📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
มชฺฌิมนิกาเย
อุปริปณฺณาส-อฏฺกถา
๑. เทวทหวคฺโค
๑. เทวทหสุตฺตวณฺณนา
๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ เทวทหสุตฺตํ. ตตฺถ เทวทหํ นามาติ เทวา วุจฺจนฺติ ราชาโน, ตตฺถ จ สกฺยราชูนํ มงฺคลโปกฺขรณี อโหสิ ปาสาทิกา อารกฺขสมฺปนฺนา, สา เทวานํ ทหตฺตา ‘‘เทวทห’’นฺติ ปฺายิตฺถ. ตทุปาทาย โสปิ นิคโม เทวทหนฺตฺเวว สงฺขํ คโต. ภควา ตํ นิคมํ นิสฺสาย ลุมฺพินิวเน วิหรติ. สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตูติ ปุพฺเพ กตกมฺมปจฺจยา. อิมินา กมฺมเวทนฺจ กิริยเวทนฺจ ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกํ วิปากเวทนเมว สมฺปฏิจฺฉนฺตีติ ทสฺเสติ. เอวํ วาทิโน, ภิกฺขเว, นิคณฺาติ อิมินา ปุพฺเพ อนิยเมตฺวา วุตฺตํ นิยเมตฺวา ทสฺเสติ.
อหุวมฺเหว ¶ มยนฺติ อิทํ ภควา เตสํ อชานนภาวํ ชานนฺโตว เกวลํ กลิสาสนํ อาโรเปตุกาโม ¶ ปุจฺฉติ. เย หิ ‘‘มยํ อหุวมฺหา’’ติปิ น ชานนฺติ, เต กถํ กมฺมสฺส กตภาวํ วา อกตภาวํ วา ชานิสฺสนฺติ. อุตฺตริปุจฺฉายปิ เอเสว นโย.
๒. เอวํ สนฺเตติ จูฬทุกฺขกฺขนฺเธ (ม. นิ. ๑.๑๗๙-๑๘๐) มหานิคณฺสฺส วจเน สจฺเจ สนฺเตติ อตฺโถ, อิธ ปน เอตฺตกสฺส านสฺส ตุมฺหากํ อชานนภาเว สนฺเตติ อตฺโถ. น กลฺลนฺติ น ยุตฺตํ.
๓. คาฬฺหูปเลปเนนาติ ¶ พหลูปเลปเนน, ปุนปฺปุนํ วิสรฺชิเตน, น ปน ขลิยา ลิตฺเตน วิย. เอสนิยาติ เอสนิสลากาย อนฺตมโส นนฺตกวฏฺฏิยาปิ. เอเสยฺยาติ คมฺภีรํ วา อุตฺตานํ วาติ วีมํเสยฺย. อคทงฺคารนฺติ ฌามหรีตกสฺส วา อามลกสฺส วา จุณฺณํ. โอทเหยฺยาติ ปกฺขิเปยฺย. อโรโคติอาทิ มาคณฺฑิยสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๒๑๓) วุตฺตเมว.
เอวเมว โขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ, สลฺเลน วิทฺธสฺส หิ วิทฺธกาเล เวทนาย ปากฏกาโล วิย อิเมสํ ‘‘มยํ ปุพฺเพ อหุวมฺหา วา โน วา, ปาปกมฺมํ อกรมฺหา ¶ วา โน วา, เอวรูปํ วา ปาปํ กรมฺหา’’ติ ชานนกาโล สิยา. วณมุขสฺส ปริกนฺตนาทีสุ จตูสุ กาเลสุ เวทนาย ปากฏกาโล วิย ‘‘เอตฺตกํ วา โน ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ, เอตฺตเก วา นิชฺชิณฺเณ สพฺพเมว ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสติ, สุทฺธนฺเต ปติฏฺิตา นาม ภวิสฺสามา’’ติ ชานนกาโล สิยา. อปรภาเค ผาสุภาวชานนกาโล วิย ทิฏฺเว ธมฺเม อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย ชานนกาโล สิยา. เอวเมตฺถ เอกาย อุปมาย ตโย อตฺถา, จตูหิ อุปมาหิ เอโก อตฺโถ ปริทีปิโต.
๔. อิเม ปน ตโต เอกมฺปิ น ชานนฺติ, วิรชฺฌิตฺวา คเต สลฺเล อวิทฺโธว ‘‘วิทฺโธสิ มยา’’ติ ปจฺจตฺถิกสฺส วจนปฺปมาเณเนว ‘‘วิทฺโธสฺมี’’ติ สฺํ อุปฺปาเทตฺวา ทุกฺขปฺปตฺตปุริโส วิย เกวลํ มหานิคณฺสฺส วจนปฺปมาเณน สพฺพเมตํ สทฺทหนฺตา เอวํ สลฺโลปมาย ภควตา นิคฺคหิตา ปจฺจาหริตุํ อสกฺโกนฺตา ยถา นาม ทุพฺพโล สุนโข มิคํ อุฏฺาเปตฺวา สามิกสฺส อภิมุขํ กริตฺวา อตฺตนา โอสกฺกติ, เอวํ มหานิคณฺสฺส มตฺถเก วาทํ ปกฺขิปนฺตา นิคณฺโ, อาวุโสติอาทีมาหํสุ.
๕. อถ เน ¶ ภควา สาจริยเก นิคฺคณฺหนฺโต ปฺจ โข อิเมติอาทิมาห. ตตฺรายสฺมนฺตานนฺติ ¶ เตสุ ปฺจสุ ธมฺเมสุ อายสฺมนฺตานํ. กา อตีตํเส สตฺถริ สทฺธาติ อตีตํสวาทิมฺหิ สตฺถริ กา สทฺธา. ยา อตีตวาทํ สทฺทหนฺตานํ ตุมฺหากํ มหานิคณฺสฺส สทฺธา, สา กตมา? กึ ¶ ภูตตฺถา อภูตตฺถา, ภูตวิปากา อภูตวิปากาติ ปุจฺฉติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. สหธมฺมิกนฺติ สเหตุกํ สการณํ. วาทปฏิหารนฺติ ปจฺจาคมนกวาทํ. เอตฺตาวตา เตสํ ‘‘อปเนถ สทฺธํ, สพฺพทุพฺพลา เอสา’’ติ สทฺธาเฉทกวาทํ นาม ทสฺเสติ.
๖. อวิชฺชา อฺาณาติ อวิชฺชาย อฺาเณน. สมฺโมหาติ สมฺโมเหน. วิปจฺเจถาติ วิปรีตโต สทฺทหถ, วิปลฺลาสคฺคาหํ วา คณฺหถาติ อตฺโถ.
๗. ทิฏฺธมฺมเวทนียนฺติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว วิปากทายกํ. อุปกฺกเมนาติ ปโยเคน. ปธาเนนาติ วีริเยน. สมฺปรายเวทนียนฺติ ทุติเย วา ตติเย วา อตฺตภาเว วิปากทายกํ. สุขเวทนียนฺติ อิฏฺารมฺมณวิปากทายกํ กุสลกมฺมํ. วิปรีตํ ทุกฺขเวทนียํ. ปริปกฺกเวทนียนฺติ ปริปกฺเก นิปฺผนฺเน อตฺตภาเว เวทนียํ, ทิฏฺธมฺมเวทนียสฺเสเวตํ อธิวจนํ. อปริปกฺกเวทนียนฺติ ¶ อปริปกฺเก อตฺตภาเว เวทนียํ, สมฺปรายเวทนียสฺเสเวตํ อธิวจนํ. เอวํ สนฺเตปิ อยเมตฺถ วิเสโส – ยํ ปมวเย กตํ ปมวเย วา มชฺฌิมวเย วา ปจฺฉิมวเย วา วิปากํ เทติ, มชฺฌิมวเย กตํ มชฺฌิมวเย วา ปจฺฉิมวเย วา วิปากํ เทติ, ปจฺฉิมวเย กตํ ตตฺเถว วิปากํ เทติ, ตํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ นาม. ยํ ปน สตฺตทิวสพฺภนฺตเร วิปากํ เทติ, ตํ ปริปกฺกเวทนียํ นาม. ตํ กุสลมฺปิ โหติ อกุสลมฺปิ.
ตตฺริมานิ วตฺถูนิ – ปุณฺโณ นาม กิร ทุคฺคตมนุสฺโส ราชคเห สุมนเสฏฺึ นิสฺสาย วสติ. ตเมนํ เอกทิวสํ นครมฺหิ นกฺขตฺเต สงฺฆุฏฺเ เสฏฺิ อาห – ‘‘สเจ อชฺช กสิสฺสสิ, ทฺเว จ โคเณ นงฺคลฺจ ลภิสฺสสิ. กึ นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสสิ, กสิสฺสสี’’ติ. กึ เม นกฺขตฺเตน, กสิสฺสามีติ? เตน หิ เย โคเณ อิจฺฉสิ, เต คเหตฺวา กสาหีติ. โส กสิตุํ คโต. ตํ ทิวสํ สาริปุตฺตตฺเถโร นิโรธา วุฏฺาย ‘‘กสฺส สงฺคหํ กโรมี’’ติ? อาวชฺชนฺโต ปุณฺณํ ทิสฺวา ปตฺตจีวรํ อาทาย ตสฺส กสนฏฺานํ คโต. ปุณฺโณ กสึ เปตฺวา เถรสฺส ทนฺตกฏฺํ ทตฺวา มุโขทกํ ¶ อทาสิ. เถโร สรีรํ ปฏิชคฺคิตฺวา กมฺมนฺตสฺส อวิทูเร ¶ นิสีทิ ภตฺตาภิหารํ โอโลเกนฺโต. อถสฺส ภริยํ ภตฺตํ อาหรนฺตึ ทิสฺวา อนฺตรามคฺเคเยว อตฺตานํ ทสฺเสสิ.
สา สามิกสฺส อาหฏภตฺตํ เถรสฺส ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา ปุน คนฺตฺวา อฺํ ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา ทิวา อคมาสิ. ปุณฺโณ เอกวารํ กสิตฺวา นิสีทิ. สาปิ ภตฺตํ คเหตฺวา อาคจฺฉนฺตี อาห – ‘‘สามิ ปาโตว เต ภตฺตํ อาหริยิตฺถ, อนฺตรามคฺเค ปน ¶ สาริปุตฺตตฺเถรํ ทิสฺวา ตํ ตสฺส ทตฺวา อฺํ ปจิตฺวา อาหรนฺติยา เม อุสฺสูโร ชาโต, มา กุชฺฌิ สามี’’ติ. ภทฺทกํ เต ภทฺเท กตํ, มยา เถรสฺส ปาโตว ทนฺตกฏฺฺจ มุโขทกฺจ ทินฺนํ, อมฺหากํเยวาเนน ปิณฺฑปาโตปิ ปริภุตฺโต, อชฺช เถเรน กตสมณธมฺมสฺส มยํ ภาคิโน ชาตาติ จิตฺตํ ปสาเทสิ. เอกวารํ กสิตฏฺานํ สุวณฺณเมว อโหสิ. โส ภฺุชิตฺวา กสิตฏฺานํ โอโลเกนฺโต วิชฺโชตมานํ ทิสฺวา อุฏฺาย ยฏฺิยา ปหริตฺวา รตฺตสุวณฺณภาวํ ชานิตฺวา ‘‘รฺโ อกเถตฺวา ปริภฺุชิตุํ น สกฺกา’’ติ คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ตํ สพฺพํ สกเฏหิ อาหราเปตฺวา ราชงฺคเณ ราสึ กาเรตฺวา ‘‘กสฺสิมสฺมึ นคเร เอตฺตกํ สุวณฺณํ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. กสฺสจิ นตฺถีติ จ วุตฺเต เสฏฺิฏฺานมสฺส อทาสิ. โส ปุณฺณเสฏฺิ นาม ชาโต.
อปรมฺปิ วตฺถุ – ตสฺมึเยว ราชคเห กาฬเวฬิโย นาม ทุคฺคโต อตฺถิ. ตสฺส ภริยา ปณฺณมฺพิลยาคุํ ปจิ. มหากสฺสปตฺเถโร นิโรธา วุฏฺาย ‘‘กสฺส สงฺคหํ กโรมี’’ติ อาวชฺชนฺโต ตํ ทิสฺวา คนฺตฺวา เคหทฺวาเร อฏฺาสิ. สา ปตฺตํ คเหตฺวา สพฺพํ ตตฺถ ปกฺขิปิตฺวา เถรสฺส อทาสิ, เถโร วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถุ อุปนาเมสิ. สตฺถา อตฺตโน ยาปนมตฺตํ คณฺหิ, เสสํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ ปโหสิ. กาฬวฬิโยปิ ตํ านํ ปตฺโต จูฬกํ ลภิ. มหากสฺสโป สตฺถารํ กาฬวฬิยสฺส วิปากํ ปุจฺฉิ. สตฺถา ‘‘อิโต สตฺตเม ทิวเส เสฏฺิจฺฉตฺตํ ลภิสฺสตี’’ติ อาห. กาฬวฬิโย ตํ กถํ สุตฺวา คนฺตฺวา ภริยาย อาโรเจสิ.
ตทา จ ราชา นครํ อนุสฺจรนฺโต พหินคเร ชีวสูเล นิสินฺนํ ¶ ปุริสํ อทฺทส. ปุริโส ราชานํ ทิสฺวา อุจฺจาสทฺทํ อกาสิ ‘‘ตุมฺหากํ เม ¶ ภฺุชนภตฺตํ ปหิณถ เทวา’’ติ. ราชา ‘‘เปเสสฺสามี’’ติ วตฺวา สายมาสภตฺเต อุปนีเต สริตฺวา ‘‘อิมํ หริตุํ สมตฺถํ ชานาถา’’ติ อาห, นคเร สหสฺสภณฺฑิกํ จาเรสุํ. ตติยวาเร กาฬวฬิยสฺส ภริยา อคฺคเหสิ ¶ . อถ นํ รฺโ ทสฺเสสุํ, สา ปุริสเวสํ คเหตฺวา ปฺจาวุธสนฺนทฺธา ภตฺตปาตึ คเหตฺวา นครา นิกฺขมิ. พหินคเร ตาเล อธิวตฺโถ ทีฆตาโล นาม ยกฺโข ตํ รุกฺขมูเลน คจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ‘‘ติฏฺ ติฏฺ ภกฺโขสิ เม’’ติ อาห. นาหํ ตว ภกฺโข, ราชทูโต อหนฺติ. กตฺถ คจฺฉสีติ. ชีวสูเล นิสินฺนสฺส ปุริสสฺส สนฺติกนฺติ. มมปิ เอกํ สาสนํ หริตุํ สกฺขิสฺสสีติ. อาม สกฺขิสฺสามีติ. ‘‘ทีฆตาลสฺส ภริยา สุมนเทวราชธีตา กาฬี ปุตฺตํ วิชาตา’’ติ อาโรเจยฺยาสิ. อิมสฺมึ ตาลมูเล สตฺต นิธิกุมฺภิโย อตฺถิ, ตา ตฺวํ คณฺเหยฺยาสีติ. สา ‘‘ทีฆตาลสฺส ภริยา สุมนเทวราชธีตา กาฬี ปุตฺตํ วิชาตา’’ติ อุคฺโฆเสนฺตี อคมาสิ.
สุมนเทโว ยกฺขสมาคเม นิสินฺโน สุตฺวา ‘‘เอโก มนุสฺโส อมฺหากํ ปิยปวตฺตึ อาหรติ, ปกฺโกสถ น’’นฺติ สาสนํ สุตฺวา ปสนฺโน ‘‘อิมสฺส รุกฺขสฺส ปริมณฺฑลจฺฉายาย ผรณฏฺาเน นิธิกุมฺภิโย ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติ อาห. ชีวสูเล นิสินฺนปุริโส ภตฺตํ ภฺุชิตฺวา มุขปฺุฉนกาเล อิตฺถิผสฺโสติ ตฺวา จูฬาย ฑํสิ, สา อสินา อตฺตโน จูฬํ ¶ ฉินฺทิตฺวา รฺโ สนฺติกํเยว คตา. ราชา ภตฺตโภชิตภาโว กถํ ชานิตพฺโพติ? จูฬสฺายาติ วตฺวา รฺโ อาจิกฺขิตฺวา ตํ ธนํ อาหราเปสิ. ราชา อฺสฺส เอตฺตกํ ธนํ นาม อตฺถีติ. นตฺถิ เทวาติ. ราชา ตสฺสา ปตึ ตสฺมึ นคเร ธนเสฏฺึ อกาสิ. มลฺลิกายปิ เทวิยา วตฺถุ กเถตพฺพํ. อิมานิ ตาว กุสลกมฺเม วตฺถูนิ.
นนฺทมาณวโก ปน อุปฺปลวณฺณาย เถริยา วิปฺปฏิปชฺชิ, ตสฺส มฺจโต อุฏฺาย นิกฺขมิตฺวา คจฺฉนฺตสฺส มหาปถวี ภิชฺชิตฺวา โอกาสมทาสิ, ตตฺเถว มหานรกํ ปวิฏฺโ. นนฺโทปิ โคฆาตโก ปณฺณาส วสฺสานิ โคฆาตกกมฺมํ กตฺวา เอกทิวสํ โภชนกาเล มํสํ อลภนฺโต เอกสฺส ชีวมานกโคณสฺส ชิวฺหํ ฉินฺทิตฺวา องฺคาเรสุ ปจาเปตฺวา ขาทิตุํ อารทฺโธ. อถสฺส ชิวฺหา มูเล ฉิชฺชิตฺวา ภตฺตปาติยํเยว ปติตา, โส วิรวนฺโต กาลํ กตฺวา นิรเย นิพฺพตฺติ. นนฺโทปิ ยกฺโข อฺเน ยกฺเขน ¶ สทฺธึ อากาเสน คจฺฉนฺโต สาริปุตฺตตฺเถรํ นโวโรปิเตหิ เกเสหิ รตฺติภาเค อพฺโภกาเส นิสินฺนํ ทิสฺวา สีเส ปหริตุกาโม อิตรสฺส ยกฺขสฺส อาโรเจตฺวา เตน วาริยมาโนปิ ปหารํ ทตฺวา ฑยฺหามิ ฑยฺหามีติ วิรวนฺโต ตสฺมึเยว าเน ภูมึ ปวิสิตฺวา มหานิรเย นิพฺพตฺโตติ อิมานิ อกุสลกมฺเม วตฺถูนิ.
ยํ ¶ ปน อนฺตมโส มรณสนฺติเกปิ กตํ กมฺมํ ภวนฺตเร วิปากํ เทติ, ตํ สพฺพํ สมฺปรายเวทนียํ ¶ นาม. ตตฺถ โย อปริหีนสฺส ฌานสฺส วิปาโก นิพฺพตฺติสฺสติ, โส อิธ นิพฺพตฺติตวิปาโกติ วุตฺโต. ตสฺส มูลภูตํ กมฺมํ เนว ทิฏฺธมฺมเวทนียํ น สมฺปรายเวทนียนฺติ, น วิจาริตํ, กิฺจาปิ น วิจาริตํ, สมฺปรายเวทนียเมว ปเนตนฺติ เวทิตพฺพํ. โย ปมมคฺคาทีนํ ภวนฺตเร ผลสมาปตฺติวิปาโก, โส อิธ นิพฺพตฺติตคุโณตฺเวว วุตฺโต. กิฺจาปิ เอวํ วุตฺโต, มคฺคกมฺมํ ปน ปริปกฺกเวทนียนฺติ เวทิตพฺพํ. มคฺคเจตนาเยว หิ สพฺพลหุํ ผลทายิกา อนนฺตรผลตฺตาติ.
๘. พหุเวทนียนฺติ สฺาภวูปคํ. อปฺปเวทนียนฺติ อสฺาภวูปคํ. สเวทนียนฺติ สวิปากํ กมฺมํ. อเวทนียนฺติ อวิปากํ กมฺมํ. เอวํ สนฺเตติ อิเมสํ ทิฏฺธมฺมเวทนียาทีนํ กมฺมานํ อุปกฺกเมน สมฺปรายเวทนียาทิ ภาวการณสฺส อลาเภ สติ. อผโลติ นิปฺผโล นิรตฺถโกติ. เอตฺตาวตา อนิยฺยานิกสาสเน ปโยคสฺส อผลตํ ทสฺเสตฺวา ปธานจฺเฉทกวาโท นาม ทสฺสิโตติ เวทิตพฺโพ. สหธมฺมิกา วาทานุวาทาติ ปเรหิ วุตฺตการเณน สการณา หุตฺวา นิคณฺานํ วาทา จ อนุวาทา จ. คารยฺหํ านํ อาคจฺฉนฺตีติ วิฺูหิ ครหิตพฺพํ การณํ อาคจฺฉนฺติ. ‘‘วาทานุปฺปตฺตา คารยฺหฏฺานา’’ติปิ ปาโ. ตสฺสตฺโถ – ปเรหิ วุตฺเตน การเณน สการณา ¶ นิคณฺานํ วาทํ อนุปฺปตฺตา ตํ วาทํ โสเสนฺตา มิลาเปนฺตา ทุกฺกฏกมฺมการิโนติอาทโย ทส คารยฺหฏฺานา อาคจฺฉนฺติ.
๙. สงฺคติภาวเหตูติ นิยติภาวการณา. ปาปสงฺคติกาติ ปาปนิยติโน. อภิชาติเหตูติ ฉฬภิชาติเหตุ.
๑๐. เอวํ ¶ นิคณฺานํ อุปกฺกมสฺส อผลตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิยฺยานิกสาสเน อุปกฺกมสฺส วีริยสฺส จ สผลตํ ทสฺเสตุํ กถฺจ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อนทฺธภูตนฺติ อนธิภูตํ. ทุกฺเขน อนธิภูโต นาม มนุสฺสตฺตภาโว วุจฺจติ, น ตํ อทฺธภาเวติ นาภิภวตีติ อตฺโถ. ตมฺปิ นานปฺปการาย ทุกฺกรการิกาย ปโยเชนฺโต ทุกฺเขน อทฺธภาเวติ นาม. เย ปน สาสเน ปพฺพชิตฺวา อารฺกา วา โหนฺติ รุกฺขมูลิกาทโย วา, เต ทุกฺเขน น อทฺธภาเวนฺติ นาม. นิยฺยานิกสาสนสฺมิฺหิ วีริยํ สมฺมาวายาโม นาม โหติ.
เถโร ¶ ปนาห – โย อิสฺสรกุเล นิพฺพตฺโต สตฺตวสฺสิโก หุตฺวา อลงฺกตปฺปฏิยตฺโต ปิตุองฺเก นิสินฺโน ฆเร ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา นิสินฺเนน ภิกฺขุสงฺเฆน อนุโมทนาย กริยมานาย ติสฺโส สมฺปตฺติโย ทสฺเสตฺวา สจฺเจสุ ปกาสิเตสุ อรหตฺตํ ปาปุณาติ, มาตาปิตูหิ วา ‘‘ปพฺพชิสฺสสิ ตาตา’’ติ วุตฺโต ‘‘อาม ปพฺพชิสฺสามี’’ติ วตฺวา ¶ นฺหาเปตฺวา อลงฺกริตฺวา วิหารํ นีโต ตจปฺจกํ อุคฺคณฺหิตฺวา นิสินฺโน เกเสสุ โอหาริยมาเนสุ ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณาติ, นวปพฺพชิโต วา ปน มโนสิลาเตลมกฺขิเตน สีเสน ปุนทิวเส มาตาปิตูหิ เปสิตํ กาชภตฺตํ ภฺุชิตฺวา วิหาเร นิสินฺโนว อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อยํ น ทุกฺเขน อตฺตานํ อทฺธภาเวติ นาม. อยํ ปน อุกฺกฏฺสกฺกาโร. โย ทาสิกุจฺฉิยํ นิพฺพตฺโต อนฺตมโส รชตมุทฺทิกมฺปิ ปิฬนฺธิตฺวา โครกปิยงฺคุมตฺเตนาปิ สรีรํ วิลิมฺเปตฺวา ‘‘ปพฺพาเชถ น’’นฺติ นีโต ขุรคฺเค วา ปุนทิวเส วา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อยมฺปิ น อนทฺธภูตํ อตฺตานํ ทุกฺเขน อทฺธภาเวติ นาม.
