📜
๒. ภิกฺขุวคฺโค
๑. อมฺพลฏฺิกราหุโลวาทสุตฺตํ
๑๐๗. ¶ ¶ เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ราหุโล อมฺพลฏฺิกายํ วิหรติ. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน อมฺพลฏฺิกา เยนายสฺมา ราหุโล เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข อายสฺมา ราหุโล ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน อาสนํ ปฺาเปสิ, อุทกฺจ ปาทานํ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. นิสชฺช ปาเท ปกฺขาเลสิ. อายสฺมาปิ โข ราหุโล ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.
๑๐๘. อถ โข ภควา ปริตฺตํ อุทกาวเสสํ อุทกาธาเน เปตฺวา อายสฺมนฺตํ ราหุลํ อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสสิ โน ตฺวํ, ราหุล, อิมํ ปริตฺตํ อุทกาวเสสํ อุทกาธาเน ปิต’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวํ ปริตฺตกํ โข, ราหุล, เตสํ สามฺํ เยสํ นตฺถิ สมฺปชานมุสาวาเท ลชฺชา’’ติ. อถ โข ภควา ปริตฺตํ อุทกาวเสสํ ฉฑฺเฑตฺวา อายสฺมนฺตํ ราหุลํ อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสสิ โน ตฺวํ, ราหุล, ปริตฺตํ อุทกาวเสสํ ฉฑฺฑิต’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวํ ฉฑฺฑิตํ โข, ราหุล, เตสํ สามฺํ เยสํ นตฺถิ สมฺปชานมุสาวาเท ลชฺชา’’ติ. อถ โข ภควา ¶ ตํ อุทกาธานํ นิกฺกุชฺชิตฺวา อายสฺมนฺตํ ราหุลํ อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสสิ โน ตฺวํ, ราหุล, อิมํ อุทกาธานํ นิกฺกุชฺชิต’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวํ นิกฺกุชฺชิตํ โข, ราหุล, เตสํ สามฺํ เยสํ นตฺถิ สมฺปชานมุสาวาเท ลชฺชา’’ติ. อถ โข ภควา ตํ อุทกาธานํ อุกฺกุชฺชิตฺวา อายสฺมนฺตํ ราหุลํ อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสสิ โน ตฺวํ, ราหุล, อิมํ อุทกาธานํ ริตฺตํ ตุจฺฉ’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวํ ริตฺตํ ตุจฺฉํ โข, ราหุล, เตสํ สามฺํ เยสํ นตฺถิ ¶ สมฺปชานมุสาวาเท ลชฺชาติ. เสยฺยถาปิ, ราหุล, รฺโ นาโค อีสาทนฺโต อุรูฬฺหวา [อุพฺพูฬฺหวา (สี. ปี.)] อภิชาโต สงฺคามาวจโร สงฺคามคโต ปุริเมหิปิ ปาเทหิ กมฺมํ กโรติ, ปจฺฉิเมหิปิ ปาเทหิ กมฺมํ กโรติ, ปุริเมนปิ กาเยน กมฺมํ กโรติ, ปจฺฉิเมนปิ กาเยน กมฺมํ กโรติ, สีเสนปิ กมฺมํ กโรติ, กณฺเณหิปิ ¶ กมฺมํ กโรติ, ทนฺเตหิปิ กมฺมํ กโรติ, นงฺคุฏฺเนปิ กมฺมํ ¶ กโรติ; รกฺขเตว โสณฺฑํ. ตตฺถ หตฺถาโรหสฺส เอวํ โหติ – ‘อยํ โข รฺโ นาโค อีสาทนฺโต อุรูฬฺหวา อภิชาโต สงฺคามาวจโร สงฺคามคโต ปุริเมหิปิ ปาเทหิ กมฺมํ กโรติ, ปจฺฉิเมหิปิ ปาเทหิ กมฺมํ กโรติ…เป… นงฺคุฏฺเนปิ กมฺมํ กโรติ; รกฺขเตว โสณฺฑํ ¶ . อปริจฺจตฺตํ โข รฺโ นาคสฺส ชีวิต’นฺติ. ยโต โข, ราหุล, รฺโ นาโค อีสาทนฺโต อุรูฬฺหวา อภิชาโต สงฺคามาวจโร สงฺคามคโต ปุริเมหิปิ ปาเทหิ กมฺมํ กโรติ, ปจฺฉิเมหิปิ ปาเทหิ กมฺมํ กโรติ…เป… นงฺคุฏฺเนปิ กมฺมํ กโรติ, โสณฺฑายปิ กมฺมํ กโรติ, ตตฺถ หตฺถาโรหสฺส เอวํ โหติ – ‘อยํ โข รฺโ นาโค อีสาทนฺโต อุรูฬฺหวา อภิชาโต สงฺคามาวจโร สงฺคามคโต ปุริเมหิปิ ปาเทหิ กมฺมํ กโรติ, ปจฺฉิเมหิปิ ปาเทหิ กมฺมํ กโรติ, ปุริเมนปิ กาเยน กมฺมํ กโรติ, ปจฺฉิเมนปิ กาเยน กมฺมํ กโรติ, สีเสนปิ กมฺมํ กโรติ, กณฺเณหิปิ กมฺมํ กโรติ, ทนฺเตหิปิ กมฺมํ กโรติ, นงฺคุฏฺเนปิ กมฺมํ กโรติ, โสณฺฑายปิ กมฺมํ กโรติ. ปริจฺจตฺตํ โข รฺโ นาคสฺส ชีวิตํ. นตฺถิ ทานิ กิฺจิ รฺโ นาคสฺส อกรณีย’นฺติ. เอวเมว โข, ราหุล, ยสฺส กสฺสจิ สมฺปชานมุสาวาเท นตฺถิ ลชฺชา, นาหํ ตสฺส กิฺจิ ปาปํ อกรณียนฺติ วทามิ. ตสฺมาติห เต, ราหุล, ‘หสฺสาปิ น มุสา ภณิสฺสามี’ติ – เอวฺหิ เต, ราหุล, สิกฺขิตพฺพํ.
๑๐๙. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, ราหุล, กิมตฺถิโย อาทาโส’’ติ? ‘‘ปจฺจเวกฺขณตฺโถ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, ราหุล, ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา กาเยน กมฺมํ กตฺตพฺพํ, ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา วาจาย กมฺมํ กตฺตพฺพํ, ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา มนสา กมฺมํ กตฺตพฺพํ. ยเทว ¶ ตฺวํ, ราหุล, กาเยน กมฺมํ กตฺตุกาโม อโหสิ, ตเทว เต กายกมฺมํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ยํ นุ โข อหํ อิทํ กาเยน กมฺมํ กตฺตุกาโม อิทํ เม กายกมฺมํ อตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย, ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย, อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย – อกุสลํ อิทํ กายกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ [ทุกฺขุนฺทฺรยํ, ทุกฺขุทยํ (ก.)] ทุกฺขวิปาก’นฺติ? สเจ ตฺวํ, ราหุล, ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘ยํ โข อหํ อิทํ กาเยน กมฺมํ กตฺตุกาโม อิทํ เม กายกมฺมํ อตฺตพฺยาพาธายปิ ¶ สํวตฺเตยฺย, ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย, อุภยพฺยาพาธายปิ ¶ สํวตฺเตยฺย – อกุสลํ อิทํ กายกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปาก’นฺติ, เอวรูปํ เต, ราหุล, กาเยน กมฺมํ สสกฺกํ น กรณียํ [สํสกฺกํ น จ กรณียํ (ก.)]. สเจ ¶ ปน ตฺวํ, ราหุล, ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘ยํ โข อหํ อิทํ กาเยน กมฺมํ กตฺตุกาโม อิทํ เม กายกมฺมํ เนวตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย, น ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย, น อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย – กุสลํ อิทํ กายกมฺมํ สุขุทฺรยํ สุขวิปาก’นฺติ, เอวรูปํ เต, ราหุล, กาเยน กมฺมํ กรณียํ.
‘‘กโรนฺเตนปิ เต, ราหุล, กาเยน กมฺมํ ตเทว เต กายกมฺมํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ยํ นุ โข อหํ อิทํ กาเยน กมฺมํ กโรมิ อิทํ เม กายกมฺมํ อตฺตพฺยาพาธายปิ ¶ สํวตฺตติ, ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ – อกุสลํ อิทํ กายกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปาก’นฺติ? สเจ ปน ตฺวํ, ราหุล, ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘ยํ โข อหํ อิทํ กาเยน กมฺมํ กโรมิ อิทํ เม กายกมฺมํ อตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ – อกุสลํ อิทํ กายกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปาก’นฺติ, ปฏิสํหเรยฺยาสิ ตฺวํ, ราหุล, เอวรูปํ กายกมฺมํ. สเจ ปน ตฺวํ, ราหุล, ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘ยํ โข อหํ อิทํ กาเยน กมฺมํ กโรมิ อิทํ เม กายกมฺมํ เนวตฺตพฺยาพาธายปิ ¶ สํวตฺตติ, น ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, น อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ – กุสลํ อิทํ กายกมฺมํ สุขุทฺรยํ สุขวิปาก’นฺติ, อนุปทชฺเชยฺยาสิ ตฺวํ, ราหุล, เอวรูปํ กายกมฺมํ.
‘‘กตฺวาปิ เต, ราหุล, กาเยน กมฺมํ ตเทว เต กายกมฺมํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ยํ นุ โข อหํ อิทํ กาเยน กมฺมํ อกาสึ อิทํ เม กายกมฺมํ อตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ [สํวตฺติ (ปี.)], ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ – อกุสลํ อิทํ กายกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปาก’นฺติ? สเจ โข ตฺวํ, ราหุล, ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘ยํ โข อหํ อิทํ กาเยน กมฺมํ อกาสึ, อิทํ เม กายกมฺมํ อตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ – อกุสลํ อิทํ กายกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปาก’นฺติ, เอวรูปํ เต, ราหุล, กายกมฺมํ สตฺถริ วา วิฺูสุ วา สพฺรหฺมจารีสุ ¶ เทเสตพฺพํ, วิวริตพฺพํ, อุตฺตานีกาตพฺพํ; เทเสตฺวา วิวริตฺวา อุตฺตานีกตฺวา อายตึ สํวรํ ¶ อาปชฺชิตพฺพํ ¶ . สเจ ปน ตฺวํ, ราหุล, ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘ยํ โข อหํ อิทํ กาเยน กมฺมํ อกาสึ อิทํ เม กายกมฺมํ เนวตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, น ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, น อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ – กุสลํ อิทํ กายกมฺมํ สุขุทฺรยํ สุขวิปาก’นฺติ, เตเนว ตฺวํ, ราหุล, ปีติปาโมชฺเชน วิหเรยฺยาสิ อโหรตฺตานุสิกฺขี กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
๑๑๐. ‘‘ยเทว ตฺวํ, ราหุล, วาจาย กมฺมํ กตฺตุกาโม อโหสิ, ตเทว เต วจีกมฺมํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ยํ นุ โข อหํ อิทํ วาจาย กมฺมํ กตฺตุกาโม อิทํ เม วจีกมฺมํ อตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย, ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย, อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย – อกุสลํ อิทํ วจีกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปาก’นฺติ? สเจ ตฺวํ, ราหุล, ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘ยํ โข อหํ อิทํ วาจาย กมฺมํ กตฺตุกาโม อิทํ เม วจีกมฺมํ อตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย, ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย, อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย – อกุสลํ อิทํ วจีกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปาก’นฺติ, เอวรูปํ เต, ราหุล, วาจาย กมฺมํ สสกฺกํ น กรณียํ. สเจ ปน ตฺวํ, ราหุล, ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘ยํ โข อหํ อิทํ วาจาย กมฺมํ กตฺตุกาโม อิทํ เม วจีกมฺมํ เนวตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย, น ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย – กุสลํ อิทํ วจีกมฺมํ สุขุทฺรยํ สุขวิปาก’นฺติ, เอวรูปํ เต, ราหุล, วาจาย กมฺมํ กรณียํ.
‘‘กโรนฺเตนปิ, ราหุล, วาจาย กมฺมํ ตเทว เต วจีกมฺมํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ยํ นุ โข อหํ อิทํ วาจาย กมฺมํ กโรมิ อิทํ เม วจีกมฺมํ อตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, ปรพฺยาพาธายปิ ¶ สํวตฺตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ – อกุสลํ อิทํ วจีกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปาก’นฺติ? สเจ ปน ตฺวํ, ราหุล, ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘ยํ โข อหํ อิทํ วาจาย กมฺมํ กโรมิ อิทํ เม วจีกมฺมํ อตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ – อกุสลํ อิทํ วจีกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปาก’นฺติ, ปฏิสํหเรยฺยาสิ ตฺวํ, ราหุล, เอวรูปํ วจีกมฺมํ. สเจ ปน ตฺวํ, ราหุล, ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘ยํ โข อหํ อิทํ วาจาย กมฺมํ กโรมิ อิทํ เม วจีกมฺมํ ¶ เนวตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, น ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, น ¶ อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ ¶ – กุสลํ อิทํ วจีกมฺมํ สุขุทฺรยํ สุขวิปาก’นฺติ, อนุปทชฺเชยฺยาสิ, ตฺวํ ราหุล, เอวรูปํ วจีกมฺมํ.
‘‘กตฺวาปิ เต, ราหุล, วาจาย กมฺมํ ตเทว เต วจีกมฺมํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ยํ นุ โข อหํ อิทํ วาจาย กมฺมํ อกาสึ อิทํ เม วจีกมฺมํ อตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ [สํวตฺติ (สี. ปี.)], ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ – อกุสลํ อิทํ วจีกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปาก’นฺติ? สเจ โข ตฺวํ, ราหุล, ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘ยํ โข อหํ อิทํ วาจาย กมฺมํ อกาสึ อิทํ เม วจีกมฺมํ อตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ – อกุสลํ อิทํ วจีกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปาก’นฺติ, เอวรูปํ เต, ราหุล, วจีกมฺมํ สตฺถริ วา วิฺูสุ วา สพฺรหฺมจารีสุ เทเสตพฺพํ, วิวริตพฺพํ, อุตฺตานีกตฺตพฺพํ ¶ ; เทเสตฺวา วิวริตฺวา อุตฺตานีกตฺวา อายตึ สํวรํ อาปชฺชิตพฺพํ. สเจ ปน ตฺวํ, ราหุล, ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘ยํ โข อหํ อิทํ วาจาย กมฺมํ อกาสึ อิทํ เม วจีกมฺมํ เนวตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, น ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, น อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ – กุสลํ อิทํ วจีกมฺมํ สุขุทฺรยํ สุขวิปาก’นฺติ, เตเนว ตฺวํ, ราหุล, ปีติปาโมชฺเชน วิหเรยฺยาสิ อโหรตฺตานุสิกฺขี กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
๑๑๑. ‘‘ยเทว ตฺวํ, ราหุล, มนสา กมฺมํ กตฺตุกาโม อโหสิ, ตเทว เต มโนกมฺมํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ยํ นุ โข อหํ อิทํ มนสา กมฺมํ กตฺตุกาโม อิทํ เม มโนกมฺมํ อตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย, ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย, อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย – อกุสลํ อิทํ มโนกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปาก’นฺติ? สเจ ตฺวํ, ราหุล, ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘ยํ โข อหํ อิทํ มนสา กมฺมํ กตฺตุกาโม อิทํ เม มโนกมฺมํ อตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย, ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย, อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย – อกุสลํ อิทํ มโนกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปาก’นฺติ, เอวรูปํ เต, ราหุล, มนสา กมฺมํ สสกฺกํ น กรณียํ. สเจ ปน ตฺวํ, ราหุล, ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘ยํ โข อหํ ¶ อิทํ มนสา กมฺมํ กตฺตุกาโม อิทํ เม มโนกมฺมํ เนวตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย, น ปรพฺยาพาธายปิ ¶ สํวตฺเตยฺย, น อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺเตยฺย – กุสลํ อิทํ มโนกมฺมํ ¶ สุขุทฺรยํ ¶ สุขวิปาก’นฺติ, เอวรูปํ เต, ราหุล, มนสา กมฺมํ กรณียํ.
‘‘กโรนฺเตนปิ เต, ราหุล, มนสา กมฺมํ ตเทว เต มโนกมฺมํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ยํ นุ โข อหํ อิทํ มนสา กมฺมํ กโรมิ อิทํ เม มโนกมฺมํ อตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ – อกุสลํ อิทํ มโนกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปาก’นฺติ? สเจ ปน ตฺวํ, ราหุล, ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘ยํ โข อหํ อิทํ มนสา กมฺมํ กโรมิ อิทํ เม มโนกมฺมํ อตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ – อกุสลํ อิทํ มโนกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปาก’นฺติ, ปฏิสํหเรยฺยาสิ ตฺวํ, ราหุล, เอวรูปํ มโนกมฺมํ. สเจ ปน ตฺวํ, ราหุล, ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘ยํ โข อหํ อิทํ มนสา กมฺมํ กโรมิ อิทํ เม มโนกมฺมํ เนวตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, น ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, น อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ – กุสลํ อิทํ มโนกมฺมํ สุขุทฺรยํ สุขวิปาก’นฺติ, อนุปทชฺเชยฺยาสิ ตฺวํ, ราหุล, เอวรูปํ มโนกมฺมํ.
‘‘กตฺวาปิ เต, ราหุล, มนสา กมฺมํ ตเทว เต มโนกมฺมํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ยํ นุ โข อหํ อิทํ มนสา กมฺมํ อกาสึ อิทํ เม มโนกมฺมํ อตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ [สํวตฺติ (สี. ปี.)], ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ – อกุสลํ อิทํ มโนกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปาก’นฺติ? สเจ โข ตฺวํ, ราหุล, ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘ยํ ¶ โข อหํ อิทํ มนสา กมฺมํ อกาสึ อิทํ เม มโนกมฺมํ อตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ – อกุสลํ อิทํ มโนกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปาก’นฺติ, เอวรูปํ ปน [เอวรูเป (สี. ปี.), เอวรูเป ปน (สฺยา. กํ.)] เต, ราหุล, มโนกมฺมํ [มโนกมฺเม (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อฏฺฏียิตพฺพํ หรายิตพฺพํ ชิคุจฺฉิตพฺพํ; อฏฺฏียิตฺวา หรายิตฺวา ชิคุจฺฉิตฺวา อายตึ สํวรํ อาปชฺชิตพฺพํ. สเจ ปน ตฺวํ, ราหุล, ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชาเนยฺยาสิ – ‘ยํ โข อหํ อิทํ มนสา กมฺมํ อกาสึ ¶ อิทํ เม มโนกมฺมํ เนวตฺตพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, น ปรพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ, น อุภยพฺยาพาธายปิ สํวตฺตติ – กุสลํ อิทํ มโนกมฺมํ สุขุทฺรยํ สุขวิปาก’นฺติ, เตเนว ตฺวํ, ราหุล, ปีติปาโมชฺเชน วิหเรยฺยาสิ อโหรตฺตานุสิกฺขี กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
๑๑๒. ‘‘เย ¶ ¶ หิ เกจิ, ราหุล, อตีตมทฺธานํ สมณา วา พฺราหฺมณา วา กายกมฺมํ ปริโสเธสุํ, วจีกมฺมํ ปริโสเธสุํ, มโนกมฺมํ ปริโสเธสุํ, สพฺเพ เต เอวเมวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา กายกมฺมํ ปริโสเธสุํ, ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา วจีกมฺมํ ปริโสเธสุํ, ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา มโนกมฺมํ ปริโสเธสุํ. เยปิ หิ เกจิ, ราหุล, อนาคตมทฺธานํ สมณา วา พฺราหฺมณา วา กายกมฺมํ ปริโสเธสฺสนฺติ, วจีกมฺมํ ปริโสเธสฺสนฺติ, มโนกมฺมํ ปริโสเธสฺสนฺติ, สพฺเพ เต เอวเมวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา กายกมฺมํ ปริโสเธสฺสนฺติ, ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา วจีกมฺมํ ปริโสเธสฺสนฺติ ¶ , ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา มโนกมฺมํ ปริโสเธสฺสนฺติ. เยปิ หิ เกจิ, ราหุล, เอตรหิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา กายกมฺมํ ปริโสเธนฺติ, วจีกมฺมํ ปริโสเธนฺติ, มโนกมฺมํ ปริโสเธนฺติ, สพฺเพ เต เอวเมวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา กายกมฺมํ ปริโสเธนฺติ, ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา วจีกมฺมํ ปริโสเธนฺติ, ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา มโนกมฺมํ ปริโสเธนฺติ. ตสฺมาติห, ราหุล, ‘ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา กายกมฺมํ ปริโสเธสฺสามิ, ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา วจีกมฺมํ ปริโสเธสฺสามิ, ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา มโนกมฺมํ ปริโสเธสฺสามี’ติ – เอวฺหิ เต, ราหุล, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา ราหุโล ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
อมฺพลฏฺิกราหุโลวาทสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปมํ.
๒. มหาราหุโลวาทสุตฺตํ
๑๑๓. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อายสฺมาปิ โข ¶ ราหุโล ปุพฺพณฺหสมยํ ¶ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธิ. อถ โข ภควา อปโลเกตฺวา อายสฺมนฺตํ ราหุลํ อามนฺเตสิ – ‘‘ยํ กิฺจิ, ราหุล, รูปํ – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา – สพฺพํ รูปํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพ’’นฺติ. ‘‘รูปเมว นุ โข, ภควา, รูปเมว นุ โข, สุคตา’’ติ? ‘‘รูปมฺปิ, ราหุล, เวทนาปิ, ราหุล, สฺาปิ, ราหุล, สงฺขาราปิ, ราหุล, วิฺาณมฺปิ, ราหุลา’’ติ. อถ โข อายสฺมา ราหุโล ‘‘โก นชฺช [โก นุชฺช (สฺยา. กํ.)] ภควตา สมฺมุขา โอวาเทน โอวทิโต คามํ ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสตี’’ติ ตโต ปฏินิวตฺติตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. อทฺทสา โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตํ ราหุลํ อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา ¶ . ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ ราหุลํ อามนฺเตสิ – ‘‘อานาปานสฺสตึ, ราหุล, ภาวนํ ภาเวหิ. อานาปานสฺสติ, ราหุล, ภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา’’ติ.
๑๑๔. อถ โข อายสฺมา ราหุโล สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา ราหุโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กถํ ภาวิตา นุ โข, ภนฺเต, อานาปานสฺสติ, กถํ พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา’’ติ? ‘‘ยํ กิฺจิ, ราหุล, อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ กกฺขฬํ ขริคตํ อุปาทินฺนํ, เสยฺยถิทํ – เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มํสํ นฺหารุ [นหารุ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อฏฺิ อฏฺิมิฺชํ วกฺกํ หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ, ยํ ¶ วา ปนฺมฺปิ กิฺจิ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ กกฺขฬํ ขริคตํ อุปาทินฺนํ – อยํ วุจฺจติ, ราหุล, อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ [ปวีธาตุ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ ยา จ พาหิรา ปถวีธาตุ, ปถวีธาตุเรเวสา. ตํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เอวเมตํ ¶ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา ปถวีธาตุยา นิพฺพินฺทติ, ปถวีธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ’’.
