📜
๔. ราชวคฺโค
๑. ฆฏิการสุตฺตวณฺณนา
๒๘๒. จริยนฺติ ¶ ¶ โพธิจริยํ, โพธิสมฺภารสมฺภรณวเสน ปวตฺติตํ โพธิสตฺตปฏิปตฺตินฺติ อตฺโถ. สุการณนฺติ โพธิปริปาจนสฺส เอกนฺติกํ สุนฺทรํ การณํ, กสฺสปสฺส ภควโต ปยิรุปาสนาทึ สนฺธาย วทติ. ตฺหิ เตน สทฺธึ มยา อิธ กตนฺติ วตฺตพฺพตํ ลภติ. มนฺทหสิตนฺติ อีสกํ หสิตํ. กุหํ กุหนฺติ หาส-สทฺทสฺส อนุกรณเมตํ. หฏฺปหฏฺาการมตฺตนฺติ หฏฺปหฏฺมตฺตํ. ยถา คหิตสงฺเกตา ‘‘ปหฏฺโ ภควา’’ติ สฺชานนฺติ, เอวํ อาการทสฺสนมตฺตํ.
อิทานิ อิมินา ปสงฺเคน ตาสํ สมุฏฺานํ วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘หสิตฺจ นาเมต’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อชฺฌุเปกฺขนวเสนปิ หาโส น สมฺภวติ, ปเคว โทมนสฺสวเสนาติ อาห ‘‘เตรสหิ โสมนสฺสสหคตจิตฺเตหี’’ติ. นนุ จ เกจิ โกธวเสนปิ หสนฺตีติ? น, เตสมฺปิ ยํ ตํ โกธวตฺถุ, ตสฺส มยํ ทานิ ยถากามการิตํ อาปชฺชิสฺสามาติ ทุวิฺเยฺยนฺตเรน โสมนสฺสจิตฺเตเนว หาสสฺส อุปฺปชฺชนโต. เตสูติ ปฺจสุ โสมนสฺสสหคตจิตฺเตสุ. พลวารมฺมเณติ อุฬารอารมฺมเณ ยมกมหาปาฏิหาริยสทิเส. ทุพฺพลารมฺมเณติ อนุฬาเร อารมฺมเณ. อิมสฺมึ ปน าเน…เป… อุปฺปาเทสีติ อิทํ โปราณฏฺกถายํ ตถา อาคตตฺตา วุตฺตํ. น อเหตุกโสมนสฺสสหคตจิตฺเตน ภควโต สิตํ โหตีติ ทสฺสนตฺถํ.
อภิธมฺมฏีกายํ (ธ. ส. มูลฏี. ๕๖๘) ปน ‘‘อตีตํสาทีสุ อปฺปฏิหตํ าณํ วตฺวา ‘อิเมหิ ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส พุทฺธสฺส ภควโต สพฺพํ กายกมฺมํ าณปุพฺพงฺคมํ าณานุปริวตฺต’นฺติอาทิวจนโต (มหานิ. ๖๙, ๑๕๖; จูฬนิ. มาฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕; ปฏิ. ม. ๓.๕; เนตฺติ. ๑๕; ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๐๕; วิภ. มูลฏี. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา; ที. นิ. ฏี. ๓.๑๔๑, ๓๐๕) ‘ภควโต ¶ อิทํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’ติ วุตฺตวจนํ วิจาเรตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ อิมินา หสิตุปฺปาทจิตฺเตน ปวตฺติยมานมฺปิ ภควโต สิตกรณํ ปุพฺเพนิวาส-อนาคตํส-สพฺพฺุตฺาณานํ อนุวตฺตกตฺตา าณานุปริวตฺติเยวาติ, เอวํ ปน าณานุปริวตฺติภาเว สติ น โกจิ ปาฬิอฏฺกถานํ วิโรโธ. ตถา หิ อภิธมฺมฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๕๖๘) ‘‘เตสํ ¶ าณานํ จิณฺณปริยนฺเต อิทํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. อวสฺสฺจ เอตํ เอวํ อิจฺฉิตพฺพํ, อฺถา อาวชฺชนสฺสปิ ภควโต ปวตฺติ ตถารูเป กาเล น สํยุชฺเชยฺย, ตสฺสปิ หิ วิฺตฺติสมุฏฺาปกภาวสฺส อิจฺฉิตตฺตา, ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘เอวฺจ กตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนสฺสปิ วิฺตฺติสมุฏฺาปกตฺตํ อุปปนฺนํ โหตี’’ติ, น จ วิฺตฺติสมุฏฺาปกตฺเต ตํสมุฏฺิตาย วิฺตฺติยา กายกมฺมาทิภาวํ อาปชฺชนภาโว วิพนฺธตีติ ตเมว สนฺธาย วทติ. เตนาห ‘‘เอวํ อปฺปมตฺตกมฺปี’’ติ. สเตริตา วิชฺชุลตา นาม สเตรตาวิชฺชุลตา. สา หิ อิตรวิชฺชุลตา วิย ขณฏฺิติกา สีฆนิโรธา จ น โหติ, อปิจ โข ทนฺธนิโรธา, ตฺจ สพฺพกาลํ จตุทีปิกมหาเมฆโตว นิจฺฉรติ เตนาห ‘‘จาตุทฺทีปิกมหาเมฆมุขโต’’ติ. อยํ กิร ตาสํ รสฺมิวฏฺฏีนํ ธมฺมตา, ยทิทํ ติกฺขตฺตุํ สิรวรํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ทาคฺเคสุเยว อนฺตรธานํ.
๒๘๓. ยทิปิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ กปฺปานํ สตสหสฺสฺจ ปฺาปารมิตา ปริภาวิตา, ตถาปิ อิทานิ ตํ พุทฺธนฺตรํ ตสฺสา ปฏิปาเทตพฺพตฺตา วุตฺตํ ‘‘อปริปกฺกาณตฺตา’’ติ. กามฺจสฺส าณาย อิทานิปิ ปฏิปาเทตพฺพตา อตฺถิ, เอวํ สนฺเตปิ นนุ สมฺมาสมฺพุทฺเธสุ ปสาเทน สมฺภาวนาย ภวิตพฺพํ ตถา จิรกาลํ ปริภาวิตตฺตา, กถํ ตตฺถ หีฬนาติ อาห ‘‘พฺราหฺมณกุเล’’ติอาทิ. จิรกาลปริจิตาปิ หิ คุณภาวนา อปฺปเกนปิ อกลฺยาณมิตฺตสํสคฺเคน วิปริวตฺตติ อฺถตฺตํ คจฺฉติ. เตน มหาสตฺโตปิ ชาติสิทฺธายํ ลทฺธิยํ ตฺวา ชาติสิทฺเธน มาเนน เอวมาห – ‘‘กึ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิฏฺเนา’’ติ. ตถา หิ วุตฺตํ อฏฺกถายํ –
‘‘ตสฺมา อกลฺยาณชนํ, อาสีวิสมิโวรคํ,
อารกา ปริวชฺเชยฺย, ภูติกาโม วิจกฺขโณ’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๗๐-๑๗๒);
นฺหานจุณฺเณน สุตฺเตน กตา โสตฺติ, กุรุวินฺทคุฬิกา, สา เอว สินายนฺติ กายํ วิโสเธนฺติ เอตายาติ สินานํ. เตนาห – ‘‘โสตฺติ สินานนฺติ สินานตฺถาย กตโสตฺติ’’นฺติ.
๒๘๔. อริยปริหาเรนาติ ¶ อริยานํ ปริหาเรน, อนาคามีนํ นฺหานกาเล อตฺตโน กายสฺส ปริหารนิยาเมนาติ อตฺโถ. อตฺตโน ¶ าณสมฺปตฺติยา วิภวสมฺปตฺติยา ปสนฺนการํ กาตุํ สกฺขิสฺสติ. เอตทตฺถนฺติ ‘‘อหิตนิวารณํ, หิเต นิโยชนํ พฺยสเน ปริวชฺชน’’นฺติ ยทิทํ, เอตทตฺถํ มิตฺตา นาม โหนฺติ. เกจิ ‘‘ยาเวตฺถ อหุปี’’ติ ปนฺติ, เตสํ ยาว เอตฺถ เกสคฺคคหณํ ตาว อยํ นิพนฺโธ อหุปีติ อตฺโถ.
๒๘๕. สติปฏิลาภตฺถายาติ โพธิยา มหาภินีหารํ กตฺวา โพธิสมฺภารปฏิปทาย ปูรณภาเว สติยา ปฏิลาภตฺถาย. อิทานิ ตสฺส สตุปฺปาทนียกถาย ปวตฺติตาการํ สงฺเขเปเนว ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺส หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ น ลามกฏฺานํ โอติณฺณสตฺโตติ อิมินา มหาสตฺตสฺส ปณีตาธิมุตฺตตํ ทสฺเสตฺวา เอวํ ปณีตาธิมุตฺติกสฺส ปมาทกิริยา น ยุตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตาทิสสฺส นาม ปมาทวิหาโร น ยุตฺโต’’ติ อาห. ตทา โพธิสตฺตสฺส เนกฺขมฺมชฺฌาสโย เตลปฺปทีโป วิย วิเสสโต นิพฺพตฺติ, ตํ ทิสฺวา ภควา ตทนุรูปํ ธมฺมกถํ กโรนฺโต ‘‘ตาทิสสฺส…เป… กเถสี’’ติ. ปรสมุทฺทวาสี เถรา อฺถา วทนฺติ. อฏฺกถายํ ปน นายํ พุทฺธานํ ภาโร, ยทิทํ ปูริตปารมีนํ โพธิสตฺตานํ ตถา ธมฺมเทสนา เตสํ มหาภินีหารสมนนฺตรมฺปิ โพธิสมฺภารสฺส สยมฺภุาเณเนว ปฏิวิทิตตฺตา. ตสฺมา โพธิสตฺตภาวปเวทนเมว ตสฺส ภควา อกาสีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สติปฏิลาภตฺถายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สติปฏิลาภตฺถายาติ สมฺมาปฏิปตฺติยา อุชฺชลเน ปากฏกรสติปฏิลาภาย.
๒๘๖. าณฺหิ กิเลสธมฺมวิทาลนปทาลเนหิ สิงฺคํ วิยาติ สิงฺคํ. ตฺหิ ปฏิปตฺติยา อุปตฺถมฺภิตํ อุสฺสิตํ นาม โหติ, ตทภาเว ปติตํ นาม. เกจิ ปน วีริยํ สิงฺคนฺติ วทนฺติ. ตสฺมึ สมฺมปฺปธานวเสน ปวตฺเต พาหิรปพฺพชฺชํ อุปคตาปิ มหาสตฺตา วิสุทฺธาสยา อปฺปิจฺฉตาทิคุณสมงฺคิโน ยถารหํ คนฺถธุรํ วาสธุรฺจ ปริพฺรูหยนฺตา วิหรนฺติ, ปเคว พุทฺธสาสเน อปฺปิจฺฉตาทีหีติ อาห ‘‘จตุปาริสุทฺธิสีเล ปนา’’ติอาทิ. วิปสฺสนํ พฺรูเหนฺตา สิขาปฺปตฺตวิปสฺสนา โหนฺตีติ วุตฺตํ – ‘‘ยาว อนุโลมาณํ อาหจฺจ ติฏฺนฺตี’’ติ, อนุโลมาณโต โอรเมว วิปสฺสนํ เปนฺตีติ อตฺโถ. มคฺคผลตฺถํ วายามํ น กโรนฺติ ปฺาปารมิตาย สพฺพฺุตฺาณคพฺภสฺส อปริปุณฺณตฺตา อปริปกฺกตฺตา จ.
๒๘๗. เถเรหีติ ¶ วุทฺธตเรหิ. นิวาเส สตีติ ยสฺมึ าเน ปพฺพชิโต, ตตฺเถว นิวาเส. วปฺปกาลโตติ สสฺสานํ วปฺปกาลโต. ปุพฺเพ วิย ตโต ปรํ ติขิเณน สูริยสนฺตาเปน ปโยชนํ นตฺถีติ วุตฺตํ – ‘‘วปฺปกาเล วิตานํ วิย อุปริ วตฺถกิลฺชํ พนฺธิตฺวา’’ติ. ปุฏเกติ กลาเป.
๒๘๘. ปจฺจยสามคฺคิเหตุกตฺตา ¶ ธมฺมปฺปตฺติยา ปเทสโต ปริฺาวตฺถุกาปิ อริยา อุปฏฺิเต จิตฺตวิฆาตปจฺจเย ยเทตํ นาติสาวชฺชํ, ตเทวํ คณฺหนฺตีติ อยเมตฺถ ธมฺมตาติ อาห – ‘‘อลาภํ อารพฺภ จิตฺตฺถตฺต’’นฺติอาทิ. โสติ กิกี กาสิราชา. พฺราหฺมณภตฺโตติ พฺราหฺมเณสุ ภตฺโต. เทเวติ พฺราหฺมเณ สนฺธายาห. ภูมิเทวาติ เตสํ สมฺา, ตทา พฺราหฺมณครุโก โลโก. ตทา หิ กสฺสโปปิ ภควา พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติ. ธีตุ อวณฺณํ วตฺวาติ, ‘‘มหาราช, ตว ธีตา พฺราหฺมณสมยํ ปหาย มุณฺฑปาสณฺฑิกสมยํ คณฺหี’’ติอาทินา ราชปุตฺติยา อคุณํ วตฺวา. วรํ คณฺหึสุ าตกา. รชฺชํ นิยฺยาเตสิ ‘‘มา เม วจนํ มุสา อโหสิ, อฏฺเม ทิวเส นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ.
ปาวนอสฺมนยนวเสน สมฺมา ปาวีกตตฺตา ปริสุทฺธตณฺฑุลานิ. ปาฬิยํ ตณฺฑุลปฏิภสฺตานีติ ตณฺฑุลขณฺฑานิ. มุคฺคปฏิภสฺตกฬายปฏิภสฺเตสุปิ เอเสว นโย.