ธมฺมิกํ สุขํ นาม สงฺฆโต วา คณโต วา อุปฺปนฺนํ จตุปจฺจยสุขํ. อนธิมุจฺฉิโตติ ตณฺหามุจฺฉนาย อมุจฺฉิโต. ธมฺมิกฺหิ สุขํ น ปริจฺจชามีติ น ตตฺถ เคโธ กาตพฺโพ. สงฺฆโต หิ อุปฺปนฺนํ สลากภตฺตํ วา วสฺสาวาสิกํ วา ‘‘อิทมตฺถํ เอต’’นฺติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา สงฺฆมชฺเฌ ภิกฺขูนํ อนฺตเร ปริภฺุชนฺโต ปตฺตนฺตเร ปทุมํ วิย สีลสมาธิวิปสฺสนามคฺคผเลหิ วฑฺฒติ. อิมสฺสาติ ปจฺจุปฺปนฺนานํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ มูลภูตสฺส. ทุกฺขนิทานสฺสาติ ตณฺหาย. สา หิ ปฺจกฺขนฺธทุกฺขสฺส นิทานํ. สงฺขารํ ปทหโตติ สมฺปโยควีริยํ ¶ กโรนฺตสฺส. วิราโค ¶ โหตีติ มคฺเคน วิราโค โหติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘สงฺขารปธาเนน เม อิมสฺส ทุกฺขนิทานสฺส วิราโค โหตี’’ติ เอวํ ปชานาตีติ อิมินา สุขาปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา กถิตา. ทุติยวาเรน ตสฺส สมฺปโยควีริยสฺส มชฺฌตฺตตากาโร กถิโต. โส ยสฺส หิ ขฺวาสฺสาติ เอตฺถ อยํ สงฺเขปตฺโถ – โส ปุคฺคโล ยสฺส ทุกฺขนิทานสฺส สงฺขารปธาเนน วิราโค โหติ, สงฺขารํ ตตฺถ ปทหติ, มคฺคปธาเนน ปทหติ. ยสฺส ปน ทุกฺขนิทานสฺส อชฺฌุเปกฺขโต อุเปกฺขํ ภาเวนฺตสฺส วิราโค โหติ, อุเปกฺขํ ตตฺถ ภาเวติ, มคฺคภาวนาย ภาเวติ. ตสฺสาติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส.
๑๑. ปฏิพทฺธจิตฺโตติ ฉนฺทราเคน พทฺธจิตฺโต. ติพฺพจฺฉนฺโทติ พหลจฺฉนฺโท. ติพฺพาเปกฺโขติ ¶ พหลปตฺถโน. สนฺติฏฺนฺตินฺติ เอกโต ติฏฺนฺตึ. สฺชคฺฆนฺตินฺติ มหาหสิตํ หสมานํ. สํหสนฺตินฺติ สิตํ กุรุมานํ.
เอวเมว โข, ภิกฺขเวติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมวิภาวนํ – เอโก หิ ปุริโส เอกิสฺสา อิตฺถิยา สารตฺโต ฆาสจฺฉาทนมาลาลงฺการาทีนิ ทตฺวา ฆเร วาเสติ. สา ตํ อติจริตฺวา อฺํ เสวติ. โส ‘‘นูน อหํ อสฺสา อนุรูปํ สกฺการํ น กโรมี’’ติ สกฺการํ วฑฺเฒสิ. สา ภิยฺโยโสมตฺตาย อติจรติเยว. โส – ‘‘อยํ สกฺกริยมานาปิ อติจรเตว, ฆเร เม วสมานา อนตฺถมฺปิ กเรยฺย, นีหรามิ น’’นฺติ ปริสมชฺเฌ อลํวจนียํ กตฺวา ‘‘มา ปุน เคหํ ปาวิสี’’ติ วิสฺสชฺเชสิ. สา เกนจิ ¶ อุปาเยน เตน สทฺธึ สนฺถวํ กาตุํ อสกฺโกนฺตี นฏนจฺจกาทีหิ สทฺธึ วิจรติ. ตสฺส ปุริสสฺส ตํ ทิสฺวา เนว อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสํ, โสมนสฺสํ ปน อุปฺปชฺชติ.
ตตฺถ ปุริสสฺส อิตฺถิยา สารตฺตกาโล วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน อตฺตภาเว อาลโย. ฆาสจฺฉาทนาทีนิ ทตฺวา ฆเร วสาปนกาโล วิย อตฺตภาวสฺส ปฏิชคฺคนกาโล. ตสฺสา อติจรณกาโล วิย ชคฺคิยมานสฺเสว อตฺตภาวสฺส ปิตฺตปโกปาทีนํ วเสน สาพาธตา. ‘‘อตฺตโน อนุรูปํ สกฺการํ อลภนฺตี อติจรตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา สกฺการวฑฺฒนํ วิย ‘‘เภสชฺชํ อลภนฺโต เอวํ โหตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ¶ เภสชฺชกรณกาโล. สกฺกาเร วฑฺฒิเตปิ ปุน อติจรณํ วิย ปิตฺตาทีสุ เอกสฺส เภสชฺเช กริยมาเน เสสานํ ปโกปวเสน ปุน สาพาธตา. ปริสมชฺเฌ อลํวจนียํ กตฺวา เคหา นิกฺกฑฺฒนํ วิย ‘‘อิทานิ เต นาหํ ทาโส น กมฺมกโร, อนมตคฺเค สํสาเร ตํเยว อุปฏฺหนฺโต วิจรึ, โก เม ตยา อตฺโถ, ฉิชฺช วา ภิชฺช วา’’ติ ตสฺมึ อนเปกฺขตํ อาปชฺชิตฺวา วีริยํ ถิรํ กตฺวา มคฺเคน กิเลสสมุคฺฆาตนํ. นฏนจฺจกาทีหิ นจฺจมานํ วิจรนฺตึ ทิสฺวา ยถา ตสฺส ปุริสสฺส โทมนสฺสํ น อุปฺปชฺชติ, โสมนสฺสเมว อุปฺปชฺชติ, เอวเมว อิมสฺส ภิกฺขุโน อรหตฺตํ ปตฺตสฺส ปิตฺตปโกปาทีนํ วเสน อาพาธิกํ อตฺตภาวํ ทิสฺวา โทมนสฺสํ น อุปฺปชฺชติ, ‘‘มุจฺจิสฺสามิ วต ขนฺธปริหารทุกฺขโต’’ติ โสมนสฺสเมว อุปฺปชฺชตีติ. อยํ ปน อุปมา ‘‘ปฏิพทฺธจิตฺตสฺส โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, อปฺปฏิพทฺธจิตฺตสฺส นตฺเถตนฺติ ตฺวา ¶ อิตฺถิยา ฉนฺทราคํ ปชหติ, เอวมยํ ภิกฺขุ สงฺขารํ วา ปทหนฺตสฺส อุเปกฺขํ วา ภาเวนฺตสฺส ทุกฺขนิทานํ ¶ ปหียติ, โน อฺถาติ ตฺวา ตทุภยํ สมฺปาเทนฺโต ทุกฺขนิทานํ ปชหตี’’ติ เอตมตฺถํ วิภาเวตุํ อาคตาติ เวทิตพฺพา.
๑๒. ยถา สุขํ โข เม วิหรโตติ เยน สุเขน วิหริตุํ อิจฺฉามิ เตน, เม วิหรโต. ปทหโตติ เปเสนฺตสฺส. เอตฺถ จ ยสฺส สุขา ปฏิปทา อสปฺปายา, สุขุมจีวรานิ ธาเรนฺตสฺส ปาสาทิเก เสนาสเน วสนฺตสฺส จิตฺตํ วิกฺขิปติ, ทุกฺขา ปฏิปทา สปฺปายา, ฉินฺนภินฺนานิ ถูลจีวรานิ ธาเรนฺตสฺส สุสานรุกฺขมูลาทีสุ วสนฺตสฺส จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
เอวเมว โขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ, อุสุกาโร วิย หิ ชาติชรามรณภีโต โยคี ทฏฺพฺโพ, วงฺกกุฏิลชิมฺหเตชนํ วิย วงฺกกุฏิลชิมฺหจิตฺตํ, ทฺเว อลาตา วิย กายิกเจตสิกวีริยํ, เตชนํ อุชุํ กโรนฺตสฺส กฺชิกเตลํ วิย สทฺธา, นมนทณฺฑโก วิย โลกุตฺตรมคฺโค, อุสฺสุการสฺส วงฺกกุฏิลชิมฺหเตชนํ กฺชิกเตเลน สิเนเหตฺวา อลาเตสุ ตาเปตฺวา นมนทณฺฑเกน อุชุกรณํ วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน วงฺกกุฏิลชิมฺหจิตฺตํ สทฺธาย สิเนเหตฺวา กายิกเจตสิกวีริเยน ตาเปตฺวา ¶ โลกุตฺตรมคฺเคน อุชุกรณํ, อุสุการสฺเสว เอวํ อุชุกเตน เตชเนน สปตฺตํ วิชฺฌิตฺวา สมฺปตฺติอนุภวนํ วิย อิมสฺส โยคิโน ตถา อุชุกเตน ¶ จิตฺเตน กิเลสคณํ วิชฺฌิตฺวา ปาสาทิเก เสนาสเน นิโรธวรตลคตสฺส ผลสมาปตฺติสุขานุภวนํ ทฏฺพฺพํ. อิธ ตถาคโต สุขาปฏิปทาขิปฺปาภิฺภิกฺขุโน, ทุกฺขาปฏิปทาทนฺธาภิฺภิกฺขุโน จ ปฏิปตฺติโย กถิตา, อิตเรสํ ทฺวินฺนํ น กถิตา, ตา กเถตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. อิมาสุ วา ทฺวีสุ กถิตาสุ อิตราปิ กถิตาว โหนฺติ, อาคมนียปฏิปทา ปน น กถิตา, ตํ กเถตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. สหาคมนียาปิ วา ปฏิปทา กถิตาว, อทสฺสิตํ ปน เอกํ พุทฺธุปฺปาทํ ทสฺเสตฺวา เอกสฺส กุลปุตฺตสฺส นิกฺขมนเทสนํ อรหตฺเตน วินิวฏฺเฏสฺสามีติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
เทวทหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปฺจตฺตยสุตฺตวณฺณนา
๒๑. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ ปฺจตฺตยสุตฺตํ. ตตฺถ เอเกติ เอกจฺเจ. สมณพฺราหฺมณาติ ปริพฺพชุปคตภาเวน สมณา ชาติยา พฺราหฺมณา, โลเกน วา สมณาติ จ พฺราหฺมณาติ จ เอวํ สมฺมตา. อปรนฺตํ กปฺเปตฺวา วิกปฺเปตฺวา คณฺหนฺตีติ อปรนฺตกปฺปิกา. อปรนฺตกปฺโป วา เอเตสํ อตฺถีติปิ อปรนฺตกปฺปิกา. เอตฺถ ¶ จ อนฺโตติ ‘‘สกฺกาโย โข, อาวุโส, เอโก อนฺโต’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๖.๖๑) วิย อิธ โกฏฺาโส อธิปฺเปโต. กปฺโปติ ตณฺหาทิฏฺิโย. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘กปฺโปติ อุทฺทานโต ทฺเว กปฺปา ตณฺหากปฺโป จ ทิฏฺิกปฺโป จา’’ติ. ตสฺมา ตณฺหาทิฏฺิวเสน อนาคตํ ขนฺธโกฏฺาสํ กปฺเปตฺวา ิตาติ อปรนฺตกปฺปิกาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เตสํ เอวํ อปรนฺตํ กปฺเปตฺวา ิตานํ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนวเสน อปรนฺตเมว อนุคตา ทิฏฺีติ อปรนฺตานุทิฏฺิโน. เต เอวํทิฏฺิโน ตํ อปรนฺตํ อารพฺภ อาคมฺม ปฏิจฺจ อฺมฺปิ ชนํ ทิฏฺิคติกํ กโรนฺตา ¶ อเนกวิหิตานิ อธิวุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ. อเนกวิหิตานีติ อเนกวิธานิ. อธิวุตฺติปทานีติ อธิวจนปทานิ. อถ วา ภูตมตฺถํ อธิภวิตฺวา ยถาสภาวโต อคฺคเหตฺวา วตฺตนโต อธิวุตฺติโยติ ทิฏฺิโย วุจฺจนฺติ, อธิวุตฺตีนํ ปทานิ อธิวุตฺติปทานิ, ทิฏฺิทีปกานิ วจนานีติ อตฺโถ.
สฺีติ สฺาสมงฺคี. อโรโคติ นิจฺโจ. อิตฺเถเกติ อิตฺถํ เอเก, เอวเมเกติ อตฺโถ. อิมินา โสฬส สฺีวาทา กถิตา, อสฺีติ อิมินา อฏฺ อสฺีวาทา, เนวสฺีนาสฺีติ อิมินา อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา, สโต วา ปน สตฺตสฺสาติ อิมินา สตฺต อุจฺเฉทวาทา. ตตฺถ สโตติ วิชฺชมานสฺส. อุจฺเฉทนฺติ อุปจฺเฉทํ. วินาสนฺติ อทสฺสนํ. วิภวนฺติ ภววิคมํ. สพฺพาเนตานิ อฺมฺเววจนาเนว. ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ¶ วาติ อิมินา ปฺจ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา กถิตา. ตตฺถ ทิฏฺธมฺโมติ ปจฺจกฺขธมฺโม วุจฺจติ, ตตฺถ ตตฺถ ปฏิลทฺธอตฺตภาวสฺเสตํ อธิวจนํ. ทิฏฺธมฺเม นิพฺพานํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ, อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ทุกฺขวูปสมนฺติ อตฺโถ. สนฺตํ วาติ สฺีติอาทิวเสน ตีหากาเรหิ สนฺตํ. ตีณิ โหนฺตีติ สฺี อตฺตาติอาทีนิ สนฺตอตฺตวเสน เอกํ, อิตรานิ ทฺเวติ เอวํ ตีณิ.
๒๒. รูปึ ¶ วาติ กรชรูเปน วา กสิณรูเปน วา รูปึ. ตตฺถ ลาภี กสิณรูปํ อตฺตาติ คณฺหาติ, ตกฺกี อุโภปิ รูปานิ คณฺหาติเยว. อรูปินฺติ อรูปสมาปตฺตินิมิตฺตํ วา, เปตฺวา สฺากฺขนฺธํ เสสอรูปธมฺเม วา อตฺตาติ ปฺเปนฺตา ลาภิโนปิ ตกฺกิกาปิ เอวํ ปฺเปนฺติ. ตติยทิฏฺิ ปน มิสฺสกคาหวเสน ปวตฺตา, จตุตฺถา ตกฺกคาเหเนว. ทุติยจตุกฺเก ปมทิฏฺิ สมาปนฺนกวาเรน กถิตา, ทุติยทิฏฺิ อสมาปนฺนกวาเรน, ตติยทิฏฺิ สุปฺปมตฺเตน วา สราวมตฺเตน วา กสิณปริกมฺมวเสน, จตุตฺถทิฏฺิ วิปุลกสิณวเสน กถิตาติ เวทิตพฺพา.
เอตํ วา ปเนเกสํ อุปาติวตฺตตนฺติ สฺีติปเทน สงฺเขปโต วุตฺตํ สฺาสตฺตกํ อติกฺกนฺตานนฺติ อตฺโถ. อปเร อฏฺกนฺติ วทนฺติ. ตทุภยํ ปรโต อาวิภวิสฺสติ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – เกจิ หิ เอตา สตฺต ¶ วา อฏฺ วา สฺา ¶ สมติกฺกมิตุํ สกฺโกนฺติ, เกจิ ปน น สกฺโกนฺติ. ตตฺถ เย สกฺโกนฺติ, เตว คหิตา. เตสํ ปน เอเกสํ อุปาติวตฺตตํ อติกฺกมิตุํ สกฺโกนฺตานํ ยถาปิ นาม คงฺคํ อุตฺติณฺเณสุ มนุสฺเสสุ เอโก ทีฆวาปึ คนฺตฺวา ติฏฺเยฺย, เอโก ตโต ปรํ มหาคามํ; เอวเมว เอเก วิฺาณฺจายตนํ อปฺปมาณํ อาเนฺชนฺติ วตฺวา ติฏฺนฺติ, เอเก อากิฺจฺายตนํ. ตตฺถ วิฺาณฺจายตนํ ตาว ทสฺเสตุํ วิฺาณกสิณเมเกติ วุตฺตํ. ปรโต ‘‘อากิฺจฺายตนเมเก’’ติ วกฺขติ. ตยิทนฺติ ตํ อิทํ ทิฏฺิคตฺจ ทิฏฺิปจฺจยฺจ ทิฏฺารมฺมณฺจ. ตถาคโต อภิชานาตีติ. อิมินา ปจฺจเยน อิทํ นาม ทสฺสนํ คหิตนฺติ อภิวิสิฏฺเน าเณน ชานาติ.
อิทานิ ตเทว วิตฺถาเรนฺโต เย โข เต โภนฺโตติอาทิมาห. ยา วา ปน เอตาสํ สฺานนฺติ ยา วา ปน เอตาสํ ‘‘ยทิ รูปสฺาน’’นฺติ เอวํ วุตฺตสฺานํ. ปริสุทฺธาติ นิรุปกฺกิเลสา. ปรมาติ อุตฺตมา. อคฺคาติ เสฏฺา. อนุตฺตริยา อกฺขายตีติ อสทิสา กถียติ. ยทิ รูปสฺานนฺติ อิมินา จตสฺโส รูปาวจรสฺา กถิตา. ยทิ อรูปสฺานนฺติ อิมินา อากาสานฺจายตนวิฺาณฺจายตนสฺา. อิตเรหิ ปน ทฺวีหิ ปเทหิ สมาปนฺนกวาโร จ อสมาปนฺนกวาโร จ กถิโตติ เอวเมตา ¶ โกฏฺาสโต อฏฺ, อตฺถโต ปน สตฺต สฺา โหนฺติ. สมาปนฺนกวาโร หิ ปุริมาหิ ฉหิสงฺคหิโตเยว. ตยิทํ สงฺขตนฺติ ตํ อิทํ สพฺพมฺปิ สฺาคตํ สทฺธึ ทิฏฺิคเตน สงฺขตํ ปจฺจเยหิ สมาคนฺตฺวา กตํ. โอฬาริกนฺติ ¶ สงฺขตตฺตาว โอฬาริกํ. อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธติ เอเตสํ ปน สงฺขตนฺติ วุตฺตานํ สงฺขารานํ นิโรธสงฺขาตํ นิพฺพานํ นาม อตฺถิ. อตฺเถตนฺติ อิติ วิทิตฺวาติ ตํ โข ปน นิพฺพานํ ‘‘อตฺถิ เอต’’นฺติ เอวํ ชานิตฺวา. ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวีติ ตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณทสฺสี นิพฺพานทสฺสี. ตถาคโต ตทุปาติวตฺโตติ ตํ สงฺขตํ อติกฺกนฺโต สมติกฺกนฺโตติ อตฺโถ.
๒๓. ตตฺราติ เตสุ อฏฺสุ อสฺีวาเทสุ. รูปึ วาติอาทีนิ สฺีวาเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. อยฺจ ยสฺมา อสฺีวาโท, ตสฺมา อิธ ทุติยจตุกฺกํ น วุตฺตํ. ปฏิกฺโกสนฺตีติ ปฏิพาหนฺติ ปฏิเสเธนฺติ. สฺา ¶ โรโคติอาทีสุ อาพาธฏฺเน โรโค, สโทสฏฺเน คณฺโฑ, อนุปวิฏฺฏฺเน สลฺลํ. อาคตึ วา คตึ วาติอาทีสุ ปฏิสนฺธิวเสน อาคตึ, จุติวเสน คตึ, จวนวเสน จุตึ, อุปปชฺชนวเสน อุปปตฺตึ, ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชิตฺวา อปราปรํ วฑฺฒนวเสน วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ. กามฺจ ¶ จตุโวการภเว รูปํ วินาปิ วิฺาณสฺส ปวตฺติ อตฺถิ, เสเส ปน ตโย ขนฺเธ วินา นตฺถิ. อยํ ปน ปฺโห ปฺจโวการภววเสน กถิโต. ปฺจโวกาเร หิ เอตฺตเก ขนฺเธ วินา วิฺาณสฺส ปวตฺติ นาม นตฺถิ. วิตณฺฑวาที ปเนตฺถ ‘‘อฺตฺร รูปาติอาทิวจนโต อรูปภเวปิ รูปํ, อสฺาภเว จ วิฺาณํ อตฺถิ, ตถา นิโรธสมาปนฺนสฺสา’’ติ วทติ. โส วตฺตพฺโพ – พฺยฺชนจฺฉายาย เจ อตฺถํ ปฏิพาหสิ, อาคตึ วาติอาทิวจนโต ตํ วิฺาณํ ปกฺขิทฺวิปทจตุปฺปทา วิย อุปฺปติตฺวาปิ คจฺฉติ, ปทสาปิ คจฺฉติ, โควิสาณวลฺลิอาทีนิ วิย จ วฑฺฒตีติ อาปชฺชติ. เย จ ภควตา อเนกสเตสุ สุตฺเตสุ ตโย ภวา วุตฺตา, เต อรูปภวสฺส อภาวา ทฺเวว อาปชฺชนฺติ. ตสฺมา มา เอวํ อวจ, ยถา วุตฺตมตฺถํ ธาเรหีติ.
๒๔. ตตฺราติ อฏฺสุ เนวสฺีนาสฺีวาเทสุ ภุมฺมํ. อิธาปิ รูปึ วาติอาทีนิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. อสฺา สมฺโมโหติ นิสฺสฺภาโว นาเมส สมฺโมหฏฺานํ. โย หิ กิฺจิ น ชานาติ, ตํ อสฺี เอโสติ วทนฺติ. ทิฏฺสุตมุตวิฺาตพฺพสงฺขารมตฺเตนาติ ทิฏฺวิฺาตพฺพมตฺเตน สุตวิฺาตพฺพมตฺเตน มุตวิฺาตพฺพมตฺเตน. เอตฺถ จ วิชานาตีติ วิฺาตพฺพํ, ทิฏฺสุตมุตวิฺาตพฺพมตฺเตน ปฺจทฺวาริกสฺาปวตฺติมตฺเตนาติ อยฺหิ เอตฺถ อตฺโถ. สงฺขารมตฺเตนาติ โอฬาริกสงฺขารปวตฺติมตฺเตนาติ อตฺโถ. เอตสฺส ¶ อายตนสฺสาติ เอตสฺส เนวสฺานาสฺายตนสฺส ¶ . อุปสมฺปทนฺติ ปฏิลาภํ. พฺยสนํ เหตนฺติ วินาโส เหส, วุฏฺานํ เหตนฺติ อตฺโถ. ปฺจทฺวาริกสฺาปวตฺตฺหิ โอฬาริกสงฺขารปวตฺตํ วา อปฺปวตฺตํ กตฺวา ตํ สมาปชฺชิตพฺพํ. ตสฺส ปน ปวตฺเตน ตโต วุฏฺานํ โหตีติ ทสฺเสติ. สงฺขารสมาปตฺติปตฺตพฺพมกฺขายตีติ โอฬาริกสงฺขารปวตฺติยา ปตฺตพฺพนฺติ น อกฺขายติ. สงฺขาราวเสสสมาปตฺติปตฺตพฺพนฺติ สงฺขารานํเยว อวเสสา ภาวนาวเสน สพฺพสุขุมภาวํ ปตฺตา สงฺขารา, เตสํ ปวตฺติยา เอตํ ปตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. เอวรูเปสุ หิ สงฺขาเรสุ ปวตฺเตสุ เอตํ ¶ ปตฺตพฺพํ นาม โหติ. ตยิทนฺติ ตํ อิทํ เอตํ สุขุมมฺปิ สมานํ สงฺขตํ สงฺขตตฺตา จ โอฬาริกํ.
