📜

๓. สุฺตวคฺโค

๑. จูฬสุฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๗๖. เอวํเม สุตนฺติ จูฬสุฺตสุตฺตํ. ตตฺถ เอกมิทนฺติ เถโร กิร ภควโต วตฺตํ กตฺวา อตฺตโน ทิวาฏฺานํ คนฺตฺวา กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา นิพฺพานารมฺมณํ สุฺตาผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสินฺโน ยถาปริจฺเฉเทน วุฏฺาสิ. อถสฺส สงฺขารา สุฺโต อุปฏฺหึสุ. โส สุฺตากถํ โสตุกาโม ชาโต. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘น โข ปน สกฺกา ธุเรน ธุรํ ปหรนฺเตน วิย คนฺตฺวา ‘สุฺตากถํ เม, ภนฺเต, กเถถา’ติ ภควนฺตํ วตฺตุํ, หนฺทาหํ ยํ เม ภควา นครกํ อุปนิสฺสาย วิหรนฺโต เอกํ กถํ กเถสิ, ตํ สาเรมิ, เอวํ เม ภควา สุฺตากถํ กเถสฺสตี’’ติ ทสพลํ สาเรนฺโต เอกมิทนฺติอาทิมาห.

ตตฺถ อิทนฺติ นิปาตมตฺตเมว. กจฺจิเมตํ, ภนฺเตติ เถโร เอกปเท ตฺวา สฏฺิปทสหสฺสานิ อุคฺคเหตฺวา ธาเรตุํ สมตฺโถ, กึ โส ‘‘สุฺตาวิหาเรนา’’ติ เอกํ ปทํ ธาเรตุํ น สกฺขิสฺสติ, โสตุกาเมน ปน ชานนฺเตน วิย ปุจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ, ปากฏํ กตฺวา วิตฺถาริยมานํ สุฺตากถํ โสตุกาโม อชานนฺโต วิย เอวมาห. เอโก อชานนฺโตปิ ชานนฺโต วิย โหติ, เถโร เอวรูปํ โกหฺํ กึ กริสฺสติ, อตฺตโน ชานนฏฺาเนปิ ภควโต อปจิตึ ทสฺเสตฺวา ‘‘กจฺจิเมต’’นฺติอาทิมาห.

ปุพฺเพปีติ ปมโพธิยํ นครกํ อุปนิสฺสาย วิหรณกาเลปิ. เอตรหิปีติ อิทานิปิ. เอวํ ปน วตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อานนฺโท สุฺตากถํ โสตุกาโม, เอโก ปน โสตุํ สกฺโกติ, น อุคฺคเหตุํ, เอโก โสตุมฺปิ อุคฺคเหตุมฺปิ สกฺโกติ, น กเถตุํ, อานนฺโท ปน โสตุมฺปิ สกฺโกติ อุคฺคเหตุมฺปิ กเถตุมฺปิ, (กเถมิสฺส) สุฺตากถ’’นฺติ. อิติ ตํ กเถนฺโต เสยฺยถาปีติอาทิมาห. ตตฺถ สุฺโ หตฺถิควาสฺสวฬเวนาติ ตตฺถ กฏฺรูปโปตฺถกรูปจิตฺตรูปวเสน กตา หตฺถิอาทโย อตฺถิ, เวสฺสวณมนฺธาตาทีนํ ิตฏฺาเน จิตฺตกมฺมวเสน กตมฺปิ, รตนปริกฺขตานํ วาตปานทฺวารพนฺธมฺจปีาทีนํ วเสน สณฺิตมฺปิ, ชิณฺณปฏิสงฺขรณตฺถํ ปิตมฺปิ ชาตรูปรชตํ อตฺถิ, กฏฺรูปาทิวเสน กตา ธมฺมสวนปฺหปุจฺฉนาทิวเสน อาคจฺฉนฺตา จ อิตฺถิปุริสาปิ อตฺถิ, ตสฺมา น โส เตหิ สุฺโ. อินฺทฺริยพทฺธานํ สวิฺาณกานํ หตฺถิอาทีนํ, อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ปริภุฺชิตพฺพสฺส ชาตรูปรชตสฺส, นิพทฺธวาสํ วสนฺตานํ อิตฺถิปุริสานฺจ อภาวํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

