📜

๒. ภิกฺขุวคฺโค

๑. อมฺพลฏฺิกราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนา

๑๐๗. เอวํเม สุตนฺติ อมฺพลฏฺิกราหุโลวาทสุตฺตํ. ตตฺถ อมฺพลฏฺิกายํ วิหรตีติ เวฬุวนวิหารสฺส ปจฺจนฺเต ปธานฆรสงฺเขเป วิเวกกามานํ วสนตฺถาย กเต อมฺพลฏฺิกาติ เอวํนามเก ปาสาเท ปวิเวกํ พฺรูหยนฺโต วิหรติ. กณฺฏโก นาม ชาตกาลโต ปฏฺาย ติขิโณว โหติ, เอวเมวํ อยมฺปิ อายสฺมา สตฺตวสฺสิกสามเณรกาเลเยว ปวิเวกํ พฺรูหยมาโน ตตฺถ วิหาสิ. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ ผลสมาปตฺติโต วุฏฺาย. อาสนนฺติ ปกติปฺตฺตเมเวตฺถ อาสนํ อตฺถิ, ตํ ปปฺโผเฏตฺวา เปสิ. อุทกาธาเนติ อุทกภาชเน. ‘‘อุทกฏฺาเน’’ติปิ ปาโ.

อายสฺมนฺตํ ราหุลํ อามนฺเตสีติ โอวาททานตฺถํ อามนฺเตสิ. ภควตา หิ ราหุลตฺเถรสฺส สมฺพหุลา ธมฺมเทสนา กตา. สามเณรปฺหํ เถรสฺเสว วุตฺตํ. ตถา ราหุลสํยุตฺตํ มหาราหุโลวาทสุตฺตํ จูฬราหุโลวาทสุตฺตมิทํ อมฺพลฏฺิกราหุโลวาทสุตฺตนฺติ.

อยฺหิ อายสฺมา สตฺตวสฺสิกกาเล ภควนฺตํ จีวรกณฺเณ คเหตฺวา ‘‘ทายชฺชํ เม สมณ เทหี’’ติ ทายชฺชํ ยาจมาโน ภควตา ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถรสฺส นิยฺยาเทตฺวา ปพฺพาชิโต. อถ ภควา ทหรกุมารา นาม ยุตฺตายุตฺตํ กถํ กเถนฺติ, โอวาทมสฺส เทมีติ ราหุลกุมารํ อามนฺเตตฺวา ‘‘สามเณเรน นาม, ราหุล, ติรจฺฉานกถํ กเถตุํ น วฏฺฏติ, ตฺวํ กถยมาโน เอวรูปํ กถํ กเถยฺยาสี’’ติ สพฺพพุทฺเธหิ อวิชหิตํ ทสปุจฺฉํ ปฺจปณฺณาสวิสฺสชฺชนํ – ‘‘เอโก ปฺโห เอโก อุทฺเทโส เอกํ เวยฺยากรณํ ทฺเว ปฺหา…เป… ทส ปฺหา ทส อุทฺเทสา ทส เวยฺยากรณาติ. เอกํ นาม กึ? สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา…เป… ทส นาม กึ? ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคโต อรหาติ วุจฺจตี’’ติ (ขุ. ปา. ๔.๑๐) อิมํ สามเณรปฺหํ กเถสิ. ปุน จินฺเตสิ ‘‘ทหรกุมารา นาม ปิยมุสาวาทา โหนฺติ, อทิฏฺเมว ทิฏฺํ อมฺเหหิ, ทิฏฺเมว น ทิฏฺํ อมฺเหหีติ วทนฺติ โอวาทมสฺส เทมี’’ติ อกฺขีหิ โอโลเกตฺวาปิ สุขสฺชานนตฺถํ ปมเมว จตสฺโส อุทกาธานูปมาโย , ตโต ทฺเว หตฺถิอุปมาโย เอกํ อาทาสูปมฺจ ทสฺเสตฺวา อิมํ สุตฺตํ กเถสิ. จตูสุ ปน ปจฺจเยสุ ตณฺหาวิวฏฺฏนํ ปฺจสุ กามคุเณสุ ฉนฺทราคปฺปหานํ กลฺยาณมิตฺตุปนิสฺสยสฺส มหนฺตภาวฺจ ทสฺเสตฺวา ราหุลสุตฺตํ (สุ. นิ. ราหุลสุตฺต) กเถสิ. อาคตาคตฏฺาเน ภเวสุ ฉนฺทราโค น กตฺตพฺโพติ ทสฺเสตุํ ราหุลสํยุตฺตํ (สํ. นิ. ๒.๑๘๘ อาทโย) กเถสิ. ‘‘อหํ โสภามิ, มม วณฺณายตนํ ปสนฺน’’นฺติ อตฺตภาวํ นิสฺสาย เคหสฺสิตฉนฺทราโค น กตฺตพฺโพติ มหาราหุโลวาทสุตฺตํ กเถสิ.

ตตฺถ ราหุลสุตฺตํ อิมสฺมึ นาม กาเล วุตฺตนฺติ น วตฺตพฺพํ. ตฺหิ อภิณฺโหวาทวเสน วุตฺตํ. ราหุลสํยุตฺตํ สตฺตวสฺสิกกาลโต ปฏฺาย ยาว อวสฺสิกภิกฺขุกาลา วุตฺตํ. มหาราหุโลวาทสุตฺตํ อฏฺารส วสฺสสามเณรกาเล วุตฺตํ. จูฬราหุโลวาทสุตฺตํ อวสฺสิกภิกฺขุกาเล วุตฺตํ. กุมารกปฺหฺจ อิทฺจ อมฺพลฏฺิกราหุโลวาทสุตฺตํ สตฺตวสฺสิกสามเณรกาเล วุตฺตํ. เตสุ ราหุลสุตฺตํ อภิณฺโหวาทตฺถํ, ราหุลสํยุตฺตํ, เถรสฺส วิปสฺสนาคพฺภคหณตฺถํ, มหาราหุโลวาทํ เคหสฺสิตฉนฺทราควิโนทนตฺถํ, จูฬราหุโลวาทํ เถรสฺส ปฺจทส-วิมุตฺติปริปาจนีย-ธมฺมปริปากกาเล อรหตฺตคาหาปนตฺถํ วุตฺตํ. อิทฺจ ปน สนฺธาย ราหุลตฺเถโร ภิกฺขุสงฺฆมชฺเฌ ตถาคตสฺส คุณํ กเถนฺโต อิทมาห –

‘‘กิกีว พีชํ รกฺเขยฺย, จามรี วาลมุตฺตมํ;

นิปโก สีลสมฺปนฺโน, มมํ รกฺขิ ตถาคโต’’ติ. (อป. ๑.๒.๘๓);

สามเณรปฺหํ อยุตฺตวจนปหานตฺถํ, อิทํ อมฺพลฏฺิกราหุโลวาทสุตฺตํ สมฺปชานมุสาวาทสฺส อกรณตฺถํ วุตฺตํ.

ตตฺถ ปสฺสสิ โนติ ปสฺสสิ นุ. ปริตฺตนฺติ โถกํ. สามฺนฺติ สมณธมฺโม. นิกฺกุชฺชิตฺวาติ อโธมุขํ กตฺวา. อุกฺกุชฺชิตฺวาติ อุตฺตานํ กตฺวา.

๑๐๘. เสยฺยถาปิ, ราหุล, รฺโ นาโคติ อยํ อุปมา สมฺปชานมุสาวาเท สํวรรหิตสฺส โอปมฺมทสฺสนตฺถํ วุตฺตา. ตตฺถ อีสาทนฺโตติ รถีสาสทิสทนฺโต . อุรุฬฺหวาติ อภิวฑฺฒิโต อาโรหสมฺปนฺโน. อภิชาโตติ สุชาโต ชาติสมฺปนฺโน. สงฺคามาวจโรติ สงฺคามํ โอติณฺณปุพฺโพ. กมฺมํ กโรตีติ อาคตาคเต ปวฏฺเฏนฺโต ฆาเตติ. ปุรตฺถิมกายาทีสุ ปน ปุรตฺถิมกาเยน ตาว ปฏิเสนาย ผลกโกฏฺกมุณฺฑปาการาทโย ปาเตติ, ตถา ปจฺฉิมกาเยน. สีเสน กมฺมํ นาม นิยเมตฺวา เอตํ ปเทสํ มทฺทิสฺสามีติ นิวตฺติตฺวา โอโลเกติ, เอตฺตเกน สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ ทฺเวธา ภิชฺชติ. กณฺเณหิ กมฺมํ นาม อาคตาคเต สเร กณฺเณหิ ปหริตฺวา ปาตนํ. ทนฺเตหิ กมฺมํ นาม ปฏิหตฺถิอสฺสหตฺถาโรหอสฺสาโรหปทาทีนํ วิชฺฌนํ. นงฺคุฏฺเน กมฺมํ นาม นงฺคุฏฺเ พนฺธาย ทีฆาสิลฏฺิยา วา อยมุสเลน วา เฉทนเภทนํ. รกฺขเตว โสณฺฑนฺติ โสณฺฑํ ปน มุเข ปกฺขิปิตฺวา รกฺขติ.

ตตฺถาติ ตสฺมึ ตสฺส หตฺถิโน กรเณ. อปริจฺจตฺตนฺติ อนิสฺสฏฺํ, ปเรสํ ชยํ อมฺหากฺจ ปราชยํ ปสฺสีติ มฺติ. โสณฺฑายปิ กมฺมํ กโรตีติ อยมุคฺครํ วา ขทิรมุสลํ วา คเหตฺวา สมนฺตา อฏฺารสหตฺถฏฺานํ มทฺทติ. ปริจฺจตฺตนฺติ วิสฺสฏฺํ, อิทานิ หตฺถิโยธาทีสุ น กุโตจิ ภายติ, อมฺหากํ ชยํ ปเรสฺจ ปราชยํ ปสฺสีติ มฺติ. นาหํ ตสฺส กิฺจิ ปาปนฺติ ตสฺส ทุกฺกฏาทิอาปตฺติวีติกฺกเม วา มาตุฆาตกาทิกมฺเมสุ วา กิฺจิ ปาปํ อกตฺตพฺพํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา ติห เตติ ยสฺมา สมฺปชานมุสาวาทิโน อกตฺตพฺพํ ปาปํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา ตยา หสายปิ ทวกมฺยตายปิ มุสา น ภณิสฺสามีติ สิกฺขิตพฺพํ. ปจฺจเวกฺขณตฺโถติ โอโลกนตฺโถ, ยํ มุเข วชฺชํ โหติ, ตสฺส ทสฺสนตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวาติ โอโลเกตฺวา โอโลเกตฺวา.

๑๐๙. สสกฺกํ น กรณียนฺติ เอกํเสเนว น กาตพฺพํ. ปฏิสํหเรยฺยาสีติ นิวตฺเตยฺยาสิ มา กเรยฺยาสิ. อนุปทชฺเชยฺยาสีติ อนุปเทยฺยาสิ อุปตฺถมฺเภยฺยาสิ ปุนปฺปุนํ กเรยฺยาสิ. อโหรตฺตานุสิกฺขีติ รตฺติฺจ ทิวฺจ สิกฺขมาโน.

๑๑๑. อฏฺฏียิตพฺพนฺติ อฏฺเฏน ปีฬิเตน ภวิตพฺพํ. หรายิตพฺพนฺติ ลชฺชิตพฺพํ. ชิคุจฺฉิตพฺพนฺติ คูถํ ทิสฺวา วิย ชิคุจฺฉา อุปฺปาเทตพฺพา. มโนกมฺมสฺส ปน อเทสนาวตฺถุกตฺตา อิธ เทเสตพฺพนฺติ น วุตฺตํ. กิตฺตเก ปน าเน กายกมฺมวจีกมฺมานิ โสเธตพฺพานิ, กิตฺตเก มโนกมฺมนฺติ. กายกมฺมวจีกมฺมานิ ตาว เอกสฺมึ ปุเรภตฺเตเยว โสเธตพฺพานิ. ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา ทิวาฏฺาเน นิสินฺเนน หิ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ ‘‘อรุณุคฺคมนโต ปฏฺาย ยาว อิมสฺมึ าเน นิสชฺชา อตฺถิ นุ โข เม อิมสฺมึ อนฺตเร ปเรสํ อปฺปิยํ กายกมฺมํ วา วจีกมฺมํ วา’’ติ. สเจ อตฺถีติ ชานาติ, เทสนายุตฺตํ เทเสตพฺพํ, อาวิกรณยุตฺตํ อาวิกาตพฺพํ. สเจ นตฺถิ, เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ. มโนกมฺมํ ปน เอตสฺมึ ปิณฺฑปาตปริเยสนฏฺาเน โสเธตพฺพํ. กถํ? ‘‘อตฺถิ นุ โข เม อชฺช ปิณฺฑปาตปริเยสนฏฺาเน รูปาทีสุ ฉนฺโท วา ราโค วา ปฏิฆํ วา’’ติ? สเจ อตฺถิ, ‘‘ปุน น เอวํ กริสฺสามี’’ติ จิตฺเตเนว อธิฏฺาตพฺพํ. สเจ นตฺถิ, เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ.

๑๑๒. สมณา วา พฺราหฺมณา วาติ พุทฺธา วา ปจฺเจกพุทฺธา วา ตถาคตสาวกา วา. ตสฺมาติหาติ ยสฺมา อตีเตปิ เอวํ ปริโสเธสุํ, อนาคเตปิ ปริโสเธสฺสนฺติ, เอตรหิปิ ปริโสเธนฺติ, ตสฺมา ตุมฺเหหิปิ เตสํ อนุสิกฺขนฺเตหิ เอวํ สิกฺขิตพฺพนฺติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. อิมํ ปน เทสนํ ภควา ยาว ภวคฺคา อุสฺสิตสฺส รตนราสิโน โยชนิยมณิกฺขนฺเธน กูฏํ คณฺหนฺโต วิย เนยฺยปุคฺคลวเสน ปรินิฏฺาเปสีติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

อมฺพลฏฺิกราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. มหาราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนา

๑๑๓. เอวํเม สุตนฺติ มหาราหุโลวาทสุตฺตํ. ตตฺถ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธีติ ทสฺสนํ อวิชหิตฺวา คมนํ อพฺโพจฺฉินฺนํ กตฺวา ปจฺฉโต ปจฺฉโต อิริยาปถานุพนฺธเนน อนุพนฺธิ. ตทา หิ ภควา ปเท ปทํ นิกฺขิปนฺโต วิลาสิตคมเนน ปุรโต ปุรโต คจฺฉติ, ราหุลตฺเถโร ทสพลสฺส ปทานุปทิโก หุตฺวา ปจฺฉโต ปจฺฉโต.

ตตฺถ ภควา สุปุปฺผิตสาลวนมชฺฌคโต สุภูมิโอตรณตฺถาย นิกฺขนฺตมตฺตวรวารโณ วิย วิโรจิตฺถ, ราหุลภทฺโท จ วรวารณสฺส ปจฺฉโต นิกฺขนฺตคชโปตโก วิย. ภควา สายนฺหสมเย มณิคุหโต นิกฺขมิตฺวา โคจรํ ปฏิปนฺโน เกสรสีโห วิย, ราหุลภทฺโท จ สีหมิคราชานํ อนุพนฺธนฺโต นิกฺขนฺตสีหโปตโก วิย. ภควา มณิปพฺพตสสฺสิริกวนสณฺฑโต ทาพโล มหาพฺยคฺโฆ วิย, ราหุลภทฺโท จ พฺยคฺฆราชานํ อนุพนฺธพฺยคฺฆโปตโก วิย. ภควา สิมฺพลิทายโต นิกฺขนฺตสุปณฺณราชา วิย, ราหุลภทฺโท จ สุปณฺณราชสฺส ปจฺฉโต นิกฺขนฺตสุปณฺณโปตโก วิย. ภควา จิตฺตกูฏปพฺพตโต คคนตลํ ปกฺขนฺทสุวณฺณหํสราชา วิย, ราหุลภทฺโท จ หํสาธิปตึ อนุปกฺขนฺทหํสโปตโก วิย. ภควา มหาสรํ อชฺโฌคาฬฺหา สุวณฺณมหานาวา วิย, ราหุลภทฺโท จ สุวณฺณนาวํ ปจฺฉา อนุพนฺธนาวาโปตโก วิย. ภควา จกฺกรตนานุภาเวน คคนตเล สมฺปยาตจกฺกวตฺติราชา วิย, ราหุลภทฺโท จ ราชานํ อนุสมฺปยาตปริณายกรตนํ วิย. ภควา วิคตวลาหกํ นภํ ปฏิปนฺนตารกราชา วิย, ราหุลภทฺโท จ ตารกาธิปติโน อนุมคฺคปฏิปนฺนา ปริสุทฺธโอสธิตารกา วิย.

ภควาปิ มหาสมฺมตปเวณิยํ โอกฺกากราชวํเส ชาโต, ราหุลภทฺโทปิ. ภควาปิ สงฺเข ปกฺขิตฺตขีรสทิโส สุปริสุทฺธชาติขตฺติยกุเล ชาโต, ราหุลภทฺโทปิ. ภควาปิ รชฺชํ ปหาย ปพฺพชิโต, ราหุลภทฺโทปิ. ภควโตปิ สรีรํ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณปฏิมณฺฑิตํ เทวนคเรสุ สมุสฺสิตรตนโตรณํ วิย สพฺพปาลิผุลฺโล ปาริจฺฉตฺตโก วิย จ อติมโนหรณํ, ราหุลภทฺทสฺสาปิ. อิติ ทฺเวปิ อภินีหารสมฺปนฺนา, ทฺเวปิ ราชปพฺพชิตา, ทฺเวปิ ขตฺติยสุขุมาลา, ทฺเวปิ สุวณฺณวณฺณา, ทฺเวปิ ลกฺขณสมฺปนฺนา เอกมคฺคํ ปฏิปนฺนา ปฏิปาฏิยา คจฺฉนฺตานํ ทฺวินฺนํ จนฺทมณฺฑลานํ ทฺวินฺนํ สูริยมณฺฑลานํ ทฺวินฺนํ สกฺกสุยามสนฺตุสิตสุนิมฺมิตวสวตฺติมหาพฺรหฺมาทีนํ สิริยา สิรึ อภิภวมานา วิย วิโรจึสุ.

ตตฺรายสฺมา ราหุโล ภควโต ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต คจฺฉนฺโตว ปาทตลโต ยาว อุปริ เกสนฺตา ตถาคตํ อาโลเกสิ. โส ภควโต พุทฺธเวสวิลาสํ ทิสฺวา ‘‘โสภติ ภควา ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณวิจิตฺตสรีโร พฺยามปฺปภาปริกฺขิตฺตตาย วิปฺปกิณฺณสุวณฺณจุณฺณมชฺฌคโต วิย, วิชฺชุลตาปริกฺขิตฺโต กนกปพฺพโต วิย, ยนฺตสุตฺตสมากฑฺฒิตรตนวิจิตฺตํ สุวณฺณอคฺฆิกํ วิย, รตฺตปํสุกูลจีวรปฏิจฺฉนฺโนปิ รตฺตกมฺพลปริกฺขิตฺตกนกปพฺพโต วิย, ปวาฬลตาปฏิมณฺฑิตํ สุวณฺณอคฺฆิกํ วิย , จีนปิฏฺจุณฺณปูชิตํ สุวณฺณเจติยํ วิย, ลาขารสานุลิตฺโต กนกยูโป วิย, รตฺตวลาหกนฺตรโต ตงฺขณพฺภุคฺคตปุณฺณจนฺโท วิย, อโห สมตึสปารมิตานุภาวสชฺชิตสฺส อตฺตภาวสฺส สิรีสมฺปตฺตี’’ติ จินฺเตสิ. ตโต อตฺตานมฺปิ โอโลเกตฺวา – ‘‘อหมฺปิ โสภามิ. สเจ ภควา จตูสุ มหาทีเปสุ จกฺกวตฺติรชฺชํ อกริสฺสา, มยฺหํ ปริณายกฏฺานนฺตรํ อทสฺสา. เอวํ สนฺเต อติวิย ชมฺพุทีปตลํ อโสภิสฺสา’’ติ อตฺตภาวํ นิสฺสาย เคหสฺสิตํ ฉนฺทราคํ อุปฺปาเทสิ.

ภควาปิ ปุรโต คจฺฉนฺโตว จินฺเตสิ – ‘‘ปริปุณฺณจฺฉวิมํสโลหิโต ทานิ ราหุลสฺส อตฺตภาโว. รชนีเยสุ รูปารมฺมณาทีสุ หิ จิตฺตสฺส ปกฺขนฺทนกาโล ชาโต, กึ พหุลตาย นุ โข ราหุโล วีตินาเมตี’’ติ. อถ สหาวชฺชเนเนว ปสนฺนอุทเก มจฺฉํ วิย, ปริสุทฺเธ อาทาสมณฺฑเล มุขนิมิตฺตํ วิย จ ตสฺส ตํ จิตฺตุปฺปาทํ อทฺทส. ทิสฺวาว – ‘‘อยํ ราหุโล มยฺหํ อตฺรโช หุตฺวา มม ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺโต ‘อหํ โสภามิ, มยฺหํ วณฺณายตนํ ปสนฺน’นฺติ อตฺตภาวํ นิสฺสาย เคหสฺสิตฉนฺทราคํ อุปฺปาเทติ, อติตฺเถ ปกฺขนฺโท อุปฺปถํ ปฏิปนฺโน อโคจเร จรติ, ทิสามูฬฺหอทฺธิโก วิย อคนฺตพฺพํ ทิสํ คจฺฉติ. อยํ โข ปนสฺส กิเลโส อพฺภนฺตเร วฑฺฒนฺโต อตฺตตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปสฺสิตุํ น ทสฺสติ, ปรตฺถมฺปิ, อุภยตฺถมฺปิ. ตโต นิรเยปิ ปฏิสนฺธึ คณฺหาเปสฺสติ, ติรจฺฉานโยนิยมฺปิ, เปตฺติวิสเยปิ, อสุรกาเยปิ, สมฺพาเธปิ มาตุกุจฺฉิสฺมินฺติ อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ ปริปาเตสฺสติ. อยฺหิ –

อนตฺถชนโน โลโภ, โลโภ จิตฺตปฺปโกปโน;

ภยมนฺตรโต ชาตํ, ตํ ชโน นาวพุชฺฌติ.

