📜
๕. พฺราหฺมณวคฺโค
๑. พฺรหฺมายุสุตฺตวณฺณนา
๓๘๓. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ พฺรหฺมายุสุตฺตํ. ตตฺถ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธินฺติ มหตาติ คุณมหตฺเตนปิ มหตา, สงฺขฺยามหตฺเตนปิ. โส หิ ภิกฺขุสงฺเฆ คุเณหิปิ มหา อโหสิ อปฺปิจฺฉตาทิคุณสมนฺนาคตตฺตา, สงฺขฺยายปิ มหา ปฺจสตสงฺขฺยตฺตา. ภิกฺขูนํ สงฺเฆน ภิกฺขุสงฺเฆน, ทิฏฺิสีลสามฺสงฺฆาตสงฺขาเตน สมณคเณนาติ อตฺโถ. สทฺธินฺติ เอกโต. ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหีติ ปฺจ มตฺตา เอเตสนฺติ ปฺจมตฺตานิ. มตฺตาติ ปมาณํ วุจฺจติ, ตสฺมา ยถา โภชเน ¶ มตฺตฺูติ วุตฺเต โภชเน มตฺตํ ชานาติ ปมาณํ ชานาตีติ อตฺโถ โหติ, เอวมิธาปิ เตสํ ภิกฺขุสตานํ ปฺจมตฺตา ปฺจปมาณนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ภิกฺขูนํ สตานิ ภิกฺขุสตานิ. เตหิ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ.
วีสวสฺสสติโกติ วีสาธิกวสฺสสติโก. ติณฺณํ เวทานนฺติ อิรุเวทยชุเวทสามเวทานํ. โอฏฺปหตกรณวเสน ปารํ คโตติ ปารคู. สห นิฆณฺฑุนา จ เกฏุเภน จ สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ, นิฆณฺฑูติ นามนิฆณฺฏุรุกฺขาทีนํ เววจนปฺปกาสกํ สตฺถํ. เกฏุภนฺติ กิริยากปฺปวิกปฺโป กวีนํ อุปการาย สตฺถํ. สห อกฺขรปฺปเภเทน สกฺขรปฺปเภทานํ. อกฺขรปฺปเภโทติ สิกฺขา จ นิรุตฺติ จ. อิติหาสปฺจมานนฺติ อาถพฺพณเวทํ จตุตฺถํ กตฺวา ‘‘อิติห อาส อิติห อาสา’’ติ อีทิสวจนปฺปฏิสํยุตฺโต ปุราณกถาสงฺขาโต อิติหาโส ปฺจโม เอเตสนฺติ อิติหาสปฺจมา, เตสํ อิติหาสปฺจมานํ. ปทฺจ ตทวเสสฺจ พฺยากรณํ อธียติ ปเวเทติ จาติ ปทโก เวยฺยากรโณ. โลกายตํ วุจฺจติ วิตณฺฑวาทสตฺถํ. มหาปุริสลกฺขณนฺติ ¶ มหาปุริสานํ พุทฺธาทีนํ ลกฺขณทีปกํ ทฺวาทสสหสฺสคนฺถปฺปมาณํ สตฺถํ, ยตฺถ โสฬสสหสฺสคาถาปริมาณาย ¶ พุทฺธมนฺตา นาม อเหสุํ, เยสํ วเสน ‘‘อิมินา ลกฺขเณน สมนฺนาคตา พุทฺธา นาม โหนฺติ, อิมินา ปจฺเจกพุทฺธา นาม โหนฺติ, อิมินา ทฺเว อคฺคสาวกา, อสีติมหาสาวกา, พุทฺธมาตา, พุทฺธปิตา, อคฺคุปฏฺาโก, อคฺคุปฏฺายิกา, ราชา จกฺกวตฺตี’’ติ อยํ วิเสโส ¶ ายติ. อนวโยติ อิเมสุ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนูโน ปริปูรการี, อวโย น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อวโย นาม โย ตานิ อตฺถโต จ คนฺถโต จ สนฺธาเรตุํ น สกฺโกติ. อสฺโสสิ โขติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สาเลยฺยกสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๔๓๙ อาทโย) วุตฺตเมว.
๓๘๔. อยํ ตาตาติ อยํ มหลฺลกตาย คนฺตุํ อสกฺโกนฺโต มาณวํ อามนฺเตตฺวา เอวมาห. อปิจ เอส พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ ‘‘อิมสฺมึ โลเก ‘อหํ พุทฺโธ อหํ พุทฺโธ’ติ อุคฺคตสฺส นามํ คเหตฺวา พหู ชนา วิจรนฺติ, ตสฺมา น เม อนุสฺสวมตฺเตเนว อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺตํ. เอกจฺจฺหิ อุปสงฺกมนฺตสฺส อปกฺกมนมฺปิ ครุ โหติ, อนตฺโถปิ อุปฺปชฺชติ. ยํนูนาหํ มม อนฺเตวาสิกํ เปเสตฺวา ‘พุทฺโธ วา โน วา’ติ ชานิตฺวา อุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ ตสฺมา มาณวํ อามนฺเตตฺวา ‘‘อยํ ตาตา’’ติอาทิมาห. ตํ ภวนฺตนฺติ ตสฺส ภวโต. ตถา สนฺตํเยวาติ ตถา สโตเยว. อิทฺหิ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ อุปโยควจนํ. ยถา ¶ กถํ ปนาหํ, โภติ เอตฺถ กถํ ปนาหํ, โภ, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ชานิสฺสามิ, ยถา สกฺกา โส าตุํ, ตถา เม อาจิกฺขาติ อตฺโถ. ยถาติ วา นิปาตมตฺตเมเวตํ. กถนฺติ อยํ อาการปุจฺฉา, เกนากาเรนาหํ ภวนฺตํ โคตมํ ชานิสฺสามีติ อตฺโถ.
เอวํ วุตฺเต กิร นํ อุปชฺฌาโย – ‘‘กึ ตฺวํ, ตาต, ปถวิยํ ิโต ปถวึ น ปสฺสามีติ วิย จนฺทิมสูริยานํ โอภาเส ิโต จนฺทิมสูริเย น ปสฺสามีติ วิย วทสี’’ติอาทีนิ วตฺวา ชานนาการํ ทสฺเสนฺโต อาคตานิ โข ตาตาติอาทิมาห. ตตฺถ มนฺเตสูติ เวเทสุ. ตถาคโต กิร อุปฺปชฺชิสฺสตีติ ปฏิกจฺเจว สุทฺธาวาสา เทวา เวเทสุ ลกฺขณานิ ปกฺขิปิตฺวา ‘‘พุทฺธมนฺตา นาม เอเต’’ติ พฺราหฺมณเวเสน เวเท วาเจนฺติ ‘‘ตทนุสาเรน มเหสกฺขา สตฺตา ตถาคตํ ชานิสฺสนฺตี’’ติ. เตน ปุพฺเพ เวเทสุ มหาปุริสลกฺขณานิ อาคจฺฉนฺติ. ปรินิพฺพุเต ปน ตถาคเต อนุกฺกเมน อนฺตรธายนฺติ, เตน เอตรหิ นตฺถิ. มหาปุริสสฺสาติ ปณิธิสมาทานาณกรุณาทิคุณมหโต ปุริสสฺส. ทฺเวเยว คติโยติ ทฺเว เอว นิฏฺา ¶ . กามฺจายํ คติสทฺโท – ‘‘ปฺจ โข อิมา ¶ , สาริปุตฺต, คติโย’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๕๓) ภวเภเท วตฺตติ, ‘‘คติ มิคานํ ปวน’’นฺติอาทีสุ (ปริ. ๓๓๙) นิวาสฏฺาเน, ‘‘เอวํ อธิมตฺตคติมนฺโต’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๖๑) ปฺาย, ‘‘คติคต’’นฺติอาทีสุ วิสฏภาเว, อิธ ปน นิฏฺายํ วตฺตตีติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ กิฺจาปิ เยหิ สมนฺนาคโต ¶ ราชา โหติ, น เตเหว พุทฺโธ โหติ, ชาติสามฺโต ปน ตานิเยว ตานีติ วุจฺจนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เยหิ สมนฺนาคตสฺสา’’ติ. สเจ อคารํ อชฺฌาวสตีติ ยทิ อคาเร วสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี. จตูหิ อจฺฉริยธมฺเมหิ สงฺคหวตฺถูหิ จ โลกํ รฺชนโต ราชา. จกฺกรตนํ วตฺเตติ, จตูหิ สมฺปตฺติจกฺเกหิ วตฺเตติ, เตหิ จ ปรํ วตฺเตติ, ปรหิตาย จ อิริยาปถจกฺกานํ วตฺโต เอตสฺมึ อตฺถีติ จกฺกวตฺตี. เอตฺถ จ ราชาติ สามฺํ, จกฺกวตฺตีติ วิเสสนํ. ธมฺเมน จรตีติ ธมฺมิโก, าเยน สเมน วตฺตตีติ อตฺโถ. ธมฺเมน รชฺชํ ลภิตฺวา ราชา ชาโตติ ธมฺมราชา. ปรหิตธมฺมกรเณน วา ธมฺมิโก, อตฺตหิตธมฺมกรเณน ธมฺมราชา. จตุรนฺตาย อิสฺสโรติ จาตุรนฺโต, จตุสมุทฺทนฺตาย จตุพฺพิธทีปภูสิตาย จ ปถวิยา อิสฺสโรติ อตฺโถ. อชฺฌตฺตํ โกปาทิปจฺจตฺถิเก พหิทฺธา จ สพฺพราชาโน วิเชสีติ วิชิตาวี. ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโตติ ชนปเท ถาวรภาวํ ธุวภาวํ ปตฺโต, น สกฺกา เกนจิ จาเลตุํ, ชนปโท วา ตมฺหิ ถาวริยปฺปตฺโต อนุสฺสุกฺโก สกมฺมนิรโต อจโล อสมฺปเวธีติ ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต. เสยฺยถิทนฺติ นิปาโต, ตสฺส ตานิ กตมานีติ อตฺโถ. จกฺกรตนนฺติอาทีสุ จกฺกฺจ ตํ รติชนนตฺเถน รตนฺจาติ จกฺกรตนํ. เอเสว นโย สพฺพตฺถ.
อิเมสุ ¶ ปน รตเนสุ อยํ จกฺกวตฺติราชา จกฺกรตเนน อชิตํ ชินาติ, หตฺถิอสฺสรตเนหิ วิชิเต ยถาสุขํ อนุวิจรติ, ปริณายกรตเนน วิชิตมนุรกฺขติ, เสเสหิ อุปโภคสุขมนุภวติ. ปเมน จสฺส อุสฺสาหสตฺติโยโค, หตฺถิอสฺสคหปติรตเนหิ ปภุสตฺติโยโค, ปจฺฉิเมน มนฺตสตฺติโยโค สุปริปุณฺโณ โหติ, อิตฺถิมณิรตเนหิ ติวิธสตฺติโยคผลํ. โส อิตฺถิมณิรตเนหิ โภคสุขมนุภวติ, เสเสหิ ¶ อิสฺสริยสุขํ. วิเสสโต จสฺส ปุริมานิ ตีณิ อโทสกุสลมูลชนิตกมฺมานุภาเวน สมฺปชฺชนฺติ, มชฺฌิมานิ อโลภกุสลมูลชนิตกมฺมานุภาเวน, ปจฺฉิมเมกํ อโมหกุสลมูลชนิตกมฺมานุภาเวนาติ เวทิตพฺพํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน โพชฺฌงฺคสํยุตฺเต ¶ รตนสุตฺตสฺส (สํ. นิ. ๕.๒๒๒-๒๒๓) อุปเทสโต คเหตพฺโพ. อปิจ พาลปณฺฑิตสุตฺเตปิ (ม. นิ. ๓.๒๕๕) อิเมสํ รตนานํ อุปฺปตฺติกฺกเมน สทฺธึ วณฺณนา อาคมิสฺสติ.
ปโรสหสฺสนฺติ อติเรกสหสฺสํ. สูราติ อภีรุกชาติกา. วีรงฺครูปาติ เทวปุตฺตสทิสกายา, เอวํ ตาว เอเก วณฺณยนฺติ, อยํ ปเนตฺถ สภาโว – วีราติ อุตฺตมสูรา วุจฺจนฺติ. วีรานํ องฺคํ วีรงฺคํ, วีรการณํ วีริยนฺติ วุตฺตํ โหติ. วีรงฺคํ รูปํ เอเตสนฺติ วีรงฺครูปา, วีริยมยสรีรา วิยาติ วุตฺตํ โหติ. ปรเสนปฺปมทฺทนาติ ¶ สเจ ปฏิมุขํ ติฏฺเยฺย ปรเสนา, ตํ มทฺทิตุํ สมตฺถาติ อธิปฺปาโย. ธมฺเมนาติ ‘‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ’’ติอาทินา ปฺจสีลธมฺเมน.
อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโทติ เอตฺถ ราคโทสโมหมานทิฏฺิอวิชฺชาทุจฺจริตฉทเนหิ สตฺตหิ ปฏิจฺฉนฺเน กิเลสนฺธการโลเก ตํ ฉทนํ วิวฏฺเฏตฺวา สมนฺตโต สฺชาตาโลโก หุตฺวา ิโตติ วิวฏฺฏจฺฉโท. ตตฺถ ปเมน ปเทน ปูชารหตา, ทุติเยน ตสฺสา เหตุ ยสฺมา สมฺมาสมฺพุทฺโธติ, ตติเยน พุทฺธตฺตเหตุภูตา วิวฏฺฏจฺฉทตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อถ วา วิวฏฺโฏ จ วิจฺฉโท จาติ วิวฏฺฏจฺฉโท, วฏฺฏรหิโต ฉทนรหิโต จาติ วุตฺตํ โหติ. เตน อรหํ วฏฺฏาภาเวน, สมฺมาสมฺพุทฺโธ ฉทนาภาเวนาติ เอวํ ปุริมปททฺวยสฺเสว เหตุทฺวยํ วุตฺตํ โหติ. ทุติยเวสารชฺเชน เจตฺถ ปุริมสิทฺธิ, ปเมน ทุติยสิทฺธิ, ตติยจตุตฺเถหิ ตติยสิทฺธิ โหติ. ปุริมฺจ ธมฺมจกฺขุํ, ทุติยํ พุทฺธจกฺขุํ, ตติยํ สมนฺตจกฺขุํ สาเธตีติปิ เวทิตพฺพํ. ตฺวํ มนฺตานํ ปฏิคฺคเหตาติ อิมินาสฺส สูรภาวํ ชเนติ.
๓๘๕. โสปิ ตาย อาจริยกถาย ลกฺขเณสุ วิคตสมฺโมโห เอโกภาสชาโต วิย พุทฺธมนฺเต สมฺปสฺสมาโน เอวํ, โภติ อาห. ตสฺสตฺโถ – ยถา, โภ, มํ ตฺวํ วทสิ, เอวํ กริสฺสามีติ. สมนฺเนสีติ ¶ คเวสิ, เอกํ ทฺเวติ วา คณยนฺโต สมานยิ. อทฺทสา โขติ ¶ กถํ อทฺทส? พุทฺธานฺหิ นิสินฺนานํ วา นิปนฺนานํ วา โกจิ ลกฺขณํ ปริเยสิตุํ น สกฺโกติ, ิตานํ ปน จงฺกมนฺตานํ วา สกฺโกติ. ตสฺมา ลกฺขณปริเยสนตฺถํ อาคตํ ทิสฺวา พุทฺธา อุฏฺายาสนา ติฏฺนฺติ วา จงฺกมํ วา อธิฏฺหนฺติ. อิติ ลกฺขณทสฺสนานุรูเป อิริยาปเถ วตฺตมานสฺส ¶ อทฺทส. เยภุยฺเยนาติ ปาเยน, พหุกานิ อทฺทส, อปฺปานิ น อทฺทสาติ อตฺโถ. ตโต ยานิ น อทฺทส, เตสํ ทีปนตฺถํ วุตฺตํ เปตฺวา ทฺเวติ. กงฺขตีติ ‘‘อโห วต ปสฺเสยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ อุปฺปาเทติ. วิจิกิจฺฉตีติ ตโต ตโต ตานิ วิจินนฺโต กิจฺฉติ น สกฺโกติ ทฏฺุํ. นาธิมุจฺจตีติ ตาย วิจิกิจฺฉาย สนฺนิฏฺานํ น คจฺฉติ. น สมฺปสีทตีติ ตโต ‘‘ปริปุณฺณลกฺขโณ อย’’นฺติ ภควติ ปสาทํ นาปชฺชติ. กงฺขาย วา ทุพฺพลา วิมติ วุตฺตา, วิจิกิจฺฉาย มชฺฌิมา, อนธิมุจฺจนตาย พลวตี, อสมฺปสาเทน เตหิ ตีหิ ธมฺเมหิ จิตฺตสฺส กาลุสฺสิยภาโว. โกโสหิเตติ วตฺถิโกเสน ปฏิจฺฉนฺเน. วตฺถคุยฺเหติ องฺคชาเต. ภควโต หิ วารณสฺเสว โกโสหิตวตฺถคุยฺหํ สุวณฺณวณฺณํ ปทุมคพฺภสมานํ, ตํ โส วตฺถปฏิจฺฉนฺนตฺตา, อนฺโตมุขคตาย ¶ จ ชิวฺหาย ปหูตภาวํ อสลฺลกฺเขนฺโต เตสุ ทฺวีสุ ลกฺขเณสุ กงฺขี อโหสิ วิจิกิจฺฉี.
อถ โข ภควาติ อถ ภควา จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ อิมสฺส เอตานิ ทฺเว ลกฺขณานิ น ทสฺเสสฺสามิ, นิกฺกงฺโข น ภวิสฺสติ. เอตสฺส กงฺขาย สติ อาจริโยปิสฺส นิกฺกงฺโข น ภวิสฺสติ, อถ มํ ทสฺสนาย น อาคมิสฺสติ, อนาคโต ธมฺมํ น โสสฺสติ, ธมฺมํ อสุณนฺโต ตีณิ สามฺผลานิ น สจฺฉิกริสฺสติ. เอตสฺมึ ปน นิกฺกงฺเข อาจริโยปิสฺส นิกฺกงฺโข มํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ตีณิ สามฺผลานิ สจฺฉิกริสฺสติ. เอตทตฺถํเยว จ มยา ปารมิโย ปูริตา. ทสฺเสสฺสามิสฺส ตานิ ลกฺขณานี’’ติ.
ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารมกาสิ. กถํรูปํ? กิเมตฺถ อฺเน วตฺตพฺพํ? วุตฺตเมตํ นาคเสนตฺเถเรเนว มิลินฺทรฺา ปุฏฺเน –
อาห จ ทุกฺกรํ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา กตนฺติ. กึ มหาราชาติ? มหาชเนน หิริกรโณกาสํ พฺรหฺมายุพฺราหฺมณสฺส จ อนฺเตวาสิอุตฺตรสฺส จ พาวริยสฺส อนฺเตวาสีนํ โสฬสพฺราหฺมณานฺจ เสลสฺส จ พฺราหฺมณสฺส อนฺเตวาสีนํ ติสตมาณวานฺจ ทสฺเสสิ, ภนฺเตติ. น, มหาราช, ภควา คุยฺหํ ¶ ทสฺเสติ, ฉายํ ภควา ทสฺเสติ, อิทฺธิยา อภิสงฺขริตฺวา นิวาสนนิวตฺถํ กายพนฺธนพทฺธํ จีวรปารุตํ ฉายารูปกมตฺตํ ทสฺเสสิ มหาราชาติ. ฉายํ ทิฏฺเ สติ ¶ ทิฏฺโเยว. นนุ, ภนฺเตติ? ติฏฺเตตํ, มหาราช, หทยรูปํ ทิสฺวา พุชฺฌนกสตฺโต ภเวยฺย, หทยมํสํ ¶ นีหริตฺวา ทสฺเสยฺย สมฺมาสมฺพุทฺโธติ. กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนาติ.
นินฺนาเมตฺวาติ นีหริตฺวา. อนุมสีติ กถินสูจึ วิย กตฺวา อนุมชฺชิ. ตถา กรเณน เจตฺถ มุทุภาโว, กณฺณโสตานุมสเนน ทีฆภาโว, นาสิกโสตานุมสเนน ตนุภาโว, นลาฏจฺฉาทเนน ปุถุลภาโว ปกาสิโตติ เวทิตพฺโพ. อุโภปิ กณฺณโสตานีติอาทีสุ เจตฺถ พุทฺธานํ กณฺณโสเตสุ มลํ วา ชลฺลิกา วา นตฺถิ, โธวิตฺวา ปิตรชตปนาฬิกา วิย โหนฺติ, ตถา นาสิกโสเตสุ, ตานิปิ หิ สุปริกมฺมกตกฺจนปนาฬิกา วิย จ มณิปนาฬิกา วิย จ โหนฺติ. ตสฺมา ชิวฺหํ นีหริตฺวา กถินสูจึ วิย กตฺวา มุขปริยนฺเต อุปสํหรนฺโต ทกฺขิณกณฺณโสตํ ปเวเสตฺวา ตโต นีหริตฺวา วามกณฺณโสตํ ปเวเสสิ, ตโต นีหริตฺวา ทกฺขิณนาสิกโสตํ ปเวเสตฺวา ตโต นีหริตฺวา วามนาสิกโสตํ ปเวเสสิ, ตโต นีหริตฺวา ปุถุลภาวํ ทสฺเสนฺโต รตฺตวลาหเกน อฑฺฒจนฺทํ วิย จ สุวณฺณปตฺตํ วิย จ รตฺตกมฺพลปฏเลน วิชฺชุโชตสทิสาย ชิวฺหาย เกวลกปฺปํ นลาฏมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทสิ.
ยํนูนาหนฺติ กสฺมา จินฺเตสิ? อหฺหิ มหาปุริสลกฺขณานิ สมนฺเนสิตฺวา คโต ‘‘ทิฏฺานิ เต, ตาต, มหาปุริสลกฺขณานี’’ติ อาจริเยน ปุจฺฉิโต ‘‘อาม, อาจริยา’’ติ วตฺตุํ สกฺขิสฺสามิ. สเจ ปน มํ ‘‘กิริยากรณมสฺส กีทิส’’นฺติ ปุจฺฉิสฺสติ ¶ , ตํ วตฺตุํ น สกฺขิสฺสามิ, น ชานามีติ วุตฺเต ปน อาจริโย กุชฺฌิสฺสติ ‘‘นนุ ตฺวํ มยา สพฺพมฺเปตํ ชานนตฺถาย เปสิโต, กสฺมา อชานิตฺวา อาคโตสี’’ติ, ตสฺมา ยนฺนูนาหนฺติ จินฺเตตฺวา อนุพนฺธิ. ภควา นฺหานฏฺานํ มุขโธวนฏฺานํ สรีรปฏิชคฺคนฏฺานํ ราชราชมหามตฺตาทีนํ โอโรเธหิ สทฺธึ ปริวาเรตฺวา นิสินฺนฏฺานนฺติ อิมานิ จตฺตาริ านานิ เปตฺวา เสสฏฺาเนสุ อนฺตมโส เอกคนฺธกุฏิยมฺปิ โอกาสมกาสิ.
คจฺฉนฺเต ¶ คจฺฉนฺเต กาเล – ‘‘อยํ กิร พฺรหฺมายุพฺราหฺมณสฺส มาณโว อุตฺตโร นาม ‘พุทฺโธ วา โน วา’ติ ตถาคตสฺส พุทฺธภาวํ วีมํสนฺโต จรติ, พุทฺธวีมํสโก นามาย’’นฺติ ปากโฏ ชาโต. ยมฺหิ ยมฺหิ าเน พุทฺธา วสนฺติ, ปฺจ กิจฺจานิ กตาเนว โหนฺติ, ตานิ เหฏฺา ทสฺสิตาเนว ¶ . ตตฺถ ปจฺฉาภตฺตํ อลงฺกตธมฺมาสเน นิสีทิตฺวา ทนฺตขจิตํ จิตฺตพีชนึ คเหตฺวา มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสนฺเต ภควติ อุตฺตโรปิ อวิทูเร นิสีทติ. ธมฺมสฺสวนปริโยสาเน สทฺธา มนุสฺสา สฺวาตนาย ภควนฺตํ นิมนฺเตตฺวา มาณวมฺปิ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทนฺติ – ‘‘ตาต, อมฺเหหิ ภควา นิมนฺติโต, ตฺวมฺปิ ภควตา สทฺธึ อาคนฺตฺวา อมฺหากํ เคเห ภตฺตํ คณฺเหยฺยาสี’’ติ. ปุนทิวเส ตถาคโต ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต คามํ ปวิสติ, อุตฺตโรปิ ปทวาเร ปทวาเร ปริคฺคณฺหนฺโต ปทานุปทิโก อนุพนฺธติ. กุลเคหํ ปวิฏฺกาเล ทกฺขิโณทกคฺคหณํ อาทึ กตฺวา สพฺพํ โอโลเกนฺโต นิสีทติ. ภตฺตกิจฺจาวสาเน ตถาคตสฺส ปตฺตํ ภูมิยํ เปตฺวา นิสินฺนกาเล มาณวกสฺส ปาตราสภตฺตํ สชฺเชนฺติ. โส เอกมนฺเต นิสินฺโน ภฺุชิตฺวา ปุน อาคนฺตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ตฺวา ภตฺตานุโมทนํ สุตฺวา ภควตา สทฺธึเยว วิหารํ คจฺฉติ.
ตตฺถ ภควา ภิกฺขูนํ ภตฺตกิจฺจปริโยสานํ อาคเมนฺโต คนฺธมณฺฑลมาเฬ นิสีทติ. ภิกฺขูหิ ภตฺตกิจฺจํ ¶ กตฺวา ปตฺตจีวรํ ปฏิสาเมตฺวา อาคมฺม วนฺทิตฺวา กาเล อาโรจิเต ภควา คนฺธกุฏึ ปวิสติ, มาณโวปิ ภควตา สทฺธึเยว คจฺฉติ. ภควา ปริวาเรตฺวา อาคตํ ภิกฺขุสงฺฆํ คนฺธกุฏิปฺปมุเข ิโต โอวทิตฺวา อุยฺโยเชตฺวา คนฺธกุฏึ ปวิสติ, มาณโวปิ ปวิสติ. ภควา ขุทฺทกมฺเจ อปฺปมตฺตกํ กาลํ นิสีทติ, มาณโวปิ อวิทูเร โอโลเกนฺโต นิสีทติ. ภควา มุหุตฺตํ นิสีทิตฺวา สีโสกฺกมนํ ทสฺเสติ, – ‘‘โภโต โคตมสฺส วิหารเวลา ภวิสฺสตี’’ติ มาณโว คนฺธกุฏิทฺวารํ ปิทหนฺโต นิกฺขมิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทติ. มนุสฺสา ปุเรภตฺตํ ทานํ ทตฺวา ภุตฺตปาตราสา สมาทินฺนอุโปสถงฺคา สุทฺธุตฺตราสงฺคา มาลาคนฺธาทิหตฺถา ธมฺมํ สุณิสฺสามาติ วิหารํ อาคจฺฉนฺติ, จกฺกวตฺติโน ขนฺธาวารฏฺานํ วิย โหติ.
