📜

๓. โอปมฺมวคฺโค

๑. กกจูปมสุตฺตวณฺณนา

๒๒๒. โมฬินฺติ เกสรจนํ. เวหายสนฺติ อากาเส. รตนจงฺโกฏวเรนาติ รตนสิลามยวรจงฺโกฏเกน สหสฺสเนตฺโต สิรสา ปฏิคฺคหิ. ‘‘สุวณฺณจงฺโกฏกวเรนา’’ติปิ (พุ. วํ. อฏฺ. ๒๓ ทูเรนิทานกถา; ชา. อฏฺ. ๑.๒ อวิทูเรนิทานกถา) ปาโ.

สาติ โมฬิ. โมฬิ เอตสฺส อตฺถีติ โมฬิโก, โมฬิโก เอว โมฬิโย. ผคฺคุโนติ ปน นามํ. สงฺขาติ สมฺา. เวลียติ ขณมุหุตฺตาทิวเสน อุปทิสียตีติ เวลา, กาโลติ อาห ‘‘ตายํ เวลายํ…เป… อยํ กาลเวลา นามา’’ติ. เวลยติ ปริจฺเฉทวเสน ติฏฺตีติ เวลา, สีมา. เวลยติ สํกิเลสปกฺขํ จาลยตีติ เวลา, สีลํ. อนติกฺกมนฏฺโปิ จสฺส สํกิเลสธมฺมนิมิตฺตํ อจลนเมว. วิฺุปุริสาภาเว ฉปฺจวาจามตฺตํ โอวาเท ปมาณํ นาม.ทวสหคตํ กตฺวาติ กีฬาสหิตํ กตฺวา.

มิสฺสีภูโตติ อนนุโลมิกสํสคฺควเสน มิสฺสีภูโต. ‘‘อวณฺณํ ภาสตี’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตํ วิวริตุํ ‘‘ตาปนปจนโกฏฺฏนาทีนี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อธิกรณมฺปิ กโรตีติ เอตฺถ ยถา โส อธิกรณาย ปริสกฺกติ, ตํทสฺสนํ ‘‘อิเมสํ ภิกฺขูน’’นฺติอาทิ. อธิกรณํ อากฑฺฒตีติ อธิกรณํ อุทฺทิสฺส เต ภิกฺขู อากฑฺฒติ, อธิกรณํ วา เตสุ อุปฺปาเทนฺโต อากฑฺฒติ. อุทฺเทสปทํ วาติ ปทโส อุทฺเทสมตฺตํ วา. เนว ปิยกมฺยตายาติ เนว อตฺตนิ สตฺถุโน ปิยภาวกามตาย. น เภทาธิปฺปาเยนาติ น สตฺถุโน เตน ภิกฺขุนา เภทาธิปฺปาเยน. อตฺถกามตายาติ โมฬิยผคฺคุนสฺส หิตกามตาย.

๒๒๔. อวณฺณภาสเนติ ภิกฺขุนีนํ อคุณกถเน. ฉนฺทาทีนํ วตฺถุภาวโต กามคุณา เคหํ วิย เคหํ, เต จ เต สิตา นิสฺสิตาติ เคหสฺสิตาติ วุตฺตา. ตณฺหาฉนฺทาปิ ตาสํ กตฺตุกามตาปีติ อุภเยปิ ตณฺหาฉนฺทา, ปฏิฆฉนฺทา ปน เตสํ กตฺตุกามตา เอว. ผลิกมณิ วิย ปกติปภสฺสรสฺส จิตฺตสนฺตานสฺส อุปสงฺโค วิย วิปริณามการณํ ราคาทโยติ อาห ‘‘รตฺตมฺปิ จิตฺตํ วิปริณต’’นฺติอาทิ. หิตานุกมฺปีติ กรุณาย ปจฺจุปฏฺาปนมาห. ‘‘ยสฺสนฺตรโต น สนฺติ โกปา’’ติอาทีสุ (อุทา. ๒๐) วิย อนฺตร-สทฺโท จิตฺตปริยาโยติ อาห ‘‘โทสนฺตโรติ โทสจิตฺโต’’ติ.

๒๒๕. ทุพฺพจตาย โอวาทํ อสมฺปฏิจฺฉนฺโต จิตฺเตเนว ปฏิวิรุทฺโธ อฏฺาสิ. คณฺหึสุ จิตฺตํ, หทยคาหินึ ปฏิปชฺชึสูติ อตฺโถ. ปูรยึสุ อชฺฌาสยนฺติ อตฺโถ. เอกสฺมึ สมเย ปมโพธิยํ. เอกาสนํ โภชนสฺส เอกาสนโภชนํ, เอกเวลายเมว โภชนํ. ตฺจ โข ปุพฺพณฺเห เอวาติ อาห ‘‘เอกํ ปุเรภตฺตโภชน’’นฺติอาทิ. สตฺตกฺขตฺตุํ ภุตฺตโภชนมฺปิ อิมสฺมึ สุตฺเต เอกาสนโภชนนฺเตว อธิปฺเปตํ, น เอกาสนิกตาย เอกาย เอว นิสชฺชาย โภชนํ. ‘‘อปฺปฑํส…เป… สมฺผสฺส’’นฺติอาทีสุ วิย อปฺป-สทฺโท อภาวตฺโถติ อาห ‘‘นิราพาธตํ, นิทฺทุกฺขต’’นฺติ. ปธานาทิวเสน สลฺลหุกํ อกิจฺฉํ อุฏฺานํ สลฺลหุกอุฏฺานํ. น เอกปฺปหาเรนาติ น เอกวาเรน, น เอกสฺมึเยว กาเลติ อธิปฺปาโย. ทฺเว โภชนานีติ ‘‘อปรณฺเห รตฺติย’’นฺติ กาลวเสน ทฺเว โภชนานิ. ปฺจ คุเณติ อปฺปาพาธาทิเก ปฺจ อานิสํเส. สตุปฺปาทกรณียมตฺตเมวาติ สตุปฺปาทมตฺตกรณียเมว, นิวาเรตพฺพสฺส ปุนปฺปุนํ สมาทปนฺจ นาโหสิ.

มณฺฑภูมีติ โอชวนฺตภูมิ, ยตฺถ ปริสิฺจเนน วินา สสฺสานิ กิฏฺานิ สมฺปชฺชนฺติ. ยุเค โยเชตพฺพานิ โยคฺคานิ, เตสํ อาจริโย โยคฺคาจริโย, เตสํ สิกฺขาปนโก. คามณิหตฺถิอาทโยปิ ‘‘โยคฺคา’’ติ วุจฺจนฺตีติ อาห ปาฬิยํ ‘‘อสฺสทมฺมสารถี’’ติ. จตูสุ มคฺเคสุ เยน เยน มคฺเคน อิจฺฉติ. ชวสมคาทิเภทาสุ คตีสุ ยํ ยํ คตึ. ตํ ตํ มคฺคํ อารุฬฺหาว โอติณฺณาเยว. เนว วาเรตพฺพา รสฺมิวินิคฺคณฺหเนน. น วิชฺฌิตพฺพา ปโตทลฏฺิยา. คมนเมวาติ อิเม ยุตฺตา มม อิจฺฉานุรูปํ มนฺทํ คจฺฉนฺติ, สมํ คจฺฉนฺติ, สีฆํ คจฺฉนฺตีติ ขุเรสุ นิมิตฺตคฺคหณํ ปฏฺเปตฺวา สารถินา เตสํ คมนเมว ปสฺสิตพฺพํ โหติ, น ตตฺถ นิโยชนํ . เตหิปิ ภิกฺขูหิ. ปชหึสุ ปชหิตพฺพํ. สาลทูสนาติ สาลรุกฺขวิสนาสกา. อฺา จ วลฺลิโย สาลรุกฺเข วินนฺธิตฺวา ิตา. พหิ นีหรเณนาติ สาลวนโต พหิ ฉฑฺฑเนน. สุสณฺิตาติ สณฺานสมฺปนฺนา, มริยาทํพนฺธิตฺวาติ อาลวาลสมฺปาทนวเสน มริยาทํ พนฺธิตฺวา. กิปิลฺลปุฏกํ ตมฺพกิปิลฺลกปุฏกํ. สุกฺขทณฺฑกหรณํ อาลวาลพฺภนฺตรา.

๒๒๖. วิเทหรฏฺเ ชาตสํวฑฺฒตาย เวเทหิกา. ปณฺฑา วุจฺจติ ปฺา, ตาย อิตา คตา ปวตฺตาติ ปณฺฑิตา. คหปตานีติ เคหสามินี. โสรจฺเจนาติ สํยเมน. นิวาตวุตฺตีติ ปณิปาตการี. นิพฺพุตาติ นิพฺพุตทุจฺจริตปริฬาหา. อุฏฺาหิกาติ อุฏฺานวีริยวตี. กิพฺพิสาติ กุรูรา.

๒๒๗. เอวํ อกฺขนฺติยา โทสํ ทสฺเสตฺวาติ ‘‘คุณวนฺโต’’ติ โลเก ปตฺถฏกิตฺติสทฺทานมฺปิ อกฺขนฺตินิมิตฺตํ อยสุปฺปตฺติคุณปริหานิอาทึ อกฺขมตายอาทีนวํ ปกาเสตฺวา. วจนปเถติ วจนมคฺเค ยุตฺตกาลาทิเก. สณฺหาภาโวปิ หิ วจนสฺส ปวตฺติอากาโรติ กตฺวา ‘‘วจนปโถ’’ ตฺเวว วุตฺโต. เตสํเยว กาลาทีนํ. เมตฺตา เอตสฺส อตฺถีติ เมตฺตํ, อุปฺปนฺนํ เมตฺตจิตฺตํ เอเตสนฺติ อุปฺปนฺนเมตฺตจิตฺตา. ปุน ‘‘กาเลน วา, ภิกฺขเว’’ติอาทิ (ปริ. ๓๖๒, ๓๖๓) ปาฬิ ธมฺมสภาวทสฺสนวเสน ปวตฺตา ‘‘ปรํ โจทนาวเสน วทนฺตา นาม อิเมหิ อากาเรหิ วทนฺตี’’ติ. อธิมุฺจิตฺวาติ อภิรติวเสน ตสฺมึ ปุคฺคเล ภาวนาจิตฺตํ มุฺจิตฺวา วิสฺสชฺเชตฺวา. โส ปุคฺคโล อารมฺมณํ เอตสฺสาติ ตทารมฺมณํ, เมตฺตจิตฺตํ. ยทิ เอวํ ปเทสวิสยํ ตํ กถํ นิปฺปเทสวิสยํ วิย โหตีติ โจเทนฺโต ‘‘กถํ ตทารมฺมณํ สพฺพาวนฺตํ โลกํ กโรตี’’ติ อาห, อิตโร ‘‘ปฺจ วจนปเถ’’ติอาทินา ปริหรติ. อิธ ตทารมฺมณฺจาติ ตสฺเสว เมตฺตจิตฺตสฺส อารมฺมณํ กตฺวาติ ปาฬิยํ วจนเสโส ทฏฺพฺโพ. เตนาห ‘‘ปุน ตสฺเสวา’’ติอาทิ. สพฺพา สตฺตกายสงฺขาตา ปชา เอตสฺส อตฺถีติ สพฺพาวนฺโตติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺพาวนฺต’’นฺติ อาห. วิปุเลนาติ มหาชนารมฺมเณน. มหนฺตปริยาโย หิ วิปุล-สทฺโท, มหตฺตฺเจตฺถ พหุกภาโว. เตนาห ‘‘อเนกสตฺตารมฺมเณนา’’ติ. ตฺจ ปุคฺคลนฺติ ปฺจ วจนปเถ คเหตฺวา อาคตปุคฺคลํ. จิตฺตสฺสาติ เมตฺตาสหคตจิตฺตสฺส. เอตฺถ จ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิหริสฺสามาติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ กถนฺติ อาห ‘‘ตฺจ ปุคฺคลํ สพฺพฺจ โลกํ ตสฺส จิตฺตสฺส อารมฺมณํ กตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา’’ติ.

๒๒๘. ตทตฺถทีปิกนฺติ ยา เมตฺตํ เจโตวิมุตฺตึ สมฺมเทว ภาเวตฺวา ิตสฺส นิพฺพิการโต เกนจิ วิการํ น อาปาเทตพฺพตา, ตทตฺถโชติกํ. อปถวินฺติ ปถวี น โหตีติ อปถวี. นิปฺปถวินฺติ สพฺเพน สพฺพํ ปถวีภาวาภาวํ. ติริยํ ปน อปริจฺฉินฺนาติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ จกฺกวาฬปพฺพเตหิ ตํ ตํ จกฺกวาฬํ ปริจฺฉินฺทติ? น, ตทฺจกฺกวาฬปถวิยา เอกาพทฺธภาวโต. ติณฺณฺหิ จกฺกานํ อนฺตรสทิเส ติณฺณํ ติณฺณํ โลกธาตูนํ อนฺตเรเยว ปถวี นตฺถิ โลกนฺตรนิรยภาวโต. จกฺกวาฬปพฺพตนฺตเรหิ สมฺพทฺธฏฺาเน ปถวี เอกาพทฺธาว. วิวฏฺฏกาเล หิ สณฺหมานาปิ ปถวี ยถาสณฺิตปถวิยา เอกาพทฺธาว สณฺหติ. เตนาห ‘‘ติริยํ ปน อปริจฺฉินฺนา’’ติ. อิมินาว คมฺภีรภาเวน วุตฺตปริมาณโต ปรํ นตฺถีติ ทีปิตํ โหติ.

๒๒๙. หลิทฺทีติ หลิทฺทิวณฺณํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘ยํ กิฺจิ ปีตกวณฺณ’’นฺติ. วณฺณสงฺขาตํ รูปํ อสฺส อตฺถีติ รูปี, น รูปีติ อรูปีติ อาห ‘‘อรูโป’’ติ. เตเนวาห ‘‘สนิทสฺสนภาวปฏิกฺเขปโต’’ติ.

๒๓๐. ปฺจ โยชนสตานีติ หิมวนฺตโต สมุทฺทํ ปวิฏฺฏฺานวเสน วุตฺตํ, น อโนตตฺตทหมุขโต. อฺา นทิโย อุปาทาย ลพฺภมานํ คมฺภีรตํ อปฺปเมยฺยอุทกตฺจ คเหตฺวา ‘‘คมฺภีรา อปฺปเมยฺยา’’ติ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน ติณุกฺกาย ตาเปตพฺพตฺตาภาวทสฺสนปรเมตนฺติ วุตฺตํ ‘‘เอเตน ปโยเคนา’’ติอาทิ.

๒๓๑. ตูลินี วิย ตูลินีติ อาห ‘‘สิมฺพลิตูลลตาตูลสมานา’’ติ. สสฺสรนฺติ เอวํปวตฺโต สทฺโท สสฺสรสทฺโท. อนุรวทสฺสนฺเหตํ. ตถา ภพฺภรสทฺโท. สพฺพเมตํ เมตฺตาวิหาริโน จิตฺตสฺส ทูเสตุํ อสกฺกุเณยฺยภาวทสฺสนปรํ. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ยถา มหาปถวี เกนจิ ปุริเสน อปถวึ กาตุํ น สกฺกา, ยถา อากาเส กิฺจิ รูปํ ปฏฺเปตุํ น สกฺกา, ยถา คงฺคาย อุทกํ ติณุกฺกาย ตาเปตุํ น สกฺกา, ยถา จ พิฬารภสฺตํ ถทฺธํ ผรุสฺจ สมฺผสฺสํ กาตุํ น สกฺกา, เอวเมวํ เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา อาเสวิตาย ภาวิตาย พหุลีกตาย ปฺจ วจนปเถ คเหตฺวา อาคตปุริเสน เกนจิ ปริยาเยน จิตฺตสฺส อฺถตฺตํ กาตุํ น สกฺกาติ.

๒๓๒. โอจรกาติ ปรูปฆาตวเสน หีนกมฺมการิโน. เตนาห ‘‘นีจกมฺมการกา’’ติ. อนธิวาสเนนาติ อกฺขมเนน. มยฺหํ โอวาทกโร น โหตีติ ปรมฺหิ อนตฺถการิมฺหิ จิตฺตปโทสเนน อาฆาตุปฺปาทเนน มม สาสเน สมฺมาปฏิปชฺชมาโน นาม น โหติ.

๒๓๓. อณุนฺติ อปฺปกํ ตนุ ปริตฺตกํ. ถูลนฺติ มหนฺตํ โอฬาริกํ. วจนปถสฺส ปน อธิปฺเปตตฺตา ตํ สาวชฺชวิภาเคน คเหตพฺพนฺติ อาห ‘‘อปฺปสาวชฺชํ วา มหาสาวชฺชํ วา’’ติ. ขนฺติยา อิทํ ภาริยํ น โหตีติ อโวจุํ ‘‘อนธิ…เป… ปสฺสามา’’ติ. ทีฆรตฺตนฺติ จิรกาลํ, อจฺจนฺตเมวาติ อตฺโถ. อจฺจนฺตฺจ หิตสุขํ นาม อฺาธิคเมเนวาติ อาห ‘‘อรหตฺเตน กูฏํ คณฺหนฺโต’’ติ.

กกจูปมสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๒. อลคทฺทูปมสุตฺตวณฺณนา

๒๓๔. พาธยึสูติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๔๑๗) หนึสุ. ตํตํสมฺปตฺติยา วิพนฺธนวเสน สตฺตสนฺตานสฺส อนฺตเร เวมชฺเฌ เอติ อาคจฺฉตีติ อนฺตราโย, ทิฏฺธมฺมิกาทิอนตฺโถ, อนติกฺกมนฏฺเน ตสฺมึ อนฺตราเย นิยุตฺตา, อนฺตรายํ วา ผลํ อรหนฺติ, อนฺตรายสฺส วา กรณสีลาติ อนฺตรายิกา. เตนาห ‘‘อนฺตรายํ กโรนฺตีติ อนฺตรายิกา’’ติ. อานนฺตริยธมฺมาติ อานนฺตริยสภาวเจตนาธมฺมา. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – จุติอนนฺตรผลํ อนนฺตรํ นาม, ตสฺมึ อนนฺตเร นิยุตฺตา, ตนฺนิพฺพตฺตเนน อนนฺตรกรณสีลา, อนนฺตรปโยชนาติ วา อานนฺตริกา, เต เอว อานนฺตริยาติ วุตฺตา. กมฺมานิ เอว อนฺตรายิกาติ กมฺมนฺตรายิกา. โมกฺขสฺเสว อนฺตรายํ กโรติ, น สคฺคสฺส มิจฺฉาจารลกฺขณาภาวโต. น หิ ภิกฺขุนิยา ธมฺมรกฺขิตภาโว อตฺถิ. ปากติกภิกฺขุนีวเสน เจตํ วุตฺตํ, อริยาย ปน ปวตฺตํ อปายสํวตฺตนิยเมว. นนฺทมาณวโก เจตฺถ นิทสฺสนํ. อุภินฺนํ สมานจฺฉนฺทตาวเสน วา อสคฺคนฺตรายิกตา, โมกฺขนฺตรายิกตา ปน โมกฺขตฺถปฏิปตฺติยา วิทูสนโต, อภิภวิตฺวา ปน ปวตฺติยํ สคฺคนฺตรายิกตาปิ น สกฺกา นิวาเรตุนฺติ. อเหตุกทิฏฺิอกิริยทิฏฺินตฺถิกทิฏฺิโยว นิยตภาวํ ปตฺตา นิยตมิจฺฉาทิฏฺิธมฺมา. ปฏิสนฺธิธมฺมาติ ปฏิสนฺธิจิตฺตุปฺปาทมาห. ปณฺฑกาทิคฺคหณฺเจตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ สพฺพายปิ อเหตุกปฏิสนฺธิยา วิปากนฺตรายิกภาวโต. ยา หิ อริเย อุปวทติ, สา เจตนา อริยูปวาทธมฺมา. ตโต ปรนฺติ ขมาปนโต อุปริ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ มหาสีหนาทสฺส ลีนตฺถปกาสเน วุตฺตเมว. ยาว ภิกฺขุภาวํ ปฏิชานาติ ปาราชิกํ อาปนฺโน. น วุฏฺาติ เสสํ ครุกาปตฺตึ. น เทเสติ ลหุกาปตฺตึ.

อยํ ภิกฺขุ อริฏฺโ. รเสน รสํ สํสนฺทิตฺวาติ อนวชฺเชน ปจฺจยปริภุฺชนรเสน สาวชฺชํ กามคุณปริโภครสํ สมาเนตฺวา. อุปเนนฺโต วิยาติ พนฺธนํ อุปเนนฺโต วิย. ‘‘ฆเฏนฺโต วิยา’’ติปิ ปาโ. อุปสํหรนฺโต วิยาติ สทิสตํ อุปสํหรนฺโต วิย เอกนฺตสาวชฺเช อนวชฺชภาวปกฺเขเปน. ปาปกนฺติ ลามกฏฺเน ทุคฺคติสมฺปาปนฏฺเน จ ปาปกํ. เสตุกรณวเสน มหาสมุทฺทํ พนฺธนฺเตน วิย. สพฺพฺุตฺาเณน ‘‘สาวชฺช’’นฺติ ทิฏฺํ ‘‘อนวชฺช’’นฺติ คหเณน เตน ปฏิวิรุชฺฌนฺโต. เอกนฺตโต อนนฺตรายิกนฺติ คหเณน เวสารชฺชาณํ ปฏิพาหนฺโต. กามกณฺฏเกหิ อริยมคฺคสมฺมาปฏิปตฺติ น อุปกฺกิลิสฺสตีติ วทนฺโต ‘‘อริยมคฺเค ขาณุกณฺฏกาทีนิปกฺขิปนฺโต’’ติ วุตฺโต. ปมปาราชิกสิกฺขาปทสงฺขาเต, ‘‘อพฺรหฺมจริยํ ปหายา’’ติ (ที. นิ. ๑.๘, ๑๙๔) อาทิเทสนาสงฺขาเต จ อาณาจกฺเก.

ปุจฺฉมานา สมนุยุฺชนฺติ นาม. ปุจฺฉา หิ อนุโยโคติ. เตนาธิคตาย ลทฺธิยา อนุวชฺชนตฺถํ ปจฺจนุภาสเนน ปุน ปฏิชานาปนํ ปติฏฺาปนํ, ตํ ปนสฺส อาทาย สมาทาปนํ วิย โหตีติ อาห ‘‘สมนุคาหนฺติ นามา’’ติ. ตสฺสา ปน ลทฺธิยา อนุยุฺชิตาย วุจฺจมานมฺปิ การณํ การณปติรูปกเมวาติ ตสฺส ปุจฺฉนํ สมนุภาสนํ. อนุทหนฏฺเน อนุปายปฏิปตฺติยา สมฺปติ อายติฺจ อนุทหนฏฺเน. มหาภิตาปนฏฺเน อนวฏฺิตสภาวตาย. อิตฺตรปจฺจุปฏฺานฏฺเน มุหุตฺตรมณียตาย. ตาวกาลิกฏฺเน ปเรหิ อภิภวนียตาย. สพฺพงฺคปจฺจงฺคปลิภฺชนฏฺเน เฉทนเภทนาทิอธิกรณภาเวน. อุคฺฆาฏสทิสตาย อธิกุฏฺฏนฏฺเน. อวเณ วณํ อุปฺปาเทตฺวา อนฺโต อนุปวิสนสภาวตาย วินิวิชฺฌนฏฺเน. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกอนตฺถนิมิตฺตตาย สาสงฺกสปฺปฏิภยฏฺเน.ทิฏฺิถาเมนาติ ตสฺสา ทิฏฺิยา ถามคตภาเวน. ทิฏฺิปรามาเสนาติ ทิฏฺิสงฺขาตปรามสเนน. ทิฏฺิเยว หิ ธมฺมสภาวํ อติกฺกมิตฺวา ปรโต อามสเนน ปรามาโส. อภินิวิสฺสาติ ตณฺหาภินิเวสปุพฺพงฺคเมน ทิฏฺาภินิเวเสน ‘‘อิทเมเวตฺถ ตถ’’นฺติ อภินิวิสิตฺวา. ยสฺมา หิ อภินิเวสนํ ตตฺถ อภินิวิฏฺํ นาม โหติ.ตสฺมา อาห ‘‘อธิฏฺหิตฺวา’’ติ.

๒๓๕. นตฺถีติ วตฺตุกาโมปีติ อตฺตโน ลทฺธึ นิคุเหตุกามตาย อวชานิตุกาโมปิ. สมฺปฏิจฺฉติ ปฏิชานาติ. ทฺเว กถาติ วิสํวาทนกถํ สนฺธาย วทติ. อภูตกถา หิ ปุพฺเพ ปวตฺตา ภูตกถาย วเสน ทฺเว กถาติ วุจฺจติ.

๒๓๖. กสฺส โข นามาติ อิมินา สตฺถา ‘‘น มม ตุยฺหํ ตาทิสสฺส อตฺถาย ธมฺมเทสนา นาม ภูตปุพฺพา’’ติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ขตฺติยสฺส วา’’ติอาทิ.

าณมยา อุสฺมา เอตสฺส อตฺถีติ อุสฺมี, ตถารูเปหิ ปจฺจเยหิ อนุสฺมีกโต ตสฺมึ อตฺตภาเว ปฏิเวธคพฺโภอปิ อุสฺมีกโตติ วิกตภาวโต ปฺาพีชมสฺส อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อปิ นุ อตฺถีติ ภควา ภิกฺขู ปุจฺฉติ. เต ปฏิกฺขิปนฺตา วทนฺติ านคเตน ทุจฺจริเตน าณุปหตภาวํ สมฺปสฺสนฺตา. นิตฺเตชภูโตติ นิตฺเตชํ ภูโต เตโชหานิปฺปตฺโต. ตโต เอว ภิกฺขูนมฺปิ สมฺมุขา โอโลเกตุํ อสมตฺถตาย ปตฺตกฺขนฺโธ อโธมุโข. สหธมฺมิกํ กิฺจิ วตฺตุํ อวิสหนโต อปฺปฏิภาโน. สมฺปตฺตูปคนฺติ สมฺปตฺติอาวหํ. ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺโตติ ปฏิเสเธนฺโต.

๒๓๗. อนฺตรายกรลทฺธิยา สภาววิภาวเนน ปริสํ โสเธติ. นิสฺสาเรติ นีหรติ อวิสุทฺธทิฏฺิตาย. กสฺสจิ พุทฺธานุภาวํ อชานนฺตสฺส. ตสฺส หิ เอวํ ภเวยฺย ‘‘สหสา กถิต’’นฺติ. น หิ กทาจิ พุทฺธานํ สหสา กิริยา นาม อตฺถิ. อสฺสาติ ‘‘กสฺสจี’’ติ วุตฺตภิกฺขุสฺส. สุตฺวาปิตุณฺหีภาวํ อาปชฺเชยฺยาติ อถาปิ สิยาติ สมฺพนฺโธ. ตํ สพฺพนฺติ ‘‘สเจ หี’’ติอาทินา วุตฺตํ สพฺพํ ปริกปฺปนํ. น กริสฺสนฺตีติ ปริสาย ลทฺธึ โสเธตีติ สมฺพนฺโธ. ลทฺธึ ปกาเสนฺโตติ มหาสาวชฺชตาวเสน ปกาเสนฺโต. สฺาวิตกฺเกหีติ สุภนิมิตฺตานุพฺยฺชนคฺคาหาทิวเสน ปวตฺเตหิ สฺาวิตกฺเกหิ. เตนาห ‘‘กิเลสกามสมฺปยุตฺเตหี’’ติ. เมถุนสมาจารนฺติ อิทํ อธิการวเสน วุตฺตํ. ตทฺมฺปิ ปน – ‘‘อปิจ โข มาตุคามสฺส อุจฺฉาทนํ ปริมทฺทนํ นหาปนํ สมฺพาหนํ สาทิยตี’’ติอาทินา (อ. นิ. ๗.๕๐) อาคตํ วิสภาควตฺถุวิสยํ อามิสปริโภคํ. ‘‘อฺตฺเรว กาเมหิ อฺตฺร กามสฺาหิ อฺตฺร กามวิตกฺเกหิ สมาจริสฺสตี’’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

๒๓๘. โยนิโส ปจฺจเวกฺขเณน นตฺถิ เอตฺถ ฉนฺทราโคติ นิจฺฉนฺทราโค, ตํ นิจฺฉนฺทราคํ. กทาจิ อุโปสถิกภาเวน สมาทินฺนสีลาปิ โหนฺติ กทาจิ โนติ อนิพทฺธสีลานํ คหฏฺานํ. สีลสมาทานภาวโต อนฺตรายกรํ. วตฺถุกามานํ สจฺฉนฺทราคปริโภคฺจ. อปจฺจเวกฺขเณน ภิกฺขูนํ อาวรณกรํ. ปจฺจยานํ สจฺฉนฺทราคปริโภคฺจ. อยํ อริฏฺโ ทุคฺคหิตาย ปริยตฺติยา วเสน อมฺเห เจว อพฺภาจิกฺขติ, อตฺตานฺจ ขนติ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวตีติ เอวํ สฺา มา โหนฺตูติ ทุคฺคหิตาย ปริยตฺติยา โทสํ ทสฺเสนฺโต อาห. อุคฺคณฺหนฺตีติ สชฺฌายนฺติ เจว วาจุคฺคตํ กโรนฺตา ธาเรนฺติ จาติ อตฺโถ.

สุตฺตนฺติอาทินา นวปฺปเภทมฺปิ ปริยตฺติธมฺมํ ปริยาทิยติ. กถํ สุตฺตํ นวปฺปเภทํ? สคาถกฺหิ สุตฺตํ เคยฺยํ, นิคฺคาถกํ สุตฺตํ เวยฺยากรณํ, ตทุภยวินิมุตฺตฺจ สุตฺตํ อุทานาทิวิเสสสฺาวิรหิตํ นตฺถิ, ยํ สุตฺตงฺคํ สิยา, มงฺคลสุตฺตาทีนฺจ สุตฺตงฺคสงฺคโห น สิยา คาถาภาวโต ธมฺมปทาทีนํ วิย, เคยฺยงฺคสงฺคโห วา สิยา สคาถกตฺตา สคาถาวคฺคสฺส วิย, ตถา อุภโตวิภงฺคาทีสุ สคาถกปฺปเทสานนฺติ? วุจฺจเต –

สุตฺตนฺติ สามฺวิธิ, วิเสสวิธโย ปเร;

สนิมิตฺตา นิรูฬฺหตฺตา, สหตาฺเน นฺโต. (ที. นิ. ฏี. ๑.นิทานกถาวณฺณนา; อ. นิ. ฏี. ๒.๔.๖; สารตฺถ. ฏี. ๑.พาหิรนิทานกถา);

สพฺพสฺสปิ หิ พุทฺธวจนสฺส สุตฺตนฺติ อยํ สามฺวิธิ. เตเนวาห อายสฺมา มหากจฺจาโน เนตฺติยํ (เนตฺติ. ๑.สงฺคหวาร) ‘‘นววิธสุตฺตนฺตปริเยฏฺี’’ติ. ‘‘เอตฺตกํ ตสฺส ภควโต สุตฺตาคตํ สุตฺตปริยาปนฺนํ (ปาจิ. ๖๕๕, ๑๒๔๒), สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; กถา. อฏฺ. นิทานกถา) เอวมาทิ จ เอตสฺส อตฺถสฺส สาธกํ. ตเทกเทเสสุ ปน เคยฺยาทโย วิเสสวิธโย เตน เตน นิมิตฺเตน ปติฏฺิตา. ตถา หิ เคยฺยสฺส สคาถกตฺตํ ตพฺภาวนิมิตฺตํ. โลเกปิ หิ สสิโลกํ สคาถกํ วา จุณฺณิยคนฺถํ ‘‘เคยฺย’’นฺติ วทนฺติ. คาถาวิรเห ปน สติ ปุจฺฉํ กตฺวา วิสฺสชฺชนภาโว เวยฺยากรณสฺส ตพฺภาวนิมิตฺตํ. ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนฺหิ ‘‘พฺยากรณ’’นฺติ วุจฺจติ, พฺยากรณเมว เวยฺยากรณํ.

เอวํ สนฺเต สคาถกาทีนมฺปิ ปุจฺฉํ กตฺวา วิสฺสชฺชนวเสน ปวตฺตานํ เวยฺยากรณภาโว อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ เคยฺยาทิสฺานํ อโนกาสภาวโต, ‘‘คาถาวิรเห สตี’’ติ วิเสสิตตฺตา จ. ตถา หิ ธมฺมปทาทีสุ เกวลํ คาถาพนฺเธสุ, สคาถกตฺเตปิ โสมนสฺสาณมยิกคาถายุตฺเตสุ, ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติ (อิติวุ. ๑) อาทิวจนสมฺพนฺเธสุ, อพฺภุตธมฺมปฏิสํยุตฺเตสุ จ สุตฺตวิเสเสสุ ยถากฺกมํ คาถา-อุทาน-อิติวุตฺตก-อพฺภุตธมฺม-สฺา ปติฏฺิตา, ตถา สติปิ คาถาพนฺธภาเว ภควโต อตีตาสุ ชาตีสุ จริยานุภาวปฺปกาสเกสุ ชาตกสฺา, สติปิ ปฺหวิสฺสชฺชนภาเว สคาถกตฺเต จ เกสุจิ สุตฺตนฺเตสุ เวทสฺส ลภาปนโต เวทลฺลสฺา ปติฏฺิตาติ เอวํ เตน เตน สคาถกตฺตาทินา นิมิตฺเตน เตสุ เตสุ สุตฺตวิเสเสสุ เคยฺยาทิสฺา ปติฏฺิตาติ วิเสสวิธโย สุตฺตงฺคโต ปเร เคยฺยาทโย. ยํ ปเนตฺถ เคยฺยงฺคาทินิมิตฺตรหิตํ, ตํ สุตฺตงฺคํ วิเสสสฺาปริหาเรน สามฺสฺาย ปวตฺตนโตติ. นนุ จ สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยํ, นิคฺคาถกํ สุตฺตํ เวยฺยากรณนฺติ สุตฺตงฺคํ น สมฺภวตีติ โจทนา ตทวตฺถา เอวาติ? น ตทวตฺถา โสธิตตฺตา. โสธิตฺหิ ปุพฺเพ ‘‘คาถาวิรเห สติ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนภาโว เวยฺยากรณสฺส ตพฺภาวนิมิตฺต’’นฺติ.

ยฺจ วุตฺตํ ‘‘คาถาภาวโต มงฺคลสุตฺตาทีนํ สุตฺตงฺคสงฺคโห น สิยา’’ติ (ขุ. ปา. ๕.๑; สุ. นิ. ๒๖๑), ตํ น, นิรุฬฺหตฺตา. นิรุฬฺโห หิ มงฺคลสุตฺตาทีนํ สุตฺตภาโว. น หิ ตานิ ธมฺมปทพุทฺธวํสาทโย วิย คาถาภาเวน ปฺาตานิ, กินฺตุ สุตฺตภาเวเนว. เตเนว หิ อฏฺกถายํ ‘‘สุตฺตนามก’’นฺติ นามคฺคหณํ กตํ. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สคาถกตฺตา เคยฺยงฺคสงฺคโห สิยา’’ติ , ตทปิ นตฺถิ, ยสฺมา สหตาฺเน. สห คาถาหีติ หิ สคาถกํ, สหภาโว จ นาม อตฺถโต อฺเน โหติ, น จ มงฺคลสุตฺตาทีสุ คาถาวินิมุตฺโต โกจิ สุตฺตปเทโส อตฺถิ, โย ‘‘สห คาถาหี’’ติ วุจฺเจยฺย, น จ สมุทาโย นาม โกจิ อตฺถิ. ยทปิ วุตฺตํ ‘‘อุภโตวิภงฺคาทีสุ สคาถกปฺปเทสานํ เคยฺยงฺคสงฺคโห สิยา’’ติ, ตทปิ น อฺโต. อฺา เอว หิ ตา คาถา ชาตกาทิปริยาปนฺนตฺตา, อโต น ตาหิ อุภโตวิภงฺคาทีนํ เคยฺยงฺคภาโวติ. เอวํ สุตฺตาทีนํ องฺคานํ อฺมฺสงฺกราภาโว เวทิตพฺโพ.

อตฺถตฺถนฺติ อตฺถภูตํ ยถาภูตํ อตฺถํ. อนตฺถมฺปิ เกจิ วิปลฺลาสวเสน ‘‘อตฺโถ’’ติ คณฺหนฺตีติ ‘‘อตฺถตฺถ’’นฺติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. การณตฺถนฺติ การณภูตํ อตฺถํ, สีลํ สมาธิสฺส การณํ, สมาธิ วิปสฺสนายาติ เอวํ ตสฺส ตสฺส การณภูตํ อตฺถํ. เตนาห ‘‘อิมสฺมึ าเน สีล’’นฺติอาทิ. เตเนตํ ทสฺเสติ – อิมสฺมึ าเน สีลํ กถิตํ, ตฺจ ยาวเทว สมาธตฺถํ, สมาธิ วิปสฺสนตฺโถ, วิปสฺสนา มคฺคตฺถา, มคฺโค ผลตฺโถ, วฏฺฏํ กถิตํ ยาวเทว วิวฏฺฏาธิคมตฺถนฺติ ชานิตุํ น สกฺโกนฺตีติ. เอวํ ปาฬิยํ ‘‘อตฺถ’’นฺติ อิมินา ภาสิตตฺถปโยชนตฺถานํ คหิตตา เวทิตพฺพา. น ปริคฺคณฺหนฺตีติ น วิจาเรนฺติ, นิชฺฌานปฺากฺขมา น โหนฺติ, นิชฺฌายิตฺวา ปฺาย โรเจตฺวา คเหตพฺพา น โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. อิติ เอวํ เอตาย ปริยตฺติยา วาทปฺปโมกฺขานิสํสา อตฺตโน อุปริ ปเรหิ อาโรปิตวาทสฺส นิคฺคหสฺส โมกฺขปโยชนา หุตฺวา ธมฺมํ ปริยาปุณนฺติ. วาทปฺปโมกฺโข วา นินฺทาปโมกฺโข. ยสฺส จาติ ยสฺส จ สีลาทิปูรเณน ปตฺตพฺพสฺส, มคฺคสฺส วา ตทธิคเมน ปตฺตพฺพสฺส, ผลสฺส วา ตทธิคเมน ปตฺตพฺพสฺส, อนุปาทาวิโมกฺขสฺส วา อตฺถาย. ธมฺมํ ปริยาปุณนฺติ, าเยน ปริยาปุณนฺตีติ อธิปฺปาโย. นานุโภนฺติ น วินฺทนฺติ. เตสํ เต ธมฺมา ทุคฺคหิตา อุปารมฺภมานทปฺปมกฺขปฬาสาทิเหตุภาเวน ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ.

๒๓๙. อลํ ปริยตฺโต คโท อสฺสาติ อลคทฺโท อนุนาสิกโลปํ ท-การาคมฺจ กตฺวา. วฏฺฏทุกฺขกนฺตารโต นิตฺถรณตฺถาย ปริยตฺติ นิตฺถรณปริยตฺติ. ภณฺฑาคาเร นิยุตฺโต ภณฺฑาคาริโก, ภณฺฑาคาริโก วิย ภณฺฑาคาริโก, ธมฺมรตนานุปาลโก. อฺํ อตฺถํ อนเปกฺขิตฺวา ภณฺฑาคาริกสฺเสว สโต ปริยตฺติ ภณฺฑาคาริกปริยตฺติ. ‘‘วํสานุรกฺขโกวา’’ติ อวธารณํ สีหาวโลกนาเยน ตนฺติธารโกว ปเวณิปาลโกวาติ ปุริมปททฺวเยปิ โยเชตพฺพํ.

ยทิ ตนฺติธารณาทิอตฺถํ พุทฺธวจนสฺส ปริยาปุณนํ ภณฺฑาคาริกปริยตฺติ, กสฺมา ‘‘ขีณาสวสฺสา’’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ, นนุ เอกจฺจสฺส ปุถุชฺชนสฺสปิ อยํ นโย ลพฺภตีติ อนุโยคํ สนฺธายาห ‘‘โย ปนา’’ติอาทิ. อตฺตโน าเนติ นิตฺถรณฏฺาเน. กามํ ปุถุชฺชโน ‘‘ปเวณึ ปาเลสฺสามี’’ติ อชฺฌาสเยน ปริยาปุณาติ. อตฺตโน ปน ภวกนฺตารโต อนิตฺติณฺณตฺตา ตสฺส สา ปริยตฺติ นิตฺถรณปริยตฺติ เอว นาม โหตีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ปุถุชฺชนสฺสา’’ติอาทิ.

นิชฺฌานํ ขมนฺตีติ นิชฺฌานปฺํ ขมนฺติ. ตตฺถ ตตฺถ อาคเต สีลาทิธมฺเม นิชฺฌายิตฺวา ปฺาย โรเจตฺวา ยาถาวโต คเหตพฺพา โหนฺติ. เตนาห ‘‘อิธ สีล’’นฺติอาทิ. น เกวลํ สุคฺคหิตํ ปริยตฺตึ นิสฺสาย มคฺคภาวนาผลสจฺฉิกิริยา, ปรวาทนิคฺคหสกวาทปติฏฺาปนาทีนิปิ อิชฺฌนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปรวาเท’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหํ นิคฺคหิตฺวา’’ติอาทิ (ที. นิ. ๒.๒๖๘). อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานนฺติ ทิฏฺิวินิเวนาทิวเสน อิจฺฉิตํ อิจฺฉิตํ ปาฬิปเทสํ. โมเจตุนฺติ อปเนตุํ. อหิตาย ทุกฺขาย อสํวตฺตนมฺปิ ตทภาเว อุปฺปชฺชนกหิตสุขสฺส การณเมว ตสฺมึ สติ ภาวโตติ. สุคฺคหิตอลคทฺทสฺสปิ หิตาย สุขาย สํวตฺตนตา ทฏฺพฺพา.

๒๔๐. อุตฺตรนฺติ เอเตนาติ อุตฺตโร, สินนฺติ พนฺธนฺตีติ เสตุ, อุตฺตโร จ โส เสตุ จาติ อุตฺตรเสตุ. กูลํ ปรตีรํ วหติ ปาเปตีติ กุลฺลํ. กลาปํ กตฺวา พทฺโธติ เวฬุนฬาทีหิ กลาปวเสน พทฺโธ. อณุนฺติ อิทํ อฏฺสมาปตฺติอารมฺมณํ สฺโชนํ สนฺธาย วทติ. ถูลนฺติ อิตรํ. ทิฏฺินฺติ ยถาภูตทสฺสนํ, วิปสฺสนนฺติ อตฺโถ. เอวํ ปริสุทฺธํ เอวํ ปริโยทาตนฺติ เตภูมเกสุ ธมฺเมสุ าตํ ‘‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’’ติ, เอวํ ตณฺหาทิฏฺิสํกิเลสาภาเวน สพฺพโส วิสุทฺธํ, ปริสุทฺธตฺตา เอว ปริโยทาตํ. น อลฺลีเยถาติ นิกนฺติวเสน น นิสฺสเยถ. น เกลาเยถาติ น มมาเยถ. น ธนาเยถาติ ธนํ ทฺรพฺยํ น กยิราถ. อุภยตฺถาติ สมเถ วิปสฺสนาย จ.

อสทฺธมฺเมติอาทีสุ อสตํ หีนชฺฌาสยานํ ธมฺโมติ อสทฺธมฺโม. คามวาสีนํ ธมฺโมติ คามธมฺโม. กิเลสานํ วสฺสนสภาวตาย วสลธมฺโม. กิเลเสหิ ทูสิตตฺตา ถูลตฺตา จ ทุฏฺุลฺโล. อุทกสุทฺธิปริโยสานตาย โอทกนฺติโก. ‘‘ธมฺมาปิ โว ปหาตพฺพา’’ติ อิมินาปิ โอวาเทน ภิกฺขู อุทฺทิสฺส กเถนฺโตปิ อริฏฺํเยว นิคฺคณฺหาติ.

๒๔๑. ติวิธคฺคาหวเสนาติ ตณฺหามานทิฏฺิคฺคาหวเสน. ยทิ เอวํ ‘‘อหํ มมาติ คณฺหาตี’’ติ คาหทฺวยเมว กสฺมา วุตฺตนฺติ? นยิทเมวํ ตตฺถาปิ คาหตฺตยสฺเสว วุตฺตตฺตา. ‘‘อห’’นฺติ หิ อิมินา มานทิฏฺิคฺคาหา วุตฺตา ‘‘อหมสฺมี’’ติ คาหสามฺโต. ทิฏฺิปิ ทิฏฺิฏฺานํ ปุริมุปฺปนฺนาย ทิฏฺิยา อุตฺตรทิฏฺิยา สกฺกายทิฏฺิยา สสฺสตทิฏฺิยา จ การณภาวโต. อารมฺมณํ ปฺจ ขนฺธา, รูปารมฺมณาทีนิ จ. ทิฏฺิยา ปจฺจโย อวิชฺชา-ผสฺส-สฺา-วิตกฺก-อโยนิโสมนสิการ-ปาปมิตฺตปรโตโฆสาทิโก ทิฏฺิยา อุปนิสฺสยาทิปจฺจโย. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๒๔)‘‘กตมานิ อฏฺ ทิฏฺิฏฺานานิ อวิชฺชาปิ ผสฺโสปิ สฺาปิ วิตกฺโกปิ อโยนิโสมนสิกาโรปิ ปาปมิตฺโตปิ ปรโตโฆโสปิ ทิฏฺิฏฺาน’’นฺติอาทิ. รูปารมฺมณาติ รุปฺปนสภาวธมฺมารมฺมณา. รูปํ ปน อตฺตาติ น วตฺตพฺพํ อิธ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๑, ๓๔๕) อิมสฺส คาหสฺส อนธิปฺเปตตฺตา. โส หิ ‘‘ยมฺปิ ตํ ทิฏฺิฏฺาน’’นฺติอาทินา ปรโต วุจฺจติ. อิธ ปน ‘‘รูปวนฺตํ อตฺตานํ สมนุปสฺสติ, อตฺตนิ รูปํ, รูปสฺมึ อตฺตาน’’นฺติ อิเม ตโย คาหา อธิปฺเปตาติ เกจิ, ตทยุตฺตํ. ยสฺมา รูปํ อตฺตา น โหติ, อตฺตคฺคาหสฺส ปน อาลมฺพนํ โหติ, อตฺตสภาเวเยว วา รูปาทิธมฺเม อารพฺภ อตฺตทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ, น อตฺตานํ ตสฺส ปรมตฺถโต อนุปลพฺภนโต, ตสฺมา รูปาทิอารมฺมณาว อตฺตทิฏฺีติ กตฺวา วุตฺตํ, รูปํ ปน ‘‘อตฺตา’’ติ น วตฺตพฺพนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ‘‘ยมฺปิ ตํ ทิฏฺิฏฺาน’’นฺติอาทินา ปน วิปสฺสนาปฏิวิปสฺสนา วิย ทิฏฺิอนุปสฺสนา นาม ทสฺสิตา.

คนฺธรสโผฏฺพฺพายตนานํ สมฺปตฺตคาหินฺทฺริยวิสยตาย ปตฺวา คเหตพฺพตา. ตฺหิ ตสฺส อตฺตโน วิสยํ ปริภุตฺวา สมฺพนฺธํ หุตฺวา คณฺหาติ. อวเสสานิ สตฺตายตนานิ วิฺาตํ นาม มนสา วิฺาตพฺพโต. อฺถา อิตเรสมฺปิ วิฺาตตา สิยา. ปตฺตนฺติ อธิคตํ. ปริเยสิตนฺติ คเวสิตํ. อนุวิจริตนฺติ จินฺติตํ. เตนาห ‘‘มนสา’’ติ. เอตฺถ จ ปตฺตปริเยสนานํ อปฏิกฺเขปสฺส, วิสุํ, เอกชฺฌํ ปฏิกฺเขปสฺส จ วเสน จตุกฺโกฏิกํ ทสฺเสตฺวา ปตฺตปริเยสิเตหิ อนุวิจริตสฺส เภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘โลกสฺมิฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริเยสิตฺวา ปตฺตํ ปมํ เจตสา ปจฺฉา กาเยน ปตฺตตฺตา ปตฺตํ นาม. ปริเยสิตฺวา โนปตฺตํ ปริเยสิตํ นาม เกวลํ ปริเยสิตภาวโต. อปริเยสิตฺวา ปตฺตฺจ โนปตฺตฺจ มนสา อนุวิจริตพฺพโต มนสานุวิจริตํ นาม.

