📜

๕. จูฬยมกวคฺโค

๑. สาเลยฺยกสุตฺตวณฺณนา

๔๓๙. มหาชนกาเยสนฺนิปติเตติ เกจิ ‘‘ปหํสนวิธึ ทสฺเสตฺวา ราชกุมารํ หาเสสฺสามา’’ติ, เกจิ ‘‘ตํ กีฬนํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ เอวํ มหาชนสมูเห สนฺนิปติเต. เทวนฏนฺติ ทิพฺพคนฺธพฺพํ. กุสลํ กุสลนฺติ วจนํ อุปาทายาติ ‘‘กจฺจิ กุสลํ? อาม กุสล’’นฺติ วจนปฏิวจนวเสน ปวตฺตกุสลวาทิตาย เต มนุสฺสา อาทิโต กุสลาติ สมฺํ ลภึสุ. เตสํ กุสลานํ อิสฺสราติ ราชกุมารา โกสลา. โกสเล ชาตา. เตสํ นิวาโสติ สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตนยเมว. เตนาห ‘‘โส ปเทโส โกสลาติ วุจฺจตี’’ติ.

จาริกํ จรมาโนติ สามฺวจนมฺปิ ‘‘มหตา…เป… ตทวสรี’’ติ วจนโต วิเสสํ นิวิฏฺเมวาติ อาห ‘‘อตุริตจาริกํ จรมาโน’’ติ. มหตาติ คุณมหตฺเตนปิ สงฺขฺยามหตฺเตนปิ มหตา. ตสฺมิฺหิ ภิกฺขุสมูเห เกจิ อธิสีลสิกฺขาวเสน สีลสมฺปนฺนา, ตถา เกจิ สีลสมาธิสมฺปนฺนา, เกจิ สีลสมาธิปฺาสมฺปนฺนาติ คุณมหตฺเตนปิ โส ภิกฺขุสมูโห มหาติ. ตํ อนามสิตฺวา สงฺขฺยามหตฺตเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘สตํ วา’’ติอาทิมาห. อฺคามปฏิพทฺธชีวิกาวเสน สโมสรนฺติ เอตฺถาติ สโมสรณํ, คาโม นิวาสคาโม. นฺติ สาลํ พฺราหฺมณคามํ. วิหาโรติ ภควโต วิหรณฏฺานํ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ สาเลยฺยกสุตฺเต. อนิยมิโตติ อสุกสฺมึ อาราเม ปพฺพเต รุกฺขมูเล วาติ น นิยมิโต, สรูปคฺคหณวเสน น นิยมิตฺวา วุตฺโต. ตสฺมาติ อนิยมิตตฺตา. อตฺถาปตฺติสิทฺธมตฺถํ ปริกปฺปนวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘วนสณฺโฑ ภวิสฺสตี’’ติ อาห, อทฺธา ภเวยฺยาติ อตฺโถ.

อุปลภึสูติ (สารตฺถ. ฏี. ๑.๑.เวรฺชกณฺฑวณฺณนา; ที. นิ. ฏี. ๑.๒๕๕; อ. นิ. ฏี. ๒.๓.๖๔) สวนวเสน อุปลภึสูติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โสตทฺวาร…เป… ชานึสู’’ติ อาห. อวธารณผลตฺตา สพฺพมฺปิ วากฺยํ อนฺโตคธาวธารณนฺติ อาห ‘‘ปทปูรณมตฺเต วานิปาโต’’ติ. อวธารณตฺเถติ ปน อิมินา อิฏฺตฺถาวธารณตฺถํ โข-สทฺทคฺคหณนฺติ ทสฺเสติ. ‘‘อสฺโสสุ’’นฺติ ปทํ โข-สทฺเท คหิเต เตน ผุลฺลิตมณฺฑิตวิภูสิตํ วิย โหนฺตํ ปูริตํ นาม โหติ, เตน จ ปุริมปจฺฉิมปทานิ สํสิลิฏฺานิ โหนฺติ, น ตสฺมึ อคฺคหิเตติ อาห ‘‘ปทปูรเณน พฺยฺชนสิลิฏฺตามตฺตเมวา’’ติ. มตฺต-สทฺโท วิเสสนิวตฺติอตฺโถ. เตนสฺส อนตฺถนฺตรทีปนตํ ทสฺเสติ, เอว-สทฺเทน ปน พฺยฺชนสิลิฏฺตาย เอกนฺติกตํ. สาลายํ ชาตา สํวฑฺฒกา สาเลยฺยกา ยถา ‘‘กตฺเตยฺยกา อุพฺเภยฺยกา’’ติ.

สมิตปาปตฺตาติ อจฺจนฺตํ อนวเสสโต สวาสนํ สมิตปาปตฺตา. เอวฺหิ พาหิรกวีตราคเสกฺขาเสกฺขปาปสมนโต ภควโต ปาปสมนํ วิเสสิตํ โหติ. อเนกตฺถตฺตา นิปาตานํ อิธ อนุสฺสวตฺโถ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ขลูติ อนุสฺสวนตฺเถ นิปาโต’’ติ. อาลปนมตฺตนฺติ ปิยาลาปวจนํ. ปิยสมุทาหารา เหเต ‘‘โภ’’ติ วา ‘‘อาวุโส’’ติ วา ‘‘เทวานํปิยา’’ติ วา. โคตฺตวเสนาติ เอตฺถ ตํ ตายตีติ โคตฺตํ. โคตโมติ หิ ปวตฺตมานํ อภิธานํ พุทฺธิฺจ เอกํสิกวิสยตาย ตายติ รกฺขตีติ โคตมโคตฺตํ. ยถา หิ พุทฺธิ อารมฺมณภูเตน อตฺเถน วินา น วตฺตติ, เอวํ อภิธานํ อภิเธยฺยภูเตน, ตสฺมา โส ตานิ ตายติ รกฺขตีติ วุจฺจติ. โส ปน อตฺถโต อฺกุลปรมฺปราสาธารณํ ตสฺส กุลสฺส อาทิปุริสสมุทาคตํ ตํกุลปริยาปนฺนสาธารณํ สามฺรูปนฺติ ทฏฺพฺพํ. อุจฺจากุลปริทีปนํ อุทิโตทิตวิปุลขตฺติยกุลวิภาวนโต. สพฺพขตฺติยานฺหิ อาทิภูตมหาสมฺมตมหาราชโต ปฏฺาย อสมฺภินฺนํ อุฬารตมํ สกฺยราชกุลํ. เกนจิ ปาริชุฺเนาติ าติปาริชุฺโภคปาริชุฺาทินา เกนจิปิ ปาริชุฺเน ปริหานิยา อนภิภูโต อนชฺโฌตฺถโฏ. ตถา หิ กทาจิปิ ตสฺส กุลสฺส ตาทิสปาริชุฺาภาโว, อภินิกฺขมนกาเล จ ตโต สมิทฺธตมภาโว โลเก ปากโฏ ปฺาโตติ. สกฺยกุลา ปพฺพชิโตติ อิทํ วจนํ ภควโต สทฺธาปพฺพชิตภาวทีปนํ วุตฺตํ มหนฺตํ าติปริวฏฺฏํ มหนฺตฺจ โภคกฺขนฺธํ ปหาย ปพฺพชิตภาวทีปนโต. เอตฺถ จ สมโณติ อิมินา ปริกฺขกชเนหิ ภควโต พหุมตภาโว ทสฺสิโต สมิตปาปตาทีปนโต, โคตโมติ อิมินา โลกิยชเนหิ อุฬารตมกุลีนตาทีปนโต.

อพฺภุคฺคโตติ เอตฺถ อภิ-สทฺโท อิตฺถมฺภูตาขฺยาเน, ตํโยคโต ปน ‘‘ภวนฺตํ โคตม’’นฺติ อุปโยควจนํ สามิอตฺเถปิ สมานํ อิตฺถมฺภูตโยคทีปนโต ‘‘อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ตสฺส โข ปน โภโต โคตมสฺสาติ อตฺโถ’’ติ. กลฺยาโณติ ภทฺทโก. สา จสฺส กลฺยาณตา อุฬารวิสยตายาติ อาห ‘‘กลฺยาณคุณสมนฺนาคโต’’ติ. ตํวิสยตา เหตฺถ สมนฺนาคโม. เสฏฺโติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย ยถา ‘‘ภควาติ วจนํ เสฏฺ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.เวรฺชกณฺฑวณฺณนา; วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๒; อุทา. อฏฺ. ๑; อิติวุ. อฏฺ. นิทานวณฺณนา; มหานิ. อฏฺ. ๕๐). ‘‘ภควา อรห’’นฺติอาทินา คุณานํ สํกิตฺตนโต สํสทฺทนโต จ กิตฺติสทฺโท วณฺโณติ อาห ‘‘กิตฺติเยวา’’ติ. กิตฺติปริยาโยปิ หิ สทฺท-สทฺโท ยถา ตํ ‘‘อุฬารสทฺทา อิสโย คุณวนฺโต ตปสฺสิโน’’ติ. ถุติโฆโสติ อภิตฺถวุทาหาโร. อชฺโฌตฺถริตฺวาติ ปฏิปกฺขาภาเวน อนฺสาธารณตาย จ อภิภวิตฺวา.

โส ภควาติ โย โส สมตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพกิเลเส ภฺชิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ เทวานํ อติเทโว สกฺกานํ อติสกฺโก พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา โลกนาโถ ภาคฺยวนฺตตาทีหิ การเณหิ ภควาติ ลทฺธนาโม, โส ภควา. ‘‘ภควา’’ติ หิ อิทํ สตฺถุ นามกิตฺตนํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ภควาติ เนตํ นามํ มาตรา กต’’นฺติอาทิ (มหานิ. ๑๔๙, ๑๙๘, ๒๑๐; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๒). ปรโต ปน ‘‘ภควา’’ติ คุณกิตฺตนเมว. เอวํ ‘‘อรห’’นฺติอาทีหิ ปเทหิ เย สเทวเก โลเก อติวิย ปฺาตา พุทฺธคุณา, เต นานปฺปการโต วิภาวิตาติ ทสฺเสตุํ ปจฺเจกํ อิติปิ-สทฺโท โยเชตพฺโพติ อาห ‘‘อิติปิ อรหํ, อิติปิ สมาสมฺพุทฺโธ…เป… อิติปิ ภควา’’ติ. ‘‘อิติเปตํ ภูตํ, อิติเปตํ ตจฺฉ’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๖) วิย หิ อิธ อิติ-สทฺโท อาสนฺนปจฺจกฺขการณตฺโถ, ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ เตน เตสํ คุณานํ พหุภาวทีปนโต. ตานิ คุณสลฺลกฺขณการณานิ สทฺธาสมฺปนฺนานํ วิฺุชาติกานํ ปจฺจกฺขานิ เอวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมินา จ อิมินา จ การเณนาติ วุตฺตํ โหตี’’ติอาทิ. ตโต วิสุทฺธิมคฺคโต. เตสนฺติ ‘‘อรห’’นฺติอาทีนํ. วิตฺถาโร อตฺถนิทฺเทโส คเหตพฺโพ. ตโต เอว ตํสํวณฺณนายํ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๓๐) วุตฺโต ‘‘อารกาติ อรหํ สุวิทูรภาวโต, อารกาติ อรหํ อาสนฺนภาวโต, รหิตพฺพสฺส อภาวโต, สยฺจ อรหิตพฺพโต, นตฺถิ เอตสฺส รโหคมนํ คตีสุ ปจฺจาชาติ, ปาสํสภาวโต วา อรห’’นฺติอาทินา ‘‘อรห’’นฺติอาทีนํ ปทานํ อตฺโถ วิตฺถารโต เวทิตพฺโพ.

ภวนฺติ เจตฺถ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๓๐; สารตฺถ. ฏี. ๑.เวรฺชกณฺฑวณฺณนา) –

‘‘สมฺมา นปฺปฏิปชฺชนฺติ, เย นิหีนาสยา นรา;

อารกา เตหิ ภควา, ทูเร เตนารหํ มโต.

เย สมฺมา ปฏิปชฺชนฺติ, สุปฺปณีตาธิมุตฺติกา;

ภควา เตหิ อาสนฺโน, เตนาปิ อรหํ ชิโน.

ปาปธมฺมา รหา นาม, สาธูหิ รหิตพฺพโต;

เตสํ สุฏฺุ ปหีนตฺตา, ภควา อรหํ มโต.

เย สจฺฉิกตสทฺธมฺมา, อริยา สุทฺธโคจรา;

น เตหิ รหิโต โหติ, นาโถ เตนารหํ มโต.

รโห วา คมนํ ยสฺส, สํสาเร นตฺถิ สพฺพโส;

ปหีนชาติมรโณ, อรหํ สุคโต มโต.

คุเณหิ สทิโส นตฺถิ, ยสฺมา โลเก สเทวเก;

ตสฺมา ปาสํสิยตฺตาปิ, อรหํ ทฺวิปทุตฺตโม.

อารกา มนฺทพุทฺธีนํ, อาสนฺนา จ วิชานตํ;

รหานํ สุปฺปหีนตฺตา, วิทูนมรเหยฺยโต;

ภเวสุ จ รหาภาวา, ปาสํสา อรหํ ชิโน’’ติ.

สุนฺทรนฺติ ภทฺทกํ. ตฺจ ปสฺสนฺตสฺส หิตสุขาวหภาเวน เวทิตพฺพนฺติ อาห ‘‘อตฺถาวหํ สุขาวห’’นฺติ. ตตฺถ อตฺถาวหนฺติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺถสฺหิตหิตาวหํ. สุขาวหนฺติ ตปฺปริยาปนฺนติวิธสุขาวหํ. ตถารูปานนฺติ ตาทิสานํ. ยาทิเสหิ ปน คุเณหิ ภควา สมนฺนาคโต, เตหิ จตุปฺปมาณิกสฺส โลกสฺส สพฺพถาปิ อจฺจนฺตาย ปสาทนีโยติ ทสฺเสตุํ ‘‘อเนเกหิปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยถาภูต…เป… อรหตนฺติ อิมินา ธมฺมปฺปมาณานํ ลูขปฺปมาณานํ สตฺตานํ ภควโต ปสาทาวหตมาห, อิตเรน อิตเรสํ. ทสฺสนมตฺตมฺปิสาธุโหตีติ เอตฺถ โกสิยสกุณสฺส วตฺถุ กเถตพฺพํ. เอกํ ปทมฺปิ โสตุํ ลภิสฺสาม, สาธุตรํเยว ภวิสฺสตีติ เอตฺถ มณฺฑูกเทวปุตฺตวตฺถุ กเถตพฺพํ.

อิมินา นเยน อคาริกปุจฺฉา อาคตาติ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ. เยภุยฺเยน หิ อคาริกา เอวํ ปุจฺฉนฺติ. อนคาริกปุจฺฉายปิ เอเสว นโย. ยถา น สกฺโกนฺติ…เป… วิสฺสชฺเชนฺโตติ อิมินา สตฺถุ เตสํ พฺราหฺมณคหปติกานํ นิคฺคณฺหนวิธึ ทสฺเสติ. เตสฺหิ สํขิตฺตรุจิตาย สงฺเขปเทสนา, ตาย อตฺถํ อชานนฺตา วิตฺถารเทสนํ อายาจนฺติ, สา จ เนสํ สํขิตฺตรุจิตา ปณฺฑิตมานิตาย, โส จ มาโน ยถาเทสิตสฺส อตฺถสฺส อชานนฺเต อปฺปติฏฺโ โหติ , อิติ ภควา เตสํ มานนิคฺคหวิธึ จินฺเตตฺวา สงฺเขเปเนว ปฺหํ วิสฺสชฺเชสิ, น สพฺพโส เทสนาย อสลฺลกฺขณตฺถํ. เตนาห ‘‘ปณฺฑิตมานิกา หี’’ติอาทิ. ยสฺมา มํ ตุมฺเห ยาจถ, สํขิตฺเตน วุตฺตมตฺถํ น ชานิตฺถาติ อธิปฺปาโย.

๔๔๐. ‘‘เอกวิเธน าณวตฺถุ’’นฺติอาทีสุ (วิภ. ๗๕๑) วิย โกฏฺาสตฺโถ วิธ-สทฺโท, โส จ วิภตฺติวจนวิปลฺลาสํ กตฺวา ปจฺจตฺเต กรณวจนวเสน ‘‘ติวิธ’’นฺติ วุตฺโต. อตฺโถ ปน กรณปุถุวจนวเสน ทฏฺพฺโพติ อาห ‘‘ติวิธนฺติ ตีหิ โกฏฺาเสหี’’ติ. ปการตฺโถ วา วิธ-สทฺโท, ปการตฺถตฺตาเยว ลพฺภมานํ อธมฺมจริยาวิสมจริยาภาวสามฺํ, กายทฺวาริกภาวสามฺํ วา อุปาทาย เอกตฺตํ เนตฺวา ‘‘ติวิธ’’นฺติ วุตฺตํ. ปการเภเท ปน อเปกฺขิเต ‘‘ติวิธา’’อิจฺเจว วุตฺตํ โหติ. กาเยนาติ เอตฺถ กาโยติ โจปนกาโย อธิปฺเปโต, โส จ อธมฺมจริยาย ทฺวารภูโต เตน วินา ตสฺสา อปฺปวตฺตนโต. กาเยนาติ จ เหตุมฺหิ กรณวจนํ. กิฺจาปิ หิ อธมฺมจริยาสงฺขาตเจตนาสมุฏฺานา สา วิฺตฺติ, น จ สา ปฏฺาเน อาคเตสุ จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ เอเกนปิ ปจฺจเยน เจตนาย ปจฺจโย โหติ, ตสฺสา ปน ตถาปวตฺตมานาย กายกมฺมสฺิตาย เจตนาย ปวตฺติ โหตีติ เตน ทฺวาเรน ลกฺขิตพฺพภาวโต ตสฺสา การณํ วิย จ สพฺโพหารมตฺตํ โหติ. กายทฺวาเรนาติ วา กาเยน ทฺวารภูเตน กายทฺวารภูเตนาติ ตํ อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ กรณวจนํ. อธมฺมํ จรติ เอตายาติ อธมฺมจริยา, ตถาปวตฺตา เจตนา. อธมฺโมติ ปน ตํสมุฏฺาโน ปโยโค ทฏฺพฺโพ. ธมฺมโต อนเปตาติ ธมฺมา, น ธมฺมาติ อธมฺมา, อธมฺมา จ สา จริยา จาติ อธมฺมจริยา. ปจฺจนีกสมนฏฺเน สมํ, สมานํ สทิสํ ยุตฺตนฺติ วา สมํ, สุจริตํ. สมโต วิคตํ, วิรุทฺธํ วา ตสฺสาติ วิสมํ, ทุจฺจริตํ. สา เอว วิสมา จริยาติ วิสมจริยา. สพฺเพสุ กณฺหสุกฺกปเทสูติ ‘‘จตุพฺพิธํ วาจาย อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหตี’’ติอาทินา อุทฺเทสนิทฺเทสวเสน อาคเตสุ สพฺเพสุ กณฺหปเทสุ – ‘‘ติวิธํ โข คหปตโย กาเยน ธมฺมจริยาสมจริยา โหตี’’ติอาทินา อุทฺเทสนิทฺเทสวเสน อาคเตสุ สพฺเพสุ สุกฺกปเทสุ จ.

โรเทติ กุรูรกมฺมนฺตตาย ปรปฏิพทฺเธ สตฺเต อสฺสูนิ โมเจตีติ รุทฺโท, โส เอว ลุทฺโท ร-การสฺส ล-การํ กตฺวา. กกฺขโฬติ ลุทฺโท. ทารุโณติ ผรุโส. สาหสิโกติ สาหสฺสการี. สเจปิ น ลิปฺปนฺติ. ตถาวิโธ ปเรสํ ฆาตนสีโล โลหิตปาณีตฺเวว วุจฺจติ ยถา ทานสีโล ปเรสํ ทานตฺถํ อโธตหตฺโถปิ ‘‘ปยตปาณี’’ตฺเวว วุจฺจติ. ปหรณํ ปหารทานมตฺตํ หตํ, ปวุทฺธํ ปหรณํ ปรสฺส มารณํ ปหตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘หเต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นิวิฏฺโติ อภินิวิฏฺโ ปสุโต.

ยสฺส วเสน ‘‘ปรสฺสา’’ติ สามินิทฺเทโส, ตํ สาปเตยฺยํ. ยฺหิ สามฺโต คหิตํ, ตํ เตเนว สามินิทฺเทเสน ปกาสิตนฺติ อาห ‘‘ปรสฺส สนฺตก’’นฺติ. ปรสฺสปรวิตฺตูปกรณนฺติ วา เอกเมเวตํ สมาสปทํ, ยํ กิฺจิ ปรสนฺตกํ วิเสสโต ปรสฺส วิตฺตูปกรณํ วาติ อตฺโถ. เตหิ ปเรหีติ เยสํ สนฺตกํ, เตหิ. ยสฺส วเสน ปุริโส ‘‘เถโน’’ติ วุจฺจติ, ตํ เถยฺยนฺติ อาห ‘‘อวหรณจิตฺตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ. เถยฺยสงฺขาเตน, น วิสฺสาสตาวกาลิกาทิวเสนาติ อตฺโถ.

มเต วาติ วา-สทฺโท อวุตฺตวิกปฺปตฺโถ. เตน ปพฺพชิตาทิภาวํ สงฺคณฺหาติ. เอเตนุปาเยนาติ ยํ มาตริ มตาย, นฏฺาย วา ปิตา รกฺขติ, สา ปิตุรกฺขิตา. ยํ อุโภสุ อสนฺเตสุ ภาตา รกฺขติ, สา ภาตุรกฺขิตาติ เอวมาทึ สนฺธายาห. สภาคกุลานีติ อาวาหกิริยาย สภาคานิ กุลานิ. ทสฺสุกวิธึ วา อุทฺทิสฺส ปิตทณฺฑาราชาทีหิ. สมฺมาทิฏฺิสุตฺเต (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๘๙) ‘‘อสทฺธมฺมาธิปฺปาเยน กายทฺวารปฺปวตฺตา อคมนียฏฺานวีติกฺกมเจตนา’’ติ เอวํ วุตฺตมิจฺฉาจารลกฺขณวเสน.

หตฺถปาทาทิเหตูติ หตฺถปาทาทิเภทนเหตุ. ธนเหตูติ ธนสฺส ลาภเหตุ ชานิเหตุ จ. ลาโภติ ฆาสจฺฉาทนานิ ลพฺภตีติ ลาโภ. กิฺจิกฺขนฺติ กิฺจิมตฺตกํ อามิสชาตํ. เตนาห ‘‘ยํ วา’’ติอาทิ. ชานนฺโตเยวาติ มุสาภาวํ ตสฺส วตฺถุโน อตฺถิ, ตํ ชานนฺโต เอว.

อณฺฑกาติ วุจฺจติ รุกฺเข อณฺฑสทิสา คณฺิโย. ยถา ถทฺธา วิสมา ทุพฺพินีตา จ โหนฺติ, เอวเมวํ ขุํสนวมฺภนวเสน ปวตฺตวาจาปิ หิ ‘‘อณฺฑกา’’ติ วุตฺตา. เตนาห ‘‘ยถา สโทเส รุกฺเข’’ติอาทิ. กกฺกสาติ ผรุสา เอว, โส ปนสฺสา กกฺกสภาโว พฺยาปาทนิมิตฺตตาย ตโต ปูติกาติ. เตนาห ‘‘ยถา นามา’’ติอาทิ. กฏุกาติ อนิฏฺา. อมนาปาติ น มนวฑฺฒนี, ตโต เอว โทสชนนี, จิตฺตสนฺโทสุปฺปตฺติการิกา. มมฺเมสูติ ฆฏฺฏเนน ทุกฺขุปฺปตฺติโต มมฺมสทิเสสุ ชาติอาทีสุ. ลคฺคนการีติ เอวํ วทนฺตสฺส เอวํ วทามีติ อตฺถาธิปฺปาเยน ลคฺคนการี, น พฺยฺชนวเสน. โกธสฺส อาสนฺนา ตสฺส การณภาวโต. สโทสวาจายาติ อตฺตโน สมุฏฺาปกโทสสฺส วเสน สโทสวาจาย เววจนานิ.

อกาเลนาติ อยุตฺตกาเลน. อการณนิสฺสิตนฺติ นิปฺผลํ. ผลฺหิ การณนิสฺสิตํ นาม ตทวินาภาวโต. อการณนิสฺสิตํ นิปฺผลํ, สมฺผนฺติ อตฺโถ. อสภาววตฺตาติ อยาถาววาที. อสํวรวินยปฏิสํยุตฺตสฺสาติ สํวรวินยรหิตสฺส, อตฺตโน สุณนฺตสฺส จ น สํวรวินยาวหสฺส วตฺตา. หทยมฺชูสายํ นิเธตุนฺติ อหิตสํหิตตฺตา จิตฺตํ อนุปฺปวิเสตฺวา นิเธตุํ . อยุตฺตกาเลติ ธมฺมํ กเถนฺเตน โย อตฺโถ ยสฺมึ กาเล วตฺตพฺโพ, ตโต ปุพฺเพ ปจฺฉา ตสฺส อกาโล, ตสฺมึ อยุตฺตกาเล วตฺตา โหติ. อนปเทสนฺติ ภควตา อสุกสุตฺเต เอวํ วุตฺตนฺติ สุตฺตาปเทสวิรหิตํ. อปริจฺเฉทนฺติ ปริจฺเฉทรหิตํ . ยถา ปน วาจา ปริจฺเฉทรหิตา โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุตฺตํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุปลพฺภนฺติ อนุโยคํ. พาหิรกถํเยวาติ ยํ สุตฺตํ, ชาตกํ วา นิกฺขิตฺตํ, ตสฺส สรีรภูตํ กถํ อนามสิตฺวา ตโต พหิภูตํเยว กถํ. สมฺปชฺชิตฺวาติ วิรุฬฺหํ อาปชฺชิตฺวา. ปเวณิชาตกาวาติ อนุชาตปาโรหมูลานิเยว ติฏฺนฺติ. อาหริตฺวาติ นิกฺขิตฺตสุตฺตโต อฺมฺปิ อนุโยคอุปมาวตฺถุวเสน ตทนุปโยคินํ อาหริตฺวา. ชานาเปตุนฺติ เอตทตฺถมิทํ วุตฺตนฺติ ชานาเปตุํ โย สกฺโกติ. ตสฺส กเถตุนฺติ ตสฺส ตถารูปสฺส ธมฺมกถิกสฺส พหุมฺปิ กเถตุํ วฏฺฏติ. น อตฺถนิสฺสิตนฺติ อตฺตโน ปเรสฺจ น หิตาวหํ.

อภิชฺฌายนํ เยภุยฺเยน ปรสนฺตกสฺส ทสฺสนวเสน โหตีติ ‘‘อภิชฺฌาย โอโลเกตา โหตี’’ติ วุตฺตํ. อภิชฺฌายนฺโต วา อภิชฺฌายิตํ วตฺถุํ ยตฺถ กตฺถจิ ิตมฺปิ ปจฺจกฺขโต ปสฺสนฺโต วิย อภิชฺฌายตีติ วุตฺตํ ‘‘อภิชฺฌาย โอโลเกตา โหตี’’ติ. กมฺมปถเภโท น โหติ, เกวลํ โลภมตฺโตว โหติ ปริณามนวเสน อปฺปวตฺตตฺตา. ยถา ปน กมฺมปถเภโท โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยทา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริณาเมตีติ อตฺตโน สนฺตกภาเวน ปริคฺคยฺห นาเมติ.

วิปนฺนจิตฺโตติ พฺยาปาเทน วิปตฺตึ อาปาทิตจิตฺโต. เตนาห ‘‘ปูติภูตจิตฺโต’’ติ. พฺยาปาโท หิ วิสํ วิย โลหิตสฺส จิตฺตํ ปูติภาวํ ชเนติ. โทเสน ทุฏฺจิตฺตสงฺกปฺโปติ วิเสน วิย สปฺปิอาทิโกเปน ทูสิตจิตฺตสงฺกปฺโป. ฆาตียนฺตูติ หนียนฺตุ. วธํ ปาปุณนฺตูติ มรณํ ปาปุณนฺตุ. มา วา อเหสุนฺติ สพฺเพน สพฺพํ น โหนฺตุ. เตนาห ‘‘กิฺจิปิ มา อเหสุ’’นฺติ, อนวเสสวินาสํ ปาปุณนฺตูติ อตฺโถ. หฺนฺตูติ อาทิจินฺตเนเนวาติ เอกนฺตโต วินาสจินฺตาย เอว.

มิจฺฉาทิฏฺิโกติ อโยนิโส อุปฺปนฺนทิฏฺิโก. โส จ เอกนฺตโต กุสลปฏิปกฺขทิฏฺิโกติ อาห ‘‘อกุสลทสฺสโน’’ติ. วิปลฺลตฺถทสฺสโนติ ธมฺมตาย วิปริยาสคฺคาหี. นตฺถิ ทินฺนนฺติ เทยฺยธมฺมสีเสน ทานํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ทินฺนสฺส ผลาภาวํ สนฺธาย วทตี’’ติ. ทินฺนํ ปน อนฺนาทิวตฺถุํ กถํ ปฏิกฺขิปติ. เอส นโย ‘‘ยิฏฺํ หุต’’นฺติ เอตฺถาปิ. มหายาโคติ สพฺพสาธารณํ มหาทานํ. ปเหณกสกฺกาโรติ ปาหุนกานํ กตฺตพฺพสกฺกาโร. ผลนฺติ อานิสํสผลฺจ นิสฺสนฺทผลฺจ. วิปาโกติ สทิสํ ผลํ. ปรโลเก ิตสฺส อยํ โลโก นตฺถีติ ปรโลเก ิตสฺส กมฺมุนา ลทฺธพฺโพ อยํ โลโก น โหติ. อิธโลเก ิตสฺสปิ ปรโลโก นตฺถีติ อิธโลเก ิตสฺส กมฺมุนา ลทฺธพฺโพ ปรโลโก น โหติ. ตตฺถ การณมาห ‘‘สพฺเพ ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนฺตี’’ติ . อิเม สตฺตา ยตฺถ ยตฺถ ภวโยนิคติอาทีสุ ิตา ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนฺติ นิรุทยวินาสวเสน วินสฺสนฺติ. ผลาภาววเสนาติ มาตาปิตูสุ สมฺมาปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺตีนํ ผลสฺส อภาววเสน ‘‘นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา’’ติ วทติ, น มาตาปิตูนํ, นาปิ เตสุ สมฺมาปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺตีนํ อภาววเสน เตสํ โลกปจฺจกฺขตฺตา. พุพฺพุฬกสฺส วิย อิเมสํ สตฺตานํ อุปฺปาโท นาม เกวโลว, น จวิตฺวา อาคมนปุพฺพโกติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘จวิตฺวา อุปปชฺชนกสตฺตา นาม นตฺถีติ วทตี’’ติ. สมเณน นาม ยาถาวโต ชานนฺเตน กสฺสจิ กิฺจิ อกเถตฺวา สฺเตน ภวิตพฺพํ, อฺถา อโหปุริสิกา นาม สิยา, กึ ปโร ปรสฺส กริสฺสติ, ตถา อตฺตโน สมฺปาทนสฺส กสฺสจิ อวสโร เอว นตฺถิ ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนโตติ อาห ‘‘เย อิมฺจ…เป… ปเวเทนฺตี’’ติ. เอตฺตาวตาติ ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินา พฺยปเทเสน. ทสวตฺถุกาติ ปฏิกฺขิปิตพฺพานิ ทส วตฺถูนิ เอติสฺสาติ ทสวตฺถุกา.

๔๔๑. อนภิชฺฌาทโย เหฏฺา อตฺถโต ปกาสิตตฺตา อุตฺตานตฺถาเยว.

๔๔๒. สห พฺยยติ คจฺฉตีติ สหพฺโย, สหวตฺตนโก, ตสฺส ภาโว สหพฺยตา, สหปวตฺตีติ อาห ‘‘สหภาวํ อุปคจฺเฉยฺย’’นฺติ. พฺรหฺมานํ กาโย สมูโหติ พฺรหฺมกาโย, ตปฺปริยาปนฺนตาย ตตฺถ คตาติ พฺรหฺมกายิกา. กามํ เจตาย สพฺพสฺสปิ พฺรหฺมนิกายสฺส สมฺาย ภวิตพฺพํ, ‘‘อาภาน’’นฺติอาทินา ปน ทุติยชฺฌานภูมิกาทีนํ อุปริ คหิตตฺตา โคพลีพทฺทาเยน ตทวเสสานํ อยํ สมฺาติ อาห ‘‘พฺรหฺมกายิกานํ เทวานนฺติ ปมชฺฌานภูมิเทวาน’’นฺติ. อาภา นาม วิสุํ เทวา นตฺถิ, ปริตฺตาภาทีนํเยว ปน อาภาวนฺตตาสามฺเน เอกชฺฌํ คเหตฺวา ปวตฺตํ เอตํ อธิวจนํ, ยทิทํ ‘‘อาภา’’ติ ยถา ‘‘พฺรหฺมปาริสชฺชพฺรหฺมปุโรหิตมหาพฺรหฺมานํ พฺรหฺมกายิกา’’ติ. ปริตฺตาภานนฺติอาทิ ปนาติ อาทิ-สทฺเทน อปฺปมาณาภานํ เทวานํ อาภสฺสรานํ เทวานนฺติ อิมํ ปาฬึ สงฺคณฺหาติ. เอกโต อคฺคเหตฺวาติ อาภาติ วา, เอกตฺตกายนานตฺตสฺาติ วา เอกโต อคฺคเหตฺวา. เตสํเยวาติ อาภาติ วุตฺตเทวานํเยว. เภทโต คหณนฺติ การณสฺส หีนาทิเภทภินฺนตาทสฺสนวเสน ปริตฺตาภาทิคฺคหณํ. อิติ ภควา อาสวกฺขยํ ทสฺเสตฺวาติ เอวํ ภควา ธมฺมจริยํ, สมจริยํ, วฏฺฏนิสฺสิตํ สุคติคามิปฏิปทํ, วิวฏฺฏนิสฺสิตํ อาสวกฺขยคามิปฏิปทํ กตฺวา ติภวภฺชนโต อาสวกฺขยํ ทสฺเสตฺวา อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺเปสิ.

อิธ ตฺวาติ อิมสฺมึ ธมฺมจริยาสมจริยาย นิทฺเทเส ตฺวา. เทวโลกา สมาเนตพฺพาติ ฉพฺพีสติปิ เทวโลกา สโมธาเนตพฺพา. วีสติ พฺรหฺมโลกาติ ตํตํภวปริยาปนฺนนิกายวเสน วีสติ พฺรหฺมโลกา, วีสติ พฺรหฺมนิกายาติ อตฺโถ. ทสกุสลกมฺมปเถหีติ ยถารหํ ทสกุสลกมฺมปเถหิ กมฺมูปนิสฺสยปจฺจยภูเตหิ เกวลํ อุปนิสฺสยภูเตหิ จ นิพฺพตฺติ ทสฺสิตา.

ติณฺณํ สุจริตานนฺติ ติณฺณํ กามาวจรสุจริตานํ. กามาวจรคฺคหณฺเจตฺถ มโนสุจริตาเปกฺขาย. วิปาเกเนวาติ อิมินา วิปากุปฺปาเทเนว นิพฺพตฺติ โหติ, น อุปนิสฺสยตามตฺเตนาติ ทสฺเสติ. ‘‘อุปนิสฺสยวเสนา’’ติ วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘ทส กุสลกมฺมปถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทุติยาทีนิ ภาเวตฺวาติอาทีสุปิ ‘‘สีเล ปติฏฺายา’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. กสฺมา ปเนตฺถ ‘‘อุปนิสฺสยวเสนา’’ติ วุตฺตํ, นนุ ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๑.๔๑) – ‘‘ปเมน ฌาเนน นีวรณานํ ปหานํ สีลํ, เวรมณิ สีลํ, เจตนา สีลํ, สํวโร สีลํ, อวีติกฺกโม สีล’’นฺติอาทินา สพฺเพสุปิ ฌาเนสุ สีลํ อุทฺธฏนฺติ ตสฺส วเสน อุปริเทวโลกานมฺปิ วิปาเกน นิพฺพตฺติ วตฺตพฺพาติ? น, ตสฺส ปริฺาย เทสนตฺตา, ปริฺาย เทสนตา จสฺส ‘‘ยตฺถ จ ปหาน’’นฺติอาทินา วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนายฺจ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๒.๘๓๗, ๘๓๙) ปกาสิตา เอว. ตถา หิ อิธาปิ ‘‘ทส กุสลกมฺมปถา หิ สีล’’นฺติอาทินา สีลสฺส รูปารูปภวานํ อุปนิสฺสยตา วิภาวิตา, น นิพฺพตฺตกตาย. กสฺมา ปเนตฺถ ภาวนาลกฺขณาย ธมฺมจริยาย ภววิเสเส วิภชิยมาเน อสฺภโว น คหิโตติ อาห ‘‘อสฺภโวปน…เป… น นิทฺทิฏฺโ’’ติ. พาหิรกา หิ อยถาภูตทสฺสิตาย อสฺภวํ ภววิปฺปโมกฺขํ มฺมานา ตทุปคชฺฌานํ ภาเวตฺวา อสฺเสุ นิพฺพตฺตนฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ พฺรหฺมชาลฏฺกถายํ ตํสํวณฺณนายฺจ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๖๘-๗๓; ที. นิ. ฏี. ๑.๖๘-๗๓) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

สาเลยฺยกสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๒. เวรฺชกสุตฺตวณฺณนา

๔๔๔. เวรฺชวาสิโนติ เวรฺชคามวาสิโน. เกจิ ปน ‘‘วิวิธรฏฺวาสิโน เวรฺชกา’’ติ เอตมตฺถํ วทนฺติ, เตสํ มเตน ‘‘เวรชฺชกา’’ติ ปาฬิยา ภวิตพฺพนฺติ. อนิยมิตกิจฺเจนาติ ‘‘อิมินา นามา’’ติ เอวํ น นิยมิเตน กิจฺเจน. อยํ วิเสโสติ อยํ ปุคฺคลาธิฏฺานธมฺมาธิฏฺานกโต อิเมสุ ทฺวีสุ สุตฺเตสุ เทสนาย วิเสโส, อตฺโถ ปน เทสนานโย จ มชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณํ วิย อวิสิฏฺโติ ทสฺเสติ. กสฺมา ปน ภควา กตฺถจิ ปุคฺคลาธิฏฺานเทสนํ เทเสติ, กตฺถจิ ธมฺมาธิฏฺานนฺติ? เทสนาวิลาสโต เวเนยฺยชฺฌาสยโต จ. เทสนาวิลาสปฺปตฺตา หิ พุทฺธา ภควนฺโต, เต ยถารุจิ กตฺถจิ ปุคฺคลาธิฏฺานํ กตฺวา, กตฺถจิ ธมฺมาธิฏฺานํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺติ. เย ปน เวเนยฺยา สาสนกฺกมํ อโนติณฺณา, เตสํ ปุคฺคลาธิฏฺานเทสนํ เทเสนฺติ. เย โอติณฺณา, เตสํ ธมฺมาธิฏฺานํ. สมฺมุติสจฺจวิสยา ปุคฺคลาธิฏฺานา, อิตรา ปรมตฺถสจฺจวิสยา. ปุริมา กรุณานุกูลา, อิตรา ปฺานุกูลา. สทฺธานุสาริโคตฺตานํ วา ปุริมา. เต หิ ปุคฺคลปฺปมาณา, ปจฺฉิมา ธมฺมานุสารีนํ. สทฺธาจริตตาย วา โลกาธิปตีนํ วเสน ปุคฺคลาธิฏฺานา, ปฺาจริตตาย ธมฺมาธิปตีนํ วเสน ธมฺมาธิฏฺานา. ปุริมา จ เนยฺยตฺถา, ปจฺฉิมา นีตตฺถา. อิติ ภควา ตํ ตํ วิเสสํ อเวกฺขิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ทุวิธํ เทสนํ เทเสตีติ เวทิตพฺพํ.

เวรฺชกสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๓. มหาเวทลฺลสุตฺตวณฺณนา

๔๔๙. ครุภาโว คารวํ, ปาสาณจฺฉตฺตํ วิย ครุกรณียตา. สห คารเวนาติ สคารโว, ครุนา กิสฺมิฺจิ วุตฺเต คารววเสน ปติสฺสวนํ ปติสฺสโว, สห ปติสฺสเวน สปฺปติสฺสโว, ปติสฺสวภูตํ ตํสภาคฺจ ยํ กิฺจิ ครุกรณํ. สคารเว สปฺปติสฺสวจนํ สคารวสปฺปติสฺสวจนํ. ครุกรณํ วา คารโว, สคารวสฺส สปฺปติสฺสวจนํ สคารวสปฺปติสฺสวจนํ. เอเตน สภาเวเนว สคารวสฺส ตถาปวตฺตํ วจนนฺติ ทสฺเสติ. อฺตฺถ ทุ-สทฺโท ครหตฺโถปิ โหติ ‘‘ทุกฺขํ ทุปฺปุตฺโต’’ติอาทีสุ วิย, อิธ ปน โส น สมฺภวติ กุจฺฉิตาย ปฺาย อภาวโตติ อาห ‘‘ปฺาย ทุฏฺํ นาม นตฺถี’’ติ. ‘‘ทุสฺสีโล’’ติอาทีสุ วิย อภาวตฺโถ ทุ-สทฺโทติ วุตฺตํ ‘‘อปฺปฺโ นิปฺปฺโติ อตฺโถ’’ติ. กิตฺตเกนาติ เกน ปริมาเณน. ตํ ปน ปริมาณํ ยสฺมา ปริเมยฺยสฺส อตฺถสฺส ปริจฺฉินฺทนํ โหติ, นุ-สทฺโท จ ปุจฺฉาย โชตโก, ตสฺมา ‘‘กิตฺตาวตา นุ โขติ การณปริจฺเฉทปุจฺฉา’’ติ วตฺวา ‘‘กิตฺตเกน นุ โข เอวํ วุจฺจตีติ อตฺโถ’’ติ อาห. ‘‘การณปริจฺเฉทปุจฺฉา’’ติ อิมินา ‘‘กิตฺตาวตา’’ติ สามฺโต ปุจฺฉาภาโว ทสฺสิโต, น วิเสสโต, ตสฺส ปุจฺฉาวิเสสภาวาปนตฺถํ มหานิทฺเทเส อาคตา สพฺพาว ปุจฺฉา อตฺถุทฺธารนเยน ทสฺเสติ ‘‘ปุจฺฉา จ นามา’’ติอาทินา. อทิฏฺํ โชตียติ เอตายาติ อทิฏฺโชตนา, ปุจฺฉา. ทิฏฺสํสนฺทนา สากจฺฉาวเสน วินิจฺฉยกรณํ. วิมติ ฉิชฺชติ เอตายาติ วิมติจฺเฉทนา. อนุมติยา ปุจฺฉา อนุมติปุจฺฉา. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว’’ติอาทิปุจฺฉาย หิ ‘‘กึ ตุมฺหากํ อนุมตี’’ติ อนุมติ ปุจฺฉิตา โหติ. กเถตุํ กมฺยตาย ปุจฺฉา กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา.

ลกฺขณนฺติ าตุํ อิจฺฉิโต โย โกจิ สภาโว. อฺาตนฺติ เยน เกนจิ าเณน อฺาตภาวํ อาห. อทิฏฺนฺติ ทสฺสนภูเตน ปจฺจกฺขํ วิย อทิฏฺตํ. อตุลิตนฺติ ‘‘เอตฺตกํ อิท’’นฺติ ตุลนภูเตน อตุลิตตํ. อตีริตนฺติ ตีรณภูเตน อกตาณกิริยาสมาปนตํ. อวิภูตนฺติ าณสฺส อปากฏภาวํ. อวิภาวิตนฺติ าเณน อปากฏีกตภาวํ. อิธ ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา อธิปฺเปตา, น อทิฏฺโชตนา วิมติจฺเฉทนา จาติ.

กถมยํ อตฺโถ วิฺายตีติ อาห ‘‘เถโร หี’’ติอาทิ. สยํ วินิจฺฉินนฺโตติ สยเมว เตสํ ปฺหานํ อตฺถํ วิเสเสน นิจฺฉินนฺโต. อิทํ สุตฺตนฺติ อิทํ ปฺจวีสติปฺหปฏิมณฺฑิตสุตฺตํ, น ยํ กิฺจิ อนวเสเสเนว มตฺถกํ ปาเปสีติ. ‘‘สยเมว ปฺหํ สมุฏฺาเปตฺวา สยํ วินิจฺฉินนฺโต’’ติ เอตฺถ จตุกฺโกฏิกํ ภวตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอกจฺโจ หี’’ติอาทิมาห. ปฺหํ สมุฏฺาเปตุํเยว สกฺโกตีติ ปุจฺฉนวิธึเยว ชานาติ. น นิจฺเฉตุนฺติ นิจฺเฉตุํ น สกฺโกติ, วิสฺสชฺชนวิธึ น ชานาตีติ อตฺโถ. วิเสสฏฺานนฺติ อฺเหิ อสทิสฏฺานํ. เถเรน สทิโสติ เถเรน สทิโส สาวโก นตฺถิ.

สํสนฺทิตฺวาติ สํโยเชตฺวา สมานํ กตฺวา, ยถา ตตฺถ สพฺพฺุตฺาณํ ปวตฺตํ, ตถา ตํ อวิโลเมตฺวาติ อตฺโถ. ลีฬายนฺโตติ ลีฬํ กโรนฺโต. ธมฺมกถิกตาย อคฺคภาวปฺปตฺติยา ตตฺถ อปฺปฏิหตาณตาย พุทฺธลีฬาย วิย จตุนฺนํ ปริสานํ คมนํ คณฺหนฺโต ธมฺมกถํ กเถติ.

อิโต วา เอตฺโต วา อนุกฺกมิตฺวาติ อุคฺคหิตกถามคฺคโต ยตฺถ กตฺถจิ อีสกมฺปิ อนุกฺกมิตฺวา อุคฺคหิตนิยาเมเนวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ยฏฺิโกฏิ’’นฺติอาทิ. เอกปทิกนฺติ เอกปทนิกฺเขปมตฺตํ. ทณฺฑกเสตุนฺติ เอกทณฺฑกมยํ เสตุํ. เหฏฺา จ อุปริ จ สุตฺตปทานํ อาหรเณน เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ เหฏฺุปริยํ กโรนฺโต. ชาตสฺสรสทิสฺจ คาถํ, สุตฺตปทํ วา นิกฺขิปิตฺวา ตตฺถ นานาอุปมาการณานิ อาหรนฺโต ตานิ จ เตหิ สุตฺตปเทหิ โพเธนฺโต สมุฏฺาเปนฺโต ‘‘ชาตสฺสเร ปฺจวณฺณานิ กุสุมานิ ผุลฺลาเปนฺโต วิย สิเนรุมตฺถเก วฏฺฏิสหสฺสํ ชาเลนฺโต วิยา’’ติ วุตฺโต.

เอกปทุทฺธาเรติ เอกสฺมึ ปทุทฺธารณกฺขเณ. ปทวเสน สฏฺิ ปทสตสหสฺสานิ คาถาวเสน ปนฺนรส คาถาสหสฺสานิ. อากฑฺฒิตฺวา คณฺหนฺโต วิยาติ ปจฺเจกํ ปุปฺผานิ อโนจินิตฺวา วลฺลิเมว อากฑฺฒิตฺวา เอกชฺฌํ ปุปฺผานิ กตฺวา คณฺหนฺโต วิย. เตนาห ‘‘เอกปฺปหาเรเนวา’’ติ. คติมนฺตานนฺติ อติสยาย าณคติยา ยุตฺตานํ. ธิติมนฺตานนฺติ ธารณพเลน ยุตฺตานํ.

อนนฺตนยุสฺสทนฺติ ปจฺจยุปฺปนฺนภาสิตตฺถนิพฺพานวิปากกิริยาทิวเสน อนนฺตปเภเท วิสเย ปวตฺติยา อนนฺตนเยหิ อุสฺสนฺนํ อุปจิตํ. จตุโรฆนิตฺถรณตฺถิกานํ ติตฺเถ ปิตนาวา วิยาติ โยชนา. สหสฺสยุตฺตอาชฺรโถติ เวชยนฺตรถํ สนฺธาย วทติ.

ยสฺมา ปุจฺฉายํ พฺยาปนิจฺฉานเยน ‘‘ทุปฺปฺโ ทุปฺปฺโ’’ติ อาเมฑิตวเสน วุตฺตํ, ตสฺมา ธมฺมเสนาปติ ปุจฺฉิตมตฺถํ วิสฺสชฺเชนฺโต ปุจฺฉาสภาเคน ‘‘นปฺปชานาติ นปฺปชานาตี’’ติ อาเมฑิตวเสเนวาห. ตตฺถ อิติ-สทฺโท การณตฺโถติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยสฺมา นปฺปชานาติ, ตสฺมา ทุปฺปฺโติวุจฺจตี’’ติ อาห. อิทํ ทุกฺขนฺติ อิทํ อุปาทานกฺขนฺธปฺจกํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ. ตฺจ โข รุปฺปนํ เวทิยนํ สฺชานนํ อภิสงฺขรณํ วิชานนนฺติ สงฺเขปโต เอตฺตกํ. อิโต อุทฺธํ กิฺจิ ธมฺมชาตํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ นาม นตฺถีติ ยาถาวสรสลกฺขณโต ปวตฺติกฺกมโต เจว ปีฬนสงฺขตสนฺตาปวิปริณามลกฺขณโต จ ยถาภูตํ อริยมคฺคปฺาย นปฺปชานาติ. อวเสสปจฺจยสมาคเม อุทยติ อุปฺปชฺชติ, สฺวายํ สมุทโย สํสารปวตฺติภาเวนาติ อาห ‘‘ปวตฺติทุกฺขปภาวิกา’’ติ, ทุกฺขสจฺจสฺส อุปฺปาทิกาติ อตฺโถ. ยาถาวสรสลกฺขณโตติ ยถาภูตํ อนุปจฺเฉทกรณรสโต เจว สมฺปิณฺฑนนิทานสํโยคปลิโพธลกฺขณโต จ.

อิทํ นาม านํ ปตฺวาติ อิทํ นาม อปฺปวตฺติการณํ อาคมฺม. นิรุชฺฌตีติ อนุปฺปาทนิโรธวเสน นิรุชฺฌติ, เตนาห ‘‘อุภินฺนํ อปฺปวตฺตี’’ติ. ยาถาวสรสลกฺขณโตติ ยถาภูตํ อจฺจุติรสโต เจว นิสฺสรณวิเวกาสงฺขตามตลกฺขณโต จ. อยํ ปฏิปทาติ อยํ สมฺมาทิฏฺิอาทิกา สโมธานลกฺขณา ปฏิปชฺชติ เอตายาติ ปฏิปทา. ทุกฺขนิโรธํ คจฺฉตีติ ทุกฺขนิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน คจฺฉติ อารพฺภ ปวตฺตติ. ยาถาวสรสลกฺขณโตติ ยถาภูตํ กิเลสปฺปหานกรณสรสโต เจว นิยฺยานเหตุทสฺสนาธิปเตยฺยลกฺขณโต จ นปฺปชานาติ. อนนฺตรวาเรติ ทุติยวาเร. อิมินาว นเยนาติ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, เอตฺตกํ ทุกฺข’’นฺติอาทินา ปมวาเร วุตฺตนเยน. ตตฺถ หิ ทุปฺปฺนิทฺเทสตฺตา ปชานนปฏิกฺเขปวเสน เทสนา อาคตา, อิธ ปฺวนฺตนิทฺเทสตฺตา ปชานนวเสนาติ อยเมว วิเสโส. เอตฺถาติ ทุติยวาเร.

สวนโตติ กมฺมฏฺานสฺส สวนโต อุคฺคณฺหาติ. คนฺถสวนมุเขน หิ ตทตฺถสฺส อุคฺคหณํ. เปตฺวา ตณฺหนฺติอาทิ ตสฺส อุคฺคหณาการนิทสฺสนํ. อภินิวิสตีติ วิปสฺสนาภินิเวสวเสน อภินิวิสติ วิปสฺสนากมฺมฏฺานํ ปฏฺเปติ. โน วิวฏฺเฏติ วิวฏฺเฏ อภินิเวโส น โหติ อวิสยตฺตา. อยนฺติ จตุสจฺจกมฺมฏฺานิโก.

ปฺจกฺขนฺธาติ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. ขนฺธวเสน วิปสฺสนาภินิเวสสฺส จกฺขาทิวเสน เวทนาทิวเสน จ สติปิ อเนกวิธตฺเต สุกรํ สุวิฺเยฺยนฺติ จตุธาตุมุเขน ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ธาตุกมฺมฏฺานวเสน โอตริตฺวา’’ติ อาห. รูปนฺติ ววตฺถเปตีติ รุปฺปนฏฺเน รูปนฺติ อสงฺกรโต ปริจฺฉินฺทติ. ตทารมฺมณาติ ตํ รูปํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตนกา. นามนฺติ เวทนาทิจตุกฺกํ นมนฏฺเน นามนฺติ ววตฺถาเปติ. ยมกตาลกฺขนฺธํ ภินฺทนฺโต วิย ยมกํ ภินฺทิตฺวา ‘‘อรูปํ, รูปฺจา’’ติ ทฺเวว อิเม ธมฺมา, น เอตฺถ โกจิ อตฺตา วา อตฺตนิยํ วาติ นามรูปํ ววตฺถเปติ ปริจฺฉินฺทติ ปริคฺคณฺหาติ. เอตฺตาวตา ทิฏฺิวิสุทฺธิ ทสฺสิตา. ตํ ปเนตํ นามรูปํ น อเหตุกํ. ยสฺมา สพฺพํ สพฺพตฺถ สพฺพทา จ นตฺถิ, ตสฺมา สเหตุกํ. กีทิเสน เหตุนา? น อิสฺสราทิวิสมเหตุนา. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนายํ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๒.๔๔๗) วุตฺตนเยน คเหตพฺพํ. สเหตุกตฺตา เอว สปจฺจยํ. อวิชฺชาทโยติ อวิชฺชาตณฺหุปาทานกมฺมาหาราทโย. เอวนฺติ ‘‘ตํ ปเนต’’นฺติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน อวิชฺชาทิเก ปจฺจเย เจว รูปเวทนาทิเก ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเม จ ววตฺถเปตฺวา ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปริคฺคเหตฺวา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อวิชฺชาสมุทยา รูปสมุทโย, ตณฺหาสมุทยา รูปสมุทโย’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๐). เอตฺตาวตา กงฺขาวิตรณวิสุทฺธึ ทสฺเสติ.

หุตฺวาติ เหตุปจฺจยสมวาเย อุปฺปชฺชิตฺวา. อภาวฏฺเนาติ ตทนนฺตรเมว วินสฺสนฏฺเน. อนิจฺจาติ อนิจฺจา อทฺธุวา. อนิจฺจลกฺขณํ อาโรเปตีติ เตสุ ปฺจสุ ขนฺเธสุ อนิจฺจตาสงฺขาตํ สามฺลกฺขณํ นิโรเปติ. ตโตติ อนิจฺจลกฺขณาโรปนโต ปรํ, ตโต วา อนิจฺจภาวโต. อุทยพฺพยปฺปฏิปีฬนากาเรนาติ อุปฺปาทนิโรเธหิ ปติ ปติ อภิกฺขณํ ปีฬนากาเรน เหตุนา ทุกฺขา อนิฏฺา, ทุกฺขมา วา. อวสวตฺตนากาเรนาติ กสฺสจิ วเสน อวสวตฺตนากาเรน. อนตฺตาติ น สยํ อตฺตา, นาปิ เนสํ โกจิ อตฺตา อตฺถีติ อนตฺตาติ. ติลกฺขณํอาโรเปตฺวาติ เอวํ อนิจฺจสฺส ทุกฺขภาวโต, ทุกฺขสฺส จ อนตฺตภาวโต ขนฺธปฺจเก ติวิธมฺปิ สามฺลกฺขณํ อาโรเปตฺวา. สมฺมสนฺโตติ อุทยพฺพยาณุปฺปตฺติยา อุปฺปนฺเน วิปสฺสนุปกฺกิเลเส ปหาย มคฺคามคฺคํ ววตฺถเปตฺวา อุทยพฺพยาณาทิวิปสฺสนาปฏิปาฏิยา สงฺขาเร สมฺมสนฺโต โคตฺรภุาณานนฺตรํ โลกุตฺตรมคฺคํ ปาปุณาติ.

เอกปฏิเวเธนาติ เอเกเนว าเณน ปฏิวิชฺฌเนน. ปฏิเวโธ ปฏิฆาตาภาเวน วิสเย นิสฺสงฺคจารสงฺขาตํ นิพฺพิชฺฌนํ. อภิสมโย อวิรชฺฌิตฺวา อธิคมนสงฺขาโต อวโพโธ. ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, เอตฺตํ ทุกฺขํ, น อิโต ภิยฺโย’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ยาถาวโต ชานนเมว วุตฺตนเยน ปฏิเวโธติ ปริฺาปฏิเวโธ, อิทฺจ ยถา าเณ ปวตฺเต ปจฺฉา ทุกฺขสฺส สรูปาทิปริจฺเฉเท สมฺโมโห น โหติ, ตถา ปวตฺตึ คเหตฺวา วุตฺตํ, น ปน มคฺคาณสฺส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทินา ปวตฺตนโต. เตนาห ‘‘ตสฺมิฺจสฺส ขเณ’’ติอาทิ. ปหีนสฺส ปุน อปหาตพฺพตาย ปกฏฺํ หานํ จชนํ สมุจฺฉินฺทนํ ปหานํ, ปหานเมว วุตฺตนเยน ปฏิเวโธติ ปหานปฏิเวโธ. อยมฺปิ เยน กิเลเสน อปฺปหียมาเนน มคฺคภาวนาย น ภวิตพฺพํ, อสติ จ มคฺคภาวนาย โย อุปฺปชฺเชยฺย, ตสฺส ปทฆาตํ กโรนฺตสฺส อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาเทนฺตสฺส าณสฺส ตถาปวตฺติยา ปฏิฆาตาภาเวน นิสฺสงฺคจารํ อุปาทาย เอวํ วุตฺโต. สจฺฉิกิริยา ปจฺจกฺขกรณํ อนุสฺสวาการปริวิตกฺกาทิเก มุฺจิตฺวาว สรูปโต อารมฺมณกรณํ ‘‘อิทํ ต’’นฺติ ยาถาวสภาวโต คหณํ, สา เอว วุตฺตนเยน ปฏิเวโธติ สจฺฉิกิริยาปฏิเวโธ. อยมฺปิ ยสฺส อาวรณสฺส อสมุจฺฉินฺทนโต าณํ นิโรธํ อาลมฺพิตุํ น สกฺโกติ, ตสฺส สมุจฺฉินฺทนโต ตํ สรูปโต วิภาวิตเมว ปวตฺตตีติ เอวํ วุตฺโต.

ภาวนา อุปฺปาทนา วฑฺฒนา จ. ตตฺถ ปมมคฺเค อุปฺปาทนฏฺเน ภาวนา, ทุติยาทีสุ วฑฺฒนฏฺเน, อุภยตฺถาปิ วา อุภยํ เวทิตพฺพํ. ปมมคฺโคปิ หิ ยถารหํ วุฏฺานคามินิยํ ปวตฺตํ ปริชานนาทึ วฑฺเฒนฺโต ปวตฺโตติ ตตฺถาปิ วฑฺฒนฏฺเน ภาวนาติ สกฺกา วิฺาตุํ. ทุติยาทีสุปิ อปฺปหีนกิเลสปฺปหานโต ปุคฺคลนฺตรสาธนโต จ อุปฺปาทนฏฺเน ภาวนา, สา เอว วุตฺตนเยน ปฏิเวโธติ ภาวนาปฏิเวโธ. อยมฺปิ ยถา าเณ ปวตฺเต ปจฺฉา มคฺคธมฺมานํ สรูปปริจฺเฉเท สมฺโมโห น โหติ, ตถา ปวตฺตึ คเหตฺวา วุตฺโต. ติฏฺนฺตุ ตาว ยถาธิคตา มคฺคธมฺมา, ยถาปวตฺเตสุ ผเลสุปิ อยํ ยถาธิคตสจฺจธมฺเมสุ วิย วิคตสมฺโมโหว โหติ เสกฺโขปิ สมาโน. เตน วุตฺตํ – ‘‘ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม’’ติ (มหาว. ๒๗). ยถา จสฺส ธมฺมา ตาสํ โชติตา ยถาธิคตสจฺจธมฺมาวลมฺพินิโย มคฺควีถิโต ปรโต มคฺคผลปหีนาวสิฏฺกิเลสนิพฺพานานํ ปจฺจเวกฺขณา ปวตฺตนฺติ. ทุกฺขสจฺจธมฺมา หิ สกฺกายทิฏฺิอาทโย. อยฺจ อตฺถวณฺณนา ปริฺาภิสมเยนาติอาทีสุปิ วิภาเวตพฺพา. กิจฺจโตติ อสมฺโมหโต. นิโรธํ อารมฺมณโตติ เอตฺถ ‘‘อารมฺมณโตปี’’ติ ปิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ ทฏฺพฺโพ นิโรเธปิ อสมฺโมหปฏิเวธสฺส ลพฺภนโต. เอตสฺสาติ จตุสจฺจกมฺมฏฺานิกสฺส ปุคฺคลสฺส.

ปฺวาติ นิทฺทิฏฺโ นิปฺปริยายโต ปฺวนฺตตาย อิธ อธิปฺเปตตฺตา. ปาฬิโตติ ธมฺมโต. อตฺถโตติ อฏฺกถาโต. อนุสนฺธิโตติ ตสฺมึ ตสฺมึ สุตฺเต ตํตํอนุสนฺธิโต. ปุพฺพาปรโตติ ปุพฺเพนาปรสฺส สํสนฺทนโต. สงฺคีติกฺกเมน เจตฺถ ปุพฺพาปรตา เวทิตพฺพา. ตํตํเทสนายเมว วา ปุพฺพภาเคน อปรภาคสฺส สํสนฺทนโต. วิฺาณจริโตติ วิชานนจริโต วีมํสนจริโต เตปิฏเก พุทฺธวจเน วิจารณาจารเวปุลฺลโต. ปฺวาติ น วตฺตพฺโพ มคฺเคนาคตาย ปฺาย อภาวโต. อชฺช อชฺเชว อรหตฺตนฺติ อิตฺตรํ อติขิปฺปเมวาติ อธิปฺปาโย. ปฺวาปกฺขํ ภชติ เสกฺขปริยายสพฺภาวโต. สุตฺเต ปน ปฏิเวโธว กถิโต สจฺจาภิสมยวเสน อาคตตฺตา.

เอสาติ อนนฺตเร วุตฺโต อริยปุคฺคโล. กมฺมการกจิตฺตนฺติ ภาวนากมฺมสฺส ปวตฺตนกจิตฺตํ . สุขเวทนมฺปิ วิชานาตีติ โก เวทิยติ, กสฺส เวทนา, กึการณา เวทนา, โสปิ กสฺสจิ อภาวคฺคหณมุเขน สุขํ เวทนํ สภาวโต สมุทยโต อตฺถงฺคมโต อสฺสาทโต อาทีนวโต จ ยถาภูตํ ปริจฺฉินฺทนฺโต ปริคฺคณฺหนฺโต สุขํ เวทนํ วิชานาติ นาม. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ยสฺมา ‘‘สติปฏฺาเน’’ติ อิมินา สติปฏฺานกถํ อุปลกฺเขติ. ตาย หิ ตทตฺโถ เวทิตพฺโพ, ตสฺมา ตํสํวณฺณนายมฺปิ (ที. นิ. ฏี. ๒.๓๘๐) วุตฺตนเยน ตสฺสตฺโถ เวทิตพฺโพ . กามฺเจตํ วิฺาณํ เวทนาโต อฺมฺปิ อารมฺมณํ วิชานาติ, อนนฺตรวาเร ปน รูปมุเขน วิปสฺสนาภินิเวสสฺส ทสฺสิตตฺตา อิธ อรูปมุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘สุขนฺติปิ วิชานาตี’’ติอาทินา นิทฺทิฏฺํ, ปุจฺฉนฺตสฺส วา อชฺฌาสยวเสน.

สํสฏฺาติ สมฺปยุตฺตา. เตนาห ‘‘เอกุปฺปาทาทิลกฺขเณน สํโยคฏฺเนา’’ติ. วิสํสฏฺาติ วิปฺปยุตฺตา. ภินฺทิตฺวาติ อฺภูมิกสฺส อฺภูมิทสฺสเนเนว วินาเสตฺวา, สํภินฺทิตฺวา วา. สํสฏฺภาวํ ปุจฺฉตีติ ตํจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนานํ ปฺจวิฺาณานํ สํสฏฺภาวํ ปุจฺฉติ. ยทิ เอวํ กถํ ปุจฺฉาย อวสโร วิสํสฏฺภาวาสงฺกาย เอว อภาวโต? น, จิตฺตุปฺปาทนฺตรคตานํ มคฺคปฺามคฺควิฺาณานํ วิปสฺสนาปฺาวิปสฺสนาวิฺาณานฺจ โวมิสฺสกสํสฏฺภาวสฺส ลพฺภมานตฺตา. วินิวฏฺเฏตฺวาติ อฺมฺโต วิเวเจตฺวา. นานากรณํ ทสฺเสตุํ น สกฺกาติ อิทํ เกวลํ สํสฏฺภาวเมว สนฺธาย วุตฺตํ, น สภาวเภทํ, สภาวเภทโต ปน นานากรณํ เนสํ ปากฏเมว. เตนาห ‘‘อารมฺมณโต วา วตฺถุโต วา อุปฺปาทโต วา นิโรธโต วา’’ติ. อิทานิ ตเมว สภาวเภทํ วิสยเภเทน สุฏฺุ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เตสํ เตสํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิสโยติ ปวตฺติฏฺานํ อิสฺสริยภูมิ, เยน จิตฺตปฺานํ ตตฺถ ตตฺถ ปุพฺพงฺคมตา วุจฺจติ.

กามฺจ วิปสฺสนาปิ ปฺาวเสเนว กิจฺจการี, มคฺโคปิ วิฺาณสหิโตว, น เกวโล, ยถา ปน โลกิยธมฺเมสุ จิตฺตํ ปธานํ ตตฺถสฺส โธรยฺหภาเวน ปวตฺติสพฺภาวโต. ตถา หิ ตํ ‘‘ฉทฺวาราธิปติ ราชา’’ติ (ธ. ป. อฏฺ. ๒.๑๘๑) วุจฺจติ, เอวํ โลกุตฺตรธมฺเมสุ ปฺา ปธานา ปฏิปกฺขวิธมนสฺส วิเสสโต ตทธีนตฺตา. ตถา หิ มคฺคธมฺเม สมฺมาทิฏฺิ เอว ปมํ คหิตา. อยฺจ เนสํ วิสยวเสน ปวตฺติเภโท, ตถา จ ปฺาปนวิธิ น เกวลํ เถเรเหว ทสฺสิโต, อปิจ โข ภควตาปิ ทสฺสิโตติ วิภาเวนฺโต ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธปี’’ติอาทิมาห. ยตฺถ ปฺา น ลพฺภติ, ตตฺถ จิตฺตวเสน ปุจฺฉเน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ ยถา ‘‘กึจิตฺโต ตฺวํ ภิกฺขู’’ติอาทีสุ (ปารา. ๑๓๒-๑๓๕). ยตฺถ ปน ปฺา ลพฺภติ, ตตฺถาปิ จิตฺตวเสน โชตนา โหติ ยถา – ‘‘อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺเปติ สนฺนิสาเทติ เอโกทึ กโรติ สมาทหติ (สํ. นิ. ๔.๓๓๒), ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑). อฏฺกถายํ ปน โลกิยธมฺเมสุ จิตฺตวเสน, โลกุตฺตรธมฺเมสุ ปฺาวเสน โจทนํ พฺยติเรกมุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘กตมา เต ภิกฺขุ ปฺา อธิคตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เยภุยฺยวเสน เจตํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตถา หิ กตฺถจิ โลกิยธมฺมา ปฺาสีเสนปิ นิทฺทิสียนฺติ – ‘‘ปมสฺส ฌานสฺส ลาภิโน กามสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ หานภาคินี ปฺา’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๑). สฺาสีเสนปิ – ‘‘อุทฺธุมาตกสฺาติ วา เสสรูปารูปสฺาติ วา อิเม ธมฺมา เอกตฺถา, อุทาหุ นานตฺถา’’ติอาทีสุ (ปารา. อฏฺ. ๔๕.ปทภาชนียวณฺณนา). ตถา โลกุตฺตรธมฺมาปิ กตฺถจิ จิตฺตสีเสน นิทฺทิสียนฺติ – ‘‘ยสฺมึ สมเย โลกุตฺตรํ จิตฺตํ ภาเวตี’’ติ (ธ. ส. ๒๗๗), ตถา ผสฺสาทิสีเสนปิ – ‘‘ยสฺมึ สมเย โลกุตฺตรํ ผสฺสํ ภาเวติ, เวทนํ สฺํ เจตนํ ภาเวตี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๒๗๗).

จตูสุ โสตาปตฺติยงฺเคสูติ สปฺปุริสเสวนา, สทฺธมฺมสฺสวนํ, โยนิโสมนสิกาโร, ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺตีติ อิเมสุ จตูสุ โสตาปตฺติมคฺคสฺส การเณสุ. กามํ เจเตสุ สติอาทโยปิ ธมฺมา อิจฺฉิตพฺพาว เตหิ วินา เตสํ อสมฺภวโต, ตถาปิ เจตฺถ สทฺธา วิเสสโต กิจฺจการีติ เวทิตพฺพา. สทฺโท เอว หิ สปฺปุริเส ปยิรุปาสติ, สทฺธมฺมํ สุณาติ, โยนิโส จ มนสิ กโรติ, อริยมคฺคสฺส จ อนุธมฺมํ ปฏิปชฺชติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เอตฺถ สทฺธินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพ’’นฺติ. อิมินา นเยน เสสินฺทฺริเยสุปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. จตูสุ สมฺมปฺปธาเนสูติ จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานภาวนาย. จตูสุ สติปฏฺาเนสูติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ โสตาปตฺติยงฺเคสุ สทฺธา วิย สมฺมปฺปธานภาวนาย วีริยํ วิย จ สติปฏฺานภาวนาย – ‘‘สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺส’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. ๑.๑๐๖; สํ. นิ. ๕.๓๘๔, ๔๐๗) วจนโต ปุพฺพภาเค กิจฺจโต สติ อธิกา อิจฺฉิตพฺพา. เอวํ สมาธิกมฺมิกสฺส สมาธิ, ‘‘อริยสจฺจภาวนา ปฺาภาวนา’’ติ กตฺวา ตตฺถ ปฺา ปุพฺพภาเค อธิกา อิจฺฉิตพฺพาติ ปากโฏยมตฺโถ, อธิคมกฺขเณ ปน สมาธิปฺานํ วิย สพฺเพสมฺปิ อินฺทฺริยานํ สทฺธาทีนํ สมรสตาว อิจฺฉิตพฺพา. ตถา หิ ‘‘เอตฺถ สทฺธินฺทฺริย’’นฺติอาทินา ตตฺถ ตตฺถ เอตฺถคฺคหณํ กตํ. เอวนฺติ ยํ านํ, ตํ อินฺทฺริยสมตฺตาทึ ปจฺจามสติ. สวิสยสฺมึเยวาติ อตฺตโน อตฺตโน วิสเย เอว. โลกิยโลกุตฺตรา ธมฺมา กถิตาติ โลกิยธมฺมา โลกุตฺตรธมฺมา จ เตน เตน ปวตฺติวิเสเสน กถิตา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สทฺธาปฺจเมสุ อินฺทฺริเยสุ สห ปวตฺตมาเนสุ ตตฺถ ตตฺถ วิสเย สทฺธาทีนํ กิจฺจาธิกตาย ตสฺส ตสฺเสว ทฏฺพฺพตา วุตฺตา, น สพฺเพสํ. เอวํ อฺเปิ โลกิยโลกุตฺตรา ธมฺมา ยถาสกํ วิสเย ปวตฺติวิเสสวเสน โพธิตาติ.

อิทานิ สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ ตตฺถ ตตฺถ อติเรกกิจฺจตํ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺริทํ อุปมาสํสนฺทนํ ราชปฺจมา สหายา วิย วิมุตฺติปริปาจกานิ ปฺจินฺทฺริยานิ. เนสํ กีฬนตฺถํ เอกชฺฌํ วีถิโอตรณํ วิย อินฺทฺริยานํ เอกชฺฌํ วิปสฺสนาวีถิโอตรณํ. สหาเยสุ ปมาทีนํ ยถาสกเคเหว วิจารณา วิย สทฺธาทีนํ โสตาปตฺติองฺคาทีนิ ปตฺวา ปุพฺพงฺคมตา. สหาเยสุ อิตเรสํ ตตฺถ ตตฺถ ตุณฺหีภาโว วิย เสสินฺทฺริยานํ ตตฺถ ตตฺถ ตทนฺวยตา. ตสฺส ปุพฺพงฺคมภูตสฺส อินฺทฺริยสฺส กิจฺจานุคตตา. น หิ ตทา เตสํ สสมฺภารปถวีอาทีสุ อาปาทีนํ วิย กิจฺจํ ปากฏํ โหติ, สทฺธาทีนํเยว ปน กิจฺจํ วิภูตํ หุตฺวา ติฏฺติ ปุเรตรํ ตถาปจฺจเยหิ จิตฺตสนฺตานสฺส อภิสงฺขตตฺตา. เอตฺถ จ วิปสฺสนากมฺมิกสฺส ภาวนา วิเสสโต ปฺุตฺตราติ ทสฺสนตฺถํ ราชานํ นิทสฺสนํ กตฺวา ปฺินฺทฺริยํ วุตฺตํ. อิตีติอาทิ ยถาธิคตสฺส อตฺถสฺส นิคมนํ.

มคฺควิฺาณมฺปีติ อริยมคฺคสหคตํ อปจยคามิวิฺาณมฺปิ. ตเถว ตํ วิชานาตีติ สจฺจธมฺมํ ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทินา นเยเนว วิชานาติ เอกจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนตฺตา มคฺคานุกูลตฺตา จ. ยํ วิชานาตีติ เอตฺถ วิชานนปชานนานิ วิปสฺสนาจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนานิ อธิปฺเปตานิ, น ‘‘ยํ ปชานาตี’’ติ เอตฺถ วิย มคฺคจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนาติ อาห ‘‘ยํ สงฺขารคต’’นฺติอาทิ. ตเถวาติ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติอาทินา นเยน. เอกจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนตฺตา วิปสฺสนาภาวโต จ สมานปจฺจเยหิ สห ปวตฺติกตา เอกุปฺปาทตา, ตโต เอว เอกชฺฌํ สเหว นิรุชฺฌนํ เอกนิโรธตา, เอกํเยว วตฺถุํ นิสฺสาย ปวตฺติ เอกวตฺถุกตา, เอกํเยว อารมฺมณํ อารพฺภ ปวตฺติ เอการมฺมณตา. เหตุมฺหิ เจตํ กรณวจนํ. เตน เอกุปฺปาทาทิตาย สํสฏฺภาวํ สาเธติ. อนวเสสปริยาทานฺเจตํ, อิโต ตีหิปิ สมฺปยุตฺตลกฺขณํ โหติเยว.

มคฺคปฺํสนฺธาย วุตฺตํ, สา หิ เอกนฺตโต ภาเวตพฺพา, น ปริฺเยฺยา, ปฺาย ปน ภาเวตพฺพตาย ตํสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ ตคฺคติกาว โหนฺตีติ อาห ‘‘ตํสมฺปยุตฺตํ ปนา’’ติอาทิ. กิฺจาปิ วิปสฺสนาปฺาย ภาวนาวเสน ปวตฺตนโต ตํสมฺปยุตฺตวิฺาณมฺปิ ตเถว ปวตฺตติ, ตสฺส ปน ปริฺเยฺยภาวานติวตฺตนโต ปริฺเยฺยตา วุตฺตา. เตเนวาห – ‘‘ยมฺปิ ตํ ธมฺมฏฺิติาณํ, ตมฺปิ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺม’’นฺติ.

