📜

๓. ปริพฺพาชกวคฺโค

๑. เตวิชฺชวจฺฉสุตฺตวณฺณนา

๑๘๕. เอวํเม สุตนฺติ เตวิชฺชวจฺฉสุตฺตํ. ตตฺถ เอกปุณฺฑรีเกติ ปุณฺฑรีโก วุจฺจติ เสตมฺพรุกฺโข, โส ตสฺมึ อาราเม เอโก ปุณฺฑรีโก อตฺถีติ เอกปุณฺฑรีโก. เอตทโหสีติ ตตฺถ ปวิสิตุกามตาย อโหสิ. จิรสฺสํ โข, ภนฺเตติ ปกติยา อาคตปุพฺพตํ อุปาทาย. ธมฺมสฺส จานุธมฺมนฺติ อิธ สพฺพฺุตฺาณํ ธมฺโม นาม, มหาชนสฺส พฺยากรณํ อนุธมฺโม นาม. เสสํ ชีวกสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๕๑ อาทโย) วุตฺตนยเมว. น เม เตติ อนนุฺาย ตฺวา อนุฺมฺปิ ปฏิกฺขิปติ. ‘‘สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี อปริเสสํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาตี’’ติ หิ อิทํ อนุชานิตพฺพํ สิยา, – ‘‘จรโต จ เม…เป… ปจฺจุปฏฺิต’’นฺติ อิทํ ปน นานุชานิตพฺพํ. สพฺพฺุตฺาเณน หิ อาวชฺชิตฺวา ปชานาติ. ตสฺมา อนนุฺาย ตฺวา อนุฺมฺปิ ปฏิกฺขิปนฺโต เอวมาห.

๑๘๖. อาสวานํ ขยาติ เอตฺถ สกึ ขีณานํ อาสวานํ ปุน เขเปตพฺพาภาวา ยาวเทวาติ น วุตฺตํ. ปุพฺเพนิวาสาเณน เจตฺถ ภควา อตีตชานนคุณํ ทสฺเสติ, ทิพฺพจกฺขุาเณน ปจฺจุปฺปนฺนชานนคุณํ, อาสวกฺขยาเณน โลกุตฺตรคุณนฺติ. อิติ อิมาหิ ตีหิ วิชฺชาหิ สกลพุทฺธคุเณ สํขิปิตฺวา กเถสิ.

คิหิสํโยชนนฺติ คิหิพนฺธนํ คิหิปริกฺขาเรสุ นิกนฺตึ. นตฺถิ โข วจฺฉาติ คิหิสํโยชนํ อปฺปหาย ทุกฺขสฺสนฺตกโร นาม นตฺถิ. เยปิ หิ สนฺตติมหามตฺโต อุคฺคเสโน เสฏฺิปุตฺโต วีตโสกทารโกติ คิหิลิงฺเค ิตาว อรหตฺตํ ปตฺตา, เตปิ มคฺเคน สพฺพสงฺขาเรสุ นิกนฺตึ สุกฺขาเปตฺวา ปตฺตา. ตํ ปตฺวา ปน น เตน ลิงฺเคน อฏฺํสุ, คิหิลิงฺคํ นาเมตํ หีนํ, อุตฺตมคุณํ ธาเรตุํ น สกฺโกติ. ตสฺมา ตตฺถ ิโต อรหตฺตํ ปตฺวา ตํทิวสเมว ปพฺพชติ วา ปรินิพฺพาติ วา. ภูมเทวตา ปน ติฏฺนฺติ. กสฺมา? นิลียโนกาสสฺส อตฺถิตาย. เสสกามภเว มนุสฺเสสุ โสตาปนฺนาทโย ตโย ติฏฺนฺติ, กามาวจรเทเวสุ โสตาปนฺนา สกทาคามิโน จ, อนาคามิขีณาสวา ปเนตฺถ น ติฏฺนฺติ. กสฺมา? ตฺหิ านํ ลฬิตชนสฺส อาวาโส, นตฺถิ ตตฺถ เตสํ ปวิเวการหํ ปฏิจฺฉนฺนฏฺานฺจ. อิติ ตตฺถ ขีณาสโว ปรินิพฺพาติ, อนาคามี จวิตฺวา สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺตติ. กามาวจรเทวโต อุปริ ปน จตฺตาโรปิ อริยา ติฏฺนฺติ.

โสปาสิ กมฺมวาทีติ โสปิ กมฺมวาที อโหสิ, กิริยมฺปิ น ปฏิพาหิตฺถ. ตฺหิ เอกนวุติกปฺปมตฺถเก อตฺตานํเยว คเหตฺวา กเถติ. ตทา กิร มหาสตฺโต ปาสณฺฑปริคฺคณฺหนตฺถํ ปพฺพชิโต ตสฺสปิ ปาสณฺฑสฺส นิปฺผลภาวํ ชานิตฺวา วีริยํ น หาเปสิ, กิริยวาที หุตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตติ. ตสฺมา เอวมาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

เตวิชฺชวจฺฉสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อคฺคิวจฺฉสุตฺตวณฺณนา

๑๘๗. เอวํเม สุตนฺติ อคฺคิวจฺฉสุตฺตํ. ตตฺถ น โข อหนฺติ ปมวาเร นาหํ สสฺสตทิฏฺิโกติ วทติ, ทุติเย นาหํ อุจฺเฉททิฏฺิโกติ. เอวํ อนฺตานนฺติกาทิวเสน สพฺพวาเรสุ ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ. โหติ จ น จ โหตีติ อยํ ปเนตฺถ เอกจฺจสสฺสตวาโท. เนว โหติ น น โหตีติ อยํ อมราวิกฺเขโปติ เวทิตพฺโพ.

๑๘๙. สทุกฺขนฺติ กิเลสทุกฺเขน เจว วิปากทุกฺเขน จ สทุกฺขํ. สวิฆาตนฺติ เตสํเยว ทฺวินฺนํ วเสน สอุปฆาตกํ. สอุปายาสนฺติ เตสํเยว วเสน สอุปายาสํ. สปริฬาหนฺติ เตสํเยว วเสน สปริฬาหํ.

กิฺจิ ทิฏฺิคตนฺติ กาจิ เอกา ทิฏฺิปิ รุจฺจิตฺวา ขมาเปตฺวา คหิตา อตฺถีติ ปุจฺฉติ. อปนีตนฺติ นีหฏํ อปวิทฺธํ. ทิฏฺนฺติ ปฺาย ทิฏฺํ. ตสฺมาติ ยสฺมา ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยวยํ อทฺทส, ตสฺมา. สพฺพมฺิตานนฺติ สพฺเพสํ ติณฺณมฺปิ ตณฺหาทิฏฺิมานมฺิตานํ. มถิตานนฺติ เตสํเยว เววจนํ. อิทานิ ตานิ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต สพฺพอหํการ-มมํการ-มานานุสยานนฺติ อาห. เอตฺถ หิ อหํกาโร ทิฏฺิ, มมํกาโร ตณฺหา, มานานุสโย มาโน. อนุปาทา วิมุตฺโตติ จตูหิ อุปาทาเนหิ กฺจิ ธมฺมํ อนุปาทิยิตฺวา วิมุตฺโต.

๑๙๐. น อุเปตีติ น ยุชฺชติ. เอตฺถ จ ‘‘น อุปปชฺชตี’’ติ อิทํ อนุชานิตพฺพํ สิยา. ยสฺมา ปน เอวํ วุตฺเต โส ปริพฺพาชโก อุจฺเฉทํ คณฺเหยฺย, อุปปชฺชตีติ ปน สสฺสตเมว, อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตีติ เอกจฺจสสฺสตํ, เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตีติ อมราวิกฺเขปํ, ตสฺมา ภควา – ‘‘อยํ อปฺปติฏฺโ อนาลมฺโพ โหตุ, สุขปเวสนฏฺานํ มา ลภตู’’ติ อนนุฺาย ตฺวา อนุฺมฺปิ ปฏิกฺขิปิ. อลนฺติ สมตฺถํ ปริยตฺตํ . ธมฺโมติ ปจฺจยาการธมฺโม. อฺตฺรโยเคนาติ อฺตฺถ ปโยเคน. อฺตฺราจริยเกนาติ ปจฺจยาการํ อชานนฺตานํ อฺเสํ อาจริยานํ สนฺติเก วสนฺเตน.

๑๙๑. เตน หิ วจฺฉาติ ยสฺมา ตฺวํ สมฺโมหมาปาทินฺติ วทสิ, ตสฺมา ตํเยเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ. อนาหาโรนิพฺพุโตติ อปฺปจฺจโย นิพฺพุโต.

๑๙๒. เยน รูเปนาติ เยน รูเปน สตฺตสงฺขาตํ ตถาคตํ รูปีติ ปฺาเปยฺย. คมฺภีโรติ คุณคมฺภีโร. อปฺปเมยฺโยติ ปมาณํ คณฺหิตุํ น สกฺกุเณยฺโย. ทุปฺปริโยคาฬฺโหติ ทุโอคาโห ทุชฺชาโน. เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺโทติ ยถา มหาสมุทฺโท คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุชฺชาโน, เอวเมว ขีณาสโวปิ. ตํ อารพฺภ อุปปชฺชตีติอาทิ สพฺพํ น ยุชฺชติ. กถํ? ยถา ปรินิพฺพุตํ อคฺคึ อารพฺภ ปุรตฺถิมํ ทิสํ คโตติอาทิ สพฺพํ น ยุชฺชติ, เอวํ.

อนิจฺจตาติ อนิจฺจตาย. สาเร ปติฏฺิตนฺติ โลกุตฺตรธมฺมสาเร ปติฏฺิตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

อคฺคิวจฺฉสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. มหาวจฺฉสุตฺตวณฺณนา

๑๙๓. เอวํเม สุตนฺติ มหาวจฺฉสุตฺตํ. ตตฺถ สหกถีติ สทฺธึวาโท, พหุํ มยา ตุมฺเหหิ สทฺธึ กถิตปุพฺพนฺติ กถํ สาเรติ เมตฺตึ ฆเฏติ. ปุริมานิ หิ ทฺเว สุตฺตานิ เอตสฺเสว กถิตานิ, สํยุตฺตเก อพฺยากตสํยุตฺตํ (สํ. นิ. ๔.๔๑๖ อาทโย) นาม เอตสฺเสว กถิตํ – ‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, สสฺสโต โลโก อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ อพฺยากตเมต’’นฺติ เอวํ เอกุตฺตรนิกาเยปิ อิมินา สทฺธึ กถิตํ อตฺถิเยว. ตสฺมา เอวมาห. สมฺมาสมฺพุทฺโธปิ ตสฺส อาคตาคตสฺส สงฺคหํ กตฺวา โอกาสมกาสิเยว. กสฺมา? อยฺหิ สสฺสตทิฏฺิโก, สสฺสตทิฏฺิกา จ สีฆํ ลทฺธึ น วิสฺสชฺเชนฺติ, วสาเตลมกฺขิตปิโลติกา วิย จิเรน สุชฺฌนฺติ. ปสฺสติ จ ภควา – ‘‘อยํ ปริพฺพาชโก กาเล คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต ลทฺธึ วิสฺสชฺเชตฺวา มม สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ฉ อภิฺาโย สจฺฉิกตฺวา อภิฺาตสาวโก ภวิสฺสตี’’ติ. ตสฺมา ตสฺส อาคตาคตสฺส สงฺคหํ กตฺวา โอกาสมกาสิเยว. อิทํ ปนสฺส ปจฺฉิมคมนํ. โส หิ อิมสฺมึ สุตฺเต ตรณํ วา โหตุ อตรณํ วา, ยฏฺึ โอตริตฺวา อุทเก ปตมาโน วิย สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปพฺพชิสฺสามีติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา อาคโต. ตสฺมา ธมฺมเทสนํ ยาจนฺโต สาธุ เม ภวํ โคตโมติอาทิมาห. ตสฺส ภควา มูลวเสน สํขิตฺตเทสนํ, กมฺมปถวเสน วิตฺถารเทสนํ เทเสสิ. มูลวเสน เจตฺถ อติสํขิตฺตา เทสนา, กมฺมปถวเสน สํขิตฺตา วิตฺถารสทิสา. พุทฺธานํ ปน นิปฺปริยาเยน วิตฺถารเทสนา นาม นตฺถิ. จตุวีสติสมนฺตปฏฺานมฺปิ หิ สตฺตปกรเณ อภิธมฺมปิฏเก จ สพฺพํ สํขิตฺตเมว. ตสฺมา มูลวเสนาปิ กมฺมปถวเสนาปิ สํขิตฺตเมว เทเสสีติ เวทิตพฺโพ.

๑๙๔. ตตฺถ ปาณาติปาตา เวรมณี กุสลนฺติอาทีสุ ปฏิปาฏิยา สตฺตธมฺมา กามาวจรา, อนภิชฺฌาทโย ตโย จตุภูมิกาปิ วฏฺฏนฺติ.

ยโตโข, วจฺฉ, ภิกฺขุโนติ กิฺจาปิ อนิยเมตฺวา วุตฺตํ, ยถา ปน ชีวกสุตฺเต จ จงฺกีสุตฺเต จ, เอวํ อิมสฺมึ สุตฺเต จ อตฺตานเมว สนฺธาเยตํ ภควตา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๙๕. อตฺถิปนาติ กึ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ? อยํ กิรสฺส ลทฺธิ – ‘‘ตสฺมึ ตสฺมึ สาสเน สตฺถาว อรหา โหติ, สาวโก ปน อรหตฺตํ ปตฺตุํ สมตฺโถ นตฺถิ. สมโณ จ โคตโม ‘ยโต โข, วจฺฉ, ภิกฺขุโน’ติ เอกํ ภิกฺขุํ กเถนฺโต วิย กเถติ, อตฺถิ นุ โข สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก อรหตฺตปฺปตฺโต’’ติ. เอตมตฺถํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. ตตฺถ ติฏฺตูติ ภวํ ตาว โคตโม ติฏฺตุ, ภวฺหิ โลเก ปากโฏ อรหาติ อตฺโถ. ตสฺมึ พฺยากเต อุตฺตริ ภิกฺขุนีอาทีนํ วเสน ปฺหํ ปุจฺฉิ, ภควาปิสฺส พฺยากาสิ.

๑๙๖. อาราธโกติ สมฺปาทโก ปริปูรโก.

๑๙๗. เสขาย วิชฺชาย ปตฺตพฺพนฺติ เหฏฺิมผลตฺตยํ ปตฺตพฺพํ. ตํ สพฺพํ มยา อนุปฺปตฺตนฺติ วทติ. วิตณฺฑวาที ปนาห – ‘‘กตเม ธมฺมา เสกฺขา? จตฺตาโร มคฺคา อปริยาปนฺนา เหฏฺิมานิ จ ตีณิ สามฺผลานี’’ติ (ธ. ส. ๑๐๒๓) วจนโต อรหตฺตมคฺโคปิ อเนน ปตฺโตเยว. ผลํ ปน อปตฺตํ, ตสฺส ปตฺติยา อุตฺตริ โยคํ กถาเปตีติ. โส เอวํ สฺาเปตพฺโพ –

‘‘โย เว กิเลสานิ ปหาย ปฺจ,

ปริปุณฺณเสโข อปริหานธมฺโม;

เจโตวสิปฺปตฺโต สมาหิตินฺทฺริโย,

ส เว ิตตฺโตติ นโร ปวุจฺจตี’’ติ. (อ. นิ. ๔.๕);

อนาคามิปุคฺคโล หิ เอกนฺตปริปุณฺณเสโข. ตํ สนฺธาย ‘‘เสขาย วิชฺชาย ปตฺตพฺพ’’นฺติ อาห. มคฺคสฺส ปน เอกจิตฺตกฺขณิกตฺตา ตตฺถ ิตสฺส ปุจฺฉา นาม นตฺถิ. อิมินา สุตฺเตน มคฺโคปิ พหุจิตฺตกฺขณิโก โหตูติ เจ. เอตํ น พุทฺธวจนํ, วุตฺตคาถาย จ อตฺโถ วิรุชฺฌติ. ตสฺมา อนาคามิผเล ตฺวา อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนํ กถาเปตีติ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ปนสฺส น เกวลํ สุทฺธอรหตฺตสฺเสว อุปนิสฺสโย, ฉนฺนมฺปิ อภิฺานํ อุปนิสฺสโย อตฺถิ, ตสฺมา ภควา – ‘‘เอวมยํ สมเถ กมฺมํ กตฺวา ปฺจ อภิฺา นิพฺพตฺเตสฺสติ , วิปสฺสนาย กมฺมํ กตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสติ. เอวํ ฉฬภิฺโ มหาสาวโก ภวิสฺสตี’’ติ วิปสฺสนามตฺตํ อกเถตฺวา สมถวิปสฺสนา อาจิกฺขิ.

๑๙๘. สติสติอายตเนติ สติ สติการเณ. กิฺเจตฺถ การณํ? อภิฺา วา อภิฺาปาทกชฺฌานํ วา อวสาเน ปน อรหตฺตํ วา การณํ อรหตฺตสฺส วิปสฺสนา วาติ เวทิตพฺพํ.

๒๐๐. ปริจิณฺโณ เม ภควาติ สตฺต หิ เสขา ภควนฺตํ ปริจรนฺติ นาม, ขีณาสเวน ภควา ปริจิณฺโณ โหติ. อิติ สงฺเขเปน อรหตฺตํ พฺยากโรนฺโต เถโร เอวมาห. เต ปน ภิกฺขู ตมตฺถํ น ชานึสุ, อชานนฺตาว ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา. ภควโต อาโรเจสุํ. เทวตาติ เตสํ คุณานํ ลาภี เทวตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

มหาวจฺฉสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ทีฆนขสุตฺตวณฺณนา

๒๐๑. เอวํเม สุตนฺติ ทีฆนขสุตฺตํ. ตตฺถ สูกรขตายนฺติ สูกรขตาติ เอวํนามเก เลเณ. กสฺสปพุทฺธกาเล กิร ตํ เลณํ เอกสฺมึ พุทฺธนฺตเร ปถวิยา วฑฺฒมานาย อนฺโตภูมิคตํ ชาตํ. อเถกทิวสํ เอโก สูกโร ตสฺส ฉทนปริยนฺตสมีเป ปํสุํ ขณิ. เทเว วุฏฺเฏ ปํสุโธโต ฉทนปริยนฺโต ปากโฏ อโหสิ. เอโก วนจรโก ทิสฺวา – ‘‘ปุพฺเพ สีลวนฺเตหิ ปริภุตฺตเลเณน ภวิตพฺพํ, ปฏิชคฺคิสฺสามิ น’’นฺติ สมนฺตโต ปํสุํ อปเนตฺวา เลณํ โสเธตฺวา กุฏฺฏปริกฺเขปํ กตฺวา ทฺวารวาตปานํ โยเชตฺวา สุปรินิฏฺิต-สุธากมฺมจิตฺตกมฺมรชตปฏฺฏสทิสาย วาลุกาย สนฺถตปริเวณํ เลณํ กตฺวา มฺจปีํ ปฺาเปตฺวา ภควโต วสนตฺถาย อทาสิ. เลณํ คมฺภีรํ อโหสิ โอตริตฺวา อภิรุหิตพฺพํ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

ทีฆนโขติ ตสฺส ปริพฺพาชกสฺส นามํ. อุปสงฺกมีติ กสฺมา อุปสงฺกมิ? โส กิร เถเร อฑฺฒมาสปพฺพชิเต จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ มาตุโล อฺํ ปาสณฺฑํ คนฺตฺวา น จิรํ ติฏฺติ, อิทานิ ปนสฺส สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ คตสฺส อฑฺฒมาโส ชาโต. ปวตฺติมฺปิสฺส น สุณามิ, โอชวนฺตํ นุ โข สาสนํ, ชานิสฺสามิ น’’นฺติ คนฺตุกาโม ชาโต. ตสฺมา อุปสงฺกมิ. เอกมนฺตํ ิโตติ ตสฺมึ กิร สมเย เถโร ภควนฺตํ พีชยมาโน ิโต โหติ, ปริพฺพาชโก มาตุเล หิโรตฺตปฺเปน ิตโกว ปฺหํ ปุจฺฉิ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอกมนฺตํ ิโต’’ติ.

สพฺพํ เม นกฺขมตีติ สพฺพา เม อุปปตฺติโย นกฺขมนฺติ, ปฏิสนฺธิโย นกฺขมนฺตีติ อธิปฺปาเยน วทติ. เอตฺตาวตาเนน ‘‘อุจฺเฉทวาโทหมสฺมี’’ติ ทีปิตํ โหติ. ภควา ปนสฺส อธิปฺปายํ มุฺจิตฺวา อกฺขเร ตาว โทสํ ทสฺเสนฺโต ยาปิ โข เตติอาทิมาห. ตตฺถ เอสาปิ เต ทิฏฺิ นกฺขมตีติ เอสาปิ เต ปมํ รุจฺจิตฺวา ขมาเปตฺวา คหิตทิฏฺิ นกฺขมตีติ. เอสา เจ เม, โภ โคตม, ทิฏฺิ ขเมยฺยาติ มยฺหฺหิ สพฺพํ นกฺขมตีติ ทิฏฺิ, ตสฺส มยฺหํ ยา เอสา สพฺพํ เม นกฺขมตีติ ทิฏฺิ, เอสา เม ขเมยฺย. ยํ ตํ ‘‘สพฺพํ เม นกฺขมตี’’ติ วุตฺตํ, ตมฺปิสฺส ตาทิสเมว. ยถา สพฺพคหเณน คหิตาปิ อยํ ทิฏฺิ ขมติ, เอวเมวํ ตมฺปิ ขเมยฺย . เอวํ อตฺตโน วาเท อาโรปิตํ โทสํ ตฺวา ตํ ปริหรามีติ สฺาย วทติ, อตฺถโต ปนสฺส ‘‘เอสา ทิฏฺิ น เม ขมตี’’ติ อาปชฺชติ. ยสฺส ปเนสา น ขมติ น รุจฺจติ, ตสฺสายํ ตาย ทิฏฺิยา สพฺพํ เม น ขมตีติ ทิฏฺิ รุจิตํ. เตน หิ ทิฏฺิอกฺขเมน อรุจิเตน ภวิตพฺพนฺติ สพฺพํ ขมตีติ รุจฺจตีติ อาปชฺชติ. น ปเนส ตํ สมฺปฏิจฺฉติ, เกวลํ ตสฺสาปิ อุจฺเฉททิฏฺิยา อุจฺเฉทเมว คณฺหาติ. เตนาห ภควา อโต โข เต, อคฺคิเวสฺสน,…เป… อฺฺจ ทิฏฺึ อุปาทิยนฺตีติ. ตตฺถ อโตติ ปชหนเกสุ นิสฺสกฺกํ, เย ปชหนฺติ, เตหิ เย นปฺปชหนฺตีติ วุจฺจิยนฺติ, เตว พหุตราติ อตฺโถ. พหู หิ พหุตราติ เอตฺถ หิกาโร นิปาตมตฺตํ, พหู พหุตราติ อตฺโถ. ปรโต ตนู หิ ตนุตราติ ปเทปิ เอเสว นโย. เย เอวมาหํสูติ เย เอวํ วทนฺติ. ตฺเจว ทิฏฺึ นปฺปชหนฺติ, อฺฺจ ทิฏฺึ อุปาทิยนฺตีติ มูลทสฺสนํ นปฺปชหนฺติ, อปรทสฺสนํ อุปาทิยนฺติ.

เอตฺถ จ สสฺสตํ คเหตฺวา ตมฺปิ อปฺปหาย อุจฺเฉทํ วา เอกจฺจสสฺสตํ วา คเหตุํ น สกฺกา, อุจฺเฉทมฺปิ คเหตฺวา ตํ อปฺปหาย สสฺสตํ วา เอกจฺจสสฺสตํ วา น สกฺกา คเหตุํ, เอกจฺจสสฺสตมฺปิ คเหตฺวา ตํ อปฺปหาย สสฺสตํ วา อุจฺเฉทํ วา น สกฺกา คเหตุํ. มูลสสฺสตํ ปน อปฺปหาย อฺํ สสฺสตเมว สกฺกา คเหตุํ. กถํ? เอกสฺมิฺหิ สมเย ‘‘รูปํ สสฺสต’’นฺติ คเหตฺวา อปรสฺมึ สมเย ‘‘น สุทฺธรูปเมว สสฺสตํ, เวทนาปิ สสฺสตา, วิฺาณมฺปิ สสฺสต’’นฺติ คณฺหาติ. อุจฺเฉเทปิ เอกจฺจสสฺสเตปิ เอเสว นโย. ยถา จ ขนฺเธสุ, เอวํ อายตเนสุปิ โยเชตพฺพํ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ตฺเจว ทิฏฺึ นปฺปชหนฺติ, อฺฺจ ทิฏฺึ อุปาทิยนฺตี’’ติ.