ภควา มุหุตฺตํ สีหเสยฺยํ กปฺเปตฺวา วุฏฺาย ปุพฺพภาเคน ปริจฺฉินฺทิตฺวา สมาปตฺตึ สมาปชฺชติ. สมาปตฺติโต วุฏฺาย มหาชนสฺส อาคตภาวํ ตฺวา ¶ คนฺธกุฏิโต นิกฺขมฺม มหาชนปริวุโต คนฺธมณฺฑลมาฬํ คนฺตฺวา ปฺตฺตวรพุทฺธาสนคโต ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ. มาณโวปิ อวิทูเร นิสีทิตฺวา – ‘‘กึ นุ โข สมโณ โคตโม เคหสฺสิตวเสน ปริสํ อุสฺสาเทนฺโต วา อปสาเทนฺโต วา ธมฺมํ เทเสติ, อุทาหุ โน’’ติ อกฺขรกฺขรํ ปทํ ปทํ ปริคฺคณฺหาติ. ภควา ตถาวิธํ กถํ อกเถตฺวาว กาลํ ตฺวา เทสนํ นิฏฺาเปสิ. มาณโว อิมินา ¶ นิยาเมน ปริคฺคณฺหนฺโต สตฺต มาเส เอกโต วิจริตฺวา ภควโต กายทฺวาราทีสุ อณุมตฺตมฺปิ อวกฺขลิตํ น อทฺทส. อนจฺฉริยฺเจตํ, ยํ พุทฺธภูตสฺส ¶ มนุสฺสภูโต มาณโว น ปสฺเสยฺย, ยสฺส โพธิสตฺตภูตสฺส ฉพฺพสฺสานิ ปธานภูมิยํ อมนุสฺสภูโต มาโร เทวปุตฺโต เคหสฺสิตวิตกฺกมตฺตมฺปิ อทิสฺวา พุทฺธภูตํ เอกสํวจฺฉรํ อนุพนฺธิตฺวา กิฺจิ อปสฺสนฺโต –
‘‘สตฺต วสฺสานิ ภควนฺตํ, อนุพนฺธึ ปทาปทํ;
โอตารํ นาธิคจฺฉิสฺสํ, สมฺพุทฺธสฺส สตีมโต’’ติ. (สุ. นิ. ๔๔๘) –
อาทิคาถาโย วตฺวา ปกฺกามิ. ตโต มาณโว จินฺเตสิ – ‘‘อหํ ภวนฺตํ โคตมํ สตฺต มาเส อนุพนฺธมาโน กิฺจิ วชฺชํ น ปสฺสามิ. สเจ ปนาหํ อฺเปิ สตฺต มาเส สตฺต วา วสฺสานิ วสฺสสตํ วา วสฺสสหสฺสํ วา อนุพนฺเธยฺยํ, เนวสฺส วชฺชํ ปสฺเสยฺยํ. อาจริโย โข ปนสฺส เม มหลฺลโก, โยคกฺเขมํ นาม น สกฺกา ชานิตุํ. สมณสฺส โคตมสฺส สภาวคุเณเนว พุทฺธภาวํ วตฺวา มยฺหํ อาจริยสฺส อาโรเจสฺสามี’’ติ ภควนฺตํ อาปุจฺฉิตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ วนฺทิตฺวา นิกฺขมิ.
อาจริยสฺส สนฺติกฺจ ปน คนฺตฺวา – ‘‘กจฺจิ, ตาต อุตฺตร, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ตถาสนฺตํเยว สทฺโท อพฺภุคฺคโต’’ติ ปุจฺฉิโต, ‘‘อาจริย, กึ วเทสิ? จกฺกวาฬํ อติสมฺพาธํ, ภวคฺคํ อตินีจํ, ตสฺส หิ, โภโต โคตมสฺส อากาสํ วิย อปริยนฺโต คุณคโณ. ตถาสนฺตํเยว, โภ, ตํ ภวนฺตํ โคตม’’นฺติอาทีนิ วตฺวา ยถาทิฏฺานิ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิปาฏิยา อาจิกฺขิตฺวา กิริยสมาจารํ อาจิกฺขิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อุตฺตโร มาณโว…เป… เอทิโส จ เอทิโส จ ภวํ โคตโม ตโต จ ภิยฺโย’’ติ.
๓๘๖. ตตฺถ ¶ ¶ สุปฺปติฏฺิตปาโทติ ยถา หิ อฺเสํ ภูมิยํ ปาทํ เปนฺตานํ อคฺคตลํ วา ปณฺหิ วา ปสฺสํ วา ปมํ ผุสติ, เวมชฺฌํ วา ปน ฉิทฺทํ โหติ, อุกฺขิปนฺตานมฺปิ อคฺคตลาทีสุ เอกโกฏฺาโสว ปมํ อุฏฺหติ, น เอวํ ตสฺส. ตสฺส ปน สุวณฺณปาทุกตลํ วิย เอกปฺปหาเรเนว สกลํ ปาทตลํ ภูมึ ผุสติ, ภูมิโต อุฏฺหติ. ตสฺมา ‘‘สุปฺปติฏฺิตปาโท โข ปน โส ภวํ โคตโม’’ติ วทติ.
ตตฺริทํ ¶ ภควโต สุปฺปติฏฺิตปาทตาย – สเจปิ หิ ภควา อเนกสตโปริสํ นรกํ อกฺกมิสฺสามีติ ปาทํ นีหรติ, ตาวเทว นินฺนฏฺานํ วาตปูริตํ วิย กมฺมารภสฺตํ อุนฺนมิตฺวา ปถวีสมํ โหติ, อุนฺนตฏฺานมฺปิ อนฺโต ปวิสติ. ทูเร อกฺกมิสฺสามีติ อภินีหรนฺตสฺส สิเนรุปฺปมาโณปิ ปพฺพโต เสทิตเวตฺตงฺกุโร วิย นมิตฺวา ปาทสมีปํ อาคจฺฉติ. ตถา หิสฺส ยมกปาฏิหาริยํ กตฺวา ยุคนฺธรปพฺพตํ อกฺกมิสฺสามีติ ปาเท อภินีหรโต ปพฺพโต นมิตฺวา ปาทสมีปํ อาคโต, โส ตํ อกฺกมิตฺวา ทุติยปาเทน ตาวตึสภวนํ อกฺกมิ. น หิ จกฺกลกฺขเณน ปติฏฺาตพฺพฏฺานํ วิสมํ ภวิตุํ สกฺโกติ. ขาณุ วา กณฺฑโก วา สกฺขรกถลา วา อุจฺจารปสฺสาโว วา เขฬสิงฺฆาณิกาทีนิ วา ปุริมตราว อปคจฺฉนฺติ, ตตฺถ ตตฺเถว จ ปถวึ ปวิสนฺติ. ตถาคตสฺส หิ สีลเตเชน ปฺาเตเชน ธมฺมเตเชน ทสนฺนํ ปารมีนํ อานุภาเวน อยํ ¶ มหาปถวี สมา มุทุ ปุปฺผาภิกิณฺณา โหติ. ตตฺร ตถาคโต สมํ ปาทํ นิกฺขิปติ, สมํ อุทฺธรติ, สพฺพาวนฺเตหิ ปาทตเลหิ ภูมึ ผุสติ.
จกฺกานีติ ทฺวีสุ ปาเทสุ ทฺเว จกฺกานิ. เตสํ อรา จ เนมิ จ นาภิ จ ปาฬิยํ วุตฺตาว. สพฺพาการปริปูรานีติ อิมินา ปน อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ – เตสํ กิร จกฺกานํ ปาทตลสฺส มชฺเฌ นาภิ ทิสฺสติ, นาภิปริจฺฉินฺนา วฏฺฏเลขา ทิสฺสติ, นาภิมุขปริกฺเขปปฏฺโฏ ทิสฺสติ, ปนาฬิมุขํ ทิสฺสติ, อรา ทิสฺสนฺติ, อเรสุ วฏฺฏเลขา ทิสฺสนฺติ, เนมี ทิสฺสนฺติ, เนมิมณิกา ทิสฺสนฺติ. อิทํ ตาว ปาฬิอาคตเมว.
สมฺพหุลวาโร ปน อนาคโต, โส เอวํ ทฏฺพฺโพ – สตฺติ สิริ วจฺโฉ นนฺทิ โสวตฺติโก วฏํสโก วฑฺฒมานกํ มจฺฉยุคลํ ภทฺทปีํ องฺกุสํ ¶ โตมโร ปาสาโท โตรณํ เสตจฺฉตฺตํ ขคฺโค ตาลวณฺฏํ โมรหตฺถโก วาฬพีชนี อุณฺหีสํ ปตฺโต มณิ กุสุมทามํ นีลุปฺปลํ รตฺตุปฺปลํ เสตุปฺปลํ ปทุมํ ปุณฺฑรีกํ ปุณฺณฆโฏ ปุณฺณปาติ สมุทฺโท จกฺกวาโฬ หิมวา สิเนรุ จนฺทิมสูริยา นกฺขตฺตานิ จตฺตาโร มหาทีปา ทฺเวปริตฺตทีปสหสฺสานิ, อนฺตมโส จกฺกวตฺติรฺโ ปริสํ อุปาทาย สพฺโพ จกฺกลกฺขณสฺเสว ปริวาโร.
อายตปณฺหีติ ¶ ทีฆปณฺหิ, ปริปุณฺณปณฺหีติ อตฺโถ. ยถา หิ อฺเสํ อคฺคปาโท ทีโฆ โหติ, ปณฺหิมตฺถเก ชงฺฆา ปติฏฺาติ, ปณฺหิ ตจฺเฉตฺวา ปิตา วิย โหติ, น เอวํ ตถาคตสฺส ¶ . ตถาคตสฺส ปน จตูสุ โกฏฺาเสสุ ทฺเว โกฏฺาสา อคฺคปาโท โหติ, ตติเย โกฏฺาเส ชงฺฆา ปติฏฺาติ, จตุตฺเถ โกฏฺาเส อารคฺเคน วฏฺเฏตฺวา ปิตา วิย รตฺตกมฺพเล เคณฺฑุกสทิสา ปณฺหิ โหติ.
ทีฆงฺคุลีติ ยถา อฺเสํ กาจิ องฺคุลิ ทีฆา โหติ, กาจิ รสฺสา, น เอวํ ตถาคตสฺส. ตถาคตสฺส ปน มกฺกฏสฺเสว ทีฆหตฺถปาทงฺคุลิโย มูเล ถูลา อนุปุพฺเพน คนฺตฺวา อคฺเค ตนุกา นิยฺยาสเตเลน มทฺทิตฺวา วฏฺฏิตหริตาลวฏฺฏิสทิสา โหนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ทีฆงฺคุลี’’ติ.
มุทุตลุนหตฺถปาโทติ สปฺปิมณฺเฑ โอสาเทตฺวา ปิตํ สตวารวิหตกปฺปาสปฏลํ วิย มุทู, ชาตมตฺตกุมารสฺส วิย จ นิจฺจกาลํ ตลุนา จ หตฺถปาทา อสฺสาติ มุทุตลุนหตฺถปาโท.
ชาลหตฺถปาโทติ น จมฺเมน ปฏิพทฺธองฺคุลนฺตโร. เอทิโส หิ ผณหตฺถโก ปุริสโทเสน อุปหโต ปพฺพชฺชมฺปิ น ลภติ. ตถาคตสฺส ปน จตสฺโส หตฺถงฺคุลิโย ปฺจปิ ปาทงฺคุลิโย เอกปฺปมาณา โหนฺติ, ตาสํ เอกปฺปมาณตฺตาย ยวลกฺขณํ อฺมฺํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ติฏฺติ. อถสฺส หตฺถปาทา กุสเลน วฑฺฒกินา โยชิตชาลวาตปานสทิสา โหนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ชาลหตฺถปาโท’’ติ.
อุทฺธํ ปติฏฺิตโคปฺผกตฺตา อุสฺสงฺขา ปาทา อสฺสาติ ¶ อุสฺสงฺขปาโท. อฺเสฺหิ ปิฏฺิปาเท โคปฺผกา โหนฺติ. เตน เตสํ ปาทา อาณิพทฺธา วิย ถทฺธา โหนฺติ, น ยถาสุขํ ปริวตฺตนฺติ, คจฺฉนฺตานํ ปาทตลานิ น ทิสฺสนฺติ ¶ . ตถาคตสฺส ปน อภิรุหิตฺวา อุปริ โคปฺผกา ปติฏฺหนฺติ. เตนสฺส นาภิโต ปฏฺาย อุปริมกาโย นาวาย ปิตสุวณฺณปฏิมา วิย นิจฺจโล โหติ, อโธกาโยว อิฺชติ. สุเขน ปาทา ปริวตฺตนฺติ. ปุรโตปิ ปจฺฉโตปิ อุภยปสฺเสสุปิ ตฺวา ปสฺสนฺตานํ ปาทตลานิ ปฺายนฺติ, น หตฺถีนํ วิย ปจฺฉโตเยว.
เอณิชงฺโฆติ เอณิมิคสทิสชงฺโฆ มํสุสฺสเทน ปริปุณฺณชงฺโฆ, น เอกโต พทฺธปิณฺฑิกมํโส ¶ , สมนฺตโต สมสณฺิเตน มํเสน ปริกฺขิตฺตาหิ สุวฏฺฏิตาหิ สาลิคพฺภสทิสาหิ ชงฺฆาหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ.
อโนนมนฺโตติ อนมนฺโต. เอเตนสฺส อขุชฺชอวามนภาโว ทีปิโต. อวเสสชนา หิ ขุชฺชา วา โหนฺติ วามนา วา, ขุชฺชานํ อุปริมกาโย อปริปุณฺโณ โหติ, วามนานํ เหฏฺิมกาโย. เต อปริปุณฺณกายตฺตา น สกฺโกนฺติ อโนนมนฺตา ชณฺณุกานิ ปริมชฺชิตุํ. ตถาคโต ปน ปริปุณฺณอุภยกายตฺตา สกฺโกติ.
อุสภวารณาทีนํ วิย สุวณฺณปทุมกณฺณิกสทิเส โกเส โอหิตํ ปฏิจฺฉนฺนํ วตฺถคุยฺหํ อสฺสาติ โกโสหิตวตฺถคุยฺโห. วตฺถคุยฺหนฺติ วตฺเถน คูหิตพฺพํ องฺคชาตํ วุจฺจติ.
สุวณฺณวณฺโณติ ชาติหิงฺคุลเกน มชฺชิตฺวา ทีปิทาาย ฆํสิตฺวา เครุกปริกมฺมํ กตฺวา ปิตฆนสุวณฺณรูปกสทิโสติ อตฺโถ. เอเตนสฺส ฆนสินิทฺธสณฺหสรีรตํ ทสฺเสตฺวา ฉวิวณฺณทสฺสนตฺถํ กฺจนสนฺนิภตฺตโจติ วุตฺตํ, ปุริมสฺส วา เววจนเมว เอตํ.
รโชชลฺลนฺติ ¶ รโช วา มลํ วา. น อุปลิมฺปตีติ น ลคฺคติ, ปทุมปลาสโต อุทกพินฺทุ วิย วิวฏฺฏติ. หตฺถโธวนปาทโธวนาทีนิ ปน อุตุคฺคหณตฺถาย เจว ทายกานํ ปฺุผลตฺถาย จ พุทฺธา กโรนฺติ, วตฺตสีเสนาปิ จ กโรนฺติเยว. เสนาสนํ ปวิสนฺเตน หิ ภิกฺขุนา ปาเท โธวิตฺวา ปวิสิตพฺพนฺติ วุตฺตเมตํ.
อุทฺธคฺคโลโมติ อาวฏฺฏปริโยสาเน อุทฺธคฺคานิ หุตฺวา มุขโสภํ อุลฺโลกยมานานิ วิย ิตานิ โลมานิ อสฺสาติ อุทฺธคฺคโลโม.
พฺรหฺมุชุคตฺโตติ ¶ พฺรหฺมา วิย อุชุคตฺโต, อุชุเมว อุคฺคตทีฆสรีโร. เยภุยฺเยน หิ สตฺตา ขนฺเธ กฏิยํ ชาณูสูติ ตีสุ าเนสุ นมนฺติ. เต กฏิยํ นมนฺตา ปจฺฉโต นมนฺติ, อิตเรสุ ทฺวีสุ าเนสุ ปุรโต. ทีฆสรีรา ปเนเก ปสฺสวงฺกา โหนฺติ, เอเก มุขํ อุนฺนาเมตฺวา นกฺขตฺตานิ คณยนฺตา ¶ วิย จรนฺติ, เอเก อปฺปมํสโลหิตา สูลสทิสา โหนฺติ, ปเวธมานา คจฺฉนฺติ. ตถาคโต ปน อุชุเมว อุคฺคนฺตฺวา ทีฆปฺปมาโณ เทวนคเร อุสฺสิตสุวณฺณโตรณํ วิย โหติ.
สตฺตุสฺสโทติ ทฺเว หตฺถปิฏฺิโย ทฺเว ปาทปิฏฺิโย ทฺเว อํสกูฏานิ ขนฺโธติ อิเมสุ สตฺตสุ าเนสุ ปริปุณฺณมํสุสฺสโท อสฺสาติ สตฺตุสฺสโท. อฺเสํ ปน หตฺถปาทปิฏฺีสุ นฺหารุชาลา ปฺายนฺติ, อํสกูฏขนฺเธสุ ¶ อฏฺิโกฏิโย, เต มนุสฺสเปตา วิย ขายนฺติ, น ตถาคโต. ตถาคโต ปน สตฺตสุ าเนสุ ปริปุณฺณมํสุสฺสทตฺตา นิคูฬฺหนฺหารุชาเลหิ หตฺถปิฏฺาทีหิ วฏฺเฏตฺวา ปิตสุวณฺณวณฺณาลิงฺคสทิเสน ขนฺเธน สิลารูปกํ วิย จิตฺตกมฺมรูปกํ วิย จ ขายติ.
สีหสฺส ปุพฺพทฺธํ วิย กาโย อสฺสาติ สีหปุพฺพทฺธกาโย. สีหสฺส หิ ปุรตฺถิมกาโยว ปริปุณฺโณ โหติ, ปจฺฉิมกาโย อปริปุณฺโณ. ตถาคตสฺส ปน สีหสฺส ปุพฺพทฺธกาโยว สพฺโพ กาโย ปริปุณฺโณ. โสปิ สีหสฺเสว น ตตฺถ ตตฺถ วินตุนฺนตาทิวเสน ทุสฺสณฺิตวิสณฺิโต, ทีฆยุตฺตาเน ปน ทีโฆ, รสฺสกิสถูลอนุวฏฺฏิตยุตฺตฏฺาเนสุ ตถาวิโธว โหติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘มนาปิเย จ โข, ภิกฺขเว, กมฺมวิปาเก ปจฺจุปฏฺิเต เยหิ องฺเคหิ ทีเฆหิ โสภติ, ตานิ องฺคานิ ทีฆานิ สณฺหนฺติ. เยหิ องฺเคหิ รสฺเสหิ โสภติ, ตานิ องฺคานิ รสฺสานิ สณฺหนฺติ. เยหิ องฺเคหิ ถูเลหิ โสภติ, ตานิ องฺคานิ ถูลานิ สณฺหนฺติ. เยหิ องฺเคหิ กิเสหิ โสภติ, ตานิ องฺคานิ กิสานิ สณฺหนฺติ. เยหิ องฺเคหิ วฏฺเฏหิ โสภติ, ตานิ องฺคานิ วฏฺฏานิ สณฺหนฺตี’’ติ.
อิติ ¶ นานาจิตฺเตน ปฺุจิตฺเตน จิตฺติโต ทสหิ ปารมีหิ สชฺชิโต ตถาคตสฺส อตฺตภาโว, ตสฺส โลเก สพฺพสิปฺปิโน วา อิทฺธิมนฺโต วา ปฏิรูปกมฺปิ กาตุํ น สกฺโกนฺติ.
จิตนฺตรํโสติ ¶ อนฺตรํสํ วุจฺจติ ทฺวินฺนํ โกฏฺฏานมนฺตรํ, ตํ จิตํ ปริปุณฺณมสฺสาติ จิตนฺตรํโส. อฺเสฺหิ ตํ านํ นินฺนํ โหติ, ทฺเว ปิฏฺิโกฏฺฏา ปาฏิเยกฺกํ ปฺายนฺติ. ตถาคตสฺส ปน กฏิโต ปฏฺาย มํสปฏลํ ยาว ขนฺธา อุคฺคมฺม สมุสฺสิตสุวณฺณผลกํ วิย ปิฏฺึ ฉาเทตฺวา ปติฏฺิตํ.
นิคฺโรธปริมณฺฑโลติ ¶ นิคฺโรโธ วิย ปริมณฺฑโล. ยถา ปณฺณาสหตฺถตาย วา สตหตฺถตาย วา สมกฺขนฺธสาโข นิคฺโรโธ ทีฆโตปิ วิตฺถารโตปิ เอกปฺปมาโณว โหติ, เอวํ กายโตปิ พฺยามโตปิ เอกปฺปมาโณ. ยถา อฺเสํ กาโย วา ทีโฆ โหติ พฺยาโม วา, น เอวํ วิสมปฺปมาโณติ อตฺโถ. เตเนว ‘‘ยาวตกฺวสฺส กาโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยาวตโก อสฺสาติ ยาวตกฺวสฺส.
สมวฏฺฏกฺขนฺโธติ สมวฏฺฏิตกฺขนฺโธ. ยถา เอเก โกฺจา วิย พกา วิย วราหา วิย จ ทีฆคลา วงฺกคลา ปุถุลคลา จ โหนฺติ, กถนกาเล สิราชาลํ ปฺายติ, มนฺโท สโร นิกฺขมติ, น เอวํ ตสฺส. ตถาคตสฺส ปน สุวฏฺฏิตสุวณฺณาลิงฺคสทิโส ขนฺโธ โหติ, กถนกาเล สิราชาลํ น ปฺายติ, เมฆสฺส วิย คชฺชโต สโร มหา โหติ.
รสคฺคสคฺคีติ เอตฺถ รสํ คสนฺตีติ รสคฺคสา ¶ , รสหรณีนเมตํ อธิวจนํ, ตา อคฺคา อสฺสาติ รสคฺคสคฺคี. ตถาคตสฺส หิ สตฺต รสหรณิสหสฺสานิ อุทฺธคฺคานิ หุตฺวา คีวายเมว ปฏิมุกฺกานิ. ติลผลมตฺโตปิ อาหาโร ชิวฺหคฺเค ปิโต สพฺพํ กายํ อนุผรติ, เตเนว มหาปธานํ ปทหนฺตสฺส เอกตณฺฑุลาทีหิปิ กาฬายยูสปสเตนาปิ กายสฺส ยาปนํ อโหสิ. อฺเสํ ปน ตถา อภาวา น สกลกายํ โอชา ผรติ, เตน เต พหฺวาพาธา โหนฺติ. อิทํ ลกฺขณํ อปฺปาพาธตาสงฺขาตสฺส นิสฺสนฺทผลสฺส วเสน ปากฏํ โหติ.
สีหสฺเสว ¶ หนุ อสฺสาติ สีหหนุ. ตตฺถ สีหสฺส เหฏฺิมหนุเมว ปริปุณฺณํ โหติ, น อุปริมํ. ตถาคตสฺส ปน สีหสฺส เหฏฺิมํ วิย ทฺเวปิ ปริปุณฺณานิ ทฺวาทสิยํ ปกฺขสฺส จนฺทสทิสานิ โหนฺติ.
จตฺตาลีสทนฺโตติอาทีสุ อุปริมหนุเก ปติฏฺิตา วีสติ, เหฏฺิเม วีสตีติ จตฺตาลีส ทนฺตา อสฺสาติ จตฺตาลีสทนฺโต. อฺเสฺหิ ปริปุณฺณทนฺตานมฺปิ ทฺวตฺตึส ทนฺตา โหนฺติ, ตถาคตสฺส จตฺตาลีสํ.
อฺเสฺจ ¶ เกจิ ทนฺตา อุจฺจา เกจิ นีจาติ วิสมา โหนฺติ, ตถาคตสฺส ปน อยปฏฺฏฉินฺนสงฺขปฏลํ วิย สมา.
อฺเสํ กุมฺภีลานํ วิย ทนฺตา วิรฬา โหนฺติ, มจฺฉมํสาทีนิ ขาทนฺตานํ ทนฺตนฺตรํ ปูรติ. ตถาคตสฺส ปน กนกลตาย สมุสฺสาปิตวชิรปนฺติ วิย อวิรฬา ตุลิกาย ทสฺสิตปริจฺเฉทา วิย ทนฺตา โหนฺติ.
สุสุกฺกทาโติ อฺเสฺจ ปูติทนฺตา อุฏฺหนฺติ, เตน กาจิ ทาา กาฬาปิ วิวณฺณาปิ โหนฺติ. ตถาคโต สุสุกฺกทาโ ¶ โอสธิตารกมฺปิ อติกฺกมฺม วิโรจมานาย ปภาย สมนฺนาคตทาโ, เตน วุตฺตํ ‘‘สุสุกฺกทาโ’’ติ.
ปหูตชิวฺโหติ อฺเสํ ชิวฺหา ถูลาปิ โหติ กิสาปิ รสฺสาปิ ถทฺธาปิ วิสมาปิ, ตถาคตสฺส ปน มุทุ ทีฆา ปุถุลา วณฺณสมฺปนฺนา โหติ. โส ตํ ลกฺขณํ ปริเยสิตุํ อาคตานํ กงฺขาวิโนทนตฺถํ มุทุกตฺตา ตํ ชิวฺหํ กถินสูจึ วิย วฏฺเฏตฺวา อุโภ นาสิกโสตานิ ปรามสติ, ทีฆตฺตา อุโภ กณฺณโสตานิ ปรามสติ, ปุถุลตฺตา เกสนฺตปริโยสานํ เกวลมฺปิ นลาฏํ ปฏิจฺฉาเทติ. เอวํ ตสฺสา มุทุทีฆปุถุลภาวํ ปกาเสนฺโต กงฺขํ วิโนเทติ. เอวํ ติลกฺขณสมฺปนฺนํ ชิวฺหํ สนฺธาย ‘‘ปหูตชิวฺโห’’ติ วุตฺตํ.
พฺรหฺมสฺสโรติ อฺเ ฉินฺนสฺสราปิ ภินฺนสฺสราปิ กากสฺสราปิ โหนฺติ, ตถาคโต ปน มหาพฺรหฺมุโน สรสทิเสน สเรน สมนฺนาคโต. มหาพฺรหฺมุโน หิ ปิตฺตเสมฺเหหิ อปลิพุทฺธตฺตา สโร วิสุทฺโธ โหติ. ตถาคเตนาปิ กตกมฺมํ วตฺถุํ โสเธติ, วตฺถุสฺส สุทฺธตฺตา นาภิโต ปฏฺาย สมุฏฺหนฺโต สโร วิสุทฺโธ อฏฺงฺคสมนฺนาคโตว สมุฏฺาติ. กรวิโก วิย ภณตีติ กรวิกภาณี, มตฺตกรวิกรุตมฺชุโฆโสติ อตฺโถ.
ตตฺริทํ ¶ กรวิกรุตสฺส มฺชุตาย – กรวิกสกุเณ กิร มธุรรสํ อมฺพปกฺกํ มุขตุณฺฑเกน ปหริตฺวา ปคฺฆริตํ รสํ สายิตฺวา ¶ ปกฺเขน ตาลํ ทตฺวา วิกูชมาเน จตุปฺปทาทีนิ มตฺตานิ วิย ลฬิตุํ อารภนฺติ. โคจรปฺปสุตาปิ จตุปฺปทา มุขคตานิปิ ติณานิ ¶ ฉฑฺเฑตฺวา ตํ สทฺทํ สุณนฺติ, วาฬมิคา ขุทฺทกมิเค อนุพนฺธมานา อุกฺขิตฺตปาทํ อนุกฺขิปิตฺวาว ติฏฺนฺติ, อนุพทฺธมิคาปิ มรณภยํ หิตฺวาปิ ติฏฺนฺติ, อากาเส ปกฺขนฺทปกฺขิโนปิ ปกฺเข ปสาเรตฺวา ติฏฺนฺติ, อุทเก มจฺฉาปิ กณฺณปฏลํ อปฺโผเฏนฺตา ตํ สทฺทํ สุณมานาว ติฏฺนฺติ. เอวํ มฺชุรุตา กรวิกา.
