📜

๓. ปริพฺพาชกวคฺโค

๑. เตวิชฺชวจฺฉสุตฺตํ

๑๘๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. เตน โข ปน สมเยน วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก เอกปุณฺฑรีเก ปริพฺพาชการาเม ปฏิวสติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เวสาลึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อติปฺปโค โข ตาว เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตุํ; ยํนูนาหํ เยน เอกปุณฺฑรีโก ปริพฺพาชการาโม เยน วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา เยน เอกปุณฺฑรีโก ปริพฺพาชการาโม เยน วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอตุ โข, ภนฺเต, ภควา. สฺวาคตํ [สาคตํ (สี. ปี.)], ภนฺเต, ภควโต. จิรสฺสํ โข, ภนฺเต, ภควา อิมํ ปริยายมกาสิ ยทิทํ อิธาคมนาย. นิสีทตุ, ภนฺเต, ภควา อิทมาสนํ ปฺตฺต’’นฺติ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. วจฺฉโคตฺโตปิ โข ปริพฺพาชโก อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘สมโณ โคตโม สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี, อปริเส+สํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาติ, จรโต จ เม ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิต’นฺติ. เย เต, ภนฺเต, เอวมาหํสุ – ‘สมโณ โคตโม สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี, อปริเสสํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาติ, จรโต จ เม ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิต’นฺติ, กจฺจิ เต, ภนฺเต, ภควโต วุตฺตวาทิโน, น จ ภควนฺตํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรนฺติ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท คารยฺหํ านํ อาคจฺฉตี’’ติ? ‘‘เย เต, วจฺฉ, เอวมาหํสุ – ‘สมโณ โคตโม สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี, อปริเสสํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาติ, จรโต จ เม ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิต’นฺติ, น เม เต วุตฺตวาทิโน, อพฺภาจิกฺขนฺติ จ ปน มํ อสตา อภูเตนา’’ติ.

๑๘๖. ‘‘กถํ พฺยากรมานา ปน มยํ, ภนฺเต, วุตฺตวาทิโน เจว ภควโต อสฺสาม, น จ ภควนฺตํ อภูเตน อพฺภาจิกฺเขยฺยาม, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากเรยฺยาม, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท คารยฺหํ านํ อาคจฺเฉยฺยา’’ติ?

‘‘‘เตวิชฺโช สมโณ โคตโม’ติ โข, วจฺฉ, พฺยากรมาโน วุตฺตวาที เจว เม อสฺส, น จ มํ อภูเตน อพฺภาจิกฺเขยฺย, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากเรยฺย, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท คารยฺหํ านํ อาคจฺเฉยฺย. อหฺหิ, วจฺฉ, ยาวเทว อากงฺขามิ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ. อหฺหิ, วจฺฉ, ยาวเทว อากงฺขามิ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสามิ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานามิ. อหฺหิ, วจฺฉ, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรามิ.

‘‘‘เตวิชฺโช สมโณ โคตโม’ติ โข, วจฺฉ, พฺยากรมาโน วุตฺตวาที เจว เม อสฺส, น จ มํ อภูเตน อพฺภาจิกฺเขยฺย, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากเรยฺย, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท คารยฺหํ านํ อาคจฺเฉยฺยา’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ โคตม, โกจิ คิหี คิหิสํโยชนํ อปฺปหาย กายสฺส เภทา ทุกฺขสฺสนฺตกโร’’ติ? ‘‘นตฺถิ โข, วจฺฉ, โกจิ คิหี คิหิสํโยชนํ อปฺปหาย กายสฺส เภทา ทุกฺขสฺสนฺตกโร’’ติ.

‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตม, โกจิ คิหี คิหิสํโยชนํ อปฺปหาย กายสฺส เภทา สคฺคูปโค’’ติ? ‘‘น โข, วจฺฉ, เอกํเยว สตํ น ทฺเว สตานิ น ตีณิ สตานิ น จตฺตาริ สตานิ น ปฺจ สตานิ, อถ โข ภิยฺโยว เย คิหี คิหิสํโยชนํ อปฺปหาย กายสฺส เภทา สคฺคูปคา’’ติ [‘‘อตฺถิ โข วจฺฉ โกจิ คิหี คิหิสํโยชนํ อปฺปหาย กายสฺส เภทา สคฺคูปโคติ’’. (ก.)].

‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ โคตม, โกจิ อาชีวโก [อาชีวิโก (ก.)] กายสฺส เภทา ทุกฺขสฺสนฺตกโร’’ติ? ‘‘นตฺถิ โข, วจฺฉ, โกจิ อาชีวโก กายสฺส เภทา ทุกฺขสฺสนฺตกโร’’ติ.

‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตม, โกจิ อาชีวโก กายสฺส เภทา สคฺคูปโค’’ติ? ‘‘อิโต โข โส, วจฺฉ, เอกนวุโต กปฺโป [อิโต โก วจฺฉ เอกนวุเต กปฺเป (ก.)] ยมหํ อนุสฺสรามิ, นาภิชานามิ กฺจิ อาชีวกํ สคฺคูปคํ อฺตฺร เอเกน; โสปาสิ กมฺมวาที กิริยวาที’’ติ. ‘‘เอวํ สนฺเต, โภ โคตม, สุฺํ อทุํ ติตฺถายตนํ อนฺตมโส สคฺคูปเคนปี’’ติ? ‘‘เอวํ, วจฺฉ, สุฺํ อทุํ ติตฺถายตนํ อนฺตมโส สคฺคูปเคนปี’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.

เตวิชฺชวจฺฉสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปมํ.

๒. อคฺคิวจฺฉสุตฺตํ

๑๘๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, ‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – เอวํทิฏฺิ [เอวํทิฏฺี (สี. สฺยา. กํ. ก.)] ภวํ โคตโม’’ติ? ‘‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – ‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.

‘‘กึ ปน, โภ โคตม, ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’’ติ? ‘‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.

‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, ‘อนฺตวา โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’’ติ? ‘‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – ‘อนฺตวา โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.

‘‘กึ ปน, โภ โคตม, ‘อนนฺตวา โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’’ติ? ‘‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – ‘อนนฺตวา โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.

‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’’ติ? ‘‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.

‘‘กึ ปน, โภ โคตม, ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’’ติ? ‘‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.

‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’’ติ? ‘‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.

‘‘กึ ปน, โภ โคตม, ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’’ติ? ‘‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.

‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’’ติ ? ‘‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.

‘‘กึ ปน, โภ โคตม, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’’ติ? ‘‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.

๑๘๘. ‘‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ [โมฆมฺนฺตีติ วเทสิ (สี.), โมฆมฺนฺติ อิติ วเทสิ (?)]. ‘กึ ปน, โภ โคตม, อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ , เอวํทิฏฺิ – อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ. ‘กึ นุ โข, โภ โคตม, อนฺตวา โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – อนฺตวา โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ. ‘กึ ปน, โภ โคตม, อนนฺตวา โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – อนนฺตวา โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ. ‘กึ นุ โข, โภ โคตม, ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ. ‘กึ ปน, โภ โคตม, อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ. ‘กึ นุ โข, โภ โคตม, โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ.

‘‘‘กึ ปน, โภ โคตม, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ. ‘กึ นุ โข, โภ โคตม, โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ. ‘กึ ปน, โภ โคตม, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺิ – เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ.

‘‘กึ ปน โภ โคตโม อาทีนวํ สมฺปสฺสมาโน เอวํ อิมานิ สพฺพโส ทิฏฺิคตานิ อนุปคโต’’ติ?

๑๘๙. ‘‘‘สสฺสโต โลโก’ติ โข, วจฺฉ, ทิฏฺิคตเมตํ ทิฏฺิคหนํ ทิฏฺิกนฺตาโร [ทิฏฺิกนฺตารํ (สี. ปี.)] ทิฏฺิวิสูกํ ทิฏฺิวิปฺผนฺทิตํ ทิฏฺิสํโยชนํ สทุกฺขํ สวิฆาตํ สอุปายาสํ สปริฬาหํ, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ . ‘อสสฺสโต โลโก’ติ โข, วจฺฉ…เป… ‘อนฺตวา โลโก’ติ โข, วจฺฉ…เป… ‘อนนฺตวา โลโก’ติ โข, วจฺฉ…เป… ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ โข, วจฺฉ…เป… ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ โข, วจฺฉ…เป… ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, วจฺฉ …เป… ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, วจฺฉ…เป… ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, วจฺฉ…เป… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, วจฺฉ, ทิฏฺิคตเมตํ ทิฏฺิคหนํ ทิฏฺิกนฺตาโร ทิฏฺิวิสูกํ ทิฏฺิวิปฺผนฺทิตํ ทิฏฺิสํโยชนํ สทุกฺขํ สวิฆาตํ สอุปายาสํ สปริฬาหํ, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. อิมํ โข อหํ, วจฺฉ, อาทีนวํ สมฺปสฺสมาโน เอวํ อิมานิ สพฺพโส ทิฏฺิคตานิ อนุปคโต’’ติ.

‘‘อตฺถิ ปน โภโต โคตมสฺส กิฺจิ ทิฏฺิคต’’นฺติ? ‘‘ทิฏฺิคตนฺติ โข, วจฺฉ, อปนีตเมตํ ตถาคตสฺส. ทิฏฺฺเหตํ, วจฺฉ, ตถาคเตน – ‘อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม; อิติ เวทนา, อิติ เวทนาย สมุทโย, อิติ เวทนาย อตฺถงฺคโม; อิติ สฺา, อิติ สฺาย สมุทโย, อิติ สฺาย อตฺถงฺคโม; อิติ สงฺขารา, อิติ สงฺขารานํ สมุทโย, อิติ สงฺขารานํ อตฺถงฺคโม; อิติ วิฺาณํ, อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย, อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ. ตสฺมา ตถาคโต สพฺพมฺิตานํ สพฺพมถิตานํ สพฺพอหํการมมํการมานานุสยานํ ขยา วิราคา นิโรธา จาคา ปฏินิสฺสคฺคา อนุปาทา วิมุตฺโตติ วทามี’’ติ.

๑๙๐. ‘‘เอวํ วิมุตฺตจิตฺโต ปน, โภ โคตม, ภิกฺขุ กุหึ อุปปชฺชตี’’ติ? ‘‘อุปปชฺชตีติ โข, วจฺฉ, น อุเปติ’’. ‘‘เตน หิ, โภ โคตม, น อุปปชฺชตี’’ติ? ‘‘น อุปปชฺชตีติ โข, วจฺฉ, น อุเปติ’’. ‘‘เตน หิ, โภ โคตม, อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตี’’ติ? ‘‘อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตีติ โข, วจฺฉ, น อุเปติ’’. ‘‘เตน หิ, โภ โคตม, เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตี’’ติ? ‘‘เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตีติ โข, วจฺฉ, น อุเปติ’’.

‘‘‘เอวํ วิมุตฺตจิตฺโต ปน, โภ โคตม, ภิกฺขุ กุหึ อุปปชฺชตี’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘อุปปชฺชตีติ โข, วจฺฉ, น อุเปตี’ติ วเทสิ. ‘เตน หิ, โภ โคตม, น อุปปชฺชตี’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘น อุปปชฺชตีติ โข, วจฺฉ, น อุเปตี’ติ วเทสิ. ‘เตน หิ, โภ โคตม, อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตี’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตีติ โข, วจฺฉ, น อุเปตี’ติ วเทสิ. ‘เตน หิ, โภ โคตม, เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตี’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตีติ โข, วจฺฉ, น อุเปตี’ติ วเทสิ. เอตฺถาหํ, โภ โคตม, อฺาณมาปาทึ, เอตฺถ สมฺโมหมาปาทึ. ยาปิ เม เอสา โภโต โคตมสฺส ปุริเมน กถาสลฺลาเปน อหุ ปสาทมตฺตา สาปิ เม เอตรหิ อนฺตรหิตา’’ติ. ‘‘อลฺหิ เต, วจฺฉ, อฺาณาย, อลํ สมฺโมหาย. คมฺภีโร หายํ, วจฺฉ, ธมฺโม ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ สนฺโต ปณีโต อตกฺกาวจโร นิปุโณ ปณฺฑิตเวทนีโย. โส ตยา ทุชฺชาโน อฺทิฏฺิเกน อฺขนฺติเกน อฺรุจิเกน อฺตฺรโยเคน [อฺตฺราโยเคน (ที. นิ. ๑.๔๒๐)] อฺตฺราจริยเกน’’ [อฺตฺถาจริยเกน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)].

๑๙๑. ‘‘เตน หิ, วจฺฉ, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ; ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กึ มฺสิ, วจฺฉ, สเจ เต ปุรโต อคฺคิ ชเลยฺย, ชาเนยฺยาสิ ตฺวํ – ‘อยํ เม ปุรโต อคฺคิ ชลตี’’’ติ? ‘‘สเจ เม, โภ โคตม, ปุรโต อคฺคิ ชเลยฺย, ชาเนยฺยาหํ – ‘อยํ เม ปุรโต อคฺคิ ชลตี’’’ติ.

‘‘สเจ ปน ตํ, วจฺฉ, เอวํ ปุจฺเฉยฺย – ‘โย เต อยํ ปุรโต อคฺคิ ชลติ อยํ อคฺคิ กึ ปฏิจฺจ ชลตี’ติ, เอวํ ปุฏฺโ ตฺวํ, วจฺฉ, กินฺติ พฺยากเรยฺยาสี’’ติ? ‘‘สเจ มํ, โภ โคตม, เอวํ ปุจฺเฉยฺย – ‘โย เต อยํ ปุรโต อคฺคิ ชลติ อยํ อคฺคิ กึ ปฏิจฺจ ชลตี’ติ, เอวํ ปุฏฺโ อหํ, โภ โคตม, เอวํ พฺยากเรยฺยํ – ‘โย เม อยํ ปุรโต อคฺคิ ชลติ อยํ อคฺคิ ติณกฏฺุปาทานํ ปฏิจฺจ ชลตี’’’ติ.

‘‘สเจ เต, วจฺฉ, ปุรโต โส อคฺคิ นิพฺพาเยยฺย, ชาเนยฺยาสิ ตฺวํ – ‘อยํ เม ปุรโต อคฺคิ นิพฺพุโต’’’ติ? ‘‘สเจ เม, โภ โคตม, ปุรโต โส อคฺคิ นิพฺพาเยยฺย, ชาเนยฺยาหํ – ‘อยํ เม ปุรโต อคฺคิ นิพฺพุโต’’’ติ.

‘‘สเจ ปน ตํ, วจฺฉ, เอวํ ปุจฺเฉยฺย – ‘โย เต อยํ ปุรโต อคฺคิ นิพฺพุโต โส อคฺคิ อิโต กตมํ ทิสํ คโต – ปุรตฺถิมํ วา ทกฺขิณํ วา ปจฺฉิมํ วา อุตฺตรํ วา’ติ, เอวํ ปุฏฺโ ตฺวํ, วจฺฉ, กินฺติ พฺยากเรยฺยาสี’’ติ? ‘‘น อุเปติ, โภ โคตม, ยฺหิ โส, โภ โคตม, อคฺคิ ติณกฏฺุปาทานํ ปฏิจฺจ อชลิ [ชลติ (สฺยา. กํ. ก.)] ตสฺส จ ปริยาทานา อฺสฺส จ อนุปหารา อนาหาโร นิพฺพุโต ตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉตี’’ติ.

๑๙๒. ‘‘เอวเมว โข, วจฺฉ, เยน รูเปน ตถาคตํ ปฺาปยมาโน ปฺาเปยฺย ตํ รูปํ ตถาคตสฺส ปหีนํ อุจฺฉินฺนมูลํ ตาลาวตฺถุกตํ อนภาวํกตํ อายตึ อนุปฺปาทธมฺมํ. รูปสงฺขยวิมุตฺโต [รูปสงฺขาวิมุตฺโต (สี. สฺยา. กํ. ปี.) เอวํ เวทนาสงฺขยาทีสุปิ] โข, วจฺฉ, ตถาคโต คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุปฺปริโยคาฬฺโห – เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺโท. อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ.

‘‘ยาย เวทนาย ตถาคตํ ปฺาปยมาโน ปฺาเปยฺย สา เวทนา ตถาคตสฺส ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. เวทนาสงฺขยวิมุตฺโต โข, วจฺฉ, ตถาคโต คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุปฺปริโยคาฬฺโห – เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺโท. อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ.

‘‘ยาย สฺาย ตถาคตํ ปฺาปยมาโน ปฺาเปยฺย สา สฺา ตถาคตสฺส ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. สฺาสงฺขยวิมุตฺโต โข, วจฺฉ, ตถาคโต คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุปฺปริโยคาฬฺโห – เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺโท. อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ.

‘‘เยหิ สงฺขาเรหิ ตถาคตํ ปฺาปยมาโน ปฺาเปยฺย เต สงฺขารา ตถาคตสฺส ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. สงฺขารสงฺขยวิมุตฺโต โข, วจฺฉ, ตถาคโต คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุปฺปริโยคาฬฺโห – เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺโท. อุปปชฺชตีติ น อุเปติ , น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ.

‘‘เยน วิฺาเณน ตถาคตํ ปฺาปยมาโน ปฺาเปยฺย ตํ วิฺาณํ ตถาคตสฺส ปหีนํ อุจฺฉินฺนมูลํ ตาลาวตฺถุกตํ อนภาวํกตํ อายตึ อนุปฺปาทธมฺมํ. วิฺาณสงฺขยวิมุตฺโต โข, วจฺฉ, ตถาคโต คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุปฺปริโยคาฬฺโห – เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺโท. อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ’’.

เอวํ วุตฺเต, วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, คามสฺส วา นิคมสฺส วา อวิทูเร มหาสาลรุกฺโข. ตสฺส อนิจฺจตา สาขาปลาสา ปลุชฺเชยฺยุํ [สาขาปลาสํ ปลุชฺเชยฺย], ตจปปฏิกา ปลุชฺเชยฺยุํ, เผคฺคู ปลุชฺเชยฺยุํ [เผคฺคุ ปลุชฺเชยฺย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]; โส อปเรน สมเยน อปคตสาขาปลาโส อปคตตจปปฏิโก อปคตเผคฺคุโก สุทฺโธ อสฺส, สาเร ปติฏฺิโต; เอวเมว โภโต โคตมสฺส ปาวจนํ อปคตสาขาปลาสํ อปคตตจปปฏิกํ อปคตเผคฺคุกํ สุทฺธํ, สาเร ปติฏฺิตํ. อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

อคฺคิวจฺฉสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทุติยํ.

๓. มหาวจฺฉสุตฺตํ

๑๙๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. อถ โข วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ทีฆรตฺตาหํ โภตา โคตเมน สหกถี. สาธุ เม ภวํ โคตโม สํขิตฺเตน กุสลากุสลํ เทเสตู’’ติ. ‘‘สํขิตฺเตนปิ โข เต อหํ, วจฺฉ, กุสลากุสลํ เทเสยฺยํ, วิตฺถาเรนปิ โข เต อหํ, วจฺฉ, กุสลากุสลํ เทเสยฺยํ; อปิ จ เต อหํ, วจฺฉ, สํขิตฺเตน กุสลากุสลํ เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –

๑๙๔. ‘‘โลโภ โข, วจฺฉ, อกุสลํ, อโลโภ กุสลํ; โทโส โข, วจฺฉ, อกุสลํ, อโทโส กุสลํ; โมโห โข, วจฺฉ, อกุสลํ, อโมโห กุสลํ. อิติ โข, วจฺฉ, อิเม ตโย ธมฺมา อกุสลา, ตโย ธมฺมา กุสลา.

‘‘ปาณาติปาโต โข, วจฺฉ, อกุสลํ, ปาณาติปาตา เวรมณี กุสลํ; อทินฺนาทานํ โข, วจฺฉ, อกุสลํ, อทินฺนาทานา เวรมณี กุสลํ; กาเมสุมิจฺฉาจาโร โข, วจฺฉ, อกุสลํ, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี กุสลํ; มุสาวาโท โข, วจฺฉ, อกุสลํ, มุสาวาทา เวรมณี กุสลํ; ปิสุณา วาจา โข, วจฺฉ, อกุสลํ , ปิสุณาย วาจาย เวรมณี กุสลํ; ผรุสา วาจา โข, วจฺฉ, อกุสลํ, ผรุสาย วาจาย เวรมณี กุสลํ; สมฺผปฺปลาโป โข, วจฺฉ, อกุสลํ, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี กุสลํ; อภิชฺฌา โข, วจฺฉ, อกุสลํ, อนภิชฺฌา กุสลํ; พฺยาปาโท โข, วจฺฉ, อกุสลํ, อพฺยาปาโท กุสลํ; มิจฺฉาทิฏฺิ โข, วจฺฉ, อกุสลํ สมฺมาทิฏฺิ กุสลํ. อิติ โข, วจฺฉ, อิเม ทส ธมฺมา อกุสลา, ทส ธมฺมา กุสลา.

‘‘ยโต โข, วจฺฉ, ภิกฺขุโน ตณฺหา ปหีนา โหติ อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา, โส โหติ ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต’’ติ.

๑๙๕. ‘‘ติฏฺตุ ภวํ โคตโม. อตฺถิ ปน เต โภโต โคตมสฺส เอกภิกฺขุปิ สาวโก โย อาสวานํ ขยา [สาวโก อาสวานํ ขยา (สี. สฺยา. กํ. ปี.) เอวมุปริปิ] อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ? ‘‘น โข, วจฺฉ, เอกํเยว สตํ น ทฺเว สตานิ น ตีณิ สตานิ น จตฺตาริ สตานิ น ปฺจ สตานิ, อถ โข ภิยฺโยว เย ภิกฺขู มม สาวกา อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’’ติ.

‘‘ติฏฺตุ ภวํ โคตโม, ติฏฺนฺตุ ภิกฺขู. อตฺถิ ปน โภโต โคตมสฺส เอกา ภิกฺขุนีปิ สาวิกา ยา อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ? ‘‘น โข, วจฺฉ, เอกํเยว สตํ น ทฺเว สตานิ น ตีณิ สตานิ น จตฺตาริ สตานิ น ปฺจ สตานิ, อถ โข ภิยฺโยว ยา ภิกฺขุนิโย มม สาวิกา อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’’ติ.

‘‘ติฏฺตุ ภวํ โคตโม, ติฏฺนฺตุ ภิกฺขู, ติฏฺนฺตุ ภิกฺขุนิโย. อตฺถิ ปน โภโต โคตมสฺส เอกุปาสโกปิ สาวโก คิหี โอทาตวสโน พฺรหฺมจารี โย ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา’’ติ? ‘‘น โข, วจฺฉ, เอกํเยว สตํ น ทฺเว สตานิ น ตีณิ สตานิ น จตฺตาริ สตานิ น ปฺจ สตานิ, อถ โข ภิยฺโยว เย อุปาสกา มม สาวกา คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายิโน อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา’’ติ.

‘‘ติฏฺตุ ภวํ โคตโม, ติฏฺนฺตุ ภิกฺขู, ติฏฺนฺตุ ภิกฺขุนิโย, ติฏฺนฺตุ อุปาสกา คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน. อตฺถิ ปน โภโต โคตมสฺส เอกุปาสโกปิ สาวโก คิหี โอทาตวสโน กามโภคี สาสนกโร โอวาทปฺปฏิกโร โย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน วิหรตี’’ติ? ‘‘น โข, วจฺฉ, เอกํเยว สตํ น ทฺเว สตานิ น ตีณิ สตานิ น จตฺตาริ สตานิ น ปฺจ สตานิ , อถ โข ภิยฺโยว เย อุปาสกา มม สาวกา คิหี โอทาตวสนา กามโภคิโน สาสนกรา โอวาทปฺปฏิกรา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน วิหรนฺตี’’ติ.

‘‘ติฏฺตุ ภวํ โคตโม, ติฏฺนฺตุ ภิกฺขู, ติฏฺนฺตุ ภิกฺขุนิโย, ติฏฺนฺตุ อุปาสกา คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน, ติฏฺนฺตุ อุปาสกา คิหี โอทาตวสนา กามโภคิโน. อตฺถิ ปน โภโต โคตมสฺส เอกุปาสิกาปิ สาวิกา คิหินี โอทาตวสนา พฺรหฺมจารินี ยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายินี อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา’’ติ? ‘‘น โข, วจฺฉ, เอกํเยว สตํ น ทฺเว สตานิ น ตีณิ สตานิ น จตฺตาริ สตานิ น ปฺจ สตานิ, อถ โข ภิยฺโยว ยา อุปาสิกา มม สาวิกา คิหินิโย โอทาตวสนา พฺรหฺมจารินิโย ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายินิโย อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา’’ติ.

‘‘ติฏฺตุ ภวํ โคตโม, ติฏฺนฺตุ ภิกฺขู, ติฏฺนฺตุ ภิกฺขุนิโย, ติฏฺนฺตุ อุปาสกา คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน, ติฏฺนฺตุ อุปาสกา คิหี โอทาตวสนา กามโภคิโน, ติฏฺนฺตุ อุปาสิกา คิหินิโย โอทาตวสนา พฺรหฺมจารินิโย. อตฺถิ ปน โภโต โคตมสฺส เอกุปาสิกาปิ สาวิกา คิหินี โอทาตวสนา กามโภคินี สาสนกรา โอวาทปฺปฏิกรา ยา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน วิหรตี’’ติ? ‘‘น โข, วจฺฉ, เอกํเยว สตํ น ทฺเว สตานิ น ตีณิ สตานิ น จตฺตาริ สตานิ น ปฺจ สตานิ, อถ โข ภิยฺโยว ยา อุปาสิกา มม สาวิกา คิหินิโย โอทาตวสนา กามโภคินิโย สาสนกรา โอวาทปฺปฏิกรา ติณฺณวิจฺฉิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน วิหรนฺตี’’ติ.

๑๙๖. ‘‘สเจ หิ, โภ โคตม, อิมํ ธมฺมํ ภวํเยว โคตโม อาราธโก อภวิสฺส, โน จ โข ภิกฺขู อาราธกา อภวิสฺสํสุ ; เอวมิทํ พฺรหฺมจริยํ อปริปูรํ อภวิสฺส เตนงฺเคน. ยสฺมา จ โข, โภ โคตม, อิมํ ธมฺมํ ภวฺเจว โคตโม อาราธโก ภิกฺขู จ อาราธกา; เอวมิทํ พฺรหฺมจริยํ ปริปูรํ เตนงฺเคน.

‘‘สเจ หิ, โภ โคตม, อิมํ ธมฺมํ ภวฺเจว โคตโม อาราธโก อภวิสฺส, ภิกฺขู จ อาราธกา อภวิสฺสํสุ, โน จ โข ภิกฺขุนิโย อาราธิกา อภวิสฺสํสุ; เอวมิทํ พฺรหฺมจริยํ อปริปูรํ อภวิสฺส เตนงฺเคน. ยสฺมา จ โข, โภ โคตม, อิมํ ธมฺมํ ภวฺเจว โคตโม อาราธโก, ภิกฺขู จ อาราธกา, ภิกฺขุนิโย จ อาราธิกา; เอวมิทํ พฺรหฺมจริยํ ปริปูรํ เตนงฺเคน.

‘‘สเจ หิ, โภ โคตม, อิมํ ธมฺมํ ภวฺเจว โคตโม อาราธโก อภวิสฺส, ภิกฺขู จ อาราธกา อภวิสฺสํสุ, ภิกฺขุนิโย จ อาราธิกา อภวิสฺสํสุ, โน จ โข อุปาสกา คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน อาราธกา อภวิสฺสํสุ; เอวมิทํ พฺรหฺมจริยํ อปริปูรํ อภวิสฺส เตนงฺเคน. ยสฺมา จ โข, โภ โคตม, อิมํ ธมฺมํ ภวฺเจว โคตโม อาราธโก, ภิกฺขู จ อาราธกา, ภิกฺขุนิโย จ อาราธิกา, อุปาสกา จ คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน อาราธกา; เอวมิทํ พฺรหฺมจริยํ ปริปูรํ เตนงฺเคน.