๒๘๙. โก นุ โขติ ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห – ‘‘กุหึ นุ โข’’ติ ปาริปูรึ โยชียนฺติ พฺยฺชนโภชนานิ เอตฺถาติ ปริโยโค, ตโต ปริโยคา. เตนาห ‘‘สูปภาชนโต’’ติ. สฺํ ทตฺวาติ วุตฺตํ สพฺพํ อาจิกฺขิตฺวา ตุมฺหากํ อตฺถาย สมฺปาเทตฺวา นิกฺขิตฺโต อุปฏฺาโกติ ภควโต อาโรเจถาติ สฺํ ทตฺวา. อติวิสฺสตฺโถติ อติวิย วิสฺสตฺโถ. ปฺจวณฺณาติ ขุทฺทิกาทิวเสน ปฺจปฺปการา.
๒๙๐. กินฺติ นิสฺสกฺเก ปจฺจตฺตวจนํ, กสฺมาติ อตฺโถ? ธมฺมิโกติ อิมินา อาคมนสุทฺธึ ทสฺเสติ ¶ . ภิกฺขูนํ ปตฺเต ภตฺตสทิโสติ อิมินา อุปาสเกน สตฺถุ ปริจฺจตฺตภาวํ ตตฺถ สตฺถุโน จ อปริสงฺกตํ ทสฺเสติ. สิกฺขาปทเวลา นาม นตฺถีติ ธมฺมสฺสามิภาวโต สิกฺขาปทมริยาทา นาม นตฺถิ ปณฺณตฺติวชฺเช, ปกติวชฺเช ปน เสตุฆาโต เอว.
๒๙๑. ฉทนฏฺาเน ยทากาสํ, ตเทว ตสฺส เคหสฺส ฉทนนฺติ อากาสจฺฉทนํ. ปกติยา อุตุผรณเมวาติ ฉาทิเต ยาทิสํ อุตุ, ฉทเน อุตฺติณภาเวปิ ตมฺหิ เคเห ตาทิสเมว อุตุผรณํ อโหสิ. เตสํเยวาติ เตสํ ฆฏิการสฺส มาตาปิตูนํ เอว.
๒๙๒. ‘‘จตสฺโส ¶ มุฏฺิโย เอโก กุฑุโว, จตฺตาโร กุฑุวา เอโก ปตฺโถ, จตฺตาโร ปตฺถา เอโก อาฬฺหโก, จตฺตาโร อาฬฺหกา เอกํ โทณํ, จตฺตาริ โทณานิ เอกา มานิกา, จตสฺโส มานิกา เอกา ขารี, วีสติ ขาริกา เอโก วาโหติ ตเทว เอกสกฏ’’นฺติ สุตฺตนิปาตฏฺกถาทีสุ (สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๖๖๒) วุตฺตํ, อิธ ปน ‘‘ทฺเว สกฏานิ เอโก วาโห’’ติ วุตฺตํ. เตลผาณิตาทินฺติ อาทิ-สทฺเทน สปฺปิอาทึ มริจาทิกฏุกภณฺฑฺจ สงฺคณฺหาติ. นาหํ รฺา ทิฏฺปุพฺโพ, กุโต ปริปฺผสฺโสติ อธิปฺปาโย. นจฺจิตฺวาติ นจฺจํ ทตฺวา.
ฆฏิการสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๒. รฏฺปาลสุตฺตวณฺณนา
๒๙๓. ถูลเมว ¶ ถุลฺลํ, ถุลฺลา วิปุลา มหนฺตา โกฏฺา ชาตา อิมสฺสาติ ถุลฺลโกฏฺิกนฺติ โอทนปูปปหูตวเสน ลทฺธนาโม นิคโม. อฏฺกถายํ ปน ถุลฺลโกฏฺนฺติ อตฺโถ วุตฺโต. เตน ปาฬิยํ อิก-สทฺเทน ปทวฑฺฒนํ กตนฺติ ทสฺเสติ.
๒๙๔. รฏฺปาโลติ อิทํ ตสฺส กุลปุตฺตสฺส นามํ. ปเวณิวเสน อาคตกุลวํสานุคตนฺติ สมุทาคมโต ปฏฺาย ทสฺเสตุํ ‘‘กสฺมา รฏฺปาโล’’ติอาทิ วุตฺตํ. สนฺธาเรตุนฺติ วินาสนโต ปุพฺเพ ยาทิสํ, ตเถว สมฺมเทว ธาเรตุํ สมตฺโถ. สทฺธาติ กมฺมผลสทฺธาย สมฺปนฺนา. สามเณรํ ทิสฺวาติ สิกฺขากามตาย เอตทคฺเค ปิยมานํ ทิสฺวา.
สห ¶ รฺาติ สราชิกํ, รฺา สทฺธึ ราชปริสํ. จาตุวณฺณนฺติ พฺราหฺมณาทิจตุวณฺณสมุทายํ. โปเสตุนฺติ วทฺเธตุํ ทานาทีหิ สงฺคหวตฺถูหิ สงฺคณฺหิตุํ. ยํ กุลํ. ปโหสฺสตีติ สกฺขิสฺสติ.
เตน เตน เม อุปปริกฺขโตติ ‘‘กามา นาเมเต อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา, อฏฺิกงฺกลูปมา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๓๔; ปาจิ. ๔๑๗; มหานิ. ๓, ๖) จ อาทินา เยน เยน อากาเรน กาเมสุ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, ตพฺพิปริยายโต เนกฺขมฺเม อานิสํสํ คุณํ ปกาเสนฺตํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, เตน เตน ปกาเรน อุปปริกฺขโต วีมํสนฺตสฺส มยฺหํ เอวํ โหติ เอวํ อุปฏฺาติ. สิกฺขตฺตยพฺรหฺมจริยนฺติ อธิสีลาทิสิกฺขตฺตยสงฺคหํ เสฏฺจริยํ. อขณฺฑาทิภาวาปาทเนน อขณฺฑํ ลกฺขณวจนฺเหตํ. กฺจิปิ สิกฺเขกเทสํ อเสเสตฺวา เอกนฺเตเนว ปริปูเรตพฺพตาย เอกนฺตปริปุณฺณํ. จิตฺตุปฺปาทมตฺตมฺปิ สํกิเลสมลํ อนุปฺปาเทตฺวา อจฺจนฺตเมว วิสุทฺธํ กตฺวา ปริหริตพฺพตาย เอกนฺตปริสุทฺธํ. ตโต เอว สงฺขํ วิย ลิขิตนฺติ สงฺขลิขิตํ. เตนาห ‘‘ลิขิตสงฺขสทิส’’นฺติ. ทาิกาปิ มสฺสุคฺคหเณเนว คเหตฺวา ‘‘มสฺสุ’’ตฺเวว วุตฺตํ, อุตฺตราธรมสฺสุนฺติ อตฺโถ. กสาเยน รตฺตานิ กาสายานิ. อนนฺุาตํ ปุตฺตํ น ปพฺพาเชติ ‘‘มาตาปิตูนํ โลกิยมหาชนสฺส จิตฺตฺถตฺตํ มา โหตู’’ติ. ตถา หิ สุทฺโธทนมหาราชสฺส ตถา วโร ทินฺโน.
๒๙๕. ปิยายิตพฺพโต ¶ ปิโยติ อาห ‘‘ปีติชนโก’’ติ. มนสฺส อปฺปายนโต มนาโปติ อาห ‘‘มนวฑฺฒนโก’’ติ. สุเขธิโต ตรุณทารกกาเล. ตโต ปรฺจ สปฺปิขีราทิสาทุรสมนฺุโภชนาทิอาหารสมฺปตฺติยา สุขปริภโต. อถ วา ทฬฺหภตฺติกธาติชนาทิปริชนสมฺปตฺติยา เจว ปริจฺฉทสมฺปตฺติยา จ อุฬารปณีตสุขปจฺจยูปหาเรหิ จ สุเขธิโต, อกิจฺเฉเนว ทุกฺขปฺปจฺจยวิโนทเนน สุขปริภโต. อชฺฌตฺติกงฺคสมฺปตฺติยา วา สุเขธิโต, พาหิรงฺคสมฺปตฺติยา สุขปริภโต. กสฺสจีติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ, กิฺจีติ วุตฺตํ โหติ, อยเมว วา ปาโ. ตถา หิ ‘‘อปฺปมตฺตกมฺปิ กลภาคํ ทุกฺขสฺส น ชานาสี’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. เอวํ สนฺเตติ นนุ มยํ รฏฺปาล มรณาทีสุ เกนจิ อุปาเยน อปฺปตีกาเรน มรเณนปิ ตยา อกามกาปิ ¶ วินา ภวิสฺสาม, เอวํ สติ. เยนาติ เยน การเณน. กึ ปนาติ เอตฺถ กินฺติ การณตฺเถ ปจฺจตฺตวจนนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เกน ปน การเณนา’’ติ.
๒๙๖. ปริจาเรหีติ ปริโต ตตฺถ ตตฺถ ยถาสกํ วิสเยสุ จาเรหิ. เตนาห ‘‘อิโต จิโต จ อุปเนหี’’ติ. ปริจาเรหีติ วา สุขูปกรเณหิ อตฺตานํ ปริจาเรหิ, อตฺตโน ปริจรณํ กาเรหิ. ตถาภูโต จ ยสฺมา ลฬนฺโต กีฬนฺโต นาม โหติ, ตสฺมา ‘‘ลฬา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นิจฺจทานํ ทานํ นาม, อุโปสถทิวสาทีสุ ทาตพฺพํ อติเรกทานํ ปทานํ นาม. ปเวณีรกฺขณวเสน วา ทียมานํ ทานํ นาม, อตฺตนาว ปฏฺเปตฺวา ทียมานํ ปทานํ นาม. ปจุรชนสาธารณํ วา นาติอุฬารํ ทานํ นาม, อนฺสาธารณํ อติอุฬารํ ปทานํ นาม. อุทฺทสฺเสตพฺพาติ อุทฺธํ ทสฺเสตพฺพา. กุโต อุทฺธํ เต ทสฺเสตพฺพา? ปพฺพชิตโต อุทฺธํ อตฺตานํ มาตาปิตโร ทสฺเสตพฺพา, เตนาห ‘‘ยถา’’ติอาทิ.
๒๙๙. พลํ คเหตฺวาติ เอตฺถ พลคฺคหณํ นาม กายพลสฺส อุปฺปาทนเมวาติ อาห ‘‘กายพลํ ชเนตฺวา’’ติ. เอวํ วิหรนฺโตติ ยถา ปาฬิยํ วุตฺตํ เอวํ เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต วิหรนฺโต. ตสฺมาติ ยสฺมา เนยฺโย, น อุคฺฆฏิตฺู, น จ วิปฺจิตฺู, ตสฺมา. จิเรน ปพฺพชิโต ทฺวาทสเม วสฺเส อรหตฺตํ ปาปุณิ. ยํ ปน วุตฺตํ ปาฬิยํ ‘‘น จิรสฺเสวา’’ติ, ตํ สฏฺิ วสฺสานิ ตโต อธิกมฺปิ วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺเต อุปาทาย วุตฺตํ.
สตฺตทฺวารโกฏฺกสฺสาติ สตฺตคพฺภนฺตรทฺวารโกฏฺกสีเสน คพฺภนฺตรานิ วทติ. ปหราเปตีติ วโยวุฑฺฒานุรูปํ กปฺปาปนาทินา อลงฺการาเปติ. อนฺโตชาตตาย าติสทิสี ทาสี าติทาสี. ปูติภาเวเนว ลกฺขิตพฺโพ โทโส วา อภิโทโส, โสว อาภิโทสิโก, อภิโทสํ วา ปจฺจูสกาลํ คโต ปตฺโต อติกฺกนฺโตติ อาภิโทสิโก. เตนาห ‘‘เอกรตฺตาติกฺกนฺตสฺสา’’ติอาทิ ¶ . อปริโภคารโห ปูติภูตภาเวน. อริยโวหาเรนาติ อริยสมุทาจาเรน. อริยา หิ มาตุคามํ ภคินิวาเทน สมุทาจรนฺติ. นิสฺสฏฺปริคฺคหนฺติ ปริจฺจตฺตาลยํ. วตฺตุํ วฏฺฏตีติ นิรเปกฺขภาวโต วุตฺตํ, อิธ ปน วิเสสโต อปริโภคารหตฺตาว วตฺถุโน. นิมียติ สฺายตีติ นิมิตฺตํ, ตถาสลฺลกฺขิโต อากาโรติ อาห ‘‘อาการํ อคฺคเหสี’’ติ.
๓๐๐. ฆรํ ¶ ปวิสิตฺวาติ เคหสามินิยา นิสีทิตพฺพฏฺานภูตํ อนฺโตเคหํ ปวิสิตฺวา. อาลปเนติ ทาสิชนสฺส อาลปเน. พหิ นิกฺขมนฺตาติ ยถาวุตฺตอนฺโตเคหโต พหิ นิกฺขมนฺติโย. ฆเรสุ สาลา โหนฺตีติ ฆเรสุ เอกมนฺเต โภชนสาลา โหนฺติ ปาการปริกฺขิตฺตา สุสํวิหิตทฺวารพนฺธา สุสมฺมฏฺวาลิกงฺคณา.
อโนกปฺปนํ อสทฺทหนํ. อมริสนํ อสหนํ. อนาคตวจนํ อนาคตสทฺทปฺปโยโค, อตฺโถ ปน วตฺตมานกาลิโกว. เตนาห ‘‘ปจฺจกฺขมฺปี’’ติ. อริยิทฺธิยนฺติ ‘‘ปฏิกูเล อปฏิกูลสฺี วิหรตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๔๔) เอวํ วุตฺตอริยิทฺธิยํ.
ปูติกุมฺมาโส ฉฑฺฑนียธมฺโม ตสฺส เคหโต ลทฺโธปิ น ทาตพฺพยุตฺตโก ทาสิชเนน ทินฺโนติ อาห ‘‘เทยฺยธมฺมวเสน เนว ทานํ อลตฺถมฺหา’’ติ. ‘‘อิเมหิ มุณฺฑเกหี’’ติอาทินา นิตฺถุนนวจเนน ปจฺจกฺขานํ อตฺถโต ลทฺธเมว, ตสฺส ปน อุชุกผาสุสมาจารวเสน อลทฺธตฺตา วุตฺตํ ‘‘น ปจฺจกฺขาน’’นฺติ. เตนาห – ‘‘ปฏิสนฺถารวเสน ปจฺจกฺขานมฺปิ น อลตฺถมฺหา’’ติ. ‘‘เนว ทาน’’นฺติอาทิ ปจฺจาสีสาย อกฺขนฺติยา จ วุตฺตํ วิย ปจุรชโน มฺเยฺยาติ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ อธิปฺปายมสฺส วิวริตุํ ‘‘กสฺมา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สุตฺติกาปฏิจฺฉนฺนนฺติ สิปฺปิกาฉทาหิ ฉนฺนํ.
