผสฺสาทีหิ สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว ตํสมุฏฺานรูปธมฺมานฺจ. ตตฺถ สมฺปยุตฺตคฺคหณํ ยถารหโต ทฏฺพฺพํ, สมุฏฺานคฺคหณํ ปน อวิเสสโต.

อุปตฺถมฺเภนฺโต อาหารกิจฺจํ สาเธตีติ อุปตฺถมฺเภนฺโตเยว รูปํ สมุฏฺาเปติ, โอชฏฺมกรูปสมุฏฺาปเนเนว ปนสฺส อุปตฺถมฺภนกิจฺจสิทฺธิ. ผุสนฺโตเยวาติ ผุสนกิจฺจํ กโรนฺโต เอว. อายูหมานาวาติ เจตยมานา เอว อภิสนฺทหนฺตี เอว. วิชานนฺตเมวาติ อุปปตฺติปริกปฺปนวเสน วิชานนฺตเมว อาหารกิจฺจํ สาเธตีติ โยชนา. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. อาหารกิจฺจสาธนฺจ เตสํ เวทนาทิอุปฺปตฺติเหตุตาย อตฺตภาวสฺส ปวตฺตนเมว.

กายฏฺปเนนาติ กสฺมา วุตฺตํ? นนุ กมฺมชาทิรูปํ กมฺมาทินาว ปวตฺตตีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘กมฺมชนิโตปี’’ติอาทิ. อุปาทินฺนรูปสนฺตติยา อุปตฺถมฺภเนเนว อุตุจิตฺตชรูปสนฺตตีนมฺปิ อุปตฺถมฺภนสิทฺธิ โหตีติ ‘‘ทฺวินฺนํ รูปสนฺตตีน’’นฺติ วุตฺตํ. อุปตฺถมฺภนเมว สนฺธาย ‘‘อนุปาลโก หุตฺวา’’ติ จ วุตฺตํ. รูปกายสฺส ิติเหตุตา หิ ยาปนา อนุปาลนา.

สุขาทิวตฺถุภูตนฺติ สุขาทีนํ ปวตฺติฏฺานภูตํ. อารมฺมณมฺปิ หิ วสติ เอตฺถ อารมฺมณกรณวเสน ตทารมฺมณา ธมฺมาติ วตฺถูติ วุจฺจติ. ผุสนฺโตเยวาติ อิทํ ผสฺสสฺส ผุสนสภาวตฺตา วุตฺตํ. น หิ ธมฺมานํ สภาเวน วินา ปวตฺติ อตฺถิ. เวทนาปวตฺติยา วินา สตฺตานํ สนฺธาวนตา นตฺถีติ อาห ‘‘สุขาทิ…เป… โหตี’’ติ, น เจตฺถ สฺีภวกถายํ อสฺีภโว ทสฺเสตพฺโพ, ตสฺสาปิ วา การณภูตเวทนาปวตฺติวเสเนว ิติยา เหตุโน อพฺยาปิตา. ตถา หิ ‘‘มโนสฺเจตนา…เป… ภวมูลนิปฺผาทนโต สตฺตานํ ิติยา โหตี’’ติ วุตฺตา, ตโต เอว ‘‘วิฺาณํ วิชานนฺตเมวาติ อุปปตฺติปริกปฺปนวเสน วิชานนฺตเมวา’’ติ วุตฺโตวายมตฺโถติ.

จตฺตาริภยานิ ทฏฺพฺพานิ อาทีนววิภาวนโต. นิกนฺตีติ นิกามนา. รสตณฺหํ สนฺธาย วทติ. สา หิ กพฬีกาเร อาหาเร พลวตี. เตเนว ตตฺถ อวธารณํ กตํ. ภายติ เอตสฺมาติ ภยํ, นิกนฺติเยวภยํ มหานตฺถเหตุโต. อุปคมนํ วิสยินฺทฺริยวิฺาเณสุ วิสยวิฺาเณสุ เอว จ สงฺคติวเสน ปวตฺติ, ตํ เวทนาทิอุปฺปตฺติเหตุตาย ‘‘ภย’’นฺติ วุตฺตํ. อวธารเณ ปโยชนํ วุตฺตนยเมว. เสสทฺวเยปิ เอเสวนโย. อายูหนํ อภิสนฺทหนํ, สํวิธานนฺติปิ วทนฺติ. ตํ ภวูปปตฺติเหตุตาย ‘‘ภย’’นฺติ วุตฺตํ. อภินิปาโต ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสน นิพฺพตฺติ. โส ภวูปปตฺติเหตุกานํ สพฺเพสํ อนตฺถานํ มูลการณตฺตา ‘‘ภย’’นฺติ วุตฺโต. อิทานิ นิกนฺติอาทีนํ สปฺปฏิภยตํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘กึการณา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ นิกนฺตึ กตฺวาติ อาลยํ ชเนตฺวา, ตณฺหํ อุปฺปาเทตฺวาติ อตฺโถ.

ผสฺส อุปคจฺฉนฺตาติ จกฺขุสมฺผสฺสาทิเภทํ ผสฺสํ ปวตฺเตนฺตา. ผสฺสสฺสาทิโนติ กายสมฺผสฺสวเสน โผฏฺฏพฺพสงฺขาตสฺส ผสฺสสฺส อสฺสาทนสีลา. กายสมฺผสฺสวเสน หิ สตฺตานํ โผฏฺพฺพตณฺหา ปวตฺตตีติ ทสฺเสตุํ ผสฺสาหาราทีนวทสฺสเน โผฏฺพฺพารมฺมณํ อุทฺธฏํ ‘‘ปเรสํ รกฺขิตโคปิเตสู’’ติอาทินา. ผสฺสสฺสาทิโนติ วา ผสฺสาหารสฺสาทิโนติ อตฺโถ. สติ หิ ผสฺสาหาเร สตฺตานํ ผสฺสารมฺมเณ อสฺสาโท, นาสตีติ. เตนาห ‘‘ผสฺสสฺสาทมูลก’’นฺติอาทิ.

ชาตินิมิตฺตสฺส ภยสฺส อภินิปาตสภาเวน คหิตตฺตา ‘‘ตมฺมูลก’’นฺติ วุตฺตํ, กมฺมายูหนนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ.

อภินิปตตีติ อภินิพฺพตฺตติ. ปมาภินิพฺพตฺติ หิ สตฺตานํ ตตฺถ ตตฺถ องฺคารกาสุสทิเส ภเว อภินิปาตสทิสีติ. ตมฺมูลกตฺตาติ นามรูปนิพฺพตฺติมูลกตฺตา.

ตตฺราติ ตาสุ อุปมาสุ. ภูตมตฺถํ กตฺวาติ น ปริกปฺปิตมตฺถํ, อถ โข ภูตํ ภูตปุพฺพํ อตฺถํ กตฺวา. ปาเถยฺยหตฺเถสุ คจฺฉนฺเตสุ ปาเถยฺยํ, คจฺฉนฺตํ วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘คนฺตฺวา ปาเถยฺยํ นิฏฺาสี’’ติ. คนฺตฺวาติ วาคมนเหตูติ อตฺโถ. ขุปฺปิปาสาตุรตาย ฆนจฺฉายํ รุกฺขํ อุปคนฺตุํ อสมตฺถา วิรฬฺหจฺฉายายํ นิสีทึสุ. น ทานิ สกฺกา ตํ มยา กาตุํ อติทุพฺพลภาวโต. ปริกฺขลิตคติตรุณทารโก ขุปฺปิปาสาภิภูโต จ, ตสฺมา คจฺฉนฺโตเยว มโต.

สชาติมํสตายาติ (สํ. นิ. ฏี. ๒.๒.๖๓) สมานชาติมํสตาย, มนุสฺสมํสตายาติ อตฺโถ. ยํ มนุสฺสมํสํ, ตฺหิ โลเก ชิคุจฺฉนียตฺตา ปฏิกุลํ. ตถา หิ ตํ วิฺูหิ วชฺชิตํ, มนุสฺสมํเสสุปิ าติมํสํ อยุตฺตปริโภคตาย ปฏิกูลํ, ตตฺถาปิ ปุตฺตมํสํ, ตตฺถาปิ ปิยปุตฺตมํสํ, ตตฺถาปิ ตรุณมํสํ, ตตฺถาปิ อามกมํสํ, ตตฺถาปิ อโครสาภิสงฺขตํ, ตตฺถาปิ อโลณํ, ตตฺถาปิ อธูปิตนฺติ เอวํ เหฏฺิมโต อุตฺตรุตฺตรสฺส ปฏิกูลตรภาวการณตา ทฏฺพฺพา. ปุตฺตมํสสทิสนฺติ ปฏิกูลตาอุปฏฺาปเนน ปุตฺตมํสสทิสํ กตฺวา ปสฺสติ. ตตฺถ นิกนฺตึ ปริยาทิยตีติ อริยมคฺเคน อาหาเร สาเปกฺขํ เขเปติ.

สา คาวีติ ‘‘เสยฺยถาปิ ภิกฺขเว คาวี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๖๓) เอวํ สุตฺเต วุตฺตคาวี. อุทฺทาเลตฺวาติ อุปฺปาเฏตฺวา. นิสฺสาย ติฏฺตีติ ปฏิจฺจปจฺจยํ กตฺวา ปวตฺตติ. ทุกฺขทุกฺขตาทิวเสน ติณฺณมฺปิ เวทยิตานํ ทุกฺขภาวํ สนฺธายาห ‘‘เวทยิตทุกฺขสฺสา’’ติ.

สาธุสมฺมตาปิ คติ วิปริณามสงฺขารทุกฺขตาวเสน กิเลสทุกฺขวเสน จ มหาปริฬาหาเยวาติ วุตฺตํ ‘‘มหาปริฬาหฏฺเน ตโย ภวา’’ติ. ยถา อุปกฑฺฒกา ทฺเว ปุริสา, เอวํ กุสลากุสลวเสน ทฺเว มโนสฺเจตนา. ยถา มโนสฺเจตนา น ปวตฺตติ, ตถา ปฏิปชฺชนฺโต ตตฺถ นิกนฺตึ ปริยาทิยตีติ เวทิตพฺโพ.

สตฺติสเตน หตา เอว อุปมา สตฺติสตหตูปมา, ตสฺสํ สตฺติสตหตูปมายํ. ตํ สตฺติสตํ. อสฺส ปุริสสฺส. ปติโตกาเสติ ปุริมสตฺตีหิ ปติตปฺปเทเส. ทุกฺขสฺส ปมาณํ นตฺถิ อเนกสฺส อปราปรํ อุปฺปชฺชนโต. ขนฺธชนนนฺติ ขนฺธานํ อปราปรุปฺปาโท, ปมาภินิพฺพตฺติ ปน ปฏิสนฺธิ เอว. อาคุจารี ปุริโส วิย ปฏิสนฺธิวิฺาณํ นานปฺปการทุกฺขุปฺปาทสนฺนิสฺสยโต, เตหิ จ ทุกฺเขหิ อุปคนฺตพฺพโต. สมฺปยุตฺตธมฺมานํ ปมุขภาเวน ปวตฺติยา ‘‘วิฺาณสฺส ทุกฺขุปฺปาโทติ วุตฺตา. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ (ธ. ป. ๑, ๒) ยถา วิฺาณํ อายตึ ปฏิสนฺธิวเสน น ปวตฺตติ, เอวํ กรณํ ตตฺถ นิกนฺติปริยาทานํ ทฏฺพฺพํ.

ปริฺาตํวตฺถูติ ทุกฺขสจฺจมาห. ปฺจกามคุณิโก ราโคติ ปฺจกามคุณารมฺมโณ ราโค. ปริฺาโต โหตีติ ปริจฺฉิชฺช ชานเนน สมติกฺกนฺโต โหติ. รสตณฺหาย หิ สมฺมเทว วิคตาย รูปตณฺหาทโยปิ วิคตาเยว โหนฺติ. ตถา จ สติ กามราคสํโยชนํ สมุจฺฉินฺนเมว โหติ, เอวํ กรณํ ตตฺถ นิกนฺติปริยาทานํ ทฏฺพฺพํ. ปริฺาภิสมเย หิ สิทฺเธ ปหานาภิสมโย สิทฺโธ เอวาติ. ปหีเน จ กามราคสํโยชเน โอรมฺภาคิยสํโยชนานํ เลโสปิ นาวสิสฺสตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘นตฺถิ ตํ สํโยชน’’นฺติอาทิ. เตน กพฬีการาหารปริฺา อนาคามิตํ ปาเปตีติ ทสฺเสติ. เสสาหารปริฺา ปน อรหตฺตนิฏฺา เอวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ผสฺเส ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ติสฺโส ตณฺหาติ กามตณฺหา รูปตณฺหา อรูปตณฺหาติ อิมา ติสฺโส ตณฺหา.

‘‘ปุริมตณฺหาสมุทยา’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตณฺหาปจฺจยนิพฺพตฺตาติ ตณฺหาปจฺจยา นิพฺพตฺตา. ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปุริมตณฺหาสมุทยา อาหารานํ สมุทยทสฺสเนเนว ปวตฺติกฺขเณปิ อุปาทินฺนกอาหารสมุทโย ทสฺสิโต โหตีติ ตํ อนามสิตฺวา อนุปาทินฺนกานํ ตณฺหาสมุทยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิธาติ อิมสฺมึ สุตฺเต มิสฺสิตฺวา กถิตา อวิเสสิตตฺตา. สหชาตตณฺหาปจฺจยนิพฺพตฺโตติ เอตฺถ สหชาตคฺคหณํ อสหชาตตณฺหาปจฺจยนิพฺพตฺโตปิ อนุปาทินฺนกอาหาโร ลพฺภตีติ ทสฺสนตฺถํ. โส ปน อสหชาตตณฺหาปจฺจยนิพฺพตฺตตาสามฺเนปิ ยถาวุตฺตอุปาทินฺนกาหาเรน สํสยํ ชเนยฺยาติ น อุทฺธโฏ, น จ เอตํ การณํ ‘‘ราคํ อุปนิสฺสาย โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วจนโต, ตณฺโหปนิสฺสยปฏิฆจิตฺตสมุฏฺานาย จ โอชาย วเสน อนุปาทินฺนกอาหารสฺส ลพฺภนโต. กถํ ปน ตณฺหา โอชาย อุปนิสฺสยปจฺจโย; น หิ ปฏฺาเน กตฺถจิ รูปสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย วุตฺโต อตฺถีติ. นายํ วิโรโธ ‘‘ยสฺมึ สติ ยํ โหติ, โส ตสฺส อุปนิสฺสโย’’ติ สุตฺตนฺตนยสฺส อธิปฺเปตตฺตา ยถาวุตฺตตฺถสมฺภวโต. เตเนวาห ‘‘อิมิสฺสา…เป… ตณฺหาย นิโรเธนา’’ติ.

การเณ สพฺพโส นิรุทฺเธ ผลมฺปิ สพฺพโส นิรุชฺฌตีติ อาห ‘‘อาหารนิโรโธ ปฺายตี’’ติ. อาหารานํ ทุกฺขสจฺเจกเทสตฺตา อาหารคฺคหณํ ทุกฺขสจฺจคฺคหณเมว โหตีติ อาห ‘‘อิธ จตฺตาริปิ สจฺจานิ สรูเปเนว วุตฺตานี’’ติ. สจฺจเทสนา ทุกฺขาทีนํ ยาวเทว ปริฺเยฺยาทิภาวสนฺทสฺสนตฺถา, ตสฺมา ชรามรณาทีสุ ปริฺเยฺยาทิภาโว อสมฺโมหโต สลฺลกฺเขตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺพตฺถ อสมฺมุยฺหนฺเตน สจฺจานิ อุทฺธริตพฺพานี’’ติ อาห.

อาหารวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

สจฺจวารวณฺณนา

๙๑. เยน เยน ปริยาเยน พฺยากโรตีติ เยน เยน ทุกฺขาทิชรามรณาทิปริยาเยน อริยสจฺจานิ สงฺเขปโต จ วิตฺถารโต จ กเถติ. ทุกฺขนฺติ ทุกฺขสจฺจํ ทุกฺขํ, น ทุกฺขมตฺตํ.

สจฺจวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ชรามรณวารวณฺณนา

๙๒. เตสํเตสนฺติ พฺยาปนิจฺฉาวเสนายํ นิทฺเทโส กโต, ตสฺมา ยถา ‘‘คาโม คาโม รมณีโย’’ติ วุตฺเต รมณียตาย ตาทิสา สพฺเพปิ คามา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, เอวํ ‘‘เตสํ เตสํ สตฺตานํ ชาตี’’ติ วุตฺเต ชาติสงฺขาตวิการวเสน สพฺเพปิ สตฺตา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. เตนาห ‘‘สงฺเขปโต อเนเกสํ สตฺตานํ สาธารณนิทฺเทโส’’ติ.

คติชาติวเสนาติ (สํ. นิ. ฏี. ๒.๑.๒) ปฺจคติวเสน, ตตฺถาปิ เอเกกาย คติยา ขตฺติยาทิภุมฺมเทวาทิหตฺถิอาทิชาติวเสน จ. นิกิยฺยนฺติ สตฺตา เอตฺถ, เอเตน วาติ นิกาโย, โคตฺตจรณาทิวิภาโค. ชราย สภาโว นาม วโยหานิ, ตสฺมา ชราติ วโยหานิสงฺขาตสฺส สภาวสฺส นิทฺเทโส, ปากฏชราวเสน นิทฺเทโส ขณฺฑิจฺจาทิวเสน คหณโต. ชีรณเมว ชีรณตา, ชีรนฺตสฺส วา อากาโร ตา-สทฺเทน วุตฺโต. เตนาห ‘‘อยํ อาการนิทฺเทโส’’ติ. ทนฺตาทีนํ วเสน ขณฺฑํ ชาตํ เอตสฺสาติ ขณฺฑิโต, ปุคฺคโล. ตสฺส ภาโว ขณฺฑิจฺจํ. ปลิตํ เอตสฺส อตฺถีติ ปลิโต, ตสฺส ภาโว ปาลิจฺจํ. วลิ ตโจ เอตสฺสาติ วลิตฺตโจ, ตสฺส ภาโว วลิตฺตจตา. อิเม ขณฺฑิจฺจาทโย ชรา. วิการานํ ทสฺสนวเสนาติ วิปตฺติทสฺสนวเสน. วาตสฺสาติ มหโต วาตกฺขนฺธสฺส. ขณฺฑิจฺจาทิวเสน คตมคฺโค ปากโฏ, ตสฺมา ขณฺฑิจฺจาทิคฺคหณํ ชราย กิจฺจนิทฺเทโสติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. น จ ขณฺฑิจฺจาทีเนว ชราติ กลลกาลโต ปภุติ ปุริมรูปานํ ชราปตฺตกฺขเณ อุปฺปชฺชมานานิ ปจฺฉิมรูปานิ ปริปกฺกรูปานุรูปานิ ปริณตปริณตานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ อนุกฺกเมน สุปริณตรูปานํ ปริปากกาเล อุปฺปชฺชมานานิ ขณฺฑิจฺจาทิสภาวานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตานิ อุทกาทิมคฺเคสุ ติณรุกฺขสํภคฺคตาทโย วิย ปริปากคตมคฺคสงฺขาเตสุ ปริปกฺกรูเปสุ อุปฺปนฺนานิ ‘‘ชราย คโต มคฺโค’’อิจฺเจว วุตฺตานิ, น ชราติ.

ปกติยาติ ผลวิปจฺจนปกติยา, ชราย วา ปาปุณิตพฺพํ ผลเมวปกติ, ตาย ชรา ทีปิตา. สุปฺปสนฺนานีติ สุฏฺุ ปสนฺนานิ. ตเมว สุปฺปสนฺนตํ กิจฺจโต ทสฺเสตุํ ‘‘สุขุมมฺปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ติกฺขวิสทตา หิ เตสํ อินฺทฺริยานํ สุปฺปสนฺนตา. อาลุฬิตานีติ อากุลานิ. อวิสทานีติ อพฺยตฺตานิ.

กามํ รูปธมฺเมสุปิ ขณิกชรา ทุรุปลกฺขิตา ปฏิจฺฉนฺนาว, สา ปน ยสฺมา สนฺตานวเสน ปวตฺติยา ปริพฺยตฺตาว โหตีติ ‘‘ปากฏชรา’’อิจฺเจว วุตฺตา. อวีจิ นิรนฺตรา ชรา อวีจิชรา สติ สนฺตาเน สตฺตานํ อนุปฺปพนฺธโต. ตโต อฺเสูติ มนฺททสกาทีสุ ปุพฺพทสกาทิปริจฺเฉทโต อฺเสุ ยถาวุตฺเตสุ. อนฺตรนฺตราติ เตสุ เอว วุตฺตปฺปกาเรสุ ปุริมทสกาทิโต ปจฺฉิมทสกาทีนํ อนฺตรนฺตรา. วณฺณวิเสสาทีนนฺติ วณฺณวิเสสสณฺานวิเสสสมฺผสฺสวิเสสาทีนํ.

วจนกวเสนาติ ก-กาเรน หิ ปทํ วฑฺเฒตฺวา วุตฺตํ, ตสฺมา จวนํ จุตีติ วุตฺตํ โหติ. ตํ ปน เอกจตุปฺจโวการภเวสุ จุติยา อวิเสสโต คหณนฺติ อาห ‘‘เอกจตุปฺจกฺขนฺธานํ สามฺวจน’’นฺติ. จวนกวเสนาติ วา จวนกสฺส ปุคฺคลสฺส วเสนาติ อตฺโถ. จวนเมว จวนตาติ อาห ‘‘ภาววจเนนา’’ติ. ลกฺขณนิทสฺสนนฺติ วยสงฺขาตสฺส ลกฺขณสฺส นิทสฺสนํ. จวนฺตสฺส วา อากาโร ตา-สทฺเทน วุตฺโต ‘‘จวนตา’’ติ. ภิชฺชนํ เภโทติ วุตฺตํ ‘‘จุติกฺขนฺธานํ ภงฺคุปฺปตฺติปริทีปน’’นฺติ. ยถา ภินฺนสฺส ฆฏสฺส เกนจิ ปริยาเยน ฆนฆฏภาเวน านํ นตฺถิ, เอวํ ภินฺนานํ ขนฺธานนฺติ จวนํ อนฺตรหิตํ นามาติ อาห ‘‘อนฺตรธานนฺติ…เป… ปริทีปน’’นฺติ. โย มจฺจูติ วุจฺจติ เภโท, ยฺจ มรณํ ปาณจาโค, ตทุภยํ เอกชฺฌํ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘มจฺจุ มรณ’’นฺติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. กาลสฺส อนฺตกสฺส กิริยาติ ยา โลเก วุจฺจติ, สา จุติ, มรณนฺติ อตฺโถ. จวนกาโล เอว วา อนติกฺกมนียตฺตา วิเสเสน กาโลติ วุตฺโตติ ตสฺส กิริยา อตฺถโต จุติกฺขนฺธานํ เภทปฺปตฺติเยว. ‘‘จุติ จวนตา’’ติอาทินา ปุพฺเพ โวหารมิสฺสเกน นิทฺทิฏฺํ.

อิทานิ นิพฺพตฺติตปรมตฺถนเยเนว นิทฺเทโสติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปรมตฺเถน ทีเปตุ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘จวนกวเสนา’’ติอาทินา หิ ปุคฺคลวเสน จ โวหาราธิฏฺานา สํวณฺณนา กตา. น กิฺจิ กเฬวรํ นิกฺขิปกิ โอปปาติกานํ จุติกฺขนฺธานํ อนฺตรธานเมวโหติ, ตโต ปรํ อุตุสมุฏฺานรูปสนฺตติ น ปวตฺตติ. ‘‘ชาติสมุทยา’’ติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ‘‘ตณฺหาสมุทยา’’ติอาทีสุ วุตฺตนยเนว สกฺกา วิฺาตุนฺติ น วุตฺตํ.

ชรามรณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ชาติวารวณฺณนา

๙๓. ชายนฏฺเนาติอาทิ อายตนวเสน โยนิวเสน จ ทฺวีหิ ทฺวีหิ ปเทหิ สพฺพสตฺเต ปริยาทิยิตฺวา ชาตึ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. สมฺโมหวิโนทนิยํ (วิภ. อฏฺ. ๑๙๑) ปน ‘‘ชายมานกวเสน ชาติ, สฺชายนวเสน สฺชาตี’’ติ วุตฺตตฺตา ตตฺถ เอเกเกเนว ปเทน สพฺพสตฺเต ปริยาทิยิตฺวา ชาตึ ทสฺเสตีติ ทฏฺพฺพํ. สมฺปุณฺณา ชาติ สฺชาตีติ กตฺวา ‘‘สา ปริปุณฺณายตนวเสน ยุตฺตา’’ติ วุตฺตํ. เอเตเนว เกวลํ ชาติสทฺเทน วุตฺตาย ชาติยา อปริปุณฺณายตนตา ทฏฺพฺพา. อภิพฺยตฺตา นิพฺพตฺติ อภินิพฺพตฺติ, ปากฏา นิพฺพตฺตีติ อตฺโถ. ‘‘เตสํ เตสํ สตฺตานํ…เป… อภินิพฺพตฺตี’’ติ สตฺตวเสน ปวตฺตตฺตา โวหารเทสนา.

ตตฺรตตฺราติ เอตฺถ จตุโวการภเว ทฺวินฺนํ, เอกโวการภเว ทฺวินฺนํ, เสสรูปธาตุยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ อุปฺปชฺชมานานํ ปฺจนฺนํ, กามธาตุยํ วิกลาวิกลินฺทฺริยวเสน สตฺตนฺนํ นวนฺนํ ทสนฺนํ, ปุน ทสนฺนํ, เอกาทสนฺนฺจ อายตนานํ วเสน สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ยทิปิ จุติกฺขนฺธา อนนฺตรานํ ปฏิสนฺธิกธมฺมานํ อนนฺตราทินา ปจฺจยา โหนฺติ, เย ปน สมุทยา อชนกา, เต เอตฺถ อุปปตฺติภโวติ อธิปฺเปตา. ชนโก เอว ภโวติ อธิปฺเปโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ชาติยา ปจฺจยภูโต กมฺมภโว เวทิตพฺโพ’’ติ อาห.

ชาติวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภววารวณฺณนา

๙๔. ภาวนภวนฏฺเน ภโว ทุวิโธ. ตตฺถ กมฺมภโว ‘‘ภวติ เอตสฺมา อุปปตฺติภโว’’ติ ภาวนฏฺเน ภโว. อฏฺกถายํ ปน อุปปตฺติภวํ ‘‘ภวตีติ ภโว’’ติ วตฺวา ตสฺส การณตฺตา กมฺมํ ผลูปจาเรน ภโวติ อยมตฺโถ วุตฺโต, อุภยตฺถาปิ อุปปตฺติภวเหตุภาวเนตฺถ กมฺมสฺส กมฺมภวปริยาโยติ ทสฺสิตํ โหติ. สพฺพถาปีติ ภาวนภวนกุสลากุสลอุปปตฺติสมฺปตฺติภวหีนปณีตาทินา สพฺพปฺปกาเรนปิ. กามภโวติ วุตฺตํ กามตณฺหาเหตุกโต กามตณฺหาย อารมฺมณภาวโต จ. รูปภวูปคกมฺมํ รูปภโว, ตถา อรูปภวูปคกมฺมํ อรูปภโว, ตํตํนิพฺพตฺตกฺขนฺธา รูปารูปุปตฺติภวา, รูปารูปภวภาโว ปน เตสํ ‘‘กามภโว’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

ภววารวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุปาทานวารวณฺณนา

๙๕. อุปาทานนฺติ จตุพฺพิธมฺปิ อุปาทานํ. ยถา หิ กามสฺสาทวเสน, ภวสฺสาทวเสน วา ตํตํสุคติภวูปคํ กมฺมํ กโรนฺตสฺส กามุปาทานํ, เอวํ อุจฺเฉทาทิมิจฺฉาภินิเวสวเสนาติ จตฺตาริปิ อุปาทานานิ ยถารหํ ตสฺส ตสฺส กุสลกมฺมภวสฺส อุปนิสฺสยวเสเนว ปจฺจยา โหนฺติ, อกุสลกมฺมภวสฺส อสหชาตสฺส อนนฺตรสฺส อุปนิสฺสยวเสนปิ อารมฺมณวเสนปิ . สหชาตสฺส กามุปาทานํ สหชาต-อฺมฺ-นิสฺสย-สมฺปยุตฺต-อตฺถิ-อวิคต-เหตุ-วเสน สตฺตธา, เสสอุปาทานานิ ตตฺถ เหตุปจฺจยภาวํ ปหาย มคฺคปจฺจยํ ปกฺขิปิตฺวา สตฺตธาว ปจฺจยา โหนฺติ. อนนฺตรสฺส ปน อนนฺตรสมนนฺตรอนนฺตรูปนิสฺสยนตฺถิวิคตาเสวนวเสน ปจฺจยา โหนฺติ. ตสฺสิทมฺปิ สหชาตาทีติ อาทิ-สทฺเทน สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. วตฺถุกามํ อุปาทิยติ จิตฺตํ, ปุคฺคโล วา เอเตนาติ อตฺโถ. นฺติ วตฺถุกามํ. กาเมตีติ กาโม จ โส อุปาทิยตีติ อุปาทานฺจาติ โยชนา. วุตฺตนเยนาติ อภิธมฺเม วุตฺตนเยน.

สสฺสโต อตฺตาติ อิทํ ปุริมทิฏฺึ อุปาทิยมานํ อุตฺตรทิฏฺึ นิทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ยถา เอสา ทิฏฺิ ทฬฺหีกรณวเสน ปุริมํ ปุริมํ อุตฺตรา อุตฺตรา อุปาทิยติ, เอวํ ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิกาปีติ. อตฺตคฺคหณํ ปน อตฺตวาทุปาทานนฺติ นยิทํ ทิฏฺุปาทานทสฺสนนฺติ ทฏฺพฺพํ. โลโก จาติ อตฺตคฺคหณวินิมุตฺตคหณํ ทิฏฺุปาทานภูตํ อิธ ปุริมทิฏฺิอุตฺตรทิฏฺิวจเนหิ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สพฺพทิฏฺิคตสฺส ‘‘ทิฏฺุปาทาน’’นฺติ เอตํ อธิวจนํ ‘‘สพฺพาปิ ทิฏฺิ ทิฏฺุปาทาน’’นฺติ วจนโต.

สีลพฺพตํ อุปาทิยนฺตีติ สีลพฺพตํ ‘‘สุทฺธิมคฺโค’’ติ อุปาทิยนฺติ. เอเตน มิจฺฉาภินิเวเสน. สยํ วา ตํ มิจฺฉาภินิเวสสหคตํ. สีลพฺพตสหจรณโต สีลพฺพตฺจ ตํ ทฬฺหคฺคาหภาวโต อุปาทานฺจาติ สีลพฺพตุปาทานํ. เอวํ สุทฺธีติ อภินิเวสโตติ เอวํ โคสีลโควตาทิจรเณน สํสารสุทฺธีติ อภินิเวสภาวโต. เอเตน ตํ สหจรณโต อภินิเวสสฺส ตํสทฺทารหตํ ทสฺเสติ.

วทนฺตีติ ‘‘อตฺถิ เม อตฺตา’’ติอาทินา โวหรนฺติ. เอเตน ทิฏฺิคเตน. อตฺตวาทมตฺตเมวาติ อตฺตาติ วาจามตฺตเมว. เอเตน วาจาวตฺถุมตฺตเมตํ, ยทิทํ พาหิรกปริกปฺปิโต อตฺตาติ ทสฺเสติ.

ตณฺหากามุปาทานสฺสาติ เอตฺถ ‘‘ตตฺถ กตมํ กามุปาทานํ? โย กาเมสุ กามจฺฉนฺโท กามราโค กามนนฺที กามตณฺหา กามสฺเนโห กามปริฬาโห กามมุจฺฉา กามชฺโฌสานํ. อิทํ วุจฺจติ กามุปาทาน’’นฺติ วจนโต ตณฺหาทฬฺหตฺตํ กามุปาทานํ. ตณฺหาทฬฺหตฺตนฺติ จ ปุริมตณฺหาอุปนิสฺสยปจฺจยโต ทฬฺหภูตา อุตฺตรตณฺหา เอว. เกจิ ปนาหุ –

‘‘อปฺปตฺตวิสยปตฺถนา ตณฺหา อนฺธกาเร โจรสฺสหตฺถปฺปสารณํ วิย, สมฺปตฺตวิสยคฺคหณํ อุปาทานํ ตสฺเสว ภณฺฑคฺคหณํ วิยา’’ติ. อปฺปิจฺฉสนฺตุฏฺิปฏิปกฺขา เอเต ธมฺมา ปริเยสนารกฺขทุกฺขมูลานิ, ตสฺมา วุตฺตลกฺขณา ตณฺหา วุตฺตลกฺขณสฺเสว อุปาทานสฺส อนานนฺตรสฺส อุปนิสฺสยวเสน ปจฺจโย, อารมฺมณาทิวเสนปิ ปจฺจโย โหติเยว, อนนฺตราทีนํ ปน อนนฺตราทิวเสน ปจฺจโย. สพฺพสฺสปิ หิ โลภสฺส ตณฺหาปริยาโยปิ กามุปาทานปริยาโยปิ ลพฺภเตวาติ. อวเสสานนฺติ ทิฏฺุปาทานาทีนํ. สหชาตาทิวเสนาติ สหชาตานํ สหชาตาทิวเสน, อสหชาตานํ อนนฺตรอุปนิสฺสยาทิวเสนาติ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

อุปาทานวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตณฺหาวารวณฺณนา

๙๖. ‘‘จกฺขุสมฺผสฺโส’’ติอาทิ ผสฺสสฺส มาติโต นามํ วิย ปุตฺตสฺส วตฺถุโต ตสฺส นิสฺสยภาเวน อุปฺปตฺติเหตุตฺตา, อารมฺมณํ ปน เกวลํ อุปฺปตฺติเหตูติ วุตฺตํ ‘‘เสฏฺิ…เป… นาม’’นฺติ. กามราคภาเวนาติ วตฺถุกามสฺส รชฺชนวเสน. รูปํ อสฺสาเทนฺตีติ รุปารมฺมณํ ตณฺหาภินนฺทนาวเสน อภิรมมานา เอว อสฺสาเทนฺตี. นิจฺจนฺติอาทินา ทิฏฺาภินนฺทนามุเขน รูปํ อภิรมนฺตี. เปจฺจ น ภวิสฺสตีติ ภิชฺชิตฺวา น โหติ ปุน อนุปฺปชฺชนโต. ตถา สทฺทกณฺหาทโยปีติ ยถา รูปตณฺหา กามราคภาเวน สสฺสตราควเสน อุจฺเฉทราควเสนาติ จ ปวตฺติยา ติสฺโส ตณฺหา, ตถา สทฺทตณฺหา คนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺมตณฺหาปิ. ตณฺหาวิจริตานีติ ตณฺหาสมุทาจารา, สมุทาจารวเสน ปวตฺตตณฺหาติ อตฺโถ.

อชฺฌตฺติกสฺสุปาทายาติ (วิภ. อฏฺ. ๙๗๓; สํ. นิ. ฏี. ๒.๒.๒) อชฺฌตฺติกํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย. อุปโยคตฺเถ หิ อิทํ สามิวจนํ. อสฺมีติ โหตีติ ยเทตํ อชฺฌตฺตํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย ตณฺหามานทิฏฺิวเสน สมูหคาหโต อสฺมีติ เอวํ โหติ, ตสฺมึ สตีติ อตฺโถ. อิตฺถสฺมีติ โหตีติ ขตฺติยาทีสุ ‘‘อิทํปกาโร อห’’นฺติ เอวํ ตณฺหามานทิฏฺิวเสน โหตีติ อิทเมตฺถ อนุปนิธาย คหณํ. เอวมาทินาติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘เอวํสฺมีติ, อฺถาสฺมีติ, ภวิสฺสนฺติ, อิตฺถํ ภวิสฺสนฺติ, เอวํ ภวิสฺสนฺติ, อฺถา ภวิสฺสนฺติ, อสสฺมีติ, สตสฺมีติ, สิยนฺติ, อิตฺถํ สิยนฺติ, เอวํ สิยนฺติ, อฺถา สิยนฺติ, อปาหํ สิยนฺติ, อปาหํ อิตฺถํ สิยนฺติ, อปาหํ เอวํ สิยนฺติ, อปาหํ อฺถา สิย’’นฺติ (วิภ. ๙๗๓) อิเมสํ ตณฺหาวิจริตานํ คหณํ. ตตฺถ เอวํสฺมีติ อิทํ สมโต อุปนิธาย คหณํ, ยถา อยํ ขตฺติโย, ยถา อยํ พฺราหฺมโณ, เอวํ อหมฺปีติ อตฺโถ. อฺถาสฺมีติ อิทํ อสมโณ อุปนิธาย คหณํ, ยถา อยํ ขตฺติโย, ยถา อยํ พฺราหฺมโณ, ตโต อฺถา อหํ หีโน วา อธิโก วาติ อตฺโถ. อิติ อิมานิ ปุพฺเพ วุตฺตานิ ทฺเวติ เอตานิ ปจฺจุปฺปนฺนวเสน จตฺตาริ ตณฺหาวิจริตานิ. ภวิสฺสนฺติอาทีนิ ปน จตฺตาริ อนาคตวเสน วุตฺตานิ. เตสํ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อสสฺมีติ อสตีติ อสํ. นิจฺจสฺเสตํ อธิวจนํ, ตสฺมา สสฺสโต อสฺมีติ อตฺโถ. สตสฺมีติ สีทตีติ สตํ. อนิจฺจสฺเสตํ อธิวจนํ, ตสฺมา อสสฺสโต อสฺมีติ อตฺโถ. อิติ อิมานิ ทฺเว สสฺสตุจฺเฉทวเสน วุตฺตานิ. อิโต ปรานิ สิยนฺติอาทีนิ จตฺตาริ สํสยปริวิตกฺกวเสน วุตฺตานิ, ตานิ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนเยน อตฺถโต เวทิตพฺพานิ. อปาหํ สิยนฺติอาทีนิ จตฺตาริ ‘‘อปิ นามาหํ ภเวยฺย’’นฺติ เอวํ ปตฺถนากปฺปนวเสน วุตฺตานิ, ตานิ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.