‘‘สเจ หิ, โภ โคตม, อิมํ ธมฺมํ ภวฺเจว โคตโม อาราธโก อภวิสฺส, ภิกฺขู จ อาราธกา อภวิสฺสํสุ, ภิกฺขุนิโย จ อาราธิกา อภวิสฺสํสุ, อุปาสกา จ คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน อาราธกา อภวิสฺสํสุ, โน จ โข อุปาสกา คิหี โอทาตวสนา กามโภคิโน อาราธกา อภวิสฺสํสุ; เอวมิทํ พฺรหฺมจริยํ อปริปูรํ อภวิสฺส เตนงฺเคน. ยสฺมา จ โข, โภ โคตม, อิมํ ธมฺมํ ภวฺเจว โคตโม อาราธโก, ภิกฺขู จ อาราธกา, ภิกฺขุนิโย จ อาราธิกา, อุปาสกา จ คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน อาราธกา, อุปาสกา จ คิหี โอทาตวสนา กามโภคิโน อาราธกา; เอวมิทํ พฺรหฺมจริยํ ปริปูรํ เตนงฺเคน.

‘‘สเจ หิ, โภ โคตม, อิมํ ธมฺมํ ภวฺเจว โคตโม อาราธโก อภวิสฺส, ภิกฺขู จ อาราธกา อภวิสฺสํสุ, ภิกฺขุนิโย จ อาราธิกา อภวิสฺสํสุ, อุปาสกา จ คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน อาราธกา อภวิสฺสํสุ, อุปาสกา จ คิหี โอทาตวสนา กามโภคิโน อาราธกา อภวิสฺสํสุ, โน จ โข อุปาสิกา คิหินิโย โอทาตวสนา พฺรหฺมจารินิโย อาราธิกา อภวิสฺสํสุ; เอวมิทํ พฺรหฺมจริยํ อปริปูรํ อภวิสฺส เตนงฺเคน. ยสฺมา จ โข, โภ โคตม, อิมํ ธมฺมํ ภวฺเจว โคตโม อาราธโก, ภิกฺขู จ อาราธกา, ภิกฺขุนิโย จ อาราธิกา, อุปาสกา จ คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน อาราธกา, อุปาสกา จ คิหี โอทาตวสนา กามโภคิโน อาราธกา , อุปาสิกา จ คิหินิโย โอทาตวสนา พฺรหฺมจารินิโย อาราธิกา; เอวมิทํ พฺรหฺมจริยํ ปริปูรํ เตนงฺเคน.

‘‘สเจ หิ, โภ โคตม, อิมํ ธมฺมํ ภวฺเจว โคตโม อาราธโก อภวิสฺส, ภิกฺขู จ อาราธกา อภวิสฺสํสุ, ภิกฺขุนิโย จ อาราธิกา อภวิสฺสํสุ, อุปาสกา จ คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน อาราธกา อภวิสฺสํสุ, อุปาสกา จ คิหี โอทาตวสนา กามโภคิโน อาราธกา อภวิสฺสํสุ, อุปาสิกา จ คิหินิโย โอทาตวสนา พฺรหฺมจารินิโย อาราธิกา อภวิสฺสํสุ, โน จ โข อุปาสิกา คิหินิโย โอทาตวสนา กามโภคินิโย อาราธิกา อภวิสฺสํสุ; เอวมิทํ พฺรหฺมจริยํ อปริปูรํ อภวิสฺส เตนงฺเคน. ยสฺมา จ โข, โภ โคตม, อิมํ ธมฺมํ ภวฺเจว โคตโม อาราธโก, ภิกฺขู จ อาราธกา, ภิกฺขุนิโย จ อาราธิกา, อุปาสกา จ คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน อาราธกา, อุปาสกา จ คิหี โอทาตวสนา กามโภคิโน อาราธกา, อุปาสิกา จ คิหินิโย โอทาตวสนา พฺรหฺมจารินิโย อาราธิกา, อุปาสิกา จ คิหินิโย โอทาตวสนา กามโภคินิโย อาราธิกา; เอวมิทํ พฺรหฺมจริยํ ปริปูรํ เตนงฺเคน.

๑๙๗. ‘‘เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, คงฺคา นที สมุทฺทนินฺนา สมุทฺทโปณา สมุทฺทปพฺภารา สมุทฺทํ อาหจฺจ ติฏฺติ, เอวเมวายํ โภโต โคตมสฺส ปริสา สคหฏฺปพฺพชิตา นิพฺพานนินฺนา นิพฺพานโปณา นิพฺพานปพฺภารา นิพฺพานํ อาหจฺจ ติฏฺติ. อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. ลเภยฺยาหํ โภโต โคตมสฺส สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ . ‘‘โย โข, วจฺฉ, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขติ ปพฺพชฺชํ, อากงฺขติ อุปสมฺปทํ, โส จตฺตาโร มาเส ปริวสติ. จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวาย; อปิ จ เมตฺถ ปุคฺคลเวมตฺตตา วิทิตา’’ติ. ‘‘สเจ, ภนฺเต, อฺติตฺถิยปุพฺพา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขนฺตา ปพฺพชฺชํ, อากงฺขนฺตา อุปสมฺปทํ จตฺตาโร มาเส ปริวสนฺติ, จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวาย; อหํ จตฺตาริ วสฺสานิ ปริวสิสฺสามิ. จตุนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺตุ อุปสมฺปาเทนฺตุ ภิกฺขุภาวายา’’ติ. อลตฺถ โข วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ อลตฺถ อุปสมฺปทํ.

อจิรูปสมฺปนฺโน โข ปนายสฺมา วจฺฉโคตฺโต อทฺธมาสูปสมฺปนฺโน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา วจฺฉโคตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยาวตกํ, ภนฺเต, เสเขน าเณน เสขาย วิชฺชาย ปตฺตพฺพํ, อนุปฺปตฺตํ ตํ มยา; อุตฺตริ จ เม [อุตฺตรึ เม (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ภควา ธมฺมํ เทเสตู’’ติ. ‘‘เตน หิ ตฺวํ, วจฺฉ, ทฺเว ธมฺเม อุตฺตริ ภาเวหิ – สมถฺจ วิปสฺสนฺจ. อิเม โข เต, วจฺฉ, ทฺเว ธมฺมา อุตฺตริ ภาวิตา – สมโถ จ วิปสฺสนา จ – อเนกธาตุปฏิเวธาย สํวตฺติสฺสนฺติ.

๑๙๘. ‘‘โส ตฺวํ, วจฺฉ, ยาวเทว [ยาวเท (ปี.)] อากงฺขิสฺสสิ – ‘อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุภเวยฺยํ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา อสฺสํ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก อสฺสํ; อาวิภาวํ, ติโรภาวํ; ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺเฉยฺยํ, เสยฺยถาปิ อากาเส; ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กเรยฺยํ, เสยฺยถาปิ อุทเก; อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺเฉยฺยํ, เสยฺยถาปิ ปถวิยํ; อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กเมยฺยํ, เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ; อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปริมเสยฺยํ, ปริมชฺเชยฺยํ; ยาวพฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณิสฺสสิ, สติ สติอายตเน.

‘‘โส ตฺวํ, วจฺฉ, ยาวเทว อากงฺขิสฺสสิ – ‘ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุเณยฺยํ – ทิพฺเพ จ มานุเส จ, เย ทูเร สนฺติเก จา’ติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณิสฺสสิ, สติ สติอายตเน.

‘‘โส ตฺวํ, วจฺฉ, ยาวเทว อากงฺขิสฺสสิ – ‘ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชาเนยฺยํ – สราคํ วา จิตฺตํ สราคํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วีตราคํ วา จิตฺตํ วีตราคํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ; สโทสํ วา จิตฺตํ สโทสํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วีตโทสํ วา จิตฺตํ วีตโทสํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ; สโมหํ วา จิตฺตํ สโมหํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วีตโมหํ วา จิตฺตํ วีตโมหํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ; สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ สํขิตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ วิกฺขิตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ; มหคฺคตํ วา จิตฺตํ มหคฺคตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ อมหคฺคตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ; สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ สอุตฺตรํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ อนุตฺตรํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ; สมาหิตํ วา จิตฺตํ สมาหิตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, อสมาหิตํ วา จิตฺตํ อสมาหิตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ; วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ อวิมุตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณิสฺสสิ, สติ สติอายตเน.

‘‘โส ตฺวํ, วจฺฉ, ยาวเทว อากงฺขิสฺสสิ – ‘อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสเรยฺยํ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ; อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโนติ; อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสเรยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณิสฺสสิ, สติ สติอายตเน.

‘‘โส ตฺวํ, วจฺฉ, ยาวเทว อากงฺขิสฺสสิ – ‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺเสยฺยํ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชาเนยฺยํ – อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา; อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนาติ; อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺเสยฺยํ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชาเนยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณิสฺสสิ, สติ สติอายตเน.

‘‘โส ตฺวํ, วจฺฉ, ยาวเทว อากงฺขิสฺสสิ – ‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณิสฺสสิ, สติ สติอายตเน’’ติ.

๑๙๙. อถ โข อายสฺมา วจฺฉโคตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข อายสฺมา วจฺฉโคตฺโต เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ อพฺภฺาสิ. อฺตโร โข ปนายสฺมา วจฺฉโคตฺโต อรหตํ อโหสิ.

๒๐๐. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู ภควนฺตํ ทสฺสนาย คจฺฉนฺติ. อทฺทสา โข อายสฺมา วจฺฉโคตฺโต เต ภิกฺขู ทูรโตว อาคจฺฉนฺเต. ทิสฺวาน เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘หนฺท! กหํ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต คจฺฉถา’’ติ? ‘‘ภควนฺตํ โข มยํ, อาวุโส, ทสฺสนาย คจฺฉามา’’ติ . ‘‘เตนหายสฺมนฺโต มม วจเนน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทถ, เอวฺจ วเทถ – ‘วจฺฉโคตฺโต, ภนฺเต, ภิกฺขุ ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทติ, เอวฺจ วเทติ – ปริจิณฺโณ เม ภควา, ปริจิณฺโณ เม สุคโต’’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต วจฺฉโคตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อถ โข เต ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, วจฺฉโคตฺโต ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทติ, เอวฺจ วเทติ – ‘ปริจิณฺโณ เม ภควา, ปริจิณฺโณ เม สุคโต’’’ติ. ‘‘ปุพฺเพว เม, ภิกฺขเว, วจฺฉโคตฺโต ภิกฺขุ เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต – ‘เตวิชฺโช วจฺฉโคตฺโต ภิกฺขุ มหิทฺธิโก มหานุภาโว’ติ. เทวตาปิ เม เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ – ‘เตวิชฺโช, ภนฺเต, วจฺฉโคตฺโต ภิกฺขุ มหิทฺธิโก มหานุภาโว’’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

มหาวจฺฉสุตฺตํ นิฏฺิตํ ตติยํ.

๔. ทีฆนขสุตฺตํ

๒๐๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต สูกรขตายํ. อถ โข ทีฆนโข ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข ทีฆนโข ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหฺหิ, โภ โคตม, เอวํวาที เอวํทิฏฺิ – ‘สพฺพํ เม นกฺขมตี’’’ติ. ‘‘ยาปิ โข เต เอสา, อคฺคิเวสฺสน, ทิฏฺิ – ‘สพฺพํ เม นกฺขมตี’ติ, เอสาปิ เต ทิฏฺิ นกฺขมตี’’ติ? ‘‘เอสา เจ [เอสาปิ (ก.)] เม, โภ โคตม, ทิฏฺิ ขเมยฺย, ตํปสฺส ตาทิสเมว, ตํปสฺส ตาทิสเมวา’’ติ. ‘‘อโต โข เต, อคฺคิเวสฺสน, พหู หิ พหุตรา โลกสฺมึ เย เอวมาหํสุ – ‘ตํปสฺส ตาทิสเมว, ตํปสฺส ตาทิสเมวา’ติ. เต ตฺเจว ทิฏฺึ นปฺปชหนฺติ อฺฺจ ทิฏฺึ อุปาทิยนฺติ. อโต โข เต, อคฺคิเวสฺสน, ตนู หิ ตนุตรา โลกสฺมึ เย เอวมาหํสุ – ‘ตํปสฺส ตาทิสเมว, ตํปสฺส ตาทิสเมวา’ติ. เต ตฺเจว ทิฏฺึ ปชหนฺติ อฺฺจ ทิฏฺึ น อุปาทิยนฺติ. สนฺตคฺคิเวสฺสน, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘สพฺพํ เม ขมตี’ติ; สนฺตคฺคิเวสฺสน, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘สพฺพํ เม นกฺขมตี’ติ; สนฺตคฺคิเวสฺสน , เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘เอกจฺจํ เม ขมติ, เอกจฺจํ เม นกฺขมตี’ติ. ตตฺรคฺคิเวสฺสน, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘สพฺพํ เม ขมตี’ติ เตสมยํ ทิฏฺิ สาราคาย สนฺติเก, สฺโคาย สนฺติเก, อภินนฺทนาย สนฺติเก อชฺโฌสานาย สนฺติเก อุปาทานาย สนฺติเก; ตตฺรคฺคิเวสฺสน เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘สพฺพํ เม นกฺขมตี’ติ เตสมยํ ทิฏฺิ อสาราคาย สนฺติเก, อสฺโคาย สนฺติเก, อนภินนฺทนาย สนฺติเก, อนชฺโฌสานาย สนฺติเก, อนุปาทานาย สนฺติเก’’ติ.

๒๐๒. เอวํ วุตฺเต, ทีฆนโข ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อุกฺกํเสติ [อุกฺกํสติ (สี. ปี. ก.)] เม ภวํ โคตโม ทิฏฺิคตํ, สมุกฺกํเสติ [สมฺปหํสติ (ก.)] เม ภวํ โคตโม ทิฏฺิคต’’นฺติ. ‘‘ตตฺรคฺคิเวสฺสน, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘เอกจฺจํ เม ขมติ, เอกจฺจํ เม นกฺขมตี’ติ. ยา หิ เตสํ ขมติ สายํ ทิฏฺิ สาราคาย สนฺติเก, สฺโคาย สนฺติเก, อภินนฺทนาย สนฺติเก, อชฺโฌสานาย สนฺติเก, อุปาทานาย สนฺติเก; ยา หิ เตสํ นกฺขมติ สายํ ทิฏฺิ อสาราคาย สนฺติเก, อสฺโคาย สนฺติเก, อนภินนฺทนาย สนฺติเก, อนชฺโฌสานาย สนฺติเก, อนุปาทานาย สนฺติเก. ตตฺรคฺคิเวสฺสน, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘สพฺพํ เม ขมตี’ติ ตตฺถ วิฺู ปุริโส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยา โข เม อยํ ทิฏฺิ – สพฺพํ เม ขมตีติ, อิมฺเจ อหํ ทิฏฺึ ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺส โวหเรยฺยํ – อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ; ทฺวีหิ เม อสฺส วิคฺคโห – โย จายํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํวาที เอวํทิฏฺิ – สพฺพํ เม นกฺขมตีติ, โย จายํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํวาที เอวํทิฏฺิ – เอกจฺจํ เม ขมติ, เอกจฺจํ เม นกฺขมตีติ – อิเมหิ อสฺส ทฺวีหิ วิคฺคโห. อิติ วิคฺคเห สติ วิวาโท, วิวาเท สติ วิฆาโต, วิฆาเต สติ วิเหสา’. อิติ โส วิคฺคหฺจ วิวาทฺจ วิฆาตฺจ วิเหสฺจ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ตฺเจว ทิฏฺึ ปชหติ อฺฺจ ทิฏฺึ น อุปาทิยติ. เอวเมตาสํ ทิฏฺีนํ ปหานํ โหติ, เอวเมตาสํ ทิฏฺีนํ ปฏินิสฺสคฺโค โหติ.

๒๐๓. ‘‘ตตฺรคฺคิเวสฺสน, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘สพฺพํ เม นกฺขมตี’ติ ตตฺถ วิฺู ปุริโส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยา โข เม อยํ ทิฏฺิ – สพฺพํ เม นกฺขมตี’ติ, อิมฺเจ อหํ ทิฏฺึ ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺส โวหเรยฺยํ – อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ; ทฺวีหิ เม อสฺส วิคฺคโห – โย จายํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํวาที เอวํทิฏฺิ – สพฺพํ เม ขมตีติ, โย จายํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํวาที เอวํทิฏฺิ – เอกจฺจํ เม ขมติ เอกจฺจํ เม นกฺขมตีติ – อิเมหิ อสฺส ทฺวีหิ วิคฺคโห. อิติ วิคฺคเห สติ วิวาโท, วิวาเท สติ วิฆาโต, วิฆาเต สติ วิเหสา’. อิติ โส วิคฺคหฺจ วิวาทฺจ วิฆาตฺจ วิเหสฺจ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ตฺเจว ทิฏฺึ ปชหติ อฺฺจ ทิฏฺึ น อุปาทิยติ. เอวเมตาสํ ทิฏฺีนํ ปหานํ โหติ, เอวเมตาสํ ทิฏฺีนํ ปฏินิสฺสคฺโค โหติ.

๒๐๔. ‘‘ตตฺรคฺคิเวสฺสน, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘เอกจฺจํ เม ขมติ, เอกจฺจํ เม นกฺขมตี’ติ ตตฺถ วิฺู ปุริโส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยา โข เม อยํ ทิฏฺิ – เอกจฺจํ เม ขมติ, เอกจฺจํ เม นกฺขมตีติ, อิมฺเจ อหํ ทิฏฺึ ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺส โวหเรยฺยํ – อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ; ทฺวีหิ เม อสฺส วิคฺคโห – โย จายํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํวาที เอวํทิฏฺิ – สพฺพํ เม ขมตีติ, โย จายํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํวาที เอวํทิฏฺิ – สพฺพํ เม นกฺขมตีติ – อิเมหิ อสฺส ทฺวีหิ วิคฺคโห. อิติ วิคฺคเห สติ วิวาโท, วิวาเท สติ วิฆาโต, วิฆาเต สติ วิเหสา’. อิติ โส วิคฺคหฺจ วิวาทฺจ วิฆาตฺจ วิเหสฺจ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ตฺเจว ทิฏฺึ ปชหติ อฺฺจ ทิฏฺึ น อุปาทิยติ. เอวเมตาสํ ทิฏฺีนํ ปหานํ โหติ, เอวเมตาสํ ทิฏฺีนํ ปฏินิสฺสคฺโค โหติ.

๒๐๕. ‘‘อยํ โข ปนคฺคิเวสฺสน, กาโย รูปี จาตุมหาภูติโก [จาตุมฺมหาภูติโก (สี. สฺยา.)] มาตาเปตฺติกสมฺภโว โอทนกุมฺมาสุปจโย อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิทฺธํสนธมฺโม, อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สุฺโต อนตฺตโต สมนุปสฺสิตพฺโพ . ตสฺสิมํ กายํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สุฺโต อนตฺตโต สมนุปสฺสโต โย กายสฺมึ กายฉนฺโท กายสฺเนโห กายนฺวยตา สา ปหียติ.

‘‘ติสฺโส โข อิมา, อคฺคิเวสฺสน, เวทนา – สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา. ยสฺมึ, อคฺคิเวสฺสน, สมเย สุขํ เวทนํ เวเทติ , เนว ตสฺมึ สมเย ทุกฺขํ เวทนํ เวเทติ, น อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวเทติ; สุขํเยว ตสฺมึ สมเย เวทนํ เวเทติ. ยสฺมึ, อคฺคิเวสฺสน, สมเย ทุกฺขํ เวทนํ เวเทติ, เนว ตสฺมึ สมเย สุขํ เวทนํ เวเทติ, น อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวเทติ; ทุกฺขํเยว ตสฺมึ สมเย เวทนํ เวเทติ. ยสฺมึ, อคฺคิเวสฺสน, สมเย อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวเทติ, เนว ตสฺมึ สมเย สุขํ เวทนํ เวเทติ, น ทุกฺขํ เวทนํ เวเทติ; อทุกฺขมสุขํเยว ตสฺมึ สมเย เวทนํ เวเทติ. สุขาปิ โข, อคฺคิเวสฺสน, เวทนา อนิจฺจา สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา; ทุกฺขาปิ โข, อคฺคิเวสฺสน, เวทนา อนิจฺจา สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา; อทุกฺขมสุขาปิ โข, อคฺคิเวสฺสน, เวทนา อนิจฺจา สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา. เอวํ ปสฺสํ, อคฺคิเวสฺสน, สุตวา อริยสาวโก สุขายปิ เวทนาย นิพฺพินฺทติ, ทุกฺขายปิ เวทนาย นิพฺพินฺทติ, อทุกฺขมสุขายปิ เวทนาย นิพฺพินฺทติ ; นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ, วิราคา วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมึ, วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ. เอวํ วิมุตฺตจิตฺโต โข, อคฺคิเวสฺสน, ภิกฺขุ น เกนจิ สํวทติ, น เกนจิ วิวทติ, ยฺจ โลเก วุตฺตํ เตน โวหรติ, อปรามส’’นฺติ.

๒๐๖. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต ปิฏฺิโต ิโต โหติ ภควนฺตํ พีชยมาโน [วีชยมาโน (สี. ปี.)]. อถ โข อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘เตสํ เตสํ กิร โน ภควา ธมฺมานํ อภิฺา ปหานมาห, เตสํ เตสํ กิร โน สุคโต ธมฺมานํ อภิฺา ปฏินิสฺสคฺคมาหา’’ติ. อิติ หิทํ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปฏิสฺจิกฺขโต อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิ. ทีฆนขสฺส ปน ปริพฺพาชกสฺส วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ. อถ โข ทีฆนโข ปริพฺพาชโก ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ – เอวเมว โข โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

ทีฆนขสุตฺตํ นิฏฺิตํ จตุตฺถํ.

๕. มาคณฺฑิยสุตฺตํ

๒๐๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา กุรูสุ วิหรติ กมฺมาสธมฺมํ นาม กุรูนํ นิคโม, ภารทฺวาชโคตฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส อคฺยาคาเร ติณสนฺถารเก [ติณสนฺถรเก (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย กมฺมาสธมฺมํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. กมฺมาสธมฺมํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน อฺตโร วนสณฺโฑ เตนุปสงฺกมิ ทิวาวิหาราย. ตํ วนสณฺฑํ อชฺโฌคาเหตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. อถ โข มาคณฺฑิโย [มาคนฺทิโย (สี. ปี.)] ปริพฺพาชโก ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโน เยน ภารทฺวาชโคตฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส อคฺยาคารํ เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข มาคณฺฑิโย ปริพฺพาชโก ภารทฺวาชโคตฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส อคฺยาคาเร ติณสนฺถารกํ ปฺตฺตํ. ทิสฺวาน ภารทฺวาชโคตฺตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘กสฺส นฺวยํ โภโต ภารทฺวาชสฺส อคฺยาคาเร ติณสนฺถารโก ปฺตฺโต, สมณเสยฺยานุรูปํ [สมณเสยฺยารูปํ (สี. ปี.)] มฺเ’’ติ? ‘‘อตฺถิ, โภ มาคณฺฑิย, สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. ตสฺเสสา โภโต โคตมสฺส เสยฺยา ปฺตฺตา’’ติ. ‘‘ทุทฺทิฏฺํ วต, โภ ภารทฺวาช, อทฺทสาม; ทุทฺทิฏฺํ วต, โภ ภารทฺวาช, อทฺทสาม! เย มยํ ตสฺส โภโต โคตมสฺส ภูนหุโน [ภูนหนสฺส (สฺยา. กํ.)] เสยฺยํ อทฺทสามา’’ติ. ‘‘รกฺขสฺเสตํ, มาคณฺฑิย, วาจํ; รกฺขสฺเสตํ , มาคณฺฑิย, วาจํ. พหู หิ ตสฺส โภโต โคตมสฺส ขตฺติยปณฺฑิตาปิ พฺราหฺมณปณฺฑิตาปิ คหปติปณฺฑิตาปิ สมณปณฺฑิตาปิ อภิปฺปสนฺนา วินีตา อริเย าเย ธมฺเม กุสเล’’ติ. ‘‘สมฺมุขา เจปิ มยํ, โภ ภารทฺวาช, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ปสฺเสยฺยาม, สมฺมุขาปิ นํ วเทยฺยาม – ‘ภูนหุ [ภูนหโน (สฺยา. กํ.)] สมโณ โคตโม’ติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺหิ โน สุตฺเต โอจรตี’’ติ. ‘‘สเจ ตํ โภโต มาคณฺฑิยสฺส อครุ อาโรเจยฺยามิ ตํ [อาโรเจยฺยเมตํ (สี. ปี.), อาโรเจสฺสามิ ตสฺส (สฺยา. กํ.)] สมณสฺส โคตมสฺสา’’ติ. ‘‘อปฺโปสฺสุกฺโก ภวํ ภารทฺวาโช วุตฺโตว นํ วเทยฺยา’’ติ.

๒๐๘. อสฺโสสิ โข ภควา ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย ภารทฺวาชโคตฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส มาคณฺฑิเยน ปริพฺพาชเกน สทฺธึ อิมํ กถาสลฺลาปํ. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน ภารทฺวาชโคตฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส อคฺยาคารํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต ติณสนฺถารเก. อถ โข ภารทฺวาชโคตฺโต พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ภารทฺวาชโคตฺตํ พฺราหฺมณํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘อหุ ปน เต, ภารทฺวาช, มาคณฺฑิเยน ปริพฺพาชเกน สทฺธึ อิมํเยว ติณสนฺถารกํ อารพฺภ โกจิเทว กถาสลฺลาโป’’ติ? เอวํ วุตฺเต, ภารทฺวาชโคตฺโต พฺราหฺมโณ สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอตเทว โข ปน มยํ โภโต โคตมสฺส อาโรเจตุกามา. อถ จ ปน ภวํ โคตโม อนกฺขาตํเยว อกฺขาสี’’ติ. อยฺจ หิ [อยฺจ หิทํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ภควโต ภารทฺวาชโคตฺเตน พฺราหฺมเณน สทฺธึ อนฺตรากถา วิปฺปกตา โหติ. อถ โข มาคณฺฑิโย ปริพฺพาชโก ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโน เยน ภารทฺวาชโคตฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส อคฺยาคารํ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข มาคณฺฑิยํ ปริพฺพาชกํ ภควา เอตทโวจ –

๒๐๙. ‘‘จกฺขุํ โข, มาคณฺฑิย, รูปารามํ รูปรตํ รูปสมฺมุทิตํ. ตํ ตถาคตสฺส ทนฺตํ คุตฺตํ รกฺขิตํ สํวุตํ, ตสฺส จ สํวราย ธมฺมํ เทเสติ. อิทํ นุ เต เอตํ, มาคณฺฑิย, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘ภูนหุ สมโณ โคตโม’’’ติ? ‘‘เอตเทว โข ปน เม, โภ โคตม, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘ภูนหุ สมโณ โคตโม’ติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺหิ โน สุตฺเต โอจรตี’’ติ. ‘‘โสตํ โข, มาคณฺฑิย, สทฺทารามํ…เป… ฆานํ โข, มาคณฺฑิย คนฺธารามํ… ชิวฺหา โข, มาคณฺฑิย, รสารามา รสรตา รสสมฺมุทิตา. สา ตถาคตสฺส ทนฺตา คุตฺตา รกฺขิตา สํวุตา, ตสฺสา จ สํวราย ธมฺมํ เทเสติ. อิทํ นุ เต เอตํ, มาคณฺฑิย, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘ภูนหุ สมโณ โคตโม’’’ติ? ‘‘เอตเทว โข ปน เม, โภ โคตม, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘ภูนหุ สมโณ โคตโม’ติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺหิ โน สุตฺเต โอจรตี’’ติ. ‘‘กาโย โข, มาคณฺฑิย, โผฏฺพฺพาราโม โผฏฺพฺพรโต…เป… มโน โข, มาคณฺฑิย, ธมฺมาราโม ธมฺมรโต ธมฺมสมฺมุทิโต. โส ตถาคตสฺส ทนฺโต คุตฺโต รกฺขิโต สํวุโต, ตสฺส จ สํวราย ธมฺมํ เทเสติ. อิทํ นุ เต เอตํ, มาคณฺฑิย, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘ภูนหุ สมโณ โคตโม’’’ติ? ‘‘เอตเทว โข ปน เม, โภ โคตม, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘ภูนหุ สมโณ โคตโม’ติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺหิ โน สุตฺเต โอจรตี’’ติ.

