📜

๔. มหายมกวคฺโค

๑. จูฬโคสิงฺคสุตฺตวณฺณนา

๓๒๕. าตีนํ (อ. นิ. ฏี. ๓.๖.๑๙) นิวาสฏฺานภูโต คาโม าติโก, โส เอว นาติโก. โส กิร คาโม เยสํ สนฺตโก, เตสํ ปุพฺพปุริเสน อตฺตโน าตีนํ สาธารณภาเวน นิเวสิโต, เตน ‘‘นาติโก’’ติ ปฺายิตฺถ. อถ ปจฺฉา ตตฺถ ทฺวีหิ ทายาเทหิ ทฺวิธา วิภชิตฺวา ปริภุตฺโต. เตนาห ‘‘ทฺวินฺนํ จูฬปิติมหาปิติปุตฺตานํ ทฺเว คามา’’ติ. คิฺชกา วุจฺจนฺติ อิฏฺกา, คิฺชกาหิเยว กโต อาวสโถ คิฺชกาวสโถ. ตสฺมึ กิร ปเทเส มตฺติกา สกฺขรมรุมฺพวาลิกาทีหิ อสมฺมิสฺสา อกินา สณฺหา สุขุมา, ตาย กตานิ กุลาลภาชนานิปิ สิลามยานิ วิย ทฬฺหานิ, ตสฺมา เต อุปาสกา ตาย มตฺติกาย ทีฆปุถุลอิฏฺกา กาเรตฺวา ตาหิ เปตฺวา ทฺวารพาหวาตปานกวาฏตุลาโย เสสํ สพฺพํ ทพฺพสมฺภาเรน วินา อิฏฺกาหิ เอว ปาสาทํ กาเรสุํ. เตนาห ‘‘อิฏฺกาเหวา’’ติอาทิ.

โคสิงฺคสาลวนทายนฺติ โคสิงฺคสาลวนนฺติ ลทฺธนามํ รกฺขิตํ อรฺํ. เชฏฺกรุกฺขสฺสาติ วนปฺปติภูตสฺส สาลรุกฺขสฺส. สามคฺคิรสนฺติ สมคฺคภาวาทิคุณํ วิเวกสุขํ. อุปริปณฺณาสเก อุปกฺกิเลสสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๒๓๗-๒๓๘) ปุถุชฺชนกาโล กถิโต, อิธ จูฬโคสิงฺคสุตฺเต ขีณาสวกาโล กถิโต. กตกิจฺจาปิ หิ เต มหาเถรา อตฺตโน ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ ปเรสํ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺจ สมฺปสฺสนฺตา ปรมฺจ วิเวกํ อนุพฺรูหนฺตา สามคฺคิรสํ อนุภวมานา ตตฺถ วิหรนฺติ. ตทาติ ตสฺมึ อุปกฺกิเลสสุตฺตเทสนากาเล. เตติ อนุรุทฺธปฺปมุขา กุลปุตฺตา. ลทฺธสฺสาทาติ วิปสฺสนาย วีถิปฏิปตฺติยา อธิคตสฺสาทา. วิปสฺสนา หิ ปุพฺเพนาปรํ วิเสสํ อาวหนฺตี ปวตฺตมานา สาติสยํ ปีติโสมนสฺสํ อาวหติ. เตนาห ภควา –

‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;

ลภติ ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานต’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๗๔);

ลทฺธปติฏฺา มคฺคผลาธิคมเนน. สติ หิ มคฺคผลาธิคเม สาสเน ปติฏฺา ลทฺธา นาม โหติ, โน อฺถา.

กามํ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาปิ มหาสาวกปริยาปนฺนาว, อคฺคสาวกภาเวน ปน เนสํ วิเสสทสฺสนตฺถํ ‘‘ธมฺมเสนาปติมหาโมคฺคลฺลานตฺเถเรสุ วา’’ติ วิสุํ คหณํ. สติปิ หิ สามฺโยเค วิเสสวนฺโต วิสุํ คยฺหนฺติ ยถา ‘‘พฺราหฺมณา อาคตา, วาสิฏฺโปิ อาคโต’’ติ. เตสุ ปน วิสุํ คหิเตสุปิ ‘‘อสีติมหาสาวเกสู’’ติ อสีติคฺคหณํ อปฺปกํ อูนมธิกํ วา คณนุปคํ น โหตีติ. อนฺตมโสติ อิทํ ธมฺมภณฺฑาคาริกสฺส อุปฏฺากภาเวน อาสนฺนจาริตาย วุตฺตํ. อนีกาติ หตฺถานีกา, หตฺถานีกโต หตฺถิสมูหโตติ อตฺโถ. กาฬสีโห เยภุยฺเยน ยูถจโรติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ยูถา นิสฺสโฏ กาฬสีโห วิยา’’ติ. เกสรี ปน เอกจโรว. วาตจฺฉินฺโน วลาหโก วิยาติ วาตจฺฉินฺโน ปพฺพตกูฏปฺปมาโณ วลาหกจฺเฉโท วิย. เตสํ ปคฺคณฺหนโตติ ยถา นาม ชิฆจฺฉิตสฺส โภชเน, ปิปาสิตสฺส ปานีเย, สีเตน ผุฏฺสฺส อุณฺเห, อุณฺเหน ผุฏฺสฺส สีเต, ทุกฺขิตสฺส สุเข อภิรุจิ อุปฺปชฺชติ, เอวเมวํ ภควโต โกสมฺพเก ภิกฺขู อฺมฺํ วิวาทาปนฺเน ทิสฺวา อปเร สมคฺคาวาสํ วสนฺเต อาวชฺชิตสฺส อิเม ตโย กุลปุตฺตา อาปาถํ อาคมึสุ, อถ เน ปคฺคณฺหิตุกาโม อุปสงฺกมิ, เอวายํ ปฏิปตฺติอนุกฺกเมน โกสมฺพกานํ ภิกฺขูนํ วินยนุปาโย โหตีติ. เตนาห ‘‘เตสํ ปคฺคณฺหนโต’’ติ. เอเตเนว ปจฺฉิมชนตํ อนุกมฺปนโตติ อิทมฺปิ การณํ เอกเทเสน สํวณฺณิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อุกฺกํสิตฺวาติ ยถาภูเตหิ คุเณหิ สมฺปหํสเนน วิเสเสตฺวา วิสิฏฺเ กตฺวา ปสํสาวเสน เจตํ อาเมฑิตวจนํ.

ตํ อรฺํ รกฺขติ วนสามินา อาณตฺโต. รกฺขิตโคปิตํ วนสณฺฑํ, น มหาวนาทิ วิย อปริคฺคหิตํ. สีลาทิปฺปเภทาย อตฺตตฺถาย ปฏิปนฺนา อตฺตกามา, น อปริจฺจตฺตสิเนหาติ อาห ‘‘อตฺตโน หิตํ กามยมานา’’ติ. เตนาห ‘‘โย หี’’ติอาทิ. ภินฺเทยฺยาติ วินาเสยฺย.

ทุพฺพลมนุสฺสาติ ปฺาย ทุพฺพลา อวิทฺทสุโน มนุสฺสา. ตานีติ อภิชาติอาทีสุ อุปฺปนฺนปาฏิหาริยานิ. จีวรคพฺเภน ปฏิจฺฉาเทตฺวาติ จีวรสงฺขาเต โอวรเก นิคูหิตฺวา วิย. น หิ จีวรปารุปนมตฺเตน พุทฺธานุภาโว ปฏิจฺฉนฺโน โหติ. ‘‘มา สุธ โกจิมํ พุทฺธานุภาวํ อฺาสี’’ติ ปน ตถารูเปน อิทฺธาภิสงฺขาเรน ตํ ฉาเทตฺวา คโต ภควา ตถา วุตฺโต. เตนาห ‘‘อฺาตกเวเสน อคมาสี’’ติ.

อภิกฺกมถาติ ปทํ อภิมุขภาเวน วิธิมุเขน วทตีติ อาห ‘‘อิโต อาคจฺฉถา’’ติ. พุทฺธานํ กาโย นาม สุวิสุทฺธชาติมณิ วิย โสภโน, กิฺจิ มลํ อปเนตพฺพํ นตฺถิ, กิมตฺถํ ภควา ปาเท ปกฺขาเลสีติ อาห ‘‘พุทฺธาน’’นฺติอาทิ.

๓๒๖. อนุรุทฺธาติ วา เอกเสสนเยน วุตฺตํ วิรูเปกเสสสฺสปิ อิจฺฉิตพฺพตฺตา, เอวฺจ กตฺวา พหุวจนนิทฺเทโสปิ สมตฺถิโต โหติ. อิริยาปโถ ขมตีติ สรีรสฺส ลหุฏฺานตาย จตุพฺพิโธปิ อิริยาปโถ สุขปฺปวตฺติโก. ชีวิตํ ยาเปตีติ ยาปนาลกฺขณํ ชีวิตํ อิมํ สรีรยนฺตํ ยาเปติ สุเขน ปวตฺเตติ. อุฬุงฺกยาคุํ วา กฏจฺฉุภิกฺขํ วาติ อิทํ มกรวุตฺติยา มิสฺสกภตฺเตน ยาปนํ วตฺตนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ภิกฺขาจารวตฺตํ ปุจฺฉตี’’ติ.

อฺมฺํ สํสนฺทตีติ สติปิ อุภเยสํ กลาปานํ ปรมตฺถโต เภเท ปจุรชเนหิ ทุวิฺเยฺยนานตฺตํ ขีโรทกสมฺโมทิตํ อจฺจนฺตเมว สํสฏฺํ วิย หุตฺวา ติฏฺติ. เตนาห ‘‘วิสุํ น โหติ, เอกตฺตํ วิย อุเปตี’’ติ. ปิยภาวทีปนานิ จกฺขูนิ ปิยจกฺขูนิ. ปิยายติ, ปิยายิตพฺโพติ วา ปิโยติ. สมคฺควาสสฺส ยํ เอกนฺตการณํ, ตํ ปุจฺฉนฺโต ภควา ‘‘ยถา กถํ ปนา’’ติอาทิมาหาติ ‘‘กถนฺติ การณปุจฺฉา’’ติ วุตฺตํ. โย เนสํ เมตฺตาสหิตานํเยว กมฺมาทีนํ อฺมฺสฺมึ ปจฺจุปฏฺานากาโร, ตํ สนฺธาย ‘‘กถ’’นฺติ ปุจฺฉา. ตถา หิ ปรโต ‘‘เอวํ โข มยํ, ภนฺเต’’ติอาทินา เถเรหิ วิสฺสชฺชนํ กถิตํ.

มิตฺตํ เอตสฺส อตฺถีติ เมตฺตํ, กายกมฺมํ. อาวีติ ปกาสํ. รโหติ อปฺปกาสํ. ยฺหิ อุทฺทิสฺส เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺเปติ, ตํ ตสฺส สมฺมุขา เจ, ปกาสํ โหติ, ปรมฺมุขา เจ, อปฺปกาสํ. เตนาห ‘‘อาวิ เจว รโห จาติ สมฺมุขา เจว ปรมฺมุขา จา’’ติ. อิตรานีติ ปรมฺมุขา กายวจีกมฺมานิ. ‘‘ตตฺถา’’ติอาทินา สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘ยํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สมฺมชฺชนาทิวเสน ปฏิชคฺคิตพฺพยุตฺตํ านํ วา. ตเถวาติ ยถา สมฺมุขา กเต เมตฺตากายกมฺเม วุตฺตํ, ตเถว . ‘‘กจฺจิ ขมนีย’’นฺติ เอวมาทิกา กถา สมฺโมทนียกถา. ยถา ปเรหิ สทฺธึ อตฺตโน ฉิทฺทํ น โหติ, ตถา ปฏิสนฺถารวเสน ปวตฺตา กถา ปฏิสนฺถารกถา. ‘‘อโห ตทา เถเรน มยฺหํ ทินฺโน โอวาโท, ทินฺนา อนุสาสนี’’ติ เอวํ กาลนฺตเร สริตพฺพยุตฺตา, ฉสารณียปฏิสํยุตฺตา วา กถา สารณียกถา. สุตฺตปทํ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺส อตฺถนิทฺเทสวเสน สีลาทิธมฺมปฏิสํยุตฺตา กถา ธมฺมีกถา. สเรน สุตฺตสฺส อุจฺจารณํ สรภฺํ. ปฺหสฺส าตุํ อิจฺฉิตสฺส อตฺถสฺส ปุจฺฉนํ ปฺหปุจฺฉนํ. ตสฺส ยถาปุจฺฉิตสฺสอาทิสนํ ปฺหวิสฺสชฺชนํ. เอวํ สมนฺนาหรโตติ เอวํ มนสิกโรโต, เอวํ เมตฺตํ อุปสํหรโตติ อตฺโถ.

เอกโต กาตุํ น สกฺกา, ตสฺมา นานา. หิตฏฺเนาติ อตฺตโน วิย อฺมฺสฺส หิตภาเวน. นิรนฺตรฏฺเนาติ อนฺตราภาเวน เภทาภาเวน. อวิคฺคหฏฺเนาติ อวิโรธภาเวน. สมคฺคฏฺเนาติ สหิตภาเวน. ปริภณฺฑํ กตฺวาติ พหลตนุมตฺติกาเลเปหิ ลิมฺเปตฺวา. จีวรํ วา โธวนฺตีติ อตฺตโน จีวรํ วา โธวนฺติ. ปริภณฺฑํ วาติ อตฺตโน ปณฺณสาลาย ปริภณฺฑํ วา กโรนฺติ.

๓๒๗. ปฏิวิรุทฺธา เอวาติ เอตฺถาปิ ‘‘เยภุยฺเยนา’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. เตสํ อปฺปมาทลกฺขณนฺติ เตสํ อปฺปมชฺชนสภาวํ. กจฺจิ ปน โว อนุรุทฺธา สมคฺคาติ เอตฺถาปิ โวติ นิปาตมตฺตํ, ปจฺจตฺตวจนํ วา, กจฺจิ ตุมฺเหติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. สมุคฺคปาตินฺติ สมุคฺคปุฏสทิสํ ปาตึ.

ปณฺณสาลายํ อนฺโต พหิ จ สมฺมชฺชเนน โสธิตงฺคณตา วตฺตปฏิปตฺติ. ปฏิวิสมตฺตเมวาติ อตฺตโน ยาปนปฏิวิสมตฺตเมว. โอสาเปตฺวาติ ปกฺขิปิตฺวา. ปมาณเมวาติ อตฺตโน ยาปนปมาณเมว. วุตฺตนเยน ชหิตฺวาติ ปาฬิยํ วุตฺตนเยน ชหิตฺวา.

หตฺเถน หตฺถํ สํสิพฺพนฺตาติ อตฺตโน หตฺเถน อิตรสฺส หตฺถํ ทฬฺหคฺคหณวเสน พนฺธนฺตา. วิลงฺเฆติ เทสนฺตรํ ปาเปติ เอเตนาติ วิลงฺฆโก, หตฺโถ. หตฺโถ เอว วิลงฺฆโก หตฺถวิลงฺฆโก, เตน หตฺถวิลงฺฆเกน.

ตํ อขณฺฑํ กตฺวาติ ตํ ตีสุปิ ทิวเสสุ ธมฺมสฺสวนํ ปวตฺตนวเสน อขณฺฑิกํ กตฺวา. เอตนฺติ ‘‘ปฺจาหิกํ โข ปนา’’ติอาทิวจนํ. ปฺจเม ปฺจเม อหนิ ภวตีติ ปฺจาหิกํ. ภควตา ปุจฺฉิเตน อนุรุทฺธตฺเถเรน. ปมาทฏฺาเนสุเยวาติ อฺเสํ ปมาทฏฺาเนสุเยว. ‘‘ปมาทฏฺาเนสุเยวา’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘อฺเสฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปปฺจกรณฏฺานานีติ กถาปปฺจสฺส กรณฏฺานานิ วิสฺสฏฺกถาปวตฺตเนน กมฺมฏฺาเน ปมชฺชนฏฺานานิ. ตตฺถาปิ ‘‘มยํ, ภนฺเต, กมฺมฏฺานวิรุทฺธํ น ปฏิปชฺชามา’’ติ สิขาปฺปตฺตํ อตฺตโน อปฺปมาทลกฺขณํ เถโร ทสฺเสติ. เอตฺตกํ านํ มุฺจิตฺวาติ ปน อิทํ ตทา วิหารสมาปตฺตีนํ วฬฺชาภาเวน วุตฺตํ.

๓๒๘. ฌานสฺส อธิปฺเปตตฺตา ‘‘อลมริยาณทสฺสนวิเสโส’’อิจฺเจว วุตฺตํ. อตฺตโน สมฺมาปฏิปนฺนตาย สตฺถุ จิตฺตาราธนตฺถํ ตสฺส จ วิเสสาธิคมสฺส สตฺถุ ปจฺจกฺขภาวโต เถโร ‘‘กิฺหิ โน สิยา, ภนฺเต’’ติ อาห. ยาวเทวาติ ยตฺตกํ กาลํ เอกํ ทิวสภาคํ วา สกลรตฺตึ วา ยาว สตฺต วา ทิวเส.

๓๒๙. สมติกฺกมายาติ สมฺมเทว อติกฺกมนาย. สติ หิ อุปริ วิเสสาธิคเม เหฏฺิมชฺฌานํ สมติกฺกนฺตํ นาม โหติ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ จ. เตนาห ‘‘ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา’’ติ. าณทสฺสนวิเสโสติ การณูปจาเรน วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. เวทยิตสุขโตติ เวทนาสหิตชฺฌานสุขโต วา ผลสุขโต วา. อเวทยิตสุขนฺติ นิพฺพานสุขํ วิย เวทนารหิตํ สุขํ. อเวทยิตสุขนฺติ จ นิทสฺสนมตฺตเมตํ, ตํ ปน อผสฺสํ อสฺํ อเจตนนฺติ สพฺพจิตฺตเจตสิกรหิตเมว. ตโต จ สติปิ รูปธมฺมปฺปวตฺติยํ ตสฺส อเจตนตฺตา สพฺพโส สงฺขารทุกฺขวิรหิตตาย สนฺตตรา ปณีตตรา จ นิโรธสมาปตฺตีติ วุจฺจเต. เตนาห ‘‘อเวทยิตสุขํ สนฺตตรํ ปณีตตรํ โหตี’’ติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อิมมฺหา จา’’ติอาทิ.

๓๓๐. สามคฺคิรสานิสํสเมว เนสํ ภควา กเถสิ อชฺฌาสยานุกูลตฺตา ตสฺส. อนุสาเวตฺวาติ อนุปคมนวเสน สมฺมเทว อาโรเจตฺวา. ‘‘อนุสํสาเวตฺวา’’ติ วา ปาโ, โส เอวตฺโถ. ตโต ปฏินิวตฺติตฺวาติ เอตรหิ ภควโต เอกวิหาเร อชฺฌาสโยติ สตฺถุ มนํ คณฺหนฺตา ‘‘อิเธว ติฏฺถา’’ติ วิสฺสชฺชิตฏฺานโต นิวตฺติตฺวา . ปพฺพชฺชาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อุปสมฺปทา-วิสุทฺธิ-ธุตกมฺมฏฺานานุโยค-ฌานวิโมกฺข-สมาปตฺติ-าณทสฺสน-มคฺคภาวนา-ผลสจฺฉิกิริยาทิเก สงฺคณฺหาติ. อธิคนฺตฺวาปีติ ปิ-สทฺเทน ยถาธิคตานมฺปิ. อตฺตโน คุณกถาย อฏฺฏิยมานาติ ภควนฺตํ นิสฺสาย อธิคนฺตฺวาปิ ธมฺมาธิกรณํ สตฺถุวิเหสาภาวทีปเน ภควโต ปากฏคุณานํ กถาย อฏฺฏิยมานาปีติ โยชนา. เทวตาติ ตํตํสมาปตฺติลาภินิโย เทวตา. มุขํ เม สชฺชนฺติ มุขํ เม กถเน สมตฺถํ, กถเน โยคฺยนฺติ อตฺโถ.

๓๓๑. เอวํ อาคโตติ เอวํ อาฏานาฏิยสุตฺเต อาคโต. ปลิเวเนฺเตติ โจเทนฺเต. มจฺฉรายนฺตีติ อตฺตโน คุณานํ ภควโตปิ อาโรจนํ อสหมานา มจฺฉรายนฺตีติ โส จินฺเตตีติ กตฺวา วุตฺตํ.

๐๑เตสํลาภาติ เตสํ วชฺชิราชูนํ วชฺชิรฏฺวาสีนฺจ มนุสฺสตฺตํ, ปติรูปเทสวาสาทิโก, ภควโต ติณฺณฺจ กุลปุตฺตานํ ทสฺสนวนฺทนทานธมฺมสฺสวนาทโย ลาภา. สุลทฺธา ลาภาติ โยชนา. ปสนฺนจิตฺตํ อนุสฺสเรยฺยาติ ตํ กุลฺเหตํ สีลาทิคุเณ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา อนุสฺสเรยฺย. วุตฺตํ เตสํ ‘‘อนุสฺสรณมฺปาหํ, ภิกฺขเว, เตสํ ภิกฺขูนํ พหูปการํ วทามี’’ติ (อิติวุ. ๑๐๔; สํ. นิ. ๕.๑๘๔).

จูฬโคสิงฺคสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๒. มหาโคสิงฺคสุตฺตวณฺณนา

๓๓๒. โกจิเทวาติ โคสิงฺคสาลวนสามนฺตโต นิวิฏฺเสุ โย โกจิ คาโม โคจรคาโม ภวิสฺสติ, ตสฺมา อนิพทฺธภาวโต โคจรคาโม น คหิโต, วสนฏฺานเมว ปริทีปิตํ, ตโต เอว อรฺนิทานกํ นาเมตํ. สพฺพตฺถาติ เทวโลเก มนุสฺสโลเก จ. ถิรการเกหีติ สาสเน ถิรภาวการเกหิ. สวนนฺเต ชาตตฺตาติ จตุสจฺจคพฺภสฺส ธมฺมสฺสวนสฺส ปริโยสาเน อริยาย ชาติยา ชาตตฺตา. ยถา ปฏิเวธพาหุสจฺจํ อิชฺฌติ, ตถา ธมฺมสฺส สวนโต สาวกา . สูริโย วิย ภาสุรคุณรํสิตาย โมหนฺธการวิธมนโต. จนฺโท วิย รมณียมโนหรสีตลคุณตาย กิเลสปริฬาหวูปสมโต. สาคโร วิย คมฺภีรถิรวิปุลาเนกคุณตาย ิตธมฺมสภาวโต. คุณมหนฺตตาย เถรสฺส อภิฺาตตา, คุณมหนฺตตา จ สุตฺเตสุ อาคตนเยเนว าตพฺพาติ ตํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘น เกวล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. สีหนาทสุตฺตนฺติ มชฺฌิมนิกาเย อาคตํ มหาสีหนาทสุตฺตํ (ม. นิ. ๑.๑๔๖). เถรปฺหสุตฺตนฺติ สุตฺตนิปาเต อฏฺกวคฺเค อาคตํ สาริปุตฺตสุตฺตํ (สุ. นิ. ๙๖๑-๙๘๑). เถรสีหนาทสุตฺตนฺติ อิมสฺส จ เถรสฺส ชนปทจาริกาย สตฺถุ สมฺมุขา สีหนาทสุตฺตํ. อภินิกฺขมนนฺติ เถรสฺเสว มหตา าติปริวฏฺเฏน มหตา จ โภคปริวฏฺเฏน สห ฆราวาสปริจฺจาโค อภินิกฺขมนํ. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ. ยทิทนฺติ นิปาโต, โย อยนฺติ อตฺโถ.

มหาปฺเ ภิกฺขู คเหตฺวาติ อายสฺมโต กิร สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ปริวารภิกฺขูปิ มหาปฺา เอว อเหสุํ. ธาตุโส หิ สตฺตา สํสนฺทนฺติ. สยํ อิทฺธิมาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปนตฺโถ ธาตุสํยุตฺเตน (สํ. นิ. ๒.๙๙) ทีเปตพฺโพ – คิชฺฌกูฏปพฺพเต คิลานเสยฺยาย นิสินฺโน ภควา อารกฺขตฺถาย ปริวาเรตฺวา วสนฺเตสุ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาทีสุ เอกเมกํ อตฺตโน ปริสาย สทฺธึ จงฺกมนฺตํ โวโลเกตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, สาริปุตฺตํ สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ จงฺกมนฺตนฺติ. เอวํ, ภนฺเต. สพฺเพ โข เอเต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู มหาปฺา’’ติ สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพํ.

วนนฺเตติ อุปวนนฺเต. เมฆวณฺณายาติ นีลาภาย. สมุทฺทกุจฺฉิโต อุคฺคจฺฉนฺตสฺส วิย อุปฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ. จกฺกวาฬปพฺพตมตฺถกสมีเป อาภาผรณวเสน ปวตฺติยา ‘‘ปาจีนจกฺกวาฬปพฺพตมตฺถเก’’ติ วุตฺตํ, น จกฺกวาฬปพฺพตมตฺถเก จนฺทมณฺฑลสฺส วิจรณโต. ตถา สติ โลกนฺตริกนิรเยสุปิ จนฺทิมสูริยานํ อาภา ผเรยฺย. อุพฺเพธวเสน หิ จกฺกวาฬปพฺพตสฺส เวมชฺฌโต จนฺทิมสูริยา วิจรนฺติ. สาลกุสุมปภานํ อติรตฺตตาย วุตฺตํ ‘‘ลาขารเสน สิฺจมานํ วิยา’’ติ. อุปคายมานา วิยาติ ปยิรุปาสนวเสน อุเปจฺจ คายมานา วิย . กาย นุ โข อชฺช รติยาติ อชฺช ฌานสมาปตฺติรติยา เอว นุ โข, อุทาหุ ธมฺมสากจฺฉารติยา ธมฺมเทสนารติยาติ จินฺเตสิ.

ทฺเว จนฺทมณฺฑลานิ วิย ปรมโสภคฺคปฺปตฺตาย กนฺติยา. ทฺเว สูริยมณฺฑลานิ วิย อติวิย สุวิสุทฺธสมุชฺชลาย คุณวิภูติยา. ทฺเว ฉทฺทนฺตนาคราชาโน วิย มหานุภาวตาย. ทฺเว สีหา วิย เตชุสฺสทตาย. ทฺเว พฺยคฺฆา วิย อโนลีนวุตฺติตาย. สพฺพปาลิผุลฺลเมวาติ สพฺพเมว สมนฺตโต วิกสิตํ.

๓๓๓. กถา อุปจรติ ปวตฺตติ เอตฺถาติ กถาอุปจาโร, สวนูปจาโร ปเทโส, ตํ กถาอุปจารํ. รมณียเมว รามเณยฺยกํ. อุชฺชงฺคเลติ ลูขปเทเส กินปเทเส. โทเสหิ อิตา อปคตาติ โทสินา ต-การสฺส น-การํ กตฺวา. ทิพฺพา มฺเ คนฺธาติ เทวโลเก คนฺธา วิย. ทิวิ ภวาติ ทิพฺพา. ทฺเว เถราติ สาริปุตฺตตฺเถรอานนฺทตฺเถรา. อานนฺทตฺเถโร ตาว มมายตุ อขีณาสวภาวโต, สาริปุตฺตตฺเถโร กถนฺติ? น อิทํ มมายนํ เคหสฺสิตเปมวเสน, อถ โข คุณภตฺติวเสนาติ นายํ โทโส.

อนุมติยา ปุจฺฉา อนุมติปุจฺฉา, อนุมติคฺคหณตฺถํ ปุจฺฉนํ. ตตฺถ ยสฺมา อธมฺมิกมฺปิ วุทฺธสฺส อนุมตึ อิตโร ปฏิกฺขิปิตุํ น ลภติ, เตน สา อนุชานิตพฺพาว โหติ, ตสฺมา สงฺฆขุทฺทกโต ปฏฺาย อนุมติ ปุจฺฉิตพฺพา. เตนาห ‘‘อนุมติปุจฺฉา นาเมสา’’ติอาทิ. ขุทฺทกโต ปฏฺายาติ กณิฏฺโต ปฏฺาย. ปฏิภาติ อุปฏฺาตีติ ปฏิภานํ, ยถาธิปฺเปโต อตฺโถ, ตํ ปฏิภานํ. สิขาปฺปตฺตา เวปุลฺลปฺปตฺตา น ภวิสฺสติ ปเทสาเณ ิเตหิ ภาสิตตฺตา. สิขาปฺปตฺตา เวปุลฺลปฺปตฺตา ภวิสฺสติ สพฺพฺุตฺาเณน สํสนฺทิตตฺตา. วุตฺตเมวตฺถํ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปจฺจตฺถิกา อฏฺฏิยนฺติ ทุกฺขายนฺติ เอเตนาติ อฏฺโฏ, วินิจฺฉิตพฺพโวหาโร. คามโภชกนฺติ ยสฺมึ คาเม โส อุปฺปนฺโน, ตํ คามโภชกํ. ชนปทโภชกนฺติ ยสฺมึ ชนปเท โส อุปฺปนฺโน, ตํ ชนปทโภชกํ. มหาวินิจฺฉยอมจฺจนฺติ ยสฺมึ รชฺเช โส ชนปโท, ตสฺส ราชธานิยํ มหาวินิจฺฉยอมจฺจํ. เสนาปตินฺติ ยสฺส รฺโ โส อมจฺโจ, ตสฺส เสนาปตึ. ตถา อุปราชนฺติ . อิทํ ปเนตฺถ ปกติจาริตฺตวเสน วุตฺตํ อุปเมยฺยตฺถานุรูปโตติ ทฏฺพฺพํ. อปราปรํ น สฺจรติ วินิจฺฉยนารเหน วินิจฺฉิตภาวโต.

