📜
๕. พฺราหฺมณวคฺโค
๑. พฺรหฺมายุสุตฺตวณฺณนา
๓๘๓. ‘‘มหาสตฺโต ¶ ¶ มหิทฺธิโก มหานุภาโว’’ติอาทีสุ (มหาว. ๓๘) อุฬารตา วิสโย, ‘‘มหาชนกาโย สนฺนิปตี’’ติอาทีสุ สมฺพหุลภาววิสโย, อิธ ปน ตทุภยมฺปิสฺส อตฺโถติ ‘‘มหตาติ คุณมหตฺเตนปิ มหตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อปฺปิจฺฉตาทีติ อาทิ-สทฺเทน สนฺตุฏฺิสลฺเลขปวิเวกอสํสคฺควีริยารมฺภาทีนํ สงฺคโห. ทิฏฺิสีลสามฺสงฺฆาตสงฺขาเตนาติ เอตฺถ ‘‘นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’ (สํ. นิ. ๒.๔๑; ๓.๙๙๘, ๑๐๐๔) – ‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปยฺยาติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติอาทิวจนโต ทิฏฺิสีลานํ นิยตสภาวตฺตา โสตาปนฺนาปิ อฺมฺํ ทิฏฺิสีลสามฺเน สํหตา, ปเคว สกทาคามิอาทโย. ‘‘ตถารูปาย ทิฏฺิยา ทิฏฺิสามฺคโต วิหรติ (ที. นิ. ๓.๓๒๔, ๓๕๖; ม. นิ. ๑.๔๙๒; ๓.๕๔; อ. นิ. ๖.๑๑; ปริ. ๒๗๔) ตถารูเปหิ สีเลหิ สีลสามฺคโต วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๔; ม. นิ. ๑.๔๙๒; ๓.๕๔; อ. นิ. ๖.๑๒; ปริ. ๒๗๔) วจนโต ปุถุชฺชนานมฺปิ ทิฏฺิสีลสามฺเน สํหตภาโว ลพฺภติเยว.
โอฏฺปหตกรณวเสน อตฺถวิภาควเสน. สนิฆณฺฑุเกฏุภานนฺติ เอตฺถ นิฆณฺฑูติ วจนียวาจกภาเวน อตฺถํ สทฺทฺจ ขณฺฑติ วิภชฺช ทสฺเสตีติ นิขณฺฑุ. โส เอว อิธ ข-การสฺส ฆ-การํ กตฺวา ‘‘นิฆณฺฑู’’ติ วุตฺโต. กิฏติ คเมติ กิริยาทิวิภาคํ, ตํ วา อนวเสสปริยาทานโต คเมนฺโต ปูเรตีติ เกฏุภํ. เววจนปฺปกาสกนฺติ ปริยายสทฺททีปกํ, เอเกกสฺส อตฺถสฺส อเนกปริยายวจนวิภาวกนฺติ อตฺโถ. นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ อเนเกสมฺปิ อตฺถานํ เอกสทฺทวจนียตาวิภาวนวเสนปิ ตสฺส คนฺถสฺส ปวตฺตตฺตา. วจีเภทาทิลกฺขณา กิริยา กปฺปียติ เอเตนาติ กิริยากปฺโป, โส ปน วณฺณปทสมฺพนฺธปทตฺถวิภาคโต พหุวิกปฺโปติ อาห ‘‘กิริยากปฺปวิกปฺโป’’ติ. อิทฺจ มูลกิริยากปฺปคนฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. โส หิ ¶ สตสหสฺสปริมาโณ นลจริยาทิปกรณํ. านกรณาทิวิภาคโต ¶ นิพฺพจนวิภาคโต จ อกฺขรา ปเภทียนฺติ เอเตหีติ อกฺขรปฺปเภทา, สิกฺขานิรุตฺติโย. เอเตสนฺติ เวทานํ. เต เอว เวเท ปทโส กายตีติ ปทโก. ตํ ตํ สทฺทํ ตทตฺถฺจ พฺยากโรติ พฺยาจิกฺขติ เอเตนาติ พฺยากรณํ, สทฺทสตฺถํ. อายตึ หิตํ เตน โลโก น ยตติ น อีหตีติ โลกายตํ. ตฺหิ คนฺถํ นิสฺสาย สตฺตา ปฺุกิริยาย จิตฺตมฺปิ น อุปฺปาเทนฺติ. วยตีติ วโย, น วโย อวโย, น อวโย อนวโย, อาทิมชฺฌปริโยสาเนสุ กตฺถจิ อปริกิลนฺโต อวิตฺถายนฺโต เต คนฺเถ สนฺธาเรติ ปูเรตีติ อตฺโถ. ทฺเว ปฏิเสธา ปกตึ คเมนฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อวโย น โหตี’’ติ วตฺวา ตตฺถ อวยํ ทสฺเสตุํ ‘‘อวโย…เป… น สกฺโกตี’’ติ วุตฺตํ.
๓๘๔. ครูติ ภาริยํ อตฺตานํ ตโต โมเจตฺวา คมนํ ทุกฺกรํ โหติ. อนตฺโถปิ อุปฺปชฺชติ นินฺทาพฺยาโรสอุปารมฺภาทิ. อพฺภุคฺคโตติ เอตฺถ อภิสทฺทโยเคน อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ อุปโยควจนํ.
ลกฺขณานีติ ลกฺขณทีปนานิ มนฺตปทานิ. อนฺตรธายนฺตีติ น เกวลํ ลกฺขณมนฺตานิเยว, อฺานิปิ พฺราหฺมณานํ าณพลาภาเวน อนุกฺกเมน อนฺตรธายนฺติ. ตถา หิ วทนฺติ ‘‘เอกสตํ อทฺธริยํ ทิปฺาสมตฺตโต สามา’’ติอาทิ. ปณิธิมหโต สมาทานมหโตติอาทินา ปจฺเจกํ มห-สทฺโท โยเชตพฺโพ. ปณิธิมหนฺตตาทิ จสฺส พุทฺธวํสจริยาปิฏกวณฺณนาทิวเสเนว เวทิตพฺโพ. นิฏฺาติ นิปฺผตฺติโย. ชาติสามฺโตติ ลกฺขณชาติยา ลกฺขณภาเวน สมานภาวโต. ยถา หิ พุทฺธานํ ลกฺขณานิ สุวิสุทฺธานิ สุปริพฺยตฺตานิ ปริปุณฺณานิ จ โหนฺติ, น เอวํ จกฺกวตฺตีนํ. เตนาห ‘‘น เตเหว พุทฺโธ โหตี’’ติ.
อภิรูปตา ทีฆายุกตา, อปฺปาตงฺกตา พฺราหฺมณาทีนํ ปิยมนาปตาติ จตูหิ อจฺฉริยธมฺเมหิ. ทานํ ปิยวจนํ อตฺถจริยา สมานตฺตตาติ อิเมหิ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ. รฺชนโตติ ปีติชนนโต. จกฺกํ จกฺกรตนํ วตฺเตติ ปวตฺเตตีติ จกฺกวตฺตี, สมฺปตฺติจกฺเกหิ สยํ วตฺเตติ, เตหิ จ ปรํ สตฺตนิกายํ วตฺเตติ ปวตฺเตตีติ จกฺกวตฺตี, ปรหิตาวโห อิริยาปถจกฺกานํ วตฺโต วตฺตนํ เอตสฺส อตฺถีติ จกฺกวตฺตี, อปฺปฏิหตํ วา ¶ อาณาสงฺขาตํ จกฺกํ วตฺเตตีติ จกฺกวตี, อปฺปฏิหตํ วา อาณาสงฺขาตํ จกฺกํ วตฺเตตีติ จกฺกวตฺตี, ขตฺติยมณฺฑลาทิสฺิตํ จกฺกํ สมูหํ อตฺตโน วเส วตฺเตตีติ จกฺกวตฺตี. ธมฺมํ จรตีติ ธมฺมิโก. ธมฺมโต อนเปตตฺตา ธมฺโม รฺชนตฺเถน ราชาติ ธมฺมราชา. โกปาทีติ อาทิ-สทฺเทน กามโลภมานมทาทิเก ¶ สงฺคณฺหาติ. วิชิตาวีติ วิชิตวา. เกนจิ อกมฺปิยฏฺเน ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต. ทฬฺหภตฺติภาวโต วา ชนปโท ถาวริยํ ปตฺโต เอตฺถาติ ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต. จิตฺตีกตภาวาทินาปิ (ขุ. ปา. อฏฺ. ๖.๓; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๓; สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๒๒๓; สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๒๒๖; มหานิ. อฏฺ. ๕๐) จกฺกสฺส รตนฏฺโ เวทิตพฺโพ. เอส นโย เสเสสุปิ. รตินิมิตฺตตาย วา จิตฺตีกตาทิภาวสฺส รติชนนฏฺเน เอกสงฺคหตาย วิสุํ อคฺคหณํ.
อิเมหิ ปน รตเนหิ ราชา จกฺกวตฺตี ยํ ยมตฺถํ ปจฺจนุโภติ, ตํ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิเมสุ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อชิตํ ชินาติ มเหสกฺขตาสํวตฺตนิยกมฺมนิสฺสนฺทภาวโต. วิชิเต ยถาสุขํ อนุวิจรติ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนฺจ อภิรุหิตฺวา เตสํ อานุภาเวน อนฺโตปาตราเสเยว สกลํ ปถวึ อนุสํยายิตฺวา ราชธานิยํ ปจฺจาคมนโต. ปริณายกรตเนน วิชิตมนุรกฺขติ เตน ตตฺถ ตตฺถ กตฺตพฺพกิจฺจสฺส สํวิธานโต. เสเสหีติ มณิรตนอิตฺถิรตนคหปติรตเนหิ. ตตฺถ มณิรตเนน โยชนปฺปมาเณ เทเส อนฺธการํ วิธมิตฺวา อาโลกทสฺสนาทินา สุขมนุภวติ, อิตฺถิรตเนน อติกฺกนฺตมานุสรูปสมฺปตฺติทสฺสนาทิวเสน, คหปติรตเนน อิจฺฉิติจฺฉิตมณิกนกรชตาทิธนปฺปฏิลาภวเสน. อุสฺสาหสตฺติโยโค เยน เกนจิ อปฺปฏิหตาณาจกฺกภาวสิทฺธิโต. หตฺถิอสฺสรตนาทีนํ มหานุภาวตฺตา โกสสมฺปตฺติยาปิ ปภาวสมฺปตฺติสิทฺธิโต ‘‘หตฺถิ…เป… โยโค’’ติ วุตฺตํ. โกโส หิ นาม สติ อุสฺสาหสมฺปตฺติยํ (อุคฺคเตชสฺส สุกุมารปรกฺกมสฺส ปสนฺนมุขสฺส สมฺมุเข ปาปุณาติ). ปจฺฉิเมนาติ ปริณายกรตเนน. ตฺหิ สพฺพราชกิจฺเจสุ กุสลํ อวิรชฺฌนปโยคํ. เตนาห ‘‘มนฺตสตฺติโยโค’’ติ. ติวิธสตฺติโยคผลํ ปริปุณฺณํ โหตีติ สมฺพนฺโธ. เสเสหีติ เสเสหิ ปฺจหิ รตเนหิ. อโทสกุสลมูลชนิตกมฺมานุภาเวนาติ อโทสสงฺขาเตน กุสลมูเลน สหชาตาทิปจฺจยวเสน อุปฺปาทิตกมฺมสฺส ¶ อานุภาเวน สมฺปชฺชนฺติ โสมฺมตรรตนชาติกตฺตา. มชฺฌิมานิ มณิอิตฺถิคหปติรตนานิ. อโลภ…เป… กมฺมานุภาเวน สมฺปชฺชนฺติ อุฬารธนสฺส อุฬารธนปฏิลาภการณสฺส จ ปริจฺจาคสมฺปทาเหตุกตฺตา. ปจฺฉิมนฺติ ปริณายกรตนํ. ตฺหิ อโมห…เป… กมฺมานุภาเวน สมฺปชฺชติ มหาปฺเเนว จกฺกวตฺติราชกิจฺจสฺส ปริเณตพฺพตฺตา.
สรณโต ปฏิปกฺขวิธมนโต สูรา. เตนาห ‘‘อภีรุกชาติกา’’ติ. อสุเร วิชินิตฺวา ิตตฺตา วีโร, สกฺโก เทวานมินฺโท, ตสฺส องฺคํ เทวปุตฺโต เสนงฺคภาวโตติ วุตฺตํ ‘‘วีรงฺครูปาติ เทวปุตฺตสทิสกายา’’ติ. สภาโวติ สภาวภูโต อตฺโถ. วีรการณนฺติ วีรภาวการณํ. วีริยมยสรีรา วิยาติ สวิคฺคหวีริยสทิสา สวิคฺคหฺเจ วีริยํ สิยา, ตํสทิสาติ อตฺโถ. ¶ นนุ รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปฏิเสนา นาม นตฺถิ, ยมสฺส ปุตฺตา ปมทฺเทยฺยุํ, อถ กสฺมา ‘‘ปรเสนปมทฺทนา’’ติ วุตฺตนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘สเจ’’ติอาทิ. เตน ปรเสนา โหตุ วา มา วา, เต ปน เอวํ มหานุภาวาติ ทสฺเสติ. ธมฺเมนาติ กตูปจิเตน อตฺตโน ปฺุธมฺเมน. เตน หิ สฺโจทิตา ปถวิยํ สพฺพราชาโน ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ‘‘สฺวาคตํ เต มหาราชา’’ติอาทึ วตฺวา อตฺตโน รชฺชํ รฺโ จกฺกวตฺติสฺส นิยฺยาเทนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘โส อิมํ…เป… อชฺฌาวสตี’’ติ. อฏฺกถายํ ปน ตสฺส ยถาวุตฺตธมฺมสฺส จิรตรํ วิปจฺจิตุํ ปจฺจยภูตํ จกฺกวตฺติวตฺตสมุทาคตํ ปโยคสมฺปตฺติสงฺขาตํ ธมฺมํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปาโณ น หนฺตพฺโพติอาทินา ปฺจสีลธมฺเมนา’’ติ วุตฺตํ. เอวฺหิ ‘‘อทณฺเฑน อสตฺเถนา’’ติ อิทํ วจนํ สุฏฺุตรํ สมตฺถิตํ โหติ, ยสฺมา ราคาทโย ปาปธมฺมา อุปฺปชฺชมานา สตฺตสนฺตานํ ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา ติฏฺนฺติ, กุสลปวตฺตึ นิวาเรนฺติ, ตสฺมา เต ‘‘ฉทนา, ฉทา’’ติ จ วุตฺตา.
วิวฏฺเฏตฺวา ปริวตฺเตตฺวา. ปูชารหตา วุตฺตา ‘‘อรหตีติ อรห’’นฺติ. ตสฺสาติ ปูชารหตาย. ยสฺมา สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ตสฺมา อรหนฺติ. พุทฺธตฺตเหตุภูตา วิวฏฺฏจฺฉทตา วุตฺตา สวาสนสพฺพกิเลสปฺปหานปุพฺพกตฺตา พุทฺธภาวสิทฺธิยา. อรหํ วฏฺฏาภาเวนาติ ผเลน เหตุอนุมานทสฺสนํ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ฉทนาภาเวนาติ เหตุนา ผลานุมานทสฺสนํ. เหตุทฺวยํ วุตฺตํ ‘‘วิวฏฺโฏ วิจฺฉโท จา’’ติ. ทุติยเวสารชฺเชนาติ ‘‘ขีณาสวสฺส เต ปฏิชานโต’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๕๐) อาคเตน เวสารชฺเชน. ปุริมสิทฺธีติ ¶ ปุริมสฺส ปทสฺส อตฺถสิทฺธิ. ปเมนาติ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโต’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๕๐) อาคเตน เวสารชฺเชน. ทุติยสิทฺธีติ พุทฺธตฺตสิทฺธิ. ตติยจตุตฺเถหีติ ‘‘เย โข ปน เต อนฺตรายิกา ธมฺมา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๕๐), ‘‘ยสฺส โข ปน เต อตฺถายา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๕๐) จ อาคเตหิ ตติยจตุตฺเถหิ เวสารชฺเชหิ. ตติยสิทฺธีติ วิวฏฺฏจฺฉทนตา สิทฺธิ. ยาถาวโต อนฺตรายิกนิยฺยานิกธมฺมาปเทเสน หิ สตฺถุ วิวฏฺฏจฺฉทภาโว โลเก ปากโฏ อโหสิ. ปุริมํ ธมฺมจกฺขุนฺติ ปุริมปทํ ภควโต ธมฺมจกฺขุํ สาเธติ กิเลสารีนํ สํสารจกฺกสฺส จ อรานํ หตภาวทีปนโต. ทุติยํ ปทํ พุทฺธจกฺขุํ สาเธติ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺเสว ตํ สมฺภวโต. ตติยํ ปทํ สมนฺตจกฺขุํ สาเธติ สวาสนสพฺพกิเลสปฺปหานทีปนโต. ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ หิ วตฺวา ‘‘วิวฏฺฏจฺฉโท’’ติ วจนํ พุทฺธภาวาวหเมว สพฺพกิเลสปฺปหานํ วิภาเวตีติ. สูรภาวนฺติ ลกฺขณวิภาวเนน วิสทาณตํ.
๓๘๕. คเวสีติ (ที. นิ. ฏี. ๑.๒๘๗) าเณน ปริเยสนํ อกาสิ. สมานยีติ าเณน สงฺกเลนฺโต สมานํ อานยิ สมาหริ. น สกฺโกติ สํกุจิเต อิริยาปเถ เยภุยฺเยน ¶ เตสํ ทุพฺพิภาวนโต. กงฺขตีติ ปทสฺส อากงฺขตีติ อยมตฺโถติ อาห – ‘‘อโห วต ปสฺเสยฺยนฺติ ปตฺถนํ อุปฺปาเทตี’’ติ. กิจฺฉตีติ กิลมติ. ‘‘กงฺขตี’’ติ ปทสฺส ปุพฺเพ อาสีสนตฺถตํ วตฺวา อิทานิ ตสฺส สํสยตฺถตฺตเมว วิกปฺปนฺตรวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘กงฺขาย วา ทุพฺพลา วิมติ วุตฺตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตีหิ ธมฺเมหิ ติปฺปกาเรหิ สํสยธมฺเมหิ. กาลุสฺสิยภาโวติ อปฺปสนฺนตาย เหตุภูโต อาวิลภาโว. ยสฺมา ภควโต โกโสหิตํ สพฺพพุทฺธาเวณิกํ วตฺถคุยฺหํ สุวิสุทฺธกฺจนมณฺฑลสนฺนิกาสํ อตฺตโน สณฺานสนฺนิเวสสุนฺทรตาย อาชาเนยฺยคนฺธหตฺถิโน วรงฺคจารุภาวํ วิกสมานตปนิยารวินฺทสมุชฺชลเกสราวตฺตวิลาสํ สฺฌาปภานุรฺชิตชลวนนฺตราภิลกฺขิต-สมฺปุณฺณจนฺทมณฺฑลโสภฺจ อตฺตโน สิริยา อภิภุยฺย วิราชติ, ยํ พาหิรพฺภนฺตรมเลหิ อนุปกฺกิลิฏฺตาย จิรกาลํ สุปริจิตพฺรหฺมจริยาธิการตาย สุสณฺิตสณฺานสมฺปตฺติยา จ โกปีนมฺปิ สนฺตํ อโกปีนเมว, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ภควโต หี’’ติอาทิ. ปหูตภาวนฺติ ¶ ปุถุลภาวํ. เอตฺเถว หิ ตสฺส สํสโย, ตนุมุทุสุกุมารตาทีสุ ปนสฺส คุเณสุ ตสฺส วิจารณา เอว นาโหสิ.
หิริกรโณกาสนฺติ หิริยิตพฺพฏฺานํ. ฉายนฺติ ปฏิพิมฺพํ. กีทิสนฺติ อาห ‘‘อิทฺธิยา’’ติอาทิ. ฉายารูปนฺติ ภควโต ปฏิพิมฺพรูปํ. ตฺจ โข พุทฺธสนฺตานโต วินิมุตฺตํ รูปกมตฺตํ ภควโต สรีรวณฺณสณฺานาวยวํ อิทฺธิมยํ พิมฺพกมตฺตํ, ตํ ปน ทสฺเสนฺโต ภควา ยถา อตฺตโน พุทฺธรูปํ น ทิสฺสติ, ตถา กตฺวา ทสฺเสติ. นีหริตฺวาติ ผริตฺวา.
