📜
๒. อนุปทวคฺโค
๑. อนุปทสุตฺตวณฺณนา
๙๓. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ อนุปทสุตฺตํ. ตตฺถ เอตทโวจาติ เอตํ (ปฏิ. ม. ๓.๔) ‘‘ปณฺฑิโต’’ติอาทินา นเยน ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถรสฺส คุณกถํ อโวจ. กสฺมา? อวเสสตฺเถเรสุ หิ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส อิทฺธิมาติ คุโณ ปากโฏ, มหากสฺสปสฺส ธุตวาโทติ, อนุรุทฺธตฺเถรสฺส ทิพฺพจกฺขุโกติ, อุปาลิตฺเถรสฺส วินยธโรติ, เรวตตฺเถรสฺส ฌายี ฌานาภิรโตติ, อานนฺทตฺเถรสฺส พหุสฺสุโตติ. เอวํ เตสํ เตสํ เถรานํ เต เต คุณา ปากฏา, สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ปน อปากฏา. กสฺมา? ปฺวโต หิ คุณา น สกฺกา อกถิตา ชานิตุํ. อิติ ภควา ‘‘สาริปุตฺตสฺส คุเณ กเถสฺสามี’’ติ สภาคปริสาย สนฺนิปาตํ อาคเมสิ. วิสภาคปุคฺคลานฺหิ สนฺติเก วณฺณํ กเถตุํ น วฏฺฏติ, เต วณฺเณ กถิยมาเน อวณฺณเมว กเถนฺติ. อิมสฺมึ ปน ทิวเส เถรสฺส สภาคปริสา สนฺนิปติ, ตสฺสา สนฺนิปติตภาวํ ทิสฺวา สตฺถา วณฺณํ กเถนฺโต อิมํ เทสนํ อารภิ.
ตตฺถ ปณฺฑิโตติ ธาตุกุสลตา อายตนกุสลตา ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสลตา านาฏฺานกุสลตาติ อิเมหิ จตูหิ การเณหิ ปณฺฑิโต. มหาปฺโติอาทีสุ มหาปฺาทีหิ สมนฺนาคโตติ ¶ อตฺโถ.
ตตฺริทํ มหาปฺาทีนํ นานตฺตํ – ตตฺถ กตมา มหาปฺา? มหนฺเต สีลกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต สมาธิกฺขนฺเธ, ปฺากฺขนฺเธ, วิมุตฺติกฺขนฺเธ, วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตานิ านาฏฺานานิ, มหนฺตา วิหารสมาปตฺติโย ¶ , มหนฺตานิ อริยสจฺจานิ, มหนฺเต สติปฏฺาเน, สมฺมปฺปธาเน, อิทฺธิปาเท, มหนฺตานิ อินฺทฺริยานิ, พลานิ, โพชฺฌงฺคานิ, มหนฺเต อริยมคฺเค, มหนฺตานิ สามฺผลานิ, มหนฺตา อภิฺาโย, มหนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา.
กตมา ¶ ปุถุปฺา, ปุถุ นานาขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา. ปุถุ นานาธาตูสุ, ปุถุ นานาอายตเนสุ, ปุถุ นานาอตฺเถสุ, ปุถุ นานาปฏิจฺจสมุปฺปาเทสุ, ปุถุ นานาสฺุตมนุปลพฺเภสุ, ปุถุ นานาอตฺเถสุ, ธมฺเมสุ, นิรุตฺตีสุ, ปฏิภาเนสุ, ปุถุ นานาสีลกฺขนฺเธสุ, ปุถุ นานาสมาธิ-ปฺา-วิมุตฺติ-วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธสุ, ปุถุ นานาานาฏฺาเนสุ, ปุถุ นานาวิหารสมาปตฺตีสุ, ปุถุ นานาอริยสจฺเจสุ, ปุถุ นานาสติปฏฺาเนสุ, สมฺมปฺปธาเนสุ, อิทฺธิปาเทสุ, อินฺทฺริเยสุ, พเลสุ, โพชฺฌงฺเคสุ, ปุถุ นานาอริยมคฺเคสุ, สามฺผเลสุ, อภิฺาสุ, ปุถุ นานาชนสาธารเณ ธมฺเม สมติกฺกมฺม ปรมตฺเถ นิพฺพาเน าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา.
กตมา ¶ หาสปฺา, อิเธกจฺโจ หาสพหุโล เวทพหุโล ตุฏฺิพหุโล ปาโมชฺชพหุโล สีลํ ปริปูเรติ, อินฺทฺริยสํวรํ ปริปูเรติ, โภชเน มตฺตฺุตํ, ชาคริยานุโยคํ, สีลกฺขนฺธํ, สมาธิกฺขนฺธํ, ปฺากฺขนฺธํ, วิมุตฺติกฺขนฺธํ, วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺธํ ปริปูเรตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล ปาโมชฺชพหุโล านาฏฺานํ ปฏิวิชฺฌติ, หาสพหุโล วิหารสมาปตฺติโย ปริปูเรตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ. สติปฏฺาเน, สมฺมปฺปธาเน, อิทฺธิปาเท, อินฺทฺริยานิ, พลานิ, โพชฺฌงฺคานิ, อริยมคฺคํ ภาเวตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล สามฺผลานิ สจฺฉิกโรติ, อภิฺาโย ปฏิวิชฺฌตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล เวทตุฏฺิปาโมชฺชพหุโล ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตีติ หาสปฺา.
กตมา ชวนปฺา, ยํกิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ รูปํ อนิจฺจโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. ทุกฺขโต ขิปฺปํ… อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. ยา กาจิ เวทนา…เป… ยํกิฺจิ วิฺาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… สพฺพํ วิฺาณํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. จกฺขุ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต ¶ อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ทุกฺขํ ภยฏฺเน, อนตฺตา อสารกฏฺเนาติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา รูปนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ¶ ชวตีติ ชวนปฺา. เวทนา, สฺา, สงฺขารา, วิฺาณํ ¶ , จกฺขุ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน…เป… วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… วิฺาณํ. จกฺขุ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.
กตมา ติกฺขปฺา, ขิปฺปํ กิเลเส ฉินฺทตีติ ติกฺขปฺา. อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ, อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ, อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ, อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม, อุปฺปนฺนํ ราคํ, โทสํ, โมหํ, โกธํ, อุปนาหํ, มกฺขํ, ปฬาสํ, อิสฺสํ, มจฺฉริยํ, มายํ, สาเยฺยํ, ถมฺภํ, สารมฺภํ, มานํ, อติมานํ, มทํ, ปมาทํ, สพฺเพ กิเลเส, สพฺเพ ทุจฺจริเต, สพฺเพ อภิสงฺขาเร, สพฺเพ ภวคามิกมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปฺา. เอกสฺมึ อาสเน จตฺตาโร อริยมคฺคา, จตฺตาริ สามฺผลานิ, จตสฺโส ปฏิสมฺภิทาโย, ฉ จ อภิฺาโย อธิคตา โหนฺติ สจฺฉิกตา ปสฺสิตา ปฺายาติ ติกฺขปฺา.
กตมา นิพฺเพธิกปฺา, อิเธกจฺโจ สพฺพสงฺขาเรสุ อุพฺเพคพหุโล โหติ อุตฺตาสพหุโล อุกฺกณฺนพหุโล อรติพหุโล ¶ อนภิรติพหุโล พหิมุโข น รมติ สพฺพสงฺขาเรสุ, อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปฺปทาลิตปุพฺพํ โลภกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา. อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปฺปทาลิตปุพฺพํ โทสกฺขนฺธํ, โมหกฺขนฺธํ, โกธํ, อุปนาหํ…เป… สพฺเพ ภวคามิกมฺเม นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา.
อนุปทธมฺมวิปสฺสนนฺติ สมาปตฺติวเสน วา ฌานงฺควเสน วา อนุปฏิปาฏิยา ธมฺมวิปสฺสนํ วิปสฺสติ, เอวํ วิปสฺสนฺโต อทฺธมาเสน อรหตฺตํ ปตฺโต. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร ปน ¶ สตฺตหิ ทิวเสหิ. เอวํ สนฺเตปิ สาริปุตฺตตฺเถโร มหาปฺวนฺตตโร. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร หิ สาวกานํ สมฺมสนจารํ ยฏฺิโกฏิยา อุปฺปีเฬนฺโต วิย เอกเทสเมว สมฺมสนฺโต สตฺต ทิวเส วายมิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต. สาริปุตฺตตฺเถโร เปตฺวา พุทฺธานํ ปจฺเจกพุทฺธานฺจ สมฺมสนจารํ สาวกานํ สมฺมสนจารํ นิปฺปเทสํ สมฺมสิ. เอวํ สมฺมสนฺโต อทฺธมาสํ วายมิ. อรหตฺตฺจ กิร ปตฺวา อฺาสิ – ‘‘เปตฺวา พุทฺเธ จ ปจฺเจกพุทฺเธ จ อฺโ สาวโก นาม ปฺาย ¶ มยา ปตฺตพฺพํ ปตฺตุํ สมตฺโถ นาม น ภวิสฺสตี’’ติ. ยถา หิ ปุริโส เวฬุยฏฺึ คณฺหิสฺสามีติ มหาชฏํ เวฬุํ ทิสฺวา ชฏํ ฉินฺทนฺตสฺส ปปฺโจ ภวิสฺสตีติ อนฺตเรน หตฺถํ ปเวเสตฺวา สมฺปตฺตเมว ยฏฺึ มูเล จ อคฺเค จ ฉินฺทิตฺวา อาทาย ปกฺกเมยฺย, โส กิฺจาปิ ปมตรํ คจฺฉติ, ยฏฺึ ปน สารํ วา อุชุํ วา น ลภติ. อปโร จ ตถารูปเมว เวณุํ ทิสฺวา ‘‘สเจ สมฺปตฺตํ ยฏฺึ คณฺหิสฺสามิ, สารํ วา อุชุํ วา น ลภิสฺสามี’’ติ กจฺฉํ พนฺธิตฺวา ¶ มหนฺเตน สตฺเถน เวณุชฏํ ฉินฺทิตฺวา สารา เจว อุชู จ ยฏฺิโย อุจฺจินิตฺวา อาทาย ปกฺกเมยฺย. อยํ กิฺจาปิ ปจฺฉา คจฺฉติ, ยฏฺิโย ปน สารา เจว อุชู จ ลภติ. เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ อิเมสํ ทฺวินฺนํ เถรานํ ปธานํ.
เอวํ ปน อทฺธมาสํ วายมิตฺวา ธมฺมเสนาปติ สาริปุตฺตตฺเถโร สูกรขตเลณทฺวาเร ภาคิเนยฺยสฺส ทีฆนขปริพฺพาชกสฺส เวทนาปริคฺคหสุตฺตนฺเต เทสิยมาเน ทสพลํ พีชยมาโน ิโต เทสนานุสาเรน าณํ เปเสตฺวา ปพฺพชิตทิวสโต ปนฺนรสเม ทิวเส สาวกปารมิาณสฺส มตฺถกํ ปตฺวา สตฺตสฏฺิ าณานิ ปฏิวิชฺฌิตฺวา โสฬสวิธํ ปฺํ อนุปฺปตฺโต.
ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺตสฺส อนุปทธมฺมวิปสฺสนายาติ ยา อนุปทธมฺมวิปสฺสนํ วิปสฺสตีติ อนุปทธมฺมวิปสฺสนา วุตฺตา, ตตฺร อนุปทธมฺมวิปสฺสนาย สาริปุตฺตสฺส อิทํ โหติ. อิทานิ วตฺตพฺพํ ตํ ตํ วิปสฺสนาโกฏฺาสํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
๙๔. ปเม ฌาเนติ เย ปเม ฌาเน อนฺโตสมาปตฺติยํ ธมฺมา. ตฺยาสฺสาติ เต อสฺส. อนุปทววตฺถิตา โหนฺตีติ อนุปฏิปาฏิยา ววตฺถิตา ปริจฺฉินฺนา าตา วิทิตา โหนฺติ. กถํ? เถโร หิ เต ธมฺเม โอโลเกนฺโต อภินิโรปนลกฺขโณ วิตกฺโก วตฺตตีติ ชานาติ. ตถา อนุมชฺชนลกฺขโณ วิจาโร, ผรณลกฺขณา ปีติ, สาตลกฺขณํ สุขํ, อวิกฺเขปลกฺขณา ¶ จิตฺเตกคฺคตา, ผุสนลกฺขโณ ผสฺโส เวทยิตลกฺขณา เวทนา, สฺชานนลกฺขณา สฺา, เจตยิตลกฺขณา เจตนา, วิชานนลกฺขณํ ¶ วิฺาณํ, กตฺตุกมฺยตาลกฺขโณ ฉนฺโท, อธิโมกฺขลกฺขโณ อธิโมกฺโข, ปคฺคาหลกฺขณํ วีริยํ ¶ อุปฏฺานลกฺขณา สติ, มชฺฌตฺตลกฺขณา อุเปกฺขา, อนุนยมนสิการลกฺขโณ มนสิกาโร วตฺตตีติ ชานาติ. เอวํ ชานํ อภินิโรปนฏฺเน วิตกฺกํ สภาวโต ววตฺถเปติ…เป… อนุนยมนสิการณฏฺเน มนสิการํ สภาวภาวโต ววตฺถเปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตฺยาสฺส ธมฺมา อนุปทววตฺถิตา โหนฺตี’’ติ.
วิทิตา อุปฺปชฺชนฺตีติ อุปฺปชฺชมานา วิทิตา ปากฏาว หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ. วิทิตา อุปฏฺหนฺตีติ ติฏฺมานาปิ วิทิตา ปากฏาว หุตฺวา ติฏฺนฺติ. วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺตีติ นิรุชฺฌมานาปิ วิทิตา ปากฏาว หุตฺวา นิรุชฺฌนฺติ. เอตฺถ ปน ตําณตา เจว าณพหุตา จ โมเจตพฺพา. ยถา หิ เตเนว องฺคุลคฺเคน ตํ องฺคุลคฺคํ น สกฺกา ผุสิตุํ, เอวเมว เตเนว จิตฺเตน ตสฺส จิตฺตสฺส อุปฺปาโท วา ิติ วา ภงฺโค วา น สกฺกา ชานิตุนฺติ. เอวํ ตาว ตําณตา โมเจตพฺพา. ยทิ ปน ทฺเว จิตฺตานิ เอกโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เอเกน จิตฺเตน เอกสฺส อุปฺปาโท วา ิติ วา ภงฺโค วา สกฺกา ภเวยฺย ชานิตุํ. ทฺเว ปน ผสฺสา วา เวทนา วา สฺา วา เจตนา วา จิตฺตานิ วา เอกโต อุปฺปชฺชนกานิ นาม นตฺถิ, เอเกกเมว อุปฺปชฺชติ. เอวํ าณพหุตา โมเจตพฺพา. เอวํ สนฺเต กถํ? มหาเถรสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ โสฬส ธมฺมา วิทิตา ปากฏา โหนฺตีติ. วตฺถารมฺมณานํ ปริคฺคหิตตาย. เถเรน หิ วตฺถุ เจว อารมฺมณฺจ ปริคฺคหิตํ, เตนสฺส เตสํ ธมฺมานํ อุปฺปาทํ อาวชฺชนฺตสฺส อุปฺปาโท ปากโฏ โหติ, านํ อาวชฺชนฺตสฺส านํ ปากฏํ โหติ, เภทํ อาวชฺชนฺตสฺส ¶ เภโท ปากโฏ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ วิทิตา อุปฏฺหนฺติ วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺตี’’ติ. อหุตฺวา สมฺโภนฺตีติ อิมินา อุทยํ ปสฺสติ. หุตฺวา ปฏิเวนฺตีติ อิมินา วยํ ปสฺสติ.
อนุปาโยติ ราควเสน อนุปคมโน หุตฺวา. อนปาโยติ ปฏิฆวเสน อนปคโต. อนิสฺสิโตติ ตณฺหาทิฏฺินิสฺสเยหิ อนิสฺสิโต. อปฺปฏิพทฺโธติ ฉนฺทราเคน อพทฺโธ. วิปฺปมุตฺโตติ กามราคโต วิปฺปมุตฺโต. วิสํยุตฺโตติ จตูหิ โยเคหิ สพฺพกิเลเสหิ วา วิสํยุตฺโต. วิมริยาทีกเตนาติ นิมฺมริยาทีกเตน. เจตสาติ เอวํวิเธน จิตฺเตน วิหรติ.
ตตฺถ ¶ ¶ ทฺเว มริยาทา กิเลสมริยาทา จ อารมฺมณมริยาทา จ. สเจ หิสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺเต โสฬส ธมฺเม อารพฺภ ราคาทโย อุปฺปชฺเชยฺยุํ, กิเลสมริยาทา เตน กตา ภเวยฺย, เตสุ ปนสฺส เอโกปิ น อุปฺปนฺโนติ กิเลสมริยาทา นตฺถิ. สเจ ปนสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺเต โสฬส ธมฺเม อาวชฺชนฺตสฺส เอกจฺเจ อาปาถํ นาคจฺเฉยฺยุํ. เอวมสฺส อารมฺมณมริยาทา ภเวยฺยุํ. เต ปนสฺส โสฬส ธมฺเม อาวชฺชนฺตสฺส อาปาถํ อนาคตธมฺโม นาม นตฺถีติ อารมฺมณมริยาทาปิ นตฺถิ.
อปราปิ ทฺเว มริยาทา วิกฺขมฺภนมริยาทา จ สมุจฺเฉทมริยาทา จ. ตาสุ สมุจฺเฉทมริยาทา อุปริ อาคมิสฺสติ, อิมสฺมึ ปน าเน วิกฺขมฺภนมริยาทา อธิปฺเปตา. ตสฺส วิกฺขมฺภิตปจฺจนีกตฺตา นตฺถีติ วิมริยาทิกเตน เจตสา วิหรติ.
อุตฺตริ ¶ นิสฺสรณนฺติ อิโต อุตฺตริ นิสฺสรณํ. อฺเสุ จ สุตฺเตสุ ‘‘อุตฺตริ นิสฺสรณ’’นฺติ นิพฺพานํ วุตฺตํ, อิธ ปน อนนฺตโร วิเสโส อธิปฺเปโตติ เวทิตพฺโพ. ตพฺพหุลีการาติ ตสฺส ปชานนสฺส พหุลีกรเณน. อตฺถิตฺเววสฺส โหตีติ ตสฺส เถรสฺส อตฺถีติเยว ทฬฺหตรํ โหติ. อิมินา นเยน เสสวาเรสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ทุติยวาเร ปน สมฺปสาทนฏฺเน สมฺปสาโท. สภาวโต ววตฺถเปติ.
จตุตฺถวาเร อุเปกฺขาติ สุขฏฺาเน เวทนุเปกฺขาว. ปสฺสทฺธตฺตา เจตโส อนาโภโคติ โย โส ‘‘ยเทว ตตฺถ สุข’’นฺติ เจตโส อาโภโค, เอเตเนตํ โอฬาริกมกฺขายตีติ เอวํ ปสฺสทฺธตฺตา เจตโส อนาโภโค วุตฺโต, ตสฺส อภาวาติ อตฺโถ. สติปาริสุทฺธีติ ปริสุทฺธาสติเยว. อุเปกฺขาปิ ปาริสุทฺธิอุเปกฺขา.
๙๕. สโต วุฏฺหตีติ สติยา สมนฺนาคโต าเณน สมฺปชาโน หุตฺวา วุฏฺาติ. เต ธมฺเม สมนุปสฺสตีติ ยสฺมา เนวสฺานาสฺายตเน พุทฺธานํเยว อนุปทธมฺมวิปสฺสนา โหติ, น สาวกานํ, ตสฺมา เอตฺถ กลาปวิปสฺสนํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห.
ปฺาย ¶ ¶ จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺตีติ มคฺคปฺาย จตฺตาริ สจฺจานิ ทิสฺวา จตฺตาโร อาสวา ขีณา โหนฺติ. สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ อาหริตฺวา ¶ อรหตฺตํ ปตฺตวาโรปิ อตฺถิ, นิโรธสมาปตฺติสมาปนฺนวาโรปิ. อรหตฺตํ ปตฺตวาโร อิธ คหิโต, นิโรธํ ปน จิณฺณวสิตาย อปราปรํ สมาปชฺชิสฺสตีติ วทนฺติ.