ทุติยวาเร อโตติ อปฺปชหนเกสุ นิสฺสกฺกํ, เย นปฺปชหนฺติ, เตหิ, เย ปชหนฺตีติ วุจฺจิยนฺติ, เตว ตนุตรา อปฺปตราติ อตฺโถ. ตฺเจว ทิฏฺึ ปชหนฺติ, อฺฺจ ทิฏฺึ น อุปาทิยนฺตีติ ตฺจ มูลทสฺสนํ ปชหนฺติ, อฺฺจ ทสฺสนํ น คณฺหนฺติ. กถํ? เอกสฺมิฺหิ สมเย ‘‘รูปํ สสฺสต’’นฺติ คเหตฺวา อปรสฺมึ สมเย ตตฺถ อาทีนวํ ทิสฺวา ‘‘โอฬาริกเมตํ มยฺหํ ทสฺสน’’นฺติ ปชหติ ‘‘น เกวลฺจ รูปํ สสฺสตนฺติ ทสฺสนเมว โอฬาริกํ, เวทนาปิ สสฺสตา…เป… วิฺาณมฺปิ สสฺสตนฺติ ทสฺสนํ โอฬาริกเมวา’’ติ วิสฺสชฺเชติ . อุจฺเฉเทปิ เอกจฺจสสฺสเตปิ เอเสว นโย. ยถา จ ขนฺเธสุ, เอวํ อายตเนสุปิ โยเชตพฺพํ. เอวํ ตฺจ มูลทสฺสนํ ปชหนฺติ, อฺฺจ ทสฺสนํ น คณฺหนฺติ.

สนฺตคฺคิเวสฺสนาติ กสฺมา อารภิ? อยํ อุจฺเฉทลทฺธิโก อตฺตโน ลทฺธึ นิคูหติ, ตสฺสา ปน ลทฺธิยา วณฺเณ วุจฺจมาเน อตฺตโน ลทฺธึ ปาตุกริสฺสตีติ ติสฺโส ลทฺธิโย เอกโต ทสฺเสตฺวา วิภชิตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ.

สาราคาย สนฺติเกติอาทีสุ ราควเสน วฏฺเฏ รชฺชนสฺส อาสนฺนา ตณฺหาทิฏฺิสํโยชเนน วฏฺฏสํโยชนสฺส สนฺติเก. อภินนฺทนายาติ ตณฺหาทิฏฺิวเสเนว คิลิตฺวา ปริยาทิยนสฺส คหณสฺส จ อาสนฺนาติ อตฺโถ. อสาราคาย สนฺติเกติอาทีสุ วฏฺเฏ อรชฺชนสฺส อาสนฺนาติอาทินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เอตฺถ จ สสฺสตทสฺสนํ อปฺปสาวชฺชํ ทนฺธวิราคํ, อุจฺเฉททสฺสนํ มหาสาวชฺชํ ขิปฺปวิราคํ. กถํ? สสฺสตวาที หิ อิธโลกํ ปรโลกฺจ อตฺถีติ ชานาติ, สุกตทุกฺกฏานํ ผลํ อตฺถีติ ชานาติ, กุสลํ กโรติ, อกุสลํ กโรนฺโต ภายติ, วฏฺฏํ อสฺสาเทติ, อภินนฺทติ. พุทฺธานํ วา พุทฺธสาวกานํ วา สมฺมุขีภูโต สีฆํ ลทฺธึ ชหิตุํ น สกฺโกติ. ตสฺมา ตํ สสฺสตทสฺสนํ อปฺปสาวชฺชํ ทนฺธวิราคนฺติ วุจฺจติ. อุจฺเฉทวาที ปน อิธโลกปรโลกํ อตฺถีติ ชานาติ, สุกตทุกฺกฏานํ ผลํ อตฺถีติ ชานาติ, กุสลํ น กโรติ, อกุสลํ กโรนฺโต น ภายติ, วฏฺฏํ น อสฺสาเทติ, นาภินนฺทติ, พุทฺธานํ วา พุทฺธสาวกานํ วา สมฺมุขีภาเว สีฆํ ทสฺสนํ ปชหติ. ปารมิโย ปูเรตุํ สกฺโกนฺโต พุทฺโธ หุตฺวา, อสกฺโกนฺโต อภินีหารํ กตฺวา สาวโก หุตฺวา ปรินิพฺพายติ. ตสฺมา อุจฺเฉททสฺสนํ มหาสาวชฺชํ ขิปฺปวิราคนฺติ วุจฺจติ.

๒๐๒. โส ปน ปริพฺพาชโก เอตมตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา – ‘‘มยฺหํ ทสฺสนํ สํวณฺเณติ ปสํสติ, อทฺธา เม สุนฺทรํ ทสฺสน’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา อุกฺกํเสติ เม ภวนฺติอาทิมาห.

อิทานิ ยสฺมา อยํ ปริพฺพาชโก กฺชิเยเนว ติตฺตกาลาพุ, อุจฺเฉททสฺสเนเนว ปูริโต, โส ยถา กฺชิยํ อปฺปหาย น สกฺกา ลาพุมฺหิ เตลผาณิตาทีนิ ปกฺขิปิตุํ, ปกฺขิตฺตานิปิ น คณฺหาติ, เอวเมวํ ตํ ลทฺธึ อปฺปหาย อภพฺโพ มคฺคผลานํ ลาภาย, ตสฺมา ลทฺธึ ชหาปนตฺถํ ตตฺรคฺคิเวสฺสนาติอาทิ อารทฺธํ. วิคฺคโหติ กลโห. เอวเมตาสํ ทิฏฺีนํ ปหานํ โหตีติ เอวํ วิคฺคหาทิอาทีนวํ ทิสฺวา ตาสํ ทิฏฺีนํ ปหานํ โหติ. โส หิ ปริพฺพาชโก ‘‘กึ เม อิมินา วิคฺคหาทินา’’ติ ตํ อุจฺเฉททสฺสนํ ปชหติ.

๒๐๕. อถสฺส ภควา วมิตกฺชิเย ลาพุมฺหิ สปฺปิผาณิตาทีนิ ปกฺขิปนฺโต วิย หทเย อมโตสธํ ปูเรสฺสามีติ วิปสฺสนํ อาจิกฺขนฺโต อยํ โข ปน, อคฺคิเวสฺสน, กาโยติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ วมฺมิกสุตฺเต วุตฺโต. อนิจฺจโตติอาทีนิปิ เหฏฺา วิตฺถาริตาเนว. โย กายสฺมึ กายฉนฺโทติ ยา กายสฺมึ ตณฺหา. สฺเนโหติ ตณฺหาสฺเนโหว. กายนฺวยตาติ กายานุคมนภาโว, กายํ อนุคจฺฉนกกิเลโสติ อตฺโถ.

เอวํ รูปกมฺมฏฺานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อรูปกมฺมฏฺานํ ทสฺเสนฺโต ติสฺโส โขติอาทิมาห. ปุน ตาสํเยว เวทนานํ อสมฺมิสฺสภาวํ ทสฺเสนฺโต ยสฺมึ, อคฺคิเวสฺสน, สมเยติอาทิมาห. ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ – ยสฺมึ สมเย สุขาทีสุ เอกํ เวทนํ เวทยติ, ตสฺมึ สมเย อฺา เวทนา อตฺตโน วารํ วา โอกาสํ วา โอโลกยมานา นิสินฺนา นาม นตฺถิ, อถ โข อนุปฺปนฺนาว โหนฺติ ภินฺนอุทกปุปฺผุฬา วิย จ อนฺตรหิตา วา. สุขาปิ โขติอาทิ ตาสํ เวทนานํ จุณฺณวิจุณฺณภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.

น เกนจิ สํวทตีติ ตสฺสตํ คเหตฺวา ‘‘สสฺสตวาที อห’’นฺติ อุจฺเฉทวาทินาปิ สทฺธึ น สํวทติ, ตเมว คเหตฺวา ‘‘สสฺสตวาที อห’’นฺติ เอกจฺจสสฺสตวาทินา สทฺธึ น วิวทติ. เอวํ ตโยปิ วาทา ปริวตฺเตตฺวา โยเชตพฺพา. ยฺจ โลเก วุตฺตนฺติ ยํ โลเก กถิตํ โวหริตํ, เตน โวหรติ อปรามสนฺโต กิฺจิ ธมฺมํ ปรามาสคฺคาเหน อคฺคณฺหนฺโต. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘โย โหติ ภิกฺขุ อรหํ กตาวี,

ขีณาสโว อนฺติมเทหธารี;

อหํ วทามีติปิ โส วเทยฺย,

มมํ วทนฺตีติปิ โส วเทยฺย;

โลเก สมฺํ กุสโล วิทิตฺวา,

โวหารมตฺเตน โส โวหเรยฺยา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๕);

อปรมฺปิ วุตฺตํ – ‘‘อิมา โข จิตฺต โลกสมฺา โลกนิรุตฺติโย โลกโวหารา โลกปฺตฺติโย, ยาหิ ตถาคโต โวหรติ อปรามส’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๔๔๐).

๒๐๖. อภิฺาปหานมาหาติ สสฺสตาทีสุ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ สสฺสตํ อภิฺาย ชานิตฺวา สสฺสตสฺส ปหานมาห, อุจฺเฉทํ, เอกจฺจสสฺสตํ อภิฺาย เอกจฺจสสฺสตสฺส ปหานํ วทติ. รูปํ อภิฺาย รูปสฺส ปหานํ วทตีติอาทินา นเยเนตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ปฏิสฺจิกฺขโตติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส. อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจีติ อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุทฺเธหิ อาสเวหิ อคฺคเหตฺวาว จิตฺตํ วิมุจฺจิ. เอตฺตาวตา เจส ปรสฺส วฑฺฒิตํ ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ขุทํ วิโนเทนฺโต วิย ปรสฺส อารทฺธาย ธมฺมเทสนาย าณํ เปเสตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตฺเจว ปตฺโต, สาวกปารมีาณสฺส จ มตฺถกํ, โสฬส จ ปฺา ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโต. ทีฆนโข ปน โสตาปตฺติผลํ ปตฺวา สรเณสุ ปติฏฺิโต.

ภควา ปน อิมํ เทสนํ สูริเย ธรมาเนเยว นิฏฺาเปตฺวา คิชฺฌกูฏา โอรุยฺห เวฬุวนํ คนฺตฺวา สาวกสนฺนิปาตมกาสิ, จตุรงฺคสมนฺนาคโต สนฺนิปาโต อโหสิ. ตตฺริมานิ องฺคานิ – มาฆนกฺขตฺเตน ยุตฺโต ปุณฺณมอุโปสถทิวโส, เกนจิ อนามนฺติตานิ หุตฺวา อตฺตโนเยว ธมฺมตาย สนฺนิปติตานิ อฑฺฒเตลสานิ ภิกฺขุสตานิ, เตสุ เอโกปิ ปุถุชฺชโน วา โสตาปนฺน-สกทาคามิ-อนาคามิ-สุกฺขวิปสฺสก-อรหนฺเตสุ วา อฺตโร นตฺถิ, สพฺเพ ฉฬภิฺาว, เอโกปิ เจตฺถ สตฺถเกน เกเส ฉินฺทิตฺวา ปพฺพชิโต นาม นตฺถิ, สพฺเพ เอหิภิกฺขุโนเยวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

ทีฆนขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. มาคณฺฑิยสุตฺตวณฺณนา

๒๐๗. เอวํเม สุตนฺติ มาคณฺฑิยสุตฺตํ. ตตฺถ อคฺยาคาเรติ อคฺคิโหมสาลยํ. ติณสนฺถารเกติ ทฺเว มาคณฺฑิยา มาตุโล จ ภาคิเนยฺโย จ. เตสุ มาตุโล ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต, ภาคิเนยฺโยปิ สอุปนิสฺสโย นจิรสฺเสว ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสติ. อถสฺส ภควา อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา รมณียํ เทวคพฺภสทิสํ คนฺธกุฏึ ปหาย ตตฺถ ฉาริกติณกจวราทีหิ อุกฺลาเป อคฺยาคาเร ติณสนฺถารกํ ปฺาเปตฺวา ปรสงฺคหกรณตฺถํ กติปาหํ วสิตฺถ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เตนุปสงฺกมีติ น เกวลํ ตํทิวสเมว, ยสฺมา ปน ตํ อคฺยาคารํ คามูปจาเร ทารกทาริกาหิ โอกิณฺณํ อวิวิตฺตํ, ตสฺมา ภควา นิจฺจกาลมฺปิ ทิวสภาคํ ตสฺมึ วนสณฺเฑ วีตินาเมตฺวา สายํ วาสตฺถาย ตตฺถ อุปคจฺฉติ.

อทฺทสาโข…เป… ติณสนฺถารกํ ปฺตฺตนฺติ ภควา อฺเสุ ทิวเสสุ ติณสนฺถารกํ สงฺฆริตฺวา สฺาณํ กตฺวา คจฺฉติ, ตํทิวสํ ปน ปฺเปตฺวาว อคมาสิ. กสฺมา? ตทา หิ ปจฺจูสสมเย โลกํ โอโลเกตฺวาว อทฺทส – ‘‘อชฺช มาคณฺฑิโย อิธาคนฺตฺวา อิมํ ติณสนฺถารกํ ทิสฺวา ภารทฺวาเชน สทฺธึ ติณสนฺถารกํ อารพฺภ กถาสลฺลาปํ กริสฺสติ, อถาหํ อาคนฺตฺวา ธมฺมํ เทเสสฺสามิ, โส ธมฺมํ สุตฺวา มม สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสติ. ปเรสํ สงฺคหกรณตฺถเมว หิ มยา ปารมิโย ปูริตา’’ติ ติณสนฺถารกํ ปฺเปตฺวาว อคมาสิ.

สมณเสยฺยานุรูปํ มฺเติ อิมํ ติณสนฺถารกํ ‘‘สมณสฺส อนุจฺฉวิกา เสยฺยา’’ติ มฺามิ. น จ อสฺตสมณสฺส นิวุตฺถฏฺานเมตํ. ตถาเหตฺถ หตฺเถน อากฑฺฒิตฏฺานํ วา ปาเทน อากฑฺฒิตฏฺานํ วา สีเสน ปหฏฏฺานํ วา น ปฺายติ, อนากุโล อนากิณฺโณ อภินฺโน เฉเกน จิตฺตกาเรน ตูลิกาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปฺตฺโต วิย. สฺตสมณสฺส วสิตฏฺานํ, กสฺส โภ วสิตฏฺานนฺติ ปุจฺฉติ. ภูนหุโนติ หตวฑฺฒิโน มริยาทการกสฺส. กสฺมา เอวมาห? ฉสุ ทฺวาเรสุ วฑฺฒิปฺาปนลทฺธิกตฺตา. อยฺหิ ตสฺส ลทฺธิ – จกฺขุ พฺรูเหตพฺพํ วฑฺเฒตพฺพํ, อทิฏฺํ ทกฺขิตพฺพํ, ทิฏฺํ สมติกฺกมิตพฺพํ. โสตํ พฺรูเหตพฺพํ วฑฺเฒตพฺพํ, อสุตํ โสตพฺพํ, สุตํ สมติกฺกมิตพฺพํ. ฆานํ พฺรูเหตพฺพํ วฑฺเฒตพฺพํ, อฆายิตํ ฆายิตพฺพํ, ฆายิตํ สมติกฺกมิตพฺพํ. ชิวฺหา พฺรูเหตพฺพา วฑฺเฒตพฺพา, อสฺสายิตํ สายิตพฺพํ, สายิตํ สมติกฺกมิตพฺพํ. กาโย พฺรูเหตพฺโพ วฑฺเฒตพฺโพ, อผุฏฺํ ผุสิตพฺพํ, ผุฏฺํ สมติกฺกมิตพฺพํ. มโน พฺรูเหตพฺโพ วฑฺเฒตพฺโพ, อวิฺาตํ วิชานิตพฺพํ, วิฺาตํ สมติกฺกมิตพฺพํ. เอวํ โส ฉสุ ทฺวาเรสุ วฑฺฒึ ปฺเปติ. ภควา ปน –

‘‘จกฺขุนา สํวโร สาธุ, สาธุ โสเตน สํวโร;

ฆาเนน สํวโร สาธุ, สาธุ ชิวฺหาย สํวโร.

กาเยน สํวโร สาธุ, สาธุ วาจาย สํวโร;

มนสา สํวโร สาธุ, สาธุ สพฺพตฺถ สํวโร;

สพฺพตฺถ สํวุโต ภิกฺขุ, สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติ. (ธ. ป. ๓๖๐-๓๖๑) –

ฉสุ ทฺวาเรสุ สํวรํ ปฺเปติ. ตสฺมา โส ‘‘วฑฺฒิหโต สมโณ โคตโม มริยาทการโก’’ติ มฺมาโน ‘‘ภูนหุโน’’ติ อาห.

อริเย าเย ธมฺเม กุสเลติ ปริสุทฺเธ การณธมฺเม อนวชฺเช. อิมินา กึ ทสฺเสติ? เอวรูปสฺส นาม อุคฺคตสฺส ปฺาตสฺส ยสสฺสิโน อุปริ วาจํ ภาสมาเนน วีมํสิตฺวา อุปธาเรตฺวา มุเข อารกฺขํ เปตฺวา ภาสิตพฺโพ โหติ. ตสฺมา มา สหสา อภาสิ, มุเข อารกฺขํ เปหีติ ทสฺเสติ. เอวฺหิ โน สุตฺเต โอจรตีติ ยสฺมา อมฺหากํ สุตฺเต เอวํ อาคจฺฉติ, น มยํ มุขารุฬฺหิจฺฉามตฺตํ วทาม, สุตฺเต จ นาม อาคตํ วทมานา กสฺส ภาเยยฺยาม, ตสฺมา สมฺมุขาปิ นํ วเทยฺยามาติ อตฺโถ. อปฺโปสฺสุกฺโกติ มม รกฺขนตฺถาย อนุสฺสุกฺโก อวาวโฏ หุตฺวาติ อตฺโถ. วุตฺโตว นํ วเทยฺยาติ มยา วุตฺโตว หุตฺวา อปุจฺฉิโตว กถํ สมุฏฺาเปตฺวา อมฺพชมฺพูอาทีนิ คเหตฺวา วิย อปูรยมาโน มยา กถิตนิยาเมน ภวํ ภารทฺวาโช วเทยฺย, วทสฺสูติ อตฺโถ.

๒๐๘. อสฺโสสิโขติ สตฺถา อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทิพฺพจกฺขุนา มาคณฺฑิยํ ตตฺถ อาคตํ อทฺทส, ทฺวินฺนํ ชนานํ ภาสมานานํ ทิพฺพโสเตน สทฺทมฺปิ อสฺโสสิ. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ ผลสมาปตฺติยา วุฏฺิโต. สํวิคฺโคติ ปีติสํเวเคน สํวิคฺโค จลิโต กมฺปิโต. ตสฺส กิร เอตทโหสิ – ‘‘เนว มาคณฺฑิเยน สมณสฺส โคตมสฺส อาโรจิตํ, น มยา. อมฺเห มุฺจิตฺวา อฺโ เอตฺถ ตติโยปิ นตฺถิ, สุโต ภวิสฺสติ อมฺหากํ สทฺโท ติขิณโสเตน ปุริเสนา’’ติ. อถสฺส อพฺภนฺตเร ปีติ อุปฺปชฺชิตฺวา นวนวุติโลมกูปสหสฺสานิ อุทฺธคฺคานิ อกาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต’’ติ. อถโข มาคณฺฑิโย ปริพฺพาชโกติ ปริพฺพาชกสฺส ปภินฺนมุขํ วิย พีชํ ปริปากคตํ าณํ, ตสฺมา สนฺนิสีทิตุํ อสกฺโกนฺโต อาหิณฺฑมาโน ปุน สตฺถุ สนฺติกํ อาคนฺตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ โข มาคณฺฑิโย’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๒๐๙. สตฺถา – ‘‘เอวํ กิร ตฺวํ, มาคณฺฑิย, มํ อวจา’’ติ อวตฺวาว จกฺขุํ โข, มาคณฺฑิยาติ ปริพฺพาชกสฺส ธมฺมเทสนํ อารภิ. ตตฺถ วสนฏฺานฏฺเน รูปํ จกฺขุสฺส อาราโมติ จกฺขุ รูปารามํ. รูเป รตนฺติ รูปรตํ. รูเปน จกฺขุ อาโมทิตํ ปโมทิตนฺติ รูปสมุทิตํ. ทนฺตนฺติ นิพฺพิเสวนํ. คุตฺตนฺติ โคปิตํ. รกฺขิตนฺติ ปิตรกฺขํ. สํวุตนฺติ ปิหิตํ. สํวรายาติ ปิธานตฺถาย.

๒๑๐. ปริจาริตปุพฺโพติ อภิรมิตปุพฺโพ. รูปปริฬาหนฺติ รูปํ อารพฺภ อุปฺปชฺชนปริฬาหํ. อิมสฺส ปน เต, มาคณฺฑิย, กิมสฺส วจนียนฺติ อิมสฺส รูปํ ปริคฺคณฺหิตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตสฺส ขีณาสวสฺส ตยา กึ วจนํ วตฺตพฺพํ อสฺส, วุฑฺฒิหโต มริยาทการโกติ อิทํ วตฺตพฺพํ, น วตฺตพฺพนฺติ ปุจฺฉติ. น กิฺจิ, โภ โคตมาติ, โภ โคตม, กิฺจิ วตฺตพฺพํ นตฺถิ. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย.

๒๑๑. อิทานิ ยสฺมา ตยา ปฺจกฺขนฺเธ ปริคฺคเหตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตสฺส ขีณาสวสฺส กิฺจิ วตฺตพฺพํ นตฺถิ, อหฺจ ปฺจกฺขนฺเธ ปริคฺคเหตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺโต, ตสฺมา อหมฺปิ เต น กิฺจิ วตฺตพฺโพติ ทสฺเสตุํ อหํ โข ปนาติอาทิมาห. ตสฺส มยฺหํ มาคณฺฑิยาติ คิหิกาเล อตฺตโน สมฺปตฺตึ ทสฺเสนฺโต อาห. ตตฺถ วสฺสิโกติอาทีสุ ยตฺถ สุขํ โหติ วสฺสกาเล วสิตุํ, อยํ วสฺสิโก. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปเนตฺถ วจนตฺโถ – วสฺสํ วาโส วสฺสํ, วสฺสํ อรหตีติ วสฺสิโก. อิตเรสุปิ เอเสว นโย.

ตตฺถ วสฺสิโก ปาสาโท นาติอุจฺโจ โหติ นาตินีโจ, ทฺวารวาตปานานิปิสฺส นาติตนูนิ นาติพหูนิ, ภูมตฺถรณปจฺจตฺถรณขชฺชโภชฺชานิเปตฺถ มิสฺสกาเนว วฏฺฏนฺติ. เหมนฺติเก ถมฺภาปิ ภิตฺติโยปิ นีจา โหนฺติ, ทฺวารวาตปานานิ ตนุกานิ สุขุมจฺฉิทฺทานิ. อุณฺหปเวสนตฺถาย ภิตฺตินิยูหานิ นีหรียนฺติ. ภูมตฺถรณปจฺจตฺถรณนิวาสนปารุปนานิ ปเนตฺถ อุณฺหวีริยานิ กมฺพลาทีนิ วฏฺฏนฺติ. ขชฺชโภชฺชํ สินิทฺธํ กฏุกสนฺนิสฺสิตฺจ. คิมฺหิเก ถมฺภาปิ ภิตฺติโยปิ อุจฺจา โหนฺติ. ทฺวารวาตปานานิ ปเนตฺถ พหูนิ วิปุลชาลานิ ภวนฺติ. ภูมตฺถรณาทีนิ ทุกูลมยานิ วฏฺฏนฺติ, ขชฺชโภชฺชานิ มธุรรสสีตวีริยานิ. วาตปานสมีเปสุ เจตฺถ นว จาฏิโย เปตฺวา อุทกสฺส ปูเรตฺวา นีลุปฺปลาทีหิ สฺฉาเทนฺติ. เตสุ เตสุ ปเทเสสุ อุทกยนฺตานิ กโรนฺติ, เยหิ เทเว วสฺสนฺเต วิย อุทกธารา นิกฺขมนฺติ.

โพธิสตฺตสฺส ปน อฏฺสตสุวณฺณฆเฏ จ รชตฆเฏ จ คนฺโธทกสฺส ปูเรตฺวา นีลุปฺปลคจฺฉเก กตฺวา สยนํ ปริวาเรตฺวา ปยึสุ. มหนฺเตสุ โลหกฏาเหสุ คนฺธกลลํ ปูเรตฺวา นีลุปฺปลปทุมปุณฺฑรีกานิ โรเปตฺวา อุตุคฺคหณตฺถาย ตตฺถ ตตฺถ เปสุํ. สูริยรสฺมีหิ ปุปฺผานิ ปุปฺผนฺติ. นานาวิธา ภมรคณา ปาสาทํ ปวิสิตฺวา ปุปฺเผสุ รสํ คณฺหนฺตา วิจรนฺติ. ปาสาโท อติสุคนฺโธ โหติ. ยมกภิตฺติยา อนฺตเร โลหนาฬึ เปตฺวา นวภูมิกปาสาทสฺส อุปริ อากาสงฺคเณ รตนมณฺฑปมตฺถเก สุขุมจฺฉิทฺทกํ ชาลํ พทฺธํ อโหสิ. เอกสฺมึ าเน สุกฺขมหึสจมฺมํ ปสาเรติ. โพธิสตฺตสฺส อุทกกีฬนเวลาย มหึสจมฺเม ปาสาณคุเฬ ขิปนฺติ, เมฆถนิตสทฺโท วิย โหติ. เหฏฺา ยนฺตํ ปริวตฺเตนฺติ, อุทกํ อภิรุหิตฺวา ชาลมตฺถเก ปตติ, วสฺสปตนสลิลํ วิย โหติ. ตทา โพธิสตฺโต นีลปฏํ นิวาเสติ, นีลปฏํ ปารุปติ, นีลปสาธนํ ปสาเธติ. ปริวาราปิสฺส จตฺตาลีสนาฏกสหสฺสานิ นีลวตฺถาภรณาเนว นีลวิเลปนานิ หุตฺวา มหาปุริสํ ปริวาเรตฺวา รตนมณฺฑปํ คจฺฉนฺติ. ทิวสภาคํ อุทกกีฬํ กีฬนฺโต สีตลํ อุตุสุขํ อนุโภติ.