๒๕. ตตฺราติ สตฺตสุ อุจฺเฉทวาเทสุ ภุมฺมํ. อุทฺธํ สรนฺติ อุทฺธํ วุจฺจติ อนาคตสํสารวาโท, อนาคตํ สํสารวาทํ สรนฺตีติ อตฺโถ. อาสตฺตึเยว อภิวทนฺติ ลคฺคนกํเยว วทนฺติ. ‘‘อาสตฺต’’นฺติปิ ปาโ, ตณฺหํเยว วทนฺตีติ อตฺโถ. อิติ เปจฺจ ภวิสฺสามาติ เอวํ เปจฺจ ภวิสฺสาม. ขตฺติยา ภวิสฺสาม, พฺราหฺมณา ภวิสฺสามาติ เอวเมตฺถ นโย เนตพฺโพ. วาณิชูปมา ¶ มฺเติ วาณิชูปมา วิย วาณิชปฏิภาคา วาณิชสทิสา มยฺหํ อุปฏฺหนฺติ. สกฺกายภยาติ สกฺกายสฺส ภยา. เต หิ ยเถว ‘‘จตฺตาโร โข, มหาราช, อภยสฺส ภายนฺติ. กตเม จตฺตาโร? คณฺฑุปฺปาโท โข, มหาราช, ภยา ปถวึ น ขาทติ ‘มา ปถวี ขิยี’ติ, โกนฺโต โข, มหาราช, เอกปาเทน ติฏฺติ ‘มา ปถวี โอสีที’ติ, กิกี โข, มหาราช, อุตฺตานา เสติ ‘มา อมฺภา อุนฺทฺริยี’ติ, พฺราหฺมณธมฺมิโก โข, มหาราช, พฺรหฺมจริยํ น จรติ ‘มา โลโก อุจฺฉิชฺชี’ติ อิเม จตฺตาโร อภยสฺส ภายนฺติ, เอวํ สกฺกายสฺส ภายนฺติ’’. สกฺกายปริเชคุจฺฉาติ ตเมว เตภูมกสงฺขาตํ สกฺกายํ ปริชิคุจฺฉมานา. สา คทฺทุลพทฺโธติ ทณฺฑเก รชฺชุํ ปเวเสตฺวา พทฺธสุนโข. เอวเมวิเมติ เอตฺถ ทฬฺหตฺถมฺโภ วิย ขีโล วิย จ เตภูมกธมฺมสงฺขาโต สกฺกาโย ทฏฺพฺโพ, สา วิย ทิฏฺิคติโก, ทณฺฑโก วิย ทิฏฺิ, รชฺชุ วิย ตณฺหา, คทฺทุเลน พนฺธิตฺวา ถมฺเภ วา ขีเล วา อุปนิพทฺธสุนขสฺส อตฺตโน ธมฺมตาย ฉินฺทิตฺวา คนฺตุํ อสมตฺถสฺส อนุปริธาวนํ วิย ทิฏฺิคติกสฺส ทิฏฺิทณฺฑเก ปเวสิตาย ตณฺหารชฺชุยา พนฺธิตฺวา สกฺกาเย อุปนิพทฺธสฺส อนุปริธาวนํ เวทิตพฺพํ.
๒๖. อิมาเนว ปฺจายตนานีติ อิมาเนว ปฺจ การณานิ. อิติ มาติกํ เปนฺเตนปิ ปฺเจว ¶ ปิตานิ, นิคเมนฺเตนปิ ปฺเจว นิคมิตานิ, ภาเชนฺเตน ปน จตฺตาริ ¶ ภาชิตานิ. ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ กุหึ ปวิฏฺนฺติ. เอกตฺตนานตฺตวเสน ทฺวีสุ ปเทสุ ปวิฏฺนฺติ เวทิตพฺพํ.
๒๗. เอวฺจ จตุจตฺตาลีส อปรนฺตกปฺปิเก ทสฺเสตฺวา อิทานิ อฏฺารส ปุพฺพนฺตกปฺปิเก ทสฺเสตุํ สนฺติ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อตีตโกฏฺาสสงฺขาตํ ปุพฺพนฺตํ กปฺเปตฺวา วิกปฺเปตฺวา คณฺหนฺตีติ ปุพฺพนฺตกปฺปิกา. ปุพฺพนฺตกปฺโป ¶ วา เอเตสํ อตฺถีติ ปุพฺพนฺตกปฺปิกา. เอวํ เสสมฺปิ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จาติ รูปาทีสุ อฺตรํ อตฺตาติ จ โลโกติ จ คเหตฺวา สสฺสโต อมโร นิจฺโจ ธุโวติ อภิวทนฺติ. ยถาห ‘‘รูปํ อตฺตา เจว โลโก จ สสฺสโต จาติ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺตี’’ติ วิตฺถาโร. อสสฺสตาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ ปมวาเทน จตฺตาโร สสฺสตวาทา วุตฺตา, ทุติยวาเทน สตฺต อุจฺเฉทวาทา.
นนุ เจเต เหฏฺา อาคตา, อิธ กสฺมา ปุน คหิตาติ. เหฏฺา ตตฺถ ตตฺถ มโต ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชตีติ ทสฺสนตฺถํ อาคตา. อิธ ปน ปุพฺเพนิวาสลาภี ทิฏฺิคติโก อตีตํ ปสฺสติ, น อนาคตํ, ตสฺส เอวํ โหติ ‘‘ปุพฺพนฺตโต อาคโต อตฺตา อิเธว อุจฺฉิชฺชติ, อิโต ปรํ น คจฺฉตี’’ติ อิมสฺสตฺถสฺส ทสฺสนตฺถํ คหิตา. ตติยวาเทน จตฺตาโร เอกจฺจสสฺสตวาทา วุตฺตา, จตุตฺถวาเทน จตฺตาโร อมราวิกฺเขปิกา วุตฺตา. อนฺตวาติ สปริยนฺโต ปริจฺฉินฺโน ปริวฏุโม. อวฑฺฒิตกสิณสฺส ¶ ตํ กสิณํ อตฺตาติ จ โลโกติ จ คเหตฺวา เอวํ โหติ. ทุติยวาโท วฑฺฒิตกสิณสฺส วเสน วุตฺโต, ตติยวาโท ติริยํ วฑฺเฒตฺวา อุทฺธมโธ อวฑฺฒิตกสิณสฺส, จตุตฺถวาโท ตกฺกิวเสน วุตฺโต. อนนฺตรจตุกฺกํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
เอกนฺตสุขีติ นิรนฺตรสุขี. อยํ ทิฏฺิ ลาภีชาติสฺสรตกฺกีนํ วเสน อุปฺปชฺชติ. ลาภิโน หิ ปุพฺเพนิวาสาเณน ขตฺติยาทิกุเล เอกนฺตสุขเมว อตฺตโน ชาตึ อนุสฺสรนฺตสฺส เอวํ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ. ตถา ชาติสฺสรสฺส ปจฺจุปฺปนฺนํ สุขมนุภวโต อตีตาสุ สตฺตสุ ชาตีสุ ตาทิสเมว อตฺตภาวํ อนุสฺสรนฺตสฺส. ตกฺกิสฺส ปน อิธ สุขสมงฺคิโน ‘‘อตีเตปาหํ เอวเมว อโหสิ’’นฺติ ตกฺเกเนว อุปฺปชฺชติ.
เอกนฺตทุกฺขีติ ¶ อยํ ทิฏฺิ ลาภิโน นุปฺปชฺชติ. โส หิ เอกนฺเตเนว อิธ ฌานสุเขน สุขี โหติ. อิธ ทุกฺเขน ผุฏฺสฺส ปน ชาติสฺสรสฺส ตกฺกิสฺเสว จ สา อุปฺปชฺชติ. ตติยา อิธ โวกิณฺณสุขทุกฺขานํ สพฺเพสมฺปิ เตสํ อุปฺปชฺชติ, ตถา จตุตฺถา ทิฏฺิ. ลาภิโน หิ อิทานิ จตุตฺถชฺฌานวเสน อทุกฺขมสุขสฺส, ปุพฺเพ จตุตฺถชฺฌานิกเมว พฺรหฺมโลกํ อนุสฺสรนฺตสฺส ¶ . ชาติสฺสรสฺสาปิ ปจฺจุปฺปนฺเน มชฺฌตฺตสฺส, อนุสฺสรนฺตสฺสาปิ มชฺฌตฺตภูตฏฺานเมว อนุสฺสรนฺตสฺส, ตกฺกิโนปิ ปจฺจุปฺปนฺเน มชฺฌตฺตสฺส, อตีเตปิ เอวํ ภวิสฺสตีติ ตกฺเกเนว คณฺหนฺตสฺส เอสา ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ. เอตฺตาวตา จตฺตาโร สสฺสตวาทา, จตฺตาโร เอกจฺจสสฺสติกา, จตฺตาโร อนฺตานนฺติกา, จตฺตาโร อมราวิกฺเขปิกา ¶ , ทฺเว อธิจฺจ-สมุปฺปนฺนิกาติ อฏฺารสปิ ปุพฺพนฺตกปฺปิกา กถิตา โหนฺติ.
๒๘. อิทานิ ทิฏฺุทฺธารํ อุทฺธรนฺโต ตตฺร, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ ปจฺจตฺตํเยว าณนฺติ ปจฺจกฺขาณํ. ปริสุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ. ปริโยทาตนฺติ ปภสฺสรํ. สพฺพปเทหิ วิปสฺสนาาณํเยว กถิตํ. สทฺธาทโย หิ ปฺจ ธมฺมา พาหิรสมยสฺมิมฺปิ โหนฺติ, วิปสฺสนาาณํ สาสนสฺมึเยว. ตตฺถ าณภาคมตฺตเมว ปริโยทเปนฺตีติ มยมิทํ ชานามาติ เอวํ ตตฺถ าณโกฏฺาสํ โอตาเรนฺติเยว. อุปาทานมกฺขายตีติ น ตํ าณํ, มิจฺฉาทสฺสนํ นาเมตํ, ตสฺมา ตทปิ เตสํ ภวนฺตานํ ทิฏฺุปาทานํ อกฺขายตีติ อตฺโถ. อถาปิ ตํ ชานนมตฺตลกฺขณตฺตา าณภาคมตฺตเมว, ตถาปิ ตสฺส ทสฺสนสฺส อนุปาติวตฺตนโต อุปาทานปจฺจยโต จ อุปาทานเมว. ตทุปาติวตฺโตติ ตํ ทิฏฺึ อติกฺกนฺโต. เอตฺตาวตา จตฺตาโร สสฺสตวาทา, จตฺตาโร เอกจฺจสสฺสติกา, จตฺตาโร อนฺตานนฺติกา, จตฺตาโร อมราวิกฺเขปิกา, ทฺเว อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา, โสฬส สฺีวาทา, อฏฺ อสฺีวาทา, อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา, สตฺต อุจฺเฉทวาทา, ปฺจ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทาติ พฺรหฺมชาเล อาคตา ทฺวาสฏฺิปิ ทิฏฺิโย กถิตา โหนฺติ. พฺรหฺมชาเล ปน กถิเต อิทํ สุตฺตํ อกถิตเมว โหติ. กสฺมา? อิธ ตโต อติเรกาย สกฺกายทิฏฺิยา อาคตตฺตา. อิมสฺมึ ปน กถิเต พฺรหฺมชาลํ กถิตเมว โหติ.
๓๐. อิทานิ อิมา ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย อุปฺปชฺชมานา สกฺกายทิฏฺิปมุเขเนว อุปฺปชฺชนฺตีติ ทสฺเสตุํ อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจติอาทิมาห. ตตฺถ ¶ ปฏินิสฺสคฺคาติ ปริจฺจาเคน. กามสํโยชนานํ ¶ อนธิฏฺานาติ ปฺจกามคุณตณฺหานํ นิสฺสฏฺตฺตา. ปวิเวกํ ปีตินฺติ สปฺปีติกชฺฌานทฺวยปีตึ. นิรุชฺฌตีติ ฌานนิโรเธน นิรุชฺฌติ. สมาปตฺติโต ปน วุฏฺิตสฺส นิรุทฺธา นาม โหติ. ยเถว ¶ หิ ‘‘อทุกฺขมสุขาย เวทนาย นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ, นิรามิสสุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติ เอตฺถ น อยมตฺโถ โหติ – จตุตฺถชฺฌานนิโรธา ตติยชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – จตุตฺถชฺฌานา วุฏฺาย ตติยํ ฌานํ สมาปชฺชติ, ตติยชฺฌานา วุฏฺาย จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชตีติ, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสนฺติ หีนชฺฌานปริยาทานกโทมนสฺสํ. สมาปตฺติโต วุฏฺิตจิตฺตสฺส ปน กมฺมนียภาโว กถิโต.
ปวิเวกา ปีตีติ สา เอว ฌานทฺวยปีติ. ยํ ฉายา ชหตีติ ยํ านํ ฉายา ชหติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ยสฺมึ าเน ฉายา อตฺถิ, ตสฺมึ อาตโป นตฺถิ. ยสฺมึ อาตโป อตฺถิ, ตสฺมึ ฉายา นตฺถีติ.
๓๑. นิรามิสํ สุขนฺติ ตติยชฺฌานสุขํ.
๓๒. อทุกฺขมสุขนฺติ จตุตฺถชฺฌานเวทนํ.
๓๓. อนุปาทาโนหมสฺมีติ นิคฺคหโณ อหมสฺมิ. นิพฺพานสปฺปายนฺติ นิพฺพานสฺส สปฺปายํ อุปการภูตํ ¶ . นนุ จ มคฺคทสฺสนํ นาม สพฺพตฺถ นิกนฺติยา สุกฺขาปิตาย อุปฺปชฺชติ, กถเมตํ นิพฺพานสฺส อุปการปฏิปทา นาม ชาตนฺติ, สพฺพตฺถ อนุปาทิยนวเสน อคฺคณฺหนวเสน อุปการปฏิปทา นาม ชาตํ. อภิวทตีติ อภิมาเนน อุปวทติ. ปุพฺพนฺตานุทิฏฺินฺติ อฏฺารสวิธมฺปิ ปุพฺพนฺตานุทิฏฺึ. อปรนฺตานุทิฏฺินฺติ จตุจตฺตารีสวิธมฺปิ อปรนฺตานุทิฏฺึ. อุปาทานมกฺขายตีติ อหมสฺมีติ คหณสฺส สกฺกายทิฏฺิปริยาปนฺนตฺตา ทิฏฺุปาทานํ อกฺขายติ.
สนฺติวรปทนฺติ วูปสนฺตกิเลสตฺตา สนฺตํ อุตฺตมปทํ. ฉนฺนํ ผสฺสายตนานนฺติ ภควตา ‘‘ยตฺถ ¶ จกฺขุ จ นิรุชฺฌติ รูปสฺา จ นิรุชฺฌติ โส อายตโน เวทิตพฺโพ’’ติ เอตฺถ ทฺวินฺนํ อายตนานํ ปฏิกฺเขเปน นิพฺพานํ ทสฺสิตํ.
‘‘ยตฺถ อาโป จ ปถวี, เตโช วาโย น คาธติ;
อโต สรา นิวตฺตนฺติ, เอตฺถ วฏฺฏํ น วตฺตติ;
เอตฺถ นามฺจ รูปฺจ, อเสสํ อุปรุชฺฌตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๗) –
เอตฺถ ปน สงฺขารปฏิกฺเขเปน นิพฺพานํ ทสฺสิตํ.
‘‘กตฺถ ¶ ¶ อาโป จ ปถวี, เตโช วาโย น คาธติ;
กตฺถ ทีฆฺจ รสฺสฺจ, อณุํ ถูลํ สุภาสุภํ;
กตฺถ นามฺจ รูปฺจ, อเสสํ อุปรุชฺฌตี’’ติ. (ที. นิ. ๑.๔๙๘);
ตตฺร เวยฺยากรณํ ภวติ –
‘‘วิฺาณํ อนิทสฺสนํ, อนนฺตํ สพฺพโต ปภ’’นฺติ –
เอตฺถ สงฺขารปฏิกฺเขเปน นิพฺพานํ ทสฺสิตํ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต ฉอายตนปฏิกฺเขเปน ทสฺสิตํ. อฺตฺถ จ อนุปาทาวิโมกฺโขติ นิพฺพานเมว ทสฺสิตํ, อิธ ปน อรหตฺตผลสมาปตฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
ปฺจตฺตยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. กินฺติสุตฺตวณฺณนา
๓๔. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ กินฺติสุตฺตํ. ตตฺถ ปิสินารายนฺติ เอวํนามเก มณฺฑลปเทเส. พลิหรเณติ ตสฺมึ วนสณฺเฑ ภูตานํ พลึ อาหรนฺติ, ตสฺมา โส พลิหรณนฺติ วุตฺโต. จีวรเหตูติ จีวรการณา, จีวรํ ปจฺจาสีสมาโนติ อตฺโถ. อิติภวาภวเหตูติ เอวํ อิมํ เทสนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ นิสฺสาย ตสฺมึ ตสฺมึ ภเว สุขํ เวทิสฺสามีติ ธมฺมํ เทเสตีติ กึ ตุมฺหากํ เอวํ โหตีติ อตฺโถ.
๓๕. จตฺตาโร สติปฏฺานาติอาทโย สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา โลกิยโลกุตฺตราว กถิตา. ตตฺถาติ ¶ เตสุ สตฺตตึสาย ธมฺเมสุ. สิยํสูติ ภเวยฺยุํ. อภิธมฺเมติ วิสิฏฺเ ธมฺเม, อิเมสุ สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺเมสูติ อตฺโถ. ตตฺร เจติ อิทมฺปิ โพธิปกฺขิยธมฺเมสฺเวว ภุมฺมํ. อตฺถโต เจว นานํ พฺยฺชนโต จาติ เอตฺถ ‘‘กาโยว สติปฏฺานํ เวทนาว สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺเต อตฺถโต นานํ โหติ ¶ , ‘‘สติปฏฺานา’’ติ วุตฺเต ปน พฺยฺชนโต นานํ นาม โหติ. ตทมินาปีติ ตํ ตุมฺเห อิมินาปิ การเณน ชานาถาติ อตฺถฺจ พฺยฺชนฺจ สมาเนตฺวา อถสฺส จ อฺถา คหิตภาโว พฺยฺชนสฺส จ มิจฺฉา โรปิตภาโว ทสฺเสตพฺโพ. โย ธมฺโม โย วินโยติ เอตฺถ อตฺถฺจ พฺยฺชนฺจ วิฺาปนการณเมว ธมฺโม จ วินโย จ.
๓๗. อตฺถโต หิ โข สเมตีติ สติเยว สติปฏฺานนฺติ คหิตา. พฺยฺชนโต นานนฺติ เกวลํ พฺยฺชนเมว สติปฏฺาโนติ วา สติปฏฺานาติ วา มิจฺฉา โรเปถ. อปฺปมตฺตกํ โขติ สุตฺตนฺตํ ปตฺวา พฺยฺชนํ อปฺปมตฺตกํ นาม โหติ. ปริตฺตมตฺตํ ธนิตํ กตฺวา โรปิเตปิ หิ นิพฺพุตึ ปตฺตุํ สกฺกา โหติ.
ตตฺริทํ วตฺถุ – วิชยารามวิหารวาสี กิเรโก ขีณาสวตฺเถโร ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ สุตฺตํ อาหริตฺวา กมฺมฏฺานํ กเถนฺโต – ‘‘สมุทฺโธ สมุทฺโธติ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ภาสตี’’ติ ธนิตํ กตฺวา อาห. เอโก ภิกฺขุ ‘‘สมุทฺโธ นาม, ภนฺเต’’ติ ¶ อาห. อาวุโส, สมุทฺโธติ ¶ วุตฺเตปิ สมุทฺโทติ วุตฺเตปิ มยํ โลณสาครเมว ชานาม, ตุมฺเห ปน โน อตฺถคเวสกา, พฺยฺชนคเวสกา, คจฺฉถ มหาวิหาเร ปคุณพฺยฺชนานํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก พฺยฺชนํ โสธาเปถาติ กมฺมฏฺานํ อกเถตฺวาว อุฏฺาเปสิ. โส อปรภาเค มหาวิหาเร เภรึ ปหราเปตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส จตูสุ มคฺเคสุ ปฺหํ กเถตฺวาว ปรินิพฺพุโต. เอวํ สุตฺตนฺตํ ปตฺวา พฺยฺชนํ อปฺปมตฺตกํ นาม โหติ.
วินยํ ปน ปตฺวา โน อปฺปมตฺตกํ. สามเณรปพฺพชฺชาปิ หิ อุภโตสุทฺธิโต วฏฺฏติ, อุปสมฺปทาทิกมฺมานิปิ สิถิลาทีนํ ธนิตาทิกรณมตฺเตเนว กุปฺปนฺติ. อิธ ปน สุตฺตนฺตพฺยฺชนํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
๓๘. อถ จตุตฺถวาเร วิวาโท กสฺมา? สฺาย วิวาโท. ‘‘อหํ สติเมว สติปฏฺานํ วทามิ, อยํ ‘กาโย สติปฏฺาน’นฺติ วทตี’’ติ หิ เนสํ สฺา โหติ. พฺยฺชเนปิ เอเสว นโย.
๓๙. น ¶ โจทนาย ตริตพฺพนฺติ น โจทนตฺถาย เวคายิตพฺพํ. เอกจฺโจ หิ ปุคฺคโล ‘‘นลาเฏ เต สาสปมตฺตา ปิฬกา’’ติ วุตฺโต ‘‘มยฺหํ นลาเฏ สาสปมตฺตํ ปิฬกํ ปสฺสสิ, อตฺตโน นลาเฏ ตาลปกฺกมตฺตํ มหาคณฺฑํ น ปสฺสสี’’ติ วทติ. ตสฺมา ปุคฺคโล อุปปริกฺขิตพฺโพ. อทฬฺหทิฏฺีติ อนาทานทิฏฺี สุํสุมารํ หทเย ปกฺขิปนฺโต วิย ทฬฺหํ น คณฺหาติ.
อุปฆาโตติ จณฺฑภาเวน วณฆฏฺฏิตสฺส วิย ทุกฺขุปฺปตฺติ. สุปฺปฏินิสฺสคฺคีติ ¶ ‘‘กึ นาม อหํ อาปนฺโน, กทา อาปนฺโน’’ติ วา ‘‘ตฺวํ อาปนฺโน, ตว อุปชฺฌาโย อาปนฺโน’’ติ วา เอกํ ทฺเว วาเร วตฺวาปิ ‘‘อสุกํ นาม อสุกทิวเส นาม, ภนฺเต, อาปนฺนตฺถ, สณิกํ อนุสฺสรถา’’ติ สริตฺวา ตาวเทว วิสฺสชฺเชติ. วิเหสาติ พหุํ อตฺถฺจ การณฺจ อาหรนฺตสฺส กายจิตฺตกิลมโถ. สกฺโกมีติ เอวรูโป หิ ปุคฺคโล โอกาสํ กาเรตฺวา ‘‘อาปตฺตึ อาปนฺนตฺถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺโต ‘‘กทา กิสฺมึ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ วตฺวา ‘‘อสุกทิวเส อสุกสฺมึ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘น สรามิ, อาวุโส’’ติ วทติ, ตโต ‘‘สณิกํ, ภนฺเต, สรถา’’ติ ¶ พหุํ วตฺวา สาริโต สริตฺวา วิสฺสชฺเชติ. เตนาห ‘‘สกฺโกมี’’ติ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อุเปกฺขา นาติมฺิตพฺพาติ อุเปกฺขา น อติกฺกมิตพฺพา, กตฺตพฺพา ชเนตพฺพาติ อตฺโถ. โย หิ เอวรูปํ ปุคฺคลํ ิตกํเยว ปสฺสาวํ กโรนฺตํ ทิสฺวาปิ ‘‘นนุ, อาวุโส, นิสีทิตพฺพ’’นฺติ วทติ, โส อุเปกฺขํ อติมฺติ นาม.
๔๐. วจีสํหาโรติ วจนสฺจาโร. อิเมหิ กถิตํ อมูสํ อนฺตรํ ปเวเสยฺย, ตุมฺเห อิเมหิ อิทฺจิทฺจ วุตฺตาติ อมูหิ กถิตํ อิเมสํ อนฺตรํ ปเวเสยฺยาติ อตฺโถ. ทิฏฺิปฬาโสติอาทีหิ จิตฺตสฺส อนาราธนิยภาโว กถิโต. ตํ ชานมาโน สมาโน ครเหยฺยาติ ตํ สตฺถา ชานมาโน สมาโน นินฺเทยฺย อมฺเหติ. เอตํ ¶ ปนาวุโส, ธมฺมนฺติ เอตํ กลหภณฺฑนธมฺมํ.