ตตฺถสฺส ยสฺมึ กาเล นิโรธสมาปตฺติ สีสํ โหติ, นิโรธสฺส วาโร อาคจฺฉติ, ผลสมาปตฺติ คูฬฺหา โหติ. ยสฺมึ กาเล ผลสมาปตฺติ สีสํ โหติ, ผลสมาปตฺติยา วาโร อาคจฺฉติ, นิโรธสมาปตฺติ คูฬฺหา โหติ. ชมฺพุทีปวาสิโน เถรา ปน วทนฺติ ‘‘สาริปุตฺตตฺเถโร สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ อาหริตฺวา อนาคามิผลํ สจฺฉิกตฺวา นิโรธํ สมาปชฺชิ, นิโรธา วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺโต’’ติ. เต ธมฺเมติ อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺเต ติสมุฏฺานิกรูปธมฺเม, เหฏฺา เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยํ ปวตฺตธมฺเม วา. เตปิ หิ อิมสฺมึ วาเร วิปสฺสิตพฺพธมฺมาว, ตสฺมา เต วา วิปสฺสตีติ ทสฺเสตุํ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๙๗. วสิปฺปโตติ จิณฺณวสิตํ ปตฺโต. ปารมิปฺปตฺโตติ นิปฺผตฺตึ ปตฺโต. โอรโสติอาทีสุ เถโร ภควโต อุเร นิพฺพตฺตสทฺทํ สุตฺวา ชาโตติ โอรโส, มุเขน ปภาวิตํ สทฺทํ สุตฺวา ชาโตติ มุขโต ชาโต, ธมฺเมน ปน ชาตตฺตา นิมฺมิตตฺตา ธมฺมโช ธมฺมนิมฺมิโต, ธมฺมทายสฺส อาทิยนโต ธมฺมทายาโท, อามิสทายสฺส อนาทิยนโต โน อามิสทายาโทติ เวทิตพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อนุปทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ฉพฺพิโสธนสุตฺตวณฺณนา
๙๘. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ ฉพฺพิโสธนสุตฺตํ. ตตฺถ ขีณา ชาตีติอาทีสุ เอเกนาปิ ปเทน อฺา พฺยากตาว โหติ, ทฺวีหิปิ. อิธ ปน จตูหิ ปเทหิ อฺพฺยากรณํ อาคตํ. ทิฏฺเ ทิฏฺวาทิตาติอาทีสุ ยาย ¶ เจตนาย ทิฏฺเ ทิฏฺํ เมติ วทติ, สา ทิฏฺเ ทิฏฺวาทิตา นาม. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อยมนุธมฺโมติ อยํ สภาโว. อภินนฺทิตพฺพนฺติ น เกวลํ อภินนฺทิตพฺพํ, ปรินิพฺพุตสฺส ปนสฺส สพฺโพปิ ขีณาสวสฺส สกฺกาโร กาตพฺโพ. อุตฺตรึ ปฺโหติ สเจ ปนสฺส เวยฺยากรเณน อสนฺตุฏฺา โหถ, อุตฺตริมฺปิ อยํ ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพติ ทสฺเสติ. อิโต ปเรสุปิ ตีสุ วาเรสุ อยเมว นโย.
๙๙. อพลนฺติ ทุพฺพลํ. วิราคุนนฺติ วิคจฺฉนสภาวํ. อนสฺสาสิกนฺติ อสฺสาสวิรหิตํ. อุปายูปาทานาติ ตณฺหาทิฏฺีนเมตํ อธิวจนํ. ตณฺหาทิฏฺิโย หิ เตภูมกธมฺเม อุเปนฺตีติ อุปายา, อุปาทิยนฺตีติ อุปาทานา. เจตโส อทิฏฺานาภินิเวสานุสยาติปิ ตาสํเยว นามํ. จิตฺตฺหิ ตณฺหาทิฏฺีหิ สกฺกายธมฺเมสุ ติฏฺติ อธิติฏฺตีติ ตณฺหาทิฏฺิโย เจตโส อธิฏฺานา, ตาหิ ตํ อภินิวิสตีติ อภินิเวสา, ตาหิเยว ตํ อนุเสตีติ อนุสยาติ วุจฺจนฺติ. ขยา ¶ วิราคาติอาทีสุ ขเยน วิราเคนาติ อตฺโถ. สพฺพานิ เจตานิ อฺมฺเววจนาเนว.
๑๐๐. ปถวีธาตูติ ปติฏฺานธาตุ. อาโปธาตูติ อาพนฺธนธาตุ. เตโชธาตูติ ปริปาจนธาตุ. วาโยธาตูติ วิตฺถมฺภนธาตุ. อากาสธาตูติ อสมฺผุฏฺธาตุ. วิฺาณธาตูติ วิชานนธาตุ. น อนตฺตโต อุปคจฺฉินฺติ อหํ อตฺตาติ อตฺตโกฏฺาเสน น อุปคมึ. น จ ปถวีธาตุนิสฺสิตนฺติ ปถวีธาตุนิสฺสิตา เสสธาตุโย จ อุปาทารูปฺจ อรูปกฺขนฺธา จ. เตปิ หิ นิสฺสิตวตฺถุรูปานํ ปถวีธาตุนิสฺสิตตฺตา เอเกน ปริยาเยน ปถวีธาตุนิสฺสิตาว. ตสฺมา ‘‘น จ ปถวีธาตุนิสฺสิต’’นฺติ วทนฺโต เสสรูปารูปธมฺเมปิ อตฺตโต น อุปคจฺฉินฺติ วทติ. อากาสธาตุนิสฺสิตปเท ปน อวินิพฺโภควเสน สพฺพมฺปิ ภูตุปาทารูปํ อากาสธาตุนิสฺสิตํ นาม ¶ , ตถา ตํนิสฺสิตรูปวตฺถุกา อรูปกฺขนฺธา. เอวํ อิธาปิ รูปารูปํ คหิตเมว โหติ. วิฺาณธาตุนิสฺสิตปเท ปน สหชาตา ตโย ขนฺธา จิตฺตสมุฏฺานรูปฺจ วิฺาณธาตุนิสฺสิตนฺติ รูปารูปํ คหิตเมว โหติ.
๑๐๑. รูเป จกฺขุวิฺาเณ จกฺขุวิฺาณวิฺาตพฺเพสุ ธมฺเมสูติ เอตฺถ ยํ อตีเต จกฺขุทฺวารสฺส อาปาถํ อาคนฺตฺวา นิรุทฺธํ, ยฺจ อนาคเต อาปาถํ ¶ อาคนฺตฺวา นิรุชฺฌิสฺสติ, ยมฺปิ เอตรหิ อาคนฺตฺวา นิรุทฺธํ, ตํ สพฺพํ รูปํ นาม. ยํ ปน อตีเตปิ อาปาถํ อนาคนฺตฺวา นิรุทฺธํ, อนาคเตปิ อนาคนฺตฺวา นิรุชฺฌิสฺสติ, เอตรหิปิ อนาคนฺตฺวา นิรุทฺธํ, ตํ จกฺขุวิฺาณวิฺาตพฺพธมฺเมสุ สงฺคหิตนฺติ วุตฺเต ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร ¶ อาห – ‘‘อิมสฺมึ าเน ทฺวิธา กโรถ, อุปริ ฉนฺโทวาเร กินฺติ กริสฺสถ, นยิทํ ลพฺภตี’’ติ. ตสฺมา ตีสุ กาเลสุ อาปาถํ อาคตํ วา อนาคตํ วา สพฺพมฺปิ ตํ รูปเมว, จกฺขุวิฺาณสมฺปยุตฺตา ปน ตโย ขนฺธา จกฺขุวิฺาณวิฺาตพฺพธมฺมาติ เวทิตพฺพา. อยฺเหตฺถ อตฺโถ ‘‘จกฺขุวิฺาเณน สทฺธึ วิฺาตพฺเพสุ ธมฺเมสู’’ติ. ฉนฺโทติ ตณฺหาฉนฺโท. ราโคติ สฺเวว รชฺชนวเสน ราโค. นนฺทีติ สฺเวว อภินนฺทนวเสน นนฺที. ตณฺหาติ สฺเวว ตณฺหายนวเสน ตณฺหา. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย.
๑๐๒. อหงฺการมมงฺการมานานุสยาติ เอตฺถ อหงฺกาโร มาโน, มมงฺกาโร ตณฺหา, สฺเวว มานานุสโย. อาสวานํ ขยาณายาติ อิทํ ปุพฺเพนิวาสํ ทิพฺพจกฺขฺุจ อวตฺวา กสฺมา วุตฺตํ? ภิกฺขู โลกิยธมฺมํ น ปุจฺฉนฺติ, โลกุตฺตรเมว ปุจฺฉนฺติ, ตสฺมา ปุจฺฉิตปฺหํเยว กเถนฺโต เอวมาห. เอกวิสฺสชฺชิตสุตฺตํ นาเมตํ, ฉพฺพิโสธนนฺติปิสฺส นามํ. เอตฺถ หิ จตฺตาโร โวหารา ปฺจ ขนฺธา ฉ ธาตุโย ฉ อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ อตฺตโน สวิฺาณกกาโย ปเรสํ สวิฺาณกกาโยติ อิเม ฉ โกฏฺาสา วิสุทฺธา, ตสฺมา ‘‘ฉพฺพิโสธนิย’’นฺติ วุตฺตํ. ปรสมุทฺทวาสิตฺเถรา ปน อตฺตโน จ ปรสฺส จ วิฺาณกกายํ เอกเมว กตฺวา จตูหิ ¶ อาหาเรหิ สทฺธินฺติ ฉ โกฏฺาเส วทนฺติ.
อิเม ปน ฉ โกฏฺาสา ‘‘กึ เต อธิคตํ, กินฺติ เต อธิคตํ, กทา เต อธิคตํ, กตฺถ ¶ เต อธิคตํ, กตเม เต กิเลสา ปหีนา, กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ (ปารา. ๑๙๘) เอวํ วินยนิทฺเทสปริยาเยน โสเธตพฺพา.
เอตฺถ หิ กึ เต อธิคตนฺติ อธิคมปุจฺฉา, ฌานวิโมกฺขาทีสุ โสตาปตฺติมคฺคาทีสุ วา กึ ตยา อธิคตํ. กินฺติ เต อธิคตนฺติ อุปายปุจฺฉา. อยฺหิ เอตฺถาธิปฺปาโย – กึ ตยา อนิจฺจลกฺขณํ ธุรํ กตฺวา อธิคตํ, ทุกฺขานตฺตลกฺขเณสุ อฺตรํ วา, กึ วา สมาธิวเสน อภินิวิสิตฺวา ¶ , อุทาหุ วิปสฺสนาวเสน, ตถา กึ รูเป อภินิวิสิตฺวา, อุทาหุ อรูเป, กึ วา อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา, อุทาหุ พหิทฺธาติ. กทา เต อธิคตนฺติ กาลปุจฺฉา, ปุพฺพณฺหมชฺฌนฺหิกาทีสุ กตรสฺมึ กาเลติ วุตฺตํ โหติ.
กตฺถ เต อธิคตนฺติ โอกาสปุจฺฉา, กิสฺมึ โอกาเส, กึ รตฺติฏฺาเน ทิวาฏฺาเน รุกฺขมูเล มณฺฑเป กตรสฺมึ วา วิหาเรติ วุตฺตํ โหติ. กตเม เต กิเลสา ปหีนาติ ปหีนกิเลเส ปุจฺฉติ, กตรมคฺควชฺฌา ตว กิเลสา ปหีนาติ วุตฺตํ โหติ.
กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภีติ ปฏิลทฺธธมฺมปุจฺฉา, ปมมคฺคาทีสุ กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภีติ วุตฺตํ โหติ.
ตสฺมา อิทานิ เจปิ โกจิ ภิกฺขุ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาธิคมํ พฺยากเรยฺย, น โส เอตฺตาวตาว สกฺกาตพฺโพ. อิเมสุ ปน ฉสุ าเนสุ โสธนตฺถํ วตฺตพฺโพ ‘‘กึ เต อธิคตํ, กึ ฌานํ อุทาหุ วิโมกฺขาทีสุ อฺตร’’นฺติ? โย หิ เยน อธิคโต ธมฺโม, โส ตสฺส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อิทํ นาม เม อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กินฺติ เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ. อนิจฺจลกฺขณาทีสุ กึ ธุรํ กตฺวา, อฏฺตึสาย วา อารมฺมเณสุ ¶ รูปารูปอชฺฌตฺตพหิทฺธาทิเภเทสุ วา ธมฺเมสุ เกน มุเขน อภินิวิสิตฺวาติ? โย หิ ยสฺสาภินิเวโส, โส ตสฺส ปากโฏ โหติ.
สเจ ปน ‘‘อยํ นาม เม อภินิเวโส, เอวํ มยา อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กทา เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ปุพฺพณฺเห, อุทาหุ มชฺฌนฺหิกาทีสุ อฺตรสฺมึ กาเล’’ติ ¶ ? สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตกาโล ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อมุกสฺมึ นาม เม กาเล อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กตฺถ เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ทิวาฏฺาเน, อุทาหุ รตฺติฏฺานาทีสุ อฺตรสฺมึ โอกาเส’’ติ? สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคโตกาโส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อมุกสฺมึ นาม เม โอกาเส อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กตเม เต กิเลสา ปหีนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ปมมคฺควชฺฌา, อุทาหุ ทุติยาทิมคฺควชฺฌา’’ติ? สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตมคฺเคน ปหีนกิเลสา ปากฏา โหนฺติ.
สเจ ¶ ‘‘อิเม นาม เม กิเลสา ปหีนา’’ติ วทติ, ตโต ‘‘กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ โสตาปตฺติมคฺคสฺส, อุทาหุ สกทาคามิมคฺคาทีสุ อฺตรสฺสา’’ติ? สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตธมฺโม ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อิเมสํ นามาหํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ วทติ, เอตฺตาวตาปิสฺส วจนํ น สทฺธาตพฺพํ. พหุสฺสุตา หิ อุคฺคหปริปุจฺฉากุสลา ภิกฺขู อิมานิ ฉ านานิ โสเธตุํ สกฺโกนฺติ. อิมสฺส ภิกฺขุโน อาคมนปฏิปทา โสเธตพฺพา, ยทิ อาคมนปฏิปทา น สุชฺฌติ, ‘‘อิมาย ปฏิปทาย โลกุตฺตรธมฺมา นาม น ลพฺภนฺตี’’ติ อปเนตพฺโพ.
ยทิ ปนสฺส อาคมนปฏิปทา สุชฺฌติ, ‘‘ทีฆรตฺตํ ตีสุ สิกฺขาสุ อปฺปมตฺโต ชาคริยมนุยุตฺโต จตูสุ ปจฺจเยสุ อลคฺโค อากาเส ปาณิสเมน เจตสา วิหรตี’’ติ ปฺายติ, ตสฺส ภิกฺขุโน พฺยากรณํ ปฏิปทาย ¶ สทฺธึ สํสนฺทติ สเมติ. ‘‘เสยฺยถาปิ นาม คงฺโคทกํ ยมุโนทเกน สทฺธึ สํสนฺทติ สเมติ, เอวเมว สุปฺตฺตา เตน ภควตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา สํสนฺทติ สเมติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๙๖) วุตฺตสทิสํ โหติ.
อปิจ โข เอตฺตเกนาปิ สกฺกาโร น กาตพฺโพ. กสฺมา? เอกจฺจสฺส หิ ปุถุชฺชนสฺสาปิ สโต ขีณาสวปฏิปตฺติสทิสา ปฏิปทา โหติ. ตสฺมา โส ภิกฺขุ เตหิ เตหิ อุปาเยหิ อุตฺตาเสตพฺโพ. ขีณาสวสฺส นาม อสนิยาปิ มตฺถเก ปตมานาย ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา น โหติ, ปุถุชฺชนสฺส อปฺปมตฺตเกนาปิ โหติ.
ตตฺริมานิ ¶ วตฺถูนิ – ทีฆภาณกอภยตฺเถโร กิร เอกํ ปิณฺฑปาติกํ ปริคฺคเหตุํ อสกฺโกนฺโต ทหรสฺส สฺํ อทาสิ. โส ตํ นฺหายมานํ กลฺยาณีนทีมุขทฺวาเร นิมุชฺชิตฺวา ปาเท อคฺคเหสิ. ปิณฺฑปาติโก กุมฺภีโลติ สฺาย มหาสทฺทมกาสิ, ตทา นํ ปุถุชฺชโนติ สฺชานึสุ. จนฺทมุขติสฺสราชกาเล ปน มหาวิหาเร สงฺฆตฺเถโร ขีณาสโว ทุพฺพลจกฺขุโก วิหาเรเยว อจฺฉิ. ราชา เถรํ ปริคฺคณฺหิสฺสามีติ ภิกฺขูสุ ภิกฺขาจารํ คเตสุ อปฺปสทฺโท อุปสงฺกมิตฺวา สปฺโป วิย ปาเท อคฺคเหสิ. เถโร สิลาถมฺโภ วิย นิจฺจโล หุตฺวา โก เอตฺถาติ อาห ¶ ? อหํ, ภนฺเต, ติสฺโสติ. สุคนฺธํ วายสิ โน ติสฺสาติ? เอวํ ขีณาสวสฺส ภยํ นาม นตฺถีติ.
เอกจฺโจ ปน ปุถุชฺชโนปิ อติสูโร โหติ นิพฺภโย. โส รฺชนีเยน อารมฺมเณน ปริคฺคณฺหิตพฺโพ. วสภราชาปิ หิ เอกํ เถรํ ปริคฺคณฺหมาโน ฆเร นิสีทาเปตฺวา ตสฺส ¶ สนฺติเก พทรสาฬวํ มทฺทมาโน นิสีทิ. มหาเถรสฺส เขโฬ จลิ, ตโต เถรสฺส ปุถุชฺชนภาโว อาวิภูโต. ขีณาสวสฺส หิ รสตณฺหา นาม สุปฺปหีนา, ทิพฺเพสุปิ รเสสุ นิกนฺติ นาม น โหติ. ตสฺมา อิเมหิ อุปาเยหิ ปริคฺคเหตฺวา สจสฺส ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา รสตณฺหา วา อุปฺปชฺชติ, น ตฺวํ อรหาติ อปเนตพฺโพ. สเจ ปน อภีรู อจฺฉมฺภี อนุตฺราสี หุตฺวา สีโห วิย นิสีทติ, ทิพฺพารมฺมเณปิ นิกนฺตึ น ชเนติ. อยํ ภิกฺขุ สมฺปนฺนเวยฺยากรโณ สมนฺตา ราชราชมหามตฺตาทีหิ เปสิตํ สกฺการํ อรหตีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
ฉพฺพิโสธนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สปฺปุริสธมฺมสุตฺตวณฺณนา
๑๐๕. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ สปฺปุริสธมฺมสุตฺตํ. ตตฺถ สปฺปุริสธมฺมนฺติ สปฺปุริสานํ ธมฺมํ. อสปฺปุริสธมฺมนฺติ ปาปปุริสานํ ธมฺมํ. เอวํ มาติกํ เปตฺวาปิ ปุน ยถา นาม มคฺคกุสโล ปุริโส วามํ มฺุจิตฺวา ทกฺขิณํ คณฺหาติ. ปมํ มฺุจิตพฺพํ กเถติ, เอวํ ปหาตพฺพํ ธมฺมํ ปมํ เทเสนฺโต กตโม จ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโมติอาทิมาห. ตตฺถ อุจฺจากุลาติ ขตฺติยกุลา วา พฺราหฺมณกุลา วา. เอตเทว หิ กุลทฺวยํ ‘‘อุจฺจากุล’’นฺติ วุจฺจติ. โส ตตฺถ ปุชฺโชติ โส ภิกฺขุ เตสุ ภิกฺขูสุ ปูชารโห. อนฺตรํ กริตฺวาติ อพฺภนฺตรํ กตฺวา.
มหากุลาติ ขตฺติยกุลา วา พฺราหฺมณกุลา วา เวสฺสกุลา ¶ วา. อิทเมว หิ กุลตฺตยํ ‘‘มหากุล’’นฺติ วุจฺจติ. มหาโภคกุลาติ มหนฺเตหิ ¶ โภเคหิ สมนฺนาคตา กุลา. อุฬารโภคกุลาติ อุฬาเรหิ ปณีเตหิ โภเคหิ สมฺปนฺนกุลา. อิมสฺมึ ปททฺวเย จตฺตาริปิ กุลานิ ลพฺภนฺติ. ยตฺถ กตฺถจิ กุเล ชาโต หิ ปฺุพเลหิ มหาโภโคปิ อุฬารโภโคปิ โหติเยว.
๑๐๖. ยสสฺสีติ ปริวารสมฺปนฺโน. อปฺปฺาตาติ รตฺตึ ขิตฺตสรา วิย สงฺฆมชฺฌาทีสุ น ปฺายนฺติ. อปฺเปสกฺขาติ อปฺปปริวารา.
๑๐๗. อารฺิโกติ สมาทินฺนอารฺิกธุตงฺโค. เสสธุตงฺเคสุปิ เอเสว นโย. อิมสฺมิฺจ สุตฺเต ปาฬิยํ นเวว ธุตงฺคานิ อาคตานิ, วิตฺถาเรน ปเนตานิ เตรส โหนฺติ. เตสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สพฺพํ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค ธุตงฺคนิทฺเทเส วุตฺตเมว.
๑๐๘. อตมฺมยตาติ ตมฺมยตา วุจฺจติ ตณฺหา, นิตฺตณฺหาติ อตฺโถ. อตมฺมยตฺเว อนฺตรํ กริตฺวาติ นิตฺตณฺหตํเยว การณํ กตฺวา อพฺภนฺตรํ วา กตฺวา, จิตฺเต อุปฺปาเทตฺวาติ อตฺโถ.