ปาสาทสฺส จตูสุ ทิสาสุ จตฺตาโร สรา โหนฺติ. ทิวากาเล นานาวณฺณสกุณคณา ปาจีนสรโต วุฏฺาย วิรวมานา ปาสาทมตฺถเกน ปจฺฉิมสรํ คจฺฉนฺติ. ปจฺฉิมสรโต วุฏฺาย ปาจีนสรํ, อุตฺตรสรโต ทกฺขิณสรํ, ทกฺขิณสรโต อุตฺตรสรํ คจฺฉนฺติ, อนฺตรวสฺสสมโย วิย โหติ. เหมนฺติกปาสาโท ปน ปฺจภูมิโก อโหสิ, วสฺสิกปาสาโท สตฺตภูมิโก.

นิปฺปุริเสหีติ ปุริสวิรหิเตหิ. น เกวลฺเจตฺถ ตูริยาเนว นิปฺปุริสานิ, สพฺพฏฺานานิปิ นิปฺปุริสาเนว . โทวาริกาปิ อิตฺถิโยว, นฺหาปนาทิปริกมฺมกราปิ อิตฺถิโยว. ราชา กิร – ‘‘ตถารูปํ อิสฺสริยสุขสมฺปตฺตึ อนุภวมานสฺส ปุริสํ ทิสฺวา ปริสงฺกา อุปฺปชฺชติ, สา เม ปุตฺตสฺส มา อโหสี’’ติ สพฺพกิจฺเจสุ อิตฺถิโยว เปสิ. ตาย รติยา รมมาโนติ อิทํ จตุตฺถชฺฌานิกผลสมาปตฺติรตึ สนฺธาย วุตฺตํ.

๒๑๒. คหปติ วา คหปติปุตฺโต วาติ เอตฺถ ยสฺมา ขตฺติยานํ เสตจฺฉตฺตสฺมึเยว ปตฺถนา โหติ, มหา จ เนสํ ปปฺโจ, พฺราหฺมณา มนฺเตหิ อติตฺตา มนฺเต คเวสนฺตา วิจรนฺติ, คหปติโน ปน มุทฺทาคณนมตฺตํ อุคฺคหิตกาลโต ปฏฺาย สมฺปตฺตึเยว อนุภวนฺติ, ตสฺมา ขตฺติยพฺราหฺมเณ อคฺคเหตฺวา ‘‘คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา’’ติ อาห. อาวฏฺเฏยฺยาติ มานุสกกามเหตุ อาวฏฺโฏ ภเวยฺยาติ อตฺโถ. อภิกฺกนฺตตราติ วิสิฏฺตรา. ปณีตตราติ อตปฺปกตรา. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘กุสคฺเคนุทกมาทาย, สมุทฺเท อุทกํ มิเน;

เอวํ มานุสกา กามา, ทิพฺพกามาน สนฺติเก’’ติ. (ชา. ๒.๒๑.๓๘๙) –

สมธิคยฺห ติฏฺตีติ ทิพฺพสุขํ คณฺหิตฺวา ตโต วิสิฏฺตรา หุตฺวา ติฏฺติ.

โอปมฺมสํสนฺทนํ ปเนตฺถ เอวํ เวทิตพฺพํ – คหปติสฺส ปฺจหิ กามคุเณหิ สมงฺคีภูตกาโล วิย โพธิสตฺตสฺส ตีสุ ปาสาเทสุ จตฺตาลีสสหสฺสอิตฺถิมชฺเฌ โมทนกาโล, ตสฺส สุจริตํ ปูเรตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตกาโล วิย โพธิสตฺตสฺส อภินิกฺขมนํ กตฺวา โพธิปลฺลงฺเก สพฺพฺุตํ ปฏิวิทฺธกาโล , ตสฺส นนฺทนวเน สมฺปตฺตึ อนุภวนกาโล วิย ตถาคตสฺส จตุตฺถชฺฌานิกผลสมาปตฺติรติยา วีติวตฺตนกาโล, ตสฺส มานุสกานํ ปฺจนฺนํ กามคุณานํ อปตฺถนกาโล วิย ตถาคตสฺส จตุตฺถชฺฌานิกผลสมาปตฺติรติยา วีตินาเมนฺตสฺส หีนชนสุขสฺส อปตฺถนกาโลติ.

๒๑๓. สุขีติ ปมํ ทุกฺขิโต ปจฺฉา สุขิโต อสฺส. เสรีติ ปมํ เวชฺชทุติยโก ปจฺฉา เสรี เอกโก ภเวยฺย. สยํวสีติ ปมํ เวชฺชสฺส วเส วตฺตมาโน เวชฺเชน นิสีทาติ วุตฺเต นิสีทิ, นิปชฺชาติ วุตฺเต นิปชฺชิ, ภุฺชาติ วุตฺเต ภุฺชิ, ปิวาติ วุตฺเต ปิวิ, ปจฺฉา สยํวสี ชาโต. เยน กามํคโมติ ปมํ อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานํ คนฺตุํ นาลตฺถ, ปจฺฉา โรเค วูปสนฺเต วนทสฺสน-คิริทสฺสน-ปพฺพตทสฺสนาทีสุปิ เยนกามํ คโม ชาโต, ยตฺถ ยตฺเถว คนฺตุํ อิจฺฉติ, ตตฺถ ตตฺเถว คจฺเฉยฺย.

เอตฺถาปิ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – ปุริสสฺส กุฏฺิกาโล วิย หิ โพธิสตฺตสฺส อคารมชฺเฌ วสนกาโล, องฺคารกปลฺลํ วิย เอกํ กามวตฺถุ, ทฺเว กปลฺลานิ วิย ทฺเว วตฺถูนิ, สกฺกสฺส ปน เทวรฺโ อฑฺฒเตยฺยโกฏิยานิ องฺคารกปลฺลานิ วิย อฑฺฒติยนาฏกโกฏิโย, นเขหิ วณมุขานิ ตจฺเฉตฺวา องฺคารกปลฺเล ปริตาปนํ วิย วตฺถุปฏิเสวนํ, เภสชฺชํ อาคมฺม อโรคกาโล วิย กาเมสุ อาทีนวํ เนกฺขมฺเม จ อานิสํสํ ทิสฺวา นิกฺขมฺม พุทฺธภูตกาเล จตุตฺถชฺฌานิกผลสมาปตฺติรติยา วีติวตฺตนกาโล, อฺํ กุฏฺิปุริสํ ทิสฺวา อปตฺถนกาโล วิย ตาย รติยา วีตินาเมนฺตสฺส หีนชนรติยา อปตฺถนกาโลติ.

๒๑๔. อุปหตินฺทฺริโยติ กิมิรกุฏฺเน นาม อุปหตกายปฺปสาโท. อุปหตินฺทฺริยาติ อุปหตปฺินฺทฺริยา. เต ยถา โส อุปหตกายินฺทฺริโย กุฏฺี ทุกฺขสมฺผสฺสสฺมึเยว อคฺคิสฺมึ สุขมิติ วิปรีตสฺํ ปจฺจลตฺถ, เอวํ ปฺินฺทฺริยสฺส อุปหตตฺตา ทุกฺขสมฺผสฺเสสฺเวว กาเมสุ สุขมิติ วิปรีตสฺํ ปจฺจลตฺถุํ.

๒๑๕. อสุจิตรานิ เจวาติอาทีสุ ปกติยาว ตานิ อสุจีนิ จ ทุคฺคนฺธานิ จ ปูตีนิ จ, อิทานิ ปน อสุจิตรานิ เจว ทุคฺคนฺธตรานิ จ ปูติตรานิ จ โหนฺติ. กาจีติ ตสฺส หิ ปริตาเปนฺตสฺส จ กณฺฑูวนฺตสฺส จ ปาณกา อนฺโต ปวิสนฺติ, ทุฏฺโลหิตทุฏฺปุพฺพา ปคฺฆรนฺติ. เอวมสฺส กาจิ อสฺสาทมตฺตา โหติ.

อาโรคฺยปรมาติ คาถาย เย เกจิ ธนลาภา วา ยสลาภา วา ปุตฺตลาภา วา อตฺถิ, อาโรคฺยํ เตสํ ปรมํ อุตฺตมํ, นตฺถิ ตโต อุตฺตริตโร ลาโภติ, อาโรคฺยปรมา ลาภา. ยํกิฺจิ ฌานสุขํ วา มคฺคสุขํ วา ผลสุขํ วา อตฺถิ, นิพฺพานํ ตตฺถ ปรมํ, นตฺถิ ตโต อุตฺตริตรํ สุขนฺติ นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ. อฏฺงฺคิโก มคฺคานนฺติ ปุพฺพภาคมคฺคานํ ปุพฺพภาคคมเนเนว อมตคามีนํ อฏฺงฺคิโก เขโม, นตฺถิ ตโต เขมตโร อฺโ มคฺโค. อถ วา เขมํ อมตคามินนฺติ เอตฺถ เขมนฺติปิ อมตนฺติปิ นิพฺพานสฺเสว นามํ. ยาวตา ปุถุสมณพฺราหฺมณา ปรปฺปวาทา เขมคามิโน จ อมตคามิโน จาติ ลทฺธิวเสน คหิตา, สพฺเพสํ เตสํ เขมอมตคามีนํ มคฺคานํ อฏฺงฺคิโก ปรโม อุตฺตโมติ อยเมตฺถ อตฺโถ.

๒๑๖. อาจริยปาจริยานนฺติ อาจริยานฺเจว อาจริยาจริยานฺจ. สเมตีติ เอกนาฬิยา มิตํ วิย เอกตุลาย ตุลิตํ วิย สทิสํ โหติ นินฺนานากรณํ. อโนมชฺชตีติ ปาณึ เหฏฺา โอตาเรนฺโต มชฺชติ – ‘‘อิทํ ตํ, โภ โคตม, อาโรคฺยํ, อิทํ ตํ นิพฺพาน’’นฺติ กาเลน สีสํ กาเลน อุรํ ปริมชฺชนฺโต เอวมาห.

๒๑๗. เฉกนฺติ สมฺปนฺนํ. สาหุฬิจีเรนาติ กาฬเกหิ เอฬกโลเมหิ กตถูลจีเรน. สงฺการโจฬเกนาติปิ วทนฺติ. วาจํ นิจฺฉาเรยฺยาติ กาเลน ทสาย กาเลน อนฺเต กาเลน มชฺเฌ ปริมชฺชนฺโต นิจฺฉาเรยฺย, วเทยฺยาติ อตฺโถ. ปุพฺพเกเหสาติ ปุพฺพเกหิ เอสา. วิปสฺสีปิ หิ ภควา…เป… กสฺสโปปิ ภควา จตุปริสมชฺเฌ นิสินฺโน อิมํ คาถํ อภาสิ, ‘‘อตฺถนิสฺสิตคาถา’’ติ มหาชโน อุคฺคณฺหิ. สตฺถริ ปรินิพฺพุเต อปรภาเค ปริพฺพาชกานํ อนฺตรํ ปวิฏฺา. เต โปตฺถกคตํ กตฺวา ปททฺวยเมว รกฺขิตุํ สกฺขึสุ. เตนาห – สา เอตรหิ อนุปุพฺเพน ปุถุชฺชนคาถาติ.

๒๑๘. โรโคว ภูโตติ โรคภูโต. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อริยํ จกฺขุนฺติ ปริสุทฺธํ วิปสฺสนาาณฺเจว มคฺคาณฺจ. ปโหตีติ สมตฺโถ. เภสชฺชํ กเรยฺยาติ อุทฺธํวิเรจนํ อโธวิเรจนํ อฺชนฺจาติ เภสชฺชํ กเรยฺย.

๒๑๙. น จกฺขูนิ อุปฺปาเทยฺยาติ ยสฺส หิ อนฺตรา ปิตฺตเสมฺหาทิปลิเวเน จกฺขุปสาโท อุปหโต โหติ, โส เฉกํ เวชฺชํ อาคมฺม สปฺปายเภสชฺชํ เสวนฺโต จกฺขูนิ อุปฺปาเทติ นาม. ชจฺจนฺธสฺส ปน มาตุกุจฺฉิยํเยว วินฏฺานิ, ตสฺมา โส น ลภติ. เตน วุตฺตํ ‘‘น จกฺขูนิ อุปฺปาเทยฺยา’’ติ.

๒๒๐. ทุติยวาเร ชจฺจนฺโธติ ชาตกาลโต ปฏฺาย ปิตฺตาทิปลิเวเน อนฺโธ. อมุสฺมินฺติ ตสฺมึ ปุพฺเพ วุตฺเต. อมิตฺตโตปิ ทเหยฺยาติ อมิตฺโต เม อยนฺติ เอวํ อมิตฺตโต เปยฺย. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. อิมินา จิตฺเตนาติ วฏฺเฏ อนุคตจิตฺเตน. ตสฺส เม อุปาทานปจฺจยาติ เอกสนฺธิ ทฺวิสงฺเขโป ปจฺจยากาโร กถิโต, วฏฺฏํ วิภาวิตํ.

๒๒๑. ธมฺมานุธมฺมนฺติ ธมฺมสฺส อนุธมฺมํ อนุจฺฉวิกํ ปฏิปทํ. อิเม โรคา คณฺฑา สลฺลาติ ปฺจกฺขนฺเธ ทสฺเสติ. อุปาทานนิโรธาติ วิวฏฺฏํ ทสฺเสนฺโต อาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

มาคณฺฑิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สนฺทกสุตฺตวณฺณนา

๒๒๓. เอวํเม สุตนฺติ สนฺทกสุตฺตํ. ตตฺถ ปิลกฺขคุหายนฺติ ตสฺสา คุหาย ทฺวาเร ปิลกฺขรุกฺโข อโหสิ, ตสฺมา ปิลกฺขคุหาตฺเวว สงฺขํ คตา. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ วิเวกโต วุฏฺิโต. เทวกตโสพฺโภติ วสฺโสทเกเนว ตินฺนฏฺาเน ชาโต มหาอุทกรหโท. คุหาทสฺสนายาติ เอตฺถ คุหาติ ปํสุคุหา. สา อุนฺนเม อุทกมุตฺตฏฺาเน อโหสิ, เอกโต อุมงฺคํ กตฺวา ขาณุเก จ ปํสุฺจ นีหริตฺวา อนฺโต ถมฺเภ อุสฺสาเปตฺวา มตฺถเก ปทรจฺฉนฺนเคหสงฺเขเปน กตา, ตตฺถ เต ปริพฺพาชกา วสนฺติ. สา วสฺสาเน อุทกปุณฺณา ติฏฺติ, นิทาเฆ ตตฺถ วสนฺติ. ตํ สนฺธาย ‘‘คุหาทสฺสนายา’’ติ อาห. วิหารทสฺสนตฺถฺหิ อนมตคฺคิยํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา สมุทฺทปพฺพตทสฺสนตฺถํ วาปิ คนฺตุํ วฏฺฏตีติ.

อุนฺนาทินิยาติ อุจฺจํ นทมานาย. เอวํ นทมานาย จสฺสา อุทฺธงฺคมนวเสน อุจฺโจ, ทิสาสุ ปตฺถฏวเสน มหาสทฺโทติ อุจฺจาสทฺทมหาสทฺโท, ตาย อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทาย. เตสํ ปริพฺพาชกานํ ปาโตว อุฏฺาย กตฺตพฺพํ นาม เจติยวตฺตํ วา โพธิวตฺตํ วา อาจริยุปชฺฌายวตฺตํ วา โยนิโสมนสิกาโร วา นตฺถิ. เตน เต ปาโตว อุฏฺาย พาลาตเป นิสินฺนา, สายํ วา กถาย ผาสุกตฺถาย สนฺนิปติตา ‘‘อิมสฺส หตฺโถ โสภโณ อิมสฺส ปาโท’’ติ เอวํ อฺมฺสฺส หตฺถปาทาทีนิ วา อารพฺภ อิตฺถิปุริสทารกทาริกาวณฺเณ วา อฺํ วา กามสฺสาทภวสฺสาทาทิวตฺถุํ อารพฺภ กถํ ปฏฺเปตฺวา อนุปุพฺเพน ราชกถาทิอเนกวิธํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺติ. สา หิ อนิยฺยานิกตฺตา สคฺคโมกฺขมคฺคานํ ติรจฺฉานภูตา กถาติ ติรจฺฉานกถา. ตตฺถ ราชานํ อารพฺภ ‘‘มหาสมฺมโต มนฺธาตา ธมฺมาโสโก เอวํมหานุภาโว’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตา กถา ราชกถา. เอส นโย โจรกถาทีสุ.

เตสุ ‘‘อสุโก ราชา อภิรูโป ทสฺสนีโย’’ติอาทินา นเยน เคหสฺสิตกถาว ติรจฺฉานกถา โหติ. ‘‘โสปิ นาม เอวํ มหานุภาโว ขยํ คโต’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปน กมฺมฏฺานภาเว ติฏฺติ. โจเรสุปิ ‘‘มูลเทโว เอวํมหานุภาโว, เมฆมาโล เอวํมหานุภาโว’’ติ เตสํ กมฺมํ ปฏิจฺจ อโห สูราติ เคหสฺสิตกถาว ติรจฺฉานกถา. ยุทฺเธปิ ภารตยุทฺธาทีสุ ‘‘อสุเกน อสุโก เอวํ มาริโต เอวํ วิทฺโธ’’ติ กามสฺสาทวเสเนว กถา ติรจฺฉานกถา. ‘‘เตปิ นาม ขยํ คตา’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปน สพฺพตฺถ กถา กมฺมฏฺานเมว โหติ. อปิจ อนฺนาทีสุ ‘‘เอวํ วณฺณวนฺตํ คนฺธวนฺตํ รสวนฺตํ ผสฺสสมฺปนฺนํ ขาทิมฺห ภุฺชิมฺห ปิวิมฺห ปริภุฺชิมฺหา’’ติ กามสฺสาทวเสน กเถตุํ น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา – ‘‘ปุพฺเพ เอวํ วณฺณาทิสมฺปนฺนํ อนฺนํ ปานํ วตฺถํ สยนํ มาลํ คนฺธํ สีลวนฺตานํ อทมฺห, เจติเย ปูชํ อกริมฺหา’’ติ กเถตุํ วฏฺฏติ.

าติกถาทีสุปิ ‘‘อมฺหากํ าตกา สูรา สมตฺถา’’ติ วา ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวํ วิจิตฺเรหิ ยาเนหิ จริมฺหา’’ติ วา อสฺสาทวเสน วตฺตุํ น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘เตปิ โน าตกา ขยํ คตา’’ติ วา ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวรูปา อุปาหนา สงฺฆสฺส อทมฺหา’’ติ วา กเถตพฺพา. คามกถาปิ สุนิวิฏฺทุนฺนิวิฏฺสุภิกฺขทุพฺภิกฺขาทิวเสน วา ‘‘อสุกคามวาสิโน สูรา สมตฺถา’’ติ วา เอวํ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา สทฺธา ปสนฺนาติ วา ขยวยํ คตาติ วา วตฺตุํ วฏฺฏติ. นิคมนครชนปทกถาสุปิ เอเสว นโย. อิตฺถิกถาปิ วณฺณสณฺานาทีนิ ปฏิจฺจ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, สทฺธา ปสนฺนา ขยํ คตาติ เอวเมว วฏฺฏติ. สูรกถาปิ นนฺทิมิตฺโต นาม โยโธ สูโร อโหสีติ อสฺสาทวเสเนว น วฏฺฏติ, สทฺโธ ปสนฺโน อโหสิ ขยํ คโตติ เอวเมว วฏฺฏติ. วิสิขากถาปิ อสุกา วิสิขา สุนิวิฏฺา ทุนฺนิวิฏฺา สูรา สมตฺถาติ อสฺสาทวเสเนว น วฏฺฏติ, สทฺธา ปสนฺนา ขยํ คตา อิจฺเจวํ วฏฺฏติ.

กุมฺภฏฺานกถาติ กุมฺภฏฺานอุทกติตฺถกถา วา วุจฺจติ กุมฺภทาสิกถา วา. สาปิ ‘‘ปาสาทิกา นจฺจิตุํ คายิตุํ เฉกา’’ติ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, สทฺธา ปสนฺนาติอาทินา นเยเนว วฏฺฏติ. ปุพฺพเปตกถาติ อตีตาติกถา. ตตฺถ วตฺตมานาติกถาสทิโสว วินิจฺฉโย.

นานตฺตกถาติ ปุริมปจฺฉิมกถาวิมุตฺตา อวเสสา นานาสภาวา นิรตฺถกกถา. โลกกฺขายิกาติ อยํ โลโก เกน นิมฺมิโต, อสุเกน นาม นิมฺมิโต, กากา เสตา อฏฺีนํ เสตตฺตา, พกา รตฺตา โลหิตสฺส รตฺตตฺตาติ เอวมาทิกา โลกายตวิตณฺฑสลฺลาปกถา.

สมุทฺทกฺขายิกา นาม กสฺมา สมุทฺโท สาคโร, สาครเทเวน ขณิตตฺตา สาคโร, ขโต เมติ หตฺถมุทฺทาย นิเวทิตตฺตา สมุทฺโทติ เอวมาทิกา นิรตฺถกา สมุทฺทกฺขายิกกถา. อิติ ภโว, อิติ อภโวติ ยํ วา ตํ วา นิรตฺถกการณํ วตฺวา ปวตฺติตกถา อิติภวาภวกถา. เอตฺถ จ ภโวติ สสฺสตํ, อภโวติ อุจฺเฉทํ. ภโวติ วฑฺฒิ, อภโวติ หานิ. ภโวติ กามสุขํ, อภโวติ อตฺตกิลมโถ. อิติ อิมาย ฉพฺพิธาย อิติภวาภวกถาย สทฺธึ พาตฺตึสติรจฺฉานกถา นาม โหติ. เอวรูปึ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺติยา นิสินฺโน โหติ.

ตโต สนฺทโก ปริพฺพาชโก เต ปริพฺพาชเก โอโลเกตฺวา – ‘‘อิเม ปริพฺพาชกา อติวิย อฺมฺํ อคารวา อปฺปติสฺสา, มยฺจ สมณสฺส โคตมสฺส ปาตุภาวโต ปฏฺาย สูริยุคฺคมเน ขชฺโชปนกูปมา ชาตา, ลาภสกฺกาโรปิ โน ปริหีโน. สเจ ปน อิมํ านํ สมโณ โคตโม โคตมสาวโก วา คิหิอุปฏฺาโกปิ วาสฺส อาคจฺเฉยฺย, อติวิย ลชฺชนียํ ภวิสฺสติ. ปริสโทโส โข ปน ปริสเชฏฺกสฺเสว อุปริ อาโรหตี’’ติ อิโต จิโต จ วิโลเกนฺโต เถรํ อทฺทส. เตน วุตฺตํ อทฺทสา โข สนฺทโก ปริพฺพาชโก…เป… ตุณฺหี อเหสุนฺติ.

ตตฺถ สณฺเปสีติ สิกฺขาเปสิ, วชฺชมสฺสา ปฏิจฺฉาเทสิ. ยถา สุฏฺปิตา โหติ, ตถา นํ เปสิ. ยถา นาม ปริสมชฺฌํ ปวิสนฺโต ปุริโส วชฺชปฏิจฺฉาทนตฺถํ นิวาสนํ สณฺเปติ, ปารุปนํ สณฺเปติ, รโชกิณฺณฏฺานํ ปุฺฉติ, เอวมสฺสา วชฺชปฏิจฺฉาทนตฺถํ ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต’’ติ สิกฺขาเปนฺโต ยถา สุฏฺปิตา โหติ, ตถา นํ เปสีติ อตฺโถ. อปฺปสทฺทกามาติ อปฺปสทฺทํ อิจฺฉนฺติ, เอกกา นิสีทนฺติ, เอกกา ติฏฺนฺติ, น คณสงฺคณิกาย ยาเปนฺติ. อปฺปสทฺทวินีตาติ อปฺปสทฺเทน นิรเวน พุทฺเธน วินีตา. อปฺปสทฺทสฺสวณฺณวาทิโนติ ยํ านํ อปฺปสทฺทํ นิสฺสทฺทํ. ตสฺส วณฺณวาทิโน. อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺเยฺยาติ อิธาคนฺตพฺพํ มฺเยฺย.