กณฺณโสตานํ อุปจิตตนุตมฺพโลมตาย โธตรชตปนาฬิกาสทิสตา วุตฺตา. มุขปริยนฺเตติ เกสนฺเต.
กิริยากรณนฺติ กิริยาย กายิกสฺส วาจสิกสฺส ปฏิปตฺติ. ตตฺถาติ เตสุ กิจฺเจสุ. ธมฺมกถิกานํ วตฺตํ ทสฺเสตุํ พีชนิคฺคหณํ กตํ. น หิ อฺถา สพฺพสฺสปิ โลกสฺส อลงฺการภูตํ ปรมุกฺกํสคตํ สิกฺขาสํยมานํ พุทฺธานํ มุขจนฺทมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตพฺพํ โหติ.
ปตฺถริตวิตานโอลมฺพิตคนฺธทามกุสุมทามเก คนฺธมณฺฑลมาเฬ. ปุพฺพภาเคน ปริจฺฉินฺทิตฺวาติ ‘‘เอตฺตกํ เวลํ สมาปตฺติยา วีตินาเมสฺสามี’’ติ เอวํ ปวตฺเตน ปุพฺพภาเคน กาลํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา. ปจฺจยทายเกสุ อนุโรธวเสน ปริสํ อุสฺสาเทนฺโต วา ปคฺคณฺหนฺโต, อทายเกสุ วิโรธวเสน ปริสํ อปสาเทนฺโต วา.
โยคกฺเขมํ ¶ อนฺตรายาภาวํ. สภาวคุเณเนวาติ ยถาวุตฺตคุเณเนว. โภโต โคตมสฺส คุณํ สวิคฺคหํ จกฺกวาฬํ อติสมฺพาธํ วิตฺถาเรน สนฺธาเรตุํ อปฺปโหนฺตโต. ภวคฺคํ อตินีจํ อุปรูปริ สนฺธาเรตุํ อปฺปโหนฺตโต.
๓๘๖. านคมนาทีสุ (ที. นิ. ฏี. ๒.๓๕) ภูมิยํ สุฏฺุ สมํปติฏฺิตา ปาทา เอตสฺสาติ สุปฺปติฏฺิตปาโท. ตํ ปน ภควโต สุปฺปติฏฺิตปาทตํ พฺยติเรกมุเขน วิภาเวตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อคฺคตลนฺติ อคฺคปาทตลํ. ปณฺหีติ ปณฺหิตลํ. ปสฺสนฺติ ปาทตลสฺส ทฺวีสุ ปสฺเสสุ เอเกกํ, อุภยเมว วา ปริยนฺตํ ปสฺสํ. สุวณฺณปาทุกตลํ วิย อุชุกํ นิกฺขิปิยมานํ. เอกปฺปหาเรเนวาติ เอกกฺขเณเยว. สกลํ ปาทตลํ ภูมึ ผุสติ นิกฺขิปเน. เอกปฺปหาเรเนว สกลํ ปาทตลํ ภูมิโต อุฏฺหตีติ โยชนา.
ตตฺราติ ¶ ตาย สุปฺปติฏฺิตปาทตาย อนุปุพฺพนินฺนาว อจฺฉริยพฺภุตํ อิทํ วุจฺจมานํ นิสฺสนฺทผลํ. วุตฺตเมวตฺถํ สตฺถุ ติทิวคมเนน สุปากฏํ กาตุํ ‘‘ตถา หี’’ติอาทึ วตฺวา ‘‘น หี’’ติอาทินา ตํ สมตฺเถติ. เตน ปมลกฺขณโตปิ ทุติยลกฺขณํ มหานุภาวนฺติ ทสฺเสติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘อนฺตมโส จกฺกวตฺติรฺโ ปริสํ อุปาทาย สพฺโพปิ จกฺกลกฺขณสฺเสว ปริวาโร’’ติ. ยุคนฺธรปพฺพตสฺส ตาวตึสภวนสฺส จ ปกติปทนิกฺเขปฏฺานุปสงฺกมเน เนว พุทฺธานํ, น เทวตานํ อานุภาโว, อถ โข พุทฺธานํ ลกฺขณานุภาโวติ อิมมตฺถํ นิทสฺสิตํ. สีลเตเชน…เป… ทสนฺนํ ปารมีนํ อานุภาเวนาติ อิทมฺปิ ลกฺขณนิพฺพตฺตกมฺมวิเสสกิตฺตนเมวาติ ทฏฺพฺพํ. สพฺพาวนฺเตหีติ สพฺพปเทสวนฺเตหิ.
นาภิปริจฺฉินฺนาติ นาภิยํ ปริจฺฉินฺนา ปริจฺเฉทวเสน ิตา. นาภิมุขปริกฺเขปปฏฺโฏติ ปกติจกฺกสฺส อกฺขพฺภาหตปริหรณตฺถํ นาภิมุเข เปตพฺพปริกฺเขปปฏฺโฏ. เนมิมณิกาติ เนมิยํ อาวฬิภาเวน ิตมณิกาเลขา.
สมฺพหุลวาโรติ พหุวิธเลขงฺควิภาวนวาโร. สตฺตีติ อาวุธสตฺติ. สิริวจฺโฉติ สิริมุขํ. นนฺทีติ ทกฺขิณาวฏฺฏํ. โสวตฺติโกติ โสวตฺติองฺโก. วฏํสโกติ อาเวฬํ. วฑฺฒมานกนฺติ ปุริสหาริ ปุริสงฺคํ. โมรหตฺถโกติ โมรปิฺฉกลาโป, โมรปิฺฉ ปริสิพฺพิโต วา พีชนิวิเสโส. วาลพีชนีติ จามริวาลํ. สิทฺธตฺถาทิ ปุณฺณฆฏปุณฺณปาติโย. ‘‘จกฺกวาโฬ’’ติ วตฺวา ตสฺส ปธานาวยเว ทสฺเสตุํ ‘‘หิมวา สิเนรุ…เป… สหสฺสานี’’ติ วุตฺตํ.
อายตปณฺหีติ ¶ อิทํ อฺเสํ ปณฺหิโต ทีฆตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปน อติทีฆตนฺติ อาห ‘‘ปริปุณฺณปณฺหี’’ติ. ยถา ปน ปณฺหิลกฺขณํ ปริปุณฺณํ นาม โหติ, ตํ พฺยติเรกมุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อารคฺเคนาติ มณฺฑลาย สิขาย. วฏฺเฏตฺวาติ ยถา สุวฏฺฏํ โหติ, เอวํ วฏฺเฏตฺวา. รตฺตกมฺพลเคณฺฑุกสทิสาติ รตฺตกมฺพลมยเคณฺฑุกสทิสา.
มกฺกฏสฺเสวาติ วานรสฺส วิย. ทีฆภาเวน สมตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. นิยฺยาสเตเลนาติ ฉทิกนิยฺยาสาทินิยฺยาสสมฺมิสฺเสน เตเลน.
ตลุนาติ ¶ สุกุมารา.
จมฺเมนาติ องฺคุลนฺตรเวิตจมฺเมน. ปฏิพทฺธองฺคุลนฺตโรติ เอกโต สมฺพทฺธองฺคุลนฺตโร. เอกปฺปมาณาติ ทีฆโต สมานปฺปมาณา. ยวลกฺขณนฺติ อพฺภนฺตรโต องฺคุลิปพฺเพิตํ ยวลกฺขณํ. ปฏิวิชฺฌิตฺวาติ ตํตํปพฺพานํ สมานเทสตาย องฺคุลีนํ ปสาริตกาเล อฺมฺํ วิชฺฌิตานิ วิย ผุสิตฺวา ติฏฺนฺติ.
สงฺขา วุจฺจนฺติ โคปฺผกา, อุทฺธํ สงฺขา เอเตสนฺติ อุสฺสงฺขา, ปาทา. ปิฏฺิปาเทติ ปิฏฺิปาทสมีเป. สุเขน ปาทา ปริวตฺตนฺติ ปาทนามนาทีสุ, เตเนว คจฺฉนฺตานํ เตสํ เหฏฺา ปาทตลานิ ทิสฺสนฺติ. เตนาติ โคปฺผกานํ ปิฏฺิปาทโต อุทฺธํ ปติฏฺิตตฺตา. จตุรงฺคุลมตฺตฺหิ ตานิ อุทฺธํ อาโรหิตฺวา ปติฏฺหนฺติ, นิคุฬฺหานิ จ โหนฺติ, น อฺเสํ วิย ปฺายมานานิ. สติปิ เทสนฺตรปฺปวตฺติยํ นิจฺจโลติ ทสฺสนตฺถํ นาภิคฺคหณํ.
ยสฺมา เอณีมิคสฺส สมนฺตโต เอกสทิสมํสา อนุกฺกเมน อุทฺธํ ถูลา ชงฺฆา โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เอณีมิคสทิสชงฺฆา’’ติ. ปริปุณฺณชงฺโฆติ สมนฺตโต มํสูปจเยน ปริปุณฺณชงฺโฆ. เตนาห ‘‘น เอกโต’’ติอาทิ.
เอเตนาติ ‘‘อโนนมนฺโต’’ติอาทิวจเนน, ชาณุผาสุภาวทีปเนนาติ อตฺโถ. อวเสสชนาติ อิมินา ลกฺขเณน รหิตา ชนา. ขุชฺชา วา โหนฺติ เหฏฺิมกายโต อุปริมกายสฺส รสฺสตาย. วามนา วา อุปริมกายโต เหฏฺิมกายสฺส รสฺสตาย. เอเตน เปตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺธํ จกฺกวตฺตินฺจ อิตเร สตฺตา ขุชฺชา วามนา จาติ ทสฺเสติ.
โอหิตนฺติ ¶ สโมหิตํ อนฺโตคธํ. ตถาภูตํ ปน ตํ เตน ฉนฺนํ โหตีติ อาห ‘‘ปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ.
สุวณฺณวณฺโณติ สุวณฺณวณฺณวณฺโณติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘ชาติหิงฺคุลเกนา’’ติอาทิ. สฺวายมตฺโถ อาวุตฺติาเยน จ เวทิตพฺโพ. สรีรปริยาโย อิธ วณฺณสทฺโทติ อธิปฺปาเยน ปมวิกปฺปํ วตฺวา ตถารูปาย ปน รุฬฺหิยา อภาวํ มนสิ กตฺวา วณฺณธาตุปริยายเมว วณฺณสทฺทํ คเหตฺวา ทุติยวิกปฺโป วุตฺโต.
รโชติ ¶ สุขุมรโช. ชลฺลนฺติ มลีนภาวาวโห เรณุสฺจโย. เตนาห ‘‘มลํ วา’’ติ. ยทิ วิวฏฺฏติ, กถํ นฺหานาทีติ อาห ‘‘หตฺถโธวนา’’ติอาทิ.
อาวฏฺฏปริโยสาเนติ ปทกฺขิณาวฏฺฏาย อนฺเต.
พฺรหฺมุโน สรีรํ ปุรโต วา ปจฺฉโต วา อโนนมิตฺวา อุชุกเมว อุคฺคตนฺติ อาห ‘‘พฺรหฺมา วิย อุชุคตฺโต’’ติ. ปสฺสวงฺกาติ ทกฺขิณปสฺเสน วา วามปสฺเสน วา วงฺกา.
หตฺถปิฏฺิอาทิวเสน สตฺต อุสฺสทา เอตสฺสาติ สตฺตุสฺสโท.
สีหสฺส ปุพฺพทฺธํ สีหปุพฺพทฺธํ, ปริปุณฺณาวยวตาย สีหปุพฺพทฺธํ วิย สกโล กาโย อสฺสาติ สีหปุพฺพทฺธกาโย. สีหสฺเสวาติ สีหสฺส วิย. สณฺนฺตีติ สณฺหนฺติ. นานาจิตฺเตนาติ วิวิธจิตฺเตน. ปฺุจิตฺเตนาติ ปารมิตาปฺุจิตฺตรูเปน. จิตฺติโตติ สฺชาตจิตฺตภาโว.
ทฺวินฺนํ โกฏฺฏานมนฺตรนฺติ ทฺวินฺนํ ปิฏฺิพาหานํ เวมชฺฌํ, ปิฏฺิมชฺฌสฺส อุปริภาโค. จิตํ ปริปุณฺณนฺติ อนินฺนภาเวน จิตํ, ทฺวีหิ โกฏฺเฏหิ สมตลตาย ปริปุณฺณํ. อุคฺคมฺมาติ อุคฺคนฺตฺวา.
นิคฺโรธปริมณฺฑโล วิย ปริมณฺฑโล นิคฺโรธปริมณฺฑโล เอกสฺส ปริมณฺฑลสทฺทสฺส โลปํ กตฺวา. น หิ สพฺโพ นิคฺโรโธ มณฺฑโล. เตนาห ‘‘สมกฺขนฺธสาโข นิคฺโรโธ’’ติ. ปริมณฺฑลสทฺทสนฺนิธาเนน วา ปริมณฺฑโลว นิคฺโรโธ คยฺหตีติ ปริมณฺฑลสทฺทสฺส โลเปน วินาปิ ¶ อยมตฺโถ ลพฺภตีติ อาห ‘‘นิคฺโรโธ วิย ปริมณฺฑโล’’ติ. ยาวตกฺวสฺสาติ โอ-การสฺส ว-การาเทสํ กตฺวา วุตฺตํ.
สมวฏฺฏิตกฺขนฺโธติ สมํ สุวฏฺฏิตกฺขนฺโธ. โกฺจา วิย ทีฆคลา, พกา วิย วงฺกคลา, วราหา วิย ปุถุลคลาติ โยชนา. สุวณฺณาลิงฺคสทิโสติ สุวณฺณมยขุทฺทกมุทิงฺคสทิโส.
รสคฺคสคฺคีติ มธุราทิเภทํ รสํ คสนฺติ อนฺโต ปเวสนฺตีติ รสคฺคสา, รสคฺคสานํ อคฺคา รสคฺคสคฺคา, ตา เอตสฺส สนฺตีติ รสคฺคสคฺคี. เตนาติ โอชาย อผรเณน, หีนธาตุกตฺตา เต พหฺวาพาธา โหนฺติ.
‘‘หนู’’ติ ¶ สนฺนิสฺสยทนฺตาธารสฺส สมฺา, ตํ ภควโต สีหหนุสทิสํ, ตสฺมา ภควา สีหหนุ. ตตฺถ ยสฺมา พุทฺธานํ รูปกายสฺส ธมฺมกายสฺส จ อุปมา นาม นิหีนุปมาว, นตฺถิ สมานุปมา, กุโต อธิกูปมา, ตสฺมา อยมฺปิ นิหีนุปมาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ติภาควเสน มณฺฑลตาย ทฺวาทสิยํ ปกฺขสฺส จนฺทสทิสานิ.
ทนฺตานํ อุจฺจนีจตา อพฺภนฺตรพาหิรปสฺสวเสนปิ เวทิตพฺพา, น อคฺควเสเนว. เตนาห ‘‘อยปฏฺฏฉินฺนสงฺขปฏลํ วิยา’’ติ. อยปฏฺฏนฺติ จ กกจํ อธิปฺเปตํ. วิสมาติ วิสมสณฺานา.
วิจฺฉินฺทิตฺวา วิจฺฉินฺทิตฺวา ปวตฺตสรตาย ฉินฺนสฺสราปิ. อเนกาการตาย ภินฺนสฺสราปิ. กากสฺส วิย อมนฺุสรตาย กากสฺสราปิ. อปลิพุทฺธตฺตาติ อนุปทฺทุตวตฺถุกตฺตา. วตฺถุนฺติ จ อกฺขรุปฺปตฺติฏฺานมาห. อฏฺงฺคสมนฺนาคโตติ เอตฺถ อฏฺงฺคานิ ปรโต อาคมิสฺสนฺติ. มฺชุโฆโสติ มธุรสฺสโร.
กรวีกสทฺโท เยสํ สตฺตานํ โสตปถํ อุปคจฺฉติ, เต อตฺตโน สรสมฺปตฺติยา ปกตึ ชหาเปตฺวา อวเส กโรนฺโต อตฺตโน วเส วตฺเตติ, เอวํ มธุโรติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺริท’’นฺติอาทิมาห. ตํ ปีตินฺติ ตํ พุทฺธคตํ ปีตึ. เตเนว นีหาเรน ปุนปฺปุนํ ปวตฺตนฺตํ อวิชหิตฺวา วิกฺขมฺภิตกิเลสา เถรานํ สนฺติเก ลทฺธธมฺมสฺสวนสปฺปายา อุปนิสฺสยสมฺปตฺติยา ปริปกฺกาณตาย ¶ ‘‘สตฺตหิ…เป… ปติฏฺาสี’’ติ. สตฺตสตมตฺเตน โอโรธชเนน สทฺธึ ปทสาว เถรานํ สนฺติกํ อุปคตตฺตา ‘‘สตฺตหิ ชงฺฆาสเตหิ สทฺธิ’’นฺติ วุตฺตํ.
อภินีลเนตฺโตติ อธิกนีลเนตฺโต. อธิกนีลตา จ สาติสยํ นีลภาเวน เวทิตพฺพา, น เนตฺเต นีลวณฺณสฺเสว อธิกภาวโตติ อาห ‘‘น สกลนีลเนตฺโตวา’’ติอาทิ. ปีตโลหิตวณฺณา เสตมณฺฑลคตราชิวเสน, นีลเสตกาฬวณฺณา ปน ตํตํมณฺฑลวเสเนว เวทิตพฺพา.
จกฺขุภณฺฑนฺติ อกฺขิทลนฺติ เกจิ, อกฺขิทลปตฺตนฺติ อฺเ. อกฺขิทเลหิ ปน สทฺธึ อกฺขิพิมฺพนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวฺหิ วินิคฺคตคมฺภีรโชตนาปิ ยุตฺตา โหติ.
อุณฺณาสทฺโท ¶ โลเก อวิเสสโต โลมปริยาโย, อิธ ปน โลมวิเสสวาจโกติ อาห ‘‘อุณฺณโลม’’นฺติ. นลาฏมชฺฌชาตาติ นลาฏมชฺฌคตา. โอทาตตาย อุปมา, น มุทุตาย. รชตปุพฺพุฬกาติ รชตมยตารกา.
ทฺเว อตฺถวเส ปฏิจฺจ วุตฺตนฺติ ยสฺมา พุทฺธา จกฺกวตฺติโน จ ปริปุณฺณนลาฏตาย ปริปุณฺณสีสพิมฺพตาย จ ‘‘อุณฺหีสสีสา’’ติ วุจฺจนฺติ, ตสฺมา เต ทฺเว อตฺถวเส ปฏิจฺจ ‘‘อุณฺหีสสีโส’’ติ อิทํ วุตฺตํ. อิทานิ ตํ อตฺถทฺวยํ ภควติ สุปฺปติฏฺิตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตถาคตสฺสหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สณฺหตมตาย สุวณฺณวณฺณตาย จ รฺโ พทฺธอุณฺหีสปฏฺโฏ วิย วิโรจติ. กปฺปสีสาติ ทฺวิธาภูตสีสา. ผลสีสาติ ผลสทิสสีสา. อฏฺิสีสาติ มํสสฺส อภาวโต ตโจปริโยนทฺธอฏฺิมตฺตสีสา. ตุมฺพสีสาติ ลาพุสทิสสีสา. ปพฺภารสีสาติ ปิฏฺิภาเคน โอลมฺพมานสีสา. ปุริมนเยนาติ ปริปุณฺณนลาฏตาปกฺเขน. อุณฺหีสเวิตสีโส วิยาติ อุณฺหีสปฏฺเฏน เวิตสีสปเทโส วิย. อุณฺหีสํ วิยาติ เฉเกน สิปฺปินา วิรจิตอุณฺหีสมณฺฑลํ วิย.
กมฺมนฺติ เยน เยน กมฺเมน ยํ ยํ ลกฺขณํ นิพฺพตฺตํ, ตํ ตํ กมฺมํ. กมฺมสริกฺขกนฺติ ตสฺส ตสฺส ลกฺขณสฺส ตํกมฺมานุรูปตา. ลกฺขณนฺติ ตสฺส มหาปุริสลกฺขณสฺส อวิปรีตสภาโว. ลกฺขณานิสํสนฺติ ตํ ลกฺขณปฏิลาเภน ลทฺธพฺพคุโณ. อิมานิ กมฺมาทีนีติ อิมานิ อนนฺตรํ วุตฺตานิ กมฺมกมฺมสริกฺขกาทีนิ ทสฺเสตฺวา ตํ สรูปโต วิภาเวตฺวา กเถตพฺพานิ สํวณฺณเกน.