ปกฏฺานํ (อ. นิ. ฏี. ๒.๔.๒๒) อุกฺกฏฺานํ สีลาทิอตฺถานํ โพธนโต, สภาวนิรุตฺติวเสน พุทฺธาทีหิ ภาสิตตฺตา จ ปกฏฺานํ วจนปฺปพนฺธานํ อาฬีติ ปาฬิ, ปริยตฺติธมฺโม. ปุริมสฺส อตฺถสฺส ปจฺฉิเมน อตฺเถน อนุสนฺธานํ อนุสนฺธิ. อตฺถมุเขน ปน ปาฬิปเทสานมฺปิ อนุสนฺธิ โหติเยว, โส จ ปุพฺพาปรานุสนฺธิ-ปุจฺฉานุสนฺธิ-อชฺฌาสยานุสนฺธิ-ยถานุสนฺธิวเสน จตุพฺพิโธ. ตํตํเทสนานํ ปน ปุพฺพาปรสํสนฺทนํ ปุพฺพาปรํ. ปาฬิวเสน อนุสนฺธิวเสน ปุพฺพาปรวเสนาติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. อุคฺคหิตนฺติ พฺยฺชนโส อตฺถโส จ อุทฺธํ อุทฺธํ คหิตํ, ปริยาปุณนวเสน เจว ปริปุจฺฉาวเสน จ หทเยน คหิตนฺติ อตฺโถ. วฏฺฏทุกฺขนิสฺสรณตฺถิเกหิ โสตพฺพโต สุตํ, ปริยตฺติธมฺโม, ตํ ธาเรตีติ สุตธโร. โย หิ สุตธโร, สุตํ ตสฺมึ ปติฏฺิตํ โหติ สุปฺปติฏฺิตํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สุตสฺส อาธารภูโต’’ติ. เตนาห ‘‘ยสฺส หี’’ติอาทิ. เอกปทํ เอกกฺขรมฺปิ อวินฏฺํ หุตฺวา สนฺนิจียตีติ สนฺนิจโย, สุตํ สนฺนิจโย เอตสฺมินฺติ สุตสนฺนิจโย. อชฺโฌสายาติ อนุปวิสิตฺวา. ติฏฺตีติ น มุสฺสติ.

ิตา ปคุณาติ ปคุณา วาจุคฺคตา. นิจฺจลิตนฺติ อปริวตฺติตํ. สํสนฺทิตฺวาติ อฺเหิ สํสนฺทิตฺวา. สมนุคฺคาหิตฺวาติ ปริปุจฺฉาวเสน อตฺถํ โอคาเหตฺวา. ปพนฺธสฺส วิพนฺธาภาวโต คงฺคาโสตสทิสํ, ‘‘ภวงฺคโสตสทิส’’นฺติ วา ปาโ, อกิตฺติมํ สุขปฺปวตฺตีติ อตฺโถ. สุตฺเตกเทสสฺส สุตฺตสฺส จ วจสา ปริจโย อิธ นาธิปฺเปโต, วคฺคาทิวเสน ปน อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘สุตฺตทสก…เป… สชฺฌายิตา’’ติ, ‘‘ทส สุตฺตานิ คตานิ, ทส วคฺคาคตา’’ติอาทินา สลฺลกฺเขตฺวา วาจาย สชฺฌายิตาติ อตฺโถ. มนสา อนุ อนุ เปกฺขิตา ภาคโส นิชฺฌายิตา จินฺติตา มนสานุเปกฺขิตา. รูปคตํ วิย ปฺายตีติ รูปคตํ วิย จกฺขุสฺส วิภูตํ หุตฺวา ปฺายติ. สุปฺปฏิวิทฺธาติ นิชฺชฏํ นิคฺคุมฺพํ กตฺวา สุฏฺุ ยาถาวโต ปฏิวิทฺธา.

ปชฺชติ อตฺโถ ายติ เอเตนาติ ปทํ, ตเทว อตฺถํ พฺยฺเชตีติ พฺยฺชนนฺติ อาห ‘‘ปทเมว อตฺถสฺส พฺยฺชนโต ปทพฺยฺชน’’นฺติ. อกฺขรปาริปูริยา ปทพฺยฺชนสฺส ปริมณฺฑลตา, สา ปน ปาริปูรี เอวํ เวทิตพฺพาติ อาห ‘‘ทสวิธพฺยฺชนพุทฺธิโย อปริหาเปตฺวา’’ติ. อฺํ อุปารมฺภกรนฺติ ยถานิกฺขิตฺตสุตฺตโต อฺํ ตสฺส อนนุโลมกํ สุตฺตํ อาหรติ. ตทตฺถํ โอตาเรตีติ ตสฺส อาหฏสุตฺตสฺเสว อตฺถํ วิจาเรติ. ตสฺส กถา อปริมณฺฑลา นาม โหติ อตฺถสฺส อปริปุณฺณภาวโต. ยถานิกฺขิตฺตสฺส สุตฺตสฺส อตฺถสํวณฺณนาวเสเนว สุตฺตนฺตรมฺปิ อาเนนฺโต พหิ เอกปทมฺปิ น คจฺฉติ นาม. อมกฺเขนฺโตติ อวินาเสนฺโต. ตํ ตํ อตฺถํ สุฏฺุ ววตฺถิตํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ตุลิกาย ปริจฺฉินฺทนฺโต วิย. คมฺภีรตรมตฺถํ คเมนฺโต คมฺภีรมาติกาย อุทกํ เปเสนฺโต วิย. อุตฺตานมาติกาย หิ มริยาทํ โอตฺถริตฺวา อุทกํ อฺถา คจฺเฉยฺย. เอกํเยว ปทํ อเนเกหิ ปริยาเยหิ ปุนปฺปุนํ สํวณฺเณนฺโต ปทํ โกฏฺเฏนฺโต สินฺธวาชานีโย วิย. โส หิ วคฺคิตาย คติยา ปเท ปทํ โกฏฺเฏนฺโต คจฺฉติ. กถามคฺเคน ตสฺส กถา ปริมณฺฑลา นาม โหติ ธมฺมโต อตฺถโต อนุสนฺธิโต ปุพฺพาปรโต อาจริยุคฺคหโตติ สพฺพโส ปริปุณฺณภาวโต.

อนุปฺปพนฺเธหีติ วิสฺสฏฺเหิ อาสชฺชมาเนหิ. นาติสีฆํ นาติสณิกํ นิรนฺตรํ เอกรสฺจ กตฺวา ปริสาย อชฺฌาสยานุรูปํ ธมฺมํ กเถนฺโต วิสฺสฏฺาย กถาย กเถติ นาม, น อฺถาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย ภิกฺขู’’ติอาทิมาห. อรณึ มนฺเถนฺโต วิย, อุณฺหขาทนียํ ขาทนฺโต วิยาติ สีฆํ สีฆํ กถนสฺส อุทาหรณํ, คหิตํ คหิตเมวาติอาทิ ลงฺเฆตฺวา กถนสฺส. ปุราณปณฺณนฺตเรสุ หิ ปริปาติยมานโคธา กทาจิ ทิสฺสติ, เอวเมกจฺจสฺส อตฺถวณฺณนา กตฺถจิ น ทิสฺสติ. โอหายาติ เปตฺวา. โยปีติอาทินา เอกรูเปน กถาย อกถนํ ทสฺเสติ. เปตคฺคิ นิชฺฌามตณฺหิกเปตสฺส มุขโต นิจฺฉรณกอคฺคิ. วิตฺถายตีติ อปฺปฏิตานตมาปชฺชติ. เกนจิ โรเคน ทุกฺขํ ปตฺโต วิย นิตฺถุนนฺโต. กนฺทนฺโต วิยาติ อุกฺกุฏฺึ กโรนฺโต วิย. อปฺปพนฺธา นาม โหติ สุเขน อปฺปวตฺตภาวโต. อาจริเยหิ ทินฺนนเย ิโตติ อาจริยุคฺคหํ อมุฺจนฺโต, ยถา จ อาจริยา ตํ ตํ สุตฺตํ สํวณฺเณสุํ, เตเนว นเยน สํวณฺเณนฺโตติ อตฺโถ. อจฺฉินฺนธารํ กตฺวาติ ‘‘นาติสีฆํ นาติสณิก’’นฺติอาทินา เหฏฺา วุตฺตนเยน อวิจฺฉินฺนํ กถาปพนฺธํ กตฺวา. อนุสยสมุคฺฆาตายาติ อิมินา ตสฺสา กถาย อรหตฺตปริโยสานตํ ทสฺเสติ . เอวรูเปนาติ นยิทํ เอกวจนํ ตตฺตกวเสน คเหตพฺพํ, อถ โข ลกฺขเณ ปวตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถารูเปเนว ภิกฺขุสเตน ภิกฺขุสหสฺเสน วา’’ติ วุตฺตํ. ปลฺลงฺเกนาติ ปลฺลงฺกปเทเสน, ปลฺลงฺกาสนนฺเตนาติ อตฺโถ. อิมินา นเยนาติ วารนฺตรสาธารณํ อตฺถํ อติทิสติ, อสาธารณํ ปน วกฺขเตวาติ.

๓๓๔. อารมติ เอเตนาติ อาราโม.

๓๓๕. ธุวเสวนนฺติ นิยตเสวิตํ. ปาสาทปริเวเณติ ปาสาทงฺคเณ. นาภิยา ปติฏฺิตานนฺติ นาภิยา ภูมิยํ ปติฏฺิตานํ. อรนฺตรานีติ อรวิวรานิ ตํตํอรานํ เวมชฺฌฏฺานานิ.

๓๓๖. สมาทินฺนอรฺธุตงฺโค อารฺิโก, น อรฺวาสมตฺเตน.

๓๓๗. โอสาเทนฺตีติ น อวสาเทนฺติ, น อวสาทนาเปกฺขา อฺมฺํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. ปวตฺตินีติ ปคุณา.

๓๓๘. โลกุตฺตรา วิหารสมาปตฺติ นาม เถรสฺส อรหตฺตผลสมาปตฺติโย, ปริยายโต ปน นิโรธสมาปตฺติปิ เวทิตพฺพา.

๓๓๙. สาธุกาโร อานนฺทตฺเถรสฺส ทินฺโน. เตนาห ภควา ‘‘ยถา ตํ อานนฺโทว สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺยา’’ติอาทิ. สมฺมาติ สุฏฺุ, ยถาอชฺฌาสยนฺติ อธิปฺปาโย. เยน หิ ยํ ยถาจิตฺตํ กถิตํ, ตํ สมฺมา กถิตํ นาม โหติ. สมฺปตฺตวเสน หิ ยถาการี ตถาวาที โสภติ. เตนาห ‘‘อตฺตโน อนุจฺฉวิกเมวา’’ติอาทิ. พหุสฺสุโต ภิกฺขุ ตตฺถ ตตฺถ สุตฺเต สีลาทีนํ อาคตฏฺาเน เตสํ สุวิทิตตฺตา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาโน ตานิ ปริปูเรตีติ อาห ‘‘สีลสฺส อาคตฏฺาเน’’ติอาทิ. มคฺคาทิปสวนาย วิปสฺสนาคพฺภํ คณฺหาเปตฺวา ปริปากํ คเมตฺวาติ อตฺโถ.

๓๔๐. ‘‘เอเสว นโย’’ติ อติเทสวเสน สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘อายสฺมา หิ เรวโต’’ติอาทิมาห.

๓๔๒. อปเรปินานปฺปกาเร กิเลเสติ อปเรปิ นานปฺปกาเร โทสโมหาทิกิเลเส. ธุนิตฺวาติ วิธเมตฺวา.

๓๔๓. อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอวํ พฺยากาสีติ สมฺพนฺโธ. สกลมฺปิ จกฺขุวิฺาณวีถิคตํ จิตฺตํ จกฺขุวิฺาณนฺติ อคฺคเหตฺวา จกฺขุสนฺนิสฺสิตเมว ปน วิฺาณํ จกฺขุวิฺาณํ, ตทนนฺตรํ สมฺปฏิจฺฉนํ, ตทนนฺตรํ สนฺตีรณนฺติอาทินา สณฺหํ สุขุมํ อติอิตฺตรขณวนฺตํ จิตฺตนฺตรํ จิตฺตนานตฺตํ. ขนฺธาทีนฺจ นานตฺตสงฺขาตํ ขนฺธนฺตราทิ. ปถวีกสิเณ ปมชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ตเถว ตติยํ ฌานนฺติอาทินา อารมฺมณํ อนุกฺกมิตฺวา ฌานสฺเสว เอกนฺตริกภาเวน อุกฺกมนํ ฌาโนกฺกนฺติกํ นาม. ปถวีกสิเณ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ปุน ตเทว เตโชกสิเณติอาทินา ฌานํ อนุกฺกมิตฺวา อารมฺมณสฺเสว เอกนฺตริกภาเวน อุกฺกมนํ อารมฺมโณกฺกนฺติกํ นาม. ‘‘ปมชฺฌานํ ปฺจงฺคิก’’นฺติอาทินา ยาว เนวสฺานาสฺายตนํ ทุวงฺคิกนฺติ ฌานงฺคมตฺตสฺเสว ววตฺถาปนํ องฺคววตฺถานํ. ‘‘อิทํ ปถวีกสิณํ…เป… อิทํ โอทาตกสิณ’’นฺติ อารมฺมณมตฺตสฺเสว ววตฺถาปนํ อารมฺมณววตฺถานํ. ปถวีกสิเณ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ตตฺเถว อิตเรสมฺปิ สมาปชฺชนํ องฺคสงฺกนฺติ. ปถวีกสิเณ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ตเทว อาโปกสิเณติ เอวํ สพฺพกสิเณสุ เอกสฺเสว ฌานสฺส สมาปชฺชนํ อารมฺมณสงฺกนฺติ. เอกโตวฑฺฒนํ อุภโตวฑฺฒนนฺติ อิทํ ขนฺธาทิเทสนายํ ลพฺภติ. อภิธมฺมภาชนีเย หิ เวทนากฺขนฺธํ ภาเชนฺโต ภควา ติเก คเหตฺวา ทุเกสุ ปกฺขิปิ, ทุเก คเหตฺวา ติเกสุ ปกฺขิปิ, อิทํ เอกโตวฑฺฒนํ. ติเก จ ทุเก จ อุภโตวฑฺฒนนีหาเรน กเถสิ, อิทํ อุภโตวฑฺฒนํ. เอวํ เสสขนฺเธสุ ธาตายตนาทีสุ จ ยถารหํ วิภงฺคปฺปกรเณ (วิภ. ๓๒-๓๓; ๑๕๕-๑๕๖, ๑๘๓-๑๘๔) อภิธมฺมภาชนีเย อาคตนเยน เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘อาภิธมฺมิกธมฺมกถิกสฺเสว ปากฏ’’นฺติ. ขนฺธาทีสุ สภาวธมฺเมสุ ตีสุ ลกฺขเณสุ ปฺตฺติยํ สมยนฺตเรสุ จ โกสลฺลาภาวโต อยํ สกวาโท อยํ ปรวาโทติ น ชานาติ. ตโต เอว สกวาทํ…เป… ธมฺมนฺตรํ วิสํวาเทติ. ขนฺธาทีสุ ปน กุสลตาย อาภิธมฺมิโก สกวาทํ…เป… น วิสํวาเทติ.

๓๔๔. จิตฺตํอตฺตโน วเส วตฺเตตุํ สกฺโกติ ปฏิสงฺขานภาวนาพเลหิ ปริคฺคณฺหนสมตฺถตฺตา. อิทานิ ตมตฺถํ พฺยติเรกโต อนฺวยโต จ วิภาเวตุํ ‘‘ทุปฺปฺโ หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺพานสฺสาติ สพฺพานิ อสฺส. วิเสวิตวิปฺผนฺทิตานีติ กิเลสวิสูกายิกานิ เจว ทุจฺจริตวิปฺผนฺทิตานิ จ. ภฺชิตฺวาติ มทฺทิตฺวา. พหีติ กมฺมฏฺานโต พหิ ปุถุตฺตารมฺมเณ.

๓๔๕. ปริยาเยนาติ เอตฺถ ปริยาย-สทฺโท ‘‘อตฺถิ ขฺเวส, พฺราหฺมณ, ปริยาโย’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๘.๑๑; ปารา. ๓-๙) วิย การณตฺโถติ อาห ‘‘โสภนการณํ อตฺถี’’ติ. ยทิ ภควา – ‘‘อิธ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต’’ติอาทินา อตฺตโน มหาโพธิปลฺลงฺกํ สนฺธายาห, เอวํ สนฺเต สมฺมาสมฺพุทฺเธเหว สงฺฆาราโม โสเภตพฺโพ, น อฺเหีติ อาปนฺนนฺติ อาห ‘‘อปิจ ปจฺฉิมํ ชนต’’นฺติอาทิ. นิพฺพานตฺถาย ปฏิปตฺติสารํ เอตสฺสาติ ปฏิปตฺติสาโร, ตํ ปฏิปตฺติสารํ. นิปฺปริยาเยเนวาติ เกนจิ ปริยาเยน เลเสน วินา มุขฺเยน นเยเนว. โย ‘‘อรหตฺตํ อปฺปตฺวา น วุฏฺหิสฺสามี’’ติ ทฬฺหสมาทานํ กตฺวา นิสินฺโน ตํ อธิคนฺตฺวาว อุฏฺหติ. เอวรูเปน อิทํ โคสิงฺคสาลวนํ โสภติ, สาสเน สพฺพารมฺภานํ ตทตฺถตฺตาติ อตฺโถ. อาสวกฺขยาวหํ ปฏิปตฺตึ อารภิตฺวา อาสวกฺขเยเนว เทสนาย ปริโยสาปิตตฺตา ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฏฺเปสีติ.

มหาโคสิงฺคสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๓. มหาโคปาลกสุตฺตวณฺณนา

๓๔๖. ตตฺถาติ โคปาลกสุตฺเต. ติสฺโส กถาติ (อ. นิ. ฏี. ๓.๑๑.๑๗) ติสฺโส อฏฺกถา, ติวิธา สุตฺตสฺส อตฺถวณฺณนาติ อตฺโถ. เอเกกํ ปทํ นาฬํ มูลํ เอติสฺสาติ เอวํสฺิตา เอกนาฬิกา, เอเกกํ วา ปทํ นาฬํ อตฺถนิคฺคมนมคฺโค เอติสฺสาติ เอกนาฬิกา. เตนาห ‘‘เอเกกปทสฺส อตฺถกถน’’นฺติ. จตฺตาโร อํสา ภาคา อตฺถสลฺลกฺขณูปายา เอติสฺสาติ จตุรสฺสา. เตนาห ‘‘จตุกฺกํ พนฺธิตฺวา กถน’’นฺติ. นิยมโต นิสินฺนสฺส อารทฺธสฺส วตฺโต สํวตฺโต เอติสฺสา อตฺถีติ นิสินฺนวตฺติกา, ยถารทฺธสฺส อตฺถสฺส วิสุํ วิสุํ ปริโยสาปิกาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปณฺฑิตํ โคปาลกํ ทสฺเสตฺวา’’ติอาทิ. เอเกกปทสฺสาติ ปิณฺฑตฺถทสฺสนวเสน พหุนฺนํ ปทานํ เอกชฺฌํ อตฺถํ อกเถตฺวา เอกเมกสฺส ปทสฺส อตฺถวณฺณนา. อยํ สพฺพตฺเถว ลพฺภติ. จตุกฺกํ พนฺธิตฺวาติ กณฺหปกฺเข อุปมูปเมยฺยทฺวยํ, ตถา สุกฺกปกฺเขติ อิทํ จตุกฺกํ โยเชตฺวา. อยํ อีทิเสสุ เอว สุตฺเตสุ ลพฺภติ. ปริโยสานคมนนฺติ เกจิ ตาว อาหุ – ‘‘กณฺหปกฺเข อุปมํ ทสฺเสตฺวา อุปมา จ นาม ยาวเทว อุปเมยฺยสมฺปฏิทานตฺถาติ อุปเมยฺยตฺถํ อาหริตฺวา สํกิเลสปกฺขนิทฺเทโส จ โวทานปกฺขวิภาวนตฺถายาติ สุกฺกปกฺขมฺปิ อุปมูปเมยฺยวิภาเคน อาหริตฺวา สุตฺตตฺถสฺส ปริโยสาปน’’นฺติ. กณฺหปกฺเข อุปเมยฺยํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนาทีสุปิ เอเสว นโย. อปเร ปน ‘‘กณฺหปกฺเข สุกฺกปกฺเข จ ตํตํอุปมูปเมยฺยตฺถานํ วิสุํ วิสุํ ปริโยสาเปตฺวาว กถนํ ปริโยสานคมน’’นฺติ วทนฺติ. อยนฺติ นิสินฺนวตฺติกา. อิธาติ อิมสฺมึ โคปาลกสุตฺเต. สพฺพาจริยานํ อาจิณฺณาติ สพฺเพหิปิ ปุพฺพาจริเยหิ อาจริตา สํวณฺณิตา, ตถา เจว ปาฬิ ปวตฺตาติ.

องฺคียนฺติ อวยวภาเวน ายนฺตีติ องฺคานิ, ภาคา. ตานิ ปเนตฺถ ยสฺมา สาวชฺชสภาวานิ, ตสฺมา อาห ‘‘องฺเคหีติ อคุณโกฏฺาเสหี’’ติ. โคมณฺฑลนฺติ โคสมูหํ. ปริหริตุนฺติ รกฺขิตุํ. ตํ ปน ปริหรณํ ปริคฺคเหตฺวา วิจรณนฺติ อาห ‘‘ปริคฺคเหตฺวา วิจริตุ’’นฺติ. วฑฺฒินฺติ คุนฺนํ พหุภาวํ พหุโครสตาสงฺขาตํ ปริวุทฺธึ. ‘‘เอตฺตกมิท’’นฺติ รูปียตีติ รูปํ, ปริมานปริจฺเฉโทปิ สรีรรูปมฺปีติ อาห ‘‘คณนโต วา วณฺณโต วา’’ติ. น ปริเยสติ วินฏฺภาวสฺเสว อชานนโต. นีลาติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. เตน เสตสพลาทิวณฺณํ สงฺคณฺหาติ.

ธนุสตฺติสูลาทีติ เอตฺถ อิสฺสาสาจริยานํ คาวีสุ กตํ ธนุลกฺขณํ. กุมารภตฺติคณานํ คาวีสุ กตํ สตฺติลกฺขณํ. อิสฺสรภตฺติคณานํ คาวีสุ กตํ สูลลกฺขณนฺติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน รามวาสุเทวคณาทีนํ คาวีสุ กตํ ผรสุจกฺกาทิลกฺขณํ สงฺคณฺหาติ.

นีลมกฺขิกาติ ปิงฺคลมกฺขิกา, ขุทฺทมกฺขิกา เอว วา. สฏติ รุชติ เอตายาติ สาฏิกา, สํวทฺธา สาฏิกาติ อาสาฏิกา. เตนาห ‘‘วฑฺฒนฺตี’’ติอาทิ.

วาเกนาติ วากปตฺเตน. จีรเกนาติ ปิโลติเกน. อนฺโตวสฺเสติ วสฺสกาลสฺส อพฺภนฺตเร. นิคฺคาหนฺติ สุสุมาราทิคฺคาหรหิตํ. ปีตนฺติ ปานียสฺส ปีตภาวํ. สีหพฺยคฺฆาทิปริสฺสเยน สาสงฺโก สปฺปฏิภโย.

ปฺจ อหานิ ภูตานิ เอตสฺสาติ ปฺจาหิโต, โส เอว วาโรติ ปฺจาหิกวาโร. เอวํ สตฺตาหิกวาโรติ เวทิตพฺโพ. จิณฺณฏฺานนฺติ จริตฏฺานํ โคจรคฺคหิตฏฺานํ.

ปิตุฏฺานนฺติ ปิตรา กาตพฺพฏฺานํ, ปิตรา กาตพฺพกรณนฺติ อตฺโถ. ยถารุจึ คเหตฺวา คจฺฉนฺตีติ คุนฺนํ รุจิอนุรูปํ โคจรภูมิยํ วา นทิปารํ วา คเหตฺวา คจฺฉนฺติ. โคภตฺตนฺติ กปฺปาสฏฺิกาทิมิสฺสํ โคภุฺชิตพฺพํ ภตฺตํ, ภตฺตคฺคหเณเนว ยาคุปิ คหิตา.

๓๔๗. ‘‘ทฺวีหากาเรหี’’ติ วุตฺตํ อาการทฺวยํ ทสฺเสตุํ ‘‘คณนโต วา สมุฏฺานโต วา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ ปาฬิยํ อาคตาติ ‘‘อุปจโย สนฺตตี’’ติ ชาตึ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา หทยวตฺถุํ อคฺคเหตฺวา ‘‘ทส อายตนานิ ปฺจทส สุขุมรูปานี’’ติ เอวํ รูปกณฺฑปาฬิยํ (ธ. ส. ๖๕๑-๖๕๕) อาคตา. ปฺจวีสติ รูปโกฏฺาสาติ สลกฺขณโต อฺมฺสงฺกราภาวโต รูปภาคา. รูปโกฏฺาสาติ วา วิสุํ วิสุํ อปฺปวตฺติตฺวา กลาปภาเวเนว ปวตฺตนโต รูปกลาปา. โกฏฺาสาติ จ อํสา, อวยวาติ อตฺโถ. โกฏฺนฺติ วา สรีรํ, ตสฺส อํสา เกสาทโย โกฏฺาสาติ อฺเปิ อวยวา โกฏฺาสา วิย โกฏฺาสา. เสยฺยถาปีติ อุปมาสํสนฺทนํ. ตตฺถ รูปํ ปริคฺคเหตฺวาติ ยถาวุตฺตํ รูปํ สลกฺขณโต าเณน ปริคฺคณฺหิตฺวา. อรูปํ ววตฺถเปตฺวาติ ตํ รูปํ นิสฺสาย อารมฺมณฺจ กตฺวา ปวตฺตมาเน เวทนาทิเก จตฺตาโร ขนฺเธ ‘‘อรูป’’นฺติ ววตฺถเปตฺวา. รูปารูปํ ปริคฺคเหตฺวาติ ปุน ตตฺถ ยํ รุปฺปนลกฺขณํ, ตํ รูปํ, ตทฺํ อรูปํ, อุภยวินิมุตฺตํ กิฺจิ นตฺถิ อตฺตา วา อตฺตนิยํ วาติ เอวํ รูปารูปํ ปริคฺคเหตฺวา. ตทุภยฺจ อวิชฺชาทินา ปจฺจเยน สปฺปจฺจยนฺติ ปจฺจยํ สลฺลกฺเขตฺวา อนิจฺจาทิลกฺขณํ อาโรเปตฺวา โย กลาปสมฺมสนาทิกฺกเมน กมฺมฏฺานํ มตฺถกํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ, โส น วฑฺฒตีติ โยชนา.

เอตฺตกํรูปํ เอกสมุฏฺานนฺติ จกฺขายตนํ, โสตฆานชิวฺหากายายตนํ อิตฺถินฺทฺริยํ ปุริสินฺทฺริยํ ชีวิตินฺทฺริยนฺติ อฏฺวิธํ กมฺมวเสน, กายวิฺตฺติ วจีวิฺตฺตีติ อิทํ ทฺวยํ จิตฺตวเสนาติ เอตฺตกํ รูปํ เอกสมุฏฺานํ. สทฺทายตนเมกํ อุตุจิตฺตวเสน ทฺวิสมุฏฺานํ. รูปสฺส ลหุตา มุทุตา กมฺมฺตาติ เอตฺตกํ รูปํ อุตุจิตฺตาหารวเสน ติสมุฏฺานํ. รูปคนฺธรสโผฏฺพฺพายตนํ อากาสธาตุ อาโปธาตุ กพฬีกาโร อาหาโรติ เอตฺตกํ รูปํ อุตุจิตฺตาหารกมฺมวเสน จตุสมุฏฺานํ. อุปจโย สนฺตติ ชรตา รูปสฺส อนิจฺจตาติ เอตฺตกํ รูปํ น กุโตจิ สมุฏฺาตีติ น ชานาติ. สมุฏฺานโต รูปํ อชานนฺโตติอาทีสุ วตฺตพฺพํ ‘‘คณนโต รูปํ อชานนฺโต’’ติอาเทสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

กมฺมลกฺขโณติ อตฺตนา กตํ ทุจฺจริตกมฺมํ ลกฺขณํ เอตสฺสาติ กมฺมลกฺขโณ, พาโล. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, พาลสฺส พาลลกฺขณานิ. กตมานิ ตีณิ? ทุจฺจินฺติตจินฺตี โหติ, ทุพฺภาสิตภาสี, ทุกฺกฏกมฺมการี. อิมานิ โข…เป… ลกฺขณานี’’ติ (อ. นิ. ๓.๒; เนตฺติ. ๑๑๖). อตฺตนา กตํ สุจริตกมฺมํ ลกฺขณํ เอตสฺสาติ กมฺมลกฺขโณ, ปณฺฑิโต. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตสฺส ปณฺฑิตลกฺขณานิ. กตมานิ ตีณิ? สุจินฺติตจินฺตี โหติ, สุภาสิตภาสี, สุกตกมฺมการี. อิมานิ โข…เป… ปณฺฑิตลกฺขณานี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๕๓; อ. นิ. ๓.๓; เนตฺติ. ๑๑๖). เตนาห ‘‘กุสลากุสลํ กมฺมํ ปณฺฑิตมาลลกฺขณ’’นฺติ. พาเล วชฺเชตฺวา ปณฺฑิเต น เสวตีติ ยํ พาลปุคฺคเล วชฺเชตฺวา ปณฺฑิตเสวนํ อตฺถกาเมน กาตพฺพํ, ตํ น กโรติ. ตถาภูตสฺส อยมาทีนโวติ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘พาเล วชฺเชตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยํ ภควตา ‘‘อิทํ โว กปฺปตี’’ติ อนุฺาตํ, ตทนุโลมฺเจ, ตํ กปฺปิยํ. ยํ ‘‘อิทํ โว น กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตํ, ตทนุโลมฺเจ, ตํ อกปฺปิยํ. ยํ โกสลฺลสมฺภูตํ, ตํ กุสลํ, ตปฺปฏิปกฺขํ อกุสลํ. ตเทว สาวชฺชํ, กุสลํ อนวชฺชํ. อาปตฺติโต อาทิโต ทฺเว อาปตฺติกฺขนฺธา ครุกํ, ตทฺํ ลหุกํ. ธมฺมโต มหาสาวชฺชํ ครุกํ, อปฺปสาวชฺชํ ลหุกํ. สปฺปฏิการํ สเตกิจฺจํ, อปฺปฏิการํ อเตกิจฺฉํ. ธมฺมตานุคตํ การณํ, อิตรํ อการณํ. ตํ อชานนฺโตติ กปฺปิยากปฺปิยํ ครุกลหุกํ สเตกิจฺฉาเตกิจฺฉํ อชานนฺโต สุวิสุทฺธํ กตฺวา สีลํ รกฺขิตุํ น สกฺโกติ, กุสลากุสลํ สาวชฺชานวชฺชํ การณาการณํ อชานนฺโต ขนฺธาทีสุ อกุสลตาย รูปารูปปริคฺคหมฺปิ กาตุํ น สกฺโกติ, กุโต ตสฺส กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺฒนา. เตนาห ‘‘กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกตี’’ติ.