กสฺมา ปเนส เถรสฺส อุปสงฺกมนํ ปจฺจาสีสตีติ. อตฺตโน วุทฺธึ ปตฺถยมาโน. ปริพฺพาชกา กิร พุทฺเธสุ วา พุทฺธสาวเกสุ วา อตฺตโน สนฺติกํ อาคเตสุ – ‘‘อชฺช อมฺหากํ สนฺติกํ สมโณ โคตโม อาคโต, สาริปุตฺโต อาคโต, น โข ปเนเต ยสฺส วา ตสฺส วา สนฺติกํ คจฺฉนฺติ, ปสฺสถ อมฺหากํ อุตฺตมภาว’’นฺติ อตฺตโน อุปฏฺากานํ สนฺติเก อตฺตานํ อุกฺขิปนฺติ อุจฺเจ าเน เปนฺติ. ภควโตปิ อุปฏฺาเก คณฺหิตุํ วายมนฺติ. เต กิร ภควโต อุปฏฺาเก ทิสฺวา เอวํ วทนฺติ – ‘‘ตุมฺหากํ สตฺถา ภวํ โคตโมปิ โคตมสฺส สาวกาปิ อมฺหากํ สนฺติกํ อาคจฺฉนฺติ, มยํ อฺมฺํ สมคฺคา. ตุมฺเห ปน อมฺเห อกฺขีหิ ปสฺสิตุํ น อิจฺฉถ, สามีจิกมฺมํ น กโรถ, กึ โว อมฺเหหิ อปรทฺธ’’นฺติ. อปฺเปกจฺเจ มนุสฺสา – ‘‘พุทฺธาปิ เอเตสํ สนฺติกํ คจฺฉนฺติ, กึ อมฺหาก’’นฺติ ตโต ปฏฺาย เต ทิสฺวา นปฺปมชฺชนฺติ. ตุณฺหี อเหสุนฺติ สนฺทกํ ปริวาเรตฺวา นิสฺสทฺทา นิสีทึสุ.

๒๒๔. สฺวาคตํ โภโต อานนฺทสฺสาติ สุอาคมนํ โภโต อานนฺทสฺส. ภวนฺเต หิ โน อาคเต อานนฺโท โหติ, คเต โสโกติ ทีเปติ. จิรสฺสํ โขติ ปิยสมุทาจารวจนเมตํ. เถโร ปน กาเลน กาลํ ปริพฺพาชการามํ จาริกตฺถาย คจฺฉตีติ ปุริมคมนํ คเหตฺวา เอวมาห. เอวฺจ ปน วตฺวา น มานตฺถทฺโธ หุตฺวา นิสีทิ, อตฺตโน ปน อาสนา วุฏฺาย ตํ อาสนํ ปปฺโผเฏตฺวา เถรํ อาสเนน นิมนฺเตนฺโต นิสีทตุ ภวํ อานนฺโท, อิทมาสนํ ปฺตฺตนฺติ อาห.

อนฺตรากถาวิปฺปกตาติ นิสินฺนานํ โว อารมฺภโต ปฏฺาย ยาว มมาคมนํ เอตสฺมึ อนฺตเร กา นาม กถา วิปฺปกตา, มมาคมนปจฺจยา กตมา กถา ปริยนฺตํ น คตาติ ปุจฺฉติ.

อถ ปริพฺพาชโก ‘‘นิรตฺถกกถาว เอสา นิสฺสารา วฏฺฏสนฺนิสฺสิตา, น ตุมฺหากํ ปุรโต วตฺตพฺพตํ อรหตี’’ติ ทีเปนฺโต ติฏฺเตสา, โภติอาทิมาห. เนสา โภโตติ สเจ ภวํ โสตุกาโม ภวิสฺสติ, ปจฺฉาเปสา กถา น ทุลฺลภา ภวิสฺสติ, อมฺหากํ ปนิมาย อตฺโถ นตฺถิ. โภโต ปน อาคมนํ ลภิตฺวา อฺเทว สุการณํ กถํ โสตุกามมฺหาติ ทีเปติ. ตโต ธมฺมเทสนํ ยาจนฺโต สาธุ วต ภวนฺตํ เย วาติอาทิมาห. ตตฺถ อาจริยเกติ อาจริยสมเย. อนสฺสาสิกานีติ อสฺสาสวิรหิตานิ. สสกฺกนฺติ เอกํสตฺเถ นิปาโต, วิฺู ปุริโส เอกํเสเนว น วเสยฺยาติ อตฺโถ. วสนฺโต จ นาราเธยฺยาติ น สมฺปาเทยฺย, น ปริปูเรยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. ายํ ธมฺมํ กุสลนฺติ การณภูตํ อนวชฺชฏฺเน กุสลํ ธมฺมํ.

๒๒๕. อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. นตฺถิ ทินฺนนฺติอาทีนิ สาเลยฺยกสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๔๔๐) วุตฺตานิ. จาตุมหาภูติโกติ จตุมหาภูตมโย. ปถวี ปถวีกายนฺติ อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ พาหิรปถวีธาตุํ. อนุเปตีติ อนุยาติ. อนุปคจฺฉตีติ ตสฺเสว เววจนํ, อนุคจฺฉตีติปิ อตฺโถ, อุภเยนาปิ อุเปติ อุปคจฺฉตีติ ทสฺเสติ. อาปาทีสุปิ เอเสว นโย. อินฺทฺริยานีติ มนจฺฉฏฺานิ อินฺทฺริยานิ อากาสํ ปกฺขนฺทนฺติ. อาสนฺทิปฺจมาติ นิปนฺนมฺเจน ปฺจมา, มฺโจ เจว, จตฺตาโร มฺจปาเท คเหตฺวา ิตา จตฺตาโร ปุริสา จาติ อตฺโถ. ยาวาฬาหนาติ ยาว สุสานา. ปทานีติ อยํ เอวํ สีลวา อโหสิ, เอวํ ทุสฺสีโลติอาทินา นเยน ปวตฺตานิ คุณปทานิ. สรีรเมว วา เอตฺถ ปทานีติ อธิปฺเปตํ. กาโปตกานีติ กโปตกวณฺณานิ, ปาราวตปกฺขวณฺณานีติ อตฺโถ.

ภสฺสนฺตาติ ภสฺมนฺตา, อยเมว วา ปาฬิ. อาหุติโยติ ยํ ปเหณกสกฺการาทิเภทํ ทินฺนทานํ, สพฺพํ ตํ ฉาริกาวสานเมว โหติ, น ตโต ปรํ ผลทายกํ หุตฺวา คจฺฉตีติ อตฺโถ. ทตฺตุปฺตฺตนฺติ ทตฺตูหิ พาลมนุสฺเสหิ ปฺตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – พาเลหิ อพุทฺธีหิ ปฺตฺตมิทํ ทานํ, น ปณฺฑิเตหิ. พาลา เทนฺติ, ปณฺฑิตา คณฺหนฺตีติ ทสฺเสติ. อตฺถิกวาทนฺติ อตฺถิ ทินฺนํ ทินฺนผลนฺติ อิมํ อตฺถิกวาทํเยว วทนฺติ เตสํ ตุจฺฉํ วจนํ มุสาวิลาโป. พาเลจ ปณฺฑิเต จาติ พาลา จ ปณฺฑิตา จ.

อกเตน เม เอตฺถ กตนฺติ มยฺหํ อกเตเนว สมณกมฺเมน เอตฺถ เอตสฺส สมเย กมฺมํ กตํ นาม โหติ, อวุสิเตเนว พฺรหฺมจริเยน วุสิตํ นาม โหติ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ สมณธมฺเม. สมสมาติ อติวิย สมา, สเมน วา คุเณน สมา. สามฺํ ปตฺตาติ สมานภาวํ ปตฺตา.

๒๒๖. กรโตติอาทีนิ อปณฺณกสุตฺเต วุตฺตานิ. ตถา นตฺถิ เหตูติอาทีนิ.

๒๒๘. จตุตฺถพฺรหฺมจริยวาเส อกฏาติ อกตา. อกฏวิธาติ อกตวิธานา, เอวํ กโรหีติ เกนจิ การาปิตา น โหนฺตีติ อตฺโถ. อนิมฺมิตาติ อิทฺธิยาปิ น นิมฺมิตา. อนิมฺมาตาติ อนิมฺมาปิตา. เกจิ อนิมฺมิตพฺพาติ ปทํ วทนฺติ, ตํ เนว ปาฬิยํ, น อฏฺกถายํ สนฺทิสฺสติ. วฺฌาติ วฺฌปสุวฺฌตาลาทโย วิย อผลา, กสฺสจิ อชนกาติ อตฺโถ. เอเตน ปถวีกายาทีนํ รูปาทิชนกภาวํ ปฏิกฺขิปติ. ปพฺพตกูฏา วิย ิตาติ กูฏฏฺา. อีสิกฏฺายิฏฺิตาติ มุฺเช อีสิกา วิย ิตา. ตตฺรายมธิปฺปาโย – ยมิทํ ชายตีติ วุจฺจติ, ตํ มุฺชโต อีสิกา วิย วิชฺชมานเมว นิกฺขมตีติ. ‘‘เอสิกฏฺายิฏฺิตา’’ติปิ ปาโ, สุนิขาโต เอสิกตฺถมฺโภ นิจฺจโล ติฏฺติ, เอวํ ิตาติ อตฺโถ. อุภเยนปิ เตสํ วินาสาภาวํ ทีเปติ. น อิฺชนฺตีติ เอสิกตฺถมฺโภ วิย ิตตฺตา น จลนฺติ. น วิปริณาเมนฺตีติ ปกตึ น ชหนฺติ. น อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺตีติ อฺมฺํ น อุปหนนฺติ. นาลนฺติ น สมตฺถา.

ปถวีกาโยติอาทีสุ ปถวีเยว ปถวีกาโย, ปถวีสมูโห วา. ตตฺถาติ เตสุ ชีวสตฺตเมสุ กาเยสุ. นตฺถิ หนฺตา วาติ หนฺตุํ วา ฆาเตตุํ วา โสตุํ วา สาเวตุํ วา ชานิตุํ วา ชานาเปตุํ วา สมตฺโถ นาม นตฺถีติ ทีเปติ. สตฺตนฺนํตฺเวว กายานนฺติ ยถา มุคฺคราสิอาทีสุ ปหฏํ สตฺถํ มุคฺคราสิอาทีนํ อนฺตเรน ปวิสติ, เอวํ สตฺตนฺนํ กายานํ อนฺตเรน ฉิทฺเทน วิวเรน สตฺถํ ปวิสติ. ตตฺถ ‘‘อหํ อิมํ ชีวิตา โวโรเปมี’’ติ เกวลํ สฺามตฺตเมว โหตีติ ทสฺเสติ. โยนิปมุขสตสหสฺสานีติ ปมุขโยนีนํ อุตฺตมโยนีนํ จุทฺทสสตสหสฺสานิ อฺานิ จ สฏฺิสตานิ อฺานิ จ ฉสตานิ. ปฺจ จ กมฺมุโน สตานีติ ปฺจ กมฺมสตานิ จ, เกวลํ ตกฺกมตฺตเกน นิรตฺถกํ ทิฏฺึ ทีเปติ. ปฺจ จ กมฺมานิ ตีณิ จ กมฺมานีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เกจิ ปนาหุ ปฺจ กมฺมานีติ ปฺจินฺทฺริยวเสน ภณติ. ตีณีติ กายกมฺมาทิวเสนาติ. กมฺเม จ อฑฺฒกมฺเม จาติ เอตฺถ ปนสฺส กายกมฺมฺจ วจีกมฺมฺจ กมฺมนฺติ ลทฺธิ, มโนกมฺมํ อุปฑฺฒกมฺมนฺติ. ทฺวฏฺิปฏิปทาติ ทฺวาสฏฺิ ปฏิปทาติ วทติ. ทฺวฏฺนฺตรกปฺปาติ เอกสฺมึ กปฺเป จตุสฏฺิ อนฺตรกปฺปา นาม โหนฺติ, อยํ ปน อฺเ ทฺเว อชานนฺโต เอวมาห. ฉฬาภิชาติโย อปณฺณกสุตฺเต วิตฺถาริตา.

อฏฺ ปุริสภูมิโยติ มนฺทภูมิ ขิฑฺฑาภูมิ วีมํสกภูมิ อุชุคตภูมิ เสกฺขภูมิ สมณภูมิ ชินภูมิ ปนฺนภูมีติ อิมา อฏฺ ปุริสภูมิโยติ วทติ. ตตฺถ ชาตทิวสโต ปฏฺาย สตฺตทิวเส สมฺพาธฏฺานโต นิกฺขนฺตตฺตา สตฺตา มนฺทา โหนฺติ โมมูหา. อยํ มนฺทภูมีติ วทติ. เย ปน ทุคฺคติโต อาคตา โหนฺติ, เต อภิณฺหํ โรทนฺติ เจว วิรวนฺติ จ. สุคติโต อาคตา ตํ อนุสฺสริตฺวา อนุสฺสริตฺวา หสนฺติ. อยํ ขิฑฺฑาภูมิ นาม. มาตาปิตูนํ หตฺถํ วา ปาทํ วา มฺจํ วา ปีํ วา คเหตฺวา ภูมิยํ ปทนิกฺขิปนํ วีมํสกภูมิ นาม. ปทสาว คนฺตุํ สมตฺถกาโล อุชุคตภูมิ นาม. สิปฺปานํ สิกฺขนกาโล เสกฺขภูมิ นาม. ฆรา นิกฺขมฺม ปพฺพชนกาโล สมณภูมิ นาม. อาจริยํ เสวิตฺวา ชานนกาโล ชินภูมิ นาม. ภิกฺขุ จ ปนฺนโก ชิโน น กิฺจิ อาหาติ เอวํ อลาภึ สมณํ ปนฺนภูมีติ วทติ.

เอกูนปฺาสอาชีวสเตติ เอกูนปฺาส อาชีววุตฺติสตานิ. ปริพฺพาชกสเตติ ปริพฺพาชกปพฺพชฺชสตานิ. นาคาวาสสเตติ นาคมณฺฑลสตานิ. วีเส อินฺทฺริยสเตติ วีส อินฺทฺริยสตานิ. ตึเส นิรยสเตติ ตึส นิรยสตานิ. รโชธาตุโยติ รชโอกิรณฏฺานานิ. หตฺถปิฏฺิปาทปิฏฺาทีนิ สนฺธาย วทติ. สตฺต สฺีคพฺภาติ โอฏฺโคณคทฺรภอชปสุมิคมหึเส สนฺธาย วทติ. อสฺีคพฺภาติ สาลิยวโคธุมมุคฺคกงฺคุวรกกุทฺรูสเก สนฺธาย วทติ. นิคณฺิคพฺภาติ นิคณฺิมฺหิ ชาตคพฺภา, อุจฺฉุเวฬุนฬาทโย สนฺธาย วทติ. สตฺต เทวาติ พหู เทวา, โส ปน สตฺตาติ วทติ. มานุสาปิ อนนฺตา, โส สตฺตาติ วทติ. สตฺต ปิสาจาติ ปิสาจา มหนฺตา, สตฺตาติ วทติ.

สราติ มหาสรา. กณฺณมุณฺฑ-รถการ-อโนตตฺต-สีหปปาตกุฬิร-มุจลินฺท-กุณาลทเห คเหตฺวา วทติ. ปวุฏาติ คณฺิกา. ปปาตาติ มหาปปาตา. ปปาตสตานีติ ขุทฺทกปปาตสตานิ. สุปินาติ มหาสุปินา. สุปินสตานีติ ขุทฺทกสุปินสตานิ. มหากปฺปิโนติ มหากปฺปานํ. เอตฺถ เอกมฺหา สรา วสฺสสเต วสฺสสเต กุสคฺเคน เอกํ อุทกพินฺทุํ นีหริตฺวา นีหริตฺวา สตฺตกฺขตฺตุํ ตมฺหิ สเร นิรุทเก กเต เอโก มหากปฺโปติ วทติ. เอวรูปานํ มหากปฺปานํ จตุราสีติสตสหสฺสานิ เขเปตฺวา พาลา จ ปณฺฑิตา จ ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรนฺตีติ อยมสฺส ลทฺธิ. ปณฺฑิโตปิ กิร อนฺตรา สุชฺฌิตุํ น สกฺโกติ, พาโลปิ ตโต อุทฺธํ น คจฺฉติ.

สีเลนาติ อเจลกสีเลน วา อฺเน วา เยน เกนจิ. วเตนาติ ตาทิเสน วเตน. ตเปนาติ ตโปกมฺเมน. อปริปกฺกํ ปริปาเจติ นาม โย ‘‘อหํ ปณฺฑิโต’’ติ อนฺตรา วิสุชฺฌติ. ปริปกฺกํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตึ กโรติ นาม โย ‘‘อหํ พาโล’’ติ วุตฺตปริมาณํ กาลํ อติกฺกมิตฺวา ยาติ. เหวํ นตฺถีติ เอวํ นตฺถิ. ตฺหิ อุภยมฺปิ น สกฺกา กาตุนฺติ ทีเปติ. โทณมิเตติ โทเณน มิตํ วิย. สุขทุกฺเขติ สุขทุกฺขํ. ปริยนฺตกเตติ วุตฺตปริมาเณน กาเลน กตปริยนฺโต. นตฺถิ หายนวฑฺฒเนติ นตฺถิ หายนวฑฺฒนานิ. น สํสาโร ปณฺฑิตสฺส หายติ, น พาลสฺส วฑฺฒตีติ อตฺโถ. อุกฺกํสาวกํเสติ อุกฺกํสาวกํสา, หาปนวฑฺฒนานเมเวตํ เววจนํ. อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย สาเธนฺโต เสยฺยถาปิ นามาติอาทิมาห. ตตฺถ สุตฺตคุเฬติ เวเตฺวา กตสุตฺตคุฬํ. นิพฺเพิยมานเมว ปเลตีติ ปพฺพเต วา รุกฺขคฺเค วา ตฺวา ขิตฺตํ สุตฺตปมาเณน นิพฺเพิยมานํ คจฺฉติ, สุตฺเต ขีเณ ตตฺถ ติฏฺติ น คจฺฉติ. เอวเมวํ วุตฺตกาลโต อุทฺธํ น คจฺฉตีติ ทสฺเสติ.

๒๒๙. กิมิทนฺติ กิมิทํ ตว อฺาณํ, กึ สพฺพฺุ นาม ตฺวนฺติ เอวํ ปุฏฺโ สมาโน นิยติวาเท ปกฺขิปนฺโต สุฺํ เม อคารนฺติอาทิมาห.

๒๓๐. อนุสฺสวิโก โหตีติ อนุสฺสวนิสฺสิโต โหติ. อนุสฺสวสจฺโจติ สวนํ สจฺจโต คเหตฺวา ิโต. ปิฏกสมฺปทายาติ วคฺคปณฺณาสกาย ปิฏกคนฺถสมฺปตฺติยา.

๒๓๒. มนฺโทติ มนฺทปฺโ. โมมูโหติ อติมูฬฺโห. วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชตีติ วาจาย วิกฺเขปํ อาปชฺชติ. กีทิสํ? อมราวิกฺเขปํ, อปริยนฺตวิกฺเขปนฺติ อตฺโถ. อถ วา อมรา นาม มจฺฉชาติ. สา อุมฺมุชฺชนนิมฺมุชฺชนาทิวเสน อุทเก สนฺธาวมานา คเหตุํ น สกฺกาติ เอวเมว อยมฺปิ วาโท อิโต จิโต จ สนฺธาวติ, คาหํ น อุปคจฺฉตีติ อมราวิกฺเขโปติ วุจฺจติ. ตํ อมราวิกฺเขปํ.

เอวนฺติปิ เม โนติอาทีสุ อิทํ กุสลนฺติ ปุฏฺโ ‘‘เอวนฺติปิ เม โน’’ติ วทติ, ตโต กึ อกุสลนฺติ วุตฺเต ‘‘ตถาติปิ เม โน’’ติ วทติ, กึ อุภยโต อฺถาติ วุตฺเต ‘‘อฺถาติปิ เม โน’’ติ วทติ, ตโต ติวิเธนาปิ น โหตีติ เต ลทฺธีติ วุตฺเต ‘‘โนติปิ เม โน’’ติ วทติ, ตโต กึ โน โนติ เต ลทฺธีติ วุตฺเต ‘‘โน โนติปิ เม โน’’ติ วิกฺเขปมาปชฺชติ, เอกสฺมิมฺปิ ปกฺเข น ติฏฺติ. นิพฺพิชฺช ปกฺกมตีติ อตฺตโนปิ เอส สตฺถา อวสฺสโย ภวิตุํ น สกฺโกติ, มยฺหํ กึ สกฺขิสฺสตีติ นิพฺพินฺทิตฺวา ปกฺกมติ. ปุริเมสุปิ อนสฺสาสิเกสุ เอเสว นโย.

๒๓๔. สนฺนิธิการกํ กาเม ปริภุฺชิตุนฺติ ยถา ปุพฺเพ คิหิภูโต สนฺนิธึ กตฺวา วตฺถุกาเม ปริภุฺชติ, เอวํ ติลตณฺฑุลสปฺปินวนีตาทีนิ สนฺนิธึ กตฺวา อิทานิ ปริภุฺชิตุํ อภพฺโพติ อตฺโถ. นนุ จ ขีณาสวสฺส วสนฏฺาเน ติลตณฺฑุลาทโย ปฺายนฺตีติ. โน น ปฺายนฺติ, น ปเนส เต อตฺตโน อตฺถาย เปติ, อผาสุกปพฺพชิตาทีนํ อตฺถาย เปติ. อนาคามิสฺส กถนฺติ. ตสฺสาปิ ปฺจ กามคุณา สพฺพโสว ปหีนา, ธมฺเมน ปน ลทฺธํ วิจาเรตฺวา ปริภุฺชติ.

๒๓๖. ปุตฺตมตาย ปุตฺตาติ โส กิร อิมํ ธมฺมํ สุตฺวา อาชีวกา มตา นามาติ สฺี หุตฺวา เอวมาห. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – อาชีวกา มตา นาม, เตสํ มาตา ปุตฺตมตา โหติ, อิติ อาชีวกา ปุตฺตมตาย ปุตฺตา นาม โหนฺติ. สมเณ โคตเมติ สมเณ โคตเม พฺรหฺมจริยวาโส อตฺถิ, อฺตฺถ นตฺถีติ ทีเปติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

สนฺทกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. มหาสกุลุทายิสุตฺตวณฺณนา

๒๓๗. เอวํเม สุตนฺติ มหาสกุลุทายิสุตฺตํ. ตตฺถ โมรนิวาเปติ ตสฺมึ าเน โมรานํ อภยํ โฆเสตฺวา โภชนํ อทํสุ. ตสฺมา ตํ านํ โมรนิวาโปติ สงฺขํ คตํ. อนฺนภาโรติ เอกสฺส ปริพฺพาชกสฺส นามํ. ตถา วรธโรติ. อฺเ จาติ น เกวลํ อิเม ตโย, อฺเปิ อภิฺาตา พหู ปริพฺพาชกา. อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาทีติ อิธ อปฺปสทฺทวินีโตติ อวตฺวาว อิทํ วุตฺตํ. กสฺมา? น หิ ภควา อฺเน วินีโตติ.

๒๓๘. ปุริมานีติ หิยฺโยทิวสํ อุปาทาย ปุริมานิ นาม โหนฺติ, ตโต ปรํ ปุริมตรานิ. กุตูหลสาลายนฺติ กุตูหลสาลา นาม ปจฺเจกสาลา นตฺถิ, ยตฺถ ปน นานาติตฺถิยา สมณพฺราหฺมณา นานาวิธํ กถํ ปวตฺเตนฺติ, สา พหูนํ – ‘‘อยํ กึ วทติ , อยํ กึ วทตี’’ติ กุตูหลุปฺปตฺติฏฺานโต ‘‘กุตูหลสาลา’’ติ วุจฺจติ. ‘‘โกตูหลสาลา’’ติปิ ปาโ. ลาภาติ เย เอวรูเป สมณพฺราหฺมเณ ทฏฺุํ ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ ธมฺมกถํ วา เนสํ โสตุํ ลภนฺติ, เตสํ องฺคมคธานํ อิเม ลาภาติ อตฺโถ.

สงฺฆิโนติอาทีสุ ปพฺพชิตสมูหสงฺขาโต สงฺโฆ เอเตสํ อตฺถีติ สงฺฆิโน. สฺเวว คโณ เอเตสํ อตฺถีติ คณิโน. อาจารสิกฺขาปนวเสน ตสฺส คณสฺส อาจริยาติ คณาจริยา. าตาติ ปฺาตา ปากฏา. ยถาภุจฺจคุเณหิ เจว อยถาภูตคุเณหิ จ สมุคฺคโต ยโส เอเตสํ อตฺถีติ ยสสฺสิโน. ปูรณาทีนฺหิ ‘‘อปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโ, อปฺปิจฺฉตาย วตฺถมฺปิ น นิวาเสตี’’ติอาทินา นเยน ยโส สมุคฺคโต, ตถาคตสฺส ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทีหิ ยถาภูตคุเณหิ. ติตฺถกราติ ลทฺธิกรา. สาธุสมฺมตาติ อิเม สาธู สุนฺทรา สปฺปุริสาติ เอวํ สมฺมตา. พหุชนสฺสาติ อสฺสุตวโต เจว อนฺธพาลปุถุชฺชนสฺส วิภาวิโน จ ปณฺฑิตชนสฺส. ตตฺถ ติตฺถิยา พาลชนสฺส เอวํ สมฺมตา, ตถาคโต ปณฺฑิตชนสฺส. อิมินา นเยน ปูรโณ กสฺสโป สงฺฆีติอาทีสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ภควา ปน ยสฺมา อฏฺตึส อารมฺมณานิ วิภชนฺโต พหูนิ นิพฺพานโอตรณติตฺถานิ อกาสิ, ตสฺมา ‘‘ติตฺถกโร’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

กสฺมา ปเนเต สพฺเพปิ ตตฺถ โอสฏาติ? อุปฏฺากรกฺขณตฺถฺเจว ลาภสกฺการตฺถฺจ. เตสฺหิ เอวํ โหติ – ‘‘อมฺหากํ อุปฏฺากา สมณํ โคตมํ สรณํ คจฺเฉยฺยุํ, เต จ รกฺขิสฺสาม. สมณสฺส จ โคตมสฺส อุปฏฺาเก สกฺการํ กโรนฺเต ทิสฺวา อมฺหากมฺปิ อุปฏฺากา อมฺหากํ สกฺการํ กริสฺสนฺตี’’ติ. ตสฺมา ยตฺถ ยตฺถ ภควา โอสรติ, ตตฺถ ตตฺถ สพฺเพ โอสรนฺติ.