รตนวิจิตฺตสุวณฺณโตรณํ ¶ ตสฺมึ กาเล มนุสฺสโลเก นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘เทวนคเร’’ติ. สพฺพโส สุปุปฺผิตสาลรุกฺโข อสาธารณโสโภ มนุสฺสูปจาเร น ลพฺภตีติ อาห ‘‘เสลนฺตรมฺหี’’ติ. กิริยาจารนฺติ กายิกวาจสิกกิริยาปวตฺตึ.
๓๘๗. สตตปาฏิหาริยนฺติ สตตํ จริมภเว สพฺพกาลํ ลกฺขณนิพฺพตฺตกกมฺมานุภาวเหตุกํ พุทฺธาเวณิกํ ปาฏิหาริยํ. พุทฺธานํ อติทูเร ปาทํ นิกฺขิปิตุกามานมฺปิ นาติทูเร เอว นิกฺขิปนํ โหตีติ ‘‘น อติทูเร เปสฺสามีติ ¶ อุทฺธรตี’’ติ วุตฺตํ. ปกติสฺจรณวเสเนตํ วุตฺตํ, ตาทิเสน ปาเทน อเนกโยชเน เปสฺสามีติ อุทฺธรณมฺปิ โหติเยว. อติทูรํ หีติอาทิ ปมาณาติกฺกเม โทสทสฺสนํ. เอวํ สตีติ เอวํ ทกฺขิณปาทวามปาทานํ ยถาธิปฺเปตปติฏฺิตฏฺาเน สติ. ปทวิจฺเฉโทติ ปทวารวิจฺเฉโท. ยาทิสํ ปสาเรนฺโต วามปาทสฺส อุทฺธรณํ ปติฏฺานฺจ, ทกฺขิณปาทสฺส ตาทิสเมว, อิติ เนสํ อุทฺธรณปติฏฺานานํ สมานโต อฺมฺภาเวน อนูนานธิกตาย วุตฺตํ ‘‘ทกฺขิณปาทกิจฺจํ วามปาเทน นิยมิตํ, วามปาทกิจฺจํ ทกฺขิณปาเทน นิยมิต’’นฺติ.
ทิวาติ อุปกฏฺาย เวลาย. วิหารภตฺตตฺถายาติ วิหาเร ยถาวุทฺธํ คเหตพฺพภตฺตตฺถาย. ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺโตติ ปกติคมเนน ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺโต. โอกาสํ น ลภตีติ ปทนิกฺเขปฏฺานํ น ลภติ. อูรุปริยาโย อิธ สตฺถิ-สทฺโทติ อาห ‘‘น อูรุํ อุนฺนาเมตี’’ติ. ทณฺฑงฺกุสํ วุจฺจติ ทีฆทณฺโฑ องฺกุโส, เตน รุกฺขสาขํ ฉินฺทโต ปุริสสฺส ยถา ปจฺฉาภาเคน ปาทานํ โอสกฺกนํ โหติ, เอวํ ภควโต ปาทา น โอสกฺกนฺตีติ อาห ‘‘รุกฺขสาขาเฉทน…เป… โอสกฺกาเปตี’’ติ. โอพทฺธานาพทฺธฏฺาเนหิ ปาทํ โกฏฺเฏนฺโต วิยาติ อาพทฺธฏฺาเนน อนาพทฺธฏฺาเนน จ ปาทขณฺฑํ โกฏฺเฏตฺวา ถทฺธํ กโรนฺโต วิย. น อิโต จิโต จ จาเลตีติ อปราปรํ น จาเลติ. อุสฺสงฺขปาทตาย สุเขเนว ปาทานํ ปริวตฺตนโต นาภิโต ปฏฺาย อุปริมกาโย น อิฺชตีติ เหฏฺิมกาโยว อิฺชติ. เตนาห ‘‘อุปริม…เป… นิจฺจโล โหตี’’ติ. น ชานาติ อนิฺชนโต. กายพเลนาติ คมนปโยคสงฺขาเตน กายคเตน วิเสสพเลน. ชวคมนเหตุภูเตน วา กายพเลน. เตนาห ‘‘พาหา ขิปนฺโต’’ติอาทิ. ชเวน คจฺฉนฺโต หิ พาหา ขิปติ, สรีรโต เสทา มุจฺจนฺติ. นาคาปโลกิตวเสนาติ นาคสฺส อปโลกนมิว สกลกาเยเนว ปริวตฺเตตฺวา อปโลกนวเสน.
อนาวรณาณสฺสาติ อนาวรณาณพเลน ทสฺสนสฺส. อนาวรณวาโร ปน กาเย ปติฏฺิตรูปทสฺสนมฺปิ อนาวรณเมวาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺโต. อินฺทขีลโต ปฏฺายาติ นครทฺวาเร อินฺทขีลโต ¶ ปฏฺาย. ปกติอิริยาปเถเนวาติ ¶ โอนมนาทึ อกตฺวา อุชุกคมนาทินา เอว. ยทิ เอวํ โกฏฺกทฺวารเคหปฺปเวเส กถนฺติ อาห ‘‘ทลิทฺทมนุสฺสาน’’นฺติอาทิ. ปริวตฺเตนฺเตนาติ นิปชฺชนตฺถํ กายํ ปริวตฺเตนฺเตน.
หตฺเถหิ คเหตฺวาติ อุโภหิ หตฺเถหิ อุโภสุ กฏิปฺปเทเสสุ ปริคฺคเหตฺวา. ปตติ นิสีทนฏฺาเน นิปชฺชนวเสน ปตติ. โอริมํ องฺคํ นิสฺสาย นิสินฺโนติ ปลฺลงฺกมาภุชิตฺวา อุกฺกุฏิกนิสชฺชาย อุปริมกายํ เหฏฺิมกาเย ปติฏฺเปนฺโตเยว ภารีกรณวเสน โอริมงฺคํ นิสฺสาย นิสินฺโน. ฆํสนฺโตติ อานิสทเทเสน อาสนฏฺานํ ฆํสนฺโต. ปาริมงฺคนฺติ สตฺถิภาคสมฺมทฺทํ อานิสทปเทสํ. ตเถวาติ ฆํสนฺโต เอว. โอลมฺพกํ ธาเรนฺโต วิยาติ โอลมฺพกสุตฺตํ โอตาเรนฺโต วิย. เตน อุชุกเมว นิสีทนมาห. สรีรสฺส ครุกภาวเหตูนํ ทูรโต สมุปายิตภาเวน สลฺลหุกภาวโต ตูลปิจุํ เปนฺโต วิย.
อปฺเปสกฺขานํ มหานุภาวเคหปฺปเวเส สิยา ฉมฺภิตตฺตํ, จิตฺตกฺโขโภ, ทรถวเสน นานปฺปการกปฺปนํ, ภยวเสน ตณฺหาวเสน ปริตสฺสนํ, ตํ สพฺพํ ภควโต นตฺถีติ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘น ฉมฺภตี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๒.๓๘๗) วุตฺตนฺติ อาห ‘‘น ฉมฺภตี’’ติอาทิ.
อุทกํ ทียติ เอเตนาติ อุทกทานํ, ภิงฺการาทิ อุทกภาชนํ. พทฺธํ กตฺวาติ หตฺถคตมตฺติกํ วิย อตฺตโน วเส อวตฺตนฺตํ กตฺวา. ปริวตฺเตตฺวาติ กุชฺชิตฺวา. วิฉฑฺฑยมาโน อุทกสฺส วิกฺขิปนวเสน ฉฑฺฑยมาโน.
ตถา น คณฺหาติ, พฺยฺชนมตฺตาย เอว คณฺหนฺโต. ภตฺตํ วา อมนาปนฺติ อาเนตฺวา โยชนา. พฺยฺชเนน อาโลปอตินามนํ, อาโลเปน พฺยฺชนอตินามนนฺติ อิเมสุ ปน ทฺวีสุ ปมเมว อสารุปฺปตาย อนิฏฺํ วชฺเชตพฺพนฺติ ปาฬิยํ ปฏิกฺขิตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สพฺพตฺเถวาติ สพฺพสฺมึ อาหริตพฺพวตฺถุสฺมึ สุปณีตภาเวน รโส ปากโฏ โหติ าเณน ปริฺาตตฺตา. รสเคโธ ปน นตฺถิ เสตุฆาตตฺตา.
อสฺสาติ ‘‘เนว ทวายา’’ติอาทิปทสฺส. วุตฺตเมตนฺติ ‘‘วิสุทฺธิมคฺเค วินิจฺฉโย อาคโต’’ติ สพฺพาสวสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๒๓) สํวณฺณยนฺเตน วุตฺตเมตํ, ตสฺมา ¶ น เอตฺถ ตํ วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย, ตสฺมา โย ตสฺมึ ตสฺมึ วินิจฺฉเย วิเสสวาโท อิจฺฉิตพฺโพ. โส ปรมตฺถมฺชูสาย วิสุทฺธิมคฺควณฺณนาย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ปตฺตสฺส คหณฏฺานนฺติ หตฺเถน ปตฺตสฺส ¶ คหณปเทสํ. วินิวตฺติตฺวาติ ปตฺเต สพฺพํ อามิสคตํ สทฺธึ ภตฺเตน วินิวตฺติตฺวา คจฺฉติ. ปมาณาติกฺกนฺตนฺติ เกลายนวเสน อติกฺกนฺตปมาณํ อารกฺขํ เปติ. จีวรโภคนฺตรนฺติ จีวรปฏลนฺตรํ. อุทเรน อกฺกมิตฺวาติ อุทเรเนว สนฺนิรุมฺภิตฺวา.
อปฺปตฺตกาลํ อภิมุขํ นาเมติ อุปนาเมตีติ อตินาเมติ, ปตฺตกาลํ อติกฺกาเมนฺโต นาเมติ อปเนตีติ อตินาเมติ. อุภยมฺปิ เอกชฺฌํ คเหตฺวา ปาฬิยํ ‘‘น จ อนุโมทนสฺส กาลมตินาเมตี’’ติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย หี’’ติอาทิมาห.
เวคคมเนน ปฏิสํมฺุจิตฺวา ธาวิตฺวา คจฺฉติ. อจฺจุกฺกฏฺนฺติ อติวิย อุทฺธํ กตฺวา กฑฺฒิตปารุตํ. เตนาห ‘‘โย หิ ยาว หนุกฏฺิโต…เป… โหตี’’ติ. อจฺโจกฺกฏฺนฺติ อติวิย เหฏฺา กตฺวา กฑฺฒิตปารุตํ. เตนาห ‘‘ยาว โคปฺผกา โอตาเรตฺวา’’ติ. อุภโต อุกฺขิปิตฺวาติ ทกฺขิณโต วามโตติ อุโภสุ ปสฺเสสุ อุตฺตราสงฺคํ อุกฺขิปิตฺวา. ถนนฺติ ทกฺขิณถนํ.
วิสฺสฏฺโติ วิมุตฺโต. เตนาห ‘‘วิสฺสฏฺตฺตาเยว เจส วิฺเยฺโย’’ติ. ยสฺมา อมุตฺตวาทิโน วจนํ อวิสฺสฏฺตาย น สินิยฺหติ, น เอวํ มุตฺตวาทิโนติ อาห ‘‘สินิทฺโธ’’ติ. วิฺเยฺโยติ สุปริพฺยตฺตตาย อกฺขรโต จ พฺยฺชนโต จ วิฺาตุํ สกฺกุเณยฺโย. เตนาห ‘‘ปากโฏ’’ติ. วิฺาปนิโยติ วิชานิตพฺโพ. พฺยฺชนวเสเนว เจตฺถ วิฺเยฺยตา เวทิตพฺพา โฆสสฺส อธิปฺเปตตฺตา. มธุโรติ ปิโย เปมนีโย อปลิพุทฺโธ. สวนมรหติ, สวนสฺส โสตสฺส หิโตติ วา สวนีโย. สมฺปิณฺฑิโตติ สหิโต. ภควโต หิ สทฺโท อุปฺปตฺติฏฺานกตาสฺจิตตฺตา สหิตากาเรเนว อาปาถมาคจฺฉติ, น อโยสลากาย ปหฏกํสถาลํ วิย วิปฺปกิณฺโณ. เตนาห ‘‘อวิสารี’’ติ. คมฺภีโรติ ยถา คมฺภีรวตฺถุปริจฺฉินฺทเนน าณสฺส คมฺภีรสมฺา, เอวํ คมฺภีรฏฺานสมฺภวโต สทฺทสฺส คมฺภีรสมฺาติ อาห ‘‘คมฺภีโรติ คมฺภีรสมุฏฺิโต’’ติ ¶ . นินฺนาทวาติ สวิเสสํ นินฺนาทวา. สฺวายํ วิเสโส คมฺภีรภาวสิทฺโธติ อาห ‘‘คมฺภีรตฺตาเยว เจส นินฺนาที’’ติ. เอวเมตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ จตุรงฺคนิปฺผาทีนิ เวทิตพฺพานิ. อการณา มา นสฺสีติ พุทฺธานุภาเวน วิย สรสฺส ปริสปริยนฺตตา วุตฺตา, ธมฺมตาวเสเนว ปน สา เวทิตพฺพา ตสฺส มูลการณสฺส ตถา อวฏฺิตตฺตา.
ปจฺโจสกฺกิตฺวาติ ปฏินิวตฺติตฺวา. สมุสฺสิตกฺจนปพฺพตํ วิย อุปริ อินฺทนีลรตนวิตตสิขํ ¶ วิชฺชุลฺลตาภูสิตํ. มหาปถวีอาทโย สตฺถุคุณปฏิภาคตาย นิทสฺสนํ, เกวลํ มหนฺตตามตฺตํ อุปาทาย นิทสฺสิตา.
๓๙๐. อปฺปฏิสํวิทิโตติ อนาโรจิโต. อาคมนวเสน เจตฺถ ปฏิสํเวทิตนฺติ อาห ‘‘อวิฺาตอาคมโน’’ติ. อุคฺคตภาวนฺติ กุลโภควิชฺชาทีหิ อุฬารภาวํ. อนุทฺทยสมฺปนฺนาติ การุณิกา.
๓๙๑. สหสาว โอกาสกรเณน อุจฺจกุลีนตา ทีปิตา โหตีติ อาห ‘‘เวเคน อุฏฺาย ทฺวิธา ภิชฺชิตฺวา’’ติอาทิ.
นาริสมานนามนฺติ อิตฺถิอตฺถโชตกนามํ. เตนาห ‘‘อิตฺถิลิงฺค’’นฺติ. อวฺหาตพฺพาติ กเถตพฺพา.
๓๙๔. เอกนีหาเรเนว อฏฺ ปฺเห พฺยากโรนฺโต. ‘‘ปุพฺเพนิวาสํ…เป… ปวุจฺจตี’’ติ อิมินา ปุพฺเพนิวาสสฺส วิทิตการณํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ตสฺส ปุพฺเพนิวาโส ปากโฏ’’ติ. ทิพฺพจกฺขุาณํ กถิตํ ตสฺส ปริภณฺฑาณภาวโต ยถากมฺมูปคาณสฺส. ‘‘ชาติกฺขยํ ปตฺโต, อภิฺา โวสิโต’’ติ จ วุตฺตตฺตา มุนีติ อเสกฺขมุนิ อิธาธิปฺเปโตติ อาห ‘‘อรหตฺตาณโมเนยฺเยน สมนฺนาคโต’’ติ.
กิเลสราเคหิ กิเลสวิวณฺณตาหิ. ชาติกฺขยปฺปตฺตตฺตา ‘‘อโถ ชาติกฺขยํ ปตฺโต’’ติ วุตฺตตฺตา. อภิชานิตฺวาติ อภิวิสิฏฺตาย อคฺคมคฺคปฺาย ตฺวา. อิทานิ ปฏิสมฺภิทายํ อาคตนเยน ปริฺาปหานภาวนาสจฺฉิกิริยาสมาปตฺตีนํ ปารคมเนน ปารคูติ อยเมตฺถ อตฺโถติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปารคูติ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อภิฺเยฺยธมฺมานํ ชานนวเสน อภิฺาปารคู. ตาทิโสติ ยาทิโส ‘‘ปารคู สพฺพธมฺมาน’’นฺติ ปททฺวเยน ¶ วุตฺโต, ตาทิโส. ฉหิ อากาเรหีติ ปชานนาทีหิ ยถาวุตฺเตหิ ฉหิ อากาเรหิ.
กามฺเจตฺถ ทฺเว เอว ปุจฺฉาคาถา ทฺเว จ วิสฺสชฺชนาคาถา, ปุจฺฉาปฏิปาฏิยา ปน อสงฺกรโต จ วิสฺสชฺชนํ ปวตฺตติ, ตํ นิทฺธาเรตุํ กึ ปนาติอาทิ วุตฺตํ. เวเทหิ คตตฺตาติ เวเทหิ มคฺคาเณหิ ปารงฺคตตฺตา. ปุพฺเพนิวาสนฺติอาทีหิ วิชฺชานํ อตฺถิตาย โพธิตตฺตา. ปาปธมฺมานนฺติ ฉตฺตึสปาปธมฺมานํ โสตฺถานํ มคฺคํ ปาปเนน นิสฺเสสโต โสธิตตฺตา.
๓๙๕. ธมฺโม ¶ นาม อรหตฺตมคฺโค กุสลธมฺเมสุ อุกฺกํสปารมิปฺปตฺติยา อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน. ตสฺส อนุรูปธมฺมภาวโต อนุธมฺโม นาม เหฏฺิมมคฺคผลธมฺมา. โย สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ยถานุสิฏฺํ น ปฏิปชฺชติ, โส ตถาคตํ ธมฺมาธิกรณํ วิเหเติ นาม. โย ปน ปฏิปชฺชนฺโต จ ทนฺธาภิฺตาย กมฺมฏฺานโสธนตฺถํ อนฺตรนฺตรา ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อเนกวารํ กถาเปติ, โส เอตฺตาวตา ธมฺมาธิกรณํ ตถาคตํ วิเหเตีติ น วตฺตพฺโพ. น หิ ภควโต ธมฺมเทสนาย ปริสฺสโม อตฺถิ, อยฺจ อตฺโถ มหาสุทสฺสนสุตฺตาทีหิ (ที. นิ. ๒.๒๔๑ อาทโย) ทีเปตพฺโพ, ตสฺมา – ‘‘สจฺจธมฺมสฺส อนุธมฺม’’นฺติ วตฺตพฺเพ วุตฺตเมว พฺยติเรกมุเขน วิภาเวตุํ ‘‘น จ มํ ธมฺมาธิกรณํ วิเหเสสี’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ ปรินิพฺพายีติ ปรกาเล เจตฺถ ปรินิพฺพานมฺปิ สงฺคยฺหติ, ตํ ปน อิมสฺมึ คหิตเมว โหตีติ อาห ‘‘เทสนาย อรหตฺเตเนว กูฏํ คหิต’’นฺติ.
พฺรหฺมายุสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๒. เสลสุตฺตวณฺณนา
๓๙๖. เกณิโยติ ¶ ตสฺส นามํ, ปุพฺเพ เกณิยา ชีวิกากปฺปนโตติ วทนฺติ. ชฏิโลติ ชฏาธโร. พฺราหฺมณชาติกตฺตา โกฏิสารตาย จ พฺราหฺมณมหาสาโล. ปโยเชตฺวา นิสฺสโย หุตฺวา วสติ, รตฺตึ กามสมฺปตฺตึ อนุภวตีติ วา โยชนา. สุสงฺขตนฺติ สปฺปิมธุสกฺกราทีหิ เจว มริจสิงฺคีเวราทีหิ จ สุฏฺุ อภิสงฺขตํ.
ปฏิกฺเขปปสนฺนตายาติ ¶ อโหวตายํ อปฺปิจฺโฉ, โย นิมนฺติยมาโนปิ น สาทิยตีติ อุปนิมนฺติยมานสฺส ปฏิกฺเขเป ติตฺถิยานํ ปสนฺนภาวโตติ. ตํ กถํ? วิรุทฺธเมตนฺติ ‘‘อการณเมต’’นฺติ ปฏิกฺขิปติ.
๓๙๘. กปฺปสหสฺเสหิปิ…เป… อโหสีติ อิทํ นานุสฺสวสิทฺธํ อนุมานคฺคหณํ สนฺธายาห. ปเทติ อุตฺตรปทโลเปน นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ปทปฺปมาเณ’’ติ. ปชฺชติ นิกฺขิปติ เอตฺถาติ วา ปทํ ปกติยา ปาทนิกฺขิปฏฺานํ, ตสฺมึ ปเท. กีฬาปสุตตาทินา ปมาทํ อาปชฺชติ. โพธิสตฺตจาริกนฺติ ทุกฺกรจริยํ สนฺธาย วทติ.