อสนฺธิมิตฺตาปิ ธมฺมาโสกสฺส เทวี – ‘‘อตฺถิ นุ โข, ภนฺเต, พุทฺธสทฺเทน สทิโส กสฺสจิ สทฺโท’’ติ สงฺฆํ ปุจฺฉิ. อตฺถิ กรวิกสกุณสฺสาติ. กุหึ, ภนฺเต, สกุณาติ? หิมวนฺเตติ. สา ราชานํ อาห, – ‘‘เทว, กรวิกสกุณํ ทฏฺุกามา’’ติ. ราชา ‘‘อิมสฺมึ ปฺชเร นิสีทิตฺวา กรวิโก อาคจฺฉตู’’ติ สุวณฺณปฺชรํ วิสฺสชฺเชสิ. ปฺชโร คนฺตฺวา เอกสฺส กรวิกสฺส ปุรโต อฏฺาสิ. โส ‘‘ราชาณาย อาคโต ปฺชโร, น สกฺกา อคนฺตุ’’นฺติ ตตฺถ นิสีทิ. ปฺชโร อาคนฺตฺวา รฺโ ปุรโตว อฏฺาสิ. กรวิกํ สทฺทํ การาเปตุํ น สกฺโกนฺติ. อถ ราชา ‘‘กถํ ภเณ อิเม สทฺทํ กโรนฺตี’’ติ อาห? าตเก ทิสฺวา เทวาติ. อถ นํ ราชา อาทาเสหิ ปริกฺขิปาเปสิ. โส อตฺตโนว ฉายํ ทิสฺวา ‘‘าตกา เม อาคตา’’ติ มฺมาโน ปกฺเขน ตาฬํ ทตฺวา มฺชุสฺสเรน มณิวํสํ ธมมาโน วิย วิรวิ. สกลนคเร มนุสฺสา มตฺตา วิย ลฬึสุ. อสนฺธิมิตฺตา จินฺเตสิ – ‘‘อิมสฺส ตาว ติรจฺฉานสฺส เอวํ มธุโร สทฺโท, กีทิโส นุ โข สพฺพฺุตฺาณสิริปฺปตฺตสฺส ภควโต ¶ อโหสี’’ติ ปีตึ อุปฺปาเทตฺวา ตํ ปีตึ อวิชหิตฺวา สตฺตหิ ชงฺฆสเตหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ. เอวํ มธุโร กรวิกสทฺโท. ตโต สตภาเคน สหสฺสภาเคน จ มธุรตโร ตถาคตสฺส สทฺโท, โลเก ปน กรวิกโต อฺสฺส มธุรรสฺส อภาวโต ‘‘กรวิกภาณี’’ติ วุตฺตํ.
อภินีลเนตฺโตติ น สกลนีลเนตฺโตว, นีลยุตฺตฏฺาเน ปนสฺส อุมาปุปฺผสทิเสน อติวิสุทฺเธน นีลวณฺเณน สมนฺนาคตานิ อกฺขีนิ โหนฺติ. ปีตยุตฺตฏฺาเน กณิการปุปฺผสทิเสน ปีตวณฺเณน, โลหิตยุตฺตฏฺาเน ¶ พนฺธุชีวกปุปฺผสทิเสน โลหิตวณฺเณน, เสตยุตฺตฏฺาเน โอสธิตารกสทิเสน เสตวณฺเณน, กาฬยุตฺตฏฺาเน อทฺทาริฏฺกสทิเสน กาฬวณฺเณน สมนฺนาคตานิ สุวณฺณวิมาเน อุคฺฆาฏิตมณิสีหปฺชรสทิสานิ ขายนฺติ.
โคปขุโมติ เอตฺถ ปขุมนฺติ สกลํ จกฺขุภณฺฑํ อธิปฺเปตํ. ตํ กาฬวจฺฉกสฺส พหลธาตุกํ ¶ โหติ, รตฺตวจฺฉกสฺส วิปฺปสนฺนํ, ตํมุหุตฺตชาตรตฺตวจฺฉสทิสจกฺขุภณฺโฑติ อตฺโถ. อฺเสฺหิ อกฺขิภณฺฑา อปริปุณฺณา โหนฺติ, หตฺถิมูสิกกากาทีนํ อกฺขิสทิเสหิ วินิคฺคเตหิ คมฺภีเรหิปิ อกฺขีหิ สมนฺนาคตา โหนฺติ. ตถาคตสฺส ปน โธวิตฺวา มชฺชิตฺวา ปิตมณิคุฬิกา วิย มุทุสินิทฺธนีลสุขุมปขุมาจิตานิ อกฺขีนิ.
อุณฺณาติ อุณฺณโลมํ. ภมุกนฺตเรติ ¶ ทฺวินฺนํ ภมุกานํ เวมชฺเฌ นาสิกมตฺถเกเยว ชาตา. อุคฺคนฺตฺวา ปน นลาฏมชฺฌชาตา. โอทาตาติ ปริสุทฺธา โอสธิตารกวณฺณา. มุทูติ สปฺปิมณฺเฑ โอสาเทตฺวา ปิตสตวารวิหตกปฺปาสปฏลสทิสา. ตูลสนฺนิภาติ สิมฺพลิตูลลตาตูลสมานา, อยมสฺสา โอทาตตาย อุปมา. สา ปเนสา โกฏิยํ คเหตฺวา อากฑฺฒิยมานา อุปฑฺฒพาหุปฺปมาณา โหติ, วิสฺสฏฺา ทกฺขิณาวฏฺฏวเสน อาวฏฺฏิตฺวา อุทฺธคฺคา หุตฺวา สนฺติฏฺติ, สุวณฺณผลกมชฺเฌ ปิตรชตปุปฺผุฬกา วิย สุวณฺณฆฏโต นิกฺขมมานา ขีรธารา วิย อรุณปฺปภารฺชิเต คมนตเล โอสธิตารกา วิย จ อติมโนหราย สิริยา วิโรจติ.
อุณฺหีสสีโสติ อิทํ ปริปุณฺณนลาฏตฺเจว ปริปุณฺณสีสตฺจาติ ทฺเว อตฺถวเส ปฏิจฺจ วุตฺตํ. ตถาคตสฺส หิ ทกฺขิณกณฺณจูฬิกโต ปฏฺาย มํสปฏลํ อุฏฺหิตฺวา สกลํ นลาฏํ ฉาทยมานํ ปูรยมานํ คนฺตฺวา วามกณฺณจูฬิกาย ปติฏฺิตํ, รฺโ พทฺธอุณฺหีสปฏฺโฏ วิย วิโรจติ. ปจฺฉิมภวิกโพธิสตฺตานํ กิร อิมํ ลกฺขณํ วิทิตฺวา ราชูนํ อุณฺหีสปฏฺฏํ อกํสุ, อยํ ตาว เอโก อตฺโถ. อฺเ ปน ชนา อปริปุณฺณสีสา โหนฺติ, เกจิ ¶ กปฺปสีสา, เกจิ ผลสีสา, เกจิ อฏฺิสีสา, เกจิ ตุมฺพสีสา, เกจิ ปพฺภารสีสา. ตถาคตสฺส ปน อารคฺเคน วฏฺเฏตฺวา ปิตํ วิย สุปริปุณฺณํ อุทกปุปฺผุฬสทิสํ สีสํ โหติ. ตตฺถ ปุริมนเยน อุณฺหีสเวิตสีโส ¶ วิยาติ อุณฺหีสสีโส. ทุติยนเยน อุณฺหีสํ วิย สพฺพตฺถ ปริมณฺฑลสีโสติ อุณฺหีสสีโส.
อิมานิ ปน มหาปุริสลกฺขณานิ กมฺมํ กมฺมสริกฺขกํ ลกฺขณํ ลกฺขณานิสํสนฺติ อิเม จตฺตาโร โกฏฺาเส เอเกกสฺมึ ลกฺขเณ ทสฺเสตฺวา กถิตานิ สุกถิตานิ โหนฺติ. ตสฺมา ภควตา ลกฺขณสุตฺเต (ที. นิ. ๓.๒๐๐-๒๐๒) วุตฺตานิ อิมานิ กมฺมาทีนิ ทสฺเสตฺวา กเถตพฺพานิ ¶ . สุตฺตวเสน วินิจฺฉิตุํ อสกฺโกนฺเตน สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย ตสฺเสว สุตฺตสฺส วณฺณนาย วุตฺตนเยน คเหตพฺพานิ.
อิเมหิ โข, โภ, โส ภวํ โคตโมติ, โภ อาจริย, อิเมหิ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ โส ภวํ โคตโม สมนฺนาคโต เทวนคเร สมุสฺสิตรตนวิจิตฺตํ สุวณฺณโตรณํ วิย โยชนสตุพฺเพโธ สพฺพปาลิผุลฺโล ปาริจฺฉตฺตโก วิย เสลนฺตรมฺหิ สุปุปฺผิตสาลรุกฺโข วิย ตาราคณปฏิมณฺฑิตคคนตลมิว จ อตฺตโน สิริวิภเวน โลกํ อาโลกํ กุรุมาโน วิย จรตีติ อิมตฺถมฺปิ ทีเปตฺวา กิริยาจารํ อาจิกฺขิตุํ คจฺฉนฺโต โข ปนาติอาทิมาห.
๓๘๗. ทกฺขิเณนาติ พุทฺธานฺหิ ตฺวา วา นิสีทิตฺวา วา นิปชฺชิตฺวา วา คมนํ อภินีหรนฺตานํ ทกฺขิณปาโทว ปุรโต โหติ. สตตปาฏิหาริยํ กิเรตํ. นาติทูเร ¶ ปาทํ อุทฺธรตีติ ตํ ทกฺขิณปาทํ น อติทูเร เปสฺสามีติ อุทฺธรติ. อติทูรฺหิ อภิหริยมาเน ทกฺขิณปาเทน วามปาโท อากฑฺฒิยมาโน คจฺเฉยฺย, ทกฺขิณปาโทปิ ทูรํ คนฺตุํ น สกฺกุเณยฺย, อาสนฺเนเยว ปติฏฺเหยฺย, เอวํ สติ ปทวิจฺเฉโท นาม โหติ. ทกฺขิณปาเท ปน ปมาเณเนว อุทฺธเต วามปาโทปิ ปมาเณเนว อุทฺธริยติ, ปมาเณน อุทฺธโต ปติฏฺหนฺโตปิ ปมาเณเยว ปติฏฺาติ. เอวมเนน ตถาคตสฺส ทกฺขิณปาทกิจฺจํ วามปาเทน นิยมิตํ, วามปาทกิจฺจํ ทกฺขิณปาเทน นิยมิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
นาติสีฆนฺติ ทิวา วิหารภตฺตตฺถาย คจฺฉนฺโต ภิกฺขุ วิย น อติสีฆํ คจฺฉติ. นาติสณิกนฺติ ยถา ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺโต โอกาสํ น ลภติ, เอวํ น อติสณิกํ คจฺฉติ. อทฺทุเวน อทฺทุวนฺติ ชณฺณุเกน ชณฺณุกํ, น ¶ สตฺถึ อุนฺนาเมตีติ คมฺภีเร อุทเก คจฺฉนฺโต วิย น อูรุํ อุนฺนาเมติ. น โอนาเมตีติ รุกฺขสาขาเฉทนทณฺฑงฺกุสปาโท วิย น ปจฺฉโต โอสกฺกาเปติ. น สนฺนาเมตีติ โอพทฺธานาพทฺธฏฺาเนหิ ปาทํ โกฏฺเฏนฺโต วิย น ถทฺธํ กโรติ. น ¶ วินาเมตีติ ยนฺตรูปกํ กีฬาเปนฺโต วิย น อิโต จิโต จ จาเลติ. อธรกาโยวาติ เหฏฺิมกาโยว อิฺชติ, อุปริมกาโย นาวาย ปิตสุวณฺณปฏิมา วิย นิจฺจโล โหติ. ทูเร ตฺวา โอโลเกนฺโต หิ พุทฺธานํ ิตภาวํ วา คมนภาวํ วา น ชานาติ ¶ . กายพเลนาติ พาหา ขิปนฺโต สรีรโต เสเทหิ มุจฺจนฺเตหิ น กายพเลน คจฺฉติ. สพฺพกาเยเนวาติ คีวํ อปริวตฺเตตฺวา ราหุโลวาเท วุตฺตนาคาปโลกิตวเสเนว อปโลเกติ.
น อุทฺธนฺติอาทีสุ นกฺขตฺตานิ คเณนฺโต วิย น อุทฺธํ อุลฺโลเกติ, นฏฺํ กากณิกํ วา มาสกํ วา ปริเยสนฺโต วิย น อโธ โอโลเกติ, น หตฺถิอสฺสาทโย ปสฺสนฺโต วิย อิโต จิโต จ วิเปกฺขมาโน คจฺฉติ. ยุคมตฺตนฺติ นววิทตฺถิมตฺเต จกฺขูนิ เปตฺวา คจฺฉนฺโต ยุคมตฺตํ เปกฺขติ นาม, ภควาปิ ยุเค ยุตฺโต สุทนฺตอาชานีโย วิย เอตฺตกํ ปสฺสนฺโต คจฺฉติ. ตโต จสฺส อุตฺตรีติ ยุคมตฺตโต ปรํ น ปสฺสตีติ น วตฺตพฺโพ. น หิ กุฏฺฏํ วา กวาฏํ วา คจฺโฉ วา ลตา วา อาวริตุํ สกฺโกติ, อถ ขฺวสฺส อนาวรณาณสฺส อเนกานิ จกฺกวาฬสหสฺสานิ เอกงฺคณาเนว โหนฺติ. อนฺตรฆรนฺติ เหฏฺา มหาสกุลุทายิสุตฺเต อินฺทขีลโต ปฏฺาย อนฺตรฆรํ, อิธ ฆรอุมฺมารโต ปฏฺาย เวทิตพฺพํ. น ¶ กายนฺติอาทิ ปกติอิริยปเถเนว ปวิสตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ทลิทฺทมนุสฺสานํ นีจฆรกํ ปวิสนฺเตปิ หิ ตถาคเต ฉทนํ วา อุคฺคจฺฉติ, ปถวี วา โอคจฺฉติ, ภควา ปน ปกติคมเนเนว คจฺฉติ. นาติทูเรติ อติทูเร ปริวตฺตนฺเตน หิ เอกํ ทฺเว ปทวาเร ปิฏฺิภาเคน คนฺตฺวา นิสีทิตพฺพํ โหติ. นาจฺจาสนฺเนติ อจฺจาสนฺเน ปริวตฺตนฺเตน เอกํ ทฺเว ปทวาเร ปุรโต คนฺตฺวา นิสีทิตพฺพํ โหติ. ตสฺมา ยสฺมึ ปทวาเร ิเตน ปุรโต วา ปจฺฉโต วา อคนฺตฺวา นิสีทิตพฺพํ โหติ, ตตฺถ ปริวตฺตติ.
ปาณินาติ กฏิวาตาพาธิโก วิย น อาสนํ หตฺเถหิ คเหตฺวา นิสีทติ. ปกฺขิปตีติ โย กิฺจิ กมฺมํ กตฺวา กีฬนฺโต ิตโกว ปตติ, โยปิ โอริมํ องฺคํ นิสฺสาย นิสินฺโน ฆํสนฺโต ยาว ปาริมงฺคา คจฺฉติ, ปาริมงฺคํ ¶ วา นิสฺสาย นิสินฺโน ตเถว ยาว โอริมงฺคา อาคจฺฉติ, สพฺโพ โส อาสเน กายํ ปกฺขิปติ นาม. ภควา ปน เอวํ อกตฺวา อาสนสฺส มชฺเฌ โอลมฺพกํ ธาเรนฺโต วิย ตูลปิจุํ เปนฺโต วิย สณิกํ นิสีทติ. หตฺถกุกฺกุจฺจนฺติ ปตฺตมุขวฏฺฏิยํ อุทกพินฺทุปนํ มกฺขิกพีชนิยา ปณฺณจฺเฉทนผาลนาทิ หตฺเถน อสํยตกรณํ. ปาทกุกฺกุจฺจนฺติ ปาเทน ภูมิฆํสนาทิ อสํยตกรณํ.
น ฉมฺภตีติ น ภายติ. น กมฺปตีติ น โอสีทติ. น เวธตีติ น จลติ. น ¶ ปริตสฺสตีติ ภยปริตสฺสนายปิ ตณฺหาปริตสฺสนายปิ น ปริตสฺสติ. เอกจฺโจ หิ ธมฺมกถาทีนํ อตฺถาย ¶ อาคนฺตฺวา มนุสฺเสสุ วนฺทิตฺวา ิเตสุ ‘‘สกฺขิสฺสามิ นุ โข เตสํ จิตฺตํ คณฺหนฺโต ธมฺมํ วา กเถตุํ, ปฺหํ วา ปุจฺฉิโต วิสฺสชฺเชตุํ, ภตฺตานุโมทนํ วา กาตุ’’นฺติ ภยปริตสฺสนาย ปริตสฺสติ. เอกจฺโจ ‘‘มนาปา นุ โข เม ยาคุ อาคจฺฉิสฺสติ, มนาปํ อนฺตรขชฺชก’’นฺติ วา ตณฺหาปริตสฺสนาย ปริตสฺสติ. ตทุภยมฺปิ ตสฺส นตฺถีติ น ปริตสฺสติ. วิเวกาวฏฺโฏติ วิเวเก นิพฺพาเน อาวฏฺฏมานโส หุตฺวา. วิเวกวตฺโตติปิ ปาโ, วิเวกวตฺตยุตฺโต หุตฺวาติ อตฺโถ. วิเวกวตฺตํ นาม กตภตฺตกิจฺจสฺส ภิกฺขุโน ทิวาวิหาเร สมถวิปสฺสนาวเสน มูลกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสีทนํ. เอวํ นิสินฺนสฺส หิ อิริยาปโถ อุปสนฺโต โหติ.
น ปตฺตํ อุนฺนาเมตีติอาทีสุ เอกจฺโจ ปตฺตมุขวฏฺฏิยา อุทกทานํ อาหรนฺโต วิย ปตฺตํ อุนฺนาเมติ, เอโก ปาทปิฏฺิยํ เปนฺโต วิย โอนาเมติ, เอโก พทฺธํ กตฺวา คณฺหาติ, เอโก อิโต จิโต จ ผนฺทาเปติ, เอวํ อกตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ คเหตฺวา อีสกํ นาเมตฺวา อุทกํ ปฏิคฺคณฺหาตีติ อตฺโถ. น สมฺปริวตฺตกนฺติ ปริวตฺเตตฺวา ปมเมว ปตฺตปิฏฺึ น โธวติ. นาติทูเรติ ยถา นิสินฺนาสนโต ทูเร ปตติ, น เอวํ ฉฑฺเฑติ. นาจฺจาสนฺเนติ ปาทมูเลเยว น ฉฑฺเฑติ. วิจฺฉฑฺฑยมาโนติ ¶ วิกิรนฺโต, ยถา ปฏิคฺคาหโก เตมติ, น เอวํ ฉฑฺเฑติ.
นาติโถกนฺติ ¶ ยถา เอกจฺโจ ปาปิจฺโฉ อปฺปิจฺฉตํ ทสฺเสนฺโต มุฏฺิมตฺตเมว คณฺหาติ, น เอวํ. อติพหุนฺติ ยาปนมตฺตโต อติเรกํ. พฺยฺชนมตฺตายาติ พฺยฺชนสฺส มตฺตา นาม โอทนโต จตุตฺโถ ภาโค. เอกจฺโจ หิ ภตฺเต มนาเป ภตฺตํ พหุํ คณฺหาติ, พฺยฺชเน มนาเป พฺยฺชนํ พหุํ. สตฺถา ปน ตถา น คณฺหาติ. น จ พฺยฺชเนนาติ อมนาปฺหิ พฺยฺชนํ เปตฺวา ภตฺตเมว ภฺุชนฺโต, ภตฺตํ วา เปตฺวา พฺยฺชนเมว ขาทนฺโต พฺยฺชเนน อาโลปํ อตินาเมติ นาม. สตฺถา เอกนฺตริกํ พฺยฺชนํ คณฺหาติ, ภตฺตมฺปิ พฺยฺชนมฺปิ เอกโตว นิฏฺนฺติ. ทฺวตฺติกฺขตฺตุนฺติ ตถาคตสฺส หิ ปุถุชิวฺหาย ทนฺตานํ อุปนีตโภชนํ ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ ทนฺเตหิ ผุฏฺมตฺตเมว สณฺหกรณียปิฏฺวิเลปนํ วิย โหติ, ตสฺมา เอวมาห. น มุเข อวสิฏฺาติ โปกฺขรปตฺเต ปติตอุทกพินฺทุ วิย วินิวตฺติตฺวา ปรคลเมว ยาติ, ตสฺมา อวสิฏฺา น โหติ. รสปฏิสํเวทีติ มธุรติตฺตกทุกาทิรสํ ชานาติ. พุทฺธานฺหิ อนฺตมโส ปานีเยปิ ทิพฺโพชา ปกฺขิตฺตาว โหติ, เตน เนสํ สพฺพตฺเถว รโส ปากโฏ โหติ, รสเคโธ ปน นตฺถิ.
อฏฺงฺคสมนฺนาคตนฺติ ¶ ‘‘เนว ทวายา’’ติ วุตฺเตหิ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ. วิสุทฺธิมคฺเค ปนสฺส ¶ วินิจฺฉโย อาคโตติ สพฺพาสวสุตฺเต วุตฺตเมตํ. หตฺเถสุ โธเตสูติ สตฺถา กึ กโรติ? ปมํ ปตฺตสฺส คหณฏฺานํ โธวติ. ตตฺถ ปตฺตํ คเหตฺวา สุขุมชาลหตฺถํ เปเสตฺวา ทฺเว วาเร สฺจาเรติ. เอตฺตาวตา โปกฺขรปตฺเต ปติตอุทกํ วิย วินิวตฺติตฺวา คจฺฉติ. น จ อนตฺถิโกติ ยถา เอกจฺโจ ปตฺตํ อาธารเก เปตฺวา ปตฺเต อุทกํ น ปฺุฉติ, รเช ปตนฺเต อชฺฌุเปกฺขติ, น เอวํ กโรติ. น จ อติเวลานุรกฺขีติ ยถา เอกจฺโจ ปมาณาติกฺกนฺตํ อารกฺขํ เปติ, ภฺุชิตฺวา วา ปตฺเต อุทกํ ปฺุฉิตฺวา จีวรโภคนฺตรํ ปเวเสตฺวา ปตฺตํ อุทเรน อกฺกมิตฺวา คณฺหาติ, น เอวํ กโรติ.
น จ อนุโมทนสฺสาติ โย หิ ภุตฺตมตฺโตว ทารเกสุ ภตฺตตฺถาย โรทนฺเตสุ ฉาตชฺฌตฺเตสุ มนุสฺเสสุ ภฺุชิตฺวา อนาคเตสฺเวว อนุโมทนํ อารภติ, ตโต สพฺพกมฺมานิ ฉฑฺเฑตฺวา เอกจฺเจ อาคจฺฉนฺติ, เอกจฺเจ อนาคตาว โหนฺติ, อยํ กาลํ อตินาเมติ. โยปิ มนุสฺเสสุ ¶ อาคนฺตฺวา อนุโมทนตฺถาย วนฺทิตฺวา นิสินฺเนสุ อนุโมทนํ อกตฺวาว ‘‘กถํ ติสฺส, กถํ ผุสฺส, กถํ สุมน, กถํ ติสฺเส, กถํ ผุสฺเส, กถํ สุมเน, กจฺจิตฺถ อโรคา, สสฺสํ สมฺปนฺน’’นฺติอาทึ ปาฏิเยกฺกํ กถํ สมุฏฺาเปติ, อยํ อนุโมทนสฺส กาลํ อตินาเมติ, มนุสฺสานํ ปน โอกาสํ ตฺวา อายาจิตกาเล กโรนฺโต นาตินาเมติ นาม, สตฺถา ตถา กโรติ.
น ตํ ภตฺตนฺติ กึ ภตฺตํ นาเมตํ อุตฺตณฺฑุลํ อติกิลินฺนนฺติอาทีนิ วตฺวา น ครหติ. น ¶ อฺํ ภตฺตนฺติ สฺวาตนาย วา ปุนทิวสาย วา ภตฺตํ อุปฺปาเทสฺสามีติ หิ อนุโมทนํ กโรนฺโต อฺํ ภตฺตํ ปฏิกงฺขติ. โย วา – ‘‘ยาว มาตุคามานํ ภตฺตํ ปจฺจติ, ตาว อนุโมทนํ กริสฺสามิ, อถ เม อนุโมทนาวสาเน อตฺตโน ปกฺกภตฺตโตปิ โถกํ ทสฺสนฺตี’’ติ อนุโมทนํ วฑฺเฒติ, อยมฺปิ ปฏิกงฺขติ นาม. สตฺถา น เอวํ กโรติ. น จ มุจฺจิตุกาโมติ เอกจฺโจ หิ ปฏิสํมฺุจิตฺวา คจฺฉติ, เวเคน อนุพนฺธิตพฺโพ โหติ. สตฺถา ปน น เอวํ คจฺฉติ, ปริสาย มชฺเฌ ิโตว คจฺฉติ. อจฺจุกฺกฏฺนฺติ โย หิ ยาว หนุกฏฺิโต อุกฺขิปิตฺวา ปารุปติ, ตสฺส อจฺจุกฺกฏฺํ นาม โหติ. โย ยาว โคปฺผกา โอตาเรตฺวาว ปารุปติ, ตสฺส อจฺจุกฺกฏฺํ โหติ. โยปิ อุภโต อุกฺขิปิตฺวา อุทรํ วิวริตฺวา ยาติ, ตสฺสปิ อจฺจุกฺกฏฺํ โหติ. โย เอกํสํ กตฺวา ถนํ วิวริตฺวา ยาติ, ตสฺสปิ อจฺจุกฺกฏฺํ. สตฺถา ตํ สพฺพํ น กโรติ.
อลฺลีนนฺติ ¶ ยถา อฺเสํ เสเทน ตินฺตํ อลฺลียติ, น เอวํ สตฺถุ. อปกฏฺนฺติ ขลิสาฏโก วิย กายโต มุจฺจิตฺวาปิ น ติฏฺติ. วาโตติ เวรมฺภวาโตปิ อุฏฺหิตฺวา จาเลตุํ น สกฺโกติ. ปาทมณฺฑนานุโยคนฺติ อิฏฺกาย ฆํสนาทีหิ ปาทโสภานุโยคํ. ปกฺขาเลตฺวาติ ปาเทเนว ปาทํ โธวิตฺวา. โส เนว อตฺตพฺยาพาธายาติอาทีนิ น ปุพฺเพนิวาสเจโตปริยาณานํ อตฺถิตาย วทติ, อิริยาปถสนฺตตํ ปน ทิสฺวา อนุมาเนน วทติ. ธมฺมนฺติ ปริยตฺติธมฺมํ. น อุสฺสาเทตีติ ¶ กึ มหารฏฺิก, กึ มหากุฏุมฺพิกาติอาทีนิ วตฺวา เคหสฺสิตวเสน น อุสฺสาเทติ. น อปสาเทตีติ ‘‘กึ, อุปาสก, กถํ เต วิหารมคฺโค าโต? กึ ภเยน นาคจฺฉสิ? น หิ ภิกฺขู กิฺจิ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺติ, มา ภายี’’ติ ¶ วา ‘‘กึ ตุยฺหํ เอวํ มจฺฉริยชีวิตํ นามา’’ติ วา อาทีนิ วตฺวา เคหสฺสิตเปเมน น อปสาเทติ.
วิสฺสฏฺโติ สินิทฺโธ อปลิพุทฺโธ. วิฺเยฺโยติ วิฺาปนีโย ปากโฏ, วิสฺสฏฺตฺตาเยว เจส วิฺเยฺโย โหติ. มฺชูติ มธุโร. สวนีโยติ โสตสุโข, มธุรตฺตาเยว เจส สวนีโย โหติ. พินฺทูติ สมฺปิณฺฑิโต. อวิสารีติ อวิสโฏ, พินฺทุตฺตาเยว เจส อวิสารี โหติ. คมฺภีโรติ คมฺภีรสมุฏฺิโต. นินฺนาทีติ นินฺนาทวา, คมฺภีรตฺตาเยว เจส นินฺนาที โหติ. ยถาปริสนฺติ จกฺกวาฬปริยนฺตมฺปิ เอกาพทฺธปริสํ วิฺาเปติ. พหิทฺธาติ องฺคุลิมตฺตมฺปิ ปริสโต พหิทฺธา น คจฺฉติ. ตสฺมา? โส เอวรูโป มธุรสฺสโร อการณา มา นสฺสีติ. อิติ ภควโต โฆโส ปริสาย มตฺถเกเนว จรติ.