เอตฺถ จ สสฺสตุจฺเฉทวเสน วุตฺตา ทฺเว ทิฏฺิสีสา นาม, อสฺมิ, ภวิสฺสํ, สิยํ, อปาหํ สิยนฺติ เอเต ปน จตฺตาโร สุทฺธสีสา เอว, ‘‘อิตฺถสฺมี’’ติอาทโย ตโย ตโยติ ทฺวาทส สีสมูลกา นาม. เอวเมตานิ ทฺเว ทิฏฺิสีสา, จตฺตาโร สุทฺธสีสา, ทฺวาทส สีสมูลกาติ อชฺฌตฺติกสฺสุปาทาย อฏฺารสฺส ตณฺหาวิจริตานิ เวทิตพฺพานิ.

พาหิรสฺสุปาทายาติ พาหิรํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย. อิทมฺปิ หิ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. อิมินาติ อิมินา รุเปน วา…เป… วิฺาเณน วาติ เอวํ รูปาทีสุ เอกเมว ‘‘อห’’นฺติ, อิตรํ กิฺจนปลิโพธภาเวน คเหตฺวา ตณฺหาทิวเสน ‘‘อสฺมี’’ติ อภินิวิสติ, ‘‘อิมินา’’ติ อยเมตฺถ วิเสโส. อสฺมีติ อิมินา ขคฺเคน วา ฉตฺเตน วา อภิเสเกน วา ‘‘ขตฺติโยหมสฺมี’’ติ อภินิวิสติ. พาหิรรูปาทินิสฺสิตานีติ พาหิรานิ ปรสนฺตติปริยาปนฺนานิ รูปเวทนาทีนิ นิสฺสิตานิ. อฏฺารสาติ อิมินา ‘‘อสฺมี’’ติอาทินยปฺปวตฺตานิ อฏฺารส, ตานิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. ‘‘อิมินา’’ติ หิ อยเมเวตฺถ วิเสโส, ตสฺมา ‘‘ทฺเว ทิฏฺิสีสา’’ติอาทินา วุตฺตนเยเนว นิทฺธาเรตฺวา เวทิตพฺพา. อุภยํ ปน เอกชฺฌํ กตฺวา อาห ‘‘ฉตฺตึสา’’ติ.

นิทฺเทสตฺเถนาติ ‘‘ฉยิเม อาวุโส ตณฺหากายา’’ติอาทินิทฺเทสปาฬิยา อตฺถวจเนน. นิทฺเทสวิตฺถาราติ ตสฺส จ นิทฺเทสสฺส อฏฺสตตณฺหาวิจริตวเสน วิตฺถาเรน. วิตฺถารสฺส จ ปุน สงฺคหโตติ ทฺวีหิ อากาเรหิ วิตฺถาริตสฺส อฏฺารสตณฺหาวิจริตปเภทสฺส ฉเฬว ติสฺโสเยวาติ จ ปุน สงฺคหณโต จ.

วิปากเวทนา อธิปฺเปตา วิเสสโต อตฺตานํ อสฺสาเทตพฺพโต. ตเมว หิสฺสา อสฺสาเทตพฺพตํ ปกาเสตุํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อสฺสาทเนนาติ อภิรติยา. มมายนฺตาติ ธนายนฺตา. จิตฺตการาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน อิฏฺวณฺณารมฺมณทายกานํ สงฺคโห. สิปฺปสนฺทสฺสนกาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน เวชฺชาทีนํ สงฺคโห. เวชฺชา หิ รสายตโนชาวเสน ตทุปตฺถมฺภิตวเสน จ ธมฺมารมฺมณสฺส ทายกา. สฺวายํ อาทิ-สทฺโท ‘‘วีณาวาทกาที’’ติอาทินา ปจฺเจกฺจ โยเชตพฺโพ, ปุตฺตํ มมายนฺตาติ ปุตฺตํ สมฺปิยายนฺตา. ปุตฺโต วิย เจตฺถ เวทนา ทฏฺพฺพา, สปฺปายสปฺปิขีราทีนิ วิย เวทนาย ปจฺจยภูตานิ อิฏฺรูปาทิอารมฺมณานิ, ธาติ วิย รูปาทิฉฬารมฺมณทายกา จิตฺตการาทโย ทฏฺพฺพา.

ตณฺหาวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

เวทนาวารวณฺณนา

๙๗. จกฺขุสมฺผสฺสชา เอว เวทนา อตีตาทิเภทภินฺนา ราสิวเสน เอกชฺฌํ คเหตฺวา เอโก เวทนากาโย ยถา เวทนากฺขนฺโธ, เอวํ โสตสมฺผสฺสชาทิกาติ ปาฬิยํ ‘‘ฉยิเม อาวุโส เวทนากายา’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เวทนากายาติ เวทนาสมูหา’’ติ. จกฺขุสมฺผสฺสโต ชาตา จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา. สา ปน อุปาทินฺนาปิ อนุปาทินฺนาปิ, ตทุภยสฺสปิ สงฺคณฺหนฺเตน อตฺถวณฺณนาย กตตฺตา อาห ‘‘อยํ ตาเวตฺถ สพฺพสงฺคาหิกกถา’’ติ. อิทานิ ‘‘วิปากวิธิ อย’’นฺติ อุปาทินฺนเยว คณฺหนฺโต ‘‘วิปากวเสนา’’ติอาทิมาห. มโนทฺวาเร มโนวิฺาณธาตุสมฺปยุตฺตาติ ตทารมฺมณมโนวิฺาณธาตุสมฺปยุตฺตา.

อวเสสานนฺติ สมฺปฏิจฺฉนาทิเวทนานํ. อุปนิสฺสยาทีติ อาทิ-สทฺเทน อนนฺตราทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อนนฺตรานฺหิ อนนฺตราทิวเสน, อิตเรสํ อุปนิสฺสยวเสน ผสฺโส ปจฺจโย โหติ, มโนทฺวาเร ปน ตทารมฺมณเวทนานํ มโนสมฺผสฺโส อุปนิสฺสยวเสน ปจฺจโย. อทฺวาริกานนฺติ ทฺวารรหิตานํ. น หิ ปฏิสนฺธิอาทิเวทนานํ กิฺจิ ทฺวารํ อตฺถิ. สหชาตมโนสมฺผสฺสสมุทยาติ เอเตนสฺส ตาสํ สหชาตโกฏิยา ปจฺจยภาวมาห.

เวทนาวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ผสฺสวารวณฺณนา

๙๘. จกฺขุํ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน สมฺผสฺโส จกฺขุสมฺผสฺโส. ปฺจวตฺถุกาติ จกฺขาทิปฺจวตฺถุกา จกฺขาทิปฺจวตฺถุสนฺนิสฺสยา. ‘‘อุปาทินฺนกกถา เอสา’’ติ พาวีสติคฺคหณํ, ปวตฺติกถาภาวโต โลกิยคฺคหณํ. วิปากมนสมฺปยุตฺตผสฺสาติ วิปากมโนวิฺาณสมฺปยุตฺตา ผสฺสา. ปจฺจยุปฺปนฺเนน วิย ปจฺจเยนปิ อุปาทินฺนเกเนว ภวิตพฺพนฺติ ‘‘ฉนฺนํ จกฺขาทีนํ อายตนาน’’นฺติ วุตฺตํ.

ผสฺสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

สฬายตนวารวณฺณนา

๙๙. นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ, ตสฺมา ยถา เอตฺถ อรูปโลกาเปกฺขาย ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจ สฬายตนนฺติ เอกเสโส อิจฺฉิตพฺโพ, เอวํ เยสํ ปจฺจยุปฺปนฺโน อุปาทินฺโน, ปจฺจโย ปน อนุปาทินฺโนติปิ อิจฺฉิตพฺโพ. เตสํ มเตน พาหิรายตนวเสนปิ เอกเสโส เวทิตพฺโพ ‘‘ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจ สฬายตนฺจ สฬายตน’’นฺติ. วิสุทฺธิมคฺโคปิ อิมสฺส อาคมสฺส อตฺถสํวณฺณนาติ อาห ‘‘วิสุทฺธิมคฺเค…เป… วุตฺตนยเมวา’’ติ. เอส นโย อฺตฺถาปิ วิสุทฺธิมคฺคคฺคหเณ.

สฬายตนวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

นามรูปวารวณฺณนา

๑๐๐. นมนลกฺขณนฺติ อารมฺมณาภิมุขํ นมนสภาวํ เตน วินา อปวตฺตนโต. รุปฺปนํ สีตาทิวิโรธิปจฺจยสนฺนิปาเต วิสทิสุปฺปตฺติ. อิเม ปน ตโยติอาทินา สพฺพจิตฺตุปฺปาทสาธารณวเสเนว ตํสงฺขารกฺขนฺธคฺคหณํ, ตสฺมา เย ยตฺถ อสาธารณา, เตปิ อตฺถโต คหิตาเยวาติ ทสฺเสติ.

อุปาทิยิตฺวาติ ปจฺจเย กตฺวา. ปจฺจยกรณเมว หิ ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส ปจฺจยภูตธมฺมานํ อุปาทิยนํ. สมูหสมฺพนฺเธ สามิวจนํ เอตนฺติ ‘‘สมูหตฺเถ เอตํ สามิวจน’’นฺติ วุตฺตํ เตน วินา สมฺพนฺธสฺส อภาวโต. เตนาติ ตสฺมา. ตํ สพฺพมฺปีติ ตํ ภูตุปาทายปเภทํ สพฺพมฺปิ สตฺตวีสติวิธํ. ยสฺส นามสฺสาติ จตุโวการภเว นามสฺส. วิฺาณมฺปิ ตปฺปริยาปนฺนเมว เวทิตพฺพํ. รูปสฺสาติ เอกโวการภเว รูปสฺส. วิฺาณํ ปน ปฺจโวการภเว สงฺขารวิฺาณเมว. ยสฺส ปฺจโวการภเว นามรูปสฺส. ตสฺส วเสนาติ สหชาตสฺส สหชาตาทิวเสน, อนนฺตรสฺส อนนฺตราทิวเสน, อิตรสฺส อุปนิสฺสยาทิวเสน ตสฺส นามสฺส ยถารหํ ตสฺส ตสฺส วิฺาณสฺส ปจฺจยภาโว เวทิตพฺโพ.

นามรูปวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

วิฺาณวารวณฺณนา

๑๐๑. เตภูมกวิปากคฺคหเณ การณํ เหฏฺา วุตฺตเมว. สงฺขาโร ยสฺส วิฺาณสฺสาติ เอตฺถ อฏฺวิโธปิ กามาวจรปุฺาภิสงฺขาโร โสฬสวิธสฺส กามาวจรวิปากวิฺาณสฺส, ปฺจวิโธปิ รูปาวจรปุฺาภิสงฺขาโร ปฺจวิธสฺส รูปาวจรวิปากวิฺาณสฺส, ทฺวาทสวิโธปิ อปุฺาภิสงฺขาโร สตฺตวิธสฺส อกุสลวิปากวิฺาณสฺส, จตุพฺพิโธปิ อาเนฺชาภิสงฺกาโร จตุพฺพิธสฺส อรูปาวจรวิปากวิฺาณสฺส ยถารหํ ปฏิสนฺธิปวตฺตีสุ กมฺมปจฺจเยน เจว อุปนิสฺสยปจฺจเยน จ ปจฺจโย โหติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๖๒๐) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.

วิฺาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

สงฺขารวารวณฺณนา

๑๐๒. อภิสงฺขรณลกฺขโณติ อภิสฺเจตยิตสภาโว, อายูหนลกฺขโณติ อตฺโถ. โจปนวเสนาติ กายวิฺตฺติสงฺขาตโจปนวเสน. เตน ปฺจทฺวาริกเจตนา ปฏิกฺขิปติ. วจนเภทวเสนาติ วาจานิจฺฉารณวเสน. วจีวิฺตฺติสมุฏฺาปนวเสนาติ อตฺโถ. ยถาวุตฺตา วีสติ, นว มหคฺคตกุสลเจตนา จาติ เอกูนตึส มโนสฺเจตนา. ‘‘กุสลานํ อุปนิสฺสยวเสนา’’ติ วุตฺตํ, เอกจฺจานํ อารมฺมณวเสนปีติ วตฺตพฺพํ. สหชาตาทิวเสนาติ สหชาต-อฺมฺ-นิสฺสย-สมฺปยุตฺต-อตฺถิ-อวิคตเหตุวเสน, อนนฺตรานํ อนนฺตรสมนนฺตรอนนฺตรูปนิสฺสยนตฺถิวิคตาเสวนเสน ปจฺจโย. อปิ-สทฺเทน อุปนิสฺสยํ สงฺคณฺหาติ.

สงฺขารวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

อวิชฺชาวารวณฺณนา

๑๐๓. ‘‘ทุกฺขสจฺเจอฺาณ’’นฺติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ อารทฺธํ. นฺติ อฺาณํ. สติปิ ปหาตพฺพตฺเต ปริฺเยฺยตฺตวเสน อนฺโตคธํ. ทุกฺขสจฺจฺจสฺสาติ วตฺถุสงฺขาตํ สมฺปยุตฺตขนฺธสงฺขาตฺจ ทุกฺขสจฺจํ อสฺส อฺาณสฺส. ตํ หิสฺส นิสฺสยปจฺจโย โหติ. ตสฺสาติ ทุกฺขสจฺจสฺส. ยาถาวลกฺขณปฏิเวธนิวารเณนาติ สงฺขตอวิปรีตสภาวปฏิวิชฺฌนสฺส นิวารเณน. เอเตนสฺส ปริฺาภิสมยสงฺขาตสฺส อริยมคฺคปฏิเวธสฺส วิพนฺธกภาวมาห. าณปฺปวตฺติยาติ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, เอตฺตกํ ทุกฺข’’นฺติ อนุพุชฺฌนาการาย ปุพฺพภาคาณปฺปวตฺติยา. เอตฺถาติ ทุกฺขสจฺเจ. อปฺปทาเนนาติ อวิสฺสชฺชเนน. เอเตนสฺสา อนุโพธาณสฺสปิ วิพนฺธกตมาห.

ตีหิ การเณหิ เวทิตพฺพํ อนฺโตคธาภาวโต. อิธ สมฺปยุตฺตขนฺธวเสเนว วตฺถุโต สมุทเย อฺาณํ ทฏฺพฺพํ. เอเกเนวาติ อิตรํ การณตฺตยํ ปฏิกฺขิปติ. ยทิปิ อฺาณํ นิโรธมคฺเค อารมฺมณํ น กโรติ, กุโต ตทนฺโตคธตพฺพตฺถุตา, เต ปน ชานิตุกามสฺส ตปฺปฏิจฺฉาทนวเสน อนิโรธมคฺเคสุ นิโรธมคฺคคฺคาหเหตุตาวเสน จ ปวตฺตมานํ ‘‘นิโรเธ ปฏิปทายฺจ อฺาณ’’นฺติ วุจฺจติ. เตนาห ‘‘ปฏิจฺฉาทนโต’’ติอาทิ. ตสฺสตฺโถ วุตฺโตเยว. คมฺภีรตฺตาติ สภาเวเนว คมฺภีรตฺตา. อคาธอปติฏฺาภาเวน ตํวิสยสฺส าณสฺส อุปฺปาเทตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ทุทฺทสํ. ปุริมํปน สจฺจทฺวยํ. วฺจนียฏฺเนาติ วฺจกภาเวน อยาถาวภาเวน อุปฏฺานโต ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรํ, น สภาวโต, ตสฺมา ตํวิสยํ อฺาณํ อุปฺปชฺชติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปุริมสจฺจทฺวเย อนิจฺจาทิสภาวลกฺขณสฺส ทุทฺทสตฺตา เอว นิจฺจาทิวิปลฺลาสวเสน ปวตฺตติ อฺาณนฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ.

อิทานิ นิทฺเทสวิภาเคนปิ อวิชฺชาย สจฺเจสุ ปวตฺติวิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทุกฺเขติ เอตฺตเกน ภุมฺมนิทฺเทเสน. สงฺคหโตติ ปริฺเยฺยตาย ทุกฺเขน สงฺคเหตพฺพโต. เตน นิทฺธารณตฺถํ ทสฺเสติ. ทุกฺขสฺมิฺหิ อวิชฺชา นิทฺธารียติ, น อฺสฺมึ. วตฺถุโตติ อาธารตฺถํ. ทุกฺขสนฺนิสฺสยา หิ อวิชฺชา. อารมฺมณโตติ วิสยตฺถํ ตํ อารพฺภ ปวตฺตนโต. กิจฺจโตติ พฺยาปนตฺถํ ฉาทนวเสน ตํ พฺยาเปตฺวา ปวตฺตนโต. อิมินา นเยน เสเสสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อวิเสสโตติ วิเสสาภาวโต, วุตฺตนเยน ทุกฺขาทีสุ ปวตฺติอาการวิเสสํ อคฺคเหตฺวาติ อตฺโถ. สภาวโตติ สรสลกฺขณโต. จตุนฺนมฺปิ สจฺจานํ อชานนสภาวา หิ อวิชฺชา. กามราคภวราคา กามาสวภวาสวาติ อาห ‘‘สหชาตาทิวเสนา’’ติ. นนุ อวิชฺชา เอว อวิชฺชาสโว, โส กถํ อวิชฺชาย ปจฺจโยติ อาห ‘‘ปุพฺพุปฺปนฺนา’’ติอาทิ.

อวิชฺชาวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

อาสววารวณฺณนา

๑๐๔. อาสววาเร อาสว-สทฺทตฺโถ อาสววิจาโร จ เหฏฺา วุตฺโตเยว. กสฺมา ปนายํ วาโร วุตฺโต, นนุ อวิชฺชาทิกาว ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนาติ โจทนํ สนฺธาย ‘‘อยํ วาโร’’ติอาทิ อารทฺธํ. ปฏิจฺจสมุปฺปาทปเทสูติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทโกฏฺาเสสุ. ทฺวาทสโกฏฺาสา หิ สตฺถุ ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนา. ตสฺสาปิ ปจฺจยทสฺสนวเสนาติ นายํ กาปิลานํ มูลปกติ วิย อปฺปจฺจยา, อถ โข สปฺปจฺจยาติ อวิชฺชายปิ ปจฺจยทสฺสนวเสน. อาสวสมุทเยนาติ อตีตภเว อาสวานํ สมุทเยน เอตรหิ อวิชฺชาย สมุทโย, เอตรหิ อวิชฺชาย สมุทเยน อนาคเต อาสวสมุทโยติ เอวํ อาสวาวิชฺชานํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนกภาเวน อปราปรํ ปวตฺตมานํ อาทิโกฏิอภาเวเนว ตนฺนิมิตฺตสฺส สํสารสฺส อาทิโกฏิอภาวโต อนมตคฺคตาสิทฺธิ เวทิตพฺพา.

ทฺวตฺตึสานานีติ ทฺวตฺตึส สจฺจปฺปฏิเวธการณานิ, ทฺวตฺตึส วา จตุสจฺจกมฺมฏฺานานิ. อิมมฺหา สมฺมาทิฏฺิสุตฺตาติ ยาย อริยสาวโก สมฺมาทิฏฺิ นาม โหติ, สา อริยา สมฺมาทิฏฺิ เอตฺถ วุตฺตาติ สมฺมาทิฏฺิสุตฺตํ, อิโต สมฺมาทิฏฺิสุตฺตโต.

จตุสจฺจปริยาเยหีติ จตุสจฺจาธิคมการเณหิ. อรหตฺตปริยาเยหีติ ‘‘โส สพฺพโส ราคานุสยํ ปหายา’’ติอาทินา อรหตฺตาธิคมการเณหิ. เตนาห ‘‘จตุสฏฺิยา การเณหี’’ติ.

อาสววารวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมฺมาทิฏฺิสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๑๐. สติปฏฺานสุตฺตวณฺณนา

๑๐๕. ชานปทิโนติ (ที. นิ. ฏี. ๒.๙๕) ชนปทวนฺโต, ชนปทสฺส วา อิสฺสรา ราชกุมารา. โคตฺตวเสน กุรู นาม. เตสํ นิวาโส ยทิ เอโก ชนปโท, กถํ พหุวจนนฺติ อาห ‘‘รุฬฺหีสทฺเทนา’’ติ. อกฺขรจินฺตกา หิ อีทิเสสุ าเนสุ ยุตฺเต วิย สลิงฺควจนานิ (ปาณินิ ๑.๒๕๑) อิจฺฉนฺติ, อยเมตฺถ รุฬฺหี ยถา อฺตฺถาปิ ‘‘องฺเคสุ วิหรติ, มลฺเลสุ วิหรตี’’ติ จ. ตพฺพิเสสเน ปน ชนปท-สทฺเท ชาติ-สทฺเท เอกวจนเมว. อฏฺกถาจริยา ปนาติ ปน-สทฺโท วิเสสตฺถโชตโน. เตน ปุถุอตฺถวิสยตาย เอวํ ตํ พหุวจนนฺติ ‘‘พหุเก ปนา’’ติอาทินา วกฺขมานํ วิเสสํ ทีเปติ. สุตฺวาติ มนฺธาตุมหาราชสฺส อานุภาวทสฺสนานุสาเรน ปรมฺปราคตํ กถํ สุตฺวา. อนุสํยายนฺเตนาติ อนุวิจรนฺเตน. เอเตสํ านนฺติ จนฺทิมสูริยมุเขน จาตุมหาราชิกภวนมาห. เตนาห ‘‘ตตฺถ อคมาสี’’ติอาทิ. โสติ มนฺธาตุมหาราชา. นฺติ จาตุมหาราชิกรชฺชํ. คเหตฺวาติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา. ปุน ปุจฺฉิ ปริณายกรตนํ. โทวาริกภูมิยํ ติฏฺนฺติ สุธมฺมาย เทวสภาย เทวปุรสฺส จ จตูสุ ทฺวาเรสุ อารกฺขาย อธิกตตฺตา. ทิพฺพรุกฺขสหสฺสปฏิมณฺฑิตนฺติ อิทํ ‘‘จิตฺตลตาวน’’นฺติอาทีสุปิ โยเชตพฺพํ.

ปถวิยํ ปติฏฺาสีติ ภสฺสิตฺวา ปถวิยา อาสนฺเน าเน อฏฺาสิ, ตฺวา จ นจิรสฺเสว อนฺตรธายิ เตนตฺตภาเวน รฺโ จกฺกวตฺติสฺสริยสฺส อภาวโต. ‘‘จิรตรํ กาลํ ตฺวา’’ติ อปเร. เทวภาโว ปาตุรโหสิ เทวโลเก ปวตฺติวิปากทายิโน อปราปริยายเวทนียสฺส กมฺมสฺส กโตกาสตฺตา. อวยเว สิทฺโธ วิเสโส สมุทายสฺส วิเสสโก โหตีติ เอกมฺปิ รฏฺํ พหุวจเนน โวหรียติ.

ท-กาเรน อตฺถํ วณฺณยนฺติ นิรุตฺตินเยน. กมฺมาโสติ กมฺมาสปาโท วุจฺจติ อุตฺตรปทโลเปน ยถา ‘‘รูปภโว รูป’’นฺติ. กถํ ปน โส กมฺมาสปาโทติ อาห ‘‘ตสฺส กิรา’’ติอาทิ. ทมิโตติ เอตฺถ กีทิสํ ทมนํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘โปริสาทภาวโต ปฏิเสธิโต’’ติ. อิเม ปน เถราติ มชฺฌิมภาณเก วทติ, เต ปน จูฬกมฺมาสทมฺมํ สนฺธาย ตถา วทนฺติ. ยกฺขินิปุตฺโต หิ กมฺมาสปาโท อลีนสตฺตุกุมารกาเล โพธิสตฺเตน ตตฺถ ทมิโต, สุตโสมกาเล ปน พาราณสิราชา โปริสาทภาวปฏิเสธเนน ยตฺถ ทมิโต, ตํ มหากมฺมาสทมฺมํ นาม. ปุตฺโตติ วตฺวา อตฺรโชติ วจนํ โอรสปุตฺตภาวทสฺสนตฺถํ.

เยหิ อาวสิตปเทโส กุรุรฏฺนฺติ นามํ ลภิ, เต อุตฺตรกุรุโต อาคตา มนุสฺสา ตตฺถ รกฺขิตนิยาเมเนว ปฺจ สีลานิ รกฺขึสุ, เตสํ ทิฏฺานุคติยา ปจฺฉิมา ชนตาติ, โส เทสธมฺมวเสน อวิจฺเฉทโต วตฺตมาโน กุรุวตฺตธมฺโมติ ปฺายิตฺถ, อยฺจ อตฺโถ กุรุธมฺมชาตเกน (ชา. ๑.๓.๗๖-๗๘) ทีเปตพฺโพ. โส อปรภาเค ยตฺถ ปมํ สํกิลิฏฺโ ชาโต, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘กุรุรฏฺวาสีน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ยตฺถ ภควโต วสโนกาโส โกจิ วิหาโร น โหติ, ตตฺถ เกวลํ โคจรคามกิตฺตนํ นิทานกถาย ปกติ, ยถา ตํสกฺเกสุ วิหรติ เทวทหํ นาม สกฺกานํ นิคโมติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อวสโนกาสโต’’ติอาทิมาห.

อุทฺเทสวารกถาวณฺณนา

๑๐๖. กสฺมา ภควา อิมํ สุตฺตมภาสีติ อสาธารณสมุฏฺานํ ปุจฺฉติ, สาธารณํ ปน ปากฏนฺติ อนามฏฺํ, เตน สุตฺตนิกฺเขโป ปุจฺฉิโตติ กตฺวา อิตโร ‘‘กุรุรฏฺวาสีน’’นฺติอาทินา อปรชฺฌาสโยยํ สุตฺตนิกฺเขโปติ ทสฺเสติ. เอเตน พาหิรสมุฏฺานํ วิภาวิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อชฺฌตฺติกํ ปน อสาธารณฺจ มูลปริยายสุตฺตาทิฏีกายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. กุรุรฏฺํ กิร (ที. นิ. ฏี. ๒.๓๗๓) ตทา ตนฺนิวาสีนํ สตฺตานํ เยภุยฺเยน โยนิโสมนสิการวนฺตตาย ปุพฺเพ จ กตปุฺตาพเลน อุตุอาทิสมฺปนฺนเมว อโหสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุตุปจฺจยาทิสมฺปนฺนตฺตา’’ติ. อาทิ-สทฺเทน โภชนาทิสมฺปตฺตึ สงฺคณฺหาติ. เกจิ ปน ‘‘ปุพฺเพ กุรุวตฺตธมฺมานุฏฺานวาสนาย อุตฺตรกุรุ วิย เยภุยฺเยน อุตุอาทิสมฺปนฺนเมว โหนฺตํ ภควโต กาเล สาติสยํ อุตุสปฺปายาทิยุตฺตํ ตํ รฏฺํ อโหสี’’ติ วทนฺติ. จิตฺตสรีรกลฺลตายาติ จิตฺตสฺส สรีรสฺส จ อโรคตาย. อนุคฺคหิตปฺาพลาติ ลทฺธุปการาณานุภาวา, อนุ อนุ วา อาจิณฺณปฺาเตชา. เอกวีสติยา าเนสูติ กายานุปสฺสนาวเสน จุทฺทสสุาเนสุ, เวทนานุปสฺสนาวเสน เอกสฺมึ าเน, ตถา จิตฺตานุปสฺสนาวเสน, ธมฺมานุปสฺสนาวเสน ปฺจสุ าเนสูติ เอวํ เอกวีสติยา าเนสุ. กมฺมฏฺานํ อรหตฺเต ปกฺขิปิตฺวาติ จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ ยถา อรหตฺตํ ปาเปติ, เอวํ เทสนาวเสน อรหตฺเต ปกฺขิปิตฺวา. สุวณฺณจงฺโกฏกสุวณฺณมฺชูสาสุ ปกฺขิตฺตานิ สุมนจมฺปกาทินานาปุปฺผานิ มณิปุตฺตาทิสตฺตรตนานิ จ ยถา ภาชนสมฺปตฺติยา สวิเสสํ โสภนฺติ, กิจฺจกรานิ จ โหนฺติ มนุฺาภาวโต, เอวํ สีลทสฺสนาทิสมฺปตฺติยา ภาชนวิเสสภูตาย กุรุรฏฺวาสิปริสาย เทสิตา จ ภควโต อยํ เทสนา ภิยฺโยโสมตฺตาย โสภติ, กิจฺจการี จ โหตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ยถา หิ ปุริโส’’ติอาทินา. เอตฺถาติ กุรุรฏฺเ.

ปกติยาติ สรสโต, อิมิสฺสา สติปฏฺานสุตฺตเทสนาย ปุพฺเพปีติ อธิปฺปาโย. อนุยุตฺตา วิหรนฺติ สตฺถุ เทสนานุสารโตติ อธิปฺปาโย. วิสฺสฏฺอตฺตภาวนาติ อนิจฺจาทิวเสน กิสฺมิฺจิ โยนิโสมนสิกาเร จิตฺตํ อนิโยเชตฺวา รูปาทิอารมฺมเณ อภิรติวเสน วิสฺสฏฺจิตฺเตน ภวิตุํ น วฏฺฏติ, ปมาทวิหารํ ปหาย อปฺปมตฺเตน ภวิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.

เอกายโนติ เอตฺถ อยน-สทฺโท มคฺคปริยาโย. น เกวลมยนเมว, อถ โข อฺเปิ พหู มคฺคปริยายาติ ปทุทฺธารํ กโรนฺโต ‘‘มคฺคสฺส หี’’ติอาทิ วตฺวา ยทิ มคฺคปริยาโย อยน-สทฺโท, กสฺมา ปุน มคฺโคติ วุตฺตนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. ตตฺถ เอกมคฺโคติ เอโก เอว มคฺโค. น หิ นิพฺพานคามี มคฺโค อฺโ อตฺถีติ. นนุ สติปฏฺานํ อิธ ‘‘มคฺโค’’ติ อธิปฺเปตํ, ตทฺเ จ พหู มคฺคธมฺมา อตฺถีติ? สจฺจํ อตฺถิ, เต ปน สติปฏฺานคฺคหเณเนว คหิตา ตทวินาภาวโต. ตถา หิ าณวีริยาทโย นิทฺเทเส คหิตา. อุทฺเทเส ปน สติยา เอว คหณํ เวเนยฺยชฺฌาสยวเสนาติ ทฏฺพฺพํ. น ทฺเวธาปถภูโตติ อิมินา อิมสฺส มคฺคสฺส อเนกมคฺคตาภาวํ วิย อนิพฺพานคามิภาวาภาวฺจ ทสฺเสติ. เอเกนาติ อสหาเยน. อสหายตา จ ทุวิธา อตฺตทุติยตาภาเวน วา, ยา ‘‘วูปกฏฺกายตา’’ติ วุจฺจติ, ตณฺหาทุติยตาภาเวน วา, ยา ‘‘ปวิวิตฺตจิตฺตตา’’ติ วุจฺจติ. เตนาห ‘‘วูปกฏฺเน ปวิวิตฺตจิตฺเตนา’’ติ. เสฏฺโปิ โลเก ‘‘เอโก’’ติ วุจฺจติ ‘‘ยาว ปเร เอกโต กโรสี’’ติอาทีสูติ อาห ‘‘เอกสฺสาติ เสฏฺสฺสา’’ติ. ยทิ สํสารโต นิสฺสรณฏฺโ อยนฏฺโ อฺเสมฺปิ อุปนิสฺสยสมฺปนฺนานํ สาธารโณ กถํ ภควโตติ อาห ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิ. อิมสฺมึ โขติ เอตฺถ โข-สทฺโท อวธารเณ, ตสฺมา อิมสฺมึ เยวาติ อตฺโถ. เทสนาเภโทเยว เหโส, ยทิทํ มคฺโคติ วา อยโนติ วา. เตนาห ‘‘อตฺโถ ปเนโก’’ติ.

นานามุขภาวนานยปฺปวตฺโตติ กายานุปสฺสนาทิมุเขน ตตฺถาปิ อานาปานาทิมุเขน ภาวนานเยน ปวตฺโต. เอกายนนฺติ เอกคามินํ, นิพฺพานคามินนฺติ อตฺโถ. นิพฺพานฺหิ อทุติยตฺตา เสฏฺตฺตา จ ‘‘เอก’’นฺติ วุจฺจติ. ยถาห ‘‘เอกฺหิ สจฺจํ น ทุตียมตฺถี’’ติ (สุ. นิ. ๘๙๐) ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐) จ. ขโย เอว อนฺโตติ ขยนฺโต , ชาติยา ขยนฺตํ ทิฏฺวาติ ชาติขยนฺตทสฺสี. อวิภาเคน สพฺเพปิ สตฺเต หิเตน อนุกมฺปตีติ หิตานุกมฺปี. อตรึสูติ ตรึสุ. ปุพฺเพติ ปุริมกา พุทฺธา, ปุพฺเพ วา อตีตกาเล.

นฺติ ตํ เตสํ วจนํ, ตํ วา กิริยาวุตฺติวาจกตฺตํ น ยุชฺชติ. น หิ สงฺเขยฺยปฺปธานตาย สตฺตวาจิโน เอก-สทฺทสฺส กิริยาวุตฺติวาจกตา อตฺถิ. ‘‘สกิมฺปิ อุทฺธํ คจฺเฉยฺยา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๗.๗๒) วิย ‘‘สกึ อยโน’’ติ อิมินา พฺยฺชเนน ภวิตพฺพํ. เอวํ อตฺถํ โยเชตฺวาติ เอวํ ปทตฺถํ โยเชตฺวา. อุภยถาปีติ ปุริมนเยน ปจฺฉิมนเยน จ. น ยุชฺชติ อิธาธิปฺเปตมคฺคสฺส อเนกวารํ ปวตฺติสพฺภาวโต. เตนาห ‘‘กสฺมา’’ติอาทิ. อเนกวารมฺปิ อยตีติ ปุริมนยสฺส, อเนกฺจสฺส อยนํ โหตีติ ปจฺฉิมนยสฺส จ ปฏิกฺเขโป.

อิมสฺมึ ปเทติ ‘‘เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค’’ติ อิมสฺมึ วากฺเย, อิมสฺมึ วา ‘‘ปุพฺพภาคมคฺโค โลกุตฺตรมคฺโค’’ติ สํสยฏฺาเน. มิสฺสกมคฺโคติ โลกิเยน มิสฺสโก โลกุตฺตรมคฺโค. วิสุทฺธิอาทีนํ นิปฺปริยายเหตุํ สงฺคณฺหนฺโต อาจริยตฺเถโร ‘‘มิสฺสกมคฺโค’’ติ อาห, อิตโร ปริยายเหตุ อิธาธิปฺเปโตติ ‘‘ปุพฺพภาคมคฺโค’’ติ.

สทฺทํ สุตฺวาวาติ ‘‘กาโล, ภนฺเต, ธมฺมสฺสวนายา’’ติ กาลาโรจนสทฺทํ สุตฺวา. เอวํ อุกฺขิปิตฺวาติ. เอวํ ‘‘มธุรํ อิมํ กุหึ ฉฑฺเฑมา’’ติ อฉฑฺเฑนฺตา อุจฺฉุภารํ วิย ปคฺคเหตฺวา น วิจรนฺติ. อาลุเฬตีติ วิลุฬิโต อากุโล โหตีติ อตฺโถ. เอกายนมคฺโค วุจฺจติ ปุพฺพภาคสติปฏฺานมคฺโคติ. เอตฺตาวตา อิธาธิปฺเปตตฺเถ สิทฺเธ ตสฺเสว อลงฺการตฺถํ โส ปน ยสฺส ปุพฺพภาคมคฺโค, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘มคฺคานฏฺงฺคิโก’’ติอาทิกา คาถาปิ ปฏิสมฺภิทามคฺคโตว อาเนตฺวา ปิตา.

นิพฺพานคมนฏฺเนาติ นิพฺพานํ คจฺฉติ อธิคจฺฉติ เอเตนาติ นิพฺพานคมนํ, โส เอว อวิปรีตสภาวตาย อตฺโถ, เตน นิพฺพานคมนฏฺเน, นิพฺพานาธิคมุปายตายาติ อตฺโถ. มคฺคนียฏฺเนาติ คเวสิตพฺพตาย, ‘‘คมนียฏฺเนา’’ติ วา ปาโ, อุปคนฺตพฺพตฺตาติ อตฺโถ. ราคาทีหีติ. อิมินา ราคโทสโมหานํเยว คหณํ ‘‘ราโค มลํ, โทโส มลํ, โมโห มล’’นฺติ (วิภ. ๙๒๔) วจนโต. ‘‘อภิชฺฌาวิสมโลภาทีหี’’ติ ปน อิมินา สพฺเพสมฺปิ อุปกฺกิเลสานํ สงฺคณฺหนตฺถํ เต วิสุํ อุทฺธฏา. สตฺตานํ วิสุทฺธิยาติ วุตฺตสฺส อตฺถสฺส เอกนฺติกตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถา หี’’ติอาทิมาห. กามํ ‘‘วิสุทฺธิยา’’ติ สามฺโชตนา, จิตฺตวิสุทฺธิ เอว ปเนตฺถ อธิปฺเปตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘รูปมลวเสน ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. น เกวลํ อฏฺกถาวจนเมว, อถ โข อิทเมตฺถ อาหจฺจภาสิตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถา หี’’ติอาทิมาห.