๓๙๙. ปริปุณฺณตายาติ อนูนตาย. อหีนงฺคตายาติ อเวกลฺลภาวโต. โรจตีติ รุจิ, เทหปฺปภา, โสภณา รุจิ เอตสฺสาติ สุรุจิ. อาโรหสมฺปตฺติ กายสฺส ปมาณยุตฺตอุจฺจตา. ปริณาหสมฺปตฺติ กิสถูลภาววชฺชิตปริณาหตา. สณฺานสมฺปตฺติ อวยวานํ สุสณฺิตตา. จารุทสฺสโนติ ปิยทสฺสโน เตนาห ‘‘สุจิรมฺปี’’ติอาทิ. สุวณฺณสทิสวณฺโณติ ชาติหิงฺคุลเกน มทฺทิตฺวา สิลานิฆํเสเนว ปริกมฺมํ กตฺวา ปิตฆนสุวณฺณรูปวณฺโณ. มหาปุริสภาวํ พฺยฺเชนฺติ ปกาเสนฺตีติ พฺยฺชนานิ, มหาปุริสลกฺขณานีติ อาห ‘‘ปมํ วุตฺตพฺยฺชนาเนวา’’ติ.
ปุพฺเพ วุตฺตนฺติ ‘‘สุรุจี’’ติ ปุพฺเพ วุตฺตํ, ‘‘อาทิจฺโจว วิโรจสี’’ติ ปุน วุตฺตํ. ‘‘จารุทสฺสโน สุวณฺณวณฺโณสี’’ติ ปุพฺเพ วุตฺตํ, ‘‘กลฺยาณทสฺสโน ภิกฺขุ กฺจนาภตฺตโจ’’ติ ปุน วุตฺตนฺติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘อุตฺตรคาถายปิ เอเสว นโย’’ติ. สาติสยํ อุตฺตมวณฺเณ วณฺเณตฺวา อุตฺตมวณฺณิโนติ ปเทน สนฺตํ ปกาเสตีติ อาห ‘‘อุตฺตมวณฺณสมฺปนฺนสฺสา’’ติ. อุตฺตมสารถีติ ¶ เสฏฺปุริสสารถิ. ตตฺถ ตตฺถ ชมฺพุวนสณฺฑมณฺฑิตตาย ชมฺพุทีโป ‘‘ชมฺพุสณฺโฑ’’ติ วุจฺจติ. อิสฺสริยนฺติ จกฺกวตฺติสฺสริยํ.
ชาติขตฺติยาติ ชาติมนฺโต ขตฺติยา. ราชาภิราชาติ เอตฺถ อภิ-สทฺโท ปูชตฺโถติ อาห ‘‘ราชูนํ ปูชนีโย’’ติ.
อปฺปมาณาติ อปริมาณา โลกธาตุโย. ‘‘ยาวตา ปน อากงฺเขยฺยา’’ติ (อ. นิ. ๓.๘๑) หิ วุตฺตํ. ธมฺมราชา อนุตฺตโรติ เอตฺถ วุตฺตอนุตฺตรภาวํ ‘‘ยาวตา ¶ หี’’ติอาทินา ปากฏตรํ กตฺวา ธมฺมราชภาวํ วิภาเวตุํ ‘‘สฺวาห’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ธมฺเมนาติ ปฏิเวธธมฺเมน. เตนาห ‘‘อนุตฺตเรเนวา’’ติ. อนุตฺตเรนาติ วิสิฏฺเน อุตฺตเมน. อิมสฺมึ ปกฺเข ธมฺเมนาติ ปฏิปตฺติธมฺเมนาติปิ สงฺคยฺหติ. ปริยตฺติธมฺเมนาติ เทสนาธมฺเมน อาณาจกฺกํ ปวตฺเตมีติ โยชนา. เทสนาาณปฏิเวธาณวิภาคํ ธมฺมจกฺกเมว วา. อปฺปฏิวตฺติยนฺติ ปฏิวตฺติตุํ อสกฺกุเณยฺยํ.
ตถาคเตน ชาโตติ ตถาคเตน เหตุนา อริยาย ชาติยา ชาโต. เหตุอตฺเถ กรณวจนํ. อนุชาโตติ จ วุตฺเต อนุ-สทฺทสฺส วเสน ตถาคตนฺติ จ อุปโยควจนเมว โหติ, โส จ อนุ-สทฺโท เหตุอตฺถโชตโกติ อาห ‘‘ตถาคตํ เหตุํ อนุชาโต’’ติ. อวฺาตพฺพภาเวน ชาโตติ อวชาโต ทุปฺปฏิปนฺนตฺตา. เตนาห ‘‘ทุสฺสีโล’’ติ. ตถา หิ วุตฺตํ โกกาลิกํ อารพฺภ ‘‘ปุริสนฺตกลิ อวชาโต’’ติ. ปุตฺโต นาม น โหติ ตสฺส โอวาทานุสาสนิยํ อฏฺิตตฺตา. เอวมาหาติ ‘‘อนุชาโต ตถาคต’’นฺติ เอวมาห.
วิชฺชาติ มคฺควิชฺชา. อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน วิมุตฺตีติ ผลวิมุตฺติ. นนุ จ มคฺโค ภาเวตพฺเพน คหิโตติ? สจฺจํ คหิโต, สพฺเพ จ ปน สตฺต ธมฺมา อภิฺเยฺยาติ วิชฺชาย อภิฺเยฺยภาโว วุตฺโต. อิมินา วา นเยน สพฺเพสมฺปิ อภิฺเยฺยภาโว วุตฺโต เอวาติ เวทิตพฺโพ. ผเลน วินา เหตุภาวสฺเสว อภาวโต เหตุวจเนน ผลสิทฺธิ, นิโรธสฺส จ สมฺปาปเนน มคฺคสฺส เหตุภาโว. ทุกฺขสฺส นิพฺพตฺตเนน ตณฺหาย สมุทยภาโวติ อิมมตฺถํ สงฺคหิตเมว อตฺถโต อาปนฺนตฺตา. ยุตฺตเหตุนาติ ยุตฺติยุตฺเตน เหตุนา พุทฺธภาวํ สาเธติ สจฺจวินิมุตฺตสฺส พุชฺฌิตพฺพสฺส อภาวโต สจฺจสมฺโพธเนเนว จ ตสฺส อนวเสสโต พุทฺธตฺตา. อตฺถวจนฺเจตํ, ปโยควจนานิ ปน – พฺราหฺมณ, อหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ สพฺพถา อวิปรีตธมฺมเทสโน, สมฺมาสมฺพุทฺธตฺตา สพฺพตฺถ อวิปรีตมาจิกฺขติ ยถาหํ สพฺพมคฺคเทสโกติ ¶ . กึ ปน ภควา สยเมว อตฺตโน สมฺมาสมฺพุทฺธภาวํ อาโรเจตีติ? มหากรุณาย อฺเสํ มหาวิสยโต. ตตฺถ ‘‘เอโกมฺหิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, สพฺพาภิภู สพฺพวิทูหมสฺมี’’ติอาทีนิ (มหาว. ๑๑; ม. นิ. ๑.๒๘๕; ๒.๓๔๑; กถา. ๔๐๕) สุตฺตปทานิ อิทเมว จ สุตฺตปทํ เอตสฺส อตฺถสฺส สาธกํ.
สลฺลกนฺตโนติ ¶ สลฺลานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา. โรคสฺสาติ กิเลสโรคสฺส. ตสฺมาติ อปุนปวตฺติปาทเนน ติกิจฺฉนโต. พฺรหฺมํ วา เสฏฺํ สมฺมาสมฺโพธึ ปตฺโตติ พฺรหฺมภูโต. เอวํ อาคตายาติ อิมินา –
‘‘กามา เต ปมา เสนา, ทุติยา อรติ วุจฺจติ;
ตติยา ขุปฺปิปาสา เต, จตุตฺถี ตณฺหา ปวุจฺจติ.
ถินมิทฺธํ เตปฺจมํ ถินมิทฺธํ เต, ฉฏฺา ภีรู ปวุจฺจติ;
สตฺตมี วิจิกิจฺฉา เต, มกฺโข ถมฺโภ เต อฏฺโม.
ลาโภ สิโลโก สกฺกาโร, มิจฺฉาลทฺโธ จ โย ยโส;
โย จตฺตานํ สมุกฺกํเส, ปเร จ อวชานติ;
เอสา นมุจิ เต เสนา, กณฺหสฺสาภิปฺปหารินี’’ติ. (สุ. นิ. ๔๓๘-๔๔๑);
เอวํ วุตฺตํ นววิธํ เสนํ สงฺคยฺหติ. วเส วตฺเตตฺวาติ สมุจฺฉินฺทเนน อนุปฺปาทตาปาทเนน วเส วตฺเตตฺวา. กุโตจิ อภโย นิพฺภโย.
สยเมว ทฏฺพฺพนฺติ เยน เยน อธิคโต, เตน เตน ปรสทฺธาย คนฺตพฺพํ หิตฺวา อสมฺโมหโต ปจฺจเวกฺขณาาเณเนว สามํ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘ปจฺจกฺข’’นฺติ. ปสฏฺา ทิฏฺิ สนฺทิฏฺิ. ยถา รเถน ชยตีติ รถิโก, เอวํ อิทํ มคฺคพฺรหฺมจริยํ สนฺทิฏฺิยา ชยตีติ สนฺทิฏฺิกํ. อถ วา ทิฏฺนฺติ ทสฺสนํ วุจฺจติ, ทิฏฺเมว สนฺทิฏฺํ, สนฺทสฺสนนฺติ อตฺโถ. สนฺทิฏฺํ อรหตีติ สนฺทิฏฺิโก ยถา วตฺถยุคํ อรหตีติ วตฺถยุคิโก. สนฺทิฏฺิกํ ผลทานํ สนฺธาย นาสฺส กาโลติ อกาลํ, อกาลเมว อกาลิกํ, น กาลนฺตรํ เขเปตฺวา ผลํ เทติ, อตฺตโน ปน ปวตฺติสมนนฺตรเมว ผลํ เทตีติ อตฺโถ. อถ วา อตฺตโน ผลปฺปทาเน ปกฏฺโ กาโล ปตฺโต อสฺสาติ กาลิโก, โลกิโย กุสลธมฺโม, อิทํ ปน สมนนฺตรผลตฺตา น กาลิกํ.
๔๐๐. ‘‘มหายฺํ ¶ ปวตฺตยี’’ติอาทีสุ เกวลํ ทานธมฺมาทีสุ ยฺปริยายสมฺภวโต ‘‘พฺราหฺมณานํ ยฺาภาวโต’’ติ วุตฺตํ. พฺราหฺมณา หิ ‘‘อคฺคิมุขา เทวา’’ติ อคฺคิชุหนปุพฺพกํ ยฺํ วิทหนฺติ. เตนาห ‘‘อคฺคิชุหนปฺปธานาติ อตฺโถ’’ติ ‘‘ภูรฺภุว? สฺว?’’ อิติ สาวิตฺตี ปุพฺพกตฺตา มุขํ ปุพฺพงฺคมํ ¶ . ‘‘มุขมิว มุข’’นฺติอาทีสุ วิย อิธาปิ ปธานปริยาโย มุขสทฺโทติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มนุสฺสานํ เสฏฺโต ราชา ‘มุข’นฺติ วุตฺโต’’ติ อาห. อาธารโตติ โอคาหนฺตีนํ นทีนํ อาธารภาวโต ปฏิสรณโต คนฺตพฺพฏฺานภาวโต. สฺาณโตติ จนฺทโยควเสน อชฺช อสุกนกฺขตฺตนฺติ ปฺายนโต. อาโลกกรณโตติ นกฺขตฺตานิ อภิภวิตฺวา อาโลกกรณโต. โสมฺมภาวโตติ สีตหิมวาสีตวาตูปกฺขรภาวโต. ตปนฺตานนฺติ ทีปสิขา อคฺคิชาลา อสนิวิจกฺกนฺติ เอวมาทีนํ วิชฺชลนฺตานํ. อายมุขํ อคฺคทกฺขิเณยฺยภาเวน.
ทิพฺพจกฺขุ ธมฺมจกฺขุ ปฺาจกฺขุ พุทฺธจกฺขุ สมนฺตจกฺขูติ อิเมหิ ปฺจหิ จกฺขูหิ. เต สรณสฺสาติ เต สรณสฺส จ, เต สรณภาวมูลกตฺตา อิตรทฺวยสฺส จ, ยถาวุตฺต เต-ปเทน วุตฺตตฺถโต ปรสฺส จาติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘เต ตุยฺหํ, อิตรสฺส จ สรณสฺส อโห อานุภาโว’’ติ. อาวุตฺติวเสน วา เต สรณสฺสาติ เอตฺถ อตฺโถ วิภาเวตพฺโพ – ตุยฺหํ สรณภูตสฺส จ อิตรสรณสฺส จ อานุภาโวติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
เสลสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๓. อสฺสลายนสุตฺตวณฺณนา
๔๐๑. อฺมฺวิสิฏฺตฺตา ¶ วิสทิสํ รชฺชํ วิรชฺชํ, วิรชฺชโต อาคตา, ตตฺถ ชาตาติ วา เวรชฺชกา, เอวํ ชาตา โข ปน เต, ยสฺมา วตฺถาภรณาทิวิภาเคน นานปฺปการา โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘นานาเวรชฺชกาน’’นฺติ. อฏฺกถายํ ปน เวรชฺชสฺเสว วเสน นานปฺปการตา วุตฺตา. ยฺุปาสนาทินาติ ยฺานุภวนมนฺตชฺเฌนทกฺขิณปริเยสนาทินา. จตุวณฺณสาธารณนฺติ ขตฺติยาทีนํ จตุนฺนํ วณฺณานํ สาธารณํ สํสารสุทฺธิปาปตสฺสนํ. นฺหานสุทฺธิยาติ ติตฺถสมุทฺทขาเตสุ มนฺตชปฺปนปุพฺพกํ สายํตติยอุทโกโรหนาทินฺหานสุทฺธิยา. ภาวนาสุทฺธิยาติ ปรมโชติภูตาย ปุริสภาวนาสงฺขาตาย สุทฺธิยา. วาปิตสิโรติ โอโรปิตเกโส. ตเมว หิ สิโร วาปิตนฺติ วุจฺจติ.
สภาววาทีติ ¶ ยถาภูตวาที. ปพฺพชนฺตาติ พฺราหฺมณปพฺพชฺชํ อุปคจฺฉนฺตา, ตสฺมา พฺราหฺมณานํ ปพฺพชฺชาวิธานํ สิกฺขนฺเตน โภตา ‘‘พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺติ, โน อพฺราหฺมณา’’ติ อยํ วิธิ สเหตุโก สอุปาทาโน สกฺกจฺจํ อุคฺคหิโต, ตสฺมา ตุยฺหํ ปราชโย นตฺถิ…เป… เอวมาหํสุ.
๔๐๒. ลทฺธิภินฺทนตฺถนฺติ ‘‘พฺราหฺมณาว พฺรหฺมุโน ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา พฺรหฺมชา’’ติ เอวํ ปวตฺตลทฺธิยา วินิเวนตฺถํ. ปุตฺตปฏิลาภตฺถายาติ ‘‘เอวํ มยํ เปตฺติกํ อิณธารํ โสเธยฺยามา’’ติ ลทฺธิยํ ตฺวา ปุตฺตปฏิลาภตฺถาย. อยฺเหตฺถ อธมฺมิกานํ พฺราหฺมณานํ อชฺฌาสโย. เนสนฺติ พฺราหฺมณานํ. สจฺจวจนํ สิยาติ ‘‘พฺรหฺมุโน ปุตฺตา’’ติอาทิวจนํ สจฺจํ ยทิ สิยา พฺราหฺมณีนํ…เป… ภเวยฺย, น เจตํ อตฺถิ. มหาพฺรหฺมุโน มุขโต ชาโตติ วาทจฺเฉทกวาโท มุขโตชาตจฺเฉกวาโท. อสฺสลายโนวิฺู ชาติโก ‘‘นิรกฺเขปํ สมเณน โคตเมน วุตฺต’’นฺติ ชานนฺโตปิ สหคตานํ พฺราหฺมณานํ จิตฺตานุรกฺขณตฺถํ ‘‘กิฺจาปิ ภวํ โคตโม’’ติอาทิมาห.
๔๐๓. อิทานิ พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณติ วาทํ ภินฺทิตุํ ‘‘สุตํ เต โยนกกมฺโพเชสู’’ติอาทิ อารทฺธํ. ยทิ พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ, สพฺพตฺถ พฺราหฺมโณว เสฏฺโ ภเวยฺย, อถ กสฺมา โยนกกมฺโพชาทิชนปเทสุ พฺราหฺมณานํ เสฏฺภาโว นตฺถิ? เอวฺหิ ตตฺถ วณฺณา ¶ , ตสฺมา ‘‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโ’’ติ ลทฺธิมตฺตเมตํ. เตสุ หิ ชนปเทสุ ชนา เอกชฺฌํ สนฺนิปติตฺวา สมฺมนฺตยิตฺวา กติกํ อกํสุ, ทาสํ สามิกํ กตฺวา อิตเร สพฺเพ ตํ ปูเชตฺวา ตสฺส วเส วตฺตนฺติ, โย เตสํ อยฺโย โหติ อิตเร สพฺเพ ตสฺส ทาสา โหนฺติ, เต กติปยสํวจฺฉราติกฺกเมน ตสฺส กิฺจิ โทสํ ทิสฺวา ตํ ตโต านโต อปเนตฺวา อฺํ เปนฺติ, อิติ โส อยฺโย หุตฺวา ทาโส โหติ, อิตโร ทาโส หุตฺวา อยฺโย โหติ, เอวํ ตาว เกจิ ‘‘อยฺโย หุตฺวา ทาโส โหติ, ทาโส หุตฺวา อยฺโย โหตี’’ติ เอตฺถ อตฺถํ วทนฺติ. อฏฺกถายํ ปน ปุริมวเสเนว ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘พฺราหฺมโณ สภริโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. วยปฺปตฺเต ปุตฺเต อสตีติ อิทํ วกฺขมานสฺส ทารกสฺส ทายชฺชสามิกภาวสฺส ตาว ทสฺสนํ. มาติโต สุทฺโธติ เอตฺถ ¶ โย มาติโต สุทฺธตฺตา อยฺโย, ปิติโต อสุทฺธตฺตา ทาโส โหติ, โส เอว ปิติโต อสุทฺธตฺตา ทาโส หุตฺวา มาติโต อยฺโย โหตีติ ชาตึ สมฺเภเทติ. โสว สพฺเพน สพฺพํ โหตีติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ อปเร. โก ถาโมติ มหนฺเต โลกสนฺนิวาเส อนมตคฺเค อตีเต กาเล อิตฺถีนํ วา จิตฺเต อนวฏฺิเต ทาสา ทาสา เอว โหนฺติ, อยฺยา อยฺยา เอว โหนฺตีติ เอตฺถ โก เอกนฺติโก สเหตุโก อวสฺสโย, ตสฺส สาธโก สิทฺธนฺโต, กึ นิทสฺสนนฺติ อตฺโถ.
๔๐๔. สุกฺกจฺเฉทกวาโท นามาติ ‘‘พฺราหฺมโณว สุกฺโก วณฺโณ’’ติ เอวํ วุตฺโต สุกฺกจฺเฉทกวาโร นาม.
๔๐๘. สพฺพสฺมึ อคฺคิกิจฺจํ กโรนฺเตติ เอเตน ยถา ยโต กุโตจิ นิสฺสยโต อุปฺปนฺโน อคฺคิอุปาทานสมฺปนฺโน อคฺคิกิจฺจํ กโรติ, เอวํ ยสฺมึ กสฺมิฺจิ ทาสกุเล ชาโต อุปนิสฺสยสมฺปนฺโน สมฺมาปฏิปชฺชมาโน สํสารโต สุชฺฌติ เอวาติ ทสฺเสติ.
๔๐๙. ปาทสิกวณฺโณติ อนฺตราฬวณฺโณ. เอเตสนฺติ ขตฺติยกุมาเรน พฺราหฺมณกฺาย อุปฺปนฺนปุตฺโต, พฺราหฺมณกุมาเรน ขตฺติยกฺาย อุปฺปนฺนปุตฺโตติ เอเตสํ ทฺวินฺนํ มาณวกานํ. มตกภตฺเตติ มเต อุทฺทิสฺส กตภตฺเต. ถาลิปาเกติ กตมงฺคลภตฺเต.