ลุทฺโธ อตฺถํ น ชานาติ, ลุทฺโธ ธมฺมํ น ปสฺสติ;

อนฺธตมํ ตทา โหติ, ยํ โลโภ สหเต นรํ. (อิติวุ. ๘๘) –

ยถา โข ปน อเนกรตนปูรา มหานาวา ภินฺนผลกนฺตเรน อุทกํ อาทิยมานา มุหุตฺตมฺปิ น อชฺฌุเปกฺขิตพฺพา โหติ, เวเคนสฺสา วิวรํ ปิทหิตุํ วฏฺฏติ, เอวเมวํ อยมฺปิ น อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ. ยาวสฺส อยํ กิเลโส อพฺภนฺตเร สีลรตนาทีนิ น วินาเสติ, ตาวเทว นํ นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ อชฺฌาสยมกาสิ. เอวรูเปสุ ปน าเนสุ พุทฺธานํ นาควิโลกนํ นาม โหติ. ตสฺมา ยนฺเตน ปริวตฺติตสุวณฺณปฏิมา วิย สกลกาเยเนว ปริวตฺเตตฺวา ิโต ราหุลภทฺทํ อามนฺเตสิ. ตํ สนฺธาย ‘‘อถ โข ภควา อปโลเกตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ ยํกิฺจิ รูปนฺติอาทีนิ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค ขนฺธนิทฺเทเส วิตฺถาริตานิ. เนตํ มมาติอาทีนิ มหาหตฺถิปโทปเม วุตฺตานิ. รูปเมว นุ โข ภควาติ กสฺมา ปุจฺฉติ? ตสฺส กิร – ‘‘สพฺพํ รูปํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ น เมโส อตฺตา’’ติ สุตฺวา – ‘‘ภควา สพฺพํ รูปํ วิปสฺสนาปฺาย เอวํ ทฏฺพฺพนฺติ วทติ, เวทนาทีสุ นุ โข กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ นโย อุทปาทิ. ตสฺมา ตสฺมึ นเย ิโต ปุจฺฉติ. นยกุสโล เหส อายสฺมา ราหุโล, อิทํ น กตฺตพฺพนฺติ วุตฺเต อิทมฺปิ น กตฺตพฺพํ อิทมฺปิ น กตฺตพฺพเมวาติ นยสเตนปิ นยสหสฺเสนปิ ปฏิวิชฺฌติ. อิทํ กตฺตพฺพนฺติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย.

สิกฺขากาโม หิ อยํ อายสฺมา, ปาโตว คนฺธกุฏิปริเวเณ ปตฺถมตฺตํ วาลิกํ โอกิรติ – ‘‘อชฺช สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติกา มยฺหํ อุปชฺฌายสฺส สนฺติกา เอตฺตกํ โอวาทํ เอตฺตกํ ปริภาสํ ลภามี’’ติ. สมฺมาสมฺพุทฺโธปิ นํ เอตทคฺเค เปนฺโต – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ สิกฺขากามานํ ยทิทํ ราหุโล’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๐๙) สิกฺขายเมว อคฺคํ กตฺวา เปสิ. โสปิ อายสฺมา ภิกฺขุสงฺฆมชฺเฌ ตเมว สีหนาทํ นทิ –

‘‘สพฺพเมตํ อภิฺาย, ธมฺมราชา ปิตา มม;

สมฺมุขา ภิกฺขุสงฺฆสฺส, เอตทคฺเค เปสิ มํ.

สิกฺขากามานหํ อคฺโค, ธมฺมราเชน โถมิโต;

สทฺธาปพฺพชิตานฺจ, สหาโย ปวโร มม.

ธมฺมราชา ปิตา มยฺหํ, ธมฺมารกฺโข จ เปตฺติโย;

สาริปุตฺโต อุปชฺฌาโย, สพฺพํ เม ชินสาสน’’นฺติ.

อถสฺส ภควา ยสฺมา น เกวลํ รูปเมว, เวทนาทโยปิ เอวํ ทฏฺพฺพา, ตสฺมา รูปมฺปิ ราหุลาติอาทิมาห. โก นชฺชาติ โก นุ อชฺช. เถรสฺส กิร เอตทโหสิ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ มยฺหํ อตฺตภาวนิสฺสิตํ ฉนฺทราคํ ตฺวา ‘สมเณน นาม เอวรูโป วิตกฺโก น วิตกฺกิตพฺโพ’ติ เนว ปริยาเยน กถํ กเถสิ, คจฺฉ ภิกฺขุ ราหุลํ วเทหิ ‘มา ปุน เอวรูปํ วิตกฺกํ วิตกฺเกสี’ติ น ทูตํ เปเสสิ. มํ สมฺมุกฺเข ตฺวาเยว ปน สภณฺฑกํ โจรํ จูฬาย คณฺหนฺโต วิย สมฺมุขา สุคโตวาทํ อทาสิ. สุคโตวาโท จ นาม อสงฺเขยฺเยหิปิ กปฺเปหิ ทุลฺลโภ. เอวรูปสฺส พุทฺธสฺส สมฺมุขา โอวาทํ ลภิตฺวา โก นุ วิฺู ปณฺฑิตชาติโก อชฺช คามํ ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสตี’’ติ. อเถส อายสฺมา อาหารกิจฺจํ ปหาย ยสฺมึ นิสินฺนฏฺาเน ิเตน โอวาโท ลทฺโธ, ตโตว ปฏินิวตฺเตตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ. ภควาปิ ตํ อายสฺมนฺตํ นิวตฺตมานํ ทิสฺวา น เอวมาห – ‘‘มา นิวตฺต ตาว, ราหุล, ภิกฺขาจารกาโล เต’’ติ. กสฺมา? เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อชฺช ตาว กายคตาสติอมตโภชนํ ภุฺชตู’’ติ.

อทฺทสา โข อายสฺมา สาริปุตฺโตติ ภควติ คเต ปจฺฉา คจฺฉนฺโต อทฺทส. เอตสฺส กิรายสฺมโต เอกกสฺส วิหรโต อฺํ วตฺตํ, ภควตา สทฺธึ วิหรโต อฺํ. ยทา หิ ทฺเว อคฺคสาวกา เอกากิโน วสนฺติ, ตทา ปาโตว เสนาสนํ สมฺมชฺชิตฺวา สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา สนฺนิสินฺนา อตฺตโน จิตฺตรุจิยา ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺติ. ภควตา สทฺธึ วิหรนฺตา ปน เถรา เอวํ น กโรนฺติ. ตทา หิ ภควา ภิกฺขุสงฺฆปริวาโร ปมํ ภิกฺขาจารํ คจฺฉติ. ตสฺมึ คเต เถโร อตฺตโน เสนาสนา นิกฺขมิตฺวา – ‘‘พหูนํ วสนฏฺาเน นาม สพฺเพว ปาสาทิกํ กาตุํ สกฺโกนฺติ วา, น วา สกฺโกนฺตี’’ติ ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา อสมฺมฏฺํ านํ สมฺมชฺชติ. สเจ กจวโร อฉฑฺฑิโต โหติ, ตํ ฉฑฺเฑติ. ปานียฏฺเปตพฺพฏฺานมฺหิ ปานียกูเฏ อสติ ปานียฆฏํ เปติ. คิลานานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘อาวุโส, ตุมฺหากํ กึ อาหรามิ, กึ โว อิจฺฉิตพฺพ’’นฺติ? ปุจฺฉติ. อวสฺสิกทหรานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา – ‘‘อภิรมถ, อาวุโส, มา อุกฺกณฺิตฺถ, ปฏิปตฺติสารกํ พุทฺธสาสน’’นฺติ โอวทติ. เอวํ กตฺวา สพฺพปจฺฉา ภิกฺขาจารํ คจฺฉติ. ยถา หิ จกฺกวตฺติ กุหิฺจิ คนฺตุกาโม เสนาย ปริวาริโต ปมํ นิกฺขมติ, ปริณายกรตนํ เสนงฺคานิ สํวิธาย ปจฺฉา นิกฺขมติ, เอวํ สทฺธมฺมจกฺกวตฺติ ภควา ภิกฺขุสงฺฆปริวาโร ปมํ นิกฺขมติ, ตสฺส ภควโต ปริณายกรตนภูโต ธมฺมเสนาปติ อิมํ กิจฺจํ กตฺวา สพฺพปจฺฉา นิกฺขมติ. โส เอวํ นิกฺขนฺโต ตสฺมึ ทิวเส อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ ราหุลภทฺทํ อทฺทส. เตน วุตฺตํ ‘‘ปจฺฉา คจฺฉนฺโต อทฺทสา’’ติ.

อถ กสฺมา อานาปานสฺสติยํ นิโยเชสิ? นิสชฺชานุจฺฉวิกตฺตา. เถโร กิร ‘‘เอตสฺส ภควตา รูปกมฺมฏฺานํ กถิต’’นฺติ อนาวชฺชิตฺวาว เยนากาเรน อยํ อจโล อโนพทฺโธ หุตฺวา นิสินฺโน, อิทมสฺส เอติสฺสา นิสชฺชาย กมฺมฏฺานํ อนุจฺฉวิกนฺติ จินฺเตตฺวา เอวมาห. ตตฺถ อานาปานสฺสตินฺติ อสฺสาสปสฺสาเส ปริคฺคเหตฺวา ตตฺถ จตุกฺกปฺจกชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ คณฺหาหีติ ทสฺเสติ.

มหปฺผลา โหตีติ กีวมหปฺผลา โหติ? อิธ ภิกฺขุ อานาปานสฺสตึ อนุยุตฺโต เอกาสเน นิสินฺโนว สพฺพาสเว เขเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, ตถา อสกฺโกนฺโต มรณกาเล สมสีสี โหติ, ตถา อสกฺโกนฺโต เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา ธมฺมกถิกเทวปุตฺตสฺส ธมฺมํ สุตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, ตโต วิรทฺโธ อนุปฺปนฺเน พุทฺธุปฺปาเท ปจฺเจกโพธึ สจฺฉิกโรติ, ตํ อสจฺฉิกโรนฺโต พุทฺธานํ สมฺมุขีภาเว พาหิยตฺเถราทโย วิย ขิปฺปาภิฺโ โหติ, เอวํ มหปฺผลา. มหานิสํสาติ ตสฺเสว เววจนํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘อานาปานสฺสตี ยสฺส, ปริปุณฺณา สุภาวิตา;

อนุปุพฺพํ ปริจิตา, ยถา พุทฺเธน เทสิตา;

โสมํ โลกํ ปภาเสติ, อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา’’ติ. (เถรคา. ๕๔๘; ปฏิ. ม. ๑.๑.๖๐) –

อิมํ มหปฺผลตํ สมฺปสฺสมาโน เถโร สทฺธิวิหาริกํ ตตฺถ นิโยเชติ.

อิติ ภควา รูปกมฺมฏฺานํ, เถโร อานาปานสฺสตินฺติ อุโภปิ กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิตฺวา คตา, ราหุลภทฺโท วิหาเรเยว โอหีโน. ภควา ตสฺส โอหีนภาวํ ชานนฺโตปิ เนว อตฺตนา ขาทนียํ โภชนียํ คเหตฺวา อคมาสิ, น อานนฺทตฺเถรสฺส หตฺเถ เปเสสิ, น ปเสนทิมหาราชอนาถปิณฺฑิกาทีนํ สฺํ อทาสิ. สฺามตฺตกฺหิ ลภิตฺวา เต กาชภตฺตํ อภิหเรยฺยุํ. ยถา จ ภควา, เอวํ สาริปุตฺตตฺเถโรปิ น กิฺจิ อกาสิ. ราหุลตฺเถโร นิราหาโร ฉินฺนภตฺโต อโหสิ. ตสฺส ปนายสฺมโต – ‘‘ภควา มํ วิหาเร โอหีนํ ชานนฺโตปิ อตฺตนา ลทฺธปิณฺฑปาตํ นาปิ สยํ คเหตฺวา อาคโต, น อฺสฺส หตฺเถ ปหิณิ , น มนุสฺสานํ สฺํ อทาสิ, อุปชฺฌาโยปิ เม โอหีนภาวํ ชานนฺโต ตเถว น กิฺจิ อกาสี’’ติ จิตฺตมฺปิ น อุปฺปนฺนํ, กุโต ตปฺปจฺจยา โอมานํ วา อติมานํ วา ชเนสฺสติ. ภควตา ปน อาจิกฺขิตกมฺมฏฺานเมว ปุเรภตฺตมฺปิ ปจฺฉาภตฺตมฺปิ – ‘‘อิติปิ รูปํ อนิจฺจํ, อิติปิ ทุกฺขํ, อิติปิ อสุภํ, อิติปิ อนตฺตา’’ติ อคฺคึ อภิมตฺเถนฺโต วิย นิรนฺตรํ มนสิกตฺวา สายนฺหสมเย จินฺเตสิ – ‘‘อหํ อุปชฺฌาเยน อานาปานสฺสตึ ภาเวหีติ วุตฺโต , ตสฺส วจนํ น กริสฺสามิ. อาจริยุปชฺฌายานฺหิ วจนํ อกโรนฺโต ทุพฺพโจ นาม โหติ. ‘ทุพฺพโจ ราหุโล, อุปชฺฌายสฺสปิ วจนํ น กโรตี’ติ จ ครหุปฺปตฺติโต กกฺขฬตรา ปีฬา นาม นตฺถี’’ติ ภาวนาวิธานํ ปุจฺฉิตุกาโม ภควโต สนฺติกํ อคมาสิ. ตํ ทสฺเสตุํ อถ โข อายสฺมา ราหุโลติอาทิ วุตฺตํ.

๑๑๔. ตตฺถ ปฏิสลฺลานาติ เอกีภาวโต. ยํกิฺจิ ราหุลาติ กสฺมา? ภควา อานาปานสฺสตึ ปุฏฺโ รูปกมฺมฏฺานํ กเถตีติ. รูเป ฉนฺทราคปฺปหานตฺถํ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘ราหุลสฺส อตฺตภาวํ นิสฺสาย ฉนฺทราโค อุปฺปนฺโน, เหฏฺา จสฺส สงฺเขเปน รูปกมฺมฏฺานํ กถิตํ. อิทานิสฺสาปิ ทฺวิจตฺตาลีสาย อากาเรหิ อตฺตภาวํ วิราเชตฺวา วิสงฺขริตฺวา ตํนิสฺสิตํ ฉนฺทราคํ อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาเทสฺสามี’’ติ. อถ อากาสธาตุํ กสฺมา วิตฺถาเรสีติ? อุปาทารูปทสฺสนตฺถํ. เหฏฺา หิ จตฺตาริ มหาภูตาเนว กถิตานิ, น อุปาทารูปํ. ตสฺมา อิมินา มุเขน ตํ ทสฺเสตุํ อากาสธาตุํ วิตฺถาเรสิ. อปิจ อชฺฌตฺติเกน อากาเสน ปริจฺฉินฺนรูปมฺปิ ปากฏํ โหติ.

อากาเสน ปริจฺฉินฺนํ, รูปํ ยาติ วิภูตตํ;

ตสฺเสวํ อาวิภาวตฺถํ, ตํ ปกาเสสิ นายโก.

เอตฺถ ปน ปุริมาสุ ตาว จตูสุ ธาตูสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ มหาหตฺถิปโทปเม วุตฺตเมว.

๑๑๘. อากาสธาตุยํ อากาสคตนฺติ อากาสภาวํ คตํ. อุปาทินฺนนฺติอาทินฺนํ คหิตํ ปรามฏฺํ, สรีรฏฺกนฺติ อตฺโถ. กณฺณจฺฉิทฺทนฺติ มํสโลหิตาทีหิ อสมฺผุฏฺกณฺณวิวรํ. นาสจฺฉิทฺทาทีสุปิ เอเสว นโย. เยนจาติ เยน ฉิทฺเทน. อชฺโฌหรตีติ อนฺโต ปเวเสติ, ชิวฺหาพนฺธนโต หิ ยาว อุทรปฏลา มนุสฺสานํ วิทตฺถิจตุรงฺคุลํ ฉิทฺทฏฺานํ โหติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยตฺถ จาติ ยสฺมึ โอกาเส. สนฺติฏฺตีติ ปติฏฺาติ. มนุสฺสานฺหิ มหนฺตํ ปฏปริสฺสาวนมตฺตฺจ อุทรปฏลํ นาม โหติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อโธภาคํ นิกฺขมตีติ เยน เหฏฺา นิกฺขมติ. ทฺวตฺตึสหตฺถมตฺตํ เอกวีสติยา าเนสุ วงฺกํ อนฺตํ นาม โหติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยํ วา ปนฺมฺปีติ อิมินา สุขุมสุขุมํ จมฺมมํสาทิอนฺตรคตฺเจว โลมกูปภาเวน จ ิตํ อากาสํ ทสฺเสติ. เสสเมตฺถาปิ ปถวีธาตุอาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๑๑๙. อิทานิสฺส ตาทิภาวลกฺขณํ อาจิกฺขนฺโต ปถวีสมนฺติอาทิมาห. อิฏฺานิฏฺเสุ หิ อรชฺชนฺโต อทุสฺสนฺโต ตาที นาม โหติ. มนาปามนาปาติ เอตฺถ อฏฺ โลภสหคตจิตฺตสมฺปยุตฺตา มนาปา นาม, ทฺเว โทมนสฺสจิตฺตสมฺปยุตฺตา อมนาปา นาม. จิตฺตํ น ปริยาทาย สฺสนฺตีติ เอเต ผสฺสา อุปฺปชฺชิตฺวา ตว จิตฺตํ อนฺโตมุฏฺิคตํ กโรนฺโต วิย ปริยาทาย คเหตฺวา าตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ ‘‘อหํ โสภามิ, มยฺหํ วณฺณายตนํ ปสนฺน’’นฺติ ปุน อตฺตภาวํ นิสฺสาย ฉนฺทราโค นุปฺปชฺชิสฺสติ. คูถคตนฺติอาทีสุ คูถเมว คูถคตํ. เอวํ สพฺพตฺถ.

น กตฺถจิ ปติฏฺิโตติ ปถวีปพฺพตรุกฺขาทีสุ เอกสฺมิมฺปิ น ปติฏฺิโต, ยทิ หิ ปถวิยํ ปติฏฺิโต ภเวยฺย, ปถวิยา ภิชฺชมานาย สเหว ภิชฺเชยฺย, ปพฺพเต ปตมาเน สเหว ปเตยฺย, รุกฺเข ฉิชฺชมาเน สเหว ฉิชฺเชยฺย.

๑๒๐. เมตฺตํราหุลาติ กสฺมา อารภิ? ตาทิภาวสฺส การณทสฺสนตฺถํ. เหฏฺา หิ ตาทิภาวลกฺขณํ ทสฺสิตํ, น จ สกฺกา อหํ ตาที โหมีติ อการณา ภวิตุํ, นปิ ‘‘อหํ อุจฺจากุลปฺปสุโต พหุสฺสุโต ลาภี, มํ ราชราชมหามตฺตาทโย ภชนฺติ, อหํ ตาที โหมี’’ติ อิเมหิ การเณหิ โกจิ ตาที นาม โหติ, เมตฺตาทิภาวนาย ปน โหตีติ ตาทิภาวสฺส การณทสฺสนตฺถํ อิมํ เทสนํ อารภิ.

ตตฺถ ภาวยโตติ อุปจารํ วา อปฺปนํ วา ปาเปนฺตสฺส. โย พฺยาปาโทติ โย สตฺเต โกโป, โส ปหียิสฺสติ. วิเหสาติ ปาณิอาทีหิ สตฺตานํ วิหึสนํ. อรตีติ ปนฺตเสนาสเนสุ เจว อธิกุสลธมฺเมสุ จ อุกฺกณฺิตตา. ปฏิโฆติ ยตฺถ กตฺถจิ สตฺเตสุ สงฺขาเรสุ จ ปฏิหฺนกิเลโส. อสุภนฺติ อุทฺธุมาตกาทีสุ อุปจารปฺปนํ. อุทฺธุมาตกาทีสุ อสุภภาวนา จ นาเมสา วิตฺถารโต วิสุทฺธิมคฺเค กถิตาว. ราโคติ ปฺจกามคุณิกราโค. อนิจฺจสฺนฺติ อนิจฺจานุปสฺสนาย สหชาตสฺํ. วิปสฺสนา เอว วา เอสา อสฺาปิ สฺาสีเสน สฺาติ วุตฺตา. อสฺมิมาโนติ รูปาทีสุ อสฺมีติ มาโน.