สา ปนายํ จิตฺตวิสุทฺธิ สิชฺฌมานา ยสฺมา โสกาทีนํ อนุปฺปาทาย สํวตฺตติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘โสกปริเทวานํ สมติกฺกมายา’’ติอาทิ. ตตฺถ โสจนํ าติพฺยสนาทินิมิตฺตํ เจตโส สนฺตาโป อนฺโตนิชฺฌานํ โสโก. าติพฺยสนาทินิมิตฺตเมว โสกาธิกตาย ‘‘กหํ, เอกปุตฺตก, กหํ, เอกปุตฺตกา’’ติ ปริเทววเสน ลปนํ ปริเทโว, อายตึ อนุปฺปชฺชนํ อิธ สมติกฺกโมติ อาห ‘‘ปหานายา’’ติ. ตํ ปนสฺส สมติกฺกมาวหตํ นิทสฺสนวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘อยํ หี’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ยํ ปุพฺเพ ตํ วิโสเธหีติ อตีเตสุ ขนฺเธสุ ตณฺหาสํกิเลสวิโสธนํ วุตฺตํ. ปจฺฉาติ ปรโต. เตติ ตุยฺหํ. มาหูติ มา อหุ. กิฺจนนฺติ ราคาทิกิฺจนํ. เอเตน อนาคเตสุ ขนฺเธสุ สํกิเลสวิโสธนํ วุตฺตํ. มชฺเฌติ ตทุภยเวมชฺเฌ. โน เจ คเหสฺสสีติ น อุปาทิยิสฺสสิ เจ. เอเตน ปจฺจุปฺปนฺเน ขนฺธปพนฺเธ อุปาทานปฺปวตฺติ วุตฺตา. อุปสนฺโต จริสฺสสีติ เอวํ อทฺธตฺตยคตสํกิเลสวิโสธเน สติ นิพฺพุตสพฺพปริฬาหตาย อุปสนฺโต หุตฺวา วิหริสฺสสีติ อรหตฺตนิกูเฏน คาถํ นิฏฺเปสิ. เตนาห ‘‘อิมํ คาถ’’นฺติอาทิ.

ปุตฺตาติ โอรสา, อฺเปิ วา เย เกจิ. ปิตาติ ชนโก. พนฺธวาติ าตกา. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ปุตฺตา วา ปิตา วา พนฺธวา วา อนฺตเกน มจฺจุนา อธิปนฺนสฺส อภิภูตสฺส มรณโต ตาณาย น โหนฺติ, ตสฺมา นตฺถิ าตีสุ ตาณตาติ. น หิ าตีนํ วเสน มรณโต อารกฺขา อตฺถิ, ตสฺมา ปฏาจาเร ‘‘อุโภ ปุตฺตา กาลกตา’’ติอาทินา (อป. เถรี ๒.๒.๔๙๘) มา นิรตฺถกํ ปริเทวิ, ธมฺมํเยว ปน ยาถาวโต ปสฺสาติ อธิปฺปาโย.

โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิตาติ ยถานุโลมํ ปวตฺติตาย สามุกฺกํสิกาย ธมฺมเทสนาย ปริโยสาเน สหสฺสนยปฏิมณฺฑิเต โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. กถํ ปนายํ สติปฏฺานมคฺควเสน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสีติ อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. น หิ จตุสจฺจกมฺมฏฺานกถาย วินา สาวกานํ อริยมคฺคาธิคโม อตฺถิ. ‘‘อิมํ คาถํ สุตฺวา’’ติ ปน อิทํ โสกวิโนทนวเสน ปวตฺติตาย คาถาย ปมํ สุตตฺตา วุตฺตํ. เอส นโย อิตรคาถายปิ. ภาวนาติ ปฺาภาวนา. สา หิ อิธาธิปฺเปตา. ตสฺมาติ ยสฺมา รูปาทีนํ อนิจฺจาทิโต อนุปสฺสนาปิ สติปฏฺานภาวนา, ตสฺมา. เตปีติ สนฺตติมหามตฺตปฏาจารา.

ปฺจสเต โจเรติ สตสตโจรปริวาเร ปฺจ โจเร ปฏิปาฏิยา เปเสสิ. เต อรฺํ ปวิสิตฺวา เถรํ ปริเยสนฺตา อนุกฺกเมน เถรสฺส สมีเป สมาคจฺฉึสุ. เตนาห ‘‘เต คนฺตฺวา เถรํ ปริวาเรตฺวา นิสีทึสู’’ติ. เวทนํ วิกฺขมฺเภตฺวา ปีติปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชีติ สมฺพนฺโธ. เถรสฺส หิ สีลํ ปจฺจเวกฺขโต สุปริสุทฺธํ สีลํ นิสฺสาย อุฬารํ ปีติปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชมานํ อูรุฏฺิเภทชนิตํ ทุกฺขเวทนํ วิกฺขมฺเภสิ. ปาทานีติ ปาเท. สฺเปสฺสามีติ สฺตฺตึ กริสฺสามิ. อฑฺฑิยามีติ ชิคุจฺฉามิ. หรายามีติ ลชฺชามิ. วิปสฺสิสนฺติ สมฺมสึ.

ปจลายนฺตานนฺติ ปจลายนํ นิทฺทํ อุปคตานํ. วตสมฺปนฺโนติ ธุตจรณสมฺปนฺโน. ปมาทนฺติ ปจลายนํ สนฺธายาห. โอรุทฺธมานโสติ อุปรุทฺธอธิจิตฺโต. ปฺชรสฺมินฺติ สรีเร. สรีรฺหิ นฺหารุสมฺพนฺธอฏฺิสงฺฆาตตาย อิธ ‘‘ปฺชร’’นฺติ วุตฺตํ.

ปีตวณฺณาย ปฏากาย ปริหรณโต มลฺลยุทฺธจิตฺตกตาย จ ปีตมลฺโล. ตีสุ รชฺเชสูติ ปณฺฑุโจฬโคฬรชฺเชสุ. มลฺลา สีหฬทีเป สกฺการสมฺมานํ ลภนฺตีติ ตมฺพปณฺณิทีปํ อาคมฺม. ตํเยว องฺกุสํ กตฺวาติ ‘‘รูปาทโย ‘มมา’ติ น คเหตพฺพา’’ติ น ตุมฺหากวคฺเคน (สํ. นิ. ๓.๓๓-๓๔) ปกาสิตมตฺถํ อตฺตโน จิตฺตมตฺตหตฺถิโน องฺกุสํ กตฺวา. ชณฺณุเกหิ จงฺกมติ ‘‘นิสินฺเน นิทฺทาย อวสโร โหตี’’ติ. พฺยากริตฺวาติ อตฺตโน วีริยารมฺภสฺส สผลตาปเวทนมุเขน สพฺรหฺมจารีนํ อุสฺสาหํ ชเนนฺโต อฺํ พฺยากริตฺวา. ภาสิตนฺติ วจนํ. กสฺส ปน ตนฺติ อาห ‘‘พุทฺธเสฏฺสฺส,สพฺพโลกคฺควาทิโน’’ติ. น ตุมฺหากนฺติอาทิ ตสฺส ปวตฺติอาการทสฺสนํ. ตยิทํ เม สงฺขารานํ อจฺจนฺตวูปสมการณนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนิจฺจา วตา’’ติ คาถํ อาหริ. เตน อิทานาหํ สงฺขารานํ ขเณ ขเณ ภงฺคสงฺขาตสฺส โรคสฺส อภาเวน อโรโค ปรินิพฺพุโตติ ทสฺเสติ.

อสฺสาติ สกฺกสฺส. อุปปตฺตีติ เทวูปปตฺติ. ปุนปากติกาว อโหสิ สกฺกภาเวเนว อุปปนฺนตฺตา. สุพฺรหฺมาติ เอวํ นาโม. อจฺฉรานํ นิรยูปปตฺตึ ทิสฺวา ตโต ปภุติ สตตํ ปวตฺตมานํ อตฺตโน จิตฺตุตฺราสํ สนฺธายาห ‘‘นิจฺจํ อุตฺรสฺตมิทํ จิตฺต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อุตฺรสฺตนฺติ สนฺตสฺตํ ภีตํ. อุพฺพิคฺคนฺติ สํวิคฺคํ. อุตฺรสฺตนฺติ วา สํวิคฺคํ. อุพฺพิคฺคนฺติ ภยวเสน สห กาเยน สฺจลิตํ. อนุปฺปนฺเนสูติ อนาคเตสุ. กิจฺเฉสูติ ทุกฺเขสุ. นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมวจนํ, ภาวีทุกฺขปวตฺตินิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. อุปฺปติเตสูติ อุปฺปนฺเนสุ กิจฺเฉสูติ โยชนา, ตทา อตฺตโน ปริวารสฺส อุปฺปนฺนทุกฺขนิมิตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.

โพชฺฌาติ โพธิโต, อริยมคฺคโตติ อตฺโถ. อฺตฺราติ จ ปทํ อเปกฺขิตฺวา นิสฺสกฺกวจนํ, ตสฺมา โพธึ เปตฺวาติ อตฺโถ. เอส นโย เสเสสุปิ. ตปสาติ ตโปกมฺมโต. เตน มคฺคาธิคมสฺส อุปายภูตํ ธุตงฺคเสวนาทิสลฺเลขปฏิปทํ ทสฺเสติ. อินฺทฺริยสํวราติ มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ สํวรณโต. เอเตน สติสํวรสีเสน สพฺพมฺปิ สํวรสีลํ, ลกฺขณหารนเยน วา สพฺพมฺปิ จตุปาริสุทฺธิสีลํ ทสฺเสติ. สพฺพนิสฺสคฺคาติ สพฺพุปธินิสฺสชฺชนโต สพฺพกิเลสปฺปหานโต. กิเลเสสุ หิ นิสฺสฏฺเสุ กมฺมวฏฺฏํ วิปากวฏฺฏฺจ นิสฺสฏฺเมว โหตีติ. โสตฺถินฺติ เขมํ อนุปทฺทวตํ.

ายติ นิจฺฉเยน กมติ นิพฺพานํ, ตํ วา ายติ ปฏิวิชฺฌียติ เอเตนาติ าโย, อริยมคฺโคติ อาห ‘‘าโย วุจฺจติ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ . ตณฺหาวานวิรหิตตฺตาติ ตณฺหาสงฺขาตวานวิวิตฺตตฺตา. ตณฺหา หิ ขนฺเธหิ ขนฺธํ, กมฺมุนา วา ผลํ, สตฺเตหิ วา ทุกฺขํ วินติ สํสิพฺพตีติ วานนฺติ วุจฺจติ. ตยิทํ นตฺถิ เอตฺถ วานํ, น วา เอตสฺมึ อธิคเต ปุคฺคลสฺส วานนฺติ นิพฺพานํ, อสงฺขตา ธาตุ. ปรปจฺจเยน วินา ปจฺจกฺขกรณํ สจฺฉิกิริยาติ อาห ‘‘อตฺตปจฺจกฺขตายา’’ติ.

นนุ ‘‘วิสุทฺธิยา’’ติ จิตฺตวิสุทฺธิยา อธิปฺเปตตฺตา วิสุทฺธิคฺคหเณเนเวตฺถ โสกสมติกฺกมาทโยปิ คหิตา เอว โหนฺติ, เต ปุน กสฺมา คหิตาติ อนุโยคํ สนฺธาย ‘‘ตตฺถ กิฺจาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สาสนยุตฺติโกวิเทติ สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิลกฺขณายํ ธมฺมนีติยํ เฉเก. ตํ ตํ อตฺถํ าเปตีติ เย เย โพธเนยฺยปุคฺคลา สงฺเขปวิตฺถาราทิวเสน ยถา ยถา โพเธตพฺพา, อตฺตโน เทสนาวิลาเสน ภควา เต เต ตถา ตถา โพเธนฺโต ตํ ตมตฺถํ าเปติ. ตํ ตํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสนฺโตติ อตฺถาปตฺตึ อคเณนฺโต ตํ ตํ อตฺถํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต. น หิ สมฺมาสมฺพุทฺธา อตฺถาปตฺติาปกาทิสาธนียวจนาติ. สํวตฺตตีติ ชายติ, โหตีติ อตฺโถ. ยสฺมา อนติกฺกนฺตโสกปริเทวสฺส น กทาจิ จิตฺตวิสุทฺธิ อตฺถิ โสกปริเทวสมติกฺกมมุเขเนว จิตฺตวิสุทฺธิยา อิชฺฌนโต, ตสฺมา อาห ‘‘โสกปริเทวานํ สมติกฺกเมน โหตี’’ติ. ยสฺมา ปน โทมนสฺสปจฺจเยหิ ทุกฺขธมฺเมหิ ปุฏฺํ ปุถุชฺชนํ โสกาทโย อภิภวนฺติ, ปริฺาเตสุ จ เตสุ เต น โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘โสกปริเทวานํ สมติกฺกโม ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคเมนา’’ติ. ายสฺสาติ อคฺคมคฺคสฺส ตติยมคฺคสฺส จ. ตทธิคเมน หิ ยถากฺกมํ ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคโม. สจฺฉิกิริยาภิสมยสหภาวีปิ อิตราภิสมโย ตทวินาภาวโต สจฺฉิกิริยาภิสมยเหตุโก วิย วุตฺโต ‘‘ายสฺสาธิคโม นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ. ผลาเณน วา ปจฺจกฺขกรณํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ. สมฺปทานวจนฺเจตํ ทฏฺพฺพํ.

วณฺณภณนนฺติ ปสํสาวจนํ. ตยิทํ น อิเธว, อถ โข อฺตฺถาปิ สตฺถา อกาสิเยวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยเถว หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถอาทิมฺหิ กลฺยาณํ, อาทิ วา กลฺยาณํ เอตสฺสาติ อาทิกลฺยาณํ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. อตฺถสมฺปตฺติยา สาตฺถํ. พฺยฺชนสมฺปตฺติยา สพฺยฺชนํ. สีลาทิปฺจธมฺมกฺขนฺธปาริปูริโต อุปเนตพฺพสฺส อภาวา จ เกวลปริปุณฺณํ. นิรุปกฺกิเลสโต อปเนตพฺพสฺส อภาวา ปริสุทฺธํ. เสฏฺจริยภาวโต สาสน พฺรหฺมจริยํ มคฺคพฺรหฺมจริยฺจ โว ปกาเสสฺสามีติ อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๗) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. อริยวํสาติ อริยานํ พุทฺธาทีนํ วํสา ปเวณิโย. อคฺคฺาติ ‘‘อคฺคา’’ติ ชานิตพฺพา สพฺพวํเสหิ เสฏฺภาวโต. รตฺตฺาติ ‘‘จิรรตฺตา’’ติ ชานิตพฺพา. วํสฺาติ ‘‘พุทฺธาทีนํ วํสา’’ติ ชานิตพฺพา. โปราณาติ ปุราตนา อนธุนาตนตฺตา. อสํกิณฺณาติ อวิกิณฺณา อนปนีตา. อสํกิณฺณปุพฺพาติ ‘‘กึ อิเมหี’’ติ อริเยหิ น อปนีตปุพฺพา. น สํกียนฺตีติ อิทานิปิ เตหิ น อปนียนฺติ. น สํกียิสฺสนฺตีติ อนาคเตปิ เตหิ น อปนียิสฺสนฺติ. อปฺปฏิกุฏฺา…เป… วิฺูหีติ เย โลเก วิฺู สมณพฺราหฺมณา, เตหิ อปจฺจกฺขตา อนินฺทิตา, อครหิตาติ อตฺโถ. วิสุทฺธิยาติอาทีหีติ วิสุทฺธิอาทิทีปเนหิ. ปเทหีติ วากฺเยหิ, วิสุทฺธิอตฺถตาทิเภทภินฺเนหิ วา ธมฺมโกฏฺาเสหิ.

อุปทฺทเวติ อนตฺเถ. วิสุทฺธินฺติ วิสุชฺฌนํ สํกิเลสปฺปหานํ. วาจุคฺคตกรณํ อุคฺคโห. ปริยาปุณนํ ปริจโย. อตฺถสฺส หทเย ปนํ ธารณํ. ปริวตฺตนํ วาจนํ. คนฺธารโกติ คนฺธารเทเส อุปฺปนฺโน. ปโหนฺตีติ สกฺโกนฺติ อนิยฺยานมคฺคาติ มิจฺฉามคฺคา, มิจฺฉตฺตนิยตานิยตมคฺคาปิ วา. สุวณฺณนฺติ กูฏสุวณฺณมฺปิ วุจฺจติ. ปณีติ กาจมณิปิ. มุตฺตาติ เวฬุชาปิ. ปวาฬนฺติ ปลฺลโวปิ วุจฺจตีติ รตฺตชมฺพุนทาทิปเทหิ เต วิเสสิตา.

น ตโต เหฏฺาติ (สํ. นิ. ฏี. ๒.๕.๓๖๗; ที. นิ. ฏี. ๒.๓๗๓) อิธาธิปฺเปตกายาทีนํ เวทนาทิสภาวตฺตาภาวา, กายเวทนาจิตฺตวิมุตฺตสฺส เตภูมกธมฺมสฺส วิสุํ วิปลฺลาสวตฺถนฺตรภาเวน คหิตตฺตา จ เหฏฺาคหเณสุ วิปลฺลาสวตฺถูนํ อนิฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ, ปฺจมสฺส ปน วิปลฺลาสวตฺถุโน อภาวา ‘‘น อุทฺธ’’นฺติ อาห. อารมฺมณวิภาเคน เหตฺถ สติปฏฺานวิภาโคติ. ตโย สติปฏฺานาติ สติปฏฺานสทฺทสฺส อตฺถุทฺธารทสฺสนํ, น อิธ ปาฬิยํ วุตฺตสฺส สติปฏฺานสทฺทสฺส อตฺถทสฺสนนฺติ. อาทีสุ หิ สติโคจโรติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ผสฺสสมุทยา เวทนานํ สมุทโย, นามรูปสมุทยา จิตฺตสฺส สมุทโย, มนสิการสมุทยา ธมฺมานํ สมุทโย’’ติ สติปฏฺานาติ วุตฺตานํ สติโคจรานํ ปกาสเก สุตฺตปเทเส สงฺคณฺหาติ. เอวํ ปฏิสมฺภิทาปาฬิยมฺปิ (ปฏิ. ม. ๓.๓๔) อวเสสปาฬิปฺปเทสทสฺสนตฺโถ อาทิ-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. สติยา ปฏฺานนฺติ สติยา ปติฏฺาตพฺพฏฺานํ. ทานาทีนิ สติยา กโรนฺตสฺส รูปาทีนิ กสิณาทีนิ จ สติยา านํ โหนฺตีติ ตํนิวารณตฺถมาห ‘‘ปธานํ าน’’นฺติ. ป-สทฺโท หิ อิธ ‘‘ปณีตา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๔ ติกมาติกา) วิย ปธานตฺถทีปโกติ อธิปฺปาโย.

อริโยติ อริยํ สพฺพสตฺตเสฏฺํ สมฺมาสมฺพุทฺธมาห. เอตฺถาติ เอตสฺมึ สฬายตนวิภงฺคสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๓๑๑). สุตฺเตกเทเสน หิ สุตฺตํ ทสฺเสติ. ตตฺถ หิ –

‘‘ตโย สติปฏฺานา ยทริโย…เป… มรหตีติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิธ, ภิกฺขเว, สตฺถา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสติ อนุกมฺปโก หิเตสี อนุกมฺปํ อุปาทาย ‘‘อิทํ โว หิตาย อิทํ โว สุขายา’ติ. ตสฺส สาวกา น สุสฺสูสนฺติ, น โสตํ โอทหนฺติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, โวกฺกมฺม จ สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ สติปฏฺานํ, ยทริโย…เป… อรหติ.

ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สตฺถา…เป… อิทํ โว สุขายาติ. ตสฺส เอกจฺเจ สาวกา น สุสฺสูสนฺติ…เป… วตฺตนฺติ. เอกจฺเจ สาวกา สุสฺสูสนฺติ…เป… น จ โวกฺกมฺม สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ, น เจว อตฺตมโน โหติ, น จ อตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ. อนตฺตมนตฺจ อตฺตมนตฺจ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโต วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุติยํ สติปฏฺานํ…เป… อรหติ.

ปุน จปรํ…เป… สุขายาติ. ตสฺส สาวกา สุสฺสูสนฺติ…เป… วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต อตฺตมโน เจว โหติ, อตฺตมนตฺจ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน . อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ตติยํ สติปฏฺานํ…เป… อรหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๑๑) –

เอวํ ปฏิฆานุนเยหิ อนวสฺสุตตา, นิจฺจํ อุปฏฺิตสฺสติตาย ตทุภยวีติวตฺตตา ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตา. พุทฺธานํเยว หิ นิจฺจํ อุปฏฺิตสฺสติตา โหติ อาเวณิกธมฺมภาวโต, น ปจฺเจกพุทฺธาทีนํ. -สทฺโท อารมฺภํ โชเตติ, อารมฺโภ จ ปวตฺตีติ กตฺวา อาห ‘‘ปวตฺตยิตพฺพโตติ อตฺโถ’’ติ. สติยา กรณภูตาย ปฏฺานํ ปฏฺเปตพฺพํ สติปฏฺานํ. อน-สทฺโท หิ พหุลวจเนน กมฺมตฺโถปิ โหตีติ.

ตถาสฺส กตฺตุอตฺโถปิ ลพฺภตีติ ‘‘ปติฏฺาตีติ ปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ -สทฺโท ภูสตฺถวิสิฏฺํ ปกฺขนฺธนํ ทีเปตีติ ‘‘โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ปวตฺตตีติ อตฺโถ’’ติ อาห. ปุน ภาวตฺถํ สติ-สทฺทํ ปฏฺาน-สทฺทฺจ วณฺเณนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. เตน ปุริมวิกปฺเป สติ-สทฺโท ปฏฺาน-สทฺโท จ กตฺถุอตฺโถติ วิฺายติ. สรณฏฺเนาติ จิรกตสฺส จิรภาสิตสฺส จ อนุสฺสรณฏฺเน. อิทนฺติ ยํ ‘‘สติเยว สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ, อิทํ อิธ อิมสฺมึ สุตฺตปเทเส อธิปฺเปตํ.

ยทิ เอวนฺติ ยทิ สติ เอว สติปฏฺานํ, สติ นาม เอโก ธมฺโม, เอวํ สนฺเต กสฺมา ‘‘สติปฏฺานา’’ติ พหุวจนนฺติ อาห ‘‘สติพหุตฺตา’’ติอาทิ. ยทิ พหุกา เอตา สติโย, อถ กสฺมา ‘‘มคฺโค’’ติ เอกวจนนฺติ โยชนา. มคฺคฏฺเนาติ นิยฺยานฏฺเน. นิยฺยานิโก หิ มคฺคธมฺโม, เตเนว นิยฺยานิกภาเวน เอกตฺตุปคโต เอกนฺตโต นิพฺพานํ คจฺฉติ, อตฺถิเกหิ จ ตทตฺถํ มคฺคียตีติ อตฺตนาว ปุพฺเพ วุตฺตํ ปจฺจาหรติ ‘‘วุตฺตฺเจต’’นฺติ. ตตฺถ จตสฺโสปิ เจตาติ กายานุปสฺสนาทิวเสน จตุพฺพิธาปิ จ เอตา สติโย. อปรภาเคติ อริยมคฺคกฺขเณ. กิจฺจํ สาธยมานาติ ปุพฺพภาเค กายาทีสุ อารมฺมเณสุ สุภสฺาทิวิธมเนน วิสุํ วิสุํ ปวตฺติตฺวา มคฺคกฺขเณ สกึเยว ตตฺถ จตุพฺพิธสฺสปิ วิปลฺลาสสฺส สมุจฺเฉทวเสน ปหานกิจฺจํ สาธยมานา อารมฺมณกรณวเสน นิพฺพานํ คจฺฉนฺติ. จตุพฺพิธกิจฺจสาธเนเนว เหตฺถ พหุวจนนิทฺเทโส. เอวฺจ สตีติ มคฺคฏฺเน เอกตฺตํ อุปาทาย ‘‘มคฺโค’’ติ เอกวจเนน อารมฺมณเภเทน จตุพฺพิธตํ อุปาทาย ‘‘จตฺตาโร’’ติ จ วตฺตพฺพตาย สติวิชฺชมานตฺตา. วจนานุสนฺธินา ‘‘เอกายโน อย’’นฺติอาทิกา เทสนา สานุสนฺธิกาว, น อนนุสนฺธิกาติ อธิปฺปาโย. วุตฺตเมวตฺถํ นิทสฺสเนน ปฏิปาเทตุํ ‘‘มารเสนปฺปมทฺทน’’นฺติ สุตฺตปทํ (สํ. นิ. ๕.๒๒๔) อาเนตฺวา ‘‘ยถา’’ติอาทินา นิทสฺสนํ สํสนฺเทติ. ตสฺมาติอาทิ นิคมนํ.

วิเสสโต กาโย จ เวทนา จ อสฺสาทสฺสการณนฺติ ตปฺปหานตฺถํ เตสุ ตณฺหาวตฺถูสุ โอฬาริกสุขุเมสุ อสุภทุกฺขภาวทสฺสนานิ มนฺทติกฺขปฺเหิ ตณฺหาจริเตหิ สุกรานีติ ตานิ เตสํ ‘‘วิสุทฺธิมคฺโค’’ติ วุตฺตานิ ตถา ‘‘นิจฺจํ อตฺตา’’ติ อภินิเวสวตฺถุตาย ทิฏฺิยา วิเสสการเณสุ จิตฺตธมฺเมสุ อนิจฺจานตฺตตาทสฺสนานิ สราคาทิวเสน สฺาผสฺสาทิวเสน นีวรณาทิวเสน จ นาติปฺปเภทอติปฺปเภทคเตสุ เตสุ ตปฺปหานตฺถํ มนฺทติกฺขปฺานํ ทิฏฺิจริตานํ สุกรานีติ เตสํ ตานิ ‘‘วิสุทฺธิมคฺโค’’ติ วุตฺตานิ. เอตฺถ จ ยถา จิตฺตธมฺมานมฺปิ ตณฺหาย วตฺถุภาโว สมฺภวติ, ตถา กายเวทนานมฺปิ ทิฏฺิยาติ สติปิ เนสํ จตุนฺนมฺปิ ตณฺหาทิฏฺิยา วตฺถุภาเว โย ยสฺส สาติสยปจฺจโย, ตํทสฺสนตฺถํ วิเสสคฺคหณํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ติกฺขปฺสมถยานิโก โอฬาริการมฺมณํ ปริคฺคณฺหนฺโต ตตฺถ อฏฺตฺวา ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย เวทนํ ปริคฺคณฺหาตีติ วุตฺตํ. ‘‘โอฬาริการมฺมเณ อสณฺหนโต’’ติ. วิปสฺสนายานิกสฺส ปน สุขุเม จิตฺเต ธมฺเมสุ จ จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ จิตฺตธมฺมานุปสฺสนานํ มนฺทติกฺขปฺาวิปสฺสนายานิกานํ วิสุทฺธิมคฺคตา วุตฺตา.

เตสํ ตตฺถาติ เอตฺถ ตตฺถ-สทฺทสฺส ‘‘ปหานตฺถ’’นฺติ เอเตน โยชนา. ปรโต เตสํ ตตฺถาติ เอตฺถาปิ เอเสวนโย. ปฺจ กามคุณา สวิเสสา กาเย ลพฺภนฺตีติ วิเสเสน กาโย กาโมฆสฺส วตฺถุ, ภเวสุ สุขคฺคหณวเสน ภวสฺสาโท โหติ ภโวฆสฺส เวทนา วตฺถุ, สนฺตติฆนคหณวเสน วิเสสโต จิตฺเต อตฺตาภินิเวโส โหตีติ ทิฏฺโฆสฺส จิตฺตํ วตฺถุ, ธมฺเมสุ วินิพฺโภคสฺส ทุกฺกรตฺตา ธมฺมานํ ธมฺมมตฺตตาย ทุปฺปฏิวิชฺฌตฺตา สมฺโมโห โหตีติ อวิชฺโชฆสฺส ธมฺมา วตฺถุ, ตสฺมา เตสํ ปหานตฺถํ จตฺตาโรว วุตฺตา.

ยทคฺเคน จ กาโย กาโมฆสฺส วตฺถุ, ตทคฺเคน อภิชฺฌากายคนฺถสฺส วตฺถุ, ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย อนุเสตีติ ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขสงฺขารทุกฺขภูตา เวทนา วิเสเสน พฺยาปาทกายคนฺถสฺส วตฺถุ, จิตฺเต นิจฺจคฺคหณวเสน สสฺสตสฺส อตฺตโน สีเลน สุทฺธีติอาทิ ปรามสนํ โหตีติ สีลพฺพตปรามาสสฺส จิตฺตํ วตฺถุ, นามรูปปริจฺเฉเทน ภูตํ ภูตโต อปสฺสนฺตสฺส ภววิภวทิฏฺิสงฺขาโต อิทํสจฺจาภินิเวโส โหตีติ ตสฺส ธมฺมา วตฺถุ, สุขเวทนาสฺสาทวเสน ปรโลกนิรเปกฺโข ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิกํ ปรามาสํ อุปฺปาเทตีติ ทิฏฺุปาทานสฺส เวทนา วตฺถุ สนฺตติฆนคหณวเสน สราคาทิจิตฺเต สมฺโมโห โหตีติ โมหาคติยา จิตฺตํ วตฺถุ, ธมฺมสภาวานวโพเธน ภยํ โหตีติ ภยาคติยา ธมฺมา วตฺถุ. เย ปเนตฺถ อวุตฺตา, เตสํ วุตฺตนเยน วตฺถุภาโว โยเชตพฺโพ. ตถา หิ โอเฆสุ วุตฺตนยา เอว โยคาสเวสุปิ โยชนา อตฺถโต อภินฺนตฺตา. ตถา ปโมฆตติยจตุตฺถคนฺถโยชนาย วุตฺตนยา เอว กายจิตฺตธมฺมานํ อิตรูปาทานวตฺถุตา โยชนา, ตถา กาโมฆพฺยาปาทกายคนฺถโยชนาย วุตฺตนยา เอว กายเวทนานํ ฉนฺทโทสาคติ วตฺถุตา โยชนา วา.

‘‘อาหารสมุทยา กายสมุทโย, ผสฺสสมุทยา เวทนาสมุทโย, (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; อุทา. ๑; วิภ. ๒๒๕) วจนโต กายาทีนํ สมุทยภูตา กพฬีการาหารผสฺสมโนสฺเจตนาวิฺาณาหารา กายาทิปริชานเนน ปริฺาตา โหนฺตีติ อาห ‘‘จตุพฺพิธาหารปริฺตฺถ’’นฺติ ปกรณนโยติ เนตฺติปกรณวเสน สุตฺตนฺตสํวณฺณนานโย.

สรณวเสนาติ กายาทีนํ กุสลาทิธมฺมานฺจ อุปธารณวเสน. สรนฺติ คจฺฉนฺติ นิพฺพานํ เอตายาติ สตีติ อิมสฺมึ อตฺเถ เอกตฺเต เอกสภาเว นิพฺพาเน สโมสรณํ สมาคโม เอกตฺตสโมสรณํ. เอตเทว หิ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอกนิพฺพานปเวสเหตุภูตา วา สมานตา เอโก สติปฏฺานสฺส ภาโว เอกตฺตํ, ตตฺถ สโมสรณํ ตํสภาคตา เอกตฺตสโมสรณํ. เอกนิพฺพานปเวสเหตุภาวํ ปน ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห. เอตสฺมึ อตฺเถ สรเณกตฺตสโมสรณานิ สเหว สติปฏฺาเนกภาวสฺส การณตฺเถน วุตฺตานีติ ทฏฺพฺพานิ, ปุริมสฺมึ วิสุํ. สรณวเสนาติ วา ‘‘คมนวเสนา’’ติ อตฺเถ สติ ตเทว คมนํ สโมสรณนฺติ, สโมสรเณ วา สติสทฺทตฺถวเสน อวุจฺจมาเน ธารณตาว สตีติ สติสทฺทตฺถนฺตราภาวา ปุริมํ สติภาวสฺส การณํ, ปจฺฉิมํ เอกภาวสฺสาติ นิพฺพานสโมสรเณปิ สหิตาเนว ตานิ สติปฏฺาเนกภาวสฺส การณานิ วุตฺตานิ โหนฺติ. จุทฺทสวิเธน,นววิเธน, โสฬสวิเธน, ปฺจวิเธนาติ อิทํ อุปริ ปาฬิยํ (ม. นิ. ๑.๑๐๗) อาคตานํ อานาปานปพฺพาทีนํ วเสน วุตฺตํ, เตสํ ปน อนฺตรเภทวเสน ตทนุคตเภทวเสน จ ภาวนาย อเนกวิธตา ลพฺภติเยว. จตูสุ ทิสาสุ อุฏฺานกภณฺฑสทิสตา กายานุปสฺสนาทิตํตํสติปฏฺานภาวนานุภาวสฺส ทฏฺพฺพา.

‘‘โคจเร, ภิกฺขเว, จรถ สเก เปตฺติเก วิสเย’’ติอาทิวจนโต (ที. นิ. ๓.๘๐; สํ. นิ. ๕.๓๗๒) ภิกฺขุโคจรา เอเต ธมฺมา, ยทิทํ กายานุปสฺสนาทโย. ตตฺถ ยสฺมา กายานุปสฺสนาทิปฏิปตฺติยา ภิกฺขุ โหติ, ตสฺมา ‘‘กายานุปสฺสี วิหรตี’’ติอาทินา ภิกฺขุํ ทสฺเสติ, ภิกฺขุมฺหิ ตํ นิยมโตติ อาห ‘‘ปฏิปตฺติยา ภิกฺขุภาวทสฺสนโต’’ติ. สตฺถุ จริยานุวิธายกตฺตา สกลสาสนสมฺปฏิคฺคาหกตฺตา จ สพฺพปฺปการาย อนุสาสนิยา ภาชนภาโว.

สมํ จเรยฺยาติ กายาทิวิสมจริยํ ปหาย กายาทีหิ สมํ จเรยฺย. ราคาทิวูปสเมน สนฺโต. อินฺทฺริยทเมน ทนฺโต. จตุมคฺคนิยาเมน นิยโต. เสฏฺจริตาย พฺรหฺมจารี. กายทณฺฑาทิโอโรปเนน นิธาย ทณฺฑํ. อริยภาเว ิโต โส เอวรูโป พาหิตปาปสมิตปาปภินฺนกิเลสตาหิ พฺราหฺมโณ สมโณ ภิกฺขูติ เวทิตพฺโพ.

‘‘อยฺเจว กาโย พหิทฺโธ จ นามรูป’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ฏี. ๒.๓๗๓) ขนฺธปฺจกํ, ‘‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๗๑, ๒๘๗; ปารา. ๑๑) นามกาโย กาโยติ วุจฺจตีติ ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘กาเยติ รูปกาเย’’ติ อาห.

อสมฺมิสฺสโตติ ‘‘เวทนาทโยปิ เอตฺถ สิตา เอตฺถ ปฏิพทฺธา’’ติ กาเย เวทนาทิอนุปสฺสนาปสงฺเคปิ อาปนฺเน ตโต อสมฺมิสฺสโตติ อตฺโถ. สมูหวิสยตาย จสฺส กาย-สทฺทสฺส สมุทายุปาทานตาย จ อสุภาการสฺส ‘‘กาเย’’ติ เอกวจนํ, ตถา อารมฺมณาทิวิภาเคน อเนกเภทภินฺนมฺปิ จิตฺตํ จิตฺตภาวสามฺเน เอกชฺฌํ คเหตฺวา ‘‘จิตฺเต’’ติ เอกวจนํ, เวทนา ปน สุขาทิเภทภินฺนา วิสุํ วิสุํ อนุปสฺสิตพฺพาติ ทสฺเสนฺเตน ‘‘เวทนาสู’’ติ พหุวจเนน วุตฺตา, ตเถว จ นิทฺเทโส ปวตฺติโต, ธมฺมา จ ปโรปณฺณาสเภทา อนุปสฺสิตพฺพากาเรน จ อเนกเภทา เอวาติ เตปิ พหุวจนวเสเนว วุตฺตา. อวยวีคาห-สมฺาติธาวน-สาราทานาภินิเวสนิเสธนตฺถํ กายํ องฺคปจฺจงฺเคหิ, ตานิ จ เกสาทีหิ, เกสาทิเก จ ภูตุปาทายรูเปหิ วินิพฺภุชฺชนฺโต ‘‘ตถา น กาเย’’ติอาทิมาห. ปาสาทาทินคราวยวสมูเห อวยวีวาทิโนปิ อวยวีคาหํ น กโรนฺติ, นครํ นาม โกจิ อตฺโถ อตฺถีติ ปน เกสฺจิ สมฺาติธาวนํ สิยาติ อิตฺถิปุริสาทิสมฺาติธาวเน นครนิทสฺสนํ วุตฺตํ. องฺคปจฺจงฺคสมูโห, เกสโลมาทิสมูโห ภูตุปาทายสมูโห จ ยถาวุตฺตสมูเห ตพฺพินิมุตฺโต กาโยปิ นาม โกจิ นตฺถิ, ปเคว อิตฺถิอาทโยติ อาห ‘‘กาโย วา…เป… ทิสฺสตี’’ติ. โกจิ ธมฺโมติ อิมินา สตฺตชีวาทึ ปฏิกฺขิปติ, อวยวี ปน กายปฏิกฺเขเปเนว ปฏิกฺขิตฺโตติ. ยทิ เอวํ กถํ กายาทิสฺาภิธานานีติอาห ‘‘ยถาวุตฺต…เป… กโรนฺตี’’ติ.