อยฺจ วิกปฺโป อากุโล วิยาติ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปตฺตฏฺเนาติ ปตฺตภาเวน ปตฺตตาสามฺเน. อปริเยสิตฺวา โนปตฺตํ มนสานุวิจริตํ นาม ปตฺติยา ปริเยสนาย จ อภาวโต. สพฺพํ วา เอตนฺติ ‘‘ปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปี’’ติอาทินา วุตฺตํ จตุพฺพิธมฺปิ. อิมินาติ ‘‘ยมฺปิ ตํ ทิฏฺิฏฺานํ’’ติอาทิวจเนน. วิฺาณารมฺมณา ตณฺหามานทิฏฺิโย กถิตา ปาริเสสาเยน . เอวํ ปาริเสสายปริคฺคเห กึ ปโยชนนฺติ อาห ‘‘เทสนาวิลาเสนา’’ติอาทิ. เยสํ วิเนยฺยานํ เทเสตพฺพธมฺมสฺส สรูปํ อนามสิตฺวา อารมฺมณกิจฺจ-สมฺปยุตฺตธมฺม-ผลวิเสสาทิ-ปการนฺตรวิภาวเนน ปฏิเวโธ โหติ, เตสํ ตปฺปการเภเทหิ ธมฺเมหิ, เยสํ ปน เยน เอเกเนว ปกาเรน สรูเปเนว วา วิภาวเน กเต ปฏิเวโธ โหติ, เตสํ ตํ วตฺวา ธมฺมิสฺสรตฺตา ตทฺํ นิรวเสสาการวิภาวนฺจ เทสนาวิลาโส. เตนาห ‘‘ทิฏฺาทิอารมฺมณวเสน วิฺาณํ ทสฺสิต’’นฺติ.

ทิฏฺิฏฺานนฺติ ทิฏฺิ เอว ทิฏฺิฏฺานํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. ยํ รูปํ เอสา ทิฏฺิ ‘‘โลโก จ อตฺตา จา’’ติ คณฺหาติ. ตํ รูปํ สนฺธาย ‘‘โส โลโก โส อตฺตา’’ติ วจนํ วุตฺตนฺติ โยชนา. โส เปจฺจภวิสฺสามีติ อุทฺธมาฆาตนิกวาทวเสนายํ ทิฏฺีติ อาห ‘‘โส อหํ ปรโลกํ คนฺตฺวา นิจฺโจ ภวิสฺสามี’’ติอาทิ. ธุโวติ ถิโร. สสฺสโตติ สพฺพทาภาวี. อวิปริณามธมฺโมติ ชราย มรเณน จ อวิปริณาเมตพฺพสภาโว, นิพฺพิกาโรติ อตฺโถ. ตมฺปิ ทสฺสนนฺติ ตมฺปิ ตถาวุตฺตํ ทิฏฺิทสฺสนํ อตฺตานํ วิย ตณฺหาทิฏฺิคฺคาหวิเสเสน คณฺหาติ. เตนาห ‘‘เอตํ มมา’’ติอาทิ. ทิฏฺารมฺมณาติ ทิฏฺิวิสยา. กถํ ปน ทิฏฺิ ทิฏฺิวิสยา โหตีติ อาห ‘‘วิปสฺสนายา’’ติอาทิ. ปฏิวิปสฺสนากาเลติ ยมกโต สมฺมสนาทิกาลํ สนฺธายาห. ตตฺถ อกฺขรจินฺตกานํ สทฺเท วิย, เวทชฺฌายีนํ เวทสตฺเถ วิย จ ทิฏฺิยํ ทิฏฺิคติกานํ ทิฏฺิคฺคาหปฺปวตฺติ ทฏฺพฺพา.

สมนุปสฺสตีติ ปทสฺส จ ตสฺโส สมนุปสฺสนา อตฺโถติ โยชนา. เตน สมนุปสฺสนา นาม จตุพฺพิธาติ ทสฺเสติ. ตตฺถ าณํ ตาว สมวิสมํ สมฺมา ยาถาวโต อนุปสฺสตีติ สมนุปสฺสนา. อิตรา ปน สํกิเลสวเสน อนุ อนุ ปสฺสนฺตีติ สมนุปสฺสนา. ยทิ เอวํ โหตุ ตาว ทิฏฺิสมนุปสฺสนา มิจฺฉาทสฺสนภาวโต, กถํ ตณฺหามานาติ? ตณฺหายปิ สตฺตานํ ปาปกรเณ อุปายทสฺสนวเสน ปฺาปติรูปิกา ปวตฺติ ลพฺภเตว, ยาย วฺจนนิกติสาจิโยคา สมฺภวนฺติ. มาโนปิ เสยฺยาทินา ทสฺสนวเสเนว ตถา อตฺตานํ อูหตีติ ตณฺหามานานํ สมนุปสฺสนาปติรูปิกา ปวตฺติ ลพฺภตีติ ทฏฺพฺพํ. อวิชฺชมาเนติ ‘‘เอตํ มมา’’ติ เอวํ คเหตพฺเพ ตณฺหาวตฺถุสฺมึ อชฺฌตฺตขนฺธปฺจเก อนุปลพฺภมาเน วินฏฺเ. น ปริตสฺสติ ภยปริตฺตาสตณฺหาปริตฺตาสานํ มคฺเคน สมุคฺฆาติตตฺตา.

๒๔๒. จตูหิ การเณหีติ ‘‘อสติ น ปริตสฺสตี’’ติ วุตฺตมฺปิ อิตเรหิ ตีหิ สห คเหตฺวา วุตฺตํ. จตูหิ การเณหีติ จตุกฺโกฏิกสุฺตากถนสฺส การเณหิ. พหิทฺธา อสตีติ พาหิเร วตฺถุสฺมึ อวิชฺชมาเน. สา ปนสฺส อวิชฺชมานตา ลทฺธวินาเสน วา อลทฺธาลาเภน วาติ ปาฬิยํ – ‘‘อหุ วต เม, ตํ วต เม นตฺถิ, สิยา วต เม, ตํ วตาหํ น ลภามี’’ติ วุตฺตนฺติ ตทุภยํ ปริกฺขารวเสน วิภชิตฺวา ตตฺถ ปริตสฺสนํ ทสฺเสตุํ ‘‘พหิทฺธา ปริกฺขารวินาเส’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยานํ ‘‘รโถ วยฺห’’นฺติ เอวมาทิ. วาหนํ หตฺถิอสฺสาทิ.

เยหิกิเลเสหีติ เยหิ อสนฺตปตฺถนาทีหิ กิเลเสหิ. เอวํ ภเวยฺยาติ เอวํ ‘‘อหุ วต เม’’ติอาทินา โจทนาทิ ภเวยฺย. ทิฏฺิฏฺานาธิฏฺานปริยุฏฺานาภินิเวสานุสยานนฺติ เอตฺถ อปราปรํ ปวตฺตาสุ ทิฏฺีสุ ยา ปรโต อุปฺปนฺนา ทิฏฺิโย, ตาสํ ปุริมุปฺปนฺนา ทิฏฺิโย การณฏฺเน ทิฏฺิฏฺานานิ. อธิกรณฏฺเน ทิฏฺาธิฏฺานานิ, ปริยุฏฺานปฺปตฺติยา สพฺพาปิ ทิฏฺิปริยุฏฺานานิ. ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๒๐๒, ๔๒๗; ๓.๒๗-๒๙; อุทา. ๕๕; มหานิ. ๒๐; เนตฺติ. ๕๙) ปวตฺติยา อภินิเวสา. อปฺปหีนภาเวน สนฺตาเน สยนฺตีติ อนุสยาติ เอวํ ทิฏฺิฏฺานาทีนํ ปทานํ วิภาโค เวทิตพฺโพ. ตณฺหาทีหิ กมฺปนิยตาย สพฺพสงฺขาราว อิฺชิตานีติ สพฺพสงฺขารอิฺชิตานิ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. อุปธียติ เอตฺถ ทุกฺขนฺติ อุปธิ, ขนฺธาว อุปธิ ขนฺธูปธิ. เอส นโย เสเสสุปิ. ตเทว จ อาคมฺม ตณฺหา ขียติ วิรชฺชติ นิรุชฺฌตีติ โยชนา. อุจฺฉิชฺชิสฺสามิ นามสฺสูติอาทีสุ นิปาตมตฺตํ, สํสเย วา. ตาโสติ อตฺตนิยาภาวํ ปฏิจฺจ ตณฺหาปริตฺตาโส เจว ภยปริตฺตาโส จ. เตนาห ‘‘ตาโส เหโส’’ติอาทิ. โน จสฺสํ,โน จ เม สิยาติ ‘‘อห’’นฺติ กิร โกจิ โน จสฺสํ, ‘‘เม’’ติ จ กิฺจิ โน สิยาติ. ตาสปฺปตีการทสฺสนฺเหตํ.

๒๔๓. เอตฺตาวตาติ ‘‘เอวํ วุตฺเต’’ติอาทินา, ปุจฺฉานุสนฺธิวเสน ปวตฺตาย ‘‘ฉยิมานิ, ภิกฺขเว, ทิฏฺิฏฺานานี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๔๑) วา. สาปิ หิ อชฺฌตฺตขนฺธวินาเส ปริตสฺสนกํ ทสฺเสตฺวา อปริตสฺสนกํ ทสฺเสนฺตี ปวตฺตาติ ตสฺสนกสฺส สุฺตาทสฺสนํ อกิจฺจสาธกมฺปิ สุฺตาทสฺสนเมวาติ อิเมสํ วเสน ‘‘จตุกฺโกฏิกา สุฺตา กถิตา’’ติ วุตฺตํ. พหิทฺธา ปริกฺขารนฺติ พาหิรํ สวิฺาณกํ อวิฺาณกฺจ สตฺโตปกรณํ. ตฺหิ ชีวิตวุตฺติยา ปริกฺขารกฏฺเน ‘‘ปริกฺขาโร’’ติ วุตฺตํ. ปริคฺคหํ นาม กตฺวาติ ‘‘มม อิท’’นฺติ ปริคฺคเหตพฺพตาย ปริคฺคหิตํ นาม กตฺวา. สพฺโพปิ ทิฏฺิคฺคาโห ‘‘อตฺตา นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต, อตฺตา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสตี’’ติอาทินา อตฺตทิฏฺิสนฺนิสฺสโยเยวาติ วุตฺตํ ‘‘สกฺกายทิฏฺิปมุขา ทฺวาสฏฺิทิฏฺิโย’’ติ. อยาถาวคฺคาหินา อภินิเวสนปฺาปนานํ อุปตฺถมฺภภาวโต ทิฏฺิ เอว นิสฺสโยติ ทิฏฺินิสฺสโย. ปริคฺคณฺเหยฺยาติ นิจฺจาทิวิเสสยุตฺตํ กตฺวา ปริคฺคณฺเหยฺย. กิเมวํ ปริคฺคเหตุํ สกฺกุเณยฺย ? สพฺพตฺถาติ ‘‘ตํ, ภิกฺขเว, อตฺตวาทุปาทานํ อุปาทิเยถ, ตํ, ภิกฺขเว, ทิฏฺินิสฺสยํ นิสฺสเยถา’’ติ เอเตสุปิ.

๒๔๔. อตฺตนิ วา สตีติ ยสฺส อตฺตโน สนฺตกภาเวน กิฺจิ อตฺตนิยนฺติ วุจฺเจยฺย, ตสฺมึ อตฺตนิ สติ, โส เอว ปน อตฺตา ปรมตฺถโต นตฺถีติ อธิปฺปาโย. สกฺกา หิ วตฺตุํ พาหิรกปริกปฺปิโต อตฺตา ‘‘ปรมตฺโถ’’ติ? สิยา ขนฺธปฺจกํ เยฺยสภาวตฺตา ยถา ตํ ฆโฏ, ยทิ ปน ตทฺํ นาม กิฺจิ อภวิสฺส, น ตํ นิยมโต วิปรีตํ สิยาติ? น จ โส ปรมตฺถโต อตฺถิ ปมาเณหิ อนุปลพฺภมานตฺตา ตุรงฺคมวิสาณํ วิยาติ. อตฺตนิเย วา ปริกฺขาเร สตีติ ‘‘อิทํ นาม อตฺตโน สนฺตก’’นฺติ ตสฺส กิฺจนภาเวน นิจฺฉิเต กิสฺมิฺจิ วตฺถุสฺมึ สติ. อตฺตโน อิทนฺติ หิ อตฺตนิยนฺติ. อหนฺติ สตีติ ‘‘อหํ นามาย’’นฺติ อหํการวตฺถุภูเต ปรมตฺถโต นิทฺธาริตสรูเป กิสฺมิฺจิ สติ ตสฺส สนฺตกภาเวน มมาติ กิฺจิ คเหตุํ ยุตฺตํ ภเวยฺย. มมาติ สติ ‘‘อห’’นฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อิติ ปรมตฺถโต อตฺตโน อนุปลพฺภมานตฺตา อตฺตนิยํ กิฺจิ ปรมตฺถโต นตฺเถวาติ สพฺพสงฺขารานํ อนตฺตตาย อนตฺตนิยตํ, อนตฺตนิยตาย จ อนตฺตกตํ ทสฺเสติ. ภูตโตติ ภูตตฺถโต. ตถโตติ ตถสภาวโต. ถิรโตติ ิตสภาวโต นิพฺพิการโต.

ยสฺมา หุตฺวา น โหตีติ ยสฺมา ปุพฺเพ อสนฺตํ ปจฺจยสมวาเยน หุตฺวา อุปฺปชฺชิตฺวา ปุน ภงฺคุปคเมน น โหติ, ตสฺมา น นิจฺจนฺติ อนิจฺจํ, อธุวนฺติ อตฺโถ. ตโต เอว อุปฺปาทวยวตฺติโตติ อุปฺปชฺชนวเสน นิรุชฺฌนวเสน จ ปวตฺตนโต. สภาววิคโม อิธ วิปริณาโม, ขณิกตา ตาวกาลิกตา, นิจฺจสภาวาภาโว เอว นิจฺจปฏิกฺเขโป. อนิจฺจธมฺมา หิ เตเนว อตฺตโน อนิจฺจภาเวน อตฺถโต นิจฺจตํ ปฏิกฺขิปนฺติ นาม. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘น นิจฺจนฺติ อนิจฺจ’’นฺติ. อุปฺปาทชราภงฺควเสน รูปสฺส นิรนฺตรพาธตาติ ปฏิปีฬนากาเรนสฺส ทุกฺขตา. สนฺตาโป ทุกฺขทุกฺขตาทิวเสน สนฺตาปนํ ปริทหนํ, ตโต เอวสฺส ทุสฺสหตาย ทุกฺขมตา. ติสฺสนฺนํ ทุกฺขตานํ สํสารทุกฺขสฺส จ อธิฏฺานตาย ทุกฺขวตฺถุกตา. สุขสภาวาภาโว เอว สุขปฏิกฺเขโป. วิปริณามธมฺมนฺติ ชราย มรเณน จ วิปริณมนสภาวํ. ยสฺมา อิทํ รูปํ ปจฺจยสมวาเยน อุปฺปาทํ, อุปฺปาทานนฺตรํ ชรํ ปตฺวา อวสฺสเมว ภิชฺชติ, ภินฺนฺจ ภินฺนเมว, นาสฺส กสฺสจิ สงฺกโมติ ภวนฺตรานุปคมนสงฺขาเตน สงฺกมาภาเวน วิปริณามธมฺมตํ ปากฏํ กาตุํ ‘‘ภวสงฺกนฺติ อุปคมนสภาว’’นฺติ วุตฺตํ. ปกติภาววิชหนํ สภาววิคโม นิรุชฺฌนเมว. นฺติ อนิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ รูปํ. อิมินาติ ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ติ รูปสฺส ตณฺหาทิคฺคาหานํ วตฺถุภาวปฏิกฺเขเปน. รูปฺหิ อุปฺปนฺนํ ิตึ มา ปาปุณาตุ, ิติปฺปตฺตํ มา ชีรตุ, ชรปฺปตฺตํ มา ภิชฺชตุ, อุทยพฺพเยหิ มา กิลมิยตูติ น เอตฺถ กสฺสจิ วสีภาโว อตฺถิ, สฺวายมสฺส อวสวตฺตนฏฺโ อนตฺตตาสลฺลกฺขณสฺส การณํ โหตีติ อาห ‘‘อวสวตฺตนากาเรน รูปํ, ภนฺเต, อนตฺตาติ ปฏิชานนฺตี’’ติ. นิวาสิการกเวทกอธิฏฺายกวิรเหน ตโต สุฺตา สุฺฏฺโ, สามิภูตสฺส กสฺสจิ อภาโว อสฺสามิกฏฺโ, ยถาวุตฺตวสวตฺติภาวาภาโว อนิสฺสรฏฺโ, ปรปริกปฺปิตอตฺตสภาวาภาโว เอว อตฺตปฏิกฺเขปฏฺโ.

ยสฺมา อนิจฺจลกฺขเณน วิย ทุกฺขลกฺขณํ, ตทุภเยน อนตฺตลกฺขณํ สุวิฺาปยํ, น เกวลํ, ตสฺมา ตทุภเยเนตฺถ อนตฺตลกฺขณวิภาวนํ กตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภควา หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อนิจฺจวเสนาติ อนิจฺจตาวเสน. ทุกฺขวเสนาติ ทุกฺขตาวเสน. น อุปปชฺชตีติ น ยุชฺชติ. ตเมว อยุชฺชมานตํ ทสฺเสตุํ ‘‘จกฺขุสฺส อุปฺปาโทปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมา อตฺตวาที อตฺตานํ นิจฺจํ ปฺเปติ, จกฺขุํ ปน อนิจฺจํ, ตสฺมา จกฺขุ วิย อตฺตาปิ อนิจฺโจ อาปนฺโน. เตนาห ‘‘ยสฺส โข ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ เวตีติ วิคจฺฉติ นิรุชฺฌติ. อิติ จกฺขุ อนตฺตาติ จกฺขุสฺส อุทยพฺพยวนฺตตาย อนิจฺจตา, อตฺตโน จ อตฺตวาทินา อนิจฺจตาย อนิจฺฉิตตฺตา จกฺขุ อนตฺตา.

กามํ อนตฺตลกฺขณสุตฺเต (สํ. นิ. ๓.๕๙; มหาว. ๒๐) – ‘‘ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, รูปํ อนตฺตา, ตสฺมา รูปํ อาพาธาย สํวตฺตตี’’ติ รูปสฺส อนตฺตตาย ทุกฺขตา วิภาวิตา วิย ทิสฺสติ, ตถาปิ ‘‘ยสฺมา รูปํ อาพาธาย สํวตฺตติ, ตสฺมา อนตฺตา’’ติ ปากฏตาย สาพาธตาย รูปสฺส อตฺตสาราภาโว วิภาวิโต, ตโต เอว จ ‘‘น ลพฺภติ รูเป เอวํ เม รูปํ โหตุ, เอวํ เม รูปํ มา อโหสี’’ติ รูเป กสฺสจิ อนิสฺสรตา, ตสฺส จ อวสวตฺตนากาโร ทสฺสิโตติ อาห ‘‘ทุกฺขวเสน อนตฺตตํทสฺเสตี’’ติ. ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขนฺติ ยํ วตฺถุ อนิจฺจํ, ตํ ทุกฺขํ อุทยพฺพยปฏิปีฬิตตฺตา, ยํ ปน นิจฺจํ ตทภาวโต, ตํ สุขํ ยถา ตํ นิพฺพานนฺติ อธิปฺปาโย. ยํ ตนฺติ การณนิทฺเทโสวายํ, ยสฺมา รูปํ อนิจฺจํ, ตํ ตสฺมาติ อตฺโถ. ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตาติ เอตฺถ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อนิจฺจนฺติ อิมินา ฆฏาทิ วิย ปจฺจยุปฺปนฺนตฺตา รูปํ อนิจฺจนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ. อิมินาว นเยน ‘‘อนตฺตา’’ติ วตฺตุํ ลพฺภมาเนปิ ‘‘อนตฺตา’’ติ วตฺตา นาม นตฺถิ. เอวํ ทุกฺขนฺติ วทนฺตีติ เอตฺถาปิ ยถารหํ วตฺตพฺพํ ‘‘อกฺขิสูลาทิวิการปฺปตฺตกาเล วิย ปจฺจยุปฺปนฺนตฺตา ทุกฺขํ รูป’’นฺติอาทินา. ทุทฺทสํ ทุปฺปฺาปนํ. ตถา หิ สรภงฺคาทโยปิ สตฺถาโร นาทฺทสํสุ, กุโต ปฺาปนา. ตยิทํ อนตฺตลกฺขณํ.

ตสฺมาติหาติอาทินา ติยทฺธคตรูปํ ลกฺขณตฺตยํ อาโรเปตฺวา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เอตรหิ อฺทาปี’’ติ. ตํ ปน ยาทิสํ ตาทิสมฺปิ ตถา วุตฺตนฺติ อชฺฌตฺตาทิวิเสโสปิ วตฺตพฺโพ. ปิ-สทฺเทน วา ตสฺสาปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

๒๔๕. อุกฺกณฺตีติ นาภิรมติ. อฺตฺถ ‘‘นิพฺพิทา’’ติ พลววิปสฺสนา วุจฺจติ, สานุโลมา ปน สงฺขารุเปกฺขา ‘‘วุฏฺานคามินี’’ติ, สา อิธ กถํ นิพฺพิทา นาม ชาตาติ อาห ‘‘วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาย หี’’ติอาทิ. อิมินา สิขาปตฺตนิพฺเพทตาย วุฏฺานคามินี อิธ นิพฺพิทานาเมน วุตฺตาติ ทสฺเสติ.

‘‘โส อนุปุพฺเพน สฺคฺคํ ผุสตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๑๔, ๔๑๕) วตฺวา ‘‘สฺา โข โปฏฺปาท ปมํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา าณ’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๔๑๖) วุตฺตตฺตา สฺคฺคนฺติ วุตฺตา โลกิยาสุ ปหานสฺาสุ สิขาปตฺตภาวโต. ธมฺมฏฺิติาณนฺติ วุตฺตา อิทปฺปจฺจยตาทสฺสนสฺส มตฺถกปฺปตฺตีติ กตฺวา. ตโต ปรฺหิ อสงฺขตารมฺมณํ าณํ โหติ. เตนาห – ‘‘ปุพฺเพ โข สุสิม ธมฺมฏฺิติาณํ, ปจฺฉา นิพฺพาเน าณ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๗๐). ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคนฺติ วุตฺตา มคฺคาธิคมสฺส ปริปนฺถภูตสพฺพสํกิเลสวิสุทฺธิ ปธานิกสฺส โยคิโน, ปธานภาวนาย วา ชาตํ องฺคนฺติ กตฺวา. ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธีติ วุตฺตา ปรมุกฺกํสคตปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิภาวโต. อตมฺมยตนฺติ เอตฺถ ตมฺมยตา นาม ตณฺหา, กามตณฺหาทีสุ ตาย ตาย นิพฺพตฺตตฺตา ตมฺมยํ นาม เตภูมิกปฺปวตฺตํ, ตสฺส ภาโวติ กตฺวา. ตสฺสา ตณฺหาย ปริยาทานโต วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา อตมฺมยตาติ วุจฺจติ. นิสฺสายาติ ตํ อตมฺมยตํ ปจฺจยํ กตฺวา. อาคมฺมาติ ตสฺเสว เววจนํ. นานตฺตาติ นานาสภาวา พหู อเนกปฺปการา. นานตฺตสิตาติ นานารมฺมณนิสฺสิตา รูปาทิวิสยา. เอกตฺตาติ เอกสภาวา. เอกตฺตสิตาติ เอกํเยว อารมฺมณํ นิสฺสิตา. ตํ นิสฺสายาติ ตํ เอกตฺตสิตํ อุเปกฺขํ ปจฺจยํ กตฺวา. เอติสฺสาติ เอติสฺสา อุเปกฺขาย. ปหานํ โหตีติ อฺาณุเปกฺขโต ปภุติ สพฺพํ อุเปกฺขํ ปชหิตฺวา ิตสฺส ‘‘อตมฺมยตา’’ติ วุตฺตาย วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาย อรูปาวจรสมาปตฺติอุเปกฺขาย วิปสฺสนุเปกฺขาย จ ปหานํ โหตีติ ปริยาทานนฺติ วุตฺตาติ. สพฺพสงฺขารคตสฺส มุฺจิตุกมฺยตาปฏิสงฺขานสฺส สิขาปตฺตภาวโต วุฏฺานคามินี มุฺจิตุกมฺยตา ปฏิสงฺขานนฺติ จ วุตฺตา. มุทุมชฺฌาทิวเสน ปวตฺติอาการมตฺตํ, อตฺถโต เอกตฺถา มุฺจิตุกมฺยตาทโย, พฺยฺชนเมว นานํ. ทฺวีหิ นาเมหีติ โคตฺรภุ, โวทานนฺติ อิเมหิ ทฺวีหิ นาเมหิ.

วิราโคติ มคฺโค, อจฺจนฺตเมว วิรชฺชติ เอเตนาติ วิราโค, เตน. มคฺเคน เหตุภูเตน. วิมุจฺจตีติ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺติวเสน วิมุจฺจติ. เตนาห ‘‘ผลํ กถิต’’นฺติ.

มหาขีณาสโวติ ปสํสาวจนํ ยถา ‘‘มหาราชา’’ติ. ตถา หิ ตํ ปสํสนฺโต สตฺถา ‘‘อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุกฺขิตฺตปลิโฆ อิติปี’’ติอาทิมาหาติ. ตทตฺถํ วิวริตุํ ‘‘อิทานิ ตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยถาภูเตหีติ ยาถาวโต ภูเตหิ. ทุรุกฺขิปนฏฺเนาติ ปจุรชเนหิ อุกฺขิปิตุํ อสกฺกุเณยฺยภาเวน. นิพฺพานนครปฺปเวเส วิพนฺธเนน ปลิโฆ วิยาติ ปลิโฆติ วุจฺจติ. มตฺถกจฺฉินฺโน ตาโล ปตฺตผลาทีนํ อนงฺคโต ตาลาวตฺถุ อสิเว ‘‘สิวา’’ติ สมฺา วิย. เตนาห ‘‘สีสจฺฉินฺนตาโล วิย กตา’’ติ. ปุนพฺภวสฺส กรณสีโล, ปุนพฺภวํ วา ผลํ อรหตีติ โปโนภวิโก. เอวํภูโต ปน ปุนพฺภวํ เทติ นามาติ อาห ‘‘ปุนพฺภวทายโก’’ติ. ปุนพฺภวขนฺธานํ ปจฺจโยติ อิมินา ชาติสํสาโรติ ผลูปจาเรน การณํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ปริกฺขาติ วุจฺจติ สนฺตานสฺส ปริกฺขิปนโต. สํกิณฺณตฺตาติ สพฺพโส กิณฺณตฺตา วินาสิตตฺตา. คพฺภีรานุคตฏฺเนาติ คมฺภีรํ อนุปวิฏฺฏฺเน. ลุฺจิตฺวาติ อุทฺธริตฺวา. เอตานีติ กามราคสฺโชนาทีนิ. อคฺคฬาติ วุจฺจนฺติ อวธารณฏฺเน. อคฺคมคฺเคน ปติโต มานทฺธโช เอตสฺสาติ ปติตมานทฺธโช. อิตรภาโรโรปนสฺส ปุริมปเทหิ ปกาสิตตฺตา ‘‘มานภารสฺเสว โอโรปิตตฺตา ปนฺนภาโรติ อธิปฺเปโต’’ติ วุตฺตํ. มานสํโยเคเนว วิสํยุตฺตตฺตาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปฺจปิ ขนฺเธ อวิเสสโต อสฺมีติ คเหตฺวา ปวตฺตมาโน ‘‘อสฺมิมาโน’’ติ อธิปฺเปโตติ วุตฺตํ ‘‘รูเป อสฺมีติ มาโน’’ติอาทิ.

นครทฺวารสฺส ปริสฺสยปฏิพาหนตฺถฺเจว โสภนตฺถฺจ อุโภสุ ปสฺเสสุ เอสิกตฺถมฺเภ นิขณิตฺวา เปนฺตีติ อาห ‘‘นครทฺวาเร อุสฺสาปิเต เอสิกตฺถมฺเภ’’ติ. ปาการวิทฺธํสเนเนว ปริกฺขาย ภูมิสมกรณํ โหตีติ อาห ‘‘ปาการํ ภินฺทนฺโต ปริกฺขํ สํกิริตฺวา’’ติ. เอวนฺติอาทิ อุปมาสํสนฺทนํ. สนฺโต สํวิชฺชมาโน กาโย ธมฺมสมูโหติ สกฺกาโย, อุปาทานกฺขนฺธปฺจกํ. ทฺวตฺตึส กมฺมการณา ทุกฺขกฺขนฺเธ อาคตา. อกฺขิโรคสีสโรคาทโย อฏฺนวุติ โรคา. ราชภยาทีนิ ปฺจวีสติ มหาภยานิ.

๒๔๖. อนธิคมนียวิฺาณตนฺติ ‘‘อิทํ นาม นิสฺสาย อิมินา นาม อากาเรน ปวตฺตตี’’ติ เอวํ ทุวิฺเยฺยจิตฺตตํ. อนฺเวสนฺติ ปจฺจตฺเต เอกวจนนฺติ อาห ‘‘อนฺเวสนฺโต’’ติ. สตฺโตปิ ตถาคโตติ วุจฺจติ ‘‘ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๖๕) วิย. สตฺโต หิ ยเถโก กมฺมกิเลเสหิ อิตฺถตฺตํ อาคโต, ตถา อปโรปิ อาคโตติ ‘‘ตถาคโต’’ติ วุจฺจติ. อุตฺตมปุคฺคโลติ ภควนฺตํ สนฺธาย วทติ. ขีณาสโวปีติ โย โกจิ ขีณาสโวปิ ‘‘ตถาคโต’’ติ อธิปฺเปโต. โสปิ หิ ยเถโก จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สูปฏฺิตจิตฺโต สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา อนุตฺตรํ อรหตฺตํ อาคโต อธิคโต, ตถา อปโรปิ อาคโตติ ‘‘ตถาคโต’’ติ วุจฺจติ. อสํวิชฺชมาโนติ ปรมตฺถโต อนุปลพฺภนีโย. อวินฺเทยฺโยติ น วินฺทิตพฺโพ, ทุวิฺเยฺโยติ อตฺโถ.

ตถาคโต สตฺโต ปุคฺคโลติ น ปฺเปมิ ปรมตฺถโต สตฺตสฺเสว อภาวโตติ อธิปฺปาโย. กึ ปฺเปสฺสามิ ปฺตฺติอุปาทานสฺสปิ ธรมานกสฺส อภาวโต. ‘‘อนุปฺปาโท เขมํ, อนุปฺปตฺติ เขม’’นฺติอาทินา อสงฺขตาย ธาตุยา ปกฺขนฺธนวเสน ปวตฺตํ อคฺคผลสมาปตฺติอตฺถํ วิปสฺสนาจิตฺตํ วา.

ตุจฺฉาติ กรเณ นิสฺสกฺกวจนนฺติ อาห ‘‘ตุจฺฉเกนา’’ติ. วินยตีติ วินโย, โส เอว เวนยิโก. ตถา มนฺติ ตถาภูตํ มํ. ปรมตฺถโต วิชฺชมานสฺส หิ สตฺตสฺส อภาวํ วทนฺโต สตฺตวินาสปฺาปโก จ นาม สิยา, อหํ ปน ปรมตฺถโต อวิชฺชมานํ ตํ ‘‘นตฺถี’’ติ วทามิ. ยถา จ โลโก โวหรติ, ตเถว ตํ โวหรามิ, ตถาภูตํ มํ เย สมณพฺราหฺมณา ‘‘เวนยิโก สมโณ โคตโม’’ติ วทนฺตา อสตา ตุจฺฉา มุสา อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺตีติ โยชนา. อปฺปฏิสนฺธิกสฺส ขีณาสวสฺส จริมจิตฺตํ นิรุปาทานโต อนุปาทาโน วิย ชาตเวโท ปรินิพฺพุตํ อิทํ นาม นิสฺสิตนฺติ น ปฺายตีติ วทนฺโต กิเมตฺตาวตา อุจฺเฉทวาที ภเวยฺย, นาหํ กทาจิปิ อตฺถิ, นาปิ โกจิ อตฺถีติ วทามิ. เอวํ สนฺเต กึ นิสฺสาย เต โมฆปุริสา สโต สตฺตสฺส นาม อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปตีติ วทนฺตา อสตา…เป… อพฺภาจิกฺขนฺตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.

มหาโพธิมณฺฑมฺหีติ โพธิมณฺฑคฺคหเณน สตฺตสตฺตาหมาห. เตน ธมฺมจกฺกปวตฺตนโต (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๓; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) ปุพฺเพ วุตฺตํ ตนฺติเทสนํ วทติ . จตุสจฺจเมว ปฺเปมีติ เอเตน สจฺจวิมุตฺตา สตฺถุเทสนา นตฺถีติ ทสฺเสติ. เอตฺถ จ – ‘‘ปุพฺเพ เจว เอตรหิ จ ทุกฺขฺเจว ปฺเปมิ ทุกฺขสฺส จ นิโรธ’’นฺติ วทนฺโต ภควา นาหํ กทาจิปิ ‘‘อตฺตา อุจฺฉิชฺชติ, วินสฺสตี’’ติ วา, ‘‘อตฺตา นาม โกจิ อตฺถี’’ติ วา วทามิ. เอวํ สนฺเต กึ นิสฺสาย เต โมฆปุริสา ‘‘สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปตี’’ติ อสตา ตุจฺเฉน อพฺภาจิกฺขนฺตีติ ทสฺเสติ. ปเรติ อมามกา, มม โอวาทสฺส อภาชนภูตาติ อตฺโถติ อาห ‘‘สจฺจานิ…เป… อสมตฺถปุคฺคลา’’ติ. อธิปฺปาเยนาติ อิมินา เตสํ อธิปฺปายมตฺตํ, โรสนวิเหสนานิ ปน ตถาคตสฺส อากาสสฺส วิลิขนํ วิย น สมฺภวนฺติเยวาติ ทสฺเสติ. อาหนติ จิตฺตนฺติ อาฆาโต. อปฺปตีตา โหนฺติ เอเตนาติ อปฺปจฺจโย. จิตฺตํ น อภิราธยตีติ อนภิรทฺธิ. อตุฏฺีติ ตุฏฺิปฏิปกฺโข ตถาปวตฺโต จิตฺตุปฺปาโท, โกโธ เอว วา.

ปเรติ อฺเ เอกจฺเจ. อานนฺทนฺติ ปโมทนฺติ เอเตนาติ อานนฺโท, ปีติยา เอเวตํ อธิวจนํ. โสภนมนตา โสมนสฺสํ, เจตสิกสุขสฺเสตํ อธิวจนํ. อุปฺปิลติ ปุริมาวตฺถาย ภิชฺชติ วิเสสํ อาปชฺชตีติ อุปฺปิลํ, ตเทว อุปฺปิลาวิตํ, ตสฺส ภาโว อุปฺปิลาวิตตฺตํ. ยาย อุปฺปนฺนาย กายจิตฺตํ วาตปูริตภตฺตา วิย อุทฺธุมายนาการปฺปตฺตํ โหติ, ตสฺสา เคหสฺสิตาย โอทคฺคิยปีติยา เอตํ อธิวจนํ. สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌิตุํ อสมตฺถาติ ทุกฺขเมว อุปฺปชฺชติ นิรุชฺฌติ จ, น อฺโ สตฺโต นาม อตฺถีติ เอวํ ชานิตุํ อสมตฺถา ‘‘อตฺตา นาม อตฺถี’’ติ เอวํทิฏฺิโน อปฺปหีนวิปลฺลาสา. อุตฺตมํ ปสาทนียฏฺานํ ตถาคตมฺปิ อกฺโกสนฺติ, กิมงฺคํ ปน ภิกฺขูติ อธิปฺปาโย.

๒๔๗. อนตฺตนิเยปิ ขนฺธปฺจเก มิจฺฉาคาหวเสน อตฺตนิยสฺาย ปวตฺตสฺส ฉนฺทราคสฺส ปหานํ. อมฺหากํ เนว อตฺตาติ ยสฺมา รูปเวทนาทิเยว อตฺตคฺคาหวตฺถุ ตพฺพินิมุตฺตสฺส โลภเนยฺยสฺส อภาวโต. เอตํ ติณกฏฺสาขาปลาสํ น อมฺหากํ รูปํ, น วิฺาณํ, ตสฺมา อมฺหากํ เนว อตฺตาติ โยชนา. อชฺฌตฺติกสฺส วตฺถุโน เนว อตฺตาติ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา พาหิรวตฺถุ อตฺตนิยภาเวน ปฏิกฺขิตฺตํ โหตีติ อาห ‘‘อมฺหากํ จีวราทิปริกฺขาโรปิ น โหตี’’ติ. ขนฺธปฺจกํเยวาติ พาหิรวตฺถุํ นิทสฺสนํ กตฺวา ขนฺธปฺจกํเยว น ตุมฺหากนฺติ ปชหาเปติ. น อุปฺปาเฏตฺวา กนฺทํ วิย. น ลุฺจิตฺวา วา เกเส วิยาติ. อิมินา รูปาทีนํ นามมุเขน ปหานํ อิจฺฉนฺติ. อุลฺลิงฺคิตมตฺถํ ฉนฺทราควินเยน ปชหาเปตีติ สรูปโต ทสฺเสติ.

๒๔๘. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วา’’ติอาทิ เทสนา ติปริวฏฺฏํ. ยาว อิมํ านนฺติ ‘‘เอวํ สฺวากฺขาโต’’ติ ยาวายํ ปาฬิปเทโส. สุวิฺเยฺยภาเวน อกฺขาตตฺตาปิ สฺวากฺขาโตติ อาห ‘‘สุกถิตตฺตา เอว อุตฺตาโน วิวโฏ ปกาสิโต’’ติ. ติริยํ วิทารเณน ฉินฺนํ, ทีฆโส ผาลเนน ภินฺนํ, ตโต เอว ตตฺถ ตตฺถ สิพฺพิตคณฺิกตชิณฺณวตฺถํ ปิโลติกา, ตทภาวโต ฉินฺนปิโลติโก, ปิโลติกรหิโตติ อตฺโถ. อิริยาปถ-สณฺปนอวิชฺชมานฌาน-วิปสฺสนานิ ฉินฺนาย อวิชฺชมานาย ปฏิปตฺติยา สิพฺพนคณฺิกรณสทิสานิ, ตาทิสํ อิธ นตฺถีติ อาห ‘‘น เหตฺถ…เป… อตฺถี’’ติ. ปติฏฺาตุํ น ลภตีติ เปสเลหิ สทฺธึ สํวาสวเสนปิ ปติฏฺาตุํ น ลภติ, วิเสสาธิคมวเสน ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.

การณฺฑวํ นิทฺธมถาติ วิปนฺนสีลตาย กจวรภูตํ ปุคฺคลํ กจวรมิว นิรเปกฺขา อปเนถ. กสมฺพุฺจาปกสฺสถาติ กสฏภูตฺจ นํ ขตฺติยาทีนํ มชฺฌคตํ สมฺภินฺนํ ปคฺฆริตกุฏฺํ จณฺฑาลํ วิย อปกสฺสถ นิกฺกฑฺฒถ. กึ การณํ? สงฺฆาราโม นาม สีลวนฺตานํ กโต, น ทุสฺสีลานํ, ยโต เอตเทว. ตโต ปลาเป วาเหถ, อสฺสมเณ สมณมานิเนติ ยถา ปลาปา อนฺโตสารรหิตา อตณฺฑุลา พหิ ถุเสน วีหิ วิย ทิสฺสนฺติ, เอวํ ปาปภิกฺขู อนฺโตสีลรหิตาปิ พหิ กาสาวาทิปริกฺขาเรน ภิกฺขู วิย ทิสฺสนฺติ, ตสฺมา ‘‘ปลาปา’’ติ วุจฺจนฺติ, เต ปลาเป วาเหถ โอธุนาถ วิธมถ. ปรมตฺถโต อสฺสมเณ เวสมตฺเตน สมณมานิเน เอวํ นิทฺธมิตฺวาน…เป…ปติสฺสตาติ. ตตฺถ กปฺปยวฺโหติ กปฺเปถ, กโรถาติ วุตฺตํ โหติ. ปติสฺสตาติ ปติ ปติ สตา สมฺปชานนฺตา สุฏฺุ ปชานนฺตา. ปติสฺสตา วา สปฺปติสฺสา อฺมฺํ สคารวา. อเถวํ สุทฺธา สุทฺเธหิ สํวาสํ กปฺเปนฺตา ทิฏฺิสีลสามฺเน สมคฺคา. อนุกฺกเมน ปริปากคตปฺตาย นิปกา. สพฺพสฺเสวิมสฺส ทุกฺขวฏฺฏสฺส อนฺตํ กริสฺสถ, ปรินิพฺพานํ ปาปุณิสฺสถาติ อตฺโถ.

วฏฺฏํ เตสํ นตฺถิ ปฺาปนาย สพฺพโส สมุจฺฉินฺนวฏฺฏมูลกตฺตา.

ธมฺมํ อนุสฺสรนฺติ, ธมฺมสฺส วา อนุสฺสรณสีลาติ ธมฺมานุสาริโน. เอวํ สทฺธานุสาริโนปิ เวทิตพฺพา. ปฏิปนฺนสฺสาติ ปฏิปชฺชมานสฺส, โสตาปตฺติมคฺคฏฺโปิ อธิปฺเปโต. อธิมตฺตนฺติ พลวํ. ปฺาวาหีติ ปฺํ วาเหติ, ปฺา วา อิมํ ปุคฺคลํ วหตีติ ปฺาวาหีติปิ วทนฺติ. ปฺาปุพฺพงฺคมนฺติ ปฺํ ปุเรจาริกํ กตฺวา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ปฺาสงฺขาเตน ธมฺเมน สรติ อนุสฺสรตีติ ธมฺมานุสารี. สทฺธาวาหีติ สทฺธํ วาเหติ, สทฺธา วา อิมํ ปุคฺคลํ วหตีติ สทฺธาวาหีติปิ วทนฺติ. สทฺธาปุพฺพงฺคมนฺติ สทฺธํ ปุเรจาริกํ กตฺวา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล สทฺธาย สรติ อนุสฺสรตีติ สทฺธานุสารี. สทฺธามตฺตนฺติ ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินา พุทฺธสุพุทฺธตาย สทฺทหนมตฺตํ. มตฺต-สทฺเทน อเวจฺจปฺปสาทํ นิวตฺเตติ. เปมมตฺตนฺติ ยถาวุตฺตสทฺธานุสาเรน อุปฺปนฺนํ ตุฏฺิมตฺตํ. สิเนโหติ เกจิ. เอวํ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา นิสินฺนานนฺติ กลาปสมฺมสนาทิวเสน อารทฺธวิปสฺสนานํ. เอกา สทฺธาติ วิปสฺสนานุสาเรน สฺวากฺขาตธมฺมตา สิทฺธา, ตโต เอว เอกา เสฏฺา อุฬารา สทฺธา อุปฺปชฺชติ. เอกํ เปมนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สคฺเค ปิตา วิย โหนฺตีติ เตสํ สทฺธาเปมานํ สคฺคสํวตฺตนิยตาย อพฺยภิจารีภาวมาห. จูฬโสตาปนฺโนติ วทนฺติ เอกเทเสน สจฺจานุโพเธ ิตตฺตา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

อลคทฺทูปมสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๓. วมฺมิกสุตฺตวณฺณนา

๒๔๙. ปิยวจนนฺติ ปิยสมุทาจาโร. วิฺุชาติกา หิ ปรํ ปิเยน สมุทาจรนฺตา ‘‘ภว’’นฺติ วา, ‘‘เทวานํ ปิโย’’ติ วา, ‘‘อายสฺมา’’ติ วา สมุทาจรนฺติ, ตสฺมา สมฺมุขา สมฺโพธนวเสน ‘‘อาวุโส’’ติ, ติโรกฺขํ ‘‘อายสฺมา’’ติ อยมฺปิ สมุทาจาโร. มหากสฺสปอุรุเวลกสฺสปาทโย อฺเปิ กสฺสปนามกา อตฺถีติ ‘‘กตรสฺส กสฺสปสฺสา’’ติ ปุจฺฉนฺติ. รฺาติ โกสลรฺา. ‘‘สฺชานึสู’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘อยํ ปนา’’ติอาทิ อารทฺธํ. อสฺสาติ กุมารกสฺสปสฺส, ‘‘สฺชานึสู’’ติ วุตฺตสฺชานนสฺส วา. ปุฺานิ กโรนฺโตติ กปฺปสตสหสฺสํ เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ นิพฺพตฺติตฺวา ทานาทีนิ ปุฺานิ ภาเวนฺโต. โอสกฺกนฺเตติ ปริหายมาเน. ปมนฺติ กุมาริกากาเล. สตฺถา อุปาลิตฺเถรํ ปฏิจฺฉาเปสิ ตํ อธิกรณํ วินยกมฺเมเนวสฺสา ภิกฺขุนิยา ปพฺพชฺชาย อโรคภาวํ.

ปฺตฺติวิภาวนาติ ‘‘อนฺธวน’’นฺตฺเวว ปฺายมานสฺส วิภาวนา. โอลียตีติ สงฺกุจติ สณิกํ วตฺตติ. ภาณโกติ สรภาณโก. ยํ อตฺถิ, ตํ คเหตฺวาติ อิทานิ ปริเยสิตพฺพฏฺานํ นตฺถิ, ยถาคตํ ปน ยํ อตฺถิ, ตํ คเหตฺวา. พลวคุเณติ อธิมตฺตคุเณ. กสฺสปภควโต กาเล นิรุฬฺหสมฺาวเสน วจนสนฺตติยา อวิจฺเฉเทน จ อิมสฺมิมฺปิ พุทฺธุปฺปาเท ตํ ‘‘อนฺธวน’’นฺตฺเวว ปฺายิตฺถ, อุปรูปริวฑฺฒมานาย ปถวิยา อุปริ รุกฺขคจฺฉาทีสุ สฺชายนฺเตสุปีติ. เสกฺขปฏิปทนฺติ เสกฺขภาวาวหํ วิสุทฺธิปฏิปตฺตึ.