๑๒๑. อิทานิ เถเรน ปุจฺฉิตํ ปฺหํ วิตฺถาเรนฺโต อานาปานสฺสตินฺติอาทิมาห. ตตฺถ อิทํ กมฺมฏฺานฺจ กมฺมฏฺานภาวนา จ ปาฬิอตฺโถ จ สทฺธึ อานิสํสกถาย สพฺโพ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค อนุสฺสตินิทฺเทเส วิตฺถาริโตเยว. อิมํ เทสนํ ภควา เนยฺยปุคฺคลวเสเนว ปรินิฏฺาเปสีติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

มาหาราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. จูฬมาลุกฺยสุตฺตวณฺณนา

๑๒๒. เอวํเม สุตนฺติ มาลุกฺยสุตฺตํ. ตตฺถ มาลุกฺยปุตฺตสฺสาติ เอวํนามกสฺส เถรสฺส. ปิตานิ ปฏิกฺขิตฺตานีติ ทิฏฺิคตานิ นาม น พฺยากาตพฺพานีติ เอวํ ปิตานิ เจว ปฏิกฺขิตฺตานิ จ. ตถาคโตติ สตฺโต. ตํ เม น รุจฺจตีติ ตํ อพฺยากรณํ มยฺหํ น รุจฺจติ. สิกฺขํปจฺจกฺขายาติ สิกฺขํ ปฏิกฺขิปิตฺวา.

๑๒๕. โก สนฺโต กํ ปจฺจาจิกฺขสีติ ยาจโก วา หิ ยาจิตกํ ปจฺจาจิกฺเขยฺย, ยาจิตโก วา ยาจกํ. ตฺวํ เนว ยาจโก น ยาจิตโก, โส ทานิ ตฺวํ โก สนฺโต กํ ปจฺจาจิกฺขสีติ อตฺโถ.

๑๒๖. วิทฺโธอสฺสาติ ปรเสนาย ิเตน วิทฺโธ ภเวยฺย. คาฬฺหปเลปเนนาติ พหลเลปเนน. ภิสกฺกนฺติ เวชฺชํ. สลฺลกตฺตนฺติ สลฺลกนฺตนํ สลฺลกนฺติยสุตฺตวาจกํ. อกฺกสฺสาติ อกฺกวาเก คเหตฺวา ชิยํ กโรนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อกฺกสฺสา’’ติ. สณฺหสฺสาติ เวณุวิลีวสฺส. มรุวาขีรปณฺณีนมฺปิ วาเกหิเยว กโรนฺติ. เตน วุตฺตํ ยทิ วา มรุวาย ยทิ วา ขีรปณฺณิโนติ. คจฺฉนฺติ ปพฺพตคจฺฉนทีคจฺฉาทีสุ ชาตํ. โรปิมนฺติ โรเปตฺวา วฑฺฒิตํ สรวนโต สรํ คเหตฺวา กตํ. สิถิลหนุโนติ เอวํนามกสฺส ปกฺขิโน. เภรวสฺสาติ กาฬสีหสฺส. เสมฺหารสฺสาติ มกฺกฏสฺส. เอวํ โนติ เอตาย ทิฏฺิยา สติ น โหตีติ อตฺโถ.

๑๒๗. อตฺเถว ชาตีติ เอตาย ทิฏฺิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโสว นตฺถิ, ชาติ ปน อตฺถิเยว. ตถา ชรามรณาทีนีติ ทสฺเสติ. เยสาหนฺติ เยสํ อหํ. นิฆาตนฺติ อุปฆาตํ วินาสํ. มม สาวกา หิ เอเตสุ นิพฺพินฺนา อิเธว นิพฺพานํ ปาปุณนฺตีติ อธิปฺปาโย.

๑๒๘. ตสฺมาติหาติ ยสฺมา อพฺยากตเมตํ, จตุสจฺจเมว มยา พฺยากตํ, ตสฺมาติ อตฺโถ. น เหตํ มาลุกฺยปุตฺต อตฺถสํหิตนฺติ เอตํ ทิฏฺิคตํ วา เอตํ พฺยากรณํ วา การณนิสฺสิตํ น โหติ. น อาทิพฺรหฺมจริยกนฺติ พฺรหฺมจริยสฺส อาทิมตฺตมฺปิ ปุพฺพภาคสีลมตฺตมฺปิ น โหติ. น นิพฺพิทายาติอาทีสุ วฏฺเฏ นิพฺพินฺทนตฺถาย วา วิรชฺฌนตฺถาย วา วฏฺฏนิโรธาย วา ราคาทิวูปสมนตฺถาย วา อภิฺเยฺเย ธมฺเม อภิชานนตฺถาย วา จตุมคฺคสงฺขาตสมฺโพธตฺถาย วา อสงฺขตนิพฺพานสจฺฉิกิริยตฺถาย วา น โหติ. เอตํ หีติ เอตํ จตุสจฺจพฺยากรณํ. อาทิพฺรหฺมจริยกนฺติ พฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตํ ปุพฺพปทฏฺานํ. เสสํ วุตฺตปฏิวิปกฺขนเยน เวทิตพฺพํ. อิมมฺปิ เทสนํ ภควา เนยฺยปุคฺคลวเสน นิฏฺาเปสีติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

จูฬมาลุกฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. มหามาลุกฺยสุตฺตวณฺณนา

๑๒๙. เอวํเม สุตนฺติ มหามาลุกฺยสุตฺตํ. ตตฺถ โอรมฺภาคิยานีติ เหฏฺา โกฏฺาสิกานิ กามภเว นิพฺพตฺติสํวตฺตนิกานิ. สํโยชนานีติ พนฺธนานิ. กสฺสโข นามาติ กสฺส เทวสฺส วา มนุสฺสสฺส วา เทสิตานิ ธาเรสิ, กึ ตฺวเมเวโก อสฺโสสิ, น อฺโ โกจีติ? อนุเสตีติ อปฺปหีนตาย อนุเสติ. อนุสยมาโน สํโยชนํ นาม โหติ.

เอตฺถ จ ภควตา สํโยชนํ ปุจฺฉิตํ, เถเรนปิ สํโยชนเมว พฺยากตํ. เอวํ สนฺเตปิ ตสฺส วาเท ภควตา โทโส อาโรปิโต. โส กสฺมาติ เจ? เถรสฺส ตถาลทฺธิกตฺตา. อยฺหิ ตสฺส ลทฺธิ ‘‘สมุทาจารกฺขเณเยว กิเลเสหิ สํยุตฺโต นาม โหติ, อิตรสฺมึ ขเณ อสํยุตฺโต’’ติ. เตนสฺส ภควตา โทโส อาโรปิโต. อถายสฺมา อานนฺโท จินฺเตสิ – ‘‘ภควตา ภิกฺขุสงฺฆสฺส ธมฺมํ เทเสสฺสามีติ อตฺตโน ธมฺมตาเยว อยํ ธมฺมเทสนา อารทฺธา, สา อิมินา อปณฺฑิเตน ภิกฺขุนา วิสํวาทิตา. หนฺทาหํ ภควนฺตํ ยาจิตฺวา ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสสฺสามี’’ติ. โส เอวมกาสิ. ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ สกฺกายทิฏฺิปริยุฏฺิเตนาติ สกฺกายทิฏฺิยา คหิเตน อภิภูเตน. สกฺกายทิฏฺิปเรเตนาติ สกฺกายทิฏฺิยา อนุคเตน. นิสฺสรณนฺติ ทิฏฺินิสฺสรณํ นาม นิพฺพานํ, ตํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. อปฺปฏิวินีตาติ อวิโนทิตา อนีหฏา. โอรมฺภาคิยํ สํโยชนนฺติ เหฏฺาภาคิยสํโยชนํ นาม โหติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. สุกฺกปกฺโข อุตฺตานตฺโถเยว. ‘‘สานุสยา ปหียตี’’ติ วจนโต ปเนตฺถ เอกจฺเจ ‘‘อฺํ สํโยชนํ อฺโ อนุสโย’’ติ วทนฺติ. ‘‘ยถา หิ สพฺยฺชนํ ภตฺต’’นฺติ วุตฺเต ภตฺตโต อฺํ พฺยฺชนํ โหติ, เอวํ ‘‘สานุสยา’’ติ วจนโต ปริยุฏฺานสกฺกายทิฏฺิโต อฺเน อนุสเยน ภวิตพฺพนฺติ เตสํ ลทฺธิ. เต ‘‘สสีสํ ปารุปิตฺวา’’ติอาทีหิ ปฏิกฺขิปิตพฺพา. น หิ สีสโต อฺโ ปุริโส อตฺถิ. อถาปิ สิยา – ‘‘ยทิ ตเทว สํโยชนํ โส อนุสโย, เอวํ สนฺเต ภควตา เถรสฺส ตรุณูปโม อุปารมฺโภ ทุอาโรปิโต โหตี’’ติ. น ทุอาโรปิโต, กสฺมา? เอวํลทฺธิกตฺตาติ วิตฺถาริตเมตํ. ตสฺมา โสเยว กิเลโส พนฺธนฏฺเน สํโยชนํ, อปฺปหีนฏฺเน อนุสโยติ อิมมตฺถํ สนฺธาย ภควตา ‘‘สานุสยา ปหียตี’’ติ เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๓๒. ตจํ เฉตฺวาติอาทีสุ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – ตจจฺเฉโท วิย หิ สมาปตฺติ ทฏฺพฺพา, เผคฺคุจฺเฉโท วิย วิปสฺสนา, สารจฺเฉโท วิย มคฺโค. ปฏิปทา ปน โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาว วฏฺฏติ. เอวเมเต ทฏฺพฺพาติ เอวรูปา ปุคฺคลา เอวํ ทฏฺพฺพา.

๑๓๓. อุปธิวิเวกาติ อุปธิวิเวเกน. อิมินา ปฺจกามคุณวิเวโก กถิโต. อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาติ อิมินา นีวรณปฺปหานํ กถิตํ. กายทุฏฺุลฺลานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยาติ อิมินา กายาลสิยปฏิปฺปสฺสทฺธิ กถิตา. วิวิจฺเจว กาเมหีติ อุปธิวิเวเกน กาเมหิ วินา หุตฺวา. วิวิจฺจ อกุสเลหีติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหาเนน กายทุฏฺุลฺลานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา จ อกุสเลหิ วินา หุตฺวา. ยเทว ตตฺถ โหตีติ ยํ ตตฺถ อนฺโตสมาปตฺติกฺขเณเยว สมาปตฺติสมุฏฺิตฺจ รูปาทิธมฺมชาตํ โหติ. เตธมฺเมติ เต รูปคตนฺติอาทินา นเยน วุตฺเต รูปาทโย ธมฺเม. อนิจฺจโตติ น นิจฺจโต. ทุกฺขโตติ น สุขโต. โรคโตติอาทีสุ อาพาธฏฺเน โรคโต, อนฺโตโทสฏฺเน คณฺฑโต, อนุปวิทฺธฏฺเน ทุกฺขชนนฏฺเน จ สลฺลโต, ทุกฺขฏฺเน อฆโต, โรคฏฺเน อาพาธโต, อสกฏฺเน ปรโต, ปลุชฺชนฏฺเน ปโลกโต, นิสฺสตฺตฏฺเน สุฺโต, น อตฺตฏฺเน อนตฺตโต. ตตฺถ อนิจฺจโต, ปโลกโตติ ทฺวีหิ ปเทหิ อนิจฺจลกฺขณํ กถิตํ, ทุกฺขโตติอาทีหิ ฉหิ ทุกฺขลกฺขณํ, ปรโต สุฺโต อนตฺตโตติ ตีหิ อนตฺตลกฺขณํ.

โส เตหิ ธมฺเมหีติ โส เตหิ เอวํ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ทิฏฺเหิ อนฺโตสมาปตฺติยํ ปฺจกฺขนฺธธมฺเมหิ. จิตฺตํ ปฏิวาเปตีติ จิตฺตํ ปฏิสํหรติ โมเจติ อปเนติ. อุปสํหรตีติ วิปสฺสนาจิตฺตํ ตาว สวนวเสน ถุติวเสน ปริยตฺติวเสน ปฺตฺติวเสน จ เอตํ สนฺตํ นิพฺพานนฺติ เอวํ อสงฺขตาย อมตาย ธาตุยา อุปสํหรติ. มคฺคจิตฺตํ นิพฺพานํ อารมฺมณกรณวเสเนว เอตํ สนฺตเมตํ ปณีตนฺติ น เอวํ วทติ, อิมินา ปน อากาเรน ตํ ปฏิวิชฺฌนฺโต ตตฺถ จิตฺตํ อุปสํหรตีติ อตฺโถ. โส ตตฺถ ิโตติ ตาย ติลกฺขณารมฺมณาย วิปสฺสนาย ิโต. อาสวานํ ขยํ ปาปุณาตีติ อนุกฺกเมน จตฺตาโร มคฺเค ภาเวตฺวา ปาปุณาติ . เตเนว ธมฺมราเคนาติ สมถวิปสฺสนาธมฺเม ฉนฺทราเคน. สมถวิปสฺสนาสุ หิ สพฺพโส ฉนฺทราคํ ปริยาทาตุํ สกฺโกนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อสกฺโกนฺโต อนาคามี โหติ.

ยเทวตตฺถ โหติ เวทนาคตนฺติ อิธ ปน รูปํ น คหิตํ. กสฺมา? สมติกฺกนฺตตฺตา. อยฺหิ เหฏฺา รูปาวจรชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา รูปํ อติกฺกมิตฺวา อรูปาวจรสมาปตฺตึ สมาปนฺโนติ สมถวเสนปิเนน รูปํ อติกฺกนฺตํ, เหฏฺา รูปํ สมฺมเทว สมฺมสิตฺวา ตํ อติกฺกมฺม อิทานิ อรูปํ สมฺมสตีติ วิปสฺสนาวเสนปิเนน รูปํ อติกฺกนฺตํ. อรูเป ปน สพฺพโสปิ รูปํ นตฺถีติ ตํ สนฺธายปิ อิธ รูปํ น คหิตํ.

อถ กิฺจรหีติ กึ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ? สมถวเสน คจฺฉโต จิตฺเตกคฺคตา ธุรํ โหติ, โส เจโตวิมุตฺโต นาม. วิปสฺสนาวเสน คจฺฉโต ปฺา ธุรํ โหติ, โส ปฺาวิมุตฺโต นามาติ เอตฺถ เถรสฺส กงฺขา นตฺถิ. อยํ สภาวธมฺโมเยว, สมถวเสเนว ปน คจฺฉนฺเตสุ เอโก เจโตวิมุตฺโต นาม โหติ, เอโก ปฺาวิมุตฺโต. วิปสฺสนาวเสน คจฺฉนฺเตสุปิ เอโก ปฺาวิมุตฺโต นาม โหติ, เอโก เจโตวิมุตฺโตติ เอตฺถ กึ การณนฺติ ปุจฺฉติ.

อินฺทฺริยเวมตฺตตํ วทามีติ อินฺทฺริยนานตฺตตํ วทามิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ, น ตฺวํ, อานนฺท, ทส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุตํ ปฏิวิชฺฌิ, เตน เต เอตํ อปากฏํ. อหํ ปน ปฏิวิชฺฌึ, เตน เม เอตํ ปากฏํ. เอตฺถ หิ อินฺทฺริยนานตฺตตา การณํ. สมถวเสเนว หิ คจฺฉนฺเตสุ เอกสฺส ภิกฺขุโน จิตฺเตกคฺคตา ธุรํ โหติ, โส เจโตวิมุตฺโต นาม โหติ. เอกสฺส ปฺา ธุรํ โหติ, โส ปฺาวิมุตฺโต นาม โหติ. วิปสฺสนาวเสเนว จ คจฺฉนฺเตสุ เอกสฺส ปฺา ธุรํ โหติ, โส ปฺาวิมุตฺโต นาม โหติ. เอกสฺส จิตฺเตกคฺคตา ธุรํ โหติ, โส เจโตวิมุตฺโต นาม โหติ. ทฺเว อคฺคสาวกา สมถวิปสฺสนาธุเรน อรหตฺตํ ปตฺตา. เตสุ ธมฺมเสนาปติ ปฺาวิมุตฺโต ชาโต, มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร เจโตวิมุตฺโต. อิติ อินฺทฺริยเวมตฺตเมตฺถ การณนฺติ เวทิตพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

มหามาลุกฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ภทฺทาลิสุตฺตวณฺณนา

๑๓๔. เอวํเม สุตนฺติ ภทฺทาลิสุตฺตํ. ตตฺถ เอกาสนโภชนนฺติ เอกสฺมึ ปุเรภตฺเต อสนโภชนํ, ภุฺชิตพฺพภตฺตนฺติ อตฺโถ. อปฺปาพาธตนฺติอาทีนิ กกโจปเม วิตฺถาริตานิ. น อุสฺสหามีติ น สกฺโกมิ. สิยา กุกฺกุจฺจํ สิยา วิปฺปฏิสาโรติ เอวํ ภุฺชนฺโต ยาวชีวํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ สกฺขิสฺสามิ นุ โข, น นุ โขติ อิติ เม วิปฺปฏิสารกุกฺกุจฺจํ ภเวยฺยาติ อตฺโถ. เอกเทสํ ภุฺชิตฺวาติ โปราณกตฺเถรา กิร ปตฺเต ภตฺตํ ปกฺขิปิตฺวา สปฺปิมฺหิ ทินฺเน สปฺปินา อุณฺหเมว โถกํ ภุฺชิตฺวา หตฺเถ โธวิตฺวา อวเสสํ พหิ นีหริตฺวา ฉายูทกผาสุเก าเน นิสีทิตฺวา ภุฺชนฺติ. เอตํ สนฺธาย สตฺถา อาห. ภทฺทาลิ, ปน จินฺเตสิ – ‘‘สเจ สกึ ปตฺตํ ปูเรตฺวา ทินฺนํ ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ปุน ปตฺตํ โธวิตฺวา โอทนสฺส ปูเรตฺวา ลทฺธํ พหิ นีหริตฺวา ฉายูทกผาสุเก าเน ภุฺเชยฺย, อิติ เอวํ วฏฺเฏยฺย, อิตรถา โก สกฺโกตี’’ติ. ตสฺมา เอวมฺปิ โข อหํ, ภนฺเต, น อุสฺสหามีติ อาห. อยํ กิร อตีเต อนนฺตราย ชาติยา กากโยนิยํ นิพฺพตฺติ. กากา จ นาม มหาฉาตกา โหนฺติ. ตสฺมา ฉาตกตฺเถโร นาม อโหสิ. ตสฺส ปน วิรวนฺตสฺเสว ภควา ตํ มทฺทิตฺวา อชฺโฌตฺถริตฺวา – ‘‘โย ปน ภิกฺขุ วิกาเล ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาเทยฺย วา ภุฺเชยฺย วา ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๔๘) สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ. เตน วุตฺตํ อถ โข อายสฺมา, ภทฺทาลิ,…เป… อนุสฺสาหํ ปเวเทสีติ.

ยถานฺติ ยถา อฺโปิ สิกฺขาย น ปริปูรการี เอกวิหาเรปิ วสนฺโต สตฺถุ สมฺมุขีภาวํ น ทเทยฺย, ตเถว น อทาสีติ อตฺโถ. เนว ภควโต อุปฏฺานํ อคมาสิ, น ธมฺมเทสนฏฺานํ น วิตกฺกมาฬกํ, น เอกํ ภิกฺขาจารมคฺคํ ปฏิปชฺชิ. ยสฺมึ กุเล ภควา นิสีทติ, ตสฺส ทฺวาเรปิ น อฏฺาสิ. สจสฺส วสนฏฺานํ ภควา คจฺฉติ, โส ปุเรตรเมว ตฺวา อฺตฺถ คจฺฉติ. สทฺธาปพฺพชิโต กิเรส กุลปุตฺโต ปริสุทฺธสีโล. เตนสฺส น อฺโ วิตกฺโก อโหสิ, – ‘‘มยา นาม อุทรการณา ภควโต สิกฺขาปทปฺาปนํ ปฏิพาหิตํ, อนนุจฺฉวิกํ เม กต’’นฺติ อยเมว วิตกฺโก อโหสิ. ตสฺมา เอกวิหาเร วสนฺโตปิ ลชฺชาย สตฺถุ สมฺมุขีภาวํ นาทาสิ.