๔๕๐. เอวํ สนฺเตปีติ เวทนาติ เอวํ สามฺคฺคหเณ สติปิ. เตภูมิกสมฺมสนจารเวทนาวาติ ภูมิตฺตยปริยาปนฺนา, ตโต เอว สมฺมสนาณสฺส โคจรภูตา เวทนา เอว อธิปฺเปตา สพฺรหฺมจารีนํ อุปการาวหภาเวน เทสนาย อารทฺธตฺตา. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘จตุโรฆนิตฺถรณตฺถิกาน’’นฺติอาทิ . เอส นโย ปฺายปิ. อิธ สุขาทิสทฺทา ตทารมฺมณวิสยาติ อิมมตฺถํ สุตฺเตน สาเธตุํ ‘‘รูปฺจ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอกนฺตทุกฺขนฺติ เอกนฺเตเนว อนิฏฺํ, ตโต เอว ทุกฺขมตาย ทุกฺขํ. อารมฺมณกรณวเสน ทุกฺขเวทนาย อนุปติตํ, โอติณฺณฺจาติ ทุกฺขานุปติตํ, ทุกฺขาวกฺกนฺตํ. สุเขน อนวกฺกนฺตํ อภวิสฺสาติ โยชนา. นยิทนฺติ เอตฺถ อิทนฺติ นิปาตมตฺตํ. สารชฺเชยฺยุนฺติ สาราคํ อุปฺปาเทยฺยุํ. สุขนฺติ สภาวโต จ อิฏฺํ. สาราคา สํยุชฺชนฺตีติ พหลราคเหตุ ยถารหํ ทสหิปิ สํโยชเนหิ สํยุชฺชนฺติ. สํโยคา สํกิลิสฺสนฺตีติ ตถา สํยุตฺตตาย ตณฺหาสํกิเลสาทิวเสน สํกิลิสฺสนฺติ, วิพาธียนฺติ อุปตาปียนฺติ จาติ อตฺโถ. อารมฺมณนฺติ อิฏฺํ, อนิฏฺํ, มชฺฌตฺตฺจ อารมฺมณํ ยถากฺกมํ สุขํ, ทุกฺขํ, อทุกฺขมสุขนฺติ กถิตํ. เอวํ อวิเสเสน ปฺจปิ ขนฺเธ สุขาทิอารมฺมณภาเวน ทสฺเสตฺวา อิทานิ เวทนา เอว สุขาทิอารมฺมณภาเวน ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปากติกปจุรชนวเสนายํ กถิตาติ กตฺวา ‘‘ปุริมํ สุขํ เวทนํ อารมฺมณํ กตฺวา’’ติ วุตฺตํ. วิเสสลาภี ปน อนาคตมฺปิ สุขํ เวทนํ อารมฺมณํ กโรเตว. วุตฺตเมตํ สติปฏฺานวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๘๐; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๗๙). เวทนาย หิ อารมฺมณํ เวทิยนฺติยา ตํสมงฺคีปุคฺคโล เวเทตีติ โวหารมตฺตํ โหติ.

สพฺพสฺายาติ สพฺพายปิ จตุภูมิกสฺาย. สพฺพตฺถกสฺายาติ สพฺพสฺมึ จิตฺตุปฺปาเท ปวตฺตนกสฺาย. วตฺเถ วาติ วา-สทฺเทน วณฺณธาตุํ สงฺคณฺหาติ . ปาเปนฺโตติ ภาวนํ อุปจารํ วา อปฺปนํ วา อุปเนนฺโต. อุปฺปชฺชนกสฺาปีติ ‘‘นีลํ รูปํ, รูปารมฺมณํ นีล’’นฺติ อุปฺปชฺชนกสฺาปิ.

อสพฺพสงฺคาหิกตฺตาติ สพฺเพสํ เวทนาสฺาวิฺาณานํ อสงฺคหิตตฺตา. ตกฺกคตนฺติ สุตฺตกนฺตนกตกฺกมฺหิ, สุตฺตวตฺตนกตกฺกมฺหิ วา เวนวเสน ิตํ. ปริวฏฺฏกาทิคตนฺติ สุตฺตเวนปริวฏฺฏกาทิคตํ. วิสฺสฏฺตฺตาว น คหิตา, ยทคฺเคน ปฺา วิฺาเณน สทฺธึ สมฺปโยคํ ลภาปิตา, ตทคฺเคน เวทนาสฺาหิปิ สมฺปโยคํ ลภาปิตา เอวาติ. ตเทว สฺชานาติ สํสฏฺภาวโต.

สฺชานาติ วิชานาตีติ เอตฺถ ‘‘ปชานาตี’’ติ ปทํ อาเนตฺวา วตฺตพฺพํ ปชานนวเสนปิ วิเสสสฺส วกฺขมานตฺตา. ชานาตีติ อยํ สทฺโท จ ลทฺทโตเยเวตฺถ อวิเสโส, อตฺถโต ปน วิเสสโต อิจฺฉิตพฺโพ. อเนกตฺถตฺตา หิ ธาตูนํ เตน อาขฺยาตปเทน นามปเทน จ วุตฺตมตฺถํ อุปสคฺคปทํ โชตกภาเวน วิเสเสติ, น วาจกภาเวน. เตนาห ‘‘ตสฺสปิ ชานนตฺเถ วิเสโส เวทิตพฺโพ’’ติ . เอเตน สฺาวิฺาณปฺาปทานิ อนฺโตคธชานนตฺเถ ยถาสกํ วิสิฏฺวิสเย จ นิฏฺานีติ ทสฺเสติ. เตเนวาห ‘‘สฺา หี’’ติอาทิ. สฺชานนมตฺตเมวาติ เอตฺถ มตฺต-สทฺเทน วิเสสนิวตฺติอตฺเถน วิชานนปชานนากาเร นิวตฺเตติ, เอว-สทฺเทน กทาจิปิ อิมิสฺสา เต วิเสสา นตฺเถวาติ อวธาเรติ. เตเนวาห ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺข’’นฺติอาทิ. ตตฺถ วิฺาณกิจฺจมฺปิ กาตุํ อสกฺโกนฺตี สฺา กุโต ปฺากิจฺจํ กเรยฺยาติ ‘‘ลกฺขณปฏิเวธํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ’’จฺเจว วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘มคฺคปาตุภาว’’นฺติ.

อารมฺมเณ ปวตฺตมานํ วิฺาณํ น สฺา วิย นีลปีตาทิมตฺตสฺชานนวเสน ปวตฺตติ, อถ โข ตตฺถ อฺมฺปิ ตาทิสํ วิเสสํ ชานนฺตเมว ปวตฺตตีติ อาห ‘‘วิฺาณ’’นฺติอาทิ. กถํ ปน วิฺาณํ ลกฺขณปฏิเวธํ ปาเปตีติ? ปฺาย ทสฺสิตมคฺเคน. ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาย หิ อเนกวารํ ลกฺขณานิ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ปวตฺตมานาย ปคุณภาวโต ปริจยวเสน าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตนปิ วิปสฺสนา สมฺภวติ, ยถา ตํ ปคุณสฺส คนฺถสฺส อชฺฌยเน ตตฺถ ตตฺถ คตาปิ วารา น อุปธารียนฺติ. ‘‘ลกฺขณปฏิเวธ’’นฺติ จ ลกฺขณานํ อารมฺมณกรณมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปฏิวิชฺฌนํ. อุสฺสกฺกิตฺวาติ อุทยพฺพยาณาทิาณปฏิปาฏิยา อารภิตฺวา. มคฺคปาตุภาวํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ อสมฺโพธสภาวตฺตา. อารมฺมณมฺปิ สฺชานาติ อวพุชฺฌนวเสเนว, น สฺชานนมตฺเตน. ตถา ลกฺขณปฏิเวธมฺปิ ปาเปติ, น วิชานนมตฺเตน, อตฺตโน ปน อฺาสาธารเณน อานุภาเวน อุสฺสกฺกิตฺวา มคฺคปาตุภาวมฺปิ ปาเปติ.

อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อชาตพุทฺธีติ อสฺชาตพฺยวหารพุทฺธิ. อุปโภคปริโภคนฺติ อุปโภคปริโภคารหํ, อุปโภคปริโภควตฺถูนํ ปฏิลาภโยคฺคนฺติ อตฺโถ. กูโฏติ กหาปณปติรูปโก ตมฺพกํสาทิมโย. เฉโกติ มหาสาโร. กรโตติ อฑฺฒสาโร. สณฺโหติ มุทุชาติโก สมสาโร. อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. เตน ปาทสารปโรปาทสารอฑฺฒสาราทีนํ สงฺคโห. ชานนฺโต จ ปน นํ รูปํ ทิสฺวาปิ…เป… อสุกาจริเยน กโตติปิ ชานาติ ตถา เหรฺิกคนฺถสฺส สุคฺคหิตตฺตา. เอวเมวนฺติอาทิ อุปมาสํสนฺทนํ. สฺาวิภาคํ อกตฺวา ปิณฺฑวเสเนว อารมฺมณสฺส คหณโต ทารกสฺส กหาปณทสฺสนสทิสา วุตฺตา. ตถา หิ สา ยถาอุปฏฺิตวิสยปทฏฺานา วุจฺจติ. วิฺาณํ อารมฺมเณ เอกจฺจวิเสสคฺคหณสมตฺถภาวโต คามิกปุริสกหาปณทสฺสนสทิสํ วุตฺตํ. ปฺา ปน อารมฺมเณ อนวเสสาวโพธโต เหรฺิกกหาปณทสฺสนสทิสา วุตฺตา. เนสนฺติ สฺาวิฺาณปฺานํ . วิเสโสติ สภาววิเสโส. ทุปฺปฏิวิชฺโฌ ปกติปฺาย. อิมินาว เนสํ อจฺจนฺตสุขุมตํ ทสฺเสติ.

เอการมฺมเณ ปวตฺตมานานนฺติ เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ ปวตฺตมานานํ. เตน อภินฺนวิสยาภินฺนกาลตาทสฺสเนน อวินิพฺโภควุตฺติตํ วิภาเวนฺโต ทุปฺปฏิวิชฺฌตํเยว อุลฺลิงฺเคติ. ววตฺถานนฺติ อสงฺกรโต ปนํ. อยํ ผสฺโส…เป… อิทํ จิตฺตนฺติ นิทสฺสนมตฺตเมตํ. อิติ-สทฺโท วา อาทิอตฺโถ. เตน เสสธมฺมานมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อิทนฺติ อรูปีนํ ธมฺมานํ ววตฺถานกรณํ. ตโตติ ยํ วุตฺตํ ติลเตลาทิอุทฺธรณํ, ตโต. ยทิ ทุกฺกรตรํ, กถํ ตนฺติ อาห ‘‘ภควา ปนา’’ติอาทิ.

๔๕๑. นิสฺสเฏนาติ นิกฺขนฺเตน อตํสมฺพนฺเธน. ปริจฺจตฺเตนาติ ปริจฺจตฺตสทิเสน ปจฺจยภาวานุปคมเนน ปจฺจยุปฺปนฺนสมฺพนฺธาภาวโต. นิสฺสกฺกวจนํ อปาทานทีปนโต. กรณวจนํ กตฺตุอตฺถทีปนโต. กามาวจรมโนวิฺาณํ น นิยมโต ‘‘อิทํ นาม ปฺจทฺวาริกาสมฺพนฺธา’’ติ สกฺกา วตฺตุํ, รูปาวจรวิฺาณํ ปน น ตถาติ, ตสฺเสว ปฺจหิ อินฺทฺริเยหิ นิสฺสฏตา วุตฺตาติ อาห ‘‘รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานจิตฺเตนา’’ติ. จตุตฺถชฺฌานคฺคหณํ ตสฺเสว อรูปาวจรสฺส ปทฏฺานภาวโต. ปริสุทฺเธนาติ วิเสสโต อสํกิเลสิกตฺตาว. ตฺหิ วิคตูปกฺกิเลสตาย วิเสสโต ปริสุทฺธํ. เตนาห ‘‘นิรุปกฺกิเลเสนา’’ติ. ชานิตพฺพํ เนยฺยํ, สปรสนฺตาเนสุ อิทํ อติสยํ ชานิตพฺพโต พุชฺฌิตพฺพํ โพเธตพฺพํ วาติ อตฺโถ. เนยฺยนฺติ วา อตฺตโน สนฺตาเน เนตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘นิพฺพตฺเตตุํ สกฺกา โหติ. เอตฺถ ิตสฺส หิ สา อิชฺฌตี’’ติ. ปาฏิเยกฺกนฺติ วิสุํ วิสุํ, อนุปทธมฺมวเสนาติ อตฺโถ. อภินิเวสาภาวโตติ วิปสฺสนาภินิเวสสฺส อสมฺภวโต. กลาปโต นยโตติ กลาปสมฺมสนสงฺขาตโต นยวิปสฺสนโต. ภิกฺขุโนติ สาวกสฺส. สาวกสฺเสว หิ ตตฺร อนุปทธมฺมวิปสฺสนา น สมฺภวติ, น สตฺถุ. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. วิสฺสชฺเชสีติ ตปฺปฏิพทฺธฉนฺทราคปฺปหาเนน ปชหติ.

หตฺถคตตฺตาติ หตฺถคตสทิสตฺตา, อาสนฺนตฺตาติ อตฺโถ. ยทา หิ โลกนาโถ โพธิมูเล อปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺโน – ‘‘กิจฺฉํ วตายํ โลโก อาปนฺโน’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๕๗; สํ. นิ. ๒.๔, ๑๐) ปฏิจฺจสมุปฺปาทมุเขน วิปสฺสนาภินิเวสํ กตฺวา อธิคนฺตพฺพสพฺพฺุตฺาณานุรูปํ ฉตฺตึสโกฏิสหสฺสมุเขน มหาวชิราณํ นาม มหาโพธิสตฺตสมฺมสนํ ปวตฺเตนฺโต อเนกาการสมาปตฺติธมฺมสมฺมสเน อนุปทเมว เนวสฺานาสฺายตนธมฺเมปิ อปราปรํ สมฺมสิ. เตนาห ‘‘ภควา ปนา’’ติอาทิ. ปโรปฺาสาติ ทฺเวปฺาสํ. กามฺเจตฺถ เกจิ ธมฺมา เวทนาทโย ผสฺสปฺจมกาทีสุ วุตฺตาปิ ฌานโกฏฺาสาทีสุปิ สงฺคหิตา, ตํตํปจฺจยภาววิสิฏฺเน ปน อตฺถวิเสเสน ธมฺมนฺตรานิ วิย โหนฺตีติ เอวํ วุตฺตํ. ตถา หิ โลกุตฺตรจิตฺตุปฺปาเทสุ นวินฺทฺริยตา วุจฺจติ. องฺคุทฺธาเรนาติ ตตฺถ ลพฺภมานฌานงฺคโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคานํ อุทฺธรเณน. องฺค-สทฺโท วา โกฏฺาสปริยาโย, ตสฺมา องฺคุทฺธาเรนาติ ผสฺสปฺจมกาทิโกฏฺาสานํ สมุทฺธรเณน. ยาวตา สฺาสมาปตฺติโยติ ยตฺตกา สฺาสหคตา ฌานสมาปตฺติโย, ตาหิ วุฏฺาย อธิคนฺธพฺพตฺตา ตาวติกา เวเนยฺยานํ อฺาปฏิเวโธ อรหตฺตสมธิคโม.

ทสฺสนปริณายกฏฺเนาติ อนฺธสฺส ยฏฺิโกฏึ คเหตฺวา มคฺคเทสโก วิย ธมฺมานํ ยถาสภาวทสฺสนสงฺขาเตน ปริณายกภาเวน. ยถา วา โส ตสฺส จกฺขุภูโต, เอวํ สตฺตานํ ปฺา. เตนาห ‘‘จกฺขุภูตาย ปฺายา’’ติ. สมาธิสมฺปยุตฺตา ปฺา สมาธิปฺา. สมาธิ เจตฺถ อารุปฺปสมาธีติ วทนฺติ, สมฺมสนปโยโค ปน โกจิ ฌานสมาธีติ ยุตฺตํ. วิปสฺสนาภูตา ปฺา วิปสฺสนาปฺา. สมาธิปฺาย อนฺโตสมาปตฺติยํ กิจฺจโต ปชานาติ, ‘‘สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ ปน วจนโต (สํ. นิ. ๓.๕; ๔.๙๙-๑๐๐; ๓.๕.๑๐๗๑-๑๐๗๒; เนตฺติ. ๔๐; มิ. ป. ๒.๑.๑๔) อสมฺโมหโต ปชานาติ. ตตฺถ กิจฺจโตติ โคจรชฺฌตฺเต อารมฺมณกรณกิจฺจโต. อสมฺโมหโตติ สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ สมฺโมหวิธมนโต ยถา ปีติปฏิสํเวทนาทีสุ. กิมตฺถิยาติ กึปโยชนาติ อาห ‘‘โก เอติสฺสา อตฺโถ’’ติ. อภิฺเยฺเย ธมฺเมติ ยาถาวสรสลกฺขณาวโพธวเสน อภิมุขํ เยฺเย ชานิตพฺเพ ขนฺธายตนาทิธมฺเม. อภิชานาตีติ สลกฺขณโต สามฺลกฺขณโต จ อภิมุขํ อวิรชฺฌนวเสน ชานาติ. เอเตน าตปริฺาพฺยาปารมาห. ปริฺเยฺเยติ อนิจฺจาติปิ ทุกฺขาติปิ อนตฺตาติปิ ปริจฺฉิชฺช ชานิตพฺเพ. ปริชานาตีติ ‘‘ยํ กิฺจิ รูปํ…เป… อนิจฺจํ ขยฏฺเนา’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๔๘) ปริจฺฉินฺทิตฺวา ชานาติ. อิมินา ตีรณปริฺาพฺยาปารมาห. ปหาตพฺเพ ธมฺเมติ นิจฺจสฺาทิเก ยาว อรหตฺตมคฺควชฺฌา สพฺเพ ปาปธมฺเม. ปชหติ ปกฏฺโต ชหติ, วิกฺขมฺเภติ เจว สมุจฺฉินฺทติ จาติ อตฺโถ. อิมินา ปหานปริฺาพฺยาปารมาห. สา ปเนสา ปฺา โลกิยาปิ ติปฺปการา โลกุตฺตราปิ, ตาสํ วิเสสํ สยเมวาห. กิจฺจโตติ อภิชานนวเสน อารมฺมณกิจฺจโต. อสมฺโมหโตติ ยถาพลํ อภิฺเยฺยาทีสุ สมฺโมหวิธมนโต. นิพฺพานมารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตนโต อภิฺเยฺยาทีสุ วิคตสมฺโมหโต เอวาติ อาห ‘‘โลกุตฺตรา อสมฺโมหโต’’ติ.

๔๕๒. กมฺมสฺสกตา สมฺมาทิฏฺิ จ วฏฺฏนิสฺสิตตฺตา อิธ นาธิปฺเปตา, วิวฏฺฏกถา เหสาติ วุตฺตํ ‘‘วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิยา จ มคฺคสมฺมาทิฏฺิยา จา’’ติ. ปรโต โฆโสติ ปรโต สตฺถุโต, สาวกโต วา ลพฺภมาโน ธมฺมโฆโส. เตนาห ‘‘สปฺปายธมฺมสฺสวน’’นฺติ. ตฺหิ สมฺมาทิฏฺิยา ปจฺจโย ภวิตุํ สกฺโกติ, น โย โกจิ ปรโตโฆโส. อุปายมนสิกาโรติ เยน นามรูปปริคฺคหาทิ สิชฺฌติ, ตาทิโส ปถมนสิกาโร. อยฺจ สมฺมาทิฏฺิยา ปจฺจโยติ นิยมปกฺขิโก, น สพฺพสํคาหโกติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปจฺเจกพุทฺธานํ ปนา’’ติอาทิมาห. โยนิโสมนสิการสฺมึเยวาติ อวธารเณน ปรโตโฆสเมว นิวตฺเตติ, น ปทฏฺานวิเสสํ ปฏิโยคีนิวตฺตนตฺถตฺตา เอว-สทฺทสฺส.

ลทฺธุปการาติ (อ. นิ. ฏี. ๓.๕.๒๕) ยถารหํ นิสฺสยาทิวเสน ลทฺธปจฺจยา. วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิยา อนุคฺคหิตภาเวน คหิตตฺตา มคฺคสมฺมาทิฏฺีสุ จ อรหตฺตมคฺคสมฺมาทิฏฺิ, อนนฺตรสฺส หิ วิธิ, ปฏิเสโธ วา. อคฺคผลสมาธิมฺหิ ตปฺปริกฺขารธมฺเมสุเยว จ เกวโล เจโตปริยาโย นิรุฬฺโหติ สมฺมาทิฏฺีติ อรหตฺตมคฺคสมฺมาทิฏฺิ. ผลกฺขเณติ อนนฺตเร กาลนฺตเร จาติ ทุวิเธ ผลกฺขเณ. ปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน สพฺพสํกิเลเสหิ เจโต วิมุจฺจติ เอตายาติ เจโตวิมุตฺติ, อคฺคผลปฺํ เปตฺวา อวเสสา ผลธมฺมา. เตนาห ‘‘เจโตวิมุตฺติ ผลํ อสฺสาติ. เจโตวิมุตฺติสงฺขาตํ ผลํ อานิสํโส’’ติ, สพฺพสํกิเลเสหิ เจตโส วิมุจฺจนสงฺขาตํ ปฏิปฺปสฺสมฺภนสฺิตํ ปหานํ ผลํ อานิสํโส จาติ โยชนา. อิธ จ เจโตวิมุตฺติ-สทฺเทน ปหานมตฺตํ คหิตํ, ปุพฺเพ ปหายกธมฺมา, อฺถา ผลธมฺมา เอว อานิสํโสติ คยฺหมาเน ปุนวจนํ นิรตฺถกํ สิยา.

ปฺาวิมุตฺติผลานิสํสาติ เอตฺถาปิ เอวเมว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา สีลสภาวตฺตา วิเสสโต สมาธิสฺส อุปการา, ตถา สมฺมาสงฺกปฺโป ฌานสภาวตฺตา. ตถา หิ โส ‘‘อปฺปนา’’ติ นิทฺทิฏฺโ. สมฺมาสติสมฺมาวายามา ปน สมาธิปกฺขิยา เอวาติ อาห ‘‘อวเสสา ธมฺมา เจโตวิมุตฺตีติ เวทิตพฺพา’’ติ. จตุปาริสุทฺธิสีลนฺติ อริยมคฺคาธิคมสฺส ปทฏฺานภูตํ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. สุตาทีสุปิ เอเสว นโย. อตฺตโน จิตฺตปฺปวตฺติอาโรจนวเสน สห กถนํ สํกถา, สํกถาว สากจฺฉา. อิธ ปน กมฺมฏฺานปฏิพทฺธาติ อาห ‘‘กมฺมฏฺาเน…เป… กถา’’ติ. ตตฺถ กมฺมฏฺานสฺส เอกวารํ วีถิยา อปฺปฏิปชฺชนํ ขลนํ, อเนกวารํ ปกฺขลนํ, ตทุภยสฺส วิจฺเฉทนีกถา ขลนปกฺขลนเฉทนกถา. ปูเรนฺตสฺสาติ วิวฏฺฏนิสฺสิตํ กตฺวา ปาเลนฺตสฺส พฺรูเหนฺตสฺส จ. สุณนฺตสฺสาติ ‘‘ยถาอุคฺคหิตกมฺมฏฺานํ ผาตึ คมิสฺสตี’’ติ เอวํ สุณนฺตสฺส. เตเนว หิ ‘‘สปฺปายธมฺมสฺสวน’’นฺติ วุตฺตํ. กมฺมํ กโรนฺตสฺสาติ ภาวนานุโยคกมฺมํ กโรนฺตสฺส.

ปฺจสุปิ าเนสุ อนฺต-สทฺโท เหตุอตฺถโชตโน ทฏฺพฺโพ. เอวฺหิ ‘‘ยถา หี’’ติอาทินา วุจฺจมานา อมฺพุปมา จ ยุชฺเชยฺย. อุทกโกฏฺกนฺติ อาลวาลํ. ถิรํ กตฺวา พนฺธตีติ อสิถิลํ ทฬฺหํ นาติมหนฺตํ นาติขุทฺทกํ กตฺวา โยเชติ. ถิรํ กโรตีติ อุทกสิฺจนกาเล ตโต ตโต วิสฺสริตฺวา อุทกสฺส อนิกฺขมนตฺถํ อาลวาลํ ถิรตรํ กโรติ. สุกฺขทณฺฑโกติ ตสฺเสว อมฺพคจฺฉกสฺส สุกฺโข สาขาสีสโก. กิปิลฺลิกปุโฏติ ตมฺพกิปิลฺลิกกุฏชํ. ขณิตฺตินฺติ กุทาลํ. โกฏฺกพนฺธนํ วิย สีลํ สมฺมาทิฏฺิยา วฑฺฒนุปายสฺส มูลภาวโต. อุทกสิฺจนํ วิย ธมฺมสฺสวนํ ภาวนาย ปริพฺรูหนโต. มริยาทาย ถิรภาวกรณํ วิย สมโถ ยถาวุตฺตภาวนาธิฏฺานาย สีลมริยาทาย ทฬฺหภาวาปาทนโต. สมาหิตสฺส หิ สีลํ ถิรตรํ โหติ. สมีเป วลฺลิอาทีนํ หรณํ วิย กมฺมฏฺาเน ขลนปกฺขลนจฺเฉทนํ อิชฺฌิตพฺพภาวนาย วิพนฺธาปนยนโต. มูลขณนํ วิย สตฺตนฺนํ อนุปสฺสนานํ ภาวนา ตสฺสา วิพนฺธสฺส มูลกานํ ตณฺหามานทิฏฺีนํ ปลิขณนโต. เอตฺถ จ ยสฺมา สุปริสุทฺธสีลสฺส กมฺมฏฺานํ อนุยุฺชนฺตสฺส สปฺปายธมฺมสฺสวนํ อิจฺฉิตพฺพํ, ตโต ยถาสุเต อตฺเถ สากจฺฉาสมาปชฺชนํ, ตโต กมฺมฏฺานวิโสธเนน สมถนิปฺผตฺติ, ตโต สมาหิตสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส วิปสฺสนาปาริปูริ. ปริปุณฺณวิปสฺสโน มคฺคสมฺมาทิฏฺึ ปริพฺรูเหตีติ เอวเมเตสํ องฺคานํ ปรมฺปราย สมฺมุขา จ อนุคฺคณฺหนโต อยมานุปุพฺพี กถิตาติ เวทิตพฺพํ.

๔๕๓. อิธ กึ ปุจฺฉตีติ อิธ เอวํ อรหตฺตผลํ ปาปิตาย เทสนาย ‘‘กติ ปนาวุโส, ภวา’’ติ ภวํ ปุจฺฉนฺโต กีทิสํ อนุสนฺธึ อุปาทาย ปุจฺฉตีติ อตฺโถ. เตเนว หิ ‘‘มูลเมว คโต อนุสนฺธี’’ติ วตฺวา อธิปฺปายํ ปกาเสนฺโต ‘‘ทุปฺปฺโ’’ติอาทิมาห. ทุปฺปฺโติ หิ อิธ อปฺปฏิวิทฺธสจฺโจ อธิปฺเปโต, น ชโฬ เอว. กามภโวติอาทีสุ กมฺโมปปตฺติเภทโต ทุวิโธปิ ภโว อธิปฺเปโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กามภวูปคํ กมฺม’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ วิสุทฺธิมคฺเคตํสํวณฺณนายํ (วิสุทฺธิ. ๒.๖๔๗; วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๒.๖๔๖-๖๔๗) วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. ปุนพฺภวสฺสาติ ปุนปฺปุนํ อปราปรํ ภวนโต ชายนโต ปุนพฺภโวติ ลทฺธนามสฺส วฏฺฏปพนฺธสฺส. เตนาห ‘‘อิธ วฏฺฏํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. อภินิพฺพตฺตีติ ภวโยนิคติอาทิวเสน นิพฺพตฺติ. ตหึ ตหึ ตสฺมึ ตสฺมึ ภวาทิเก. อภินนฺทนาติ ตณฺหาอภินนฺทนเหตุ. คมนาคมนํ โหตีติอาทินา ภวาทีสุ สตฺตานํ อปราปรํ จุติปฏิสนฺธิโย ทสฺเสติ. ขยนิโรเธนาติ อจฺจนฺตขยสงฺขาเตน อนุปฺปาทนิโรเธน. อุภยเมตํ น วตฺตพฺพํ ปหานาภิสมยภาวนาภิสมยานํ อจฺจาสนฺนกาลตฺตา. วตฺตพฺพํ ตํ เหตุผลธมฺมูปจารวเสน. ยถา หิ ปทีปุชฺชลนเหตุโก อนฺธการวิคโม, เอวํ วิชฺชุปฺปาทเหตุโก อวิชฺชานิโรโธ, เหตุผลธมฺมา จ สมานกาลาปิ ปุพฺพาปรกาลา วิย โวหรียนฺติ ยถา – ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณ’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๐๔, ๔๐๐; ม. นิ. ๓.๔๒๐, ๔๒๕, ๔๒๖; สํ. นิ. ๒.๔๓-๔๕; ๒.๔.๖๐; กถา. ๔๖๕, ๔๖๗) ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนกิริยา. คมนํ อุปจฺฉิชฺชติ อิธ กามภเว ปรินิพฺพาเนน. อาคมนํ อุปจฺฉิชฺชติ ตตฺถ รูปารูเปสุ ปรินิพฺพาเนน. คมนาคมนํ อุปจฺฉิชฺชติ สพฺพโส อปราปรุปฺปตฺติยา อภาวโต.

๔๕๔. วิวฏฺฏกถาย ปรโต โชติตํ ปมํ ฌานํ วิวฏฺฏํ ปตฺวา ิตสฺส อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน อุภโตภาควิมุตฺตสฺส นิโรธสาธกํ วิภาวิตุํ ยุตฺตนฺติ อาห ‘‘กตมํ ปนาวุโสติ อิธ กึ ปุจฺฉตี’’ติอาทิ. ตถา หิ อนนฺตรํ นิโรธสมาปชฺชนเกน ภิกฺขุนา ชานิตพฺพานิ ปมสฺส ฌานสฺส สมฺปโยคปหานงฺคานิ ปุจฺฉิตานิ. องฺคววตฺถานนฺติ ฌานงฺคววตฺถานํ. โกฏฺาสปริจฺเฉโทติ ตตฺถ ลพฺภมานผสฺสปฺจมกาทิธมฺมโกฏฺาสปริจฺเฉโท ชานิตพฺโพ. อิมสฺมึ ฌาเน เอตฺตกา ธมฺมา สํวิชฺชนฺติ, เอตฺตกา นิโรธิตาติ ชานิตพฺพํ. อุปการานุปการานิ องฺคานีติ นิโรธสมาปตฺติยา อุปการานิ จ อนุปการานิ จ องฺคานิ. นิโรธสมาปตฺติยา หิ โสฬสหิ าณจริยาหิ นวหิ สมาธิจริยาหิ จ ปตฺตพฺพตฺตา ตํตําณสฺส สมาธิจริยาหิ สมติกฺกมิตพฺพา ธมฺมา อนุปการกงฺคานิ, สมติกฺกมกา อุปการกงฺคานิ. เตสฺหิ วเสน ยถานุปุพฺพํ อุปสนฺตุปสนฺตโอฬาริกภาวาย ภวคฺคสมาปตฺติยา สงฺขาราวเสสสุขุมตํ ปตฺตา จิตฺตเจตสิกา ยถาปริจฺฉินฺนํ กาลํ นิรุชฺฌนฺติ, อปฺปวตฺตึ คจฺฉนฺติ. ตสฺสาติ นิโรธสฺส. อนนฺตรปจฺจยนฺติ อนนฺตรปจฺจยสทิสํ. น หิ นิโรธสฺส โกจิ ธมฺโม อนนฺตรปจฺจโย นาม อตฺถิ. ยฺหิ ตทา จิตฺตเจตสิกานํ ตถา นิรุชฺฌนํ, ตํ ยถาวุตฺตปุพฺพาภิสงฺขารเหตุกาย เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา อโหสีติ สา ตสฺส อนนฺตรปจฺจโย วิย โหตีติ ตํ วุตฺตํ. ฉ สมาปตฺติโยติ สุตฺตนฺตนเยน วุตฺตสุตฺตนฺตปิฏกสํวณฺณนาติ กตฺวา. ‘‘สตฺต สมาปตฺติโย’’ติ ปน วตฺตพฺพํ, อฺถา อิทํ ‘‘จตุรงฺคิก’’นฺติ น วตฺตพฺพํ สิยา. นยํ วา ทสฺเสตฺวาติ อาทิอนฺตทสฺสนวเสน นยทสฺสนํ กตฺวา.

๔๕๕. เอวํ นิโรธสฺส ปาทกํ วิภาเวตฺวา อิทานิ อนฺโตนิโรเธ อนุปพนฺธภาวโต ปฺจนฺนํ ปสาทานํ ปจฺจยปุจฺฉเน ปมํ ตาว เต สรูปโต อาเวณิกโต อาเวณิกวิสยโต ปฏิสฺสรณโต จ ปุจฺฉนวเสน ปาฬิ ปวตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิฺาณนิสฺสเย ปฺจ ปสาเท ปุจฺฉนฺโต’’ติ อาห. โคจรวิสยนฺติ เอตฺถ กามํ ตพฺพหุลจาริตาเปกฺขํ โคจรคฺคหณํ, อนฺตฺถภาวาเปกฺขํ วิสยคฺคหณนฺติ อตฺเถว โคจรวิสยภาวานํ วิเสโส, วิวริยมานํ ปน อุภยมฺปิ อารมฺมณสภาวเมวาติ อาห ‘‘โคจรภูตํ วิสย’’นฺติ. เอเกกสฺสาติ เอโก เอกสฺส, อฺโ อฺสฺสาติ อตฺโถ. อฺตฺโถ หิ อยํ เอก-สทฺโท ‘‘อิตฺเถเก อภิวทนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๗) วิย. สเจ หีติอาทิ อภูตปริกปฺปนวจนเมตํ. ตตฺถ สโมธาเนตฺวาติ เอกชฺฌํ กตฺวา. วินาปิ มุเขนาติอาทินา อตฺถสลฺลาปิกนิทสฺสนํ นาม ทสฺเสติ. ยถา วิฺาณาธิฏฺิตเมว จกฺขุ รูปํ ปสฺสติ, น เกวลํ, เอวํ จกฺขุนิสฺสยเมว วิฺาณํ ตํ ปสฺสติ, น อิตรนฺติ อาห ‘‘จกฺขุปสาเท อุปเนหี’’ติ. เตน เตสํ ตตฺถ สํหจฺจการิตํ ทสฺเสติ. ยทิ วา นีลํ ยทิ วา ปีตกนฺติ อิทํ นีลปีตาทิสภาวชานนมตฺตํ สนฺธายาห. นีลํ ปีตกนฺติ ปชานนํ จกฺขุวิฺาณสฺส นตฺเถว อวิกปฺปกภาวโต. เอเตสํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ. นิสฺสยสีเสน นิสฺสิตปุจฺฉา เหสา, เอวฺหิ วิสยานุภวนโจทนา สมตฺถิตา โหติ. เตนาห ‘‘จกฺขุวิฺาณํ หี’’ติอาทิ. ยถาสกํ วิสยํ รชฺชนาทิวเสน อนุภวิตุํ อสมตฺถานิ จกฺขุวิฺาณาทีนิ, ตตฺถ สมตฺถตาเยว จ นตฺถิ, น กิฺจิ อตฺถโต ปฏิสรนฺตานิ วิย โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘กึ เอตานิ ปฏิสรนฺตี’’ติ. ชวนมโน ปฏิสรณนฺติ ปฺจทฺวาริกํ อิตรฺจ สาธารณโต วตฺวา ปุน ยาย’สฺส รชฺชนาทิปวตฺติยา ปฏิสรณตา, สา สวิเสสา ยตฺถ ลพฺภติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มโนทฺวาริกชวนมโน วา’’ติ อาห. เอตสฺมึ ปน ทฺวาเรติ จกฺขุทฺวาเร ชวนํ รชฺชติ วา ทุสฺสติ วา มุยฺหติ วา, ยโต ตตฺถ อฺาณาทิอสํวโร ปวตฺตติ.

ตตฺราติ ตสฺมึ ชวนมนสฺเสว ปฏิสรณภาเว. ทุพฺพลโภชกาติ หีนสามตฺถิยา ราชโภคฺคา. เสวกานํ คณนาย โยชิตทิวเส ลพฺภมานกหาปโณ ยุตฺติกหาปโณ. อนฺทุพนฺธเนน พทฺธสฺส วิสฺสชฺชเนน ลพฺภมานกหาปโณ พนฺธกหาปโณ. กิฺจิ ปหรนฺเต มา ปหรนฺตูติ ปฏิกฺขิปโต ทาตพฺพทณฺโฑ มาปหารกหาปโณ. โส สพฺโพปิ ปริตฺตเกสุ คามิกมนุสฺเสสุ ตถา ลพฺภมาโน เอตฺตโก โหตีติ อาห ‘‘อฏฺกหาปโณ วา’’ติอาทิ. สตวตฺถุกนฺติ สตกรีสวตฺถุกํ. เอส นโย เสสปททฺวเยปิ. ตตฺถาติอาทิ อุปมาสํสนฺธนํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

๔๕๖. อนฺโตนิโรธสฺมึ ปฺจ ปสาเทติ นิโรธสมาปนฺนสฺส ปวตฺตมาเน ปฺจ ปสาเท. กิริยมยปวตฺตสฺมินฺติ ชวนาทิกิริยานิพฺพตฺตกธมฺมปฺปวตฺติยํ. พลวปจฺจยา โหนฺตีติ ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ ปจฺจยา โหนฺติ, อุปตฺถมฺภกภาเวน พลวปจฺจยา โหนฺติ. ชีวิตินฺทฺริยํ ปฏิจฺจาติ อินฺทฺริยอตฺถิอวิคตปจฺจยวเสน ปจฺจยภูตํ ชีวิตินฺทฺริยํ ปฏิจฺจ ปฺจวิโธปิ ปสาโท ติฏฺติ. ชีวิตินฺทฺริเยน วินา น ติฏฺติ ชีวิตินฺทฺริยรหิตสฺส กมฺมสมุฏฺานรูปกลาปสฺส อภาวโต. ตสฺมาติ ยสฺมา อนุปาลนลกฺขเณน ชีวิเตน อนุปาลิตา เอว อุสฺมา ปวตฺตติ, น เตน อนนุปาลิตา, ตสฺมา อุสฺมา อายุํ ปฏิจฺจ ติฏฺติ. ชาลสิขํ ปฏิจฺจ อาภา ปฺายตีติ ชาลสิขาสงฺขาตภูตสงฺฆาตํ สเหว ปวตฺตมานํ นิสฺสาย ‘‘อาภา’’ติ ลทฺธนามา วณฺณธาตุ ‘‘อุชฺชลติ, อนฺธการํ วิธมติ, รูปคตานิ จ วิทํเสตี’’ติอาทีหิ ปกาเรหิ ายติ. ตํ อาโลกํ ปฏิจฺจาติ ตํ วุตฺตปฺปการํ อาโลกํ ปจฺจยํ ลภิตฺวา. ชาลสิขา ปฺายตีติ ‘‘อปฺปิกา, มหตี, อุชุ, กุฏิลา’’ติอาทินา ปากฏา โหติ.