๑๑๕. ‘‘กตมา ¶ จ, ราหุล, อาโปธาตุ? อาโปธาตุ สิยา อชฺฌตฺติกา, สิยา พาหิรา. กตมา จ, ราหุล, อชฺฌตฺติกา อาโปธาตุ ¶ ? ยํ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ อาโป อาโปคตํ อุปาทินฺนํ, เสยฺยถิทํ – ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุพฺโพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺตํ, ยํ วา ปนฺมฺปิ กิฺจิ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ อาโป อาโปคตํ อุปาทินฺนํ – อยํ วุจฺจติ, ราหุล, อชฺฌตฺติกา อาโปธาตุ. ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา อาโปธาตุ ยา จ พาหิรา อาโปธาตุ อาโปธาตุเรเวสา. ตํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา อาโปธาตุยา นิพฺพินฺทติ, อาโปธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
๑๑๖. ‘‘กตมา จ, ราหุล, เตโชธาตุ? เตโชธาตุ สิยา อชฺฌตฺติกา, สิยา พาหิรา. กตมา จ, ราหุล, อชฺฌตฺติกา เตโชธาตุ? ยํ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ เตโช เตโชคตํ อุปาทินฺนํ, เสยฺยถิทํ – เยน จ สนฺตปฺปติ เยน จ ชีรียติ เยน จ ปริฑยฺหติ เยน จ อสิตปีตขายิตสายิตํ สมฺมา ปริณามํ คจฺฉติ, ยํ วา ปนฺมฺปิ กิฺจิ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ เตโช เตโชคตํ อุปาทินฺนํ – อยํ วุจฺจติ, ราหุล, อชฺฌตฺติกา เตโชธาตุ. ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา เตโชธาตุ ยา จ พาหิรา เตโชธาตุ เตโชธาตุเรเวสา. ตํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา เตโชธาตุยา นิพฺพินฺทติ, เตโชธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
๑๑๗. ‘‘กตมา ¶ จ, ราหุล, วาโยธาตุ? วาโยธาตุ สิยา อชฺฌตฺติกา, สิยา พาหิรา. กตมา จ, ราหุล, อชฺฌตฺติกา วาโยธาตุ? ยํ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ วาโย วาโยคตํ อุปาทินฺนํ, เสยฺยถิทํ – อุทฺธงฺคมา วาตา, อโธคมา วาตา, กุจฺฉิสยา วาตา, โกฏฺาสยา [โกฏฺสยา (สี. ปี.)] วาตา ¶ , องฺคมงฺคานุสาริโน วาตา, อสฺสาโส ปสฺสาโส, อิติ ยํ วา ปนฺมฺปิ กิฺจิ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ วาโย วาโยคตํ อุปาทินฺนํ – อยํ วุจฺจติ, ราหุล, อชฺฌตฺติกา วาโยธาตุ. ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา วาโยธาตุ ยา จ พาหิรา วาโยธาตุ วาโยธาตุเรเวสา. ตํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ ¶ , น เมโส อตฺตา’ติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ¶ ทฏฺพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา วาโยธาตุยา นิพฺพินฺทติ, วาโยธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
๑๑๘. ‘‘กตมา จ, ราหุล, อากาสธาตุ? อากาสธาตุ สิยา อชฺฌตฺติกา, สิยา พาหิรา. กตมา จ, ราหุล, อชฺฌตฺติกา อากาสธาตุ? ยํ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ อากาสํ อากาสคตํ อุปาทินฺนํ, เสยฺยถิทํ – กณฺณจฺฉิทฺทํ นาสจฺฉิทฺทํ มุขทฺวารํ, เยน จ อสิตปีตขายิตสายิตํ อชฺโฌหรติ, ยตฺถ จ อสิตปีตขายิตสายิตํ สนฺติฏฺติ, เยน จ อสิตปีตขายิตสายิตํ อโธภาคํ [อโธภาคา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นิกฺขมติ, ยํ วา ปนฺมฺปิ กิฺจิ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ อากาสํ อากาสคตํ, อฆํ อฆคตํ, วิวรํ วิวรคตํ, อสมฺผุฏฺํ, มํสโลหิเตหิ อุปาทินฺนํ ¶ [อากาสคตํ อุปาทินฺนํ (สี. ปี.)] – อยํ วุจฺจติ, ราหุล, อชฺฌตฺติกา อากาสธาตุ. ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา อากาสธาตุ ยา จ พาหิรา อากาสธาตุ อากาสธาตุเรเวสา. ตํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา อากาสธาตุยา จิตฺตํ นิพฺพินฺทติ, อากาสธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
๑๑๙. ‘‘ปถวีสมํ, ราหุล, ภาวนํ ภาเวหิ. ปถวีสมฺหิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต อุปฺปนฺนา มนาปามนาปา ผสฺสา จิตฺตํ น ปริยาทาย สฺสนฺติ. เสยฺยถาปิ, ราหุล, ปถวิยา สุจิมฺปิ นิกฺขิปนฺติ, อสุจิมฺปิ นิกฺขิปนฺติ, คูถคตมฺปิ นิกฺขิปนฺติ, มุตฺตคตมฺปิ นิกฺขิปนฺติ, เขฬคตมฺปิ นิกฺขิปนฺติ, ปุพฺพคตมฺปิ นิกฺขิปนฺติ, โลหิตคตมฺปิ นิกฺขิปนฺติ, น จ เตน ปถวี อฏฺฏียติ วา หรายติ วา ชิคุจฺฉติ วา; เอวเมว โข ตฺวํ, ราหุล, ปถวีสมํ ภาวนํ ภาเวหิ. ปถวีสมฺหิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต อุปฺปนฺนา มนาปามนาปา ผสฺสา จิตฺตํ น ปริยาทาย สฺสนฺติ.
‘‘อาโปสมํ, ราหุล, ภาวนํ ภาเวหิ. อาโปสมฺหิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต อุปฺปนฺนา มนาปามนาปา ผสฺสา จิตฺตํ น ปริยาทาย สฺสนฺติ. เสยฺยถาปิ, ราหุล, อาปสฺมึ สุจิมฺปิ ¶ โธวนฺติ, อสุจิมฺปิ โธวนฺติ, คูถคตมฺปิ โธวนฺติ, มุตฺตคตมฺปิ โธวนฺติ, เขฬคตมฺปิ โธวนฺติ, ปุพฺพคตมฺปิ โธวนฺติ, โลหิตคตมฺปิ โธวนฺติ, น จ ¶ เตน อาโป อฏฺฏียติ ¶ วา หรายติ วา ชิคุจฺฉติ วา; เอวเมว โข ¶ ตฺวํ, ราหุล, อาโปสมํ ภาวนํ ภาเวหิ. อาโปสมฺหิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต อุปฺปนฺนา มนาปามนาปา ผสฺสา จิตฺตํ น ปริยาทาย สฺสนฺติ.
‘‘เตโชสมํ, ราหุล, ภาวนํ ภาเวหิ. เตโชสมฺหิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต อุปฺปนฺนา มนาปามนาปา ผสฺสา จิตฺตํ น ปริยาทาย สฺสนฺติ. เสยฺยถาปิ, ราหุล, เตโช สุจิมฺปิ ทหติ, อสุจิมฺปิ ทหติ, คูถคตมฺปิ ทหติ, มุตฺตคตมฺปิ ทหติ, เขฬคตมฺปิ ทหติ, ปุพฺพคตมฺปิ ทหติ, โลหิตคตมฺปิ ทหติ, น จ เตน เตโช อฏฺฏียติ วา หรายติ วา ชิคุจฺฉติ วา; เอวเมว โข ตฺวํ, ราหุล, เตโชสมํ ภาวนํ ภาเวหิ. เตโชสมฺหิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต อุปฺปนฺนา มนาปามนาปา ผสฺสา จิตฺตํ น ปริยาทาย สฺสนฺติ.
‘‘วาโยสมํ, ราหุล, ภาวนํ ภาเวหิ. วาโยสมฺหิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต อุปฺปนฺนา มนาปามนาปา ผสฺสา จิตฺตํ น ปริยาทาย สฺสนฺติ. เสยฺยถาปิ, ราหุล, วาโย สุจิมฺปิ อุปวายติ, อสุจิมฺปิ อุปวายติ, คูถคตมฺปิ อุปวายติ, มุตฺตคตมฺปิ อุปวายติ, เขฬคตมฺปิ อุปวายติ, ปุพฺพคตมฺปิ อุปวายติ, โลหิตคตมฺปิ อุปวายติ, น จ เตน วาโย อฏฺฏียติ วา หรายติ วา ชิคุจฺฉติ วา; เอวเมว โข ตฺวํ, ราหุล, วาโยสมํ ภาวนํ ภาเวหิ. วาโยสมฺหิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต อุปฺปนฺนา มนาปามนาปา ผสฺสา จิตฺตํ น ปริยาทาย ¶ สฺสนฺติ.
‘‘อากาสสมํ, ราหุล, ภาวนํ ภาเวหิ. อากาสสมฺหิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต อุปฺปนฺนา มนาปามนาปา ผสฺสา จิตฺตํ น ปริยาทาย สฺสนฺติ. เสยฺยถาปิ, ราหุล, อากาโส น กตฺถจิ ปติฏฺิโต; เอวเมว โข ตฺวํ, ราหุล, อากาสสมํ ภาวนํ ภาเวหิ. อากาสสมฺหิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต อุปฺปนฺนา มนาปามนาปา ผสฺสา จิตฺตํ น ปริยาทาย สฺสนฺติ.
๑๒๐. ‘‘เมตฺตํ, ราหุล, ภาวนํ ภาเวหิ. เมตฺตฺหิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต โย พฺยาปาโท ¶ โส ปหียิสฺสติ. กรุณํ, ราหุล, ภาวนํ ภาเวหิ. กรุณฺหิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต ยา วิเหสา สา ปหียิสฺสติ. มุทิตํ, ราหุล, ภาวนํ ภาเวหิ. มุทิตฺหิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต ยา อรติ สา ปหียิสฺสติ. อุเปกฺขํ ¶ , ราหุล, ภาวนํ ภาเวหิ. อุเปกฺขฺหิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต โย ปฏิโฆ โส ปหียิสฺสติ. อสุภํ, ราหุล, ภาวนํ ภาเวหิ. อสุภฺหิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต โย ราโค โส ปหียิสฺสติ. อนิจฺจสฺํ, ราหุล, ภาวนํ ภาเวหิ. อนิจฺจสฺฺหิ ¶ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต โย อสฺมิมาโน โส ปหียิสฺสติ.
๑๒๑. ‘‘อานาปานสฺสตึ, ราหุล, ภาวนํ ภาเวหิ. อานาปานสฺสติ หิ เต, ราหุล, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. กถํ ภาวิตา จ, ราหุล, อานาปานสฺสติ, กถํ พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา ¶ ? อิธ, ราหุล, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สฺุาคารคโต วา นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส สโตว อสฺสสติ สโตว [สโต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปสฺสสติ.
‘‘ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, ทีฆํ วา ปสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ; รสฺสํ วา อสฺสสนฺโต ‘รสฺสํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, รสฺสํ วา ปสฺสสนฺโต ‘รสฺสํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ. ‘สพฺพกายปฺปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘สพฺพกายปฺปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ.
‘‘‘ปีติปฺปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘ปีติปฺปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘สุขปฺปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘สุขปฺปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘จิตฺตสงฺขารปฺปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘จิตฺตสงฺขารปฺปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ.
‘‘‘จิตฺตปฺปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘จิตฺตปฺปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ ¶ ; ‘อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘สมาทหํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘สมาทหํ จิตฺตํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘วิโมจยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘วิโมจยํ จิตฺตํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ.
‘‘‘อนิจฺจานุปสฺสี ¶ อสฺสสิสฺสามี’ติ ¶ สิกฺขติ; ‘อนิจฺจานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘วิราคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘วิราคานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘นิโรธานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘นิโรธานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ.
‘‘เอวํ ภาวิตา โข, ราหุล, อานาปานสฺสติ, เอวํ พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. เอวํ ภาวิตาย, ราหุล, อานาปานสฺสติยา, เอวํ ¶ พหุลีกตาย เยปิ เต จริมกา อสฺสาสา เตปิ วิทิตาว นิรุชฺฌนฺติ โน อวิทิตา’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา ราหุโล ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
มหาราหุโลวาทสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทุติยํ.
๓. จูฬมาลุกฺยสุตฺตํ
๑๒๒. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อายสฺมโต มาลุกฺยปุตฺตสฺส [มาลุงฺกฺยปุตฺตสฺส (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘ยานิมานิ ทิฏฺิคตานิ ภควตา อพฺยากตานิ ปิตานิ ปฏิกฺขิตฺตานิ – ‘สสฺสโต โลโก’ติปิ, ‘อสสฺสโต โลโก’ติปิ, ‘อนฺตวา โลโก’ติปิ, ‘อนนฺตวา โลโก’ติปิ, ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติปิ, ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติปิ, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ, ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ, ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ – ตานิ เม ภควา น พฺยากโรติ. ยานิ เม ภควา น พฺยากโรติ ตํ เม น รุจฺจติ, ตํ เม นกฺขมติ. โสหํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปุจฺฉิสฺสามิ. สเจ เม ภควา พฺยากริสฺสติ – ‘สสฺสโต โลโก’ติ วา ‘อสสฺสโต โลโก’ติ วา…เป… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา – เอวาหํ ภควติ พฺรหฺมจริยํ ¶ จริสฺสามิ; โน เจ เม ภควา พฺยากริสฺสติ – ‘สสฺสโต โลโก’ติ วา ‘อสสฺสโต โลโก’ติ วา…เป… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ¶ ปรํ มรณา’ติ วา – เอวาหํ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามี’’ติ.
๑๒๓. อถ ¶ โข อายสฺมา มาลุกฺยปุตฺโต สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา มาลุกฺยปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ –
๑๒๔. ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ยานิมานิ ทิฏฺิคตานิ ภควตา อพฺยากตานิ ปิตานิ ปฏิกฺขิตฺตานิ – ‘สสฺสโต โลโก’ติปิ, ‘อสสฺสโต โลโก’ติปิ…เป… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ – ตานิ เม ภควา น พฺยากโรติ. ยานิ เม ภควา น พฺยากโรติ ตํ เม ¶ น รุจฺจติ, ตํ เม นกฺขมติ. โสหํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปุจฺฉิสฺสามิ. สเจ เม ภควา พฺยากริสฺสติ – ‘สสฺสโต โลโก’ติ วา, ‘อสสฺสโต โลโก’ติ วา…เป… ¶ ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา – เอวาหํ ภควติ, พฺรหฺมจริยํ จริสฺสามิ. โน เจ เม ภควา พฺยากริสฺสติ – ‘สสฺสโต โลโก’ติ วา, ‘อสสฺสโต โลโก’ติ วา…เป… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา – เอวาหํ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามีติ. สเจ ภควา ชานาติ – ‘สสฺสโต โลโก’ติ, ‘สสฺสโต โลโก’ติ เม ภควา พฺยากโรตุ; สเจ ภควา ชานาติ – ‘อสสฺสโต โลโก’ติ, ‘อสสฺสโต โลโก’ติ เม ภควา พฺยากโรตุ. โน เจ ภควา ชานาติ – ‘สสฺสโต โลโก’ติ วา, ‘อสสฺสโต โลโก’ติ วา, อชานโต โข ปน อปสฺสโต เอตเทว อุชุกํ โหติ ยทิทํ – ‘น ชานามิ, น ปสฺสามี’ติ. สเจ ภควา ชานาติ – ‘อนฺตวา โลโก’ติ, ‘อนนฺตวา โลโก’ติ เม ภควา พฺยากโรตุ; สเจ ภควา ชานาติ – ‘อนนฺตวา โลโก’ติ, ‘อนนฺตวา โลโก’ติ เม ภควา พฺยากโรตุ. โน เจ ภควา ชานาติ – ‘อนฺตวา โลโก’ติ วา, ‘อนนฺตวา โลโก’ติ วา, อชานโต โข ปน อปสฺสโต เอตเทว ¶ อุชุกํ โหติ ยทิทํ – ‘น ชานามิ, น ปสฺสามี’ติ. สเจ ภควา ชานาติ – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ, ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ เม ภควา พฺยากโรตุ; สเจ ภควา ชานาติ – ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ, ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ เม ภควา พฺยากโรตุ. โน เจ ภควา ชานาติ – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา, ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วา, อชานโต โข ปน อปสฺสโต เอตเทว อุชุกํ โหติ ยทิทํ – ‘น ¶ ชานามิ, น ปสฺสามี’ติ. สเจ ภควา ชานาติ – ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ เม ภควา ¶ พฺยากโรตุ; สเจ ภควา ชานาติ – ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ, ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ เม ภควา พฺยากโรตุ. โน เจ ภควา ชานาติ – ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, อชานโต โข ปน อปสฺสโต เอตเทว อุชุกํ โหติ ยทิทํ – ‘น ชานามิ น ปสฺสามี’ติ. สเจ ภควา ชานาติ – ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ, ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ เม ภควา พฺยากโรตุ; สเจ ภควา ชานาติ – ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ เม ภควา พฺยากโรตุ. โน เจ ภควา ชานาติ – ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, ‘เนว โหติ น ¶ น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, อชานโต โข ปน อปสฺสโต เอตเทว อุชุกํ โหติ ยทิทํ – ‘น ชานามิ, น ปสฺสามี’’’ติ.
๑๒๕. ‘‘กึ นุ [กึ นุ โข (สฺยา. กํ. ก.)] ตาหํ, มาลุกฺยปุตฺต, เอวํ อวจํ – ‘เอหิ ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, มยิ พฺรหฺมจริยํ จร, อหํ เต พฺยากริสฺสามิ – ‘สสฺสโต โลโก’ติ วา, ‘อสสฺสโต โลโก’ติ วา, ‘อนฺตวา โลโก’ติ วา, ‘อนนฺตวา โลโก’ติ วา, ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา, ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วา, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, ‘น โหติ ¶ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตฺวํ วา ปน มํ เอวํ อวจ – อหํ, ภนฺเต, ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริสฺสามิ ¶ , ภควา เม พฺยากริสฺสติ – ‘สสฺสโต โลโก’ติ วา, ‘อสสฺสโต โลโก’ติ วา, ‘อนฺตวา โลโก’ติ วา, ‘อนนฺตวา โลโก’ติ วา, ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา, ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วา, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘อิติ กิร, มาลุกฺยปุตฺต, เนวาหํ ตํ วทามิ – เอหิ ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, มยิ พฺรหฺมจริยํ จร, อหํ เต พฺยากริสฺสามิ – ‘สสฺสโต โลโก’ติ วา, ‘อสสฺสโต โลโก’ติ วา…เป… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา’ติ; นปิ กิร มํ ตฺวํ วเทสิ – อหํ, ภนฺเต, ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริสฺสามิ, ภควา เม พฺยากริสฺสติ – ‘สสฺสโต โลโก’ติ วา ‘อสสฺสโต โลโก’ติ วา…เป… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา’’ติ. เอวํ สนฺเต, โมฆปุริส, โก สนฺโต กํ ปจฺจาจิกฺขสิ?
๑๒๖. ‘‘โย โข, มาลุกฺยปุตฺต, เอวํ วเทยฺย – ‘น ตาวาหํ ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริสฺสามิ ยาว เม ภควา น พฺยากริสฺสติ – ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติ วา, ‘‘อสสฺสโต โลโก’’ติ วา…เป… ¶ ‘‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ วาติ, อพฺยากตเมว ¶ ตํ, มาลุกฺยปุตฺต, ตถาคเตน อสฺส, อถ โส ปุคฺคโล กาลํ กเรยฺย. เสยฺยถาปิ, มาลุกฺยปุตฺต, ปุริโส สลฺเลน วิทฺโธ อสฺส สวิเสน คาฬฺหปเลปเนน. ตสฺส มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปฏฺเปยฺยุํ. โส เอวํ วเทยฺย – ‘น ตาวาหํ อิมํ ¶ สลฺลํ อาหริสฺสามิ ยาว น ตํ ปุริสํ ชานามิ เยนมฺหิ วิทฺโธ, ขตฺติโย วา พฺราหฺมโณ วา เวสฺโส วา สุทฺโท วา’ติ; โส เอวํ วเทยฺย – ‘น ตาวาหํ อิมํ สลฺลํ อาหริสฺสามิ ยาว น ตํ ปุริสํ ชานามิ เยนมฺหิ วิทฺโธ, เอวํนาโม เอวํโคตฺโต อิติ วา’ติ; โส เอวํ วเทยฺย – ‘น ตาวาหํ อิมํ สลฺลํ อาหริสฺสามิ ยาว น ตํ ปุริสํ ชานามิ เยนมฺหิ วิทฺโธ, ทีโฆ วา รสฺโส วา มชฺฌิโม วา’ติ; โส เอวํ วเทยฺย – ‘น ตาวาหํ อิมํ สลฺลํ อาหริสฺสามิ ยาว น ตํ ปุริสํ ชานามิ เยนมฺหิ วิทฺโธ, กาโฬ วา สาโม วา มงฺคุรจฺฉวี วา’ติ; โส เอวํ วเทยฺย – ‘น ตาวาหํ อิมํ สลฺลํ อาหริสฺสามิ ยาว น ตํ ปุริสํ ชานามิ เยนมฺหิ วิทฺโธ, อมุกสฺมึ คาเม ¶ วา นิคเม วา นคเร วา’ติ; โส เอวํ วเทยฺย – ‘น ตาวาหํ อิมํ สลฺลํ อาหริสฺสามิ ยาว น ตํ ธนุํ ชานามิ เยนมฺหิ วิทฺโธ, ยทิ วา จาโป ยทิ วา โกทณฺโฑ’ติ; โส เอวํ วเทยฺย – ‘น ตาวาหํ อิมํ สลฺลํ อาหริสฺสามิ ยาว น ตํ ชิยํ ชานามิ ยายมฺหิ วิทฺโธ ¶ , ยทิ วา อกฺกสฺส ยทิ วา สณฺหสฺส [สณฺสฺส (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ยทิ วา นฺหารุสฺส ยทิ วา มรุวาย ยทิ วา ขีรปณฺณิโน’ติ; โส เอวํ วเทยฺย – ‘น ตาวาหํ อิมํ สลฺลํ อาหริสฺสามิ ยาว น ตํ กณฺฑํ ชานามิ เยนมฺหิ วิทฺโธ, ยทิ วา คจฺฉํ ยทิ วา โรปิม’นฺติ; โส เอวํ วเทยฺย – ‘น ตาวาหํ อิมํ สลฺลํ อาหริสฺสามิ ยาว น ตํ กณฺฑํ ชานามิ เยนมฺหิ วิทฺโธ, ยสฺส ปตฺเตหิ วาชิตํ [วาขิตฺตํ (ก.)] ยทิ วา คิชฺฌสฺส ยทิ วา กงฺกสฺส ยทิ วา กุลลสฺส ยทิ วา โมรสฺส ยทิ วา สิถิลหนุโน’ติ; โส เอวํ วเทยฺย – ‘น ตาวาหํ อิมํ สลฺลํ อาหริสฺสามิ ยาว น ตํ กณฺฑํ ชานามิ เยนมฺหิ วิทฺโธ, ยสฺส นฺหารุนา ปริกฺขิตฺตํ ยทิ วา ควสฺส ยทิ วา มหึสสฺส ยทิ วา เภรวสฺส [โรรุวสฺส (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ยทิ วา เสมฺหารสฺสา’ติ; โส เอวํ วเทยฺย – ‘น ตาวาหํ อิมํ สลฺลํ อาหริสฺสามิ ยาว น ตํ สลฺลํ ชานามิ เยนมฺหิ วิทฺโธ, ยทิ วา สลฺลํ ยทิ วา ขุรปฺปํ ยทิ วา เวกณฺฑํ ยทิ วา นาราจํ ยทิ วา วจฺฉทนฺตํ ยทิ วา กรวีรปตฺต’นฺติ ¶ – อฺาตเมว ตํ, มาลุกฺยปุตฺต, เตน ปุริเสน อสฺส, อถ โส ปุริโส กาลํ กเรยฺย. เอวเมว โข, มาลุกฺยปุตฺต, โย เอวํ วเทยฺย – ‘น ตาวาหํ ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริสฺสามิ ยาว เม ภควา น พฺยากริสฺสติ – ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติ วา ‘‘อสสฺสโต โลโก’’ติ ¶ วา…เป… ‘‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ วาติ – อพฺยากตเมว ตํ, มาลุกฺยปุตฺต, ตถาคเตน อสฺส, อถ โส ปุคฺคโล กาลงฺกเรยฺย.
๑๒๗. ‘‘‘สสฺสโต โลโก’ติ, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส อภวิสฺสาติ ¶ , เอวํ ‘โน อสสฺสโต โลโก’ติ, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส อภวิสฺสาติ, เอวมฺปิ ‘โน สสฺสโต โลโก’ติ วา, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺิยา สติ, ‘อสสฺสโต โลโก’ติ วา ทิฏฺิยา สติ อตฺเถว ชาติ, อตฺถิ ชรา, อตฺถิ มรณํ, สนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา; เยสาหํ ทิฏฺเว ธมฺเม นิฆาตํ ปฺเปมิ ¶ . ‘อนฺตวา โลโก’ติ, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส อภวิสฺสาติ, เอวํ ‘โน อนนฺตวา โลโก’ติ, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส อภวิสฺสาติ, เอวมฺปิ ‘โน อนฺตวา โลโก’ติ วา, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺิยา สติ, ‘อนนฺตวา โลโก’ติ วา ทิฏฺิยา สติ อตฺเถว ชาติ, อตฺถิ ชรา, อตฺถิ มรณํ, สนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา; เยสาหํ ทิฏฺเว ธมฺเม นิฆาตํ ปฺเปมิ. ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส ¶ อภวิสฺสาติ, เอวํ ‘โน อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส อภวิสฺสาติ, เอวมฺปิ ‘โน ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺิยา สติ, ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วา ทิฏฺิยา สติ อตฺเถว ชาติ…เป… นิฆาตํ ปฺเปมิ. ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส อภวิสฺสาติ, เอวํ ‘โน น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส อภวิสฺสาติ, เอวมฺปิ ‘โน โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺิยา สติ, ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา ทิฏฺิยา สติ อตฺเถว ชาติ…เป… ¶ เยสาหํ ทิฏฺเว ธมฺเม นิฆาตํ ปฺเปมิ. ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส อภวิสฺสาติ, เอวํ ‘โน เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส อภวิสฺสาติ, เอวมฺปิ ‘โน โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺิยา สติ, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา ทิฏฺิยา สติ อตฺเถว ชาติ…เป… เยสาหํ ทิฏฺเว ธมฺเม นิฆาตํ ปฺเปมิ.
๑๒๘. ‘‘ตสฺมาติห, มาลุกฺยปุตฺต, อพฺยากตฺจ เม อพฺยากตโต ¶ ธาเรถ; พฺยากตฺจ เม พฺยากตโต ธาเรถ. กิฺจ, มาลุกฺยปุตฺต, มยา อพฺยากตํ? ‘สสฺสโต โลโก’ติ มาลุกฺยปุตฺต, มยา อพฺยากตํ; ‘อสสฺสโต โลโก’ติ – มยา อพฺยากตํ; ‘อนฺตวา โลโก’ติ – มยา อพฺยากตํ; ‘อนนฺตวา โลโก’ติ – มยา อพฺยากตํ; ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ ¶ – มยา อพฺยากตํ; ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ – มยา อพฺยากตํ; ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ – มยา อพฺยากตํ; ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ ¶ มรณา’ติ – มยา อพฺยากตํ; ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ – มยา อพฺยากตํ; ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ – มยา อพฺยากตํ. กสฺมา เจตํ, มาลุกฺยปุตฺต, มยา อพฺยากตํ? น เหตํ, มาลุกฺยปุตฺต, อตฺถสํหิตํ น อาทิพฺรหฺมจริยกํ น [เนตํ (สี.)] นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. ตสฺมา ตํ มยา อพฺยากตํ. กิฺจ, มาลุกฺยปุตฺต, มยา พฺยากตํ? ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ, มาลุกฺยปุตฺต, มยา พฺยากตํ; ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ – มยา พฺยากตํ; ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ – มยา พฺยากตํ; ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ – มยา พฺยากตํ. กสฺมา เจตํ, มาลุกฺยปุตฺต, มยา พฺยากตํ? เอตฺหิ, มาลุกฺยปุตฺต, อตฺถสํหิตํ เอตํ อาทิพฺรหฺมจริยกํ นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ. ตสฺมา ตํ มยา พฺยากตํ. ตสฺมาติห, มาลุกฺยปุตฺต ¶ , อพฺยากตฺจ เม ¶ อพฺยากตโต ธาเรถ; พฺยากตฺจ เม พฺยากตโต ธาเรถา’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา มาลุกฺยปุตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
จูฬมาลุกฺยสุตฺตํ นิฏฺิตํ ตติยํ.