อุกฺกฏฺเอกาสนิกตายาติ อิทํ ภูตกถนมตฺตํ เถรสฺส ตถาภาวทีปนโต. มุทุกสฺสปิ หิ เอกาสนิกสฺส ยาย นิสชฺชาย กิฺจิมตฺตํ โภชนํ ภุตฺตํ, วตฺตสีเสนปิ ตโต วุฏฺิตสฺส ปุน ภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ. เตนาห ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร ‘‘อาสนํ วา รกฺเขยฺย โภชนํ วา’’ติ. อุกฺกฏฺสปทานจาริโกติ ปุรโต ปจฺฉโต จ อาหฏภิกฺขมฺปิ อคฺคเหตฺวา พหิทฺวาเร ตฺวา ปตฺตวิสฺสชฺชนเมว กโรติ. เอเตเนว เถรสฺส อุกฺกฏฺปิณฺฑปาติกภาโว ทีปิโต. เตนาห – ‘‘สฺวาตนาย ภิกฺขํ นาม นาธิวาเสตี’’ติ. อถ กสฺมา อธิวาเสสีติ อาห ‘‘มาตุ อนุคฺคเหนา’’ติอาทิ ¶ . ปณฺฑิตา หิ มาตาปิตูนํ อาจริยุปชฺฌายานํ วา กาตพฺพํ อนุคฺคหํ อชฺฌุเปกฺขิตฺวา ธุตงฺคสุทฺธิกา น ภวนฺติ.
๓๐๑. ปยุตฺตนฺติ วทฺธิวเสน ปโยชิตํ, ตทฺธิตโลปํ กตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ ยถา อฺตฺถาปิ ‘‘ปิตามหํ ธนํ ลทฺธา, สุขํ ชีวติ สฺจโย’’ติ ¶ . เชฏฺกิตฺถิโยติ ปธานิตฺถิโย. อิโตติ อิมสฺมึ กุเล อนุภวิตพฺพวิภวสมฺปตฺติโต. อฺโตติ อิมสฺส ทินฺนตฺตา อฺสฺมึ กุเล อนุภวิตพฺพสมฺปตฺติโต.
๓๐๒. จิตฺตวิจิตฺตนฺติ กปฺปนาย เจว อรหรูเปน อลงฺการาทินา จ จิตฺติตฺเจว วิจิตฺติตฺจ. วณกายนฺติ วณภูตํ กายํ. สมนฺตโต อุสฺสิตนฺติ เหฏฺิมกายวเสน เหฏฺา อุปริ จ สนฺนิสฺสิตํ. นิจฺจาตุรนฺติ อภิณฺหปฺปฏิปีฬิตํ, สทา ทุกฺขิตํ วา. พหุสงฺกปฺปนฺติ ราควตฺถุภาเวน อภิชเนหิ หาวภาววิลาสวเสน, อามิสวเสน จ โสณสิงฺคาลาทีหิ พหูหิ สงฺกปฺเปตพฺพํ. ิตีติ อวฏฺานํ อวิปริณาโม นตฺถิ. เตนาห – ‘‘ภิชฺชนธมฺมตาว นิยตา’’ติ, ปริสฺสวภาวาปตฺติ เจว วินาสปตฺติ จ เอกนฺติกาติ อตฺโถ.
จิตฺตกตมฺปีติ คนฺธาทีหิ จิตฺตกตมฺปิ. รูปนฺติ สรีรํ.
อลตฺตกกตาติ ปิณฺฑิอลตฺตเกน สุวณฺณกตา. เตนาห ‘‘อลตฺตเกน รฺชิตา’’ติ. จุณฺณกมกฺขิตนฺติ โทสนีหรเณหิ ตาปทหนาทีหิ กตาภิสงฺขารมุขํ โคโรจนาทีหิ โอภาสนกจุณฺเณหิ มกฺขิตํ, เตนาห ‘‘สาสปกกฺเกนา’’ติอาทิ.
รโสทเกนาติ สรลนิยฺยาสรสมิสฺเสน อุทเกน. อาวตฺตนปริวตฺเต กตฺวาติ อาวตฺตนปริวตฺตนวเสน นเต กตฺวา. อฏฺปทกรจนายาติ ภิตฺติกูฏทฺธจนฺทาทิวิภาคาย อฏฺปทกรจนาย.
วิรวมาเนติ ‘‘อยํ ปลายติ, คณฺห คณฺหา’’ติ วิรวมาเน. หิรฺสุวณฺณโอโรเธติ วตฺตพฺพํ.
๓๐๓. อุสฺสิตาย อุสฺสิตายาติ กุลวิภวพาหุสจฺจปฺาสมฺปตฺติยา อุคฺคตาย อุคฺคตาย. อภิลกฺขิโต อุฬารภาเวน.
๓๐๔. ปริชฺุานีติ ¶ ปริหานานิ. เย พฺยาธินา อภิภูตา สตฺตา ชิณฺณกปฺปา วโยหานิสตฺตา วิย โหนฺติ, ตโต นิวตฺเตนฺโต ‘‘ชราชิณฺโณ’’ติ อาห. วโยวุฑฺโฒ, น สีลาทิวุฑฺโฒ. มหตฺตํ ลาติ คณฺหาตีติ มหลฺลโก, ชาติยา มหลฺลโก, น วิภวาทินาติ ชาติมหลฺลโก ¶ . ทฺวตฺติราชปริวตฺตสงฺขาตํ อทฺธานํ กาลํ คโต วีติวตฺโตติ อทฺธคโต. ตถา จ ปมวยํ มชฺฌิมวยฺจ อตีโต โหตีติ อาห ‘‘อทฺธานํ อติกฺกนฺโต’’ติ. ชิณฺณาทิปเทหิ ปมวยมชฺฌิมวยสฺส โพธิตตฺตา อนุปฺปตฺตตาวิสิฏฺโ วย-สทฺโท โอสานวยวิสโยติ อาห ‘‘ปจฺฉิมวยํ อนุปฺปตฺโต’’ติ.
‘‘อปฺปิจฺโฉ, อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺโส’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๑) เอวมาทีสุ วิย อปฺป-สทฺโท อภาวตฺโถติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อปฺปาพาโธติ อโรโค, อปฺปาตงฺโกติ นิทฺทุกฺโข’’ติ. อปฺปตฺโถ วา อิธ, ตตฺถาปิ อปฺป-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. เอวฺหิ ‘‘โย หิ, คหปติ, อิมํ ปูติกายํ ปริหรนฺโต มุหุตฺตมฺปิ อาโรคฺยํ ปฏิชาเนยฺย กิมฺตฺร พาลฺยา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑) สุตฺตปทํ สมตฺถิตํ โหติ. วิปจฺจนํ วิปาโก, โส เอว เวปาโก. สโม เวปาโก เอติสฺสา อตฺถีติ สมเวปากินี, ตาย. เตเนว สมเวปากินิภาเวน สพฺพมฺปิ สมฺมเทว คณฺหาติ ธาเรตีติ คหณี. คหณิสมฺปตฺติยา หิ ยถาภุตฺตอาหาโร สมฺมเทว ชีรนฺโต สรีเร ติฏฺติ, โน อฺถา ภุตฺตภุตฺโต อาหาโร ชีรติ คหณิยา ติกฺขภาเวน. ตเถว ติฏฺตีติ ภุตฺตากาเรเนว ติฏฺติ คหณิยา มนฺทภาวโต. ภตฺตจฺฉนฺโท อุปฺปชฺชเตว ภุตฺตอาหารสฺส สมฺมา ปริณามํ คตตฺตา. เตเนวาติ สมเวปากินิภาเวเนว. ปตฺตานํ โภคานํ ปริกฺขิยมานํ น สหสา เอกชฺฌํเยว ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อถ โข อนุกฺกเมน, ตถา าตโยปีติ อาห ‘‘อนุปุพฺเพนา’’ติ. ฉาตกภยาทินาติ อาทิ-สทฺเทน พฺยาธิภยาทึ สงฺคณฺหาติ.
๓๐๕. อุทฺเทสสีเสน นิทฺเทโส คหิโตติ อาห ‘‘ธมฺมนิทฺเทสา อุทฺทิฏฺา’’ติ. ยสฺมา วา เย ธมฺมา อุทฺทิสิตพฺพฏฺเน ‘‘อุทฺเทสา’’ติ วุจฺจนฺติ. เตว ธมฺมา นิทฺทิสิตพฺพฏฺเน นิทฺเทสาติ ‘‘ธมฺมนิทฺเทสา อุทฺทิฏฺา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. อถ วา เย ธมฺมา อนิจฺจตาทิวิภาวนวเสน อุทฺธํ อุทฺธํ เทเสสฺสนฺติ, เต ธมฺมา ตเถว นิสฺเสสโต เทเสสฺสนฺตีติ เอวํ อุทฺเทสนิทฺเทสปทานํ อนตฺถนฺตรตา เวทิตพฺพา. ตตฺถาติ ชรามรณสนฺติเก. อทฺธุโวติ นิทฺธุโว น ถิโร, อนิจฺโจติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ธุวฏฺานวิรหิโต’’ติ, อชาตาภูตาสงฺขตธุวภาวการณวิวิตฺโตติ อตฺโถ. อุปนียฺยตีติ วา ¶ ชรามรเณน โลโก สมฺมา นียติ, ตสฺมา อทฺธุโวติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตายิตุนฺติ ชาติอาทิพฺยสนโต รกฺขิตุํ สมตฺเถน อิสฺสเรน อตฺตนา วิรหิโตติ. ‘‘อิมํ โลกํ อิโต วฏฺฏทุกฺขโต โมเจสฺสามิ, ชราพฺยาธิมรณานํ ตํ อธิภวิตุํ น ทสฺสามี’’ติ เอวํ อภิสรตีติ ¶ อภิสฺสรณํ, โลกสฺส สุขสฺส ทาตา หิตสฺส วิธาตา โกจิ อิสฺสโร, ตทภาวโต อาห ‘‘อนภิสฺสโรติ อสรโณ’’ติ. นิสฺสโก มมายิตพฺพวตฺถุอภาวโต, เตนาห ‘‘สกภณฺฑวิรหิโต’’ติอาทิ. ตณฺหาย วเส ชาโต ตณฺหาย วิชิโตติ กตฺวา ‘‘ตณฺหาย ทาโส’’ติ วุตฺตํ.
๓๐๖. หตฺถิวิสยตฺตา หตฺถิสนฺนิสฺสิตตฺตา วา หตฺถิสิปฺปํ ‘‘หตฺถี’’ติ คหิตนฺติ อาห – ‘‘หตฺถิสฺมินฺติ หตฺถิสิปฺเป’’ติ, เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. สาติสยํ อูรุพลํ เอตสฺส อตฺถีติ อูรุพลีติ อาห – ‘‘อูรุพลสมฺปนฺโน’’ติ, ตเมวตฺถํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺส หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อภินฺนํ ปรเสนํ ภินฺทโต ภินฺนํ สกเสนํ สนฺธารยโต อุปตฺถมฺภยโต. พาหุพลีติ เอตฺถาปิ ‘‘ยสฺส หิ ผลกฺจ อาวุธฺจ คเหตฺวา’’ติอาทินา อตฺโถ วตฺตพฺโพ, อิธ ปน ปรหตฺถคตํ รชฺชํ อาหริตุํ พาหุพลนฺติ โยชนา. ยถา หิ ‘‘อูรุพลี’’ติ เอตฺถาปิ พาหุพลํ อนามสิตฺวา อตฺโถ, เอวํ ‘‘พาหุพลี’’ติ เอตฺถ อูรุพลํ อนามสิตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ, อาหิโต อหํมาโน เอตฺถาติ อตฺตา, อตฺตภาโว. อลํ สมตฺโถ อตฺตา เอตสฺสาติ อลมตฺโถติ อาห ‘‘สมตฺถอตฺตภาโว’’ติ.
ปริโยธายาติ วา ปริโต อารกฺขํ โอทหิตฺวา. ‘‘สํวิชฺชนฺเต โข, โภ รฏฺปาล, อิมสฺมึ ราชกุเล หตฺถิกายาปิ…เป… วตฺติสฺสนฺตี’’ติ อิทมฺปิ โส ราชา อุปริ ธมฺมุทฺเทสสฺส การณํ อาหรนฺโต อาห.
วุตฺตสฺเสว อนุ ปจฺฉา คายนวเสน กถนํ อนุคีติ. ตา ปน คาถา ธมฺมุทฺเทสานํ เทสนานุปุพฺพึ อนาทิยิตฺวาปิ ยถารหํ สงฺคณฺหนวเสน อนุคีตาติ อาห ‘‘จตุนฺนํ ธมฺมุทฺเทสานํ อนุคีติ’’นฺติ.
๓๐๗. เอกนฺติ เอกชาติยํ. วตฺถุกามกิเลสกามา วิสยเภเทน ภินฺทิตฺวา ตถา วุตฺตาติ ทฏฺพฺโพ.
สาครนฺเตนาติ ¶ สาครปริยนฺเตน.
อโห วตาติ โสจเน นิปาโต, ‘‘อโห วต ปาปํ กตํ มยา’’ติอาทีสุ วิย. อมราติอาทีสุ ¶ อาหูติ กเถนฺติ. มตํ อุทฺทิสฺส ‘‘อมฺห’’นฺติ วตฺตพฺเพ โสกวเสน ‘‘อมร’’นฺติ วุจฺจติ.
โวสานนฺติ นิฏฺํ, ปริโยสานนฺติ อตฺโถ. สาวาติ ปฺา เอว. ธนโตติ สพฺพธนโต. อุตฺตมตรา เสฏฺา, เตเนวาห ‘‘ปฺาชีวึ ชีวิตมาหุ เสฏฺ’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๘๔).