๑๓๕. จีวรกมฺมํ กโรนฺตีติ มนุสฺสา ภควโต จีวรสาฏกํ อทํสุ, ตํ คเหตฺวา จีวรํ กโรนฺติ. เอตํ โทสกนฺติ เอตํ โอกาสเมตํ อปราธํ, สตฺถุ สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺตสฺส ปฏิพาหิตการณํ สาธุกํ มนสิ กโรหีติ อตฺโถ. ทุกฺกรตรนฺติ วสฺสฺหิ วสิตฺวา ทิสาปกฺกนฺเต ภิกฺขู กุหึ วสิตฺถาติ ปุจฺฉนฺติ, เตหิ เชตวเน วสิมฺหาติ วุตฺเต, ‘‘อาวุโส, ภควา อิมสฺมึ อนฺโตวสฺเส กตรํ ชาตกํ กเถสิ, กตรํ สุตฺตนฺตํ, กตรํ สิกฺขาปทํ ปฺเปสี’’ติ ปุจฺฉิตาโร โหนฺติ. ตโต ‘‘วิกาลโภชนสิกฺขาปทํ ปฺเปสิ, ภทฺทาลิ, นาม นํ เอโก เถโร ปฏิพาหี’’ติ วกฺขนฺติ. ตํ สุตฺวา ภิกฺขู – ‘‘ภควโตปิ นาม สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺตสฺส ปฏิพาหิตํ อยุตฺตํ อการณ’’นฺติ วทนฺติ. เอวํ เต อยํ โทโส มหาชนนฺตเร ปากโฏ หุตฺวา ทุปฺปฏิการตํ อาปชฺชิสฺสตีติ มฺมานา เอวมาหํสุ. อปิจ อฺเปิ ภิกฺขู ปวาเรตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ อาคมิสฺสนฺติ. อถ ตฺวํ ‘‘เอถาวุโส, มม สตฺถารํ ขมาเปนฺตสฺส สหายา โหถา’’ติ สงฺฆํ สนฺนิปาเตสฺสสิ. ตตฺถ อาคนฺตุกา ปุจฺฉิสฺสนฺติ, ‘‘อาวุโส, กึ อิมินาปิ ภิกฺขุนา กต’’นฺติ. ตโต เอตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘ภาริยํ กตํ ภิกฺขุนา, ทสพลํ นาม ปฏิพาหิสฺสตีติ อยุตฺตเมต’’นฺติ วกฺขนฺติ. เอวมฺปิ เต อยํ อปราโธ มหาชนนฺตเร ปากโฏ หุตฺวา ทุปฺปฏิการตํ อาปชฺชิสฺสตีติ มฺมานาปิ เอวมาหํสุ. อถ วา ภควา ปวาเรตฺวา จาริกํ ปกฺกมิสฺสติ, อถ ตฺวํ คตคตฏฺาเน ภควโต ขมาปนตฺถาย สงฺฆํ สนฺนิปาเตสฺสสิ. ตตฺร ทิสาวาสิโน ภิกฺขู ปุจฺฉิสฺสนฺติ, ‘‘อาวุโส, กึ อิมินา ภิกฺขุนา กต’’นฺติ…เป… ทุปฺปฏิการตํ อาปชฺชิสฺสตีติ มฺมานาปิ เอวมาหํสุ.

เอตทโวจาติ อปฺปติรูปํ มยา กตํ, ภควา ปน มหนฺเตปิ อคุเณ อลคฺคิตฺวา มยฺหํ อจฺจยํ ปฏิคฺคณฺหิสฺสตีติ มฺมาโน เอตํ ‘‘อจฺจโย มํ, ภนฺเต,’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ อจฺจโยติ อปราโธ. มํ อจฺจคมาติ มํ อติกฺกมฺม อภิภวิตฺวา ปวตฺโต. ปฏิคฺคณฺหาตูติ ขมตุ. อายตึ สํวรายาติ อนาคเต สํวรณตฺถาย, ปุน เอวรูปสฺส อปราธสฺส โทสสฺส ขลิตสฺส อกรณตฺถาย. ตคฺฆาติ เอกํเสน. สมโยปิ โข เต, ภทฺทาลีติ, ภทฺทาลิ, ตยา ปฏิวิชฺฌิตพฺพยุตฺตกํ เอกํ การณํ อตฺถิ, ตมฺปิ เต น ปฏิวิทฺธํ น สลฺลกฺขิตนฺติ ทสฺเสติ.

๑๓๖. อุภโตภาควิมุตฺโตติอาทีสุ ธมฺมานุสารี, สทฺธานุสารีติ ทฺเว เอกจิตฺตกฺขณิกา มคฺคสมงฺคิปุคฺคลา. เอเต ปน สตฺตปิ อริยปุคฺคเล ภควตาปิ เอวํ อาณาเปตุํ น ยุตฺตํ, ภควตา อาณตฺเต เตสมฺปิ เอวํ กาตุํ น ยุตฺตํ. อฏฺานปริกปฺปวเสน ปน อริยปุคฺคลานํ สุวจภาวทสฺสนตฺถํ ภทฺทาลิตฺเถรสฺส จ ทุพฺพจภาวทสฺสนตฺถเมตํ วุตฺตํ.

อปิ นุ ตฺวํ ตสฺมึ สมเย อุภโตภาควิมุตฺโตติ เทสนํ กสฺมา อารภิ? ภทฺทาลิสฺส นิคฺคหณตฺถํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – ภทฺทาลิ, อิเม สตฺต อริยปุคฺคลา โลเก ทกฺขิเณยฺยา มม สาสเน สามิโน, มยิ สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺเต ปฏิพาหิตพฺพยุตฺเต การเณ สติ เอเตสํ ปฏิพาหิตุํ ยุตฺตํ. ตฺวํ ปน มม สาสนโต พาหิรโก, มยิ สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺเต ตุยฺหํ ปฏิพาหิตุํ น ยุตฺตนฺติ.

ริตฺโต ตุจฺโฉติ อนฺโต อริยคุณานํ อภาเวน ริตฺตโก ตุจฺฉโก, อิสฺสรวจเน กิฺจิ น โหติ. ยถาธมฺมํ ปฏิกโรสีติ ยถา ธมฺโม ิโต, ตเถว กโรสิ, ขมาเปสีติ วุตฺตํ โหติ. ตํ เต มยํ ปฏิคฺคณฺหามาติ ตํ ตว อปราธํ มยํ ขมาม. วุฑฺฒิ เหสา, ภทฺทาลิ, อริยสฺส วินเยติ เอสา, ภทฺทาลิ, อริยสฺส วินเย พุทฺธสฺส ภควโต สาสเน วุฑฺฒิ นาม. กตมา? อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกริตฺวา อายตึ สํวราปชฺชนา. เทสนํ ปน ปุคฺคลาธิฏฺานํ กโรนฺโต ‘‘โย อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรติ, อายตึ สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ อาห.

๑๓๗. สตฺถาปิอุปวทตีติ ‘‘อสุกวิหารวาสี อสุกสฺส เถรสฺส สทฺธิวิหาริโก อสุกสฺส อนฺเตวาสิโก อิตฺถนฺนาโม นาม ภิกฺขุ โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตตุํ อรฺํ ปวิฏฺโ’’ติ สุตฺวา – ‘‘กึ ตสฺส อรฺวาเสน, โย มยฺหํ ปน สาสเน สิกฺขาย อปริปูรการี’’ติ เอวํ อุปวทติ, เสสปเทสุปิ เอเสว นโย, อปิเจตฺถ เทวตา น เกวลํ อุปวทนฺติ, เภรวารมฺมณํ ทสฺเสตฺวา ปลายนาการมฺปิ กโรนฺติ. อตฺตนาปิ อตฺตานนฺติ สีลํ อาวชฺชนฺตสฺส สํกิลิฏฺฏฺานํ ปากฏํ โหติ, จิตฺตํ วิธาวติ, น กมฺมฏฺานํ อลฺลียติ. โส ‘‘กึ มาทิสสฺส อรฺวาเสนา’’ติ วิปฺปฏิสารี อุฏฺาย ปกฺกมติ. อตฺตาปิ อตฺตานํ อุปวทิโตติ อตฺตนาปิ อตฺตา อุปวทิโต, อยเมว วา ปาโ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตปจฺจนีกนเยน เวทิตพฺโพ. โสวิวิจฺเจว กาเมหีติอาทิ เอวํ สจฺฉิกโรตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.

๑๔๐. ปสยฺห ปสยฺห การณํ กโรนฺตีติ อปฺปมตฺตเกปิ โทเส นิคฺคเหตฺวา ปุนปฺปุนํ กาเรนฺติ. โน ตถาติ มหนฺเตปิ อปราเธ ยถา อิตรํ, เอวํ ปสยฺห น กาเรนฺติ. โส กิร, ‘‘อาวุโส, ภทฺทาลิ, มา จินฺตยิตฺถ, เอวรูปํ นาม โหติ, เอหิ สตฺถารํ ขมาเปหี’’ติ ภิกฺขุสงฺฆโตปิ, กฺจิ ภิกฺขุํ เปเสตฺวา อตฺตโน สนฺติกํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘ภทฺทาลิ, มา จินฺตยิตฺถ, เอวรูปํ นาม โหตี’’ติ เอวํ สตฺถุสนฺติกาปิ อนุคฺคหํ ปจฺจาสีสติ. ตโต ‘‘ภิกฺขุสงฺเฆนาปิ น สมสฺสาสิโต, สตฺถาราปี’’ติ จินฺเตตฺวา เอวมาห.

อถ ภควา ภิกฺขุสงฺโฆปิ สตฺถาปิ โอวทิตพฺพยุตฺตเมว โอวทติ, น อิตรนฺติ ทสฺเสตุํ อิธ, ภทฺทาลิ, เอกจฺโจติอาทิมาห. ตตฺถ อฺเนาฺนฺติอาทีนิ อนุมานสุตฺเต วิตฺถาริตานิ. น สมฺมา วตฺตตีติ สมฺมา วตฺตมฺปิ น วตฺตติ. น โลมํ ปาเตตีติ อนุโลมวตฺเต น วตฺตติ, วิโลมเมว คณฺหาติ. น นิตฺถารํ วตฺตตีติ นิตฺถารณกวตฺตมฺหิ น วตฺตติ, อาปตฺติวุฏฺานตฺถํ ตุริตตุริโต ฉนฺทชาโต น โหติ. ตตฺราติ ตสฺมึ ตสฺส ทุพฺพจกรเณ. อภิณฺหาปตฺติโกติ นิรนฺตราปตฺติโก. อาปตฺติพหุโลติ สาปตฺติกกาโลวสฺส พหุ, สุทฺโธ นิราปตฺติกกาโล อปฺโปติ อตฺโถ. น ขิปฺปเมว วูปสมฺมตีติ ขิปฺปํ น วูปสมฺมติ, ทีฆสุตฺตํ โหติ. วินยธรา ปาทโธวนกาเล อาคตํ ‘‘คจฺฉาวุโส, วตฺตเวลา’’ติ วทนฺติ. ปุน กาลํ มฺิตฺวา อาคตํ ‘‘คจฺฉาวุโส, ตุยฺหํ วิหารเวลา, คจฺฉาวุโส, สามเณราทีนํ อุทฺเทสทานเวลา, อมฺหากํ นฺหานเวลา, เถรูปฏฺานเวลา, มุขโธวนเวลา’’ติอาทีนิ วตฺวา ทิวสภาเคปิ รตฺติภาเคปิ อาคตํ อุยฺโยเชนฺติเยว. ‘‘กาย เวลาย, ภนฺเต, โอกาโส ภวิสฺสตี’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘คจฺฉาวุโส, ตฺวํ อิมเมว านํ ชานาสิ, อสุโก นาม วินยธรตฺเถโร สิเนหปานํ ปิวติ, อสุโก วิเรจนํ กาเรติ, กสฺมา ตุริโตสี’’ติอาทีนิ วตฺวา ทีฆสุตฺตเมว กโรนฺติ.

๑๔๑. ขิปฺปเมว วูปสมฺมตีติ ลหุํ วูปสมฺมติ, น ทีฆสุตฺตํ โหติ. อุสฺสุกฺกาปนฺนา ภิกฺขู – ‘‘อาวุโส, อยํ สุพฺพโจ ภิกฺขุ, ชนปทวาสิโน นาม คามนฺตเสนาสเน วสนฏฺานนิสชฺชนาทีนิ น ผาสุกานิ โหนฺติ, ภิกฺขาจาโรปิ ทุกฺโข โหติ, สีฆมสฺส อธิกรณํ วูปสเมมา’’ติ สนฺนิปติตฺวา อาปตฺติโต วุฏฺาเปตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺาเปนฺติ.

๑๔๒. อธิจฺจาปตฺติโกติ กทาจิ กทาจิ อาปตฺตึ อาปชฺชติ. โส กิฺจาปิ ลชฺชี โหติ ปกตตฺโต, ทุพฺพจตฺตา ปนสฺส ภิกฺขู ตเถว ปฏิปชฺชนฺติ.

๑๔๔. สทฺธามตฺตเกน วหติ เปมมตฺตเกนาติ อาจริยุปชฺฌาเยสุ อปฺปมตฺติกาย เคหสฺสิตสทฺธาย อปฺปมตฺตเกน เคหสฺสิตเปเมน ยาเปติ. ปฏิสนฺธิคฺคหณสทิสา หิ อยํ ปพฺพชฺชา นาม, นวปพฺพชิโต ปพฺพชฺชาย คุณํ อชานนฺโต อาจริยุปชฺฌาเยสุ เปมมตฺเตน ยาเปติ, ตสฺมา เอวรูปา สงฺคณฺหิตพฺพา. อปฺปมตฺตกมฺปิ หิ สงฺคหํ ลภิตฺวา ปพฺพชฺชาย ิตา อภิฺาปตฺตา มหาสมณา ภวิสฺสนฺติ. เอตฺตเกน กถามคฺเคน ‘‘โอวทิตพฺพยุตฺตกํ โอวทนฺติ, น อิตร’’นฺติ อิมเมว ภควตา ทสฺสิตํ.

๑๔๕. อฺายสณฺหึสูติ อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ. สตฺเตสุ หายมาเนสูติ ปฏิปตฺติยา หายมานาย สตฺตา หายนฺติ นาม. สทฺธมฺเม อนฺตรธายมาเนติ ปฏิปตฺติสทฺธมฺเม อนฺตรธายมาเน. ปฏิปตฺติสทฺธมฺโมปิ หิ ปฏิปตฺติปูรเกสุ สตฺเตสุ อสติ อนฺตรธายติ นาม . อาสวฏฺานียาติ อาสวา ติฏฺนฺติ เอเตสูติ อาสวฏฺานียา. เยสุ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกา ปรูปวาทวิปฺปฏิสารวธพนฺธนาทโย เจว อปายทุกฺขวิเสสภูตา จ อาสวา ติฏฺนฺติเยว. ยสฺมา เนสํ เต การณํ โหนฺตีติ อตฺโถ. เต อาสวฏฺานียา วีติกฺกมธมฺมา ยาว น สงฺเฆ ปาตุภวนฺติ, น ตาว สตฺถา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปตีติ อยเมตฺถ โยชนา.

เอวํ อกาลํ ทสฺเสตฺวา ปุน กาลํ ทสฺเสตุํ ยโต จ โข, ภทฺทาลีติอาทิมาห. ตตฺถ ยโตติ ยทา, ยสฺมึ กาเลติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. อยํ วา เอตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ยสฺมึ กาเล อาสวฏฺานียา ธมฺมาติ สงฺขํ คตา วีติกฺกมโทสา สงฺเฆ ปาตุภวนฺติ, ตทา สตฺถา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปติ. กสฺมา? เตสํเยว อาสวฏฺานียธมฺมสงฺขาตานํ วีติกฺกมโทสานํ ปฏิฆาตาย.

เอวํ อาสวฏฺานียานํ ธมฺมานํ อนุปฺปตฺตึ สิกฺขาปทปฺตฺติยา อกาลํ, อุปฺปตฺติฺจ กาลนฺติ วตฺวา อิทานิ เตสํ ธมฺมานํ อนุปฺปตฺติกาลฺจ อุปฺปตฺติกาลฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘น ตาว, ภทฺทาลิ, อิเธกจฺเจ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ มหตฺตนฺติ มหนฺตภาวํ. สงฺโฆ หิ ยาว น เถรนวมชฺฌิมานํ วเสน มหตฺตํ ปตฺโต โหติ, ตาว เสนาสนานิ ปโหนฺติ, สาสเน เอกจฺเจ อาสวฏฺานียา ธมฺมา น อุปฺปชฺชนฺติ. มหตฺตํ ปตฺเต ปน เต อุปฺปชฺชนฺติ, อถ สตฺถา สิกฺขาปทํ ปฺเปติ. ตตฺถ มหตฺตํ ปตฺเต สงฺเฆ ปฺตฺตสิกฺขาปทานิ –

‘‘โย ปน ภิกฺขุ อนุปสมฺปนฺเนน อุตฺตริทฺวิรตฺตติรตฺตํ สหเสยฺยํ กปฺเปยฺย ปาจิตฺติยํ (ปาจิ. ๕๑). ยา ปน ภิกฺขุนี อนุวสฺสํ วุฏฺาเปยฺย ปาจิตฺติยํ (ปาจิ. ๑๑๗๑). ยา ปน ภิกฺขุนี เอกวสฺสํ ทฺเว วุฏฺาเปยฺย ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๗๕).

อิมินา นเยน เวทิตพฺพานิ.

ลาภคฺคนฺติ ลาภสฺส อคฺคํ. สงฺโฆ หิ ยาว น ลาภคฺคปตฺโต โหติ, น ตาว ลาภํ ปฏิจฺจ อาสวฏฺานียา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ. ปตฺเต ปน อุปฺปชฺชนฺติ, อถ สตฺถา สิกฺขาปทํ ปฺเปติ –

‘‘โย ปน ภิกฺขุ อเจลกสฺส วา ปริพฺพาชกสฺส วา ปริพฺพาชิกาย วา สหตฺถา ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ทเทยฺย ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๗๐).

อิทฺหิ ลาภคฺคปตฺเต สงฺเฆ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ.

ยสคฺคนฺติ ยสสฺส อคฺคํ. สงฺโฆ หิ ยาว น ยสคฺคปตฺโต โหติ, น ตาว ยสํ ปฏิจฺจ อาสวฏฺานียา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ. ปตฺเต ปน อุปฺปชฺชนฺติ, อถ สตฺถา สิกฺขาปทํ ปฺเปติ ‘‘สุราเมรยปาเน ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๓๒๗). อิทฺหิ ยสคฺคปตฺเต สงฺเฆ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ.

พาหุสจฺจนฺติ พหุสฺสุตภาวํ. สงฺโฆ หิ ยาว น พาหุสจฺจปตฺโต โหติ, น ตาว อาสวฏฺานียา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ. พาหุสจฺจปตฺเต ปน ยสฺมา เอกํ นิกายํ ทฺเว นิกาเย ปฺจปิ นิกาเย อุคฺคเหตฺวา อโยนิโส อุมฺมุชฺชมานา ปุคฺคลา รเสน รสํ สํสนฺเทตฺวา อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุ สาสนํ ทีเปนฺติ, อถ สตฺถา – ‘‘โย ปน ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ (ปาจิ. ๔๑๘)…เป… สมณุทฺเทโสปิ เจ เอวํ วเทยฺยา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๔๒๙) นเยน สิกฺขาปทํ ปฺเปติ.

รตฺตฺุตํ ปตฺโตติ เอตฺถ รตฺติโย ชานนฺตีติ รตฺตฺู. อตฺตโน ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย พหู รตฺติโย ชานนฺติ, จิรปพฺพชิตาติ วุตฺตํ โหติ. รตฺตฺูนํ ภาวํ รตฺตฺุตํ. ตตฺร รตฺตฺุตํ ปตฺเต สงฺเฆ อุปเสนํ วงฺคนฺตปุตฺตํ อารพฺภ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. โส หายสฺมา อูนทสวสฺเส ภิกฺขู อุปสมฺปาเทนฺเต ทิสฺวา เอกวสฺโส สทฺธิวิหาริกํ อุปสมฺปาเทสิ. อถ ภควา สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, อูนทสวสฺเสน อุปสมฺปาเทตพฺโพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๗๕). เอวํ ปฺตฺเต สิกฺขาปเท ปุน ภิกฺขู ‘‘ทสวสฺสมฺหา ทสวสฺสมฺหา’’ติ พาลา อพฺยตฺตา อุปสมฺปาเทนฺติ. อถ ภควา อปรมฺปิ สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, พาเลน อพฺยตฺเตน อุปสมฺปาเทตพฺโพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ทสวสฺเสน วา อติเรกทสวสฺเสน วา อุปสมฺปาเทตุ’’นฺติ. อิติ รตฺตฺุตํ ปตฺตกาเล ทฺเว สิกฺขาปทานิ ปฺตฺตานิ.

๑๔๖. อาชานียสุสูปมํธมฺมปริยายํ เทเสสินฺติ ตรุณาชานียอุปมํ กตฺวา ธมฺมํ เทสยึ. ตตฺราติ ตสฺมึ อสรเณ. น โข, ภทฺทาลิ, เอเสว เหตูติ น เอส สิกฺขาย อปริปูรการีภาโวเยว เอโก เหตุ.

๑๔๗. มุขาธาเน การณํ กาเรตีติ ขลีนพนฺธาทีหิ มุขฏฺปเน สาธุกํ คีวํ ปคฺคณฺหาเปตุํ การณํ กาเรติ. วิสูกายิตานีติอาทีหิ วิเสวนาจารํ กเถสิ. สพฺพาเนว เหตานิ อฺมฺเววจนานิ. ตสฺมึ าเนติ ตสฺมึ วิเสวนาจาเร. ปรินิพฺพายตีติ นิพฺพิเสวโน โหติ, ตํ วิเสวนํ ชหตีติ อตฺโถ. ยุคาธาเนติ ยุคฏฺปเน ยุคสฺส สาธุกํ คหณตฺถํ.