ชาลสิขาวิย กมฺมชเตโช นิสฺสยภาวโต. อาโลโก วิย ชีวิตินฺทฺริยํ ตนฺนิสฺสิตภาวโต. อิทานิ อุปโมปมิตพฺพานํ สมฺพนฺธํ ทสฺเสตุํ ‘‘ชาลสิขา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อาโลกํ คเหตฺวาว อุปฺปชฺชตีติ อิมินา ยถา ชาลสิขาย สเหว อาโลโก อุปฺปชฺชติ, เอวํ กมฺมชุสฺมนา สเหว ชีวิตินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชตีติ ทสฺเสติ. ชาลสิขาสนฺนิสฺสโย ตสฺสา สติเยว โหนฺโต อาโลโก ตาย อุปฺปาทิโต วิย โหตีติ อาห ‘‘อตฺตนา ชนิตอาโลเกเนวา’’ติ. อุสฺมา นาเมตฺถ กมฺมสมุฏฺานา เตโชธาตุ ตนฺนิสฺสิตฺจ ชีวิตินฺทฺริยํ ตทนุปาลกฺจาติ อาห ‘‘กมฺมชมหาภูตสมฺภเวน ชีวิตินฺทฺริเยน อุสฺมาย อนุปาลน’’นฺติ. น เกวลํ ขณฏฺิติยา เอว, อถ โข ปพนฺธานุปจฺเฉทสฺสปิ ชีวิตินฺทฺริยํ การณนฺติ อาห ‘‘วสฺสสตมฺปิ กมฺมชเตชปวตฺตํ ปาเลตี’’ติ. อุสฺมา อายุโน ปจฺจโย โหนฺโต เสสภูตสหิโต เอว โหตีติ อาห ‘‘มหาภูตานี’’ติ. ตถา อายุปิ สหชาตรูปํ ปาเลนฺตเมว อุสฺมาย ปจฺจโย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘มหาภูตานิ ปาเลตี’’ติ.

๔๕๗. อายุ เอว อินฺทฺริยปจฺจยาทิวเสน สหชาตธมฺมานํ อนุปาลนวเสน สงฺขรณโต อายุสงฺขาโร. พหุวจนนิทฺเทโส ปน อเนกสตสหสฺสเภเทสุ รูปกลาเปสุ ปวตฺติยา อเนกเภทนฺติ กตฺวา. อารมฺมณรสํ อนุภวนฺตีติ เวทนิยา ยถา ‘‘นิยฺยานิกา’’ติ. เตนาห ‘‘เวทนา ธมฺมาวา’’ติ. สุขาทิเภทภินฺนตฺตา พหุวจนนิทฺเทโส. อิเมสํ อายุสงฺขารเวทนานํ เอกนฺตนิโรธํ สมาปนฺนสฺส มรเณน ภวิตพฺพํ เวทนาย นิรุทฺธตฺตา. อายุสงฺขารานํ ตถา อนิรุทฺธตฺตา นิโรธสฺส สมาปชฺชนเมว น สิยา, กุโต วุฏฺานํ. เตน วุตฺตํ ปาฬิยํ ‘‘เต จ หาวุโส’’ติอาทิ. วุฏฺานํ ปฺายติ สฺาเวทนาทีนํ อุปฺปตฺติยา. อิทานิ ตมตฺถํ วิตฺถารโต อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘โย หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุกฺกณฺิตฺวาติ นานารมฺมณาปาตโต นิพฺพินฺทิตฺวา. ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสนาติ ยถาปริจฺฉินฺเน กาเล สมฺปตฺเต. รูปชีวิตินฺทฺริยปจฺจยาติ อินฺทฺริยปจฺจยภูตา . ชาลาปวตฺตํ วิย อรูปธมฺมา เตชุสฺสทภาวโต วิสโยภาสนโต จ. อุทกปฺปหาโร วิย นิโรธสมาปตฺติยา ปุพฺพาภิสงฺขาโร. ปิหิตองฺคารา วิย รูปชีวิตินฺทฺริยํ อุสฺมามตฺตตาย อโนภาสนโต . ยถาปริจฺฉินฺนกาลาคมนนฺติ ยถาปริจฺฉินฺนกาลสฺส อุปคมนํ. อนุรูปปตฺติวเสเนว รูปปวตฺติคฺคหณํ. อิมํ รูปกายํ ชหนฺตีติ อิมสฺมา รูปกายา กเฬวรา วิคจฺฉนฺติ นปฺปวตฺตนฺติ.

กาเยน สงฺขรียนฺตีติ กายสงฺขารา ตปฺปฏิพทฺธวุตฺติตาย. วาจํ สงฺขโรนฺตีติ วจีสงฺขารา. วิตกฺเกตฺวา วิจาเรตฺวา หิ วาจํ ภินฺทติ กเถติ. จิตฺเตน สงฺขรียนฺตีติ จิตฺตสงฺขารา ตปฺปฏิพทฺธวุตฺติโต. จิตฺตสงฺขารนิโรธโจทนาย รูปนิโรโธ วิย จิตฺตนิโรโธ อโจทิโต เตสํ ตโต อฺตฺตาติ น จิตฺตสมฺปยุตฺตนิโรโธ เอกนฺติโก วิตกฺกาทินิโรเธ ตทภาวโต. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘วาจา อนิรุทฺธา โหตี’’ติ, ตมฺปิ น. วาจํ สงฺขโรนฺตีติ หิ วจีสงฺขารา, เตสุ นิรุทฺเธสุ กถํ วาจาย อนิโรโธ. จิตฺตํ ปน นิรุทฺเธสุปิ จิตฺตสงฺขาเรสุ เตหิ อนภิสงฺขตตฺตา วิตกฺกาทินิโรโธ วิย ปวตฺตติเยวาติ อยเมตฺถ ปรสฺส อธิปฺปาโย. อานนฺตริยกมฺมํ กตํ ภเวยฺย, จิตฺตสฺส อนิรุทฺธตฺตา ตํ นิสฺสาย จ รูปธมฺมานํ อนปคตตฺตา เต ชีวนฺติ เอว นามาติ. พฺยฺชเน อภินิเวสํ อกตฺวาติ ‘‘จิตฺตสงฺขารา นิรุทฺธา’’ติ วจนโต เตว นิรุทฺธา, น จิตฺตนฺติ เอวํ เนยฺยตฺถํ สุตฺตํ ‘‘นีตตฺถ’’นฺติ อภินิเวสํ อกตฺวา. อาจริยานํ นเย ตฺวาติ ปรมฺปราคตานํ อาจริยานํ อธิปฺปาเย ตฺวาติ อตฺโถ. อุปปริกฺขิตพฺโพติ สุตฺตนฺตราคมโต สุตฺตนฺตรปทสฺส อวิปรีโต อตฺโถ วีมํสิตพฺโพ. ยถา หิ ‘‘อสฺภโว’’ติ วจนโต ‘‘สฺาว ตตฺถ นตฺถิ, อิตเร ปน จิตฺตเจตสิกา สนฺตี’’ติ อยเมตฺถ อตฺโถ น คยฺหติ. ยถา จ ‘‘เนวสฺานาสฺายตน’’นฺติ วจนโต ‘‘สฺาว ตตฺถ ตาทิสี, น ผสฺสาทโย’’ติ อยเมตฺถ อตฺโถ น คยฺหติ สฺาสีเสน เทสนาติ กตฺวา, เอวมิธาปิ ‘‘จิตฺตสงฺขารา นิรุทฺธา’’ติ, ‘‘สฺาเวทยิตนิโรโธ’’ติ จ เทสนาสีสเมว. สพฺเพปิ ปน จิตฺตเจตสิกา ตตฺถ นิรุชฺฌนฺเตวาติ อยเมตฺถ อวิปรีโต อตฺโถ เวทิตพฺโพ, ตถาปุพฺพาภิสงฺขาเรน สพฺเพสํเยว จิตฺตเจตสิกานํ ตตฺถ นิรุชฺฌนโต. เอเตน ยํ ปุพฺเพ ‘‘อฺตฺตา, ตทภาวโต’’ติ จ ยุตฺติวจนํ, ตทยุตฺตํ อธิปฺปายานวโพธโตติ ทสฺสิตํ โหติ. เตนาห ‘‘อตฺโถ หิ ปฏิสรณํ, น พฺยฺชน’’นฺติ.

อุปหตานีติ พาธิตานิ. มกฺขิตานีติ ธํสิตานิ. อารมฺมณฆฏฺฏนาย อินฺทฺริยานํ กิลมโถ จกฺขุนา ภาสุรรูปสุขุมรชทสฺสเนน วิภาเวตพฺโพ. ตถา หิ อุณฺหกาเล ปุรโต อคฺคิมฺหิ ชลนฺเต ขรสฺสเร จ ปณเว อาโกฏิเต อกฺขีนิ เภทานิ วิย น สหนฺติ โสตานิ ‘‘สิขเรน วิย อภิหฺนฺตี’’ติ วตฺตาโร โหนฺติ.

๔๕๘. รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานเมว รูปวิราคภาวนาวเสน ปวตฺตํ อรูปชฺฌานนฺติ เนวสฺานาสฺายตนํ วิสฺสชฺเชนฺโต ธมฺมเสนาปติ ‘‘สุขสฺส จ ปหานา’’ติอาทินา วิสฺสชฺเชสิ. อปคมเนน วิคเมน ปจฺจยา อปคมนปจฺจยา สุขาทิปฺปหานานิ. อธิคมปจฺจยา ปน กสิเณสุ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานํ เหฏฺิมา ตโย จ อารุปฺปา. น หิ สกฺกา ตานิ อนธิคนฺตฺวา เนวสฺานาสฺายตนมธิคนฺตุํ. นิโรธโต วุฏฺานกผลสมาปตฺตินฺติ นิโรธโต วุฏฺานภูตํ อนิจฺจานุปสฺสนาสมุทาคตผลสมาปตฺตึ. สา หิ ‘‘อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺตี’’ติ วุจฺจติ. ยถา สมถนิสฺสนฺโท อภิฺา, เมตฺตากรุณามุทิตาพฺรหฺมวิหารนิสฺสนฺโท อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาโร, กสิณนิสฺสนฺโท อารุปฺปา, สมถวิปสฺสนานิสฺสนฺโท นิโรธสมาปตฺติ, เอวํ วิปสฺสนาย นิสฺสนฺทผลภูตํ สามฺผลนฺติ อาห ‘‘วิปสฺสนานิสฺสนฺทาย ผลสมาปตฺติยา’’ติ. อารมฺมณา นาม สารมฺมณธมฺมานํ วิเสสโต อุปฺปตฺตินิมิตฺตนฺติ อาห ‘‘สพฺพนิมิตฺตานนฺติ รูปาทีนํ สพฺพารมฺมณาน’’นฺติ. นตฺถิ เอตฺถ กิฺจิ สงฺขารนิมิตฺตนฺติ อนิมิตฺตา, อสงฺขตา ธาตูติ อาห ‘‘สพฺพนิมิตฺตาปคตาย นิพฺพานธาตุยา’’ติ. ผลสมาปตฺติสหชาตํ มนสิการํ สนฺธายาห, น อาวชฺชนมนสิการํ. น เหตฺถ ตสฺส สมฺภโว อนุโลมานนฺตรํ อุปฺปชฺชนโต.

อิมสฺมึ าเนติ อิธ วุตฺตนิโรธสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานานํ คหิตานํ อิมสฺมึ ปริโยสานสฺส คหิตฏฺาเน. ทฺวีหิ พเลหีติ สมถวิปสฺสนาพเลหิ. ตโย จ สงฺขารานนฺติ กายสงฺขาราทีนํ ติณฺณํ สงฺขารานํ. โสฬสหิ าณจริยาหีติ อนิจฺจานุปสฺสนา, ทุกฺขา, อนตฺตา, นิพฺพิทา, วิราคา, นิโรธา, ปฏินิสฺสคฺคา, วิวฏฺฏานุปสฺสนา, โสตาปตฺติมคฺโค…เป… อรหตฺตผลสมาปตฺตีติ อิมาหิ โสฬสหิ าณจริยาหิ. นวหิ สมาธิจริยาหีติ ปมชฺฌานสมาธิอาทีหิ นวหิ สมาธิจริยาหิ. โย ยถาวุตฺตาสุ จริยาสุ ปุคฺคลสฺส วสีภาโว, สา วสีภาวตาปฺา. อสฺสา สา กถิตาติ โยชนา. วินิจฺฉยกถาติ วินิจฺฉยวเสน ปวตฺตา อฏฺกถา กถิตา. ตสฺมา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๘๖๘-๘๖๙) ตํสํวณฺณนายฺจ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๒.๘๖๘) วุตฺตนเยน เวทิตพฺพา.

วลฺชนสมาปตฺติ อริยวิหารวเสน วิหรณสมาปตฺติ. ิติยาติ เอตฺถ ปพนฺธฏฺิติ อธิปฺเปตา, น ขณฏฺิติ. กสฺมา? สมาปชฺชนตฺตา. เตนาห ‘‘ิติยาติ จิรฏฺิตตฺถ’’นฺติ. อทฺธานปริจฺเฉโทติ เอตฺตกํ กาลํ สมาปตฺติยา วีตินาเมสฺสามีติ ปเคว กาลปริจฺเฉโท. รูปาทินิมิตฺตวเสนาติ กมฺมกมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺเตสุ ยถารหํ ลพฺภมานรูปาทินิมิตฺตวเสน. ตตฺถ ยสฺมา กมฺมนิมิตฺเต ฉพฺพิธมฺปิ อารมฺมณํ ลพฺภติ, ตสฺมา ‘‘สพฺพนิมิตฺตาน’’นฺติ วุตฺตํ, น สพฺเพสํ อารมฺมณานํ เอกชฺฌํ, เอกนฺตโต วา มนสิกาตพฺพโต. ลกฺขณวจนฺเหตํ ยถา ‘‘ทาตพฺพเมตํ เภสชฺชํ, ยทิ เม พฺยาธิตา สิยุ’’นฺติ.

๔๕๙. นีลมฺปิ สฺชานาตีติอาทินา นีลาทิคฺคหณมุเขน ตํวณฺณานํ สตฺตานํ สฺชานนํ อเวราทิภาวมนสิกรณํ โชติตนฺติ อาห ‘‘เอตสฺมิฺหิ าเน อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ กถิตา’’ติ. เอตฺถ อากิฺจฺํ กถิตนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เอตฺถ สุฺตา’’ติ, ‘‘เอตฺถ อนิมิตฺตา’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. นฺติ ‘‘อิธ อฺํ อภินวํ นาม นตฺถี’’ติอาทินา วุตฺตํ อตฺถวจนํ. เอตาติ อปฺปมาณเจโตวิมุตฺติอาทโย. เอกนามกาติ เอเกกนามกา, เย นานาพฺยฺชนาติ อธิปฺเปตา. เอโก ธมฺโมติ อรหตฺตผลสมาปตฺติ. จตุนามโกติ อปฺปมาณเจโตวิมุตฺติอาทินามโก. เอตนฺติ เอตมตฺถํ. อปฺปมาณาติ อโนธิโส, โอธิโสปิ วา ‘‘เอตฺตกา’’ติ อปริมิตา. อเสเสตฺวาติ อสุภสมาปตฺติ วิย เอกสฺเสว อคฺคหณโต.

กิฺจาปิ อสุภนิมิตฺตารมฺมณมฺปิ กิฺจนํ โหติ, อารมฺมณสงฺฆฏฺฏนสฺส กิฺจนสฺส อสุภสมาปตฺตีนมฺปิ ปฏิภาคนิมิตฺตสงฺขาตํ อารมฺมณํ สพิมฺพํ วิย วิคฺคหํ กิฺจนํ หุตฺวา อุปฏฺาติ, น ตถา อิมสฺสาติ. นนุ พฺรหฺมวิหารปมารุปฺปานมฺปิ ปฏิภาคนิมิตฺตภูตํ กิฺจิ อารมฺมณํ นตฺถีติ? สจฺจํ นตฺถิ, อยํ ปน ปมารุปฺปวิฺาณํ วิย น ปฏิภาคนิมิตฺตภูตอารมฺมณตาย เอวํ วุตฺตา. อตฺเตนาติ อตฺตนา. ภวติ เอเตน อตฺตาติ อภิธานํ พุทฺธิ จาติ ภาโว, อตฺตา. ภาว-สทฺโทปิ อตฺตปริยาโยติ อาห ‘‘ภาวโปสปุคฺคลาทิสงฺขาเตนา’’ติ. เนสํ อปฺปมาณสมาธิอาทีนํ จตุนฺนํ. ‘‘นานตา ปากฏาวา’’ติ วุตฺตํ นานตฺตํ ภูมิโต อารมฺมณโต จ ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺโถ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริตฺตาทิภาเวน อตีตาทิภาเวน อชฺฌตฺตาทิภาเวน จ น วตฺตพฺพํ อารมฺมณํ เอติสฺสาติ นวตฺตพฺพารมฺมณา นิพฺพานารมฺมณผลสมาปตฺติภาวโต.

เอตฺตโกติ ราคาทีหิ สํกิลิฏฺตาย เอตฺตกปฺปมาโณ, อุตฺตาโน ปริตฺตเจตโสติ อตฺโถ. นิพฺพานมฺปิ อปฺปมาณเมว ปมาณกรณานํ อภาเวนาติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. อกุปฺปาติ อรหตฺตผลเจโตวิมุตฺติ ปฏิปกฺเขหิ อโกปนียตาย. กิฺจตีติ กตฺตริ ปิโต ธาตุ มทฺทนตฺโถติ อาห ‘‘กิฺจติ มทฺทตี’’ติ. ตสฺส ปโยคํ ทสฺเสตุํ ‘‘มนุสฺสา กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

สมูหาทิฆนวเสน สกิจฺจปริจฺเฉทตาย จ สวิคฺคหา วิย อุปฏฺิตา สงฺขารา นิจฺจาทิคฺคาหสฺส วตฺถุตาย ‘‘นิจฺจนิมิตฺตํ สุขาทินิมิตฺต’’นฺติ จ วุจฺจติ. วิปสฺสนา ปน ตตฺถ ฆนวินิพฺโภคํ กโรนฺตี นิจฺจาทิคฺคาหํ วิธเมนฺตี ‘‘นิมิตฺตํ สมุคฺฆาเตตี’’ติ วุตฺตา ฆนนิมิตฺตสฺส อารมฺมณภูตสฺส อภาวา. น คหิตาติ เอกตฺถปทนิทฺเทเส ปาฬิยํ กสฺมา น คหิตา? สาติ สุฺตา เจโตวิมุตฺติ. สพฺพตฺถาติ อปฺปมาณาเจโตวิมุตฺติอาทินิทฺเทเสสุ. อารมฺมณวเสนาติ อารมฺมณวเสนปิ เอกตฺถา, น เกวลํ สภาวสรสโตว. อิมินา ปริยาเยนาติ อปฺปมาณโตติอาทินา อารมฺมณโต ลทฺธปริยาเยน. อฺสฺมึ ปน าเนติ อากิฺจฺาทิสทฺทปวตฺติเหตุโต อฺเน เหตุนา อปฺปมาณาติสทฺทปฺปวตฺติยํ เอตสฺส เจโตวิมุตฺติยา โหนฺติ. เอส นโย เสเสสุปิ. อิมินา ปริยาเยนาติ อิมินา ตาย ตาย สมฺาย โวหริตพฺพตาปริยาเยน. สจฺจานํ ทสฺสนมุเขน วฏฺฏวเสน อุฏฺิตเทสนํ อรหตฺเตน กูฏํ คณฺหนฺโต ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฏฺเปสิ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต อวิภตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

มหาเวทลฺลสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๔. จูฬเวทลฺลสุตฺตวณฺณนา

๔๖๐. อยํ เทสนา ยสฺมา ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนวเสน ปวตฺตา, ตสฺมา ปุจฺฉกวิสฺสชฺชเก ปุจฺฉานิมิตฺตฺจ สมุทายโต วิภาเวตุํ ‘‘โก ปนาย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อุปาสกตฺตนฺติ อมคฺคาคตํ อุปาสกตฺตํ. เตสนฺติ เอกาทสนหุตานํ. มคฺคาคเตน อุปสเมน สนฺตินฺทฺริโย สนฺตมานโส.

‘‘กึ นุ โข อชฺช ภวิสฺสติ อยฺยปุตฺโต’’ติ วีถึ โอโลกยมานา. โอลมฺพนตฺถนฺติ ตสฺส หตฺถาวลมฺพนตฺถํ ปุพฺพาจิณฺณวเสน อตฺตโน หตฺถํ ปสาเรสิ. พหิทฺธาติ อตฺตนา อฺํ วิสภาควตฺถุํ สนฺธาย วทติ. ปริเภทเกนาติ เปสุฺวาทินา.

อธิคมปฺปิจฺฉตาย ‘‘น ปกาเสตพฺโพ’’ติ จินฺเตสิ. ปุน ตํ อนุกมฺปนฺโต ‘‘สเจ โข ปนาห’’นฺติอาทึ จินฺเตสิ. เอโส ธมฺโมติ เอโส โลกุตฺตรธมฺโม. วิวฏฺฏํ อุทฺทิสฺส อุปจิตํ นิพฺเพธภาคิยํ กุสลํ อุปนิสฺสโย. ‘‘ยทิ เม อุปนิสฺสโย อตฺถิ, สกฺกา เอตํ ปฏิลทฺธุํ. สเจปิ นตฺถิ, อายตึ อุปนิสฺสโย ภวิสฺสตี’’ติ จิรกาลปริภาวิตาย ฆเฏ ปทีปชาลา วิย อพฺภนฺตเร ทิปฺปมานาย เหตุสมฺปตฺติยา โจทิยมานา อาห ‘‘เอวํ สนฺเต มยฺหํ ปพฺพชฺชํ อนุชานาถา’’ติ.

ลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชิ สุจิรกาลํ กตูปจิตปุฺตาย. อภินีหารสมฺปนฺนตฺตาติ สุชาตตฺเถรสฺส ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต อคฺคสาวกสฺส นิปจฺจการํ กตฺวา – ‘‘ตุมฺเหหิ ทิฏฺธมฺมสฺส ภาคี อสฺส’’นฺติ นิพฺเพธภาคิยํ ทานํ ทตฺวา กตปตฺถนาสงฺขาตสมฺปนฺนาภินีหารตฺตา. นาติจิรํ กิลมิตฺถาติ กมฺมฏฺานํ ภาเวนฺตี วิปสฺสนาย ปริปากวเสน จิรํ น กิลมิตฺถ. วุตฺตเมวตฺถํ วิวริตุํ ‘‘อิโต ปฏฺายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทุติยคมเนนาติ ปพฺพาชนตฺถํ คมนโต ทุติยคมเนน.

อุปเนตฺวาติ ปฺหสฺส อตฺถภาเวน อุปเนตฺวา. สกฺกายนฺติ สกายํ. อุปนิกฺขิตฺตํ กิฺจิ วตฺถุํ สมฺปฏิจฺฉมานา, วิย สมฺปฏิจฺฉนฺตี วิย. เอโก เอว ปาโส เอติสฺสาติ เอกปาสกา, คณฺิ. สา หิ สุโมจิยา, อเนกปาสา ปน ทุมฺโมจิยา, เอกปาสคฺคหณํ วิสฺสชฺชนสฺส สุกรภาวทสฺสนตฺถํ . ปฏิสมฺภิทาวิสเย ตฺวาติ เอเตน เถริยา ปภินฺนปฏิสมฺภิทตํ ทสฺเสติ. ปจฺจยภูตาติ อารมฺมณาทิวเสน ปจฺจยภูตา.

เถริยา วิเสสาธิคมสฺส อตฺตโน อวิสยตาย วิสาโข ‘‘น สกฺกา’’ติอาทินา จินฺเตสีติ ทฏฺพฺพํ. สจฺจวินิพฺโภคปฺหพฺยากรเณนาติ สจฺจปริยาปนฺนสฺส ธมฺมสฺส ทสฺสนโต อฺานฺตฺถนิทฺธารณเภทนาสงฺขาตสฺส วินิพฺโภคปฺหสฺส วิสฺสชฺชเนน. ทฺเว สจฺจานีติ ทุกฺขสมุทยสจฺจานิ. ปฏินิวตฺเตตฺวาติ ปริวตฺเตตฺวา. คณฺิปฺหนฺติ ทุพฺพินิพฺเพธตาย คณฺิภูตํ ปฺหํ.

น ตํเยว อุปาทานํ เต ปฺจุปาทานกฺขนฺธา เอกเทสสฺส สมุทายตาภาวโต, สมุทายสฺส จ เอกเทสตาภาวโต. นาปิ อฺตฺร ปฺจหิ อุปาทานกฺขนฺเธหิ อุปาทานํ ตสฺส ตเทกเทสภาวโต. น หิ เอกเทโส สมุทายวินิมุตฺโต โหติ. ยทิ หิ ตฺเวาติอาทินา อุภยปกฺเขปิ โทสํ ทสฺเสติ. รูปาทิสภาวมฺปีติ รูปเวทนาสฺาวิฺาณสภาวมฺปิ, ผสฺสเจตนาทิสภาวมฺปิ อุปาทานํ สิยา. อฺตฺร สิยาติ ปฺจหิ อุปาทานกฺขนฺเธหิ วิสุํเยว อุปาทานํ ยทิ สิยา. ปรสมเยติ นิกายวาเท. จิตฺตวิปฺปยุตฺโต อนุสโยติ นิทสฺสนมตฺตเมตํ นิกายวาเท จิตฺตสภาวาภาววิฺาณาทีนมฺปิ จิตฺตวิปฺปยุตฺตภาวปฏิชานนโต. เอวํ พฺยากาสีติ ‘‘น โข, อาวุโส’’ติอาทินา ขนฺธคตฉนฺทราคภาเวน พฺยากาสิ. อตฺถธมฺมนิจฺฉยสมฺภวโต อสมฺพนฺเธน. เตสุ กตฺถจิปิ อสมฺมุยฺหนโต อวิตฺถายนฺเตน. ปุจฺฉาวิสเย โมหนฺธการวิคมเนน ปทีปสหสฺสํ ชาเลนฺเตน วิย. สอุปาทานุปาทานฏฺานํ อนุตฺตานตาย ปจุรชนสฺส คูฬฺโห. อคฺคหิตสงฺเกตานํ เกสฺจิ ปฏิจฺฉาทิตสทิสตฺตา ปฏิจฺฉนฺโน. ติลกฺขณพฺภาหตธมฺมวิสยตาย ติลกฺขณาหโต. คมฺภีราณโคจรตาย คมฺภีโร. ลทฺธปติฏฺา อริยสจฺจสมฺปฏิเวธนโต. เอวํ ทิฏฺธมฺมาทิภาวโต เวสารชฺชปฺปตฺตา. สพฺพโส นิวุตฺถพฺรหฺมจริยตาย ติณฺณํ ภวานมฺปิ อปรภาเค นิพฺพาเน นิวุตฺถวตีติ ภวมตฺถเก ิตา.

๔๖๑. ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ ปทุทฺธารํ กตฺวา ‘‘อิเธกจฺโจ’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๑๓๐) ปฏิสมฺภิทาปาเน ตทตฺถํ วิวรติ. ตตฺถ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ อตฺตาติ สมนุปสฺสติ, อตฺตภาเวน สมนุปสฺสติ. อหนฺติ อตฺตานํ นิทฺทิสติ. อหํพุทฺธินิพนฺธนฺหิ อตฺตานํ อตฺตวาที ปฺเปติ, ตสฺมา ยํ รูปํ โส อหนฺติ ยเทตํ มม รูปํ นาม, โส อหนฺติ วุจฺจมาโน มม อตฺตา ตํ มม รูปนฺติ รูปฺจ อตฺตฺจ อทฺวยํ อนฺํ สมนุปสฺสติ. ตถา ปสฺสโต จ อตฺตา วิย รูปํ, รูปํ วิย วา อตฺตา อนิจฺโจติ อาปนฺนเมว . อจฺจีติ ชาลสิขา. สา เจ วณฺโณ, จกฺขุวิฺเยฺยาว สิยา, น กายวิฺเยฺยา, วณฺโณปิ วา กายาทิวิฺเยฺโย อจฺจิยา อนฺตฺตาติ อุปเมยฺยํ วิย อุปมาปิ ทิฏฺิคติกสฺส อยุตฺตาว. ทิฏฺิปสฺสนายาติ มิจฺฉาทิฏฺิสงฺขาตาย ปสฺสนาย ปสฺสติ, น ตณฺหามานปฺานุปสฺสนาย. อรูปํ เวทนาทึ อตฺตาติ คเหตฺวา ฉายาย รุกฺขาธีนตาย ฉายาวนฺตํ รุกฺขํ วิย, รูปสฺส สนฺตกภาเวน อตฺตาธีนตาย รูปวนฺตํ อตฺตานํ สมนุปสฺสติ. ปุปฺผาธีนตาย ปุปฺผสฺมึ คนฺธํ วิย อาเธยฺยภาเวน อตฺตาธีนตาย รูปสฺส อตฺตนิ รูปํ สมนุปสฺสติ. ยถา กรณฺโฑ มณิโน อาธาโร, เอวํ รูปมฺปิ อตฺตโน อาธาโรติ กตฺวา อตฺตานํ รูปสฺมึ สมนุปสฺสติ. เอเสว นโยติ อิมินา อตฺตโน เวทนาทีหิ อนฺตฺตํ เตสฺจาธารณตํ นิสฺสิตตฺจ ยถาวุตฺตํ อติทิสติ.

อรูปํ อตฺตาติ กถิตํ ‘‘เวทนาวนฺต’’นฺติอาทีสุ วิย รูเปน โวมิสฺสกตาย อภาวโต. รูปารูปมิสฺสโก อตฺตา กถิโต รูเปน สทฺธึ เสสารูปธมฺมานํ อตฺตาติ คหิตตฺตา. อุจฺเฉททิฏฺิ กถิตา รูปาทีนํ วินาสทสฺสนโต. เตเนวาห ‘‘รูปํ อตฺตาติ โย วเทยฺย, ตํ น อุปปชฺชติ, อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จาติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหตี’’ติอาทิ. อวเสเสสูติ ปนฺนรสสุ าเนสุ. สสฺสตทิฏฺิ กถิตา รูปวนฺตาทิภาเวน คหิตสฺส อนิทฺธาริตรูปตฺตา.

ทิฏฺิคติโก ยํ วตฺถุํ อตฺตาติ สมนุปสฺสติ, เยภุยฺเยน ตํ นิจฺจํ สุขนฺติ จ สมนุปสฺสเตว. สาวโก ปน ตปฺปฏิกฺเขเปน สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ สุทิฏฺตฺตา รูปํ อตฺตาติ น สมนุปสฺสติ, ตถาภูโต จ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ สมนุปสฺสติ, ตถา เวทนาทโยติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น รูปํ อตฺตโต’’ติอาทิมาห. เอวํ ภวทิฏฺิปิ อวิชฺชาภวตณฺหา วิย วฏฺฏสฺส สมุทโยเยวาติ ทิฏฺิกถายํ ‘‘เอตฺตเกน คมนํ โหตี’’ติอาทิ. ทิฏฺิปฺปหานกถายฺจ ‘‘เอตฺตเกน คมนํ น โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๔๖๒. เหฏฺา วุตฺตมตฺถเมว ปุจฺฉิตตฺตา ‘‘เถริยา ปฏิปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺโพ’’ติ วตฺวา ปฏิปุจฺฉนวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปาสกา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปฏิปตฺติวเสนาติ สกฺกายนิโรธคามินิปฏิปทาภาเวน. สงฺขตาสงฺขตวเสน โลกิยโลกุตฺตรวเสน สงฺคหิตาสงฺคหิตวเสนาติ ‘‘วเสนา’’ติ ปทํ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ กามํ อสงฺขโต นาม มคฺโค นตฺถิ, กึ สงฺขโต, อุทาหุ อสงฺขโตติ ปน ปุจฺฉาวเสน ตถา วุตฺตํ? ‘‘อริโย’’ติ วจเนเนว มคฺคสฺส โลกุตฺตรโต สิทฺธา, สงฺคาหกขนฺธปริยาปนฺนานํ ปน มคฺคธมฺมานมฺปิ สิยา โลกิยตาติ อิธ โลกิยคฺคหณํ. กิฺจาปิ สงฺคหิตปทเมว ปาฬิยํ อาคตํ, น อสงฺคหิตปทํ, เย ปน สงฺคาหกภาเวน วุตฺตา, เต สงฺคหิตา น โหนฺตีติ อฏฺกถายํ อสงฺคหิตคฺคหณํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สงฺขโตติอาทีสุ สเมจฺจ สมฺภุยฺย ปจฺจเยหิ กโตติ สงฺขโต. ตถาภูโต จ ตํสมงฺคิโน ปุคฺคลสฺส ปุพฺพภาคเจตนาติ มยฺหํ มคฺโค อฏฺงฺคิโก โหตุ สตฺตงฺคิโก วาติ เจติตภาเวน เจติโต. สหชาตเจตนายปิ เจติโตว ตสฺสา สหการีการณภาวโต, ตโต เอว ปกปฺปิโต อายูหิโต. ปจฺจเยหิ นิปฺผาทิตตฺตา กโต นิพฺพตฺติโต จ. สมาปชฺชนฺเตน อตฺตโน สนฺตาเน สมฺมเทว อาปชฺชนฺเตน อุปฺปาเทนฺเตน. อิติ สตฺตหิปิ ปเทหิ ปจฺจยนิพฺพตฺติตํเยว อริยมคฺคสฺส ทสฺเสติ.

อสงฺคหิโต ขนฺธานํ ปเทโส เอตสฺส อตฺถีติ มคฺโค สปฺปเทโส. นตฺถิ เอเตสํ ปเทสาติ ขนฺธา นิปฺปเทสา. ปทิสฺสติ เอเตน สมุทาโยติ หิ ปเทโส, อวยโว. อยนฺติ มคฺโค. สปฺปเทสตฺตา เอกเทสตฺตา. นิปฺปเทเสหิ สมุทายภาวโต นิรวเสสปเทเสหิ. ยถา นครํ รชฺเชกเทสภูตํ ตทนฺโตคธตฺตา รชฺเชน สงฺคหิตํ, เอวํ อริยมคฺโค ขนฺธตฺตเยกเทสภูโต ตทนฺโตคธตฺตา ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิโตติ ทสฺเสติ ‘‘นครํ วิย รชฺเชนา’’ติ อิมินา. สชาติโตติ สมานชาติตาย, สมานสภาวตฺตา เอวาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ สีลกฺขนฺโธ ‘‘นว โกฏิสหสฺสานี’’ติอาทินา (วิสุทฺธิ. ๑.๒๐; อป. อฏฺ. ๒.๕๕.๕๕; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๑.๓๗) วุตฺตปเภทวเสน เจว สมฺปตฺตสมาทานวิรติอาทิวเสน จ คยฺหมาโน นิปฺปเทโส, มคฺคสีลํ ปน อาชีวฏฺมกเมว สมุจฺเฉทวิรติมตฺตเมวาติ สปฺปเทสํ. สมาธิกฺขนฺโธ ปริตฺตมหคฺคตาทิวเสน เจว อุปจารปฺปนาสมาธิวเสน จ อเนกเภทตาย นิปฺปเทโส, มคฺคสมาธิ ปน โลกุตฺตโรว , อปฺปนาสมาธิ เอวาติ สปฺปเทโส. ตถา ปฺากฺขนฺโธ ปริตฺตมหคฺคตาทิวเสน เจว สุตมยาณาทิวเสน จ อเนกเภทตาย นิปฺปเทโส, มคฺคปฺา ปน โลกุตฺตราว, ภาวนามยา เอวาติ สปฺปเทสา. อตฺตโน ธมฺมตายาติ สหการีการณํ อนเปกฺขิตฺวา อตฺตโน สภาเวน อตฺตโน พเลน อปฺเปตุํ น สกฺโกติ วีริเยน อนุปตฺถมฺภิตํ, สติยา จ อนุปฏฺิตํ. ปคฺคหกิจฺจนฺติ ยถา โกสชฺชปกฺเข น ปติตา จิตฺตฏฺิติ, ตถา ปคฺคณฺหนกิจฺจํ. อปิลาปนกิจฺจนฺติ ยถา อารมฺมเณ น ปิลวติ, เอวํ อปิลาปนกิจฺจํ.

เอกโต ชาตาติ สหชาตา. ปิฏฺึ ทตฺวา โอนตสหาโย วิย วายาโม สมาธิสฺส อารมฺมเณ อปฺปนาย วิเสสปจฺจยภาวโต. อํสกูฏํ ทตฺวา ิตสหาโย วิย สติ สมาธิสฺส อารมฺมเณ ทฬฺหปวตฺติยา ปจฺจยภาวโต. กิริยโตติ อุปการกิริยโต.

อาโกเฏตฺวาติ อารมฺมณํ อาหนิตฺวา. ตถา หิ วิตกฺโก ‘‘อาหนนรโส’’ติ, โยคาวจโร จ ‘‘กมฺมฏฺานํ ตกฺกาหตํ วิตกฺกปริยาหตํ กโรตี’’ติ วุจฺจติ. อิธาปีติ สมฺมาทิฏฺิสงฺกปฺเปสุ. กิริยโตติ วุตฺตปฺปการอุปการกิริยโต.

สุภสุขาทินิมิตฺตคฺคาหวิธมนํ จตุกิจฺจสาธนํ. ปจฺจยตฺเตนาติ สหชาตาทิปจฺจยภาเวน. จตุกิจฺจสาธนวเสเนวาติ อิทํ มคฺควีริยสฺเสว คหิตภาวทสฺสนํ. ตฺหิ เอกํเยว หุตฺวา จตุกิจฺจํ ยถาวุตฺตอุปการกสภาเวน จ ปริวารฏฺเน ปริกฺขาโร โหติ. มคฺคสมฺปยุตฺตธมฺมานนฺติ อิมินา มคฺคธมฺมานมฺปิ คหณํ, น ตํสมฺปยุตฺตผสฺสาทีนํเยว. เอกจิตฺตกฺขณิกาติ มคฺคจิตฺตุปฺปาทวเสน เอกจิตฺตกฺขณิกา.

สตฺตหิ าเณหีติ ปรมุกฺกํสคเตหิ สตฺตหิ ชวเนหิ สมฺปยุตฺตาเณหิ, สตฺตหิ วา อนุปสฺสนาาเณหิ. อาทิโต เสวนา อาเสวนา, ตโต ปรํ วฑฺฒนา ภาวนา, ปุนปฺปุนํ กรณํ พหุลีกมฺมนฺติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อฺเน จิตฺเตนา’’ติอาทิ. อธิปฺปายวเสน นิทฺธาเรตฺวา คเหตพฺพตฺถํ สุตฺตํ เนยฺยตฺถํ. ยถารุตวเสน คเหตพฺพตฺถํ นีตตฺถํ. เอวํ สนฺเตติ ยทิ อิทํ สุตฺตํ นีตตฺถํ, อาเสวนาทิ จ วิสุํ วิสุํ จิตฺเตหิ โหติ, เอวํ สนฺเต. อาเสวนาทิ นาม จิตฺตสฺส อเนกวารํ อุปฺปตฺติยา โหติ , น เอกวารเมวาติ อาห ‘‘เอกํ จิตฺต’’นฺติอาทิ. ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ – อาเสวนาวเสน ปวตฺตมานํ จิตฺตํ สุจิรมฺปิ กาลํ อาเสวนาวเสเนว ปวตฺเตยฺย, ตถา ภาวนาพหุลีกมฺมวเสน ปวตฺตมานานิปิ, น เจตฺถ เอตฺตกาเนว จิตฺตานิ อาเสวนาวเสน ปวตฺตนฺติ, เอตฺตกานิ ภาวนาวเสน, พหุลีกมฺมวเสนาติ นิยโม ลพฺภติ. อิติ อเนกจิตฺตกฺขณิกอริยมคฺคํ วทนฺตสฺส ทุนฺนิวาริโยวายํ โทโส. ยถา ปน ปุพฺพภาเคปิ นานาจิตฺเตสุ ปวตฺตปริฺาทิกิจฺจานํ สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ ปฏิเวธกาเล ยถารหํ จตุกิจฺจสาธนํ, เอกจิตฺตกฺขณิกา จ ปวตฺติ, เอวํ วิปสฺสนาย ปวตฺตาภิสงฺขารวเสน อาเสวนาภาวนาพหุลีกมฺมานิ ปฏิเวธกาเล เอกจิตฺตกฺขณิกาเนว โหนฺตีติ วทนฺตานํ อาจริยานํ น โกจิ โทโส อาเสวนาทีหิ กาตพฺพกิจฺจสฺส ตทา เอกจิตฺตกฺขเณเยว สิชฺฌนโต. เตนาห ‘‘เอกจิตฺตกฺขณิกาวา’’ติอาทิ. สเจ สฺชานาตีติ สเจ สฺตฺตึ คจฺฉติ. ยาคุํ ปิวาหีติ อุยฺโยเชตพฺโพ ธมฺมสากจฺฉาย อภพฺพภาวโตติ อธิปฺปาโย.