เตสุ ปาปํ กโรนฺเตสุ สตฺเตสุ, นิทฺธารเณ เจตํ ภุมฺมวจนํ. ปรมฺปรายาติ อตฺตภาวปรมฺปราย. สํสารํ อาปชฺชิตฺวาติ ภวาทีสุ สํสารสฺส อาปชฺชนเหตุํ อาปชฺชนฺโต ปรโลกํ อุเปติ, ปรโลกํ อุเปนฺโตว พหุวิธทุกฺขสงฺขาตํ คพฺภฺจ อุเปติ. ตาทิสสฺสาติ ตถารูปสฺส คพฺภวาสทุกฺขาทีนํ อธิฏฺานภูตสฺส อปฺปปฺสฺส อฺโ อปฺปปฺโ จ อภิสทฺทหนฺโต หิตสุขาวหนฺติ ปตฺติยายนฺโต.
‘‘ปาปธมฺโม’’ติ วุตฺตตฺตา ตาทิสสฺส ปรโลโก นาม ทุคฺคติ เอวาติ อาห ‘‘ปรมฺหิ อปายโลเก’’ติ.
วิวิธรูเปนาติ รูปสทฺทาทิวเสน ตตฺถปิ ปณีตตราทิวเสน พหุวิธรูเปน.
สามฺเมวาติ สมณภาโว เอว เสยฺโย. เอตฺถ จ อาทิโต ทฺวีหิ คาถาหิ จตุตฺโถ ธมฺมุทฺเทโส อนุคีโต. จตุตฺถคาถาย ตติโย. ปฺจมคาถาย ทุติโย. ฉฏฺคาถาย ทุติยตติยา. สตฺตมคาถาย ปโม ธมฺมุทฺเทโส อนุคีโต, อฏฺมาทีหิ ปวตฺตินิวตฺตีสุ กาเมสุ เนกฺขมฺเม จ ยถารหํ อาทีนวานิสํสํ วิภาเวตฺวา อตฺตโน ปพฺพชฺชการณํ ปรมโต ทสฺเสนฺโต ยถาวุตฺตธมฺมุทฺเทสํ นิคเมติ, เตน วุตฺตํ ‘‘ตา ปน คาถา ธมฺมุทฺเทสานํ เทสนานุปุพฺพึ อนาทิยิตฺวาปิ ยถารหํ สงฺคณฺหนวเสน อนุคีตา’’ติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
รฏฺปาลสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๓. มฆเทวสุตฺตวณฺณนา
๓๐๘. ปุพฺเพ ¶ ¶ มฆเทโว นาม ราชาติ อตีตกาเล อิมสฺมึเยว กปฺเป อเนกวสฺสสหสฺสายุเกสุ มนุสฺเสสุ ปฏิปาฏิยา อุปฺปนฺนานํ จตุราสีติสหสฺสานํ จกฺกวตฺติราชูนํ อาทิปุริโส มฆเทโวติ เอวํนาโม ราชา.
ธมฺโมติ ราชธมฺโมติ โลกิกา วทนฺติ. มหาโพธินิธานปารมิตาสงฺขาโต ปน ธมฺโม อตฺถีติ ธมฺมิโก. ธมฺเมนาติ าเยน. ตทา พฺรหฺมวิหาราทิภาวนาธมฺมสฺส รฺโ อนธิคตตฺตา ตสฺสปิ วา อนภิชฺฌาทีหิ สมานโยคกฺขมตฺตา วุตฺตํ ‘‘ทสกุสลกมฺมปเถ ิโต’’ติ. ธมฺมนฺติ ธมฺมโต อนเปตํ. ตถา หิ จ โส ปกฺขปาตาภาวโต ‘‘สโม’’ติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘สมํ จรตี’’ติ. ปกตินิยาเมเนวาติ ปเวณิยา อาคตนิยาเมเนว. ยสฺมา นิคมชนปเทสุ เยภุยฺเยน คหปตีนํ สงฺคโห, ตสฺมา อฏฺกถายํ ‘‘คหปติกาน’’นฺตฺเวว วุตฺตํ. ปาฬิยํ ปน อฺเมว นาครจาริตฺตํ, อฺํ เนคมชนปทจาริตฺตนฺติ เต วิสุํ คหิตา ‘‘เนคเมสุ เจว ชนปเทสุ จา’’ติ. ปจฺจุคฺคมนนิคฺคมนวเสน อุโปสถสฺส ปฏิหรณํ ปาฏิหาริโย, โส เอว ปาฏิหาริโก, ปกฺโข. อิเม ทิวสาติ อิเม จตฺตาโร ทิวสา.
๓๐๙. เทโวติ มจฺจุ อภิภวนฏฺเน. ยถา หิ เทโว ปกติสตฺเต อภิภวติ, เอวํ มจฺจุ สตฺเต อภิภวติ. ‘‘อหํ อสุกํ มทฺทิตุํ อาคมิสฺสามิ, ตฺวํ ตสฺส เกเส คเหตฺวา มา วิสฺสชฺเชหี’’ติ มจฺจุเทวสฺส อาณากรา ทูตา วิยาติ ทูตาติ วุจฺจนฺติ. อลงฺกตปฏิยตฺตายาติ อิทํ อตฺตโน ทิพฺพานุภาวํ อาวิกตฺวา ิตายาติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เทวตาพฺยากรณสทิสเมว โหติ น จิเรเนว มรณสมฺภวโต. วิสุทฺธิเทวานนฺติ ขีณาสวพฺรหฺมานํ. เต หิ จริมภเว โพธิสตฺตานํ ชิณฺณาทิเก ทสฺเสนฺติ.
ทุขิตฺจ พฺยาธิตนฺติ พฺยาธิภาเวน สฺชาตทุกฺขนฺติ อตฺโถ. อนฺติมภวิกโพธิสตฺตานํ วิสุทฺธิเทเวหิ อุปฏฺาปิตภาวํ อุปาทาย ตทฺเสํ เตหิ อนุปฏฺาปิตานมฺปิ ปณฺฑิตานํ ตถา โวหริตพฺพตา ปริยายสิทฺธาติ อาห ‘‘อิมินา ปริยาเยนา’’ติ.
ทิสมฺปตีติ ¶ วิภตฺติอโลเปน นิทฺเทโส, ทิสาสีเสน เทสา วุตฺตาติ เทสานํ อธิปติราชาติ ¶ อตฺโถ. อุตฺตมงฺเค สิรสิ รุหนฺตีติ อุตฺตมงฺครุหา, เกสา. เต ปเนตฺถ ยสฺมา ปลิตตฺตา อวิเสสโต สพฺพปจฺฉิมวยสนฺทสฺสกา โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘วโยหรา’’ติ วุตฺตา.
ปุริสยุโค ยสฺมา ตสฺมึ วํเส สฺชาตปุริสฏฺิติยา ปริจฺฉินฺโน, ตสฺมา อาห ‘‘วํสสมฺภเว ปุริเส’’ติ. ราชเคหโต อาหฏภิกฺขาย ยาเปนฺโตติ อิมินา กุมารกปพฺพชฺชาย อุปคตภาวํ ทสฺเสติ.
ปริหริยมาโนวาติ อฺเน อฺเน ปริหริยมาโน วิย เวลาย เวลาย เตน มหตา ปริชเนน อุปฏฺิยมาโน กุมารกีฬํ กีฬีติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘ปริหริยมาโน เอวา’’ติ อวธารณวเสน อตฺถํ วทนฺติ, ตถา สติ จตุราสีติวสฺสสหสฺสานิ ถฺปายี ตรุณทารโก อโหสีติ อาปชฺชตีติ ตทยุตฺตํ. กุมารกาลํ วตฺวา ตทนนฺตรํ โอปรชฺชวจนโต วิรุทฺธฺเจตํ. (ปฺจมงฺคลวจเนน อุนฺนงฺคลมงฺคลอุกฺกนฺตนมงฺคลกมฺมหายมงฺคลทุสฺสมงฺคลานิ สมุปคตานิ เอว อเหสุนฺติ ทฏฺพฺพํ).
๓๑๑. สวํสวเสน อาคตา ปุตฺตนตฺตุอาทโย ปุตฺตา จ ปปุตฺตา จ เอติสฺสาติ ปุตฺตปปุตฺตกา ปรมฺปรา. นิหตนฺติ นิหิตํ ปิตํ, ปวตฺติตนฺติ อตฺโถ. นิหตนฺติ วา สตตํ ปติฏฺิตภาเวน วฬฺชิตนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘กลฺยาณวตฺต’’นฺติ. อติเรกตรา ทฺเว คุณาติ มหาสตฺตสฺส มฆเทวกาลโต อติเรกตรา ทฺเว คุณา อิตรราชูหิ ปน อติเรกตรา อเนกสตสหสฺสปฺปเภทา เอว คุณา อเหสุนฺติ.
๓๑๒. เตตฺตึส สหปฺุการิโน เอตฺถ นิพฺพตฺตาติ ตํสหจริตฏฺานํ เตตฺตึสํ, ตเทว ตาวตึสํ, ตํนิวาโส เอเตสนฺติ ตาวตึสา. นิวาสภาโว จ เตสํ ตตฺถ นิพฺพตฺตนปุพฺพโกติ อาห – ‘‘เทวานํ ตาวตึสานนฺติ ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺตเทวาน’’นฺติ. รฺโติ นิมิมหาราชสฺส. โอวาเท ตฺวาติ ‘‘สีลํ อรกฺขนฺโต มม สนฺติกํ มา อาคจฺฉตู’’ติ นิคฺคณฺหนวเสนปิ, ‘‘เอกนฺตโต มม วิชิเต วสนฺเตน สีลํ รกฺขิตพฺพ’’นฺติ เอวํ ปวตฺติตโอวาทวเสนปิ โอวาเท ตฺวา.
อถ ¶ นนฺติ มหาชุติกํ มหาวิปฺผารํ มหานุภาวํ นิมิราชานํ. ‘‘สกฺโกหมสฺมิ เทวินฺโท, ตว สนฺติกมาคโต’’ติ อตฺตโน สกฺกภาวํ ปเวเทตฺวา ‘‘กงฺขํ เต ปฏิวิโนเทสฺสามี’’ติ อาห. เตนาห ‘‘สพฺพภูตานมิสฺสรา’’ติอาทิ.
สีลํ ¶ อุปาทาย โอมกตาย ‘‘กิ’’นฺติ หีเฬนฺโต วทติ. คุณวิสิฏฺตายาติ ลาภยสาทีนฺเจว ปิยมนาปตาทีนฺจ อาสวกฺขยปริโยสานานํ นิมิตฺตภาเวน อุตฺตมคุณตาย. ตทา สกฺโก อนุรุทฺธตฺเถโร, โส อตฺตโน ปุริมชาติยํ ปจฺจกฺขสิทฺธํว ทานโต สีลํ มหนฺตํ วิภาเวนฺโต ‘‘อหฺหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺตนา วสิยมานํ กามาวจรเทวโลกํ สนฺธาย ‘‘เปตฺติวิสยโต’’ติ วุตฺตํ. ตสฺส หิ กปฺปสตสหสฺสํ วิวฏฺฏชฺฌาสยสฺส ปูริตปารมิสฺส เทวโลโก เปตโลโก วิย อุปฏฺาสิ. เตเนวาห ‘‘อจฺฉราคณสงฺฆุฏฺํ, ปิสาจคณเสวิต’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๔๖).
ขตฺติเยติ ขตฺติยชาติยํ. วิสุชฺฌตีติ พฺรหฺมโลกูปปตฺตึ สนฺธาย วทติ กามสํกิเลสวิสุชฺฌนโต. กายาติ จ พฺรหฺมกายมาห.
อิมสฺส มม อทิฏฺปุพฺพรูปํ ทิสฺวา ‘‘อหุเทว ภย’’นฺติ จินฺเตตฺวา อาห ‘‘อวิกมฺปมาโน’’ติ. ภายนฺโต หิ จิตฺตสฺส อฺถตฺเตน กายสฺส จ ฉมฺภิตตฺเตน วิกมฺปติ นาม. เตนาห ‘‘อภายมาโน’’ติ. สุขํ กเถตุํ โหตีติ ปฺุผลํ กเถตุํ สุขํ โหติ.
๓๑๓. มนํ อาคมฺม ยุตฺตาเยว โหนฺตีติ มาตลิสฺส สกฺกสฺเสว จิตฺตํ ชานิตฺวา ยุตฺตา วิย โหนฺติ, รเถ ยุตฺตอาชานียกิจฺจํ กโรนฺติ เทวปุตฺตา. เอวํ ตาทิเส กาเล ตถา ปฏิปชฺชนฺติ, ยถา เอราวโณ เทวปุตฺโต หตฺถิกิจฺจํ. นทฺธิโต ปฏฺายาติ รถปฺชรปริยนฺเตน อกฺขสฺส สมฺพนฺธฏฺานํ นทฺธี, ตโต ปฏฺาย. อกฺโข พชฺฌติ เอตฺถาติ อกฺขพทฺโธ, อกฺเขน รถสฺส พทฺธฏฺานํ. ยถา เทวโลกโต ยาว จนฺทมณฺฑลสฺส คมนวีถิ, ตาว อตฺตโน อานุภาเวน เหฏฺามุขเมว รถํ เปเสสิ, เอวํ จนฺทมณฺฑลสฺส คมนวีถิโต ยาว รฺโ ปาสาโท, ตาว ตเถว เปเสสิ. ทฺเว มคฺเค ทสฺเสตฺวาติ ปโตทลฏฺิยา อากาสํ วิลิขนฺโต วิย อตฺตโน อานุภาเวน นิรยคามี เทวโลกคามี จาติ ทฺเว มคฺเค ¶ ทสฺเสตฺวา. กตเมนาติอาทิ เทสนามตฺตํ, ยถา เตน รเถน คจฺฉนฺตสฺส นิรโย เทวโลโก จ ปากฏา โหนฺติ, ตถา กรณํ อธิปฺเปตํ.
วุตฺตการณเมว สนฺธายาห มหาสตฺโต ‘‘อุภเยเนว มํ มาตลิ เนหี’’ติ. ทุคฺคนฺติ ทุคฺคมํ. เวตฺตรณินฺติ เอวํนามกํ นิรยํ. กุถิตนฺติ ปกฺกุถิตํ นิปกฺกเตลสทิสชาลํ. ขารสํยุตฺตนฺติ ขาโรทกสทิสํ.
