📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

มชฺฌิมนิกาเย

มชฺฌิมปณฺณาส-อฏฺกถา

๑. คหปติวคฺโค

๑. กนฺทรกสุตฺตวณฺณนา

. เอวํเม สุตนฺติ กนฺทรกสุตฺตํ. ตตฺถ จมฺปายนฺติ เอวํนามเก นคเร. ตสฺส หิ นครสฺส อารามโปกฺขรณีอาทีสุ เตสุ เตสุ าเนสุ จมฺปกรุกฺขาว อุสฺสนฺนา อเหสุํ, ตสฺมา จมฺปาติ สงฺขมคมาสิ. คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเรติ ตสฺส จมฺปานครสฺส อวิทูเร คคฺคราย นาม ราชมเหสิยา ขณิตตฺตา คคฺคราติ ลทฺธโวหารา โปกฺขรณี อตฺถิ. ตสฺสา ตีเร สมนฺตโต นีลาทิปฺจวณฺณกุสุมปฏิมณฺฑิตํ มหนฺตํ จมฺปกวนํ. ตสฺมึ ภควา กุสุมคนฺธสุคนฺเธ จมฺปกวเน วิหรติ. ตํ สนฺธาย ‘‘คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร’’ติ วุตฺตํ. มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธินฺติ อทสฺสิตปริจฺเฉเทน มหนฺเตน ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ. เปสฺโสติ ตสฺส นามํ. หตฺถาโรหปุตฺโตติ หตฺถาจริยสฺส ปุตฺโต. กนฺทรโกจ ปริพฺพาชโกติ กนฺทรโกติ เอวํนาโม ฉนฺนปริพฺพาชโก. อภิวาเทตฺวาติ ฉพฺพณฺณานํ ฆนพุทฺธรสฺมีนํ อนฺตรํ ปวิสิตฺวา ปสนฺนลาขารเส นิมุชฺชมาโน วิย, สิงฺคีสุวณฺณวณฺณํ ทุสฺสวรํ ปสาเรตฺวา สสีสํ ปารุปมาโน วิย, วณฺณคนฺธสมฺปนฺนจมฺปกปุปฺผานิ สิรสา สมฺปฏิจฺฉนฺโต วิย, สิเนรุปาทํ อุปคจฺฉนฺโต ปุณฺณจนฺโท วิย ภควโต จกฺกลกฺขณปฏิมณฺฑิเต อลตฺตกวณฺณผุลฺลปทุมสสฺสิริเก ปาเท วนฺทิตฺวาติ อตฺโถ. เอกมนฺตํ นิสีทีติ ฉนิสชฺชโทสวิรหิเต เอกสฺมึ โอกาเส นิสีทิ.

ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตนฺติ ยโต ยโต อนุวิโลเกติ, ตโต ตโต ตุณฺหีภูตเมวาติ อตฺโถ. ตตฺถ หิ เอกภิกฺขุสฺสาปิ หตฺถกุกฺกุจฺจํ วา ปาทกุกฺกุจฺจํ วา นตฺถิ, สพฺเพ ภควโต เจว คารเวน อตฺตโน จ สิกฺขิตสิกฺขตาย อฺมฺํ วิคตสลฺลาปา อนฺตมโส อุกฺกาสิตสทฺทมฺปิ อกโรนฺตา สุนิขาตอินฺทขีลา วิย นิวาตฏฺาเน สนฺนิสินฺนํ มหาสมุทฺทอุทกํ วิย กาเยนปิ นิจฺจลา มนสาปิ อวิกฺขิตฺตา รตฺตวลาหกา วิย สิเนรุกูฏํ ภควนฺตํ ปริวาเรตฺวา นิสีทึสุ. ปริพฺพาชกสฺส เอวํ สนฺนิสินฺนํ ปริสํ ทิสฺวา มหนฺตํ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชิ. อุปฺปนฺนํ ปน อนฺโตหทยสฺมึเยว สนฺนิทหิตุํ อสกฺโกนฺโต ปิยสมุทาหารํ สมุฏฺาเปสิ. ตสฺมา อจฺฉริยํ โภติอาทิมาห.

ตตฺถ อนฺธสฺส ปพฺพตาโรหนํ วิย นิจฺจํ น โหตีติ อจฺฉริยํ. อยํ ตาว สทฺทนโย. อยํ ปน อฏฺกถานโย , อจฺฉราโยคฺคนฺติ อจฺฉริยํ. อจฺฉรํ ปหริตุํ ยุตฺตนฺติ อตฺโถ. อภูตปุพฺพํ ภูตนฺติ อพฺภุตํ. อุภยมฺเปตํ วิมฺหยสฺเสวาธิวจนํ. ตํ ปเนตํ ครหอจฺฉริยํ, ปสํสาอจฺฉริยนฺติ ทุวิธํ โหติ. ตตฺถ อจฺฉริยํ โมคฺคลฺลาน อพฺภุตํ โมคฺคลฺลาน, ยาว พาหาคหณาปิ นาม โส โมฆปุริโส อาคเมสฺสตีติ (จูฬว. ๓๘๓; อ. นิ. ๘.๒๐), อิทํ ครหอจฺฉริยํ นาม. ‘‘อจฺฉริยํ นนฺทมาเต อพฺภุตํ นนฺทมาเต, ยตฺร หิ นาม จิตฺตุปฺปาทมฺปิ ปริโสเธสฺสสีติ (อ. นิ. ๗.๕๓) อิทํ ปสํสาอจฺฉริยํ นาม. อิธาปิ อิทเมว อธิปฺเปตํ’’ อยฺหิ ตํ ปสํสนฺโต เอวมาห.

ยาวฺจิทนฺติ เอตฺถ อิทนฺติ นิปาตมตฺตํ. ยาวาติ ปมาณปริจฺเฉโท, ยาว สมฺมา ปฏิปาทิโต, ยตฺตเกน ปมาเณน สมฺมา ปฏิปาทิโต, น สกฺกา ตสฺส วณฺเณ วตฺตุํ, อถ โข อจฺฉริยเมเวตํ อพฺภุตเมเวตนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตปรมํเยวาติ เอวํ สมฺมา ปฏิปาทิโต เอโส ภิกฺขุสงฺโฆ ตสฺสาปิ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปรโมติ เอตปรโม, ตํ เอตปรมํ ยถา อยํ ปฏิปาทิโต, เอวํ ปฏิปาทิตํ กตฺวา ปฏิปาเทสุํ, น อิโต ภิยฺโยติ อตฺโถ. ทุติยนเย เอวํ ปฏิปาเทสฺสนฺติ, น อิโต ภิยฺโยติ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ ปฏิปาทิโตติ อาภิสมาจาริกวตฺตํ อาทึ กตฺวา สมฺมา อปจฺจนีกปฏิปตฺติยํ โยชิโต. อถ กสฺมา อยํ ปริพฺพาชโก อตีตานาคเต พุทฺเธ ทสฺเสติ, กิมสฺส ติยทฺธชานนาณํ อตฺถีติ. นตฺถิ, นยคฺคาเห ปน ตฺวา ‘‘เยนากาเรน อยํ ภิกฺขุสงฺโฆ สนฺนิสินฺโน ทนฺโต วินีโต อุปสนฺโต, อตีตพุทฺธาปิ เอตปรมํเยว กตฺวา ปฏิปชฺชาเปสุํ, อนาคตพุทฺธาปิ ปฏิปชฺชาเปสฺสนฺติ, นตฺถิ อิโต อุตฺตริ ปฏิปาทนา’’ติ มฺมาโน อนุพุทฺธิยา เอวมาห.

. เอวเมตํ กนฺทรกาติ ปาฏิเอกฺโก อนุสนฺธิ. ภควา กิร ตํ สุตฺวา ‘‘กนฺทรก ตฺวํ ภิกฺขุสงฺฆํ อุปสนฺโตติ วทสิ, อิมสฺส ปน ภิกฺขุสงฺฆสฺส อุปสนฺตการณํ ตุยฺหํ อปากฏํ, น หิ ตฺวํ สมตึส ปารมิยา ปูเรตฺวา กุสลมูลํ ปริปาเจตฺวา โพธิปลฺลงฺเก สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌิ, มยา ปน ปารมิโย ปูเรตฺวา าตตฺถจริยํ โลกตฺถจริยํ พุทฺธตฺถจริยฺจ โกฏึ ปาเปตฺวา โพธิปลฺลงฺเก สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิทฺธํ, มยฺหํ เอเตสํ อุปสนฺตการณํ ปากฏ’’นฺติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ.

สนฺติ หิ กนฺทรกาติ อยมฺปิ ปาฏิเอกฺโก อนุสนฺธิ. ภควโต กิร เอตทโหสิ – ‘‘อยํ ปริพฺพาชโก อิมํ ภิกฺขุสงฺฆํ อุปสนฺโตติ วทติ, อยฺจ ภิกฺขุสงฺโฆ กปฺเปตฺวา ปกปฺเปตฺวา กุหกภาเวน อิริยาปถํ สณฺเปนฺโต จิตฺเตน อนุปสนฺโต น อุปสนฺตาการํ ทสฺเสติ. เอตฺถ ปน ภิกฺขุสงฺเฆ ปฏิปทํ ปูรยมานาปิ ปฏิปทํ ปูเรตฺวา มตฺถกํ ปตฺวา ิตภิกฺขูปิ อตฺถิ, ตตฺถ ปฏิปทํ ปูเรตฺวา มตฺถกํ ปตฺตา อตฺตนา ปฏิวิทฺธคุเณเหว อุปสนฺตา, ปฏิปทํ ปูรยมานา อุปริมคฺคสฺส วิปสฺสนาย อุปสนฺตา, อิโต มุตฺตา ปน อวเสสา จตูหิ สติปฏฺาเนหิ อุปสนฺตา. ตํ เนสํ อุปสนฺตการณํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ ‘‘อิมินา จ อิมินา จ การเณน อยํ ภิกฺขุสงฺโฆ อุปสนฺโต’’ติ ทสฺเสตุํ ‘‘สนฺติ หิ กนฺทรกา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ อรหนฺโต ขีณาสวาติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ มูลปริยายสุตฺตวณฺณนายเมว วุตฺตํ. เสขปฏิปทมฺปิ ตตฺเถว วิตฺถาริตํ. สนฺตตสีลาติ สตตสีลา นิรนฺตรสีลา. สนฺตตวุตฺติโนติ ตสฺเสว เววจนํ, สนฺตตชีวิกา วาติปิ อตฺโถ. ตสฺมึ สนฺตตสีเล ตฺวาว ชีวิกํ กปฺเปนฺติ, น ทุสฺสีลฺยํ มรณํ ปาปุณนฺตีติ อตฺโถ.

นิปกาติ เนปกฺเกน สมนฺนาคตา ปฺวนฺโต. นิปกวุตฺติโนติ ปฺาย วุตฺติโน, ปฺาย ตฺวา ชีวิกํ กปฺเปนฺติ. ยถา เอกจฺโจ สาสเน ปพฺพชิตฺวาปิ ชีวิตการณา ฉสุ อโคจเรสุ จรติ, เวสิยาโคจโร โหติ, วิธวถุลฺลกุมาริกปณฺฑกปานาคารภิกฺขุนิโคจโร โหติ. สํสฏฺโ วิหรติ ราชูหิ ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ติตฺถิยสาวเกหิ อนนุโลมิเกน คิหิสํสคฺเคน (วิภ. ๕๑๔), เวชฺชกมฺมํ กโรติ, ทูตกมฺมํ กโรติ, ปหิณกมฺมํ กโรติ, คณฺฑํ ผาเลติ, อรุมกฺขนํ เทติ, อุทฺธํวิเรจนํ เทติ, อโธวิเรจนํ เทติ, นตฺถุเตลํ ปจติ, ปิวนเตลํ ปจติ, เวฬุทานํ, ปตฺตทานํ, ปุปฺผทานํ, ผลทานํ, สินานทานํ, ทนฺตกฏฺทานํ, มุโขทกทานํ, จุณฺณมตฺติกทานํ เทติ, จาฏุกมฺยํ กโรติ, มุคฺคสูปิยํ, ปาริภฏุํ, ชงฺฆเปสนิยํ กโรตีติ เอกวีสติวิธาย อเนสนาย ชีวิกํ กปฺเปนฺโต อนิปกวุตฺติ นาม โหติ, น ปฺาย ตฺวา ชีวิกํ กปฺเปติ, ตโต กาลกิริยํ กตฺวา สมณยกฺโข นาม หุตฺวา ‘‘ตสฺส สงฺฆาฏิปิ อาทิตฺตา โหติ สมฺปชฺชลิตา’’ติ วุตฺตนเยน มหาทุกฺขํ อนุโภติ. เอวํวิธา อหุตฺวา ชีวิตเหตุปิ สิกฺขาปทํ อนติกฺกมนฺโต จตุปาริสุทฺธิสีเล ปติฏฺาย ยถาพลํ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา รถวินีตปฏิปทํ, มหาโคสิงฺคปฏิปทํ, มหาสุฺตปฏิปทํ, อนงฺคณปฏิปทํ, ธมฺมทายาทปฏิปทํ, นาลกปฏิปทํ, ตุวฏฺฏกปฏิปทํ, จนฺโทปมปฏิปทนฺติ อิมานิ อริยปฏิปทานิ ปูเรนฺโต จตุปจฺจย-สนฺโตส-ภาวนาราม-อริยวํสปฏิปตฺติยํ กายสกฺขิโน หุตฺวา อนีกา นิกฺขนฺตหตฺถี วิย ยูถา วิสฺสฏฺสีโห วิย นิปจฺฉาพนฺธมหานาวา วิย จ คมนาทีสุ เอกวิหาริโน วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อชฺชอชฺเชว อรหตฺตนฺติ ปวตฺตอุสฺสาหา วิหรนฺตีติ อตฺโถ.

สุปฺปติฏฺิตจิตฺตาติ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุฏฺปิตจิตฺตา หุตฺวา. เสสา สติปฏฺานกถา เหฏฺา วิตฺถาริตาว. อิธ ปน โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา สติปฏฺานา กถิตา, เอตฺตเกน ภิกฺขุสงฺฆสฺส อุปสนฺตการณํ กถิตํ โหติ.

. ยาว สุปฺตฺตาติ ยาว สุฏฺปิตา สุเทสิตา. มยมฺปิ หิ, ภนฺเตติ อิมินา เอส อตฺตโน การกภาวํ ทสฺเสติ, ภิกฺขุสงฺฆฺจ อุกฺขิปติ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย, มยมฺปิ หิ, ภนฺเต, คิหิ…เป… สุปฺปติฏฺิตจิตฺตา วิหราม, ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปน อยเมว กสิ จ พีชฺจ ยุคนงฺคลฺจ ผาลปาจนฺจ, ตสฺมา ภิกฺขุสงฺโฆ สพฺพกาลํ สติปฏฺานปรายโณ, มยํ ปน กาเลน กาลํ โอกาสํ ลภิตฺวา เอตํ มนสิการํ กโรม, มยมฺปิ การกา, น สพฺพโส วิสฺสฏฺกมฺมฏฺานาเยวาติ. มนุสฺสคหเนติ มนุสฺสานํ อชฺฌาสยคหเนน คหนตา, อชฺฌาสยสฺสาปิ เนสํ กิเลสคหเนน คหนตา เวทิตพฺพา. กสฏสาเยฺเยสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อปริสุทฺธฏฺเน กสฏตา, เกราฏิยฏฺเน สาเยฺยตา เวทิตพฺพา. สตฺตานํ หิตาหิตํ ชานาตีติ เอวํ คหนกสฏเกราฏิยานํ มนุสฺสานํ หิตาหิตปฏิปทํ ยาว สุฏฺุ ภควา ชานาติ. ยทิทํ ปสโวติ เอตฺถ สพฺพาปิ จตุปฺปทชาติ ปสโวติ อธิปฺเปตา. ปโหมีติ สกฺโกมิ. ยาวตเกน อนฺตเรนาติ ยตฺตเกน ขเณน. จมฺปํ คตาคตํ กริสฺสตีติ อสฺสมณฺฑลโต ยาว จมฺปานครทฺวารา คมนฺจ อาคมนฺจ กริสฺสติ. สาเยฺยานีติ สตฺตานิ. กูเฏยฺยานีติ กูฏตฺตานิ. วงฺเกยฺยานีติ วงฺกตฺตานิ. ชิมฺเหยฺยานีติ ชิมฺหตฺตานิ. ปาตุกริสฺสตีติ ปกาเสสฺสติ ทสฺเสสฺสติ. น หิ สกฺกา เตน ตานิ เอตฺตเกน อนฺตเรน ทสฺเสตุํ.

ตตฺถ ยสฺส กิสฺมิฺจิเทว าเน าตุกามสฺส สโต ยํ านํ มนุสฺสานํ สปฺปฏิภยํ, ปุรโต คนฺตฺวา วฺเจตฺวา สฺสามีติ น โหติ, ตสฺมึ าตุกามฏฺาเนเยว นิขาตตฺถมฺโภ วิย จตฺตาโร ปาเท นิจฺจเล กตฺวา ติฏฺติ, อยํ สโ นาม. ยสฺส ปน กิสฺมิฺจิเทว าเน อวจฺฉินฺทิตฺวา ขนฺธคตํ ปาเตตุกามสฺส สโต ยํ านํ มนุสฺสานํ สปฺปฏิภยํ, ปุรโต คนฺตฺวา วฺเจตฺวา ปาเตสฺสามีติ น โหติ, ตตฺเถว อวจฺฉินฺทิตฺวา ปาเตติ, อยํ กูโฏ นาม. ยสฺส กิสฺมิฺจิเทว าเน มคฺคา อุกฺกมฺม นิวตฺติตฺวา ปฏิมคฺคํ อาโรหิตุกามสฺส สโต ยํ านํ มนุสฺสานํ สปฺปฏิภยํ, ปุรโต คนฺตฺวา วฺเจตฺวา เอวํ กริสฺสามีติ น โหติ, ตตฺเถว มคฺคา อุกฺกมฺม นิวตฺติตฺวา ปฏิมคฺคํ อาโรหติ, อยํ วงฺโก นาม. ยสฺส ปน กาเลน วามโต กาเลน ทกฺขิณโต กาเลน อุชุมคฺเคเนว คนฺตุกามสฺส สโต ยํ านํ มนุสฺสานํ สปฺปฏิภยํ, ปุรโต คนฺตฺวา วฺเจตฺวา เอวํ กริสฺสามีติ น โหติ, ตตฺเถว กาเลน วามโต กาเลน ทกฺขิณโต กาเลน อุชุมคฺคํ คจฺฉติ, ตถา ลณฺฑํ วา ปสฺสาวํ วา วิสฺสชฺเชตุกามสฺส สโต อิทํ านํ สุสมฺมฏฺํ อากิณฺณมนุสฺสํ รมณียํ, อิมสฺมึ าเน เอวรูปํ กาตุํ น ยุตฺตํ, ปุรโต คนฺตฺวา ปฏิจฺฉนฺนาเน กริสฺสามีติ น โหติ, ตตฺเถว กโรติ, อยํ ชิมฺโห นาม. อิติ อิมํ จตุพฺพิธมฺปิ กิริยํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. สพฺพานิ ตานิ สาเยฺยานิ กูเฏยฺยานิ วงฺเกยฺยานิ ชิมฺเหยฺยานิ ปาตุกริสฺสตีติ เอวํ กโรนฺตาปิ เต สาทโย ตานิ สาเยฺยาทีนิ ปาตุกโรนฺติ นาม.

เอวํ ปสูนํ อุตฺตานภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ มนุสฺสานํ คหนภาวํ ทสฺเสนฺโต อมฺหากํ ปน, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ ทาสาติ อนฺโตชาตกา วา ธนกฺกีตา วา กรมรานีตา วา สยํ วา ทาสพฺยํ อุปคตา. เปสฺสาติ เปสนการกา. กมฺมกราติ ภตฺตเวตนภตา. อฺถาว กาเยนาติ อฺเเนวากาเรน กาเยน สมุทาจรนฺติ, อฺเเนวากาเรน วาจาย, อฺเน จ เนสํ อากาเรน จิตฺตํ ิตํ โหตีติ ทสฺเสติ. ตตฺถ เย สมฺมุขา สามิเก ทิสฺวา ปจฺจุคฺคมนํ กโรนฺติ, หตฺถโต ภณฺฑกํ คณฺหนฺติ, อิมํ วิสฺสชฺเชตฺวา อิมํ คณฺหนฺตา เสสานิปิ อาสน-ปฺาปน-ตาลวณฺฏพีชน-ปาทโธวนาทีนิ สพฺพานิ กิจฺจานิ กโรนฺติ, ปรมฺมุขกาเล ปน เตลมฺปิ อุตฺตรนฺตํ น โอโลเกนฺติ, สตคฺฆนเกปิ สหสฺสคฺฆนเกปิ กมฺเม ปริหายนฺเต นิวตฺติตฺวา โอโลเกตุมฺปิ น อิจฺฉนฺติ, อิเม อฺถา กาเยน สมุทาจรนฺติ นาม. เย ปน สมฺมุขา ‘‘อมฺหากํ สามิ อมฺหากํ อยฺโย’’ติอาทีนิ วตฺวา ปสํสนฺติ, ปรมฺมุขา อวตฺตพฺพํ นาม นตฺถิ, ยํ อิจฺฉนฺติ, ตํ วทนฺติ, อิเม อฺถา วาจาย สมุทาจรนฺติ นาม.

. จตฺตาโรเม เปสฺสปุคฺคลาติ อยมฺปิ ปาฏิเอกฺโก อนุสนฺธิ. อยฺหิ เปสฺโส ‘‘ยาวฺจิทํ, ภนฺเต, ภควา เอวํ มนุสฺสคหเณ เอวํ มนุสฺสกสเฏ เอวํ มนุสฺสสาเยฺเย วตฺตมาเน สตฺตานํ หิตาหิตํ ชานาตี’’ติ อาห. ปุริเม จ ตโย ปุคฺคลา อหิตปฏิปทํ ปฏิปนฺนา, อุปริ จตุตฺโถ หิตปฏิปทํ, เอวมหํ สตฺตานํ หิตาหิตํ ชานามีติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. เหฏฺา กนฺทรกสฺส กถาย สทฺธึ โยเชตุมฺปิ วฏฺฏติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยาวฺจิทํ โภตา โคตเมน สมฺมา ภิกฺขุสงฺโฆ ปฏิปาทิโต’’ติ. อถสฺส ภควา ‘‘ปุริเม ตโย ปุคฺคเล ปหาย อุปริ จตุตฺถปุคฺคลสฺส หิตปฏิปตฺติยํเยว ปฏิปาเทมี’’ติ ทสฺเสนฺโตปิ อิมํ เทสนํ อารภิ. สนฺโตติ อิทํ สํวิชฺชมานาติ ปทสฺเสว เววจนํ. ‘‘สนฺตา โหนฺติ สมิตา วูปสนฺตา’’ติ (วิภ. ๕๔๒) เอตฺถ หิ นิรุทฺธา สนฺตาติ วุตฺตา. ‘‘สนฺตา เอเต วิหารา อริยสฺส วินเย วุจฺจนฺตี’’ติ เอตฺถ (ม. นิ. ๑.๘๒) นิพฺพุตา. ‘‘สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺตี’’ติ เอตฺถ (ชา. ๒.๒๑.๔๑๓) ปณฺฑิตา. อิธ ปน วิชฺชมานา อุปลพฺภมานาติ อตฺโถ.

อตฺตนฺตปาทีสุ อตฺตานํ ตปติ ทุกฺขาเปตีติ อตฺตนฺตโป. อตฺตโน ปริตาปนานุโยคํ อตฺตปริตาปนานุโยคํ. ปรํ ตปติ ทุกฺขาเปตีติ ปรนฺตโป. ปเรสํ ปริตาปนานุโยคํ ปรปริตาปนานุโยคํ. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว. นิจฺฉาโตติ ฉาตํ วุจฺจติ ตณฺหา, สา อสฺส นตฺถีติ นิจฺฉาโต. สพฺพกิเลสานํ นิพฺพุตตฺตา นิพฺพุโต. อนฺโต ตาปนกิเลสานํ อภาวา สีตโล ชาโตติ สีติภูโต. ฌานมคฺคผลนิพฺพานสุขานิ ปฏิสํเวเทตีติ สุขปฏิสํเวที. พฺรหฺมภูเตน อตฺตนาติ เสฏฺภูเตน อตฺตนา. จิตฺตํ อาราเธตีติ จิตฺตํ สมฺปาเทติ, ปริปูเรติ คณฺหาติ ปสาเทตีติ อตฺโถ.

. ทุกฺขปฏิกฺกูลนฺติ ทุกฺขสฺส ปฏิกูลํ, ปจฺจนีกสณฺิตํ ทุกฺขํ อปตฺถยมานนฺติ อตฺโถ.

. ปณฺฑิโตติ อิธ จตูหิ การเณหิ ปณฺฑิโตติ น วตฺตพฺโพ, สติปฏฺาเนสุ ปน กมฺมํ กโรตีติ ปณฺฑิโตติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. มหาปฺโติ อิทมฺปิ มหนฺเต อตฺเถ ปริคฺคณฺหาตีติอาทินา มหาปฺลกฺขเณน น วตฺตพฺพํ, สติปฏฺานปริคฺคาหิกาย ปน ปฺาย สมนฺนาคตตฺตา มหาปฺโติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. มหตา อตฺเถน สํยุตฺโต อคมิสฺสาติ มหตา อตฺเถน สํยุตฺโต หุตฺวา คโต ภเวยฺย, โสตาปตฺติผลํ ปาปุเณยฺยาติ อตฺโถ. กึ ปน เยสํ มคฺคผลานํ อุปนิสฺสโย อตฺถิ, พุทฺธานํ สมฺมุขีภาเว ิเตปิ เตสํ อนฺตราโย โหตีติ. อาม โหติ, น ปน พุทฺเธ ปฏิจฺจ, อถ โข กิริยปริหานิยา วา ปาปมิตฺตตาย วา โหติ. ตตฺถ กิริยปริหานิยา โหติ นาม – สเจ หิ ธมฺมเสนาปติ ธนฺชานิสฺส พฺราหฺมณสฺส อาสยํ ตฺวา ธมฺมํ อเทสยิสฺสา, โส พฺราหฺมโณ โสตาปนฺโน อภวิสฺสา, เอวํ ตาว กิริยปริหานิยา โหติ. ปาปมิตฺตตาย โหติ นาม – สเจ หิ อชาตสตฺตุ เทวทตฺตสฺส วจนํ คเหตฺวา ปิตุฆาตกมฺมํ นากริสฺสา, สามฺผลสุตฺตกถิตทิวเสว โสตาปนฺโน อภวิสฺสา, ตสฺส วจนํ คเหตฺวา ปิตุฆาตกมฺมสฺส กตตฺตา ปน น โหติ, เอวํ ปาปมิตฺตตาย โหติ. อิมสฺสาปิ อุปาสกสฺส กิริยปริหานิ ชาตา, อปรินิฏฺิตาย เทสนาย อุฏฺหิตฺวา ปกฺกนฺโต. อปิจ, ภิกฺขเว, เอตฺตาวตาปิ เปสฺโสหตฺถาโรหปุตฺโต มหตา อตฺเถน สํยุตฺโตติ กตเรน มหนฺเตน อตฺเถน? ทฺวีหิ อานิสํเสหิ. โส กิร อุปาสโก สงฺเฆ จ ปสาทํ ปฏิลภิ, สติปฏฺานปริคฺคหณตฺถาย จสฺส อภินโว นโย อุทปาทิ. เตน วุตฺตํ ‘‘มหตา อตฺเถน สํยุตฺโต’’ติ. กนฺทรโก ปน สงฺเฆ ปสาทเมว ปฏิลภิ. เอตสฺส ภควา กาโลติ เอตสฺส ธมฺมกฺขานสฺส, จตุนฺนํ วา ปุคฺคลานํ วิภชนสฺส กาโล.

. โอรพฺภิกาทีสุ อุรพฺภา วุจฺจนฺติ เอฬกา, อุรพฺเภ หนตีติ โอรพฺภิโก. สูกริกาทีสุปิ เอเสว นโย. ลุทฺโทติ ทารุโณ กกฺขโฬ. มจฺฉฆาตโกติ มจฺฉพนฺธเกวฏฺโฏ. พนฺธนาคาริโกติ พนฺธนาคารโคปโก. กุรุรกมฺมนฺตาติ ทารุณกมฺมนฺตา.

. มุทฺธาวสิตฺโตติ ขตฺติยาภิเสเกน มุทฺธนิ อภิสิตฺโต. ปุรตฺถิเมน นครสฺสาติ นครโต ปุรตฺถิมทิสาย. สนฺถาคารนฺติ ยฺสาลํ. ขราชินํ นิวาเสตฺวาติ สขุรํ อชินจมฺมํ นิวาเสตฺวา. สปฺปิเตเลนาติ สปฺปินา จ เตเลน จ. เปตฺวา หิ สปฺปึ อวเสโส โย โกจิ สฺเนโห เตลนฺติ วุจฺจติ. กณฺฑูวมาโนติ นขานํ ฉินฺนตฺตา กณฺฑูวิตพฺพกาเล เตน กณฺฑูวมาโน. อนนฺตรหิตายาติ อสนฺถตาย. สรูปวจฺฉายาติ สทิสวจฺฉาย. สเจ คาวี เสตา โหติ, วจฺโฉปิ เสตโกว. สเจ คาวี กพรา วา รตฺตา วา, วจฺโฉปิ ตาทิโส วาติ เอวํ สรูปวจฺฉาย. โส เอวมาหาติ โส ราชา เอวํ วเทติ. วจฺฉตราติ ตรุณวจฺฉกภาวํ อติกฺกนฺตา พลววจฺฉา. วจฺฉตรีสุปิ เอเสว นโย. พริหิสตฺถายาติ ปริกฺเขปกรณตฺถาย เจว ยฺภูมิยํ อตฺถรณตฺถาย จ. เสสํ เหฏฺา ตตฺถ ตตฺถ วิตฺถาริตตฺตา อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

กนฺทรกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อฏฺกนาครสุตฺตวณฺณนา

๑๗. เอวํเม สุตนฺติ อฏฺกนาครสุตฺตํ. ตตฺถ เพลุวคามเกติ เวสาลิยา ทกฺขิณปสฺเส อวิทูเร เพลุวคามโก นาม อตฺถิ, ตํ โคจรคามํ กตฺวาติ อตฺโถ. ทสโมติ โส หิ ชาติโคตฺตวเสน เจว สารปฺปตฺตกุลคณนาย จ ทสเม าเน คณียติ, เตนสฺส ทสโมตฺเวว นามํ ชาตํ. อฏฺกนาคโรติ อฏฺกนครวาสี. กุกฺกุฏาราโมติ กุกฺกุฏเสฏฺินา การิโต อาราโม.

๑๘. เตน ภควตา…เป… อกฺขาโตติ เอตฺถ อยํ สงฺเขปตฺโถ, โย โส ภควา สมตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพกิเลเส ภฺชิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, เตน ภควตา, เตสํ เตสํ สตฺตานํ อาสยานุสยํ ชานตา, หตฺถตเล ปิตอามลกํ วิย สพฺพํ เยฺยธมฺมํ ปสฺสตา. อปิจ ปุพฺเพนิวาสาทีหิ ชานตา, ทิพฺเพน จกฺขุนา ปสฺสตา, ตีหิ วิชฺชาหิ ฉหิ วา ปน อภิฺาหิ ชานตา, สพฺพตฺถ อปฺปฏิหเตน สมนฺตจกฺขุนา ปสฺสตา, สพฺพธมฺมชานนสมตฺถาย ปฺาย ชานตา, สพฺพสตฺตานํ จกฺขุวิสยาตีตานิ ติโรกุฏฺฏาทิคตานิปิ รูปานิ อติวิสุทฺเธน มํสจกฺขุนา ปสฺสตา, อตฺตหิตสาธิกาย สมาธิปทฏฺานาย ปฏิเวธปฺาย ชานตา, ปรหิตสาธิกาย กรุณาปทฏฺานาย เทสนาปฺาย ปสฺสตา, อรีนํ หตตฺตา ปจฺจยาทีนฺจ อรหตฺตา อรหตา, สมฺมา สามฺจ สจฺจานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน. อนฺตรายิกธมฺเม วา ชานตา, นิยฺยานิกธมฺเม ปสฺสตา, กิเลสารีนํ หตตฺตา อรหตา, สามํ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺเธนาติ เอวํ จตุเวสารชฺชวเสน จตูหิ การเณหิ โถมิเตน. อตฺถิ นุ โข เอโก ธมฺโม อกฺขาโตติ.

๑๙. อภิสงฺขตนฺติ กตํ อุปฺปาทิตํ. อภิสฺเจตยิตนฺติ เจตยิตํ ปกปฺปิตํ. โส ตตฺถ ิโตติ โส ตสฺมึ สมถวิปสฺสนาธมฺเม ิโต. ธมฺมราเคน ธมฺมนนฺทิยาติ ปททฺวเยหิ สมถวิปสฺสนาสุ ฉนฺทราโค วุตฺโต. สมถวิปสฺสนาสุ หิ สพฺเพน สพฺพํ ฉนฺทราคํ ปริยาทิยิตุํ สกฺโกนฺโต อรหา โหติ, อสกฺโกนฺโต อนาคามี โหติ. โส สมถวิปสฺสนาสุ ฉนฺทราคสฺส อปฺปหีนตฺตา จตุตฺถชฺฌานเจตนาย สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺตติ, อยํ อาจริยานํ สมานกถา.

วิตณฺฑวาที ปนาห ‘‘เตเนว ธมฺมราเคนาติ วจนโต อกุสเลน สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺตตี’’ติ โส ‘‘สุตฺตํ อาหรา’’ติ วตฺตพฺโพ, อทฺธา อฺํ อปสฺสนฺโต อิทเมว อาหริสฺสติ, ตโต วตฺตพฺโพ ‘‘กึ ปนิทํ สุตฺตํ เนยฺยตฺถํ นีตตฺถ’’นฺติ, อทฺธา นีตตฺถนฺติ วกฺขติ. ตโต วตฺตพฺโพ – เอวํ สนฺเต อนาคามิผลตฺถิเกน สมถวิปสฺสนาสุ ฉนฺทราโค กตฺตพฺโพ ภวิสฺสติ, ฉนฺทราเค อุปฺปาทิเต อนาคามิผลํ ปฏิวิทฺธํ ภวิสฺสติ ‘‘มา สุตฺตํ เม ลทฺธ’’นฺติ ยํ วา ตํ วา ทีเปหิ. ปฺหํ กเถนฺเตน หิ อาจริยสฺส สนฺติเก อุคฺคเหตฺวา อตฺถรสํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา กเถตุํ วฏฺฏติ, อกุสเลน หิ สคฺเค, กุสเลน วา อปาเย ปฏิสนฺธิ นาม นตฺถิ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘น, ภิกฺขเว, โลภเชน กมฺเมน โทสเชน กมฺเมน โมหเชน กมฺเมน เทวา ปฺายนฺติ, มนุสฺสา ปฺายนฺติ, ยา วา ปนฺาปิ กาจิ สุคติโย, อถ โข, ภิกฺขเว, โลภเชน กมฺเมน โทสเชน กมฺเมน โมหเชน กมฺเมน นิรโย ปฺายติ, ติรจฺฉานโยนิ ปฺายติ, เปตฺติวิสโย ปฺายติ, ยา วา ปนฺาปิ กาจิ ทุคฺคติโย’’ติ –

เอวํ ปฺาเปตพฺโพ. สเจ สฺชานาติ สฺชานาตุ, โน เจ สฺชานาติ, ‘‘คจฺฉ ปาโตว วิหารํ ปวิสิตฺวา ยาคุํ ปิวาหี’’ติ อุยฺโยเชตพฺโพ.

ยถา จ ปน อิมสฺมึ สุตฺเต, เอวํ มหามาลุกฺโยวาเทปิ มหาสติปฏฺาเนปิ กายคตาสติสุตฺเตปิ สมถวิปสฺสนา กถิตา. ตตฺถ อิมสฺมึ สุตฺเต สมถวเสน คจฺฉโตปิ วิปสฺสนาวเสน คจฺฉโตปิ สมถธุรเมว ธุรํ, มหามาลุกฺโยวาเท วิปสฺสนาว ธุรํ, มหาสติปฏฺานํ ปน วิปสฺสนุตฺตรํ นาม กถิตํ, กายคตาสติสุตฺตํ สมถุตฺตรนฺติ.

อยํ โข คหปติ…เป… เอกธมฺโม อกฺขาโตติ เอกธมฺมํ ปุจฺฉิเตน อยมฺปิ เอกธมฺโมติ เอวํ ปุจฺฉาวเสน กถิตตฺตา เอกาทสปิ ธมฺมา เอกธมฺโม นาม ชาโต. มหาสกุลุทายิสุตฺตสฺมิฺหิ เอกูนวีสติ ปพฺพานิ ปฏิปทาวเสน เอกธมฺโม นาม ชาตานิ, อิธ เอกาทสปุจฺฉาวเสน เอกธมฺโมติ อาคตานิ. อมตุปฺปตฺติยตฺเถน วา สพฺพานิปิ เอกธมฺโมติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

๒๑. นิธิมุขํ คเวสนฺโตติ นิธึ ปริเยสนฺโต. สกิเทวาติ เอกปโยเคน. กถํ ปน เอกปโยเคเนว เอกาทสนฺนํ นิธีนํ อธิคโม โหตีติ. อิเธกจฺโจ อรฺเ นิธึ คเวสมาโน จรติ, ตเมนํ อฺตโร อตฺถจรโก ทิสฺวา ‘‘กึ โภ จรสี’’ติ ปุจฺฉติ. โส ‘‘ชีวิตวุตฺตึ ปริเยสามี’’ติ อาห. อิตโร ‘‘เตน หิ สมฺม อาคจฺฉ, เอตํ ปาสาณํ ปวตฺเตหี’’ติ อาห. โส ตํ ปวตฺเตตฺวา อุปรูปริ ปิตา วา กุจฺฉิยา กุจฺฉึ อาหจฺจ ิตา วา เอกาทส กุมฺภิโย ปสฺเสยฺย, เอวํ เอกปโยเคน เอกาทสนฺนํ นิธีนํ อธิคโม โหติ.