๒๑๐. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มาคณฺฑิย – ‘อิเธกจฺโจ จกฺขุวิฺเยฺเยหิ รูเปหิ ปริจาริตปุพฺโพ อสฺส อิฏฺเหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ, โส อปเรน สมเยน รูปานํเยว สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา รูปตณฺหํ ปหาย รูปปริฬาหํ ปฏิวิโนเทตฺวา วิคตปิปาโส อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต วิหเรยฺย. อิมสฺส ปน เต, มาคณฺฑิย, กิมสฺส วจนีย’’’นฺติ? ‘‘น กิฺจิ, โภ โคตม’’. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มาคณฺฑิย – ‘อิเธกจฺโจ โสตวิฺเยฺเยหิ สทฺเทหิ…เป… ฆานวิฺเยฺเยหิ คนฺเธหิ… ชิวฺหาวิฺเยฺเยหิ รเสหิ… กายวิฺเยฺเยหิ โผฏฺพฺเพหิ ปริจาริตปุพฺโพ อสฺส อิฏฺเหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ, โส อปเรน สมเยน โผฏฺพฺพานํเยว สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา โผฏฺพฺพตณฺหํ ปหาย โผฏฺพฺพปริฬาหํ ปฏิวิโนเทตฺวา วิคตปิปาโส อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต วิหเรยฺย. อิมสฺส ปน เต, มาคณฺฑิย, กิมสฺส วจนีย’’’นฺติ? ‘‘น กิฺจิ, โภ โคตม’’.

๒๑๑. ‘‘อหํ โข ปน, มาคณฺฑิย, ปุพฺเพ อคาริยภูโต สมาโน ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรสึ จกฺขุวิฺเยฺเยหิ รูเปหิ อิฏฺเหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ, โสตวิฺเยฺเยหิ สทฺเทหิ…เป… ฆานวิฺเยฺเยหิ คนฺเธหิ… ชิวฺหาวิฺเยฺเยหิ รเสหิ… กายวิฺเยฺเยหิ โผฏฺพฺเพหิ อิฏฺเหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ. ตสฺส มยฺหํ, มาคณฺฑิย, ตโย ปาสาทา อเหสุํ – เอโก วสฺสิโก, เอโก เหมนฺติโก, เอโก คิมฺหิโก. โส โข อหํ, มาคณฺฑิย, วสฺสิเก ปาสาเท วสฺสิเก จตฺตาโร [วสฺสิเก ปาสาเท จตฺตาโร (สฺยา. กํ.)] มาเส นิปฺปุริเสหิ ตูริเยหิ [ตุริเยหิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปริจารยมาโน [ปริจาริยมาโน (สพฺพตฺถ)] น เหฏฺาปาสาทํ โอโรหามิ. โส อปเรน สมเยน กามานํเยว สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา กามตณฺหํ ปหาย กามปริฬาหํ ปฏิวิโนเทตฺวา วิคตปิปาโส อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต วิหรามิ. โส อฺเ สตฺเต ปสฺสามิ กาเมสุ อวีตราเค กามตณฺหาหิ ขชฺชมาเน กามปริฬาเหน ปริฑยฺหมาเน กาเม ปฏิเสวนฺเต. โส เตสํ น ปิเหมิ, น ตตฺถ อภิรมามิ . ตํ กิสฺส เหตุ? ยาหยํ, มาคณฺฑิย, รติ, อฺตฺเรว กาเมหิ อฺตฺร อกุสเลหิ ธมฺเมหิ – อปิ ทิพฺพํ สุขํ สมธิคยฺห ติฏฺติ – ตาย รติยา รมมาโน หีนสฺส น ปิเหมิ, น ตตฺถ อภิรมามิ.

๒๑๒. ‘‘เสยฺยถาปิ, มาคณฺฑิย, คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรยฺย จกฺขุวิฺเยฺเยหิ รูเปหิ…เป… โผฏฺพฺเพหิ อิฏฺเหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ. โส กาเยน สุจริตํ จริตฺวา วาจาย สุจริตํ จริตฺวา มนสา สุจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺย เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ. โส ตตฺถ นนฺทเน วเน อจฺฉราสงฺฆปริวุโต ทิพฺเพหิ ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรยฺย. โส ปสฺเสยฺย คหปตึ วา คหปติปุตฺตํ วา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตํ สมงฺคีภูตํ ปริจารยมานํ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, มาคณฺฑิย, อปิ นุ โส เทวปุตฺโต นนฺทเน วเน อจฺฉราสงฺฆปริวุโต ทิพฺเพหิ ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจารยมาโน อมุสฺส คหปติสฺส วา คหปติปุตฺตสฺส วา ปิเหยฺย, มานุสกานํ วา ปฺจนฺนํ กามคุณานํ มานุสเกหิ วา กาเมหิ อาวฏฺเฏยฺยา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’. ตํ กิสฺส เหตุ? มานุสเกหิ, โภ โคตม, กาเมหิ ทิพฺพกามา อภิกฺกนฺตตรา จ ปณีตตรา จา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข อหํ, มาคณฺฑิย, ปุพฺเพ อคาริยภูโต สมาโน ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรสึ จกฺขุวิฺเยฺเยหิ รูเปหิ อิฏฺเหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ, โสตวิฺเยฺเยหิ สทฺเทหิ…เป… ฆานวิฺเยฺเยหิ คนฺเธหิ… ชิวฺหาวิฺเยฺเยหิ รเสหิ… กายวิฺเยฺเยหิ โผฏฺพฺเพหิ อิฏฺเหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ. โส อปเรน สมเยน กามานํเยว สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา กามตณฺหํ ปหาย กามปริฬาหํ ปฏิวิโนเทตฺวา วิคตปิปาโส อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต วิหรามิ. โส อฺเ สตฺเต ปสฺสามิ กาเมสุ อวีตราเค กามตณฺหาหิ ขชฺชมาเน กามปริฬาเหน ปริฑยฺหมาเน กาเม ปฏิเสวนฺเต, โส เตสํ น ปิเหมิ, น ตตฺถ อภิรมามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยาหยํ, มาคณฺฑิย, รติ อฺตฺเรว กาเมหิ อฺตฺร อกุสเลหิ ธมฺเมหิ – อปิ ทิพฺพํ สุขํ สมธิคยฺห ติฏฺติ – ตาย รติยา รมมาโน หีนสฺส น ปิเหมิ, น ตตฺถ อภิรมามิ.

๒๑๓. ‘‘เสยฺยถาปิ , มาคณฺฑิย, กุฏฺี ปุริโส อรุคตฺโต ปกฺกคตฺโต กิมีหิ ขชฺชมาโน นเขหิ วณมุขานิ วิปฺปตจฺฉมาโน องฺคารกาสุยา กายํ ปริตาเปยฺย. ตสฺส มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปฏฺาเปยฺยุํ. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต เภสชฺชํ กเรยฺย. โส ตํ เภสชฺชํ อาคมฺม กุฏฺเหิ ปริมุจฺเจยฺย, อโรโค อสฺส สุขี เสรี สยํวสี เยน กามํ คโม. โส อฺํ กุฏฺึ ปุริสํ ปสฺเสยฺย อรุคตฺตํ ปกฺกคตฺตํ กิมีหิ ขชฺชมานํ นเขหิ วณมุขานิ วิปฺปตจฺฉมานํ องฺคารกาสุยา กายํ ปริตาเปนฺตํ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, มาคณฺฑิย, อปิ นุ โส ปุริโส อมุสฺส กุฏฺิสฺส ปุริสสฺส ปิเหยฺย องฺคารกาสุยา วา เภสชฺชํ ปฏิเสวนาย วา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม. ตํ กิสฺส เหตุ? โรเค หิ, โภ โคตม, สติ เภสชฺเชน กรณียํ โหติ, โรเค อสติ น เภสชฺเชน กรณียํ โหตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข อหํ, มาคณฺฑิย, ปุพฺเพ อคาริยภูโต สมาโน ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรสึ, จกฺขุวิฺเยฺเยหิ รูเปหิ อิฏฺเหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ, โสตวิฺเยฺเยหิ สทฺเทหิ…เป… ฆานวิฺเยฺเยหิ คนฺเธหิ… ชิวฺหาวิฺเยฺเยหิ รเสหิ… กายวิฺเยฺเยหิ โผฏฺพฺเพหิ อิฏฺเหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ. โส อปเรน สมเยน กามานํเยว สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา กามตณฺหํ ปหาย กามปริฬาหํ ปฏิวิโนเทตฺวา วิคตปิปาโส อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต วิหรามิ. โส อฺเ สตฺเต ปสฺสามิ กาเมสุ อวีตราเค กามตณฺหาหิ ขชฺชมาเน กามปริฬาเหน ปริฑยฺหมาเน กาเม ปฏิเสวนฺเต. โส เตสํ น ปิเหมิ, น ตตฺถ อภิรมามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยาหยํ, มาคณฺฑิย, รติ, อฺตฺเรว กาเมหิ อฺตฺร อกุสเลหิ ธมฺเมหิ – อปิ ทิพฺพํ สุขํ สมธิคยฺห ติฏฺติ – ตาย รติยา รมมาโน หีนสฺส น ปิเหมิ, น ตตฺถ อภิรมามิ.

๒๑๔. ‘‘เสยฺยถาปิ , มาคณฺฑิย, กุฏฺี ปุริโส อรุคตฺโต ปกฺกคตฺโต กิมีหิ ขชฺชมาโน นเขหิ วณมุขานิ วิปฺปตจฺฉมาโน องฺคารกาสุยา กายํ ปริตาเปยฺย. ตสฺส มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปฏฺาเปยฺยุํ. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต เภสชฺชํ กเรยฺย. โส ตํ เภสชฺชํ อาคมฺม กุฏฺเหิ ปริมุจฺเจยฺย, อโรโค อสฺส สุขี เสรี สยํวสี เยน กามํ คโม. ตเมนํ ทฺเว พลวนฺโต ปุริสา นานาพาหาสุ คเหตฺวา องฺคารกาสุํ อุปกฑฺเฒยฺยุํ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, มาคณฺฑิย, อปิ นุ โส ปุริโส อิติ จิติเจว กายํ สนฺนาเมยฺยา’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ โคตม’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อสุ หิ, โภ โคตม, อคฺคิ ทุกฺขสมฺผสฺโส เจว มหาภิตาโป จ มหาปริฬาโห จา’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มาคณฺฑิย, อิทาเนว นุ โข โส อคฺคิ ทุกฺขสมฺผสฺโส เจว มหาภิตาโป จ มหาปริฬาโห จ อุทาหุ ปุพฺเพปิ โส อคฺคิ ทุกฺขสมฺผสฺโส เจว มหาภิตาโป จ มหาปริฬาโห จา’’ติ ? ‘‘อิทานิ เจว, โภ โคตม, โส อคฺคิ ทุกฺขสมฺผสฺโส เจว มหาภิตาโป จ มหาปริฬาโห จ, ปุพฺเพปิ โส อคฺคิ ทุกฺขสมฺผสฺโส เจว มหาภิตาโป จ มหาปริฬาโห จ. อสุ จ [อสุ หิ จ (สี. ปี.)], โภ โคตม, กุฏฺี ปุริโส อรุคตฺโต ปกฺกคตฺโต กิมีหิ ขชฺชมาโน นเขหิ วณมุขานิ วิปฺปตจฺฉมาโน อุปหตินฺทฺริโย ทุกฺขสมฺผสฺเสเยว อคฺคิสฺมึ สุขมิติ วิปรีตสฺํ ปจฺจลตฺถา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มาคณฺฑิย, อตีตมฺปิ อทฺธานํ กามา ทุกฺขสมฺผสฺสา เจว มหาภิตาปา จ มหาปริฬาหา จ, อนาคตมฺปิ อทฺธานํ กามา ทุกฺขสมฺผสฺสา เจว มหาภิตาปา จ มหาปริฬาหา จ, เอตรหิปิ ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานํ กามา ทุกฺขสมฺผสฺสา เจว มหาภิตาปา จ มหาปริฬาหา จ. อิเม จ, มาคณฺฑิย, สตฺตา กาเมสุ อวีตราคา กามตณฺหาหิ ขชฺชมานา กามปริฬาเหน ปริฑยฺหมานา อุปหตินฺทฺริยา ทุกฺขสมฺผสฺเสสุเยว กาเมสุ สุขมิติ วิปรีตสฺํ ปจฺจลตฺถุํ.

๒๑๕. ‘‘เสยฺยถาปิ, มาคณฺฑิย, กุฏฺี ปุริโส อรุคตฺโต ปกฺกคตฺโต กิมีหิ ขชฺชมาโน นเขหิ วณมุขานิ วิปฺปตจฺฉมาโน องฺคารกาสุยา กายํ ปริตาเปติ. ยถา ยถา โข, มาคณฺฑิย, อสุ กุฏฺี ปุริโส อรุคตฺโต ปกฺกคตฺโต กิมีหิ ขชฺชมาโน นเขหิ วณมุขานิ วิปฺปตจฺฉมาโน องฺคารกาสุยา กายํ ปริตาเปติ ตถา ตถา’สฺส [ตถา ตถา ตสฺเสว (สฺยา. กํ. ก.)] ตานิ วณมุขานิ อสุจิตรานิ เจว โหนฺติ ทุคฺคนฺธตรานิ จ ปูติกตรานิ จ , โหติ เจว กาจิ สาตมตฺตา อสฺสาทมตฺตา – ยทิทํ วณมุขานํ กณฺฑูวนเหตุ; เอวเมว โข, มาคณฺฑิย, สตฺตา กาเมสุ อวีตราคา กามตณฺหาหิ ขชฺชมานา กามปริฬาเหน จ ปริฑยฺหมานา กาเม ปฏิเสวนฺติ. ยถา ยถา โข, มาคณฺฑิย, สตฺตา กาเมสุ อวีตราคา กามตณฺหาหิ ขชฺชมานา กามปริฬาเหน จ ปริฑยฺหมานา กาเม ปฏิเสวนฺติ ตถา ตถา เตสํ เตสํ สตฺตานํ กามตณฺหา เจว ปวฑฺฒติ, กามปริฬาเหน จ ปริฑยฺหนฺติ, โหติ เจว สาตมตฺตา อสฺสาทมตฺตา – ยทิทํ ปฺจกามคุเณ ปฏิจฺจ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, มาคณฺฑิย, อปิ นุ เต ทิฏฺโ วา สุโต วา ราชา วา ราชมหามตฺโต วา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจารยมาโน กามตณฺหํ อปฺปหาย กามปริฬาหํ อปฺปฏิวิโนเทตฺวา วิคตปิปาโส อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต วิหาสิ วา วิหรติ วา วิหริสฺสติ วา’’ติ ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’. ‘‘สาธุ, มาคณฺฑิย! มยาปิ โข เอตํ, มาคณฺฑิย, เนว ทิฏฺํ น สุตํ ราชา วา ราชมหามตฺโต วา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจารยมาโน กามตณฺหํ อปฺปหาย กามปริฬาหํ อปฺปฏิวิโนเทตฺวา วิคตปิปาโส อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต วิหาสิ วา วิหรติ วา วิหริสฺสติ วา. อถ โข, มาคณฺฑิย, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา วิคตปิปาสา อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺตา วิหาสุํ วา วิหรนฺติ วา วิหริสฺสนฺติ วา สพฺเพ เต กามานํเยว สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา กามตณฺหํ ปหาย กามปริฬาหํ ปฏิวิโนเทตฺวา วิคตปิปาสา อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺตา วิหาสุํ วา วิหรนฺติ วา วิหริสฺสนฺติ วา’’ติ. อถ โข ภควา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘อาโรคฺยปรมา ลาภา, นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ;

อฏฺงฺคิโก จ มคฺคานํ, เขมํ อมตคามิน’’นฺติ.

๒๑๖. เอวํ วุตฺเต, มาคณฺฑิโย ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! ยาว สุภาสิตํ จิทํ โภตา โคตเมน – ‘อาโรคฺยปรมา ลาภา, นิพฺพานํ ปรมํ สุข’นฺติ. มยาปิ โข เอตํ, โภ โคตม, สุตํ ปุพฺพกานํ ปริพฺพาชกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘อาโรคฺยปรมา ลาภา, นิพฺพานํ ปรมํ สุข’นฺติ; ตยิทํ, โภ โคตม, สเมตี’’ติ. ‘‘ยํ ปน เต เอตํ, มาคณฺฑิย, สุตํ ปุพฺพกานํ ปริพฺพาชกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘อาโรคฺยปรมา ลาภา, นิพฺพานํ ปรมํ สุข’นฺติ, กตมํ ตํ อาโรคฺยํ, กตมํ ตํ นิพฺพาน’’นฺติ? เอวํ วุตฺเต, มาคณฺฑิโย ปริพฺพาชโก สกาเนว สุทํ คตฺตานิ ปาณินา อโนมชฺชติ – ‘‘อิทนฺตํ, โภ โคตม, อาโรคฺยํ, อิทนฺตํ นิพฺพานํ. อหฺหิ, โภ โคตม, เอตรหิ อโรโค สุขี, น มํ กิฺจิ อาพาธตี’’ติ.

๒๑๗. ‘‘เสยฺยถาปิ, มาคณฺฑิย, ชจฺจนฺโธ ปุริโส; โส น ปสฺเสยฺย กณฺหสุกฺกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย นีลกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย ปีตกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย โลหิตกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย มฺชิฏฺกานิ [มฺเชฏฺิกานิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.), มฺเชฏฺกานิ (ก.)] รูปานิ, น ปสฺเสยฺย สมวิสมํ, น ปสฺเสยฺย ตารกรูปานิ, น ปสฺเสยฺย จนฺทิมสูริเย. โส สุเณยฺย จกฺขุมโต ภาสมานสฺส – ‘เฉกํ วต, โภ , โอทาตํ วตฺถํ อภิรูปํ นิมฺมลํ สุจี’ติ! โส โอทาตปริเยสนํ จเรยฺย. ตเมนํ อฺตโร ปุริโส เตลมลิกเตน สาหุฬิจีเรน [เตลมสิกเตน สาหุฬจีวเรน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วฺเจยฺย – ‘อิทํ เต, อมฺโภ ปุริส, โอทาตํ วตฺถํ อภิรูปํ นิมฺมลํ สุจี’ติ. โส ตํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, ปฏิคฺคเหตฺวา ปารุเปยฺย, ปารุเปตฺวา อตฺตมโน อตฺตมนวาจํ นิจฺฉาเรยฺย – ‘เฉกํ วต, โภ, โอทาตํ วตฺถํ อภิรูปํ นิมฺมลํ สุจี’ติ!

‘‘ตํ กึ มฺสิ, มาคณฺฑิย, อปิ นุ โส ชจฺจนฺโธ ปุริโส ชานนฺโต ปสฺสนฺโต อมุํ เตลมลิกตํ สาหุฬิจีรํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, ปฏิคฺคเหตฺวา ปารุเปยฺย, ปารุเปตฺวา อตฺตมโน อตฺตมนวาจํ นิจฺฉาเรยฺย – ‘เฉกํ วต, โภ, โอทาตํ วตฺถํ อภิรูปํ นิมฺมลํ สุจี’ติ อุทาหุ จกฺขุมโต สทฺธายา’’ติ? ‘‘อชานนฺโต หิ, โภ โคตม, อปสฺสนฺโต โส ชจฺจนฺโธ ปุริโส อมุํ เตลมลิกตํ สาหุฬิจีรํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, ปฏิคฺคเหตฺวา ปารุเปยฺย, ปารุเปตฺวา อตฺตมโน อตฺตมนวาจํ นิจฺฉาเรยฺย – ‘เฉกํ วต, โภ, โอทาตํ วตฺถํ อภิรูปํ นิมฺมลํ สุจี’ติ, จกฺขุมโต สทฺธายา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มาคณฺฑิย, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อนฺธา อจกฺขุกา อชานนฺตา อาโรคฺยํ, อปสฺสนฺตา นิพฺพานํ , อถ จ ปนิมํ คาถํ ภาสนฺติ – ‘อาโรคฺยปรมา ลาภา, นิพฺพานํ ปรมํ สุข’นฺติ. ปุพฺพเกเหสา, มาคณฺฑิย, อรหนฺเตหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ คาถา ภาสิตา –

‘อาโรคฺยปรมา ลาภา, นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ;

อฏฺงฺคิโก จ มคฺคานํ, เขมํ อมตคามิน’นฺติ.

๒๑๘. ‘‘สา เอตรหิ อนุปุพฺเพน ปุถุชฺชนคาถา [ปุถุชฺชนคตา (สี. ปี.)]. อยํ โข ปน, มาคณฺฑิย, กาโย โรคภูโต คณฺฑภูโต สลฺลภูโต อฆภูโต อาพาธภูโต, โส ตฺวํ อิมํ กายํ โรคภูตํ คณฺฑภูตํ สลฺลภูตํ อฆภูตํ อาพาธภูตํ – ‘อิทนฺตํ, โภ โคตม, อาโรคฺยํ, อิทนฺตํ นิพฺพาน’นฺติ วเทสิ. ตฺหิ เต, มาคณฺฑิย, อริยํ จกฺขุํ นตฺถิ เยน ตฺวํ อริเยน จกฺขุนา อาโรคฺยํ ชาเนยฺยาสิ, นิพฺพานํ ปสฺเสยฺยาสี’’ติ. ‘‘เอวํ ปสนฺโน อหํ โภโต โคตมสฺส! ปโหติ เม ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ ยถาหํ อาโรคฺยํ ชาเนยฺยํ, นิพฺพานํ ปสฺเสยฺย’’นฺติ.

๒๑๙. ‘‘เสยฺยถาปิ , มาคณฺฑิย, ชจฺจนฺโธ ปุริโส; โส น ปสฺเสยฺย กณฺหสุกฺกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย นีลกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย ปีตกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย โลหิตกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย มฺชิฏฺกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย สมวิสมํ, น ปสฺเสยฺย ตารกรูปานิ, น ปสฺเสยฺย จนฺทิมสูริเย. ตสฺส มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปฏฺาเปยฺยุํ. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต เภสชฺชํ กเรยฺย. โส ตํ เภสชฺชํ อาคมฺม น จกฺขูนิ อุปฺปาเทยฺย, น จกฺขูนิ วิโสเธยฺย. ตํ กึ มฺสิ, มาคณฺฑิย, นนุ โส เวชฺโช ยาวเทว กิลมถสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสา’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ โคตม’’. ‘‘เอวเมว โข, มาคณฺฑิย, อหฺเจ เต ธมฺมํ เทเสยฺยํ – ‘อิทนฺตํ อาโรคฺยํ, อิทนฺตํ นิพฺพาน’นฺติ, โส ตฺวํ อาโรคฺยํ น ชาเนยฺยาสิ, นิพฺพานํ น ปสฺเสยฺยาสิ. โส มมสฺส กิลมโถ, สา มมสฺส วิเหสา’’ติ. ‘‘เอวํ ปสนฺโน อหํ โภโต โคตมสฺส. ปโหติ เม ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ ยถาหํ อาโรคฺยํ ชาเนยฺยํ, นิพฺพานํ ปสฺเสยฺย’’นฺติ.

๒๒๐. ‘‘เสยฺยถาปิ, มาคณฺฑิย, ชจฺจนฺโธ ปุริโส; โส น ปสฺเสยฺย กณฺหสุกฺกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย นีลกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย ปีตกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย โลหิตกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย มฺชิฏฺกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย สมวิสมํ, น ปสฺเสยฺย ตารกรูปานิ, น ปสฺเสยฺย จนฺทิมสูริเย. โส สุเณยฺย จกฺขุมโต ภาสมานสฺส – ‘เฉกํ วต, โภ, โอทาตํ วตฺถํ อภิรูปํ นิมฺมลํ สุจี’ติ! โส โอทาตปริเยสนํ จเรยฺย. ตเมนํ อฺตโร ปุริโส เตลมลิกเตน สาหุฬิจีเรน วฺเจยฺย – ‘อิทํ เต, อมฺโภ ปุริส, โอทาตํ วตฺถํ อภิรูปํ นิมฺมลํ สุจี’ติ. โส ตํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, ปฏิคฺคเหตฺวา ปารุเปยฺย. ตสฺส มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปฏฺาเปยฺยุํ. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต เภสชฺชํ กเรยฺย – อุทฺธํวิเรจนํ อโธวิเรจนํ อฺชนํ ปจฺจฺชนํ นตฺถุกมฺมํ. โส ตํ เภสชฺชํ อาคมฺม จกฺขูนิ อุปฺปาเทยฺย, จกฺขูนิ วิโสเธยฺย. ตสฺส สห จกฺขุปฺปาทา โย อมุสฺมึ เตลมลิกเต สาหุฬิจีเร ฉนฺทราโค โส ปหีเยถ. ตฺจ นํ ปุริสํ อมิตฺตโตปิ ทเหยฺย, ปจฺจตฺถิกโตปิ ทเหยฺย, อปิ จ ชีวิตา โวโรเปตพฺพํ มฺเยฺย – ‘ทีฆรตฺตํ วต, โภ, อหํ อิมินา ปุริเสน เตลมลิกเตน สาหุฬิจีเรน นิกโต วฺจิโต ปลุทฺโธ – อิทํ เต, อมฺโภ ปุริส, โอทาตํ วตฺถํ อภิรูปํ นิมฺมลํ สุจี’ติ. เอวเมว โข, มาคณฺฑิย, อหฺเจ เต ธมฺมํ เทเสยฺยํ – ‘อิทนฺตํ อาโรคฺยํ, อิทนฺตํ นิพฺพาน’นฺติ. โส ตฺวํ อาโรคฺยํ ชาเนยฺยาสิ, นิพฺพานํ ปสฺเสยฺยาสิ. ตสฺส เต สห จกฺขุปฺปาทา โย ปฺจสุปาทานกฺขนฺเธสุ ฉนฺทราโค โส ปหีเยถ; อปิ จ เต เอวมสฺส – ‘ทีฆรตฺตํ วต, โภ, อหํ อิมินา จิตฺเตน นิกโต วฺจิโต ปลุทฺโธ [ปลทฺโธ (สี. ปี.)]. อหฺหิ รูปํเยว อุปาทิยมาโน อุปาทิยึ, เวทนํเยว อุปาทิยมาโน อุปาทิยึ, สฺํเยว อุปาทิยมาโน อุปาทิยึ, สงฺขาเรเยว อุปาทิยมาโน อุปาทิยึ, วิฺาณํเยว อุปาทิยมาโน อุปาทิยึ. ตสฺส เม อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ; เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’’’ติ. ‘‘เอวํ ปสนฺโน อหํ โภโต โคตมสฺส! ปโหติ เม ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ ยถาหํ อิมมฺหา อาสนา อนนฺโธ วุฏฺเหยฺย’’นฺติ.

๒๒๑. ‘‘เตน หิ ตฺวํ, มาคณฺฑิย, สปฺปุริเส ภเชยฺยาสิ. ยโต โข ตฺวํ, มาคณฺฑิย, สปฺปุริเส ภชิสฺสสิ ตโต ตฺวํ, มาคณฺฑิย, สทฺธมฺมํ โสสฺสสิ; ยโต โข ตฺวํ, มาคณฺฑิย, สทฺธมฺมํ โสสฺสสิ ตโต ตฺวํ, มาคณฺฑิย, ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺชิสฺสสิ; ยโต โข ตฺวํ, มาคณฺฑิย, ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺชิสฺสสิ ตโต ตฺวํ, มาคณฺฑิย, สามํเยว สฺสสิ, สามํ ทกฺขิสฺสสิ – อิเม โรคา คณฺฑา สลฺลา; อิธ โรคา คณฺฑา สลฺลา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ. ตสฺส เม อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ, ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ, ชาตินิโรธา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติ; เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี’’ติ.