ยํ ปสฺสติ อิตฺถึ ปุริสํ วา. นนุ จกฺขุนา อิตฺถิปุริสทสฺสนํ นตฺถีติ? สจฺจเมตํ, ‘‘อิตฺถึ ปสฺสามิ, ปุริสํ ปสฺสามี’’ติ ปน ปวตฺตสฺาย วเสน ‘‘ยํ ปสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. มิจฺฉาทสฺสเนน วา ทิฏฺิยา ยํ ปสฺสติ, น ตํ ทิฏฺํ, ตํ รูปายตนํ น โหตีติ อตฺโถ วิปรีตคฺคาหวเสน มิจฺฉาปริกปฺปิตรูปตฺตา. อถ วา ตํ เกสาทิภูตุปาทายสมูหสงฺขาตํ ทิฏฺํ น โหติ อจกฺขุวิฺาณวิฺเยฺยตฺตา, ทิฏฺํ วา ตํ น โหติ. ยํ ทิฏฺํ ตํ น ปสฺสตีติ ยํ รูปายตนํ เกสาทิภูตุปาทายสมูหสงฺขาตํ ทิฏฺํ, ตํ ปฺาจกฺขุนา ภูตโต น ปสฺสตีติ อตฺโถ. อปสฺสํ พชฺฌเตติ อิมํ อตฺตภาวํ ยถาภูตํ ปฺาจกฺขุนา อปสฺสนฺโต ‘‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺโต’’ติ กิเลสพนฺธเนน พชฺฌติ.

อฺธมฺมานุปสฺสีติ น อฺสภาวานุปสฺสี, อสุภาทิโต อฺาการานุปสฺสี น โหตีติ อตฺโถ. กึ วุตฺตํ โหตีติอาทินา ตเมวตฺถํ ปากฏํ กโรติ. ปถวีกายนฺติ เกสาทิโกฏฺาสปถวึ ธมฺมสมูหตฺตา ‘‘กาโย’’ติ วทติ, ลกฺขณปถวิเมว วา อเนกปฺปเภทํ สกลสรีรคตํ ปุพฺพาปริยภาเวน จ ปวตฺตมานํ สมูหวเสน คเหตฺวา ‘‘กาโย’’ติ วทติ. อาโปกายนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

เอวํ คเหตพฺพสฺสาติ ‘‘อหํ มม’’นฺติ เอวํ อตฺตตฺตนิยภาเวน อนฺธพาเลหิ คเหตพฺพสฺส. อิทานิ สตฺตนฺนํ อนุปสฺสนาการานมฺปิ วเสน กายานุปสฺสนํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อนิจฺจโต อนุปสฺสตีติ จตุสมุฏฺานิกกายํ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ อนุปสฺสติ, เอวํ ปสฺสนฺโต เอวํ จสฺส อนิจฺจาการมฺปิ อนุปสฺสตีติ วุจฺจติ. ตถาภูตสฺส จสฺส นิจฺจคฺคาหสฺส เลโสปิ น โหตีติ วุตฺตํ ‘‘โน นิจฺจโต’’ติ ตถาเหส ‘‘นิจฺจสฺํ ปชหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๓๕) วุตฺโต. เอตฺถ จ ‘‘อนิจฺจโต เอว อนุปสฺสตี’’ติ เอว-กาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ เตน นิวตฺติตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘โน นิจฺจโต’’ติ วุตฺตํ. น เจตฺถ ทุกฺขโต อนุปสฺสนาทินิวตฺตนมาสงฺกิตพฺพํ ปฏิโยคีนิวตฺตนปรตฺตา เอว-การสฺส, อุปริเทสนารุฬฺหตฺตา จ ตาสํ.

ทุกฺขโต อนุปสฺสตีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – อนิจฺจสฺส ทุกฺขตฺตา ตเมว กายํ ทุกฺขโต อนุปสฺสติ, ทุกฺขสฺส อนตฺตตฺตา อนตฺตโต อนุปสฺสติ. ยสฺมา ปน ยํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา, ตํ อนภินนฺทิตพฺพํ, น ตตฺถ รชฺชิตพฺพํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘นิพฺพินฺทติ โน นนฺทติ,วิรชฺชติ โน รชฺชตี’’ติ. โส เอวํ อรชฺชนฺโต ราคํ นิโรเธติ โน สมุเทติ, สมุทยํ น กโรตีติ อตฺโถ. เอวํ ปฏิปนฺโน จ ปฏินิสฺสชฺชติ โน อาทิยติ. อยฺหิ อนิจฺจาทิอนุปสฺสนา ตทงฺควเสน สทฺธึ กายตนฺนิสฺสยขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลสานํ ปริจฺจชนโต, สงฺขตโทสทสฺสเนน ตพฺพิปรีเต นิพฺพาเน ตนฺนินฺนตาย ปกฺขนฺทนโต ‘‘ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จา’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา ตาย สมนฺนาคโต ภิกฺขุ วุตฺตนเยน กิเลเส จ ปริจฺจชติ, นิพฺพาเน จ ปกฺขนฺทติ , ตถาภูโต จ นิพฺพตฺตนวเสน กิเลเส น อาทิยติ, นาปิ อโทสทสฺสิตาวเสน สงฺขตารมฺมณํ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปฏินิสฺสชฺชติ โน อาทิยตี’’ติ. อิทานิสฺส ตาหิ อนุปสฺสนาหิ เยสํ ธมฺมานํ ปหานํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โส ตํ อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหตี’’ติ. ตตฺถ นิจฺจสฺนฺติ ‘‘สงฺขารา นิจฺจา’’ติ เอวํ ปวตฺตวิปรีตสฺํ. ทิฏฺิจิตฺตวิปลฺลาสปหานมุเขเนว สฺาวิปลฺลาสปฺปหานนฺติ สฺาคหณํ, สฺาสีเสน วา เตสมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. นนฺทินฺติ สปฺปีติกตณฺหํ. เสสํ วุตฺตนเยเมว.

วิหรตีติ อิมินา กายานุปสฺสนาสมงฺคิโน อิริยาปถวิหาโร วุตฺโตติ อาห ‘‘อิริยตี’’ติ อิริยาปถํ ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. อารมฺมณกรณวเสน อภิพฺยาปนโต ‘‘ตีสุ ภเวสู’’ติ วุตฺตํ, อุปฺปชฺชนวเสน ปน กิเลสา ปริตฺตภูมกา เอวาติ. ยทิปิ กิเลสานํ ปหานํ อาตาปนนฺติ ตํ สมฺมาทิฏฺิอาทีนมฺปิ อตฺเถว, อาตาป-สทฺโท ปน วีริเยเยว นิรุฬฺโหติ วุตฺตํ ‘‘วีริยสฺเสตํ นาม’’นฺติ. อถ วา ปฏิปกฺขปหาเน สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อพฺภุสฺสหนวเสน ปวตฺตมานสฺส วีริยสฺส สาติสยํ ตทาตาปนนฺติ วีริยเมว ตถา วุจฺจติ, น อฺเ ธมฺมา. อาตาปีติ จายมีกาโร ปสํสาย, อติสยสฺส วา ทีปโกติ อาตาปีคหเณน สมฺมปฺปธานสมงฺคิตํ ทสฺเสติ. สมฺมา, สมนฺตโต, สามฺจ ปชานนฺโต สมฺปชาโน, อสมฺมิสฺสโต ววตฺถาเน อฺธมฺมานุปสฺสิตาภาเวน สมฺมา อวิปรีตํ, สพฺพาการปชานเนน สมนฺตโต, อุปรูปริ วิเสสาวหภาเวน ปวตฺติยา สยํ ปชานนฺโตติ อตฺโถ. ยทิ ปฺาย อนุปสฺสติ, กถํ สติปฏฺานตาติ อาห ‘‘น หี’’ติอาทิ. สพฺพตฺถิกนฺติ สพฺพตฺถ ภวํ สพฺพตฺถ ลีเน อุทฺธเต จ จิตฺเต อิจฺฉิตพฺพตฺตา, สพฺเพ วา ลีเน อุทฺธเต จ ภาเวตพฺพา โพชฺฌงฺคา อตฺถิกา เอตายาติ สพฺพตฺถิกา. สติยา ลทฺธูปการาย เอว ปฺาย เอตฺถ ยถาวุตฺเต กาเย กมฺมฏฺานิโก ภิกฺขุ กายานุปสฺสี วิหรติ. อนฺโตสงฺเขโป อนฺโต โอลียโน, โกสชฺชนฺติ อตฺโถ. อุปายปริคฺคเหติ เอตฺถ สีลวิโสธนาทิ คณนาทิ อุคฺคหโกสลฺลาทิ จ อุปาโย, ตพฺพิปริยายโต อนุปาโย เวทิตพฺโพ. ยสฺมา จ อุปฏฺิตสฺสติ ยถาวุตฺตอุปายํ น ปริจฺจชติ, อนุปายฺจ น อุปาทิยติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘มุฏฺสฺสติ…เป… อสมตฺโถโหตี’’ติ. เตนาติ อุปายานุปายานํ ปริคฺคหปริวชฺชเนสุ อปริจฺจาคาปริคฺคเหสุ จ อสมตฺถภาเวน อสฺส โยคิโน.

ยสฺมา สติเยเวตฺถ สติปฏฺานํ วุตฺตา, ตสฺมาสฺส สมฺปยุตฺตา ธมฺมา วีริยาทโย องฺคนฺติ อาห ‘‘สมฺปโยคงฺคฺจสฺส ทสฺเสตฺวา’’ติ. องฺค-สทฺโท เจตฺถ การณปริยาโย ทฏฺพฺโพ, สติคฺคหเณเนว เจตฺถ สมาธิสฺสติ คหณํ ทฏฺพฺพํ ตสฺสา สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตตฺตา. ยสฺมา วา สติสีเสนายํ เทสนา. น หิ เกวลาย สติยา กิเลสปฺปหานํ โหติ, นิพฺพานาธิคโม วา, น จ เกวลา สติ ปวตฺตติ, ตสฺมาสฺส ฌานเทสนายํ สวิตกฺกาทิวจนสฺส วิย สมฺปโยคงฺคทสฺสนตาติ องฺค-สทฺทสฺส อวยวปริยายตา ทฏฺพฺพา. ปหานงฺคนฺติ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๒๖; ม. นิ. ๑.๒๗๑, ๒๘๗; สํ. นิ. ๒.๑๕๒; อ. นิ. ๔.๑๒๓; ปารา. ๑๑) วิย ปหาตพฺพงฺคํ ทสฺเสตุํ. ยสฺมา เอตฺถ โลกิยมคฺโค อธิปฺเปโต, น โลกุตฺตรมคฺโค, ตสฺมา ปุพฺพภาคิยเมว วินยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตทงฺควินเยน วา วิกฺขมฺภนวินเยน วา’’ติ อาห. เตสํ ธมฺมานนฺติ เวทนาทิธมฺมานํ. เตสฺหิ ตตฺถ อนธิปฺเปตตฺตา ‘‘อตฺถุทฺธารนเยเนตํ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ.

อวิเสเสน ทฺวีหิปิ นีวรณปฺปหานํ วุตฺตนฺติ กตฺวา ปุน เอเกเกน วุตฺตํ ปหานวิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิเสเสนา’’ติ อาห. อถ วา ‘‘วิเนยฺย นีวรณานี’’ติ อวตฺวา อภิชฺฌาโทมนสฺสวจนสฺส ปโยชนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิเสเสนา’’ติอาทิมาห. กายานุปสฺสนาภาวนาย หิ อุชุวิปจฺจนีกานํ อนุโรธาทีนํ ปหานํ ทสฺสนํ เอตสฺส ปโยชนนฺติ. กายสมฺปตฺติมูลกสฺสาติ รูป-พล-โยพฺพนาโรคฺยาทิ-สรีรสมฺปทา-นิมิตฺตสฺส. วุตฺตวิปริยายโต กายวิปตฺติมูลโก วิโรโธ เวทิตพฺโพ. กายภาวนายาติ กายานุปสฺสนาภาวนาย. สา หิ อิธ ‘‘กายภาวนา’’ติ อธิปฺเปตา. เตนาติ อนุโรธาทิปฺปหานวจเนน. โยคานุภาโว หีติอาทิ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส ปากฏกรณํ.

สติสมฺปชฺเนาติ อติสมฺปชฺคฺคหเณน. สพฺพตฺถิกกมฺมฏฺานนฺติ พุทฺธานุสฺสติ เมตฺตา มรณสฺสติ อสุภภาวนา จ. อิทฺหิ จตุกฺกํ โยคินา ปริหริยมานํ ‘‘สพฺพตฺถิกกมฺมฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ อติสมฺปชฺพเลน อวิจฺฉินฺนสฺส ตสฺส ปริหริตพฺพตฺตา, สติยา วา สมโถ วุตฺโต ตสฺสา สมาทฺธิกฺขนฺเธน สงฺคหิตตฺตา.

เตนาติ สทฺทตฺถํ อนาทิยิตฺวา ภาวตฺถสฺเสว วิภชนวเสน ปวตฺเตน วิภงฺคปาเน สห. อฏฺกถานโยติ สทฺทตฺถสฺสปิ วิวรณวเสน ยถารหํ วุตฺโต อตฺถสํวณฺณนานโย. ยถา สํสนฺทตีติ ยถา อตฺถโต อธิปฺปายโต จ อวิโลเมนฺโต อฺทตฺถุ สํสนฺทติ สเมติ, เอวํ เวทิตพฺโพ.

เวทนาทีนํปุน วจเนติ เอตฺถ นิสฺสยปจฺจยภาววเสน จิตฺตธมฺมานํ เวทนาสนฺนิสฺสิตตฺตา ปฺจโวการภเว อรูปธมฺมานํ รูปปฏิพทฺธวุตฺติโต จ เวทนาย กายาทิอนุปสฺสนาปสงฺเคปิ อาปนฺเน ตทสมฺมิสฺสโต ววตฺถานทสฺสนตฺถํ ฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถฺจ ทุติยเวทนาคหณํ. เตน น เวทนายํ กายานุปสฺสี, จิตฺตธมฺมานุปสฺสี วา, อถ โข เวทนานุปสฺสีเยวาติ เวทนาสงฺขาเต วตฺถุสฺมึ เวทนานุปสฺสนาการสฺเสว ทสฺสเนน อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานํ ทสฺสิตํ โหติ. ตถา ‘‘ยสฺมึ สมเย สุขา เวทนา, น ตสฺมึ สมเย ทุกฺขา อทุกฺขมสุขา วา เวทนา. ยสฺมึ วา ปน สมเย ทุกฺขา อทุกฺขมสุขา วา เวทนา, น ตสฺมึ สมเย อิตรา เวทนา’’ติ เวทนาภาวสามฺเ อฏฺตฺวา ตํ ตํ เวทนํ วินิพฺภุชิตฺวา ทสฺสเนน ฆนวินิพฺโภโค ธุวภาววิเวโก ทสฺสิโต โหติ. เตน ตาสํ ขณมตฺตาวฏฺานทสฺสเนน อนิจฺจตาย ตโต เอว ทุกฺขตาย อนตฺตตาย จ ทสฺสนํ วิภาวิตํ โหติ. ฆนวินิพฺโภคาทีติ อาทิ-สทฺเทน อยมฺปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยฺหิ เวทนายํ เวทนานุปสฺสีเยว, น อฺธมฺมานุปสฺสี. กึ วุตฺตํ โหติ – ยถา นาม พาโล อมณิสภาเวปิ อุทกพุพฺพุฬเก มณิอาการานุปสฺสี โหติ, น เอวมยํ ิติรมณีเยปิ เวทยิเต, ปเคว อิตรสฺมึ มนุฺาการานุปสฺสี, อถ โข ขณภงฺคุรตาย อวสวตฺติตาย กิเลสาสุจิปคฺฆรณตาย จ อนิจฺจอนตฺตอสุภาการานุปสฺสี, วิปริณามทุกฺขตาย สงฺขารทุกฺขตาย จ วิเสสโต ทุกฺขานุปสฺสีเยวาติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ จิตฺตธมฺเมสุปิ ยถารหํ ปุน วจเน ปโยชนํ วตฺตพฺพํ. ‘‘เกวลํ ปนิธา’’ติอาทินา อิธ ‘เอตฺตกํ เวทิตพฺพ’’นฺติ เวทิตพฺพปริจฺเฉทํ ทสฺเสติ. เอส นโยติ อิมินา ยถา จิตฺตํ ธมฺมา จ อนุปสฺสิตพฺพา, ตถา ตานิ อนุปสฺสนฺโต ‘‘จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี, ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี’’ติ เวทิตพฺโพติ อิมมตฺถํ อติทิสติ.

โยสุขํ ทุกฺขโต อทฺทาติ โย ภิกฺขุ สุขเวทนํ วิปริณามทุกฺขตาย ‘‘ทุกฺข’’นฺติ ปฺาจกฺขุนา อทฺทกฺขิ. ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโตติ ทุกฺขเวทนํ ปีฬาชนนโต อนฺโตตุทนโต ทุนฺนีหรณโต จ สลฺลนฺติ อทฺทกฺขิ ปสฺสิ. อทุกฺขมสุขนฺติ อุเปกฺขาเวทนํ. สนฺตนฺติ สุขทุกฺขานิ วิย อโนฬาริกตาย ปจฺจยวเสน วูปสนฺตสภาวตาย จ สนฺตํ. อนิจฺจโตติ หุตฺวา อภาวโต อุทยพฺพยวนฺตโต ตาวกาลิกโตนิจฺจปฏิกฺเขปโต จ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ โย อทฺทกฺขิ. ส เว สมฺมทฺทโส ภิกฺขุ เอกํเสน ปริพฺยตฺตํ วา เวทนาย สมฺมา ปสฺสนโกติ อตฺโถ.

ทุกฺขาติปีติ สงฺขารทุกฺขตาย ทุกฺขา อิติปิ. สพฺพํ ตํ ทุกฺขสฺมินฺติ สพฺพํ ตํ เวทยิตํ ทุกฺขสฺมึ อนฺโตคธํ ปริยาปนฺนํ วทามิ สงฺขารทุกฺขตานติวตฺตนโต. สุขทุกฺขโตปิ จาติ สุขาทีนํ ิติวิปริณามฺาณสุขตาย วิปริณามิติอฺาณทุกฺขตาย จ วุตฺตตฺตา ติสฺโสปิ สุขโต, ติสฺโสปิ จ ทุกฺขโต อนุปสฺสิตพฺพาติ อตฺโถ. รูปาทิ-อารมฺมณฉนฺทาทิ-อธิปติ-าณาทิ-สหชาต- กามาวจราทิ-ภูมินานตฺตเภทานํ กุสลากุสล-ตํวิปากกิริยา-นานตฺตาทิเภทานฺจ, อาทิ-สทฺเทน สงฺขาริกาสงฺขาริกส-วตฺถุกาวตฺถุกาทิ-นานตฺตเภทานฺจ วเสนาติ โยเชตพฺพํ. สุฺตธมฺมสฺสาติ ‘‘ธมฺมา โหนฺตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๑) สุฺตวาเร อาคตสุฺตสภาวสฺส วเสน. ‘‘กามฺเจตฺถา’’ติอาทินา ปุพฺเพ ปหีนตฺตา ปุน ปหานํ น วตฺตพฺพนฺติ โจทนํ ทสฺเสติ, มคฺคจิตฺตกฺขเณ วา เอกตฺถ ปหีนํ สพฺพตฺถ ปหีนเมว โหตีติ วิสุํ วิสุํ น วตฺตพฺพนฺติ. ตตฺถ ปุริมาย โจทนาย นานาปุคฺคลปริหาโร, ปจฺฉิมาย นานาจิตฺตกฺขณิกปริหาโร. โลกิยภาวนาย หิ กาเย ปหีนํ น เวทนาทีสุ ปหีนํ โหติ ยทิปิ น ปวตฺเตยฺย, น ปฏิปกฺขภาวนาย ตตฺถ สา อภิชฺฌาโทมนสฺสสฺส อปฺปวตฺติ โหตีติ ปุน ตปฺปหานํ วตฺตพฺพเมวาติ. เอกตฺถ ปหีนํ เสเสสุปิ ปหีนํ โหตีติ มคฺคสติปฏฺานภาวนํ, โลกิยภาวนาย วา สพฺพตฺถ อปฺปวตฺติมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ปฺจปิ ขนฺธา โลโก’’ติ หิ วิภงฺเค (วิภ. ๓๖๒, ๓๖๔, ๓๖๖, ๓๗๓) จตูสุปิ าเนสุ วุตฺตนฺติ.

อุทฺเทสวารวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

กายานุปสฺสนาวณฺณนา

อานาปานปพฺพวณฺณนา

๑๐๗. พาหิรเกสุปิ อิโต เอกเทสสฺส สมฺภวโต สพฺพปฺปการคฺคหณํ กตํ ‘‘สพฺพปฺปการกายานุปสฺสนานิพฺพตฺตกสฺสา’’ติ. เตน เย อิเม อานาปานปพฺพาทิวเสน อาคตา จุทฺทสปฺปการา, ตทนฺโตคธา จ อชฺฌตฺตาทิอนุปสฺสนา ปการา, ตถา กายคตาสติสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๑๕๔) วุตฺตา เกสาทิวณฺณสณฺานกสิณารมฺมณจตุกฺกชฺฌานปฺปการา, โลกิยาทิปฺปการา จ, เต สพฺเพปิ อนวเสสโต สงฺคณฺหาติ. อิเม จ ปการา อิมสฺมึเยว สาสเน, น อิโต พหิทฺธาติ วุตฺตํ ‘‘สพฺพปฺปการ…เป… ปฏิเสธโน จา’’ติ. ตตฺถ ตถาภาวปฏิเสธโนติ สพฺพปฺปการกายานุปสฺสนานิพฺพตฺตกสฺส ปุคฺคลสฺส อฺสาสนสฺส นิสฺสยภาวปฏิเสธโน. เอเตน ‘‘อิธ, ภิกฺขเว’’ติ เอตฺถ อิธ-สทฺโท อนฺโตคธเอวสทฺทตฺโถติ ทสฺเสติ . สนฺติ หิ เอกปทานิปิ สาวธารณานิ ยถา ‘‘วายุภกฺโข’’ติ (ที. นิ. ฏี. ๒.๓๗๔). เตนาห ‘‘อิเธว สมโณ’’ติอาทิ. ปริปุณฺณสมณกรณธมฺโม หิ โส, โย สพฺพปฺปการกายานุปสฺสนานิพฺพตฺตโก. ปรปฺปวาทาติ ปเรสํ อฺติตฺถิยานํ นานปฺปการา วาทา ติตฺถายตนานิ.

อรฺาทิกสฺเสว ภาวนานุรูปเสนาสนตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมสฺส หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทุทฺทโม ทมถํ อนุปคโต โคโณ กูฏโคโณ. โทหนกาเล ยถา ถเนหิ อนวเสสโต ขีรํ น ปคฺฆรติ, เอวํ โทหปฏิพนฺธินี กูฏเธนุ. รูปสทฺทาทิเก ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกอสฺสาโท รูปารมฺมณาทิรโส. ปุพฺเพ อาจิณฺณารมฺมณนฺติ ปพฺพชฺชาโต ปุพฺเพ, อนาทิมติ วา สํสาเร ปริจิตารมฺมณํ.

นิพนฺเธยฺยาติ พนฺเธยฺย. สติยาติ สมฺมเทว กมฺมฏฺานสฺส สลฺลกฺขณวเสน ปวตฺตาย สติยา. อารมฺมเณติ กมฺมฏฺานารมฺมเณ. ทฬฺหนฺติ ถิรํ, ยถา สโตการิสฺส อุปจารปฺปนาเภโท สมาธิ อิชฺฌติ, ตถา ถามคตํ กตฺวาติ อตฺโถ.

วิเสสาธิคมทิฏฺธมฺมสุขวิหารปทฏฺานนฺติ สพฺเพสํ พุทฺธานํ, เอกจฺจานํ ปจฺเจกพุทฺธานํ, พุทฺธสาวกานฺจ วิเสสาธิคมสฺส, อฺเน กมฺมฏฺาเนน อธิคตวิเสสานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารสฺส จ ปทฏฺานภูตํ. วตฺถุวิชฺชาจริโย วิย ภควา โยคีนํ อนุรูปนิวาสฏฺานุปทิสนโต. ภิกฺขุ ทีปิสทิโส อรฺเ เอกากี วิหริตฺวา ปฏิปกฺขนิมฺมถเนน อิจฺฉิตตฺถสาธนโต. ผลมุตฺตมนฺติ สามฺผลํ สนฺธายาห. ปรกฺกมชวโยคฺคภูมินฺติ ภาวนุสฺสาหชวสฺส โยคฺคกรณภูมิภูตํ.

อสฺสาสปสฺสาสานํ วเสน สิกฺขโตติ อสฺสาสปสฺสาสานํ ทีฆรสฺสตาปชานน-สพฺพกายปฏิสํเวทน-โอฬาริโกฬาริกปฏิปฺปสฺสมฺภนวเสน ภาวนานุโยคํ สิกฺขโต, ตถาภูโต วา หุตฺวา ติสฺโส สิกฺขา ปวตฺตยโต. อสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺเตติ อสฺสาสปสฺสาสสนฺนิสฺสเยน อุปฏฺิตปฏิภาคนิมิตฺเต. อสฺสาสปสฺสาเส ปริคฺคณฺหาติ รูปมุเขน วิปสฺสนํ อภินิวิสนฺโต, โย ‘‘อสฺสาสปสฺสาสกมฺมิโก’’ติ วุตฺโต. ฌานงฺคานิ ปริคฺคณฺหาติ อรูปมุเขน วิปสฺสนํ อภินิวิสนฺโต. วตฺถุ นาม กรชกาโย จิตฺตเจตสิกานํ ปวตฺติฏฺานภาวโต. อฺโ สตฺโต วา ปุคฺคโล วา นตฺถีติ วิสุทฺธทิฏฺิ ‘‘ตยิทํ ธมฺมมตฺตํ น อเหตุกํ, นาปิ อิสฺสราทิวิสมเหตุกํ, อถ โข อวิชฺชาทีหิ เอว สเหตุก’’นฺติ อทฺธตฺตเยปิ กงฺขาวิตรเณน วิติณฺณกงฺโข ‘‘ยํ กิฺจิ รูป’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๑.๓๖๑; ม. นิ. ๒.๑๑๓; ม. นิ. ๓.๘๖; อ. นิ. ๔.๑๘๑; ปฏิ. ม. ๑.๔๘) กลาปสมฺมสนวเสน ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา อุทยพฺพยานุปสฺสนาทิวเสน วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺโต อนุกฺกเมน มคฺคปฏิปาฏิยา.

ปรสฺส วา อสฺสาสปสฺสาสกาเยติ อิทํ สมฺมสนจารวเสนายํ ปาฬิ ปวตฺตาติ กตฺวา วุตฺตํ, สมถวเสน ปน ปรสฺส อสฺสาสปสฺสาสกาเย อปฺปนานิมิตฺตุปฺปตฺติ เอว นตฺถีติ. อิทํ อุภยํ น ลพฺภตีติ ‘‘อชฺฌตฺตํ, พหิทฺธา’’ติ จ วุตฺตํ อิทํ ธมฺมทฺวยฆฏิตํ เอกโต อารมฺมณภาเวน น ลพฺภติ.

สมุเทติ เอตสฺมาติ สมุทโย, โส เอว การณฏฺเน ธมฺโมติ สมุทยธมฺโม, อสฺสาสปสฺสาสานํ ปวตฺติเหตุกรชกายาทิ. ตสฺส อนุปสฺสนสีโล สมุทยธมฺมานุปสฺสี. ตํ ปน สมุทยธมฺมํ อุปมามุเขน ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ภสฺตนฺติ รุตฺตึ. คคฺครนาฬินฺติ อุกฺกาปนาฬึ. เตติ กรชกายาทิเก. ยถา อสฺสาสปสฺสาสกาโย กรชกายาทิสมฺพนฺธี ผลภาเวน, เอวํ เตปิ อสฺสาสปสฺสาสกายสมฺพนฺธิโน เหตุภาเวนาติ ‘‘สมุทยธมฺมา กายสฺมิ’’นฺติ วตฺตพฺพตํ ลภนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘สมุทย…เป… วุจฺจตี’’ติ. ปกติวาจี วา ธมฺม-สทฺโท ‘‘ชาติธมฺมาน’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๓๑; ม. นิ. ๓.๓๗๓; ปฏิ. ม. ๑.๓๓) วิยาติ กายสฺส ปจฺจยสมวาเย อุปฺปชฺชนปกติกานุปสฺสี ‘‘สมุทยธมฺมานุปสฺสี’’ติ วุตฺโต. เตนาห – ‘‘กรชกายฺจา’’ติอาทิ. เอวฺจ กตฺวา กายสฺมินฺติ ภุมฺมวจนฺจ สมตฺถิตํ โหติ. วยธมฺมานุปสฺสีติ เอตฺถ อเหตุกตฺเตปิ วินาสสฺส เยสํ เหตุธมฺมานํ อภาเว ยํ น โหติ, ตทภาโว ตสฺส อภาวสฺส โหตุ วิย โวหรียตีติ อุปจารโต กรชกายาทิอภาโว อสฺสาสปสฺสาสกายสฺส วยการณํ วุตฺโต. เตนาห ‘‘ยถา ภสฺตายา’’ติอาทิ. อยํ ตาเวตฺถ ปมวิกปฺปวเสน อตฺถวิภาวนา. ทุติยวิกปฺปวเสน ปน อุปจาเรน วินาเยว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อชฺฌตฺตพหิทฺธานุปสฺสนา วิย ภินฺนวตฺถุวิสยตาย สมุทยวยธมฺมานุปสฺสนาปิ เอกกาเล น ลพฺภตีติ อาห ‘‘กาเลน สมุทยํ กาเลน วยํ อนุปสฺสนฺโต’’ติ.

อตฺถิ กาโยติ เอว-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ ‘‘กาโยว อตฺถี’’ติ วตฺวา อวธารเณน นิวตฺถิตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น สตฺโต’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – โย รูปาทีสุ สตฺตวิสตฺตตาย ปเรสฺจ สชฺชาปนฏฺเน, สตฺวคุณโยคโต วา ‘‘สตฺโต’’ติ ปเรหิ ปริกปฺปิโต. ตสฺส สตฺตนิกายสฺส ปูรณโต จ จวนุปปชฺชนธมฺมตาย คลนโต จ ‘‘ปุคฺคโล’’ติ. ถียติ สํหฺติ เอตฺถ คพฺโภติ ‘‘อิตฺถี’’ติ. ปุริ ปุเร ภาเค เสติ ปวตฺตตีติ ‘‘ปุริโส’’ติ. อาหิโต อหํมาโน เอตฺถาติ ‘‘อตฺตา’’ติ, อตฺตโน สนฺตกภาเวน ‘‘อตฺตนิย’’นฺติ. ปโร น โหตีติ กตฺวา ‘‘อห’’นฺติ, มม สนฺตกนฺติ กตฺวา ‘‘มม’’นฺติ. วุตฺตปฺปการวินิมุตฺโต อฺโติ กตฺวา ‘‘โกจี’’ติ, ตสฺส สนฺตกภาเวน ‘‘กสฺสจี’’ติ ปริกปฺเปตพฺโพ โกจิ นตฺถิ, เกวลํ กาโย เอว อตฺถีติ อตฺตตฺตนิยสุฺตเมว กายสฺส วิภาเวติ. เอวนฺติ ‘‘กาโยว อตฺถี’’ติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน. าณปมาณตฺถายาติ กายานุปสฺสนาาณปรํ ปมาณํ ปาปนตฺถาย. สติปมาณตฺถายาติ กายปริคฺคาหิกสติปวตฺตํ สติปรํ ปมาณํ ปาปนตฺถาย. อิมสฺส หิ วุตฺตนเยน ‘‘อตฺถิ กาโย’’ติ อปราปรุปฺปตฺติวเสน ปจฺจุปฏฺิตา สติ ภิยฺโยโส มตฺตาย ตตฺถ าณสฺส สติยา จ ปริพฺรูหนาย โหติ. เตนาห ‘‘สติสมฺปชฺานํ วฑฺฒตฺถายา’’ติ.

อิมิสฺสา ภาวนาย ตณฺหาทิฏฺิคาหานํ อุชุปฏิปกฺขตฺตา วุตฺตํ ‘‘ตณฺหา…เป… วิหรตี’’ติ. ตถาภูโต จ โลเก กิฺจิ ‘‘อห’’นฺติ วา ‘‘มม’’นฺติ วา คเหตพฺพํ น ปสฺสติ, กุโต คณฺเหยฺย. เตนาห ‘‘น จ กิฺจี’’ติอาทิ. เอวมฺปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท เหฏฺา นิทฺทิฏฺสฺส ตาทิสสฺส อตฺถสฺส อภาวโต อวุตฺตสมุจฺจยตฺโถติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุปริ อตฺถํ อุปาทายา’’ติ อาห. ‘‘เอว’’นฺติ ปน นิทฺทิฏฺาการสฺส ปจฺจามสนํ นิคมนวเสน กตนฺติ อาห ‘‘อิมินา ปน…เป… ทสฺเสตี’’ติ. ปุพฺพภาคสติปฏฺานสฺส อิธาธิปฺเปตตฺตา วุตฺตํ ‘‘สติ ทุกฺขสจฺจ’’นฺติ. สา ปน สติ ยสฺมึ อตฺตภาเว, ตสฺส สมุฏฺาปิกา ตณฺหา ตสฺสาปิ สมุฏฺาปิกา เอว นาม โหติ ตทภาเว อภาวโตติ อาห ‘‘ตสฺสา สมุฏฺาปิกา ปุริมตณฺหา’’ติ. อปฺปวตฺตีติ อปฺปวตฺตินิมิตฺตํ, น ปวตฺตติ เอตฺถาติ วา อปฺปวตฺติ. จตุสจฺจวเสนาติ จตุสจฺจกมฺมฏฺานวเสน. อุสฺสกฺกิตฺวาติ วิสุทฺธิปรมฺปราย อารุหิตฺวา, ภาวนํ อุปริ เนตฺวาติ อตฺโถ. นิยฺยานมุขนฺติ วฏฺฏทุกฺขโต นิสฺสรณูปาโย.

อานาปานปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิริยาปถปพฺพวณฺณนา

๑๐๘. อิริยาปถวเสนาติ อิริยนํ อิริยา, กิริยา, อิธ ปน กายิกปโยโค เวทิตพฺโพ. อิริยานํ ปโถ ปวตฺติมคฺโคติ อิริยาปโถ, คมนาทิสรีราวตฺถา. คจฺฉนฺโต วา หิ สตฺโต กาเยน กตฺตพฺพกิริยํ กเรยฺย ิโต วา นิสินฺโน วา นิปนฺโน วาติ. เตสํ วเสน, อิริยาปถวิภาเคนาติ อตฺโถ. ปุน จปรนฺติ ปุน จ อปรํ, ยถาวุตฺตอานาปานกมฺมฏฺานโต ภิยฺโยปิ อฺํ กายานุปสฺสนากมฺมฏฺานํ กเถมิ, สุณาถาติ วา อธิปฺปาโย. คจฺฉนฺโต วาติอาทิ คมนาทิมตฺตชานนสฺส คมนาทิคตวิเสสชานนสฺส จ สาธารณวจนํ. ตตฺถ คมนาทิมตฺตชานนํ อิธ นาธิปฺเปตํ, คมนาทิคตวิเสสชานนํ ปน อธิปฺเปตนฺติ ตํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ กาม’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. สตฺตูปลทฺธินฺติ สตฺโต อตฺถีติ อุปลทฺธึ สตฺตคฺคาหํ น ชหติ น ปริจฺจชติ ‘‘อหํ คจฺฉามิ, มม คมน’’นฺติ คาหสพฺภาวโต. ตโต เอว อตฺตสฺํ ‘‘อตฺถิ อตฺตา การโก เวทโก’’ติ เอวํ ปวตฺตํ วิปรีตสฺํ น อุคฺฆาเฏติ นาปเนติ อปฏิปกฺขภาวโต, อนนพฺรูหนโต วา. เอวํ ภูตสฺส จสฺส กุโต กมฺมฏฺานาทิภาโวติ อาห ‘‘กมฺมฏฺานํ วา สติปฏฺานภาวนา วา น โหตี’’ติ. อิมสฺส ปนาติอาทิสุกฺกปกฺขสฺส วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตเมว หิ อตฺถํ วิวริตุํ ‘‘อิทํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โก คจฺฉตีติ คมนกิริยาย กตฺตุปุจฺฉา, สา กตฺตุภาววิสิฏฺอตฺตปฏิกฺเขปตฺถา ธมฺมมตฺตสฺเสว คมนสิทฺธิทสฺสนโต. กสฺส คมนนฺติ อกตฺตุตาวิสิฏฺอตฺตคฺคาหปฏิกฺเขปตฺถา. กึการณาติ ปน ปฏิกฺขิตฺตกตฺตุกาย คมนกิริยาย อวิปรีตการณปุจฺฉา ‘‘คมนนฺติ อตฺตา มนสา สํยุชฺชติ, มโน อินฺทฺริเยหิ, อินฺทฺริยานิ อตฺเตหี’’ติ เอวมาทิคมนการณปฏิกฺเขปนโต. เตนาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ.