ภิกฺขุสงฺฆํ ปฏิจฺจาติ ภิกฺขูสุ หิ ปิณฺฑาย ปวิฏฺเสุปิ วิหารภตฺตํ สาทิยนฺเตหิ ภิกฺขูหิ เจว คิลานคิลานุปฏฺากอุทฺเทสจีวรกมฺมปสุตาทีหิ จ ภิกฺขูหิ โส อสุฺโว โหติ, อิติ นิจฺจมฺปิ ภิกฺขูนํ อตฺถิตาย เอวมาห. เอกตฺตนฺติ เอกภาวํ, เอกํ อสุฺตํ อตฺถีติ อตฺโถ. เอโก อสุฺภาโว อตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. อมนสิกริตฺวาติ จิตฺเต อกตฺวา อนาวชฺชิตฺวา อปจฺจเวกฺขิตฺวา. คามสฺนฺติ คาโมติ ปวตฺตวเสน วา กิเลสวเสน วา อุปฺปนฺนํ คามสฺํ. มนุสฺสสฺายปิ เอเสว นโย. อรฺสฺํ ปฏิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตนฺติ อิทํ อรฺํ, อยํ รุกฺโข, อยํ ปพฺพโต, อยํ นีโลภาโส วนสณฺโฑติ เอวํ เอกํ อรฺํเยว ปฏิจฺจ อรฺสฺํ มนสิ กโรติ. ปกฺขนฺทตีติ โอตรติ. อธิมุจฺจตีติ เอวนฺติ อธิมุจฺจติ. เย อสฺสุ ทรถาติ เย จ ปวตฺตทรถา วา กิเลสทรถา วา คามสฺํ ปฏิจฺจ ภเวยฺยุํ, เต อิธ อรฺสฺาย น สนฺติ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. อตฺถิ เจวายนฺติ อยํ ปน เอกํ อรฺสฺํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชมานา ปวตฺตทรถมตฺตา อตฺถิ.

ยฺหิโข ตตฺถ น โหตีติ ยํ มิคารมาตุปาสาเท หตฺถิอาทโย วิย อิมิสฺสา อรฺสฺาย คามสฺามนุสฺสสฺาวเสน อุปฺปชฺชมานํ ปวตฺตทรถกิเลสทรถชาตํ, ตํ น โหติ. ยํ ปน ตตฺถ อวสิฏฺนฺติ ยํ มิคารมาตุปาสาเท ภิกฺขุสงฺโฆ วิย ตตฺถ อรฺสฺาย ปวตฺตทรถมตฺตํ อวสิฏฺํ โหติ. ตํ สนฺตมิทํ อตฺถีติ ปชานาตีติ ตํ วิชฺชมานเมว ‘‘อตฺถิ อิท’’นฺติ ปชานาติ, สุฺตาวกฺกนฺตีติ สุฺตานิพฺพตฺติ.