อาจริยธนํ ปริเยสิสฺสนฺตีติ อฺติตฺถิยา หิ ยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺติ, ตสฺส สิปฺปุคฺคหณโต ปุเร วา ปจฺฉา วา อนฺตรนฺตเร วา เคหโต นีหริตฺวา ธนํ เทนฺติ. เยสํ เคเห นตฺถิ, เต าติสภาคโต ปริเยสนฺติ, ตถา อลภมานา ภิกฺขมฺปิ จริตฺวา เทนฺติเยว. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

กิมงฺคํ ปนาหนฺติ พาหิรกา ตาว อนิยฺยานิเกปิ สาสเน สิปฺปมตฺตทายกสฺส ธนํ ปริเยสนฺติ; อหํ ปน เอวํวิเธ นิยฺยานิกสาสเน เอกาทสวิธํ อมตุปฺปตฺติปฏิปทํ เทเสนฺตสฺส อาจริยสฺส ปูชํ กึ น กริสฺสามิ, กริสฺสามิเยวาติ วทติ. ปจฺเจกทุสฺสยุเคนอจฺฉาเทสีติ เอกเมกสฺส ภิกฺขุโน เอเกกํ ทุสฺสยุคมทาสีติ อตฺโถ. สมุทาจารวจนํ ปเนตฺถ เอวรูปํ โหติ, ตสฺมา อจฺฉาเทสีติ วุตฺตํ. ปฺจสตวิหารนฺติ ปฺจสตคฺฆนิกํ ปณฺณสาลํ กาเรสีติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

อฏฺกนาครสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. เสขสุตฺตวณฺณนา

๒๒. เอวํเม สุตนฺติ เสขสุตฺตํ. ตตฺถ นวํ สนฺถาคารนฺติ อธุนา การิตํ สนฺถาคารํ, เอกา มหาสาลาติ อตฺโถ. อุยฺโยคกาลาทีสุ หิ ราชาโน ตตฺถ ตฺวา ‘‘เอตฺตกา ปุรโต คจฺฉนฺตุ, เอตฺตกา ปจฺฉา, เอตฺตกา อุโภหิ ปสฺเสหิ, เอตฺตกา หตฺถีสุ อภิรุหนฺตุ, เอตฺตกา อสฺเสสุ, เอตฺตกา รเถสุ ติฏฺนฺตู’’ติ เอวํ สนฺถํ กโรนฺติ, มริยาทํ พนฺธนฺติ, ตสฺมา ตํ านํ สนฺถาคารนฺติ วุจฺจติ. อุยฺโยคฏฺานโต จ อาคนฺตฺวา ยาว เคเหสุ อลฺลโคมยปริภณฺฑาทีนิ กโรนฺติ, ตาว ทฺเว ตีณิ ทิวสานิ เต ราชาโน ตตฺถ สนฺถมฺภนฺตีติปิ สนฺถาคารํ. เตสํ ราชูนํ สห อตฺถานุสาสนํ อคารนฺติปิ สนฺถาคารํ คณราชาโน หิ เต , ตสฺมา อุปฺปนฺนกิจฺจํ เอกสฺส วเสน น ฉิชฺชติ, สพฺเพสํ ฉนฺโท ลทฺธุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา สพฺเพ ตตฺถ สนฺนิปติตฺวา อนุสาสนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สห อตฺถานุสาสนํ อคารนฺติปิ สนฺถาคาร’’นฺติ. ยสฺมา ปเนเต ตตฺถ สนฺนิปติตฺวา ‘‘อิมสฺมึ กาเล กสิตุํ วฏฺฏติ, อิมสฺมึ กาเล วปิตุ’’นฺติ เอวมาทินา นเยน ฆราวาสกิจฺจานิ สมฺมนฺตยนฺติ, ตสฺมา ฉิทฺทาวฉิทฺทํ ฆราวาสํ ตตฺถ สนฺถรนฺตีติปิ สนฺถาคารํ. อจิรการิตํ โหตีติ กฏฺกมฺม-สิลากมฺม-จิตฺตกมฺมาทิวเสน สุสชฺชิตํ เทววิมานํ วิย อธุนา นิฏฺาปิตํ. สมเณน วาติ เอตฺถ ยสฺมา ฆรวตฺถุปริคฺคหกาเลเยว เทวตา อตฺตโน วสนฏฺานํ คณฺหนฺติ, ตสฺมา ‘‘เทเวน วา’’ติ อวตฺวา ‘‘สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เกนจิ วา มนุสฺสภูเตนา’’ติ วุตฺตํ.

เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ สนฺถาคารํ นิฏฺิตนฺติ สุตฺวา ‘‘คจฺฉาม, นํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ คนฺตฺวา ทฺวารโกฏฺกโต ปฏฺาย สพฺพํ โอโลเกตฺวา ‘‘อิทํ สนฺถาคารํ เทววิมานสทิสํ อติวิย มโนรมํ สสฺสิริกํ เกน ปมํ ปริภุตฺตํ อมฺหากํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย อสฺสา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อมฺหากํ าติเสฏฺสฺส ปมํ ทิยฺยมาเนปิ สตฺถุโนว อนุจฺฉวิกํ, ทกฺขิเณยฺยวเสน ทิยฺยมาเนปิ สตฺถุโนว อนุจฺฉวิกํ, ตสฺมา ปมํ สตฺถารํ ปริภุฺชาเปสฺสาม, ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาคมนํ กริสฺสาม, ภิกฺขุสงฺเฆ อาคเต เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ อาคตเมว ภวิสฺสติ, สตฺถารํ ติยามรตฺตึ อมฺหากํ ธมฺมกถํ กถาเปสฺสาม, อิติ ตีหิ รตเนหิ ปริภุตฺตํ มยํ ปจฺฉา ปริภุฺชิสฺสาม , เอวํ โน ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ภวิสฺสตี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา อุปสงฺกมึสุ.

เยน สนฺถาคารํ เตนุปสงฺกมึสูติ ตํ ทิวสํ กิร สนฺถาคารํ กิฺจาปิ ราชกุลานํ ทสฺสนตฺถาย เทววิมานํ วิย สุสชฺชิตํ โหติ สุปฏิชคฺคิตํ, พุทฺธารหํ ปน กตฺวา อปฺปฺตฺตํ. พุทฺธา หิ นาม อรฺชฺฌาสยา อรฺารามา อนฺโตคาเม วเสยฺยุํ วา โน วา, ตสฺมา ภควโต มนํ ชานิตฺวาว ปฺาเปสฺสามาติ จินฺเตตฺวา เต ภควนฺตํ อุปสงฺกมึสุ. อิทานิ ปน มนํ ลภิตฺวา ปฺาเปตุกามา เยน สนฺถาคารํ เตนุปสงฺกมึสุ.

สพฺพสนฺถรึ สนฺถาคารํ สนฺถริตฺวาติ ยถา สพฺพเมว สนฺถตํ โหติ, เอวํ ตํ สนฺถราเปตฺวา. สพฺพปมํ ตาว ‘‘โคมยํ นาม สพฺพมงฺคเลสุ วฏฺฏตี’’ติ สุธาปริกมฺมกตมฺปิ ภูมึ อลฺลโคมเยน โอปุฺฉาเปตฺวา ปริสุกฺขภาวํ ตฺวา ยถา อกฺกนฺตฏฺาเน ปทํ น ปฺายติ, เอวํ จตุชฺชาติยคนฺเธหิ ลิมฺปาเปตฺวา อุปริ นานาวณฺเณ กฏสารเก สนฺถริตฺวา เตสํ อุปริ มหาปิฏฺิกโกชวเก อาทึ กตฺวา หตฺถตฺถรก-อสฺสตฺถรก-สีหตฺถรก-พฺยคฺฆตฺถรก-จนฺทตฺถรก-สูริยตฺถรก-จิตฺตตฺถรกาทีหิ นานาวณฺเณหิ อตฺถรเณหิ สนฺถริตพฺพกยุตฺตํ สพฺโพกาสํ สนฺถราเปสุํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺพสนฺถรึ สนฺถาคารํ สนฺถริตฺวา’’ติ.

อาสนานิ ปฺาเปตฺวาติ มชฺฌฏฺาเน ตาว มงฺคลตฺถมฺภํ นิสฺสาย มหารหํ พุทฺธาสนํ ปฺาเปตฺวา ตตฺถ ยํ ยํ มุทุกฺจ มโนรมฺจ ปจฺจตฺถรณํ, ตํ ตํ ปจฺจตฺถริตฺวา ภควโต โลหิตกํ มนุฺทสฺสนํ อุปธานํ อุปทหิตฺวา อุปริ สุวณฺณรชตตารกวิจิตฺตํ วิตานํ พนฺธิตฺวา คนฺธทามปุปฺผทามปตฺตทามาทีหิ ปจฺจตฺถรเณหิ อลงฺกริตฺวา สมนฺตา ทฺวาทสหตฺถฏฺาเน ปุปฺผชาลํ กริตฺวา ตึสหตฺถมตฺตํ านํ ปฏสาณิยา ปริกฺขิปาเปตฺวา ปจฺฉิมภิตฺตึ นิสฺสาย ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปลฺลงฺกปี-อปสฺสยปี-มุณฺฑปีานิ ปฺาเปตฺวา อุปริ เสตปจฺจตฺถรเณหิ ปจฺจตฺถราเปตฺวา ปาจีนภิตฺตึ นิสฺสาย อตฺตโน อตฺตโน มหาปิฏฺิกโกชวเก ปฺาเปตฺวา หํสโลมาทิปูริตานิ อุปธานานิ ปาเปสุํ ‘‘เอวํ อกิลมมานา สพฺพรตฺตึ ธมฺมํ สุณิสฺสามา’’ติ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อาสนานิ ปฺาเปตฺวา’’ติ.

อุทกมณิกนฺติ มหากุจฺฉิกํ อุทกจาฏึ. อุปฏฺเปตฺวาติ เอวํ ภควา จ ภิกฺขุสงฺโฆ จ ยถารุจิยา หตฺเถ วา โธวิสฺสนฺติ ปาเท วา, มุขํ วา วิกฺขาเลสฺสนฺตีติ เตสุ เตสุ าเนสุ มณิวณฺณสฺส อุทกสฺส ปูราเปตฺวา วาสตฺถาย นานาปุปฺผานิ เจว อุทกวาสจุณฺณานิ จ ปกฺขิปิตฺวา กทลิปณฺเณหิ ปิทหิตฺวา ปติฏฺาเปสุํ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อุปฏฺเปตฺวา’’ติ.

เตลปฺปทีปํ อาโรเปตฺวาติ รชตสุวณฺณาทิมยทณฺฑาสุ ทีปิกาสุ โยนกรูปกิราตรูปกาทีนํ หตฺเถ ปิตสุวณฺณรชตาทิมยกปลฺลกาทีสุ จ เตลปฺปทีปํ ชลยิตฺวาติ อตฺโถ. เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ เอตฺถ ปน เต สกฺยราชาโน น เกวลํ สนฺถาคารเมว, อถ โข โยชนาวฏฺเฏ กปิลวตฺถุสฺมึ นครวีถิโยปิ สมฺมชฺชาเปตฺวา ธเช อุสฺสาเปตฺวา เคหทฺวาเรสุ ปุณฺณฆเฏ จ กทลิโย จ ปาเปตฺวา สกลนครํ ทีปมาลาทีหิ วิปฺปกิณฺณตารกํ วิย กตฺวา ‘‘ขีรปายเก ทารเก ขีรํ ปาเยถ, ทหเร กุมาเร ลหุํ ลหุํ โภเชตฺวา สยาเปถ, อุจฺจาสทฺทํ มา กริตฺถ, อชฺช เอกรตฺตึ สตฺถา อนฺโตคาเม วสิสฺสติ, พุทฺธา นาม อปฺปสทฺทกามา โหนฺตี’’ติ เภรึ จราเปตฺวา สยํ ทณฺฑทีปิกา อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ.

อถโข ภควา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน นวํ สนฺถาคารํ เตนุปสงฺกมีติ. ‘‘ยสฺส ทานิ, ภนฺเต, ภควา กาลํ มฺตี’’ติ เอวํ กิร กาเล อาโรจิเต ภควา ลาขารเสน ตินฺตรตฺตโกวิฬารปุปฺผวณฺณํ รตฺตทุปฏฺฏํ กตฺตริยา ปทุมํ กนฺตนฺโต วิย สํวิธาย ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺโต นิวาเสตฺวา สุวณฺณปามงฺเคน ปทุมกลาปํ ปริกฺขิปนฺโต วิย วิชฺชุลฺลตาสสฺสิริกํ กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา รตฺตกมฺพเลน คชกุมฺภํ ปริโยนทฺธนฺโต วิย รตนสตุพฺเพเธ สุวณฺณคฺฆิเก ปวาฬชาลํ ขิปมาโน วิย สุวณฺณเจติเย รตฺตกมฺพลกฺจุกํ ปฏิมุฺจนฺโต วิย คจฺฉนฺตํ ปุณฺณจนฺทํ รตฺตวณฺณวลาหเกน ปฏิจฺฉาทยมาโน วิย กฺจนปพฺพตมตฺถเก สุปกฺกลาขารสํ ปริสิฺจนฺโต วิย จิตฺตกูฏปพฺพตมตฺถกํ วิชฺชุลฺลตาย ปริกฺขิปนฺโต วิย จ สจกฺกวาฬสิเนรุยุคนฺธรํ มหาปถวึ จาเลตฺวา คหิตํ นิคฺโรธปลฺลวสมานวณฺณํ รตฺตวรปํสุกูลํ ปารุปิตฺวา คนฺธกุฏิทฺวารโต นิกฺขมิ กฺจนคุหโต สีโห วิย อุทยปพฺพตกูฏโต ปุณฺณจนฺโท วิย จ. นิกฺขมิตฺวา ปน คนฺธกุฏิปมุเข อฏฺาสิ.

อถสฺส กายโต เมฆมุเขหิ วิชฺชุกลาปา วิย รสฺมิโย นิกฺขมิตฺวา สุวณฺณรสธาราปริเสกมฺชริปตฺตปุปฺผผลวิฏเป วิย อารามรุกฺเข กรึสุ. ตาวเทว จ อตฺตโน อตฺตโน ปตฺตจีวรมาทาย มหาภิกฺขุสงฺโฆ ภควนฺตํ ปริวาเรสิ. เต ปน ปริวาเรตฺวา ิตา ภิกฺขู เอวรูปา อเหสุํ อปฺปิจฺฉา สนฺตุฏฺา ปวิวิตฺตา อสํสฏฺา อารทฺธวีริยา วตฺตาโร วจนกฺขมา โจทกา ปาปครหี สีลสมฺปนฺนา สมาธิสมฺปนฺนา ปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺนาติ. เตหิ ปริวาริโต ภควา รตฺตกมฺพลปริกฺขิตฺโต วิย สุวณฺณกฺขนฺโธ รตฺตปทุมสณฺฑมชฺฌคตา วิย สุวณฺณนาวา ปวาฬเวทิกาปริกฺขิตฺโต วิย สุวณฺณปาสาโท วิโรจิตฺถ. สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาทโย มหาเถราปิ นํ เมฆวณฺณํ ปํสุกูลํ ปารุปิตฺวา มณิวมฺมวมฺมิกา วิย มหานาคา ปริวารยึสุ วนฺตราคา ภินฺนกิเลสา วิชฏิตชฏา ฉินฺนพนฺธนา กุเล วา คเณ วา อลคฺคา.

อิติ ภควา สยํ วีตราโค วีตราเคหิ, วีตโทโส วีตโทเสหิ, วีตโมโห วีตโมเหหิ, นิตฺตณฺโห นิตฺตณฺเหหิ, นิกฺกิเลโส นิกฺกิเลเสหิ, สยํ พุทฺโธ พหุสฺสุตพุทฺเธหิ ปริวาริโต, ปตฺตปริวาริตํ วิย เกสรํ, เกสรปริวาริตา วิย กณฺณิกา, อฏฺนาคสหสฺสปริวาริโต วิย ฉทฺทนฺโต นาคราชา, นวุติหํสสหสฺสปริวาริโต วิย ธตรฏฺโ หํสราชา, เสนงฺคปริวาริโต วิย จกฺกวตฺติ, มรุคณปริวาริโต วิย สกฺโก เทวราชา, พฺรหฺมคณปริวาริโต วิย หาริตมหาพฺรหฺมา, ตาราคณปริวาริโต วิย ปุณฺณจนฺโท, อสเมน พุทฺธเวเสน อปริมาเณน พุทฺธวิลาเสน กปิลวตฺถุคมนมคฺคํ ปฏิปชฺชิ.

อถสฺส ปุรตฺถิมกายโต สุวณฺณวณฺณา รสฺมี อุฏฺหิตฺวา อสีติหตฺถฏฺานํ อคฺคเหสิ. ปจฺฉิมกายโต ทกฺขิณหตฺถโต, วามหตฺถโต สุวณฺณวณฺณา รสฺมี อุฏฺหิตฺวา อสีติหตฺถฏฺานํ อคฺคเหสิ. อุปริ เกสนฺตโต ปฏฺาย สพฺพเกสาวตฺเตหิ โมรคีววณฺณา รสฺมี อุฏฺหิตฺวา คคนตเล อสีติหตฺถฏฺานํ อคฺคเหสิ. เหฏฺา ปาทตเลหิ ปวาฬวณฺณา รสฺมี อุฏฺหิตฺวา ฆนปถวิยํ อสีติหตฺถฏฺานํ อคฺคเหสิ. เอวํ สมนฺตา อสีติหตฺถมตฺตํ านํ ฉพฺพณฺณา พุทฺธรสฺมิโย วิชฺโชตมานา วิปฺผนฺทมานา กฺจนทณฺฑทีปิกาหิ นิจฺฉริตฺวา อากาสํ ปกฺขนฺทชาลา วิย จาตุทฺทีปิกมหาเมฆโต นิกฺขนฺตวิชฺชุลฺลตา วิย วิธาวึสุ. สพฺพทิสาภาคา สุวณฺณจมฺปกปุปฺเผหิ วิกิริยมานา วิย, สุวณฺณฆฏา นิกฺขนฺตสุวณฺณรสธาราหิ สิฺจมานา วิย, ปสาริตสุวณฺณปฏปริกฺขิตฺตา วิย, เวรมฺภวาตสมุฏฺิตกึสุกกณิการปุปฺผจุณฺณสโมกิณฺณา วิย วิปฺปกิรึสุ.

ภควโตปิ อสีติอนุพฺยฺชนพฺยามปฺปภาทฺวตฺตึสวรลกฺขณสมุชฺชลํ สรีรํ สมุคฺคตตารกํ วิย คคนตลํ, วิกสิตมิว ปทุมวนํ, สพฺพปาลิผุลฺโล วิย โยชนสติโก ปาริจฺฉตฺตโก, ปฏิปาฏิยา ปิตานํ ทฺวตฺตึสูจนฺทานํ ทฺวตฺตึสสูริยานํ ทฺวตฺตึสจกฺกวตฺตีนํ ทฺวตฺตึสเทวราชานํ ทฺวตฺตึสมหาพฺรหฺมานํ สิริยา สิรึ อภิภวมานํ วิย วิโรจิตฺถ, ยถา ตํ ทสหิ ปารมีหิ ทสหิ อุปปารมีหิ ทสหิ ปรมตฺถปารมีหิ สุปูริตาหิ สมตึสปารมิตาหิ อลงฺกตํ. กปฺปสตสหสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ทินฺนทานํ รกฺขิตสีลํ กตกลฺยาณกมฺมํ เอกสฺมึ อตฺตภาเว โอสริตฺวา วิปากํ ทาตุํ านํ อลภมานํ สมฺพาธปตฺตํ วิย อโหสิ. นาวาสหสฺสภณฺฑํ เอกนาวํ อาโรปนกาโล วิย, สกฏสหสฺสภณฺฑํ เอกสกฏํ อาโรปนกาโล วิย, ปฺจวีสติยา นทีนํ โอฆสฺส สมฺภิชฺช มุขทฺวาเร เอกโต ราสีภูตกาโล วิย จ อโหสิ.

อิมาย พุทฺธสิริยา โอภาสมานสฺสาปิ จ ภควโต ปุรโต อเนกานิ ทณฺฑทีปิกสหสฺสานิ อุกฺขิปึสุ. ตถา ปจฺฉโต. วามปสฺเส ทกฺขิณปสฺเส. ชาติกุสุมจมฺปกวนมลฺลิกรตฺตุปฺปลนีลุปฺปลมกุลสินฺทุวารปุปฺผานิ เจว นีลปีตาทิวณฺณสุคนฺธคนฺธจุณฺณานิ จ จาตุทฺทีปิกเมฆวิสฺสฏฺโทกวุฏฺิโย วิย วิปฺปกิรึสุ. ปฺจงฺคิกตูริยนิคฺโฆสา เจว พุทฺธธมฺมสงฺฆคุณปฺปฏิสํยุตฺตา ถุติโฆสา จ สพฺพทิสา ปูรยึสุ. เทวมนุสฺสนาคสุปณฺณคนฺธพฺพยกฺขาทีนํ อกฺขีนิ อมตปานํ วิย ลภึสุ. อิมสฺมึ ปน าเน ตฺวา ปทสหสฺเสน คมนวณฺณํ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ตตฺริทํ มุขมตฺตํ –

‘‘เอวํ สพฺพงฺคสมฺปนฺโน, กมฺปยนฺโต วสุนฺธรํ;

อเหยนฺโต ปาณานิ, ยาติ โลกวินายโก.

ทกฺขิณํ ปมํ ปาทํ, อุทฺธรนฺโต นราสโภ;

คจฺฉนฺโต สิริสมฺปนฺโน, โสภเต ทฺวิปทุตฺตโม.

คจฺฉโต พุทฺธเสฏฺสฺส, เหฏฺา ปาทตลํ มุทุ;

สมํ สมฺผุสเต ภูมึ, รชสา นุปลิปฺปติ.

นินฺนฏฺานํ อุนฺนมติ, คจฺฉนฺเต โลกนายเก;

อุนฺนตฺจ สมํ โหติ, ปถวี จ อเจตนา.

ปาสาณา สกฺขรา เจว, กถลา ขาณุกณฺฏกา;

สพฺเพ มคฺคา วิวชฺชนฺติ, คจฺฉนฺเต โลกนายเก.

นาติทูเร อุทฺธรติ, นจฺจาสนฺเน จ นิกฺขิปํ;

อฆฏฺฏยนฺโต นิยฺยาติ, อุโภ ชาณู จ โคปฺผเก.

นาติสีฆํ ปกฺกมติ, สมฺปนฺนจรโณ มุนิ;

น จาติสณิกํ ยาติ, คจฺฉมาโน สมาหิโต.

อุทฺธํ อโธ จ ติริยํ, ทิสฺจ วิทิสํ ตถา;

น เปกฺขมาโน โส ยาติ, ยุคมตฺตมฺหิ เปกฺขติ.

นาควิกฺกนฺตจาโร โส, คมเน โสภเต ชิโน;

จารุํ คจฺฉติ โลกคฺโค, หาสยนฺโต สเทวเก.

อุฬุราชาว โสภนฺโต, จตุจารีว เกสรี;

โตสยนฺโต พหู สตฺเต, ปุรํ เสฏฺํ อุปาคมี’’ติ.

วณฺณกาโล นาม กิเรส, เอวํวิเธสุ กาเลสุ พุทฺธสฺส สรีรวณฺเณ วา คุณวณฺเณ วา ธมฺมกถิกสฺส ถาโมเยว ปมาณํ จุณฺณิยปเทหิ วา คาถาพนฺเธน วา ยตฺตกํ สกฺโกติ, ตตฺตกํ วตฺตพฺพํ. ทุกฺกถิตนฺติ น วตฺตพฺพํ. อปฺปมาณวณฺณา หิ พุทฺธา, เตสํ พุทฺธาปิ อนวเสสโต วณฺณํ วตฺตุํ อสมตฺถา, ปเคว อิตรา ปชาติ. อิมินา สิริวิลาเสน อลงฺกตปฺปฏิยตฺตํ สกฺยราชปุรํ ปวิสิตฺวา ภควา ปสนฺนจิตฺเตน ชเนน คนฺธธูมวาสจุณฺณาทีหิ ปูชยมาโน สนฺถาคารํ ปาวิสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข ภควา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน เอวํ สนฺถาคารํ เตนุปสงฺกมี’’ติ.

ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวาติ ภควนฺตํ ปุรโต กตฺวา. ตตฺถ ภควา ภิกฺขูนฺเจว อุปาสกานฺจ มชฺเฌ นิสินฺโน คนฺโธทเกน นฺหาเปตฺวา ทุกูลจุมฺพฏเกน โวทกํ กตฺวา ชาติหิงฺคุลเกน มชฺชิตฺวา รตฺตกมฺพลปลิเวิเต ปีเ ปิตรตฺตสุวณฺณฆนปฏิมา วิย อติวิโรจิตฺถ. อยํ ปเนตฺถ โปราณานํ วณฺณภณนมคฺโค –

‘‘คนฺตฺวาน มณฺฑลมาฬํ, นาควิกฺกนฺตจรโณ;

โอภาสยนฺโต โลกคฺโค, นิสีทิ วรมาสเน.

ตสฺมึ นิสินฺโน นรทมฺมสารถิ,

เทวาติเทโว สตปุฺลกฺขโณ;

พุทฺธาสเน มชฺฌคโต วิโรจติ,

สุวณฺณเนกฺขํ วิย ปณฺฑุกมฺพเล.

เนกฺขํ ชมฺโพนทสฺเสว, นิกฺขิตฺตํ ปณฺฑุกมฺพเล;

วิโรจติ วีตมโล, มณิเวโรจโน ยถา.

มหาสาโลว สมฺผุลฺโล, เนรุราชาวลงฺกโต;

สุวณฺณยูปสงฺกาโส, ปทุโม โกกนโท ยถา.

ชลนฺโต ทีปรุกฺโขว, ปพฺพตคฺเค ยถา สิขี;

เทวานํ ปาริจฺฉตฺโตว, สพฺพผุลฺโล วิโรจถา’’ติ.

กาปิลวตฺถเวสกฺเย พหุเทว รตฺตึ ธมฺมิยา กถายาติ เอตฺถ ธมฺมี กถา นาม สนฺถาคารอนุโมทนปฺปฏิสํยุตฺตา ปกิณฺณกกถา เวทิตพฺพา. ตทา หิ ภควา อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิย ปถโวชํ อากฑฺฒนฺโต วิย มหาชมฺพุํ ขนฺเธ คเหตฺวา จาเลนฺโต วิย โยชนิกํ มธุภณฺฑํ จกฺกยนฺเตน ปีเฬตฺวา มธุปานํ ปายมาโน วิย กาปิลวตฺถวานํ สกฺยานํ หิตสุขาวหํ ปกิณฺณกกถํ กเถสิ. ‘‘อาวาสทานํ นาเมตํ มหาราช มหนฺตํ, ตุมฺหากํ อาวาโส มยา ปริภุตฺโต ภิกฺขุสงฺเฆน ปริภุตฺโต มยา จ ภิกฺขุสงฺเฆน จ ปริภุตฺโต ปน ธมฺมรตเนน ปริภุตฺโต เยวาติ ตีหิ รตเนหิ ปริภุตฺโต นาม โหติ. อาวาสทานสฺมิฺหิ ทินฺเน สพฺพทานํ ทินฺนเมว โหติ. ภูมฏฺกปณฺณสาลาย วา สาขามณฺฑปสฺส วาปิ อานิสํโส นาม ปริจฺฉินฺทิตุํ น สกฺกา’’ติ นานานยวิจิตฺตํ พหุํ ธมฺมกถํ กเถตฺวา –

‘‘สีตํ อุณฺหํ ปฏิหนฺติ, ตโต วาฬมิคานิ จ;

สรีสเป จ มกเส, สิสิเร จาปิ วุฏฺิโย.

ตโต วาตาตโป โฆโร, สฺชาโต ปฏิหฺติ;

เลณตฺถฺจ สุขตฺถฺจ, ฌายิตุฺจ วิปสฺสิตุํ.

วิหารทานํ สงฺฆสฺส, อคฺคํ พุทฺเธน วณฺณิตํ;

ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน.

วิหาเร การเย รมฺเม, วาสเยตฺถ พหุสฺสุเต;

เตสํ อนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ.

ทเทยฺย อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา;

เต ตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺติ, สพฺพทุกฺขาปนูทนํ;

ยํ โส ธมฺมํ อิธฺาย, ปรินิพฺพาติ อนาสโว’’ติ. (จูฬว. ๒๙๕) –

เอวํ อยมฺปิ อาวาเส อานิสํโส, อยมฺปิ อานิสํโสติ พหุเทวรตฺตึ อติเรกตรํ ทิยฑฺฒยามํ อาวาสานิสํสกถํ กเถสิ. ตตฺถ อิมา คาถาว สงฺคหํ อารุฬฺหา, ปกิณฺณกธมฺมเทสนา ปน สงฺคหํ น อาโรหติ. สนฺทสฺเสสีติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว.

อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสีติ ธมฺมกถํ กถาเปตุกาโม ชานาเปสิ. อถ กสฺมา สาริปุตฺตมหาโมคฺคลฺลานมหากสฺสปาทีสุ อสีติมหาเถเรสุ วิชฺชมาเนสุ ภควา อานนฺทตฺเถรสฺส ภารมกาสีติ. ปริสชฺฌาสยวเสน. อายสฺมา หิ อานนฺโท พหุสฺสุตานํ อคฺโค, ปโหสิ ปริมณฺฑเลหิ ปทพฺยฺชเนหิ มธุรธมฺมกถํ กเถตุนฺติ สากิยมณฺฑเล ปากโฏ ปฺาโต. ตสฺส สกฺยราชูหิ วิหารํ คนฺตฺวาปิ ธมฺมกถา สุตปุพฺพา, โอโรธา ปน เนสํ น ยถารุจิยา วิหารํ คนฺตุํ ลภนฺติ, เตสํ เอตทโหสิ – ‘‘อโห วต ภควา อปฺปํเยว ธมฺมกถํ กเถตฺวา อมฺหากํ าติเสฏฺสฺส อานนฺทสฺส ภารํ กเรยฺยา’’ติ. เตสํ อชฺฌาสยวเสน ภควา ตสฺเสว ภารมกาสิ.

เสโข ปาฏิปโทติ ปฏิปนฺนโก เสขสมโณ. โส ตุยฺหํ ปฏิภาตุ อุปฏฺาตุ, ตสฺส ปฏิปทํ เทเสหีติ ปฏิปทาย ปุคฺคลํ นิยเมตฺวา ทสฺเสติ. กสฺมา ปน ภควา อิมํ ปฏิปทํ นิยเมสิ? พหูหิ การเณหิ. อิเม ตาว สกฺยา มงฺคลสาลาย มงฺคลํ ปจฺจาสีสนฺติ วฑฺฒึ อิจฺฉนฺติ, อยฺจ เสขปฏิปทา มยฺหํ สาสเน มงฺคลปฏิปทา วฑฺฒมานกปฏิปทาติปิ อิมํ ปฏิปทํ นิยเมสิ. ตสฺสฺจ ปริสติ เสขาว พหู นิสินฺนา, เต อตฺตนา ปฏิวิทฺธฏฺาเน กถียมาเน อกิลมนฺตาว สลฺลกฺเขสฺสนฺตีติปิ อิมํ ปฏิปทํ นิยเมสิ. อายสฺมา จ อานนฺโท เสขปฏิสมฺภิทาปตฺโตว, โส อตฺตนา ปฏิวิทฺเธ ปจฺจกฺขฏฺาเน กเถนฺโต อกิลมนฺโต วิฺาเปตุํ สกฺขิสฺสตีติปิ อิมํ ปฏิปทํ นิยเมสิ. เสขปฏิปทาย จ ติสฺโสปิ สิกฺขา โอสฏา , ตตฺถ อธิสีลสิกฺขาย กถิตาย สกลํ วินยปิฏกํ กถิตเมว โหติ, อธิจิตฺตสิกฺขาย กถิตาย สกลํ สุตฺตนฺตปิฏกํ กถิตํ โหติ, อธิปฺาสิกฺขาย กถิตาย สกลํ อภิธมฺมปิฏกํ กถิตํ โหติ, อานนฺโท จ พหุสฺสุโต ติปิฏกธโร, โส ปโหติ ตีหิ ปิฏเกหิ ติสฺโส สิกฺขา กเถตุํ, เอวํ กถิเต สกฺยานํ มงฺคลเมว วฑฺฒิเยว ภวิสฺสตีติปิ อิมํ ปฏิปทํ นิยเมสิ.

ปิฏฺิ เม อาคิลายตีติ กสฺมา อาคิลายติ? ภควโต หิ ฉพฺพสฺสานิ ปธานํ ปทหนฺตสฺส มหนฺตํ กายทุกฺขํ อโหสิ, อถสฺส อปรภาเค มหลฺลกกาเล ปิฏฺิวาโต อุปฺปชฺชิ. อการณํ วา เอตํ. ปโหติ หิ ภควา อุปฺปนฺนํ เวทนํ วิกฺขมฺเภตฺวา เอกมฺปิ ทฺเวปิ สตฺตาเห เอกปลฺลงฺเกน นิสีทิตุํ. สนฺถาคารสาลํ ปน จตูหิ อิริยาปเถหิ ปริภุฺชิตุกาโม อโหสิ, ตตฺถ ปาทโธวนฏฺานโต ยาว ธมฺมาสนา อคมาสิ, เอตฺตเก าเน คมนํ นิปฺผนฺนํ. ธมฺมาสนํ ปตฺโต โถกํ ตฺวา นิสีทิ, เอตฺตเก านํ. ทิยฑฺฒยามํ ธมฺมาสเน นิสีทิ, เอตฺตเก าเน นิสชฺชา นิปฺผนฺนา. อิทานิ ทกฺขิเณน ปสฺเสน โถกํ นิปนฺเน สยนํ นิปฺผชฺชิสฺสตีติ เอวํ จตูหิ อิริยาปเถหิ ปริภุฺชิตุกาโม อโหสิ. อุปาทินฺนกสรีรฺจ นาม ‘‘โน อาคิลายตี’’ติ น วตฺตพฺพํ, ตสฺมา จิรํ นิสชฺชาย สฺชาตํ อปฺปกมฺปิ อาคิลายนํ คเหตฺวา เอวมาห.

สงฺฆาฏึ ปฺาเปตฺวาติ สนฺถาคารสฺส กิร เอกปสฺเส เต ราชาโน ปฏฺฏสาณึ ปริกฺขิปาเปตฺวา กปฺปิยมฺจกํ ปฺเปตฺวา กปฺปิยปจฺจตฺถรเณน อตฺถริตฺวา อุปริ สุวณฺณ-ตารก-คนฺธมาลา-ทามปฏิมณฺฑิตํ วิตานํ พนฺธิตฺวา คนฺธเตลปฺปทีปํ อาโรปยึสุ ‘‘อปฺเปว นาม สตฺถา ธมฺมาสนโต วุฏฺาย โถกํ วิสฺสมนฺโต อิธ นิปชฺเชยฺย, เอวํ โน อิมํ สนฺถาคารํ ภควตา จตูหิ อิริยาปเถหิ ปริภุตฺตํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ภวิสฺสตี’’ติ. สตฺถาปิ ตเทว สนฺธาย ตตฺถ สงฺฆาฏึ ปฺเปตฺวา นิปชฺชิ. อุฏฺานสฺํ มนสิ กริตฺวาติ เอตฺตกํ กาลํ อติกฺกมิตฺวา วุฏฺหิสฺสามีติ วุฏฺานสฺํ จิตฺเต เปตฺวา.

๒๓. มหานามํ สกฺกํ อามนฺเตสีติ โส กิร ตสฺมึ กาเล ตสฺสํ ปริสติ เชฏฺโก ปาโมกฺโข, ตสฺมึ สงฺคหิเต เสสปริสา สงฺคหิตาว โหตีติ เถโร ตเมว อามนฺเตสิ. สีลสมฺปนฺโนติ สีเลน สมฺปนฺโน, สมฺปนฺนสีโล ปริปุณฺณสีโลติ อตฺโถ. สทฺธมฺเมหีติ สุนฺทรธมฺเมหิ, สตํ วา สปฺปุริสานํ ธมฺเมหิ.

๒๔. กถฺจ มหานามาติ อิมินา เอตฺตเกน าเนน เสขปฏิปทาย มาติกํ เปตฺวา ปฏิปาฏิยา วิตฺถาเรตุกาโม เอวมาห. ตตฺถ สีลสมฺปนฺโนติอาทีนิ ‘‘สมฺปนฺนสีลา, ภิกฺขเว, วิหรถา’’ติ อากงฺเขยฺยสุตฺตาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.

๒๕. กายทุจฺจริเตนาติอาทีสุ อุปโยคตฺเถ กรณวจนํ, หิริยิตพฺพานิ กายทุจฺจริตาทีนิ หิริยติ ชิคุจฺฉตีติ อตฺโถ. โอตฺตปฺปนิทฺเทเส เหตฺวตฺเถ กรณวจนํ, กายทุจฺจริตาทีหิ โอตฺตปฺปสฺส เหตุภูเตหิ โอตฺตปฺปติ ภายตีติ อตฺโถ. อารทฺธวีริโยติ ปคฺคหิตวีริโย อโนสกฺกิตมานโส. ปหานายาติ ปหานตฺถาย. อุปสมฺปทายาติ ปฏิลาภตฺถาย. ถามวาติ วีริยถาเมน สมนฺนาคโต. ทฬฺหปรกฺกโมติ ถิรปรกฺกโม. อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสูติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ อโนโรปิตธุโร อโนสกฺกิตวีริโย. ปรเมนาติ อุตฺตเมน. สติเนปกฺเกนาติ สติยา จ นิปกภาเวน จ. กสฺมา ปน สติภาชนิเย ปฺา อาคตาติ? สติยา พลวภาวทีปนตฺถํ. ปฺาวิปฺปยุตฺตา หิ สติ ทุพฺพลา โหติ, สมฺปยุตฺตา พลวตีติ.

จิรกตมฺปีติ อตฺตนา วา ปเรน วา กาเยน จิรกตํ เจติยงฺคณวตฺตาทิ อสีติ มหาวตฺตปฏิปตฺติปูรณํ. จิรภาสิตมฺปีติ อตฺตนา วา ปเรน วา วาจาย จิรภาสิตํ สกฺกจฺจํ อุทฺทิสน-อุทฺทิสาปน-ธมฺโมสารณ-ธมฺมเทสนา-อุปนิสินฺนกถา-อนุโมทนิยาทิวเสน ปวตฺติตํ วจีกมฺมํ. สริตา อนุสฺสริตาติ ตสฺมึ กาเยน จิรกเต ‘‘กาโย นาม กายวิฺตฺติ, จิรภาสิเต วาจา นาม วจีวิฺตฺติ. ตทุภยมฺปิ รูปํ, ตํสมุฏฺาปิกา จิตฺตเจตสิกา อรูปํ. อิติ อิเม รูปารูปธมฺมา เอวํ อุปฺปชฺชิตฺวา เอวํ นิรุทฺธา’’ติ สรติ เจว อนุสฺสรติ จ, สติสมฺโพชฺฌงฺคํ สมุฏฺาเปตีติ อตฺโถ. โพชฺฌงฺคสมุฏฺาปิกา หิ สติ อิธ อธิปฺเปตา. ตาย สติยา เอส สกิมฺปิ สรเณน สริตา, ปุนปฺปุนํ สรเณน อนุสฺสริตาติ เวทิตพฺพา.

อุทยตฺถคามินิยาติ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยวยคามินิยา อุทยฺจ วยฺจ ปฏิวิชฺฌิตุํ สมตฺถาย. อริยายาติ วิกฺขมฺภนวเสน จ สมุจฺเฉทวเสน จ กิเลเสหิ อารกา ิตาย ปริสุทฺธาย. ปฺาย สมนฺนาคโตติ วิปสฺสนาปฺาย เจว มคฺคปฺาย จ สมงฺคีภูโต. นิพฺเพธิกายาติ สาเยว นิพฺพิชฺฌนโต นิพฺเพธิกาติ วุจฺจติ, ตาย สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. ตตฺถ มคฺคปฺาย สมุจฺเฉทวเสน อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โลภกฺขนฺธํ โทสกฺขนฺธํ โมหกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกา. วิปสฺสนาปฺาย ตทงฺควเสน นิพฺเพธิกาย มคฺคปฺาย ปฏิลาภสํวตฺตนโต จาติ วิปสฺสนา ‘‘นิพฺเพธิกา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยาติ อิธาปิ มคฺคปฺา ‘‘สมฺมา เหตุนา นเยน วฏฺฏทุกฺขํ เขปยมานา คจฺฉตีติ สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินี นาม. วิปสฺสนา ตทงฺควเสน วฏฺฏทุกฺขฺจ กิเลสทุกฺขฺจ เขปยมานา คจฺฉตีติ ทุกฺขกฺขยคามินี. ทุกฺขกฺขยคามินิยา วา มคฺคปฺาย ปฏิลาภสํวตฺตนโต เอสา ทุกฺขกฺขยคามินี’’ติ เวทิตพฺพา.