รถํ นิวตฺเตตฺวาติ นิรยาภิมุขโต นิวตฺเตตฺวา. พีรณีเทวธีตายาติ ‘‘พีรณี’’ติ เอวํนามิกาย ¶ อจฺฉราย. โสณทินฺนเทวปุตฺตสฺสาติ ‘‘โสณทินฺโน’’ติ เอวํนามกสฺส เทวปุตฺตสฺส. คณเทวปุตฺตานนฺติ คณวเสน ปฺุํ กตฺวา คณวเสเนว นิพฺพตฺตเทวปุตฺตานํ.
ปตฺตกาเลติ อุปกฏฺาย เวลาย. อติถินฺติ ปจฺเจกสมฺพุทฺธํ. กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน เอกํ ขีณาสวตฺเถรนฺติปิ วทนฺติ. มาตาว ปุตฺตํ สกิมาภินนฺทีติ ยถา ปวาสโต อาคตํ ปุตฺตํ มาตา สกึ เอกวารํ อาคตกาเล อภินนฺทติ, ตถา นิจฺจกาเล อภินนฺทิ สกฺกจฺจํ ปริวิสิ. สํยมา สํวิภาคาติ สีลสํยมา สํวิภาคสีลา. ชาตเกติ นิมิชาตเก.
จิตฺตกูฏนฺติ เทวนครสฺส ทกฺขิณทิสาย ทฺวารโกฏฺกํ. สกฺโก จิตฺตํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโตติ มหาสตฺเต ปวตฺตํ เทวตานํ สกฺการสมฺมานํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ อตฺตโน อุสูยจิตฺตํ พหิ อนาวิกตฺวา อพฺภนฺตเรเยว จ นํ เปตุํ อสกฺโกนฺโต. อฺเสํ ปฺุเน วสาหีติ สกฺกสฺส มหาสตฺตํ โรเสตุกามตาย อาราธนํ นิทสฺเสติ. ปุราณสกฺโก ทีฆายุโก, ตํ อุปาทาย ชราชิณฺณํ วิย กตฺวา ‘‘ชรสกฺโก’’ติ วุตฺตํ.
๓๑๕. เสสํ สพฺพนฺติ ปพฺพชฺชุปคมนา เสสํ อตฺตโน วํเส โปราณราชูนํ ราชจาริตฺตํ. ปากติกนฺติ ปุน สภาวตฺตเมว คโต อโหสิ, อปพฺพชิตภาววจเนเนวสฺส พฺรหฺมวิหารภาวนาทีนํ ปพฺพชฺชาคุณานํ อภาโว ทีปิโต โหติ.
๓๑๖. วีริยํ อกโรนฺโต สมุจฺฉินฺทติ, น ตาว สมุจฺฉินฺนํ, กลฺยาณมิตฺตสํสคฺคาทิปจฺจยสมวาเย สติ สีลวตํ กลฺยาณวตฺตํ ปวตฺเตตุํ สกฺโกติ ¶ . ทุสฺสีเลน สมุจฺฉินฺนํ นาม โหติ ตสฺส ตตฺถ นิราสภาเวน ปฏิปตฺติยา เอว อสมฺภวโต. สตฺต เสขา ปวตฺเตนฺติ กลฺยาณวตฺตสฺส อปรินิฏฺิตกิจฺจตฺตา. ขีณาสเวน ปวตฺติตํ นาม ปรินิฏฺิตกิจฺจตฺตา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
มฆเทวสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๔. มธุรสุตฺตวณฺณนา
๓๑๗. มธุรายนฺติ ¶ อุตฺตรมธุรายํ. คุนฺทาวเนติ กาฬสิปฺปลิวเน. อติมุตฺตกวเนติ จ วทนฺติ. จตูสุ วณฺเณสุ พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ. ปณฺฑโรติ ปริสุทฺโธ. กาฬโกติ อปริสุทฺโธ. ชาติโคตฺตาทิปฺาปนฏฺาเนสูติ ชาติโคตฺตาทิวเสน สุทฺธจินฺตายํ พฺราหฺมณา เอว สุทฺธชาติกา, น อิตเรติ อธิปฺปาโย. สํสารโต วา สุทฺธจินฺตายํ พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺติ เวทวิหิตสฺส สุทฺธวิธิโน อฺเสํ อวิสยตฺตาติ อธิปฺปาโย. ตํ ปเนตํ เตสํ วิรุชฺฌติ ขตฺติยเวสฺสานมฺปิ มนฺตชฺเฌนสฺส อนฺุาตตฺตา, มนฺตชฺเฌนวิธินา จ สํสารสุทฺธิยาภาวโต. ปุตฺตา นาม อโนรสาปิ โหนฺติ, น ตถา อิเมติ อาห ‘‘โอรสา’’ติ. อุเร สํวฑฺฒิตปุตฺโตปิ ‘‘โอรส’’นฺติ วุจฺจติ. อิเม ปน มุขโต นิคฺคโต หุตฺวา อุเร สํวฑฺฒาติ ทสฺเสตุํ ‘‘โอรสา มุขโต ชาตา’’ติ วุตฺตํ. ตโต เอว พฺรหฺมโต ชาตาติ พฺรหฺมชา, พฺรหฺมสมฺภูตาปิ ‘‘พฺรหฺมชา’’ติ วุจฺจนฺติ, น ตถา อิเม. อิเม ปน ปจฺจกฺขโต พฺรหฺมุนา นิมฺมิตาติ พฺรหฺมนิมฺมิตา, ตโต เอว พฺรหฺมโต ลทฺธพฺพวิชฺชาทิทายชฺชทายาทาติ พฺรหฺมทายาทาติ สพฺพเมตํ พฺราหฺมณานํ กตฺถนาปลาปสทิสํ วิฺูนํ อปฺปมาณํ อวิมทฺทกฺขมํ วาจาวตฺถุมตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตสฺเสว อภาวโต. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ วิสุทฺธิมคฺควณฺณนายํ วุตฺตเมว. เตนาห ‘‘โฆโสเยวา’’ติอาทิ. โวหารมตฺตเมเวตนฺติ เอตํ ‘‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ’’ติอาทิ วจนมตฺตเมว, น ตสฺส อตฺโถ เตหิ อธิปฺเปตปฺปกาโร อตฺถิ.
๓๑๘. สมิชฺเฌยฺยาติ ทิฏฺิทีปนวเสน อตฺตโน อชฺฌาสโย นิปฺผชฺเชยฺย. เตนาห ‘‘มโนรโถ ปูเรยฺยา’’ติ. ขตฺติโยปีติ ปรขตฺติโยปิ ¶ . อสฺสาติ สมิทฺธธนาทึ ปตฺตสฺส. เตนาห – ‘‘อิสฺสริยสมฺปตฺตสฺสา’’ติ เนสนฺติ เอเตสํ จตุนฺนํ วณฺณานํ เอตฺถ ปุพฺพุฏฺายิภาวาทินา อิตเรหิ อุปจริตพฺพตาย น กิฺจิ นานากรณนฺติ โยชนา.
๓๒๒. อหํ ¶ จีวราทีหิ อุปฏฺาโก, ตุมฺหากํ อิจฺฉิตจฺฉิตกฺขเณ วเทยฺยาถ เยนตฺโถติ โยชนา. โจราทิอุปทฺทวนิเสธเนน รกฺขาคุตฺติ, ทานาทินิมิตฺตอุปทฺทวนิเสธเนน อาวรณคุตฺติ. ปจฺจุปฺปนฺนานตฺถนิเสธเนน วา รกฺขาคุตฺติ, อาคามิอนตฺถนิเสธเนน อาวรณคุตฺติ. เอตฺถ จ ขตฺติยาทีสุ โย โย อิสฺสโร, ตสฺส อิตเรน อนุวตฺเตตพฺพภาเว, กุสลากุสลกรเณน เนสํ วเสน ลทฺธพฺพอภิสมฺปราเย, ปพฺพชิเตหิ ลทฺธพฺพสามีจิกิริยาย จ อณุมตฺโตปิ วิเสโส นตฺถิ, ตสฺมา โส วิเสสาภาโว ปาฬิยํ ตตฺถ ตตฺถ วาเร ‘‘เอวํ สนฺเต’’ติอาทินา วิภาวิโต. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
มธุรสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๕. โพธิราชกุมารสุตฺตวณฺณนา
๓๒๔. โอโลกนกปทุมนฺติ ¶ ลีลาอรวินฺทํ. ตสฺมาติ โกกนทสณฺานตฺตา โกกนโทติ สงฺขํ ลภิ.
๓๒๕. ยาว ปจฺฉิม…เป… ผลกํ วุตฺตํ ตสฺส สพฺพปจฺฉา สนฺถตตฺตา. อุปริมผลคตฺหิ โสปานมตฺถกํ. โอโลกนตฺถํเยวาติ น เกวลํ ภควโต อาคมนฺเว โอโลกนตฺถํ, อถ โข อตฺตโน ปตฺถนาย สนฺถราปิตาย เจลปฏิกาย อกฺกมนสฺสปิ.
สกุณโปตเกติ กาทมฺพฏิฏฺฏิภปุตฺตเก. อฺโว ภเวยฺยาติ ตสฺมึ อตฺตภาเว มาตุคามโต อฺโ อิทานิ ภริยาภูโต มาตุคาโม ภเวยฺย. ปุตฺตํ ลเภยฺยาติ อตฺตโน กมฺมวเสน ปุตฺตํ, โน ตสฺส. อุโภหีติ อิเมหิ เอว อุโภหิ. อิเมหิ การเณหีติ ตสฺส ราชกุมารสฺส พุทฺธํ ปฏิจฺจ มิจฺฉาคหณํ, ติตฺถิยานํ อุชฺฌายนํ, อนาคเต มนุสฺสานํ ภิกฺขูนํ อุทฺทิสฺส วิปฺปฏิสาโรติ อิเมหิ ตีหิ การเณหิ. ปฺตฺตนฺติ สนฺถตํ เจลปฏิกํ. มงฺคลํ อิจฺฉนฺตีติ มงฺคลิกา.
๓๒๖. ตติยํ ¶ การณนฺติ อิมินา ภิกฺขูสุ วิปฺปฏิสารานุปฺปาทนมาห. ยํ กิฺจิ ปริภฺุชน-สุขํ กามสุขลฺลิกานุโยโคติ อธิปฺปาเยน กามสุขลฺลิกานุโยคสฺี หุตฺวา…เป… มฺมาโน เอวมาห.
๓๒๗. อถ นํ ภควา ตโต มิจฺฉาภินิเวสโต วิเวเจตุกาโม ‘‘โส โข อห’’นฺติอาทินา อตฺตโน ทุกฺกรจริยํ ทสฺเสตุํ อารภิ. มหาสจฺจเก(ม. นิ. ๑.๓๖๔ อาทโย) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ ‘‘โส โข อห’’นฺติอาทิปาสฺส ตตฺถ อาคตนิยาเมเนว อาคตตฺตา. ปาสราสิสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๒๗๒ อาทโย) วุตฺตนเยนาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
๓๔๓. องฺกุสํ คณฺหนฺติ เอเตน ตสฺส คหเณ เฉโก โหตีติ องฺกุสคหณสิปฺปํ. เมฆอุตุนฺติ เมฆํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนสีตอุตุํ. ปพฺพตอุตุนฺติ ปพฺพตํ ปฏิจฺจ อุณฺหอุตุํ. อุภยวเสน จ ตสฺส ¶ ตถา สีตุณฺหอุตุโต เอโน อาคโตติ ต-การสฺส ท-การํ กตฺวา อุเทโนติ นามํ อกาสิ.
ตาปโส โอคาฬฺหาณวเสน รฺโ มตภาวํ ตฺวา. อาทิโต ปฏฺายาติ โกสมฺพินคเร ปรนฺตปรฺโ อคฺคมเหสิภาวโต ปฏฺาย. ปุพฺเพติ สีลวนฺตกาเล. หตฺถิคนฺถนฺติ หตฺถีนํ อตฺตโน วเส วตฺตาปนสตฺถํ. เตเนวสฺส ตํ สิกฺขาเปติ, กิจฺจฺจ อิชฺฌติ.
๓๔๔. ปทหนภาโวติ ภาวนานุโยโค. ปธาเน วา นิยุตฺโต ปธานิโย, ปธานิยสฺส ภิกฺขุโน, ตสฺเสว ปธานิยภาวสฺส องฺคานิ การณานิ ปธานิยงฺคานิ. สทฺธา เอตสฺส อตฺถีติ สทฺโธ. กิฺจาปิ ปจฺเจกโพธิสตฺตานมฺปิ อภินีหารโต ปฏฺาย อาคตา อาคมนสทฺธา เอว, มหาโพธิสตฺตานํ ปน สทฺธา ครุตราติ สา เอว คหิตา. อจลภาเวน โอกปฺปนํ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวาขฺยาโต ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ’’ติ เกนจิ อกมฺปิยภาเวน รตนตฺตยคุเณ โอคาหิตฺวา กปฺปนํ. ปสาทุปฺปตฺติ รตนตฺตเย ปสีทนเมว. โพธินฺติ จตุมคฺคาณนฺติ วุตฺตํ ตํนิมิตฺตตฺตา สพฺพฺุตฺาณสฺส, โพธีติ วา สมฺมาสมฺโพธิ. สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานฺหิ มคฺคาณํ, มคฺคาณปทฏฺานฺจ สพฺพฺุตฺาณํ ‘‘สมฺมาสมฺโพธี’’ติ วุจฺจติ. นิจฺฉิตสุพุทฺธตาย ธมฺมสฺส สุธมฺมตา สงฺฆสฺส สุปฺปฏิปตฺติ วินิจฺฉิตา เอว ¶ โหตีติ อาห ‘‘เทสนาสีสเมว เจต’’นฺติอาทิ. ตสฺส ปธานํ วีริยํ อิชฺฌติ รตนตฺตยสทฺธาย ‘‘อิมาย ปฏิปทาย ชรามรณโต มุจฺจิสฺสามี’’ติ ปธานานุโยเค อวํมุขสมฺภวโต.