อวโลกยมานาติ ¶ สิรสฺมึ อฺชลึ เปตฺวา ภควนฺตํ โอโลเกนฺตาว ปจฺโจสกฺกิตฺวา ทสฺสนวิชหนฏฺาเน วนฺทิตฺวา คจฺฉนฺติ. อวิชหิตตฺตาติ โย หิ กถํ สุตฺวา วุฏฺิโต อฺํ ทิฏฺสุตาทิกํ กถํ กเถนฺโต คจฺฉติ, เอส สภาเวน วิชหติ นาม. โย ปน สุตธมฺมกถาย วณฺณํ กเถนฺโตว คจฺฉติ, อยํ น วิชหติ นาม, เอวํ อวิชหนฺตภาเวน ปกฺกมนฺติ. คจฺฉนฺตนฺติ รชฺชุยนฺตวเสน รตนสตฺตุพฺเพธํ สุวณฺณคฺฆิกํ วิย คจฺฉนฺตํ. อทฺทสาม ิตนฺติ สมุสฺสิตกฺจนปพฺพตํ วิย ิตํ อทฺทสาม. ตโต จ ภิยฺโยติ วิตฺถาเรตฺวา คุเณ กเถตุํ อสกฺโกนฺโต อวเสเส คุเณ สํขิปิตฺวา กลาปํ วิย สุตฺตกพทฺธํ วิย จ กตฺวา วิสฺสชฺเชนฺโต เอวมาห. อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – มยา กถิตคุเณหิ อกถิตาว พหุตรา. มหาปถวิมหาสมุทฺทาทโย วิย หิ ตสฺส โภโต อนนฺตา อปฺปเมยฺยา คุณา อากาสมิว วิตฺถาริตาติ.
๓๙๐. อปฺปฏิสํวิทิโตติ ¶ อวิฺาตอาคมโน. ปพฺพชิเต อุปสงฺกมนฺเตน หิ จีวรปริกมฺมาทิสมเย วา เอกํ นิวาเสตฺวา สรีรภฺชนสมเย วา อุปสงฺกมิตฺวา ตโตว ปฏินิวตฺติตพฺพํ โหติ, ปฏิสนฺถารมตฺตมฺปิ น ชายติ. ปุเรตรํ ปน โอกาเส การิเต ทิวาฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวา ภิกฺขุ วิวิตฺเต าเน นิสีทติ, ตํ อาคนฺตฺวา ปสฺสนฺตา ทสฺสเนนปิ ¶ ปสีทนฺติ, ปฏิสนฺถาโร ชายติ, ปฺหพฺยากรณํ ¶ วา ธมฺมกถา วา ลพฺภติ. ตสฺมา ปณฺฑิตา โอกาสํ กาเรนฺติ. โส จ เนสํ อฺตโร, เตนสฺส เอตทโหสิ. ชิณฺโณ วุฑฺโฒติ อตฺตโน อุคฺคตภาวํ อกเถตฺวา กสฺมา เอวมาห? พุทฺธา นาม อนุทฺทยสมฺปนฺนา โหนฺติ, มหลฺลกภาวํ ตฺวา สีฆํ โอกาสํ กริสฺสตีติ เอวมาห.
๓๙๑. โอรมิย โอกาสมกาสีติ เวเคน อุฏฺาย ทฺวิธา ภิชฺชิตฺวา โอกาสมกาสิ.
เย เมติ เย มยา. นารีสมานสวฺหยาติ นารีสมานนามํ อิตฺถิลิงฺคํ, เตน อวฺหาตพฺพาติ นารีสมานสวฺหยา, อิตฺถิลิงฺเคน วตฺตพฺพาติ โวหารกุสลตาย เอวํ วทติ. ปหูตชิวฺโหติ ปุถุลชิวฺโห. นินฺนามเยตนฺติ นีหร เอตํ.
๓๙๔. ปจฺจภาสีติ เอกปฺปหาเรน ปุจฺฉิเต อฏฺ ปฺเห พฺยากโรนฺโต ปติอภาสิ. โย เวทีติ โย วิทติ ชานาติ, ยสฺส ปุพฺเพนิวาโส ปากโฏ. สคฺคาปายฺจ ปสฺสตีติ ทิพฺพจกฺขุาณํ กถิตํ. ชาติกฺขยํ ¶ ปตฺโตติ อรหตฺตํ ปตฺโต. อภิฺา โวสิโตติ ตํ อรหตฺตํ อภิชานิตฺวา โวสิโต โวสานปฺปตฺโต. มุนีติ อรหตฺตาณโมเนยฺเยน สมนฺนาคโต.
วิสุทฺธนฺติ ปณฺฑรํ. มุตฺตํ ราเคหีติ กิเลสราเคหิ มุตฺตํ. ปหีนชาติมรโณติ ชาติกฺขยปฺปตฺตตฺตา ปหีนชาติโก, ชาติปหาเนเนว ปหีนมรโณ. พฺรหฺมจริยสฺส เกวลีติ ยํ พฺรหฺมจริยสฺส เกวลี สกลภาโว, เตน สมนฺนาคโต, สกลจตุมคฺคพฺรหฺมจริยวาโสติ อตฺโถ. ปารคู สพฺพธมฺมานนฺติ สพฺเพสํ โลกิยโลกุตฺตรธมฺมานํ อภิฺาย ปารํ คโต, สพฺพธมฺเม อภิชานิตฺวา ิโตติ อตฺโถ. ปารคูติ วา เอตฺตาวตา ปริฺาปารคู ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ, ปหานปารคู สพฺพกิเลสานํ ¶ , ภาวนาปารคู จตุนฺนํ มคฺคานํ, สจฺฉิกิริยาปารคู นิโรธสฺส, สมาปตฺติปารคู สพฺพสมาปตฺตีนนฺติ อยมตฺโถ วุตฺโต. ปุน สพฺพธมฺมานนฺติ อิมินา อภิฺาปารคู วุตฺโตติ. พุทฺโธ ตาที ปวุจฺจตีติ ตาทิโส ฉหิ ¶ อากาเรหิ ปารํ คโต สพฺพากาเรน จตุนฺนํ สจฺจานํ พุทฺธตฺตา พุทฺโธติ ปวุจฺจตีติ.
กึ ปน เอตฺตาวตา สพฺเพ ปฺหา วิสฺสชฺชิตา โหนฺตีติ? อาม วิสฺสชฺชิตา, จิตฺตํ วิสุทฺธํ ชานาติ, มุตฺตํ ราเคหีติ อิมินา ตาว พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมโณติ ปมปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหติ. ปารคูติ อิมินา เวเทหิ คตตฺตา เวทคูติ ทุติยปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหติ. ปุพฺเพนิวาสนฺติอาทีหิ อิมาสํ ติสฺสนฺนํ วิชฺชานํ ¶ อตฺถิตาย เตวิชฺโชติ ตติยปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหติ. มุตฺตํ ราเคหิ สพฺพโสติ อิมินาว นิสฺสฏตฺตา ปาปธมฺมานํ โสตฺติโยติ จตุตฺถปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหติ. ชาติกฺขยํ ปตฺโตติ อิมินา ปน อรหตฺตสฺเสว วุตฺตตฺตา ปฺจมปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหติ. โวสิโตติ จ พฺรหฺมจริยสฺส เกวลีติ จ อิเมหิ ฉฏฺปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหติ. อภิฺา โวสิโต มุนีติ อิมินา สตฺตมปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหติ. ปารคู สพฺพธมฺมานํ, พุทฺโธ ตาที ปวุจฺจตีติ อิมินา อฏฺมปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหติ.
๓๙๕. ทานกถนฺติอาทีนิ เหฏฺา สุตฺเต วิตฺถาริตาเนว. ปจฺจปาทีติ ปฏิปชฺชิ. ธมฺมสฺสานุธมฺมนฺติ อิมสฺมึ สุตฺเต ธมฺโม นาม อรหตฺตมคฺโค, อนุธมฺโม นาม เหฏฺิมา ตโย มคฺคา ตีณิ จ สามฺผลานิ, ตานิ ปฏิปาฏิยา ปฏิลภีติ อตฺโถ. น จ มํ ธมฺมาธิกรณํ วิเหเสสีติ มฺจ ธมฺมการณา น กิลเมสิ, น ปุนปฺปุนํ กถาเปสีติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. ตตฺถ ปรินิพฺพายีติ ปน ปเทน เทสนาย อรหตฺเตเนว กูฏํ คหิตนฺติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
พฺรหฺมายุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. เสลสุตฺตวณฺณนา
๓๙๖. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ เสลสุตฺตํ. ตตฺถ องฺคุตฺตราเปสูติอาทิ โปตลิยสุตฺเต วิตฺถาริตเมว. อฑฺฒเตฬเสหีติ อฑฺเฒน เตฬเสหิ, ทฺวาทสหิ ¶ สเตหิ ¶ ปฺาสาย จ ภิกฺขูหิ สทฺธินฺติ วุตฺตํ โหติ. เต ปน สาวกสนฺนิปาเต สนฺนิปติตา ภิกฺขูเยว สพฺเพ เอหิภิกฺขุปพฺพชฺชาย ปพฺพชิตา ขีณาสวา. เกณิโยติ ตสฺส นามํ, ชฏิโลติ ตาปโส. โส กิร พฺราหฺมณมหาสาโล, ธนรกฺขณตฺถาย ปน ตาปสปพฺพชฺชํ สมาทาย รฺโ ปณฺณาการํ ทตฺวา ภูมิภาคํ คเหตฺวา ตตฺถ อสฺสมํ กาเรตฺวา วสติ ปฺจหิ สกฏสเตหิ วณิชฺชํ ปโยเชตฺวา กุลสหสฺสสฺส นิสฺสโย หุตฺวา, อสฺสเมปิ จสฺส เอโก ตาลรุกฺโข ทิวเส ทิวเส เอกํ โสวณฺณมยํ ตาลผลํ มฺุจตีติ วทนฺติ. โส ทิวา กาสายานิ ธาเรติ, ชฏา จ พนฺธติ, รตฺตึ กามสมฺปตฺตึ อนุภวติ. ธมฺมิยา กถายาติ ปานกานิสํสปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมิยา กถาย. อยฺหิ เกณิโย ตุจฺฉหตฺโถ ภควโต ทสฺสนาย คนฺตุํ ลชฺชายมาโน – ‘‘วิกาลโภชนา วิรตานมฺปิ ปานกํ กปฺปตี’’ติ จินฺเตตฺวา สุสงฺขตพทรปานํ ปฺจหิ กาชสเตหิ คาหาเปตฺวา อคมาสิ. เอวํ คตภาโว จสฺส – ‘‘อถ โข เกณิยสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ กึ นุ โข อหํ สมณสฺส โคตมสฺส หราเปยฺย’’นฺติ เภสชฺชกฺขนฺธเก (มหาว. ๓๐๐) ปาฬิอารุฬฺโหเยว.
ทุติยมฺปิ โข ภควาติ กสฺมา ปุนปฺปุนํ ปฏิกฺขิปิ? ติตฺถิยานํ ปฏิกฺเขปปสนฺนตาย, อการณเมตํ, นตฺถิ พุทฺธานํ ปจฺจยเหตุ เอวรูปํ โกหฺํ. อยํ ปน อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ ทิสฺวา เอตฺตกานํเยว ¶ ภิกฺขํ ปฏิยาเทสฺสติ, สฺเวว เสโล ตีหิ ปุริสสเตหิ สทฺธึ ปพฺพชิสฺสติ. อยุตฺตํ โข ปน นวเก อฺโต เปเสตฺวา อิเมเหว สทฺธึ คนฺตุํ, อิเม วา อฺโต เปเสตฺวา นวเกหิ สทฺธึ คนฺตุํ. อถาปิ สพฺเพ คเหตฺวา คมิสฺสามิ, ภิกฺขาหาโร นปฺปโหสฺสติ. ตโต ภิกฺขูสุ ปิณฺฑาย จรนฺเตสุ มนุสฺสา อุชฺฌายิสฺสนฺติ – ‘‘จิรสฺสาปิ เกณิโย สมณํ โคตมํ นิมนฺเตตฺวา ยาปนมตฺตํ ทาตุํ นาสกฺขี’’ติ, สยมฺปิ วิปฺปฏิสารี ภวิสฺสติ. ปฏิกฺเขเป ปน กเต ‘‘สมโณ โคตโม ปุนปฺปุนํ ‘ตฺวฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน’ติ ¶ พฺราหฺมณานํ นามํ คณฺหาตี’’ติ จินฺเตตฺวา พฺราหฺมเณปิ นิมนฺเตตุกาโม ภวิสฺสติ, ตโต พฺราหฺมเณ ปาฏิเยกฺกํ นิมนฺเตสฺสติ ¶ , เต เตน นิมนฺติตา ภิกฺขู หุตฺวา ภฺุชิสฺสนฺติ. เอวมสฺส สทฺธา อนุรกฺขิตา ภวิสฺสตีติ ปุนปฺปุนํ ปฏิกฺขิปิ. กิฺจาปิ โข, โภติ อิมินา อิทํ ทีเปติ, – ‘‘โภ โคตม, กึ ชาตํ ยทิ อหํ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน, อธิวาเสตุ ภวํ โคตโม, อหํ พฺราหฺมณานมฺปิ ทาตุํ สกฺโกมิ ตุมฺหากมฺปี’’ติ.
กายเวยฺยาวฏิกนฺติ กายเวยฺยาวจฺจํ. มณฺฑลมาฬนฺติ ทุสฺสมณฺฑปํ.
๓๙๗. อาวาโหติ กฺาคหณํ. วิวาโหติ กฺาทานํ. โส เม นิมนฺติโตติ โส มยา นิมนฺติโต. อถ พฺราหฺมโณ ปริปกฺโกปนิสฺสยตฺตา พุทฺธสทฺทํ สุตฺวาว อมเตเนวาภิสิตฺโต ปสาทํ อาวิกโรนฺโต พุทฺโธติ ¶ , โภ เกณิย, วเทสีติ อาห. เกณิโย ยถาภูตํ อาจิกฺขนฺโต พุทฺโธติ, โภ เสล, วทามีติ อาห. ตโต นํ ปุนปิ ทฬฺหีกรณตฺถํ ปุจฺฉิ, อิตโรปิ ตเถว อาโรเจสิ.
๓๙๘. อถสฺส กปฺปสตสหสฺเสหิปิ พุทฺธสทฺทสฺเสว ทุลฺลภภาวํ สมฺปสฺสโต. เอตทโหสีติ. เอตํ ‘‘โฆโสปิ โข’’ติอาทิ อโหสิ. นีลวนราชีติ นีลวณฺณรุกฺขปนฺติ. ปเท ปทนฺติ ปทปฺปมาเณ ปทํ. อจฺจาสนฺเน หิ อติทูเร วา ปาเท นิกฺขิปมาเน สทฺโท อุฏฺาติ, ตํ ปฏิเสเธนฺโต เอวมาห. สีหาว เอกจราติ คณวาสี สีโห สีหโปตกาทีหิ สทฺธึ ปมาทํ อาปชฺชติ, เอกจโร อปฺปมตฺโต โหติ. อิติ อปฺปมาทวิหารํ ทสฺเสนฺโต เอกจรสีเหน โอปมฺมํ กโรติ. มา เม โภนฺโตติ อาจารํ สิกฺขาเปนฺโต อาห. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สเจ ตุมฺเห กถาวารํ อลภิตฺวา มม กถาย อนฺตเร กถํ ปเวเสสฺสถ, ‘‘อนฺเตวาสิเก สิกฺขาเปตุํ นาสกฺขี’’ติ มยฺหํ ครหา อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺมา โอกาสํ ปสฺสิตฺวา มนฺเตยฺยาถาติ. โน จ โข นํ ชานามีติ วิปสฺสีปิ โพธิสตฺโต จตุราสีติสหสฺสตฺเถรปพฺพชิตปริวาโร สตฺต มาสานิ โพธิสตฺตจาริกํ จริ, พุทฺธุปฺปาทกาโล วิย อโหสิ. อมฺหากมฺปิ โพธิสตฺโต ฉพฺพสฺสานิ โพธิสตฺตจาริกํ จริ. เอวํ ปริปุณฺณสรีรลกฺขเณหิ ¶ สมนฺนาคตาปิ พุทฺธา น โหนฺติ. ตสฺมา พฺราหฺมโณ ‘‘โน จ โข นํ ชานามี’’ติ อาห.
๓๙๙. ปริปุณฺณกาโยติ ¶ ¶ ลกฺขเณหิ ปริปุณฺณตาย อหีนงฺคตาย จ ปริปุณฺณสรีโร. สุรุจีติ สุนฺทรสรีรปฺปโภ. สุชาโตติ อาโรหปริณาหสมฺปตฺติยา สณฺานสมฺปตฺติยา จ สุนิพฺพตฺโต. จารุทสฺสโนติ สุจิรมฺปิ ปสฺสนฺตานํ อติตฺติชนโก มโนหรทสฺสโน. สุวณฺณวณฺโณติ สุวณฺณสทิสวณฺโณ. สุสุกฺกทาโติ สุฏฺุ สุกฺกทาโ. มหาปุริสลกฺขณาติ ปมํ วุตฺตพฺยฺชนาเนว วจนนฺตเรน นิคเมนฺโต อาห.
อิทานิ เตสุ ลกฺขเณสุ อตฺตโน จิตฺตรุจิตานิ คเหตฺวา โถเมนฺโต ปสนฺนเนตฺโตติอาทิมาห. ภควา หิ ปฺจวณฺณปสาทสมฺปตฺติยา ปสนฺนเนตฺโต, ปุณฺณจนฺทสทิสมุขตาย สุมุโข, อาโรหปริณาหสมฺปตฺติยา พฺรหา, พฺรหฺมุชุคตฺตตาย อุชุ, ชุติมนฺตตาย ปตาปวา. ยมฺปิ เจตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตํ, ตํ ‘‘มชฺเฌ สมณสงฺฆสฺสา’’ติ อิมินา ปริยาเยน โถมยตา ปุน วุตฺตํ. เอทิโส หิ เอวํ วิโรจติ. อุตฺตรคาถายปิ เอเสว นโย. อุตฺตมวณฺณีโนติ อุตฺตมวณฺณสมฺปนฺนสฺส. รเถสโภติ อุตฺตมสารถิ. ชมฺพุสณฺฑสฺสาติ ชมฺพุทีปสฺส. ปากเฏน อิสฺสริยํ ¶ อิสฺสโร โหติ.
ขตฺติยาติ ชาติขตฺติยา. โภคีติ โภคิยา. ราชาโนติ เย เกจิ รชฺชํ กาเรนฺตา. ราชาภิราชาติ ราชูนํ ปูชนีโย, อธิราชา หุตฺวา, จกฺกวตฺตีติ อธิปฺปาโย. มนุชินฺโทติ มนุสฺสาธิปติ ปรมิสฺสโร หุตฺวา.
เอวํ วุตฺเต ภควา – ‘‘เย เต ภวนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เต สกวณฺเณ ภฺมาเน อตฺตานํ ปาตุกโรนฺตี’’ติ อิมํ เสลสฺส มโนรถํ ปูเรนฺโต ราชาหมสฺมีติอาทิมาห. ตตฺรายมธิปฺปาโย – ยํ มํ ตฺวํ เสล ‘‘ราชา อรหสิ ภวิตุ’’นฺติ ยาจสิ, เอตฺถ อปฺโปสฺสุกฺโก โหติ ราชาหมสฺมิ. สติ จ ราชตฺเต ยถา อฺโ ราชา โยชนสตํ วา อนุสาสติ โยชนสหสฺสํ วา, จกฺกวตฺตี หุตฺวาปิ จตุทีปปริยนฺตมตฺตํ วา, นาหเมวํ ปริจฺฉินฺนวิสโย, อหฺหิ ธมฺมราชา อนุตฺตโร ภวคฺคโต อวีจิปริยนฺตํ กตฺวา ติริยํ อปฺปมาณโลกธาตุโย อนุสาสามิ. ยาวตา ¶ หิ อปททฺวิปทาทิเภทา สตฺตา, อหํ เตสํ อคฺโค. น หิ เม โกจิ สีเลน วา…เป… วิมุตฺติาณทสฺสเนน วา ปฏิภาโค อตฺถิ, สฺวาหํ เอวํ ธมฺมราชา อนุตฺตโร อนุตฺตเรเนว จตุสติปฏฺานาทิเภเทน ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ. อิทํ ปชหถ, อิทํ อุปสมฺปชฺช วิหรถาติ อาณาจกฺกํ, อิทํ โข ปน, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติอาทินา ปริยตฺติธมฺเมน ¶ ธมฺมจกฺกเมว วา. จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยนฺติ ¶ ยํ จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยํ โหติ สมเณน วา…เป… เกนจิ วา โลกสฺมินฺติ.
เอวํ อตฺตานํ อาวิกโรนฺตํ ภควนฺตํ ทิสฺวา ปีติโสมนสฺสชาโต เสโล ปุน ทฬฺหีกรณตฺถํ สมฺพุทฺโธ ปฏิชานาสีติ คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ โก นุ เสนาปตีติ รฺโ โภโต ธมฺเมน ปวตฺติตสฺส จกฺกสฺส อนุปวตฺตโก เสนาปติ โก นูติ ปุจฺฉิ.
เตน จ สมเยน ภควโต ทกฺขิณปสฺเส อายสฺมา สาริปุตฺโต นิสินฺโน โหติ สุวณฺณปฺุโช วิย สิริยา โสภมาโน, ตํ ทสฺเสนฺโต ภควา มยา ปวตฺติตนฺติ คาถมาห. ตตฺถ อนุชาโต ตถาคตนฺติ ตถาคตํ เหตุํ อนุชาโต, ตถาคเตน เหตุนา ชาโตติ อตฺโถ. อปิจ อวชาโต อนุชาโต อติชาโตติ ตโย วุตฺตา. เตสุ อวชาโต ทุสฺสีโล, โส ตถาคตสฺส ปุตฺโต นาม น โหติ. อติชาโต นาม ปิตรา อุตฺตริตโร, ตาทิโสปิ ตถาคตสฺส ปุตฺโต นตฺถิ. ตถาคตสฺส ปน เอโก อนุชาโตว ปุตฺโต โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห.
เอวํ ‘‘โก นุ เสนาปตี’’ติ ปฺหํ พฺยากริตฺวา ยํ เสโล อาห ‘‘สมฺพุทฺโธ ปฏิชานาสี’’ติ, ตตฺร นํ นิกฺกงฺขํ กาตุกาโม ‘‘นาหํ ปฏิฺามตฺเตเนว ปฏิชานามิ, อปิจาหํ อิมินา การเณน พุทฺโธ’’ติ าเปตุํ อภิฺเยฺยนฺติ คาถมาห. ตตฺร อภิฺเยฺยนฺติ วิชฺชา จ วิมุตฺติ จ. ภาเวตพฺพํ มคฺคสจฺจํ. ปหาตพฺพํ สมุทยสจฺจํ. เหตุวจเนน ปน ผลสิทฺธิโต เตสํ ผลานิ นิโรธสจฺจทุกฺขสจฺจานิปิ วุตฺตาเนว โหนฺติ. เอวํ สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกตํ ปริฺาตพฺพํ ปริฺาตนฺติ อิทมฺเปตฺถ สงฺคหิตนฺติ จตุสจฺจภาวนาผลฺจ วิมุตฺติฺจ ¶ ทสฺเสนฺโต ‘‘พุชฺฌิตพฺพํ พุชฺฌิตฺวา พุทฺโธ ชาโตสฺมี’’ติ ยุตฺตเหตุนา พุทฺธภาวํ สาเธติ.
เอวํ ¶ นิปฺปริยาเยน อตฺตานํ อาวิกตฺวา อตฺตนิ กงฺขาวิตรณตฺถํ พฺราหฺมณํ อติจาริยมาโน วินยสฺสูติ คาถตฺตยมาห. ตตฺถ สลฺลกตฺโตติ ราคาทิสลฺลกนฺตโน. อนุตฺตโรติ ยถา พาหิรเวชฺเชน วูปสมิตโรโค อิมสฺมิฺเวตฺตภาเว กุปฺปติ, น เอวํ. มยา วูปสมิตสฺส ¶ ปน โรคสฺส ภวนฺตเรปิ อุปฺปตฺติ นตฺถิ, ตสฺมา อหํ อนุตฺตโรติ อตฺโถ. พฺรหฺมภูโตติ เสฏฺภูโต. อติตุโลติ ตุลํ อตีโต, นิรุปโมติ อตฺโถ. มารเสนปฺปมทฺทโนติ กามา เต ปมา เสนาติ เอวํ อาคตาย มารเสนาย ปมทฺทโน. สพฺพามิตฺเตติ ขนฺธกิเลสาภิสงฺขารมจฺจุเทวปุตฺตมารสงฺขาเต สพฺพปจฺจตฺถิเก. วสีกตฺวาติ อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา. อกุโตภโยติ กุโตจิ อภโย.
เอวํ วุตฺเต เสโล พฺราหฺมโณ ตาวเทว ภควติ สฺชาตปสาโท ปพฺพชฺชาเปกฺโข หุตฺวา อิมํ โภนฺโตติ คาถตฺตยมาห. ตตฺถ กณฺหาภิชาติโกติ จณฺฑาลาทินีจกุเล ชาโต. ตโต เตปิ มาณวกา ปพฺพชฺชาเปกฺขา หุตฺวา เอวฺเจ รุจฺจติ, โภโตติ คาถมาหํสุ. อถ เสโล เตสุ มาณวเกสุ ตุฏฺจิตฺโต เต จ ทสฺเสนฺโต ปพฺพชฺชํ ยาจนฺโต ‘‘พฺราหฺมณา’’ติ คาถมาห.
ตโต ¶ ภควา ยสฺมา เสโล อตีเต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต สาสเน เตสํเยว ติณฺณํ ปุริสสตานํ คณเสฏฺโ หุตฺวา เตหิ สทฺธึ ปริเวณํ กาเรตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา เตน กมฺเมน เทวมนุสฺสสมฺปตฺตึ อนุภวมาโน ปจฺฉิเม ภเว เตสํเยว อาจริโย หุตฺวา นิพฺพตฺโต, ตฺจ เตสํ กมฺมํ วิมุตฺติปริปากาย ปริปกฺกํ เอหิภิกฺขุภาวสฺส จ อุปนิสฺสยภูตํ, ตสฺมา เต สพฺเพว เอหิภิกฺขุปพฺพชฺชํ ปพฺพาเชนฺโต สฺวากฺขาตนฺติ คาถมาห. ตตฺถ สนฺทิฏฺิกนฺติ สยเมว ทฏฺพฺพํ ปจฺจกฺขํ. อกาลิกนฺติ มคฺคานนฺตรผลุปฺปตฺติยา น กาลนฺตรํ ปตฺตพฺพผลํ. ยตฺถ อโมฆาติ ยสฺมึ มคฺคพฺรหฺมจริเย อปฺปมตฺตสฺส สิกฺขตฺตยปูรเณน สิกฺขโต ปพฺพชฺชา อโมฆา โหติ, สผลาติ อตฺโถ. เอวฺจ วตฺวา ‘‘เอถ ภิกฺขโว’’ติ ภควา อโวจ. เต สพฺเพ ปตฺตจีวรธรา หุตฺวา อากาเสนาคนฺตฺวา วสฺสสติกตฺเถรา วิย สุวินีตา ภควนฺตํ อภิวาทยึสุ. เอวมิมํ เตสํ เอหิภิกฺขุภาวํ สนฺธาย ‘‘อลตฺถ โข เสโล’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๔๐๐. อิมาหีติ ¶ อิมาหิ เกณิยสฺส จิตฺตานุกูลาหิ คาถาหิ. ตตฺถ อคฺคิปริจริยํ วินา พฺราหฺมณานํ ยฺาภาวโต ‘‘อคฺคิหุตฺตมุขา ยฺา’’ติ วุตฺตํ. อคฺคิหุตฺตเสฏฺา อคฺคิชุหนปฺปธานาติ อตฺโถ. เวเท สชฺฌายนฺเตหิ ปมํ สชฺฌายิตพฺพโต, สาวิตฺตี, ‘‘ฉนฺทโส มุข’’นฺติ วุตฺโต. มนุสฺสานํ ¶ เสฏฺโต ราชา ‘‘มุข’’นฺติ วุตฺโต. นทีนํ อาธารโต ปฏิสรณโต จ สาคโร ‘‘มุข’’นฺติ วุตฺโต. จนฺทโยควเสน ‘‘อชฺช กตฺติกา อชฺช โรหิณี’’ติ สฺาณโต ¶ อาโลกกรณโต โสมฺมภาวโต จ ‘‘นกฺขตฺตานํ มุขํ จนฺโท’’ติ วุตฺตํ. ตปนฺตานํ อคฺคตฺตา อาทิจฺโจ ‘‘ตปตํ มุข’’นฺติ วุตฺโต. ทกฺขิเณยฺยานํ ปน อคฺคตฺตา วิเสเสน ตสฺมึ สมเย พุทฺธปฺปมุขํ สงฺฆํ สนฺธาย ‘‘ปฺุํ อากงฺขมานานํ, สงฺโฆ เอว ยชตํ มุข’’นฺติ วุตฺตํ. เตน สงฺโฆ ปฺุสฺส อายมุขนฺติ ทสฺเสติ.