โควณสทิเส อตฺตภาเว อุปฺปชฺชิตฺวา ตตฺถ ทุกฺขุปฺปตฺติเหตุโต มิจฺฉาวิตกฺกา อาสาฏิกา วิยาติ อาสาฏิกาติ อาห ‘‘อกุสลวิตกฺกํ อาสาฏิกํ อหาเรตฺวา’’ติ.

‘‘คณฺโฑติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อธิวจน’’นฺติ วจนโต (อ. นิ. ๘.๕๖) ฉหิ วณมุเขหิ วิสฺสนฺทมานยูโส คณฺโฑ วิย ปิโลติกขณฺเฑน ฉหิ ทฺวาเรหิ วิสฺสนฺทมานกิเลสาสุจิ อตฺตภาววโณ สติสํวเรน ปิทหิตพฺโพ, อยํ ปน เอวํ น กโรตีติ อาห ‘‘ยถา โส โคปาลโก วณํ น ปฏิจฺฉาเทติ, เอวํ สํวรํ น สมฺปาเทตี’’ติ.

ยถา ธูโม อินฺธนํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชมาโน สณฺโห สุขุโม ตํ ตํ วิวรํ อนุปวิสฺส พฺยาเปนฺโต สตฺตานํ ฑํสมกสาทิปริสฺสยํ วิโนเทติ, อคฺคิชาลสมุฏฺานสฺส ปุพฺพงฺคโม โหติ, เอวํ ธมฺมเทสนาาณสฺส อินฺธนภูตํ รูปารูปธมฺมชาตํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชมานา สณฺหา สุขุมา ตํ ตํ ขนฺธนฺตรํ อายตนนฺตรฺจ อนุปวิสฺส พฺยาเปติ, สตฺตานํ มิจฺฉาวิตกฺกาทิปริสฺสยํ วิโนเทติ, าณคฺคิชาลสมุฏฺานสฺส ปุพฺพงฺคโมติ ธูโม วิยาติ ธูโมติ อาห ‘‘โคปาลโก ธูมํ วิย ธมฺมเทสนาธูมํ น กโรตี’’ติ. อตฺตโน สนฺติกํ อุปคนฺตฺวา นิสินฺนสฺส กาตพฺพา ตทนุจฺฉวิกา ธมฺมกถา อุปนิสินฺนกถา. กตสฺส ทานาทิปุฺสฺส อนุโมทนกถา อนุโมทนา. ตโตติ ธมฺมกถาทีนํ อกรณโต. ‘‘พหุสฺสุโต คุณวา’’ติ น ชานนฺตีติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ อตฺตโน ชานาปนตฺถํ ธมฺมกถาทิ น กาตพฺพเมวาติ? สจฺจํ, น กาตพฺพเมว, สุทฺธาสเยน ปน ธมฺเม กถิเต ตสฺส คุณชานนตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เตนาห ภควา –

‘‘นาภาสมานํ ชานนฺติ, มิสฺสํ พาเลหิ ปณฺฑิตํ;

ภาสเย โชตเย ธมฺมํ, ปคฺคณฺเห อิสินํ ธช’’นฺติ. (สํ. นิ. ๒.๒๔๑);

ตรนฺติ เอตฺถาติ ติตฺถํ, นทีตฬากาทีนํ นหานาทิอตฺถํ โอตรณฏฺานํ. ยถา ปน ตํ อุทเกน โอติณฺณสตฺตานํ สรีรมลํ ปวาเหติ, ปริสฺสมํ วิโนเทติ, วิสุทฺธึ อุปฺปาเทติ, เอวํ พหุสฺสุตา อตฺตโน สมีปํ โอติณฺณสตฺตานํ ธมฺมูทเกน จิตฺตมลํ ปวาเหนฺติ, ปริสฺสมํ วิโนเทนฺติ, วิสุทฺธึ อุปฺปาเทนฺติ, ตสฺมา เต ติตฺถํ วิยาติ ติตฺถํ. เตนาห ‘‘ติตฺถภูเต พหุสฺสุตภิกฺขู’’ติ. พฺยฺชนํ กถํ โรเปตพฺพนฺติ, ภนฺเต, อิทํ พฺยฺชนํ อยํ สทฺโท กถํ อิมสฺมึ อตฺเถ โรเปตพฺโพ, เกน ปกาเรน อิมสฺส อตฺถสฺส วาจโก ชาโต. ‘‘นิรูเปตพฺพ’’นฺติ วา ปาโ, นิรูเปตพฺพํ อยํ สภาวนิรุตฺติ กถเมตฺถ นิรุฬฺหาติ อธิปฺปาโย. อิมสฺส ภาสิตสฺส โก อตฺโถติ สทฺทตฺถํ ปุจฺฉติ. อิมสฺมึ าเนติ อิมสฺมึ ปาฬิปเทเส. ปาฬิ กึ วเทตีติ ภาวตฺถํ ปุจฺฉติ. อตฺโถ กึ ทีเปตีติ ภาวตฺถํ วา สงฺเกตตฺถํ วา. น ปริปุจฺฉตีติ วิมติจฺเฉทนปุจฺฉาวเสน สพฺพโส ปุจฺฉํ น กโรติ. น ปริปฺหตีติ ปริ ปริ อตฺตโน าตุํ อิจฺฉํ น อาจิกฺขติ น วิภาเวติ. เตนาห ‘‘น ชานาเปตี’’ติ. เตติ พหุสฺสุตภิกฺขู. วิวรณํ นาม อตฺถสฺส วิภชิตฺวา กถนนฺติ อาห ‘‘ภาเชตฺวา น ทสฺเสนฺตี’’ติ. อนุตฺตานีกตนฺติ าเณน อปากฏีกตํ คุยฺหํ ปฏิจฺฉนฺนํ. น อุตฺตานีกโรนฺตีติ สิเนรุมูลกํ วาลิกํ อุทฺธรนฺโต วิย ปถวีสนฺธาโรทกํ วิวริตฺวา ทสฺเสนฺโต วิย จ อุตฺตานํ น กโรนฺติ. เอวํ ยสฺส ธมฺมสฺส วเสน พหุสฺสุตา ‘‘ติตฺถ’’นฺติ วุตฺตา ปริยายโต, อิทานิ ตเมว ธมฺมํ นิปฺปริยายโต ติตฺถนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ธมฺโม หิ ตรนฺติ เอเตน นิพฺพานํ นาม ตฬากนฺติ ‘‘ติตฺถ’’นฺติ วุจฺจติ. เตนาห ภควา สุเมธภูโต –

‘‘เอวํ กิเลสมลโธวํ, วิชฺชนฺเต อมตนฺตเฬ;

น คเวสติ ตํ ตฬากํ, น โทโส อมตนฺตเฬ’’ติ. (พุ. วํ. ๒.๑๔);

ธมฺมสฺเสว นิพฺพานสฺโสตรณติตฺถภูตสฺส โอตรณปการํ อชานนฺโต ‘‘ธมฺมติตฺถํ น ชานาตี’’ติ วุตฺโต.

ปีตาปีตนฺติ โคคเณ ปีตํ อปีตฺจ โครูปํ น ชานาติ น วินฺทติ. อวินฺทนฺโต หิ น ลภตีติ วุตฺโต. ‘‘อานิสํสํ น วินฺทตี’’ติ วตฺวา ตสฺส อวินฺทนาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธมฺมสฺสวนคฺคํ คนฺตฺวา’’ติอาทิมาห.

อยํ โลกุตฺตโรติ ปทํ สนฺธายาห ‘‘อริย’’นฺติ. ปจฺจาสตฺติาเยน อนนฺตรวิธิปฺปฏิเสโธ วา, อริย-สทฺโท วา นิทฺโทสปริยาโย ทฏฺพฺโพ. อฏฺงฺคิกนฺติ จ วิสุํ เอกชฺฌฺจ อฏฺงฺคิกํ อุปาทาย คเหตพฺพํ, อฏฺงฺคตา พาหุลฺลโต จ. เอวฺจ กตฺวา สตฺตงฺคสฺสปิ อริยมคฺคสฺส สงฺคโห สิทฺโธ โหติ.

จตฺตาโร สติปฏฺาเนติอาทีสุ อวิเสเสน สติปฏฺานา วุตฺตา. ตตฺถ กายเวทนาจิตฺตธมฺมารมฺมณา สติปฏฺานา โลกิยา, ตตฺถ สมฺโมหวิทฺธํสนวเสน ปวตฺตา นิพฺพานารมฺมณา โลกุตฺตราติ เอวํ อิเม โลกิยา, อิเม โลกุตฺตราติ ยถาภูตํ น ปชานาติ.

อนวเสสํ ทุหตีติ ปฏิคฺคหเณ มตฺตํ อชานนฺโต กิสฺมิฺจิ ทายเก สทฺธาหานิยา กิสฺมิฺจิ ปจฺจยหานิยา อนวเสสํ ทุหติ. วาจาย อภิหาโร วาจาภิหาโร. ปจฺจยานํ อภิหาโร ปจฺจยาภิหาโร.

อิเม อมฺเหสุ ครุจิตฺตีการํ น กโรนฺตีติ อิมินา นวกานํ ภิกฺขูนํ ธมฺมสมฺปฏิปตฺติยา อภาวํ ทสฺเสติ อาจริยุปชฺฌาเยสุ ปิตุเปมสฺส อนุปฏฺาปนโต. เตน จ สิกฺขาคารวตาภาวทีปเนน สงฺคหสฺส อภาชนภาวํ, เตน เถรานํ เตสุ อนุคฺคหาภาวํ. น หิ สีลาทิคุเณหิ สาสเน ถิรภาวปฺปตฺตา อนนุคฺคเหตพฺเพ สพฺรหฺมจารี อนุคฺคณฺหนฺติ, นิรตฺถกํ วา อนุคฺคหํ กโรนฺติ. เตนาห ‘‘นวเก ภิกฺขู’’ติ. ธมฺมกถาพนฺธนฺติ ปเวณิอาคตํ ปกิณฺณกธมฺมกถามคฺคํ. สจฺจสตฺตปฏิสนฺธิปจฺจยาการปฏิสํยุตฺตํ สุฺตาทีปนํ คุยฺหคนฺถํ. วุตฺตวิปลฺลาสวเสนาติ ‘‘น รูปฺู’’ติอาทีสุ วุตฺตสฺส ปฏิเสธสฺส ปฏิกฺเขปวเสน อคฺคหณวเสน. โยเชตฺวาติ ‘‘รูปฺู โหตีติ คณนาโต วา วณฺณโต วา รูปํ ชานาตี’’ติอาทินา, ‘‘ตสฺส โคคโณปิ น ปริหายติ, ปฺจโครสปริโภคโตปิ น ปริพาหิโร โหตี’’ติอาทินา จ อตฺถํ โยเชตฺวา. เวทิตพฺโพติ ตสฺมึ ตสฺมึ ปเทเส ยถารหํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

มหาโคปาลกสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๔. จูฬโคปาลกสุตฺตวณฺณนา

๓๕๐. เจลุกฺกาหีติ เจลมยาหิ อุกฺกาหิ. อุกฺกภูตานิ เจลานิ เอตฺถาติ อุกฺกเจลา, นครํ. สพฺพา คงฺคา ปากฏา หุตฺวา ปฺายตีติ ปกติจกฺขุสฺส ปากฏา หุตฺวา อุปฏฺาติ, ทิพฺพจกฺขุสฺส ปน สมนฺตจกฺขุสฺส วา ยตฺถ กตฺถจิ นิสินฺนสฺสปิ ภควโต ปากฏา หุตฺวา ปฺายเตว. โสตฺถีติ อนุปทฺทโว. วฑฺฒีติ อปริหานิ. อาโรคฺยนฺติ อโรคตา อาพาธาภาโว.

มคโธ ชนปโท นิวาโส เอตสฺสาติ มาคโธ, มาคโธว มาคธิโก. ปฺาย นาม ทุฏฺุภาโว นตฺถิ เอกนฺตานวชฺชตาย, ตสฺมา ทุ-สทฺโท อภาววาจี ‘‘ทุสฺสีโล’’ติอาทีสุ วิย, ชาติ-สทฺโท จ สภาวตฺโถติ อาห ‘‘นิปฺปฺสภาโว’’ติ. -สทฺโท อารมฺภตฺโถติ อาห ‘‘ปตาเรสีติ ตาเรตุํ อารภี’’ติ ปรตีรํ คาวีนํ อปฺปตฺตตฺตา. สุวิเทหานนฺติ สุนฺทรวิเทหานํ. วิเทหรฏฺํ กิร ภูมิภาคทสฺสนสมฺปตฺติยา จ วนรามเณยฺยกาทินา จ สุนฺทรํ. อามณฺฑลิกํ กริตฺวาติ อาวตฺเต ปติตา เตมณฺฑลากาเรน ปริพฺภมิตฺวา. กติปยาปิ คาวิโย อเสเสตฺวา นทีโสเตน วูฬฺหตฺตา วุตฺตํ ‘‘อวฑฺฒึ วินาสํ ปาปุณึสู’’ติ. กติปยาสุปิ หิ อวสิฏฺาสุ คาวีสุ อนุกฺกเมนปิ สิยา โคคณสฺส วฑฺฒีติ. วิสฺสมฏฺานนฺติ ปริสฺสมวิโนทนฏฺานํ. ติตฺถา ภฏฺาติ คเหตุํ อสมตฺถตาย ติตฺถํ อปฺปตฺตา. อโรโค นาม นาโหสีติ โลมมตฺตมฺปิ อเสเสตฺวา สพฺพา คาวิโย นทีโสเต วินฏฺาติ อตฺโถ.

เยสุ ขนฺธายตนธาตูสุ อิธ โลกสมฺา, เต อชานนฺตา ‘‘อกุสลา อิมสฺส โลกสฺสา’’ติ วุตฺตาติ อาห ‘‘อิธโลเก ขนฺธธาตายตเนสุ อกุสลา อเฉกา’’ติ. อยเมว นโย ‘‘อกุสลา ปรสฺส โลกสฺสา’’ติ เอตฺถาปีติ อาห ‘‘ปรโลเกปิ เอเสว นโย’’ติ. มาโร เอตฺถ ธียตีติ มารเธยฺยํ. มาโรติ เจตฺถ กิเลสมาโร เวทิตพฺโพ. ขนฺธาภิสงฺขารา หิ ตสฺส ปวตฺตนภาเวน คหิตา, มจฺจุมาโร วิสุํ คหิโต เอว, กิเลสมารวเสเนว จ เทวปุตฺตมารสฺส กามภเว อาธิปจฺจนฺติ. เตสนฺติ เย อิธโลกาทีสุ อเฉกา, เตสํ. เต ปน อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อิมินา ฉ สตฺถาโร ทสฺสิตา’’ติ.

๓๕๑. พลวคาโวติ พลวนฺเต โครูเป. เต ปน ทมฺมตํ อุปคตโคณา เจว เธนุโย จาติ อาห ‘‘ทนฺตโคเณ เจว เธนุโย จา’’ติ . อวิชาตคาโวติ น วิชาตคาวิโย. วจฺฉเกติ ขุทฺทกวจฺเฉ. อปฺปตฺโถ หิ อยํ ก-สทฺโท. เตนาห ‘‘ตรุณวจฺฉเก’’ติ. กิสาพลเกติ ทุพฺพเล.

๓๕๒. มารสฺส ตณฺหาโสตํ เฉตฺวาติ ขนฺธมารสมฺพนฺธีตณฺหาสงฺขาตํ โสตํ สมุจฺฉินฺทิตฺวา. ตโย โกฏฺาเส เขเปตฺวา ิตาติ อนาคามิโน สนฺธายาห. สพฺพวาเรสูติ สกทาคามิโสตาปนฺนอฏฺมกวาเรสุ. ตตฺถ ปน ยถากฺกมํ จตุมคฺควชฺฌานํ กิเลสานํ ทฺเว โกฏฺาเส เขเปตฺวา ิตา, เอกโกฏฺาสํ เขเปตฺวา ิตา, ปมํ โกฏฺาสํ เขเปนฺโตติ วตฺตพฺพํ. ธมฺมํ อนุสฺสรนฺติ, ธมฺมสฺส วา อนุสฺสรณสีลาติ ธมฺมานุสาริโน. ธมฺโมติ เจตฺถ ปฺา อธิปฺเปตา. สทฺธํ อนุสฺสรนฺติ, สทฺธาย วา อนุสฺสรณสีลาติ สทฺธานุสาริโน.

ชานตาติ เอตฺถ ชานนกิริยาวิสยสฺส อวิเสสิตตฺตา อธิการวเสน อนวเสสเยฺยวิเสสา อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘สพฺพธมฺเม ชานนฺเตนา’’ติ. อนฺโตสารวิรหโต อพฺภุคฺคตฏฺเน จ นโฬ วิยาติ นโฬ, มาโนติ อาห ‘‘วิคตมานนฬํ กต’’นฺติ. เขมํ ปตฺเถถาติ เอตฺถ จตูหิ โยเคหิ อนุปทฺทวตฺตา ‘‘เขม’’นฺติ อรหตฺตํ อธิปฺเปตํ. ปตฺถนา จ ฉนฺทปตฺถนา, น ตณฺหาปตฺถนาติ อาห ‘‘กตฺตุกมฺยตาฉนฺเทน อรหตฺตํ ปตฺเถถา’’ติ. ปตฺตาเยว นาม ตสฺส ปตฺติยา น โกจิ อนฺตราโย. โสตฺถินา ปารคมนํ อุทฺทิสฺส เทสนํ อารภิตฺวา เขมปฺปตฺติยา เทสนาย ปริโยสาปิตตฺตา ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฏฺาเปสีติ.

จูฬโคปาลกสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๕. จูฬสจฺจกสุตฺตวณฺณนา

๓๕๓. หํสวฏฺฏกจฺฉนฺเนนาติ หํสวฏฺฏกปฏิจฺฉนฺเนน, หํสมณฺฑลากาเรนาติ อตฺโถ.

วทนฺติ เอเตนาติ วาโท, มคฺโค. กึ วทนฺติ? อุตฺตรํ. วาทานํ สตานิ วาทสตานิ. ‘‘นิคณฺโ ปฺจวาทสตานิ, นิคณฺี ปฺจวาทสตานี’’ติ เอวํ นิคณฺโจ นิคณฺี จ ปฺจ ปฺจ วาทสตานิ อุคฺคเหตฺวา วิจรนฺตา. กิริยโต เต ปุจฺฉึสุ, ลิงฺคโต ปน นิคณฺภาโว าโต. เตนาห ‘‘อหํ วาทํ อาโรเปสฺสามี’’ติ.

ชคฺคนฺโต สมฺมชฺชนาทิวเสน. ทิวาตรนฺติ อติทิวํ. ‘‘กสฺส ปุจฺฉา, กสฺส วิสฺสชฺชนํ โหตู’’ติ ปริพฺพาชิกาหิ วุตฺเต เถโร อาห ‘‘ปุจฺฉา นาม อมฺหากํ ปตฺตา’’ติ. ปุจฺฉา วาทานํ ปุพฺพปกฺโข, ยสฺมา ตุมฺเห วาทปสุตา วาทาภิรตา ธชํ ปคฺคยฺห วิจรถ, ตสฺมา วาทานํ ปุพฺพปกฺโข อมฺหากํ ปตฺโต, เอวํ สนฺเตปิ ตุมฺหากํ มาตุคามภาวโต ปุพฺพปกฺขํ เทมาติ อาห ‘‘ตุมฺเห ปน มาตุคามา นาม ปมํ ปุจฺฉถา’’ติ. ตา ปริพฺพาชิกา เอเกกา อฑฺฒเตยฺยสตวาทมคฺคํ ปุจฺฉนฺติโย วาทสหสฺสํ ปุจฺฉึสุ. ยถา นิสิตสฺส ขคฺคสฺส กุมุทนาฬจฺเฉทเน กิมตฺถิ ภาริยํ, เอวํ ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตสฺส สาวเกสุ ปฺวนฺตานํ อคฺคภาเว ิตสฺส ธมฺมเสนาปติโน ปุถุชฺชนปริกปฺปิตปฺหวิสฺสชฺชเน กิมตฺถิ ภาริยํ. เตนาห ‘‘เถโร ขคฺเคนา’’ติอาทิ. ตตฺถ นิชฺชฏํ นิคฺคณฺึ กตฺวาติ ยถา ตา ปุน ตตฺถ ชฏํ คณฺึ กาตุํ น วิสหนฺติ, ตถา วิชเฏตฺวา กเถสิ. อยํ เถโร จตุรงฺคสมนฺนาคเต อนฺธกาเร สหสฺสวฏฺฏิกํ ทีเปนฺโต วิย อฺเสํ อวิสเย อนฺธการภูเต ปฺเห ปุจฺฉิตมตฺเตเยว วิสฺสชฺเชสีติ เถรสฺส ปฺาเวยฺยตฺติยํ ทิสฺวา สยฺจ อนฺติมภวิกตาย โกหฺเ าตุํ อสกฺโกนฺติโย ‘‘เอตฺตกเมว, ภนฺเต, มยํ ชานามา’’ติ อาหํสุ. เถรสฺส วิสยนฺติ เถรสฺส ปฺาวิสยํ.

เนว อนฺตํ น โกฏึ อทฺทสํสูติ เอกนฺติ วตฺตพฺพสฺส พหุภาวโต ตสฺสา ปุจฺฉาย อตฺโถ เอวมนฺโต เอวมวสานโกฏีติ น ปสฺสึสุ น ชานึสุ. เถโร ตาสํ อชฺฌาสยํ โอโลเกนฺโต ปพฺพชฺชารุจึ ทิสฺวา อาห ‘‘อิทานิ กึ กริสฺสถา’’ติ? อุตฺตริตรปฺโติ วาทมคฺคปริจเยน เมธาวิตาย จ ยาทิสา ตาสํ ปฺา, ตโต อุตฺตริตรปฺโ.

กถามคฺโคติ วาทมคฺโค. ตสฺมา เตหิ เตหิ ปรปฺปวาทาทีหิ ภสฺสํ วาทมคฺคํ ปกาเรหิ วเทตีติ ภสฺสปฺปวาทโก. ปณฺฑิตวาโทติ อหํ ปณฺฑิโต นิปุโณ พหุสฺสุโตติ เอวํวาที. ยํ ยํ นกฺขตฺตาจาเรน อาทิสตีติ นกฺขตฺตคติยา กาลาเณน ‘‘อสุกทิวเส จนฺทคฺคาโห ภวิสฺสติ, สูริยคฺคาโห ภวิสฺสตี’’ติอาทินา ยํ ยํ อาเทสํ ภณติ. สาธุลทฺธิโก าณสมฺปตฺติยา สุนฺทโร. อาโรปิโตติ ปฏิฺาเหตุนิทสฺสนาทิโทสํ อุปริ อาโรปิโต วาโท สฺวาโรปิโต. โทสปทํ อาโรเปนฺเตน วาทินา ปรวาทิมฺหิ อภิภุยฺย ตสฺส ธาตุกฺโขโภปิ สิยา, จิตฺตวิกฺเขเปน เยน โทโส เตน สงฺกปฺปิโต สมฺปเวธิโตติ. ถูณนฺติ สรีรํ โขภิตนฺติ กตฺวา. ถูณนฺติ หิ โลหิตปิตฺตเสมฺหานํ อธิวจนํ สพฺพงฺคสรีรธารณโต. อปิจ ถูณปโท นาม อตฺถิ กถามคฺโค วาทมคฺคํ คณฺหนฺตานํ. สจฺจโก ปน โกหฺเ ตฺวา อตฺตโน วาทปฺปเภทวเสน ปเร วิมฺหาเปนฺโต ‘‘ถูณํ เจปาห’’นฺติอาทิมาห. สาวกานํ วินยํ นาม สิกฺขาปทํ, ตฺจ ธมฺมเทสนา โหตีติ เอสา เอว จสฺส อนุสาสนีติ วินยนาทิมุเขน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส มตํ สาสนํ ปุจฺฉนฺโต สจฺจโก ‘‘กถํ ปน, โภ, อสฺสชี’’ติอาทิมาห. อถสฺส เถโร ‘‘ลกฺขณตฺตยกถา นาม อนฺสาธารณา พุทฺธาเวณิกา ธมฺมเทสนา, ตตฺร จ มยา อนิจฺจกถาย สมุฏฺาปิตาย ตํ อสหนฺโต สจฺจโก ตุจฺฉมาเนน ปฏปฏายนฺโต กุรุมาโน ลิจฺฉวี คเหตฺวา ภควโต สนฺติกํ อาคมิสฺสติ, อถสฺส ภควา วาทํ มทฺทิตฺวา อนิจฺจนฺติ ปติฏฺเปนฺโต ธมฺมํ กเถสฺสติ, ตทา ภวิสฺสติ วิชหิตวาโท สมฺมาปฏิปตฺติยา ปติฏฺิโต’’ติ จินฺเตตฺวา อนิจฺจานตฺตลกฺขณปฏิสํยุตฺตํ ภควโต อนุสาสนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอวํ, โภ, อคฺคิเวสฺสนา’’ติอาทิมาห.

กสฺมา ปเนตฺถ ทุกฺขลกฺขณํ อคฺคหิตนฺติ อาห ‘‘เถโร ปนา’’ติอาทิ. ‘‘อุปารมฺภสฺส โอกาโส โหตี’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตํ วิวริตุํ ‘‘มคฺคผลานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปริยาเยนาติ สงฺขารทุกฺขตาปริยาเยน. อยนฺติ สจฺจโก. นยิทํ ตุมฺหากํ สาสนํ นามาติ ยตฺถ ตุมฺเห อวฏฺิตา, อิทํ ตุมฺหากํ สพฺพฺุสาสนํ นาม น โหติ ทุกฺขโต อนิสฺสรณตฺตา, อถ โข มหาอาฆาตนํ นาเมตํ, มหาทุกฺขนิทฺทิฏฺตฺตา ปน นิรยุสฺสโท นาม อุสฺสทนิรโย นาม, ตสฺมา นตฺติ นาม ตุมฺหากํ สุขาสา. อุฏฺายุฏฺายาติ อุสฺสุกฺกํ กตฺวา, ทุกฺขเมว ชีราเปนฺตา สพฺพโส ทุกฺขเมว อนุภวนฺตา, อาหิณฺฑถ วิจรถาติ. สพฺพมิทํ ตสฺส มิจฺฉาปริกปฺปิตเมว. กสฺมา? ทุกฺขสจฺจูปสฺหิตาเยว เหตฺถ นิปฺปริยายกถา นาม. ตสฺส หิ ปริฺตฺถํ ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ. มคฺคผลานิ สงฺขารภาเวน ‘‘ยทนิจฺจํ, ตํ ทุกฺข’’นฺติ ปริยายโต ทุกฺขํ, น นิปฺปริยายโต. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. โสตุํ อยุตฺตํ มิจฺฉาวาทตฺตาติ อธิปฺปาโย.