๔. มหามาลุกฺยสุตฺตํ
๑๒๙. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘ธาเรถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, มยา เทสิตานิ ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานี’’ติ?
เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา มาลุกฺยปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหํ โข, ภนฺเต, ธาเรมิ ภควตา เทสิตานิ ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานี’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, ธาเรสิ มยา เทสิตานิ ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานี’’ติ? ‘‘สกฺกายทิฏฺึ โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา โอรมฺภาคิยํ ¶ สํโยชนํ เทสิตํ ธาเรมิ; วิจิกิจฺฉํ โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา โอรมฺภาคิยํ สํโยชนํ เทสิตํ ธาเรมิ; สีลพฺพตปรามาสํ โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา โอรมฺภาคิยํ สํโยชนํ เทสิตํ ธาเรมิ; กามจฺฉนฺทํ โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา โอรมฺภาคิยํ สํโยชนํ เทสิตํ ธาเรมิ; พฺยาปาทํ โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา โอรมฺภาคิยํ สํโยชนํ เทสิตํ ธาเรมิ. เอวํ โข อหํ, ภนฺเต, ธาเรมิ ภควตา เทสิตานิ ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานี’’ติ.
‘‘กสฺส โข นาม ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, อิมานิ เอวํ ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ เทสิตานิ ธาเรสิ? นนุ, มาลุกฺยปุตฺต ¶ , อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อิมินา ตรุณูปเมน อุปารมฺเภน อุปารมฺภิสฺสนฺติ? ทหรสฺส หิ, มาลุกฺยปุตฺต, กุมารสฺส มนฺทสฺส อุตฺตานเสยฺยกสฺส สกฺกาโยติปิ น โหติ, กุโต ¶ ปนสฺส อุปฺปชฺชิสฺสติ สกฺกายทิฏฺิ? อนุเสตฺเววสฺส [อนุเสติ ตฺเววสฺส (สี. ปี.)] สกฺกายทิฏฺานุสโย. ทหรสฺส หิ, มาลุกฺยปุตฺต, กุมารสฺส มนฺทสฺส อุตฺตานเสยฺยกสฺส ธมฺมาติปิ น โหติ, กุโต ปนสฺส อุปฺปชฺชิสฺสติ ธมฺเมสุ วิจิกิจฺฉา? อนุเสตฺเววสฺส วิจิกิจฺฉานุสโย. ทหรสฺส หิ, มาลุกฺยปุตฺต, กุมารสฺส มนฺทสฺส อุตฺตานเสยฺยกสฺส สีลาติปิ น โหติ, กุโต ปนสฺส อุปฺปชฺชิสฺสติ สีเลสุ สีลพฺพตปรามาโส? อนุเสตฺเววสฺส สีลพฺพตปรามาสานุสโย ¶ . ทหรสฺส หิ, มาลุกฺยปุตฺต, กุมารสฺส มนฺทสฺส อุตฺตานเสยฺยกสฺส กามาติปิ น โหติ, กุโต ปนสฺส อุปฺปชฺชิสฺสติ กาเมสุ กามจฺฉนฺโท? อนุเสตฺเววสฺส กามราคานุสโย. ทหรสฺส หิ, มาลุกฺยปุตฺต, กุมารสฺส มนฺทสฺส อุตฺตานเสยฺยกสฺส สตฺตาติปิ น โหติ, กุโต ปนสฺส อุปฺปชฺชิสฺสติ สตฺเตสุ พฺยาปาโท? อนุเสตฺเววสฺส พฺยาปาทานุสโย. นนุ, มาลุกฺยปุตฺต, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อิมินา ตรุณูปเมน อุปารมฺเภน อุปารมฺภิสฺสนฺตี’’ติ? เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอตสฺส, ภควา, กาโล, เอตสฺส, สุคต, กาโล ยํ ภควา ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ เทเสยฺย. ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หานนฺท, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา ¶ อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –
๑๓๐. ‘‘อิธานนฺท ¶ , อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน อริยานํ อทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส อโกวิโท อริยธมฺเม อวินีโต, สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต สกฺกายทิฏฺิปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ สกฺกายทิฏฺิปเรเตน; อุปฺปนฺนาย จ สกฺกายทิฏฺิยา นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส สา สกฺกายทิฏฺิ ถามคตา อปฺปฏิวินีตา โอรมฺภาคิยํ สํโยชนํ. วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ วิจิกิจฺฉาปเรเตน; อุปฺปนฺนาย จ วิจิกิจฺฉาย นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส สา วิจิกิจฺฉา ถามคตา อปฺปฏิวินีตา โอรมฺภาคิยํ สํโยชนํ. สีลพฺพตปรามาสปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ สีลพฺพตปรามาสปเรเตน; อุปฺปนฺนสฺส จ สีลพฺพตปรามาสสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส โส สีลพฺพตปรามาโส ถามคโต อปฺปฏิวินีโต โอรมฺภาคิยํ สํโยชนํ. กามราคปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ กามราคปเรเตน ¶ ; อุปฺปนฺนสฺส จ กามราคสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส โส กามราโค ถามคโต อปฺปฏิวินีโต โอรมฺภาคิยํ สํโยชนํ. พฺยาปาทปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ พฺยาปาทปเรเตน; อุปฺปนฺนสฺส จ พฺยาปาทสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส โส พฺยาปาโท ถามคโต อปฺปฏิวินีโต โอรมฺภาคิยํ สํโยชนํ.
๑๓๑. ‘‘สุตวา จ โข, อานนฺท, อริยสาวโก ¶ อริยานํ ทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส โกวิโท ¶ อริยธมฺเม สุวินีโต, สปฺปุริสานํ ทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส โกวิโท สปฺปุริสธมฺเม สุวินีโต น สกฺกายทิฏฺิปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ น สกฺกายทิฏฺิปเรเตน; อุปฺปนฺนาย จ สกฺกายทิฏฺิยา นิสฺสรณํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส สา สกฺกายทิฏฺิ สานุสยา ปหียติ. น วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ น วิจิกิจฺฉาปเรเตน; อุปฺปนฺนาย จ วิจิกิจฺฉาย นิสฺสรณํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส สา วิจิกิจฺฉา สานุสยา ปหียติ. น สีลพฺพตปรามาสปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ น สีลพฺพตปรามาสปเรเตน; อุปฺปนฺนสฺส จ สีลพฺพตปรามาสสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส โส สีลพฺพตปรามาโส สานุสโย ปหียติ. น กามราคปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ น กามราคปเรเตน; อุปฺปนฺนสฺส จ กามราคสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส โส กามราโค สานุสโย ปหียติ ¶ . น พฺยาปาทปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ น พฺยาปาทปเรเตน; อุปฺปนฺนสฺส จ พฺยาปาทสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส โส พฺยาปาโท สานุสโย ปหียติ.
๑๓๒. ‘‘โย, อานนฺท, มคฺโค ยา ปฏิปทา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานาย ตํ มคฺคํ ตํ ปฏิปทํ อนาคมฺม ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ สฺสติ วา ทกฺขติ วา ปชหิสฺสติ วาติ – เนตํ านํ วิชฺชติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺโต ¶ สารวโต ตจํ อจฺเฉตฺวา เผคฺคุํ อจฺเฉตฺวา สารจฺเฉโท ภวิสฺสตีติ – เนตํ านํ วิชฺชติ; เอวเมว โข, อานนฺท, โย มคฺโค ยา ปฏิปทา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานาย ตํ มคฺคํ ตํ ปฏิปทํ อนาคมฺม ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ สฺสติ วา ทกฺขติ วา ปชหิสฺสติ วาติ – เนตํ านํ วิชฺชติ.
‘‘โย จ โข, อานนฺท, มคฺโค ยา ปฏิปทา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานาย ตํ ¶ มคฺคํ ตํ ปฏิปทํ อาคมฺม ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ สฺสติ วา ทกฺขติ วา ปชหิสฺสติ วาติ – านเมตํ วิชฺชติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺโต สารวโต ตจํ เฉตฺวา เผคฺคุํ เฉตฺวา สารจฺเฉโท ภวิสฺสตีติ – านเมตํ วิชฺชติ; เอวเมว โข, อานนฺท, โย มคฺโค ยา ปฏิปทา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานาย ตํ มคฺคํ ตํ ปฏิปทํ อาคมฺม ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ สฺสติ วา ทกฺขติ วา ปชหิสฺสติ วาติ – านเมตํ วิชฺชติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, คงฺคา นที ปูรา อุทกสฺส สมติตฺติกา ¶ กากเปยฺยา. อถ ทุพฺพลโก ปุริโส อาคจฺเฉยฺย – ‘อหํ อิมิสฺสา คงฺคาย นทิยา ติริยํ พาหาย โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ คจฺฉิสฺสามี’ติ [คจฺฉามีติ (สี. ปี.)]; โส น สกฺกุเณยฺย คงฺคาย นทิยา ติริยํ พาหาย โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ คนฺตุํ. เอวเมว โข, อานนฺท, เยสํ เกสฺจิ [ยสฺส กสฺสจิ (สพฺพตฺถ)] สกฺกายนิโรธาย ธมฺเม เทสิยมาเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ; เสยฺยถาปิ ¶ โส ทุพฺพลโก ปุริโส เอวเมเต ทฏฺพฺพา. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, คงฺคา นที ปูรา อุทกสฺส สมติตฺติกา กากเปยฺยา. อถ พลวา ปุริโส อาคจฺเฉยฺย – ‘อหํ อิมิสฺสา คงฺคาย นทิยา ติริยํ พาหาย ¶ โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ คจฺฉิสฺสามี’ติ; โส สกฺกุเณยฺย คงฺคาย นทิยา ติริยํ พาหาย โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ คนฺตุํ. เอวเมว โข, อานนฺท, เยสํ เกสฺจิ สกฺกายนิโรธาย ธมฺเม เทสิยมาเน จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ; เสยฺยถาปิ โส พลวา ปุริโส เอวเมเต ทฏฺพฺพา.
๑๓๓. ‘‘กตโม จานนฺท, มคฺโค, กตมา ปฏิปทา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานาย? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อุปธิวิเวกา อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานา สพฺพโส กายทุฏฺุลฺลานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ รูปคตํ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ เต ธมฺเม อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สฺุโต อนตฺตโต สมนุปสฺสติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปติ [ปฏิปาเปติ (สฺยา.), ปติฏฺาเปติ (ก.)]. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปตฺวา อมตาย ธาตุยา ¶ จิตฺตํ อุปสํหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ¶ ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ; โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี, อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อยมฺปิ โข, อานนฺท, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานาย.
‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ¶ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ… ¶ ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ รูปคตํ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ… อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อยมฺปิ โข, อานนฺท, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานาย.
‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ เวทนาคตํ ¶ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ…เป… ¶ อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อยมฺปิ โข, อานนฺท, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานาย.
‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ…เป… ¶ อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อยมฺปิ โข, อานนฺท, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานาย.
‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ…เป… ¶ อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อยมฺปิ โข, อานนฺท, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานายา’’ติ.
‘‘เอโส เจ, ภนฺเต, มคฺโค เอสา ปฏิปทา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานาย, อถ กิฺจรหิ อิเธกจฺเจ ภิกฺขู เจโตวิมุตฺติโน เอกจฺเจ ภิกฺขู ปฺาวิมุตฺติโน’’ติ? ‘‘เอตฺถ โข ปเนสาหํ [เอตฺถ โข เตสาหํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], อานนฺท, อินฺทฺริยเวมตฺตตํ วทามี’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
มหามาลุกฺยสุตฺตํ นิฏฺิตํ จตุตฺถํ.
๕. ภทฺทาลิสุตฺตํ
๑๓๔. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘อหํ โข, ภิกฺขเว, เอกาสนโภชนํ ภฺุชามิ; เอกาสนโภชนํ โข, อหํ, ภิกฺขเว, ภฺุชมาโน อปฺปาพาธตฺจ สฺชานามิ ¶ อปฺปาตงฺกตฺจ ลหุฏฺานฺจ พลฺจ ผาสุวิหารฺจ. เอถ, ตุมฺเหปิ, ภิกฺขเว, เอกาสนโภชนํ ภฺุชถ; เอกาสนโภชนํ โข, ภิกฺขเว, ตุมฺเหปิ ภฺุชมานา อปฺปาพาธตฺจ สฺชานิสฺสถ อปฺปาตงฺกตฺจ ลหุฏฺานฺจ พลฺจ ผาสุวิหารฺจา’’ติ. เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา ภทฺทาลิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหํ โข, ภนฺเต, น อุสฺสหามิ เอกาสนโภชนํ ภฺุชิตุํ; เอกาสนโภชนฺหิ เม, ภนฺเต, ภฺุชโต สิยา กุกฺกุจฺจํ, สิยา วิปฺปฏิสาโร’’ติ. ‘‘เตน หิ ตฺวํ, ภทฺทาลิ, ยตฺถ นิมนฺติโต อสฺสสิ ตตฺถ เอกเทสํ ภฺุชิตฺวา เอกเทสํ นีหริตฺวาปิ ภฺุเชยฺยาสิ. เอวมฺปิ โข ¶ ตฺวํ, ภทฺทาลิ, ภฺุชมาโน เอกาสโน ยาเปสฺสสี’’ติ [ภฺุชมาโน ยาเปสฺสสีติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. ‘‘เอวมฺปิ โข อหํ, ภนฺเต, น อุสฺสหามิ ภฺุชิตุํ; เอวมฺปิ หิ เม, ภนฺเต, ภฺุชโต สิยา กุกฺกุจฺจํ, สิยา วิปฺปฏิสาโร’’ติ. อถ โข อายสฺมา ภทฺทาลิ ภควตา สิกฺขาปเท ปฺาปิยมาเน ภิกฺขุสงฺเฆ สิกฺขํ สมาทิยมาเน อนุสฺสาหํ ปเวเทสิ. อถ ¶ โข อายสฺมา ภทฺทาลิ สพฺพํ ตํ เตมาสํ น ภควโต สมฺมุขีภาวํ อทาสิ, ยถา ตํ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย อปริปูรการี.
๑๓๕. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู ภควโต จีวรกมฺมํ กโรนฺติ – นิฏฺิตจีวโร ภควา เตมาสจฺจเยน จาริกํ ปกฺกมิสฺสตีติ. อถ โข อายสฺมา ภทฺทาลิ เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ภทฺทาลึ เต ภิกฺขู เอตทโวจุํ – ‘‘อิทํ โข, อาวุโส ภทฺทาลิ, ภควโต จีวรกมฺมํ กรียติ [กรณียํ (ก.)]. นิฏฺิตจีวโร ภควา เตมาสจฺจเยน จาริกํ ปกฺกมิสฺสติ. อิงฺฆาวุโส ภทฺทาลิ, เอตํ โทสกํ สาธุกํ มนสิ กโรหิ, มา เต ปจฺฉา ทุกฺกรตรํ อโหสี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา ¶ ภทฺทาลิ เตสํ ภิกฺขูนํ ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา ภทฺทาลิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺจโย มํ, ภนฺเต, อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, โยหํ ภควตา สิกฺขาปเท ปฺาปิยมาเน ภิกฺขุสงฺเฆ สิกฺขํ สมาทิยมาเน อนุสฺสาหํ ปเวเทสึ. ตสฺส เม, ภนฺเต, ภควา อจฺจยํ อจฺจยโต ปฏิคฺคณฺหาตุ อายตึ สํวรายา’’ติ.
‘‘ตคฺฆ ¶ ตฺวํ, ภทฺทาลิ, อจฺจโย อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ¶ ยถาอกุสลํ, ยํ ตฺวํ มยา สิกฺขาปเท ปฺาปิยมาเน ภิกฺขุสงฺเฆ สิกฺขํ สมาทิยมาเน อนุสฺสาหํ ปเวเทสิ. สมโยปิ โข เต, ภทฺทาลิ, อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสิ – ‘ภควา โข สาวตฺถิยํ วิหรติ, ภควาปิ มํ ชานิสฺสติ – ภทฺทาลิ นาม ภิกฺขุ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย อปริปูรการี’ติ. อยมฺปิ โข เต, ภทฺทาลิ, สมโย อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสิ. สมโยปิ โข เต, ภทฺทาลิ, อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสิ – ‘สมฺพหุลา โข ¶ ภิกฺขุ สาวตฺถิยํ วสฺสํ อุปคตา, เตปิ มํ ชานิสฺสนฺติ – ภทฺทาลิ นาม ภิกฺขุ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย อปริปูรการี’ติ. อยมฺปิ โข เต, ภทฺทาลิ, สมโย อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสิ. สมโยปิ โข เต, ภทฺทาลิ, อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสิ – ‘สมฺพหุลา โข ภิกฺขุนิโย สาวตฺถิยํ วสฺสํ อุปคตา, ตาปิ มํ ชานิสฺสนฺติ – ภทฺทาลิ นาม ภิกฺขุ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย อปริปูรการี’ติ. อยมฺปิ โข เต, ภทฺทาลิ, สมโย อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสิ. สมโยปิ โข เต, ภทฺทาลิ, อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสิ – ‘สมฺพหุลา โข อุปาสกา สาวตฺถิยํ ปฏิวสนฺติ, เตปิ มํ ชานิสฺสนฺติ – ภทฺทาลิ นาม ภิกฺขุ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย อปริปูรการี’ติ. อยมฺปิ โข เต, ภทฺทาลิ, สมโย อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสิ. สมโยปิ โข เต, ภทฺทาลิ, อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสิ – ‘สมฺพหุลา โข อุปาสิกา สาวตฺถิยํ ปฏิวสนฺติ, ตาปิ มํ ชานิสฺสนฺติ – ภทฺทาลิ นาม ภิกฺขุ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย อปริปูรการี’ติ. อยมฺปิ โข เต, ภทฺทาลิ ¶ , สมโย อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสิ. สมโยปิ โข เต, ภทฺทาลิ, อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสิ – ‘สมฺพหุลา โข นานาติตฺถิยา สมณพฺราหฺมณา สาวตฺถิยํ วสฺสํ อุปคตา, เตปิ มํ ชานิสฺสนฺติ – ภทฺทาลิ นาม ภิกฺขุ สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก เถรฺตโร ภิกฺขุ สาสเน สิกฺขาย อปริปูรการี’ติ. อยมฺปิ โข เต, ภทฺทาลิ, สมโย อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสี’’ติ.
‘‘อจฺจโย ¶ มํ, ภนฺเต, อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, โยหํ ภควตา สิกฺขาปเท ปฺาปิยมาเน ภิกฺขุสงฺเฆ สิกฺขํ สมาทิยมาเน อนุสฺสาหํ ปเวเทสึ. ตสฺส เม, ภนฺเต, ภควา อจฺจยํ อจฺจยโต ปฏิคฺคณฺหาตุ อายตึ สํวรายา’’ติ. ‘‘ตคฺฆ ตฺวํ, ภทฺทาลิ, อจฺจโย อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, ยํ ตฺวํ มยา สิกฺขาปเท ¶ ปฺาปิยมาเน ภิกฺขุสงฺเฆ สิกฺขํ สมาทิยมาเน อนุสฺสาหํ ปเวเทสิ’’.
๑๓๖. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, ภทฺทาลิ, อิธสฺส ภิกฺขุ อุภโตภาควิมุตฺโต, ตมหํ เอวํ วเทยฺยํ – ‘เอหิ เม ตฺวํ, ภิกฺขุ, ปงฺเก สงฺกโม โหหี’ติ, อปิ นุ โข โส สงฺกเมยฺย วา อฺเน วา กายํ สนฺนาเมยฺย, ‘โน’ติ วา วเทยฺยา’’ติ?
‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, ภทฺทาลิ, อิธสฺส ภิกฺขุ ปฺาวิมุตฺโต… กายสกฺขิ… ทิฏฺิปฺปตฺโต… สทฺธาวิมุตฺโต… ธมฺมานุสารี… สทฺธานุสารี, ตมหํ เอวํ วเทยฺยํ – ‘เอหิ เม ตฺวํ, ภิกฺขุ, ปงฺเก สงฺกโม โหหี’ติ, อปิ นุ โข โส สงฺกเมยฺย วา อฺเน วา กายํ สนฺนาเมยฺย, ‘โน’ติ วา วเทยฺยา’’ติ?
‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตํ กึ ¶ มฺสิ, ภทฺทาลิ, อปิ นุ ตฺวํ, ภทฺทาลิ, ตสฺมึ สมเย อุภโตภาควิมุตฺโต วา โหสิ ปฺาวิมุตฺโต ¶ วา กายสกฺขิ วา ทิฏฺิปฺปตฺโต วา สทฺธาวิมุตฺโต วา ธมฺมานุสารี วา สทฺธานุสารี วา’’ติ?
‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.
‘‘นนุ ตฺวํ, ภทฺทาลิ, ตสฺมึ สมเย ริตฺโต ตุจฺโฉ อปรทฺโธ’’ติ?
‘‘เอวํ ¶ , ภนฺเต. อจฺจโย มํ, ภนฺเต, อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, โยหํ ภควตา สิกฺขาปเท ปฺาปิยมาเน ภิกฺขุสงฺเฆ สิกฺขํ สมาทิยมาเน อนุสฺสาหํ ปเวเทสึ. ตสฺส เม, ภนฺเต, ภควา อจฺจยํ อจฺจยโต ปฏิคฺคณฺหาตุ อายตึ สํวรายา’’ติ. ‘‘ตคฺฆ ตฺวํ, ภทฺทาลิ, อจฺจโย อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, ยํ ตฺวํ มยา สิกฺขาปเท ปฺาปิยมาเน ภิกฺขุสงฺเฆ สิกฺขํ สมาทิยมาเน อนุสฺสาหํ ปเวเทสิ. ยโต จ โข ตฺวํ, ภทฺทาลิ, อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรสิ, ตํ เต มยํ ปฏิคฺคณฺหาม. วุทฺธิเหสา, ภทฺทาลิ, อริยสฺส วินเย โย อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรติ, อายตึ สํวรํ อาปชฺชติ’’.
๑๓๗. ‘‘อิธ, ภทฺทาลิ, เอกจฺโจ ภิกฺขุ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย อปริปูรการี โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภเชยฺยํ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ¶ ปลาลปฺุชํ. อปฺเปว นามาหํ อุตฺตริ [อุตฺตรึ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] มนุสฺสธมฺมา อลมริยาณทสฺสนวิเสสํ สจฺฉิกเรยฺย’นฺติ. โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ ¶ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปฺุชํ. ตสฺส ตถาวูปกฏฺสฺส วิหรโต สตฺถาปิ อุปวทติ, อนุวิจฺจปิ วิฺู สพฺรหฺมจารี อุปวทนฺติ, เทวตาปิ อุปวทนฺติ, อตฺตาปิ อตฺตานํ อุปวทติ. โส สตฺถาราปิ อุปวทิโต, อนุวิจฺจปิ วิฺูหิ สพฺรหฺมจารีหิ อุปวทิโต, เทวตาหิปิ อุปวทิโต, อตฺตนาปิ อตฺตานํ อุปวทิโต น อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมา อลมริยาณทสฺสนวิเสสํ สจฺฉิกโรติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺหิ ตํ, ภทฺทาลิ, โหติ ยถา ตํ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย อปริปูรการิสฺส.
๑๓๘. ‘‘อิธ ปน, ภทฺทาลิ, เอกจฺโจ ภิกฺขุ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย ปริปูรการี โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภเชยฺยํ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ¶ ปลาลปฺุชํ. อปฺเปว นามาหํ อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมา อลมริยาณทสฺสนวิเสสํ สจฺฉิกเรยฺย’นฺติ. โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปฺุชํ. ตสฺส ตถาวูปกฏฺสฺส วิหรโต สตฺถาปิ น อุปวทติ, อนุวิจฺจปิ วิฺู สพฺรหฺมจารี น อุปวทนฺติ, เทวตาปิ น อุปวทนฺติ, อตฺตาปิ อตฺตานํ น อุปวทติ. โส สตฺถาราปิ อนุปวทิโต ¶ , อนุวิจฺจปิ วิฺูหิ สพฺรหฺมจารีหิ อนุปวทิโต, เทวตาหิปิ อนุปวทิโต, อตฺตนาปิ อตฺตานํ อนุปวทิโต อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมา อลมริยาณทสฺสนวิเสสํ สจฺฉิกโรติ. โส วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ ¶ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺหิ ตํ, ภทฺทาลิ, โหติ ยถา ตํ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย ปริปูรการิสฺส.
๑๓๙. ‘‘ปุน จปรํ, ภทฺทาลิ, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺหิ ตํ, ภทฺทาลิ, โหติ ยถา ตํ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย ปริปูรการิสฺส.
‘‘ปุน จปรํ, ภทฺทาลิ, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ, สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ ¶ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺหิ ตํ, ภทฺทาลิ, โหติ ยถา ตํ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย ปริปูรการิสฺส.