ยํ ตํ สรณนฺติ อฺํ พฺยากรณคาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมา ภควา ยสฺมา มยํ อิโต อฏฺเม ทิวเส ตํ สรณํ อาคตมฺหา, ตสฺมา อตฺตนา ตว สาสเน อนุตฺตเรน ทมเถน ทนฺตามฺหา, อโห เต สรณสฺส อานุภาโวติ.
ตโต ปรํ ภควนฺตํ ทฺวีหิ คาถาหิ โถเมตฺวา ตติยาย วนฺทนํ ยาจนฺโต ภิกฺขโว ติสตา อิเมติอาทิมาหาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
เสลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อสฺสลายนสุตฺตวณฺณนา
๔๐๑. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ อสฺสลายนสุตฺตํ. ตตฺถ นานาเวรชฺชกานนฺติ องฺคมคธาทีหิ นานปฺปกาเรหิ เวรชฺเชหิ อาคตานํ, เตสุ วา รฏฺเสุ ชาตสํวฑฺฒานนฺติปิ อตฺโถ. เกนจิเทวาติ ยฺุปาสนาทินา อนิยมิตกิจฺเจน. จาตุวณฺณินฺติ จตุวณฺณสาธารณํ. มยํ ปน นฺหานสุทฺธิยา ภาวนาสุทฺธิยาปิ พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺตีติ วทาม, อยุตฺตมฺปิ สมโณ โคตโม กโรตีติ มฺมานา เอวํ จินฺตยึสุ. วุตฺตสิโรติ วาปิตสิโร.
ธมฺมวาทีติ ¶ สภาววาที. ทุปฺปฏิมนฺติยาติ อมฺหาทิเสหิ อธมฺมวาทีหิ ทุกฺเขน ปฏิมนฺติตพฺพา โหนฺติ. ธมฺมวาทิโน นาม ปราชโย น สกฺกา กาตุนฺติ ทสฺเสติ. ปริพฺพาชกนฺติ ปพฺพชฺชาวิธานํ, ตโย เวเท อุคฺคเหตฺวา สพฺพปจฺฉา ปพฺพชนฺตา เยหิ มนฺเตหิ ปพฺพชนฺติ, ปพฺพชิตา จ เย มนฺเต ปริหรนฺติ, ยํ วา อาจารํ อาจรนฺติ, ตํ สพฺพํ โภตา จริตํ สิกฺขิตํ. ตสฺมา ตุยฺหํ ปราชโย นตฺถิ, ชโยว ภวิสฺสตีติ มฺนฺตา เอวมาหํสุ.
๔๐๒. ทิสฺสนฺติ โข ปนาติอาทิ เตสํ ลทฺธิภินฺทนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ พฺราหฺมณิโยติ พฺราหฺมณานํ ปุตฺตปฏิลาภตฺถาย อาวาหวิวาหวเสน กุลา อานีตา พฺราหฺมณิโย ทิสฺสนฺติ ¶ . ตา โข ปเนตา อปเรน สมเยน อุตุนิโยปิ โหนฺติ, สฺชาตปุปฺผาติ อตฺโถ. คพฺภินิโยติ สฺชาตคพฺภา. วิชายมานาติ ปุตฺตธีตโร ชนยมานา. ปายมานาติ ทารเก ถฺํ ปายนฺติโย. โยนิชาว สมานาติ พฺราหฺมณีนํ ปสฺสาวมคฺเคน ชาตา สมานา. เอวมาหํสูติ เอวํ วทนฺติ. กถํ? พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ…เป… พฺรหฺมทายาทาติ. ยทิ ปน เนสํ สจฺจวจนํ สิยา, พฺราหฺมณีนํ กุจฺฉิ มหาพฺรหฺมุโน อุโร ภเวยฺย, พฺราหฺมณีนํ ปสฺสาวมคฺโค มหาพฺรหฺมุโน มุขํ ภเวยฺย, เอตฺตาวตา ‘‘มยํ มหาพฺรหฺมุโน อุเร วสิตฺวา มุขโต นิกฺขนฺตา’’ติ วตฺตุํ มา ลภนฺตูติ อยํ มุขโต ชาตจฺเฉทกวาโท วุตฺโต.
๔๐๓. อยฺโย หุตฺวา ทาโส โหติ, ทาโส หุตฺวา อยฺโย โหตีติ พฺราหฺมโณ สภริโย วณิชฺชํ ¶ ปโยเชนฺโต โยนกรฏฺํ วา กมฺโพชรฏฺํ วา คนฺตฺวา กาลํ กโรติ, ตสฺส เคเห วยปฺปตฺเต ปุตฺเต อสติ พฺราหฺมณี ทาเสน วา กมฺมกเรน วา สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปติ. เอกสฺมึ ทารเก ชาเต โส ปุริโส ทาโสว โหติ, ตสฺส ชาตทารโก ปน ทายชฺชสามิโก โหติ. มาติโต สุทฺโธ ปิติโต อสุทฺโธ โส วณิชฺชํ ปโยเชนฺโต มชฺฌิมปเทสํ คนฺตฺวา พฺราหฺมณทาริกํ คเหตฺวา ตสฺสา กุจฺฉิสฺมึ ปุตฺตํ ปฏิลภติ, โสปิ มาติโตว สุทฺโธ โหติ ปิติโต อสุทฺโธ. เอวํ พฺราหฺมณสมยสฺมิฺเว ชาติสมฺเภโท โหตีติ ทสฺสนตฺถเมตํ วุตฺตํ. กึ ¶ พลํ, โก อสฺสาโสติ ยตฺถ ตุมฺเห ¶ ทาสา โหนฺตา สพฺเพว ทาสา โหถ, อยฺยา โหนฺตา สพฺเพว อยฺยา โหถ, เอตฺถ โว โก ถาโม, โก อวสฺสโย, ยํ พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณติ วทถาติ ทีเปติ.
๔๐๔. ขตฺติโยว นุ โขติอาทโย สุตฺตจฺเฉทกวาทา นาม โหนฺติ.
๔๐๘. อิทานิ จาตุวณฺณิสุทฺธึ ทสฺเสนฺโต อิธ ราชาติอาทิมาห. สาปานโทณิยาติ สุนขานํ ปิวนโทณิยา. อคฺคิกรณียนฺติ สีตวิโนทนอนฺธการวิธมนภตฺตปจนาทิ อคฺคิกิจฺจํ. เอตฺถ อสฺสลายนาติ เอตฺถ สพฺพสฺมึ อคฺคิกิจฺจํ กโรนฺเต.
๔๐๙. อิทานิ ยเทตํ พฺราหฺมณา จาตุวณฺณิสุทฺธีติ วทนฺติ, เอตฺถ จาตุวณฺณาติ นิยโม นตฺถิ. ปฺจโม หิ ปาทสิกวณฺโณปิ อตฺถีติ สํขิตฺเตน เตสํ วาเท โทสทสฺสนตฺถํ อิธ ขตฺติยกุมาโรติอาทิมาห. ตตฺร อมุตฺร จ ปเนสานนฺติ อมุสฺมิฺจ ปน ปุริมนเย เอเตสํ มาณวกานํ กิฺจิ นานากรณํ น ปสฺสามีติ วทติ. นานากรณํ ปน เตสมฺปิ อตฺถิเยว. ขตฺติยกุมารสฺส หิ พฺราหฺมณกฺาย อุปฺปนฺโน ขตฺติยปาทสิโก นาม, อิตโร พฺราหฺมณปาทสิโก นาม, เอเต หีนชาติมาณวกา.
เอวํ ปฺจมสฺส วณฺณสฺส อตฺถิตาย จาตุวณฺณิสุทฺธีติ เอเตสํ วาเท โทสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปุน จาตุวณฺณิสุทฺธิยํ โอวทนฺโต ตํ กึ มฺสีติอาทิมาห. ตตฺถ ¶ สทฺเธติ มตกภตฺเต. ถาลิปาเกติ ปณฺณาการภตฺเต. ยฺเติ ยฺภตฺเต. ปาหุเนติ อาคนฺตุกานํ กตภตฺเต. กึ หีติ กึ มหปฺผลํ ภวิสฺสติ, โน ภวิสฺสตีติ ทีเปติ.
๔๑๐. ภูตปุพฺพนฺติ ¶ อสฺสลายน ปุพฺเพ มยิ ชาติยา หีนตเร ตุมฺเห เสฏฺตรา สมานาปิ มยา ชาติวาเท ปฺหํ ปุฏฺา สมฺปาเทตุํ น สกฺขิตฺถ, อิทานิ ตุมฺเห หีนตรา หุตฺวา มยา เสฏฺตเรน พุทฺธานํ สเก ชาติวาทปฺหํ ปุฏฺา กึ สมฺปาเทสฺสถ? น เอตฺถ จินฺตา กาตพฺพาติ มาณวํ อุปตฺถมฺเภนฺโต อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ อสิโตติ กาฬโก. เทวโลติ ¶ ตสฺส นามํ, อยเมว ภควา เตน สมเยน. ปฏลิโยติ คณงฺคณุปาหนา. ปตฺถณฺฑิเลติ ปณฺณสาลปริเวเณ. โก นุ โขติ กหํ นุ โข. คามณฺฑลรูโป วิยาติ คามทารกรูโป วิย. โส ขฺวาหํ, โภ, โหมีติ โส อหํ, โภ, อสิตเทวโล โหมีติ วทติ. ตทา กิร มหาสตฺโต โกณฺฑทมโก หุตฺวา วิจรติ. อภิวาเทตุํ อุปกฺกมึสูติ วนฺทิตุํ อุปกฺกมํ อกํสุ. ตโต ปฏฺาย จ วสฺสสติกตาปโสปิ ตทหุชาตํ พฺราหฺมณกุมารํ อวนฺทนฺโต โกณฺฑิโต โหติ.
๔๑๑. ชนิกา ¶ มาตาติ ยาย ตุมฺเห ชนิตา, สา โว ชนิกา มาตา. ชนิกามาตูติ ชนิกาย มาตุ. โย ชนโกติ โย ชนโก ปิตา. ‘‘โย ชนิโก ปิตาเตว’’ วา ปาโ.
อสิเตนาติ ปฺจาภิฺเน อสิเตน เทวเลน อิสินา อิมํ คนฺธพฺพปฺหํ ปุฏฺา น สมฺปายิสฺสนฺติ. เยสนฺติ เยสํ สตฺตนฺนํ อิสีนํ. น ปุณฺโณ ทพฺพิคาโหติ เตสํ สตฺตนฺนํ อิสีนํ ทพฺพึ คเหตฺวา ปณฺณํ ปจิตฺวา ทายโก ปุณฺโณ นาม เอโก อโหสิ, โส ทพฺพิคหณสิปฺปํ ชานาติ. ตฺวํ สาจริยโก เตสํ ปุณฺโณปิ น โหติ, เตน าตํ ทพฺพิคหณสิปฺปมตฺตมฺปิ น ชานาสีติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
อยํ ปน อสฺสลายโน สทฺโธ อโหสิ ปสนฺโน, อตฺตโน อนฺโตนิเวสเนเยว เจติยํ กาเรสิ. ยาวชฺชทิวสา อสฺสลายนวํเส ชาตา นิเวสนํ กาเรตฺวา อนฺโตนิเวสเน เจติยํ กโรนฺเตวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อสฺสลายนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. โฆฏมุขสุตฺตวณฺณนา
๔๑๒. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ โฆฏมุขสุตฺตํ. ตตฺถ เขมิยมฺพวเนติ เอวํนามเก อมฺพวเน. ธมฺมิโก ปริพฺพโชติ ธมฺมิกา ปพฺพชฺชา. อทสฺสนาติ ตุมฺหาทิสานํ ¶ วา ปณฺฑิตานํ อทสฺสเนน. โย วา ปเนตฺถ ธมฺโมติ โย วา ปน เอตฺถ ธมฺโม ¶ สภาโว, ตสฺเสว วา อทสฺสเนน. อิมินา ‘‘อมฺหากํ กถา อปฺปมาณํ, ธมฺโมว ปมาณ’’นฺติ ทสฺเสติ. ตโต เถโร ‘‘นวอุโปสถาคาเร วิย พหุนา กมฺเมน อิธ ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา จงฺกมา โอรุยฺห ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา นิสีทิ. ตํ ทสฺเสตุํ เอวํ วุตฺเตติอาทิ วุตฺตํ.
๔๑๓. จตฺตาโรเม พฺราหฺมณาติ เถรสฺส กิร เอตทโหสิ – ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ ‘ธมฺมิกํ ปพฺพชฺชํ อุปคโต สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา นตฺถี’ติ วทติ. อิมสฺส จตฺตาโร ปุคฺคเล ทฺเว จ ปริสา ทสฺเสตฺวา ‘จตุตฺถํ ปุคฺคลํ กตราย ปริสาย พหุลํ ปสฺสสี’ติ ปุจฺฉิสฺสามิ, ชานมาโน ‘อนาคาริยปริสาย’นฺติ วกฺขติ. เอวเมตํ สกมุเขเนว ‘ธมฺมิโก ปริพฺพโช อตฺถี’ติ วทาเปสฺสามี’’ติ อิมํ เทสนํ อารภิ.
๔๑๔. ตตฺถ สารตฺตรตฺตาติ สุฏฺุ รตฺตรตฺตา. สานุคฺคหา วาจา ภาสิตา สการณา วาจา ภาสิตา. วุตฺตฺเหตํ มยา ‘‘อมฺหากํ กถา อปฺปมาณํ, ธมฺโมว ปมาณ’’นฺติ.
๔๒๑. กึ ปน เตติ คิหิ นาม กปฺปิยมฺปิ อกปฺปิยมฺปิ วเทยฺยาติ วิเวจนตฺถํ ปุจฺฉิ. การาเปสีติ มาเปสิ. การาเปตฺวา จ ปน กาลํ กตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺโต. เอตสฺส กิร ชานนสิปฺเป มาตรมฺปิ ปิตรมฺปิ ฆาเตตฺวา อตฺตาว ฆาเตตพฺโพติ อาคจฺฉติ. เอตํ สิปฺปํ ชานนฺโต เปตฺวา เอตํ อฺโ สคฺเค นิพฺพตฺโต นาม นตฺถิ, เอส ปน เถรํ อุปนิสฺสาย ปฺุํ กตฺวา ตตฺถ นิพฺพตฺติตฺวา จ ปน ‘‘เกนาหํ กมฺเมน อิธ นิพฺพตฺโต’’ติ อาวชฺเชตฺวา ยถาภูตํ ¶ ตฺวา เอกทิวสํ ชิณฺณาย โภชนสาลาย ปฏิสงฺขรณตฺถํ สงฺเฆ สนฺนิปติเต มนุสฺสเวเสน อาคนฺตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘กิมตฺถํ, ภนฺเต, สงฺโฆ สนฺนิปติโต’’ติ? โภชนสาลาย ¶ ปฏิสงฺขรณตฺถนฺติ. เกเนสา การิตาติ? โฆฏมุเขนาติ. อิทานิ โส กุหินฺติ? กาลงฺกโตติ. อตฺถิ ปนสฺส โกจิ าตโกติ? อตฺถิ เอกา ภคินีติ. ปกฺโกสาเปถ นนฺติ. ภิกฺขู ปกฺโกสาเปสุํ. โส ตํ อุปสงฺกมิตฺวา – ‘‘อหํ, ตว ภาตา, โฆฏมุโข นาม อิมํ สาลํ กาเรตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺโต, อสุเก จ อสุเก จ าเน มยา ปิตํ ธนํ ¶ อตฺถิ, ตํ คเหตฺวา อิมฺจ โภชนสาลํ กาเรหิ, ทารเก จ โปเสหี’’ติ วตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ วนฺทิตฺวา เวหาสํ อุปฺปติตฺวา เทวโลกเมว อคมาสิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
โฆฏมุขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จงฺกีสุตฺตวณฺณนา
๔๒๒. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ จงฺกีสุตฺตํ. ตตฺถ เทววเน สาลวเนติ ตสฺมึ กิร เทวตานํ พลิกมฺมํ กรียติ, เตน ตํ เทววนนฺติปิ สาลวนนฺติปิ วุจฺจติ. โอปาสาทํ อชฺฌาวสตีติ โอปาสาทนามเก พฺราหฺมณคาเม วสติ, อภิภวิตฺวา วา อาวสติ, ตสฺส สามี หุตฺวา ยาย มริยาทาย ตตฺถ วสิตพฺพํ, ตาย มริยาทาย วสติ. อุปสคฺควเสน ปเนตฺถ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ เวทิตพฺพํ, ตถสฺส อนุปฺปโยคตฺตาว เสสปเทสุ. ตตฺถ ลกฺขณํ สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺพํ. สตฺตุสฺสทนฺติ ¶ สตฺเตหิ อุสฺสทํ อุสฺสนฺนํ, พหุชนํ อากิณฺณมนุสฺสํ โปสาวนิยหตฺถิอสฺสโมรมิคาทิอเนกสตฺตสมากิณฺณฺจาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน โส คาโม พหิ อาวิชฺฌิตฺวา ชาเตน หตฺถิอสฺสาทีนํ ฆาสติเณน เจว เคหจฺฉทนติเณน จ สมฺปนฺโน, ตถา ทารุกฏฺเหิ เจว เคหสมฺภารกฏฺเหิ จ, ยสฺมา จสฺส อพฺภนฺตเร วฏฺฏจตุรสฺสาทิสณฺานา พหู โปกฺขรณิโย, ชลชกุสุมวิจิตฺตานิ จ พหิ อเนกานิ ตฬากานิ วา อุทกสฺส นิจฺจภริตาเนว โหนฺติ, ตสฺมา สติณกฏฺโทกนฺติ วุตฺตํ.
สห ธฺเน สธฺํ, ปุพฺพณฺณาปรณฺณาทิเภทํ พหุธฺสนฺนิจยนฺติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา ยสฺมึ คาเม พฺราหฺมโณ เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา ราชลีลาย วสติ. ตสฺส สมิทฺธิสมฺปตฺติ ทีปิตา โหติ. ราชโต ลทฺธํ โภคฺคํ ราชโภคฺคํ. เกน ทินฺนนฺติ เจ, รฺา ปเสนทินา โกสเลน ทินฺนํ. ราชทายนฺติ รฺโ ทายภูตํ, ทายชฺชนฺติ อตฺโถ. พฺรหฺมเทยฺยนฺติ เสฏฺเทยฺยํ, ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา ราชสงฺเขเปน ภฺุชิตพฺพนฺติ อตฺโถ. อถ วา ราชโภคฺคนฺติ สพฺพํ เฉชฺชเภชฺชํ อนุสาสนฺเตน ติตฺถปพฺพตาทีสุ สุงฺกํ ¶ คณฺหนฺเตน เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา รฺา หุตฺวา ภฺุชิตพฺพํ. ตตฺถ รฺา ปเสนทินา โกสเลน ทินฺนํ ราชทายนฺติ. เอตฺถ รฺา ทินฺนตฺตา ราชทายํ, ทายกราชทีปนตฺถํ ปนสฺส ‘‘รฺา ปเสนทินา โกสเลน ทินฺน’’นฺติ อิทํ วุตฺตํ. พฺรหฺมเทยฺยนฺติ เสฏฺเทยฺยํ, ยถา ทินฺนํ น ปุน คเหตพฺพํ โหติ นิสฺสฏฺปริจฺจตฺตํ, เอวํ ทินฺนนฺติ อตฺโถ.
๔๒๓. พหู ¶ พหู หุตฺวา สํหตาติ สงฺฆา. เอเกกิสฺสา ทิสาย สงฺโฆ เตสํ อตฺถีติ สงฺฆี. ปุพฺเพ ¶ คามสฺส อนฺโต อคณา พหิ นิกฺขมิตฺวา คณา สมฺปนฺนาติ คณีภูตา. อุตฺตเรนมุขาติ อุตฺตรทิสาภิมุขา. ขตฺตํ อามนฺเตสีติ ขตฺตา วุจฺจติ ปุจฺฉิตปฺหพฺยากรณสมตฺโถ มหามตฺโต, ตํ อามนฺเตสิ. อาคเมนฺตูติ มุหุตฺตํ ปฏิมาเนนฺตุ, อจฺฉนฺตูติ วุตฺตํ โหติ.
๔๒๔. นานาเวรชฺชกานนฺติ นานาวิเธสุ รชฺเชสุ อฺเสุ กาสิโกสลาทีสุ ชาตา วา นิวสนฺติ วา, ตโต วา อาคตาติ นานาเวรชฺชกา, เตสํ นานาเวรชฺชกานํ. เกนจิเทวาติ อนิยมิเตน ยฺุปาสนาทินา เกนจิ กิจฺเจน. เต ตสฺส คมนํ สุตฺวา จินฺเตสุํ – ‘‘อยํ, จงฺกี, อุคฺคตพฺราหฺมโณ, เยภุยฺเยน จ อฺเ พฺราหฺมณา สมณํ โคตมํ สรณํ คตา, อยเมว น คโต. สฺวายํ สเจ ตตฺถ คมิสฺสติ, อทฺธา สมณสฺส โคตมสฺส อาวฏฺฏนิยา มายาย อาวฏฺฏิโต สรณํ คมิสฺสติ. ตโต เอตสฺสาปิ เคหทฺวาเร พฺราหฺมณานํ อสนฺนิปาโต ภวิสฺสติ. หนฺทสฺส คมนนฺตรายํ กโรมา’’ติ สมฺมนฺตยิตฺวา ตตฺถ อคมํสุ. ตํ สนฺธาย ‘‘อถ โข เต พฺราหฺมณา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺถ อุภโตติ ทฺวีหิ ปกฺเขหิ. มาติโต ¶ จ ปิติโต จาติ, โภโต มาตา พฺราหฺมณี, มาตุมาตา พฺราหฺมณี, ตสฺสาปิ มาตา พฺราหฺมณี. ปิตา พฺราหฺมโณ, ปิตุปิตา พฺราหฺมโณ, ตสฺสปิ ปิตา พฺราหฺมโณติ. เอวํ ภวํ อุภโต สุชาโต, มาติโต จ ปิติโต จ. สํสุทฺธคหณิโกติ ¶ สํสุทฺธา เต มาตุ คหณี, สํสุทฺธา เต มาตุ กุจฺฉีติ อตฺโถ. ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคาติ เอตฺถ ปิตุ ปิตา ปิตามโห, ปิตามหสฺส ยุคํ ปิตามหยุคํ. ยุคนฺติ อายุปฺปมาณํ วุจฺจติ. อภิลาปมตฺตเมว เจตํ, อตฺถโต ปน ปิตามโหว ปิตามหยุคํ. ตโต อุทฺธํ สพฺเพปิ ปุพฺพปุริสา ปิตามหคฺคหเณเนว คหิตา. เอวํ ยาว สตฺตโม ปุริโส, ตาว สํสุทฺธคหณิโก. อถ วา อกฺขิตฺโต อนุปกุฏฺโ ชาติวาเทนาติ ทสฺเสติ. อกฺขิตฺโตติ อปเนถ เอตํ, กึ อิมินาติ เอวํ อกฺขิตฺโต อนวกฺขิตฺโต. อนุปกฺกุฏฺโติ น อุปกุฏฺโ, น อกฺโกสํ วา นินฺทํ วา ปตฺตปุพฺโพ. เกน การเณนาติ. ชาติวาเทน, อิติปิ หีนชาติโก เอโสติ เอวรูเปน วจเนนาติ อตฺโถ. อิมินาปงฺเคนาติ อิมินาปิ การเณน.
อฑฺโฒติ อิสฺสโร. มหทฺธโนติ มหตา ธเนน สมนฺนาคโต. โภโต หิ เคเห ปถวิยํ ปํสุวาลิกา วิย พหุ ธนํ, สมโณ ปน โคตโม อธโน ภิกฺขาย อุทรํ ปูเรตฺวา ยาเปตีติ ทสฺเสนฺติ ¶ . มหาโภโคติ ปฺจกามคุณวเสน มหาอุปโภโค. เอวํ ยํ ยํ คุณํ วทนฺติ, ตสฺส ตสฺส ปฏิปกฺขวเสน ¶ ภควโต อคุณํเยว ทสฺเสมาติ มฺมานา วทนฺติ.
อภิรูโปติ อฺเหิ มนุสฺเสหิ อธิกรูโป. ทสฺสนีโยติ ทิวสมฺปิ ปสฺสนฺตานํ อติตฺติกรณโต ทสฺสนโยคฺโค, ทสฺสเนเนว จิตฺตปสาทชนนโต ปาสาทิโก. โปกฺขรตา วุจฺจติ สุนฺทรภาโว, วณฺณสฺส โปกฺขรตา วณฺณโปกฺขรตา, ตาย วณฺณโปกฺขรตาย, วณฺณสมฺปตฺติยาติ อตฺโถ. โปราณา ปน โปกฺขรนฺติ สรีรํ วทนฺติ, วณฺณํ วณฺณเมว. เตสํ มเตน วณฺโณ จ โปกฺขรฺจ วณฺณโปกฺขรานิ, เตสํ ภาโว วณฺณโปกฺขรตา. อิติ ปรมาย วณฺณโปกฺขรตายาติ อุตฺตมปริสุทฺเธน วณฺเณน เจว สรีรสณฺานสมฺปตฺติยา จาติ อตฺโถ. พฺรหฺมวณฺณีติ เสฏฺวณฺณี, ปริสุทฺธวณฺเณสุปิ เสฏฺเน สุวณฺณวณฺเณเนว สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. พฺรหฺมวจฺฉสีติ มหาพฺรหฺมุโน สรีรสทิเสน สรีเรน สมนฺนาคโต. อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนายาติ โภโต สรีเร ทสฺสนสฺส โอกาโส น ขุทฺทโก มหา. สพฺพาเนว เต องฺคปจฺจงฺคานิ ทสฺสนียาเนว, ตานิ จาปิ มหนฺตาเนวาติ ทีเปติ.
สีลมสฺส ¶ อตฺถีติ สีลวา. วุทฺธํ วฑฺฒิตํ สีลมสฺสาติ วุทฺธสีลี. วุทฺธสีเลนาติ วุทฺเธน วฑฺฒิเตน สีเลน. สมนฺนาคโตติ ยุตฺโต, อิทํ วุทฺธสีลีปทสฺเสว เววจนํ. สพฺพเมตํ ปฺจสีลมตฺตเมว สนฺธาย วทนฺติ.