ตฺเจติ ¶ ตํ สฺตฺติการกํ ภิกฺขุํ. เอวํ พฺยากเรยฺยาติ มยา เอเต สุทฺธนฺเต ปติฏฺาปิตาติ อวตฺวา เยน การเณน สฺตฺติ กตา, ตเทว ทสฺเสนฺโต เอวํ พฺยากเรยฺย. ตาหํ ธมฺมํ สุตฺวาติ เอตฺถ ธมฺโมติ สารณียธมฺโม อธิปฺเปโต. น เจว อตฺตานนฺติอาทีสุ ‘‘พฺรหฺมโลกปฺปมาโณ เหส อคฺคิ อุฏฺาสิ, โก เอตมฺตฺร มยา นิพฺพาเปตุํ สมตฺโถ’’ติ หิ วทนฺโต อตฺตานํ อุกฺกํเสติ นาม. ‘‘เอตฺตกา ชนา วิจรนฺติ, โอกาโส ลทฺธุํ น สกฺกา, เอโกปิ เอตฺตกมตฺตํ นิพฺพาเปตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถี’’ติ วทมาโน ปรํ วมฺเภติ นาม. ตทุภยมฺเปส น กโรติ. ธมฺโม ปเนตฺถ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส พฺยากรณํ, เตสํ ภิกฺขูนํ สฺตฺติกรณํ อนุธมฺโม, ตเทว พฺยากโรติ นาม. น จ โกจิ สหธมฺมิโกติ อฺโ จสฺส โกจิ สเหตุโก ปเรหิ วุตฺโต วาโท วา อนุวาโท วา ครหิตพฺพภาวํ อาคจฺฉนฺโต นาม นตฺถิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
กินฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สามคามสุตฺตวณฺณนา
๔๑. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ สามคามสุตฺตํ. ตตฺถ สามคาเมติ สามากานํ อุสฺสนฺนตฺตา เอวํลทฺธนาเม คาเม. อธุนา กาลงฺกโตติ สมฺปติ กาลํ กโต. ทฺเวธิกชาตาติ ¶ ทฺเวชฺฌชาตา ทฺเวภาคชาตา. ภณฺฑนาทีสุ ภณฺฑนํ ปุพฺพภาคกลโห, ตํ ทณฺฑาทานาทิวเสน ปณฺณตฺติวีติกฺกมวเสน จ วทฺธิตํ กลโห, ‘‘น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสี’’ติอาทิกํ วิรุทฺธวจนํ วิวาโท. วิตุทนฺตาติ วิตุชฺชนฺตา. สหิตํ เมติ มม วจนํ อตฺถสํหิตํ. อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตนฺติ ยํ ตว อธิจิณฺณํ จิรกาลเสวนวเสน ปคุณํ, ตํ มม วาทํ อาคมฺม นิวตฺตํ. อาโรปิโต เต วาโทติ ตุยฺหํ อุปริ มยา โทโส อาโรปิโต. จร วาทปฺปโมกฺขายาติ ภตฺตปุฏํ อาทาย ตํ ตํ อุปสงฺกมิตฺวา วาทปฺปโมกฺขตฺถาย อุตฺตริ ¶ ปริเยสมาโน จร. นิพฺเพเหิ วาติ อถ มยา อาโรปิตวาทโต อตฺตานํ โมเจหิ. สเจ ปโหสีติ สเจ สกฺโกสิ. วโธเยวาติ มรณเมว.
นาฏปุตฺติเยสูติ นาฏปุตฺตสฺส อนฺเตวาสิเกสุ. นิพฺพินฺนรูปาติ ¶ อุกฺกณฺิตสภาวา, อภิวาทนาทีนิ น กโรนฺติ. วิรตฺตรูปาติ วิคตเปมา. ปฏิวานรูปาติ เตสํ นิปจฺจกิริยโต นิวตฺตสภาวา. ยถา ตนฺติ ยถา จ ทุรกฺขาตาทิสภาเว ธมฺมวินเย นิพฺพินฺนวิรตฺตปฏิวานรูเปหิ ภวิตพฺพํ, ตเถว ชาตาติ อตฺโถ. ทุรกฺขาเตติ ทุกฺกถิเต. ทุปฺปเวทิเตติ ทุวิฺาปิเต. อนุปสมสํวตฺตนิเกติ ราคาทีนํ อุปสมํ กาตุํ อสมตฺโถ. ภินฺนถูเปติ ภินฺนปติฏฺเ. เอตฺถ หิ นาฏปุตฺโตว เนสํ ปติฏฺเน ถูโป, โส ปน ภินฺโน มโต. เตน วุตฺตํ ‘‘ภินฺนถูเป’’ติ. อปฺปฏิสรเณติ ตสฺเสว อภาเวน ปฏิสรณวิรหิเต.
นนุ จายํ นาฏปุตฺโต นาฬนฺทวาสิโก, โส กสฺมา ปาวายํ กาลํกโตติ. โส กิร อุปาลินา คหปตินา ปฏิวิทฺธสจฺเจน ทสหิ คาถาหิ ภาสิเต พุทฺธคุเณ สุตฺวา อุณฺหํ โลหิตํ ฉฑฺเฑสิ. อถ นํ อผาสุกํ คเหตฺวา ปาวํ อคมํสุ, โส ตตฺถ กาลมกาสิ. กาลํ กุรุมาโน จ ‘‘มม ลทฺธิ อนิยฺยานิกา สารรหิตา, มยํ ตาว นฏฺา, อวเสสชโน มา อปายปูรโก อโหสิ ¶ . สเจ ปนาหํ ‘มม สาสนํ อนิยฺยานิก’นฺติ วกฺขามิ, น สทฺทหิสฺสนฺติ. ยํนูนาหํ ทฺเวปิ ชเน น เอกนีหาเรน อุคฺคณฺหาเปยฺยํ, เต มมจฺจเยน อฺมฺํ วิวทิสฺสนฺติ. สตฺถา ตํ วิวาทํ ปฏิจฺจ เอกํ ธมฺมกถํ กเถสฺสติ, ตโต เต สาสนสฺส มหนฺตภาวํ ชาติสฺสนฺตี’’ติ.
อถ นํ เอโก อนฺเตวาสิโก อุปสงฺกมิตฺวา อาห ¶ ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห ทุพฺพลา, มยฺหํ อิมสฺมึ ธมฺเม สารํ อาจิกฺขถ อาจริยปฺปมาณ’’นฺติ. อาวุโส, ตฺวํ มมจฺจเยน สสฺสตนฺติ คณฺเหยฺยาสีติ. อปโรปิ ตํ อุปสงฺกมิ, ตํ อุจฺเฉทํ คณฺหาเปสิ. เอวํ ทฺเวปิ ชเน เอกลทฺธิเก อกตฺวา พหู นานานีหาเรน อุคฺคณฺหาเปตฺวา กาลมกาสิ. เต ตสฺส สรีรกิจฺจํ กตฺวา สนฺนิปติตฺวา อฺมฺํ ปุจฺฉึสุ ‘‘กสฺสาวุโส, อาจริโย สารมาจิกฺขี’’ติ? เอโก อุฏฺหิตฺวา มยฺหนฺติ อาห. กึ อาจิกฺขีติ? สสฺสตนฺติ. อปโร ตํ ปฏิพาหิตฺวา มยฺหํ สารํ อาจิกฺขีติ อาห. เอวํ สพฺเพ ‘‘มยฺหํ สารํ อาจิกฺขิ, อหํ เชฏฺโก’’ติ อฺมฺํ วิวาทํ วฑฺเฒตฺวา อกฺโกเส ¶ เจว ปริภาเส จ หตฺถปาทปหาราทีนิ จ ปวตฺเตตฺวา เอกมคฺเคน ทฺเว อคจฺฉนฺตา นานาทิสาสุ ปกฺกมึสุ, เอกจฺเจ คิหี อเหสุํ.
ภควโต ปน ธรมานกาเลปิ ภิกฺขุสงฺเฆ วิวาโท น อุปฺปชฺชิ. สตฺถา หิ เตสํ วิวาทการเณ อุปฺปนฺนมตฺเตเยว สยํ วา คนฺตฺวา เต วา ภิกฺขู ปกฺโกสาเปตฺวา ขนฺติ เมตฺตา ปฏิสงฺขา อวิหึสา สารณียธมฺเมสุ เอกํ การณํ กเถตฺวา วิวาทํ วูปสเมติ. เอวํ ธรมาโนปิ สงฺฆสฺส ปติฏฺาว อโหสิ. ปรินิพฺพายมาโนปิ อวิวาทการณํ กตฺวาว ปรินิพฺพายิ. ภควตา หิ สุตฺเต เทสิตา จตฺตาโร มหาปเทสา (อ. นิ. ๔.๑๘๐; ที. นิ. ๒.๑๘๗) ยาวชฺชทิวสา ภิกฺขูนํ ปติฏฺา จ อวสฺสโย จ. ตถา ขนฺธเก เทสิตา จตฺตาโร มหาปเทสา (มหาว. ๓๐๕) สุตฺเต วุตฺตานิ จตฺตาริ ปฺหพฺยากรณานิ (อ. นิ. ๔.๔๒) จ. เตเนวาห – ‘‘โย โว มยา, อานนฺท, ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปฺตฺโต, โส โว มมจฺจเยน สตฺถา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๖).
๔๒. อถ ¶ โข จุนฺโท สมณุทฺเทโสติ อยํ เถโร ธมฺมเสนาปติสฺส กนิฏฺภาติโก. ตํ ภิกฺขู อนุปสมฺปนฺนกาเล จุนฺโท สมณุทฺเทโสติ สมุทาจริตฺวา เถรกาเลปิ ตเถว สมุทาจรึสุ. เตน ¶ วุตฺตํ ‘‘จุนฺโท สมณุทฺเทโส’’ติ. อุปสงฺกมีติ กสฺมา อุปสงฺกมิ? นาฏปุตฺเต กิร กาลํกเต ชมฺพุทีเป มนุสฺสา ตตฺถ ตตฺถ กถํ ปวตฺตยึสุ – ‘‘นิคณฺโ นาฏปุตฺโต เอโก สตฺถาติ ปฺายิตฺถ, ตสฺส กาลกิริยาย สาวกานํ เอวรูโป วิวาโท ชาโต, สมโณ ปน โคตโม ชมฺพุทีเป จนฺโท วิย สูริโย วิย จ ปากโฏเยว, กีทิโส นุ โข สมเณ โคตเม ปรินิพฺพุเต สาวกานํ วิวาโท ภวิสฺสตี’’ติ. เถโร ตํ กถํ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อิมํ กถํ คเหตฺวา ทสพลสฺส อาโรเจสฺสามิ, สตฺถา จ เอตํ อตฺถุปฺปตฺตึ กตฺวา เอกํ เทสนํ กเถสฺสตี’’ติ. โส นิกฺขมิตฺวา เยน สามคาโม, เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ. อุชุเมว ภควโต สนฺติกํ อคนฺตฺวา เยนสฺส อุปชฺฌาโย อายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมีติ อตฺโถ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อุปชฺฌาโย เม มหาปฺโ, โส อิมํ สาสนํ ¶ สตฺถุ อาโรเจสฺสติ, อถ สตฺถา ตทนุรูปํ ธมฺมํ เทเสสฺสตี’’ติ. กถาปาภตนฺติ กถามูลํ, มูลฺหิ ปาภตนฺติ วุจฺจติ. ยถาห –
‘‘อปฺปเกนปิ เมธาวี, ปาภเตน วิจกฺขโณ;
สมุฏฺาเปติ อตฺตานํ, อณุํ อคฺคึว สนฺธม’’นฺติ. (ชา. ๒.๑.๔);
ทสฺสนายาติ ทสฺสนตฺถาย. กึ ปนิมินา ภควา น ทิฏฺปุพฺโพติ? โน น ทิฏฺปุพฺโพ, อยฺหิ อายสฺมา ทิวา นว วาเร รตฺตึ นว วาเรติ เอกาหํ ¶ อฏฺารส วาเร อุปฏฺานเมว คจฺฉติ. ทิวสสฺส ปน สตกฺขตฺตุํ วา สหสฺสกฺขตฺตุํ วา คนฺตุกาโม สมาโนปิ น อการณา คจฺฉติ, เอกํ ปฺหุทฺธารํ คเหตฺวาว คจฺฉติ. โส ตํทิวสํ เตน คนฺตุกาโม เอวมาห.
อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานนฺติ เอกสฺมึ วิหาเร สงฺฆมชฺเฌ อุปฺปนฺโน วิวาโท กถํ เทวมนุสฺสานํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตติ? โกสมฺพกกฺขนฺธเก (มหาว. ๔๕๑) วิย หิ ทฺวีสุ ภิกฺขูสุ วิวาทํ อาปนฺเนสุ ตสฺมึ วิหาเร เตสํ อนฺเตวาสิกา วิวทนฺติ, เตสํ โอวาทํ คณฺหนฺโต ภิกฺขุนิสงฺโฆ วิวทติ, ตโต เตสํ อุปฏฺากา วิวทนฺติ, อถ มนุสฺสานํ อารกฺขเทวตา ทฺเว โกฏฺาสา โหนฺติ. ตตฺถ ธมฺมวาทีนํ อารกฺขเทวตา ธมฺมวาทินิโย โหนฺติ, อธมฺมวาทีนํ อธมฺมวาทินิโย โหนฺติ. ตโต ตาสํ อารกฺขเทวตานํ มิตฺตา ภุมฺมเทวตา ภิชฺชนฺติ. เอวํ ปรมฺปราย ยาว พฺรหฺมโลกา เปตฺวา อริยสาวเก สพฺเพ เทวมนุสฺสา ทฺเว โกฏฺาสา ¶ โหนฺติ. ธมฺมวาทีหิ ปน อธมฺมวาทิโนว พหุตรา โหนฺติ, ตโต ยํ พหูหิ คหิตํ, ตํ คณฺหนฺติ. ธมฺมํ วิสฺสชฺเชตฺวา พหุตราว อธมฺมํ คณฺหนฺติ. เต อธมฺมํ ปูเรตฺวา วิหรนฺตา อปาเย นิพฺพตฺตนฺติ. เอวํ เอกสฺมึ วิหาเร สงฺฆมชฺเฌ อุปฺปนฺโน วิวาโท พหูนํ อหิตาย ทุกฺขาย โหติ.
๔๓. อภิฺา เทสิตาติ มหาโพธิมูเล นิสินฺเนน ปจฺจกฺขํ กตฺวา ปเวทิตา. ปติสฺสยมานรูปา วิหรนฺตีติ อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ. ภควโต ¶ อจฺจเยนาติ เอตรหิ ภควนฺตํ เชฏฺกํ กตฺวา สคารวา วิหรนฺติ, ตุมฺหากํ, ภนฺเต, อุคฺคเตชตาย ทุราสทตาย วิวาทํ ชเนตุํ น ¶ สกฺโกนฺติ, ภควโต ปน อจฺจเยน วิวาทํ ชเนยฺยุนฺติ วทติ. ยตฺถ ปน ตํ วิวาทํ ชเนยฺยุํ, ตํ ทสฺเสนฺโต อชฺฌาชีเว วา อธิปาติโมกฺเข วาติ อาห. ตตฺถ อชฺฌาชีเวติ อาชีวเหตุ อาชีวการณา – ‘‘ภิกฺขุ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปติ อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติอาทินา (ปริ. ๒๘๗) นเยน ปริวาเร ปฺตฺตานิ ฉ สิกฺขาปทานิ, ตานิ เปตฺวา เสสานิ สพฺพสิกฺขาปทานิ อธิปาติโมกฺขํ นาม. อปฺปมตฺตโก โส อานนฺทาติ อชฺฌาชีวํ อธิปาติโมกฺขฺจ อารพฺภ อุปฺปนฺนวิวาโท นาม ยสฺมา ปรสฺส กถายปิ อตฺตโน ธมฺมตายปิ สลฺลกฺเขตฺวา สุปฺปชโห โหติ, ตสฺมา ‘‘อปฺปมตฺตโก’’ติ วุตฺโต.
ตตฺรายํ นโย – อิเธกจฺโจ ‘‘น สกฺกา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อนุลฺลปนฺเตน กิฺจิ ลทฺธุ’’นฺติอาทีนิ จินฺเตตฺวา อาชีวเหตุ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ วา อุลฺลปติ สฺจริตฺตํ วา อาปชฺชติ, โย เต วิหาเร วสติ, โส ภิกฺขุ อรหาติอาทินา นเยน สามนฺตชปฺปนํ วา กโรติ, อคิลาโน วา อตฺตโน อตฺถาย ปณีตโภชนานิ วิฺาเปตฺวา ภฺุชติ, ภิกฺขุนี วา ปน ตานิ วิฺาเปตฺวา ปาฏิเทสนียํ อาปชฺชติ, โย โกจิ ทุกฺกฏวตฺถุกํ ยํกิฺจิ สูโปทนวิฺตฺติเมว วา กโรติ, อฺตรํ วา ปน ปณฺณตฺติวีติกฺกมํ กโรนฺโต วิหรติ, ตเมนํ สพฺรหฺมจารี เอวํ สฺชานนฺติ – ‘‘กึ อิมสฺส อิมินา ลาเภน ลทฺเธน, โย สาสเน ปพฺพชิตฺวา มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปติ, ปณฺณตฺติวีติกฺกมํ กโรตี’’ติ. อตฺตโน ธมฺมตายปิสฺส เอวํ โหติ – ‘‘กิสฺส มยฺหํ อิมินา ลาเภน, ยฺวาหํ เอวํ ¶ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิตฺวา มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปมิ, ปณฺณตฺติวีติกฺกมํ กโรมี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ¶ ตโต โอรมติ. เอวํ ปรสฺส กถายปิ อตฺตโน ธมฺมตายปิ สลฺลกฺเขตฺวา สุปฺปชโห โหติ. เตน ภควา ‘‘อปฺปมตฺตโก’’ติ อาห.
มคฺเค วา หิ, อานนฺท, ปฏิปทาย วาติ โลกุตฺตรมคฺคํ ปตฺวา วิวาโท นาม สพฺพโส วูปสมฺมติ, นตฺถิ อธิคตมคฺคานํ วิวาโท. ปุพฺพภาคมคฺคํ ปน ปุพฺพภาคปฏิปทฺจ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
ตตฺรายํ นโย – เอวํ ภิกฺขุํ มนุสฺสา โลกุตฺตรธมฺเม สมฺภาเวนฺติ. โส สทฺธิวิหาริกาทโย อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ิเต ปุจฺฉติ ‘‘กึ อาคตตฺถา’’ติ. มนสิกาตพฺพกมฺมฏฺานํ ปุจฺฉิตุํ, ภนฺเตติ. นิสีทถ, ขเณเนว ¶ อรหตฺตํ ปาเปตุํ สมตฺถกมฺมฏฺานกถํ อาจิกฺขิสฺสามีติ วตฺวา วทติ – ‘‘อิธ ภิกฺขุ อตฺตโน วสนฏฺานํ ปวิสิตฺวา นิสินฺโน มูลกมฺมฏฺานํ มนสิ กโรติ, ตสฺส ตํ มนสิกโรโต โอภาโส อุปฺปชฺชติ. อยํ ปมมคฺโค นาม. โส ทุติยํ โอภาสาณํ นิพฺพตฺเตติ, ทุติยมคฺโค อธิคโต โหติ, เอวํ ตติยฺจ จตุตฺถฺจ. เอตฺตาวตา มคฺคปฺปตฺโต เจว ผลปฺปตฺโต จ โหตี’’ติ. อถ เต ภิกฺขู ‘‘อขีณาสโว นาม เอวํ กมฺมฏฺานํ กเถตุํ น สกฺโกติ, อทฺธายํ ขีณาสโว’’ติ นิฏฺํ คจฺฉนฺติ.
โส อปเรน สมเยน กาลํ กโรติ. สมนฺตา ภิกฺขาจารคาเมหิ มนุสฺสา อาคนฺตฺวา ปุจฺฉนฺติ ‘‘เกนจิ, ภนฺเต, เถโร ปฺหํ ปุจฺฉิโต’’ติ. อุปาสกา ปุพฺเพว เถเรน ปฺโห กถิโต อมฺหากนฺติ. เต ปุปฺผมณฺฑปํ ปุปฺผกูฏาคารํ สชฺเชตฺวา สุวณฺเณน อกฺขิปิธานมุขปิธานาทึ กริตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา สตฺตาหํ สาธุกีฬิกํ ¶ กีเฬตฺวา ฌาเปตฺวา อฏฺีนิ อาทาย เจติยํ กโรนฺติ. อฺเ อาคนฺตุกา วิหารํ อาคนฺตฺวา ปาเท โธวิตฺวา ‘‘มหาเถรํ ปสฺสิสฺสาม, กหํ, อาวุโส, มหาเถโร’’ติ ปุจฺฉนฺติ. ปรินิพฺพุโต, ภนฺเตติ. ทุกฺกรํ, อาวุโส, เถเรน กตํ มคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตนฺเตน, ปฺหํ ปุจฺฉิตฺถ, อาวุโสติ. ภิกฺขูนํ กมฺมฏฺานํ กเถนฺโต อิมินา นิยาเมน กเถสิ, ภนฺเตติ. น เอโส, อาวุโส, มคฺโค, วิปสฺสนุปกฺกิเลโส นาเมส, น ตุมฺเห ชานิตฺถ, ปุถุชฺชโน, อาวุโส, เถโรติ. เต กลหํ กโรนฺตา อุฏฺหิตฺวา ‘‘สกลวิหาเร ภิกฺขู จ ภิกฺขาจารคาเมสุ มนุสฺสา จ น ชานนฺติ, ตุมฺเหเยว ชานาถ. กตรมคฺเคน ตุมฺเห อาคตา, กึ ¶ โว วิหารทฺวาเร เจติยํ น ทิฏฺ’’นฺติ. เอวํวาทีนํ ปน ภิกฺขูนํ สตํ วา, โหตุ สหสฺสํ วา, ยาว ตํ ลทฺธึ นปฺปชหนฺติ, สคฺโคปิ มคฺโคปิ วาริโตเยว.
อปโรปิ ตาทิโสว กมฺมฏฺานํ กเถนฺโต เอวํ กเถติ – จิตฺเตเนว ตีสุ อุทฺธเนสุ ตีณิ กปลฺลานิ อาโรเปตฺวา เหฏฺา อคฺคึ กตฺวา จิตฺเตเนว อตฺตโน ทฺวตฺตึสาการํ อุปฺปาเฏตฺวา กปลฺเลสุ ปกฺขิปิตฺวา จิตฺเตเนว ทณฺฑเกน ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา ภชฺชิตพฺพํ, ยา ฌายมาเน ฉาริกา โหติ, สา มุขวาเตน ปลาเสตพฺพา. เอตฺตเกน ธูตปาโป นาเมส สมโณ โหติ. เสสํ ปุริมนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ.
อปโร ¶ เอวํ กเถติ – จิตฺเตเนว มหาจาฏึ เปตฺวา มตฺถุํ โยเชตฺวา จิตฺเตเนว อตฺตโน ทฺวตฺตึสาการํ อุปฺปาเฏตฺวา ตตฺถ ปกฺขิปิตฺวา มตฺถุํ โอตาเรตฺวา มนฺถิตพฺพํ. มถิยมานํ วิลียติ, วิลีเน อุปริ เผโณ อุคฺคจฺฉติ. โส เผโณ ปริภฺุชิตพฺโพ. เอตฺตาวตา โว อมตํ ปริภุตฺตํ นาม ภวิสฺสติ ¶ . อิโต ปรํ ‘‘อถ เต ภิกฺขู’’ติอาทิ สพฺพํ ปุริมนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ.
๔๔. อิทานิ โย เอวํ วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย, ตสฺส มูลํ ทสฺเสนฺโต ฉยิมานีติอาทิมาห. ตตฺถ อคารโวติ คารววิรหิโต. อปฺปติสฺโสติ อปฺปติสฺสโย อนีจวุตฺติ. เอตฺถ ปน โย ภิกฺขุ สตฺถริ ธรมาเน ตีสุ กาเลสุ อุปฏฺานํ น ยาติ, สตฺถริ อนุปาหเน จงฺกมนฺเต สอุปาหโน จงฺกมติ, นีเจ จงฺกเม จงฺกมนฺเต อุจฺเจ จงฺกเม จงฺกมติ, เหฏฺา วสนฺเต อุปริ วสติ, สตฺถุ ทสฺสนฏฺาเน อุโภ อํเส ปารุปติ, ฉตฺตํ ธาเรติ, อุปาหนํ ธาเรติ, นฺหานติตฺเถ อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา กโรติ, ปรินิพฺพุเต วา ปน เจติยํ วนฺทิตุํ น คจฺฉติ, เจติยสฺส ปฺายนฏฺาเน สตฺถุทสฺสนฏฺาเน วุตฺตํ สพฺพํ กโรติ, อฺเหิ จ ภิกฺขูหิ ‘‘กสฺมา เอวํ กโรสิ, น อิทํ วฏฺฏติ, สมฺมาสพุทฺธสฺส นาม ลชฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตูณฺหี โหติ, กึ พุทฺโธ พุทฺโธติ วทสี’’ติ ภณติ, อยํ สตฺถริ อคารโว นาม.
โย ปน ธมฺมสฺสวเน สงฺฆุฏฺเ สกฺกจฺจํ น คจฺฉติ, สกฺกจฺจํ ธมฺมํ น สุณาติ, นิทฺทายติ วา สลฺลเปนฺโต วา นิสีทติ, สกฺกจฺจํ น คณฺหาติ น ธาเรติ, ‘‘กึ ธมฺเม อคารวํ ¶ กโรสี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตุณฺหี โหติ, ธมฺโม ธมฺโมติ วทสิ, กึ ธมฺโม นามา’’ติ วทติ, อยํ ธมฺเม อคารโว นาม.