๓๕๔. สห อตฺถานุสาสนํ อคารนฺติ สนฺธาคารํ, ราชกุลานํ สนฺถาปนอคารนฺติปิ สนฺธาคารํ, ตสฺมึ สนฺถาคาเรติ อตฺโถ. เอกสฺมึ กาเล ตาทิเส กาเล ราชกิจฺจานํ สนฺถานเมตฺถ วิจาเรนฺตีติ สนฺธาคารํ, ตสฺมึ สนฺถาคาเรติปิ อตฺโถ. ปติฏฺิตนฺติ ‘‘อนิจฺจํ อนตฺตา’’ติ จ ปฏิฺาตํ. อิทาเนว ปิฏฺึ ปริวตฺเตนฺโตติ ภควโต นลาฏํ อโนโลเกตฺวา วิมุขภาวํ อาปชฺชนฺโต. สุราฆเรติ สุราสมฺปาทกเคเห. ปิฏฺกิลฺชนฺติ ปิฏฺปนกิฬฺชํ. วาลนฺติ จงฺควารํ. สาณสาฏกกรณตฺถนฺติ สาณสาฏกํ กโรนฺติ เอเตนาติ สาณสาฏกกรณํ, สุตฺตํ, ตทตฺถํ. สาณวากา เอเตสุ สนฺตีติ สาณวากา, สาณทณฺฑา. เต คเหตฺวา สาณานํ โธวนสทิสํ กีฬิตชาตํ ยถา ‘‘อุทฺทาลปุปฺผภฺชิกา, สาณภฺชิกา’’ติ จ. กึ โส ภวมาโนติ กีทิโส หุตฺวา โส ภวมาโน, กึ โหนฺโต โลเก อคฺคปุคฺคลสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วาทาโรปนํ นาม ตโต อุตฺตริตรสูรคุโณ เอว ยกฺขาทิภาเวน โส ภวมาโน อภิสมฺภุเณยฺย. อยํ ปน อปฺปานุภาวตาย ปิสาจรูโป กึ เอตฺตกํ กาลํ นิทฺทายนฺโต อชฺช ปพุชฺฌิตฺวา เอวํ วทตีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘กึ ยกฺโข’’ติอาทิ.

๓๕๕. มหามชฺฌนฺหิกสมเยติ มหติ มชฺฌนฺหิกกาเล, คคนมชฺเฌ สูริยคตเวลาย. ทิวาปธานิกา ปธานานุยุฺชกา. วตฺตํ ทสฺเสตฺวาติ ปจฺฉาภตฺตํ ทิวาวิหารูปคมนโต ปุพฺเพ กาตพฺพวตฺตํ ทสฺเสตฺวา ปฏิปชฺชิตฺวา. ภควนฺตํ ทสฺเสนฺโตติ ภควติ คารวพหุมานํ วิภาเวนฺโต อุโภ หตฺเถ กมลมกุลากาเร กตฺวา อุกฺขิปฺป ภควนฺตํ ทสฺเสนฺโต.

ตํ สนฺธายาติ ตํ อปริจฺฉินฺนคณนํ สนฺธาย เอวํ ‘‘มหติยา ลิจฺฉวิปริสายา’’ติ วุตฺตํ. กึ สีเสน ภูมึ ปหรนฺเตเนว วนฺทนา กตา โหติ? เกราฏิกาติ สา. โมเจนฺตาติ ภิกฺขาทานโต โมเจนฺตา. อวกฺขิตฺตมตฺติกาปิณฺโฑ วิยาติ เหฏฺาขิตฺตมตฺติกาปิณฺโฑ วิย. ยตฺถ กตฺถจีติ อตฺตโน อนุรูปํ วจนํ อสลฺลเปนฺโต ยตฺถ กตฺถจิ.

๓๕๖. ทิสฺสติ ‘‘อิทํ อิมสฺส ผล’’นฺติ อปทิสฺสติ เอเตนาติ เทโส, การณํ, ตเทว ตสฺส ปวตฺติฏฺานตาย โอกาโสติ อาห ‘‘กฺจิเทว เทสนฺติ กฺจิ โอกาสํ กิฺจิ การณ’’นฺติ. โอกาโส านนฺติ จ การณํ วุจฺจติ ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๑๖๑; ม. นิ. ๓.๑๒๘-๑๓๑; อ. นิ. ๑.๒๖๘-๒๙๕; วิภ. ๘๐๙). ยทากงฺขสีติ น วทนฺติ อนวเสสธมฺมวิสยตฺตา ปฏิฺาย. ตุมฺหนฺติ ตุมฺหากํ. ยกฺข…เป… ปริพฺพาชกานนฺติ เอตฺถ ‘‘ปุจฺฉาวุโส, ยทากงฺขสี’’ติอาทีนิ (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. อาฬวกสุตฺต) ปุจฺฉาวจนานิ ยถากฺกมํ โยเชตพฺพานิ.

ตฺวาสยํ โลกมิมํ ปรฺจาติ อิทํ มหาสตฺโต นิรยํ สคฺคฺจ เตสํ ปจฺจกฺขโต ทสฺเสตฺวา อาห.

ตคฺฆ เต อหมกฺขิสฺสํ, ยถาปิ กุสโล ตถาติ ยถา ปกาเรน สุกุสโล สพฺพฺู ชานาติ กเถติ, ตถา อหํ กเถสฺสามิ. ตสฺส ปน การณํ อการณฺจ อวิชานนฺโต ราชานํ กโรตุ วา มา วา, อหํ ปน เต อกฺขิสฺสามีติ อาห ‘‘ราชา จ โข…เป… น วา’’ติ.

กถิตนิยาเมเนว กเถนฺโตติ เตปริวฏฺฏกถาย ทุกฺขลกฺขณมฺเปส กเถสฺสติ, อิธ ปน อฺถา สาวเกน อสฺสชินา กถิตํ, อฺถา สมเณน โคตเมนาติ วจโนกาสปริหรณตฺถํ ทุกฺขลกฺขณํ อนามสิตฺวา เถเรน กถิตนิยาเมเนว อนิจฺจานตฺตลกฺขณเมว กเถนฺเตน ภควตา – ‘‘รูปํ อนตฺตา ยาว วิฺาณํ อนตฺตา’’ติ วุตฺเต สจฺจโก ตํ อสมฺปฏิจฺฉนฺโต อุปมาย อตฺถาปเน อุปมาปมาณํ ยถา ‘‘โค วิย ควโย’’ติ อตฺตานํ อุปเมยฺยํ กตฺวา อุปมาปมาเณน ปติฏฺาเปตุกาโม อาห ‘‘อุปมา มํ, โภ โคตม, ปฏิภาตี’’ติ, อุปมํ เต กริสฺสามิ, อุปมายปิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺตีติ อธิปฺปาโย. ภควา อุปมาสเตน, อฺเน วาปิ ปมาเณน ตว อตฺตา ปติฏฺาเปตุํ น ลพฺภา อตฺตโน วิย ปมาณสฺสปิ อนุปลพฺภนโตติ อาห ‘‘ปฏิภาตุ ตํ อคฺคิเวสฺสนา’’ติ. ยถา หิ อตฺตา นาม โกจิ ปรมตฺถโต น อุปลพฺภติ เอกํเสน อนุปลทฺธิโต, เอวสฺส าปกปุคฺคลํ ปมาณมฺปิ น อุปลพฺภติ. เตนาห ‘‘อาหร ตํอุปมํ วิสฺสตฺโถ’’ติ, น เตน ตว อตฺตวาโท ปติฏฺํ ลภตีติ อธิปฺปาโย.

ยํ ทิฏฺํ กายิกํ วา ปุฺาปุฺํ ปุริสปุคฺคเล อุปลพฺภติ, เตน วิฺายติ รูปตฺตายํ ปุริสปุคฺคโล, ตถา ยํ ทิฏฺํ สุขทุกฺขปฏิสํเวทนํ ปุริสปุคฺคเล อุปลพฺภติ, ยํ ทิฏฺํ นีลาทิสฺชานนํ, ยํ ทิฏฺํ รชฺชนทุสฺสนาทิ, ยํ ทิฏฺํ อารมฺมณปฏิวิชานนํ ปุริสปุคฺคเล อุปลพฺภติ, เตน วิฺายติ วิฺาณตฺตายํ ปุริสปุคฺคโลติ. เอวํ รูปาทิลกฺขโณ อตฺตา ตตฺถ ตตฺถ กาเย กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ วิปากํ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทติ, เอวฺเจตํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ, อฺถา กมฺมผลสมฺพนฺโธ น ยุชฺเชยฺยาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมินา กึ ทีเปตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เตติ สตฺตา. ปติฏฺายาติ นิสฺสาย. ‘‘รูปตฺตายํ ปุริสปุคฺคโล’’ติอาทินา รูปาทิธมฺเม ‘‘อตฺตา’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘รูเป ปติฏฺายา’’ติอาทึ วทนฺโต อยํ นิคณฺโ อตฺตโน วาทํ ภินฺทติ ปติฏฺานสฺส, ปติฏฺายกสฺส จ อเภททีปนโต. รูปาทโย เวทนาทิสภาวา อตฺตา ตนฺนิสฺสเยน ปุฺาทิกิริยาสมุปลทฺธิโต อิธ ยํ นิสฺสาย ปุฺาทิกิริยา สมุปลพฺภติ, เต รูปาทโย สตฺตสฺิตา อตฺตสภาวา ทิฏฺา ยถา ตํ เทวตาทีสุ, เย ปน สตฺตสฺิตา ตโต อฺเ อสตฺตสภาวา ทิฏฺา ยถา ตํ กฏฺกลิงฺคราทีสูติ เอวํ สาเธตพฺพํ อตฺถํ สเหตุํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต นิคณฺโ นิทสฺสนํ อาเนสีติ อาห ‘‘อติวิย สการณํ กตฺวา อุปมํ อาหรี’’ติ. ตสฺส ปน ‘‘พลกรณียา’’ติ วุตฺตปุริสปฺปโยคา วิย พีชคามภูตคามาปิ สชีวา เอวาติ ลทฺธีติ เต สทิสูทาหรณภาเวน วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. สเจ ปน เย ชีวสฺส อาธารณภาเวน สหิเตน ปวตฺเตตพฺพภาเวน สลฺลกฺเขตพฺพา, เต สชีวาติ อิจฺฉิตา, น เกวเลน ปวตฺเตตพฺพภาเวน. เอวํ สติ ‘‘พลกรณียา กมฺมนฺตา’’ติ วทนฺเตน วิสทิสูทาหรณภาเวน อุปนีตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

สมตฺโถ นาม นตฺถิ อตฺตวาทภฺชนสฺส อนตฺตตาปติฏฺาปนสฺส จ สุคตาเวณิกตฺตา. ยํ ปเนตรหิ สาสนิกา ยถาสตฺติ ตทุภยํ กโรนฺติ, ตํ พุทฺเธหิ ทินฺนนเย ตฺวา เตสํ เทสนานุสารโต. นิวตฺเตตฺวาติ นีหริตฺวา, วิสุํ กตฺวาติ อตฺโถ. สกลํ เวสาลินฺติ สพฺพเวสาลิวาสินํ ชนํ นิสฺสยูปจาเรน นิสฺสิตํ วทติ ยถา ‘‘คาโม อาคโต’’ติ. สํวฏฺฏิตฺวาติ สมฺปิณฺฑิตฺวา, เอกชฺฌํ คเหตฺวาติ อตฺโถ.

๓๕๗. ปติฏฺเปตฺวาติ ยถา ตํ วาทํ น อวชานาติ, เอวํ ปฏิฺํ กาเรตฺวาติ อตฺโถ. ฆาติ-สทฺโท หึสนตฺโถ, ตโต จ สทฺทวิทู อรหตฺถํ ตาย-สทฺทํ อุปฺปาเทตฺวา ฆาเตตายนฺติ รูปสิทฺธึ อิจฺฉนฺตีติ อาห ‘‘ฆาตารห’’นฺติ. ชาเปตายนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. วตฺติตุฺจ มรหตีติ ม-กาโร ปทสนฺธิกโร. วิเสเสตฺวา ทีเปตีติ ‘‘วตฺตติ’’อิจฺเจว อวตฺวา ‘‘วตฺติตุฺจ มรหตี’’ติ ทุติเยน ปเทน ภควตา วุตฺตํ วิเสเสตฺวา ทีเปติ.

ปาสาทิกํ อภิรูปนฺติ อภิมตรูปสมฺปนฺนํ สพฺพาวยวํ. ตโต เอว สุสชฺชิตํ สพฺพกาลํ สุฏฺุ สชฺชิตาการเมว. เอวํวิธนฺติ ยาทิสํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตํ ทสฺเสติ ‘‘ทุพฺพณฺณ’’นฺติอาทินา. อิมสฺมึ าเนติ ‘‘วตฺตติ เต ตสฺมึ รูเป วโส’’ติ เอตสฺมึ การณคฺคหเณ. การณฺเหตํ ภควตา คหิตํ ‘‘วตฺตติ…เป… มา อโหสี’’ติ. เตเนตํ ทสฺเสติ รูปํ อนตฺตา อวสวตฺตนโต, ยฺหิ วเส น วตฺตติ, ตํ อนตฺตกเมว ทิฏฺํ ยถา ตํ สมฺปตฺติ. วาทนฺติ โทสํ นิคฺคหํ อาโรเปสฺสติ. สตฺตธา มุทฺธา ผลตีติ สหธมฺมิกสากจฺฉาหิ ตถาคเต, ปุจฺฉนฺเต อพฺยากรเณน วิเหสาย กยิรมานตฺตา ตติเย วาเร ธมฺมตาวเสน วิเหสกสฺส สตฺตธา มุทฺธา ผลติ ยถา ตํ สพฺพฺุปฏิฺาย ภควโต สมฺมุขภาวูปคมเน. วชิรปาณิ ปน กสฺมา ิโต โหตีติ? ภควา วิย อนุกมฺปมาโน มหนฺตํ ภยานกํ รูปํ มาเปตฺวา ตาเสตฺวา อิมํ ทิฏฺึ วิสฺสชฺชาเปมีติ ตสฺส ปุรโต อากาเส วชิรํ อาหรนฺโต ติฏฺติ, น มุทฺธํ ผาเลตุกาโม. น หิ ภควโต ปุรโต กสฺสจิ อนตฺโถ นาม โหติ. ยสฺมา ปน ภควา เอกํสโต สหธมฺมิกเมว ปฺหํ ปุจฺฉติ, ตสฺมา อฏฺกถายํ ‘‘ปุจฺฉิเต’’อิจฺเจว วุตฺตํ.

อาทิตฺตนฺติ ทิปฺปมานํ. อกฺขินาสาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน เอฬกสีสสทิสเกสมสฺสุอาทีนํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘ทิฏฺิวิสฺสชฺชาปนตฺถ’’นฺติ วตฺวา นยิทํ ยทิจฺฉาวเสน อาคมนํ, อถ โข อาทิโต มหาพฺรหฺมานํ ปุรโต กตฺวา อตฺตนา กตปฏิฺาวเสนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. นฺติ วชิรปาณึ. ตํ สจฺจกสฺส ปฏิฺาย ปริวตฺตนการณํ. อฺเปิ นุ โขติอาทิ สจฺจกสฺส วีมํสกภาวทสฺสนํ. อวีมํสเกน หิ ตํ ทิสฺวา มหายกฺโขติ วเทยฺย, เตนสฺส อสารุปฺปํ สิยา, อยํ ปน อฺเสํ อภีตภาวํ อุปธาเรตฺวา ‘‘อทฺธาเม ยกฺขํ น ปสฺสนฺติ, ตสฺมา มยฺหเมว ภยํ อุปฺปนฺน’’นฺติ ตีเรตฺวา ยุตฺตปฺปตฺตวเสน ปฏิปชฺชิ.

๓๕๘. อุปธาเรตฺวาติ พฺยากาตพฺพมตฺถํ สลฺลกฺเขตฺวา. เอเสว นโยติ สงฺขารวิฺาเณสุปิ สฺาย วิย นโยติ อตฺโถ. วุตฺตวิปริยาเยนาติ ‘‘อกุสลา ทุกฺขา เวทนา มา อโหสิ, อกุสลา โทมนสฺสสมฺปยุตฺตา สฺา มา อโหสี’’ติอาทินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สปฺปทฏฺวิสนฺติ สพฺพสตฺตานํ สปฺปทฏฺฏฺาเน สรีรปเทเส ปติตํ วิสํ. อลฺลีโนติ สํสิลิฏฺโ. อุปคโตติ น อปคโต. อชฺโฌสิโตติ คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา ิโต. ปริโต ชาเนยฺยาติ สมนฺตโต สพฺพโส กิฺจิปิ อเสเสตฺวา ชาเนยฺย. ปริกฺเขเปตฺวาติ อายตึ อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทนวเสน สพฺพโส เขเปตฺวา. ตถาภูโต จสฺส ขยวยํ อุปเนติ นามาติ อาห ‘‘ขยํ วยํ อนุปฺปาทํ อุปเนตฺวา’’ติ.

๓๕๙. อตฺตโน วาทสฺส อสารภาวโต, ยถาปริกปฺปิตสฺส วา สารสฺส อภาวโต อนฺโตสารวิรหิโต ริตฺโต. วิปฺปการนฺติ ทิฏฺิยา สีลาจารสฺส จ วเสน วิรูปตํ สาปราธตํ สาวชฺชตํ เตสํ อุปริ อาโรเปตฺวา. สินฺนปตฺโตติ ตนุกปตฺโต. วิผาริตนฺติ วิผาฬิตํ.

อสารกรุกฺขปริจิโตติ ปลาสาทิอสารรุกฺขโกฏฺฏเน กตปริจโย. ถทฺธภาวนฺติ วิปกฺกภาวํ, ติกฺขภาวนฺติ อตฺโถ. นตฺถีติ สทา นตฺถีติ น วตฺตพฺพํ. ปริสตีติ จตุปริสมชฺเฌ . ตถา หิ ‘‘คณฺิกํ ปฏิมุฺจิตฺวา ปฏิจฺฉนฺนสรีรา’’ติ วุตฺตํ. ยนฺตารุฬฺหสฺส วิยาติ พฺยากรณตฺถํ วายมยนฺตํ อารุฬฺหสฺส วิย.

๓๖๐. ทิฏฺิวิสูกานีติ ทิฏฺิกิฺจกานิ. ทิฏฺิสฺจริตานีติ ทิฏฺิตาฬนานิ. ทิฏฺิวิปฺผนฺทิตานีติ ทิฏฺิอิฺชิตานิ. เตสํ อธิปฺปายํ ตฺวาติ เตสํ ลิจฺฉวิกุมารานํ อิฺชิเตเนว อชฺฌาสยํ ชานิตฺวา. เตนาห ‘‘อิเม’’ติอาทิ.

๓๖๑. ยสฺมึ อธิคเต ปุคฺคโล สตฺถุสาสเน วิสารโท โหติ ปเรหิ อสํหาริโย, ตํ าณํ วิสารทสฺส ภาโวติ กตฺวา เวสารชฺชนฺติ อาห ‘‘เวสารชฺชปฺปตฺโตติ าณปฺปตฺโต’’ติ. ตโต เอวมสฺส น ปโร ปจฺเจตพฺโพ เอตสฺส อตฺถีติ อปรปฺปจฺจโย. น ปโร ปตฺติโย สทฺทหาตพฺโพ เอตสฺส อตฺถีติ อปรปฺปตฺติโย. กามํ สจฺจโก เสกฺขภูมิ อเสกฺขภูมีติ อิทํ สาสนโวหารํ น ชานาติ. ปสฺสตีติ ปน ทสฺสนกิริยาย วิปฺปกตภาวสฺส วุตฺตตฺตา ‘‘น เอตฺตาวตา ภิกฺขุกิจฺจํ ปริโยสิต’’นฺติ อฺาสิ, ตสฺมา ปุน ‘‘กิตฺตาวตา ปนา’’ติ ปุจฺฉํ อารภิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปสฺสตีติ วุตฺตตฺตา’’ติอาทิ.

ยถาภูตํ ปสฺสตีติ ทสฺสนํ, วิสิฏฺฏฺเน อนุตฺตริยํ, ทสฺสนเมว อนุตฺตริยนฺติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, ทสฺสเนสุ วา อนุตฺตริยํ ทสฺสนานุตฺตริยํ. โลกิยปฺาติ เจตฺถ วิปสฺสนาปฺา เวทิตพฺพา. สา หิ สพฺพโลกิยปฺาหิ วิสิฏฺฏฺเน ‘‘อนุตฺตรา’’ติ วุตฺตา. โลกิยปฏิปทานุตฺตริเยสุปิ เอเสว นโย. อิทานิ นิปฺปริยายโตว ติวิธมฺปิ อนุตฺตริยํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุทฺธโลกุตฺตรเมวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สติปิ สพฺเพสมฺปิ โลกุตฺตรธมฺมานํ อนุตฺตรภาเว อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน อคฺคมคฺคปฺา ตโต อุตฺตริตรสฺส อภาวโต ทสฺสนานุตฺตริยํ. เตนาห ‘‘อรหตฺตมคฺคสมฺมาทิฏฺี’’ติ. เสสานิ มคฺคงฺคานีติ เสสานิ อรหตฺตมคฺคงฺคานิ. ตานิ หิ มตฺถกปฺปตฺตานิ นิพฺพานคามินี ปฏิปทาติ. อคฺคผลวิมุตฺตีติ อคฺคมคฺคสฺส ผลวิมุตฺติ อรหตฺตผลํ. ขีณาสวสฺสาติ สพฺพโส ขียมานาสวสฺส. นิพฺพานทสฺสนนฺติ อคฺคมคฺคสมฺมาทิฏฺิยา สจฺฉิกิริยาภิสมยมาห. ตตฺถ มคฺคงฺคานีติ อฏฺ มคฺคงฺคานิ. จตุสจฺจนฺโตคธตฺตา สพฺพสฺส เยฺยธมฺมสฺส ‘‘จตฺตาริ สจฺจานิ พุทฺโธ’’ติ วุตฺตํ. สจฺจานุคตสมฺโมหวิทฺธํสเนเนว หิ ภควโต สพฺพโส เยฺยาวรณปฺปหานํ. นิพฺพิเสวโนติ นิรุทฺธกิเลสวิเสวโน.

๓๖๒. ธํสีติ อนุทฺธํสนสีลา. อนุปหตนฺติ อวิกฺขิตฺตํ. สกลนฺติ อนูนํ. กายงฺคนฺติ กายเมว องฺคนฺติ วทนฺติ, กายสงฺขาตํ องฺคํ สีสาทิอวยวนฺติ อตฺโถ. ตถา ‘‘โหตุ, สาธู’’ติ เอวมิทํ วาจาย อวยโว วาจงฺคนฺติ.

๓๖๓. อาหรนฺตีติ อภิหรนฺติ. ปุฺนฺติ ปุฺผลสงฺขาโต อานุภาโว. ปุฺผลมฺปิ หิ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘ปุฺ’’นฺติ วุจฺจติ – ‘‘กุสลานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ สมาทานเหตุ เอวมิทํ ปุฺํ ปวฑฺฒตี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๘๐). เตนาห ‘‘อายตึ วิปากกฺขนฺธา’’ติ. ปุฺมหีติ มหติ ปุฺผลวิภูติ เสตจฺฉตฺตมกุฏจามราทิ. เตน วุตฺตํ ‘‘วิปากกฺขนฺธานํเยว ปริวาโร’’ติ. ลิจฺฉวีหิ เปสิเตน ขาทนียโภชนีเยน สมโณ โคตโม สสาวกสงฺโฆ มยา ปริวิสิโต, ตสฺมา ลิจฺฉวีนเมว ตํ ปุฺํ โหตีติ. เตนาห ‘‘ตํ ทายกานํ สุขาย โหตู’’ติ. ยสฺมา ปน ภควโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ สจฺจเกน ทานํ ทินฺนํ, น ลิจฺฉวีหิ, ตสฺมา ภควา สจฺจกสฺส สตึ ปริวตฺเตนฺโต ‘‘ยํ โข’’ติอาทิมาห. เตน วุตฺตํ ‘‘อิติ ภควา’’ติอาทิ. นิคณฺสฺส มเตน วินาเยวาติ สจฺจกสฺส จิตฺเตน วินา เอว ตสฺส ทกฺขิณํ เขตฺตคตํ กตฺวา ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘อตฺตโน ทินฺนํ ทกฺขิณํ…เป… นิยฺยาเตสี’’ติ.

จูฬสจฺจกสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๖. มหาสจฺจกสุตฺตวณฺณนา

๓๖๔. เอกํสมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรตีติ อิมินา ตทา ภควโต เวสาลิยํ นิวาสปริจฺฉินฺโน ปุพฺพณฺหาทิเภโท สพฺโพ สมโย สาธารณโต คหิโต, ตถา เตน โข ปน สมเยนาติ จ อิมินา. ปุพฺพณฺหสมยนฺติ ปน อิมินา ตพฺพิเสโส, โย ภิกฺขาจารตฺถาย ปจฺจเวกฺขณกาโล. อฏฺกถายํ ปน ‘‘ตีหิ ปเทหิ เอโกว สมโย วุตฺโต’’ติ วุตฺตํ วิเสสสฺส สามฺนฺโตคธตฺตา. มุขโธวนสฺส ปุพฺพกาลกิริยาภาวสามฺโต วุตฺตํ ‘‘มุขํ โธวิตฺวา’’ติ. มุขํ โธวิตฺวา เอว หิ วาสธุโร เจ, เวลํ สลฺลกฺเขตฺวา ยถาจิณฺณํ ภาวนานุโยคํ, คนฺถธุโร เจ, คนฺถปริจเย กติปเย นิสชฺชวาเร อนุยุฺชิตฺวา ปตฺตจีวรํ อาทาย วิตกฺกมาฬํ อุปคจฺฉติ.

การณํ ยุตฺตํ, อนุจฺฉวิกนฺติ อตฺโถ. ปุพฺเพ ยถาจินฺติตํ ปฺหํ อปุจฺฉิตฺวา อฺํ ปุจฺฉนฺโต มคฺคํ เปตฺวา อุมฺมคฺคโต ปริวตฺเตนฺโต วิย โหตีติ อาห ‘‘ปสฺเสน ตาว ปริหรนฺโต’’ติ.

๓๖๕. อูรุกฺขมฺโภปิ นาม ภวิสฺสตีติ เอตฺถ นาม-สทฺโท วิมฺหยตฺโถติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘วิมฺหยตฺถวเสนา’’ติอาทิ. ‘‘อนฺโธ นาม ปพฺพตํ อภิรุหิสฺสตี’’ติอาทีสุ วิย วิมฺหยวาจีสทฺทโยเคน หิ ‘‘ภวิสฺสตี’’ติ อนาคตวจนํ. กายนฺวยนฺติ กายานุคตํ. ‘‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๓๗๙; ม. นิ. ๑.๑๑๒; ม. นิ. ๓.๑๕๔) กายสฺส อสุภานิจฺจาทิตาย อนุปสฺสนา กายภาวนาติ อาห ‘‘กายภาวนาติ ปน วิปสฺสนา วุจฺจตี’’ติ. อนาคตรูปนฺติ อภีเต อตฺเถ อนาคตสทฺทาโรปนํ อนาคตปฺปโยโค น สเมติ. อตฺโถปีติ ‘‘อูรุกฺขมฺโภปิ นาม ภวิสฺสตี’’ติ วุตฺตอตฺโถปิ น สเมติ. อยนฺติ อตฺตกิลมถานุโยโค. เตสนฺติ นิคณฺานํ.

๓๖๖. อตฺตโน อธิปฺเปตกายภาวนํ วิตฺถาเรนฺโต วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต เย ตํ อนุยุตฺตา, เต นามโคตฺตโต วิภาเวนฺโต ‘‘นนฺโท วจฺโฉ’’ติอาทิมาห. กิลิฏฺตปานนฺติ กายสฺส กิเลสนตปานํ ปุคฺคลานํ. ชาตเมทนฺติ เมทภาวาปตฺติวเสน อุปฺปนฺนเมทํ. ปุริมํ ปหายาติ กาลปริจฺเฉเทน อนาหารอปฺปาหารตาทิวเสน กายสฺส อปจินนํ เขทนํ ปริจฺจชิตฺวา. กายภาวนาปน น ปฺายตีติ นิยมํ ปรมตฺถโต กายภาวนาปิ ตว าเณน น ายติ, เสสโตปิ น ทิสฺสติ.

๓๖๗. อิมสฺมึ ปน าเนติ ‘‘กายภาวนมฺปิ โข ตฺวํ, อคฺคิเวสฺสน, น อฺาสิ, กุโต ปน ตฺวํ จิตฺตภาวนํ ชานิสฺสสี’’ติ อิมสฺมึ าเน. ตถา ‘‘โย ตฺวํ เอวํ โอฬาริกํ ทุพฺพลํ กายภาวนํ น ชานาสิ, โส ตฺวํ กุโต สนฺตสุขุมํ จิตฺตภาวนํ ชานิสฺสสี’’ติ เอตสฺมึ อตฺถวณฺณนาาเน. อพุทฺธวจนํ นาเมตํ ปทนฺติ กายภาวนาสฺิตวิปสฺสนาโต จิตฺตภาวนา สนฺตา, วิปสฺสนา ปน ปาทกชฺฌานโต โอฬาริกา เจว ทุพฺพลา จาติ อยฺจ เอตสฺส ปทสฺส อตฺโถ. ‘‘อพุทฺธวจนํ นาเมตํ วจนํ สิยา’’ติ วตฺวา เถโร ปกฺกมิตุํ อารภติ. อถ นํ มหาสีวตฺเถโร ‘‘วิปสฺสนา นาเมสา น อาทิโต สุพฺรูหิตา พลวตี ติกฺขา วิสทา โหติ, ตสฺมา ตรุณวเสนายมตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทิสฺสติ, ภิกฺขเว’’ติ สุตฺตปทํ (สํ. นิ. ๒.๖๒) อาหริ. ตตฺถ อาทานนฺติ ปฏิสนฺธิ. นิกฺเขปนนฺติ จุติ. โอฬาริกนฺติ อรูปธมฺเมหิ ทุฏฺุลฺลภาวตฺตา โอฬาริกํ. กายนฺติ จตุสนฺตติรูปสมูหภูตํ กายํ. โอฬาริกนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส, โอฬาริกากาเรนาติ อตฺโถ. เตเนว วุตฺตํ ‘‘อาทานมฺปิ นิกฺเขปนมฺปี’’ติ.