๒๓๙. วาทํ อาโรเปตฺวาติ วาเท โทสํ อาโรเปตฺวา. อปกฺกนฺตาติ, อปคตา, เกจิ ทิสํ ปกฺกนฺตา, เกจิ คิหิภาวํ ปตฺตา, เกจิ อิมํ สาสนํ อาคตา. สหิตํ เมติ มยฺหํ วจนํ สหิตํ สิลิฏฺํ, อตฺถยุตฺตํ การณยุตฺตนฺติ อตฺโถ. อสหิตํ เตติ ตุยฺหํ วจนํ อสหิตํ. อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตนฺติ ยํ ตุยฺหํ ทีฆรตฺตาจิณฺณวเสน สุปฺปคุณํ, ตํ มยฺหํ เอกวจเนเนว วิปราวตฺตํ วิปริวตฺติตฺวา ิตํ, น กิฺจิ ชาตนฺติ อตฺโถ. อาโรปิโต เต วาโทติ มยา ตว วาเท โทโส อาโรปิโต. จร วาทปฺปโมกฺขายาติ โทสโมจนตฺถํ จร วิจร, ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา สิกฺขาติ อตฺโถ. นิพฺเพเหิ วา สเจ ปโหสีติ อถ สยํ ปโหสิ, อิทาเนว นิพฺเพเหิ. ธมฺมกฺโกเสนาติ สภาวกฺโกเสน.

๒๔๐. ตํ โน โสสฺสามาติ ตํ อมฺหากํ เทสิตํ ธมฺมํ สุณิสฺสาม. ขุทฺทมธุนฺติ ขุทฺทกมกฺขิกาหิ กตํ ทณฺฑกมธุํ. อเนลกนฺติ นิทฺโทสํ อปคตมจฺฉิกณฺฑกํ. ปีเฬยฺยาติ ทเทยฺย. ปจฺจาสีสมานรูโปติ ปูเรตฺวา นุ โข โน โภชนํ ทสฺสตีติ ภาชนหตฺโถ ปจฺจาสีสมาโน ปจฺจุปฏฺิโต อสฺส. สมฺปโยเชตฺวาติ อปฺปมตฺตกํ วิวาทํ กตฺวา.

๒๔๑. อิตรีตเรนาติ ลามกลามเกน. ปวิวิตฺโตติ อิทํ ปริพฺพาชโก กายวิเวกมตฺตํ สนฺธาย วทติ, ภควา ปน ตีหิ วิเวเกหิ วิวิตฺโตว.

๒๔๒. โกสกาหาราปีติ ทานปตีนํ ฆเร อคฺคภิกฺขาปนตฺถํ ขุทฺทกสราวา โหนฺติ, ทานปติโน อคฺคภตฺตํ วา ตตฺถ เปตฺวา ภุฺชนฺติ, ปพฺพชิเต สมฺปตฺเต ตํ ภตฺตํ ตสฺส เทนฺติ. ตํ สราวกํ โกสโกติ วุจฺจติ. ตสฺมา เย จ เอเกเนว ภตฺตโกสเกน ยาเปนฺติ, เต โกสกาหาราติ. เพลุวาหาราติ เพลุวมตฺตภตฺตาหารา. สมติตฺติกนฺติ โอฏฺวฏฺฏิยา เหฏฺิมเลขาสมํ . อิมินา ธมฺเมนาติ อิมินา อปฺปาหารตาธมฺเมน. เอตฺถ ปน สพฺพากาเรเนว ภควา อนปฺปาหาโรติ น วตฺตพฺโพ. ปธานภูมิยํ ฉพฺพสฺสานิ อปฺปาหาโรว อโหสิ, เวรฺชายํ ตโย มาเส ปตฺโถทเนเนว ยาเปสิ ปาลิเลยฺยกวนสณฺเฑ ตโย มาเส ภิสมุฬาเลเหว ยาเปสิ. อิธ ปน เอตมตฺถํ ทสฺเสติ – ‘‘อหํ เอกสฺมึ กาเล อปฺปาหาโร อโหสึ, มยฺหํ ปน สาวกา ธุตงฺคสมาทานโต ปฏฺาย ยาวชีวํ ธุตงฺคํ น ภินฺทนฺตี’’ติ. ตสฺมา ยทิ เต อิมินา ธมฺเมน สกฺกเรยฺยุํ, มยา หิ เต วิเสสตรา. อฺโ เจว ปน ธมฺโม อตฺถิ, เยน มํ เต สกฺกโรนฺตีติ ทสฺเสติ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ โยชนา เวทิตพฺพา.

ปํสุกูลิกาติ สมาทินฺนปํสุกูลิกงฺคา. ลูขจีวรธราติ สตฺถสุตฺตลูขานิ จีวรานิ ธารยมานา. นนฺตกานีติ อนฺตวิรหิตานิ วตฺถขณฺฑานิ, ยทิ หิ เนสํ อนฺโต ภเวยฺย, ปิโลติกาติ สงฺขํ คจฺเฉยฺยุํ. อุจฺจินิตฺวาติ ผาเลตฺวา ทุพฺพลฏฺานํ ปหาย ถิรฏฺานเมว คเหตฺวา. อลาพุโลมสานีติ อลาพุโลมสทิสสุตฺตานิ สุขุมานีติ ทีเปติ. เอตฺตาวตา จ สตฺถา จีวรสนฺโตเสน อสนฺตุฏฺโติ น วตฺตพฺโพ. อติมุตฺตกสุสานโต หิสฺส ปุณฺณทาสิยา ปารุปิตฺวา ปาติตสาณปํสุกูลํ คหณทิวเส อุทกปริยนฺตํ กตฺวา มหาปถวี อกมฺปิ. อิธ ปน เอตมตฺถํ ทสฺเสติ – ‘‘อหํ เอกสฺมึเยว กาเล ปํสุกูลํ คณฺหึ, มยฺหํ ปน สาวกา ธุตงฺคสมาทานโต ปฏฺาย ยาวชีวํ ธุตงฺคํ น ภินฺทนฺตี’’ติ.

ปิณฺฑปาติกาติ อติเรกลาภํ ปฏิกฺขิปิตฺวา สมาทินฺนปิณฺฑปาติกงฺคา. สปทานจาริโนติ โลลุปฺปจารํ ปฏิกฺขิปิตฺวา สมาทินฺนสปทานจารา. อุฺฉาสเก วเต รตาติ อุฺฉาจริยสงฺขาเต ภิกฺขูนํ ปกติวเต รตา, อุจฺจนีจฆรทฺวารฏฺายิโน หุตฺวา กพรมิสฺสกํ ภตฺตํ สํหริตฺวา ปริภุฺชนฺตีติ อตฺโถ. อนฺตรฆรนฺติ พฺรหฺมายุสุตฺเต อุมฺมารโต ปฏฺาย อนฺตรฆรํ, อิธ อินฺทขีลโต ปฏฺาย อธิปฺเปตํ. เอตฺตาวตา จ สตฺถา ปิณฺฑปาตสนฺโตเสน อสนฺตุฏฺโติ น วตฺตพฺโพ, อปฺปาหารตาย วุตฺตนิยาเมเนว ปน สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพํ. อิธ ปน เอตมตฺถํ ทสฺเสติ – ‘‘อหํ เอกสฺมึเยว กาเล นิมนฺตนํ น สาทยึ, มยฺหํ ปน สาวกา ธุตงฺคสมาทานโต ปฏฺาย ยาวชีวํ ธุตงฺคํ น ภินฺทนฺตี’’ติ.

รุกฺขมูลิกาติ ฉนฺนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา สมาทินฺนรุกฺขมูลิกงฺคา. อพฺโภกาสิกาติ ฉนฺนฺจ รุกฺขมูลฺจ ปฏิกฺขิปิตฺวา สมาทินฺนอพฺโภกาสิกงฺคา. อฏฺมาเสติ เหมนฺตคิมฺหิเก มาเส. อนฺโตวสฺเส ปน จีวรานุคฺคหตฺถํ ฉนฺนํ ปวิสนฺติ. เอตฺตาวตา จ สตฺถา เสนาสนสนฺโตเสน อสนฺตุฏฺโติ น วตฺตพฺโพ, เสนาสนสนฺโตโส ปนสฺส ฉพฺพสฺสิกมหาปธาเนน จ ปาลิเลยฺยกวนสณฺเฑน จ ทีเปตพฺโพ. อิธ ปน เอตมตฺถํ ทสฺเสติ – ‘‘อหํ เอกสฺมึเยว กาเล ฉนฺนํ น ปาวิสึ, มยฺหํ ปน สาวกา ธุตงฺคสมาทานโต ปฏฺาย ยาวชีวํ ธุตงฺคํ น ภินฺทนฺตี’’ติ.

อารฺิกาติ คามนฺตเสนาสนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา สมาทินฺนอารฺิกงฺคา. สงฺฆมชฺเฌ โอสรนฺตีติ อพทฺธสีมาย กถิตํ, พทฺธสีมายํ ปน วสนฺตา อตฺตโน วสนฏฺาเนเยว อุโปสถํ กโรนฺติ. เอตฺตาวตา จ สตฺถา โน ปวิวิตฺโตติ น วตฺตพฺโพ, ‘‘อิจฺฉามหํ, ภิกฺขเว, อฑฺฒมาสํ ปฏิสลฺลิยิตุ’’นฺติ (ปารา. ๑๖๒; ๕๖๕) เอวฺหิสฺส ปวิเวโก ปฺายติ. อิธ ปน เอตมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘อหํ เอกสฺมึเยว ตถารูเป กาเล ปฏิสลฺลิยึ, มยฺหํ ปน สาวกา ธุตงฺคสมาทานโต ปฏฺาย ยาวชีวํ ธุตงฺคํ น ภินฺทนฺตี’’ติ. มมํ สาวกาติ มํ สาวกา.

๒๔๔. สนิทานนฺติ สปฺปจฺจยํ. กึ ปน อปฺปจฺจยํ นิพฺพานํ น เทเสตีติ. โน น เทเสติ, สเหตุกํ ปน ตํ เทสนํ กตฺวา เทเสติ, โน อเหตุกนฺติ. สปฺปาฏิหาริยนฺติ ปุริมสฺเสเวตํ เววจนํ, สการณนฺติ อตฺโถ. ตํ วตาติ เอตฺถ วตาติ นิปาตมตฺตํ.

๒๔๕. อนาคตํ วาทปถนฺติ อชฺช เปตฺวา สฺเว วา ปุนทิวเส วา อฑฺฒมาเส วา มาเส วา สํวจฺฉเร วา ตสฺส ตสฺส ปฺหสฺส อุปริ อาคมนวาทปถํ. ทกฺขตีติ ยถา สจฺจโก นิคณฺโ อตฺตโน นิคฺคหณตฺถํ อาคตการณํ วิเสเสตฺวา วทนฺโต น อทฺทส, เอวํ น ทกฺขตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. สหธมฺเมนาติ สการเณน. อนฺตรนฺตรา กถํ โอปาเตยฺยุนฺติ มม กถาวารํ ปจฺฉินฺทิตฺวา อนฺตรนฺตเร อตฺตโน กถํ ปเวเสยฺยุนฺติ อตฺโถ. น โข ปนาหํ, อุทายีติ, อุทายิ, อหํ อมฺพฏฺโสณทณฺฑกูฏทนฺตสจฺจกนิคณฺาทีหิ สทฺธึ มหาวาเท วตฺตมาเนปิ – ‘‘อโห วต เม เอกสาวโกปิ อุปมํ วา การณํ วา อาหริตฺวา ทเทยฺยา’’ติ เอวํ สาวเกสุ อนุสาสนึ น ปจฺจาสีสามิ. มมเยวาติ เอวรูเปสุ าเนสุ สาวกา มมเยว อนุสาสนึ โอวาทํ ปจฺจาสีสนฺติ.

๒๔๖. เตสาหํจิตฺตํ อาราเธมีติ เตสํ อหํ ตสฺส ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน จิตฺตํ คณฺหามิ สมฺปาเทมิ ปริปูเรมิ, อฺํ ปุฏฺโ อฺํ น พฺยากโรมิ, อมฺพํ ปุฏฺโ ลพุชํ วิย ลพุชํ วา ปุฏฺโ อมฺพํ วิย. เอตฺถ จ ‘‘อธิสีเล สมฺภาเวนฺตี’’ติ วุตฺตฏฺาเน พุทฺธสีลํ นาม กถิตํ, ‘‘อภิกฺกนฺเต าณทสฺสเน สมฺภาเวนฺตี’’ติ วุตฺตฏฺาเน สพฺพฺุตฺาณํ, ‘‘อธิปฺาย สมฺภาเวนฺตี’’ติ วุตฺตฏฺาเน านุปฺปตฺติกปฺา, ‘‘เยน ทุกฺเขนา’’ติ วุตฺตฏฺาเน สจฺจพฺยากรณปฺา. ตตฺถ สพฺพฺุตฺาณฺจ สจฺจพฺยากรณปฺฺจ เปตฺวา อวเสสา ปฺา อธิปฺํ ภชติ.

๒๔๗. อิทานิ เตสํ เตสํ วิเสสาธิคมานํ ปฏิปทํ อาจิกฺขนฺโต ปุน จปรํ อุทายีติอาทิมาห. ตตฺถ อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตาติ อภิฺาโวสานสงฺขาตฺเจว อภิฺาปารมีสงฺขาตฺจ อรหตฺตํ ปตฺตา.

สมฺมปฺปธาเนติ อุปายปธาเน. ฉนฺทํ ชเนตีติ กตฺตุกมฺยตากุสลจฺฉนฺทํ ชเนติ. วายมตีติ วายามํ กโรติ. วีริยํ อารภตีติ วีริยํ ปวตฺเตติ. จิตฺตํ ปคฺคณฺหาตีติ จิตฺตํ อุกฺขิปติ. ปทหตีติ อุปายปธานํ กโรติ. ภาวนาย ปาริปูริยาติ วฑฺฒิยา ปริปูรณตฺถํ. อปิเจตฺถ – ‘‘ยา ิติ, โส อสมฺโมโส…เป… ยํ เวปุลฺลํ, สา ภาวนาปาริปูรี’’ติ (วิภ. ๔๐๖) เอวํ ปุริมํ ปุริมสฺส ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมสฺส อตฺโถติปิ เวทิตพฺพํ.

อิเมหิ ปน สมฺมปฺปธาเนหิ กึ กถิตํ? กสฺสปสํยุตฺตปริยาเยน สาวกสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทา กถิตา. วุตฺตฺเหตํ ตตฺถ –

‘‘จตฺตาโรเม , อาวุโส, สมฺมปฺปธานา. กตเม จตฺตาโร? อิธาวุโส, ภิกฺขุ, อนุปฺปนฺนา เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุนฺติ อาตปฺปํ กโรติ. อุปฺปนฺนา เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหียมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุนฺติ อาตปฺปํ กโรติ. อนุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมา อนุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุนฺติ อาตปฺปํ กโรติ. อุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมา นิรุชฺฌมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุนฺติ อาตปฺปํ กโรตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๔๕).

เอตฺถ จ ปาปกา อกุสลาติ โลภาทโย เวทิตพฺพา. อนุปฺปนฺนา กุสลา ธมฺมาติ สมถวิปสฺสนา เจว มคฺโค จ, อุปฺปนฺนา กุสลา นาม สมถวิปสฺสนาว. มคฺโค ปน สกึ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌมาโน อนตฺถาย สํวตฺตนโก นาม นตฺถิ. โส หิ ผลสฺส ปจฺจยํ ทตฺวาว นิรุชฺฌติ. ปุริมสฺมิมฺปิ วา สมถวิปสฺสนาว คเหตพฺพาติ วุตฺตํ, ตํ ปน น ยุตฺตํ.

ตตฺถ ‘‘อุปฺปนฺนา สมถวิปสฺสนา นิรุชฺฌมานา อนตฺถาย สํวตฺตนฺตี’’ติ อตฺถสฺส อาวิภาวตฺถมิทํ วตฺถุ – เอโก กิร ขีณาสวตฺเถโร ‘‘มหาเจติยฺจ มหาโพธิฺจ วนฺทิสฺสามี’’ติ สมาปตฺติลาภินา ภณฺฑคาหกสามเณเรน สทฺธึ ชนปทโต มหาวิหารํ อาคนฺตฺวา วิหารปริเวณํ ปาวิสิ. สายนฺหสมเย มหาภิกฺขุสงฺเฆ เจติยํ วนฺทมาเน เจติยํ วนฺทนตฺถาย น นิกฺขมิ. กสฺมา? ขีณาสวานฺหิ ตีสุ รตเนสุ มหนฺตํ คารวํ โหติ. ตสฺมา ภิกฺขุสงฺเฆ วนฺทิตฺวา ปฏิกฺกมนฺเต มนุสฺสานํ สายมาสภุตฺตเวลายํ สามเณรมฺปิ อชานาเปตฺวา ‘‘เจติยํ วนฺทิสฺสามี’’ติ เอกโกว นิกฺขมิ. สามเณโร – ‘‘กึ นุ โข เถโร อเวลาย เอกโกว คจฺฉติ, ชานิสฺสามี’’ติ อุปชฺฌายสฺส ปทานุปทิโก นิกฺขมิ. เถโร อนาวชฺชเนน ตสฺส อาคมนํ อชานนฺโต ทกฺขิณทฺวาเรน เจติยงฺคณํ อารุหิ. สามเณโรปิ อนุปทํเยว อารุฬฺโห.

มหาเถโร มหาเจติยํ อุลฺโลเกตฺวา พุทฺธารมฺมณํ ปีตึ คเหตฺวา สพฺพํ เจตโส สมนฺนาหริตฺวา หฏฺปหฏฺโ เจติยํ วนฺทติ. สามเณโร เถรสฺส วนฺทนาการํ ทิสฺวา ‘‘อุปชฺฌาโย เม อติวิย ปสนฺนจิตฺโต วนฺทติ, กึ นุ โข ปุปฺผานิ ลภิตฺวา ปูชํ กเรยฺยา’’ติ จินฺเตสิ. เถโร วนฺทิตฺวา อุฏฺาย สิรสิ อฺชลึ เปตฺวา มหาเจติยํ อุลฺโลเกตฺวา ิโต. สามเณโร อุกฺกาสิตฺวา อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปสิ. เถโร ปริวตฺเตตฺวา โอโลเกนฺโต ‘‘กทา อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิ. ตุมฺหากํ เจติยํ วนฺทนกาเล, ภนฺเต. อติวิย ปสนฺนา เจติยํ วนฺทิตฺถ กึ นุ โข ปุปฺผานิ ลภิตฺวา ปูเชยฺยาถาติ? อาม สามเณร อิมสฺมึ เจติเย วิย อฺตฺร เอตฺตกํ ธาตูนํ นิธานํ นาม นตฺถิ, เอวรูปํ อสทิสํ มหาถูปํ ปุปฺผานิ ลภิตฺวา โก น ปูเชยฺยาติ. เตน หิ, ภนฺเต, อธิวาเสถ, อาหริสฺสามีติ ตาวเทว ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา อิทฺธิยา หิมวนฺตํ คนฺตฺวา วณฺณคนฺธสมฺปนฺนปุปฺผานิ ปริสฺสาวนํ ปูเรตฺวา มหาเถเร ทกฺขิณมุขโต ปจฺฉิมํ มุขํ อสมฺปตฺเตเยว อาคนฺตฺวา ปุปฺผปริสฺสาวนํ หตฺเถ เปตฺวา ‘‘ปูเชถ, ภนฺเต,’’ติ อาห . เถโร ‘‘อติมนฺทานิ โน สามเณร ปุปฺผานี’’ติ อาห. คจฺฉถ, ภนฺเต, ภควโต คุเณ อาวชฺชิตฺวา ปูเชถาติ.

เถโร ปจฺฉิมมุขนิสฺสิเตน โสปาเณน อารุยฺห กุจฺฉิเวทิกาภูมิยํ ปุปฺผปูชํ กาตุํ อารทฺโธ. เวทิกาภูมิยํ ปริปุณฺณานิ ปุปฺผานิ ปติตฺวา ทุติยภูมิยํ ชณฺณุปมาเณน โอธินา ปูรยึสุ. ตโต โอตริตฺวา ปาทปิฏฺิกปนฺตึ ปูเชสิ. สาปิ ปริปูริ. ปริปุณฺณภาวํ ตฺวา เหฏฺิมตเล วิกิรนฺโต อคมาสิ. สพฺพํ เจติยงฺคณํ ปริปูริ. ตสฺมึ ปริปุณฺเณ ‘‘สามเณร ปุปฺผานิ น ขียนฺตี’’ติ อาห. ปริสฺสาวนํ, ภนฺเต, อโธมุขํ กโรถาติ. อโธมุขํ กตฺวา จาเลสิ, ตทา ปุปฺผานิ ขีณานิ. ปริสฺสาวนํ สามเณรสฺส ทตฺวา สทฺธึ หตฺถิปากาเรน เจติยํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา จตูสุ าเนสุ วนฺทิตฺวา ปริเวณํ คจฺฉนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘ยาว มหิทฺธิโก วตายํ สามเณโร, สกฺขิสฺสติ นุ โข อิมํ อิทฺธานุภาวํ รกฺขิตุ’’นฺติ. ตโต ‘‘น สกฺขิสฺสตี’’ติ ทิสฺวา สามเณรมาห – ‘‘สามเณร ตฺวํ อิทานิ มหิทฺธิโก, เอวรูปํ ปน อิทฺธึ นาเสตฺวา ปจฺฉิมกาเล กาณเปสการิยา หตฺเถน มทฺทิตกฺชิยํ ปิวิสฺสสี’’ติ. ทหรกภาวสฺส นาเมส โทโสยํ, โส อุปชฺฌายสฺส กถายํ สํวิชฺชิตฺวา – ‘‘กมฺมฏฺานํ เม, ภนฺเต, อาจิกฺขถา’’ติ น ยาจิ, อมฺหากํ อุปชฺฌาโย กึ วทตีติ ตํ ปน อสุณนฺโต วิย อคมาสิ.

เถโร มหาเจติยฺจ มหาโพธิฺจ วนฺทิตฺวา สามเณรํ ปตฺตจีวรํ คาหาเปตฺวา อนุปุพฺเพน กุเฏฬิติสฺสมหาวิหารํ อคมาสิ. สามเณโร อุปชฺฌายสฺส ปทานุปทิโก หุตฺวา ภิกฺขาจารํ น คจฺฉติ, ‘‘กตรํ คามํ ปวิสถ, ภนฺเต,’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ปน ‘‘อิทานิ เม อุปชฺฌาโย คามทฺวารํ ปตฺโต ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา อตฺตโน จ อุปชฺฌายสฺส จ ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา อากาเสน คนฺตฺวา เถรสฺส ปตฺตจีวรํ ทตฺวา ปิณฺฑาย ปวิสติ. เถโร สพฺพกาลํ โอวทติ – ‘‘สามเณร มา เอวมกาสิ, ปุถุชฺชนิทฺธิ นาม จลา อนิพทฺธา, อสปฺปายํ รูปาทิอารมฺมณํ ลภิตฺวา อปฺปมตฺตเกเนว ภิชฺชติ, สนฺตาย สมาปตฺติยา ปริหีนาย พฺรหฺมจริยวาโส สนฺถมฺภิตุํ น สกฺโกตี’’ติ. สามเณโร ‘‘กึ กเถติ มยฺหํ อุปชฺฌาโย’’ติ โสตุํ น อิจฺฉติ, ตเถว กโรติ. เถโร อนุปุพฺเพน เจติยวนฺทนํ กโรนฺโต กมฺมุพินฺทุวิหารํ นาม คโต. ตตฺถ วสนฺเตปิ เถเร สามเณโร ตเถว กโรติ.