๒๖. อภิเจตสิกานนฺติ อภิจิตฺตํ เสฏฺจิตฺตํ สิตานํ นิสฺสิตานํ. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานนฺติ อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ สุขปฏิลาภเหตูนํ. นิกามลาภีติ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สมาปชฺชิตา. อกิจฺฉลาภีติ นิทุกฺขลาภี. อกสิรลาภีติ วิปุลลาภี. ปคุณภาเวน เอโก อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สมาปชฺชิตุํ สกฺโกติ, สมาธิปาริปนฺถิกธมฺเม ปน อกิลมนฺโต วิกฺขมฺเภตุํ น สกฺโกติ, โส อตฺตโน อนิจฺฉาย ขิปฺปเมว วุฏฺาติ, ยถาปริจฺเฉทวเสน สมาปตฺตึ เปตุํ น สกฺโกติ อยํ กิจฺฉลาภี กสิรลาภี นาม. เอโก อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ จ สมาปชฺชิตุํ สกฺโกติ, สมาธิปาริปนฺถิกธมฺเม จ อกิลมนฺโต วิกฺขมฺเภติ, โส ยถาปริจฺเฉทวเสเนว วุฏฺาตุํ สกฺโกติ, อยํ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี นาม.

๒๗. อยํวุจฺจติ มหานาม อริยสาวโก เสโข ปาฏิปโทติ มหานาม อริยสาวโก เสโข ปาฏิปโท วิปสฺสนาคพฺภาย วฑฺฒมานกปฏิปทาย สมนฺนาคโตติ วุจฺจตีติ ทสฺเสติ. อปุจฺจณฺฑตายาติ อปูติอณฺฑตาย. ภพฺโพ อภินิพฺภิทายาติ วิปสฺสนาทิาณปฺปเภทาย ภพฺโพ. สมฺโพธายาติ อริยมคฺคาย. อนุตฺตรสฺส โยคกฺเขมสฺสาติ อรหตฺตํ อนุตฺตโร โยคกฺเขโม นาม, ตทภิคมาย ภพฺโพติ ทสฺเสติ. ยา ปนายเมตฺถ อตฺถทีปนตฺถํ อุปมา อาหฏา, สา เจโตขิลสุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เกวลฺหิ ตตฺถ ‘‘ตสฺสา กุกฺกุฏิยา อณฺเฑสุ ติวิธกิริยกรณํ วิย หิ อิมสฺส ภิกฺขุโน อุสฺโสฬฺหิปนฺนรเสหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตภาโว’’ติ ยํ เอวํ โอปมฺมสํสนฺทนํ อาคตํ, ตํ อิธ เอวํ สีลสมฺปนฺโน โหตีติอาทิวจนโต ‘‘ตสฺสา กุกฺกุฏิยา อณฺเฑสุ ติวิธกิริยกรณํ วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน สีลสมฺปนฺนตาทีหิ ปนฺนรเสหิ ธมฺเมหิ สมงฺคิภาโว’’ติ. เอวํ โยเชตฺวา เวทิตพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตสทิสเมว.

๒๘. อิมํเยว อนุตฺตรํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธินฺติ อิมํ ปมาทิชฺฌาเนหิ อสทิสํ อุตฺตมํ จตุตฺถชฺฌานิกํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ. ปมาภินิพฺภิทาติ ปโม าณเภโท. ทุติยาทีสุปิ เอเสว นโย. กุกฺกุฏจฺฉาปโก ปน เอกวารํ มาตุกุจฺฉิโต เอกวารํ อณฺฑโกสโตติ ทฺเว วาเร ชายติ. อริยสาวโก ตีหิ วิชฺชาหิ ตาโย วาเร ชายติ. ปุพฺเพนิวาสจฺฉาทกํ ตมํ วิโนเทตฺวา ปุพฺเพนิวาสาเณน ปมํ ชายติ, สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิจฺฉาทกํ ตมํ วิโนเทตฺวา ทิพฺพจกฺขุาเณน ทุติยํ ชายติ, จตุสจฺจปฏิจฺฉาทกํ ตมํ วิโนเทตฺวา อาสวกฺขยาเณน ตติยํ ชายติ.

๒๙. อิทมฺปิสฺส โหติ จรณสฺมินฺติ อิทมฺปิ สีลํ อสฺส ภิกฺขุโน จรณํ นาม โหตีติ อตฺโถ. จรณํ นาม พหุ อเนกวิธํ, สีลาทโย ปนฺนรสธมฺมา, ตตฺถ อิทมฺปิ เอกํ จรณนฺติ อตฺโถ. ปทตฺโถ ปน จรติ เตน อคตปุพฺพํ ทิสํ คจฺฉตีติ จรณํ. เอส นโย สพฺพตฺถ.

อิทมฺปิสฺส โหติ วิชฺชายาติ อิทํ ปุพฺเพนิวาสาณํ ตสฺส วิชฺชา นาม โหตีติ อตฺโถ. วิชฺชา นาม พหุ อเนกวิธา, วิปสฺสนาณาทีนิ อฏฺ าณานิ, ตตฺถ อิทมฺปิ าณํ เอกา วิชฺชาติปิ อตฺโถ. ปทตฺโถ ปน วินิวิชฺฌิตฺวา เอตาย ชานาตีติ วิชฺชา. เอส นโย สพฺพตฺถ. วิชฺชาสมฺปนฺโน อิติปีติ ตีหิ วิชฺชาหิ วิชฺชาสมฺปนฺโน อิติปิ. จรณสมฺปนฺโน อิติปีติ ปฺจทสหิ ธมฺเมหิ จรณสมฺปนฺโน อิติปิ. ตทุภเยน ปน วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน อิติปีติ.

๓๐. สนงฺกุมาเรนาติ โปราณกกุมาเรน, จิรกาลโต ปฏฺาย กุมาโรติ ปฺาเตน. โส กิร มนุสฺสปเถ ปฺจจูฬกกุมารกกาเล ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌาโน พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ, ตสฺส โส อตฺตภาโว ปิโย อโหสิ มนาโป, ตสฺมา ตาทิเสเนว อตฺตภาเวน จรติ, เตน นํ สนงฺกุมาโรติ สฺชานนฺติ. ชเนตสฺมินฺติ ชนิตสฺมึ, ปชายาติ อตฺโถ. เย โคตฺตปฏิสาริโนติ เย ชเนตสฺมึ โคตฺตํ ปฏิสรนฺติ ‘‘อหํ โคตโม, อหํ กสฺสโป’’ติ, เตสุ โลเก โคตฺตปฏิสารีสุ ขตฺติโย เสฏฺโ. อนุมตา ภควตาติ มม ปฺหพฺยากรเณน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา เทสิตาติ อมฺพฏฺสุตฺเต พุทฺเธน ภควตา ‘‘อหมฺปิ, อมฺพฏฺ, เอวํ วทามิ –

‘ขตฺติโย เสฏฺโ ชเนตสฺมึ, เย โคตฺตปฏิสาริโน;

วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน, โส เสฏฺโ เทวมานุเส’ติ’’. (ที. นิ. ๑.๒๗๗) –

เอวํ ภาสนฺเตน อนุฺาตา อนุโมทิตา. สาธุ สาธุ อานนฺทาติ, ภควา กิร อาทิโต ปฏฺาย นิทฺทํ อโนกฺกมนฺโตว อิมํ สุตฺตํ สุตฺวา อานนฺเทน เสขปฏิปทาย กูฏํ คหิตนฺติ ตฺวา อุฏฺาย ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสินฺโน สาธุการํ อทาสิ. เอตฺตาวตา จ ปน อิทํ สุตฺตํ ชินภาสิตํ นาม ชาตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

เสขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. โปตลิยสุตฺตวณฺณนา

๓๑. เอวํเม สุตนฺติ โปตลิยสุตฺตํ. ตตฺถ องฺคุตฺตราเปสูติ องฺคาเยว โส ชนปโท, มหิยา ปนสฺส อุตฺตเรน ยา อาโป, ตาสํ อวิทูรตฺตา อุตฺตราโปติปิ วุจฺจติ. กตรมหิยา อุตฺตเรน ยา อาโปติ, มหามหิยา. ตตฺถายํ อาวิภาวกถา – อยํ กิร ชมฺพุทีโป ทสสหสฺสโยชนปริมาโณ. ตตฺถ จ จตุสหสฺสโยชนปฺปมาโณ ปเทโส อุทเกน อชฺโฌตฺถโฏ สมุทฺโทติ สงฺขํ คโต . ติสหสฺสโยชนปฺปมาเณ มนุสฺสา วสนฺติ. ติสหสฺสโยชนปฺปมาเณ หิมวา ปติฏฺิโต อุพฺเพเธน ปฺจโยชนสติโก จตุราสีติกูฏสหสฺสปฏิมณฺฑิโต สมนฺตโต สนฺทมานปฺจสตนทีวิจิตฺโต, ยตฺถ อายามวิตฺถาเรน เจว คมฺภีรตาย จ ปณฺณาสปณฺณาสโยชนา ทิยฑฺฒโยชนสตปริมณฺฑลา อโนตตฺตทโห กณฺณมุณฺฑทโห รถการทโห ฉทฺทนฺตทโห กุณาลทโห มนฺทากินีทโห สีหปปาตทโหติ สตฺต มหาสรา ปติฏฺิตา. เตสุ อโนตตฺตทโห สุทสฺสนกูฏํ จิตฺรกูฏํ กาฬกูฏํ คนฺธมาทนกูฏํ เกลาสกูฏนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ ปพฺพเตหิ ปริกฺขิตฺโต.

ตตฺถ สุทสฺสนกูฏํ โสวณฺณมยํ ทฺวิโยชนสตุพฺเพธํ อนฺโตวงฺกํ กากมุขสณฺานํ ตเมว สรํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ิตํ. จิตฺรกูฏํ สพฺพรตนมยํ. กาฬกูฏํ อฺชนมยํ. คนฺธมาทนกูฏํ สานุมยํ อพฺภนฺตเร มุคฺควณฺณํ, มูลคนฺโธ สารคนฺโธ เผคฺคุคนฺโธ ตจคนฺโธ ปปฏิกคนฺโธ รสคนฺโธ ปตฺตคนฺโธ ปุปฺผคนฺโธ ผลคนฺโธ คนฺธคนฺโธติ อิเมหิ ทสหิ คนฺเธหิ อุสฺสนฺนํ นานปฺปการโอสธสฺฉนฺนํ, กาฬปกฺขอุโปสถทิวเส อาทิตฺตมิว องฺคารํ ชลนฺตํ ติฏฺติ. เกลาสกูฏํ รชตมยํ. สพฺพานิ สุทสฺสเนน สมานุพฺเพธสณฺานานิ, ตเมว สรํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ิตานิ. ตานิ สพฺพานิ เทวานุภาเวน นาคานุภาเวน จ วสฺสนฺติ, นทิโย จ เตสุ สนฺทนฺติ. ตํ สพฺพมฺปิ อุทกํ อโนตตฺตเมว ปวิสติ. จนฺทิมสูริยา ทกฺขิเณน วา อุตฺตเรน วา คจฺฉนฺตา ปพฺพตนฺตเรน ตตฺถ โอภาสํ กโรนฺติ, อุชุํ คจฺฉนฺตา น กโรนฺติ, เตเนวสฺส อโนตตฺตนฺติ สงฺขา อุทปาทิ.

ตตฺถ มโนหรสิลาตลานิ นิมฺมจฺฉกจฺฉปานิ ผลิกสทิสนิมฺมลุทกานิ นฺหานติตฺถานิ สุปฏิยตฺตานิ โหนฺติ, เยสุ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธขีณาสวา จ อิทฺธิมนฺโต จ อิสโย นฺหายนฺติ, เทวยกฺขาทโย อุยฺยานกีฬกํ กีฬนฺติ.

ตสฺส จตูสุ ปสฺเสสุ สีหมุขํ หตฺถิมุขํ อสฺสมุขํ อุสภมุขนฺติ จตฺตาริ มุขานิ โหนฺติ, เยหิ จตสฺโส นทิโย สนฺทนฺติ. สีหมุเขน นิกฺขนฺตนทีตีเร สีหา พหุตรา โหนฺติ. หตฺถิมุขาทีหิ หตฺถิอสฺสอุสภา. ปุรตฺถิมทิสโต นิกฺขนฺตนที อโนตตฺตํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อิตรา ติสฺโส นทิโย อนุปคมฺม ปาจีนหิมวนฺเตเนว อมนุสฺสปถํ คนฺตฺวา มหาสมุทฺทํ ปวิสติ. ปจฺฉิมทิสโต จ อุตฺตรทิสโต จ นิกฺขนฺตนทิโยปิ ตเถว ปทกฺขิณํ กตฺวา ปจฺฉิมหิมวนฺเตเนว อุตฺตรหิมวนฺเตเนว จ อมนุสฺสปถํ คนฺตฺวา มหาสมุทฺทํ ปวิสนฺติ. ทกฺขิณทิสโต นิกฺขนฺตนที ปน ตํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ทกฺขิเณน อุชุกํ ปาสาณปิฏฺเเนว สฏฺิโยชนานิ คนฺตฺวา ปพฺพตํ ปหริตฺวา วุฏฺาย ปริกฺเขเปน ติคาวุตปฺปมาณา อุทกธารา จ หุตฺวา อากาเสน สฏฺิโยชนานิ คนฺตฺวา ติยคฺคเฬ นาม ปาสาเณ ปติตา, ปาสาโณ อุทกธาราเวเคน ภินฺโน. ตตฺถ ปฺาสโยชนปฺปมาณา ติยคฺคฬา นาม โปกฺขรณี ชาตา, โปกฺขรณิยา กูลํ ภินฺทิตฺวา ปาสาณํ ปวิสิตฺวา สฏฺิโยชนานิ คตา. ตโต ฆนปถวึ ภินฺทิตฺวา อุมงฺเคน สฏฺิโยชนานิ คนฺตฺวา วิฺฌุํ นาม ติรจฺฉานปพฺพตํ ปหริตฺวา หตฺถตเล ปฺจงฺคุลิสทิสา ปฺจธารา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ. สา ติกฺขตฺตุํ อโนตตฺตํ ปทกฺขิณํ กตฺวา คตฏฺาเน อาวฏฺฏคงฺคาติ วุจฺจติ. อุชุกํ ปาสาณปิฏฺเน สฏฺิโยชนานิ คตฏฺาเน กณฺหคงฺคาติ, อากาเสน สฏฺิโยชนานิ คตฏฺาเน อากาสคงฺคาติ, ติยคฺคฬปาสาเณ ปฺาสโยชโนกาเส ิตา ติยคฺคฬโปกฺขรณีติ, กูลํ ภินฺทิตฺวา ปาสาณํ ปวิสิตฺวา สฏฺิโยชนานิ คตฏฺาเน พหลคงฺคาติ, อุมงฺเคน สฏฺิโยชนานิ คตฏฺาเน อุมงฺคคงฺคาติ วุจฺจติ. วิฺฌุํ นาม ติรจฺฉานปพฺพตํ ปหริตฺวา ปฺจธารา หุตฺวา ปวตฺตฏฺาเน ปน คงฺคา ยมุนา อจิรวตี สรภู มหีติ ปฺจธา สงฺขํ คตา. เอวเมตา ปฺจ มหานทิโย หิมวนฺตโต ปภวนฺติ. ตาสุ ยา อยํ ปฺจมี มหี นาม, สา อิธ มหามหีติ อธิปฺเปตา. ตสฺสา อุตฺตเรน ยา อาโป, ตาสํ อวิทูรตฺตา โส ชนปโท องฺคุตฺตราโปติ เวทิตพฺโพ. ตสฺมึ องฺคุตฺตราเปสุ ชนปเท.

อาปณํนามาติ ตสฺมึ กิร นิคเม วีสติ อาปณมุขสหสฺสานิ วิภตฺตานิ อเหสุํ. อิติ โส อาปณานํ อุสฺสนฺนตฺตา อาปณนฺตฺเวว สงฺขํ คโต. ตสฺส จ นิคมสฺส อวิทูเร นทีตีเร ฆนจฺฉาโย รมณีโย ภูมิภาโค มหาวนสณฺโฑ, ตสฺมึ ภควา วิหรติ. เตเนเวตฺถ วสนฏฺานํ น นิยามิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เยนฺตโร วนสณฺโฑ เตนุปสงฺกมีติ ภิกฺขุสงฺฆํ วสนฏฺานํ เปเสตฺวา เอกโกว อุปสงฺกมิ โปตลิยํ คหปตึ สนฺธาย. โปตลิโยปิ โข คหปตีติ โปตลิโยติ เอวํนามโก คหปติ. สมฺปนฺนนิวาสนปาวุรโณติ ปริปุณฺณนิวาสนปาวุรโณ , เอกํ ทีฆทสํ สาฏกํ นิวตฺโถ เอกํ ปารุโตติ อตฺโถ. ฉตฺตุปาหนาหีติ ฉตฺตํ คเหตฺวา อุปาหนา อารุยฺหาติ อตฺโถ. อาสนานีติ ปลฺลงฺกปีปลาลปีกาทีนิ. อนฺตมโส สาขาภงฺคมฺปิ หิ อาสนนฺเตว วุจฺจติ. คหปติวาเทนาติ คหปตีติ อิมินา วจเนน. สมุทาจรตีติ โวหรติ.

ภควนฺตํ เอตทโวจาติ ตติยํ คหปตีติ วจนํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต ภควนฺตเมตํ ‘‘ตยิทํ, โภ, โคตมา’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ นจฺฉนฺนนฺติ น อนุจฺฉวิกํ. นปฺปติรูปนฺติ น สารุปฺปํ. อาการาติอาทีนิ สพฺพาเนว การณเววจนานิ. ทีฆทสวตฺถธารณ-เกสมสฺสุนขปนาทีนิ หิ สพฺพาเนว คิหิพฺยฺชนานิ ตสฺส คิหิภาวํ ปากฏํ กโรนฺตีติ อาการา, คิหิสณฺาเนน สณฺิตตฺตา ลิงฺคา, คิหิภาวสฺส สฺชานนนิมิตฺตตาย นิมิตฺตาติ วุตฺตา. ยถา ตํ คหปติสฺสาติ ยถา คหปติสฺส อาการลิงฺคนิมิตฺตา ภเวยฺยุํ, ตเถว ตุยฺหํ. เตน ตาหํ เอวํ สมุทาจรามีติ ทสฺเสติ. อถ โส เยน การเณน คหปติวาทํ นาธิวาเสติ, ตํ ปกาเสนฺโต ‘‘ตถา หิ ปน เม’’ติอาทิมาห.

นิยฺยาตนฺติ นิยฺยาติตํ. อโนวาที อนุปวาทีติ ‘‘ตาตา, กสถ, วปถ, วณิปฺปถํ ปโยเชถา’’ติอาทินา หิ นเยน โอวทนฺโต โอวาที นาม โหติ. ‘‘ตุมฺเห น กสถ, น วปถ, น วณิปฺปถํ ปโยเชถ, กถํ ชีวิสฺสถ, ปุตฺตทารํ วา ภริสฺสถา’’ติอาทินา นเยน ปน อุปวทนฺโต อุปวาที นาม โหติ. อหํ ปน อุภยมฺปิ ตํ น กโรมิ. เตนาหํ ตตฺถ อโนวาที อนุปวาทีติ ทสฺเสติ. ฆาสจฺฉาทนปรโมวิหรามีติ ฆาสมตฺตฺเจว อจฺฉาทนมตฺตฺจ ปรมํ กตฺวา วิหรามิ, ตโต ปรํ นตฺถิ, น จ ปตฺเถมีติ ทีเปติ.

๓๒. คิทฺธิโลโภปหาตพฺโพติ เคธภูโต โลโภ ปหาตพฺโพ. อนินฺทาโรสนฺติ อนินฺทาภูตํ อฆฏฺฏนํ. นินฺทาโรโสติ นินฺทาฆฏฺฏนา. โวหารสมุจฺเฉทายาติ เอตฺถ โวหาโรติ พฺยวหารโวหาโรปิ ปณฺณตฺติปิ วจนมฺปิ เจตนาปิ. ตตฺถ –

‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, โวหารํ อุปชีวติ;

เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, วาณิโช โส น พฺราหฺมโณ’’ติ. (ม. นิ. ๒.๔๕๗) –

อยํ พฺยวหารโวหาโร นาม. ‘‘สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร’’ติ (ธ. ส. ๑๓๑๓-๑๓๑๕) อยํ ปณฺณตฺติโวหาโร นาม. ‘‘ตถา ตถา โวหรติ อปรามส’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๓๓๒) อยํ วจนโวหาโร นาม. ‘‘อฏฺ อริยโวหารา อฏฺ อนริยโวหรา’’ติ (อ. นิ. ๘.๖๗) อยํ เจตนาโวหาโร นาม, อยมิธาธิปฺเปโต. ยสฺมา วา ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย คิหีติ เจตนา นตฺถิ, สมโณติ เจตนา โหติ. คิหีติ วจนํ นตฺถิ, สมโณติ วจนํ โหติ. คิหีติ ปณฺณตฺติ นตฺถิ, สมโณติ ปณฺณตฺติ โหติ. คิหีติ พฺยวหาโร นตฺถิ, สมโณติ วา ปพฺพชิโตติ วา พฺยวหาโร โหติ. ตสฺมา สพฺเพเปเต ลพฺภนฺติ.

๓๓. เยสํ โข อหํ สํโยชนานํ เหตุ ปาณาติปาตีติ เอตฺถ ปาณาติปาโตว สํโยชนํ. ปาณาติปาตสฺเสว หิ เหตุ ปาณาติปาตปจฺจยา ปาณาติปาตี นาม โหติ. ปาณาติปาตานํ ปน พหุตาย ‘‘เยสํ โข อห’’นฺติ วุตฺตํ. เตสาหํสํโยชนานนฺติ เตสํ อหํ ปาณาติปาตพนฺธนานํ. ปหานาย สมุจฺเฉทาย ปฏิปนฺโนติ อิมินา อปาณาติปาตสงฺขาเตน กายิกสีลสํวเรน ปหานตฺถาย สมุจฺเฉทนตฺถาย ปฏิปนฺโน. อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺยาติ กุนฺถกิปิลฺลิกมฺปิ นาม ชีวิตา อโวโรปนกสาสเน ปพฺพชิตฺวา ปาณาติปาตมตฺตโตปิ โอรมิตุํ น สกฺโกมิ, กึ มยฺหํ ปพฺพชฺชายาติ เอวํ อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺย. อนุวิจฺจาปิ มํ วิฺู ครเหยฺยุนฺติ เอวรูเป นาม สาสเน ปพฺพชิตฺวา ปาณาติปาตมตฺตโตปิ โอรมิตุํ น สกฺโกติ, กึ เอตสฺส ปพฺพชฺชายาติ เอวํ อนุวิจฺจ ตุลยิตฺวา ปริโยคาเหตฺวา อฺเปิ วิฺู ปณฺฑิตา ครเหยฺยุํ. เอตเทว โข ปน สํโยชนเมตํ นีวรณนฺติ ทสสุ สํโยชเนสุ ปฺจสุ จ นีวรเณสุ อปริยาปนฺนมฺปิ ‘‘อฏฺ นีวรณา’’ติ เทสนาวเสเนตํ วุตฺตํ. วฏฺฏพนฺธนฏฺเน หิ หิตปฏิจฺฉาทนฏฺเน จ สํโยชนนฺติปิ นีวรณนฺติปิ วุตฺตํ. อาสวาติ ปาณาติปาตการณา เอโก อวิชฺชาสโว อุปฺปชฺชติ. วิฆาตปริฬาหาติ วิฆาตา จ ปริฬาหา จ. ตตฺถ วิฆาตคฺคหเณน กิเลสทุกฺขฺจ วิปากทุกฺขฺจ คหิตํ, ปริฬาหคฺคหเณนปิ กิเลสปริฬาโห จ วิปากปริฬาโห จ คหิโต. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๓๔-๔๐. อยํ ปน วิเสโส – เตสาหํ สํโยชนานํ ปหานายาติ อิมสฺมึ ปเท อิมินา ทินฺนาทานสงฺขาเตน กายิกสีลสํวเรน, สจฺจวาจาสงฺขาเตน วาจสิกสีลสํวเรน, อปิสุณาวาจาสงฺขาเตน วาจสิกสีลสํวเรน, อคิทฺธิโลภสงฺขาเตน มานสิกสีลสํวเรน, อนินฺทาโรสสงฺขาเตน กายิกวาจสิกสีลสํวเรน , อโกธุปายาสสงฺขาเตน มานสิกสีลสํวเรน, อนติมานสงฺขาเตน มานสิกสีลสํวเรน ปหานตฺถาย สมุจฺเฉทนตฺถาย ปฏิปนฺโนติ เอวํ สพฺพวาเรสุ โยชนา กาตพฺพา.

อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺย อนุวิจฺจาปิ มํ วิฺู ครเหยฺยุนฺติ อิเมสุ ปน ปเทสุ ติณสลากมฺปิ นาม อุปาทาย อทินฺนํ อคฺคหณสาสเน ปพฺพชิตฺวา อทินฺนาทานมตฺตโตปิ วิรมิตุํ น สกฺโกมิ, กึ มยฺหํ ปพฺพชฺชายาติ เอวํ อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺย. เอวรูเป นาม สาสเน ปพฺพชิตฺวา อทินฺนาทานมตฺตโตปิ โอรมิตุํ น สกฺโกติ, กึ อิมสฺส ปพฺพชฺชายาติ เอวํ อนุวิจฺจาปิ มํ วิฺู ครเหยฺยุํ? หสาเปกฺขตายปิ นาม ทวกมฺยตาย วา มุสาวาทํ อกรณสาสเน ปพฺพชิตฺวา. สพฺพากาเรน ปิสุณํ อกรณสาสเน นาม ปพฺพชิตฺวา. อปฺปมตฺตกมฺปิ คิทฺธิโลภํ อกรณสาสเน นาม ปพฺพชิตฺวาปิ. กกเจน องฺเคสุ โอกฺกนฺติยมาเนสุปิ นาม ปเรสํ นินฺทาโรสํ อกรณสาสเน ปพฺพชิตฺวา. ฉินฺนขาณุกณฺฏกาทีสุปิ นาม โกธุปายาสํ อกรณสาสเน ปพฺพชิตฺวา. อธิมานมตฺตมฺปิ นาม มานํ อกรณสาสเน ปพฺพชิตฺวา อติมานมตฺตมฺปิ ปชหิตุํ น สกฺโกมิ, กึ มยฺหํ ปพฺพชฺชายาติ เอวํ อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺย. เอวรูเป นาม สาสเน ปพฺพชิตฺวา อติมานมตฺตมฺปิ ปชหิตุํ น สกฺโกติ, กึ อิมสฺส ปพฺพชฺชายาติ เอวํ อนุวิจฺจาปิ มํ วิฺู ครเหยฺยุนฺติ เอวํ สพฺพวาเรสุ โยชนา กาตพฺพา.

อาสวาติ อิมสฺมึ ปน ปเท อทินฺนาทานการณา กามาสโว ทิฏฺาสโว อวิชฺชาสโวติ ตโย อาสวา อุปฺปชฺชนฺติ, ตถา มุสาวาทการณา ปิสุณาวาจาการณา จ, คิทฺธิโลภการณา ทิฏฺาสโว อวิชฺชาสโว จ, นินฺทาโรสการณา อวิชฺชาสโวว, ตถา โกธุปายาสการณา, อติมานการณา ภวาสโว อวิชฺชาสโว จาติ ทฺเวว อาสวา อุปฺปชฺชนฺตีติ เอวํ อาสวุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา.

อิเมสุ ปน อฏฺสุปิ วาเรสุ อสมฺโมหตฺถํ ปุน อยํ สงฺเขปวินิจฺฉโย – ปุริเมสุ ตาว จตูสุ วิรมิตุํ น สกฺโกมีติ วตฺตพฺพํ, ปจฺฉิเมสุ ปชหิตุํ น สกฺโกมีติ. ปาณาติปาตนินฺทาโรสโกธุปายาเสสุ จ เอโก อวิชฺชาสโวว โหติ, อทินฺนาทานมุสาวาทปิสุณาวาจาสุ กามาสโว ทิฏฺาสโว อวิชฺชาสโว, คิทฺธิโลเภ ทิฏฺาสโว อวิชฺชาสโว, อติมาเน ภวาสโว อวิชฺชาสโว, อปาณาติปาตํ ทินฺนาทานํ กายิกํ สีลํ, อมุสา อปิสุณํ วาจสิกสีลํ, เปตฺวา อนินฺทาโรสํ เสสานิ ตีณิ มานสิกสีลานิ. ยสฺมา ปน กาเยนปิ ฆฏฺเฏติ โรเสติ วาจายปิ, ตสฺมา อนินฺทาโรโส ทฺเว านานิ ยาติ, กายิกสีลมฺปิ โหติ วาจสิกสีลมฺปิ. เอตฺตาวตา กึ กถิตํ? ปาติโมกฺขสํวรสีลํ. ปาติโมกฺขสํวรสีเล ิตสฺส จ ภิกฺขุโน ปฏิสงฺขาปหานวเสน คิหิโวหารสมุจฺเฉโท กถิโตติ เวทิตพฺโพ.

กามาทีนวกถาวณฺณนา

๔๒. วิตฺถารเทสนายํ ตเมนํ ทกฺโขติ ปทสฺส อุปสุมฺเภยฺยาติ อิมินา สทฺธึ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อิทํ วุตฺตํ โหติ, ตเมนํ กุกฺกุรํ อุปสุมฺเภยฺย, ตสฺส สมีเป ขิเปยฺยาติ อตฺโถ. อฏฺิกงฺกลนฺติ อุรฏฺึ วา ปิฏฺิกณฺฏกํ วา สีสฏฺึ วา. ตฺหิ นิมฺมํสตฺตา กงฺกลนฺติ วุจฺจติ. สุนิกฺกนฺตํนิกฺกนฺตนฺติ ยถา สุนิกฺกนฺตํ โหติ, เอวํ นิกฺกนฺตํ นิลฺลิขิตํ, ยเทตฺถ อลฺลีนมํสํ อตฺถิ, ตํ สพฺพํ นิลฺลิขิตฺวา อฏฺิมตฺตเมว กตนฺติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘นิมฺมํส’’นฺติ. โลหิตํ ปน มกฺขิตฺวา ติฏฺติ, เตน วุตฺตํ ‘‘โลหิตมกฺขิต’’นฺติ.

พหุทุกฺขา พหุปายาสาติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิเกหิ ทุกฺเขหิ พหุทุกฺขา, อุปายาสสํกิเลเสหิ พหุปายาสา. ยายํ อุเปกฺขา นานตฺตา นานตฺตสิตาติ ยา อยํ ปฺจกามคุณารมฺมณวเสน นานาสภาวา, ตาเนว จ อารมฺมณานิ นิสฺสิตตฺตา ‘‘นานตฺตสิตา’’ติ วุจฺจติ ปฺจกามคุณูเปกฺขา, ตํ อภินิวชฺเชตฺวา. เอกตฺตา เอกตฺตสิตาติ จตุตฺถชฺฌานุเปกฺขา, สา หิ ทิวสมฺปิ เอกสฺมึ อารมฺมเณ อุปฺปชฺชนโต เอกสภาวา, ตเทว เอกํ อารมฺมณํ นิสฺสิตตฺตา เอกตฺตสิตา นาม. ยตฺถ สพฺพโส โลกามิสูปาทานา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺตีติ ยตฺถ จตุตฺถชฺฌานุเปกฺขายํ ยํ อุเปกฺขํ อาคมฺม ยํ ปฏิจฺจ สพฺเพน สพฺพํ อปริเสสา โลกามิสสงฺขาตา ปฺจกามคุณามิสา นิรุชฺฌนฺติ. ปฺจกามคุณามิสาติ จ กามคุณารมฺมณฉนฺทราคา, คหณฏฺเน เตเยว จ อุปาทานาติปิ วุตฺตา. ตเมวูเปกฺขํ ภาเวตีติ ตํ โลกามิสูปาทานานํ ปฏิปกฺขภูตํ จตุตฺถชฺฌานุเปกฺขเมว วฑฺเฒติ.

๔๓. อุฑฺฑีเยยฺยาติ อุปฺปติตฺวา คจฺเฉยฺย. อนุปติตฺวาติ อนุพนฺธิตฺวา. วิตจฺเฉยฺยุนฺติ มุขตุณฺฑเกน ฑํสนฺตา ตจฺเฉยฺยุํ. วิสฺสชฺเชยฺยุนฺติ มํสเปสึ นเขหิ กฑฺฒิตฺวา ปาเตยฺยุํ.

๔๗. ยานํ วา โปริเสยฺยนฺติ ปุริสานุจฺฉวิกํ ยานํ. ปวรมณิกุณฺฑลนฺติ นานปฺปการํ อุตฺตมมณิฺจ กุณฺฑลฺจ. สานิ หรนฺตีติ อตฺตโน ภณฺฑกานิ คณฺหนฺติ.

๔๘. สมฺปนฺนผลนฺติ มธุรผลํ. อุปปนฺนผลนฺติ ผลูปปนฺนํ พหุผลํ.

๔๙. อนุตฺตรนฺติ อุตฺตมํ ปภสฺสรํ นิรุปกฺกิเลสํ.

๕๐. อารกา อหํ, ภนฺเตติ ปถวิโต นภํ วิย สมุทฺทสฺส โอริมตีรโต ปรตีรํ วิย จ สุวิทูรวิทูเร อหํ. อนาชานีเยติ คิหิโวหารสมุจฺเฉทนสฺส การณํ อชานนเก. อาชานียโภชนนฺติ การณํ ชานนฺเตหิ ภุฺชิตพฺพํ โภชนํ. อนาชานียโภชนนฺติ การณํ อชานนฺเตหิ ภุฺชิตพฺพํ โภชนํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

โปตลิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ชีวกสุตฺตวณฺณนา

๕๑. เอวํเม สุตนฺติ ชีวกสุตฺตํ. ตตฺถ ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส อมฺพวเนติ เอตฺถ ชีวตีติ ชีวโก. กุมาเรน ภโตติ โกมารภจฺโจ. ยถาห ‘‘กึ เอตํ ภเณ กาเกหิ สมฺปริกิณฺณนฺติ? ทารโก เทวาติ. ชีวติ ภเณติ? ชีวติ เทวาติ. เตน หิ ภเณ ตํ ทารกํ อมฺหากํ อนฺเตปุรํ เนตฺวา ธาตีนํ เทถ โปเสตุนฺติ. ตสฺส ชีวตีติ ชีวโกติ นามํ อกํสุ, กุมาเรน โปสาปิโตติ โกมารภจฺโจติ นามํ อกํสู’’ติ (มหาว. ๓๒๘). อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาเรน ปน ชีวกวตฺถุ ขนฺธเก อาคตเมว. วินิจฺฉยกถาปิสฺส สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วุตฺตา.

อยํ ปน ชีวโก เอกสฺมึ สมเย ภควโต โทสาภิสนฺนํ กายํ วิเรเจตฺวา สีเวยฺยกํ ทุสฺสยุคํ ทตฺวา วตฺถานุโมทนปริโยสาเน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาย จินฺเตสิ – ‘‘มยา ทิวสสฺส ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ พุทฺธุปฏฺานํ คนฺตพฺพํ, อิทฺจ เวฬุวนํ อติทูเร, มยฺหํ อุยฺยานํ อมฺพวนํ อาสนฺนตรํ, ยํนูนาหเมตฺถ ภควโต วิหารํ กาเรยฺย’’นฺติ. โส ตสฺมึ อมฺพวเน รตฺติฏฺานทิวาฏฺานเลณกุฏิมณฺฑปาทีนิ สมฺปาเทตฺวา ภควโต อนุจฺฉวิกํ คนฺธกุฏึ กาเรตฺวา อมฺพวนํ อฏฺารสหตฺถุพฺเพเธน ตมฺพปฏฺฏวณฺเณน ปากาเรน ปริกฺขิปาเปตฺวา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ จีวรภตฺเตน สนฺตปฺเปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ปาเตตฺวา วิหารํ นิยฺยาเตสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส อมฺพวเน’’ติ.

อารภนฺตีติ ฆาเตนฺติ. อุทฺทิสฺสกตนฺติ อุทฺทิสิตฺวา กตํ. ปฏิจฺจกมฺมนฺติ อตฺตานํ ปฏิจฺจ กตํ. อถ วา ปฏิจฺจกมฺมนฺติ นิมิตฺตกมฺมสฺเสตํ อธิวจนํ, ตํ ปฏิจฺจ กมฺมเมตฺถ อตฺถีติ มํสํ ‘‘ปฏิจฺจกมฺม’’นฺติ วุตฺตํ โหติ โย เอวรูปํ มํสํ ปริภุฺชติ, โสปิ ตสฺส กมฺมสฺส ทายาโท โหติ, วธกสฺส วิย ตสฺสาปิ ปาณฆาตกมฺมํ โหตีติ เตสํ ลทฺธิ. ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรนฺตีติ ภควตา วุตฺตการณสฺส อนุการณํ กเถนฺติ. เอตฺถ จ การณํ นาม ติโกฏิปริสุทฺธมจฺฉมํสปริโภโค, อนุการณํ นาม มหาชนสฺส ตถา พฺยากรณํ. ยสฺมา ปน ภควา อุทฺทิสฺสกตํ น ปริภุฺชติ, ตสฺมา เนว ตํ การณํ โหติ, น ติตฺถิยานํ ตถา พฺยากรณํ อนุการณํ. สหธมฺมิโก วาทานุวาโทติ ปเรหิ วุตฺตการเณน สการโณ หุตฺวา ตุมฺหากํ วาโท วา อนุวาโท วา วิฺูหิ ครหิตพฺพการณํ โกจิ อปฺปมตฺตโกปิ กึ น อาคจฺฉติ . อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘กึ สพฺพากาเรนปิ ตุมฺหากํ วาเท คารยฺหํ การณํ นตฺถี’’ติ. อพฺภาจิกฺขนฺตีติ อภิภวิตฺวา อาจิกฺขนฺติ.

๕๒. าเนหีติ การเณหิ. ทิฏฺาทีสุ ทิฏฺํ นาม ภิกฺขูนํ อตฺถาย มิคมจฺเฉ วธิตฺวา คยฺหมานํ ทิฏฺํ. สุตํ นาม ภิกฺขูนํ อตฺถาย มิคมจฺเฉ วธิตฺวา คหิตนฺติ สุตํ. ปริสงฺกิตํ นาม ทิฏฺปริสงฺกิตํ สุตปริสงฺกิตํ ตทุภยวิมุตฺตปริสงฺกิตนฺติ ติวิธํ โหติ.

ตตฺรายํ สพฺพสงฺคาหกวินิจฺฉโย – อิธ ภิกฺขู ปสฺสนฺติ มนุสฺเส ชาลวาคุราทิหตฺเถ คามโต วา นิกฺขมนฺเต อรฺเ วา วิจรนฺเต. ทุติยทิวเส จ เนสํ ตํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ สมจฺฉมํสํ ปิณฺฑปาตํ อภิหรนฺติ. เต เตน ทิฏฺเน ปริสงฺกนฺติ ‘‘ภิกฺขูนํ นุ โข อตฺถาย กต’’นฺติ, อิทํ ทิฏฺปริสงฺกิตํ นาม, เอตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ, ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ, อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ อตฺถาย วา กต’’นฺติ วทนฺติ, กปฺปติ.

น เหว โข ภิกฺขู ปสฺสนฺติ, อปิจ สุณนฺติ ‘‘มนุสฺสา กิร ชาลวาคุราทิหตฺถา คามโต วา นิกฺขมนฺติ อรฺเ วา วิจรนฺตี’’ติ. ทุติยทิวเส จ เนสํ ตํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ สมจฺฉมํสํ ปิณฺฑปาตํ อภิหรนฺติ. เต เตน สุเตน ปริสงฺกนฺติ ‘‘ภิกฺขูนํ นุ โข อตฺถาย กต’’นฺติ, อิทํ สุตปริสงฺกิตํ นาม, เอตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ, ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ, อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ อตฺถาย วา กต’’นฺติ วทนฺติ, กปฺปติ.