๔๑๐. ตุมฺเหติ ชาติสามฺโต มาณวํ พฺราหฺมเณหิ สทฺธึ เอกชฺฌํ สงฺคณฺหนฺโต อาห. โก นุ โขติ อวํสิโร อิสิวาโท, เตสํ พฺราหฺมณีสีนํ อสามตฺถิยทสฺสเนน ชาติยา อปฺปมาณตํ วิภาเวตุํ คามทารกเวเสน อุปคจฺฉิ. เตน วุตฺตํ ‘‘คามณฺฑลรูโป วิยา’’ติ. โกณฺฑทมโกติ อทนฺตทมโก.
๔๑๑. ชเนตีติ ¶ ชนิกา ชเนตฺติ. ชนโก ปิตาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. คนฺธพฺพปฺหนฺติ คนฺธพฺพสฺส มาตุกุจฺฉิยํ อุปฺปชฺชนกสตฺตสฺส ขตฺติยภาวาทิปุจฺฉํ. ทพฺพิคหณสิปฺปมฺปิ เอกา วิชฺชา เวทิตพฺพา. ตตฺถ กิร กุสโล ยํ กิฺจิ อาหารูปคปณฺณปุปฺผผลพีชํ อนฺตมโส เอลาลุกมฺปิ คเหตฺวา เภสชฺเชหิ โยเชตฺวา ปจนฺโต สปฺปิมธุผาณิเตหิ สมานรสํ กตฺวา สมฺปาเทตุํ ¶ สกฺโกติ, ปุณฺโณปิ ตาทิโส, เตน าตํ ตฺวํ ทพฺพิคหณสิปฺปมตฺตมฺปิ น ชานาสีติ สมฺพนฺโธ. สทฺโธติ กมฺมผลสทฺธาย สทฺโธ, โปถุชฺชนิเกเนว รตนตฺตยปสาเทน ปสนฺโน. เตเนวาห – ‘‘อุปาสกํ มํ ภวํ…เป… สรณํ คต’’นฺติ.
อสฺสลายนสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๔. โฆฏมุขสุตฺตวณฺณนา
๔๑๒. เขมิยา ¶ นาม รฺโ เทวิยา โรปิตตฺตา ตํ อมฺพวนํ เขมิยมฺพวนนฺติ วุจฺจตีติ วทนฺติ. ธมฺมิโกติ ธมฺมยุตฺโต สพฺพโสว อธมฺมํ ปหาย ธมฺเม ิโต. ปริพฺพชติ ปพฺพชติ เอเตนาติ ปริพฺพโช, ฆราวาสโต นิกฺขมนปุพฺพกํ ลิงฺคคฺคหณวเสน สีลสมาทานํ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ปริพฺพเช. สภาโวติ ตํ ปริพฺพาชนิยํ, เตหิ เตหิ ปริพฺพาชเกหิ อนุฏฺาตพฺโพ ปฏิปตฺติธมฺมสงฺขาโต สภาโว. ธมฺโมว ปมาณนฺติ เอเตน มยํ อหิริมนา จิตฺตสฺส ยถาอุปฏฺิตํ กเถม, ตสฺมา ตํ อปฺปมาณํ, โย ปเนตฺถ อวิตโถ ธมฺโม, ตเทว ปมาณํ. อธิคตปฏิปตฺติสงฺขาโต สภาโว อตฺถิ, ตสฺส ตุมฺเหหิ ตุมฺเหหิ พหุนา นานาสนฺทสฺสนาทิ กมฺเมน อิธ ภวิตพฺพํ, พหุเทเวตฺถ วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
๔๑๔. สารตฺตรตฺตาติ สารชฺชนวเสน รตฺตา, พหุลราควเสน อภิรตฺตาติ อตฺโถ. อตฺตนา าเปตพฺพมตฺถํ อนุคฺคหาเปติ โพเธตีติ อนุคฺคโห, าปิตการณํ, สห อนุคฺคเหนาติ สานุคฺคหา. เตนาห ‘‘สการณา’’ติ. กึ ปน ตํ การณํ? อิมสฺสาธิปฺปาโย ‘‘นตฺถิ ธมฺมิโก ปริพฺพโช’’ติ มยา วุตฺโต, อทฺธา ปนายสฺมา อุเทโน ยาถาวโต ธมฺมิกํ ปริพฺพชํ เม อาจิกฺขตีติ. เตนาห ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิ.
๔๒๑. สพฺพมิทํ ถาวรชงฺคมํ ปุริสกตํ, ตสฺมา ยํ กิฺจิ กตฺวา อตฺตา โปเสตพฺโพ รกฺขิตพฺโพติ โลกายตนิสฺสิโต นีติมคฺโค โฆฏมุขกนฺโต, ตสฺมา อาห ‘‘เอตสฺส กิร ชานนสิปฺเป’’ติอาทิ. สคฺเค ¶ นิพฺพตฺโต นาม นตฺถิ อกตฺตพฺพเมว กรณโต. เทวโลกปริยาปนฺนธนํ มนุสฺสานํ อุปกปฺปปฺุาภาวโต ปุพฺเพ อตฺตนา นิหิตธนํ ‘‘อสุเก จา’’ติ อาจิกฺขิตฺวา คโต. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
โฆฏมุขสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๕. จงฺกีสุตฺตวณฺณนา
๔๒๒. ตสฺมินฺติ ¶ สาลวเน. อุตฺตเรน โอปาสาทนฺติ โอปาสาทคามสฺส อุตฺตรทิสายํ. อุตฺตเรนาติ เอน-สทฺทโยเคน หิ โอปาสาทนฺติ อุปโยควจนํ. อชฺฌาวสตีติ เอตฺถ อธิ-อา-สทฺทานํ อนตฺถนฺตรตํ หทเย กตฺวา อาห ‘‘วสตี’’ติ. อิทานิ เตสํ อตฺถวิเสสภาวิตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อภิภวิตฺวา วา อาวสตี’’ติอาทิมาห. เอตฺถาติ โอปาสาทปเท. สตฺตุสฺสทนฺติอาทีสุ ปน กถนฺติ อาห – ‘‘ตสฺส อนุปฺปโยคตฺตาว เสสปเทสู’’ติ. อุป-อนุ-อธิ-อิติ-เอวํ-ปุพฺพเก วสนกิริยยาฏฺาเน อุปโยควจนเมว ปาปุณาตีติ สทฺทวิทู อิจฺฉนฺตีติ อาห ‘‘ลกฺขณํ สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺพ’’นฺติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘อุปสคฺควเสน ปเนตฺถ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ เวทิตพฺพ’’นฺติ. อุสฺสทตา นาเมตฺถ พหุลตาติ ตํ พหุลตํ ทสฺเสตุํ ‘‘พหุชน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อาวชฺชิตฺวาติ ปริกฺขิปิตฺวา.
รฺา วิย ภฺุชิตพฺพนฺติ วา ราชโภคฺคํ. รฺโ ทายภูตนฺติ กุลปรมฺปราย โภคฺคภาเวน รฺา ลทฺธทายภูตํ. เตนาห ‘‘ทายชฺชนฺติ อตฺโถ’’ติ. ราชนีหาเรน ปริภฺุชิตพฺพโต อุทฺธํ ปริโภคลาภสฺส เสฏฺเทยฺยตา นาม นตฺถีติ อาห – ‘‘ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา ราชสงฺเขเปน ปริภฺุชิตพฺพ’’นฺติ. ติตฺถปพฺพตาทีสูติ นทีติตฺถปพฺพตปาทคามทฺวารอฏวีมุขาทีสุ. นิสฺสฏฺปริจฺจตฺตนฺติ มุตฺตจาควเสน ปริจฺจตฺตํ กตฺวา. เอเตสํ พฺราหฺมณคหปติกานํ.
๔๒๓. ติ สนฺนิปติตา. โย โกจิ วิฺูนํ อิจฺฉิโต ปฺโห, ตสฺส ปุจฺฉิตสฺส ยาถาวโต กถนสมตฺโถ ปุจฺฉิตปฺหพฺยากรณสมตฺโถ.กุลาปเทสาทินา มหตี มตฺตา เอตสฺสาติ มหามตฺโต.
๔๒๔. เตติ ¶ ‘‘นานาเวรชฺชกา’’ติ วุตฺตพฺราหฺมณา. ‘‘อุภโต สุชาโต’’ติ (ที. นิ. ฏี. ๑.๓๐๓; อ. นิ. ฏี. ๓.๕.๑๓๔) เอตฺตเก วุตฺเต เยหิ เกหิจิ ทฺวีหิ ภาเคหิ สุชาตตา วิฺาเยยฺย, สุชาตสทฺโท จ ‘‘สุชาโต จารุทสฺสโน’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๓๙๙; สุ. นิ. ๕๕๓; เถรคา. ๘๑๘) อาโรหปริณาหสมฺปตฺติปริยาโยติ ชาติวเสเนว สุชาตตํ วิภาเวตุํ ‘‘มาติโต จ ปิติโต จา’’ติ วุตฺตํ. อโนรสปุตฺตวเสนปิ โลเก มาตุปิตุสมฺา ทิสฺสติ, อิธ ปนสฺส โอรสปุตฺตวเสเนว อิจฺฉียตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สํสุทฺธคหณีโก’’ติ ¶ วุตฺตํ. ปิตา จ มาตา จ ปิตโร, ปิตูนํ ปิตโร ปิตามหา, เตสํ ยุโค ปิตามหยุโค, ตสฺมา ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยุคสทฺโท เจตฺถ เอกเสสนเยน ทฏฺพฺโพ ‘‘ยุโค จ ยุโค จ ยุคา’’ติ. เอวฺหิ ตตฺถ ตตฺถ ทฺวินฺนํ คหิตเมว โหติ. เตนาห – ‘‘ตโต อุทฺธํ สพฺเพปิ ปุพฺพปุริสา ปิตามหคฺคหเณเนว คหิตา’’ติ. ปุริสคฺคหณฺเจตฺถ อุกฺกฏฺนิทฺเทสวเสน กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอวฺหิ ‘‘มาติโต’’ติ ปาฬิวจนํ สมตฺถิตํ โหติ. อกฺขิตฺโตติ อปฺปตฺตเขโป. อนวกฺขิตฺโตติ สทฺธถาลิปากาทีสุ น อวกฺขิตฺโต. ชาติวาเทนาติ เหตุมฺหิ กรณวจนนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘เกน การเณนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ จ อุภโต…เป… ปิตามหยุคาติ เอเตน พฺราหฺมณสฺส โยนิโทสาภาโว ทสฺสิโต สํสุทฺธคหณิกภาวกิตฺตนโต. อกฺขิตฺโตติ อิมินา กิริยาปราธาภาโว. กิริยาปราเธน หิ สตฺตา เขปํ ปาปุณนฺติ. อนุปกุฏฺโติ อิมินา อยุตฺตสํสคฺคาภาโว. อยุตฺตสํสคฺคมฺปิ หิ ปฏิจฺจ สตฺตา อกฺโกสํ ลภนฺติ.
อิสฺสโรติ อธิปเตยฺยสํวตฺตนิยกมฺมผเลน อีสนสีโล. สา ปนสฺส อิสฺสรตา วิภวสมฺปตฺติปจฺจยา ปากฏา ชาตาติ อฑฺฒตาปริยายภาเวน วทนฺโต ‘‘อฑฺโฒติ อิสฺสโร’’ติ อาห. มหนฺตํ ธนมสฺส ภูมิคตฺเจว เวหาสฏฺฺจาติ มหทฺธโน. ตสฺสาติ ตสฺส ตสฺส. วทนฺติ ‘‘อนฺวยโต พฺยติเรกโต จ อนุปสงฺกมนการณํ กิตฺเตมา’’ติ.
อธิกรูโปติ วิสิฏฺรูโป อุตฺตมสรีโร. ทสฺสนํ อรหตีติ ทสฺสนีโย. เตนาห ‘‘ทสฺสนโยคฺโค’’ติ. ปสาทํ อาวหตีติ ปาสาทิโก. เตนาห ‘‘จิตฺตปสาทชนนโต’’ติ. วณฺณสฺสาติ วณฺณธาตุยา ¶ . สรีรนฺติ สนฺนิเวสวิสิฏฺโ กรจรณคีวาสีสาทิ อวยวสมุทาโย, โส จ สณฺานมุเขน คยฺหตีติ ‘‘ปรมาย วณฺณโปกฺขรตายาติ ปรมาย…เป… สมฺปตฺติยา จา’’ติ วุตฺตํ. สพฺพวณฺเณสุ สุวณฺณวณฺโณว อุตฺตโมติ วุตฺตํ ‘‘เสฏฺเน สุวณฺณวณฺเณน สมนฺนาคโต’’ติ. ตถา หิ พุทฺธา จกฺกวตฺติโน จ สุวณฺณวณฺณาว โหนฺติ. พฺรหฺมวจฺฉสีติ อุตฺตมสรีราโภ สุวณฺณาโภติ อตฺโถ. อิมเมว หิ อตฺถํ สนฺธายาห ‘‘มหาพฺรหฺมุโน สรีรสทิเสน สรีเรน สมนฺนาคโต’’ติ. น พฺรหฺมุชุคตฺตตํ. อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนายาติ อาโรหปริณาหสมฺปตฺติยา อวยวปาริปูริยา จ ทสฺสนาย โอกาโส น ขุทฺทโก. เตนาห ‘‘สพฺพาเนวา’’ติอาทิ.
ยมนิยมลกฺขณํ สีลมสฺส อตฺถีติ สีลวา, ตํ ปนสฺส รตฺตฺุตาย วุทฺธํ วฑฺฒิตํ สีลํ อสฺส อตฺถีติ วุทฺธสีลี, เตน จ สพฺพทา สมาโยคโต วุฑฺฒสีเลน สมนฺนาคโต. ปฺจสีลมตฺตเมว สนฺธาย วทนฺติ ตโต ปรํ สีลสฺส ตตฺถ อภาวโต เตสฺจ อชานนโต.
านกรณสมฺปตฺติยา ¶ สิกฺขาสมฺปตฺติยา จ กตฺถจิปิ อนูนตาย ปริมณฺฑลปทานิ พฺยฺชนานิ อกฺขรานิ เอติสฺสาติ ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนา. อถ วา ปชฺชติ อตฺโถ เอเตนาติ ปทํ, นามาทิ, ยถาธิปฺเปตมตฺถํ พฺยฺเชตีติ พฺยฺชนํ วากฺยํ, เตสํ ปริปุณฺณตาย ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนา. อตฺถาปนสาธนตาย วาจาว กรณนฺติ วากฺกรณํ, อุทาหรณโฆโส. คุณปริปุณฺณภาเวน ตสฺส พฺราหฺมณสฺส, เตน วา ภาสิตพฺพอตฺถสฺส. ปูเร ปุณฺณภาเว. ปูเรติ จ ปุริมสฺมึ อตฺเถ อาธาเร ภุมฺมํ, ทุติยสฺมึ วิสเย. สุขุมาลตฺตเนนาติ อิมินา ตสฺสา วาจาย มุทุสณฺหภาวมาห. อปลิพุทฺธาย ปิตฺตเสมฺหาทีหิ. สนฺทิฏฺํ สพฺพํ ทสฺเสตฺวา วิย เอกเทสกถนํ. วิลมฺพิตํ สณิกํ จิรายิตฺวา กถนํ. ‘‘สนฺทิทฺธวิลมฺพิตาที’’ติ วา ปาโ. ตตฺถ สนฺทิทฺธํ สนฺเทหชนกํ. อาทิ-สทฺเทน ขลิตานุกฑฺฒิตาทึ สงฺคณฺหาติ. อาทิมชฺฌปริโยสานํ ปากฏํ กตฺวาติ อิมินา จสฺส วาจาย อตฺถปาริปูรึ วทนฺติ.
๔๒๕. สทิสาติ เอกเทเสน สทิสา. น หิ พุทฺธานํ คุเณหิ สพฺพถา สทิสา เกจิปิ คุณา อฺเสุ ลพฺภนฺติ. อิตเรติ อตฺตโน คุเณหิ อสทิสคุเณ. อิทนฺติ อิทํ อตฺถชาตํ. โคปทกนฺติ คาวิยา ปเท ิตอุทกํ. กุลปริยาเยนาติ กุลานุกฺกเมน.
ตตฺถาติ ¶ มฺจเก. สีหเสยฺยํ กปฺเปสีติ ยถา ราหุ อสุรินฺโท อายามโต วิตฺถารโต อุพฺเพธโต จ ภควโต รูปกายสฺส ปริจฺเฉทํ คเหตุํ น สกฺโกติ, ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขโรนฺโต สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ.
ปริสุทฺธฏฺเน อริยนฺติ อาห ‘‘อริยํ อุตฺตมํ ปริสุทฺธ’’นฺติ. อนวชฺชฏฺเน กุสลํ, น สุขวิปากฏฺเน. กตฺถจิ จตุราสีติ ปาณสหสฺสานิ กตฺถจิ อปริมาณาปิ เทวมนุสฺสา ยสฺมา จตุวีสติยา าเนสุ อสงฺขฺเยยฺยา อปริเมยฺยา มคฺคผลามตํ ปิวนฺติ. โกฏิสตสหสฺสาทิปริมาเณนปิ พหู เอว. ตสฺมา อนุตฺตราจารสิกฺขาปนวเสเนว ภควา พหูนํ อาจริโย. เตติ กามราคโต อฺเ ภควตา ปหีนกิเลเส.
อปาปปุเรกฺขาโรติ อปาเปหิ ปุรกฺขรียติ, น วา ปาปํ ปุรโต กโรตีติปิ อปาปปุเรกฺขาโรติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปาเป นว โลกุตฺตรธมฺเม’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อปาเปติ ปาปปปฏิปกฺเข ปาปรหิเต จ. พฺรหฺมนิ ภวา, พฺรหฺมุโน วา หิตา ครุกรณาทินา, พฺรหฺมานํ วา มคฺคํ ชานาตีติ พฺรหฺมฺา, ตสฺสา พฺรหฺมฺาย ปชาย.
ติโรรฏฺา ¶ ติโรชนปทาติ เอตฺถ รชฺชํ รฏฺํ ราชนฺติ ราชาโน เอเตนาติ กตฺวา. ตเทกเทสภูตา ปเทสา ปน ชนปโท ชนา ปชฺชนฺติ เอตฺถ สุขชีวิกํ ปาปุณนฺตีติ กตฺวา. ปุจฺฉาย โทสํ สลฺลกฺเขตฺวาติ สมฺพนฺโธ. ภควา วิสฺสชฺเชติ เตสํ อุปนิสฺสยสมฺปตฺตึ จินฺเตตฺวาติ อธิปฺปาโย. นวกาติ อาคนฺตุกภาเวน อมฺหากํ อภินวา.
๔๒๖. โอปาเตติ นิปฺปาเตตีติ อตฺโถ. ตถาภูโต จ ตตฺถ เปสิตา โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปเวเสตี’’ติ. สํปุรกฺขโรนฺตีติ สกฺกจฺจํ ปุพฺพงฺคมํ กโรนฺติ. เตนาห ‘‘ปุรโต กตฺวา วิจรนฺตี’’ติ.