อฺตร-สทฺโท อปากเฏ วิย ปากเฏปิ วตฺตติ เอก-สทฺเทน สมานตฺถตฺตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อภิชานาตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภยเภรวทสฺสิตมฺปิ อภิกฺกนฺต-สทฺทสฺส อตฺถุทฺธารํ อิธ ทสฺเสนฺโต เอวํ เหฏฺา ตตฺถ ตตฺถ กตา อตฺถสํวณฺณนา ปรโต ตสฺมึ ตสฺมึ สุตฺตปเทเส ยถารหํ วตฺตพฺพาติ นยทสฺสนํ กโรติ. กฺจนสนฺนิภตฺตจตา สุวณฺณวณฺณคฺคหเณน คหิตาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ฉวิย’’นฺติ. ฉวิคตา ปน วณฺณธาตุ เอว ‘‘สุวณฺณวณฺโณ’’ติ เอตฺถ วณฺณคฺคหเณน คหิตาติ อปเร. วณฺณียติ กิตฺตียติ อุคฺโฆสนนฺติ วณฺโณ, ถุติ. วณฺณียติ อสงฺกรโต ววตฺถปียตีติ วณฺโณ, กุลวคฺโค. วณฺณียติ ผลํ เอเตน ยถาสภาวโต วิภาวียตีติ วณฺโณ, การณํ. วณฺณนํ ทีฆรสฺสาทิวเสน สณฺหนนฺติ วณฺโณ, สณฺานํ. วณฺณียติ อณุมหนฺตาทิวเสน ปมียตีติ วณฺโณ, ปมาณํ. วณฺเณติ วิการมาปชฺชมานํ หทยงฺคตภาวํ ปกาเสตีติ วณฺโณ, รูปายตนํ. เอวํ เตน เตน ปวตฺตินิมิตฺเตน วณฺณ-สทฺทสฺส ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ ปวตฺติ เวทิตพฺพา.

อนวเสสตฺตํ สกลตา เกวลตา. เกวลกปฺปาติ เอตฺถ เกจิ อีสํ อสมตฺตา เกวลา เกวลกปฺปาติ วทนฺติ, เอวํ สติ อนวเสสตฺโถ เอว เกวล-สทฺโท สิยา. อนตฺถนฺตเรน ปน กปฺป-สทฺเทน ปทวฑฺฒนํ กตฺวา เกวลา เอว เกวลกปฺปา. ตถา วา กปฺปนียตฺตา ปฺเปตพฺพตฺตา เกวลกปฺปา. เยภุยฺยตา พหุลภาโว. อพฺยามิสฺสตา วิชาติเยน อสงฺกโร สุทฺธตา. อนติเรกตา ตํมตฺตตา วิเสสาภาโว. เกวลกปฺปนฺติ เกวลํ ทฬฺหํ กตฺวาติ อตฺโถ. เกวลํ วุจฺจติ นิพฺพานํ สพฺพสงฺขตวิวิตฺตตฺตา. เตนาห ‘‘วิสํโยคาทิอเนกตฺโถ’’ติ. เกวลํ เอตสฺส อธิคตํ อตฺถีติ เกวลี, สจฺฉิกตนิโรโธ ขีณาสโว.

กปฺป-สทฺโท ปนายํ สอุปสคฺโค อนุปสคฺโค จาติ อธิปฺปาเยน โอกปฺปนียปเท ลพฺภมานํ โอกปฺปสทฺทมตฺตํ นิทสฺเสติ, อฺถา กปฺป-สทฺทสฺส อตฺถุทฺธาเร โอกปฺปนียปทํ อนิทสฺสนเมว สิยา. สมณกปฺเปหีติ วินยสิทฺเธหิ สมณโวหาเรหิ. นิจฺจกปฺปนฺติ นิจฺจกาลํ. ปฺตฺตีติ นามํ. นามฺเหตํ ตสฺส อายสฺมโต, ยทิทํ กปฺโปติ. กปฺปิตเกสมสฺสูติ กตฺตริกาย เฉทิตเกสมสฺสุ. ทฺวงฺคุลกปฺโปติ มชฺฌนฺหิกเวลาย วีติกฺกนฺตาย ทฺวงฺคุลตาวิกปฺโป. เลโสติ อปเทโส. อนวเสสํ ผริตุํ สมตฺถสฺสปิ โอภาสสฺส เกนจิ การเณน เอกเทสผรณมฺปิ สิยา, อยํ ปน สพฺพโสว ผรีติ ทสฺเสตุํ สมนฺตตฺโถ กปฺป-สทฺโท คหิโตติ อาห ‘‘อนวเสสํ สมนฺตโต’’ติ.

สมณสฺาสมุทาจาเรนาติ ‘‘อหํ สมโณ’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนสฺาสมุฏฺิเตน สมุทาจาเรน, ตนฺนิมิตฺเตน วา ตพฺโพหาเรน. ปุพฺพโยเคติ ปุพฺพโยคกถายํ. ปปฺโจ เอสาติ เอโส ตุมฺเหสุ อาคเตสุ ยถาปวตฺโต ปฏิสนฺถาโร กถาสมุทาจาโร จ อมฺหากํ ปปฺโจ. เอตฺตกมฺปิ อกตฺวา สมณธมฺมเมว กโรมาติ อธิปฺปาโย.

อริยภูมึ ปตฺโตติ อนาคามิผลํ อธิคโต. ปกฺกุสาติกุลปุตฺตํ สนฺธาย วทติ. วิภชิตฺวาติ วิภาคํ กตฺวา. ตุริตาลปนวเสนาติ ตุริตํ อาลปนวเสน. เตน ทุลฺลโภ อยํ สมโณ, ตสฺมา สีฆมสฺส ปฺโห กเถตพฺโพ, อิมินา จ สีฆํ คนฺตฺวา สตฺถา ปุจฺฉิตพฺโพติ ตุริตํ อาลปีติ ทสฺเสติ. ‘‘ยถา วา’’ติอาทินา ปน วจนาลงฺการวเสน ทฺวิกฺขตฺตุํ อาลปติ. เอวมาหาติ ‘‘ภิกฺขุ ภิกฺขู’’ติ เอวํ ทฺวิกฺขตฺตุํ อโวจ.

วมฺมิกปริยาเยน กรชกายํ ปจฺจกฺขํ กตฺวา ทสฺเสนฺตี เทวตา ‘‘อยํ วมฺมิโก’’ติ อาห. ตาย ปน ภาวตฺถสฺส อภาสิตตฺตา สทฺทตฺถเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘ปุรโต ิตํ…เป… อยนฺติ อาหา’’ติ อโวจ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. มณฺฑูกนฺติ ถลมณฺฑูกํ. โส หิ อุทฺธุมายิกาติ วุจฺจติ, น อุทกมณฺฑูโก. ตสฺส นิวาสโต วาโต มา โข พาธยิตฺถาติ ‘‘อุปริวาตโต อปคมฺมา’’ติ วุตฺตํ. กถํ ปนายํ เทวตา อิมินา นีหาเรน อิเม ปฺเห เถรสฺส อาจิกฺขีติ? เกจิ ตาว อาหุ – ยถาสุตมตฺถํ อุปมาภาเวน คเหตฺวา อตฺตโน ปฏิภาเนน อุปเมยฺยตฺถํ มนสา จินฺเตตฺวา ตํ ภควาว อิมสฺส อาจิกฺขิสฺสติ. สา จ เทสนา อตฺถาย หิตาย สุขาย โหตีติ ‘‘อยํ วมฺมิโก’’ติอาทินา อุปมาวเสเนว ปนฺนรส ปฺเห เถรสฺส อาจิกฺขิ. กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล กิร พาราณสิยํ เอโก เสฏฺิ อฑฺโฒ มหทฺธโน มหนฺตํ นิธานํ นิทหิตฺวา ปลิฆาทิอาการานิ กานิจิปิ ลงฺคานิ ตตฺถ เปสิ. โส มรณกาเล อตฺตโน สหายสฺส พฺราหฺมณสฺส อาโรเจสิ – ‘‘อิมสฺมึ าเน มยา นิธานํ นิทหิตํ, ตํ มม ปุตฺตสฺส วิฺุตํ ปตฺตสฺส ทสฺเสตี’’ติ วตฺวา กาลมกาสิ. พฺราหฺมโณ สหายกปุตฺตสฺส วิฺุตํ ปตฺตกาเล ตํ านํ ทสฺเสสิ. โส นิขนิตฺวา สพฺพปจฺฉา นาคํ ปสฺสิ, นาโค อตฺตโน ปุตฺตํ ทิสฺวา ‘‘สุเขเนว ธนํ คณฺหตู’’ติ อปคจฺฉิ. สฺวายมตฺโถ ตทา โลเก ปากโฏ ชาโต. อยํ ปน เทวตา ตทา พาราณสิยํ คหปติกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต สตฺถริ ปรินิพฺพุเต อุรํ ทตฺวา สาสเน ปพฺพชิโต ปฺจหิ สหายกภิกฺขูหิ สทฺธึ สมณธมฺมมกาสิ. เย สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปฺจ ภิกฺขู นิสฺเสณึ พนฺธิตฺวา’’ติอาทิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยถาสุตมตฺถํ อุปมาภาเวน คเหตฺวา’’ติอาทิ. อปเร ปน ‘‘เทวตา อตฺตโน ปฏิภาเนน อิเม ปฺเห เอวํ อภิสงฺขริตฺวา เถรสฺส อาจิกฺขี’’ติ วทนฺติ. เทวปุตฺเต นิสฺสกฺกํ เทวปุตฺตปฺหตฺตา ตสฺส อตฺถสฺส.

๒๕๑. จตูหิ มหาภูเตหิ นิพฺพตฺโตติ จาตุมหาภูติโก. เตนาห ‘‘จตุมหาภูตมยสฺสา’’ติ. วมติ อุคฺคิรนฺโต วิย โหตีติ อตฺโถ. วนฺตโกติ อุจฺฉฑฺฑโก. วนฺตุสฺสโยติ อุปจิกาหิ วนฺตสฺส มตฺติกาปิณฺฑสฺส อุสฺสยภูโต. วนฺตสิเนหสมฺพทฺโธติ วนฺเตน เขฬสิเนเหน สมฺปิณฺฑิโต. อสุจิกลิมลํ วมตีติ เอตฺถ มุขาทีหิ ปาณกานํ นิคฺคมนโต ปาณเก วมตีติ อยมฺปิ อตฺโถ ลพฺภเตว. อริเยหิ วนฺตโกติ กายภาวสามฺเน วุตฺตํ. ทุกฺขสจฺจปริฺาย วา สพฺพสฺสปิ เตภูมกธมฺมชาตสฺส ปริฺาตตฺตา สพฺโพปิ กาโย อริเยหิ ฉนฺทราคปฺปหาเนน วนฺโต เอว. ตํ สพฺพนฺติ เยหิ ตีหิ อฏฺิสเตหิ อุสฺสิโต, เยหิ นฺหารูหิ สมฺพทฺโธ, เยหิ มํเสหิ อวลิตฺโต, เยน อลฺลจมฺเมน ปริโยนทฺโธ, ยาย ฉวิยา รฺชิโต, ตํ อฏฺิอาทิสพฺพํ อจฺจนฺตเมว ชิคุจฺฉิตฺวา วิรตฺตตายวนฺตเมว. ‘‘ยถา จา’’ติอาทินา วตฺตพฺโพปมโตปิ วมฺมิโก วิย วมฺมิโกติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ.

สมฺภวติ เอตสฺมาติ สมฺภโว, มาตาเปตฺติโก สมฺภโว เอตสฺสาติ มาตาเปตฺติกสมฺภโว. ตสฺส. อุปจิยติ เอเตนาติ อุปจโย’ โอทนกุมฺมาสํ อุปจโย เอตสฺสาติ โอทนกุมฺมาสูปจโย. ตสฺส. อธุวสภาวตาย อนิจฺจธมฺมสฺส, เสทคูถ-ปิตฺต-เสมฺหาทิ-ธาตุกฺโขภ-ครุภาวทุคฺคนฺธานํ วิโนทนาย อุจฺฉาเทตพฺพธมฺมสฺส, ปริโต สมฺพาหเนน ปริมทฺทิตพฺพธมฺมสฺส, ขเณ ขเณ ภิชฺชนสภาวตาย เภทนธมฺมสฺส, ตโต เอว วิกิรณสภาวตาย วิทฺธํสนธมฺมสฺสาติ ธมฺม-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ตนุวิเลปเนนาติ กายาวเลปเนน อุจฺฉาทนวิเลปเนน. องฺคปจฺจงฺคาพาธวิโนทนตฺถายาติ ตาทิสสมุฏฺาน-สรีรวิการวิคมาย. ยสฺมา สุกฺกโสณิตํ อาหาโร, อุจฺฉาทนํ ปริมทฺทนฺจ ยถารหํ อุปฺปาทสฺส, วุฑฺฒิยา จ ปจฺจโย, ตสฺมา อาห ‘‘มาตาเปตฺติก…เป… กถิโต’’ติ. อุจฺจาวจภาโวติ ยถารหํ โยเชตพฺโพ – โอทนกุมฺมาสูปจย-อุจฺฉาทนปริมทฺทนคฺคหเณหิ อุจฺจภาโว, วฑฺฒี. มาตาเปตฺติกสมฺภวคฺคหเณน สมุทโย. อิตเรหิ อวจภาโว, ปริหานิ, อตฺถงฺคโม ปกาสิโต. องฺคปจฺจงฺคานํ สณฺปนมฺปิ หิ วฏฺฏปจฺจยตฺตา วฏฺฏนฺติ.

โกโธ ธูโมติ เอตฺถ ธูมปริยาเยน โกธสฺส วุตฺตตฺตา ธูม-สทฺโท โกเธ วตฺตตีติ วุตฺตํ ‘‘ธูโม วิย ธูโม’’ติ. ภสฺมนีติ ภสฺมํ. โมสวชฺชนฺติ มุสาวาโท. ธูโม เอว ธูมายิตํ. อิจฺฉา ธูมายิตํ เอติสฺสาติ อิจฺฉาธูมายิตา, ปชา. อิจฺฉาธูมายิตสทฺทสฺส ตณฺหาย วุตฺติ วุตฺตนโย เอว. ธูมายนฺโตติ วิตกฺกสนฺตาเปน สํตปฺเปนฺโต, วิตกฺเกนฺโตติ อตฺโถ. ปลิโปติ ทุกฺกรมหากทฺทมํ. ติมูลนฺติ ตีหิ มูเลหิ ปติฏฺิตํ วิย อจลํ ปวตฺตนฺติ วุตฺตํ. รโช จ ธูโม จ มยา ปกาสิตาติ รชสภาวกรณฏฺเน ‘‘รโช’’ติ จ ธูมสภาวกรณฏฺเน ‘‘ธูโม’’ติ จ มยา ปกาสิตา. ปกติธูโม วิย อคฺคิสฺส กิเลสคฺคิชาลสฺส ปฺาณภาวโต. ธมฺมเทสนาธูโม าณคฺคิสนฺธีปนสฺส ปุพฺพงฺคมภาวโต. อยํ รตฺตึ ธูมายนาติ ยา ทิวา กตฺตพฺพกมฺมนฺเต อุทฺทิสฺส รตฺติยํ อนุวิตกฺกนา, อยํ รตฺตึ ธูมายนา.

สตฺตนฺนํ ธมฺมานนฺติ อิทํ สุตฺเต (จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๒๘) อาคตนเยน วุตฺตํ. สุตฺตฺจ ตถา อาราธนเวเนยฺยชฺฌาสยวเสน. ตเทกฏฺตาย วา ตทฺกิเลสานํ. สุนฺทรปฺโติ าตตีรณปหานปริฺาย ปฺาย สุนฺทรปฺโ.

เอตนฺติ ‘‘สตฺถ’’นฺติ เอตํ อธิวจนํ สํกิเลสธมฺมานํ สสนโต สมุจฺฉินฺทนโต. นฺติ วีริยํ. ปฺาคติกเมว ปฺาย หิตสฺเสว อธิปฺเปตตฺตา. โลกิยาย ปฺาย อารมฺภกาเล โลกิยวีริยํ คเหตพฺพํ, โลกุตฺตราย ปฺาย ปวตฺติกฺขเณ โลกุตฺตรวีริยํ คเหตพฺพนฺติ โยชนา. อตฺถทีปนาติ อุปเมยฺยตฺถทีปนี อุปมา.

คามโตติ อตฺตโน วสนคามโต. มนฺเตติ อาถพฺพนมนฺเต. เต หิ พฺราหฺมณา อรฺเ เอว วาเจนฺติ ‘‘มา อฺเ อสฺโสสุ’’นฺติ. ตถา อกาสีติ จตฺตาโร โกฏฺาเส อกาสิ. เอวเมตฺถ วมฺมิกปฺหสฺเสว วเสน อุปมา อาคตา, เสสานํ วเสน เหฏฺา วุตฺตนเยน เวทิตพฺพา.

ลงฺคนฏฺเน นิวารณฏฺเน ลงฺคี, ปลิโฆ. าณมุเขติ วิปสฺสนาาณวีถิยํ. ปตตีติ ปวตฺตติ. กมฺมฏฺานอุคฺคหปริปุจฺฉาวเสนาติ จตุสจฺจกมฺมฏฺานสฺส อุคฺคณฺหเนน ตสฺส อตฺถปริปุจฺฉาวเสน เจว วิปสฺสนาสงฺขาต-อตฺถวินิจฺฉย-ปริปุจฺฉาวเสน จ. สพฺพโส าตุํ อิจฺฉา หิ ปริปุจฺฉา. วิปสฺสนา จ อนิจฺจาทิโต สพฺพเตภูมกธมฺมานํ าตุํ อิจฺฉติ. เอวํ วิปสฺสนาวเสน อวิชฺชาปหานมาห, อุปริกตฺตพฺพสพฺภาวโต น ตาว มคฺควเสน.

วลฺลิอนฺตเร วาติ วา-สทฺโท ปํสุอนฺตเร วา มตฺติกนฺตเร วาติ อวุตฺตวิกปฺปตฺโถ. จิตฺตาวิลมตฺตโกวาติ จิตฺตกฺโขภมตฺตโกว. อนิคฺคหิโตติ ปฏิสงฺขานพเลน อนิวาริโต. มุขวิกุลนํ มุขสงฺโกโจ. หนุสฺโจปนํ ปาเปติ อนฺโตชปฺปนาวตฺถายํ. ทิสา วิโลกนํ ปาเปติ ยตฺถ พาเธตพฺโพ ิโต, ตํทสฺสนตฺถํ นิวารกปริวารณตฺถํ. ทณฺฑสตฺถาภินิปาตนฺติ ทณฺฑสตฺถานํ ปรสฺส อุปริ นิปาตนาวตฺถํ. เยน โกเธน อนิคฺคหิเตน มาตาทิกํ อฆาเตตพฺพํ อุคฺฆาเตตฺวา ‘‘อยุตฺตํ วต มยา กต’’นฺติ อตฺตานมฺปิ หนติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ ‘‘ปรฆาตนมฺปิ อตฺตฆาตนมฺปิ ปาเปตี’’ติ. เยน วา ปรสฺส หฺมานสฺส วเสน ฆาตโกปิ ฆาตนํ ปาปุณาติ, ตาทิสสฺส วเสนายมตฺโถ เวทิตพฺโพ. โกธสามฺเน เหตํ วุตฺตํ ‘‘ปรํ ฆาเตตฺวา อตฺตานํ ฆาเตตี’’ติ. ปรมุสฺสทคโตติ ปรมุกฺกํสคโต. ทฬฺหํ ปริสฺสยมาวหตาย โกโธว โกธูปายาโส. เตนาห ‘‘พลวปฺปตฺโต’’ติอาทิ.

ทฺเวธาปถสมาโหติ อปฺปฏิปตฺติเหตุภาวโต.

กุสลธมฺโม น ติฏฺติ นีวรเณหิ นิวาริตปรมตฺตา. สมถปุพฺพงฺคมํ วิปสฺสนํ ภาวยโต ปมํ สมเถน นีวรณวิกฺขมฺภนํ โหติ, วิปสฺสนา ปน ตทงฺควเสเนว ตานิ นีหรตีติ วุตฺตํ ‘‘วิกฺขมฺภนตทงฺควเสนา’’ติ.

‘‘กุมฺโมว องฺคานิ สเก กปาเล’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๗) กุมฺมสฺส องฺคภาเวน วิเสสโต ปาทสีสานิ เอว วุจฺจนฺตีติ อาห ‘‘ปฺเจว องฺคานิ โหนฺตี’’ติ. วิปสฺสนาจารสฺส วุจฺจมานตฺตา อธิการโต สมฺมสนียานเมว ธมฺมานํ อิธ คหณนฺติ ‘‘สพฺเพปิ สงฺขตา ธมฺมา’’ติ วิเสสํ กตฺวาว วุตฺตํ. เตนาห ภควา ‘‘ปฺจนฺเนตํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อธิวจน’’นฺติ.

สุนนฺติ โกฏฺฏนฺติ เอตฺถาติ สูนา, อธิกุฏฺฏนนฺติ อาห ‘‘สูนาย อุปรี’’ติ. อสินาติ มํสกนฺตเนน. ฆาติยมานาติ หฺมานา วิพาธิยมานา. วตฺถุกามานํ อุปริ กตฺวาติ วตฺถุกาเมสุ เปตฺวา เต อจฺจาธานํ กตฺวา. กนฺติตาติ ฉินฺทิตา. โกฏฺฏิตาติ พิลโส วิภชิตา. ฉนฺทราคปฺปหานนฺติ ฉนฺทราคสฺส วิกฺขมฺภนปฺปหานํ.

สมฺมตฺตาติ มุจฺฉิตา สมฺมูฬฺหา. นนฺทีราคํ อุปคมฺม วฏฺฏํ วฑฺเฒนฺตีติ สมฺมูฬฺหตฺตา เอวอาทีนวํ อปสฺสนฺตา นนฺทีราคสฺส อารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา ตํ ปริพฺรูเหนฺติ. นนฺทีราคพทฺธาติ นนฺทีราเค ลคฺคตฺตา เตน พทฺธา. วฏฺเฏ ลคฺคนฺตีติ เตภูมเก วฏฺเฏ สชฺชนฺติ. ตตฺถ สชฺชตฺตา เอว ทุกฺขํ ปตฺวาปิ น อุกฺกณฺนฺติ น นิพฺพินฺทนฺติ. อิธ อนวเสสปฺปหานํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘จตุตฺถมคฺเคน นนฺทีราคปฺปหานํ กถิต’’นฺติ.

อนงฺคณสุตฺเต (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๖๓) ปกาสิโต เอว ‘‘ฉนฺทาทีหิ น คจฺฉนฺตี’’ติอาทินา. ‘‘พุทฺโธ โส ภควา’’ติอาทิ ‘‘นโม กโรหี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔๙, ๒๕๑) วุตฺตนมกฺการสฺส กรณาการทสฺสนํ. โพธายาติ จตุสจฺจสมฺโพธาย. ตถา ทมถสมถตรณปรินิพฺพานานิ อริยมคฺควเสน เวทิตพฺพานิ. สมถปรินิพฺพานานิ ปน อนุปาทิเสสวเสนปิ โยเชตพฺพานิ. กมฺมฏฺานํ อโหสีติ วิปสฺสนากมฺมฏฺานํ อโหสิ. เอตสฺส ปฺหสฺสาติ เอตสฺส ปนฺนรสมสฺส ปฺหสฺส อตฺโถ. เอวํ อิตเรสุปิ วตฺตพฺพํ วิปสฺสนากมฺมฏฺานํ ขีณาสวคุเณหิ มตฺถกํ ปาเปนฺโต ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฏฺเปสิ, น ปุจฺฉิตานุสนฺธินาติ อธิปฺปาโย. นนุ จ ปุจฺฉาวเสนายํ เทสนา อารทฺธาติ? สจฺจํ อารทฺธา, เอวํ ปน ‘‘ปุจฺฉาวสิโก นิกฺเขโป’’ติ วตฺตพฺพํ, น ‘‘ปุจฺฉานุสนฺธิวเสน นิฏฺปิตา’’ติ. อนฺตรปุจฺฉาวเสน เทสนาย อปริวตฺติตตฺตา อารมฺภานุรูปเมว ปน เทสนา นิฏฺปิตา.

วมฺมิกสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๔. รถวินีตสุตฺตวณฺณนา

๒๕๒. มหาโควินฺเทน ปริคฺคหิตตากิตฺตนํ ตทา มคธราเชน ปริคฺคหิตูปลกฺขณํ. ตสฺส หิ โส ปุโรหิโต. มหาโควินฺโทติ ปุราตโน เอโก มคธราชาติ เกจิ. คยฺหตีติ คโห, ราชูนํ คโห ราชคหํ. นคร-สทฺทาเปกฺขาย นปุํสกนิทฺเทโส. อฺเเปตฺถ ปกาเรติ ราชูหิ ทิสฺวา สมฺมา ปติฏฺาปิตตฺตา เตสํ คหํ เคหภูตนฺติปิ ราชคหํ. อารกฺขสมฺปตฺติอาทินา อนตฺถุปฺปตฺติเหตุตาย อุปคตานํ ปฏิราชูนํ คหํ คหภูตนฺติปิ ราชคหํ, อารามรามณียกาทีหิ ราชเต, นิวาสสุขตาทินา สตฺเตหิ มมตฺตวเสน คยฺหติ, ปริคฺคยฺหตีติ วา ราชคหนฺติ เอวมาทิเก ปกาเร. พุทฺธกาเล จ จกฺกวตฺติกาเล จาติ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ. เวฬูหิ ปริกฺขิตฺตํ อโหสิ, น ปน เกวลํ กฏฺกปวนเมว. รฺโ อุยฺยานกาเล ปติฏฺาปิตอฏฺฏาลกวเสน อฏฺฏาลกยุตฺตํ.

ชนนํ ชาติ, ชาติยา ภูมิ ชาติภูมํ, ชายิ วา มหาโพธิสตฺโต เอตฺถาภิ ชาติ, สา เอว ภูมีติ ชาติภูมํ, สา อิเมสํ นิวาโสติ ชาติภูมกาติ อาห ‘‘ชาติภูมกาติ ชาติภูมิวาสิโน’’ติ. กสฺส ปนายํ ชาติภูมีติ อาห ‘‘ตํ โข ปนา’’ติอาทิ. เตน อนฺสาธารณาย ชาติยา อธิปฺเปตตฺตา สเทวเก โลเก สุปากฏภาวโต วิเสสเนน วินาปิ วิสิฏฺวิสโยว อิธ ชาติ-สทฺโท วิฺายตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘สพฺพฺุโพธิสตฺตสฺส ชาตฏฺานสากิยชนปโท’’ติ. ตตฺถปิ กปิลวตฺถุสนฺนิสฺสโย ปเทโสติ อาห ‘‘กปิลวตฺถาหาโร’’ติ.

ครุธมฺมภาววณฺณนา

สากิยมณฺฑลสฺสาติ สากิยราชสมูหสฺส. ทสนฺนํ อปฺปิจฺฉกถาทีนํ วตฺถุ ทสกถาวตฺถุ, อปฺปิจฺฉตาทิ. ตตฺถ สุปฺปติฏฺิตตาย ตสฺส ลาภี ทสกถาวตฺถุลาภี. ตตฺถาติ ทสกถาวตฺถุสฺมึ.

ครุกรณียตาย ธมฺโม ครุ เอตสฺสาติ ธมฺมครุ, ตสฺส ภาโว ธมฺมครุตา, ตาย. ‘‘อชฺฌาสเยน เวทิตพฺโพ’’ติ วตฺวา น เกวลํ อชฺฌาสเยเนว, อถ โข กายวจีปโยเคหิปิ เวทิตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธมฺมครุตาเยว หี’’ติอาทิมาห. ติยามรตฺตึ ธมฺมกถํ กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘กุมฺภการสฺส นิเวสเน ติยามรตฺตึ วสนฺโต ธมฺมกถํ กตฺวา’’ติ เอวํ วจนเสสวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อฺถา ยถาลาภวเสน อตฺเถ คยฺหมาเน ติยามรตฺตึ ธมฺมกถา กตาติ อาปชฺชติ, น จ ตํ อตฺถิ. วกฺขติ หิ ‘‘พหุเทว รตฺตินฺติ ทิยฑฺฒยามมตฺต’’นฺติ. ทสพลาทิคุณวิเสสา วิย ธมฺมคารวเหตุกา ปรหิตปฏิปตฺติปิ สพฺพพุทฺธานํ มชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณํ วิย สทิสา เอวาติ อิมสฺส ภควโต ธมฺมคารวกิตฺตเน ‘‘กสฺสโปปิ ภควา’’ติอาทินา กสฺสปภควโต ธมฺมคารวํ ทสฺเสติ.

จาริกํ นิกฺขมีติ ชนปทจาริกํ จริตุํ นิกฺขมิ. ชนปทจาริกาย อกาเล นิกฺขนฺตตฺตา โกสลราชาทโย วาเรตุํ อารภึสุ. ปวาเรตฺวา หิ จรณํ พุทฺธาจิณฺณํ. ปุณฺณาย สมฺมาปฏิปตฺตึ ปจฺจาสีสนฺโต ภควา ‘‘กึ เม กริสฺสสี’’ติ อาห.

อนหาโตวาติ ธมฺมสวนุสฺสุกฺเกน สายนฺเห พุทฺธาจิณฺณํ นฺหานํ อกตฺวาว. อตฺตหิตปรหิตปฏิปตฺตีสุ เอกิสฺสา ทฺวินฺนฺจ อตฺถิตาสิทฺธา จตุพฺพิธตา ปฏิปตฺติกตา เอว นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปฏิปนฺนโก จ นาม…เป… จตุพฺพิโธ โหตี’’ติ. ปฏิกฺเขปปุพฺพโกปิ หิ ปฏิปนฺโน อตฺถโต ปฏิปนฺนตฺโถ เอวาติ. กามํ อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน ตาย สมฺมาปฏิปตฺติยา สาสนํ โสภติ, น ปน สาสนํ วฑฺเฒติ อปฺโปสฺสุกฺกภาวโต, น จ การุณิกสฺส ภควโต สพฺพถา มโนรถํ ปูเรติ. ตถา หิ ภควา ปมโพธิยํ เอกสฏฺิยา จ อรหนฺเตสุ ชาเตสุ – ‘‘จรถ, ภิกฺขเว, พหุชนหิตายา’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๘๖-๘๘; มหาว. ๓๒) ภิกฺขู ปรหิตปฏิปตฺติยํ นิโยเชสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอวรูปํ ภิกฺขุํ ภควา น ปุจฺฉติ, กสฺมา? น มยฺหํ สาสนสฺส วุฑฺฒิปกฺเข ิโต’’ติ.

สมุทาโย อปฺปเกน อูโนปิ อนูโน วิย โหตีติ พากุลตฺเถรํ จตุตฺถราสิโต พหิ กตฺวาปิ ‘‘อสีติมหาเถรา วิยา’’ติ วุตฺตํ. อสีติมหาเถรสมฺา วา อวยเวปิ อฏฺสมาปตฺติสามฺา วิย ทฏฺพฺพา. อีทิเส าเน พหูนํ เอกโต กถนํ มหตา กณฺเน จ กถนํ สตฺถุ จิตฺตาราธนเมวาติ เตหิ ภิกฺขูหิ ตถา ปฏิปนฺนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เต ภิกฺขู เมฆสทฺทํ สุตฺวา’’ติอาทิมาห. คุณสมฺภาวนายาติ วกฺขมานคุณเหตุกาย สมฺภาวนาย สมฺภาวิโต, น เยน เกนจิ กิจฺจสมตฺถตาทินา.

ครุธมฺมภาววณฺณนา นิฏฺิตา.

อปฺปิจฺฉตาทิวณฺณนา

อปฺป-สทฺทสฺส ปริตฺตปริยายตํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘พฺยฺชนํ สาวเสสํ วิยา’’ติ. เตนาห ‘‘น หิ ตสฺสา’’ติอาทิ. อปฺป-สทฺโท ปเนตฺถ อภาวตฺโถติ สกฺกา วิฺาตุํ ‘‘อปฺปาพาธตฺจ สฺชานามี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๒๕; ๒.๑๓๔) วิย.

อตฺริจฺฉตา นาม (อ. นิ. ฏี. ๑.๑.๖๓) อตฺร อตฺร อิจฺฉาติ กตฺวา. อสนฺตคุณสมฺภาวนตาติ อตฺตนิ อวิชฺชมานํ คุณานํ วิชฺชมานานํ วิย ปเรสํ ปกาสนา. สทฺโธติ มํ ชโน ชานาตูติ วตฺตปฏิปตฺติการกวิเสสลาภีติ ชานาตุ ‘‘วตฺตปฏิปตฺติอาปาถกชฺฌายิตา’’ติ เอวมาทินา. สนฺตคุณสมฺภาวนาติ อิจฺฉาจาเร ตฺวา อตฺตนิ วิชฺชมานสีลธุตธมฺมาทิคุณวิภาวนา. ตาทิสสฺส หิ ปฏิคฺคหเณ อมตฺตฺุตาปิ โหติ.

คณฺหนฺโตเยว อุมฺมุชฺชิ อฺเสํ อชานนฺตานํเยวาติ อธิปฺปาโย.

อปฺปิจฺฉตาปธานํ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน จตุพฺพิธํ อิจฺฉาปเภทํ ทสฺเสตฺวา ปุนปิ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน จตุพฺพิธํ อิจฺฉาปเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปโรปิ จตุพฺพิโธอปฺปิจฺโฉ’’ติอาทิมาห. ทายกสฺส วสนฺติ ทายกสฺส จิตฺตวสํ. เทยฺยธมฺมสฺส วสนฺติ เทยฺยธมฺมสฺส อปฺปพหุภาวํ. อตฺตโน ถามนฺติ อตฺตโน ยาปนมตฺตกถามํ.

เอกภิกฺขุปิ น อฺาสิ โสสานิกวตฺเต สมฺมเทว วุตฺติตฺตา. อพฺโพกิณฺณนฺติ อวิจฺเฉทํ. ทุติโย มํ น ชาเนยฺยาติ ทุติโย สหายภูโตปิ ยถา มํ ชานิตุํ น สกฺกุเณยฺย, ตถา สฏฺิ วสฺสานิ นิรนฺตรํ สุสาเน วสามิ, ตสฺมา อหํ อโห โสสานิกุตฺตโม.

ธมฺมกถาย ชนตํ โขเภตฺวาติ โลมหํสนสาธุการทานเจลุกฺเขปาทิวเสน สนฺนิปติตํ อิตรฺจ ‘‘กถํ นุ โข อยฺยสฺส สนฺติเกว ธมฺมํ โสสฺสามา’’ติ โกลาหลวเสน มหาชนํ โขเภตฺวา. คโตติ ‘‘อยํ โส, เตน รตฺติยํ ธมฺมกถา กตา’’ติ ชานนภเยน ปริยตฺติอปฺปิจฺฉตาย ปริเวณํ คโต.

ตโยกุลปุตฺตา วิยาติ ปาจีนวํสทาเย สมคฺควาสํ วุตฺถา ตโย กุลปุตฺตา วิย. ปหายาติ ปุพฺพภาเค ตทงฺคาทิวเสน ปจฺฉา อคฺคมคฺเคเนว ปชหิตฺวา.

อปฺปิจฺฉตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทฺวาทสวิธสนฺโตสวณฺณนา

ปกติทุพฺพลาทีนํ ครุจีวราทีนิ นผาสุภาวาวหานิ สรีรเขทาวหานิ จ โหนฺตีติ ปโยชนวเสน นอตฺริจฺฉตาทิวเสน ตานิ ปริวตฺเตตฺวา ลหุกจีวรปริโภโค น สนฺโตสวิโรธีติ อาห ‘‘ลหุเกน ยาเปนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหตี’’ติ. มหคฺฆจีวรํ, พหูนิ วา จีวรานิ ลภิตฺวาปิ ตานิ วิสฺสชฺเชตฺวา ตทฺสฺส คหณํ ยถาสารุปฺปนเย ิตตฺตา น สนฺโตสวิโรธีติ อาห ‘‘เตสํ…เป… ธาเรนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหตี’’ติ. เอวํ เสสปจฺจเยสุปิ ยถาพลยถาสารุปฺปสนฺโตสนิทฺเทเสสุ อปิสทฺทคฺคหเณ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ. ยถาสารุปฺปสนฺโตโสเยว อคฺโค อโลภชฺฌาสยสฺส อุกฺกํสนโต.

ทฺวาทสวิธสนฺโตสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ติวิธปวิเวกวณฺณนา

เอโกติ เอกากี. คจฺฉตีติ จุณฺณิกอิริยาปถวเสน วุตฺตํ. จรตีติ วิหารโต พหิ สฺจารวเสน, วิหรตีติ ทิวาวิหาราทิวเสน. กายวิเวโกติ จ เนกฺขมฺมาธิมุตฺตสฺส ภาวนานุโยควเสน วิเวกฏฺกายตา, น ฌานวิเวกมตฺตํ. เตนาห ‘‘เนกฺขมฺมาภิรตาน’’นฺติ. ปริสุทฺธจิตฺตานนฺติ นีวรณาทิสํกิเลสโต วิสุทฺธจิตฺตานํ. ปรมโวทานปฺปตฺตานนฺติ วิตกฺกาทิตํตํฌานปฏิปกฺขวิคเมน ปรมํ อุตฺตมํ โวทานํ ปตฺตานํ. นิรุปธีนนฺติ กิเลสุปธิอาทีนํ วิคเมน นิรุปธีนํ.

ติวิธปวิเวกวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจวิธสํสคฺควณฺณนา

สํสีทติ เอเตนาติ สํสคฺโค, ราโค. สวนเหตุโก, สวนวเสน วา ปวตฺโต สํสคฺโค สวนสํสคฺโค. เอส นโย เสเสสุปิ. กายสํสคฺโค ปน กายปรามาโส. อิตฺถี วาติ วธู, ยุวตี วา. สนฺธาเนตุนฺติ ปุพฺเพนาปรํ ฆเฏตุํ. โสตวิฺาณวีถิวเสนาติ อิทํ มูลภูตํ สวนํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตสฺส ปิฏฺิวตฺตกมโนทฺวาริกชวนวีถีสุ อุปฺปนฺโนปิ ราโค สวนสํสคฺโคเยว. ทสฺสนสํสคฺเคปิ เอเสว นโย. อนิตฺถิคนฺธโพธิสตฺโต ปเรหิ กถิยมานวเสน ปวตฺตสวนสํสคฺคสฺส นิทสฺสนํ. ติสฺสทหโร อตฺตนา สุยฺยมานวเสน. ตตฺถ ปมํ ชาตเก เวทิตพฺพนฺติ อิตรํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทหโร กิรา’’ติอาทิมาห. กามราเคน วิทฺโธติ ราคสลฺเลน หทเย อปฺปิโต อนฺโต อนุวิทฺโธ.

โสติ ทสฺสนสํสคฺโค. เอวํ เวทิตพฺโพติ วตฺถุวเสน ปากฏํ กโรติ. ตสฺมึ กิร คาเม เยภุยฺเยน อิตฺถิโย อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา, ตสฺมา เถโร ‘‘สเจ อนฺโตคาเม น จริสฺสสี’’ติ อาห. กาลสฺเสว ปวิฏฺตฺตา ยาคุํ อทาสิ, ตสฺมา ยาคุเมว คเหตฺวา คจฺฉนฺตํ ‘‘นิวตฺตถ, ภนฺเต, ภิกฺขํ คณฺหาหี’’ติ อาหํสุ. ยาจิตฺวาติ ‘‘น มยํ, ภนฺเต, ภิกฺขํ ทาตุกามา นิวตฺเตม, อปิจ อิทํ ภนฺเต การณ’’นฺติ ยาจิตฺวา.

อาทิโต ลปนํ อาลาโป, วจนปฏิวจนวเสน ปวตฺโต ลาโป สลฺลาโป. ภิกฺขุนิยาติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ. ยาย กายจิปิ อิตฺถิยา สนฺตกปริโภควเสน อุปฺปนฺนราโคปิ สมฺโภคสํสคฺโคว.

ปฺจวิธสํสคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

คาหคาหกาทิวณฺณนา

ภิกฺขุโน ภิกฺขูหิ กายปรามาโส กายสมฺพาหนาทิวเสน. กายสํสคฺคนฺติ กายปรามาสสํสคฺคํ. คาหคาหโกติ คณฺหนกานํ คณฺหนโกติ อตฺโถ. คาหมุตฺตโกติ อโยนิโส อามิเสหิ สงฺคณฺหนเกหิ สยํ มุจฺจนโก. มุตฺตคาหโกติ ยถาวุตฺตสงฺคหโต มุตฺตานํ สงฺคณฺหนโก. มุตฺตมุตฺตโกติ มุจฺจนเกหิ สยมฺปิ มุจฺจนโก. คหณวเสน สงฺคณฺหนวเสน. อุปสงฺกมนฺติ ตโต กิฺจิ โลกามิสํ ปจฺจาสีสนฺตา, น ทกฺขิเณยฺยวเสน. ภิกฺขุปกฺเข คหณวเสนาติ ปจฺจยลาภาย สงฺคณฺหนวเสนาติ โยเชตพฺพํ. วุตฺตนเยนาติ ‘‘อามิเสนา’’ติอาทินา วุตฺตนเยน.

านนฺติ อตฺตโน านาวตฺถํ. ปาปุณิตุํ น เทติ อุปฺปนฺนเมว ตํ ปฏิสงฺขานพเลน นีหรนฺโต วิกฺขมฺเภติ. เตนาห ‘‘มนฺเตนา’’ติอาทิ. ยถา ชีวิตุกาโม ปุริโส กณฺหสปฺเปน, อมิตฺเตน วา สห น สํวสติ, เอวํ ขณมตฺตมฺปิ กิเลเสหิ สห น สํวสตีติ อตฺโถ.

จตุปาริสุทฺธิสีลํ โลกิยํ โลกุตฺตรฺจ. ตถา สมาธิปิ. วิปสฺสนาย ปาทกา วิปสฺสนาปาทกาติ อฏฺสมาปตฺติคฺคหเณน ยถา โลกิยสมาธิ คหิโต, เอวํ วิปสฺสนาปาทกา เอเตสนฺติ วิปสฺสนาปาทกาติ อฏฺสมาปตฺติคฺคหเณเนว โลกุตฺตโร สมาธิ คหิโต. ยถา หิ จตฺตาริ รูปชฺฌานานิ อธิฏฺานํ กตฺวา ปวตฺโต มคฺคสมาธิ วิปสฺสนาปาทโก, เอวํ จตฺตาริ อรูปชฺฌานานิ อธิฏฺานํ กตฺวา ปวตฺโตปิ. สมาปตฺติปริยาโย ปน ปุพฺพโวหาเรน เวทิตพฺโพ. ปฏิปกฺขสมุจฺเฉทเนน สมฺมา อาปชฺชนโต วา ยถา ‘‘โสตาปตฺติมคฺโค’’ติ. เอวเมตฺถ สีลสมาธีนมฺปิ มิสฺสกภาโว เวทิตพฺโพ, น ปฺาย เอว. วิมุตฺตีติ อริยผลนฺติ วุตฺตํ ‘‘วิมุตฺติสมฺปนฺโน’’ติ วุตฺตตฺตา. ตฺหิ นิปฺผาทนฏฺเน สมฺปาเทตพฺพํ, น นิพฺพานนฺติ.

เอตฺถ จ อปฺปิจฺฉตาย ลทฺธปจฺจเยน ปริตุสฺสติ, สนฺตุฏฺตาย ลทฺธา เต อคธิโต อมุจฺฉิโตอาทีนวทสฺสี นิสฺสรณปฺโ ปริภุฺชติ, เอวํภูโต จ กตฺถจิ อลคฺคมานสตาย ปวิเวกํ ปริพฺรูเหนฺโต เกนจิ อสํสฏฺโ วิหรติ คหฏฺเน วา ปพฺพชิเตน วา. โส เอวํ อชฺฌาสยสมฺปนฺโน วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา, อนธิคมสฺส อธิคมาย. อารภนฺโต จ ยถาสมาทินฺนํ อตฺตโน สีลํ ปจฺจเวกฺขติ, ตสฺส สีลสฺส สุปริสุทฺธตํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชติ อวิปฺปฏิสาโร, อยมสฺส สีลสมฺปทา. ตสฺส อวิปฺปฏิสารมูลเกหิ ปาโมชฺชปีติปสฺสทฺธิสุเขหิ สมฺมา พฺรูหิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว สมาธิยติ, อยมสฺส สมาธิสมฺปทา. ตโต ยถาภูตํ ชานํ ปสฺสํ นิพฺพินฺทติ, นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ, วิราคา วิมุจฺจติ, อยมสฺส ปฺาสมฺปทา. วิมุตฺตจิตฺตตา ปนสฺส วิมุตฺติสมฺปทา, ตโต วิมุตฺติโต าณทสฺสนนฺติ เอเตสํ ทสนฺนํ กถาวตฺถูนํ อนุปุพฺพี เวทิตพฺพา. ตสฺส โย ทสหิ กถาวตฺถูหิ สมนฺนาคโม, อยํ อตฺตหิตาย ปฏิปตฺติ. ยา เนสํ ปเรสํ สํกิตฺตนํ, อยํ ปรหิตาย ปฏิปตฺติ. ตาสุ ปุริมา าณปุพฺพงฺคมา าณสมฺปยุตฺตา จ, อิตรา กรุณาปุพฺพงฺคมา กรุณาสมฺปยุตฺตา จาติ สพฺพํ าณกรุณากณฺฑํ วตฺตพฺพํ.

ทสหิกถาวตฺถูหิ กรณภูเตหิ ภิกฺขูนํ โอวาทํ เทติ, ‘‘ภิกฺขุนา นาม อตฺริจฺฉตาทิเก ทูรโต วชฺเชตฺวา สมฺมเทว อปฺปิจฺเฉน ภวิตพฺพ’’นฺติอาทินา ตํ ตํ กถาวตฺถุํ ภิกฺขูนํ อุปทิสตีติ อตฺโถ. อุปทิสนฺโต หิ ตานิ ‘‘เตหิ ภิกฺขู โอวทตี’’ติ วุตฺโต. โอวทติเยว สรูปทสฺสนมตฺเตน. สุขุมํ อตฺถํ ปริวตฺเตตฺวาติ เอวมฺปิ อปฺปิจฺฉตา โหติ เอวมฺปีติ อปฺปิจฺฉตาทิวเสน อปราปรํ อปฺปิจฺฉตาวุตฺตึ ทสฺเสตฺวา ตตฺถ สุขุมนิปุณํ อปฺปิจฺฉตาสงฺขาตํ อตฺถํ ชานาเปตุํ น สกฺโกติ. วิฺาเปตีติ ยถาวุตฺเตหิ วิเสเสหิ วิฺาเปติ. การณนฺติ เยน การเณน อปฺปิจฺฉตา อิชฺฌติ, ตํ ปน ‘‘มหิจฺฉตาทีสุ เอเต โทสา, อปฺปิจฺฉตาย อยมานิสํโส’’ติอาทีนวานิสํสทสฺสนํ ทฏฺพฺพํ. สมฺมา เหตุนา อปฺปิจฺฉตํ ทสฺเสตีติ สนฺทสฺสโก. คาเหตุนฺติ ยถา คณฺหติ, ตถา กาตุํ, ตตฺถ ปฏฺเปตุนฺติ อตฺโถ. อุสฺสาหชนนวเสนาติ ยถา ตํ สมาทานํ นิจฺจลํ โหติ, เอวํ อุสฺโสฬฺหิยา อุปฺปาทนวเสน สมฺมเทว อุตฺเตเชตีติ สมุตฺเตชโก. อุสฺสาหชาเตติ อปฺปิจฺฉตาย ชาตุสฺสาเห. วณฺณํ วตฺวา ตตฺถ สมฺปตฺตึ อายติฺจ ลพฺภมานคุณํ กิตฺเตตฺวา สมฺปหํเสติ สมฺมเทว ปกาเรหิ โตเสตีติ สมฺปหํสโก. เอวํ สนฺตุฏฺิอาทีสุ ยถารหํ โยชนา กาตพฺพา.

คาหคาหกาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจลาภวณฺณนา

๒๕๓. สตฺถุ สมฺมุขา เอวํ วณฺโณ อพฺภุคฺคโตติ. อิมินา ตสฺส วณฺณสฺส ยถาภูตคุณสมุฏฺิตตํ ทสฺเสติ. มนฺทมนฺโท วิยาติ อติ วิย อเฉโก วิย. อพลพโล วิยาติ อติ วิย อพโล วิย. ภากุฏิกภากุฏิโก วิยาติ อติ วิย ทุมฺมุโข วิย. อนุมสฺสาติ อนุมสิตฺวา, ทส กถาวตฺถูนิ สรูปโต วิเสสโต จ อนุปริคฺคเหตฺวาติ อตฺโถ. ปริคฺคณฺหนํ ปน เนสํ อนุปวิสนํ วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อนุปวิสิตฺวา’’ติ. สพฺรหฺมจารีหิ วณฺณภาสนํ เอโก ลาโภติ โยชนา. เอวํ เสเสสุปิ. ปตฺถยมาโน เอวมาห ธมฺมครุตายาติ อธิปฺปาโย.