น เหว โข ปน ปสฺสนฺติ น สุณนฺติ, อปิจ เตสํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ ปตฺตํ คเหตฺวา สมจฺฉมํสํ ปิณฺฑปาตํ อภิสงฺขริตฺวา อภิหรนฺติ. เต ปริสงฺกนฺติ ‘‘ภิกฺขูนํ นุ โข อตฺถาย กต’’นฺติ, อิทํ ตทุภยวิมุตฺตปริสงฺกิตํ นาม. เอตมฺปิ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ, ตํ วฏฺฏติ . สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ, อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ อตฺถาย วา กตํ, ปวตฺตมํสํ วา กตํ, กปฺปิยเมว ลภิตฺวา ภิกฺขูนํ อตฺถาย สมฺปาทิต’’นฺติ วทนฺติ, กปฺปติ.

มตานํ เปตกิจฺจตฺถาย มงฺคลาทีนํ วา อตฺถาย กเตปิ เอเสว นโย. ยํ ยฺหิ ภิกฺขูนํเยว อตฺถาย อกตํ, ยตฺถ จ นิพฺเพมติกา โหนฺติ, ตํ สพฺพํ กปฺปติ. สเจ ปน เอกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู อุทฺทิสฺส กตํ โหติ, เต จ อตฺตโน อตฺถาย กตภาวํ น ชานนฺติ, อฺเ ชานนฺติ. เย ชานนฺติ, เตสํ น วฏฺฏติ, อิตเรสํ วฏฺฏติ. อฺเ น ชานนฺติ, เตเยว ชานนฺติ, เตสํเยว น วฏฺฏติ, อฺเสํ วฏฺฏติ. เตปิ ‘‘อมฺหากํ อตฺถาย กตํ’’ติ ชานนฺติ อฺเปิ ‘‘เอเตสํ อตฺถาย กต’’นฺติ ชานนฺติ, สพฺเพสมฺปิ ตํ น วฏฺฏติ. สพฺเพ น ชานนฺติ, สพฺเพสํ วฏฺฏติ. ปฺจสุ หิ สหธมฺมิเกสุ ยสฺส กสฺสจิ วา อตฺถาย อุทฺทิสฺส กตํ สพฺเพสํ น กปฺปติ.

สเจ ปน โกจิ เอกํ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส ปาณํ วธิตฺวา ตสฺส ปตฺตํ ปูเรตฺวา เทติ, โส เจ อตฺตโน อตฺถาย กตภาวํ ชานํเยว คเหตฺวา อฺสฺส ภิกฺขุโน เทติ, โส ตสฺส สทฺธาย ปริภุฺชติ. กสฺสาปตฺตีติ? ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ. ยฺหิ อุทฺทิสฺส กตํ, ตสฺส อภุตฺตตาย อนาปตฺติ, อิตรสฺส อชานนตาย. กปฺปิยมํสสฺส หิ ปฏิคฺคหเณ อาปตฺติ นตฺถิ. อุทฺทิสฺสกตฺจ อชานิตฺวา ภุตฺตสฺส ปจฺฉา ตฺวา อาปตฺติเทสนากิจฺจํ นาม นตฺถิ. อกปฺปิยมํสํ ปน อชานิตฺวา ภุตฺเตน ปจฺฉา ตฺวาปิ อาปตฺติ เทเสตพฺพา. อุทฺทิสฺสกตฺหิ ตฺวา ภุฺชโตว อาปตฺติ, อกปฺปิยมํสํ อชานิตฺวา ภุตฺตสฺสาปิ อาปตฺติเยว. ตสฺมา อาปตฺติภีรุเกน รูปํ สลฺลกฺเขนฺเตนาปิ ปุจฺฉิตฺวาว มํสํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, ปริโภคกาเล ปุจฺฉิตฺวา ปริภุฺชิสฺสามีติ วา คเหตฺวา ปุจฺฉิตฺวาว ปริภุฺชิตพฺพํ. กสฺมา? ทุวิฺเยฺยตฺตา. อจฺฉมํสฺหิ สูกรมํสสทิสํ โหติ, ทีปิมํสาทีนิ จ มิคมํสสทิสานิ, ตสฺมา ปุจฺฉิตฺวา คหณเมว วฏฺฏตีติ วทนฺติ.

อทิฏฺนฺติ ภิกฺขูนํ อตฺถาย วธิตฺวา คยฺหมานํ อทิฏฺํ. อสุตนฺติ ภิกฺขูนํ อตฺถาย วธิตฺวา คหิตนฺติ อสุตํ. อปริสงฺกิตนฺติ ทิฏฺปริสงฺกิตาทิวเสน อปริสงฺกิตํ. ปริโภคนฺติ วทามีติ อิเมหิ ตีหิ การเณหิ ปริสุทฺธํ ติโกฏิปริสุทฺธํ นาม โหติ, ตสฺส ปริโภโค อรฺเ ชาตสูเปยฺยสากปริโภคสทิโส โหติ, ตถารูปํ ปริภุฺชนฺตสฺส เมตฺตาวิหาริสฺส ภิกฺขุโน โทโส วา วชฺชํ วา นตฺถิ, ตสฺมา ตํ ปริภุฺชิตพฺพนฺติ วทามีติ อตฺโถ.

๕๓. อิทานิ ตาทิสสฺส ปริโภเค เมตฺตาวิหาริโนปิ อนวชฺชตํ ทสฺเสตุํ อิธ, ชีวก, ภิกฺขูติอาทิมาห. ตตฺถ กิฺจาปิ อนิยเมตฺวา ภิกฺขูติ วุตฺตํ, อถ โข อตฺตานเมว สนฺธาย เอตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ภควตา หิ มหาวจฺฉโคตฺตสุตฺเต, จงฺกีสุตฺเต, อิมสฺมึ สุตฺเตติ ตีสุ าเนสุ อตฺตานํเยว สนฺธาย เทสนา กตา. ปณีเตนปิณฺฑปาเตนาติ เหฏฺา อนงฺคณสุตฺเต โย โกจิ มหคฺโฆ ปิณฺฑปาโต ปณีตปิณฺฑปาโตติ อธิปฺเปโต, อิธ ปน มํสูปเสจโนว อธิปฺเปโต. อคถิโตติ ตณฺหาย อคถิโต. อมุจฺฉิโตติ ตณฺหามุจฺฉนาย อมุจฺฉิโต. อนชฺโฌปนฺโนติ น อธิโอปนฺโน, สพฺพํ อาลุมฺปิตฺวา เอกปฺปหาเรเนว คิลิตุกาโม กาโก วิย น โหตีติ อตฺโถ. อาทีนวทสฺสาวีติ เอกรตฺติวาเสน อุทรปฏลํ ปวิสิตฺวา นวหิ วณมุเขหิ นิกฺขมิสฺสตีติอาทินา นเยน อาทีนวํ ปสฺสนฺโต. นิสฺสรณปฺโ ปริภุฺชตีติ อิทมตฺถมาหารปริโภโคติ ปฺาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปริภุฺชติ. อตฺตพฺยาพาธาย วา เจเตตีติ อตฺตทุกฺขาย วา จิเตติ. สุตเมตนฺติ สุตํ มยา เอตํ ปุพฺเพ, เอตํ มยฺหํ สวนมตฺตเมวาติ ทสฺเสติ. สเจ โข เต, ชีวก, อิทํ สนฺธาย ภาสิตนฺติ, ชีวก, มหาพฺรหฺมุนา วิกฺขมฺภนปฺปหาเนน พฺยาปาทาทโย ปหีนา, เตน โส เมตฺตาวิหารี มยฺหํ สมุจฺเฉทปฺปหาเนน, สเจ เต อิทํ สนฺธาย ภาสิตํ, เอวํ สนฺเต ตว อิทํ วจนํ อนุชานามีติ อตฺโถ. โส สมฺปฏิจฺฉิ.

๕๔. อถสฺส ภควา เสสพฺรหฺมวิหารวเสนาปิ อุตฺตริ เทสนํ วฑฺเฒนฺโต ‘‘อิธ, ชีวก, ภิกฺขู’’ติอาทิมาห. ตํ อุตฺตานตฺถเมว.

๕๕. โยโข ชีวกาติ อยํ ปาฏิเอกฺโก อนุสนฺธิ. อิมสฺมิฺหิ าเน ภควา ทฺวารํ ถเกติ, สตฺตานุทฺทยํ ทสฺเสติ. สเจ หิ กสฺสจิ เอวมสฺส ‘‘เอกํ รสปิณฺฑปาตํ ทตฺวา กปฺปสตสหสฺสํ สคฺคสมฺปตฺตึ ปฏิลภนฺติ, ยํกิฺจิ กตฺวา ปรํ มาเรตฺวาปิ รสปิณฺฑปาโตว ทาตพฺโพ’’ติ, ตํ ปฏิเสเธนฺโต ‘‘โย โข, ชีวก, ตถาคตํ วา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ อิมินา ปเมน าเนนาติ อิมินา อาณตฺติมตฺเตเนว ตาว ปเมน การเณน. คลปฺปเวธเกนาติ โยตฺเตน คเล พนฺธิตฺวา กฑฺฒิโต คเลน ปเวเธนฺเตน. อารภิยมาโนติ มาริยมาโน. อกปฺปิเยน อาสาเทตีติ อจฺฉมํสํ สูกรมํสนฺติ, ทีปิมํสํ วา มิคมํสนฺติ ขาทาเปตฺวา – ‘‘ตฺวํ กึ สมโณ นาม, อกปฺปิยมํสํ เต ขาทิต’’นฺติ ฆฏฺเฏติ. เย ปน ทุพฺภิกฺขาทีสุ วา พฺยาธินิคฺคหณตฺถํ วา ‘‘อจฺฉมํสํ นาม สูกรมํสสทิสํ, ทีปิมํสํ มิคมํสสทิส’’นฺติ ชานนฺตา ‘‘สูกรมํสํ อิทํ, มิคมํสํ อิท’’นฺติ วตฺวา หิตชฺฌาสเยน ขาทาเปนฺติ, น เต สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เตสฺหิ พหุปุฺเมว โหติ. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจาติ อยํ อาคตผโล วิฺาตสาสโน ทิฏฺสจฺโจ อริยสาวโก. อิมํ ปน ธมฺมเทสนํ โอคาหนฺโต ปสาทํ อุปฺปาเทตฺวา ธมฺมกถาย ถุตึ กโรนฺโต เอวมาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

ชีวกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อุปาลิสุตฺตวณฺณนา

๕๖. เอวํเม สุตนฺติ อุปาลิสุตฺตํ. ตตฺถ นาฬนฺทายนฺติ นาลนฺทาติ เอวํนามเก นคเร ตํ นครํ โคจรคามํ กตฺวา. ปาวาริกมฺพวเนติ ทุสฺสปาวาริกเสฏฺิโน อมฺพวเน. ตํ กิร ตสฺส อุยฺยานํ อโหสิ, โส ภควโต ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ภควติ ปสนฺโน ตสฺมึ อุยฺยาเน กุฏิเลณมณฺฑปาทิปฏิมณฺฑิตํ ภควโต วิหารํ กตฺวา นิยฺยาเทสิ, โส วิหาโร ชีวกมฺพวนํ วิย ปาวาริกมฺพวนนฺเตว สงฺขํ คโต. ตสฺมึ ปาวาริกมฺพวเน วิหรตีติ อตฺโถ. ทีฆตปสฺสีติ ทีฆตฺตา เอวํลทฺธนาโม. ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโตติ ปิณฺฑปาตโต ปฏิกฺกนฺโต. สาสเน วิย กึ ปน พาหิรายตเน ปิณฺฑปาโตติ โวหาโร อตฺถีติ, นตฺถิ.

ปฺเปตีติ ทสฺเสติ เปติ. ทณฺฑานิ ปฺเปตีติ อิทํ นิคณฺสมเยน ปุจฺฉนฺโต อาห. กายทณฺฑํ วจีทณฺฑํ มโนทณฺฑนฺติ เอตฺถ ปุริมทณฺฑทฺวยํ เต อจิตฺตกํ ปยฺยเปนฺติ. ยถา กิร วาเต วายนฺเต สาขา จลติ, อุทกํ จลติ, น จ ตตฺถ จิตฺตํ อตฺถิ, เอวํ กายทณฺโฑปิ อจิตฺตโกว โหติ. ยถา จ วาเต วายนฺเต ตาลปณฺณาทีนิ สทฺทํ กโรนฺติ, อุทกานิ สทฺทํ กโรนฺติ , น จ ตตฺถ จิตฺตํ อตฺถิ, เอวํ วจีทณฺโฑปิ อจิตฺตโกว โหตีติ อิมํ ทณฺฑทฺวยํ อจิตฺตกํ ปฺเปนฺติ. จิตฺตํ ปน มโนทณฺฑนฺติ ปฺเปนฺติ. อถสฺส ภควา วจนํ ปติฏฺเปตุกาโม ‘‘กึ ปน ตปสฺสี’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ กถาวตฺถุสฺมินฺติ เอตฺถ กถาเยว กถาวตฺถุ. กถายํ ปติฏฺเปสีติ อตฺโถ. กสฺมา ปน ภควา เอวมกาสิ? ปสฺสติ หิ ภควา ‘‘อยํ อิมํ กถํ อาทาย คนฺตฺวา อตฺตโน สตฺถุ มหานิคณฺสฺส อาโรเจสฺสติ, ตาสฺจ ปริสติ, อุปาลิ คหปติ นิสินฺโน, โส อิมํ กถํ สุตฺวา มม วาทํ อาโรเปตุํ อาคมิสฺสติ, ตสฺสาหํ ธมฺมํ เทเสสฺสามิ, โส ติกฺขตฺตุํ สรณํ คมิสฺสติ, อถสฺส จตฺตาริ สจฺจานิ ปกาเสสฺสามิ, โส สจฺจปกาสนาวสาเน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิสฺสติ, ปเรสํ สงฺคหตฺถเมว หิ มยา ปารมิโย ปูริตา’’ติ. อิมมตฺถํ ปสฺสนฺโต เอวมกาสิ.

๕๗. กมฺมานิปฺเปสีติ อิทํ นิคณฺโ พุทฺธสมเยน ปุจฺฉนฺโต อาห. กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมนฺติ เอตฺถ กายทฺวาเร อาทานคหณมุฺจนโจปนปตฺตา อฏฺกามาวจรกุสลเจตนา ทฺวาทสากุสลเจตนาติ วีสติเจตนา กายกมฺมํ นาม. กายทฺวาเร อาทานาทีนิ อปตฺวา วจีทฺวาเร วจนเภทํ ปาปยมานา อุปฺปนฺนา ตาเยว วีสติเจตนา วจีกมฺมํ นาม. อุภยทฺวาเร โจปนํ อปฺปตฺวา มโนทฺวาเร อุปฺปนฺนา เอกูนตึสกุสลากุสลเจตนา มโนกมฺมํ นาม. อปิจ สงฺเขปโต ติวิธํ กายทุจฺจริตํ กายกมฺมํ นาม, จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ วจีกมฺมํ นาม, ติวิธํ มโนทุจฺจริตํ มโนกมฺมํ นาม. อิมสฺมิฺจ สุตฺเต กมฺมํ ธุรํ, อนนฺตรสุตฺเต ‘‘จตฺตาริมานิ ปุณฺณ กมฺมานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานี’’ติ (ม. นิ. ๒.๘๑) เอวมาคเตปิ เจตนา ธุรํ. ยตฺถ กตฺถจิ ปวตฺตา เจตนา ‘‘กณฺหํ กณฺหวิปาก’’นฺติอาทิเภทํ ลภติ. นิทฺเทสวาเร จสฺส ‘‘สพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรตี’’ติอาทินา นเยน สา วุตฺตาว. กายทฺวาเร ปวตฺตา ปน อิธ กายกมฺมนฺติ อธิปฺเปตํ, วจีทฺวาเร ปวตฺตา วจีกมฺมํ, มโนทฺวาเร ปวตฺตา มโนกมฺมํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อิมสฺมึ สุตฺเต กมฺมํ ธุรํ, อนนฺตรสุตฺเต เจตนา’’ติ. กมฺมมฺปิ หิ ภควา กมฺมนฺติ ปฺเปติ ยถา อิมสฺมึเยว สุตฺเต. เจตนมฺปิ, ยถาห – ‘‘เจตนาหํ, ภิกฺขเว, กมฺมํ วทามิ, เจตยิตฺวา กมฺมํ กโรตี’’ติ (อ. นิ. ๖.๖๓). กสฺมา ปน เจตนา กมฺมนฺติ วุตฺตา? เจตนามูลกตฺตา กมฺมสฺส.

เอตฺถ จ อกุสลํ ปตฺวา กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มหนฺตนฺติ วทนฺโต น กิลมติ, กุสลํ ปตฺวา มโนกมฺมํ. ตถา หิ มาตุฆาตาทีนิ จตฺตาริ กมฺมานิ กาเยเนว อุปกฺกมิตฺวา กาเยเนว กโรติ, นิรเย กปฺปฏฺิกสงฺฆเภทกมฺมํ วจีทฺวาเรน กโรติ. เอวํ อกุสลํ ปตฺวา กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มหนฺตนฺติ วทนฺโต น กิลมติ นาม. เอกา ปน ฌานเจตนา จตุราสีติกปฺปสหสฺสานิ สคฺคสมฺปตฺตึ อาวหติ, เอกา มคฺคเจตนา สพฺพากุสลํ สมุคฺฆาเตตฺวา อรหตฺตํ คณฺหาเปติ. เอวํ กุสลํ ปตฺวา มโนกมฺมํ มหนฺตนฺติ วทนฺโต น กิลมติ นาม. อิมสฺมึ ปน าเน ภควา อกุสลํ ปตฺวา มโนกมฺมํ มหาสาวชฺชํ วทมาโน นิยตมิจฺฉาทิฏฺึ สนฺธาย วทติ. เตเนวาห – ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ มหาสาวชฺชํ, ยถยิทํ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ. มิจฺฉาทิฏฺิปรมานิ, ภิกฺขเว, มหาสาวชฺชานี’’ติ (อ. นิ. ๑.๓๑๐).

อิทานิ นิคณฺโปิ ตถาคเตน คตมคฺคํ ปฏิปชฺชนฺโต กิฺจิ อตฺถนิปฺผตฺตึ อปสฺสนฺโตปิ ‘‘กึ ปนาวุโส, โคตมา’’ติอาทิมาห.

๕๘. พาลกินิยาติ อุปาลิสฺส กิร พาลกโลณการคาโม นาม อตฺถิ, ตโต อายํ คเหตฺวา มนุสฺสา อาคตา, โส ‘‘เอถ ภเณ, อมฺหากํ สตฺถารํ มหานิคณฺํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ ตาย ปริสาย ปริวุโต ตตฺถ อคมาสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘พาลกินิยา ปริสายา’’ติ, พาลกคามวาสินิยาติ อตฺโถ. อุปาลิปมุขายาติ อุปาลิเชฏฺกาย. อปิจ พาลกินิยาติ พาลวติยา พาลุสฺสนฺนายาติปิ อตฺโถ. อุปาลิปมุขายาติ อุปาลิคหปติเยว ตตฺถ โถกํ สปฺปฺโ, โส ตสฺสา ปมุโข เชฏฺโก. เตนาปิ วุตฺตํ ‘‘อุปาลิปมุขายา’’ติ. หนฺทาติ วจสายตฺเถ นิปาโต. ฉโวติ ลามโก. โอฬาริกสฺสาติ มหนฺตสฺส . อุปนิธายาติ อุปนิกฺขิปิตฺวา. อิทํ วุตฺตํ โหติ, กายทณฺฑสฺส สนฺติเก นิกฺขิปิตฺวา ‘‘อยํ นุ โข มหนฺโต, อยํ มหนฺโต’’ติ เอวํ โอโลกิยมาโน ฉโว มโนทณฺโฑ กึ โสภติ, กุโต โสภิสฺสติ, น โสภติ, อุปนิกฺเขปมตฺตมฺปิ นปฺปโหตีติ ทีเปติ. สาธุ สาธุ, ภนฺเต, ตปสฺสีติ ทีฆตปสฺสิสฺส สาธุการํ เทนฺโต, ภนฺเตติ นาฏปุตฺตมาลปติ.

๖๐. โข เมตํ, ภนฺเต, รุจฺจตีติ, ภนฺเต, เอตํ มยฺหํ น รุจฺจติ. มายาวีติ มายากาโร. อาวฏฺฏนิมายนฺติ อาวฏฺเฏตฺวา คหณมายํ. อาวฏฺเฏตีติ อาวฏฺเฏตฺวา ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหาติ. คจฺฉ ตฺวํ คหปตีติ กสฺมา มหานิคณฺโ คหปตึ ยาวตติยํ ปหิณติเยว? ทีฆตปสฺสี ปน ปฏิพาหเตว? มหานิคณฺเน หิ ภควตา สทฺธึ เอกํ นครํ อุปนิสฺสาย วิหรนฺเตนปิ น ภควา ทิฏฺปุพฺโพ. โย หิ สตฺถุวาทปฏิฺโ โหติ, โส ตํ ปฏิฺํ อปฺปหาย พุทฺธทสฺสเน อภพฺโพ. ตสฺมา เอส พุทฺธทสฺสนสฺส อลทฺธปุพฺพตฺตา ทสพลสฺส ทสฺสนสมฺปตฺติฺจ นิยฺยานิกกถาภาวฺจ อชานนฺโต ยาวตติยํ ปหิณเตว. ทีฆตปสฺสี ปน กาเลน กาลํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ติฏฺติปิ นิสีทติปิ ปฺหมฺปิ ปุจฺฉติ, โส ตถาคตสฺส ทสฺสนสมฺปตฺติมฺปิ นิยฺยานิกกถาภาวมฺปิ ชานาติ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ คหปติ ปณฺฑิโต, สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติเก คนฺตฺวา ทสฺสเนปิ ปสีเทยฺย, นิยฺยานิกกถํ สุตฺวาปิ ปสีเทยฺย. ตโต น ปุน อมฺหากํ สนฺติกํ อาคจฺเฉยฺยา’’ติ. ตสฺมา ยาวตติยํ ปฏิพาหเตว.

อภิวาเทตฺวาติ วนฺทิตฺวา. ตถาคตฺหิ ทิสฺวา ปสนฺนาปิ อปฺปสนฺนาปิ เยภุยฺเยน วนฺทนฺติเยว, อปฺปกา น วนฺทนฺติ. กสฺมา? อติอุจฺเจ หิ กุเล ชาโต อคารํ อชฺฌาวสนฺโตปิ วนฺทิตพฺโพเยวาติ. อยํ ปน คหปติ ปสนฺนตฺตาว วนฺทิ, ทสฺสเนเยว กิร ปสนฺโน. อาคมา นุ ขฺวิธาติ อาคมา นุ โข อิธ.

๖๑. สาธุ สาธุ, ภนฺเต, ตปสฺสีติ ทีฆตปสฺสิสฺส สาธุการํ เทนฺโต, ภนฺเตติ, ภควนฺตํ อาลปติ. สจฺเจ ปติฏฺายาติ ถุสราสิมฺหิ อาโกฏิตขาณุโก วิย อจลนฺโต วจีสจฺเจ ปติฏฺหิตฺวา. สิยาโนติ ภเวยฺย อมฺหากํ.

๖๒. อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. อสฺสาติ ภเวยฺย. สีโตทกปฏิกฺขิตฺโตติ นิคณฺา สตฺตสฺาย สีโตทกํ ปฏิกฺขิปนฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. มโนสตฺตา นาม เทวาติ มนมฺหิ สตฺตา ลคฺคา ลคิตา. มโนปฏิพทฺโธติ ยสฺมา มนมฺหิ ปฏิพทฺโธ หุตฺวา กาลงฺกโรติ, ตสฺมา มโนสตฺเตสุ เทเวสุ อุปปชฺชตีติ ทสฺเสติ. ตสฺส หิ ปิตฺตชรโรโค ภวิสฺสติ. เตนสฺส อุณฺโหทกํ ปิวิตุํ วา หตฺถปาทาทิโธวนตฺถาย วา คตฺตปริสิฺจนตฺถาย วา อุปเนตุํ น วฏฺฏติ, โรโค พลวตโร โหติ. สีโตทกํ วฏฺฏติ, โรคํ วูปสเมติ. อยํ ปน อุณฺโหทกเมว ปฏิเสวติ, ตํ อลภมาโน โอทนกฺชิกํ ปฏิเสวติ. จิตฺเตน ปน สีโตทกํ ปาตุกาโม จ ปริภุฺชิตุกาโม จ โหติ. เตนสฺส มโนทณฺโฑ ตตฺเถว ภิชฺชติ. โส กายทณฺฑํ วจีทณฺฑํ รกฺขามีติ สีโตทกํ ปาตุกาโม วา ปริภุฺชิตุกาโม วา สีโตทกเมว เทถาติ วตฺตุํ น วิสหติ. ตสฺส เอวํ รกฺขิตาปิ กายทณฺฑวจีทณฺฑา จุตึ วา ปฏิสนฺธึ วา อากฑฺฒิตุํ น สกฺโกนฺติ. มโนทณฺโฑ ปน ภินฺโนปิ จุติมฺปิ ปฏิสนฺธิมฺปิ อากฑฺฒติเยว. อิติ นํ ภควา ทุพฺพลกายทณฺฑวจีทณฺฑา ฉวา ลามกา, มโนทณฺโฑว พลวา มหนฺโตติ วทาเปสิ.

ตสฺสปิ อุปาสกสฺส เอตทโหสิ. ‘‘มุจฺฉาวเสน อสฺิภูตานฺหิ สตฺตาหมฺปิ อสฺสาสปสฺสาสา นปฺปวตฺตนฺติ, จิตฺตสนฺตติปวตฺติมตฺเตเนว ปน เต มตาติ น วุจฺจนฺติ. ยทา เนสํ จิตฺตํ นปฺปวตฺตติ, ตทา ‘มตา เอเต นีหริตฺวา เต ฌาเปถา’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชนฺติ. กายทณฺโฑ นิรีโห อพฺยาปาโร, ตถา วจีทณฺโฑ. จิตฺเตเนว ปน เตสํ จุติปิ ปฏิสนฺธิปิ โหติ . อิติปิ มโนทณฺโฑว มหนฺโต. ภิชฺชิตฺวาปิ จุติปฏิสนฺธิอากฑฺฒนโต เอเสว มหนฺโต. อมฺหากํ ปน มหานิคณฺสฺส กถา อนิยฺยานิกา’’ติ สลฺลกฺเขสิ. ภควโต ปน วิจิตฺตานิ ปฺหปฏิภานานิ โสตุกาโม น ตาว อนุชานาติ.

น โข เต สนฺธิยตีติ น โข เต ฆฏิยติ. ปุริเมน วา ปจฺฉิมนฺติ ‘‘กายทณฺโฑ มหนฺโต’’ติ อิมินา ปุริเมน วจเนน อิทานิ ‘‘มโนทณฺโฑ มหนฺโต’’ติ อิทํ วจนํ. ปจฺฉิเมน วา ปุริมนฺติ เตน วา ปจฺฉิเมน อทุํ ปุริมวจนํ น ฆฏิยติ.

๖๓. อิทานิสฺส ภควา อฺานิปิ การณานิ อาหรนฺโต ‘‘ตํ กึ มฺสี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จาตุยามสํวรสํวุโตติ น ปาณมติปาเตติ, น ปาณมติปาตยติ, น ปาณมติปาตยโต สมนุฺโ โหติ. น อทินฺนํ อาทิยติ, น อทินฺนํ อาทิยาเปติ, น อทินฺนํ อาทิยโต สมนุฺโ โหติ. น มุสา ภณติ, น มุสา ภณาเปติ, น มุสา ภณโต สมนุฺโ โหติ. น ภาวิตมาสีสติ, น ภาวิตมาสีสาเปติ, น ภาวิตมาสีสโต สมนุฺโ โหตีติ อิมินา จตุโกฏฺาเสน สํวเรน สํวุโต. เอตฺถ จ ภาวิตนฺติ ปฺจกามคุณา.

สพฺพวาริวาริโตติ วาริตสพฺพอุทโก, ปฏิกฺขิตฺตสพฺพสีโตทโกติ อตฺโถ. โส หิ สีโตทเก สตฺตสฺี โหติ, ตสฺมา น ตํ วลฺเชติ. อถ วา สพฺพวาริวาริโตติ สพฺเพน ปาปวารเณน วาริตปาโป. สพฺพวาริยุตฺโตติ สพฺเพน ปาปวารเณน ยุตฺโต. สพฺพวาริธุโตติ สพฺเพน ปาปวารเณน ธุตปาโป. สพฺพวาริผุโฏติ สพฺเพน ปาปวารเณน ผุโฏ. ขุทฺทเก ปาเณ สงฺฆาตํ อาปาเทตีติ ขุทฺทเก ปาเณ วธํ อาปาเทติ. โส กิร เอกินฺทฺริยํ ปาณํ ทุวินฺทฺริยํ ปาณนฺติ ปฺเปติ. สุกฺขทณฺฑก-ปุราณปณฺณสกฺขร-กถลานิปิ ปาโณเตว ปฺเปติ. ตตฺถ ขุทฺทกํ อุทกพินฺทุ ขุทฺทโก ปาโณ, มหนฺตํ มหนฺโตติ สฺี โหติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. กิสฺมึ ปฺเปตีติ กตฺถ กตรสฺมึ โกฏฺาเส ปฺเปติ. มโนทณฺฑสฺมินฺติ มโนทณฺฑโกฏฺาเส, ภนฺเตติ. อยํ ปน อุปาสโก ภณนฺโตว สยมฺปิ สลฺลกฺเขสิ – ‘‘อมฺหากํ มหานิคณฺโ ‘อสฺเจตนิกํ กมฺมํ อปฺปสาวชฺชํ, สฺเจตนิกํ มหาสาวชฺช’นฺติ ปฺเปตฺวา เจตนํ มโนทณฺโฑติ ปฺเปติ, อนิยฺยานิกา เอตสฺส กถา, ภควโตว นิยฺยานิกา’’ติ.

๖๔. อิทฺธาติ สมิทฺธา. ผีตาติ อติสมิทฺธา สพฺพปาลิผุลฺลา วิย. อากิณฺณมนุสฺสาติ ชนสมากุลา. ปาณาติ หตฺถิอสฺสาทโย ติรจฺฉานคตา เจว อิตฺถิปุริสทารกาทโย มนุสฺสชาติกา จ. เอกํ มํสขลนฺติ เอกํ มํสราสึ. ปุฺชนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. อิทฺธิมาติ อานุภาวสมฺปนฺโน. เจโตวสิปฺปตฺโตติ จิตฺเต วสีภาวปฺปตฺโต. ภสฺมํกริสฺสามีติ ฉาริกํ กริสฺสามิ. กิฺหิ โสภติ เอกา ฉวา นาฬนฺทาติ อิทมฺปิ ภณนฺโต โส คหปติ – ‘‘กายปโยเคน ปฺาสมฺปิ มนุสฺสา เอกํ นาฬนฺทํ เอกํ มํสขลํ กาตุํ น สกฺโกนฺติ, อิทฺธิมา ปน เอโก เอเกเนว มโนปโทเสน ภสฺมํ กาตุํ สมตฺโถ. อมฺหากํ มหานิคณฺสฺส กถา อนิยฺยานิกา, ภควโตว กถา นิยฺยานิกา’’ติ สลฺลกฺเขสิ.

๖๕. อรฺํ อรฺภูตนฺติ อคามกํ อรฺเมว หุตฺวา อรฺํ ชาตํ. อิสีนํ มโนปโทเสนาติ อิสีนํ อตฺถาย กเตน มโนปโทเสน ตํ มโนปโทสํ อสหมานาหิ เทวตาหิ ตานิ รฏฺานิ วินาสิตานิ. โลกิกา ปน อิสโย มนํ ปโทเสตฺวา วินาสยึสูติ มฺนฺติ. ตสฺมา อิมสฺมึ โลกวาเท ตฺวาว อิทํ วาทาโรปนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ ทณฺฑกีรฺาทีนํ เอวํ อรฺภูตภาโว ชานิตพฺโพ – สรภงฺคโพธิสตฺตสฺส ตาว ปริสาย อติเวปุลฺลตํ คตาย กิสวจฺโฉ นาม ตาปโส มหาสตฺตสฺส อนฺเตวาสี วิเวกวาสํ ปตฺถยมาโน คณํ ปหาย โคธาวรีตีรโต กลิงฺครฏฺเ ทณฺฑกีรฺโ กุมฺภปุรํ นาม นครํ อุปนิสฺสาย ราชุยฺยาเน วิเวกมนุพฺรูหยมาโน วิหรติ. ตสฺส เสนาปติ อุปฏฺาโก โหติ.

ตทา จ เอกา คณิกา รถํ อภิรุหิตฺวา ปฺจมาตุคามสตปริวารา นครํ อุปโสภยมานา วิจรติ. มหาชโน ตเมว โอโลกยมาโน ปริวาเรตฺวา วิจรติ, นครวีถิโย นปฺปโหนฺติ. ราชา วาตปานํ วิวริตฺวา ิโต ตํ ทิสฺวา กา เอสาติ ปุจฺฉิ. ตุมฺหากํ นครโสภินี เทวาติ. โส อุสฺสูยมาโน ‘‘กึ เอตาย โสภติ, นครํ สยํ โสภิสฺสตี’’ติ ตํ านนฺตรํ อจฺฉินฺทาเปสิ.

สา ตโต ปฏฺาย เกนจิ สทฺธึ สนฺถวํ กตฺวา านนฺตรํ ปริเยสมานา เอกทิวสํ ราชุยฺยานํ ปวิสิตฺวา จงฺกมนโกฏิยํ อาลมฺพนผลกํ นิสฺสาย ปาสาณผลเก นิสินฺนํ ตาปสํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘กิลิฏฺโ วตายํ ตาปโส อนฺชิตมณฺฑิโต, ทาิกาหิ ปรุฬฺหาหิ มุขํ ปิหิตํ, มสฺสุนา อุรํ ปิหิตํ, อุโภ กจฺฉา ปรุฬฺหา’’ติ. อถสฺสา โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชิ – ‘‘อหํ เอเกน กิจฺเจน วิจรามิ, อยฺจ เม กาฬกณฺณี ทิฏฺโ, อุทกํ อาหรถ, อกฺขีนิ โธวิสฺสามี’’ติ อุทกทนฺตกฏฺํ อาหราเปตฺวา ทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา ตาปสสฺส สรีเร ปิณฺฑํ ปิณฺฑํ เขฬํ ปาเตตฺวา ทนฺตกฏฺํ ชฏามตฺถเก ขิปิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา อุทกํ ตาปสสฺส มตฺถกสฺมึเยว สิฺจิตฺวา – ‘‘เยหิ เม อกฺขีหิ กาฬกณฺณี ทิฏฺโ, ตานิ โธตานิ กลิปวาหิโต’’ติ นิกฺขนฺตา.

ตํทิวสฺจ ราชา สตึ ปฏิลภิตฺวา – ‘‘โภ กุหึ นครโสภินี’’ติ ปุจฺฉิ. อิมสฺมึเยว นคเร เทวาติ. ปกติฏฺานนฺตรํ ตสฺสา เทถาติ านนฺตรํ ทาเปสิ. สา ปุพฺเพ สุกตกมฺมํ นิสฺสาย ลทฺธํ านนฺตรํ ตาปสสฺส สรีเร เขฬปาตเนน ลทฺธนฺติ สฺมกาสิ.

ตโต กติปาหสฺสจฺจเยน ราชา ปุโรหิตสฺส านนฺตรํ คณฺหิ. โส นครโสภินิยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ภคินิ กินฺติ กตฺวา านนฺตรํ ปฏิลภี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘กึ พฺราหฺมณ อฺํ กาตพฺพํ อตฺถิ, ราชุยฺยาเน อนฺชิตกาฬกณฺณี กูฏชฏิโล เอโก อตฺถิ, ตสฺส สรีเร เขฬํ ปาเตหิ, เอวํ านนฺตรํ ลภิสฺสสี’’ติ อาห. โส ‘‘เอวํ กริสฺสามิ ภคินี’’ติ ตตฺถ คนฺตฺวา ตาย กถิตสทิสเมว สพฺพํ กตฺวา นิกฺขมิ. ราชาปิ ตํทิวสเมว สตึ ปฏิลภิตฺวา – ‘‘กุหึ, โภ, พฺราหฺมโณ’’ติ ปุจฺฉิ. อิมสฺมึเยว นคเร เทวาติ. ‘‘อมฺเหหิ อนุปธาเรตฺวา กตํ, ตเทวสฺส านนฺตรํ เทถา’’ติ ทาเปสิ. โสปิ ปุฺพเลน ลภิตฺวา ‘‘ตาปสสฺส สรีเร เขฬปาตเนน ลทฺธํ เม’’ติ สฺมกาสิ.

ตโต กติปาหสฺสจฺจเยน รฺโ ปจฺจนฺโต กุปิโต. ราชา ปจฺจนฺตํ วูปสเมสฺสามีติ จตุรงฺคินิยา เสนาย นิกฺขมิ. ปุโรหิโต คนฺตฺวา รฺโ ปุรโต ตฺวา ‘‘ชยตุ มหาราชา’’ติ วตฺวา – ‘‘ตุมฺเห, มหาราช, ชยตฺถาย คจฺฉถา’’ติ ปุจฺฉิ. อาม พฺราหฺมณาติ. เอวํ สนฺเต ราชุยฺยาเน อนฺชิตกาฬกณฺณี เอโก กูฏชฏิโล วสติ, ตสฺส สรีเร เขฬํ ปาเตถาติ. ราชา ตสฺส วจนํ คเหตฺวา ยถา คณิกาย จ เตน จ กตํ, ตเถว สพฺพํ กตฺวา โอโรเธปิ อาณาเปสิ – ‘‘เอตสฺส กูฏชฏิลสฺส สรีเร เขฬํ ปาเตถา’’ติ. ตโต โอโรธาปิ โอโรธปาลกาปิ ตเถว อกํสุ. อถ ราชา อุยฺยานทฺวาเร รกฺขํ ปาเปตฺวา ‘‘รฺา สทฺธึ นิกฺขมนฺตา สพฺเพ ตาปสสฺส สรีเร เขฬํ อปาเตตฺวา นิกฺขมิตุํ น ลภนฺตี’’ติ อาณาเปสิ. อถ สพฺโพ พลกาโย จ เสนิโย จ เตเนว นิยาเมน ตาปสสฺส อุปริ เขฬฺจ ทนฺตกฏฺานิ จ มุขวิกฺขาลิต อุทกฺจ ปาปยึสุ, เขโฬ จ ทนฺตกฏฺานิ จ สกลสรีรํ อวตฺถรึสุ.

เสนาปติ สพฺพปจฺฉา สุณิตฺวา ‘‘มยฺหํ กิร สตฺถารํ ภวนฺตํ ปุฺกฺเขตฺตํ สคฺคโสปานํ เอวํ ฆฏฺฏยึสู’’ติ อุสุมชาตหทโย มุเขน อสฺสสนฺโต เวเคน ราชุยฺยานํ อาคนฺตฺวา ตถา พฺยสนปตฺตํ อิสึ ทิสฺวา กจฺฉํ พนฺธิตฺวา ทฺวีหิ หตฺเถหิ ทนฺตกฏฺานิ อปวิยูหิตฺวา อุกฺขิปิตฺวา นิสีทาเปตฺวา อุทกํ อาหราเปตฺวา นฺหาเปตฺวา สพฺพโอสเธหิ เจว จตุชฺชาติคนฺเธหิ จ สรีรํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา สุขุมสาฏเกน ปุฺฉิตฺวา ปุรโต อฺชลึ กตฺวา ิโต เอวมาห ‘‘อยุตฺตํ, ภนฺเต, มนุสฺเสหิ กตํ, เอเตสํ กึ ภวิสฺสตี’’ติ. เทวตา เสนาปติ ติธา ภินฺนา, เอกจฺจา ‘‘ราชานเมว นาเสสฺสามา’’ติ วทนฺติ, เอกจฺจา ‘‘สทฺธึ ปริสาย ราชาน’’นฺติ, เอกจฺจา ‘‘รฺโ วิชิตํ สพฺพํ นาเสสฺสามา’’ติ. อิทํ วตฺวา ปน ตาปโส อปฺปมตฺตกมฺปิ โกปํ อกตฺวา โลกสฺส สนฺติอุปายเมว อาจิกฺขนฺโต อาห ‘‘อปราโธ นาม โหติ, อจฺจยํ ปน เทเสตุํ ชานนฺตสฺส ปากติกเมว โหตี’’ติ.