๒๒๒. เอวํ วุตฺเต, มาคณฺฑิโย ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ . ลเภยฺยาหํ โภโต โคตมสฺส สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘โย โข, มาคณฺฑิย, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขติ ปพฺพชฺชํ, อากงฺขติ อุปสมฺปทํ, โส จตฺตาโร มาเส ปริวสติ; จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ , อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวาย. อปิ จ เมตฺถ ปุคฺคลเวมตฺตตา วิทิตา’’ติ. ‘‘สเจ, ภนฺเต, อฺติตฺถิยปุพฺพา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขนฺตา ปพฺพชฺชํ, อากงฺขนฺตา อุปสมฺปทํ จตฺตาโร มาเส ปริวสนฺติ, จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวาย; อหํ จตฺตาริ วสฺสานิ ปริวสิสฺสามิ, จตุนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺตุ, อุปสมฺปาเทนฺตุ ภิกฺขุภาวายา’’ติ . อลตฺถ โข มาคณฺฑิโย ปริพฺพาชโก ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํ. อจิรูปสมฺปนฺโน โข ปนายสฺมา มาคณฺฑิโย เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ อพฺภฺาสิ. อฺตโร โข ปนายสฺมา มาคณฺฑิโย อรหตํ อโหสีติ.

มาคณฺฑิยสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปฺจมํ.

๖. สนฺทกสุตฺตํ

๒๒๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม. เตน โข ปน สมเยน สนฺทโก ปริพฺพาชโก ปิลกฺขคุหายํ ปฏิวสติ มหติยา ปริพฺพาชกปริสาย สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ปริพฺพาชกสเตหิ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อายามาวุโส, เยน เทวกตโสพฺโภ เตนุปสงฺกมิสฺสาม คุหาทสฺสนายา’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ เยน เทวกตโสพฺโภ เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปน สมเยน สนฺทโก ปริพฺพาชโก มหติยา ปริพฺพาชกปริสาย สทฺธึ นิสินฺโน โหติ อุนฺนาทินิยา อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทาย อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺติยา, เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ มหามตฺตกถํ เสนากถํ ภยกถํ ยุทฺธกถํ อนฺนกถํ ปานกถํ วตฺถกถํ สยนกถํ มาลากถํ คนฺธกถํ าติกถํ ยานกถํ คามกถํ นิคมกถํ นครกถํ ชนปทกถํ อิตฺถิกถํ สูรกถํ วิสิขากถํ กุมฺภฏฺานกถํ ปุพฺพเปตกถํ นานตฺตกถํ โลกกฺขายิกํ สมุทฺทกฺขายิกํ อิติภวาภวกถํ อิติ วา. อทฺทสา โข สนฺทโก ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน สกํ ปริสํ สณฺาเปสิ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต โหนฺตุ, มา โภนฺโต สทฺทมกตฺถ; อยํ สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก อาคจฺฉติ สมโณ อานนฺโท. ยาวตา โข ปน สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา โกสมฺพิยํ ปฏิวสนฺติ, อยํ เตสํ อฺตโร สมโณ อานนฺโท. อปฺปสทฺทกามา โข ปน เต อายสฺมนฺโต อปฺปสทฺทวินีตา อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาทิโน; อปฺเปว นาม อปฺปสทฺทํ ปริสํ วิทิตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺเยฺยา’’ติ. อถ โข เต ปริพฺพาชกา ตุณฺหี อเหสุํ.

๒๒๔. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน สนฺทโก ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมิ. อถ โข สนฺทโก ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘เอตุ โข ภวํ อานนฺโท, สฺวาคตํ โภโต อานนฺทสฺส. จิรสฺสํ โข ภวํ อานนฺโท อิมํ ปริยายมกาสิ ยทิทํ อิธาคมนาย. นิสีทตุ ภวํ อานนฺโท, อิทมาสนํ ปฺตฺต’’นฺติ. นิสีทิ โข อายสฺมา อานนฺโท ปฺตฺเต อาสเน. สนฺทโกปิ โข ปริพฺพาชโก อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข สนฺทกํ ปริพฺพาชกํ อายสฺมา อานนฺโท เอตทโวจ – ‘‘กายนุตฺถ, สนฺทก, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ? ‘‘ติฏฺเตสา, โภ อานนฺท, กถา ยาย มยํ เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา. เนสา โภโต อานนฺทสฺส กถา ทุลฺลภา ภวิสฺสติ ปจฺฉาปิ สวนาย. สาธุ วต ภวนฺตํเยว อานนฺทํ ปฏิภาตุ สเก อาจริยเก ธมฺมีกถา’’ติ. ‘‘เตน หิ, สนฺทก, สุณาหิ , สาธุกํ มนสิ กโรหิ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ โภ’’ติ โข สนฺทโก ปริพฺพาชโก อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อายสฺมา อานนฺโท เอตทโวจ – ‘‘จตฺตาโรเม , สนฺทก, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน อพฺรหฺมจริยวาสา อกฺขาตา จตฺตาริ จ อนสฺสาสิกานิ พฺรหฺมจริยานิ อกฺขาตานิ, ยตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ น วเสยฺย, วสนฺโต จ [วสนฺโต วา (สี. ปี.) เอวมุปริปิ อนาราธนปกฺเข] นาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสล’’นฺติ. ‘‘กตเม ปน เต, โภ อานนฺท, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาโร อพฺรหฺมจริยวาสา อกฺขาตา, ยตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ น วเสยฺย, วสนฺโต จ นาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสล’’นฺติ?

๒๒๕. ‘‘อิธ, สนฺทก, เอกจฺโจ สตฺถา เอวํวาที โหติ เอวํทิฏฺิ – ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโรโลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺติ. จาตุมหาภูติโก อยํ ปุริโส ยทา กาลงฺกโรติ, ปถวี ปถวีกายํ อนุเปติ อนุปคจฺฉติ, อาโป อาโปกายํ อนุเปติ อนุปคจฺฉติ, เตโช เตโชกายํ อนุเปติ อนุปคจฺฉติ, วาโย วาโยกายํ อนุเปติ อนุปคจฺฉติ , อากาสํ อินฺทฺริยานิ สงฺกมนฺติ. อาสนฺทิปฺจมา ปุริสา มตํ อาทาย คจฺฉนฺติ, ยาวาฬาหนา ปทานิ ปฺายนฺติ. กาโปตกานิ อฏฺีนิ ภวนฺติ. ภสฺสนฺตา อาหุติโย; ทตฺตุปฺตฺตํ ยทิทํ ทานํ. เตสํ ตุจฺฉา มุสา วิลาโป เย เกจิ อตฺถิกวาทํ วทนฺติ. พาเล จ ปณฺฑิเต จ กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชนฺติ วินสฺสนฺติ น โหนฺติ ปรํ มรณา’ติ.

‘‘ตตฺร , สนฺทก, วิฺู ปุริโส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อยํ โข ภวํ สตฺถา เอวํวาที เอวํทิฏฺิ – นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโรโลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺติ. จาตุมหาภูติโก อยํ ปุริโส ยทา กาลงฺกโรติ, ปถวี ปถวีกายํ อนุเปติ อนุปคจฺฉติ, อาโป อาโปกายํ อนุเปติ อนุปคจฺฉติ, เตโช เตโชกายํ อนุเปติ อนุปคจฺฉติ, วาโย วาโยกายํ อนุเปติ อนุปคจฺฉติ, อากาสํ อินฺทฺริยานิ สงฺกมนฺติ. อาสนฺทิปฺจมา ปุริสา มตํ อาทาย คจฺฉนฺติ, ยาวาฬาหนา ปทานิ ปฺายนฺติ. กาโปตกานิ อฏฺีนิ ภวนฺติ. ภสฺสนฺตา อาหุติโย; ทตฺตุปฺตฺตํ ยทิทํ ทานํ. เตสํ ตุจฺฉา มุสา วิลาโป เย เกจิ อตฺถิกวาทํ วทนฺติ. พาเล จ ปณฺฑิเต จ กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชนฺติ วินสฺสนฺติ น โหนฺติ ปรํ มรณา’ติ. สเจ อิมสฺส โภโต สตฺถุโน สจฺจํ วจนํ, อกเตน เม เอตฺถ กตํ, อวุสิเตน เม เอตฺถ วุสิตํ. อุโภปิ มยํ เอตฺถ สมสมา สามฺํ ปตฺตา, โย จาหํ น วทามิ ‘อุโภ กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชิสฺสาม, วินสฺสิสฺสาม, น ภวิสฺสาม ปรํ มรณา’ติ. อติเรกํ โข ปนิมสฺส โภโต สตฺถุโน นคฺคิยํ มุณฺฑิยํ อุกฺกุฏิกปฺปธานํ เกสมสฺสุโลจนํ โยหํ ปุตฺตสมฺพาธสยนํ [ปุตฺตสมฺพาธวสนํ (สี.)] อชฺฌาวสนฺโต กาสิกจนฺทนํ ปจฺจนุโภนฺโต มาลาคนฺธวิเลปนํ ธาเรนฺโต ชาตรูปรชตํ สาทิยนฺโต อิมินา โภตา สตฺถารา สมสมคติโก ภวิสฺสามิ. อภิสมฺปรายํ โสหํ กึ ชานนฺโต กึ ปสฺสนฺโต อิมสฺมึ สตฺถริ พฺรหฺมจริยํ จริสฺสามิ? ‘โส อพฺรหฺมจริยวาโส อย’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺมา พฺรหฺมจริยา นิพฺพิชฺช ปกฺกมติ [นิพฺพิชฺชาปกฺกมติ (สี.)]. อยํ โข, สนฺทก, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปโม อพฺรหฺมจริยวาโส อกฺขาโต ยตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ น วเสยฺย, วสนฺโต จ นาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสลํ.

๒๒๖. ‘‘ปุน จปรํ, สนฺทก, อิเธกจฺโจ สตฺถา เอวํวาที โหติ เอวํทิฏฺิ – ‘กโรโต การยโต ฉินฺทโต เฉทาปยโต ปจโต ปาจาปยโต โสจยโต โสจาปยโต กิลมโต กิลมาปยโต ผนฺทโต ผนฺทาปยโต ปาณมติปาตยโต อทินฺนํ อาทิยโต สนฺธึ ฉินฺทโต นิลฺโลปํ หรโต เอกาคาริกํ กโรโต ปริปนฺเถ ติฏฺโต ปรทารํ คจฺฉโต มุสา ภณโต กโรโต น กรียติ ปาปํ. ขุรปริยนฺเตน เจปิ จกฺเกน โย อิมิสฺสา ปถวิยา ปาเณ เอกํ มํสขลํ เอกํ มํสปุฺชํ กเรยฺย, นตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, นตฺถิ ปาปสฺส อาคโม. ทกฺขิณฺเจปิ คงฺคาย ตีรํ คจฺเฉยฺย หนนฺโต ฆาเตนฺโต ฉินฺทนฺโต เฉทาเปนฺโต ปจนฺโต ปจาเปนฺโต, นตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, นตฺถิ ปาปสฺส อาคโม. อุตฺตรฺเจปิ คงฺคาย ตีรํ คจฺเฉยฺย ททนฺโต ทาเปนฺโต ยชนฺโต ยชาเปนฺโต, นตฺถิ ตโตนิทานํ ปุฺํ, นตฺถิ ปุฺสฺส อาคโม. ทาเนน ทเมน สํยเมน สจฺจวชฺเชน นตฺถิ ปุฺํ, นตฺถิ ปุฺสฺส อาคโม’ติ.

‘‘ตตฺร, สนฺทก, วิฺู ปุริโส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อยํ โข ภวํ สตฺถา เอวํวาที เอวํทิฏฺิ – กโรโต การยโต ฉินฺทโต เฉทาปยโต ปจโต ปาจาปยโต โสจโต โสจาปยโต กิลมโต กิลมาปยโต ผนฺทโต ผนฺทาปยโต ปาณมติปาตยโต อทินฺนํ อาทิยโต สนฺธึ ฉินฺทโต นิลฺโลปํ หรโต เอกาคาริกํ กโรโต ปริปนฺเถ ติฏฺโต ปรทารํ คจฺฉโต มุสา ภณโต กโรโต น กรียติ ปาปํ ขุรปริยนฺเตน เจปิ จกฺเกน โย อิมิสฺสา ปถวิยา ปาเณ เอกํ มํสขลํ เอกํ มํสปุฺชํ กเรยฺย, นตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, นตฺถิ ปาปสฺส อาคโม. ทกฺขิณฺเจปิ คงฺคาย ตีรํ คจฺเฉยฺย หนนฺโต ฆาเตนฺโต ฉินฺทนฺโต เฉทาเปนฺโต ปจนฺโต ปจาเปนฺโต, นตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, นตฺถิ ปาปสฺส อาคโม. อุตฺตรฺเจปิ คงฺคาย ตีรํ คจฺเฉยฺย ททนฺโต ทาเปนฺโต ยชนฺโต ยชาเปนฺโต, นตฺถิ ตโตนิทานํ ปุฺํ, นตฺถิ ปุฺสฺส อาคโม. ทาเนน ทเมน สํยเมน สจฺจวชฺเชน นตฺถิ ปุฺํ, นตฺถิ ปุฺสฺส อาคโม’ติ. สเจ อิมสฺส โภโต สตฺถุโน สจฺจํ วจนํ, อกเตน เม เอตฺถ กตํ, อวุสิเตน เม เอตฺถ วุสิตํ. อุโภปิ มยํ เอตฺถ สมสมา สามฺํ ปตฺตา, โย จาหํ น วทามิ ‘อุภินฺนํ กุรุตํ น กรียติ ปาป’นฺติ. อติเรกํ โข ปนิมสฺส โภโต สตฺถุโน นคฺคิยํ มุณฺฑิยํ อุกฺกุฏิกปฺปธานํ เกสมสฺสุโลจนํ โยหํ ปุตฺตสมฺพาธสยนํ อชฺฌาวสนฺโต กาสิกจนฺทนํ ปจฺจนุโภนฺโต มาลาคนฺธวิเลปนํ ธาเรนฺโต ชาตรูปรชตํ สาทิยนฺโต อิมินา โภตา สตฺถารา สมสมคติโก ภวิสฺสามิ. อภิสมฺปรายํ โสหํ กึ ชานนฺโต กึ ปสฺสนฺโต อิมสฺมึ สตฺถริ พฺรหฺมจริยํ จริสฺสามิ? ‘โส อพฺรหฺมจริยวาโส อย’นฺติ อิติ วิทิตฺวา ตสฺมา พฺรหฺมจริยา นิพฺพิชฺช ปกฺกมติ. อยํ โข, สนฺทก, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ทุติโย อพฺรหฺมจริยวาโส อกฺขาโต ยตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ น วเสยฺย, วสนฺโต จ นาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสลํ.

๒๒๗. ‘‘ปุน จปรํ, สนฺทก, อิเธกจฺโจ สตฺถา เอวํวาที โหติ เอวํทิฏฺิ – ‘นตฺถิ เหตุ, นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสาย; อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา สํกิลิสฺสนฺติ; นตฺถิ เหตุ, นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ วิสุทฺธิยา; อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ; นตฺถิ พลํ, นตฺถิ วีริยํ, นตฺถิ ปุริสถาโม , นตฺถิ ปุริสปรกฺกโม; สพฺเพ สตฺตา สพฺเพ ปาณา สพฺเพ ภูตา สพฺเพ ชีวา อวสา อพลา อวีริยา นิยติสงฺคติภาวปริณตา ฉสฺเววาภิชาตีสุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺตี’ติ.

‘‘ตตฺร, สนฺทก, วิฺู ปุริโส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อยํ โข ภวํ สตฺถา เอวํวาที เอวํทิฏฺิ – นตฺถิ เหตุ, นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสาย, อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา สํกิลิสฺสนฺติ. นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ วิสุทฺธิยา, อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ. นตฺถิ พลํ, นตฺถิ วีริยํ, นตฺถิ ปุริสถาโม, นตฺถิ ปุริสปรกฺกโม, สพฺเพ สตฺตา สพฺเพ ปาณา สพฺเพ ภูตา สพฺเพ ชีวา อวสา อพลา อวีริยา นิยติสงฺคติภาวปริณตา ฉสฺเววาภิชาตีสุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺตี’ติ. สเจ อิมสฺส โภโต สตฺถุโน สจฺจํ วจนํ, อกเตน เม เอตฺถ กตํ, อวุสิเตน เม เอตฺถ วุสิตํ. อุโภปิ มยํ เอตฺถ สมสมา สามฺํ ปตฺตา, โย จาหํ น วทามิ ‘อุโภ อเหตู อปฺปจฺจยา วิสุชฺฌิสฺสามา’ติ. อติเรกํ โข ปนิมสฺส โภโต สตฺถุโน นคฺคิยํ มุณฺฑิยํ อุกฺกุฏิกปฺปธานํ เกสมสฺสุโลจนํ โยหํ ปุตฺตสมฺพาธสยนํ อชฺฌาวสนฺโต กาสิกจนฺทนํ ปจฺจนุโภนฺโต มาลาคนฺธวิเลปนํ ธาเรนฺโต ชาตรูปรชตํ สาทิยนฺโต อิมินา โภตา สตฺถารา สมสมคติโก ภวิสฺสามิ. อภิสมฺปรายํ โสหํ กึ ชานนฺโต กึ ปสฺสนฺโต อิมสฺมึ สตฺถริ พฺรหฺมจริยํ จริสฺสามิ? ‘โส อพฺรหฺมจริยวาโส อย’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺมา พฺรหฺมจริยา นิพฺพิชฺช ปกฺกมติ. อยํ โข, สนฺทก, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ตติโย อพฺรหฺมจริยวาโส อกฺขาโต ยตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ น วเสยฺย, วสนฺโต จ นาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสลํ.

๒๒๘. ‘‘ปุน จปรํ, สนฺทก, อิเธกจฺโจ สตฺถา เอวํวาที โหติ เอวํทิฏฺิ – ‘สตฺติเม กายา อกฏา อกฏวิธา อนิมฺมิตา อนิมฺมาตา วฺฌา กูฏฏฺา เอสิกฏฺายิฏฺิตา, เต น อิฺชนฺติ น วิปริณมนฺติ น อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺติ นาลํ อฺมฺสฺส สุขาย วา ทุกฺขาย วา สุขทุกฺขาย วา. กตเม สตฺต? ปถวีกาโย อาโปกาโย เตโชกาโย วาโยกาโย สุเข ทุกฺเข ชีเว สตฺตเม – อิเม สตฺตกายา อกฏา อกฏวิธา อนิมฺมิตา อนิมฺมาตา วฺฌา กูฏฏฺา เอสิกฏฺายิฏฺิตา. เต น อิฺชนฺติ น วิปริณมนฺติ น อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺติ. นาลํ อฺมฺสฺส สุขาย วา ทุกฺขาย วา สุขทุกฺขาย วา. ตตฺถ นตฺถิ หนฺตา วา ฆาเตตา วา โสตา วา สาเวตา วา วิฺาตา วา วิฺาเปตา วา. โยปิ ติณฺเหน สตฺเถน สีสํ ฉินฺทติ, น โกจิ กฺจิ [กิฺจิ (ก.)] ชีวิตา โวโรเปติ. สตฺตนฺนํตฺเวว กายานมนฺตเรน สตฺถํ วิวรมนุปตติ. จุทฺทส โข ปนิมานิ โยนิปมุขสตสหสฺสานิ สฏฺิ จ สตานิ ฉ จ สตานิ ปฺจ จ กมฺมุโน สตานิ ปฺจ จ กมฺมานิ ตีณิ จ กมฺมานิ, กมฺเม จ อฑฺฒกมฺเม จ, ทฺวฏฺิปฏิปทา, ทฺวฏฺนฺตรกปฺปา, ฉฬาภิชาติโย, อฏฺ ปุริสภูมิโย, เอกูนปฺาส อาชีวกสเต, เอกูนปฺาส ปริพฺพาชกสเต, เอกูนปฺาส นาคาวาสสเต, วีเส อินฺทฺริยสเต, ตึเส นิรยสเต, ฉตฺตึส รโชธาตุโย, สตฺต สฺีคพฺภา, สตฺต อสฺีคพฺภา, สตฺต นิคณฺิคพฺภา, สตฺต เทวา, สตฺต มานุสา, สตฺต เปสาจา, สตฺต สรา, สตฺต ปวุฏา, สตฺต ปปาตา, สตฺต ปปาตสตานิ, สตฺต สุปินา, สตฺต สุปินสตานิ, จุลฺลาสีติ [จูฬาสีติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] มหากปฺปิโน [มหากปฺปุโน (สี. ปี.)] สตสหสฺสานิ, ยานิ พาเล จ ปณฺฑิเต จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ. ตตฺถ นตฺถิ อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา อปริปกฺกํ วา กมฺมํ ปริปาเจสฺสามิ, ปริปกฺกํ วา กมฺมํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตึ กริสฺสามีติ. เหวํ นตฺถิ โทณมิเต สุขทุกฺเข ปริยนฺตกเต สํสาเร, นตฺถิ หายนวฑฺฒเน, นตฺถิ อุกฺกํสาวกํเส. เสยฺยถาปิ นาม สุตฺตคุเฬ ขิตฺเต นิพฺเพิยมานเมว ปเลติ, เอวเมว พาเล จ ปณฺฑิเต จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺตี’ติ.

‘‘ตตฺร, สนฺทก, วิฺู ปุริโส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อยํ โข ภวํ สตฺถา เอวํวาที เอวํทิฏฺิ – สตฺติเม กายา อกฏา อกฏวิธา อนิมฺมิตา อนิมฺมาตา วฺฌา กูฏฏฺา เอสิกฏฺายิฏฺิตา. เต น อิฺชนฺติ น วิปริณมนฺติ น อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺติ. นาลํ อฺมฺสฺส สุขาย วา ทุกฺขาย วา สุขทุกฺขาย วา. กตเม สตฺต ? ปถวีกาโย อาโปกาโย เตโชกาโย วาโยกาโย สุเข ทุกฺเข ชีเว สตฺตเม – อิเม สตฺต กายา อกฏา อกฏวิธา อนิมฺมิตา อนิมฺมาตา วฺฌา กูฏฏฺา เอสิกฏฺายิฏฺิตา. เต น อิฺชนฺติ น วิปริณมนฺติ น อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺติ. นาลํ อฺมฺสฺส สุขาย วา ทุกฺขาย วา สุขทุกฺขาย วา. ตตฺถ นตฺถิ หนฺตา วา ฆาเตตา วา โสตา วา สาเวตา วา วิฺาตา วา วิฺาเปตา วา. โยปิ ติณฺเหน สตฺเถน สีสํ ฉินฺทติ, น โกจิ กฺจิ ชีวิตา โวโรเปติ . สตฺตนฺนํตฺเวว กายานมนฺตเรน สตฺถํ วิวรมนุปตติ. จุทฺทส โข ปนิมานิ โยนิปมุขสตสหสฺสานิ สฏฺิ จ สตานิ ฉ จ สตานิ ปฺจ จ กมฺมุโน สตานิ ปฺจ จ กมฺมานิ ตีณิ จ กมฺมานิ, กมฺเม จ อฑฺฒกมฺเม จ, ทฺวฏฺิปฏิปทา, ทฺวฏฺนฺตรกปฺปา, ฉฬาภิชาติโย, อฏฺ ปุริสภูมิโย, เอกูนปฺาส อาชีวกสเต, เอกูนปฺาส ปริพฺพาชกสเต, เอกูนปฺาส นาคาวาสสเต, วีเส อินฺทฺริยสเต, ตึเส นิรยสเต, ฉตฺตึส รโชธาตุโย, สตฺต สฺีคพฺภา, สตฺต อสฺีคพฺภา, สตฺต นิคณฺิคพฺภา, สตฺต เทวา, สตฺต มานุสา, สตฺต เปสาจา, สตฺต สรา, สตฺต ปวุฏา, สตฺต ปปาตา, สตฺต ปปาตสตานิ, สตฺต สุปินา, สตฺต สุปินสตานิ, จุลฺลาสีติ มหากปฺปิโน สตสหสฺสานิ, ยานิ พาเล จ ปณฺฑิเต จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ. ตตฺถ นตฺถิ อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา อปริปกฺกํ วา กมฺมํ ปริปาเจสฺสามิ, ปริปกฺกํ วา กมฺมํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตึ กริสฺสามีติ, เหวํ นตฺถิ โทณมิเต สุขทุกฺเข ปริยนฺตกเต สํสาเร, นตฺถิ หายนวฑฺฒเน, นตฺถิ อุกฺกํสาวกํเส. เสยฺยถาปิ นาม สุตฺตคุเฬ ขิตฺเต นิพฺเพิยมานเมว ปเลติ, เอวเมว พาเล จ ปณฺฑิเต จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺตี’ติ. สเจ ปน อิมสฺส โภโต สตฺถุโน สจฺจํ วจนํ, อกเตน เม เอตฺถ กตํ, อวุสิเตน เม เอตฺถ วุสิตํ. อุโภปิ มยํ เอตฺถ สมสมา สามฺํ ปตฺตา, โย จาหํ น วทามิ. ‘อุโภ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสามา’ติ. อติเรกํ โข ปนิมสฺส โภโต สตฺถุโน นคฺคิยํ มุณฺฑิยํ อุกฺกุฏิกปฺปธานํ เกสมสฺสุโลจนํ โยหํ ปุตฺตสมฺพาธสยนํ อชฺฌาวสนฺโต กาสิกจนฺทนํ ปจฺจนุโภนฺโต มาลาคนฺธวิเลปนํ ธาเรนฺโต ชาตรูปรชตํ สาทิยนฺโต อิมินา โภตา สตฺถารา สมสมคติโก ภวิสฺสามิ. อภิสมฺปรายํ โสหํ กึ ชานนฺโต กึ ปสฺสนฺโต อิมสฺมึ สตฺถริ พฺรหฺมจริยํ จริสฺสามิ? ‘โส อพฺรหฺมจริยวาโส อย’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺมา พฺรหฺมจริยา นิพฺพิชฺช ปกฺกมติ. อยํ โข, สนฺทก, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตุตฺโถ อพฺรหฺมจริยวาโส อกฺขาโต ยตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ น วเสยฺย, วสนฺโต จ นาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสลํ.

‘‘อิเม โข เต, สนฺทก, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาโร อพฺรหฺมจริยวาสา อกฺขาตา ยตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ น วเสยฺย, วสนฺโต จ นาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสล’’นฺติ.

‘‘อจฺฉริยํ , โภ อานนฺท, อพฺภุตํ, โภ อานนฺท! ยาวฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาโร อพฺรหฺมจริยวาสาว สมานา ‘อพฺรหฺมจริยวาสา’ติ อกฺขาตา ยตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ น วเสยฺย, วสนฺโต จ นาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสลนฺติ. กตมานิ ปน ตานิ, โภ อานนฺท, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาริ อนสฺสาสิกานิ พฺรหฺมจริยานิ อกฺขาตานิ ยตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ น วเสยฺย, วสนฺโต จ นาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสล’’นฺติ?