อปฺปาพาโธติอาทิ เหฏฺา วุตฺตเมว. อคุณํ ปกาเสตา อายตึ สํวรํ อาปชฺชิตา สมฺมาปฏิปตฺติยา วิโสธนตฺถํ. อุทยฺจ อตฺถฺจ คนฺตุนฺติ ‘‘อวิชฺชาสมุทยา’’ติอาทินา ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อุทยฺจ วยฺจ ชานิตุํ. เตนาห ‘‘เอเตนา’’ติอาทิ. ปริสุทฺธาย อุปกฺกิเลสวินิมุตฺตาย. นิพฺพิชฺฌิตุนฺติ ตทงฺควเสน ปชหิตุํ สมุจฺเฉทปฺปหานสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ. ยํ ทุกฺขํ ขียตีติ กิเลเสสุ อปฺปหีเนสุ เตน ตทุปนิสฺสยกมฺมํ ปฏิจฺจ ยํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๓๔๕. เสสทิวเสติ สตฺตทิวสโต ปฏฺาย ยาว ทฺเว รตฺตินฺทิวา.
๓๔๖. กุจฺฉิสนฺนิสฺสิโต ¶ คพฺโภ นิสฺสยโวหาเรน ‘‘กุจฺฉี’’ติ วุจฺจติ, โส เอติสฺสา อตฺถีติ กุจฺฉิมตี. เตนาห ‘‘อาปนฺนสตฺตา’’ติ. อารกฺโข ปนสฺส ปจฺจุปฏฺิโต โหตีติ มาตรา คหิตสรณํ คพฺภวุฏฺิตสฺส ตสฺส สรณคมนํ ปเวทยิตสฺส กุสลํ สรณํ นาม, มาตุ กตรกฺโข ปุตฺตสฺสปิ ปจฺจุปฏฺิโตติ. มหลฺลกกาเลติ วจนตฺถํ ชานนกาเล. สาเรนฺตีติ ยถาทิฏฺํ ยถาพลํ รตนตฺตยคุณปติฏฺาปนวเสน อสฺส สาเรนฺติ. สลฺลกฺเขตฺวาติ วุตฺตมตฺถํ อุปธาเรตฺวา. สรณํ คหิตํ นาม โหติ รตนตฺตยสฺส สรณภาวสลฺลกฺขณปุพฺพกตนฺนินฺนจิตฺตภาวโตว. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
โพธิราชกุมารสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๖. องฺคุลิมาลสุตฺตวณฺณนา
๓๔๗. องฺคุลีนํ ¶ มาลํ ธาเรตีติ อิมินา อนฺวตฺถา ตสฺส สมฺาติ ทสฺเสติ. ตตฺราติ ตสฺมึ อาจริยวจเนน องฺคุลิมาลสฺส ธารเณ. กรีสสหสฺสเขตฺเต เอกสาลิสีสํ วิย อปฺายมานสกกิจฺโจ โหตีติ อธิปฺปาโย. ตกฺกสีลํ เปสยึสุ ‘‘ตาทิสสฺส อาจริยสฺส สนฺติเก ¶ สิปฺปุคฺคหสมฺมาปโยเคน ทิฏฺธมฺมิเก สมฺปรายิเก จ อตฺเถ ชานนฺโต ภาริยํ น กเรยฺยา’’ติ. พาหิรกา อเหสุํ อหึสกสฺส วตฺตสมฺปตฺติยา อาจริยสฺส จิตฺตสภาวโต นิพฺพตฺตนติภาเวน. สิเนเหเนว วทนฺเตติ สิเนเหน วิย วทนฺเต.
คณนมฺปิ น อุคฺคณฺหาตีติ คณนวิธิมฺปิ น สลฺลกฺเขติ. ตตฺถ การณมาห ‘‘ปกติยา’’ติอาทินา. ปิตฏฺาเนติ รุกฺขคจฺฉนฺตราทิเก ปิตฏฺาเน สกุนฺตสิงฺคาลานํ วเสน องฺคุลิโย วินสฺสนฺติ. ภคฺคโวติ โกสลรฺโ ปุโรหิตํ โคตฺเตน วทติ. โจโร อวิสฺสาสนีโย สาหสิกภาวโต. ปุราณสนฺถตา สาขา อวิสฺสาสนียา วิจฺฉิกาทีนํ ปเวสนโยคฺยตฺตา. ราชา อวิสฺสาสนีโย อิสฺสริยมเทน ธนโลเภน จ กทาจิ ชีวิเต สงฺกาภาวโต. อิตฺถี อวิสฺสาสนียา โลลสีลจิตฺตภาวโต. อนุทฺธรณีโย ภวิสฺสติ สํสารปงฺกโต.
๓๔๘. สงฺกริตฺวาติ ‘‘มยํ เอกชฺฌํ สนฺนิปติตฺวา โจรํ มาเรตฺวา วา ปลาเปตฺวา คมิสฺสามา’’ติ สงฺกรํ กตฺวา. อิทฺธาภิสงฺขารนฺติ อภิสงฺขรณํ อธิฏฺานํ. อภิสงฺขาสีติ อธิฏฺหิ. สํหริตฺวาติ สํขิปิตฺวา. โอรภาเคติ โจรสฺส โอรภาเค.
๓๔๙. ทณฺโฑติ ปหรณหตฺถจฺเฉทนาทิโก ทณฺฑนสงฺขาโต ทณฺโฑ. ปวตฺตยิตพฺโพติ อาเนตพฺโพ. อปเนตฺวาติ อตฺตโน สนฺตานโต สมุจฺเฉทวเสน ปหาย. ปฏิสงฺขายาติ ปฏิสงฺขาเนน. อวิหึสายาติ กรุณาย. สารณียธมฺเมสูติ ฉสุปิ สารณียธมฺเมสุ, ิโต อฏฺิตานํ ปาปธมฺมานํ โพธิมูเล เอว สมุจฺฉินฺนตฺตา. ยถา อตีเต อปริมิตํ กาลํ สนฺธาวิตํ, เอวํ อิมาย ปฏิปตฺติยา อนาคเตปิ สนฺธาวิสฺสตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทานี’’ติอาทิมาห.
อิตฺเววาติ อิติ เอว, อิติ-สทฺโท นิทสฺสนตฺโถ. เตนาห ‘‘เอวํ วตฺวา เยวา’’ติ. อกิรีติ อากิริ, ปฺจปิ อาวุธานิ วิกิริ. เตน วุตฺตํ ‘‘ขิปิ ฉฑฺเฑสี’’ติ.
๓๕๐. เอตฺโตวาติ ¶ อโต เอว อาคตมคฺเคเนว สาวตฺถึ คตา. อธิวาเสสฺสตีติ ‘‘โจรํ ปฏิเสเธตุํ คมิสฺสามี’’ติ วุตฺเต ตุณฺหี ภวิสฺสติ ¶ . ทารุณกมฺเมน อุปฺปนฺนนามนฺติ ‘‘องฺคุลิมาโล’’ติ อิมํ นามํ สนฺธาย วทติ.
๓๕๑. หตฺถี อรฺหตฺถี โหนฺติ มนุสฺสานํ ตตฺถ คนฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา, เอวํ อสฺสาปิ. กูฏสหสฺสานํ ภิชฺชนการณํ โหติ เถรสฺส อาคมนภเยน ฆเฏ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายเนน. คพฺภมูฬฺหายาติ พฺยากุลคพฺภาย. ปพฺพชฺชาพเลนาติ วุตฺตํ, สตฺถุ เทสนานุภาเวนาติ ปน วตฺตพฺพํ. โส หิ ตสฺสาปิ การณนฺติ. อริยา นาม ชาติ ปพฺพชฺชา อริยภาวตฺถาย ชาตีติ กตฺวา.
มหาปริตฺตํ นาเมตนฺติ มหานุภาวํ ปริตฺตํ นาเมตํ. ตถา หิ นํ เถโร สพฺพภาเวน อริยาย ชาโต สจฺจาธิฏฺาเนน อกาสิ. เตนาห ‘‘สจฺจกิริยกตฏฺาเน’’ติ. คพฺภมูฬฺหนฺติ มูฬฺหคพฺภํ. คพฺโภ หิ ปริปกฺโก สมฺปชฺชมาโน วิชายนกาเล กมฺมชวาเตหิ สฺจาเลตฺวา ปริวตฺติโต อุทฺธํปาโท อโธสีโส หุตฺวา โยนิมุขาภิมุโข โหติ, เอวํ โส กสฺสจิ อลคฺโค โสตฺถินา พหิ นิกฺขมติ, วิปชฺชมาโน ปน วิปริวตฺตนวเสน โยนิมคฺคํ ปิทหิตฺวา ติริยํ นิปชฺชติ, ตถา ยสฺสา โยนิมคฺโค ปิทหติ, สา ตตฺถ กมฺมชวาเตหิ อปราปรํ ปริวตฺตมานา พฺยากุลา มูฬฺหคพฺภาติ วุจฺจติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘คพฺภมูฬฺห’’นฺติ.
สจฺจกิริยา นาม พุทฺธาสยํ อตฺตโน สีลํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา กตา, ตสฺมา สจฺจกิริยา เวชฺชกมฺมํ น โหตีติ ทฏฺพฺพํ. เถรสฺสปิ จาติอาทินา อุปสงฺกมิตพฺพการณํ วทติ. อิเม ทฺเว เหตู ปฏิจฺจ ภควา เถรํ สจฺจกิริยํ กาเรสิ. ชาตินฺติ มูลชาตึ.
๓๕๒. ปริยาทาย อาหจฺจ ภินฺเนน สีเสน. สภาคทิฏฺธมฺมเวทนียกมฺมนฺติ นิรเย นิพฺพตฺตนสกกมฺมสภาคภูตํ ทิฏฺธมฺมเวทนียกมฺมํ. สภาคตา จ สมานวตฺถุกตา สมานารมฺมณตาเอกวีถิปริยาปนฺนตาทิวเสน สพฺพถา สริกฺขตา, สทิสมฺปิ จ นาม ตเทวาหรียติ ยถา ‘‘ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปาโก’’ติ จ ‘‘สา เอว ติตฺติรี ตาเนว โอสธานี’’ติ จ. อิทานิ ตเมว สภาคตํ ทสฺเสตุํ ‘‘กมฺมํ หี’’ติอาทิ อารทฺธํ. กริยมานเมวาติ ปจฺจยสมวาเยน ปฏิปาฏิยา นิพฺพตฺติยมานเมว. ตโย โกฏฺาเส ปูเรติ, ทิฏฺธมฺมเวทนียอปราปริยายเวทนียอุปปชฺชเวทนียสงฺขาเต ตโย ภาเค ปูเรติ, เตสํ ติณฺณํ ภาคานํ วเสน ปวตฺตติ.
ทิฏฺธมฺโม ¶ ¶ วุจฺจติ ปจฺจกฺขภูโต ปจฺจุปฺปนฺโน อตฺตภาโว, ตตฺถ เวทิตพฺพผลํ กมฺมํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ. ปจฺจุปฺปนฺนภวโต อนนฺตรํ เวทิตพฺพผลํ กมฺมํ อุปปชฺชเวทนียํ. ทิฏฺธมฺมานนฺตรภวโต อฺสฺมึ อตฺตภาวปริยาเย อตฺตภาวปริวตฺเต เวทิตพฺพผลํ กมฺมํ อปราปริยายเวทนียํ. ปฏิปกฺเขหิ อนภิภูตตาย, ปจฺจยวิเสเสน ปฏิลทฺธวิเสสตาย จ พลวภาวปฺปตฺตา ตาทิสสฺส ปุพฺพาภิสงฺขารสฺส วเสน สาติสยา หุตฺวา ปวตฺตา ปมชวนเจตนา ตสฺมึเยว อตฺตภาเว ผลทายินี ทิฏฺธมฺมเวทนียา นาม. สา หิ วุตฺตากาเรน พลวติ ชวนสนฺตาเน คุณวิเสสยุตฺเตสุ อุปการานุปการวสปฺปวตฺติยา อาเสวนาลาเภน อปฺปวิปากตาย จ อิตรทฺวยํ วิย ปวตฺตสนฺตานุปรมาเปกฺขํ โอกาสลาภาเปกฺขฺจ กมฺมํ น โหตีติ อิเธว ปุปฺผมตฺตํ วิย ปวตฺติวิปากมตฺตํ ผลํ เทติ.
ตถา อสกฺโกนฺตนฺติ กมฺมสฺส ผลทานํ นาม อุปธิปโยคาทิปจฺจยนฺตรสมวาเยเนว โหตีติ ตทภาวโต ตสฺมึเยว อตฺตภาเว วิปากํ ทาตุํ อสกฺโกนฺตํ. อโหสิกมฺมนฺติ กมฺมํเยว อโหสิ, น ตสฺส วิปาโก อโหสิ, อตฺถิ ภวิสฺสติ วาติ เอวํ วตฺตพฺพํ กมฺมํ. อตฺถสาธิกาติ ทานาทิปาณาติปาตาทิอตฺถสฺส นิปฺผาทิกา. กา ปน สาติ อาห ‘‘สตฺตมชวนเจตนา’’ติ. สา หิ สนฺนิฏฺาปกเจตนา วุตฺตนเยน ปฏิลทฺธวิเสสา ปุริมชวนเจตนาหิ ลทฺธาเสวนา จ สมานา อนนฺตเร อตฺตภาเว วิปากทายินี อุปปชฺชเวทนียกมฺมํ นาม. เตนาห ‘‘อนนฺตเร อตฺตภาเว วิปากํ เทตี’’ติ. สติ สํสารปฺปวตฺติยาติ อิมินา อสติ สํสารปฺปวตฺติยา อโหสิกมฺมปกฺเข ติฏฺติ วิปจฺจโนกาสสฺส อภาวโตติ.
สมุคฺฆาฏิตานิ วิปจฺจโนกาสสฺส อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนน. ทิฏฺธมฺมเวทนียํ อตฺถิ วิปาการหาภาวสฺส อนิพฺพตฺติตตฺตา วิปจฺจโนกาสสฺส อนุปจฺฉินฺนตฺตา. กตูปจิตฺหิ กมฺมํ สติ วิปจฺจโนกาเส ยาว น ผลํ เทติ, ตาว อตฺเถว นาม วิปาการหภาวโต. ‘‘ยสฺส โข’’ติ อิทํ อนิยมาการวจนํ ภควตา กมฺมสริกฺขตาวเสน สาธารณโต วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยาทิสสฺส โข’’ติ.