เสนาปติ นยํ ลภิตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา อาห – ‘‘ตุมฺเหหิ, มหาราช, นิราปราเธ มหิทฺธิเก ตาปเส อปรชฺฌนฺเตหิ ภาริยํ กมฺมํ กตํ, เทวตา กิร ติธา ภินฺนา เอวํ วทนฺตี’’ติ สพฺพํ อาโรเจตฺวา – ‘‘ขมาปิเต กิร, มหาราช, ปากติกํ โหติ, รฏฺํ มา นาเสถ, ตาปสํ ขมาเปถา’’ติ อาห. ราชา อตฺตนิ โทสํ กตํ ทิสฺวาปิ เอวํ วทติ ‘‘น ตํ ขมาเปสฺสามี’’ติ. เสนาปติ ยาวตติยํ ยาจิตฺวา อนิจฺฉนฺตมาห – ‘‘อหํ, มหาราช, ตาปสสฺส พลํ ชานามิ, น โส อภูตวาที, นาปิ กุปิโต, สตฺตานุทฺทเยน ปน เอวมาห ขมาเปถ นํ มหาราชา’’ติ. น ขมาเปมีติ. เตน หิ เสนาปติฏฺานํ อฺสฺส เทถ, อหํ ตุมฺหากํ อาณาปวตฺติฏฺาเน น วสิสฺสามีติ. ตฺวํ เยนกามํ คจฺฉ, อหํ มยฺหํ เสนาปตึ ลภิสฺสามีติ. ตโต เสนาปติ ตาปสสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘กถํ ปฏิปชฺชามิ, ภนฺเต’’ติ อาห. เสนาปติ เย เต วจนํ สุณนฺติ, สพฺเพ สปริกฺขาเร สธเน สทฺวิปทจตุปฺปเท คเหตฺวา สตฺตทิวสพฺภนฺตเร พหิ รชฺชสีมํ คจฺฉ, เทวตา อติวิย กุปิตา ธุวํ รฏฺมฺปิ อรฏฺํ กริสฺสนฺตีติ. เสนาปติ ตถา อกาสิ.

ราชา คตมตฺโตเยว อมิตฺตมถนํ กตฺวา ชนปทํ วูปสเมตฺวา อาคมฺม ชยขนฺธาวารฏฺาเน นิสีทิตฺวา นครํ ปฏิชคฺคาเปตฺวา อนฺโตนครํ ปาวิสิ. เทวตา ปมํเยว อุทกวุฏฺึ ปาตยึสุ. มหาชโน อตฺตมโน อโหสิ ‘‘กูฏชฏิลํ อปรทฺธกาลโต ปฏฺาย อมฺหากํ รฺโ วฑฺฒิเยว, อมิตฺเต นิมฺมเถสิ, อาคตทิวเสเยว เทโว วุฏฺโ’’ติ. เทวตา ปุน สุมนปุปฺผวุฏฺึ ปาตยึสุ, มหาชโน อตฺตมนตโร อโหสิ. เทวตา ปุน มาสกวุฏฺึ ปาตยึสุ. ตโต กหาปณวุฏฺึ, ตโต กหาปณตฺถํ น นิกฺขเมยฺยุนฺติ มฺมานา หตฺถูปคปาทูปคาทิกตภณฺฑวุฏฺึ ปาเตสุํ. มหาชโน สตฺตภูมิกปาสาเท ิโตปิ โอตริตฺวา อาภรณานิ ปิฬนฺธนฺโต อตฺตมโน อโหสิ. ‘‘อรหติ วต กูฏชฏิลเก เขฬปาตนํ, ตสฺส อุปริ เขฬปาติตกาลโต ปฏฺาย อมฺหากํ รฺโ วฑฺฒิ ชาตา, อมิตฺตมถนํ กตํ, อาคตทิวเสเยว เทโว วสฺสิ, ตโต สุมนวุฏฺิ มาสกวุฏฺิ กหาปณวุฏฺิ กตภณฺฑวุฏฺีติ จตสฺโส วุฏฺิโย ชาตา’’ติ อตฺตมนวาจํ นิจฺฉาเรตฺวา รฺโ กตปาเป สมนุฺโ ชาโต.

ตสฺมึ สมเย เทวตา เอกโตธารอุภโตธาราทีนิ นานปฺปการานิ อาวุธานิ มหาชนสฺส อุปริ ผลเก มํสํ โกฏฺฏยมานา วิย ปาตยึสุ. ตทนนฺตรํ วีตจฺจิเก วีตธูเม กึสุกปุปฺผวณฺเณ องฺคาเร, ตทนนฺตรํ กูฏาคารปฺปมาเณ ปาสาเณ, ตทนนฺตรํ อนฺโตมุฏฺิยํ อสณฺหนิกํ สุขุมวาลิกํ วสฺสาปยมานา อสีติหตฺถุพฺเพธํ ถลํ อกํสุ. รฺโ วิชิตฏฺาเน กิสวจฺฉตาปโส เสนาปติ มาตุโปสกราโมติ ตโยว มนุสฺสภูตา อโรคา อเหสุํ. เสสานํ ตสฺมึ กมฺเม อสมงฺคีภูตานํ ติรจฺฉานานํ ปานียฏฺาเน ปานียํ นาโหสิ, ติณฏฺาเน ติณํ. เต เยน ปานียํ เยน ติณนฺติ คจฺฉนฺตา อปฺปตฺเตเยว สตฺตเม ทิวเส พหิรชฺชสีมํ ปาปุณึสุ. เตนาห สรภงฺคโพธิสตฺโต –

‘‘กิสฺหิ วจฺฉํ อวกิริย ทณฺฑกี,

อุจฺฉินฺนมูโล สชโน สรฏฺโ;

กุกฺกุฬนาเม นิรยมฺหิ ปจฺจติ,

ตสฺส ผุลิงฺคานิ ปตนฺติ กาเย’’ติ. (ชา. ๒.๑๗.๗๐);

เอวํ ตาว ทณฺฑกีรฺสฺส อรฺภูตภาโว เวทิตพฺโพ.

กลิงฺครฏฺเ ปน นาฬิกิรรฺเ รชฺชํ การยมาเน หิมวติ ปฺจสตตาปสา อนิตฺถิคนฺธา อชินชฏวากจีรธรา วนมูลผลภกฺขา หุตฺวา จิรํ วีตินาเมตฺวา โลณมฺพิลเสวนตฺถํ มนุสฺสปถํ โอตริตฺวา อนุปุพฺเพน กลิงฺครฏฺเ นาฬิกิรรฺโ นครํ สมฺปตฺตา. เต ชฏาชินวากจีรานิ สณฺเปตฺวา ปพฺพชิตานุรูปํ อุปสมสิรึ ทสฺสยมานา นครํ ภิกฺขาย ปวิสึสุ. มนุสฺสา อนุปฺปนฺเน พุทฺธุปฺปาเท ตาปสปพฺพชิเต ทิสฺวา ปสนฺนา นิสชฺชฏฺานํ สํวิธาย หตฺถโต ภิกฺขาภาชนํ คเหตฺวา นิสีทาเปตฺวา ภิกฺขํ สมฺปาเทตฺวา อทํสุ. ตาปสา กตภตฺตกิจฺจา อนุโมทนํ อกํสุ. มนุสฺสา สุตฺวา ปสนฺนจิตฺตา ‘‘กุหึ ภทนฺตา คจฺฉนฺตี’’ติ ปุจฺฉึสุ. ยถาผาสุกฏฺานํ, อาวุโสติ. ภนฺเต, อลํ อฺตฺถ คมเนน, ราชุยฺยาเน วสถ, มยํ ภุตฺตปาตราสา อาคนฺตฺวา ธมฺมกถํ โสสฺสามาติ. ตาปสา อธิวาเสตฺวา อุยฺยานํ อคมํสุ. นาครา ภุตฺตปาตราสา สุทฺธวตฺถนิวตฺถา ‘‘ธมฺมกถํ โสสฺสามา’’ติ สงฺฆา คณา คณีภูตา อุยฺยานาภิมุขา อคมํสุ. ราชา อุปริปาสาเท ิโต เต ตถา คจฺฉมาเน ทิสฺวา อุปฏฺากํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ เอเต ภเณ นาครา สุทฺธวตฺถา สุทฺธุตฺตราสงฺคา หุตฺวา อุยฺยานาภิมุขา คจฺฉนฺติ, กิเมตฺถ สมชฺชํ วา นาฏกํ วา อตฺถี’’ติ? นตฺถิ เทว, เอเต ตาปสานํ สนฺติเก ธมฺมํ โสตุกามา คจฺฉนฺตีติ. เตน หิ ภเณ อหมฺปิ คจฺฉิสฺสามิ, มยา สทฺธึ คจฺฉนฺตูติ. โส คนฺตฺวา เตสํ อาโรเจสิ – ‘‘ราชาปิ คนฺตุกาโม, ราชานํ ปริวาเรตฺวาว คจฺฉถา’’ติ. นาครา ปกติยาปิ อตฺตมนา ตํ สุตฺวา – ‘‘อมฺหากํ ราชา อสฺสทฺโธ อปฺปสนฺโน ทุสฺสีโล, ตาปสา ธมฺมิกา, เต อาคมฺม ราชาปิ ธมฺมิโก ภวิสฺสตี’’ติ อตฺตมนตรา อเหสุํ.

ราชา นิกฺขมิตฺวา เตหิ ปริวาริโต อุยฺยานํ คนฺตฺวา ตาปเสหิ สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. ตาปสา ราชานํ ทิสฺวา ปริกถาย กุสลสฺเสกสฺส ตาปสสฺส ‘‘รฺโ ธมฺมํ กเถหี’’ติ สฺมทํสุ, โส ตาปโส ปริสํ โอโลเกตฺวา ปฺจสุ เวเรสุ อาทีนวํ ปฺจสุ จ สีเลสุ อานิสํสํ กเถนฺโต –

‘‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ, อทินฺนํ นาทาตพฺพํ, กาเมสุมิจฺฉาจาโร น จริตพฺโพ, มุสา น ภาสิตพฺพา, มชฺชํ น ปาตพฺพํ, ปาณาติปาโต นาม นิรยสํวตฺตนิโก โหติ ติรจฺฉานโยนิสํวตฺตนิโก เปตฺติวิสยสํวตฺตนิโก, ตถา อทินฺนาทานาทีนิ. ปาณาติปาโต นิรเย ปจฺจิตฺวา มนุสฺสโลกํ อาคตสฺส วิปากาวเสเสน อปฺปายุกสํวตฺตนิโก โหติ, อทินฺนาทานํ อปฺปโภคสํวตฺตนิกํ, มิจฺฉาจาโร พหุสปตฺตสํวตฺตนิโก, มุสาวาโท อภูตพฺภกฺขานสํวตฺตนิโก, มชฺชปานํ อุมฺมตฺตกภาวสํวตฺตนิก’’นฺติ –

ปฺจสุ เวเรสุ อิมํ อาทีนวํ กเถสิ.

ราชา ปกติยาปิ อสฺสทฺโธ อปฺปสนฺโน ทุสฺสีโล, ทุสฺสีลสฺส จ สีลกถา นาม ทุกฺกถา, กณฺเณ สูลปฺปเวสนํ วิย โหติ. ตสฺมา โส จินฺเตสิ – ‘‘อหํ ‘เอเต ปคฺคณฺหิสฺสามี’ติ อาคโต, อิเม ปน มยฺหํ อาคตกาลโต ปฏฺาย มํเยว ฆฏฺเฏนฺตา วิชฺฌนฺตา ปริสมชฺเฌ กเถนฺติ, กริสฺสามิ เนสํ กาตฺตพฺพ’’นฺติ. โส ธมฺมกถาปริโยสาเน ‘‘อาจริยา สฺเว มยฺหํ เคเห ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ นิมนฺเตตฺวา อคมาสิ. โส ทุติยทิวเส มหนฺเต มหนฺเต โกฬุมฺเพ อาหราเปตฺวา คูถสฺส ปูราเปตฺวา กทลิปตฺเตหิ เนสํ มุขานิ พนฺธาเปตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ปาเปสิ, ปุน พหลมธุกเตลนาคพลปิจฺฉิลฺลาทีนํ กูเฏ ปูเรตฺวา นิสฺเสณิมตฺถเก ปาเปสิ, ตตฺเถว จ มหามลฺเล พทฺธกจฺเฉ หตฺเถหิ มุคฺคเร คาหาเปตฺวา เปตฺวา อาห ‘‘กูฏตาปสา อติวิย มํ วิเหยึสุ, เตสํ ปาสาทโต โอตรณกาเล กูเฏหิ ปิจฺฉิลฺลํ โสปานมตฺถเก วิสฺสชฺเชตฺวา สีเส มุคฺคเรหิ โปเถตฺวา คเล คเหตฺวา โสปาเน ขิปถา’’ติ. โสปานปาทมูเล ปน จณฺเฑ กุกฺกุเร พนฺธาเปสิ.

ตาปสาปิ ‘‘สฺเว ราชเคเห ภุฺชิสฺสามา’’ติ อฺมฺํ โอวทึสุ – ‘‘มาริสา ราชเคหํ นาม สาสงฺกํ สปฺปฏิภยํ, ปพฺพชิเตหิ นาม ฉทฺวารารมฺมเณ สฺเตหิ ภวิตพฺพํ, ทิฏฺทิฏฺเ อารมฺมเณ นิมิตฺตํ น คเหตพฺพํ, จกฺขุทฺวาเร สํวโร ปจฺจุปฏฺเปตพฺโพ’’ติ.

ปุนทิวเส ภิกฺขาจารเวลํ สลฺลกฺเขตฺวา วากจีรํ นิวาเสตฺวา อชินจมฺมํ เอกํสคตํ กตฺวา ชฏากลาปํ สณฺเปตฺวา ภิกฺขาภาชนํ คเหตฺวา ปฏิปาฏิยา ราชนิเวสนํ อภิรุฬฺหา. ราชา อารุฬฺหภาวํ ตฺวา คูถโกฬุมฺพมุขโต กทลิปตฺตํ นีหราเปสิ. ทุคฺคนฺโธ ตาปสานํ นาสปุฏํ ปหริตฺวา มตฺถลุงฺคปาตนาการปตฺโต อโหสิ. มหาตาปโส ราชานํ โอโลเกสิ. ราชา – ‘‘เอตฺถ โภนฺโต ยาวทตฺถํ ภุฺชนฺตุ เจว หรนฺตุ จ, ตุมฺหากเมตํ อนุจฺฉวิกํ, หิยฺโย อหํ ตุมฺเห ปคฺคณฺหิสฺสามีติ อาคโต, ตุมฺเห ปน มํเยว ฆฏฺเฏนฺโต วิชฺฌนฺตา ปริสมชฺเฌ กถยิตฺถ , ตุมฺหากมิทํ อนุจฺฉวิกํ, ภุฺชถา’’ติ มหาตาปสสฺส อุลุงฺเกน คูถํ อุปนาเมสิ. มหาตาปโส ธี ธีติ วทนฺโต ปฏินิวตฺติ. ‘‘เอตฺตเกเนว คจฺฉิสฺสถ ตุมฺเห’’ติ โสปาเน กูเฏหิ ปิจฺฉิลฺลํ วิสฺสชฺชาเปตฺวา มลฺลานํ สฺมทาสิ. มลฺลา มุคฺคเรหิ สีสานิ โปเถตฺวา คีวาย คเหตฺวา โสปาเน ขิปึสุ, เอโกปิ โสปาเน ปติฏฺาตุํ นาสกฺขิ , ปวฏฺฏมานา โสปานปาทมูลํเยว ปาปุณึสุ. สมฺปตฺเต สมฺปตฺเต จณฺฑกุกฺกุรา ปฏปฏาติ ลุฺจมานา ขาทึสุ. โยปิ เนสํ อุฏฺหิตฺวา ปลายติ, โสปิ อาวาเฏ ปตติ, ตตฺราปิ นํ กุกฺกุรา อนุพนฺธิตฺวา ขาทนฺติเยว. อิติ เนสํ กุกฺกุรา อฏฺิสงฺขลิกเมว อวเสสยึสุ. เอวํ โส ราชา ตปสมฺปนฺเน ปฺจสเต ตาปเส เอกทิวเสเนว ชีวิตา โวโรเปสิ.

อถสฺส รฏฺเ เทวตา ปุริมนเยเนว ปุน นววุฏฺิโย ปาเตสุํ. ตสฺส รชฺชํ สฏฺิโยชนุพฺเพเธน วาลิกถเลน อวจฺฉาทิยิตฺถ. เตนาห สรภงฺโค โพธิสตฺโต –

‘‘โย สฺเต ปพฺพชิเต อวฺจยิ,

ธมฺมํ ภณนฺเต สมเณ อทูสเก;

ตํ นาฬิเกรํ สุนขา ปรตฺถ,

สงฺคมฺม ขาทนฺติ วิผนฺทมาน’’นฺติ. (ชา. ๒.๑๗.๗๑);

เอวํ กาลิงฺคารฺสฺส อรฺภูตภาโว เวทิตพฺโพ.

อตีเต ปน พาราณสินคเร ทิฏฺมงฺคลิกา นาม จตฺตาลีสโกฏิวิภวสฺส เสฏฺิโน เอกา ธีตา อโหสิ ทสฺสนียา ปาสาทิกา. สา รูปโภคกุลสมฺปตฺติสมฺปนฺนตาย พหูนํ ปตฺถนียา อโหสิ. โย ปนสฺสา วาเรยฺยตฺถาย ปหิณาติ, ตํ ตํ ทิสฺวานสฺส ชาติยํ วา หตฺถปาทาทีสุ วา ยตฺถ กตฺถจิ โทสํ อาโรเปตฺวา ‘‘โก เอส ทุชฺชาโต ทุสฺสณฺิโต’’ติอาทีนิ วตฺวา – ‘‘นีหรถ น’’นฺติ นีหราเปตฺวา ‘‘เอวรูปมฺปิ นาม อทฺทสํ, อุทกํ อาหรถ, อกฺขีนิ โธวิสฺสามี’’ติ อกฺขีนิ โธวติ. ตสฺสา ทิฏฺํ ทิฏฺํ วิปฺปการํ ปาเปตฺวา นีหราเปตีติ ทิฏฺมงฺคลิกา ตฺเวว สงฺขา อุทปาทิ, มูลนามํ อนฺตรธายิ.

สา เอกทิวสํ คงฺคาย อุทกกีฬํ กีฬิสฺสามีติ ติตฺถํ สชฺชาเปตฺวา ปหูตํ ขาทนียโภชนียํ สกเฏสุ ปูราเปตฺวา พหูนิ คนฺธมาลาทีนิ อาทาย ปฏิจฺฉนฺนยานํ อารุยฺห าติคณปริวุตา เคหมฺหา นิกฺขมิ. เตน จ สมเยน มหาปุริโส จณฺฑาลโยนิยํ นิพฺพตฺโต พหินคเร จมฺมเคเห วสติ, มาตงฺโคตฺเววสฺส นามํ อโหสิ. โส โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก หุตฺวา เกนจิเทว กรณีเยน อนฺโตนครํ ปวิสิตุกาโม เอกํ นีลปิโลติกํ นิวาเสตฺวา เอกํ หตฺเถ พนฺธิตฺวา เอเกน หตฺเถน ปจฺฉึ, เอเกน ฆณฺฑํ คเหตฺวา ‘‘อุสฺสรถ อยฺยา, จณฺฑาโลห’’นฺติ ชานาปนตฺถํ ตํ วาเทนฺโต นีจจิตฺตํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา ทิฏฺทิฏฺเ มนุสฺเส นมสฺสมาโน นครํ ปวิสิตฺวา มหาปถํ ปฏิปชฺชิ.

ทิฏฺมงฺคลิกา ฆณฺฑสทฺทํ สุตฺวา สาณิอนฺตเรน โอโลเกนฺตี ทูรโตว ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘กิเมต’’นฺติ ปุจฺฉิ. มาตงฺโค อยฺเยติ. ‘‘กึ วต, โภ, อกุสลํ อกรมฺห, กสฺสายํ นิสฺสนฺโท, วินาโส นุ โข เม ปจฺจุปฏฺิโต, มงฺคลกิจฺเจน นาม คจฺฉมานา จณฺฑาลํ อทฺทส’’นฺติ สรีรํ กมฺเปตฺวา ชิคุจฺฉมานา เขฬํ ปาเตตฺวา ธาติโย อาห – ‘‘เวเคน อุทกํ อาหรถ, จณฺฑาโล ทิฏฺโ, อกฺขีนิ เจว นาม คหิตมุขฺจ โธวิสฺสามี’’ติ โธวิตฺวา รถํ นิวตฺตาเปตฺวา สพฺพปฏิยาทานํ เคหํ เปเสตฺวา ปาสาทํ อภิรุหิ. สุราโสณฺฑาทโย เจว ตสฺสา อุปฏฺากมนุสฺสา จ ‘‘กุหึ, โภ ทิฏฺมงฺคลิกา, อิมายปิ เวลาย นาคจฺฉตี’’ติ ปุจฺฉนฺตา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา – ‘‘มหนฺตํ วต, โภ, สุรามํสคนฺธมาลาทิสกฺการํ จณฺฑาลํ นิสฺสาย อนุภวิตุํ น ลภิมฺห, คณฺหถ จณฺฑาล’’นฺติ คตฏฺานํ คเวสิตฺวา นิราปราธํ มาตงฺคปณฺฑิตํ ตชฺชิตฺวา – ‘‘อเร มาตงฺค ตํ นิสฺสาย อิทฺจิทฺจ สกฺการํ อนุภวิตุํ น ลภิมฺหา’’ติ เกเสสุ คเหตฺวา ภูมิยํ ปาเตตฺวา ชาณุกปฺปรปาสาณาทีหิ โกฏฺเฏตฺวา มโตติ สฺาย ปาเท คเหตฺวา กฑฺฒนฺตา สงฺการกูเฏ ฉฑฺเฑสุํ.

มหาปุริโส สฺํ ปฏิลภิตฺวา หตฺถปาเท ปรามสิตฺวา – ‘‘อิทํ ทุกฺขํ กํ นิสฺสาย อุปฺปนฺน’’นฺติ จินฺเตนฺโต – ‘‘น อฺํ กฺจิ, ทิฏฺมงฺคลิกํ นิสฺสาย อุปฺปนฺน’’นฺติ ตฺวา ‘‘สจาหํ ปุริโส, ปาเทสุ นํ นิปาเตสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เวธมาโน ทิฏฺมงฺคลิกาย กุลทฺวารํ คนฺตฺวา – ‘‘ทิฏฺมงฺคลิกํ ลภนฺโต วุฏฺหิสฺสามิ, อลภนฺตสฺส เอตฺเถว มรณ’’นฺติ เคหงฺคเณ นิปชฺชิ. เตน จ สมเยน ชมฺพุทีเป อยํ ธมฺมตา โหติ – ยสฺส จณฺฑาโล กุชฺฌิตฺวา คพฺภทฺวาเร นิปนฺโน มรติ, เย จ ตสฺมึ คพฺเภ วสนฺติ, สพฺเพ จณฺฑาลา โหนฺติ. เคหมชฺฌมฺหิ มเต สพฺเพ เคหวาสิโน, ทฺวารมฺหิ มเต อุภโต อนนฺตรเคหวาสิกา, องฺคณมฺหิ มเต อิโต สตฺต อิโต สตฺตาติ จุทฺทสเคหวาสิโน สพฺเพ จณฺฑาลา โหนฺตีติ. โพธิสตฺโต ปน องฺคเณ นิปชฺชิ.

เสฏฺิสฺส อาโรเจสุํ – ‘‘มาตงฺโค เต สามิ เคหงฺคเณ ปติโต’’ติ คจฺฉถ ภเณ, กึ การณาติ วตฺวา เอกมาสกํ ทตฺวา อุฏฺาเปถาติ. เต คนฺตฺวา ‘‘อิมํ กิร มาสกํ คเหตฺวา อุฏฺหา’’ติ วทึสุ. โส – ‘‘นาหํ มาสกตฺถาย นิปนฺโน, ทิฏฺมงฺคลิกาย สฺวาหํ นิปนฺโน’’ติ อาห. ทิฏฺมงฺคลิกาย โก โทโสติ? กึ ตสฺสา โทสํ น ปสฺสถ, นิรปราโธ อหํ ตสฺสา มนุสฺเสหิ พฺยสนํ ปาปิโต, ตํ ลภนฺโตว วุฏฺหิสฺสามิ, อลภนฺโต น วุฏฺหิสฺสามีติ.

เต คนฺตฺวา เสฏฺิสฺส อาโรเจสุํ. เสฏฺิ ธีตุ โทสํ ตฺวา ‘‘คจฺฉถ, เอกํ กหาปณํ เทถา’’ติ เปเสติ. โส ‘‘น อิจฺฉามิ กหาปณํ, ตเมว อิจฺฉามี’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา เสฏฺิ จ เสฏฺิภริยา จ – ‘‘เอกาเยว โน ปิยธีตา, ปเวณิยา ฆฏโก อฺโ ทารโกปิ นตฺถี’’ติ สํเวคปฺปตฺตา – ‘‘คจฺฉถ ตาตา, โกจิ อมฺหากํ อสหนโก เอตํ ชีวิตาปิ โวโรเปยฺย, เอตสฺมิฺหิ มเต สพฺเพ มยํ นฏฺา โหม, อารกฺขมสฺส คณฺหถา’’ติ ปริวาเรตฺวา อารกฺขํ สํวิธาย ยาคุํ เปสยึสุ, ภตฺตํ ธนํ เปสยึสุ, เอวํ โส สพฺพํ ปฏิกฺขิปิ. เอวํ เอโก ทิวโส คโต; ทฺเว, ตโย, จตฺตาโร, ปฺจ ทิวสา คตา.

ตโต สตฺตสตฺตเคหวาสิกา อุฏฺาย – ‘‘น สกฺโกม มยํ ตุมฺเห นิสฺสาย จณฺฑาลา ภวิตุํ, อมฺเห มา นาเสถ, ตุมฺหากํ ทาริกํ ทตฺวา เอตํ อุฏฺาเปถา’’ติ อาหํสุ. เต สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ สตสหสฺสมฺปิ ปหิณึสุ, โส ปฏิกฺขิปเตว. เอวํ ฉ ทิวสา คตา. สตฺตเม ทิวเส อุภโต จุทฺทสเคหวาสิกา สนฺนิปติตฺวา – ‘‘น มยํ จณฺฑาลา ภวิตุํ สกฺโกม, ตุมฺหากํ อกามกานมฺปิ มยํ เอตสฺส ทาริกํ ทสฺสามา’’ติ อาหํสุ.

มาตาปิตโร โสกสลฺลสมปฺปิตา วิสฺี หุตฺวา สยเน นิปตึสุ. อุภโต จุทฺทสเคหวาสิโน ปาสาทํ อารุยฺห สุปุปฺผิตกึสุกสาขํ อุจฺฉินฺทนฺตา วิย ตสฺสา สพฺพาภรณานิ โอมุฺจิตฺวา นเขหิ สีมนฺตํ กตฺวา เกเส พนฺธิตฺวา นีลสาฏกํ นิวาสาเปตฺวา หตฺเถ นีลปิโลติกขณฺฑํ เวเตฺวา กณฺเณสุ ติปุปฏฺฏเก ปิฬนฺธาเปตฺวา ตาลปณฺณปจฺฉึ ทตฺวา ปาสาทโต โอตาราเปตฺวา ทฺวีสุ พาหาสุ คเหตฺวา – ‘‘ตว สามิกํ คเหตฺวา ยาหี’’ติ มหาปุริสสฺส อทํสุ.

นีลุปฺปลมฺปิ อติภาโรติ อนุกฺขิตฺตปุพฺพา สุขุมาลทาริกา ‘‘อุฏฺาหิ สามิ, คจฺฉามา’’ติ อาห. โพธิสตฺโต นิปนฺนโกว อาห ‘‘นาหํ อุฏฺหามี’’ติ. อถ กินฺติ วทามีติ. ‘‘อุฏฺเหิ อยฺย มาตงฺคา’’ติ เอวํ มํ วทาหีติ. สา ตถา อโวจ. น ตุยฺหํ มนุสฺสา อุฏฺานสมตฺถํ มํ อกํสุ, พาหาย มํ คเหตฺวา อุฏฺาเปหีติ. สา ตถา อกาสิ. โพธิสตฺโต อุฏฺหนฺโต วิย ปริวฏฺเฏตฺวา ภูมิยํ ปติตฺวา – ‘‘นาสิตํ, โภ, ทิฏฺมงฺคลิกาย ปมํ มนุสฺเสหิ โกฏฺฏาเปตฺวา, อิทานิ สยํ โกฏฺเฏตี’’ติ วิรวิตฺถ. สา กึ กโรมิ อยฺยาติ? ทฺวีหิ หตฺเถหิ คเหตฺวา อุฏฺาเปหีติ. สา ตถา อุฏฺาเปตฺวา นิสีทาเปตฺวา คจฺฉาม สามีติ. คจฺฉา นาม อรฺเ โหนฺติ, มยํ มนุสฺสา, อติโกฏฺฏิโตมฺหิ ตุยฺหํ มนุสฺเสหิ, น สกฺโกมิ ปทสา คนฺตุํ, ปิฏฺิยา มํ เนหีติ. สา โอนมิตฺวา ปิฏฺึ อทาสิ. โพธิสตฺโต อภิรุหิ. กุหึ เนมิ สามีติ? พหินครํ เนหีติ. สา ปาจีนทฺวารํ คนฺตฺวา – ‘‘อิธ เต สามิ วสนฏฺาน’’นฺติ ปุจฺฉิ. กตรฏฺานํ เอตนฺติ? ปาจีนทฺวารํ สามีติ. ปาจีนทฺวาเร จณฺฑาลปุตฺตา วสิตุํ น ลภนฺตีติ อตฺตโน วสนฏฺานํ อนาจิกฺขิตฺวาว สพฺพทฺวารานิ อาหิณฺฑาเปสิ. กสฺมา? ภวคฺคปตฺตมสฺสา มานํ ปาเตสฺสามีติ. มหาชโน อุกฺกุฏฺิมกาสิ – ‘‘เปตฺวา ตุมฺหาทิสํ อฺโ เอติสฺสา มานํ เภทโก นตฺถี’’ติ.

สา ปจฺฉิมทฺวารํ ปตฺวา ‘‘อิธ เต สามิ วสนฏฺาน’’นฺติ ปุจฺฉิ. กตรฏฺานํ เอตนฺติ? ปจฺฉิมทฺวารํ สามีติ. อิมินา ทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา จมฺมเคหํ โอโลเกนฺตี คจฺฉาติ. สา ตตฺถ คนฺตฺวา อาห ‘‘อิทํ จมฺมเคหํ ตุมฺหากํ วสนฏฺานํ สามี’’ติ? อามาติ ปิฏฺิโต โอตริตฺวา จมฺมเคหํ ปาวิสิ.

ตตฺถ สตฺตฏฺทิวเส วสนฺโต สพฺพฺุตคเวสนธีโร เอตฺตเกสุ ทิวเสสุ น จ ชาติสมฺเภทมกาสิ. ‘‘มหากุลสฺส ธีตา สเจ มํ นิสฺสาย มหนฺตํ ยสํ น ปาปุณาติ, น จมฺหาหํ จตุวีสติยา พุทฺธานํ อนฺเตวาสิโก. เอติสฺสา ปาทโธวนอุทเกน สกลชมฺพุทีเป ราชูนํ อภิเสกกิจฺจํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุน จินฺเตสิ – ‘‘อคารมชฺเฌวสนฺโต น สกฺขิสฺสามิ, ปพฺพชิตฺวา ปน สกฺขิสฺสามี’’ติ. จินฺเตตฺวา ตํ อามนฺเตสิ – ‘‘ทิฏฺมงฺคลิเก มยํ ปุพฺเพ เอกจรา กมฺมํ กตฺวาปิ อกตฺวาปิ สกฺกา ชีวิตุํ, อิทานิ ปน ทารภรณํ ปฏิปนฺนมฺห, กมฺมํ อกตฺวา น สกฺกา ชีวิตุํ, ตฺวํ ยาวาหํ อาคจฺฉามิ, ตาว มา อุกฺกณฺิตฺถา’’ติ อรฺํ ปวิสิตฺวา สุสานาทีสุ นนฺตกานิ สงฺกฑฺฒิตฺวา นิวาสนปารุปนํ กตฺวา สมณปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา เอกจโร ลทฺธกายวิเวโก กสิณปริกมฺมํ กตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย ปฺจ อภิฺาโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา ‘‘อิทานิ สกฺกา ทิฏฺมงฺคลิกาย อวสฺสเยน มยา ภวิตุ’’นฺติ พาราณสิอภิมุโข คนฺตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวา ภิกฺขํ จรมาโน ทิฏฺมงฺคลิกาย เคหาภิมุโข อคมาสิ.

สา ตํ ทฺวาเร ิตํ ทิสฺวา อสฺชานนฺตี – ‘‘อติจฺฉถ, ภนฺเต, จณฺฑาลานํ วสนฏฺานเมต’’นฺติ อาห. โพธิสตฺโต ตตฺเถว อฏฺาสิ. สา ปุนปฺปุนํ โอโลเกนฺตี สฺชานิตฺวา หตฺเถหิ อุรํ ปหริตฺวา วิรวมานา ปาทมูเล ปติตฺวา อาห – ‘‘ยทิ เต สามิ เอทิสํ จิตฺตํ อตฺถิ, กสฺมา มํ มหตา ยสา ปริหาเปตฺวา อนาถํ อกาสี’’ติ. นานปฺปการํ ปริเทวํ ปริเทวิตฺวา อกฺขีนิ ปุฺฉมานา อุฏฺาย ภิกฺขาภาชนํ คเหตฺวา อนฺโตเคเห นิสีทาเปตฺวา ภิกฺขํ อทาสิ. มหาปุริโส ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา อาห – ‘‘ทิฏฺมงฺคลิเก มา โสจิ มา ปริเทวิ, อหํ ตุยฺหํ ปาทโธวนอุทเกน สกลชมฺพุทีเป ราชูนํ อภิเสกกิจฺจํ กาเรตุํ สมตฺโถ, ตฺวํ ปน เอกํ มม วจนํ กโรหิ, นครํ ปวิสิตฺวา ‘น มยฺหํ สามิโก จณฺฑาโล, มหาพฺรหฺมา มยฺหํ สามิโก’ติ อุคฺโฆสยมานา สกลนครํ จราหี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต ทิฏฺมงฺคลิกา – ‘‘ปกติยาปิ อหํ สามิ มุขโทเสเนว พฺยสนํ ปตฺตา, น สกฺขิสฺสาเมวํ วตฺตุ’’นฺติ อาห. โพธิสตฺโต – ‘‘กึ ปน ตยา มยฺหํ อคาเร วสนฺตสฺส อลิกวจนํ สุตปุพฺพํ, อหํ ตทาปิ อลิกํ น ภณามิ, อิทานิ ปพฺพชิโต กึ วกฺขามิ, สจฺจวาที ปุริโส นามาห’’นฺติ วตฺวา – ‘‘อชฺช ปกฺขสฺส อฏฺมี, ตฺวํ ‘อิโต สตฺตาหสฺสจฺจเยน อุโปสถทิวเส มยฺหํ สามิโก มหาพฺรหฺมา จนฺทมณฺฑลํ ภินฺทิตฺวา มม สนฺติกํ อาคมิสฺสตี’ติ สกลนคเร อุคฺโฆเสหี’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ.

สา สทฺทหิตฺวา หฏฺตุฏฺา สูรา หุตฺวา สายํปาตํ นครํ ปวิสิตฺวา ตถา อุคฺโฆเสสิ. มนุสฺสา ปาณินา ปาณึ ปหรนฺตา – ‘‘ปสฺสถ, อมฺหากํ ทิฏฺมงฺคลิกา จณฺฑาลปุตฺตํ มหาพฺรหฺมานํ กโรตี’’ติ หสนฺตา เกฬึ กโรนฺติ. สา ปุนทิวเสปิ ตเถว สายํปาตํ ปวิสิตฺวา – ‘‘อิทานิ ฉาหจฺจเยน, ปฺจาห-จตูห-ตีห-ทฺวีห-เอกาหจฺจเยน มยฺหํ สามิโก มหาพฺรหฺมา จนฺทมณฺฑลํ ภินฺทิตฺวา มม สนฺติกํ อาคมิสฺสตี’’ติ อุคฺโฆเสสิ.

พฺราหฺมณา จินฺตยึสุ – ‘‘อยํ ทิฏฺมงฺคลิกา อติสูรา หุตฺวา กเถติ, กทาจิ เอวํ สิยา, เอถ มยํ ทิฏฺมงฺคลิกาย วสนฏฺานํ ปฏิชคฺคามา’’ติ จมฺมเคหสฺส พาหิรภาคํ สมนฺตา ตจฺฉาเปตฺวา วาลิกํ โอกิรึสุ. สาปิ อุโปสถทิวเส ปาโตว นครํ ปวิสิตฺวา ‘‘อชฺช มยฺหํ สามิโก อาคมิสฺสตี’’ติ อุคฺโฆเสสิ. พฺราหฺมณา จินฺตยึสุ – ‘‘อยํ โภ น ทูรํ อปทิสฺสติ, อชฺช กิร มหาพฺรหฺมา อาคมิสฺสติ, วสนฏฺานํ สํวิทหามา’’ติ จมฺมเคหํ สมชฺชาเปตฺวา หริตูปลิตฺตํ อหตวตฺเถหิ ปริกฺขิปิตฺวา มหารหํ ปลฺลงฺกํ อตฺถริตฺวา อุปริ เจลวิตานํ พนฺธิตฺวา คนฺธมาลทามานิ โอสารยึสุ. เตสํ ปฏิชคฺคนฺตานํเยว สูริโย อตฺถํ คโต.

มหาปุริโส จนฺเท อุคฺคตมตฺเต อภิฺาปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย กามาวจรจิตฺเตน ปริกมฺมํ กตฺวา อิทฺธิจิตฺเตน ทฺวาทสโยชนิกํ พฺรหฺมตฺตภาวํ มาเปตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา จนฺทวิมานสฺส อนฺโต ปวิสิตฺวา วนนฺตโต อพฺภุสฺสกฺกมานํ จนฺทํ ภินฺทิตฺวา จนฺทวิมานํ โอหาย ปุรโต หุตฺวา ‘‘มหาชโน มํ ปสฺสตู’’ติ อธิฏฺาสิ. มหาชโน ทิสฺวา – ‘‘สจฺจํ, โภ, ทิฏฺมงฺคลิกาย วจนํ, อาคจฺฉนฺตํ มหาพฺรหฺมานํ ปูเชสฺสามา’’ติ คนฺธมาลํ อาทาย ทิฏฺมงฺคลิกาย ฆรํ ปริวาเรตฺวา อฏฺาสิ. มหาปุริโส มตฺถกมตฺถเกน สตฺตวาเร พาราณสึ อนุปริคนฺตฺวา มหาชเนน ทิฏฺภาวํ ตฺวา ทฺวาทสโยชนิกํ อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา มนุสฺสปฺปมาณเมว มาเปตฺวา มหาชนสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว จมฺมเคหํ ปาวิสิ. มหาชโน ทิสฺวา – ‘‘โอติณฺโณ โน มหาพฺรหฺมา, สาณึ อาหรถา’’ติ นิเวสนํ มหาสาณิยา ปริกฺขิปิตฺวา ปริวาเรตฺวา ิโต.