๔๖๓. ปุฺาภิสงฺขาราทีสูติ อาทิ-สทฺเทน กายสฺเจตนาทิ ลกฺขเณ กายสงฺขาราทิเกปิ สงฺคณฺหาติ, น อปุฺาเนฺชาภิสงฺขาเร เอว. กายปฏิพทฺธตฺตา กาเยน สงฺขรียติ, น กายสมุฏฺานตฺตา. จิตฺตสมุฏฺานา หิ เต ธมฺมาติ. นิพฺพตฺตียตีติ จ อิทํ กาเย สติ สพฺภาวํ , อสติ จ อภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. วาจนฺติ วจีโฆสํ. สงฺขโรตีติ ชเนติ. เตนาห ‘‘นิพฺพตฺเตตี’’ติ. น หิ ตํ วิตกฺกวิจารรหิตจิตฺตํ วจีโฆสํ นิพฺพตฺเตตุํ สกฺโกติ. จิตฺตปฏิพทฺธตฺตาติ เอเตน จิตฺตสฺส นิสฺสยาทิปจฺจยภาโว จิตฺตสงฺขารสงฺขรณนฺติ ทสฺเสติ. อฺมฺมิสฺสาติ อตฺถโต ภินฺนาปิ กายสงฺขาราทิวจนวจนียภาเวน อฺมฺมิสฺสิตา อภินฺนา วิย, ตโต เอว อาลุฬิตา สํกิณฺณา อวิภูตา อปากฏา ทุทฺทีปนา ทุวิฺาปยา. อาทานคฺคหณมุฺจนโจปนานีติ ยสฺส กสฺสจิ กาเยน อาทาตพฺพสฺส อาทานสงฺขาตํ คหณํ, วิสฺสชฺชนสงฺขาตํ มุฺจนํ, ยถาตถาจลนสงฺขาตํ โจปนนฺติ อิมานิ ปาเปตฺวา สาเธตฺวา อุปฺปนฺนา. กายโต ปวตฺตา สงฺขารา, กาเยน สงฺขรียนฺตีติ จ กายสงฺขาราตฺเวว วุจฺจนฺติ. หนุสํโจปนนฺติ หนุสฺจลนํ. วจีเภทนฺติ วาจานิจฺฉารณํ. วาจํ สงฺขโรนฺตีติ กตฺวา อิธ วจีสงฺขาราตฺเวว วุจฺจนฺติ.

๔๖๔. สมาปชฺชิสฺสนฺติ ปทํ นิโรธสฺส อาสนฺนานาคตภาววิสยํ อาสนฺนํ วชฺเชตฺวา ทูรสฺส คหเณ ปโยชนาภาวโต. นิโรธปาทกสฺส เนวสฺานาสฺายตนจิตฺตสฺส จ คหณโต ปฏฺาย นิโรธํ สมาปชฺชติ นามาติ อธิปฺปาเยน ‘‘ปททฺวเยน เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติกาโล กถิโต’’ติ วุตฺตํ. ตถา จิตฺตํ ภาวิตํ โหตีติ เอตฺถ อทฺธานปริจฺเฉทจิตฺตคฺคหณํ อิตเรสํ นานนฺตริยภาวโต. น หิ พลทฺวยาณสมาธิจริยานํ วสีภาวาปาทนจิตฺเตหิ วินา อทฺธานปริจฺเฉทจิตฺตํ อจิตฺตกภาวาย โหติ.

เสสสงฺขาเรหีติ กายสงฺขารจิตฺตสงฺขาเรหิ. ทุติยชฺฌาเนเยว นิรุชฺฌติ อนุปฺปตฺตินิโรเธน. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. วุฏฺหิสฺสนฺติ ปทํ วุฏฺหนสฺส อาสนฺนานาคตภาววิสยํ อาสนฺนํ วชฺเชตฺวา ทูรสฺส คหเณ ปโยชนาภาวโต. นิโรธโต วุฏฺานสฺส จ จิตฺตุปฺปาเทน ปริจฺฉินฺนตฺตา ตโต โอรเมวาติ อาห ‘‘ปททฺวเยน อนฺโตนิโรธกาโล กถิโต’’ติ. ตถา จิตฺตํ ภาวิตํ โหตีติ ยถา ยถาปริจฺฉินฺนกาลเมว อจิตฺตกภาโว, ตโต ปรํ สจิตฺตกภาโว โหติ, ตถา นิโรธสฺส ปริกมฺมจิตฺตํ อุปฺปาทิตํ โหติ.

ปฏิสงฺขาติ ปฏิสงฺขาย อิทเมว กาตพฺพํ ชานิตฺวา อปฺปวตฺติมตฺตํ. สมาปชฺชนฺตีติ อจิตฺตกภาวํ สมฺปเทว อาปชฺชนฺติ. อถ กสฺมา สตฺตาหเมว สมาปชฺชนฺตีติ? ยถากาลปริจฺเฉทกรณโต, ตฺจ เยภุยฺเยน อาหารูปชีวีนํ สตฺตานํ อุปาทินฺนกปวตฺตสฺส เอกทิวสํ ภุตฺตาหารสฺส สตฺตาหเมว ยาปนโต.

สพฺพา ผลสมาปตฺติ อสฺสาสปสฺสาเส น สมุฏฺาเปตีติ อิทํ นตฺถีติ อาห ‘‘สมุฏฺาเปตี’’ติ. ยา ปน น สมุฏฺาเปติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมสฺส ปน…เป… น สมุฏฺาเปตี’’ติ อาห. ตตฺถ อิมสฺสาติ อิธ ปาฬิยํ วุตฺตนิโรธสมาปชฺชนภิกฺขุโน. ตสฺส ปน ผลสมาปตฺติ จตุตฺถชฺฌานิกาวาติ นิยโม นตฺถีติ อาห ‘‘กึ วา เอเตนา’’ติอาทิ. อพฺโพหาริกาติ สุขุมตฺตภาวปฺปตฺติยา ‘‘อตฺถี’’ติ โวหริตุํ อสกฺกุเณยฺยาติ เกจิ. นิโรธสฺส ปน ปาทกภูตาย จตุตฺถชฺฌานาทิสมาธิจริยาย วเสน อจตุตฺถชฺฌานิกาปิ นิโรธานนฺตรผลสมาปตฺติ อสฺสาสปสฺสาเส น สมุฏฺาเปตีติ อภาวโต เอว เต อพฺโพหาริกา วุตฺตา. เอวฺจ กตฺวา สฺชีวตฺเถรวตฺถุมฺหิ อานีตสมาปตฺติผลนิทสฺสนมฺปิ สุฏฺุ อุปปชฺชติ. เตนาห ‘‘ภวงฺคสมเยเนเวตํ กถิต’’นฺติ. กิริยมยปวตฺตวฬฺชนกาเลติ เอตฺถ กิริยมยปวตฺตํ กายวจีวิฺตฺติวิปฺผาโร, ตสฺส วฬฺชนกาเล ปวตฺตนสมเย. วาจํ อภิสงฺขาตุํ น สกฺโกนฺติ อวิฺตฺติชนกตฺตา เตสํ วิตกฺกวิจารานํ.

สคุเณนาติ สรเสน, สภาเวนาติ อตฺโถ. สุฺตา นาม ผลสมาปตฺติ ราคาทีหิ สุฺตฺตา. ตถา ราคนิมิตฺตาทีนํ อภาวา อนิมิตฺตา, ราคปณิธิอาทีนํ อภาวา อปฺปณิหิตาติ อาห ‘‘อนิมิตฺตอปฺปณิหิเตสุปิ เอเสว นโย’’ติ. อนิมิตฺตํ อปฺปณิหิตฺจ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนผลสมาปตฺติยํ ผสฺโส อนิมิตฺโต ผสฺโส อปฺปณิหิโต ผสฺโส นามาติ อิมมตฺถํ ‘‘เอเสว นโย’’ติ อิมินา อติทิสติ.

อตฺตสุฺตาทสฺสนโต อนตฺตานุปสฺสนา สุฺตา, นิจฺจนิมิตฺตุคฺฆาฏนโต อนิจฺจานุปสฺสนา อนิมิตฺตา, สุขปฺปณิธิปฏิกฺเขปโต ทุกฺขานุปสฺสนา อปฺปณิหิตาติ อาห – ‘‘สุฺตา…เป… วิปสฺสนาปิ วุจฺจตี’’ติ. อนิจฺจโต วุฏฺาตีติ สงฺขารานํ อนิจฺจาการคฺคาหินิยา วุฏฺานคามินิยา ปรโต เอกโตวุฏฺานอุภโตวุฏฺาเนหิ นิมิตฺตปวตฺตโต วุฏฺาติ. อนิจฺจโต ปริคฺคเหตฺวาติ จ อิทํ ‘‘น เอกนฺติกํ เอวมฺปิ โหตี’’ติ กตฺวา วุตฺตํ. เอส นโย เสเสสุปิ. อปฺปณิหิตวิปสฺสนาย มคฺโคติอาทินา, สุฺตวิปสฺสนาย มคฺโคติอาทินา จ โยชนํ สนฺธายาห ‘‘เอเสว นโย’’ติ. วิกปฺโป อาปชฺเชยฺย อาคมนสฺส ววตฺถานสฺส อภาเวน อววตฺถานกรตฺตา. เอวฺหิ ตโย ผสฺสา ผุสนฺตีติ เอวํ สคุณโต อารมฺมณโต จ นามลาเภ สุฺตาทินามกา ตโย ผสฺสา ผุสนฺตีติ อนิยมวจนํ. สเมติ ยุชฺชติ เอกสฺเสว ผสฺสสฺส นามตฺตยโยคโต.

สพฺพสงฺขตวิวิตฺตตาย นิพฺพานํ วิเวโก นาม อุปธิวิเวโกติ กตฺวา. นินฺนตา ตปฺปฏิปกฺขวิมุขสฺส ตทภิมุขตา. โปณตา โอนมนํ, ปพฺภารตา ตโต วิสฺสฏฺภาโว.

๔๖๕. จกฺขาทิโต รูปาทีสุ ปวตฺตรูปกายโต อุปฺปชฺชนโต ปฺจทฺวาริกํ สุขํ กายิกํ นาม, มโนทฺวาริกํ เจโตผสฺสชาตาย เจตสิกํนาม. สภาวนิทฺเทโส สุขยตีติ กตฺวา. มธุรภาวทีปกนฺติ อิฏฺภาวโชตนํ. เวทยิตภาวทีปกนฺติ เวทกภาววิภาวกํ. เวทนา เอว หิ ปรมตฺถโต อารมฺมณํ เวเทติ, อารมฺมณํ ปน เวทิตพฺพนฺติ. ทุกฺขนฺติ สภาวนิทฺเทโสติเอวมาทิอตฺถวจนํ สนฺธายาห ‘‘เอเสว นโย’’ติ. ิติสุขาติ ิติยา ธรมานตาย สุขา, น ิติกฺขณมตฺเตน. เตนาห ‘‘อตฺถิภาโว สุข’’นฺติ. วิปริณามทุกฺขาติ วิปริณมเนน วิคมเนน ทุกฺขา, น นิโรธกฺขเณน. เตนาห ‘‘นตฺถิภาโว ทุกฺข’’นฺติ. อปริฺาตวตฺถุกานฺหิ สุขเวทนุปรโม ทุกฺขโต อุปฏฺาติ. สฺวายมตฺโถ ปิยวิปฺปโยเคน ทีเปตพฺโพ. ิติทุกฺขา วิปริณามสุขาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เตนาห ‘‘อตฺถิภาโว ทุกฺขํ, นตฺถิภาโว สุข’’นฺติ. ทุกฺขเวทนุปรโม หิ สตฺตานํ สุขโต อุปฏฺาติ. เอวฺหิ วทนฺติ – ‘‘ตสฺส โรคสฺส วูปสเมน อโห สุขํ ชาต’’นฺติ. ชานนภาโวติ ยาถาวสภาวโต อวพุชฺฌนํ. อทุกฺขมสุขฺหิ เวทนํ ชานนฺตสฺส สุขํ โหติ ตสฺส สุขุมภาวโต, ยถา ตทฺเ ธมฺเม สลกฺขณโต สามฺลกฺขณโต จ สมฺมเทว อวโพโธ ปรมํ สุขํ. เตเนวาห –

‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;

ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานต’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๗๔);

อชานนภาโวติ เอตฺถ วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ทุกฺขฺหิ สมฺโมหวิหาโรติ. อปโร นโย ชานนภาโวติ ชานนสฺส าณสฺส สพฺภาโว. าณสมฺปยุตฺตา หิ าโณปนิสฺสยา จ อทุกฺขมสุขา เวทนา สุขา อิฏฺาการา. ยถาห ‘‘อิฏฺา เจว อิฏฺผลา จา’’ติ. อชานนภาโว ทุกฺขนฺติ เอตฺถ วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

กตโม อนุสโย อนุเสตีติ กามราคานุสยาทีสุ สตฺตสุ อนุสเยสุ กตโม อนุสโย อนุสยวเสน ปวตฺตติ? อปฺปหีนภาเวน หิ สนฺตาเน อนุสยนฺตีติ อนุสยา, อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. เอเตน การณลาเภ สติ อุปฺปชฺชนารหตา เนสํ ทสฺสิตา. อปฺปหีนา หิ กิเลสา การณลาเภ สติ อุปฺปชฺชนฺติ. เตนาห ‘‘อปฺปหีนฏฺเน สยิโต วิย โหตี’’ติ. เต จ นิปฺปริยายโต อนาคตา กิเลสา ทฏฺพฺพา, อตีตา ปจฺจุปฺปนฺนา จ ตํสภาวตฺตา ตถา วุจฺจนฺติ. น หิ ธมฺมานํ กาลเภเทน สภาวเภโท อตฺถิ. ยทิ อปฺปหีนฏฺโ อนุสยฏฺโ, นนุ สพฺเพปิ กิเลสา อปฺปหีนา อนุสยา ภเวยฺยุนฺติ? น มยํ อปฺปหีนตามตฺเตน อนุสยฏฺํ วทาม, อถ โข ปน อปฺปหีนฏฺเน ถามคตา กิเลสา อนุสยา. อิทํ ถามคมนฺจ ราคาทีนเมว อาเวณิโก สภาโว ทฏฺพฺโพ, ยโต อภิธมฺเม – ‘‘ถามคตํ อนุสยํ ปชหตี’’ติ วุตฺตํ. โสติ ราคานุสโย. อปฺปหีโนติ อปฺปหีนภาวมุเขน อนุสยนฏฺมาห. โส จ อปริฺาตกฺขนฺธวตฺถุโต, ปริฺาเตสุ ปติฏฺํ น ลภติ. เตนาห ‘‘น สพฺพาย สุขาย เวทนาย โส อปฺปหีโน’’ติ. อารมฺมณวเสน จายํ อนุสยฏฺโ อธิปฺเปโต. เตนาห ‘‘น สพฺพํ สุขํ เวทนํ อารพฺภ อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ’’ติ.

วตฺถุวเสนปิ ปน อนุสยฏฺโ เวทิตพฺโพ, โย ‘‘ภูมิลทฺธ’’นฺติ วุจฺจติ. เตน หิ อฏฺกถายํ (วิสุทฺธิ. ๒.๘๓๔) วุตฺตํ –

‘‘ภูมีติ วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา เตภูมกา ปฺจกฺขนฺธา. ภูมิลทฺธํ นาม เตสุ ขนฺเธสุ อุปฺปตฺติรหํ กิเลสชาตํ. เตน หิ สา ภูมิลทฺธา นาม โหติ, ตสฺมา ภูมิลทฺธนฺติ วุจฺจติ, สา จ โข น อารมฺมณวเสน. อารมฺมณวเสน หิ สพฺเพปิ อตีตานาคเต ปริฺาเตปิ จ ขีณาสวานํ ขนฺเธ อารพฺภ กิเลสา อุปฺปชฺชนฺติ มหากจฺจานอุปฺปลวณฺณาทีนํ ขนฺเธ อารพฺภ โสเรยฺยเสฏฺินนฺทมาณวกาทีนํ วิย. ยทิ จ ตํ ภูมิลทฺธํ นาม สิยา, ตสฺส อปฺปเหยฺยโต น โกจิ ภวมูลํ ปชเหยฺย, วตฺถุวเสน ปน ภูมิลทฺธํ เวทิตพฺพํ. ยตฺถ ยตฺถ หิ วิปสฺสนาย อปริฺาตา ขนฺธา อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ ตตฺถ อุปฺปาทโต ปภุติ เตสุ วฏฺฏมูลํ กิเลสชาตํ อนุเสติ. ตํ อปฺปหีนฏฺเน ภูมิลทฺธนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติอาทิ.

เอส นโย สพฺพตฺถาติ อิมินา ‘‘น สพฺพาย ทุกฺขาย เวทนาย โส อปฺปหีโน, น สพฺพํ ทุกฺขํ เวทนํ อารพฺภ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทึ อติทิสติ. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ‘‘โย อนุสโย ยตฺถ อนุเสติ , โส ปหียมาโน ตตฺถ ปหีโน นาม โหตี’’ติ ตตฺถ ตตฺถ ปหานปุจฺฉา, ตํ สนฺธายาห ‘‘กึ ปหาตพฺพนฺติ อยํ ปหานปุจฺฉา นามา’’ติ.

เอเกเนว พฺยากรเณนาติ ‘‘อิธาวุโส, วิสาข, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๓๗๔) เอเกเนว วิสฺสชฺชเนน. ทฺเว ปุจฺฉาติ อนุสยปุจฺฉา ปหานปุจฺฉาติ ทฺเวปิ ปุจฺฉา วิสฺสชฺเชสิ. ‘‘ราคํ เตน ปชหตี’’ติ อิทเมกํ วิสฺสชฺชนํ, ‘‘น ตตฺถ ราคานุสโย อนุเสตี’’ติ อิทเมกํ วิสฺสชฺชนํ, ปุจฺฉานุกฺกมฺเจตฺถ อนาทิยิตฺวา ปหานกฺกเมน วิสฺสชฺชนา ปวตฺตา . ‘‘ทฺเว ปุจฺฉา วิสฺสชฺเชสี’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘อิธา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตถาวิกฺขมฺภิตเมว กตฺวาติ อิมินา โย ราคํ วิกฺขมฺเภตฺวา ปุน อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทานโต ตถาวิกฺขมฺภิตเมว กตฺวา มคฺเคน สมุคฺฆาเตติ, ตสฺส วเสน ‘‘ราคํ เตน ปชหติ, น ตตฺถ ราคานุสโย อนุเสตี’’ติ วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. กาโมฆาทีหิ จตูหิ โอเฆหิ สํสารภโวเฆเนว วา เวคสา วุยฺหมาเนสุ สตฺเตสุ ตํ อุตฺตริตฺวา ปตฺตพฺพํ, ตสฺส ปน คาธภาวโต ปติฏฺานภูตํ. เตนาห ภควา – ‘‘ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๓๘; อิติวุ. ๖๙; ปุ. ป. ๑๘๗).

สุฺตาทิเภเทน อเนกเภทตฺตา ปาฬิยํ ‘‘อนุตฺตเรสู’’ติ พหุวจนนิทฺเทโสติ ‘‘อนุตฺตรา วิโมกฺขา’’ติ วตฺวา ปุน เตสํ สพฺเพสมฺปิ อรหตฺตภาวสามฺเน ‘‘อรหตฺเต’’ติ วุตฺตํ. วิสเย เจตํ ภุมฺมํ. ปตฺถนํ ปฏฺเปนฺตสฺสาติ ‘‘อโห วตาหํ อรหตฺตํ ลเภยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ อุปฏฺเปนฺตสฺส, ปตฺเถนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ปฏฺเปนฺตสฺสาติ เจตฺถ เหตุมฺหิ อนฺตสทฺโท. กถํ ปน อรหตฺตวิสยา ปตฺถนา อุปฺปชฺชตีติ? น กาจิ อรหตฺตํ อารมฺมณํ กตฺวา ปตฺถนา อุปฺปชฺชติ อนธิคตตฺตา อวิสยภาวโต. ปริกปฺปิตรูปํ ปน ตํ อุทฺทิสฺส ปตฺถนา อุปฺปชฺชติ. ‘‘อุปฺปชฺชติ ปิหาปจฺจยา’’ติ วุตฺตํ ปรมฺปรปจฺจยตํ สนฺธาย, อุชุกํ ปน ปจฺจยภาโว นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘น ปตฺถนาย ปฏฺปนมูลกํ อุปฺปชฺชตี’’ติ. อิทํ ปน เสวิตพฺพํ โทมนสฺสํ อกุสลปฺปหานสฺส กุสลาภิวุฑฺฒิยา จ นิมิตฺตภาวโต. เตนาห ภควา – ‘‘โทมนสฺสมฺปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๕๙-๓๖๒). ตีหิ มาเสหิ สมฺปชฺชนกา เตมาสิกา. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. อิมสฺมึ วาเรติ อิมสฺมึ ปวารณวาเร. วิสุทฺธิปวารณนฺติ ‘‘ปริสุทฺโธ อห’’นฺติ เอวํ ปวตฺตํ วิสุทฺธิปวารณํ. อรหนฺตานเมว เหส ปวารณา.

น กทาจิ ปหาตพฺพสฺส ปหายกตา อตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น โทมนสฺเสน วา’’ติอาทึ วตฺวา ปริยาเยเนตํ วุตฺตํ, ตํ วิภาเวนฺโต ‘‘อยํ ปนา’’ติอาทิมาห. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรโต วิตฺถาเรน อาคมิสฺสติ. ปฏิปทํ คเหตฺวา ปตฺถนํ กตฺวา ปตฺถนํ เปตฺวา. ปฏิสฺจิกฺขตีติ โอวาทวเสน อตฺตานํ สมุตฺเตเชนฺโต กเถติ. สีเลน หีนฏฺานนฺติ อฺเหิ อรหตฺตาย ปฏิปชฺชนฺเตหิ สีเลน หีนฏฺานํ กึ ตุยฺหํ อตฺถีติ อธิปฺปาโย. สุปริสุทฺธนฺติ อขณฺฑาทิภาวโต สุโธตชาติมณิ วิย สุฏฺุ ปริสุทฺธํ. สุปคฺคหิตนฺติ กทาจิปิ สงฺโกจาภาวโต วีริยํ สุฏฺุ ปคฺคหิตํ. ปฺาติ วิปสฺสนาปฺา ปฏิปกฺเขหิ อนธิภูตตาย อกุณฺา ติกฺขวิสทา สงฺขารานํ สมฺมสเน สูรา หุตฺวา วหติ ปวตฺตติ. ปริยาเยนาติ ตสฺส โทมนสฺสสฺส อรหตฺตุปนิสฺสยตาปริยาเยน. อารมฺมณวเสน อนุสยนํ อิธาธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘น ตํ อารพฺภ อุปฺปชฺชตี’’ติ. อนุปฺปชฺชนเมตฺถ ปหานํ นามาติ วุตฺตํ ‘‘ปหีโนว ตตฺถ ปฏิฆานุสโยติ อตฺโถ’’ติ. ตติยชฺฌาเนน วิกฺขมฺเภตพฺพา อวิชฺชา, สา เอว อริยมคฺเคน สมุจฺฉินฺทียตีติ ‘‘อวิชฺชานุสยํ วิกฺขมฺเภตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ, อนุสยสทิสตาย วา. ‘‘ราคานุสยํ วิกฺขมฺเภตฺวา’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. จตุตฺถชฺฌาเน นานุเสติ นาม ตตฺถ กาตพฺพกิจฺจากรณโต.

๔๖๖. ตสฺมาติ ปจฺจนีกตฺตา สภาวโต กิจฺจโต ปจฺจยโต จาติ อธิปฺปาโย. วิสภาคปฏิภาโค กถิโต ‘‘กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคา ธมฺมา’’ติอาทีสุ วิย. อนฺธการาติ อนฺธการสทิสา อปฺปกา สภาวโต. อวิภูตา อปากฏา อโนฬาริกภาวโต. ตโต เอว ทุทฺทีปนา ทุวิฺาปนา. ตาทิสาวาติ อุเปกฺขาสทิสาว. ยถา อุเปกฺขา สุขทุกฺขานิ วิย น โอฬาริกา, เอวํ อวิชฺชา ราคโทสา วิย น โอฬาริกา. อถ โข อนฺธการา อวิภูตา ทุทฺทีปนา ทุวิฺาปนาติ อตฺโถ. สภาคปฏิภาโค กถิโต ‘‘ปณิธิ ปฏิโฆโส’’ติอาทีสุ วิย. ยตฺตเกสุ าเนสูติ ทุกฺขาทีสุ ยตฺตเกสุ าเนสุ, ยตฺถ วา เยฺยฏฺาเนสุ. วิสภาคปฏิภาโคติ อนฺธการสฺส วิย อาโลโก วิฆาตกปฏิภาโค. วิชฺชาติ มคฺคาณํ อธิปฺเปตํ, วิมุตฺตีติ ผลนฺติ อาห ‘‘อุโภเปเต ธมฺมา อนาสวา’’ติ. อนาสวฏฺเนาติอาทีสุ ปณีตฏฺเนาติปิ วตฺตพฺพํ. โสปิ หิ วิมุตฺตินิพฺพานานํ สาธารโณ, วิมุตฺติยา อสงฺขตฏฺเน นิพฺพานสฺส วิสภาคตาปิ ลพฺภเตว. ปฺหํ อติกฺกมิตฺวา คโตสิ, อปุจฺฉิตพฺพํ ปุจฺฉนฺโตติ อธิปฺปาโย. ปฺหานํ ปริจฺเฉทปมาณํ คเหตุํ ยุตฺตฏฺาเน อฏฺตฺวา ตโต ปรํ ปุจฺฉนฺโต นาสกฺขิ ปฺหานํ ปริยนฺตํ คเหตุํ. อปฺปฏิภาคธมฺมสฺสาติ นิปฺปริยายโต สภาคปฏิภาเคน อปฺปฏิภาคธมฺมสฺส. อนาคตาทิปริยาเยน นิพฺพานสฺส สภาคปฏิภาโค วุตฺโต, วิสภาเค จ อตฺเถว สงฺขตธมฺมา, ตสฺมา นิปฺปริยายโต กิฺจิ สภาคปฏิภาคํ สนฺธาย ปุจฺฉตีติ กตฺวา ‘‘อจฺจยาสี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อสงฺขตสฺส หิ อปฺปติฏฺสฺส เอกนฺตนิจฺจสฺส สโต นิพฺพานสฺส กุโต นิปฺปริยาเยน สภาคสฺส สมฺภโว. เตนาห ‘‘นิพฺพานํ นาเมต’’นฺติอาทิ.

วิรทฺโธติ เอตฺถ สภาคปฏิภาคํ ปุจฺฉิสฺสามีติ นิจฺฉยาภาวโต ปุจฺฉิตมตฺถํ วิรชฺฌิตฺวาว ปุจฺฉิ, น อชานิตฺวาติ อตฺโถ. เอเตน เหฏฺา สพฺพปุจฺฉา ทิฏฺสํสนฺทนนเยน ชานิตฺวาว ปวตฺตาติ ทีปิตํ โหติ. เถรี ปน ตํ ตํ ปุจฺฉิตมตฺถํ สภาวโต วิภาเวนฺตี สตฺถุ เทสนาาณํ อนุคนฺตฺวาว วิสฺสชฺเชสิ. นิพฺพาโนคธนฺติ นิพฺพานํ โอคาหิตฺวา ิตํ นิพฺพานนฺโตคธํ. เตนาห ‘‘นิพฺพานพฺภนฺตรํ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺ’’นฺติ. อสฺสาติ พฺรหฺมจริยสฺส.

๔๖๗. ปณฺฑิจฺเจนสมนฺนาคตาติ เอตฺถ วุตฺตปณฺฑิจฺจํ ทสฺเสตุํ ‘‘ธาตุกุสลา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตเนวาห – ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, ปณฺฑิโต โหติ? ยโต โข, อานนฺท, ภิกฺขุ ธาตุกุสโล จ โหติ, อายตนกุสโล จ ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสโล จ านาฏฺานกุสโล จ. เอตฺตาวตา นุ โข, อานนฺท, ภิกฺขุ ปณฺฑิโต โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๔). ปฺามหตฺตํ นาม เถริยา อเสกฺขปฺปฏิสมฺภิทปฺปตฺตาย ปฏิสมฺภิทาโย ปูเรตฺวา ิตตาติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘มหนฺเต อตฺเถ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ราชยุตฺเตหีติ รฺโ กมฺเม นิยุตฺตปุริเสหิ. อาหจฺจวจเนนาติ สตฺถารา กรณาทีนิ อาหนิตฺวา ปวตฺติตวจเนน. ยเทตฺถ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยเมว.

จูฬเวทลฺลสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๕. จูฬธมฺมสมาทานสุตฺตวณฺณนา

๔๖๘. ธมฺโมติคหิตคหณานีติ ธมฺโม วา โหตุ อิตโร วา, ธมฺโมติ ปคฺคหิตคฺคาหปฺปวตฺตา จริยาว. อายูหนกฺขเณติ ตสฺส ธมฺโมติ คหิตสฺส ปวตฺตนกฺขเณ. สุขนฺติ อกิจฺฉํ. เตนาห ‘‘สุกร’’นฺติ. ทุกฺขวิปากนฺติ อนิฏฺผลวิปจฺจนํ.

๔๖๙. ยถา จกฺขาทีนํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ ยถาสกํ วิสยคฺคหณํ สภาวสิทฺธํ, เอวํ มนโสปิ. เต จ วิสยา อิฏฺาการโต คหเณ น โกจิ โทโส, ปุริสตฺตภาเว น จ เต โทสํ ปวตฺเตนฺตีติ อยํ เตสํ สมณพฺราหฺมณานํ ลทฺธีติ อาห ‘‘วตฺถุกาเมสุปิ กิเลสกาเมสุปิ โทโส นตฺถี’’ติ, อสฺสาเทตฺวา วิสยปริโภเค นตฺถิ อาทีนโว, ตปฺปจฺจยา น โกจิ อนฺตราโยติ อธิปฺปาโย. ปาตพฺยตํ อาปชฺชนฺตีติ ปริภุฺชนกตํ อุปคจฺฉนฺติ. ปริโภคตฺโถ หิ อยํ ปา-สทฺโท กตฺตุสาธโน จ ตพฺย-สทฺโท, ยถารุจิ ปริภุฺชนฺตีติ อตฺโถ. กิเลสกาโมปิ อสฺสาทิยมาโน วตฺถุกามนฺโตคโธเยว, กิเลสกามวเสน ปน เนสํ อสฺสาเทตพฺพตาติ อาห ‘‘วตฺถุกาเมสุ กิเลสกาเมน ปาตพฺยต’’นฺติ. กิเลสกาเมนาติ กรณตฺเถ กรณวจนํ. ปาตพฺยตํ ปริภุฺชิตพฺพตนฺติ เอตฺถาปิ กตฺตุวเสเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. โมฬึ กตฺวาติ เวณิพนฺธวเสน โมฬึ กตฺวา. ตาปสปริพฺพาชิกาหีติ ตาปสปพฺพชฺชูปคตาหิ. ปริฺํ ปฺเปนฺตีติ อิทํ ‘‘ปหานมาหํสู’’ติ ปทสฺเสว เววจนนฺติ ‘‘ปหานํ สมติกฺกมํ ปฺเปนฺตี’’ติ วุตฺตํ. เตน กามา นาเมเต อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมาติ ยาถาวโต ปริชานนํ อิธ ‘‘ปหาน’’นฺติ อธิปฺเปตํ, น วินาภาวมตฺตนฺติ ทสฺเสติ. มาลุวาสิปาฏิกาติ มาลุวาวิทลํ มาลุวาผเล โปฏฺฏลิกา. สนฺตาสํ อาปชฺเชยฺยาติ สาเล อธิวตฺถเทวตาย ปวตฺตึ คเหตฺวา วุตฺตํ. ตทา หิ ตสฺสา เอวํ โหติ. โกวิฬารปตฺตสทิเสหีติ มหาโกวิฬารปตฺตสณฺาเนหิ. สณฺานวเสน เหตํ วุตฺตํ, มาลุวาปตฺตา ปน โกวิฬารปตฺเตหิ มหนฺตตรานิ เจว ฆนตรานิ จ โหนฺติ. วิปุลพหุฆนครุปตฺตตาย มหนฺตํ ภารํ ชเนตฺวา. สาติ มาลุวาลตา. โอฆนนฺติ เหฏฺโต โอลมฺพนเหตุภูตํ ฆนภาวํ.

อนฺธวนสุภควนคฺคหณํ เตสํ อภิลกฺขิตภาวโต. นาฬิเกราทีสุ ติณชาตีสุ. ขาทนุปลกฺขณํ อุปจิกานํ อุฏฺหนคฺคหณนฺติ อาห ‘‘อุฏฺเหยฺยุ’’นฺติ. เกฬึ กโรนฺตี วิยาติ วิลมฺพนนที วิย เกฬึ กโรนฺตี. อิทานิ อหํ ตํ อชฺโฌตฺถรินฺติ ปโมทมานา วิย อิโต จิโต จ วิปฺผนฺทมานา วิลมฺพนฺตี. สมฺผสฺโสปิ สุโข มุทุตลุณโกมลภาวโต. ทสฺสนมฺปิ สุขํ ฆนพหลปตฺตสํหตตาย. โสมนสฺสชาตาติ ปุพฺเพ อนุสฺสววเสน ภวนวินาสภยา สนฺตาสํ อาปชฺชิ, อิทานิ ตสฺสา สมฺปตฺติทสฺสเนน ปโลภิตา โสมนสฺสชาตา อโหสิ.

วิฏภึ กเรยฺยาติ อาตานวิตานวเสน ชเฏนฺตี ชาลํ กเรยฺย. ตถาภูตา จ ฆนปตฺตสฺฉนฺนตาย ฉตฺตสทิสี โหตีติ อาห ‘‘ฉตฺตากาเรน ติฏฺเยฺยา’’ติ. สกลํ รุกฺขนฺติ อุปริ สพฺพสาขาปสาขํ สพฺพรุกฺขํ. ภสฺสมานาติ ปลิเวนวเสเนว โอตรมานา. ยาว มูลา โอติณฺณสาขาหีติ มาลุวา ภาเรน โอนมิตฺวา รุกฺขสฺส ยาว มูลา โอติณฺณสาขาหิ ปุน อภิรุหมานา. สพฺพสาขาติ เหฏฺา มชฺเฌ อุปริ จาติ สพฺพาปิ สาขาโย ปลิเวเนฺตี. สํสิพฺพิตฺวา ชาลสนฺตานกนิยาเมน ชเฏตฺวา. เอวํ อปราปรํ สํสิพฺพเนน อชฺโฌตฺถรนฺตี. สพฺพสาขา เหฏฺา กตฺวา สยํ อุปริ ตฺวา มหาภารภาเวน วาเต วา วายนฺเต เทเว วา วสฺสนฺเต ปทาเลยฺย. สาขฏฺกวิมานนฺติ สาขาปฏิพทฺธํ วิมานํ. ยสฺมา อิธ สตฺถารา ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว’’ติอาทินา ภูตปุพฺพเมว วตฺถุ อุปมาภาเวน อาหฏํ, ตสฺมา ‘‘อิทํ ปน วิมาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

๔๗๑. พหลราคสภาโวติ ปจฺจเวกฺขณาหิ นีหริตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย พลวา หุตฺวา อภิภวนราคธาตุโก. ราคชนฺติ ราคนิมิตฺตชาตํ. ทิฏฺเ ทิฏฺเ อารมฺมเณติ ทิฏฺเ ทิฏฺเ วิสภาคารมฺมเณ. นิมิตฺตํ คณฺหาตีติ กิเลสุปฺปตฺติยา การณภูตํ อนุพฺยฺชนโส นิมิตฺตํ คณฺหาติ, สิกฺขาคารเวน ปน กิเลเสหิ นิสฺสิตํ มคฺคํ น ปฏิปชฺชติ, ตโต เอว อาจริยุปชฺฌาเยหิ อาณตฺตํ ทณฺฑกมฺมํ กโรเตว. เตนาห ‘‘น ตฺเวว วีติกฺกมํ กโรตี’’ติ. หตฺถปรามาสาทีนีติ – ‘‘เอหิ ตาว ตยา วุตฺตํ มยา วุตฺตฺจ อมุตฺร คนฺตฺวา วีมํสิสฺสามา’’ติอาทินา หตฺถคฺคหณาทีนิ กโรนฺโต, น กรุณาเมตฺตานิทานวเสน. โมหชาติโกติ พหลโมหสภาโว.

๔๗๒. กมฺมนิยาเมนาติ ปุริมชาติสิทฺเธน โลภุสฺสทตาทินิยมิเตน กมฺมนิยาเมน. อิทานิ ตํ โลภุสฺสทตาทึ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺส หี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กมฺมายูหนกฺขเณติ กมฺมกรณเวลาย. โลโภ พลวาติ ตชฺชาย สามคฺคิยา สามตฺถิยโต โลโภ อธิโก โหติ. อโลโภ มนฺโทติ ตปฺปฏิปกฺโข อโลโภ ทุพฺพโล โหติ. กถํ ปเนเต โลภาโลภา อฺมฺํ อุชุวิปจฺจนีกภูตา เอกกฺขเณ ปวตฺตนฺติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ ‘‘เอกกฺขเณ ปวตฺตนฺตี’’ติ, นิกนฺติกฺขณํ ปน อายูหนกฺขณเมว กตฺวา เอวํ วุตฺตํ. เอส นโย เสเสสุ. ปริยาทาตุนฺติ อภิภวิตุํ น สกฺโกติ. โย หิ ‘‘เอวํสุนฺทรํ เอวํวิปุลํ เอวํมหคฺฆฺจ น สกฺกา ปรสฺส ทาตุ’’นฺติอาทินา อมุตฺตจาคตาทิวเสน ปวตฺตาย เจตนาย สมฺปยุตฺโต อโลโภ สมฺมเทว โลภํ ปริยาทาตุํ น สกฺโกติ. โทสโมหานํ อนุปฺปตฺติยํ ตาทิสปจฺจยลาเภเนว อโทสาโมหา พลวนฺโต. ตสฺมาติ โลภาโทสาโมหานํ พลวภาวโต อโลภโทสโมหานฺจ ทุพฺพลภาวโตติ วุตฺตเมว การณํ ปจฺจามสติ. โสติ ตํสมงฺคี. เตน กมฺเมนาติ เตน โลภาทิอุปนิสฺสยวตา กุสลกมฺมุนา. สุขสีโลติ สขิโล. ตเมวตฺถํ อกฺโกธโนติ ปริยาเยน วทติ.