อนุกฺกเมติ จตฺตาโรปิ ปาเท เอกปฺปหาเรเนว อุกฺขิปเน จ นิกฺขิปเน จ. ปรเสนาย หิ อาวาเฏ ตฺวา อสึ คเหตฺวา อาคจฺฉนฺตสฺส อสฺสสฺส ปาเท ฉินฺทนฺติ. ตสฺมึ สมเย เอส เอกปฺปหาเรเนว จตฺตาโรปิ ปาเท อุกฺขิปิสฺสตีติ รชฺชุพนฺธนวิธาเนน เอตํ การณํ กโรนฺติ. มณฺฑเลติ ยถา อสฺเส นิสินฺโนเยว ภูมิยํ ปติตํ อาวุธํ คเหตุํ สกฺโกติ, เอวํ กรณตฺถํ มณฺฑเล การณํ กาเรติ. ขุรกาเสติ อคฺคคฺคขุเรหิ ปถวีกมเน. รตฺตึ โอกฺกนฺตกรณสฺมิฺหิ ยถา ปทสทฺโท น สุยฺยติ, ตทตฺถํ เอกสฺมึ าเน สฺํ ทตฺวา อคฺคคฺคขุเรหิเยว คมนํ สิกฺขาเปนฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ชเวติ สีฆวาหเน. ‘‘ธาเว’’ติปิ ปาโ. อตฺตโน ปราชเย สติ ปลายนตฺถํ, ปรํ ปลายนฺตํ อนุพนฺธิตฺวา คหณตฺถฺจ เอตํ การณํ กาเรติ. ทวตฺเตติ ทวตฺตาย, ยุทฺธกาลสฺมิฺหิ หตฺถีสุ วา โกฺจนาทํ กโรนฺเตสุ อสฺเสสุ วา หสนฺเตสุ รเถสุ วา นิโฆสนฺเตสุ โยเธสุ วา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺเตสุ ตสฺส รวสฺส อภายิตฺวา ปรเสนปเวสนตฺถํ อยํ การณา กรียติ.

ราชคุเณติ รฺา ชานิตพฺพคุเณ. กูฏกณฺณรฺโ กิร คุฬวณฺโณ นาม อสฺโส อโหสิ. ราชา ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา เจติยปพฺพตํ คมิสฺสามีติ กลมฺพนทีตีรํ สมฺปตฺโต. อสฺโส ตีเร ตฺวา อุทกํ โอตริตุํ น อิจฺฉติ, ราชา อสฺสาจริยํ อามนฺเตตฺวา – ‘‘อโห ตยา อสฺโส สิกฺขาปิโต อุทกํ โอตริตุํ น อิจฺฉตี’’ติ อาห. อาจริโย – ‘‘สุสิกฺขาปิโต เทว อสฺโส, เอวมสฺส หิ จิตฺตํ ‘สจาหํ อุทกํ โอตริสฺสามิ, วาลํ เตมิสฺสติ, วาเล ตินฺเต รฺโ องฺเค อุทกํ ปาเตยฺยา’ติ เอวํ ตุมฺหากํ สรีเร อุทกปาตนภเยน น โอตรติ, วาลํ คณฺหาเปถา’’ติ อาห. ราชา ตถา กาเรสิ. อสฺโส เวเคน โอตริตฺวา ปารํ คโต. เอตทตฺถํ อยํ การณา กรียติ. ราชวํเสติ อสฺสราชวํเส. วํโส เจโส อสฺสราชานํ, ตถารูเปน ปหาเรน ฉินฺนภินฺนสรีราปิ อสฺสาโรหํ ปรเสนาย อปาเตตฺวา พหิ นีหรนฺติเยว. เอตทตฺถํ การณํ กาเรตีติ อตฺโถ.

อุตฺตเม ชเวติ ชวสมฺปตฺติยํ, ยถา อุตฺตมชโว โหติ, เอวํ การณํ กาเรตีติ อตฺโถ. อุตฺตเม หเยติ อุตฺตมหยภาเว, ยถา อุตฺตมหโย โหติ, เอวํ การณํ กาเรตีติ อตฺโถ. ตตฺถ ปกติยา อุตฺตมหโยว อุตฺตมหยการณํ อรหติ, น อฺโ. อุตฺตมหยการณาย เอว จ หโย อุตฺตมชวํ ปฏิปชฺชติ, น อฺโติ.

ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร ราชา เอกํ สินฺธวโปตกํ ลภิตฺวา สินฺธวภาวํ อชานิตฺวาว อิมํ สิกฺขาเปหีติ อาจริยสฺส อทาสิ. อาจริโยปิ ตสฺส สินฺธวภาวํ อชานนฺโต ตํ มาสขาทกโฆฏกานํ การณาสุ อุปเนติ. โส อตฺตโน อนนุจฺฉวิกตฺตา การณํ น ปฏิปชฺชติ. โส ตํ ทเมตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘กูฏสฺโส อยํ มหาราชา’’ติ วิสฺสชฺชาเปสิ.

อเถกทิวสํ เอโก อสฺสาจริยปุพฺพโก ทหโร อุปชฺฌายสฺส ภณฺฑกํ คเหตฺวา คจฺฉนฺโต ตํ ปริขาปิฏฺเ จรนฺตํ ทิสฺวา – ‘‘อนคฺโฆ, ภนฺเต, สินฺธวโปตโก’’ติ อุปชฺฌายสฺส กเถสิ. สเจ ราชา ชาเนยฺย, มงฺคลสฺสํ นํ กเรยฺยาติ. เถโร อาห – ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิโก, ตาต, ราชา อปฺเปว นาม พุทฺธสาสเน ปสีเทยฺย รฺโ กเถหี’’ติ. โส คนฺตฺวา, – ‘‘มหาราช, อนคฺโฆ สินฺธวโปตโก อตฺถี’’ติ กเถสิ. ตยา ทิฏฺโ , ตาตาติ? อาม, มหาราชาติ. กึ ลทฺธุํ วฏฺฏตีติ? ตุมฺหากํ ภุฺชนกสุวณฺณถาเล ตุมฺหากํ ภุฺชนกภตฺตํ ตุมฺหากํ ปิวนกรโส ตุมฺหากํ คนฺธา ตุมฺหากํ มาลาติ. ราชา สพฺพํ ทาเปสิ. ทหโร คาหาเปตฺวา อคมาสิ.

อสฺโส คนฺธํ ฆายิตฺวาว ‘‘มยฺหํ คุณชานนกอาจริโย อตฺถิ มฺเ’’ติ สีสํ อุกฺขิปิตฺวา โอโลเกนฺโต อฏฺาสิ. ทหโร คนฺตฺวา ‘‘ภตฺตํ ภุฺชา’’ติ อจฺฉรํ ปหริ. อสฺโส อาคนฺตฺวา สุวณฺณถาเล ภตฺตํ ภุฺชิ, รสํ ปิวิ. อถ นํ คนฺเธหิ วิลิมฺปิตฺวา ราชปิฬนฺธนํ ปิฬนฺธิตฺวา ‘‘ปุรโต ปุรโต คจฺฉา’’ติ อจฺฉรํ ปหริ. โส ทหรสฺส ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา มงฺคลสฺสฏฺาเน อฏฺาสิ. ทหโร – ‘‘อยํ เต, มหาราช, อนคฺโฆ สินฺธวโปตโก, อิมินาว นํ นิยาเมน กติปาหํ ปฏิชคฺคาเปหี’’ติ วตฺวา นิกฺขมิ.

อถ กติปาหสฺส อจฺจเยน อาคนฺตฺวา อสฺสสฺส อานุภาวํ ปสฺสิสฺสสิ, มหาราชาติ. สาธุ อาจริย กุหึ ตฺวา ปสฺสามาติ? อุยฺยานํ คจฺฉ, มหาราชาติ. ราชา อสฺสํ คาหาเปตฺวา อคมาสิ. ทหโร อจฺฉรํ ปหริตฺวา ‘‘เอตํ รุกฺขํ อนุปริยาหี’’ติ อสฺสสฺส สฺํ อทาสิ. อสฺโส ปกฺขนฺทิตฺวา รุกฺขํ อนุปริคนฺตฺวา อาคโต. ราชา เนว คจฺฉนฺตํ น อาคจฺฉนฺตํ อทฺทส. ทิฏฺโ เต, มหาราชาติ? น ทิฏฺโ, ตาตาติ. วลฺชกทณฺฑํ เอตํ รุกฺขํ นิสฺสาย เปถาติ วตฺวา อจฺฉรํ ปหริ ‘‘วลฺชกทณฺฑํ คเหตฺวา เอหี’’ติ. อสฺโส ปกฺขนฺทิตฺวา มุเขน คเหตฺวา อาคโต. ทิฏฺํ, มหาราชาติ. ทิฏฺํ, ตาตาติ.

ปุน อจฺฉรํ ปหริ ‘‘อุยฺยานสฺส ปาการมตฺถเกน จริตฺวา เอหี’’ติ. อสฺโส ตถา อกาสิ. ทิฏฺโ, มหาราชาติ. น ทิฏฺโ, ตาตาติ. รตฺตกมฺพลํ อาหราเปตฺวา อสฺสสฺส ปาเท พนฺธาเปตฺวา ตเถว สฺํ อทาสิ. อสฺโส อุลฺลงฺฆิตฺวา ปาการมตฺถเกน อนุปริยายิ. พลวตา ปุริเสน อาวิฺฉนอลาตคฺคิสิขา วิย อุยฺยานปาการมตฺถเก ปฺายิตฺถ. อสฺโส คนฺตฺวา สมีเป ิโต. ทิฏฺํ, มหาราชาติ. ทิฏฺํ, ตาตาติ. มงฺคลโปกฺขรณิปาการมตฺถเก อนุปริยาหีติ สฺํ อทาสิ.

ปุน ‘‘โปกฺขรณึ โอตริตฺวา ปทุมปตฺเตสุ จาริกํ จราหี’’ติ สฺํ อทาสิ. โปกฺขรณึ โอตริตฺวา สพฺพปทุมปตฺเต จริตฺวา อคมาสิ, เอกํ ปตฺตมฺปิ อนกฺกนฺตํ วา ผาลิตํ วา ฉินฺทิตํ วา ขณฺฑิตํ วา นาโหสิ. ทิฏฺํ, มหาราชาติ. ทิฏฺํ, ตาตาติ. อจฺฉรํ ปหริตฺวา ตํ หตฺถตลํ อุปนาเมสิ. ธาตูปตฺถทฺโธ ลงฺฆิตฺวา หตฺถตเล อฏฺาสิ. ทิฏฺํ, มหาราชาติ? ทิฏฺํ, ตาตาติ. เอวํ อุตฺตมหโย เอว อุตฺตมการณาย อุตฺตมชวํ ปฏิปชฺชติ.

อุตฺตเม สาขลฺเยติ มุทุวาจาย. มุทุวาจาย หิ, ‘‘ตาต, ตฺวํ มา จินฺตยิ, รฺโ มงฺคลสฺโส ภวิสฺสสิ, ราชโภชนาทีนิ ลภิสฺสสี’’ติ อุตฺตมหยการณํ กาเรตพฺโพ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุตฺตเม สาขลฺเย’’ติ. ราชโภคฺโคติ รฺโ อุปโภโค. รฺโ องฺคนฺเตว สงฺขํ คจฺฉตีติ ยตฺถ กตฺถจิ คจฺฉนฺเตน หตฺถํ วิย ปาทํ วิย อโนหาเยว คนฺตพฺพํ โหติ. ตสฺมา องฺคนฺติ สงฺขํ คจฺฉติ, จตูสุ วา เสนงฺเคสุ เอกํ องฺคํ โหติ.

อเสขาย สมฺมาทิฏฺิยาติ อรหตฺตผลสมฺมาทิฏฺิยา. สมฺมาสงฺกปฺปาทโยปิ ตํสมฺปยุตฺตาว. สมฺมาาณํ ปุพฺเพ วุตฺตสมฺมาทิฏฺิเยว. เปตฺวา ปน อฏฺ ผลงฺคานิ เสสา ธมฺมา วิมุตฺตีติ เวทิตพฺพา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. อยํ ปน เทสนา อุคฺฆฏิตฺูปุคฺคลสฺส วเสน อรหตฺตนิกูฏํ คเหตฺวา นิฏฺาปิตาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

ภทฺทาลิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ลฏุกิโกปมสุตฺตวณฺณนา

๑๔๘. เอวํเม สุตนฺติ ลฏุกิโกปมสุตฺตํ. ตตฺถ เยน โส วนสณฺโฑติ อยมฺปิ มหาอุทายิตฺเถโร ภควตา สทฺธึเยว ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา สทฺธึ ปฏิกฺกมิ. ตสฺมา เยน โส ภควตา อุปสงฺกมนฺโต วนสณฺโฑ เตนุปสงฺกมีติ เวทิตพฺโพ. อปหตฺตาติ อปหารโก. อุปหตฺตาติ อุปหารโก. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ ผลสมาปตฺติโต วุฏฺิโต.

๑๔๙. ยํภควาติ ยสฺมึ สมเย ภควา. อิงฺฆาติ อาณตฺติยํ นิปาโต. อฺถตฺตนฺติ จิตฺตสฺส อฺถตฺตํ. ตฺจ โข น ภควนฺตํ ปฏิจฺจ, เอวรูปํ ปน ปณีตโภชนํ อลภนฺตา กถํ ยาเปสฺสามาติ เอวํ ปณีตโภชนํ ปฏิจฺจ อโหสีติ เวทิตพฺพํ. ภูตปุพฺพนฺติ อิมินา รตฺติโภชนสฺส ปณีตภาวํ ทสฺเสติ. สูเปยฺยนฺติ สูเปน อุปเนตพฺพํ มจฺฉมํสกฬีราทิ. สมคฺคา ภุฺชิสฺสามาติ เอกโต ภุฺชิสฺสาม. สงฺขติโยติ อภิสงฺขาริกขาทนียานิ. สพฺพา ตา รตฺตินฺติ สพฺพา ตา สงฺขติโย รตฺตึเยว โหนฺติ, ทิวา ปน อปฺปา ปริตฺตา โถกิกา โหนฺตีติ. มนุสฺสา หิ ทิวา ยาคุกฺชิยาทีหิ ยาเปตฺวาปิ รตฺตึ ยถาสตฺติ ยถาปณีตเมว ภุฺชนฺติ.

ปุน ภูตปุพฺพนฺติ อิมินา รตฺติ วิกาลโภชเน อาทีนวํ ทสฺเสติ. ตตฺถ อนฺธการติมิสายนฺติ พหลนฺธกาเร. มาณเวหีติ โจเรหิ. กตกมฺเมหีติ กตโจรกมฺเมหิ. โจรา กิร กตกมฺมา ยํ เนสํ เทวตํ อายาจิตฺวา กมฺมํ นิปฺผนฺนํ, ตสฺส อุปหารตฺถาย มนุสฺเส มาเรตฺวา คลโลหิตาทีนิ คณฺหนฺติ. เต อฺเสุ มนุสฺเสสุ มาริยมาเนสุ โกลาหลา อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, ปพฺพชิตํ ปริเยสนฺโต นาม นตฺถีติ มฺมานา ภิกฺขู คเหตฺวา มาเรนฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อกตกมฺเมหีติ อฏวิโต คามํ อาคมนกาเล กมฺมนิปฺผนฺนตฺถํ ปุเรตรํ พลิกมฺมํ กาตุกาเมหิ. อสทฺธมฺเมน นิมนฺเตตีติ ‘‘เอหิ ภิกฺขุ อชฺเชกรตฺตึ อิเธว ภุฺชิตฺวา อิธ วสิตฺวา สมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา สฺเว คมิสฺสสี’’ติ เมถุนธมฺเมน นิมนฺเตติ.

ปุน ภูตปุพฺพนฺติ อิมินา อตฺตนา ทิฏฺการณํ กเถติ. วิชฺชนฺตริกายาติ วิชฺชุวิชฺโชตนกฺขเณ . วิสฺสรมกาสีติ มหาสทฺทมกาสิ. อภุมฺเมติ ภู’ติ วฑฺฒิ, อภู’ติ อวฑฺฒิ, วินาโส มยฺหนฺติ อตฺโถ. ปิสาโจ วต มนฺติ ปิสาโจ มํ ขาทิตุํ อาคโต วต. อาตุมารี มาตุมารีติ เอตฺถ อาตูติ ปิตา, มาตูติ มาตา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺส ปิตา วา มาตา วา อตฺถิ, ตํ มาตาปิตโร อมฺหากํ ปุตฺตโกติ ยถา ตถา วา อุปฺปาเทตฺวา ยํกิฺจิ ขาทนียโภชนียํ ทตฺวา เอกสฺมึ าเน สยาเปนฺติ. โส เอวํ รตฺตึ ปิณฺฑาย น จรติ. ตุยฺหํ ปน มาตาปิตโร มตา มฺเ, เตน เอวํ จรสีติ.

๑๕๐. เอวเมวาติ เอวเมว กิฺจิ อานิสํสํ อปสฺสนฺตา นิกฺการเณเนว. เอวมาหํสูติ ครหนฺโต อาห. ตตฺถ อาหํสูติ วทนฺติ. กึ ปนิมสฺสาติ อิมสฺส อปฺปมตฺตกสฺส เหตุ กึ วตฺตพฺพํ นาม, นนุ อปสฺสนฺเตน วิย อสุณนฺเตน วิย ภวิตพฺพนฺติ. โอรมตฺตกสฺสาติ ปริตฺตมตฺตกสฺส. อธิสลฺลิขเตวายนฺติ อยํ สมโณ นวนีตํ ปิสนฺโต วิย ปทุมนาฬสุตฺตํ กกเจน โอกฺกนฺตนฺโต วิย อติสลฺเลขติ, อติวายามํ กโรติ. สิกฺขากามาติ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาทโย วิย สิกฺขากามา, เตสุ จ อปฺปจฺจยํ อุปฏฺเปนฺติ. เตสฺหิ เอวํ โหติ ‘‘สเจ เอเต ‘อปฺปมตฺตกเมตํ, หรถ ภควา’ติ วเทยฺยุํ, กึ สตฺถา น หเรยฺย. เอวํ ปน อวตฺวา ภควนฺตํ ปริวาเรตฺวา นิสินฺนา ‘เอวํ ภควา, สาธุ ภควา, ปฺเปถ ภควา’ติ อติเรกตรํ อุสฺสาหํ ปฏิลภนฺตี’’ติ. ตสฺมา เตสุ อปฺปจฺจยํ อุปฏฺเปนฺติ.

เตสนฺติ เตสํ เอกจฺจานํ โมฆปุริสานํ. นฺติ ตํ อปฺปมตฺตกํ ปหาตพฺพํ. ถูโล กลิงฺคโรติ คเล พทฺธํ มหากฏฺํ วิย โหติ. ลฏุกิกา สกุณิกาติ จาตกสกุณิกา. สา กิร รวสตํ รวิตฺวา นจฺจสตํ นจฺจิตฺวา สกึ โคจรํ คณฺหาติ. อากาสโต ภูมิยํ ปติฏฺิตํ ปน นํ ทิสฺวา วจฺฉปาลกาทโย กีฬนตฺถํ ปูติลตาย พนฺธนฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อาคเมตีติ อุเปติ. ตฺหิ ตสฺสาติ ตํ ปูติลตาพนฺธนํ ตสฺสา อปฺปสรีรตาย เจว อปฺปถามตาย จ พลวพนฺธนํ นาม, มหนฺตํ นาฬิเกรรชฺชุ วิย ทุจฺฉิชฺชํ โหติ. เตสนฺติ เตสํ โมฆปุริสานํ สทฺธามนฺทตาย จ ปฺามนฺทตาย จ พลวํ พนฺธนํ นาม, ทุกฺกฏวตฺถุมตฺตกมฺปิ มหนฺตํ ปาราชิกวตฺถุ วิย ทุปฺปชหํ โหติ.

๑๕๑. สุกฺกปกฺเข ปหาตพฺพสฺสาติ กึ อิมสฺส อปฺปมตฺตกสฺส ปหาตพฺพสฺส เหตุ ภควตา วตฺตพฺพํ อตฺถิ, ยสฺส โน ภควา ปหานมาห. นนุ เอวํ ภควโต อธิปฺปายํ ตฺวาปิ ปหาตพฺพเมวาติ อตฺโถ. อปฺโปสฺสุกฺกาติ อนุสฺสุกฺกา. ปนฺนโลมาติ ปติตโลมา, น ตสฺส ปหาตพฺพภเยน อุทฺธคฺคโลมา. ปรทตฺตวุตฺตาติ ปเรหิ ทินฺนวุตฺติโน, ปรโต ลทฺเธน ยาเปนฺตาติ อตฺโถ. มิคภูเตน เจตสา วิหรนฺตีติ อปจฺจาสีสนปกฺเข ิตา หุตฺวา วิหรนฺติ. มิโค หิ ปหารํ ลภิตฺวา มนุสฺสาวาสํ คนฺตฺวา เภสชฺชํ วา วณเตลํ วา ลภิสฺสามีติ อชฺฌาสยํ อกตฺวา ปหารํ ลภิตฺวาว อคามกํ อรฺํ ปวิสิตฺวา ปหฏฏฺานํ เหฏฺา กตฺวา นิปติตฺวา ผาสุภูตกาเล อุฏฺาย คจฺฉติ. เอวํ มิคา อปจฺจาสีสนปกฺเข ิตา. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘มิคภูเตน เจตสา วิหรนฺตี’’ติ. ตฺหิ ตสฺสาติ ตํ วรตฺตพนฺธนํ ตสฺส หตฺถินาคสฺส มหาสรีรตาย เจว มหาถามตาย จ ทุพฺพลพนฺธนํ นาม. ปูติลตา วิย สุฉิชฺชํ โหติ. เตสํ ตนฺติ เตสํ ตํ กุลปุตฺตานํ สทฺธามหนฺตตาย จ ปฺามหนฺตตาย จ มหนฺตํ ปาราชิกวตฺถุปิ ทุกฺกฏวตฺถุมตฺตกํ วิย สุปฺปชหํ โหติ.