มหาปุริโสปิ สิริสยนมชฺเฌ นิสีทิ. ทิฏฺมงฺคลิกา สมีเป อฏฺาสิ. อถ นํ ปุจฺฉิ ‘‘อุตุสมโย เต ทิฏฺมงฺคลิเก’’ติ. อาม อยฺยาติ. มยา ทินฺนํ ปุตฺตํ คณฺหาหีติ องฺคุฏฺเกน นาภิมณฺฑลํ ผุสิ. ตสฺสา ปรามสเนเนว คพฺโภ ปติฏฺาสิ. มหาปุริโส – ‘‘เอตฺตาวตา เต ทิฏฺมงฺคลิเก ปาทโธวนอุทกํ สกลชมฺพุทีเป ราชูนํ อภิเสโกทกํ ภวิสฺสติ, ตฺวํ ติฏฺา’’ติ วตฺวา พฺรหฺมตฺตภาวํ มาเปตฺวา ปสฺสนฺตสฺเสว มหาชนสฺส นิกฺขมิตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา จณฺฑมณฺฑลเมว ปวิฏฺโ. สา ตโต ปฏฺาย พฺรหฺมปชาปตี นาม ชาตา. ปาทโธวนอุทกํ ลภนฺโต นาม นตฺถิ.

พฺราหฺมณา – ‘‘พฺรหฺมปชาปตึ อนฺโตนคเร วสาเปสฺสามา’’ติ สุวณฺณสิวิกาย อาโรเปตฺวา ยาว สตฺตมโกฏิยา อปริสุทฺธชาติกสฺส สิวิกํ คเหตุํ น อทํสุ. โสฬส ชาติมนฺตพฺราหฺมณา คณฺหึสุ. เสสา คนฺธปุปฺผาทีหิ ปูเชตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา – ‘‘น สกฺกา, โภ, อุจฺฉิฏฺเคเห พฺรหฺมปชาปติยา วสิตุํ, วตฺถุํ คเหตฺวา เคหํ กริสฺสาม, ยาว ปน ตํ กรียติ, ตาว มณฺฑเปว วสตู’’ติ มณฺฑเป วสาเปสุํ. ตโต ปฏฺาย จกฺขุปเถ ตฺวา วนฺทิตุกามา กหาปณํ ทตฺวา วนฺทิตุํ ลภนฺติ, สวนูปจาเร วนฺทิตุกามา สตํ ทตฺวา ลภนฺติ, อาสนฺเน ปกติกถํ สวนฏฺาเน วนฺทิตุกามา ปฺจสตานิ ทตฺวา ลภนฺติ, ปาทปิฏฺิยํ สีสํ เปตฺวา วนฺทิตุกามา สหสฺสํ ทตฺวา ลภนฺติ, ปาทโธวนอุทกํ ปตฺถยมานา ทสสหสฺสานิ ทตฺวา ลภนฺติ. พหินครโต อนฺโตนคเร ยาว มณฺฑปา อาคจฺฉนฺติยา ลทฺธธนํเยว โกฏิสตมตฺตํ อโหสิ.

สกลชมฺพุทีโป สงฺขุภิ, ตโต สพฺพราชาโน ‘‘พฺรหฺมปชาปติยา ปาทโธวเนน อภิเสกํ กริสฺสามา’’ติ สตสหสฺสํ เปเสตฺวา ลภึสุ. มณฺฑเป วสนฺติยา เอว คพฺภวุฏฺานํ อโหสิ. มหาปุริสํ ปฏิจฺจ ลทฺธกุมาโร ปาสาทิโก อโหสิ ลกฺขณสมฺปนฺโน. มหาพฺรหฺมุโน ปุตฺโต ชาโตติ สกล ชมฺพุทีโป เอกโกลาหโล อโหสิ. กุมารสฺส ขีรมณิมูลํ โหตูติ ตโต ตโต อาคตธนํ โกฏิสหสฺสํ อโหสิ. เอตฺตาวตา นิเวสนมฺปิ นิฏฺิตํ. กุมารสฺส นามกรณํ กริสฺสามาติ นิเวสนํ สชฺเชตฺวา กุมารํ คนฺโธทเกน นฺหาเปตฺวา อลงฺกริตฺวา มณฺฑเป ชาตตฺตา มณฺฑพฺโยตฺเวว นามํ อกํสุ.

กุมาโร สุเขน สํวฑฺฒมาโน สิปฺปุคฺคหณวยปตฺโตติ สกลชมฺพุทีเป สิปฺปชานนกา ตสฺส สนฺติเก อาคนฺตฺวา สิปฺปํ สิกฺขาเปนฺติ. กุมาโร เมธาวี ปฺวา สุตํ สุตํ มุตํ อาวุณนฺโต วิย คณฺหาติ, คหิตคหิตํ สุวณฺณฆเฏ ปกฺขิตฺตเตลํ วิย ติฏฺติ. ยาวตา วาจุคฺคตา ปริยตฺติ อตฺถิ, เตน อนุคฺคหิตา นาม นาโหสิ. พฺราหฺมณา ตํ ปริวาเรตฺวา จรนฺติ, โสปิ พฺราหฺมณภตฺโต อโหสิ. เคเห อสีติพฺราหฺมณสหสฺสานิ นิจฺจภตฺตํ ภุฺชนฺติ. เคหมฺปิสฺส สตฺตทฺวารโกฏฺกํ มหนฺตํ อโหสิ. เคเห มงฺคลทิวเส ชมฺพุทีปวาสีหิ เปสิตธนํ โกฏิสหสฺสมตฺตํ อโหสิ.

โพธิสตฺโต อาวชฺเชสิ – ‘‘ปมตฺโต นุ โข กุมาโร อปฺปมตฺโต’’ติ. อถสฺส ตํ ปวตฺตึ ตฺวา – ‘‘พฺราหฺมณภตฺโต ชาโต, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ, ตํ น ชานาติ, คจฺฉามิ นํ ทเมมี’’ติ จีวรํ ปารุปิตฺวา ภิกฺขาภาชนํ คเหตฺวา – ‘‘ทฺวารโกฏฺกา อติสมฺพาธา, น สกฺกา โกฏฺเกน ปวิสิตุ’’นฺติ อากาเสนาคนฺตฺวา อสีติพฺราหฺมณสหสฺสานํ ภุฺชนฏฺาเน อากาสงฺคเณ โอตริ. มณฺฑพฺยกุมาโรปิ สุวณฺณกฏจฺฉุํ คาหาเปตฺวา – ‘‘อิธ สูปํ เทถ อิธ โอทน’’นฺติ ปริวิสาเปนฺโต โพธิสตฺตํ ทิสฺวา ทณฺฑเกน ฆฏฺฏิตอาสิวิโส วิย กุปิตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘กุโต นุ อาคจฺฉสิ ทุมฺมวาสี,

โอตลฺลโก ปํสุปิสาจโกว;

สงฺการโจฬํ ปฏิมุฺจ กณฺเ,

โก เร ตุวํ โหสิ อทกฺขิเณยฺโย’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๑);

อถ นํ มหาสตฺโต อกุชฺฌิตฺวาว โอวทนฺโต อาห –

‘‘อนฺนํ ตเวทํ ปกตํ ยสสฺสิ,

ตํ ขชฺชเร ภุฺชเร ปิยฺยเร จ;

ชานาสิ มํ ตฺวํ ปรทตฺตูปชีวึ,

อุตฺติฏฺ ปิณฺฑํ ลภตํ สปาโก’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๒);

โส นยิทํ ตุมฺหาทิสานํ ปฏิยตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห –

‘‘อนฺนํ มเมทํ ปกตํ พฺราหฺมณานํ,

อตฺถตฺถิตํ สทฺทหโต มเมทํ;

อเปหิ เอตฺโต กิมิธฏฺิโตสิ,

น มาทิสา ตุยฺหํ ททนฺติ ชมฺมา’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๓);

อถ โพธิสตฺโต ‘‘ทานํ นาม สคุณสฺสปิ นิคฺคุณสฺสปิ ยสฺส กสฺสจิ ทาตพฺพํ, ยถา หิ นินฺเนปิ ถเลปิ ปติฏฺาปิตํ พีชํ ปถวีรสํ อาโปรสฺจ อาคมฺม สมฺปชฺชติ, เอวํ นิปฺผลํ นาม นตฺถิ, สุเขตฺเต วปิตพีชํ วิย คุณวนฺเต มหปฺผลํ โหตี’’ติ ทสฺเสตุํ อิมํ คาถมาห –

‘‘ถเล จ นินฺเน จ วปนฺติ พีชํ,

อนูปเขตฺเต ผลมาสมานา;

เอตาย สทฺธาย ททาหิ ทานํ,

อปฺเปว อาราธเย ทกฺขิเณยฺเย’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๔);

อถ กุมาโร โกธาภิภูโต – ‘‘เกนิมสฺส มุณฺฑกสฺส ปเวโส ทินฺโน’’ติ ทฺวารรกฺขาทโย ตชฺเชตฺวา –

‘‘เขตฺตานิ มยฺหํ วิทิตานิ โลเก,

เยสาหํ พีชานิ ปติฏฺเปมิ;

เย พฺราหฺมณา ชาติมนฺตูปปนฺนา,

ตานีธ เขตฺตานิ สุเปสลานี’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๕) –

คาถํ วตฺวา ‘‘อิมํ ชมฺมํ เวณุปทเรน โปเถตฺวา คีวายํ คเหตฺวา สตฺตปิ ทฺวารโกฏฺเก อติกฺกมิตฺวา พหิ นีหรถา’’ติ อาห. อถ นํ มหาปุริโส อาห –

‘‘คิรึ นเขน ขณสิ, อโย ทนฺเตภิ ขาทสิ;

ชาตเวทํ ปทหสิ, โย อิสึ ปริภาสสี’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙);

เอวฺจ ปน วตฺวา – ‘‘สเจ มฺยายํ หตฺเถ วา ปาเท วา คณฺหาเปตฺวา ทุกฺขํ อุปฺปาเทยฺย, พหุํ อปุฺํ ปสเวยฺยา’’ติ สตฺตานุทฺทยตาย เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อนฺตรวีถิยํ โอตริ. ภควา สพฺพฺุตํ ปตฺโต ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘อิทํ วตฺวาน มาตงฺโค, อิสิ สจฺจปรกฺกโม;

อนฺตลิกฺขสฺมึ ปกฺกามิ, พฺราหฺมณานํ อุทิกฺขต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๐);

ตาวเทว นครรกฺขิกเทวตานํ เชฏฺกเทวราชา มณฺฑพฺยสฺส คีวํ ปริวตฺเตสิ. ตสฺส มุขํ ปริวตฺเตติตฺวา ปจฺฉามุขํ ชาตํ, อกฺขีนิ ปริวตฺตานิ, มุเขน เขฬํ วมติ, สรีรํ ถทฺธํ สูเล อาโรปิตํ วิย อโหสิ. อสีติสหสฺสา ปริจารกยกฺขา อสีติพฺราหฺมณสหสฺสานิ ตเถว อกํสุ. เวเคน คนฺตฺวา พฺรหฺมปชาปติยา อาโรจยึสุ. สา ตรมานรูปา อาคนฺตฺวา ตํ วิปฺปการํ ทิสฺวา คาถมาห –

‘‘อาเวธิตํ ปิฏฺิโต อุตฺตมงฺคํ,

พาหุํ ปสาเรติ อกมฺมเนยฺยํ;

เสตานิ อกฺขีนิ ยถา มตสฺส,

โก เม อิมํ ปุตฺตมกาสิ เอว’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๑);

อถสฺสา อาโรเจสุํ –

‘‘อิธาคมา สมโณ ทุมฺมวาสี,

โอตลฺลโก ปํสุปิสาจโกว,

สงฺการโจฬํ ปฏิมุฺจ กณฺเ,

โส เต อิมํ ปุตฺตมกาสิ เอว’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๒);

สา สุตฺวาว อฺาสิ – ‘‘มยฺหํ ยสทายโก อยฺโย อนุกมฺปาย ปุตฺตสฺส ปมตฺตภาวํ ตฺวา อาคโต ภวิสฺสตี’’ติ. ตโต อุปฏฺาเก ปุจฺฉิ –

‘‘กตมํ ทิสํ อคมา ภูริปฺโ,

อกฺขาถ เม มาณวา เอตมตฺถํ;

คนฺตฺวาน ตํ ปฏิกเรมุ อจฺจยํ,

อปฺเปว นํ ปุตฺต ลเภมุ ชีวิต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๓);

เต อาหํสุ –

‘‘เวหายสํ อคมา ภูริปฺโ,

ปถทฺธุโน ปนฺนรเสว จนฺโท;

อปิจาปิ โส ปุริมทิสํ อคจฺฉิ,

สจฺจปฺปฏิฺโ อิสิ สาธุรูโป’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๔);

มหาปุริโสปิ อนฺตรวีถิยํ โอติณฺณฏฺานโต ปฏฺาย – ‘‘มยฺหํ ปทวฬฺชํ หตฺถิอสฺสาทีนํ วเสน มา อนฺตรธายิตฺถ, ทิฏฺมงฺคลิกาเยว นํ ปสฺสตุ, มา อฺเ’’ติ อธิฏฺหิตฺวา ปิณฺฑาย จริตฺวา ยาปนมตฺตํ มิสฺสโกทนํ คเหตฺวา ปฏิกฺกมนสาลายํ นิสินฺโน ภุฺชิตฺวา โถกํ ภุตฺตาวเสสํ ภิกฺขาภาชเนเยว เปสิ. ทิฏฺมงฺคลิกาปิ ปาสาทา โอรุยฺห อนฺตรวีถึ ปฏิปชฺชมานา ปทวฬฺชํ ทิสฺวา – ‘‘อิทํ มยฺหํ ยสทายกสฺส อยฺยสฺส ปท’’นฺติ ปทานุสาเรนาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อาห – ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, ทาเสน กตาปราธํ มยฺหํ ขมถ, น หิ ตุมฺเห โกธวสิกา นาม, เทถ เม ปุตฺตสฺส ชีวิต’’นฺติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา –

‘‘อาเวธิตํ ปิฏฺิโต อุตฺตมงฺคํ,

พาหุํ ปสาเรติ อกมฺมเนยฺยํ;

เสตานิ อกฺขีนิ ยถา มตสฺส,

โก เม อิมํ ปุตฺตมกาสิ เอว’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๕) –

คาถํ อภาสิ. มหาปุริโส อาห – ‘‘น มยํ เอวรูปํ กโรม, ปพฺพชิตํ ปน หึสนฺเต ทิสฺวา ปพฺพชิเตสุ สคารวาหิ ภูตยกฺขเทวตาหิ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ.

เกวลํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ มโนปโทโส มา โหตุ, เทวตาหิ กตํ โหตุ, สุขมาปยา , ภนฺเต, เทวตา, อปิจาหํ, ภนฺเต, กถํ ปฏิปชฺชามีติ. เตน หิ โอสธํ เต กเถสฺสามิ, มม ภิกฺขาภาชเน ภุตฺตาวเสสํ ภตฺตมตฺถิ, ตตฺถ โถกํ อุทกํ อาสิฺจิตฺวา โถกํ คเหตฺวา ตว ปุตฺตสฺส มุเข ปกฺขิป, อวเสสํ อุทกจาฏิยํ อาโลเฬตฺวา อสีติยา พฺราหฺมณสหสฺสานํ มุเข ปกฺขิปาติ. สา เอวํ กริสฺสามีติ ภตฺตํ คเหตฺวา มหาปุริสํ วนฺทิตฺวา คนฺตฺวา ตถา อกาสิ.

มุเข ปกฺขิตฺตมตฺเต เชฏฺกเทวราชา – ‘‘สามิมฺหิ สยํ เภสชฺชํ กโรนฺเต อมฺเหหิ น สกฺกา กิฺจิ กาตุ’’นฺติ กุมารํ วิสฺสชฺเชสิ. โสปิ ขิปิตฺวา กิฺจิ ทุกฺขํ อปฺปตฺตปุพฺโพ วิย ปกติวณฺโณ อโหสิ. อถ นํ มาตา อโวจ – ‘‘ปสฺส ตาต ตว กุลุปกานํ หิโรตฺตปฺปรหิตานํ วิปฺปการํ, สมณา ปน น เอวรูปา โหนฺติ, สมเณ ตาต โภเชยฺยาสี’’ติ. ตโต เสสกํ อุทกจาฏิยํ อาลุฬาเปตฺวา พฺราหฺมณานํ มุเข ปกฺขิปาเปสิ. ยกฺขา ตาวเทว วิสฺสชฺเชตฺวา ปลายึสุ. พฺราหฺมณา ขิปิตฺวา ขิปิตฺวา อุฏฺหิตฺวา กึ อมฺหากํ มุเข ปกฺขิตฺตนฺติ ปุจฺฉึสุ. มาตงฺคอิสิสฺส อุจฺฉิฏฺภตฺตนฺติ. เต ‘‘จณฺฑาลสฺส อุจฺฉิฏฺกํ ขาทาปิตมฺหา, อพฺราหฺมณา ทานิมฺหา ชาตา, อิทานิ โน พฺราหฺมณา ‘อสุทฺธพฺราหฺมณา อิเม’ติ สมฺโภคํ น ทสฺสนฺตี’’ติ ตโต ปลายิตฺวา มชฺฌรฏฺํ คนฺตฺวา มชฺฌราชสฺส นคเร อคฺคาสนิกา พฺราหฺมณา นาม มยนฺติ ราชเคเห ภุฺชนฺติ.

ตสฺมึ สมเย โพธิสตฺโต ปาปนิคฺคหํ กโรนฺโต มานชาติเก นิมฺมทยนฺโต วิจรติ. อเถโก ‘‘ชาติมนฺตตาปโส นาม มยา สทิโส นตฺถี’’ติ อฺเสุ สฺมฺปิ น กโรติ. โพธิสตฺโต ตํ คงฺคาตีเร วสมานํ ทิสฺวา ‘‘มานนิคฺคหมสฺส กริสฺสามี’’ติ ตตฺถ อคมาสิ . ตํ ชาติมนฺตตาปโส ปุจฺฉิ – ‘‘กึ ชจฺโจ ภว’’นฺติ? จณฺฑาโล อหํ อาจริยาติ. อเปหิ จณฺฑาล อเปหิ จณฺฑาล, เหฏฺาคงฺคาย วส, มา อุปริคงฺคาย อุทกํ อุจฺฉิฏฺมกาสีติ.

โพธิสตฺโต – ‘‘สาธุ อาจริย, ตุมฺเหหิ วุตฺตฏฺาเน วสิสฺสามี’’ติ เหฏฺาคงฺคาย วสนฺโต ‘‘คงฺคาย อุทกํ ปฏิโสตํ สนฺทตู’’ติ อธิฏฺาสิ. ชาติมนฺตตาปโส ปาโตว คงฺคํ โอรุยฺห อุทกํ อาจมติ, ชฏา โธวติ. โพธิสตฺโต ทนฺตกฏฺํ ขาทนฺโต ปิณฺฑํ ปิณฺฑํ เขฬํ อุทเก ปาเตติ. ทนฺตกฏฺกุจฺฉิฏฺกมฺปิ ตตฺเถว ปวาเหติ. ยถา เจ ตํ อฺตฺถ อลคฺคิตฺวา ตาปสสฺเสว ชฏาสุ ลคฺคติ, ตถา อธิฏฺาสิ. เขฬมฺปิ ทนฺตกฏฺมฺปิ ตาปสสฺส ชฏาสุเยว ปติฏฺาติ.

ตาปโส จณฺฑาลสฺสิทํ กมฺมํ ภวิสฺสตีติ วิปฺปฏิสารี หุตฺวา คนฺตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘อิทํ, โภ จณฺฑาล, คงฺคาย อุทกํ ตยา ปฏิโสตคามิกต’’นฺติ? อาม อาจริย. เตน หิ ตฺวํ เหฏฺาคงฺคาย มา วส, อุปริคงฺคาย วสาติ. สาธุ อาจริย, ตุมฺเหหิ วุตฺตฏฺาเน วสิสฺสามีติ ตตฺถ วสนฺโต อิทฺธึ ปฏิปฺปสฺสมฺเภสิ, อุทกํ ยถาคติกเมว ชาตํ. ปุน ตาปโส ตเทว พฺยสนํ ปาปุณิ. โส ปุน คนฺตฺวา โพธิสตฺตํ ปุจฺฉิ, – ‘‘โภ จณฺฑาล, ตฺวมิทํ คงฺคาย อุทกํ กาเลน ปฏิโสตคามึ กาเลน อนุโสตคามึ กโรสี’’ติ? อาม อาจริย. จณฺฑาล, ‘‘ตฺวํ สุขวิหารีนํ ปพฺพชิตานํ สุเขน วสิตุํ น เทสิ, สตฺตเม เต ทิวเส สตฺตธา มุทฺธา ผลตู’’ติ. สาธุ อจริย, อหํ ปน สูริยสฺส อุคฺคนฺตุํ น ทสฺสามีติ.

อถ มหาสตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘เอตสฺส อภิสาโป เอตสฺเสว อุปริ ปติสฺสติ, รกฺขามิ น’’นฺติ สตฺตานุทฺทยตาย ปุนทิวเส อิทฺธิยา สูริยสฺส อุคฺคนฺตุํ น อทาสิ. อิทฺธิมโต อิทฺธิวิสโย นาม อจินฺเตยฺโย, ตโต ปฏฺาย อรุณุคฺคํ น ปฺายติ, รตฺตินฺทิวปริจฺเฉโท นตฺถิ, กสิวณิชฺชาทีนิ กมฺมานิ ปโยเชนฺโต นาม นตฺถิ.

มนุสฺสา – ‘‘ยกฺขาวฏฺโฏ นุ โข อยํ ภูตเทวฏฺโฏนาคสุปณฺณาวฏฺโฏ’’ติ อุปทฺทวปฺปตฺตา ‘‘กึ นุ โข กาตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘ราชกุลํ นาม มหาปฺํ, โลกสฺส หิตํ จินฺเตตุํ สกฺโกติ, ตตฺถ คจฺฉามา’’ติ ราชกุลํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ราชา สุตฺวา ภีโตปิ อภีตาการํ กตฺวา – ‘‘มา ตาตา ภายถ, อิมํ การณํ คงฺคาตีรวาสี ชาติมนฺตตาปโส ชานิสฺสติ, ตํ ปุจฺฉิตฺวา นิกฺกงฺขา ภวิสฺสามา’’ติ กติปเยเหว อตฺถจรเกหิ มนุสฺเสหิ สทฺธึ ตาปสํ อุปสงฺกมิตฺวา กตปฏิสนฺถาโร ตมตฺถํ ปุจฺฉิ. ตาปโส อาห – ‘‘อาม มหาราช, เอโก จณฺฑาโล อตฺถิ, โส อิมํ คงฺคาย อุทกํ กาเลน อนุโสตคามึ กาเลน ปติโสตคามึ กโรติ, มยา ตทตฺถํ กิฺจิ กถิตํ อตฺถิ, ตํ ปุจฺฉถ, โส ชานิสฺสตี’’ติ.

ราชา มาตงฺคอิสิสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา – ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, อรุณสฺส อุคฺคนฺตุํ น เทถา’’ติ ปุจฺฉิ. อาม, มหาราชาติ. กึ การณา ภนฺเตติ? ชาติมนฺตตาปสการณา, มหาราช, ชาติมนฺตตาปเสน อาคนฺตฺวา มํ วนฺทิตฺวา ขมาปิตกาเล ทสฺสามิ มหาราชาติ. ราชา คนฺตฺวา ‘‘เอถ อาจริย, ตาปสํ ขมาเปถา’’ติ อาห. นาหํ, มหาราช, จณฺฑาลํ วนฺทามีติ. มา อาจริย, เอวํ กโรถ, ชนปทสฺส มุขํ ปสฺสถาติ. โส ปุน ปฏิกฺขิปิเยว. ราชา โพธิสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อาจริโย ขมาเปตุํ น อิจฺฉิตี’’ติ อาห. อขมาปิเต อหํ สูริยํ น มุฺจามีติ. ราชา ‘‘อยํ ขมาเปตุํ น อิจฺฉติ, อยํ อขมาปิเต สูริยํ น มุฺจติ, กึ อมฺหากํ เตน ตาปเสน, โลกํ โอโลเกสฺสามา’’ติ ‘‘คจฺฉถ, โภ, ตาปสสนฺติกํ, ตํ หตฺเถสุ จ ปาเทสุ จ คเหตฺวา มาตงฺคอิสิสฺส ปาทมูเล เนตฺวา นิปชฺชาเปตฺวา ขมาเปถ เอตสฺส ชนปทานุทฺทยตํ ปฏิจฺจา’’ติ อาห. เต ราชปุริสา คนฺตฺวา ตํ ตถา กตฺวา อาเนตฺวา มาตงฺคอิสิสฺส ปาทมูเล นิปชฺชาเปตฺวา ขมาเปสุํ.

อหํ นาม ขมิตพฺพํ ขมามิ, อปิจ โข ปน เอตสฺส กถา เอตสฺเสว อุปริ ปติสฺสติ. มยา สูริเย วิสฺสชฺชิเต สูริยรสฺมิ เอตสฺส มตฺถเก ปติสฺสติ, อถสฺส สตฺตธา มุทฺธา ผลิสฺสติ. ตฺจ โข ปเนส พฺยสนํ มา ปาปุณาตุ, เอถ ตุมฺเห เอตํ คลปฺปมาเณ อุทเก โอตาเรตฺวา มหนฺตํ มตฺติกาปิณฺฑมสฺส สีเส เปถ. อถาหํ สูริยํ วิสฺสชฺชิสฺสามิ. สูริยรสฺมิ มตฺติกาปิณฺเฑ ปติตฺวา ตํ สตฺตธา ภินฺทิสฺสติ. อเถส มตฺติกาปิณฺฑํ ฉฑฺเฑตฺวา นิมุชฺชิตฺวา อฺเน ติตฺเถน อุตฺตรตุ, อิติ นํ วทถ, เอวมสฺส โสตฺถิ ภวิสฺสตีติ. เต มนุสฺสา ‘‘เอวํ กริสฺสามา’’ติ ตถา กาเรสุํ. ตสฺสาปิ ตเถว โสตฺถิ ชาตา. โส ตโต ปฏฺาย – ‘‘ชาติ นาม อการณํ, ปพฺพชิตานํ อพฺภนฺตเร คุโณว การณ’’นฺติ ชาติโคตฺตมานํ ปหาย นิมฺมโท อโหสิ.

อิติ ชาติมนฺตตาปเส ทมิเต มหาชโน โพธิสตฺตสฺส ถามํ อฺาสิ, มหาโกลาหลํ ชาตํ. ราชา อตฺตโน นครํ คมนตฺถาย โพธิสตฺตํ ยาจิ. มหาสตฺโต ปฏิฺํ ทตฺวา ตานิ จ อสีติพฺราหฺมณสหสฺสานิ ทเมสฺสามิ, ปฏิฺฺจ โมเจสฺสามีติ มชฺฌราชสฺส นครํ อคมาสิ. พฺราหฺมณา โพธิสตฺตํ ทิสฺวาว – โภ, ‘‘อยํ โส, โภ มหาโจโร, อาคโต, อิทาเนว สพฺเพ เอเต มยฺหํ อุจฺฉิฏฺกํ ขาทิตฺวา อพฺราหฺมณา ชาตาติ อมฺเห ปากเฏ กริสฺสติ, เอวํ โน อิธาปิ อาวาโส น ภวิสฺสติ, ปฏิกจฺเจว มาเรสฺสามา’’ติ ราชานํ ปุน อุปสงฺกมิตฺวา อาหํสุ – ‘‘ตุมฺเห, มหาราช, เอตํ จณฺฑาลปพฺพชิตํ มา สาธุรูโปติ มฺิตฺถ, เอส ครุกมนฺตํ ชานาติ, ปถวึ คเหตฺวา อากาสํ กโรติ, อากาสํ ปถวึ, ทูรํ คเหตฺวา สนฺติกํ กโรติ, สนฺติกํ ทูรํ, คงฺคํ นิวตฺเตตฺวา อุทฺธคามินึ กโรติ, อิจฺฉนฺโต ปถวึ อุกฺขิปิตฺวา ปาเตตุํ มฺเ สกฺโกติ. ปรสฺส วา จิตฺตํ นาม สพฺพกาลํ น สกฺกา คเหตุํ, อยํ อิธ ปติฏฺํ ลภนฺโต ตุมฺหากํ รชฺชมฺปิ นาเสยฺย, ชีวิตนฺตรายมฺปิ วํสุปจฺเฉทมฺปิ กเรยฺย, อมฺหากํ วจนํ กโรถ, มหาราช, อชฺเชว อิมํ มาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ.

ราชาโน นาม ปรปตฺติยา โหนฺติ, อิติ โส พหูนํ กถาวเสน นิฏฺํ คโต. โพธิสตฺโต ปน นคเร ปิณฺฑาย จริตฺวา อุทกผาสุกฏฺาเน มิสฺสโกทนํ ภุฺชิตฺวา ราชุยฺยานํ คนฺตฺวา นิราปราธตาย นิราสงฺโก มงฺคลสิลาปฏฺเฏ นิสีทิ. อตีเต จตฺตาลีส, อนาคเต จตฺตาลีสาติ อสีติกปฺเป อนุสฺสริตุํ สมตฺถาณสฺส อนาวชฺชนตาย มุหุตฺตมตฺตเก กาเล สติ นปฺปโหติ, ราชา อฺํ อชานาเปตฺวา สยเมว คนฺตฺวา นิราวชฺชนตาย ปมาเทน นิสินฺนํ มหาปุริสํ อสินา ปหริตฺวา ทฺเว ภาเค อกาสิ. อิมสฺส รฺโ วิชิเต อฏฺมํ โลหกูฏวสฺสํ, นวมํ กลลวสฺสํ วสฺสิ. อิติ อิมสฺสาปิ รฏฺเ นว วุฏฺิโย ปติตา. โส จ ราชา สปริโส มหานิรเย นิพฺพตฺโต. เตนาห สํกิจฺจปณฺฑิโต –

‘‘อุปหจฺจ มนํ มชฺโฌ, มาตงฺคสฺมึ ยสสฺสิเน;

สปาริสชฺโช อุจฺฉินฺโน, มชฺฌารฺํ ตทา อหูติ’’. (ชา. ๒.๑๙.๙๖) –

เอวํ มชฺฌารฺสฺส อรฺภูตภาโว เวทิตพฺโพ. มาตงฺคสฺส ปน อิสิโน วเสน ตเทว มาตงฺคารฺนฺติ วุตฺตํ.

๖๖. ปฺหปฏิภานานีติ ปฺหพฺยากรณานิ. ปจฺจนีกํ กตพฺพนฺติ ปจฺจนีกํ กาตพฺพํ. อมฺิสฺสนฺติ วิโลมภาคํ คณฺหนฺโต วิย อโหสินฺติ อตฺโถ.

๖๗. อนุวิจฺจการนฺติ อนุวิจาเรตฺวา จินฺเตตฺวา ตุลยิตฺวา กาตพฺพํ กโรหีติ วุตฺตํ โหติ. สาธุ โหตีติ สุนฺทโร โหติ. ตุมฺหาทิสสฺมิฺหิ มํ ทิสฺวา มํ สรณํ คจฺฉนฺเต นิคณฺํ ทิสฺวา นิคณฺํ สรณํ คจฺฉนฺเต – ‘‘กึ อยํ อุปาลิ ทิฏฺทิฏฺเมว สรณํ คจฺฉตี’’ติ? ครหา อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺมา อนุวิจฺจกาโร ตุมฺหาทิสานํ สาธูติ ทสฺเสติ. ปฏากํ ปริหเรยฺยุนฺติ เต กิร เอวรูปํ สาวกํ ลภิตฺวา – ‘‘อสุโก นาม ราชา วา ราชมหามตฺโต วา เสฏฺิ วา อมฺหากํ สรณํ คโต สาวโก ชาโต’’ติ ปฏากํ อุกฺขิปิตฺวา นคเร โฆเสนฺตา อาหิณฺฑนฺติ. กสฺมา? เอวํ โน มหนฺตภาโว อาวิ ภวิสฺสตีติ จ, สเจ ตสฺส ‘‘กิมหํ เอเตสํ สรณํ คโต’’ติ วิปฺปฏิสาโร อุปฺปชฺเชยฺย, ตมฺปิ โส ‘‘เอเตสํ เม สรณคตภาวํ พหู ชานนฺติ, ทุกฺขํ อิทานิ ปฏินิวตฺติตุ’’นฺติ วิโนเทตฺวา น ปฏิกฺกมิสฺสตีติ จ. ‘‘เตนาห ปฏากํ ปริหเรยฺยุ’’นฺติ.

๖๘. โอปานภูตนฺติ ปฏิยตฺตอุทปาโน วิย ิตํ. กุลนฺติ ตว นิเวสนํ. ทาตพฺพํ มฺเยฺยาสีติ ปุพฺเพ ทสปิ วีสติปิ สฏฺิปิ ชเน อาคเต ทิสฺวา นตฺถีติ อวตฺวา เทติ. อิทานิ มํ สรณํ คตการณมตฺเตนว มา อิเมสํ เทยฺยธมฺมํ, อุปจฺฉินฺทิตฺถ, สมฺปตฺตานฺหิ ทาตพฺพเมวาติ โอวทติ. สุตเมตํ, ภนฺเตติ กุโต สุตํ? นิคณฺานํ สนฺติกา, เต กิร กุลฆเรสุ เอวํ ปกาเสนฺติ – ‘‘มยํ ‘ยสฺส กสฺสจิ สมฺปตฺตสฺส ทาตพฺพ’นฺติ วทาม, สมโณ ปน โคตโม ‘มยฺหเมว ทานํ ทาตพฺพํ…เป… น อฺเสํ สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผล’นฺติ วทตี’’ติ. ตํ สนฺธาย อยํ คหปติ ‘‘สุตเมต’’นฺติ อาห.

๖๙. อนุปุพฺพึกถนฺติ ทานานนฺตรํ สีลํ, สีลานนฺตรํ สคฺคํ, สคฺคานนฺตรํ มคฺคนฺติ เอวํ อนุปฏิปาฏิกถํ. ตตฺถ ทานกถนฺติ อิทํ ทานํ นาม สุขานํ นิทานํ, สมฺปตฺตีนํ มูลํ, โภคานํ ปติฏฺา, วิสมคตสฺส ตาณํ เลณํ คติปรายณํ, อิธโลกปรโลเกสุ ทานสทิโส อวสฺสโย ปติฏฺา อารมฺมณํ ตาณํ เลณํ คติ ปรายณํ นตฺถิ. อิทฺหิ อวสฺสยฏฺเน รตนมยสีหาสนสทิสํ, ปติฏฺานฏฺเน มหาปถวิสทิสํ, อาลมฺพนฏฺเน อาลมฺพนรชฺชุสทิสํ. อิทฺหิ ทุกฺขนิตฺถรณฏฺเน นาวา, สมสฺสาสนฏฺเน สงฺคามสูโร, ภยปริตฺตาณฏฺเน สุสงฺขตนครํ, มจฺเฉรมลาทีหิ อนุปลิตฺตฏฺเน ปทุมํ, เตสํ นิทหนฏฺเน อคฺคิ, ทุราสทฏฺเน อาสีวิโส. อสนฺตาสนฏฺเน สีโห, พลวนฺตฏฺเน หตฺถี, อภิมงฺคลสมฺมตฏฺเน เสตวสโภ, เขมนฺตภูมิสมฺปาปนฏฺเน วลาหโก อสฺสราชา. ทานํ นาเมภํ มยฺหํ คตมคฺโค, มยฺเหเวโส วํโส, มยา ทส ปารมิโย ปูเรนฺเตน เวลามมหายฺโ, มหาโควินฺทมหายฺโ มหาสุทสฺสนมหายฺโ, เวสฺสนฺตรมหายฺโติ อเนกมหายฺา ปวตฺติตา, สสภูเตน ชลิเต อคฺคิกฺขนฺเธ อตฺตานํ นิยฺยาเทนฺเตน สมฺปตฺตยาจกานํ จิตฺตํ คหิตํ. ทานฺหิ โลเก สกฺกสมฺปตฺตึ เทติ, มารสมฺปตฺตึ เทติ, พฺรหฺมสมฺปตฺตึ เทติ, จกฺกวตฺติสมฺปตฺตึ เทติ, สาวกปารมีาณํ, ปจฺเจกโพธิาณํ, อภิสมฺโพธิาณํ เทตีติ เอวมาทึ ทานคุณปฏิสํยุตฺตํ กถํ.

ยสฺมา ปน ทานํ ททนฺโต สีลํ สมาทาตุํ สกฺโกติ, ตสฺมา ตทนตรํ สีลกถํ กเถสิ. สีลกถนฺติ สีลํ นาเมตํ อวสฺสโย ปติฏฺา อารมฺมณํ ตาณํ เลณํ คติ ปรายณํ, สีลํ นาเมตํ มม วํโส, อหํ สงฺขปาลนาคราชกาเล, ภูริทตฺตนาคราชกาเล, จมฺเปยฺยนาคราชกาเล, สีลวนาคราชกาเล, มาตุโปสกหตฺถิราชกาเล, ฉทฺทนฺตหตฺถิราชกาเลติ อนนฺเตสุ อตฺตภาเวสุ สีลํ ปริปูเรสึ. อิธโลกปรโลกสมฺปตฺตีนฺหิ สีลสทิโส อวสฺสโย, สีลสทิสา ปติฏฺา, อารมฺมณํ ตาณํ เลณํ คติ ปรายณํ นตฺถิ, สีลาลงฺการสทิโส อลงฺกาโร นตฺถิ, สีลปุปฺผสทิสํ ปุปฺผํ นตฺถิ, สีลคนฺธสทิโส คนฺโธ นตฺถิ. สีลาลงฺกาเรน หิ อลงฺกตํ สีลกุสุมปิฬนฺธนํ สีลคนฺธานุลิตฺตํ สเทวโกปิ โลโก โอโลเกนฺโต ติตฺตึ น คจฺฉตีติ เอวมาทึ สีลคุณปฏิสํยุตฺตํ กถํ.

อิทํ ปน สีลํ นิสฺสาย อยํ สคฺโค ลพฺภตีติ ทสฺเสตุํ สีลานนฺตรํ สคฺคกถํ กเถสิ. สคฺคกถนฺติ อยํ สคฺโค นาม อิฏฺโ กนฺโต มนาโป, นิจฺจเมตฺถ กีฬา, นิจฺจํ สมฺปตฺติโย ลพฺภนฺติ, จาตุมหาราชิกา เทวา นวุติวสฺสสตสหสฺสานิ ทิพฺพสุขํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวนฺติ, ตาวตึสา ติสฺโส จ วสฺสโกฏิโย สฏฺิ จ วสฺสสตสหสฺสานีติ เอวมาทึ สคฺคคุณปฏิสํยุตฺตํ กถํ. สคฺคสมฺปตฺตึ กถยนฺตานฺหิ พุทฺธานํ มุขํ นปฺปโหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อเนกปริยาเยน โข อหํ, ภิกฺขเว, สคฺคกถํ กเถยฺย’’นฺติอาทิ (ม. นิ. ๓.๒๕๕).