มนฺทา อโลภาโทสา โลภโทเส ปริยาทาตุํ น สกฺโกนฺติ, อโมโห ปน พลวา โมหํ ปริยาทาตุํ สกฺโกตีติ เอวํ ยถารหํ ปมวาเร วุตฺตนเยเนว อติเทสตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปุริมนเยเนวาติ ปุพฺเพ วุตฺตนยานุสาเรน. ทุฏฺโติ โกธโน. ทนฺโธติ มนฺทมฺโ. สุขสีลโกติ สุขสีโล.

เอตฺถ จ โลภวเสน, โทสโมห-โลภโทส-โลภโมห-โทสโมห-โลภโทสโมหวเสนาติ ตโย เอกกา, ตโย ทุกา, เอโก ติโกติ โลภาทิอุสฺสทวเสน อกุสลปกฺเข เอว สตฺต วารา, ตถา กุสลปกฺเข อโลภาทิอุสฺสทวเสนาติ จุทฺทส วารา ลพฺภนฺติ. ตตฺถ อโลภโทสโมหา, อโลภาโทสโมหา, อโลภโทสาโมหา พลวนฺโตติ อาคเตหิ กุสลปกฺเข ตติยทุติยปมวาเรหิ โทสุสฺสทโมหุสฺสทโทสโมหุสฺสทวารา คหิตา เอว โหนฺติ. ตถา อกุสลปกฺเข โลภาโทสาโมหา, โลภโทสาโมหา, โลภาโทสโมหา พลวนฺโตติ อาคเตหิ ตติยทุติยปมวาเรหิ อโทสุสฺสทอโมหุสฺสทอโทสาโมหุสฺสทวารา คหิตา เอวาติ อกุสลกุสลปกฺเขสุ ตโย ตโย วาเร อนฺโตคเธ กตฺวา อฏฺเว วารา ทสฺสิตา. เย ปน อุภยสมฺมิสฺสตาวเสน โลภาโลภุสฺสทวาราทโย อปเร เอกูนปฺาส วารา กามํ ทสฺเสตพฺพา, เตสํ อสมฺภวโต เอว น ทสฺสิตา. น หิ ‘‘เอกสฺมึ สนฺตาเน อนฺตเรน อวตฺถนฺตรํ โลโภ จ พลวา อโลโภ จา’’ติอาทิ ยุชฺชติ. ปฏิปกฺขวเสน วาปิ เอเตสํ พลวทุพฺพลภาโว สหชาตธมฺมวเสน วา. ตตฺถ โลภสฺส ตาว ปฏิปกฺขวเสน อนภิภูตตาย พลวภาโว, ตถา โทสโมหานํ อโทสาโมเหหิ. อโลภาทีนํ ปน โลภาทิอนภิภวนโต. สพฺเพสฺจ สมานชาติยสมธิภุยฺย ปวตฺติวเสน สหชาตธมฺมโต พลวภาโว. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๔๗๒) – ‘‘โลโภ พลวา, อโลโภ มนฺโท. อโทสาโมหา พลวนฺโต, โทสโมหา มนฺทา’’ติอาทิ, โส จ เนสํ มนฺทพลวภาโว ปุริมูปนิสฺสยโต ตถา อาสยสฺส ปริภาวิตตาย เวทิตพฺโพ. เตเนวาห ‘‘กมฺมนิยาเมนา’’ติ. เสสํ วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยเมวาติ.

จูฬธมฺมสมาทานสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๖. มหาธมฺมสมาทานสุตฺตวณฺณนา

๔๗๓. เอวํ อิทานิ วุจฺจมานากาโร กาโม กามนํ อิจฺฉา เอเตสนฺติ เอวํกามา. เอวํ ฉนฺโท ฉนฺทนํ โรจนํ อชฺฌาสโย เอเตสนฺติ เอวํฉนฺทา. อภิมุขํ, อภินิวิสฺส วา ปกาเรหิ เอติ อุปคจฺฉตีติ อธิปฺปาโย, ลทฺธิ. สา หิ ลทฺธพฺพวตฺถุํ อภิมุขํ ‘‘เอวเมต’’นฺติ อภินิวิสนฺตี เตน เตน ปกาเรน อุปคจฺฉติ, หตฺถคตํ กตฺวา ติฏฺติ น วิสฺสชฺเชติ. เอวํ วุจฺจมานากาโร อธิปฺปาโย เอเตสนฺติ เอวํอธิปฺปายา. ภควา มูลํ การณํ เอเตสํ ยาถาวโต อธิคมายาติ ภควํมูลกา. เตนาห ‘‘ภควนฺตฺหิ นิสฺสาย มยํ อิเม ธมฺเม อาชานาม ปฏิวิชฺฌามา’’ติ. อมฺหากํธมฺมาติ เตหิ อตฺตนา อธิคนฺตพฺพตาย วุตฺตํ. เสวิตพฺพานฺหิ ยาถาวโต อธิคมาณานิ อธิคจฺฉนกสมฺพนฺธีนิ, ตานิ จ สมฺมาสมฺพุทฺธมูลกานิ อนฺวิสยตฺตา. เตนาห ‘‘ปุพฺเพ กสฺสปสมฺพุทฺเธนา’’ติอาทิ. ภควา เนตา เตสนฺติ ภควํเนตฺติกา. เนตาติ เสวิตพฺพธมฺเม วิเนยฺยสนฺตานํ ปาเปตา. วิเนตาติ อเสวิตพฺพธมฺเม วิเนยฺยสนฺตานโต อปเนตา. ตทงฺควินยาทิวเสน วา วิเนตา. อนุเนตาติ อิเม ธมฺมา เสวิตพฺพา, อิเม น เสวิตพฺพาติ อุภยสมฺปาปนาปนยนตฺถํ ปฺเปตา. เตนาห ‘‘ยถาสภาวโต’’ติอาทิ.

ปฏิสรนฺติ เอตฺถาติ ปฏิสรณํ, ภควา ปฏิสรณํ เอเตสนฺติ ภควํปฏิสรณา. ปฏิสรติ สภาวสมฺปฏิเวธวเสน ปจฺเจกมุปคจฺฉตีติ วา ปฏิสรณํ, ภควา ปฏิสรณํ เอเตสนฺติ ภควํปฏิสรณา. ปฏิเวธวเสนาติ ปฏิวิชฺฌิตพฺพตาวเสน. อสติปิ มุเข อตฺถโต เอวํ วทนฺโต วิย โหตีติ อาห ‘‘ผสฺโส อาคจฺฉติ, อหํ ภควา กึ นาโม’’ติ. ปฏิภาตูติ เอตฺถ ปฏิ-สทฺทาเปกฺขาย ‘‘ภควนฺต’’นฺติ อุปโยควจนํ, อตฺโถ ปน สามิวจนวเสเนว เวทิตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ภควโต’’ติ ปฏิภาตูติ จ ภควโต ภาโค โหตุ. ภควโต หิ เอส ภาโค, ยทิทํ ธมฺมสฺส เทสนา, อมฺหากํ ปน ภาโค สวนนฺติ อธิปฺปาโย. เกจิ ปน ปฏิภาตูติ ปทิสฺสตูติ อตฺถํ วทนฺติ, าเณน ทิสฺสตุ, เทสียตูติ วา อตฺโถ. อุปฏฺาตูติ จ าณสฺส ปจฺจุปฏฺาตุ.

๔๗๔. นิสฺสยิตพฺเพติ อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปาทนวเสน อปสฺสยิตพฺเพ. ตติยจตุตฺถธมฺมสมาทานานิ หิ อปสฺสาย สตฺตานํ เอตรหิ อายติฺจ สมฺปตฺติโย อภิวฑฺฒนฺติ. ภชิตพฺเพติ ตสฺเสว เววจนํ. เสวิตพฺเพติ วา สปฺปุริสุปสฺสยสทฺธมฺมสฺสวนโยนิโสมนสิกาเร สนฺธายาห. ภชิตพฺเพติ ตปฺปจฺจเย ทานาทิปุฺธมฺเม.

๔๗๕. อุปฺปฏิปาฏิอากาเรนาติ ปมํ สํกิเลสธมฺเม ทสฺเสตฺวา ปจฺฉา โวทานธมฺมทสฺสนํ สตฺถุ เทสนาปฏิปาฏิ, ยถา – ‘‘วามํ มุฺจ, ทกฺขิณํ คณฺหา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘; วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๔), ตถา อุปฺปฏิปาฏิปกาเรน, สา จ โข ปุริเมสุ ทฺวีสุ ธมฺมสมาทาเนสุ , ปจฺฉิเมสุ ปน ปฏิปาฏิยาว มาติกา ปฏฺปิตา. ยถาธมฺมรเสเนวาติ ปหาตพฺพปหายกธมฺมานํ ยถาสภาเวเนว. สภาโว หิ ยาถาวโต รสิตพฺพโต ชานิตพฺพโต ‘‘รโส’’ติ วุจฺจติ. ปมํ ปหาตพฺพธมฺเม ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตรํ ‘‘อิเม ธมฺมา เอเตหิ ปหียนฺตี’’ติ ปหายกธมฺมทสฺสนํ เทสนานุปุพฺพี. คหณํ อาทิยนํ อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปาทนํ.

๔๗๘. วธทณฺฑาทีหิ ภีตสฺส อุปสงฺกมเน, มิจฺฉา จริตฺวา ตถา อปคมเน จ ปุพฺพาปรเจตนานํ วเสน มิจฺฉาจาโร ทุกฺขเวทโน โหติ, ตถา อิสฺสานินฺทาทีหิ อุปทฺทุตสฺส อปรเจตนาวเสน, เอวํ อภิชฺฌามิจฺฉาทิฏฺีสุปิ ยถารหํ เวทิตพฺพํ. ติสฺสนฺนมฺปิ เจตนานนฺติ ปุพฺพาปรสนฺนิฏฺาปกเจตนานํ. อทินฺนาทานํ มุสาวาโท ปิสุณวาจา สมฺผปฺปลาโปติ อิเมสํ จตุนฺนํ สนฺนิฏฺาปกเจตนานํ สุขสมฺปยุตฺตา วา อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตา วาติ อยํ นโย อิธ อธิกตตฺตา น อุทฺธโฏ. โทมนสฺสเมว เจตฺถ ทุกฺขนฺติ อิทํ ปุพฺพภาคาปรภาคเจตนาปิ เจตฺถ อาสนฺนา โทมนสฺสสหคตา เอว โหนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ. อนาสนฺนา ปน สนฺธาย ‘‘ปริเยฏฺึ วา อาปชฺชนฺตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตเนว มิจฺฉาจาราภิชฺฌามิจฺฉาทิฏฺีนํ ปุพฺพภาคาปรภาคเจตนา อาสนฺนา สนฺนิฏฺาปกเจตนาคติกาวาติ ทสฺสิตํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ปริเยฏฺินฺติ มิจฺฉาจาราทีสุ วีติกฺกมิตพฺพวตฺถุมาลาคนฺธาทิปริเยสนํ. ปาณาติปาตาทีสุ มาเรตพฺพวตฺถุอาวุธาทิปริเยสนํ อาปชฺชนฺตสฺส. อกิจฺเฉนปิ เตสํ ปริเยสนํ สมฺภวตีติ ‘‘วฏฺฏติเยวา’’ติ สาสงฺกํ วทติ.

๔๗๙. สุขเวทนา โหนฺตีติ สุขเวทนาปิ โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. ตาสํ เจตนานํ อสุขเวทนตาปิ ลพฺภตีติ ‘‘สุขเวทนาปิ โหนฺติเยวา’’ติ สาสงฺกวจนํ. โสมนสฺสเมว เจตฺถ สุขนฺติ อิทํ ปุพฺพภาคาปรภาคเจตนาปิ โสมนสฺสสหคตา เอว โหนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ. ตฺจ โข มิจฺฉาจารวชฺชานํ ฉนฺนํ วเสน. มิจฺฉาจารสฺส ปน ปุพฺพาปรภาคสฺส วเสน ‘‘กายิกํ สุขมฺปิ วฏฺฏติเยวาติ สาสงฺกวจนํ.

๔๘๐. โทสชปริฬาหวเสนสฺส สิยา กายิกมฺปิ ทุกฺขนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘โส คณฺหนฺโตปิ ทุกฺขิโต’’ติ วุตฺตํ. เจโตทุกฺขเมว วา สนฺธาย ตสฺส อปราปรุปฺปตฺติทสฺสนตฺถํ ‘‘ทุกฺขิโต โทมนสฺสิโต’’ติ วุตฺตํ.

๔๘๑. ทสสุปิปเทสูติ ทสสุปิ โกฏฺาเสสุ, วากฺเยสุ วา. อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตตาปิ สมฺภวตีติ ‘‘สุขสมฺปยุตฺตา โหนฺติเยวา’’ติ อิธ สาสงฺกวจนํ. ปาณาติปาตา ปฏิวิรตสฺส กาโยปิ สิยา วิคตทรถปริฬาโหติ ปาณาติปาตาเวรมณิอาทิปจฺจยา กายิกปฏิสํเวทนาปิ สมฺภวตีติ สหาปิ สุเขนาติ เอตฺถ กายิยสุขมฺปิ วฏฺฏติเยว.

๔๘๒. ติตฺตกาลาพูติ อุปภุตฺตสฺส อุมฺมาทาทิปาปเนน กุจฺฉิตติตฺตกรโส อลาพุ. น รุจฺจิสฺสติ อนิฏฺรสตาย อนิฏฺผลตาย จ.

๔๘๓. รสํ เทตีติ รสํ ทสฺเสติ วิภาเวติ.

๔๘๔. ปูติมุตฺตนฺติ ปูติสภาวมุตฺตํ. ตรุณนฺติ ธาราวเสน นิปตนฺตํ หุตฺวา อุณฺหํ. เตนสฺส อุปริมุตฺตตมาห. มุตฺตฺหิ ปสฺสาวมคฺคโต มุจฺจมานํ กายุสฺมาวเสน อุณฺหํ โหติ.

๔๘๕. ยํ ภคนฺทรสํสฏฺํ โลหิตํ ปกฺขนฺทตีติ ภคนฺทรพฺยาธิสหิตาย โลหิตปกฺขนฺทตาย วเสน ยํ โลหิตํ วิสฺสวติ. ปิตฺตสํสฏฺํ โลหิตํ ปกฺขนฺทตีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ.

๔๘๖. อุพฺพิทฺเธติ ทูเร. อพฺภมหิกาทิอุปกฺกิเลสวิคเมน หิ อากาสํ อุตฺตุงฺคํ วิย ทูรํ วิย จ ขายติ. เตนาห ‘‘ทูรีภูเต’’ติ. ตมํเยว ตมคตํ ‘‘คูถคตํ มุตฺตคต’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๑๑๙; อ. นิ. ๙.๑๑) ยถา. ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจเต จ อิทํ จตุตฺถํ ธมฺมสมาทานํ วิภชนฺเตน กุสลกมฺมปถสฺส วิภชิตฺวา ทสฺสิตตฺตา.

สงฺครรุกฺโข กนฺทมาทสโปว. สรภฺวเสนาติ อตฺถํ อวิภชิตฺวา ปทโส สรภฺวเสน. โอสาเรนฺตสฺสาติ อุจฺจาเรนฺตสฺส. สทฺเทติ โอสารณสทฺเท. อธิคตวิเสสํ อนาโรเจตุกามา เทวตา ตตฺเถว อนฺตรธายิ. ตํ ทิวสนฺติ สตฺถารา เทสิตทิวเส. อิติ อตฺตโน วิเสสาธิคมนิมิตฺตตาย อยํ เทวตา อิมํ สุตฺตํ ปิยายติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

มหาธมฺมสมาทานสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๗. วีมํสกสุตฺตวณฺณนา

๔๘๗. อตฺถวีมํสโกติ อตฺตตฺถปรตฺถาทิอตฺถวิชานนโก. สงฺขารวีมํสโกติ สงฺขตธมฺเม สลกฺขณโต สามฺลกฺขณโต วา อายตนาทิวิภาคโต จ วีมํสโก. สตฺถุวีมํสโกติ ‘‘สตฺถา นาม คุณโต เอทิโส เอทิโส จา’’ติ สตฺถุ อุปปริกฺขโก. วีมํสโกติ วิจารโก. ยํ เจตโส สราคาทิวิภาคโต ปริจฺฉินฺทนํ, ตํ เจโตปริยาโย. เตนาห ‘‘จิตฺตปริจฺเฉท’’นฺติ. ยสฺมา เจโตปริยายาณลาภี – ‘‘อิทํ จิตฺตํ อิโต ปรํ ปวตฺตํ อิทมิโต ปร’’นฺติ ปรสฺส จิตฺตุปฺปตฺตึ ปชานาติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เจโตปริยายนฺติ จิตฺตวาร’’นฺติ. วารตฺเถปิ หิ ปริยาย-สทฺโท โหติ – ‘‘กสฺส นุ โข, อานนฺท, ปริยาโย อชฺช ภิกฺขุนิโย โอวทิตุ’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๓๙๘). จิตฺตจารนฺติปิ ปาโ, จิตฺตปวตฺตินฺติ อตฺโถ. เอวํ วิชานนตฺถายาติ อิทานิ วุจฺจมานากาเรน วีมํสนตฺถาย.

๔๘๘. กลฺยาณมิตฺตูปนิสฺสยนฺติ กลฺยาณมิตฺตสงฺขาตํ พฺรหฺมจริยวาสสฺส พลวสนฺนิสฺสยํ. อุปฑฺฒํ อตฺตโน อานุภาเวนาติ อิมินา ปุคฺคเลน สมฺปาทิยมานสฺส พฺรหฺมจริยสฺส อุปฑฺฒภาคมตฺตํ อตฺตโน วิมุตฺติปริปาจกธมฺมานุภาเวน สิชฺฌติ. อุปฑฺฒํ กลฺยาณมิตฺตานุภาเวนาติ อิตโร ปน อุปฑฺฒภาโค ยํ นิสฺสาย พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ, ตสฺส กลฺยาณมิตฺตสฺส อุปเทสานุภาเวน โหติ, สิชฺฌตีติ อตฺโถ. โลกสิทฺโธ เอว อยมตฺโถ. โลกิยา หิ –

‘‘ปาโท สิทฺโธ อาจริยา, ปาโท หิสฺสานุภาวโต;

ตํวิชฺชาเสวกา ปาโท, ปาโท กาเลน ปจฺจตี’’ติ. –

วทนฺติ. อตฺตโน ธมฺมตายาติ อตฺตโน สภาเวน, าเณนาติ อตฺโถ. กลฺยาณมิตฺตตาติ กลฺยาโณ ภทฺโร สุนฺทโร มิตฺโต เอตสฺสาติ กลฺยาณมิตฺโต, ตสฺส ภาโว กลฺยาณมิตฺตตา, กลฺยาณมิตฺตวนฺตตา. สีลาทิคุณสมฺปนฺเนหิ กลฺยาณปุคฺคเลเหว อยนํ ปวตฺติ กลฺยาณสหายตา. เตสุ เอว จิตฺเตน เจว กาเยน จ นินฺนโปณปพฺภารภาเวน ปวตฺติ กลฺยาณสมฺปวงฺกตา. มาเหวนฺติ เอวํ มา อาห, ‘‘อุปฑฺฒํ พฺรหฺมจริยสฺสา’’ติ มา กเถหีติ อตฺโถ. ตทมินาติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ ท-กาโร ปทสนฺธิกโร อิ-การสฺส อ-การํ กตฺวา นิทฺเทโส. อิมินาปีติ อิทานิ วุจฺจมาเนนปีติ อตฺโถ. ปริยาเยนาติ การเณน. อิทานิ ตํ การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘มมํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ยถา เจตฺถ, อฺเสุปิ สุตฺเตสุ กลฺยาณมิตฺตุปนิสฺสยเมว วิเสโสติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภิกฺขูนํ พาหิรงฺคสมฺปตฺตึ กเถนฺโตปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิมุตฺติปริปาจนิยธมฺเมติ วิมุตฺติยา อรหตฺตสฺส ปริปาจกธมฺเม. ปจฺจเยติ คิลานปจฺจยเภสชฺเช. มหาชจฺโจติ มหากุลีโน.

กายิโก สมาจาโรติ อภิกฺกมปฏิกฺกมาทิโก สติสมฺปชฺปริกฺขโต ปากติโก จ. วีมํสกสฺส อุปปริกฺขกสฺส. จกฺขุวิฺเยฺโย นาม จกฺขุทฺวารานุสาเรน วิฺาตพฺพตฺตา. โสตวิฺเยฺโยติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สํกิลิฏฺาติ ราคาทิสํกิเลสธมฺเมหิ วิพาธิตา, อุปตาปิตา วิทูสิตา มลีนา จาติ อตฺโถ. เต ปน เตหิ สมนฺนาคตา โหนฺตีติ อาห ‘‘กิเลสสมฺปยุตฺตา’’ติ. ยทิ น จกฺขุโสตวิฺเยฺยา, ปาฬิยํ กถํ ตถา วุตฺตาติ อาห ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิ. กายวจีสมาจาราปิสํกิลิฏฺาเยว นาม สํกิลิฏฺจิตฺตสมุฏฺานโต. ภวติ หิ ตํเหตุเกปิ ตทุปจาโร ยถา ‘‘เสมฺโห คุโฬ’’ติ. ‘‘มา เม อิทํ อสารุปฺปํ ปโร อฺาสี’’ติ ปน ปฏิจฺฉนฺนตาย น น อุปลพฺภนฺติ. ‘‘น โข มยํ, ภนฺเต, ภควโต กิฺจิ ครหามา’’ติ วตฺวา ครหิตพฺพาภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภควา หี’’ติอาทิมาห. อภาวิตมคฺคสฺส หิ ครหิตพฺพตา นาม สิยา, น ภาวิตมคฺคสฺส. เอส อุตฺตโร มาณโว ‘‘พุทฺธมฺปิ ครหิตฺวา ปกฺกมิสฺสามี’’ติ กตฺวา อนุพนฺธิ. เอวํ จินฺเตสิ มหาภินิกฺขมนทิวเส อตฺตโน วจเน อฏฺิตตฺตา. กิฺจิ วชฺชํ อปสฺสนฺโต มาโร เอวมาห –

‘‘สตฺต วสฺสานิ ภควนฺตํ, อนุพนฺธึ ปทาปทํ;

โอตารํ นาธิคจฺฉิสฺสํ, สมฺพุทฺธสฺส สตีมโต’’ติ. (สุ. นิ. ๔๔๘);

กาเล กณฺหา, กาเล สุกฺกาติ ยถาสมาทินฺนํ สมฺมาปฏิปตฺตึ ปริสุทฺธํ กตฺวา ปวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตสฺส กทาจิ กณฺหา อปริสุทฺธา กายสมาจาราทโย, กทาจิ สุกฺกา ปริสุทฺธาติ เอวํ อนฺตรนฺตรา พฺยามิสฺสวเสน โวมิสฺสกา. นิกฺกิเลสาติ นิรุปกฺกิเลสา อนุปกฺกิลิฏฺา.

อนวชฺชํ วชฺชรหิตตฺตา. ทีฆรตฺตนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. สมาปนฺโนติ สมฺมา อาปนฺโน สมงฺคีภูโต. เตนาห ‘‘สมนฺนาคโต’’ติ. อตฺตนา กตสฺส อสารุปฺปสฺส ปฏิจฺฉาทนตฺถํ อารฺโกวิย หุตฺวา. ตสฺส ปริหารนฺติ อุฬาเรหิ ปูชาสกฺกาเรหิ มนุสฺเสหิ ตสฺส ปริหริยมานตํ. อติทปฺปิโตติ เอวํ มนุสฺสานํ สมฺภาวนาย อติวิย ทตฺโต คพฺพิโต.

น อิตฺตรสมาปนฺโนติ ชานาติ. กสฺมา? สีลํ นาม ทีเฆน อทฺธุนา ชานิตพฺพํ, น อิตฺตเรน. อิทานิ อเนกชาติสมุทาจารวเสน ตถาคโต อิมํ กุสลํ ธมฺมํ ทีฆรตฺตํ สมาปนฺโน, ตฺจสฺส อติวิย อจฺฉริยนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อนจฺฉริยํ เจต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

อรฺคามเกติ อรฺปเทเส เอกสฺมึ ขุทฺทกคาเม. ตตฺถ เนสํ ทิวเส ทิวเส ปิณฺฑาย จรณสฺส อวิจฺฉินฺนตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปิณฺฑาย จรนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ปิวนฺตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ทุลฺลภโลโณ โหติ สมุทฺทสฺส ทูรตาย.

ตทา กิร วิเทหรฏฺเ โสฬส คามสหสฺสานิ มหนฺตาเนว. เตนาห – ‘‘หิตฺวา คามสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ โสฬสา’’ติ. อิทานิ กสฺมา ‘‘สนฺนิธึ ทานิ กุพฺพสี’’ติ มํ ฆฏฺเฏถาติ วตฺถุกาโม ตํ อนาวิกตฺวา ‘‘โลณ…เป… น กโรถา’’ติ อาห. คนฺธาโร ตสฺสาธิปฺปายํ วิภาเวตุกาโม ‘‘กึ มยา กตํ เวเทหีสี’’ติ อาห.

อิตโร อตฺตโน อธิปฺปายํ วิภาเวนฺโต ‘‘หิตฺวา’’ติ คาถมาห. อิตโร ‘‘ธมฺมํ ภณามี’’ติ คาถนฺติ เอวํ สพฺพาปิ เนสํ วจนปฏิวจนคาถา. ตตฺถ ปสาสสีติ ฆฏฺเฏนฺโต วิย อนุสาสสิ. น ปาปมุปลิมฺปติ จิตฺตปฺปโกปาภาวโต. มหตฺถิยนฺติ มหาอตฺถสํหิตํ. โน เจ อสฺส สกา พุทฺธีติอาทิ เวเทหอิสิโน – ‘‘อาจริโย มม หิเตสิตาย ตฺวา ธมฺมํ เอว ภณตี’’ติ โยนิโส อุมฺมุชฺชนาการทสฺสนํ. เตนาห ‘‘เอวฺจ ปน วตฺวา’’ติอาทิ.

‘‘ตฺตา’’ติ โลเก ายติ วิสฺสุโตติ าโต, าตสฺส ภาโว ตฺตํ. อชฺฌาปนฺโนติ อุปคโต. ตฺต-คฺคหเณน ปตฺถฏยสตา วิภาวิตาติ อาห ‘‘ยสฺจ ปริวารสมฺปตฺติ’’นฺติ. กินฺติ กึปโยชนํ, โก เอตฺถ โทโสติ อธิปฺปาโย.

ตตฺถ ตตฺถ วิชฺฌนฺโตติ ยสมเทน ปริวารมเทน จ มตฺโต หุตฺวา คาเมปิ วิหาเรปิ ชนวิวิตฺเตปิ สงฺฆมชฺเฌปิ อฺเ ภิกฺขู ฆฏฺเฏนฺโต ‘‘มยฺหํ นาม ปาทา อิตเรสํ ปาทผุสนฏฺานํ ผุสนฺตี’’ติ อผุสิตุกามตาย อคฺคปาเทน ภูมึ ผุสนฺโต วิย จรติ. โอนมตีติ นิวาตวุตฺติตาย อวนมติ อนุทฺธโต อตฺถทฺโธ โหติ. อกิฺจนภาวนฺติ ‘‘ปพฺพชิเตน นาม อกิฺจนาเณน สมปริคฺคเหน ภวิตพฺพ’’นฺติ อกิฺจนชฺฌาสยํ ปฏิอเวกฺขิตฺวา. ลาเภปิ ตาที, อลาเภปิ ตาทีติ ยถา อลาภกาเล ลาภสฺส ลทฺธกาเลปิ ตเถวาติ ตาที เอกสทิโส. ยเส สติปิ มหาปริวารกาเลปิ.

อภโย หุตฺวา อุปรโตติ นิพฺภโย หุตฺวา ภยสฺส อภาเวเนว โอรมิตพฺพโต อุปรโต ภยเหตูนํ ปหีนตฺตา. ตฺจ โข น กติปยกาลํ, อถ โข อจฺจนฺตเมว อุปรโตติ อจฺจนฺตูปรโต. อถ โข ภายิตพฺพวตฺถุํ อเวกฺขิตฺวา ตโต ภเยน อุปรโต. กิเลสา เอว ภายิตพฺพโต กิเลสภยํ. เอส นโย เสเสสุปิ. สตฺต เสกฺขาติ สตฺต เสกฺขาปิ ภยูปรตา, ปเคว ปุถุชฺชโนติ อธิปฺปาโย.

ถณฺฑิลปีกนฺติ ถณฺฑิลมฺจสทิสํ ปีกนฺติ อตฺโถ. นิสฺสายาติ อปสฺสาย ตํ อปสฺสายํ กตฺวา. ทฺวินฺนํ มชฺเฌ ถณฺฑิลปีกา ทฺวาเร ตฺวา โอโลเกนฺตสฺส เนวาสิกภิกฺขุสฺส น ปฺายิ. อสฺตนีหาเรนาติ น สฺตากาเรน. ‘‘มํ ภายนฺโต เหฏฺามฺจํ ปวิฏฺโ ภวิสฺสตี’’ติ เหฏฺามฺจํ โอโลเกตฺวา. อุกฺกาสิ ‘‘พหิ คจฺฉนฺโต อกฺโกสิตฺวา มา อปุฺํ ปสวี’’ติ. อธิวาเสตุนฺติ ตาทิสํ อิทฺธานภาวํ ทิสฺวาปิ ปฏปฏายนฺโต อตฺตโน โกธํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต.

ขเยเนวาติ ราคสฺส อจฺจนฺตกฺขเยเนว วีตราคตฺตา. น ปฏิสงฺขาย วาเรตฺวาติ น ปฏิสงฺขานพเลน ราคปริยุฏฺานํ นิวาเรตฺวา วีตราคตฺตา. เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน. กายสมาจาราทีนํ สํกิลิฏฺานํ วีติกฺกมิยานฺจ อภาวํ อาจารสฺส โวทานํ จิรกาลสมาจิณฺณตาย าตสฺส สหิตภาเวปิ อนุปกฺกิลิฏฺตาย อภยูปรตภาวสมนฺเนสนาย อากรียติ าเปตุํ อิจฺฉิโต อตฺโถ ปการโต าปียติ เอเตหีติ อาการา, อุปปตฺติสาธนการณานิ. ตานิ ปน ยสฺมา อตฺตโน ยถานุมตสฺส อตฺถสฺส าปกภาเวน ววตฺถียนฺติ, ตสฺมา ตานิ เตสํ มูลการณภูตานิ อนุมานาณานิ จ ทสฺเสนฺโต ภควา – ‘‘เก ปนายสฺมโต อาการา เก อนฺวยา’’ติ อโวจาติ อิมมตฺถํ วิภาเวนฺโต ‘‘อาการาติ การณานิ, อนฺวยาติ อนุพุทฺธิโย’’ติ อาห. ยถา หิ โลเก ทิฏฺเน ธูเมน อทิฏฺํ อคฺคึ อนฺเวติ อนุมานโต ชานาติ, เอวํ วีมํสโก ภิกฺขุ – ‘‘ภควา เอเกกวิหาเรสุ สุปฺปฏิปนฺเนสุ ทุปฺปฏิปนฺเนสุ จ ยถา เอกสทิสตาทสฺสเนน อภยูปรตตํ อนฺเวติ อนุมานโต ชานาติ, สุปฺปฏิปนฺนทุปฺปฏิปนฺนปุคฺคเลสุ อนุสฺสาทนานปสาทนปฺปตฺตาย สตฺถุ อวิปรีตธมฺมเทสนตาย สมฺมาสมฺพุทฺธตํ สงฺฆสุปฺปฏิปตฺติฺจ อนฺเวติ อนุมานโต ชานาติ, เอวํ ชานนฺโต จ อภยูปรโต ตถาคโต สพฺพธิ วีตราคตฺตา, โย ยตฺถ วีตราโค, น โส ตนฺนิมิตฺตํ กิฺจิ ภยํ ปสฺสติ เสยฺยถาปิ พฺรหฺมา กามภวนิมิตฺตํ, ตถา สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา อวิปรีตธมฺมเทสนตฺตา, สฺวาขาโต ธมฺโม เอกนฺตนิยฺยานิกตฺตา, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ อเวจฺจปฺปสนฺนตฺตา’’ติ วตฺถุตฺตยํ คุณโต ยาถาวโต ชานาติ.

คณพนฺธเนนาติ ‘‘มม สทฺธิวิหาริกา มม อนฺเตวาสิกา’’ติ เอวํ คเณ อเปกฺขาสงฺขาเตน พนฺธเนน พทฺธา ปยุตฺตา. ตาย ตาย ปฏิปตฺติยาติ ‘‘สุคตา ทุคฺคตา’’ติ วุตฺตาย สุปฺปฏิปตฺติยา ทุปฺปฏิปตฺติยา จ. อุสฺสาทนาติ คุณวเสน อุกฺกํสนา. อปสาทนาติ หีฬนา. อุภยตฺถ เคหสฺสิตวเสนาติ อิมินา สมฺมาปฏิปตฺติยา ปเรสํ อุยฺโยชนตฺถํ – ‘‘ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, มหากจฺจาโน’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๐๕; ๓.๒๘๕, ๓๒๒) คุณโต อุกฺกํสนมฺปิ อายตึ สํวราย ยถาปราธํ ครหณมฺปิ น นิวาเรติ.

๔๘๙. วีมํสกสฺสปิ อธิปฺปาโย วีมํสนวเสน ปวตฺโต. มูลวีมํสโก เหตุวาทิตาย. คณฺิวีมํสกสฺส อนุสฺสุติภาวโต วุตฺตํ ‘‘ปรสฺเสว กถาย นิฏฺงฺคโต’’ติ. เตนาห ภควา – ‘‘ปรสฺส เจโตปริยายํ อชานนฺเตนา’’ติ. ตถาคโตว ปฏิปุจฺฉิตพฺโพติ อิมินา ปุพฺเพ สาธารณโต วุตฺตํ อนุมานํ อุกฺกํสํ ปาเปตฺวา วทติ. อุกฺกํสคตฺเหตํ อนุมานํ, ยทิทํ สพฺพฺุวจนํ อวิสํวาทํ สามฺโต อปุถุชฺชนโคจรสฺส อตฺถสฺส อนุมานโต. ติวิโธ หิ อตฺโถ, โกจิ ปจฺจกฺขสิทฺโธ, โย รูปาทิธมฺมานํ ปจฺจตฺตเวทนิโย อนิทฺทิสิตพฺพากาโร. โกจิ อนุมานสิทฺโธ, โย ฆฏาทีสุ ปสิทฺเธน ปจฺจยายตฺตภาเวน สาธิยมาโน สทฺทาทีนํ อนิจฺจตาทิอากาโร. โกจิ โอกปฺปนสิทฺโธ, โย ปจุรชนสฺส อจฺจนฺตมทิฏฺโ สทฺธาวิสโย ปรโลกนิพฺพานาทิ. ตตฺถ ยสฺส สตฺถุโน วจนํ ปจฺจกฺขสิทฺเธ อนุมานสิทฺเธ จ อตฺเถ น วิสํวาเทติ อวิปรีตปฺปวตฺติยา, ตสฺส วจเนน สทฺเธยฺยตฺถสิทฺธิ, สทฺเธยฺยรูปา เอว จ เยภุยฺเยน สตฺถุคุณา อจฺจนฺตสมฺภวโต.

เอส มยฺหํ ปโถติ ยฺวายํ อาชีวฏฺมกสีลสงฺขาโต มยฺหํ โอรมตฺตโก คุโณ, เอส อปรจิตฺตวิทุโน วีมํสกสฺส ภิกฺขุโน มม ชานนปโถ ชานนมคฺโค. เอส โคจโรติ เอโส เอตฺตโก เอว ตสฺส มยิ โคจโร, น อิโต ปรํ. ตถา หิ พฺรหฺมชาเลปิ (ที. นิ. ๑.๗) ภควตา อาชีวฏฺมกสีลเมว นิทฺทิฏฺํ. เอตาปาโถติ เอตฺตกาปาโถ. โย สีเล ปติฏฺิโต ‘‘เอตํ มมา’’ติ, ‘‘อิมินาหํ สีเลน เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา’’ติ ตณฺหาย ปรามสนฺโต, ตสฺส วิเสสภาคิยตาย, นิพฺเพธภาคิยตาย วา อการเณน ตณฺหํ อนติวตฺตนโต โส ตมฺมโย นาม. เตนาห ‘‘น ตมฺมโย น สตณฺโห’’ติอาทิ.

สุตสฺส อุปรูปริ วิเสสาวหภาเวน อุตฺตรุตฺตรฺเจว ตสฺส จ วิเสสสฺส อนุกฺกเมน ปณีตตรภาวโต ปณีตตรฺจ กตฺวา เทเสติ. สวิปกฺขนฺติ ปหาตพฺพปหายกภาเวน สปฺปฏิปกฺขํ. กณฺหํ ปฏิพาหิตฺวา สุกฺกนฺติ อิทํ ธมฺมชาตํ กณฺหํ นาม, อิมสฺส ปหายกํ อิทํ สุกฺกํ นามาติ เอวํ กณฺหํ ปฏิพาหิตฺวา สุกฺกํ. สุกฺกํ ปฏิพาหิตฺวา กณฺหนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อิธ ปน ‘‘อิมินา ปหาตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพํ. สอุสฺสาหนฺติ สพฺยาปารํ. กิริยมยจิตฺตานฺหิ อนุปจฺฉินฺนาวิชฺชาตณฺหามานาทิเก สนฺตาเน สพฺยาปารตา สอุสฺสาหตา, สวิปากธมฺมตาติ อตฺโถ. ตสฺมึ เทสิเต ธมฺเมติ ตสฺมึ สตฺถารา เทสิเต โลกิยโลกุตฺตรธมฺเม. เอกจฺจํ เอกเทสภูตํ มคฺคผลนิพฺพานสงฺขาตํ ปฏิเวธธมฺมํ อภิฺาย อภิวิสิฏฺาย มคฺคปฺาย ชานิตฺวา. ปฏิเวธธมฺเมน มคฺเคน. เทสนาธมฺเมติ เทสนารุฬฺเห ปุพฺพภาคิเย โพธิปกฺขิยธมฺเม นิฏฺํ คจฺฉติ – ‘‘อทฺธา อิมาย ปฏิปทาย ชรามรณโต มุจฺจิสฺสามี’’ติ. ปุพฺเพ โปถุชฺชนิกสทฺธายปิ ปสนฺโน, ตโต ภิยฺโยโสมตฺตาย อวิปรีตธมฺมเทสโน สมฺมาสมฺพุทฺโธ โส ภควาติ สตฺถริ ปสีทติ. นิยฺยานิกตฺตาติ วฏฺฏทุกฺขโต เอว ตโต นิยฺยานาวหตฺตา. วงฺกาทีติ อาทิ-สทฺเทน อฺํ อสามีจิปริยายํ สพฺพํ โทสํ สงฺคณฺหาติ.