๑๕๒. ทลิทฺโทติ ทาลิทฺทิเยน สมนฺนาคโต. อสฺสโกติ นิสฺสโก. อนาฬฺหิโยติ อนฑฺโฒ. อคารกนฺติ ขุทฺทกเคหํ. โอลุคฺควิลุคฺคนฺติ ยสฺส เคหยฏฺิโย ปิฏฺิวํสโต มุจฺจิตฺวา มณฺฑเล ลคฺคา, มณฺฑลโต มุจฺจิตฺวา ภูมิยํ ลคฺคา. กากาติทายินฺติ ยตฺถ กิฺจิเทว ภุฺชิสฺสามาติ อนฺโต นิสินฺนกาเล วิสุํ ทฺวารกิจฺจํ นาม นตฺถิ, ตโต ตโต กากา ปวิสิตฺวา ปริวาเรนฺติ. สูรกากา หิ ปลายนกาเล จ ยถาสมฺมุขฏฺาเนเนว นิกฺขมิตฺวา ปลายนฺติ. นปรมรูปนฺติ น ปุฺวนฺตานํ เคหํ วิย อุตฺตมรูปํ. ขโฏปิกาติ วิลีวมฺจโก. โอลุคฺควิลุคฺคาติ โอณตุณฺณตา. ธฺสมวาปกนฺติ ธฺฺจ สมวาปกฺจ. ตตฺถ ธฺํ นาม กุทฺรูสโก. สมวาปกนฺติ ลาพุพีชกุมฺภณฺฑพีชกาทิ พีชชาตํ. นปรมรูปนฺติ ยถา ปุฺวนฺตานํ คนฺธสาลิพีชาทิ ปริสุทฺธํ พีชํ, น เอวรูปํ. ชายิกาติ กปณชายา. นปรมรูปาติ ปจฺฉิสีสา ลมฺพตฺถนี มโหทรา ปิสาจา วิย พีภจฺฉา. สามฺนฺติ สมณภาโว. โส วตสฺสํ, โยหนฺติ โส วตาหํ ปุริโส นาม อสฺสํ, โย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา ปพฺพเชยฺยนฺติ.

โส น สกฺกุเณยฺยาติ โส เอวํ จินฺเตตฺวาปิ เคหํ คนฺตฺวา – ‘‘ปพฺพชฺชา นาม ลาภครุกา ทุกฺกรา ทุราสทา, สตฺตปิ อฏฺปิ คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ยถาโธเตเนว ปตฺเตน อาคนฺตพฺพมฺปิ โหติ , เอวํ ยาเปตุํ อสกฺโกนฺตสฺส เม ปุน อาคตสฺส วสนฏฺานํ อิจฺฉิตพฺพํ, ติณวลฺลิทพฺพสมฺภารา นาม ทุสฺสโมธานิยา, กินฺติ กโรมี’’ติ วีมํสติ. อถสฺส ตํ อคารกํ เวชยนฺตปาสาโท วิย อุปฏฺาติ. อถสฺส ขโฏปิกํ โอโลเกตฺวา – ‘‘มยิ คเต อิมํ วิสงฺขริตฺวา อุทฺธนาลาตํ กริสฺสนฺติ, ปุน อฏฺฏนิปาทวิลีวาทีนิ ลทฺธพฺพานิ โหนฺติ, กินฺติ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตติ. อถสฺส สา สิริสยนํ วิย อุปฏฺาติ. ตโต ธฺกุมฺภึ โอโลเกตฺวา – ‘‘มยิ คเต อยํ ฆรณี อิมํ ธฺํ เตน เตน สทฺธึ ภุฺชิสฺสติ. ปุน อาคเตน ชีวิตวุตฺติ นาม ลทฺธพฺพา โหติ, กินฺติ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตติ. อถสฺส สา อฑฺฒเตฬสานิ โกฏฺาคารสตานิ วิย อุปฏฺาติ. ตโต มาตุคามํ โอโลเกตฺวา – ‘‘มยิ คเต อิมํ หตฺถิโคปโก วา อสฺสโคปโก วา โย โกจิ ปโลเภสฺสติ, ปุน อาคเตน ภตฺตปาจิกา นาม ลทฺธพฺพา โหติ, กินฺติ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตติ. อถสฺส สา รูปินี เทวี วิย อุปฏฺาติ. อิทํ สนฺธาย ‘‘โส น สกฺกุเณยฺยา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๑๕๓. นิกฺขคณานนฺติ สุวณฺณนิกฺขสตานํ. จโยติ สนฺตานโต กตสนฺนิจโย. ธฺคณานนฺติ ธฺสกฏสตานํ.

๑๕๔. จตฺตาโรเม, อุทายิ, ปุคฺคลาติ อิธ กึ ทสฺเสติ? เหฏฺา ‘‘เต ตฺเจว ปชหนฺติ, เต ตฺเจว นปฺปชหนฺตี’’ติ ปชหนกา จ อปฺปชหนกา จ ราสิวเสน ทสฺสิตา, น ปาฏิเยกฺกํ วิภตฺตา. อิทานิ ยถา นาม ทพฺพสมฺภารตฺถํ คโต ปุริโส ปฏิปาฏิยา รุกฺเข ฉินฺทิตฺวา ปุน นิวตฺติตฺวา วงฺกฺจ ปหาย กมฺเม อุปเนตพฺพยุตฺตกเมว คณฺหาติ, เอวเมว อปฺปชหนเก ฉฑฺเฑตฺวา อพฺโพหาริเก กตฺวา ปชหนกปุคฺคลา จตฺตาโร โหนฺตีติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ.

อุปธิปหานายาติ ขนฺธุปธิกิเลสุปธิอภิสงฺขารุปธิกามคุณูปธีติ อิเมสํ อุปธีนํ ปหานาย. อุปธิปฏิสํยุตฺตาติ อุปธิอนุธาวนกา. สรสงฺกปฺปาติ เอตฺถ สรนฺติ ธาวนฺตีติ สรา. สงฺกปฺเปนฺตีติ สงฺกปฺปา. ปททฺวเยนปิ วิตกฺกาเยว วุตฺตา. สมุทาจรนฺตีติ อภิภวนฺติ อชฺโฌตฺถริตฺวา วตฺตนฺติ. สํยุตฺโตติ กิเลเสหิ สํยุตฺโต. อินฺทฺริยเวมตฺตตาติ อินฺทฺริยนานตฺตตา . กทาจิ กรหจีติ พหุกาลํ วีติวตฺเตตฺวา. สติสมฺโมสาติ สติสมฺโมเสน. นิปาโตติ อโยกฏาหมฺหิ ปตนํ. เอตฺตาวตา ‘‘นปฺปชหติ, ปชหติ, ขิปฺปํ ปชหตี’’ติ ตโย ราสโย ทสฺสิตา. เตสุ จตฺตาโร ชนา นปฺปชหนฺติ นาม, จตฺตาโร ปชหนฺติ นาม, จตฺตาโร ขิปฺปํ ปชหนฺติ นาม.

ตตฺถ ปุถุชฺชโน โสตาปนฺโน สกทาคามี อนาคามีติ อิเม จตฺตาโร ชนา นปฺปชหนฺติ นาม. ปุถุชฺชนาทโย ตาว มา ปชหนฺตุ, อนาคามี กถํ น ปชหตีติ? โสปิ หิ ยาวเทวสฺส ภวโลโภ อตฺถิ, ตาว อโหสุขํ อโหสุขนฺติ อภินนฺทติ. ตสฺมา นปฺปชหติ นาม. เอเตเยว ปน จตฺตาโร ชนา ปชหนฺติ นาม. โสตาปนฺนาทโย ตาว ปชหนฺตุ, ปุถุชฺชโน กถํ ปชหตีติ? อารทฺธวิปสฺสโก หิ สติสมฺโมเสน สหสา กิเลเส อุปฺปนฺเน ‘‘มาทิสสฺส นาม ภิกฺขุโน กิเลโส อุปฺปนฺโน’’ติ สํเวคํ กตฺวา วีริยํ ปคฺคยฺห วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา มคฺเคน กิเลเส สมุคฺฆาเตติ. อิติ โส ปชหติ นาม. เตเยว จตฺตาโร ขิปฺปํ ปชหนฺติ นาม. ตตฺถ อิมสฺมึ สุตฺเต, มหาหตฺถิปโทปเม (ม. นิ. ๑.๒๘๘ อาทโย), อินฺทฺริยภาวเนติ (ม. นิ. ๓.๔๕๓ อาทโย) อิเมสุ สุตฺเตสุ กิฺจาปิ ตติยวาโร คหิโต, ปฺโห ปน ทุติยวาเรเนว กถิโตติ เวทิตพฺโพ.

อุปธิทุกฺขสฺส มูลนฺติ เอตฺถ ปฺจ ขนฺธา อุปธิ นาม. ตํ ทุกฺขสฺส มูลนฺติ อิติ วิทิตฺวา กิเลสุปธินา นิรุปธิ โหติ, นิคฺคหโณ นิตณฺโหติ อตฺโถ. อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโตติ ตณฺหกฺขเย นิพฺพาเน อารมฺมณโต วิมุตฺโต.

๑๕๕. เอวํ จตฺตาโร ปุคฺคเล วิตฺถาเรตฺวา อิทานิ เย ปชหนฺติ, เต ‘‘อิเม นาม เอตฺตเก กิเลเส ปชหนฺติ’’. เย นปฺปชหนฺติ, เตปิ ‘‘อิเม นาม เอตฺตเก กิเลเส นปฺปชหนฺตี’’ติ ทสฺเสตุํ ปฺจ โข อิเม อุทายิ กามคุณาติอาทิมาห. ตตฺถ มิฬฺหสุขนฺติ อสุจิสุขํ. อนริยสุขนฺติ อนริเยหิ เสวิตสุขํ. ภายิตพฺพนฺติ เอตสฺส สุขสฺส ปฏิลาภโตปิ วิปากโตปิ ภายิตพฺพํ. เนกฺขมฺมสุขนฺติ กามโต นิกฺขนฺตสุขํ. ปวิเวกสุขนฺติ คณโตปิ กิเลสโตปิ ปวิวิตฺตสุขํ. อุปสมสุขนฺติ ราคาทิวูปสมตฺถาย สุขํ. สมฺโพธสุขนฺติ มคฺคสงฺขาตสฺส สมฺโพธสฺส นิพฺพตฺตนตฺถาย สุขํ. น ภายิตพฺพนฺติ เอตสฺส สุขสฺส ปฏิลาภโตปิ วิปากโตปิ น ภายิตพฺพํ, ภาเวตพฺพเมเวตํ.

๑๕๖. อิฺชิตสฺมึวทามีติ อิฺชนํ จลนํ ผนฺทนนฺติ วทามิ. กิฺจ ตตฺถ อิฺชิตสฺมินฺติ กิฺจ ตตฺถ อิฺชิตํ. อิทํ ตตฺถ อิฺชิตสฺมินฺติ เย เอเต อนิรุทฺธา วิตกฺกวิจารา, อิทํ ตตฺถ อิฺชิตํ. ทุติยตติยชฺฌาเนสุปิ เอเสว นโย. อนิฺชิตสฺมึ วทามีติ อิทํ จตุตฺถชฺฌานํ อนิฺชนํ อจลนํ นิปฺผนฺทนนฺติ วทามิ.

อนลนฺติ วทามีติ อกตฺตพฺพอาลยนฺติ วทามิ, ตณฺหาลโย เอตฺถ น อุปฺปาเทตพฺโพติ ทสฺเสติ. อถ วา อนลํ อปริยตฺตํ, น เอตฺตาวตา อลเมตนฺติ สนฺนิฏฺานํ กาตพฺพนฺติ วทามิ. เนวสฺานาสฺายตนสฺสาปีติ เอวรูปายปิ สนฺตาย สมาปตฺติยา ปหานเมว วทามิ. อณุํ วา ถูลํ วาติ ขุทฺทกํ วา มหนฺตํ วา อปฺปสาวชฺชํ วา มหาสาวชฺชํ วา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. เทสนา ปน เนยฺยปุคฺคลสฺส วเสน อรหตฺตนิกูเฏเนว นิฏฺาปิตาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

ลฏุกิโกปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. จาตุมสุตฺตวณฺณนา

๑๕๗. เอวํเม สุตนฺติ จาตุมสุตฺตํ. ตตฺถ จาตุมายนฺติ เอวํนามเก คาเม. ปฺจมตฺตานิ ภิกฺขุสตานีติ อธุนา ปพฺพชิตานํ ภิกฺขูนํ ปฺจ สตานิ. เถรา กิร จินฺเตสุํ – ‘‘อิเม กุลปุตฺตา ทสพลํ อทิสฺวาว ปพฺพชิตา, เอเตสํ ภควนฺตํ ทสฺเสสฺสาม, ภควโต สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ยถาอุปนิสฺสเยน ปติฏฺหิสฺสนฺตี’’ติ. ตสฺมา เต ภิกฺขู คเหตฺวา อาคตา. ปฏิสมฺโมทมานาติ ‘‘กจฺจาวุโส, ขมนีย’’นฺติอาทึ ปฏิสนฺถารกถํ กุรุมานา. เสนาสนานิ ปฺาปยมานาติ อตฺตโน อตฺตโน อาจริยุปชฺฌายานํ วสนฏฺานานิ ปุจฺฉิตฺวา ทฺวารวาตปานานิ วิวริตฺวา มฺจปีกฏสารกาทีนิ นีหริตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา ยถาฏฺาเน สณฺาปยมานา. ปตฺตจีวรานิ ปฏิสามยมานาติ, ภนฺเต, อิทํ เม ปตฺตํ เปถ, อิทํ จีวรํ, อิทํ ถาลกํ, อิทํ อุทกตุมฺพํ, อิมํ กตฺตรยฏฺินฺติ เอวํ สมณปริกฺขาเร สงฺโคปยมานา.

อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทาติ อุทฺธํ อุคฺคตตฺตา อุจฺจํ, ปตฺถฏตฺตา มหนฺตํ อวินิพฺโภคสทฺทํ กโรนฺตา. เกวฏฺฏา มฺเ มจฺฉวิโลเปติ เกวฏฺฏานํ มจฺฉปจฺฉิปิตฏฺาเน มหาชโน สนฺนิปติตฺวา – ‘‘อิธ อฺํ เอกํ มจฺฉํ เทหิ, เอกํ มจฺฉผาลํ เทหิ, เอตสฺส เต มหา ทินฺโน, มยฺหํ ขุทฺทโก’’ติ เอวํ อุจฺจาสทฺทํ มหาสทฺทํ กโรนฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. มจฺฉคหณตฺถํ ชาเล ปกฺขิตฺเตปิ ตสฺมึ าเน เกวฏฺฏา เจว อฺเ จ ‘‘ปวิฏฺโ น ปวิฏฺโ, คหิโต น คหิโต’’ติ มหาสทฺทํ กโรนฺติ. ตมฺปิ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ปณาเมมีติ นีหรามิ. น โว มม สนฺติเก วตฺถพฺพนฺติ ตุมฺเห มาทิสสฺส พุทฺธสฺส วสนฏฺานํ อาคนฺตฺวา เอวํ มหาสทฺทํ กโรถ, อตฺตโน ธมฺมตาย วสนฺตา กึ นาม สารุปฺปํ กริสฺสถ, ตุมฺหาทิสานํ มม สนฺติเก วสนกิจฺจํ นตฺถีติ ทีเปติ. เตสุ เอกภิกฺขุปิ ‘‘ภควา ตุมฺเห มหาสทฺทมตฺตเกน อมฺเห ปณาเมถา’’ติ วา อฺํ วา กิฺจิ วตฺตุํ นาสกฺขิ, สพฺเพ ภควโต วจนํ สมฺปฏิจฺฉนฺตา ‘‘เอวํ, ภนฺเต,’’ติ วตฺวา นิกฺขมึสุ. เอวํ ปน เตสํ อโหสิ ‘‘มยํ สตฺถารํ ปสฺสิสฺสาม, ธมฺมกถํ โสสฺสาม, สตฺถุ สนฺติเก วสิสฺสามาติ อาคตา. เอวรูปสฺส ปน ครุโน สตฺถุ สนฺติกํ อาคนฺตฺวา มหาสทฺทํ กริมฺหา, อมฺหากเมว โทโสยํ, ปณามิตมฺหา, น โน ลทฺธํ ภควโต สนฺติเก วตฺถุํ, น สุวณฺณวณฺณสรีรํ โอโลเกตุํ, น มธุรสฺสเรน ธมฺมํ โสตุ’’นฺติ. เต พลวโทมนสฺสชาตา หุตฺวา ปกฺกมึสุ.

๑๕๘. เตนุปสงฺกมึสูติ เต กิร สกฺยา อาคมนสมเยปิ เต ภิกฺขู ตตฺเถว นิสินฺนา ปสฺสึสุ. อถ เนสํ เอตทโหสิ – ‘‘กึ นุ โข เอเต ภิกฺขู ปวิสิตฺวาว ปฏินิวตฺตา, ชานิสฺสาม ตํ การณ’’นฺติ จินฺเตตฺวา เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมึสุ. หนฺทาติ ววสฺสคฺคตฺเถ นิปาโต. กหํ ปน ตุมฺเหติ ตุมฺเห อิทาเนว อาคนฺตฺวา กหํ คจฺฉถ, กึ ตุมฺหากํ โกจิ อุปทฺทโว, อุทาหุ ทสพลสฺสาติ? เตสํ ปน ภิกฺขูนํ, – ‘‘อาวุโส, มยํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อาคตา, ทิฏฺโ โน ภควา, อิทานิ อตฺตโน วสนฏฺานํ คจฺฉามา’’ติ กิฺจาปิ เอวํ วจนปริหาโร อตฺถิ, เอวรูปํ ปน เลสกปฺปํ อกตฺวา ยถาภูตเมว อาโรเจตฺวา ภควตา โข, อาวุโส, ภิกฺขุสงฺโฆ ปณามิโตติ อาหํสุ. เต ปน ราชาโน สาสเน ธุรวหา, ตสฺมา จินฺเตสุํ – ‘‘ทฺวีหิ อคฺคสาวเกหิ สทฺธึ ปฺจสุ ภิกฺขุสเตสุ คจฺฉนฺเตสุ ภควโต ปาทมูลํ วิคจฺฉิสฺสติ, อิเมสํ นิวตฺตนาการํ กริสฺสามา’’ติ. เอวํ จินฺเตตฺวา เตน หายสฺมนฺโตติอาทิมาหํสุ. เตสุปิ ภิกฺขูสุ ‘‘มยํ มหาสทฺทมตฺตเกน ปณามิตา, น มยํ ชีวิตุํ อสกฺโกนฺตา ปพฺพชิตา’’ติ เอกภิกฺขุปิ ปฏิปฺผริโต นาม นาโหสิ, สพฺเพ ปน สมกํเยว, ‘‘เอวมาวุโส,’’ติ สมฺปฏิจฺฉึสุ.

๑๕๙. อภินนฺทตูติ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาคมนํ อิจฺฉนฺโต อภินนฺทตุ. อภิวทตูติ เอตุ ภิกฺขุสงฺโฆติ เอวํ จิตฺตํ อุปฺปาเทนฺโต อภิวทตุ. อนุคฺคหิโตติ อามิสานุคฺคเหน จ ธมฺมานุคฺคเหน จ อนุคฺคหิโต. อฺถตฺตนฺติ ทสพลสฺส ทสฺสนํ น ลภามาติ ปสาทฺถตฺตํ ภเวยฺย. วิปริณาโมติ ปสาทฺถตฺเตน วิพฺภมนฺตานํ วิปริณามฺถตฺตํ ภเวยฺย. พีชานํ ตรุณานนฺติ ตรุณสสฺสานํ. สิยา อฺถตฺตนฺติ อุทกวารกาเล อุทกํ อลภนฺตานํ มิลาตภาเวน อฺถตฺตํ ภเวยฺย, สุสฺสิตฺวา มิลาตภาวํ อาปชฺชเนน วิปริณาโม ภเวยฺย. วจฺฉกสฺส ปน ขีรปิปาสาย สุสฺสนํ อฺถตฺตํ นาม, สุสฺสิตฺวา กาลกิริยา วิปริณาโม นาม.

๑๖๐. ปสาทิโต ภควาติ เถโร กิร ตตฺถ นิสินฺโนว ทิพฺพจกฺขุนา พฺรหฺมานํ อาคตํ อทฺทส , ทิพฺพาย โสตธาตุยา จ อายาจนสทฺทํ สุณิ, เจโตปริยาเณน ภควโต ปสนฺนภาวํ อฺาสิ. ตสฺมา – ‘‘กฺจิ ภิกฺขุํ เปเสตฺวา ปกฺโกสิยมานานํ คมนํ นาม น ผาสุกํ, ยาว สตฺถา น เปเสติ, ตาวเทว คมิสฺสามา’’ติ มฺมาโน เอวมาห. อปฺโปสฺสุกฺโกติ อฺเสุ กิจฺเจสุ อนุสฺสุกฺโก หุตฺวา. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารนฺติ ผลสมาปตฺติวิหารํ อนุยุตฺโต มฺเ ภควา วิหริตุกาโม, โส อิทานิ ยถารุจิยา วิหริสฺสตีติ เอวํ เม อโหสีติ วทติ. มยมฺปิทานีติ มยํ ปรํ โอวทมานา วิหารโต นิกฺกฑฺฒิตา, กึ อมฺหากํ ปโรวาเทน. อิทานิ มยมฺปิ ทิฏฺธมฺมสุขวิหาเรเนว วิหริสฺสามาติ ทีเปติ. เถโร อิมสฺมึ าเน วิรทฺโธ อตฺตโน ภารภาวํ น อฺาสิ. อยฺหิ ภิกฺขุสงฺโฆ ทฺวินฺนมฺปิ มหาเถรานํ ภาโร, เตน นํ ปฏิเสเธนฺโต ภควา อาคเมหีติอาทิมาห. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร ปน อตฺตโน ภารภาวํ อฺาสิ. เตนสฺส ภควา สาธุการํ อทาสิ.