กาลฺยาณวาโจติอาทีสุ กลฺยาณา สุนฺทรา ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนา วาจา อสฺสาติ กลฺยาณวาโจ. กลฺยาณํ มธุรํ วากฺกรณํ อสฺสาติ กลฺยาณวากฺกรโณ. วากฺกรณนฺติ อุทาหรณโฆโส. คุณปริปุณฺณภาเวน ¶ ปุเร ภวาติ โปรี. ปุเร วา ภวตฺตา โปรี. นาคริกิตฺถิยา สุขุมาลตฺตเนน สทิสาติปิ โปรี. ตาย โปริยา. วิสฺสฏฺายาติ อปลิพุทฺธาย, สนฺทิฏฺวิลมฺพิตาทิโทสรหิตาย. อเนลคลายาติ เอลคเลน วิรหิตาย. เอกจฺจสฺส หิ กเถนฺตสฺส เอลํ คลติ, ลาลา วา ปคฺฆรติ, เขฬผุสิตานิ วา นิกฺขมนฺติ, ตสฺส วาจา เอลคลา นาม โหติ. ตพฺพิปริตายาติ อตฺโถ. อตฺถสฺส วิฺาปนิยาติอาทิมชฺฌปริโยสานํ ปากฏํ กตฺวา ภาสิตตฺถสฺส วิฺาปนสมตฺถาย. เสสเมตฺถ พฺราหฺมณวณฺเณ อุตฺตานเมว.
๔๒๕. เอวํ ¶ วุตฺเตติ เอวํ เตหิ พฺราหฺมเณหิ วุตฺเต, จงฺกี, ‘‘อิเม พฺราหฺมณา อตฺตโน วณฺเณ วุจฺจมาเน อตุสฺสนกสตฺโต นาม นตฺถิ, วณฺณมสฺส ภณิตฺวา นิวาเรสฺสามาติ ชาติอาทีหิ มม วณฺณํ วทนฺติ, น โข ปน เม ยุตฺตํ อตฺตโน วณฺเณ รชฺชิตุํ. หนฺทาหํ เอเตสํ วาทํ ภินฺทิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส มหนฺตภาวํ าเปตฺวา เอเตสํ ตตฺถ คมนํ กโรมี’’ติ จินฺเตตฺวา เตน หิ, โภ, มมาปิ สุณาถาติอาทิมาห. ตตฺถ เยปิ ‘‘อุภโต สุชาโต’’ติอาทโย อตฺตโน คุเณหิ สทิสา คุณา, เตปิ ‘‘โก จาหํ, เก จ สมณสฺส โคตมสฺส ชาติสมฺปตฺติอาทโย คุณา’’ติ อตฺตโน คุเณหิ อุตฺตริตเรเยว มฺมาโน, อิตเร ปน เอกนฺเตเนว ภควโต มหนฺตภาวทีปนตฺถํ ปกาเสติ. มยเมว อรหามาติ เอวํ นิยเมนฺโต เจตฺถ อิทํ ¶ ทีเปติ – ยทิ คุณมหนฺตตาย อุปสงฺกมิตพฺโพ นาม โหติ, ยถา สิเนรุํ อุปนิธาย สาสโป, มหาสมุทฺทํ อุปนิธาย โคปทกํ, สตฺตสุ มหาสเรสุ อุทกํ อุปนิธาย อุสฺสาวพินฺทุ ปริตฺโต ลามโก, เอวเมวํ สมณสฺส โคตมสฺส ชาติสมฺปตฺติอาทโย คุเณ อุปนิธาย อมฺหากํ คุณา ¶ ปริตฺตา ลามกา, ตสฺมา มยเมว อรหาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุนฺติ.
ภูมิคตฺจ เวหาสฏฺฺจาติ เอตฺถ ราชงฺคเณ เจว อุยฺยาเน จ สุธามฏฺา โปกฺขรณิโย สตฺตรตนปูรึ กตฺวา ภูมิยํ ปิตํ ธนํ ภูมิคตํ นาม, ปาสาทนิยูหาทโย ปน ปูเรตฺวา ปิตํ เวหาสฏฺํ นาม. เอวํ ตาว กุลปริยาเยน อาคตํ. ตถาคตสฺส ปน ชาตทิวเสเยว สงฺโข เอโล อุปฺปโล ปุณฺฑรีโกติ จตฺตาโร นิธโย อุปคตา. เตสุ สงฺโข คาวุติโก, เอโล อฑฺฒโยชนิโก, อุปฺปโล ติคาวุติโก ปุณฺฑรีโก โยชนิโกติ. เตสุปิ คหิตคหิตฏฺานํ ปูรติเยว. อิติ ภควา ปหูตํ หิรฺสุวณฺณํ โอหาย ปพฺพชิโตติ เวทิตพฺโพ. ทหโร วาติอาทีนิ เหฏฺา วิตฺถาริตาเนว.
อขุทฺทาวกาโสติ เอตฺถ ภควติ อปริมาโณเยว ทสฺสนาวกาโสติ เวทิตพฺโพ. ตตฺริทํ วตฺถุํ – ราชคเห กิร อฺตโร พฺราหฺมโณ ‘‘สมณสฺส กิร โคตมสฺส ปมาณํ คเหตุํ น สกฺกา’’ติ สุตฺวา ภควโต ปิณฺฑาย ปวิสนกาเล สฏฺิหตฺถํ เวฬุํ คเหตฺวา นครทฺวารสฺส พหิ ตฺวา สมฺปตฺเต ภควติ เวฬุํ คเหตฺวา สมีเป อฏฺาสิ, เวฬุ ภควโต ชาณุมตฺตํ ปาปุณิ. ปุนทิวเส ทฺเว เวฬู ฆเฏตฺวา สมีเป อฏฺาสิ ¶ , ภควา ทฺวินฺนํ เวฬูนํ อุปริ ทฺวิเวณุมตฺตเมว ปฺายมาโน, ‘‘พฺราหฺมณ, กึ กโรสี’’ติ อาห? ตุมฺหากํ ปมาณํ คณฺหามีติ. ‘‘พฺราหฺมณ, สเจปิ ตฺวํ สกลจกฺกวาฬคพฺภํ ปูเรตฺวา ิตเวฬุํ ฆเฏตฺวา อาคมิสฺสสิ, เนว เม ปมาณํ คเหตุํ ¶ สกฺขิสฺสสิ. น หิ มยา จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ กปฺปสตสหสฺสฺจ ตถา ปารมิโย ปูริตา, ยถา เม ปโร ปมาณํ คณฺเหยฺย, อตุโล พฺราหฺมณ, ตถาคโต อปฺปเมยฺโย’’ติ วตฺวา ธมฺมปเท คาถมาห. คาถาปริโยสาเน จตุราสีติปาณสหสฺสานิ อมตํ ปิวึสุ.
อปรมฺปิ วตฺถุ – ราหุ กิร อสุรินฺโท จตฺตาริ โยชนสหสฺสานิ อฏฺ จ โยชนสตานิ อุจฺโจ, พาหนฺตรมสฺส ทฺวาทสโยชนสตานิ, หตฺถตลปาทตลานํ ปุถุลตา ตีณิ โยชนสตานิ, องฺคุลิปพฺพานิ ปณฺณาสโยชนานิ ¶ , ภมุกนฺตรํ ปณฺณาสโยชนํ, นลาฏํ ติโยชนสตํ, สีสํ นวโยชนสตํ. โส – ‘‘อหํ อุจฺโจสฺมิ, สตฺถารํ โอนมิตฺวา โอโลเกตุํ น สกฺขิสฺสามี’’ติ น คจฺฉติ. โส เอกทิวสํ ภควโต วณฺณํ สุตฺวา ‘‘ยถา กถฺจ โอโลเกสฺสามี’’ติ อาคโต. ภควา ตสฺส อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา ‘‘จตูสุ อิริยาปเถสุ กตเรน ทสฺเสมี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ิตโก นาม นีโจปิ อุจฺโจ วิย ปฺายติ, นิปนฺโนวสฺส อตฺตานํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ, ‘‘อานนฺท, คนฺธกุฏิปริเวเณ มฺจกํ ปฺาเปหี’’ติ วตฺวา ตตฺถ สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ. ราหุ อาคนฺตฺวา นิปนฺนํ ภควนฺตํ คีวํ อุนฺนาเมตฺวา นภมชฺเฌ ปุณฺณจนฺทํ วิย อุลฺโลเกติ. กิมิทํ อสุรินฺทาติ จ วุตฺเต, ภควา โอนมิตฺวา โอโลเกตุํ น สกฺขิสฺสามีติ ¶ น คจฺฉินฺติ. น มยา อสุรินฺท อโธมุเขน ปารมิโย ปูริตา, อุทฺธคฺคํ เม กตฺวา ทานํ ทินฺนนฺติ. ตํทิวสํ ราหุ สรณํ อคมาสิ. เอวํ ภควา อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย.
จตุปาริสุทฺธิสีเลน สีลวา. ตํ ปน สีลํ อริยํ อุตฺตมํ ปริสุทฺธํ, เตนาห อริยสีลีติ. ตเทว อนวชฺชฏฺเน กุสลํ, เตนาห กุสลสีลีติ. กุสเลน สีเลนาติ อิทมสฺส เววจนํ. พหูนํ อาจริยปาจริโยติ ภควโต เอเกกาย ธมฺมเทสนาย จตุราสีติปาณสหสฺสานิ อปริมาณาปิ เทวมนุสฺสา มคฺคผลามตํ ปิวนฺติ. ตสฺมา พหูนํ อาจริโย, สาวกวิเนยฺยานํ ปาจริโยติ.
ขีณกามราโคติ เอตฺถ กามํ ภควโต สพฺเพปิ กิเลสา ขีณา, พฺราหฺมโณ ปน เต น ชานาติ, อตฺตโน ชานนฏฺาเนเยว คุณํ กเถติ. วิคตจาปลฺโลติ ‘‘ปตฺตมณฺฑนา จีวรมณฺฑนา เสนาสนมณฺฑนา อิมสฺส วา ปูติกายสฺส…เป… เกลนา ปฏิเกลนา’’ติ เอวํ วุตฺตจาปลฺยวิรหิโต.
อปาปปุเรกฺขาโรติ ¶ อปาเป นวโลกุตฺตรธมฺเม ปุรโต กตฺวา วิจรติ. พฺรหฺมฺาย ปชายาติ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานมหากสฺสปาทิเภทาย พฺราหฺมณปชาย. (อวิรุทฺโธ หิ โส) เอติสฺสาย ปชาย ปุเรกฺขาโร. อยฺหิ ปชา สมณํ โคตมํ ปุรโต กตฺวา ¶ จรตีติ ¶ อตฺโถ. อปิจ อปาปปุเรกฺขาโรติ น ปาปุปุเรกฺขาโร, น ปาปํ ปุรโต กตฺวา จรติ, ปาปํ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ. กสฺส? พฺรหฺมฺาย ปชาย อตฺตนา สทฺธึ ปฏิวิรุทฺธายปิ พฺราหฺมณปชาย อวิรุทฺโธ หิตสุขตฺถิโกเยวาติ วุตฺตํ โหติ.
ติโรรฏฺาติ ปรรฏฺโต. ติโรชนปทาติ ปรชนปทโต. สํปุจฺฉิตุํ อาคจฺฉนฺตีติ ขตฺติยปณฺฑิตาทโย เจว พฺราหฺมณคนฺธพฺพาทโย จ ปฺเห อภิสงฺขริตฺวา ปุจฺฉิสฺสามาติ อาคจฺฉนฺติ. ตตฺถ เกจิ ปุจฺฉาย วา โทสํ วิสฺสชฺชนสมฺปฏิจฺฉเน วา อสมตฺถตํ สลฺลกฺเขตฺวา อปุจฺฉิตฺวาว ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เกจิ ปุจฺฉนฺติ, เกสฺจิ ภควา ปุจฺฉาย อุสฺสาหํ ชเนตฺวา วิสฺสชฺเชติ. เอวํ สพฺเพสมฺปิ เตสํ วิมติโย ตีรํ ปตฺวา มหาสมุทฺทสฺส อูมิโย วิย ภควนฺตํ ปตฺวาว ภิชฺชนฺติ. เสสเมตฺถ ตถาคตสฺส วณฺเณ อุตฺตานเมว.
อติถี โน เต โหนฺตีติ เต อมฺหากํ อาคนฺตุกา นวกา ปาหุนกา โหนฺตีติ อตฺโถ. ปริยาปุณามีติ ชานามิ. อปริมาณวณฺโณติ ตถารูเปเนว สพฺพฺุนาปิ อปฺปเมยฺยวณฺโณ, ปเคว มาทิเสนาติ ทสฺเสติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘พุทฺโธปิ พุทฺธสฺส ภเณยฺย วณฺณํ,
กปฺปมฺปิ เจ อฺมภาสมาโน;
ขีเยถ กปฺโป จิรทีฆมนฺตเร,
วณฺโณ น ขีเยถ ตถาคตสฺสา’’ติ.
อิมํ ปน คุณกถํ สุตฺวา เต พฺราหฺมณา จินฺตยึสุ ‘‘ยถา, จงฺกี, สมณสฺส โคตมสฺส วณฺณํ ภาสติ, อโนมคุโณ ¶ โส ภวํ โคตโม, เอวํ ตสฺส คุเณ ชานมาเนน โข ปน อิมินา อติจิรํ อธิวาสิตํ, หนฺท นํ อนุวตฺตามา’’ติ อนุวตฺตมานา ‘‘เตน หิ, โภ’’ติอาทิมาหํสุ.
๔๒๖. โอปาเตตีติ ¶ ปเวเสติ. สํปุเรกฺขโรนฺตีติ ปุตฺตมตฺตนตฺตมตฺตมฺปิ สมานํ ปุรโต กตฺวา วิจรนฺติ.
๔๒๗. มนฺตปทนฺติ มนฺตาเยว มนฺตปทํ, เวโทติ อตฺโถ. อิติหิติห ปรมฺปรายาติ เอวํ กิร เอวํ กิราติ ปรมฺปรภาเวน อาคตนฺติ ทีเปติ. ปิฏกสมฺปทายาติ ¶ ปาวจนสงฺขาตสมฺปตฺติยา. สาวิตฺติอาทีหิ ฉนฺทพนฺเธหิ จ วคฺคพนฺเธหิ จ สมฺปาเทตฺวา อาคตนฺติ ทสฺเสติ. ตตฺถ จาติ ตสฺมึ มนฺตปเท. ปวตฺตาโรติ ปวตฺตยิตาโร. เยสนฺติ เยสํ สนฺตกํ. มนฺตปทนฺติ เวทสงฺขาตํ มนฺตเมว. คีตนฺติ อฏฺกาทีหิ ทสหิ โปราณกพฺราหฺมเณหิ ปทสมฺปตฺติวเสน สชฺฌายิตํ. ปวุตฺตนฺติ อฺเสํ วุตฺตํ, วาจิตนฺติ อตฺโถ. สมิหิตนฺติ สมุปพฺยูฬฺหํ ราสิกตํ, ปิณฺฑํ กตฺวา ปิตนฺติ อตฺโถ. ตทนุคายนฺตีติ เอตรหิ พฺราหฺมณา ตํ เตหิ ปุพฺเพ คีตํ อนุคายนฺติ อนุสชฺฌายนฺติ วาเทนฺติ. ตทนุภาสนฺตีติ ตํ อนุภาสนฺติ, อิทํ ปุริมสฺเสว เววจนํ. ภาสิตมนุภาสนฺตีติ เตหิ ภาสิตํ สชฺฌายิตํ อนุสชฺฌายนฺติ. วาจิตมนุวาเจนฺตีติ ¶ เตหิ อฺเสํ วาจิตํ อนุวาเจนฺติ. เสยฺยถิทนฺติ เต กตเมติ อตฺโถ. อฏฺโกติอาทีนิ เตสํ นามานิ, เต กิร ทิพฺเพน จกฺขุนา โอโลเกตฺวา ปรูปฆาตํ อกตฺวา กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ภควโต ปาวจเนน สห สํสนฺเทตฺวา มนฺเต คนฺเถสุํ, อปราปเร ปน พฺราหฺมณา ปาณาติปาตาทีนิ ปกฺขิปิตฺวา ตโย เวเท ภินฺทิตฺวา พุทฺธวจเนน สทฺธึ วิรุทฺเธ อกํสุ.
๔๒๘. อนฺธเวณีติ อนฺธปเวณี. เอเกน หิ จกฺขุมตา คหิตยฏฺิยา โกฏึ เอโก อนฺโธ คณฺหาติ, ตํ อนฺธํ อฺโ, ตํ อฺโติ เอวํ ปณฺณาส สฏฺิ อนฺธา ปฏิปาฏิยา ฆฏิตา อนฺธเวณีติ วุจฺจติ. ปรมฺปราสํสตฺตาติ อฺมฺํ ลคฺคา, ยฏฺิคฺคาหเกนปิ จกฺขุมตา วิรหิตาติ อตฺโถ. เอโก กิร ธุตฺโต อนฺธคณํ ทิสฺวา ‘‘อสุกสฺมึ นาม คาเม ขชฺชโภชฺชํ สุลภ’’นฺติ อุสฺสาเหตฺวา เตหิ ‘‘ตตฺถ โน สามิ เนหิ, อิทํ นาม เต เทมา’’ติ วุตฺเต ลฺชํ คเหตฺวา อนฺตรามคฺเค มคฺคา โอกฺกมฺม มหนฺตํ คจฺฉํ อนุปริคนฺตฺวา ปุริมสฺส หตฺเถน ปจฺฉิมสฺส กจฺฉํ คณฺหาเปตฺวา ‘‘กิฺจิ กมฺมํ อตฺถิ, คจฺฉถ ตาว ตุมฺเห’’ติ วตฺวา ปลายิ. เต ทิวสมฺปิ คนฺตฺวา มคฺคํ อวินฺทมานา ‘‘กหํ, โภ, จกฺขุมา กหํ มคฺโค’’ติ ปริเทวิตฺวา มคฺคํ อวินฺทมานา ตตฺเถว มรึสุ. เต สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปรมฺปราสํสตฺตา’’ติ. ปุริโมปีติ ปุริเมสุ ทสสุ พฺราหฺมเณสุ เอโกปิ. มชฺฌิโมปีติ ¶ มชฺเฌ อาจริยปาจริเยสุ เอโกปิ. ปจฺฉิโมปีติ อิทานิ พฺราหฺมเณสุ เอโกปิ.
ปฺจ ¶ ¶ โขติ ปาฬิอาคเตสุ ทฺวีสุ อฺเปิ เอวรูเป ตโย ปกฺขิปิตฺวา วทติ. ทฺเวธาวิปากาติ ภูตวิปากา วา อภูตวิปากา วา. นาลเมตฺถาติ, ภารทฺวาช, สจฺจํ อนุรกฺขิสฺสามีติ ปฏิปนฺเนน วิฺุนา ‘‘ยํ มยา คหิตํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ เอตฺถ เอกํเสเนว นิฏฺํ คนฺตุํ นาลํ น ยุตฺตนฺติ อุปริ ปุจฺฉาย มคฺคํ วิวริตฺวา เปสิ.
๔๓๐. อิธ, ภารทฺวาช, ภิกฺขูติ ชีวกสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๕๑ อาทโย) วิย มหาวจฺฉสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๑๙๓ อาทโย) วิย จ อตฺตานฺเว สนฺธาย วทติ. โลภนีเยสุ ธมฺเมสูติ โลภธมฺเมสุ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย.
๔๓๒. สทฺธํ นิเวเสตีติ โอกปฺปนิยสทฺธํ นิเวเสติ. อุปสงฺกมตีติ อุปคจฺฉติ. ปยิรุปาสตีติ สนฺติเก นิสีทติ. โสตนฺติ ปสาทโสตํ โอทหติ. ธมฺมนฺติ เทสนาธมฺมํ สุณาติ. ธาเรตีติ ปคุณํ กตฺวา ธาเรติ. อุปปริกฺขตีติ อตฺถโต จ การณโต จ วีมํสติ. นิชฺฌานํ ขมนฺตีติ โอโลกนํ ขมนฺติ, อิธ สีลํ กถิตํ, อิธ สมาธีติ เอวํ อุปฏฺหนฺตีติ อตฺโถ. ฉนฺโทติ กตฺตุกมฺยตา ฉนฺโท. อุสฺสหตีติ วายมติ. ตุเลตีติ อนิจฺจาทิวเสน ตีเรติ. ปทหตีติ มคฺคปธานํ ปทหติ. กาเยน เจว ปรมสจฺจนฺติ สหชาตนามกาเยน จ ¶ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ, ปฺาย จ กิเลเส นิพฺพิชฺฌิตฺวา ตเทว วิภูตํ ปากฏํ กโรนฺโต ปสฺสติ.
๔๓๓. สจฺจานุโพโธติ มคฺคานุโพโธ. สจฺจานุปฺปตฺตีติ ผลสจฺฉิกิริยา. เตสํเยวาติ เหฏฺา วุตฺตานํ ทฺวาทสนฺนํ, เอวํ ทีฆํ มคฺควาทํ อนุโลเมติ, ตสฺมา นายมตฺโถ. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – เตสํเยวาติ เตสํ มคฺคสมฺปยุตฺตธมฺมานํ. ปธานนฺติ มคฺคปธานํ. ตฺหิ ผลสจฺฉิกิริยสงฺขาตาย สจฺจานุปฺปตฺติยา พหุการํ, มคฺเค อสติ ผลาภาวโตติ. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จงฺกีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. เอสุการีสุตฺตวณฺณนา
๔๓๗. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ เอสุการีสุตฺตํ. ตตฺถ พิลํ โอลคฺเคยฺยุนฺติ โกฏฺาสํ ลคฺคาเปยฺยุํ, อิมินา สตฺถธมฺมํ นาม ทสฺเสติ. สตฺถวาโห กิร มหากนฺตารปฏิปนฺโน อนฺตรามคฺเค โคเณ มเต มํสํ คเหตฺวา สพฺเพสํ สตฺถิกานํ ‘‘อิทํ ขาทิตฺวา เอตฺตกํ มูลํ ทาตพฺพ’’นฺติ โกฏฺาสํ โอลคฺเคติ, โคณมํสํ นาม ขาทนฺตาปิ อตฺถิ อขาทนฺตาปิ, มูลํ ทาตุํ สกฺโกนฺตาปิ อสกฺโกนฺตาปิ. สตฺถวาโห เยน มูเลน โคโณ คหิโต, ตสฺส นิกฺขมนตฺถํ ¶ สพฺเพสํ พลกฺกาเรน โกฏฺาสํ ทตฺวา มูลํ คณฺหาติ, อยํ สตฺถธมฺโม. เอวเมวํ พฺราหฺมณาปิ โลกสฺส ปฏิฺํ อคฺคเหตฺวา อตฺตโนว ธมฺมตาย จตสฺโส ปาริจริยา ปฺเปนฺตีติ ทสฺเสตุํ เอวเมว โขติอาทิมาห. ปาปิโย อสฺสาติ ปาปํ อสฺส. เสยฺโย อสฺสาติ หิตํ อสฺส. อถ วา ปาปิโยติ ปาปโก ลามโก อตฺตภาโว อสฺส. เสยฺโยติ เสฏฺโ อุตฺตโม. เสยฺยํโสติ เสยฺโย. อุจฺจากุลีนตาติ อุจฺจากุลีนตฺเตน เสยฺโย. ปาปิยํโสติ ปาปิโย. อุจฺจากุลีนตา จ ทฺวีสุ กุเลสุ วฑฺเฒติ ขตฺติยกุเล พฺราหฺมณกุเล จ, อุฬารวณฺณตา ตีสุ. เวสฺโสปิ หิ อุฬารวณฺโณ โหติ. อุฬารโภคตา จตูสุปิ. สุทฺโทปิ หิ อนฺตมโส จณฺฑาโลปิ อุฬารโภโค โหติเยว.
๔๔๐. ภิกฺขาจริยนฺติ โกฏิธเนนปิ หิ พฺราหฺมเณน ภิกฺขา จริตพฺพาว, โปราณกพฺราหฺมณา อสีติโกฏิธนาปิ เอกเวลํ ภิกฺขํ จรนฺติ. กสฺมา? ทุคฺคตกาเล จรนฺตานํ อิทานิ ภิกฺขํ จริตุํ อารทฺธาติ ครหา น ภวิสฺสตีติ. อติมฺมาโนติ โย ภิกฺขาจริยวํสํ หริตฺวา สตฺตชีวกสิกมฺมวณิชฺชาทีหิ ชีวิกํ กปฺเปติ, อยํ อติมฺติ นาม. โคโป วาติ ยถา โคปโก อตฺตนา รกฺขิตพฺพํ ภณฺฑํ เถเนนฺโต อกิจฺจการี โหติ, เอวนฺติ อตฺโถ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อสิตพฺยาภงฺคินฺติ ¶ ติณลายนอสิตฺเจว กาชฺจ. อนุสฺสรโตติ ยตฺถ ชาโต, ตสฺมึ โปราเณ มาตาเปตฺติเก กุลวํเส อนุสฺสริยมาเนติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
เอสุการีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ธนฺชานิสุตฺตวณฺณนา
๔๔๕. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ ธนฺชานิสุตฺตํ. ตตฺถ ทกฺขิณาคิริสฺมินฺติ คิรีติ ปพฺพโต, ราชคหํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตปพฺพตสฺส ทกฺขิณทิสาภาเค ชนปทสฺเสตํ นามํ. ตณฺฑุลปาลิทฺวารายาติ ราชคหสฺส กิร ทฺวตฺตึสมหาทฺวารานิ จตุสฏฺิขุทฺทกทฺวารานิ, เตสุ เอกํ ตณฺฑุลปาลิทฺวารํ นาม, ตํ สนฺธาเยวมาห. ราชานํ นิสฺสายาติ ‘‘คจฺฉ มนุสฺเส อปีเฬตฺวา สสฺสภาคํ คณฺหาหี’’ติ รฺา เปสิโต คนฺตฺวา สพฺพเมว สสฺสํ คณฺหาติ, ‘‘มา โน, ภนฺเต, นาเสหี’’ติ จ วุตฺเต – ‘‘ราชกุเล วุตฺตํ มนฺทํ, อหํ รฺา อาคมนกาเลเยว เอวํ อาณตฺโต, มา กนฺทิตฺถา’’ติ เอวํ ราชานํ นิสฺสาย พฺราหฺมณคหปติเก วิลุมฺปติ. ธฺํ เยภุยฺเยน อตฺตโน ฆรํ ปเวเสตฺวา อปฺปกํ ราชกุเล ปเวเสติ. กึ พฺราหฺมณคหปติกานํ น ปีฬํ อกาสีติ จ วุตฺโต – ‘‘อาม, มหาราช, อิมสฺมึ วาเร เขตฺตานิ ¶ มนฺทสสฺสานิ อเหสุํ, ตสฺมา อปีเฬนฺตสฺส เม คณฺหโต น พหุํ ชาต’’นฺติ เอวํ พฺราหฺมณคหปติเก นิสฺสาย ราชานํ วิลุมฺปติ.
๔๔๖. ปโย ปียตนฺติ ตรุณขีรํ ปิวตุ. ตาว ภตฺตสฺสาติ ยาว ขีรํ ปิวิตฺวา นิสีทิสฺสถ, ตาวเทว ภตฺตสฺส กาโล ภวิสฺสติ. อิเธว หิ โน ปาตราสภตฺตํ อาหริสฺสนฺตีติ ทสฺเสติ. มาตาปิตโรติอาทีสุ มหลฺลกา มาตาปิตโร มุทุกานิ อตฺถรณปาวุรณานิ สุขุมานิ วตฺถานิ มธุรโภชนํ สุคนฺธคนฺธมาลาทีนิ จ ปริเยสิตฺวา โปเสตพฺพา. ปุตฺตธีตานํ นามกรณมงฺคลาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ กโรนฺเตน ปุตฺตทาโร โปเสตพฺโพ. เอวฺหิ อกริยมาเน ครหา อุปฺปชฺชตีติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๔๔๗. อธมฺมจารีติ ปฺจ ทุสฺสีลฺยกมฺมานิ วา ทส ทุสฺสีลฺยกมฺมานิ วา อิธ อธมฺโม นาม. อุปกฑฺเฒยฺยุนฺติ ปฺจวิธพนฺธนาทิกมฺมกรณตฺถํ ตํ ตํ นิรยํ กฑฺเฒยฺยุํ.