โย ปน เถเรน ภิกฺขุนา อนชฺฌิฏฺโ ธมฺมํ เทเสติ, นิสีทติ ปฺหํ กเถติ, วุฑฺเฒ ภิกฺขู ฆฏฺเฏนฺโต คจฺฉติ, ติฏฺติ นิสีทติ, ทุสฺสปลฺลตฺถิกํ วา หตฺถปลฺลตฺถิกํ วา กโรติ, สงฺฆมชฺเฌ อุโภ อํเส ปารุปติ, ฉตฺตุปาหนํ ธาเรติ, ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ลชฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘ตุณฺหี โหติ, สงฺโฆ สงฺโฆติ วทสิ, กึ สงฺโฆ, มิคสงฺโฆ อชสงฺโฆ’’ติอาทีนิ วทติ, อยํ สงฺเฆ อคารโว นาม. เอกภิกฺขุสฺมิมฺปิ หิ อคารเว ¶ กเต สงฺเฆ ¶ กโตเยว โหติ. ติสฺโส สิกฺขา ปน อปริปูรยมาโนว สิกฺขาย น ปริปูรการี นาม.
อชฺฌตฺตํ วาติ อตฺตนิ วา อตฺตโน ปริสาย วา. พาหิทฺธาติ ปรสฺมึ วา ปรสฺส ปริสาย วา.
๔๖. อิทานิ อยํ ฉ านานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนวิวาโท วฑฺฒนฺโต ยานิ อธิกรณานิ ปาปุณาติ, ตานิ ทสฺเสตุํ จตฺตาริมานีติอาทิมาห. ตตฺถ วูปสมนตฺถาย ปวตฺตมาเนหิ สมเถหิ อธิกาตพฺพานีติ อธิกรณานิ. วิวาโทว อธิกรณํ วิวาทาธิกรณํ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย.
อิทานิ อิมานิปิ จตฺตาริ อธิกรณานิ ปตฺวา อุปริ วฑฺเฒนฺโต โส วิวาโท เยหิ สมเถหิ วูปสมฺมติ, เตสํ ทสฺสนตฺถํ สตฺต โข ปนิเมติอาทิมาห. ตตฺถ อธิกรณานิ สเมนฺติ วูปสเมนฺตีติ อธิกรณสมถา. อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานนฺติ อุปฺปนฺนานํ อุปฺปนฺนานํ. อธิกรณานนฺติ เอเตสํ วิวาทาธิกรณาทีนํ จตุนฺนํ. สมถาย วูปสมายาติ สมนตฺถฺเจว วูปสมนตฺถฺจ. สมฺมุขาวินโย ทาตพฺโพ…เป… ติณวตฺถารโกติ อิเม สตฺต สมถา ทาตพฺพา.
ตตฺรายํ วินิจฺฉยกถา – อธิกรเณสุ ตาว ธมฺโมติ ¶ วา อธมฺโมติ วาติ อฏฺารสหิ วตฺถูหิ วิวทนฺตานํ ภิกฺขูนํ โย วิวาโท, อิทํ วิวาทาธิกรณํ นาม. สีลวิปตฺติยา วา อาจารทิฏฺิอาชีววิปตฺติยา วา อนุวทนฺตานํ โย อนุวาโท อุปวทนา เจว โจทนา จ, อิทํ ¶ อนุวาทาธิกรณํ นาม. มาติกายํ อาคตา ปฺจ วิภงฺเค ทฺเวติ สตฺต อาปตฺติกฺขนฺธา อาปตฺตาธิกรณํ นาม. ยํ สงฺฆสฺส อปโลกนาทีนํ จตุนฺนํ กมฺมานํ กรณํ, อิทํ กิจฺจาธิกรณํ นาม.
ตตฺถ วิวาทาธิกรณํ ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมติ สมฺมุขาวินเยน จ เยภุยฺยสิกาย จ. สมฺมุขาวินเยเนว สมฺมมานํ ยสฺมึ วิหาเร อุปฺปนฺนํ, ตสฺมึเยว วา, อฺตฺถ วูปสเมตุํ คจฺฉนฺตานํ อนฺตรามคฺเค วา, ยตฺถ คนฺตฺวา สงฺฆสฺส นิยฺยาติตํ, ตตฺถ สงฺเฆน วา คเณน วา วูปสเมตุํ อสกฺโกนฺเต ตตฺเถว อุพฺพาหิกาย สมฺมตปุคฺคเลหิ วา วินิจฺฉิตํ สมฺมติ. เอวํ สมฺมมาเน ปน ¶ ตสฺมึ ยา สงฺฆสมฺมุขตา ธมฺมสมฺมุขตา, วินยสมฺมุขตา, ปุคฺคลสมฺมุขตา, อยํ สมฺมุขาวินโย นาม.
ตตฺถ จ การกสงฺฆสฺส สามคฺคิวเสน สมฺมุขีภาโว สงฺฆสมฺมุขตา. สเมตพฺพสฺส วตฺถุโน ภูตตา ธมฺมสมฺมุขตา. ยถา ตํ สเมตพฺพํ, ตเถว สมนํ วินยสมฺมุขตา. โย จ วิวทติ, เยน จ วิวทติ, เตสํ อุภินฺนํ อตฺตปจฺจตฺถิกานํ สมฺมุขีภาโว ปุคฺคลสมฺมุขตา. อุพฺพาหิกาย วูปสเม ปเนตฺถ สงฺฆสมฺมุขตา ปริหายติ. เอวํ ตาว สมฺมุขาวินเยเนว สมฺมติ.
สเจ ปเนวมฺปิ น สมฺมติ, อถ นํ ¶ อุพฺพาหิกาย สมฺมตา ภิกฺขู ‘‘น มยํ สกฺโกม วูปสเมตุ’’นฺติ สงฺฆสฺเสว นิยฺยาเตนฺติ. ตโต สงฺโฆ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ สลากคฺคาหกํ สมฺมนฺนิตฺวา เตน คุฬฺหกวิวฏกสกณฺณชปฺปเกสุ ตีสุ สลากคฺคาเหสุ อฺตรวเสน สลากํ คาเหตฺวา สนฺนิปติตปริสาย ธมฺมวาทีนํ เยภุยฺยตาย ยถา เต ธมฺมวาทิโน วทนฺติ, เอวํ วูปสนฺตํ อธิกรณํ สมฺมุขาวินเยน จ เยภุยฺยสิกาย จ วูปสนฺตํ โหติ. ตตฺถ สมฺมุขาวินโย วุตฺตนโย เอว. ยํ ปน เยภุยฺยสิกาย กมฺมสฺส กรณํ, อยํ เยภุยฺยสิกา นาม. เอวํ วิวาทาธิกรณํ ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมติ.
อนุวาทาธิกรณํ จตูหิ สมเถหิ สมฺมติ สมฺมุขาวินเยน จ สติวินเยน จ อมูฬฺหวินเยน จ ตสฺสปาปิยสิกาย จ. สมฺมุขาวินเยเนว สมฺมมานํ โย จ อนุวทติ, ยฺจ ¶ อนุวทติ, เตสํ วจนํ สุตฺวา, สเจ กาจิ อาปตฺติ นตฺถิ, อุโภ ขมาเปตฺวา, สเจ อตฺถิ, อยํ นาเมตฺถ อาปตฺตีติ เอวํ วินิจฺฉิตํ วูปสมฺมติ. ตตฺถ สมฺมุขาวินยลกฺขณํ วุตฺตนยเมว.
ยทา ปน ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํสิตสฺส สติวินยํ ยาจมานสฺส สงฺโฆ ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน สติวินยํ เทติ, ตทา สมฺมุขาวินเยน จ สติวินเยน จ วูปสนฺตํ โหติ. ทินฺเน ปน สติวินเย ปุน ตสฺมึ ปุคฺคเล กสฺสจิ อนุวาโท น รุหติ.
ยทา อุมฺมตฺตโก ภิกฺขุ อุมฺมาทวเสน กเต อสฺสามณเก อชฺฌาจาเร ‘‘สรตายสฺมา เอวรูปึ อาปตฺติ’’นฺติ ภิกฺขูหิ วุจฺจมาโน – ‘‘อุมฺมตฺตเกน เม, อาวุโส, เอตํ กตํ, นาหํ ¶ ตํ สรามี’’ติ ภณนฺโตปิ ภิกฺขูหิ ¶ โจทิยมาโนว ปุน อโจทนตฺถาย อมูฬฺหวินยํ ยาจติ, สงฺโฆ จสฺส ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อมูฬฺหวินยํ เทติ, ตทา สมฺมุขาวินเยน จ อมูฬฺหวินเยน จ วูปสนฺตํ โหติ. ทินฺเน ปน อมูฬฺหวินเย ปุน ตสฺมึ ปุคฺคเล กสฺสจิ ตปฺปจฺจยา อนุวาโท น รุหติ.
ยทา ปน ปาราชิเกน วา ปาราชิกสามนฺเตน วา โจทิยมานสฺส อฺเนาฺํ ปฏิจรโต ปาปุสฺสนฺนตาย ปาปิยสฺส ปุคฺคลสฺส – ‘‘สจายํ อจฺฉินฺนมูโล ภวิสฺสติ, สมฺมา วตฺติตฺวา โอสารณํ ลภิสฺสติ, สเจ ฉินฺนมูโล, อยเมวสฺส นาสนา ภวิสฺสตี’’ติ มฺมาโน สงฺโฆ ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน ตสฺสปาปิยสิกํ กโรติ, ตทา สมฺมุขาวินเยน จ ตสฺส ปาปิยสิกาย จ วูปสนฺตํ โหติ. เอวํ อนุวาทาธิกรณํ จตูหิ สมเถหิ สมฺมติ.
อาปตฺตาธิกรณํ ตีหิ สมเถหิ สมฺมติ สมฺมุขาวินเยน จ ปฏิฺาตกรเณน จ ติณวตฺถารเกน จ. ตสฺส สมฺมุขาวินเยเนว วูปสโม นตฺถิ. ยทา ปน เอกสฺส วา ภิกฺขุโน สนฺติเก สงฺฆคณมชฺเฌสุ วา ภิกฺขุ ลหุกํ อาปตฺตึ เทเสติ, ตทา อาปตฺตาธิกรณํ สมฺมุขาวินเยน จ ปฏิฺาตกรเณน จ วูปสมฺมติ. ตตฺถ สมฺมุขาวินโย ตาว โย จ เทเสติ, ยสฺส จ เทเสติ, เตสํ สมฺมุขตา. เสสํ วุตฺตนยเมว. ปุคฺคลสฺส จ คณสฺส จ เทสนากาเล ¶ สงฺฆสมฺมุขตา ปริหายติ. ยํ ปเนตฺถ ‘‘อหํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อปนฺโน’’ติ จ, อาม ‘‘ปสฺสามี’’ติ จ ปฏิฺาตาย ¶ ‘‘อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ กรณํ, ตํ ปฏิฺาตกรณํ นาม. สงฺฆาทิเสเส ปริวาสาทิยาจนา ปฏิฺา, ปริวาสาทีนํ ทานํ ปฏิฺาตกรณํ นาม.
ทฺเวปกฺขชาตา ปน ภณฺฑนการกา ภิกฺขู พหุํ อสฺสามณกํ อชฺฌาจารํ จริตฺวา ปุน ลชฺชิธมฺเม อุปฺปนฺเน ‘‘สเจ มยํ อิมาหิ อาปตฺตีหิ อฺมฺํ กาเรสฺสาม, สิยาปิ ตํ อธิกรณํ กกฺขฬตฺตาย สํวตฺเตยฺยา’’ติ อฺมฺํ อาปตฺติยา การาปเน โทสํ ทิสฺวา ยทา ติณวตฺถารกกมฺมํ กโรนฺติ, ตทา อาปตฺตาธิกรณํ สมฺมุขาวินเยน จ ติณวตฺถารเกน จ สมฺมติ. ตตฺร หิ ยตฺตกา หตฺถปาสุปคตา ‘‘น เม ตํ ขมตี’’ติ เอวํ ทิฏฺาวิกมฺมํ อกตฺวา ‘‘ทุกฺกฏํ กมฺมํ ปุน กาตพฺพํ กมฺม’’นฺติ น อุกฺโกเฏนฺติ, นิทฺทมฺปิ ¶ โอกฺกนฺตา โหนฺติ, สพฺเพสมฺปิ เปตฺวา ถุลฺลวชฺชฺจ คิหิปฏิสํยุตฺตฺจ สพฺพาปตฺติโย วุฏฺหนฺติ. เอวํ อาปตฺตาธิกรณํ ตีหิ สมเถหิ สมฺมติ. กิจฺจาธิกรณํ เอเกน สมเถน สมฺมติ สมฺมุขาวินเยเนว.
อิมานิ จตฺตาริ อธิกรณานิ ยถานุรูปํ อิเมหิ สตฺตหิ สมเถหิ สมฺมนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อธิกรณานํ สมถาย วูปสมาย สมฺมุขาวินโย ทาตพฺโพ…เป… ติณวตฺถารโก’’ติ. อยเมตฺถ วินิจฺฉยนโย, วิตฺถาโร ปน สมถกฺขนฺธเก (จูฬว. ๑๘๕) อาคโตเยว. วินิจฺฉโยปิสฺส สมนฺตปาสาทิกาย วุตฺโต.
๔๗. โย ปนายํ อิมสฺมึ สุตฺเต ‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขู วิวทนฺตี’’ติอาทิโก วิตฺถาโร วุตฺโต, โส เอเตน นเยน สงฺเขปโตว วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ธมฺโมติอาทีสุ สุตฺตนฺตปริยาเยน ตาว ¶ ทส กุสลกมฺมปถา ธมฺโม, อกุสลกมฺมปถา อธมฺโม. ตถา ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ เหฏฺา อาคตา สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา, ตโย สติปฏฺานา ตโย สมฺมปฺปธานา ตโย อิทฺธิปาทา ฉ อินฺทฺริยานิ ฉ พลานิ อฏฺ โพชฺฌงฺคา นวงฺคิโก มคฺโค จาติ, จตฺตาโร อุปาทานา ปฺจ นีวรณานีติอาทโย สงฺกลิฏฺธมฺมา จาติ อยํ อธมฺโม.
ตตฺถ ¶ ยํกิฺจิ เอกํ อธมฺมโกฏฺาสํ คเหตฺวา ‘‘อิมํ อธมฺมํ ธมฺโมติ กริสฺสาม, เอวํ อมฺหากํ อาจริยกุลํ นิยฺยานิกํ ภวิสฺสติ, มยฺจ โลเก ปากฏา ภวิสฺสามา’’ติ ตํ อธมฺมํ ‘‘ธมฺโม อย’’นฺติ กเถนฺตา ธมฺโมติ วิวทนฺติ. ตตฺเถว ธมฺมโกฏฺาเสสุ เอกํ คเหตฺวา ‘‘อธมฺโม อย’’นฺติ กเถนฺตา อธมฺโมติ วิวทนฺติ.
วินยปริยาเยน ปน ภูเตน วตฺถุนา โจเทตฺวา สาเรตฺวา ยถาปฏิฺาย กาตพฺพกมฺมํ ธมฺโม นาม, อภูเตน ปน วตฺถุนา อโจเทตฺวา อสาเรตฺวา อปฏิฺาย กตพฺพกมฺมํ อธมฺโม นาม. เตสุปิ อธมฺมํ ‘‘ธมฺโม อย’’นฺติ กเถนฺตา ธมฺโมติ วิวทนฺติ, ‘‘อธมฺโม อย’’นฺติ กเถนฺตา อธมฺโมติ วิวทนฺติ.
สุตฺตนฺตปริยาเยน ปน ราควินโย โทสวินโย โมหวินโย สํวโร ปหานํ ปฏิสงฺขาติ อยํ วินโย นาม, ราคาทีนํ อวินโย อสํวโร ¶ อปฺปหานํ อปฺปฏิสงฺขาติ อยํ อวินโย นาม. วินยปริยาเยน วตฺถุสมฺปตฺติ ตฺติสมฺปตฺติ อนุสาวนสมฺปตฺติ สีมสมฺปติ ปริสสมฺปตฺตีติ อยํ วินโย นาม, วตฺถุวิปตฺติ…เป… ปริสวิปตฺตีติ ¶ อยํ อวินโย นาม. เตสุปิ ยํกิฺจิ อวินยํ ‘‘วินโย อย’’นฺติ กเถนฺตา วินโยติ วิวทนฺติ, วินยํ อวินโยติ กเถนฺตา อวินโยติ วิวทนฺติ.
ธมฺมเนตฺติ สมนุมชฺชิตพฺพาติ ธมฺมรชฺชุ อนุมชฺชิตพฺพา าเณน ฆํสิตพฺพา อุปปริกฺขิตพฺพา. สา ปเนสา ธมฺมเนตฺติ ‘‘อิติ โข วจฺฉ อิเม ทส ธมฺมา อกุสลา ทส ธมฺมา กุสลา’’ติ เอวํ มหาวจฺฉโคตฺตสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๑๙๔) อาคตาติ วุตฺตา. สา เอว วา โหตุ, โย วา อิธ ธมฺโมติ จ วินโย จ วุตฺโต. ยถา ตตฺถ สเมตีติ ยถา ตาย ธมฺมเนตฺติยา สเมติ, ‘‘ธมฺโม ธมฺโมว โหติ, อธมฺโม อธมฺโมว, วินโย วินโยว โหติ, อวินโย อวินโยว’’. ตถา ตนฺติ เอวํ ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ. เอกจฺจานํ อธิกรณานนฺติ อิธ วิวาทาธิกรณเมว ทสฺสิตํ, สมฺมุขาวินโย ปน น กิสฺมิฺจิ อธิกรเณ น ลพฺภติ.
๔๘. ตํ ปเนตํ ยสฺมา ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมติ สมฺมุขาวินเยน จ เยภุยฺยสิกาย จ, ตสฺมา ¶ เหฏฺา มาติกาย ปิตานุกฺกเมน อิทานิ สติวินยสฺส วาเร ปตฺเตปิ ตํ อวตฺวา วิวาทาธิกรณเยว ตาว ทุติยสมถํ ทสฺเสนฺโต กถฺจานนฺท, เยภุยฺยสิกาติอาทิมาห. ตตฺถ พหุตราติ อนฺตมโส ทฺวีหิ ตีหิปิ อติเรกตรา. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๔๙. อิทานิ เหฏฺา อวิตฺถาริตํ สติวินยํ อาทึ กตฺวา วิตฺถาริตาวเสสสมเถ ¶ ปฏิปาฏิยา วิตฺถาเรตุํ กถฺจานนฺท, สติวินโยติอาทิมาห. ตตฺถ ปาราชิกสามนฺเตน วาติ ทฺเว สามนฺตานิ ขนฺธสามนฺตฺจ อาปตฺติสามนฺตฺจ. ตตฺถ ปาราชิกาปตฺติกฺขนฺโธ สงฺฆาทิเสสาปตฺติกฺขนฺโธ ถุลฺลจฺจย-ปาจิตฺติย-ปาฏิเทสนีย-ทุกฺกฏ-ทุพฺภาสิตาปตฺติกฺขนฺโธติ เอวํ ปุริมสฺส ปจฺฉิมขนฺธํ ขนฺธสามนฺตํ นาม โหติ. ปมปาราชิกสฺส ปน ปุพฺพภาเค ทุกฺกฏํ, เสสานํ ถุลฺลจฺจยนฺติ อิทํ อาปตฺติสามนฺตํ นาม. ตตฺถ ¶ ขนฺธสามนฺเต ปาราชิกสามนฺตํ ครุกาปตฺติ นาม โหติ. สรตายสฺมาติ สรตุ อายสฺมา. เอกจฺจานํ อธิกรณานนฺติ อิธ อนุวาทาธิกรณเมว ทสฺสิตํ.
๕๐. ภาสิตปริกฺกนฺตนฺติ วาจาย ภาสิตํ กาเยน จ ปริกฺกนฺตํ, ปรกฺกมิตฺวา กตนฺติ อตฺโถ. เอกจฺจานนฺติ อิธาปิ อนุวาทาธิกรณเมว อธิปฺเปตํ. ปฏิฺาตกรเณ ‘‘เอกจฺจาน’’นฺติ อาปตฺตาธิกรณํ ทสฺสิตํ.
๕๒. ทวาติ สหสา. รวาติ อฺํ ภณิตุกาเมน อฺํ วุตฺตํ. เอวํ โข, อานนฺท, ตสฺสปาปิยสิกา โหตีติ ตสฺสปุคฺคลสฺส ปาปุสฺสนฺนตา ปาปิยสิกา โหติ. อิมินา กมฺมสฺส วตฺถุ ทสฺสิตํ. เอวรูปสฺส หิ ปุคฺคลสฺส กมฺมํ กาตฺตพฺพํ. กมฺเมน หิ อธิกรณสฺส วูปสโม โหติ, น ปุคฺคลสฺส ปาปุสฺสนฺนตาย. อิธาปิ จ อนุวาทาธิกรณเมว อธิกรณนฺติ เวทิตพฺพํ.
๕๓. กถฺจานนฺท ¶ , ติณวตฺถารโกติ เอตฺถ อิทํ กมฺมํ ติณวตฺถารกสทิสตฺตา ติณวตฺถารโกติ วุตฺตํ. ยถา หิ คูถํ วา มุตฺตํ วา ฆฏฺฏิยมานํ ทุคฺคนฺธตาย พาธติ, ติเณหิ อวตฺถริตฺวา สุปฺปฏิจฺฉาทิตสฺส ปนสฺส โส คนฺโธ น พาธติ, เอวเมว ยํ อธิกรณํ มูลานุมูลํ คนฺตฺวา วูปสมิยมานํ กกฺขฬตฺตาย วาฬตฺตาย เภทาย สํวตฺตติ, ตํ อิมินา กมฺเมน วูปสนฺตํ คูถํ วิย ติณวตฺถารเกน ปฏิจฺฉนฺนํ วูปสนฺตํ โหตีติ อิทํ กมฺมํ ติณวตฺถารกสทิสตฺตา ¶ ติณวตฺถารโกติ วุตฺตํ. ตสฺส อิธานนฺท, ภิกฺขูนํ ภณฺฑนชาตานนฺติอาทิวจเนน อาการมตฺตเมว ทสฺสิตํ, ขนฺธเก อาคตาเยว ปเนตฺถ กมฺมวาจา ปมาณํ. เปตฺวา ถุลฺลวชฺชํ เปตฺวา คิหิปฏิสํยุตฺตนฺติ. เอตฺถ ปน ถุลฺลวชฺชนฺติ ถูลฺลวชฺชํ ปาราชิกฺเจว สงฺฆาทิเสสฺจ. คิหิปฏิสํยุตฺตนฺติ คิหีนํ หีเนน ขุํสนวมฺภนธมฺมิกปฏิสฺสเวสุ อาปนฺนา อาปตฺติ. อธิกรณานนฺติ อิธ อาปตฺตาธิกรณเมว เวทิตพฺพํ. กิจฺจาธิกรณสฺส ปน วเสน อิธ น กิฺจิ วุตฺตํ. กิฺจาปิ น วุตฺตํ, สมฺมุขาวินเยเนว ปนสฺส วูปสโม โหตีติ เวทิตพฺโพ.
๕๔. ฉยิเม ¶ , อานนฺท, ธมฺมา สารณียาติ เหฏฺา กลหวเสน สุตฺตํ อารทฺธํ, อุปริ สารณียธมฺมา อาคตา. อิติ ยถานุสนฺธินาว เทสนา คตา โหติ. เหฏฺา โกสมฺพิยสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๔๙๘-๕๐๐) ปน โสตาปตฺติมคฺคสมฺมาทิฏฺิ กถิตา, อิมสฺมึ ¶ สุตฺเต โสตาปตฺติผลสมฺมาทิฏฺิ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อณุนฺติ อปฺปสาวชฺชํ. ถูลนฺติ มหาสาวชฺชํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
สามคามสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สุนกฺขตฺตสุตฺตวณฺณนา
๕๕. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ สุนกฺขตฺตสุตฺตํ. ตตฺถ อฺาติ อรหตฺตํ. พฺยากตาติ ขีณา ชาตีติอาทีหิ จตูหิ ปเทหิ กถิตา. อธิมาเนนาติ อปฺปตฺเต ปตฺตสฺิโน, อนธิคเต อธิคตสฺิโน หุตฺวา อธิคตํ อมฺเหหีติ มาเนน พฺยากรึสุ.