๑๖๑. จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเวติ กสฺมา อารภิ? อิมสฺมึ สาสเน จตฺตาริ ภยานิ. โย ตานิ อภีโต โหติ, โส อิมสฺมึ สาสเน ปติฏฺาตุํ สกฺโกติ. อิตโร ปน น สกฺโกตีติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ อุทโกโรหนฺเตติ อุทกํ โอโรหนฺเต ปุคฺคเล. กุมฺภีลภยนฺติ สุํสุมารภยํ. สุสุกาภยนฺติ จณฺฑมจฺฉภยํ.

๑๖๒. โกธุปายาสสฺเสตํ อธิวจนนฺติ ยถา หิ พาหิรํ อุทกํ โอติณฺโณ อูมีสุ โอสีทิตฺวา มรติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน โกธุปายาเส โอสีทิตฺวา วิพฺภมติ. ตสฺมา โกธุปายาโส ‘‘อูมิภย’’นฺติ วุตฺโต.

๑๖๓. โอทริกตฺตสฺเสตํ อธิวจนนฺติ ยถา หิ พาหิรํ อุทกํ โอติณฺโณ กุมฺภีเลน ขาทิโต มรติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน โอทริกตฺเตน ขาทิโต วิพฺภมติ. ตสฺมา โอทริกตฺตํ ‘‘กุมฺภีลภย’’นฺติ วุตฺตํ.

๑๖๔. อรกฺขิเตเนว กาเยนาติ สีสปฺปจาลกาทิกรเณน อรกฺขิตกาโย หุตฺวา. อรกฺขิตาย วาจายาติ ทุฏฺุลฺลภาสนาทิวเสน อรกฺขิตวาโจ หุตฺวา. อนุปฏฺิตายสติยาติ กายคตาสตึ อนุปฏฺาเปตฺวา. อสํวุเตหีติ อปิหิเตหิ. ปฺจนฺเนตํกามคุณานํ อธิวจนนฺติ ยถา หิ พาหิรํ อุทกํ โอติณฺโณ อาวฏฺเฏ นิมุชฺชิตฺวา มรติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิโต ปฺจกามคุณาวฏฺเฏ นิมุชฺชิตฺวา วิพฺภมติ. ตสฺมา ปฺจ กามคุณา ‘‘อาวฏฺฏภย’’นฺติ วุตฺตา.

๑๖๕. อนุทฺธํเสตีติ กิลเมติ มิลาเปติ. ราคานุทฺธํเสนาติ ราคานุทฺธํสิเตน. มาตุคามสฺเสตํ อธิวจนนฺติ ยถา หิ พาหิรํ อุทกํ โอติณฺโณ จณฺฑมจฺฉํ อาคมฺม ลทฺธปฺปหาโร มรติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน มาตุคามํ อาคมฺม อุปฺปนฺนกามราโค วิพฺภมติ. ตสฺมา มาตุคาโม ‘‘สุสุกาภย’’นฺติ วุตฺโต.

อิมานิ ปน จตฺตาริ ภยานิ ภายิตฺวา ยถา อุทกํ อโนโรหนฺตสฺส อุทกํ นิสฺสาย อานิสํโส นตฺถิ, อุทกปิปาสาย ปิปาสิโต จ โหติ รโชชลฺเลน กิลิฏฺสรีโร จ, เอวเมวํ อิมานิ จตฺตาริ ภยานิ ภายิตฺวา สาสเน อปพฺพชนฺตสฺสาปิ อิมํ สาสนํ นิสฺสาย อานิสํโส นตฺถิ, ตณฺหาปิปาสาย ปิปาสิโต จ โหติ กิเลสรเชน สํกิลิฏฺจิตฺโต จ. ยถา ปน อิมานิ จตฺตาริ ภยานิ อภายิตฺวา อุทกํ โอโรหนฺตสฺส วุตฺตปฺปกาโร อานิสํโส โหติ, เอวํ อิมานิ อภายิตฺวา สาสเน ปพฺพชิตสฺสาปิ วุตฺตปฺปกาโร อานิสํโส โหติ. เถโร ปนาห – ‘‘จตฺตาริ ภยานิ ภายิตฺวา อุทกํ อโนตรนฺโต โสตํ ฉินฺทิตฺวา ปรตีรํ ปาปุณิตุํ น สกฺโกติ, อภายิตฺวา โอตรนฺโต สกฺโกติ, เอวเมวํ ภายิตฺวา สาสเน อปพฺพชนฺโตปิ ตณฺหาโสตํ ฉินฺทิตฺวา นิพฺพานปารํ ทฏฺุํ น สกฺโกติ, อภายิตฺวา ปพฺพชนฺโต ปน สกฺโกตี’’ติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. อยํ ปน เทสนา เนยฺยปุคฺคลสฺส วเสน นิฏฺาปิตาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

จาตุมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. นฬกปานสุตฺตวณฺณนา

๑๖๖. เอวํเม สุตนฺติ นฬกปานสุตฺตํ. ตตฺถ นฬกปาเนติ เอวํนามเก คาเม. ปุพฺเพ กิร อมฺหากํ โพธิสตฺโต วานรโยนิยํ นิพฺพตฺโต, มหากาโย กปิราชา อเนกวานรสหสฺสปริวุโต ปพฺพตปาเท วิจรติ. ปฺวา โข ปน โหติ มหาปุฺโ. โส ปริสํ เอวํ โอวทติ – ‘‘อิมสฺมึ ปพฺพตปาเท ตาตา, วิสผลานิ นาม โหนฺติ, อมนุสฺสปริคฺคหิตา โปกฺขรณิโย นาม โหนฺติ, ตุมฺเห ปุพฺเพ ขาทิตปุพฺพาเนว ผลานิ ขาทถ, ปีตปุพฺพาเนว ปานียานิ จ ปิวถ, เอตฺถ โว มํ ปฏิปุจฺฉิตพฺพกิจฺจํ นตฺถิ, อขาทิตปุพฺพานิ ปน ผลานิ อปีตปุพฺพานิ จ ปานียานิ มํ อปุจฺฉิตฺวา มา ขาทิตฺถ มา ปิวิตฺถา’’ติ.

เต เอกทิวสํ จรมานา อฺํ ปพฺพตปาทํ คนฺตฺวา โคจรํ คเหตฺวา ปานียํ โอโลเกนฺตา เอกํ อมนุสฺสปริคฺคหิตํ โปกฺขรณึ ทิสฺวา สหสา อปิวิตฺวา สมนฺตา ปริวาเรตฺวา มหาสตฺตสฺส อาคมนํ โอโลกยมานา นิสีทึสุ. มหาสตฺโต อาคนฺตฺวา ‘‘กึ ตาตา ปานียํ น ปิวถา’’ติ อาห. ตุมฺหากํ อาคมนํ โอโลเกมาติ. สาธุ ตาตาติ สมนฺตา ปทํ ปริเยสมาโน โอติณฺณปทํเยว อทฺทส, น อุตฺติณฺณปทํ, ทิสฺวา สปริสฺสยาติ อฺาสิ. ตาวเทว จ ตตฺถ อภินิพฺพตฺตอมนุสฺโส อุทกํ ทฺเวธา กตฺวา อุฏฺาสิ เสตมุโข นีลกุจฺฉิ รตฺตหตฺถปาโท มหาทาิโก วงฺกทาโ วิรูโป พีภจฺโฉ อุทกรกฺขโส. โส เอวมาห – ‘‘กสฺมา ปานียํ น ปิวถ, มธุรํ อุทกํ ปิวถ, กึ ตุมฺเห เอตสฺส วจนํ สุณาถา’’ติ? มหาสตฺโต อาห – ‘‘ตฺวํ อิธ อธิวตฺโถ อมนุสฺโส’’ติ? อามาหนฺติ. ตฺวํ อิธ โอติณฺเณ ลภสีติ? อาม ลภามิ, ตุมฺเห ปน สพฺเพ ขาทิสฺสามีติ. น สกฺขิสฺสสิ, ยกฺขาติ. ปานียํ ปน ปิวิสฺสถาติ? อาม ปิวิสฺสามาติ. เอวํ สนฺเต เอโกปิ โว น มุจฺจิสฺสตีติ. ปานียฺจ ปิวิสฺสาม, น จ เต วสํ คมิสฺสามาติ เอกนฬํ อาหราเปตฺวา โกฏิยํ คเหตฺวา ธมิ, สพฺโพ เอกจฺฉิทฺโท อโหสิ, ตีเร นิสีทิตฺวาว ปานียํ ปิวิ, เสสวานรานํ ปาฏิเยกฺเก นเฬ อาหราเปตฺวา ธมิตฺวา อทาสิ. สพฺเพ ยกฺขสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว ปานียํ ปิวึสุ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ทิสฺวา ปทมนุตฺติณฺณํ, ทิสฺวาโน’ ตริตํ ปทํ;

นเฬน วารึ ปิสฺสาม, เนว มํ ตฺวํ วธิสฺสสี’’ติ. (ชา. ๑.๑.๒๐);

ตโต ปฏฺาย ยาว อชฺชทิวสา ตสฺมึ าเน นฬา เอกจฺฉิทฺทาว โหนฺติ. อิมินา หิ สทฺธึ อิมสฺมึ กปฺเป จตฺตาริ กปฺปฏฺิยปาฏิหาริยานิ นาม – จนฺเท สสพิมฺพํ , วฏฺฏกชาตกมฺหิ สจฺจกิริยฏฺาเน อคฺคิสฺส คมนุปจฺเฉโท, ฆฏิการกุมฺภการสฺส มาตาปิตูนํ วสนฏฺาเน เทวสฺส อวสฺสนํ, ตสฺสา โปกฺขรณิยา ตีเร นฬานํ เอกจฺฉิทฺทภาโวติ. อิติ สา โปกฺขรณี นเฬน ปานียสฺส ปีตตฺตา นฬกปานาติ นามํ ลภิ. อปรภาเค ตํ โปกฺขรณึ นิสฺสาย คาโม ปติฏฺาสิ, ตสฺสาปิ นฬกปานนฺเตว นามํ ชาตํ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘นฬกปาเน’’ติ. ปลาสวเนติ กึสุกวเน.

๑๖๗. ตคฺฆมยํ, ภนฺเตติ เอกํเสเนว มยํ, ภนฺเต, อภิรตา. อฺเปิ เย ตุมฺหากํ สาสเน อภิรมนฺติ, เต อมฺเหหิ สทิสาว หุตฺวา อภิรมนฺตีติ ทีเปนฺติ.

เนว ราชาภินีตาติอาทีสุ เอโก รฺโ อปราธํ กตฺวา ปลายติ. ราชา กุหึ, โภ, อสุโกติ? ปลาโต เทวาติ. ปลาตฏฺาเนปิ เม น มุจฺจิสฺสติ, สเจ ปน ปพฺพเชยฺย, มุจฺเจยฺยาติ วทติ. ตสฺส โกจิเทว สุหโท คนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา ตฺวํ สเจ ชีวิตุมิจฺฉสิ, ปพฺพชาหีติ. โส ปพฺพชิตฺวา ชีวิตํ รกฺขมาโน จรติ. อยํ ราชาภินีโต นาม.

เอโก ปน โจรานํ มูลํ ฉินฺทนฺโต จรติ. โจรา สุตฺวา ‘‘ปุริสานํ อตฺถิกภาวํ น ชานาติ, ชานาเปสฺสาม น’’นฺติ วทนฺติ. โส ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ปลายติ. โจรา ปลาโตติ สุตฺวา ‘‘ปลาตฏฺาเนปิ โน น มุจฺจิสฺสติ, สเจ ปน ปพฺพเชยฺย, มุจฺเจยฺยา’’ติ วทนฺติ. โส ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ปพฺพชติ. อยํ โจราภินีโต นาม.

เอโก ปน พหุํ อิณํ ขาทิตฺวา เตน อิเณน อฏฺโฏ ปีฬิโต ตมฺหา คามา ปลายติ. อิณสามิกา สุตฺวา ‘‘ปลาตฏฺาเนปิ โน น มุจฺจิสฺสติ, สเจ ปน ปพฺพเชยฺย, มุจฺเจยฺยา’’ติ วทนฺติ. โส ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ปพฺพชติ. อยํ อิณฏฺโฏ นาม.

ราชภยาทีนํ ปน อฺตเรน ภเยน ภีโต อฏฺโฏ อาตุโร หุตฺวา นิกฺขมฺม ปพฺพชิโต ภยฏฺโฏ นาม. ทุพฺภิกฺขาทีสุ ชีวิตุํ อสกฺโกนฺโต ปพฺพชิโต อาชีวิกาปกโต นาม, อาชีวิกาย ปกโต อภิภูโตติ อตฺโถ. อิเมสุ ปน เอโกปิ อิเมหิ การเณหิ ปพฺพชิโต นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘เนว ราชาภินีโต’’ติอาทิมาห.

วิเวกนฺติ วิวิจฺจ วิวิตฺโต หุตฺวา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ กาเมหิ จ อกุสลธมฺเมหิ จ วิวิตฺเตน ปมทุติยชฺฌานสงฺขาตํ ปีติสุขํ อธิคนฺตพฺพํ, สเจ ตํ วิวิจฺจ กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ ปีติสุขํ นาธิคจฺฉติ, อฺํ วา อุปริ ทฺวินฺนํ ฌานานํ จตุนฺนฺจ มคฺคานํ วเสน สนฺตตรํ สุขํ นาธิคจฺฉติ, ตสฺส อิเม อภิชฺฌาทโย จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺตีติ. ตตฺถ อรตีติ อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ อุกฺกณฺิตตา. ตนฺทีติ อาลสิยภาโว. เอวํ โย ปพฺพชิตฺวา ปพฺพชิตกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกติ, ตสฺส อิเม สตฺต ปาปธมฺมา อุปฺปชฺชิตฺวา จิตฺตํ ปริยาทิยนฺตีติ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺส เต ธมฺมา จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺติ, โสเยว สมณกิจฺจมฺปิ กาตุํ น สกฺโกตีติ ปุน วิเวกํ อนุรุทฺธา…เป… อฺํ วา ตโต สนฺตตรนฺติ อาห.

เอวํ กณฺหปกฺขํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตเนว นเยน สุกฺกปกฺขํ ทสฺเสตุํ ปุน วิเวกนฺติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

๑๖๘. สงฺขายาติ ชานิตฺวา. เอกนฺติ เอกจฺจํ. ปฏิเสวตีติ เสวิตพฺพยุตฺตกํ เสวติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อุปปตฺตีสุ พฺยากโรตีติ สปฺปฏิสนฺธิเก ตาว พฺยากโรตุ, อปฺปฏิสนฺธิเก กถํ พฺยากโรตีติ. อปฺปฏิสนฺธิกสฺส ปุน ภเว ปฏิสนฺธิ นตฺถีติ วทนฺโต อุปปตฺตีสุ พฺยากโรติ นาม.

ชนกุหนตฺถนฺติ ชนวิมฺหาปนตฺถํ. ชนลปนตฺถนฺติ มหาชนสฺส อุปลาปนตฺถํ. น อิติ มํ ชโน ชานาตูติ เอวํ มํ มหาชโน ชานิสฺสติ, เอวํ เม มหาชนสฺส อนฺตเร กิตฺติสทฺโท อุคฺคจฺฉิสฺสตีติ อิมินาปิ การเณน น พฺยากโรตีติ อตฺโถ. อุฬารเวทาติ มหนฺตตุฏฺิโน.

๑๖๙. โส โข ปนสฺส อายสฺมาติ โส ปรินิพฺพุโต อายสฺมา อิมสฺส ิตสฺส อายสฺมโต. เอวํสีโลติอาทีสุ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาว สีลาทโย เวทิตพฺโพ. เอวํธมฺโมติ เอตฺถ ปน สมาธิปกฺขิกา ธมฺมา ธมฺมาติ อธิปฺเปตา. ผาสุวิหาโร โหตีติ เตน ภิกฺขุนา ปูริตปฏิปตฺตึ ปูเรนฺตสฺส อรหตฺตผลํ สจฺฉิกตฺวา ผลสมาปตฺติวิหาเรน ผาสุวิหาโร โหติ, อรหตฺตํ ปตฺตุมสกฺโกนฺตสฺส ปฏิปตฺตึ ปูรยมานสฺส จรโตปิ ผาสุวิหาโรเยว นาม โหติ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

นฬกปานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. โคลิยานิสุตฺตวณฺณนา

๑๗๓. เอวํเม สุตนฺติ โคลิยานิสุตฺตํ. ตตฺถ ปทสมาจาโรติ ทุพฺพลสมาจาโร โอฬาริกาจาโร, ปจฺจเยสุ สาเปกฺโข มหารกฺขิตตฺเถโร วิย. ตํ กิร อุปฏฺากกุเล นิสินฺนํ อุปฏฺาโก อาห ‘‘อสุกตฺเถรสฺส เม, ภนฺเต, จีวรํ ทินฺน’’นฺติ. สาธุ เต กตํ ตํเยว ตกฺเกตฺวา วิหรนฺตสฺส จีวรํ เทนฺเตนาติ. ตุมฺหากมฺปิ, ภนฺเต, ทสฺสามีติ. สาธุ กริสฺสสิ ตํเยว ตกฺเกนฺตสฺสาติ อาห. อยมฺปิ เอวรูโป โอฬาริกาจาโร อโหสิ. สปฺปติสฺเสนาติ สเชฏฺเกน, น อตฺตานํ เชฏฺกํ กตฺวา วิหริตพฺพํ. เสริวิหาเรนาติ สจฺฉนฺทวิหาเรน นิรงฺกุสวิหาเรน.

นานูปขชฺชาติ น อนุปขชฺช น อนุปวิสิตฺวา. ตตฺถ โย ทฺวีสุ มหาเถเรสุ อุภโต นิสินฺเนสุ เต อนาปุจฺฉิตฺวาว จีวเรน วา ชาณุนา วา ฆฏฺเฏนฺโต นิสีทติ, อยํ อนุปขชฺช นิสีทติ นาม. เอวํ อกตฺวา ปน อตฺตโน ปตฺตอาสนสนฺติเก ตฺวา นิสีทาวุโสติ วุตฺเต นิสีทิตพฺพํ. สเจ น วทนฺติ, นิสีทามิ, ภนฺเตติ อาปุจฺฉิตฺวา นิสีทิตพฺพํ อาปุจฺฉิตกาลโต ปฏฺาย นิสีทาติ วุตฺเตปิ อวุตฺเตปิ นิสีทิตุํ วฏฺฏติเยว. น ปฏิพาหิสฺสามีติ เอตฺถ โย อตฺตโน ปตฺตาสนํ อติกฺกมิตฺวา นวกานํ ปาปุณนฏฺาเน นิสีทติ, อยํ นเว ภิกฺขู อาสเนน ปฏิพาหติ นาม. ตสฺมิฺหิ ตถา นิสินฺเน นวา ภิกฺขู ‘‘อมฺหากํ นิสีทิตุํ น เทตี’’ติ อุชฺฌายนฺตา ติฏฺนฺติ วา อาสนํ วา ปริเยสนฺตา อาหิณฺฑนฺติ. ตสฺมา อตฺตโน ปตฺตาสเนเยว นิสีทิตพฺพํ. เอวํ น ปฏิพาหติ นาม.

อาภิสมาจาริกมฺปิ ธมฺมนฺติ อภิสมาจาริกํ วตฺตปฏิปตฺติมตฺตมฺปิ. นาติกาเลนาติ น อติปาโต ปวิสิตพฺพํ, น อติทิวา ปฏิกฺกมิตพฺพํ, ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึเยว ปวิสิตพฺพฺจ นิกฺขมิตพฺพฺจ. อติปาโต ปวิสิตฺวา อติทิวา นิกฺขมนฺตสฺส หิ เจติยงฺคณโพธิยงฺคณวตฺตาทีนิ ปริหายนฺติ. กาลสฺเสว มุขํ โธวิตฺวา มกฺกฏกสุตฺตานิ ฉินฺทนฺเตน อุสฺสาวพินฺทู นิปาเตนฺเตน คามํ ปวิสิตฺวา ยาคุํ ปริเยสิตฺวา ยาว ภิกฺขากาลา อนฺโตคาเมเยว นานปฺปการํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺเตน นิสีทิตฺวา ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา ทิวา นิกฺขมฺม ภิกฺขูนํ ปาทโธวนเวลาย วิหารํ ปจฺจาคนฺตพฺพํ โหติ. น ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตํ กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตพฺพนฺติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ นิมนฺติโต สภตฺโต สมาโน สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺเชยฺย, อฺตฺร สมยา ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๙๙) อิมํ สิกฺขาปทํ รกฺขนฺเตน ตสฺส วิภงฺเค วุตฺตํ ปุเรภตฺตฺจ ปจฺฉาภตฺตฺจ จาริตฺตํ น อาปชฺชิตพฺพํ. อุทฺธโต โหติ จปโลติ อุทฺธจฺจปกติโก เจว โหติ จีวรมณฺฑน-ปตฺตมณฺฑน-เสนาสนมณฺฑนา อิมสฺส วา ปูติกายสฺส เกลายนา มณฺฑนาติ เอวํ วุตฺเตน จ ตรุณทารกาวจาปลฺเยน สมนฺนาคโต.