๓๖๘. สุขสาราเคน สมนฺนาคโตติ สุขเวทนาย พลวตรราเคน สมงฺคีภูโต. ปฏฺาเน ปฏิสิทฺธา อวจเนเนว. ตสฺมาติ สุเข ิเต เอว ทุกฺขสฺสานุปฺปชฺชนโต. เอวํ วุตฺตนฺติ ‘‘สุขาย เวทนาย นิโรธา อุปฺปชฺชติ ทุกฺขา เวทนา’’ติ เอวํ วุตฺตํ, น อนนฺตราว อุปฺปชฺชนโต. เขเปตฺวาติ กุสลานิ เขเปตฺวา. คณฺหิตฺวา อตฺตโน เอว โอกาสํ คเหตฺวา. อุภโตปกฺขํ หุตฺวาติ ‘‘กทาจิ สุขเวทนา, กทาจิ ทุกฺขเวทนา’’ติ ปกฺขทฺวยวเสนปิ เวทนา จิตฺตสฺส ปริยาทาย โหติ ยถากฺกมํ อภาวิตกายสฺส อภาวิตจิตฺตสฺส.

๓๖๙. วิปสฺสนา จ สุขสฺส ปจฺจนีกาติ สุกฺขวิปสฺสกสฺสอาทิกมฺมิกสฺส มหาภูตปริคฺคหาทิกาเล พหิ จิตฺตจารํ นิเสเธตฺวา กมฺมฏฺาเน เอว สตึ สํหรนฺตสฺส อลทฺธสฺสาทํ กายสุขํ น วินฺทติ, สมฺพาเธ วเช สนฺนิรุทฺโธ โคคโณ วิย วิหฺติ วิปฺผนฺทติ, อจฺจาสนฺนเหตุกฺจ สรีเร ทุกฺขํ อุปฺปชฺชเตว. เตน วุตฺตํ ‘‘ทุกฺขสฺส อาสนฺนา’’ติ. เตนาห ‘‘วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา’’ติอาทิ. อทฺธาเน คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเตติ มหาภูตปริคฺคหาทิวเสน กาเล คจฺฉนฺเต. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ ตสฺมึ สรีรปเทเส. ทุกฺขํ ทูราปคตํ โหติ สมาปตฺติพเลน วิกฺขมฺภิตตฺตา อปฺปนาภาวโต. อนปฺปกํ วิปุลํ. สุขนฺติ ฌานสุขํ . โอกฺกมตีติ ฌานสมุฏฺานปณีตรูปวเสน รูปกายํ อนุปวิสติ, นามกาโยกฺกมเน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. กายปสฺสทฺธิกมฺมิกสฺสปิ สมฺมสนภาวนา ปฏฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส กสฺสจิ อาทิโตว กายกิลมถจิตฺตุปฆาตาปิ สมฺภวนฺติ, สมาธิสฺส ปน อปจฺจนีกตฺตา สินิทฺธภาวโต จ น สุกฺขวิปสฺสนา วิย สุขสฺส วิปจฺจนีโก, อนุกฺกเมน จ ทุกฺขํ วิกฺขมฺเภตีติ อาห ‘‘ยถา สมาธี’’ติ. ยถา สมาธิ, วิปสฺสนาย ปเนตํ นตฺถีติ อาห ‘‘น จ ตถา วิปสฺสนา’’ติ. เตน วุตฺตนฺติ ยสฺมา วิปสฺสนา สุขสฺส ปจฺจนีกา, สา จ กายภาวนา, เตน วุตฺตํ ‘‘อุปฺปนฺนาปิ สุขา เวทนา จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, ภาวิตตฺตา กายสฺสา’’ติ. ตถา ยสฺมา สมาธิ ทุกฺขสฺส ปจฺจนีโก, โส จ จิตฺตภาวนา, เตน วุตฺตํ ‘‘อุปฺปนฺนาปิ ทุกฺขา เวทนา จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, ภาวิตตฺตา จิตฺตสฺสา’’ติ โยชนา.

๓๗๐. คุเณ ฆฏฺเฏตฺวาติ อปเทเสน วินา สมีปเมว เนตฺวา. ตํ วต มม จิตฺตํ อุปฺปนฺนา สุขา เวทนา ปริยาทาย สฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชตีติ โยชนา.

๓๗๑. กึ น ภวิสฺสติ, สุขาปิ ทุกฺขาปิ เวทนา ยถาปจฺจยํ อุปฺปชฺชเตวาติ อตฺโถ. ตมตฺถนฺติ สุขทุกฺขเวทนานํ อุปฺปตฺติยา อตฺตโน จิตฺตสฺส อนภิภวนียตาสงฺขาตํ อตฺถํ. ตตฺถ ตาว ปาสราสิสุตฺเต โพธิปลฺลงฺเก นิสชฺชา ‘‘ตตฺเถว นิสีทิ’’นฺติ วุตฺตา. อิธ มหาสจฺจกสุตฺเต ทุกฺกรการิกาย ทุกฺกรจรเณ นิสชฺชา ‘‘ตตฺเถว นิสีทิ’’นฺติ วุตฺตา.

๓๗๔. ฉนฺทกรณวเสนาติ ตณฺหายนวเสนาติ อตฺโถ. สิเนหกรณวเสนาติ สิเนหนวเสน. มุจฺฉากรณวเสนาติ โมหนวเสน ปมาทาปาทเนน. วิปาสากรณวเสนาติ ปาตุกมฺยตาวเสน. อนุทหนวเสนาติ ราคคฺคินา อนุทหนวเสน. โลกุตฺตรมคฺคเววจนเมว วฏฺฏนิสฺสรณสฺส อธิปฺเปตตฺตา.

อลฺลคฺคหเณน กิเลสานํ อสมุจฺฉินฺนภาวํ ทสฺเสติ, สสฺเนหคฺคหเณน อวิกฺขมฺภิตภาวํ, อุทเก ปกฺขิตฺตภาวคฺคหเณน สมุทาจาราวตฺถํ, อุทุมฺพรกฏฺคฺคหเณน อตฺตภาวสฺส อสารกตฺตํ. อิมินาว นเยนาติ ‘‘อลฺลํ อุทุมฺพรกฏฺ’’นฺติอาทินา วุตฺตนเยน. สปุตฺตภริยปพฺพชฺชายาติ ปุตฺตภริเยหิ สทฺธึ กตปริพฺพาชกปพฺพชฺชาวเสน เวทิตพฺพา. กุฏีจกพหูทกหํส-ปรมหํสาทิเภทา พฺราหฺมณปพฺพชฺชา.

๓๗๖. กุโตปิ อิมสฺส อาโปสิเนโห นตฺถีติ โกฬาปํ. เตนาห ‘‘ฉินฺนสิเนหํ นิราป’’นฺติ. โกฬนฺติ วา สุกฺขกลิงฺครํ วุจฺจติ, โกฬํ โกฬภาวํ อาปนฺนนฺติ โกฬาปํ. ปฏิปนฺนสฺส อุปกฺกมมหตฺตนิสฺสิตตา ปกติยา กิเลเสหิ อนภิภูตตาย. อตินฺตตา ปฏิปกฺขภาวนาย. ตถา หิ สุกฺขโกฬาปภาโว, อารกา อุทกา ถเล นิกฺขิตฺตภาโว จ นิทสฺสิโต. โอปกฺกมิกาหีติ กิเลสอตินิคฺคณฺหนุปกฺกมปฺปภวาหิ. เวทนาหีติ ปฏิปตฺติเวทนาหิ. ทุกฺขา ปฏิปทา หิ อิธาธิปฺเปตา.

๓๗๗. กึ ปน น สมตฺโถ, ยโต เอวํ ปเรหิ จินฺติตุมฺปิ อสกฺกุเณยฺยํ ทุกฺกรจริยํ ฉพฺพสฺสานิ อกาสีติ อธิปฺปาโย. กตฺวาปิ อกตฺวาปิ สมตฺโถว การณสฺส นิปฺผนฺนตฺตา. ‘‘ยถาปิ สพฺเพสมฺปิ โข โพธิสตฺตานํ จริมภเว อนฺตมโส สตฺตาหมตฺตมฺปิ ธมฺมตาวเสน ทุกฺกรจริยา โหติเยว, เอวํ ภควา สมตฺโถ ทุกฺกรจริยํ กาตุํ, เอวฺจ นํ อกาสิ, น ปน ตาย พุทฺโธ ชาโต, อถ โข มชฺฌิมาย เอว ปฏิปตฺติยา’’ติ ตสฺสา พฺยติเรกมุเขน สเทวกสฺส โลกสฺส โพธาย อมคฺคภาวทีปนตฺถํ, อิมสฺส ปน ภควโต กมฺมวิปากวเสน ฉพฺพสฺสานิ ทุกฺกรจริยา อโหสิ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อวจาหํ โชติปาโล, กสฺสปํ สุคตํ ตทา;

กุโต นุ โพธิ มุณฺฑสฺส, โพธิ ปรมทุลฺลภา.

เตน กมฺมวิปาเกน, อจรึ ทุกฺกรํ พหุํ;

ฉพฺพสฺสานุรุเวลายํ, ตโต โพธิมปาปุณึ.

นาหํ เอเตน มคฺเคน, ปาปุณึ โพธิมุตฺตมํ;

กุมคฺเคน คเวสิสฺสํ, ปุพฺพกมฺเมน วาริโต’’ติ.

ทุกฺกรจริยาย โพธาย อมคฺคภาวทสฺสนตฺถํ ทุกฺกรจริยํ อกาสีติ เกจิ. อถ วา โลกนาถสฺส อตฺตโน ปรกฺกมสมฺปตฺติทสฺสนตฺถาย ทุกฺกรจริยา. ปณีตาธิมุตฺติยา หิ ปรมุกฺกํสคตภาวโต อภินีหารานุรูปํ สมฺโพธิยํ ติพฺพฉนฺทตาย สิขาปฺปตฺติยา ตทตฺถํ อีทิสมฺปิ นาม ทุกฺกรจริยํ อกาสีติ โลเก อตฺตโน วีริยานุภาวํ วิภาเวตุํ – ‘‘โส จ เม ปจฺฉา ปีติโสมนสฺสาวโห ภวิสฺสตี’’ติ โลกนาโถ ทุกฺกรจริยํ อกาสิ. เตนาห ‘‘สเทวกสฺส โลกสฺสา’’ติอาทิ. ตตฺถ วีริยนิมฺมถนคุโณติ วีริยสฺส สํวฑฺฒนสมฺปาทนคุโณ. ยถาวุตฺตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ปาสาเท’’ติอาทิ วุตฺตํ. สงฺคาเม ทฺเว ตโย สมฺปหาเรติ ทฺวิกฺขตฺตุํ ติกฺขตฺตุํ วา ปรเสนาย ปหารปโยเค. ปธานวีริยนฺติ สมฺมปฺปธาเนหิ อาเสวนวีริยํ, สพฺพํ วา ปุพฺพภาควีริยํ.

อภิทนฺตนฺติ อภิภวนทนฺตํ, อุปริทนฺตนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อุปริทนฺต’’นฺติ. โส หิ อิตรํ มุสลํ วิย อุทุกฺขลํ วิเสสโต กสฺสจิ ขาทนกาเล อภิภุยฺย วตฺตติ. กุสลจิตฺเตนาติ พลวสมฺมาสงฺกปฺปยุตฺเตน กุสลจิตฺเตน. อกุสลจิตฺตนฺติ กามวิตกฺกาทิสหิตํ อกุสลจิตฺตํ. อกุสลจิตฺตสฺส ปวตฺติตุํ อปฺปทานํ นิคฺคโห. ตํตํปฏิกฺเขปวเสน วิโนทนํ อภินิปฺปีฬนํ. วีริยตาเปน วิกฺขมฺภนํ อภิสนฺตาปนํ. สทรโถติ สปริฬาโห. ปธาเนนาติ ปทหเนน, กายสฺส กิลมถุปฺปาทเกน วีริเยนาติ อตฺโถ. วิทฺธสฺสาติ ตุทสฺส. สโตติ สมานสฺส.

๓๗๘. สีสเวนนฺติ สีสํ รชฺชุยา พนฺธิตฺวา ทณฺฑเกน ปริวตฺตกเวนํ. อรหนฺโต นาม เอวรูปา โหนฺตีติ อิมินา ยถายํ, เอวํ วิสฺีภูตาปิ หุตฺวา วิหรนฺตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘มตกสทิสา’’ติ, เวทนาปฺปตฺตา วิย โหนฺตีติ อตฺโถ. สุปินปฺปฏิคฺคหณโต ปฏฺายาติ ปฏิสนฺธิคฺคหเณ เสตวารณสุปินํ ปสฺสิตฺวา พฺราหฺมเณหิ พฺยากตกาลโต ปฏฺาย.

๓๗๙. ธมฺมสรีรสฺส อโรคภาเวน สาธูติ มริสนิโยติ มาริโส, ปิยายนวจนเมตํ. เตนาห ‘‘สมฺปิยายมานา’’ติอาทิ. อชชฺชิตนฺติ เอวํ อภุฺชิตํ ภการสฺส ชการาเทสํ กตฺวา. เตนาห ‘‘อโภชน’’นฺติ. เอวํ มา กริตฺถาติ ‘‘โลมกูเปหิ อชฺโฌหาเรสฺสาม อนุปฺปเวเสสฺสามา’’ติ ยถา ตุมฺเหหิ วุตฺตํ, เอวํ มา กริตฺถ. กสฺมา? ยาเปสฺสามหนฺติ อหฺจ ยาวทตฺถํ อาหารมตฺตํ ภุฺชนฺโต ยถา ยาเปสฺสามิ, เอวํ อาหารํ ปฏิเสวิสฺสามิ.

๓๘๐-๘๑. เอตาว ปรมนฺติ เอตฺตกํ ปรมํ, น อิโต ปรํ โอปกฺกมิกทุกฺขเวทนาเวทิยนํ อตฺถีติ อตฺโถ. รฺโ คเหตพฺพนงฺคลโต อฺานิ สนฺธาย ‘‘เอเกน อูน’’นฺติ วุตฺตํ. ตํ สุวณฺณปริกฺขตํ, อิตรานิ รชตปริกฺขตานิ. เตนาห ‘‘อมจฺจา เอเกนูนอฏฺสตรชตนงฺคลานี’’ติ. อาฬารุทกสมาคเม ลทฺธชฺฌานานิ วฏฺฏปาทกานิ, อานาปานสมาธิ ปน กายคตาสติปริยาปนฺนตฺตา สพฺเพสฺจ โพธิสตฺตานํ วิปสฺสนาปาทกตฺตา ‘‘โพธาย มคฺโค’’ติ วุตฺโต. พุชฺฌนตฺถายาติ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ, สพฺพสฺเสว วา เยฺยธมฺมสฺส อภิสมฺพุชฺฌนาย . สติยา อนุสฺสรณกวิฺาณํ สตานุสาริวิฺาณํ. กสฺสา ปน สติยาติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘นยิท’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

๓๘๒. ปจฺจุปฏฺิตาติ ตํตํวตฺตกรณวเสน ปติอุปฏฺิตา อุปฏฺายกา. เตนาห ‘‘ปณฺณสาลา’’ติอาทิ. ปจฺจยพาหุลฺลิโกติ ปจฺจยานํ พาหุลฺลาย ปฏิปนฺโน. อาวตฺโตติ ปุพฺเพ ปจฺจยเคธปฺปหานาย ปฏิปนฺโน, อิทานิ ตโต ปฏินิวตฺโต. เตนาห ‘‘รสคิทฺโธ…เป… อาวตฺโต’’ติ. ธมฺมนิยาเมนาติ ธมฺมตาย. ตเมว ธมฺมตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โพธิสตฺตสฺสา’’ติอาทิมาห. พาราณสิเมว ตตฺถาปิ จ สพฺพพุทฺธานํ อวิชหิตธมฺมจกฺกปวตฺตนฏฺานเมว อคมํสุ. ปฺจวคฺคิยา กิร วิสาขมาสสฺส อทฺธมาสิยํ คตา. เตนาห ‘‘เตสุ คเตสุ อฑฺฒมาสํ กายวิเวกํ ลภิตฺวา’’ติ.

๓๘๗. ‘‘อทฺธาโภโต โคตมสฺส สาวกาจิตฺตภาวนานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺติ, โน กายภาวน’’นฺติ อิมํ สนฺธายาห ‘‘เอกํ ปฺหํ ปุจฺฉิ’’นฺติ. อิมํ ธมฺมเทสนนฺติ ‘‘อภิชานามิ โข ปนาห’’นฺติอาทิกํ ธมฺมเทสนํ. อสลฺลีโน ตณฺหาทิฏฺิกิเลสานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา เตหิ สพฺพโส น ลิตฺโต. อนุปลิตฺโตติ ตสฺเสว เววจนํ ตณฺหานนฺทิยา อภาเวน. โคจรชฺฌตฺตเมวาติ โคจรชฺฌตฺตสฺิเต ผลสมาปตฺติยา อารมฺมเณ, นิพฺพาเนติ อตฺโถ. ยํ สนฺธาย ปาฬิยํ ‘‘ปุริมสฺมึ สมาธินิมิตฺเต’’ติ วุตฺตํ สนฺนิสีทาเปมีติ ผลสมาปตฺติสมาธินา อจฺจนฺตสมาทานวเสน จิตฺตํ สมฺมเทว นิสีทาเปมิ. ปุพฺพาโภเคนาติ สมาปชฺชนโต ปุพฺเพ ปวตฺตอาโภเคน. ปริจฺฉินฺทิตฺวาติ สมาปชฺชนกฺขณํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา. เตนาห ‘‘สาธุการ…เป… อวิจฺฉินฺเนเยวา’’ติ. เอวมสฺส ปริจฺฉินฺนกาลสมาปชฺชนํ ยถาปริจฺฉินฺนกาลํ วุฏฺานฺจ พุทฺธานํ น ภาริยํ วสีภาวสฺส ตถาสุปฺปคุณภาวโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘พุทฺธานํ หี’’ติอาทิ. ธมฺมสมฺปฏิคฺคาหกานํ อสฺสาสวาเร วา. ตทา หิ เทสิยมานํ ธมฺมํ อุปธาเรตุํ น สกฺโกนฺติ, ตสฺมา ตสฺมึ ขเณ เทสิตเทสนา นิรตฺถกา สิยา. น หิ พุทฺธานํ นิรตฺถกา กิริยา อตฺถิ.

โอกปฺปนียเมตนฺติ ‘‘ตสฺสา เอว กถายา’’ติอาทินา วุตฺตํ อติวิย อจฺฉริยคตํ อฏฺุปฺปตฺตึ สุตฺวา อีทิสี ปฏิปตฺติ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺเสว โหตีติ อุปวาทวเสน วทติ, น สภาเวน. เตนาห ‘‘สตฺถริ ปสาทมตฺตมฺปิ น อุปฺปนฺน’’นฺติ. กายทรโถติ ปจฺจยวิเสสวเสน รูปกายสฺส ปริสฺสมากาโร. อุปาทินฺนเกติ อินฺทฺริยพทฺเธ. อนุปาทินฺนเกติ อนินฺทฺริยพทฺเธ. วิกสนฺติ สูริยรสฺมิสมฺผสฺเสน. ตทภาเวน มกุลานิ โหนฺติ. เกสฺจิ ตินฺตินิกาทิรุกฺขานํ . ปติลียนฺติ นิสฺสยรูปธมฺมอวิปฺผาริกตาย. อรูปธมฺมตาย ปฺจวิฺาณานฺเจว กิริยามยวิฺาณานฺจ อปฺปวตฺติสฺิตา อวิปฺผาริกตา โหติ, ยตฺถ นิทฺทาสมฺา. เตนาห ‘‘ทรถวเสน ภวงฺคโสตฺจ อิธ นิทฺทาติ อธิปฺเปต’’นฺติ. ตตฺถ ทรถวเสนาติ ทรถวเสเนว, น ถินมิทฺธวเสนาติ อวธารณํ อวธารณผลฺจ นิทฺธาเรตพฺพํ. ตํ สนฺธายาติ กายสฺส ทรถสงฺขาตสรีรคิลานเหตุกํ นิทฺทํ สนฺธาย. สรีรคิลานฺจ ภควโต นตฺถีติ น สกฺกา วตฺตุํ ‘‘ปิฏฺิ เม อาคิลายตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๐๐; ม. นิ. ๒.๒๒; จูฬว. ๓๔๕) วจนโต. สมฺโมหวิหารสฺมินฺติ ปจฺจตฺเต เอตํ ภุมฺมวจนนฺติ อาห ‘‘สมฺโมหวิหาโรติ วทนฺตี’’ติ, สมฺโมหวิหารสฺมึ วา ปริยาปนฺนํ เอตํ วทนฺติ, ยทิทํ ทิวา นิทฺโทกฺกมนนฺติ โยชนา.

๓๘๙. อุปนีเตหีติ โทสมคฺคํ นินฺทาปถํ อุปนีเตหิ. อภินนฺทิตฺวาติ สมฺปิยายิตฺวา. เตนาห ‘‘จิตฺเตน สมฺปฏิจฺฉนฺโต’’ติ. อนุโมทิตฺวาติ ‘‘สาธุ สาธู’’ติ เทสนาย โถมนวเสน อนุโมทิตฺวา. เตนาห ‘‘วาจายปิ ปสํสนฺโต’’ติ. สมฺปตฺเต กาเลติ ปพฺพชฺชาโยคฺเค กาเล อนุปฺปตฺเต.

คณํ วิโนเทตฺวาติ คณํ อปเนตฺวา คณปลิโพธํ ฉินฺทิตฺวา. ปปฺจนฺติ อวเสสกิเลสํ. ‘‘ปุฺวา ราชปูชิโต’’ติ วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘ตสฺมิฺหิ กาเล’’ติอาทิ วุตฺตํ. ฉนฺทวาสหรเณน อุโปสถกมฺมํ กโรนฺโต.

สกลํ รตฺตึ พุทฺธคุณานํเยว กถิตตฺตา เถรสฺส าณํ เทสนาวิภวฺจ วิภาเวนฺโต อาห ‘‘เอตฺตกาว, ภนฺเต, พุทฺธคุณา’’ติ. อิมาย, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ธมฺมกถาย อนวเสสโต พุทฺธคุณา กถิตา วิย ชายนฺติ, เอวํ สนฺเตปิ อนนฺตาปริเมยฺยาว เต, กึ อิโต ปเรปิ วิชฺชนฺเตวาติ เถรํ ตตฺถ สีหนาทํ นทาเปตุกาโม อาห ‘‘อุทาหุ อฺเปิ อตฺถี’’ติอาทิ. รชฺชสฺส ปเทสิกตฺตา, ยถาวุตฺตสุภาสิตสฺส จ อนคฺฆตฺตา วุตฺตํ ‘‘อยํ เม ทุคฺคตปณฺณากาโร’’ติ. ติโยชนสติกนฺติ อิทํ ปริกฺเขปวเสน วุตฺตํ, ตฺจ โข มนุสฺสานํ ปริโภควเสนาติ ทฏฺพฺพํ.

มหาสจฺจกสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๗. จูฬตณฺหาสงฺขยสุตฺตวณฺณนา

๓๙๐. ตตฺราติ ตสฺมึ ปุพฺพารามมิคารมาตุปาสาทานํ อตฺถวิภาวเน อยํ อิทานิ วุจฺจมานา อนุปุพฺพี กถา. มณีนนฺติ เอตฺถ ปทุมราคมณีนํ อธิปฺเปตตฺตา อาห ‘‘อฺเหิ จา’’ติ. เตน อินฺทนีลาทิมณีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. นีลปีตโลหิโตทาตมฺชิฏฺปภสฺสรกพรวณฺณวเสน สตฺตวณฺเณหิ.

ตณฺหา สพฺพโส ขียนฺติ เอตฺถาติ ตณฺหาสงฺขโย (อ. นิ. ฏี. ๓.๗.๖๑), ตสฺมึ. ตณฺหาสงฺขเยติ จ วิสเย อิทํ ภุมฺมนฺติ อาห ‘‘ตํ อารมฺมณํ กตฺวา’’ติ. วิมุตฺตจิตฺตตายาติ สพฺพสํกิเลเสหิ วิมุตฺตจิตฺตตาย. อปรภาคปฏิปทา นาม อริยสจฺจาภิสมโย, สา สาสนจาริโคจรา ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพโตติ อาห ‘‘ปุพฺพภาคปฺปฏิปทํ สํขิตฺเตน เทเสถาติ ปุจฺฉตี’’ติ. อกุปฺปธมฺมตาย ขยวยสงฺขาตํ อนฺตํ อตีตาติ อจฺจนฺตา, โส เอว อปริหานสภาวตฺตา อจฺจนฺตา นิฏฺา เอตสฺสาติ อจฺจนฺตนิฏฺโ. เตนาห ‘‘เอกนฺตนิฏฺโ สตตนิฏฺโติ อตฺโถ’’ติ. น หิ ปฏิวิทฺธสฺส โลกุตฺตรธมฺมสฺส ทสฺสนํ กุปฺปนํ นาม อตฺถิ. อจฺจนฺตเมว จตูหิ โยเคหิ เขโม เอตสฺส อตฺถีติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี. มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส วุสิตตฺตา, ตสฺส จ อปริหานสภาวตฺตา อจฺจนฺตํ พฺรหฺมจารีติ อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี. เตนาห ‘‘นิจฺจพฺรหฺมจารีติ อตฺโถ’’ติ. ปริโยสานนฺติ พฺรหฺมจริยสฺส ปริโยสานํ.

เวคายตีติ ตุริตายติ. สลฺลกฺเขสีติ จินฺเตสิ, อตฺตนา ยถา สุตาย สตฺถุ เทสนาย อนุสฺสรณวเสน อุปธาเรสิ. อนุคฺคณฺหิตฺวาวาติ อตฺถวินิจฺฉยวเสน อนุคฺคเหตฺวา เอว. ฉสุ ทฺวาเรสุ นิยุตฺตาติ ฉทฺวาริกา, เตหิ.

ปฺจกฺขนฺธาติ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. สกฺกายสพฺพฺหิ สนฺธาย อิธ ‘‘สพฺเพ ธมฺมา’’ติ วุตฺตํ วิปสฺสนาวิสยสฺส อธิปฺเปตตฺตา, ตสฺมา อายตนธาตุโยปิ ตคฺคติกา เอว ทฏฺพฺพา. เตนาห ภควา ‘‘นาลํ อภินิเวสายา’’ติ. น ยุตฺตา อภินิเวสาย ‘‘เอตํ มม, เอโส เม อตฺตา’’ติ อชฺโฌสานาย. ‘‘อลเมว นิพฺพินฺทิตุํ อลํ วิรชฺชิตุ’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๗๒; สํ. นิ. ๒.๑๒๔-๑๒๕, ๑๒๘, ๑๓๔, ๑๔๓) วิย อลํ-สทฺโท ยุตฺตตฺโถปิ โหตีติ อาห ‘‘น ยุตฺตา’’ติ. สมฺปชฺชนฺตีติ ภวนฺติ. ยทิปิ ‘‘ตติยา, จตุตฺถี’’ติ อิทํ วิสุทฺธิทฺวยํ อภิฺาปฺา, ตสฺสา ปน สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนภาวโต, สติ จ ปจฺจยปริคฺคเห สปฺปจฺจยตฺตา (นามรูปสฺส อนิจฺจตา, อนิจฺจํ ทุกฺขํ, ทุกฺขฺจ อนตฺตาติ อตฺถโต) ลกฺขณตฺตยํ สุปากฏเมว โหตีติ อาห ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ าตปริฺาย อภิชานาตี’’ติ. ตเถว ตีรณปริฺายาติ อิมินา อนิจฺจาทิภาเวน นาลํ อภินิเวสายาติ นามรูปสฺส อุปสํหรติ, น อภิฺาปฺานํ สมฺภารธมฺมานํ. ปุริมาย หิ อตฺถโต อาปนฺนลกฺขณตฺตยํ คณฺหาติ สลกฺขณสลฺลกฺขณปรตฺตา ตสฺสา, ทุติยาย สรูปโต ตสฺสา ลกฺขณตฺตยาโรปนวเสน สมฺมสนภาวโต. เอกจิตฺตกฺขณิกตาย อภินิปาตมตฺตตาย จ อปฺปมตฺตกมฺปิ. รูปปริคฺคหสฺส โอฬาริกภาวโต อรูปปริคฺคหํ ทสฺเสติ. ทสฺเสนฺโต จ เวทนาย อาสนฺนภาวโต, วิเสสโต สุขสาราคิตาย, ภวสฺสาทคธิตมานสตาย จ สกฺกสฺส เวทนาวเสน นิพฺพตฺเตตฺวา ทสฺเสติ.