๒๒๙. ‘‘อิธ, สนฺทก, เอกจฺโจ สตฺถา สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี อปริเสสํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาติ – ‘จรโต จ เม ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิต’นฺติ. โส สุฺมฺปิ อคารํ ปวิสติ, ปิณฺฑมฺปิ น ลภติ, กุกฺกุโรปิ ฑํสติ, จณฺเฑนปิ หตฺถินา สมาคจฺฉติ, จณฺเฑนปิ อสฺเสน สมาคจฺฉติ, จณฺเฑนปิ โคเณน สมาคจฺฉติ, อิตฺถิยาปิ ปุริสสฺสปิ นามมฺปิ โคตฺตมฺปิ ปุจฺฉติ, คามสฺสปิ นิคมสฺสปิ นามมฺปิ มคฺคมฺปิ ปุจฺฉติ. โส ‘กิมิท’นฺติ ปุฏฺโ สมาโน ‘สุฺํ เม อคารํ ปวิสิตพฺพํ อโหสิ’, เตน ปาวิสึ; ‘ปิณฺฑมฺปิ อลทฺธพฺพํ อโหสิ’, เตน นาลตฺถํ ; ‘กุกฺกุเรน ฑํสิตพฺพํ อโหสิ’, เตนมฺหิ [เตน (ก.), เตนาสึ (?)] ทฏฺโ; ‘จณฺเฑน หตฺถินา สมาคนฺตพฺพํ อโหสิ’, เตน สมาคมึ; ‘จณฺเฑน อสฺเสน สมาคนฺตพฺพํ อโหสิ’, เตน สมาคมึ; ‘จณฺเฑน โคเณน สมาคนฺตพฺพํ อโหสิ’, เตน สมาคมึ; ‘อิตฺถิยาปิ ปุริสสฺสปิ นามมฺปิ โคตฺตมฺปิ ปุจฺฉิตพฺพํ อโหสิ’, เตน ปุจฺฉึ; ‘คามสฺสปิ นิคมสฺสปิ นามมฺปิ มคฺคมฺปิ ปุจฺฉิตพฺพํ อโหสิ’, เตน ปุจฺฉินฺติ. ตตฺร, สนฺทก, วิฺู ปุริโส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อยํ โข ภวํ สตฺถา สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี อปริเสสํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาติ…เป… ‘คามสฺสปิ นิคมสฺสปิ นามมฺปิ มคฺคมฺปิ ปุจฺฉิตพฺพํ อโหสิ, เตน ปุจฺฉิ’นฺติ . โส ‘อนสฺสาสิกํ อิทํ พฺรหฺมจริย’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺมา พฺรหฺมจริยา นิพฺพิชฺช ปกฺกมติ. อิทํ โข, สนฺทก, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปมํ อนสฺสาสิกํ พฺรหฺมจริยํ อกฺขาตํ ยตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ น วเสยฺย, วสนฺโต จ นาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสลํ.

๒๓๐. ‘‘ปุน จปรํ, สนฺทก, อิเธกจฺโจ สตฺถา อนุสฺสวิโก โหติ อนุสฺสวสจฺโจ. โส อนุสฺสเวน อิติหิติหปรมฺปราย ปิฏกสมฺปทาย ธมฺมํ เทเสติ. อนุสฺสวิกสฺส โข ปน, สนฺทก , สตฺถุโน อนุสฺสวสจฺจสฺส สุสฺสุตมฺปิ โหติ ทุสฺสุตมฺปิ โหติ ตถาปิ โหติ อฺถาปิ โหติ. ตตฺร, สนฺทก, วิฺู ปุริโส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อยํ โข ภวํ สตฺถา อนุสฺสวิโก อนุสฺสวสจฺโจ โส อนุสฺสเวน อิติหิติหปรมฺปราย ปิฏกสมฺปทาย ธมฺมํ เทเสติ. อนุสฺสวิกสฺส โข ปน สตฺถุโน อนุสฺสวสจฺจสฺส สุสฺสุตมฺปิ โหติ ทุสฺสุตมฺปิ โหติ ตถาปิ โหติ อฺถาปิ โหติ’. โส ‘อนสฺสาสิกํ อิทํ พฺรหฺมจริย’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺมา พฺรหฺมจริยา นิพฺพิชฺช ปกฺกมติ. อิทํ โข, สนฺทก, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ทุติยํ อนสฺสาสิกํ พฺรหฺมจริยํ อกฺขาตํ ยตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ น วเสยฺย, วสนฺโต จ นาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสลํ.

๒๓๑. ‘‘ปุน จปรํ, สนฺทก, อิเธกจฺโจ สตฺถา ตกฺกี โหติ วีมํสี. โส ตกฺกปริยาหตํ วีมํสานุจริตํ สยํปฏิภานํ ธมฺมํ เทเสติ. ตกฺกิสฺส โข ปน, สนฺทก, สตฺถุโน วีมํสิสฺส สุตกฺกิตมฺปิ โหติ ทุตฺตกฺกิตมฺปิ โหติ ตถาปิ โหติ อฺถาปิ โหติ. ตตฺร, สนฺทก, วิฺู ปุริโส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อยํ โข ภวํ สตฺถา ตกฺกี วีมํสี. โส ตกฺกปริยาหตํ วีมํสานุจริตํ สยํปฏิภานํ ธมฺมํ เทเสติ. ตกฺกิสฺส โข ปน สตฺถุโน วีมํสิสฺส สุตกฺกิตมฺปิ โหติ ทุตฺตกฺกิตมฺปิ โหติ ตถาปิ โหติ อฺถาปิ โหติ’. โส ‘อนสฺสาสิกํ อิทํ พฺรหฺมจริย’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺมา พฺรหฺมจริยา นิพฺพิชฺช ปกฺกมติ. อิทํ โข, สนฺทก, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ตติยํ อนสฺสาสิกํ พฺรหฺมจริยํ อกฺขาตํ ยตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ น วเสยฺย, วสนฺโต จ นาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสลํ.

๒๓๒. ‘‘ปุน จปรํ, สนฺทก, อิเธกจฺโจ สตฺถา มนฺโท โหติ โมมูโห. โส มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา ตตฺถ ตตฺถ [ตถา ตถา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชติ อมราวิกฺเขปํ – ‘เอวนฺติปิ [เอวมฺปิ (สี. ปี.)] เม โน, ตถาติปิ [ตถาปิ (สี. ปี.)] เม โน, อฺถาติปิ [อฺถาปิ (สี. ปี.) ( ) สพฺพตฺถ นตฺถิ] เม โน, โนติปิ เม โน, โน โนติปิ เม โน’ติ. ตตฺร, สนฺทก, วิฺู ปุริโส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อยํ โข ภวํ สตฺถา มนฺโท โมมูโห. โส มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชติ อมราวิกฺเขปํ – เอวนฺติปิ เม โน, ตถาติปิ เม โน, อฺถาติปิ เม โน, โนติปิ เม โน, โน โนติปิ เม โน’ติ. โส ‘อนสฺสาสิกํ อิทํ พฺรหฺมจริย’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺมา พฺรหฺมจริยา นิพฺพิชฺช ปกฺกมติ. อิทํ โข, สนฺทก, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตุตฺถํ อนสฺสาสิกํ พฺรหฺมจริยํ อกฺขาตํ ยตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ น วเสยฺย, วสนฺโต จ นาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสลํ.

‘‘อิมานิ โข, (ตานิ สนฺทก, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาริ อนสฺสาสิกานิ พฺรหฺมจริยานิ อกฺขาตานิ ยตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ น วเสยฺย, วสนฺโต จ นาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสล’’นฺติ.

‘‘อจฺฉริยํ, โภ อานนฺท, อพฺภุตํ, โภ อานนฺท! ยาวฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาริ อนสฺสาสิกาเนว พฺรหฺมจริยานิ อนสฺสาสิกานิ พฺรหฺมจริยานีติ อกฺขาตานิ ยตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ น วเสยฺย, วสนฺโต จ นาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสลํ. โส ปน, โภ อานนฺท, สตฺถา กึ วาที กึ อกฺขายี ยตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ วเสยฺย, วสนฺโต จ อาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสล’’นฺติ.

๒๓๓. ‘‘อิธ, สนฺทก, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา…เป… [วิตฺถาโร ม. นิ. ๒.๙-๑๐ กนฺทรกสุตฺเต] โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ยสฺมึ โข [ยสฺมึ โข ปน (สฺยา. กํ. ก.)], สนฺทก, สตฺถริ สาวโก เอวรูปํ อุฬารวิเสสํ อธิคจฺฉติ ตตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ วเสยฺย, วสนฺโต จ อาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสลํ.

‘‘ปุน จปรํ, สนฺทก, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป... ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ยสฺมึ โข, สนฺทก, สตฺถริ สาวโก เอวรูปํ อุฬารวิเสสํ อธิคจฺฉติ ตตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ วเสยฺย, วสนฺโต จ อาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสลํ.

‘‘ปุน จปรํ, สนฺทก, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ยสฺมึ โข, สนฺทก, สตฺถริ สาวโก เอวรูปํ อุฬารวิเสสํ อธิคจฺฉติ ตตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ วเสยฺย, วสนฺโต จ อาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสลํ.

‘‘ปุน จปรํ, สนฺทก, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ยสฺมึ โข, สนฺทก, สตฺถริ สาวโก เอวรูปํ อุฬารวิเสสํ อธิคจฺฉติ ตตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ วเสยฺย, วสนฺโต จ อาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสลํ.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. ยสฺมึ โข, สนฺทก, สตฺถริ สาวโก เอวรูปํ อุฬารวิเสสํ อธิคจฺฉติ ตตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ วเสยฺย, วสนฺโต จ อาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสลํ.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. ยสฺมึ โข, สนฺทก, สตฺถริ สาวโก เอวรูปํ อุฬารวิเสสํ อธิคจฺฉติ ตตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ วเสยฺย, วสนฺโต จ อาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสลํ.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ; ‘อิเม อาสวา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ. ยสฺมึ โข, สนฺทก, สตฺถริ สาวโก เอวรูปํ อุฬารวิเสสํ อธิคจฺฉติ ตตฺถ วิฺู ปุริโส สสกฺกํ พฺรหฺมจริยํ วเสยฺย, วสนฺโต จ อาราเธยฺย ายํ ธมฺมํ กุสล’’นฺติ.

๒๓๔. ‘‘โย ปน โส, โภ อานนฺท, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต ปริภุฺเชยฺย โส กาเม’’ติ? ‘‘โย โส, สนฺทก, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต อภพฺโพ โส ปฺจฏฺานานิ อชฺฌาจริตุํ. อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สมฺปชานมุสา ภาสิตุํ, อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สนฺนิธิการกํ กาเม ปริภุฺชิตุํ, เสยฺยถาปิ ปุพฺเพ อคาริยภูโต. โย โส, สนฺทก, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต อภพฺโพ โส อิมานิ ปฺจฏฺานานิ อชฺฌาจริตุ’’นฺติ.

๒๓๕. ‘‘โย ปน โส, โภ อานนฺท, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต ตสฺส จรโต เจว ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิตํ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ? ‘‘เตน หิ, สนฺทก, อุปมํ เต กริสฺสามิ; อุปมายปิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. เสยฺยถาปิ, สนฺทก, ปุริสสฺส หตฺถปาทา ฉินฺนา; ตสฺส จรโต เจว ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ (ชานาติ – ‘ฉินฺนา เม หตฺถปาทา’ติ, อุทาหุ ปจฺจเวกฺขมาโน ชานาติ – ‘ฉินฺนา เม หตฺถปาทา’’’ติ? ‘‘น โข, โภ อานนฺท, โส ปุริโส สตตํ สมิตํ ชานาติ – ‘ฉินฺนา เม หตฺถปาทา’ ติ.) [(ฉินฺนาว หตฺถปาทา,) (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อปิ จ โข ปน นํ ปจฺจเวกฺขมาโน ชานาติ – ‘ฉินฺนา เม หตฺถปาทา’’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, สนฺทก, โย โส ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต ตสฺส จรโต เจว ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ (าณทสฺสนํ น ปจฺจุปฏฺิตํ – ‘ขีณา เม อาสวา’ติ;) [(ขีณาว อาสวา,) (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อปิ จ โข ปน นํ ปจฺจเวกฺขมาโน ชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ.

๒๓๖. ‘‘กีวพหุกา ปน, โภ อานนฺท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย นิยฺยาตาโร’’ติ? ‘‘น โข, สนฺทก, เอกํเยว สตํ น ทฺเว สตานิ น ตีณิ สตานิ น จตฺตาริ สตานิ น ปฺจ สตานิ, อถ โข ภิยฺโยว เย อิมสฺมึ ธมฺมวินเย นิยฺยาตาโร’’ติ. ‘‘อจฺฉริยํ, โภ อานนฺท, อพฺภุตํ, โภ อานนฺท! น จ นาม สธมฺโมกฺกํสนา ภวิสฺสติ, น ปรธมฺมวมฺภนา, อายตเน จ ธมฺมเทสนา ตาว พหุกา จ นิยฺยาตาโร ปฺายิสฺสนฺติ. อิเม ปนาชีวกา ปุตฺตมตาย ปุตฺตา อตฺตานฺเจว อุกฺกํเสนฺติ, ปเร จ วมฺเภนฺติ ตโย เจว นิยฺยาตาโร ปฺเปนฺติ, เสยฺยถิทํ – นนฺทํ วจฺฉํ, กิสํ สํกิจฺจํ, มกฺขลึ โคสาล’’นฺติ. อถ โข สนฺทโก ปริพฺพาชโก สกํ ปริสํ อามนฺเตสิ – ‘‘จรนฺตุ โภนฺโต สมเณ โคตเม พฺรหฺมจริยวาโส. น ทานิ สุกรํ อมฺเหหิ ลาภสกฺการสิโลเก ปริจฺจชิตุ’’นฺติ. อิติ หิทํ สนฺทโก ปริพฺพาชโก สกํ ปริสํ อุยฺโยเชสิ ภควติ พฺรหฺมจริเยติ.

สนฺทกสุตฺตํ นิฏฺิตํ ฉฏฺํ.

๗. มหาสกุลุทายิสุตฺตํ

๒๓๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา ปริพฺพาชกา โมรนิวาเป ปริพฺพาชการาเม ปฏิวสนฺติ, เสยฺยถิทํ – อนฺนภาโร วรธโร สกุลุทายี จ ปริพฺพาชโก อฺเ จ อภิฺาตา อภิฺาตา ปริพฺพาชกา. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อติปฺปโค โข ตาว ราชคเห ปิณฺฑาย จริตุํ. ยํนูนาหํ เยน โมรนิวาโป ปริพฺพาชการาโม เยน สกุลุทายี ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา เยน โมรนิวาโป ปริพฺพาชการาโม เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปน สมเยน สกุลุทายี ปริพฺพาชโก มหติยา ปริพฺพาชกปริสาย สทฺธึ นิสินฺโน โหติ อุนฺนาทินิยา อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทาย อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺติยา, เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ มหามตฺตกถํ เสนากถํ ภยกถํ ยุทฺธกถํ อนฺนกถํ ปานกถํ วตฺถกถํ สยนกถํ มาลากถํ คนฺธกถํ าติกถํ ยานกถํ คามกถํ นิคมกถํ นครกถํ ชนปทกถํ อิตฺถิกถํ สูรกถํ วิสิขากถํ กุมฺภฏฺานกถํ ปุพฺพเปตกถํ นานตฺตกถํ โลกกฺขายิกํ สมุทฺทกฺขายิกํ อิติภวาภวกถํ อิติ วา. อทฺทสา โข สกุลุทายี ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน สกํ ปริสํ สณฺาเปติ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต โหนฺตุ; มา โภนฺโต สทฺทมกตฺถ. อยํ สมโณ โคตโม อาคจฺฉติ; อปฺปสทฺทกาโม โข ปน โส อายสฺมา อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาที. อปฺเปว นาม อปฺปสทฺทํ ปริสํ วิทิตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺเยฺยา’’ติ. อถ โข เต ปริพฺพาชกา ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข ภควา เยน สกุลุทายี ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมิ. อถ โข สกุลุทายี ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอตุ โข, ภนฺเต, ภควา. สฺวาคตํ, ภนฺเต, ภควโต. จิรสฺสํ โข, ภนฺเต, ภควา อิมํ ปริยายมกาสิ ยทิทํ อิธาคมนาย. นิสีทตุ, ภนฺเต, ภควา; อิทมาสนํ ปฺตฺต’’นฺติ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. สกุลุทายีปิ โข ปริพฺพาชโก อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข สกุลุทายึ ปริพฺพาชกํ ภควา เอตทโวจ –

๒๓๘. ‘‘กายนุตฺถ , อุทายิ, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ? ‘‘ติฏฺเตสา, ภนฺเต, กถา ยาย มยํ เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา. เนสา, ภนฺเต, กถา ภควโต ทุลฺลภา ภวิสฺสติ ปจฺฉาปิ สวนาย. ปุริมานิ, ภนฺเต, ทิวสานิ ปุริมตรานิ นานาติตฺถิยานํ สมณพฺราหฺมณานํ กุตูหลสาลายํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘ลาภา วต, โภ, องฺคมคธานํ, สุลทฺธลาภา วต, โภ, องฺคมคธานํ! ตตฺริเม [ยตฺถิเม (สี.)] สมณพฺราหฺมณา สงฺฆิโน คณิโน คณาจริยา าตา ยสสฺสิโน ติตฺถกรา สาธุสมฺมตา พหุชนสฺส ราชคหํ วสฺสาวาสํ โอสฏา. อยมฺปิ โข ปูรโณ กสฺสโป สงฺฆี เจว คณี จ คณาจริโย จ าโต ยสสฺสี ติตฺถกโร สาธุสมฺมโต พหุชนสฺส; โสปิ ราชคหํ วสฺสาวาสํ โอสโฏ. อยมฺปิ โข มกฺขลิ โคสาโล…เป… อชิโต เกสกมฺพโล… ปกุโธ กจฺจายโน… สฺชโย เพลฏฺปุตฺโต… นิคณฺโ นาฏปุตฺโต สงฺฆี เจว คณี จ คณาจริโย จ าโต ยสสฺสี ติตฺถกโร สาธุสมฺมโต พหุชนสฺส; โสปิ ราชคหํ วสฺสาวาสํ โอสโฏ. อยมฺปิ โข สมโณ โคตโม สงฺฆี เจว คณี จ คณาจริโย จ าโต ยสสฺสี ติตฺถกโร สาธุสมฺมโต พหุชนสฺส; โสปิ ราชคหํ วสฺสาวาสํ โอสโฏ. โก นุ โข อิเมสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สงฺฆีนํ คณีนํ คณาจริยานํ าตานํ ยสสฺสีนํ ติตฺถกรานํ สาธุสมฺมตานํ พหุชนสฺส สาวกานํ สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต, กฺจ ปน สาวกา สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา [ครุกตฺวา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุปนิสฺสาย วิหรนฺตี’’’ติ?

๒๓๙. ‘‘ตตฺเรกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘อยํ โข ปูรโณ กสฺสโป สงฺฆี เจว คณี จ คณาจริโย จ าโต ยสสฺสี ติตฺถกโร สาธุสมฺมโต พหุชนสฺส; โส จ โข สาวกานํ น สกฺกโต น ครุกโต น มานิโต น ปูชิโต, น จ ปน ปูรณํ กสฺสปํ สาวกา สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ. ภูตปุพฺพํ ปูรโณ กสฺสโป อเนกสตาย ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ. ตตฺรฺตโร ปูรณสฺส กสฺสปสฺส สาวโก สทฺทมกาสิ – ‘‘มา โภนฺโต ปูรณํ กสฺสปํ เอตมตฺถํ ปุจฺฉิตฺถ; เนโส เอตํ ชานาติ; มยเมตํ ชานาม, อมฺเห เอตมตฺถํ ปุจฺฉถ; มยเมตํ ภวนฺตานํ พฺยากริสฺสามา’’ติ. ภูตปุพฺพํ ปูรโณ กสฺสโป พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺโต น ลภติ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต โหนฺตุ, มา โภนฺโต สทฺทมกตฺถ. เนเต, ภวนฺเต, ปุจฺฉนฺติ, อมฺเห เอเต ปุจฺฉนฺติ; มยเมเตสํ พฺยากริสฺสามา’’ติ. พหู โข ปน ปูรณสฺส กสฺสปสฺส สาวกา วาทํ อาโรเปตฺวา อปกฺกนฺตา – ‘‘น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสิ, อหํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานามิ , กึ ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานิสฺสสิ? มิจฺฉาปฏิปนฺโน ตฺวมสิ, อหมสฺมิ สมฺมาปฏิปนฺโน, สหิตํ เม, อสหิตํ เต, ปุเรวจนียํ ปจฺฉา อวจ, ปจฺฉาวจนียํ ปุเร อวจ, อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตํ, อาโรปิโต เต วาโท, นิคฺคหิโตสิ, จร วาทปฺปโมกฺขาย, นิพฺเพเหิ วา สเจ ปโหสี’’ติ. อิติ ปูรโณ กสฺสโป สาวกานํ น สกฺกโต น ครุกโต น มานิโต น ปูชิโต, น จ ปน ปูรณํ กสฺสปํ สาวกา สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ. อกฺกุฏฺโ จ ปน ปูรโณ กสฺสโป ธมฺมกฺโกเสนา’’’ติ.

‘‘เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘อยมฺปิ โข มกฺขลิ โคสาโล…เป… อชิโต เกสกมฺพโล… ปกุโธ กจฺจายโน… สฺชโย เพลฏฺปุตฺโต… นิคณฺโ นาฏปุตฺโต สงฺฆี เจว คณี จ คณาจริโย จ าโต ยสสฺสี ติตฺถกโร สาธุสมฺมโต พหุชนสฺส; โส จ โข สาวกานํ น สกฺกโต น ครุกโต น มานิโต น ปูชิโต, น จ ปน นิคณฺํ นาฏปุตฺตํ สาวกา สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ. ภูตปุพฺพํ นิคณฺโ นาฏปุตฺโต อเนกสตาย ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ. ตตฺรฺตโร นิคณฺสฺส นาฏปุตฺตสฺส สาวโก สทฺทมกาสิ – มา โภนฺโต นิคณฺํ นาฏปุตฺตํ เอตมตฺถํ ปุจฺฉิตฺถ; เนโส เอตํ ชานาติ; มยเมตํ ชานาม, อมฺเห เอตมตฺถํ ปุจฺฉถ; มยเมตํ ภวนฺตานํ พฺยากริสฺสามาติ. ภูตปุพฺพํ นิคณฺโ นาฏปุตฺโต พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺโต น ลภติ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต โหนฺตุ, มา โภนฺโต สทฺทมกตฺถ. เนเต ภวนฺเต ปุจฺฉนฺติ, อมฺเห เอเต ปุจฺฉนฺติ; มยเมเตสํ พฺยากริสฺสามา’’ติ. พหู โข ปน นิคณฺสฺส นาฏปุตฺตสฺส สาวกา วาทํ อาโรเปตฺวา อปกฺกนฺตา – ‘‘น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสิ, อหํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานามิ. กึ ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานิสฺสสิ? มิจฺฉาปฏิปนฺโน ตฺวมสิ. อหมสฺมิ สมฺมาปฏิปนฺโน. สหิตํ เม อสหิตํ เต, ปุเรวจนียํ ปจฺฉา อวจ, ปจฺฉาวจนียํ ปุเร อวจ, อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตํ, อาโรปิโต เต วาโท, นิคฺคหิโตสิ, จร วาทปฺปโมกฺขาย, นิพฺเพเหิ วา สเจ ปโหสี’’ติ. อิติ นิคณฺโ นาฏปุตฺโต สาวกานํ น สกฺกโต น ครุกโต น มานิโต น ปูชิโต, น จ ปน นิคณฺํ นาฏปุตฺตํ สาวกา สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ. อกฺกุฏฺโ จ ปน นิคณฺโ นาฏปุตฺโต ธมฺมกฺโกเสนา’’’ติ.

๒๔๐. ‘‘เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘อยมฺปิ โข สมโณ โคตโม สงฺฆี เจว คณี จ คณาจริโย จ าโต ยสสฺสี ติตฺถกโร สาธุสมฺมโต พหุชนสฺส; โส จ โข สาวกานํ สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต, สมณฺจ ปน โคตมํ สาวกา สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ. ภูตปุพฺพํ สมโณ โคตโม อเนกสตาย ปริสาย ธมฺมํ เทเสสิ. ตตฺรฺตโร สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก อุกฺกาสิ. ตเมนาฺตโร สพฺรหฺมจารี ชณฺณุเกน [ชณฺณุเก (สี.)] ฆฏฺเฏสิ – ‘‘อปฺปสทฺโท อายสฺมา โหตุ, มายสฺมา สทฺทมกาสิ, สตฺถา โน ภควา ธมฺมํ เทเสสี’’ติ. ยสฺมึ สมเย สมโณ โคตโม อเนกสตาย ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ, เนว ตสฺมึ สมเย สมณสฺส โคตมสฺส สาวกานํ ขิปิตสทฺโท วา โหติ อุกฺกาสิตสทฺโท วา. ตเมนํ มหาชนกาโย ปจฺจาสีสมานรูโป [ปจฺจาสึ สมานรูโป (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปจฺจุปฏฺิโต โหติ – ‘‘ยํ โน ภควา ธมฺมํ ภาสิสฺสติ ตํ โน โสสฺสามา’’ติ. เสยฺยถาปิ นาม ปุริโส จาตุมฺมหาปเถ ขุทฺทมธุํ [ขุทฺทํ มธุํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อเนลกํ ปีเฬยฺย [อุปฺปีเฬยฺย (สี.)]. ตเมนํ มหาชนกาโย ปจฺจาสีสมานรูโป ปจฺจุปฏฺิโต อสฺส. เอวเมว ยสฺมึ สมเย สมโณ โคตโม อเนกสตาย ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ, เนว ตสฺมึ สมเย สมณสฺส โคตมสฺส สาวกานํ ขิปิตสทฺโท วา โหติ อุกฺกาสิตสทฺโท วา. ตเมนํ มหาชนกาโย ปจฺจาสีสมานรูโป ปจฺจุปฏฺิโต โหติ – ‘‘ยํ โน ภควา ธมฺมํ ภาสิสฺสติ ตํ โน โสสฺสามา’’ติ. เยปิ สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา สพฺรหฺมจารีหิ สมฺปโยเชตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตนฺติ เตปิ สตฺถุ เจว วณฺณวาทิโน โหนฺติ, ธมฺมสฺส จ วณฺณวาทิโน โหนฺติ, สงฺฆสฺส จ วณฺณวาทิโน โหนฺติ, อตฺตครหิโนเยว โหนฺติ อนฺครหิโน, ‘‘มยเมวมฺหา อลกฺขิกา มยํ อปฺปปุฺา เต มยํ เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิตฺวา นาสกฺขิมฺหา ยาวชีวํ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จริตุ’’นฺติ. เต อารามิกภูตา วา อุปาสกภูตา วา ปฺจสิกฺขาปเท สมาทาย วตฺตนฺติ. อิติ สมโณ โคตโม สาวกานํ สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต, สมณฺจ ปน โคตมํ สาวกา สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺตี’’’ติ.

๒๔๑. ‘‘กติ ปน ตฺวํ, อุทายิ, มยิ ธมฺเม สมนุปสฺสสิ, เยหิ มมํ [มม (สพฺพตฺถ)] สาวกา สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ [ครุกโรนฺติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺตี’’ติ? ‘‘ปฺจ โข อหํ, ภนฺเต, ภควติ ธมฺเม สมนุปสฺสามิ เยหิ ภควนฺตํ สาวกา สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ. กตเม ปฺจ? ภควา หิ, ภนฺเต, อปฺปาหาโร, อปฺปาหารตาย จ วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภนฺเต, ภควา อปฺปาหาโร, อปฺปาหารตาย จ วณฺณวาที อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, ภควติ ปมํ ธมฺมํ สมนุปสฺสามิ เยน ภควนฺตํ สาวกา สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภควา สนฺตุฏฺโ อิตรีตเรน จีวเรน, อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภนฺเต, ภควา สนฺตุฏฺโ อิตรีตเรน จีวเรน, อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที, อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, ภควติ ทุติยํ ธมฺมํ สมนุปสฺสามิ เยน ภควนฺตํ สาวกา สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภควา สนฺตุฏฺโ อิตรีตเรน ปิณฺฑปาเตน, อิตรีตรปิณฺฑปาตสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภนฺเต, ภควา สนฺตุฏฺโ อิตรีตเรน ปิณฺฑปาเตน, อิตรีตรปิณฺฑปาตสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที, อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, ภควติ ตติยํ ธมฺมํ สมนุปสฺสามิ เยน ภควนฺตํ สาวกา สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภควา สนฺตุฏฺโ อิตรีตเรน เสนาสเนน, อิตรีตรเสนาสนสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภนฺเต, ภควา สนฺตุฏฺโ อิตรีตเรน เสนาสเนน, อิตรีตรเสนาสนสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที, อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, ภควติ จตุตฺถํ ธมฺมํ สมนุปสฺสามิ เยน ภควนฺตํ สาวกา สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภควา ปวิวิตฺโต, ปวิเวกสฺส จ วณฺณวาที . ยมฺปิ, ภนฺเต, ภควา ปวิวิตฺโต, ปวิเวกสฺส จ วณฺณวาที, อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, ภควติ ปฺจมํ ธมฺมํ สมนุปสฺสามิ เยน ภควนฺตํ สาวกา สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ.