เอวํ สคฺคกถาย ปโลเภตฺวา ปุน หตฺถึ อลงฺกริตฺวา ตสฺส โสณฺฑํ ฉินฺทนฺโต วิย – ‘‘อยมฺปิ สคฺโค อนิจฺโจ อทฺธุโว, น เอตฺถ ฉนฺทราโค กาตพฺโพ’’ติ ทสฺสนตฺถํ – ‘‘อปฺปสฺสาทา กามา วุตฺตา มยา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย’’ติอาทินา (ปาจิ. ๔๑๗; ม. นิ. ๑.๒๓๕) นเยน กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ กเถสิ. ตตฺถ อาทีนโวติ โทโส. โอกาโรติ อวกาโร ลามกภาโว. สํกิเลโสติ เตหิ สตฺตานํ สํสาเร สํกิลิสฺสนํ. ยถาห ‘‘กิลิสฺสนฺติ วต, โภ, สตฺตา’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๕๑).

เอวํ กามาทีนเวน ตชฺชิตฺวา เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. กลฺลจิตฺตนฺติ อโรคจิตฺตํ. สามุกฺกํสิกาติ สามํ อุกฺกํสิกา อตฺตนาเยว คเหตฺวา อุทฺธริตฺวา คหิตา, สยมฺภูาเณน ทิฏฺา, อสาธารณา อฺเสนฺติ อตฺโถ. กา ปเนสาติ, อริยสจฺจเทสนา? เตเนวาห – ‘‘ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺค’’นฺติ.

วิรชํ วีตมลนฺติ ราครชาทีนํ อภาวา วิรชํ, ราคมลาทีนํ วิคตตฺตา วีตมลํ. ธมฺมจกฺขุนฺติ อุปริ พฺรหฺมายุสุตฺเต ติณฺณํ มคฺคานํ, จูฬราหุโลวาเท อาสวกฺขยสฺเสตํ นามํ. อิธ ปน โสตาปตฺติมคฺโค อธิปฺเปโต. ตสฺส อุปฺปตฺติอาการทสฺสนตฺถํ ‘‘ยํกิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ อาห. ตฺหิ นิโรธํ อารมฺมณํ กตฺวา กิจฺจวเสน เอวํ สพฺพสงฺขตํ ปฏิวิชฺฌนฺตํ อุปฺปชฺชติ.

ทิฏฺโ อริยสจฺจธมฺโม เอเตนาติ ทิฏฺธมฺโม. เอส นโย เสสปเทสุปิ. ติณฺณา วิจิกิจฺฉา อเนนาติ ติณฺณวิจิกิจฺโฉ. วิคตา กถํกถา อสฺสาติ วิคตกถํกโถ. เวสารชฺชปฺปตฺโตติ เวสารชฺชํ ปตฺโต. กตฺถ? สตฺถุ สาสเน. นาสฺส ปโร ปจฺจโย, น ปรสฺส สทฺธาย เอตฺถ วตฺตตีติ อปรปฺปจฺจโย.

๗๐. จิตฺเตน สมฺปฏิจฺฉมาโน อภินนฺทิตฺวา, วาจาย ปสํสมาโน อนุโมทิตฺวา. อาวรามีติ ถเกมิ ปิทหามิ. อนาวฏนฺติ น อาวริตํ วิวฏํ อุคฺฆาฏิตํ.

๗๑. อสฺโสสิ โข ทีฆตปสฺสีติ โส กิร ตสฺส คตกาลโต ปฏฺาย – ‘‘ปณฺฑิโต คหปติ , สมโณ จ โคตโม ทสฺสนสมฺปนฺโน นิยฺยานิกกโถ, ทสฺสเนปิ ตสฺส ปสีทิสฺสติ, ธมฺมกถายปิ ปสีทิสฺสติ, ปสีทิตฺวา สรณํ คมิสฺสติ, คโต นุ โข สรณํ คหปติ น ตาว คโต’’ติ โอหิตโสโตว หุตฺวา วิจรติ. ตสฺมา ปมํเยว อสฺโสสิ.

๗๒. เตน หิ สมฺมาติ พลวโสเกน อภิภูโต ‘‘เอตฺเถว ติฏฺา’’ติ วจนํ สุตฺวาปิ อตฺถํ อสลฺลกฺเขนฺโต โทวาริเกน สทฺธึ สลฺลปติเยว.

มชฺฌิมาย ทฺวารสาลายานฺติ ยสฺส ฆรสฺส สตฺต ทฺวารโกฏฺกา, ตสฺส สพฺพอพฺภนฺตรโต วา สพฺพพาหิรโต วา ปฏฺาย จตุตฺถทฺวารโกฏฺโก, ยสฺส ปฺจ, ตสฺส ตติโย, ยสฺส ตโย, ตสฺส ทุติโย ทฺวารโกฏฺโก มชฺฌิมทฺวารสาลา นาม. เอกทฺวารโกฏฺกสฺส ปน ฆรสฺส มชฺฌฏฺาเน มงฺคลตฺถมฺภํ นิสฺสาย มชฺฌิมทฺวารสาลา. ตสฺส ปน เคหสฺส สตฺต ทฺวารโกฏฺกา, ปฺจาติปิ วุตฺตํ.

๗๓. อคฺคนฺติอาทีนิ สพฺพานิ อฺมฺเววจนานิ. ยํ สุทนฺติ เอตฺถ นฺติ ยํ นาฏปุตฺตํ. สุทนฺติ นิปาตมตฺตํ. ปริคฺคเหตฺวาติ เตเนว อุตฺตราสงฺเคน อุทเร ปริกฺขิปนฺโต คเหตฺวา. นิสีทาเปตีติ สณิกํ อาจริย, สณิกํ อาจริยาติ มหนฺตํ เตลฆฏํ เปนฺโต วิย นิสีทาเปติ. ทตฺโตสีติ กึ ชโฬสิ ชาโตติ อตฺโถ. ปฏิมุกฺโกติ สีเส ปริกฺขิปิตฺวา คหิโต. อณฺฑหารโกติอาทึ ทุฏฺุลฺลวจนมฺปิ สมานํ อุปฏฺากสฺส อฺถาภาเวน อุปฺปนฺนพลวโสกตาย อิทํ นาม ภณามีติ อสลฺลกฺเขตฺวาว ภณติ.

๗๔. ภทฺทิกา, ภนฺเต, อาวฏฺฏนีติ นิคณฺโ มายเมว สนฺธาย วทติ, อุปาสโก อตฺตนา ปฏิวิทฺธํ โสตาปตฺติมคฺคํ. เตน หีติ นิปาตมตฺตเมตํ, ภนฺเต, อุปมํ เต กริสฺสามิจฺเจว อตฺโถ. การณวจนํ วา, เยน การเณน ตุมฺหากํ สาสนํ อนิยฺยานิกํ, มม สตฺถุ นิยฺยานิกํ, เตน การเณน อุปมํ เต กริสฺสามีติ วุตฺตํ โหติ.

๗๕. อุปวิชฺาติ วิชายนกาลํ อุปคตา. มกฺกฏจฺฉาปกนฺติ มกฺกฏโปตกํ. กิณิตฺวา อาเนหีติ มูลํ ทตฺวาว อาหร. อาปเณสุ หิ สวิฺาณกมฺปิ อวิฺาณกมฺปิ มกฺกฏาทิกีฬนภณฺฑกํ วิกฺกิณนฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ อาห. รชิตนฺติ พหลพหลํ ปีตาวเลปนรงฺคชาตํ คเหตฺวา รชิตฺวา ทินฺนํ อิมํ อิจฺฉามีติ อตฺโถ. อาโกฏิตปจฺจาโกฏิตนฺติ อาโกฏิตฺเจว ปริวตฺเตตฺวา ปุนปฺปุนํ อาโกฏิตฺจ. อุภโตภาควิมฏฺนฺติ มณิปาสาเณน อุโภสุ ปสฺเสสุ สุฏฺุ วิมฏฺํ ฆฏฺเฏตฺวา อุปฺปาทิตจฺฉวึ.

รงฺคกฺขโม หิ โขติ สวิฺาณกมฺปิ อวิฺาณกมฺปิ รงฺคํ ปิวติ. ตสฺมา เอวมาห. โน อาโกฏฺฏนกฺขโมติ สวิฺาณกสฺส ตาว อาโกฏฺฏนผลเก เปตฺวา กุจฺฉิยํ อาโกฏิตสฺส กุจฺฉิ ภิชฺชติ, กรีสํ นิกฺขมติ. เสสี อาโกฏิตสฺส สีสํ ภิชฺชติ, มตฺตลุงฺคํ นิกฺขมติ. อวิฺาณโก ขณฺฑขณฺฑิตํ คจฺฉติ. ตสฺมา เอวมาห. โน วิมชฺชนกฺขโมติ สวิฺาณโก มณิปาสาเณน วิมทฺทิยมาโน นิลฺโลมตํ นิจฺฉวิตฺจ อาปชฺชติ, อวิฺาณโกปิ วจุณฺณกภาวํ อาปชฺชติ. ตสฺมา เอวมาห. รงฺคกฺขโม หิ โข พาลานนฺติ พาลานํ มนฺทพุทฺธีนํ รงฺคกฺขโม, ราคมตฺตํ ชเนติ, ปิโย โหติ. ปณฺฑิตานํ ปน นิคณฺวาโท วา อฺโ วา ภารตรามสีตาหรณาทิ นิรตฺถกกถามคฺโค อปฺปิโยว โหติ. โน อนุโยคกฺขโม, โน วิมชฺชนกฺขโมติ อนุโยคํ วา วีมํสํ วา น ขมติ, ถุเส โกฏฺเฏตฺวา ตณฺฑุลปริเยสนํ วิย กทลิยํ สารคเวสนํ วิย จ ริตฺตโก ตุจฺฉโกว โหติ. รงฺคกฺขโม เจว ปณฺฑิตานนฺติ จตุสจฺจกถา หิ ปณฺฑิตานํ ปิยา โหติ, วสฺสสตมฺปิ สุณนฺโต ติตฺตึ น คจฺฉติ. ตสฺมา เอวมาห. พุทฺธวจนํ ปน ยถา ยถาปิ โอคาหิสฺสติ มหาสมุทฺโท วิย คมฺภีรเมว โหตีติ ‘‘อนุโยคกฺขโม จ วิมชฺชนกฺขโม จา’’ติ อาห. สุโณหิยสฺสาหํ สาวโกติ ตสฺส คุเณ สุณาหีติ ภควโต วณฺเณ วตฺตุํ อารทฺโธ.

๗๖. ธีรสฺสาติ ธีรํ วุจฺจติ ปณฺฑิจฺจํ, ยา ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ, เตน สมนฺนาคตสฺส ธาตุอายตนปฏิจฺจสมุปฺปาทฏฺานาฏฺานกุสลสฺส ปณฺฑิตสฺสาหํ สาวโก, โส มยฺหํ สตฺถาติ เอวํ สพฺพปเทสุ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปภินฺนขีลสฺสาติ ภินฺนปฺจเจโตขิลสฺส. สพฺพปุถุชฺชเน วิชินึสุ วิชินนฺติ วิชินิสฺสนฺติ วาติ วิชยา. เก เต, มจฺจุมารกิเลสมารเทวปุตฺตมาราติ? เต วิชิตา วิชยา เอเตนาติ วิชิตวิชโย. ภควา, ตสฺส วิชิตวิชยสฺส. อนีฆสฺสาติ กิเลสทุกฺเขนปิ วิปากทุกฺเขนปิ นิทฺทุกฺขสฺส. สุสมจิตฺตสฺสาติ เทวทตฺตธนปาลกองฺคุลิมาลราหุลเถราทีสุปิ เทวมนุสฺเสสุ สุฏฺุ สมจิตฺตสฺส. วุทฺธสีลสฺสาติ วฑฺฒิตาจารสฺส. สาธุปฺสฺสาติ สุนฺทรปฺสฺส. เวสมนฺตรสฺสาติ ราคาทิวิสมํ ตริตฺวา วิตริตฺวา ิตสฺส. วิมลสฺสาติ วิคตราคาทิมลสฺส.

ตุสิตสฺสาติ ตุฏฺจิตฺตสฺส. วนฺตโลกามิสสฺสาติ วนฺตกามคุณสฺส. มุทิตสฺสาติ มุทิตาวิหารวเสน มุทิตสฺส, ปุนรุตฺตเมว วา เอตํ. ปสาทวเสน หิ เอกมฺปิ คุณํ ปุนปฺปุนํ วทติเยว. กตสมณสฺสาติ กตสามฺสฺส, สมณธมฺมสฺส มตฺถกํ ปตฺตสฺสาติ อตฺโถ. มนุชสฺสาติ โลกโวหารวเสน เอกสฺส สตฺตสฺส. นรสฺสาติ ปุนรุตฺตํ. อฺถา วุจฺจมาเน เอเกกคาถาย ทส คุณา นปฺปโหนฺติ.

เวนยิกสฺสาติ สตฺตานํ วินายกสฺส. รุจิรธมฺมสฺสาติ สุจิธมฺมสฺส. ปภาสกสฺสาติ โอภาสกสฺส. วีรสฺสาติ วีริยสมฺปนฺนสฺส. นิสภสฺสาติ อุสภวสภนิสเภสุ สพฺพตฺถ อปฺปฏิสมฏฺเน นิสภสฺส. คมฺภีรสฺสาติ คมฺภีรคุณสฺส, คุเณหิ วา คมฺภีรสฺส. โมนปตฺตสฺสาติ าณปตฺตสฺส. เวทสฺสาติ เวโท วุจฺจติ าณํ, เตน สมนฺนาคตสฺส. ธมฺมฏฺสฺสาติ ธมฺเม ิตสฺส. สํวุตตฺตสฺสาติ ปิหิตตฺตสฺส.

นาคสฺสาติ จตูหิ การเณหิ นาคสฺส. ปนฺตเสนสฺสาติ ปนฺตเสนาสนสฺส. ปฏิมนฺตกสฺสาติ ปฏิมนฺตนปฺาย สมนฺนาคตสฺส. โมนสฺสาติ โมนํ วุจฺจติ าณํ, เตน สมนฺนาคตสฺส, ธุตกิเลสสฺส วา. ทนฺตสฺสาติ นิพฺพิเสวนสฺส.

อิสิสตฺตมสฺสาติ วิปสฺสิอาทโย ฉ อิสโย อุปาทาย สตฺตมสฺส. พฺรหฺมปตฺตสฺสาติ เสฏฺปตฺตสฺส. นฺหาตกสฺสาติ นฺหาตกิเลสสฺส. ปทกสฺสาติ อกฺขราทีนิ สโมธาเนตฺวา คาถาปทกรณกุสลสฺส. วิทิตเวทสฺสาติ วิทิตาณสฺส. ปุรินฺททสฺสาติ สพฺพปมํ ธมฺมทานทายกสฺส. สกฺกสฺสาติ สมตฺถสฺส. ปตฺติปตฺตสฺสาติ เย ปตฺตพฺพา คุณา, เต ปตฺตสฺส. เวยฺยากรณสฺสาติ วิตฺถาเรตฺวา อตฺถทีปกสฺส. ภควตา หิ อพฺยากตํ นาม ตนฺติ ปทํ นตฺถิ สพฺเพสํเยว อตฺโถ กถิโต.

วิปสฺสิสฺสาติ วิปสฺสนกสฺส. อนภินตสฺสาติ อนตสฺส. โน อปนตสฺสาติ อทุฏฺสฺส.

อนนุคตนฺตรสฺสาติ กิเลเส อนนุคตจิตฺตสฺส. อสิตสฺสาติ อพทฺธสฺส.

ภูริปฺสฺสาติ ภูริ วุจฺจติ ปถวี, ตาย ปถวีสมาย ปฺาย วิปุลาย มหนฺตาย วิตฺถตาย สมนฺนาคตสฺสาติ อตฺโถ. มหาปฺสฺสาติ มหาปฺาย สมนฺนาคตสฺส.

อนุปลิตฺตสฺสาติ ตณฺหาทิฏฺิกิเลเสหิ อลิตฺตสฺส. อาหุเนยฺยสฺสาติ อาหุตึ ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺตสฺส. ยกฺขสฺสาติ อานุภาวทสฺสนฏฺเน อาทิสฺสมานกฏฺเน วา ภควา ยกฺโข นาม. เตนาห ‘‘ยกฺขสฺสา’’ติ. มหโตติ มหนฺตสฺส. ตสฺส สาวโกหมสฺมีติ ตสฺส เอวํวิวิธคุณสฺส สตฺถุสฺส อหํ สาวโกติ. อุปาสกสฺส โสภาปตฺติมคฺเคเนว ปฏิสมฺภิทา อาคตา. อิติ ปฏิสมฺภิทาวิสเย ตฺวา ปทสเตน ทสพลสฺส กิเลสปฺปหานวณฺณํ กเถนฺโต ‘‘กสฺส ตํ คหปติ สาวกํ ธาเรมา’’ติ ปฺหสฺส อตฺถํ วิสฺสชฺเชสิ.

๗๗. กทาสฺูฬฺหาติ กทา สมฺปิณฺฑิตา. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อยํ อิทาเนว สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาคโต, กทาเนน เอเต วณฺณา สมฺปิณฺฑิตา’’ติ. ตสฺมา เอวมาห. วิจิตฺตํ มาลํ คนฺเถยฺยาติ สยมฺปิ ทกฺขตาย ปุปฺผานมฺปิ นานาวณฺณตาย เอกโตวณฺฏิกาทิเภทํ วิจิตฺรมาลํ คนฺเถยฺย. เอวเมว โข, ภนฺเตติ เอตฺถ นานาปุปฺผานํ มหาปุปฺผราสิ วิย นานาวิธานํ วณฺณานํ ภควโต สิเนรุมตฺโต วณฺณราสิ ทฏฺพฺโพ. เฉกมาลากาโร วิย อุปาลิ คหปติ. มาลาการสฺส วิจิตฺรมาลาคนฺถนํ วิย คหปติโน ตถาคตสฺส วิจิตฺรวณฺณคนฺถนํ.

อุณฺหํ โลหิตํ มุขโต อุคฺคฺฉีติ ตสฺส หิ ภควโต สกฺการํ อสหมานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อนตฺถิโก ทานิ อยํ คหปติ อมฺเหหิ, สฺเว ปฏฺาย ปณฺณาส สฏฺิ ชเน คเหตฺวา เอตสฺส ฆรํ ปวิสิตฺวา ภุฺชิตุํ น ลภิสฺสามิ, ภินฺนา เม ภตฺตกุมฺภี’’ติ. อถสฺส อุปฏฺากวิปริณาเมน พลวโสโก อุปฺปชฺชิ. อิเม หิ สตฺตา อตฺตโน อตฺตโนว จินฺตยนฺติ. ตสฺส ตสฺมึ โสเก อุปฺปนฺเน อพฺภนฺตรํ อุณฺหํ อโหสิ, โลหิตํ วิลียิตฺถ, ตํ มหาวาเตน สมุทฺธริตํ กุเฏ ปกฺขิตฺตรชนํ วิย ปตฺตมตฺตํ มุขโต อุคฺคฺฉิ. นิธานคตโลหิตํ วมิตฺวา ปน อปฺปกา สตฺตา ชีวิตุํ สกฺโกนฺติ. นิคณฺโ ตตฺเถว ชาณุนา ปติโต, อถ นํ ปาฏงฺกิยา พหินครํ นีหริตฺวา มฺจกสิวิกาย คเหตฺวา ปาวํ อคมํสุ, โส น จิรสฺเสว ปาวายํ กาลมกาสิ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต อุคฺฆาฏิตฺูปุคฺคลสฺส วเสน ธมฺมเทสนา ปรินิฏฺิตาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

อุปาลิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. กุกฺกุรวติกสุตฺตวณฺณนา

๗๘. เอวํเม สุตนฺติ กุกฺกุรวติกสุตฺตํ. ตตฺถ โกลิเยสูติ เอวํนามเก ชนปเท. โส หิ เอโกปิ โกลนคเร ปติฏฺิตานํ โกลิยานํ ราชกุมารานํ นิวาสฏฺานตฺตา เอวํ วุจฺจติ. ตสฺมึ โกลิเยสุ ชนปเท. หลิทฺทวสนนฺติ ตสฺส กิร นิคมสฺส มาปิตกาเล ปีตกวตฺถนิวตฺถา มนุสฺสา นกฺขตฺตํ กีฬึสุ. เต นกฺขตฺตกีฬาวสาเน นิคมสฺส นามํ อาโรเปนฺตา หลิทฺทวสนนฺติ นามํ อกํสุ. ตํ โคจรคามํ กตฺวา วิหรตีติ อตฺโถ. วิหาโร ปเนตฺถ กิฺจาปิ น นิยามิโต, ตถาปิ พุทฺธานํ อนุจฺฉวิเก เสนาสเนเยว วิหาสีติ เวทิตพฺโพ. โควติโกติ สมาทินฺนโควโต, สีเส สิงฺคานิ เปตฺวา นงฺคุฏฺํ พนฺธิตฺวา คาวีหิ สทฺธึ ติณานิ ขาทนฺโต วิย จรติ. อเจโลติ นคฺโค นิจฺเจโล. เสนิโยติ ตสฺส นามํ.

กุกฺกุรวติโกติ สมาทินฺนกุกฺกุรวโต, สพฺพํ สุนขกิริยํ กโรติ. อุโภเปเต สหปํสุกีฬิกา สหายกา. กุกฺกุโรว ปลิกุชฺชิตฺวาติ สุนโข นาม สามิกสฺส สนฺติเก นิสีทนฺโต ทฺวีหิ ปาเทหิ ภูมิยํ วิเลขิตฺวา กุกฺกุรกูชิตํ กูชนฺโต นิสีทติ, อยมฺปิ ‘‘กุกฺกุรกิริยํ กริสฺสามี’’ติ ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิตฺวา ทฺวีหิ หตฺเถหิ ภูมิยํ วิเลขิตฺวา สีสํ วิธุนนฺโต ‘ภู ภู’ติ กตฺวา หตฺถปาเท สมิฺชิตฺวา สุนโข วิย นิสีทิ. ฉมานิกฺขิตฺตนฺติ ภูมิยํ ปิตํ. สมตฺตํ สมาทินฺนนฺติ ปริปุณฺณํ กตฺวา คหิตํ. กา คตีติ กา นิปฺผตฺติ. โก อภิสมฺปราโยติ อภิสมฺปรายมฺหิ กตฺถ นิพฺพตฺติ. อลนฺติ ตสฺส อปฺปิยํ ภวิสฺสตีติ ยาวตติยํ ปฏิพาหติ. กุกฺกุรวตนฺติ กุกฺกุรวตสมาทานํ.

๗๙. ภาเวตีติ วฑฺเฒติ. ปริปุณฺณนฺติ อนูนํ. อพฺโพกิณฺณนฺติ นิรนฺตรํ. กุกฺกุรสีลนฺติ กุกฺกุราจารํ. กุกฺกุรจิตฺตนฺติ ‘‘อชฺช ปฏฺาย กุกฺกุเรหิ กาตพฺพํ กริสฺสามี’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนจิตฺตํ. กุกฺกุรากปฺปนฺติ กุกฺกุรานํ คมนากาโร อตฺถิ, ติฏฺนากาโร อตฺถิ, นิสีทนากาโร อตฺถิ, สยนากาโร อตฺถิ, อุจฺจารปสฺสาวกรณากาโร อตฺถิ, อฺเ กุกฺกุเร ทิสฺวา ทนฺเต วิวริตฺวา คมนากาโร อตฺถิ, อยํ กุกฺกุรากปฺโป นาม, ตํ ภาเวตีติ อตฺโถ . อิมินาหํ สีเลนาติอาทีสุ อหํ อิมินา อาจาเรน วา วตสมาทาเนน วา ทุกฺกรตปจรเณน วา เมถุนวิรติพฺรหฺมจริเยน วาติ อตฺโถ. เทโวติ สกฺกสุยามาทีสุ อฺตโร. เทวฺตโรติ เตสํ ทุติยตติยฏฺานาทีสุ อฺตรเทโว. มิจฺฉาทิฏฺีติ อเทวโลกคามิมคฺคเมว เทวโลกคามิมคฺโคติ คเหตฺวา อุปฺปนฺนตาย สา อสฺส มิจฺฉาทิฏฺิ นาม โหติ. อฺตรํ คตึ วทามีติ ตสฺส หิ นิรยโต วา ติรจฺฉานโยนิโต วา อฺา คติ นตฺถิ, ตสฺมา เอวมาห. สมฺปชฺชมานนฺติ ทิฏฺิยา อสมฺมิสฺสํ หุตฺวา นิปชฺชมานํ.

นาหํ, ภนฺเต, เอตํ โรทามิ, ยํ มํ ภควา เอวมาหาติ ยํ มํ, ภนฺเต, ภควา เอวมาห, อหเมตํ ภควโต พฺยากรณํ น โรทามิ น ปริเทวามิ, น อนุตฺถุนามีติ อตฺโถ. เอวํ สกมฺมกวเสเนตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ, น อสฺสุมุฺจนมตฺเตน.

‘‘มตํ วา อมฺม โรทนฺติ, โย วา ชีวํ น ทิสฺสติ;

ชีวนฺตํ อมฺม ปสฺสนฺตี, กสฺมา มํ อมฺม โรทสี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓๙) –

อยฺเจตฺถ ปโยโค. อปิจ เม อิทํ, ภนฺเตติ อปิจ โข เม อิทํ, ภนฺเต, กุกฺกุรวตํ ทีฆรตฺตํ สมาทินฺนํ, ตสฺมึ สมฺปชฺชนฺเตปิ วุทฺธิ นตฺถิ, วิปชฺชนฺเตปิ. อิติ ‘‘เอตฺตกํ กาลํ มยา กตกมฺมํ โมฆํ ชาต’’นฺติ อตฺตโน วิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขมาโน โรทามิ, ภนฺเตติ.

๘๐. โควตนฺติอาทีนิ กุกฺกุรวตาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. ควากปฺปนฺติ โคอากปฺปํ. เสสํ กุกฺกุรากปฺเป วุตฺตสทิสเมว. ยถา ปน ตตฺถ อฺเ กุกฺกุเร ทิสฺวา ทนฺเต วิวริตฺวา คมนากาโร, เอวมิธ อฺเ คาโว ทิสฺวา กณฺเณ อุกฺขิปิตฺวา คมนากาโร เวทิตพฺโพ. เสสํ ตาทิสเมว.

๘๑. จตฺตาริมานิปุณฺณ กมฺมานีติ กสฺมา อิมํ เทสนํ อารภิ? อยฺหิ เทสนา เอกจฺจกมฺมกิริยวเสน อาคตา, อิมสฺมิฺจ กมฺมจตุกฺเก กถิเต อิเมสํ กิริยา ปากฏา ภวิสฺสตีติ อิมํ เทสนํ อารภิ. อปิจ อิมํ กมฺมจตุกฺกเมว เทสิยมานํ อิเม สฺชานิสฺสนฺติ , ตโต เอโก สรณํ คมิสฺสติ, เอโก ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสตีติ อยเมว เอเตสํ สปฺปายาติ ตฺวาปิ อิมํ เทสนํ อารภิ.

ตตฺถ กณฺหนฺติ กาฬกํ ทสอกุสลกมฺมปถกมฺมํ. กณฺหวิปากนฺติ อปาเย นิพฺพตฺตนโต กาฬกวิปากํ. สุกฺกนฺติ ปณฺฑรํ ทสกุสลกมฺมปถกมฺมํ. สุกฺกวิปากนฺติ สคฺเค นิพฺพตฺตนโต ปณฺฑรวิปากํ. กณฺหสุกฺกนฺติ โวมิสฺสกกมฺมํ. กณฺหสุกฺกวิปากนฺติ สุขทุกฺขวิปากํ. มิสฺสกกมฺมฺหิ กตฺวา อกุสเลน ติรจฺฉานโยนิยํ มงฺคลหตฺถิฏฺานาทีสุ อุปฺปนฺโน กุสเลน ปวตฺเต สุขํ เวทิยติ. กุสเลน ราชกุเลปิ นิพฺพตฺโต อกุสเลน ปวตฺเต ทุกฺขํ เวทิยติ. อกณฺหํ อสุกฺกนฺติ กมฺมกฺขยกรํ จตุมคฺคเจตนากมฺมํ อธิปฺเปตํ. ตฺหิ ยทิ กณฺหํ ภเวยฺย, กณฺหวิปากํ ทเทยฺย. ยทิ สุกฺกํ ภเวยฺย, สุกฺกวิปากํ ทเทยฺย. อุภยวิปากสฺส ปน อทานโต อกณฺหาสุกฺกวิปากตฺตา ‘‘อกณฺหํ อสุกฺก’’นฺติ วุตฺตํ. อยํ ตาว อุทฺเทเส อตฺโถ.

นิทฺเทเส ปน สพฺยาพชฺฌนฺติ สทุกฺขํ. กายสงฺขาราทีสุ กายทฺวาเร คหณาทิวเสน โจปนปฺปตฺตา ทฺวาทส อกุสลเจตนา สพฺยาพชฺฌกายสงฺขาโร นาม. วจีทฺวาเร หนุสฺโจปนวเสน วจีเภทปวตฺติกา ตาเยว ทฺวาทส วจีสงฺขาโร นาม. อุภยโจปนํ อปฺปตฺตา รโห จินฺตยนฺตสฺส มโนทฺวาเร ปวตฺตา มโนสงฺขาโร นาม. อิติ ตีสุปิ ทฺวาเรสุ กายทุจฺจริตาทิเภทา อกุสลเจตนาว สงฺขาราติ เวทิตพฺพา. อิมสฺมิฺหิ สุตฺเต เจตนา ธุรํ, อุปาลิสุตฺเต กมฺมํ. อภิสงฺขริตฺวาติ สงฺกฑฺฒิตฺวา, ปิณฺฑํ กตฺวาติ อตฺโถ. สพฺยาพชฺฌํ โลกนฺติ สทุกฺขํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. สพฺยาพชฺฌา ผสฺสา ผุสนฺตีติ สทุกฺขา วิปากผสฺสา ผุสนฺติ. เอกนฺตทุกฺขนฺติ นิรนฺตรทุกฺขํ. ภูตาติ เหตฺวตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ, ภูตกมฺมโต ภูตสฺส สตฺตสฺส อุปฺปตฺติ โหติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถาภูตํ กมฺมํ สตฺตา กโรนฺติ, ตถาภูเตน กมฺเมน กมฺมสภาควเสน เตสํ อุปปตฺติ โหติ. เตเนวาห ‘‘ยํ กโรติ เตน อุปปชฺชตี’’ติ. เอตฺถ จ เตนาติ กมฺเมน วิย วุตฺตา, อุปปตฺติ จ นาม วิปาเกน โหติ. ยสฺมา ปน วิปากสฺส กมฺมํ เหตุ, ตสฺมา เตน มูลเหตุภูเตน กมฺเมน นิพฺพตฺตตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ผสฺสา ผุสนฺตีติ เยน กมฺมวิปาเกน นิพฺพตฺโต, ตํกมฺมวิปากผสฺสา ผุสนฺติ. กมฺมทายาทาติ กมฺมทายชฺชา กมฺมเมว เนสํ ทายชฺชํ สนฺตกนฺติ วทามิ.

อพฺยาพชฺฌนฺติ นิทฺทุกฺขํ . อิมสฺมึ วาเร กายทฺวาเร ปวตฺตา อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา กายสงฺขาโร นาม. ตาเยว วจีทฺวาเร ปวตฺตา วจีสงฺขาโร นาม. มโนทฺวาเร ปวตฺตา ตาเยว อฏฺ, ติสฺโส จ เหฏฺิมฌานเจตนา อพฺยาพชฺฌมโนสงฺขาโร นาม. ฌานเจตนา ตาว โหตุ, กามาวจรา กินฺติ อพฺยาพชฺฌมโนสงฺขาโร นาม ชาตาติ. กสิณสชฺชนกาเล จ กสิณาเสวนกาเล จ ลพฺภนฺติ. กามาวจรเจตนา ปมชฺฌานเจตนาย ฆฏิตา, จตุตฺถชฺฌานเจตนา ตติยชฺฌานเจตนาย ฆฏิตา. อิติ ตีสุปิ ทฺวาเรสุ กายสุจริตาทิเภทา กุสลเจตนาว สงฺขาราติ เวทิตพฺโพ. ตติยวาโร อุภยมิสฺสกวเสน เวทิตพฺพา.

เสยฺยถาปิ มนุสฺสาติอาทีสุ มนุสฺสานํ ตาว กาเลน สุขํ กาเลน ทุกฺขํ ปากฏเมว, เทเวสุ ปน ภุมฺมเทวตานํ, วินิปาติเกสุ เวมานิกเปตานํ กาเลน สุขํ กาเลน ทุกฺขํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. หตฺถิอาทีสุ ติรจฺฉาเนสุปิ ลพฺภติเยว.

ตตฺราติ เตสุ ตีสุ กมฺเมสุ. ตสฺส ปหานาย ยา เจตนาติ ตสฺส ปหานตฺถาย มคฺคเจตนา. กมฺมํ ปตฺวาว มคฺคเจตนาย อฺโ ปณฺฑรตโร ธมฺโม นาม นตฺถิ. อิทํ ปน กมฺมจตุกฺกํ ปตฺวา ทฺวาทส อกุสลเจตนา กณฺหา นาม, เตภูมกกุสลเจตนา สุกฺกา นาม, มคฺคเจตนา อกณฺหา อสุกฺกาติ อาคตา.

๘๒. ‘‘ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต’’ติ อิทํ โส ‘‘จิรํ วต เม อนิยฺยานิกปกฺเข โยเชตฺวา อตฺตา กิลมิโต, ‘สุกฺขนทีตีเร นฺหายิสฺสามี’ติ สมฺปริวตฺเตนฺเตน วิย ถุเส โกฏฺเฏนฺเตน วิย จ น โกจิ อตฺโถ นิปฺผาทิโต, หนฺทาหํ อตฺตานํ โยเค โยเชมี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห. อถ ภควา โยเนน ขนฺธเก ติตฺถิยปริวาโส ปฺตฺโต, ยํ อฺติตฺถิยปุพฺโพ สามเณรภูมิยํ ิโต – ‘‘อหํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนาโม อฺติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขามิ อุปสมฺปทํ, สฺวาหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ จตฺตาโร มาเส ปริวาสํ ยาจามี’’ติอาทินา (มหาว. ๘๖) นเยน สมาทิยิตฺวา ปริวสติ, ตํ สนฺธาย ‘‘โย โข, เสนิย, อฺติตฺถิยปุพฺโพ’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ปพฺพชฺชนฺติ วจนสิลิฏฺตาวเสเนว วุตฺตํ. อปริวสิตฺวาเยว หิ ปพฺพชฺชํ ลภติ. อุปสมฺปทตฺถิเกน ปน นาติกาเลน คามปฺปเวสนาทีนิ อฏฺ วตฺตานิ ปูเรนฺเตน ปริวสิตพฺพํ . อารทฺธจิตฺตาติ อฏฺวตฺตปูรเณน ตุฏฺจิตฺตา. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปเนส ติตฺถิยปริวาโส สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย ปพฺพชฺชขนฺธกวณฺณนายํ (มหาว. อฏฺ. ๘๖) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ . อปิจ เมตฺถาติ อปิจ เม เอตฺถ. ปุคฺคลเวมตฺตตา วิทิตาติ ปุคฺคลนานตฺตํ วิทิตํ. อยํ ปุคฺคโล ปริวาสารโห, อยํ น ปริวาสารโหติ อิทํ มยฺหํ ปากฏนฺติ ทสฺเสติ.

ตโต เสนิโย จินฺเตสิ – ‘‘อโห อจฺฉริยํ พุทฺธสาสนํ, ยตฺถ เอวํ ฆํสิตฺวา โกฏฺเฏตฺวา ยุตฺตเมว คณฺหนฺติ, อยุตฺตํ ฉฑฺเฑนฺตี’’ติ. ตโต สุฏฺุตรํ ปพฺพชฺชาย สฺชาตุสฺสาโห สเจ, ภนฺเตติอาทิมาห. อถ ภควา ตสฺส ติพฺพจฺฉนฺทตํ วิทิตฺวา น เสนิโย ปริวาสํ อรหตีติ อฺตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, ภิกฺขุ, เสนิยํ นฺหาเปตฺวา ปพฺพาเชตฺวา อาเนหี’’ติ. โส ตถา กตฺวา ตํ ปพฺพาเชตฺวา ภควโต สนฺติกํ อานยิ. ภควา คเณ นิสีทิตฺวา อุปสมฺปาเทสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อลตฺถ โข อเจโล เสนิโย ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ อลตฺถ อุปสมฺปท’’นฺติ.

อจิรูปสมฺปนฺโนติ อุปสมฺปนฺโน หุตฺวา นจิรเมว. วูปกฏฺโติ วตฺถุกามกิเลสกาเมหิ กาเยน จ จิตฺเตน จ วูปกฏฺโ. อปฺปมตฺโตติ กมฺมฏฺาเน สตึ อวิชหนฺโต. อาตาปีติ กายิกเจตสิกสงฺขาเตน วีริยาตาเปน อาตาปี. ปหิตตฺโตติ กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขตาย เปสิตตฺโต วิสฺสฏฺอตฺตภาโว. ยสฺสตฺถายาติ ยสฺส อตฺถาย. กุลปุตฺตาติ อาจารกุลปุตฺตา. สมฺมเทวาติ เหตุนาว การเณเนว. ตทนุตฺตรนฺติ ตํ อนุตฺตรํ. พฺรหฺมจริยปริโยสานนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยปริโยสานภูตํ อรหตฺตผลํ. ตสฺส หิ อตฺถาย กุลปุตฺตา ปพฺพชนฺติ. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว. สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวาติ อตฺตนาเยว ปฺาย ปจฺจกฺขํ กตฺวา, อปรปฺปจฺจยํ ตฺวาติ อตฺโถ. อุปสมฺปชฺช วิหาสีติ ปาปุณิตฺวา สมฺปาเทตฺวา วิหาสิ. เอวํ วิหรนฺโตว ขีณา ชาติ…เป… อพฺภฺาสิ.

เอวมสฺส ปจฺจเวกฺขณภูมึ ทสฺเสตฺวา อรหตฺตนิกูเฏเนว เทสนํ นิฏฺาเปตุํ ‘‘อฺตโร โข ปนายสฺมา เสนิโย อรหตํ อโหสี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อฺตโรติ เอโก. อรหตนฺติ อรหนฺตานํ, ภควโต สาวกานํ อรหนฺตานํ อพฺภนฺตโร อโหสีติ อยเมวตฺถ อธิปฺปาโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

กุกฺกุรวติกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อภยราชกุมารสุตฺตวณฺณนา

๘๓. เอวํเม สุตนฺติ อภยสุตฺตํ. ตตฺถ อภโยติ ตสฺส นามํ. ราชกุมาโรติ พิมฺพิสารสฺส โอรสปุตฺโต. วาทํ อาโรเปหีติ โทสํ อาโรเปหิ. เนรยิโกติ นิรเย นิพฺพตฺตโก. กปฺปฏฺโติ กปฺปฏฺิติโก. อเตกิจฺโฉติ พุทฺธสหสฺเสนาปิ ติกิจฺฉิตุํ น สกฺกา. อุคฺคิลิตุนฺติ ทฺเว อนฺเต โมเจตฺวา กเถตุํ อสกฺโกนฺโต อุคฺคิลิตุํ พหิ นีหริตุํ น สกฺขิติ. โอคิลิตุนฺติ ปุจฺฉาย โทสํ ทตฺวา หาเรตุํ อสกฺโกนฺโต โอคิลิตุํ อนฺโต ปเวเสตุํ น สกฺขิติ.