ปฺวตาภวิตพฺพนฺติ จีวรกมฺมาทีสุ อิติกตฺตพฺเพสุ อุปายปฺาย สมนฺนาคเตน ภวิตพฺพํ. อภิธมฺเม อภิวินเยติ อภิธมฺมปิฏเก เจว วินยปิฏเก จ ปาฬิวเสน เจว อฏฺกถาวเสน จ โยโค กรณีโย. สพฺพนฺติเมน หิ ปริจฺเฉเทน อภิธมฺเม ทุกติกมาติกาหิ สทฺธึ ธมฺมหทยวิภงฺคํ วินา น วฏฺฏติ. วินเย ปน กมฺมากมฺมวินิจฺฉเยน สทฺธึ สุวินิจฺฉิตานิ ทฺเว ปาติโมกฺขานิ วินา น วฏฺฏติ.

อารุปฺปาติ เอตฺตาวตา อฏฺปิ สมาปตฺติโย วุตฺตา โหนฺติ. ตา ปน สพฺเพน สพฺพํ อสกฺโกนฺเตน สตฺตสุปิ โยโค กรณีโย, ฉสุปิ…เป… ปฺจสุปิ. สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน เอกํ กสิเณ ปริกมฺมกมฺมฏฺานํ ปคุณํ กตฺวา อาทาย วิจริตพฺพํ, เอตฺตกํ วินา น วฏฺฏติ. อุตฺตริมนุสฺสธมฺเมติ อิมินา สพฺเพปิ โลกุตฺตรธมฺเม ทสฺเสติ. ตสฺมา อรหนฺเตน หุตฺวา วิหาตพฺพํ, อรหตฺตํ อนภิสมฺภุณนฺเตน อนาคามิผเล สกทาคามิผเล โสตาปตฺติผเล วา ปติฏฺาตพฺพํ. สพฺพนฺติเมน ปริยาเยน เอกํ วิปสฺสนามุขํ ยาว อรหตฺตา ปคุณํ กตฺวา อาทาย วิจริตพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. อิมํ ปน เทสนํ อายสฺมา สาริปุตฺโต เนยฺยปุคฺคลสฺส วเสน อาภิสมาจาริกวตฺตโต ปฏฺาย อนุปุพฺเพน อรหตฺตํ ปาเปตฺวา นิฏฺาเปสีติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

โคลิยานิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. กีฏาคิริสุตฺตวณฺณนา

๑๗๔. เอวํเม สุตนฺติ กีฏาคิริสุตฺตํ. ตตฺถ กาสีสูติ เอวํนามเก ชนปเท. เอถ ตุมฺเหปิ, ภิกฺขเวติ เอถ ตุมฺเหปิ, ภิกฺขเว, อิเม ปฺจ อานิสํเส สมฺปสฺสมานา อฺตฺเรว รตฺติโภชนา ภุฺชถ. อิติ ภควา รตฺตึ วิกาลโภชนํ, ทิวา วิกาลโภชนนฺติ อิมานิ ทฺเว โภชนานิ เอกปฺปหาเรน อชหาเปตฺวา เอกสฺมึ สมเย ทิวา วิกาลโภชนเมว ชหาเปสิ, ปุน กาลํ อตินาเมตฺวา รตฺตึ วิกาลโภชนํ ชหาเปนฺโต เอวมาห. กสฺมา? อิมานิ หิ ทฺเว โภชนานิ วตฺตมานานิ วฏฺเฏ อาจิณฺณานิ สมาจิณฺณานิ นทึ โอติณฺณอุทกํ วิย อนุปกฺขนฺทานิ, นิวาเตสุ จ ฆเรสุ สุโภชนานิ ภุฺชิตฺวา วฑฺฒิตา สุขุมาลา กุลปุตฺตา ทฺเว โภชนานิ เอกปฺปหาเรน ปชหนฺตา กิลมนฺติ. ตสฺมา เอกปฺปหาเรน อชหาเปตฺวา ภทฺทาลิสุตฺเต ทิวา วิกาลโภชนํ ชหาเปสิ, อิธ รตฺตึ วิกาลโภชนํ. ชหาเปนฺโต ปน น ตชฺชิตฺวา วา นิคฺคณฺหิตฺวา วา, เตสํ ปหานปจฺจยา ปน อปฺปาพาธตฺจ สฺชานิสฺสถาติ เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวาว ชหาเปสิ. กีฏาคิรีติ ตสฺส นิคมสฺส นามํ.

๑๗๕. อสฺสชิปุนพฺพสุกาติ อสฺสชิ จ ปุนพฺพสุโก จ ฉสุ ฉพฺพคฺคิเยสุ ทฺเว คณาจริยา. ปณฺฑุโก โลหิตโก เมตฺติโย ภุมฺมชโก อสฺสชิ ปุนพฺพสุโกติ อิเม ฉ ชนา ฉพฺพคฺคิยา นาม. เตสุ ปณฺฑุกโลหิตกา อตฺตโน ปริสํ คเหตฺวา สาวตฺถิยํ วสนฺติ, เมตฺติยภุมฺมชกา ราชคเห, อิเม ทฺเว ชนา กีฏาคิริสฺมึ อาวาสิกา โหนฺติ. อาวาสิกาติ นิพทฺธวาสิโน, ตํนิพนฺธา อกตํ เสนาสนํ กโรนฺติ, ชิณฺณํ ปฏิสงฺขโรนฺติ, กเต อิสฺสรา โหนฺติ. กาลิกนฺติ อนาคเต กาเล ปตฺตพฺพํ อานิสํสํ.

๑๗๘. มยา เจตํ, ภิกฺขเวติ อิธ กึ ทสฺเสติ? ภิกฺขเว, ทิวสสฺส ตโย วาเร ภุฺชิตฺวา สุขเวทนํเยว อุปฺปาเทนฺโต น อิมสฺมึ สาสเน กิจฺจการี นาม โหติ, เอตฺตกา ปน เวทนา เสวิตพฺพา, เอตฺตกา น เสวิตพฺพาติ เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. เอวรูปํ สุขเวทนํ ปชหถาติ อิทฺจ เคหสฺสิตโสมนสฺสวเสน วุตฺตํ, อุปสมฺปชฺช วิหรถาติ อิทฺจ เนกฺขมฺมสิตโสมนสฺสวเสน . อิโต ปเรสุปิ ทฺวีสุ วาเรสุ เคหสฺสิตเนกฺขมฺมสิตานํเยว โทมนสฺสานฺจ อุเปกฺขานฺจ วเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๑๘๑. เอวํ เสวิตพฺพาเสวิตพฺพเวทนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เยสํ อปฺปมาเทน กิจฺจํ กตฺตพฺพํ, เยสฺจ น กตฺตพฺพํ, เต ทสฺเสตุํ นาหํ, ภิกฺขเว, สพฺเพสํเยวาติอาทิมาห. ตตฺถ กตํ เตสํ อปฺปมาเทนาติ เตสํ ยํ อปฺปมาเทน กตฺตพฺพํ, ตํ กตํ. อนุโลมิกานีติ ปฏิปตฺติอนุโลมานิ กมฺมฏฺานสปฺปายานิ, ยตฺถ วสนฺเตน สกฺกา โหนฺติ มคฺคผลานิ ปาปุณิตุํ. อินฺทฺริยานิสมนฺนานยมานาติ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ สมานํ กุรุมานา.

๑๘๒. สตฺติเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลาติ อิธ กึ ทสฺเสติ? เยสํ อปฺปมาเทน กรณียํ นตฺถิ, เต ทฺเว โหนฺติ. เยสํ อตฺถิ, เต ปฺจาติ เอวํ สพฺเพปิ อิเม สตฺต ปุคฺคลา โหนฺตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ.

ตตฺถ อุภโตภาควิมุตฺโตติ ทฺวีหิ ภาเคหิ วิมุตฺโต. อรูปสมาปตฺติยา รูปกายโต วิมุตฺโต, มคฺเคน นามกายโต. โส จตุนฺนํ อรูปสมาปตฺตีนํ เอเกกโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตานํ จตุนฺนํ, นิโรธา วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺตอนาคามิโน จ วเสน ปฺจวิโธ โหติ. ปาฬิ ปเนตฺถ – ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโต, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺตี’’ติ (ปุ. ป. ๒๐๘) เอวํ อภิธมฺเม อฏฺวิโมกฺขลาภิโน วเสน อาคตา.

ปฺาวิมุตฺโตติ ปฺาย วิมุตฺโต. โส สุกฺขวิปสฺสโก, จตูหิ ฌาเนหิ วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺตา จตฺตาโร จาติ อิเมสํ วเสน ปฺจวิโธว โหติ. ปาฬิ ปเนตฺถ อฏฺวิโมกฺขปฏิกฺเขปวเสเนว อาคตา. ยถาห – ‘‘น เหว โข อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ปฺาวิมุตฺโต’’ติ.

ผุฏฺนฺตํ สจฺฉิกโรตีติ กายสกฺขี. โย ฌานผสฺสํ ปมํ ผุสติ, ปจฺฉา นิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ, โส โสตาปตฺติผลฏฺํ อาทึ กตฺวา ยาว อรหตฺตมคฺคฏฺา ฉพฺพิโธ โหนฺตีติ เวทิตพฺโพ. เตเนวาห – ‘‘อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล กายสกฺขี’’ติ.

ทิฏฺนฺตํ ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโต. ตตฺริทํ สงฺเขปลกฺขณํ – ทุกฺขา สงฺขารา, สุโข นิโรโธติ าตํ โหติ ทิฏฺํ วิทิตํ สจฺฉิกตํ ผุสิตํ ปฺายาติ ทิฏฺิปฺปตฺโต. วิตฺถารโต ปเนโสปิ กายสกฺขิ วิย ฉพฺพิโธ โหติ. เตเนวาห – ‘‘อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺติ โวจริตา…เป… อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ทิฏฺิปฺปตฺโต’’ติ (ปุ. ป. ๒๐๘).

สทฺธาวิมุตฺโตติ สทฺธาย วิมุตฺโต. โสปิ วุตฺตนเยเนว ฉพฺพิโธ โหติ. เตเนวาห – ‘‘อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อิทํ ทุกฺขนฺติ – ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปชานาติ . ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺติ โวจริตา…เป… โน จ โข ยถา ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต’’ติ (ปุ. ป. ๒๐๘). เอเตสุ หิ สทฺธาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ สทฺทหนฺตสฺส วิย โอกปฺเปนฺตสฺส วิย อธิมุจฺจนฺตสฺส วิย จ กิเลสกฺขโย โหติ, ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ กิเลสจฺเฉทกาณํ อทนฺธํ ติขิณํ สูรํ หุตฺวา วหติ. ตสฺมา ยถา นาม นาติติขิเณน อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ น มฏฺํ โหติ, อสิ น สีฆํ วหติ, สทฺโท สุยฺยติ, พลวตโร วายาโม กาตพฺโพ โหติ, เอวรูปา สทฺธาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคภาวนา. ยถา ปน นิสิตอสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ มฏฺํ โหติ, อสิ สีฆํ วหติ, สทฺโท น สุยฺยติ, พลววายามกิจฺจํ น โหติ, เอวรูปา ปฺาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคภาวนา เวทิตพฺพา.

ธมฺมํ อนุสฺสรตีติ ธมฺมานุสารี. ธมฺโมติ ปฺา, ปฺาปุพฺพงฺคมํ มคฺคํ ภาเวตีติ อตฺโถ. สทฺธานุสาริมฺหิ จ เอเสว นโย. อุโภ ปเนเต โสตาปตฺติมคฺคฏฺาเยว. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, ปฺาวาหึ ปฺาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ . อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี’’ติ (ปุ. ป. ๒๐๘). ตถา – ‘‘ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, สทฺธาวาหึ สทฺธาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สทฺธานุสารี’’ติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปเนสา อุภโตภาควิมุตฺตาทิกถา วิสุทฺธิมคฺเค ปฺาภาวนาธิกาเร วุตฺตา. ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. ยา ปเนสา เอเตสํ วิภาคทสฺสนตฺถํ อิธ ปาฬิ อาคตา, ตตฺถ ยสฺมา รูปสมาปตฺติยา วินา อรูปสมาปตฺติโย นาม นตฺถิ, ตสฺมา อารุปฺปาติ วุตฺเตปิ อฏฺ วิโมกฺขา วุตฺตาว โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.

กาเยน ผุสิตฺวาติ สหชาตนามกาเยน ผุสิตฺวา. ปฺาย จสฺส ทิสฺวาติ ปฺาย จ เอตสฺส อริยสจฺจธมฺเม ทิสฺวา. เอกจฺเจ อาสวาติ ปมมคฺคาทีหิ ปหาตพฺพา เอกเทสอาสวา. ตถาคตปฺปเวทิตาติ ตถาคเตน ปเวทิตา จตุสจฺจธมฺมา. ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺตีติ อิมสฺมึ าเน สีลํ กถิตํ, อิมสฺมึ สมาธิ, อิมสฺมึ วิปสฺสนา, อิมสฺมึ มคฺโค, อิมสฺมึ ผลนฺติ เอวํ อตฺเถน อตฺเถ การเณน การเณ จิณฺณจริตตฺตา มคฺคปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ. โวจริตาติ วิจริตา. สทฺธา นิวิฏฺา โหตีติ โอกปฺปนสทฺธา ปติฏฺิตา โหติ. มตฺตโส นิชฺฌานํ ขมนฺตีติ มตฺตาย โอโลกนํ ขมนฺติ. สทฺธามตฺตนฺติ สทฺธาเยว, อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ

อิติ อิเมสุ อปฺปมาเทน กรณีเยสุ ปุคฺคเลสุ ตโย ปฏิวิทฺธมคฺคผลา เสขา. เตสุ อนุโลมเสนาสนํ เสวมานา กลฺยาณมิตฺเต ภชมานา อินฺทฺริยานิ สมนฺนานยมานา อนุปุพฺเพน อรหตฺตํ คณฺหนฺติ. ตสฺมา เตสํ ยถาิโตว ปาฬิอตฺโถ. อวสาเน ปน ทฺเว โสตาปตฺติมคฺคสมงฺคิโน. เตหิ ตสฺส มคฺคสฺส อนุโลมเสนาสนํ เสวิตํ, กลฺยาณมิตฺตา ภชิตา, อินฺทฺริยานิ สมนฺนานีตานิ. อุปริ ปน ติณฺณํ มคฺคานํ อตฺถาย เสวมานา ภชมานา สมนฺนานยมานา อนุปุพฺเพน อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสนฺตีติ อยเมตฺถ ปาฬิอตฺโถ.

วิตณฺฑวาที ปน อิมเมว ปาฬึ คเหตฺวา – ‘‘โลกุตฺตรมคฺโค น เอกจิตฺตกฺขณิโก, พหุจิตฺตกฺขณิโก’’ติ วทติ. โส วตฺตพฺโพ – ‘‘ยทิ อฺเน จิตฺเตน เสนาสนํ ปฏิเสวติ, อฺเน กลฺยาณมิตฺเต ภชติ, อฺเน อินฺทฺริยานิ สมนฺนาเนติ, อฺํ มคฺคจิตฺตนฺติ สนฺธาย ตฺวํ ‘น เอกจิตฺตกฺขณิโก มคฺโค, พหุจิตฺตกฺขณิโก’ติ วทสิ, เอวํ สนฺเต เสนาสนํ เสวมาโน นีโลภาสํ ปพฺพตํ ปสฺสติ, วนํ ปสฺสติ, มิคปกฺขีนํ สทฺทํ สุณาติ, ปุปฺผผลานํ คนฺธํ ฆายติ, ปานียํ ปิวนฺโต รสํ สายติ, นิสีทนฺโต นิปชฺชนฺโต ผสฺสํ ผุสติ. เอวํ เต ปฺจวิฺาณสมงฺคีปิ โลกุตฺตรธมฺมสมงฺคีเยว ภวิสฺสติ. สเจ ปเนตํ สมฺปฏิจฺฉสิ, สตฺถารา สทฺธึ ปฏิวิรุชฺฌสิ. สตฺถารา หิ ปฺจวิฺาณกายา เอกนฺตํ อพฺยากตาว วุตฺตา, ตํสมงฺคิสฺส กุสลากุสลํ ปฏิกฺขิตฺตํ, โลกุตฺตรมคฺโค จ เอกนฺตกุสโล. ตสฺมา ปชเหตํ วาท’’นฺติ ปฺเปตพฺโพ. สเจ ปฺตฺตึ น อุปคจฺฉติ, ‘‘คจฺฉ ปาโตว วิหารํ ปวิสิตฺวา ยาคุํ ปิวาหี’’ติ อุยฺโยเชตพฺโพ.

๑๘๓. นาหํ, ภิกฺขเว, อาทิเกเนวาติ อหํ, ภิกฺขเว, ปมเมว มณฺฑูกสฺส อุปฺปติตฺวา คมนํ วิย อฺาราธนํ อรหตฺเต ปติฏฺานํ น วทามิ. อนุปุพฺพสิกฺขาติ กรณตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ. ปรโต ปททฺวเยปิ เอเสว นโย. สทฺธาชาโตติ โอกปฺปนิยสทฺธาย ชาตสทฺโธ. อุปสงฺกมตีติ ครูนํ สมีปํ คจฺฉติ. ปยิรุปาสตีติ สนฺติเก นิสีทติ. ธาเรตีติ สาธุกํ กตฺวา ธาเรติ. ฉนฺโท ชายตีติ กตฺตุกมฺยตากุสลจฺฉนฺโท ชายติ. อุสฺสหตีติ วีริยํ กโรติ. ตุเลตีติ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ตุลยติ. ตุลยิตฺวา ปทหตีติ เอวํ ตีรณวิปสฺสนาย ตุลยนฺโต มคฺคปธานํ ปทหติ. ปหิตตฺโตติ เปสิตจิตฺโต. กาเยน เจว ปรมสจฺจนฺติ นามกาเยน นิพฺพานสจฺจํ สจฺฉิกโรติ. ปฺาย จาติ นามกายสมฺปยุตฺตาย มคฺคปฺาย ปฏิวิชฺฌติ ปสฺสติ.

อิทานิ ยสฺมา เต สตฺถุ อาคมนํ สุตฺวา ปจฺจุคฺคมนมตฺตมฺปิ น อกํสุ, ตสฺมา เตสํ จริยํ ครหนฺโต สาปิ นาม, ภิกฺขเว, สทฺธา นาโหสีติอาทิมาห. ตตฺถ กีวทูเรวิเมติ กิตฺตกํ ทูเร าเน. โยชนสตมฺปิ โยชนสหสฺสมฺปิ อปกฺกนฺตาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ, น ปน กิฺจิ อาห. จตุปฺปทํ เวยฺยากรณนฺติ จตุสจฺจพฺยากรณํ สนฺธาย วุตฺตํ.

๑๘๔. ยสฺสุทฺทิฏฺสฺสาติ ยสฺส อุทฺทิฏฺสฺส. โยปิโส, ภิกฺขเว, สตฺถาติ พาหิรกสตฺถารํ ทสฺเสติ. เอวรูปีติ เอวํชาติกา. ปโณปณวิยาติ ปณวิยา จ โอปณวิยา จ . น อุเปตีติ น โหติ. กยวิกฺกยกาเล วิย อคฺฆวฑฺฒนหาปนํ น โหตีติ อตฺโถ. อยํ โคโณ กึ อคฺฆติ, วีสติ อคฺฆตีติ ภณนฺโต ปณติ นาม. น วีสติ อคฺฆติ, ทส อคฺฆตีติ ภณนฺโต โอปณติ นาม. อิทํ ปฏิเสเธนฺโต อาห ‘‘ปโณปณวิยา น อุเปตี’’ติ. อิทานิ ตํ ปโณปณวิยํ ทสฺเสตุํ เอวฺจ โน อสฺส, อถ นํ กเรยฺยาม, น จ โน เอวมสฺส, น นํ กเรยฺยามาติ อาห.

กึ ปน, ภิกฺขเวติ, ภิกฺขเว, ยํ ตถาคโต สพฺพโส อามิเสหิ วิสํสฏฺโ วิหรติ, เอวํ วิสํสฏฺสฺส สตฺถุโน เอวรูปา ปโณปณวิยา กึ ยุชฺชิสฺสติ? ปริโยคาหิย วตฺตโตติ ปริโยคาหิตฺวา อุกฺขิปิตฺวา คเหตฺวา วตฺตนฺตสฺส. อยมนุธมฺโมติ อยํ สภาโว. ชานาติ ภควา, นาหํ ชานามีติ ภควา เอกาสนโภชเน อานิสํสํ ชานาติ, อหํ น ชานามีติ มยิ สทฺธาย ทิวสสฺส ตโย วาเร โภชนํ ปหาย เอกาสนโภชนํ ภุฺชติ. รุฬหนียนฺติ โรหนียํ. โอชวนฺตนฺติ สิเนหวนฺตํ. กามํ ตโจ จาติ อิมินา จตุรงฺควีริยํ ทสฺเสติ. เอตฺถ หิ ตโจ เอกํ องฺคํ, นฺหารุ เอกํ, อฏฺิ เอกํ, มํสโลหิตํ เอกนฺติ เอวํ จตุรงฺคสมนฺนาคตํ วีริยํ อธิฏฺหิตฺวา อรหตฺตํ อปฺปตฺวา น วุฏฺหิสฺสามีติ เอวํ ปฏิปชฺชตีติ ทสฺเสติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. เทสนํ ปน ภควา เนยฺยปุคฺคลสฺส วเสน อรหตฺตนิกูเฏน นิฏฺาเปสีติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

กีฏาคิริสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.