๔๔๘. ธมฺมจารีติ ¶ ธมฺมิกสิววิชฺชาทิกมฺมการี. ปฏิกฺกมนฺตีติ โอสรนฺติ ปริหายนฺติ. อภิกฺกมนฺตีติ อภิสรนฺติ วฑฺฒนฺติ. เสยฺโยติ วรตรํ. หีเนติ นิหีเน ลามเก. กาลงฺกโต จ สาริปุตฺตาติ อิทํ ¶ ภควา ‘‘ตตฺรสฺส คนฺตฺวา เทเสหี’’ติ อธิปฺปาเยน เถรมาห. เถโรปิ ¶ ตํขณํเยว คนฺตฺวา มหาพฺรหฺมุโน ธมฺมํ เทเสสิ, ตโต ปฏฺาย จาตุปฺปทิกํ คาถํ กเถนฺโตปิ จตุสจฺจวิมุตฺตํ นาม น กเถสีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
ธนฺชานิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. วาเสฏฺสุตฺตวณฺณนา
๔๕๔. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ วาเสฏฺสุตฺตํ. ตตฺถ อิจฺฉานงฺคลวนสณฺเฑติ อิจฺฉานงฺคลคามสฺส อวิทูเร วนสณฺเฑ. จงฺกีติ อาทโย ปฺจปิ ชนา รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส ปุโรหิตา เอว. อฺเ จ อภิฺาตาติ อฺเ จ พหู อภิฺาตา พฺราหฺมณา. เต กิร ฉฏฺเ ฉฏฺเ มาเส ทฺวีสุ าเนสุ สนฺนิปตนฺติ. ยทา ชาตึ โสเธตุกามา โหนฺติ, ตทา โปกฺขรสาติสฺส สนฺติเก ชาติโสธนตฺถํ อุกฺกฏฺาย สนฺนิปตนฺติ. ยทา มนฺเต โสเธตุกามา โหนฺติ, ตทา อิจฺฉานงฺคเล สนฺนิปตนฺติ. อิมสฺมึ กาเล มนฺตโสธนตฺถํ สนฺนิปตึสุ. อยมนฺตรา กถาติ ยํ อตฺตโน สหายกภาวานุรูปํ กถํ กเถนฺตา อนุวิจรึสุ, ตสฺสา กถาย อนฺตรา อยมฺา กถา อุทปาทิ. สีลวาติ คุณวา. วตฺตสมฺปนฺโนติ อาจารสมฺปนฺโน.
๔๕๕. อนฺุาตปฏิฺาตาติ ¶ สิกฺขิตา ตุมฺเหติ เอวํ อาจริเยหิ อนฺุาตา, อาม อาจริย สิกฺขิตมฺหาติ เอวํ สยฺจ ปฏิฺาตา. อสฺมาติ ภวาม. อหํ โปกฺขรสาติสฺส, ตารุกฺขสฺสายํ มาณโวติ อหํ โปกฺขรสาติสฺส เชฏฺนฺเตวาสี อคฺคสิสฺโส, อยํ ตารุกฺขสฺสาติ ทีเปติ.
เตวิชฺชานนฺติ ติเวทานํ พฺราหฺมณานํ. ยทกฺขาตนฺติ ยํ อตฺถโต จ พฺยฺชนโต จ เอกํ ปทมฺปิ อกฺขาตํ. ตตฺร เกวลิโนสฺมเสติ ตํ สกลํ ชานนโต ตตฺถ นิฏฺาคตมฺหาติ อตฺโถ. อิทานิ ตํ เกวลิภาวํ อาวิกโรนฺโต ปทกสฺมาติอาทิมาห. ตตฺถ ชปฺเป อาจริยสาทิสาติ กถนฏฺาเน มยํ อาจริยสทิสาเยว.
กมฺมุนาติ ¶ ทสกุสลกมฺมปถกมฺมุนา. อยฺหิ ปุพฺเพ สตฺตวิธํ กายวจีกมฺมํ สนฺธาย ‘‘ยโต โข, โภ, สีลวา โหตี’’ติ อาห, ติวิธํ มโนกมฺมํ สนฺธาย ‘‘วตฺตสมฺปนฺโน’’ติ. เตน สมนฺนาคโต หิ อาจารสมฺปนฺโน โหติ. จกฺขุมาติ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมนฺตภาเวน ภควนฺตํ อาลปติ.
ขยาตีตนฺติ ¶ อูนภาวํ อตีตํ, ปริปุณฺณนฺติ อตฺโถ. เปจฺจาติ อุปคนฺตฺวา. นมสฺสนฺตีติ นโม กโรนฺติ.
จกฺขุํ โลเก สมุปฺปนฺนนฺติ อวิชฺชนฺธกาเร โลเก ตํ อนฺธการํ วิธมิตฺวา โลกสฺส ทิฏฺธมฺมิกาทิอตฺถทสฺสเนน จกฺขุ หุตฺวา สมุปฺปนฺนํ.
๔๕๖. เอวํ ¶ วาเสฏฺเน โถเมตฺวา ยาจิโต ภควา ทฺเวปิ ชเน สงฺคณฺหนฺโต เตสํ โว อหํ พฺยกฺขิสฺสนฺติอาทิมาห. ตตฺถ พฺยกฺขิสฺสนฺติ พฺยากริสฺสามิ. อนุปุพฺพนฺติ ติฏฺตุ ตาว พฺราหฺมณจินฺตา, ติณรุกฺขกีฏปฏงฺคโต ปฏฺาย อนุปฏิปาฏิยา อาจิกฺขิสฺสามีติ อตฺโถ. ชาติวิภงฺคนฺติ ชาติวิตฺถารํ. อฺมฺา หิ ชาติโยติ เตสํ เตสฺหิ ปาณานํ ชาติโย อฺมฺา นานปฺปการาติ อตฺโถ.
ติณรุกฺเขติ อนุปาทินฺนกชาตึ กตฺวา ปจฺฉา อุปาทินฺนกชาตึ กเถสฺสามิ, เอวํ ตสฺส ชาติเภโท ปากโฏ ภวิสฺสตีติ อิมํ เทสนํ อารภิ. มหาสีวตฺเถโร ปน ‘‘กึ, ภนฺเต, อนุปาทินฺนกํ พีชนานตาย นานํ, อุปาทินฺนํ กมฺมนานตายาติ? เอวํ วตฺตุํ น วฏฺฏตี’’ติ ปุจฺฉิโต อาม น วฏฺฏติ. กมฺมฺหิ โยนิยํ ขิปติ. โยนิสิทฺธา อิเม สตฺตา นานาวณฺณา โหนฺตีติ. ติณรุกฺเขติ เอตฺถ อนฺโตเผคฺคู พหิสารา อนฺตมโส ตาลนาฬิเกราทโยปิ ติณาเนว, อนฺโตสารา ปน พหิเผคฺคู สพฺเพ รุกฺขา นาม. น จาปิ ปฏิชานเรติ มยํ ติณา มยํ รุกฺขาติ วา, อหํ ติณํ, อหํ รุกฺโขติ วา เอวํ น ชานนฺติ. ลิงฺคํ ชาติมยนฺติ อชานนฺตานมฺปิ จ เตสํ ชาติมยเมว สณฺานํ อตฺตโน มูลภูตติณาทิสทิสเมว โหติ. กึ การณา? อฺมฺา หิ ชาติโย. ยสฺมา อฺา ติณชาติ, อฺา รุกฺขชาติ. ติเณสุปิ อฺา ตาลชาติ, อฺา นาฬิเกรชาติ, เอวํ วิตฺถาเรตพฺพํ. อิมินา อิทํ ทสฺเสติ – ยํ ชาติวเสน นานา ¶ โหติ, ตํ อตฺตโน ปฏิฺํ ปเรสํ วา อุปเทสํ วินาปิ อฺชาติโต วิเสเสน คยฺหติ. ยทิ จ ชาติยา พฺราหฺมโณ ¶ ภเวยฺย, โสปิ อตฺตโน ปฏิฺํ ปเรสํ วา อุปเทสํ วินา ขตฺติยโต เวสฺสโต สุทฺทโต วา วิเสเสน คยฺเหยฺย, น จ คยฺหติ. ตสฺมา น ชาติยา พฺราหฺมโณติ. ปรโต ปน ‘‘ยถา เอตาสุ ชาตีสู’’ติ คาถาย เอตมตฺถํ วจีเภเทเนว อาวิกริสฺสติ.
เอวํ ¶ อนุปาทินฺนเกสุ ชาตึ ทสฺเสตฺวา อุปาทินฺนเกสุ ทสฺเสนฺโต ตโต กีเฏติอาทิมาห. ยาว กุนฺถกิปิลฺลิเกติ กุนฺถกิปิลฺลิกํ ปริยนฺตํ กตฺวาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ เย อุปฺปติตฺวา คจฺฉนฺติ, เต ปฏงฺคา นาม. อฺมฺา หิ ชาติโยติ เตสมฺปิ นีลรตฺตาทิวณฺณวเสน ชาติโย นานปฺปการาว โหนฺติ.
ขุทฺทเกติ กาฬกาทโย. มหลฺลเกติ สสพิฬาราทโย.
ปาทูทเรติ อุทรปาเท, อุทรํเยว เนสํ ปาทาติ วุตฺตํ โหติ. ทีฆปิฏฺิเกติ สปฺปานฺหิ สีสโต ยาว นงฺคุฏฺา ปิฏฺิเยว โหติ, เตน เต ‘‘ทีฆปิฏฺิกา’’ติ วุจฺจนฺติ.
อุทเกติ โอทเก, อุทกมฺหิ ชาเต.
ปกฺขีติ สกุเณ. เต หิ ปตฺเตหิ ยนฺตีติ ปตฺตยานา, เวหาสํ คจฺฉนฺตีติ วิหงฺคมา.
เอวํ ถลชลากาสโคจรานํ ปาณานํ ชาติเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เยนาธิปฺปาเยน ตํ ทสฺเสติ, ตํ อาวิกโรนฺโต ยถา เอตาสูติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ สงฺเขเปน วุตฺโตว. วิตฺถารโต ปเนตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ¶ สยเมว ทสฺเสนฺโต น เกเสหีติอาทิมาห. ตตฺรายํ โยชนา – ยํ วุตฺตํ ‘‘นตฺถิ มนุสฺเสสุ ลิงฺคชาติมยํ ปุถู’’ติ, ตํ เอวํ นตฺถีติ เวทิตพฺพํ. เสยฺยถิทํ? น เกเสหีติ. น หิ – ‘‘พฺราหฺมณานํ เอทิสา เกสา โหนฺติ, ขตฺติยานํ เอทิสา’’ติ นิยโม อตฺถิ ยถา หตฺถิอสฺสมิคาทีนนฺติ อิมินา นเยน สพฺพํ โยเชตพฺพํ.
ลิงฺคํ ชาติมยํ เนว, ยถา อฺาสุ ชาติสูติ อิทํ ปน วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส นิคมนนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺสายํ โยชนา – เอวํ ยสฺมา อิเมหิ ¶ เกสาทีหิ นตฺถิ มนุสฺเสสุ ลิงฺคํ ชาติมยํ ปุถุ, ตสฺมา เวทิตพฺพเมตํ ‘‘พฺราหฺมณาทิเภเทสุ มนุสฺเสสุ ลิงฺคํ ชาติมยํ เนว, ยถา อฺาสุ ชาติสู’’ติ.
๔๕๗. อิทานิ เอวํ ชาติเภเท อสติปิ ‘‘พฺราหฺมโณ ขตฺติโย’’ติ อิทํ นานตฺตํ ยถา ชาตํ ¶ , ตํ ทสฺเสตุํ ปจฺจตฺตนฺติ คาถมาห. ตตฺถ โวการนฺติ นานตฺตํ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ยถา หิ ติรจฺฉานานํ โยนิสิทฺธเมว เกสาทิสณฺาเนน นานตฺตํ, ตถา พฺราหฺมณาทีนํ อตฺตโน อตฺตโน สรีเร ตํ นตฺถิ. เอวํ สนฺเตปิ ยเทตํ ‘‘พฺราหฺมโณ ขตฺติโย’’ติ โวการํ, ตํ โวการฺจ มนุสฺเสสุ สมฺาย ปวุจฺจติ, โวหารมตฺเตเนว ปวุจฺจตีติ.
เอตฺตาวตา ภควา ภารทฺวาชสฺส วาทํ นิคฺคณฺหิตฺวา อิทานิ ยทิ ชาติยา พฺราหฺมโณ ภเวยฺย, อาชีวสีลาจารวิปนฺโนปิ พฺราหฺมโณ ภเวยฺย. ยสฺมา ปน โปราณา พฺราหฺมณา ตสฺส พฺราหฺมณภาวํ น อิจฺฉนฺติ, โลเก จ อฺเปิ ปณฺฑิตมนุสฺสา, ตสฺมา วาเสฏฺสฺส วาทํ ปคฺคณฺหนฺโต โย หิ โกจิ มนุสฺเสสูติ อฏฺ คาถา อาห. ตตฺถ โครกฺขนฺติ เขตฺตรกฺขํ, กสิกมฺมนฺติ วุตฺตํ โหติ. โคติ หิ ปถวิยา นามํ, ตสฺมา เอวมาห. ปุถุสิปฺเปนาติ ตนฺตวายกมฺมาทินานาสิปฺเปน. โวหารนฺติ วณิชฺชํ. ปรเปสฺเสนาติ ¶ ปเรสํ เวยฺยาวจฺจกมฺเมน. อิสฺสตฺถนฺติ อาวุธชีวิกํ, อุสฺุจ สตฺตึ จาติ วุตฺตํ โหติ. โปโรหิจฺเจนาติ ปุโรหิตกมฺเมน.
เอวํ พฺราหฺมณสมเยน จ โลกโวหาเรน จ อาชีวสีลาจารวิปนฺนสฺส อพฺราหฺมณภาวํ สาเธตฺวา เอวํ สนฺเต น ชาติยา พฺราหฺมโณ, คุเณหิ ปน พฺราหฺมโณ โหติ. ตสฺมา ยตฺถ กตฺถจิ กุเล ชาโต โย คุณวา, โส พฺราหฺมโณ, อยเมตฺถ าโยติ เอวเมตํ ายํ อตฺถโต อาปาเทตฺวา อิทานิ นํ วจีเภเทน ปกาเสนฺโต น จาหํ พฺราหฺมณนฺติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – อหฺหิ ยฺวายํ จตุนฺนํ โยนีนํ ยตฺถ กตฺถจิ ชาโต, ตตฺราปิ วิเสเสน โย พฺราหฺมณสฺส สํวณฺณิตาย มาตริ สมฺภูโต, ตํ โยนิชํ มตฺติสมฺภวํ, ยา จายํ อุภโต สุชาโตติอาทินา นเยน พฺราหฺมเณหิ พฺราหฺมณสฺส ปริสุทฺธอุปฺปตฺติมคฺคสงฺขาตา โยนิ วุตฺตา, สํสุทฺธคหณิโกติ อิมินา ¶ จ มาติสมฺปตฺติ, ตโตปิ ชาตสมฺภูตตฺตา โยนิโช มตฺติสมฺภโวติ วุจฺจติ, ตํ โยนิชํ มตฺติสมฺภวํ อิมินา จ โยนิชมตฺติสมฺภวมตฺเตน น พฺราหฺมณํ พฺรูมิ. กสฺมา? ยสฺมา, โภ โภติ, วจนมตฺเตน อฺเหิ สกิฺจเนหิ วิสิฏฺตฺตา โภวาทิ นาม โส โหติ, สเจ โหติ สกิฺจโน สปลิโพโธ. โย ปนายํ ยตฺถ กตฺถจิ ชาโตปิ ราคาทิกิฺจนาภาเวน อกิฺจโน, สพฺพคหณปฏินิสฺสคฺเคน อนาทาโน, อกิฺจนํ อนาทานํ, ตมหํ พฺรูมิ ¶ พฺราหฺมณํ. กสฺมา? ยสฺมา พาหิตปาโปติ.
๔๕๘. กิฺจภิยฺโย ¶ สพฺพสํโยชนํ เฉตฺวาติอาทิ สตฺตวีสติ คาถา. ตตฺถ สพฺพสํโยชนนฺติ ทสวิธสํโยชนํ. น ปริตสฺสตีติ ตณฺหาปริตสฺสนาย น ปริตสฺสติ. สงฺคาติคนฺติ ราคสงฺคาทโย อติกฺกนฺตํ. วิสํยุตฺตนฺติ จตูหิ โยนีหิ สพฺพกิเลเสหิ วา วิสํยุตฺตํ.
นทฺธินฺติ อุปนาหํ. วรตฺตนฺติ ตณฺหํ. สนฺทานนฺติ ยุตฺตปาสํ, ทิฏฺิปริยุฏฺานสฺเสตํ อธิวจนํ. สหนุกฺกมนฺติ อนุกฺกโม วุจฺจติ ปาเส ปเวสนคณฺิ, ทิฏฺานุสยสฺเสตํ นามํ. อุกฺขิตฺตปลิฆนฺติ เอตฺถ ปลิโฆติ อวิชฺชา. พุทฺธนฺติ จตุสจฺจพุทฺธํ. ติติกฺขตีติ ขมติ.
ขนฺติพลนฺติ อธิวาสนขนฺติพลํ. สา ปน สกึ อุปฺปนฺนา พลานีกํ นาม น โหติ, ปุนปฺปุนํ อุปฺปนฺนา ปน โหติ. ตสฺสา อตฺถิตาย พลานีกํ.
วตวนฺตนฺติ ธุตงฺควนฺตํ. สีลวนฺตนฺติ คุณวนฺตํ. อนุสฺสทนฺติ ราคาทิอุสฺสทวิรหิตํ. ‘‘อนุสฺสุต’’นฺติปิ ปาโ, อนวสฺสุตนฺติ อตฺโถ. ทนฺตนฺติ นิพฺพิเสวนํ.
น ลิมฺปตีติ น อลฺลียติ. กาเมสูติ กิเลสกามวตฺถุกาเมสุ.
ทุกฺขสฺส ¶ ปชานาติ, อิเธว ขยนฺติ เอตฺถ อรหตฺตผลํ ทุกฺขกฺขโยติ อธิปฺเปตํ. ปชานาตีติ อธิคมวเสน ชานาติ. ปนฺนภารนฺติ โอหิตภารํ, ขนฺธกิเลสอภิสงฺขารกามคุณภาเร โอตาเรตฺวา ิตํ. วิสํยุตฺตปทํ วุตฺตตฺถเมว.
คมฺภีรปฺนฺติ คมฺภีเรสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตปฺํ. เมธาวินฺติ ปกติปฺาย ปฺวนฺตํ.
อนาคาเรหิ ¶ จูภยนฺติ อนาคาเรหิ จ วิสํสฏฺํ อุภยฺจ, ทฺวีหิปิ เจเตหิ วิสํสฏฺเมวาติ อตฺโถ. อโนกสารินฺติ โอกํ วุจฺจติ ปฺจกามคุณาลโย, ตํ อนลฺลียมานนฺติ อตฺโถ. อปฺปิจฺฉนฺติ อนิจฺฉํ.
ตเสสูติ ¶ สตณฺเหสุ. ถาวเรสูติ นิตฺตณฺเหสุ.
อตฺตทณฺเฑสูติ คหิตทณฺเฑสุ. นิพฺพุตนฺติ กิเลสนิพฺพาเนน นิพฺพุตํ. สาทาเนสูติ สอุปาทาเนสุ.
โอหิโตติ ปติโต.
๔๕๙. อกกฺกสนฺติ นิทฺโทสํ. สโทโส หิ รุกฺโขปิ สกกฺกโสติ วุจฺจติ. วิฺาปนินฺติ อตฺถวิฺาปนิกํ. สจฺจนฺติ อวิสํวาทิกํ. อุทีรเยติ ภณติ. ยาย ¶ นาภิสชฺเชติ ยาย คิราย ปรสฺส สชฺชนํ วา ลคฺคนํ วา น กโรติ, ตาทิสํ อผรุสํ คิรํ ภาสตีติ อตฺโถ.
ทีฆนฺติ สุตฺตารุฬฺหภณฺฑํ. รสฺสนฺติ วิปฺปกิณฺณภณฺฑํ. อณุนฺติ ขุทฺทกํ. ถูลนฺติ มหนฺตํ. สุภาสุภนฺติ สุนฺทราสุนฺทรํ. ทีฆภณฺฑฺหิ อปฺปคฺฆมฺปิ โหติ มหคฺฆมฺปิ. รสฺสาทีสุปิ เอเสว นโย. อิติ เอตฺตาวตา น สพฺพํ ปริยาทิณฺณํ, ‘‘สุภาสุภ’’นฺติ อิมินา ปน ปริยาทิณฺณํ โหติ.
นิราสยนฺติ นิตฺตณฺหํ.
อาลยาติ ตณฺหาลยา. อฺายาติ ชานิตฺวา. อมโตคธนฺติ อมตพฺภนฺตรํ. อนุปฺปตฺตนฺติ อนุปวิฏฺํ.
อุโภ สงฺคนฺติ อุภยมฺเปตํ สงฺคํ. ปฺฺุหิ สคฺเค ลคฺคาเปติ, อปฺุํ อปาเย, ตสฺมา อุภยมฺเปตํ สงฺคนฺติ อาห. อุปจฺจคาติ อตีโต.
อนาวิลนฺติ อาวิลกรณกิเลสวิรหิตํ. นนฺทีภวปริกฺขีณนฺติ ปริกฺขีณนนฺทึ ปริกฺขีณภวํ.
‘‘โย ¶ อิม’’นฺติ คาถาย อวิชฺชาเยว วิสํวาทกฏฺเน ปลิปโถ, มหาวิทุคฺคตาย ทุคฺคํ, สํสรณฏฺเน สํสาโร, โมหนฏฺเน โมโหติ วุตฺโต. ติณฺโณติ ¶ จตุโรฆติณฺโณ. ปารงฺคโตติ นิพฺพานํ คโต. ฌายีติ อารมฺมณลกฺขณูปนิชฺฌานวเสน ฌายี. อเนโชติ นิตฺตณฺโห. อนุปาทาย ¶ นิพฺพุโตติ กิฺจิ คหณํ อคฺคเหตฺวา สพฺพกิเลสนิพฺพาเนน นิพฺพุโต.
กาเมติ ทุวิเธปิ กาเม. อนาคาโรติ อนาคาโร หุตฺวา. ปริพฺพเชติ ปริพฺพชติ. กามภวปริกฺขีณนฺติ ขีณกามํ ขีณภวํ.
มานุสกํ โยคนฺติ มานุสกํ ปฺจกามคุณโยคํ. ทิพฺพํ โยคนฺติ ทิพฺพํ ปฺจกามคุณโยคํ. สพฺพโยควิสํยุตฺตนฺติ สพฺพกิเลสโยควิสํยุตฺตํ.
รตินฺติ ปฺจกามคุณรตึ. อรตินฺติ กุสลภาวนาย อุกฺกณฺิตํ. วีรนฺติ วีริยวนฺตํ.
สุคตนฺติ สุนฺทรํ านํ คตํ, สุนฺทราย วา ปฏิปตฺติยา คตํ.
คตินฺติ นิพฺพตฺตึ. ปุเรติ อตีเต. ปจฺฉาติ อนาคเต. มชฺเฌติ ปจฺจุปฺปนฺเน. กิฺจนนฺติ ¶ กิฺจนการโก กิเลโส.
มเหสินฺติ มหนฺเต คุเณ ปริเยสนฏฺเน มเหสึ. วิชิตาวินนฺติ วิชิตวิชยํ.
๔๖๐. เอวํ ภควา คุณโต ขีณาสวํเยว พฺราหฺมณํ ทสฺเสตฺวา เย ชาติโต พฺราหฺมโณติ อภินิเวสํ กโรนฺติ, เต อิทํ อชานนฺตา, สาว เนสํ ทิฏฺิ ทุทฺทิฏฺีติ ทสฺเสนฺโต สมฺา เหสาติ คาถาทฺวยมาห. ตสฺสตฺโถ – ยทิทํ พฺราหฺมโณ ขตฺติโย ภารทฺวาโช วาเสฏฺโติ นามโคตฺตํ ปกปฺปิตํ กตํ อภิสงฺขตํ, สมฺา เหสา โลกสฺมึ, โวหารมตฺตนฺติ อตฺโถ. กสฺมา? ยสฺมา สมุจฺจา สมุทาคตํ สมฺาย อาคตํ. เอตฺหิ ตตฺถ ตตฺถ ชาตกาเลเยวสฺส าติสาโลหิเตหิ ปกปฺปิตํ กตํ. โน เจ นํ เอวํ ปกปฺเปยฺยุํ, น โกจิ กิฺจิ ทิสฺวา อยํ พฺราหฺมโณติ วา ภารทฺวาโชติ ¶ วา ชาเนยฺย. เอวํ ปกปฺปิตํ เปตํ ทีฆรตฺตานุสยิตํ, ทิฏฺิคตมชานตํ, ตํ ปกปฺปิตํ นามโคตฺตํ ‘‘นามโคตฺตมตฺตเมตํ, โวหารตฺถํ ปกปฺปิต’’นฺติ, อชานนฺตานํ สตฺตานํ หทเย ทีฆรตฺตํ ทิฏฺิคตมนุสยิตํ. ตสฺส อนุสยิตตฺตา ตํ นามโคตฺตํ อชานนฺตา โน ปพฺรุนฺติ, ‘‘ชาติยา โหติ พฺราหฺมโณ’’ติ อชานนฺตาว เอวํ วทนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
เอวํ ¶ ‘‘เย ‘ชาติโต พฺราหฺมโณ’ติ อภินิเวสํ กโรนฺติ, เต อิทํ โวหารมตฺตํ อชานนฺตา, สาว เนสํ ทิฏฺิ ทุทฺทิฏฺี’’ติ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิปฺปริยายเมว ชาติวาทํ ปฏิกฺขิปนฺโต กมฺมวาทฺจ ปติฏฺเปนฺโต น ชจฺจาติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘กมฺมุนา’’ติ อุปฑฺฒคาถาย วิตฺถารณตฺถํ กสฺสโก กมฺมุนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กมฺมุนาติ ปจฺจุปฺปนฺเนน กสิกมฺมาทินิพฺพตฺตกเจตนากมฺมุนา.
ปฏิจฺจสมุปฺปาททสฺสาติ ¶ อิมินา ปจฺจเยน เอวํ โหตีติ เอวํ ปฏิจฺจสมุปฺปาททสฺสาวิโน. กมฺมวิปากโกวิทาติ สมฺมานาวมานารหกุเล กมฺมวเสน อุปฺปตฺติ โหติ, อฺาปิ หีนปณีตตา หีนปณีเต กมฺเม วิปจฺจมาเน โหตีติ. เอวํ กมฺมวิปากกุสลา.
กมฺมุนา วตฺตตีติ คาถาย ปน โลโกติ วา ปชาติ วา สตฺโตติ วา เอโกเยวตฺโถ, วจนมตฺตเภโท. ปุริมปเทน เจตฺถ ‘‘อตฺถิ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา เสฏฺโ สชิตา’’ติ ทิฏฺิยา ปฏิเสโธ เวทิตพฺโพ. กมฺมุนา หิ ตาสุ ตาสุ คตีสุ วตฺตติ โลโก, ตสฺส โก สชิตาติ. ทุติยปเทน ‘‘เอวํ กมฺมุนา นิพฺพตฺโตปิ จ ปวตฺเตปิ อตีตปจฺจุปฺปนฺนเภเทน กมฺมุนา วตฺตติ, สุขทุกฺขานิ ปจฺจนุโภนฺโต หีนปณีตาทิเภทฺจ อาปชฺชนฺโต ปวตฺตตี’’ติ ทสฺเสติ. ตติเยน ตเมวตฺถํ นิคเมติ ‘‘เอวํ สพฺพถาปิ กมฺมนิพนฺธนา สตฺตา กมฺเมเนว พทฺธา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, น อฺถา’’ติ. จตุตฺเถน ตเมตฺถํ อุปมาย วิภาเวติ. ยถา หิ รถสฺส ยายโต อาณิ นิพนฺธนํ โหติ, น ตาย อนิพทฺโธ ยาติ, เอวํ โลกสฺส นิพฺพตฺตโต จ ปวตฺตโต จ กมฺมํ นิพนฺธนํ, น เตน อนิพทฺโธ นิพฺพตฺตติ น ปวตฺตติ.