๕๖. เอวฺเจตฺถ สุนกฺขตฺต ตถาคตสฺส โหตีติ สุนกฺขตฺต เอตฺถ เอเตสํ ภิกฺขูนํ ปฺหพฺยากรเณ – ‘‘อิทํ านํ เอเตสํ อวิภูตํ อนฺธการํ, เตนิเม อนธิคเต อธิคตสฺิโน, หนฺท เนสํ วิโสเธตฺวา ปากฏํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสมี’’ติ, เอวฺจ ตถาคตสฺส โหติ. อถ จ ปนิเธกจฺเจ…เป… ตสฺสปิ โหติ อฺถตฺตนฺติ ภควา ปฏิปนฺนกานํ ธมฺมํ เทเสติ. ยตฺถ ปน อิจฺฉาจาเร ิตา เอกจฺเจ โมฆปุริสา โหนฺติ, ตตฺร ภควา ปสฺสติ – ‘‘อิเม อิมํ ปฺหํ อุคฺคเหตฺวา อชานิตฺวาว ชานนฺตา วิย อปฺปตฺเต ปตฺตสฺิโน หุตฺวา คามนิคมาทีสุ วิเสวมานา วิจริสฺสนฺติ, ตํ เนสํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ เอวมสฺสายํ อิจฺฉาจาเร ¶ ิตานํ การณา ปฏิปนฺนกานมฺปิ อตฺถาย ‘‘ธมฺมํ เทสิสฺสามี’’ติ อุปฺปนฺนสฺส จิตฺตสฺส อฺถาภาโว โหติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
๕๘. โลกามิสาธิมุตฺโตติ วฏฺฏามิส-กามามิส-โลกามิสภูเตสุ ปฺจสุ กามคุเณสุ อธิมุตฺโต ตนฺนินฺโน ตคฺครุโก ตปฺปพฺภาโร. ตปฺปติรูปีติ ¶ กามคุณสภาคา. อาเนฺชปฏิสํยุตฺตายาติ อาเนฺชสมาปตฺติปฏิสํยุตฺตาย. สํเสยฺยาติ กเถยฺย. อาเนฺชสํโยชเนน หิ โข วิสํยุตฺโตติ อาเนฺชสมาปตฺติสํโยชเนน วิสํสฏฺโ. โลกามิสาธิมุตฺโตติ เอวรูโป หิ ลูขจีวรธโร มตฺติกาปตฺตํ อาทาย อตฺตโน สทิเสหิ กติปเยหิ สทฺธึ ปจฺจนฺตชนปทํ คจฺฉติ, คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺกาเล มนุสฺสา ทิสฺวา ‘‘มหาปํสุกุลิกา อาคตา’’ติ ยาคุภตฺตาทีนิ สมฺปาเทตฺวา สกฺกจฺจํ ทานํ เทนฺติ, ภตฺตกิจฺเจ นิฏฺิเต อนุโมทนํ สุตฺวา – ‘‘สฺเวปิ, ภนฺเต, อิเธว ปิณฺฑาย ปวิสถา’’ติ วทนฺติ. อลํ อุปาสกา, อชฺชาปิ โว พหูนํ ทินฺนนฺติ. เตน หิ, ภนฺเต, อนฺโตวสฺสํ อิธ วเสยฺยาถาติ อธิวาเสตฺวา วิหารมคฺคํ ปุจฺฉิตฺวา วิหารํ ¶ คจฺฉนฺติ. ตตฺถ เสนาสนํ คเหตฺวา ปตฺตจีวรํ ปฏิสาเมนฺติ. สายํ เอโก อาวาสิโก เต ภิกฺขู ปุจฺฉติ ‘‘กตฺถ ปิณฺฑาย จริตฺถา’’ติ? อสุกคาเมติ. ภิกฺขาสมฺปนฺนาติ? อาม เอวรูปา นาม มนุสฺสานํ สทฺธา โหติ. ‘‘อชฺเชว นุ โข เอเต เอทิสา, นิจฺจมฺปิ เอทิสา’’ติ? สทฺธา เต มนุสฺสา นิจฺจมฺปิ เอทิสา, เต นิสฺสาเยว อยํ วิหาโร วฑฺฒตีติ. ตโต เต ปํสุกุลิกา ปุนปฺปุนํ เตสํ วณฺณํ กเถนฺติ ¶ , ทิวสาวเสสํ กเถตฺวา รตฺติมฺปิ กเถนฺติ. เอตฺตาวตา อิจฺฉาจาเร ิตสฺส สีสํ นิกฺขนฺตํ โหติ อุทรํ ผาลิตํ. เอวํ โลกามิสาธิมุตฺโต เวทิตพฺโพ.
๕๙. อิทานิ อาเนฺชสมาปตฺติลาภึ อธิมานิกํ ทสฺเสนฺโต านํ โข ปเนตนฺติอาทิมาห. อาเนฺชาธิมุตฺตสฺสาติ กิเลสสิฺจนวิรหิตาสุ เหฏฺิมาสุ ฉสุ สมาปตฺตีสุ อธิมุตฺตสฺส ตนฺนินฺนสฺส ตคฺครุโน ตปฺปพฺภารสฺส. เส ปวุตฺเตติ ตํ ปวุตฺตํ. ฉ สมาปตฺติลาภิโน หิ อธิมานิกสฺส ปฺจกามคุณามิสพนฺธนา ปติตปณฺฑุปลาโส วิย อุปฏฺาติ. เตเนตํ วุตฺตํ.
๖๐. อิทานิ อากิฺจฺายตนสมาปตฺติ ลาภิโน อธิมานิกสฺส นิฆํสํ ทสฺเสตุํ านํ โข ปนาติอาทิมาห. ตตฺถ ทฺเวธา ภินฺนาติ มชฺเฌ ภินฺนา. อปฺปฏิสนฺธิกาติ ขุทฺทกา มุฏฺิปาสาณมตฺตา ชตุนา วา สิเลเสน วา อลฺลียาเปตฺวา ปฏิสนฺธาตุํ สกฺกา. มหนฺตํ ปน กุฏาคารปฺปมาณํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เส ภินฺเนติ ตํ ภินฺนํ. อุปริ ¶ สมาปตฺติลาภิโน หิ เหฏฺาสมาปตฺติ ทฺเวธาภินฺนา เสลา วิย โหติ, ตํ สมาปชฺชิสฺสามีติ จิตฺตํ น อุปฺปชฺชติ. เตเนตํ วุตฺตํ.
๖๑. อิทานิ เนวสฺานาสฺายตนลาภิโน อธิมานิกสฺส จ นิฆํสํ ทสฺเสนฺโต านํ โข ปนาติอาทิมาห. ตตฺถ เส วนฺเตติ ตํ วนฺตํ. อฏฺสมาปตฺติลาภิโน ¶ หิ เหฏฺาสมาปตฺติโย วนฺตสทิสา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, ปุน สมาปชฺชิสฺสามีติ จิตฺตํ น อุปฺปชฺชติ. เตเนตํ วุตฺตํ.
๖๒. อิทานิ ขีณาสวสฺส นิฆํสํ ทสฺเสนฺโต านํ โข ปนาติอาทิมาห. ตตฺถ เส อุจฺฉินฺนมูเลติ โส อุจฺฉินฺนมูโล. อุปริ สมาปตฺติลาภิโน หิ เหฏฺาสมาปตฺติ มูลจฺฉินฺนตาโล วิย อุปฏฺาติ, ตํ สมาปชฺชิสฺสามีติ จิตฺตํ น อุปฺปชฺชติ. เตเนตํ วุตฺตํ.
๖๓. านํ ¶ โข ปนาติ ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธิ. เหฏฺา หิ สมาปตฺติลาภิโน อธิมานิกสฺสปิ ขีณาสวสฺสปิ นิฆํโส กถิโต, สุกฺขวิปสฺสกสฺส ปน อธิมานิกสฺสปิ ขีณาสวสฺสปิ น กถิโต. เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ นิฆํสํ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. ตํ ปน ปฏิกฺขิตฺตํ. สมาปตฺติลาภิโน หิ อธิมานิกสฺส นิฆํเส กถิเต สุกฺขวิปสฺสกสฺสปิ อธิมานิกสฺส กถิโตว โหติ, สมาปตฺติลาภิโน จ ขีณาสวสฺส กถิเต สุกฺขวิปสฺสกขีณาสวสฺส กถิโตว โหติ. เอเตสํ ปน ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ สปฺปายาสปฺปายํ กเถตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ.
ตตฺถ สิยา – ปุถุชฺชนสฺส ตาว อารมฺมณํ อสปฺปายํ โหตุ, ขีณาสวสฺส กถํ อสปฺปายนฺติ. ยทคฺเคน ปุถุชฺชนสฺส อสปฺปายํ, ตทคฺเคน ขีณาสวสฺสาปิ อสปฺปายเมว. วิสํ นาม ชานิตฺวา ขาทิตมฺปิ อชานิตฺวา ขาทิตมฺปิ วิสเมว. น หิ ขีณาสเวนปิ ‘‘อหํ ขีณาสโว’’ติ อสํวุเตน ภวิตพฺพํ. ขีณาสเวนปิ ยุตฺตปยุตฺเตเนว ภวิตุํ วฏฺฏติ.
๖๔. ตตฺถ ¶ สมเณนาติ พุทฺธสมเณน. ฉนฺทราคพฺยาปาเทนาติ โส อวิชฺชาสงฺขาโต วิสโทโส ฉนฺทราเคน จ พฺยาปาเทน จ รุปฺปติ กุปฺปติ. อสปฺปายานีติ อวฑฺฒิกรานิ อารมฺมณานิ. อนุทฺธํเสยฺยาติ โสเสยฺย ¶ มิลาเปยฺย. สอุปาทิเสสนฺติ สคหณเสสํ, อุปาทิตพฺพํ คณฺหิตพฺพํ อิธ อุปาทีติ วุตฺตํ. อนลฺจ เต อนฺตรายายาติ ชีวิตนฺตรายํ เต กาตุํ อสมตฺถํ. รโชสูกนฺติ รโช จ วีหิสุกาทิ จ สูกํ. อสุ จ วิสโทโสติ โส จ วิสโทโส. ตทุภเยนาติ ยา สา อสปฺปายกิริยา จ โย วิสโทโส จ, เตน อุภเยน. ปุถุตฺตนฺติ มหนฺตภาวํ.
เอวเมว โขติ เอตฺถ สอุปาทานสลฺลุทฺธาโร วิย อปฺปหีโน อวิชฺชาวิสโทโส ทฏฺพฺโพ, อสปฺปายกิริยาย ิตภาโว วิย ฉสุ ทฺวาเรสุ อสํวุตกาโล, ตทุภเยน วเณ ปุถุตฺตํ คเต มรณํ วิย สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตนํ, มรณมตฺตํ ทุกฺขํ วิย อฺตราย ครุกาย สํกิลิฏฺาย อาปตฺติยา อาปชฺชนํ ทฏฺพฺพํ. สุกฺกปกฺเขปิ อิมินาว นเยน โอปมฺมสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ.
๖๕. สติยาเยตํ ¶ อธิวจนนฺติ เอตฺถ สติ ปฺาคติกา. โลกิกาย ปฺาย โลกิกา โหติ, โลกุตฺตราย โลกุตฺตรา. อริยาเยตํ ปฺายาติ ปริสุทฺธาย วิปสฺสนาปฺาย.
อิทานิ ขีณาสวสฺส พลํ ทสฺเสนฺโต โส วตาติอาทิมาห. ตตฺถ สํวุตการีติ ปิหิตการี. อิติ ¶ วิทิตฺวา นิรุปธีติ เอวํ ชานิตฺวา กิเลสุปธิปหานา นิรุปธิ โหติ, นิรุปาทาโนติ อตฺโถ. อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโตติ อุปธีนํ สงฺขยภูเต นิพฺพาเน อารมฺมณโต วิมุตฺโต. อุปธิสฺมินฺติ กามุปธิสฺมึ. กายํ อุปสํหริสฺสตีติ กายํ อลฺลียาเปสฺสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตณฺหกฺขเย นิพฺพาเน อารมฺมณโต วิมุตฺโต ขีณาสโว ปฺจ กามคุเณ เสวิตุํ, กายํ วา อุปสํหริสฺสติ จิตฺตํ วา อุปฺปาเทสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
สุนกฺขตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อาเนฺชสปฺปายสุตฺตวณฺณนา
๖๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ อาเนฺชสปฺปายสุตฺตํ. ตตฺถ อนิจฺจาติ หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจา. กามาติ วตฺถุกามาปิ กิเลสกามาปิ. ตุจฺฉาติ นิจฺจสารธุวสารอตฺตสารวิรหิตตฺตา ริตฺตา, น ปน นตฺถีติ คเหตพฺพา. น หิ ตุจฺฉมุฏฺีติ วุตฺเต มุฏฺิ นาม นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺส ปน อพฺภนฺตเร กิฺจิ นตฺถิ, โส วุจฺจติ ตุจฺโฉ. มุสาติ นาสนกา. โมสธมฺมาติ นสฺสนสภาวา, เขตฺตํ วิย วตฺถุ วิย หิรฺสุวณฺณํ วิย จ น ปฺายิตฺถ, กติปาเหเนว ¶ สุปินเก ทิฏฺา วิย นสฺสนฺติ น ปฺายนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘โมสธมฺมา’’ติ, มายากตเมตนฺติ ยถา มายาย อุทกํ มณีติ กตฺวา ทสฺสิตํ, พทริปณฺณํ กหาปโณติ กตฺวา ทสฺสิตํ, อฺํ วา ปน เอวรูปํ ทสฺสนูปจาเร ิตสฺเสว ตถา ปฺายติ, อุปจาราติกฺกมโต ปฏฺาย ปากติกเมว ปฺายติ. เอวํ กามาปิ อิตฺตรปจฺจุปฏฺานฏฺเน ‘‘มายากต’’นฺติ วุตฺตา. ยถา จ มายากาโร อุทกาทีนิ มณิอาทีนํ วเสน ทสฺเสนฺโต วฺเจติ, เอวํ กามาปิ อนิจฺจาทีนิ นิจฺจาทิสภาวํ ทสฺเสนฺตา วฺเจนฺตีติ วฺจนกฏฺเนปิ ‘‘มายากต’’นฺติ วุตฺตา. พาลลาปนนฺติ มยฺหํ ปุตฺโต, มยฺหํ ธีตา, มยฺหํ หิรฺํ มยฺหํ สุวณฺณนฺติ เอวํ พาลานํ ลาปนโต พาลลาปนํ. ทิฏฺธมฺมิกา กามาติ มานุสกา ปฺจ กามคุณา. สมฺปรายิกาติ เต เปตฺวา อวเสสา. ทิฏฺธมฺมิกา. กามสฺาติ มานุสเก กาเม อารพฺภ อุปฺปนฺนสฺา. อุภยเมตํ มารเธยฺยนฺติ เอเต กามา จ กามสฺา จ อุภยมฺปิ มารเธยฺยํ. เยหิ อุภยเมตํ คหิตํ, เตสฺหิ อุปริ มาโร วสํ วตฺเตติ. ตํ สนฺธาย ‘‘อุภยเมตํ มารเธยฺย’’นฺติ วุตฺตํ.
มารสฺเสส วิสโยติอาทีสุปิ ยถา โจฬสฺส วิสโย โจฬวิสโย, ปณฺฑสฺส วิสโย ปณฺฑวิสโย, สํวรานํ วิสโย สํวรวิสโยติ ปวตฺตนฏฺานํ วิสโยติ วุจฺจติ, เอวํ เยหิ เอเต กามา คหิตา, เตสํ อุปริ มาโร วสํ วตฺเตติ. ตํ สนฺธาย มารสฺเสส วิสโยติ วุตฺตํ. ปฺจ ปน กามคุเณ นิวาปพีชํ วิย วิปฺปกิรนฺโต ¶ มาโร คจฺฉติ. เยหิ ปน เต คหิตา, เตสํ อุปริ มาโร วสํ วตฺเตติ. ตํ สนฺธาย มารสฺเสส นิวาโปติ วุตฺตํ. ยถา จ ยตฺถ หตฺถิอาทโย ¶ วสํ วตฺเตนฺติ, โส หตฺถิโคจโร อสฺสโคจโร อชโคจโรติ วุจฺจติ, เอวํ ¶ เยหิ เอเต กามา คหิตา, เตสุ มาโร วสํ วตฺเตติ. ตํ สนฺธาย มารสฺเสส โคจโรติ วุตฺตํ.
เอตฺถาติ เอเตสุ กาเมสุ. มานสาติ จิตฺตสมฺภูตา. ตตฺถ สิยา – ทุวิเธ ตาว กาเม อารพฺภ อภิชฺฌานลกฺขณา อภิชฺฌา, กรณุตฺตริยลกฺขโณ สารมฺโภ จ อุปฺปชฺชตุ, พฺยาปาโท กถํ อุปฺปชฺชตีติ? มมายิเต วตฺถุสฺมึ อจฺฉินฺเนปิ โสจนฺติ, อจฺฉิชฺชนฺเตปิ โสจนฺติ, อจฺฉินฺนสงฺกิโนปิ โสจนฺติ, โย เอวรูโป จิตฺตสฺส อาฆาโตติ เอวํ อุปฺปชฺชติ. เตว อริยสาวกสฺสาติ เต อริยสาวกสฺส. วกาโร อาคมสนฺธิมตฺตํ โหติ. อิธ มนุสิกฺขโตติ อิมสฺมึ สาสเน สิกฺขนฺตสฺส เต ตโยปิ กิเลสา อนฺตรายกรา โหนฺติ. อภิภุยฺย โลกนฺติ กามโลกํ อภิภวิตฺวา. อธิฏฺาย มนสาติ ฌานารมฺมณจิตฺเตน อธิฏฺหิตฺวา. อปริตฺตนฺติ กามาวจรจิตฺตํ ปริตฺตํ นาม, ตสฺส ปฏิกฺเขเปน มหคฺคตํ อปริตฺตํ นาม. ปมาณนฺติปิ กามาวจรเมว, รูปาวจรํ อรูปาวจรํ อปฺปมาณํ. สุภาวิตนฺติ ปน เอตํ กามาวจราทีนํ นามํ น ¶ โหติ, โลกุตฺตรสฺเสเวตํ นามํ. ตสฺมา เอตสฺส วเสน อปริตฺตํ อปฺปมาณํ สุภาวิตนฺติ สพฺพํ โลกุตฺตรเมว วฏฺฏติ.
ตพฺพหุลวิหาริโนติ กามปฏิพาหเนน ตเมว ปฏิปทํ พหุลํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส. อายตเน จิตฺตํ ปสีทตีติ การเณ จิตฺตํ ปสีทติ. กึ ปเนตฺถ การณํ? อรหตฺตํ วา, อรหตฺตสฺส วิปสฺสนํ วา, จตุตฺถชฺฌานํ วา, จตุตฺถชฺฌานสฺส อุปจารํ วา. สมฺปสาเท สตีติ เอตฺถ ทุวิโธ สมฺปสาโท อธิโมกฺขสมฺปสาโท จ ปฏิลาภสมฺปสาโท จ. อรหตฺตสฺส หิ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา วิหรโต มหาภูตาทีสุ อุปฏฺหนฺเตสุ เยนิเม นีหาเรน มหาภูตา อุปฏฺหนฺติ, อุปาทารูปา อุปฏฺหนฺติ นามรูปา อุปฏฺหนฺติ, ปจฺจยา สพฺพถา อุปฏฺหนฺติ, ลกฺขณารมฺมณา วิปสฺสนา อุปฏฺหติ, อชฺเชว อรหตฺตํ คณฺหิสฺสามีติ อปฺปฏิลทฺเธเยว อาสา สนฺติฏฺติ, อธิโมกฺขํ ปฏิลภติ. ตติยชฺฌานํ วา ปาทกํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานตฺถาย กสิณปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส นีวรณวิกฺขมฺภนาทีนิ สมนุปสฺสโต เยนิเม นีหาเรน นีวรณา วิกฺขมฺภนฺติ, กิเลสา สนฺนิสีทนฺติ, สติ สนฺติฏฺติ, สงฺขารคตํ วา วิภูตํ ปากฏํ หุตฺวา ทิพฺพจกฺขุกสฺส ปรโลโก วิย อุปฏฺาติ ¶ , จิตฺตุปฺปาโท เลปปิณฺเฑ ลคฺคมาโน วิย อุปจาเรน สมาธิยติ, อชฺเชว จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตสฺสามีติ อปฏิลทฺเธเยว อาสา สนฺติฏฺติ, อธิโมกฺขํ ปฏิลภติ ¶ . อยํ อธิโมกฺขสมฺปสาโท ¶ นาม. ตสฺมึ สมฺปสาเท สติ. โย ปน อรหตฺตํ วา ปฏิลภติ จตุตฺถชฺฌานํ วา, ตสฺส จิตฺตํ วิปฺปสนฺนํ โหติเยว. อิธ ปน ‘‘อายตเน จิตฺตํ ปสีทตี’’ติ วจนโต อรหตฺตวิปสฺสนาย เจว จตุตฺถชฺฌานูปจารสฺส จ ปฏิลาโภ ปฏิลาภสมฺปสาโทติ เวทิตพฺโพ. วิปสฺสนา หิ ปฺาย อธิมุจฺจนสฺส การณํ, อุปจารํ อาเนฺชสมาปตฺติยา.
เอตรหิ วา อาเนฺชํ สมาปชฺชติ. ปฺาย วา อธิมุจฺจตีติ เอตฺถ เอตรหิ วา ปฺาย อธิมุจฺจติ, อาเนฺชํ วา สมาปชฺชตีติ เอวํ ปทปริวตฺตนํ กตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – ตสฺมึ สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา ปฺาย อธิมุจฺจติ, อรหตฺตํ สจฺฉิกโรตีติ อตฺโถ. ตํ อนภิสมฺภุณนฺโต อาเนฺชํ วา สมาปชฺชติ, อถ วา ปฺาย วา อธิมุจฺจตีติ อรหตฺตมคฺคํ ภาเวติ, ตํ อนภิสมฺภุณนฺโต อาเนฺชํ วา สมาปชฺชติ. อรหตฺตมคฺคํ ภาเวตุํ อสกฺโกนฺโต เอตรหิ จตุสจฺจํ วา สจฺฉิกโรติ. ตํ อนภิสมฺภุณนฺโต อาเนฺชํ วา สมาปชฺชตีติ.
ตตฺรายํ นโย – อิธ ภิกฺขุ ตติยชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานสฺส กสิณปริกมฺมํ กโรติ. ตสฺส นีวรณา วิกฺขมฺภนฺติ, สติ สนฺติฏฺติ, อุปจาเรน จิตฺตํ สมาธิยติ. โส รูปารูปํ ปริคณฺหาติ, ปจฺจยํ ปริคฺคณฺหาติ, ลกฺขณารมฺมณิกํ วิปสฺสนํ ววตฺถเปติ, ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อุปจาเรน เม ฌานํ วิเสสภาคิยํ ภเวยฺย, ติฏฺตุ วิเสสภาคิยตา, นิพฺเพธภาคิยํ นํ กริสฺสามี’’ติ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉิกโรติ. เอตฺตเกนสฺส กิจฺจํ กตํ นาม โหติ. อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ อสกฺโกนฺโต ปน ตโต โอสกฺกิตมานโส อนฺตรา น ติฏฺติ, จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชติเยว. ยถา กึ? ยถา ปุริโส ‘‘วนมหึสํ ฆาเตสฺสามี’’ติ สตฺตึ คเหตฺวา อนุพนฺธนฺโต ¶ สเจ ตํ ฆาเตติ, สกลคามวาสิโน โตเสสฺสติ, อสกฺโกนฺโต ปน อนฺตรามคฺเค สสโคธาทโย ขุทฺทกมิเค ฆาเตตฺวา กาชํ ปูเรตฺวา เอติเยว.
ตตฺถ ¶ ปุริสสฺส สตฺตึ คเหตฺวา วนมหึสานุพนฺธนํ วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน ตติยชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานสฺส ปริกมฺมกรณํ, วนมหึสฆาตนํ วิย – ‘‘นีวรณวิกฺขมฺภนาทีนิ สมนุปสฺสโต วิเสสภาคิยํ ภเวยฺย, ติฏฺตุ วิเสสภาคิยตา, นิพฺเพธภาคิยํ ¶ นํ กริสฺสามี’’ติ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตสฺส สจฺฉิกรณํ, มหึสํ ฆาเตตุํ อสกฺโกนฺตสฺส อนฺตรามคฺเค สสโคธาทโย ขุทฺทกมิเค ฆาเตตฺวา กาชํ ปูเรตฺวา คมนํ วิย อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ อสกฺโกนฺตสฺส, ตโต โอสกฺกิตฺวา จตุตฺถชฺฌานสมาปชฺชนํ เวทิตพฺพํ. มคฺคภาวนา จตุสจฺจสจฺฉิกิริยาโยชนาสุปิ เอเสว นโย.