‘‘ปุน จปรํ, ภทฺทาลิ, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺหิ ตํ, ภทฺทาลิ, โหติ ยถา ตํ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย ปริปูรการิสฺส.
‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺหิ ¶ ตํ, ภทฺทาลิ, โหติ ยถา ตํ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย ปริปูรการิสฺส.
‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ ¶ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา…เป… วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา; อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา…เป… สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺหิ ตํ, ภทฺทาลิ, โหติ ยถา ตํ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย ปริปูรการิสฺส.
‘‘โส ¶ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ; ‘อิเม อาสวา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ¶ อาสวสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ ¶ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺหิ ตํ, ภทฺทาลิ, โหติ ยถา ตํ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย ปริปูรการิสฺสา’’ติ.
๑๔๐. เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา ภทฺทาลิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺจํ ภิกฺขุํ ปสยฺห ปสยฺห [ปวยฺห ปวยฺห (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] การณํ กโรนฺติ? โก ปน, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺจํ ภิกฺขุํ โน ตถา ปสยฺห ปสยฺห การณํ กโรนฺตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภทฺทาลิ, เอกจฺโจ ภิกฺขุ อภิณฺหาปตฺติโก โหติ อาปตฺติพหุโล. โส ภิกฺขูหิ วุจฺจมาโน อฺเนฺํ ปฏิจรติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ, น สมฺมา วตฺตติ, น โลมํ ปาเตติ, น เนตฺถารํ วตฺตติ, ‘เยน สงฺโฆ อตฺตมโน โหติ ตํ กโรมี’ติ นาห. ตตฺร, ภทฺทาลิ, ภิกฺขูนํ เอวํ โหติ – อยํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ¶ อภิณฺหาปตฺติโก อาปตฺติพหุโล. โส ภิกฺขูหิ วุจฺจมาโน อฺเนฺํ ปฏิจรติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ, น สมฺมา วตฺตติ, น โลมํ ปาเตติ, น เนตฺถารํ วตฺตติ, ‘เยน สงฺโฆ อตฺตมโน โหติ ¶ ตํ กโรมี’ติ นาห. สาธุ วตายสฺมนฺโต อิมสฺส ภิกฺขุโน ตถา ตถา อุปปริกฺขถ ยถาสฺสิทํ [ยถยิทํ (สฺยา. กํ. ก.)] อธิกรณํ น ขิปฺปเมว วูปสเมยฺยาติ. ตสฺส โข เอวํ, ภทฺทาลิ, ภิกฺขุโน ภิกฺขู ¶ ตถา ตถา อุปปริกฺขนฺติ ยถาสฺสิทํ อธิกรณํ น ขิปฺปเมว วูปสมฺมติ.
๑๔๑. ‘‘อิธ ปน, ภทฺทาลิ, เอกจฺโจ ภิกฺขุ อภิณฺหาปตฺติโก โหติ อาปตฺติพหุโล. โส ภิกฺขูหิ วุจฺจมาโน นาฺเนฺํ ปฏิจรติ, พหิทฺธา กถํ น อปนาเมติ, น โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ, สมฺมา วตฺตติ, โลมํ ปาเตติ, เนตฺถารํ วตฺตติ, ‘เยน สงฺโฆ อตฺตมโน ¶ โหติ ตํ กโรมี’ติ อาห. ตตฺร, ภทฺทาลิ, ภิกฺขูนํ เอวํ โหติ – อยํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ อภิณฺหาปตฺติโก อาปตฺติพหุโล. โส ภิกฺขูหิ วุจฺจมาโน นาฺเนฺํ ปฏิจรติ, พหิทฺธา กถํ น อปนาเมติ, น โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ, สมฺมา วตฺตติ, โลมํ ปาเตติ, เนตฺถารํ วตฺตติ, ‘เยน สงฺโฆ อตฺตมโน โหติ ตํ กโรมี’ติ อาห. สาธุ วตายสฺมนฺโต, อิมสฺส ภิกฺขุโน ตถา ตถา อุปปริกฺขถ ยถาสฺสิทํ อธิกรณํ ขิปฺปเมว วูปสเมยฺยาติ. ตสฺส โข เอวํ, ภทฺทาลิ, ภิกฺขุโน ภิกฺขู ตถา ตถา อุปปริกฺขนฺติ ยถาสฺสิทํ อธิกรณํ ขิปฺปเมว วูปสมฺมติ.
๑๔๒. ‘‘อิธ, ภทฺทาลิ, เอกจฺโจ ภิกฺขุ อธิจฺจาปตฺติโก โหติ อนาปตฺติพหุโล. โส ภิกฺขูหิ วุจฺจมาโน อฺเนฺํ ปฏิจรติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ, น สมฺมา วตฺตติ, น โลมํ ปาเตติ, น เนตฺถารํ วตฺตติ, ‘เยน สงฺโฆ อตฺตมโน โหติ ตํ กโรมี’ติ นาห. ตตฺร, ภทฺทาลิ, ภิกฺขูนํ เอวํ โหติ – อยํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ อธิจฺจาปตฺติโก อนาปตฺติพหุโล ¶ . โส ภิกฺขูหิ วุจฺจมาโน อฺเนฺํ ปฏิจรติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ, น สมฺมา วตฺตติ, น โลมํ ปาเตติ, น เนตฺถารํ วตฺตติ, ‘เยน สงฺโฆ อตฺตมโน โหติ ตํ กโรมี’ติ นาห. สาธุ วตายสฺมนฺโต, อิมสฺส ภิกฺขุโน ตถา ตถา อุปปริกฺขถ ยถาสฺสิทํ ¶ อธิกรณํ น ขิปฺปเมว วูปสเมยฺยาติ. ตสฺส โข เอวํ, ภทฺทาลิ, ภิกฺขุโน ภิกฺขู ตถา ตถา อุปปริกฺขนฺติ ยถาสฺสิทํ อธิกรณํ ¶ น ขิปฺปเมว วูปสมฺมติ.
๑๔๓. ‘‘อิธ ปน, ภทฺทาลิ, เอกจฺโจ ภิกฺขุ อธิจฺจาปตฺติโก โหติ อนาปตฺติพหุโล. โส ภิกฺขูหิ วุจฺจมาโน นาฺเนฺํ ปฏิจรติ, น พหิทฺธา กถํ อปนาเมติ, น โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ, สมฺมา วตฺตติ, โลมํ ปาเตติ, เนตฺถารํ วตฺตติ, ‘เยน สงฺโฆ อตฺตมโน โหติ ตํ กโรมี’ติ อาห. ตตฺร, ภทฺทาลิ, ภิกฺขูนํ เอวํ โหติ – อยํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ อธิจฺจาปตฺติโก อนาปตฺติพหุโล. โส ภิกฺขูหิ วุจฺจมาโน นาฺเนฺํ ปฏิจรติ, น พหิทฺธา กถํ อปนาเมติ, น โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ, สมฺมา วตฺตติ, โลมํ ปาเตติ, เนตฺถารํ วตฺตติ, ‘เยน สงฺโฆ ¶ อตฺตมโน โหติ ตํ กโรมี’ติ อาห. สาธุ วตายสฺมนฺโต, อิมสฺส ภิกฺขุโน ตถา ตถา อุปปริกฺขถ ยถาสฺสิทํ อธิกรณํ ขิปฺปเมว วูปสเมยฺยาติ. ตสฺส โข เอวํ, ภทฺทาลิ, ภิกฺขุโน ภิกฺขู ตถา ตถา อุปปริกฺขนฺติ ยถาสฺสิทํ อธิกรณํ ขิปฺปเมว วูปสมฺมติ.
๑๔๔. ‘‘อิธ ¶ , ภทฺทาลิ, เอกจฺโจ ภิกฺขุ สทฺธามตฺตเกน วหติ เปมมตฺตเกน. ตตฺร, ภทฺทาลิ, ภิกฺขูนํ เอวํ โหติ – ‘อยํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ สทฺธามตฺตเกน วหติ เปมมตฺตเกน. สเจ มยํ อิมํ ภิกฺขุํ ปสยฺห ปสยฺห การณํ กริสฺสาม – มา ยมฺปิสฺส ตํ สทฺธามตฺตกํ เปมมตฺตกํ ตมฺหาปิ ปริหายี’ติ. เสยฺยถาปิ, ภทฺทาลิ, ปุริสสฺส เอกํ จกฺขุํ, ตสฺส มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ตํ เอกํ จกฺขุํ รกฺเขยฺยุํ – ‘มา ยมฺปิสฺส ตํ เอกํ จกฺขุํ ตมฺหาปิ ปริหายี’ติ; เอวเมว โข, ภทฺทาลิ, อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ สทฺธามตฺตเกน วหติ เปมมตฺตเกน. ตตฺร, ภทฺทาลิ, ภิกฺขูนํ เอวํ โหติ – ‘อยํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ สทฺธามตฺตเกน วหติ เปมมตฺตเกน. สเจ มยํ อิมํ ภิกฺขุํ ปสยฺห ปสยฺห การณํ กริสฺสาม – มา ยมฺปิสฺส ตํ สทฺธามตฺตกํ เปมมตฺตกํ ตมฺหาปิ ปริหายี’ติ. อยํ โข, ภทฺทาลิ, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน มิเธกจฺจํ ภิกฺขุํ ปสยฺห ปสยฺห การณํ กโรนฺติ. อยํ ปน, ภทฺทาลิ, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺจํ ภิกฺขุํ โน ตถา ปสยฺห ปสยฺห การณํ กโรนฺตี’’ติ.
๑๔๕. ‘‘‘โก ¶ นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย เยน ปุพฺเพ อปฺปตรานิ ¶ เจว สิกฺขาปทานิ อเหสุํ พหุตรา จ ภิกฺขู อฺาย สณฺหึสุ? โก ปน, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย เยน เอตรหิ พหุตรานิ เจว สิกฺขาปทานิ โหนฺติ อปฺปตรา จ ภิกฺขู อฺาย สณฺหนฺตี’ติ? ‘‘เอวเมตํ, ภทฺทาลิ, โหติ สตฺเตสุ หายมาเนสุ, สทฺธมฺเม ¶ อนฺตรธายมาเน, พหุตรานิ เจว สิกฺขาปทานิ โหนฺติ อปฺปตรา จ ภิกฺขู อฺาย สณฺหนฺตีติ. น ตาว, ภทฺทาลิ, สตฺถา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺาเปติ ยาว น อิเธกจฺเจ อาสวฏฺานียา ธมฺมา สงฺเฆ ปาตุภวนฺติ. ยโต จ โข, ภทฺทาลิ, อิเธกจฺเจ อาสวฏฺานียา ธมฺมา สงฺเฆ ปาตุภวนฺติ, อถ สตฺถา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺาเปติ เตสํเยว อาสวฏฺานียานํ ธมฺมานํ ปฏิฆาตาย. น ตาว, ภทฺทาลิ, อิเธกจฺเจ อาสวฏฺานียา ธมฺมา สงฺเฆ ปาตุภวนฺติ ยาว น สงฺโฆ มหตฺตํ ปตฺโต โหติ. ยโต จ โข, ภทฺทาลิ, สงฺโฆ มหตฺตํ ปตฺโต โหติ, อถ อิเธกจฺเจ ¶ อาสวฏฺานียา ธมฺมา สงฺเฆ ปาตุภวนฺติ. อถ สตฺถา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺาเปติ เตสํเยว อาสวฏฺานียานํ ธมฺมานํ ปฏิฆาตาย. น ตาว, ภทฺทาลิ, อิเธกจฺเจ อาสวฏฺานียา ธมฺมา สงฺเฆ ปาตุภวนฺติ ยาว น สงฺโฆ ลาภคฺคํ ปตฺโต โหติ, ยสคฺคํ ปตฺโต โหติ, พาหุสจฺจํ ปตฺโต โหติ, รตฺตฺุตํ ปตฺโต โหติ. ยโต จ โข, ภทฺทาลิ, สงฺโฆ รตฺตฺุตํ ปตฺโต โหติ, อถ อิเธกจฺเจ อาสวฏฺานียา ธมฺมา สงฺเฆ ปาตุภวนฺติ, อถ สตฺถา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺาเปติ เตสํเยว อาสวฏฺานียานํ ธมฺมานํ ปฏิฆาตาย.
๑๔๖. ‘‘อปฺปกา โข ตุมฺเห, ภทฺทาลิ, เตน สมเยน อหุวตฺถ ยทา โว อหํ อาชานียสุสูปมํ ธมฺมปริยายํ เทเสสึ. ตํ สรสิ [สรสิ ตฺวํ (สี. ปี.), สรสิ ตํ (?)] ภทฺทาลี’’ติ ¶ ?
‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.
‘‘ตตฺร, ภทฺทาลิ, กํ เหตุํ ปจฺเจสี’’ติ?
‘‘โส หิ นูนาหํ, ภนฺเต, ทีฆรตฺตํ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย อปริปูรการี อโหสิ’’นฺติ.
‘‘น โข, ภทฺทาลิ, เอเสว เหตุ, เอส ปจฺจโย. อปิ จ เม ตฺวํ, ภทฺทาลิ, ทีฆรตฺตํ เจตสา ¶ เจโตปริจฺจ วิทิโต – ‘น จายํ โมฆปุริโส มยา ธมฺเม เทสิยมาเน อฏฺึ กตฺวา มนสิ กตฺวา สพฺพเจตโส [สพฺพํ เจตโส (ก.)] สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสโต ธมฺมํ สุณาตี’ติ. อปิ จ เต อหํ, ภทฺทาลิ, อาชานียสุสูปมํ ธมฺมปริยายํ เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ ¶ ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา ภทฺทาลิ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –
๑๔๗. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภทฺทาลิ, ทกฺโข อสฺสทมโก ภทฺรํ อสฺสาชานียํ ลภิตฺวา ปเมเนว มุขาธาเน การณํ กาเรติ. ตสฺส มุขาธาเน การณํ การิยมานสฺส โหนฺติเยว วิสูกายิตานิ วิเสวิตานิ วิปฺผนฺทิตานิ กานิจิ กานิจิ, ยถา ตํ อการิตปุพฺพํ การณํ การิยมานสฺส. โส อภิณฺหการณา อนุปุพฺพการณา ตสฺมึ าเน ปรินิพฺพายติ. ยโต โข, ภทฺทาลิ, ภทฺโร อสฺสาชานีโย อภิณฺหการณา อนุปุพฺพการณา ตสฺมึ าเน ปรินิพฺพุโต โหติ, ตเมนํ อสฺสทมโก อุตฺตริ การณํ กาเรติ ยุคาธาเน. ตสฺส ยุคาธาเน การณํ การิยมานสฺส โหนฺติเยว วิสูกายิตานิ วิเสวิตานิ วิปฺผนฺทิตานิ กานิจิ กานิจิ, ยถา ตํ อการิตปุพฺพํ การณํ การิยมานสฺส. โส อภิณฺหการณา อนุปุพฺพการณา ตสฺมึ ¶ าเน ปรินิพฺพายติ ¶ . ยโต โข, ภทฺทาลิ, ภทฺโร อสฺสาชานีโย อภิณฺหการณา อนุปุพฺพการณา ตสฺมึ าเน ปรินิพฺพุโต โหติ, ตเมนํ อสฺสทมโก อุตฺตริ การณํ กาเรติ อนุกฺกเม มณฺฑเล ขุรกาเส [ขุรกาเย (สี. ปี.)] ธาเว ทวตฺเต [รวตฺเถ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ราชคุเณ ราชวํเส อุตฺตเม ชเว อุตฺตเม หเย อุตฺตเม สาขลฺเย. ตสฺส อุตฺตเม ชเว อุตฺตเม หเย อุตฺตเม สาขลฺเย การณํ การิยมานสฺส โหนฺติเยว วิสูกายิตานิ วิเสวิตานิ วิปฺผนฺทิตานิ กานิจิ กานิจิ, ยถา ตํ อการิตปุพฺพํ การณํ การิยมานสฺส. โส อภิณฺหการณา อนุปุพฺพการณา ตสฺมึ าเน ปรินิพฺพายติ. ยโต โข, ภทฺทาลิ, ภทฺโร อสฺสาชานีโย อภิณฺหการณา อนุปุพฺพการณา ตสฺมึ าเน ปรินิพฺพุโต โหติ, ตเมนํ อสฺสทมโก อุตฺตริ วณฺณิยฺจ ปาณิยฺจ [วลิยฺจ (สี. ปี.), พลิยฺจ (สฺยา. กํ.)] อนุปฺปเวจฺฉติ. อิเมหิ โข, ภทฺทาลิ, ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภทฺโร อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค รฺโ องฺคนฺเตว สงฺขฺยํ คจฺฉติ.
‘‘เอวเมว โข, ภทฺทาลิ, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ ทสหิ? อิธ, ภทฺทาลิ, ภิกฺขุ อเสขาย สมฺมาทิฏฺิยา สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมฺมาสงฺกปฺเปน สมนฺนาคโต โหติ, อเสขาย ¶ สมฺมาวาจาย สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมฺมากมฺมนฺเตน สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมฺมาอาชีเวน สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมฺมาวายาเมน สมนฺนาคโต โหติ ¶ , อเสขาย สมฺมาสติยา ¶ สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมฺมาสมาธินา สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมฺมาาเณน สมนฺนาคโต โหติ, อเสขาย สมฺมาวิมุตฺติยา สมนฺนาคโต โหติ – อิเมหิ โข, ภทฺทาลิ, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา ภทฺทาลิ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
ภทฺทาลิสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปฺจมํ.
๖. ลฏุกิโกปมสุตฺตํ
๑๔๘. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา องฺคุตฺตราเปสุ วิหรติ อาปณํ นาม องฺคุตฺตราปานํ นิคโม. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อาปณํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อาปเณ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยนฺตโร วนสณฺโฑ เตนุปสงฺกมิ ทิวาวิหาราย. ตํ วนสณฺฑํ อชฺโฌคาเหตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. อายสฺมาปิ โข อุทายี ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อาปณํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อาปเณ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน โส วนสณฺโฑ เตนุปสงฺกมิ ทิวาวิหาราย. ตํ วนสณฺฑํ อชฺโฌคาเหตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. อถ โข อายสฺมโต อุทายิสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘พหูนํ [พหุนฺนํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.) เอวมีทิเส อวิฺาณกปฺปกรเณ] วต โน ภควา ทุกฺขธมฺมานํ อปหตฺตา, พหูนํ วต โน ภควา สุขธมฺมานํ อุปหตฺตา; พหูนํ วต โน ภควา อกุสลานํ ธมฺมานํ อปหตฺตา, พหูนํ วต โน ภควา กุสลานํ ธมฺมานํ อุปหตฺตา’’ติ. อถ โข อายสฺมา อุทายี สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ ¶ .
๑๔๙. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อุทายี ภควนฺตํ เอตทโวจ ¶ – ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘พหูนํ วต โน ภควา ทุกฺขธมฺมานํ อปหตฺตา, พหูนํ วต โน ภควา สุขธมฺมานํ อุปหตฺตา; พหูนํ วต โน ภควา อกุสลานํ ธมฺมานํ อปหตฺตา, พหูนํ วต โน ภควา กุสลานํ ธมฺมานํ อุปหตฺตา’ติ. มยฺหิ, ภนฺเต, ปุพฺเพ สายฺเจว ภฺุชาม ปาโต จ ทิวา จ วิกาเล. อหุ โข โส, ภนฺเต, สมโย ยํ ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘อิงฺฆ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอตํ ทิวาวิกาลโภชนํ ปชหถา’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, อหุเทว อฺถตฺตํ, อหุเทว [อหุ (สี. ปี.)] โทมนสฺสํ – ‘ยมฺปิ โน สทฺธา คหปติกา ทิวา วิกาเล ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ เทนฺติ ตสฺสปิ โน ภควา ปหานมาห, ตสฺสปิ โน สุคโต ปฏินิสฺสคฺคมาหา’ติ. เต ¶ มยํ, ภนฺเต, ภควติ เปมฺจ คารวฺจ หิริฺจ โอตฺตปฺปฺจ สมฺปสฺสมานา ¶ เอวํ ตํ ทิวาวิกาลโภชนํ ปชหิมฺหา. เต มยํ, ภนฺเต, สายฺเจว ภฺุชาม ปาโต จ. อหุ โข โส, ภนฺเต, สมโย ยํ ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘อิงฺฆ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอตํ รตฺตึวิกาลโภชนํ ปชหถา’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, อหุเทว อฺถตฺตํ อหุเทว โทมนสฺสํ – ‘ยมฺปิ โน อิเมสํ ทฺวินฺนํ ภตฺตานํ ปณีตสงฺขาตตรํ ตสฺสปิ โน ภควา ปหานมาห, ตสฺสปิ โน สุคโต ปฏินิสฺสคฺคมาหา’ติ. ภูตปุพฺพํ, ภนฺเต, อฺตโร ปุริโส ทิวา สูเปยฺยํ ลภิตฺวา เอวมาห – ‘หนฺท จ อิมํ นิกฺขิปถ, สายํ สพฺเพว สมคฺคา ¶ ภฺุชิสฺสามา’ติ. ยา กาจิ, ภนฺเต, สงฺขติโย สพฺพา ตา รตฺตึ, อปฺปา ทิวา. เต มยํ, ภนฺเต, ภควติ เปมฺจ คารวฺจ หิริฺจ โอตฺตปฺปฺจ สมฺปสฺสมานา เอวํ ตํ รตฺตึวิกาลโภชนํ ปชหิมฺหา. ภูตปุพฺพํ, ภนฺเต, ภิกฺขู รตฺตนฺธการติมิสายํ ปิณฺฑาย จรนฺตา จนฺทนิกมฺปิ ปวิสนฺติ, โอลิคลฺเลปิ ปปตนฺติ, กณฺฏกาวาฏมฺปิ [กณฺฏกวตฺตมฺปิ (สี. ปี.), กณฺฏกราชิมฺปิ (สฺยา. กํ.)] อาโรหนฺติ, สุตฺตมฺปิ คาวึ อาโรหนฺติ, มาณเวหิปิ สมาคจฺฉนฺติ กตกมฺเมหิปิ อกตกมฺเมหิปิ, มาตุคาโมปิ เต [เตน (ก.)] อสทฺธมฺเมน นิมนฺเตติ. ภูตปุพฺพาหํ, ภนฺเต, รตฺตนฺธการติมิสายํ ปิณฺฑาย จรามิ. อทฺทสา โข มํ, ภนฺเต, อฺตรา อิตฺถี วิชฺชนฺตริกาย ภาชนํ โธวนฺตี. ทิสฺวา มํ ภีตา วิสฺสรมกาสิ – ‘อภุมฺเม [อพฺภุมฺเม (สี. ปี.)] ปิสาโจ วต ม’นฺติ! เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภนฺเต, ตํ อิตฺถึ เอตทโวจํ – ‘นาหํ, ภคินิ, ปิสาโจ; ภิกฺขุ ปิณฺฑาย ¶ ิโต’ติ. ‘ภิกฺขุสฺส อาตุมารี, ภิกฺขุสฺส มาตุมารี [ิโต’ติ. ภิกฺขุสฺส อาตุมาตุมารี (ก.)]! วรํ เต, ภิกฺขุ, ติณฺเหน โควิกนฺตเนน กุจฺฉิ ปริกนฺโต, น ตฺเวว วรํ ยํ [น ตฺเวว ยา (สี. ปี.)] รตฺตนฺธการติมิสายํ กุจฺฉิเหตุ ปิณฺฑาย จรสี’ติ [จรสาติ (สี. ปี.)]. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, ตทนุสฺสรโต เอวํ โหติ – ‘พหูนํ วต โน ภควา ทุกฺขธมฺมานํ อปหตฺตา, พหูนํ วต โน ภควา สุขธมฺมานํ อุปหตฺตา; พหูนํ วต โน ภควา อกุสลานํ ธมฺมานํ อปหตฺตา, พหูนํ วต โน ภควา กุสลานํ ธมฺมานํ อุปหตฺตา’’’ติ.
๑๕๐. ‘‘เอวเมว ปนุทายิ, อิเธกจฺเจ โมฆปุริสา ‘อิทํ ปชหถา’ติ มยา ¶ วุจฺจมานา เต เอวมาหํสุ – ‘กึ ปนิมสฺส อปฺปมตฺตกสฺส โอรมตฺตกสฺส อธิสลฺลิขเตวายํ สมโณ’ติ. เต ตฺเจว นปฺปชหนฺติ, มยิ ¶ จ อปฺปจฺจยํ อุปฏฺาเปนฺติ. เย จ ภิกฺขู สิกฺขากามา เตสํ ตํ, อุทายิ, โหติ พลวํ พนฺธนํ, ทฬฺหํ พนฺธนํ, ถิรํ พนฺธนํ, อปูติกํ พนฺธนํ, ถูโล, กลิงฺคโร – เสยฺยถาปิ, อุทายิ, ลฏุกิกา สกุณิกา ปูติลตาย พนฺธเนน พทฺธา ตตฺเถว วธํ วา พนฺธํ วา มรณํ วา อาคเมติ. โย นุ โข, อุทายิ, เอวํ วเทยฺย – ‘เยน สา ลฏุกิกา สกุณิกา ปูติลตาย พนฺธเนน พทฺธา ตตฺเถว วธํ วา พนฺธํ วา มรณํ วา อาคเมติ, ตฺหิ ตสฺสา อพลํ พนฺธนํ ¶ , ทุพฺพลํ พนฺธนํ, ปูติกํ พนฺธนํ, อสารกํ พนฺธน’นฺติ; สมฺมา นุ โข โส, อุทายิ, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต. เยน สา, ภนฺเต, ลฏุกิกา สกุณิกา ปูติลตาย พนฺธเนน พทฺธา ตตฺเถว วธํ วา พนฺธํ วา มรณํ วา อาคเมติ, ตฺหิ ตสฺสา พลวํ พนฺธนํ, ทฬฺหํ พนฺธนํ, ถิรํ พนฺธนํ อปูติกํ พนฺธนํ, ถูโล, กลิงฺคโร’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, อุทายิ, อิเธกจฺเจ โมฆปุริสา ‘อิทํ ปชหถา’ติ มยา วุจฺจมานา เต เอวมาหํสุ – ‘กึ ปนิมสฺส อปฺปมตฺตกสฺส โอรมตฺตกสฺส อธิสลฺลิขเตวายํ สมโณ’ติ? เต ตฺเจว นปฺปชหนฺติ, มยิ จ อปฺปจฺจยํ อุปฏฺาเปนฺติ. เย จ ภิกฺขู สิกฺขากามา เตสํ ตํ, อุทายิ, โหติ พลวํ พนฺธนํ, ทฬฺหํ พนฺธนํ, ถิรํ พนฺธนํ, อปูติกํ พนฺธนํ, ถูโล, กลิงฺคโร’’.