‘‘อิเม โข อหํ, ภนฺเต, ภควติ ปฺจ ธมฺเม สมนุปสฺสามิ เยหิ ภควนฺตํ สาวกา สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺตี’’ติ.

๒๔๒. ‘‘‘อปฺปาหาโร สมโณ โคตโม, อปฺปาหารตาย จ วณฺณวาที’ติ, อิติ เจ มํ, อุทายิ, สาวกา สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยุํ, สนฺติ โข ปน เม, อุทายิ, สาวกา โกสกาหาราปิ อฑฺฒโกสกาหาราปิ เพลุวาหาราปิ อฑฺฒเพลุวาหาราปิ. อหํ โข ปน, อุทายิ, อปฺเปกทา อิมินา ปตฺเตน สมติตฺติกมฺปิ ภุฺชามิ ภิยฺโยปิ ภุฺชามิ. ‘อปฺปาหาโร สมโณ โคตโม, อปฺปาหารตาย จ วณฺณวาที’ติ, อิติ เจ มํ, อุทายิ, สาวกา สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยุํ, เย เต, อุทายิ, มม สาวกา โกสกาหาราปิ อฑฺฒโกสกาหาราปิ เพลุวาหาราปิ อฑฺฒเพลุวาหาราปิ น มํ เต อิมินา ธมฺเมน สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยุํ.

‘‘‘สนฺตุฏฺโ สมโณ โคตโม อิตรีตเรน จีวเรน, อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที’ติ, อิติ เจ มํ, อุทายิ, สาวกา สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยุํ, สนฺติ โข ปน เม, อุทายิ, สาวกา ปํสุกูลิกา ลูขจีวรธรา เต สุสานา วา สงฺการกูฏา วา ปาปณิกา วา นนฺตกานิ [ปาปณิกานิ วา นนฺตกานิ วา (สี.)] อุจฺจินิตฺวา [อุจฺฉินฺทิตฺวา (ก.)] สงฺฆาฏึ กริตฺวา ธาเรนฺติ. อหํ โข ปนุทายิ, อปฺเปกทา คหปติจีวรานิ ธาเรมิ ทฬฺหานิ สตฺถลูขานิ อลาพุโลมสานิ. ‘สนฺตุฏฺโ สมโณ โคตโม อิตรีตเรน จีวเรน, อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที’ติ, อิติ เจ มํ, อุทายิ, สาวกา สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยุํ, เย เต, อุทายิ, มม สาวกา ปํสุกูลิกา ลูขจีวรธรา เต สุสานา วา สงฺการกูฏา วา ปาปณิกา วา นนฺตกานิ อุจฺจินิตฺวา สงฺฆาฏึ กริตฺวา ธาเรนฺติ, น มํ เต อิมินา ธมฺเมน สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยุํ.

‘‘‘สนฺตุฏฺโ สมโณ โคตโม อิตรีตเรน ปิณฺฑปาเตน, อิตรีตรปิณฺฑปาตสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที’ติ, อิติ เจ มํ, อุทายิ, สาวกา สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยุํ, สนฺติ โข ปน เม, อุทายิ, สาวกา ปิณฺฑปาติกา สปทานจาริโน อุฺฉาสเก วเต รตา, เต อนฺตรฆรํ ปวิฏฺา สมานา อาสเนนปิ นิมนฺติยมานา น สาทิยนฺติ. อหํ โข ปนุทายิ, อปฺเปกทา นิมนฺตเนปิ [นิมนฺตนสฺสาปิ (ก.)] ภุฺชามิ สาลีนํ โอทนํ วิจิตกาฬกํ อเนกสูปํ อเนกพฺยฺชนํ. ‘สนฺตุฏฺโ สมโณ โคตโม อิตรีตเรน ปิณฺฑปาเตน, อิตรีตรปิณฺฑปาตสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที’ติ, อิติ เจ มํ, อุทายิ, สาวกา สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยุํ, เย เต, อุทายิ, มม สาวกา ปิณฺฑปาติกา สปทานจาริโน อุฺฉาสเก วเต รตา เต อนฺตรฆรํ ปวิฏฺา สมานา อาสเนนปิ นิมนฺติยมานา น สาทิยนฺติ, น มํ เต อิมินา ธมฺเมน สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยุํ.

‘‘‘สนฺตุฏฺโ สมโณ โคตโม อิตรีตเรน เสนาสเนน, อิตรีตรเสนาสนสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที’ติ, อิติ เจ มํ, อุทายิ, สาวกา สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยุํ, สนฺติ โข ปน เม, อุทายิ, สาวกา รุกฺขมูลิกา อพฺโภกาสิกา, เต อฏฺมาเส ฉนฺนํ น อุเปนฺติ. อหํ โข ปนุทายิ, อปฺเปกทา กูฏาคาเรสุปิ วิหรามิ อุลฺลิตฺตาวลิตฺเตสุ นิวาเตสุ ผุสิตคฺคเฬสุ [ผุสฺสิตคฺคเฬสุ (สี. ปี.)] ปิหิตวาตปาเนสุ. ‘สนฺตุฏฺโ สมโณ โคตโม อิตรีตเรน เสนาสเนน, อิตรีตรเสนาสนสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที’ติ, อิติ เจ มํ, อุทายิ, สาวกา สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยุํ, เย เต, อุทายิ, มม สาวกา รุกฺขมูลิกา อพฺโภกาสิกา เต อฏฺมาเส ฉนฺนํ น อุเปนฺติ, น มํ เต อิมินา ธมฺเมน สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยุํ.

‘‘‘ปวิวิตฺโต สมโณ โคตโม, ปวิเวกสฺส จ วณฺณวาที’ติ, อิติ เจ มํ, อุทายิ, สาวกา สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยุํ, สนฺติ โข ปน เม, อุทายิ, สาวกา อารฺิกา ปนฺตเสนาสนา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ อชฺโฌคาเหตฺวา วิหรนฺติ, เต อนฺวทฺธมาสํ สงฺฆมชฺเฌ โอสรนฺติ ปาติโมกฺขุทฺเทสาย. อหํ โข ปนุทายิ, อปฺเปกทา อากิณฺโณ วิหรามิ ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีหิ อุปาสเกหิ อุปาสิกาหิ รฺา ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ติตฺถิยสาวเกหิ. ‘ปวิวิตฺโต สมโณ โคตโม, ปวิเวกสฺส จ วณฺณวาที’ติ, อิติ เจ มํ, อุทายิ, สาวกา สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยุํ, เย เต, อุทายิ, มม สาวกา อารฺกา ปนฺตเสนาสนา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ อชฺโฌคาเหตฺวา วิหรนฺติ เต อนฺวทฺธมาสํ สงฺฆมชฺเฌ โอสรนฺติ ปาติโมกฺขุทฺเทสาย, น มํ เต อิมินา ธมฺเมน สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยุํ.

‘‘อิติ โข, อุทายิ, น มมํ สาวกา อิเมหิ ปฺจหิ ธมฺเมหิ สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ.

๒๔๓. ‘‘อตฺถิ โข, อุทายิ, อฺเ จ ปฺจ ธมฺมา เยหิ ปฺจหิ ธมฺเมหิ มมํ สาวกา สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ , สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ. กตเม ปฺจ? อิธุทายิ, มมํ สาวกา อธิสีเล สมฺภาเวนฺติ – ‘สีลวา สมโณ โคตโม ปรเมน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต’ติ. ยมฺปุทายิ [ยมุทายิ (สฺยา. ก.)], มมํ สาวกา อธิสีเล สมฺภาเวนฺติ – ‘สีลวา สมโณ โคตโม ปรเมน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต’ติ, อยํ โข, อุทายิ , ปโม ธมฺโม เยน มมํ สาวกา สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ.

๒๔๔. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, มมํ สาวกา อภิกฺกนฺเต าณทสฺสเน สมฺภาเวนฺติ – ‘ชานํเยวาห สมโณ โคตโม – ชานามีติ, ปสฺสํเยวาห สมโณ โคตโม – ปสฺสามีติ; อภิฺาย สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ โน อนภิฺาย; สนิทานํ สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ โน อนิทานํ; สปฺปาฏิหาริยํ สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ โน อปฺปาฏิหาริย’นฺติ. ยมฺปุทายิ, มมํ สาวกา อภิกฺกนฺเต าณทสฺสเน สมฺภาเวนฺติ – ‘ชานํเยวาห สมโณ โคตโม – ชานามีติ, ปสฺสํเยวาห สมโณ โคตโม – ปสฺสามีติ; อภิฺาย สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ โน อนภิฺาย; สนิทานํ สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ โน อนิทานํ; สปฺปาฏิหาริยํ สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ โน อปฺปาฏิหาริย’นฺติ, อยํ โข, อุทายิ, ทุติโย ธมฺโม เยน มมํ สาวกา สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ.

๒๔๕. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, มมํ สาวกา อธิปฺาย สมฺภาเวนฺติ – ‘ปฺวา สมโณ โคตโม ปรเมน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต; ตํ วต อนาคตํ วาทปถํ น ทกฺขติ, อุปฺปนฺนํ วา ปรปฺปวาทํ น สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคณฺหิสฺสตีติ – เนตํ านํ วิชฺชติ’. ตํ กึ มฺสิ, อุทายิ, อปิ นุ เม สาวกา เอวํ ชานนฺตา เอวํ ปสฺสนฺตา อนฺตรนฺตรา กถํ โอปาเตยฺยุ’’นฺติ?

‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘น โข ปนาหํ, อุทายิ, สาวเกสุ อนุสาสนึ ปจฺจาสีสามิ [ปจฺจาสึสามิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]; อฺทตฺถุ มมเยว สาวกา อนุสาสนึ ปจฺจาสีสนฺติ.

‘‘ยมฺปุทายิ, มมํ สาวกา อธิปฺาย สมฺภาเวนฺติ – ‘ปฺวา สมโณ โคตโม ปรเมน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต; ตํ วต อนาคตํ วาทปถํ น ทกฺขติ, อุปฺปนฺนํ วา ปรปฺปวาทํ น สหธมฺเมน นิคฺคหิตํ นิคฺคณฺหิสฺสตีติ – เนตํ านํ วิชฺชติ’. อยํ โข, อุทายิ, ตติโย ธมฺโม เยน มมํ สาวกา สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ.

๒๔๖. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, มม สาวกา เยน ทุกฺเขน ทุกฺโขติณฺณา ทุกฺขปเรตา เต มํ อุปสงฺกมิตฺวา ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ปุจฺฉนฺติ, เตสาหํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ปุฏฺโ พฺยากโรมิ, เตสาหํ จิตฺตํ อาราเธมิ ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน; เต มํ ทุกฺขสมุทยํ… ทุกฺขนิโรธํ… ทุกฺขนิโรธคามินึ ปฏิปทํ อริยสจฺจํ ปุจฺฉนฺติ, เตสาหํ ทุกฺขนิโรธคามินึ ปฏิปทํ อริยสจฺจํ ปุฏฺโ พฺยากโรมิ , เตสาหํ จิตฺตํ อาราเธมิ ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน. ยมฺปุทายิ, มม สาวกา เยน ทุกฺเขน ทุกฺโขติณฺณา ทุกฺขปเรตา เต มํ อุปสงฺกมิตฺวา ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ปุจฺฉนฺติ, เตสาหํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ปุฏฺโ พฺยากโรมิ, เตสาหํ จิตฺตํ อาราเธมิ ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน. เต มํ ทุกฺขสมุทยํ … ทุกฺขนิโรธํ… ทุกฺขนิโรธคามินึ ปฏิปทํ อริยสจฺจํ ปุจฺฉนฺติ. เตสาหํ ทุกฺขนิโรธคามินึ ปฏิปทํ อริยสจฺจํ ปุฏฺโ พฺยากโรมิ. เตสาหํ จิตฺตํ อาราเธมิ ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน. อยํ โข, อุทายิ, จตุตฺโถ ธมฺโม เยน มมํ สาวกา สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ.

๒๔๗. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา จตฺตาโร สติปฏฺาเน ภาเวนฺติ. อิธุทายิ, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ… จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. ตตฺร จ ปน เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน ภาเวนฺติ. อิธุทายิ , ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ, วายมติ, วีริยํ อารภติ, จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ, ปทหติ; อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย ฉนฺทํ ชเนติ, วายมติ, วีริยํ อารภติ, จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ, ปทหติ; อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ, วายมติ, วีริยํ อารภติ, จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ, ปทหติ; อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา อสมฺโมสาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา ฉนฺทํ ชเนติ, วายมติ, วีริยํ อารภติ, จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ, ปทหติ. ตตฺร จ ปน เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา จตฺตาโร อิทฺธิปาเท ภาเวนฺติ. อิธุทายิ, ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ, วีริยสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ, จิตฺตสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ, วีมํสาสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ. ตตฺร จ ปน เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา ปฺจินฺทฺริยานิ ภาเวนฺติ. อิธุทายิ , ภิกฺขุ สทฺธินฺทฺริยํ ภาเวติ อุปสมคามึ สมฺโพธคามึ; วีริยินฺทฺริยํ ภาเวติ…เป… สตินฺทฺริยํ ภาเวติ… สมาธินฺทฺริยํ ภาเวติ… ปฺินฺทฺริยํ ภาเวติ อุปสมคามึ สมฺโพธคามึ. ตตฺร จ ปน เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา ปฺจ พลานิ ภาเวนฺติ. อิธุทายิ, ภิกฺขุ สทฺธาพลํ ภาเวติ อุปสมคามึ สมฺโพธคามึ; วีริยพลํ ภาเวติ…เป… สติพลํ ภาเวติ… สมาธิพลํ ภาเวติ… ปฺาพลํ ภาเวติ อุปสมคามึ สมฺโพธคามึ. ตตฺร จ ปน เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา สตฺตโพชฺฌงฺเค ภาเวนฺติ. อิธุทายิ, ภิกฺขุ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ; ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ…เป… วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ. ตตฺร จ ปน เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวนฺติ. อิธุทายิ, ภิกฺขุ สมฺมาทิฏฺึ ภาเวติ, สมฺมาสงฺกปฺปํ ภาเวติ, สมฺมาวาจํ ภาเวติ , สมฺมากมฺมนฺตํ ภาเวติ, สมฺมาอาชีวํ ภาเวติ, สมฺมาวายามํ ภาเวติ, สมฺมาสตึ ภาเวติ, สมฺมาสมาธึ ภาเวติ. ตตฺร จ ปน เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ.

๒๔๘. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา อฏฺ วิโมกฺเข ภาเวนฺติ. รูปี รูปานิ ปสฺสติ, อยํ ปโม วิโมกฺโข; อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ, อยํ ทุติโย วิโมกฺโข; สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหติ, อยํ ตติโย วิโมกฺโข; สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ จตุตฺโถ วิโมกฺโข; สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ ปฺจโม วิโมกฺโข; สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ ฉฏฺโ วิโมกฺโข; สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ สตฺตโม วิโมกฺโข; สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ อฏฺโม วิโมกฺโข. ตตฺร จ ปน เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ.

๒๔๙. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา อฏฺ อภิภายตนานิ ภาเวนฺติ. อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ, ปสฺสามี’ติ เอวํ สฺี โหติ. อิทํ ปมํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ, ปสฺสามี’ติ เอวํ สฺี โหติ. อิทํ ทุติยํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ, ปสฺสามี’ติ เอวํ สฺี โหติ. อิทํ ตติยํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ, ปสฺสามี’ติ เอวํ สฺี โหติ. อิทํ จตุตฺถํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม อุมาปุปฺผํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ, เสยฺยถาปิ วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ; เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ, ปสฺสามี’ติ เอวํ สฺี โหติ. อิทํ ปฺจมํ อภิภายตนํ .

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม กณิการปุปฺผํ ปีตํ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํ, เสยฺยถาปิ วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ ปีตํ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํ; เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ, ปสฺสามี’ติ เอวํ สฺี โหติ. อิทํ ฉฏฺํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม พนฺธุชีวกปุปฺผํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ, เสยฺยถาปิ วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ; เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ, ปสฺสามี’ติ เอวํ สฺี โหติ. อิทํ สตฺตมํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม โอสธิตารกา โอทาตา โอทาตวณฺณา โอทาตนิทสฺสนา โอทาตนิภาสา, เสยฺยถาปิ วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ โอทาตํ โอทาตวณฺณํ โอทาตนิทสฺสนํ โอทาตนิภาสํ; เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ . ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ , ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ อฏฺมํ อภิภายตนํ. ตตฺร จ ปน เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ.

๒๕๐. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา ทส กสิณายตนานิ ภาเวนฺติ. ปถวีกสิณเมโก สฺชานาติ อุทฺธมโธ ติริยํ อทฺวยํ อปฺปมาณํ; อาโปกสิณเมโก สฺชานาติ…เป… เตโชกสิณเมโก สฺชานาติ… วาโยกสิณเมโก สฺชานาติ… นีลกสิณเมโก สฺชานาติ… ปีตกสิณเมโก สฺชานาติ… โลหิตกสิณเมโก สฺชานาติ… โอทาตกสิณเมโก สฺชานาติ… อากาสกสิณเมโก สฺชานาติ … วิฺาณกสิณเมโก สฺชานาติ อุทฺธมโธ ติริยํ อทฺวยํ อปฺปมาณํ. ตตฺร จ ปน เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ.

๒๕๑. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา จตฺตาริ ฌานานิ ภาเวนฺติ. อิธุทายิ, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส วิเวกเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติ. เสยฺยถาปิ, อุทายิ, ทกฺโข นฺหาปโก [นหาปโก (สี. ปี.)] วา นฺหาปกนฺเตวาสี วา กํสถาเล นฺหานียจุณฺณานิ [นหานียจุณฺณานิ (สี. ปี.)] อากิริตฺวา อุทเกน ปริปฺโผสกํ ปริปฺโผสกํ สนฺเนยฺย, สายํ นฺหานียปิณฺฑิ [สาสฺส นหานียปิณฺฑี (สี. สฺยา. กํ.)] สฺเนหานุคตา สฺเนหปเรโต สนฺตรพาหิรา ผุฏา สฺเนเหน น จ ปคฺฆริณี; เอวเมว โข, อุทายิ, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส วิเวกเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมเมว กายํ สมาธิเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส สมาธิเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติ . เสยฺยถาปิ, อุทายิ, อุทกรหโท คมฺภีโร อุพฺภิโททโก [อุพฺภิโตทโก (สฺยา. กํ. ก.)]. ตสฺส เนวสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ , น ปจฺฉิมาย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, น อุตฺตราย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, น ทกฺขิณาย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, เทโว จ น กาเลน กาลํ สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺเฉยฺย; อถ โข ตมฺหาว อุทกรหทา สีตา วาริธารา อุพฺภิชฺชิตฺวา ตเมว อุทกรหทํ สีเตน วารินา อภิสนฺเทยฺย ปริสนฺเทยฺย ปริปูเรยฺย ปริปฺผเรยฺย, นาสฺส [น เนสํ (สี.)] กิฺจิ สพฺพาวโต อุทกรหทสฺส สีเตน วารินา อปฺผุฏํ อสฺส. เอวเมว โข, อุทายิ, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ สมาธิเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส สมาธิเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมเมว กายํ นิปฺปีติเกน สุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส นิปฺปีติเกน สุเขน อปฺผุฏํ โหติ. เสยฺยถาปิ, อุทายิ, อุปฺปลินิยํ วา ปทุมินิยํ วา ปุณฺฑรีกินิยํ วา อปฺเปกจฺจานิ อุปฺปลานิ วา ปทุมานิ วา ปุณฺฑรีกานิ วา อุทเก ชาตานิ อุทเก สํวฑฺฒานิ อุทกานุคฺคตานิ อนฺโต นิมุคฺคโปสีนิ, ตานิ ยาว จคฺคา ยาว จ มูลา สีเตน วารินา อภิสนฺนานิ ปริสนฺนานิ ปริปูรานิ ปริปฺผุฏานิ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวตํ, อุปฺปลานํ วา ปทุมานํ วา ปุณฺฑรีกานํ วา สีเตน วารินา อปฺผุฏํ อสฺส; เอวเมว โข, อุทายิ, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ นิปฺปีติเกน สุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส นิปฺปีติเกน สุเขน อปฺผุฏํ โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมเมว กายํ ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน ผริตฺวา นิสินฺโน โหติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน อปฺผุฏํ โหติ. เสยฺยถาปิ, อุทายิ, ปุริโส โอทาเตน วตฺเถน สสีสํ ปารุปิตฺวา นิสินฺโน อสฺส, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส โอทาเตน วตฺเถน อปฺผุฏํ อสฺส; เอวเมว โข, อุทายิ, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน ผริตฺวา นิสินฺโน โหติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน อปฺผุฏํ โหติ. ตตฺร จ ปน เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ.

๒๕๒. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา เอวํ ปชานนฺติ – ‘อยํ โข เม กาโย รูปี จาตุมหาภูติโก มาตาเปตฺติกสมฺภโว โอทนกุมฺมาสูปจโย อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิทฺธํสนธมฺโม; อิทฺจ ปน เม วิฺาณํ เอตฺถ สิตํ เอตฺถ ปฏิพทฺธํ’. เสยฺยถาปิ, อุทายิ, มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน สพฺพาการสมฺปนฺโน; ตตฺริทํ สุตฺตํ อาวุตํ นีลํ วา ปีตํ วา โลหิตํ วา โอทาตํ วา ปณฺฑุสุตฺตํ วา. ตเมนํ จกฺขุมา ปุริโส หตฺเถ กริตฺวา ปจฺจเวกฺเขยฺย – ‘อยํ โข มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน สพฺพาการสมฺปนฺโน; ตตฺริทํ สุตฺตํ อาวุตํ นีลํ วา ปีตํ วา โลหิตํ วา โอทาตํ วา ปณฺฑุสุตฺตํ วา’ติ. เอวเมว โข, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา เอวํ ปชานนฺติ – ‘อยํ โข เม กาโย รูปี จาตุมหาภูติโก มาตาเปตฺติกสมฺภโว โอทนกุมฺมาสูปจโย อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิทฺธํสนธมฺโม; อิทฺจ ปน เม วิฺาณํ เอตฺถ สิตํ เอตฺถ ปฏิพทฺธ’นฺติ. ตตฺร จ ปน เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ.

๒๕๓. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา อิมมฺหา กายา อฺํ กายํ อภินิมฺมินนฺติ รูปึ มโนมยํ สพฺพงฺคปจฺจงฺคึ อหีนินฺทฺริยํ. เสยฺยถาปิ, อุทายิ, ปุริโส มุฺชมฺหา อีสิกํ ปพฺพาเหยฺย; ตสฺส เอวมสฺส – ‘อยํ มุฺโช, อยํ อีสิกา; อฺโ มุฺโช, อฺา อีสิกา; มุฺชมฺหาตฺเวว อีสิกา ปพฺพาฬฺหา’ติ. เสยฺยถา วา ปนุทายิ, ปุริโส อสึ โกสิยา ปพฺพาเหยฺย; ตสฺส เอวมสฺส – ‘อยํ อสิ, อยํ โกสิ; อฺโ อสิ อฺา โกสิ; โกสิยาตฺเวว อสิ ปพฺพาฬฺโห’ติ. เสยฺยถา วา, ปนุทายิ , ปุริโส อหึ กรณฺฑา อุทฺธเรยฺย; ตสฺส เอวมสฺส – ‘อยํ อหิ, อยํ กรณฺโฑ; อฺโ อหิ, อฺโ กรณฺโฑ; กรณฺฑาตฺเวว อหิ อุพฺภโต’ติ. เอวเมว โข, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา อิมมฺหา กายา อฺํ กายํ อภินิมฺมินนฺติ รูปึ มโนมยํ สพฺพงฺคปจฺจงฺคึ อหีนินฺทฺริยํ. ตตฺร จ ปน เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ.

๒๕๔. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภนฺติ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหนฺติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ; อาวิภาวํ, ติโรภาวํ; ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมานา คจฺฉนฺติ, เสยฺยถาปิ อากาเส; ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรนฺติ, เสยฺยถาปิ อุทเก; อุทเกปิ อภิชฺชมาเน [อภิชฺชมานา (ก.)] คจฺฉนฺติ, เสยฺยถาปิ ปถวิยํ; อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กมนฺติ, เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ; อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปริมสนฺติ ปริมชฺชนฺติ, ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตนฺติ. เสยฺยถาปิ, อุทายิ, ทกฺโข กุมฺภกาโร วา กุมฺภการนฺเตวาสี วา สุปริกมฺมกตาย มตฺติกาย ยํ ยเทว ภาชนวิกตึ อากงฺเขยฺย ตํ ตเทว กเรยฺย อภินิปฺผาเทยฺย; เสยฺยถา วา ปนุทายิ, ทกฺโข ทนฺตกาโร วา ทนฺตการนฺเตวาสี วา สุปริกมฺมกตสฺมึ ทนฺตสฺมึ ยํ ยเทว ทนฺตวิกตึ อากงฺเขยฺย ตํ ตเทว กเรยฺย อภินิปฺผาเทยฺย; เสยฺยถา วา ปนุทายิ, ทกฺโข สุวณฺณกาโร วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา สุปริกมฺมกตสฺมึ สุวณฺณสฺมึ ยํ ยเทว สุวณฺณวิกตึ อากงฺเขยฺย ตํ ตเทว กเรยฺย อภินิปฺผาเทยฺย. เอวเมว โข, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภนฺติ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหนฺติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ; อาวิภาวํ, ติโรภาวํ; ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมานา คจฺฉนฺติ, เสยฺยถาปิ อากาเส; ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรนฺติ, เสยฺยถาปิ อุทเก; อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉนฺติ , เสยฺยถาปิ ปถวิยํ; อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กมนฺติ, เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ; อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปริมสนฺติ ปริมชฺชนฺติ, ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตนฺติ. ตตฺร จ ปน เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ.

๒๕๕. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณนฺติ – ทิพฺเพ จ มานุเส จ, เย ทูเร สนฺติเก จ. เสยฺยถาปิ, อุทายิ, พลวา สงฺขธโม อปฺปกสิเรเนว จาตุทฺทิสา วิฺาเปยฺย; เอวเมว โข, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณนฺติ – ทิพฺเพ จ มานุเส จ, เย ทูเร สนฺติเก จ. ตตฺร จ ปน เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ.