น โกจิ สตฺโต วา ปุคฺคโล วา คจฺฉติ ธมฺมมตฺตสฺเสว คมนสิทฺธิโต ตพฺพินิมุตฺตสฺส จ กสฺสจิ อภาวโต. อิทานิ ธมฺมมตฺตสฺเสว คมนสิทฺธึ ทสฺเสตุํ ‘‘จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาเรนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ จิตฺตกิริยา จ สา วาโยธาตุยา วิปฺผาโร วิปฺผนฺทนฺจาติ จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาโร, เตน. เอตฺถ จ จิตฺตกิริยคฺคหเณน อนินฺทฺริยพทฺธวาโยธาตุวิปฺผารํ นิวตฺเตติ, วาโยธาตุวิปฺผารคฺคหเณน เจตนาวจีวิฺตฺติเภทํ จิตฺตกิริยํ นิวตฺเตติ, อุภเยน ปน กายวิฺตฺตึ วิภาเวติ. ‘‘คจฺฉตี’’ติ วตฺวา ยถา ปวตฺตมาเน กาเย ‘‘คจฺฉตี’’ติ โวหาโร โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นฺติ คนฺตุกามตาวเสน ปวตฺตจิตฺตํ. วายํ ชเนตีติ วาโยธาตุอธิกํ รูปกลาปํ ชเนติ, อธิกตา เจตฺถ สามตฺถิยโต, น ปมาณโต. คมนจิตฺตสมุฏฺิตํ สหชาตรูปกายสฺส ถมฺภนสนฺธารณจลนานํ ปจฺจยภูเตน อาการวิเสเสน ปวตฺตมานํ วาโยธาตุํ สนฺธายาห ‘‘วาโย วิฺตฺตึ ชเนตี’’ติ. อธิปฺปายสหภาวี หิ วิกาโร วิฺตฺติ, ยถาวุตฺตอธิกภาเวเนว จ วาโยคหณํ, น วาโยธาตุยา เอว ชนกภาวโต, อฺถา วิฺตฺติยา อุปาทายรูปภาโว ทุรุปปาโท สิยา. ปุรโต อภินีหาโร ปุรโตภาเคน กายสฺส ปวตฺตนํ, โย ‘‘อภิกฺกโม’’ติ วุจฺจติ.

‘‘เอเสวนโย’’ติ อติเทสวเสน สงฺเขปโต วตฺวา ตเมวตฺถํ วิวริตุํ ‘‘ตตฺราปิ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. โกฏิโต ปฏฺายาติ เหฏฺิมโกฏิโต ปฏฺาย. อุสฺสิตภาโวติ อุพฺพิทฺธภาโว.

เอวํปชานโตติ เอวํ จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว คมนาทิภาโว โหตีติ ปชานโต ตสฺส เอวํ ปชานนาย นิจฺฉยคมนตฺถํ ‘‘เอวํ โหตี’’ติ วิจารณา วุจฺจติ โลเก ยถาภูตํ อชานนฺเตหิ มิจฺฉาภินิเวสวเสน, โลกโวหารวเสน วา. อตฺถิ ปนาติ อตฺตโน เอว วีมํสนวเสน ปุจฺฉาวจนํ. นตฺถีติ นิจฺฉยวเสน สตฺตสฺส ปฏิกฺเขปวจนํ. ยถา ปนาติอาทิ ตสฺเสวตฺถสฺส อุปมาย วิภาวนํ.

นาวา มาลุตเวเคนาติ ยถา อเจตนา นาวา วาตเวเคน เทสนฺตรํ ยาติ, ยถา จ อเจตโน เตชนํ กณฺโฑ ชิยาเวเคน เทสนฺตรํ ยาติ, ตถา อเจตโน กาโย วาตาหโต ยถาวุตฺตวายุนา นีโต เทสนฺตรํ ยาตีติ เอวํ อุปมาสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ. สเจ ปน โกจิ วเทยฺย ‘‘ยถา นาวาย เตชนสฺส จ เปลฺลกสฺส ปุริสสฺส วเสน เทสนฺตรคมนํ, เอวํ กายสฺสาปี’’ติ, โหตุ, เอวํ อิจฺฉิโตวายมตฺโถ. ยถา หิ นาวา เตชนานํ สํหตลกฺขณสฺเสว ปุริสสฺส วเสน คมนํ, น อสํหตลกฺขณสฺส, เอวํ กายสฺสาปีติ กา โน หานิ, ภิยฺโยปิ ธมฺมมตฺตตาว ปติฏฺํ ลภติ, น ปุริสวาโท. เตนาห ‘‘ยนฺตํ สุตฺตวเสนา’’ติอาทิ.

ตตฺถ ปยุตฺตนฺติ เหฏฺา วุตฺตนเยน คมนาทิกิริยาวเสน ปโยชิตํ. าตีติ ติฏฺติ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ โลเก. วินา เหตุปจฺจเยติ คนฺตุกามตาจิตฺต-ตํสมุฏฺาน-วาโยธาตุ-อาทิเหตุปจฺจเยหิ วินา. ติฏฺเติ ติฏฺเยฺย. วเชติ วเชยฺย คจฺเฉยฺย โก นามาติ สมฺพนฺโธ. ปฏิกฺเขปตฺโถ เจตฺถ กึ-สทฺโทติ เหตุปจฺจยวิรเหน านคมนปฏิกฺเขปมุเขน สพฺพายปิ ธมฺมปฺปวตฺติยา ปจฺจยาธีนวุตฺติตาวิภาวเนน อตฺตสุฺตา วิย อนิจฺจทุกฺขตาปิ วิภาวิตาติ ทฏฺพฺพา.

ปณิหิโตติ ยถา ยถา ปจฺจเยหิ ปการโต นิหิโต ปิโต. สพฺพสงฺคาหิกวจนนฺติ สพฺเพสํ จตุนฺนมฺปิ อิริยาปถานํ สงฺคณฺหนวจนํ, ปุพฺเพ วิสุํ วิสุํ อิริยาปถานํ วุตฺตตฺตา อิทํ เตสํ เอกชฺฌํ คเหตฺวา วจนนฺติ อตฺโถ. ปุริมนโย วา อิริยาปถปฺปธาโน วุตฺโตติ ตตฺถ กาโย อปฺปธาโน อนุนิปฺผาทีติ อิธ กายํ ปธานํ อปฺปธานฺจ อิริยาปถํ อนุนิปฺผาทํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ทุติยนโย วุตฺโตติ เอวมฺเปตฺถ ทฺวินฺนํ นยานํ วิเสโส เวทิตพฺโพ. ิโตติ ปวตฺโต.

อิริยาปถปริคฺคณฺหนมฺปิ อิริยาปถวโต กายสฺเสว ปริคฺคณฺหนํ ตสฺส อวตฺถาวิเสสภาวโตติ วุตฺตํ ‘‘อิริยาปถปริคฺคหเณน กาเย กายานุปสฺสี วิหรตี’’ติ. เตเนเวตฺถ รูปกฺขนฺธวเสเนว สมุทยาทโย อุทฺธฏา. เอส นโย เสสวาเรสุปิ. อาทินาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ยถา ‘‘ตณฺหาสมุทยา กมฺมสมุทยา อาหารสมุทยา’’ติ นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ รุปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสตีติ อิเม จตฺตาโร อาหารา สงฺคยฺหนฺติ, เอวํ ‘‘อวิชฺชานิโรธา รูปนิโรธา’’ติอาทโยปิ ปฺจ อาการา สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺโพ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

อิริยาปถปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุสมฺปชฺปพฺพวณฺณนา

๑๐๙. จตุสมฺปชฺวเสนาติ (ที. นิ. ฏี. ๑.๒๘๔; สํ. นิ. ๕.๓๖๘; ที. นิ. อภิ. ฏี. ๒.๒๑๔) สมนฺตโต ปกาเรหิ, ปกฏฺํ วา สวิเสสํ ชานาตีติ สมฺปชาโน, สมฺปชานสฺส ภาโว สมฺปชฺํ, ตถาปวตฺตํ าณํ. จตฺตาริ สมฺปชฺานิ สมาหฏานิ จตุสมฺปชฺํ, ตสฺส วเสน. อภิกฺกมนํ อภิกฺกนฺตนฺติ อาห ‘‘อภิกฺกนฺตํ วุจฺจติ คมน’’นฺติ. ตถา ปฏิกฺกมนํ ปฏิกฺกนฺตนฺติ อาห ‘‘ปฏิกฺกนฺตํ วุจฺจติ นิวตฺตน’’นฺติ. นิวตฺตนนฺติ จ นิวตฺติมตฺตํ, นิวตฺติตฺวา ปน คมนํ คมนเมว. อภิหรนฺโตติ คมนวเสน กายํ อุปเนนฺโต.

สมฺมา ปชานนํ สมฺปชานํ, เตน อตฺตนา กาตพฺพสฺส กรณสีโล สมฺปชานการีติ อาห ‘‘สมฺปชฺเน สพฺพกิจฺจการี’’ติ. สมฺปชานสทฺทสฺส สมฺปชฺปริยายตา ปุพฺเพ วุตฺตาเยว. สมฺปชฺํ กโรเตวาติ อภิกฺกนฺตาทีสุ อสมฺโมหํ อุปฺปาเทติ เอว. สมฺปชานสฺส วา กาโร เอตสฺส อตฺถีติ สมฺปชานการี. ธมฺมโต วฑฺฒิสงฺขาเตน สห อตฺเถน ปวตฺตตีติ สาตฺถกํ, อภิกฺกนฺตาทิ. สาตฺถกสฺส สมฺปชานนํ สาตฺถกสมฺปชฺํ. สปฺปายสฺส อตฺตโน อุปการาวหสฺส หิตสฺส สมฺปชานนํ สปฺปายสมฺปชฺํ อภิกฺกมาทีสุ ภิกฺขาจารโคจเร, อฺตฺถาปิ จ ปวตฺเตสุ อวิชหิเต กมฺมฏฺานสงฺขาเต โคจเร สมฺปชฺํ โคจรสมฺปชฺํ. อภิกฺกมาทีสุ อสมฺมุยฺหนเมว สมฺปชฺํ อสมฺโมหสมฺปชฺํ. ปริคฺคณฺหิตฺวาติ ปฏิสงฺขาย.

ตสฺมินฺติ สาตฺถกสมฺปชฺวเสน ปริคฺคหิตอตฺเถ. อตฺโถ นาม ธมฺมโต วฑฺฒีติ ยํ สาตฺถกนฺติ อธิปฺเปตํ คมนํ, ตํ สปฺปายเมวาติ สิยา กสฺสจิ อาสงฺกาติ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘เจติยทสฺสนํ ตาวา’’ติอาทิ อารทฺธํ. จิตฺตกมฺมรูปกานิ วิยาติ จิตฺตกมฺมกตปฏิมาโย วิย, ยนฺตปโยเคน วา วิจิตฺตกมฺมปฏิมาโย วิย. อสมเปกฺขนํ เคหสิตอฺาณุเปกฺขาวเสน อารมฺมณสฺส อโยนิโส คหณํ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา อุปฺปชฺชติ อุเปกฺขา พาลสฺส มูฬฺหสฺส ปุถุชฺชนสฺสา’’ติอาทิ (ม. นิ. ๓.๓๐๘). หตฺถิอาทิสมฺมทฺเทน ชีวิตนฺตราโย, วิสภาครูปทสฺสนาทินา พฺรหฺมจริยนฺตราโย.

ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย ภิกฺขูนํ อนุวตฺตนกถา อาจิณฺณา, อนนุวตฺตนกถา ปน ตสฺสา ทุติยา นาม โหตีติ อาห ‘‘ทฺเว กถา นาม น กถิตปุพฺพา’’ติ.

เอวนฺติ ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิกํ สพฺพมฺปิ วุตฺตาการํ ปจฺจามสติ, น ‘‘ปุริสสฺส มาตุคามาสุภ’’นฺติอาทิกํ วุจฺจมานํ. โยคกมฺมสฺส ปวตฺติฏฺานตาย ภาวนาย อารมฺมณํ กมฺมฏฺานนฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘กมฺมฏฺานสงฺขาตํ โคจร’’นฺติ. อุคฺคเหตฺวาติ ยถา อุคฺคหนิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, เอวํ อุคฺคหโกสลฺลสฺส สมฺปาทนวเสน อุคฺคเหตฺวา. หรตีติ กมฺมฏฺานํ ปวตฺเตติ, ยาว ปิณฺฑปาตปฏิกฺกมา อนุยุฺชตีติ อตฺโถ. ปจฺจาหรตีติ อาหารูปโภคโต ยาว ทิวาฏฺานุปสงฺกมนา กมฺมฏฺานํ น ปฏิเนติ.

สรีรปริกมฺมนฺติ มุขโธวนาทิสรีรปฏิชคฺคนํ. ทฺเว ตโย ปลฺลงฺเกติ ทฺเว ตโย นิสชฺชาวาเร, ทฺเว ตีณิ อุณฺหาสนานิ. เตนาห ‘‘อุสุมํ คาหาเปนฺโต’’ติ. กมฺมฏฺานสีเสเนวาติ กมฺมฏฺานคฺเคเนว, กมฺมฏฺานํ ปธานํ กตฺวา เอวาติ อตฺโถ. เตน ‘‘ปตฺโตปิ อเจตโน’’ติอาทินา (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๙) วกฺขมานํ กมฺมฏฺานํ, ยถาปริหริยมานํ วา อวิชหิตฺวาติ ทสฺเสติ. ‘‘ปริโภคเจติยโต สรีรเจติยํ ครุตร’’นฺติ กตฺวา ‘‘เจติยํ วนฺทิตฺวา’’ติ ปุพฺพกาลกิริยาวเสน วุตฺตํ. ตถา หิ อฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๘๐๙; ม. นิ. อฏฺ. ๓.๑๒๘; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๗๕) ‘‘เจติยํ พาธยมานา โพธิสาขา หริตพฺพา’’ติ วุตฺตา.

ชนสงฺคหตฺถนฺติ ‘‘มยิ อกเถนฺเต เอเตสํ โก กเถสฺสตี’’ติ ธมฺมานุคฺคเหน ชนสงฺคหตฺถํ. ตสฺมาติ. ยสฺมา ‘‘ธมฺมกถา นาม กเถตพฺพาเยวา’’ติ อฏฺกถาจริยา วทนฺติ, ยสฺมา จ ธมฺมกถา กมฺมฏฺานวินิมุตฺตา นาม นตฺถิ, ตสฺมา. อนุโมทนํ กตฺวาติ เอตฺถาปิ ‘‘กมฺมฏฺานสีเสเนวา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. สมฺปตฺตปริจฺเฉเทเนวาติ ‘‘ปริจิโต อปริจิโต’’ติอาทิวิภาคํ อกตฺวา สมฺปตฺตโกฏิยาว. ภเยติ ปรจกฺกาทิภเย.

กมฺมชเตโชติ คหณึ สนฺธายาห. กมฺมฏฺานวีถึ นาโรหติ ขุทาปริสฺสเมน กิลนฺตกายตฺตา สมาธานาภาวโต. อวเสสฏฺาเนติ ยาคุยา อคฺคหิตฏฺาเน. โปงฺขานุโปงฺขนฺติ กมฺมฏฺานุปฏฺานสฺส อวิจฺเฉททสฺสนวจนเมตํ, ยถา โปงฺขานุโปงฺขปวตฺตาย สรปฏิปาฏิยา อวิจฺเฉโท, เอวเมตสฺสาปีติ.

นิกฺขิตฺตธุโร ภาวนานุโยเค. วตฺตปฏิปตฺติยา อปูรเณน สพฺพวตฺถานิ ภินฺทิตฺวา. ‘‘กาเม อวีตราโค โหติ, กาเย อวีตราโค, รูเป อวีตราโค, ยาวทตฺถํ อุทราวเทหกํ ภุฺชิตฺวา เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหรติ, อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๐; ม. นิ. ๑.๑๘๖) เอวํ วุตฺต ปฺจวิธเจโตขิลวินิพนฺธจิตฺโต. จริตฺวาติ ปวตฺติตฺวา.

อตฺตกามาติ อตฺตโน หิตสุขํ อิจฺฉนฺตา, ธมฺมจฺฉนฺทวนฺโตติ อตฺโถ. ธมฺโมติ หิ หิตํ, ตนฺนิมิตฺตกฺจ สุขนฺติ. อถ วา วิฺูนํ นิพฺพิเสสตฺตา อตฺตภาวปริยาปนฺนตฺตา จ อตฺตา นาม ธมฺโม, ตํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อตฺตกามา. อุสภํ นาม วีสติ ยฏฺิโย. ตาย สฺายาติ ตาย ปาสาณสฺาย, เอตฺตกํ านํ อาคตาติ ชานนฺตาติ อธิปฺปาโย. โสเยว นโยติ ‘‘อยํ ภิกฺขู’’ติอาทิโก โย าเน วุตฺโต, โส เอว นิสชฺชายปิ นโย. ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺตานํ ฉินฺนภตฺตภาวภเยนปิ โยนิโสมนสิการํ ปริพฺรูเหติ.

พหาปธานํ ปูเชสฺสามีติ อมฺหากํ อตฺถาย โลกนาเถน ฉ วสฺสานิ กตํ ทุกฺกรจริยํ เอวาหํ ยถาสตฺติ ปูเชสฺสามีติ. ปฏิปตฺติปูชา หิ สตฺถุปูชา, น อามิสปูชา. านจงฺกมนเมวาติ อธิฏฺาตพฺพอิริยาปถวเสน วุตฺตํ, น โภชนาทิกาเลสุ อวสฺสํ กตฺตพฺพนิสชฺชาย ปฏิกฺเขปวเสน.

วีถึ โอตริตฺวา อิโต จิโต จ อโนโลเกตฺวา ปมเมว วีถิโย สลฺลกฺเขตพฺพาติ อาห ‘‘วีถิโย สลฺลกฺเขตฺวา’’ติ. ยํ สนฺธาย วุจฺจติ ‘‘ปาสาทิเกน อภิกฺกนฺเตนา’’ติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ปจฺเจกโพธึ สจฺฉิกโรติ, ยทิ อุปนิสฺสยสมฺปนฺโน โหตีติ สมฺพนฺโธ. เอวํ สพฺพตฺถ อิโต ปเรสุปิ. ตตฺถ ปจฺเจกโพธิยา อุปนิสฺสยสมฺปทา กปฺปานํ ทฺเว อสงฺขฺเยยฺยานิ สตสหสฺสฺจ ตชฺชํ ปุฺาณสมฺภรณํ, สาวกโพธิยํ อคฺคสาวกานํ เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ กปฺปสตสหสฺสฺจ, มหาสาวกานํ กปฺปสตสหสฺสเมว, อิตเรสํ อตีตาสุ ชาตีสุ วิวฏฺฏสนฺนิสฺสยวเสน นิพฺพตฺติตํ นิพฺเพธภาคิยํ กุสลํ. พาหิโย ทารุจีริโยติ พหิ วิสเย สฺชาตสํวฑฺฒตาย พาหิโย, ทารุจีรปริหรเณน ทารุจีริโยติ จ สมฺาโต. โส หิ อายสฺมา –

‘‘ตสฺมา ติห เต, พาหิย, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ ‘ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสติ, สุเต… มุเต… วิฺาเต วิฺาตมตฺตํ ภวิสฺสตี’ติ. ยโต โข เต, พาหิย, ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสติ, สุเต… มุเต… วิฺาเต วิฺาตมตฺตํ ภวิสฺสติ, ตโต ตฺวํ, พาหิย, น เตน. ยโต ตฺวํ, พาหิย, น เตน, ตโต ตฺวํ, พาหิย, น ตตฺถ. ยโต ตฺวํ, พาหิย, น ตตฺถ, ตโต ตฺวํ, พาหิย, เนวิธ น หุรํ น อุภยมนฺตเรน, เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติ (อุทา. ๑๐) – เอตฺตกาย เทสนาย อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ.

นฺติ อสมฺมุยฺหนํ. เอวนฺติ อิทานิ วุจฺจมานากาเรน เวทิตพฺพํ. อตฺตา อภิกฺกมตีติ อิมินา อนฺธปุถุชฺชนสฺส ทิฏฺิคฺคาหวเสน อภิกฺกเม สมฺมุยฺหนํ ทสฺเสติ, อหํ อภิกฺกมามีติ ปน อิมินา มานคฺคาหวเสน, ตทุภยํ ปน ตณฺหาย วินา น โหตีติ ตณฺหาคฺคาหวเสนปิ สมฺมุยฺหนํ ทสฺสิตเมว โหติ. ‘‘ตถา อสมฺมุยฺหนฺโต’’ติ วตฺวา ตํ อสมฺมุยฺหนํ เยน ฆนวินิพฺโภเคน โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อภิกฺกมามี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา วาโยธาตุยา อนุคตา เตโชธาตุ อุทฺธรณสฺส ปจฺจโย. อุทฺธรณคติกา หิ เตโชธาตูติ อุทฺธรเณ วาโยธาตุยา ตสฺสา อนุคตภาโว, ตสฺมา อิมาสํ ทฺวินฺนเมตฺถ สามตฺถิยโต อธิมตฺตตา, อิตราสฺจ โอมตฺตตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอเกก…เป… พลวติโย’’ติ อาห. ยสฺมา ปน เตโชธาตุยา อนุคตา วาโยธาตุ อติหรณวีติหรณานํ ปจฺจโย. ติริยคติกาย หิ วาโยธาตุยา อติหรณวีติหรเณสุ สาติสโย พฺยาปาโรติ เตโชธาตุยา ตสฺสา อนุคตภาโว, ตสฺมา อิมาสํ ทฺวินฺนเมตฺถ สามตฺถิยโต อธิมตฺตตา, อิตราสฺจ โอมตฺตตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถา อติหรณวีติหรเณสู’’ติ อาห. สติปิ อนุคมนานุคนฺตพฺพตาวิเสเส เตโชธาตุ-วาโยธาตุ-ภาวมตฺตํ สนฺธาย ตถา-สทฺทคฺคหณํ. ตตฺถ อกฺกนฺตฏฺานโต ปาทสฺส อุกฺขิปนํ อุทฺธรณํ, ิตฏฺานํ อติกฺกมิตฺวา ปุรโต หรณํ อติหรณํ ขาณุอาทิปริหรณตฺถํ, ปติฏฺิตปาทฆฏฺฏนปริหรณตฺถํ วา ปสฺเสน หรณํ วีติหรณํ, ยาว ปติฏฺิตปาโท, ตาว อาหรณํ อติหรณํ, ตโต ปรํ หรณํ วีติหรณนฺติ อยํ วา เอเตสํ วิเสโส.

ยสฺมา ปถวีธาตุยา อนุคตา อาโปธาตุ โวสฺสชฺชนสฺส ปจฺจโย. ครุตรสภาวา หิ อาโปธาตูติ โวสฺสชฺชเน ปถวีธาตุยา ตสฺสา อนุคตภาโว, ตสฺมา ตาสํ ทฺวินฺนเมตฺถ สามตฺถิยโต อธิมตฺตตา, อิตราสฺจ โอมตฺตตาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โวสฺสชฺชเน…เป… พลวติโย’’ติ. ยสฺมา ปน อาโปธาตุยา อนุคตา ปถวีธาตุ สนฺนิกฺเขปนสฺส ปจฺจโย, ปติฏฺาภาเว วิย ปติฏฺาปเนปิ ตสฺสา สาติสยกิจฺจตฺตา อาโปธาตุยา ตสฺสา อนุคตภาโว, ตถา ฆฏฺฏนกิริยาย ปถวีธาตุยา วเสน สนฺนิรุมฺภนสฺส สิชฺฌนโต ตตฺถาปิ ปถวีธาตุยา อาโปธาตุอนุคตภาโว, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ตถา สนฺนิกฺเขปนสนฺนิรุมฺภเนสู’’ติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ อภิกฺกมเน, เตสุ วา วุตฺเตสุ อุทฺธรณาทีสุ ฉสุ โกฏฺาเสสุ. อุทฺธรเณติ อุทฺธรณกฺขเณ. รูปารูปธมฺมาติ อุทฺธรณากาเรน ปวตฺตา รูปธมฺมา, ตํสมุฏฺาปกา อรูปธมฺมา จ อติหรณํ น ปาปุณนฺติ ขณมตฺตาวฏฺานโต. ตตฺถ ตตฺเถวาติ ยตฺถ ยตฺถ อุปฺปนฺนา, ตตฺถ ตตฺเถว. น หิ ธมฺมานํ เทสนฺตรสงฺกมนํ อตฺถิ. ปพฺพํ ปพฺพนฺติอาทิ อุทฺธรณาทิโกฏฺาเส สนฺธาย วุตฺตํ, ตํ สภาคสนฺตติวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อติอิตฺตโร หิ รูปธมฺมานมฺปิ ปวตฺติกฺขโณ คมนสฺสาทานํ เทวปุตฺตานํ เหฏฺุปริเยน ปฏิมุขํ ธาวนฺตานํ สิรสิ ปาเท จ พทฺธธุรธาราสมาคมโตปิ สีฆตโร. ยถา ติลานํ ภชฺชิยมานานํ ปฏปฏายเนน เภโท ลกฺขียติ, เอวํ สงฺขตธมฺมานํ อุปฺปาเทนาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ปฏปฏายนฺตา’’ติ วุตฺตํ. อุปฺปนฺนา หิ เอกนฺตโต ภิชฺชนฺตีติ.

สทฺธึ รูเปนาติ อิทํ ตสฺส ตสฺส จิตฺตสฺส นิโรเธน สทฺธึ นิรุชฺฌนกรูปธมฺมานํ วเสน วุตฺตํ, ยํ ตโต สตฺตรสมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนํ. อฺถา ยทิ รูปารูปธมฺมา สมานกฺขณา สิยุํ, ‘‘รูปํ ครุปริณามํ ทนฺธนิโรธ’’นฺติอาทิวจเนหิ (วิภ. อฏฺ. ๒๖) วิโรโธ สิยา, ตถา ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ ลหุปริวตฺตํ, ยถยิทํ จิตฺต’’นฺติ เอวมาทิปาฬิยา (อ. นิ. ๑.๔๘). จิตฺตเจตสิกา หิ สารมฺมณสภาวา ยถาพลํ อตฺตโน อารมฺมณปจฺจยภูตมตฺถํ วิภาเวนฺโต เอว อุปฺปชฺชนฺตีติ เตสํ ตํสภาวนิปฺผตฺติอนนฺตรํ นิโรโธ, รูปธมฺมา ปน อนารมฺมณา ปกาเสตพฺพา, เอวํ เตสํ ปกาเสตพฺพภาวนิวตฺติ โสฬสหิ จิตฺเตหิ โหตีติ ตงฺขณายุกตา เตสํ อิจฺฉิตา, ลหุวิฺาณวิสยสงฺคติมตฺตปจฺจยตาย ติณฺณํ ขนฺธานํ, วิสยสงฺคติมตฺตตาย จ วิฺาณสฺส ลหุปริวตฺติตา, ทนฺธมหาภูตปจฺจยตาย รูปธมฺมานํ ทนฺธปริวตฺติตา, นานาธาตุยา ยถาภูตาณํ โข ปน ตถาคตสฺเสว, เตน จ ปุเรชาตปจฺจโย รูปธมฺโมว วุตฺโต, ปจฺฉาชาตปจฺจโย จ ตสฺเสวาติ รูปารูปธมฺมานํ สมานกฺขณตา น ยุชฺชเตว, ตสฺมา วุตฺตนเยเนเวตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อฺํ อุปฺปชฺชเต จิตฺตํ,อฺํ จิตฺตํ นิรุชฺฌตีติ ยํ ปุริมุปฺปนฺนํ จิตฺตํ, ตํ อฺํ, ตํ ปน นิรุชฺฌนฺตํ อปรสฺส อนนฺตราทิปจฺจยภาเวเนว นิรุชฺฌตีติ ตโต ลทฺธปจฺจยํ อฺํ อุปฺปชฺชเต จิตฺตํ. ยทิ เอวํ เตสํ อนฺตโร ลพฺเภยฺยาติ โนติ อาห ‘‘อวีจิมนุสมฺพนฺโธ’’ติ, ยถา วีจิ อนฺตโร น ลพฺภติ, ตเทเวตนฺติ อวิเสสวิทุ มฺนฺติ, เอวํ อนุ อนุ สมฺพนฺโธ จิตฺตสนฺตาโน รูปสนฺตาโน จ นทีโสโตว นทิยํ อุทกปฺปวาโห วิย วตฺตติ.

อภิมุขํโลกิตํ อาโลกิตนฺติ อาห ‘‘ปุรโตเปกฺขน’’นฺติ. ยสฺมา ยํทิสาภิมุโข คจฺฉติ ติฏฺติ นิสีทติ วา, ตทภิมุขํ เปกฺขนํ อาโลกิตํ, ตสฺมา ตทนุคตํ วิทิสาโลกนํ วิโลกิตนฺติ อาห ‘‘วิโลกิตํ นาม อนุทิสาเปกฺขน’’นฺติ. สมฺมชฺชนปริภณฺฑาทิกรเณ โอโลกิตสฺส, อุลฺโลกหรณาทีสุ อุลฺโลกิตสฺส, ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺตปริสฺสยสฺส ปริวชฺชนาทีสุ อปโลกิตสฺส สิยา สมฺภโวติ อาห ‘‘อิมินา วา มุเขน สพฺพานิปิ ตานิ คหิตาเนวา’’ติ.

กายสกฺขินฺติ กาเยน สจฺฉิกตวนฺตํ, ปจฺจกฺขการินนฺติ อตฺโถ. โส หิ อายสฺมา วิปสฺสนากาเล เอว ‘‘ยเมวาหํ อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตํ นิสฺสาย สาสเน อนภิรติอาทิวิปฺปการํ ปตฺโต, ตเมว สุฏฺุ นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ อุสฺสาหชาโต พลวหิโรตฺตปฺโป, ตตฺถ จ กตาธิการตฺตา อินฺทฺริยสํวเร อุกฺกํสปารมิปฺปตฺโต, เตเนว นํ สตฺถา ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารานํ ยทิทํ นนฺโท’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๓๕) เอตทคฺเค เปสิ.

สาตฺถกตา จ สปฺปายตา จ อาโลกิตวิโลกิตสฺส เวทิตพฺพา. ตสฺมาติ ‘‘กมฺมฏฺานาวิชหนสฺเสว โคจรสมฺปชฺภาวโต’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ เหตุภาเวน ปจฺจามสติ. อตฺตโน กมฺมฏฺานวเสเนว อาโลกนวิโลกนํ กาตพฺพํ, ขนฺธาทิกมฺมฏฺานา อฺโ อุปาโย น คเวสิตพฺโพติ อธิปฺปาโย. อาโลกิตาทิสมฺาปิ ยสฺมา ธมฺมมตฺตสฺเสว ปวตฺติวิเสโส, ตสฺมา ตสฺส ยาถาวโต ชานนํ อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อพฺภนฺตเร’’ติอาทิ วุตฺตํ.

‘‘ปมชวเนปิ…เป… น โหตี’’ติ อิทํ ปฺจทฺวารวิฺาณวีถิยํ ‘‘อิตฺถี ปุริโส’’ติ รชฺชนาทีนํ อภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ หิ อาวชฺชนโวฏฺพฺพนานํ อโยนิโส อาวชฺชนโวฏฺพฺพนวเสน อิฏฺเ อิตฺถิรูปาทิมฺหิ โลโภ, อนิฏฺเ จ ปฏิโฆ อุปฺปชฺชติ, มโนทฺวาเร ปน ‘‘อิตฺถี ปุริโส’’ติ รชฺชนาทิ โหติ, ตสฺส ปฺจทฺวารชวนํ มูลํ, ยถาวุตฺตํ วา สพฺพํ ภวงฺคาทิ, เอวํ มโนทฺวารชวนสฺส มูลวเสน มูลปริฺา วุตฺตา. อาคนฺตุกตาวกาลิกตา ปน ปฺจทฺวารชวนสฺเสว อปุพฺพภาววเสน อิตฺตรภาววเสน จ วุตฺตา. เหฏฺุปริยวเสน ภิชฺชิตฺวา ปติเตสูติ เหฏฺิมสฺส อุปริมสฺส จ อปราปรํ ภงฺคปฺปตฺติมาห. นฺติ ชวนํ. ตสฺส น ยุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. อาคนฺตุโก อพฺภาคโต. อุทยพฺพยปริจฺฉินฺโน ตาวตโก กาโล เอเตสนฺติ ตาวกาลิกานิ.

เอตํ อสมฺโมหสมฺปชฺํ. ตตฺถาติ ปฺจกฺขนฺธวเสน อาโลกนวิโลกเน ปฺายมาเน ตพฺพินิมุตฺโต โก เอโก อาโลเกติ, โก วิโลเกติ. อุปนิสฺสยปจฺจโยติ อิทํ สุตฺตนฺตนเยน ปริยายโต วุตฺตํ. สหชาตปจฺจโยติ นิทสฺสนมตฺตเมตํ อฺมฺ-สมฺปยุตฺต-อตฺถิอวิคตาทิปจฺจยานมฺปิ ลพฺภนโต.

มณิสปฺโป นาม เอกา สปฺปชาตีติ วทนฺติ. ลฬนนฺติ กมฺปนนฺติ วทนฺติ, ลีฬากรณํ วา ลฬนํ.

อุณฺหปกติโก ปริฬาหพหุโล. สีลสฺส วิทูสเนน อหิตาวหตฺตา มิจฺฉาชีววเสน อุปฺปนฺนํ อสปฺปายํ. จีวรมฺปิ อเจตนนฺติอาทินา จีวรสฺส วิย ‘‘กาโยปิ อเจตโน’’ติ กายสฺส อตฺตสุฺตาวิภาวเนน ‘‘อพฺภนฺตเร’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวนฺโต อิตรีตรสนฺโตสสฺส การณํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. จตุปฺจคณฺิกาหโตติ อาหตจตุปฺจคณฺิโก, จตุปฺจคณฺิกาหิ วา หตโสโภ.

อฏฺวิโธปิ อตฺโถติ อฏฺวิโธปิ ปโยชนวิเสโส. ปถวีสนฺธารกชลสฺส ตํสนฺธารกวายุนา วิย ปริภุตฺตสฺส อาหารสฺส วาโยธาตุนาว อาสเย อวฏฺานนฺติ อาห ‘‘วาโยธาตุวเสเนว ติฏฺตี’’ติ. อติหรตีติ ยาว มุขา อภิหรติ. วีติหรตีติ ตโต ยาว กุจฺฉิ, ตาว หรติ. อติหรตีติ วา มุขทฺวารํ อติกฺกาเมนฺโต หรติ. วีติหรตีติ กุจฺฉิคตํ ปสฺสโต หรติ. ปริวตฺเตตีติ อปราปรํ จาเรติ. เอตฺถ จ อาหารสฺส ธารณปริวตฺตนสํจุณฺณนวิโสสนานิ ปถวีธาตุสหิตา เอว วาโยธาตุ กโรติ, น เกวลาติ ตานิ ปถวีธาตุยาปิ กิจฺจภาเวน วุตฺตานิ. อลฺลตฺตฺจ อนุปาเลตีติ วายุอาทีหิ อติโสสนํ ยถา น โหติ, ตถา อนุปาเลติ อลฺลอาทีหิ อติโสสนํ ยถา น โหติ, ตถา อนุปาเลติ อลฺลภาวํ. เตโชธาตูติ คหณีสงฺขาตา เตโชธาตุ. สา หิ อนฺโต ปวิฏฺํ อาหารํ ปริปาเจติ. อฺชโส โหตีติ อาหารสฺส ปเวสนาทีนํ มคฺโค โหติ. อาภุชตีติ ปริเยสนชฺโฌหรณชิณฺณาชิณฺณตาทึ อาวชฺเชติ, วิชานาตีติ อตฺโถ. ตํตํวิชานนนิปฺผาทโกเยว หิ ปโยโค ‘‘สมฺมาปโยโค’’ติ วุตฺโต. เยน หิ ปโยเคน ปริเยสนาทิ นิปฺผชฺชติ, โส ตพฺพิสยวิชานนมฺปิ นิปฺผาเทติ นาม ตทวินาภาวโต. อถ วา สมฺมาปโยคํ สมฺมาปฏิปตฺตึ อนฺวาย อาคมฺม อาภุชติ สมนฺนาหรติ. อาโภคปุพฺพโก หิ สพฺโพปิ วิฺาณพฺยาปาโรติ ตถา วุตฺตํ.

คมนโตติ ภิกฺขาจารวเสน โคจรคามํ อุทฺทิสฺส คมนโต. ปริเยสนโตติ โคจรคาเม ภิกฺขตฺถํ อาหิณฺฑนโต. ปริโภคโตติ อาหารสฺส ปริภุฺชนโต. อาสยโตติ ปิตฺตาทิอาสยโต. อาสยติ เอตฺถ เอกชฺฌํ ปวตฺตมาโนปิ กมฺมพลวตฺถิโต หุตฺวา มริยาทวเสน อฺมฺํ อสงฺกรโต สยติ ติฏฺติ ปวตฺตตีติ อาสโย, อามาสยสฺส อุปริ ติฏฺนโก ปิตฺตาทิโก. มริยาทตฺโถ หิ อยมากาโร. นิเธติ ยถาภุตฺโต อาหาโร นิจิโต หุตฺวา ติฏฺติ เอตฺถาติ นิธานํ, อามาสโย. ตโต นิธานโต. อปริปกฺกโตติ คหณีสงฺขาเตน กมฺมชเตเชน อวิปกฺกโต. ปริปกฺกโตติ ยถาภุตฺตสฺส อาหารสฺส วิปกฺกภาวโต. ผลโตติ นิปฺผตฺติโต. นิสฺสนฺทโตติ อิโต จิโต จ วิสฺสนฺทนโต. สมฺมกฺขนโตติ สพฺพโส มกฺขนโต. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาย (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๒๙๔) คเหตพฺโพ.

อฺเ จ โรคา กณฺณสูลภคนฺทราทโย. อฏฺาเนติ มนุสฺสามนุสฺสปริคฺคหิเต อยุตฺเต าเน เขตฺตเทวายตนาทิเก. นิสฺสฏฺตฺตา เนว อตฺตโน กสฺสจิ อนิสฺสชฺชิตตฺตา ชิคุจฺฉนียตฺตา จ น ปรสฺส. อุทกตุมฺพโตติ เวฬุนาฬิอาทิอุทกภาชนโต. นฺติ ฉฑฺฑิตอุทกํ.