ปฺจลาภวณฺณนา นิฏฺิตา.

จาริกาทิวณฺณนา

๒๕๔. อภิรมนํ อภิรตํ, ตเทว อนุนาสิกโลปํ อกตฺวา วุตฺตํ ‘‘อภิรนฺต’’นฺติ. ภาวนปุํสกฺเจตํ. อนภิรติ นาม นตฺถิ, อภิรมิตฺวา จิรวิหาโรปิ นตฺถิ สมฺมเทว ปริฺาตวตฺถุกตฺตา. สพฺพสหา หิ พุทฺธา ภควนฺโต อสยฺหลาภิโน.

ปุพฺเพ ธมฺมครุตากิตฺตนปสงฺเคน คหิตํ อคฺคหิตฺจ มหากสฺสปปจฺจุคฺคมนาทึ เอกเทเสน ทสฺเสตฺวา วนวาสิติสฺสสามเณรสฺส วตฺถุํ วิตฺถาเรตฺวา ชนปทจาริกํ กเถตุํ ‘‘ภควา หี’’ติอาทิ อารทฺธํ. อากาสคามีหิ สทฺธึ คนฺตุกาโม ‘‘ฉฬภิฺานํ อาโรเจหี’’ติ อาห. สงฺฆกมฺเมน สิชฺฌมานาปิ อุปสมฺปทา สตฺถุ อาณาวเสเนว สิชฺฌนโต ‘‘พุทฺธทายชฺชํ เต ทสฺสามี’’ติ วุตฺตนฺติ วทนฺติ. อปเร ‘‘อปริปุณฺณวีสติวสฺสสฺเสว ตสฺส อุปสมฺปทํ อนุชานนฺโต สตฺถา ‘พุทฺธทายชฺชํ เตทสฺสามี’ติ อโวจา’’ติ วทนฺติ. อุปสมฺปาเทตฺวาติ ธมฺมเสนาปตินา อุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทตฺวา.

นวโยชนสติกํ มชฺฌิมเทสปริยาปนฺนเมว, ตโต ปรํ นาธิปฺเปตํ ทนฺธตาวเสน คมนโต. สมนฺตาติ คตคตฏฺานสฺส จตูสุ ปสฺเสสุ. อฺเนปิ การเณนาติ ภิกฺขูนํ สมถวิปสฺสนาตรุณภาวโต อฺเนปิ มชฺฌิมมณฺฑเล เวเนยฺยานํ าณปริปากาทิการเณน นิกฺขมติ, อนฺโตมณฺฑลํ โอตรติ. สตฺตหิ วาติอาทิ ‘‘เอกํ มาสํ วา’’ติอาทินา วุตฺตานุกฺกเมน โยเชตพฺพํ.

สรีรผาสุกตฺถายาติ เอกสฺมึเยว าเน นิพทฺธวาเสน อุสฺสนฺนธาตุกสฺส สรีรสฺส วิเรจเนน ผาสุภาวตฺถาย. อฏฺุปฺปตฺติกาลาภิกงฺขนตฺถายาติ อคฺคิกฺขนฺธูปมสุตฺต (อ. นิ. ๗.๗๒) มฆเทวชาตกาทิเทสนานํ (ชา. ๑.๑.๙) วิย ธมฺมเทสนาย อฏฺุปฺปตฺติกาลสฺส อากงฺขเนน. สุราปานสิกฺขาปทปฺาปเน (ปาจิ. ๓๒๖) วิย สิกฺขาปทปฺาปนตฺถาย. โพธเนยฺยสตฺเต องฺคุลิมาลาทิเก โพธนตฺถาย. นิพทฺธวาสฺจ ปุคฺคลํ อุทฺทิสฺส จาริกา นิพทฺธจาริกา.

๒๕๕. อปริคฺคหภาวํ กตฺถจิ อลคฺคภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยูถํ ปหาย…เป… มตฺตหตฺถี วิยา’’ติ วุตฺตํ. อสหายกิจฺโจติ สหายกิจฺจรหิโต สีโห วิย. เตนสฺส เอกวิหาริตํ เตชวนฺตตฺจ ทสฺเสติ. ตทา ปน กายวิเวโก น สกฺกา ลทฺธุนฺติ อิทเมตฺถ การณํ ทฏฺพฺพํ. พหูหีติอาทิ ปน สภาวทสฺสนวเสน วุตฺตํ. เถรสฺส ปริสา สุวินีตา จิณฺณครุวาสา ครุโน อิจฺฉานุรูปเมว วตฺตติ.

วุตฺตการณยุตฺเต อทฺธานคมเน จาริกานํ โวหาโร สาสเน นิรุฬฺโหติ อาห ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิ. เกนจิเทว นิมิตฺเตน กิสฺมิฺจิ อตฺเถ ปวตฺตาย สฺาย ตนฺนิมิตฺตรหิเตปิ อฺสฺมึ ปวตฺติ รุฬฺหี นาม. วิชิตมารตฺตา สงฺคามวิชยมหาโยโธ วิย. อฺํ เสวิตฺวาติ ‘‘มม อาคตภาวํ สตฺถุ อาโรเจหี’’ติ อาโรจนตฺถํ อฺํ ภิกฺขุํ เสวิตฺวา.

ภควา ธมฺมํ เทเสนฺโต ตํตํปุคฺคลชฺฌาสยานุรูปํ ตทนุจฺฉวิกเมว ธมฺมึ กถํ กโรตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘จูฬโคสิงฺคสุตฺเต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สามคฺคิรสานิสํสนฺติ ‘‘กจฺจิ ปน โว, อนุรุทฺธา, สมคฺคา สมฺโมทมานา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๓๒๖) สามคฺคิรสานิสํสํ กเถสิ. อาวสถานิสํสนฺติ ‘‘สีตํ อุณฺหํ ปฏิหนตี’’ติอาทินา (จูฬว. ๒๙๕, ๓๑๕) อาวสถปฏิสํยุตฺตํ อานิสํสํ. สติปฏิลาภิกนฺติ โชติปาลตฺเถเร ลามกํ านํ โอติณฺณมตฺเต มหาโพธิปลฺลงฺเก ปน สพฺพฺุตํ ปฏิวิชฺฌิตุํ ปตฺถนํ กตฺวา ปารมิโย ปูเรนฺโต อาคโต. ตาทิสสฺส นาม ปมาทวิหาโร น ยุตฺโตติ ยถา กสฺสโป ภควา โพธิสตฺตสฺส สตึ ปฏิลภิตุํ ธมฺมึ กถํ กเถสิ, ตถา อยํ ภควา ตเมว ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตกถํ ภิกฺขูนํ ฆฏิการสุตฺตํ (ม. นิ. ๒.๒๘๒) กเถสิ. จตฺตาโร ธมฺมุทฺเทเสติ – ‘‘อุปนียติ โลโก อทฺธุโว, อตาโณ โลโก อนภิสฺสโร, อสฺสโก โลโก สพฺพํ ปหาย คมนียํ, อูโน โลโก อติตฺโต ตณฺหาทาโส จา’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๐๕) อิเม จตฺตาโร ธมฺมุทฺเทเส กเถสิ. กามฺเจเต ธมฺมุทฺเทสา รฏฺปาลสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๓๐๔) อายสฺมตา รฏฺปาลตฺเถเรน รฺโ โกรพฺยสฺส กถิตา, เต ปน ภควโต เอว อาหริตฺวา เถเรน ตตฺถ กถิตาติ วุตฺตํ ‘‘รฏฺปาลสุตฺเต’’ติอาทิ. ตถา หิ วุตฺตํ สุตฺเต – ‘‘อตฺถิ โข, มหาราช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาโร ธมฺมุทฺเทสา อุทฺทิฏฺา’’ติอาทิ (ม. นิ. ๒.๓๐๕) ปานกานิสํสกถนฺติ ‘‘อคฺคิหุตฺตํ มุขํ ยฺา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๒.๔๐๐; สุ. นิ. ๕๗๓) อนุโมทนํ วตฺวา ปุน ปกิณฺณกกถาวเสน ปานกปฏิสํยุตฺตํ อานิสํสกถํ กเถสิ. เอกีภาเว อานิสํสํ กเถสิ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ ภคุํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๓.๒๓๘). อนนฺตนยนฺติ อปริมาณเทสนานยํ อปฺปิจฺฉตาทิปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมึ กถํ. เตนาห ‘‘ปุณฺณ, อยมฺปิ อปฺปิจฺฉกถาเยวา’’ติอาทิ พหูหิ ปริยาเยหิ นานานยํ เทเสติ. กถํ ตถา เทสิตํ เถโร อฺาสีติ อาห ‘‘ปฏิสมฺภิทาปตฺตสฺส…เป… อโหสี’’ติ.

จาริกาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

สตฺตวิสุทฺธิปฺหวณฺณนา

๒๕๖. ตโตปฏฺายาติ. ยทา ชาติภูมกา ภิกฺขู สตฺถุ สมฺมุขา เถรสฺส วณฺณํ ภาสึสุ, ตโต ปฏฺาย. สีสานุโลกี หุตฺวา ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธนํ เถเรน สมาคเม อาทรวเสน กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตถา หิ วุตฺตํ ปาเ ‘‘อปฺเปว นามา’’ติอาทิ, ‘‘ตรมานรูโป’’ติ จ. ยํ ปน วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘เอกสฺมึ าเน นิลีน’’นฺติอาทิ, ตํ อการณํ. น หิ ธมฺมเสนาปติ ตสฺส เถรสฺส นิสินฺนฏฺานํ อภิฺาาเณน ชานิตุํ น สกฺโกติ. ‘‘กจฺจิ นุ โข มํ อทิสฺวาว คมิสฺสตี’’ติ อยมฺปิ จินฺตา อาทรวเสเนวาติ ยุตฺตํ. น หิ สตฺถารํ ทฏฺุํ อาคโต สาวโก อปิ อายสฺมา อฺาตโกณฺฑฺโ สตฺถุกปฺปํ ธมฺมเสนาปตึ ตตฺถ วสนฺตํ อทิสฺวาว คจฺฉนโก นาม อตฺถิ. ทิวาวิหารนฺติ สมฺปทาเน อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘ทิวาวิหารตฺถายา’’ติ.

๒๕๗. ปุริมกถายาติ ปมาลาเป. อปฺปติฏฺิตายาติ นปฺปวตฺติตาย. ปจฺฉิมกถา น ชายตีติ ปจฺฉา วตฺตพฺพกถาย อวสโร น โหติ. สตฺต วิสุทฺธิโย ปุจฺฉิ ทิฏฺสํสนฺทนวเสน. าณทสฺสนวิสุทฺธิ นาม อริยมคฺโค. ยสฺมา ตโต อุตฺตริมฺปิ ปตฺตพฺพํ อตฺเถว, ตสฺมา ‘‘จตุปาริสุทฺธิสีลาทีสุ ิตสฺสปิ พฺรหฺมจริยวาโส มตฺถกํ น ปาปุณาตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมาติ พฺรหฺมจริยวาสสฺส มตฺถกํ อปฺปตฺตตฺตา. สพฺพํ ปฏิกฺขิปีติ สตฺตมมฺปิ ปฺหํ ปฏิกฺขิปิ, อิตเรสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.

อปฺปจฺจยปรินิพฺพานนฺติ อนุปาทิเสสนิพฺพานมาห. อิทานิ ปการนฺตเรนปิ อนุปาทาปรินิพฺพานํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทฺเวธา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ คหณูปาทานนฺติ ทฬฺหคฺคหณภูตํ อุปาทานํ . เตนาห ‘‘กามุปาทานาทิก’’นฺติ. ปจฺจยูปาทานนฺติ ยํ กิฺจิ ปจฺจยมาห. โส หิ อตฺตโน ผลํ อุปาทิยติ อุปาทานวเสน คณฺหตีติ อุปาทานนฺติ วุจฺจติ. เตนาห ‘‘ปจฺจยูปาทานํ นาม…เป… ปจฺจยา’’ติ. ‘‘อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจตี’’ติ วจนโต (มหาว. ๒๘, ๓๐) อรหตฺตผลํ อนุปาทาปรินิพฺพานนฺติ กเถนฺติ. น จ อุปาทานสมฺปยุตฺตนฺติ อุปาทาเนหิ เอตํ น สหิตํ นาปิ อุปาทาเนหิ สห ปวตฺติ หุตฺวา. น จ กฺจิ ธมฺมํ อุปาทิยตีติ กสฺสจิ ธมฺมสฺส อารมฺมณกรณวเสน น อุปาทิยติ . ปรินิพฺพุตนฺเตติ อคฺคมคฺเคน กาตพฺพกิเลสปรินิพฺพานปริโยสานนฺเต ชาตตฺตา. อมตธาตุเมว อนุปาทาปรินิพฺพานํ กเถนฺติ, กเถนฺตานฺจ ยถา ตสฺส โกจิ ปจฺจโย นาม นตฺถิ, เอวํ อธิคโตปิ ยถา โกจิ ปจฺจโย นาม น โหติ, ตถา ปรินิพฺพานํ อปจฺจยปรินิพฺพานนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อยํ อนฺโต’’ติอาทิมาห. ปุน ปุจฺฉํ อารภิ อนุปาทาปรินิพฺพานํ สรูปโต ปติฏฺาเปตุกาโม.

๒๕๘. สพฺพปริวตฺเตสูติ สพฺเพสุ ปฺหปริวตฺตเนสุ, ปฺหวาเรสูติ อตฺโถ. สคหณธมฺมเมวาติ ‘‘เอตํ มมา’’ติอาทินา คณฺหตีติ คหณํ, สห คหเณนาติ สคหณํ, อุปาทานิยนฺติ อตฺโถ. วิวฏฺฏสนฺนิสฺสิตสฺส อภาวโต วฏฺฏเมว อนุคโตติ วฏฺฏานุคโต. เตนาห ‘‘จตุปาริสุทฺธิสีลมตฺตสฺสปิ อภาวโต’’ติ. โย ปน จตุพฺพิเธ วิวฏฺฏูปนิสฺสเย สีเล ิโต, โสปิ ‘‘อฺตฺร อิเมหิ ธมฺเมหี’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ.

สตฺตวิสุทฺธิปฺหวณฺณนา นิฏฺิตา.

สตฺตรถวินีตวณฺณนา

๒๕๙. นิสฺสกฺกวจนเมตํ ‘‘ยาว เหฏฺิมโสปานกเฬวรา’’ติอาทีสุ วิย. อตฺโถติ ปโยชนํ. จิตฺตวิสุทฺธิ เหตฺถ สีลวิสุทฺธึ ปโยเชติ ตสฺส ตทตฺถตฺตา. สีลวิสุทฺธิกิจฺจํ กตํ นาม โหติ สมาธิสํวตฺตนโต. สมาธิสํวตฺตนิกา หิ สีลวิสุทฺธิ นาม. สพฺพปเทสูติ ‘‘จิตฺตวิสุทฺธิ ยาวเทว ทิฏฺิวิสุทฺธตฺถา’’ติอาทีสุ สพฺพปเทสุ, ทิฏฺิวิสุทฺธิยํ ิตสฺส จิตฺตวิสุทฺธกิจฺจํ กตํ นาม โหตีติอาทินา โยเชตพฺพํ.

สาวตฺถินครํ วิย สกฺกายนครํ อติกฺกมิตพฺพตฺตา. สาเกตนครํ วิย นิพฺพานนครํ ปาปุณิตพฺพตฺตา . อจฺจายิกสฺส กิจฺจสฺส อุปฺปาทกาโล วิย นวเมเนว ขเณน ปตฺตพฺพสฺส อภิสมยกิจฺจสฺส อุปาทกาโล. ยถา รฺโ สตฺตเมน รถวินีเตน สาเกเต อนฺเตปุรทฺวาเร โอรุฬฺหสฺส น ตาว กิจฺจํ นิฏฺิตํ นาม โหติ, สํวิธาตพฺพสํวิธานํ าติมิตฺตคณปริวุตสฺส สุรสโภชนปริโภเค นิฏฺิตํ นาม สิยา, เอวเมตํ าณทสฺสนวิสุทฺธิยา กิเลเส เขเปตฺวา เตสํเยว ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหานสาธกอริยผลสมงฺคิกาเล อภิสมยกิจฺจํ นิฏฺิตํ นาม โหติ. เตนาห ‘‘โยคิโน…เป… กาโล ทฏฺพฺโพ’’ติ. ตตฺถ ปโรปณฺณาส กุสลธมฺมา นาม จิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนา ผสฺสาทโย ปโรปณฺณาส อนวชฺชธมฺมา. นิโรธสยเนติ นิพฺพานสยเน.

‘‘วิสุทฺธิโย’’ติ วา ‘‘กถาวตฺถูนี’’ติ วา อตฺถโต เอกํ, พฺยฺชนเมว นานนฺติ เตสํ อตฺถโต อนฺภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิตี’’ติ อารทฺธํ. อายสฺมา ปุณฺโณ ทส กถาวตฺถูนิ วิสฺสชฺเชสีติ สตฺต วิสุทฺธิโย นาม วิสฺสชฺชนฺโตปิ ทส กถาวตฺถูนิ วิสฺสชฺเชสิ เตสํ อตฺถโต อนฺตฺตา. เอเตเนว ธมฺมเสนาปติ สาริปุตฺตตฺเถโร สตฺต วิสุทฺธิโย ปุจฺฉนฺโต ทส กถาวตฺถูนิ ปุจฺฉีติ อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโตวาติ เวทิตพฺโพ. นฺติ ปฺหํ. กึ ชานิตฺวา ปุจฺฉีติ วิสุทฺธิปริยาเยน กถาวตฺถูนิ ปุจฺฉามีติ กึ ชานิตฺวา ปุจฺฉิ. ทสกถาวตฺถุลาภินํ เถรํ วิสุทฺธิโย ปุจฺฉนฺโต ปุจฺฉิตฏฺาเนเยว ปุจฺฉเนน กึ ติตฺถกุสโล วา ปน หุตฺวา วิสยสฺมึ ปุจฺฉิ, อุทาหุ ปานียตฺถิกมติตฺเถหิ ฉินฺนตเฏหิ ปาเตนฺโต วิย อติตฺถกุสโล หุตฺวา อปุจฺฉิตพฺพฏฺาเน อวิสยสฺมึ ปุจฺฉีติ โยชนา. อิมินา นเยน วิสฺสชฺชนปกฺเขปิ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา. ยทตฺถมสฺส วิจารณา อารทฺธา, ตํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘ติตฺถกุสโล หุตฺวา’’ติอาทึ วตฺวา วิสุทฺธิกถาวตฺถูนํ อตฺถโต อนฺตฺเตปิ อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตทมินาติ ยํ ‘‘สํขิตฺตํ, วิตฺถิณฺณ’’นฺติ จ วุตฺตํ, ตํ อิมินา อิทานิ วุจฺจมาเนน นเยน วิธินา เวทิตพฺพํ.

เอกา สีลวิสุทฺธีติ วิสุทฺธีสุ วิสุํ เอกา สีลวิสุทฺธิ. ทสสุ กถาวตฺถูสุ จตฺตาริ กถาวตฺถูนิ หุตฺวา อาคตา อปฺปิจฺฉตาทีหิ วินา สีลวิสุทฺธิยา อสมฺภวโต. อปฺปิจฺฉกถาติอาทีสุ กถาสีเสน ทสกถาวตฺถุ คหิตํ. กเถตพฺพตฺตา วา วตฺถุ กถาวตฺถูติ วุตฺตํ. เอวฺจ อุปการโต, สภาวโต วา จตุนฺนํ กถาวตฺถูนํ สีลวิสุทฺธิสงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ติณฺณํ กถาวตฺถูนํ จิตฺตวิสุทฺธิสงฺคเหปิ เอเสว นโย. ปฺจ วิสุทฺธิโยติ นามรูปปริจฺเฉโท ทิฏฺิวิสุทฺธิ, สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนํ กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ, วิปสฺสนุปกฺกิเลเส ปหาย อุปฺปนฺนํ วิปสฺสนาาณํ มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิ, อุทยพฺพยาณาทิ นววิธาณํ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิ, อริยมคฺคาณํ าณทสฺสนวิสุทฺธีติ อิมา ปฺจ วิสุทฺธิโย.

สตฺตรถวินีตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๖๐. สมฺโมทิตุนฺติ อนนฺตรํ วุจฺจมาเนน สมฺโมทิตุํ. อฏฺานปริกปฺเปนาติ อการณสฺส วตฺถุโน ปริกปฺปเนน ตทา อสมฺภวนฺตํ อตฺถํ ปริกปฺเปตฺวา วจเนน. อภิณฺหทสฺสนสฺสาติ นิจฺจทสฺสนสฺส, นิยตทสฺสนสฺสาติ อตฺโถ.

อุกฺขิปีติ คุณโต กถิตภาเวน อุกฺกํเสติ. เถรสฺสาติ อายสฺมโต ปุณฺณตฺเถรสฺส. อิมสฺมึ าเน อิมสฺมึ การเณ เอกปเทเนว สาวกวิสเย อนฺสาธารณคุณาวิกรณนิมิตฺตํ. อิทานิ ตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘อมจฺจฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อปจายมาโนติ ปูชยนฺโต.

‘‘อนุมสฺส อนุมสฺส ปุจฺฉิตา’’ติ วุตฺตตฺตา วิจารณวเสนาห ‘‘กึ ปน ปฺหสฺส ปุจฺฉนํ ภาริยํ อุทาหุ วิสฺสชฺชน’’นฺติ. สเหตุกํ กตฺวาติ ยุตฺตายุตฺตํ กตฺวา. สการณนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. ปุจฺฉนมฺปีติ เอวํ สหธมฺเมน ปุจฺฉิตพฺพมตฺถํ สยํ สมฺปาเทตฺวา ปุจฺฉนมฺปิ ภาริยํ ทุกฺกรํ. วิสฺสชฺชนมฺปีติ สหธมฺเมน วิสฺสชฺชนมฺปิ ทุกฺกรํ. เอวฺหิ วิสฺสชฺเชนฺโต วิฺูนํ จิตฺตํ อาราเธตีติ. ยถานุสนฺธินาว เทสนา นิฏฺิตาอาทิโต สปริกฺขารํ สีลํ, มชฺเฌ สมาธึ, อนฺเต วสีภาวปฺปตฺตํ ปฺํ ทสฺเสตฺวา เทสนาย นิฏฺาปิตตฺตาติ.

รถวินีตสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๕. นิวาปสุตฺตวณฺณนา

๒๖๑. นิวปฺปตีติ นิวาโป, นิวาปํ วตฺเตติ, นิวาปโภชนํ วา เอตสฺสาติ เนวาปิโก, นิวาเปน มิเค ปโลเภตฺวา คณฺหนกมาควิโก. ติณพีชานีติ นิวาปติณพีชานิ. วปฺปนฺติ สสฺสํ วิย วปิตพฺพฏฺเน วปฺปํ. ‘‘มยํ วิย อฺเ เก อีทิสํ ลภิสฺสนฺตี’’ติ มานมทํ อาปชฺชิสฺสนฺติ. วิสฺสฏฺสติภาวนฺติ อนุสฺสงฺกิตปริสงฺกิตภาวํ. ติรจฺฉานา หิ วิชาติยพลวติรจฺฉานวสนฏฺาเนสุ สาสงฺกา อุพฺพิคฺคหทยา อปฺปมตฺตา โหนฺติ วิเสสโต มาควิกาทิมนุสฺสูปจาเร, รสตณฺหาย ปน พทฺธา ปมาทํ อาปชฺชสฺสนฺติ. นิวปติ เอตฺถาติ นิวาโป, นิวาปภูมิ นิวาปฏฺานํ. เตนาห ‘‘นิวาปฏฺาเน’’ติ. ‘‘ยถากามกรณียา’’ติ วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘เอกํ กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นีวารวนํ วิยาติ นีวารสฺส สมูโห วิย. นีวาโร นาม อรฺเ สยํชาตวีหิชาติ. เมฆมาลา วิยาติ เมฆฆฏา วิย. เอกคฺฆนนฺติ เอกชฺฌํ วิย อวิรฏฺํ. ปกฺกมนฺตีติ อาสงฺกปริสงฺกา หุตฺวา ปกฺกมนฺติ. กณฺเณ จาลยมานาติ อนาสงฺกนฺตานํ ปหฏฺาการทสฺสนํ. มณฺฑลคุมฺพนฺติ มณฺฑลกากาเรน ิตํ คุมฺพํ.

๒๖๒. กปฺเปตฺวาติ อุปมาภาเวน ปริกปฺเปตฺวา. มิเค อตฺตโน วเส วตฺตาปนํ วสีภาโว. โส เอว อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธิ, ปภาวนฏฺเน อานุภาโว.

๒๖๓. ภเยน โภคโตติ ภเยน สห สภยํ นิวาปปริโภคโต. พลวีริยนฺติ กายพลฺจ อุฏฺานวีริยฺจ. อฏฺกถายํ ปน พลเมว วีริยํ. พลนฺติ จ สรีรพลํ, ตฺจ อตฺถโต มนสิการมคฺเคหิ อปราปรํ สฺจรณกวาโตติ วุตฺตํ ‘‘อปราปรํ สฺจรณวาโยธาตู’’ติ.

๒๖๔. สิกฺขิตเกราฏิกาติ ปริจิตสาเยฺยา, วฺจกาติ อตฺโถ. อิทฺธิมนฺโต วิย อานุภาววนฺโต วิย. ปจุรชเนหิ ปรภูตา ชาตาติ ปรชนา, มหาภูตา. เตนาห ‘‘ยกฺขา’’ติ. สมนฺตา สปฺปเทสนฺติ สมนฺตโต ปเทสวนฺตํ วิปุโลกาสสนฺนิวาสฏฺานํ. ตสฺส ปน สปฺปเทสตา มหาโอกาสตายาติ วุตฺตํ ‘‘มหนฺตํ โอกาส’’นฺติ.

๒๖๕. ฆฏฺเฏสฺสนฺตีติ ‘‘สภยสมุฏฺาน’’นฺติ สฺาทานวเสน จิตฺตํ เจเตสฺสนฺติ, ตาเสสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ปริจฺจชิสฺสนฺตีติ นิพฺพิสิสฺสนฺติ. มหลฺลโกติ ชาติยา มหลฺลโก ชิณฺโณ. ทุพฺพโลติ พฺยาธิวเสน, ปกติยา วา พลวิรหิโต.

๒๖๗. นิวาปสทิสตาย นิวาโปติ วา. โลกปริยาปนฺนํ หุตฺวา กิเลเสหิ อามสิตพฺพตาย โลกามิสานีติ วา. วฏฺเฏ อามิสภูตตฺตา วฏฺฏามิสภูตานํ. วสํ วตฺเตตีติ กามคุเณหิ กามคุเณ คิทฺเธ สตฺเต ตสฺเสว เคธสฺส วเสน อตฺตโน วเส วตฺเตตีติ. เตนาห –

‘‘อนฺตลิกฺขจโร ปาโส, ยฺวายํ จรติ มานโส;

เตน ตํ พาธยิสฺสามิ, น เม สมณ โมกฺขสี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๕๑; มหาว. ๓๓);

อยนฺติ ปมมิคชาตูปมา. วานปตฺถสฺส สโตว ปปฺจปรทตฺติกาทิสปุตฺตทารนิกฺขมนํ สนฺธายาห ‘‘สปุตฺตภริยปพฺพชฺชายา’’ติ.

๒๖๘. กามโต จิตฺตสฺส วิมุตฺติ อิธ เจโตวิมุตฺตีติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘เจโตวิมุตฺติ นาม…เป… อุปฺปนฺนอชฺฌาสโย’’ติ. กาเม วิสฺสชฺเชตฺวา ปุน ตตฺถ นิมุคฺคตาย ทุติยสมณพฺราหฺมณา ทุติยมิคชาตูปมา วุตฺตา.

๒๖๙. ตติยสมณพฺราหฺมณา ยถาปริจฺจตฺเต กาเม ปริจฺจชิตฺวา เอวํ ิตา, น ทุติยา วิย ตตฺถ นิมุคฺคาติ อธิปฺปาเยน ‘‘กึ ปน เต อกํสู’’ติ ปุจฺฉติ. อิตเร กามํ อุชุกํ กามคุเณสุ น นิมุคฺคา, ปริยาเยน ปน นิมุคฺคา ทิฏฺิชาเลน จ อชฺโฌตฺถฏาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘คามนิคมชนปทราชธานิโย’’ติอาทิมาห. ทิฏฺิชาลมฺปิ ตณฺหาชาลานุคตเมวาติ อาห ‘‘มารสฺส ปาปิมโต ทิฏฺิชาเลน ปริกฺขิปิตฺวา’’ติ.

๒๗๑. ขนฺธกิเลสาภิสงฺขารมารา วา อิธ มารคฺคหเณน คหิตาติ ทฏฺพฺพํ. อกฺขีนิ ภินฺทิ ทฏฺุํ อสมตฺถภาวาปาทเนน. เตนาห ‘‘วิปสฺสนาปาทกชฺฌาน’’นฺติอาทิ. กิฺจาปิ มาโร ยํ กิฺจิ ฌานํ สมาปนฺนสฺสปิ ภิกฺขุโน จิตฺตํ อิมํ นาม อารมฺมณํ นิสฺสาย วตฺตตีติ น ชานาติ, อิธาธิปฺเปตสฺส ปน ภิกฺขุโน วเสน ‘‘วิปสฺสนาปาทกชฺฌาน’’นฺติ วุตฺตํ. เตเนว ปริยาเยนาติ ‘‘น มารสฺส อกฺขีนิ ภินฺที’’ติ เอวมาทินา ยถาวุตฺตปริยาเยน. อทสฺสนํ คโตติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. จกฺขุสฺส ปทํ ปติฏฺาติ จ อิธ อารมฺมณํ อธิปฺเปตํ ตํ ปริคฺคยฺห ปวตฺตนโตติ อาห ‘‘อปฺปติฏฺํ นิรารมฺมณ’’นฺติ. โสติ มาโร. ทิสฺวาติ ทสฺสนเหตุ. ยสฺมา มคฺเคน จตุสจฺจทสฺสนเหตุ อาสวา น ปริกฺขีณา. ผลกฺขเณ หิ เต ขีณาติ วุจฺจนฺตีติ.

โลเกติ สตฺตโลเก สงฺขารโลเก จ. สตฺตวิสตฺตภาเวนาติ ลคฺคภาเวน เจว สวิเสสํ อาสตฺตภาเวน จ. อถ วาติอาทินา นิทฺเทสนยวเสน (มหานิ. ๓, จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๒๒, ๒๓; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๒๔) วิสตฺติกาปทํ นิทฺทิสติ. วิสตาติ วิตฺถฏา รูปาทีสุ เตภูมกธมฺเมสุ พฺยาปนวเสน วิสฏาติ ปุริมวจนเมว ตการสฺส ฏการํ กตฺวา วุตฺตํ. วิสาลาติ วิปุลา. วิสกฺกตีติ ปริสกฺกติ สหติ. รตฺโต หิ ราควตฺถุนา ปาเทน ตาลิยมาโนปิ สหติ. โอสกฺกนํ, วิปฺผนฺทนํ วา วิสกฺกนนฺติปิ วทนฺติ. วิสํหรตีติ ยถา ตถา กาเมสุ อานิสํสํ ทสฺเสนฺตี วิวิเธหิ อากาเรหิ เนกฺขมฺมาภิมุขปฺปวตฺติโต จิตฺตํ สํหรติ สงฺขิปติ, วิสํ วา ทุกฺขํ, ตํ หรติ อุปเนตีติ อตฺโถ. วิสํวาทิกาติ อนิจฺจาทึ นิจฺจาทิโต คณฺหาเปนฺตี วิสํวาทิกา โหติ. ทุกฺขนิพฺพตฺตกสฺส กมฺมสฺส เหตุภาวโต วิสมูลา, วิสํ วา ทุกฺขทุกฺขาทิภูตา เวทนา มูลํ เอติสฺสาติ วิสมูลา. ทุกฺขสมุทยตฺตา วิสํ ผลํ เอติสฺสาติ วิสผลา. ตณฺหาย รูปาทิกสฺส ทุกฺขสฺเสว ปริโภโค โหติ, น อมตสฺสาติ สา ‘‘วิสปริโภคา’’ติ วุตฺตา. สพฺพตฺถ นิรุตฺติวเสน สทฺทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. โย ปเนตฺถ ปธาโน อตฺโถ, ตํ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘วิสาลา วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นิตฺติณฺโณ อุตฺติณฺโณติ อุปสคฺควเสน ปทํ วฑฺฒิตํ. นิรวเสสโต วา ติณฺโณ นิตฺติณฺโณ. เตน เตน มคฺเคน อุทฺธมุทฺธํ ติณฺโณ อุตฺติณฺโณ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต อวิภตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

นิวาปสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๖. ปาสราสิสุตฺตวณฺณนา

๒๗๒. สาธุมยนฺติ เอตฺถ สาธุ-สทฺโท อายาจนตฺโถ, น ‘‘สาธาวุโส’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๘๒) วิย อภินนฺทนาทิอตฺโถติ อาห ‘‘อายาจนฺตา’’ติ. เตนาห ปาฬิยํ ‘‘ลเภยฺยามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. น สกฺโกนฺติ, กสฺมา? พุทฺธา หิ ครู โหนฺติ, ปรมครู อุตฺตมํ คารวฏฺานํ, น ยถา ตถา อุปสงฺกมนียา. เตนาห ‘‘เอกจาริโก สีโห’’ติอาทิ.

‘‘ปากฏกิริยายา’’ติ สงฺเขเปน วุตฺตํ วิวริตุํ ‘‘ยํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภควา สพฺพกาลํ กิเมวมกาสีติ? น สพฺพกาลเมวมกาสิ. ยทา ปน อกาสิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภควา ปมโพธิย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. มนุสฺสตฺตภาเวติ อิมินา ปุริสตฺตภาวํ อุลฺลิงฺเคติ. ธนปริจฺจาโค กโต นาม นตฺถิ ภควโต ธรมานกาเลติ อธิปฺปาโย.

มาลากจวรนฺติ มิลาตมาลากจวรํ. รโชชลฺลํ น อุปลิมฺปติ อจฺฉตรฉวิภาวโต. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สุขุมตฺตา ฉวิยา กาเย รโชชลฺลํ น ลิมฺปตี’’ติ. ยทิ เอวํ กสฺมา ภควา นหายตีติ อาห ‘‘อุตุคฺคหณตฺถ’’นฺติ.

วิหาโรติ เชตวนวิหาโร. วีสติอุสภํ คาวุตสฺส จตุตฺโถ ภาโคติ วทนฺติ. กทาจีติ กสฺมิฺจิ พุทฺธุปฺปาเท. อจลเมวาติ อปริวตฺตเมว อนฺภาวโต, มฺจานํ ปน อปฺปมหนฺตตาหิ ปาทานํ ปติฏฺิตฏฺานสฺส หานิวฑฺฒิโย โหนฺติเยว.

ยนฺตนาฬิกาหิ ปริปุณฺณสุวณฺณรสธาราหิ. นฺหานวตฺตนฺติ ‘‘ปพฺพชิเตน นาม เอวํ นฺหายิตพฺพ’’นฺติ นหานจาริตฺตํ ทสฺเสตฺวา. ยสฺมา ภควโต สรีรํ สุธนฺตจามีกรสมานวณฺณํ สุปริโสธิตปวาฬรุจิรกรจรณาวรํ สุวิสุทฺธนีลรตนาวฬิสทิสเกสตนุรุหํ, ตสฺมา ตหํ ตหํ วินิสฺสตชาติหิงฺคุลกรสูปโสภิตํ อุปริ มหคฺฆรตนาวฬิสฺฉาทิตํ ชงฺคมมิว กนกคิริสิขรํ วิโรจิตฺถ. ตสฺมิฺจ สมเย ทสพลสฺส สรีรโต นิกฺขมิตฺวา ฉพฺพณฺณรสฺมิโย สมนฺตโต อสีติหตฺถปฺปมาเณ ปเทเส อาธาวนฺตี วิธาวนฺตี รตนาวฬิรตนทาม-รตนจุณฺณ-วิปฺปกิณฺณํ วิย, ปสาริตรตนจิตฺตกฺจนปฏฺฏมิว, อาสิฺจมานลาขารสธารา-จิตมิว , อุกฺกาสตนิปาตสมากุลมิว, นิรนฺตรํ วิปฺปกิณฺณ-กณิการ-กิงฺกิณิก-ปุปฺผมิว, วายุเวคสมุทฺธต-จินปิฏฺจุณฺณ-รฺชิตมิว, อินฺทธนุ-วิชฺชุลตา-วิตานสนฺถตมิว, คคนตลํ ตํ านํ ปวนฺจ สมฺมา ผรนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘วณฺณภูมิ นาเมสา’’ติอาทิ. อตฺถนฺติ อุปเมยฺยตฺถํ. อุปมาโยติ ‘‘อีทิโส จ โหตี’’ติ ยถารหํ ตทนุจฺฉวิกา อุปมา. การณานีติ อุปมุปเมยฺยสมฺพนฺธวิภาวนานิ การณานิ. ปูเรตฺวาติ วณฺณนํ ปริปุณฺณํ กตฺวา. ถาโม เวทิตพฺโพ ‘‘อติตฺเถ ปกฺขนฺโท’’ติ อวตฺตพฺพตฺตา.

๒๗๓. กณฺณิกาติ สรีรคตพินฺทุกตานิ มณฺฑลานิ. ปริกฺขารภณฺฑนฺติ อุตฺตราสงฺคํ สงฺฆาฏิฺจ สนฺธาย วทติ. กึ ปนายํ นโย พุทฺธานมฺปิ สรีเร โหตีติ? น โหติ, วตฺตทสฺสนตฺถํ ปเนตํ กตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘พุทฺธานํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. คมนวเสน กายสฺสาภินีหรณํ คมนาภิหาโร. ยถาธิปฺปายาวตฺตนํ อธิปฺปายโกปนํ.

อฺตราย ปารมิยาติ เนกฺขมฺมปารมิยา. วีริยปารมิยาติ อปเร. มหาภินิกฺขมนสฺสาติ มหนฺตสฺส จริมภเว อภินิกฺขมนสฺส. ตฺหิ มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ มหนฺตฺจ าติปริวฏฺฏํ มหนฺตฺจ จกฺกวตฺติสิรึ ปชหิตฺวา สเทวกสฺส โลกสฺส สมารกสฺส จ อจินฺเตยฺยาปริเมยฺยเภทสฺส มหโต อตฺถาย หิตาย สุขาย ปวตฺตตฺตา มหนียตาย จ มหนฺตํ อภินิกฺขมนนฺติ วุจฺจติ.

ปุริโมติ ‘‘กตมาย นุ กถาย สนฺนิสินฺนา ภวถา’’ติ เอวํ วุตฺตอตฺโถ. กา จ ปน โวติ เอตฺถ -สทฺโท พฺยติเรเก. เตน ยถาปุจฺฉิตาย กถาย วกฺขมานํ วิปฺปกตภาวํ โชเตติ. ปน-สทฺโท วจนาลงฺกาเร. ยาย หิ กถาย เต ภิกฺขู สนฺนิสินฺนา, สา เอว อนฺตรากถาภูตา วิปฺปกตา วิเสเสน ปุน ปุจฺฉียติ. อฺาติ อนฺตรา-สทฺทสฺส อตฺถมาห. อฺตฺโถ หิ อยํ อนฺตรา-สทฺโท ‘‘ภูมนฺตรํ (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา) สมยนฺตร’’นฺติอาทีสุ วิย, อนฺตราติ วา เวมชฺเฌติ อตฺโถ. ทสกถาวตฺถุนิสฺสิตาติ ‘‘กึ สีลํ นาม, กถฺจ ปูเรตพฺพํ, กานิ จสฺส สํกิเลสโวทานานี’’ติอาทินา อปฺปิจฺฉาทินิสฺสิตา สีลาทินิสฺสิตา จ กถา. อริโยติ นิทฺโทโส. อถ วา อตฺถกาเมหิ อรณีโยติ อริโย, อริยานํ อยนฺติ วา อริโยติ. ภาวนามนสิการวเสน ตุณฺหี ภวนฺติ, น เอกจฺจพาหิรกปพฺพชิตา วิย มูคพฺพตสมาทาเนน. ทุติยชฺฌานมฺปิ อริโย ตุณฺหีภาโว วจีสงฺขารปหานโต. มูลกมฺมฏฺานนฺติ ปาริหาริย กมฺมฏฺานมฺปิ. ฌานนฺติ ทุติยชฺฌานํ.

๒๗๔. ‘‘สนฺนิปติตานํ โว, ภิกฺขเว, ทฺวย’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๗๓; อุทา. ๑๒, ๒๘, ๒๙) อฏฺุปฺปตฺติวเสน เทสนา ปวตฺตาติ ตสฺสา อุปริเทสนาย สมฺพนฺธํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ปริเยสนาติ โก อนุสนฺธี’’ติ อนุสนฺธึ ปุจฺฉติ. อยํ ตุมฺหากํ ปริเยสนาติ ยา มหาภินิกฺขมนปฏิพทฺธา ธมฺมี กถา, สา ตุมฺหากํ ธมฺมปริเยสนา ธมฺมวิจารณา อริยปริเยสนา นาม. อปายมคฺคนฺติ อนตฺถาวหํ มคฺคํ. อุทฺเทสานุกฺกมํ ภินฺทิตฺวาติ อุทฺเทสานุปุพฺพึ ลงฺฆิตฺวา. ธมฺม-สทฺโท ‘‘อโมสธมฺมํ นิพฺพาน’’นฺติอาทีสุ วิย ปกติปริยาโย. ชายนสภาโวติ ชายนปกติโกติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.

สพฺพตฺถาติ ยถา ‘‘ปุตฺตภริย’’นฺติ ทฺวนฺทสมาสวเสน เอกตฺตํ, เอส นโย สพฺพตฺถ ‘‘ทาสิทาส’’นฺติอาทีสุ สพฺพปเทสุ. ปรโต วิการํ อนาปชฺชิตฺวา สพฺพทา ชาตรูปเมว โหตีติ ชาตรูปํ, สุวณฺณํ. ธวลสภาวตาย รฺชียตีติ รชตํ, รูปิยํ. อิธ ปน สุวณฺณํ เปตฺวา ยํ กิฺจิ อุปโภคปริโภคารหํ รชตํเตว คหิตํ. อุปธียติ เอตฺถ ทุกฺขนฺติ อุปธโย. จุตีสงฺขาตํ มรณนฺติ เอกภวปริยาปนฺนํ ขนฺธนิโรธสงฺขาตํ มรณมาห. ขณิกนิโรโธ ปน ขเณ ขเณ. เตนาห ‘‘สตฺตานํ วิยา’’ติ. สํกิลิสฺสตีติ ทูสวิเสน วิย อตฺตานํ ทูสิสฺสติ. เตนาห ภควา – ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ชาตรูปสฺส อุปกฺกิเลสา อโย โลห’’นฺติอาทิ (อ. นิ. ๕.๒๓). มลํ คเหตฺวาติ เยหิ สหโยคโต มลินํ โหติ, เตสํ มลินภาวปจฺจยานํ วเสน มลํ คเหตฺวา. ชีรณโต ชราธมฺมวาเร ชาตรูปํ คหิตนฺติ โยชนา. เย ปน ชาติธมฺมวาเรปิ ชาตรูปํ น ปนฺติ, เตสํ อิตเรสํ วิย ชีรณธมฺมวาเร สรูปโต อนาคตมฺปิ อุปธิคฺคหเณน คหิตเมวาติ ทฏฺพฺพํ. ปริคฺคเห ิตานํ ปน วเสน วุจฺจมาเน อปากฏานมฺปิ ชาติชรามรณานํ วเสน โยชนา ลพฺภเตว. ชาตรูปสีเสน เจตฺถ สพฺพสฺสปิ อนินฺทฺริยพทฺธสฺส คหณํ ทฏฺพฺพํ, ปุตฺตภริยาทิคฺคหเณน วิย มิตฺตามจฺจาทิคฺคหณํ.

๒๗๕. อริเยหิ ปริเยสนา, อริยานํ ปริเยสนาติ วา อริยปริเยสนาติ สมาสทฺวยํ ทสฺเสติ ‘‘อยํ, ภิกฺขเว’’ติอาทินา.

๒๗๖. มูลโต ปฏฺายาติ ยํ มหาภินิกฺขมนสฺส มูลภาเวสุอาทีนวทสฺสนํ, ตโต ปฏฺาย. ยสฺมา เต ภิกฺขู ตตฺถ มหาภินิกฺขมนกถาย สนฺนิสินฺนา, สา จ เนสํ อนฺตรากถา วิปฺปกตา, ตสฺมา ภควา เตสํ มูลโต ปฏฺาย มหาภินิกฺขมนกถํ กเถตุํ อารภิ. อหมฺปิ ปุพฺเพติ วิเสสวจนํ อปริปกฺกาเณน สยํ จริมภเว ตีสุ ปาสาเทสุ ติวิธนาฏกปริวารสฺส ทิพฺพสมฺปตฺติสทิสาย มหาสมฺปตฺติยา อนุภวนํ, อภินิกฺขมิตฺวา ปธานปทหนวเสน อตฺตกิลมถานุโยคฺจ สนฺธายาห. อนริยปริเยสนํ ปริเยสินฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปฺจวคฺคิยาปีติ ยถาสกํ คิหิโภคํ อนุยุตฺตา ตํ ปหาย ปพฺพชิตฺวา อตฺตกิลมถานุโยเค ิตา สตฺถุ ธมฺมจกฺกปวตฺตนเทสนาย (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๓; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) ตมฺปิ ปหาย อริยปริเยสนํ ปริเยสึสูติ.

๒๗๗. กามํ ทหร-สทฺโท ‘‘ทหรํ กุมารํ มนฺทํ อุตฺตานเสยฺยก’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๔๙๖) เอตฺถ พาลทารเก อาคโต, ‘‘ภทฺเรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต’’ติ ปน วกฺขมานตฺตา ยุวาวตฺถา อิธ ทหร-สทฺเทน วุตฺตาติ อาห ‘‘ตรุโณว สมาโน’’ติ. ปมวเยน เอกูนตึสวยตฺตา. ชาติยา หิ ยาว เตตฺตึสวยา ปมวโย. อนาทรตฺเถ สามิวจนํ ยถา ‘‘เทวทตฺตสฺส รุทนฺตสฺส ปพฺพชี’’ติ. กามํ อสฺสุมุจฺจนํ โรทนํ, ตํ อสฺสุมุขานนฺติ อิมินา ปกาสิตํ, ตํ ปน วตฺวา ‘‘รุทนฺตาน’’นฺติ วจนํ พลวโสกสมุฏฺานํ อาโรทนวตฺถุํ ปกาเสตีติ อาห ‘‘กนฺทิตฺวา โรทมานาน’’นฺติ. กึ กุสลนฺติ คเวสมาโนติ กินฺติ สพฺพโส อวชฺชรหิตํ เอกนฺต นิยฺยานิกํ ปริเยสมาโน. วรปทนฺติ วฏฺฏทุกฺขนิสฺสรณตฺถิเกหิ เอกนฺเตน วรณียฏฺเน วรํ, ปชฺชิตพฺพฏฺเน ปทํ. ตุงฺคสรีรตาย ทีโฆ, ปิงฺคลจกฺขุตาย ปิงฺคโลติ ทีฆปิงฺคโล. ธมฺโมติ วินโย, สมโยติ อตฺโถ. สุตฺวาว อุคฺคณฺหินฺติ เตน วุจฺจมานสฺส สวนมตฺเตเนว อุคฺคณฺหึ วาจุคฺคตํ อกาสึ.