อุปฺปาทวยฏฺเนาติ อุทยพฺพยสภาเวน อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌเนน. อนิจฺจาติ อทฺธุ วา. อนิจฺจลกฺขณํ อนิจฺจตา อุทยวยตา. ตสฺมาติ ยสฺมา ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ขยโต วยโต ทสฺสนาณํ อนิจฺจานุปสฺสนา, ตํสมงฺคี จ ปุคฺคโล อนิจฺจานุปสฺสี , ตสฺมา. ขยวิราโคติ ขยสงฺขาโต วิราโค สงฺขารานํ ปลุชฺชนา. ยํ อาคมฺม สพฺพโส สงฺขาเรหิ วิรชฺชนา โหติ, ตํ นิพฺพานํ อจฺจนฺตวิราโค. นิโรธานุปสฺสิมฺหิปีติ นิโรธานุปสฺสิปเทปิ. ‘‘เอเสว นโย’’ติ อภิทิสิตฺวา ตํ เอกเทเสน วิวรนฺโต ‘‘นิโรโธปิ หิ…เป… ทุวิโธเยวา’’ติ อาห. สพฺพาสวสํวเร วุตฺตโวสฺสคฺโคว อิธ ‘‘ปฏินิสฺสคฺโค’’ติ วุตฺโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฏินิสฺสคฺโค วุจฺจติ โวสฺสคฺโค’’ติอาทิมาห. ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค วิปสฺสนา. ปกฺขนฺทนวเสน อปฺปนโต ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโค มคฺโค อฺสฺส ตทภาวโต. โสติ มคฺโค. อารมฺมณโตติ กิจฺจสาธนวเสน อารมฺมณกรณโต. เอวฺหิ มคฺคโต อฺเสํ นิพฺพานารมฺมณานํ ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺคาภาโว สิทฺโธ โหติ. ปริจฺจชเนน ปกฺขนฺทเนน จาติ ทฺวีหิปิ วา การเณหิ. สพฺเพสํ ขนฺธานํ โวสฺสชฺชนํ ตปฺปฏิพทฺธสํกิเลสปฺปหาเนน ทฏฺพฺพํ. จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ มคฺคสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ สนฺธายาห. อุภยมฺเปตํ โวสฺสชฺชนํ. ตทุภยสมงฺคีติ วิปสฺสนาสมงฺคี มคฺคสมงฺคี จ. ‘‘อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺํ ปชหตี’’ติอาทิวจนโต (ปฏิ. ม. ๑.๕๒) ยถา วิปสฺสนาย กิเลสานํ ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค ลพฺภติ, เอวํ อายตึ เตหิ กิเลเสหิ อุปฺปาเทตพฺพขนฺธานมฺปิ ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค วตฺตพฺโพ, ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค ปน มคฺเค ลพฺภมานาย เอกนฺตการณภูตาย วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาย วเสน เวทิตพฺโพ, มคฺเค ปน ตทุภยมฺปิ ายาคตเมว นิปฺปริยายโตว ลพฺภมานตฺตา. เตนาห ‘‘ตทุภยสมงฺคี ปุคฺคโล’’ติอาทิ.

ปุจฺฉนฺตสฺส อชฺฌาสยวเสน ‘‘น กิฺจิ โลเก อุปาทิยตี’’ติ เอตฺถ กามุปาทานวเสน อุปาทิยนํ ปฏิกฺขิปียตีติ อาห ‘‘ตณฺหาวเสน น อุปาทิยตี’’ติ. ตณฺหาวเสน วา อสติ อุปาทิยเน ทิฏฺิวเสน อุปาทิยนํ อนวกาสเมวาติ ‘‘ตณฺหาวเสน’’อิจฺเจว วุตฺตํ. น ปรามสตีติ นาทิยติ, ทิฏฺิปรามาสวเสน วา ‘‘นิจฺจ’’นฺติอาทินา น ปรามสติ. สํขิตฺเตเนว ขิปฺปํ กเถสีติ ตสฺส อชฺฌาสยวเสน ปปฺจํ อกตฺวา กเถสิ.

๓๙๑. อภิสมาคนฺตฺวาติ อภิมุขาเณน เยฺยํ สมาคนฺตฺวา ยาถาวโต วิทิตฺวา. เตนาห ‘‘ชานิตฺวา’’ติ. ยถาปริสวิฺาปกตฺตาติ ยถาปริสํ ธมฺมสมฺปฏิคฺคาหิกาย มหติยา, อปฺปกาย วา ปริสาย อนุรูปเมว วิฺาปนโต. ปริยนฺตํ น นิจฺฉรตีติ น ปวตฺตติ. มา นิรตฺถกา อคมาสีติ อิทํ ธมฺมตาวเสน วุตฺตํ, น สตฺถุ อชฺฌาสยวเสน. เอกฺเหตํ สตฺถุ วจีโฆสสฺส อฏฺสุ องฺเคสุ, ยทิทํ ปริสปริยนฺตตา. ฉิทฺทวิวโรกาโสติ ฉิทฺทภูโต, วิวรภูโต วา โอกาโสปิ นตฺถิ, ภควโต สทฺทาสวนการณํ วุตฺตเมว. ตสฺมาติ ยถาวุตฺตการณโต.

ปฺจ องฺคานิ เอตสฺสาติ ปฺจงฺคํ, ปฺจงฺคํ เอว ปฺจงฺคิกํ. มหตีอาทิ วีณาวิเสโสปิ อาตตเมวาติ ‘‘จมฺมปริโยนทฺเธสู’’ติ วิเสสิตํ. เอกตลํ กุมฺภถูณททฺทราทิ. จมฺมปริโยนทฺธํ หุตฺวา ตนฺติพทฺธํ อาตตวิตตํ. เตนาห ‘‘ตนฺติพทฺธปณวาที’’ติ. โคมุขีอาทีนมฺปิ เอตฺเถว สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. วํสาทีติ อาทิ-สทฺเทน สงฺขสิงฺคาทีนํ สงฺคโห. สมฺมาทีติ สมฺมตาฬกํสตาฬสิลาสลากตาฬาทิ. ตตฺถ สมฺมตาฬํ นาม ทณฺฑมยตาฬํ. กํสตาฬํ โลหมยํ. สิลาย อโยปตฺเตน จ วาทนตาฬํ สิลาสลากตาฬํ. สมปฺปิโตติ สมฺมา อปฺปิโต อุเปโต. เตนาห ‘‘อุปคโต’’ติ. อุปฏฺานวเสน ปฺจหิ ตูริยสเตหิ อุเปโต. เอวํภูโต จ ยสฺมา เตหิ อุปฏฺิโต สมนฺนาคโต นาม โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมงฺคีภูโตติ ตสฺเสว เววจน’’นฺติ. ปริจาเรตีติ ปริโต จาเรติ. กานิ ปน จาเรติ, กถํ วา จาเรตีติ อาห ‘‘สมฺปตฺตึ…เป… จาเรตี’’ติ. ตตฺถ ตโต ตโตติ ตสฺมึ ตสฺมึ วาทิเต ตตฺถ ตตฺถ จ วาทกชเน. อปเนตฺวาติ วาทกชเน นิเสเธตฺวา. เตนาห ‘‘นิสฺสทฺทานิ การาเปตฺวา’’ติ. เทวจาริกํ คจฺฉติเยว เทวตานํ มนุสฺสานฺจ อนุกมฺปาย. สฺวายมตฺโถ วิมานวตฺถูหิ (วิ. ว. ๑) ทีเปตพฺโพ.

๓๙๒. อปฺเปว สเกน กรณีเยนาติ มาริส, โมคฺคลฺลาน, มยํ สเกน กรณีเยน อปฺเปว พหุกิจฺจาปิ น โหม. อปิจ เทวานํเยวาติ อปิจ โข ปน เทวานํเยว ตาวตึสานํ กรณีเยน วิเสสโต พหุกิจฺจาติ อตฺถโยชนา. ภุมฺมฏฺกเทวตานมฺปิ เกจิ อฏฺฏา สกฺเกน วินิจฺฉิตพฺพา โหนฺตีติ อาห ‘‘ปถวิโต ปฏฺายา’’ติ. นิยเมนฺโตติ อวธาเรนฺโต. ตํ ปน กรณียํ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘เทวานํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตาสนฺติ เทวธีตุเทวปุตฺตปาทปริจาริกานํ. มณฺฑนปสาธนการิกาติ มณฺฑนปสาธนสํวิธายิกา. อฏฺฏกรณํ นตฺถิ สํสยสฺเสว อภาวโต.

นฺติ สวนุคฺคหณาทิวเสน สุปริจิตมฺปิ ยํ อตฺถชาตํ. น ทิสฺสติ, ปฺาจกฺขุโน สพฺพโส น ปฏิภาตีติ อตฺโถ. เกจีติ สารสมาสาจริยา. โสมนสฺสสํเวคนฺติ โสมนสฺสสมุฏฺานํ สํเวคํ, น จิตฺตสนฺตาสํ.

สมุปพฺยูฬฺโหติ ยุชฺฌนวเสน สหปติโต สโมคาฬฺโห. เอวํภูโต จ ยสฺมา สมูหวเสน สมฺปิณฺฑิโต โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สนฺนิปติโต ราสิภูโต’’ติ. อนนฺตเร อตฺตภาเวติ อิทํ ทุติยํ สกฺกตฺตภาวํ ตโต อนนฺตราตีเตน สกฺกตฺตภาเวน สกฺกตฺตภาวสามฺโต เอกมิว กตฺวา คหณวเสน วุตฺตํ, อฺถา ‘‘ตติเย อตฺตภาเว’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา. มฆตฺตภาโว หิ อิโต ตติโยติ. อถ วา ยสฺมึ อตฺตภาเว โส เทวาสุรสงฺคาโม อโหสิ, ตสฺส อนนฺตรตฺตา มฆตฺตภาวสฺส วุตฺตํ ‘‘อนนฺตเร อตฺตภาเว’’ติ. สตฺตานํ หิเตสิตาย มาตาปิตุอุปฏฺานาทินา จริยาหิ โพธิสตฺตจริยา วิยสฺส จริยา อโหสิ. สตฺต วตปทานีติ สตฺต วตโกฏฺาเส.

มหาปานนฺติ มหนฺตํ สุราปานํ. คณฺฑปานนฺติ คณฺฑสุราปานํ, อธิมตฺตปานนฺติ อตฺโถ. ปริหรมานาติ ปริวาเรนฺตา. เวทิกาปาทาติ สิเนรุสฺส ปริยนฺเต เวทิกาปริกฺเขปา. ปฺจสุ าเนสูติ ปฺจสุ ปริภณฺฑฏฺาเนสุ นาคเสนาทีหิ อารกฺขํ เปสิ.

๓๙๓. รามเณยฺยกนฺติ รมณียภาวํ. มสารคลฺลตฺถมฺเภติ กพรมณิมเย ถมฺเภ. สุวณฺณาทิมเย ฆฏเกติ ‘‘รชตตฺถมฺเภสุ สุวณฺณมเย, สุวณฺณตฺถมฺเภสุ รชตมเย’’ติอาทินา สุวณฺณาทิมเย ฆฏเก วาฬรูปกานิ จ. ปพาฬฺหํ มตฺโตติ ปมตฺโต. เตนาห ‘‘อติวิย มตฺโต’’ติ. นาฏกปริวาเรนาติ อจฺฉราปริวาเรน.

อจฺฉริยพฺภุตนฺติ ปททฺวเยนปิ วิมฺหยนากาโรว วุตฺโต, ตสฺมา สฺชาตํ อจฺฉริยพฺภุตํ วิมฺหยนากาโร เอเตสนฺติ สฺชาตอจฺฉริยอพฺภุตา, ตถา ปวตฺตจิตฺตุปฺปาทา. อจฺฉริยพฺภุตเหตุกา สฺชาตา ตุฏฺิ เอเตสนฺติ สฺชาตตุฏฺิโน. สํวิคฺคนฺติ สฺชาตสํเวคํ. สฺวายํ สํเวโค ยสฺมา ปุริมาวตฺถาย จิตฺตสฺส จลนํ โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘จลิต’’นฺติ.

๓๙๔. ตมํ วิโนทิตนฺติ ปาฏิหาริยทสฺสเนน ‘‘อโห เถรสฺส อิทฺธานุภาโว’’ติ สมฺมาปฏิปตฺติยํ สฺชาตพหุมาโน, อีทิสํ นาม สาสนํ ลภิตฺวาปิ มยํ นิรตฺถเกน โภคมเทน สมฺมตฺตา ภวามาติ โยนิโส มนสิการุปฺปาทเนน สมฺโมหตมํ วิโนทิตํ วิธมิตํ. เอเตติ มหาเถโร สกฺโก จาติ เต ทฺเวปิ สมานพฺรหฺมจริยตาย สพฺรหฺมจาริโน.

๓๙๕. ปฺาตานนฺติ ปากฏานํ จาตุมหาราช-สุยาม-สนฺตุสิต-ปรนิมฺมิตวสวตฺติมหาพฺรหฺมานํ อฺตโร, น เยสํ เกสฺจีติ อธิปฺปาโย. อารทฺธธมฺมวเสเนว ปริโยสาปิตตฺตา ยถานุสนฺธินาว นิฏฺเปสิ.

จูฬตณฺหาสงฺขยสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๘. มหาตณฺหาสงฺขยสุตฺตวณฺณนา

๓๙๖. ลทฺธิมตฺตนฺติ มิจฺฉาคาหมตฺตํ, น ทิฏฺาภินิเวโส. สสฺสตทิฏฺีติ นิจฺจาภินิเวโส. โสติ อริฏฺโ ภิกฺขุ. กเถตฺวา สโมธาเนนฺตนฺติ โยชนา. สโมธาเนนฺตนฺติ จ นิคเมนฺตนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ ตตฺเถวาติ เตสุ เตสุ เอว ภเวสุ นิรุชฺฌนฺติ, น ภวนฺตรํ สงฺกมนฺติ. วิฺาณํ ปน อภินฺนสภาวํ อนฺนฺติ อธิปฺปาโย. อิธโลกโตติ อิมสฺมา อตฺตภาวา. ปรโลกนฺติ ปรภวสฺิตํ อตฺตภาวํ. สนฺธาวตีติ นิจฺจตาย เกนจิ อสมฺพทฺธํ วิย คจฺฉติ. เตน อิธโลกโต ปรโลกคมนมาห. สํสรตีติ อิมินา ปรโลกโต อิธาคมนํ. สนฺธาวตีติ วา ภวนฺตรสงฺกมนมาห. สํสรตีติ ตตฺถ ตตฺถ อปราปรสฺจรณํ.

‘‘ปจฺจเย สติ ภวตี’’ติอาทินา วิฺาณสฺส อนฺวยโต พฺยติเรกโต จ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนภาวํ ทสฺเสนฺโต สสฺสตภาวํ ปฏิกฺขิปติ. พุทฺเธน อกถิตํ กเถสีติ อิมินา ‘‘ยํ อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน, ตํ ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปตี’’ติ (จูฬว. ๓๕๒, ๓๕๓) อิมสฺมึ เภทกรวตฺถุสฺมึ สนฺทิสฺสตีติ ทสฺเสติ. ชินจกฺเก ปหารํ เทตีติ ‘‘ตเทวิทํ วิฺาณํ…เป… อนฺ’’นฺติ นิจฺจตํ ปฏิชานนฺโต – ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา (ธ. ป. ๒๗๗), รูปํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจ’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๙๓-๙๔) จ อาทินยปฺปวตฺเต สตฺถุ ธมฺมจกฺเก ขีลํ อุปฺปาเทนฺโต ปหารํ เทติ. สพฺพฺุตฺาเณน อนิจฺจนฺติ ทิฏฺํ ปเวทิตฺจ วิฺาณํ นิจฺจนฺติ ปฏิชานนฺโต เวสารชฺชาณํ ปฏิพาหติ. โสตุกามํ ชนนฺติ อริยธมฺมาธิคมสฺส เอกนฺตอุปายภูตํ วิปสฺสนามคฺคํ โสตุกามํ ชนํ นิจฺจคฺคาหปคฺคณฺหเนน วิสํวาเทติ. ตโต เอว อริยปเถ อริยธมฺมวีถิยํ ตสฺสา ปฏิกฺขิปเนน ติริยํ นิปติตฺวา.

๓๙๘. วิฺาณสีเสน อตฺตนา คหิตํ อตฺตานํ วิภาเวนฺโต ‘‘ยฺวายํ, ภนฺเต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วโท เวเทยฺโยติอาทโย สสฺสตทิฏฺิยา เอว อภินิเวสาการา. วทตีติ วโท, วจีกมฺมสฺส การโกติ อตฺโถ. อิมินา หิ การกภาวุปายิกสตฺตานํ หิตสุขาวโพธนสมตฺถตํ อตฺตโน ทสฺเสติ. เวทิโยว เวเทยฺโย, ชานาติ อนุภวติ จาติ อตฺโถ. อีทิสานฺหิ ปทานํ พหุลา กตฺตุสาธนตํ สทฺทวิทู มฺนฺติ. เวทยตีติ ตํ ตํ อนุภวิตพฺพํ อนุภวติ. ตหึ ตหินฺติ เตสุ เตสุ ภวโยนิคติิติสตฺตาวาสสตฺตนิกาเยสุ.

๓๙๙. ตํ วาทํ ปคฺคยฺห ิตตฺตา สาติสฺส ฉินฺนปจฺจยตา อวิรุฬฺหธมฺมตา จ เวทิตพฺพา. เหฏฺาติ อลคทฺทสุตฺตสํวณฺณนํ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๒๓๖-๒๓๗) สนฺธายาห. ปรโต เหฏฺาติ วุตฺตฏฺาเนปิ เอเสว นโย. ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธีติ ตีหิปิ อนุสนฺธีหิ อโวมิสฺโส วิสุํเยเวโก อนุสนฺธิ. นนุ จายมฺปิ สาติสฺส อชฺฌาสยวเสน ปวตฺติตตฺตา อชฺฌาสยานุสนฺธิเยวาติ? น, นิยฺยานมุเขน อปฺปวตฺตตฺตา. นิยฺยานฺหิ ปุรกฺขตฺวา ปุจฺฉาทิวเสน ปวตฺตา อิตรา เทสนาปุจฺฉานุสนฺธิอาทโย. อิธ ตทภาวโต วุตฺตํ ‘‘ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธี’’ติ. ปริสาย ลทฺธึ โสเธนฺโตติ ยาทิสี สาติสฺส ลทฺธิ, ตทภาวทสฺสนวเสน ปริสาย ลทฺธึ โสเธนฺโต, ปริสาย ลทฺธิโสธเนเนว สาติ คณโต นิสฺสาริโต นาม ชาโต.

๔๐๐. ยํ ยเทวาติ อิทํ ยทิปิ อวิเสสโต ปจฺจยธมฺมคฺคหณํ, ‘‘วิฺาณนฺตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉตี’’ติ ปน วุตฺตตฺตา ตํตํวิฺาณสฺส สมฺานิมิตฺตปจฺจยชาตํ คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตน วุตฺตํ ปาฬิยํ – ‘‘จกฺขุวิฺาณนฺตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉตี’’ติอาทิ. อถ วา ตํตํทฺวารนิยตํ อิตรมฺปิ สพฺพํ ตสฺส ตสฺส วิฺาณสฺส ปจฺจยชาตํ อิธ ‘‘ยํ ยเทวา’’ติ คหิตํ, ตตฺถ ปน ยํ อสาธารณํ, เตน สมฺาติ ‘‘จกฺขุวิฺาณนฺตฺเววา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทฺวารสงฺกนฺติยา อภาวนฺติ วิฺาณสฺส ทฺวารนฺตรสงฺกมนสฺส อภาวํ. สฺวายํ โอฬาริกนเยน มนฺทพุทฺธีนํ สุขาวโพธนตฺถํ นยทสฺสนวเสน วุตฺโต. น หิ กทาจิ ปจฺจุปฺปนฺนํ วิฺาณํ วิคจฺฉนฺตํ อนนฺตรวิฺาณํ สงฺกมติ อนนฺตราทิปจฺจยาลาเภ ตสฺส อนุปฺปชฺชนโต.

เอวเมวาติ ยถา อคฺคิ อุปาทานํ ปฏิจฺจ ชลนฺโต อนุปาทาโน ตตฺเถว นิพฺพายติ, น กตฺถจิ สงฺกมติ, เอวเมว. ‘‘ปจฺจยเวกลฺเลน ตตฺเถว นิรุชฺฌตี’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, น เหตฺถ อนุปฺปาทนิโรโธ อิจฺฉิโต ตาทิสสฺส นิโรธสฺส อิธ อนธิปฺเปตตฺตา, อถ โข ขณนิโรโธ, โส จ สาภาวิกตฺตา น ปจฺจยเวกลฺลเหตุโก? สจฺจเมตํ, ตํตํทฺวาริกสฺส ปน วิฺาณสฺส ทฺวารนฺตรํ อสงฺกมิตฺวา ตตฺถ ตตฺเถว นิรุชฺฌนํ อิธาธิปฺเปตํ. เยสฺจ ปจฺจยานํ วเสน ทฺวารนฺตริกวิฺาเณน ภวิตพฺพํ, เตสํ ตทภาวโต ปจฺจยเวกลฺลคฺคหณํ, ตสฺมา ปจฺจยเวกลฺเลน น โสตาทีนิ สงฺกมิตฺวา โสตวิฺาณนฺติอาทิ สงฺขฺยํ คจฺฉตีติ โยชนา. เอเตน ยํ วิฺาณํ จกฺขุรูปาทิปจฺจยสามคฺคิยา วเสน จกฺขุวิฺาณสงฺขฺยํ คจฺฉติ, ตตฺถ ตตฺเถว นิรุชฺฌติ ตาวกาลิกภาวโต, ตสฺส ปน โสตสทฺทาทิปจฺจยาภาวโต กุโต โสตวิฺาณาทิสมฺา, เอวมปฺปวตฺติโต ตสฺส กุโต สงฺกโมติ ทสฺสิตํ โหติ. วิฺาณปฺปวตฺเตติ วิฺาณปฺปวตฺติยํ. ทฺวารสงฺกนฺติมตฺตนฺติ ทฺวารนฺตรสงฺกมนมตฺตมฺปิ น วทามิ ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชนโต ปจฺจยสฺส อุปฺปาทวนฺตโต สติ จ อุปฺปาเท อวสฺสํภาวี นิโรโธติ หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจตา ทีปิตา โหตีติ.

๔๐๑. ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ วิฺาณํ วุตฺตํ มยา, อฺตฺร ปจฺจยา นตฺถิ วิฺาณสฺส สมฺภโว’’ติ ปาฬิยา อนฺวยโต จ พฺยติเรกโต จ วิฺาณสฺส สงฺขตตาว ทสฺสิตาติ อาห ‘‘สปฺปจฺจยภาวํ ทสฺเสตฺวา’’ติ. เหตุปจฺจเยหิ ชาตํ นิพฺพตฺตํ ‘‘ภูต’’นฺติ อิธาธิปฺเปตํ, ตํ อตฺถโต ปฺจกฺขนฺธา ตพฺพินิมุตฺตสฺส สปฺปจฺจยสฺส อภาวโต, ยฺจ ขนฺธปฺจกํ อตฺตโน เตสฺจ ภิกฺขูนํ, ตํ ‘‘ภูตมิท’’นฺติ ภควา อโวจาติ อาห ‘‘อิทํ ขนฺธปฺจก’’นฺติ. อตฺตโน ผลํ อาหรตีติ อาหาโร, ปจฺจโย. สมฺภวติ เอตสฺมาติ สมฺภโว, อาหาโร สมฺภโว เอตสฺสาติ อาหารสมฺภวํ. เตนาห ‘‘ปจฺจยสมฺภว’’นฺติ. ตสฺส ปจฺจยสฺส นิโรธาติ เยน อวิชฺชาทินา ปจฺจเยน ขนฺธปฺจกํ สมฺภวติ, ตสฺส ปจฺจยสฺส อนุปฺปาทนิโรธา. ขณนิโรโธ ปน การณนิรเปกฺโข.

โนสฺสูติ สํสยโชตโน นิปาโตติ อาห ‘‘ภูตํ นุ โข อิทํ, น นุ โข ภูต’’นฺติ. ภูตมิทํ โนสฺสูติ จ อิมินา ขนฺธปฺจกเมว นุ โข อิทํ, อุทาหุ อตฺตตฺตนิยนฺติ เอวํชาติโก สํสยนากาโร คหิโต. ตทาหารสมฺภวํ โนสฺสูติ ปน อิมินา สเหตุกํ นุ โข อิทํ ภูตํ, อุทาหุ อเหตุกนฺติ ยถา อเหตุกภาวาปนฺโน สํสยนากาโร คหิโต, เอวํ วิสมเหตุกภาวาปนฺโนปิ สํสยนากาโร คหิโตติ ทฏฺพฺพํ. วิสมเหตุโนปิ ปรมตฺถโต ภูตสฺส อเหตุกภาวโต. วิสมเหตุวาโทปิ ปเรหิ ปริกปฺปิตมตฺตตาย สภาวนิยติยทิจฺฉาทิวาเทหิ สมานโยคกฺขโมติ. นิโรธธมฺมํ โนสฺสูติ อิมินา ยถา อนิจฺจํ นุ โข อิทํ ภูตํ, อุทาหุ นิจฺจนฺติ อนิจฺจตํ ปฏิจฺจ สํสยนากาโร คหิโต, เอวํ ทุกฺขํ นุ โข, อุทาหุ น ทุกฺขํ, อนตฺตา นุ โข, อุทาหุ น อนตฺตาติปิ สํสยนากาโร คหิโตเยวาติ ทฏฺพฺพํ อนิจฺจสฺส ทุกฺขภาวาทิอวสฺสํภาวโต, นิจฺเจ จ ตทุภยาภาวโต. ยาถาวสรสลกฺขณโตติ อวิปรีตสรสโต สลกฺขณโต จ, กิจฺจโต เจว สภาวโต จาติ อตฺโถ. วิปสฺสนาย อธิฏฺานภูตาปิ ปฺา วิปสฺสนา เอวาติ วุตฺตํ ‘‘วิปสฺสนาปฺายา’’ติ. สรสโตติ จ สภาวโต. สลกฺขณโตติ สามฺลกฺขณโต. เตนาห ‘‘วิปสฺสนาปฺาย สมฺมา ปสฺสนฺตสฺสา’’ติ. วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘ยาถาวสรสลกฺขณโต’’ติ วุตฺตนเยเนว. เย เยติ ตสฺสํ ปริสายํ เย เย ภิกฺขู. สลฺลกฺเขสุนฺติ สมฺมเทว อุปธาเรสุํ.

เตหีติ เตหิ ภิกฺขูหิ. ตตฺถาติ ติสฺสํ วิปสฺสนาปฺายํ. นิตฺตณฺหภาวนฺติ ตณฺหาภาวํ ‘‘เอตํ มม’’นฺติ ตณฺหาคฺคาหสฺส ปหีนตํ. เอเตนปิ ภควา ‘‘อหํ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุปิ ตณฺหาปหานเมว วณฺเณมิ, สาติ ปน โมฆปุริโส อตฺตภาเวปิ ตณฺหาสํวทฺธนึ วิปรีตทิฏฺึ ปคฺคยฺห ติฏฺตี’’ติ สาตึ นิคฺคณฺหาติ. สภาวทสฺสเนนาติ ธมฺมานํ อวิปรีตสภาวทสฺสเนน. ปจฺจยทสฺสเนนาติ การณทสฺสเนน อนวเสสโต เหตุโน ปจฺจยสฺส จ ทสฺสเนน. อลฺลีเยถาติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน นิสฺสเยถ. เตนาห ‘‘ตณฺหาทิฏฺีหี’’ติ. เกลาเยถาติ ปริหรณเกฬิยา ปริหเรยฺยาถ. เตนาห ‘‘กีฬมานา วิหเรยฺยาถา’’ติ. ธนํ วิย อิจฺฉนฺตาติ ธนํ วิย ทฺรพฺยํ วิย อิจฺฉํ ตณฺหํ ชเนนฺตา. เตนาห ‘‘เคธํ อาปชฺเชยฺยาถา’’ติ. มมตฺตํ อุปฺปาเทยฺยาถาติ ‘‘มมมิท’’นฺติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน อภินิเวสํ ชเนยฺยาถ. นิกนฺติวเสนปิ คหณตฺถาย โน เทสิโต, ตสฺส วา สณฺหสุขุมสฺส วิปสฺสนาธมฺมสฺส คหณํ นาม นิกนฺติยา เอว สิยา, น โอฬาริกตณฺหายาติ วุตฺตํ ‘‘นิกนฺติวเสนา’’ติ.

๔๐๒. ปฏิจฺจ เอตสฺมา ผลํ เอตีติ ปจฺจโย, สพฺโพ การณวิเสโสติ อาห ‘‘ขนฺธานํ ปจฺจยํ ทสฺเสนฺโต’’ติ. ยาว อวิชฺชา หิ สพฺโพ เนสํ การณวิเสโส อิธ ทสฺสิโต. ปุน อาทิโต ปฏฺาย ยาว ปริโยสานา, อนฺตโต ปฏฺาย ยาว อาทีติ อนุโลมโต ปฏิโลมโต จ วฏฺฏวิวฏฺฏทสฺสนวเสน นานานเยหิ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ทสฺสิโต, นิจฺจคฺคาหสฺส นิมิตฺตภูโต กิเลโสปิ อิธ นตฺถีติ ทีเปติ. ตมฺปิ วุตฺตตฺถเมวาติ ตมฺปิ ‘‘อิเม จ, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อาหารา’’ติอาทิ ยาว ‘‘ตณฺหาปภวา’’ติ ปาฬิปทํ, ตาว วุตฺตตฺถเมว สมฺมาทิฏฺิสุตฺตวณฺณนายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๘๙). เสสํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถาภาวโต วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๕๗๐) วิตฺถาริตาวาติ อิมินาว สงฺคหิตํ.