๑๕๑. ‘‘อิธ ¶ ปนุทายิ, เอกจฺเจ กุลปุตฺตา ‘อิทํ ปชหถา’ติ มยา ¶ วุจฺจมานา เต เอวมาหํสุ – ‘กึ ปนิมสฺส อปฺปมตฺตกสฺส โอรมตฺตกสฺส ปหาตพฺพสฺส ยสฺส โน ภควา ปหานมาห, ยสฺส โน สุคโต ปฏินิสฺสคฺคมาหา’ติ? เต ตฺเจว ปชหนฺติ, มยิ จ น อปฺปจฺจยํ อุปฏฺาเปนฺติ. เย จ ภิกฺขู สิกฺขากามา เต ตํ ปหาย อปฺโปสฺสุกฺกา ปนฺนโลมา ปรทตฺตวุตฺตา [ปรทวุตฺตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] มิคภูเตน เจตสา วิหรนฺติ. เตสํ ตํ, อุทายิ, โหติ อพลํ พนฺธนํ, ทุพฺพลํ พนฺธนํ, ปูติกํ พนฺธนํ, อสารกํ พนฺธนํ – เสยฺยถาปิ, อุทายิ, รฺโ นาโค อีสาทนฺโต อุรูฬฺหวา อภิชาโต สงฺคามาวจโร ทฬฺเหหิ วรตฺเตหิ พนฺธเนหิ พทฺโธ อีสกํเยว กายํ สนฺนาเมตฺวา ตานิ พนฺธนานิ สํฉินฺทิตฺวา สํปทาเลตฺวา เยน กามํ ปกฺกมติ. โย นุ โข, อุทายิ, เอวํ วเทยฺย – ‘เยหิ โส รฺโ นาโค อีสาทนฺโต อุรูฬฺหวา อภิชาโต สงฺคามาวจโร ทฬฺเหหิ วรตฺเตหิ พนฺธเนหิ พทฺโธ อีสกํเยว กายํ สนฺนาเมตฺวา ตานิ พนฺธนานิ สํฉินฺทิตฺวา สํปทาเลตฺวา เยน กามํ ปกฺกมติ, ตฺหิ ตสฺส พลวํ พนฺธนํ, ทฬฺหํ พนฺธนํ, ถิรํ พนฺธนํ, อปูติกํ ¶ พนฺธนํ, ถูโล, กลิงฺคโร’ติ; สมฺมา นุ โข โส, อุทายิ, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต. เยหิ โส, ภนฺเต, รฺโ นาโค อีสาทนฺโต อุรูฬฺหวา อภิชาโต สงฺคามาวจโร ทฬฺเหหิ วรตฺเตหิ พนฺธเนหิ พทฺโธ อีสกํเยว กายํ สนฺนาเมตฺวา ตานิ พนฺธนานิ สํฉินฺทิตฺวา ¶ สํปทาเลตฺวา เยน กามํ ปกฺกมติ, ตฺหิ ตสฺส อพลํ พนฺธนํ…เป… อสารกํ พนฺธน’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, อุทายิ, อิเธกจฺเจ กุลปุตฺตา ‘อิทํ ปชหถา’ติ มยา วุจฺจมานา เต เอวมาหํสุ – ‘กึ ปนิมสฺส อปฺปมตฺตกสฺส โอรมตฺตกสฺส ปหาตพฺพสฺส ยสฺส โน ภควา ปหานมาห, ยสฺส โน สุคโต ปฏินิสฺสคฺคมาหา’ติ? เต ตฺเจว ปชหนฺติ, มยิ จ น อปฺปจฺจยํ อุปฏฺาเปนฺติ. เย จ ภิกฺขู สิกฺขากามา เต ตํ ¶ ปหาย อปฺโปสฺสุกฺกา ปนฺนโลมา ปรทตฺตวุตฺตา มิคภูเตน เจตสา วิหรนฺติ. เตสํ ตํ, อุทายิ, โหติ อพลํ พนฺธนํ, ทุพฺพลํ พนฺธนํ, ปูติกํ พนฺธนํ, อสารกํ พนฺธนํ’’.
๑๕๒. ‘‘เสยฺยถาปิ, อุทายิ, ปุริโส ทลิทฺโท อสฺสโก อนาฬฺหิโย; ตสฺส’สฺส เอกํ อคารกํ โอลุคฺควิลุคฺคํ กากาติทายึ [กากาติฑายึ (?)] นปรมรูปํ, เอกา ขโฏปิกา [กโฬปิกา (ก.)] โอลุคฺควิลุคฺคา นปรมรูปา, เอกิสฺสา กุมฺภิยา ¶ ธฺสมวาปกํ นปรมรูปํ, เอกา ชายิกา นปรมรูปา. โส อารามคตํ ภิกฺขุํ ปสฺเสยฺย สุโธตหตฺถปาทํ มนฺุํ โภชนํ ภุตฺตาวึ สีตาย ฉายาย นิสินฺนํ อธิจิตฺเต ยุตฺตํ. ตสฺส เอวมสฺส – ‘สุขํ วต, โภ, สามฺํ, อาโรคฺยํ วต, โภ, สามฺํ! โส วตสฺสํ [โส วตสฺส (ก.)] โยหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติ. โส น สกฺกุเณยฺย เอกํ อคารกํ โอลุคฺควิลุคฺคํ กากาติทายึ นปรมรูปํ ปหาย, เอกํ ขโฏปิกํ ¶ โอลุคฺควิลุคฺคํ นปรมรูปํ ปหาย, เอกิสฺสา กุมฺภิยา ธฺสมวาปกํ นปรมรูปํ ปหาย, เอกํ ชายิกํ นปรมรูปํ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํ. โย นุ โข, อุทายิ, เอวํ วเทยฺย – ‘เยหิ โส ปุริโส พนฺธเนหิ พทฺโธ น สกฺโกติ เอกํ อคารกํ โอลุคฺควิลุคฺคํ กากาติทายึ นปรมรูปํ ปหาย, เอกํ ขโฏปิกํ โอลุคฺควิลุคฺคํ นปรมรูปํ ปหาย, เอกิสฺสา กุมฺภิยา ธฺสมวาปกํ นปรมรูปํ ปหาย, เอกํ ชายิกํ นปรมรูปํ ปหาย เกสมสฺสุํ ¶ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํ; ตฺหิ ตสฺส อพลํ พนฺธนํ, ทุพฺพลํ พนฺธนํ, ปูติกํ พนฺธนํ, อสารกํ พนฺธน’นฺติ; สมฺมา นุ โข โส, อุทายิ, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต. เยหิ โส, ภนฺเต, ปุริโส พนฺธเนหิ พทฺโธ, น สกฺโกติ เอกํ อคารกํ โอลุคฺควิลุคฺคํ กากาติทายึ นปรมรูปํ ปหาย, เอกํ ขโฏปิกํ โอลุคฺควิลุคฺคํ นปรมรูปํ ปหาย, เอกิสฺสา กุมฺภิยา ธฺสมวาปกํ นปรมรูปํ ปหาย, เอกํ ชายิกํ นปรมรูปํ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํ; ตฺหิ ตสฺส พลวํ พนฺธนํ, ทฬฺหํ พนฺธนํ, ถิรํ พนฺธนํ, อปูติกํ พนฺธนํ, ถูโล, กลิงฺคโร’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, อุทายิ, อิเธกจฺเจ โมฆปุริสา ‘อิทํ ปชหถา’ติ มยา วุจฺจมานา เต เอวมาหํสุ – ‘กึ ปนิมสฺส อปฺปมตฺตกสฺส โอรมตฺตกสฺส ¶ อธิสลฺลิขเตวายํ สมโณ’ติ? เต ตฺเจว นปฺปชหนฺติ, มยิ จ อปฺปจฺจยํ อุปฏฺาเปนฺติ. เย จ ภิกฺขู สิกฺขากามา เตสํ ตํ, อุทายิ, โหติ พลวํ พนฺธนํ, ทฬฺหํ พนฺธนํ, ถิรํ พนฺธนํ, อปูติกํ พนฺธนํ, ถูโล, กลิงฺคโร’’.
๑๕๓. ‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , อุทายิ, คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา อฑฺโฒ มหทฺธโน ¶ มหาโภโค, เนกานํ นิกฺขคณานํ จโย, เนกานํ ธฺคณานํ จโย, เนกานํ เขตฺตคณานํ จโย, เนกานํ วตฺถุคณานํ จโย, เนกานํ ภริยคณานํ จโย, เนกานํ ทาสคณานํ จโย, เนกานํ ทาสิคณานํ จโย; โส อารามคตํ ภิกฺขุํ ปสฺเสยฺย สุโธตหตฺถปาทํ มนฺุํ โภชนํ ภุตฺตาวึ สีตาย ฉายาย นิสินฺนํ อธิจิตฺเต ยุตฺตํ. ตสฺส เอวมสฺส – ‘สุขํ วต, โภ, สามฺํ, อาโรคฺยํ วต, โภ, สามฺํ! โส วตสฺสํ โยหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติ. โส สกฺกุเณยฺย เนกานิ นิกฺขคณานิ ปหาย, เนกานิ ธฺคณานิ ปหาย, เนกานิ เขตฺตคณานิ ปหาย, เนกานิ วตฺถุคณานิ ปหาย, เนกานิ ภริยคณานิ ปหาย, เนกานิ ทาสคณานิ ปหาย, เนกานิ ทาสิคณานิ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํ. โย นุ โข, อุทายิ, เอวํ วเทยฺย – ‘เยหิ โส คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา พนฺธเนหิ พทฺโธ, สกฺโกติ เนกานิ นิกฺขคณานิ ปหาย, เนกานิ ธฺคณานิ ปหาย, เนกานิ ¶ เขตฺตคณานิ ปหาย, เนกานิ วตฺถุคณานิ ปหาย, เนกานิ ภริยคณานิ ปหาย, เนกานิ ทาสคณานิ ปหาย, เนกานิ ทาสิคณานิ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํ, ตฺหิ ตสฺส พลวํ พนฺธนํ, ทฬฺหํ พนฺธนํ, ถิรํ พนฺธนํ, อปูติกํ พนฺธนํ, ถูโล, กลิงฺคโร’ติ; สมฺมา นุ โข โส, อุทายิ, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต. เยหิ โส, ภนฺเต, คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา พนฺธเนหิ พทฺโธ, สกฺโกติ เนกานิ นิกฺขคณานิ ปหาย, เนกานิ ธฺคณานิ ปหาย, เนกานิ ¶ เขตฺตคณานิ ปหาย, เนกานิ วตฺถุคณานิ ปหาย, เนกานิ ภริยคณานิ ปหาย, เนกานิ ทาสคณานิ ปหาย, เนกานิ ทาสิคณานิ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํ; ตฺหิ ตสฺส อพลํ พนฺธนํ, ทุพฺพลํ พนฺธนํ, ปูติกํ พนฺธนํ, อสารกํ พนฺธน’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, อุทายิ, อิเธกจฺเจ กุลปุตฺตา ‘อิทํ ปชหถา’ติ มยา วุจฺจมานา เต เอวมาหํสุ – ‘กึ ปนิมสฺส อปฺปมตฺตกสฺส โอรมตฺตกสฺส ปหาตพฺพสฺส ยสฺส โน ภควา ปหานมาห ยสฺส, โน สุคโต ปฏินิสฺสคฺคมาหา’ติ? เต ตฺเจว ปชหนฺติ, มยิ จ น อปฺปจฺจยํ อุปฏฺาเปนฺติ. เย จ ภิกฺขู สิกฺขากามา เต ตํ ปหาย ¶ อปฺโปสฺสุกฺกา ปนฺนโลมา ปรทตฺตวุตฺตา มิคภูเตน เจตสา วิหรนฺติ. เตสํ ตํ, อุทายิ, โหติ อพลํ พนฺธนํ, ทุพฺพลํ พนฺธนํ, ปูติกํ พนฺธนํ, อสารกํ พนฺธนํ’’.
๑๕๔. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , อุทายิ, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ¶ จตฺตาโร? อิธุทายิ, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุปธิปหานาย ปฏิปนฺโน โหติ อุปธิปฏินิสฺสคฺคาย. ตเมนํ อุปธิปหานาย ปฏิปนฺนํ อุปธิปฏินิสฺสคฺคาย อุปธิปฏิสํยุตฺตา สรสงฺกปฺปา สมุทาจรนฺติ. โส เต อธิวาเสติ, นปฺปชหติ, น วิโนเทติ, น พฺยนฺตีกโรติ, น อนภาวํ คเมติ. อิมํ โข อหํ, อุทายิ, ปุคฺคลํ ‘สํยุตฺโต’ติ วทามิ โน ‘วิสํยุตฺโต’. ตํ กิสฺส เหตุ? อินฺทฺริยเวมตฺตตา หิ เม, อุทายิ, อิมสฺมึ ปุคฺคเล วิทิตา.
‘‘อิธ ปนุทายิ, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุปธิปหานาย ปฏิปนฺโน โหติ อุปธิปฏินิสฺสคฺคาย. ตเมนํ อุปธิปหานาย ปฏิปนฺนํ อุปธิปฏินิสฺสคฺคาย อุปธิปฏิสํยุตฺตา สรสงฺกปฺปา สมุทาจรนฺติ. โส เต นาธิวาเสติ, ปชหติ, วิโนเทติ, พฺยนฺตีกโรติ, อนภาวํ คเมติ. อิมมฺปิ โข อหํ, อุทายิ ¶ , ปุคฺคลํ ‘สํยุตฺโต’ติ วทามิ โน ‘วิสํยุตฺโต’. ตํ กิสฺส เหตุ? อินฺทฺริยเวมตฺตตา หิ เม, อุทายิ, อิมสฺมึ ปุคฺคเล วิทิตา.
‘‘อิธ ปนุทายิ, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุปธิปหานาย ปฏิปนฺโน โหติ อุปธิปฏินิสฺสคฺคาย. ตเมนํ อุปธิปหานาย ปฏิปนฺนํ อุปธิปฏินิสฺสคฺคาย กทาจิ กรหจิ สติสมฺโมสา อุปธิปฏิสํยุตฺตา สรสงฺกปฺปา สมุทาจรนฺติ; ทนฺโธ, อุทายิ, สตุปฺปาโท. อถ โข นํ ขิปฺปเมว ปชหติ, วิโนเทติ, พฺยนฺตีกโรติ, อนภาวํ คเมติ. เสยฺยถาปิ, อุทายิ, ปุริโส ทิวสํสนฺตตฺเต [ทิวสสนฺตตฺเต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อโยกฏาเห ทฺเว วา ตีณิ วา อุทกผุสิตานิ นิปาเตยฺย; ทนฺโธ, อุทายิ, อุทกผุสิตานํ นิปาโต. อถ โข นํ ขิปฺปเมว ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คจฺเฉยฺย. เอวเมว โข, อุทายิ, อิเธกจฺโจ ¶ ปุคฺคโล อุปธิปหานาย ปฏิปนฺโน โหติ อุปธิปฏินิสฺสคฺคาย. ตเมนํ อุปธิปหานาย ปฏิปนฺนํ อุปธิปฏินิสฺสคฺคาย กทาจิ กรหจิ สติสมฺโมสา อุปธิปฏิสํยุตฺตา สรสงฺกปฺปา สมุทาจรนฺติ; ทนฺโธ, อุทายิ, สตุปฺปาโท. อถ โข นํ ขิปฺปเมว ปชหติ, วิโนเทติ, พฺยนฺตีกโรติ, อนภาวํ คเมติ. อิมมฺปิ โข อหํ, อุทายิ, ปุคฺคลํ ‘สํยุตฺโต’ติ วทามิ โน ‘วิสํยุตฺโต’. ตํ ¶ กิสฺส เหตุ? อินฺทฺริยเวมตฺตตา หิ เม, อุทายิ, อิมสฺมึ ปุคฺคเล วิทิตา.
‘‘อิธ ปนุทายิ, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ‘อุปธิ ทุกฺขสฺส มูล’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา นิรุปธิ โหติ, อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโต. อิมํ โข อหํ, อุทายิ, ปุคฺคลํ ‘วิสํยุตฺโต’ติ วทามิ โน ‘สํยุตฺโต’ติ ¶ . ตํ กิสฺส เหตุ? อินฺทฺริยเวมตฺตตา หิ เม, อุทายิ, อิมสฺมึ ปุคฺคเล วิทิตา. อิเม โข, อุทายิ, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.
๑๕๕. ‘‘ปฺจ โข อิเม, อุทายิ, กามคุณา. กตเม ปฺจ? จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, โสตวิฺเยฺยา สทฺทา…เป… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา. อิเม โข, อุทายิ, ปฺจ กามคุณา. ยํ โข, อุทายิ, อิเม ปฺจ กามคุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ อิทํ วุจฺจติ กามสุขํ มิฬฺหสุขํ [มีฬฺหสุขํ (สี. ปี.)] ปุถุชฺชนสุขํ อนริยสุขํ, น เสวิตพฺพํ, น ภาเวตพฺพํ, น พหุลีกาตพฺพํ; ‘ภายิตพฺพํ ¶ เอตสฺส สุขสฺสา’ติ วทามิ.
๑๕๖. ‘‘อิธุทายิ ¶ , ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปีติยา จ วิราคา… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สุขสฺส จ ปหานา… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ วุจฺจติ เนกฺขมฺมสุขํ ปวิเวกสุขํ อุปสมสุขํ สมฺโพธสุขํ, อาเสวิตพฺพํ, ภาเวตพฺพํ, พหุลีกาตพฺพํ; ‘น ภายิตพฺพํ เอตสฺส สุขสฺสา’ติ วทามิ.
‘‘อิธุทายิ, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; อิทํ โข อหํ, อุทายิ, อิฺชิตสฺมึ วทามิ. กิฺจ ตตฺถ อิฺชิตสฺมึ? ยเทว ตตฺถ วิตกฺกวิจารา อนิรุทฺธา โหนฺติ อิทํ ตตฺถ อิฺชิตสฺมึ. อิธุทายิ, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; อิทมฺปิ โข อหํ, อุทายิ, อิฺชิตสฺมึ วทามิ. กิฺจ ตตฺถ อิฺชิตสฺมึ? ยเทว ตตฺถ ปีติสุขํ อนิรุทฺธํ โหติ อิทํ ตตฺถ อิฺชิตสฺมึ. อิธุทายิ, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา…เป… ¶ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; อิทมฺปิ โข อหํ, อุทายิ, อิฺชิตสฺมึ วทามิ. กิฺจ ตตฺถ อิฺชิตสฺมึ? ยเทว ตตฺถ อุเปกฺขาสุขํ ¶ อนิรุทฺธํ โหติ อิทํ ตตฺถ อิฺชิตสฺมึ. อิธุทายิ, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; อิทํ โข อหํ, อุทายิ, อนิฺชิตสฺมึ วทามิ.
‘‘อิธุทายิ ¶ , ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; อิทํ โข อหํ, อุทายิ, ‘อนล’นฺติ วทามิ, ‘ปชหถา’ติ วทามิ, ‘สมติกฺกมถา’ติ วทามิ. โก จ ตสฺส สมติกฺกโม? อิธุทายิ, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ ตสฺส สมติกฺกโม; อิทมฺปิ โข อหํ, อุทายิ, ‘อนล’นฺติ วทามิ, ‘ปชหถา’ติ วทามิ, ‘สมติกฺกมถา’ติ วทามิ. โก จ ตสฺส สมติกฺกโม? อิธุทายิ, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ ตสฺส สมติกฺกโม; อิทมฺปิ โข อหํ, อุทายิ, ‘อนล’นฺติ วทามิ, ‘ปชหถา’ติ วทามิ, ‘สมติกฺกมถา’ติ วทามิ. โก จ ตสฺส สมติกฺกโม? อิธุทายิ, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ ตสฺส สมติกฺกโม; อิทมฺปิ โข อหํ, อุทายิ, ‘อนล’นฺติ วทามิ, ‘ปชหถา’ติ วทามิ, ‘สมติกฺกมถา’ติ วทามิ. โก จ ตสฺส สมติกฺกโม? อิธุทายิ, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ ตสฺส สมติกฺกโม; อิทมฺปิ โข อหํ, อุทายิ, ‘อนล’นฺติ ¶ วทามิ, ‘ปชหถา’ติ วทามิ, ‘สมติกฺกมถา’ติ วทามิ. โก จ ตสฺส สมติกฺกโม? อิธุทายิ, ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ ตสฺส สมติกฺกโม ¶ ; อิทมฺปิ โข อหํ, อุทายิ, ‘อนล’นฺติ วทามิ, ‘ปชหถา’ติ วทามิ, ‘สมติกฺกมถา’ติ วทามิ. โก จ ¶ ตสฺส สมติกฺกโม? อิธุทายิ, ภิกฺขุ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ ตสฺส สมติกฺกโม; อิทมฺปิ โข อหํ, อุทายิ, ‘อนล’นฺติ วทามิ, ‘ปชหถา’ติ วทามิ, ‘สมติกฺกมถา’ติ วทามิ. โก จ ตสฺส สมติกฺกโม? อิธุทายิ, ภิกฺขุ สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช ¶ วิหรติ, อยํ ตสฺส สมติกฺกโม; อิทมฺปิ โข อหํ, อุทายิ, ‘อนล’นฺติ วทามิ, ‘ปชหถา’ติ วทามิ, ‘สมติกฺกมถา’ติ วทามิ. โก จ ตสฺส สมติกฺกโม? อิธุทายิ, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ ตสฺส สมติกฺกโม; อิติ โข อหํ, อุทายิ, เนวสฺานาสฺายตนสฺสปิ ปหานํ วทามิ. ปสฺสสิ โน ตฺวํ, อุทายิ, ตํ สํโยชนํ อณุํ วา ถูลํ วา ยสฺสาหํ โน ปหานํ วทามี’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อุทายี ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
ลฏุกิโกปมสุตฺตํ นิฏฺิตํ ฉฏฺํ.
๗. จาตุมสุตฺตํ
๑๕๗. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา จาตุมายํ วิหรติ อามลกีวเน. เตน โข ปน สมเยน สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุขานิ ปฺจมตฺตานิ ภิกฺขุสตานิ จาตุมํ อนุปฺปตฺตานิ โหนฺติ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. เต จ อาคนฺตุกา ภิกฺขู เนวาสิเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปฏิสมฺโมทมานา เสนาสนานิ ปฺาปยมานา ปตฺตจีวรานิ ปฏิสามยมานา อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา อเหสุํ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘เก ปเนเต, อานนฺท, อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา, เกวฏฺฏา มฺเ มจฺฉวิโลเป’’ติ? ‘‘เอตานิ, ภนฺเต, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุขานิ ปฺจมตฺตานิ ภิกฺขุสตานิ จาตุมํ ¶ อนุปฺปตฺตานิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. เต อาคนฺตุกา ภิกฺขู เนวาสิเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปฏิสมฺโมทมานา เสนาสนานิ ปฺาปยมานา ปตฺตจีวรานิ ปฏิสามยมานา อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา’’ติ. ‘‘เตนหานนฺท, มม วจเนน เต ภิกฺขู อามนฺเตหิ – ‘สตฺถา อายสฺมนฺเต อามนฺเตตี’’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา อายสฺมนฺเต อามนฺเตตี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู ¶ อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข เต ¶ ภิกฺขู ภควา เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา, เกวฏฺฏา มฺเ มจฺฉวิโลเป’’ติ? ‘‘อิมานิ, ภนฺเต, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุขานิ ปฺจมตฺตานิ ภิกฺขุสตานิ จาตุมํ อนุปฺปตฺตานิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. เตเม อาคนฺตุกา ภิกฺขู เนวาสิเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปฏิสมฺโมทมานา เสนาสนานิ ปฺาปยมานา ปตฺตจีวรานิ ปฏิสามยมานา อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา’’ติ. ‘‘คจฺฉถ, ภิกฺขเว, ปณาเมมิ โว, น โว มม สนฺติเก วตฺถพฺพ’’นฺติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ปกฺกมึสุ.