๑๗๗. อมนสิกริตฺวามนุสฺสสฺนฺติ อิธ คามสฺํ น คณฺหาติ. กสฺมา? เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘มนุสฺสสฺาย คามสฺํ นิวตฺเตตฺวา, อรฺสฺาย มนุสฺสสฺํ, ปถวีสฺาย อรฺสฺํ, อากาสานฺจายตนสฺาย ปถวีสฺํ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสฺาย อากิฺจฺายตนสฺํ , วิปสฺสนาย เนวสฺานาสฺายตนสฺํ, มคฺเคน วิปสฺสนํ นิวตฺเตตฺวา อนุปุพฺเพน อจฺจนฺตสุฺตํ นาม ทสฺเสสฺสามี’’ติ. ตสฺมา เอวํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ ปถวีสฺนฺติ กสฺมา อรฺสฺํ ปหาย ปถวีสฺํ มนสิ กโรติ? อรฺสฺาย วิเสสานธิคมนโต. ยถา หิ ปุริสสฺส รมณียํ เขตฺตฏฺานํ ทิสฺวา – ‘‘อิธ วุตฺตา สาลิอาทโย สุฏฺุ สมฺปชฺชิสฺสนฺติ, มหาลาภํ ลภิสฺสามี’’ติ สตฺตกฺขตฺตุมฺปิ เขตฺตฏฺานํ โอโลเกนฺตสฺส สาลิอาทโย น สมฺปชฺชนฺเตว, สเจ ปน ตํ านํ วิหตขาณุกกณฺฏกํ กตฺวา กสิตฺวา วปติ, เอวํ สนฺเต สมฺปชฺชนฺติ, เอวเมว – ‘‘อิทํ อรฺํ, อยํ รุกฺโข, อยํ ปพฺพโต, อยํ นีโลภาโส วนสณฺโฑ’’ติ สเจปิ สตฺตกฺขตฺตุํ อรฺสฺํ มนสิ กโรติ, เนวูปจารํ น สมาธึ ปาปุณาติ, ปถวีสฺาย ปนสฺส ธุวเสวนํ กมฺมฏฺานํ ปถวีกสิณํ ปริกมฺมํ กตฺวา ฌานานิ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานปทฏฺานมฺปิ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สกฺกา อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ. ตสฺมา อรฺสฺํ ปหาย ปถวีสฺํ มนสิ กโรติ. ปฏิจฺจาติ ปฏิจฺจ สมฺภูตํ.

อิทานิ ยสฺมึ ปถวีกสิเณ โส ปถวีสฺี โหติ, ตสฺส โอปมฺมทสฺสนตฺถํ เสยฺยถาปีติอาทิมาห. ตตฺถ อุสภสฺส เอตนฺติ อาสภํ. อฺเสํ ปน คุนฺนํ คณฺฑาปิ โหนฺติ ปหาราปิ. เตสฺหิ จมฺมํ ปสาริยมานํ นิพฺพลิกํ น โหติ, อุสภสฺส ลกฺขณสมฺปนฺนตาย เต โทสา นตฺถิ. ตสฺมา ตสฺส จมฺมํ คหิตํ. สงฺกุสเตนาติ ขิลสเตน. สุวิหตนฺติ ปสาเรตฺวา สุฏฺุ วิหตํ. อูนกสตสงฺกุวิหตฺหิ นิพฺพลิกํ น โหติ, สงฺกุสเตน วิหตํ เภริตลํ วิย นิพฺพลิกํ โหติ. ตสฺมา เอวมาห. อุกฺกูลวิกฺกูลนฺติ อุจฺจนีจํ ถลฏฺานํ นินฺนฏฺานํ. นทีวิทุคฺคนฺติ นทิโย เจว ทุคฺคมฏฺานฺจ. ปถวีสฺํ ปฏิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตนฺติ กสิณปถวิยํเยว ปฏิจฺจ สมฺภูตํ เอกํ สฺํ มนสิ กโรติ. ทรถมตฺตาติ อิโต ปฏฺาย สพฺพวาเรสุ ปวตฺตทรถวเสน ทรถมตฺตา เวทิตพฺพา.

๑๘๒. อนิมิตฺตํ เจโตสมาธินฺติ วิปสฺสนาจิตฺตสมาธึ. โส หิ นิจฺจนิมิตฺตาทิวิรหิโต อนิมิตฺโตติ วุจฺจติ. อิมเมว กายนฺติ วิปสฺสนาย วตฺถุํ ทสฺเสติ. ตตฺถ อิมเมวาติ อิมํ เอว จตุมหาภูติกํ. สฬายตนิกนฺติ สฬายตนปฏิสํยุตฺตํ. ชีวิตปจฺจยาติ ยาว ชีวิตินฺทฺริยานํ ปวตฺติ, ตาว ชีวิตปจฺจยา ปวตฺตทรถมตฺตา อตฺถีติ วุตฺตํ โหติ.