ปฏิลปนมตฺตเกนาติ ปุน ลปนมตฺตเกน. ชานาตีติ าโณ, าโณติ วาโท าณวาโท, ตํ าณวาทํ. ‘‘วทามี’’ติ อาคตตฺตา อฏฺกถายํ ‘‘ชานามี’’ติ อุตฺตมปุริสวเสน อตฺโถ วุตฺโต. อฺเปิ พหูติ อฺเปิ พหู มม ตถาภาวํ ชานนฺตา ‘‘อยํ อิมํ ธมฺมํ ชานาตี’’ติ, ‘‘อกมฺปนียตาย ถิโร’’ติ วา เอวํ วทนฺติ. ลาภีติ อฺาสีติ ธมฺมสฺส อุทฺทิสเนน มหาปฺตาย ‘‘อยํ อตฺตนา คตมคฺคํ ปเวเทติ, น อนุสฺสุติโก’’ติ อฺาสิ. อสฺสาติ โพธิสตฺตสฺส. เอตทโหสีติ เอตํ ‘‘น โข อาฬาโร กาลาโม’’ติอาทิ มนสิ อโหสิ, จินฺเตสีติ อตฺโถ.

เหฏฺิมสมาปตฺตีหิ วินา อุปริมสมาปตฺตีนํ สมฺปาทนสฺส อสมฺภวโต ‘‘สตฺต สมาปตฺติโย มํ ชานาเปสี’’ติ อาห. ปโยคํ กเรยฺยนฺติ ภาวนํ อนุยุฺเชยฺยนฺติ อตฺโถ. เอวมาหาติ เอวํ ‘‘อหํ, อาวุโส’’ติอาทิมาห, สตฺตนฺนํ สมาปตฺตีนํ อธิคมํ ปจฺจฺาสีติ อตฺโถ.

อนุสูยโกติ อนิสฺสุกี. เตน มหาปุริเส ปสาทํ ปเวเทสิ. โพธิสตฺตสฺส ตา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา ิตสฺส ปุริมชาติปริจเยน าณสฺส จ มหนฺตตาย ตาสํ คติ จ อภิสมฺปราโย จ อุปฏฺาสิ . เตน ‘‘วฏฺฏปริยาปนฺนา เอเวตา’’ติ นิจฺฉโย อุทปาทิ. เตนาห ‘‘นายํ ธมฺโม นิพฺพิทายา’’ติอาทิ. เอกจฺจานํ วิราคภาวนาสมติกฺกมาวโหปิ เนว เตสมฺปิ อจฺจนฺตาย สมติกฺกมาวโห, สยฺจ วฏฺฏปริยาปนฺโนเยว, ตสฺมา เนว วฏฺเฏ นิพฺพินฺทนตฺถาย, ยทคฺเคน น นิพฺพิทาย, ตทคฺเคน น วิรชฺชนตฺถาย, ราคาทีนํ ปาปธมฺมานํ น นิรุชฺฌนตฺถาย, น อุปสมตฺถาย, ตสฺมา ตํ อภิฺเยฺยธมฺมํ น อภิชานนตฺถาย…เป… สํวตฺตตีติ โยชนา.

ยาวเทว อากิฺจฺายตนุปปตฺติยาติ สตฺตสุ สมาปตฺตีสุ อุกฺกฏฺํ คเหตฺวา วทติ. อุฏฺาย สมุฏฺาย อจุติธมฺมํ ปริเยสิตุํ ยุตฺตตฺตา ตฺจ อนติกฺกนฺตชาติธมฺมเมวาติ มหาสตฺโต ปชหตีติ อาห ‘‘ยฺจ านํ ปาเปตี’’ติอาทิ. ตโต ปฏฺายาติ ยทา สมาปตฺติธมฺมสฺส คติฺจ อภิสมฺปรายฺจ อพฺภฺาสิ, ตโต ปฏฺาย. มกฺขิกาวเสนาติ โภชนสฺส มกฺขิกามิสฺสตาวเสน. มนํ น อุปฺปาเทติ ภุฺชิตุนฺติ อธิปฺปาโย. มหนฺเตน อุสฺสาเหนาติ อิทํ กติปาหํ ตตฺถ ภาวนานุโยคมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น อฺเสํ วิย กสิณปริกมฺมาทิกรณํ. น หิ อนฺติมภวิกโพธิสตฺตานํ สมาปตฺตินิพฺพตฺตเน ภาริยํ นาม. อนลงฺกริตฺวาติ อนุ อนุ อลํกตฺวา ปุนปฺปุนํ ‘‘อิมินา น กิฺจิ ปโยชน’’นฺติ กตฺวา.

๒๗๘. วาจาย อุคฺคหิตมตฺโตวาติ เอตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตนยานุสาเรน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๒๗๙. มหาเวลา วิย มหาเวลา, วิปุลวาลิกปุฺชตาย มหนฺโต เวลาตโฏ วิยาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘มหาวาลิกราสีติ อตฺโถ’’ติ. อุรุ มรุ สิกตา วาลุกา วณฺณุ วาลิกาติ อิเม สทฺทา สมานตฺถา, พฺยฺชนเมว นานํ.

เสนา นิคจฺฉิ นิวิสิ เอตฺถาติ เสนานิคโม, เสนาย นิวิฏฺฏฺานํ. เสนานิคาโมติ ปน อยํ สมฺา อปรกาลิกา. โคจรคามนิทสฺสนฺเจตํ. อุปริสุตฺตสฺมินฺติ มหาสจฺจกสุตฺเต. อิธ ปน โพธิปลฺลงฺโก อธิปฺเปโต อริยปริเยสนาย วุจฺจมานตฺตา.

๒๘๐. ‘‘าณทสฺสน’’นฺติ จ เอกชฺฌํ คหิตปททฺวยวิสยวิเสสสฺส อนามฏฺตฺตา ‘‘เม’’ติ จ คหิตตฺตา อนวเสสเยฺยาวโพธนสมตฺถเมว าณวิเสสํ โพเธติ, น าณมตฺตํ, น ทสฺสนมตฺตนฺติ อาห ‘‘สพฺพธมฺมทสฺสนสมตฺถฺจ เม สพฺพฺุตฺาณํ อุทปาที’’ติ. อกุปฺปตายาติ วิโมกฺขนฺตตาย สพฺพโส ปฏิปกฺขธมฺเมหิ อสงฺโขภนียตาย. เตนาห ‘‘ราคาทีหิน กุปฺปตี’’ติ. อารมฺมณสนฺตตายปิ ตทารมฺมณานํ อตฺถิ วิเสโส ยถา ตํ ‘‘อาเนฺชวิหาเร’’ติ อาห ‘‘อกุปฺปารมฺมณตาย จา’’ติ. ปจฺจเวกฺขณาณมฺปีติ น เกวลํ สพฺพฺุตฺาณเมว, อถ โข ยถาธิคเต ปฏิเวธสทฺธมฺเม เอกูนวีสติวิธปจฺจเวกฺขณาณมฺปิ.

๒๘๑. ปฏิวิทฺโธติ (ที. นิ. ฏี. ๒.๖๔; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑๗๒; สารตฺถ. ฏี. มหาวคฺค ๓.๗) สยมฺภุาเณน ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทินา ปฏิมุขํ นิพฺพิชฺฌนวเสน ปตฺโต, ยถาภูตํ อวพุทฺโธติ อตฺโถ. คมฺภีโรติ มหาสมุทฺโท วิย มกสตุณฺฑสูจิยา อฺตฺร สมุปจิตปริปกฺกาณสมฺภาเรหิ อฺเสํ าเณน อลพฺภเนยฺยปติฏฺโ. เตนาห ‘‘อุตฺตานภาวปฏิกฺเขปวจนเมต’’นฺติ. โย อลพฺภเนยฺยปติฏฺโ, โส โอคาหิตุมสกฺกุเณยฺยตาย สรูปโต จ ปสฺสิตุํ น สกฺกาติ อาห ‘‘คมฺภีรตฺตาว ทุทฺทโส’’ติ. ทุกฺเขน ทฏฺพฺโพติ กิจฺเฉน เกนจิเทว ทฏฺพฺโพ. ยํ ปน ทฏฺุเมว น สกฺกา, ตสฺส โอคาเหตฺวา อนุ อนุ พุชฺฌเน กถา เอว นตฺถีติ อาห ‘‘ทุทฺทสตฺตาว ทุรนุโพโธ’’ติ. ทุกฺเขน อวพุชฺฌิตพฺโพ อวโพธสฺส ทุกฺกรภาวโต. อิมสฺมึ าเน – ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, กตมํ นุ โข ทุกฺกรตรํ วา ทุรภิสมฺภวตรํ วา’’ติ สุตฺตปทํ (สํ. นิ. ๕.๑๑๑๕) วตฺตพฺพํ. สนฺตารมฺมณตาย วา สนฺโต. นิพฺพุตสพฺพปริฬาหตาย นิพฺพุโต. ปธานภาวํ นีโตติ วา ปณีโต. อติตฺติกรฏฺเน อตปฺปโก สาทุรสโภชนํ วิย. เอตฺถ จ นิโรธสจฺจํ สนฺตํ อารมฺมณนฺติ สนฺตารมฺมณํ, มคฺคสจฺจํ สนฺตํ สนฺตารมฺมณฺจาติ สนฺตารมฺมณํ. อนุปสนฺตสภาวานํ กิเลสานํ สงฺขารานฺจ อภาวโต นิพฺพุตสพฺพปริฬาหตาย สนฺตปณีตภาเวเนว จ อเสจนกตาย อตปฺปกตา ทฏฺพฺพา. เตนาห ‘‘อิทํ ทฺวยํ โลกุตฺตรเมว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. อุตฺตมาณวิสยตฺตา น ตกฺเกน อวจริตพฺโพ, ตโต เอว นิปุณาณโคจรตาย จ สณฺโห. สุขุมสภาวตฺตา จ นิปุโณ, พาลานํ อวิสยตฺตา ปณฺฑิเตหิ เอว เวทิตพฺโพติ ปณฺฑิตเวทนีโย. อาลียนฺติ อภิรมิตพฺพฏฺเน เสวียนฺตีติ อาลยา, ปฺจ กามคุณา. อาลยนฺติ อลฺลียนฺตี อภิรมณวเสน เสวนฺตีติ อาลยา, ตณฺหาวิจริตานิ. รมนฺตีติ รตึ วินฺทนฺติ กีฬนฺติ ลฬนฺติ. อาลยรตาติ อาลยนิรตา.

านํ สนฺธายาติ าน-สทฺทํ สนฺธาย. อตฺถโต ปน านนฺติ จ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท เอว อธิปฺเปโต. ติฏฺติ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ านํ, สงฺขาราทีนํ ปจฺจยภูตา อวิชฺชาทโย. อิเมสํ สงฺขาราทีนํ ปจฺจยาติ อิทปฺปจฺจยา, อวิชฺชาทโยว. อิทปฺปจฺจยา เอว อิทปฺปจฺจยตา ยถา ‘‘เทโว เอว เทวตา’’ติ, อิทปฺปจฺจยานํ วา อวิชฺชาทีนํ อตฺตโน ผลํ ปติ ปจฺจยภาโว อุปฺปาทนสมตฺถตา อิทปฺปจฺจยตา. เตน สมตฺถปจฺจยลกฺขโณ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ทสฺสิโต โหติ. ปฏิจฺจ สมุปฺปชฺชติ ผลํ เอตสฺมาติ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท. ปททฺวเยนปิ ธมฺมานํ ปจฺจยฏฺโ เอว วิภาวิโต. เตนาห ‘‘สงฺขาราทิปจฺจยานํ เอตํ อธิวจน’’นฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนายํ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๒.๕๗๒-๕๗๓) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.

สพฺพสงฺขารสมโถติอาทิ สพฺพนฺติ สพฺพสงฺขารสมถาทิสทฺทาภิเธยฺยํ สพฺพํ อตฺถโต นิพฺพานเมว. อิทานิ ตสฺส นิพฺพานภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. นฺติ นิพฺพานํ. อาคมฺมาติ ปฏิจฺจ อริยมคฺคสฺส อารมฺมณปจฺจยภาวเหตุ. สมฺมนฺตีติ อปฺปฏิสนฺธิกูปสมวเสน สมฺมนฺติ. ตถา สนฺตา สวิเสสํ อุปสนฺตา นาม โหนฺตีติ อาห ‘‘วูปสมฺมนฺตี’’ติ. เอเตน ‘‘สพฺเพ สงฺขารา สมฺมนฺติ เอตฺถาติ สพฺพสงฺขารสมโถ, นิพฺพาน’’นฺติ ทสฺเสติ. สพฺพสงฺขตวิสํยุตฺเต จ นิพฺพาเน สพฺพสงฺขารวูปสมปริยาโย เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ปฏินิสฺสฏฺาติ สมุจฺเฉทวเสน ปริจฺจตฺตา โหนฺติ. สพฺพา ตณฺหาติ อฏฺสตปฺปเภทา สพฺพาปิ ตณฺหา. สพฺเพ กิเลสราคาติ กามราครูปราคาทิเภทา สพฺเพปิ กิเลสภูตา ราคา, สพฺเพปิ วา กิเลสา อิธ ‘‘กิเลสราคา’’ติ เวทิตพฺพา, น โลภวิเสสา เอว จิตฺตสฺส วิปริณตภาวาปาทนโต . ยถาห ‘‘รตฺตมฺปิ จิตฺตํ วิปริณตํ, ทุฏฺมฺปิ จิตฺตํ วิปริณตํ, มูฬฺหมฺปิ จิตฺตํ วิปริณต’’นฺติ (ปารา. ๒๗๑). วิรชฺชนฺตีติ ปลุชฺชนฺติ.

จิรนิสชฺชาจิรภาสเนหิ ปิฏฺิอาคิลายนตาลุคลโสสาทิวเสน กายกิลมโถ เจว กายวิเหสา จ เวทิตพฺพา. สา จ โข เทสนาย อตฺถํ อชานนฺตานํ วเสน วุตฺตา, ชานนฺตานํ ปน เทสนาย กายปริสฺสโมปิ สตฺถุ อปริสฺสโมว. เตนาห ภควา – ‘‘น จ มํ ธมฺมาธิกรณํ วิเหเสสี’’ติ (อุทา. ๑๐). เตเนวาห ‘‘ยา อชานนฺตานํ เทสนา นาม, โส มม กิลมโถ อสฺสา’’ติ. อุภยนฺติ จิตฺตกิลมโถ เจว จิตฺตวิเหสา จาติ อุภยมฺเปตํ พุทฺธานํ นตฺถิ โพธิมูเลเยว สมุจฺฉินฺนตฺตา.

อนุพฺรูหนํ สมฺปิณฺฑนํ. โสติ ‘‘อปิสฺสู’’ติ นิปาโต. นฺติ ปฏิ-สทฺทโยเคน สามิอตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘มมา’’ติ. วุทฺธิปฺปตฺตา วา อจฺฉริยา อนจฺฉริยา. วุทฺธิอตฺโถปิ หิ อ-กาโร โหติ ยถา ‘‘อเสกฺขา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๑๑.ติกมาติกา). กปฺปานํ สตสหสฺสํ จตฺตาริ จ อสงฺขฺเยยฺยานิ สเทวกสฺส โลกสฺส ธมฺมสํวิภาคกรณตฺถเมว ปารมิโย ปูเรตฺวา อิทานิ อธิคตธมฺมรชฺชสฺส ตตฺถ อปฺโปสฺสุกฺกตาปตฺติทีปนตา, คาถาตฺถสฺส อจฺฉริยตา, ตสฺส วุทฺธิปฺปตฺติ จาติ เวทิตพฺพํ. อตฺถทฺวาเรน หิ คาถานํ อนจฺฉริยตา. โคจรา อเหสุนฺติ อุปฏฺเหสุํ. อุปฏฺานฺจ วิตกฺเกตพฺพตาติ อาห ‘‘ปริวิตกฺกยิตพฺพตํ ปาปุณึสู’’ติ.

ยทิ สุขาปฏิปทาว, กถํ กิจฺฉตาติ อาห ‘‘ปารมีปูรณกาเล ปนา’’ติอาทิ. เอวมาทีนิ ทุปฺปริจฺจชานิ เทนฺตสฺส. ห-อิติ วา ‘‘พฺยตฺต’’นฺติ เอตสฺมึ อตฺเถ นิปาโต. เอกํสตฺเถติ เกจิ. ห พฺยตฺตํ, เอกํเสน วา อลํ นิปฺปโยชนํ เอวํ กิจฺเฉน อธิคตสฺส ธมฺมสฺส เทสิตนฺติ โยชนา. หลนฺติ วา ‘‘อล’’นฺติ อิมินา สมานตฺถํ ปทํ ‘‘หลนฺติ วทามี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ฏี. ๒.๖๕; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑๗๒) วิย. ราคโทสปริผุฏฺเหีติ ผุฏฺวิเสน วิย สปฺเปน ราเคน โทเสน จ สมฺผุฏฺเหิ อภิภูเตหิ. ราคโทสานุคเตหีติ ราเคน จ โทเสน จ อนุพนฺเธหิ.

กามราครตฺตา ภวราครตฺตา จ นีวรเณหิ นิวุตตาย, ทิฏฺิราครตฺตา วิปรีตาภินิเวเสน. น ทกฺขนฺตีติ ยาถาวโต ธมฺมํ น ปฏิวิชฺฌิสฺสนฺติ. เอวํ คาหาเปตุนฺติ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติอาทินา สภาเวน ยาถาวโต ธมฺมํ ชานาเปตุํ. ราคโทสปเรตตาปิ เนสํ สมฺมูฬฺหภาเวเนวาติ อาห ‘‘ตโมขนฺเธน อาวุฏา’’ติ.

๒๘๒. ธมฺมเทสนาย อปฺโปสฺสุกฺกตาปตฺติยา การณํ วิภาเวตุํ ‘‘กสฺมา ปนา’’ติอาทินา สยเมว โจทนํ สมุฏฺาเปติ. ตตฺถ อฺาตเวเสนาติ อิมสฺส ภควโต สาวกภาวูปคมเนน อฺาตรูเปน. ตาปสเวเสนาติ เกจิ. โส ปน อรหตฺตาธิคเมเนว วิคจฺเฉยฺย. ติวิธํ การณํ อปฺโปสฺสุกฺกตาปตฺติยา ปฏิปกฺขสฺส พลวภาโว, ธมฺมสฺส คมฺภีรตา, ตตฺถ จ สาติสยํ คารวนฺติ, ต ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺส หี’’ติอาทิ อารทฺธํ. (ตตฺถ ปฏิปกฺขา นาม ราคาทโย กิเลสา สมฺมาปฏิปตฺติยา อนฺตรายกรตฺตา. เตสํ พลวภาวโต จิรปริภาวนาย สตฺตสนฺตานโต ทุพฺพิโสธิยตาย เต สตฺเต มตฺตหตฺถิโน วิย ทุพฺพลปุริสํ อธิภวิตฺวา อชฺโฌตฺถริตฺวา อนยพฺยสนํ อาปาเทนฺตา อเนกสตโยชนายามวิตฺถารํ สุนิจิตํ ฆนสนฺนิเวสํ กณฺฏกทุคฺคมฺปิ อธิเสนฺติ. ทูรปฺปเภททุจฺเฉชฺชตาหิ ทุพฺพิโสธิยตํ ปน ทสฺเสตุํ ‘‘อถสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ จ อนฺโต อมฏฺตาย กฺชิยปุณฺณา ลาพุ. จิรปาริวาสิกตาย ตกฺกภริตา จาฏิ. สฺเนหตินฺตทุพฺพลภาเวน วสาปีตปิโลติกา. เตลมิสฺสิตตาย อฺชนมกฺขิตหตฺโถ ทุพฺพิโสธนียา วุตฺตา, หีนูปมา เจตา รูปปพนฺธภาวโต อจิรกาลิกตฺตา จ มลีนตาย, กิเลสสํกิเลโส เอว ปน ทุพฺพิโสธนียตโร อนาทิกาลิกตฺตา อนุสยิตตฺตา จ. เตนาห ‘‘อติสํกิลิฏฺา’’ติ. ยถา จ ทุพฺพิโสธนียตรตาย, เอวํ คมฺภีรทุทฺทสทุรนุโพธานมฺปิ วุตฺตอุปมา หีนูปมาว).

ปฏิปกฺขวิคมเนน คมฺภีโรปิ ธมฺโม สุปากโฏ ภเวยฺย. ปฏิปกฺขวิคมนํ ปน สมฺมาปฏิปตฺติปฏิพทฺธํ, สา สทฺธมฺมสฺสวนาธีนา. ตํ สตฺถริ ธมฺเม จ ปสาทายตฺตํ, โส ครุฏฺานิยานํ อชฺเฌสนเหตุโกติ ปนาฬิกาย สตฺตานํ ธมฺมสมฺปฏิปตฺติยา พฺรหฺมยาจนานิมิตฺตนฺติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห.

อุปกฺกิเลสภูตํ อปฺปํ ราคาทิรชํ เอตสฺสาติ อปฺปรชํ, อปฺปรชํ อกฺขิ ปฺาจกฺขุ เยสํ เต ตํสภาวาติ กตฺวา อปฺปรชกฺขชาติกาติ อยมตฺโถ วิภาวิโต ‘‘ปฺามเย’’ติอาทินา. อปฺปํ ราคาทิรชํ เยสํ ตํสภาวา อปฺปรชกฺขชาติกาติ เอวมฺปิ สทฺทตฺโถ สมฺภวติ. ทานาทิทสปุฺกิริยวตฺถูนิ สรณคมนปรหิตปริณามเนหิ สทฺธึ (ทฺวาทส โหนฺตีติ) ‘‘ทฺวาทสปุฺกิริยวเสนา’’ติ วุตฺตํ.

ราคาทิมเลน สมเลหิ ปูรณาทีหิ ฉหิ สตฺถาเรหิ สตฺถุปฏิฺเหิ กพฺพรจนาวเสน จินฺตากวิอาทิภาเว ตฺวา ตกฺกปริยาหตํ วีมํสานุจริตํ สยํปฏิภานํ จินฺติโต. เต กิร พุทฺธโกลาหลานุสฺสเวน สฺชาตกุตูหลํ โลกํ วฺเจตฺวา โกหฺเ ตฺวา สพฺพฺุตํ ปฏิชานนฺตา ยํ กิฺจิ อธมฺมํเยว ธมฺโมติ ทีเปสุํ. เตนาห ‘‘เต หิ ปุเรตรํ อุปฺปชฺชิตฺวา’’ติอาทิ. อปาปุเรตนฺติ เอตํ กสฺสปสฺส ภควโต สาสนนฺตรธานโต ปภุติ ปิหิตํ นิพฺพานนครสฺส มหาทฺวารํ อริยมคฺคํ สทฺธมฺมเทสนาหตฺเถน อปาปุร วิวร.

เสลปพฺพโต อุจฺโจ โหติ ถิโร จ, น ปํสุปพฺพโต มิสฺสกปพฺพโต จาติ อาห ‘‘เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนี’’ติ. ธมฺมมยํ ปาสาทนฺติ โลกุตฺตรธมฺมมาห. โส หิ สพฺพโส ปสาทาวโห, สพฺพธมฺเม อติกฺกมฺม อพฺภุคฺคตฏฺเน ปาสาทสทิโส จ. ปฺาปริยาโย วา อิธ ธมฺม-สทฺโท. สา หิ อพฺภุคฺคตฏฺเน ‘‘ปาสาโท’’ติ อภิธมฺเม (ธ. ส. อฏฺ. ๑๖) นิทฺทิฏฺา. ตถา จาห –

‘‘ปฺาปาสาทมารุยฺห, อโสโก โสกินึ ปชํ;

ปพฺพตฏฺโว ภูมฏฺเ, ธีโร พาเล อเวกฺขตี’’ติ. (ธ. ป. ๒๘);

อุฏฺเหีติ วา ธมฺมเทสนาย อปฺโปสฺสุกฺกตาสงฺขาตสงฺโกจาปตฺติโต กิลาสุภาวโต อุฏฺห.

๒๘๓. ครุฏฺานิยํ ปยิรุปาสิตฺวา ครุตรํ ปโยชนํ อุทฺทิสฺส อภิปตฺถนา อชฺเฌสนา, สาปิ อตฺถโต ยาจนาว โหตีติ อาห ‘‘อชฺเฌสนนฺติ ยาจน’’นฺติ. ปเทสวิสยํ าณทสฺสนํ อหุตฺวา พุทฺธานํเยว อาเวณิกภาวโต อิทํ าณทฺวยํ ‘‘พุทฺธจกฺขู’’ติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘อิเมสฺหิ ทฺวินฺนํ าณานํ พุทฺธจกฺขูติ นาม’’นฺติ. ติณฺณํ มคฺคาณานนฺติ เหฏฺิมานํ ติณฺณํ มคฺคาณานํ ‘‘ธมฺมจกฺขู’’ติ นามํ จตุสจฺจธมฺมทสฺสนมตฺตภาวโต. ยโต ตานิ าณานิ วิชฺชูปมภาเวน วุตฺตานิ, อคฺคมคฺคาณํ ปน าณกิจฺจสฺส สิขาปฺปตฺติยา น ทสฺสนมตฺตํ โหตีติ ‘‘ธมฺมจกฺขู’’ติ น วุจฺจติ, ตโต ตํ วชิรูปมภาเวน วุตฺตํ. วุตฺตนเยนาติ ‘‘อปฺปรชกฺขา’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยน. ยสฺมา มนฺทกิเลสา ‘‘อปฺปรชกฺขา’’ติ วุตฺตา, ตสฺมา พหลกิเลสา ‘‘มหารชกฺขา’’ติ เวทิตพฺพา. ปฏิปกฺขวิธมนสมตฺถตาย ติกฺขานิ สูรานิ วิสทานิ, วุตฺตวิปริยาเยน มุทูนิ. สทฺธาทโย อาการาติ สทฺทหนาทิปฺปกาเร วทติ. สุนฺทราติ กลฺยาณา. สมฺโมหวิโนทนิยํ (วิภ. อฏฺ. ๘๑๔) ปน ‘‘เยสํ อาสยาทโย โกฏฺาสา สุนฺทรา, เต สฺวาการา, วิปรีตา ทฺวาการา’’ติ วุตฺตํ, ตํ อิมาย อตฺถวณฺณนาย อฺทตฺถุ สํสนฺทติ สเมตีติ ทฏฺพฺพํ. การณํ นาม ปจฺจยากาโร, สจฺจานิ วา.

อยํ ปเนตฺถ ปาฬีติ เอตฺถ อปฺปรชกฺขาทิปทานํ อตฺถวิภาวเน อยํ ตสฺสตฺถสฺส วิภาวนี ปาฬิ. สทฺธาทีนํ วิมุตฺติปริปาจกธมฺมานํ พลวภาโว ตปฺปฏิปกฺขานํ ปาปธมฺมานํ ทุพฺพลภาเวเนว โหติ, เตสฺจ พลวภาโว สทฺธาทีนํ ทุพฺพลภาเวนาติ วิมุตฺติปริปาจกธมฺมานํ อตฺถิตานตฺถิตาวเสน อปฺปรชกฺขมหารชกฺขตาทโย ปาฬิยํ วิภชิตฺวา ทสฺสิตา. ขนฺธาทโย เอว ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก. สมฺปตฺติภวภูโต โลโก สมฺปตฺติภวโลโก, สุคติสงฺขาโต อุปปตฺติภโว. สมฺปตฺติ สมฺภวติ เอเตนาติ สมฺปตฺติสมฺภวโลโก. สุคติสํวตฺตนิโย กมฺมภโว. ทุคฺคติ สงฺขาตอุปปตฺติภวทุคฺคติ สํวตฺตนิยกมฺมภวา วิปตฺติภวโลกวิปตฺติสมฺภวโลกา.

ปุน เอกกทุกาทิวเสน โลกํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เอโก โลโก’’ติอาทิ วุตฺตํ. อาหาราทโย วิย หิ อาหารฏฺิติกา สงฺขารา ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโกติ. เอตฺถ เอโก โลโก สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกาติ ยายํ ปุคฺคลาธิฏฺานาย กถาย สพฺพสงฺขารานํ ปจฺจยายตฺตวุตฺติ, ตาย สพฺเพ สงฺขารา เอโกว โลโก เอกวิโธ ปการนฺตรสฺส อภาวโต. ทฺเว โลกาติอาทีสุปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. นามคฺคหเณน เจตฺถ นิพฺพานสฺส อคฺคหณํ ตสฺส อโลกสภาวตฺตา. นนุ จ อาหารฏฺิติกาติ เอตฺถ ปจฺจยายตฺตวุตฺติตาย มคฺคผลานมฺปิ โลกตา อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ ปริฺเยฺยานํ ทุกฺขสจฺจธมฺมานํ อิธ ‘‘โลโก’’ติ อธิปฺเปตตฺตา. อถ วา น ลุชฺชติ น ปลุชฺชตีติ โย คหิโต ตถา น โหติ, โส โลโกติ ตํ-คหณรหิตานํ โลกุตฺตรานํ นตฺถิ โลกตา. อุปาทานานํ อารมฺมณภูตา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธา. ทสายตนานีติ ทส รูปายตนานิ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

วิวฏฺฏชฺฌาสยสฺส อธิปฺเปตตฺตา ตสฺส จ สพฺพํ เตภูมกกมฺมํ ครหิตพฺพํ วชฺชิตพฺพฺจ หุตฺวา อุปฏฺาตีติ วุตฺตํ ‘‘สพฺเพ อภิสงฺขารา วชฺชํ, สพฺเพ ภวคามิกมฺมา วชฺช’’นฺติ. อปฺปรชกฺขมหารชกฺขาทีสุ ปฺจสุ ทุเกสุ เอเกกสฺมึ ทส ทส กตฺวา ‘‘ปฺาสาย อากาเรหิ อิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ ชานาตี’’ติ วุตฺตํ. อถ วา อนฺวยโต พฺยติเรกโต จ สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ ปโรปริยตฺตํ ชานาตีติ กตฺวา ตถา วุตฺตํ. เอตฺถ จ อปฺปรชกฺขาทิภพฺพาทิวเสน อาวชฺเชนฺตสฺส ภควโต เต สตฺตา ปุฺชปุฺชาว หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, น เอเกกา.

อุปฺปลานิ เอตฺถ สนฺตีติ อุปฺปลินี, คจฺโฉปิ ชลาสโยปิ, อิธ ปน ชลาสโย อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘อุปฺปลวเน’’ติ. ยานิ อุทกสฺส อนฺโต นิมุคฺคาเนว หุตฺวา ปุสนฺติ วฑฺฒนฺติ, ตานิ อนฺโตนิมุคฺคโปสีนิ. ทีปิตานีติ อฏฺกถายํ ปกาสิตานิ, อิเธว วา ‘‘อฺานิปี’’ติอาทินา ภาสิตานิ.

อุคฺฆฏิตฺูติ อุคฺฆฏิตํ นาม าณุคฺฆฏนํ, าเณ อุคฺฆฏิตมตฺเต เอว ชานาตีติ อตฺโถ. วิปฺจิตํ วิตฺถาริตเมว อตฺถํ ชานาตีติ วิปฺจิตฺู. อุทฺเทสาทีหิ เนตพฺโพติ เนยฺโย. สห อุทาหฏเวลายาติ อุทาหาเร อุทาหฏมตฺเตเยว. ธมฺมาภิสมโยติ จตุสจฺจธมฺมสฺส าเณน สทฺธึ อภิสมโย. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทินา นเยน สํขิตฺเตน มาติกาย ปิยมานาย เทสนานุสาเรน าณํ เปเสตฺวา อรหตฺตํ คณฺหิตุํ สมตฺโถ ปุคฺคโล ‘‘อุคฺฆฏิตฺู’’ติ วุจฺจติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ สํขิตฺเตน มาติกํ เปตฺวา วิตฺถาเรน อตฺเถ วิภชิยมาเน อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ สมตฺโถ ปุคฺคโล ‘‘วิปฺจิตฺู’’ติ วุจฺจติ. อุทฺเทสโตติ อุทฺเทสเหตุ, อุทฺทิสนฺตสฺส, อุทฺทิสาเปนฺตสฺส วาติ อตฺโถ. ปริปุจฺฉโตติ อตฺถํ ปริปุจฺฉนฺตสฺส. อนุปุพฺเพน ธมฺมาภิสมโย โหตีติ อนุกฺกเมน อรหตฺตปฺปตฺติ โหติ. น ตาย ชาติยา ธมฺมาภิสมโย โหตีติ เตน อตฺตภาเวน มคฺคํ วา ผลํ วา อนฺตมโส ฌานํ วา วิปสฺสนํ วา นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ปทปรโมติ อยํ ปุคฺคโล พฺยฺชนปทเมว ปรมํ อสฺสาติ ปทปรโมติ วุจฺจติ.

กมฺมาวรเณนาติ (วิภ. อฏฺ. ๘๒๖) ปฺจวิเธน อานนฺตริยกมฺเมน. วิปากาวรเณนาติ อเหตุกปฏิสนฺธิยา. ยสฺมา ปน ทุเหตุกานมฺปิ อริยมคฺคปฏิเวโธ นตฺถิ, ตสฺมา ทุเหตุกา ปฏิสนฺธิปิ ‘‘วิปากาวรณเมวา’’ติ เวทิตพฺพา. กิเลสาวรเณนาติ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิยา. อสฺสทฺธาติ พุทฺธาทีสุ สทฺธารหิตา. อจฺฉนฺทิกาติ กตฺตุกมฺยตากุสลจฺฉนฺทรหิตา. อุตฺตรกุรุกา มนุสฺสา อจฺฉนฺทิกฏฺานํ ปวิฏฺา. ทุปฺปฺาติ ภวงฺคปฺาย ปริหีนา. ภวงฺคปฺาย ปน ปริปุณฺณายปิ ยสฺส ภวงฺคํ โลกุตฺตรสฺส ปจฺจโย น โหติ, โสปิ ทุปฺปฺโ เอว นาม. อภพฺพา นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตนฺติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตนิยามสงฺขาตํ มคฺคํ โอกฺกมิตุํ อธิคนฺตุํ อภพฺพา. น กมฺมาวรเณนาติอาทีนิ วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺพานิ.

นิพฺพานสฺส ทฺวารํ ปวิสนมคฺโค. วิวริตฺวา ปิโต มหากรุณูปนิสฺสเยน สยมฺภุาเณน อธิคตตฺตา. สทฺธํ ปมุฺจนฺตูติ อตฺตโน สทฺธํ ปเวเสนฺตุ, สทฺทหนาการํ อุปฏฺเปนฺตูติ อตฺโถ. สุเขน อกิจฺเฉน ปวตฺตนียตาย สุปฺปวตฺติตํ. น ภาสึ น ภาสิสฺสามีติ จินฺเตสึ.

๒๘๔. ธมฺมํ เทเสสฺสามีติ เอวํ ปวตฺติตธมฺมเทสนาปฏิสํยุตฺตสฺส วิตกฺกสฺส สตฺตมสตฺตาหโต ปรํ อฏฺมสตฺตาเหเยว อุปฺปนฺนตฺตา วุตฺตํ ‘‘อฏฺเม สตฺตาเห’’ติ. น อิตรสตฺตาหานิ วิย ปฏินิยตกิจฺจลกฺขิตสฺส อฏฺมสตฺตาหสฺส นาม ปวตฺติตสฺส สพฺภาวา.

วิวฏนฺติ เทวตาวิคฺคเหน วิวฏองฺคปจฺจงฺคนิทฺทาย ชนานํ ปากฏํ วิปฺปการนฺติ อตฺโถ. ‘‘พุทฺธตฺตํ อนธิคนฺตฺวา น ปจฺจาคมิสฺสามี’’ติ อุปฺปนฺนวิตกฺกาติสยเหตุเกน ปถวีปริวตฺตนเจติยํ นาม ทสฺเสตฺวา. สากิยโกลิยมลฺลรชฺชวเสน ตีณิ รชฺชานิ. รุกฺขมูเลติ นิคฺโรธมูเล. วตฺวา ปกฺกามิ, ปกฺกมนฺติยา จสฺสา มหาสตฺโต อาการํ ทสฺเสสิ สุวณฺณถาลคฺคหณาย, สา ‘‘ตุมฺหากํ ตํ ปริจฺจตฺตเมวา’’ติ ปกฺกามิ.

ทิวาวิหารํ กตฺวาติ นานาสมาปตฺติโย สมาปชฺชเนน ทิวาวิหารํ วิหริตฺวา. ‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ, อฏฺิ จ อวสิสฺสตุ, อุปสุสฺสตุ สรีเร มํสโลหิต’’นฺติอาทินา สุตฺเต (ม. นิ. ๒.๑๘๔; สํ. นิ. ๒.๒๓๗; อ. นิ. ๒.๕; ๘.๑๓; มหานิ. ๑๗, ๑๙๖) อาคตนเยน จตุรงฺควีริยํ อธิฏฺหิตฺวา.

นวโยชนนฺติ อุพฺเพธโต วุตฺตํ, ปุถุลโต ทฺวาทสโยชนา, ทีฆโต ยาว จกฺกวาฬา อายตาติ วทนฺติ. อชฺโฌตฺถรนฺโต อุปสงฺกมิตฺวา – ‘‘อุฏฺเหิ โส, สิทฺธตฺถ, อหํ อิมสฺส ปลฺลงฺกสฺส อนุจฺฉวิโก’’ติ วตฺวา ตตฺถ สกฺขึ โอตาเรนฺโต อตฺตโน ปริสํ นิทฺทิสิ. เอกปฺปหาเรเนว – ‘‘อยเมว อนุจฺฉวิโก, อยเมว อนุจฺฉวิโก’’ติ โกลาหลมกาสิ, ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต…เป… หตฺถํ ปสาเรติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –

‘‘อเจตนายํ ปถวี, อวิฺาย สุขํ ทุขํ;

สาปิ ทานพลา มยฺหํ, สตฺตกฺขตฺตุํ ปกมฺปถา’’ติ. (จริยา. ๑.๑๒๔);

ปุพฺเพนิวาสาณํ วิโสเธตฺวาติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ สีหาวโลกนาเยน. วฏฺฏวิวฏฺฏํ สมฺมสิตฺวาติ จตุสจฺจมนสิการํ สนฺธายาห. อิมสฺส ปลฺลงฺกสฺส อตฺถายาติ ปลฺลงฺกสีเสน อธิคตวิเสสํ ทสฺเสติ. ตตฺถ หิ สิขาปฺปตฺตวิมุตฺติสุขํ อวิชหนฺโต อนฺตรนฺตรา จ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคํ มนสิกโรนฺโต เอกปลฺลงฺเกน นิสีทิ. เอกจฺจานนฺติ ยา อธิคตมคฺคา สจฺฉิกตนิโรธา เอกเทเสน จ พุทฺธคุเณ ชานนฺติ, ตา เปตฺวา ตทฺเสํ เทวตานํ. อฺเปิ พุทฺธตฺตกราติ วิสาขาปุณฺณมโต ปฏฺาย รตฺตินฺทิวํ เอวํ นิจฺจสมาหิตภาวเหตุกานํ พุทฺธคุณานํ อุปริ อฺเปิ พุทฺธตฺตสาธกา, ‘‘อยํ พุทฺโธ’’ติ พุทฺธภาวสฺส ปเรสํ วิภาวนา ธมฺมา กึ นุ โข อตฺถีติ โยชนา.

อนิมิเสหีติ ธมฺมปีติวิปฺผารวเสน ปสาทวิกสิตนิจฺจลตาย นิเมสรหิเตหิ. รตนจงฺกเมติ เทวตาหิ มาปิเต รตนมยจงฺกเม. รตนภูตานํ สตฺตนฺนํ ปกรณานํ ตตฺถ จ อนนฺตนยสฺส ธมฺมรตนสฺส สมฺมสเนน ตํ านํ รตนฆรเจติยํ นาม ชาตนฺติปิ วทนฺติ. เอวนฺติ วกฺขมานากาเรน. ฉพฺพณฺณานํ รสฺมีนํ ทนฺเตหิ นิกฺขมนโต ฉทฺทนฺตนาคกุลํ วิยาติ นิทสฺสนํ วุตฺตํ.

เหฏฺา โลหปาสาทปฺปมาโณติ นวภูมกสฺส สพฺพปมสฺส โลหปาสาทสฺส เหฏฺา โลหปาสาทปฺปมาโณ. ขนฺธกฏฺกถายํ (มหาว. อฏฺ. ๕) ปน ตตฺถ ‘‘ภณฺฑาคารคพฺภปฺปมาณ’’นฺติ วุตฺตํ.

ปจฺจคฺเฆติ อภินเว. ปจฺเจกํ มหคฺฆตาย ปจฺจคฺเฆติ เกจิ, ตํ น สุนฺทรํ. น หิ พุทฺธา ภควนฺโต มหคฺฆํ ปฏิคฺคณฺหนฺติ ปริภุฺชนฺติ วา. ปิณฺฑปาตนฺติ เอตฺถ มนฺถฺจ มธุปิณฺฑิกฺจ สนฺธาย วทติ. อยํ วิตกฺโกติ – ‘‘กสฺส นุ โข อหํ ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติ อยํ ปริวิตกฺโก.

ปณฺฑิจฺเจนาติ สมาปตฺติปฏิลาภสํสิทฺเธน อธิคมพาหุสจฺจสงฺขาเตน ปณฺฑิตภาเวน. เวยฺยตฺติเยนาติ สมาปตฺติปฏิลาภปจฺจเยน ปาริหาริยปฺาสงฺขาเตน พฺยตฺตภาเวน. เมธาวีติ ติเหตุกปฏิสนฺธิปฺาสงฺขาตาย ตํตํอิติกตฺตพฺพตาปฺาสงฺขาตาย จ เมธาย สมนฺนาคโตติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. มหาชานิโยติ มหาปริหานิโก. อาคมนปาทาปิ นตฺถีติ อิทํ ปมํ วตฺตพฺพํ, อถาหํ ตตฺถ คจฺเฉยฺยํ, คนฺตฺวา เทสิยมานํ ธมฺมมฺปิสฺส โสตุํ โสตปสาโทปิ นตฺถีติ โยชนา. กึ ปน ภควตา อตฺตโน พุทฺธานุภาเวน เต ธมฺมํ าเปตุํ น สกฺกาติ? อาม, น สกฺกา. น หิ ปรโต โฆสํ อนฺตเรน สาวกานํ ธมฺมาภิสมโย สมฺภวติ, อฺถา อิตรปจฺจยรหิตสฺสปิ ธมฺมาภิสมเยน ภวิตพฺพํ, น จ ตํ อตฺถิ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปจฺจยา สมฺมาทิฏฺิยา อุปฺปาทาย ปรโต จ โฆโส อชฺฌตฺตฺจ โยนิโสมนสิกาโร’’ติ (อ. นิ. ๒.๑๒๗). ปาฬิยํ รามสฺเสว สมาปตฺติลาภิตา อาคตา, น อุทกสฺส, ตํ ตสฺส โพธิสตฺเตน สมาคตกาลวเสน วุตฺตํ . โส หิ ปุพฺเพปิ ตตฺถ ยุตฺตปฺปยุตฺโต วิหรนฺโต มหาปุริเสน ขิปฺปฺเว สมาปตฺตีนํ นิพฺพตฺติตภาวํ สุตฺวา สํเวคชาโต มหาสตฺเต ตโต นิพฺพิชฺช ปกฺกนฺเต ฆเฏนฺโต วายมนฺโต นจิรสฺเสว อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘เนวสฺานาสฺายตเน นิพฺพตฺโตติ อทฺทสา’’ติ. เอเต อฏฺ พฺราหฺมณาติ สมฺพนฺโธ. ฉฬงฺควาติ ฉฬงฺควิทุโน. มนฺตนฺติ มนฺตปทํ. ‘‘นิชฺฌายิตฺวา’’ติ วจนเสโส, มนฺเตตฺวาติ อตฺโถ. วิยากรึสูติ กเถสุํ.

ยถามนฺตปทนฺติ ลกฺขณมนฺตสงฺขาตเวทวจนานุรูปํ. คตาติ ปฏิปนฺนา. ‘‘ทฺเวว คติโย ภวนฺติ อนฺา’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๓; ๓.๑๙๙-๒๐๐; ม. นิ. ๒.๓๘๔, ๓๙๘) วุตฺตนิยาเมน นิจฺฉินิตุํ อสกฺโกนฺตา พฺราหฺมณา วุตฺตเมว ปฏิปชฺชึสุ, น มหาปุริสสฺส พุทฺธภาวปฺปตฺตึ ปจฺจาสีสึสุ. อิเม ปน โกณฺฑฺาทโย ปฺจ ‘‘เอกํสโต พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ ชาตนิจฺฉยตฺตา มนฺตปทํ อติกฺกนฺตา. ปุณฺณปตฺตนฺติ ตุฏฺิทานํ. นิพฺพิตกฺกาติ นิพฺพิกปฺปา, น ทฺเวธา ตกฺกา.

วปฺปกาเลติ วปนกาเล. วปนตฺถํ พีชานิ นีหรณนฺเตน ตตฺถ อคฺคํ คเหตฺวา ทานํ พีชคฺคทานํ นาม. ลายนคฺคาทีสุปิ เอเสว นโย. ธฺผลสฺส นาติปริณตกาเล ปุถุกกาเล. ลายเนติ สสฺสลายเน. ยถา ลูนํ หตฺถกํ กตฺวา เวณิวเสน พนฺธนํ เวณิกรณํ. เวณิโย ปน ปุริสภารวเสน พนฺธนํ กลาโป. ขเล กลาปานํ ปนทิวเส อคฺคํ คเหตฺวา ทานํ ขลคฺคํ. มทฺทิตฺวา วีหีนํ ราสิกรณทิวเส อคฺคํ คเหตฺวา ทานํ ภณฺฑคฺคํ. โกฏฺาคาเร ธฺสฺส ปกฺขิปนทิวเส ทานํ โกฏฺคฺคํ. อุทฺธริตฺวาติ ขลโต ธฺสฺส อุทฺธริตฺวา. นวนฺนํ อคฺคทานานํ ทินฺนตฺตาติ อิทํ ตสฺส รตฺตฺูนํ อคฺคภาวตฺถาย กตาภินีหารานุรูปํ ปวตฺติตสาวกปารมิยา จิณฺณนฺเต ปวตฺติตตฺตา วุตฺตํ. ติณฺณมฺปิ หิ โพธิสตฺตานํ ตํตํปารมิยา สิขาปฺปตฺตกาเล ปวตฺติตํ ปุฺํ อปุฺํ วา ครุตรวิปากเมว โหติ, ธมฺมสฺส จ สพฺพปมํ สจฺฉิกิริยาย วินา กถํ รตฺตฺูนํ อคฺคภาวสิทฺธีติ. พหุการา โข อิเม ปฺจวคฺคิยาติ อิทํ ปน อุปการานุสฺสรณมตฺตกเมว ปริจยวเสน อาฬารุทกานุสฺสรณํ วิย.

๒๘๕. วิวเรติ มชฺเฌ. เตนาห ‘‘ติคาวุตนฺตเร าเน’’ติ. อโยชิยมาเน อุปโยควจนํ น ปาปุณาติ สามิวจนสฺส ปสงฺเค อนฺตรา-สทฺทโยเคน อุปโยควจนสฺส อิจฺฉิตตฺตา. เตนาห ‘‘อนฺตราสทฺเทน ปน ยุตฺตตฺตา อุปโยควจนํ กต’’นฺติ.