อทฺธานอิริยาปถา จิรปฺปวตฺติกา ทีฆกาลิกา อิริยาปถา. มชฺฌิมา ภิกฺขาจรณาทิวเสน ปวตฺตา. จุณฺณิกอิริยาปถา วิหาเร อฺตฺถาปิ อิโต จิโต จ ปริวตฺตนาทิวเสน ปวตฺตาติ วทนฺติ. ‘‘คเตติ คมเน’’ติ ปุพฺเพ อภิกฺกมปฏิกฺกมคฺคหเณน คมเนนปิ ปุรโต ปจฺฉโต จ กายสฺส อติหรณํ วุตฺตนฺติ อิธ คมนเมว คหิตนฺติ เกจิ.

ยสฺมา มหาสีวตฺเถรวาเท อนนฺตเร อนนฺตเร อิริยาปเถ ปวตฺตรูปารูปธมฺมานํ ตตฺถ ตตฺเถว นิโรธทสฺสนวเสน สมฺปชานการิตา คหิตา, อิทฺเจตฺถ สมฺปชฺวิปสฺสนาจารวเสน อาคตํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ตยิทํ มหาสีวตฺเถเรน วุตฺตํ อสมฺโมหธุรํ อิมสฺมึ สติปฏฺานภุตฺเต อธิปฺเปต’’นฺติ. สามฺผเล (ที. นิ. ๑.๒๑๔; ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๑๔; ที. นิ. ฏี. ๑.๒๑๔) ปน สพฺพมฺปิ จตุพฺพิธํ สมฺปชฺํ ลพฺภติ ยาวเทว สามฺผลวิเสสทสฺสนปรตฺตา ตสฺสา เทสนาย. สติสมฺปยุตฺตสฺเสวาติ อิทํ ยถา สมฺปชฺกิจฺจสฺส ปธานตา, เอวํ สติกิจฺจสฺสาปีติ ทสฺสนตฺถํ, น สติยา สพฺภาวมตฺตทสฺสนตฺถํ. น หิ กทาจิ สติรหิตา าณปฺปวตฺติ อตฺถิ. เอตานิ ปทานีติ สมฺปชฺปทานิ. วิภตฺตาเนวาติ วิสุํ วิภตฺตาเนว. อิมินาปิ สมฺปชฺสฺส วิย สติยาปิ ปธานตํเยว วิภาเวติ.

อปโร นโย – เอโก ภิกฺขุ คจฺฉนฺโต อฺํ จินฺเตนฺโต อฺํ วิตกฺเกนฺโต คจฺฉติ, เอโก กมฺมฏฺานํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว คจฺฉติ, ตถา เอโก ติฏฺนฺโต นิสีทนฺโต สยนฺโต อฺํ จินฺเตนฺโต อฺํ วิตกฺเกนฺโต สยติ, เอโก กมฺมฏฺานํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว สยติ, เอตฺถเกน ปน น ปากฏํ โหตีติ จงฺกมเนน ทีเปนฺติ. โย หิ ภิกฺขุ จงฺกมนํ โอตริตฺวา จงฺกมนโกฏิยํ ิโต ปริคฺคณฺหาติ ‘‘ปาจีนจงฺกมนโกฏิยํ ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา ปจฺฉิมจงฺกมนโกฏึ อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา, ปจฺฉิมจงฺกมนโกฏิยํ ปวตฺตาปิ ปาจีนจงฺกมนโกฏึ อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺทา, จงฺกมนมชฺเฌ ปวตฺตา อุโภ โกฏิโย อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา, จงฺกเม ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา านํ อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา, าเน ปวตฺตา นิสชฺชํ, นิสชฺชาย ปวตฺตา สยนํ อปฺปตฺวา เอตฺเถวนิรุทฺธา’’ติ, เอวํ ปริคฺคณฺหนฺโต ปริคฺคณฺหนฺโตเยว จิตฺตํ ภวงฺคํ โอตาเรติ, อุฏฺหนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาว อุฏฺหติ, อยํ ภิกฺขุ คตาทีสุ สมฺปชานการี นาม โหติ, เอวมฺปิ สุตฺเต กมฺมฏฺานํ อวิภูตํ โหติ, ตสฺมา โย ภิกฺขุ ยาว สกฺโกติ, ตาว จงฺกมิตฺวา ตฺวา นิสีทิตฺวา สยมาโน เอวํ ปริคฺคเหตฺวา สยติ ‘‘กาโย อเจตโน, มฺโจ อเจตโน, กาโย น ชานาติ ‘‘อหํ มฺเจ สยิโต’ติ, มฺโจ น ชานาติ ‘‘มยิ กาโย สยิโต’’ติ, อเจตโน กาโย อเจตเน มฺเจ สยิโต’’ติ, เอวํ ปริคฺคณฺหนฺโตเยว จิตฺตํ ภวงฺคํ โอตาเรติ, ปพุชฺฌนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาว ปพุชฺฌติ, อยํ สุตฺเต สมฺปชานการี นาม โหตีติ.

กายาทิกิริยานิพฺพตฺตเนน ตมฺมยตฺตา อาวชฺชนกิริยาสมุฏฺิตตฺตา จ ชวนํ, สพฺพมฺปิ วา ฉทฺวารปฺปวตฺตํ กิริยามยปวตฺตํ นาม, ตสฺมึ สติ ชาคริตํ นาม โหตีติ ปริคฺคณฺหนฺโต ชาคริเต สมฺปชานการี นาม. อปิจ รตฺตินฺทิวํ ฉ โกฏฺาเส กตฺวา ปฺจ โกฏฺาเส ชคฺคนฺโตปิ ชาคริเต สมฺปชานการี นาม โหติ. วิมุตฺตายตนสีเสน ธมฺมํ เทเสนฺโตปิ พาตฺตึสติรจฺฉานกถํ ปหาย ทสกถาวตฺถุนิสฺสิตํ สปฺปายกถํ กเถนฺโตปิ ภาสิเต สมฺปชานการี นาม. อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ จิตฺตรุจิยํ มนสิการํ ปวตฺเตนฺโตปิ ทุติยํ ฌานํ สมาปนฺโนปิ ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี นาม. ทุติยฺหิ ฌานํ วจีสงฺขารวิรหโต วิเสสโต ตุณฺหีภาโว นาม. รูปธมฺมสฺเสว ปวตฺติอาการวิเสสา อภิกฺกมาทโยติ วุตฺตํ ‘‘รูปกฺขนฺธสฺเสว สมุทโย จ วโย จ นีหริตพฺโพ’’ติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

จตุสมฺปชฺปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฏิกูลมนสิการปพฺพวณฺณนา

๑๑๐. ปฏิกูลมนสิการวเสนาติ (ที. นิ. ฏี. ๒.๓๗๗) ชิคุจฺฉนียตาย. ปฏิกูลเมว ปฏิกูลํ โย ปฏิกูลสภาโว ปฏิกูลากาโร, ตสฺส มนสิกรณวเสน. อนฺตเรนปิ หิ ภาววาจินํ สทฺทํ ภาวตฺโถ วิฺายติ ยถา ‘‘ปฏสฺส สุกฺก’’นฺติ. ยสฺมา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๘๒-๑๘๓) วุตฺตํ, ตสฺมา ตตฺถ ตํสํวณฺณนายฺจ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. วตฺถาทีหิ ปสิพฺพกากาเรน พนฺธิตฺวา กตํ อาวฏนํ ปุโตฬิ. วิภูตากาโรติ ปณฺณตฺตึ สมติกฺกมิตฺวา อสุภภาวสฺส อุปฏฺิตากาโร. อิติ-สทฺทสฺส อาการตฺถตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอว’’นฺติ วตฺวา ตํ การณํ สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘เกสาทิปริคฺคหเณนา’’ติ อาห.

ปฏิกูลมนสิการปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

ธาตุมนสิการปพฺพวณฺณนา

๑๑๑. ธาตุมนสิการวเสนาติ ปถวีธาตุอาทิกา จตสฺโส ธาตุโย อารพฺภ ปวตฺตภาวนามนสิการวเสน, จตุธาตุววตฺถานวเสนาติ อตฺโถ. ธาตุมนสิกาโร ธาตุกมฺมฏฺานํ จตุธาตุววตฺถานนฺติ หิ อตฺถโต เอกํ. โคฆาตโกติ ชีวิกตฺถาย คุนฺนํ ฆาตโก. อนฺเตวาสิโกติ กมฺมกรณวเสน ตสฺส สมีปวาสี. ิต-สทฺโท ‘‘ิโต วา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๖๓; อ. นิ. ๕.๒๘) านสงฺขาตอิริยาปถสมงฺคิตาย, า-สทฺทสฺส วา คติวินิวตฺติอตฺถตาย อฺตฺถ เปตฺวา คมนํ เสสอิริยาปถสมงฺคิตาย โพธโก, อิธ ปน ยถา ตถา รูปกายสฺส ปวตฺติอาการโพธโก อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘จตุนฺนํ อิริยาปถานํ เยน เกนจิ อากาเรน ิตตฺตา ยถาิต’’นฺติ. ตตฺถ อากาเรนาติ านาทินา รูปกายสฺส ปวตฺติอากาเรน. านาทโย หิ อิริยาปถสงฺขาตาย กายิกกิริยาย ปโถ ปวตฺติมคฺโคติ ‘‘อิริยาปโถ’’ติ วุจฺจนฺติ. ยถาิตนฺติ ยถาปวตฺตํ. ยถาวุตฺตฏฺานเมเวตฺถ ‘‘ปณิธาน’’นฺติ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘ยถาิตตฺตา จ ยถาปณิหิต’’นฺติ. ิตนฺติ วา กายสฺส านสงฺขาตอิริยาปถสมาโยคปริทีปนํ. ปณิหิตนฺติ ตทฺอิริยาปถสมาโยคปริทีปนํ. ิตนฺติ วา กายสงฺขาตานํ รูปธมฺมานํ ตสฺมึ ตสฺมึ ขเณ สกิจฺจวเสน อวฏฺานปริทีปนํ. ปณิหิตนฺติ ปจฺจยกิจฺจวเสน เตหิ เตหิ ปจฺจเยหิ ปการโต นิหิตํ ปณิหิตนฺติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปจฺจเวกฺขตีติ ปติ ปติ อเวกฺขติ, าณจกฺขุนา วินิพฺภุชิตฺวา วิสุํ วิสุํ ปสฺสติ.

อิทานิ วุตฺตเมวตฺถํ ภาวตฺถวิภาวนวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา โคฆาตกสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โปเสนฺตสฺสาติ มํสูปจยปริพฺรูหนาย กุณฺฑกภตฺตกปฺปาสฏฺิอาทีหิ สํวฑฺเฒนฺตสฺส. วธิตํ มตนฺติ หึสิตํ หุตฺวา มตํ. มตนฺติ จ มตมตฺตํ. เตเนวาห ‘‘ตาวเทวา’’ติ. คาวีติ สฺา น อนฺตรธายติ ยานิ องฺคปจฺจงฺคานิ ยถาสนฺนิวิฏฺานิ อุปาทาย คาวีสมฺา มตมตฺตายปิ คาวิยา, เตสํ ตํสนฺนิเวสสฺส อวินฏฺตฺตา. วิลียนฺติ ภิชฺชนฺติ วิภุชฺชนฺตีติ พีลา ภาคา ว-การสฺส พ-การํ, อิ-การสฺส อี-การํ กตฺวา. พีลโสติ พีลํ พีลํ กตฺวา. วิภชิตฺวาติ อฏฺิสงฺฆาฏโต มํสํ วิเวเจตฺวา, ตโต วา วิเวจิตมํสํ ภาคโส กตฺวา. เตเนวาห ‘‘มํสสฺา ปวตฺตตี’’ติ. ปพฺพชิตสฺสปิ อปริคฺคหิตกมฺมฏฺานสฺส. ฆนวินิพฺโภคนฺติ สนฺตติสมูหกิจฺจฆนานํ วินิพฺภุชนํ วิเวจนํ. ธาตุโส ปจฺจเวกฺขโตติ ฆนวินิพฺโภคกรเณน ธาตุํ ธาตุํ ปถวีอาทิธาตุํ วิสุํ วิสุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส. สตฺตสฺาติ อตฺตานุทิฏฺิวเสน ปวตฺตา สฺาติ วทนฺติ, โวหารวเสน ปวตฺตสตฺตสฺายปิ ตทา อนฺตรธานํ ยุตฺตเมว ยาถาวโต ฆนวินิพฺโภคสฺส สมฺปาทนโต. เอวฺหิ สติ ยถาวุตฺตโอปมฺมตฺเถน อุปเมยฺยตฺโถ อฺทตฺถุ สํสนฺทติ สเมติ. เตเนวาห ‘‘ธาตุวเสเนว จิตฺตํ สนฺติฏฺตี’’ติ. ทกฺโขติ เฉโก ตํตํสมฺาย กุสโล, ยถาชาเต สูนสฺมึ นงฺคุฏฺขุรวิสาณาทิวนฺเต อฏฺิมํสาทิอวยวสมุทาเย อวิภตฺเต คาวีสมฺา, น วิภตฺเต, วิภตฺเต ปน อฏฺฏึมํสาทิอวยวสมฺาติ ชานนโก. จตุมหาปโถ วิย จตุอิริยาปโถติ คาวิยา ิตจตุมหาปโถ วิย กายสฺส ปวตฺติมคฺคภูโต จตุพฺพิโธ อิริยาปโถ. ยสฺมา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๐๖) วิตฺถาริตา, ตสฺมา ตตฺถ ตํสํวณฺณนายฺจ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๓๐๖) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.

ธาตุมนสิการปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

นวสิวถิกปพฺพวณฺณนา

๑๑๒. สิวถิกาย อปวิทฺธอุทฺธุมาตกาทิปฏิสํยุตฺตานํ โอธิโส ปวตฺตานํ กถานํ ตทภิเธยฺยานฺจ อุทฺธุมาตกาทิอสุภภาคานํ สิวถิกปพฺพานีติ สงฺคีติกาเรหิ คหิตสมฺา. เตนาห ‘‘สิวถิกปพฺเพหิ วิภชิตุ’’นฺติ. อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานาติ ชีวิตกฺขยโต อุปริ มรณโต ปรํ. สมุคฺคเตนาติ อุฏฺิเตน. อุทฺธุมาตตฺตาติ อุทฺธํ อุทฺธํ ธุมาตตฺตา สูนตฺตา. เสตรตฺเตหิ วิปริภินฺนํ วิมิสฺสิตํ นีลํ วินีลํ, ปุริมวณฺณวิปริณามภูตํ วา นีลํวินีลํ, วินีลเมว วินีลกนฺติ ก-กาเรน ปทวฑฺฒนมาห อนตฺถนฺตรโต ยถา ‘‘ปีตกํ โลหิตก’’นฺติ (ธ. ส. ๖๑๖). ปฏิกูลกตฺตาติ ชิคุจฺฉนียตฺตา. กุจฺฉิตํ วินีลํ วินีลกนฺติ กุจฺฉนตฺโถ วา อยํ ก-กาโรติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ ยถา ‘‘ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๑๖; อ. นิ. ๕.๒๑๓; มหาว. ๒๘๕). ปริภินฺนฏฺาเนหิ กากกงฺกาทีหิ. วิสฺสนฺทมานํ ปุพฺพนฺติ วิสฺสวนฺตํ ปุพฺพํ, ตหํ ตหํ ปคฺฆรนฺตปุพฺพนฺติ อตฺโถ. ตถาภาวนฺติ วิสฺสนฺทมานปุพฺพภาวํ.

โส ภิกฺขูติ โย ‘‘ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิต’’นฺติ วุตฺโต, โส ภิกฺขุ. อุปสํหรติ สทิสตํ. อยมฺปิ โขติอาทิ อุปสํหรณาการทสฺสนํ . อายูติ รูปชีวิตินฺทฺริยํ, อรูปชีวิตินฺทฺริยํ ปเนตฺถ วิฺาณคติกเมว. อุสฺมาติ กมฺมชเตโช. เอวํปูติกสภาโวติ เอวํ อติวิย ปูติกสภาโว, น อายุอาทีนํ อวิคเม วิย มตฺตโสติ อธิปฺปาโย. เอทิโส ภวิสฺสตีติ เอวํภาวีติ อาห ‘‘เอวํอุทฺธุมาตาทิเภโท ภวิสฺสตี’’ติ.

ลุฺจิตฺวา ลุฺจิตฺวาติ อุปฺปาเฏตฺวา อุปฺปาเฏตฺวา. เสสาวเสสมํสโลหิตยุตฺตนฺติ สพฺพโส อขาทิตตฺตา ตหํ ตหํ เสเสน อปฺปาวเสเสน มํสโลหิเตน ยุตฺตํ. อฺเน หตฺถฏฺิกนฺติ อวิเสเสน หตฺถฏฺิกานํ วิปฺปกิณฺณตา โชติตาติ อนวเสสโต เตสํ วิปฺปกิณฺณตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘จตุสฏฺิเภทมฺปี’’ติอาทิมาห. เตโรวสฺสิกานีติ ติโรวสฺสํ คตานิ. ตานิ ปน สํวจฺฉรํ วีติวตฺตานิ โหนฺตีติ อาห ‘‘อติกฺกนฺตสํวจฺฉรานี’’ติ. ปุราณตาย ฆนภาววิคเมน วิจุณฺณตา อิธ ปูติภาโวติ โส ยถา โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อพฺโภกาเส’’ติอาทิมาห. ขชฺชมานตาทิวเสน ทุติยสิวถิกปพฺพาทีนํ ววตฺถิตตฺถา วุตฺตํ ‘‘ขชฺชมานาทีนํ วเสน โยชนา กาตพฺพา’’ติ.

นวสิวถิกปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิมาเนวทฺเวติ อวธารเณน อปฺปนากมฺมฏฺานํ ตตฺถ นิยเมติ อฺปพฺเพสุ ตทภาวโต. ยโต หิ เอว-กาโร, ตโต อฺตฺถ นิยเมติ, เตน ปพฺพทฺวยสฺส วิปสฺสนากมฺมฏฺานตาปิ อปฺปฏิสิทฺธาติ ทฏฺพฺพา อนิจฺจาทิทสฺสนโต. สงฺขาเรสุ อาทีนววิภาวนานิ สิวถิกปพฺพานีติ อาห ‘‘สิวถิกานํ อาทีนวานุปสฺสนาวเสน วุตฺตตฺตา’’ติ. อิริยาปถปพฺพาทีนํ อนปฺปนาวหตา ปากฏา เอวาติ ‘‘เสสานิ ทฺวาทสาปี’’ติ วุตฺตํ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต อวิภตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.

กายานุปสฺสนาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เวทนานุปสฺสนาวณฺณนา

๑๑๓. สุขํ เวทนนฺติ เอตฺถ สุขยตีติ สุขา, สมฺปยุตฺตธมฺเม กายฺจ ลทฺธสฺสาเท กโรตีติ อตฺโถ. สุฏฺุ วา ขาทติ, ขนติ วา กายิกํ เจตสิกฺจ อาพาธนฺติ สุขา. สุกรํ โอกาสทานํ เอติสฺสาติ สุขาติ อปเร. เวทยติ อารมฺมณรสํ อนุภวตีติ เวทนา. เวทยมาโนติ อนุภวมาโน. กามนฺติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ อิริยาปถปพฺเพ วุตฺตเมว. สมฺปชานสฺส เวทิยนํ สมฺปชานเวทิยนํ.

‘‘โวหารมตฺตํ โหตี’’ติ เอเตน ‘‘สุขํ เวทนํ เวทยมาโน สุขํ เวทนํ เวทยามี’’ติ อิทํ โวหารมตฺตนฺติ ทสฺเสติ. วตฺถุอารมฺมณาติ รูปาทิอารมฺมณา. รูปาทิอารมฺมณฺหิ เวทนาย ปวตฺติฏฺานตาย ‘‘วตฺถู’’ติ อธิปฺเปตํ. อสฺสาติ ภเวยฺย. ธมฺมวินิมุตฺตสฺส อฺสฺส กตฺตุ อภาวโต ธมฺมสฺเสว กตฺตุภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เวทนาว เวทยตี’’ติ อาห. นิตฺถุนนฺโตติ. พลวโต เวทนาเวคสฺส นิโรธเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตสฺส อวสรทานวเสน นิตฺถุนนฺโต. วีริยสมตํ โยเชตฺวาติ อธิวาสนวีริยสฺส อธิมตฺตตฺตา ตสฺส หาปนวเสน สมาธินา สมรสตาปาทเนน วีริยสมตํ โยเชตฺวา. สห ปฏิสมฺภิทาหีติ โลกุตฺตรปฏิสมฺภิทาหิ สห. โลกิยานมฺปิ วา สติ อุปฺปตฺติกาเล ตตฺถ สมตฺถตํ สนฺธายาห ‘‘สห ปฏิสมฺภิทาหี’’ติ. สมสีสีติ วารสมสีสี หุตฺวา, ปจฺจเวกฺขณวารสฺส อนนฺตรวาเร ปรินิพฺพายีติ อตฺโถ.

ยถา จ สุขํ, เอวํ ทุกฺขนฺติ ยถา ‘‘สุขํ เวทยตี’’ติอาทินา สมฺปชานเวทิยนํ สนฺธาย วุตฺตํ, เอวํ ทุกฺขมฺปิ. ตตฺถ ทุกฺขยตีติ ทุกฺขา, สมฺปยุตฺตธมฺเม กายฺจ ปีเฬติ วิพาธตีติ อตฺโถ. ทุฏฺุํ วา ขาทติ, ขนติ วา กายิกํ เจตสิกฺจ สาตนฺติ ทุกฺขา. ทุกฺกรํ โอกาสทานํ เอติสฺสาติ ทุกฺขาติ อปเร. อรูปกมฺมฏฺานนฺติ อรูปปริคฺคหํ, อรูปธมฺมมุเขน วิปสฺสนาภินิเวสนฺติ อตฺโถ. รูปกมฺมฏฺาเนน ปน สมถาภินิเวโสปิ สงฺคยฺหติ, วิปสฺสนาภินิเวโส ปน อิธาธิปฺเปโตติ ทสฺเสนฺโต อาห. ‘‘รูปปริคฺคโห อรูปปริคฺคโหติปิ เอตเทว วุจฺจตี’’ติ. จตุธาตุววตฺถานํ กเถสีติ เอตฺถาปิ ‘‘เยภุยฺเยนา’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตทุภยนฺติ จตุธาตุววตฺถานสฺส สงฺเขปวิตฺถารทฺวยมาห. สงฺเขปมนสิการวเสน มหาสติปฏฺาเน, วิตฺถารมนสิการวเสน ราหุโลวาท- (ม. นิ. ๒.๑๑๕-๑๑๗) ธาตุวิภงฺคาทีสุ (วิภ. ๑๗๔-๑๗๕).

เยภุยฺยคฺคหเณน ตทฺธมฺมวเสนปิ อรูปกมฺมฏฺานกถาย อตฺถิตา ทีปิตาติ ตํ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘ติวิโธ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อภินิเวโสติ อนุปฺปเวโส, อารมฺโภติ อตฺโถ. อารมฺเภ เอว หิ อยํ วิภาโค, สมฺมสนํ ปน อนวเสสโตว ธมฺเม ปริคฺคเหตฺวา วตฺตติ. ปริคฺคหิเต รูปกมฺมฏฺาเนติ อิทํ รูปมุเขน วิปสฺสนาภินิเวสํ สนฺธาย วุตฺตํ, อรูปมุเขน ปน วิปสฺสนาภินิเวโส เยภูยฺเยน สมถยานิกสฺส อิจฺฉิตพฺโพ, โส จ ปมํ ฌานงฺคานิ ปริคฺคเหตฺวา ตโต ปรํ เสสธมฺเม ปริคฺคณฺหาติ. ปมาภินิปาโตติ สพฺเพ เจตสิกา จิตฺตายตฺตา จิตฺตกิริยภาเวน วุจฺจนฺตีติ ผสฺโส จิตฺตสฺส ปมาภินิปาโต วุตฺโต, อุปฺปนฺนผสฺโส ปุคฺคโล, จิตฺตเจตสิกราสิ วา อารมฺมเณน ผุฏฺโ ผสฺสสหชาตาย เวทนาย ตํสมกาลเมว เวเทติ, ผสฺโส ปน โอภาสสฺส วิย ปทีโป เวทนาทีนํ ปจฺจยวิเสโส โหตีติ ปุริมกาโล วิย วุจฺจติ, ยา ตสฺส อารมฺมณาภินิโรปนลกฺขณตา วุจฺจติ. ผุสนฺโตติ อารมฺมณสฺส ผุสนากาเรน. อยฺหิ อรูปธมฺมตา เอกเทเสน อนลฺลียมาโนปิ รูปํ วิย จกฺขุ, สทฺโท วิย จ โสตํ จิตฺตํ อารมฺมณฺจ ผุสนฺโต วิย สงฺฆฏฺเฏนฺโต วิย จ ปวตฺตติ. ตถาเหส ‘‘สงฺฆฏฺฏนรโส’’ติ วุจฺจติ.

อารมฺมณํ อนุภวนฺตีติ อิสฺสรวตาย วิสวิตาย สามิภาเวน อารมฺมณรสํ อนุภวนฺตี. ผสฺสาทีนฺหิ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อารมฺมเณ เอกเทเสเนว ปวตฺติ ผุสนาทิมตฺตภาวโต, เวทนาย ปน อิฏฺาการสมฺโภคาทิวเสน ปวตฺตนโต อารมฺมเณ นิปฺปเทสโต ปวตฺติ. ผุสนาทิภาเวน หิ อารมฺมณคฺคหณํ เอกเทสานุภวนํ, เวทยิตาภาเวน คหณํ ยถากามํ สพฺพานุภวนํ เอวสภาวาเนว ตานิ คหณานีติ น เวทนาย วิย ผสฺสาทีนมฺปิ ยถาสกํ กิจฺจกรเณน สามิภาวานุภวนํ โจเทตพฺพํ. วิชานนฺตนฺติ ปริจฺฉินฺทนวเสน วิเสสโต ชานนฺตํ. วิฺาณฺหิ มินิตพฺพวตฺถุํ นาฬิยา มินนฺโต ปุริโส วิย อารมฺมณํ ปริจฺฉิชฺช วิภาเวนฺตํ ปวตฺตติ, น สฺา วิย สฺชานนมตฺตํ หุตฺวา. ตถา หิ อเนน กทาจิ ลกฺขณตฺตยวิภาวนาปิ โหติ. อิเมสํ ปน ผสฺสาทีนํ ตสฺส ตสฺส ปากฏภาโว ปจฺจยวิเสสสิทฺธสฺส ปุพฺพาโภคสฺส วเสน เวทิตพฺพา.

เอวํ ตสฺส ตสฺเสว ปากฏภาเวปิ ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อภิฺเยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๔๖; ปฏิ. ม. ๑.๓) ‘‘สพฺพฺจ โข, ภิกฺขเว, อภิชาน’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๒๖) จ เอวมาทิวจนโต สพฺเพ สมฺมสนุปคา ธมฺมา ปริคฺคเหตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ ยสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ผสฺสปฺจมเกเยวาติ อวธารณํ ตทนฺโตคธตฺตา ตคฺคหเณเนว คหิตตฺตา จตุนฺนํ อรูปกฺขนฺธานํ. ผสฺสปฺจมกคฺคหณฺหิ ตสฺส สพฺพจิตฺตุปฺปาทสาธารณภาวโต, ตตฺถ จ ผสฺสเจตนาคฺคหเณน สพฺพสงฺขารกฺขนฺธธมฺมสงฺคโห เจตนาปธานตฺตา เตสํ. ตถา หิ สุตฺตนฺตภาชนีเย สงฺขารกฺขนฺธวิภงฺเค (วิภ. ๑๒) ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา เจตนา’’ติอาทินา เจตนาว วิภตฺตา, อิตเร ปน ขนฺธา สรูเปเนว คหิตา.

วตฺถุํ นิสฺสิตาติ เอตฺถ วตฺถุ-สทฺโท กรชกายวิสโยติ กถมิทํ วิฺายตีติ อาห ‘‘ยํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติอาทิ. กตฺถ ปน วุตฺตํ? สามฺผเล. โสติ กรชกาโย. ปฺจกฺขนฺธวินิมุตฺตํ นามรูปํ นตฺถีติ อิทํ อธิการวเสน วุตฺตํ. อฺถา หิ ขนฺธวินิมุตฺตมฺปิ นามํ อตฺเถวาติ. อวิชฺชาทิเหตุกาติ อวิชฺชาตณฺหุปาทานาทิเหตุกา. วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา…เป… วิจรตีติ อิมินา พลววิปสฺสนํ วตฺวา ปุน ตสฺส อุสฺสุกฺกาปนํ วิเสสาธิคมนฺจ ทสฺเสนฺโต ‘‘โส’’ติอาทิมาห.

อิธาติ อิมิสฺสํ ทุติยสติปฏฺานเทสนายํ, ตสฺสา ปน เวทนานุปสฺสนาวเสน กเถตพฺพตฺตา ภควา เวทนาวเสน กเถสิ. ยถาวุตฺเตสุ จ ตีสุ กมฺมฏฺานาภินิเวเสสุ เวทนาวเสน กมฺมฏฺานาภินิเวโส สุกโร เวทนานํ วิภูตภาวโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘ผสฺสวเสน หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. น ปากฏํ โหตีติ อิทํ ตาทิเส ปุคฺคเล สนฺธาย วุตฺตํ, เยสํ อาทิโต เวทนาว วิภูตตรา หุตฺวา อุปฏฺาติ. เอวฺหิ ยํ วุตฺตํ ‘‘ผสฺโส ปากโฏ โหติ, วิฺาณํ ปากฏํ โหตี’’ติ, ตํ อวิโรธิตํ โหติ. เวทนานํ อุปฺปตฺติปากฏตายาติ จ อิทํ สุขทุกฺขเวทนานํ วเสน วุตฺตํ. ตาสฺหิ ปวตฺติ โอฬาริกา, น อิตราย. ตทุภยคฺคหณมุเขน วา คเหตพฺพตฺตา อิตรายปิ ปวตฺติ วิฺูนํ ปากฏา เอวาติ ‘‘เวทนาน’’นฺติ อวิเสสคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ. ยทา สุขํ อุปฺปชฺชตีติอาทิ สุขเวทนาย ปากฏภาววิภาวนํ. เนว ตสฺมึ สมเย ทุกฺขํ เวทนํ เวเทตีติ ตสฺมึ สุขเวทนาสมงฺคิสมเย เนว ทุกฺขํ เวทนํ เวเทติ นิรุทฺธตฺตา, อนุปฺปนฺนตฺตา จ ยถากฺกมํ อตีตานาคตานํ , ปจฺจุปฺปนฺนาย ปน อสมฺภโว วุตฺโตเยว. สกิจฺจกฺขณมตฺตาวฏฺานโต อนิจฺจา. สเมจฺจสมฺภุยฺย ปจฺจเยหิ กตตฺตา สงฺขตา. วตฺถารมฺมณาทิปจฺจยํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนตฺตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา. ขยวยปลุชฺชนนิรุชฺฌนปกติตาย ขยธมฺมา…เป… นิโรธธมฺมาติ ทฏฺพฺพา.

กิเลเสหิ อามสิตพฺพโต อามิสํ นาม ปฺจ กามคุณา, อารมฺมณกรณวเสน สห อามิเสหีติ อามิสา. เตนาห ‘‘ปฺจกามคุณามิสนิสฺสิตา’’ติ. อิโต ปรนฺติ ‘‘อตฺถิ เวทนา’’ติ เอวมาทิปาฬึ สนฺธายาห ‘‘กายานุปสฺสนายํ วุตฺตนยเมวา’’ติ.

เวทนานุปสฺสนาวณฺณนา นิฏฺิตา.

จิตฺตานุปสฺสนาวณฺณนา

๑๑๔. สมฺปโยควเสน (ที. นิ. ฏี. ๒.๓๘๑) ปวตฺตมาเนน สห ราเคนาติ สราคํ. เตนาห ‘‘โลภสหคต’’นฺติ. วีตราคนฺติ. เอตฺถ กามํ สราคปทปฏิโยคินา วีตราควเสน ภวิตพฺพํ, สมฺมสนจารสฺส ปน อิธาธิปฺเปตตฺตา เตภูมกสฺเสว คหณนฺติ ‘‘โลกิยกุสลาพฺยากต’’นฺติ วตฺวา ‘‘อิทํ ปนา’’ติอาทินา ตเมว อธิปฺปายํ วิวรติ. เสสานิ ทฺเว โทสมูลานิ, ทฺเว โมหมูลานีติ จตฺตาริ อกุสลจิตฺตานิ. เตสฺหิ ราเคน สมฺปโยคาภาวโต นตฺเถว สราคตา, ตนฺนิมิตฺตกตาย ปน สิยา ตํสหิตตาเลโสติ นตฺเถว วีตราคตาปีติ ทุกวินิมุตฺตตา เอเวตฺถ ลพฺภตีติ อาห ‘‘เนว ปุริมปทํ, น ปจฺฉิมปทํ ภชนฺตี’’ติ. ยทิ เอวํ ปเทสิกํ ปชานนํ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ ทุกนฺตรปริยาปนฺนตฺตา เตสํ. อกุสลมูเลสุ สห โมเหเนว วตฺตตีติ สโมหนฺติ อาห ‘‘วิจิกิจฺฉาสหคตฺเจว อุทฺธจฺจสหคตฺจา’’ติ. ยสฺมา เจตฺถ สเหว โมเหนาติ สโมหนฺติ ปุริมปทาวธารณมฺปิ ลพฺภติเยว, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. ยถา ปน อติมูฬฺหตาย ปาฏิปุคฺคลิกนเยน สวิเสสํ โมหวนฺตตาย โมมูหจิตฺตนฺติ วตฺตพฺพโต วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคตทฺวยํ วิเสสโต ‘‘สโมห’’นฺติ วุจฺจติ, น ตถา เสสากุสลจิตฺตานีติ ‘‘วฏฺฏนฺติเยวา’’ติ วุตฺตํ. สมฺปโยควเสน ถินมิทฺเธน อนุปติตํ อนุคตนฺติ ถินมิทฺธานุปติตํ ปฺจวิธํ สสงฺขาริกากุสลจิตฺตํ สงฺกุฏิตจิตฺตํ. สงฺกุฏิตจิตฺตํ นาม อารมฺมเณ สงฺโกจนวเสน ปวตฺตนโต. ปจฺจยวิเสสวเสน ถามชาเตน อุทฺธจฺเจน สหคตํ ปวตฺตํ สํสฏฺนฺติ อุทฺธจฺจสหคตํ, อฺถา สพฺพมฺปิ อกุสลจิตฺตํ อุทฺธจฺจสหคตเมวาติ. ปสฏจิตฺตํ นาม สาติสยํ วิกฺเขปวเสน ปวตฺตนโต.

กิเลสวิกฺขมฺภนสมตฺถตาย วิปุลผลตาย ทีฆสนฺตานตาย จ มหนฺตภาวํ คตํ, มหนฺเตหิ วา อุฬารจฺฉนฺทาทีหิ คตํ ปฏิปนฺนนฺติ มหคฺคตํ. ตํ ปน รูปารูปภูมิกํ ตโต มหนฺตสฺส โลเก อภาวโต. เตนาห ‘‘รูปารูปาวจร’’นฺติ. ตสฺส เจตฺถ ปฏิโยคี ปริตฺตเมวาติ อาห ‘‘อมหคฺคตนฺติ กามาวจร’’นฺติ. อตฺตานํ อุตฺตริตุํ สมตฺเถหิ สห อุตฺตเรหีติ สอุตฺตรํ, ตปฺปฏิปกฺเขน อนุตฺตรํ, ตทุภยํ อุปาทาย เวทิตพฺพนฺติ อาห ‘‘สอุตฺตรนฺติ กามาวจร’’นฺติอาทิ. ปฏิปกฺขวิกฺขมฺภนสมตฺเถน สมาธินา สมฺมเทว อาหิตํ สมาหิตํ. เตนาห ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิ. ยสฺสาติ ยสฺส จิตฺตสฺส. ยถาวุตฺเตน สมาธินา น สมาหิตนฺติ อสมาหิตํ. เตนาห ‘‘อุภยสมาธิรหิต’’นฺติ. ตทงฺควิมุตฺติยา วิมุตฺตํ, กามาวจรํ กุสลํ. วิกฺขมฺภนวิมุตฺติยา วิมุตฺตํ, มหคฺคตนฺติ ตทุภยํ สนฺธายาห ‘‘ตทงฺควิกฺขมฺภนวิมุตฺตีหิ วิมุตฺต’’นฺติ. ยตฺถ ตทุภยวิมุตฺติ นตฺถิ, ตํ อุภยวิมุตฺติรหิตนฺติ คยฺหมาเน โลกุตฺตรจิตฺเตปิ สิยา อาสงฺกาติ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘สมุจฺเฉท…เป… โอกาโสว นตฺถี’’ติ อาห. โอกาสาภาโว จ สมฺมสนจารสฺส อธิปฺเปตตฺตา เวทิตพฺโพ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต อวิภตฺตํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมวาติ.

จิตฺตานุปสฺสนาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ธมฺมานุปสฺสนาวณฺณนา

นีวรณปพฺพวณฺณนา

๑๑๕. ปหาตพฺพาทิธมฺมวิภาคทสฺสนวเสน ปฺจธา ธมฺมานุปสฺสนา นิทฺทิฏฺาติ อยมตฺโถ ปาฬิโต เอว วิฺายตีติ ตมตฺถํ อุลฺลิงฺเคนฺโต ‘‘ปฺจวิเธนธมฺมานุปสฺสนํ กเถตุ’’นฺติ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ กสฺมา นีวรณาทิวเสเนว นิทฺทิฏฺนฺติ? เวเนยฺยชฺฌาสยโต. เยสฺหิ เวเนยฺยานํ ปหาตพฺพธมฺเมสุ ปมํ นีวรณานิ วิภาเคน วตฺตพฺพานิ, เตสํ วเสเนตฺถ ภควตา ปมํ นีวรเณสุ ธมฺมานุปสฺสนา กถิตา. ตถา หิ กายานุปสฺสนาปิ สมถปุพฺพงฺคมา เทสิตา, ตโต ปริฺเยฺเยสุ ขนฺเธสุ อายตเนสุ, ภาเวตพฺเพสุ โพชฺฌงฺเคสุ ปริฺเยาทิวิภาเคสุ สจฺเจสุ จ อุตฺตรา เทสนา เทสิตา, ตสฺมา เจตฺถ สมถภาวนาปิ ยาวเทว วิปสฺสนตฺถํ อิจฺฉิตา, วิปสฺสนาปธานา วิปสฺสนาพหุลา จ สติปฏฺานเทสนาติ ตสฺสา วิปสฺสนาภินิเวสวิภาเคน เทสิตภาวํ วิภาเวนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ขนฺธายตนทุกฺขสจฺจวเสน มิสฺสกปริคฺคหกถนํ ทฏฺพฺพํ. สฺาสงฺขารกฺขนฺธปริคฺคหมฺปีติ ปิ-สทฺเทน สกลปฺจุปาทานกฺขนฺธปริคฺคหํ สมฺปิณฺเฑติ อิตเรสํ ตทนฺโตคธตฺตา. ‘‘กณฺหสุกฺกานํ ยุคนฺธตา นตฺถี’’ติ ปชานนกาเล อภาวา ‘‘อภิณฺหสมุทาจารวเสนา’’ติ วุตฺตํ. ยถาติ เยนากาเรน. โส ปน ‘‘กามจฺฉนฺทสฺส อุปฺปาโท โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา กามจฺฉนฺทสฺส การณากาโรว, อตฺถโต การณเมวาติ อาห ‘‘เยน การเณนา’’ติ. -สทฺโท วกฺขมานตฺถสมุจฺจยตฺโถ.

ตตฺถาติ ‘‘ยถา จา’’ติอาทินา วุตฺตปเท. สุภมฺปีติ กามจฺฉนฺโทปิ. โส หิ อตฺตโน คหณากาเรน ‘‘สุภ’’นฺติ วุจฺจติ, เตนากาเรน ปวตฺตนกสฺส อฺสฺส กามจฺฉนฺทสฺส นิมิตฺตตฺตา ‘‘สุภนิมิตฺต’’นฺติ จ. อิฏฺํ, อิฏฺากาเรน วา คยฺหมานํ รูปาทิ สุภารมฺมณํ. อากงฺขิตสฺส หิตสุขสฺส อนุปายภูโต มนสิกาโร อนุปายมนสิกาโร. ตนฺติ อโยนิโสมนสิการํ. ตตฺถาติ นิปฺผาเทตพฺเพ อารมฺมณภูเต จ ทุวิเธปิ สุภนิมิตฺเต. อาหาโรติ ปจฺจโย.

อสุภมฺปีติ อสุภชฺฌานมฺปิ อุตฺตรปทโลเปน. ตํ ปน ทสสุ อวิฺาณกาสุเภสุ, เกสาทีสุ จ ปวตฺตํ ทฏฺพฺพํ. เกสาทีสุ หิ สฺา อสุภสฺาติ คิริมานนฺทสุตฺเต (อ. นิ. ๑๐.๖๐) วุตฺตาติ. เอตฺถ จ จตุพฺพิธสฺส อโยนิโสมนสิการสฺส โยนิโสมนสิการสฺส จ คหณํ นิรวเสสทสฺสนตฺถํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตสุ ปน อสุเภ ‘‘สุภ’’นฺติ, ‘‘อสุภ’’นฺติ จ มนสิกาโร อิธาธิปฺเปโต, ตทนุกูลตฺตา วา อิตเรปีติ.

เอกาทสสุ (อ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑๖) อสุเภสุ ปฏิกูลาการสฺส อุคฺคณฺหนํ, ยถา วา ตตฺถ อุคฺคหนิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตถา ปฏิปตฺติ อสุภนิมิตฺตสฺส อุคฺคโห. อุปจารปฺปนาวหาย อสุภภาวนาย อนุยุฺชนํ อสุภภาวนานุโยโค. โภชเน มตฺตฺุโน ถินมิทฺธาภิภวาภาวา โอตารํ อลภมาโน กามจฺฉนฺโท ปหียตีติ วทนฺติ. โภชนนิสฺสิตํ ปน อาหาเร ปฏิกูลสฺํ, ตพฺพิปริณามสฺส, ตทาธารสฺส, ตสฺส จ อุทริยภูตสฺส อสุภตาทสฺสนํ, กายสฺส อาหารฏฺิติกตาทสฺสนฺจ โย สมฺมเทว ชานาติ, โส วิเสสโต โภชเน มตฺตฺู นาม, ตสฺส จ กามจฺฉนฺโท ปหียเตว. อสุภกมฺมิกติสฺสตฺเถโร ทนฺตฏฺิทสฺสาวี. อภิธมฺมปริยาเยน (ธ. ส. ๑๑๕๙, ๑๕๐๓) สพฺโพปิ โลโภ กามจฺฉนฺทนีวรณนฺติ อาห ‘‘อรหตฺตมคฺเคนา’’ติ.

ปฏิฆมฺปิ ปุริมุปฺปนฺนํ ปฏิฆนิมิตฺตํ ปรโต อุปฺปชฺชนกปฏิฆสฺส การณนฺติ กตฺวา. เมชฺชติ หิตผรณวเสน สินิยฺหตีติ มิตฺโต, ตสฺมึ มิตฺเต ภวา, มิตฺตสฺส วา เอสาติ เมตฺตา, ตสฺสา เมตฺตาย.

เมตฺตายนสฺส สตฺเตสุ หิตผรณสฺส อุปฺปาทนํ ปวตฺตนํ เมตฺตานิมิตฺตสฺส อุคฺคโห. โอธิสกอโนธิสกทิสาผรณานนฺติ อตฺตอติปิยสหายมชฺฌตฺตเวรีวเสน โอธิสกตา, สีมาสมฺเภเท กเต อโนธิสกตา, เอกาทิทิสาผรณวเสน ทิสาผรณตา เมตฺตาย อุคฺคหเณ เวทิตพฺพา. วิหารรจฺฉาคามาทิวเสน วา โอธิสกทิสาผรณํ, วิหาราทิอุทฺเทสรหิตํ ปุรตฺถิมาทิทิสาวเสน อโนธิสกทิสาผรณนฺติ เอวํ วา ทฺวิธา อุคฺคหณํ สนฺธาย ‘‘โอธิสกอโนธิสกทิสาผรณาน’’นฺติ วุตฺตํ. อุคฺคโห จ ยาว อุปจารา ทฏฺพฺโพ, อุคฺคหิตาย อาเสวนา ภาวนา. ตตฺถ ‘‘สพฺเพ สตฺตา, ปาณา, ภูตา, ปุคฺคลา, อตฺตภาวปริยาปนฺนา’’ติ เอเตสํ วเสน ปฺจวิธา, เอเกกสฺมึ ‘‘อเวรา โหนฺตุ, อพฺยาปชฺชา, อนีฆา, สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’’ติ จตุธา ปวตฺติโต วีสติวิธา อโนธิสกผรณา เมตฺตา, ‘‘สพฺพา อิตฺถิโย, ปุริสา, อริยา, อนริยา, เทวา, มนุสฺสา, วินิปาติกา’’ติ สตฺโตธิกรณวเสน ปวตฺตา สตฺตวิธา อฏฺวีสติวิธา วา, ทสหิ ทิสาหิ ทิโสธิกรณวเสน ปวตฺตา ทสวิธา จ, เอเกกาย วา ทิสาย สตฺตาทิอิตฺถาทิอเวราทิเภเทน อสีตาธิกจตุสตปฺปเภทา จ โอธิโภผรณา เวทิตพฺพา.

เยน อโยนิโสมนสิกาเรน อรติอาทิกานิ อุปฺปชฺชนฺติ, โส อรติอาทีสุ อโยนิโสมนสิกาโร, เตน. นิปฺผาเทตพฺเพ หิ อิทํ ภุมฺมํ. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ. อุกฺกณฺิตา ปนฺตเสนาสเนสุ อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ จ อุปฺปชฺชนภาวริฺจนา. กายวินามนาติ กายสฺส วิรูเปนากาเรน นามนา.

กุสลธมฺมสมฺปฏิปตฺติยา ปฏฺปนสภาวตาย, ตปฺปฏิปกฺขานํ วิโสสนสภาวตาย จ อารมฺภธาตุอาทิโต ปวตฺตวีริยนฺติ อาห ‘‘ปมารมฺภวีริย’’นฺติ. ยสฺมา ปมารมฺภมตฺตสฺส โกสชฺชวิธมนํ ถามคมนฺจ นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘โกสชฺชโต นิกฺขนฺตตาย ตโต พลวตร’’นฺติ. ยสฺมา ปน อปราปรุปฺปตฺติยา ลทฺธาเสวนํ อุปรูปริวิเสสํ อาวหนฺตํ อติวิย ถามคตเมว โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนโต ตโตปิ พลวตร’’นฺติ.

อติโภชเน นิมิตฺตคฺคาโหติ อติโภชเน ถินมิทฺธสฺส นิมิตฺตคฺคาโห, ‘‘เอตฺตเก ภุตฺเต ถินมิทฺธสฺส การณํ โหติ, เอตฺตเก น โหตี’’ติ ถินมิทฺธสฺส การณาการณคฺคาโห โหตีติ อตฺโถ. ทิวา สูริยาโลกนฺติ ทิวา คหิตนิมิตฺตํ สูริยาโลกํ รตฺติยํ มนสิกโรนฺตสฺสปีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ธุตงฺคานํ วีริยนิสฺสิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘ธุตงฺคนิสฺสิตสปฺปายกถายปี’’ติ.

กุกฺกุจฺจมฺปิ กตากตานุโสจนวเสน ปวตฺตมานํ เจตโส อวูปสมาวหตาย อุทฺธจฺเจน สมานลกฺขณเมวาติ ‘‘อวูปสโม นาม อวูปสนฺตากาโร, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจเมเวตํ อตฺถโต’’ติ วุตฺตํ.

พหุสฺสุตสฺส คนฺถโต อตฺถโต จ สุตฺตาทีนิ วิจาเรนฺตสฺส อตฺถเวทาทิปฏิลาภสพฺภาวโต วิกฺเขโป น โหติ, ยถาวิธิปฏิปตฺติยา ยถานุรูปปฏิการปฺปวตฺติยา จ กตากตานุโสจนฺจ น โหตีติ ‘‘พาหุสจฺเจนปิ…เป… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียตี’’ติ อาห. ยทคฺเคน พาหุสจฺเจน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียติ, ตทคฺเคน ปริปุจฺฉกตาวินยปกตฺุตาหิปิ ตํ ปหียตีติ ทฏฺพฺพํ. พุทฺธเสวิตา จ พุทฺธสีลิตํ อาวหตีติ เจตโส วูปสมกรตฺตา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปหานการี วุตฺตา. พุทฺธตฺตํ ปน อนเปกฺขิตฺวา วินยธรา กุกฺกุจฺจวิโนทกา กลฺยาณมิตฺตา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา. วิกฺเขโป จ ภิกฺขุโน เยภุยฺเยน กุกฺกุจฺจเหตุโก โหตีติ ‘‘กปฺปิยากปฺปิยปริปุจฺฉามหุลสฺสา’’ติอาทินา วินยนเยเนว ปริปุจฺฉกตาทโย นิทฺทิฏฺา. ปหีเน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺเจติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. กุกฺกุจฺจสฺส โทมนสฺสสหคตตฺตา อนาคามิมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท วุตฺโต.

ติฏฺติ ปวตฺตติ เอตฺถาติ านียา, วิจิกิจฺฉาย านียา วิจิกิจฺฉาฏฺานียา, วิจิกิจฺฉาย การณภูตา ธมฺมา. ติฏฺตีติ วา านียา, วิจิกิจฺฉา านียา เอติสฺสาติ วิจิกิจฺฉาฏฺานียา, อตฺถโต วิจิกิจฺฉา เอว. สา หิ ปุริมุปฺปนฺนา ปรโต อุปฺปชฺชนกวิจิกิจฺฉาย สภาคเหตุตาย อสาธารณํ.

กุสลากุสลาติ โกสลฺลสมฺภูตฏฺเน กุสลา, ตปฺปฏิปกฺขโต อกุสลา. เย อกุสลา, เต สาวชฺชา อเสวิตพฺพา หีนา จ. เย กุสลา, เต อนวชฺชา เสวิตพฺพา ปณีตา จ. กุสลาปิ วา หีเนหิ ฉนฺทาทีหิ อารทฺธา หีนา, ปณีเตหิ ปณีตา. กณฺหาติ กาฬกา, จิตฺตสฺส อปภสฺสรภาวกรณา. สุกฺกาติ โอทาตา, จิตฺตสฺส ปภสฺสรภาวกรณา. กณฺหาภิชาติเหตุโต วา กณฺหา, สุกฺกาภิชาติเหตุโต สุกฺกา. เต เอว สปฺปฏิภาคา. กณฺหา หิ อุชุวิปจฺจนีกตาย สุกฺเกหิ สปฺปฏิภาคา, ตถา สุกฺกาปิ อิตเรหิ. อถ วา กณฺหสุกฺกา จ สปฺปฏิภาคา จ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคา. สุขา หิ เวทนา ทุกฺขายเวทนาย สปฺปฏิภาคา, ทุกฺขา จ เวทนา สุขาย เวทนาย สปฺปฏิภาคาติ.

กามํ พาหุสจฺจปริปุจฺฉกตาหิ อฏฺวตฺถุกาปิ วิจิกิจฺฉา ปหียติ, ตถาปิ รตนตฺตยวิจิกิจฺฉามูลิกา เสสวิจิกิจฺฉาติ กตฺวา อาห ‘‘ตีณิ รตนานิ อารพฺภา’’ติ. รตนตฺตยคุณาวโพเธ หิ ‘‘สตฺถริ กงฺขตี’’ติ (ธ. ส. ๑๐๐๘, ๑๑๒๓, ๑๑๖๗, ๑๒๔๑, ๑๒๖๓, ๑๒๗๐; วิภ. ๙๑๕) อาทิวิจิกิจฺฉาย อสมฺภโวติ. วินเย ปกตฺุตา ‘‘สิกฺขาย กงฺขตี’’ติ (ธ. ส. ๑๐๐๘, ๑๑๒๓, ๑๑๖๗, ๑๒๔๑, ๑๒๖๓, ๑๒๗๐; วิภ. ๙๑๕) วุตฺตาย วิจิกิจฺฉาย ปหานํ กโรตีติ อาห ‘‘วินเย จิณฺณวสีภาวสฺสปี’’ติ. โอกปฺปนียสทฺธาสงฺขาตอธิโมกฺขพหุลสฺสาติ สทฺเธยฺยวตฺถุโน อนุปวิสนสทฺธาสงฺขาตอธิโมกฺเขน อธิมุจฺจนพหุลสฺส . อธิมุจฺจนฺจ อธิโมกฺขุปฺปาทนเมวาติ ทฏฺพฺพํ. สทฺธาย วา นินฺนโปณตา อธิมุตฺติ อธิโมกฺโข.

สุภนิมิตฺตอสุภนิมิตฺตาทีสูติ ‘‘สุภนิมิตฺตาทีสุ อสุภนิมิตฺตาทีสู’’ติ อาทิ-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ตตฺถ ปเมน อาทิ-สทฺเทน ปฏิฆนิมิตฺตาทีนํ สงฺคโห, ทุติเยน เมตฺตาเจโตวิมุตฺติอาทีนํ. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ วุตฺตนยเมวาติ.

นีวรณปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

ขนฺธปพฺพวณฺณนา

๑๑๖. อุปาทาเนหิ อารมฺมณกรณาทิวเสน อุปาทาตพฺพา วา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺทา. อิติ รูปนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อิทํ-สทฺเทน สมานตฺโถติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อิทํ รูป’’นฺติ. ตยิทํ สรูปโต อนวเสสปริยาทานํ โหตีติ อาห – ‘‘เอตฺตกํ รูปํ, น อิโต ปรํ รูปํ อตฺถี’’ติ. อิตีติ วา ปการตฺเถ นิปาโต, ตสฺมา ‘‘อิติ รูป’’นฺติ อิมินา ภูตุปาทาทิวเสน ยตฺตโก รูปสฺส เภโท, เตน สทฺธึ รูปํ อนวเสสโต ปริยาทิยิตฺวา ทสฺเสติ. สภาวโตติ รุปฺปนสภาวโต จกฺขาทิวณฺณาทิสภาวโต จ. เวทนาทีสุปีติ เอตฺถ ‘‘อยํ เวทนา, เอตฺตกา เวทนา, น อิโต ปรํ เวทนา อตฺถีติ สภาวโต เวทนํ ปชานาตี’’ติอาทินา, สภาวโตติ จ อนุภวนสภาวโต สาตาทิสภาวโต จาติ เอวมาทินา โยเชตพฺพํ.

ขนฺธปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

อายตนปพฺพวณฺณนา

๑๑๗. ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสูติ (ที. นิ. ฏี. ๒.๓๘๔) ‘‘ฉสุ อชฺฌตฺติเกสุ ฉสุ พาหิเรสุ’’ติ ‘‘ฉสู’’ติ ปทํ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. กสฺมา ปเนตานิ อุภยานิ ฉเฬว วุตฺตานิ? ฉวิฺาณกายุปฺปตฺติทฺวารารมฺมณววตฺถานโต. จกฺขุวิฺาณวีถิยา ปริยาปนฺนสฺส หิ วิฺาณกายสฺส จกฺขายตนเมว อุปฺปตฺติทฺวารํ, รูปายตนเมว จ อารมฺมณํ, ตถา อิตรานิ อิตเรสํ, ฉฏฺสฺส ปน ภวงฺคมนสงฺขาโต มนายตเนกเทโส อุปฺปตฺติทฺวารํ, อสาธารณฺจ ธมฺมายตนํ อารมฺมณํ. จกฺขตีติ จกฺขุ, รูปํ อสฺสาเทติ วิภาเวติ จาติ อตฺโถ. สุณาตีติ โสตํ. ฆายตีติ ฆานํ. ชีวิตนิมิตฺตตาย รโส ชีวิตํ, ตํ ชีวิตมวฺหายตีติ ชิวฺหา. กุจฺฉิตานํ สาสวธมฺมานํ อาโย อุปฺปตฺติเทโสติ กาโย. มุนาติ อารมฺมณํ วิชานาตีติ มโน. รูปยติ วณฺณวิการํ อาปชฺชมานํ หทยงฺคตภาวํ ปกาเสตีติ รูปํ. สปฺปติ อตฺตโน ปจฺจเยหิ หรียติ โสตวิฺเยฺยภาวํ คมียตีติ สทฺโท. คนฺธยติ อตฺตโน วตฺถุํ สูเจตีติ คนฺโธ. รสนฺติ ตํ สตฺตา อสฺสาเทนฺตีติ รโส. ผุสียตีติ โผฏฺพฺพํ. อตฺตโน ลกฺขณํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมา. สพฺพานิ ปน อายานํ ตนนาทิอตฺเถน อายตนานิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๕๑๐-๕๑๒) ตํสํวณฺณนาย (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๒.๕๑๐) จ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.

จกฺขุฺจปชานาตีติ เอตฺถ จกฺขุ นาม ปสาทจกฺขุ, น สสมฺภารจกฺขุ, นาปิ ทิพฺพจกฺขุอาทิกนฺติ อาห ‘‘จกฺขุปสาท’’นฺติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ยํ จกฺขุ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท’’ติ (ธ. ส. ๕๙๖-๕๙๙). -สทฺโท วกฺขมานตฺถสมุจฺจยตฺโถ. ยาถาวสรสลกฺขณวเสนาติ อวิปรีตสฺส อตฺตโน รสสฺส เจว ลกฺขณสฺส จ วเสน, รูเปสุ อาวิฺฉนกิจฺจสฺส เจว รูปาภิฆาตารหภูตปสาทลกฺขณสฺส จ วเสนาติ อตฺโถ. ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๐๔, ๔๐๐; ๓.๔๒๑, ๔๒๕-๔๒๖; สํ. นิ. ๒.๔๓-๔๕; ๔.๕๔-๕๕; กถา. ๔๖๕, ๔๖๗) สมุทิตานิเยว รูปายตนานิ จกฺขุวิฺาณุปฺปตฺติเหตุ, น วิสุํ วิสุนฺติ อิมสฺส อตฺถสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘รูเป จา’’ติ ปุถุวจนคฺคหณํ, ตาย เอว จ เทสนาคติยา กามํ อิธาปิ ‘‘รูเป จ ปชานาตี’’ติ วุตฺตํ, รูปภาวสามฺเน ปน สพฺพํ เอกชฺฌํ คเหตฺวา ‘‘พหิทฺธา จตุสมุฏฺานิกรูปฺจา’’ติ เอกวจนวเสน อตฺโถ วุตฺโต. สรสลกฺขณวเสนาติ จกฺขุวิฺาณสฺส วิสยภาวกิจฺจสฺส เจว จกฺขุปฏิหนนลกฺขณสฺส จ วเสนาติ โยเชตพฺพํ.

อุภยํ ปฏิจฺจาติ จกฺขุํ อุปนิสฺสยปจฺจยวเสน ปจฺจยภูตํ, รูเป อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสยวเสน ปจฺจยภูเต จ ปฏิจฺจ. กามฺจายํ สุตฺตนฺตสํวณฺณนา , นิปฺปริยายกถา นาม อภิธมฺมสนฺนิสฺสิตา เอวาติ อภิธมฺมนเยเนว สํโยชนานิ ทสฺเสนฺโต ‘‘กามราค…เป… อวิชฺชาสํโยชน’’นฺติ อาห. ตตฺถ กาเมสุ ราโค, กาโม จ โส ราโค จาติ กามราโค, โส เอว พนฺธนฏฺเน สํโยชนํ. อยฺหิ ยสฺส สํวิชฺชติ, ตํ ปุคฺคลํ วฏฺฏสฺมึ สํโยเชติ พนฺธติ, อิติ ทุกฺเขน สตฺตํ, ภวาทิเก วา ภวนฺตราทีหิ, กมฺมุนา วา วิปากํ สํโยเชติ พนฺธตีติ สํโยชนํ. เอวํ ปฏิฆสํโยชนาทีนมฺปิ ยถารหํ อตฺโถ วตฺตพฺโพ. สรสลกฺขณวเสนาติ เอตฺถ ปน สตฺตสฺส วฏฺฏโต อนิสฺสชฺชนสงฺขาตสฺส อตฺตโน กิจฺจสฺส เจว ยถาวุตฺตพนฺธนสงฺขาตสฺส ลกฺขณสฺส จ วเสนาติ โยเชตพฺพํ.

ภวสฺสาท-ทิฏฺิสฺสาท-นิวตฺตนตฺถํ กามสฺสาทคฺคหณํ. อสฺสาทยโตติ อภิรมนฺตสฺส. อภินนฺทโตติ สปฺปฺปีติกตณฺหาวเสน นนฺทนฺตสฺส. ปททฺวเยนปิ พลวโต กามราคสฺส ปจฺจยภูตา กามราคุปฺปตฺติ วุตฺตา. เอส นโย เสเสสุปิ. เอตํ อารมฺมณนฺติ เอตํ เอวํสุขุมํ เอวํทุพฺพิภาคํ อารมฺมณํ. นิจฺจํ ธุวนฺติ เอตํ นิทสฺสนมตฺตํ, ‘‘อุจฺฉิชฺชิสฺสติ วินสฺสิสฺสตีติ คณฺหโต’’ติ เอวมาทีนมฺปิ สงฺคโห อิจฺฉิตพฺโพ. ภวํ ปตฺเถนฺตสฺสาติ ‘‘อีทิเส สมฺปตฺติภเว ยสฺมา อมฺหากํ อิทํ อิฏฺารมฺมณํ สุลภํ ชาตํ, ตสฺมา อายติมฺปิ สมฺปตฺติภโว ภเวยฺยา’’ติ ภวํ นิกาเมนฺตสฺส. เอวรูปํ สกฺกา ลทฺธุนฺติ โยชนา. อุสูยโตติ อุสูยํ อิสฺสํ อุปฺปาทยโต. อฺสฺส มจฺฉรายโตติ อฺเน อสาธารณภาวกรเณน มจฺฉริยํ กโรโต. สพฺเพเหว ยถาวุตฺเตหิ นวหิ สํโยชเนหิ.

ตฺจ การณนฺติ สุภนิมิตฺตปฏิฆนิมิตฺตาทิวิภาวํ อิฏฺานิฏฺาทิรูปารมฺมณฺเจว ตชฺชาโยนิโสมนสิการฺจาติ ตสฺส ตสฺส สํโยชนสฺส การณํ. อวิกฺขมฺภิตอสมูหตภูมิลทฺธุปฺปนฺนตํ สนฺธาย ‘‘อปฺปหีนฏฺเน อุปฺปนฺนสฺสา’’ติ วุตฺตํ. วตฺตมานุปฺปนฺนตา สมุทาจารคฺคหเณเนว คหิตา. เยน การเณนาติ เยน วิปสฺสนาสมถภาวนาสงฺขาเตน การเณน. ฺหิ ตสฺส ตทงฺควเสน เจว วิกฺขมฺภนวเสน จ ปหานการณํ. อิสฺสามจฺฉริยานํ อปายคมนียตาย ปมมคฺควชฺฌตา วุตฺตา. ยทิ เอวํ ‘‘ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๑) สุตฺตปทํ กถนฺติ? ตํ สุตฺตนฺตปริยาเยน วุตฺตํ. ยถานุโลมสาสนฺหิ สุตฺตนฺตเทสนา, อยํ ปน อภิธมฺมนเยน สํวณฺณนาติ นายํ โทโส. โอฬาริกสฺสาติ ถูลสฺส, ยโต อภิณฺหสมุปฺปตฺติปริยุฏฺานติพฺพตาว โหติ. อณุสหคตสฺสาติ วุตฺตปฺปการโอฬาริกาภาเวน อณุภาวํ สุขุมภาวํ คตสฺส. อุทฺธจฺจสํโยชนสฺสเปตฺถ อนุปฺปาโท วุตฺโตเยว ยถาวุตฺตสํโยชเนหิ อวินาภาวโต. โสตาทีนํ สภาวสรสลกฺขณวเสน ปชานนา, ตปฺปจฺจยานํ สํโยชนานํ อุปฺปาทาทิปชานนา จ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอเสว นโย’’ติ อติทิสติ.

อตฺตโน วา ธมฺเมสูติ อตฺตโน อชฺฌตฺติกายตนธมฺเมสุ, อตฺตโน อุภยธมฺเมสุ วา. อิมสฺมึ ปกฺเข อชฺฌตฺติกายตนปริคฺคหเณนาติ อชฺฌตฺติกายตนปริคฺคณฺหนมุเขนาติ อตฺโถ, เอวฺจ อนวเสสโต สปรสนฺตาเนสุ อายตนานํ ปริคฺคโห สิทฺโธ โหติ. ปรสฺส วา ธมฺเมสูติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. รูปายตนสฺสาติ อฑฺเฒกาทสปเภทรูปสภาวสฺส อายตนสฺส. รูปกฺขนฺเธ วุตฺตนเยน นีหริตพฺพาติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. เสสขนฺเธสูติ เวทนาสฺาสงฺขารกฺขนฺเธสุ. วุตฺตนเยนาติ อิมินา อติเทเสน รูปกฺขนฺเธ อาหารสมุทยาติ, วิฺาณกฺขนฺเธ นามรูปสมุทยาติ, เสสกฺขนฺเธสุ ผสฺสสมุทยาติ อิมํ วิเสสํ วิภาเวติ, อิตรํ ปน สพฺพตฺถ สมานนฺติ. ขนฺธปพฺเพ วิย อายตนปพฺเพปิ โลกุตฺตรนิวตฺตนํ ปาฬิยํ คหิตํ นตฺถีติ อาห ‘‘โลกุตฺตรธมฺมา น คเหตพฺพา’’ติ.

อายตนปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา

๑๑๘. พุชฺฌนกสตฺตสฺสาติ กิเลสนิทฺทาย ปฏิพุชฺฌนกสตฺตสฺส, อริยสจฺจานํ วา ปฏิวิชฺฌนกสตฺตสฺส. องฺเคสูติ การเณสุ, อวยเวสุ วา. อุทยพฺพยาณุปฺปาทโต ปฏฺาย สมฺโพธิปฏิปทายํ ิโต นาม โหตีติ อาห ‘‘อารทฺธวิปสฺสกโต ปฏฺาย โยคาวจโรติ สมฺโพธี’’ติ.

‘‘สติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา’’ติ ปทสฺส อตฺโถ ‘‘วิจิกิจฺฉฏฺานียา’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.นฺติ โยนิโสมนสิการํ. ตตฺถาติ สติยํ. นิปฺผาเทตพฺเพ เจตํ ภุมฺมํ.

สติ จ สมฺปชฺฺจ สติสมฺปชฺํ (ที. นิ. ฏี. ๒.๓๘๕; สํ. นิ. ฏี. ๒.๕.๒๓๒; อ. นิ. ฏี. ๑.๑.๔๑๘). อถ วา สติปธานํ อภิกฺกนฺตาทิสาตฺถกภาวปริคฺคณฺหนาณํ สติสมฺปชฺํ. ตํ สพฺพตฺถ สโตการิภาวาวหตฺตา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย โหติ. ยถา ปจฺจนีกธมฺมานํ ปหานํ อนุรูปธมฺมเสวนา จ อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย โหติ, เอวํ สติรหิตปุคฺคลวิวชฺฌนา, สโตการีปุคฺคลเสวนา, ตตฺถ จ ยุตฺตปยุตฺตตา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย โหตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘สติสมฺปชฺ’’นฺติอาทินา.

ธมฺมานํ, ธมฺเมสุ วา วิจโย ธมฺมวิจโย, โส เอว สมฺโพชฺฌงฺโค, ตสฺส ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส. ‘‘กุสลากุสลา ธมฺมา’’ติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโรติ กุสลาทีสุ ตํตํสภาวรสลกฺขณาทิกสฺส ยาถาวโต อวพุชฺฌนวเสน อุปฺปนฺโน าณสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาโท. โส หิ อวิปรีตมนสิการตาย ‘‘โยนิโสมนสิกาโร’’ติ วุตฺโต, ตทาโภคตาย อาวชฺชนาปิ ตคฺคติกาว, ตสฺส อภิณฺหปวตฺตนํ พหุลีกาโร. ภิยฺโยภาวายาติ ปุนปฺปุนภาวาย. เวปุลฺลายาติ วิปุลภาวาย. ปาริปูริยาติ ปริพฺรูหนาย.

ปริปุจฺฉกตาติ ปริโยคาเหตฺวา ปุจฺฉกภาโว. อาจริเย ปยิรุปาสิตฺวา ปฺจปิ นิกาเย สห อฏฺกถาย ปริโยคาเหตฺวา ยํ ยํ ตตฺถ คณฺิฏฺานภูตํ, ตํ ตํ ‘‘อิทํ ภนฺเต กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถ’’ติ ขนฺธายตนาทิอตฺถํ ปุจฺฉนฺตสฺส ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชติ. เตนาห ‘‘ขนฺธธาตุ…เป… พหุลตา’’ติ.

วตฺถุวิสทกิริยาติ เอตฺถ จิตฺตเจตสิกานํ ปวตฺติฏฺานภาวโต สรีรํ, ตปฺปฏิพทฺธานิ จีวราทีนิ จ อิธ ‘‘วตฺถูนี’’ติ อธิปฺเปตานิ. ตานิ ยถา จิตฺตสฺส สุขาวหานิ โหนฺติ, ตถา กรณํ เตสํ วิสทภาวกรณํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อชฺฌตฺติกพาหิราน’’นฺติอาทิ. อุสฺสนฺนโทสนฺติ วาตาทิอุสฺสนฺนโทสํ. เสทมลมกฺขิตนฺติ เสเทน เจว ชลฺลิกาสงฺขาเตน สรีรมเลน จ มกฺขิตํ. -สทฺเทน อฺมฺปิ สรีรสฺส ปีฬาวหํ สงฺคณฺหาติ. เสนาสนํ วาติ วา-สทฺเทน ปตฺตาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อวิสเท สติ, วิสยภูเต วา. กถํ ภาวนมนุยุตฺตสฺส ตานิ วิสโย? อนฺตรนฺตรา ปวตฺตนกจิตฺตุปฺปาทวเสเนวํ วุตฺตํ. เต หิ จิตฺตุปฺปาทา จิตฺเตกคฺคตาย อปริสุทฺธภาวาย สํวตฺตนฺติ. จิตฺตเจตสิเกสุ นิสฺสยาทิปจฺจยภูเตสุ. าณมฺปีติ ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. เตน น เกวลํ ตํ วตฺถุเยว, อถ โข ตสฺมึ อปริสุทฺเธ าณมฺปิ อปริสุทฺธํ โหตีติ นิสฺสยาปริสุทฺธิยา ตํนิสฺสิตาปริสุทฺธิ วิย วิสยสฺส อปริสุทฺธตาย วิสยีนํ อปริสุทฺธึ ทสฺเสติ.

สมภาวกรณนฺติ กิจฺจโต อนูนาธิกภาวกรณํ. ยถาปจฺจยํ สทฺเธยฺยวตฺถุสฺมึ อธิโมกฺขกิจฺจสฺส ปฏุตรภาเวน ปฺาย อวิสทตาย วีริยาทีนฺจ สิถิลตาทินา สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ โหติ. เตนาห ‘‘อิตรานิ มนฺทานี’’ติ. ตโตติ ตสฺมา สทฺธินฺทฺริยสฺส พลวภาวโต อิตเรสฺจ มนฺทตฺตา. โกสชฺชปกฺเข ปติตุํ อทตฺวา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ ปคฺคณฺหนํ อนุพลปฺปทานํ ปคฺคโห, ปคฺคโหว กิจฺจํ ปคฺคหกิจฺจํ. ‘‘กาตุํ น สกฺโกตี’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. อารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา านํ, อนิสฺสชฺชนํ วา อุปฏฺานํ. วิกฺเขปปฏิปกฺโข, เยน วา สมฺปยุตฺตา อวิกฺขิตฺตา โหนฺติ, โส อวิกฺเขโป. รูปคตํ วิย จกฺขุนา เยน ยาถาวโต วิสยสภาวํ ปสฺสติ, ตํ ทสฺสนกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกติ พลวตา สทฺธินฺทฺริเยน อภิภูตตฺตา. สหชาตธมฺเมสุ อินฺทฏฺํ กาเรนฺตานํ สหปวตฺตมานานํ ธมฺมานํ เอกรสตาวเสเนว อตฺถสิทฺธิ, น อฺถา.

ตสฺมาติ วุตฺตเมวตฺถํ การณภาเวน ปจฺจามสติ. นฺติ สทฺธินฺทฺริยํ. ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณนาติ ยสฺส สทฺเธยฺยวตฺถุโน อุฬารตาทิคุเณ อธิมุจฺจนสฺส สาติสยปฺปวตฺติยา สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ ชาตํ, ตสฺส ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตาทิวิภาคโต ยาถาวโต วีมํสเนน. เอวฺหิ เอวํธมฺมตานเยน สภาวสรสโต ปริคฺคยฺหมาเน สวิปฺผาโร อธิโมกฺโข น โหติ ‘‘อยํ อิเมสํ ธมฺมานํ สภาโว’’ติ ปริชานนวเสน ปฺาพฺยาปารสฺส สาติสยตฺตา. ธุริยธมฺเมสุ หิ ยถา สทฺธาย พลวภาเว ปฺาย มนฺทภาโว โหติ, เอวํ ปฺาย พลวภาเว สทฺธาย มนฺทภาโว โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตํ ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณน…เป… หาเปตพฺพ’’นฺติ. ตถาอมนสิกาเรนาติ เยนากาเรน ภาวนมนุยุฺชนฺตสฺส สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ ชาตํ, เตนากาเรน ภาวนาย อนนุยุฺชนโตติ วุตฺตํ โหติ. อิธ ทุวิเธน สทฺธินฺทฺริยสฺส พลวภาโว อตฺตโน วา ปจฺจยวิเสสวเสน กิจฺจุตฺตริยโต วีริยาทีนํ วา มนฺทกิจฺจตาย. ตตฺถ ปมวิกปฺเป หาปนวิธิ ทสฺสิโต, ทุติยวิกปฺเป ปน ยถา มนสิกโรโต วีริยาทีนํ มนฺทกิจฺจตาย สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ ชาตํ, ตถา อมนสิกาเรน, วีริยาทีนํ ปฏุกิจฺจภาวาวเหน มนสิกาเรน สทฺธินฺทฺริยํ เตหิ สมรสํ กโรนฺเตน หาเปตพฺพํ. อิมินา นเยน เสสินฺทฺริเยสุปิ หาปนวิธิ เวทิตพฺโพ.