๑๘๓. ปุน อนิมิตฺตนฺติ วิปสฺสนาย ปฏิวิปสฺสนํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. กามาสวํ ปฏิจฺจาติ กามาสวํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนปวตฺตทรถา อิธ น สนฺติ, อริยมคฺเค เจว อริยผเล จ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. อิมเมว กายนฺติ อิมํ อุปาทิเสสทรถทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อิติ มนุสฺสสฺาย คามสฺํ นิวตฺเตตฺวา…เป… มคฺเคน วิปสฺสนํ นิวตฺเตตฺวา อนุปุพฺเพน อจฺจนฺตสุฺตา นาม ทสฺสิตา โหติ.

๑๘๔. ปริสุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ. อนุตฺตรนฺติ อุตฺตรวิรหิตํ สพฺพเสฏฺํ. สุฺตนฺติ สุฺตผลสมาปตฺตึ. ตสฺมาติ ยสฺมา อตีเตปิ, พุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกสงฺขาตา สมณพฺราหฺมณา. อนาคเตปิ, เอตรหิปิ พุทฺธพุทฺธสาวกสงฺขาตา สมณพฺราหฺมณา อิมํเยว ปริสุทฺธํ ปรมํ อนุตฺตรํ สุฺตํ อุปสมฺปชฺช วิหรึสุ วิหริสฺสนฺติ วิหรนฺติ จ, ตสฺมา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

จูฬสุฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. มหาสุฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๘๕. เอวํเม สุตนฺติ มหาสุฺตสุตฺตํ. ตตฺถ กาฬเขมกสฺสาติ ฉวิวณฺเณน โส กาโฬ, เขมโกติ ปนสฺส นามํ. วิหาโรติ ตสฺมึเยว นิคฺโรธาราเม เอกสฺมึ ปเทเส ปากาเรน ปริกฺขิปิตฺวา ทฺวารโกฏฺกํ มาเปตฺวา หํสวฏฺฏกาทิเสนาสนานิ เจว มณฺฑลมาฬโภชนสาลาทีนิ จ ปติฏฺเปตฺวา กโต วิหาโร. สมฺพหุลานิ เสนาสนานีติ มฺโจ ปีํ ภิสิพิมฺโพหนํ ตฏฺฏิกา จมฺมขณฺโฑ ติณสนฺถาโร ปณฺณสนฺถาโร ปลาลสนฺถาโรติอาทีนิ ปฺตฺตานิ โหนฺติ, มฺเจน มฺจํ…เป… ปลาลสนฺถาเรเนว ปลาลสนฺถารํ อาหจฺจ ปิตานิ, คณภิกฺขูนํ วสนฏฺานสทิสํ อโหสิ.

สมฺพหุลานุ โขติ ภควโต โพธิปลฺลงฺเกเยว สพฺพกิเลสานํ สมุคฺฆาฏิตตฺตา สํสโย นาม นตฺถิ, วิตกฺกปุพฺพภาคา ปุจฺฉา, วิตกฺกปุพฺพภาเค จายํ นุกาโร นิปาตมตฺโต. ปาฏิมตฺถกํ คจฺฉนฺเต อวินิจฺฉิโต นาม น โหติ. อิโต กิร ปุพฺเพ ภควตา ทส ทฺวาทส ภิกฺขู เอกฏฺาเน วสนฺตา น ทิฏฺปุพฺพา.