นิโรธวาเร ¶ ยสฺมา อนาคามิขีณาสวาว ตํ สมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺติ, ปุถุชฺชนสฺส สา นตฺถิ, ตสฺมา อสปฺปุริสวาโร ปริหีโน. น กฺจิ มฺตีติ กฺจิ ปุคฺคลํ ตีหิ มฺนาหิ น มฺติ. น ¶ กุหิฺจิ มฺตีติ กิสฺมิฺจิ โอกาเส น มฺติ. น เกนจิ มฺตีติ เกนจิ วตฺถุนาปิ ตํ ปุคฺคลํ น มฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
สปฺปุริสธมฺมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. เสวิตพฺพาเสวิตพฺพสุตฺตวณฺณนา
๑๐๙. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ เสวิตพฺพาเสวิตพฺพสุตฺตํ. ตตฺถ ตฺจ อฺมฺํ กายสมาจารนฺติ อฺํ เสวิตพฺพํ กายสมาจารํ, อฺํ อเสวิตพฺพํ วทามิ, เสวิตพฺพเมว เกนจิ ปริยาเยน อเสวิตพฺพนฺติ, อเสวิตพฺพํ วา เสวิตพฺพนฺติ จ น วทามีติ อตฺโถ. วจีสมาจาราทีสุ เอเสว นโย. อิติ ¶ ภควา สตฺตหิ ปเทหิ มาติกํ เปตฺวา วิตฺถารโต อวิภชิตฺวาว เทสนํ นิฏฺาเปสิ. กสฺมา? สาริปุตฺตตฺเถรสฺส โอกาสกรณตฺถํ.
๑๑๓. มโนสมาจาเร มิจฺฉาทิฏฺิสมฺมาทิฏฺิโย ทิฏฺิปฏิลาภวเสน วิสุํ องฺคํ หุตฺวา ิตาติ น คหิตา.
๑๑๔. จิตฺตุปฺปาเท อกมฺมปถปฺปตฺตา อภิชฺฌาทโย เวทิตพฺพา.
๑๑๕. สฺาปฏิลาภวาเร อภิชฺฌาสหคตาย สฺายาติอาทีนิ กามสฺาทีนํ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ.
๑๑๗. สพฺยาพชฺฌนฺติ สทุกฺขํ. อปรินิฏฺิตภาวายาติ ภวานํ อปรินิฏฺิตภาวาย. เอตฺถ จ สพฺยาพชฺฌตฺตภาวา นาม จตฺตาโร โหนฺติ. ปุถุชฺชโนปิ หิ โย เตนตฺตภาเวน ภวํ ปรินิฏฺาเปตุํ น สกฺโกติ, ตสฺส ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย อกุสลา ธมฺมา วฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา จ ปริหายนฺติ, สทุกฺขเมว ¶ อตฺตภาวํ อภินิพฺพตฺเตติ นาม. ตถา โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิโน. ปุถุชฺชนาทโย ตาว โหนฺตุ, อนาคามี กถํ สพฺยาพชฺฌํ อตฺตภาวํ อภินิพฺพตฺเตติ, กถฺจสฺส อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตีติ. อนาคามีปิ หิ สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺโต อุยฺยานวิมานกปฺปรุกฺเข โอโลเกตฺวา ‘‘อโห สุขํ อโห สุข’’นฺติ อุทานํ อุทาเนติ, อนาคามิโน ภวโลโภ ภวตณฺหา อปฺปหีนาว โหนฺติ, ตสฺส อปฺปหีนตณฺหตาย อกุสลา วฑฺฒนฺติ นาม, กุสลา ปริหายนฺติ นาม, สทุกฺขเมว อตฺตภาวํ อภินิพฺพตฺเตติ, อปรินิฏฺิตภโวเยว โหตีติ เวทิตพฺโพ.
อพฺยาพชฺฌนฺติ ¶ อทุกฺขํ. อยมฺปิ จตุนฺนํ ชนานํ วเสน เวทิตพฺโพ. โย หิ ปุถุชฺชโนปิ เตนตฺตภาเวน ภวํ ปรินิฏฺาเปตุํ สกฺโกติ, ปุน ปฏิสนฺธึ น คณฺหาติ, ตสฺส ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺาย อกุสลา ปริหายนฺติ, กุสลาเยว วฑฺฒนฺติ, อทุกฺขเมว อตฺตภาวํ นิพฺพตฺเตติ, ปรินิฏฺิตภโวเยว นาม โหติ. ตถา โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิโน. โสตาปนฺนาทโย ตาว โหนฺตุ, ปุถุชฺชโน กถํ อพฺยาพชฺฌอตฺตภาวํ นิพฺพตฺเตติ, กถฺจสฺส อกุสลปริหานิอาทีนิ โหนฺตีติ. ปุถุชฺชโนปิ ปจฺฉิมภวิโก เตนตฺตภาเวน ภวํ ปรินิฏฺาเปตุํ สมตฺโถ โหติ. ตสฺส ¶ องฺคุลิมาลสฺส วิย เอเกนูนปาณสหสฺสํ ฆาเตนฺตสฺสาปิ อตฺตภาโว อพฺยาพชฺโฌเยว นาม, ภวํ ปรินิฏฺาเปติเยว นาม. อกุสลเมว หายติ, วิปสฺสนเมว คพฺภํ คณฺหาเปติ นาม.
๑๑๙. จกฺขุวิฺเยฺยนฺติอาทีสุ ยสฺมา เอกจฺจสฺส ตสฺมึเยว รูเป ราคาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, อภินนฺทติ อสฺสาเทติ, อภินนฺทนฺโต ¶ อสฺสาเทนฺโต อนยพฺยสนํ ปาปุณาติ, เอกจฺจสฺส นุปฺปชฺชนฺติ, นิพฺพินฺทติ วิรชฺชติ, นิพฺพินฺทนฺโต วิรชฺชนฺโต นิพฺพุตึ ปาปุณาติ, ตสฺมา ‘‘ตฺจ อฺมฺ’’นฺติ น วุตฺตํ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชาเนยฺยุนฺติ เอตฺถ เก ภควโต อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ, เก น อาชานนฺตีติ? เย ตาว อิมสฺส สุตฺตสฺส ปาฬิฺจ อฏฺกถฺจ อุคฺคณฺหิตฺวา ตกฺกรา น โหนฺติ, ยถาวุตฺตํ อนุโลมปฏิปทํ น ปฏิปชฺชนฺติ, เต น อาชานนฺติ นาม. เย ปน ตกฺกรา โหนฺติ, ยถาวุตฺตํ อนุโลมปฏิปทํ ปฏิปชฺชนฺติ, เต อาชานนฺติ นาม. เอวํ สนฺเตปิ สปฏิสนฺธิกานํ ตาว ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย โหตุ, อปฺปฏิสนฺธิกานํ กถํ โหตีติ. อปฺปฏิสนฺธิกา อนุปาทานา วิย ชาตเวทา ปรินิพฺพายนฺติ, กปฺปสตสหสฺสานมฺปิ อจฺจเยน เตสํ ปุน ทุกฺขํ นาม นตฺถิ. อิติ เอกํเสน เตสํเยว ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
เสวิตพฺพาเสวิตพฺพสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. พหุธาตุกสุตฺตวณฺณนา
๑๒๔. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ พหุธาตุกสุตฺตํ. ตตฺถ ภยานีติอาทีสุ ภยนฺติ จิตฺตุตฺราโส. อุปทฺทโวติ อเนกคฺคตากาโร. อุปสคฺโคติ อุปสฏฺากาโร ตตฺถ ตตฺถ ลคฺคนากาโร. เตสํ เอวํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ – ปพฺพตาทิวิสมนิสฺสิตา โจรา ชนปทวาสีนํ เปเสนฺติ ‘‘มยํ อสุกทิวเส นาม ตุมฺหากํ คามํ ปหริสฺสามา’’ติ. ตํ ปวตฺตึ สุตกาลโต ¶ ¶ ปฏฺาย ภยํ สนฺตาสํ อาปชฺชนฺติ. อยํ จิตฺตุตฺราโส นาม. ‘‘อิธ โน โจรา กุปิตา อนตฺถมฺปิ อาวเหยฺยุ’’นฺติ หตฺถสารํ คเหตฺวา ทฺวิปทจตุปฺปเทหิ สทฺธึ อรฺํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ภูมิยํ นิปชฺชนฺติ, ฑํสมกสาทีหิ ขชฺชมานา คุมฺพนฺตรานิ ปวิสนฺติ, ขาณุกณฺฏเก มทฺทนฺติ. เตสํ เอวํ วิจรนฺตานํ วิกฺขิตฺตภาโว อเนกคฺคตากาโร นาม. ตโต โจเรสุ ยถาวุตฺเต ทิวเส อนาคจฺฉนฺเตสุ ‘‘ตุจฺฉกสาสนํ ตํ ภวิสฺสติ, คามํ ปวิสิสฺสามา’’ติ สปริกฺขารา คามํ ปวิสนฺติ, อถ เตสํ ปวิฏฺภาวํ ตฺวา คามํ ปริวาเรตฺวา ทฺวาเร อคฺคึ ทตฺวา มนุสฺเส ฆาเตตฺวา โจรา สพฺพํ วิภวํ วิลุมฺเปตฺวา คจฺฉนฺติ. เตสุ ฆาติตาวเสสา อคฺคึ นิพฺพาเปตฺวา โกฏฺจฺฉายภิตฺติจฺฉายาทีสุ ตตฺถ ตตฺถ ลคฺคิตฺวา นิสีทนฺติ นฏฺํ อนุโสจมานา. อยํ อุปสฏฺากาโร ลคฺคนากาโร นาม.
นฬาคาราติ นเฬหิ ปริจฺฉนฺนา อคารา, เสสสมฺภารา ปเนตฺถ รุกฺขมยา โหนฺติ. ติณาคาเรปิ เอเสว นโย. พาลโต อุปฺปชฺชนฺตีติ พาลเมว นิสฺสาย อุปฺปชฺชนฺติ. พาโล หิ อปณฺฑิตปุริโส รชฺชํ วา อุปรชฺชํ วา อฺํ วา ปน มหนฺตํ านํ ปตฺเถนฺโต กติปเย อตฺตนา สทิเส วิธวาปุตฺเต มหาธุตฺเต คเหตฺวา ‘‘เอถ อหํ ตุมฺเห อิสฺสเร กริสฺสามี’’ติ ปพฺพตคหนาทีนิ นิสฺสาย อนฺตนฺเต คาเม ปหรนฺโต ทามริกภาวํ ชานาเปตฺวา อนุปุพฺเพน นิคเมปิ ชนปเทปิ ปหรติ, มนุสฺสา เคหานิ ฉฑฺเฑตฺวา เขมนฺตฏฺานํ ปตฺถยมานา ปกฺกมนฺติ, เต นิสฺสาย วสนฺตา ภิกฺขูปิ ภิกฺขุนิโยปิ อตฺตโน อตฺตโน วสนฏฺานานิ ปหาย ปกฺกมนฺติ. คตคตฏฺาเน ภิกฺขาปิ เสนาสนมฺปิ ¶ ทุลฺลภํ โหติ. เอวํ จตุนฺนํ ปริสานํ ภยํ อาคตเมว โหติ. ปพฺพชิเตสุปิ ทฺเว พาลา ภิกฺขู อฺมฺํ วิวาทํ ปฏฺเปตฺวา โจทนํ อารภนฺติ ¶ . อิติ โกสมฺพิวาสิกานํ วิย มหากลโห อุปฺปชฺชติ, จตุนฺนํ ปริสานํ ภยํ อาคตเมว โหตีติ เอวํ ยานิ กานิจิ ภยานิ อุปฺปชฺชนฺติ, สพฺพานิ ตานิ พาลโต อุปฺปชฺชนฺตีติ เวทิตพฺพานิ.
เอตทโวจาติ ภควตา ธมฺมเทสนา มตฺถกํ อปาเปตฺวาว นิฏฺาปิตา. ยํนูนาหํ ทสพลํ ปุจฺฉิตฺวา สพฺพฺุตฺาเณเนวสฺส เทสนาย ปาริปูรึ กเรยฺยนฺติ ¶ จินฺเตตฺวา เอตํ ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต’’ติอาทิวจนํ อโวจ.
๑๒๕. อฏฺารสสุ ธาตูสุ อฑฺเฒกาทสธาตุโย รูปปริคฺคโห, อฑฺฒฏฺมกธาตุโย อรูปปริคฺคโหติ รูปารูปปริคฺคโหว กถิโต. สพฺพาปิ ขนฺธวเสน ปฺจกฺขนฺธา โหนฺติ. ปฺจปิ ขนฺธา ทุกฺขสจฺจํ, เตสํ สมุฏฺาปิกา ตณฺหา สมุทยสจฺจํ, อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปชานนา ปฏิปทา มคฺคสจฺจํ. อิติ จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ เอกสฺส ภิกฺขุโน นิคฺคมนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา กถิตํ โหติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปเนตา ธาตุโย วิสุทฺธิมคฺเค กถิตาว. ชานาติ ปสฺสตีติ สห วิปสฺสนาย มคฺโค วุตฺโต.
ปถวีธาตุอาทโย สวิฺาณกกายํ สฺุโต นิสฺสตฺตโต ทสฺเสตุํ วุตฺตา. ตาปิ ปุริมาหิ อฏฺารสหิ ธาตูหิ ปูเรตพฺพา. ปูเรนฺเตน วิฺาณธาตุโต นีหริตฺวา ปูเรตพฺพา. วิฺาณธาตุ เหสา จกฺขุวิฺาณาทิวเสน ฉพฺพิธา โหติ. ตตฺถ จกฺขุวิฺาณธาตุยา ปริคฺคหิตาย ตสฺสา วตฺถุ จกฺขุธาตุ, อารมฺมณํ รูปธาตูติ ทฺเว ธาตุโย ปริคฺคหิตาว ¶ โหนฺติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. มโนวิฺาณธาตุยา ปน ปริคฺคหิตาย ตสฺสา ปุริมปจฺฉิมวเสน มโนธาตุ, อารมฺมณวเสน ธมฺมธาตูติ ทฺเว ธาตุโย ปริคฺคหิตาว โหนฺติ. อิติ อิมาสุ อฏฺารสสุ ธาตูสุ อฑฺเฒกาทสธาตุโย รูปปริคฺคโหติ ปุริมนเยเนว อิทมฺปิ เอกสฺส ภิกฺขุโน นิคฺคมนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา กถิตํ โหติ.
สุขธาตูติอาทีสุ สุขฺจ ตํ นิสฺสตฺตสฺุตฏฺเน ธาตุ จาติ สุขธาตุ. เอส นโย สพฺพตฺถ. เอตฺถ จ ปุริมา จตสฺโส ธาตุโย สปฺปฏิปกฺขวเสน คหิตา, ปจฺฉิมา ทฺเว สริกฺขกวเสน. อวิภูตภาเวน หิ อุเปกฺขาธาตุ อวิชฺชาธาตุยา สริกฺขา. เอตฺถ จ สุขทุกฺขธาตูสุ ¶ ปริคฺคหิตาสุ กายวิฺาณธาตุ ปริคฺคหิตาว โหติ, เสสาสุ ปริคฺคหิตาสุ มโนวิฺาณธาตุ ปริคฺคหิตาว โหติ. อิมาปิ ฉ ธาตุโย เหฏฺา อฏฺารสหิเยว ปูเรตพฺพา. ปูเรนฺเตน อุเปกฺขาธาตุโต นีหริตฺวา ปูเรตพฺพา. อิติ อิมาสุ อฏฺารสสุ ธาตูสุ อฑฺเฒกาทสธาตุโย รูปปริคฺคโหติ ¶ ปุริมนเยเนว อิทมฺปิ เอกสฺส ภิกฺขุโน นิคฺคมนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา กถิตํ โหติ.
กามธาตุอาทีนํ ทฺเวธาวิตกฺเก (ม. นิ. ๑.๒๐๖) กามวิตกฺกาทีสุ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อภิธมฺเมปิ ‘‘ตตฺถ กตมา กามธาตุ, กามปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก วิตกฺโก’’ติอาทินา (วิภ. ๑๘๒) นเยเนว เอตาสํ วิตฺถาโร อาคโตเยว. อิมาปิ ฉ ธาตุโย เหฏฺา อฏฺารสหิเยว ปูเรตพฺพา. ปูเรนฺเตน กามธาตุโต นีหริตฺวา ปูเรตพฺพา. อิติ อิมาสุ อฏฺารสสุ ธาตูสุ อฑฺเฒกาทสธาตุโย รูปปริคฺคโหติ ปุริมนเยเนว อิทมฺปิ เอกสฺส ภิกฺขุโน นิคฺคมนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา กถิตํ โหติ.
กามธาตุอาทีสุ ปฺจ กามาวจรกฺขนฺธา ¶ กามธาตุ นาม, ปฺจ รูปาวจรกฺขนฺธา รูปธาตุ นาม, จตฺตาโร อรูปาวจรกฺขนฺธา อรูปธาตุ นาม. อภิธมฺเม ปน ‘‘ตตฺถ กตมา กามธาตุ, เหฏฺโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กริตฺวา’’ติอาทินา (วิภ. ๑๘๒) นเยน เอตาสํ วิตฺถาโร อาคโตเยว. อิมาปิ ติสฺโส ธาตุโย เหฏฺา อฏฺารสหิเยว ปูเรตพฺพา. ปูเรนฺเตน กามธาตุโต นีหริตฺวา ปูเรตพฺพา. อิติ อิมาสุ อฏฺารสสุ ธาตูสุ อฑฺเฒกาทสธาตุโย รูปปริคฺคโหติ ปุริมนเยเนว อิทมฺปิ เอกสฺส ภิกฺขุโน นิคฺคมนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา กถิตํ โหติ.
สงฺขตาติ ปจฺจเยหิ สมาคนฺตฺวา กตา, ปฺจนฺนํ ขนฺธานเมตํ อธิวจนํ. น สงฺขตา อสงฺขตา. นิพฺพานสฺเสตํ อธิวจนํ. อิมาปิ ทฺเว ธาตุโย เหฏฺา อฏฺารสหิเยว ปูเรตพฺพา. ปูเรนฺเตน สงฺขตธาตุโต นีหริตฺวา ปูเรตพฺพา. อิติ อิมาสุ อฏฺารสสุ ธาตูสุ อฑฺเฒกาทสธาตุโย รูปปริคฺคโหติ ปุริมนเยเนว อิทมฺปิ เอกสฺส ภิกฺขุโน นิคฺคมนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา กถิตํ โหติ.
๑๒๖. อชฺฌตฺติกพาหิรานีติ อชฺฌตฺติกานิ จ พาหิรานิ จ. เอตฺถ หิ จกฺขุอาทีนิ อชฺฌตฺติกานิ ฉ, รูปาทีนิ พาหิรานิ ฉ. อิธาปิ ชานาติ ปสฺสตีติ สห วิปสฺสนาย มคฺโค กถิโต.
อิมสฺมึ ¶ สติ อิทนฺติอาทิ มหาตณฺหาสงฺขเย วิตฺถาริตเมว.
๑๒๗. อฏฺานนฺติ ¶ เหตุปฏิกฺเขโป. อนวกาโสติ ปจฺจยปฏิกฺเขโป. อุภเยนาปิ การณเมว ปฏิกฺขิปติ. การณฺหิ ตทายตฺตวุตฺติตาย อตฺตโน ผลสฺส านนฺติ จ อวกาโสติ จ วุจฺจติ. ยนฺติ เยน การเณน. ทิฏฺิสมฺปนฺโนติ ¶ มคฺคทิฏฺิยา สมฺปนฺโน โสตาปนฺโน อริยสาวโก. กฺจิ สงฺขารนฺติ จตุภูมเกสุ สงฺขตสงฺขาเรสุ กฺจิ เอกสงฺขารมฺปิ. นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺยาติ นิจฺโจติ คณฺเหยฺย. เนตํ านํ วิชฺชตีติ เอตํ การณํ นตฺถิ น อุปลพฺภติ. ยํ ปุถุชฺชโนติ เยน การเณน ปุถุชฺชโน. านเมตํ วิชฺชตีติ เอตํ การณํ อตฺถิ. สสฺสตทิฏฺิยา หิ โส เตภูมเกสุ สงฺขตสงฺขาเรสุ กฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต คณฺเหยฺยาติ อตฺโถ. จตุตฺถภูมกสงฺขารา ปน เตชุสฺสทตฺตา ทิวสํ สนฺตตฺโต อโยคุโฬ วิย มกฺขิกานํ ทิฏฺิยา วา อฺเสํ วา อกุสลานํ อารมฺมณํ น โหนฺติ. อิมินา นเยน กฺจิ สงฺขารํ สุขโตติอาทีสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
สุขโต อุปคจฺเฉยฺยาติ ‘‘เอกนฺตสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๑, ๒๒) เอวํ อตฺตทิฏฺิวเสน สุขโต คาหํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน ปน อริยสาวโก ปริฬาหาภิภูโต ปริฬาหวูปสมตฺถํ มตฺตหตฺถึ ปริตฺตาสิโต วิย, โจกฺขพฺราหฺมโณ วิย จ คูถํ กฺจิ สงฺขารํ สุขโต อุปคจฺฉติ. อตฺตวาเร กสิณาทิปณฺณตฺติสงฺคหตฺถํ สงฺขารนฺติ อวตฺวา กฺจิ ธมฺมนฺติ วุตฺตํ. อิธาปิ อริยสาวกสฺส จตุภูมกวเสน เวทิตพฺโพ, ปุถุชฺชนสฺส เตภูมกวเสน. สพฺพวาเรสุ อริยสาวกสฺสาปิ เตภูมกวเสเนว ปริจฺเฉโท วฏฺฏติ. ยํ ยฺหิ ปุถุชฺชโน ¶ คณฺหาติ, ตโต ตโต อริยสาวโก คาหํ วินิเวเติ. ปุถุชฺชโน หิ ยํ ยํ นิจฺจํ สุขํ อตฺตาติ คณฺหาติ, ตํ ตํ อริยสาวโก อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ คณฺหนฺโต ตํ คาหํ วินิเวเติ.