๔๐๔. อิมสฺมึ สติ อิทํ โหตีติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรมตฺถทีปนิยํ อุทานฏฺกถายํ (อุทา. อฏฺ. ๑) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๔๐๗. ปฏิธาวนาติ ปฏิสรณํ, ปุพฺเพ อตฺตโน อาคตํ อตีตํ อทฺธานํ อุทฺทิสฺส ตณฺหาทิฏฺิวเสน ปฏิคมนนฺติ อตฺโถ. นนุ วิจิกิจฺฉาวเสน ปาฬิยํ ปฏิธาวนา อาคตาติ? สจฺจํ อาคตา, สา ปน ตณฺหาทิฏฺิเหตุกาติ ‘‘ตณฺหาทิฏฺิวเสนา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ยถาธิคเต าณทสฺสเน.

นิจฺจลภาวนฺติ สุปฺปติฏฺิตภาวํ, ติตฺถิยวาทวาเตหิ อกมฺปิยภาวฺจ. ครูติ ครุคุณยุตฺโต. ภาริโก ปาสาณจฺฉตฺตสทิโส. อกามา อนุวตฺติตพฺโพติ สทฺธามตฺตเกเนว อนุวตฺตนมาห, น อเวจฺจปฺปสาเทน. กิจฺจนฺติ สตฺถุกิจฺจํ. พฺราหฺมณานนฺติ ชาติมนฺตพฺราหฺมณานํ. วตสมาทานานีติ มควตาทิวตสมาทานานิ. ทิฏฺิกุตูหลานีติ ตํตํทิฏฺิคฺคาหวเสน ‘‘อิทํ สจฺจํ, อิทํ สจฺจ’’นฺติอาทินา คเหตพฺพกุตูหลานิ. เอวํ นิสฺสฏฺานีติ ยถา มยา ตุมฺหากํ โอวาโท ทินฺโน, เอวํ นิสฺสฏฺานิ วตาทีนิ ตํ อติกฺกมิตฺวา กึ คณฺเหยฺยาถ. สยํ าเณน าตนฺติ ปรเนยฺยตํ มุฺจิตฺวา อตฺตโน เอว าเณน ยาถาวโต าตํ. เอวํภูตฺจ สยํ ปจฺจกฺขโต ทิฏฺํ นาม โหตีติ อาห ‘‘สยํ ปฺาจกฺขุนา ทิฏฺ’’นฺติ. สยํ วิภาวิตนฺติ เตหิ ภิกฺขูหิ ตสฺส อตฺถสฺส ปจฺจตฺตํ วิภูตภาวํ อาปาทิตํ. อุปนีตาติ อุปกฺกเมน ธมฺมเทสนานุสาเรน นีตา. มยาติ กตฺตริ กรณวจนํ. ธมฺเมนาติ การเณน. เอตํ วจนนฺติ เอตํ ‘‘สนฺทิฏฺิโก’’ติอาทิวจนํ.

๔๐๘. ตํ สมฺโมหฏฺานํ อสฺส โลกสฺส. สโมธาเนนาติ สมาคเมน. คพฺภติ อตฺตภาวภาเวน วตฺตตีติ คพฺโภ, กลลาทิอวตฺโถ ธมฺมปพนฺโธ, ตนฺนิสฺสิตตฺตา ปน สตฺตสนฺตาโน ‘‘คพฺโภ’’ติ วุตฺโต ยถา ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติ. ตนฺนิสฺสยภาวโต มาตุกุจฺฉิ ‘‘คพฺโภ’’ติ เวทิตพฺโพ, คพฺโภ วิยาติ วา. ยถา หิ นิวาสฏฺานตาย สตฺตานํ โอวรโก ‘‘คพฺโภ’’ติ วุจฺจติ, เอวํ คพฺภเสยฺยกานํ ยาว อภิชาติ นิวาสฏฺานตาย มาตุกุจฺฉิ ‘‘คพฺโภ’’ติ วุตฺโตติ.

ยเมกรตฺตินฺติ ยสฺสํ เอกรตฺติยํ. ภุมฺมตฺเถ หิ อิทํ อุปโยควจนํ, อจฺจนฺตสํโยเค วา. ปมนฺติ สพฺพปมํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ. คพฺเภติ มาตุกุจฺฉิยํ. มาณโวติ สตฺโต. เยภุยฺเยน สตฺตา รตฺติยํ ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺตีติ รตฺติคฺคหณํ. อพฺภุฏฺิโตวาติ อุฏฺิตอพฺโภ วิย, อภิมุขภาเวน วา อุฏฺิโต เอว มรณสฺสาติ อธิปฺปาโย. โส ยาตีติ โส มาณโว ยาติ ปมกฺขณโต ปฏฺาย คจฺฉเตว. ส คจฺฉํ น นิวตฺตตีติ โส เอวํ คจฺฉนฺโต ขณมตฺตมฺปิ น นิวตฺตติ, อฺทตฺถุ มรณเมว อุปคจฺฉตีติ คาถาย อตฺโถ.

อุตุสมยํ สนฺธาย วุตฺตํ, น โลกสมฺาตรชสฺส ลคฺคนทิวสมตฺตํ. อิทานิ วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘มาตุคามสฺส กิร ยสฺมิ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ คพฺภาสเย. สณฺหิตฺวาติ นิพฺพตฺติตฺวา. ภิชฺชิตฺวาติ อคฺคหิตคพฺภา เอว ภินฺนา หุตฺวา. อยฺหิ ตสฺสา สภาโว. วตฺถุ สุทฺธํ โหตีติ ปคฺฆริตโลหิตตฺตา อนามยตฺตา จ คพฺภาสโย สุทฺโธ โหติ. สุทฺธวตฺถุตฺตา ตโต ปรํ กติปยทิวสานิ เขตฺตเมว โหติ คพฺภสณฺหนสฺส ปริตฺตสฺส โลหิตเลสสฺส วิชฺชมานตฺตา. สมฺภวสฺส ปน กถํ สพฺภาโวติ อาห ‘‘ตสฺมึ สมเย’’ติอาทิ. อิตฺถิสนฺตาเนปิ สุกฺกธาตุ ลพฺภเตว. เตนาห ‘‘องฺคปรามสเนนปิ ทารโก นิพฺพตฺตติเยวา’’ติ. ยถา ปาริกาย นาภิปรามสเนน สามสฺส โพธิสตฺตสฺส, ทิฏฺมงฺคลิกาย นาภิปรามสเนน มณฺฑพฺยสฺส นิพฺพตฺติ. คนฺธพฺโพติ คนฺธนโต อุปฺปชฺชนคติยา นิมิตฺตุปฏฺาปเนน สูจนโต คนฺโธติ ลทฺธนาเมน ภวคามิกมฺมุนา อพฺพติ ปวตฺตตีติ คนฺธพฺโพ, ตตฺถ อุปฺปชฺชนกสตฺโต. เตนาห ‘‘ตตฺรูปคสตฺโต’’ติ. กมฺมยนฺตยนฺติโตติ ตตฺรูปปตฺติอาวเหน กมฺมสงฺขาเตน เปลฺลนกยนฺเตน ตถตฺตาย เปลฺลิโต อุปนีโต. มหนฺเตน ชีวิตสํสเยนาติ วิชายนปริกฺกิเลเสน ‘‘ชีวิสฺสามิ โข, น นุ โข ชีวิสฺสามิ อหํ วา, ปุตฺโต วา เม’’ติ เอวํ ปวตฺเตน ชีวิตสํสเยน วิปุเลน ครุตเรน สํสเยน. ตํ านนฺติ ถนปฺปเทสมาห. กีฬนฺติ เตนาติ กีฬนํ, กีฬนเมว กีฬนกํ.

๔๐๙. สารชฺชตีติ สารตฺตจิตฺโต โหติ. พฺยาปชฺชตีติ พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ. กาเย เกสาทิทฺวตฺตึสาสุจิสมุทาเย ตํสภาวารมฺมณา สติ กายสติ. อนุปฏฺเปตฺวาติ อนุปฺปาเทตฺวา, ยถาสภาวโต กายํ อนุปธาเรตฺวาติ อตฺโถ. ปริตฺตเจตโสติ กิเลเสหิ ปริโต ขณฺฑิตจิตฺโต. เตนาห ‘‘อกุสลจิตฺโต’’ติ. เอเต อกุสลธมฺมา. นิรุชฺฌนฺตีติ นิโรธํ ปตฺตา โหนฺติ. ตณฺหาวเสน อภินนฺทตีติ สปฺปีติกตณฺหาวเสน อภิมุขํ หุตฺวา นนฺทติ. อภิวทตีติ ตณฺหาวเสน ตํ ตํ อารมฺมณํ อภินิวิสฺส วทติ. อชฺโฌสายาติ อนฺสาธารณํ วิย อารมฺมณํ ตณฺหาวเสน อนุปวิสิตฺวา. เตนาห ‘‘คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา’’ติ. ทุกฺขํ กถํ อภินนฺทตีติ เอตฺถ ทุกฺขเหตุกํ อภินนฺทนฺโต ทุกฺขํ อภินนฺทติ นามาติ ทฏฺพฺพํ. อฏฺกถายํ ปน ยาวตา ยสฺส ทุกฺเข ทิฏฺิตณฺหา อภินนฺทนา อปฺปหีนา, ตาวตายํ ทุกฺขํ อภินนฺทติ นามาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อหํ ทุกฺขิโต มม ทุกฺขนฺติ คณฺหนฺโต อภินนฺทติ นามา’’ติ วุตฺตํ. เตน คาหทฺวยเหตุกา ตตฺถ อภินนฺทนาติ ทสฺเสติ. ปุน เอกวารนฺติ ปุนปิ เอกวารํ. ผลเหตุสนฺธิเหตุผลสนฺธิวเสน ทฺวิสนฺธี. ‘‘คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหตี’’ติอาทินา อตฺถโต สรูปโต จ เอตรหิ ผลสงฺเขปสฺส. สรูเปเนว จ อิตรทฺวยสฺส เทสิตตฺตา อาห ‘‘ติสงฺเขป’’นฺติ.

๔๑๐-๔๑๔. สมถยานิกสฺส ภิกฺขุโน เวทนามุเขน สงฺเขเปเนว ยาว อรหตฺตา กมฺมฏฺานํ อิธ กถิตนฺติ อาห ‘‘สํขิตฺเตน ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตึ ธาเรถา’’ติ. ‘‘อิมํ ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺติ’’นฺติ จ ภควา ยถาเทสิตํ เทสนํ อโวจาติ วุตฺตํ ‘‘อิมํ…เป… วิมุตฺติเทสน’’นฺติ . ยทิ เอวํ กถํ เทสนา วิมุตฺตีติ อาห ‘‘เทสนา หิ…เป… วิมุตฺตีติ วุตฺตา’’ติ. ยสฺสา ตณฺหาย วเสน สาติ ภิกฺขุ สสฺสตคฺคาหมหาสงฺฆาฏปฏิมุกฺโก, สา สพฺพพุทฺธานํ เทสนา หตฺถาวลมฺพมาเนปิ ทุรุคฺฆาฏิยา ชาตาติ อาห ‘‘มหาตณฺหาชาลตณฺหาสงฺฆาฏปฏิมุกฺก’’นฺติ. มหาตณฺหาชาเลติ มหนฺเต ตณฺหาชเฏ. ตณฺหาสงฺฆาเฏติ ตณฺหาย สงฺฆาเฏ. ตถาภูโต จ ตสฺส อพฺภนฺตเร กโต นาม โหตีติ อาห ‘‘อนุปวิฏฺโ อนฺโตคโธ’’ติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

มหาตณฺหาสงฺขยสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๙. มหาอสฺสปุรสุตฺตวณฺณนา

๔๑๕. ชานปทิโนติ ชนปทวนฺโต, ชนปทสฺส วา อิสฺสรา ราชกุมารา โคตฺตวเสน องฺคา นาม. เตสํ นิวาโส ยทิ เอโก ชนปโท , กถํ พหุวจนนฺติ อาห ‘‘รุฬฺหีสทฺเทนา’’ติ. อกฺขรจินฺตกา หิ อีทิเสสุ าเนสุ ยุตฺเต วิย สลิงฺควจนานิ (ปาณินิ ๑.๒.๕๑) อิจฺฉนฺติ. อยเมตฺถ รุฬฺหี ยถา ‘‘กุรูสุ วิหรติ, มลฺเลสุ วิหรตี’’ติ จ. ตพฺพิเสสเน ปน ชนปทสทฺเท ชาติสทฺเท เอกวจนเมว. เตนาห ‘‘องฺเคสุ ชนปเท’’ติ. อสฺสา วุจฺจนฺติ ปาสาณานิ, ตานิ สุนฺทรานิ ตตฺถ สนฺตีติ ‘‘อสฺสปุร’’นฺติ โส นิคโม วุตฺโตติ เกจี. อปเร ปน อาชานีโย อสฺโส รฺโ ตตฺถ คหณํ อุปคโตติ ‘‘อสฺสปุร’’นฺติ วุตฺโตติ วทนฺติ. กึ เตหิ, นามเมตํ ตสฺส นิคมสฺส. ยสฺมา ปน ตตฺถ ภควโต นิพทฺธวสนฏฺานํ กิฺจิ นาโหสิ, ตสฺมา ‘‘ตํ โคจรคามํ กตฺวา วิหรติ’’จฺเจว วุตฺตํ. ตถา หิ ปาฬิยํ ‘‘อสฺสปุรํ นาม องฺคานํ นิคโม’’ติ โคจรคามกิตฺตนเมว กตํ.

เอวรูเปน สีเลนาติอาทีสุ สีลคฺคหเณน วาริตฺตสีลมาห. เตน สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีเว ทสฺเสติ. อาจารคฺคหเณน จาริตฺตสีลํ. เตน ปริสุทฺธํ กายวจีสมาจารํ. ปฏิปตฺติคฺคหเณน สมถวิปสฺสนามคฺคผลสงฺคหํ สมฺมาปฏิปตฺตึ. ลชฺชิโนติ อิมินา ยถาวุตฺตสีลาจารมูลการณํ. เปสลาติ อิมินา ปาริสุทฺธึ. อุฬารคุณาติ อิมินา ปฏิปตฺติยา ปาริปูรึ. ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว วณฺณํ กเถนฺตีติ อิทํ เตสํ อุปาสกานํ เยภุยฺเยน ภิกฺขูนํ คุณกิตฺตนปสุตตาย วุตฺตํ. เต ปน สทฺธมฺเมปิ สมฺมาสมฺพุทฺเธปิ อภิปฺปสนฺนา เอว. เตนาห ‘‘พุทฺธมามกา ธมฺมมามกา’’ติ. วตฺถุตฺตเย หิ เอกสฺมึ อภิปฺปสนฺนา อิตรทฺวเย อภิปฺปสนฺนา เอว ตทวินาภาวโต. ปิณฺฑปาตาปจายเนติ ลกฺขณวจนเมตํ ยถา ‘‘กาเกหิ สปฺปิ รกฺขิตพฺพ’’นฺติ, ตสฺมา ปจฺจยปฏิปูชเนติ วุตฺตํ โหติ. ปจฺจยทายกานฺหิ การสฺส อตฺตโน สมฺมาปฏิปตฺติยา มหปฺผลภาวสฺส กรณํ อิธ ‘‘ปิณฺฑปาตาปจายน’’นฺติ อธิปฺเปตํ.

สมณกรณาติ สมณภาวกรา, สมณภาวสฺส การกาติ อตฺโถ. เต ปน เอกนฺตโต อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปาทิตา วฑฺฒิตา จ โหนฺตีติ อาห ‘‘สมาทาย ปริปูริตา’’ติ. สมณคฺคหณฺเจตฺถ สมณวเสน, น สามฺมตฺเตนาติ อาห ‘‘สมิตปาปสมณ’’นฺติ. พฺราหฺมณกรณาติ เอตฺถาปิ วุตฺตนเยเนวตฺโถ เวทิตพฺโพ. พฺยฺชนโต เอว จายํ เภโท, ยทิทํ สมณพฺราหฺมณาติ , น อตฺถโต. สมเณนกตฺตพฺพธมฺมาติ สมณธมฺเม ิเตน สมฺปาเทตพฺพธมฺมา. โย หิ เหฏฺิมสิกฺขาสงฺขาตสมณภาเว สุปฺปติฏฺิโต, เตน เย อุปริสิกฺขาสงฺขาตสมณภาวา สมฺปาเทตพฺพา, เตสํ วเสเนว วุตฺตสมเณน กตฺตพฺพธมฺมา วุตฺตาติ. ตถา หิ เตสํ สมณภาวาวหตํ สนฺธายาห ‘‘เตปิ จ สมณกรณา โหนฺติเยวา’’ติ. อิธ ปนาติ มหาอสฺสปุเร. หิโรตฺตปฺปาทิวเสน เทสนา วิตฺถาริตาติ หิโรตฺตปฺป-ปริสุทฺธกายวจีมโนสมาจาราชีวอินฺทฺริยสํวร-โภชเนมตฺตฺุต- ชาคริยานุโยคสติสมฺปชฺ-ฌานวิชฺชาวเสน สมณกรณธมฺมเทสนา วิตฺถารโต เทสิตา, น ติกนิปาเต วิย สงฺเขปโต. ผลคฺคหเณเนว วิปากผลํ คหิตํ, ตํ ปน อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน จตุพฺพิธํ สามฺผลํ ทฏฺพฺพํ. อานิสํสคฺคหเณน ปิยมนาปตาทิอุทฺรโย. ตสฺเสว อตฺโถติ ตสฺเสว อวฺจาปทสฺเสว อตฺถนิทฺเทโส. ‘‘ยสฺสา หี’’ติอาทินา พฺยติเรกวเสน อตฺถํ วทติ. เอตฺตเกน าเนนาติ เอตฺตเกน ปาฬิปเทเสน. หิโรตฺตปฺปาทีนํ อุปริ ปาฬิยํ วุจฺจมานานํ สมณกรณธมฺมานํ. วณฺณํ กเถสีติ คุณํ อานิสํสํ อภาสิ. สติปฏฺาเน วุตฺตนเยนาติ ‘‘อปิจ วณฺณภณนเมต’’นฺติอาทินา สติปฏฺานวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๖) วุตฺตนเยน.

๔๑๖. ยํ หิรียตีติ เยน ธมฺเมน เหตุภูเตน วา ชิคุจฺฉติ. กรเณ เหตํ ปจฺจตฺตวจนํ. นฺติ วา ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺโต, ธมฺโมติ อตฺโถ. หิรียิตพฺเพนาติ อุปโยคตฺเถ กรณวจนํ, หิรียิตพฺพยุตฺตกํ กายทุจฺจริตาทินฺติ อตฺโถ. โอตฺตปฺปิตพฺเพนาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อชฺฌตฺตํ นิยกชฺฌตฺตํ ชาติอาทิ สมุฏฺานํ เอติสฺสาติ อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี, พหิทฺธา อตฺตโต พหิภูโต ปรสตฺโต สมุฏฺานํ เอติสฺสาติ พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ. อตฺตาธิปติโต อาคตา อตฺตาธิปเตยฺยา, อตฺตานํ อธิปตึ กตฺวา ปวตฺตา. ลชฺชาสภาวสณฺิตาติ ปาปชิคุจฺฉนสภาวฏฺายินี. สปฺปติสฺสวลกฺขณตฺตา ครุนา กิสฺมิฺจิ วุตฺเต คารววเสน ปติสฺสวนํ ปติสฺสโว, สห ปติสฺสเวนาติ สปฺปติสฺสวํ, ปติสฺสวภูตํ ตํสภาวฺจ ยํ กิฺจิ คารวํ. ชาติอาทิมหตฺตตาปจฺจเวกฺขเณน อุปฺปชฺชมานา จ หิรี ตตฺถ คารววเสน ปวตฺตตีติ สปฺปติสฺสวลกฺขณาติ วุจฺจติ. ภยสภาวสณฺิตนฺติ ปาปโต ภายนสภาวฏฺายี, วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณตฺตา วชฺชํ ภายติ ตํ ภยโต ปสฺสตีติ วชฺชภีรุกภยทสฺสาวี, เอวํสภาวํ โอตฺตปฺปํ. อชฺฌตฺตสมุฏฺานาทิตา จ หิโรตฺตปฺปานํ ตตฺถ ตตฺถ ปากฏภาเวเนว วุจฺจติ, น ปเรสํ กทาจิ อฺมฺวิปฺปโยคา. น หิ ลชฺชนํ นิพฺภยํ, ปาปภยํ วา อลชฺชนํ โหตีติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน อฏฺสาลินิยํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑.พลราสิวณฺณนา) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. โลกมริยาทสฺส ปาลนโต โลกปาลธมฺมา นาม. สุกฺกาติ โอทาตา ปภสฺสรภาวการกา, สุกฺกาภิชาติเหตุตาย วา สุกฺกา. สมฺเภทนฺติ อาจารมริยาทาสงฺกรํ. เทวภาวาวหา ธมฺมาติ เทวธมฺมา.

สุกฺกธมฺมสมาหิตาติ ยถาวุตฺตสุกฺกธมฺมสมงฺคิโน. สนฺโตติ วูปสนฺตโทสา. สปฺปุริสาติ สนฺตชนา. สปรหิตสาธกา หิ สาธโว.

อวยววินิมุตฺตสฺส สมุทายสฺส อภาวโต, อวยเวน จ สมุทายสฺส อปทิสิตพฺพโต โอวาทูปสมฺปทาวหโอวาเทกเทโส โอวาทูปสมฺปทาติ. อิธาติ อิมสฺมึ อสฺสปุเร. เอเต หิโรตฺตปฺปธมฺมา. สมณธมฺมา นามาติ ทสฺสิตา มูลภูตสมณภาวกรา ธมฺมาติ กตฺวา. ตถา หิ เตสํ อาทิโต คหณํ.

ยสฺส อธิคเมน นิปฺปริยายโต สมณา นาม โหนฺติ, โส อริยมคฺโค ‘‘สมณสฺส กมฺมํ ปฏิปทา’’ติ กตฺวา สามฺํ, ตสฺส ปน ผลภาวโต, อารมฺมณกรณวเสน อรณียโต ผลนิพฺพานานิ สามฺตฺโถ. ราคํ เขเปตีติ ราคกฺขโย, อริยมคฺโค. ราโค ขียติ เอตฺถาติ ราคกฺขโย, นิพฺพานํ. ผลํ ปน การณูปจาเรน ราคกฺขโย ทฏฺพฺโพ. โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สามฺภูโต อตฺโถ สามฺตฺโถ, มคฺโค, สามฺสฺส อตฺโถติ สามฺตฺโถ, ผลนฺติ อาห ‘‘มคฺคมฺปิ ผลมฺปิ เอกโต กตฺวา สามฺตฺโถ กถิโต’’ติ. ตยิทํ อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน วุตฺตํ. สีลาทิปุพฺพภาคปฏิปทาปิ หิ อิธ ‘‘สามฺตฺโถ’’ติ คหิตา. เตเนวาห ‘‘สติ อุตฺตริกรณีเย’’ติ. ปฏิเวทยามีติ ปุนปฺปุนํ าเปมิ.

๔๑๗. กมฺมปถวเสเนวาติ อกุสลกมฺมปถภาเวเนว, ตโต ตาทิสมฺปิ อกุสลกมฺมํ ภิกฺขุสฺส กาตุํ น ยุตฺตนฺติ ทุฏฺุลฺลภาเวเนว ตโต โอรมตีติ อธิปฺปาโย. สิกฺขาปทพทฺเธนาติ สิกฺขาปทปฺาปเนน. ปานียฆเฏ วา ปตฺเต วา กากานํ หตฺถํ วา ทณฺฑํ วา เลฑฺฑุํ วาติ สพฺพมิทํ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. ยตฺถ กตฺถจิ หิ ิตานํ อฺเสมฺปิ ปาณีนํ อุฏฺาปนาทิ สพฺพํ อนิฏฺกรณํ อิธ อปริสุทฺธกายสมาจารภาเวเนว สงฺคหิตนฺติ. อุตฺตาโนติ อุทฺธมุทฺธํ ตโนตีติ อุตฺตาโน. เอวํภูโต จ เกนจิ อนุปฺปาทภูมิยํ สฺชาตสาลกลฺยาณีขนฺโธ วิย อุปรูปริ อุคฺคตุคฺคโต ปากโฏ จ โหตีติ อาห ‘‘อุคฺคโต ปากโฏ’’ติ. อนาวโฏติ อนิวุโต. เตนาห ‘‘อสฺฉนฺโน’’ติ, นจฺฉาเทตพฺโพติ อตฺโถ. เอกสทิโส วิสุทฺธภาเวน. อนฺตรนฺตเร ฉิทฺทรหิโต ปุพฺเพนาปรํ สมฺมาปฏิปตฺติยา สนฺธาเนน. สํวุโต กายิกสฺส สํวรสฺส อนุปกฺกิเลสโต. เตนาห ‘‘กิเลสานํ ทฺวารํ ปิทหเนนา’’ติ.

๔๑๘. เอตฺถ ยถา ลหุกตรํ กากุฏฺาปนาทิกายกมฺมํ กายสมาจารสฺส อปริสุทฺธภาวาวหํ สลฺเลขวิโกปนโต, มิจฺฉาวิตกฺกนมตฺตฺจ มโนสมาจารสฺส, เอวํ ยํ กิฺจิ อนิยฺยานกถากถนมตฺตํ วจีสมาจารสฺส อปริสุทฺธภาวาวหํ สลฺเลขวิโกปนโต, น หสาธิปฺปาเยน มุสากถนนฺติ ทฏฺพฺพํ. หสาธิปฺปาเยน หิ มุสากถนํ สิกฺขาปทพทฺเธเนว ปฏิกฺขิตฺตนฺติ.

๔๒๐. อาชีโวปิ เอกจฺโจ กมฺมปถวเสน วาริโต ลพฺภติ. โส ปน อติโอฬาริโก กายวจีสมาจารวาเรสุ วุตฺตนโย เอวาติ น คหิโตติ ทฏฺพฺพํ. เย ปน ‘‘ตาทิโส ภิกฺขูนํ อโยคฺยโต น คหิโต’’ติ วทนฺติ, ตํ มิจฺฉา ตถา สติ กายวจีสมาจารวาเรปิ ตสฺส อคฺคเหตพฺพภาวาปตฺติโต. ‘‘ขาทถ ปิวถา’’ติ ปุจฺฉา อตฺตโน ขาทิตุกามตาทีปเนน, ปริยายกถาภาวโต ปเนสา สลฺเลขวิโกปนา ชาตา.

๔๒๒. อเนสนํ ปหาย ธมฺเมน สเมน ปจฺจเย ปริเยสนฺโต ปริเยสนมตฺตฺู นาม. ทายกสฺส เทยฺยธมฺมสฺส อตฺตโน จ ปมาณฺุตาปฏิคฺคณฺหนฺโต ปฏิคฺคหณมตฺตฺู นาม. โยนิโส ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชนฺโต ปริโภคมตฺตฺู นาม.

๔๒๓. เอกสฺมึโกฏฺาเสติ มชฺฌิมยามสฺิเต เอกสฺมึ โกฏฺาเส. ‘‘วาเมน ปสฺเสน เสนฺตี’’ติ เอวํ วุตฺตา. ทกฺขิณปสฺเสน สยาโน นาม นตฺถิ ทกฺขิณหตฺถสฺส สรีรคฺคหณาทิปโยคกฺขมโต. ปุริสวเสน เจตํ วุตฺตํ.

เตชุสฺสทตฺตาติ อิมินา สีหสฺส อภีรุกภาวํ ทสฺเสติ. ภีรุกา หิ เสสมิคา อตฺตโน อาสยํ ปวิสิตฺวา สนฺตาสปุพฺพกํ ยถา ตถา สยนฺติ, สีโห ปน อภีรุกภาวโต สโตการี ภิกฺขุ วิย สตึ อุปฏฺเปตฺวาว สยติ. เตนาห ‘‘ทฺเว ปุริมปาเท’’ติอาทิ. เสติ อพฺยาวฏภาเวน ปวตฺตติ เอตฺถาติ เสยฺยา, จตุตฺถชฺฌานเมว เสยฺยา. กึ ปน ตํ จตุตฺถชฺฌานนฺติ? อานาปานจตุตฺถชฺฌานํ. ตตฺถ หิ ตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ภควา อนุกฺกเมน อคฺคมคฺคํ อธิคโต ตถาคโต ชาโตติ เกจิ, ตยิทํ ปทฏฺานํ นาม น เสยฺยา. อปเร ปน ‘‘จตุตฺถชฺฌานสมนนฺตรา ภควา ปรินิพฺพายี’’ติ วุตฺตปทํ คเหตฺวา ‘‘โลกิยจตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติ ตถาคตเสยฺยา’’ติ วทนฺติ, ตถา สติ ปรินิพฺพานกาลิกา ตถาคตเสยฺยาติ อาปชฺชติ, น จ ภควา จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชนพหุโล วิหาสิ, อคฺคผลฌานํ ปเนตฺถ ‘‘จตุตฺถชฺฌาน’’นฺติ อธิปฺเปตํ. ตตฺถ ยถา สตฺตานํ นิทฺทุปคมนลกฺขณา เสยฺยา ภวงฺคจิตฺตวารวเสน โหติ, ตฺจ เตสํ ปมชาติสมนฺวยํ เยภุยฺยวุตฺติกํ, เอวํ ภควโต อริยชาติสมนฺวยํ เยภุยฺยวุตฺติกํ อคฺคผลภูตํ จตุตฺถชฺฌานํ ‘‘ตถาคตเสยฺยา’’ติ เวทิตพฺพํ. สีหเสยฺยาติ เสฏฺเสยฺยาติ อาห ‘‘อุตฺตมเสยฺยา’’ติ.

๔๒๖. วิคตนฺตานีติ อิณมูลานิ. เตสนฺติ อิณมูลานํ. ปริยนฺโตติ อวเสโส.