๔๙๐. อิเมหิ สตฺถุวีมํสนการเณหีติ ‘‘ปริสุทฺธกายสมาจารตาทีหิ เจว อุตฺตรุตฺตริปณีตปณีตอวิปรีตธมฺมเทสนาหิ จา’’ติ อิเมหิ ยถาวุตฺเตหิ สตฺถุอุปปริกฺขนการเณหิ. อกฺขรสมฺปิณฺฑนปเทหีติ เตสํเยว การณานํ สมฺโพธเนหิ อกฺขรสมุทายลกฺขเณหิ ปเทหิ. อิธ วุตฺเตหิ อกฺขเรหีติ อิมสฺมึ สุตฺเต วุตฺเตหิ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส อภิพฺยฺชนโต พฺยฺชนสฺิเตหิ อกฺขเรหิ. โอกปฺปนาติ สทฺเธยฺยวตฺถุํ โอกฺกนฺติตฺวา ปสีทนโต โอกปฺปนลกฺขณา. สทฺธาย มูลํ นามาติ อเวจฺจปฺปสาทภูตาย สทฺธาย มูลํ นาม การณนฺติ สทฺทหนสฺส การณํ ปริสุทฺธกายสมาจาราทิกํ. ถิรา ปฏิปกฺขสมุจฺเฉเทน สุปฺปติฏฺิตตฺตา. หริตุํ น สกฺกาติ อปเนตุํ อสกฺกุเณยฺยา. อิตเรสุ สมณพฺราหฺมณเทเวสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อาห ‘‘สมิตปาปสมเณน วา’’ติอาทิ.

‘‘พุทฺธานํ เกสฺจิ สาวกานฺจ วิพาธนตฺถํ มาโร อุปคจฺฉตี’’ติ สุตปุพฺพตฺตา ‘‘อยํ มาโร อาคโต’’ติ จินฺเตสิ. อานุภาวสมฺปนฺเนน อริยสาวเกน ปุจฺฉิตตฺตา มุสาวาทํ กาตุํ นาสกฺขิ. เอเตติ ยถาวุตฺเต สมิตปาปสมณาทโย เปตฺวา. สภาวสมนฺเนสนาติ ยาถาวสมนฺเนสนา อวิปรีตวีมํสา. สภาเวเนวาติ สพฺภาเวเนว ยถาภูตคุณโต เอว. สุฏฺุ สมฺมเทว. สมนฺเนสิโตติ อุปปริกฺขิโต. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.

วีมํสกสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๘. โกสมฺพิยสุตฺตวณฺณนา

๔๙๑. ตสฺมาติ ยสฺมา โกสมฺพรุกฺขวตี, ตสฺมา นครํ โกสมฺพีติสงฺขมคมาสิ. กุสมฺพสฺส วา อิสิโน นิวาสภูมิ โกสมฺพี, ตสฺสาวิทูเร ภวตฺตา นครํ โกสมฺพี.

โฆสิตเสฏฺินาการิเต อาราเมติ เอตฺถ โก โฆสิตเสฏฺิ, กถฺจาเนน อาราโม การิโตติ อนฺโตลีนาย โจทนาย วิสฺสชฺชเน สมุทาคมโต ปฏฺาย โฆสิตเสฏฺึ ทสฺเสตุํ ‘‘อทฺทิลรฏฺํ นาม อโหสี’’ติอาทิ อารทฺธํ. เกทารปริจฺฉินฺนนฺติ ตตฺถ ตตฺถ เกทารภูมิยา ปริจฺฉินฺนํ. คจฺฉนฺโตติ เกทารปาฬิยา คจฺฉนฺโต. ปหูตปายสนฺติ ปหูตตรํ ปายสํ, ตํ ปน ครุ สินิทฺธํ อนฺตรามคฺเค อปฺปาหารตาย มนฺทคหณิโก สมาโน ชีราเปตุํ นาสกฺขิ. เตนาห ‘‘ชีราเปตุํ อสกฺโกนฺโต’’ติอาทิ. ยสวติ รูปวติ กุลฆเร นิพฺพตฺติ. โฆสิตเสฏฺิ นาม ชาโตติ เอวเมตฺถ สงฺเขเปเนว โฆสิตเสฏฺิวตฺถุํ กเถติ, วิตฺถาโร ปน ธมฺมปทวตฺถุมฺหิ (ธ. ป. อฏฺ. ๑.สามาวตีวตฺถุ) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

อุปสํกปฺปนวเสนาติ อุปสงฺกปฺปนนิยาเมน. อาหารปริกฺขีณกายสฺสาติ อาหารนิมิตฺตปริกฺขีณกายสฺส, อาหารกฺขเยน ปริกฺขีณกายสฺสาติ อตฺโถ. สุฺาคาเรติ ชนวิวิตฺเต ผาสุกฏฺาเน.

กลหสฺส ปุพฺพภาโค ภณฺฑนํ นามาติ กลหสฺส เหตุภูตา ปริภาสา ตํสทิสี จ อนิฏฺกิริยา ภณฺฑนํ นาม. หตฺถปรามาสาทิวเสนาติ กุชฺฌิตฺวา อฺมฺสฺส หตฺเถ คเหตฺวา ปรามสนอจฺจนฺตพนฺธนาทิวเสน. ‘‘อยํ ธมฺโม’’ติอาทินา วิรุทฺธวาทภูตํ อาปนฺนาติ วิวาทาปนฺนา. เตนาห ‘‘วิรุทฺธภูต’’นฺติอาทิ. มุขสนฺนิสฺสิตตาย วาจา อิธ ‘‘มุข’’นฺติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘มุขสตฺตีหีติ วาจาสตฺตีหี’’ติ. สฺตฺตินฺติ สฺาปนํ ‘‘อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย’’ติ สฺาเปตพฺพตํ. นิชฺฌตฺตินฺติ ยาถาวโต ตสฺส นิชฺฌานํ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘สฺตฺติเววจนเมเวต’’นฺติ วุตฺตํ.

สเจ โหติ เทเสสฺสามีติ สุพฺพจตาย สิกฺขากามตาย จ อาปตฺตึ ปสฺสิ. นตฺถิ เต อาปตฺตีติ อนาปตฺติปกฺโขปิ เอตฺถ สมฺภวตีติ อธิปฺปาเยนาห. สา ปนาปตฺติ เอว. เตนาห – ‘‘ตสฺสา อาปตฺติยา อนาปตฺติทิฏฺิ อโหสี’’ติ.

๔๙๒. กลหภณฺฑนวเสนาติ กลหภณฺฑนสฺส นิมิตฺตวเสน. ยถานุสนฺธินาว คตนฺติ กลหภณฺฑนานํ สารณียธมฺมปฏิปกฺขตฺตา ตทุปสมาวหา เหฏฺาเทสนาย อนุรูปาว อุปริเทสนาติ ยถานุสนฺธินาว อุปริสุตฺตเทสนา ปวตฺตา. สริตพฺพยุตฺตาติ อนุสฺสรณารหา. สพฺรหฺมจารีนนฺติ สหธมฺมิกานํ. ปิยํ ปิยายิตพฺพํ กโรนฺตีติ ปิยกรณา. ครุํ ครุฏฺานิยํ กโรนฺตีติ ครุกรณา. สงฺคหณตฺถายาติ สงฺคหวตฺถุวิเสสภาวโต สพฺรหฺมจารีนํ สงฺคณฺหนาย สํวตฺตนฺตีติ สมฺพนฺโธ. อวิวาทนตฺถายาติ สงฺคหวตฺถุภาวโต เอว น วิวาทนาย. สติ จ อวิวาทนเหตุภูตสงฺคาหณตฺเต เตสํ วเสน สพฺรหฺมจารีนํ สมคฺคภาโว เภทาภาโว สิทฺโธเยวาติ อาห ‘‘สามคฺคิยา’’ติอาทิ. มิชฺชติ สินิยฺหติ เอตายาติ เมตฺตา, มิตฺตภาโว, เมตฺตา เอตสฺส อตฺถีติ เมตฺตํ, กายกมฺมํ. ตํ ปน ยสฺมา เมตฺตาสหคตจิตฺตสมุฏฺานํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เมตฺตจิตฺเตน กตฺตพฺพํ กายกมฺม’’นฺติ. อิมานิ เมตฺตกายกมฺมาทีนิ ภิกฺขูนํ วเสน อาคตานิ ปาเ ภิกฺขูหิ ปจฺจุปฏฺเปตพฺพตาวจนโต. ภิกฺขุคฺคหเณเนว เจตฺถ เสสสหธมฺมิกานมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. ภิกฺขุโน สพฺพมฺปิ อนวชฺชกายกมฺมํ อาภิสมาจาริกกมฺมนฺโตคธเมวาติ อาห – ‘‘เมตฺตจิตฺเตน…เป… กายกมฺมํ นามา’’ติ. วตฺตวเสน ปวตฺติยมานา เจติยโพธีนํ วนฺทนา เมตฺตาสทิสีติ กตฺวา ตทตฺถาย คมนํ เมตฺตํ กายกมฺมนฺติ วุตฺตํ. อาทิ-สทฺเทน เจติยโพธิภิกฺขูสุ วุตฺตาวเสสอปจายนาทึ เมตฺตาวเสน ปวตฺตํ กายิกํ กิริยํ สงฺคณฺหาติ.

เตปิฏกมฺปิ พุทฺธวจนํ กถิยมานนฺติ อธิปฺปาโย. ตีณิ สุจริตานิ กายวจีมโนสุจริตานิ. จินฺตนนฺติ อิมินา เอวํ จินฺตนมตฺตมฺปิ เมตฺตํ มโนกมฺมํ, ปเคว วิธิปฏิปนฺนา ภาวนาติ ทสฺเสติ.

สหายภาวูปคมนํ เตสํ ปุรโต. เตสุ กโรนฺเตสุเยว หิ สหายภาวูปคมนํ สมฺมุขา กายกมฺมํ นาม โหติ. เกวลํ ‘‘เทโว’’ติ อวตฺวา คุเณหิ ถิรภาวโชตนํ เทวตฺเถโรติ วจนํ ปคฺคยฺห วจนํ. มมตฺตโพธนํ วจนํ มมายนวจนํ. เอกนฺตติโรกฺขกสฺส มโนกมฺมสฺส สมฺมุขตา นาม วิฺตฺติสมุฏฺาปนวเสเนว โหติ, ตฺจ โข โลเก กายกมฺมนฺติ ปากฏํ ปฺาตํ หตฺถวิการาทึ อนามสิตฺวา เอว ทสฺเสนฺโต ‘‘นยนานิ อุมฺมีเลตฺวา’’ติ อาห. ตถา หิ วจีเภทวเสน ปวตฺติ น คหิตา.

ลทฺธปจฺจยา ลพฺภนฺตีติ ลาภา, ปริสุทฺธาคมนา ปจฺจยา. น สมฺมา คยฺหมานาปิ น ธมฺมลทฺธา นาม น โหนฺตีติ ตปฺปฏิเสธนตฺถํ ปาฬิยํ ‘‘ธมฺมลทฺธา’’ติ วุตฺตํ. เทยฺยํ ทกฺขิเณยฺยฺจ อปฺปฏิวิภตฺตํ กตฺวา ภุฺชตีติ อปฺปฏิวิภตฺตโภคี. เตนาห ‘‘ทฺเว ปฏิวิภตฺตานิ นามา’’ติอาทิ. จิตฺเตน วิภชนนฺติ เอเตน – ‘‘จิตฺตุปฺปาทมตฺเตนปิ วิภชนํ ปฏิวิภตฺตํ นาม, ปเคว ปโยคโต’’ติ ทสฺเสติ.

ปฏิคฺคณฺหนฺโตว…เป… ปสฺสตีติ อิมินา อาคมนโต ปฏฺาย สาธารณพุทฺธึ อุปฏฺาเปติ. เอวํ หิสฺส สาธารณโภคิตา สุกรา, สารณียธมฺโม จสฺส สุปูโร โหติ. วตฺตนฺติ สารณียธมฺมปูรณวตฺตํ.

ทาตพฺพนฺติ อวสฺสํ ทาตพฺพํ. อตฺตโน ปลิโพธวเสน สปลิโพธสฺเสว ปูเรตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา โอทิสฺสกทานมฺปิสฺส น สพฺพตฺถ วาริตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘เตน ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อทาตุมฺปีติ ปิ-สทฺเทน ทุสฺสีลสฺสปิ อตฺถิกสฺส สติ สมฺภเว ทาตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. ทานฺหิ นาม กสฺสจิ น นิวาริตํ.

มหาคิริคาโม นาม นาคทีปปสฺเส เอโก คาโม. สารณียธมฺโม เม, ภนฺเต, ปูริโต…เป… ปตฺตคตํ น ขียตีติ อาห เตสํ กุกฺกุจฺจวิโนทนตฺถํ. ตํ สุตฺวา เตปิ เถรา ‘‘สารณียธมฺมปูรโก อย’’นฺติ อพฺภฺํสุ. ทหรกาเล เอว กิเรส สารณียธมฺมปูรโก อโหสิ, ตสฺสา จ ปฏิปตฺติยา อวฺฌภาววิภาวนตฺถํ ‘‘เอเต มยฺหํ ปาปุณิสฺสนฺตี’’ติ อาห.

อหํ สารณียธมฺมปูริกา, มม ปตฺตปริยาปนฺเนนปิ สพฺพาปิมา ภิกฺขุนิโย ยาเปสฺสนฺตีติ อาห ‘‘มา ตุมฺเห เตสํ คตภาวํ จินฺตยิตฺถา’’ติ.

สตฺตสุ อาปตฺติกฺขนฺเธสุ อาทิมฺหิ วา อนฺเต วา, เวมชฺเฌติ จ อิทํ อุทฺเทสาคตปาฬิวเสน วุตฺตํ. น หิ อฺโ โกจิ อาปตฺติกฺขนฺธานํ อนุกฺกโม อตฺถิ. ปริยนฺเต ฉินฺนสาฏโก วิยาติ วตฺถนฺเต, ทสนฺเต วา ฉินฺนวตฺถํ วิย. ขณฺฑนฺติ ขณฺฑวนฺตํ, ขณฺฑิตํ วา. ฉิทฺทนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย . วิสภาควณฺเณน อุปฑฺฒํ, ตติยภาคํ วา สมฺภินฺนวณฺณํ สพลํ, วิสภาควณฺเณเหว ปน พินฺทูหิ อนฺตรนฺตรา วิมิสฺสํ กมฺมาสํ, อยํ อิเมสํ วิเสโส. ตณฺหาทาสพฺยโต โมจนวจเนเนว เตสํ สีลานํ วิวฏฺฏุปนิสฺสยตมาห. ภุชิสฺสภาวกรณโตติ อิมินา ภุชิสฺสกรานิ ภุชิสฺสานีติ อุตฺตรปทโลเปนายํ นิทฺเทโสติ ทสฺเสติ. อวิฺูนํ อปฺปมาณตาย ‘‘วิฺุปฺปสตฺถานี’’ติ วุตฺตํ. ตณฺหาทิฏฺีหิ อปรามฏฺตฺตาติ – ‘‘อิมินาหํ สีเลน เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา’’ติ ตณฺหาปรามาเสน – ‘‘อิมินาหํ สีเลน เทโว หุตฺวา ตตฺถ นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต ภวิสฺสามี’’ติ ทิฏฺิปรามาเสน จ อปรามฏฺตฺตา. ปรามฏฺุนฺติ โจเทตุํ. สีลํ นาม อวิปฺปฏิสาราทิปารมฺปริเยน ยาวเทว สมาธิสมฺปาทนตฺถนฺติ อาห ‘‘สมาธิสํวตฺตกานี’’ติ. สมานภาโว สามฺํ, ปริปุณฺณจตุปาริสุทฺธิภาเวน มชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณสฺส วิย เภทาภาวโต สีเลน สามฺํ สีลสามฺํ, ตํ คโต อุปคโตติ สีลสามฺคโต. เตนาห ‘‘สมานภาวูปคตสีโล’’ติ.

ยายํ ทิฏฺีติ ยา อยํ ทิฏฺิ มยฺหฺเจว ตุมฺหากฺจ ปจฺจกฺขภูตา. จตุสจฺจทสฺสนฏฺเน ทิฏฺิ, ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา, สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา, สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ, ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวาขาโต ภควตา ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ’’ติ จ ทิฏฺิยา สามฺํ สมานทิฏฺิภาวํ. อคฺคํ อิตเรสํ สารณียธมฺมานํ ปธานภาวโต. เอตสฺมึ สติ สุขสิทฺธิโต เตสํ สงฺคาหิกํ, ตโต เอว เตสํ สงฺฆาฏนิกํ โคปานสิโย อปริปตนฺเต กตฺวา สงฺคณฺหาติ ธาเรตีติ สงฺคาหิกํ. สงฺฆาฏนฺติ อคฺคภาเวน สงฺฆาฏภาวํ. สงฺฆาฏนํ เอเตสํ อตฺถีติ สงฺฆาฏนิกํ, สงฺฆาฏนิยนฺติ วา ปาโ, สงฺฆาฏเน นิยุตฺตนฺติ วา สงฺฆาฏนิกํ, ก-การสฺส ย-การํ กตฺวา สงฺฆาฏนิยํ. สามฺโต เอว คหิตตฺตา นปุํสกนิทฺเทโส.

๔๙๓. ปมมคฺคสมฺมาทิฏฺิปิ เอวํสภาวา, อฺมคฺคสมฺมาทิฏฺีสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อาห ‘‘ยายํ โสตาปตฺติมคฺคทิฏฺี’’ติ. เอตฺตาวตาปีติ เอตฺตเกนปิ ราคาทีสุ เอเกเกน ปริยุฏฺิตจิตฺตตายปิ ปริยุฏฺิตจิตฺโตเยว นาม โหติ, ปเคว ทฺวีหิ, พหูหิ วา ปริยุฏฺิตจิตฺตตาย. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ อฏฺสุปิ วาเรสุ. สุฏฺุ ปิตนฺติ ยถา มคฺคภาวนา อุปริ สจฺจาภิสมฺโพโธ โหติ, เอวํ สมฺมา ปิตํ. เตนาห ‘‘สจฺจานํ โพธายา’’ติ. ตํ าณนฺติ ‘‘นตฺถิ โข เม ตํ ปริยุฏฺาน’’นฺติอาทินา ปวตฺตํ ปจฺจเวกฺขณาณํ. อริยานํ โหตีติ อริยานเมว โหติ. เตสฺหิ เอกเทสโตปิ ปหีนํ วตฺตพฺพตํ อรหติ. เตนาห ‘‘น ปุถุชฺชนาน’’นฺติ. อริยนฺติ วุตฺตํ ‘‘อริเยสุ ชาต’’นฺติ กตฺวา. โลกุตฺตรเหตุกตาย โลกุตฺตรนฺติ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘เยสํ ปนา’’ติอาทิ. ตถา หิสฺส ปุถุชฺชเนหิ อสาธารณตา. เตนาห ‘‘ปุถุชฺชนานํ ปน อภาวโต’’ติ. สพฺพวาเรสูติ สพฺเพสุ อิตเรสุ ฉสุ วาเรสุ.

๔๙๔. ปจฺจตฺตนฺติ ปาฏิเยกฺกํ อตฺตนิ มม จิตฺเตเยว. เตนาห ‘‘อตฺตโน จิตฺเต’’ติ. ‘‘ปจฺจตฺตํ อตฺตโน จิตฺเต นิพฺพุตึ กิเลสวูปสมํ ลภามี’’ติ อิมมตฺถํ ‘‘เอเสว นโย’’ติ อิมินา อติทิสติ.

๔๙๕. ตถารูปาย ทิฏฺิยาติ อิทํ ‘‘ยถารูปาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต’’ติ อิมสฺส อตฺถสฺส ปจฺจามสนนฺติ อาห ‘‘ตถารูปาย ทิฏฺิยาติ เอวรูปาย โสตาปตฺติมคฺคทิฏฺิยา’’ติ.

๔๙๖. สภาเวนาติ นิยตปฺจสิกฺขาปทตาทิสภาเวน. สงฺฆกมฺมวเสนาติ มานตฺตจริยาทิสงฺฆกมฺมวเสน. ทหโรติ พาโล. กุมาโรติ ทารโก. ยสฺมา ทหโร ‘‘กุมาโร’’ติ จ ‘‘ยุวา’’ติ จ วุจฺจติ, ตสฺมา มนฺโทติ วุตฺตํ. มนฺทินฺทฺริยตาย หิ มนฺโท. เตนาห ‘‘จกฺขุโสตาทีนํ มนฺทตายา’’ติ. เอวมฺปิ ยุวาวตฺถาปิ เกจิ มนฺทินฺทฺริยา โหนฺตีติ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘อุตฺตานเสยฺยโก’’ติ วุตฺตํ. ยทิ อุตฺตานเสยฺยโก, กถมสฺส องฺคารกฺกมนนฺติ? ยถา ตถา องฺคารสฺส ผุสนํ อิธ ‘‘อกฺกมน’’นฺติ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘อิโต จิโต จา’’ติอาทิ. มนุสฺสานนฺติ มหลฺลกมนุสฺสานํ. น สีฆํ หตฺโถ ฌายติ กถินหตฺถตาย. ขิปฺปํ ปฏิสํหรติ มุทุตลุณสรีรตาย. อธิวาเสติ กิฺจิ ปโยชนํ อเปกฺขิตฺวา.

๔๙๗. อุจฺจาวจานีติ มหนฺตานิ เจว ขุทฺทกานิ จ. ตตฺเถวาติ สุธากมฺมาทิมฺหิเยว. กสาวปจนํ สุธาทิสงฺขรณตฺถํ, อุทกานยนํ โธวนาทิอตฺถํ, หลิทฺทิวณฺณธาตุเลปนตฺถํ กุจฺฉกรณํ. พหลปตฺถโนติ ทฬฺหฉนฺโท. วจฺฉกนฺติ นิพฺพตฺตเธนุปควจฺฉํ. อปจินาตีติ อปวินฺทติ, อาโลเกตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อปโลเกตี’’ติ. ตนฺนินฺโน โหตีติ อธิสีลสิกฺขาทินินฺโนว โหติ อุจฺจาวจานมฺปิ กึกรณียานํ จาริตฺตสีลสฺส ปูรณวเสเนว กรณโต, โยนิโสมนสิการวเสเนว จ เตสํ ปฏิปชฺชนโต. เถรสฺส สนฺติเก อฏฺาสิ โยนิโสมนสิการาภาวโต ‘‘ตํ ตํ สมุลฺลปิสฺสามี’’ติ.

๔๙๘. พลํ เอว พลตาติ อาห ‘‘พเลน สมนฺนาคโต’’ติ. อตฺถิกภาวํ กตฺวาติ เตน ธมฺเมน สวิเสสํ อตฺถิกภาวํ อุปฺปาเทตฺวา. สกลจิตฺเตนาติ เทสนายอาทิมฺหิ มชฺเฌ ปริโยสาเนติ สพฺพตฺเถว ปวตฺตตาย สกเลน อนวเสเสน จิตฺเตน.

๕๐๐. สภาโวติ อริยสาวกสฺส ปุถุชฺชเนหิ อสาธารณตาย อาเวณิโก สภาโว. สุฏฺุ สมนฺเนสิโตติ สมฺมเทว อุปปริกฺขิโต. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยายาติ โสตาปตฺติผลสฺส สจฺฉิกรเณน, สจฺฉิกตภาเวนาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘โสตาปตฺติผลสจฺฉิกตาเณนา’’ติ. ปมมคฺคผลสฺส ปจฺจเวกฺขณาณวิเสสา เหเต ปวตฺติอาการภินฺนา. เตเนวาห ‘‘สตฺตหิ มหาปจฺจเวกฺขณาเณหี’’ติ. อยํ ตาว อาจริยานํ สมานกถาติ ‘‘อิทมสฺส ปมํ าณ’’นฺติอาทินา วุตฺตานิ ปจฺจเวกฺขณาณานิ, น มคฺคาณานีติ เอวํ ปวตฺตา ปรมฺปราคตา ปุพฺพาจริยานํ สมานา สาธารณา อิมิสฺสา ปาฬิยา อฏฺกถา อตฺถวณฺณนา. ตตฺถ การณมาห ‘‘โลกุตฺตรมคฺโค หิ พหุจิตฺตกฺขณิโก นาม นตฺถี’’ติ. ยทิ โส พหุจิตฺตกฺขณิโก สิยา นานาภิสมโย, ตถา สติ สํโยชนตฺตยาทีนํ เอกเทสปฺปหานํ ปาปุณาตีติ อริยมคฺคสฺส อนนฺตรผลตฺตา เอกเทสโสตาปนฺนตาทิภาโว อาปชฺชติ, ผลานํ วา อเนกภาโว, สพฺพเมตํ อยุตฺตนฺติ ตสฺมา เอกจิตฺตกฺขณิโกว อริยมคฺโค.

ยํ ปน สุตฺตปทํ นิสฺสาย วิตณฺฑวาที อริยมคฺคสฺส เอกจิตฺตกฺขณิกตํ ปฏิกฺขิปติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สตฺต วสฺสานีติ หิ วจนโต’’ติ อาห. กิเลสา ปน ลหุ…เป… ฉิชฺชนฺตีติ วทนฺเตน หิ ขิปฺปํ ตาว กิเลสปฺปหานํ, ทนฺธปวตฺติกา มคฺคภาวนาติ ปฏิฺาตํ โหติ. ตตฺถ สเจ มคฺคสฺส ภาวนาย อารทฺธมตฺตาย กิเลสา ปหียนฺติ, เสสา มคฺคภาวนา นิรตฺถกา สิยา, อถ ปจฺฉา กิเลสปฺปหานํ, กิเลสา ปน ลหุ ฉิชฺชนฺตีติ อิทํ มิจฺฉา, ‘‘โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยายา’’ติ วกฺขตีติ. ตโต สุตฺตปฏิชานนโต. มคฺคํ อภาเวตฺวาติ อริยมคฺคํ ปริปุณฺณํ กตฺวา อภาเวตฺวา. อตฺถรสํ วิทิตฺวาติ สุตฺตสฺส อวิปรีโต อตฺโถ เอว อตฺถรโส, ตํ ยาถาวโต ตฺวา. เอวํ วิตณฺฑวาทิวาทํ ภินฺทิตฺวา วุตฺตเมวตฺถํ นิคเมตุํ ‘‘อิมานิ สตฺต าณานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

โกสมฺพิยสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๙. พฺรหฺมนิมนฺตนิกสุตฺตวณฺณนา

๕๐๑. ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติ (ที. นิ. ๑.๓๐) เอวํ ปวตฺตา ทิฏฺิ สสฺสตทิฏฺิ (สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑๗๕). สห กาเยนาติ สห เตน พฺรหฺมตฺตภาเวน. พฺรหฺมฏฺานนฺติ อตฺตโน พฺรหฺมวตฺถุํ. ‘‘อนิจฺจํ นิจฺจ’’นฺติ วทติ อนิจฺจตาย อตฺตโน อปฺายมานตฺตา. ถิรนฺติ ทฬฺหํ, วินาสาภาวโต สารภูตนฺติ อตฺโถ. อุปฺปาทวิปริณามาภาวโต สทา วิชฺชมานํ. เกวลนฺติ ปริปุณฺณํ. เตนาห ‘‘อขณฺฑ’’นฺติ. เกวลนฺติ วา ชาติอาทีหิ อมิสฺสํ, วิรหิตนฺติ อธิปฺปาโย. อุปฺปาทาทีนํ อภาวโต เอว อจวนธมฺมํ. โกจิ ชายนโก วา…เป… อุปปชฺชนโก วา นตฺถิ นิจฺจภาวโต. าเนน สทฺธึ ตนฺนิวาสีนํ นิจฺจภาวฺหิ โส ปฏิชานาติ. ติสฺโส ฌานภูมิโยติ ทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานภูมิโย. จตุตฺถชฺฌานภูมิวิเสสา หิ อสฺสุทฺธาวาสารุปฺปภวา. ปฏิพาหตีติ สนฺตํเยว สมานํ อชานนฺโตว นตฺถีติ ปฏิกฺขิปติ. อวิชฺชาย คโตติ อวิชฺชาย สห คโต ปวตฺโต. สหโยเค หิ อิทํ กรณวจนํ. เตนาห ‘‘สมนฺนาคโต’’ติ. อฺาณีติ อวิทฺวา. ปฺาจกฺขุวิรหโต อนฺโธ ภูโต, อนฺธภาวํ วา ปตฺโตติ อนฺธีภูโต.

๕๐๒. ตทา ภควโต สุภควเน วิหรณสฺส อวิจฺฉินฺนตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สุภควเน วิหรตีติ ตฺวา’’ติ. ตตฺถ ปน ตทาสฺส ภควโต อทสฺสนํ สนฺธายาห ‘‘กตฺถ นุ โข คโตติ โอโลเกนฺโต’’ติ. พฺรหฺมโลกํ คจฺฉนฺตํ ทิสฺวาติ อิมินา กติปยจิตฺตวารวเสน ตทา ภควโต พฺรหฺมโลกคมนํ ชาตํ, น เอกจิตฺตกฺขเณนาติ ทสฺเสติ. น เจตฺถ กายคติยา จิตฺตปริณามนํ อธิปฺเปตํ – ‘‘เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺยา’’ติอาทิวจนโต (ม. นิ. ๑.๕๐๑). ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. วิฉนฺทนฺติ ฉนฺทวิคมํ. อปสาทิโตติ ทิฏฺิยา คาหสฺส วิปริวตฺตเนน สนฺตชฺชิโต. ‘‘เมตมาสโท’’ติ วจเนน อุปตฺถมฺโภ หุตฺวา.

อนฺวาวิสิตฺวาติ อาวิสนวเสน ตสฺส อตฺตภาวํ อธิภวิตฺวา. ตถา อภิภวโต หิ ตสฺส สรีรํ ปวิฏฺโ วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สรีรํ ปวิสิตฺวา’’ติ. ยฺหิ สตฺตํ เทวยกฺขนาคาทโย อาวิสนฺติ, ตสฺส ปากติกกิริยมยํ จิตฺตปฺปวตฺตึ นิวาเรตฺวา อตฺตโน อิทฺธานุภาเวน ยํ อิจฺฉิตํ หสิตลปิตาทิ, ตํ เตน การาเปนฺติ, กาเรนฺตา จ อาวิฏฺปุคฺคลสฺส จิตฺตวเสน กาเรนฺติ. ‘‘อตฺตโนวา’’ติ น วตฺตพฺพเมตํ อจินฺเตยฺยตฺตา กมฺมชสฺส อิทฺธานุภาวสฺสาติ เกจิ. อปเร ปน ยถา ตทา จกฺขุวิฺาณาทิปวตฺติ อาวิฏฺปุคฺคลสฺเสว, เอวํ กิริยมยจิตฺตปวตฺติปิ ตสฺเสว, อาเวสกานุภาเวน ปน สามฺตา ปริวตฺตติ. ตถา หิ มหานุภาวํ ปุคฺคลํ เต อาวิสิตุํ น สกฺโกนฺติ, ติกิจฺฉาวุฏฺาปเน ปน ฉวสรีรํ อนุปวิสิตฺวา สตนฺตํ กโรติ วิชฺชานุภาเวน. โกรขตฺติยาทีนํ ปน ฉวสรีรสฺส อุฏฺานํ วจีนิจฺฉารณฺจ เกวลํ พุทฺธานุภาเวน. อจินฺเตยฺยา หิ พุทฺธานํ พุทฺธานุภาวาติ. อภิภวิตฺวา ิโตติ สกลโลกํ อตฺตโน อานุภาเวน อภิภวิตฺวา ิโต. เชฏฺโกติ ปธาโน, ตาทิสํ วา อานุภาวสมฺปนฺนตฺตา อุตฺตโม. ปสฺสตีติ ทโส. วิเสสวจนิจฺฉาย อภาวโต อนวเสสวิสโย ทโส-สทฺโทติ อาห ‘‘สพฺพํ ปสฺสตี’’ติ. สพฺพชนนฺติ ลทฺธนามํ สพฺพสตฺตกายํ. วเส วตฺเตติ, เสฏฺตฺตา นิมฺมาปกตฺตา จ อตฺตโน วเส วตฺเตติ. โลกสฺส อีสนสีลตาย อิสฺสโร. สตฺตานํ กมฺมสฺส การกภาเวน กตฺตา. ถาวรชงฺคมวิภาคํ สกลํ โลกํ นิมฺมาเนตีติ นิมฺมาตา.

คุณวิเสเสน โลเก ปาสํสตฺตา เสฏฺโ. ตาทิโส จ อุกฺกฏฺตโม โหตีติ อาห ‘‘อุตฺตโม’’ติ. สตฺตานํ นิมฺมานํ ตถา ตถา สชนํ วิสชนํ วิย โหตีติ อาห ‘‘ตฺวํ ขตฺติโย’’ติอาทิ. ฌานาทีสุ อตฺตโน จิตฺเต จ จิณฺณวสิตฺตา วสี. ภูตานนฺติ นิพฺพตฺตานํ. ภวํ อภิชาตํ อรหนฺตีติ ภพฺยา, สมฺภเวสิโน, เตสํ ภพฺยานํ. เตนาห ‘‘อณฺฑชชลาพุชา สตฺตา’’ติอาทิ.

ปถวีอาทโย นิจฺจา ธุวา สสฺสตา. เย เตสํ ‘‘อนิจฺจา’’ติอาทินา ครหกา ชิคุจฺฉา สตฺตา, เต อยถาภูตวาทิตาย มตกาเล อปายนิฏฺา อเหสุํ. เย ปน ปถวีอาทีนํ ‘‘นิจฺจา ธุวา’’ติอาทินา ปสํสกา, เต ยถาภูตวาทิตาย พฺรหฺมกายูปคา อเหสุนฺติ มาโร ปาปิมา อนฺวยโต พฺยติเรกโต จ ปถวีอาทิมุเขน สงฺขารานํ ปริฺาปฺาปเน อาทีนวํ วิภาเวติ ตโต วิเวเจตุกาโม. เตนาห ‘‘ปถวีครหกา’’ติอาทิ. เอตฺถ จ มาโร ปถวีอาทิธาตุมหาภูตคฺคหเณน มนุสฺสโลกํ, ภูตคฺคหเณน จาตุมหาราชิเก, เทวคฺคหเณน อวเสสกามเทวโลกํ, ปชาปติคฺคหเณน อตฺตโน านํ, พฺรหฺมคฺคหเณน พฺรหฺมกายิเก คณฺหิ. อาภสฺสราทโย ปน อวิสยตาย เอว อเนน อคฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. ตณฺหาทิฏฺิวเสนาติ ตณฺหาภินนฺทนาย ทิฏฺาภินนฺทนาย จ วเสน. ‘‘เอตํ มม, เอโส เม อตฺตา’’ติ อภินนฺทิโน อภินนฺทกา, อภินนฺทนสีลา วา. พฺรหฺมุโน โอวาเท ิตานํ อิทฺธานุภาวํ ทสฺเสตีติ เตสํ ตตฺถ สนฺนิปติตพฺรหฺมานํ อิทฺธานุภาวํ ตสฺส มหาพฺรหฺมุโน โอวาเท ิตตฺตา นิพฺพตฺตํ กตฺวา ทสฺเสติ. ยเสนาติ อานุภาเวน. สิริยาติ โสภาย. มํ พฺรหฺมปริสํ อุปเนสีติ ยาทิสา พฺรหฺมปริสา อิสฺสริยาทิสมฺปตฺติยา, ตตฺถ มํ อุยฺโยเชสิ. มหาชนสฺส มารณโตติ มหาชนสฺส วิวฏฺฏูปนิสฺสยคุณวินาสเนน อานุภาเวน มารณโต. อยสนฺติ ยสปฏิปกฺขํ อกิตฺติกมฺมานุภาวฺจาติ อตฺโถ.

๕๐๓. กสิณํ อายุนฺติ วสฺสสตํ สนฺธาย วทติ. อุปนิสฺสาย เสตีติ อุปสโย, อุปสโยว โอปสายิโก ยถา ‘‘เวนยิโก’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔๖; อ. นิ. ๘.๑๑; ปารา. ๘) อาห ‘‘สมีปสโย’’ติ. สยคฺคหณฺเจตฺถ นิทสฺสนมตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘มํ คจฺฉนฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ วตฺตนตฺโถ ทฏฺพฺโพ. มม วตฺถุสฺมึ สยนโกติ มยฺหํ าเน วิสเย วตฺตนโก. พาหิตฺวาติ นีจํ กตฺวา, อภิภวิตฺวา วา. ชชฺฌริกาคุมฺพโตติ เอตฺถ ชชฺฌริกา นาม ปถวึ ปตฺถริตฺวา ชาตา เอกา คจฺฉชาติ.

อิมินาติ ‘‘สเจ โข ตฺวํ ภิกฺขู’’ติอาทิวจเนน. เอส พฺรหฺมา. อุปลาเปตีติ สงฺคณฺหาติ. อปสาเทตีติ นิคฺคณฺหาติ. เสสปเทหีติ วตฺถุสายิโก ยถากามกรณีโย พาหิเตยฺโยติ อิเมหิ ปเทหิ. มยฺหํ อารกฺขํ คณฺหิสฺสสีติ มม อารกฺขโก ภวิสฺสสิ. ลกุณฺฑกตรนฺติ นีจตรํ นิหีนวุตฺติสรีรํ.

ผุสิตุมฺปิ สมตฺถํ กิฺจิ น ปสฺสติ, ปเคว าณวิภวนฺติ อธิปฺปาโย. นิปฺผตฺตินฺติ นิปฺผชฺชนํ, ผลนฺติ อตฺโถ. ตฺหิ การณวเสน คนฺตพฺพโต อธิคนฺตพฺพโต คตีติ วุจฺจติ. อานุภาวนฺติ ปภาวํ. โส หิ โชตนฏฺเน วิโรจนฏฺเน ชุตีติ วุจฺจติ. มหตา อานุภาเวน ปเรสํ อภิภวนโต มเหโสติ อกฺขายตีติ มเหสกฺโข. ตยิทํ อภิภวนํ กิตฺติสมฺปตฺติยา ปริวารสมฺปตฺติยา จาติ อาห ‘‘มหายโส มหาปริวาโร’’ติ.