๑๒๘. มาตรนฺติอาทีสุ ชนิกาว มาตา, ชนโก ปิตา, มนุสฺสภูโตว ขีณาสโว อรหาติ อธิปฺเปโต. กึ ปน อริยสาวโก อฺํ ชีวิตา โวโรเปยฺยาติ? เอตมฺปิ อฏฺานํ. สเจปิ หิ ภวนฺตรคตํ อริยสาวกํ ¶ อตฺตโน อริยภาวํ อชานนฺตมฺปิ โกจิ เอวํ วเทยฺย ‘‘อิมํ กุนฺถกิปิลฺลิกํ ชีวิตา โวโรเปตฺวา สกลจกฺกวาฬคพฺเภ จกฺกวตฺติรชฺชํ ปฏิปชฺชาหี’’ติ ¶ , เนว โส ตํ ชีวิตา โวโรเปยฺย. อถาปิ นํ เอวํ วเทยฺย ‘‘สเจ อิมํ น ฆาเตสฺสสิ, สีสํ เต ฉินฺทิสฺสามา’’ติ. สีสเมวสฺส ฉินฺเทยฺย, น จ โส ตํ ฆาเตยฺย. ปุถุชฺชนภาวสฺส ปน มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถํ อริยสาวกสฺส จ พลทีปนตฺถเมตํ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สาวชฺโช ปุถุชฺชนภาโว, ยตฺร หิ นาม ปุถุชฺชโน มาตุฆาตาทีนิปิ อานนฺตริยานิ กริสฺสติ. มหาพโล จ อริยสาวโก, โย เอตานิ กมฺมานิ น กโรตีติ.
ทุฏฺจิตฺโตติ วธกจิตฺเตน ปทุฏฺจิตฺโต. โลหิตํ อุปฺปาเทยฺยาติ ชีวมานกสรีเร ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนมตฺตมฺปิ โลหิตํ อุปฺปาเทยฺย. สงฺฆํ ภินฺเทยฺยาติ สมานสํวาสกํ สมานสีมาย ิตํ ปฺจหิ การเณหิ สงฺฆํ ภินฺเทยฺย. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ปฺจหุปาลิ อากาเรหิ สงฺโฆ ภิชฺชติ. กมฺเมน อุทฺเทเสน โวหรนฺโต อนุสฺสาวเนน สลากคฺคาเหนา’’ติ (ปริ. ๔๕๘).
ตตฺถ ¶ กมฺเมนาติ อปโลกนาทีสุ จตูสุ กมฺเมสุ อฺตเรน กมฺเมน. อุทฺเทเสนาติ ปฺจสุ ปาติโมกฺขุทฺเทเสสุ อฺตเรน อุทฺเทเสน. โวหรนฺโตติ กถยนฺโต, ตาหิ ตาหิ อุปฺปตฺตีหิ อธมฺมํ ธมฺโมติอาทีนิ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ ทีเปนฺโต. อนุสฺสาวเนนาติ นนุ ตุมฺเห ชานาถ มยฺหํ อุจฺจากุลา ปพฺพชิตภาวํ พหุสฺสุตภาวฺจ, มาทิโส นาม อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ คาเหยฺยาติ จิตฺตมฺปิ อุปฺปาเทตุํ ตุมฺหากํ ยุตฺตํ, กึ มยฺหํ อวีจิ นีลุปฺปลวนํ วิย สีตโล, กึ อหํ อปายโต น ภายามีติอาทินา นเยน กณฺณมูเล วจีเภทํ กตฺวา อนุสฺสาวเนน. สลากคฺคาเหนาติ เอวํ อนุสฺสาเวตฺวา เตสํ จิตฺตํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อนิวตฺติธมฺเม กตฺวา ‘‘คณฺหถ อิมํ สลาก’’นฺติ สลากคฺคาเหน.
เอตฺถ จ กมฺมเมว อุทฺเทโส วา ปมาณํ, โวหารานุสฺสาวนสลากคฺคาหา ปน ปุพฺพภาคา. อฏฺารสวตฺถุทีปนวเสน หิ โวหรนฺเตน ตตฺถ รุจิชนนตฺถํ อนุสฺสาเวตฺวา สลากาย คาหิตายปิ อภินฺโนว โหติ สงฺโฆ. ยทา ปน เอวํ จตฺตาโร วา อติเรกา วา สลากํ คาเหตฺวา อาเวณิกํ ¶ กมฺมํ วา อุทฺเทสํ วา กโรนฺติ, ตทา สงฺโฆ ภินฺโน นาม โหติ. เอวํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สงฺฆํ ภินฺเทยฺยาติ เนตํ านํ วิชฺชติ. เอตฺตาวตา มาตุฆาตาทีนิ ปฺจ อานนฺตริยกมฺมานิ ทสฺสิตานิ โหนฺติ, ยานิ ปุถุชฺชโน กโรติ, น อริยสาวโก, เตสํ อาวิภาวตฺถํ –
กมฺมโต ¶ ทฺวารโต เจว, กปฺปฏฺิติยโต ตถา;
ปากสาธารณาทีหิ, วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
ตตฺถ กมฺมโต ตาว – เอตฺถ หิ มนุสฺสภูตสฺเสว มนุสฺสภูตํ มาตรํ วา ปิตรํ วา อปิ ปริวตฺตลิงฺคํ ชีวิตา โวโรเปนฺตสฺส กมฺมํ อานนฺตริยํ โหติ, ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิสฺสามีติ สกลจกฺกวาฬํ มหาเจติยปฺปมาเณหิ ¶ กฺจนถูเปหิ ปูเรตฺวาปิ สกลจกฺกวาฬํ ปูเรตฺวา นิสินฺนภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวาปิ พุทฺธสฺส ภควโต สงฺฆาฏิกณฺณํ อมฺุจนฺโต วิจริตฺวาปิ กายสฺส เภทา นิรยเมว อุปปชฺชติ. โย ปน สยํ มนุสฺสภูโต ติรจฺฉานภูตํ มาตรํ วา ปิตรํ วา, สยํ วา ติรจฺฉานภูโต มนุสฺสภูตํ, ติรจฺฉาโนเยว วา ติรจฺฉานภูตํ ชีวิตา โวโรเปติ, ตสฺส กมฺมํ อานนฺตริยํ น โหติ, ภาริยํ ปน โหติ, อานนฺตริยํ อาหจฺเจว ติฏฺติ. มนุสฺสชาติกานํ ปน วเสน อยํ ปฺโห กถิโต.
ตตฺถ เอฬกจตุกฺกํ สงฺคามจตุกฺกํ โจรจตุกฺกฺจ กเถตพฺพํ. เอฬกํ มาเรมีติ อภิสนฺธินาปิ หิ เอฬกฏฺาเน ิตํ มนุสฺโส มนุสฺสภูตํ มาตรํ วา ปิตรํ วา มาเรนฺโต อานนฺตริยํ ผุสติ. เอฬกาภิสนฺธินา ปน มาตาปิตาอภิสนฺธินา วา เอฬกํ มาเรนฺโต อานนฺตริยํ น ผุสติ. มาตาปิตาอภิสนฺธินา มาตาปิตโร มาเรนฺโต ผุสเตว. เอเสว นโย อิตรสฺมิมฺปิ จตุกฺกทฺวเย. ยถา จ มาตาปิตูสุ, เอวํ อรหนฺเตปิ เอตานิ จตุกฺกานิ เวทิตพฺพานิ.
มนุสฺสอรหนฺตเมว มาเรตฺวา อานนฺตริยํ ผุสติ, น ยกฺขภูตํ. กมฺมํ ปน ภาริยํ, อานนฺตริยสทิสเมว. มนุสฺสอรหนฺตสฺส จ ปุถุชฺชนกาเลเยว สตฺถปฺปหาเร วา วิเส วา ทินฺเนปิ ยทิ โส อรหตฺตํ ปตฺวา เตเนว มรติ, อรหนฺตฆาโต โหติเยว. ยํ ปน ปุถุชฺชนกาเล ทินฺนํ ทานํ อรหตฺตํ ปตฺวา ปริภฺุชติ, ปุถุชฺชนสฺเสว ทินฺนํ โหติ. เสสอริยปุคฺคเล ¶ มาเรนฺตสฺส อานนฺตริยํ นตฺถิ. กมฺมํ ปน ภาริยํ, อานนฺตริยสทิสเมว.
โลหิตุปฺปาเท ตถาคตสฺส อเภชฺชกายตาย ปรูปกฺกเมน จมฺมจฺเฉทํ กตฺวา โลหิตปคฺฆรณํ นาม นตฺถิ. สรีรสฺส ปน อนฺโตเยว เอกสฺมึเยว าเน โลหิตํ สโมสรติ. เทวทตฺเตน ปวิทฺธสิลโต ¶ ภิชฺชิตฺวา คตา สกลิกาปิ ¶ ตถาคตสฺส ปาทนฺตํ ปหริ, ผรสุนา ปหโฏ วิย ปาโท อนฺโตโลหิโตเยว อโหสิ. ตถา กโรนฺตสฺส อานนฺตริยํ โหติ. ชีวโก ปน ตถาคตสฺส รุจิยา สตฺถเกน จมฺมํ ฉินฺทิตฺวา ตมฺหา านา ทุฏฺโลหิตํ นีหริตฺวา ผาสุมกาสิ, ตถา กโรนฺตสฺส ปฺุกมฺมเมว โหติ.
อถ เย จ ปรินิพฺพุเต ตถาคเต เจติยํ ภินฺทนฺติ, โพธึ ฉินฺทนฺติ ธาตุมฺหิ อุปกฺกมนฺติ, เตสํ กึ โหตีติ? ภาริยํ กมฺมํ โหติ อานนฺตริยสทิสํ. สธาตุกํ ปน ถูปํ วา ปฏิมํ วา พาธมานํ โพธิสาขํ ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ. สเจปิ ตตฺถ นิลีนา สกุณา เจติเย วจฺจํ ปาเตนฺติ, ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติเยว. ปริโภคเจติยโต หิ สรีรเจติยํ มหนฺตตรํ. เจติยวตฺถุํ ภินฺทิตฺวา คจฺฉนฺตํ โพธิมูลมฺปิ ฉินฺทิตฺวา หริตุํ วฏฺฏติ. ยา ปน โพธิสาขา โพธิฆรํ พาธติ, ตํ เคหรกฺขณตฺถํ ฉินฺทิตุํ น ลภติ, โพธิอตฺถฺหิ เคหํ, น เคหตฺถาย โพธิ. อาสนฆเรปิ เอเสว นโย. ยสฺมึ ปน อาสนฆเร ธาตุ นิหิตา โหติ, ตสฺส รกฺขณตฺถาย โพธิสาขํ ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ. โพธิชคฺคนตฺถํ โอโชหรณสาขํ วา ปูติฏฺานํ วา ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติเยว, ภควโต สรีรปฏิชคฺคเน วิย ปฺุมฺปิ โหติ.
สงฺฆเภเท สีมฏฺกสงฺเฆ อสนฺนิปติเต วิสุํ ปริสํ คเหตฺวา กตโวหารานุสฺสาวน-สลากคฺคาหสฺส กมฺมํ วา กโรนฺตสฺส, อุทฺเทสํ วา อุทฺทิสนฺตสฺส เภโท จ โหติ อานนฺตริยกมฺมฺจ. สมคฺคสฺาย ปน วฏฺฏตีติ กมฺมํ กโรนฺตสฺส เภโทว โหติ, น อานนฺตริยกมฺมํ, ตถา นวโต อูนปริสายํ. สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ¶ นวนฺนํ ชนานํ โย สงฺฆํ ภินฺทติ ¶ , ตสฺส อานนฺตริยกมฺมํ โหติ. อนุวตฺตกานํ อธมฺมวาทีนํ มหาสาวชฺชกมฺมํ. ธมฺมวาทิโน ปน อนวชฺชา.
ตตฺถ นวนฺนเมว สงฺฆเภเท อิทํ สุตฺตํ – ‘‘เอกโต อุปาลิ จตฺตาโร โหนฺติ, เอกโต จตฺตาโร, นวโม อนุสฺสาเวติ, สลากํ คาเหติ ‘อยํ ธมฺโม อยํ วินโย อิทํ สตฺถุสาสนํ, อิทํ คณฺหถ, อิมํ โรเจถา’ติ, เอวํ โข, อุปาลิ, สงฺฆราชิ เจว โหติ สงฺฆเภโท จ. นวนฺนํ วา, อุปาลิ, อติเรกนวนฺนํ วา สงฺฆราชิ เจว โหติ สงฺฆเภโท จา’’ติ (จูฬว. ๓๕๑). เอเตสุ ปน ปฺจสุ ¶ สงฺฆเภโท วจีกมฺมํ, เสสานิ กายกมฺมานีติ. เอวํ กมฺมโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
ทฺวารโตติ สพฺพาเนว เจตานิ กายทฺวารโตปิ วจีทฺวารโตปิ สมุฏฺหนฺติ. ปุริมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ อาณตฺติกวิชฺชามยปโยควเสน วจีทฺวารโต สมุฏฺหิตฺวาปิ กายทฺวารเมว ปูเรนฺติ, สงฺฆเภโท หตฺถมุทฺทาย เภทํ กโรนฺตสฺส กายทฺวารโต สมุฏฺหิตฺวาปิ วจีทฺวารเมว ปูเรตีติ. เอวเมตฺถ ทฺวารโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
กปฺปฏฺิติยโตติ สงฺฆเภโทเยว เจตฺถ กปฺปฏฺิติโย. สณฺหนฺเต หิ กปฺเป กปฺปเวมชฺเฌ วา สงฺฆเภทํ กตฺวา กปฺปวินาเสเยว มุจฺจติ. สเจปิ หิ สฺเวว กปฺโป วินสฺสิสฺสตีติ อชฺช สงฺฆเภทํ กโรติ, สฺเวว มุจฺจติ, เอกทิวสเมว นิรเย ปจฺจติ. เอวํ กรณํ ปน นตฺถิ. เสสานิ จตฺตาริ กมฺมานิ อานนฺตริยาเนว โหนฺติ, น กปฺปฏฺิติยานีติ เอวเมตฺถ กปฺปฏฺิติยโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
ปากโตติ ¶ เยน จ ปฺจเป’ตานิ กมฺมานิ กตานิ โหนฺติ, ตสฺส สงฺฆเภโทเยว ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจติ, เสสานิ ‘‘อโหสิกมฺมํ, นาโหสิ กมฺมวิปาโก’’ติ เอวมาทีสุ สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. สงฺฆสฺส เภทาภาเว โลหิตุปฺปาโท, ตทภาเว อรหนฺตฆาโต, ตทภาเว จ สเจ ปิตา สีลวา โหติ, มาตา ทุสฺสีลา, โน วา ตถา สีลวตี, ปิตุฆาโต ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจติ. สเจ มาตาปิตุฆาโต, ทฺวีสุปิ สีเลน วา ทุสฺสีเลน วา สมาเนสุ มาตุฆาโตว ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจติ ¶ . มาตา หิ ทุกฺกรการินี พหูปการา จ ปุตฺตานนฺติ เอวเมตฺถ ปากโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
สาธารณาทีหีติ ปุริมานิ จตฺตาริ สพฺเพสมฺปิ คหฏฺปพฺพชิตานํ สาธารณานิ. สงฺฆเภโท ปน ‘‘น โข, อุปาลิ ภิกฺขุนี, สงฺฆํ ภินฺทติ, น สิกฺขมานา, น สามเณโร, น สามเณรี, น อุปาสโก, น อุปาสิกา สงฺฆํ ภินฺทติ, ภิกฺขุ โข, อุปาลิ, ปกตตฺโต สมานสํวาสโก สมานสีมายํ ิโต สงฺฆํ ภินฺทตี’’ติ (จูฬว. ๓๕๑) วจนโต วุตฺตปฺปการสฺส ภิกฺขุโนว โหติ, น อฺสฺส, ตสฺมา อสาธารโณ. อาทิสทฺเทน สพฺเพปิ เต ทุกฺขเวทนาสหคตา ¶ โทสโมหสมฺปยุตฺตา จาติ เอวเมตฺถ สาธารณาทีหิปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
อฺํ สตฺถารนฺติ ‘‘อยํ เม สตฺถา สตฺถุกิจฺจํ กาตุํ อสมตฺโถ’’ติ ภวนฺตเรปิ อฺํ ติตฺถกรํ ‘‘อยํ เม สตฺถา’’ติ เอวํ คณฺเหยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตีติ อตฺโถ.
๑๒๙. เอกิสฺสา โลกธาตุยาติ ทสสหสฺสิโลกธาตุยา. ตีณิ ¶ หิ เขตฺตานิ ชาติเขตฺตํ อาณาเขตฺตํ วิสยเขตฺตํ. ตตฺถ ชาติเขตฺตํ นาม ทสสหสฺสี โลกธาตุ. สา หิ ตถาคตสฺส มาตุกุจฺฉิโอกฺกมนกาเล นิกฺขมนกาเล สมฺโพธิกาเล ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน อายุสงฺขาโรสฺสชฺชเน ปรินิพฺพาเน จ กมฺปติ. โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬํ ปน อาณาเขตฺตํ นาม. อาฏานาฏิยโมรปริตฺตธชคฺคปริตฺตรตนปริตฺตาทีนฺหิ เอตฺถ อาณา วตฺตติ. วิสยเขตฺตสฺส ปน ปริมาณํ นตฺถิ. พุทฺธานฺหิ ‘‘ยาวตกํ าณํ ตาวตกํ เนยฺยํ, ยาวตกํ เนยฺยํ ตาวตกํ าณํ, าณปริยนฺติกํ เนยฺยํ เนยฺยปริยนฺติกํ าณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๓.๕) วจนโต อวิสโย นาม นตฺถิ.
อิเมสุ ปน ตีสุ เขตฺเตสุ เปตฺวา อิมํ จกฺกวาฬํ อฺสฺมึ จกฺกวาเฬ พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺตีติ สุตฺตํ นตฺถิ, น อุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อตฺถิ. ตีณิ ปิฏกานิ วินยปิฏกํ สุตฺตนฺตปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกํ, ติสฺโส สงฺคีติโย มหากสฺสปตฺเถรสฺส สงฺคีติ, ยสตฺเถรสฺส สงฺคีติ, โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺส สงฺคีตีติ. อิมา ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺเห เตปิฏเก พุทฺธวจเน อิมํ ¶ จกฺกวาฬํ มฺุจิตฺวา อฺตฺถ พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺตีติ สุตฺตํ นตฺถิ, น อุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อตฺถิ.
อปุพฺพํ อจริมนฺติ อปุเร อปจฺฉา. เอกโต น อุปฺปชฺชนฺติ, ปุเร วา ปจฺฉา วา อุปฺปชฺชนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ หิ โพธิปลฺลงฺเก โพธึ อปฺปตฺวา น อุฏฺหิสฺสามีติ นิสินฺนกาลโต ¶ ปฏฺาย ยาว มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธิคฺคหณํ, ตาว ปุพฺเพติ น เวทิตพฺพํ. โพธิสตฺตสฺส หิ ปฏิสนฺธิคฺคหเณน ทสสหสฺสจกฺกวาฬกมฺปเนเนว เขตฺตปริคฺคโห กโต, อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ นิวาริตาว โหติ. ปรินิพฺพานกาลโต ปฏฺาย ยาว สาสปมตฺตา ธาตุ ¶ ติฏฺติ, ตาว ปจฺฉาติ น เวทิตพฺพํ. ธาตูสุ หิ ิตาสุ พุทฺธา ิตาว โหนฺติ. ตสฺมา เอตฺถนฺตเร อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ นิวาริตาว โหติ. ธาตุปรินิพฺพาเน ปน ชาเต อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ น นิวาริตา.
ตีณิ หิ อนฺตรธานานิ นาม ปริยตฺติอนฺตรธานํ, ปฏิเวธอนฺตรธานํ, ปฏิปตฺติอนฺตรธานนฺติ. ตตฺถ ปริยตฺตีติ ตีณิ ปิฏกานิ. ปฏิเวโธติ สจฺจปฏิเวโธ. ปฏิปตฺตีติ ปฏิปทา. ตตฺถ ปฏิเวโธ จ ปฏิปตฺติ จ โหติปิ น โหติปิ. เอกสฺมิฺหิ กาเล ปฏิเวธธรา ภิกฺขู พหู โหนฺติ, เอโส ภิกฺขุ ปุถุชฺชโนติ องฺคุลึ ปสาเรตฺวา ทสฺเสตพฺโพ โหติ. อิมสฺมึเยว ทีเป เอกวาเร ปุถุชฺชนภิกฺขุ นาม นาโหสิ. ปฏิปตฺติปูริกาปิ กทาจิ พหู โหนฺติ กทาจิ อปฺปา. อิติ ปฏิเวโธ จ ปฏิปตฺติ จ โหติปิ น โหติปิ, สาสนฏฺิติยา ปน ปริยตฺติ ปมาณํ.
ปณฺฑิโต หิ เตปิฏกํ สุตฺวา ทฺเวปิ ปูเรติ. ยถา อมฺหากํ โพธิสตฺโต อาฬารสฺส สนฺติเก ปฺจาภิฺา สตฺต จ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา ปริกมฺมํ ปุจฺฉิ, โส น ชานามีติ อาห. ตโต อุทกสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อธิคตํ วิเสสํ สํสนฺเทตฺวา เนวสฺานาสฺายตนสฺส ปริกมฺมํ ปุจฺฉิ, โส อาจิกฺขิ, ตสฺส วจนสมนนฺตรเมว มหาสตฺโต ตํ สมฺปาเทสิ, เอวเมว ปฺวา ภิกฺขุ ปริยตฺตึ สุตฺวา ทฺเวปิ ปูเรติ. ตสฺมา ¶ ปริยตฺติยา ิตาย สาสนํ ิตํ โหติ.