ปมาทกิเลสวิมุตฺโตติ ปมาทเหตุเกหิ สพฺเพหิ กิเลเสหิ วิมุตฺโต.
ปาปสฺส ¶ ปิธานํ นาม อวิปากธมฺมตาปาทนนฺติ อาห ‘‘อปฺปฏิสนฺธิกํ กรียตี’’ติ. พุทฺธสาสเนติ ¶ สิกฺขาตฺตยสงฺคเห พุทฺธสฺส ภควโต สาสเน. ยุตฺตปฺปยุตฺโต วิหรตีติ อกตฺตพฺพสฺส อกรณวเสน, กตฺตพฺพสฺส จ ปริปูรณวเสน ปวตฺตติ.
ทิสฺสนฺติ กุชฺฌนฺตีติ ทิสา, ปฏิปกฺขาติ อาห ‘‘สปตฺตา’’ติ. ตปฺปสํสปการนฺติ เมตฺตานิสํสกิตฺตนาการํ. กาเลนาติ อาเมฑิตโลเปน นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ขเณ ขเณ’’ติ. อนุกโรนฺตูติ เยสํ กลฺยาณมิตฺตานํ สนฺติเก สุณนฺติ, ยถาสุตํ ธมฺมํ เตสํ อนุกโรนฺตุ ทิฏฺานุคติกรณํ อาปชฺชนฺตุ, อตฺตโน เวริปุคฺคลานมฺปิ ภควโต สนฺติเก ธมฺมสฺสวนํ สมฺมาปฏิปตฺติฺจ ปจฺจาสีสติ.
ตสนฺติ คตึ ปตฺถยนฺตีติ ตสา ภวนฺตราทีสุ สํสรณภาวโต. เตนาห ‘‘ตสา วุจฺจนฺติ สตณฺหา’’ติ.
เนตพฺพฏฺานํ อุทกํ นยนฺตีติ เนตฺติกา. พนฺธิตฺวาติ ทฬฺหํ พนฺธิตฺวา. เตลกฺชิเกนาติ เตลมิสฺสิเตน กฺชิเกน.
ยาทิโสว อนิฏฺเ, ตาทิโสว อิฏฺเติ อิฏฺานิฏฺเ นิพฺพิกาเรน ตาที. เยสํ ปน กามามิสาทีนํ วนฺตตฺตา ราคาทีนํ จตฺตตฺตา กาโมฆาทีนํ ติณฺณตฺตา ตาทิภาโว ภเวยฺย, เตสํ ภควตา สพฺพโส วนฺตา จตฺตา ติณฺณา, ตสฺมา ภควา วนฺตาวีติ ตาที, จตฺตาวีติ ตาที, ติณฺณาวีติ ตาที, เยหิ อนฺสาธารเณหิ สีลาทิคุเณหิ สมนฺนาคตตฺตา ภควา ตาทิภาเวน อุกฺกํสปารมิปฺปตฺโต ตํนิทฺเทโส, เตหิ คุเณหิ ยาถาวโต นิทฺทิสิตพฺพโตปิ ตาที. ยถา ยนฺตรชฺชุยา ยนฺตํ นียติ, เอวํ ยาย ตณฺหาย ภโว นียติ, สา ‘‘ภวเนตฺติ ภวรชฺชู’’ติ วุตฺตา. เตนาห ‘‘ตาย หี’’ติอาทิ, กมฺมานิ กุสลาทีนิ วิปจฺจยนฺติ อปจฺจยนฺติ เอตายาติ กมฺมวิปาโก. อปจฺจยภาโว นาม อริยมคฺคเจตนายาติ อาห ‘‘มคฺคเจตนายา’’ติ. ยาว น กิเลสา ปหียนฺติ, ตาว อิเม สตฺตา สอิณา เอว อเสริวิหารภาวโตติ อาห ‘‘อณโณ นิกฺกิเลโส ชาโต’’ติ.
เถยฺยปริโภโค (วิสุทฺธิ. ฏี. ๑.๙๑) นาม สามิปริโภคาภาวโต. ภควตาปิ หิ อตฺตโน สาสเน สีลวโต ปจฺจยา อนฺุาตา, น ทุสฺสีลสฺส, ทายกานํ ¶ สีลวโตเยว ปริจฺจาโค, น ทุสฺสีลสฺส อตฺตโน การานํ มหปฺผลภาวสฺส ปจฺจาสีสนโต. อิติ สตฺถารา อนนฺุาตตฺตา ทายเกหิ จ อปริจฺจตฺตตฺตา ‘‘ทุสฺสีลสฺส ปริโภโค เถยฺยปริโภโค นามา’’ติ วุตฺตํ ¶ . อิณวเสน ปริโภโค อิณปริโภโค. ปฏิคฺคาหกโต ทกฺขิณาวิสุทฺธิยา อภาวโต อิณํ คเหตฺวา ปริโภโค วิยาติ อตฺโถ. ยสฺมา เสกฺขา ภควโต โอรสปุตฺตา, ตสฺมา เต ปิตุสนฺตกานํ ปจฺจยานํ ทายาทา หุตฺวา เต ปจฺจเย ปริภฺุชนฺตีติ เตสํ ปริโภโค ทายชฺชปริโภโค นาม. กึ ปน เต ภควโต ปจฺจเย ปริภฺุชนฺติ, อุทาหุ คิหีหิ ทินฺนนฺติ? คิหีหิ ทินฺนาปิ เต ภควตา อนฺุาตตฺตา ภควโต สนฺตกา โหนฺติ อนนฺุาเตสุ สพฺเพน สพฺพํ ปริโภคาภาวโต อนฺุาเตสุเยว ปริโภคสมฺภวโต. ธมฺมทายาทสุตฺตฺเจตฺถ (ม. นิ. ๑.๒๙ อาทโย) สาธกํ.
อวีตราคานํ ตณฺหาปรวสตาย ปจฺจยปริโภเค สามิภาโว นตฺถิ, ตทภาเวน วีตราคานํ ตตฺถ สามิภาโว ยถารุจิ ปริโภคสมฺภวโต. ตถา หิ เต ปฏิกูลมฺปิ อปฺปฏิกูลากาเรน, อปฺปฏิกูลมฺปิ ปฏิกูลากาเรน ตทุภยํ วิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขากาเรน จ ปจฺจเย ปริภฺุชนฺติ, ทายกานฺจ มโนรถํ ปริปูเรนฺติ. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ วิสุทฺธิมคฺเค, ตํสํวณฺณนาสุ จ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. กิเลสอิณานํ อภาวํ สนฺธาย ‘‘อณโณ’’ติ วุตฺตํ, น ปจฺจเวกฺขิตปริโภคมตฺตํ. เตนาห อายสฺมา จ พากุโล – ‘‘สตฺตาหเมว โข อหํ, อาวุโส, สรโณ รฏฺปิณฺฑํ ภฺุชิ’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๒๑๑).
วตฺถุกามกิเลสกาเมหิ ตณฺหาย ปวตฺติอาการํ ปฏิจฺจ อตฺถิ รมณโวหาโรติ อาห – ‘‘ทุวิเธสุปิ กาเมสุ ตณฺหารติสนฺถว’’นฺติ. มนฺติตนฺติ กถิตํ. อุปฺปนฺเนหิ สตฺถุปฏิฺเหิ. สํวิภตฺตาติ กุสลาทิวเสน ขนฺธาทีหิ อากาเรหิ วิภตฺตา. สุนฺทรํ อาคมนนฺติ สฺวาคตํ. ตโต เอว น กุจฺฉิตํ อาคตํ. โสฬสวิธกิจฺจสฺส ปริโยสิตตฺตา อาห ‘‘ตํ สพฺพํ มยา กต’’นฺติ. มคฺคปฺายเมว ตติยวิชฺชาสมฺาติ อาห – ‘‘ตีหิ วิชฺชาหิ นวหิ จ โลกุตฺตรธมฺเมหี’’ติ.
องฺคุลิมาลสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๗. ปิยชาติกสุตฺตวณฺณนา
๓๕๓. ปกตินิยาเมนาติ ¶ ¶ ยถา โสกุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ อิติ กตฺตพฺเพสุ อสมฺโมหวเสน จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ, ตานิ จสฺส อุปฏฺหนฺติ, น เอวํ โสกสฺส จิตฺตสงฺโกจสภาวโต. เตน วุตฺตํ ‘‘ปกตินิยาเมน ปน น ปฏิภนฺตี’’ติ. เกจิ ปน ‘‘สามนฺตา กติปเย น กุฏุมฺพํ สนฺธาเรติ. เตนาห ‘น สพฺเพน สพฺพํ ปฏิภนฺตี’ติ’’ วทนฺติ. เอตฺถาติ ทุติยปเท. อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ ‘‘น ปฏิภาตี’’ติ ปทสฺส ‘‘น รุจฺจตี’’ติ อตฺถมาห. น ปฏิภาตีติ วา ภฺุชิตุกามตาจิตฺตํ น อุปฏฺิตนฺติ อตฺโถ. ปติฏฺิโตกาสนฺติ อินฺทฺริยาวิฏฺฏฺานํ วทติ. ปิยายิตพฺพโต ปิโย ชาติ อุปฺปตฺติฏฺานํ เอเตสนฺติ ปิยชาติกา. ปิโย ปภุติ เอเตสนฺติ ปิยปฺปภุติกาติ วตฺตพฺเพ, อุ-การสฺส ว-การํ, ต-การสฺส จ โลปํ กตฺวา ‘‘ปิยปฺปภาวิกา’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ปิยโต ปภวนฺตี’’ติ.
๓๕๕. ปร-สทฺเทน สมานตฺถํ อชฺฌตฺติกภาวนิเสธนตฺถํ ‘‘ปิเร’’ติ ปทนฺติ อาห ‘‘อมฺหากํ ปเร’’ติ. ปิเรติ วา ‘‘ปรโต’’ติ อิมินา สมานตฺถํ นิปาตปทนฺติ อาห ‘‘จร ปิเรติ ปรโต คจฺฉา’’ติ.
๓๕๖. ทฺวิธา เฉตฺวาติ เอตฺถ ยทิ อิตฺถี ตสฺส ปุริสสฺส ปิยา, กถํ ทฺวิธา ฉินฺทตีติ อาห ‘‘ยทิ หี’’ติอาทิ.
๓๕๗. กถํ กเถยฺยนฺติ ยถา ภควา เอตสฺส พฺราหฺมณสฺส กเถสิ, โส จ เม กเถสิ, ตถา จาหํ กเถยฺยํ. มรณวเสน วิปริณาโม อตฺตภาวสฺส ปริวตฺตตฺตา. ปลายิตฺวา คมนวเสน อฺถาภาโว มิตฺตสนฺถวสฺส สมาคมสฺส จ อฺถาภูตตฺตา.
ฉฑฺฑิตภาเวนาติ ปริวตฺติตภาเวน. หตฺถคมนวเสน อฺถาภาโว ปุพฺเพ สวเส วตฺติตานํ อิทานิ วเส อวตฺตนภาเวน.
อาจเมหีติ ¶ อาจมนํ มุขวิกฺขาลนํ กาเรหิ. ยสฺมา มุขํ วิกฺขาเลนฺตา หิ หตฺถปาเท โธวิตฺวา วิกฺขาเลนฺติ, ตสฺมา ‘‘อาจมิตฺวา’’ติ วตฺวา ปจฺฉาปิ ตสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มุขํ วิกฺขาเลตฺวา’’ติ อาห. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
ปิยชาติกสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๘. พาหิติกสุตฺตวณฺณนา
๓๕๙. สาวชฺชตาย ¶ ¶ อุปารมฺภํ อรหตีติ โอปารมฺโภ. เตนาห ‘‘โทสํ อาโรปนารโห’’ติ. พาลา อุปารมฺภวตฺถุมฺํ อมูลกมฺปิ นํ อาโรเปนฺตา อุคฺโฆเสนฺติ, ตสฺมา เต อนามสิตฺวา ‘‘วิฺูหี’’ติ อิทํ ปทํ คเหตฺวา ปฺเหน าตุํ อิจฺฉิเตน อตฺเถน อุปารมฺภาทีนํ อุปริ อุตฺตรํ ปริปูเรตุํ นาสกฺขิมฺหา. ตํ การณนฺติ ตํ อุปฺปตฺติการณํ. ยทิ หิ มยา ‘‘วิฺูหี’’ติ ปทํ ปกฺขิปิตฺวา วุตฺตํ ภเวยฺย, ปฺหา เม ปริปุณฺณา ภเวยฺย, น ปน วุตฺตา. อิทานิ ปน ตํ การณํ อุตฺตรํ อายสฺมตา อานนฺเทน ‘‘วิฺูหี’’ติ เอวํ วทนฺเตน ปริปูริตํ.
๓๖๐. โกสลฺลปฏิปกฺขโต อโกสลฺลํ วุจฺจติ อวิชฺชา, ตํสมุฏฺานโต อโกสลฺลสมฺภูโต. อวชฺชํ วุจฺจติ ครหิตพฺพํ, สห อวชฺเชหีติ สาวชฺโช, คารยฺโห. ราคาทิโทเสหิ สโทโส. เตหิ เอว สพฺยาพชฺโฌ, ตโต เอว สมฺปติ อายติฺจ สทุกฺโข. สพฺยาพชฺฌาทิโก นิสฺสนฺทวิปาโก.