๔๒๗. สุทฺเท พหิ กตฺวา รโห สาสิตพฺพฏฺเน มนฺตา เอว ตํตํอตฺถปฏิปตฺติเหตุตาย ปทนฺติ มนฺตปทํ เวทํ. เตนาห ‘‘เวโท’’ติ. เอวํ กิราติ ปรมฺปรภาเวน อาภตนฺติ อาจริยปรมฺปราย อาภตํ. ปาวจนสงฺขาตสมฺปตฺติยาติ ¶ ปมุขวจนมฺหิ อุทตฺตาทิสมฺปตฺติยา. สาวิตฺติอาทีหิ ฉนฺทพนฺเธหิ วคฺคพนฺเธหิ จาติ คายตฺตีอาทีหิ อชฺฌายานุวากาทีหิ ฉนฺทพนฺเธหิ จ วคฺคพนฺเธหิ จ. สมฺปาเทตฺวาติ ปทสมฺปตฺตึ อหาเปตฺวา. ปวตฺตาโรติ วา ปาวจนวเสน วตฺตาโร. สชฺฌายิตนฺติ คายนวเสน สชฺฌายิตํ, ตํ ปน ปเทเนว อิจฺฉิตนฺติ อาห ‘‘ปทสมฺปตฺติวเสนา’’ติ. อฺเสํ วุตฺตนฺติ ปาวจนวเสน อฺเสํ วุตฺตํ. ราสิกตนฺติ อิรุเวทยชุเวทสามเวทาทิวเสน, ตตฺถาปิ ปจฺเจกํ มนฺตพฺรหฺมาทิวเสน อชฺฌายานุวากาทิวเสน ราสิกตํ. ทิพฺเพน จกฺขุนา โอโลเกตฺวาติ ทิพฺพจกฺขุปริภณฺเฑน ยถากมฺมูปคาเณน สตฺตานํ กมฺมสฺสกตํ, ปจฺจกฺขโต ทสฺสนฏฺเน ทิพฺพจกฺขุสทิเสน ปุพฺเพนิวาสาเณน อตีตกปฺเป พฺราหฺมณานํ มนฺตชฺเฌนวิธิฺจ โอโลเกตฺวา. ปาวจเนน สห สํสนฺเทตฺวาติ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ยํ วจนํ วฏฺฏสนฺนิสฺสิตํ, เตน สห อวิรุทฺธํ กตฺวา. น หิ เตสํ วิวฏฺฏสนฺนิสฺสิโต อตฺโถ ปจฺจกฺโข โหติ. อปราปเรติ อฏฺกาทีหิ อปราปเร, ปจฺฉิมา โอกฺกากราชกาลาทีสุ อุปฺปนฺนา. ปกฺขิปิตฺวาติ อฏฺกาทีหิ คนฺถิตมนฺตปเทสุ กิเลสสนฺนิสฺสิตปทานํ ตตฺถ ตตฺถ ปเท ปกฺขิปนํ กตฺวา. วิรุทฺเธ อกํสูติ พฺราหฺมณธมฺมิกสุตฺตาทีสุ (ขุ. นิ. พฺราหฺมณธมฺมิกสุตฺตํ) อาคตนเยเนว สํกิเลสิกตฺถทีปนโต ปจฺจนีกภูเต อกํสุ.
๔๒๘. ปฏิปาฏิยา ฆฏิตาติ ปฏิปาฏิยา สมฺพทฺธา. ปรมฺปรสํสตฺตาติ อาทานิยาย ยฏฺิยา สํสตฺตา. เตนาห ‘‘ยฏฺิคฺคาหเกน จกฺขุมตา’’ติ. ปุริมสฺสาติ มณฺฑลากาเรน ิตาย อนฺธเวณิยา สพฺพปุริมสฺส หตฺเถน สพฺพปจฺฉิมสฺส กจฺฉํ คณฺหาเปตฺวา. ทิวสมฺปีติ อเนกทิวสมฺปิ ¶ . จกฺขุสฺส อนาคตภวํ ตฺวา ยถาอกฺกนฺตฏฺาเนเยว อนุปติตฺวา อกฺกมนํว สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘กหํ จกฺขุมา กหํ มคฺโค’’ติ ปริเวทิตฺวา.
ปาฬิอาคเตสุ ทฺวีสูติ สทฺธา อนุสฺสโวติ อิเมสุ ทฺวีสุ. เอวรูเปติ ยถา สทฺธานุสฺสวา, เอวรูเป เอว ปจฺจกฺขคาหิโนติ อตฺโถ. ตโยติ รุจิอาการปริวิตกฺกทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติโย. ภูตวิปากาติ ภูตตฺถนิฏฺายกา อธิปฺเปตตฺถสาธกา, วุตฺตวิปริยาเยน อภูตตฺถวิปากา เวทิตพฺพา ¶ . เอตฺถาติ เอเตสุ สทฺธายิตาทิวตฺถูสุ. เอกํเสเนว นิฏฺํ คนฺตุํ นาลํ อเนกนฺติกตฺตา สทฺธาทิคฺคาหสฺส. อุปริ ปุจฺฉาย มคฺคํ วิวริตฺวา เปสิ สจฺจานุรกฺขาย าตุกามตาย อุปฺปาทิตตฺตา. ปสฺสติ หิ ภควา – มยา ‘‘สจฺจมนุรกฺขตา…เป… นิฏฺํ คนฺตุ’’นฺติ วุตฺเต สจฺจานุรกฺขณํ าตุกาโม มาณโว ‘‘กิตฺตาวตา’’ติอาทินา ปุจฺฉิสฺสติ, ตสฺส ตํ วิสฺสชฺเชตฺวา สจฺจานุโพเธ ปุจฺฉาย อวสรํ ทตฺวา ตสฺส อุปนิสฺสเย อุปการธมฺเม กเถสฺสามีติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อุปริ ปุจฺฉาย มคฺคํ วิวริตฺวา เปสี’’ติ.
๔๓๐. อตฺตานฺเว สนฺธาย วทติ, ยโต วุตฺตํ ปาฬิยํ – ‘‘ยํ โข ปนายมายสฺมา ธมฺมํ เทเสติ, คมฺภีโร โส ธมฺโม ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ’’ติอาทิ. ลุพฺภนฺตีติ โลภนียา ยถา ‘‘อปายคมนียา’’ติ อาห ‘‘โลภนีเยสุ ธมฺเมสูติ โลภธมฺเมสู’’ติ. ยถา วา รูปาทิธมฺมา โลภนียา, เอวํ โลโภติ อาห ‘‘โลภนีเยสุ ธมฺเมสูติ โลภธมฺเมสู’’ติ. เตเนวาห – ‘‘ยํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๔๐๐; ม. นิ. ๑.๑๓๓; วิภ. ๒๐๓). เอเส นโย เสสปททฺวเยปิ.
๔๓๒. นิเวเสตีติ เปติ ปฏฺเปติ. ปยิรุปาสตีติ อุปฏฺานวเสน อุปคนฺตฺวา นิสีทติ. สุยฺยติ เอเตนาติ โสตนฺติ อาห ‘‘ปสาทโสต’’นฺติ. ตฺหิ สวนาย โอทหิตพฺพนฺติ. ธาเรติ สนฺธาเรติ ตตฺเถว มนํ เปติ. อตฺถโตติ ยถาวุตฺตสฺส ธมฺมสฺส อตฺถโต. การณโตติ ยุตฺติโต เหตุทาหรเณหิ อุปปตฺติโต. โอโลกนนฺติ เอวเมตนฺติ ยถาสภาวโต ปฺาจกฺขุนา ทฏฺพฺพตํ ขมนฺติ, ตฺจ มหนฺตสฺส มณิโน ปชฺชลนฺตสฺส วิย อาวิกตฺวา อตฺถสฺส จิตฺเต อุปฏฺานนฺติ อาห ‘‘อิธา’’ติอาทิ. กตฺตุกมฺยตาฉนฺโทติ กตฺตุกามตาสงฺขาโต กุสลจฺฉนฺโท. วายมตีติอาทิโต จตุนฺนมฺปิ วีริยานํ วเสน วายามํ ปรกฺกมํ กโรติ. มคฺคปธานํ ปทหตีติ มคฺคาวหํ มคฺคปริยาปนฺนฺจ สมฺมปฺปธานํ ปทหติ, ปทหนวเสน ตํ ปริปูเรติ. ปรมสจฺจนฺติ อโมฆธมฺมตฺตา ปรมตฺถสจฺจํ. สหชาตนามกาเยนาติ มคฺคปฺาสหชาตนามกาเยน ¶ . ตเทวาติ ตเทว ปรมสจฺจํ นิพฺพานํ. เตเนวาห – ‘‘สจฺฉิกิริยาภิสมเยน วิภูตํ ปากฏํ กโรนฺโต ปสฺสตี’’ติ.
๔๓๓-๔. มคฺคานุโพโธติ ¶ มคฺคปฏิปาฏิยา โพโธ พุชฺฌนํ, เยสํ กิเลสานํ สมุจฺฉินฺทนวเสน มคฺคปฺปฏิเวโธ, เตสํ ปฏิปสฺสมฺภนวเสน ปวตฺตมานํ สามฺผลํ, มคฺเคน ปฏิวิทฺธานิ สจฺจานิ, ปรมตฺถสจฺจเมว วา อนุรูปพุชฺฌนนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘สจฺจานุปฺปตฺตีติ ผลสจฺฉิกิริยา’’ติ วุตฺตํ. เอวฺหิ สติ เหฏฺา วุตฺตา สทฺธาปฏิลาภาทโย ทฺวาทส ธมฺมา สจฺจานุปฺปตฺติยา อุปการา โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เตสํเยวาติ เหฏฺา วุตฺตานํ ทฺวาทสนฺน’’นฺติ. นายํ ‘‘เตสํเยวา’’ติ ปทสฺส อตฺโถ. สติปิ กุสลวิปากาทิภาเวน นานตฺเต วตฺถารมฺมณภูมิกิจฺจาทิวเสน ปน สทิสาติ อุปายโตว มคฺคธมฺมา อาเสวิตา พหุลีกตา ผลภูตาติ วตฺตพฺพตํ อรหตีติ ตํสทิเส ตพฺโพหารํ กตฺวา ‘‘เตสํ มคฺคสมฺปยุตฺตธมฺมาน’’นฺติ วุตฺตํ. เอวฺหิ อาเสวนาคหณํ สมตฺถิตํ, น อฺถา. น หิ เอกจิตฺตกฺขณิกานํ มคฺคธมฺมานํ อาเสวนา, พหุลีกมฺมํ วา อตฺถีติ. ตุลนาติ วิปสฺสนา. สา หิ วุฏฺานคามินิภูตา มคฺคปฺปธานสฺส พหุการา ตสฺส อภาเว มคฺคปฺปธานสฺเสว อภาวโต, เอวํ อุสฺสาโห ตุลนาย ฉนฺโท อุสฺสาหสฺส พหุกาโรติอาทินา เหฏฺิมสฺส อุปริมูปการตํ สุวิฺเยฺยเมวาติ อาห – ‘‘อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
จงฺกีสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๖. เอสุการีสุตฺตวณฺณนา
๔๓๗. โกฏฺาสนฺติ ¶ มํสภาคํ. ลคฺคาเปยฺยุนฺติ นฺหารุนา วา วาเกน วา พนฺธิตฺวา ปุริสสฺส หตฺเถ วา วสนเคเห วา โอลมฺพนวเสน พนฺเธยฺยุํ. สตฺถธมฺมนฺติ สตฺถิเกสุ สตฺถวาเหน ปเณตพฺพํ อาณาธมฺมํ. ตสฺส นิกฺขมนตฺถนฺติ ตํ มูลํ สตฺถิเกหิ นิตฺถรณตฺถํ. ปาปํ อสฺสาติ ปริจรนฺตสฺส ปาริจริยาย อหิตํว อสฺส. เตนาห ‘‘น เสยฺโย’’ติ. อุจฺจกุลีนาทโย ทุติยวาราทีหิ วุจฺจนฺติ, อิธ อุปธิวิปตฺติสมฺปตฺติโย ปาปิยาทิปเทหิ วุตฺตาติ อธิปฺปาโย. เตนาห – ‘‘ปาปิโยติ ปาปโก ลามโก อตฺตภาโว อสฺสา’’ติ. เสยฺยํโสติ หิตโกฏฺาโส, หิตสภาโวติ อตฺโถ. อุจฺจกุลีนตาติ กรณตฺเถ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘อุจฺจากุลีนตฺเตนา’’ติ. ‘‘วณฺโณ น ขีเยถ ตถาคตสฺสา’’ติอาทีสุ ¶ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๓๐๕; ๓.๑๔๑; ม. นิ. อฏฺ. ๒.๔๒๕; อุทา. ๕๓; อป. อฏฺ. ๒.๗.๒๐; พุ. วํ. อฏฺ. ๔.๔; จริยา. อฏฺ. ๑.นิทานกถา; ๒.ปกิณฺณกกถา; ที. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; สํ. นิ. ฏี. ๑.๒.๑; อ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑; วชิร. ฏี. คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; สารตฺถ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; เนตฺติ. ฏี. คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; ม. นิ. ฏี. ๑.๑) วิย วณฺณสทฺโท อิธ ปสํสาปริยาโยติ อาห ‘‘เวสฺโสปิ หิ อุฬารวณฺโณ โหตี’’ติ.
๔๔๐. ‘‘นิรโว ปทสทฺโท โสฬารโคตฺตสฺส อกิณฺณมตฺติกาปตฺโต ติฏฺเยฺย อสงฺคจารี’’ติ วุตฺตตฺตา ภิกฺขา จริตพฺพาว, อยํ เตสํ กุลธมฺโมติ อธิปฺปาโย. หริตฺวาติ อปเนตฺวา. สตฺตชีโว สตฺตวาณิชโก. โคเปติ รกฺขตีติ โคโป, อารกฺขาธิกาเร นิยุตฺโต. อสนฺติ ลูนนฺติ เตนาติ อสิตํ, ลวิตฺตํ. วิวิธํ ภารํ อาภฺชนฺติ โอลมฺพนฺติ เอตฺถาติ พฺยาภงฺคี, กาชํ.
๔๔๑. อนุสฺสรโตติ อนุสฺสรณเหตุ กุลวํสานุสฺสรณกฺขเณ ขตฺติโยติอาทินา สงฺขฺยํ คจฺฉติ. เตนาห ‘‘โปราเณ…เป… อนุสฺสริยมาเน’’ติ. อุจฺจนีจตฺตชานนตฺถฺจ กุลววตฺถานํ กตํ โหตีติ ขตฺติยาทิกุลกมฺมุนา เตสํ จตุนฺนํ วณฺณานํ สนฺธนํ ชีวิกํ ปฺเปนฺติ พฺราหฺมณา, ตถาคโต ปน โลกุตฺตรธมฺมเมว ปุริสสฺส สนฺธนํ ปฺเปติ เตน สตฺตสฺส โลกคฺคภาวสิทฺธิโต. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
เอสุการีสุตฺตวณฺณนา ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๗. ธนฺชานิสุตฺตวณฺณนา
๔๔๕. ราชคหํ ¶ ปริกฺขิปิตฺวา ิตปพฺพตสฺสาติ ปณฺฑวปพฺพตํ สนฺธายาห. ราชคหนครสฺส ทกฺขิณทิสาภาเค ปพฺพตสฺส สมีเป ิโต ชนปโท ทกฺขิณาคิริ. ตณฺฑุลปุฏกานํ ปาลิ เอตฺถาติ ตณฺฑุลปาลิ. ตสฺส ¶ กิร ทฺวารสมีเป ตณฺฑุลวาณิชา ตณฺฑุลปสิพฺพเก วิวริตฺวา ปฏิปาฏิยา เปตฺวา นิสีทนฺติ, เตนสฺส ‘‘ตณฺฑุลปาลิทฺวาร’’นฺติ สมฺา อโหสิ. สพฺพเมว สสฺสํ คณฺหาตีติ ทลิทฺทกสฺสกานํ ทิวสปริพฺพยมตฺตเมว วิสฺสชฺเชตฺวา สพฺพเมว อายโต นิปฺผนฺนํ ธฺํ คณฺหาติ. มนฺทสสฺสานีติ มนฺทนิปฺผตฺติกานิ สสฺสานิ.
๔๔๖. อิมินา นเยนาติ ทาสกมฺมกรสฺส นิวาสนภตฺตเวตฺตนานุปฺปทาเนน มงฺคลทิวเสสุ ธนวตฺถาลงฺการานุปฺปทานาทินา จ โปเสตพฺโพ. มิตฺตามจฺจานํ ปิยวจนอตฺถจริยาสมานตฺตตาทิ มิตฺตามจฺจกรณียํ กตฺตพฺพํ, ตถา าติสาโลหิตานํ. ตตฺถ อาวาหวิวาหสมฺพทฺเธน ‘‘อมฺหากํ อิเม’’ติ ายนฺตีติ าตี, มาตาปิตาทิสมฺพทฺธตาย สมานโลหิตาติ สาโลหิตา. สมฺมา ททนฺเตสุปิ อสชฺชนโต นตฺถิ เอเตสํ ติถีติ อติถิ, เตสํ อตฺตนา สมานปริโภควเสน อติถิกรณียํ กาตพฺพํ, อติถิพลีติ อตฺโถ. าตกภูตปุพฺพา เปตฺติวิสยํ อุปคตา ปุพฺพเปตา, ทกฺขิเณยฺเยสุ กาเลน กาลํ ทานํ ทตฺวา เตสํ อุทฺทิสนํ ปุพฺพเปตกรณียํ, เปตพลีติ อตฺโถ. คนฺธปุปฺผวิเลปนชาลาภตฺเตหิ กาเลน กาลํ เทวตานํ ปูชา เทวตากรณียํ, เทวตาพลีติ อตฺโถ, ราชกิจฺจกรณํ อุปฏฺานํ ราชกรณียํ. อยมฺปิ กาโยติ อตฺตโน กายํ สนฺธาย วทติ. อิมมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติ.
๔๔๗. ปฺจ ทุสฺสีลฺยกมฺมานีติ นิจฺจสีลปฏิปกฺขธมฺมา. ทส อกุสลกมฺมปถธมฺมา ทส ทุสฺสีลฺยกมฺมานิ. อธมฺมจารี เอว วิสมจารี กายวิสมาทิจรณโตติ วิสมจารีปทสฺส อตฺโถ วิสุํ น วุตฺโต.
๔๔๘-๔๕๓. โอสรนฺติ ¶ อปสกฺกนฺติ, ขียนฺตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปริหายนฺตี’’ติ. อภิสรนฺตีติ อภิวฑฺฒนวเสน ปวตฺตนฺติ. เตนาห ‘‘วฑฺฒนฺตี’’ติ. ตตฺราติ พฺรหฺมโลเก. อสฺสาติ พฺรหฺมโลเก อุปฺปนฺนสฺส ธนฺชานิสฺส. ตโต ปฏฺายาติ ยทา ภควตา ‘‘เอโส, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตโต ปฏฺาย. จตุสจฺจวินิมุตฺตนฺติ นิทฺธาเรตฺวา วิภชิตฺวา วุจฺจมาเนหิ สจฺเจหิ วิมุตฺตํ. อตฺถโต ปน ตโต ปุพฺเพปิ สจฺจวิมุตฺตํ กถํ น กเถสิเยว สจฺจวิมุตฺตสฺส นิยฺยานสฺส อภาวโต.
ธนฺชานิสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๘. วาเสฏฺสุตฺตวณฺณนา
๔๕๔. ชาตึ ¶ ¶ โสเธตุกามา โหนฺตีติ สหวาสีนํ พฺราหฺมณานํ กิริยา ปราเธน วา อสารุปฺปตฺเตน วา ชาติยา อุปกฺกิเลสํ อาสงฺกาย ตํ โสเธตุกามา โหนฺติ. มนฺเต โสเธตุกามา โหนฺตีติ มนฺตวจเน อาจริยมติโจทนาย อฺเน วากฺเยน เกนจิ การเณน สํสเย อุปฺปนฺเน ตํ โสเธตุกามา โหนฺติ. อนฺตราติ เวมชฺเฌ, อฺตฺเถวา อนฺตราสทฺโทติ ตสฺส อฺา กถาติ วจนํ อวคนฺตพฺพํ. ขนฺตีเมตฺตานุทฺทยาทิคุณสมฺปนฺโน เอว ‘‘สีลวาติ คุณวา’’ติอาห. เตหิ สีลสฺส วิสฺสชฺชนกาเลปิ ‘‘สีลวา’’ติ วุจฺจติ. สมฺปนฺนสีลตฺตา วา เตหิ สมนฺนาคโต เอว โหตีติ อาห ‘‘สีลวาติ คุณวา’’ติ. อาจารสมฺปนฺโนติ สาธุ อาจารวตฺโต.
๔๕๕. สิกฺขิตาติ เตวิชฺชานํ สิกฺขิตา ตุมฺเห, น ทานิ ตุมฺเหหิ กิฺจิ กตฺตพฺพํ อตฺถีติ อตฺโถ. ปฏิฺาตาติ ปฏิชานิตฺวา ิตา.
เวทตฺตยสงฺขาตา ติสฺโส วิชฺชา อชฺฌยนฺตีติ เตวิชฺชา. เตนาห ‘‘ติเวทาน’’นฺติ. ตโย เวเท อณนฺติ อชฺฌยนฺตีติ พฺราหฺมณา, เตสํ. ยํ เอกํ ปทมฺปิ อกฺขาตํ, ตํ อตฺถโต พฺยฺชนโต จ เกวลิโน อธิยิโน อปฺปปโยเคน. นิฏฺาคตมฺหาติ นิปฺผตฺตึ คตา อมฺหา เตวิชฺชาย สกสมยสฺส กถเน.
มโนกมฺมโต หิ วตฺตสมฺปทาติการณูปจาเรนายมตฺโถ วุตฺโตติ อาห – ‘‘เตน สมนฺนาคโต หิ อาจารสมฺปนฺโน โหตี’’ติ.