ยทา ¶ ปน สา อนฺตรธายติ, ตทา ปมํ อภิธมฺมปิฏกํ นสฺสติ. ตตฺถ ปฏฺานํ สพฺพปมํ อนฺตรธายติ, อนุกฺกเมน ปจฺฉา ธมฺมสงฺคโห, ตสฺมึ อนฺตรหิเต อิตเรสุ ทฺวีสุ ปิฏเกสุ ิเตสุ สาสนํ ิตเมว โหติ. ตตฺถ สุตฺตนฺตปิฏเก อนฺตรธายมาเน ปมํ องฺคุตฺตรนิกาโย เอกาทสกโต ปฏฺาย ยาว เอกกา อนฺตรธายติ, ตทนนฺตรํ สํยุตฺตนิกาโย จกฺกเปยฺยาลโต ปฏฺาย ยาว โอฆตรณา อนฺตรธายติ, ตทนนฺตรํ มชฺฌิมนิกาโย อินฺทฺริยภาวนโต ปฏฺาย ยาว มูลปริยายา อนฺตรธายติ, ตทนนฺตรํ ทีฆนิกาโย ทสุตฺตรโต ปฏฺาย ยาว พฺรหฺมชาลา อนฺตรธายติ. เอกิสฺสาปิ ทฺวินฺนมฺปิ คาถานํ ปุจฺฉา อทฺธานํ คจฺฉติ, สาสนํ ธาเรตุํ น สกฺโกติ สภิยปุจฺฉา (สุ. นิ. สภิยสุตฺตํ) วิย อาฬวกปุจฺฉา (สุ. นิ. อาฬวกสุตฺตํ; สํ. นิ. ๑.๒๔๖) ¶ วิย จ. เอตา กิร กสฺสปพุทฺธกาลิกา อนฺตรา สาสนํ ธาเรตุํ นาสกฺขึสุ.
ทฺวีสุ ปน ปิฏเกสุ อนฺตรหิเตสุปิ วินยปิฏเก ิเต สาสนํ ติฏฺติ, ปริวารขนฺธเกสุ อนฺตรหิเตสุ อุภโตวิภงฺเค ิเต ิตเมว โหติ. อุภโตวิภงฺเค อนฺตรหิเต มาติกาย ิตายปิ ิตเมว โหติ. มาติกาย อนฺตรหิตาย ปาติโมกฺขปพฺพชฺชอุปสมฺปทาสุ ิตาสุ สาสนํ ติฏฺติ. ลิงฺคมทฺธานํ คจฺฉติ, เสตวตฺถสมณวํโส ปน กสฺสปพุทฺธกาลโต ปฏฺาย สาสนํ ธาเรตุํ นาสกฺขิ. ปจฺฉิมกสฺส ปน สจฺจปฏิเวธโต ปจฺฉิมกสฺส สีลเภทโต จ ปฏฺาย สาสนํ โอสกฺกิตํ นาม โหติ. ตโต ปฏฺาย อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ น วาริตาติ.
ตีณิ ปรินิพฺพานานิ นาม กิเลสปรินิพฺพานํ ขนฺธปรินิพฺพานํ ธาตุปรินิพฺพานนฺติ. ตตฺถ กิเลสปรินิพฺพานํ โพธิปลฺลงฺเก อโหสิ, ขนฺธปรินิพฺพานํ กุสินารายํ, ธาตุปรินิพฺพานํ อนาคเต ภวิสฺสติ. สาสนสฺส กิร โอสกฺกนกาเล อิมสฺมึ ตมฺพปณฺณิทีเป ธาตุโย ¶ สนฺนิปติตฺวา มหาเจติยํ คมิสฺสนฺติ, มหาเจติยโต นาคทีเป ราชายตนเจติยํ, ตโต มหาโพธิปลฺลงฺกํ คมิสฺสนฺติ, นาคภวนโตปิ เทวโลกโตปิ พฺรหฺมโลกโตปิ ธาตุโย มหาโพธิปลฺลงฺกเมว คมิสฺสนฺติ. สาสปมตฺตาปิ ธาตุ อนฺตรา น นสฺสิสฺสติ. สพฺพา ธาตุโย มหาโพธิปลฺลงฺเก ราสิภูตา สุวณฺณกฺขนฺโธ วิย เอกคฺฆนา หุตฺวา ฉพฺพณฺณรสฺมิโย วิสฺสชฺเชสฺสนฺติ, ตา ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริสฺสนฺติ.
ตโต ¶ ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ เทวตา โย สนฺนิปติตฺวา ‘‘อชฺช สตฺถา ปรินิพฺพายติ, อชฺช สาสนํ โอสกฺกติ, ปจฺฉิมทสฺสนํ ทานิ อิทํ อมฺหาก’’นฺติ ทสพลสฺส ปรินิพฺพุตทิวสโต มหนฺตตรํ การฺุํ กริสฺสนฺติ. เปตฺวา อนาคามิขีณาสเว อวเสสา สกภาเวน สณฺาตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. ธาตูสุ เตโชธาตุ อุฏฺหิตฺวา ยาว พฺรหฺมโลกา อุคฺคจฺฉิสฺสติ, สาสปมตฺตายปิ ธาตุยา สติ เอกชาลาว ภวิสฺสติ, ธาตูสุ ปริยาทานํ คตาสุ ปจฺฉิชฺชิสฺสติ. เอวํ มหนฺตํ อานุภาวํ ทสฺเสตฺวา ธาตูสุ อนฺตรหิตาสุ สาสนํ อนฺตรหิตํ ¶ นาม โหติ. ยาว เอวํ น อนนฺตรธายติ, ตาว อจริมํ นาม โหติ. เอวํ อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุนฺติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
กสฺมา ปน อปุพฺพํ อจริมํ น อุปฺปชฺชนฺตีติ. อนจฺฉริยตฺตา. พุทฺธา หิ อจฺฉริยมนุสฺสา. ยถาห – ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ อจฺฉริยมนุสฺโส, กตโม เอกปุคฺคโล, ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๗๑-๑๗๔).
ยทิ จ ทฺเว วา จตฺตาโร วา อฏฺ วา โสฬส วา เอกโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ, น อจฺฉริยา ภเวยฺยุํ. เอกสฺมิฺหิ วิหาเร ทฺวินฺนํ เจติยานมฺปิ ลาภสกฺกาโร อุฬาโร น โหติ ภิกฺขูปิ พหุตาย น อจฺฉริยา ¶ ชาตา, เอวํ พุทฺธาปิ ภเวยฺยุํ. ตสฺมา น อุปฺปชฺชนฺติ.
เทสนาย จ วิเสสาภาวโต. ยฺหิ สติปฏฺานาทิเภทํ ธมฺมํ เอโก เทเสติ, อฺเน อุปฺปชฺชิตฺวาปิ โสว เทเสตพฺโพ สิยา. ตโต น อจฺฉริโย สิยา, เอกสฺมึ ปน ธมฺมํ เทเสนฺเต เทสนาปิ อจฺฉริยา โหติ.
วิวาทาภาวโต จ. พหูสุ จ พุทฺเธสุ อุปฺปชฺชนฺเตสุ พหูนํ อาจริยานํ อนฺเตวาสิกา วิย ‘‘อมฺหากํ พุทฺโธ ปาสาทิโก, อมฺหากํ พุทฺโธ มธุรสฺสโร ลาภี ปฺุวา’’ติ วิวเทยฺยุํ, ตสฺมาปิ เอวํ น อุปฺปชฺชนฺติ. อปิเจตํ การณํ มิลินฺทรฺา ปุฏฺเน นาคเสนตฺเถเรน วิตฺถาริตเมว. วุตฺตฺหิ (มิ. ป. ๕.๑.๑) –
‘‘ตตฺถ, ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา ¶ อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ. เทเสนฺตา จ, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพปิ ตถาคตา สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺเม เทเสนฺติ, กถยมานา จ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ กเถนฺติ, สิกฺขาเปนฺตา จ ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขาเปนฺติ, อนุสาสมานา จ อปฺปมาทปฏิปตฺติยํ อนุสาสนฺติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพสมฺปิ ตถาคตานํ เอกา เทสนา เอกา กถา เอกา สิกฺขา เอกา อนุสิฏฺิ, เกน การเณน ¶ ทฺเว ตถาคตา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ? เอเกนปิ ตาว พุทฺธุปฺปาเทน อยํ โลโก โอภาสชาโต. ยทิ ทุติโย พุทฺโธ ภเวยฺย, ทฺวินฺนํ ¶ ปภาย อยํ โลโก ภิยฺโยโสมตฺตาย โอภาสชาโต ภเวยฺย. โอวทมานา จ ทฺเว ตถาคตา สุขํ โอวเทยฺยุํ, อนุสาสมานา จ สุขํ อนุสาเสยฺยุํ, ตตฺถ เม การณํ พฺรูหิ, ยถาหํ นิสฺสํสโย ภเวยฺยนฺติ.
อยํ มหาราช ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี, เอกสฺเสว ตถาคตสฺส คุณํ ธาเรติ, ยทิ ทุติโย พุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, นายํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ธาเรยฺย, จเลยฺย กมฺเปยฺย นเมยฺย โอนเมยฺย วินเมยฺย วิกิเรยฺย วิธเมยฺย วิทฺธํเสยฺย, น านมุปคจฺเฉยฺย.
ยถา, มหาราช, นาวา เอกปุริสสนฺธารณี ภเวยฺย. เอกสฺมึ ปุริเส อภิรูฬฺเห สา นาวา สมุปาทิกา ภเวยฺย. อถ ทุติโย ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ตาทิโส อายุนา วณฺเณน วเยน ปมาเณน กิสถูเลน สพฺพงฺคปจฺจงฺเคน, โส ตํ นาวํ อภิรูเหยฺย. อปินุ สา มหาราช, นาวา ทฺวินฺนมฺปิ ธาเรยฺยาติ? น หิ, ภนฺเต, จเลยฺย กมฺเปยฺย นเมยฺย โอนเมยฺย วินเมยฺย วิกิเรยฺย วิธเมยฺย วิทฺธํเสยฺย, น านมุปคจฺเฉยฺย, โอสีเทยฺย อุทเกติ. เอวเมว โข, มหาราช, อยํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี, เอกสฺเสว ตถาคตสฺส คุณํ ธาเรติ, ยทิ ทุติโย พุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, นายํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ธาเรยฺย, จเลยฺย…เป… น านมุปคจฺเฉยฺย.
ยถา วา ปน มหาราช ปุริโส ยาวทตฺถํ โภชนํ ภฺุเชยฺย ฉาเทนฺตํ ยาวกณฺมภิปูรยิตฺวา, โส ธาโต ปีณิโต ปริปุณฺโณ นิรนฺตโร ตนฺทิกโต อโนนมิตทณฺฑชาโต ปุนเทว ตตฺตกํ โภชนํ ¶ ภฺุเชยฺย, อปินุ โข, มหาราช, ปุริโส สุขิโต ภเวยฺยาติ? น หิ, ภนฺเต, สกึ ภุตฺโตว มเรยฺยาติ. เอวเมว โข, มหาราช, อยํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี ¶ …เป… น านมุปคจฺเฉยฺยาติ.
กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, อติธมฺมภาเรน ปถวี จลตีติ? อิธ, มหาราช, ทฺเว สกฏา รตนปริปูริตา ภเวยฺยุํ ยาว มุขสมา. เอกสฺมา สกฏโต รตนํ คเหตฺวา เอกสฺมึ สกเฏ อากิเรยฺยุํ, อปินุ โข ตํ, มหาราช, สกฏํ ทฺวินฺนมฺปิ สกฏานํ รตนํ ธาเรยฺยาติ? น หิ, ภนฺเต, นาภิปิ ตสฺส ผเลยฺย, อราปิ ตสฺส ภิชฺเชยฺยุํ, เนมิปิ ตสฺส โอปเตยฺย, อกฺโขปิ ¶ ตสฺส ภิชฺเชยฺยาติ. กึ นุ โข, มหาราช, อติรตนภาเรน สกฏํ ภิชฺชตีติ? อาม, ภนฺเตติ. เอวเมว โข, มหาราช, อติธมฺมภาเรน ปถวี จลตีติ.
อปิจ มหาราช อิมํ การณํ พุทฺธพลปริทีปนาย โอสาริตํ, อฺมฺปิ ตตฺถ อภิรูปํ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ. ยทิ, มหาราช, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เตสํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย – ‘‘ตุมฺหากํ พุทฺโธ อมฺหากํ พุทฺโธ’’ติ อุภโตปกฺขชาตา ภเวยฺยุํ. ยถา, มหาราช, ทฺวินฺนํ พลวามจฺจานํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย ‘ตุมฺหากํ อมจฺโจ อมฺหากํ อมจฺโจ’ติ อุภโตปกฺขชาตา โหนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, ยทิ, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เตสํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย ‘ตุมฺหากํ พุทฺโธ อมฺหากํ พุทฺโธ’ติ อุภโตปกฺขชาตา ภเวยฺยุํ. อิทํ ตาว, มหาราช, เอกํ การณํ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ.
อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ. ยทิ, มหาราช, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, อคฺโค พุทฺโธติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย. เชฏฺโ พุทฺโธติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย. เสฏฺโ พุทฺโธติ, วิสิฏฺโ พุทฺโธติ, อุตฺตโม พุทฺโธติ, ปวโร พุทฺโธติ, อสโม พุทฺโธติ, อสมสโม พุทฺโธติ, อปฺปฏิสโม พุทฺโธติ, อปฺปฏิภาโค พุทฺโธติ, อปฺปฏิปุคฺคโล พุทฺโธติ ยํ วจนํ ¶ , ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย. อิทมฺปิ โข ตฺวํ, มหาราช ¶ , การณํ อตฺถโต สมฺปฏิจฺฉ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ.
อปิจ โข มหาราช พุทฺธานํ ภควนฺตานํ สภาวปกติ เอสา, ยํ เอโกเยว พุทฺโธ โลเก อุปฺปชฺชติ. กสฺมา การณา? มหนฺตตาย สพฺพฺุพุทฺธคุณานํ. อฺมฺปิ มหาราช ยํ โลเก มหนฺตํ, ตํ เอกํเยว โหติ. ปถวี, มหาราช, มหนฺตี, สา เอกาเยว. สาคโร มหนฺโต, โส เอโกเยว. สิเนรุ คิริราชา มหนฺโต, โส เอโกเยว. อากาโส มหนฺโต, โส เอโกเยว. สกฺโก มหนฺโต, โส เอโกเยว. มาโร มหนฺโต, โส เอโกเยว. พฺรหฺมา มหนฺโต, โส เอโกเยว. ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ มหนฺโต, โส เอโกเยว โลกสฺมึ. ยตฺถ เต อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ อฺสฺส ¶ โอกาโส น โหติ. ตสฺมา, มหาราช, ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอโกเยว โลกสฺมึ อุปฺปชฺชตีติ. สุกถิโต, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห โอปมฺเมหิ การเณหี’’ติ.
เอกิสฺสา โลกธาตุยาติ เอกสฺมึ จกฺกวาเฬ. เหฏฺา อิมินาว ปเทน ทสจกฺกวาฬสหสฺสานิ คหิตานิ ตานิปิ, เอกจกฺกวาเฬเนว ปริจฺฉินฺทิตุํ วฏฺฏนฺติ. พุทฺธา หิ อุปฺปชฺชมานา อิมสฺมึเยว จกฺกวาเฬ อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปชฺชนฏฺาเน ปน วาริเต อิโต อฺเสุ จกฺกวาเฬสุ นุปฺปชฺชนฺตีติ วาริตเมว โหติ.
อปุพฺพํ อจริมนฺติ เอตฺถ จกฺกรตนปาตุภาวโต ปุพฺเพ ปุพฺพํ, ตสฺเสว อนฺตรธานโต ปจฺฉา จริมํ. ตตฺถ ทฺวิธา จกฺกรตนสฺส อนฺตรธานํ โหติ, จกฺกวตฺติโน กาลํกิริยโต วา ปพฺพชฺชาย วา. อนฺตรธายมานฺจ ปน ตํ กาลํกิริยโต วา ปพฺพชฺชโต วา สตฺตเม ทิวเส อนฺตรธายติ, ตโต ปรํ จกฺกวตฺติโน ปาตุภาโว อวาริโต.
กสฺมา ปน เอกจกฺกวาเฬ ทฺเว จกฺกวตฺติโน นุปฺปชฺชนฺตีติ ¶ . วิวาทุปจฺเฉทโต อจฺฉริยภาวโต จกฺกรตนสฺส มหานุภาวโต จ. ทฺวีสุ หิ อุปฺปชฺชนฺเตสุ ‘‘อมฺหากํ ราชา มหนฺโต อมฺหากํ ราชา มหนฺโต’’ติ วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย. เอกสฺมึ ทีเป จกฺกวตฺตีติ จ เอกสฺมึ ทีเป จกฺกวตฺตีติ จ อนจฺฉริยา ภเวยฺยุํ ¶ . โย จายํ จกฺกรตนสฺส ทฺวิสหสฺสทีปปริวาเรสุ จตูสุ มหาทีเปสุ อิสฺสริยานุปฺปทานสมตฺโถ มหานุภาโว, โส ปริหาเยถ. อิติ วิวาทุปจฺเฉทโต อจฺฉริยภาวโต จกฺกรตนสฺส มหานุภาวโต จ น เอกจกฺกวาเฬ ทฺเว อุปฺปชฺชนฺติ.
๑๓๐. ยํ อิตฺถี อสฺส อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธติ เอตฺถ ติฏฺตุ ตาว สพฺพฺุคุเณ นิพฺพตฺเตตฺวา โลกุตฺตารณสมตฺโถ พุทฺธภาโว, ปณิธานมตฺตมฺปิ อิตฺถิยา น สมฺปชฺชติ.
มนุสฺสตฺตํ ลิงฺคสมฺปตฺติ, เหตุ สตฺถารทสฺสนํ;
ปพฺพชฺชา คุณสมฺปตฺติ, อธิกาโร จ ฉนฺทตา;
อฏฺธมฺมสโมธานา, อภินีหาโร สมิชฺฌตีติ. (พุ. วํ. ๒.๕๙) –
อิมานิ ¶ หิ ปณิธานสมฺปตฺติการณานิ. อิติ ปณิธานมฺปิ สมฺปาเทตุํ อสมตฺถาย อิตฺถิยา กุโต พุทฺธภาโวติ ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ อิตฺถี อสฺส อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ วุตฺตํ. สพฺพาการปริปูโร จ ปฺุุสฺสโย สพฺพาการปริปูรเมว อตฺตภาวํ นิพฺพตฺเตตีติ ปุริโสว อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ.
ยํ อิตฺถี ราชา อสฺส จกฺกวตฺตีติอาทีสุปิ ยสฺมา อิตฺถิยา ¶ โกโสหิตวตฺถคุยฺหตาทีนํ อภาเวน ลกฺขณานิ น ปริปูเรนฺติ, อิตฺถิรตนาภาเวน สตฺตรตนสมงฺคิตา น สมฺปชฺชติ, สพฺพมนุสฺเสหิ จ อธิโก อตฺตภาโว น โหติ, ตสฺมา ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ อิตฺถี ราชา อสฺส จกฺกวตฺตี’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา จ สกฺกตฺตาทีนิ ตีณิ านานิ อุตฺตมานิ, อิตฺถิลิงฺคฺจ หีนํ, ตสฺมา ตสฺสา สกฺกตฺตาทีนิปิ ปฏิสิทฺธานิ.
นนุ จ ยถา อิตฺถิลิงฺคํ, เอวํ ปุริสลิงฺคมฺปิ พฺรหฺมโลเก นตฺถิ? ตสฺมา ‘‘ยํ ปุริโส พฺรหฺมตฺตํ กเรยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’’ติปิ น วตฺตพฺพํ สิยาติ. โน น วตฺตพฺพํ. กสฺมา? อิธ ปุริสสฺส ตตฺถ นิพฺพตฺตนโต. พฺรหฺมตฺตนฺติ หิ มหาพฺรหฺมตฺตํ อธิปฺเปตํ. อิตฺถี จ อิธ ฌานํ ภาเวตฺวา กาลํ กตฺวา พฺรหฺมปาริสชฺชานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ, น มหาพฺรหฺมานํ, ปุริโส ปน ตตฺถ น อุปฺปชฺชตีติ น วตฺตพฺโพ. สมาเนปิ เจตฺถ อุภยลิงฺคาภาเว ปุริสสณฺานาว พฺรหฺมาโน, น อิตฺถิสณฺานา, ตสฺมา สุวุตฺตเมเวตํ.