ตถา อตฺโถ วุตฺโต ภเวยฺยาติ ปุจฺฉาสภาเคนปิ อตฺโถ วุตฺโต ภเวยฺย, ปุจฺฉนฺตสฺส ปน น ตาว จิตฺตาราธนํ. เตนาห – ‘‘เอวํ พฺยากรณํ ปน น ภาริย’’นฺติ, ครุกรณํ น โหติ วิสารชฺชํ น สิยาติ อธิปฺปาโย. เตนาห – ‘‘อปฺปหีนอกุสโลปิ หิ ปหานํ วณฺเณยฺยา’’ติ. เอวรูโป ปน ยถาการี ตถาวาที น โหติ, น เอวํ ภควาติ อาห ‘‘ภควา’’ติอาทิ. เอวํ พฺยากาสีติ ‘‘สพฺพากุสลธมฺมปหีโน โข, มหาราช, ตถาคโต’’ติ เอวํ พฺยากาสิ. สุกฺกปกฺเขปิ เอเสว นโยติ อิมินา ‘‘สพฺเพสํเยว กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทํ วณฺเณตี’’ติ วุตฺเต ยถา ปุจฺฉา, ตถา อตฺโถ วุตฺโต ภเวยฺย, เอวํ พฺยากรณํ ปน น ภาริยํ, อสมฺปาทิตกุสลธมฺโมปิ อุปสมฺปทํ วณฺเณยฺย. ภควา ปน สมฺมเทว สมฺปาทิตกุสลตฺตา ยถาการี ตถาวาทีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ พฺยากาสี’’ติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
พาหิติกสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๙. ธมฺมเจติยสุตฺตวณฺณนา
๓๖๔. เมทวณฺณา ¶ ¶ อุฬุปวณฺณา จ ตตฺถ ตตฺถ ปาสาณา อุสฺสนฺนา อเหสุนฺติ เมทาฬุปนฺติ คามสฺส สมฺา ชาตา. อุฬุปวณฺณาติ จนฺทสมานวณฺณตาย เมทปาสาณา วุตฺตาติ เกจิ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘เมทวณฺณา ปาสาณา กิเรตฺถ อุสฺสนฺนา อเหสุ’’นฺติ อิทํ วุตฺตํ. อสฺสาติ เสนาปติสฺส. กถาสมุฏฺาปนตฺถนฺติ มลฺลิกาย โสกวิโนทนธมฺมกถาสมุฏฺาปนตฺถํ.
รฺาติ ปเสนทีโกสลรฺา. มหจฺจาติ มหติยา. ปทวิปลฺลาเสน เจตํ วุตฺตํ. ปสาทมรหนฺตีติ ปาสาทิกานิ. เตนาห ‘‘สห รฺชนกานี’’ติ. ยานิ ปน ปาสาทิกานิ, ตานิ ปสฺสิตุํ ยุตฺตานิ. ปาสาทิกานีติ วา สทฺทหนสหิตานิ. เตนาห ‘‘ปสาทชนกานี’’ติ. ‘‘อปฺปาพาธ’’นฺติ อาทีสุ วิย อปฺปสทฺโท อภาวตฺโถติ อาห ‘‘นิสฺสทฺทานี’’ติ. อนิยมตฺถวาจี ย-สทฺโท อนิยมาการวาจโกปิ โหตีติ ‘‘ยตฺถา’’ติ ปทสฺส ‘‘ยาทิเสสู’’ติอาทิมาห. ตถา หิ องฺคุลิมาลสุตฺเต (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๓๔๗ อาทโย) ‘‘ยสฺส โข’’ติ ปทสฺส ‘‘ยาทิสสฺส โข’’ติ อตฺโถ วุตฺโต.
๓๖๖. ปฏิจฺฉทนฺติ ปฏิจฺฉาทกํ. ราชกกุธภณฺฑานีติ ราชภณฺฑภูตานิ. รหายตีติ รโห กโรติ, มํ อชฺเฌสตีติ อตฺโถ.
๓๖๗. ยถาสภาวโต เยฺยํ ธาเรติ อวธาเรตีติ ธมฺโม, าณนฺติ อาห ‘‘ปจฺจกฺขาณสงฺขาตสฺส ธมฺมสฺสา’’ติ. อนุนโยติ อนุคจฺฉนโก. ทิฏฺเน หิ อทิฏฺสฺส อนุมานํ. เตนาห ‘‘อนุมานํ อนุพุทฺธี’’ติ. อาปาณโกฏิกนฺติ ยาว ปาณโกฏิ, ตาว ชีวิตปริโยสานํ. เอตนฺติ ธมฺมนฺวยสงฺขาตํ อนุมานํ. เอวนฺติ ‘‘อิธ ปนาห’’นฺติ วุตฺตปฺปกาเรน.
๓๖๙. จกฺขุํ อพนฺธนฺเต วิยาติ อปาสาทิกตาย ปสฺสนฺตานํ จกฺขุํ อตฺตนิ อพนฺธนฺเต วิย. กุลสนฺตานานุพนฺโธ โรโค กุลโรโค. อุฬารนฺติ สานุภาวํ. โย หิ อานุภาวสมฺปนฺโน, ตํ ‘‘มเหสกฺข’’นฺติ วทนฺติ. อรหตฺตํ คณฺหนฺโตติ อุกฺกฏฺนิทฺเทโสยํ, เหฏฺิมผลานิ คณฺหนฺโตปิ.
๓๗๔. ธมฺมํ เจเตติ สํเวเทติ เอเตหีติ ธมฺมเจติยานิ, ธมฺมสฺส ปูชาวจนานิ. นนุ เจตานิ พุทฺธสงฺฆคุณทีปนานิปิ สนฺติ? กถํ ‘‘ธมฺมเจติยานีติ ธมฺมสฺส จิตฺตีการวจนานี’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ตีสุ หี’’ติอาทิ. ตตฺถ ยสฺมา พุทฺธรตนมูลกานิ เสสรตนานิ ตสฺส วเสน ลทฺธพฺพโต. โกสลรฺา เจตฺถ พุทฺธคารเวน ธมฺมสงฺฆคารวํ ปเวทิตํ, ตสฺมา ‘‘ภควติ จิตฺตีกาเร กเต ธมฺโมปิ กโตว โหตี’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา จ รตนตฺตยปสาทปุพฺพิกา สาสเน สมฺมาปฏิปตฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘อาทิพฺรหฺมจริยกานีติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตานี’’ติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
ธมฺมเจติยสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๑๐. กณฺณกตฺถลสุตฺตวณฺณนา
๓๗๕. อนนฺตรสุตฺเต ¶ วุตฺตกรณีเยเนวาติ ‘‘ปาสาเท วา นาฏเกสุ วา จิตฺตสฺสาทํ อลภมาโน ตตฺถ ตตฺถ วิจริตุํ อารทฺโธ’’ติ วุตฺตกรณีเยน. อปฺปทุฏฺปโทสีนฺหิ เอวํ โหตีติ.
๓๗๖. ปุจฺฉิโตติ ‘‘อฺํ ทูตํ นาลตฺถุ’’นฺติ ปุจฺฉิโต. โสติ ราชา. ตาสํ วนฺทนา สเจ อุตฺตรกาลํ, อตฺตโน อาคมนการณํ กเถสฺสติ.
๓๗๘. เอกาวชฺชเนนาติ เอกวีถิชวเนน. เตน เอกจิตฺตํ ตาว ติฏฺตุ, เอกจิตฺตวีถิยาปิ สพฺพํ ชานิตุํ น สกฺกาติ ทสฺเสติ. ‘‘อิทํ นาม อตีตํ ชานิสฺสามี’’ติ อนิยเมตฺวา อาวชฺชโต ยํ กิฺจิ อตีตํ ชานาติ, นิยมิเต ปน นิยมิตเมวาติ อาห – ‘‘เอเกน หิ…เป… เอกเทสเมว ชานาตี’’ติ. เตน จิตฺเตนาติ ‘‘อตีตํ สพฺพํ ชานิสฺสามี’’ติ เอวํ ปวตฺตจิตฺเตน. อิตเรสูติ อนาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ. การณชาติกนฺติ ยุตฺติสภาวํ, ยุตฺติยา ยุตฺตนฺติ อตฺโถ. สมฺปรายคุณนฺติ สมฺปราเย กตกมฺมสฺส วิเสสํ.
๓๗๙. โลกุตฺตรมิสฺสกานิ กถิตานิ โพธิราชกุมารสุตฺเต วิย โลกิยา เจว โลกุตฺตรา จ. ยถาลาภวเสน เจตฺถ ปธานิยงฺคานํ ¶ โลกุตฺตรคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. ปจฺเจกํ เอว เนสฺจ ปธานิยงฺคตา ทฏฺพฺพา ยถา ‘‘อฏฺวิโมกฺขา สนฺทิสฺสนฺติ โลกุตฺตรมิสฺสกา’’ติ. โลกุตฺตราเนวาติ เจตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. ปธานนานตฺตนฺติ ปทหนนานตฺตํ, ภาวนานุโยควิเสสนฺติ อตฺโถ. สงฺขาเร ปริมทฺทิตฺวา ปฏิปกฺขธมฺเม เอกเทสโต ปชหิตฺวา ิตสฺส ภาวนานุโยโค สพฺเพน สพฺพํ อปริมทฺทิตสงฺขารสฺส อปฺปหีนปฏิปกฺขสฺส ภาวนานุโยคโต สุขุโม วิสโทว โหติ, สจฺจาภิสมเยน สนฺตานสฺส อาหิตวิเสสตฺตาติ อาห – ‘‘อฺาทิสเมว หิ ปุถุชฺชนสฺส ปธานํ, อฺาทิสํ โสตาปนฺนสฺสา’’ติอาทิ. อยฺจ วิเสโส น เกวลํ อนริยอริยปุคฺคลโต เอว, อถ โข อริเยสุปิ เสกฺขาทิวิเสสโตปิ ลพฺภติ อภิสงฺขารวิเสสโต อภินีหารโต จ อิชฺฌนโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อฺาทิสํ สกทาคามิโน’’ติอาทิมาห. น ปาปุณาตีติ ยสฺมา ปุถุชฺชโน สพฺพถาว ปธานํ ปทหนฺโต โสตาปตฺติมคฺคํ ¶ อธิคจฺฉติ, โสตาปนฺโน จ สกทาคามิมคฺคนฺติ เหฏฺิมํ อุปริมโต โอฬาริกํ, อุปริมฺจ อิตรโต สุขุมํ เตน ปหาตุํ อสกฺกุเณยฺยสฺส ปชหนโต, อิติ อธิคนฺตพฺพวิเสเสน จ อธิคมปฏิปทาย สณฺหสุขุมตา ติกฺขวิสทตา จ วิฺายตีติ อาห – ‘‘ปุถุชฺชนสฺส ปธานํ โสตาปนฺนสฺส ปธานํ น ปาปุณาตี’’ติอาทิ.
อกูฏกรณนฺติ อวฺจนกิริยํ. อนวจฺฉินฺทนนฺติ อติยานํ. อวิฺฉนํ น อากฑฺฒนํ, นิยุตฺตตํ วินิเวเตฺวา สมนฺตา วิปริวตฺติตฺวา สมธาราย ฉฑฺฑนํ วา. ตสฺส การณํ ตํการณํ, ตํ การณนฺติ วา ตํ กิริยํ ตํ อธิการํ. ทนฺเตหิ คนฺตพฺพภูมินฺติ ทนฺเตหิ ปตฺตพฺพฏฺานํ, ปตฺตพฺพวตฺถุํ วา. จตฺตาโรปิ อสฺสทฺธา นาม อุปริมอุปริมสทฺธาย อภาวโต. เยน หิ ยํ อปฺปตฺตํ, ตสฺส ตํ นตฺถิ. อริยสาวกสฺส…เป… นตฺถิ ปมมคฺเคเนว มายาสาเยฺยานํ ปหาตพฺพตฺตา. เตเนวาติ สมฺมเทว วิรุทฺธปกฺขานํ สทฺธาทีนํ อิธาธิปฺเปตตฺตา. ยทิ เอวํ กถํ มิสฺสกกถาติ อาห ‘‘อสฺสขฬุงฺกสุตฺตนฺเต ปนา’’ติอาทิ. จตฺตาโรว โหนฺติ ปุถุชฺชนาทิวเสน.
โอปมฺมสํสนฺทเน อทนฺตหตฺถิอาทโย วิยาติอาทินา กณฺหปกฺเข, ยถา ปน ทนฺตหตฺถิอาทโยติอาทินา สุกฺกปกฺเข จ สาธารณโต เอกชฺฌํ ¶ กตฺวา วุตฺตํ, อสาธารณโต ภินฺทิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อิทํ วุตฺตํ โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๓๘๐. สมฺมปฺปธานา นิพฺพิสิฏฺวีริยา. เตนาห – ‘‘น กิฺจิ นานากรณํ วทามิ, ยทิทํ วิมุตฺติยา วิมุตฺติ’’นฺติ. น หิ สุกฺขวิปสฺสกเตวิชฺชฉฬภิฺานํ วิมุตฺติยา นานากรณํ อตฺถิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยํ เอกสฺสา’’ติอาทิ. กึ ตฺวํ น ชานาสีติ สมฺพนฺโธ. อาคจฺฉนฺตีติ อุปฺปชฺชนวเสน อาคจฺฉนฺติ. นาคจฺฉนฺตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อิทํ ปุจฺฉนฺโตติ อิทํ ปุจฺฉามีติ ทสฺเสนฺโต. อปฺปหีนเจตสิกทุกฺขา อนธิคตอนาคามิตา. เตนาห ‘‘อุปปตฺติวเสน อาคนฺตาโร’’ติ. สมุจฺฉินฺนทุกฺขาติ สมุคฺฆาฏิตเจตสิกทุกฺขา.
๓๘๑. ตมฺหา านาติ ตโต ยถาธิคตอิสฺสริยฏฺานโต. ปุน ตมฺหา านาติ ตโต ทุคฺคตา. สมฺปนฺนกามคุณนฺติ อุฬารกามคุณสมนฺนาคตํ.
ตตฺถาติ กามเทวโลเก. านภาวโตติ อรหตฺตฺเจ อธิคตํ, ตาวเทว ปรินิพฺพานโต. อุปริเทเว ¶ จาติ อุปรูปริ ภูมิวาเส เทเว จ, จกฺขุวิฺาณทสฺสเนนปิ ทสฺสนาย นปฺปโหนฺตีติ โยชนา.
๓๘๒. วุตฺตนเยเนวาติ เทวปุจฺฉาย วุตฺเตเนว นเยน. สา กิร กถาติ ‘‘นตฺถิ โส สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา, โย สกิเทว สพฺพํ เนยฺย’’นฺติ กถา. เตติ วิฏฏูภสฺชยา. อิมสฺมึเยว าเนติ อิมสฺมึ มิคทาเยเยว. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
กณฺณกตฺถลสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
นิฏฺิตา จ ราชวคฺควณฺณนา.