วกฺกลิตฺเถรวตฺถูติ โส หิ อายสฺมา สทฺธาธิมุตฺตาย กตาธิกาโร สตฺถุ รูปกายทสฺสนปสุโต เอว หุตฺวา วิหรนฺโต สตฺถารา ‘‘กึ เต, วกฺกลิ, อิมินา ปูติกาเยน ทิฏฺเน, โย โข, วกฺกลิ, ธมฺมํ ปสฺสติ, โส มํ ปสฺสตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๘๗) โอวทิตฺวา กมฺมฏฺาเน นิโยชิโตปิ ตํ อนนุยุฺชนฺโต ปณามิโต อตฺตานํ วินิปาเตตุํ ปปาตฏฺานํ อภิรุหิ. อถ นํ สตฺถา ยถานิสินฺโนว โอภาสคิสฺสชฺชเนน อตฺถานํ ทสฺเสตฺวา –

‘‘ปาโมชฺชพหุโล ภิกฺขุ, ปสนฺโน พุทฺธสาสเน;

อธิคจฺเฉ ปทํ สนฺตํ, สงฺขารูปสมํ สุข’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๘๑);

คาถํ วตฺวา ‘‘เอหิวกฺกลี’’ติ อาห. โส เตน อมเตเนว อภิสิตฺโต หฏฺตุฏฺโ หุตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปสิ, สทฺธาย ปน พลวภาวโต วิปสฺสนาวีถึ น โอตรติ. ตํ ตฺวา ภควา ตสฺส อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนาย กมฺมฏฺานํ โสเธตฺวา อทาสิ. โส สตฺถารา ทินฺนนเยน วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ ‘‘วกฺกลิตฺเถรวตฺถุ เจตฺถ นิทสฺสน’’นฺติ.

อิตรกิจฺจเภทนฺติ อุปฏฺานาทิกิจฺจวิเสสํ. ปสฺสทฺธาทีติ อาทิ-สทฺเทน สมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคานํ สงฺคโห. หาเปตพฺพนฺติ ยถา สทฺธินฺทฺริยสฺส พลวภาโว ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณน หายติ, เอวํ วีริยินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตา ปสฺสทฺธิอาทิภาวนาย หายติ สมาธิปกฺขิยตฺตา ตสฺสา. ตถาหิ สา สมาธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตํ โกสชฺชปาตโต รกฺขนฺตี วีริยาทิภาวนา วิย วีริยินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตํ อุทฺธจฺจปาตโต รกฺขนฺตี เอกํสโต หาเปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปสฺสทฺธาทิภาวนาย หาเปตพฺพ’’นฺติ. โสณตฺเถรสฺส วตฺถูติ สุขุมาลโสณตฺเถรสฺส วตฺถุ. โส หิ อายสฺมา, สตฺถุ, สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา สีตวเน วิหรนฺโต ‘‘มม สรีรํ สุขุมาลํ, น จ สกฺกา สุเขเนว สุขํ อธิคนฺตุํ, กายํ กิลเมตฺวาปิ สมณธมฺโม กาตพฺโพ’’ติ านจงฺกมเมว อธิฏฺาย ปธานมนุยุฺชนฺโต ปาทตเลสุ โผเฏสุ อุฏฺิเตสุปิ เวทนํ อชฺฌุเปกฺขิตฺวา ทฬฺหวีริยํ กโรนฺโต อจฺจารทฺธวีริยตาย วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขิ. สตฺถา ตตฺถ คนฺตฺวา วีณูปโมวาเทน โอวทิตฺวา วีริยสมตาโยชนวิธึ ทสฺเสนฺโต กมฺมฏฺานํ โสเธตฺวา คิชฺฌกูฏํ คโต. เถโรปิ สตฺถารา ทินฺนนเยน วีริยสมตํ โยเชตฺวา ภาเวนฺโต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘โสณตฺเถรสฺส วตฺถุ ทสฺเสตพฺพ’’นฺติ. เสเสสุปีติ สติสมาธิปฺินฺทฺริเยสุปิ.

สมตนฺติ สทฺธาปฺานํ อฺมฺํ อนูนานธิกภาวํ, ตถา สมาธิวีริยานํ. ยถา หิ สทฺธาปฺานํ วิสุํ วิสุํ ธุริยธมฺมภูตานํ กิจฺจโต อฺมฺานาติวตฺตนํ วิเสสโต อิจฺฉิตพฺพํ, ยโต เนสํ สมธุรตาย อปฺปนา สมฺปชฺชติ, เอวํ สมาธิวีริยานํ โกสชฺชุทฺธจฺจปกฺขิกานํ สมรสตาย สติ อฺมฺูปตฺถมฺภนโต สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อนฺตทฺวยปาตาภาเวน สมฺมเทว อปฺปนา อิชฺฌตีติ. พลวสทฺโธติอาทิ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส พฺยติเรกมุเขน สมตฺถนํ. ตสฺสตฺโถ – โย พลวติยา สทฺธาย สมนฺนาคโต อวิสทาโณ, โส มุธาปสนฺโน โหติ, อเวจฺจปฺปสนฺโน. ตถา หิ โส อวตฺถุสฺมึ ปสีทติ เสยฺยถาปิ ติตฺถิยสาวกา. เกราฏิกปกฺขนฺติ สาเยฺยปกฺขํ ภชติ. สทฺธาหีนาย ปฺาย อติธาวนฺโต ‘‘เทยฺยวตฺถุปริจฺจาเคน วินา จิตฺตุปฺปาทมตฺเตนปิ ทานมยํ ปุฺํ โหตี’’ติอาทีนิ ปริกปฺเปติ เหตุปติรูปเกหิ วฺจิโต, เอวํภูโต จ สุกฺขตกฺกวิลุตฺตจิตฺโต ปณฺฑิตานํ วจนํ นาทิยติ, สฺตฺตึ น คจฺฉติ. เตนาห ‘‘เภสชฺชสมุฏฺิโต วิย โรโค อเตกิจฺโฉ โหตี’’ติ. ยถา เจตฺถ สทฺธาปฺานํ อฺมฺํ สมภาโว อตฺถาวโห, อนตฺถาวโห วิสมภาโว, เอวํ สมาธิวีริยานํ อฺมฺํ อวิกฺเขปาวโห สมภาโว, อิตโร วิกฺเขปาวโห จาติ. โกสชฺชํ อธิภวติ, เตน อปฺปนํ น ปาปุณาตีติ อธิปฺปาโย . อุทฺธจฺจํ อธิภวตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตทุภยนฺติ สทฺธาปฺาทฺวยํ สมาธิวีริยทฺวยฺจ. สมํ กาตพฺพนฺติ สมรสํ กาตพฺพํ.

สมาธิกมฺมิกสฺสาติ สมถกมฺมฏฺานิกสฺส. เอวนฺติ เอวํ สนฺเต, สทฺธาย โถกํ พลวภาเว สตีติ อตฺโถ. สทฺทหนฺโตติ ‘‘ปถวีติ มนสิการมตฺเตน กถํ ฌานุปฺปตฺตี’’ติ อจินฺเตตฺวา ‘‘อทฺธา สมฺมาสมฺพุทฺเธน วุตฺตวิธิ อิชฺฌิสฺสตี’’ติ สทฺทหนฺโต สทฺธํ ชเนนฺโต. โอกปฺเปนฺโตติ อารมฺมณํ อนุปวิสิตฺวา วิย อธิมุจฺจนวเสน อวกปฺเปนฺโต ปกฺขนฺทนฺโต. เอกคฺคตา พลวตี วฏฺฏติ สมาธิปฺปธานตฺตา ฌานสฺส. อุภินฺนนฺติ สมาธิปฺานํ. สมาธิกมฺมิกสฺส สมาธิโน อธิมตฺตตาย ปฺาย อธิมตฺตตาปิ อิจฺฉิตพฺพาติ อาห ‘‘สมตายปี’’ติ, สมภาเวนปีติ อตฺโถ. อปฺปนาติ โลกิยอปฺปนา. ตถา หิ ‘‘โหติเยวา’’ติ สาสงฺกํ วทติ. โลกุตฺตรปฺปนา ปน เตสํ สมภาเวเนว อิจฺฉิตา. ยถาห ‘‘สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๗; ปฏิ. ม. ๒.๕). ยทิ วิเสสโต สทฺธาปฺานํ สมาธิวีริยานฺจ สมตา อิจฺฉิตา, กถํ สตีติ อาห ‘‘สติ ปน สพฺพตฺถ พลวตี วฏฺฏตี’’ติ. สพฺพตฺถาติ ลีนุทฺธจฺจปกฺขิเกสุ ปฺจสุ อินฺทฺริเยสุ. อุทฺธจฺจปกฺขิเกกเทเส คณฺหนฺโต ‘‘สทฺธาวีริยปฺาน’’นฺติ อาห. อฺถา ปีติ จ คเหตพฺพา สิยา. ตถา หิ ‘‘โกสชฺชปกฺขิเกน สมาธินา’’อิจฺเจว วุตฺตํ, น ‘‘ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาหี’’ติ. สาติ สติ. สพฺเพสุ ราชกมฺเมสุ นิยุตฺโต สพฺพกมฺมิโก. เตนาติ เตนา สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺพตฺเถน การเณน. อาห อฏฺกถายํ. สพฺพตฺถ นิยุตฺตา สพฺพตฺถิกา, สพฺเพน วา ลีนุทฺธจฺจปกฺขิเยน โพชฺฌงฺเคน อตฺเถตพฺพา สพฺพตฺถิยา, สพฺพตฺถิยาว สพฺพตฺถิกา. จิตฺตนฺติ กุสลจิตฺตํ. ตสฺส หิ สติ ปฏิสรณํ ปรายณํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย. เตนาห ‘‘อารกฺขปจฺจุปฏฺานา’’ติอาทิ.

ขนฺธาทิเภเท อโนคาฬฺหปฺานนฺติ ปริยตฺติพาหุสจฺจวเสนปิ ขนฺธายตนาทีสุ อปฺปติฏฺิตพุทฺธีนํ. พหุสฺสุตเสวนา หิ สุตมยาณาวหา. ตรุณวิปสฺสนาสมงฺคีปิ ภาวนามยาเณ ิตตฺตา เอกํสโต ปฺวา เอว นาม โหตีติ อาห ‘‘สมปฺาส…เป… ปุคฺคลเสวนา’’ติ. เยฺยธมฺมสฺส คมฺภีรภาววเสน ตปฺปริจฺเฉทกาณสฺส คมฺภีรภาวคฺคหณนฺติ อาห ‘‘คมฺภีเรสุ ขนฺธาทีสุ ปวตฺตาย คมฺภีรปฺายา’’ติ. ตฺหิ เยฺยํ ตาทิสาย ปฺาย จริตพฺพโต คมฺภีราณจริยํ, ตสฺสา วา ปฺาย ตตฺถ ปเภทโต ปวตฺติ คมฺภีราณจริยา, ตสฺสา ปจฺจเวกฺขณาติ อาห ‘‘คมฺภีรปฺาย ปเภทปจฺจเวกฺขณา’’ติ. ยถา สติเวปุลฺลปฺปตฺโต นาม อรหา เอว, เอวํ โส เอว ปฺาเวปุลฺลปฺปตฺโตปีติ อาห ‘‘อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหตี’’ติ. วีริยาทีสุปิ เอเสว นโย.

‘‘ตตฺตํ อโยขิลํ หตฺเถ คเมนฺตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๒๕๐, ๒๖๗; อ. นิ. ๓.๓๖) ปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณํ นิรเย นิพฺพตฺตสตฺตสฺส เยภุยฺเยน สพฺพปมํ กโรนฺตีติ เทวทูตสุตฺตาทีสุ ตสฺสา อาทิโต วุตฺตตฺตา จ อาห ‘‘ปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณโต ปฏฺายา’’ติ. สกฏวาหนาทิกาเลติ อาทิ-สทฺเทน ตทฺํ มนุสฺเสหิ ติรจฺฉาเนหิ จ วิพาธิยมานกาลํ สงฺคณฺหาติ. เอกํ พุทฺธนฺตรนฺติ อิทํ อปราปรํ เปเตสุเยว อุปฺปชฺชนกสตฺตวเสน วุตฺตํ, เอกจฺจานํ วา เปตานํ เอกจฺจติรจฺฉานานํ วิย ตถา ทีฆายุกภาวโต. ตถา หิ กาโฬ นาคราชา จตุนฺนํ พุทฺธานํ อธิคตรูปทสฺสโน.

เอวํ อานิสํสทสฺสาวิโนติ วีริยายตฺโต เอว สพฺโพ โลกุตฺตโร โลกิโย จ วิเสสาธิคโมติ เอวํ วีริเย อานิสํสทสฺสนสีลสฺส. คมนวีถินฺติ สปุพฺพภาคํ นิพฺพานคามินึ อริยมคฺคปฏิปทํ. สา หิ ภิกฺขุโน วฏฺฏนิสฺสรณาย คนฺตพฺพา ปฏิปชฺชิตพฺพา ปฏิปทาติ กตฺวา คมนวีถิ นาม. กายทฬฺหีพหุโลติ ยถา ตถา กายสฺส ทฬฺหีกมฺมปสุโต. ปิณฺฑนฺติ รฏฺปิณฺฑํ. ปจฺจยทายกานํ อตฺตนิ การสฺส อตฺตโน สมฺมาปฏิปตฺติยา มหปฺผลภาวสฺส กรเณน ปิณฺฑสฺส ภิกฺขาย ปฏิปูชนา ปิณฺฑาปจายนํ.

นีหรนฺโตติ ปตฺตตฺถวิกโต นีหรนฺโต. ตํ สทฺทํ สุตฺวาติ ตํ อุปาสิกาย วจนํ ปณฺณสาลทฺวาเร ิโตว ปฺจาภิฺตาย ทิพฺพโสเตน สุตฺวา. มนุสฺสสมฺปตฺติ ทิพฺพสมฺปตฺติ อนฺเต นิพฺพานสมฺปตฺตีติ ติสฺโส สมฺปตฺติโย. ทาตุํ สกฺขิสฺสสีติ ‘‘ตยิ กเตน ทานมเยน เวยฺยาวจฺจมเยน จ ปุฺกมฺเมน เขตฺตวิเสสภาวูปคมเนน อปราปรํ เทวมนุสฺสสมฺปตฺติโย อนฺเต นิพฺพานสมฺปตฺติฺจ ทาตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ เถโร อตฺตานํ ปุจฺฉติ. สิตํ กโรนฺโตวาติ ‘‘อกิจฺเฉเนว มยา วฏฺฏทุกฺขํ สมติกฺกนฺต’’นฺติ ปจฺจเวกฺขณาวสาเน สฺชาตปาโมชฺชวเสน สิตํ กโรนฺโต เอว.

วิปฺปฏิปนฺนนฺติ ชาติธมฺมกุลธมฺมาทิลงฺฆเนน อสมฺมาปฏิปนฺนํ. เอวํ ยถา อสมฺมาปฏิปนฺโน ปุตฺโต ตาย เอว อสมฺมาปฏิปตฺติยา กุลสนฺตานโต พาหิโร หุตฺวา ปิตุ สนฺติกา ทายชฺชสฺส น ภาคี, เอวํ กุสีโตปิ เตเนว กุสีตภาเวน อสมฺมาปฏิปนฺโน สตฺถุ สนฺติกา ลทฺธพฺพอริยธนทายชฺชสฺส น ภาคี. อารทฺธวีริโยว ลภติ สมฺมาปฏิปชฺชนโต. อุปฺปชฺชติ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโคติ โยชนา. เอวํ สพฺพตฺถ.

มหาติ สีลาทีหิ คุเณหิ มหนฺโต วิปุโล อนฺสาธารโณ. ตํ ปนสฺส คุณมหตฺตํ ทสสหสฺสิโลกธาตุกมฺปเนน โลเก ปากฏนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สตฺถุโน หี’’ติอาทิมาห.

ยสฺมา สตฺถุสาสเน ปพฺพชิตสฺส ปพฺพชฺชุปคเมน สกฺยปุตฺติยภาโว สมฺปชายติ, ตสฺมา พุทฺธปุตฺตภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อสมฺภินฺนายา’’ติอาทิมาห.

อลสานํ ภาวนาย นามมตฺตมฺปิ อชานนฺตานํ กายทฬฺหีพหุลานํ ยาวทตฺถํ ภุฺชิตฺวา เสยฺยสุขาทิอนุยุฺชนกานํ ติรจฺฉานกถิกานํ ปุคฺคลานํ ทูรโต วชฺชนา กุสีตปุคฺคลปริวชฺชนา. ‘‘ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชายา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๔๒๓; ๓.๗๕; สํ. นิ. ๔.๑๒๐; อ. นิ. ๓.๑๖; วิภ. ๕๑๙; มหานิ. ๑๖๑) ภาวนารมฺภวเสน อารทฺธวีริยานํ ทฬฺหปรกฺกมานํ กาเลน กาลํ อุปสงฺกมนา อารทฺธวีริยปุคฺคลเสวนา. เตนาห – ‘‘กุจฺฉึ ปูเรตฺวา’’ติอาทิ. วิสุทฺธิมคฺเค ปน ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณา สพฺรหฺมจาริมหตฺตปจฺจเวกฺขณาติ อิทํ ทฺวยํ น คหิตํ, ถินมิทฺธวิโนทนตา สมฺมปฺปธานปจฺจเวกฺขณตาติ อิทํ ทฺวยํ คหิตํ. ตตฺถ อานิสํสทสฺสาวิตาย เอว สมฺมปฺปธานปจฺจเวกฺขณา คหิตา โหติ โลกิยโลกุตฺตรวิเสสาธิคมสฺส วีริยายตฺตตาทสฺสนภาวโต. ถินมิทฺธวิโนทนํ ตทธิมุตฺตตาย เอว คหิตํ, วีริยุปฺปาทเน ยุตฺตปฺปยุตฺตสฺส ถินมิทฺธวิโนทนํ อตฺถสิทฺธเมว. ตตฺถ ถินมิทฺธวิโนทน-กุสีตปุคฺคลปริวชฺชน-อารทฺธวีริยปุคฺคลเสวน-ตทธิมุตฺตตา ปฏิปกฺขวิธมนปจฺจยูปสํหารวเสน, อปายปจฺจเวกฺขณาทโย สมุตฺเตชนวเสน วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทกา ทฏฺพฺพา.

ปุริมุปฺปนฺนา ปีติ ปรโต อุปฺปชฺชนกปีติยา การณภาวโต ‘‘ปีติเยว ปีติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมา’’ติ วุตฺตา, ตสฺสา ปน พหุโส ปวตฺติยา ปุถุตฺตํ อุปาทาย พหุวจนนิทฺเทโส, ยถา สา อุปฺปชฺชติ, เอวํ ปฏิปตฺติ, ตสฺสา อุปฺปาทกมนสิกาโร.

พุทฺธานุสฺสติยา อุปจารสมาธินิฏฺตฺตา วุตฺตํ ‘‘ยาว อุปจารา’’ติ. สกลสรีรํ ผรมาโนติ ปีติสมุฏฺาเนหิ ปณีตรูเปหิ สกลสรีรํ ผรมาโน. ธมฺมคุเณ อนุสฺสรนฺตสฺสปิ ยาว อุปจารา สกลสรีรํ ผรมาโน ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชตีติ. เอวํ เสสอนุสฺสตีสุ ปสาทนียสุตฺตนฺตปจฺจเวกฺขณายฺจ โยเชตพฺพํ ตสฺสาปิ วิมุตฺตายตนภาเวน ตคฺคติกตฺตา. สมาปตฺติยา…เป… สมุทาจรนฺตีติ อิทฺจ อุปสมานุสฺสติทสฺสนํ. สงฺขารานฺหิ สปฺปเทสวูปสเมปิ นิปฺปเทสวูปสเม วิย ตถา ปฺาย ปวตฺติโต ภาวนามนสิกาโร กิเลสวิกฺขมฺภนสมตฺโถ หุตฺวา อุปจารสมาธึ อาวหนฺโต ตถารูปปีติโสมนสฺสสมนฺนาคโต ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย โหตีติ. ปสาทนีเยสุ าเนสุ ปสาทสิเนหาภาเวน ถุสสมหทยตา ลูขตา, สา ตตฺถ อาทรคารวากรเณน วิฺายตีติ อาห ‘‘อสกฺกจฺจกิริยาย สํสูจิตลูขภาเว’’ติ.

กายจิตฺตทรถวูปสมลกฺขณา ปสฺสทฺธิ เอว ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค, ตสฺส ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส.

ปณีตโภชนเสวนตาติ ปณีตสปฺปายโภชนเสวนตา. อุตุอิริยาปถสุขคฺคหเณน สปฺปายอุตุอิริยาปถคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ. ตฺหิ ติวิธํ สปฺปายํ เสวิยมานํ กายสฺส กลฺลตาปาทนวเสน จิตฺตสฺส กลฺลตํ อาวหนฺตํ ทุวิธายปิ ปสฺสทฺธิยา การณํ โหติ. อเหตุกํ สตฺเตสุ ลพฺภมานํ สุขํ ทุกฺขนฺติ อยเมโก อนฺโต, อิสฺสราทิวิสมเหตุกนฺติ ปน อยํ ทุติโย, เอเต อุโภ อนฺเต อนุปคมฺม ยถาสกํ กมฺมุนา โหตีติ อยํ มชฺฌิมา ปฏิปตฺติ. มชฺฌตฺโต ปโยโค ยสฺส โหติ มชฺฌตฺตปโยโค, ตสฺส ภาโว มชฺฌตฺตปโยคตา. อยฺหิ ปหาย สารทฺธกายตํ ปสฺสทฺธกายตาย การณํ โหนฺตี ปสฺสทฺธิทฺวยํ อาวหติ, เอเตเนว สารทฺธกายปุคฺคลปริวชฺชนปสฺสทฺธกายปุคฺคลวเสนานํ ตทาวหนตา สํวณฺณิตาติ ทฏฺพฺพํ.

ยถาสมาหิตาการสลฺลกฺขณวเสน คยฺหมาโน ปุริมุปฺปนฺโน สมโถ เอว สมถนิมิตฺตํ. นานารมฺมเณ ปริพฺภมเนน วิวิธํ อคฺคํ เอตสฺสาติ พฺยคฺโค, วิกฺเขโป. ตถา หิ โส อนวฏฺานรโส ภนฺตตาปจฺจุปฏฺาโน จ วุตฺโต. เอกคฺคตาภาวโต พฺยคฺคปฏิปกฺโขติ อพฺยคฺโค, สมาธิ. โส เอว นิมิตฺตนฺติ ปุพฺเพ วิย วตฺตพฺพํ. เตนาห ‘‘อวิกฺเขปฏฺเน จ อพฺยคฺคนิมิตฺต’’นฺติ.

วตฺถุวิสทกิริยา อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา จ ปฺาวหา วุตฺตา, สมาธานาวหาปิ ตา โหนฺติ สมาธานาวหภาเวเนว ปฺาวหภาวโตติ วุตฺตํ ‘‘วตฺถุวิสท…เป… เวทิตพฺพา’’ติ.

กรณภาวนาโกสลฺลานํ อวินาภาวโต, รกฺขณโกสลฺลสฺส จ ตมฺมูลกตฺตา ‘‘นิมิตฺตกุสลตา นาม กสิณนิมิตฺตสฺส อุคฺคหณกุสลตา’’อิจฺเจว วุตฺตํ. กสิณนิมิตฺตสฺสาติ จ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. อสุภนิมิตฺตสฺสาทิกสฺสปิ หิ ยสฺส กสฺสจิ ฌานุปฺปตฺตินิมิตฺตสฺส อุคฺคหณโกสลฺลํ นิมิตฺตกุสลตา เอวาติ.

อติสิถิลวีริยตาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน ปฺาปโยคมนฺทตํ ปโมทเวกลฺลฺจ สงฺคณฺหาติ. ตสฺส ปคฺคหณนฺติ ตสฺส ลีนสฺส จิตฺตสฺส ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทิสมุฏฺาปเนน ลยาปตฺติโต สมุทฺธรณํ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘ยสฺมิฺจ โข, ภิกฺขเว, สมเย ลีนํ จิตฺตํ โหติ, กาโล ตสฺมึ สมเย ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย . ตํ กิสฺส เหตุ? ลีนํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตํ เอเตหิ ธมฺเมหิ สุสมุฏฺาปยํ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส ปริตฺตํ อคฺคึ อุชฺชาเลตุกาโม อสฺส, โส ตตฺถ สุกฺขานิ เจว ติณานิ ปกฺขิเปยฺย, สุกฺขานิ จ โคมยานิ ปกฺขิเปยฺย, สุกฺขานิ จ กฏฺานิ ปกฺขิเปยฺย, มุขวาตฺจ ทเทยฺย, น จ ปํสุเกน โอกิเรยฺย, ภพฺโพ นุ โข โส ปุริโส ปริตฺตํ อคฺคึ อุชฺชาเลตุนฺติ? เอวํ สนฺเต’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔).

เอตฺถ จ ยถาสกํ อาหารวเสน ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ ภาวนา สมุฏฺาปนาติ เวทิตพฺพํ, สา อนนฺตรํ วิภาวิตา เอว.

อจฺจารทฺธวีริยตาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน ปฺาปโยคพลวตํ ปโมทุปฺปิลาวนฺจ สงฺคณฺหาติ. ตสฺส นิคฺคหณนฺติ ตสฺส อุทฺธตจิตฺตสฺส สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคาทิสมุฏฺาปเนน อุทฺธตาปตฺติโต นิเสธนํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา –

‘‘ยสฺมิฺจ โข, ภิกฺขเว, สมเย อุทฺธตํ จิตฺตํ โหติ, กาโล ตสฺมึ สมเย ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย. ตํ กิสฺส เหตุ? อุทฺธตํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตํ เอเตหิ ธมฺเมหิ สุวูปสมยํ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตุกาโม อสฺส, โส ตตฺถ อลฺลานิ เจว ติณานิ…เป… ปํสุเกน จ โอกิเรยฺย, ภพฺโพ นุ โข โส ปุริโส มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตุนฺติ? เอวํ ภนฺเต’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔).

เอตฺถาปิ ยถาสกํ อาหารวเสน ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ ภาวนา สมุฏฺาปนาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนา วุตฺตา เอว, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส วุจฺจมานา, อิตรสฺส อนนฺตรํ วกฺขติ.

ปฺาปโยคมนฺทตายาติ ปฺาพฺยาปารสฺส อปฺปภาเวน. ยถา หิ ทานํ อโลภปฺปธานํ, สีลํ อโทสปฺปธานํ, เอวํ ภาวนา อโมหปฺปธานา. ตตฺถ ยทา ปฺา น พลวตี โหติ, ตทา ภาวนา ปุพฺเพนาปรํ วิเสสาวหา น โหติ, อนภิสงฺขโต วิย อาหาโร ปุริสสฺส โยคิโน จิตฺตสฺส อภิรุจึ น ชเนติ, เตน ตํ นิรสฺสาทํ โหติ, ตถา ภาวนาย สมฺมเทว อวีถิปฏิปตฺติยา อุปสมสุขํ น วินฺทติ, เตนาปิ จิตฺตํ นิรสฺสาทํ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปฺาปโยค…เป… นิรสฺสาทํ โหตี’’ติ. ตสฺส สํเวคุปฺปาทนํ ปสาทุปฺปาทนฺจ ติกิจฺฉนนฺติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อฏฺ สํเวควตฺถูนี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ชาติชราพฺยาธิมรณานิ ยถารหํ สุคติยํ ทุคฺคติยฺจ โหนฺตีติ ตทฺเมว ปฺจวิธพนฺธนาทิ-ขุปฺปิปาสาทิ-อฺมฺวิพาธนาทิเหตุกํ อปายทุกฺขํ ทฏฺพฺพํ, ตยิทํ สพฺพํ เตสํ เตสํ สตฺตานํ ปจฺจุปฺปนฺนภวนิสฺสิตํ คหิตนฺติ อตีเต อนาคเต จ กาเล วฏฺฏมูลกทุกฺขานิ วิสุํ คหิตานิ. เย ปน สตฺตา อาหารูปชีวิโน, ตตฺถ จ อุฏฺานผลูปชีวิโน, เตสํ อฺเหิ อสาธารณํ ชีวิกทุกฺขํ อฏฺมํ สํเวควตฺถุ คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อยํ วุจฺจติ สมเย สมฺปหํสนตาติ อยํ สมฺปหํสิตพฺพสมเย วุตฺตนเยน เตน สํเวชนวเสน เจว ปสาทุปฺปาทนวเสน จ สมฺมเทว ปหํสนา, สํเวคชนนปุพฺพกปสาทุปฺปาทเนน ภาวนาจิตฺตสฺส โตสนาติ อตฺโถ.

สมฺมาปฏิปตฺตึ อาคมฺมาติ ลีนุทฺธจฺจวิรเหน สมถวีถิปฏิปตฺติยา จ สมฺมา อวิสมํ สมฺมเทว ภาวนาปฏิปตฺตึ อาคมฺม. อลีนนฺติอาทีสุ โกสชฺชปกฺขิยานํ ธมฺมานํ อนธิมตฺตตาย อลีนํ, อุทฺธจฺจปกฺขิยานํ อนธิมตฺตตาย อนุทฺธตํ, ปฺาปโยคสตฺติยา อุปสมสุขาธิคเมน จ อนิรสฺสาทํ, ตโต เอว อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ สมถวีถิปฏิปนฺนฺจ. ตตฺถ อลีนตาย ปคฺคเห, อนุทฺธตตาย นิคฺคเห, อนิรสฺสาทตาย สมฺปหํสเน น พฺยาปารํ อาปชฺชติ, อลีนานุทฺธตตาหิ อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ, อนิรสฺสาทตาย สมถวีถิปฏิปนฺนํ. สมปฺปวตฺติยา วา อลีนํ อนุทฺธตํ, สมถวีถิปฏิปตฺติยา อนิรสฺสาทนฺติ ทฏฺพฺพํ. อยํ วุจฺจติ สมเย อชฺฌุเปกฺขนตาติ อยํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺพสมเย ภาวนาจิตฺตสฺส ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ พฺยาวฏตาสงฺขาตํ ปฏิปกฺขํ อภิภุยฺย เปกฺขนา วุจฺจติ.

ปฏิปกฺขวิกฺขมฺภนโต วิปสฺสนาย อธิฏฺานภาวูปคมนโต จ อุปจารชฺฌานมฺปิ สมาทานกิจฺจนิปฺผตฺติยา ปุคฺคลสฺส สมาหิตภาวสาธนเมวาติ ตตฺถ สมธุรภาเวนาห ‘‘อุปจารํ วา อปฺปนํ วา’’ติ.

อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมาติ เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตานุสาเรน เวทิตพฺพํ.

อนุโรธวิโรธวิปฺปหานวเสน มชฺฌตฺตภาโว อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส การณํ ตสฺมึ สติ สิชฺฌนโต, อสติ จ อสิชฺฌนโต, โส จ มชฺฌตฺตภาโว วิสยวเสน ทุวิโธติ อาห ‘‘สตฺตมชฺฌตฺตตา สงฺขารมชฺฌตฺตตา’’ติ. ตทุภเย จ วิรุชฺฌนํ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคภาวนาย เอว ทูรีกตนฺติ อนุรุชฺฌนสฺเสว ปหานวิธึ ทสฺเสนฺเตน ‘‘สตฺตมชฺฌตฺตตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคลปริวชฺชนตา’’ติ. อุเปกฺขาย หิ วิเสสโต ราโค ปฏิปกฺโข. ตถา จาห ‘‘อุเปกฺขา ราคพหุลสฺส วิสุทฺธิมคฺโค’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๒๖๙).

ทฺวีหากาเรหีติ กมฺมสฺสกตาปจฺจเวกฺขณํ อตฺตสุฺตาปจฺจเวกฺขณนฺติ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ. ทฺวีเหวาติ อวธารณํ สงฺขฺยาสมานตาย. อสฺสามิกภาโว อนตฺตนิยตา. สติ หิ อตฺตนิ ตสฺส กิฺจนภาเวน จีวรํ อฺฺจ กิฺจิ อตฺตนิยํ นาม สิยา, โส ปน โกจิ นตฺเถวาติ อธิปฺปาโย. อนทฺธนิยนฺติ น อทฺธานกฺขมํ, น จิรฏฺายิ อิตฺตรํ อนิจฺจนฺติ อตฺโถ. ตาวกาลิกนฺติ ตสฺเสว เววจนํ.

มมายตีติ มมตฺตํ กโรติ, ‘‘มม’’นฺติ ตณฺหาย ปริคฺคยฺห ติฏฺติ. ธนายนฺตาติ ธนํ ทฺรพฺยํ กโรนฺตา.

อยํ สติปฏฺานเทสนา ปุพฺพภาคมคฺควเสน เทสิตาติ ปุพฺพภาคิยโพชฺฌงฺเค สนฺธายาห ‘‘โพชฺฌงฺคปริคฺคาหิกา สติ ทุกฺขสจฺจ’’นฺติ.

โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุสจฺจปพฺพวณฺณนา

๑๑๙. ยถาสภาวโตติ อวิปรีตสภาวโต พาธนลกฺขณโต, โย โย วา สภาโว ยถาสภาโว, ตโต, รุปฺปนาทิกกฺขฬาทิสภาวโตติ อตฺโถ. ชนิกํ สมุฏฺาปิกนฺติ ปวตฺตลกฺขณสฺส ทุกฺขสฺส ชนิกํ นิมิตฺตลกฺขณสฺส สมุฏฺาปิกํ. ปุริมตณฺหนฺติ ทุกฺขนิพฺพตฺติโต ปุเรตรสิทฺธํ ตณฺหํ.

สสนฺตติปริยาปนฺนานํ ทุกฺขสมุทยานํ อปฺปวตฺติภาเวน ปริคฺคยฺหมาโน นิโรโธปิ สสนฺตติปริยาปนฺโน วิย โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อตฺตโน วา จตฺตาริ สจฺจานี’’ติ. ปรสฺส วาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เตนาห ภควา – ‘‘อิมสฺมึเยว พฺยามมตฺเต กเฬวเร สสฺิมฺหิ สมนเก โลกฺจ ปฺเปมิ, โลกสมุทยฺจ ปฺเปมิ, โลกนิโรธฺจ ปฺเปมิ, โลกนิโรธคามินิปฏิปทฺจ ปฺเปมี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๐๗). กถํ ปน อาทิกมฺปิโก นิโรธสจฺจานิ ปริคฺคณฺหาตีติ? อนุสฺสวาทิสิทฺธมาการํ ปริคฺคณฺหาติ, เอวฺจ กตฺวา โลกุตฺตรโพชฺฌงฺเค อุทฺทิสฺสปิ ปริคฺคโห น วิรุชฺฌติ. ยถาสมฺภวโตติ สมฺภวานุรูปํ, เปตฺวา นิโรธสจฺจํ เสสสจฺจวเสน สมุทยวยา เวทิตพฺพาติ อตฺโถ.

จตุสจฺจปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

‘‘อฏฺิกสงฺขลิกํ สมํส’’นฺติอาทิกา สตฺต สิวถิกา อฏฺิกกมฺมฏฺานตาย อิตราสํ อุทฺธุมาตกาทีนํ สภาเวเนวาติ นวนฺนํ สิวถิกานํ อปฺปนากมฺมฏฺานตา วุตฺตา. ทฺเวเยวาติ ‘‘อานาปานํ, ทฺวตฺตึสากาโร’’ติ อิมานิ ทฺเวเยว. อภินิเวโสติ วิปสฺสนาภินิเวโส, โส ปน สมฺมสนียธมฺเม ปริคฺคโห. อิริยาปถา อาโลกิตาทโย จ รูปธมฺมานํ อวตฺถาวิเสสมตฺตตาย น สมฺมสนุปคา วิฺตฺติอาทโย วิย. นีวรณโพชฺฌงฺคา อาทิโต น ปริคฺคเหตพฺพาติ วุตฺตํ ‘‘อิริยาปถ…เป… น ชายตี’’ติ. เกสาทิอปเทเสน ตทุปาทานธมฺมา วิย อิริยาปถาทิอปเทเสน ตทวตฺถา รูปธมฺมา ปริคฺคยฺหนฺติ, นีวรณาทิมุเขน จ ตํ สมฺปยุตฺตา ตํนิสฺสยธมฺมาติ อธิปฺปาเยน มหาสีวตฺเถโร ‘‘อิริยาปถาทีสุปิอภินิเวโส ชายตี’’ติ อาห. อตฺถิ นุ โข เมติอาทิ ปน สภาวโต อิริยาปถาทีนํ อาทิกมฺมิกสฺส อนิจฺฉิตภาวทสฺสนํ. อปริฺาปุพฺพิกา หิ ปริฺาติ.

๑๓๗. กามํ ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู’’ติอาทินา อุทฺเทสนิทฺเทเสสุ ตตฺถ ตตฺถ ภิกฺขุคฺคหณํ กตํ, ตํ ปฏิปตฺติยา ภิกฺขุภาวทสฺสนตฺถํ, เทสนา ปน สพฺพสาธารณาติ ทสฺเสตุํ ‘‘โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว’’อิจฺเจว วุตฺตํ, น ภิกฺขุเยวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย หิ โกจิ, ภิกฺขุ วา’’ติอาทิมาห. ทสฺสนมคฺเคน าตมริยาทํ อนติกฺกมิตฺวา ชานนฺตี สิขาปฺปตฺตา อคฺคมคฺคปฺา อฺา นาม, ตสฺส ผลภาวโต อคฺคผลมฺปีติ อาห ‘‘อฺาติ อรหตฺต’’นฺติ. อปฺปตเรปิ กาเล สาสนสฺส นิยฺยานิกภาวํ ทสฺเสนฺโตติ โยชนา.

๑๓๘. นิยฺยาเตนฺโตติ นิคเมนฺโต.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

สติปฏฺานสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

นิฏฺิตา จ มูลปริยายวคฺควณฺณนา.

ปโม ภาโค นิฏฺิโต.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

มชฺฌิมนิกาเย

มูลปณฺณาส-ฏีกา

(ทุติโย ภาโค)