ปวตฺตินิวารเณน จตุอิริยาปถํ ฉินฺทนฺโต. อาพาธตีติ ปีเฬติ. ทุกฺขิโตติ สฺชาตทุกฺโข. อปฺปํ พลํ พลมตฺตา. อปฺปตฺโถ หิ อยํ มตฺตา-สทฺโท ‘‘มตฺตาสุขปริจฺจาคา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๙๐) วิย, พลวตฺโถ ปน มตฺตา-สทฺโท อนตฺถนฺตโร. เสสนฺติ ‘‘ตสฺส หิ พนฺธนา มุตฺโตมฺหีติ อาวชฺชยโต ตทุภยํ โหตี’’ติอาทินา วตฺตพฺพํ สนฺธายาห. สพฺพปเทสูติ วุตฺตาวสิฏฺเสุ สพฺพปเทสุ. เยนกามํ ยถารุจิ คจฺฉตีติ เยนกามํคโมติ อนุนาสิกโลปํ อกตฺวา นิทฺเทโส. ภุโช อตฺตโน ยถาสุขวินิโยโค อิสฺโส อิจฺฉิตพฺโพ เอตฺถาติ ภุชิสฺโส, สามิโก. โส ปน อปรสนฺตกตาย ‘‘อตฺตโน สนฺตโก’’ติ วุตฺโต. ทุลฺลภอาปตาย กํ ตาเรนฺติ เอตฺถาติ กนฺตาโรติ อาห ‘‘นิรุทกํ ทีฆมคฺค’’นฺติ.

วินาเสตีติ ขาทนทุพฺพินิโยชนาทีหิ ยถา อิณมูลํ กิฺจิ น โหติ, ตถา กโรติ. ยมฺหิ ราควตฺถุมฺหิ. โส ปุคฺคโล. เตน ราควตฺถุนา, ปุริโส เจ อิตฺถิยา, อิตฺถี เจ ปุริเสน. อิณํ วิย กามจฺฉนฺโท ทฏฺพฺโพ ปีฬาสมานโต.

น วินฺทตีติ น ชานาติ. อุปทฺทเวถาติ สุขวิหารสฺส อุปทฺทวํ กโรถ, วิพาเธถาติ อตฺโถ. โรโค วิย พฺยาปาโท ทฏฺพฺโพ สุขภฺชนสมานโต.

นานาวิธเหตูปายาลงฺกตตาย ขนฺธายตนธาตุปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิธมฺมนีติวิจิตฺตตาย จ วิจิตฺตนเย. ธมฺมสฺสวเนติ ธมฺมกถายํ. กถา หิ โสตพฺพฏฺเน ‘‘สวน’’นฺติ วุตฺตา. เอวเมตฺถ สีลํ วิภตฺตํ, เอวํ ฌานาภิฺา, เอวํ วิปสฺสนามคฺคผลานีติ เนว ตสฺส ธมฺมสฺสวนสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ ชานาติ. อุฏฺิเตติ นิฏฺิเต. อโห การณนฺติ ตตฺถ ตตฺถ ปฏิฺานุรูเปน นิกฺขิตฺตสาธนวเสน คหิตการณํ. อโห อุปมาติ ตสฺเสว การณสฺส ปติฏฺาปนวเสน อนฺวยโต พฺยติเรกโต จ ปติฏฺํ อุทาหรณาทิ. พนฺธนาคารํ วิย ถินมิทฺธํ ทฏฺพฺพํ ทุกฺขโต นิยฺยานสฺส วิพนฺธนโต.

ยสฺมา กุกฺกุจฺจนีวรณํ อุทฺธจฺจรหิตํ นตฺถิ, ยสฺมา วา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ สมานกิจฺจาหารปฏิปกฺขํ, ตสฺมา กุกฺกุจฺจสฺส วิสยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วินเย อปกตฺุนา’’ติอาทิมาห. ยถา หิ อุทฺธจฺจํ สตฺตสฺส อวูปสมกรํ, ตถา กุกฺกุจฺจมฺปิ. ยถาปิ อุทฺธจฺจสฺส าติวิตกฺกาทิ อาหาโร, ตถา กุกฺกุจฺจสฺสปิ. ยถา จ อุทฺธจฺจสฺส สมโถ ปฏิปกฺโข, ตถา กุกฺกุจฺจสฺสปีติ. ทาสพฺยํ วิย อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ทฏฺพฺพํ อเสริภาวาปาทนโต.

โสฬสวตฺถุกา วิจิกิจฺฉา อฏฺวตฺถุกํ วิจิกิจฺฉํ อนุปวิฏฺาติ อาห ‘‘อฏฺสุ าเนสุ วิจิกิจฺฉา’’ติ. วิจิกิจฺฉนฺโตติ สํสยนฺโต. อธิมุจฺจิตฺวาติ ปตฺติยาเยตฺวา. คณฺหิตุนฺติ สทฺเธยฺยวตฺถุํ ปริคฺคเหตุํ. อภิมุขํ สปฺปนํ อาสปฺปนํ, ปริโต สปฺปนํ ปริสปฺปนํ. ปททฺวเยนปิ จิตฺตสฺส อนิจฺฉนาการเมว วทติ. เขมนฺตคามิมคฺคํ น ปริโยคาหติ เอเตนาติ อปริโยคาหนํ, อุสฺสงฺกิตปริสงฺกิตภาเวน ฉมฺภิตํ โหติ จิตฺตํ ยสฺส ธมฺมสฺส วเสน, โส ธมฺโม ฉมฺภิตตฺตนฺติ วิจิกิจฺฉนาการมาห. เตนาห ‘‘จิตฺตสฺส อุปฺปาทยมานา’’ติ. กนฺตารทฺธานมคฺโค วิยาติ สาสงฺกกนฺตารทฺธานมคฺโค วิย ทฏฺพฺพา อปฺปฏิปตฺติเหตุภาวโต.

นตฺถิ เอตฺถ อิณนฺติ อณโณ, ตสฺส ภาโว อาณณฺยํ, กสฺสจิ อิณสฺส อธารณํ. สมิทฺธกมฺมนฺโตติ นิปฺผนฺนชีวิกปฺปโยโค. ปริพุนฺธติ อุปโรเธตีติ ร-การสฺส ล-การํ กตฺวา ปลิโพโธ, อเสริวิหาโร, ตสฺส มูลํ การณนฺติ ปลิโพธมูลํ. ฉ ธมฺเม ภาเวตฺวาติ อสุภนิมิตฺตคฺคาหาทิเก ฉ ธมฺเม อุปฺปาเทตฺวา วฑฺเฒตฺวา. ฉ ธมฺเม ภาเวตฺวาติ จ เมตฺตานิมิตฺตคฺคาหาทโย จ ตตฺถ ตตฺถ ฉ ธมฺมาติ วุตฺตาติ เวทิตพฺโพ. ปชหตีติ วิกฺขมฺภนวเสน ปชหติ. เตนาห ‘‘อาจารปณฺณตฺติอาทีนิ สิกฺขาปิยมาโน’’ติอาทิ. ปรวตฺถุมฺหีติ วิสภาควตฺถุสฺมึ, ปรวิสเย วา. ปรวิสยา เหเต ภิกฺขุโน, ยทิทํ ปฺจ กามคุณา. อาณณฺยมิว กามจฺฉนฺทปฺปหานํ อาห ปิยวตฺถุอภาวาวหโต.

อาจารวิปตฺติปฏิพาหกานิ สิกฺขาปทานิ อาจารปณฺณตฺติอาทีนิ. อาโรคฺยมิว พฺยาปาทปฺปหานํ อาห กายจิตฺตานํ ผาสุภาวาวหโต.

พนฺธนา โมกฺขมิว ถินมิทฺธปฺปหานํ อาห จิตฺตสฺส นิคฺคหิตภาวาวหโต.

ภุชิสฺสํ วิย อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปฺปหานํ อาห จิตฺตสฺส เสริภาวาวหโต.

ติณํวิยาติ ติณมิว กตฺวา. อคเณตฺวาติ อจินฺเตตฺวา. เขมนฺตภูมึ วิย วิจิกิจฺฉาปหานํ อาห อนุสฺสงฺกิตาปริสงฺกิตภาเวน สมฺมาปฏิปตฺติเหตุภาวโต.

๔๒๗. กิรียติ (อ. นิ. ฏี. ๓.๕.๒๘-๒๙) คพฺภาสเย ขิปียตีติ กโร, สมฺภโว, กรโต ชาโตติ กรโช, มาตาเปตฺติกสมฺภโวติ อตฺโถ. มาตุยา หิ สรีรสณฺาปนวเสน กรโต ชาโตติ กรโชติ อปเร. อุภยถาปิ กรชกายนฺติ จตุสนฺตติรูปมาห. เตเมตีติ ตินฺตํ กโรติ. โก ปเนตฺถ ตินฺตภาโวติ อาห ‘‘สฺเนเหตี’’ติ, ปีติสฺเนเหน ปีณนํ กโรตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘สพฺพตฺถ ปวตฺตปีติสุขํ กโรตี’’ติ. ปีติสมุฏฺานปณีตรูเปหิ สกลสฺส กรชกายสฺส ปริผุฏตาย เจตฺถ ตํสมุฏฺาปกปีติสุขานํ สพฺพตฺถ ปวตฺติ โชติตา. ปริสนฺเทตีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถาปิ หิ ‘‘สมนฺตโต สนฺเทติ เตเมติ สฺเนเหติ, สพฺพตฺถ ปวตฺตปีติสุขํ กโรตี’’ติอาทินา ยถารหํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปริปูเรตีติ วายุนา ภสฺตํ วิย อิมํ กรชกายํ ปีติสุเขน ปูเรติ. สมนฺตโต ผุสตีติ อิมํ กรชกายํ ปีติสุเขน ผุสติ. สพฺพาวโตติ อ-การสฺส อา-กาโร กโต, สพฺพาวยววโตติ อตฺโถติ อาห ‘‘สพฺพโกฏฺาสวโต’’ติ, มํสาทิสพฺพาภาควโตติ อตฺโถ. อผุฏํ นาม น โหติ ปีติสุขสมุฏฺาเนหิ รูเปหิ สพฺพตฺถกเมว พฺยาปิตตฺตา. กาตุฺเจว โยเชตุฺจ เฉโก สนฺเนตุํ ปฏิพโลติ โยชนา. นฺหานียจุณฺณานํ ปริมทฺทนวเสน ปิณฺฑํ กโรนฺเตน หตฺเถน ภาชนํ นิปฺปีเฬตพฺพํ โหตีติ อาห ‘‘สนฺเนนฺตสฺส ภิชฺชตี’’ติ. อนุคตาติ อนุปวิฏฺา. ปริคตาติ ปริโต สมนฺตโต ตินฺตา. ตินฺตภาเวเนว สมํ อนฺตรํ พาหิรฺจ เอติสฺสาติ สนฺตรพาหิรา. สพฺพตฺถกเมวาติ สพฺพตฺเถว. น จ ปคฺฆริณี ปมาณยุตฺตสฺเสว อุทกสฺส สิตฺตตฺตา. เอตฺถ จ นฺหานียปิณฺฑํ วิย กรชกาโย, ตํ เตเมตฺวา สมฺปิณฺฑิตปมาณยุตฺตอุทกํ วิย ปมชฺฌานสุขํ ทฏฺพฺพํ.

๔๒๘. เหฏฺา อุพฺภิชฺชิตฺวา อุคฺคจฺฉนอุทโกติ รหทสฺส อโธถูลธาราวเสน อุพฺภิชฺช อุฏฺหนอุทโก. อนฺโตเยว อุพฺภิชฺชนอุทโกติ รหทสฺส อพฺภนฺตเรเยว ถูลธารา อหุตฺวา อุฏฺิตอุทกสิรามุเขหิ อุพฺภิชฺชนโก. อาคมนมคฺโคติ นทีตฬากกนฺทรสรอาทิโต อาคมนมคฺโค.

๔๒๙. อุปฺปลคจฺฉานิ เอตฺถ สนฺตีติ อุปฺปลินี (อ. นิ. ฏี. ๓.๕.๒๘-๒๙), วาริ. อยเมตฺถ วินิจฺฉโย, ตถา หิ โลเก รตฺตกฺขิโก ‘‘ปุณฺฑรีกกฺโข’’ติ วุจฺจติ. เกจิ ปน ‘‘รตฺตํ ปทุมํ, เสตํ ปุณฺฑรีก’’นฺติ วทนฺติ. อุปฺปลาทีนิ วิย กรชกาโย, อุทกํ วิย ตติยชฺฌานสุขนฺติ อยมฺปิ อตฺโถ ‘‘ปุริมนเยนา’’ติ อติเทเสเนว วิภาวิโตติ ทฏฺพฺพํ.

๔๓๐. นิรุปกฺกิเลสฏฺเนาติ รโชชลฺลาทินา อนุปกฺกิลิฏฺตาย อมลีนภาเวน. อมลีนมฺปิ กิฺจิ วตฺถุ ปภสฺสรสภาวํ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปภสฺสรฏฺเนา’’ติ. อุตุผรณนฺติ อุณฺหอุตุผรณํ. สพฺพตฺถกเมว ฌานสุเขน ผุฏฺโ กรชกาโย ยถา อุตุนา ผุฏฺวตฺถสทิโสติ อาห ‘‘วตฺถํ วิย กรชกาโย’’ติ. ตสฺมาติ ‘‘วตฺถํ วิยา’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ เหตุภาเวน ปจฺจามสติ, กรชกายสฺส วตฺถสทิสตฺตา จตุตฺถชฺฌานสุขสฺส จ อุตุผรณสทิสตฺตาติ อตฺโถ. สนฺตสภาวตฺตา าณุตฺตรตฺตา เจตฺถ อุเปกฺขาปิ สุเข สงฺคหิตาติ จตุตฺถชฺฌาเนปิ สุขคฺคหณํ กตํ. ‘‘ปริสุทฺเธน ปริโยทาเตน ผริตฺวา นิสินฺโน โหตี’’ติ วจนโต จตุตฺถชฺฌานจิตฺตสฺส วตฺถสทิสตา วุตฺตา. จตุตฺถชฺฌานสมุฏฺานรูเปหิ ภิกฺขุโน กายสฺส ผุฏภาวํ สนฺธาย ‘‘ตํสมุฏฺานรูปํ อุตุผรณํ วิยา’’ติ วุตฺตํ. ปุริสสฺส กาโย วิย ภิกฺขุโน กรชกาโยติ อยํ ปนตฺโถ ปากโฏติ น คหิโต, คหิโต เอว วา ‘‘ยถา หิ กตฺถจิ…เป… กาโย ผุโฏ โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา.

๔๓๑. ปุพฺเพนิวาสาณอุปมายนฺติ ปุพฺเพนิวาสาณสฺส ทสฺสิตอุปมายํ. ตํทิวสํกตกิริยาคหณํ ปากติกสตฺตสฺสปิ เยภุยฺเยน ปากฏา โหตีติ ทสฺสนตฺถํ. ตํทิวสคตคามตฺตยคฺคหเณเนว มหาภินีหาเรหิ อฺเสมฺปิ ปุพฺเพนิวาสาณลาภีนํ ตีสุ ภเวสุ กตา กิริยา เยภุยฺเยน ปากฏา โหตีติ ทีปิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

๔๓๒. สมฺมุขทฺวาราติ อฺมฺสฺส อภิมุขทฺวารา. อปราปรํ สฺจรนฺเตติ ตํตํกิจฺจวเสน อิโต จิโต จ สฺจรนฺเต. อิโต ปน เคหา…เป… ปวิสนวเสนปีติ อิทํ จุตูปปาตาณสฺส วิสยทสฺสนวเสน วุตฺตํ. ทฺวินฺนํ เคหานํ อนฺตเร ตฺวาติ ทฺวินฺนํ เคหทฺวารานํ สมฺมุขฏฺานภูเต อนฺตรวีถิยํ เวมชฺเฌ ตฺวา. เตสุ หิ เอกสฺส เจ ปาจีนมุขทฺวารํ อิตรสฺส ปจฺฉิมมุขํ, ตสฺส สมฺมุขํ อุภินฺนํ อนฺตรวีถิยํ ิตสฺส ทกฺขิณามุขสฺส, อุตฺตรามุขสฺส วา จกฺขุมโต ปุริสสฺส ตตฺถ ปวิสนกนิกฺขมนกปุริสา ยถา สุเขเนว ปากฏา โหนฺติ, เอวํ ทิพฺพจกฺขุาณสมงฺคิโน จวนกอุปปชฺชนกปุริสา. ยถา ปน ตสฺส ปุริสสฺส อฺเเนว ขเณน ปวิสนฺตสฺส ทสฺสนํ, อฺเน นิกฺขมนฺตสฺส ทสฺสนํ, เอวํ อิมสฺสปิ อฺเเนว ขเณน จวมานสฺส ทสฺสนํ, อฺเน อุปปชฺชมานสฺส ทสฺสนนฺติ ทฏฺพฺพํ. าณสฺส ปากฏาติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. ตสฺสาติ าณสฺส.

๔๓๓. ปพฺพตสิขรํ เยภุยฺเยน สํขิตฺตํ สงฺกุจิตํ โหตีติ อิธ ปพฺพตมตฺถกํ ‘‘ปพฺพตสงฺเขโป’’ติ วุตฺตํ, ปพฺพตปริยาปนฺโน วา ปเทโส ปพฺพตสงฺเขโป. อนาวิโลติ อกาลุสฺโส. สา จสฺส อนาวิลตา กทฺทมาภาเวน โหตีติ อาห ‘‘นิกฺกทฺทโม’’ติ. ิตาสุปิ นิสินฺนาสุปิ คาวีสุ. วิชฺชมานาสูติ ลพฺภมานาสุ. อิตรา ิตาปิ นิสินฺนาปิ จรนฺตีติ วุจฺจนฺติ สหจรณาเยน. ติฏฺนฺตเมว, น กทาจิปิ จรนฺตํ. ทฺวยนฺติ สิปฺปิสมฺมุกํ มจฺฉคุมฺพนฺติ อิมํ อุภยํ ติฏฺนฺตนฺติ วุตฺตํ, จรนฺตมฺปีติ อธิปฺปาโย. กึ วา อิมาย สหจริยาย, ยถาลาภคฺคหณํ ปเนตฺถ ทฏฺพฺพํ. สกฺขรกถลสฺส หิ วเสน ‘‘ติฏฺนฺต’’นฺติ, สิปฺปิสมฺพุกสฺส มจฺฉคุมฺพสฺส จ วเสน ‘‘ติฏฺนฺตมฺปิ, จรนฺตมฺปี’’ติ โยชนา กาตพฺพา.

๔๓๔. ภิกฺขูติ ภินฺนกิเลโสติ ภิกฺขุ. โส หิ ปรมตฺถโต สมโณตินามโก. ตตฺถ อริยมคฺเคน สพฺพโส ปาปานํ สมิตาวีติ สมโณ. เตนาห ‘‘สมิตปาปตฺตา’’ติ. เสฏฺฏฺเน พฺรหฺมา วุจฺจติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ตโต อาคโตติ พฺรหฺมา, อริยมคฺโค, ตํ อสมฺโมหปฏิเวธวเสน อฺาสีติ พฺราหฺมโณ. ตํสมงฺคิตาย หิสฺส ปาปานํ พาหิตภาโว. เตนาห ‘‘พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมโณ’’ติ. อฏฺงฺคิเกน อริยมคฺคชเลน นฺหาตวา นิทฺโธตกิเลโสติ นฺหาตโก. คตตฺตาติ ปหานาภิสมยวเสน ปฏิวิทฺธตฺตา. เตนาห ‘‘วิทิตตฺตา’’ติ. นิสฺสุตตฺตาติ สมุจฺเฉทปฺปหานวเสน สนฺตานโต สพฺพโส นิหตตฺตา. เตนาห ‘‘อปหตตฺตา’’ติ, มริยาทวเสน กิเลสานํ หึสิตตฺตา อริยมคฺเคหิ โอธิโส สพฺพโส กิเลสานํ สมุจฺฉินฺนตฺตาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘หตตฺตา’’ติ. อารกตฺตาติ สุปฺปหีนตาย วิปฺปกฏฺภาวโต. เตนาห ‘‘ทูรีภูตตฺตา’’ติ. อุภยมฺปิ อุภยตฺถ โยเชตพฺพํ – กิเลสานํ อารกตฺตา หตตฺตา ทูรีภูตตฺตา จ อริโย, ตถา อรหนฺติ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ อุตฺตานตฺถตฺตา สุวิฺเยฺยเมว.

มหาอสฺสปุรสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๑๐. จูฬอสฺสปุรสุตฺตวณฺณนา

๔๓๕. ปุริมสทิสเมวาติ ‘‘อสฺสปุรวาสีนํ ภิกฺขุสงฺเฆ คารวพหุมานํ นิปจฺจการฺจ ทิสฺวา ภิกฺขู ปิณฺฑปาตาปจายเน นิโยเชนฺโต อิทํ สุตฺตํ อภาสี’’ติ ปุริมสุตฺเต มหาอสฺสปุเร (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๔๑๕) วุตฺตสทิสเมว. สมณานํ อนุจฺฉวิกาติ สมณานํ สมณภาวสฺส อนุจฺฉวิกา ปติรูปา. สมณานํ อนุโลมปฺปฏิปทาติ สมณานํ สามฺสงฺขาตสฺส อริยมคฺคสฺส อนุกูลปฺปฏิปทา.

๔๓๖. เอเต ธมฺมาติ เอเต ปาฬิยํ อาคตา อภิชฺฌาพฺยาปาทาทโย ปาปธมฺมา. อุปฺปชฺชมานาติ อุปฺปชฺชมานา เอว, ปเคว สนฺตาเน ภาวิตา. มลิเนติ มลวนฺเต กิลิฏฺเ. มลคฺคหิเตติ คหิตมเล สฺชาตมเล. สมณมลาติ สมณานํ สมณภาวสฺส มลา. ทุสฺสนฺตีติ วิปชฺชนฺติ วินสฺสนฺติ. สมณโทสาติ สมณานํ สมณภาวทูสนา. กสเฏติ อสาเร. นิโรเชติ นิตฺเตเช. อยโต สุขโต อเปตาติ อปายา, นิรยาทโย, ตํ ผลํ อรหนฺติ, ตํ ปโยชนํ วา เอเตสนฺติ อาปายิกา. านานิ อภิชฺฌาทโย. เตนาห ‘‘อปาเย’’ติอาทิ. การณภาเวน ทุคฺคติปริยาปนฺนาย เวทนาย หิตานีติ ทุคฺคติเวทนิยานิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ทุคฺคติยํ วิปากเวทนาย ปจฺจยาน’’นฺติ. ติขิณํ อยนฺติ เวกนฺตกสทิสํ สารอยํ. อเยนาติ อโยฆํสเกน. โกฺจสกุณานํ กิร กุจฺฉิยํ นิวุตฺถํ ยํ กิฺจิ ขรํ ติขิณฺจ โหติ. ตถา หิ เตสํ วจฺจํ อฏฺิมฺปิ ปาสาณมฺปิ วิลียาเปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘โกฺจสกุเณ ขาทาเปนฺตี’’ติ. ตํ กิร อยจุณฺณํ อคฺคินาปิ กิจฺเฉน ทยฺหติ, เภสชฺชพเลน ปน สุเขน ทยฺเหยฺย. เตน วุตฺตํ ‘‘สุสิกฺขิตา จ นํ อยการา พหุหตฺถกมฺมมูลํ ลภิตฺวา กโรนฺตี’’ติอาทิ. อติติขิณํ โหติ, อฺตรํ อโยพนฺธนํ เผคฺคุทณฺฑํ วิย สุเขเนว ฉินฺทนฺติ. สสพิฬารจมฺเมหิ สงฺฆฏิตฏฺเน สงฺฆาฏีติ วุจฺจติ อาวุธปริจฺฉโทติ อาห ‘‘สงฺฆาฏิยาติ โกสิยา’’ติ. ปริโยนทฺธนฺติ ปริโต โอนทฺธํ ฉาทิตํ. สมนฺตโต เวิตนฺติ สพฺพโส ปิหิตํ.

๔๓๗. รโชติ อาคนฺตุกรโช. ชลฺลนฺติ สรีเร อุฏฺานกโลณาทิมลํ. รโชชลฺลฺจ วตสมาทานวเสน อนปนีตํ เอตสฺส อตฺถีติ รโชชลฺลิโก, ตสฺส. เตนาห ‘‘รโชชลฺลธาริโน’’ติ. อุทกํ โอโรหนฺตสฺสาติอาทีนมตฺโถ มหาสีหนาทสุตฺตวณฺณนายํ วุตฺโตเยว. สพฺพเมตนฺติอาทีสุ สพฺพโสปิ วตสมาทานวเสนาติ อธิปฺปาโย. ยสฺมา สพฺพเมตํ พาหิรสมยวเสเนว กถิตํ, ตสฺมา สงฺฆาฏิกสฺสาติ ปิโลติกขณฺเฑหิ สงฺฆฏิตตฺตา ‘‘สงฺฆาฏี’’ติ ลทฺธนามวตฺถธาริโนติ อตฺโถ. ตถา หิ ปาฬิยํ ‘‘สงฺฆาฏิกสฺส’’อิจฺเจว วุตฺตํ, น ‘‘ภิกฺขุโน’’ติ. เตนาห ‘‘อิมสฺมึ หี’’ติอาทิ. กสฺมา ปเนตฺถ ภควตา สงฺฆาฏิกตฺตาทีนิเยว วตสมาทานานิ ปฏิกฺขิตฺตานีติ? นยทสฺสนเมตํ อฺเสมฺปิ ปฺจาตปมูควตาทีนํ ตปฺปฏิกฺเขเปเนว ปสิทฺธิโต. อปเร ปน ภณนฺติ – ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, สงฺฆาฏิกสฺส สงฺฆาฏิธารณมตฺเตน สามฺํ วทามี’’ติ วุตฺเต ตตฺถ นิสินฺโน โกจิ ติตฺถนฺตรลทฺธิโก อเจลกตฺตํ นุ โข กถนฺติ จินฺเตสิ, อปเร รโชชลฺลกตฺตํ นุ โข กถนฺติ, เอวํ ตํ ตํ จินฺเตนฺตานํ อชฺฌาสยวเสน ภควา อิมาเนว วตสมาทานานิ อิธ ปฏิกฺขิปีติ. สงฺฆาฏิกนฺติ นิวาสนปารุปนวเสน สงฺฆาฏิวนฺตํ. เตนาห ‘‘สงฺฆาฏิกํ วตฺถ’’นฺติอาทิ. อตฺตโน รุจิยา มิตฺตาทโย สงฺฆาฏิกํ กเรยฺยุํ, ปจฺฉา วิฺุตํ ปตฺตกาเล สงฺฆาฏิกตฺเต สมาทเปยฺยุํ.

๔๓๘. อตฺตานํ วิสุชฺฌนฺตํ ปสฺสติ อภิชฺฌาทีนํ สมุทาจาราภาวโต. มคฺเคน อสมุจฺฉินฺนตฺตา วิสุทฺโธติ ปน น วตฺตพฺโพ. ปาโมชฺชนฺติ ตรุณปีติมาห. ตสฺส หิ อตฺตโน สมฺมาปฏิปตฺติยา กิเลสานํ วิกฺขมฺภิตตฺตา จิตฺตสฺส วิสุทฺธตํ ปสฺสนฺตสฺส ปาโมชฺชํ ชายติ, ตํ ตุฏฺาการํ. เตนาห ‘‘ตุฏฺากาโร’’ติ. ปีตีติ ปสฺสทฺธิอาวหา พลวปีติ. นามกาโย ปสฺสมฺภตีติ อิมินา อุภยมฺปิ ปสฺสทฺธึ วทติ. เวทิยตีติ อนุภวติ วินฺทติ. อิทานิ เตน นีวรเณหิ จิตฺตสฺส วิโสธนตฺตํ ลทฺธนฺติ อาห ‘‘อปฺปนาปฺปตฺตํ วิย โหตี’’ติ. อฺตฺถ อุฏฺิตา อฺํ านํ อุปคตาติ เอตฺตเกน อุปมาภาเวน อุจฺจนีจตาสามฺเน เหฏฺา อสทฺธมฺมานํ ปฏิปกฺขวเสน เทสนาย ปริโยสาปิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘ยถานุสนฺธินา’’ติ. มหาสีหนาทสุตฺเต มคฺโค โปกฺขรณิยา อุปมิโต ‘‘เสยฺยถาปิ, สาริปุตฺต, โปกฺขรณี’’ติอาทึ (ม. นิ. ๑.๑๕๔) อารภิตฺวา อุปมาสํสนฺทเน ‘‘ตถายํ ปุคฺคโล ปฏิปนฺโน, ตถา จ อิริยติ, ตฺจ มคฺคํ สมารุฬฺโห, ยถา อาสวานํ ขยา’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๕๔) วุตฺตตฺตา. ยถา หิ ปุรตฺถิมาทิทิสาหิ อาคตา ปุริสา ตํ โปกฺขรณึ อาคมฺม วิสุทฺธรูปกายา วิคตปริฬาหา จ โหนฺติ, เอวํ ขตฺติยาทิกุลโต อาคตา ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สาสนํ อาคมฺม วิสุทฺธนามกายา วิคตกิเลสปริฬาหา จ โหนฺติ. ตสฺมา สพฺพกิเลสานํ สมิตตฺตา ปรมตฺถสมโณ โหตีติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

จูฬอสฺสปุรสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

นิฏฺิตา จ มหายมกวคฺควณฺณนา.