๑๕๘. เตน โข ปน สมเยน จาตุเมยฺยกา สกฺยา สนฺถาคาเร [สนฺธาคาเร (ก.)] สนฺนิปติตา โหนฺติ เกนจิเทว ¶ กรณีเยน. อทฺทสํสุ โข จาตุเมยฺยกา สกฺยา เต ภิกฺขู ทูรโตว อาคจฺฉนฺเต; ทิสฺวาน เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจุํ – ‘‘หนฺท, กหํ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต คจฺฉถา’’ติ? ‘‘ภควตา โข, อาวุโส, ภิกฺขุสงฺโฆ ปณามิโต’’ติ. ‘‘เตนหายสฺมนฺโต มุหุตฺตํ นิสีทถ, อปฺเปว นาม มยํ สกฺกุเณยฺยาม ภควนฺตํ ปสาเทตุ’’นฺติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู จาตุเมยฺยกานํ สกฺยานํ ปจฺจสฺโสสุํ. อถ โข จาตุเมยฺยกา สกฺยา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ ¶ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข จาตุเมยฺยกา สกฺยา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อภินนฺทตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขุสงฺฆํ; อภิวทตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขุสงฺฆํ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต ¶ , ภควตา ปุพฺเพ ภิกฺขุสงฺโฆ อนุคฺคหิโต, เอวเมว ภควา เอตรหิ อนุคฺคณฺหาตุ ภิกฺขุสงฺฆํ. สนฺเตตฺถ, ภนฺเต, ภิกฺขู นวา อจิรปพฺพชิตา อธุนาคตา อิมํ ธมฺมวินยํ. เตสํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อลภนฺตานํ สิยา อฺถตฺตํ, สิยา วิปริณาโม. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, พีชานํ ตรุณานํ อุทกํ อลภนฺตานํ สิยา อฺถตฺตํ สิยา วิปริณาโม; เอวเมว โข, ภนฺเต, สนฺเตตฺถ ภิกฺขู ¶ นวา อจิรปพฺพชิตา อธุนาคตา อิมํ ธมฺมวินยํ, เตสํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อลภนฺตานํ สิยา อฺถตฺตํ, สิยา วิปริณาโม. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, วจฺฉสฺส ตรุณสฺส มาตรํ อปสฺสนฺตสฺส สิยา อฺถตฺตํ, สิยา วิปริณาโม; เอวเมว โข, ภนฺเต, สนฺเตตฺถ ภิกฺขู นวา อจิรปพฺพชิตา อธุนาคตา อิมํ ธมฺมวินยํ, เตสํ ภควนฺตํ อปสฺสนฺตานํ สิยา อฺถตฺตํ, สิยา วิปริณาโม. อภินนฺทตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขุสงฺฆํ; อภิวทตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขุสงฺฆํ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, ภควตา ปุพฺเพ ภิกฺขุสงฺโฆ อนุคฺคหิโต; เอวเมว ภควา เอตรหิ อนุคฺคณฺหาตุ ภิกฺขุสงฺฆ’’นฺติ.
๑๕๙. อถ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ ภควโต เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ [สมฺมิฺชิตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว – พฺรหฺมโลเก ¶ อนฺตรหิโต ภควโต ปุรโต ปาตุรโหสิ. อถ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภินนฺทตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขุสงฺฆํ; อภิวทตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขุสงฺฆํ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, ภควตา ปุพฺเพ ภิกฺขุสงฺโฆ อนุคฺคหิโต; เอวเมว ภควา เอตรหิ อนุคฺคณฺหาตุ ภิกฺขุสงฺฆํ. สนฺเตตฺถ, ภนฺเต, ภิกฺขู นวา อจิรปพฺพชิตา อธุนาคตา อิมํ ธมฺมวินยํ, เตสํ ภควนฺตํ ¶ ทสฺสนาย อลภนฺตานํ สิยา อฺถตฺตํ, สิยา วิปริณาโม. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, พีชานํ ตรุณานํ อุทกํ อลภนฺตานํ สิยา อฺถตฺตํ, สิยา วิปริณาโม; เอวเมว โข, ภนฺเต, สนฺเตตฺถ ภิกฺขู นวา อจิรปพฺพชิตา อธุนาคตา อิมํ ธมฺมวินยํ, เตสํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อลภนฺตานํ สิยา อฺถตฺตํ, สิยา วิปริณาโม. เสยฺยถาปิ ภนฺเต, วจฺฉสฺส ตรุณสฺส มาตรํ อปสฺสนฺตสฺส สิยา อฺถตฺตํ, สิยา วิปริณาโม; เอวเมว โข, ภนฺเต, สนฺเตตฺถ ภิกฺขู นวา ¶ อจิรปพฺพชิตา อธุนาคตา อิมํ ธมฺมวินยํ, เตสํ ภควนฺตํ อปสฺสนฺตานํ สิยา อฺถตฺตํ, สิยา วิปริณาโม. อภินนฺทตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขุสงฺฆํ; อภิวทตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขุสงฺฆํ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, ภควตา ปุพฺเพ ภิกฺขุสงฺโฆ ¶ อนุคฺคหิโต; เอวเมว ภควา เอตรหิ อนุคฺคณฺหาตุ ภิกฺขุสงฺฆ’’นฺติ.
๑๖๐. อสกฺขึสุ โข จาตุเมยฺยกา จ สกฺยา พฺรหฺมา จ สหมฺปติ ภควนฺตํ ปสาเทตุํ พีชูปเมน จ ตรุณูปเมน จ. อถ ¶ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อุฏฺเถาวุโส, คณฺหถ ปตฺตจีวรํ. ปสาทิโต ภควา จาตุเมยฺยเกหิ จ สกฺเยหิ พฺรหฺมุนา จ สหมฺปตินา พีชูปเมน จ ตรุณูปเมน จา’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺายาสนา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กินฺติ เต, สาริปุตฺต, อโหสิ มยา ภิกฺขุสงฺเฆ ปณามิเต’’ติ? ‘‘เอวํ โข เม, ภนฺเต, อโหสิ – ‘ภควตา ภิกฺขุสงฺโฆ ปณามิโต. อปฺโปสฺสุกฺโก ทานิ ภควา ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ อนุยุตฺโต วิหริสฺสติ, มยมฺปิ ทานิ อปฺโปสฺสุกฺกา ทิฏฺธมฺมสุขวิหารมนุยุตฺตา วิหริสฺสามา’’’ติ. ‘‘อาคเมหิ ตฺวํ, สาริปุตฺต, อาคเมหิ ตฺวํ, สาริปุตฺต, ทิฏฺธมฺมสุขวิหาร’’นฺติ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อามนฺเตสิ – ‘‘กินฺติ เต, โมคฺคลฺลาน, อโหสิ มยา ภิกฺขุสงฺเฆ ปณามิเต’’ติ? ‘‘เอวํ โข เม, ภนฺเต, อโหสิ – ‘ภควตา ภิกฺขุสงฺโฆ ปณามิโต. อปฺโปสฺสุกฺโก ทานิ ภควา ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ อนุยุตฺโต วิหริสฺสติ, อหฺจ ทานิ อายสฺมา จ สาริปุตฺโต ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามา’’’ติ. ‘‘สาธุ สาธุ, โมคฺคลฺลาน! อหํ วา หิ, โมคฺคลฺลาน ¶ , ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหเรยฺยํ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา วา’’ติ.
๑๖๑. อถ ¶ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ภยานิ อุทโกโรหนฺเต ปาฏิกงฺขิตพฺพานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อูมิภยํ [อุมฺมีภยํ (สฺยา. กํ.)], กุมฺภีลภยํ, อาวฏฺฏภยํ, สุสุกาภยํ – อิมานิ, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ภยานิ อุทโกโรหนฺเต ปาฏิกงฺขิตพฺพานิ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริมานิ ภยานิ ¶ อิเธกจฺเจ ปุคฺคเล อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิเต ปาฏิกงฺขิตพฺพานิ. กตมานิ ¶ จตฺตาริ? อูมิภยํ, กุมฺภีลภยํ, อาวฏฺฏภยํ, สุสุกาภยํ.
๑๖๒. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, อูมิภยํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ กุลปุตฺโต สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ – ‘โอติณฺโณมฺหิ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ ทุกฺโขติณฺโณ ทุกฺขปเรโต; อปฺเปว นาม อิมสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อนฺตกิริยา ปฺาเยถา’ติ. ตเมนํ ตถา ปพฺพชิตํ สมานํ สพฺรหฺมจารี โอวทนฺติ, อนุสาสนฺติ – ‘เอวํ เต อภิกฺกมิตพฺพํ, เอวํ เต ปฏิกฺกมิตพฺพํ, เอวํ เต อาโลกิตพฺพํ, เอวํ เต วิโลกิตพฺพํ, เอวํ เต สมิฺชิตพฺพํ, เอวํ เต ปสาริตพฺพํ, เอวํ เต สงฺฆาฏิปตฺตจีวรํ ธาเรตพฺพ’นฺติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘มยํ โข ปุพฺเพ อคาริยภูตา สมานา อฺเ โอวทาม, อนุสาสาม [โอวทามปิ อนุสาสามปิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. อิเม ปนมฺหากํ ปุตฺตมตฺตา มฺเ, นตฺตมตฺตา มฺเ, อมฺเห [เอวํ (ก.)] โอวทิตพฺพํ ¶ อนุสาสิตพฺพํ มฺนฺตี’ติ. โส สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อูมิภยสฺส ภีโต สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺโต. ‘อูมิภย’นฺติ โข, ภิกฺขเว, โกธุปายาสสฺเสตํ อธิวจนํ.
๑๖๓. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, กุมฺภีลภยํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ กุลปุตฺโต สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ – ‘โอติณฺโณมฺหิ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ ทุกฺโขติณฺโณ ทุกฺขปเรโต; อปฺเปว นาม อิมสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อนฺตกิริยา ปฺาเยถา’ติ. ตเมนํ ตถา ปพฺพชิตํ สมานํ สพฺรหฺมจารี โอวทนฺติ อนุสาสนฺติ – ‘อิทํ เต ขาทิตพฺพํ, อิทํ เต น ขาทิตพฺพํ; อิทํ เต ภฺุชิตพฺพํ, อิทํ เต น ภฺุชิตพฺพํ; อิทํ เต สายิตพฺพํ, อิทํ เต น สายิตพฺพํ; อิทํ เต ปาตพฺพํ, อิทํ เต น ปาตพฺพํ; กปฺปิยํ เต ขาทิตพฺพํ, อกปฺปิยํ เต น ขาทิตพฺพํ; กปฺปิยํ เต ภฺุชิตพฺพํ, อกปฺปิยํ เต น ภฺุชิตพฺพํ; กปฺปิยํ เต สายิตพฺพํ, อกปฺปิยํ เต น สายิตพฺพํ ¶ ; กปฺปิยํ เต ปาตพฺพํ, อกปฺปิยํ เต น ปาตพฺพํ; กาเล เต ขาทิตพฺพํ, วิกาเล เต น ขาทิตพฺพํ; กาเล เต ภฺุชิตพฺพํ, วิกาเล เต ¶ น ภฺุชิตพฺพํ; กาเล เต สายิตพฺพํ, วิกาเล เต น สายิตพฺพํ; กาเล เต ปาตพฺพํ, วิกาเล เต น ปาตพฺพ’นฺติ. ตสฺส เอวํ ¶ โหติ – ‘มยํ โข ปุพฺเพ อคาริยภูตา สมานา ยํ อิจฺฉาม ตํ ขาทาม, ยํ น อิจฺฉาม น ตํ ขาทาม; ยํ อิจฺฉาม ตํ ภฺุชาม, ยํ ¶ น อิจฺฉาม น ตํ ภฺุชาม; ยํ อิจฺฉาม ตํ สายาม, ยํ น อิจฺฉาม น ตํ สายาม; ยํ อิจฺฉาม ตํ ปิวาม [ปิปาม (สี. ปี.)], ยํ น อิจฺฉาม น ตํ ปิวาม; กปฺปิยมฺปิ ขาทาม, อกปฺปิยมฺปิ ขาทาม; กปฺปิยมฺปิ ภฺุชาม, อกปฺปิยมฺปิ ภฺุชาม; กปฺปิยมฺปิ สายาม, อกปฺปิยมฺปิ สายาม; กปฺปิยมฺปิ ปิวาม, อกปฺปิยมฺปิ ปิวาม; กาเลปิ ขาทาม, วิกาเลปิ ขาทาม; กาเลปิ ภฺุชาม วิกาเลปิ ภฺุชาม; กาเลปิ สายาม, วิกาเลปิ สายาม; กาเลปิ ปิวาม, วิกาเลปิ ปิวาม. ยมฺปิ โน สทฺธา คหปติกา ทิวา วิกาเล ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ เทนฺติ ตตฺถปิเม มุขาวรณํ มฺเ กโรนฺตี’ติ. โส สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กุมฺภีลภยสฺส ภีโต สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺโต. ‘กุมฺภีลภย’นฺติ โข, ภิกฺขเว, โอทริกตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ.
๑๖๔. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, อาวฏฺฏภยํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ กุลปุตฺโต สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ – ‘โอติณฺโณมฺหิ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ ทุกฺโขติณฺโณ ทุกฺขปเรโต; อปฺเปว นาม อิมสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อนฺตกิริยา ปฺาเยถา’ติ. โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ปวิสติ. อรกฺขิเตเนว กาเยน อรกฺขิตาย ¶ วาจาย อนุปฏฺิตาย สติยา อสํวุเตหิ อินฺทฺริเยหิ โส ตตฺถ ปสฺสติ คหปตึ วา คหปติปุตฺตํ วา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตํ สมงฺคีภูตํ ปริจารยมานํ [ปริจาริยมานํ (สฺยา. กํ. ก.)]. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘มยํ โข ปุพฺเพ อคาริยภูตา สมานา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ปริจาริมฺหา. สํวิชฺชนฺติ โข ปน เม กุเล [สํวิชฺชนฺติ โข กุเล (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] โภคา. สกฺกา โภเค จ ภฺุชิตุํ ปฺุานิ จ กาตุ’นฺติ. โส สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อาวฏฺฏภยสฺส ภีโต สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺโต. ‘อาวฏฺฏภย’นฺติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนํ.
๑๖๕. ‘‘กตมฺจ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, สุสุกาภยํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ¶ กุลปุตฺโต สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ – ‘โอติณฺโณมฺหิ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ ทุกฺโขติณฺโณ ทุกฺขปเรโต; อปฺเปว นาม อิมสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อนฺตกิริยา ปฺาเยถา’ติ. โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ปวิสติ. อรกฺขิเตเนว กาเยน อรกฺขิตาย วาจาย อนุปฏฺิตาย สติยา อสํวุเตหิ อินฺทฺริเยหิ โส ตตฺถ ปสฺสติ มาตุคามํ ทุนฺนิวตฺถํ วา ทุปฺปารุตํ วา. ตสฺส มาตุคามํ ทิสฺวา ทุนฺนิวตฺถํ วา ทุปฺปารุตํ วา ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสติ. โส ราคานุทฺธํเสน [อนุทฺธสฺเตน (สี. ปี.)] จิตฺเตน สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ ¶ . อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สุสุกาภยสฺส ภีโต สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺโต. ‘สุสุกาภย’นฺติ โข, ภิกฺขเว, มาตุคามสฺเสตํ อธิวจนํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ภยานิ, อิเธกจฺเจ ปุคฺคเล อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิเต ปาฏิกงฺขิตพฺพานี’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
จาตุมสุตฺตํ นิฏฺิตํ สตฺตมํ.
๘. นฬกปานสุตฺตํ
๑๖๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ วิหรติ นฬกปาเน ปลาสวเน. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา กุลปุตฺตา ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา โหนฺติ – อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ, อายสฺมา จ ภทฺทิโย [นนฺทิโย (สี. ปี.) วินเย จ ม. นิ. ๑ จูฬโคสิงฺเค จ], อายสฺมา จ กิมิโล [กิมฺพิโล (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], อายสฺมา จ ภคุ, อายสฺมา จ โกณฺฑฺโ [กุณฺฑธาโน (สี. ปี.)], อายสฺมา จ เรวโต, อายสฺมา จ อานนฺโท, อฺเ จ อภิฺาตา อภิฺาตา กุลปุตฺตา. เตน โข ปน สมเยน ภควา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ¶ อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติ. อถ โข ภควา เต กุลปุตฺเต ¶ อารพฺภ ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เย เต, ภิกฺขเว, กุลปุตฺตา มมํ อุทฺทิสฺส สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, กจฺจิ เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อภิรตา พฺรหฺมจริเย’’ติ? เอวํ วุตฺเต, เต ภิกฺขู ตุณฺหี อเหสุํ. ทุติยมฺปิ โข ภควา เต กุลปุตฺเต อารพฺภ ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เย เต, ภิกฺขเว, กุลปุตฺตา มมํ อุทฺทิสฺส สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, กจฺจิ เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อภิรตา พฺรหฺมจริเย’’ติ? ทุติยมฺปิ โข เต ภิกฺขู ตุณฺหี อเหสุํ. ตติยมฺปิ โข ภควา เต กุลปุตฺเต อารพฺภ ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เย เต, ภิกฺขเว, กุลปุตฺตา มมํ อุทฺทิสฺส สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา ¶ , กจฺจิ เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อภิรตา พฺรหฺมจริเย’’ติ? ตติยมฺปิ โข เต ภิกฺขู ตุณฺหี อเหสุํ.
๑๖๗. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ เต กุลปุตฺเต ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ! อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ อามนฺเตสิ – ‘‘กจฺจิ ตุมฺเห, อนุรุทฺธา, อภิรตา พฺรหฺมจริเย’’ติ? ‘‘ตคฺฆ มยํ, ภนฺเต, อภิรตา พฺรหฺมจริเย’’ติ. ‘‘สาธุ สาธุ, อนุรุทฺธา! เอตํ โข, อนุรุทฺธา, ตุมฺหากํ ปติรูปํ กุลปุตฺตานํ สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตานํ ยํ ตุมฺเห อภิรเมยฺยาถ พฺรหฺมจริเย. เยน ตุมฺเห อนุรุทฺธา, ภทฺเรน โยพฺพเนน สมนฺนาคตา ปเมน วยสา สุสุกาฬเกสา กาเม ปริภฺุเชยฺยาถ เตน ตุมฺเห, อนุรุทฺธา, ภทฺเรนปิ โยพฺพเนน สมนฺนาคตา ปเมน วยสา สุสุกาฬเกสา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา. เต จ โข ปน ตุมฺเห, อนุรุทฺธา, เนว ราชาภินีตา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, น โจราภินีตา อคารสฺมา ¶ อนคาริยํ ปพฺพชิตา, น อิณฏฺฏา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, น ภยฏฺฏา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, นาชีวิกาปกตา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา. อปิ จ โขมฺหิ โอติณฺโณ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, ทุกฺโขติณฺโณ ทุกฺขปเรโต; อปฺเปว นาม อิมสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อนฺตกิริยา ปฺาเยถาติ – นนุ ตุมฺเห, อนุรุทฺธา, เอวํ สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวํ ¶ ปพฺพชิเตน จ ปน, อนุรุทฺธา, กุลปุตฺเตน กิมสฺส กรณียํ? วิเวกํ, อนุรุทฺธา, กาเมหิ วิเวกํ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ ปีติสุขํ นาธิคจฺฉติ อฺํ วา [อฺํ จ (ก.)] ตโต สนฺตตรํ, ตสฺส อภิชฺฌาปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺติ, พฺยาปาโทปิ จิตฺตํ ¶ ปริยาทาย ติฏฺติ, ถีนมิทฺธมฺปิ [ถีนมิทฺธมฺปิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺติ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจมฺปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺติ, วิจิกิจฺฉาปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺติ, อรตีปิ ¶ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺติ, ตนฺทีปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺติ. วิเวกํ, อนุรุทฺธา, กาเมหิ วิเวกํ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ ปีติสุขํ นาธิคจฺฉติ อฺํ วา ตโต สนฺตตรํ’’.
‘‘วิเวกํ, อนุรุทฺธา, กาเมหิ วิเวกํ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ ปีติสุขํ อธิคจฺฉติ อฺํ วา ตโต สนฺตตรํ, ตสฺส อภิชฺฌาปิ จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, พฺยาปาโทปิ จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, ถีนมิทฺธมฺปิ จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจมฺปิ จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, วิจิกิจฺฉาปิ จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, อรตีปิ จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, ตนฺทีปิ จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ. วิเวกํ, อนุรุทฺธา, กาเมหิ วิเวกํ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ ปีติสุขํ อธิคจฺฉติ อฺํ วา ตโต สนฺตตรํ.
๑๖๘. ‘‘กินฺติ โว, อนุรุทฺธา, มยิ โหติ – ‘เย อาสวา สํกิเลสิกา โปโนพฺภวิกา [โปโนภวิกา (สี. ปี.)] สทรา ทุกฺขวิปากา อายตึ ชาติชรามรณิยา, อปฺปหีนา เต ตถาคตสฺส; ตสฺมา ตถาคโต สงฺขาเยกํ ปฏิเสวติ, สงฺขาเยกํ อธิวาเสติ, สงฺขาเยกํ ปริวชฺเชติ, สงฺขาเยกํ วิโนเทตี’’’ติ? ‘‘น โข ¶ โน, ภนฺเต, ภควติ เอวํ โหติ – ‘เย อาสวา สํกิเลสิกา โปโนพฺภวิกา สทรา ทุกฺขวิปากา อายตึ ชาติชรามรณิยา, อปฺปหีนา เต ตถาคตสฺส; ตสฺมา ตถาคโต สงฺขาเยกํ ปฏิเสวติ, สงฺขาเยกํ อธิวาเสติ, สงฺขาเยกํ ปริวชฺเชติ, สงฺขาเยกํ วิโนเทตี’ติ. เอวํ โข โน, ภนฺเต, ภควติ โหติ – ‘เย อาสวา สํกิเลสิกา โปโนพฺภวิกา ¶ สทรา ทุกฺขวิปากา อายตึ ชาติชรามรณิยา, ปหีนา เต ตถาคตสฺส; ตสฺมา ตถาคโต สงฺขาเยกํ ปฏิเสวติ, สงฺขาเยกํ อธิวาเสติ, สงฺขาเยกํ ปริวชฺเชติ, สงฺขาเยกํ วิโนเทตี’’’ติ. ‘‘สาธุ สาธุ, อนุรุทฺธา! ตถาคตสฺส, อนุรุทฺธา, เย อาสวา สํกิเลสิกา โปโนพฺภวิกา สทรา ทุกฺขวิปากา อายตึ ชาติชรามรณิยา, ปหีนา เต อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. เสยฺยถาปิ, อนุรุทฺธา, ตาโล มตฺถกจฺฉินฺโน อภพฺโพ ปุนวิรูฬฺหิยา; เอวเมว โข, อนุรุทฺธา ¶ , ตถาคตสฺส เย อาสวา สํกิเลสิกา โปโนพฺภวิกา สทรา ทุกฺขวิปากา อายตึ ชาติชรามรณิยา, ปหีนา เต อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา; ตสฺมา ตถาคโต สงฺขาเยกํ ปฏิเสวติ, สงฺขาเยกํ อธิวาเสติ, สงฺขาเยกํ ปริวชฺเชติ, สงฺขาเยกํ วิโนเทติ’’.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, อนุรุทฺธา, กํ อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน ตถาคโต สาวเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ พฺยากโรติ – ‘อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน; อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน’’’ติ? ‘‘ภควํมูลกา ¶ โน, ภนฺเต, ธมฺมา ภควํเนตฺติกา ภควํปฏิสรณา. สาธุ วต, ภนฺเต, ภควนฺตํเยว ปฏิภาตุ เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ. ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ ¶ . ‘‘น โข, อนุรุทฺธา, ตถาคโต ชนกุหนตฺถํ น ชนลปนตฺถํ น ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถํ น ‘อิติ มํ ชโน ชานาตู’ติ สาวเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ พฺยากโรติ – ‘อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน, อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน’ติ. สนฺติ จ โข, อนุรุทฺธา, กุลปุตฺตา สทฺธา อุฬารเวทา อุฬารปาโมชฺชา. เต ตํ สุตฺวา ตทตฺถาย จิตฺตํ อุปสํหรนฺติ. เตสํ ตํ, อนุรุทฺธา, โหติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย’’.
๑๖๙. ‘‘อิธานุรุทฺธา, ภิกฺขุ สุณาติ – ‘อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ กาลงฺกโต [กาลกโต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]; โส ภควตา พฺยากโต – อฺาย สณฺหี’ติ. โส โข ปนสฺส อายสฺมา สามํ ทิฏฺโ วา โหติ อนุสฺสวสฺสุโต วา – ‘เอวํสีโล โส อายสฺมา อโหสิ อิติปิ, เอวํธมฺโม โส อายสฺมา อโหสิ อิติปิ, เอวํปฺโ โส อายสฺมา อโหสิ อิติปิ, เอวํวิหารี โส อายสฺมา อโหสิ อิติปิ, เอวํวิมุตฺโต โส อายสฺมา อโหสิ อิติปี’ติ. โส ตสฺส สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรนฺโต ตทตฺถาย จิตฺตํ อุปสํหรติ. เอวมฺปิ โข, อนุรุทฺธา, ภิกฺขุโน ผาสุวิหาโร โหติ.
‘‘อิธานุรุทฺธา ¶ , ภิกฺขุ สุณาติ – ‘อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ กาลงฺกโต; โส ภควตา พฺยากโต – ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา’ติ. โส ¶ โข ปนสฺส อายสฺมา สามํ ทิฏฺโ วา โหติ อนุสฺสวสฺสุโต วา ¶ – ‘เอวํสีโล โส อายสฺมา อโหสิ อิติปิ, เอวํธมฺโม…เป… เอวํปฺโ… เอวํวิหารี… เอวํวิมุตฺโต โส อายสฺมา อโหสิ อิติปี’ติ. โส ตสฺส สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรนฺโต ตทตฺถาย จิตฺตํ อุปสํหรติ. เอวมฺปิ โข, อนุรุทฺธา, ภิกฺขุโน ผาสุวิหาโร โหติ.