๒๕๖. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานนฺติ – สราคํ วา จิตฺตํ ‘สราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานนฺติ, วีตราคํ วา จิตฺตํ ‘วีตราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานนฺติ; สโทสํ วา จิตฺตํ ‘สโทสํ จิตฺต’นฺติ ปชานนฺติ, วีตโทสํ วา จิตฺตํ ‘วีตโทสํ จิตฺต’นฺติ ปชานนฺติ; สโมหํ วา จิตฺตํ ‘สโมหํ จิตฺต’นฺติ ปชานนฺติ, วีตโมหํ วา จิตฺตํ ‘วีตโมหํ จิตฺต’นฺติ ปชานนฺติ; สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘สงฺขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานนฺติ, วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘วิกฺขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานนฺติ; มหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘มหคฺคตํ จิตฺต’นฺติ ปชานนฺติ, อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘อมหคฺคตํ จิตฺต’นฺติ ปชานนฺติ; สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘สอุตฺตรํ จิตฺต’นฺติ ปชานนฺติ, อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘อนุตฺตรํ จิตฺต’นฺติ ปชานนฺติ; สมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘สมาหิตํ จิตฺต’นฺติ ปชานนฺติ, อสมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘อสมาหิตํ จิตฺต’นฺติ ปชานนฺติ; วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘วิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานนฺติ, อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘อวิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานนฺติ. เสยฺยถาปิ, อุทายิ, อิตฺถี วา ปุริโส วา ทหโร ยุวา มณฺฑนกชาติโก อาทาเส วา ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อจฺเฉ วา อุทกปตฺเต สกํ มุขนิมิตฺตํ ปจฺจเวกฺขมาโน สกณิกํ วา ‘สกณิก’นฺติ [สกณิกงฺคํ วา สกณิกงฺคนฺติ (สี.)] ชาเนยฺย , อกณิกํ วา ‘อกณิก’นฺติ [อกณิกงฺคํ วา อกณิกงฺคนฺติ (สี.)] ชาเนยฺย; เอวเมว โข, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานนฺติ – สราคํ วา จิตฺตํ ‘สราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานนฺติ, วีตราคํ วา จิตฺตํ…เป… สโทสํ วา จิตฺตํ… วีตโทสํ วา จิตฺตํ… สโมหํ วา จิตฺตํ… วีตโมหํ วา จิตฺตํ… สงฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ… วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ… มหคฺคตํ วา จิตฺตํ… อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ… สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ… อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ… สมาหิตํ วา จิตฺตํ… อสมาหิตํ วา จิตฺตํ… วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ… อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘อวิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานนฺติ. ตตฺร จ ปน เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ.

๒๕๗. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ, อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถาปิ, อุทายิ, ปุริโส สกมฺหา คามา อฺํ คามํ คจฺเฉยฺย, ตมฺหาปิ คามา อฺํ คามํ คจฺเฉยฺย; โส ตมฺหา คามา สกํเยว คามํ ปจฺจาคจฺเฉยฺย; ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข สกมฺหา คามา อฺํ คามํ อคจฺฉึ, ตตฺร เอวํ อฏฺาสึ เอวํ นิสีทึ เอวํ อภาสึ เอวํ ตุณฺหี อโหสึ; ตมฺหาปิ คามา อมุํ คามํ อคจฺฉึ, ตตฺราปิ เอวํ อฏฺาสึ เอวํ นิสีทึ เอวํ อภาสึ เอวํ ตุณฺหี อโหสึ, โสมฺหิ ตมฺหา คามา สกํเยว คามํ ปจฺจาคโต’ติ. เอวเมว โข, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺติ. ตตฺร จ ปน เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ.

๒๕๘. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสนฺติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานนฺติ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา; อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสนฺติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานนฺติ. เสยฺยถาปิ, อุทายิ, ทฺเว อคารา สทฺวารา [สนฺนทฺวารา (ก.)]. ตตฺร จกฺขุมา ปุริโส มชฺเฌ ิโต ปสฺเสยฺย มนุสฺเส เคหํ ปวิสนฺเตปิ นิกฺขมนฺเตปิ อนุจงฺกมนฺเตปิ อนุวิจรนฺเตปิ; เอวเมว โข, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสนฺติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานนฺติ…เป… ตตฺร จ ป เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ.

๒๕๙. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺติ. เสยฺยถาปิ, อุทายิ, ปพฺพตสงฺเขเป อุทกรหโท อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน อนาวิโล, ตตฺถ จกฺขุมา ปุริโส ตีเร ิโต ปสฺเสยฺย สิปฺปิสมฺพุกมฺปิ [สิปฺปิกสมฺพุกมฺปิ (สฺยา. กํ. ก.)] สกฺขรกลมฺปิ มจฺฉคุมฺพมฺปิ จรนฺตมฺปิ ติฏฺนฺตมฺปิ. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อยํ โข อุทกรหโท อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน อนาวิโล, ตตฺริเม สิปฺปิสมฺพุกาปิ สกฺขรกลาปิ มจฺฉคุมฺพาปิ จรนฺติปิ ติฏฺนฺติปี’ติ. เอวเมว โข, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺติ. ตตฺร จ ปน เม สาวกา พหู อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา วิหรนฺติ. อยํ โข, อุทายิ, ปฺจโม ธมฺโม เยน มม สาวกา สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ.

‘‘อิเม โข, อุทายิ, ปฺจ ธมฺมา เยหิ มมํ สาวกา สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรนฺตี’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน สกุลุทายี ปริพฺพาชโก ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.

มหาสกุลุทายิสุตฺตํ นิฏฺิตํ สตฺตมํ.

๘. สมณมุณฺฑิกสุตฺตํ

๒๖๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อุคฺคาหมาโน ปริพฺพาชโก สมณมุณฺฑิกาปุตฺโต [สมณมณฺฑิกาปุตฺโต (สี. ปี.)] สมยปฺปวาทเก ตินฺทุกาจีเร เอกสาลเก มลฺลิกาย อาราเม ปฏิวสติ มหติยา ปริพฺพาชกปริสาย สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ปริพฺพาชกสเตหิ. อถ โข ปฺจกงฺโค ถปติ สาวตฺถิยา นิกฺขมิ ทิวา ทิวสฺส ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อถ โข ปฺจกงฺคสฺส ถปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อกาโล โข ตาว ภควนฺตํ ทสฺสนาย; ปฏิสลฺลีโน ภควา. มโนภาวนิยานมฺปิ ภิกฺขูนํ อสมโย ทสฺสนาย; ปฏิสลฺลีนา มโนภาวนิยา ภิกฺขู. ยํนูนาหํ เยน สมยปฺปวาทโก ตินฺทุกาจีโร เอกสาลโก มลฺลิกาย อาราโม เยน อุคฺคาหมาโน ปริพฺพาชโก สมณมุณฺฑิกาปุตฺโต เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ. อถ โข ปฺจกงฺโค ถปติ เยน สมยปฺปวาทโก ตินฺทุกาจีโร เอกสาลโก มลฺลิกาย อาราโม เยน อุคฺคาหมาโน ปริพฺพาชโก สมณมุณฺฑิกาปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ.

เตน โข ปน สมเยน อุคฺคาหมาโน ปริพฺพาชโก สมณมุณฺฑิกาปุตฺโต มหติยา ปริพฺพาชกปริสาย สทฺธึ นิสินฺโน โหติ อุนฺนาทินิยา อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทาย อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺติยา, เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ มหามตฺตกถํ เสนากถํ ภยกถํ ยุทฺธกถํ อนฺนกถํ ปานกถํ วตฺถกถํ สยนกถํ มาลากถํ คนฺธกถํ าติกถํ ยานกถํ คามกถํ นิคมกถํ นครกถํ ชนปทกถํ อิตฺถิกถํ สูรกถํ วิสิขากถํ กุมฺภฏฺานกถํ ปุพฺพเปตกถํ นานตฺตกถํ โลกกฺขายิกํ สมุทฺทกฺขายิกํ อิติภวาภวกถํ อิติ วา.

อทฺทสา โข อุคฺคาหมาโน ปริพฺพาชโก สมณมุณฺฑิกาปุตฺโต ปฺจกงฺคํ ถปตึ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน สกํ ปริสํ สณฺาเปสิ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต โหนฺตุ, มา โภนฺโต สทฺทมกตฺถ; อยํ สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก อาคจฺฉติ ปฺจกงฺโค ถปติ. ยาวตา โข ปน สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา คิหี โอทาตวสนา สาวตฺถิยํ ปฏิวสนฺติ อยํ เตสํ อฺตโร ปฺจกงฺโค ถปติ. อปฺปสทฺทกามา โข ปน เต อายสฺมนฺโต อปฺปสทฺทวินีตา อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาทิโน; อปฺเปว นาม อปฺปสทฺทํ ปริสํ วิทิตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺเยฺยา’’ติ. อถ โข เต ปริพฺพาชกา ตุณฺหี อเหสุํ.

๒๖๑. อถ โข ปฺจกงฺโค ถปติ เยน อุคฺคาหมาโน ปริพฺพาชโก สมณมุณฺฑิกาปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อุคฺคาหมาเนน ปริพฺพาชเกน สมณมุณฺฑิกาปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ . สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ปฺจกงฺคํ ถปตึ อุคฺคาหมาโน ปริพฺพาชโก สมณมุณฺฑิกาปุตฺโต เอตทโวจ – ‘‘จตูหิ โข อหํ, คหปติ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ ปุริสปุคฺคลํ ปฺเปมิ สมฺปนฺนกุสลํ ปรมกุสลํ อุตฺตมปตฺติปตฺตํ สมณํ อโยชฺฌํ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, คหปติ, น กาเยน ปาปกมฺมํ กโรติ, น ปาปกํ วาจํ ภาสติ, น ปาปกํ สงฺกปฺปํ สงฺกปฺเปติ, น ปาปกํ อาชีวํ อาชีวติ – อิเมหิ โข อหํ, คหปติ, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ ปุริสปุคฺคลํ ปฺเปมิ สมฺปนฺนกุสลํ ปรมกุสลํ อุตฺตมปตฺติปตฺตํ สมณํ อโยชฺฌ’’นฺติ.

อถ โข ปฺจกงฺโค ถปติ อุคฺคาหมานสฺส ปริพฺพาชกสฺส สมณมุณฺฑิกาปุตฺตสฺส ภาสิตํ เนว อภินนฺทิ นปฺปฏิกฺโกสิ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ – ‘‘ภควโต สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามี’’ติ. อถ โข ปฺจกงฺโค ถปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ปฺจกงฺโค ถปติ ยาวตโก อโหสิ อุคฺคาหมาเนน ปริพฺพาชเกน สมณมุณฺฑิกาปุตฺเตน สทฺธึ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสิ.

๒๖๒. เอวํ วุตฺเต, ภควา ปฺจกงฺคํ ถปตึ เอตทโวจ – ‘‘เอวํ สนฺเต โข, ถปติ, ทหโร กุมาโร มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก สมฺปนฺนกุสโล ภวิสฺสติ ปรมกุสโล อุตฺตมปตฺติปตฺโต สมโณ อโยชฺโฌ, ยถา อุคฺคาหมานสฺส ปริพฺพาชกสฺส สมณมุณฺฑิกาปุตฺตสฺส วจนํ. ทหรสฺส หิ, ถปติ, กุมารสฺส มนฺทสฺส อุตฺตานเสยฺยกสฺส กาโยติปิ น โหติ, กุโต ปน กาเยน ปาปกมฺมํ กริสฺสติ, อฺตฺร ผนฺทิตมตฺตา! ทหรสฺส หิ, ถปติ, กุมารสฺส มนฺทสฺส อุตฺตานเสยฺยกสฺส วาจาติปิ น โหติ, กุโต ปน ปาปกํ วาจํ ภาสิสฺสติ, อฺตฺร โรทิตมตฺตา ! ทหรสฺส หิ, ถปติ, กุมารสฺส มนฺทสฺส อุตฺตานเสยฺยกสฺส สงฺกปฺโปติปิ น โหติ, กุโต ปน ปาปกํ สงฺกปฺปํ สงฺกปฺปิสฺสติ, อฺตฺร วิกูชิตมตฺตา [วิกุชฺชิตมตฺตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]! ทหรสฺส หิ, ถปติ, กุมารสฺส มนฺทสฺส อุตฺตานเสยฺยกสฺส อาชีโวติปิ น โหติ, กุโต ปน ปาปกํ อาชีวํ อาชีวิสฺสติ, อฺตฺร มาตุถฺา! เอวํ สนฺเต โข, ถปติ, ทหโร กุมาโร มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก สมฺปนฺนกุสโล ภวิสฺสติ ปรมกุสโล อุตฺตมปตฺติปตฺโต สมโณ อโยชฺโฌ, ยถา อุคฺคาหมานสฺส ปริพฺพาชกสฺส สมณมุณฺฑิกาปุตฺตสฺส วจนํ.

๒๖๓. ‘‘จตูหิ โข อหํ, ถปติ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ ปุริสปุคฺคลํ ปฺเปมิ น เจว สมฺปนฺนกุสลํ น ปรมกุสลํ น อุตฺตมปตฺติปตฺตํ สมณํ อโยชฺฌํ, อปิ จิมํ ทหรํ กุมารํ มนฺทํ อุตฺตานเสยฺยกํ สมธิคยฺห ติฏฺติ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ถปติ, น กาเยน ปาปกมฺมํ กโรติ, น ปาปกํ วาจํ ภาสติ, น ปาปกํ สงฺกปฺปํ สงฺกปฺเปติ, น ปาปกํ อาชีวํ อาชีวติ – อิเมหิ โข อหํ, ถปติ, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ ปุริสปุคฺคลํ ปฺเปมิ น เจว สมฺปนฺนกุสลํ น ปรมกุสลํ น อุตฺตมปตฺติปตฺตํ สมณํ อโยชฺฌํ, อปิ จิมํ ทหรํ กุมารํ มนฺทํ อุตฺตานเสยฺยกํ สมธิคยฺห ติฏฺติ.

‘‘ทสหิ โข อหํ, ถปติ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ ปุริสปุคฺคลํ ปฺเปมิ สมฺปนฺนกุสลํ ปรมกุสลํ อุตฺตมปตฺติปตฺตํ สมณํ อโยชฺฌํ. อิเม อกุสลา สีลา; ตมหํ [กหํ (สี.), ตหํ (ปี.)], ถปติ, เวทิตพฺพนฺติ วทามิ. อิโตสมุฏฺานา อกุสลา สีลา; ตมหํ, ถปติ, เวทิตพฺพนฺติ วทามิ. อิธ อกุสลา สีลา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ; ตมหํ, ถปติ, เวทิตพฺพนฺติ วทามิ. เอวํ ปฏิปนฺโน อกุสลานํ สีลานํ นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ; ตมหํ, ถปติ, เวทิตพฺพนฺติ วทามิ.

‘‘อิเม กุสลา สีลา; ตมหํ, ถปติ, เวทิตพฺพนฺติ วทามิ. อิโตสมุฏฺานา กุสลา สีลา; ตมหํ, ถปติ, เวทิตพฺพนฺติ วทามิ. อิธ กุสลา สีลา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ; ตมหํ, ถปติ, เวทิตพฺพนฺติ วทามิ. เอวํ ปฏิปนฺโน กุสลานํ สีลานํ นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ; ตมหํ, ถปติ, เวทิตพฺพนฺติ วทามิ.

‘‘อิเม อกุสลา สงฺกปฺปา; ตมหํ, ถปติ, เวทิตพฺพนฺติ วทามิ. อิโตสมุฏฺานา อกุสลา สงฺกปฺปา ; ตมหํ, ถปติ, เวทิตพฺพนฺติ วทามิ. อิธ อกุสลา สงฺกปฺปา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ; ตมหํ, ถปติ, เวทิตพฺพนฺติ วทามิ. เอวํ ปฏิปนฺโน อกุสลานํ สงฺกปฺปานํ นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ; ตมหํ, ถปติ, เวทิตพฺพนฺติ วทามิ.

‘‘อิเม กุสลา สงฺกปฺปา; ตมหํ, ถปติ, เวทิตพฺพนฺติ วทามิ. อิโตสมุฏฺานา กุสลา สงฺกปฺปา ; ตมหํ, ถปติ, เวทิตพฺพนฺติ วทามิ. อิธ กุสลา สงฺกปฺปา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ; ตมหํ, ถปติ, เวทิตพฺพนฺติ วทามิ. เอวํ ปฏิปนฺโน กุสลานํ สงฺกปฺปานํ นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ; ตมหํ, ถปติ, เวทิตพฺพนฺติ วทามิ.

๒๖๔. ‘‘กตเม จ, ถปติ, อกุสลา สีลา? อกุสลํ กายกมฺมํ, อกุสลํ วจีกมฺมํ, ปาปโก อาชีโว – อิเม วุจฺจนฺติ, ถปติ, อกุสลา สีลา.

‘‘อิเม จ, ถปติ, อกุสลา สีลา กึสมุฏฺานา? สมุฏฺานมฺปิ เนสํ วุตฺตํ. ‘จิตฺตสมุฏฺานา’ติสฺส วจนียํ. กตมํ จิตฺตํ? จิตฺตมฺปิ หิ พหุํ อเนกวิธํ นานปฺปการกํ. ยํ จิตฺตํ สราคํ สโทสํ สโมหํ, อิโตสมุฏฺานา อกุสลา สีลา.

‘‘อิเม จ, ถปติ, อกุสลา สีลา กุหึ อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ? นิโรโธปิ เนสํ วุตฺโต. อิธ, ถปติ, ภิกฺขุ กายทุจฺจริตํ ปหาย กายสุจริตํ ภาเวติ, วจีทุจฺจริตํ ปหาย วจีสุจริตํ ภาเวติ, มโนทุจฺจริตํ ปหาย มโนสุจริตํ ภาเวติ, มิจฺฉาชีวํ ปหาย สมฺมาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปติ – เอตฺเถเต อกุสลา สีลา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ.

‘‘กถํ ปฏิปนฺโน, ถปติ, อกุสลานํ สีลานํ นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ? อิธ, ถปติ, ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา อสมฺโมสาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. เอวํ ปฏิปนฺโน โข, ถปติ, อกุสลานํ สีลานํ นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ.

๒๖๕. ‘‘กตเม จ, ถปติ, กุสลา สีลา? กุสลํ กายกมฺมํ, กุสลํ วจีกมฺมํ, อาชีวปริสุทฺธมฺปิ โข อหํ, ถปติ, สีลสฺมึ วทามิ. อิเม วุจฺจนฺติ, ถปติ, กุสลา สีลา.

‘‘อิเม จ, ถปติ, กุสลา สีลา กึสมุฏฺานา? สมุฏฺานมฺปิ เนสํ วุตฺตํ. ‘จิตฺตสมุฏฺานา’ติสฺส วจนียํ. กตมํ จิตฺตํ? จิตฺตมฺปิ หิ พหุํ อเนกวิธํ นานปฺปการกํ. ยํ จิตฺตํ วีตราคํ วีตโทสํ วีตโมหํ, อิโตสมุฏฺานา กุสลา สีลา.

‘‘อิเม จ, ถปติ, กุสลา สีลา กุหึ อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ? นิโรโธปิ เนสํ วุตฺโต. อิธ, ถปติ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ โน จ สีลมโย, ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ ปชานาติ; ยตฺถสฺส เต กุสลา สีลา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ.

‘‘กถํ ปฏิปนฺโน จ, ถปติ, กุสลานํ สีลานํ นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ? อิธ, ถปติ, ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ ; อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย…เป… อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย…เป… อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา อสมฺโมสาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. เอวํ ปฏิปนฺโน โข, ถปติ, กุสลานํ สีลานํ นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ.

๒๖๖. ‘‘กตเม จ, ถปติ, อกุสลา สงฺกปฺปา? กามสงฺกปฺโป, พฺยาปาทสงฺกปฺโป, วิหึสาสงฺกปฺโป – อิเม วุจฺจนฺติ, ถปติ, อกุสลา สงฺกปฺปา.

‘‘อิเม จ, ถปติ, อกุสลา สงฺกปฺปา กึสมุฏฺานา? สมุฏฺานมฺปิ เนสํ วุตฺตํ. ‘สฺาสมุฏฺานา’ติสฺส วจนียํ. กตมา สฺา? สฺาปิ หิ พหู อเนกวิธา นานปฺปการกา. กามสฺา, พฺยาปาทสฺา, วิหึสาสฺา – อิโตสมุฏฺานา อกุสลา สงฺกปฺปา.

‘‘อิเม จ, ถปติ, อกุสลา สงฺกปฺปา กุหึ อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ? นิโรโธปิ เนสํ วุตฺโต. อิธ, ถปติ, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; เอตฺเถเต อกุสลา สงฺกปฺปา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ.

‘‘กถํ ปฏิปนฺโน จ, ถปติ, อกุสลานํ สงฺกปฺปานํ นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ? อิธ, ถปติ, ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย…เป… อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย…เป… อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา อสมฺโมสาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. เอวํ ปฏิปนฺโน โข, ถปติ, อกุสลานํ สงฺกปฺปานํ นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ.

๒๖๗. ‘‘กตเม จ, ถปติ, กุสลา สงฺกปฺปา? เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป, อพฺยาปาทสงฺกปฺโป, อวิหึสาสงฺกปฺโป – อิเม วุจฺจนฺติ, ถปติ, กุสลา สงฺกปฺปา.

‘‘อิเม จ, ถปติ, กุสลา สงฺกปฺปา กึสมุฏฺานา? สมุฏฺานมฺปิ เนสํ วุตฺตํ. ‘สฺาสมุฏฺานา’ติสฺส วจนียํ. กตมา สฺา? สฺาปิ หิ พหู อเนกวิธา นานปฺปการกา. เนกฺขมฺมสฺา, อพฺยาปาทสฺา, อวิหึสาสฺา – อิโตสมุฏฺานา กุสลา สงฺกปฺปา.

‘‘อิเม จ, ถปติ, กุสลา สงฺกปฺปา กุหึ อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ? นิโรโธปิ เนสํ วุตฺโต. อิธ, ถปติ, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; เอตฺเถเต กุสลา สงฺกปฺปา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ.

‘‘กถํ ปฏิปนฺโน จ, ถปติ, กุสลานํ สงฺกปฺปานํ นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ? อิธ, ถปติ, ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย…เป… อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย…เป… อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา อสมฺโมสาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. เอวํ ปฏิปนฺโน โข, ถปติ, กุสลานํ สงฺกปฺปานํ นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ.

๒๖๘. ‘‘กตเมหิ จาหํ, ถปติ, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ ปุริสปุคฺคลํ ปฺเปมิ สมฺปนฺนกุสลํ ปรมกุสลํ อุตฺตมปตฺติปตฺตํ สมณํ อโยชฺฌํ? อิธ, ถปติ, ภิกฺขุ อเสขาย สมฺมาทิฏฺิยา สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมฺมาสงฺกปฺเปน สมนฺนาคโต โหติ, อเสขาย สมฺมาวาจาย สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมฺมากมฺมนฺเตน สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมฺมาอาชีเวน สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมฺมาวายาเมน สมนฺนาคโต โหติ, อเสขาย สมฺมาสติยา สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมฺมาสมาธินา สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมฺมาาเณน สมนฺนาคโต โหติ, อเสขาย สมฺมาวิมุตฺติยา สมนฺนาคโต โหติ – อิเมหิ โข อหํ, ถปติ, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ ปุริสปุคฺคลํ ปฺเปมิ สมฺปนฺนกุสลํ ปรมกุสลํ อุตฺตมปตฺติปตฺตํ สมณํ อโยชฺฌ’’นฺติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน ปฺจกงฺโค ถปติ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.

สมณมุณฺฑิกสุตฺตํ นิฏฺิตํ อฏฺมํ.

๙. จูฬสกุลุทายิสุตฺตํ

๒๖๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน สกุลุทายี ปริพฺพาชโก โมรนิวาเป ปริพฺพาชการาเม ปฏิวสติ มหติยา ปริพฺพาชกปริสาย สทฺธึ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อติปฺปโค โข ตาว ราชคเห ปิณฺฑาย จริตุํ. ยํนูนาหํ เยน โมรนิวาโป ปริพฺพาชการาโม เยน สกุลุทายี ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา เยน โมรนิวาโป ปริพฺพาชการาโม เตนุปสงฺกมิ.

เตน โข ปน สมเยน สกุลุทายี ปริพฺพาชโก มหติยา ปริพฺพาชกปริสาย สทฺธึ นิสินฺโน โหติ อุนฺนาทินิยา อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทาย อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺติยา, เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ มหามตฺตกถํ เสนากถํ ภยกถํ ยุทฺธกถํ อนฺนกถํ ปานกถํ วตฺถกถํ สยนกถํ มาลากถํ คนฺธกถํ าติกถํ ยานกถํ คามกถํ นิคมกถํ นครกถํ ชนปทกถํ อิตฺถิกถํ สูรกถํ วิสิขากถํ กุมฺภฏฺานกถํ ปุพฺพเปตกถํ นานตฺตกถํ โลกกฺขายิกํ สมุทฺทกฺขายิกํ อิติภวาภวกถํ อิติ วา. อทฺทสา โข สกุลุทายี ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน สกํ ปริสํ สณฺาเปสิ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต โหนฺตุ, มา โภนฺโต สทฺทมกตฺถ. อยํ สมโณ โคตโม อาคจฺฉติ; อปฺปสทฺทกาโม โข ปน โส อายสฺมา อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาที. อปฺเปว นาม อปฺปสทฺทํ ปริสํ วิทิตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺเยฺยา’’ติ. อถ โข เต ปริพฺพาชกา ตุณฺหี อเหสุํ .

๒๗๐. อถ โข ภควา เยน สกุลุทายี ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมิ. อถ โข สกุลุทายี ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอตุ โข, ภนฺเต, ภควา. สฺวาคตํ, ภนฺเต, ภควโต. จิรสฺสํ โข, ภนฺเต, ภควา อิมํ ปริยายมกาสิ ยทิทํ อิธาคมนาย. นิสีทตุ, ภนฺเต, ภควา; อิทมาสนํ ปฺตฺต’’นฺติ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. สกุลุทายีปิ โข ปริพฺพาชโก อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข สกุลุทายึ ปริพฺพาชกํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กาย นุตฺถ, อุทายิ, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ? ‘‘ติฏฺเตสา, ภนฺเต, กถา ยาย มยํ เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา. เนสา, ภนฺเต, กถา ภควโต ทุลฺลภา ภวิสฺสติ ปจฺฉาปิ สวนาย. ยทาหํ, ภนฺเต, อิมํ ปริสํ อนุปสงฺกนฺโต โหมิ อถายํ ปริสา อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺตี นิสินฺนา โหติ; ยทา จ โข อหํ, ภนฺเต, อิมํ ปริสํ อุปสงฺกนฺโต โหมิ อถายํ ปริสา มมฺเว มุขํ อุลฺโลเกนฺตี นิสินฺนา โหติ – ‘ยํ โน สมโณ อุทายี ธมฺมํ ภาสิสฺสติ ตํ [ตํ โน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] โสสฺสามา’ติ; ยทา ปน , ภนฺเต, ภควา อิมํ ปริสํ อุปสงฺกนฺโต โหติ อถาหฺเจว อยฺจ ปริสา ภควโต มุขํ อุลฺโลเกนฺตา [โอโลเกนฺตี (สฺยา. กํ. ก.)] นิสินฺนา โหม – ‘ยํ โน ภควา ธมฺมํ ภาสิสฺสติ ตํ โสสฺสามา’’’ติ.

๒๗๑. ‘‘เตนหุทายิ, ตํเยเวตฺถ ปฏิภาตุ ยถา มํ ปฏิภาเสยฺยา’’สิ. ‘‘ปุริมานิ , ภนฺเต, ทิวสานิ ปุริมตรานิ สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี อปริเสสํ าณทสฺสนํ ปฏิชานมาโน ‘จรโต จ เม ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิต’นฺติ. โส มยา [ปจฺจุปฏฺิต’’นฺติ มยา (?)] ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน อฺเนฺํ ปฏิจริ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมสิ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตฺวากาสิ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํเยว อารพฺภ สติ อุทปาทิ – ‘อโห นูน ภควา, อโห นูน สุคโต! โย อิเมสํ ธมฺมานํ สุกุสโล’’’ติ. ‘‘โก ปน โส, อุทายิ, สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี อปริเสสํ าณทสฺสนํ ปฏิชานมาโน ‘จรโต จ เม ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิต’นฺติ, โย ตยา ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน อฺเนฺํ ปฏิจริ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมสิ โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตฺวากาสี’’ติ? ‘นิคณฺโ, ภนฺเต, นาฏปุตฺโต’ติ.

‘‘โย โข, อุทายิ, อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสเรยฺย, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสเรยฺย, โส วา มํ ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ ปฺหํ ปุจฺเฉยฺย, ตํ วาหํ ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ ปฺหํ ปุจฺเฉยฺยํ; โส วา เม ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธยฺย, ตสฺส วาหํ ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธยฺยํ.