ขยาตีตนฺติ วฑฺฒิปกฺเข ิตนฺติ อตฺโถ. สุกฺกปกฺขปาฏิปทโต ปฏฺาย หิ จนฺโท วฑฺฒตีติ วุจฺจติ, น ขียตีติ. วนฺทมานา ชนา นมกฺการํ กโรนฺติ.
อตฺถทสฺสเนนาติ วิวรเณน ทสฺสนปริณายกฏฺเน โลกสฺส จกฺขุ หุตฺวา สมุปฺปนฺนํ.
๔๕๖. ติฏฺตุ ตาว พฺราหฺมณจินฺตาติ – ‘‘กึ ชาติยา พฺราหฺมโณ โหติ อุทาหุ ภวติ กมฺมุนา’’ติ อยํ พฺราหฺมณวิจาโร ตาว ติฏฺตุ ¶ . ชาติทสฺสนตฺถํ ติณรุกฺขกีฏปฏงฺคโต ปฏฺาย โลเก ¶ ชาติวิภงฺคํ วิตฺถารโต กเถสฺสามีติ เตสํ จิตฺตสมฺปหํสนตฺถํ เทเสตพฺพมตฺถํ ปฏิชานาติ. ตตฺถ อฺมฺา หิ ชาติโยติ อิทํ การณวจนํ, ยสฺมา อิมา ชาติโย นาม อฺมฺํ วิสิฏฺา, ตสฺมา ชาติวิภงฺคํ พฺยากริสฺสามีติ.
ยสฺมา อิธ อุปาทินฺนกชาติ พฺยากาตพฺพภาเวน อาคตา, ตสฺสา ปน นิทสฺสนภาเวน อิตรา, ตสฺมา ‘‘ชาติวิภงฺคํ ปาณาน’’นฺติ ปาฬิยํ วุตฺตํ. เตสํ เตสํ ปาณานํ ชาติโยติ อตฺโถ. เอวนฺติ นิทสฺสนํ กเถตฺวา นิทสฺสิตพฺเพ กถิยมาเน. ตสฺสาติ วาเสฏฺสฺส. กามํ ‘‘เตสํ โวหํ พฺยกฺขิสฺส’’นฺติ อุโภปิ มาณเว นิสฺสาย เทสนา อาคตา, ตถาปิ ตตฺถ ตตฺถ ‘‘เอวํ, วาเสฏฺ, ชานาหี’’ติอาทินา วาเสฏฺเมว อาลปนฺโต ภควา ตเมว อิมินา นิยาเมน ปมุขํ อกาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตสฺสาติ วาเสฏฺสฺสา’’ติ. ชาติเภโท ชาติวิเสโส, ชาติยา เภโท ปากโฏ ภวิสฺสติ นิทสฺสเนน วิภูตภาวํ อาปาทิเตน ปฏิฺาตสฺส อตฺถสฺส วิภูตภาวาปตฺติโต. อาม น วฏฺฏตีติ กมฺมนานตาย เอว อุปาทินฺนนานตาย ปฏิกฺเขปปทเมตํ, น พีชนานตาย อนุปาทินฺนนานตาย ปฏิกฺเขปปทนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘กมฺมํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ – ตํตํโยนิขิปนมตฺตํ กมฺมสฺส สามตฺถิยํ, ตํตํโยนินิยตา ปน เย วณฺณวิเสสา, เต ตํตํโยนิสิทฺธิยาว สิทฺธา โหนฺตีติ ตํ ปน โยนิขิปนกมฺมํ ตํตํโยนิวิสิฏฺ-วิเสสาภิภูตาย ปโยคนิปฺผตฺติยา, อสํมุจฺฉิตาย เอว วา ปจฺจยภูตาย ภวปตฺถนาย อภิสงฺขตเมวาติ วิฺาตพฺพปจฺจยวิเสเสน วินา ผลวิเสสาภาวโต เอตํ สมีหิตกมฺมํ ปตฺถนาทีหิ จ ภินฺนสตฺติตํ วิสิฏฺสามตฺถิยํ วา อาปชฺชิตฺวา จกฺขุนฺทฺริยาทิวิสิฏฺผลนิพฺพตฺตกํ ชายติ, เอวํ โยนิขิปนตํโยนินิยตวิเสสาวหตา โหตีติ. เถเรน หิ พีชนานตา วิย กมฺมนานตาปิ อุปาทินฺนกนานตาย สิยา นุ โข ปจฺจโยติ โจทนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปจฺจยวิเสสวิสิฏฺา กมฺมนานตา ปน ปจฺจโยติ นิจฺฉิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
นานาวณฺณาติ นานปฺปการวณฺณา. ตาลนาฬิเกราทีนํ โลเก อภิฺาตติณชาติภาวโต วิเสเสน คยฺหติ อภิฺาตโสตนเยน. ชาติยา พฺราหฺมโณวาติ อฏฺานปยุตฺโต เอว-สทฺโท, ชาติยาว ¶ พฺราหฺมโณ ภเวยฺยาติ โยชนา. น จ คยฺหตีติ ติณรุกฺขาทีสุ วิย พฺราหฺมเณสุ ชาตินิยตสฺส ลิงฺคสฺส อนุปลพฺภนโต, ปิวนภฺุชนกถนหสนาทิกิริยาย พฺราหฺมณภาเวน เอกนฺติกลิงฺคนิยตาย มนฺตชฺเฌนาทึ วินา อนุปลพฺภนโต จ. วจีเภเทเนวาติ อาหจฺจวจเนเนว.
กีเฏ ปฏงฺเคติอาทีสุ ชาตินานตา ลพฺภติ อฺมฺลิงฺควิสิฏฺตาทสฺสนา. กุนฺถา กีฏกา ¶ , ขชฺชขาทกา กิปิลฺลิกา. อุปฺปติตฺวาติ อุฑฺเฑตฺวา อุฑฺเฑตฺวา. ปฏภาวํ คจฺฉนฺตีติ วา ปฏงฺคา, น ขุทฺทกปาณกา กีฏา นาม. เตสมฺปิ กีฏกานํ.
กาฬกาทโยติ กลนฺทกาทโย.
อุทรํเยว เนสํ ปาทา อุทเรเนว สมฺปชฺชนโต.
สฺาปุพฺพโก วิธิ อนิจฺโจติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุทเก’’ติ อาห ยถา ‘‘วีรสฺส ภาโว วีริย’’นฺติ.
ปตฺตสมุทาเย ปกฺขสทฺโทติ ‘‘ปตฺเตหิ ยนฺตี’’ติ วุตฺตํ. น หิ อวยวพฺยติเรเกน สมุทาโย อตฺถิ.
สงฺเขเปน วุตฺโต ‘‘ชาติวเสน นานา’’ติอาทินา. เอตฺถ ปทตฺเถ ทุพฺพิฺเยฺยํ นตฺถีติ สมฺพนฺธมตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺรายํ โยชนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘น หิ พฺราหฺมณานํ เอทิสํ สีสํ โหติ, ขตฺติยานํ เอทิสนฺติ นิยโม อตฺถิ ยถา หตฺถิอสฺสมิคาทีน’’นฺติ อิทเมว วากฺยํ สพฺพตฺถ เนตพฺพํ. ตํ สํงฺขิปิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมินา นเยน สพฺพํ โยเชตพฺพ’’นฺติ อาห.
ตสฺสาติ ยถาวุตฺตนิคมนวจนสฺส อยํ โยชนา อิทานิ วุจฺจมานา โยชนา เวทิตพฺพา.
๔๕๗. โวการนฺติ โวกรณํ, เยน วิสิฏฺตาย น โวกรียติ ชาติเภโทติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘นานตฺต’’นฺติ.
โครกฺขาทิอุปชีวเนน อาชีววิปนฺโน, หึสาทินา สีลวิปนฺโน, นิกฺขิตฺตวตฺตตาทินา อาจารวิปนฺโนติ. สามฺโชตนา วิเสเส นิวิฏฺา โหตีติ อาห ‘‘โครกฺขนฺติ เขตฺตรกฺข’’นฺติ. ‘‘โคติ หิ ปถวิยา นาม’’นฺติ. เตหิ เตหิ อุปาเยหิ สิกฺขิตพฺพฏฺเน สิปฺปํ, ตตฺถ โกสลฺลํ. ปเรสํ ¶ อีสนฏฺเน หึสนฏฺเน อิสฺโส, โส อสฺส อตฺถีติ อิสฺโส โยธาชีวิโก, อิสฺสสฺส กมฺมํ ปหรณํ, อุสุํ สตฺติฺจ นิสฺสาย ปวตฺตา ชีวิกา อิสฺสตฺตํ. เตนาห ‘‘อาวุธชีวิก’’นฺติ. ยํ นิสฺสาย อสฺส ชีวิกา, ตเทว ทสฺเสตุํ ‘‘อุสฺุจ สตฺติฺจา’’ติ วุตฺตํ.
พฺรหฺมํ ¶ วุจฺจติ เวโท, ตํ อณติ ชานาตีติ พฺราหฺมโณ, ชานนฺจ โปราเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิหิตนิยาเมน พฺราหฺมเณหิ กโตปสเมน อนุฏฺานตเปน ยถา ‘‘อาชีวสีลาจารวิปนฺโน นตฺถี’’ติ พฺราหฺมณธมฺมิเกหิ โลกิยปณฺฑิเตหิ จ สมฺปฏิจฺฉิโต, ตถา ปฏิปชฺชนเมวาติ อาห ‘‘เอวํ พฺราหฺมณสมเยน…เป… สาเธตฺวา’’ติ. เอวํ สนฺเตติ เอวํ อาชีวสีลาจารวิปนฺนสฺส อพฺราหฺมณภาเว สติ น ชาติยา พฺราหฺมโณ โหติ, คุเณหิ ปน อาชีวสีลาจารสมฺปตฺติสงฺขาเตหิ พฺราหฺมโณ โหติ, ตสฺมา คุณานํเยว พฺราหฺมณภาวกรณโต จตุวณฺณวิภาเค ยตฺถ กตฺถจิ กุเล ชาโต โย สีลาทิคุณสมฺปนฺนตาย คุณวา, โส วุตฺตลกฺขเณน นิปฺปริยายโต พาหิตปาปตาย พฺราหฺมโณติ อยเมตฺถ พฺราหฺมณภาเว าโยติ, เอวํ ายํ อตฺถโต อาปนฺนํ กตฺวา. นนฺติ ตเมว ยถาวุตฺตํ ายํ. โย พฺราหฺมณสฺส สํวณฺณิตายาติ มาตุยา อุภโตสุชาตตาทิกุลวณฺเณน สํวณฺณิตาย ปสตฺถาย ยถารูปาย พฺราหฺมณสฺส มาตา ภวิตุํ ยุตฺตา, ตถารูปาย มาตริสมฺภูโต. เอเตน จตุนฺนํ โยนีนํ ยตฺถ กตฺถจิ วิเสสนิฏฺา กตา. เตนาห ‘‘ตตฺราปิ วิเสเสนา’’ติ. เอวํ สามฺโต วิเสสนิฏฺาวเสน ‘‘โยนิชํ มตฺติสมฺภว’’นฺติ ปทสฺส อตฺถํ วตฺวา อิทานิ สามฺโชตนํ อนาทิยิตฺวา วิเสสโชตนาวเสเนว อตฺถํ วตฺตุํ ‘‘ยาจาย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปริสุทฺธอุปฺปตฺติมคฺคสงฺขาตา โยนิ วุตฺตาติ อนุปกฺกุฏฺภาเวน ปริสุทฺธอุปฺปตฺติมคฺคสงฺขาตา ยา จายํ โยนิ วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ. ตโตปิ ชาตสมฺภูตตฺตาติ ตโต โยนิโต ชาตตฺตา มาตาเปตฺติสมฺปตฺติโต สมฺภูตตฺตา.
วิสิฏฺตฺตาติ สมุทายภูตา มนุสฺสา ราคาทินา วิสิฏฺตฺตา. ราคาทินา สห กิฺจเนนาติ สกิฺจโน. ตเถว ราคาทิสงฺขาเตน ปลิโพธนฏฺเน สห ปลิโพเธนาติ สปลิโพโธ. สพฺพคหณปฏินิสฺสคฺเคนาติ อุปาทานสงฺขาตสฺส สพฺพสฺส คหณสฺส ปฏินิสฺสชฺชเนน. ยสฺมา พาหิตปาโป อตฺตโน สนฺตานโต พหิกตปาโป, ตสฺมา ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณนฺติ ¶ อตฺโถ วตฺตพฺโพ. เอวรูโป เอติสฺสา กถาย อุปเทโส นานปฺปการโต วิภตฺโต, ตสฺมา ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๔๕๘. คหิตทณฺเฑสูติ ปเรสํ ทณฺเฑน วิเหนํ อนิธาย อาทินฺนทณฺเฑสุ.
๔๕๙. กิฺจิ คหณนฺติ ตณฺหาคาหาทีสุ กิฺจิ คาหํ.
เยน กามภเวน มานุสเกหิ ปฺจหิ กามคุเณหิ ยฺุชติ, ตํ มานุสกํ โยคํ. ‘‘มานุสกํ ¶ โยค’’นฺติ เอตฺถ จ เอกเทสํ คเหตฺวา วุตฺตํ, เอส นโย ‘‘ทิพฺพโยค’’นฺติ เอตฺถาปิ. สพฺพโยควิสํยุตฺตนฺติ ปททฺวเยน วุตฺเตหิ สพฺพกิเลสโยเคหิ วิปฺปยุตฺตํ.
รตินฺติ อภิรตึ อาสตฺตึ. กุสลภาวนายาติ กายภาวนาทิ กุสลธมฺมภาวนาย อุกฺกณฺิตํ. วีริยวนฺตนฺติ วีริยสพฺภาเวน วีรํ นิทฺทิสติ, วีรภาโว หิ วีริยนฺติ.
สุนฺทรํ านนฺติ นิพฺพานํ. สุนฺทราย ปฏิปตฺติยา อริยปฏิปตฺติยา.
นิพฺพตฺตินฺติ ปริโยสานํ. อตีเตติ อตีตโกฏฺาเส. กิฺจนการโกติ ปลิโพธเหตุภูโต.
อเสกฺเข สีลกฺขนฺธาทิเก มหนฺเต คุเณ. ปฺจนฺนํ มารานํ วิชิตตฺตา วิชิตวิชยํ.
๔๖๐. อิทํ อชานนฺตาติ ‘‘ชาติยา พฺราหฺมโณ’’ติ อิทํ โลกสมฺามตฺตนฺติ อชานนฺตา. เย พฺราหฺมเณสุ นามโคตฺตํ นาม ตติยํ ทิฏฺาภินิเวสํ ชเนนฺติ, สาว เนสํ ทิฏฺิ. กตํ อภิสงฺขตนฺติ ปริกปฺปนวเสเนว กตํ ปิตํ ตทุปจิตํ, น เหตุปจฺจยสมาโยเคน. สมุจฺจาติ สมฺมุติยา. กา ปน สา สมฺมุตีติ อาห ‘‘สมฺายา’’ติ, โลกสมฺาเตนาติ อตฺโถ. สมฺมา ปน ปรมตฺถโต อชานนฺตานํ นามโคตฺตํ เอวํ กปฺเปตีติ อาห ‘‘โน เจ’’ติอาทิ. ตํ ปน อสนฺตมฺปิ ปรมตฺถโต สนฺตตาเยว อภินิวิสนฺติ, เตสมยํ โทโสติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ ปกปฺปิต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เตนาห ภควา – ‘‘ชนปทนิรุตฺตึ นาภินิเวเสยฺยา’’ติ ¶ (ม. นิ. ๓.๓๓๑). อชานนฺตา โนติ เอตฺถ โน-สทฺโท อวธารณตฺโถ – ‘‘น โน สมํ อตฺถิ ตถาคเตนา’’ติอาทีสุ (ขุ. ปา. ๖.๓) วิยาติ อาห ‘‘อชานนฺตาว เอวํ วทนฺตี’’ติ.
นิปฺปริยายนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส, นิปฺปริยาเยน อุชุกเมวาติ อตฺโถ, น ปุพฺเพ วิย ‘‘โย หิ โกจี’’ติ ปริยายวเสน. ‘‘น ชจฺจา’’ติ คาถาย ปุพฺพทฺเธน ชาติวาทํ ปฏิกฺขิปนฺโต ปจฺฉิมทฺเธน กมฺมวาทํ ปติฏฺเปนฺโต. ตตฺถาติ ติสฺสํ คาถายํ. อุปฑฺฒคาถาย วิตฺถารณตฺถนฺติ อุปฑฺฒคาถาย อตฺถํ วิตฺถาเรตุํ ‘‘กสฺสโก กมฺมุนา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ปุริมาย จตูหิ ปาเทหิ, ปจฺฉิเม ทฺวีหิ ทฺวินฺนมฺปิ สาธารณโต อตฺโถ วิตฺถาริโต. ตตฺถ กสิกมฺมาทีติ อาทิ-สทฺเทน สิปฺปกมฺมวาณิชาทิ สงฺคโห.
ปฏิจฺจสมุปฺปาทปธานวจนวิฺเยฺโย ¶ ปจฺจโย ปฏิจฺจสมุปฺปาทสทฺทสฺส อตฺโถ ปจฺจยุปฺปนฺนาเปกฺขาย โหตีติ อาห – ‘‘อิมินา ปจฺจเยน เอตํ โหตี’’ติ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๕๗๐) ตํสํวณฺณนายฺจ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๒.๕๗๐) วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. สมฺมานาวมานารหกุเลติ สมฺมานารเห ขตฺติยาทิกุเล, อวมานารเห จณฺฑาลาทิกุเล กมฺมวเสน อุปปตฺติ โหติ กมฺมสฺส วิปจฺจมาโนกาสกรตาย วินา ตาทิสาย อุจฺจนีจกุลนิพฺพตฺติยา อภาวโต. อฑฺฒทลิทฺทตาทิ อฺาปิ หีนปณีตตา.
กมฺมุนาติ เจตฺถ ยถา โลกปชาสตฺตสทฺเทหิ เอโก เอวตฺโถ วุตฺโต, เอวํ เสสสทฺเทหิปิ, อธิปฺปายวิเสโส ปน ตตฺถ อตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุริมปเทน เจตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นายํ โลโก พฺรหฺมนิมฺมิโต กมฺเมน อุปฺปชฺชนโต. น หิ สนฺนิหิตการณานํ ผลานํ อฺเน อุปฺปตฺติทิฏฺิ ยุชฺชติ. เตนาห ‘‘ทิฏฺิยา ปฏิเสโธ เวทิตพฺโพ’’ติ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ ตํ วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาทีสุวุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. ตถา โลกสฺส ปมุปฺปตฺติ น พฺรหฺมุนาติ ‘‘กมฺมุนา หิ ตาสุ ตาสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตติเยน ‘‘อยํ โลโก อาทิโต ปภุติ ปภวกมฺมุนา วตฺตตี’’ติ วุตฺตมตฺถํ นิคเมติ.วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส สูจนฺหิ นิคมนํ. ตํ ปน นิยมตฺถํ โหตีติ อาห ‘‘กมฺเมเนว พทฺธา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, น อฺถา’’ติ ¶ . จตุตฺเถน ปเทน. ยายโตติ คจฺฉโต. นิพฺพตฺตโตติ นิพฺพตฺตนฺตสฺส. ปวตฺตโตติ ปวตฺตนฺตสฺส.
ธุตธมฺมา วิเสสโต ตณฺหาย สนฺตตฺตวเสน วตฺตนฺตีติ อาห ‘‘ตเปนาติ ธุตงฺคตเปนา’’ติ. เมถุนวิรติ วิเสสโต พฺราหฺมณานํ พฺรหฺมจริยนฺติ สา อิธ พฺรหฺมจริเยนาติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘พฺรหฺมจริเยนาติ เมถุนวิรติยา’’ติ. เอเตนาติ อิมินา ‘‘ตเปนา’’ติอาทีหิ จตูหิ ปเทหิ วุตฺเตน. เสฏฺเนาติ อุตฺตเมน. สํกิเลสวิสุทฺธิยา ปริสุทฺเธน. พฺรหฺมนฺติ พฺรหฺมภาวํ เสฏฺภาวํ. โส ปเนตฺถ อตฺถโต พฺราหฺมณภาโวติ อาห ‘‘พฺราหฺมณภาวํ อาวหตี’’ติ.