‘‘อิธานุรุทฺธา, ภิกฺขุ สุณาติ – ‘อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ กาลงฺกโต; โส ภควตา พฺยากโต – ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตี’ติ. โส โข ปนสฺส อายสฺมา สามํ ทิฏฺโ วา โหติ อนุสฺสวสฺสุโต วา – ‘เอวํสีโล โส อายสฺมา อโหสิ อิติปิ, เอวํธมฺโม…เป… เอวํปฺโ… เอวํวิหารี… เอวํวิมุตฺโต โส อายสฺมา อโหสิ อิติปี’ติ. โส ตสฺส สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรนฺโต ตทตฺถาย จิตฺตํ ¶ อุปสํหรติ. เอวมฺปิ โข, อนุรุทฺธา, ภิกฺขุโน ผาสุวิหาโร โหติ.
‘‘อิธานุรุทฺธา, ภิกฺขุ สุณาติ – ‘อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ กาลงฺกโต; โส ภควตา พฺยากโต – ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’ติ. โส โข ปนสฺส อายสฺมา สามํ ทิฏฺโ วา โหติ อนุสฺสวสฺสุโต วา – ‘เอวํสีโล โส อายสฺมา อโหสิ อิติปิ, เอวํธมฺโม…เป… เอวํปฺโ… เอวํวิหารี… เอวํวิมุตฺโต โส อายสฺมา อโหสิ ¶ อิติปี’ติ. โส ตสฺส สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรนฺโต ตทตฺถาย จิตฺตํ อุปสํหรติ. เอวมฺปิ โข, อนุรุทฺธา, ภิกฺขุโน ผาสุวิหาโร โหติ.
๑๗๐. ‘‘อิธานุรุทฺธา, ภิกฺขุนี สุณาติ – ‘อิตฺถนฺนามา ภิกฺขุนี กาลงฺกตา; สา ภควตา พฺยากตา – อฺาย สณฺหี’ติ. สา โข ปนสฺสา ภคินี สามํ ทิฏฺา วา โหติ อนุสฺสวสฺสุตา วา – ‘เอวํสีลา สา ภคินี อโหสิ อิติปิ, เอวํธมฺมา สา ภคินี อโหสิ อิติปิ ¶ , เอวํปฺา สา ภคินี อโหสิ อิติปิ, เอวํวิหารินี สา ภคินี อโหสิ อิติปิ, เอวํวิมุตฺตา สา ภคินี อโหสิ อิติปี’ติ. สา ตสฺสา สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรนฺตี ตทตฺถาย จิตฺตํ อุปสํหรติ. เอวมฺปิ โข, อนุรุทฺธา, ภิกฺขุนิยา ผาสุวิหาโร โหติ.
‘‘อิธานุรุทฺธา ¶ , ภิกฺขุนี สุณาติ – ‘อิตฺถนฺนามา ภิกฺขุนี กาลงฺกตา; สา ภควตา พฺยากตา – ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายินี อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา’ติ. สา โข ปนสฺสา ภคินี สามํ ทิฏฺา วา โหติ อนุสฺสวสฺสุตา วา – ‘เอวํสีลา สา ภคินี อโหสิ อิติปิ, เอวํธมฺมา…เป… เอวํปฺา… เอวํวิหารินี… เอวํวิมุตฺตา สา ภคินี อโหสิ อิติปี’ติ. สา ตสฺสา สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรนฺตี ตทตฺถาย จิตฺตํ อุปสํหรติ. เอวมฺปิ ¶ โข, อนุรุทฺธา, ภิกฺขุนิยา ผาสุวิหาโร โหติ.
‘‘อิธานุรุทฺธา, ภิกฺขุนี สุณาติ – ‘อิตฺถนฺนามา ภิกฺขุนี กาลงฺกตา; สา ภควตา พฺยากตา – ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามินี สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตี’ติ. สา โข ปนสฺสา ภคินี สามํ ทิฏฺา วา โหติ อนุสฺสวสฺสุตา วา – ‘เอวํสีลา สา ภคินี อโหสิ อิติปิ, เอวํธมฺมา…เป… เอวํปฺา… เอวํวิหารินี… เอวํวิมุตฺตา สา ภคินี อโหสิ อิติปี’ติ. สา ตสฺสา สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรนฺตี ตทตฺถาย จิตฺตํ อุปสํหรติ. เอวมฺปิ โข, อนุรุทฺธา, ภิกฺขุนิยา ผาสุวิหาโร โหติ.
‘‘อิธานุรุทฺธา, ภิกฺขุนี สุณาติ – ‘อิตฺถนฺนามา ภิกฺขุนี กาลงฺกตา; สา ภควตา พฺยากตา – ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’ติ ¶ . สา โข ปนสฺสา ภคินี สามํ ทิฏฺา วา โหติ อนุสฺสวสฺสุตา วา – ‘เอวํสีลา สา ภคินี อโหสิ อิติปิ, เอวํธมฺมา… เอวํปฺา… เอวํวิหารินี… เอวํวิมุตฺตา สา ภคินี อโหสิ อิติปี’ติ. สา ตสฺสา สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรนฺตี ¶ ตทตฺถาย จิตฺตํ อุปสํหรติ. เอวมฺปิ โข, อนุรุทฺธา, ภิกฺขุนิยา ผาสุวิหาโร โหติ.
๑๗๑. ‘‘อิธานุรุทฺธา, อุปาสโก สุณาติ – ‘อิตฺถนฺนาโม อุปาสโก กาลงฺกโต; โส ภควตา พฺยากโต – ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา ¶ โลกา’ติ. โส โข ปนสฺส อายสฺมา สามํ ทิฏฺโ วา โหติ อนุสฺสวสฺสุโต วา – ‘เอวํสีโล โส อายสฺมา อโหสิ อิติปิ, เอวํธมฺโม ¶ โส อายสฺมา อโหสิ อิติปิ, เอวํปฺโ โส อายสฺมา อโหสิ อิติปิ, เอวํวิหารี โส อายสฺมา อโหสิ อิติปิ, เอวํวิมุตฺโต โส อายสฺมา อโหสิ อิติปี’ติ. โส ตสฺส สทฺธฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรนฺโต ตทตฺถาย จิตฺตํ อุปสํหรติ. เอวมฺปิ โข, อนุรุทฺธา, อุปาสกสฺส ผาสุวิหาโร โหติ.
‘‘อิธานุรุทฺธา, อุปาสโก สุณาติ – ‘อิตฺถนฺนาโม อุปาสโก กาลงฺกโต; โส ภควตา พฺยากโต – ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตี’ติ. โส โข ปนสฺส อายสฺมา สามํ ทิฏฺโ วา โหติ อนุสฺสวสฺสุโต วา – ‘เอวํสีโล โส อายสฺมา อโหสิ อิติปิ, เอวํธมฺโม… เอวํปฺโ… เอวํวิหารี… เอวํวิมุตฺโต โส อายสฺมา อโหสิ อิติปี’ติ. โส ตสฺส สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรนฺโต ตทตฺถาย จิตฺตํ อุปสํหรติ. เอวมฺปิ โข, อนุรุทฺธา, อุปาสกสฺส ผาสุวิหาโร โหติ.
‘‘อิธานุรุทฺธา, อุปาสโก สุณาติ – ‘อิตฺถนฺนาโม อุปาสโก กาลงฺกโต; โส ภควตา พฺยากโต – ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’ติ. โส โข ปนสฺส อายสฺมา สามํ ทิฏฺโ วา โหติ อนุสฺสวสฺสุโต วา – ‘เอวํสีโล โส อายสฺมา อโหสิ อิติปิ, เอวํธมฺโม…เป… ¶ เอวํปฺโ… เอวํวิหารี… เอวํวิมุตฺโต โส อายสฺมา อโหสิ อิติปี’ติ. โส ตสฺส สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรนฺโต ตทตฺถาย จิตฺตํ อุปสํหรติ. เอวมฺปิ โข, อนุรุทฺธา อุปาสกสฺส ผาสุวิหาโร โหติ.
๑๗๒. ‘‘อิธานุรุทฺธา ¶ , อุปาสิกา สุณาติ – ‘อิตฺถนฺนามา อุปาสิกา กาลงฺกตา; สา ภควตา พฺยากตา – ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายินี อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา’ติ. สา โข ปนสฺสา ภคินี สามํ ทิฏฺา วา โหติ อนุสฺสวสฺสุตา วา – ‘เอวํสีลา สา ภคินี อโหสิ อิติปิ, เอวํธมฺมา… เอวํปฺา… เอวํวิหารินี… เอวํวิมุตฺตา ¶ สา ภคินี อโหสิ อิติปี’ติ. สา ตสฺสา สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรนฺตี ตทตฺถาย จิตฺตํ ¶ อุปสํหรติ. เอวมฺปิ โข, อนุรุทฺธา, อุปาสิกาย ผาสุวิหาโร โหติ.
‘‘อิธานุรุทฺธา, อุปาสิกา สุณาติ – ‘อิตฺถนฺนามา อุปาสิกา กาลงฺกตา; สา ภควตา พฺยากตา – ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามินี สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตี’ติ. สา โข ปนสฺสา ภคินี สามํ ทิฏฺา วา โหติ อนุสฺสวสฺสุตา วา – ‘เอวํสีลา สา ภคินี อโหสิ อิติปิ, เอวํธมฺมา… เอวํปฺา… เอวํวิหารินี… เอวํวิมุตฺตา สา ภคินี อโหสิ อิติปี’ติ. สา ตสฺสา สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรนฺตี ตทตฺถาย ¶ จิตฺตํ อุปสํหรติ. เอวมฺปิ โข, อนุรุทฺธา, อุปาสิกาย ผาสุวิหาโร โหติ.
‘‘อิธานุรุทฺธา, อุปาสิกา สุณาติ – ‘อิตฺถนฺนามา อุปาสิกา กาลงฺกตา; สา ภควตา พฺยากตา – ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’ติ. สา โข ปนสฺสา ภคินี สามํ ทิฏฺา วา โหติ อนุสฺสวสฺสุตา วา – ‘เอวํสีลา สา ภคินี อโหสิ อิติปิ, เอวํธมฺมา สา ภคินี อโหสิ อิติปิ, เอวํปฺา สา ภคินี อโหสิ อิติปิ, เอวํวิหารินี สา ภคินี อโหสิ อิติปิ, เอวํวิมุตฺตา สา ภคินี อโหสิ อิติปี’ติ. สา ตสฺสา สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรนฺตี ตทตฺถาย จิตฺตํ อุปสํหรติ. เอวมฺปิ โข, อนุรุทฺธา, อุปาสิกาย ผาสุวิหาโร โหติ.
‘‘อิติ ¶ โข, อนุรุทฺธา, ตถาคโต น ชนกุหนตฺถํ น ชนลปนตฺถํ น ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถํ น ‘อิติ มํ ชโน ชานาตู’ติ สาวเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ พฺยากโรติ – ‘อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน, อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน’ติ. สนฺติ จ โข, อนุรุทฺธา, กุลปุตฺตา สทฺธา อุฬารเวทา อุฬารปาโมชฺชา. เต ตํ สุตฺวา ตทตฺถาย จิตฺตํ อุปสํหรนฺติ. เตสํ ตํ, อนุรุทฺธา, โหติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อนุรุทฺโธ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
นฬกปานสุตฺตํ นิฏฺิตํ อฏฺมํ.
๙. โคลิยานิสุตฺตํ
๑๗๓. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน โคลิยานิ [คุลิสฺสานิ (สี. ปี.), โคลิสฺสานิ (สฺยา. กํ.)] นาม ภิกฺขุ อารฺิโก [อารฺโก (สพฺพตฺถ)] ปทสมาจาโร [ปทรสมาจาโร (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สงฺฆมชฺเฌ โอสโฏ โหติ เกนจิเทว กรณีเยน. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต โคลิยานึ ภิกฺขุํ อารพฺภ ภิกฺขู อามนฺเตสิ –
‘‘อารฺิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สงฺเฆ วิหรนฺเตน สพฺรหฺมจารีสุ สคารเวน ภวิตพฺพํ สปฺปติสฺเสน. สเจ, อาวุโส, อารฺิโก ภิกฺขุ สงฺฆคโต สงฺเฆ วิหรนฺโต สพฺรหฺมจารีสุ อคารโว โหติ อปฺปติสฺโส, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ‘กึ ปนิมสฺสายสฺมโต อารฺิกสฺส เอกสฺสารฺเ เสริวิหาเรน, โย อยมายสฺมา สพฺรหฺมจารีสุ อคารโว โหติ อปฺปติสฺโส’ติ – ตสฺส [อปฺปติสฺโสติสฺส (สี. ปี.)] ภวนฺติ วตฺตาโร. ตสฺมา อารฺิเกน ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สงฺเฆ วิหรนฺเตน สพฺรหฺมจารีสุ สคารเวน ภวิตพฺพํ สปฺปติสฺเสน.
‘‘อารฺิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สงฺเฆ วิหรนฺเตน อาสนกุสเลน ภวิตพฺพํ – ‘อิติ เถเร จ ภิกฺขู นานุปขชฺช นิสีทิสฺสามิ นเว จ ภิกฺขู น อาสเนน ปฏิพาหิสฺสามี’ติ. สเจ, อาวุโส, อารฺิโก ¶ ภิกฺขุ สงฺฆคโต สงฺเฆ วิหรนฺโต น อาสนกุสโล โหติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ‘กึ ปนิมสฺสายสฺมโต อารฺิกสฺส เอกสฺสารฺเ เสริวิหาเรน, โย อยมายสฺมา อาสนกุสโล น โหตี’ติ [โย อยมายสฺมา อาภิสมาจาริกมฺปิ ธมฺมํ น ชานาตีติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ตสฺมา อารฺิเกน ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สงฺเฆ วิหรนฺเตน อาสนกุสเลน ภวิตพฺพํ.
‘‘อารฺิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สงฺเฆ วิหรนฺเตน อาภิสมาจาริโกปิ ธมฺโม ชานิตพฺโพ. สเจ, อาวุโส, อารฺิโก ภิกฺขุ สงฺฆคโต สงฺเฆ วิหรนฺโต อาภิสมาจาริกมฺปิ ธมฺมํ น ชานาติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ‘กึ ปนิมสฺสายสฺมโต อารฺิกสฺส เอกสฺสารฺเ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา อาภิสมาจาริกมฺปิ ธมฺมํ ¶ น ชานาตี’ติ ¶ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ตสฺมา อารฺิเกน ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สงฺเฆ วิหรนฺเตน อาภิสมาจาริโกปิ ธมฺโม ชานิตพฺโพ [อยํ อาภิสมาจาริกตติยวาโร สี. สฺยา. กํ. ปี. โปตฺถเกสุ น ทิสฺสติ].
‘‘อารฺิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สงฺเฆ วิหรนฺเตน นาติกาเลน คาโม ปวิสิตพฺโพ นาติทิวา [น ทิวา (สฺยา. กํ. ปี. ก.)] ปฏิกฺกมิตพฺพํ. สเจ, อาวุโส, อารฺิโก ภิกฺขุ สงฺฆคโต สงฺเฆ วิหรนฺโต อติกาเลน คามํ ปวิสติ อติทิวา ปฏิกฺกมติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ‘กึ ปนิมสฺสายสฺมโต อารฺิกสฺส เอกสฺสารฺเ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา อติกาเลน คามํ ปวิสติ อติทิวา ปฏิกฺกมตี’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ตสฺมา อารฺิเกน ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สงฺเฆ วิหรนฺเตน นาติกาเลน คาโม ปวิสิตพฺโพ, นาติทิวา ปฏิกฺกมิตพฺพํ.
‘‘อารฺิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สงฺเฆ วิหรนฺเตน น ¶ ปุเรภตฺตํ ¶ ปจฺฉาภตฺตํ กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตพฺพํ. สเจ, อาวุโส, อารฺิโก ภิกฺขุ สงฺฆคโต สงฺเฆ วิหรนฺโต ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตํ กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺชติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ‘อยํ นูนิมสฺสายสฺมโต อารฺิกสฺส เอกสฺสารฺเ เสริวิหาเรน วิหรโต วิกาลจริยา พหุลีกตา, ตเมนํ สงฺฆคตมฺปิ สมุทาจรตี’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ตสฺมา อารฺิเกน ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สงฺเฆ วิหรนฺเตน น ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตํ กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตพฺพํ.
‘‘อารฺิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สงฺเฆ วิหรนฺเตน อนุทฺธเตน ภวิตพฺพํ อจปเลน. สเจ, อาวุโส, อารฺิโก ภิกฺขุ สงฺฆคโต สงฺเฆ วิหรนฺโต อุทฺธโต โหติ จปโล, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ‘อิทํ นูนิมสฺสายสฺมโต อารฺิกสฺส เอกสฺสารฺเ เสริวิหาเรน วิหรโต อุทฺธจฺจํ จาปลฺยํ พหุลีกตํ, ตเมนํ สงฺฆคตมฺปิ สมุทาจรตี’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ตสฺมา อารฺิเกน ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สงฺเฆ วิหรนฺเตน อนุทฺธเตน ภวิตพฺพํ อจปเลน.
‘‘อารฺิเกนาวุโส ¶ , ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สงฺเฆ วิหรนฺเตน อมุขเรน ภวิตพฺพํ อวิกิณฺณวาเจน. สเจ, อาวุโส, อารฺิโก ภิกฺขุ สงฺฆคโต สงฺเฆ วิหรนฺโต มุขโร โหติ ¶ วิกิณฺณวาโจ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ‘กึ ปนิมสฺสายสฺมโต อารฺิกสฺส เอกสฺสารฺเ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา มุขโร วิกิณฺณวาโจ’ติ – ตสฺส ภวนฺติ ¶ วตฺตาโร. ตสฺมา อารฺิเกน ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สงฺเฆ วิหรนฺเตน อมุขเรน ภวิตพฺพํ อวิกิณฺณวาเจน.
‘‘อารฺิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สงฺเฆ วิหรนฺเตน สุวเจน [สุพฺพเจน (สี. ก.)] ภวิตพฺพํ กลฺยาณมิตฺเตน. สเจ, อาวุโส, อารฺิโก ภิกฺขุ สงฺฆคโต สงฺเฆ วิหรนฺโต ทุพฺพโจ โหติ ปาปมิตฺโต, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ‘กึ ปนิมสฺสายสฺมโต อารฺิกสฺส เอกสฺสารฺเ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา ทุพฺพโจ ปาปมิตฺโต’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ตสฺมา อารฺิเกน ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สงฺเฆ วิหรนฺเตน สุวเจน ภวิตพฺพํ กลฺยาณมิตฺเตน.
‘‘อารฺิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาเรน ภวิตพฺพํ. สเจ, อาวุโส, อารฺิโก ภิกฺขุ อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวาโร โหติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ‘กึ ปนิมสฺสายสฺมโต อารฺิกสฺส เอกสฺสารฺเ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา ¶ อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวาโร’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ตสฺมา อารฺิเกน ภิกฺขุนา อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาเรน ภวิตพฺพํ.
‘‘อารฺิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา โภชเน มตฺตฺุนา ภวิตพฺพํ. สเจ, อาวุโส, อารฺิโก โภชเน อมตฺตฺู โหติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ‘กึ ปนิมสฺสายสฺมโต อารฺิกสฺส เอกสฺสารฺเ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา โภชเน อมตฺตฺู’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ตสฺมา อารฺิเกน ภิกฺขุนา โภชเน มตฺตฺุนา ¶ ภวิตพฺพํ.
‘‘อารฺิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา ชาคริยํ อนุยุตฺเตน ภวิตพฺพํ. สเจ, อาวุโส, อารฺิโก ภิกฺขุ ชาคริยํ อนนุยุตฺโต โหติ, ตสฺส ¶ ภวนฺติ วตฺตาโร. ‘กึ ปนิมสฺสายสฺมโต อารฺิกสฺส เอกสฺสารฺเ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา ชาคริยํ อนนุยุตฺโต’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ตสฺมา อารฺิเกน ภิกฺขุนา ชาคริยํ อนุยุตฺเตน ภวิตพฺพํ.
‘‘อารฺิเกนาวุโส ¶ , ภิกฺขุนา อารทฺธวีริเยน ภวิตพฺพํ. สเจ, อาวุโส, อารฺิโก ภิกฺขุ กุสีโต โหติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ‘กึ ปนิมสฺสายสฺมโต อารฺิกสฺส เอกสฺสารฺเ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา กุสีโต’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ตสฺมา อารฺิเกน ภิกฺขุนา อารทฺธวีริเยน ภวิตพฺพํ.
‘‘อารฺิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา อุปฏฺิตสฺสตินา ภวิตพฺพํ. สเจ, อาวุโส, อารฺิโก ภิกฺขุ มุฏฺสฺสตี โหติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ‘กึ ปนิมสฺสายสฺมโต อารฺิกสฺส เอกสฺสารฺเ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา มุฏฺสฺสตี’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ตสฺมา อารฺิเกน ภิกฺขุนา อุปฏฺิตสฺสตินา ภวิตพฺพํ.
‘‘อารฺิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา สมาหิเตน ภวิตพฺพํ. สเจ, อาวุโส, อารฺิโก ภิกฺขุ อสมาหิโต โหติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ‘กึ ปนิมสฺสายสฺมโต อารฺิกสฺส เอกสฺสารฺเ เสริวิหาเรน ¶ โย อยมายสฺมา อสมาหิโต’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ตสฺมา อารฺิเกน ภิกฺขุนา สมาหิเตน ภวิตพฺพํ.
‘‘อารฺิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา ปฺวตา ภวิตพฺพํ. สเจ, อาวุโส, อารฺิโก ภิกฺขุ ทุปฺปฺโ โหติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร ¶ . ‘กึ ปนิมสฺสายสฺมโต อารฺิกสฺส เอกสฺสารฺเ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา ทุปฺปฺโ’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ตสฺมา อารฺิเกน ภิกฺขุนา ปฺวตา ภวิตพฺพํ.
‘‘อารฺิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา อภิธมฺเม อภิวินเย โยโค กรณีโย. สนฺตาวุโส, อารฺิกํ ภิกฺขุํ อภิธมฺเม อภิวินเย ปฺหํ ปุจฺฉิตาโร. สเจ, อาวุโส, อารฺิโก ภิกฺขุ อภิธมฺเม อภิวินเย ปฺหํ ปุฏฺโ น สมฺปายติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ‘กึ ปนิมสฺสายสฺมโต อารฺิกสฺส เอกสฺสารฺเ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา อภิธมฺเม อภิวินเย ปฺหํ ปุฏฺโ น สมฺปายตี’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ตสฺมา ¶ อารฺิเกน ภิกฺขุนา อภิธมฺเม อภิวินเย โยโค กรณีโย.
‘‘อารฺิเกนาวุโส ¶ , ภิกฺขุนา เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา ตตฺถ โยโค กรณีโย. สนฺตาวุโส, อารฺิกํ ภิกฺขุํ เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา ตตฺถ ปฺหํ ปุจฺฉิตาโร. สเจ, อาวุโส, อารฺิโก ภิกฺขุ เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺโ น สมฺปายติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ‘กึ ปนิมสฺสายสฺมโต อารฺิกสฺส เอกสฺสารฺเ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺโ น สมฺปายตี’ติ – ตสฺส ¶ ภวนฺติ วตฺตาโร. ตสฺมา อารฺิเกน ภิกฺขุนา เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา ตตฺถ โยโค กรณีโย.
‘‘อารฺิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา อุตฺตริ มนุสฺสธมฺเม โยโค กรณีโย. สนฺตาวุโส, อารฺิกํ ภิกฺขุํ อุตฺตริ มนุสฺสธมฺเม ปฺหํ ปุจฺฉิตาโร. สเจ, อาวุโส, อารฺิโก ภิกฺขุ อุตฺตริ มนุสฺสธมฺเม ปฺหํ ปุฏฺโ น สมฺปายติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ‘กึ ปนิมสฺสายสฺมโต อารฺิกสฺส เอกสฺสารฺเ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา ยสฺสตฺถาย ปพฺพชิโต ตมตฺถํ น ชานาตี’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. ตสฺมา อารฺิเกน ภิกฺขุนา อุตฺตริ มนุสฺสธมฺเม โยโค กรณีโย’’ติ.
เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน [มหาโมคฺคลาโน (ก.)] อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อารฺิเกเนว นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิเม ธมฺมา สมาทาย วตฺติตพฺพา อุทาหุ คามนฺตวิหารินาปี’’ติ ¶ ? ‘‘อารฺิเกนาปิ โข, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุนา อิเม ธมฺมา สมาทาย วตฺติตพฺพา ปเคว คามนฺตวิหารินา’’ติ.
โคลิยานิสุตฺตํ นิฏฺิตํ นวมํ.
๑๐. กีฏาคิริสุตฺตํ
๑๗๔. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา กาสีสุ จาริกํ จรติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อหํ โข, ภิกฺขเว, อฺตฺเรว รตฺติโภชนา [รตฺติโภชนํ (ก.)] ภฺุชามิ. อฺตฺร โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, รตฺติโภชนา ภฺุชมาโน อปฺปาพาธตฺจ สฺชานามิ อปฺปาตงฺกตฺจ ลหุฏฺานฺจ พลฺจ ผาสุวิหารฺจ. เอถ, ตุมฺเหปิ, ภิกฺขเว, อฺตฺเรว รตฺติโภชนา ภฺุชถ. อฺตฺร โข ปน, ภิกฺขเว, ตุมฺเหปิ รตฺติโภชนา ภฺุชมานา อปฺปาพาธตฺจ สฺชานิสฺสถ อปฺปาตงฺกตฺจ ลหุฏฺานฺจ พลฺจ ผาสุวิหารฺจา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. อถ โข ภควา กาสีสุ อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน กีฏาคิริ นาม กาสีนํ นิคโม ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา กีฏาคิริสฺมึ วิหรติ กาสีนํ นิคเม.