‘‘โย [โส (สี. ปี.)] โข, อุทายิ, ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺเสยฺย จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชาเนยฺย, โส วา มํ อปรนฺตํ อารพฺภ ปฺหํ ปุจฺเฉยฺย, ตํ วาหํ อปรนฺตํ อารพฺภ ปฺหํ ปุจฺเฉยฺยํ; โส วา เม อปรนฺตํ อารพฺภ ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธยฺย, ตสฺส วาหํ อปรนฺตํ อารพฺภ ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธยฺยํ.

‘‘อปิ จ, อุทายิ, ติฏฺตุ ปุพฺพนฺโต, ติฏฺตุ อปรนฺโต. ธมฺมํ เต เทเสสฺสามิ – อิมสฺมึ สติ อิทํ โหติ, อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชติ; อิมสฺมึ อสติ อิทํ น โหติ, อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌตี’’ติ.

‘‘อหฺหิ, ภนฺเต, ยาวตกมฺปิ เม อิมินา อตฺตภาเวน ปจฺจนุภูตํ ตมฺปิ นปฺปโหมิ สาการํ สอุทฺเทสํ อนุสฺสริตุํ, กุโต ปนาหํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริสฺสามิ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริสฺสามิ, เสยฺยถาปิ ภควา? อหฺหิ, ภนฺเต, เอตรหิ ปํสุปิสาจกมฺปิ น ปสฺสามิ, กุโต ปนาหํ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสิสฺสามิ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานิสฺสามิ, เสยฺยถาปิ ภควา? ยํ ปน มํ, ภนฺเต, ภควา เอวมาห – ‘อปิ จ, อุทายิ, ติฏฺตุ ปุพฺพนฺโต, ติฏฺตุ อปรนฺโต; ธมฺมํ เต เทเสสฺสามิ – อิมสฺมึ สติ อิทํ โหติ, อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชติ; อิมสฺมึ อสติ อิทํ น โหติ, อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌตี’ติ ตฺจ ปน เม ภิยฺโยโสมตฺตาย น ปกฺขายติ. อปฺเปว นามาหํ, ภนฺเต, สเก อาจริยเก ภควโต จิตฺตํ อาราเธยฺยํ ปฺหสฺส เวยฺยากรเณนา’’ติ.

๒๗๒. ‘‘กินฺติ ปน เต, อุทายิ, สเก อาจริยเก โหตี’’ติ? ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, สเก อาจริยเก เอวํ โหติ – ‘อยํ ปรโม วณฺโณ, อยํ ปรโม วณฺโณ’’’ติ.

‘‘ยํ ปน เต เอตํ, อุทายิ, สเก อาจริยเก เอวํ โหติ – ‘อยํ ปรโม วณฺโณ, อยํ ปรโม วณฺโณ’ติ, กตโม โส ปรโม วณฺโณ’’ติ? ‘‘ยสฺมา, ภนฺเต, วณฺณา อฺโ วณฺโณ อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา นตฺถิ โส ปรโม วณฺโณ’’ติ.

‘‘กตโม ปน โส ปรโม วณฺโณ ยสฺมา วณฺณา อฺโ วณฺโณ อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา นตฺถี’’ติ? ‘‘ยสฺมา , ภนฺเต, วณฺณา อฺโ วณฺโณ อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา นตฺถิ โส ปรโม วณฺโณ’’ติ.

‘‘ทีฆาปิ โข เต เอสา, อุทายิ, ผเรยฺย – ‘ยสฺมา, ภนฺเต, วณฺณา อฺโ วณฺโณ อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา นตฺถิ โส ปรโม วณฺโณ’ติ วเทสิ, ตฺจ วณฺณํ น ปฺเปสิ. เสยฺยถาปิ, อุทายิ, ปุริโส เอวํ วเทยฺย – ‘อหํ ยา อิมสฺมึ ชนปเท ชนปทกลฺยาณี ตํ อิจฺฉามิ, ตํ กาเมมี’ติ. ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, ยํ ตฺวํ ชนปทกลฺยาณึ อิจฺฉสิ กาเมสิ, ชานาสิ ตํ ชนปทกลฺยาณึ – ขตฺติยี วา พฺราหฺมณี วา เวสฺสี วา สุทฺที วา’’ติ? อิติ ปุฏฺโ ‘โน’ติ วเทยฺย. ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, ยํ ตฺวํ ชนปทกลฺยาณึ อิจฺฉสิ กาเมสิ, ชานาสิ ตํ ชนปทกลฺยาณึ – เอวํนามา เอวํโคตฺตาติ วาติ…เป… ทีฆา วา รสฺสา วา มชฺฌิมา วา กาฬี วา สามา วา มงฺคุรจฺฉวี วาติ… อมุกสฺมึ คาเม วา นิคเม วา นคเร วา’ติ? อิติ ปุฏฺโ ‘โน’ติ วเทยฺย. ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, ยํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ, ตํ ตฺวํ อิจฺฉสิ กาเมสี’’’ติ? อิติ ปุฏฺโ ‘อามา’ติ วเทยฺย.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อุทายิ – นนุ เอวํ สนฺเต, ตสฺส ปุริสสฺส อปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต ตสฺส ปุริสสฺส อปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ.

‘‘เอวเมว โข ตฺวํ, อุทายิ, ‘ยสฺมา, ภนฺเต, วณฺณา อฺโ วณฺโณ อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา นตฺถิ โส ปรโม วณฺโณ’ติ วเทสิ, ตฺจ วณฺณํ น ปฺเปสี’’ติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺโต ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ, เอวํ วณฺโณ อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’’ติ.

๒๗๓. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, อุทายิ, โย วา มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺโต ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ, โย วา รตฺตนฺธการติมิสาย กิมิ ขชฺโชปนโก – อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ กตโม วณฺโณ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, ภนฺเต, รตฺตนฺธการติมิสาย กิมิ ขชฺโชปนโก – อยํ อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อุทายิ, โย วา รตฺตนฺธการติมิสาย กิมิ ขชฺโชปนโก, โย วา รตฺตนฺธการติมิสาย เตลปฺปทีโป – อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ กตโม วณฺโณ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, ภนฺเต, รตฺตนฺธการติมิสาย เตลปฺปทีโป – อยํ อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อุทายิ, โย วา รตฺตนฺธการติมิสาย เตลปฺปทีโป, โย วา รตฺตนฺธการติมิสาย มหาอคฺคิกฺขนฺโธ – อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ กตโม วณฺโณ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, ภนฺเต, รตฺตนฺธการติมิสาย มหาอคฺคิกฺขนฺโธ – อยํ อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อุทายิ, โย วา รตฺตนฺธการติมิสาย มหาอคฺคิกฺขนฺโธ, ยา วา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว โอสธิตารกา – อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ กตโม วณฺโณ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, ภนฺเต, รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว โอสธิตารกา – อยํ อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อุทายิ, ยา วา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว โอสธิตารกา, โย วา ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อภิโท [อภิเท (ก. สี.), อภิโทสํ (ก.) อภิโทติ อภิสทฺเทน สมานตฺถนิปาตปทํ (ฉกฺกงฺคุตฺตรฏีกา มหาวคฺค อฏฺมสุตฺตวณฺณนา)] อฑฺฒรตฺตสมยํ จนฺโท – อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ กตโม วณฺโณ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, ภนฺเต, ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อภิโท อฑฺฒรตฺตสมยํ จนฺโท – อยํ อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อุทายิ, โย วา ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อภิโท อฑฺฒรตฺตสมยํ จนฺโท, โย วา วสฺสานํ ปจฺฉิเม มาเส สรทสมเย วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อภิโท มชฺฌนฺหิกสมยํ สูริโย – อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ กตโม วณฺโณ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, ภนฺเต, วสฺสานํ ปจฺฉิเม มาเส สรทสมเย วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อภิโท มชฺฌนฺหิกสมยํ สูริโย – อยํ อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ.

‘‘อโต โข เต, อุทายิ, พหู หิ พหุตรา เทวา เย อิเมสํ จนฺทิมสูริยานํ อาภา นานุโภนฺติ, ตฺยาหํ ปชานามิ. อถ จ ปนาหํ น วทามิ – ‘ยสฺมา วณฺณา อฺโ วณฺโณ อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา นตฺถี’ติ. อถ จ ปน ตฺวํ, อุทายิ, ‘ยฺวายํ วณฺโณ กิมินา ขชฺโชปนเกน นิหีนตโร [หีนตโร (สี. ปี.)] จ ปติกิฏฺตโร จ โส ปรโม วณฺโณ’ติ วเทสิ, ตฺจ วณฺณํ น ปฺเปสี’’ติ. ‘‘อจฺฉิทํ [อจฺฉิร (ก.), อจฺฉิท (?)] ภควา กถํ, อจฺฉิทํ สุคโต กถ’’นฺติ!

‘‘กึ ปน ตฺวํ, อุทายิ, เอวํ วเทสิ – ‘อจฺฉิทํ ภควา กถํ, อจฺฉิทํ สุคโต กถํ’’’ติ? ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, สเก อาจริยเก เอวํ โหติ – ‘อยํ ปรโม วณฺโณ, อยํ ปรโม วณฺโณ’ติ. เต มยํ, ภนฺเต, ภควตา สเก อาจริยเก สมนุยุฺชิยมานา สมนุคฺคาหิยมานา สมนุภาสิยมานา ริตฺตา ตุจฺฉา อปรทฺธา’’ติ.

๒๗๔. ‘‘กึ ปนุทายิ, อตฺถิ เอกนฺตสุโข โลโก, อตฺถิ อาการวตี ปฏิปทา เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ? ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, สเก อาจริยเก เอวํ โหติ – ‘อตฺถิ เอกนฺตสุโข โลโก, อตฺถิ อาการวตี ปฏิปทา เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยายา’’’ติ.

‘‘กตมา ปน สา, อุทายิ, อาการวตี ปฏิปทา เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ? ‘‘อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปหาย กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, อฺตรํ วา ปน ตโปคุณํ สมาทาย วตฺตติ. อยํ โข สา, ภนฺเต, อาการวตี ปฏิปทา เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อุทายิ, ยสฺมึ สมเย ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, เอกนฺตสุขี วา ตสฺมึ สมเย อตฺตา โหติ สุขทุกฺขี วา’’ติ? ‘‘สุขทุกฺขี, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อุทายิ, ยสฺมึ สมเย อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, เอกนฺตสุขี วา ตสฺมึ สมเย อตฺตา โหติ สุขทุกฺขี วา’’ติ? ‘‘สุขทุกฺขี, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อุทายิ, ยสฺมึ สมเย กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปหาย กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, เอกนฺตสุขี วา ตสฺมึ สมเย อตฺตา โหติ สุขทุกฺขี วา’’ติ? ‘‘สุขทุกฺขี, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อุทายิ, ยสฺมึ สมเย มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, เอกนฺตสุขี วา ตสฺมึ สมเย อตฺตา โหติ สุขทุกฺขี วา’’ติ? ‘‘สุขทุกฺขี, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อุทายิ, ยสฺมึ สมเย อฺตรํ ตโปคุณํ สมาทาย วตฺตติ, เอกนฺตสุขี วา ตสฺมึ สมเย อตฺตา โหติ สุขทุกฺขี วา’’ติ? ‘‘สุขทุกฺขี, ภนฺเต’’.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อุทายิ, อปิ นุ โข โวกิณฺณสุขทุกฺขํ ปฏิปทํ อาคมฺม เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยา โหตี’’ติ [สจฺฉิกิริยายาติ (ก.)]? ‘‘อจฺฉิทํ ภควา กถํ, อจฺฉิทํ สุคโต กถ’’นฺติ!

‘‘กึ ปน ตฺวํ, อุทายิ, วเทสิ – ‘อจฺฉิทํ ภควา กถํ, อจฺฉิทํ สุคโต กถํ’’’ติ? ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, สเก อาจริยเก เอวํ โหติ – ‘อตฺถิ เอกนฺตสุโข โลโก, อตฺถิ อาการวตี ปฏิปทา เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติ. เต มยํ, ภนฺเต, ภควตา สเก อาจริยเก สมนุยุฺชิยมานา สมนุคฺคาหิยมานา สมนุภาสิยมานา ริตฺตา ตุจฺฉา อปรทฺธา’’ติ [อปรทฺธา (สี.), อปรทฺธาปิ (สฺยา. กํ. ปี.)].

๒๗๕. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, อตฺถิ เอกนฺตสุโข โลโก, อตฺถิ อาการวตี ปฏิปทา เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ? ‘‘อตฺถิ โข, อุทายิ, เอกนฺตสุโข โลโก, อตฺถิ อาการวตี ปฏิปทา เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ.

‘‘กตมา ปน สา, ภนฺเต, อาการวตี ปฏิปทา เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ? ‘‘อิธุทายิ, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; ปีติยา จ วิราคา… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – อยํ โข สา, อุทายิ, อาการวตี ปฏิปทา เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ.

‘‘น [กึ นุ (สฺยา. กํ. ก.)] โข สา, ภนฺเต, อาการวตี ปฏิปทา เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยาย, สจฺฉิกโต หิสฺส, ภนฺเต, เอตฺตาวตา เอกนฺตสุโข โลโก โหตี’’ติ. ‘‘น ขฺวาสฺส, อุทายิ, เอตฺตาวตา เอกนฺตสุโข โลโก สจฺฉิกโต โหติ; อาการวตีตฺเวว สา ปฏิปทา เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, สกุลุทายิสฺส ปริพฺพาชกสฺส ปริสา อุนฺนาทินี อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อโหสิ – ‘‘เอตฺถ มยํ อนสฺสาม สาจริยกา, เอตฺถ มยํ อนสฺสาม [ปนสฺสาม (สี.)] สาจริยกา! น มยํ อิโต ภิยฺโย อุตฺตริตรํ ปชานามา’’ติ.

อถ โข สกุลุทายี ปริพฺพาชโก เต ปริพฺพาชเก อปฺปสทฺเท กตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิตฺตาวตา ปนาสฺส, ภนฺเต, เอกนฺตสุโข โลโก สจฺฉิกโต โหตี’’ติ? ‘‘อิธุทายิ, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ… อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ยา ตา เทวตา เอกนฺตสุขํ โลกํ อุปปนฺนา ตาหิ เทวตาหิ สทฺธึ สนฺติฏฺติ สลฺลปติ สากจฺฉํ สมาปชฺชติ. เอตฺตาวตา ขฺวาสฺส, อุทายิ, เอกนฺตสุโข โลโก สจฺฉิกโต โหตี’’ติ.

๒๗๖. ‘‘เอตสฺส นูน, ภนฺเต, เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู ภควติ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตี’’ติ? ‘‘น โข, อุทายิ, เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ. อตฺถิ โข, อุทายิ , อฺเว ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ เยสํ สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตี’’ติ.

‘‘กตเม ปน เต, ภนฺเต, ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ เยสํ สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู ภควติ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตี’’ติ? ‘‘อิธุทายิ, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา…เป… โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยมฺปิ โข, อุทายิ, ธมฺโม อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จ ยสฺส สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ’’.

‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยมฺปิ โข, อุทายิ, ธมฺโม อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จ ยสฺส สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. อยมฺปิ โข, อุทายิ, ธมฺโม อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จ ยสฺส สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. อยมฺปิ โข, อุทายิ, ธมฺโม อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จ ยสฺส สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ . โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ… ‘อิเม อาสวา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวสมุทโย’ติ… ‘อยํ อาสวนิโรโธ’ติ… ‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ. อยมฺปิ โข, อุทายิ, ธมฺโม อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จ ยสฺส สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ. อิเม โข, อุทายิ, ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ เยสํ สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตี’’ติ.

๒๗๗. เอวํ วุตฺเต, สกุลุทายี ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต , อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต! เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต, สกุลุทายิสฺส ปริพฺพาชกสฺส ปริสา สกุลุทายึ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจุํ – ‘‘มา ภวํ, อุทายิ, สมเณ โคตเม พฺรหฺมจริยํ จริ; มา ภวํ, อุทายิ, อาจริโย หุตฺวา อนฺเตวาสีวาสํ วสิ. เสยฺยถาปิ นาม อุทกมณิโก [มณิโก (สี. ปี. ก.)] หุตฺวา อุทฺจนิโก [อุทฺเทกนิโก (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อสฺส, เอวํ สมฺปทมิทํ [เอวํ สมฺปทเมตํ (สี. ปี.)] โภโต อุทายิสฺส ภวิสฺสติ. มา ภวํ, อุทายิ, สมเณ โคตเม พฺรหฺมจริยํ จริ; มา ภวํ, อุทายิ, อาจริโย หุตฺวา อนฺเตวาสีวาสํ วสี’’ติ. อิติ หิทํ สกุลุทายิสฺส ปริพฺพาชกสฺส ปริสา สกุลุทายึ ปริพฺพาชกํ อนฺตรายมกาสิ ภควติ พฺรหฺมจริเยติ.

จูฬสกุลุทายิสุตฺตํ นิฏฺิตํ นวมํ.

๑๐. เวขนสสุตฺตํ

๒๗๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข เวขนโส [เวขนสฺโส (สี. ปี.)] ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข เวขนโส ปริพฺพาชโก ภควโต สนฺติเก อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘อยํ ปรโม วณฺโณ, อยํ ปรโม วณฺโณ’’ติ.

‘‘กึ ปน ตฺวํ, กจฺจาน, เอวํ วเทสิ – ‘อยํ ปรโม วณฺโณ, อยํ ปรโม วณฺโณ’ติ? กตโม, กจฺจาน, โส ปรโม วณฺโณ’’ติ?

‘‘ยสฺมา, โภ โคตม, วณฺณา อฺโ วณฺโณ อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา นตฺถิ โส ปรโม วณฺโณ’’ติ.

‘‘กตโม ปน โส, กจฺจาน, วณฺโณ ยสฺมา วณฺณา อฺโ วณฺโณ อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา นตฺถี’’ติ?

‘‘ยสฺมา, โภ โคตม, วณฺณา อฺโ วณฺโณ อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา นตฺถิ โส ปรโม วณฺโณ’’ติ.

‘‘ทีฆาปิ โข เต เอสา, กจฺจาน, ผเรยฺย – ‘ยสฺมา, โภ โคตม, วณฺณา อฺโ วณฺโณ อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา นตฺถิ โส ปรโม วณฺโณ’ติ วเทสิ, ตฺจ วณฺณํ น ปฺเปสิ. เสยฺยถาปิ, กจฺจาน, ปุริโส เอวํ วเทยฺย – ‘อหํ ยา อิมสฺมึ ชนปเท ชนปทกลฺยาณี, ตํ อิจฺฉามิ ตํ กาเมมี’ติ. ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, ยํ ตฺวํ ชนปทกลฺยาณึ อิจฺฉสิ กาเมสิ, ชานาสิ ตํ ชนปทกลฺยาณึ – ขตฺติยี วา พฺราหฺมณี วา เวสฺสี วา สุทฺที วา’ติ? อิติ ปุฏฺโ ‘โน’ติ วเทยฺย. ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, ยํ ตฺวํ ชนปทกลฺยาณึ อิจฺฉสิ กาเมสิ, ชานาสิ ตํ ชนปทกลฺยาณึ ‘เอวํนามา เอวํโคตฺตาติ วาติ…เป… ทีฆา วา รสฺสา วา มชฺฌิมา วา กาฬี วา สามา วา มงฺคุรจฺฉวี วาติ… อมุกสฺมึ คาเม วา นิคเม วา นคเร วา’ติ? อิติ ปุฏฺโ ‘โน’ติ วเทยฺย. ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, ยํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ, ตํ ตฺวํ อิจฺฉสิ กาเมสี’’’ติ? อิติ ปุฏฺโ ‘อามา’ติ วเทยฺย.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, กจฺจาน, นนุ เอวํ สนฺเต ตสฺส ปุริสสฺส อปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, โภ โคตม, เอวํ สนฺเต ตสฺส ปุริสสฺส อปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข ตฺวํ, กจฺจาน, ‘ยสฺมา, โภ โคตม, วณฺณา อฺโ วณฺโณ อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา นตฺถิ โส ปรโม วณฺโณ’ติ วเทสิ; ตฺจ วณฺณํ น ปฺเปสี’’ติ. ‘‘เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺโต ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ, เอวํ วณฺโณ อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’’ติ.

๒๗๙. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, กจฺจาน, โย วา มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺโต ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ, โย วา รตฺตนฺธการติมิสาย กิมิ ขชฺโชปนโก อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ กตโม วณฺโณ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, โภ โคตม, รตฺตนฺธการติมิสาย กิมิ ขชฺโชปนโก, อยํ อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, กจฺจาน, โย วา รตฺตนฺธการติมิสาย กิมิ ขชฺโชปนโก, โย วา รตฺตนฺธการติมิสาย เตลปฺปทีโป, อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ กตโม วณฺโณ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, โภ โคตม, รตฺตนฺธการติมิสาย เตลปฺปทีโป, อยํ อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, กจฺจาน, โย วา รตฺตนฺธการติมิสาย เตลปฺปทีโป, โย วา รตฺตนฺธการติมิสาย มหาอคฺคิกฺขนฺโธ, อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ กตโม วณฺโณ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, โภ โคตม, รตฺตนฺธการติมิสาย มหาอคฺคิกฺขนฺโธ, อยํ อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, กจฺจาน, โย วา รตฺตนฺธการติมิสาย มหาอคฺคิกฺขนฺโธ, ยา วา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว โอสธิตารกา, อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ กตโม วณฺโณ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, โภ โคตม, รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว โอสธิตารกา, อยํ อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, กจฺจาน, ยา วา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว โอสธิตารกา, โย วา ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อภิโท อฑฺฒรตฺตสมยํ จนฺโท, อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ กตโม วณฺโณ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, โภ โคตม, ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อภิโท อฑฺฒรตฺตสมยํ จนฺโท, อยํ อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, กจฺจาน, โย วา ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อภิโท อฑฺฒรตฺตสมยํ จนฺโท, โย วา วสฺสานํ ปจฺฉิเม มาเส สรทสมเย วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อภิโท มชฺฌนฺหิกสมยํ สูริโย, อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ กตโม วณฺโณ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, โภ โคตม, วสฺสานํ ปจฺฉิเม มาเส สรทสมเย วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อภิโท มชฺฌนฺหิกสมยํ สูริโย – อยํ อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ. ‘‘อโต โข เต, กจฺจาน, พหู หิ พหุตรา เทวา เย อิเมสํ จนฺทิมสูริยานํ อาภา นานุโภนฺติ, ตฺยาหํ ปชานามิ. อถ จ ปนาหํ น วทามิ – ‘ยสฺมา วณฺณา อฺโ วณฺโณ อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จ นตฺถี’ติ. อถ จ ปน ตฺวํ, กจฺจาน, ‘ยฺวายํ วณฺโณ กิมินา ขชฺโชปนเกน นิหีนตโร จ ปติกิฏฺตโร จ โส ปรโม วณฺโณ’ติ วเทสิ; ตฺจ วณฺณํ น ปฺเปสิ’’.

๒๘๐. ‘‘ปฺจ โข อิเม, กจฺจาน, กามคุณา. กตเม ปฺจ? จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, โสตวิฺเยฺยา สทฺทา…เป… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา – อิเม โข, กจฺจาน, ปฺจ กามคุณา. ยํ โข, กจฺจาน, อิเม ปฺจ กามคุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ อิทํ วุจฺจติ กามสุขํ. อิติ กาเมหิ กามสุขํ, กามสุขา กามคฺคสุขํ ตตฺถ อคฺคมกฺขายตี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, เวขนโส ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! ยาว สุภาสิตํ จิทํ โภตา โคตเมน – ‘กาเมหิ กามสุขํ, กามสุขา กามคฺคสุขํ ตตฺถ อคฺคมกฺขายตี’ติ. (‘กาเมหิ, โภ โคตม, กามสุขํ, กามสุขา กามคฺคสุขํ, ตตฺถ อคฺคมกฺขายตี’ติ) [( ) สี. สฺยา. กํ. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] – ‘‘ทุชฺชานํ โข เอตํ, กจฺจาน, ตยา อฺทิฏฺิเกน อฺขนฺติเกน อฺรุจิเกน อฺตฺรโยเคน อฺตฺราจริยเกน – กามา [กามํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วา กามสุขํ วา กามคฺคสุขํ วา. เย โข เต, กจฺจาน, ภิกฺขู อรหนฺโต ขีณาสวา วุสิตวนฺโต กตกรณียา โอหิตภารา อนุปฺปตฺตสทตฺถา ปริกฺขีณภวสํโยชนา สมฺมทฺา วิมุตฺตา เต โข เอตํ ชาเนยฺยุํ – กามา วา กามสุขํ วา กามคฺคสุขํ วา’’ติ.

๒๘๑. เอวํ วุตฺเต, เวขนโส ปริพฺพาชโก กุปิโต อนตฺตมโน ภควนฺตํเยว ขุํเสนฺโต ภควนฺตํเยว วมฺเภนฺโต ภควนฺตํเยว วทมาโน ‘‘สมโณ [สมโณ จ (สี. ปี.)] โคตโม ปาปิโต ภวิสฺสตี’’ติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอวเมว ปนิเธกจฺเจ [ปนิเธเก (สี. ปี.), ปนิเมเก (อุปริสุภสุตฺเต)] สมณพฺราหฺมณา อชานนฺตา ปุพฺพนฺตํ, อปสฺสนฺตา อปรนฺตํ อถ จ ปน ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ – ปชานามา’ติ – ปฏิชานนฺติ [อิตฺถตฺตายาติ ปฏิชานนฺติ (ปี.)]. เตสมิทํ ภาสิตํ หสฺสกํเยว สมฺปชฺชติ, นามกํเยว สมฺปชฺชติ, ริตฺตกํเยว สมฺปชฺชติ, ตุจฺฉกํเยว สมฺปชฺชตี’’ติ. ‘‘เย โข เต, กจฺจาน, สมณพฺราหฺมณา อชานนฺตา ปุพฺพนฺตํ , อปสฺสนฺตา อปรนฺตํ, ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ – ปชานามา’ติ – ปฏิชานนฺติ; เตสํ โสเยว [เตสํ เตสายํ (สี.), เตสํเยว โส (?)] สหธมฺมิโก นิคฺคโห โหติ. อปิ จ, กจฺจาน, ติฏฺตุ ปุพฺพนฺโต, ติฏฺตุ อปรนฺโต. เอตุ วิฺู ปุริโส อสโ อมายาวี อุชุชาติโก, อหมนุสาสามิ อหํ ธมฺมํ เทเสมิ. ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน [ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาโน (?)] นจิรสฺเสว สามฺเว สฺสติ สามํ ทกฺขิติ – เอวํ กิร สมฺมา [เอวํ กิรายสฺมา (สฺยา. ก.)] พนฺธนา วิปฺปโมกฺโข โหติ, ยทิทํ อวิชฺชา พนฺธนา. เสยฺยถาปิ, กจฺจาน, ทหโร กุมาโร มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก กณฺปฺจเมหิ พนฺธเนหิ พทฺโธ อสฺส สุตฺตพนฺธเนหิ; ตสฺส วุทฺธิมนฺวาย อินฺทฺริยานํ ปริปากมนฺวาย ตานิ พนฺธนานิ มุจฺเจยฺยุํ; โส โมกฺโขมฺหีติ โข ชาเนยฺย โน จ พนฺธนํ . เอวเมว โข, กจฺจาน, เอตุ วิฺู ปุริโส อสโ อมายาวี อุชุชาติโก, อหมนุสาสามิ, อหํ ธมฺมํ เทเสมิ; ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน นจิรสฺเสว สามฺเ สฺสติ , สามํ ทกฺขิติ – ‘เอวํ กิร สมฺมา พนฺธนา วิปฺปโมกฺโข โหติ, ยทิทํ อวิชฺชา พนฺธนา’’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, เวขนโส ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

เวขนสสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทสมํ.

ปริพฺพาชกวคฺโค นิฏฺิโต ตติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

ปุณฺฑรี-อคฺคิสห-กถินาโม, ทีฆนโข ปุน ภารทฺวาชโคตฺโต;

สนฺทกอุทายิมุณฺฑิกปุตฺโต, มณิโก ตถากจฺจาโน วรวคฺโค.