อิทานิ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ อสกฺโกนฺตสฺส นิพฺพตฺตฏฺานํ ทสฺเสนฺโต กายสฺส เภทาติอาทิมาห. ตตฺถ ยนฺติ เยน การเณน ตํ สํวตฺตนิกํ วิฺาณํ อสฺส อาเนฺชูปคํ, ตํ การณํ วิชฺชตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ตํสํวตฺตนิกนฺติ ตสฺส ภิกฺขุโน สํวตฺตนิกํ. เยน วิปากวิฺาเณน โส ภิกฺขุ สํวตฺตติ นิพฺพตฺตติ, ตํ วิฺาณํ. อาเนฺชูปคนฺติ กุสลาเนฺชสภาวูปคตํ อสฺส, ตาทิสเมว ภเวยฺยาติ ¶ อตฺโถ. เกจิ กุสลวิฺาณํ วทนฺติ. ยํ ตสฺส ภิกฺขุโน สํวตฺตนิกํ อุปปตฺติเหตุภูตํ กุสลวิฺาณํ อาเนฺชูปคตํ อสฺส, วิปากกาเลปิ ตนฺนามกเมว อสฺสาติ อตฺโถ. โส ปนายมตฺโถ – ‘‘ปฺุํ เจ สงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ปฺุูปคํ โหติ วิฺาณํ. อปฺุํ เจ สงฺขารํ อภิสงฺขาโรติ, อปฺุุปคํ โหติ วิฺาณํ. อาเนฺชํ เจ สงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อาเนฺชูปคํ โหติ วิฺาณ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๕๑) อิมินา นเยน เวทิตพฺโพ. อาเนฺชสปฺปายาติ อาเนฺชสฺส จตุตฺถชฺฌานสฺส สปฺปายา. น เกวลฺจ สา อาเนฺชสฺเสว, อุปริ อรหตฺตสฺสาปิ สปฺปายาว อุปการภูตาเยวาติ เวทิตพฺพา. อิติ อิมสฺมึ ปมกอาเนฺเช สมาธิวเสน โอสกฺกนา กถิตา.
๖๗. อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ จตุตฺถชฺฌานํ ปตฺวา เอวํ ปฏิสฺจิกฺขติ. อยฺหิ ภิกฺขุ เหฏฺิเมน ภิกฺขุนา ปฺวนฺตตโร ตสฺส จ ภิกฺขุโน อตฺตโน จาติ ทฺวินฺนมฺปิ กมฺมฏฺานํ เอกโต กตฺวา สมฺมสติ. ตพฺพหุลวิหาริโนติ รูปปฏิพาหเนน ตเมว ปฏิปทํ พหุลํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส. อาเนฺชํ สมาปชฺชตีติ ¶ อากาสานฺจายตานาเนฺชํ สมาปชฺชติ. เสสํ ปุริมสทิสเมว. ยถา จ อิธ, เอวํ สพฺพตฺถ วิเสสมตฺตเมว ปน วกฺขาม. อิติ อิมสฺมึ ทุติยอาเนฺเช วิปสฺสนาวเสน โอสกฺกนา กถิตา, ‘‘ยํกิฺจิ ¶ รูป’’นฺติ เอวํ วิปสฺสนามคฺคํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาติ อตฺโถ.
อิติ ¶ ปฏิสฺจิกฺขตีติ อากาสานฺจายตนํ ปตฺวา เอวํ ปฏิสฺจิกฺขติ. อยฺหิ เหฏฺา ทฺวีหิ ภิกฺขูหิ ปฺวนฺตตโร เตสฺจ ภิกฺขูนํ อตฺตโน จาติ ติณฺณมฺปิ กมฺมฏฺานํ เอกโต กตฺวา สมฺมสติ. อุภยเมตํ อนิจฺจนฺติ เอตฺถ อฏฺ เอเกกโกฏฺาสา ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกวเสน ปน สงฺขิปิตฺวา อุภยนฺติ วุตฺตํ. นาลํ อภินนฺทิตุนฺติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน อภินนฺทิตุํ น ยุตฺตํ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ตพฺพหุลวิหาริโนติ กามปฏิพาหเนน จ รูปปฏิพาหเนน จ ตเมว ปฏิปทํ พหุลํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส. อาเนฺชํ สมาปชฺชตีติ วิฺาณฺจายตนาเนฺชํ สมาปชฺชติ. อิมสฺมึ ตติยอาเนฺเช วิปสฺสนาวเสน โอสกฺกนา กถิตา.
๖๘. อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ วิฺาณฺจายตนํ ปตฺวา เอวํ ปฏิสฺจิกฺขติ. อยฺหิ เหฏฺา ตีหิ ภิกฺขูหิ ปฺวนฺตตโร เตสฺจ ภิกฺขูนํ อตฺตโน จาติ จตุนฺนมฺปิ กมฺมฏฺานํ เอกโต กตฺวา สมฺมสติ. ยตฺเถตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺตีติ ยํ อากิฺจฺายตนํ ปตฺวา เอตา เหฏฺา วุตฺตา สพฺพสฺา นิรุชฺฌนฺติ. เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตนฺติ เอตํ องฺคสนฺตตาย อารมฺมณสนฺตตาย จ สนฺตํ, อตปฺปกฏฺเน ปณีตํ. ตพฺพหุลวิหาริโนติ ตาสํ สฺานํ ปฏิพาหเนน ตเมว ปฏิปทํ พหุลํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส. อิมสฺมึ ปมากิฺจฺายตเน สมาธิวเสน โอสกฺกนา กถิตา.
อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ วิฺาณฺจายตนเมว ปตฺวา เอวํ ¶ ปฏิสฺจิกฺขติ. อยฺหิ เหฏฺา จตูหิ ภิกฺขูหิ ปฺวนฺตตโร เตสฺจ ภิกฺขูนํ อตฺตโน จาติ ปฺจนฺนมฺปิ กมฺมฏฺานํ เอกโต กตฺวา สมฺมสติ. อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วาติ อหํ มมาติ คเหตพฺเพน สฺุํ ตุจฺฉํ ริตฺตํ. เอวเมตฺถ ทฺวิโกฏิกา สฺุตา ทสฺสิตา. ตพฺพหุลวิหาริโนติ เหฏฺา วุตฺตปฏิปทฺจ อิมฺจ สฺุตปฏิปทํ พหุลํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส. อิมสฺมึ ทุติยากิฺจฺายตเน วิปสฺสนาวเสน โอสกฺกนา กถิตา.
๗๐. อิติ ¶ ปฏิสฺจิกฺขตีติ วิฺาณฺจายตนเมว ปตฺวา เอวํ ปฏิสฺจิกฺขติ. อยฺหิ เหฏฺา ปฺจหิ ภิกฺขูหิ ปฺวนฺตตโร เตสฺจ ภิกฺขูนํ อตฺตโน จาติ ฉนฺนมฺปิ กมฺมฏฺานํ เอกโต กตฺวา สมฺมสติ. นาหํ กฺวจนิ กสฺสจิ กิฺจนตสฺมึ, น จ มม กฺวจนิ กิสฺมิฺจิ ¶ กิฺจนํ นตฺถีติ เอตฺถ ปน จตุโกฏิกา สฺุตา กถิตา. กถํ? อยฺหิ นาหํ กฺวจนีติ กฺวจิ อตฺตานํ น ปสฺสติ, กสฺสจิ กิฺจนตสฺมินฺติ อตฺตโน อตฺตานํ กสฺสจิ ปรสฺส กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ น ปสฺสติ, อตฺตโน ภาติฏฺาเน ภาตรํ สหายฏฺาเน สหายํ ปริกฺขารฏฺาเน วา ปริกฺขารํ มฺิตฺวา อุปคนฺตฺวา อุปเนตพฺพํ น ปสฺสตีติ อตฺโถ. น จ มม กฺวจนีติ เอตฺถ มม – สทฺทํ ตาว เปตฺวา น จ กฺวจนิ ปรสฺส จ อตฺตานํ กฺวจิ น ปสฺสตีติ อยมตฺโถ. อิทานิ มม – สทฺทํ อาหริตฺวา มม กิสฺมิฺจิ กิฺจนํ นตฺถีติ โส ปรสฺส อตฺตา มม กิสฺมิฺจิ กิฺจนภาเว อตฺถีติ น ปสฺสติ. อตฺตโน ภาติฏฺาเน ภาตรํ สหายฏฺาเน สหายํ ปริกฺขารฏฺาเน วา ปริกฺขารนฺติ กิสฺมิฺจิ าเน ปรสฺส อตฺตานํ อิมินา กิฺจนภาเวน อุปเนตพฺพํ น ปสฺสตีติ อตฺโถ. เอวมยํ ยสฺมา เนว กตฺถจิ อตฺตานํ ปสฺสติ, น ตํ ปรสฺส กิฺจนภาเว ¶ อุปเนตพฺพํ ปสฺสติ, น ปรสฺส อตฺตานํ ปสฺสติ, น ปรสฺส อตฺตานํ อตฺตโน กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ ปสฺสติ, ตสฺมา อยํ สฺุตา จตุโกฏิกาติ เวทิตพฺพา. ตพฺพหุลวิหาริโนติ เหฏฺา วุตฺตปฺปฏิปทํ อิมํ จตุโกฏิสฺุตฺจ พหุลํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส. อิมสฺมึ ตติยากิฺจฺายตเนปิ วิปสฺสนาวเสเนว โอสกฺกนา กถิตา.
อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ อากิฺจฺายตนํ ปตฺวา เอวํ ปฏิสฺจิกฺขติ. อยฺหิ เหฏฺา ฉหิ ภิกฺขูหิ ปฺวนฺตตโร เตสฺจ ภิกฺขูนํ อตฺตโน จาติ สตฺตนฺนมฺปิ กมฺมฏฺานํ เอกโต กตฺวา สมฺมสติ. ยตฺเถตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺตีติ ยํ เนวสฺานาสฺายตนํ ปตฺวา เอตฺถ เอตา เหฏฺา วุตฺตา สพฺพสฺา นิรุชฺฌนฺติ. ตพฺพหุลวิหาริโนติ ตาสํ สฺานํ ปฏิพาหเนน ตเมว ปฏิปทํ พหุลํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส. อิมสฺมึ เนวสฺานาสฺายตเน สมาธิวเสน โอสกฺกนา กถิตา.
๗๑. โน จสฺส โน จ เม สิยาติ สเจ มยฺหํ ปุพฺเพ ปฺจวิธํ กมฺมวฏฺฏํ น อายูหิตํ อสฺส, ยํ เม อิทํ เอตรหิ เอวํ ปฺจวิธํ วิปากวฏฺฏํ เอตํ เม น ¶ สิยา นปฺปวตฺเตยฺยาติ อตฺโถ. น ภวิสฺสตีติ สเจ เอตรหิ ปฺจวิธํ กมฺมวฏฺฏํ อายูหิตํ น ภวิสฺสติ. น เม ภวิสฺสตีติ ตสฺมึ อสติ อนาคเต เม ปฺจวิธํ วิปากวฏฺฏํ น ภวิสฺสติ. ยทตฺถิ ยํ ภูตํ ¶ ตํ ปชหามีติ ยํ อตฺถิ ยํ ภูตํ เอตรหิ ขนฺธปฺจกํ, ตํ ปชหามิ. เอวํ ¶ อุเปกฺขํ ปฏิลภตีติ โส ภิกฺขุ เอวํ วิปสฺสนุเปกฺขํ ลภตีติ อตฺโถ.
ปรินิพฺพาเยยฺย นุ โข โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ น วา ปรินิพฺพาเยยฺยาติ กึ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ, ตติยชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา ิตสฺส อรหตฺตมฺปิ โอสกฺกนาปิ ปฏิปทาปิ ปฏิสนฺธิปิ กถิตา, ตถา จตุตฺถชฺฌานาทีนิ ปาทกานิ กตฺวา ิตานํ, เนวสฺานาสฺายตนํ ปาทกํ กตฺวา ิตสฺส น กิฺจิ กถิตํ, ตํ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ. อเปตฺถาติ อปิ เอตฺถ. โส ตํ อุเปกฺขํ อภินนฺทตีติ โส ตํ วิปสฺสนุเปกฺขํ ตณฺหาทิฏฺิอภินนฺทนาหิ อภินนฺทติ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ตนฺนิสฺสิตํ โหติ วิฺาณนฺติ วิฺาณํ วิปสฺสนานิสฺสิตํ โหติ. ตทุปาทานนฺติ ยํ นิกนฺติวิฺาณํ, ตํ ตสฺส อุปาทานํ นาม คหณํ นาม โหติ. สอุปาทาโนติ สคหโณ. น ปรินิพฺพายตีติ วิปสฺสนาย สาลโย ภิกฺขุ มม สาสเน น ปรินิพฺพายติ. โย ปน วิหารปริเวณอุปฏฺากาทีสุ สาลโย, ตสฺมึ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. กหํ ปนาติ? กตฺถ ปน? อุปาทิยมาโน ¶ อุปาทิยตีติ ปฏิสนฺธึ คณฺหมาโน คณฺหาติ. อุปาทานเสฏฺํ กิร โส, ภนฺเตติ, ภนฺเต, โส กิร ภิกฺขุ คเหตพฺพฏฺานํ เสฏฺํ อุตฺตมํ ภวํ อุปาทิยติ, เสฏฺภเว ปฏิสนฺธึ คณฺหาตีติ อตฺโถ. อิมินา ตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสนฺธิ กถิตา. อิทานิสฺส อรหตฺตํ กเถตุํ อิธานนฺทาติอาทิมาห.
๗๓. นิสฺสาย นิสฺสายาติ ตํ ตํ สมาปตฺตึ นิสฺสาย. โอฆสฺส นิตฺถรณา อกฺขาตาติ โอฆตรณํ กถิตํ, ตติยชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา ิตภิกฺขุโน โอฆนิตฺถรณา กถิตา…เป… เนวสฺานาสฺายตนํ ปาทกํ กตฺวา ิตภิกฺขุโน โอฆนิตฺถรณา กถิตาติ วทติ.
กตโม ปน, ภนฺเต, อริโย วิโมกฺโขติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? สมาปตฺตึ ตาว ปทฏฺานํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ คณฺหนฺโต ภิกฺขุ นาวํ วา อุฬุมฺปาทีนิ วา นิสฺสาย มโหฆํ ตริตฺวา ปารํ คจฺฉนฺโต วิย ¶ น กิลมติ. สุกฺขวิปสฺสโก ปน ปกิณฺณกสงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ คณฺหนฺโต พาหุพเลน โสตํ ฉินฺทิตฺวา ปารํ คจฺฉนฺโต วิย กิลมติ. อิติ อิมสฺส สุกฺขวิปสฺสกสฺส อรหตฺตํ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ. อริยสาวโกติ สุกฺขวิปสฺสโก อริยสาวโก. อยฺหิ เหฏฺา อฏฺหิ ภิกฺขูหิ ปฺวนฺตตโร เตสฺจ ภิกฺขูนํ ¶ อตฺตโน จาติ นวนฺนมฺปิ กมฺมฏฺานํ เอกโต กตฺวา สมฺมสติ. เอส สกฺกาโย ยาวตา สกฺกาโยติ ยตฺตโก เตภูมกวฏฺฏสงฺขาโต สกฺกาโย นาม อตฺถิ, สพฺโพปิ โส เอส สกฺกาโย, น อิโต ปรํ สกฺกาโย อตฺถีติ ปฏิสฺจิกฺขติ.
เอตํ ¶ อมตํ ยทิทํ อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ โย ปเนส จิตฺตสฺส อนุปาทาวิโมกฺโข นาม, เอตํ อมตํ เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตนฺติ ปฏิสฺจิกฺขติ. อฺตฺถ จ ‘‘อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโข’’ติ นิพฺพานํ วุจฺจติ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต สุกฺขวิปสฺสกสฺส อรหตฺตํ กถิตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว.
เกวลํ ปน อิมสฺมึ สุตฺเต สตฺตสุ าเนสุ โอสกฺกนา กถิตา, อฏฺสุ าเนสุ ปฏิสนฺธิ, นวสุ าเนสุ อรหตฺตํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ. กถํ? ตติยํ ฌานํ ตาว ปาทกํ กตฺวา ิตสฺส ภิกฺขุโน โอสกฺกนา กถิตา, ปฏิสนฺธิ กถิตา, อรหตฺตํ กถิตํ, ตถา จตุตฺถชฺฌานํ, ตถา อากาสานฺจายตนํ. วิฺาณฺจายตนํ ปน ปทฏฺานํ กตฺวา ิตานํ ติณฺณํ ภิกฺขูนํ โอสกฺกนา กถิตา, ปฏิสนฺธิ กถิตา, อรหตฺตํ กถิตํ. ตถา อากิฺจฺายตนํ ปาทกํ กตฺวา ิตสฺส ภิกฺขุโน. เนวสฺานาสฺายตนํ ปาทกํ กตฺวา ิตสฺส ปน โอสกฺกนา นตฺถิ, ปฏิสนฺธิ ปน อรหตฺตฺจ กถิตํ. สุกฺขวิปสฺสกสฺส อรหตฺตเมว กถิตนฺติ. เอวํ สตฺตสุ าเนสุ โอสกฺกนา กถิตา, อฏฺสุ าเนสุ ปฏิสนฺธิ, นวสุ าเนสุ อรหตฺตํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิมฺจ ปน สตฺตสุ าเนสุ โอสกฺกนํ อฏฺสุ ปฏิสนฺธึ นวสุ อรหตฺตํ สโมธาเนตฺวา กเถนฺเตน อิมํ อาเนฺชสปฺปายสุตฺตํ สุกถิตํ นาม โหตีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อาเนฺชสปฺปายสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. คณกโมคฺคลฺลานสุตฺตวณฺณนา
๗๔. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ คณกโมคฺคลฺลานสุตฺตํ. ตตฺถ ยาว ปจฺฉิมโสปานกเฬวราติ ยาว ปมโสปานผลกา เอกทิวเสเนว สตฺตภูมิโก ปาสาโท น สกฺกา กาตุํ, วตฺถุํ โสเธตฺวา ถมฺภุสฺสาปนโต ปฏฺาย ปน ยาว จิตฺตกมฺมกรณา อนุปุพฺพกิริยา เจตฺถ ปฺายตีติ ทสฺเสติ. ยทิทํ อชฺเฌเนติ ตโยปิ เวทา น สกฺกา เอกทิวเสเนว อธียิตุํ, เอเตสํ อชฺเฌเนปิ ปน อนุปุพฺพกิริยาว ปฺายตีติ ทสฺเสติ. อิสฺสตฺเถติ อาวุธวิชฺชายปิ เอกทิวเสเนว วาลเวธิ นาม น สกฺกา กาตุํ, านสมฺปาทนมุฏฺิกรณาทีหิ ปน เอตฺถาปิ อนุปุพฺพกิริยา ปฺายตีติ ทสฺเสติ. สงฺขาเนติ คณนาย. ตตฺถ อนุปุพฺพกิริยํ อตฺตนาว ทสฺเสนฺโต เอวํ คณาเปมาติอาทิมาห.
๗๕. เสยฺยถาปิ พฺราหฺมณาติ อิธ ภควา ยสฺมา พาหิรสมเย ยถา ยถา สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺติ, ตถา ตถา เกราฏิกา โหนฺติ, ตสฺมา อตฺตโน สาสนํ พาหิรสมเยน อนุปเมตฺวา ภทฺรอสฺสาชานีเยน อุปเมนฺโต เสยฺยถาปีติอาทิมาห. ภทฺโร หิ อสฺสาชานีโย ยสฺมึ การเณ ทมิโต โหติ, ตํ ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมติ. เอวเมว สาสเน สมฺมาปฏิปนฺโน กุลปุตฺโต สีลเวลํ นาติกฺกมติ. มุขาธาเนติ มุขฏฺปเน.
๗๖. สติสมฺปชฺาย จาติ สติสมฺปชฺาหิ สมงฺคิภาวตฺถาย ¶ . ทฺเว หิ ขีณาสวา สตตวิหารี จ โนสตตวิหารี จ. ตตฺถ สตตวิหารี ยํกิฺจิ กมฺมํ กตฺวาปิ ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตุํ สกฺโกติ, โน สตตวิหารี ปน อปฺปมตฺตเกปิ กิจฺเจ กิจฺจปฺปสุโต หุตฺวา ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตุํ น สกฺโกติ.
ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร ขีณาสวตฺเถโร ขีณาสวสามเณรํ คเหตฺวา อรฺวาสํ คโต, ตตฺถ มหาเถรสฺส เสนาสนํ ปตฺตํ, สามเณรสฺส น ปาปุณาติ, ตํ วิตกฺเกนฺโต เถโร เอกทิวสมฺปิ ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตุํ นาสกฺขิ. สามเณโร ปน เตมาสํ ผลสมาปตฺติรติยา วีตินาเมตฺวา ‘‘สปฺปาโย ¶ , ภนฺเต, อรฺวาโส ชาโต’’ติ ¶ เถรํ ปุจฺฉิ. เถโร ‘‘น ชาโต, อาวุโส’’ติ อาห. อิติ โย เอวรูโป ขีณาสโว, โส อิเม ธมฺเม อาทิโต ปฏฺาย อาวชฺชิตฺวาว สมาปชฺชิตุํ สกฺขิสฺสตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สติสมฺปชฺาย จา’’ติ อาห.
๗๘. เยเม, โภ โคตมาติ ตถาคเต กิร กถยนฺเตว พฺราหฺมณสฺส ‘‘อิเม ปุคฺคลา น อาราเธนฺติ, อิเม อาราเธนฺตี’’ติ นโย อุทปาทิ, ตํ ทสฺเสนฺโต เอวํ วตฺตุมารทฺโธ.
ปรมชฺชธมฺเมสูติ อชฺชธมฺมา นาม ฉสตฺถารธมฺมา, เตสุ โคตมวาโทว, ปรโม อุตฺตโมติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
คณกโมคฺคลฺลานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตวณฺณนา
๗๙. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตํ. ตตฺถ อจิรปรินิพฺพุเต ภควตีติ ภควติ อจิรปรินิพฺพุเต, ธาตุภาชนียํ กตฺวา ธมฺมสงฺคีตึ กาตุํ ราชคหํ อาคตกาเล ¶ . รฺโ ปชฺโชตสฺส อาสงฺกมาโนติ จณฺฑปชฺโชโต นาเมส ราชา พิมฺพิสารมหาราชสฺส สหาโย อโหสิ, ชีวกํ เปเสตฺวา เภสชฺชการิตกาลโต ปฏฺาย ปน ทฬฺหมิตฺโตว ชาโต, โส ‘‘อชาตสตฺตุนา เทวทตฺตสฺส วจนํ คเหตฺวา ปิตา ฆาติโต’’ติ สุตฺวา ‘‘มม ปิยมิตฺตํ ฆาเตตฺวา เอส รชฺชํ กริสฺสามีติ มฺติ, มยฺหํ สหายสฺส สหายานํ อตฺถิกภาวํ ชานาเปสฺสามี’’ติ ปริสติ วาจํ อภาสิ. ตํ สุตฺวา ตสฺส อาสงฺกา อุปฺปนฺนา. เตน วุตฺตํ ‘‘รฺโ ปชฺโชตสฺส อาสงฺกมาโน’’ติ. กมฺมนฺโตติ พหินคเร นครปฏิสงฺขาราปนตฺถาย กมฺมนฺตฏฺานํ.