อเถกทิวสํ เอกา เปสการธีตา อภิรูปา ปมวเย ิตา กมฺมพินฺทุคามโต นิกฺขมิตฺวา ปทุมสฺสรํ โอรุยฺห คายมานา ปุปฺผานิ ภฺชติ. ตสฺมึ สมเย สามเณโร ปทุมสฺสรมตฺถเกน คจฺฉติ, คจฺฉนฺโต ปน สิเลสิกาย กาณมจฺฉิกา วิย ตสฺสา คีตสทฺเท พชฺฌิ. ตาวเทวสฺส อิทฺธิ อนฺตรหิตา, ฉินฺนปกฺขกาโก วิย อโหสิ. สนฺตสมาปตฺติพเลน ปน ตตฺเถว อุทกปิฏฺเ อปติตฺวา สิมฺพลิตูลํ วิย ปตมานํ อนุปุพฺเพน ปทุมสรตีเร อฏฺาสิ. โส เวเคน คนฺตฺวา อุปชฺฌายสฺส ปตฺตจีวรํ ทตฺวา นิวตฺติ. มหาเถโร ‘‘ปเคเวตํ มยา ทิฏฺํ, นิวาริยมาโนปิ น นิวตฺติสฺสตี’’ติ กิฺจิ อวตฺวา ปิณฺฑาย ปาวิสิ.

สามเณโร คนฺตฺวา ปทุมสรตีเร อฏฺาสิ ตสฺสา ปจฺจุตฺตรณํ อาคมยมาโน. สาปิ สามเณรํ อากาเสน คจฺฉนฺตฺจ ปุน อาคนฺตฺวา ิตฺจ ทิสฺวา ‘‘อทฺธา เอส มํ นิสฺสาย อุกฺกณฺิโต’’ติ ตฺวา ‘‘ปฏิกฺกม สามเณรา’’ติ อาห. โส ปฏิกฺกมิ. อิตรา ปจฺจุตฺตริตฺวา สาฏกํ นิวาเสตฺวา ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กึ, ภนฺเต,’’ติ ปุจฺฉิ. โส ตมตฺถํ อาโรเจสิ. สา พหูหิ การเณหิ ฆราวาเส อาทีนวํ พฺรหฺมจริยวาเส อานิสํสฺจ ทสฺเสตฺวา โอวทมานาปิ ตสฺส อุกฺกณฺํ วิโนเทตุํ อสกฺโกนฺตี – ‘‘อยํ มม การณา เอวรูปาย อิทฺธิยา ปริหีโน, น ทานิ ยุตฺตํ ปริจฺจชิตุ’’นฺติ อิเธว ติฏฺาติ วตฺวา ฆรํ คนฺตฺวา มาตาปิตูนํ ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. เตปิ อาคนฺตฺวา นานปฺปการํ โอวทมานา วจนํ อคฺคณฺหนฺตํ อาหํสุ – ‘‘ตฺวํ อมฺเห อุจฺจกุลาติ สลฺลกฺเขสิ, มยํ เปสการา. สกฺขิสฺสสิ เปสการกมฺมํ กาตุ’’นฺติ สามเณโร อาห – ‘‘อุปาสก คิหิภูโต นาม เปสการกมฺมํ วา กเรยฺย นฬการกมฺมํ วา, กึ อิมินา สาฏกมตฺเตน โลภํ กโรถา’’ติ. เปสกาโร อุทเร พทฺธสาฏกํ ทตฺวา ฆรํ เนตฺวา ธีตรํ อทาสิ.

โส เปสการกมฺมํ อุคฺคณฺหิตฺวา เปสกาเรหิ สทฺธึ สาลาย กมฺมํ กโรติ. อฺเสํ อิตฺถิโย ปาโตว ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา อาหรึสุ, ตสฺส ภริยา น ตาว อาคจฺฉติ. โส อิตเรสุ กมฺมํ วิสฺสชฺเชตฺวา ภุฺชมาเนสุ ตสรํ วฏฺเฏนฺโต นิสีทิ. สา ปจฺฉา อคมาสิ. อถ นํ โส ‘‘อติจิเรน อาคตาสี’’ติ ตชฺเชสิ. มาตุคาโม จ นาม อปิ จกฺกวตฺติราชานํ อตฺตนิ ปฏิพทฺธจิตฺตํ ตฺวา ทาสํ วิย สลฺลกฺเขติ. ตสฺมา สา เอวมาห – ‘‘อฺเสํ ฆเร ทารุปณฺณโลณาทีนิ สนฺนิหิตานิ, พาหิรโต อาหริตฺวา ทายกา เปสนตการกาปิ อตฺถิ, อหํ ปน เอกิกาว, ตฺวมฺปิ มยฺหํ ฆเร อิทํ อตฺถิ อิทํ นตฺถีติ น ชานาสิ. สเจ อิจฺฉสิ, ภุฺช, โน เจ อิจฺฉสิ, มา ภุฺชา’’ติ. โส ‘‘น เกวลฺจ อุสฺสูเร ภตฺตํ อาหรสิ, วาจายปิ มํ ฆฏฺเฏสี’’ติ กุชฺฌิตฺวา อฺํ ปหรณํ อปสฺสนฺโต ตเมว ตสรทณฺฑกํ ตสรโต ลุฺจิตฺวา ขิปิ. สา ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อีสกํ ปริวตฺติ. ตสรทณฺฑกสฺส จ โกฏิ นาม ติขิณา โหติ, สา ตสฺสา ปริวตฺตมานาย อกฺขิโกฏิยํ ปวิสิตฺวา อฏฺาสิ. สา อุโภหิ หตฺเถหิ เวเคน อกฺขึ อคฺคเหสิ, ภินฺนฏฺานโต โลหิตํ ปคฺฆรติ. โส ตสฺมึ กาเล อุปชฺฌายสฺส วจนํ อนุสฺสริ – ‘‘อิทํ สนฺธาย มํ อุปชฺฌาโย ‘อนาคเต กาเล กาณเปสการิยา หตฺเถหิ มทฺทิตกฺชิยํ ปิวิสฺสสี’ติ อาห, อิทํ เถเรน ทิฏฺํ ภวิสฺสติ, อโห ทีฆทสฺสี อยฺโย’’ติ มหาสทฺเทน โรทิตุํ อารภิ. ตเมนํ อฺเ – ‘‘อลํ, อาวุโส, มา โรทิ, อกฺขิ นาม ภินฺนํ น สกฺกา โรทเนน ปฏิปากติกํ กาตุ’’นฺติ อาหํสุ. โส ‘‘นาหเมตมตฺถํ โรทามิ, อปิจ โข อิมํ สนฺธาย โรทามี’’ติ สพฺพํ ปฏิปาฏิยา กเถสิ. เอวํ อุปฺปนฺนา สมถวิปสฺสนา นิรุชฺฌมานา อนตฺถาย สํวตฺตนฺติ.

อปรมฺปิ วตฺถุ – ตึสมตฺตา ภิกฺขู กลฺยาณิมหาเจติยํ วนฺทิตฺวา อฏวิมคฺเคน มหามคฺคํ โอตรมานา อนฺตรามคฺเค ฌามเขตฺเต กมฺมํ กตฺวา อาคจฺฉนฺตํ เอกํ มนุสฺสํ อทฺทสํสุ. ตสฺส สรีรํ มสิมกฺขิตํ วิย อโหสิ. มสิมกฺขิตํเยว เอกํ กาสาวํ กจฺฉํ ปีเฬตฺวา นิวตฺถํ, โอโลกิยมาโน ฌามขาณุโก วิย ขายติ. โส ทิวสภาเค กมฺมํ กตฺวา อุปฑฺฒชฺฌายมานานํ ทารูนํ กลาปํ อุกฺขิปิตฺวา ปิฏฺิยํ วิปฺปกิณฺเณหิ เกเสหิ กุมฺมคฺเคน อาคนฺตฺวา ภิกฺขูนํ สมฺมุเข อฏฺาสิ. สามเณรา ทิสฺวา อฺมฺํ โอโลกยมานา, – ‘‘อาวุโส, ตุยฺหํ ปิตา ตุยฺหํ มหาปิตา ตุยฺหํ มาตุโล’’ติ หสมานา คนฺตฺวา ‘‘โกนาโม ตฺวํ อุปาสกา’’ติ นามํ ปุจฺฉึสุ. โส นามํ ปุจฺฉิโต วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ทารุกลาปํ ฉฑฺเฑตฺวา วตฺถํ สํวิธาย นิวาเสตฺวา มหาเถเร วนฺทิตฺวา ‘‘ติฏฺถ ตาว, ภนฺเต,’’ติ อาห. มหาเถรา อฏฺํสุ.

ทหรสามเณรา อาคนฺตฺวา มหาเถรานํ สมฺมุขาปิ ปริหาสํ กโรนฺติ. อุปาสโก อาห – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห มํ ปสฺสิตฺวา ปริหสถ, เอตฺตเกเนว มตฺถกํ ปตฺตมฺหาติ มา สลฺลกฺเขถ. อหมฺปิ ปุพฺเพ ตุมฺหาทิโสว สมโณ อโหสึ. ตุมฺหากํ ปน จิตฺเตกคฺคตามตฺตกมฺปิ นตฺถิ, อหํ อิมสฺมึ สาสเน มหิทฺธิโก มหานุภาโว อโหสึ, อากาสํ คเหตฺวา ปถวึ กโรมิ, ปถวึ อากาสํ. ทูรํ คณฺหิตฺวา สนฺติกํ กโรมิ, สนฺติกํ ทูรํ. จกฺกวาฬสตสหสฺสํ ขเณน วินิวิชฺฌามิ. หตฺเถ เม ปสฺสถ, อิทานิ มกฺกฏหตฺถสทิสา, อหํ อิเมเหว หตฺเถหิ อิธ นิสินฺโนว จนฺทิมสูริเย ปรามสึ. อิเมสํเยว ปาทานํ จนฺทิมสูริเย ปาทกถลิกํ กตฺวา นิสีทึ. เอวรูปา เม อิทฺธิ ปมาเทน อนฺตรหิตา, ตุมฺเห มา ปมชฺชิตฺถ. ปมาเทน หิ เอวรูปํ พฺยสนํ ปาปุณนฺติ. อปฺปมตฺตา วิหรนฺตา ชาติชรามรณสฺส อนฺตํ กโรนฺติ. ตสฺมา ตุมฺเห มฺเว อารมฺมณํ กริตฺวา อปฺปมตฺตา โหถ, ภนฺเต,’’ติ ตชฺเชตฺวา โอวาทมทาสิ. เต ตสฺส กเถนฺตสฺเสว สํเวคํ อาปชฺชิตฺวา วิปสฺสมานา ตึสชนา ตตฺเถว อรหตฺตํ ปาปุณึสูติ. เอวมฺปิ อุปฺปนฺนา สมถวิปสฺสนา นิรุชฺฌมานา อนตฺถาย สํวตฺตนฺตีติ เวทิตพฺพา.

อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานนฺติ เจตฺถ ‘‘อนุปฺปนฺโน วา กามาสโว น อุปฺปชฺชตี’’ติอาทีสุ วุตฺตนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อุปฺปนฺนานํ ปาปกานนฺติ เอตฺถ ปน จตุพฺพิธํ อุปฺปนฺนํ วตฺตมานุปฺปนฺนํ ภุตฺวาวิคตุปฺปนฺนํ, โอกาสกตุปฺปนฺนํ, ภูมิลทฺธุปฺปนฺนนฺติ. ตตฺถ เย กิเลสา วิชฺชมานา อุปฺปาทาทิสมงฺคิโน, อิทํ วตฺตมานุปฺปนฺนํ นาม. กมฺเม ปน ชวิเต อารมฺมณรสํ อนุภวิตฺวา นิรุทฺธวิปาโก ภุตฺวา วิคตํ นาม. กมฺมํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธํ ภวิตฺวา วิคตํ นาม. ตทุภยมฺปิ ภุตฺวาวิคตุปฺปนฺนนฺติ สงฺขํ คจฺฉติ. กุสลากุสลํ กมฺมํ อฺสฺส กมฺมสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรติ, เอวํ กเต โอกาเส วิปาโก อุปฺปชฺชมาโน โอกาสกรณโต ปฏฺาย อุปฺปนฺโนติ สงฺขํ คจฺฉติ. อิทํ โอกาสกตุปฺปนฺนํ นาม. ปฺจกฺขนฺธา ปน วิปสฺสนาย ภูมิ นาม. เต อตีตาทิเภทา โหนฺติ. เตสุ อนุสยิตกิเลสา ปน อตีตา วา อนาคตา วา ปจฺจุปฺปนฺนา วาติ น วตฺตพฺพา. อตีตขนฺเธสุ อนุสยิตาปิ หิ อปฺปหีนาว โหนฺติ, อนาคตขนฺเธสุ, ปจฺจุปฺปนฺนขนฺเธสุ อนุสยิตาปิ อปฺปหีนาว โหนฺติ. อิทํ ภูมิลทฺธุปฺปนฺนํ นาม. เตนาหุ โปราณา – ‘‘ตาสุ ตาสุ ภูมีสุ อสมุคฺฆาติตกิเลสา ภูมิลทฺธุปฺปนฺนาติ สงฺขํ คจฺฉนฺตี’’ติ.

อปรมฺปิ จตุพฺพิธํ อุปฺปนฺนํ สมุทาจารุปฺปนฺนํ, อารมฺมณาธิคหิตุปฺปนฺนํ, อวิกฺขมฺภิตุปฺปนฺนํ อสมุคฺฆาติตุปฺปนฺนนฺติ. ตตฺถ สมฺปติ วตฺตมานํเยว สมุทาจารุปฺปนฺนํ นาม. สกึ จกฺขูนิ อุมฺมีเลตฺวา อารมฺมเณ นิมิตฺเต คหิเต อนุสฺสริตานุสฺสริตกฺขเณ กิเลสา นุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ น วตฺตพฺพา. กสฺมา? อารมฺมณสฺส อธิคหิตตฺตา. ยถา กึ? ยถา ขีรรุกฺขสฺส กุาริยา อาหตาหตฏฺาเน ขีรํ น นิกฺขมิสฺสตีติ น วตฺตพฺพํ, เอวํ. อิทํ อารมฺมณาธิคหิตุปฺปนฺนํ นาม. สมาปตฺติยา อวิกฺขมฺภิตา กิเลสา ปน อิมสฺมึ นาม าเน นุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ น วตฺตพฺพา. กสฺมา? อวิกฺขมฺภิตตฺตา. ยถา กึ? ยถา สเจ ขีรรุกฺเข กุาริยา อาหเนยฺยุํ, อิมสฺมึ นาม าเน ขีรํ น นิกฺขเมยฺยาติ น วตฺตพฺพํ, เอวํ. อิทํ อวิกฺขมฺภิตุปฺปนฺนํ นาม. มคฺเคน อสมุคฺฆาติตกิเลสา ปน ภวคฺเค นิพฺพตฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชนฺตีติ ปุริมนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ. อิทํ อสมุคฺฆาติตุปฺปนฺนํ นาม.

อิเมสุ อุปฺปนฺเนสุ วตฺตมานุปฺปนฺนํ ภุตฺวาวิคตุปฺปนฺนํ โอกาสกตุปฺปนฺนํ สมุทาจารุปฺปนฺนนฺติ จตุพฺพิธํ อุปฺปนฺนํ น มคฺควชฺฌํ, ภูมิลทฺธุปฺปนฺนํ อารมฺมณาธิคหิตุปฺปนฺนํ อวิกฺขมฺภิตุปฺปนฺนํ อสมุคฺฆาติตุปฺปนฺนนฺติ จตุพฺพิธํ มคฺควชฺฌํ. มคฺโค หิ อุปฺปชฺชมาโน เอเต กิเลเส ปชหติ. โส เย กิเลเส ปชหติ, เต อตีตา วา อนาคตา วา ปจฺจุปฺปนฺนา วาติ น วตฺตพฺพา. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘หฺจิ อตีเต กิเลเส ปชหติ, เตน หิ ขีณํ เขเปติ, นิรุทฺธํ นิโรเธติ, วิคตํ วิคเมติ อตฺถงฺคตํ อตฺถงฺคเมติ. อตีตํ ยํ นตฺถิ, ตํ ปชหติ. หฺจิ อนาคเต กิเลเส ปชหติ, เตน หิ อชาตํ ปชหติ, อนิพฺพตฺตํ, อนุปฺปนฺนํ, อปาตุภูตํ ปชหติ. อนาคตํ ยํ นตฺถิ, ตํ ปชหติ, หฺจิ ปจฺจุปฺปนฺเน กิเลเส ปชหติ, เตน หิ รตฺโต ราคํ ปชหติ , ทุฏฺโ โทสํ, มูฬฺโห โมหํ, วินิพทฺโธ มานํ, ปรามฏฺโ ทิฏฺึ, วิกฺเขปคโต อุทฺธจฺจํ, อนิฏฺงฺคโต วิจิกิจฺฉํ, ถามคโต อนุสยํ ปชหติ. กณฺหสุกฺกธมฺมา ยุคนทฺธา สมเมว วตฺตนฺติ. สํกิเลสิกา มคฺคภาวนา โหติ…เป… เตน หิ นตฺถิ มคฺคภาวนา, นตฺถิ ผลสจฺฉิกิริยา, นตฺถิ กิเลสปฺปหานํ, นตฺถิ ธมฺมาภิสมโยติ. อตฺถิ มคฺคภาวนา…เป… อตฺถิ ธมฺมาภิสมโยติ. ยถา กถํ วิย, เสยฺยถาปิ ตรุโณ รุกฺโข อชาตผโล…เป… อปาตุภูตาเยว น ปาตุภวนฺตี’’ติ.

อิติ ปาฬิยํ อชาตผลรุกฺโข อาคโต, ชาตผลรุกฺเขน ปน ทีเปตพฺพํ. ยถา หิ สผโล ตรุณมฺพรุกฺโข, ตสฺส ผลานิ มนุสฺสา ปริภุฺเชยฺยุํ, เสสานิ ปาเตตฺวา ปจฺฉิโย ปูเรยฺยุํ . อถฺโ ปุริโส ตํ ผรสุนา ฉินฺเทยฺย, เตนสฺส เนว อตีตานิ ผลานิ นาสิตานิ โหนฺติ, น อนาคตปจฺจุปฺปนฺนานิ นาสิตานิ. อตีตานิ หิ มนุสฺเสหิ ปริภุตฺตานิ, อนาคตานิ อนิพฺพตฺตานิ, น สกฺกา นาเสตุํ. ยสฺมึ ปน สมเย โส ฉินฺโน, ตทา ผลานิเยว นตฺถีติ ปจฺจุปฺปนฺนานิปิ อนาสิตานิ. สเจ ปน รุกฺโข อจฺฉินฺโน, อถสฺส ปถวีรสฺจ อาโปรสฺจ อาคมฺม ยานิ ผลานิ นิพฺพตฺเตยฺยุํ, ตานิ นาสิตานิ โหนฺติ. ตานิ หิ อชาตาเนว น ชายนฺติ, อนิพฺพตฺตาเนว น นิพฺพตฺตนฺติ, อปาตุภูตาเนว น ปาตุภวนฺติ, เอวเมว มคฺโค นาปิ อตีตาทิเภเท กิเลเส ปชหติ, นาปิ น ปชหติ. เยสฺหิ กิเลสานํ มคฺเคน ขนฺเธสุ อปริฺาเตสุ อุปฺปตฺติ สิยา, มคฺเคน อุปฺปชฺชิตฺวา ขนฺธานํ ปริฺาตตฺตา เต กิเลสา อชาตาว น ชายนฺติ, อนิพฺพตฺตาว น นิพฺพตฺตนฺติ, อปาตุภูตาว น ปาตุภวนฺติ, ตรุณปุตฺตาย อิตฺถิยา ปุน อวิชายนตฺถํ, พฺยาธิตานํ โรควูปสมนตฺถํ ปีตเภสชฺเชหิ จาปิ อยมตฺโถ วิภาเวตพฺโพ. เอวํ มคฺโค เย กิเลเส ปชหติ, เต อตีตา วา อนาคตา วา ปจฺจุปฺปนฺนา วาติ น วตฺตพฺพา, น จ มคฺโค กิเลเส น ปชหติ. เย ปน มคฺโค กิเลเส ปชหติ, เต สนฺธาย ‘‘อุปฺปนฺนานํ ปาปกาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

น เกวลฺจ มคฺโค กิเลเสเยว ปชหติ, กิเลสานํ ปน อปฺปหีนตฺตา เย จ อุปฺปชฺเชยฺยุํ อุปาทินฺนกกฺขนฺธา, เตปิ ปชหติเยว. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘โสตาปตฺติมคฺคาเณน อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรเธน สตฺต ภเว เปตฺวา อนมตคฺเค สํสาเร เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ นามฺจ รูปฺจ, เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺตี’’ติ (จูฬนิ. ๖) วิตฺถาโร. อิติ มคฺโค อุปาทินฺนอนุปาทินฺนโต วุฏฺาติ. ภววเสน ปน โสตาปตฺติมคฺโค อปายภวโต วุฏฺาติ, สกทาคามิมคฺโค สุคติภเวกเทสโต, อนาคามิมคฺโค สุคติกามภวโต, อรหตฺตมคฺโค รูปารูปภวโต วุฏฺาติ. สพฺพภเวหิ วุฏฺาติเยวาติปิ วทนฺติ.

อถ มคฺคกฺขเณ กถํ อนุปฺปนฺนานํ อุปฺปาทาย ภาวนา โหติ, กถํ วา อุปฺปนฺนานํ ิติยาติ. มคฺคปฺปวตฺติยาเยว. มคฺโค หิ ปวตฺตมาโน ปุพฺเพ อนุปฺปนฺนปุพฺพตฺตา อนุปฺปนฺโน นาม วุจฺจติ. อนาคตปุพฺพฺหิ านํ อาคนฺตฺวา อนนุภูตปุพฺพํ วา อารมฺมณํ อนุภวิตฺวา วตฺตาโร ภวนฺติ ‘‘อนาคตฏฺานํ อาคตมฺหา, อนนุภูตํ อารมฺมณํ อนุภวามา’’ติ. ยา จสฺส ปวตฺติ, อยเมว ิติ นามาติ ิติยา ภาเวตีติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

อิทฺธิปาเทสุ สงฺเขปกถา เจโตขิลสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๑๘๕ อาทโย) วุตฺตา. อุปสมมานํ คจฺฉติ, กิเลสูปสมตฺถํ วา คจฺฉตีติ อุปสมคามี. สมฺพุชฺฌมานา คจฺฉติ, มคฺคสมฺโพธตฺถาย วา คจฺฉตีติ สมฺโพธคามี.

วิเวกนิสฺสิตาทีนิ สพฺพาสวสํวเร วุตฺตานิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปนายํ โพธิปกฺขิยกถา วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตา.

๒๔๘. วิโมกฺขกถายํ วิโมกฺเขติ เกนฏฺเน วิโมกฺขา, อธิมุจฺจนฏฺเน. โก ปนายํ อธิมุจฺจนฏฺโ นาม? ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ สุฏฺุ มุจฺจนฏฺโ, อารมฺมเณ จ อภิรติวเสน สุฏฺุ มุจฺจนฏฺโ, ปิตุองฺเก วิสฺสฏฺงฺคปจฺจงฺคสฺส ทารกสฺส สยนํ วิย อนิคฺคหิตภาเวน นิราสงฺกตาย อารมฺมเณ ปวตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อยํ ปนตฺโถ ปจฺฉิมวิโมกฺเข นตฺถิ, ปุริเมสุ สพฺเพสุ อตฺถิ. รูปี รูปานิ ปสฺสตีติ เอตฺถ อชฺฌตฺตเกสาทีสุ นีลกสิณาทิวเสน อุปฺปาทิตํ รูปชฺฌานํ รูปํ, ตทสฺส อตฺถีติ รูปี. พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตีติ พหิทฺธาปิ นีลกสิณาทีนิ รูปานิ ฌานจกฺขุนา ปสฺสติ. อิมินา อชฺฌตฺต พหิทฺธาวตฺถุเกสุ กสิเณสุ อุปฺปาทิตชฺฌานสฺส ปุคฺคลสฺส จตฺตาริปิ รูปาวจรชฺฌานานิ ทสฺสิตานิ.

อชฺฌตฺตํ อรูปสฺีติ อชฺฌตฺตํ น รูปสฺี, อตฺตโน เกสาทีสุ อนุปฺปาทิตรูปาวจรชฺฌาโนติ อตฺโถ. อิมินา พหิทฺธา ปริกมฺมํ กตฺวา พหิทฺธาว อุปฺปาทิตชฺฌานสฺส รูปาวจรชฺฌานานิ ทสฺสิตานิ. สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหตีติ อิมินา สุวิสุทฺเธสุ นีลาทีสุ วณฺณกสิเณสุ ฌานานิ ทสฺสิตานิ. ตตฺถ กิฺจาปิ อนฺโตอปฺปนายํ สุภนฺติ อาโภโค นตฺถิ, โย ปน สุวิสุทฺธํ สุภกสิณํ อารมฺมณํ กตฺวา วิหรติ, โส ยสฺมา สุภนฺติ อธิมุตฺโต โหตีติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ, ตสฺมา เอวํ เทสนา กตา. ปฏิสมฺภิทามคฺเค ปน ‘‘กถํ สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหตีติ วิโมกฺโข. อิธ ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ…เป… เมตฺตาย ภาวิตตฺตา สตฺตา อปฺปฏิกูลา โหนฺติ. กรุณาสหคเตน, มุทิตาสหคเตน, อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ…เป… อุเปกฺขาย ภาวิตตฺตา สตฺตา อปฺปฏิกูลา โหนฺติ. เอวํ สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหตีติ วิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๑๒) วุตฺตํ.

สพฺพโสรูปสฺานนฺติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตเมว. อยํ อฏฺโม วิโมกฺโขติ อยํ จตุนฺนํ ขนฺธานํ สพฺพโส วิสฺสฏฺตฺตา วิมุตฺตตฺตา อฏฺโม อุตฺตโม วิโมกฺโข นาม.