๑๓๑. กายทุจฺจริตสฺสาติอาทีสุ ¶ ยถา นิมฺพพีชโกสาตกีพีชาทีนิ มธุรผลํ น นิพฺพตฺเตนฺติ, อสาตํ อมธุรเมว นิพฺพตฺเตนฺติ, เอวํ กายทุจฺจริตาทีนิ มธุรวิปากํ น นิพฺพตฺเตนฺติ, อมธุรเมว วิปากํ นิพฺพตฺเตนฺติ. ยถา จ อุจฺฉุพีชสาลิพีชาทีนิ มธุรํ สาทุรสเมว ผลํ นิพฺพตฺเตนฺติ, น อสาตํ กฏุกํ, เอวํ ¶ กายสุจริตาทีนิ มธุรเมว วิปากํ นิพฺพตฺเตนฺติ, น อมธุรํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ยาทิสํ วปเต พีชํ, ตาทิสํ หรเต ผลํ;
กลฺยาณการี กลฺยาณํ, ปาปการี จ ปาปก’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๒๕๖);
ตสฺมา ¶ ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ กายทุจฺจริตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
กายทุจฺจริตสมงฺคีติอาทีสุ สมงฺคีติ ปฺจวิธา สมงฺคิตา อายูหนสมงฺคิตา เจตนาสมงฺคิตา กมฺมสมงฺคิตา วิปากสมงฺคิตา, อุปฏฺานสมงฺคิตาติ. ตตฺถ กุสลากุสลกมฺมายูหนกฺขเณ อายูหนสมงฺคิตาติ วุจฺจติ. ตถา เจตนาสมงฺคิตา. ยาว ปน อรหตฺตํ น ปาปุณนฺติ, ตาว สพฺเพปิ สตฺตา ปุพฺเพ อุปจิตํ วิปาการหํ กมฺมํ สนฺธาย ‘‘กมฺมสมงฺคิโน’’ติ วุจฺจนฺติ, เอสา กมฺมสมงฺคิตา. วิปากสมงฺคิตา วิปากกฺขเณเยว เวทิตพฺพา. ยาว ปน สตฺตา อรหตฺตํ น ปาปุณนฺติ, ตาว เนสํ ตโต ตโต จวิตฺวา นิรเย ตาว อุปฺปชฺชมานานํ อคฺคิชาลโลหกุมฺภิอาทีหิ อุปฏฺานากาเรหิ นิรโย, คพฺภเสยฺยกตฺตํ อาปชฺชมานานํ มาตุกุจฺฉิ, เทเวสุ อุปฺปชฺชมานานํ กปฺปรุกฺขวิมานาทีหิ อุปฏฺานากาเรหิ เทวโลโกติ เอวํ อุปฺปตฺตินิมิตฺตํ อุปฏฺาติ, อิติ เนสํ อิมินา อุปฺปตฺตินิมิตฺตอุปฏฺาเนน อปริมุตฺตตา อุปฏฺานสมงฺคิตา นาม. สา จลติ เสสา นิจฺจลา. นิรเย หิ อุปฏฺิเตปิ เทวโลโก อุปฏฺาติ, เทวโลเก อุปฏฺิเตปิ นิรโย อุปฏฺาติ, มนุสฺสโลเก อุปฏฺิเตปิ ติรจฺฉานโยนิ อุปฏฺาติ, ติรจฺฉานโยนิยา จ อุปฏฺิตายปิ มนุสฺสโลโก อุปฏฺาติเยว.
ตตฺริทํ ¶ วตฺถุ – โสณคิริปาเท กิร อเจลวิหาเร โสณตฺเถโร นาม เอโก ธมฺมกถิโก, ตสฺส ปิตา สุนขชีวิโก อโหสิ. เถโร ตํ ปฏิพาหนฺโตปิ สํวเร เปตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘มา นสฺสิ ชรโก’’ติ ¶ มหลฺลกกาเล อกามกํ ปพฺพาเชสิ. ตสฺส คิลานเสยฺยาย นิปนฺนสฺส นิรโย อุปฏฺาติ, โสณคิริปาทโต มหนฺตา มหนฺตา สุนขา อาคนฺตฺวา ขาทิตุกามา วิย สมฺปริวาเรสุํ. โส มหาภยภีโต – ‘‘วาเรหิ, ตาต โสณ, วาเรหิ, ตาต โสณา’’ติ อาห. กึ มหาเถราติ. น ปสฺสสิ ตาตาติ ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิ. โสณตฺเถโร – ‘‘กถฺหิ นาม มาทิสสฺส ปิตา นิรเย นิพฺพตฺติสฺสติ, ปติฏฺา’สฺส ภวิสฺสามี’’ติ สามเณเรหิ นานาปุปฺผานิ อาหราเปตฺวา เจติยงฺคณโพธิยงฺคเณสุ ตลสนฺถรณปูชํ อาสนปูชฺจ กาเรตฺวา ปิตรํ มฺเจน เจติยงฺคณํ อาหริตฺวา มฺเจ นิสีทาเปตฺวา – ‘‘อยํ มหาเถร-ปูชา ตุมฺหากํ อตฺถาย กตา ‘อยํ เม ภควา ทุคฺคตปณฺณากาโร’ติ วตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา จิตฺตํ ปสาเทหี’’ติ อาห. โส มหาเถโร ปูชํ ทิสฺวา ตถา กโรนฺโต จิตฺตํ ปสาเทสิ, ตาวเทวสฺส เทวโลโก อุปฏฺาสิ, นนฺทนวน-จิตฺตลตาวน-มิสฺสกวน-ผารุสกวนวิมานานิ เจว นาฏกานิ จ ปริวาเรตฺวา ิตานิ ¶ วิย อเหสุํ. โส ‘‘อเปถ อเปถ โสณา’’ติ อาห. กิมิทํ เถราติ? เอตา เต, ตาต, มาตโร อาคจฺฉนฺตีติ ¶ . เถโร ‘‘สคฺโค อุปฏฺิโต มหาเถรสฺสา’’ติ จินฺเตสิ. เอวํ อุปฏฺานสมงฺคิตา จลตีติ เวทิตพฺพา. เอตาสุ สมงฺคิตาสุ อิธ อายูหนเจตนากมฺมสมงฺคิตาวเสน กายทุจฺจริตสมงฺคีติอาทิ วุตฺตํ.
๑๓๒. เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโทติ ‘‘เอวํ ภควตา อิมสฺมึ สุตฺเต วุตฺเต เถโร อาทิโต ปฏฺาย สพฺพสุตฺตํ สมนฺนาหริตฺวา เอวํ สสฺสิริกํ กตฺวา เทสิตสุตฺตสฺส นาม ภควตา นามํ น คหิตํ. หนฺทสฺส นามํ คณฺหาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ.
ตสฺมา ติห ตฺวนฺติอาทีสุ อยํ อตฺถโยชนา –
อานนฺท, ยสฺมา อิมสฺมึ ธมฺมปริยาเย ‘‘อฏฺารส โข อิมา, อานนฺท, ธาตุโย, ฉ อิมา, อานนฺท, ธาตุโย’’ติ เอวํ พหุธาตุโย วิภตฺตา, ตสฺมา ติห ตฺวํ อิมํ ธมฺมปริยายํ พหุธาตุโกติปิ นํ ธาเรหิ. ยสฺมา ปเนตฺถ ธาตุอายตนปฏิจฺจสมุปฺปาทฏฺานาฏฺานวเสน จตฺตาโร ปริวฏฺฏา กถิตา ¶ , ตสฺมา จตุปริวฏฺโฏติปิ นํ ธาเรหิ. ยสฺมา จ อาทาสํ โอโลเกนฺตสฺส มุขนิมิตฺตํ วิย อิมํ ธมฺมปริยายํ โอโลเกนฺตสฺส เอเต ธาตุอาทโย อตฺถา ปากฏา โหนฺติ, ตสฺมา ธมฺมาทาโสติปิ นํ ธาเรหิ. ยสฺมา จ ยถา นาม ปรเสนมทฺทนา โยธา สงฺคามตูริยํ ปคฺคเหตฺวา ปรเสนํ ปวิสิตฺวา สปตฺเต มทฺทิตฺวา อตฺตโน ชยํ คณฺหนฺติ, เอวเมว กิเลสเสนมทฺทนา โยคิโน อิธ วุตฺตวเสน วิปสฺสนํ ปคฺคเหตฺวา กิเลเส มทฺทิตฺวา อตฺตโน อรหตฺตชยํ คณฺหนฺติ, ตสฺมา อมตทุนฺทุภีติปิ นํ ธาเรหิ. ยสฺมา จ ยถา สงฺคามโยธา ¶ ปฺจาวุธํ คเหตฺวา ปรเสนํ วิทฺธํเสตฺวา ชยํ คณฺหนฺติ, เอวํ โยคิโนปิ อิธ วุตฺตํ วิปสฺสนาวุธํ คเหตฺวา กิเลสเสนํ วิทฺธํเสตฺวา อรหตฺตชยํ คณฺหนฺติ. ตสฺมา อนุตฺตโร สงฺคามวิชโยติปิ นํ ธาเรหีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
พหุธาตุกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อิสิคิลิสุตฺตวณฺณนา
๑๓๓. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ อิสิคิลิสุตฺตํ. ตตฺถ อฺาว สมฺา อโหสีติ อิสิคิลิสฺส อิสิคิลีติ สมฺาย อุปฺปนฺนกาเล เวภาโร น เวภาโรติ ปฺายิตฺถ, อฺาเยวสฺส สมฺา อโหสิ. อฺา ปฺตฺตีติ อิทํ ปุริมปทสฺเสว เววจนํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
ตทา กิร ภควา สายนฺหสมเย สมาปตฺติโต วุฏฺาย คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา ยสฺมึ าเน นิสินฺนานํ ปฺจ ปพฺพตา ปฺายนฺติ, ตตฺถ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นิสีทิตฺวา อิเม ปฺจ ปพฺพเต ปฏิปาฏิยา อาจิกฺขิ. ตตฺถ น ภควโต ปพฺพเตหิ อตฺโถ อตฺถิ, อิติ อิเมสุ ปน ปพฺพเตสุ ปฏิปาฏิยา กถิยมาเนสุ อิสิคิลิสฺส อิสิคิลิภาโว กเถตพฺโพ โหติ. ตสฺมึ กถิยมาเน ปทุมวติยา ปุตฺตานํ ปฺจสตานํ ปจฺเจกพุทฺธานํ นามานิ เจว ปทุมวติยา จ ปตฺถนา กเถตพฺพา ภวิสฺสตีติ ภควา อิมํ ปฺจ ปพฺพตปฏิปาฏึ อาจิกฺขิ.
ปวิสนฺตา ¶ ทิสฺสนฺติ ปวิฏฺา น ทิสฺสนฺตีติ ยถาผาสุกฏฺาเน ปิณฺฑาย จริตฺวา กตภตฺตกิจฺจา อาคนฺตฺวา เจติยคพฺเภ ยมกมหาทฺวารํ วิวรนฺตา วิย ตํ ปพฺพตํ ทฺเวธา กตฺวา อนฺโต ปวิสิตฺวา ¶ รตฺติฏฺานทิวาฏฺานานิ มาเปตฺวา ตตฺถ วสึสุ, ตสฺมา เอวมาห. อิเม อิสีติ อิเม ปจฺเจกพุทฺธอิสี.
กทา ปน เต ตตฺถ วสึสุ? อตีเต กิร อนุปฺปนฺเน ตถาคเต พาราณสึ อุปนิสฺสาย เอกสฺมึ คามเก เอกา กุลธีตา เขตฺตํ รกฺขมานา เอกสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปฺจหิ ลาชาสเตหิ สทฺธึ เอกํ ปทุมปุปฺผํ ทตฺวา ปฺจ ปุตฺตสตานิ ปตฺเถสิ. ตสฺมึเยว จ ขเณ ปฺจสตา มิคลุทฺทกา มธุรมํสํ ทตฺวา ‘‘เอติสฺสา ปุตฺตา ภเวยฺยามา’’ติ ปตฺถยึสุ. สา ยาวตายุกํ ตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺตา, ตโต จุตา ชาตสฺสเร ปทุมคพฺเภ นิพฺพตฺติ. ตเมโก ตาปโส ทิสฺวา ปฏิชคฺคิ, ตสฺสา วิจรนฺติยาว ปาทุทฺธาเร ปาทุทฺธาเร ภูมิโต ปทุมานิ อุฏฺหนฺติ. เอโก วนจรโก ทิสฺวา พาราณสิรฺโ อาโรเจสิ. ราชา นํ อาหราเปตฺวา อคฺคมเหสึ ¶ อกาสิ, ตสฺสา คพฺโภ สณฺาสิ. มหาปทุมกุมาโร มาตุกุจฺฉิยํ วสิ, เสสา คพฺภมลํ นิสฺสา นิพฺพตฺตา. วยปฺปตฺตา อุยฺยาเน ปทุมสฺสเร กีฬนฺตา เอเกกสฺมึ ปทุเม นิสีทิตฺวา ขยวยํ ปฏฺเปตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺตยึสุ. อยํ เตสํ พฺยากรณคาถา อโหสิ –
‘‘สโรรุหํ ปทุมปลาสปตฺตชํ, สุปุปฺผิตํ ภมรคณานุจิณฺณํ;
อนิจฺจตายุปคตํ วิทิตฺวา, เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป’’ติ.
ตสฺมึ ¶ กาเล เต ตตฺถ วสึสุ, ตทา จสฺส ปพฺพตสฺส อิสิคิลีติ สมฺา อุทปาทิ.
๑๓๕. เย สตฺตสาราติ อริฏฺโ อุปริฏฺโ ตครสิขี ยสสฺสี สุทสฺสโน ปิยทสฺสี คนฺธาโร ปิณฺโฑโล อุปาสโภ นีโต ตโถ สุตวา ภาวิตตฺโตติ เตรสนฺนํ ปจฺเจกพุทฺธานํ นามานิ วตฺวา อิทานิ เตสฺจ อฺเสฺจ คาถาพนฺเธน นามานิ อาจิกฺขนฺโต เย สตฺตสาราติอาทิมาห ¶ . ตตฺถ สตฺตสาราติ สตฺตานํ สารภูตา. อนีฆาติ นิทฺทุกฺขา. นิราสาติ นิตฺตณฺหา.
ทฺเว ชาลิโนติ จูฬชาลิ มหาชาลีติ ทฺเว ชาลินามกา. สนฺตจิตฺโตติ อิทมฺปิ เอกสฺส นามเมว. ปสฺสิ ชหิ อุปธิทุกฺขมูลนฺติ เอตฺถ ปสฺสิ นาม โส ปจฺเจกพุทฺโธ, ทุกฺขสฺส ปน มูลํ อุปธึ ชหีติ อยมสฺส ถุติ. อปราชิโตติปิ เอกสฺส นามเมว.
สตฺถา ปวตฺตา สรภงฺโค โลมหํโส อุจฺจงฺคมาโยติ อิเม ปฺจ ชนา. อสิโต อนาสโว มโนมโยติ อิเมปิ ตโย ชนา. มานจฺฉิโท จ พนฺธุมาติ พนฺธุมา นาม เอโก, มานสฺส ปน ฉินฺนตฺตา มานจฺฉิโทติ วุตฺโต. ตทาธิมุตฺโตติปิ นามเมว.
เกตุมฺภราโค จ มาตงฺโค อริโยติ อิเม ตโย ชนา. อถจฺจุโตติ อถ อจฺจุโต. อจฺจุตคามพฺยามงฺโกติ อิเม ทฺเว ชนา. เขมาภิรโต จ โสรโตติ อิเม ทฺเวเยว.
สยฺโห อโนมนิกฺกโมติ สยฺโห นาม โส พุทฺโธ, อโนมวีริยตฺตา ปน อโนมนิกฺกโมติ ¶ วุตฺโต. อานนฺโท นนฺโท อุปนนฺโท ทฺวาทสาติ จตฺตาโร อานนฺทา, จตฺตาโร นนฺทา จตฺตาโร อุปนนฺทาติ เอวํ ทฺวาทส. ภารทฺวาโช ¶ อนฺติมเทหธารีติ ภารทฺวาโช นาม โส พุทฺโธ. อนฺติมเทหธารีติ ถุติ.
ตณฺหจฺฉิโทติ สิขริสฺสายํ ถุติ. วีตราโคติ มงฺคลสฺส ถุติ. อุสภจฺฉิทา ชาลินึ ทุกฺขมูลนฺติ อุสโภ นาม โส พุทฺโธ ทุกฺขมูลภูตํ ชาลินึ อจฺฉิทาติ อตฺโถ. สนฺตํ ปทํ อชฺฌคโมปนีโตติ อุปนีโต นาม โส พุทฺโธ สนฺตํ ปทํ อชฺฌคมา. วีตราโคติปิ เอกสฺส นามเมว. สุวิมุตฺตจิตฺโตติ อยํ กณฺหสฺส ถุติ.
เอเต จ อฺเ จาติ เอเต ปาฬิยํ อาคตา จ ปาฬิยํ อนาคตา อฺเ จ เอเตสํ เอกนามกาเยว. อิเมสุ หิ ปฺจสุ ปจฺเจกพุทฺธสเตสุ ทฺเวปิ ตโยปิ ทสปิ ทฺวาทสปิ อานนฺทาทโย วิย เอกนามกา อเหสุํ. อิติ ปาฬิยํ อาคตนาเมเหว สพฺเพสํ นามานิ วุตฺตานิ ¶ โหนฺตีติ อิโต ปรํ วิสุํ วิสุํ อวตฺวา ‘‘เอเต จ อฺเ จา’’ติ อาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อิสิคิลิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. มหาจตฺตารีสกสุตฺตวณฺณนา
๑๓๖. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ มหาจตฺตารีสกสุตฺตํ. ตตฺถ อริยนฺติ นิทฺโทสํ โลกุตฺตรํ, นิทฺโทสฺหิ ‘‘อริย’’นฺติ วุจฺจติ. สมฺมาสมาธินฺติ มคฺคสมาธึ. สอุปนิสนฺติ สปจฺจยํ. สปริกฺขารนฺติ สปริวารํ.
ปริกฺขตาติ ปริวาริตา. สมฺมาทิฏฺิ ¶ ปุพฺพงฺคมา โหตีติ ทฺวิธา สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพงฺคมา โหติ ปุเรจาริกา วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิ จ มคฺคสมฺมาทิฏฺิ จ. วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิ เตภูมกสงฺขาเร อนิจฺจาทิวเสน ปริวีมํสติ; มคฺคสมฺมาทิฏฺิ ปน ปริวีมํสนปริโยสาเน ภูมิลทฺธํ วฏฺฏํ สมุคฺฆาฏยมานา วูปสมยมานา สีตุทกฆฏสหสฺสํ มตฺถเก อาสิฺจมานา วิย อุปฺปชฺชติ. ยถา หิ เขตฺตํ กุรุมาโน กสฺสโก ปมํ อรฺเ รุกฺเข ฉินฺทติ, ปจฺฉา อคฺคึ เทติ, โส อคฺคิ ปมํ ฉินฺเน รุกฺเข อนวเสเส ฌาเปติ, เอวเมว วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิ ปมํ อนิจฺจาทิวเสน สงฺขาเร วีมํสติ, มคฺคสมฺมาทิฏฺิ ตาย วีมํสนตฺถํ สงฺขาเร ปุน อปฺปวตฺติวเสน สมุคฺฆาฏยมานา อุปฺปชฺชติ, สา ทุวิธาปิ อิธ อธิปฺเปตา.
มิจฺฉาทิฏฺีติ ปชานาตีติ มิจฺฉาทิฏฺึ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ลกฺขณปฏิเวเธน อารมฺมณโต ปชานาติ, สมฺมาทิฏฺึ กิจฺจโต อสมฺโมหโต ปชานาติ. สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺีติ สา เอวํ ปชานนา อสฺส สมฺมาทิฏฺิ นาม โหติ.
ทฺวายํ วทามีติ ทฺวยํ วทามิ, ทุวิธโกฏฺาสํ วทามีติ อตฺโถ. ปฺุภาคิยาติ ปฺุโกฏฺาสภูตา. อุปธิเวปกฺกาติ อุปธิสงฺขาตสฺส วิปากสฺส ทายิกา.
ปฺา ปฺินฺทฺริยนฺติอาทีสุ วิภชิตฺวา วิภชิตฺวา อมตทฺวารํ ปฺเปติ ทสฺเสตีติ ปฺา. ตสฺมึ อตฺเถ อินฺทตฺตํ กโรตีติ ปฺินฺทฺริยํ. อวิชฺชาย น ¶ กมฺปตีติ ปฺาพลํ. โพชฺฌงฺคปฺปตฺตา ¶ หุตฺวา จตุสจฺจธมฺเม วิจินาตีติ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค. มคฺคสมฺปตฺติยา ปสฏฺา โสภนา ¶ ทิฏฺีติ สมฺมาทิฏฺิ. อริยมคฺคสฺส องฺคนฺติ มคฺคงฺคํ. โสติ โส ภิกฺขุ. ปหานายาติ ปชหนตฺถาย. อุปสมฺปทายาติ ปฏิลาภตฺถาย. สมฺมาวายาโมติ นิยฺยานิโก กุสลวายาโม. สโตติ สติยา สมนฺนาคโต หุตฺวา. อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺตีติ สหชาตา จ ปุเรชาตา จ หุตฺวา ปริวาเรนฺติ. เอตฺถ หิ สมฺมาวายาโม จ สมฺมาสติ จ โลกุตฺตรสมฺมาทิฏฺึ สหชาตา ปริวาเรนฺติ ราชานํ วิย เอกรเถ ิตา อสิคฺคาหฉตฺตคฺคาหา. วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิ ปน ปุเรชาตา หุตฺวา ปริวาเรติ รถสฺส ปุรโต ปตฺติกาทโย วิย. ทุติยปพฺพโต ปฏฺาย ปน สมฺมาสงฺกปฺปาทีนํ ตโยปิ สหชาตปริวาราว โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.