๑๗๕. เตน โข ปน สมเยน อสฺสชิปุนพฺพสุกา นาม ภิกฺขู กีฏาคิริสฺมึ อาวาสิกา โหนฺติ. อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน อสฺสชิปุนพฺพสุกา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อสฺสชิปุนพฺพสุเก ภิกฺขู เอตทโวจุํ – ‘‘ภควา โข, อาวุโส, อฺตฺเรว รตฺติโภชนา ภฺุชติ ภิกฺขุสงฺโฆ จ. อฺตฺร โข ปนาวุโส, รตฺติโภชนา ภฺุชมานา อปฺปาพาธตฺจ สฺชานนฺติ อปฺปาตงฺกตฺจ ¶ ลหุฏฺานฺจ พลฺจ ผาสุวิหารฺจ. เอถ, ตุมฺเหปิ, อาวุโส, อฺตฺเรว รตฺติโภชนา ภฺุชถ. อฺตฺร โข ปนาวุโส, ตุมฺเหปิ รตฺติโภชนา ภฺุชมานา อปฺปาพาธตฺจ สฺชานิสฺสถ อปฺปาตงฺกตฺจ ลหุฏฺานฺจ พลฺจ ผาสุวิหารฺจา’’ติ ¶ . เอวํ วุตฺเต, อสฺสชิปุนพฺพสุกา ภิกฺขู เต ภิกฺขู เอตทโวจุํ – ‘‘มยํ โข, อาวุโส, สายฺเจว ภฺุชาม ปาโต จ ทิวา จ วิกาเล. เต มยํ สายฺเจว ภฺุชมานา ปาโต จ ทิวา จ วิกาเล อปฺปาพาธตฺจ สฺชานาม อปฺปาตงฺกตฺจ ลหุฏฺานฺจ พลฺจ ผาสุวิหารฺจ. เต มยํ กึ สนฺทิฏฺิกํ หิตฺวา กาลิกํ อนุธาวิสฺสาม? สายฺเจว มยํ ภฺุชิสฺสาม ปาโต จ ทิวา จ วิกาเล’’ติ.
ยโต ¶ โข เต ภิกฺขู นาสกฺขึสุ อสฺสชิปุนพฺพสุเก ภิกฺขู สฺาเปตุํ, อถ เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ มยํ, ภนฺเต, เยน อสฺสชิปุนพฺพสุกา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิมฺห; อุปสงฺกมิตฺวา อสฺสชิปุนพฺพสุเก ภิกฺขู เอตทโวจุมฺห – ‘ภควา โข, อาวุโส, อฺตฺเรว รตฺติโภชนา ภฺุชติ ภิกฺขุสงฺโฆ จ; อฺตฺร โข ปนาวุโส, รตฺติโภชนา ภฺุชมานา อปฺปาพาธตฺจ สฺชานนฺติ อปฺปาตงฺกตฺจ ลหุฏฺานฺจ พลฺจ ผาสุวิหารฺจ. เอถ, ตุมฺเหปิ, อาวุโส ¶ , อฺตฺเรว รตฺติโภชนา ภฺุชถ. อฺตฺร โข ปนาวุโส, ตุมฺเหปิ รตฺติโภชนา ภฺุชมานา อปฺปาพาธตฺจ สฺชานิสฺสถ อปฺปาตงฺกตฺจ ลหุฏฺานฺจ พลฺจ ผาสุวิหารฺจา’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, อสฺสชิปุนพฺพสุกา ภิกฺขู อมฺเห เอตทโวจุํ – ‘มยํ โข, อาวุโส, สายฺเจว ภฺุชาม ปาโต จ ทิวา จ วิกาเล. เต มยํ สายฺเจว ภฺุชมานา ปาโต จ ทิวา จ วิกาเล อปฺปาพาธตฺจ สฺชานาม อปฺปาตงฺกตฺจ ลหุฏฺานฺจ พลฺจ ผาสุวิหารฺจ. เต มยํ กึ สนฺทิฏฺิกํ หิตฺวา กาลิกํ อนุธาวิสฺสาม? สายฺเจว มยํ ภฺุชิสฺสาม ปาโต จ ทิวา จ วิกาเล’ติ. ยโต โข มยํ, ภนฺเต, นาสกฺขิมฺห อสฺสชิปุนพฺพสุเก ภิกฺขู สฺาเปตุํ, อถ มยํ เอตมตฺถํ ภควโต อาโรเจมา’’ติ.
๑๗๖. อถ โข ภควา อฺตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, มม วจเนน อสฺสชิปุนพฺพสุเก ภิกฺขู อามนฺเตหิ – ‘สตฺถา อายสฺมนฺเต อามนฺเตตี’’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยน อสฺสชิปุนพฺพสุกา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อสฺสชิปุนพฺพสุเก ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา อายสฺมนฺเต อามนฺเตตี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อสฺสชิปุนพฺพสุกา ภิกฺขู ตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข อสฺสชิปุนพฺพสุเก ภิกฺขู ภควา เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, สมฺพหุลา ภิกฺขู ตุมฺเห อุปสงฺกมิตฺวา ¶ เอตทโวจุํ – ‘ภควา โข, อาวุโส, อฺตฺเรว รตฺติโภชนา ภฺุชติ ภิกฺขุสงฺโฆ จ. อฺตฺร โข ปนาวุโส, รตฺติโภชนา ภฺุชมานา อปฺปาพาธตฺจ สฺชานนฺติ อปฺปาตงฺกตฺจ ลหุฏฺานฺจ พลฺจ ผาสุวิหารฺจ. เอถ, ตุมฺเหปิ, อาวุโส, อฺตฺเรว รตฺติโภชนา ภฺุชถ. อฺตฺร โข ปนาวุโส, ตุมฺเหปิ รตฺติโภชนา ¶ ภฺุชมานา ¶ อปฺปาพาธตฺจ สฺชานิสฺสถ อปฺปาตงฺกตฺจ ลหุฏฺานฺจ พลฺจ ผาสุวิหารฺจา’ติ. เอวํ วุตฺเต ¶ กิร [กึ นุ (ก.)], ภิกฺขเว, ตุมฺเห เต ภิกฺขู เอวํ อวจุตฺถ – ‘มยํ โข ปนาวุโส, สายฺเจว ภฺุชาม ปาโต จ ทิวา จ วิกาเล. เต มยํ สายฺเจว ภฺุชมานา ปาโต จ ทิวา จ วิกาเล อปฺปาพาธตฺจ สฺชานาม อปฺปาตงฺกตฺจ ลหุฏฺานฺจ พลฺจ ผาสุวิหารฺจ. เต มยํ กึ สนฺทิฏฺิกํ หิตฺวา กาลิกํ อนุธาวิสฺสาม? สายฺเจว มยํ ภฺุชิสฺสาม ปาโต จ ทิวา จ วิกาเล’’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
๑๗๗. ‘‘กึ นุ เม ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอวํ ธมฺมํ เทสิตํ อาชานาถ ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตสฺส อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘นนุ เม ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอวํ ธมฺมํ เทสิตํ อาชานาถ อิเธกจฺจสฺส ยํ เอวรูปํ สุขํ เวทนํ เวทยโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, อิธ ปเนกจฺจสฺส เอวรูปํ สุขํ เวทนํ เวทยโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ ¶ , กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, อิเธกจฺจสฺส เอวรูปํ ทุกฺขํ เวทนํ เวทยโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, อิธ ปเนกจฺจสฺส เอวรูปํ ทุกฺขํ เวทนํ เวทยโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, อิเธกจฺจสฺส เอวรูปํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, อิธ ปเนกจฺจสฺส เอวรูปํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
๑๗๘. ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว! มยา เจตํ, ภิกฺขเว, อฺาตํ อภวิสฺส อทิฏฺํ อวิทิตํ อสจฺฉิกตํ อผสฺสิตํ ปฺาย – ‘อิเธกจฺจสฺส เอวรูปํ สุขํ เวทนํ เวทยโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวาหํ อชานนฺโต ‘เอวรูปํ สุขํ เวทนํ ปชหถา’ติ วเทยฺยํ; อปิ นุ เม เอตํ, ภิกฺขเว, ปติรูปํ อภวิสฺสา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยสฺมา จ โข เอตํ, ภิกฺขเว, มยา าตํ ทิฏฺํ วิทิตํ สจฺฉิกตํ ผสฺสิตํ ปฺาย – ‘อิเธกจฺจสฺส เอวรูปํ สุขํ เวทนํ เวทยโต อกุสลา ธมฺมา ¶ อภิวฑฺฒนฺติ กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, ตสฺมาหํ ‘เอวรูปํ สุขํ เวทนํ ปชหถา’ติ วทามิ. มยา เจตํ, ภิกฺขเว, อฺาตํ อภวิสฺส อทิฏฺํ อวิทิตํ อสจฺฉิกตํ ¶ อผสฺสิตํ ปฺาย – ‘อิเธกจฺจสฺส เอวรูปํ ¶ สุขํ เวทนํ เวทยโต อกุสลา ¶ ธมฺมา ปริหายนฺติ กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวาหํ อชานนฺโต ‘เอวรูปํ สุขํ เวทนํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’ติ วเทยฺยํ; อปิ นุ เม เอตํ, ภิกฺขเว, ปติรูปํ อภวิสฺสา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยสฺมา จ โข เอตํ, ภิกฺขเว, มยา าตํ ทิฏฺํ วิทิตํ สจฺฉิกตํ ผสฺสิตํ ปฺาย – ‘อิเธกจฺจสฺส เอวรูปํ สุขํ เวทนํ เวทยโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, ตสฺมาหํ ‘เอวรูปํ สุขํ เวทนํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’ติ วทามิ.
๑๗๙. ‘‘มยา เจตํ, ภิกฺขเว, อฺาตํ อภวิสฺส อทิฏฺํ อวิทิตํ อสจฺฉิกตํ อผสฺสิตํ ปฺาย – ‘อิเธกจฺจสฺส เอวรูปํ ทุกฺขํ เวทนํ เวทยโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวาหํ อชานนฺโต ‘เอวรูปํ ทุกฺขํ เวทนํ ปชหถา’ติ วเทยฺยํ; อปิ นุ เม เอตํ, ภิกฺขเว, ปติรูปํ อภวิสฺสา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยสฺมา จ โข เอตํ, ภิกฺขเว, มยา าตํ ทิฏฺํ วิทิตํ สจฺฉิกตํ ผสฺสิตํ ปฺาย – ‘อิเธกจฺจสฺส เอวรูปํ ทุกฺขํ เวทนํ เวทยโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, ตสฺมาหํ ‘เอวรูปํ ทุกฺขํ เวทนํ ปชหถา’ติ วทามิ. มยา เจตํ, ภิกฺขเว, อฺาตํ อภวิสฺส อทิฏฺํ อวิทิตํ อสจฺฉิกตํ อผสฺสิตํ ปฺาย – ‘อิเธกจฺจสฺส เอวรูปํ ทุกฺขํ เวทนํ เวทยโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวาหํ อชานนฺโต ‘เอวรูปํ ทุกฺขํ เวทนํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’ติ วเทยฺยํ; อปิ นุ เม เอตํ, ภิกฺขเว, ปติรูปํ อภวิสฺสา’’ติ ¶ ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยสฺมา จ โข เอตํ, ภิกฺขเว, มยา าตํ ทิฏฺํ วิทิตํ สจฺฉิกตํ ผสฺสิตํ ปฺาย – ‘อิเธกจฺจสฺส เอวรูปํ ทุกฺขํ เวทนํ เวทยโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, ตสฺมาหํ ‘เอวรูปํ ทุกฺขํ เวทนํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’ติ วทามิ.
๑๘๐. ‘‘มยา เจตํ, ภิกฺขเว, อฺาตํ อภวิสฺส อทิฏฺํ อวิทิตํ อสจฺฉิกตํ อผสฺสิตํ ปฺาย – ‘อิเธกจฺจสฺส เอวรูปํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวาหํ อชานนฺโต ‘เอวรูปํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ ปชหถา’ติ วเทยฺยํ; อปิ นุ เม เอตํ, ภิกฺขเว, ปติรูปํ อภวิสฺสา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยสฺมา จ โข เอตํ, ภิกฺขเว, มยา าตํ ทิฏฺํ วิทิตํ สจฺฉิกตํ ผสฺสิตํ ปฺาย ¶ – ‘อิเธกจฺจสฺส เอวรูปํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, ตสฺมาหํ ‘เอวรูปํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ ปชหถา’ติ วทามิ’’. มยา เจตํ, ภิกฺขเว, อฺาตํ อภวิสฺส อทิฏฺํ อวิทิตํ อสจฺฉิกตํ อผสฺสิตํ ปฺาย ¶ – ‘อิเธกจฺจสฺส เอวรูปํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวาหํ อชานนฺโต ‘เอวรูปํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’ติ วเทยฺยํ; อปิ นุ เม เอตํ, ภิกฺขเว, ปติรูปํ อภวิสฺสา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยสฺมา จ โข เอตํ, ภิกฺขเว, มยา าตํ ทิฏฺํ ¶ วิทิตํ สจฺฉิกตํ ผสฺสิตํ ปฺาย – ‘อิเธกจฺจสฺส เอวรูปํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, ตสฺมาหํ ‘เอวรูปํ ¶ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’ติ วทามิ.
๑๘๑. ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, สพฺเพสํเยว ภิกฺขูนํ ‘อปฺปมาเทน กรณีย’นฺติ วทามิ; น ปนาหํ, ภิกฺขเว, สพฺเพสํเยว ภิกฺขูนํ ‘น อปฺปมาเทน กรณีย’นฺติ วทามิ. เย เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อรหนฺโต ขีณาสวา วุสิตวนฺโต กตกรณียา โอหิตภารา อนุปฺปตฺตสทตฺถา ปริกฺขีณภวสํโยชนา สมฺมทฺา วิมุตฺตา, ตถารูปานาหํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ‘น อปฺปมาเทน กรณีย’นฺติ วทามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? กตํ เตสํ อปฺปมาเทน. อภพฺพา เต ปมชฺชิตุํ. เย จ โข เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู เสกฺขา อปฺปตฺตมานสา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมานา วิหรนฺติ, ตถารูปานาหํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ‘อปฺปมาเทน กรณีย’นฺติ วทามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? อปฺเปว นามิเม อายสฺมนฺโต อนุโลมิกานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวมานา กลฺยาณมิตฺเต ภชมานา อินฺทฺริยานิ สมนฺนานยมานา – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยุนฺติ! อิมํ โข อหํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ภิกฺขูนํ อปฺปมาทผลํ สมฺปสฺสมาโน ‘อปฺปมาเทน กรณีย’นฺติ วทามิ.
๑๘๒. ‘‘สตฺติเม ¶ , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม สตฺต? อุภโตภาควิมุตฺโต, ปฺาวิมุตฺโต, กายสกฺขิ, ทิฏฺิปฺปตฺโต, สทฺธาวิมุตฺโต, ธมฺมานุสารี, สทฺธานุสารี.
‘‘กตโม ¶ จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโต? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา เต กาเยน ผุสิตฺวา [ผสฺสิตฺวา (สี. ปี.)] วิหรติ ปฺาย จสฺส ทิสฺวา ¶ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโต อิมสฺส โข อหํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ‘น อปฺปมาเทน กรณีย’นฺติ วทามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? กตํ ตสฺส อปฺปมาเทน. อภพฺโพ โส ปมชฺชิตุํ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปฺาวิมุตฺโต? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา เต น กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ¶ ปฺาวิมุตฺโต. อิมสฺสปิ โข อหํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ‘น อปฺปมาเทน กรณีย’นฺติ วทามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? กตํ ตสฺส อปฺปมาเทน. อภพฺโพ โส ปมชฺชิตุํ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล กายสกฺขิ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา ¶ เต กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล กายสกฺขิ. อิมสฺส โข อหํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ‘อปฺปมาเทน กรณีย’นฺติ วทามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? อปฺเปว นาม อยมายสฺมา อนุโลมิกานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวมาโน กลฺยาณมิตฺเต ภชมาโน อินฺทฺริยานิ สมนฺนานยมาโน – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาติ! อิมํ โข อหํ, ภิกฺขเว, อิมสฺส ภิกฺขุโน อปฺปมาทผลํ สมฺปสฺสมาโน ‘อปฺปมาเทน กรณีย’นฺติ วทามิ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ทิฏฺิปฺปตฺโต? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา เต น กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ, ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺติ โวจริตา. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ทิฏฺิปฺปตฺโต. อิมสฺสปิ โข อหํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ‘อปฺปมาเทน กรณีย’นฺติ วทามิ. ตํ กิสฺส ¶ เหตุ? อปฺเปว นาม อยมายสฺมา อนุโลมิกานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวมาโน กลฺยาณมิตฺเต ภชมาโน อินฺทฺริยานิ สมนฺนานยมาโน – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ¶ ¶ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาติ! อิมํ โข อหํ, ภิกฺขเว, อิมสฺส ภิกฺขุโน อปฺปมาทผลํ สมฺปสฺสมาโน ‘อปฺปมาเทน กรณีย’นฺติ วทามิ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต. อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา เต น กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ, ตถาคเต จสฺส สทฺธา นิวิฏฺา โหติ มูลชาตา ปติฏฺิตา. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต. อิมสฺสปิ โข อหํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ‘อปฺปมาเทน กรณีย’นฺติ วทามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? อปฺเปว นาม อยมายสฺมา อนุโลมิกานิ เสนาสนานิ ¶ ปฏิเสวมาโน กลฺยาณมิตฺเต ภชมาโน อินฺทฺริยานิ สมนฺนานยมาโน – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาติ! อิมํ โข อหํ, ภิกฺขเว, อิมสฺส ภิกฺขุโน อปฺปมาทผลํ สมฺปสฺสมาโน ‘อปฺปมาเทน กรณีย’นฺติ วทามิ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา เต น กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา [ทิสฺวา อาสวา อปริกฺขีณา (สี. ปี.)] โหนฺติ, ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ¶ ธมฺมา ปฺาย มตฺตโส นิชฺฌานํ ขมนฺติ, อปิ จสฺส อิเม ธมฺมา โหนฺติ, เสยฺยถิทํ – สทฺธินฺทฺริยํ, วีริยินฺทฺริยํ, สตินฺทฺริยํ, สมาธินฺทฺริยํ, ปฺินฺทฺริยํ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี. อิมสฺสปิ โข อหํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ‘อปฺปมาเทน กรณีย’นฺติ วทามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? อปฺเปว นาม อยมายสฺมา อนุโลมิกานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวมาโน กลฺยาณมิตฺเต ภชมาโน อินฺทฺริยานิ สมนฺนานยมาโน – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาติ ¶ ! อิมํ โข อหํ, ภิกฺขเว, อิมสฺส ภิกฺขุโน อปฺปมาทผลํ สมฺปสฺสมาโน ‘อปฺปมาเทน กรณีย’นฺติ วทามิ.
‘‘กตโม ¶ จ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สทฺธานุสารี? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา เต น กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา [ทิสฺวา อาสวา อปริกฺขีณา (สี. ปี.)] โหนฺติ, ตถาคเต จสฺส สทฺธามตฺตํ โหติ เปมมตฺตํ, อปิ จสฺส อิเม ธมฺมา โหนฺติ, เสยฺยถิทํ – สทฺธินฺทฺริยํ, วีริยินฺทฺริยํ, สตินฺทฺริยํ, สมาธินฺทฺริยํ, ปฺินฺทฺริยํ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สทฺธานุสารี. อิมสฺสปิ โข อหํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ‘อปฺปมาเทน กรณีย’นฺติ วทามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? อปฺเปว นาม อยมายสฺมา อนุโลมิกานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวมาโน ¶ กลฺยาณมิตฺเต ภชมาโน อินฺทฺริยานิ สมนฺนานยมาโน – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาติ! อิมํ โข อหํ, ภิกฺขเว, อิมสฺส ภิกฺขุโน อปฺปมาทผลํ สมฺปสฺสมาโน ‘อปฺปมาเทน กรณีย’นฺติ วทามิ.
๑๘๓. ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อาทิเกเนว อฺาราธนํ วทามิ; อปิ จ, ภิกฺขเว, อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา ¶ อฺาราธนา โหติ. กถฺจ, ภิกฺขเว, อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา อฺาราธนา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, สทฺธาชาโต อุปสงฺกมติ, อุปสงฺกมนฺโต ปยิรุปาสติ, ปยิรุปาสนฺโต โสตํ โอทหติ, โอหิตโสโต ธมฺมํ สุณาติ, สุตฺวา ธมฺมํ ธาเรติ, ธตานํ [ธาตานํ (ก.)] ธมฺมานํ อตฺถํ อุปปริกฺขติ, อตฺถํ อุปปริกฺขโต ธมฺมา นิชฺฌานํ ขมนฺติ, ธมฺมนิชฺฌานกฺขนฺติยา สติ ฉนฺโท ชายติ, ฉนฺทชาโต อุสฺสหติ, อุสฺสาเหตฺวา ตุเลติ, ตุลยิตฺวา ปทหติ, ปหิตตฺโต สมาโน กาเยน เจว ปรมสจฺจํ สจฺฉิกโรติ, ปฺาย จ นํ อติวิชฺฌ ปสฺสติ. สาปิ นาม, ภิกฺขเว, สทฺธา นาโหสิ; ตมฺปิ นาม, ภิกฺขเว, อุปสงฺกมนํ นาโหสิ; สาปิ นาม, ภิกฺขเว, ปยิรุปาสนา นาโหสิ; ตมฺปิ นาม, ภิกฺขเว, โสตาวธานํ นาโหสิ ¶ ; ตมฺปิ นาม, ภิกฺขเว, ธมฺมสฺสวนํ นาโหสิ; สาปิ นาม, ภิกฺขเว, ธมฺมธารณา นาโหสิ; สาปิ นาม, ภิกฺขเว, อตฺถูปปริกฺขา นาโหสิ; สาปิ นาม, ภิกฺขเว, ธมฺมนิชฺฌานกฺขนฺติ ¶ นาโหสิ; โสปิ นาม, ภิกฺขเว, ฉนฺโท นาโหสิ; โสปิ นาม, ภิกฺขเว, อุสฺสาโห นาโหสิ; สาปิ นาม, ภิกฺขเว, ตุลนา นาโหสิ; ตมฺปิ นาม, ภิกฺขเว, ปธานํ นาโหสิ. วิปฺปฏิปนฺนาตฺถ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาปฏิปนฺนาตฺถ, ภิกฺขเว. กีว ทูเรวิเม, ภิกฺขเว, โมฆปุริสา อปกฺกนฺตา อิมมฺหา ธมฺมวินยา.
๑๘๔. ‘‘อตฺถิ ¶ , ภิกฺขเว, จตุปฺปทํ เวยฺยากรณํ ยสฺสุทฺทิฏฺสฺส วิฺู ปุริโส นจิรสฺเสว ปฺายตฺถํ อาชาเนยฺย. อุทฺทิสิสฺสามิ โว [อุทฺทิฏฺสฺสาปิ (ก.)], ภิกฺขเว, อาชานิสฺสถ เม ต’’นฺติ? ‘‘เก จ มยํ, ภนฺเต, เก จ ธมฺมสฺส อฺาตาโร’’ติ? โยปิ โส, ภิกฺขเว, สตฺถา อามิสครุ อามิสทายาโท อามิเสหิ สํสฏฺโ วิหรติ ตสฺส ปายํ เอวรูปี ปโณปณวิยา น อุเปติ – ‘เอวฺจ โน อสฺส อถ นํ กเรยฺยาม, น จ โน เอวมสฺส น นํ กเรยฺยามา’ติ, กึ ปน, ภิกฺขเว, ยํ ตถาคโต สพฺพโส อามิเสหิ วิสํสฏฺโ วิหรติ. สทฺธสฺส, ภิกฺขเว, สาวกสฺส สตฺถุสาสเน ปริโยคาหิย [ปริโยคาย (สี. ปี. ก.), ปริโยคยฺห (สฺยา. กํ.)] วตฺตโต อยมนุธมฺโม โหติ – ‘สตฺถา ภควา, สาวโกหมสฺมิ; ชานาติ ภควา, นาหํ ชานามี’ติ. สทฺธสฺส, ภิกฺขเว, สาวกสฺส สตฺถุสาสเน ปริโยคาหิย วตฺตโต รุฬฺหนียํ [รุมฺหนิยํ (สี. ปี.)] สตฺถุสาสนํ โหติ โอชวนฺตํ. สทฺธสฺส, ภิกฺขเว, สาวกสฺส สตฺถุสาสเน ปริโยคาหิย ¶ วตฺตโต อยมนุธมฺโม โหติ – ‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตุ, สรีเร อุปสุสฺสตุ [อุปสุสฺสตุ สรีเร (สี.), สรีเร อวสุสฺสตุ (ก.)] มํสโลหิตํ, ยํ ¶ ตํ ปุริสถาเมน ปุริสวีริเยน ปุริสปรกฺกเมน ปตฺตพฺพํ น ตํ อปาปุณิตฺวา วีริยสฺส สณฺานํ [สนฺถานํ (สี. สฺยา. ปี.)] ภวิสฺสตี’ติ. สทฺธสฺส, ภิกฺขเว, สาวกสฺส สตฺถุสาสเน ปริโยคาหิย วตฺตโต ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ – ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา, สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา’’ติ.
อิทมโวจ ¶ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
กีฏาคิริสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทสมํ.
ภิกฺขุวคฺโค นิฏฺิโต ทุติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
กฺุชร-ราหุล-สสฺสตโลโก, มาลุกฺยปุตฺโต จ ภทฺทาลิ-นาโม;
ขุทฺท-ทิชาถ-สหมฺปติยาจํ, นาฬก-รฺิกิฏาคิรินาโม.