๒๔๙. อภิภายตนกถายํ อภิภายตนานีติ อภิภวนการณานิ. กึ อภิภวนฺติ? ปจฺจนีกธมฺเมปิ อารมฺมณานิปิ. ตานิ หิ ปฏิปกฺขภาเวน ปจฺจนีกธมฺเม อภิภวนฺติ, ปุคฺคลสฺส าณุตฺตริตาย อารมฺมณานิ. อชฺฌตฺตํ รูปสฺีติอาทีสุ ปน อชฺฌตฺตรูเป ปริกมฺมวเสน อชฺฌตฺตํ รูปสฺี นาม โหติ. อชฺฌตฺตฺจ นีลปริกมฺมํ กโรนฺโต เกเส วา ปิตฺเต วา อกฺขิตารกาย วา กโรติ, ปีตปริกมฺมํ กโรนฺโต เมเท วา ฉวิยา วา หตฺถตลปาทตเลสุ วา อกฺขีนํ ปีตฏฺาเน วา กโรติ, โลหิตปริกมฺมํ กโรนฺโต มํเส วา โลหิเต วา ชิวฺหาย วา อกฺขีนํ รตฺตฏฺาเน วา กโรติ, โอทาตปริกมฺมํ กโรนฺโต อฏฺิมฺหิ วา ทนฺเต วา นเข วา อกฺขีนํ เสตฏฺาเน วา กโรติ. ตํ ปน สุนีลํ สุปีตกํ สุโลหิตกํ สุโอทาตํ น โหติ, อสุวิสุทฺธเมว โหติ.

เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตีติ ยสฺเสตํ ปริกมฺมํ อชฺฌตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, นิมิตฺตํ ปน พหิทฺธา, โส เอวํ อชฺฌตฺตํ ปริกมฺมสฺส พหิทฺธา จ อปฺปนาย วเสน – ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติ วุจฺจติ. ปริตฺตานีติ อวฑฺฒิตานิ. สุวณฺณทุพฺพณฺณานีติ สุวณฺณานิ วา โหนฺตุ ทุพฺพณฺณานิ วา, ปริตฺตวเสเนว อิทมภิภายตนํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตานิอภิภุยฺยาติ ยถา นาม สมฺปนฺนคหณิโก กฏจฺฉุมตฺตํ ภตฺตํ ลภิตฺวา ‘‘กิเมตฺถ ภุฺชิตพฺพํ อตฺถี’’ติ สงฺกฑฺฒิตฺวา เอกกพฬเมว กโรติ, เอวเมวํ าณุตฺตริโก ปุคฺคโล วิสทาโณ – ‘‘กิเมตฺถ ปริตฺตเก อารมฺมเณ สมาปชฺชิตพฺพํ อตฺถิ, นายํ มม ภาโร’’ติ ตานิ รูปานิ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ, สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ ปาเปตีติ อตฺโถ. ชานามิ ปสฺสามีติ อิมินา ปนสฺส อาโภโค กถิโต, โส จ โข สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺส, น อนฺโตสมาปตฺติยํ. เอวํสฺี โหตีติ อาโภคสฺายปิ ฌานสฺายปิ เอวํสฺี โหติ. อภิภวสฺา หิสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ อตฺถิ, อาโภคสฺา ปน สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺเสว.

อปฺปมาณานีติ วฑฺฒิตปฺปมาณานิ, มหนฺตานีติ อตฺโถ. อภิภุยฺยาติ เอตฺถ ปน ยถา มหคฺฆโส ปุริโส เอกํ ภตฺตวฑฺฒิตกํ ลภิตฺวา ‘‘อฺาปิ โหตุ, อฺาปิ โหตุ, กิเมสา มยฺหํ กริสฺสตี’’ติ ตํ น มหนฺตโต ปสฺสติ, เอวเมว าณุตฺตโร ปุคฺคโล วิสทาโณ ‘‘กิเมตฺถ สมาปชฺชิตพฺพํ, นยิทํ อปฺปมาณํ, น มยฺหํ จิตฺเตกคฺคตากรเณ ภาโร อตฺถี’’ติ ตานิ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ, สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ ปาเปตีติ อตฺโถ.

อชฺฌตฺตํ อรูปสฺีติ อลาภิตาย วา อนตฺถิกตาย วา อชฺฌตฺตรูเป ปริกมฺมสฺาวิรหิโต. เอโกพหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตีติ ยสฺส ปริกมฺมมฺปิ นิมิตฺตมฺปิ พหิทฺธาว อุปฺปนฺนํ, โส เอวํ พหิทฺธา ปริกมฺมสฺส เจว อปฺปนาย จ วเสน – ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติ วุจฺจติ. เสสเมตฺถ จตุตฺถาภิภายตเน วุตฺตนยเมว. อิเมสุ ปน จตูสุ ปริตฺตํ วิตกฺกจริตวเสน อาคตํ, อปฺปมาณํ โมหจริตวเสน, สุวณฺณํ โทสจริตวเสน, ทุพฺพณฺณํ ราคจริตวเสน. เอเตสฺหิ เอตานิ สปฺปายานิ. สา จ เนสํ สปฺปายตา วิตฺถารโต วิสุทฺธิมคฺเคจริยนิทฺเทเส วุตฺตา.

ปฺจมอภิภายตนาทีสุ นีลานีติ สพฺพสงฺคาหิกวเสน วุตฺตํ. นีลวณฺณานีติ วณฺณวเสน. นีลนิทสฺสนานีติ นิทสฺสนวเสน. อปฺายมานวิวรานิ อสมฺภินฺนวณฺณานิ เอกนีลาเนว หุตฺวา ทิสฺสนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. นีลนิภาสานีติ อิทํ ปน โอภาสวเสน วุตฺตํ, นีโลภาสานิ นีลปภายุตฺตานีติ อตฺโถ. เอเตน เนสํ สุวิสุทฺธตํ ทสฺเสติ. วิสุทฺธวณฺณวเสเนว หิ อิมานิ จตฺตาริ อภิภายตนานิ วุตฺตานิ. อุมาปุปฺผนฺติ เอตฺหิ ปุปฺผํ สินิทฺธํ มุทุํ ทิสฺสมานมฺปิ นีลเมว โหติ. คิริกณฺณิกปุปฺผาทีนิ ปน ทิสฺสมานานิ เสตธาตุกานิ โหนฺติ. ตสฺมา อิทเมว คหิตํ, น ตานิ. พาราณเสยฺยกนฺติ พาราณสิยํ ภวํ. ตตฺถ กิร กปฺปาโสปิ มุทุ, สุตฺตกนฺติกาโยปิ ตนฺตวายาปิ เฉกา, อุทกมฺปิ สุจิ สินิทฺธํ, ตสฺมา วตฺถํ อุภโตภาควิมฏฺํ โหติ, ทฺวีสุ ปสฺเสสุ มฏฺํ มุทุ สินิทฺธํ ขายติ. ปีตานีติอาทีสุ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘นีลกสิณํ อุคฺคณฺหนฺโต นีลสฺมึ นิมิตฺตํ คณฺหาติ ปุปฺผสฺมึ วา วตฺถสฺมึ วา วณฺณธาตุยา วา’’ติอาทิกํ ปเนตฺถ กสิณกรณฺเจว ปริกมฺมฺจ อปฺปนาวิธานฺจ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถารโต วุตฺตเมว.

อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตาติ อิโต ปุพฺเพสุ สติปฏฺานาทีสุ เต ธมฺเม ภาเวตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตาว อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา นาม โหนฺติ, อิเมสุ ปน อฏฺสุ อภิภายตเนสุ จิณฺณวสีภาวาเยว อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา นาม.

๒๕๐. กสิณกถายํ สกลฏฺเน กสิณานิ, ตทารมฺมณานํ ธมฺมานํ เขตฺตฏฺเน อธิฏฺานฏฺเน วา อายตนานิ. อุทฺธนฺติ อุปริ คคนตลาภิมุขํ. อโธติ เหฏฺา ภูมิตลาภิมุขํ. ติริยนฺติ เขตฺตมณฺฑลมิว สมนฺตา ปริจฺฉินฺทิตฺวา. เอกจฺโจ หิ อุทฺธเมว กสิณํ วฑฺเฒติ, เอกจฺโจ อโธ, เอกจฺโจ สมนฺตโต. เตน เตน การเณน เอวํ ปสาเรติ อาโลกมิว รูปทสฺสนกาโม. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปถวีกสิณเมโก สฺชานาติ อุทฺธํอโธติริย’’นฺติ. อทฺวยนฺติ ทิสาอนุทิสาสุ อทฺวยํ. อิทํ ปน เอกสฺส อฺภาวานุปคมนตฺถํ วุตฺตํ. ยถา หิ อุทกํ ปวิฏฺสฺส สพฺพทิสาสุ อุทกเมว โหติ อนฺํ, เอวเมวํ ปถวีกสิณํ ปถวีกสิณเมว โหติ, นตฺถิ ตสฺส อฺโ กสิณสมฺเภโทติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อปฺปมาณนฺติ อิทํ ตสฺส ตสฺส ผรณอปฺปมาณวเสน วุตฺตํ. ตฺหิ เจตสา ผรนฺโต สกลเมว ผรติ, อยมสฺส อาทิ, อิทํ มชฺฌนฺติ ปมาณํ คณฺหาตีติ. วิฺาณกสิณนฺติ เจตฺถ กสิณุคฺฆาฏิมากาเส ปวตฺตํ วิฺาณํ. ตตฺถ กสิณวเสน กสิณุคฺฆาฏิมากาเส, กสิณุคฺฆาฏิมากาสวเสน ตตฺถ ปวตฺตวิฺาเณ อุทฺธํอโธติริยตา เวทิตพฺพา. อยเมตฺถ สงฺเขโป. กมฺมฏฺานภาวนานเยน ปเนตานิ ปถวีกสิณาทีนิ วิตฺถารโต วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตาเนว. อิธาปิ จิณฺณวสิภาเวเนว อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ตถา อิโต อนนฺตเรสุ จตูสุ ฌาเนสุ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ มหาอสฺสปุรสุตฺเต วุตฺตเมว.

๒๕๒. วิปสฺสนาาเณ ปน รูปีติอาทีนมตฺโถ วุตฺโตเยว. เอตฺถ สิตเมตฺถ ปฏิพทฺธนฺติ เอตฺถ จาตุมหาภูติเก กาเย นิสฺสิตฺจ ปฏิพทฺธฺจ. สุโภติ สุนฺทโร. ชาติมาติ สุปริสุทฺธอากรสมุฏฺิโต. สุปริกมฺมกโตติ สุฏฺุ กตปริกมฺโม อปนีตปาสาณสกฺขโร. อจฺโฉติ ตนุจฺฉวิ. วิปฺปสนฺโนติ สุฏฺุ วิปฺปสนฺโน. สพฺพาการสมฺปนฺโนติ โธวน เวธนาทีหิ สพฺเพหิ อากาเรหิ สมฺปนฺโน. นีลนฺติอาทีหิ วณฺณสมฺปตฺตึ ทสฺเสติ. ตาทิสฺหิ อาวุตํ ปากฏํ โหติ.

เอวเมว โขติ เอตฺถ เอวํ อุปมาสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ – มณิ วิย หิ กรชกาโย. อาวุตสุตฺตํ วิย วิปสฺสนาาณํ. จกฺขุมา ปุริโส วิย วิปสฺสนาลาภี ภิกฺขุ. หตฺเถ กริตฺวา ปจฺจเวกฺขโต ‘‘อยํ โข มณี’’ติ มณิโน อาวิภูตกาโล วิย วิปสฺสนาาณํ อภินีหริตฺวา นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน จาตุมหาภูติกกายสฺส อาวิภูตกาโล. ‘‘ตตฺริทํ สุตฺตํ อาวุต’’นฺติ สุตฺตสฺส อาวิภูตกาโล วิย วิปสฺสนาาณํ อภินีหริตฺวา นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน ตทารมฺมณานํ ผสฺสปฺจมกานํ วา สพฺพจิตฺตเจตสิกานํ วา วิปสฺสนาาณสฺเสว วา อาวิภูตกาโลติ.

กึ ปเนตํ าณสฺส อาวิภูตํ, ปุคฺคลสฺสาติ. าณสฺส, ตสฺส ปน อาวิภาวตฺตา ปุคฺคลสฺส อาวิภูตาว โหนฺติ. อิทฺจ วิปสฺสนาาณํ มคฺคสฺส อนนฺตรํ, เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา อภิฺาวาเร อารทฺเธ เอตสฺส อนฺตราวาโร นตฺถิ, ตสฺมา อิเธว ทสฺสิตํ. ยสฺมา จ อนิจฺจาทิวเสน อกตสมฺมสนสฺส ทิพฺพาย โสตธาตุยา เภรวสทฺทํ สุณนฺโต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติยา เภรเว ขนฺเธ อนุสฺสรโต ทิพฺเพน จกฺขุนา เภรวรูปํ ปสฺสโต ภยสนฺตาโส อุปฺปชฺชติ, น อนิจฺจาทิวเสน กตสมฺมสนสฺส, ตสฺมา อภิฺาปตฺตสฺส ภยวิโนทกเหตุสมฺปาทนตฺถมฺปิ อิทํ อิเธว ทสฺสิตํ. อิธาปิ อรหตฺตวเสเนว อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตตา เวทิตพฺพา.

๒๕๓. มโนมยิทฺธิยํ จิณฺณวสิตาย. ตตฺถ มโนมยนฺติ มเนน นิพฺพตฺตํ. สพฺพงฺคปจฺจงฺคินฺติ สพฺเพหิ องฺเคหิ จ ปจฺจงฺเคหิ จ สมนฺนาคตํ. อหีนินฺทฺริยนฺติ สณฺานวเสน อวิกลินฺทฺริยํ. อิทฺธิมตา นิมฺมิตรูปฺหิ สเจ อิทฺธิมา โอทาโต, ตมฺปิ โอทาตํ. สเจ อวิทฺธกณฺโณ, ตมฺปิ อวิทฺธกณฺณนฺติ เอวํ สพฺพากาเรหิ เตน สทิสเมว โหติ. มุฺชมฺหา อีสิกนฺติอาทิ อุปมตฺตยมฺปิ ตํ สทิสภาวทสฺสนตฺถเมว วุตฺตํ. มุฺชสทิสา เอว หิ ตสฺส อนฺโต อีสิกา โหติ. โกสสทิโสเยว อสิ, วฏฺฏาย โกสิยา วฏฺฏํ อสิเมว ปกฺขิปนฺติ, ปตฺถฏาย ปตฺถฏํ.

กรณฺฑาติ อิทมฺปิ อหิกฺจุกสฺส นามํ, น วิลีวกรณฺฑกสฺส. อหิกฺจุโก หิ อหินา สทิโสว โหติ. ตตฺถ กิฺจาปิ ‘‘ปุริโส อหึ กรณฺฑา อุทฺธเรยฺยา’’ติ หตฺเถน อุทฺธรมาโน วิย ทสฺสิโต, อถ โข จิตฺเตเนวสฺส อุทฺธรณํ เวทิตพฺพํ. อยฺหิ อหิ นาม สชาติยํ ิโต, กฏฺนฺตรํ วา รุกฺขนฺตรํ วา นิสฺสาย, ตจโต สรีรนิกฺกฑฺฒนปโยคสงฺขาเตน ถาเมน, สรีรํ ขาทมานํ วิย ปุราณตจํ ชิคุจฺฉนฺโตติ อิเมหิ จตูหิ การเณหิ สยเมว กฺจุกํ ชหาติ, น สกฺกา ตโต อฺเน อุทฺธริตุํ. ตสฺมา จิตฺเตน อุทฺธรณํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิติ มุฺชาทิสทิสํ อิมสฺส ภิกฺขุโน สรีรํ, อีสิกาทิสทิสํ นิมฺมิตรูปนฺติ อิทเมตฺถ โอปมฺมสํสนฺทนํ. นิมฺมานวิธานํ ปเนตฺถ ปรโต จ อิทฺธิวิธาทิปฺจอภิฺากถา สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตาติ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. อุปมามตฺตเมว หิ อิธ อธิกํ.

ตตฺถ เฉกกุมฺภการาทโย วิย อิทฺธิวิธาณลาภี ภิกฺขุ ทฏฺพฺโพ. สุปริกมฺมกตมตฺติกาทโย วิย อิทฺธิวิธาณํ ทฏฺพฺพํ. อิจฺฉิติจฺฉิตภาชนวิกติอาทิกรณํ วิย ตสฺส ภิกฺขุโน วิกุพฺพนํ ทฏฺพฺพํ. อิธาปิ จิณฺณวสิตาวเสเนว อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตตา เวทิตพฺพา. ตถา อิโต ปราสุ จตูสุ อภิฺาสุ.

๒๕๕. ตตฺถ ทิพฺพโสตธาตุอุปมายํ สงฺขธโมติ สงฺขธมโก. อปฺปกสิเรเนวาติ นิทฺทุกฺเขเนว. วิฺาเปยฺยาติ ชานาเปยฺย. ตตฺถ เอวํ จาตุทฺทิสา วิฺาเปนฺเต สงฺขธมเก ‘‘สงฺขสทฺโท อย’’นฺติ ววตฺถาเปนฺตานํ สตฺตานํ ตสฺส สงฺขสทฺทสฺส อาวิภูตกาโล วิย โยคิโน ทูรสนฺติกเภทานํ ทิพฺพานฺเจว มานุสกานฺจ สทฺทานํ อาวิภูตกาโล ทฏฺพฺโพ.

๒๕๖. เจโตปริยาณ-อุปมายํ ทหโรติ ตรุโณ. ยุวาติ โยพฺพเนน สมนฺนาคโต. มณฺฑนกชาติโกติ ยุวาปิ สมาโน น อลสิโย กิลิฏฺวตฺถสรีโร, อถ โข มณฺฑนกปกติโก, ทิวสสฺส ทฺเว ตโย วาเร นฺหายิตฺวา สุทฺธวตฺถ-ปริทหน-อลงฺการกรณสีโลติ อตฺโถ. สกณิกนฺติ กาฬติลกวงฺก-มุขทูสิปีฬกาทีนํ อฺตเรน สโทสํ. ตตฺถ ยถา ตสฺส มุขนิมิตฺตํ ปจฺจเวกฺขโต มุขโทโส ปากโฏ โหติ, เอวํ เจโตปริยาณาย จิตฺตํ อภินีหริตฺวา นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน ปเรสํ โสฬสวิธํ จิตฺตํ ปากฏํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. ปุพฺเพนิวาสอุปมาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สพฺพํ มหาอสฺสปุเร วุตฺตเมว.

๒๕๙. อยํ โข อุทายิ ปฺจโม ธมฺโมติ เอกูนวีสติ ปพฺพานิ ปฏิปทาวเสน เอกํ ธมฺมํ กตฺวา ปฺจโม ธมฺโมติ วุตฺโต. ยถา หิ อฏฺกนาครสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๑๗ อาทโย) เอกาทส ปพฺพานิ ปุจฺฉาวเสน เอกธมฺโม กโต, เอวมิธ เอกูนวีสติ ปพฺพานิ ปฏิปทาวเสน เอโก ธมฺโม กโตติ เวทิตพฺพานิ. อิเมสุ จ ปน เอกูนวีสติยา ปพฺเพสุ ปฏิปาฏิยา อฏฺสุ โกฏฺาเสสุ วิปสฺสนาาเณ จ อาสวกฺขยาเณ จ อรหตฺตวเสน อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตตา เวทิตพฺพา, เสเสสุ จิณฺณวสิภาววเสน. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

มหาสกุลุทายิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. สมณมุณฺฑิกสุตฺตวณฺณนา

๒๖๐. เอวํเม สุตนฺติ สมณมุณฺฑิกสุตฺตํ. ตตฺถ อุคฺคาหมาโนติ ตสฺส ปริพฺพาชกสฺส นามํ. สุมโนติ ปกตินามํ. กิฺจิ กิฺจิ ปน อุคฺคหิตุํ อุคฺคาเหตุํ สมตฺถตาย อุคฺคาหมาโนติ นํ สฺชานนฺติ. สมยํ ปวทนฺติ เอตฺถาติ สมยปฺปวาทกํ. ตสฺมึ กิร าเน จงฺกีตารุกฺขโปกฺขรสาติปฺปภุตโย พฺราหฺมณา นิคณฺาเจลกปริพฺพาชกาทโย จ ปพฺพชิตา สนฺนิปติตฺวา อตฺตโน อตฺตโน สมยํ ปวทนฺติ กเถนฺติ ทีเปนฺติ, ตสฺมา โส อาราโม สมยปฺปวาทโกติ วุจฺจติ. สฺเวว ตินฺทุกาจีรสงฺขาตาย ติมฺพรูสกรุกฺขปนฺติยา ปริกฺขิตฺตตฺตา ตินฺทุกาจีรํ. ยสฺมา ปเนตฺถ ปมํ เอกา สาลา อโหสิ, ปจฺฉา มหาปุฺํ โปฏฺปาทปริพฺพาชกํ นิสฺสาย พหู สาลา กตา, ตสฺมา ตเมว เอกํ สาลํ อุปาทาย ลทฺธนามวเสน เอกสาลโกติ วุจฺจติ. มลฺลิกาย ปน ปเสนทิรฺโ เทวิยา อุยฺยานภูโต โส ปุปฺผผลสฺฉนฺโน อาราโมติ กตฺวา มลฺลิกาย อาราโมติ สงฺขํ คโต. ตสฺมึ สมยปฺปวาทเก ตินฺทุกาจีเร เอกสาลเก มลฺลิกาย อาราเม. ปฏิวสตีติ วาสผาสุตาย วสติ. ทิวา ทิวสฺสาติ ทิวสสฺส ทิวา นาม มชฺฌนฺหาติกฺกโม, ตสฺมึ ทิวสสฺสปิ ทิวาภูเต อติกฺกนฺตมตฺเต มชฺฌนฺหิเก นิกฺขมีติ อตฺโถ. ปฏิสลฺลีโนติ ตโต ตโต รูปาทิโคจรโต จิตฺตํ ปฏิสํหริตฺวา ลีโน, ฌานรติเสวนวเสน เอกีภาวํ คโต. มโนภาวนียานนฺติ มนวฑฺฒนกานํ, เย อาวชฺชโต มนสิกโรโต จิตฺตํ วินีวรณํ โหติ อุนฺนมติ วฑฺฒติ. ยาวตาติ ยตฺตกา. อยํ เตสํ อฺตโรติ อยํ เตสํ อพฺภนฺตโร เอโก สาวโก. อปฺเปว นามาติ ตสฺส อุปสงฺกมนํ ปตฺถยมาโน อาห. ปตฺถนาการณํ ปน สนฺทกสุตฺเต วุตฺตเมว.

๒๖๑. เอตทโวจาติ ทนฺทปฺโ อยํ คหปติ, ธมฺมกถาย นํ สงฺคณฺหิตฺวา อตฺตโน สาวกํ กริสฺสามีติ มฺมาโน เอตํ ‘‘จตูหิ โข’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ ปฺเปมีติ ทสฺเสมิ เปมิ. สมฺปนฺนกุสลนฺติ ปริปุณฺณกุสลํ. ปรมกุสลนฺติ อุตฺตมกุสลํ. อโยชฺฌนฺติ วาทยุทฺเธน ยุชฺฌิตฺวา จาเลตุํ อสกฺกุเณยฺยํ อจลํ นิกฺกมฺปํ ถิรํ. กโรตีติ อกรณมตฺตเมว วทติ, เอตฺถ ปน สํวรปฺปหานํ วา ปฏิเสวนปฺปหานํ วา น วทติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.

เนว อภินนฺทีติ ติตฺถิยา นาม ชานิตฺวาปิ อชานิตฺวาปิ ยํ วา ตํ วา วทนฺตีติ มฺมาโน นาภินนฺทิ. น ปฏิกฺโกสีติ สาสนสฺส อนุโลมํ วิย ปสนฺนาการํ วิย วทตีติ มฺมาโน น ปฏิเสเธติ.