อุปสงฺกมีติ มยํ ธมฺมวินยสงฺคีตึ กาเรสฺสามาติ วิจราม, อยฺจ มเหสกฺโข ราชวลฺลโภ สงฺคเห กเต เวฬุวนสฺส อารกฺขํ กเรยฺยาติ มฺมาโน อุปสงฺกมิ. เตหิ ธมฺเมหีติ เตหิ สพฺพฺุตฺาณธมฺเมหิ. สพฺเพน สพฺพนฺติ สพฺพากาเรน สพฺพํ. สพฺพถา สพฺพนฺติ สพฺพโกฏฺาเสหิ ¶ สพฺพํ. กึ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ? ฉ หิ สตฺถาโร ปมตรํ อปฺปฺาตกุเลหิ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตา, เต ตถาคเต ธรมาเนเยว กาลํกตา, สาวกาปิ เนสํ อปฺปฺาตกุเลเหว ปพฺพชิตา. เต เตสํ อจฺจเยน มหาวิวาทํ อกํสุ. สมโณ ปน โคตโม มหากุลา ปพฺพชิโต, ตสฺส อจฺจเยน สาวกานํ มหาวิวาโท ภวิสฺสตีติ อยํ กถา สกลชมฺพุทีปํ ปตฺถรมานา อุทปาทิ. สมฺมาสมฺพุทฺเธ จ ธรนฺเต ภิกฺขูนํ วิวาโท นาโหสิ. โยปิ อโหสิ, โสปิ ตตฺเถว วูปสมิโต. ปรินิพฺพุตกาเล ปนสฺส – ‘‘อฏฺสฏฺิโยชนสตสหสฺสุพฺเพธํ ¶ สิเนรุํ อปวาหิตุํ สมตฺถสฺส วาตสฺส ปุรโต ปุราณปณฺณํ กึ สฺสติ, ทส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุตฺาณํ ปตฺตสฺส สตฺถุ อลชฺชมาโน มจฺจุราชา กสฺส ลชฺชิสฺสตี’’ติ มหาสํเวคํ ชเนตฺวา ภิยฺโยโสมตฺตาย ภิกฺขู สมคฺคา ชาตา อติวิย อุปสนฺตุปสนฺตา, กึ นุ โข เอตนฺติ อิทํ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ. อนุสฺายมาโนติ อนุสฺชายมาโน, กตากตํ ชนนฺโตติ อตฺโถ. อนุวิจรมาโน วา.
๘๐. อตฺถิ ¶ นุ โขติ อยมฺปิ เหฏฺิมปุจฺฉเมว ปุจฺฉติ. อปฺปฏิสรเณติ อปฺปฏิสรเณ ธมฺมวินเย. โก เหตุ สามคฺคิยาติ ตุมฺหากํ สมคฺคภาวสฺส โก เหตุ โก ปจฺจโย. ธมฺมปฺปฏิสรณาติ ธมฺโม อมฺหากํ ปฏิสรณํ, ธมฺโม อวสฺสโยติ ทีเปติ.
๘๑. ปวตฺตตีติ ปคุณํ หุตฺวา อาคจฺฉติ. อาปตฺติ โหติ วีติกฺกโมติ อุภยเมตํ พุทฺธสฺส อาณาติกฺกมนเมว. ยถาธมฺมํ ยถานุสิฏฺํ กาเรมาติ ยถา ธมฺโม จ อนุสิฏฺิ จ ิตา, เอวํ กาเรมาติ อตฺโถ.
น กิร โน ภวนฺโต กาเรนฺติ ธมฺโม โน กาเรตีติ ปททฺวเยปิ โน กาโร นิปาตมตฺตํ. เอวํ สนฺเต น กิร ภวนฺโต กาเรนฺติ, ธมฺโมว กาเรตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
๘๓. ตคฺฆาติ ¶ เอกํเส นิปาโต. กหํ ปน ภวํ อานนฺโทติ กึ เถรสฺส เวฬุวเน วสนภาวํ น ชานาตีติ? ชานาติ. เวฬุวนสฺส ปน ¶ อเนน อารกฺขา ทินฺนา, ตสฺมา อตฺตานํ อุกฺกํสาเปตุกาโม ปุจฺฉติ. กสฺมา ปน เตน ตตฺถ อารกฺขา ทินฺนา? โส กิร เอกทิวสํ มหากจฺจายนตฺเถรํ คิชฺฌกูฏา โอตรนฺตํ ทิสฺวา – ‘‘มกฺกโฏ วิย เอโส’’ติ อาห. ภควา ตํ กถํ สุตฺวา – ‘‘สเจ ขมาเปติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ขมาเปติ, อิมสฺมึ เวฬุวเน โคนงฺคลมกฺกโฏ ภวิสฺสตี’’ติ อาห. โส ตํ กถํ สุตฺวา – ‘‘สมณสฺส โคตมสฺส กถาย ทฺเวธาภาโว นาม นตฺถิ, ปจฺฉา เม มกฺกฏภูตกาเล โคจรฏฺานํ ภวิสฺสตี’’ติ เวฬุวเน นานาวิเธ รุกฺเข โรเปตฺวา อารกฺขํ อทาสิ. อปรภาเค กาลํ กตฺวา มกฺกโฏ หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ‘‘วสฺสการา’’ติ วุตฺเต อาคนฺตฺวา สมีเป อฏฺาสิ. ตคฺฆาติ สพฺพวาเรสุ เอกํสวจเนเยว นิปาโต. ตคฺฆ, โภ อานนฺทาติ เอวํ เถเรน ปริสมชฺเฌ อตฺตโน อุกฺกํสิตภาวํ ตฺวา อหมฺปิ เถรํ อุกฺกํสิสฺสามีติ เอวมาห.
๘๔. น จ โข, พฺราหฺมณาติ เถโร กิร จินฺเตสิ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺเธน วณฺณิตชฺฌานมฺปิ อตฺถิ, อวณฺณิตชฺฌานมฺปิ อตฺถิ, อยํ ปน พฺราหฺมโณ สพฺพเมว วณฺเณตีติ ปฺหํ วิสํวาเทติ, น โข ปน สกฺกา อิมสฺส มุขํ อุลฺโลเกตุํ น ปิณฺฑปาตํ รกฺขิตุํ, ปฺหํ อุชุํ กตฺวา กเถสฺสามี’’ติ ¶ อิทํ วตฺตุํ อารทฺธํ. อนฺตรํ กริตฺวาติ อพฺภนฺตรํ กริตฺวา. เอวรูปํ โข, พฺราหฺมณ, โส ภควา ฌานํ วณฺเณสีติ อิธ สพฺพสงฺคาหกชฺฌานํ นาม กถิตํ.
ยํ ¶ โน มยนฺติ อยํ กิร พฺราหฺมโณ วสฺสการพฺราหฺมณํ อุสูยติ, เตน ปุจฺฉิตปฺหสฺส อกถนํ ปจฺจาสีสมาโน กถิตภาวํ ตฺวา ‘‘วสฺสกาเรน ปุจฺฉิตํ ปฺหํ ปุนปฺปุนํ ตสฺส นามํ คณฺหนฺโต วิตฺถาเรตฺวา กเถสิ, มยา ปุจฺฉิตปฺหํ ปน ยฏฺิโกฏิยา อุปฺปีเฬนฺโต วิย เอกเทสเมว กเถสี’’ติ อนตฺตมโน อโหสิ, ตสฺมา เอวมาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. มหาปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา
๘๕. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ มหาปุณฺณมสุตฺตํ. ตตฺถ ตทหูติ ตสฺมึ อหุ, ตสฺมึ ทิวเสติ อตฺโถ. อุปวสนฺติ เอตฺถาติ อุโปสโถ. อุปวสนฺตีติ สีเลน วา อนสเนน วา อุเปตา หุตฺวา วสนฺตีติ อตฺโถ. อยํ ปเนตฺถ อตฺถุทฺธาโร – ‘‘อายาม, อาวุโส, กปฺปิน, อุโปสถํ คมิสฺสามา’’ติอาทีสุ หิ ปาติโมกฺขุทฺเทโส อุโปสโถ. ‘‘อฏฺงฺคสมนฺนาคโต โข วิสาเข อุโปสโถ อุปวุตฺโถ’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๘.๕๓) สีลํ. ‘‘สุทฺธสฺส เว สทา ผคฺคุ, สุทฺธสฺสุโปสโถ สทา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๗๙) อุปวาโส. ‘‘อุโปสโถ นาม นาคราชา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๔๖) ปฺตฺติ. ‘‘น, ภิกฺขเว, ตทหุโปสเถ สภิกฺขุกา อาวาสา’’ติอาทีสุ (มหาว. ๑๘๑) อุปวสิตพฺพทิวโส. อิธาปิ โสเยว อธิปฺเปโต ¶ . โส ปเนส อฏฺมีจาตุทฺทสีปนฺนรสีเภเทน ติวิโธ. ตสฺมา เสสทฺวยนิวารณตฺถํ ปนฺนรเสติ วุตฺตํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุปวสนฺติ เอตฺถาติ อุโปสโถ’’ติ. มาสปุณฺณตาย ปุณฺณา สํปุณฺณาติ ปุณฺณา. มา-อิติ จนฺโท วุจฺจติ, โส เอตฺถ ปุณฺโณติ ปุณฺณมา. เอวํ ปุณฺณาย ปุณฺณมายาติ อิมสฺมึ ปททฺวเย อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เทสนฺติ การณํ. เตน หิ ตฺวํ ภิกฺขุ สเก อาสเน นิสีทิตฺวา ปุจฺฉาติ กสฺมา ภควา ิตสฺส อกเถตฺวา นิสีทาเปสีติ. อยํ กิร ภิกฺขุ สฏฺิมตฺตานํ ปธานิยภิกฺขูนํ สงฺฆตฺเถโร สฏฺิ ภิกฺขู คเหตฺวา อรฺเ วสติ, เต ตสฺส สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ฆเฏนฺติ วายมนฺติ. มหาภูตานิ ปริคฺคณฺหนฺติ อุปาทารูปานิ, นามรูปปจฺจยลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนํ ปริคฺคณฺหนฺติ. อถ เน อาจริยุปฏฺานํ อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา นิสินฺเน เถโร มหาภูตปริคฺคหาทีนิ ปุจฺฉติ. เต สพฺพํ กเถนฺติ, มคฺคผลปฺหํ ปุจฺฉิตา ปน กเถตุํ น สกฺโกนฺติ. อถ เถโร จินฺเตสิ – ‘‘มม สนฺติเก เอเตสํ โอวาทสฺส ปริหานิ นตฺถิ, อิเม จ อารทฺธวีริยา วิหรนฺติ. กุกฺกุฏสฺส ปานียปิวนกาลมตฺตมฺปิ เนสํ ปมาทกิริยา นตฺถิ. เอวํ สนฺเตปิ มคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกนฺติ. อหํ อิเมสํ อชฺฌาสยํ น ชานามิ, พุทฺธเวเนยฺยา เอเต ภวิสฺสนฺติ ¶ , คเหตฺวา เน สตฺถุ สนฺติกํ คจฺฉามิ, อถ เนสํ สตฺถา จริยวเสน ธมฺมํ เทเสสฺสตี’’ติ, เต ภิกฺขู คเหตฺวา ¶ สตฺถุ สนฺติกํ อาคโต.
สตฺถาปิ ¶ สายนฺหสมเย อานนฺทตฺเถเรน อุปนีตํ อุทกํ อาทาย สรีรํ อุตุํ คณฺหาเปตฺวา มิคารมาตุปาสาทปริเวเณ ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสีทิ, ภิกฺขุสงฺโฆปิ นํ ปริวาเรตฺวา นิสีทิ.
ตสฺมึ สมเย สูริโย อตฺถงฺคเมติ, จนฺโท อุคฺคจฺฉติ, มชฺฌฏฺาเน จ ภควา นิสินฺโน. จนฺทสฺส ปภา นตฺถิ, สูริยสฺส ปภา นตฺถิ, จนฺทิมสูริยานํ ปภํ มกฺเขตฺวา ฉพฺพณฺณา ยมกพุทฺธรสฺมิโย วิชฺโชตมานา ปฺุชา ปฺุชา หุตฺวา ทิสาวิทิสาสุ ธาวนฺตีติ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยน วิตฺถาเรตพฺพํ. วณฺณภูมิ นาเมสา, ธมฺมกถิกสฺเสเวตฺถ ถาโม ปมาณํ, ยตฺตกํ สกฺโกติ, ตตฺตกํ กเถตพฺพํ. ทุกฺกถิตนฺติ น วตฺตพฺพํ. เอวํ สนฺนิสินฺนาย ปริสาย เถโร อุฏฺหิตฺวา สตฺถารํ ปฺหสฺส โอกาสํ กาเรสิ. ตโต ภควา – ‘‘สเจ อิมสฺมึ ิตเก ปุจฺฉนฺเต ‘อาจริโย โน อุฏฺิโต’ติ เสสภิกฺขู อุฏฺหิสฺสนฺติ, เอวํ ตถาคเต อคารโว กโต ภวิสฺสติ. อถ นิสินฺนาว ปุจฺฉิสฺสนฺติ, อาจริเย อคารโว กโต ภวิสฺสติ, เอกคฺคา หุตฺวา ธมฺมเทสนํ ปฏิจฺฉิตุํ น สกฺกุณิสฺสนฺติ. อาจริเย ปน นิสินฺเน เตปิ นิสีทิสฺสนฺติ. ตโต เอกคฺคา ธมฺมเทสนํ ปฏิจฺฉิตุํ สกฺกุณิสฺสนฺตี’’ติ อิมินา การเณน ภควา ิตสฺส อกเถตฺวา นิสีทาเปตีติ.
อิเม นุ โข, ภนฺเตติ วิมติปุจฺฉา วิย กถิตา. เถโร ปน ปฺจกฺขนฺธานํ อุทยพฺพยํ ปริคฺคณฺหิตฺวา อรหตฺตํ ¶ ปตฺโต มหาขีณาสโว, นตฺถิ เอตสฺส วิมติ. ชานนฺเตนปิ ปน อชานนฺเตน วิย หุตฺวา ปุจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. สเจ หิ ชานนฺโต วิย ปุจฺฉติ, ‘‘ชานาติ อย’’นฺติ ตสฺส ตสฺส วิสฺสชฺเชนฺโต เอกเทสเมว กเถติ. อชานนฺเตน วิย ปุจฺฉิเต ปน กเถนฺโต อิโต จ เอตฺโต จ การณํ อาหริตฺวา ปากฏํ กตฺวา กเถติ. โกจิ ปน อชานนฺโตปิ ชานนฺโต วิย ปุจฺฉติ. เถโร เอวรูปํ วจนํ กึ กริสฺสติ, ชานนฺโตเยว ปน อชานนฺโต วิย ปุจฺฉตีติ เวทิตพฺโพ.
ฉนฺทมูลกาติ ¶ ตณฺหามูลกา. เอวํรูโป สิยนฺติ สเจ โอทาโต โหตุกาโม, หริตาลวณฺโณ วา มโนสิลาวณฺโณ วา สิยนฺติ ปตฺเถติ ¶ . สเจ กาโฬ โหตุกาโม, นีลุปฺปลวณฺโณ วา อฺชนวณฺโณ วา อตสีปุปฺผวณฺโณ วา สิยนฺติ ปตฺเถติ. เอวํเวทโนติ กุสลเวทโน วา สุขเวทโน วา สิยนฺติ ปตฺเถติ. สฺาทีสุปิ เอเสว นโย. ยสฺมา ปน อตีเต ปตฺถนา นาม นตฺถิ, ปตฺเถนฺเตนาปิ จ น สกฺกา ตํ ลทฺธุํ, ปจฺจุปฺปนฺเนปิ น โหติ, น หิ โอทาโต กาฬภาวํ ปตฺเถตฺวา ปจฺจุปฺปนฺเน กาโฬ โหติ, น กาโฬ วา โอทาโต, ทีโฆ วา รสฺโส, รสฺโส วา ทีโฆ, ทานํ ปน ทตฺวา สีลํ วา สมาทิยิตฺวา ‘‘อนาคเต ขตฺติโย วา โหมิ พฺราหฺมโณ วา’’ติ ปตฺเถนฺตสฺส ปตฺถนา สมิชฺฌติ. ตสฺมา อนาคตเมว คหิตํ.
ขนฺธาธิวจนนฺติ ขนฺธานํ ขนฺธปณฺณตฺติ กิตฺตเกน โหตีติ ปุจฺฉติ.
มหาภูตา เหตูติ ‘‘ตโย กุสลเหตู’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๔๔๑) หิ เหตุเหตุ วุตฺโต. อวิชฺชา ปฺุาภิสงฺขาราทีนํ สาธารณตฺตา สาธารณเหตุ. กุสลากุสลํ อตฺตโน อตฺตโน วิปากทาเน อุตฺตมเหตุ. อิธ ปจฺจยเหตุ อธิปฺเปโต. ตตฺถ ปถวีธาตุ มหาภูตํ อิตเรสํ ติณฺณํ ภูตานํ อุปาทารูปสฺส จ ¶ ปฺาปนาย ทสฺสนตฺถาย เหตุ เจว ปจฺจโย จ. เอวํ เสเสสุปิ โยชนา เวทิตพฺพา.
ผสฺโสติ ‘‘ผุฏฺโ, ภิกฺขเว, เวเทติ, ผุฏฺโ สฺชานาติ, ผุฏฺโ เจเตตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๓) วจนโต ผสฺโส ติณฺณํ ขนฺธานํ ปฺาปนาย เหตุ เจว ปจฺจโย จ. วิฺาณกฺขนฺธสฺสาติ เอตฺถ ปฏิสนฺธิวิฺาเณน ตาว สทฺธึ คพฺภเสยฺยกานํ อุปริมปริจฺเฉเทน สมตึส รูปานิ สมฺปยุตฺตา จ ตโย ขนฺธา อุปฺปชฺชนฺติ, ตํ นามรูปํ ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส ปฺาปนาย เหตุ เจว ปจฺจโย จ. จกฺขุทฺวาเร จกฺขุปสาโท เจว รูปารมฺมณฺจ รูปํ, สมฺปยุตฺตา ตโย ขนฺธา นามํ. ตํ นามรูปํ จกฺขุวิฺาณสฺส ปฺาปนาย เหตุ เจว ปจฺจโย จ. เอเสว นโย เสสวิฺาเณสุ.
๘๗. กถํ ปน, ภนฺเตติ อิทํ กิตฺตเกน นุ โขติ วฏฺฏํ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห. สกฺกายทิฏฺิ น โหตีติ อิทํ วิวฏฺฏํ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห.
๘๘. อยํ ¶ ¶ รูเป อสฺสาโทติ อิมินา ปริฺาปฏิเวโธ เจว ทุกฺขสจฺจฺจ กถิตํ. อยํ รูเป อาทีนโวติ อิมินา ปหานปฏิเวโธ เจว สมุทยสจฺจฺจ. อิทํ รูเป นิสฺสรณนฺติ อิมินา สจฺฉิกิริยาปฏิเวโธ เจว นิโรธสจฺจฺจ. เย อิเมสุ ตีสุ าเนสุ สมฺมาทิฏฺิอาทโย ธมฺมา, อยํ ภาวนาปฏิเวโธ มคฺคสจฺจํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
๘๙. พหิทฺธาติ ปรสฺส สวิฺาณเก กาเย. สพฺพนิมิตฺเตสูติ อิมินา ปน อนินฺทฺริยพทฺธมฺปิ สงฺคณฺหาติ. ‘‘สวิฺาณเก กาเย’’ติ วจเนน วา อตฺตโน จ ปรสฺส จ กาโย คหิโตว, พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺตคฺคหเณน อนินฺทฺริยพทฺธํ คณฺหาติ.
๙๐. อนตฺตกตานีติ ¶ อนตฺตนิ ตฺวา กตานิ. กมตฺตานํ ผุสิสฺสนฺตีติ กตรสฺมึ อตฺตนิ ตฺวา วิปากํ ทสฺเสนฺตีติ สสฺสตทสฺสนํ โอกฺกมนฺโต เอวมาห. ตณฺหาธิปเตยฺเยนาติ ตณฺหาเชฏฺเกน. ตตฺร ตตฺราติ เตสุ เตสุ ธมฺเมสุ. สฏฺิมตฺตานนฺติ อิเม ภิกฺขู ปกติกมฺมฏฺานํ ชหิตฺวา อฺํ นวกมฺมฏฺานํ สมฺมสนฺตา ปลฺลงฺกํ อภินฺทิตฺวา ตสฺมึเยว อาสเน อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. จูฬปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา
๙๑. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ จูฬปุณฺณมสุตฺตํ. ตตฺถ ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตนฺติ ยํ ยํ ทิสํ อนุวิโลเกติ, ตตฺถ ตตฺถ ตุณฺหีภูตเมว. อนุวิโลเกตฺวาติ ปฺจปสาทปฏิมณฺฑิตานิ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ตโต ตโต วิโลเกตฺวา อนฺตมโส หตฺถกุกฺกุจฺจปาทกุกฺกุจฺจานมฺปิ อภาวํ ทิสฺวา. อสปฺปุริโสติ ปาปปุริโส. โน เหตํ, ภนฺเตติ ยสฺมา อนฺโธ อนฺธํ วิย โส ตํ ชานิตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา เอวมาหํสุ. เอเตเนว นเยน อิโต ปเรสุปิ วาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อสฺสทฺธสมนฺนาคโตติ ปาปธมฺมสมนฺนาคโต. อสปฺปุริสภตฺตีติ อสปฺปุริสเสวโน. อสปฺปุริสจินฺตีติ ¶ ¶ อสปฺปุริสจินฺตาย จินฺตโก. อสปฺปุริสมนฺตีติ อสปฺปุริสมนฺตนํ มนฺเตตา. อสปฺปุริสวาโจติ อสปฺปุริสวาจํ ภาสิตา. อสปฺปุริสกมฺมนฺโตติ อสปฺปุริสกมฺมานํ กตฺตา. อสปฺปุริสทิฏฺีติ อสปฺปุริสทิฏฺิยา สมนฺนาคโต. อสปฺปุริสทานนฺติ อสปฺปุริเสหิ ทาตพฺพํ ทานํ. ตฺยาสฺส มิตฺตาติ เต อสฺส มิตฺตา. อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตตีติ ปาณํ หนิสฺสามิ, อทินฺนํ อาทิยิสฺสามิ, มิจฺฉา จริสฺสามิ, ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺติสฺสามีติ เอวํ อตฺตโน ทุกฺขตฺถาย จินฺเตติ. ปรพฺยาพาธายาติ ยถา อสุโก อสุกํ ปาณํ หนฺติ, อสุกสฺส สนฺตกํ อทินฺนํ อาทิยติ, ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺตติ, เอวํ นํ อาณาเปสฺสามีติ เอวํ ปรสฺส ทุกฺขตฺถาย จินฺเตติ. อุภยพฺยาพาธายาติ อหํ อสุกฺจ อสุกฺจ คเหตฺวา ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺติสฺสามีติ เอวํ อุภยทุกฺขตฺถาย จินฺเตตีติ.
อตฺตพฺยาพาธายปิ มนฺเตตีติอาทีสุ อหํ ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺติสฺสามีติ มนฺเตนฺโต อตฺตพฺยาพาธาย มนฺเตติ นาม. อสุกํ ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทเปสฺสามีติ มนฺเตนฺโต ปรพฺยาพาธาย มนฺเตติ นาม. อฺเน สทฺธึ – ‘‘มยํ อุโภปิ เอกโต หุตฺวา ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺติสฺสามา’’ติ มนฺเตนฺโต อุภยพฺยาพาธาย มนฺเตติ นาม.
อสกฺกจฺจํ ทานํ เทตีติ เทยฺยธมฺมมฺปิ ปุคฺคลมฺปิ ¶ น สกฺกโรติ. เทยฺยธมฺมํ น สกฺกโรติ ¶ นาม อุตฺตณฺฑุลาทิโทสสมนฺนาคตํ อาหารํ เทติ, น ปสนฺนํ กโรติ. ปุคฺคลํ น สกฺกโรติ นาม นิสีทนฏฺานํ อสมฺมชฺชิตฺวา ยตฺถ วา ตตฺถ วา นิสีทาเปตฺวา ยํ วา ตํ วา อาธารกํ เปตฺวา ทานํ เทติ. อสหตฺถาติ อตฺตโน หตฺเถน, น เทติ, ทาสกมฺมการาทีหิ ทาเปติ. อจิตฺติกตฺวาติ เหฏฺา วุตฺตนเยน เทยฺยธมฺเมปิ ปุคฺคเลปิ น จิตฺตีการํ กตฺวา เทติ. อปวิทฺธนฺติ ฉฑฺเฑตุกาโม หุตฺวา วมฺมิเก อุรคํ ปกฺขิปนฺโต วิย เทติ. อนาคมนทิฏฺิโกติ โน ผลปาฏิกงฺขี หุตฺวา เทติ.
ตตฺถ ¶ อุปปชฺชตีติ น ทานํ ทตฺวา นิรเย อุปปชฺชติ. ยํ ปน เตน ปาปลทฺธิกาย มิจฺฉาทสฺสนํ คหิตํ, ตาย มิจฺฉาทิฏฺิยา นิรเย อุปปชฺชติ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ. เทวมหตฺตตาติ ฉกามาวจรเทวา. มนุสฺสมหตฺตตาติ ติณฺณํ กุลานํ สมฺปตฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. อิทํ ปน สุตฺตํ สุทฺธวฏฺฏวเสเนว กถิตนฺติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.