ปริหรนฺตีติ สิเนรุํ ทกฺขิณโต กตฺวา ปริวตฺตนฺติ. ทิสาติ ภุมฺมตฺเถ เอตํ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘ทิสาสุ วิโรจมานา’’ติ. อตฺตโน ชุติยา ทิพฺพมานาย วา. เตหีติ จนฺทิมสูริเยหิ. ตตฺตเกน ปมาเณนาติ ยตฺตเก จนฺทิมสูริเยหิ โอภาสิยมาโน โลกธาตุสงฺขาโต เอโก โลโก, ตตฺตเกน ปมาเณน. อิทํ จกฺกวาฬํ พุทฺธานํ อุปฺปตฺติฏฺานภูตํ เสฏฺํ อุตฺตมํ ปธานํ, ตสฺมา เยภุยฺเยน เอตฺถุปปนฺนา เทวตา อฺเสุ จกฺกวาเฬสุ เทวตา อภิภุยฺย วตฺตนฺติ. ตถา หิ พฺรหฺมา สหมฺปติ ทสสหสฺสพฺรหฺมปริวาโร ภควโต สนฺติกํ อุปคฺฉิ. เตนาห ‘‘เอตฺถ จกฺกวาฬสหสฺเส ตุยฺหํ วโส วตฺตตี’’ติ. อิทานิ ‘‘เอตฺถ เต วตฺตเต วโส’’ติ วุตฺตํ วเส วตฺตนํ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘ปโรปรฺจ ชานาสี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปมคาถายํ วุตฺตํ เอตฺถ-สทฺทํ อาเนตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอตฺถ จกฺกวาฬสหสฺเส’’ติ อาห. อุจฺจนีเจติ ชาติกุลรูปโภคปริวาราทิวเสน อุฬาเร จ อนุฬาเร จ. อยํ อิทฺโธอยํ ปกติมนุสฺโสติ อิมินา ‘‘สรูปโต เอวสฺส สตฺตานํ ปโรปรชานนํ, น สมุทาคมโต’’ติ ทสฺเสติ. ยํ ปน วกฺขติ ‘‘สตฺตานํ อาคตึ คตินฺติ, ตํ กามโลเก สตฺตานํ อาทานนิกฺเขปชานนมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น กมฺมวิปากชานนํ. ยทิ หิ สมุทาคมโต ชาเนยฺย, อตฺตโนปิ ชาเนยฺย, น จสฺส ตํ อตฺถีติ, ตถา อาห ‘‘อิตฺถมฺภาโวติอิทํ จกฺกวาฬ’’นฺติอาทิ. ราคโยคโต ราโค เอตสฺส อตฺถีติ วา ราโค, วิรชฺชนสีโล วิราคี, ตํ ราควิราคินํ. สหสฺสิพฺรหฺมา นาม ตฺวํ จูฬนิยา เอว โลกธาตุยา ชานนโต. ตยาติ นิสฺสกฺเก กรณวจนํ. จตุหตฺถายาติ อเนกหตฺเถน สาณิปากาเรน กาตพฺพปฏปฺปมาณํ ทีฆโต จตุหตฺถาย, วิตฺถารโต ทฺวิหตฺถาย ปิโลติกาย กาตุํ วายมนฺโต วิย โคปฺผเก อุทเก นิมุชฺชิตุกาโม วิย จ ปมาณํ อชานนฺโต วิหฺตีติ นิคฺคณฺหาติ.

๕๐๔. ตํ กายนฺติ ตเทว นิกายํ. ชานิตพฺพฏฺานํ ปตฺวาปีติ อนฺสาธารณา มยฺหํ สีลาทโย คุณวิเสสา ตาว ติฏฺนฺตุ, อีทิสํ โลกิยํ ปริตฺตกํ ชานิตพฺพฏฺานมฺปิ ปตฺวา. อยํ อิเมสํ อติสเยน นีโจติ นีเจยฺโย, ตสฺส ภาโว นีเจยฺยนฺติ อาห ‘‘ตยา นีจตรภาโว ปน มยฺหํ กุโต’’ติ.

เหฏฺูปปตฺติโกติ อุปรูปริโต จวิตฺวา เหฏฺา ลทฺธูปปตฺติโก. เอวํ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘อนุปฺปนฺเน พุทฺธุปฺปาเท’’ติ อาห. เหฏฺูปปตฺติกํ กตฺวาติ เหฏฺูปปตฺติกํ ปตฺถนํ กตฺวา. ยถา เกนจิ พหูสุ อานนฺตริเยสุ กเตสุ ยํ ตตฺถ ครุตรํ พลวํ, ตเทว ปฏิสนฺธึ เทติ, อิตรานิ ปน ตสฺส อนุพลปฺปทายกานิ โหนฺติ, น ปฏิสนฺธิทายกานิ, เอวํ จตูสุ รูปชฺฌาเนสุ ภาวิเตสุ ยํ ตตฺถ ครุตรํ ฉนฺทปณิธิอธิโมกฺขาทิวเสน สาภิสงฺขารฺจ, ตเทว จ ปฏิสนฺธึ เทติ, อิตรานิ ปน อลทฺโธกาสตาย ตสฺส อนุพลปฺปทายกานิ โหนฺติ, น ปฏิสนฺธิทายกานิ, ตนฺนิพฺพตฺติตชฺฌาเนเนว อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ โหตีติ อาห ‘‘ตติยชฺฌานํ ปณีตํ ภาเวตฺวา’’ติ. ตตฺถาติ สุภกิณฺหพฺรหฺมโลเก. ปุน ตตฺถาติ อาภสฺสรพฺรหฺมโลเก. ปมกาเลติ ตสฺมึ ภเว ปมสฺมึ กาเล. อุภยนฺติ อตีตํ อตฺตโน นิพฺพตฺตฏฺานํ, ตตฺถ นิพฺพตฺติยา เหตุภูตํ อตฺตโน กตกมฺมนฺติ อุภยํ. ปมุสฺสิตฺวา กาลสฺส จิรตรภาวโต. วีตินาเมติ ปฏิปชฺชนฺตีติ จ ตทา ตสฺสา กิริยาย ปวตฺติกฺขณํ อุปาทาย ปวตฺตมานปโยโค.

อปาเยสีติ ปาเยสิ. ปิปาสิเตติ ตสิเต. ฆมฺมนีติ ฆมฺมกาเล. สมฺปเรเตติ ฆมฺมปริฬาเหน ปิปาสาย อภิภูเต. นฺติ ปานียทานํ. วตสีลวตฺตนฺติ สมาทานวเสน วตภูตํ จาริตฺตสีลภาเวน สมาจิณฺณตฺตา สีลวตฺตํ. สุตฺตปฺปพุทฺโธว อนุสฺสรามีติ สุปิตฺวา ปพุทฺธมตฺโต วิย สุปินํ ตว ปุพฺพนิวุตฺถํ มม ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน อนุสฺสรามิ, สพฺพฺุตฺาเณน วิย ปจฺจกฺขโต ปสฺสามีติ อตฺโถ.

กรมเรติ วิลุมฺปิตฺวา อานีเต. กมฺมสชฺชนฺติ ยุทฺธสชฺชํ, อาวุธาทายินินฺติ อตฺโถ.

เอณีกูลสฺมินฺติ เอณีมิคพาหุลฺเลน ‘‘เอณีกูล’’นฺติ สงฺขํ คเต คงฺคาย ตีรปฺปเทเส. คยฺหก นียมานนฺติ คยฺหวเสน กรมรภาเวน โจเรหิ อตฺตโน านํ นียมานํ.

อาวาหวิวาหวเสน มิตฺตสนฺถวํ กตฺวา. ‘‘เอวํ อมฺเหสุ กีฬนฺเตสุ คงฺเคยฺยโก นาโค กุปิโต’’ติ มยิ สฺมฺปิ น กโรนฺตีติ. สุสุการนฺติ สุสูติ ปวตฺตํ เภรวนาคนิสฺสาสํ.

คหีตนาวนฺติ วิเหเตุกามตาย คตินิวารณวเสน คหิตํ นิคฺคหิตํ นาวํ. ลุทฺเทนาติ กุรูเรน. มนุสฺสกปฺปาติ นาวาคตานํ มนุสฺสานํ วิเหเตุกามตาย.

พทฺธจโรติ ปฏิพทฺธจริโย. เตนาห ‘‘อนฺเตวาสิโก’’ติ. ตํ นิสฺสาเยวาติ รฺา อุปฏฺิยมาโนปิ ราชานํ ปหาย ตํ กปฺปํ อนฺเตวาสึ นิสฺสาเยว.

สมฺพุทฺธิมนฺตํ วตินํ อมฺีติ อยํ สมฺมเทว พุทฺธิมา วตสมฺปนฺโนติ อมฺิ สมฺภาเวสิ จ.

นานตฺตภาเวสูติ นานา วิสุํ วิสุํ อตฺตภาเวสุ.

อทฺธาติ เอกํเสน. มเมตมายุนฺติ มยฺหํ เอตํ ยถาวุตฺตํ ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปวตฺตํ อายุํ. น เกวลํ มม อายุเมว, อถ โข อฺมฺปิ สพฺพฺเยฺยํ ชานาสิ, น ตุยฺหํ อวิทิตํ นาม อตฺถิ. ตถา หิ พุทฺโธ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตุวํ. โน เจ กถมยมตฺโถ าโต? ตถา หิ สมฺมาสมฺพุทฺธตฺตา เอว เต อยํ ชลิโต โชตมาโน อานุภาโว โอภาสยํ สพฺพมฺปิ พฺรหฺมโลกํ โอภาเสนฺโต ทิพฺพมาโน ติฏฺตีติ สตฺถุ อสมสมตํ ปเวเทสิ.

ปถวตฺเตนาติ ปถวีอตฺเตน. เตนาห ‘‘ปถวีสภาเวนา’’ติ. เอตฺถ จ ยสฺมา – ‘‘สพฺพสงฺขารสมโถติ’’อาทินา (มหาว. ๗; ที. นิ. ๒.๖๔, ๖๗; ม. นิ. ๑.๒๘๑; สํ. นิ. ๑.๑๗๒) สาธารณโต, ‘‘ยตฺถ เนว ปถวี’’ติ อสาธารณโต จ ปถวิยา อสภาเวน นิพฺพานสฺส คเหตพฺพตา อตฺถิ, ตํ นิวตฺเตตฺวา ปถวิยา อนฺสาธารณํ สภาวํ คเหตุํ ‘‘ปถวิยา ปถวตฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. นาปโหสินฺติ น ปาปุณึ. อิธ ปถวิยา ปาปุณนํ นาม ‘‘เอตํ มมา’’ติอาทินา คหณนฺติ อาห ‘‘ตณฺหาทิฏฺิมานคฺคาเหหิ น คณฺหิ’’นฺติ.

วาทิตายาติ วาทสีลตาย. สพฺพนฺติ อกฺขรํ นิทฺทิสิตฺวาติ ‘‘สพฺพํ โข อหํ พฺรหฺเม’’ติอาทินา ภควตา วุตฺตํ สพฺพ-สทฺทํ – ‘‘สเจ โข เต มาริส สพฺพสฺส สพฺพตฺเตน อนนุภูต’’นฺติ ปจฺจนุภาสนวเสน นิทฺทิสิตฺวา. อกฺขเร โทสํ คณฺหนฺโตติ ภควตา สกฺกายสพฺพํ สนฺธาย สพฺพ-สทฺเท คหิเต สพฺพสพฺพวเสน ตทตฺถปริวตฺตเนน สพฺพ-สทฺทวจนียตาสามฺเน จ โทสํ คณฺหนฺโต. เตนาห ‘‘สตฺถา ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ยทิ สพฺพํ อนนุภูตํ ‘‘นตฺถิ สพฺพ’’นฺติ โลเก อนวเสสํ ปุจฺฉติ. สเจ สพฺพสฺส สพฺพตฺเตน อนวเสสสภาเวน อนนุภูตํ อปฺปตฺตํ, ตํ คคนกุสุมํ วิย กิฺจิ น สิยา. อถสฺส อนนุภูตํ อตฺถีติ อสฺส สพฺพตฺเตน อนนุภูตํ ยทิ อตฺถิ, ‘‘สพฺพ’’นฺติ อิทํ วจนํ มิจฺฉา, สพฺพํ นาม ตํ น โหตีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘มา เหว เต ริตฺตกเมวา’’ติอาทิ.

อหํ สพฺพฺจ วกฺขามิ, อนนุภูตฺจ วกฺขามีติ อหํ ‘‘สพฺพ’’นฺติ จ วกฺขามิ, ‘‘อนนุภูต’’นฺติ จ วกฺขามิ, เอตฺถ โก โทโสติ อธิปฺปาโย. การณํ อาหรนฺโตติ สพฺพสฺส สพฺพตฺเตน อนนุภูตสฺส อตฺถิภาเว การณํ นิทฺทิสนฺโต. วิชานิตพฺพนฺติ มคฺคผลปจฺจเวกฺขณาเณหิ วิเสสโต สพฺพสงฺขตวิสิฏฺตาย ชานิตพฺพํ. อนิทสฺสนนฺติ อิทํ นิพฺพานสฺส สนิทสฺสนทุเก ทุติยปทสหิตตาทสฺสนนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘จกฺขุวิฺาณสฺส อาปาถํ อนุปคมนโต อนิทสฺสนํ นามา’’ติ วุตฺตํ. สพฺพสงฺขตวิธุรตาย วา นตฺถิ เอตสฺส นิทสฺสนนฺติ อนิทสฺสนํ. นตฺถิ เอตสฺส อนฺโตติ อนนฺตํ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตยิท’’นฺติอาทิ.

ภูตานีติ ปจฺจยสมฺภูตานิ. อสมฺภูตนฺติ ปจฺจเยหิ อสมฺภูตํ, นิพฺพานนฺติ อตฺโถ. อปภสฺสรภาวเหตูนํ สพฺพโส อภาวา สพฺพโต ปภาติ สพฺพโตปภํ. เตนาห ‘‘นิพฺพานโต หี’’ติอาทิ. ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘ตโม ตตฺถ น วิชฺชตี’’ติ. (เนตฺติ. ๑๐๔) ปภูตเมวาติ ปกฏฺภาเวน อุกฺกฏฺภาเวน วิชฺชมานเมว. อรูปีภาเวน อเทสิกตฺตา สพฺพโต ปภวติ วิชฺชตีติ สพฺพโตปภํ. เตนาห ‘‘ปุรตฺถิมทิสาทีสู’’ติอาทิ. ปวิสนฺติ เอตฺถาติ ปวิสํ, ตเทว ส-การสฺส ภ-การํ, วิ-การสฺส จ โลปํ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ปภ’’นฺติ. เตนาห ‘‘ติตฺถสฺส นาม’’นฺติ. วาทํ ปติฏฺเปสีติ เอวํ มยา สพฺพฺจ วุตฺตํ, อนนุภูตฺจ วุตฺตํ, ตตฺถ ยํ ตยา อธิปฺปายํ อชานนฺเตน สหสา อปฺปฏิสงฺขาย โทสคฺคหณํ, ตํ มิจฺฉาติ พฺรหฺมานํ นิคฺคณฺหนฺโต ภควา อตฺตโน วาทํ ปติฏฺเปสิ.

คหิตคหิตนฺติ ‘‘อิทํ นิจฺจ’’นฺติอาทินา คหิตคหิตํ คาหํ. ตตฺถ ตตฺถ โทสทสฺสนมุเขน นิคฺคณฺหนฺเตน สตฺถารา วิสฺสชฺชาปิโต กิฺจิ คเหตพฺพํ อตฺตโน ปฏิสรณํ อทิสฺวา ปราชยํ ปฏิจฺฉาเทตุํ ลฬิตกํกาตุกาโม วาทํ ปหาย อิทฺธิยา ปาฏิหาริยลีฬํ ทสฺเสตุกาโม. ยทิ สกฺโกสิ มยฺหํ อนฺตรธายิตุํ, น ปน สกฺขิสฺสสีติ อธิปฺปาโย. มูลปฏิสนฺธึ คนฺตุกาโมติ อตฺตโน ปากติเกน อตฺตภาเวน าตุกาโม. โส หิ ปฏิสนฺธิกาเล นิพฺพตฺตสทิสตาย มูลปฏิสนฺธีติ วุตฺโต. อฺเสนฺติ เหฏฺา อฺกายิกานํ พฺรหฺมูนํ. น อทาสิ อภิสงฺขตกาเยเนวายํ ติฏฺตุ, น ปากติกรูเปนาติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. เตน โส อภิสงฺขตกายํ อปเนตุํ อวิสหนฺโต อตฺตภาวปฏิจฺฉาทกํ อนฺธการํ นิมฺมินิตุํ อารภิ. สตฺถา ตํ ตมํ วิทฺธํเสติ. เตน วุตฺตํ ‘‘มูลปฏิสนฺธึ วา’’ติอาทิ.

ภเววาหนฺติ ภเว เอว อหํ. อยฺจ เอว-สทฺโท อฏฺานปยุตฺโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อหํ ภเว ภยํ ทิสฺวาเยวา’’ติ, สพฺพสฺมึ ภเว ชาติอาทิภยํ าณจกฺขุนา ยาถาวโต ทิสฺวา. สตฺตภวนฺติ สตฺตสงฺขาตํ ภวํ. กมฺมภวปจฺจเย หิ อุปปตฺติภเว สตฺตสมฺา. วิภวนฺติ วิมุตฺตึ. ปริเยสมานมฺปิ อุปายสฺส อนธิคตตฺตา ภเวเยว ทิสฺวา. ภวฺจ วิภเวสินํ วิภวํ นิพฺพุตึ เอสมานานํ สตฺตานํ ภวํ, ภเวสุ อุปฺปตฺติฺจ ทิสฺวาติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. น อภิวทินฺติ ‘‘อโห วต สุข’’นฺติ เอวํ อภิวทาปนาการาภาวโต น อภินิวิสึ, ลกฺขณวจนเมตํ. คาหตฺโถ เอว วา อภิวาท-สทฺโทติ อาห ‘‘นาภิวทิ’’นฺติ, ‘‘นคเวสิ’’นฺติ. ภวคฺคหเณเนตฺถ ทุกฺขสจฺจํ, นนฺทีคหเณน สมุทยสจฺจํ, วิภวคฺคหเณน นิโรธสจฺจํ, นนฺทิฺจ น อุปาทิยินฺติ อิมินา มคฺคสจฺจํ ปกาสิตนฺติ อาห ‘‘อิติ จตฺตาริ สจฺจานิ ปกาเสนฺโต’’ติ. ตทิทํ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ คาถาย วิภาวนทสฺสนํ. สตฺถา ปน เตสํ พฺรหฺมูนํ อชฺฌาสยานุรูปํ สจฺจานิ วิตฺถารโต ปกาเสนฺโต วิปสฺสนํ ปาเปตฺวา อรหตฺเตน เทสนาย กูฏํ คณฺหิ. เต จ พฺรหฺมาโน เกจิ โสตาปตฺติผเล, เกจิ สกทาคามิผเล, เกจิ อนาคามิผเล, เกจิ อรหตฺเต จ ปติฏฺหึสุ. เตน วุตฺตํ ‘‘สจฺจานิ ปกาเสนฺโต สตฺถา ธมฺมํ เทเสสี’’ติอาทิ. อจฺฉริยชาตาติ สฺชาตจฺฉริยา. สมูลํ ภวนฺติ ตณฺหาวิชฺชาหิ สมูลํ ภวํ.

๕๐๕. มมวสํ อติวตฺติตานีติ สพฺพโส กามธาตุสมติกฺกมนปฏิปทาย มยฺหํ วิสยํ อติกฺกมิตานิ. กถํ ปนายํ เตสํ อริยภูมิสโมกฺกมนํ ชานาตีติ? นยคฺคาหโต – ‘‘สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสนฺโต สํสาเร อาทีนวํ, นิพฺพาเน จ อานิสํสํ ปกาเสนฺโต เวเนยฺยชนํ นิพฺพานํ ทิฏฺเมว กโรติ, ตสฺส เทสนา อวฺฌา อโมฆา อินฺเทน วิสฺสฏฺวชิรสทิสา, ตสฺส จ อาณาย ิตา สํสาเร น ทิสฺสนฺเตวา’’ติ นยคฺคาเหน อนุมาเนน ชานาติ. สเจ ตฺวํ เอวํ อนุพุทฺโธติ ยถา ตฺวํ ปเรสํ สจฺจาภิสมฺโพธํ วทติ, เอวํ ตฺวํ อตฺตโน อนุรูปโต สยมฺภุาเณน พุทฺโธ ธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโต. ตํ ธมฺมํ มา อุปนยสีติ ตยา ปฏิวิทฺธธมฺมํ มา สาวกปฏิเวธํ ปาเปสิ. อิทนฺติ อิทํ อนนฺตรํ วุตฺตํ พฺรหฺมโลเก ปติฏฺานํเยว สนฺธาย มาโร วทติ, เต ทสฺเสนฺโต ‘‘อนุปฺปนฺเน หี’’ติอาทิมาห. อปายปติฏฺานํ ปน อาชีวกนิคณฺาทิปพฺพชฺชํ อุปคเต ติตฺถกเร, เย เกจิ วา ปพฺพชิตฺวา มิจฺฉาปฏิปนฺเน ชเน สนฺธาย วทติ. อนุปฺปนฺเนติ อสฺชาเต, อปฺปตฺเตติ อตฺโถ. อนุลฺลปนตายาติ ยถา มาโร อุปริ กิฺจิ อุตฺตรํ ลปิตุํ น สกฺโกติ, เอวํ ตถา อุตฺตรภาสเนน. นิมนฺตนวจเนนาติ วิฺาปนวจเนน. พฺรหฺมํ เสฏฺํ นิมนฺตนํ, พฺรหฺมุโน วา นิมนฺตนํ เอตฺถ อตฺถีติ พฺรหฺมนิมนฺตนิกํ, สุตฺตํ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต อวิภตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

พฺรหฺมนิมนฺตนิกสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๑๐. มารตชฺชนียสุตฺตวณฺณนา

๕๐๖. โกฏฺมนุปวิฏฺโติ อาสโย วจฺจคุตฺตฏฺานตาย โกฏฺํ, ตสฺส อพฺภนฺตรฺเหตฺถ โกฏฺํ. อนุรูโป หุตฺวา ปวิฏฺโ อนุปวิฏฺโ. สุขุมฺหิ ตทนุจฺฉวิกํ อตฺตภาวํ มาเปตฺวา อยํ ตตฺถ ปวิฏฺโ. ครุคโร วิยาติ ครุกครุโก วิย. อุ-การสฺส หิ โอ-การํ กตฺวา อยํ นิทฺเทโส, อติวิย ครุโก มฺเติ อตฺโถ. ครุครุ วิย อิจฺเจว วา ปาโ. มาสภตฺตํ มาโส อุตฺตรปทโลเปน, มาสภตฺเตน อาจิตํ ปูริตํ มาสาจิตํ มฺเ. เตนาห ‘‘มาสภตฺตํ ภุตฺตสฺส กุจฺฉิ วิยา’’ติ. อุตฺตรปทโลเปน วินา อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘มาสปูริตปสิพฺพโก วิยา’’ติ วุตฺตํ. ตินฺตมาโส วิยาติ ตินฺตมาโส ปสิพฺพโก วิย. กึ นุ โข เอตํ มม กุจฺฉิยํ ปุพฺพํ ภาริกตฺตํ, กึ นุ โข กถํ นุ โข ชาตนฺติ อธิปฺปาโย? อุปาเยนาติ ปเถน าเยน. พฺยติเรกโต ปนสฺส อนุปายํ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อตฺตานเมว วา สนฺธาย ‘‘มา ตถาคตํ วิเหเสสี’’ติ อาห. ยถา หิ อริยสงฺโฆ ‘‘ตถาคตํ เทวมนุสฺสปูชิตํ, สงฺฆํ นมสฺสาม สุวตฺถิ โหตู’’ติอาทีสุ (ขุ. ปา. ๖.๑๘; สุ. นิ. ๒๔๑) ตถาคโตติ วุจฺจติ, เอวํ ตปฺปริยาปนฺนา อริยปุคฺคลา, ยถา จ ปุริมกา ทุติยอคฺคสาวกา กปฺปานํ สตสหสฺสาธิกํ เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ ปารมิโย ปูเรตฺวา อาคตา, อยมฺปิ มหาเถโร ตถา อาคโตติ ตถาคโตติ. ปติอคฺคเฬว อฏฺาสีติ อคฺคฬสฺส พหิภาเค อฏฺาสิ.

๕๐๗. รุกฺขเทวตา นาม จาตุมหาราชิเกสุ นิหีโน กาโย, ตสฺมา เนสํ มนุสฺสคนฺโธ ปริจิตตฺตา นาติเชคุจฺโฉติ อาห ‘‘อากาสฏฺเทวตาน’’นฺติ. อาพาธํ กโรตีติ ทุกฺขํ ชเนติ. นาคริโกติ สุกุมาโร. ปริโจกฺโขติ สพฺพโส สุจิรูโป. าติโกฏินฺติ าติภาคํ. อนาทิมติ หิ สํสาเร าติภาครหิโต นาม สตฺโต กสฺสจิปิ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. อิทนฺติ ‘‘โส เม ตฺวํ ภาคิเนยฺโย โหสี’’ติ อิทํ วจนํ. ปเวณิวเสนาติ ตทา มยฺหํ ภาคิเนยฺโย หุตฺวา อิทานิ มารฏฺาเน ิโตติ อิมิสฺสา ปเวณิยา วเสน วุตฺตํ. อฺสฺส วา เวสมํ ธุโร วิธุโร. เตนาห ‘‘อฺเหิ สทฺธึ อสทิโส’’ติ. อปฺปทุกฺเขนาติ สุเขเนว. ปนฺถานํ อวนฺติ คจฺฉนฺตีติ ปถาวิโน. เอตฺตเกนาติ เอตฺตาวตา จิตกสนฺนิสเยน. อุทกเลณนฺติ อุทกนิสฺสนฺทนเลณํ. สมาปตฺติโตติ นิโรธสมาปตฺติโต. สมาปตฺติผลนฺติ นิโรธสมาปตฺติผลํ.

๕๐๘. ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหีติ ทสหิปิ อกฺโกสวตฺถูหิ, ตโต กิฺจิ อหาเปนฺตา. ปริภาสถาติ ครหถ. ฆฏฺเฏถาติ อนูนาหิ กถาหิ อิเมสุ โอวิชฺฌถ. ทุกฺขาเปถาติ จิตฺเต ทุกฺขํ ชเนถ. เอเตสนฺติ เตสํ ภิกฺขูนํ ตุมฺหากํ อกฺโกสนาทีหิ ภิกฺขูนํ กิเลสุปฺปตฺติยา. เตเนตฺถ ทูสี มาโร โอตารํ ลภติ นามาติ อธิปฺปาโย. อุปฏฺาตพฺพํ อิภํ อรหนฺตีติ อิพฺภา, หตฺถิภณฺฑกา, หีนชีวิกตาย เหเต อิพฺภา วิยาติ อิพฺภา, เต ปน สทุติยกวเสน ‘‘คหปติกา’’ติ วุตฺตา. กณฺหาติ กณฺหาภิชาติกา. ปาทโต ชาตตฺตา ปาทานํ อปจฺจา. อาลสิยชาตาติ กสิวณิชฺชาทิกมฺมสฺส อกรเณน สฺชาตาลสิยา. คูถนิทฺธมนปนาฬีติ วจฺจกูปโต คูถสฺส นิกฺขมปเทโส.

มนุสฺสานํ อกุสลํ น ภเวยฺย เตสํ ตาทิสาย อภิสนฺธิยา อภาวโต. อาเวสกสฺส อานุภาเวน อาวิฏฺสฺส จิตฺตสนฺตติ วิปริวตฺตตีติ วุตฺโตวายมตฺโถ. วิสภาควตฺถุนฺติ ภิกฺขูนํ สนฺติเก อิตฺถิรูปํ, ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปุริสรูปนฺติ อีทิสํ, อฺํ วา ปพฺพชิตานํ อสารุปฺปํ วิสภาควตฺถุํ. วิปฺปฏิสารารมฺมณนฺติ ปสฺสนฺตานํ วิปฺปฏิสารสฺส ปจฺจยํ. เลปยฏฺินฺติ เลปลิตฺตํ วากุรยฏฺึ.

๕๑๐. โสมนสฺสวเสนาติ เคหสฺสิตโสมนสฺสวเสน. อฺถตฺตนฺติ อุปฺปิลาวิตตฺตํ. ปุริมนเยเนวาติ ‘‘สเจ มาโร มนุสฺสานํ สรีเร อธิมุจฺจิตฺวา’’ติอาทินา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน. ยทิ มาโรว ตถา กเรยฺย, มนุสฺสานํ กุสลํ น ภเวยฺย, มารสฺเสว ภเวยฺย, สรีเร ปน อนธิมุจฺจิตฺวา ตาทิสํ ปสาทนียํ ปสาทวตฺถุํ ทสฺเสสิ. เตนาห ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ.

๕๑๑. อสุภสฺาปริจิเตนาติ สกลํ กายํ อสุภนฺติ ปวตฺตาย สฺาย สหคตชฺฌานํ อสุภสฺา, เตน ปริจิเตน ปริภาวิเตน. เจตสา จิตฺเตน. พหุลนฺติ อภิณฺหํ. วิหรโตติ วิหรนฺตสฺส, อสุภสมาปตฺติพหุลสฺสาติ อตฺโถ. ปติลียตีติ สงฺกุจติ ตตฺถ ปฏิกูลตาย สณฺิตตฺตา. ปติกุฏตีติ อปสกฺกติ. ปติวตฺตตีติ นิวตฺตติ. ตโต เอว น สมฺปสาริยติ. รสตณฺหายาติ มธุราทิรสวิสยาย ตณฺหาย.

สพฺพโลเก อนภิรติสฺาติ ตีสุปิ ภเวสุ อรุจฺจนวเสน ปวตฺตา วิปสฺสนาภาวนา. นิพฺพิทานุปสฺสนา เหสา. โลกจิตฺเรสูติ หตฺถิอสฺสรถปาสาทกูฏาคาราทิเภเทสุ เจว อารามรามเณยฺยกาทิเภเทสุ จ โลเก จิตฺตวิจิตฺเตสุ. ราคสนฺตานิ วูปสนฺตราคานิ. โทสโมหสนฺตานีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อิเมสํ เอวํ กมฺมฏฺานคฺคหณํ สพฺเพสํ สปฺปายภาวโต.

๕๑๒. สกฺขรํคเหตฺวาติ สกฺขราสีเสน ตตฺตกํ ภินฺนปาสาณมุฏฺินฺติ อาห ‘‘อนฺโตมุฏฺิยํ ติฏฺนปมาณํ ปาสาณ’’นฺติ. มุฏฺิปริยาปนฺนนฺติ อตฺโถ. อยฺหิ ปาสาณสฺส เหฏฺิมโกฏิ. หตฺถินาโคติ มหาหตฺถี. มหนฺตปริยาโย นาค-สทฺโทติ เกจิ. อหินาคาทิโต วา วิเสสนตฺถํ หตฺถินาโคติ วุตฺตํ. สกลสรีเรเนว นิวตฺติตฺวา อปโลเกสีติ วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. น วายนฺติ เอตฺถ วา-สทฺโท อวธารณตฺโถติ อาห ‘‘เนว ปมาณํ อฺาสี’’ติ. สหาปโลกนายาติ จ วจนโตติ อิมินา วจเนน อิมํ วจนมตฺตํ คเหตฺวาติ อธิปฺปาโย. อุฬาเรติ อุฬารคุเณ. ภควนฺตฺหิ เปตฺวา นตฺถิ ตทา สเทวเก โลเก ตาทิโส คุณวิเสสยุตฺโตติ.

วิสุํ วิสุํ ปจฺจตฺตเวทนิโย อยสูเลน สทฺธึ ภูตานิ ฉ ผสฺสายตนานิ เอตสฺสาติ ฉ ผสฺสายตนํ, ทุกฺขํ. ตํ เอตฺถ อตฺถีติ ฉ ผสฺสายตนิโก, นิรโย. เตนาห ‘‘ฉสุ ผสฺสา…เป… ปจฺจโย’’ติ. สมาหนตีติ สมาหโต, อเนกสตเภโท สงฺกุสมาหโต เอตฺถ อตฺถีติ สงฺกุสมาหโต, นิรโย. วิเสสปจฺจยตาย เวทนาย ิโตติ เวทนิโย, การณาการเกน วินา ปจฺจตฺตํ สยเมว เวทนิโยติ ปจฺจตฺตเวทนิโย. อยสูเลน สทฺธึ อยสูลนฺติ ปาทปเทสโต ปฏฺาย นิรนฺตรํ อภิหนนวเสน อาคเตน ปณฺณาสาย ชเนหิ คหิเตน อยสูเลน สห สีสปเทสโต ปฏฺาย อาคตํ. อยสูลภาวสามฺเน เจตํ เอกวจนํ, สตมตฺตานิ ปติตานิ สูลานิ. อิมินา เต าเนน จินฺเตตฺวาติ นิสฺสิตโวหาเรน นิสฺสยํ วทติ. เอวํ วุตฺตนฺติ ‘‘ตทา ชาเนยฺยาสิ วสฺสสหสฺสํ เม นิรเย ปจฺจมานสฺสา’’ติ เอวํ วุตฺตํ. วุฏฺานิมนฺติ วุฏฺาเน ภวํ, อนฺติมนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘วิปากวุฏฺานเวทน’’นฺติ, วิปากสฺส ปริโยสานํ เวทนนฺติ อตฺโถ. ทุกฺขตรา โหติ ปทีปสฺส วิชฺฌายนกฺขเณ มหนฺตภาโว วิย.

๕๑๓. ฆฏฺฏยิตฺวา โปเถตฺวา. ปาฏิเยกฺกเวทนาชนกาติ ปจฺเจกํ มหาทุกฺขสมุปฺปาทกา. อยโต อปคโต นิรโย, โส เทวทูตสุตฺเตน (ม. นิ. ๓.๒๖๑) ทีเปตพฺโพ. อตฺถวณฺณนา ปนสฺส ปรโต สยเมว อาคมิสฺสติ. อิมํ ปน อตีตวตฺถุํ อาหริตฺวา อตฺตโน าณานุภาวทีปนมุเขน มารํ สนฺตชฺเชนฺโต มหาเถโร ‘‘โยเอตมภิชานาตี’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – โย มหาภิฺโ เอตํ กมฺมํ กมฺมผลฺจ หตฺถตเล ปิตํ อามลกํ วิย อภิมุขํ กตฺวา ปจฺจกฺขโต ชานาติ. สพฺพโส ภินฺนกิเลสตาย ภิกฺขุ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อคฺคสาวโก, ตาทิสํ อุฬารคุณํ อาสชฺช ฆฏฺฏยิตฺวา เอกนฺตกาฬเกหิ ปาปธมฺเมหิ สมนฺนาคตตฺตา กณฺห มาร อายตึ มหาทุกฺขํ วินฺทิสฺสสิ.

อุทกํ วตฺถุํ กตฺวาติ ตตฺถ นิพฺพตฺตนกสตฺตานํ สาธารณกมฺมผเลน มหาสมุทฺทอุทกเมว อธิฏฺานํ กตฺวา. ตถา หิ ตานิ กปฺปฏฺิติกานิ โหนฺติ. เตนาห ‘‘กปฺปฏฺายิโน’’ติ. เตสนฺติ วิมานานํ. เอตํ ยถาวุตฺตวิมานวตฺถุํ ตาสํ อจฺฉรานํ สมฺปตฺตึ, ตสฺส จ การณํ อตฺตปจฺจกฺขํ กตฺวา ชานาติ. ปาทงฺคุฏฺเน กมฺปยีติ ปุพฺพาราเม วิสาขาย มหาอุปาสิกาย การิตํ สหสฺสคพฺภปฏิมณฺฑิตมหาปาสาทํ อตฺตโน ปาทงฺคุฏฺเน กมฺเปสิ. เตนาห ‘‘อิทํ ปาสาทกมฺปนสุตฺเตน ทีเปตพฺพ’’นฺติ. อิทนฺติ ‘‘โย เวชยนฺต’’นฺติ อิมิสฺสา คาถาย อตฺถชาตํ จูฬตณฺหาสงฺขยวิมุตฺติสุตฺเตเนว (ม. นิ. ๑.๓๙๓) ทีเปตพฺพํ.

ตสฺส พฺรหฺมคณสฺส ตถาจินฺตนสมนนฺตรเมว ตสฺมึ พฺรหฺมโลเก สุธมฺมํ พฺรหฺมสภํ คนฺตฺวา. เตปีติ มหาโมคฺคลฺลานาทโย. ปจฺเจกํ ทิสาสูติ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร ปุรตฺถิมทิสายํ, มหากสฺสปตฺเถโร ทกฺขิณทิสายํ, มหากปฺปินตฺเถโร ปจฺฉิมทิสายํ, อนุรุทฺธตฺเถโร อุตฺตรทิสายนฺติ เอวํ จตฺตาโร เถรา พฺรหฺมปริสมตฺถเก มชฺเฌ นิสินฺนสฺส ภควโต สมนฺตโต จตุทฺทิสา นิสีทึสุ. คาถา วุตฺตาติ ‘‘โย พฺรหฺมํ ปริปุจฺฉตี’’ติ คาถา วุตฺตา. อฺตรพฺรหฺมสุตฺเตนาติ – ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส พฺรหฺมุโน เอวรูปํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๑.๑๗๖) มหาวคฺเค อาคเตน อฺตรพฺรหฺมสุตฺเตน.

ฌานวิโมกฺเขน ผุสีติ ฌานวิโมกฺขสนฺนิสฺสเยน อภิฺาาเณน ผสฺสยิ. วนนฺติ ชมฺพุทีปํ อผสฺสยีติ สมฺพนฺโธ. ชมฺพุทีโป หิ วนพหุลตาย อิธ ‘‘วน’’นฺติ วุตฺโต. เตนาห ‘‘ชมฺพุสณฺฑสฺส อิสฺสโร’’ติ. ปุพฺพวิเทหานํ ทีปนฺติ ปุพฺพวิเทหวาสีนํ ทีปํ, ปุพฺพวิเทหทีปนฺติ อตฺโถ. ภูมิสยา นรา นาม อปรโคยานกา อุตฺตรกุรุกา จ. ยสฺมา เต เคหปริคฺคหาภาวโต ภูมิยํเยว สยนฺติ, น ปาสาทาทีสุ. ปฏิลภีติ อุปฺปาเทสิ. เอตํ อาสํ มา อกาสีติ เอสา ยถา ปุพฺเพ ทูสิมารสฺส, เอวํ ตุยฺหํ อาสา ทีฆรตฺตํ อนตฺถาวหา, ตสฺมา เอทิสํ อาสํ มา อกาสีติ มารสฺส โอวาทํ อทาสิ. เสสํ สพฺพตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

มารตชฺชนียสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

นิฏฺิตา จ จูฬยมกวคฺควณฺณนา.

มูลปณฺณาสฏีกา สมตฺตา.

ทุติโย ภาโค นิฏฺิโต.