๑๓๗. มิจฺฉาสงฺกปฺโปติ ปชานาตีติ มิจฺฉาสงฺกปฺปํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ลกฺขณปฏิเวเธน อารมฺมณโต ปชานาติ สมฺมาสงฺกปฺปํ กิจฺจโต อสมฺโมหโต ปชานาติ. อิโต อปเรสุ สมฺมาวาจาทีสุปิ เอวเมว โยชนา เวทิตพฺพา. กามสงฺกปฺปาทโย ทฺเวธาวิตกฺกสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๒๐๖) วุตฺตาเยว.
ตกฺโกติอาทีสุ ตกฺกนวเสน ตกฺโก. สฺเวว จ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺเฒตฺวา วิตกฺโกติ วุตฺโต, สฺเวว สงฺกปฺปนวเสน สงฺกปฺโป. เอกคฺโค หุตฺวา อารมฺมเณ อปฺเปตีติ อปฺปนา ¶ . อุปสคฺเคน ปน ปทํ วฑฺเฒตฺวา พฺยปฺปนาติ วุตฺตํ. เจตโส อภินิโรปนาติ จิตฺตสฺส อภินิโรปนา. วิตกฺกสฺมิฺหิ สติ วิตกฺโก อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรเปติ วิตกฺเก ปน อสติ อตฺตโนเยว ธมฺมตาย จิตฺตํ อารมฺมณํ อภิรุหติ ชาติสมฺปนฺโน อภิฺาตปุริโส วิย ราชเคหํ. อนภิฺาตสฺส หิ ปฏิหาเรน วา โทวาริเกน วา อตฺโถ โหติ, อภิฺาตํ ชาติสมฺปนฺนํ สพฺเพ ราชราชมหามตฺตา ชานนฺตีติ อตฺตโนว ธมฺมตาย นิกฺขมติ เจว ปวิสติ จ, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. วาจํ สงฺขโรตีติ วจีสงฺขาโร. เอตฺถ จ โลกิยวิตกฺโก วาจํ สงฺขโรติ, น โลกุตฺตโร. กิฺจาปิ น สงฺขโรติ, วจีสงฺขาโรตฺเวว จ ปนสฺส นามํ โหติ. สมฺมาสงฺกปฺปํ อนุปริธาวนฺตีติ โลกุตฺตรสมฺมาสงฺกปฺปํ ปริวาเรนฺติ. เอตฺถ จ ตโยปิ เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทโย ¶ ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภนฺติ, มคฺคกฺขเณ ปน ติณฺณมฺปิ กามสงฺกปฺปาทีนฺจ ปทจฺเฉทํ สมุคฺฆาตํ กโรนฺโต มคฺคงฺคํ ปูรยมาโน เอโกว สมฺมาสงฺกปฺโป อุปฺปชฺชิตฺวา เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทิวเสน ตีณิ นามานิ ลภติ. ปรโต สมฺมาวาจาทีสุปิ เอเสว นโย.
๑๓๘. มุสาวาทา ¶ เวรมณีติอาทีสุ วิรติปิ เจตนาปิ วฏฺฏติ. อารตีติอาทีสุ วจีทุจฺจริเตหิ อารกา รมตีติ อารติ. วินา เตหิ รมตีติ วิรติ. ตโต ตโต ปฏินิวตฺตาว หุตฺวา เตหิ วินา รมตีติ ปฏิวิรติ. อุปสคฺควเสน วา ปทํ วฑฺฒิตํ, สพฺพมิทํ โอรมนภาวสฺเสว อธิวจนํ. เวรํ มณติ วินาเสตีติ เวรมณิ. อิทมฺปิ โอรมนสฺเสว เววจนํ.
๑๓๙. ปาณาติปาตา เวรมณีติอาทีสุปิ เจตนา วิรตีติ อุภยมฺปิ วฏฺฏติเยว.
๑๔๐. กุหนาติอาทีสุ ¶ ติวิเธน กุหนวตฺถุนา โลกํ เอตาย กุหยนฺติ วิมฺหาปยนฺตีติ กุหนา. ลาภสกฺการตฺถิกา หุตฺวา เอตาย ลปนฺตีติ ลปนา. นิมิตฺตํ สีลเมเตสนฺติ เนมิตฺติกา, เตสํ ภาโว เนมิตฺติกตา. นิปฺเปโส สีลเมเตสนฺติ นิปฺเปสิกา, เตสํ ภาโว นิปฺเปสิกตา. ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนฺติ มคฺคนฺติ ปริเยสนฺตีติ ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนา, เตสํ ภาโว ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนตา. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาเรน ปเนตา กุหนาทิกา วิสุทฺธิมคฺเค สีลนิทฺเทเสเยว ปาฬิฺจ อฏฺกถฺจ อาหริตฺวา ปกาสิตา. มิจฺฉาอาชีวสฺส ปหานายาติ เอตฺถ น เกวลํ ปาฬิยํ อาคโตว มิจฺฉาอาชีโว, อาชีวเหตุ ปน ปวตฺติตา ปาณาติปาตาทโย สตฺตกมฺมปถเจตนาปิ มิจฺฉาอาชีโวว. ตาสํเยว สตฺตนฺนํ เจตนานํ ปทปจฺเฉทํ สมุคฺฆาตํ กุรุมานํ มคฺคงฺคํ ปูรยมานา อุปฺปนฺนา วิรติ สมฺมาอาชีโว นาม.
๑๔๑. สมฺมาทิฏฺิสฺสาติ มคฺคสมฺมาทิฏฺิยํ ิตสฺส ปุคฺคลสฺส. สมฺมาสงฺกปฺโป ปโหตีติ มคฺคสมฺมาสงฺกปฺโป ปโหติ, ผลสมฺมาทิฏฺิสฺสปิ ผลสมฺมาสงฺกปฺโป ปโหตีติ เอวํ สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สมฺมาาณสฺส ¶ สมฺมาวิมุตฺตีติ เอตฺถ ปน มคฺคสมฺมาสมาธิมฺหิ ิตสฺส มคฺคปจฺจเวกฺขณํ สมฺมาาณํ ปโหติ, ผลสมฺมาสมาธิมฺหิ ิตสฺส ผลปจฺจเวกฺขณํ สมฺมาาณํ ปโหติ. มคฺคปจฺจเวกฺขณสมฺมาาเณ จ ิตสฺส มคฺคสมฺมาวิมุตฺติ ปโหติ, ผลปจฺจเวกฺขณสมฺมาาเณ ¶ ิตสฺส ผลสมฺมาวิมุตฺติ ปโหตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ เปตฺวา อฏฺ ผลงฺคานิ สมฺมาาณํ ปจฺจเวกฺขณํ กตฺวา สมฺมาวิมุตฺตึ ผลํ กาตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ.
๑๔๒. สมฺมาทิฏฺิสฺส ¶ , ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา โหตีติอาทีสุ อวเสสนิกายภาณกา ผลํ กถิตนฺติ วทนฺติ, มชฺฌิมภาณกา ปน ทสนฺนํ นิชฺชรวตฺถูนํ อาคตฏฺาเน มคฺโค กถิโตติ วทนฺติ. ตตฺถ ทสฺสนฏฺเน สมฺมาทิฏฺิ เวทิตพฺพา, วิทิตกรณฏฺเน สมฺมาาณํ, ตทธิมุตฺตฏฺเน สมฺมาวิมุตฺติ.
วีสติ กุสลปกฺขาติ สมฺมาทิฏฺิอาทโย ทส, ‘‘สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตา ทสาติ เอวํ วีสติ กุสลปกฺขา โหนฺติ. วีสติ อกุสลปกฺขาติ ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา โหตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตา มิจฺฉาทิฏฺิอาทโย ทส, ‘‘เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา’’ติอาทินา วุตฺตา ทส จาติ เอวํ วีสติ อกุสลปกฺขา เวทิตพฺพา. มหาจตฺตารีสโกติ มหาวิปากทาเนน มหนฺตานํ กุสลปกฺขิกานฺเจว อกุสลปกฺขิกานฺจ จตฺตารีสาย ธมฺมานํ ปกาสิตตฺตา มหาจตฺตารีสโกติ.
อิมสฺมิฺจ ปน สุตฺเต ปฺจ สมฺมาทิฏฺิโย กถิตา วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิ กมฺมสฺสกตาสมฺมาทิฏฺิ มคฺคสมฺมาทิฏฺิ ผลสมฺมาทิฏฺิ ปจฺจเวกฺขณาสมฺมาทิฏฺีติ. ตตฺถ ‘‘มิจฺฉาทิฏฺึ มิจฺฉาทิฏฺีติ ปชานาตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตา วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิ นาม. ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺตา กมฺมสฺสกตาสมฺมาทิฏฺิ นาม. ‘‘สมฺมาทิฏฺิสฺส, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกปฺโป ปโหตี’’ติ เอตฺถ ปน มคฺคสมฺมาทิฏฺิ ผลสมฺมาทิฏฺีติ ทฺเวปิ กถิตา. ‘‘สมฺมาาณํ ปโหตี’’ติ. เอตฺถ ปน ปจฺจเวกฺขณาสมฺมาทิฏฺิ กถิตาติ เวทิตพฺพา.
๑๔๓. สมฺมาทิฏฺึ ¶ ¶ เจ ภวํ ครหตีติ มิจฺฉาทิฏฺิ นามายํ โสภนาติ วทนฺโตปิ สมฺมาทิฏฺิ นามายํ น โสภนาติ วทนฺโตปิ สมฺมาทิฏฺึ ครหติ นาม. โอกฺกลาติ โอกฺกลชนปทวาสิโน. วสฺสภฺาติ วสฺโส จ ภฺโ จาติ ทฺเว ชนา. อเหตุวาทาติ นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ วิสุทฺธิยาติ เอวมาทิวาทิโน. อกิริยวาทาติ กโรโต น กรียติ ปาปนฺติ เอวํ กิริยปฏิกฺเขปวาทิโน. นตฺถิกวาทาติ นตฺถิ ทินฺนนฺติอาทิวาทิโน. เต อิเมสุ ตีสุปิ ทสฺสเนสุ โอกฺกนฺตนิยามา อเหสุํ. กถํ ปเนเตสุ นิยาโม โหตีติ. โย หิ เอวรูปํ ลทฺธึ คเหตฺวา รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเน นิสินฺโน สชฺฌายติ วีมํสติ, ตสฺส ‘‘นตฺถิ เหตุ ¶ นตฺถิ ปจฺจโย กโรโต น กรียติ ปาปํ, นตฺถิ ทินฺนํ, กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชตี’’ติ ตสฺมึ อารมฺมเณ มิจฺฉาสติ สนฺติฏฺติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, ชวนานิ ชวนฺติ. ปมชวเน สเตกิจฺโฉ โหติ, ตถา ทุติยาทีสุ. สตฺตเม พุทฺธานมฺปิ อเตกิจฺโฉ อนิวตฺตี อริฏฺกณฺฑกสทิโส โหติ.
ตตฺถ โกจิ เอกํ ทสฺสนํ โอกฺกมติ, โกจิ ทฺเว, โกจิ ตีณิปิ, นิยตมิจฺฉาทิฏฺิโกว โหติ, ปตฺโต สคฺคมคฺคาวรณฺเจว โมกฺขมคฺคาวรณฺจ. อภพฺโพ ตสฺส อตฺตภาวสฺส อนนฺตรํ สคฺคมฺปิ คนฺตุํ, ปเคว โมกฺขํ, วฏฺฏขาณุ นาเมส สตฺโต ปถวีโคปโก, เยภุยฺเยน ¶ เอวรูปสฺส ภวโต วุฏฺานํ นตฺถิ. วสฺสภฺาปิ เอทิสา อเหสุํ. นินฺทาพฺยาโรสอุปารมฺภภยาติ อตฺตโน นินฺทาภเยน ฆฏฺฏนภเยน อุปวาทภเยน จาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาจตฺตารีสกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อานาปานสฺสติสุตฺตวณฺณนา
๑๔๔. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ อานาปานสฺสติสุตฺตํ. ตตฺถ อฺเหิ จาติ เปตฺวา ปาฬิยํ อาคเต ทส เถเร อฺเหิปิ อภิฺาเตหิ พหูหิ ¶ สาวเกหิ สทฺธึ. ตทา กิร มหา ภิกฺขุสงฺโฆ อโหสิ อปริจฺฉินฺนคณโน.
โอวทนฺติ อนุสาสนฺตีติ อามิสสงฺคเหน ธมฺมสงฺคเหน จาติ ทฺวีหิ สงฺคเหหิ สงฺคณฺหิตฺวา กมฺมฏฺาโนวาทานุสาสนีหิ โอวทนฺติ จ อนุสาสนฺติ จ. เต จาติ จกาโร อาคมสนฺธิมตฺตํ. อุฬารํ ปุพฺเพนาปรํ วิเสสํ ชานนฺตีติ สีลปริปูรณาทิโต ปุพฺพวิเสสโต อุฬารตรํ อปรํ กสิณปริกมฺมาทิวิเสสํ ชานนฺตีติ อตฺโถ.
๑๔๕. อารทฺโธติ ตุฏฺโ. อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยาติ อปฺปตฺตสฺส อรหตฺตสฺส ปาปุณนตฺถํ. เสสปททฺวเยปิ อยเมว อตฺโถ. โกมุทึ จาตุมาสินินฺติ ปจฺฉิมกตฺติกจาตุมาสปุณฺณมํ. สา หิ กุมุทานํ อตฺถิตาย โกมุที, จตุนฺนํ วสฺสิกานํ มาสานํ ปริโยสานตฺตา จาตุมาสินีติ วุจฺจติ. อาคเมสฺสามีติ อุทิกฺขิสฺสามิ, อชฺช อปวาเรตฺวา ยาว สา อาคจฺฉติ, ตาว กตฺถจิ อคนฺตฺวา อิเธว วสิสฺสามีติ อตฺโถ. อิติ ภิกฺขูนํ ปวารณสงฺคหํ อนุชานนฺโต เอวมาห.
ปวารณสงฺคโห นาม ตฺติทุติเยน กมฺเมน ทิยฺยติ กสฺส ¶ ปเนส ทิยฺยติ, กสฺส น ทิยฺยตีติ. อการกสฺส ตาว พาลปุถุชฺชนสฺส น ทิยฺยติ, ตถา อารทฺธวิปสฺสกสฺส เจว อริยสาวกสฺส จ. ยสฺส ปน สมโถ วา ตรุโณ โหติ วิปสฺสนา วา, ตสฺส ทิยฺยติ. ภควาปิ ตทา ภิกฺขูนํ จิตฺตาจารํ ปริวีมํสนฺโต สมถวิปสฺสนานํ ตรุณภาวํ ตฺวา – ‘‘มยิ อชฺช ปวาเรนฺเต ทิสาสุ วสฺสํวุฏฺา ภิกฺขู อิธ โอสริสฺสนฺติ. ตโต อิเม ภิกฺขู วุฑฺฒตเรหิ ภิกฺขูหิ เสนาสเน คหิเต วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. สเจปิ จาริกํ ปกฺกมิสฺสามิ, อิเมสํ วสนฏฺานํ ทุลฺลภเมว ภวิสฺสติ. มยิ ปน อปวาเรนฺเต ภิกฺขูปิ อิมํ ¶ สาวตฺถึ น โอสริสฺสนฺติ, อหมฺปิ จาริกํ น ปกฺกมิสฺสามิ, เอวํ อิเมสํ ภิกฺขูนํ วสนฏฺานํ อปลิพุทฺธํ ภวิสฺสติ. เต อตฺตโน อตฺตโน วสนฏฺาเน ผาสุ วิหรนฺตา สมถวิปสฺสนา ถามชาตา กตฺวา วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ สกฺขิสฺสนฺตี’’ติ โส ตํทิวสํ อปวาเรตฺวา กตฺติกปุณฺณมายํ ปวาเรสฺสามีติ ภิกฺขูนํ ปวารณสงฺคหํ ¶ อนุชานิ. ปวารณสงฺคหสฺมิฺหิ ลทฺเธ ยสฺส นิสฺสยปฏิปนฺนสฺส อาจริยุปชฺฌายา ปกฺกมนฺติ, โสปิ ‘‘สเจ ปติรูโป นิสฺสยทายโก อาคมิสฺสติ, ตสฺส สนฺติเก นิสฺสยํ คณฺหิสฺสามี’’ติ ยาว คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสา วสิตุํ ลภติ. สเจปิ สฏฺิวสฺสา ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, ตสฺส เสนาสนํ คเหตุํ น ลภนฺติ. อยฺจ ปน ปวารณสงฺคโห เอกสฺส ทินฺโนปิ สพฺเพสํ ทินฺโนเยว โหติ.
สาวตฺถึ โอสรนฺตีติ ภควตา ปวารณสงฺคโห ทินฺโนติ สุตสุตฏฺาเนเยว ยถาสภาเวน เอกํ มาสํ วสิตฺวา กตฺติกปุณฺณมาย อุโปสถํ กตฺวา โอสรนฺเต สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ. ปุพฺเพนาปรนฺติ อิธ ตรุณสมถวิปสฺสนาสุ กมฺมํ ¶ กตฺวา สมถวิปสฺสนา ถามชาตา อกํสุ, อยํ ปุพฺเพ วิเสโส นาม. ตโต สมาหิเตน จิตฺเตน สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา เกจิ โสตาปตฺติผลํ…เป… เกจิ อรหตฺตํ สจฺฉิกรึสุ. อยํ อปโร อุฬาโร วิเสโส นาม.
๑๔๖. อลนฺติ ยุตฺตํ. โยชนคณนานีติ เอกํ โยชนํ โยชนเมว, ทสปิ โยชนานิ โยชนาเนว, ตโต อุทฺธํ โยชนคณนานีติ วุจฺจนฺติ. อิธ ปน โยชนสตมฺปิ โยชนสหสฺสมฺปิ อธิปฺเปตํ. ปุโฏเสนาปีติ ปุโฏสํ วุจฺจติ ปาเถยฺยํ. ตํ ปาเถยฺยํ คเหตฺวาปิ อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺตเมวาติ อตฺโถ. ‘‘ปุฏํเสนา’’ติปิ ปาโ, ตสฺสตฺโถ – ปุโฏ อํเส อสฺสาติ ปุฏํโส, เตน ปุฏํเสน, อํเส ปาเถยฺยปุฏํ วหนฺเตนาปีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๔๗. อิทานิ เอวรูเปหิ จรเณหิ สมนฺนาคตา เอตฺถ ภิกฺขู อตฺถีติ ทสฺเสตุํ สนฺติ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ จตุนฺนํ สติปฏฺานานนฺติอาทีนิ เตสํ ภิกฺขูนํ อภินิวิฏฺกมฺมฏฺานทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ. ตตฺถ สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา โลกิยโลกุตฺตรา กถิตา. ตตฺร หิ เย ภิกฺขู ตสฺมึ ขเณ มคฺคํ ภาเวนฺติ, เตสํ โลกุตฺตรา โหนฺติ. อารทฺธวิปสฺสกานํ โลกิยา. อนิจฺจสฺาภาวนานุโยคนฺติ เอตฺถ สฺาสีเสน วิปสฺสนา กถิตา ¶ . ยสฺมา ปเนตฺถ อานาปานกมฺมฏฺานวเสน อภินิวิฏฺาว ¶ พหู ภิกฺขู, ตสฺมา เสสกมฺมฏฺานานิ สงฺเขเปน กเถตฺวา อานาปานกมฺมฏฺานํ วิตฺถาเรน กเถนฺโต อานาปานสฺสติ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. อิทํ ปน อานาปานกมฺมฏฺานํ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตํ, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนวสฺส ปาฬิตฺโถ จ ภาวนานโย จ เวทิตพฺโพ.
๑๔๙. กายฺตรนฺติ ¶ ปถวีกายาทีสุ จตูสุ กาเยสุ อฺตรํ วทามิ, วาโย กายํ วทามีติ อตฺโถ. อถ วา รูปายตนํ…เป… กพฬีกาโร อาหาโรติ ปฺจวีสติ รูปโกฏฺาสา รูปกาโย นาม. เตสุ อานาปานํ โผฏฺพฺพายตเน สงฺคหิตตฺตา กายฺตรํ โหติ, ตสฺมาปิ เอวมาห. ตสฺมาติหาติ ยสฺมา จตูสุ กาเยสุ อฺตรํ วาโยกายํ, ปฺจวีสติรูปโกฏฺาเส วา รูปกาเย อฺตรํ อานาปานํ อนุปสฺสติ, ตสฺมา กาเย กายานุปสฺสีติ อตฺโถ. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เวทนาฺตรนฺติ ตีสุ เวทนาสุ อฺตรํ, สุขเวทนํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. สาธุกํ มนสิการนฺติ ปีติปฏิสํเวทิตาทิวเสน อุปฺปนฺนํ สุนฺทรมนสิการํ. กึ ปน มนสิกาโร สุขเวทนา โหตีติ. น โหติ, เทสนาสีสํ ปเนตํ. ยเถว หิ ‘‘อนิจฺจสฺาภาวนานุโยคมนุยุตฺตา’’ติ เอตฺถ สฺานาเมน ปฺา วุตฺตา, เอวมิธาปิ มนสิการนาเมน เวทนา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เอตสฺมึ จตุกฺเก ปมปเท ปีติสีเสน เวทนา วุตฺตา, ทุติยปเท สุขนฺติ สรูเปเนว วุตฺตา. จิตฺตสงฺขารปททฺวเย ‘‘สฺา จ เวทนา จ เจตสิกา, เอเต ธมฺมา จิตฺตปฏิพทฺธา จิตฺตสงฺขารา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๔) วจนโต ‘‘วิตกฺกวิจาเร เปตฺวา สพฺเพปิ จิตฺตสมฺปยุตฺตกา ธมฺมา จิตฺตสงฺขาเร สงฺคหิตา’’ติ วจนโต จิตฺตสงฺขารนาเมน เวทนา วุตฺตา. ตํ สพฺพํ มนสิการนาเมน สงฺคเหตฺวา อิธ ‘‘สาธุกํ มนสิการ’’นฺติ อาห.
เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา เอสา เวทนา อารมฺมณํ น โหติ, ตสฺมา เวทนานุปสฺสนา น ยุชฺชตีติ. โน น ยุชฺชติ, สติปฏฺานวณฺณนายมฺปิ หิ ‘‘ตํตํสุขาทีนํ ¶ วตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา เวทนาว เวทยติ, ตํ ปน เวทนาปวตฺตึ อุปาทาย ‘อหํ เวทยามี’ติ โวหารมตฺตํ โหตี’’ติ วุตฺตํ ¶ . อปิจ ปีติปฏิสํเวทีติอาทีนํ อตฺถวณฺณนายเมตสฺส ปริหาโร วุตฺโตเยว. วุตฺตฺเหตํ วิสุทฺธิมคฺเค –
‘‘ทฺวีหากาเรหิ ¶ ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ อารมฺมณโต จ อสมฺโมหโต จ. กถํ อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชติ, ตสฺส สมาปตฺติกฺขเณ ฌานปฏิลาเภน อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ อารมฺมณสฺส ปฏิสํวิทิตตฺตา. กถํ อสมฺโมหโต (ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ)? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตํ ปีตึ ขยโต วยโต สมฺมสติ, ตสฺส วิปสฺสนากฺขเณ ลกฺขณปฏิเวธา อสมฺโมหโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ปฏิสมฺภิทายํ ‘ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ, ตาย สติยา, เตน าเณน สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตี’ติ. เอเตเนว นเยน อวเสสปทานิปิ อตฺถโต เวทิตพฺพานี’’ติ.
อิติ ยเถว ฌานปฏิลาเภน อารมฺมณโต ปีติสุขจิตฺตสงฺขารา ปฏิสํวิทิตา โหนฺติ, เอวํ อิมินาปิ ฌานสมฺปยุตฺเตน เวทนาสงฺขาตมนสิการปฏิลาเภน อารมฺมณโต เวทนา ปฏิสํวิทิตา โหติ. ตสฺมา สุวุตฺตเมตํ โหติ ‘‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิหรตี’’ติ.
นาหํ, ภิกฺขเว, มุฏฺสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺสาติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – ยสฺมา จิตฺตปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามีติอาทินา นเยน ปวตฺโต ภิกฺขุ กิฺจาปิ อสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตํ อารมฺมณํ กโรติ, ตสฺส ปน จิตฺตสฺส อารมฺมเณ สติฺจ สมฺปชฺฺจ อุปฏฺเปตฺวา ปวตฺตนโต จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสีเยว นาเมส โหติ. น หิ มุฏฺสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺส ¶ อานาปานสฺสติภาวนา อตฺถิ. ตสฺมา อารมฺมณโต จิตฺตปฏิสํวิทิตาทิวเสน จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิหรตีติ. โส ยํ ตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสานํ ปหานํ, ตํ ปฺาย ทิสฺวา สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขิตา โหตีติ เอตฺถ อภิชฺฌาย กามจฺฉนฺทนีวรณํ, โทมนสฺสวเสน พฺยาปาทนีวรณํ ¶ ทสฺสิตํ. อิทฺหิ จตุกฺกํ วิปสฺสนาวเสเนว วุตฺตํ, ธมฺมานุปสฺสนา จ นีวรณปพฺพาทิวเสน ฉพฺพิธา โหติ, ตสฺสา นีวรณปพฺพํ อาทิ, ตสฺสปิ อิทํ นีวรณทฺวยํ อาทิ, อิติ ธมฺมานุปสฺสนาย อาทึ ทสฺเสตุํ ‘‘อภิชฺฌาโทมนสฺสาน’’นฺติ อาห. ปหานนฺติ อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺํ ปชหตีติ เอวํ ปหานกราณํ อธิปฺเปตํ. ตํ ปฺาย ทิสฺวาติ ตํ อนิจฺจวิราคนิโรธปฏินิสฺสคฺคาาณสงฺขาตํ ปหานาณํ ¶ อปราย วิปสฺสนาปฺาย, ตมฺปิ อปรายาติ เอวํ วิปสฺสนาปรมฺปรํ ทสฺเสติ. อชฺฌุเปกฺขิตา โหตีติ ยฺจ สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ เอกโต อุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขตีติ ทฺวิธา อชฺฌุเปกฺขติ นาม. ตตฺถ สหชาตานมฺปิ อชฺฌุเปกฺขนา โหติ อารมฺมณสฺสปิ อชฺฌุเปกฺขนา, อิธ อารมฺมณอชฺฌุเปกฺขนา อธิปฺเปตา. ตสฺมาติห, ภิกฺขเวติ ยสฺมา อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามีติอาทินา นเยน ปวตฺโต น เกวลํ นีวรณาทิธมฺเม, อภิชฺฌาโทมนสฺสสีเสน ปน วุตฺตานํ ธมฺมานํ ปหานาณมฺปิ ปฺาย ทิสฺวา อชฺฌุเปกฺขิตา โหติ, ตสฺมา ‘‘ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิหรตี’’ติ เวทิตพฺโพ.
๑๕๐. ปวิจินตีติ อนิจฺจาทิวเสน ปวิจินติ. อิตรํ ปททฺวยํ เอตสฺเสว เววจนํ. นิรามิสาติ ¶ นิกฺกิเลสา. ปสฺสมฺภตีติ กายิกเจตสิกทรถปฏิปฺปสฺสทฺธิยา กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ปสฺสมฺภติ. สมาธิยตีติ สมฺมา ปิยติ, อปฺปนาปตฺตํ วิย โหติ. อชฺฌุเปกฺขิตา โหตีติ สหชาตอชฺฌุเปกฺขนาย อชฺฌุเปกฺขิตา โหติ.
เอวํ จุทฺทสวิเธน กายปริคฺคาหกสฺส ภิกฺขุโน ตสฺมึ กาเย สติ สติสมฺโพชฺฌงฺโค, สติยา สมฺปยุตฺตํ าณํ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค, ตํสมฺปยุตฺตเมว กายิกเจตสิกวีริยํ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค, ปีติ, ปสฺสทฺธิ, จิตฺเตกคฺคตา สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค, อิเมสํ ฉนฺนํ สมฺโพชฺฌงฺคานํ อโนสกฺกนอนติวตฺตนสงฺขาโต มชฺฌตฺตากาโร อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค. ยเถว หิ สมปฺปวตฺเตสุ อสฺเสสุ สารถิโน ‘‘อยํ โอลียตี’’ติ ตุทนํ วา, ‘‘อยํ อติธาวตี’’ติ อากฑฺฒนํ วา นตฺถิ, เกวลํ เอวํ ปสฺสมานสฺส ิตากาโรว โหติ, เอวเมว อิเมสํ ฉนฺนํ สมฺโพชฺฌงฺคานํ อโนสกฺกนอนติวตฺตนสงฺขาโต มชฺฌตฺตากาโร อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค นาม โหติ. เอตฺตาวตา กึ กถิตํ? เอกจิตฺตกฺขณิกา นานารสลกฺขณา วิปสฺสนาสมฺโพชฺฌงฺคา นาม กถิตา.
๑๕๒. วิเวกนิสฺสิตนฺติอาทีนิ ¶ วุตฺตตฺถาเนว. เอตฺถ ปน อานาปานปริคฺคาหิกา สติ โลกิยา โหติ, โลกิยา อานาปานา โลกิยสติปฏฺานํ ปริปูเรนฺติ, โลกิยา สติปฏฺานา โลกุตฺตรโพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺติ, โลกุตฺตรา โพชฺฌงฺคา วิชฺชาวิมุตฺติผลนิพฺพานํ ¶ ปริปูเรนฺติ. อิติ โลกิยสฺส ¶ อาคตฏฺาเน โลกิยํ กถิตํ, โลกุตฺตรสฺส อาคตฏฺาเน โลกุตฺตรํ กถิตนฺติ. เถโร ปนาห ‘‘อฺตฺถ เอวํ โหติ, อิมสฺมึ ปน สุตฺเต โลกุตฺตรํ อุปริ อาคตํ, โลกิยา อานาปานา โลกิยสติปฏฺาเน ปริปูเรนฺติ, โลกิยา สติปฏฺานา โลกิเย โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺติ, โลกิยา โพชฺฌงฺคา โลกุตฺตรํ วิชฺชาวิมุตฺติผลนิพฺพานํ ปริปูเรนฺติ, วิชฺชาวิมุตฺติปเทน หิ อิธ วิชฺชาวิมุตฺติผลนิพฺพานํ อธิปฺเปต’’นฺติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อานาปานสฺสติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. กายคตาสติสุตฺตวณฺณนา
๑๕๓-๔. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ กายคตาสติสุตฺตํ. ตตฺถ เคหสิตาติ ปฺจกามคุณนิสฺสิตา. สรสงฺกปฺปาติ ธาวนสงฺกปฺปา. สรนฺตีติ หิ สรา, ธาวนฺตีติ อตฺโถ. อชฺฌตฺตเมวาติ โคจรชฺฌตฺตสฺมึเยว. กายคตาสตินฺติ กายปริคฺคาหิกมฺปิ กายารมฺมณมฺปิ สตึ. กายปริคฺคาหิกนฺติ วุตฺเต สมโถ กถิโต โหติ, กายารมฺมณนฺติ วุตฺเต วิปสฺสนา. อุภเยน สมถวิปสฺสนา กถิตา โหนฺติ.
ปุน จปรํ…เป… เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กายคตาสตึ ภาเวตีติ สติปฏฺาเน จุทฺทสวิเธน กายานุปสฺสนา กถิตา.
๑๕๖. อนฺโตคธาวาสฺสาติ ตสฺส ภิกฺขุโน ภาวนาย อพฺภนฺตรคตาว โหนฺติ. วิชฺชาภาคิยาติ เอตฺถ สมฺปโยควเสน วิชฺชํ ภชนฺตีติ ¶ วิชฺชาภาคิยา. วิชฺชาภาเค วิชฺชาโกฏฺาเส วตฺตนฺตีติปิ วิชฺชาภาคิยา. ตตฺถ ¶ วิปสฺสนาาณํ, มโนมยิทฺธิ, ฉ อภิฺาติ อฏฺ วิชฺชา. ปุริเมน อตฺเถน ตาหิ สมฺปยุตฺตธมฺมาปิ วิชฺชาภาคิยา. ปจฺฉิเมน อตฺเถน ตาสุ ยา กาจิ เอกา วิชฺชา วิชฺชา, เสสา วิชฺชาภาคิยาติ เอวํ วิชฺชาปิ วิชฺชาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมาปิ วิชฺชาภาคิยาเตว เวทิตพฺพา. เจตสา ผุโฏติ เอตฺถ ทุวิธํ ผรณํ อาโปผรณฺจ, ทิพฺพจกฺขุผรณฺจ, ตตฺถ อาโปกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา อาเปน ผรณํ อาโปผรณํ นาม. เอวํ ผุเฏปิ มหาสมุทฺเท สพฺพา สมุทฺทงฺคมา กุนฺนทิโย อนฺโตคธาว โหนฺติ, อาโลกํ ปน วฑฺเฒตฺวา ทิพฺพจกฺขุนา สกลสมุทฺทสฺส ทสฺสนํ ทิพฺพจกฺขุผรณํ นาม. เอวํ ผรเณปิ มหาสมุทฺเท สพฺพา สมุทฺทงฺคมา กุนฺนทิโย อนฺโตคธาว โหนฺติ.
โอตารนฺติ วิวรํ ฉิทฺทํ. อารมฺมณนฺติ กิเลสุปฺปตฺติปจฺจยํ. ลเภถ โอตารนฺติ ลเภยฺย ปเวสนํ, วินิวิชฺฌิตฺวา ยาว ปริโยสานา คจฺเฉยฺยาติ อตฺโถ. นิกฺเขปนนฺติ นิกฺขิปนฏฺานํ.
๑๕๗. เอวํ ¶ อภาวิตกายคตาสตึ ปุคฺคลํ อลฺลมตฺติกปฺุชาทีหิ อุปเมตฺวา อิทานิ ภาวิตกายคตาสตึ สารผลกาทีหิ อุปเมตุํ เสยฺยถาปีติอาทิมาห. ตตฺถ อคฺคฬผลกนฺติ กวาฏํ.
๑๕๘. กากเปยฺโยติ มุขวฏฺฏิยํ นิสีทิตฺวา กาเกน คีวํ อนาเมตฺวาว ปาตพฺโพ. อภิฺาสจฺฉิกรณียสฺสาติ อภิฺาย สจฺฉิกาตพฺพสฺส. สกฺขิภพฺพตํ ¶ ปาปุณาตีติ ปจฺจกฺขภาวํ ปาปุณาติ. สติ สติ อายตเนติ สติสติ การเณ. กึ ปเนตฺถ การณนฺติ? อภิฺาว การณํ. อาฬิพนฺธาติ มริยาทพทฺธา.
ยานีกตายาติ ยุตฺตยานํ วิย กตาย. วตฺถุกตายาติ ปติฏฺากตาย. อนุฏฺิตายาติ อนุปฺปวตฺติตาย. ปริจิตายาติ ปริจยกตาย. สุสมารทฺธายาติ สุฏฺุ สมารทฺธาย สุสมฺปคฺคหิตาย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
กายคตาสติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สงฺขารุปปตฺติสุตฺตวณฺณนา
๑๖๐. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ สงฺขารุปปตฺติสุตฺตํ. ตตฺถ สงฺขารุปปตฺตินฺติ สงฺขารานํเยว อุปปตฺตึ, น สตฺตสฺส, น โปสสฺส, ปฺุาภิสงฺขาเรน วา ภวูปคกฺขนฺธานํ อุปปตฺตึ.
๑๖๑. สทฺธาย สมนฺนาคโตติ สทฺธาทโย ปฺจ ธมฺมา โลกิกา วฏฺฏนฺติ. ทหตีติ เปติ. อธิฏฺาตีติ ปติฏฺาเปติ. สงฺขารา จ วิหารา จาติ สห ปตฺถนาย สทฺธาทโยว ปฺจ ธมฺมา. ตตฺรุปปตฺติยาติ ตสฺมึ าเน นิพฺพตฺตนตฺถาย. อยํ มคฺโค อยํ ปฏิปทาติ สห ปตฺถนาย ปฺจ ¶ ธมฺมาว. ยสฺส หิ ปฺจ ธมฺมา อตฺถิ, น ปตฺถนา, ตสฺส คติ อนิพทฺธา. ยสฺส ปตฺถนา อตฺถิ, น ปฺจ ธมฺมา, ตสฺสปิ อนิพทฺธา. เยสํ อุภยํ อตฺถิ, เตสํ คติ นิพทฺธา. ยถา หิ อากาเส ขิตฺตทณฺโฑ อคฺเคน วา มชฺเฌน วา มูเลน วา นิปติสฺสตีติ นิยโม นตฺถิ, เอวํ สตฺตานํ ปฏิสนฺธิคฺคหณํ อนิยตํ. ตสฺมา กุสลํ กมฺมํ กตฺวา เอกสฺมึ าเน ปตฺถนํ กาตุํ วฏฺฏติ.
๑๖๕. อามณฺฑนฺติ อามลกํ. ยถา ตํ ปริสุทฺธจกฺขุสฺส ปุริสสฺส สพฺพโสว ปากฏํ โหติ, เอวํ ตสฺส พฺรหฺมุโน สทฺธึ ตตฺถ นิพฺพตฺตสตฺเตหิ สหสฺสี โลกธาตุ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
๑๖๗. สุโภติ สุนฺทโร. ชาติมาติ อากรสมฺปนฺโน. สุปริกมฺมกโตติ โธวนาทีหิ สุฏฺุกตปริกมฺโม. ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺโตติ รตฺตกมฺพเล ปิโต.
๑๖๘. สตสหสฺโสติ โลกธาตุสตสหสฺสมฺหิ อาโลกผรณพฺรหฺมา. นิกฺขนฺติ นิกฺเขน กตํ ปิฬนฺธนํ, นิกฺขํ นาม ปฺจสุวณฺณํ, อูนกนิกฺเขน กตํ ปสาธนฺหิ ฆฏฺฏนมชฺชนกฺขมํ น โหติ, อติเรเกน กตํ ฆฏฺฏนมชฺชนํ ขมติ, วณฺณวนฺตํ ปน น โหติ, ผรุสธาตุกํ ขายติ. นิกฺเขน กตํ ฆฏฺฏนมชฺชนฺเจว ขมติ, วณฺณวนฺตฺจ โหติ. ชมฺโพนทนฺติ ชมฺพุนทิยํ นิพฺพตฺตํ. มหาชมฺพุรุกฺขสฺส หิ เอเกกา สาขา ปณฺณาส ปณฺณาส โยชนานิ ¶ วฑฺฒิตา, ตาสุ มหนฺตา นทิโย สนฺทนฺติ, ตาสํ นทีนํ ¶ อุภยตีเรสุ ชมฺพุปกฺกานํ ปติตฏฺาเน สุวณฺณงฺกุรา อุฏฺหนฺติ, เต นทีชเลน วุยฺหมานา ¶ อนุปุพฺเพน มหาสมุทฺทํ ปวิสนฺติ. ตํ สนฺธาย ชมฺโพนทนฺติ วุตฺตํ. ทกฺขกมฺมารปุตฺตอุกฺกามุขสุกุสลสมฺปหฏฺนฺติ ทกฺเขน สุกุสเลน กมฺมารปุตฺเตน อุกฺกามุเข ปจิตฺวา สมฺปหฏฺํ. อุกฺกามุเขติ อุทฺธเน. สมฺปหฏฺนฺติ โธตฆฏฺฏิตมชฺชิตํ. วตฺโถปเม (ม. นิ. ๑.๗๕-๗๖) จ ธาตุวิภงฺเค (ม. นิ. ๓.๓๕๗-๓๖๐) จ ปิณฺฑโสธนํ วุตฺตํ. อิมสฺมึ สุตฺเต กตภณฺฑโสธนํ วุตฺตํ.
ยํ ปน สพฺพวาเรสุ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวาติ วุตฺตํ, ตตฺถ ปฺจวิธํ ผรณํ เจโตผรณํ กสิณผรณํ ทิพฺพจกฺขุผรณํ อาโลกผรณํ สรีรผรณนฺติ. ตตฺถ เจโตผรณํ นาม โลกธาตุสหสฺเส สตฺตานํ จิตฺตชานนํ. กสิณผรณํ นาม โลกธาตุสหสฺเส กสิณปตฺถรณํ. ทิพฺพจกฺขุผรณํ นาม อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทิพฺเพน จกฺขุนา สหสฺสโลกธาตุทสฺสนํ. อาโลกผรณมฺปิ เอตเทว. สรีรผรณํ นาม โลกธาตุสหสฺเส สรีรปภาย ปตฺถรณํ. สพฺพตฺถ อิมานิ ปฺจ ผรณานิ อวินาเสนฺเตน กเถตพฺพนฺติ.
ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร ปนาห – ‘‘มณิโอปมฺเม กสิณผรณํ วิย นิกฺโขปมฺเม สรีรผรณํ วิย ทิสฺสตี’’ติ. ตสฺส วาทํ วิย อฏฺกถา นาม นตฺถีติ ปฏิกฺขิตฺวา สรีรผรณํ น สพฺพกาลิกํ, จตฺตาริมานิ ¶ ผรณานิ อวินาเสตฺวาว กเถตพฺพนฺติ วุตฺตํ. อธิมุจฺจตีติ ปทํ ผรณปทสฺเสว เววจนํ, อถ วา ผรตีติ ปตฺถรติ. อธิมุจฺจตีติ ชานาติ.
๑๖๙. อาภาติอาทีสุ อาภาทโย นาม ปาฏิเยกฺกา เทวา นตฺถิ, ตโย ปริตฺตาภาทโย เทวา อาภา นาม, ปริตฺตาสุภาทโย จ. สุภกิณฺหาทโย จ สุภา นาม. เวหปฺผลาทิวารา ปากฏาเยว.
อิเม ตาว ปฺจ ธมฺเม ภาเวตฺวา กามาวจเรสุ นิพฺพตฺตตุ. พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตํ ปน อาสวกฺขยฺจ กถํ ปาปุณาตีติ? อิเม ปฺจ ธมฺมา สีลํ, โส อิมสฺมึ สีเล ปติฏฺาย กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ตา ตา สมาปตฺติโย ภาเวตฺวา รูปีพฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตติ, อรูปชฺฌานานิ ¶ นิพฺพตฺเตตฺวา ¶ อรูปีพฺรหฺมโลเก, สมาปตฺติปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อนาคามิผลํ สจฺฉิกตฺวา ปฺจสุ สุทฺธาวาเสสุ นิพฺพตฺตติ. อุปริมคฺคํ ภาเวตฺวา อาสวกฺขยํ ปาปุณาตีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
สงฺขารุปปตฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.