พฺรหฺมา จ สกฺโก จาติ สกฺกครุกานํ สกฺโก สกฺเกนปิ ครุกาตพฺพโต, พฺรหฺมครุกานํ พฺรหฺมา พฺรหฺมุนาปิ ครุกาตพฺพโต. วิชานตนฺติ ปรมตฺถพฺราหฺมณสฺส วิเสสํ ชานนฺตานํ วิฺูนํ. อวิฺุโน หิ อปฺปมาณํ. เตนาห – ‘‘ปณฺฑิตาน’’นฺติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
วาเสฏฺสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๙. สุภสุตฺตวณฺณนา
๔๖๒. ตุทิสฺาโต ¶ คาโม นิคโม เอตสฺสาติ โตเทยฺโย, ตสฺส อตฺตโช โตเทยฺยปุตฺโตติ อาห ‘‘ตุทิคามา’’ติอาทิ. อาราธโกติ สํราธโก. ธมฺมนิสนฺติ ยสฺมา สมฺปาทเนน ปริปูรเณน อิจฺฉิตา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมฺปาทโก ปริปูรโก’’ติ. ายติ นิจฺฉเยน คเมติ นิพฺพานํ, ตํ วา ายติ ปฏิวิชฺฌียติ เอเตนาติ าโย, ตโต เอตสฺส สมฺปาทกเหตุภาวโต าโย ธมฺโม อริยมคฺโค ตํ ายํ ธมฺมํ. เตนาห ‘‘การณธมฺม’’นฺติ. อนวชฺชนฺติ อวชฺชปฏิปกฺขํ.
๔๖๓. วฏฺฏจารกโต นิยฺยาตีติ นิยฺยานิกํ อีการสฺส รสฺสตฺตํ ย-การสฺส จ ก-การํ กตฺวา. นิยฺยาเน วา นิยุตฺตํ, นิยฺยานํ สีลนฺติ วา นิยฺยานิกํ, ตปฺปฏิปกฺขโต อนิยฺยานิกํ. สา ปน อตฺถโต อกุสลกิริยาติ อาห ‘‘อกุสลปฏิปท’’นฺติ.
พหุภาววาจโก ¶ อิธ มหาสทฺโท ‘‘มหาชโน’’ติอาทีสุวิยาติ อาห ‘‘มหนฺเตหิ พหูหี’’ติ. อตฺโถติ ปโยชนํ. มหนฺตานีติ พหุลานิ. กิจฺจานีติ กาตพฺพานิ. อธิกรณานีติ อธิการชีวิการูปานิ. ฆราวาสกมฺมเมว ปฺจพลิกรณทสอตฺถฏฺานภาวโต โลกยาตฺราย จ สมฺปวตฺติฏฺานภาวโต ชีวิตวุตฺติยา วา เหตุภาวโต ฆราวาสกมฺมฏฺานํ.
‘‘อปฺปเกนปิ เมธาวี, ปาภเตน วิจกฺขโณ;
สมุฏฺาเปติ อตฺตานํ, อณุํ อคฺคึว สนฺธม’’นฺติ. (ชา. ๑.๑.๔);
คาถาย วุตฺตนเยน จูฬนฺเตวาสิกสฺส วิย.
๔๖๔. อโยนิโส ปวตฺติตํ วาณิชฺชกมฺมํ วิย อปายภูตํ กสิกมฺมํ นิทสฺสนภาเว เปตฺวา อโยนิโสมนสิกรณวเสน ปวตฺตํ ฆราวาสกิจฺจํ สนฺธายาห – ‘‘ยถา กสิ…เป… เอวํ ฆราวาสกมฺมฏฺานมฺปี’’ติ. พฺราหฺมณภตฺโต อโหสีติ โส กิร พหู พฺราหฺมเณ ธนํ ทตฺวา ยฺํ กาเรสิ. อุปรีติ ‘‘อุปริ อุปฏฺาตีติ วเทหี’’ติ พฺราหฺมเณหิ อตฺตโน สมเยน อาจิกฺขาปิโตปิ ยถา อุปฏฺิตเมว กเถตฺวา กาลํ กตฺวา นิรเย นิพฺพตฺโต, อถ พฺราหฺมณา – ‘‘อิมินา ¶ อมฺหากํ ยฺเ โทโส ทินฺโน’’ติ กุชฺฌิตฺวา ตสฺส กเฬวรํ สุสานํ เนตุํ นาทํสุ. อถสฺส าตเกหิ สหสฺเส ทินฺเน ตํ สหสฺสํ คเหตฺวา เคหโต นีหริตุํ อทํสุ. กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล ฉตฺตึส อิตฺถิโย ‘‘เอกา วตฺถํ อทาสิ, เอกา คนฺธํ, เอกา สุมนมาล’’นฺติอาทินา ตํ ตํ ทานมยํ ปฺุํ กตฺวา อายุปริโยสาเน ตาวตึสภวเน สกฺกสฺส เทวรฺโ ปริจาริกา หุตฺวา นิพฺพตฺตึสุ สหสฺสอจฺฉราปริวาริกา, สกฺกสฺส เทวรฺโ เวชยนฺตรถํ เปเสตฺวา ปกฺโกสาปิเตน คุตฺติลาจริยภูเตน มหาโพธิสตฺเตน ปุจฺฉิตา ตํ ตํ อตฺตนา กตํ ปฺุํ พฺยากรึสุ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สกลาย คุตฺติลวิมานกถาย ทีเปตพฺพ’’นฺติ. วณิชฺชกมฺมฏฺานํ วิปชฺชมานนฺติ เอตฺถ ตสฺส วิปชฺชมานากาโร เหฏฺา วุตฺโต. เอวํ ปพฺพชฺชกมฺมฏฺานมฺปิ วิปชฺชมานํ อปฺปผลํ โหตีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. สีเลสุ อปริปูรการิโนติอาทิ ตสฺส วิปชฺชนาการทสฺสนํ. ฌานาทิสุขนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อภิฺาวิปสฺสนาทิสุขสฺส วิย สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธึ สีลสมฺปทาทิสุขสฺส ¶ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อรหตฺตมฺปิ ปาปุณาติ ปเคว เสกฺขปุถุชฺชนสมฺปตฺติโยติ อธิปฺปาโย.
จาคสีเสนาติ ปธานภูเตน จาเคน ทาเนน ตํ อวสฺสยํ กตฺวา. เอตฺถ เต น โกจิ อผาสุกภาโวติ. อุชุกํ กตฺวา อวิรุทฺธํ กตฺวา, สมฺปโยเชตฺวาติ อตฺโถ. ตปจริยนฺติ อคฺคิปริจรณํ, ตปจริยฺจ พฺรหฺมจริยคฺคหณา ทุฏฺุลฺลภาวโต.
๔๖๖. อชานนภาวนฺติ อสพฺพฺุภาวํ. ภควโต ปน สพฺพฺุภาโว สเทวเก โลเก ชลตเล ปกฺขิตฺตเตลํ วิย ปตฺถริตฺวา ิโต, น เม อิทํ ปติรูปํ, ตโต ปริวตฺติสฺสามีติ ‘‘พฺราหฺมโณ, โภ, โคตมา’’ติอาทิมาห. ปจฺจาหริตุํ ปฏิปกฺเขน อปหริตุํ. เสตโปกฺขรสทิโสติ ปุณฺฑรีกปตฺตสทิสวณฺโณ. สุวฏฺฏิตาติ วฏฺฏภาวยุตฺตฏฺาเน สุวฏฺฏา. นามกํเยวาติ นามมตฺตเมว วจนมตฺตเมว. ตถาภูตานํ ภาวสฺสปิ อภาเวน นิหีนํ นาม โหติ, นาม-สทฺโท นิหีนปริยาโย. เตนาห – ‘‘ลามกํเยวา’’ติ.
๔๖๗. กตมา วาจา เตสํ เสยฺโยติ เตสํ จงฺกิยาทีนํ พฺราหฺมณมหาสาลานํ วุจฺจมานวิภาคาสุ วาจาสุ กตมา วาจา เสยฺโยติ. ‘‘เสยฺยา’’ติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ. สมฺมุติยาติ อวิลงฺฆิตสาธุมริยาทาย โลกสมฺมุติยา. เตนาห ‘‘โลกโวหาเรนา’’ติ. มนฺตาติ มนฺตาสงฺขาตาย ปฺาย มนฺเตตฺวา ชานิตฺวา. เตนาห ‘‘ตุลยิตฺวา’’ติ. อตฺถสํหิตนฺติ เหตุสฺหิตํ. ตํ ปน เอกํสโต ยุตฺติยุตฺตํ โหตีติ อาห – ‘‘การณนิสฺสิต’’นฺติ. อาวุโตติอาทีสุ อาทิโต อภิมุขํ าณคติยา วิพนฺธเนน อาวุโต, อาวริเยน วิเสสโต าณคติยา ¶ นิพนฺธเนน นิวุโต, เอวํ โอผุโฏ ปลิคุณฺิโต. ปริโยนทฺโธติ สมนฺตโต โอนทฺโธ ฉาทิโต. เตนาห ‘‘ปลิเวิโต’’ติ.
๔๖๘. สเจ เอตํ การณมตฺถีติ ‘‘นิสฺสฏฺติณกฏฺุปาทาโน อคฺคิ ชลตี’’ติ เอตํ การณํ สเจ อตฺถิ ยทิ สิยา, โส อปโร ติณกฏฺุปาทาโน อคฺคิ ยทิ ภเวยฺย. สโทโส สาทีนโว สปริกฺกิเลโส. ปริสุทฺโธติ อุปกฺกิเลสาภาเวน สพฺพโส สุทฺโธ. ชาติ อาทีนํ อภาเวนาติ ชาติปจฺจยานํ กมฺมกิเลสานํ นิคฺคเมน.
๔๖๙. น ¶ นิจฺจลา ติฏฺนฺตีติ ตตฺถ ปกฺขิปิตพฺพสฺส ลพฺภมานตฺตา ยถาปฺตฺตํ หุตฺวา นิจฺจลา อกมฺปิยา น ติฏฺนฺติ. ตํ โทสํ ตํ อูนตาโทสํ.
อฺสฺมึ อสตีติ อตฺถภฺชกมุสาวาเท อสติ. โส หิ อตฺตโน สนฺตกสฺส อทาตุกามตาทิวเสน ปวตฺตสฺส อกมฺมปถปฺปตฺตสฺส มุสาวาทภาวสฺส วิปรีโต อฺโ อิธ อธิปฺเปโต. ตถา หิ อิตโร เยภุยฺเยน วฬฺชิตพฺพโต โวหริตพฺพโต วฬฺชกมุสาวาโทติ อาห. น กทาจิ มุสาวาทีติ ทฺเว กถา น กเถนฺติ. พาหิรกานํ อนวชฺชตปสมฺมตายปิ นิสฺสิโตติ วตฺตุํ อาห ‘‘สีลวา ตปนิสฺสิตโก โหติ’’ติ. วิวฏมุขา มนฺตชฺเฌนมณฺฑิตา สพฺพโส สชฺฌายา โหนฺติ, น อิตเรติ อาห ‘‘ปพฺพชิตา นิจฺจํ สชฺฌายนฺตี’’ติ.
๔๗๐. จิรํ นิกฺขนฺโตติ นิคฺคโต หุตฺวา จิรกาเล. น สพฺพโส ปจฺจกฺขา โหนฺติ สติสมฺโมหโต มคฺคานฺจ อฺถา กรณโต. จิรายิตตฺตนฺติ ‘‘อยํ มคฺโค’’ติ กถนสฺส จิรายนํ. วิตฺถายิตตฺตนฺติ อสปฺปฏิภานํ. ตํ ปน สอุปมาห ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
พลสมฺปนฺโนติ กายพเลน สมนฺนาคโต. ปมาณกตํ กมฺมํ นาม ปมาณกรานํ ราคาทิกิเลสานํ อวิกฺขมฺภิตตฺตา ‘‘ปมาณกตํ กมฺมํ นาม กามาวจร’’นฺติ อาห, เตสํ ปน วิกฺขมฺภิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อปฺปมาณกตํ กมฺมํ นาม รูปารูปาวจร’’นฺติ. ตตฺถาปิ วิเสสโต อปฺปมฺาภาวนา สมฺภวตีติ อาห ‘‘เตสุปี’’ติอาทิ. นิรีหกตฺตา ยถา อปฺปมาณสมฺา ลพฺภติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปมาณํ…เป… วุจฺจตี’’ติ อาห. น โอหียติ น ติฏฺตีติ กตูปจิตมฺปิ กามาวจรกมฺมํ ยถาธิคเต มหคฺคตชฺฌาเน อปริหีเน ตํ อภิภวิตฺวา อาสีเทตฺวา ปสฺเส โอหียกํ กตฺวา ปฏิสนฺธึ ทาตุํ สมตฺถภาเวน น ติฏฺติ. ลคฺคิตุนฺติ อาวริตุํ ¶ . าตุนฺติ ปติฏฺาตุํ. ผริตฺวาติ ปฏิปฺผริตฺวา. ปริยาทิยิตฺวาติ ตสฺส สามตฺถิยํ เขเปตฺวา. กมฺมสฺส ปริยาทิยนํ นาม วิปากุปฺปาทพนฺธนเมวาติ อาห – ‘‘ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา’’ติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
สุภสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๑๐. สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา
๔๗๓. อภิปฺปสนฺนาติ ¶ ¶ อภิสเมจฺจ ปสนฺนา. เตนาห – ‘‘อเวจฺจปฺปสาทวเสน ปสนฺนา’’ติ. พฺราหฺมณี วิคตมลมจฺเฉรตาย ‘‘ตุยฺหํ เทยฺยธมฺมํ รุจฺจนกฏฺาเน เทหี’’ติ อาห. มคฺเคเนว หิสฺสา มจฺฉริยสฺส ปหีนตฺตา พุทฺธปกฺขพฺราหฺมณปกฺขวเสน อุภโตปกฺขิกา.
กึสูติ กินฺติ ปุจฺฉาวจนํ. เฉตฺวา อนาทิยิตฺวา วินาเสตฺวา. สุขํ เสตีติ จิตฺตสนฺตาปาภาเวน สุเขน สุปติ. น โสจตีติ ตโต เอว โสกํ นาม วินาเสติ. โกธนฺติ กุชฺฌนลกฺขณํ โกธํ. เฉตฺวา สมุจฺฉินฺทิตฺวา. สุขํ เสตีติ โกธปริฬาเหน อปริฑยฺหมานตฺตา สุขํ สุปติ. โกธวินาเสน วินฏฺโทมนสฺสตฺตา น โสจติ. วิสมูลสฺสาติ ทุกฺขวิปากสฺส. มธุรคฺคสฺสาติ อกฺโกสกสฺส ปจฺจกฺโกสเนน, ปหารกสฺส ปฏิปฺปหรเณน ยํ สุขํ อุปฺปชฺชติ, ตํ สนฺธาเยว ‘‘มธุรคฺโค’’ติ วุตฺโต. อิมสฺมิฺหิ าเน ปริโยสานํ ‘‘อคฺค’’นฺติ วุตฺตํ. อริยาติ พุทฺธาทโย อริยา.
ปฺหํ กเถสีติ พฺราหฺมโณ กิร จินฺเตสิ – ‘‘สมโณ โคตโม โลกปูชิโต, น สกฺกา ยํ วา ตํ วา วตฺวา สนฺตชฺเชตุํ, เอกํ สณฺหปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. โส เอกํ ปุจฺฉาคาถํ อภิสงฺขริตฺวา ‘‘สเจ อสุกสฺส นาม วธํ โรเจมีติ วกฺขติ, เย ตุยฺหํ น รุจฺจนฺติ, เต มาเรตุกาโมสิ, โลกวธาย อุปฺปนฺโน กึ ตุยฺหํ สมณภาเวนาติ นิคฺคเหสฺสามิ. สเจ น กสฺสจิ วธํ โรเจมีติ วกฺขติ, อถ นํ ตฺวํ ราคาทีนมฺปิ วธํ น อิจฺฉสิ, ตสฺมา สมโณ หุตฺวา อาหิณฺฑสีติ นิคฺคณฺหิสฺสามีติ อิมํ อุภโตโกฏิกํ ปฺหํ ปุฏฺโ สมโณ โคตโม เนว คิลิตุํ น อุคฺคิลิตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ เอวํ จินฺเตตฺวา อิมํ ปยฺหํ ปุจฺฉิ. ตสฺส ภควา อชฺฌาสยานุรูปํ กเถสิ. โส ปฺหพฺยากรเณน อาราธิตจิตฺโต ปพฺพชฺชํ ยาจิ. สตฺถา ตํ ปพฺพาเชสิ, โส ปพฺพชฺชากิจฺจํ มตฺถกํ ปาเปสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต’’ติ.
อวภูตาติ อโธภูตา. อโธภาโว สตฺตานํ อวฑฺฒิ อวมงฺคลนฺติ อาห – ‘‘อวฑฺฒิภูตา อวมงฺคลภูตาเยวา’’ติ. ปริภูตาติ ปริภวปฺปตฺตา. วิชฺชมานานนฺติ ปาฬิยํ อนาทเร สามิวจนนฺติ ตทตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิชฺชมาเนสู’’ติอาห. ปกฏฺํ, ปวฑฺฒํ วา าณนฺติ ปฺาณนฺติ ภควโต าณํ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ.
๔๗๔. อภิชานิตฺวาติ ¶ ¶ อภิวิสิฏฺเน าเณน ชานิตฺวา. โวสิตโวสานาติ กตกรณียตาย สพฺพโส ปริโสสิตนิฏฺา. ปารมิสงฺขาตนฺติ ปรมุกฺกํสภาวโต ปารมีติ สงฺขาตํ. เตนาห ‘‘สพฺพธมฺมานํ ปารภูต’’นฺติ. พฺรหฺมจริยสฺสาติ สาสนพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตํ. เตนาห ‘‘อุปฺปาทกา ชนกา’’ติ. ‘‘อิทเมวํ ภวิสฺสติ อิทเมว’’นฺติ ตกฺกนํ ตกฺโก, โส เอตสฺส อตฺถีติ ตกฺกี. ยสฺมา โส ตํ ตํ วตฺถุํ ตถา ตถา ตกฺกิตฺวา คณฺหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ตกฺกคาหี’’ติ. วีมํสนสีโล วีมํสี ปจฺจกฺขภูตมตฺถํ วีมํสนภูตาย ปฺาย เกวลํ วีมํสนโต. เตนาห ‘‘ปฺาจารํ จราเปตฺวา เอวํวาที’’ติ. ยถาวุตฺตตกฺกีวีมํสีภาเวน ตกฺกปริยาหตํ วีมํสานุจริตํ สยํปฏิภานํ เอวเมตนฺติ วตฺวา.
๔๘๕. อฏฺิตปธานวตนฺติ อฺตฺถ กิสฺมิฺจิ ปุคฺคเล อฏฺิตปธานวตํ อนฺสาธารณํ โภโต โคตมสฺส ปธานํ อโหสิ. สปฺปุริสปธานวตํ อโหสิ สปฺปุริสปธานวตาธิคตานํ เอตาทิสานํ อรหตํ อจฺฉริยปุคฺคลานํเยว อาเวณิกปธานวตํ อโหสิ. อชานนฺโตว ปกาเสตีติ อยํ ปุจฺฉิตมตฺถํ สยํ ปจฺจกฺขโต อชานนฺโต เอว เกวลํ สทฺทํ อุปฺปาเทตฺวาว ปกาเสสีติ สฺาย อาห. อชานนภาเว สนฺเตติ อิเม อธิเทวาติ ปจฺจกฺขโต ชานเน อสติ. ปณฺฑิเตน มนุสฺเสนาติ โลกโวหารกุสเลน มนุสฺเสน, ตฺวํ ปน โลกโวหาเรปิ อกุสโล. วจนตฺถฺหิ อชานนฺโต ยํ กิฺจิ วทติ. อุจฺเจน สมฺมตนฺติ อุจฺจํ สุปากฏํ สพฺพโส ตรุณทารเกหิปิ สมฺมตํ. าตเมตํ ยทิทํ อตฺถิ เทวาติ. เตนาห ‘‘สุสุทารกาปี’’ติอาทิ. เทวาติ อุปปตฺติเทวา. อธิเทวา นาม สมฺมุติเทเวหิ อธิกเทวาติ กตฺวา, ตทฺเ จ มนุสฺเส อธิกภาเว กิเมว วตฺตพฺพํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
สงฺคารวสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
นิฏฺิตา จ พฺราหฺมณวคฺควณฺณนา.
มชฺฌิมปณฺณาสฏีกา สมตฺตา.