เอวํ, ภนฺเตติ นิคณฺโ กิร จินฺเตสิ – ‘‘สมโณ โคตโม มยฺหํ สาวเก ภินฺทิตฺวา คณฺหาติ, หนฺทาหํ เอกํ ปฺหํ อภิสงฺขโรมิ, ยํ ปุฏฺโ สมโณ โคตโม อุกฺกุฏิโก หุตฺวา นิสินฺโน อุฏฺาตุํ น สกฺขิสฺสตี’’ติ. โส อภยสฺส เคหา นีหฏภตฺโต สินิทฺธโภชนํ ภุฺชนฺโต พหู ปฺเห อภิสงฺขริตฺวา – ‘‘เอตฺถ สมโณ โคตโม อิมํ นาม โทสํ ทสฺเสสฺสติ, เอตฺถ อิมํ นามา’’ติ สพฺเพ ปหาย จาตุมาสมตฺถเก อิมํ ปฺหํ อทฺทส. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิมสฺส ปฺหสฺส ปุจฺฉาย วา วิสฺสชฺชเน วา น สกฺกา โทโส ทาตุํ, โอวฏฺฏิกสาโร อยํ, โก นุ โข อิมํ คเหตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ อาโรเปสฺสตี’’ติ. ตโต ‘‘อภโย ราชกุมาโร ปณฺฑิโต, โส สกฺขิสฺสตีติ ตํ อุคฺคณฺหาเปมี’’ติ นิฏฺํ คนฺตฺวา อุคฺคณฺหาเปสิ. โส วาทชฺฌาสยตาย ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉนฺโต ‘‘เอวํ, ภนฺเต,’’ติ อาห.

๘๔. อกาโลโข อชฺชาติ อยํ ปฺโห จตูหิ มาเสหิ อภิสงฺขโต, ตตฺถ อิทํ คเหตฺวา อิทํ วิสฺสชฺชิยมาเน ทิวสภาโค นปฺปโหสฺสตีติ มฺนฺโต เอวํ จินฺเตสิ. โส ทานีติ สฺเว ทานิ. อตฺตจตุตฺโถติ กสฺมา พหูหิ สทฺธึ น นิมนฺเตสิ? เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘พหูสุ นิสินฺเนสุ โถกํ ทตฺวา วทนฺตสฺส อฺํ สุตฺตํ อฺํ การณํ อฺํ ตถารูปํ วตฺถุํ อาหริตฺวา ทสฺเสสฺสติ, เอวํ สนฺเต กลโห วา โกลาหลเมว วา ภวิสฺสติ. อถาปิ เอกกํเยว นิมนฺเตสฺสามิ, เอวมฺปิ เม ครหา อุปฺปชฺชิสฺสติ ‘ยาวมจฺฉรี วายํ อภโย, ภควนฺตํ ทิวเส ทิวเส ภิกฺขูนํ สเตนปิ สหสฺเสนปิ สทฺธึ จรนฺตํ ทิสฺวาปิ เอกกํเยว นิมนฺเตสี’’’ติ. ‘‘เอวํ ปน โทโส น ภวิสฺสตี’’ติ อปเรหิ ตีหิ สทฺธึ อตฺตจตุตฺถํ นิมนฺเตสิ.

๘๕. น ขฺเวตฺถ, ราชกุมาร, เอกํเสนาติ น โข, ราชกุมาร, เอตฺถ ปฺเห เอกํเสน วิสฺสชฺชนํ โหติ. เอวรูปฺหิ วาจํ ตถาคโต ภาเสยฺยาปิ น ภาเสยฺยาปิ. ภาสิตปจฺจเยน อตฺถํ ปสฺสนฺโต ภาเสยฺย, อปสฺสนฺโต น ภาเสยฺยาติ อตฺโถ. อิติ ภควา มหานิคณฺเน จตูหิ มาเสหิ อภิสงฺขตํ ปฺหํ อสนิปาเตน ปพฺพตกูฏํ วิย เอกวจเนเนว สํจุณฺเณสิ. อนสฺสุํ นิคณฺาติ นฏฺา นิคณฺา.

๘๖. องฺเก นิสินฺโน โหตีติ อูรูสุ นิสินฺโน โหติ. เลสวาทิโน หิ วาทํ ปฏฺเปนฺตา กิฺจิเทว ผลํ วา ปุปฺผํ วา โปตฺถกํ วา คเหตฺวา นิสีทนฺติ. เต อตฺตโน ชเย สติ ปรํ อชฺโฌตฺถรนฺติ, ปรสฺส ชเย สติ ผลํ ขาทนฺตา วิย ปุปฺผํ ฆายนฺตา วิย โปตฺถกํ วาเจนฺตา วิย วิกฺเขปํ ทสฺเสนฺติ. อยํ ปน จินฺเตสิ – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอส โอสฏสงฺคาโม ปรวาทมทฺทโน. สเจ เม ชโย ภวิสฺสติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ภวิสฺสติ, ทารกํ วิชฺฌิตฺวา โรทาเปสฺสามิ. ตโต ปสฺสถ, โภ, อยํ ทารโก โรทติ, อุฏฺหถ ตาว, ปจฺฉาปิ ชานิสฺสามา’’ติ ตสฺมา ทารกํ คเหตฺวา นิสีทิ. ภควา ปน ราชกุมารโต สหสฺสคุเณนปิ สตสหสฺสคุเณนปิ วาทีวรตโร, ‘‘อิมเมวสฺส ทารกํ อุปมํ กตฺวา วาทํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ตํ กึ มฺสิ ราชกุมารา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ มุเข อาหเรยฺยาติ มุเข เปยฺย. อาหเรยฺยสฺสาหนฺติ อปเนยฺยํ อสฺส อหํ. อาทิเกเนวาติ ปมปโยเคเนว. อภูตนฺติ อภูตตฺถํ. อตจฺฉนฺติ น ตจฺฉํ. อนตฺถสํหิตนฺติ น อตฺถสํหิตํ น วฑฺฒินิสฺสิตํ. อปฺปิยา อมนาปาติ เนว ปิยา น มนาปา. อิมินา นเยเนว สพฺพตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

ตตฺถ อปฺปิยปกฺเข ปมวาจา อโจรํเยว โจโรติ, อทาสํเยว ทาโสติ, อทุปฺปยุตฺตํเยว ทุปฺปยุตฺโตติ ปวตฺตา. น ตํ ตถาคโต ภาสติ. ทุติยวาจา โจรํเยว โจโร อยนฺติอาทิวเสน ปวตฺตา. ตมฺปิ ตถาคโต น ภาสติ. ตติยวาจา ‘‘อิทานิ อกตปุฺตาย ทุคฺคโต ทุพฺพณฺโณ อปฺเปสกฺโข , อิธ ตฺวาปิ ปุน ปุฺํ น กโรสิ, ทุติยจิตฺตวาเร กถํ จตูหิ อปาเยหิ น มุจฺจิสฺสสี’’ติ เอวํ มหาชนสฺส อตฺถปุเรกฺขาเรน ธมฺมปุเรกฺขาเรน อนุสาสนีปุเรกฺขาเรน จ วตฺตพฺพวาจา. ตตฺร กาลฺู ตถาคโตติ ตสฺมึ ตติยพฺยากรเณ ตสฺสา วาจาย พฺยากรณตฺถาย ตถาคโต กาลฺู โหติ, มหาชนสฺส อาทานกาลํ คหณกาลํ ชานิตฺวาว พฺยากโรตีติ อตฺโถ.

ปิยปกฺเข ปมวาจา อฏฺานิยกถา นาม. สา เอวํ เวทิตพฺพา – เอวํ กิร คามวาสิมหลฺลกํ นครํ อาคนฺตฺวา ปานาคาเร ปิวนฺตํ วฺเจตุกามา สมฺพหุลา ธุตฺตา ปีตฏฺาเน ตฺวา เตน สทฺธึ สุรํ ปิวนฺตา ‘‘อิมสฺส นิวาสนปาวุรณมฺปิ หตฺเถ ภณฺฑกมฺปิ สพฺพํ คณฺหิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา กติกํ อกํสุ – ‘‘เอเกกํ อตฺตปจฺจกฺขกถํ กเถม, โย ‘อภูต’นฺติ กเถสิ, กถิตํ วา น สทฺทหติ, ตํ ทาสํ กตฺวา คณฺหิสฺสามา’’ติ. ตมฺปิ มหลฺลกํ ปุจฺฉึสุ ‘‘ตุมฺหากมฺปิ ตาต รุจฺจตี’’ติ. เอวํ โหตุ ตาตาติ.

เอโก ธุตฺโต อาห – มยฺหํ, โภ มาตุ, มยิ กุจฺฉิคเต กปิฏฺผลโทหโล อโหสิ. สา อฺํ กปิฏฺหารกํ อลพฺภมานา มํเยว เปเสสิ. อหํ คนฺตฺวา รุกฺขํ อภิรุหิตุํ อสกฺโกนฺโต อตฺตนาว อตฺตานํ ปาเท คเหตฺวา มุคฺครํ วิย รุกฺขสฺส อุปริ ขิปึ; อถ สาขโต สาขํ วิจรนฺโต ผลานิ คเหตฺวา โอตริตุํ อสกฺโกนฺโต ฆรํ คนฺตฺวา นิสฺเสณึ อาหริตฺวา โอรุยฺห มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ผลานิ มาตุยา อทาสึ; ตานิ ปน มหนฺตานิ โหนฺติ จาฏิปฺปมาณานิ. ตโต เม มาตรา เอกาสเน นิสินฺนาย สมสฏฺิผลานิ ขาทิตานิ. มยา เอกุจฺฉงฺเคน อานีตผเลสุ เสสกานิ กุลสนฺตเก คาเม ขุทฺทกมหลฺลกานํ อเหสุํ. อมฺหากํ ฆรํ โสฬสหตฺถํ, เสสปริกฺขารภณฺฑกํ อปเนตฺวา กปิฏฺผเลเหว ยาว ฉทนํ ปูริตํ. ตโต อติเรกานิ คเหตฺวา เคหทฺวาเร ราสึ อกํสุ. โส อสีติหตฺถุพฺเพโธ ปพฺพโต วิย อโหสิ. กึ อีทิสํ, โภ สกฺกา, สทฺทหิตุนฺติ?

คามิกมหลฺลโก ตุณฺหี นิสีทิตฺวา สพฺเพสํ กถาปริโยสาเน ปุจฺฉิโต อาห – ‘‘เอวํ ภวิสฺสติ ตาตา, มหนฺตํ รฏฺํ, รฏฺมหนฺตตาย สกฺกา สทฺทหิตุ’’นฺติ. ยถา จ เตน, เอวํ เสเสหิปิ ตถารูปาสุ นิกฺการณกถาสุ กถิตาสุ อาห – มยฺหมฺปิ ตาตา สุณาถ, น ตุมฺหากํเยว กุลานิ, อมฺหากมฺปิ กุลํ มหากุลํ, อมฺหากํ ปน อวเสสเขตฺเตหิ กปฺปาสเขตฺตํ มหนฺตตรํ . ตสฺส อเนกกรีสสตสฺส กปฺปาสเขตฺตสฺส มชฺเฌ เอโก กปฺปาสรุกฺโข มหา อสีติหตฺถุพฺเพโธ อโหสิ. ตสฺส ปฺจ สาขา, ตาสุ อวเสสสาขา ผลํ น คณฺหึสุ, ปาจีนสาขาย เอกเมว มหาจาฏิมตฺตํ ผลํ อโหสิ. ตสฺส ฉ อํสิโย, ฉสุ อํสีสุ ฉ กปฺปาสปิณฺฑิโย ปุปฺผิตา. อหํ มสฺสุํ กาเรตฺวา นฺหาตวิลิตฺโต เขตฺตํ คนฺตฺวา ตา กปฺปาสปิณฺฑิโย ปุปฺผิตา ทิสฺวา ิตโกว หตฺถํ ปสาเรตฺวา คณฺหึ. ตา กปฺปาสปิณฺฑิโย ถามสมฺปนฺนา ฉ ทาสา อเหสุํ. เต สพฺเพ มํ เอกกํ โอหาย ปลาตา. เอตฺตเก อทฺธาเน เต น ปสฺสามิ, อชฺช ทิฏฺา, ตุมฺเห เต ฉ ชนา. ตฺวํ นนฺโท นาม, ตฺวํ ปุณฺโณ นาม, ตฺวํ วฑฺฒมาโน นาม, ตฺวํ จิตฺโต นาม ตฺวํ มงฺคโล นาม, ตฺวํ โปฏฺิโย นามาติ วตฺวา อุฏฺาย นิสินฺนเกเยว จูฬาสุ คเหตฺวา อฏฺาสิ. เต ‘‘น มยํ ทาสา’’ติปิ วตฺตุํ นาสกฺขึสุ. อถ เน กฑฺฒนฺโต วินิจฺฉยํ เนตฺวา ลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ยาวชีวํ ทาเส กตฺวา ปริภุฺชิ. เอวรูปึ กถํ ตถาคโต น ภาสติ.

ทุติยวาจา อามิสเหตุจาฏุกมฺยตาทิวเสน นานปฺปการา ปเรสํ โถมนวาจา เจว, โจรกถํ ราชกถนฺติ อาทินยปฺปวตฺตา ติรจฺฉานกถา จ. ตมฺปิ ตถาคโต น ภาสติ. ตติยวาจา อริยสจฺจสนฺนิสฺสิตกถา, ยํ วสฺสสตมฺปิ สุณนฺตา ปณฺฑิตา เนว ติตฺตึ คจฺฉนฺติ. อิติ ตถาคโต เนว สพฺพมฺปิ อปฺปิยวาจํ ภาสติ น ปิยวาจํ. ตติยํ ตติยเมว ปน ภาสิตพฺพกาลํ อนติกฺกมิตฺวา ภาสติ. ตตฺถ ตติยํ อปฺปิยวาจํ สนฺธาย เหฏฺา ทหรกุมารอุปมา อาคตาติ เวทิตพฺพํ.

๘๗. อุทาหุ านโสเวตนฺติ อุทาหุ านุปฺปตฺติกาเณน ตงฺขณํเยว ตํ ตถาคตสฺส อุปฏฺาตีติ ปุจฺฉติ. สฺาโตติ าโต ปฺาโต ปากโฏ. ธมฺมธาตูติ ธมฺมสภาโว. สพฺพฺุตฺาณสฺเสตํ อธิวจนํ . ตํ ภควตา สุปฺปฏิวิทฺธํ, หตฺถคตํ ภควโต. ตสฺมา โส ยํ ยํ อิจฺฉติ, ตํ ตํ สพฺพํ านโสว ปฏิภาตีติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. อยํ ปน ธมฺมเทสนา เนยฺยปุคฺคลวเสน ปรินิฏฺิตาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

อภยราชกุมารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. พหุเวทนียสุตฺตวณฺณนา

๘๘. เอวํเม สุตนฺติ พหุเวทนียสุตฺตํ. ตตฺถ ปฺจกงฺโค ถปตีติ ปฺจกงฺโคติ ตสฺส นามํ. วาสิผรสุนิขาทนทณฺฑมุคฺครกาฬสุตฺตนาฬิสงฺขาเตหิ วา องฺเคหิ สมนฺนาคตตฺตา โส ปฺจงฺโคติ ปฺาโต. ถปตีติ วฑฺฒกีเชฏฺโก. อุทายีติ ปณฺฑิตอุทายิตฺเถโร.

๘๙. ปริยายนฺติ การณํ. ทฺเวปานนฺทาติ ทฺเวปิ, อานนฺท. ปริยาเยนาติ การเณน. เอตฺถ จ กายิกเจตสิกวเสน ทฺเว เวทิตพฺพา. สุขาทิวเสน ติสฺโส, อินฺทฺริยวเสน สุขินฺทฺริยาทิกา ปฺจ, ทฺวารวเสน จกฺขุสมฺผสฺสชาทิกา ฉ, อุปวิจารวเสน ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา โสมนสฺสฏฺานิยํ รูปํ อุปวิจรตี’’ติอาทิกา อฏฺารส, ฉ เคหสฺสิตานิ โสมนสฺสานิ, ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โสมนสฺสานิ, ฉ เคหสฺสิตานิ โทมนสฺสานิ, ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โทมนสฺสานิ, ฉ เคหสฺสิตา อุเปกฺขา, ฉ เนกฺขมฺมสิตาติ เอวํ ฉตฺตึส, ตา อตีเต ฉตฺตึส, อนาคเต ฉตฺตึส, ปจฺจุปฺปนฺเน ฉตฺตึสาติ เอวํ อฏฺเวทนาสตํ เวทิตพฺพํ.

๙๐. ปฺจ โข อิเม, อานนฺท, กามคุณาติ อยํ ปาฏิเอกฺโก อนุสนฺธิ. น เกวลมฺปิ ทฺเว อาทึ กตฺวา เวทนา ภควตา ปฺตฺตา, ปริยาเยน เอกาปิ เวทนา กถิตา. ตํ ทสฺเสนฺโต ปฺจกงฺคสฺส ถปติโน วาทํ อุปตฺถมฺเภตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ.

อภิกฺกนฺตตรนฺติ สุนฺทรตรํ. ปณีตตรนฺติ อตปฺปกตรํ. เอตฺถ จ จตุตฺถชฺฌานโต ปฏฺาย อทุกฺขมสุขา เวทนา, สาปิ สนฺตฏฺเน ปณีตฏฺเน จ สุขนฺติ วุตฺตา. ฉ เคหสฺสิตานิ สุขนฺติ วุตฺตานิ. นิโรโธ อเวทยิตสุขวเสน สุขํ นาม ชาโต. ปฺจกามคุณวเสน หิ อฏฺสมาปตฺติวเสน จ อุปฺปนฺนํ เวทยิตสุขํ นาม. นิโรโธ อเวทยิตสุขํ นาม. อิติ เวทยิตสุขํ วา โหตุ อเวทยิตสุขํ วา, ตํ นิทฺทุกฺขภาวสงฺขาเตน สุขฏฺเน เอกนฺตสุขเมว ชาตํ.

๙๑. ยตฺถยตฺถาติ ยสฺมึ ยสฺมึ าเน. สุขํ อุปลพฺภตีติ เวทยิตสุขํ วา อเวทยิตสุขํ วา อุปลพฺภติ. ตํ ตํ ตถาคโต สุขสฺมึ ปฺเปตีติ ตํ สพฺพํ ตถาคโต นิทฺทุกฺขภาวํ สุขสฺมึเยว ปฺเปตีติ. อิธ ภควา นิโรธสมาปตฺตึ สีสํ กตฺวา เนยฺยปุคฺคลวเสน อรหตฺตนิกูเฏเนว เทสนํ นิฏฺาเปสีติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

พหุเวทนียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อปณฺณกสุตฺตวณฺณนา

๙๒. เอวํเม สุตนฺติ อปณฺณกสุตฺตํ. ตตฺถ จาริกนฺติ อตุริตจาริกํ.

๙๓. อตฺถิ ปน โว คหปตโยติ กสฺมา อาห? โส กิร คาโม อฏวิทฺวาเร นิวิฏฺโ. นานาวิธา สมณพฺราหฺมณา ทิวสํ มคฺคํ คนฺตฺวา สายํ ตํ คามํ วาสตฺถาย อุเปนฺติ, เตสํ เต มนุสฺสา มฺจปีานิ ปตฺถริตฺวา ปาเท โธวิตฺวา ปาเท มกฺเขตฺวา กปฺปิยปานกานิ ทตฺวา ปุนทิวเส นิมนฺเตตฺวา ทานํ เทนฺติ. เต ปสนฺนจิตฺตา เตหิ สทฺธึ สมฺมนฺตยมานา เอวํ วทนฺติ ‘‘อตฺถิ ปน โว คหปตโย กิฺจิ ทสฺสนํ คหิต’’นฺติ? นตฺถิ, ภนฺเตติ. ‘‘คหปตโย วินา ทสฺสเนน โลโก น นิยฺยาติ, เอกํ ทสฺสนํ รุจฺจิตฺวา ขมาเปตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ, ‘สสฺสโต โลโก’ติ ทสฺสนํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา ปกฺกนฺตา. อปรทิวเส อฺเ อาคตา. เตปิ ตเถว ปุจฺฉึสุ. เต เตสํ ‘‘อาม, ภนฺเต, ปุริเมสุ ทิวเสสุ ตุมฺหาทิสา สมณพฺราหฺมณา อาคนฺตฺวา ‘สสฺสโต โลโก’ติ อมฺเห อิทํ ทสฺสนํ คาหาเปตฺวา คตา’’ติ อาโรเจสุํ. ‘‘เต พาลา กึ ชานนฺติ? ‘อุจฺฉิชฺชติ อยํ โลโก’ติ อุจฺเฉททสฺสนํ คณฺหถา’’ติ เอวํ เตปิ อุจฺเฉททสฺสนํ คณฺหาเปตฺวา ปกฺกนฺตา. เอเตนุปาเยน อฺเ เอกจฺจสสฺสตํ, อฺเ อนฺตานนฺตํ , อฺเ อมราวิกฺเขปนฺติ เอวํ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย อุคฺคณฺหาเปสุํ. เต ปน เอกทิฏฺิยมฺปิ ปติฏฺาตุํ นาสกฺขึสุ. สพฺพปจฺฉา ภควา อคมาสิ. โส เตสํ หิตตฺถาย ปุจฺฉนฺโต ‘‘อตฺถิ ปน โว คหปตโย’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อาการวตีติ การณวตี สเหตุกา. อปณฺณโกติ อวิรทฺโธ อทฺเวชฺฌคามี เอกํสคาหิโก.

๙๔. นตฺถิ ทินฺนนฺติอาทิ ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺิ เหฏฺา สาเลยฺยกสุตฺเต วิตฺถาริตา. ตถา ตพฺพิปจฺจนีกภูตา สมฺมาทิฏฺิ.

๙๕. เนกฺขมฺเม อานิสํสนฺติ โย เนสํ อกุสลโต นิกฺขนฺตภาเว อานิสํโส, โย จ โวทานปกฺโข วิสุทฺธิปกฺโข, ตํ น ปสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อสทฺธมฺมสฺตฺตีติ อภูตธมฺมสฺาปนา . อตฺตานุกฺกํเสตีติ เปตฺวา มํ โก อฺโ อตฺตโน ทสฺสนํ ปเร คณฺหาเปตุํ สกฺโกตีติ อตฺตานํ อุกฺขิปติ. ปรํ วมฺเภตีติ เอตฺตเกสุ ชเนสุ เอโกปิ อตฺตโน ทสฺสนํ ปเร คณฺหาเปตุํ น สกฺโกตีติ เอวํ ปรํ เหฏฺา ขิปติ. ปุพฺเพว โข ปนาติ ปุพฺเพ มิจฺฉาทสฺสนํ คณฺหนฺตสฺเสว สุสีลฺยํ ปหีนํ โหติ, ทุสฺสีลภาโว ปจฺจุปฏฺิโต. เอวมสฺสิเมติ เอวํ อสฺส อิเม มิจฺฉาทิฏฺิอาทโย สตฺต. อปราปรํ อุปฺปชฺชนวเสน ปน เตเยว มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ นาม.

ตตฺราติ ตาสุ เตสํ สมณพฺราหฺมณานํ ลทฺธีสุ. กลิคฺคโหติ ปราชยคฺคาโห. ทุสฺสมตฺโต สมาทินฺโนติ ทุคฺคหิโต ทุปฺปรามฏฺโ. เอกํสํ ผริตฺวา ติฏฺตีติ เอกนฺตํ เอกโกฏฺาสํ สกวาทเมว ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา ติฏฺติ, ‘‘สเจ โข นตฺถิ ปโร โลโก’’ติ เอวํ สนฺเตเยว โสตฺถิภาวาวโห โหติ. ริฺจตีติ วชฺเชติ.

๙๖. สทฺธมฺมสฺตฺตีติ ภูตธมฺมสฺาปนา.

กฏคฺคโหติ ชยคฺคาโห. สุสมตฺโต สมาทินฺโนติ สุคฺคหิโต สุปรามฏฺโ. อุภยํสํผริตฺวา ติฏฺตีติ อุภยนฺตํ อุภยโกฏฺาสํ สกวาทํ ปรวาทฺจ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา ติฏฺติ ‘‘สเจ โข อตฺถิ ปโร โลโก’’ติ เอวํ สนฺเตปิ ‘‘สเจ โข นตฺถิ ปโร โลโก’’ติ เอวํ สนฺเตปิ โสตฺถิภาวาวโห โหติ. ปรโตปิ เอกํสอุภยํเสสุ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๙๗. กโรโตติ สหตฺถา กโรนฺตสฺส. การยโตติ อาณตฺติยา กาเรนฺตสฺส. ฉินฺทโตติ ปเรสํ หตฺถาทีนิ ฉินฺทนฺตสฺส. ปจโตติ ทณฺเฑน ปีเฬนฺตสฺส วา ตชฺเชนฺตสฺส วา. โสจยโตติ ปรสฺส ภณฺฑหรณาทีหิ โสกํ สยํ กโรนฺตสฺสปิ ปเรหิ กาเรนฺตสฺสปิ. กิลมโตติ อาหารูปจฺเฉท-พนฺธนาคารปฺปเวสนาทีหิ สยํ กิลมนฺตสฺสาปิ ปเรหิ กิลมาเปนฺตสฺสาปิ. ผนฺทโต ผนฺทาปยโตติ ปรํ ผนฺทนฺตํ ผนฺทนกาเล สยมฺปิ ผนฺทโต ปรมฺปิ ผนฺทาปยโต. ปาณมติปาตยโตติ ปาณํ หนนฺตสฺสปิ หนาเปนฺตสฺสปิ. เอวํ สพฺพตฺถ กรณการาปนวเสเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

สนฺธินฺติ ฆรสนฺธึ. นิลฺโลปนฺติ มหาวิโลปํ. เอกาคาริกนฺติ เอกเมว ฆรํ ปริวาเรตฺวา วิลุมฺปนํ. ปริปนฺเถติฏฺโตติ อาคตาคตานํ อจฺฉินฺทนตฺถํ มคฺเค ติฏฺโต. กโรโต น กรียติ ปาปนฺติ ยํกิฺจิ ปาปํ กโรมีติ สฺาย กโรโตปิ ปาปํ น กรียติ, นตฺถิ ปาปํ. สตฺตา ปน กโรมาติ เอวํสฺิโน โหนฺตีติ อตฺโถ. ขุรปริยนฺเตนาติ ขุรเนมินา, ขุรธารสทิสปริยนฺเตน วา. เอกํ มํสขลนฺติ เอกํ มํสราสึ. ปุฺชนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. ตโตนิทานนฺติ เอกมํสขลกรณนิทานํ. ทกฺขิณตีเร มนุสฺสา กกฺขฬา ทารุณา, เต สนฺธาย หนนฺโตติอาทิ วุตฺตํ. อุตฺตรตีเร สทฺธา โหนฺติ ปสนฺนา พุทฺธมามกา ธมฺมมามกา สงฺฆมามกา, เต สนฺธาย ททนฺโตติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ ยชนฺโตติ มหายาคํ กโรนฺโต. ทเมนาติ อินฺทฺริยทเมน อุโปสถกมฺเมน. สํยเมนาติ สีลสํยเมน. สจฺจวชฺเชนาติ สจฺจวจเนน. อาคโมติ อาคมนํ, ปวตฺตีติ อตฺโถ. สพฺพถาปิ ปาปปุฺานํ กิริยเมว ปฏิกฺขิปนฺติ. สุกฺกปกฺโขปิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เสสเมตฺถ ปุริมวาเร วุตฺตสทิสเมว.

๑๐๐. นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโยติ เอตฺถ ปจฺจโย เหตุเววจนํ. อุภเยนาปิ วิชฺชมานกเมว กายทุจฺจริตาทิสํกิเลสปจฺจยํ กายสุจริตาทิวิสุทฺธิปจฺจยํ ปฏิกฺขิปนฺติ. นตฺถิพลํ, นตฺถิ วีริยํ, นตฺถิ ปุริสถาโม, นตฺถิ ปุริสปรกฺกโมติ สตฺตานํ สํกิเลสิตุํ วา วิสุชฺฌิตุํ วา พลํ วา วีริยํ วา ปุริเสน กาตพฺโพ นาม ปุริสถาโม วา ปุริสปรกฺกโม วา นตฺถิ.

สพฺเพ สตฺตาติ โอฏฺโคณคทฺรภาทโย อนวเสเส นิทสฺเสนฺติ. สพฺเพ ปาณาติ เอกินฺทฺริโย ปาโณ ทฺวินฺทฺริโย ปาโณติ อาทิวเสน วทนฺติ. สพฺเพ ภูตาติ อณฺฑโกสวตฺถิโกเสสุ ภูเต สนฺธาย วทนฺติ. สพฺเพ ชีวาติ สาลิยวโคธุมาทโย สนฺธาย วทนฺติ. เตสุ เหเต วิรุหนภาเวน ชีวสฺิโน. อวสา อพลา อวีริยาติ เตสํ อตฺตโน วโส วา พลํ วา วีริยํ วา นตฺถิ. นิยติสงฺคติภาวปริณตาติ เอตฺถ นิยตีติ นิยตตา. สงฺคตีติ ฉนฺนํ อภิชาตีนํ ตตฺถ ตตฺถ คมนํ. ภาโวติ สภาโวเยว. เอวํ นิยติยา จ สงฺคติยา จ ภาเวน จ ปริณตา นานปฺปการตํ ปตฺตา. เยน หิ ยถา ภวิตพฺพํ, โส ตเถว ภวติ. เยน โน ภวิตพฺพํ, โส น ภวตีติ ทสฺเสนฺติ. ฉสฺเววาภิชาตีสูติ ฉสุ เอว อภิชาตีสุ ตฺวา สุขฺจ ทุกฺขฺจ ปฏิสํเวเทนฺติ, อฺา สุขทุกฺขภูมิ นตฺถีติ ทสฺเสนฺติ.

ตตฺถ ฉ อภิชาติโย นาม กณฺหาภิชาติ นีลาภิชาติ โลหิตาภิชาติ หลิทฺทาภิชาติ สุกฺกาภิชาติ ปรมสุกฺกาภิชาตีติ. ตตฺถ สากุณิโก สูกริโก ลุทฺโท มจฺฉฆาตโก โจโร โจรฆาตโก, เย วา ปนฺเปิ เกจิ กุรูรกมฺมนฺตา, อยํ กณฺหาภิชาติ นาม. ภิกฺขู นีลาภิชาตีติ วทนฺติ. เต กิร จตูสุ ปจฺจเยสุ กณฺฏเก ปกฺขิปิตฺวา ขาทนฺติ. ‘‘ภิกฺขู จ กณฺฏกวุตฺติโน’’ติ อยฺหิ เนสํ ปาฬิเยว. อถ วา กณฺฏกวุตฺติกา เอวํ นาม เอเก ปพฺพชิตาติ วทนฺติ. ‘‘สมณกณฺฏกวุตฺติกา’’ติปิ หิ เนสํ ปาฬิ. โลหิตาภิชาติ นาม นิคณฺา เอกสาฏกาติ วทนฺติ. อิเม กิร ปุริเมหิ ทฺวีหิ ปณฺฑรตรา. คิหี อเจลกสาวกา หลิทฺทาภิชาตีติ วทนฺติ. อิติ อตฺตโน ปจฺจยทายเก นิคณฺเหิปิ เชฏฺกตเร กโรนฺติ. นนฺโท, วจฺโฉ, สงฺกิจฺโจ, อยํ สุกฺกาภิชาตีติ วทนฺติ. เต กิร ปุริเมหิ จตูหิ ปณฺฑรตรา. อาชีวเก ปน ปรมสุกฺกาภิชาตีติ วทนฺติ. เต กิร สพฺเพหิ ปณฺฑรตรา.

ตตฺถ สพฺเพ สตฺตา ปมํ สากุณิกาทโยว โหนฺติ, ตโต วิสุชฺฌมานา สกฺยสมณา โหนฺติ, ตโต วิสุชฺฌมานา นิคณฺา, ตโต อาชีวกสาวกา, ตโต นนฺทาทโย, ตโต อาชีวกาติ อยเมเตสํ ลทฺธิ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตปจฺจนีเกน เวทิตพฺโพ. เสสมิธาปิ ปุริมวาเร วุตฺตสทิสเมว.

อิมาสุ ปน ตีสุ ทิฏฺีสุ นตฺถิกทิฏฺิ วิปากํ ปฏิพาหติ, อกิริยทิฏฺิ กมฺมํ ปฏิพาหติ, อเหตุกทิฏฺิ อุภยมฺปิ ปฏิพาหติ. ตตฺถ กมฺมํ ปฏิพาหนฺเตนาปิ วิปาโก ปฏิพาหิโต โหติ, วิปากํ ปฏิพาหนฺเตนาปิ กมฺมํ ปฏิพาหิตํ. อิติ สพฺเพเปเต อตฺถโต อุภยปฏิพาหกา นตฺถิกวาทา เจว อเหตุกวาทา อกิริยวาทา จ โหนฺติ. เย ปน เตสํ ลทฺธึ คเหตฺวา รตฺติฏฺาเน ทิวาฏฺาเน นิสินฺนา สชฺฌายนฺติ วีมํสนฺติ, เตสํ – ‘‘นตฺถิ ทินฺนํ นตฺถิ ยิฏฺํ, กโรโต น กริยติ ปาปํ, นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย’’ติ ตสฺมึ อารมฺมเณ มิจฺฉาสติ สนฺติฏฺติ , จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, ชวนานิ ชวนฺติ, ปมชวเน สเตกิจฺฉา โหนฺติ, ตถา ทุติยาทีสุ. สตฺตเม พุทฺธานมฺปิ อเตกิจฺฉา อนิวตฺติโน อริฏฺกณฺฏกสทิสา.

ตตฺถ โกจิ เอกํ ทสฺสนํ โอกฺกมติ, โกจิ ทฺเว, โกจิ ตีณิปิ, เอกสฺมึ โอกฺกนฺเตปิ ทฺวีสุ ตีสุ โอกฺกนฺเตสุปิ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิโกว โหติ, ปตฺโต สคฺคมคฺคาวรณฺเจว โมกฺขมคฺคาวรณฺจ, อภพฺโพ ตสฺส อตฺตภาวสฺส อนนฺตรํ สคฺคมฺปิ คนฺตุํ, ปเคว โมกฺขํ. วฏฺฏขาณุ นาเมส สตฺโต ปถวีโคปโก. กึ ปเนส เอกสฺมึเยว อตฺตภาเว นิยโต โหติ, อุทาหุ อฺสฺมิมฺปีติ? เอกสฺมิฺเว นิยโต, อาเสวนวเสน ปน ภวนฺตเรปิ ตํ ตํ ทิฏฺึ โรเจติเยว. เอวรูปสฺส หิ เยภุยฺเยน ภวโต วุฏฺานํ นาม นตฺถิ.

ตสฺมา อกลฺยาณชนํ, อาสีวิสมิโวรคํ;

อารกา ปริวชฺเชยฺย, ภูติกาโม วิจกฺขโณติ.

๑๐๓. นตฺถิ สพฺพโส อารุปฺปาติ อรูปพฺรหฺมโลโก นาม สพฺพากาเรน นตฺถิ. มโนมยาติ ฌานจิตฺตมยา. สฺามยาติ อรูปชฺฌานสฺาย สฺามยา. รูปานํเยว นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหตีติ อยํ ลาภี วา โหติ ตกฺกี วา. ลาภี นาม รูปาวจรชฺฌานลาภี. ตสฺส รูปาวจเร กงฺขา นตฺถิ, อรูปาวจรโลเก อตฺถิ . โส – ‘‘อหํ อารุปฺปา อตฺถีติ วทนฺตานมฺปิ นตฺถีติ วทนฺตานมฺปิ สุณามิ, อตฺถิ นตฺถีติ ปน น ชานามิ. จตุตฺถชฺฌานํ ปทฏฺานํ กตฺวา อรูปาวจรชฺฌานํ นิพฺพตฺเตสฺสามิ. สเจ อารุปฺปา อตฺถิ, ตตฺถ นิพฺพตฺติสฺสามิ, สเจ นตฺถิ, รูปาวจรพฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติสฺสามิ. เอวํ เม อปณฺณโก ธมฺโม อปณฺณโกว อวิรทฺโธว ภวิสฺสตี’’ติ ตถา ปฏิปชฺชติ. ตกฺกี ปน อปฺปฏิลทฺธชฺฌาโน, ตสฺสาปิ รูปชฺฌาเน กงฺขา นตฺถิ, อรูปโลเก ปน อตฺถิ. โส – ‘‘อหํ อารุปฺปา อตฺถีติ วทนฺตานมฺปิ นตฺถีติ วทนฺตานมฺปิ สุณามิ, อตฺถิ นตฺถีติ ปน น ชานามิ. กสิณปริกมฺมํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตํ ปทฏฺานํ กตฺวา อรูปาวจรชฺฌานํ นิพฺพตฺเตสฺสามิ. สเจ อารุปฺปา อตฺถิ, ตตฺถ นิพฺพตฺติสฺสามิ. สเจ นตฺถิ, รูปาวจรพฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติสฺสามิ. เอวํ เม อปณฺณโก ธมฺโม อปณฺณโกว อวิรทฺโธว ภวิสฺสตี’’ติ ตถา ปฏิปชฺชติ.

๑๐๔. ภวนิโรโธติ นิพฺพานํ. สาราคาย สนฺติเกติ ราควเสน วฏฺเฏ รชฺชนสฺส สนฺติเก. สํโยคายาติ ตณฺหาวเสน สํโยชนตฺถาย. อภินนฺทนายาติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน อภินนฺทนาย. ปฏิปนฺโน โหตีติ อยมฺปิ ลาภี วา โหติ ตกฺกี วา. ลาภี นาม อฏฺสมาปตฺติลาภี. ตสฺส อารุปฺเป กงฺขา นตฺถิ, นิพฺพาเน อตฺถิ. โส – ‘‘อหํ นิโรโธ อตฺถีติปิ นตฺถีติปิ สุณามิ, สยํ น ชานามิ. สมาปตฺตึ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒสฺสามิ. สเจ นิโรโธ ภวิสฺสติ, อรหตฺตํ ปตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสามิ. โน เจ ภวิสฺสติ, อารุปฺเป นิพฺพตฺติสฺสามี’’ติ เอวํ ปฏิปชฺชติ. ตกฺกี ปน เอกสมาปตฺติยาปิ น ลาภี, อารุปฺเป ปนสฺส กงฺขา นตฺถิ, ภวนิโรเธ อตฺถิ. โส – ‘‘อหํ นิโรโธ อตฺถีติปิ นตฺถีติปิ สุณามิ, สยํ น ชานามิ, กสิณปริกมฺมํ กตฺวา อฏฺสมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา สมาปตฺติปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒสฺสามิ. สเจ นิโรโธ ภวิสฺสติ, อรหตฺตํ ปตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสามิ. โน เจ ภวิสฺสติ, อารุปฺเป นิพฺพตฺติสฺสามี’’ติ เอวํ ปฏิปชฺชติ. เอตฺถาห – ‘‘อตฺถิ ทินฺนนฺติอาทีนิ ตาว อปณฺณกานิ ภวนฺตุ, นตฺถิ ทินฺนนฺติอาทีนิ ปน กถํ อปณฺณกานี’’ติ. คหณวเสน. ตานิ หิ อปณฺณกํ อปณฺณกนฺติ เอวํ คหิตตฺตา อปณฺณกานิ นาม ชาตานิ.

๑๐๕. จตฺตาโรเมติ อยํ ปาฏิเอกฺโก อนุสนฺธิ. นตฺถิกวาโท, อเหตุกวาโท อกิริยวาโท, อารุปฺปา นตฺถิ นิโรโธ นตฺถีติ เอวํวาทิโน จ ทฺเวติ อิเม ปฺจ ปุคฺคลา เหฏฺา ตโย ปุคฺคลาว โหนฺติ. อตฺถิกวาทาทโย ปฺจ เอโก จตุตฺถปุคฺคโลว โหติ. เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ภควา อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ สพฺพํ อตฺถโต อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

อปณฺณกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.