๒๖๒. ยถา อุคฺคาหมานสฺสาติ ยถา ตสฺส วจนํ, เอวํ สนฺเต อุตฺตานเสยฺยโก กุมาโร อโยชฺฌสมโณ ถิรสมโณ ภวิสฺสติ, มยํ ปน เอวํ น วทามาติ ทีเปติ. กาโยติปิ น โหตีติ สกกาโย ปรกาโยติปิ วิเสสาณํ น โหติ. อฺตฺรผนฺทิตมตฺตาติ ปจฺจตฺถรเณ วลิสมฺผสฺเสน วา มงฺคุลทฏฺเน วา กายผนฺทนมตฺตํ นาม โหติ. ตํ เปตฺวา อฺํ กาเยน กรณกมฺมํ นาม นตฺถิ. ตมฺปิ จ กิเลสสหคตจิตฺเตเนว โหติ. วาจาติปิ น โหตีติ มิจฺฉาวาจา สมฺมาวาจาติปิ นานตฺตํ น โหติ. โรทิตมตฺตาติ ชิฆจฺฉาปิปาสาปเรตสฺส ปน โรทิตมตฺตํ โหติ. ตมฺปิ กิเลสสหคตจิตฺเตเนว. สงฺกปฺโปติ มิจฺฉาสงฺกปฺโป สมฺมาสงฺกปฺโปติปิ นานตฺตํ น โหติ. วิกูชิตมตฺตาติ วิกูชิตมตฺตํ โรทนหสิตมตฺตํ โหติ. ทหรกุมารกานฺหิ จิตฺตํ อตีตารมฺมณํ ปวตฺตติ, นิรยโต อาคตา นิรยทุกฺขํ สริตฺวา โรทนฺติ, เทวโลกโต อาคตา หสนฺติ, ตมฺปิ กิเลสสหคตจิตฺเตเนว โหติ. อาชีโวติ มิจฺฉาชีโว สมฺมาชีโวติปิ นานตฺตํ น โหติ. อฺตฺร มาตุถฺาติ ถฺโจรทารกา นาม โหนฺติ, มาตริ ขีรํ ปายนฺติยา อปิวิตฺวา อฺวิหิตกาเล ปิฏฺิปสฺเสน อาคนฺตฺวา ถฺํ ปิวนฺติ. เอตฺตกํ มุฺจิตฺวา อฺโ มิจฺฉาชีโว นตฺถิ. อยมฺปิ กิเลสสหคตจิตฺเตเนว โหตีติ ทสฺเสติ.

๒๖๓. เอวํ ปริพฺพาชกวาทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อิทานิ สยํ เสกฺขภูมิยํ มาติกํ เปนฺโต จตูหิ โข อหนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สมธิคยฺห ติฏฺตีติ วิเสเสตฺวา ติฏฺติ. กาเยน ปาป กมฺมนฺติอาทีสุ น เกวลํ อกรณมตฺตเมว, ภควา ปน เอตฺถ สํวรปฺปหานปฏิสงฺขา ปฺเปติ. ตํ สนฺธาเยวมาห. น เจว สมฺปนฺนกุสลนฺติอาทิ ปน ขีณาสวํ สนฺธาย วุตฺตํ.

อิทานิ อเสกฺขภูมิยํ มาติกํ เปนฺโต ทสหิ โข อหนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ตีณิ ปทานิ นิสฺสาย ทฺเว ปมจตุกฺกา ปิตา, เอกํ ปทํ นิสฺสาย ทฺเว ปจฺฉิมจตุกฺกา. อยํ เสกฺขภูมิยํ มาติกา.

๒๖๔. อิทานิ ตํ วิภชนฺโต กตเม จ ถปติ อกุสลสีลาติอาทิมาห. ตตฺถ สราคนฺติ อฏฺวิธํ โลภสหคตจิตฺตํ. สโทสนฺติ ปฏิฆสมฺปยุตฺตจิตฺตทฺวยํ. สโมหนฺติ วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคตจิตฺตทฺวยมฺปิ วฏฺฏติ, สพฺพากุสลจิตฺตานิปิ. โมโห สพฺพากุสเล อุปฺปชฺชตีติ หิ วุตฺตํ. อิโตสมุฏฺานาติ อิโต สราคาทิจิตฺตโต สมุฏฺานํ อุปฺปตฺติ เอเตสนฺติ อิโตสมุฏฺานา.

กุหินฺติ กตรํ านํ ปาปุณิตฺวา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ. เอตฺเถเตติ โสตาปตฺติผเล ภุมฺมํ. ปาติโมกฺขสํวรสีลฺหิ โสตาปตฺติผเล ปริปุณฺณํ โหติ, ตํ านํ ปตฺวา อกุสลสีลํ อเสสํ นิรุชฺฌติ. อกุสลสีลนฺติ จ ทุสฺสีลสฺเสตํ อธิวจนนฺติ เวทิตพฺพํ.

อกุสลานํ สีลานํ นิโรธาย ปฏิปนฺโนติ เอตฺถ ยาว โสตาปตฺติมคฺคา นิโรธาย ปฏิปนฺโน นาม โหติ, ผลปตฺเต ปน เต นิโรธิตา นาม โหนฺติ.

๒๖๕. วีตราคนฺติอาทีหิ อฏฺวิธํ กามาวจรกุสลจิตฺตเมว วุตฺตํ. เอเตน หิ กุสลสีลํ สมุฏฺาติ.

สีลวา โหตีติ สีลสมฺปนฺโน โหติ คุณสมฺปนฺโน จ. โน จ สีลมโยติ อลเมตฺตาวตา, นตฺถิ อิโต กิฺจิ อุตฺตริ กรณียนฺติ เอวํ สีลมโย น โหติ. ยตฺถสฺส เตติ อรหตฺตผเล ภุมฺมํ. อรหตฺตผลฺหิ ปตฺวา อกุสลสีลํ อเสสํ นิรุชฺฌติ.

นิโรธาย ปฏิปนฺโนติ เอตฺถ ยาว อรหตฺตมคฺคา นิโรธาย ปฏิปนฺโน นาม โหติ, ผลปตฺเต ปน เต นิโรธิตา นาม โหนฺติ.

๒๖๖. กามสฺาทีสุ กามสฺา อฏฺโลภสหคตจิตฺตสหชาตา, อิตรา ทฺเว โทมนสฺสสหคตจิตฺตทฺวเยน สหชาตา.

ปมํฌานนฺติ อนาคามิผลปมชฺฌานํ. เอตฺเถเตติ อนาคามิผเล ภุมฺมํ. อนาคามิผลฺหิ ปตฺวา อกุสลสงฺกปฺปา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ.

นิโรธาย ปฏิปนฺโนติ เอตฺถ ยาว อนาคามิมคฺคา นิโรธาย ปฏิปนฺโน นาม โหติ, ผลปตฺเต ปน เต นิโรธิตา นาม โหนฺติ. เนกฺขมฺมสฺาทโย หิ ติสฺโสปิ อฏฺกามาวจรกุสลสหชาตสฺาว.

๒๖๗. เอตฺเถเตติ อรหตฺตผเล ภุมฺมํ. ทุติยชฺฌานิกํ อรหตฺตผลฺหิ ปาปุณิตฺวา กุสลสงฺกปฺปา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ. นิโรธาย ปฏิปนฺโนติ เอตฺถ ยาว อรหตฺตมคฺคา นิโรธาย ปฏิปนฺโน นาม โหติ, ผลปตฺเต ปน เต นิโรธิตา นาม โหนฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

สมณมุณฺฑิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. จูฬสกุลุทายิสุตฺตวณฺณนา

๒๗๐. เอวํเม สุตนฺติ จูฬสกุลุทายิสุตฺตํ. ตตฺถ ยทา ปน, ภนฺเต, ภควาติ อิทํ ปริพฺพาชโก ธมฺมกถํ โสตุกาโม ภควโต ธมฺมเทสนาย สาลยภาวํ ทสฺเสนฺโต อาห.

๒๗๑. ตํเยเวตฺถ ปฏิภาตูติ สเจ ธมฺมํ โสตุกาโม, ตุยฺเหเวตฺถ เอโก ปฺโห เอกํ การณํ อุปฏฺาตุ. ยถา มํ ปฏิภาเสยฺยาติ เยน การเณน มม ธมฺมเทสนา อุปฏฺเหยฺย, เอเตน หิ การเณน กถาย สมุฏฺิตาย สุขํ ธมฺมํ เทเสตุนฺติ ทีเปติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเตติ โส กิร ตํ ทิสฺวา – ‘‘สเจ ภควา อิธ อภวิสฺสา, อยเมตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถติ ทีปสหสฺสํ วิย อุชฺชลาเปตฺวา อชฺช เม ปากฏํ อกริสฺสา’’ติ ทสพลํเยว อนุสฺสริ. ตสฺมา ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ อโห นูนาติ อนุสฺสรณตฺเถ นิปาตทฺวยํ. เตน ตสฺส ภควนฺตํ อนุสฺสรนฺตสฺส เอตทโหสิ ‘‘อโห นูน ภควา อโห นูน สุคโต’’ติ. โย อิเมสนฺติ โย อิเมสํ ธมฺมานํ. สุกุสโลติ สุฏฺุ กุสโล นิปุโณ เฉโก. โส ภควา อโห นูน กเถยฺย, โส สุคโต อโห นูน กเถยฺย, ตสฺส หิ ภควโต ปุพฺเพนิวาสาณสฺส อเนกานิ กปฺปโกฏิสหสฺสานิ เอกงฺคณานิ ปากฏานีติ, อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.

ตสฺส วาหํ ปุพฺพนฺตํ อารพฺภาติ โย หิ ลาภี โหติ, โส ‘‘ปุพฺเพ ตฺวํ ขตฺติโย อโหสิ, พฺราหฺมโณ อโหสี’’ติ วุตฺเต ชานนฺโต สกฺกจฺจํ สุสฺสูสติ. อลาภี ปน – ‘‘เอวํ ภวิสฺสติ เอวํ ภวิสฺสตี’’ติ สีสกมฺปเมตฺตเมว ทสฺเสติ. ตสฺมา เอวมาห – ‘‘ตสฺส วาหํ ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธยฺย’’นฺติ.

โส วา มํ อปรนฺตนฺติ ทิพฺพจกฺขุลาภิโน หิ อนาคตํสาณํ อิชฺฌติ, ตสฺมา เอวมาห. อิตรํ ปุพฺเพ วุตฺตนยเมว.

ธมฺมํเต เทเสสฺสามีติ อยํ กิร อตีเต เทสิยมาเนปิ น พุชฺฌิสฺสติ, อนาคเต เทสิยมาเนปิ น พุชฺฌิสฺสติ. อถสฺส ภควา สณฺหสุขุมํ ปจฺจยาการํ เทเสตุกาโม เอวมาห. กึ ปน ตํ พุชฺฌิสฺสตีติ? เอตํ ปเคว น พุชฺฌิสฺสติ, อนาคเต ปนสฺส วาสนาย ปจฺจโย ภวิสฺสตีติ ทิสฺวา ภควา เอวมาห.

ปํสุปิสาจกนฺติ อสุจิฏฺาเน นิพฺพตฺตปิสาจํ. โส หิ เอกํ มูลํ คเหตฺวา อทิสฺสมานกาโย โหติ. ตตฺริทํ วตฺถุ – เอกา กิร ยกฺขินี ทฺเว ทารเก ถูปารามทฺวาเร นิสีทาเปตฺวา อาหารปริเยสนตฺถํ นครํ คตา. ทารกา เอกํ ปิณฺฑปาติกตฺเถรํ ทิสฺวา อาหํสุ, – ‘‘ภนฺเต, อมฺหากํ มาตา อนฺโต นครํ ปวิฏฺา, ตสฺสา วเทยฺยาถ ‘ยํ วา ตํ วา ลทฺธกํ, คเหตฺวา สีฆํ คจฺฉ, ทารกา เต ชิฆจฺฉิตํ สนฺธาเรตุํ น สกฺโกนฺตี’’’ติ. ตมหํ กถํ ปสฺสิสฺสามีติ? อิทํ, ภนฺเต, คณฺหถาติ เอกํ มูลขณฺฑํ อทํสุ. เถรสฺส อเนกานิ ยกฺขสหสฺสานิ ปฺายึสุ, โส ทารเกหิ ทินฺนสฺาเณน ตํ ยกฺขินึ อทฺทส วิรูปํ พีภจฺฉํ เกวลํ วีถิยํ คพฺภมลํ ปจฺจาสีสมานํ. ทิสฺวา ตมตฺถํ กเถสิ . กถํ มํ ตฺวํ ปสฺสสีติ วุตฺเต มูลขณฺฑํ ทสฺเสสิ, สา อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหิ. เอวํ ปํสุปิสาจกา เอกํ มูลํ คเหตฺวา อทิสฺสมานกายา โหนฺติ. ตํ สนฺธาเยส ‘‘ปํสุปิสาจกมฺปิ น ปสฺสามี’’ติ อาห. น ปกฺขายตีติ น ทิสฺสติ น อุปฏฺาติ.

๒๗๒. ทีฆาปิ โข เต เอสาติ อุทายิ เอสา ตว วาจา ทีฆาปิ ภเวยฺย, เอวํ วทนฺตสฺส วสฺสสตมฺปิ วสฺสสหสฺสมฺปิ ปวตฺเตยฺย, น จ อตฺถํ ทีเปยฺยาติ อธิปฺปาโย. อปฺปาฏิหีรกตนฺติ อนิยฺยานิกํ อมูลกํ นิรตฺถกํ สมฺปชฺชตีติ อตฺโถ.

อิทานิ ตํ วณฺณํ ทสฺเสนฺโต เสยฺยถาปิ, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺโตติ วิสภาควณฺเณ รตฺตกมฺพเล ปิโต. เอวํวณฺโณ อตฺตา โหตีติ อิทํ โส สุภกิณฺหเทวโลเก นิพฺพตฺตกฺขนฺเธ สนฺธาย – ‘‘อมฺหากํ มตกาเล อตฺตา สุภกิณฺหเทวโลเก ขนฺธา วิย โชเตตี’’ติ วทติ.

๒๗๓. อยํอิเมสํ อุภินฺนนฺติ โส กิร ยสฺมา มณิสฺส พหิ อาภา น นิจฺฉรติ, ขชฺโชปนกสฺส องฺคุลทฺวงฺคุลจตุรงฺคุลมตฺตํ นิจฺฉรติ, มหาขชฺโชปนกสฺส ปน ขฬมณฺฑลมตฺตมฺปิ นิจฺฉรติเยว, ตสฺมา เอวมาห.

วิทฺเธติ อุพฺพิทฺเธ, เมฆวิคเมน ทูรีภูเตติ อตฺโถ. วิคตวลาหเกติ อปคตเมเฆ. เทเวติ อากาเส. โอสธิตารกาติ สุกฺกตารกา. สา หิ ยสฺมา ตสฺสา อุทยโต ปฏฺาย เตน สฺาเณน โอสธานิ คณฺหนฺติปิ ปิวนฺติปิ, ตสฺมา ‘‘โอสธิตารกา’’ติ วุจฺจติ. อภิโท อฑฺฒรตฺตสมยนฺติ อภินฺเน อฑฺฒรตฺตสมเย. อิมินา คคนมชฺเฌ ิตจนฺทํ ทสฺเสติ. อภิโท มชฺฌนฺหิเกปิ เอเสว นโย.

อโต โขติ เย อนุโภนฺติ, เตหิ พหุตรา, พหู เจว พหุตรา จาติ อตฺโถ. อาภา นานุโภนฺตีติ โอภาสํ น วฬฺชนฺติ, อตฺตโน สรีโรภาเสเนว อาโลกํ ผริตฺวา วิหรนฺติ.

๒๗๔. อิทานิ ยสฺมา โส ‘‘เอกนฺตสุขํ โลกํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ นิสินฺโน, ปุจฺฉามูฬฺโห ปน ชาโต, ตสฺมา นํ ภควา ตํ ปุจฺฉํ สราเปนฺโต กึ ปน, อุทายิ, อตฺถิ เอกนฺตสุโข โลโกติอาทิมาห. ตตฺถ อาการวตีติ การณวตี. อฺตรํ วา ปน ตโปคุณนฺติ อเจลกปาฬึ สนฺธายาห, สุราปานวิรตีติ อตฺโถ.

๒๗๕. กตมา ปน สา, ภนฺเต, อาการวตี ปฏิปทา เอกนฺตสุขสฺสาติ กสฺมา ปุจฺฉติ? เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘มยํ สตฺตานํ เอกนฺตสุขํ วทาม, ปฏิปทํ ปน กาเลน สุขํ กาเลน ทุกฺขํ วทาม. เอกนฺตสุขสฺส โข ปน อตฺตโน ปฏิปทายปิ เอกนฺตสุขาย ภวิตพฺพํ. อมฺหากํ กถา อนิยฺยานิกา, สตฺถุ กถาว นิยฺยานิกา’’ติ. อิทานิ สตฺถารํเยว ปุจฺฉิตฺวา ชานิสฺสามีติ ตสฺมา ปุจฺฉติ.

เอตฺถมยํ อนสฺสามาติ เอตสฺมึ การเณ มยํ อนสฺสาม. กสฺมา ปน เอวมาหํสุ? เต กิร ปุพฺเพ ปฺจสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ตติยชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌานา กาลํ กตฺวา สุภกิณฺเหสุ นิพฺพตฺตนฺตีติ ชานนฺติ, คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต ปน กาเล กสิณปริกมฺมมฺปิ น ชานึสุ, ตติยชฺฌานมฺปิ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขึสุ. ปฺจ ปุพฺพภาคธมฺเม ปน ‘‘อาการวตี ปฏิปทา’’ติ อุคฺคเหตฺวา ตติยชฺฌานํ ‘‘เอกนฺตสุโข โลโก’’ติ อุคฺคณฺหึสุ. ตสฺมา เอวมาหํสุ. อุตฺตริตรนฺติ อิโต ปฺจหิ ธมฺเมหิ อุตฺตริตรํ ปฏิปทํ วา ตติยชฺฌานโต อุตฺตริตรํ เอกนฺตสุขํ โลกํ วา น ชานามาติ วุตฺตํ โหติ. อปฺปสทฺเท กตฺวาติ เอกปฺปหาเรเนว มหาสทฺทํ กาตุํ อารทฺเธ นิสฺสทฺเท กตฺวา.

๒๗๖. สจฺฉิกิริยาเหตูติ เอตฺถ ทฺเว สจฺฉิกิริยา ปฏิลาภสจฺฉิกิริยา จ ปจฺจกฺขสจฺฉิกิริยา จ. ตตฺถ ตติยชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา สุภกิณฺหโลเก เตสํ เทวานํ สมานายุวณฺโณ หุตฺวา นิพฺพตฺตติ, อยํ ปฏิลาภสจฺฉิกิริยา นาม. จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา อิทฺธิวิกุพฺพเนน สุภกิณฺหโลกํ คนฺตฺวา เตหิ เทเวหิ สทฺธึ สนฺติฏฺติ สลฺลปติ สากจฺฉํ อาปชฺชติ, อยํ ปจฺจกฺขสจฺฉิกิริยา นาม. ตาสํ ทฺวินฺนมฺปิ ตติยชฺฌานํ อาการวตี ปฏิปทา นาม. ตฺหิ อนุปฺปาเทตฺวา เนว สกฺกา สุภกิณฺหโลเก นิพฺพตฺติตุํ, น จตุตฺถชฺฌานํ อุปฺปาเทตุํ. อิติ ทุวิธมฺเปตํ สจฺฉิกิริยํ สนฺธาย – ‘‘เอตสฺส นูน, ภนฺเต, เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยาเหตู’’ติ อาห.

๒๗๗. อุทฺจนิโกติ อุทกวารโก. อนฺตรายมกาสีติ ยถา ปพฺพชฺชํ น ลภติ, เอวํ อุปทฺทุตมกาสิ ยถา ตํ อุปนิสฺสยวิปนฺนํ. อยํ กิร กสฺสปพุทฺธกาเล ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมมกาสิ. อถสฺส เอโก สหายโก ภิกฺขุ สาสเน อนภิรโต, ‘‘อาวุโส, วิพฺภมิสฺสามี’’ติ อาโรเจสิ. โส ตสฺส ปตฺตจีวเร โลภํ อุปฺปาเทตฺวา คิหิภาวาย วณฺณํ อภาสิ. อิตโร ตสฺส ปตฺตจีวรํ ทตฺวา วิพฺภมิ. เตนสฺส กมฺมุนา อิทานิ ภควโต สมฺมุขา ปพฺพชฺชาย อนฺตราโย ชาโต. ภควตา ปนสฺส ปุริมสุตฺตํ อติเรกภาณวารมตฺตํ, อิทํ ภาณวารมตฺตนฺติ เอตฺตกาย ตนฺติยา ธมฺโม กถิโต, เอกเทสนายปิ มคฺคผลปฏิเวโธ น ชาโต, อนาคเต ปนสฺส ปจฺจโย ภวิสฺสตีติ ภควา ธมฺมํ เทเสติ. อนาคเต ปจฺจยภาวฺจสฺส ทิสฺวา ภควา ธรมาโน เอกํ ภิกฺขุมฺปิ เมตฺตาวิหาริมฺหิ เอตทคฺเค น เปสิ. ปสฺสติ หิ ภควา – ‘‘อนาคเต อยํ มม สาสเน ปพฺพชิตฺวา เมตฺตาวิหารีนํ อคฺโค ภวิสฺสตี’’ติ.

โส ภควติ ปรินิพฺพุเต ธมฺมาโสกราชกาเล ปาฏลิปุตฺเต นิพฺพตฺติตฺวา ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตปฺปตฺโต อสฺสคุตฺตตฺเถโร นาม หุตฺวา เมตฺตาวิหารีนํ อคฺโค อโหสิ. เถรสฺส เมตฺตานุภาเวน ติรจฺฉานคตาปิ เมตฺตจิตฺตํ ปฏิลภึสุ, เถโร สกลชมฺพุทีเป ภิกฺขุสงฺฆสฺส โอวาทาจริโย หุตฺวา วตฺตนิเสนาสเน อาวสิ, ตึสโยชนมตฺตา อฏวี เอกํ ปธานฆรํ อโหสิ. เถโร อากาเส จมฺมขณฺฑํ ปตฺถริตฺวา ตตฺถ นิสินฺโน กมฺมฏฺานํ กเถสิ. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล ภิกฺขาจารมฺปิ อคนฺตฺวา วิหาเร นิสินฺโน กมฺมฏฺานํ กเถสิ, มนุสฺสา วิหารเมว คนฺตฺวา ทานมทํสุ. ธมฺมาโสกราชา เถรสฺส คุณํ สุตฺวา ทฏฺุกาโม ติกฺขตฺตุํ ปหิณิ. เถโร ภิกฺขุสงฺฆสฺส โอวาทํ ทมฺมีติ เอกวารมฺปิ น คโตติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

จูฬสกุลุทายิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. เวขนสสุตฺตวณฺณนา

๒๗๘. เอวํเม สุตนฺติ เวขนสสุตฺตํ. ตตฺถ เวขนโสติ อยํ กิร สกุลุทายิสฺส อาจริโย, โส ‘‘สกุลุทายี ปริพฺพาชโก ปรมวณฺณปฺเห ปราชิโต’’ติ สุตฺวา ‘‘มยา โส สาธุกํ อุคฺคหาปิโต, เตนาปิ สาธุกํ อุคฺคหิตํ, กถํ นุ โข ปราชิโต, หนฺทาหํ สยํ คนฺตฺวา สมณํ โคตมํ ปรมวณฺณปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ ราชคหโต ปฺจจตฺตาลีสโยชนํ สาวตฺถึ คนฺตฺวา เยน ภควา, เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปน ิตโกว ภควโต สนฺติเก อุทานํ อุทาเนสิ. ตตฺถ ปุริมสทิสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๒๘๐. ปฺจ โข อิเมติ กสฺมา อารภิ? อคาริโยปิ เอกจฺโจ กามครุโก กามาธิมุตฺโต โหติ, เอกจฺโจ เนกฺขมฺมครุโก เนกฺขมฺมาธิมุตฺโต โหติ. ปพฺพชิโตปิ จ เอกจฺโจ กามครุโก กามาธิมุตฺโต โหติ, เอกจฺโจ เนกฺขมฺมครุโก เนกฺขมฺมาธิมุตฺโต โหติ. อยํ ปน กามครุโก กามาธิมุตฺโต โหติ. โส อิมาย กถาย กถิยมานาย อตฺตโน กามาธิมุตฺตตฺตํ สลฺลกฺเขสฺสติ, เอวมสฺสายํ เทสนา สปฺปายา ภวิสฺสตีติ อิมํ เทสนํ อารภิ. กามคฺคสุขนฺติ นิพฺพานํ อธิปฺเปตํ.

๒๘๑. ปาปิโตภวิสฺสตีติ อชานนภาวํ ปาปิโต ภวิสฺสติ. นามกํเยว สมฺปชฺชตีติ นิรตฺถกวจนมตฺตเมว สมฺปชฺชติ. ติฏฺตุ ปุพฺพนฺโต ติฏฺตุ อปรนฺโตติ ยสฺมา ตุยฺหํ อตีตกถาย อนุจฺฉวิกํ ปุพฺเพนิวาสาณํ นตฺถิ, อนาคตกถาย อนุจฺฉวิกํ ทิพฺพจกฺขุาณํ นตฺถิ, ตสฺมา อุภยมฺเปตํ ติฏฺตูติ อาห. สุตฺตพนฺธเนหีติ สุตฺตมยพนฺธเนหิ. ตสฺส หิ อารกฺขตฺถาย หตฺถปาเทสุ เจว คีวาย จ สุตฺตกานิ พนฺธนฺติ. ตานิ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. มหลฺลกกาเล ปนสฺส ตานิ สยํ วา ปูตีนิ หุตฺวา มุฺจนฺติ, ฉินฺทิตฺวา วา หรนฺติ.

เอวเมวโขติ อิมินา อิทํ ทสฺเสติ – ทหรสฺส กุมารสฺส สุตฺตพนฺธนานํ อชานนกาโล วิย อวิชฺชาย ปุริมาย โกฏิยา อชานนํ, น หิ สกฺกา อวิชฺชาย ปุริมโกฏิ าตุํ, โมจนกาเล ชานนสทิสํ ปน อรหตฺตมคฺเคน อวิชฺชาพนฺธนสฺส ปโมกฺโข ชาโตติ ชานนํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

เวขนสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.