สพฺพํ เตภูมกธมฺมํ อภิภวิตฺวา ปริฺาภิสมยวเสน อติกฺกมิตฺวา. จตุภูมกธมฺมํ อนวเสสํ เยฺยํ สพฺพโส เยฺยาวรณสฺส ปหีนตฺตา สพฺพฺุตฺาเณน อเวทึ. รชฺชนทุสฺสนมุยฺหนาทินา กิเลเสน. อปฺปหาตพฺพมฺปิ กุสลาพฺยากตํ ตปฺปฏิพทฺธกิเลสมถเนน ปหีนตฺตา น โหตีติ อาห ‘‘สพฺพํ เตภูมกธมฺมํ ชหิตฺวา ิโต’’ติ. อารมฺมณโตติ อารมฺมณกรณวเสน.

กิฺจาปิ โลกิยธมฺมานมฺปิ ยาทิโส โลกนาถสฺส อธิคโม, น ตาทิโส อธิคโม ปรูปเทโส อตฺถิ, โลกุตฺตรธมฺเม ปนสฺส เลโสปิ นตฺถีติ อาห ‘‘โลกุตฺตรธมฺเม มยฺหํ อาจริโย นาม นตฺถี’’ติ. ปฏิภาคปุคฺคโลติ สีลาทีหิ คุเณหิ ปฏินิธิภูโต ปุคฺคโล. สเหตุนาติ สหธมฺเมน สปาฏิหีรกตาย. นเยนาติ อภิชานนตาทิวิธินา. จตฺตาริ สจฺจานีติ อิทํ ตพฺพินิมุตฺตสฺส เยฺยสฺส อภาวโต วุตฺตํ. สยํ พุทฺโธติ สยเมว สยมฺภุาเณน พุทฺโธ. วิคตปริฬาหตาย สีติภูโต. ตโต เอว นิพฺพุโต. อาหฺฉนฺติ อาหนิสฺสามิ. เวเนยฺยานํ อมตาธิคมาย อุคฺโฆสนาทึ กตฺวา สตฺถุ ธมฺมเทสนา อมตทุนฺทุภีติ วุตฺตา.

อนนฺตาโณ ชิตกิเลโสติ อนนฺตชิโน. เอวมฺปิ นาม ภเวยฺยาติ เอวํวิเธ นาม รูปรตเน อีทิเสน าเณน ภวิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. อยํ หิสฺส ปพฺพชฺชาย ปจฺจโย ชาโต, กตาธิกาโร เจส. ตถา หิ ภควา เตน สมาคมตฺถํ ปทสาว ตํ มคฺคํ ปฏิปชฺชิ.

โกฏฺาสสมฺปนฺนาติ องฺคปจฺจงฺคสงฺขาตอวยวสมฺปนฺนา. อฏฺฏียตีติ อฏฺโฏ โหติ, โทมนสฺสํ อาปชฺชตีติ อตฺโถ.

อวิหํ อุปปนฺนาเสติ อวิเหสุ นิพฺพตฺตา. วิมุตฺตาติ อคฺคผลวิมุตฺติยา วิมุตฺตา. เต หิตฺวา มานุสํ เทหํ, ทิพฺพโยคํ อุปชฺฌคุนฺติ เต อุปกา ทโย มานุสํ อตฺตภาวํ ชหิตฺวา โอรมฺภาคิยสํโยชนปฺปหาเนน อวิเหสุ นิพฺพตฺตมตฺตาว อคฺคมคฺคาธิคเมน ทิพฺพโยคํ อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนํ สมติกฺกมึสุ.

๒๘๖. สณฺเปสุนฺติ ‘‘เนว อภิวาเทตพฺโพ’’ติอาทินา (มหาว. ๑๒) สณฺํ กิริยาการํ อกํสุ. เตนาห ‘‘กติกํ อกํสู’’ติ. ปธานโตติ ปุพฺเพ อนุฏฺิตทุกฺกรจรณโต. ปภาวิตนฺติ วาจาสมุฏฺานํ, วจีนิจฺฉารณนฺติ อตฺโถ. ‘‘อยํ น กิฺจิ วิเสสํ อธิคมิสฺสตี’’ติ อนุกฺกณฺนตฺถํ. ‘‘มยํ ยตฺถ กตฺถจิ คมิสฺสามา’’ติ มา วิตกฺกยิตฺถ. โอภาโสติ วิปสฺสโนภาโส. นิมิตฺตนฺติ กมฺมฏฺานนิมิตฺตํ. เอกปเทเนวาติ เอกวจเนเนว. ‘‘อเนน ปุพฺเพปิ น กิฺจิ มิจฺฉา วุตฺตปุพฺพ’’นฺติ สตึ ลภิตฺวา. ยถาภูตวาทีติ อุปฺปนฺนคารวา.

อนฺโตวิหาเรเยว อโหสิ ทหรกุมาโร วิย เตหิ ภิกฺขูหิ ปริหริโต. มเลติ สํกิเลเส. คามโต ภิกฺขูหิ นีหฏํ อุปนีตํ ภตฺตํ เอตสฺสาติ นีหฏภตฺโต, เตน นีหฏภตฺเตน ภควตา. เอตฺตกํ กถามคฺคนฺติ – ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ปริเยสนา’’ติ อารภิตฺวา ยาว – ‘‘นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ ปทํ, เอตฺตกํ เทสนามคฺคํ. กามฺเจตฺถ – ‘‘ตุมฺเหปิ มมฺเจว ปฺจวคฺคิยานฺจ มคฺคํ อารูฬฺหา, อริยปริเยสนา ตุมฺหากํ ปริเยสนา’’ติ อฏฺกถาวจนํ. เตน ปน – ‘‘โส โข อหํ, ภิกฺขเว, อตฺตนา ชาติธมฺโม สมาโน…เป… อสํกิลิฏฺํ อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ นิพฺพานํ อชฺฌคมนฺติ, อถ โข, ภิกฺขเว, ปฺจวคฺคิยา ภิกฺขู มยา เอวํ โอวทิยมานา…เป… อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ นิพฺพานํ อชฺฌคมํสุ…เป… นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ อิมสฺเสว สุตฺตปทสฺส อตฺโถ วิภาวิโตติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ภควา ยํ ปุพฺเพ อวจ ตุมฺเหปิ มมฺเจว ปฺจวคฺคิยานฺจ มคฺคํ อารุฬฺหา, อริยปริเยสนา ตุมฺหากํ ปริเยสนาติ. อิมํ เอกเมว อนุสนฺธึ ทสฺเสนฺโต อาหรี’’ติ.

๒๘๗. อนคาริยานมฺปีติ ปพฺพชิตานมฺปิ. ปฺจกามคุณวเสน อนริยปริเยสนา โหติ คธิตาทิภาเวน ปริภุฺชนโต. มิจฺฉาชีววเสนปิ อนริยปริเยสนา โหตีติ ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘ปฺจกามคุณวเสนา’’ติ วุตฺตํ สจฺฉนฺทราคปริโภคสฺส อธิปฺเปตตฺตา. อิทานิ จตูสุ ปจฺจเยสุ กามคุเณ นิทฺธาเรตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริโภครโสติ ปริโภคปจฺจยปีติโสมนสฺสํ. อยํ ปน รสสมานตาวเสน คหณํ อุปาทาย ‘‘รโส’’ติ วุตฺโต, น สภาวโต. สภาเวน คหณํ อุปาทาย ปีติโสมนสฺสํ ธมฺมารมฺมณํ สิยา, น รสารมฺมณํ. อปฺปจฺจเวกฺขณปริโภโคติ ปจฺจเวกฺขณรหิโต ปริโภโค, อิทมตฺถิตํ อนิสฺสาย คธิตาทิภาเวน ปริโภโคติ อตฺโถ. คธิตาติ ตณฺหาย พทฺธา. มุจฺฉิตาติ มุจฺฉํ โมหํ ปมาทํ อาปนฺนา. อชฺโฌคาฬฺหาติ อธิโอคาฬฺหา, ตํ ตํ อารมฺมณํ อนุปวิสิตฺวา ิตา. อาทีนวํ อปสฺสนฺตาติ สจฺฉนฺทราคปริโภเค โทสํ อชานนฺตา. อปจฺจเวกฺขิตปริโภคเหตุอาทีนวํ นิสฺสรติ อติกฺกมติ เอเตนาติ นิสฺสรณํ, ปจฺจเวกฺขณาณํ.

ปาสราสินฺติ ปาสสมุทายํ. ลุทฺทโก หิ ปาสํ โอฑฺเฑนฺโต น เอกํเยว, น จ เอกสฺมึเยว าเน โอฑฺเฑติ, อถ โข ตํตํมิคานํ อาคมนมคฺคํ สลฺลกฺเขตฺวา ตตฺถ ตตฺถ โอฑฺเฑนฺโต พหูเยว โอฑฺเฑติ, ตสฺมา เต จิตฺเตน เอกโต คเหตฺวา ‘‘ปาสราสี’’ติ วุตฺตํ. วาคุรสฺส วา ปาสปเทสานํ พหุภาวโต ‘‘ปาสราสี’’ติ วุตฺตํ.

ปาสราสิสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๗. จูฬหตฺถิปโทปมสุตฺตวณฺณนา

๒๘๘. เสตปริวาโรติ เสตปฏิจฺฉโท, เสตวณฺณาลงฺกาโรติ อตฺโถ. ปุพฺเพ ปน ‘‘เสตาลงฺการา’’ติ อสฺสาลงฺกาโร คหิโต, อิธ จกฺกปฺชรกุพฺพราทิรถาวยเวสุ กาตพฺพาลงฺกาโร. เอวํ วุตฺเตนาติ เอวํ ‘‘เสตาย สุท’’นฺติอาทินา ปกาเรน สํยุตฺตมหาวคฺเค (สํ. นิ. ๕.๔) วุตฺเตน. นาติมหา ยุทฺธมณฺฑเล สฺจารสุขตฺถํ. โยโธ สารถีติ ทฺวินฺนํ, ปหรณทายเกน สทฺธึ ติณฺณํ วา.

นครํ ปทกฺขิณํ กโรติ นครโสภนตฺถํ. อิทํ กิร ตสฺส พฺราหฺมณสฺส ชาณุสฺโสณิฏฺานนฺตรํ ชาติสิทฺธํ ปรมฺปราคตํ จาริตฺตํ. เตนาห ‘‘อิโต เอตฺตเกหิ ทิวเสหี’’ติอาทิ. จาริตฺตวเสน นครวาสิโนปิ ตถา ตถา ปฏิปชฺชนฺติ. ปุฺวาทิมงฺคลกถเน นิยุตฺตา มางฺคลิกา. สุวตฺถิปตฺตนาย โสวตฺถิกา. อาทิ-สทฺเทน วนฺทีอาทีนํ สงฺคโห. ยสสิริสมฺปตฺติยาติ ยสสมฺปตฺติยา สิริสมฺปตฺติยา จ, ปริวารสมฺปตฺติยา เจว วิภวโสภาสมฺปตฺติยา จาติ อตฺโถ.

นคราภิมุโขปายาสิ อตฺตโน ภิกฺขาจารเวลาย. ปณฺฑิโต มฺเติ เอตฺถ มฺเติ อิทํ ‘‘มฺตี’’ติ อิมินา สมานตฺถํ นิปาตปทํ. ตสฺส อิติ-สทฺทํ อาเนตฺวา อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปณฺฑิโตติ มฺตี’’ติ อาห. อนุมติปุจฺฉาวเสน เจตํ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘อุทาหุ โน’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺติ ภวํ วจฺฉายโน สมณสฺส โคตมสฺส ปฺาเวยฺยตฺติย’’นฺติ หิ วุตฺตเมวตฺถํ ปุน คณฺหนฺโต ‘‘ปณฺฑิโต มฺเ’’ติ อาห. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ภวํ วจฺฉายโน, สมณํ โคตมํ ปณฺฑิโตติ มฺติ, อุทาหุ โน’’ติ, ยถา เต ขเมยฺย, ตถา นํ กเถหีติ อธิปฺปาโย.

อหํ โก นาม, มม อวิสโย เอโสติ ทสฺเสติ. โก จาติ เหตุนิสฺสกฺเก ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘กุโต จา’’ติ. ตถา จาห ‘‘เกน การเณน ชานิสฺสามี’’ติ, เยน การเณน สมณสฺส โคตมสฺส ปฺาเวยฺยตฺติยํ ชาเนยฺยํ, ตํ การณํ มยิ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. พุทฺโธเยว ภเวยฺย, อพุทฺธสฺส สพฺพถา พุทฺธาณานุภาวํ ชานิตุํ น สกฺกาติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อปฺปมตฺตกํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, โอรมตฺตกํ สีลมตฺตกํ, เยน ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย (ที. นิ. ๑.๗), อตฺถิ, ภิกฺขเว, อฺเว ธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา ทุรนุโพธา …เป… เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺยา’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๘) จ. เอตฺถาติ ‘‘โสปิ นูนสฺส ตาทิโสวา’’ติ เอตสฺมึ ปเท. ปสตฺถ ปสตฺโถติ ปสตฺเถหิ อตฺตโน คุเณเหว โส ปสตฺโถ, น ตสฺส กิตฺตินา, ปสํสาสภาเวเนว ปาสํโสติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘สพฺพคุณาน’’นฺติอาทิ. มณิรตนนฺติ จกฺกวตฺติโน มณิรตนํ. สเทวเก โลเก ปาสํสานมฺปิ ปาสํโสติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปสตฺเถหิ วา’’ติ ทุติยวิกปฺโป คหิโต.

อรณียโต อตฺโถ, โส เอว วสตีติ วโสติ อตฺถวโส, ตสฺส ตสฺส ปโยคสฺส อานิสํสภูตํ ผลนฺติ อาห ‘‘อตฺถวสนฺติ อตฺถานิสํส’’นฺติ. อตฺโถ วา วุตฺตลกฺขโณ วโส เอตสฺสาติ อตฺถวโส, การณํ. นาควนวาสิโกติ หตฺถินาคานํ วิจรณวเน เตสํ คหณตฺถํ วสนโก. อนุคฺคหิตสิปฺโปติ อสิกฺขิตหตฺถิสิปฺโป อายตวิตฺถตสฺส ปทมตฺตสฺส ทสฺสเนน ‘‘มหา วต, โภ นาโค’’ติ นิฏฺาคมนโต. ปรโต ปน ภควตา วุตฺตฏฺาเน. อุคฺคหิตสิปฺโป ปุริโส นาควนิโกติ อาคโต อายตวิตฺถตสฺส ปทสฺส อุจฺจสฺส จ นิเสวิตสฺส พฺยภิจารภาวํ ตฺวา ตตฺตเกน นิฏฺํ อคนฺตฺวา มหาหตฺถึ ทิสฺวาว นิฏฺาคมนโต. าณํ ปชฺชติ เอตฺถาติ าณปทานิ, ขตฺติยปณฺฑิตาทีนํ ธมฺมวินเย วินีตตฺตา วินเยหิ อธิคตชฺฌานาทีนิ. ตานิ หิ ตถาคตคนฺธหตฺถิโน เทสนาาเณน อกฺกนฺตฏฺานานิ. จตฺตารีติ ปน วิเนยฺยานํ อิธ ขตฺติยปณฺฑิตาทิวเสน จตุพฺพิธานํเยว คหิตตฺตา.

๒๘๙. ปุคฺคเลสุ ปฺาย จ นิปุณตา ปณฺฑิตสมฺา นิปุณตฺถสฺส ทสฺสนสมตฺถตาวเสเนวาติ อาห ‘‘สุขุมอตฺถนฺตรปฏิวิชฺฌนสมตฺเถ’’ติ. กต-สทฺโท อิธ นิปฺผนฺนปริยาโย. ปเร ปวทนฺติ เอตฺถ, เอเตนาติ ปรปฺปวาโท, ปรสมโย. ปเรหิ ปวทนํ ปรปฺปวาโท, วิคฺคาหิกกถาย ปรวาทมทฺทนํ. ตทุภยมฺปิ เอกโต กตฺวา ปาฬิยํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘วิฺาตปรปฺปวาเท เจว ปเรหิ สทฺธึ กตวาทปริจเย จา’’ติ, ปรสมเยสุ ปรวาทมทฺทเนสุ จ นิปฺผนฺเนติ อตฺโถ. วาลเวธิรูเปติ วาลเวธิปติรูเป. เตนาห ‘‘วาลเวธิธนุคฺคหสทิเส’’ติ. วาลนฺติ อเนกธา ภินฺนสฺส วาลสฺส อํสุสงฺขาตํ วาลํ. ภินฺทนฺตา วิยาติ ฆฏาทึ สวิคฺคหํ มุคฺคราทินา ภินฺทนฺตา วิย, ทิฏฺิคตานิ เอกํสโต ภินฺทนฺตาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อตฺถํ คุยฺหํ ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา ปุจฺฉิสฺสามา’’ติ สงฺขตํ ปทปฺหํ ปุจฺฉนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุปทมฺปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. วทนฺติ เอเตนาติ วาโท, โทโส. ปุจฺฉียตีติ ปฺโห, อตฺโถ. ปุจฺฉติ เอเตนาติ ปฺโห, สทฺโท. ตทุภยํ เอกโต คเหตฺวา อาห ‘‘เอวรูเป ปฺเห’’ติอาทิ. ‘‘เอวํ ปุจฺเฉยฺย, เอวํ วิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ จ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานํ สิขาวคมนํ ทสฺเสติ. เสยฺโยติ อุตฺตโม, ปรโม ลาโภติ อธิปฺปาโย.

เอวํ อตฺตโน วาทวิธมนภเยนปิ ปเร ภควนฺตํ ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ น วิสหนฺตีติ วตฺวา อิทานิ วาทวิธมเนน วินาปิ น วิสหนฺติ เอวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. จิตฺตํ ปสีทติ ปเร อตฺตโน อตฺตภาวมฺปิ วิสฺสตฺถํ นิยฺยาเทตุกามา โหนฺติ โอธิสกเมตฺตาผรณสทิสตฺตา ตสฺส เมตฺตายนสฺส. ทสฺสนสมฺปนฺนาติ ทฏฺพฺพตาย สมฺปนฺนา ทสฺสนานุตฺตริยภาวโต, อติวิย ทสฺสนียาติ อตฺโถ.

สรณคมนวเสนสาวกาติ โลกิยสรณคมเนน สาวกา, โลกุตฺตรสรณคมเนน ปน สาวกตฺตํ ปรโต อาคมิสฺสติ, ตฺจ ปพฺพชิตวเสน วุจฺจติ, อิธ คหฏฺวเสน, อุภยตฺถาปิ สรณคมเนน สาวกตฺตํ เวทิตพฺพํ. เต หิ ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิโน กุลปุตฺตา, อาจารกุลปุตฺตาปิ ตาทิสา ภวนฺติ. โถเกนาติ อิมินา ‘‘มนํ อนสฺสามา’’ติ ปทสฺสตฺถํ วทติ.

๒๙๐. อุทาหรียติ อุพฺเพคปีติวเสนาติ, ตถา วา อุทาหรณํ อุทานํ. เตนาห ‘‘อุทาหารํ อุทาหรี’’ติ. อสฺส ธมฺมสฺสาติ อสฺส ปฏิปตฺติสทฺธมฺมปุพฺพกสฺส ปฏิเวธสทฺธมฺมสฺส. โสติ หตฺถิปโทปโม หตฺถิปโทปมภาเวน วุจฺจมาโน ธมฺโม. เอตฺตาวตาติ เอตฺตเกน ปริพฺพาชเกน วุตฺตกถามคฺคมตฺเตน. กามํ เตน วุตฺตกถามคฺเคนปิ หตฺถิปโทปมภาเวน วุจฺจมาโน ธมฺโม ปริปุณฺโณว อรหตฺตํ ปาเปตฺวา ปเวทิตตฺตา, โส จ โข สงฺเขปโต, น วิตฺถารโตติ อาห ‘‘น เอตฺตาวตา วิตฺถาเรน ปริปูโร โหตี’’ติ. ยทิ ยถา วิตฺถาเรน หตฺถิปโทปโม ปริปูโร โหติ, ตถา เทสนา อารทฺธา, อถ กสฺมา กุสโลติ น วุตฺโตติ โจทนา.

๒๙๑. อายามโตปีติ ปิ-สทฺเทน อุพฺเพเธนปิ รสฺสาติ ทสฺเสติ. นีจกายา หิ ตา โหนฺติ. อุจฺจาติ อุจฺจกา. นิเสวนํ, นิเสวติ เอตฺถาติ วา นิเสวิตํ. นิเสวนฺเจตฺถ กณฺฑุยิตวิโนทนตฺถํ ฆํสนํ. เตนาห ‘‘ขนฺธปฺปเทเส ฆํสิตฏฺาน’’นฺติ. อุจฺจาติ อนีจา, อุพฺเพธวนฺติโยติ อตฺโถ. กาฬาริกาติ วิรฬทนฺตา, วิสงฺคตทนฺตาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ทนฺตาน’’นฺติอาทิ. กฬารตายาติ วิรฬตาย. อารฺชิตานีติ รฺชิตานิ, วิลิขิตานีติ อตฺโถ. กเณรุตายาติ กุฏุมลสณฺานตาย. อยํ วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท สํสยิตนิจฺฉยตฺโถ ยถา อฺตฺถาปิ ‘‘อยํ วา อิเมสํ สมณพฺราหฺมณานํ สพฺพพาโล สพฺพมูฬฺโห’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๑๘๑).

นาควนํวิยาติ มหาหตฺถิโน วามนิกาทีนฺจ ปททสฺสนฏฺานภูตํ นาควนํ วิย. อาทิโต ปฏฺาย ยาว นีวรณปฺปหานา ธมฺมเทสนา ตถาคตสฺส พาหิรปริพฺพาชกาทีนฺจ ปททสฺสนภาวโต. อาทิโต ปฏฺายาติ จ ‘‘ตํ สุณาหี’’ติ ปทโต ปฏฺาย. กุสโล นาควนิโก วิย โยคาวจโร ปริเยสนวเสน ปมาณคฺคหณโต. มตฺถเก ตฺวาติ อิมสฺส สุตฺตสฺส ปริโยสาเน ตฺวา. อิมสฺมิมฺปิ าเนติ ‘‘เอวเมว โข พฺราหฺมณา’’ติอาทินา อุปเมยฺยสฺส อตฺถสฺส อุปฺาสนฏฺาเนปิ.

สฺวายนฺติ (ที. นิ. ฏี. ๑.๑๙๐) อิธ-สทฺทมตฺตํ คณฺหาติ, น ยถาวิเสสิตพฺพํ อิธ-สทฺทํ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘กตฺถจิ ปทปูรณมตฺตเมวา’’ติ. โลกํ อุปาทาย วุจฺจติ โลก-สทฺเทน สมานาธิกรณภาเวน วุตฺตตฺตา. เสสปททฺวเย ปน สทฺทนฺตรสนฺนิธานมตฺเตน ตํ ตํ อุปาทาย วุตฺตตา ทฏฺพฺพา. โอกาสนฺติ กฺจิ ปเทสํ อินฺทสาลคุหาย อธิปฺเปตตฺตา. ปทปูรณมตฺตเมว โอกาสาปทิสนสฺสปิ อสมฺภวโต.

ตถาคต-สทฺทาทีนํ อตฺถวิเสโส มูลปริยายฏฺกถา(ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๒) วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาสุ วุตฺโต เอว. ตถาคตสฺส สตฺตนิกายนฺโตคธตาย ‘‘อิธ ปน สตฺตโลโก อธิปฺเปโต’’ติ วตฺวา ตตฺถายํ ยสฺมึ สตฺตนิกาเย, ยสฺมิฺจ โอกาเส อุปฺปชฺชติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สตฺตโลเก อุปฺปชฺชมาโนปิ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อิมสฺมึเยว จกฺกวาเฬติ อิมิสฺสา เอว โลกธาตุยา. ‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺโธ อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุ’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๑๖๑; ม. นิ. ๓.๑๒๙; อ. นิ. ๑.๒๗๘; เนตฺติ. ๕๗; มิ. ป. ๕.๑.๑) เอตฺถ ชาติเขตฺตภูตา ทสสหสฺสิโลกธาตุ ‘‘เอกิสฺสา โลกธาตุยา’’ติ วุตฺตา. อิธ ปน อิมํเยว โลกธาตุํ สนฺธาย ‘‘อิมสฺมึเยว จกฺกวาเฬ’’ติ วุตฺตํ. ติสฺโส หิ สงฺคีติโย อารุฬฺเห เตปิฏเก พุทฺธวจเน วิสยเขตฺตํ อาณาเขตฺตํ ชาติเขตฺตนฺติ ติวิเธ เขตฺเต เปตฺวา อิมํ จกฺกวาฬํ อฺสฺมึ จกฺกวาเฬ พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺตีติ สุตฺตํ นตฺถิ, น อุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อตฺถิ. กถํ? ‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ (ม. นิ. ๑.๒๘๕; ๒.๓๔๑; มหาว. ๑๑; กถา. ๔๐๕; มิ. ป. ๔.๕.๑๑), เอโกมฺหิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๕; ๒.๓๔๑; กถา. ๔๐๕; มหาว. ๑๑) เอวมาทีนิ อิมิสฺสา โลกธาตุยา ตฺวา วทนฺเตน ภควตา – ‘‘กึ ปนาวุโส, สาริปุตฺต, อตฺเถตรหิ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ภควตา สมสโม สมฺโพธิยนฺติ เอวํ ปุฏฺาหํ, ภนฺเต, โนติ วเทยฺย’’นฺติ วตฺวา ตสฺส การณํ ทสฺเสตุํ – ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส, ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา’’ติ อิมํ สุตฺตํ ทสฺเสนฺเตน ธมฺมเสนาปตินา จ พุทฺธานํ อุปฺปตฺติฏฺานภูตํ อิมํ โลกธาตุํ เปตฺวา อฺตฺถ อนุปฺปตฺติ วุตฺตา โหตีติ.

สุชาตายาติอาทินา วุตฺเตสุ จตูสุ วิกปฺเปสุ ปโม วิกปฺโป พุทฺธภาวาย อาสนฺนตรปฏิปตฺติทสฺสนวเสน วุตฺโต. อาสนฺนตราย หิ ปฏิปตฺติยํ ิโต ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ วุจฺจติ อุปฺปาทสฺส เอกนฺติกตฺตา, ปเคว ปฏิปตฺติยา มตฺถเก ิโต. ทุติโย พุทฺธภาวาวหปพฺพชฺชโต ปฏฺาย อาสนฺนปฏิปตฺติทสฺสนวเสน, ตติโย พุทฺธกรธมฺมปาริปูริโต ปฏฺาย พุทฺธภาวาย ปฏิปตฺติทสฺสนวเสน. น หิ มหาสตฺตานํ ตุสิตภวูปปตฺติโต ปฏฺาย โพธิสมฺภารสมฺภรณํ นาม อตฺถิ. จตุตฺโถ พุทฺธกรธมฺมสมารมฺภโต ปฏฺาย. โพธิยา นิยตภาวาปตฺติโต ปภุติ หิ วิฺูหิ ‘‘พุทฺโธ อุปฺปชฺชตี’’ติ วตฺตุํ สกฺกา อุปฺปาทสฺส เอกนฺติกตฺตา, ยถา ปน ‘‘ติฏฺนฺติ ปพฺพตา, สนฺทนฺติ นทิโย’’ติ ติฏฺนสนฺทนกิริยานํ อวิจฺเฉทมุปาทาย วตฺตมานปโยโค, เอวํ อุปฺปาทตฺถาย ปฏิปชฺชนกิริยาย อวิจฺเฉทมุปาทาย จตูสุ วิกปฺเปสุ ‘‘อุปฺปชฺชติ นามา’’ติ วุตฺตํ. สพฺพปมํ อุปฺปนฺนภาวนฺติ สพฺเพหิ อุปริ วุจฺจมาเนหิ วิเสเสหิ ปมํ ตถาคตสฺส อุปฺปนฺนตาสงฺขาตํ อตฺถิตาวิเสสํ.

โส ภควาติ (อ. นิ. ฏี. ๒.๓.๖๔) โย ‘‘ตถาคโต อรห’’นฺติอาทินา กิตฺติตคุโณ, โส ภควา. อิมํ โลกนฺติ นยิทํ มหาชนสฺส สมฺมุขามตฺตํ โลกํ สนฺธาย วุตฺตํ, อถ โข อนวเสสํ ปริยาทายาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สเทวก’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อิทานิ วตฺตพฺพํ นิทสฺเสตี’’ติ. ปชาตตฺตาติ ยถาสกํ กมฺมกิเลเสหิ นิพฺพตฺตตฺตา. ปฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ ปาริเสสาเยน อิตเรสํ ปทนฺตเรหิ สงฺคหิตตฺตา. สเทวกนฺติ จ อวยเวน วิคฺคโห สมุทาโย สมาสตฺโถ. ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณํ ปจฺจาสตฺติาเยน. ตตฺถ หิ โส ชาโต ตนฺนิวาสี จ. พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปจฺจตฺถิกปจฺจามิตฺตสมณพฺราหฺมณคฺคหณนฺติ นิทสฺสนมตฺตเมตํ อปจฺจตฺถิกานํ อสมิตาพาหิตปาปานฺจ สมณพฺราหฺมณานํ สสฺสมณพฺราหฺมณิวจเนน คหิตตฺตา. กามํ ‘‘สเทวก’’นฺติอาทิวิเสสนานํ วเสน สตฺตวิสโย โลก-สทฺโทติ วิฺายติ ตุลฺยโยควิสยตฺตา เตสํ, ‘‘สโลมโก สปกฺขโก’’ติอาทีสุ ปน อตุลฺยโยเคปิ อยํ สมาโส ลพฺภตีติ พฺยภิจารทสฺสนโต ปชาคหณนฺติ อาห ‘‘ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณ’’นฺติ.

อรูปิโน สตฺตา อตฺตโน อาเนฺชวิหาเรน วิหรนฺตา ‘‘ทิพฺพนฺตีติ เทวา’’ติ อิมํ นิพฺพจนํ ลภนฺตีติ อาห ‘‘สเทวกคฺคหเณน อรูปาวจรเทวโลโก คหิโต’’ติ. เตเนวาห ‘‘อากาสานฺจายตนูปคานํ เทวานํ สหพฺยต’’นฺติ (อ. นิ. ๓.๑๑๗). สมารกคฺคหเณน ฉกามาวจรเทวโลโก คหิโต ตสฺส สวิเสสํ มารสฺส วเส วตฺตนโต. รูปี พฺรหฺมโลโก คหิโต อรูปีพฺรหฺมโลกสฺส วิสุํ คหิตตฺตา. จตุปริสวเสนาติ ขตฺติยาทิจตุปริสวเสน. อิตรา ปน จตสฺโส ปริสา สมารกาทิคฺคหเณน คหิตา เอวาติ. อวเสสสพฺพสตฺตโลโก นาคครุฬาทิเภโท.

เอตฺตาวตา ภาคโส โลกํ คเหตฺวา โยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตน เตน วิเสเสน อภาคโสว โลกํ คเหตฺวา โยชนํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิเจตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโตติ อุกฺกํสคภิวิชานเนน. ปฺจสุ หิ คตีสุ เทวโลโกว เสฏฺโ. ตตฺถาปิ อรูปิโน ‘‘ทูรสมุสฺสาริตกิเลสทุกฺขตาย, สนฺตปณีตอาเนฺชวิหารสมงฺคิตาย, อติวิย ทีฆายุกตายา’’ติ เอวมาทีหิ วิเสเสหิ อติวิย อิตเรหิ อุกฺกฏฺา. พฺรหฺมา มหานุภาโวติอาทึ ทสสหสฺสิยํ มหาพฺรหฺมุโน วเสน วทติ. ‘‘อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโต’’ติ หิ วุตฺตํ. อนุตฺตรนฺติ เสฏฺํ นวโลกุตฺตรํ. ภาวานุกฺกโม ภาววเสน ปเรสํ อชฺฌาสยวเสน ‘‘สเทวก’’นฺติอาทีนํ ปทานํ อนุกฺกโม. ตีหากาเรหีติ เทวมารพฺรหฺมสหิตตาสงฺขาเตหิ ตีหิ ปกาเรหิ. ตีสุ ปเทสูติ ‘‘สเทวก’’นฺติอาทีสุ ตีสุ ปเทสุ. เตน เตนากาเรนาติ สเทวกตฺตาทินา เตน เตน ปกาเรน. เตธาตุกเมว ปริยาทินฺนนฺติ โปราณา ปนาหูติ โยชนา.

อภิฺาติ ย-การโลเปนายํ นิทฺเทโส, อภิชานิตฺวาติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘อภิฺาย, อธิเกน าเณน ตฺวา’’ติ. อนุมานาทิปฏิกฺเขโปติ อนุมานอุปมานอตฺถาปตฺติอาทิปฏิกฺเขโป เอกปฺปมาณตฺตา. สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตาณาจารตาย หิ สพฺพปจฺจกฺขา พุทฺธา ภควนฺโต. อนุตฺตรํ วิเวกสุขนฺติ ผลสมาปตฺติสุขํ. เตน วีติมิสฺสาปิ กทาจิ ภควโต ธมฺมเทสนา โหตีติ อาห ‘‘หิตฺวาปี’’ติ. ภควา หิ ธมฺมํ เทเสนฺโต ยสฺมึ ขเณ ปริสา สาธุการํ วา เทติ, ยถาสุตํ วา ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขติ, ตํ ขณํ ปุพฺพภาเคน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, ยถาปริจฺเฉทฺจ สมาปตฺติโต วุฏฺาย ิตฏฺานโต ปฏฺาย ธมฺมํ เทเสติ.

เทสกายตฺเตน อาณาทิวิธินา อติสชฺชนํ ปโพธนํ เทสนาติ สา ปริยตฺติธมฺมวเสน เวทิตพฺพาติ อาห ‘‘เทสนาย ตาว จตุปฺปทิกายปิ คาถายา’’ติอาทิ. สาสิตพฺพปุคฺคลคเตน ยถาปราธาทิสาสิตพฺพภาเวน อนุสาสนํ ตทงฺควินยาทิวเสน วินยนํ สาสนนฺติ ตํ ปฏิปตฺติธมฺมวเสน เวทิตพฺพนฺติ อาห ‘‘สีลสมาธิวิปสฺสนา’’ติอาทิ. กุสลานนฺติ มคฺคกุสลานํ, กุสลานนฺติ วา อนวชฺชานํ. เตน ผลธมฺมานมฺปิ สงฺคโห สิทฺโธ โหติ. อาทิภาโว สีลทิฏฺีนํ ตมฺมูลกตฺตา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมานํ. ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ กถาวธิสทฺทปฺปพนฺโธ คาถาวเสน สุตฺตวเสน จ ววตฺถิโต ปริยตฺติธมฺโม, โย อิเธว ‘‘เทสนา’’ติ วุตฺโต. ตสฺส ปน อตฺโถ วิเสเสน สีลาทิ เอวาติ อาห ‘‘ภควา หิ ธมฺมํ เทเสนฺโต…เป… นิพฺพานํ ทสฺเสตี’’ติ. ตตฺถ สีลํ ทสฺเสตฺวาติ สีลคฺคหเณน สสมฺภารํ สีลํ คหิตํ. ตถา มคฺคคฺคหเณน สสมฺภาโร มคฺโคติ ตทุภเยน อนวเสสโต ปริยตฺติอตฺถํ ปริยาทิยติ. เตนาติ สีลาทิทสฺสเนน. อตฺถวเสน หิ อิธ เทสนาย อาทิกลฺยาณาทิภาโว อธิปฺเปโต. กถิกสณฺิตีติ กถิกสฺส สณฺานํ กถนวเสน สมวฏฺานํ.

น โส สาตฺถํ เทเสติ นิยฺยานตฺถวิรหโต ตสฺสา เทสนาย. เอกพฺยฺชนาทิยุตฺตา วาติ สิถิลาทิเภเทสุ พฺยฺชเนสุ เอกปฺปกาเรเนว, ทฺวิปฺปกาเรเนว วา พฺยฺชเนน ยุตฺตา วา ทมิฬภาสา วิย. สพฺพตฺถ นิโรฏฺํ กตฺวา วตฺตพฺพตาย สพฺพนิโรฏฺพฺยฺชนา วา กิราตภาสา วิย. สพฺพตฺเถว วิสฺสชฺชนียยุตฺตตาย สพฺพวิสฺสฏฺพฺยฺชนา วา ยวนภาสา วิย. สพฺพตฺเถว สานุสารตาย สพฺพนิคฺคหิตพฺยฺชนา วา ปารสิกาทิมิลกฺขภาสา วิย. สพฺพาเปสา เอกเทสพฺยฺชนวเสเนว ปวตฺติยา อปริปุณฺณพฺยฺชนาติ กตฺวา ‘‘อพฺยฺชนา’’ติ วุตฺตา. อมกฺเขตฺวาติ อปลิจฺเฉตฺวา อวินาเสตฺวา, อหาเปตฺวาติ วา อตฺโถ.

ภควา ยมตฺถํ าเปตุํ เอกคาถมฺปิ เอกวากฺยมฺปิ เทเสติ, ตมตฺถํ ตาย เทสนาย สพฺพโส ปริปุณฺณเมว กตฺวา เทเสติ, เอวํ สพฺพตฺถาติ อาห ‘‘เอกเทสนาปิ อปริปุณฺณา นตฺถี’’ติ. อุลฺลุมฺปนสภาวสณฺิเตนาติ สํกิเลสปกฺขโต วฏฺฏทุกฺขโต จ อุทฺธรณสภาวาวฏฺิเตน จิตฺเตน. ตสฺมาติ ยสฺมา สิกฺขาตฺตยสงฺคหํ สกลํ สาสนํ อิธ ‘‘พฺรหฺมจริย’’นฺติ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา. พฺรหฺมจริยนฺติ อิมินา สมานาธิกรณานิ สพฺพปทานิ โยเชตฺวา อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โส ธมฺมํ เทเสติ…เป… ปกาเสตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ อาห.

ทูรสมุสฺสาริตมานสฺเสว สาสเน สมฺมาปฏิปตฺติ สมฺภวติ, น มาน ชาติกสฺสาติ อาห ‘‘นิหตมานตฺตา’’ติ. อุสฺสนฺนตฺตาติ พหุลภาวโต. โภคาโรคฺยาทิวตฺถุกา มทา สุปฺปเหยฺยา โหนฺติ นิมิตฺตสฺส อนวฏฺานโต’ น ตถา กุลวิชฺชามทาติ ขตฺติยพฺราหฺมณกุลีนานํ ปพฺพชิตานมฺปิ ชาติวิชฺชา นิสฺสาย มานชปฺปนํ ทุปฺปชหนฺติ อาห ‘‘เยภุยฺเยน หิ…เป… มานํ กโรนฺตี’’ติ . วิชาติตายาติ นิหีนชาติตาย. ปติฏฺาตุํ น สกฺโกนฺตีติ สุวิสุทฺธึ กตฺวา สีลํ รกฺขิตุํ น สกฺโกนฺติ. สีลวเสน หิ สาสเน ปติฏฺาติ. ปติฏฺาตุนฺติ วา สจฺจปฏิเวเธน โลกุตฺตราย ปติฏฺาย ปติฏฺาตุํ. เยภุยฺเยน หิ อุปนิสฺสยสมฺปนฺนา สุชาตา เอว โหนฺติ, น ทุชฺชาตา.

ปริสุทฺธนฺติ ราคาทีนํ อจฺจนฺตเมว ปหานทีปนโต นิรุปกฺกิเลสตาย สพฺพโส วิสุทฺธํ. สทฺธํ ปฏิลภตีติ โปถุชฺชนิกสทฺธาวเสน สทฺทหติ. วิฺุชาติกานฺหิ ธมฺมสมฺปตฺติคหณปุพฺพิกา สทฺธาสิทฺธิ ธมฺมปมาณธมฺมปฺปสนฺนภาวโต. ชายมฺปติกา วสนฺตีติ กามํ ‘‘ชายมฺปติกา’’ติ วุตฺเต ฆรสามิกฆรสามินิวเสน ทฺวินฺนํเยว คหณํ วิฺายติ. ยสฺส ปน ปุริสสฺส อเนกา ปชาปติโย โหนฺติ, ตตฺถ กึ วตฺตพฺพํ? เอกายปิ ตาย วาโส สมฺพาโธติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ทฺเว’’ติ วุตฺตํ. ราคาทินา สกิฺจนฏฺเน, เขตฺตวตฺถุอาทินา สปลิโพธฏฺเน. ราครชาทีนํ อาคมนปถตาปิ อุปฺปชฺชนฏฺานตา เอวาติ ทฺเวปิ วณฺณนา เอกตฺถา, พฺยฺชนเมว นานํ. อลคฺคนฏฺเนาติ อสชฺชนฏฺเน อปฺปฏิพทฺธภาเวน. เอวํ อกุสลกุสลปฺปวตฺตีนํ านภาเวน ฆราวาสปพฺพชฺชานํ สมฺพาธพฺโภกาสตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ กุสลปฺปวตฺติยา เอว อฏฺานานภาเวน เตสํ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

สงฺเขปกถาติ วิสุํ วิสุํ ปทุทฺธารํ อกตฺวา สงฺเขปโต อตฺถวณฺณนา. เอกมฺปิ ทิวสนฺติ เอกทิวสมตฺตมฺปิ. อขณฺฑํ กตฺวาติ ทุกฺกฏมตฺตสฺสปิ อนาปชฺชเนน อขณฺฑิตํ กตฺวา. กิเลสมเลน อมลีนนฺติ ตณฺหาสํกิเลสาทิวเสน อสํกิลิฏฺํ กตฺวา. ปริทหิตฺวาติ นิวาเสตฺวา เจว ปารุปิตฺวา จ. อคารวาโส อคารํ อุตฺตรปทโลเปน, ตสฺส วฑฺฒิอาวหํ อคารสฺส หิตํ. โภคกฺขนฺโธติ โภคราสิ โภคสมุทาโย. อาพนฺธนฏฺเนาติ ‘‘ปุตฺโต นตฺตา’’ติอาทินา เปมวเสน สปริจฺเฉทํ สมฺพนฺธนฏฺเน. ‘‘อมฺหากเมเต’’ติ ายนฺตีติ าตี. ปิตามหปิตุปุตฺตาทิวเสน ปริวตฺตนฏฺเน ปริวฏฺโฏ.

๒๙๒. สามฺวาจีปิ สิกฺขา-สทฺโท สาชีว-สทฺทสนฺนิธานโต อุปริ วุจฺจมานวิเสสาเปกฺขาย จ วิเสสนิวิฏฺโว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ยา ภิกฺขูนํ อธิสีลสงฺขาตา สิกฺขา’’ติ. สิกฺขิตพฺพฏฺเน สิกฺขา. สห อาชีวนฺติ เอตฺถาติ สาชีโว. สิกฺขนภาเวนาติ สิกฺขาย สาชีเว จ สิกฺขนภาเวน. สิกฺขํ ปริปูเรนฺโตติ สีลสํวรํ ปริปูเรนฺโต. สาชีวฺจ อวีติกฺกมนฺโตติ – ‘‘นามกาโย ปทกาโย นิรุตฺติกาโย พฺยฺชนกาโย’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๓๙) วุตฺตสิกฺขาปทํ ภควโต วจนํ อวีติกฺกมนฺโต หุตฺวาติ อตฺโถ. อิทเมว จ ทฺวยํ ‘‘สิกฺขน’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ สาชีวานติกฺกโม สิกฺขาปาริปูริยา ปจฺจโย. ตโต หิ ยาว มคฺคา สิกฺขาปาริปูรี โหตีติ.

ปชหิตฺวาติ สมาทานวเสน ปริจฺจชิตฺวา. ปหีนกาลโต ปฏฺาย…เป… วิรโตวาติ เอเตน ปหานสฺส วิรติยา จ สมานกาลตํ ทสฺเสติ . ยทิ เอวํ ‘‘ปหายา’’ติ กถํ ปุริมกาลนิทฺเทโสติ? ตถา คเหตพฺพตํ อุปาทาย. ธมฺมานฺหิ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาเว อเปกฺขิเต สหชาตานมฺปิ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาเวน คหณํ ปุริมปจฺฉิมภาเวเนว โหตีติ คหณปวตฺติอาการวเสน ปจฺจยภูเตสุ หิโรตฺตปฺปาณาทีสุ ปหานกิริยาย ปุริมกาลโวหาโร, ปจฺจยุปฺปนฺนาสุ จ วิรตีสุ วิรมณกิริยาย อปรกาลโวหาโร จ โหตีติ ‘‘ปหาย ปฏิวิรโต โหตี’’ติ วุตฺตํ. ปหายาติ วา สมาทานกาลวเสน วุตฺตํ, ปจฺฉา วีติกฺกมิตพฺพวตฺถุสมาโยควเสน ปฏิวิรโตติ. ปหายาติ วา –

‘‘นิหนฺตฺวาน ตโมขนฺธํ, อุทิโตยํ ทิวากโร;

วณฺณปภาย ภาเสติ, โอภาเสตฺวา สมุคฺคโต’’ติ จ. (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๒.๕๗๘) –

เอวมาทีสุ วิย สมานกาลวเสน เวทิตพฺโพ. อถ วา ปาโณ อติปาตียติ เอเตนาติ ปาณาติปาโต, ปาณฆาตเหตุภูโต อหิริกาโนตฺตปฺปโทสโมหวิหึ สาทิโก เจตนาปธาโน สํกิเลสธมฺโม, ตํ สมาทานวเสน ปหาย. ตโต…เป… วิรโตว โหตีติ อวธารเณน ตสฺสา วิรติยา กาลาทิวเสน อปริยนฺตตํ ทสฺเสติ. ยถา หิ อฺเ สมาทินฺนวิรติกาปิ อนวฏฺิตจิตฺตตาย ลาภชีวิกาทิเหตุ สมาทานํ ภินฺทนฺเตว, น เอวมยํ. อยํ ปน ปหีนกาลโต ปฏฺาย โอรโต วิรโตติ. อทินฺนาทานํ ปหายาติอาทีสุปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ทณฺฑนํ ทณฺฑนิปาตนํ ทณฺโฑ. มุคฺคราทิปหรณวิเสโสปิ อิธ ปหรณวิเสโสติ อธิปฺเปโต. เตนาห ‘‘เปตฺวา ทณฺฑํ สพฺพมฺปิ อวเสสํ อุปกรณ’’นฺติ. ทณฺฑนสงฺขาตสฺส ปรวิเหนสฺส ปริวชฺชิตภาวทีปนตฺถํ ทณฺฑสตฺถานํ นิกฺเขปวจนนฺติ อาห ‘‘ปรูปฆาตตฺถายา’’ติอาทิ. วิหึสนภาวโตติ วิพาธนภาวโต. ลชฺชีติ เอตฺถ วุตฺตลชฺชาย โอตฺตปฺปมฺปิ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. น หิ ปาปชิคุจฺฉนปาปุตฺตาสรหิตํ, ปาปภยํ วา อลชฺชนํ อตฺถิ. ยสฺส วา ธมฺมครุตาย ธมฺมสฺส จ อตฺตาธีนตฺตา อตฺตาธิปติภูตา ลชฺชากิจฺจการี, ตสฺส โลกาธิปติภูตํ โอตฺตปฺปํ กิจฺจกรนฺติ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ‘‘ลชฺชี’’อิจฺเจว วุตฺตํ. ทยํ เมตฺตจิตฺตตํ อาปนฺโนติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ทยา-สทฺโท ‘‘อทยาปนฺโน’’ติอาทีสุ กรุณาย วตฺตตีติ? สจฺจเมตํ, อยํ ปน ทยา-สทฺโท อนุรกฺขณตฺถํ อนฺโตนีตํ กตฺวา ปวตฺตมาโน เมตฺตาย จ กรุณาย จ ปวตฺตตีติ อิธ เมตฺตาย ปวตฺตมาโน วุตฺโต. มิชฺชติ สินิยฺหตีติ เมตฺตา, สา เอตสฺส อตฺถีติ เมตฺตํ, เมตฺตํ จิตฺตํ เอตสฺส อตฺถีติ เมตฺตจิตฺโต, ตสฺส ภาโว เมตฺตจิตฺตตา, เมตฺตาอิจฺเจว อตฺโถ.

สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปีติ เอเตน ตสฺสา วิรติยา สตฺตวเสน อปริยนฺตตํ ทสฺเสติ. ปาณภูเตติ ปาณชาเต. อนุกมฺปโกติ กรุณายนโก. ยสฺมา ปน เมตฺตา กรุณาย วิเสสปจฺจโย โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ตาย เอว ทยาปนฺนตายา’’ติ. เอวํ เยหิ ธมฺเมหิ ปาณาติปาตา วิรติ สมฺปชฺชติ, เตหิ ลชฺชาเมตฺตากรุณาธมฺเมหิ สมงฺคิภาโว ทสฺสิโต, สทฺธึ ปิฏฺิวฏฺฏกธมฺเมหีติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถาห – กสฺมา ‘‘ปาณาติปาตํ ปหายา’’ติ เอกวจนนิทฺเทโส กโต, นนุ นิรวเสสานํ ปาณานํ อติปาตโต วิรติ อิธาธิปฺเปตา? ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรตี’’ติ. เตเนว หิ อฏฺกถายํ ‘‘สพฺเพ ปาณภูเต หิเตน อนุกมฺปโก’’ติ ปุถุวจนนิทฺเทโสติ? สจฺจเมตํ, ปาณภาวสามฺวเสน ปเนตฺถ ปาฬิยํ อาทิโต เอกวจนนิทฺเทโส กโต, สพฺพสทฺทสนฺนิธาเนน ปุถุตฺตํ วิฺายมานเมวาติ สามฺนิทฺเทสํ อกตฺวา เภทวจนิจฺฉาวเสน ทสฺเสตุํ อฏฺกถายํ พหุวจนวเสน อตฺโถ วุตฺโต. กิฺจ ภิยฺโย – สามฺโต สํวรสมาทานํ, ตพฺพิเสสโต สํวรเภโทติ อิมสฺส วิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ อยํ วจนเภโท กโตติ เวทิตพฺพํ. วิหรตีติ วุตฺตปฺปกาโร หุตฺวา เอกสฺมึ อิริยาปเถ อุปฺปนฺนํ ทุกฺขํ อฺเน อิริยาปเถน วิจฺฉินฺทิตฺวา อตฺตภาวํ หรติ ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อิริยติ ปาเลตี’’ติ.

น เกวลํ กายวจีปโยควเสน อาทานเมว, อถ โข อากงฺขปิสฺส ปริจฺจตฺตวตฺถุวิสยาวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘จิตฺเตนปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เถเนติ เถยฺยํ กโรตีติ เถโน, โจโร. สุจิภูเตนาติ เอตฺถ สุจิภาโว อธิการโต สทฺทนฺตรสนฺนิธานโต จ เถยฺยสํกิเลสวิรมณนฺติ อาห ‘‘อเถนตฺตาเยว สุจิภูเตนา’’ติ. กามฺเจตฺถ ‘‘ลชฺชี ทยาปนฺโน’’ติอาทิ น วุตฺตํ, อธิการวเสน ปน อตฺถโต วา วุตฺตเมวาติ เวทิตพฺพํ. ยถา หิ ลชฺชาทโย ปาณาติปาตปหานสฺส วิเสสปจฺจโย, เอวํ อทินฺนาทานปหานสฺสปีติ, ตสฺมา สาปิ ปาฬิ อาเนตฺวา วตฺตพฺพา. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ. อถ วา สุจิภูเตนาติ เอเตน หิโรตฺตปฺปาทีหิ สมนฺนาคโม, อหิริกาทีนฺจ ปหานํ วุตฺตเมวาติ ‘‘ลชฺชี’’ติอาทิ น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

อเสฏฺจริยนฺติ อเสฏฺานํ จริยํ, อเสฏฺํ วา จริยํ. มิถุนานํ วุตฺตากาเรน สทิสภูตานํ อยนฺติ มิถุโน, ยถาวุตฺโต ทุราจาโร. อาราจารี เมถุนาติ เอเตน – ‘‘อิธ พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ…เป… น เหว โข มาตุคาเมน สทฺธึ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, อปิจ โข มาตุคามสฺส อุจฺฉาทนปริมทฺทนนฺหาปนสมฺพาหนํ สาทิยติ, โส ตทสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชตี’’ติอาทินา (อ. นิ. ๗.๕๐) วุตฺตา สตฺตวิธเมถุนสํโยคาปิ ปฏิวิรติ ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ.

สจฺเจน สจฺจนฺติ ปุริเมน วจีสจฺเจน ปจฺฉิมํ วจีสจฺจํ สนฺทหติ อสจฺเจน อนนฺตริกตฺตา. เตนาห ‘‘โย หี’’ติอาทิ. หลิทฺทิราโค วิย น ถิรกโต โหตีติ เอตฺถ กถาย อนวฏฺิตภาเวน หลิทฺทิราคสทิสตา เวทิตพฺพา, น ปุคฺคลสฺส. ปาสาณเลขา วิยาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สทฺธา อยติ ปวตฺตติ เอตฺถาติ สทฺธาโย, สทฺธาโย เอว สทฺธายิโก ยถา ‘‘เวนยิโก’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔๖; อ. นิ. ๘.๑๑; ปารา. ๘), สทฺธาย วา อยิตพฺโพ สทฺธายิโก, สทฺเธยฺโยติ อตฺโถ. วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติวิสํวาทนโตติ อธิปฺปาโย.

อนุปฺปทาตาติ (ที. นิ. ฏี. ๑.๙; อ. นิ. ฏี. ๒.๔.๑๙๘) อนุพลปฺปทาตา, อนุวตฺตนวเสน วา ปทาตา. กสฺส ปน อนุวตฺตนํ ปทานฺจาติ? ‘‘สหิตาน’’นฺติ วุตฺตตฺตา สนฺธานสฺสาติ วิฺายติ. เตนาห ‘‘สนฺธานานุปฺปทาตา’’ติ. ยสฺมา ปน อนุวตฺตนวเสน สนฺธานสฺส ปทานํ อาธานํ, รกฺขณํ วา ทฬฺหีกรณํ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ทฺเว ชเน สมคฺเค ทิสฺวา’’ติอาทิ. อารมนฺติ เอตฺถาติ อาราโม, รมิตพฺพฏฺานํ. ยสฺมา ปน อา-กาเรน วินาปิ อยมตฺโถ ลพฺภติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมคฺคราโมติปิ ปาฬิ, อยเมเวตฺถ อตฺโถ’’ติ.

เอตฺถาติ

‘‘เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท, เอกาโร วตฺตตี รโถ;

อนีฆํ ปสฺส อายนฺตํ, ฉินฺนโสตํ อพนฺธน’’นฺติ. (สํ. นิ. ๔.๓๔๗; อุทา. ๖๕; เปฏโก. ๒๕;ที. นิ. ฏี. ๑.๙) –

อิมิสฺสา คาถาย. สีลฺเหตฺถ ‘‘เนลงฺค’’นฺติ วุตฺตํ. เตเนวาห – จิตฺโต คหปติ, ‘‘เนลงฺคนฺติ โข, ภนฺเต, สีลานเมตํ อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๓๔๗; ที. นิ. ฏี. ๑.๙). สุกุมาราติ อผรุสตาย มุทุกา. ปุรสฺส เอสาติ เอตฺถ ปุร-สทฺโท ตนฺนิวาสีวาจโก ทฏฺพฺโพ ‘‘คาโม อาคโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ฏี. ๑.๙) วิย. เตเนวาห ‘‘นครวาสีน’’นฺติ. มนํ อปฺปายติ วฑฺเฒตีติ มนาปา. เตน วุตฺตํ ‘‘จิตฺตวุทฺธิกรา’’ติ.

กาลวาทีติอาทิ สมฺผปฺปลาปาปฏิวิรตสฺส ปฏิปตฺติทสฺสนํ. อตฺถสํหิตาปิ หิ วาจา อยุตฺตกาลปโยเคน อตฺถาวหา น สิยาติ อนตฺถวิฺาปนวาจํ อนุโลเมติ, ตสฺมา สมฺผปฺปลาปํ ปชหนฺเตน อกาลวาทิตา ปริหริตพฺพาติ วุตฺตํ ‘‘กาลวาที’’ติ. กาเล วทนฺเตนปิ อุภยานตฺถสาธนโต อภูตํ ปริวชฺเชตพฺพนฺติ อาห ‘‘ภูตวาที’’ติ. ภูตฺจ วทนฺเตน ยํ อิธโลก-ปรโลก-หิตสมฺปาทกํ, ตเทว วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺถวาที’’ติ วุตฺตํ. อตฺถํ วทนฺเตนปิ โลกิยธมฺมสนฺนิสฺสิตเมว อวตฺวา โลกุตฺตรธมฺมสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วตฺตพฺพนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ธมฺมวาที’’ติ วุตฺตํ. ยถา จ อตฺโถ โลกุตฺตรธมฺมสนฺนิสฺสิโต โหติ, ตํทสฺสนตฺถํ ‘‘วินยวาที’’ติ วุตฺตํ. ปฺจนฺนฺหิ สํวรวินยานํ, ปฺจนฺนฺจ ปหานวินยานํ วเสน วุจฺจมาโน อตฺโถ นิพฺพานาธิคมเหตุภาวโต โลกุตฺตรธมฺมสนฺนิสฺสิโต โหตีติ. เอวํ คุณวิเสสยุตฺโตว อตฺโถ วุจฺจมาโน เทสนาโกสลฺเล สติ โสภติ, กิจฺจกโร จ โหติ, น อฺถาติ ทสฺเสตุํ ‘‘นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา’’ติ วุตฺตํ. อิทานิ ตํ เทสนาโกสลฺลํ วิภาเวตุํ ‘‘กาเลนา’’ติอาทิมาห. ปุจฺฉาทิวเสน หิ โอติณฺณวาจาวตฺถุสฺมึ เอกํสาทิพฺยากรณวิภาคํ สลฺลกฺเขตฺวา ปนาเหตุอุทาหรณํ สํสนฺทนาทึ ตํตํกาลานุรูปํ วิภาเวนฺติยา ปริมิตปริจฺฉินฺนรูปาย วิปุลตร-คมฺภีโรทาร-ปรมตฺถ-วิตฺถารสงฺคาหิกาย กถาย าณพลานุรูปํ ปเร ยาถาวโต ธมฺเม ปติฏฺาเปนฺโต ‘‘เทสนากุสโล’’ติ วุจฺจตีติ เอวเมตฺถ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา.

๒๙๓. เอวํ ปฏิปาฏิยา สตฺต มูลสิกฺขาปทานิ วิภาเวตฺวา สติปิ อภิชฺฌาทิปหานอินฺทฺริยสํวรสติสมฺปชฺชาคริยานุโยคาทิเก อุตฺตรเทสนายํ วิภาเวตุํ ตํ ปริหริตฺวา อาจารสีลสฺเสว วิภชนวเสน ปาฬิ ปวตฺตาติ ตทตฺถํ วิวริตุํ ‘‘พีชคามภูตคามสมารมฺภา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ พีชานํ คาโม สมูโห พีชคาโม. ภูตานํ ชาตานํ นิพฺพตฺตานํ รุกฺขคจฺฉลตาทีนํ สมูโห ภูตคาโม. นนุ จ รุกฺขาทโย จิตฺตรหิตตาย น ชีวา, จิตฺตรหิตตา จ ปริปฺผนฺทาภาวโต ฉินฺเน วิรุหนโต วิสทิสชาติกภาวโต จตุโยนิอปริยาปนฺนโต จ เวทิตพฺพา, วุฑฺฒิ ปน ปวาฬสิลาลวณานมฺปิ วิชฺชตีติ น เตสํ ชีวภาเว การณํ, วิสยคฺคหณฺจ เนสํ ปริกปฺปนามตฺตํ สุปนํ วิย จิฺจาเทนํ, ตถา โทหฬาทโย, ตตฺถ กสฺมา พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรติ อิจฺฉิตาติ? สมณสารุปฺปโต ตนฺนิวาสิสตฺตานุรกฺขณโต จ. เตเนวาห – ‘‘ชีวสฺิโน หิ โมฆปุริส มนุสฺสา รุกฺขสฺมิ’’นฺติอาทิ (ปาจิ. ๘๙).

มูลเมว พีชํ มูลพีชํ, มูลพีชํ เอตสฺสาติปิ มูลพีชํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ผฬุพีชนฺติ ปพฺพพีชํ. ปจฺจยนฺตรสมวาเย สทิสผลุปฺปตฺติยา วิเสสการณภาวโต วิรุหณสมตฺเถ สารผเล นิรุฬฺโห พีชสทฺโท ตทตฺถสํสิทฺธิยา มูลาทีสุปิ เกสุจิ ปวตฺตตีติ มูลาทิโต นิวตฺตนตฺถํ เอเกน พีช-สทฺเทน วิเสเสตฺวา วุตฺตํ ‘‘พีชพีช’’นฺติ ‘‘รูปรูปํ (วิสุทฺธิ. ๒.๔๔๙), ทุกฺขทุกฺข’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๓๒๗; ๕.๑๖๕; เนตฺติ. ๑๑) จ ยถา. กสฺมา ปเนตฺถ พีชคามภูตคามํ อุทฺธริตฺวา พีชคาโม เอว นิทฺทิฏฺโติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ, นนุ อโวจุมฺห – ‘‘มูลเมว พีชํ มูลพีชํ, มูลพีชํ เอตสฺสาติปิ มูลพีช’’นฺติ. ตตฺถ ปุริเมน พีชคาโม นิทฺทิฏฺโ, ทุติเยน ภูตคาโม, ทุวิโธเปส มูลพีชฺจ มูลพีชฺจ มูลพีชนฺติ สามฺนิทฺเทเสน, เอกเสสนเยน วา อุทฺทิฏฺโติ เวทิตพฺโพ. เตเนวาห ‘‘ปฺจวิธสฺสา’’ติอาทิ. นีลติณรุกฺขาทิกสฺสาติ อลฺลติณสฺส เจว อลฺลรุกฺขาทิกสฺส จ. อาทิ-สทฺเทน โอสธิคจฺฉลตาทีนํ สงฺคโห.

เอกํ ภตฺตํ เอกภตฺตํ, ตํ อสฺส อตฺถีติ เอกภตฺติโก. โส ปน รตฺติโภชเนนปิ สิยาติ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ อาห ‘‘รตฺตูปรโต’’ติ. เอวมฺปิ อปรณฺหโภชีปิ สิยา เอกภตฺติโกติ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘วิรโต วิกาลโภชนา’’ติ วุตฺตํ. อรุณุคฺคมนกาลโต ปฏฺาย ยาว มชฺฌนฺหิกา อยํ พุทฺธาทีนํ อริยานํ อาจิณฺณสมาจิณฺโณ โภชนสฺส กาโล นาม, ตทฺโ วิกาโล. อฏฺกถายํ ปน ทุติยปเทน รตฺติโภชนสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ‘‘อติกฺกนฺเต มชฺฌนฺหิเก ยาว สูริยตฺถงฺคมนา โภชนํ วิกาลโภชนํ นามา’’ติ วุตฺตํ.

‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตํ (ที. นิ. ๒.๙๐; ธ. ป. ๑๘๓; เนตฺติ. ๓๐, ๕๐, ๑๑๖, ๑๒๔) ภควโต สาสนํ อจฺจนฺตราคุปฺปตฺติยา นจฺจาทิทสฺสนํ น อนุโลเมตีติ อาห ‘‘สาสนสฺส อนนุโลมตฺตา’’ติ. อตฺตนา ปโยชิยมานํ, ปเรหิ ปโยชาปิยมานฺจ นจฺจํ นจฺจภาวสามฺเน ปาฬิยํ เอเกเนว นจฺจ-สทฺเทน คหิตํ, ตถา คีตวาทิต-สทฺเทน จาติ อาห ‘‘นจฺจนนจฺจาปนาทิวเสนา’’ติ. อาทิ-สทฺเทน คายนคายาปนวาทนวาทาปนานิ สงฺคยฺหนฺติ. ทสฺสเนน เจตฺถ สวนมฺปิ สงฺคหิตํ วิรูเปกเสสนเยน . ยถาสกํ วิสยสฺส อาโลจนสภาวตาย วา ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ สวนกิริยายปิ ทสฺสนสงฺเขปสพฺภาวโต ‘‘ทสฺสนา’’อิจฺเจว วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ปฺจหิ วิฺาเณหิ น กฺจิ ธมฺมํ ปฏิวิชานาติ อฺตฺร อภินิปาตมตฺตา’’ติ. อวิสูกภูตสฺส คีตสฺส สวนํ กทาจิ วฏฺฏตีติ อาห ‘‘วิสูกภูตา ทสฺสนา’’ติ. ตถา หิ วุตฺตํ ปรมตฺถโชติกายํ ขุทฺทกฏฺกถายํ (ขุ. ปา. อฏฺ. ๒.ปจฺฉิมปฺจสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘ธมฺมูปสํหิตํ คีตํ วฏฺฏติ, คีตูปสํหิโต ธมฺโม น วฏฺฏตี’’ติ. ยํ กิฺจีติ คนฺถิตํ วา อคนฺถิตํ วา ยํ กิฺจิ ปุปฺผํ. คนฺธชาตนฺติ คนฺธชาติกํ. ตสฺสปิ ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ วจนโต ปิสิตสฺส อปิสิตสฺสปิ ยสฺส กสฺสจิ วิเลปนาทิ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ.

อุจฺจาติ อุจฺจ-สทฺเทน สมานตฺถํ เอกํ สทฺทนฺตรํ. เสติ เอตฺถาติ สยนํ. อุจฺจาสยนํ มหาสยนฺจ สมณสารุปฺปรหิตํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘ปมาณาติกฺกนฺตํ อกปฺปิยตฺถรณ’’นฺติ. อาสนฺเจตฺถ สยเนเนว สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยสฺมา ปน อาธาเร ปฏิกฺขิตฺเต ตทาธารา กิริยา ปฏิกฺขิตฺตาว โหติ, ตสฺมา ‘‘อุจฺจาสยนมหาสยนา’’อิจฺเจว วุตฺตํ, อตฺถโต ปน ตทุปโภคภูตนิสชฺชานิปชฺชเนหิ วิรติ ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ. อถ วา อุจฺจาสยนมหาสยนฺจ อุจฺจาสยนมหาสยนฺจ อุจฺจาสยนมหาสยนนฺติ เอตสฺมึ อตฺเถ เอกเสเสน อยํ นิทฺเทโส กโต ยถา ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๑; อุทา. ๑), อาสนกิริยาปุพฺพกตฺตา วา สยนกิริยาย สยนคฺคหเณน อาสนมฺปิ คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ทารุมาสโกติ เย โวหารํ คจฺฉนฺตีติ อิติ-สทฺเทน เอวํปกาเร ทสฺเสติ. อฺเหิ คาหาปเน อุปนิกฺขิตฺตสาทิยเน จ ปฏิคฺคหณตฺโถ ลพฺภตีติ อาห ‘‘เนว นํ อุคฺคณฺหาติ, น อุคฺคณฺหาเปติ, น อุปนิกฺขิตฺตํ สาทิยตี’’ติ. อถ วา ติวิธํ ปฏิคฺคหณํ กาเยน วาจาย มนสาติ. ตตฺถ กาเยน ปฏิคฺคหณํ อุคฺคณฺหนํ, วาจาย ปฏิคฺคหณํ อุคฺคหาปนํ, มนสา ปฏิคฺคหณํ สาทิยนนฺติ ติวิธมฺปิ ปฏิคฺคหณํ เอกชฺฌํ คเหตฺวา ‘‘ปฏิคฺคหณา’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เนว นํ อุคฺคณฺหาตี’’ติอาทิ. เอส นโย อามกธฺปฏิคฺคหณาติอาทีสุปิ. นีวาราทิอุปธฺสฺส สาลิอาทิมูลธฺนฺโตคธตฺตา วุตฺตํ ‘‘สตฺตวิธสฺสา’’ติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจ วสานิ เภสชฺชานิ อจฺฉวสํ มจฺฉวสํ สุสุกาวสํ สุกรวสํ คทฺรภวส’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒) วุตฺตตฺตา อิทํ โอทิสฺส อนุฺาตํ นาม, ตสฺส ปน ‘‘กาเล ปฏิคฺคหิต’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒) วุตฺตตฺตา ปฏิคฺคหณํ วฏฺฏติ. สติ ปจฺจเยติ อาห ‘‘อฺตฺร โอทิสฺส อนุฺาตา’’ติ.

สรูเปน วฺจนํ รูปกูฏํ, ปติรูเปน วฺจนาติ อตฺโถ. องฺเคน อตฺตโน สรีราวยเวน วฺจนํ องฺคกูฏํ. คหณวเสน วฺจนํ คหณกูฏํ. ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา วฺจนํ ปฏิจฺฉนฺนกูฏํ. อกฺกมตีติ นิปฺปีเฬติ, ปุพฺพภาเค อกฺกมตีติ สมฺพนฺโธ.

หทยนฺติ นาฬิอาทีนํ มานภาชนานํ อพฺภนฺตรํ. ติลาทีนํ นาฬิอาทีหิ มินนกาเล อุสฺสาปิตสิขาเยว สิขา. สิขาเภโท ตสฺสาหาปนํ.

เกจีติ สารสมาสาจริยา, อุตฺตรวิหารวาสิโน จ. วโธติ มุฏฺิปหารกสาตาฬนาทีหิ วิเหสนํ, วิพาธนนฺติ อตฺโถ. วิเหนตฺโถปิ หิ วธ-สทฺโท ทิสฺสติ ‘‘อตฺตานํวธิตฺวา วธิตฺวา โรทตี’’ติอาทีสุ (ปาจิ. ๘๗๙, ๘๘๑). ยถา หิ อปริคฺคหภาวสามฺเ สติปิ ปพฺพชิเตหิ อปฺปฏิคฺคหิตพฺพวตฺถุวิภาคสนฺทสฺสนตฺถํ อิตฺถิกุมาริทาสิทาสาทโย วิภาเคน วุตฺตา. เอวํ ปรสฺส หรณภาวโต อทินฺนาทานภาวสามฺเ สติปิ ตุลากูฏาทโย อทินฺนาทานวิเสสภาวทสฺสนตฺถํ วิภาเคน วุตฺตา, น เอวํ ปาณาติปาตปริยายสฺส วธสฺส ปุน คหเณ ปโยชนํ อตฺถิ, ตตฺถ สยํกาโร, อิธ ปรํกาโรติ จ น สกฺกา วตฺตุํ ‘‘กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา ฉปฺปโยคา’’ติ วจนโต. ตสฺมา ยถาวุตฺโต เอเวตฺถ อตฺโถ ยุตฺโต. อฏฺกถายํ ปน ‘‘วโธติ มารณ’’นฺติ วุตฺตํ, ตมฺปิ โปถนเมว สนฺธายาติ จ สกฺกา วิฺาตุํ มารณ-สทฺทสฺสปิ วิหึสเน ทิสฺสนโต.

๒๙๔. จีวรปิณฺฑปาตานํ ยถากฺกมํ กายกุจฺฉิปริหรณมตฺตโชตนายํ อวิเสสโต อฏฺนฺนํ ปริกฺขารานํ อนฺตเร ตปฺปโยชนตา สมฺภวตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เต สพฺเพปี’’ติอาทิมาห. เอเตปีติ นวปริกฺขาริกาทโยปิ อปฺปิจฺฉาว สนฺตุฏฺาว. น หิ ตตฺถเกน มหิจฺฉตา, อสนฺตุฏฺิตา วา โหตีติ.

จตูสุ ทิสาสุ สุขํ วิหรติ, ตโต เอว สุขวิหารฏฺานภูตา จตสฺโส ทิสา อสฺส สนฺตีติ วา จาตุทฺทิโส. ตตฺถ จายํ สตฺเต วา สงฺขาเร วา ภเยน น ปฏิหฺตีติ อปฺปฏิโฆ. ทฺวาทสวิธสฺส สนฺโตสสฺส วเสน สนฺตุสฺสนโก สนฺตุสฺสมาโน. อิตรีตเรนาติ อุจฺจาวเจน. ปริสฺสยานํ พาหิรานํ สีหพฺยคฺฆาทีนํ, อพฺภนฺตรานฺจ กามจฺฉนฺทาทีนํ กายจิตฺตุปทฺทวานํ อภิภวนโต ปริสฺสยานํ สหิตา. ถทฺธภาวกรภยาภาเวน อจฺฉมฺภี. เอโก อสหาโย. ตโต เอว ขคฺคมิคสิงฺคสทิสตาย ขคฺควิสาณกปฺโป จเรยฺยาติ อตฺโถ.

ฉินฺนปกฺโข , อสฺชาตปกฺโข วา สกุโณ คนฺตุํ น สกฺโกตีติ ‘‘ปกฺขี สกุโณ’’ติ ปกฺขิ-สทฺเทน วิเสเสตฺวา สกุโณ ปาฬิยํ วุตฺโตติ อาห ‘‘ปกฺขยุตฺโต สกุโณ’’ติ. ยสฺส สนฺนิธิการปริโภโค กิฺจิ เปตพฺพํ สาเปกฺขาย ปนฺจ นตฺถิ, ตาทิโส อยํ ภิกฺขูติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ’’ติอาทิมาห. อริยนฺติ อเปนฺติ ตโต โทสา, เตหิ วา อารกาติ อริโยติ อาห ‘‘อริเยนาติ นิทฺโทเสนา’’ติ. อชฺฌตฺตนฺติ อตฺตนิ. นิทฺโทสสุขนฺติ นิรามิสสุขํ กิเลสวชฺชรหิตตฺตา.

๒๙๕. ยถาวุตฺเต สีลสํวเร ปติฏฺิตสฺเสว อินฺทฺริยสํวโร อิจฺฉิตพฺโพ ตทธิฏฺานโต, ตสฺส จ ปริปาลกภาวโตติ วุตฺตํ ‘‘โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต ภิกฺขู’’ติ. เสสปเทสูติ ‘‘น นิมิตฺตคฺคาหี โหตี’’ติอาทีสุ ปเทสุ. ยสฺมา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๕) วุตฺตํ, ตสฺมา ตสฺส ลีนตฺถปฺปกาสินิยํ สํวณฺณนายํ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๕) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. รูปาทีสุ นิมิตฺตาทิคฺคาหปริวชฺชนลกฺขณตฺตา อินฺทฺริยสํวรสฺส กิเลเสหิ อนวสิตฺตสุขตา อวิกิณฺณสุขตา จสฺส วุตฺตา.

๒๙๖. ปจฺจยสมฺปตฺตินฺติ ปจฺจยปาริปูรึ. อิเม จตฺตาโรติ สีลสํวโร สนฺโตโส อินฺทฺริยสํวโร สติสมฺปชฺนฺติ อิเม จตฺตาโร อรฺวาสสฺส สมฺภารา. ติรจฺฉานคเตหิ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ อิสิสิงฺคสฺส ปิตุอาทโย วิย. วนจรเกหีติ วนจรกมาตุคาเมหิ. เภรวสทฺทํ สาเวนฺติ, ตาวตา อปลายนฺตานํ หตฺเถหิ สีสํ…เป… กโรนฺติ. ปณฺณตฺติวีติกฺกมสงฺขาตํ กาฬกํ วา. มิจฺฉาวิตกฺกสงฺขาตํ ติลกํ วา. ตนฺติ ปีตึ วิภูตภาเวน อุปฏฺานโต ขยโต สมฺมสนฺโต.

วิวิตฺตนฺติ ชนวิวิตฺตํ. เตนาห ‘‘สุฺ’’นฺติ. สา จ วิวิตฺตตา นิสฺสทฺทภาเวน ลกฺขิตพฺพาติ อาห ‘‘อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆส’’นฺติ. อาวสถภูตํ เสนาสนํ วิหริตพฺพฏฺเน วิหารเสนาสนํ. มสารกาทิ มฺจปีํ ตตฺถ อตฺถริตพฺพํ ภิสิอุปธานฺจ มฺจปีสมฺพนฺธิโต มฺจปีเสนาสนํ. จิมิลิกาทิ ภูมิยํ สนฺถริตพฺพตาย สนฺถตเสนาสนํ. รุกฺขมูลาทิ ปฏิกฺกมิตพฺพฏฺานํ จงฺกมนาทีนํ โอกาสภาวโต โอกาสเสนาสนํ.

‘‘อนุจฺฉวิกํทสฺเสนฺโต’’ติ วตฺวา ตเมว อนุจฺฉวิกภาวํ วิภาเวตุํ ‘‘ตตฺถ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อจฺฉนฺนนฺติ อิฏฺกฉทนาทินา อนฺตมโส รุกฺขสาขาหิปิ น ฉนฺนํ.

ภตฺตสฺสปจฺฉโตติ ภตฺตภุฺชนสฺส ปจฺฉโต. อูรุพทฺธาสนนฺติ อูรูนํ อโธพนฺธนวเสน นิสชฺชํ. เหฏฺิมกายสฺส อนุชุกฏฺปนํ นิสชฺชาวจเนเนว โพธิตนฺติ. อุชุํ กายนฺติ เอตฺถ กาย-สทฺโท อุปริมกายวิสโยติ อาห ‘‘อุปริมํ สรีรํ อุชุกํ เปตฺวา’’ติ. ตํ ปน อุชุกฏฺปนํ สรูปโต ปโยชนโต จ ทสฺเสตุํ ‘‘อฏฺารสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. น ปณมนฺตีติ น โอณมนฺติ. น ปริปตตีติ น วิคจฺฉติ, วีถึ น วิลงฺเฆติ. ตโต เอว ปุพฺเพนาปรํ วิเสสปฺปตฺติยา กมฺมฏฺานํ วุทฺธึ ผาตึ อุปคจฺฉติ. มุขสมีเปติ มุขสฺส สมีเป นาสิกคฺเค วา อุตฺตโรฏฺเ วา. อิธ ปริ-สทฺโท อภิ-สทฺเทน สมานตฺโถติ อาห ‘‘กมฺมฏฺานาภิมุข’’นฺติ, พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมณโต นิวาเรตฺวา กมฺมฏฺานํเยว ปุรกฺขตฺวาติ อตฺโถ. ปรีติ ปริคฺคหฏฺโ ‘‘ปริณายิกา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๖) วิย. นิยฺยานฏฺโ ปฏิปกฺขโต นิคฺคมนฏฺโ, ตสฺมา ปริคฺคหิตนิยฺยานสตินฺติ สพฺพถา คหิตาสมฺโมสํ ปริจฺจตฺตสมฺโมสํ สตึ กตฺวา, ปรมํ สติเนปกฺกํ อุปฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ.

วิกฺขมฺภนวเสนาติ เอตฺถ วิกฺขมฺภนํ อนุปฺปาทนํ อปฺปวตฺตนํ น ปฏิปกฺเขน สุปฺปหีนตา. ปหีนตฺตาติ จ ปหีนสทิสตํ สนฺธาย วุตฺตํ ฌานสฺส อนธิคตตา. ตถาปิ นยิทํ จกฺขุวิฺาณํ วิย สภาวโต วิคตาภิชฺฌํ, อถ โข ภาวนาวเสน. เตนาห ‘‘น จกฺขุวิฺาณสทิเสนา’’ติ. เอเสว นโยติ ยถา จกฺขุวิฺาณํ สภาเวน วิคตาภิชฺฌํ อพฺยาปนฺนฺจ, น ภาวนาย วิกฺขมฺภิตตฺตา, น เอวมิทํ. อิทํ ปน จิตฺตํ ภาวนาย ปริโสธิตตฺตา อพฺยาปนฺนํ วิคตถินมิทฺธํ อนุทฺธตํ นิพฺพิจิกิจฺฉฺจาติ อตฺโถ. อิทํ อุภยนฺติ สติสมฺปชฺมาห.

๒๙๗. อุจฺฉินฺทิตฺวา ปาเตนฺตีติ เอตฺถ อุจฺฉินฺทนํ ปาตนฺจ ตาสํ ปฺานํ อนุปฺปนฺนานํ อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทานเมว. อิติ มหคฺคตานุตฺตรปฺานํ เอกจฺจาย จ ปริตฺตปฺาย อนุปฺปตฺติเหตุภูตา นีวรณา ธมฺมา อิตราย จ สมตฺถตํ วิหนนฺติเยวาติ ปฺาย ทุพฺพลีกรณา วุตฺตา. อิทมฺปิ ปมชฺฌานํ เวเนยฺยสนฺตาเน ปติฏฺาปิยมานํ าณํ ปชฺชติ เอตฺถาติ าณปทํ. าณํ วฬฺเชติ เอตฺถาติ าณวฬฺชํ.

๒๙๙. ตาว นิฏฺํ คโต พาหิรกานํ าเณน อกฺกนฺตฏฺานานิปิ สิยุนฺติ. ยทิ เอวํ อนฺสาธารเณ มคฺคาณปเท กถํ น นิฏฺงฺคโตติ อาห ‘‘มคฺคกฺขเณปี’’ติอาทิ. ตีสุ รตเนสุ นิฏฺํ คโต โหตีติ พุทฺธสุพุทฺธตํ ธมฺมสุธมฺมตํ สงฺฆสุปฺปฏิปตฺติตฺจ อารพฺภ าเณน นิฏฺํ นิจฺฉยํ อุปคโต โหติ. กามฺเจตฺถ ปมมคฺเคเนว สพฺพโส วิจิกิจฺฉาย ปหีนตฺตา สพฺพสฺสปิ อริยสาวกสฺส กงฺขา วา วิมติ วา นตฺถิ, ตตฺถ ปน ยถา ปฺาเวปุลฺลปฺปตฺตสฺส อรหโต สวิสเย าณํ สวิเสสํ โอคาหติ, น ตถา อนาคามิอาทีนนฺติ รตนตฺตเย สาติสยํ าณนิจฺฉยคมนํ สนฺธาย ‘‘อคฺคมคฺควเสน ตตฺถนิฏฺาคมนํ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ยํ ปเนตฺถ อวิภตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.

จูฬหตฺถิปโทปมสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๘. มหาหตฺถิปโทปมสุตฺตวณฺณนา

๓๐๐. ชงฺคลานนฺติ เอตฺถ โย นิปิจฺฉเลน อมุทุโก นิรุทกตาย ถทฺธลูขภูมิปฺปเทโส, โส ‘‘ชงฺคโล’’ติ วุจฺจติ. ตพฺพหุลตาย ปน อิธ สพฺโพ ภูมิปฺปเทโส ชงฺคโล, ตสฺมึ ชงฺคเล ชาตา, ภวาติ วา ชงฺคลา, เตสํ ชงฺคลานํ. เอวฺหิ นทีจรานมฺปิ หตฺถีนํ สงฺคโห กโต โหติ. สโมธาตพฺพานํ วิย หิ สโมธายกานมฺปิ ชงฺคลคฺคหเณน คเหตพฺพโต. ปถวีตลจารีนนฺติ อิมินา ชลจาริโน น นิวตฺเตติ อทิสฺสมานปาทตฺตา. ปาณานนฺติ สาธารณวจนมฺปิ ‘‘ปทชาตานี’’ติ สทฺทนฺตรสนฺนิธาเนน วิเสสนิวิฏฺเมว โหตีติ อาห ‘‘สปาทกปาณาน’’นฺติ. ‘‘มุตฺตคต’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๑๑๙; อ. นิ. ๙.๑๑) คต-สทฺโท อนตฺถนฺตโร วิย, ชาต-สทฺโท อนตฺถนฺตโรติ อาห ‘‘ปทชาตานีติ ปทานี’’ติ. สโมธานนฺติ สมวโรธํ, อนฺโตคมํ วา. มหนฺตตฺเตนาติ วิปุลภาเวน.

กุสลา ธมฺมาติ อนวชฺชสุขวิปากา ธมฺมา, น อนวชฺชมตฺตธมฺมา. กุสลตฺติเก อาคตนเยน หิ อิธ กุสลา ธมฺมา คเหตพฺพา, น พาหิติกสุตฺเต อาคตนเยน. จตุพฺพิโธ สงฺคโหติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ เอกวิโธเวตฺถ สงฺคโห อธิปฺเปโตติ? น, อตฺถํ อคฺคเหตฺวา อนิทฺธาริตตฺถสฺส สทฺทสฺเสว คหิตตฺตา. สงฺคห-สทฺโท ตาว อตฺตโน อตฺถวเสน จตุพฺพิโธติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. อตฺโถปิ วา อนิทฺธาริตวิเสโส สามฺเน คเหตพฺพตํ ปตฺโต ‘‘สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติ เอตฺถ สงฺคห-สทฺเทน วจนียตํ คโตติ น โกจิ โทโส, นิทฺธาริเต วิเสเส ตสฺส เอกวิธตา สิยา, น ตโต ปุพฺเพติ. สชาติสงฺคโหติ สมานชาติยา, สมานชาติกานํ วา สงฺคโห. ธาตุกถาวณฺณนายํ ปน ‘‘ชาติสงฺคโห’’อิจฺเจว วุตฺตํ, ตํ ชาติ-สทฺทสฺส สาเปกฺขสทฺทตฺตา ชาติยา สงฺคโหติ วุตฺเต อตฺตโน ชาติยาติ วิฺายติ สมฺพนฺธารหสฺส อฺสฺส อวุตฺตตฺตาติ กตฺวา วุตฺตํ. อิธ ปน รูปกณฺฑวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๕๙๔) วิย ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สชาติสงฺคโห’’อิจฺเจว วุตฺตํ. สฺชายนฺติ เอตฺถาติ สฺชาติ, สฺชาติยา สงฺคโห สฺชาติสงฺคโห, สฺชาติเทสวเสน สงฺคโหติ อตฺโถ. ‘‘สพฺเพ รถิกา’’ติ วุตฺเต สพฺเพ รถโยธา รเถน ยุชฺฌนกิริยาย เอกสงฺคโหติ. ‘‘สพฺเพ ธนุคฺคหา’’ติ วุตฺเต สพฺเพ อิสฺสาสา ธนุนา วิชฺฌนกิริยาย เอกสงฺคโหติ อาห ‘‘เอวํ กิริยวเสน สงฺคโห’’ติ. รูปกฺขนฺเธน สงฺคหิตนฺติ รูปกฺขนฺเธน เอกสงฺคหํ รูปกฺขนฺโธเตว คณิตํ, คหณํ คตนฺติ อตฺโถ.

ทิยฑฺฒเมวสจฺจํ ภชติ มคฺคสจฺจทุกฺขสจฺเจกเทสภาวโต. สจฺเจกเทสนฺโตคธมฺปิ สจฺจนฺโตคธเมว โหตีติ อาห ‘‘สจฺจานํ อนฺโตคธตฺตา’’ติ. อิทานิ ตมตฺถํ สาสนโต จ โลกโต จ อุปมํ อาห ริตฺวา ทีเปตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สาธิกมิทํ, ภิกฺขเว, ทิยฑฺฒสิกฺขาปทสตนฺติ อิทํ ยสฺมึ กาเล ตํ สุตฺตํ เทสิตํ, ตทา ปฺตฺตสิกฺขาปทวเสน วุตฺตํ, ตโต ปรํ ปน สาธิกานิ ทฺเวสตานิ สิกฺขาปทานีติ. สิกฺขานํ อนฺโตคธตฺตา อธิสีลสิกฺขาย. เอตฺถ จ ‘‘สีลํ สิกฺขนฺโตปิ ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขตี’’ติ วิสโมยํ อุปฺาโส. ตตฺถ หิ โย ปหาตพฺพํ ปชหติ, สํวริตพฺพโต สํวรํ อาปชฺชติ, อยมสฺส อธิสีลสิกฺขา. โย ตตฺถ เจตโส อวิกฺเขโป, อยมสฺส อธิจิตฺตสิกฺขา. ยา ตตฺถ วีมํสา, อยมสฺส อธิปฺาสิกฺขา. อิติ โส กุลปุตฺโต สรูปโต ลพฺภมานา เอว ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขตีติ ทีปิโต, น สิกฺขานํ อนฺโตคธตามตฺเตน. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘โย ตถาภูตสฺส สํวโร, อยเมตฺถ อธิสีลสิกฺขา, โย ตถาภูตสฺส สมาธิ, อยเมตฺถ อธิจิตฺตสิกฺขา, ยา ตถาภูตสฺส ปฺา, อยํ อธิปฺาสิกฺขา. อิมา ติสฺโส สิกฺขา ตสฺมึ อารมฺมเณ ตาย สติยา เตน มนสิกาเรน สิกฺขติ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรตี’’ติ. อิธ ปน สจฺจานํ อนฺโตคธตฺตา สจฺจ-สทฺทาภิเธยฺยตามตฺเตน จตูสุ สจฺเจสุ คณนนฺโตคธา โหนฺตีติ? น, ตตฺถาปิ หิ นิปฺปริยายโต อธิสีลสิกฺขาว ลพฺภติ, อิตรา ปริยายโตติ กตฺวา ‘‘สิกฺขานํ อนฺโตคธตฺตา’’ติ วุตฺตํ.

จตูสุ อริยสจฺเจสุ สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ จ ตโต อมุจฺจิตฺวา ตสฺเสว อนฺโตคธตํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘ยถา จ เอกสฺส หตฺถิปทสฺสา’’ติอาทินา ทสฺสิตา หตฺถิปโทปมา สมตฺถิตา ทฏฺพฺพา. เอกสฺมิมฺปิ ทฺวีสุปิ ตีสุปิ สจฺเจสุ คณนํ คตา ธมฺมาติ อิทํ น กุสลตฺติกวเสเนว เวทิตพฺพํ, อถ โข ติกทุเกสุ ยถารหํ ลพฺภมานปทวเสน เวทิตพฺพํ. ตตฺถ เอกสฺมึ สจฺเจ คณนํ คโต ธมฺโม อสงฺขตธมฺโม ทฏฺพฺโพ, ทฺวีสุ สจฺเจสุ คณนํ คตา กุสลา ธมฺมา, ตถา อกุสลา ธมฺมา, อพฺยากตา จ ธมฺมา, ตีสุ สจฺเจสุ คณนํ คตา สงฺขตา ธมฺมา, เอวํ อฺเสมฺปิ ติกทุกปทานํ วเสน อยมตฺโถ ยถารหํ วิภชิตฺวา วตฺตพฺโพ. เตนาห ‘‘เอกสฺมิมฺปิ…เป… คตาว โหนฺตี’’ติ. เอกเทโส หิ สมุทายนฺโตคธตฺตา วิเสโส วิย สามฺเน สมูเหน สงฺคหํ ลภติ. เตนาห ‘‘สจฺจานํ อนฺโตคธตฺตา’’ติ. เทสนานุกฺกโมติ อริยสจฺจานิ อุทฺทิสิตฺวา ทุกฺขสจฺจนิทฺเทสวเสน ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ วิภชนํ. ตตฺถ จ รูปกฺขนฺธนิทฺเทสวเสนอาทิโต อชฺฌตฺติกาย ปถวีธาตุยา วิภชนนฺติ. อยํ อิมิสฺสา เทสนาย อนุกฺกโม.

๓๐๑. ตํ ปเนตํ อุปมาหิ วิภาเวตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สุชาตนฺติ สุนฺทรํ, สุสณฺิตํ สุปริณตฺจาติ อธิปฺปาโย. เปสิโยติ วิลีเว. มุทุภาวโต กุจฺฉิภาคํ อาทาย. อิตเร จ จตฺตาโร โกฏฺาเสติ ปฺจธา ภินฺนโกฏฺาเสสุ อิตเร จ จตฺตาโร โกฏฺาเส. อิตเร จ ตโย โกฏฺาเสติอาทิโต จตุธา ภินฺนโกฏฺาเสสุ อิตเร จ ตโย โกฏฺาเส.

ราชปุตฺตูปมายาติ รฺโ เชฏฺปุตฺตอุปมาย. นฺติ ปิฬนฺธนํ. อุเร วายามชนิตอริยชาติยา โอรโส. มุขโต ชาโตติ มุขโต นิคฺคตธมฺมเทสนาย ชาโต, พุทฺธานํ วา ธมฺมกายสฺส มุขภูตอริยธมฺมโต ชาโต. ตโต เอว ธมฺมโช ธมฺมนิมฺมิโต. สตฺถุ ธมฺมทายาทสฺเสว คหิตตฺตา ธมฺมทายาโท. เตนาห ‘‘โน อามิสทายาโท’’ติ. นฺติ ‘‘ภควโต ปุตฺโต’’ติอาทิวจนํ. มหาปฺตาทิคุเณหิ สาติสยํ อนุปุพฺพภาเว ิตตฺตา สมฺมา ยถาภูตํ วทมาโน วตฺตุํ สกฺโกนฺโต วเทยฺย.

อกุโตภยํ นิพฺพานํ นิพฺพานคามินิฺจ. ราครชาทีนํ วิคเมน วิคตรชํ ธมฺมํ เทเสนฺตํ สุคตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ภิกฺขูนํ ปโรสหสฺสํ ปยิรุปาสตีติ โยชนา.

‘‘เสเวถ ภชถา’’ติ วตฺวา ตตฺถ การณมาห ‘‘ปณฺฑิตา ภิกฺขู อนุคฺคาหกา’’ติ. ปณฺฑิตาปิ สมานา น อปฺปสฺสุตา, อถ โข โอวาทานุสาสนีหิ อนุคฺคาหกาติ ปุริมา อุปมา เถรสฺเสว วเสน อุทาหฏา, ทุติยา ปน ภควโต ภิกฺขุสงฺฆสฺสปิ วเสน อุทาหฏา.

๓๐๒. อชฺฌตฺติกาติ สตฺตสนฺตานปริยาปนฺนา. อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตนฺติ ปททฺวเยนปิ ตํตํปาฏิปุคฺคลิกธมฺมา วุจฺจนฺตีติ อาห ‘‘อุภยมฺเปตํ นิยกาธิวจนเมวา’’ติ. สสนฺตติปริยาปนฺนตาย ปน อตฺตาติ คเหตพฺพภาวูปคมนวเสน อตฺตานํ อธิกิจฺจ อุทฺทิสฺส ปวตฺตํ อชฺฌตฺตํ, ตํตํสตฺตสนฺตานปริยาปนฺนตาย ปจฺจตฺตํ. เตนาห อฏฺกถายํ (วิสุทฺธิ. ๑.๓๐๗) ‘‘อตฺตนิ ปวตฺตตฺตา อชฺฌตฺตํ, อตฺตานํ ปฏิจฺจ ปฏิจฺจ ปวตฺตตฺตา ปจฺจตฺต’’นฺติ. กกฺขฬนฺติ กถินํ. ยสฺมา ตํ ถทฺธภาเวน สหชาตานํ ปติฏฺา โหติ, ตสฺมา ‘‘ถทฺธ’’นฺติ วุตฺตํ. ขริคตนฺติ ขรสภาเวสุ คตํ ตปฺปริยาปนฺนํ, ขรสภาวเมวาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน ขรสภาวํ ผรุสากาเรน อุปฏฺานโต ผรุสาการํ โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ผรุส’’นฺติ. อุปาทินฺนํ นาม สรีรฏฺกํ. ตตฺถ ยํ กมฺมสมุฏฺานํ, ตํ นิปฺปริยายโต ‘‘อุปาทินฺน’’นฺติ วุจฺจติ, อิตรํ อนุปาทินฺนํ. ตทุภยมฺปิ อิธ ตณฺหาทีหิ อาทินฺนคหิตปรามฏฺวเสน อุปาทินฺนเมวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สรีรฏฺกฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาทินฺนนฺติ อภินิวิฏฺํ. มมนฺติ คหิตํ. อหนฺติ ปรามฏฺํ. ธาตุกมฺมฏฺานิกสฺสาติ จตุธาตุววตฺถานวเสน ธาตุกมฺมฏฺานํ ปริหรนฺตสฺส. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ธาตุกมฺมฏฺาเน. ตีสุ โกฏฺาเสสูติ ติปฺปกาเรสุ โกฏฺาเสสุ. น หิ เต ตโย จตฺตาโร โกฏฺาสา.