อิทานิ ยสฺมา ¶ เอวํ กมฺมนิพนฺธโน โลโก, ตสฺมา เสฏฺเน กมฺมุนา เสฏฺภาวํ ทสฺเสนฺโต ตเปนาติ คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ ตเปนาติ ธุตงฺคตเปน. พฺรหฺมจริเยนาติ เมถุนวิรติยา. สํยเมนาติ สีเลน ¶ . ทเมนาติ อินฺทฺริยทเมน. เอเตนาติ เอเตน เสฏฺเน ปริสุทฺเธน พฺรหฺมภูเตน กมฺมุนา พฺราหฺมโณ โหติ. กสฺมา? ยสฺมา เอตํ พฺราหฺมณมุตฺตมํ, ยสฺมา เอตํ กมฺมํ อุตฺตโม พฺราหฺมณคุโณติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘พฺรหฺมาน’’นฺติปิ ปาโ. อยํ ปเนตฺถ วจนตฺโถ – พฺรหฺมํ อาเนตีติ พฺรหฺมานํ, พฺราหฺมณภาวํ อาวหตีติ วุตฺตํ โหติ.
ทุติยคาถาย ¶ สนฺโตติ สนฺตกิเลโส. พฺรหฺมา สกฺโกติ พฺรหฺมา จ สกฺโก จ, โย เอวรูโป, โส น เกวลํ พฺราหฺมโณ, อถ โข พฺรหฺมา จ สกฺโก จ โส วิชานตํ ปณฺฑิตานํ, เอวํ วาเสฏฺ, ชานาหีติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
วาเสฏฺสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. สุภสุตฺตวณฺณนา
๔๖๒. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ สุภสุตฺตํ. ตตฺถ โตเทยฺยปุตฺโตติ ตุทิคามวาสิโน โตเทยฺยพฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต. อาราธโก โหตีติ สมฺปาทโก โหติ ปริปูรโก. ายํ ธมฺมนฺติ การณธมฺมํ. กุสลนฺติ อนวชฺชํ.
๔๖๓. มิจฺฉาปฏิปตฺตินฺติ ¶ อนิยฺยานิกํ อกุสลปฏิปทํ. สมฺมาปฏิปตฺตินฺติ นิยฺยานิกํ กุสลปฏิปทํ.
มหฏฺนฺติอาทีสุ มหนฺเตหิ เวยฺยาวจฺจกเรหิ วา อุปกรเณหิ วา พหูหิ อตฺโถ เอตฺถาติ มหฏฺํ. มหนฺตานิ นามคฺคหณมงฺคลาทีนิ กิจฺจานิ เอตฺถาติ มหากิจฺจํ. อิทํ อชฺช กตฺตพฺพํ, อิทํ สฺเวติ เอวํ มหนฺตานิ อธิการสงฺขาตานิ อธิกรณานิ เอตฺถาติ มหาธิกรณํ. พหูนํ กมฺเม ยุตฺตปฺปยุตฺตตาวเสน ปีฬาสงฺขาโต มหาสมารมฺโภ เอตฺถาติ มหาสมารมฺภํ. ฆราวาสกมฺมฏฺานนฺติ ฆราวาสกมฺมํ. เอวํ สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กสิกมฺเม เจตฺถ นงฺคลโกฏึ อาทึ กตฺวา อุปกรณานํ ปริเยสนวเสน มหฏฺตา, วณิชฺชาย ยถาิตํเยว ภณฺฑํ คเหตฺวา ปริวตฺตนวเสน อปฺปฏฺตา เวทิตพฺพา. วิปชฺชมานนฺติ อวุฏฺิอติวุฏฺิอาทีหิ กสิกมฺมํ, มณิสุวณฺณาทีสุ อจฺเฉกตาทีหิ จ วณิชฺชกมฺมํ อปฺปผลํ โหติ, มูลจฺเฉทมฺปิ ปาปุณาติ. วิปริยาเยน สมฺปชฺชมานํ มหปฺผลํ จูฬนฺเตวาสิกสฺส วิย.
๔๖๔. เอวเมว โขติ ยถา กสิกมฺมฏฺานํ วิปชฺชมานํ อปฺปผลํ โหติ, เอวํ ฆราวาสกมฺมฏฺานมฺปิ. อกตกลฺยาโณ หิ กาลํ กตฺวา นิรเย ¶ นิพฺพตฺตติ. มหาทตฺตเสนาปติ นาม กิเรโก พฺราหฺมณภตฺโต อโหสิ, ตสฺส มรณสมเย นิรโย อุปฏฺาสิ. โส พฺราหฺมเณหิ ‘‘กึ ปสฺสสี’’ติ วุตฺโต? โลหิตฆรนฺติ อาห. พฺรหฺมโลโก โภ เอโสติ. พฺรหฺมโลโก นาม โภ กหนฺติ? อุปรีติ. มยฺหํ เหฏฺา อุปฏฺาตีติ. กิฺจาปิ เหฏฺา อุปฏฺาติ ¶ , ตถาปิ อุปรีติ กาลํ กตฺวา นิรเย นิพฺพตฺโต. ‘‘อิมินา อมฺหากํ ยฺเ โทโส ทินฺโน’’ติ สหสฺสํ คเหตฺวา ¶ นีหริตุํ อทํสุ. สมฺปชฺชมานํ ปน มหปฺผลํ โหติ. กตกลฺยาโณ หิ กาลํ กตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตติ. สกลาย คุตฺติลวิมานกถาย ทีเปตพฺพํ. ยถา ปน ตํ วณิชฺชกมฺมฏฺานํ วิปชฺชมานํ อปฺปผลํ โหติ, เอวํ สีเลสุ อปริปูรการิโน อเนสนาย ยุตฺตสฺส ปพฺพชฺชากมฺมฏฺานมฺปิ. เอวรูปา หิ เนว ฌานาทิสุขํ น สคฺคโมกฺขํ ลภติ. สมฺปชฺชมานํ ปน มหปฺผลํ โหติ. สีลานิ หิ ปูเรตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺโต อรหตฺตมฺปิ ปาปุณาติ.
พฺราหฺมณา, โภ โคตโมติ อิธ กึ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ? พฺราหฺมณา วทนฺติ – ‘‘ปพฺพชิโต อิเม ปฺจ ธมฺเม ปูเรตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, คหฏฺโว ปูเรตี’’ติ. สมโณ ปน โคตโม – ‘‘คิหิสฺส วา อหํ มาณว ปพฺพชิตสฺส วา’’ติ ปุนปฺปุนํ วทติ, เนว ปพฺพชิตํ มฺุจติ, มยฺหเมว ปุจฺฉํ มฺเ น สลฺลกฺเขตีติ จาคสีเสน ปฺจ ธมฺเม ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ. สเจ เต อครูติ สเจ ตุยฺหํ ยถา พฺราหฺมณา ปฺเปนฺติ, ตถา อิธ ภาสิตุํ ภาริยํ น โหติ, ยทิ น โกจิ อผาสุกภาโว โหติ, ภาสสฺสูติ อตฺโถ. น โข เม, โภติ กึ สนฺธายาห? ปณฺฑิตปฏิรูปกานฺหิ สนฺติเก กเถตุํ ทุกฺขํ โหติ, เต ปเท ปเท อกฺขเร อกฺขเร โทสเมว วทนฺติ. เอกนฺตปณฺฑิตา ปน กถํ สุตฺวา สุกถิตํ ปสํสนฺติ, ทุกฺกถิเต ปาฬิปทอตฺถพฺยฺชเนสุ ¶ ยํ ยํ วิรุชฺฌติ, ตํ ตํ อุชุํ กตฺวา เทนฺติ. ภควตา จ สทิโส เอกนฺตปณฺฑิโต นาม นตฺถิ, เตนาห ‘‘น โข เม, โภ โคตม, ครุ, ยตฺถสฺสุ ภวนฺโต วา นิสินฺโน ภวนฺตรูโป วา’’ติ. สจฺจนฺติ วจีสจฺจํ. ตปนฺติ ตปจริยํ. พฺรหฺมจริยนฺติ เมถุนวิรตึ. อชฺเฌนนฺติ มนฺตคหณํ. จาคนฺติ อามิสปริจฺจาคํ.
๔๖๖. ปาปิโต ภวิสฺสตีติ. อชานนภาวํ ปาปิโต ภวิสฺสติ. เอตทโวจาติ ภควตา อนฺธเวณูปมาย นิคฺคหิโต ตํ ปจฺจาหริตุํ อสกฺโกนฺโต ยถา นาม ทุพฺพลสุนโข มิคํ อุฏฺเปตฺวา สามิกสฺส อภิมุขํ ¶ กตฺวา สยํ อปสกฺกติ, เอวเมวํ อาจริยํ อปทิสนฺโต เอวํ ‘‘พฺราหฺมโณ’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ โปกฺขรสาตีติ อิทํ ตสฺส นามํ, ‘‘โปกฺขรสายี’’ติปิ วุจฺจติ. ตสฺส กิร กาโย เสตโปกฺขรสทิโส เทวนคเร อุสฺสาปิตรชตโตรณํ วิย โสภติ, สีสํ ปนสฺส กาฬวณฺณอินฺทนีลมยํ วิย, มสฺสุปิ จนฺทมณฺฑเล กาฬเมฆราชิ วิย ขายติ, อกฺขีนิ นีลุปฺปลสทิสานิ, นาสา รชตปนาฬิกา วิย สุวฏฺฏิตา สุปริสุทฺธา, หตฺถปาทตลานิ เจว มุขฺจ กตลาขารสปริกมฺมํ ¶ วิย โสภติ. อติวิย โสภคฺคปฺปตฺโต พฺราหฺมณสฺส อตฺตภาโว. อราชเก าเน ราชานํ กาตุํ ยุตฺตมิมํ พฺราหฺมณํ, เอวเมส สสฺสิริโก, อิติ นํ โปกฺขรสทิสตฺตา ‘‘โปกฺขรสาตี’’ติ ¶ สฺชานนฺติ, โปกฺขเร ปน โส นิพฺพตฺโต, น มาตุกุจฺฉิยนฺติ อิติ นํ โปกฺขเร สยิตตฺตา ‘‘โปกฺขรสายี’’ติปิ สฺชานนฺติ. โอปมฺโติ อุปมฺโคตฺโต. สุภควนิโกติ อุกฺกฏฺาย สุภควนสฺส อิสฺสโร. หสฺสกํเยวาติ หสิตพฺพกฺเว. นามกํเยวาติ ลามกํเยว. ตเทว ตํ อตฺถาภาเวน ริตฺตกํ. ริตฺตกตฺตา จ ตุจฺฉกํ. อิทานิ นํ ภควา สาจริยกํ นิคฺคณฺหิตุํ กึ ปน มาณวาติอาทิมาห.
๔๖๗. ตตฺถ กตมา เนสํ เสยฺโยติ กตมา วาจา เตสํ เสยฺโย, ปาสํสตโรติ อตฺโถ. สมฺมุจฺจาติ สมฺมุติยา โลกโวหาเรน. มนฺตาติ ตุลยิตฺวา ปริคฺคณฺหิตฺวา. ปฏิสงฺขายาติ ชานิตฺวา. อตฺถสํหิตนฺติ การณนิสฺสิตํ. เอวํ สนฺเตติ โลกโวหารํ อมฺุจิตฺวา ตุลยิตฺวา ชานิตฺวา การณนิสฺสิตํ กตฺวา กถิตาย เสยฺยภาเว สติ. อาวุโตติ อาวริโต. นิวุโตติ นิวาริโต. โอผุโฏติ โอนทฺโธ. ปริโยนทฺโธติ ปลิเวิโต.
๔๖๘. คธิโตติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. สเจ ตํ, โภ โคตม, านนฺติ สเจ เอตํ การณมตฺถิ. สฺวาสฺสาติ ¶ ธูมฉาริกาทีนํ อภาเวน โส อสฺส อคฺคิ อจฺจิมา จ วณฺณิมา จ ปภสฺสโร จาติ. ตถูปมาหํ มาณวาติ ตปฺปฏิภาคํ อหํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยเถว หิ ติณกฏฺุปาทานํ ปฏิจฺจ ชลมาโน อคฺคิ ธูมฉาริกงฺคารานํ อตฺถิตาย สโทโส โหติ ¶ , เอวเมวํ ปฺจ กามคุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนา ปีติ ชาติชราพฺยาธิมรณโสกาทีนํ อตฺถิตาย สโทสา. ยถา ปน ปริจฺจตฺตติณกฏฺุปาทาโน ธูมาทีนํ อภาเวน ปริสุทฺโธ, เอวเมวํ โลกุตฺตรชฺฌานทฺวยสมฺปยุตฺตา ปีติ ชาติอาทีนํ อภาเวน ปริสุทฺธาติ อตฺโถ.
๔๖๙. อิทานิ เย เต พฺราหฺมเณหิ จาคสีเสน ปฺจ ธมฺมา ปฺตฺตา, เตปิ ยสฺมา ปฺเจว หุตฺวา น นิจฺจลา ติฏฺนฺติ, อนุกมฺปาชาติเกน สทฺธึ ฉ อาปชฺชนฺติ. ตสฺมา ตํ โทสํ ทสฺเสตุํ เย เต มาณวาติอาทิมาห. ตตฺถ อนุกมฺปาชาติกนฺติ อนุกมฺปาสภาวํ.
กตฺถ พหุลํ สมนุปสฺสสีติ อิทํ ภควา ยสฺมา – ‘‘เอส อิเม ปฺจ ธมฺเม ปพฺพชิโต ปริปูเรตุํ ¶ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, คหฏฺโ ปริปูเรตี’’ติ อาห, ตสฺมา – ‘‘ปพฺพชิโตว อิเม ปูเรติ, คหฏฺโ ปูเรตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถี’’ติ เตเนว มุเขน ภณาเปตุํ ปุจฺฉติ.
น สตตํ สมิตํ สจฺจวาทีติอาทีสุ คหฏฺโ อฺสฺมึ อสติ วฬฺชนกมุสาวาทมฺปิ กโรติเยว, ปพฺพชิตา อสินา สีเส ฉิชฺชนฺเตปิ ทฺเว กถา น กเถนฺติ. คหฏฺโ จ อนฺโตเตมาสมตฺตมฺปิ สิกฺขาปทํ รกฺขิตุํ น สกฺโกติ, ปพฺพชิโต นิจฺจเมว ตปสฺสี สีลวา ตปนิสฺสิตโก โหติ. คหฏฺโ มาสสฺส อฏฺทิวสมตฺตมฺปิ อุโปสถกมฺมํ ¶ กาตุํ น สกฺโกติ, ปพฺพชิตา ยาวชีวํ พฺรหฺมจาริโน โหนฺติ. คหฏฺโ รตนสุตฺตมงฺคลสุตฺตมตฺตมฺปิ โปตฺถเก ลิขิตฺวา เปติ, ปพฺพชิตา นิจฺจํ สชฺฌายนฺติ. คหฏฺโ สลากภตฺตมฺปิ อขณฺฑํ กตฺวา ทาตุํ น สกฺโกติ, ปพฺพชิตา อฺสฺมึ อสติ กากสุนขาทีนมฺปิ ปิณฺฑํ เทนฺติ, ภณฺฑคฺคาหกทหรสฺสปิ ปตฺเต ปกฺขิปนฺเตวาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. จิตฺตสฺสาหเมเตนฺติ อหํ เอเต ปฺจ ธมฺเม เมตฺตจิตฺตสฺส ปริวาเร วทามีติ อตฺโถ.
๔๗๐. ชาตวทฺโธติ ชาโต จ วฑฺฒิโต จ. โย หิ เกวลํ ตตฺถ ชาโตว โหติ, อฺตฺถ วฑฺฒิโต, ตสฺส สมนฺตา คามมคฺคา น สพฺพโส ปจฺจกฺขา โหนฺติ, ตสฺมา ชาตวทฺโธติ อาห. ชาตวทฺโธปิ หิ โย จิรํ นิกฺขนฺโต, ตสฺส น สพฺพโส ปจฺจกฺขา โหนฺติ, ตสฺมา ตาวเทว อวสฏนฺติ อาห, ตํขณเมว นิกฺขนฺตนฺติ อตฺโถ. ทนฺธายิตตฺตนฺติ ‘‘อยํ ¶ นุ โข มคฺโค อยํ น นุ โข’’ติ กงฺขาวเสน จิรายิตตฺตํ. วิตฺถายิตตฺตนฺติ ยถา สุขุมํ อตฺถชาตํ สหสา ปุจฺฉิตสฺส กสฺสจิ สรีรํ ถทฺธภาวํ คณฺหาติ, เอวํ ถทฺธภาวคหณํ. นตฺเววาติ อิมินา สพฺพฺุตฺาณสฺส อปฺปฏิหตภาวํ ทสฺเสติ. ตสฺส หิ ปุริสสฺส มาราวฏฺฏนาทีนํ วเสน สิยา าณสฺส ปฏิฆาโต, เตน โส ทนฺธาเยยฺย วา วิตฺถาเยยฺย วา, สพฺพฺุตฺาณํ ปน อปฺปฏิหตํ, น สกฺกา ตสฺส เกนจิ อนฺตราโย กาตุนฺติ ทีเปติ.
เสยฺยถาปิ มาณว พลวา สงฺขธโมติ เอตฺถ ¶ พลวาติ พลสมฺปนฺโน. สงฺขธโมติ สงฺขธมโก. อปฺปกสิเรนาติ อกิจฺเฉน อทุกฺเขน. ทุพฺพโล หิ สงฺขธมโก สงฺขํ ธมนฺโตปิ น สกฺโกติ จตสฺโส ทิสา สเรน วิฺาเปตุํ, นาสฺส สงฺขสทฺโท สพฺพโส ผริ. พลวโต ปน วิปฺผาริโก โหติ, ตสฺมา พลวาติ อาห. เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยาติ เอตฺถ เมตฺตายาติ วุตฺเต อุปจาโรปิ ¶ อปฺปนาปิ วฏฺฏติ, เจโตวิมุตฺติยาติ วุตฺเต ปน อปฺปนาว วฏฺฏติ. ยํ ปมาณกตํ กมฺมนฺติ ปมาณกตํ กมฺมํ นาม กามาวจรํ วุจฺจติ, อปฺปมาณกตํ กมฺมํ นาม รูปารูปาวจรํ. เตสุปิ อิธ พฺรหฺมวิหารกมฺมฺเว อธิปฺเปตํ. ตฺหิ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวา โอธิสกอโนธิสก ทิสาผรณวเสน วฑฺเฒตฺวา กตตฺตา อปฺปมาณกตนฺติ วุจฺจติ. น ตํ ตตฺราวสิสฺสติ, น ตํ ตตฺราวติฏฺตีติ ตํ กามาวจรกมฺมํ ตสฺมึ รูปารูปาวจรกมฺเม น โอหียติ น ติฏฺติ. กึ วุตฺตํ โหติ? กามาวจรกมฺมํ ตสฺส รูปารูปาวจรกมฺมสฺส อนฺตรา ลคฺคิตุํ วา าตุํ วา รูปารูปาวจรกมฺมํ ผริตฺวา ปริยาทิยิตฺวา อตฺตโน โอกาสํ คเหตฺวา ปติฏฺาตุํ วา น สกฺโกติ, อถ โข รูปารูปาวจรกมฺมเมว กามาวจรํ มโหโฆ วิย ปริตฺตอุทกํ ผริตฺวา ปริยาทิยิตฺวา อตฺตโน โอกาสํ คเหตฺวา ติฏฺติ, ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา สยเมว พฺรหฺมสหพฺยตํ อุปเนตีติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
สุภสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา
๔๗๓. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ สงฺคารวสุตฺตํ. ตตฺถ จฺจลิกปฺเปติ เอวํนามเก คาเม. อภิปฺปสนฺนาติ อเวจฺจปฺปสาทวเสน ปสนฺนา. สา กิร โสตาปนฺนา อริยสาวิกา ภารทฺวาชโคตฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส ภริยา. โส พฺราหฺมโณ ปุพฺเพ กาเลน กาลํ พฺราหฺมเณ นิมนฺเตตฺวา เตสํ สกฺการํ กโรติ. อิมํ ปน พฺราหฺมณึ ฆรํ อาเนตฺวา อภิรูปาย มหากุลาย พฺราหฺมณิยา จิตฺตํ โกเปตุํ อสกฺโกนฺโต พฺราหฺมณานํ สกฺการํ กาตุํ นาสกฺขิ. อถ นํ พฺราหฺมณา ทิฏฺทิฏฺฏฺาเน – ‘‘นยิทานิ ตฺวํ พฺราหฺมณลทฺธิโก, เอกาหมฺปิ พฺราหฺมณานํ สกฺการํ น กโรสี’’ติ นิปฺปีเฬนฺติ. โส ฆรํ อาคนฺตฺวา พฺราหฺมณิยา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา – ‘‘สเจ, โภติ เอกทิวสํ มุขํ รกฺขิตุํ สกฺกุเณยฺยาสิ, พฺราหฺมณานํ เอกทิวสํ ภิกฺขํ ทเทยฺย’’นฺติ อาห. ตุยฺหํ เทยฺยธมฺมํ รุจฺจนกฏฺาเน เทหิ, กึ มยฺหํ เอตฺถาติ. โส พฺราหฺมเณ นิมนฺเตตฺวา อปฺโปทกํ ปายาสํ ปจาเปตฺวา ฆรฺจ สุชฺฌาเปตฺวา อาสนานิ ปฺาเปตฺวา พฺราหฺมเณ นิสีทาเปสิ. พฺราหฺมณี มหาสาฏกํ นิวาเสตฺวา กฏจฺฉุํ คเหตฺวา ปริวิสนฺตี ทุสฺสกณฺณเก ปกฺขลิตฺวา ‘‘พฺราหฺมเณ ปริวิสามี’’ติ สฺมฺปิ อกตฺวา อาเสวนวเสน สหสา สตฺถารเมว อนุสฺสริตฺวา อุทานํ อุทาเนสิ.
พฺราหฺมณา อุทานํ สุตฺวา ‘‘อุภโตปกฺขิโก ¶ เอส สมณสฺส โคตมสฺส สหาโย, นาสฺส เทยฺยธมฺมํ คณฺหิสฺสามา’’ติ กุปิตา โภชนานิ ฉฑฺเฑตฺวา นิกฺขมึสุ. พฺราหฺมโณ – ‘‘นนุ ปมํเยว ตํ อวจํ ‘อชฺเชกทิวสํ มุขํ รกฺเขยฺยาสี’ติ, เอตฺตกํ เต ขีรฺจ ตณฺฑุลาทีนิ จ นาสิตานี’’ติ อติวิย โกปวสํ อุปคโต – ‘‘เอวเมว ปนายํ วสลี ยสฺมึ วา ตสฺมึ วา ตสฺส มุณฺฑกสฺส สมณสฺส วณฺณํ ภาสติ, อิทานิ ตฺยาหํ วสลิ ตสฺส สตฺถุโน วาทํ อาโรเปสฺสามี’’ติ อาห. อถ นํ พฺราหฺมณี ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, คนฺตฺวา วิชานิสฺสสี’’ติ วตฺวา ‘‘น ขฺวาหํ ตํ, พฺราหฺมณ, ปสฺสามิ สเทวเก โลเก…เป… วาทํ อาโรเปยฺยา’’ติอาทิมาห. โส สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา –
‘‘กึสุ ¶ ¶ เฉตฺวา สุขํ เสติ, กึสุ เฉตฺวา น โสจติ;
กิสฺสสฺสุ เอกธมฺมสฺส, วธํ โรเจสิ โคตมา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๘๗) –
ปฺหํ ปุจฺฉิ. สตฺถา อาห –
‘‘โกธํ เฉตฺวา สุขํ เสติ, โกธํ เฉตฺวา น โสจติ;
โกธสฺส วิสมูลสฺส, มธุรคฺคสฺส พฺราหฺมณ;
วธํ อริยา ปสํสนฺติ, ตฺหิ เฉตฺวา น โสจตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๘๗) –
ปฺหํ กเถสิ. โส ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต. ตสฺเสว กนิฏฺภาตา อกฺโกสกภารทฺวาโช นาม ‘‘ภาตา เม ปพฺพชิโต’’ติ สุตฺวา ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อกฺโกสิตฺวา ภควตา วินีโต ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต. อปโร ตสฺส กนิฏฺโ สุนฺทริกภารทฺวาโช นาม. โสปิ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ สุตฺวา ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต. อปโร ตสฺส กนิฏฺโ ปิงฺคลภารทฺวาโช นาม. โส ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ปฺหพฺยากรณปริโยสาเน ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต. สงฺคารโว ¶ มาณโวติ อยํ เตสํ สพฺพกนิฏฺโ ตสฺมึ ทิวเส พฺราหฺมเณหิ สทฺธึ เอกภตฺตคฺเค นิสินฺโน. อวภูตาวาติ อวฑฺฒิภูตา อวมงฺคลภูตาเยว. ปรภูตาวาติ วินาสํ ปตฺตาเยว. วิชฺชมานานนฺติ วิชฺชมาเนสุ. สีลปฺาณนฺติ สีลฺจ าณฺจ น ชานาสิ.
๔๗๔. ทิฏฺธมฺมาภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตาติ ทิฏฺธมฺเม อภิฺาเต อิมสฺมิฺเว อตฺตภาเว อภิชานิตฺวา โวสิตโวสานา หุตฺวา ปารมีสงฺขาตํ สพฺพธมฺมานํ ปารภูตํ นิพฺพานํ ปตฺตา มยนฺติ วตฺวา อาทิพฺรหฺมจริยํ ปฏิชานนฺตีติ อตฺโถ. อาทิพฺรหฺมจริยนฺติ พฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตา อุปฺปาทกา ชนกาติ เอวํ ปฏิชานนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ตกฺกีติ ตกฺกคาหี. วีมํสีติ วีมํสโก, ปฺาจารํ จราเปตฺวา เอวํวาที. เตสาหมสฺมีติ เตสํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ อหมสฺมิ อฺตโร.
๔๘๕. อฏฺิตวตนฺติ ¶ อฏฺิตตปํ, อสฺส ปธานปเทน สทฺธึ สมฺพนฺโธ, ตถา สปฺปุริสปทสฺส. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – โภโต โคตมสฺส อฏฺิตปธานวตํ อโหสิ, สปฺปุริสปธานวตํ อโหสีติ. อตฺถิ ¶ เทวาติ ¶ ปุฏฺโ สมาโนติ อิทํ มาณโว ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ อชานนฺโตว ปกาเสสี’’ติ สฺาย อาห. เอวํ สนฺเตติ ตุมฺหากํ อชานนภาเว สนฺเต. ตุจฺฉํ มุสา โหตีติ ตุมฺหากํ กถา อผลา นิปฺผลา โหติ. เอวํ มาณโว ภควนฺตํ มุสาวาเทน นิคฺคณฺหาติ นาม. วิฺุนา ปุริเสนาติ ปณฺฑิเตน มนุสฺเสน. ตฺวํ ปน อวิฺุตาย มยา พฺยากตมฺปิ น ชานาสีติ ทีเปติ. อุจฺเจน สมฺมตนฺติ อุจฺเจน สทฺเทน สมฺมตํ ปากฏํ โลกสฺมึ. อธิเทวาติ สุสุทารกาปิ หิ เทวา นาม โหนฺติ, เทวิโย นาม โหนฺติ เทวา ปน อธิเทวา นาม, โลเก เทโว เทวีติ ลทฺธนาเมหิ มนุสฺเสหิ อธิกาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
มชฺฌิมปณฺณาส-อฏฺกถา นิฏฺิตา.