วุตฺตปฺปการาติ ‘‘เกสา โลมา’’ติอาทินา วุตฺตปฺปการา. นานาสภาวโตติ สติปิ กกฺขฬภาวสามฺเ สสมฺภารวิภตฺติโต ปน เกสาทิสงฺฆาตคตนานาสภาวโต. อาลโยติ อเปกฺขา. นิกนฺตีติ นิกามนา. ปตฺถนาติ ตณฺหาปตฺถนา. ปริยุฏฺานนฺติ ตณฺหาปริยุฏฺานํ. คหณนฺติ กามุปาทานํ. ปรามาโสติ ปรโต อามสนา มิจฺฉาภินิเวโส. น พลวา อาลยาทิ. ยทิ เอวํ กสฺมา วิภงฺเค พาหิราปิ ปถวีธาตุ วิตฺถาเรเนว วิภตฺตาติ? ยถาธมฺมเทสนตฺตา ตตฺถ วิตฺถาเรเนว เทสนา ปวตฺตา, ยถานุโลมเทสนตฺตา ปเนตฺถ วุตฺตนเยน เทสนา สํขิตฺตา.

โยเชตฺวา ทสฺเสตีติ เอกชฺฌํ กตฺวา ทสฺเสติ. สาติ อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ. สุขปริคฺคโห โหติ ‘‘น เม โส อตฺตา’’ติ. สิทฺเธ หิ อนตฺตลกฺขเณ ทุกฺขลกฺขณํ อนิจฺจลกฺขณฺจ สิทฺธเมว โหติ สงฺขตธมฺเมสุ ตทวินาภาวโตติ. วิสูกายตีติ วิสูกํ วิรูปกิริยํ ปวตฺเตติ. สา ปน อตฺถโต วิปฺผนฺทนเมวาติ อาห ‘‘วิปฺผนฺทตี’’ติ. อสฺสาติ อชฺฌตฺติกาย ปถวีธาตุยา. อเจตนาภาโว ปากโฏ โหติ ธาตุมตฺตตาย ทสฺสนโต. ตํ อุภยมฺปีติ ตํ ปถวีธาตุทฺวยมฺปิ.

ตโต วิเสสตเรนาติ ตโต พาหิรมหาปถวิโต วิเสสวนฺตตเรน, ลหุตเรนาติ อตฺโถ. กุปฺปตีติ ลุปฺปติ. วิลียมานาติ ปกติอุทเก โลณํ วิย วิลยํ คจฺฉนฺตี. อุทกานุคตาติ อุทกํ อนุคตา อุทกคติกา. เตนาห ‘‘อุทกเมว โหตี’’ติ. อภาโว เอว อภาวตา, น ภวตีติ วา อภาโว, ตถาสภาโว ธมฺโม. ตสฺส ภาโว อภาวตา. วโย วินาโส ธมฺโม สภาโว เอตสฺสาติ วยธมฺโม, ตสฺส ภาโว วยธมฺมตา, อตฺถโต ขโย เอว. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เตนาห ‘‘สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ อนิจฺจลกฺขณเมว วุตฺต’’นฺติ. วิทฺธํสนภาวสฺส ปน ปเวทิตพฺพตฺตา กามํ อนิจฺจลกฺขณเมว วุตฺตํ สรูปโต, อิตรานิปิ อตฺถโต วุตฺตาเนวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยํ ปนา’’ติอาทิ.

มตฺตํ ขณมตฺตํ ติฏฺตีติ มตฺตฏฺโ, อปฺปมตฺตฏฺโ มตฺตฏฺโก, อติอิตฺตรขณิโกติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปริตฺตฏฺิติกสฺสา’’ติ. ิติปริตฺตตายาติ เอกจิตฺตปวตฺติมตฺตตาานลกฺขณสฺส อิตรภาเวน . เอกสฺส จิตฺตสฺส ปวตฺติกฺขณมตฺเตเนว หิ สตฺตานํ ปรมตฺถโต ชีวนกฺขโณ ปริจฺฉินฺโน. เตนาห ‘‘อยํ หี’’ติอาทิ.

ชีวิตนฺติ ชีวิตินฺทฺริยํ. สุขทุกฺขาติ สุขทุกฺขา เวทนา. อุเปกฺขาปิ หิ สุขทุกฺขาสฺเวว อนฺโตคธา อิฏฺานิฏฺภาวโต. อตฺตภาโวติ ชีวิตเวทนาวิฺาณานิ เปตฺวา อวสิฏฺธมฺมา วุตฺตา. เกวลาติ อตฺตนิจฺจภาเวน อโวมิสฺสา. เอกจิตฺตสมายุตฺตาติ เอเกน จิตฺเตน สหิตา เอกจิตฺตกฺขณิกา. ลหุโส วตฺตเต ขโณติ ตาย เอว เอกกฺขณิกตาย ลหุโก อติอิตฺตโร ชีวิตาทีนํ ขโณ วตฺตติ วีติวตฺตตีติ อตฺโถ. อิทนฺติ คาถาวจนํ.

ยสฺมา สตฺตานํ ชีวิตํ อสฺสาสปสฺสาสานํ อปราปรสฺจรณํ ลภมานเมว ปวตฺตติ, น อลภมานํ, ตสฺมา อสฺสาสปสฺสาสูปนิพทฺธํ. ตถา มหาภูตานํ สมวุตฺติตํ ลภมานเมว ปวตฺตติ. ปถวีธาตุยา หิ อาโปธาตุอาทีนํ วา อฺตรปโกเปน พลสมฺปนฺโนปิ ปุริโส ปตฺถทฺธกาโย วา, อติสาราทิวเสน กิลินฺนปูติกาโย วา, มหาฑาหปเรโต วา, สฺฉิชฺชมานสนฺธิพนฺธโน วา หุตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาปุณาติ. กพฬีการาหารานํ ยุตฺตกาเล ลภนฺตสฺเสว ชีวิตํ ปวตฺตติ, อลภนฺตสฺส ปริกฺขยํ คจฺฉติ, วิฺาเณ ปวตฺตมาเนเยว จ ชีวิตํ ปวตฺตติ, น ตสฺมึ อปฺปวตฺตมาเน. ชีวิตนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺเทน อิริยาปถูปนิพทฺธตาสีตุณฺหูปนิพทฺธตาทีนํ สงฺคโห. จตุนฺนฺหิ อิริยาปถานํ สมวุตฺติตํ ลภมานเมว ชีวิตํ ปวตฺตติ, อฺตรสฺส ปน อธิมตฺตตาย อายุสงฺขารา อุปจฺฉิชฺชนฺติ, สีตุณฺหานมฺปิ สมวุตฺติตํ ลภมานเมว ปวตฺตติ, อติสีเตน ปน อติอุณฺเหน วา อภิภูตสฺส วิปชฺชตีติ.

ตณฺหุปาทินฺนสฺสาติ อิมินา หิ ปจฺจยุปฺปนฺนตากิตฺตเนน สรสปภงฺคุตํเยว วิภาเวติ. ทุกฺขานุปสฺสนาย ตณฺหาคฺคาหสฺส อนิจฺจานุปสฺสนาย มานคฺคาหสฺส อนตฺตานุปสฺสนาย ทิฏฺิคฺคาหสฺส อุชุวิปจฺจนีกภาวโต เอกํเสเนว ตีหิ อนุปสฺสนาหิ คาหาปิ วิคจฺฉนฺตีติ อาห ‘‘โนเตว โหตี’’ติ. เอกํเยว อาคตํ พาหิราย ปถวีธาตุยา อนฺตรธานทสฺสนปวตฺตโชตนาย.

ปริคฺคหนฺติ ธาตุปริคฺคหณํ. ปฏฺเปนฺโตติ อารภนฺโต เทเสนฺโต. โสตทฺวาเร พลํ ทสฺเสตีติ โยชนา. กมฺมฏฺานิกสฺส พลทสฺสนาปเทเสน กมฺมฏฺานสฺส อานุภาวํ ทสฺเสติ. วาจาย ฆฏฺฏนเมว วุตฺตํ โสตทฺวาเร พลทสฺสนภาวโต. พลนฺติ จ พาหิราย วิย อชฺฌตฺติกายปิ ปถวีธาตุยา อเจตนาภาวทสฺสเนน รุกฺขสฺส วิย อกฺโกสนฺเตปิ ปหรนฺเตปิ นิพฺพิการตา. สมฺปติวตฺตมานุปฺปนฺนภาเวนาติ ตทา ปจฺจุปฺปนฺนภาเวน. สมุทาจารุปฺปนฺนภาเวนาติ อาปาถคเต ตสฺมึ อนิฏฺเ สทฺทารมฺมเณ อารมฺมณกรณสงฺขาตอุปฺปตฺติวเสน โสตทฺวาเร ชวนเวทนา ทุกฺขาติ วจนโต. ตถา หิ ‘‘อุปนิสฺสยวเสนา’’ติ วุตฺตํ. เวทนาทโยปีติ ‘‘เวทนา อนิจฺจา’’ติ เอตฺถ วุตฺตเวทนา เจว สฺาทโย จ. เต หิ ผสฺเสน สมานภูมิกา น ปุพฺเพ วุตฺตเวทนา. ธาตุสงฺขาตเมว อารมฺมณนฺติ ยถาปริคฺคหิตํ ปถวีธาตุสงฺขาตเมว วิสยํ. ปกฺขนฺทตีติ วิปสฺสนาจิตฺตํ อนิจฺจนฺติปิ ทุกฺขนฺติปิ อนตฺตาติปิ สมฺมสนวเสน อนุปวิสติ. เอเตน พหิทฺธาวิกฺเขปาภาวมาห, ปสีทตีติ ปน อิมินา กมฺมฏฺานสฺส วีถิปฏิปนฺนตํ. สนฺติฏฺตีติ อิมินา อุปรูปริ วิเสสาวหภาเวน อวตฺถานํ ปฏิปกฺขาภิภเวน นิจฺจลภาวโต. วิมุจฺจตีติ อิมินา ตณฺหามานทิฏฺิคฺคาหโต วิเสเสน มุจฺจนํ. อฏฺกถายํ ปน สมุฏฺานวเสน อตฺโถ วุตฺโต ‘‘อธิโมกฺขํ ลภตี’’ติ. โสตทฺวารมฺหิ อารมฺมเณ อาปาถคเตติ อิทํ มูลปริฺาย มูลทสฺสนํ. โสตทฺวาเรหิ อาวชฺชนโวฏฺพฺพนานํ อโยนิโส อาวชฺชยโต โวฏฺพฺพนวเสน อิฏฺเ อารมฺมเณ โลโภ, อนิฏฺเ จ ปฏิโฆ อุปฺปชฺชติ, มโนทฺวาเร ปน ‘‘อิตฺถี, ปุริโส’’ติ รชฺชนาทิ โหติ, ตสฺส ปฺจทฺวารชวนํ มูลํ, สพฺพํ วา ภวงฺคาทิ. เอวํ มโนทฺวารชวนสฺส มูลวเสน ปริฺา. อาคนฺตุกตาวกาลิกปริฺา ปน ปฺจทฺวารชวนสฺเสว อปุพฺพภาววเสน อิตรภาววเสน จ เวทิตพฺพา. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สติปฏฺานสํวณฺณนายํ วุตฺโต เอว.

ยาถาวโต ธาตูนํ ปริคฺคณฺหนวเสน กตปริคฺคหสฺสปิ อนาทิกาลภาวนาวเสน อโยนิโส อาวชฺชนํ สเจปิ อุปฺปชฺชติ. โวฏฺพฺพนํ ปตฺวาติ โวฏฺพฺพนกิจฺจตํ ปตฺวา. เอกํ ทฺเว วาเร อาเสวนํ ลภิตฺวา, น อาเสวนปจฺจยํ. น หิ อุเปกฺขาสหคตาเหตุกจิตฺตํ อาเสวนปจฺจยภูตํ อตฺถิ. ยทิ สิยา, ปฏฺาเน กุสลตฺติเก ปฏิจฺจวาราทีสุ ‘‘น มคฺคปจฺจยา อาเสวเน ทฺเว, อาเสวนปจฺจยา น มคฺเค ทฺเว’’ติ จ วตฺตพฺพํ สิยา, ‘‘น มคฺคปจฺจยา อาเสวเน เอกํ (ปฏฺา. ๑.๑.๒๒๑), อาเสวนปจฺจยา น มคฺเค เอก’’นฺติ (ปฏฺา. ๑.๑.๑๕๒) จ ปน วุตฺตํ. เอกํ ทฺเว วาเรติ เอตฺถ จ เอกคฺคหณํ วจนสิลิฏฺตาย วเสน วุตฺตํ. น หิ ทุติเย โมฆวาเร เอกวารเมว โวฏฺพฺพนํ ปวตฺตติ. ทฺวิกฺขตฺตุํ วา ตสฺส ปวตฺตึ สนฺธาย เอกวารคฺคหณํ, ติกฺขตฺตุํ ปวตฺตึ สนฺธาย ทฺเววารคฺคหณํ. ตตฺถ ทุติยํ ตติยฺจ ปวตฺตมานํ ลทฺธาเสวนํ วิย โหติ. ยสฺมา ปน ‘‘โวฏฺพฺพนํ ปตฺวา เอกํ ทฺเว วาเรอาเสวนํ ลภิตฺวา จิตฺตํ ภวงฺคเมว โอตรตี’’ติ อิทํ ทุติยโมฆวารวเสน วุตฺตํ ภเวยฺย. โส จ อารมฺมณทุพฺพลตาย เอว โหตีติ อภิธมฺมฏฺกถายํ นิยมิโต. อิธ ปน ติกฺขานุปสฺสนานุภาเวน อกุสลุปฺปตฺติยา อสมฺภววเสน อโยนิโสว อาวชฺชโต อโยนิโส ววตฺถานํ สิยา, น โยนิโส, ตสฺมิฺจ ปวตฺเต มหติ อติมหติ วา อารมฺมเณ ชวนํ น อุปฺปชฺเชยฺยาติ อยมตฺโถ วิจาเรตฺวา คเหตพฺโพ.

เอตสฺเสว วา สติปิ ทุวิธตาปริกปฺปเน โส จ ยทิ อนุโลเม เวทนาตฺติเก ปฏิจฺจวาราทีสุ ‘‘อาเสวนปจฺจยา น มคฺเค ทฺเว, น มคฺคปจฺจยา อาเสวเน ทฺเว’’ติ จ วุตฺตํ สิยา, (ลพฺเภยฺย), น จ วุตฺตํ. ยทิ ปน โวฏฺพฺพนมฺปิ อาเสวนปจฺจโย สิยา, กุสลากุสลานมฺปิ สิยา. น หิ อาเสวนปจฺจยํ ลทฺธุํ ยุตฺตสฺส อาเสวนปจฺจยตาปิ ธมฺโม อาเสวนปจฺจโย โหตีติ อวุตฺโต อตฺถิ, โวฏฺพฺพนสฺส ปน กุสลากุสลานํ อาเสวนปจฺจยภาโว อวุตฺโต – ‘‘กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชติ นาเสวนปจฺจยา. อกุสลํ…เป… นาเสวนปจฺจยา’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๙๓-๙๔) วจนโต ปฏิกฺขิตฺโต จ. อถาปิ สิยา อสมานเวทนานํ วเสเนว วุตฺตนฺติ จ, เอวมปิ ยถา – ‘‘อาวชฺชนา กุสลานํ ขนฺธานํ อกุสลานํ ขนฺธานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๗) วุตฺตํ, เอวํ ‘‘อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติปิ วตฺตพฺพํ สิยา. ตํ ชาติเภทา น วุตฺตนฺติ เจ? ภูมิภินฺนสฺส กามาวจรสฺส รูปาวจราทีนํ อาเสวนปจฺจยภาโว วิย ชาติภินฺนสฺสปิ ภเวยฺยาติ วตฺตพฺโพ เอว สิยา, อภินฺนชาติกสฺส จ วเสน ยถา – ‘‘อาวชฺชนา สเหตุกานํ ขนฺธานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วุตฺตํ, เอวํ ‘‘อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติปิ วตฺตพฺพํ สิยา, น จ วุตฺตํ. ตสฺมา เวทนาตฺติเกปิ ‘‘อาเสวนปจฺจยา น มคฺเค เอกํ, น มคฺคปจฺจยา อาเสวเน เอก’’นฺติ เอวํ คณนาย นิทฺธาริยมานาย โวฏฺพฺพนสฺส อาเสวนปจฺจยตฺตสฺส อภาวา อยํ โมฆวาโร อุปปริกฺขิตฺวา คเหตพฺโพ.

โวฏฺพฺพนํ ปน วีถิวิปากสนฺตติยา อาวฏฺฏนโต อาวชฺชนา, ตโต วิสทิสสฺส ชวนสฺส กรณโต มนสิกาโรติ จ วตฺตพฺพตํ ลเภยฺย, เอวฺจ กตฺวา ปฏฺาเน ‘‘โวฏฺพฺพนํ กุสลานํ ขนฺธานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทิ น วุตฺตํ, ‘‘อาวชฺชนา’’อิจฺเจว (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๗) วุตฺตํ, ตมฺปิ โวฏฺพฺพนโต ปรํ จตุนฺนํ ปฺจนฺนํ วา ชวนานํ อารมฺมณปุเรชาตํ ภวิตุํ อสกฺโกนฺตํ รูปาทึ อารพฺภ ปวตฺตมานํ โวฏฺพฺพนํ ชวนฏฺาเน ตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ชวนฏฺาเน ตฺวาติ จ ชวนสฺส อุปฺปชฺชนฏฺาเน ทฺวิกฺขตฺตุํ ปวตฺติตฺวาติ อตฺโถ, น ชวนภาเวนาติ. อาเสวนํ ลภิตฺวาติ เจตฺถ อาเสวนํ วิย อาเสวนนฺติ วุตฺโตวายมตฺโถ. วิปฺผาริกตฺตา จสฺส ทฺวิกฺขตฺตุํ วา ติกฺขตฺตุํ วา ปวตฺติเยว เจตฺถ อาเสวนสทิสตา. วิปฺผาริกตาย หิ วิฺตฺติสมุฏฺาปกตา จสฺส วุจฺจติ. วิปฺผาริกมฺปิ ชวนํ วิย อเนกกฺขตฺตุํ อปฺปวตฺติยา อสุปฺปติฏฺิตตาย จ น นิปฺปริยายโต อาเสวนภาเวน วตฺตตีติ น อิมสฺส อาเสวนตฺถํ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน ผลจิตฺเตสุ มคฺคปริยาโย วิย ปริยายวเสน วุตฺตํ.

อยนฺติ ‘‘สเจปี’’ติอาทินา วุตฺโต เอกวารมฺปิ ราคาทีนํ อนุปฺปาทนวเสน วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต โยคาวจโร. โกฏิปฺปตฺโตติ มตฺถกํ ปตฺโต. ปฏิปกฺเขหิ อนภิภูตตฺตา วิสทวิปสฺสนาาณตาย ติกฺขวิปสฺสโก. อารมฺมณํ ปริคฺคหิตเมว โหติ ‘‘เอวํ เม ชวนํ ชวิต’’นฺติ สารมฺมณสฺส ชวนสฺส หุตฺวา อภาวววตฺถาปนสฺส กมฺมฏฺานภาวโต, ตถา อาวชฺชนวเสน วา ตํ อารมฺมณํ วิสฺสชฺเชตฺวา ตาวเทว มูลกมฺมฏฺานภูตํ อารมฺมณํ ปริคฺคหิตเมว โหติ. ทุติยสฺส ปน วเสนาติ ‘‘อปรสฺส ราคาทิวเสน เอกวารํ ชวนํ ชวตี’’ติอาทินา วุตฺตสฺส นาติติกฺขวิปสฺสกสฺส วเสน ‘‘ตสฺส ธาตารมฺมณเมว จิตฺตํ ปกฺขนฺทตี’’ติอาทินา อิมสฺมึ สุตฺเต อาคตตฺตา. ‘‘ตเมนํ อุปธิปหานาย ปฏิปนฺนํ อุปธิปฏินิสฺสคฺคาย กทาจิ กรหจิ สติสมฺโมสา อุปธิปฏิสํยุตฺตา สรสงฺกปฺปา สมุทาจรนฺติ. ทนฺโธ อุทายิ สตุปฺปาโท, อถ โข นํ ขิปฺปเมว ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตี’’ติ ลฏุกิโกปเม. ตสฺส หิ อฏฺกถายํ ‘‘โสตาปนฺนาทโย ตาว ปชหนฺตุ, ปุถุชฺชโน กถํ ปชหตี’’ติ โจทนํ ปฏฺเปตฺวา ‘‘อารทฺธวิปสฺสโก หิ สติสมฺโมเสน สหสา กิเลเส อุปฺปนฺเน ‘มาทิสสฺส นาม ภิกฺขุโน กิเลโส อุปฺปนฺโน’ติ สํเวคํ กตฺวา วีริยํ ปคฺคยฺห วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา มคฺเคน กิเลเส สมุคฺฆาเตติ, อิติ โส ปชหติ นามา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตสฺส ธาตารมฺมณเมว จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติอาทินา อิมสฺมึ สุตฺเต อาคตตฺตา’’ติอาทิ. อินฺทฺริยภาวเน จ มชฺฌิมสฺส วเสน อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ปริคฺคหวเสนาติ ธาตุปริคฺคหวเสน. มมฺมจฺเฉทนาทิวเสน ปวตฺตอกฺโกสนาทึ อนิฏฺํ อารมฺมณํ ปตฺวา โสตทฺวาเร กิลมติ ปุคฺคโล, ตถา โปถนปหรณาทิกํ อนิฏฺํ อารมฺมณํ ปตฺวา กายทฺวาเร กิลมติ.

สมุทาจรนฺตีติ สพฺพโส อุทฺธํ อาจรนฺติ. ตยิทํ อมนาเปหิ สมุทาจรณํ นาม โปถนปหรณาทิวเสน อุปกฺกมนเมวาติ อาห ‘‘อุปกฺกมนฺตี’’ติ, พาธนฺตีติ อตฺโถ. ตถาสภาโวติ ยถา ปาณิปฺปหาราทีหิ ฆฏฺฏิตมตฺโต วิการํ อาปชฺชติ, ตถาสภาโว. ‘‘อุภโตทณฺฑเกน เจปิ, ภิกฺขเว, กกเจนา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓๒) โอวาททานํ นาม อนฺสาธารณํ พุทฺธานํเยว อาเวณิกนฺติ อาห ‘‘วุตฺตํ โข ปเนตํ ภควตาติ อนุสฺสรนฺโตปิ…เป… กกจูปโมวาทํ อนุสฺสรนฺโตปี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺสปิ ปริยตฺติธมฺมภาวโตติ เกจิ . ยํ ปน กกโจกนฺตเกสุปิ มนุสฺเสสุ อปฺปทุสฺสนํ นิพฺพิการํ, ตํ สตฺถุสาสนํ อนุสฺสรนฺโตปิ สมฺมาปฏิปตฺติลกฺขณํ ธมฺมํ อนุสฺสรติเยวาติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ภิกฺขุโน คุณนฺติ อริยธมฺมาธิคมนสิทฺธํ คุณมาห. โส จ สพฺเพสมฺปิ อริยานํ คุโณติ ตํ อนุสฺสรนฺโตปิ สงฺฆํ อนุสฺสรติ เอวาติ วุตฺตํ.

วิปสฺสนุเปกฺขา อธิปฺเปตา, ตสฺมา อุเปกฺขา กุสลนิสฺสิตา น สณฺาตีติ วิปสฺสนาวเสน สพฺพสฺมิมฺปิ สงฺขารคเต อชฺฌุเปกฺขนํ น ลภตีติ อตฺโถ. ฉฬงฺคุเปกฺขาติ ฉฬงฺคุเปกฺขา วิย ฉฬงฺคุเปกฺขา อิฏฺานิฏฺเสุ นิพฺพิการตาสามฺเน . เตนาห ‘‘สา ปเนสา’’ติอาทิ. ฉฬงฺคุเปกฺขาาเน เปติ ‘‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม’’ติอาทินา อตฺตมนตํ อาปชฺชนฺโต.

๓๐๓. อาโปคตนฺติ อาพนฺธนวเสน อาโป, ตเทว อาโปสภาวํ คตตฺตา อาโปคตํ, สภาเวเนว อาโปภาวํ วา ปตฺตนฺติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน โส อาโปภาวสงฺขาโต อลฺลยูสภาโว สสมฺภารปถวีสสมฺภารอุทกาทิคเต สพฺพสฺมิมฺปิ อาปสฺมึ วิชฺชติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สพฺพอาเปสุ คตํ อลฺลยูสภาวลกฺขณ’’นฺติ, ทฺรวภาวลกฺขณนฺติ อตฺโถ. ‘‘ปกุปฺปตี’’ติ ปากติกปโกปํ สนฺธายาห ‘‘โอฆวเสน วฑฺฒตี’’ติ. เตนาห ‘‘อยมสฺส ปากติโก ปโกโป’’ติ. อิตรํ ปน ทสฺเสตุํ ‘‘อาโปสํวฏฺฏกาเล ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โอคจฺฉนฺตีติ เอตฺถ โอคมนนฺติ ปริยาทานํ อธิปฺเปตํ, น อโธคมนมตฺตนฺติ อาห ‘‘อุทฺธเน…เป… ปาปุณนฺตี’’ติ.

๓๐๔. สพฺพเตเชสุ คตนฺติ อินฺธนาทิวเสน อเนกเภเทสุ สพฺเพสุ เตโชโกฏฺาเสสุ คตํ ปวตฺตํ. ยถา ปีติ เอว ปีติคตํ, เอวํ เตโช เอว เตโชคตํ, เตชนวเสน ปวตฺติมตฺตนฺติ อตฺโถ. เอวํ อาโปคตํ, วาโยคตฺจ เวทิตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปุริเม’’ติอาทิ. เอกาหิกชราทิภาเวนาติ เอกาหิกาทิชราเภเทน. อุสุมชาโตติ อุสฺมาภิภูโต. ชีรตีติ ชิณฺโณ โหติ. เตโชธาตุวเสน ลพฺภมานา อิมสฺมึ กาเย ชราปวตฺติ ปากฏชราวเสน เวทิตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อินฺทฺริยเวกลฺลตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. วลิปลิตาทิภาวนฺติ วลิตปลิตภาวํ, องฺคปจฺจงฺคานํ สิถิลภาวฺจ. กุปฺปิเตนาติ ขุภิเตน. สตกฺขตฺตุํ ตาเปตฺวา ตาเปตฺวา สีตูทเก ปกฺขิปิตฺวา อุทฺธฏสปฺปิ สตโธตสปฺปีติ วทนฺติ. สรีเร ปกติอุสุมํ อติกฺกมิตฺวา อุณฺหภาโว สนฺตาโป, สรีรสฺส ทหนวเสน ปวตฺโต มหาทาโห ปริทาโหติ อยเมว เตสํ วิเสโส. อสิตนฺติ สุตฺตํ. ขายิตนฺติ ขาทิตํ. สายิตนฺติ อสฺสาทิตํ. สมฺมา ปริปากํ คจฺฉตีติ สมเวปากินิยา คหณิยา วเสน วุตฺตํ. อสมฺมาปริปาโกปิ วิสมปากินิยา คหณิยา วเสน เวทิตพฺโพ. รสาทิภาเวนาติ รสรุธิรมํสเมทนฺหารุอฏฺิอฏฺิมิฺชสุกฺกภาเวน. วิเวกนฺติ ปุถุภาวํ อฺมฺํ วิสทิสภาวํ. อสิตาทิเภทสฺส อาหารสฺส ปริณาเม รโส โหติ, ตํ ปฏิจฺจ รสธาตุ อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. เอวํ รสสฺส ปริณาเม ‘‘รุธิร’’นฺติอาทินา สพฺพํ เนตพฺพํ.

หริตนฺตนฺติ หริตเมว, อนฺต-สทฺเทน ปทวฑฺฒนํ กตํ ยถา ‘‘วนนฺตํ สุตฺตนฺต’’นฺติ. จมฺมนิลฺเลขนํ จมฺมํ ลิขิตฺวา ฉฑฺฑิตกสฏํ.

๓๐๕. อุคฺคารหิกฺการาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อุทฺเทกขีปนาทิปวตฺตกวาตานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อุจฺจารปสฺสาวาทีติ อาทิ-สทฺเทน ปิตฺตเสมฺหลสิกาทินีหรณวาตสฺส เจว อุสุมวาตสฺส จ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ยทิปิ กุจฺฉิ-สทฺโท อุทรปริยาโย, โกฏฺ-สทฺเทน ปน อพฺภนฺตรสฺส วุจฺจมานตฺตา ตทวสิฏฺโ อุทรปเทโส อิธ กุจฺฉิ-สทฺเทน วุจฺจตีติ อาห ‘‘กุจฺฉิสยา วาตาติ อนฺตานํ พหิวาตา’’ติ. สมิฺชนปสารณาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อาโลกนวิโลกนอุทฺธรณาทิกา สพฺพา กายิกกิริยา สงฺคหิตา. อวสวติ อุทกํ เอตสฺมาติ โอสฺสวนํ, ฉทนนฺโต. อิธาติ อิมสฺมึ าเน.

๓๐๖. นิสฺสตฺตภาวนฺติ อนตฺตกตํ. ยถาทสฺสิตา หิ จตสฺโส ธาตุโย อนตฺตนิยํ เกวลํ ธาตุมตฺตา นิสฺสตฺตนิชฺชีวาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ. ปริวาริโตติ ปริวาริตภาเวน ิโต ปริวุโต. เตนาห ‘‘เอตานี’’ติอาทิ, กฏฺาทีนิ สนฺนิเวสวิเสสวเสน ปิตานีติ อธิปฺปาโย. อฺถา อคารสมฺาย ภาวโต. เตนาห ‘‘กฏฺาทีสุ ปนา’’ติอาทิ. ยทตฺถํ ปาฬิยํ ‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส’’ติอาทิ อารทฺธํ, ตมตฺถํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา กฏฺาทีนี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

กามํ เหฏฺา ‘‘มตฺตฏฺกสฺส กายสฺสา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๓๐๒) อวิภาเคน เอกเทเสน จ อุปาทารูปมฺปิ กถิตํ, ตถา เวทนาทโย ขนฺธภาเวน ปริคฺคเหตฺวา น กถิตา, ตถา ตณฺหาปิ สมุทยสจฺจภาเวน. อิตรานิ ปน สจฺจานิ สพฺเพน สพฺพํ น กถิตานิ. เตเนวาห ‘‘เหฏฺา…เป… น กถิตานี’’ติ. จกฺขุปสาเท นิรุทฺเธติ จกฺขุปสาเท วินฏฺเ. อุปหเตติ ปุพฺพกิมิอาทีหิ อุปทฺทุเต. ปลิพุทฺเธติ ปุพฺพาทิอุปฺปตฺติยา วินา ปฏิจฺฉาทิเต. ตชฺโชติ ตสฺสานุรูโป, จกฺขุวิฺาณุปฺปตฺติยา อนุรูโปติ อตฺโถ. จกฺขุสฺส รูปารมฺมเณ อาปาถคเต อุปฺปชฺชนมนสิกาโร หทยสนฺนิสฺสโยปิ จกฺขุมฺหิ สติ โหติ, อสติ น โหตีติ กตฺวา ‘‘จกฺขุํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนมนสิกาโร’’ติ วุตฺโต. ภวงฺคาวฏฺฏนํ ตสฺส ยถา อารมฺมณปจฺจเย, เอวํ ปสาทปจฺจเยปิ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘จกฺขุฺจ รูเป จ ปฏิจฺจา’’ติ. นฺติ จกฺขุทฺวาเร กิริยมโนธาตุจิตฺตํ. อฺวิหิตสฺสาติ อฺารมฺมณปสุตสฺส. ตทนุรูปสฺสาติ เตสํ จกฺขุรูปตทาโภคานํ อนุรูปสฺส.

จตฺตาริ สจฺจานิ ทสฺเสติ สรูปโต อตฺถาปตฺติโต จาติ อธิปฺปาโย. ตปฺปกาโร ภูโต, ตปฺปการํ วา ปตฺโต ตถาภูโต, ตสฺส, ยถา จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตาทิสสฺส ปจฺจยาการสมเวตสฺสาติ อตฺโถ. ติสมุฏฺานรูปนฺติ อุตุกมฺมาหารสมุฏฺานรูปํ. อิทฺจ สติปิ ตทา ภวงฺคาวฏฺฏนจิตฺตสมุฏฺานรูเป เกวลํ จกฺขุวิฺาณสมุฏฺิตรูปสฺส อภาวมตฺตํ คเหตฺวา วุตฺตํ. สงฺคหํ คจฺฉตีติ นครํ วิย รชฺเช รูปกฺขนฺเธ สงฺคเหตพฺพตํ คเหตพฺพตํ คจฺฉติ. ‘‘ตถาภูตสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา เวทนาทโย จกฺขุวิฺาณสมฺปยุตฺตาว, วิฺาณมฺปิ จกฺขุวิฺาณเมว. สงฺขาราติ เจตนาว วุตฺตา เจตนาปธานตฺตา สงฺขารกฺขนฺธสฺสาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ ปน ผสฺสชีวิตินฺทฺริยมนสิการจิตฺตฏฺิติโยปิ สงฺขารกฺขนฺธธมฺมาว. เอกโต สงฺคโห ‘‘ปฺจกฺขนฺธา’’ติ เอกโต คณนา. สมาคโมติ ยถาสกํ ปจฺจยวเสน สโมธานํ. สมวาโยติ อฺมฺสฺส ปจฺจยภาเวน สมเวตตาย สมุทิตภาโว.

ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺโม ปฏิจฺจ สมุปฺปชฺชติ เอตสฺมาติ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท, ปจฺจยากาโร. ปจฺจยธมฺเม ปสฺสนฺโตปิ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเม ปสฺสติ, เต ปสฺสนฺโตปิ ปจฺจยธมฺเม ปสฺสตีติ วุตฺตํ ‘‘โย ปฏิจฺจสมุปฺปาท’’นฺติอาทิ. ฉนฺทกรณวเสนาติ ตณฺหายนวเสน. อาลยกรณวเสนาติ อเปกฺขากรณวเสน. อนุนยกรณวเสนาติ อนุรชฺชนวเสน. อชฺโฌคาหิตฺวาติ อารมฺมณํ อนุปวิสิตฺวา วิย คิลิตฺวา วิย นิฏฺเปตฺวา วิย ทฬฺหคฺคหณวเสน. ฉนฺทราโค วินยติ ปหียติ เอตฺถาติ ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปหานฺจาติ วุจฺจติ นิพฺพานํ. อาหริตฺวาติ ปาฬิยํ สรูปโต อนาคตมฺปิ อตฺถโต อาเนตฺวา สงฺคณฺหนวเสน คเหตพฺพํ. อาหรณวิธึ ปน ทสฺเสนฺโต ‘‘ยา อิเมสู’’ติอาทิมาห. อิเมสุ ตีสุ าเนสูติ ยถาวุตฺเตสุ สุขทุกฺขาทีสุ ตีสุ อภิสมยฏฺาเนสุ. ทิฏฺีติ ปริฺาภิสมยาทิวเสน ปวตฺตา สมฺมาทิฏฺิ ยาถาวทสฺสนํ. เอวํ สงฺกปฺปาทโยปิ ยถารหํ เวทิตพฺพา. ภาวนาปฏิเวโธติ ภาวนาวเสน ปฏิเวโธ, น อารมฺมณกรณมตฺเตน. อยํ มคฺโคติ อยํ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปฏิวิชฺฌนวเสน ปวตฺโต อฏฺงฺคิโก มคฺโค. เอตฺตาวตาปีติ เอวํ เอกสฺมึ จกฺขุทฺวาเร วตฺถุ ปริคฺคหมุเขนปิ จตุสจฺจกมฺมฏฺานสฺส มตฺถกํ ปาปเนน พหุํ วิปุลํ ปริปุณฺณเมว ภควโต สาสนํ กตํ อนุฏฺิตํ โหติ.

อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธเมว ภวงฺคจิตฺตํ อาวชฺชนจิตฺตสฺส ปจฺจโย ภวตีติ วุตฺตํ ‘‘ตํ นิรุทฺธมฺปี’’ติ. มนฺทถามคตเมวาติ มหติยา นิทฺทาย อภิภูตสฺส วเสน วุตฺตํ, กปิมิทฺธปเรตสฺส ปน ภวงฺคจิตฺตํ กทาจิ อาวชฺชนสฺส ปจฺจโย ภเวยฺยาติ. ภวงฺคสมเยเนวาติ ภวงฺคสฺเสว ปวตฺตนสมเยน ปคุณชฺฌานปคุณกมฺมฏฺานปคุณคนฺเถสุ เตสํ ปคุณภาเวเนว อาโภเคน วินาปิ มนสิกาโร ปวตฺตติ. ตถา หิ ปคุณํ คนฺถํ ปคุณภาเวเนว นิรนฺตรํ วิย อชฺฌยมาเน อฺวิหิตตาย ‘‘เอตฺตโก คนฺโถ คโต, เอตฺตโก อวสิฏฺโ’’ติ สลฺลกฺขณา น โหติ. จตุสมุฏฺานมฺปีติ สพฺพํ จตุสมุฏฺานรูปํ, น ปุพฺเพ วิย ติสมุฏฺานเมวาติ อธิปฺปาโย. ปุพฺพงฺคมตฺตา โอฬาริกตฺตา จ ผสฺสเจตนาว สงฺขารกฺขนฺโธติ คหิตา, น อฺเสํ อภาวา. เอกเทสเมว สมฺมสนฺโตติ ยถาอุทฺทิฏฺํ อตฺถํ เหฏฺา อนวเสสโต อนิทฺทิสิตฺวา เอกเทสเมว นิทฺทิสนวเสน เทสนาย อามสนฺโต. อิมสฺมึ าเนติ ยถาอุทฺทิฏฺสฺส อตฺถสฺส ‘‘อชฺฌตฺติกฺเจว, อาวุโส, จกฺขุ’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๑.๓๐๖) ฉทฺวารวเสน นิทฺทิสนฏฺาเน. เหฏฺา ปริหีนเทสนนฺติ – ‘‘ยํ อุปาทารูปํ จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา อุปริ ตีณิ อริยสจฺจานี’’ติ นิทฺเทสวเสน ปริหีนํ อตฺถชาตํ สพฺพํ. ตํตํทฺวารวเสนาติ จกฺขุทฺวาราทิกํ ตํตํทฺวารวเสน. จตุสจฺจวเสน อารทฺธา เทสนา จตุสจฺเจเนว ปริโยสาปิตาติ อาห ‘‘ยถานุสนฺธินาว สุตฺตนฺตํ นิฏฺเปสี’’ติ.

มหาหตฺถิปโทปมสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๙. มหาสาโรปมสุตฺตวณฺณนา

๓๐๗. นจิรปกฺกนฺเตติ น จิรํ ปกฺกนฺเต, ปกฺกนฺตสฺส สโต น จิรสฺเสว. สลิงฺเคเนวาติ มุณฺฑิยกาสายคฺคหณาทินา อตฺตโน ปุริมลิงฺเคเนว. ปาฏิเยกฺเก ชาเตติ วิปนฺนาจารทิฏฺิตาย ปกาสนียกมฺมกรณโต ปรํ อฺติตฺถิยสทิเส วิสุํ ภูเต. กุลปุตฺโตติ ชาติมตฺเตน กุลปุตฺโต. อสมฺภินฺนายาติ สมฺเภทรหิตาย, ชาติสงฺกรวิรหิตายาติ อตฺโต. ชาติสีเสน อิธ ชาติวตฺถุกํ ทุกฺขํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘โอติณฺโณติ ยสฺส ชาติ อนฺโต อนุปวิฏฺา’’ติ. ชาโต หิ สตฺโต ชาตกาลโต ปฏฺาย ชาตินิมิตฺเตน ทุกฺเขน อนฺโต อนุปวิฏฺโ วิย วิพาธียติ. ชรายาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. จตฺตาโร ปจฺจยา ลพฺภนฺตีติ ลาภา, จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ลพฺภมานานํ สุกตภาโว สุฏฺุ อภิสงฺขตภาโว. วณฺณภณนนฺติ คุณกิตฺตนํ. อปฺาตาติ สมฺภาวนาวเสน น ปฺาตา. ลาภาทินิพฺพตฺติยาภาวทสฺสนฺเหตํ. เตนาห ‘‘ฆาสจฺฉาทนมตฺตมฺปิ น ลภนฺตี’’ติ. อปฺเปสกฺขาติ อปฺปานุภาวา. สา ปน อปฺเปสกฺขตา อธิปเตยฺยสมฺปตฺติยา จ ปริวารสมฺปตฺติยา จ อภาเวน ปากฏา โหติ. ตตฺถ ปริวารสมฺปตฺติยา อภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปฺปปริวารา’’ติ อาห.

สาเรนปิ เกจิ อชานเนน อฺาลาเภน วา อสารภูตมฺปิ กตฺตพฺพํ กโรนฺตีติ ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘สาเรน สารกรณีย’’นฺติ วุตฺตนฺติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อกฺขจกฺกยุคนงฺคลาทิก’’นฺติ อาห. พฺรหฺมจริยสฺสาติ สิกฺขาตฺตยสงฺคหสฺส สาสนพฺรหฺมจริยสฺส. มหารุกฺขสฺส มคฺคผลสารสฺส าณทสฺสนเผคฺคุกสฺส สมาธิตจสฺส สีลปปฏิกสฺส จฺจลสภาวา สํสปฺปจารีติ จ จตฺตาโร ปจฺจยา สาขาปลาสํ นาม. เตเนวาติ ลาภสกฺการสิโลกนิพฺพตฺตเนเนว. สาโร เม ปตฺโตติ อิมสฺมึ สาสเน อธิคนฺตพฺพสาโร นาม อิมินา ลาภาทินิพฺพตฺตเนน อนุปฺปตฺโตติ โวสานํ นิฏฺิตกิจฺจํ อาปนฺโน.

๓๑๐. าณทสฺสนนฺติ าณภูตํ ทสฺสนํ วิสยสฺส สจฺฉิกรณวเสน ปวตฺตํ อภิฺาาณํ. สุขุมํ รูปนฺติ เทวาทีนํ, อฺมฺปิ วา สุขุมสภาวํ รูปํ. เตนาห ‘‘อนฺตมโส…เป… วิหรนฺตี’’ติ, ทิพฺพจกฺขุ หิ อิธ อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน ‘‘าณทสฺสน’’นฺติ คหิตํ.

๓๑๑. อสมยวิโมกฺขํอาราเธตีติ เอตฺถ อธิปฺเปตํ อสมยวิโมกฺขํ ปาฬิยา เอว ทสฺเสตุํ ‘‘กตโม อสมยวิโมกฺโข’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺนฺนฺหิ สมาปชฺชนสมโยปิ อตฺถิ อสมโยปิ, มคฺควิโมกฺเขน ปน วิมุจฺจนสฺส สมโย วา อสมโย วา นตฺถิ. ยสฺส สทฺธา พลวตี, วิปสฺสนา จ อารทฺธา, ตสฺส คจฺฉนฺตสฺส ติฏฺนฺตสฺส นิสีทนฺตสฺส ภุฺชนฺตสฺส จ มคฺคผลปฏิเวโธ นาม น โหตีติ น วตฺตพฺพํ, อิติ มคฺควิโมกฺเขน วิมุจฺจนฺตสฺส สมโย วา อสมโย วา นตฺถีติ โส อสมยวิโมกฺโข. เตนาห ‘‘โลกิยสมาปตฺติโย หี’’ติอาทิ.

น กุปฺปติ, น นสฺสตีติ อกุปฺปา, กทาจิปิ อปริหานสภาวา. สพฺพสํกิเลเสหิ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน เจตโส วิมุตฺตีติ เจโตวิมุตฺติ. เตนาห ‘‘อรหตฺตผลวิมุตฺตี’’ติ. อยมตฺโถ ปโยชนํ เอตสฺสาติ เอตทตฺถํ, สาสนพฺรหฺมจริยํ, ตสฺส เอสา ปรมโกฏิ. ยถารทฺธสฺส สาโรปเมน ผเลน เทสนา นิฏฺาปิตาติ อาห ‘‘ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฏฺเปสี’’ติ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต อวิภตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

มหาสาโรปมสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๑๐. จูฬสาโรปมสุตฺตวณฺณนา

๓๑๒. ปิงฺคลธาตุโกติ ปิงฺคลสภาโว ปิงฺคลจฺฉวิโก, ปิงฺคลกฺโขติ วา อตฺโถ. ปพฺพชิตสมูหสงฺขาโต สงฺโฆ, น สีลาทิคุเณหิ สงฺคหิตพฺพภาเวน. สงฺโฆ เอเตสํ อตฺถิ ปริวารภูโตติ สงฺฆิโน. สฺเววาติ โส เอว ปพฺพชิตสมูหสงฺขาโต. อาจารสิกฺขาปนวเสนาติ อตฺตนา ปริกปฺปิตอเจลวตาทิอาจารสิกฺขาปนวเสน. ปฺาตาติ ยถาสกํ สมาทินฺนวตวเสน เจว วิฺาตลทฺธิวเสน จ ปฺาตา. ลทฺธิกราติ ตสฺสา มิจฺฉาทิฏฺิยา อุปฺปาทกา. พหุชนสฺสาติ ปุถุชนสฺส. ตสฺส ปน อาคมสมฺปทาปิ นาม นตฺถิ, กุโต อธิคโมติ เอกํสโต อนฺธปุถุชฺชโน เอวาติ อาห ‘‘อสฺสุตวโต อนฺธพาลปุถุชฺชนสฺสา’’ติ. น หิ วิฺู อปฺปสาทนีเย ปสีทนฺติ. มงฺคเลสุ กาตพฺพทาสกิจฺจกโร ทาโส มงฺคลทาโส.

ตนฺตาวุตานนฺติ ตนฺเต ปสาเรตฺวา วีตานํ. คณฺนกิเลโสติ สํสาเร พนฺธนกิเลโส. เอวํ วาทิตายาติ เอวํ ปฏิฺตาย, เอวํ ทิฏฺิตาย วา. นิยฺยานิกาติ นิยฺยานคติสปฺปาฏิหีรกา อนุปารมฺภภูตตฺตาติ อธิปฺปาโย. โน เจ นิยฺยานิกาติ อาเนตฺวา โยชนา. เตสํ สพฺพฺุปฏิฺาย อภูตตฺตา ตสฺสา อภูตภาวกถเนน ตสฺส พฺราหฺมณสฺส น กาจิ อตฺถสิทฺธีติ อาห ‘‘เนสํ อนิยฺยานิกภาวกถเนน อตฺถาภาวโต’’ติ.

๓๑๘. นิหีนโลกามิเส ลีโน อชฺฌาสโย เอตสฺส, น ปน นิพฺพาเนติ. ลีนชฺฌาสโย. สาสนํ สิถิลํ กตฺวา คณฺหาติ สิกฺขาย น ติพฺพคารวตฺตา.

๓๒๓. เหฏฺาติ อนนฺตราตีตสุตฺเต มหาสาโรปเม. ปมชฺฌานาทิธมฺมา วิปสฺสนาปาทกาติ วิปสฺสนาย ปทฏฺานภูตา. อิธาติ อิมสฺมึ จูฬสาโรปเม อาคตา. นิโรธปาทกาติ อนาคามิโน, อรหนฺโต วา นิโรธสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตุํ สมตฺถา. ตสฺมาติ นิโรธปาทกตฺตา. ปมชฺฌานาทิธมฺมา าณทสฺสนโต อุตฺตริตราติ เวทิตพฺพา.

จูฬสาโรปมสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

นิฏฺิตา จ โอปมฺมวคฺควณฺณนา.