อถสฺส เอตทโหสิ – คณวาโส นามายํ วฏฺเฏ อาจิณฺณสมาจิณฺโณ นทีโอติณฺณอุทกสทิโส, นิรยติรจฺฉานโยนิเปตฺติวิสยาสุรกาเยสุปิ, มนุสฺสโลก-เทวโลกพฺรหฺมโลเกสุปิ คณวาโสว อาจิณฺโณ. ทสโยชนสหสฺโส หิ นิรโย ติปุจุณฺณภริตา นาฬิ วิย สตฺเตหิ นิรนฺตโร, ปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณกรณฏฺาเน สตฺตานํ ปมาณํ วา ปริจฺเฉโท วา นตฺถิ, ตถา วาสีหิ ตจฺฉนาทิาเนสุ, อิติ คณภูตาว ปจฺจนฺติ. ติรจฺฉานโยนิยํ เอกสฺมึ วมฺมิเก อุปสิกานํ ปมาณํ วา ปริจฺเฉโท วา นตฺถิ, ตถา เอเกกพิลาทีสุปิ กิปิลฺลิกาทีนํ. ติรจฺฉานโยนิยมฺปิ คณวาโสว. เปตนครานิ จ คาวุติกานิ อฑฺฒโยชนิกานิปิ เปตภริตานิ โหนฺติ. เอวํ เปตฺติวิสเยปิ คณวาโสว. อสุรภวนํ ทสโยชนสหสฺสํ กณฺเณ ปกฺขิตฺตสูจิยา กณฺณพิลํ วิย โหติ. อิติ อสุรกาเยปิ คณวาโสว. มนุสฺสโลเก สาวตฺถิยํ สตฺตปณฺณาส กุลสตสหสฺสานิ, ราชคเห อนฺโต จ พหิ จ อฏฺารส มนุสฺสโกฏิโย วสึสุ. เอวํ อฺเสุปิ าเนสูติ มนุสฺสโลเกปิ คณวาโสว. ภุมฺมเทวตา อาทึ กตฺวา เทวโลกพฺรหฺมโลเกสุปิ คณวาโสว. เอเกกสฺส หิ เทวปุตฺตสฺส อฑฺฒติยา นาฏกโกฏิโย โหนฺติ, นวปิ โกฏิโย โหนฺติ, เอกฏฺาเน ทสสหสฺสาปิ พฺรหฺมาโน วสนฺติ.

ตโต จินฺเตสิ – ‘‘มยา สตสหสฺสกปฺปาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ คณวาสวิทฺธํสนตฺถํ ทส ปารมิโย ปูริตา, อิเม จ ภิกฺขู อิโต ปฏฺาเยว คณํ พนฺธิตฺวา คณาภิรตา ชาตา อนนุจฺฉวิกํ กโรนฺตี’’ติ. โส ธมฺมสํเวคํ อุปฺปาเทตฺวา ปุน จินฺเตสิ – ‘‘สเจ ‘เอกฏฺาเน ทฺวีหิ ภิกฺขูหิ น วสิตพฺพ’นฺติ สกฺกา ภเวยฺย สิกฺขาปทํ ปฺเปตุํ, สิกฺขาปทํ ปฺาเปยฺยํ, น โข ปเนตํ สกฺกา. หนฺทาหํ มหาสุฺตาปฏิปตฺตึ นาม สุตฺตนฺตํ เทเสมิ, ยํ สิกฺขากามานํ กุลปุตฺตานํ สิกฺขาปทปฺตฺติ วิย นครทฺวาเร นิกฺขิตฺตสพฺพกายิกอาทาโส วิย จ ภวิสฺสติ. ตโต ยถา นาเมกสฺมึ อาทาเส ขตฺติยาทโย อตฺตโน วชฺชํ ทิสฺวา ตํ ปหาย อนวชฺชา โหนฺติ, เอวเมวํ มยิ ปรินิพฺพุเตปิ ปฺจวสฺสสหสฺสานิ อิมํ สุตฺตํ อาวชฺชิตฺวา คณํ วิโนเทตฺวา เอกีภาวาภิรตา กุลปุตฺตา วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตํ กริสฺสนฺตี’’ติ. ภควโต จ มโนรถํ ปูเรนฺตา วิย อิมํ สุตฺตํ อาวชฺชิตฺวา คณํ วิโนเทตฺวา วฏฺฏทุกฺขํ เขเปตฺวา ปรินิพฺพุตา กุลปุตฺตา คณนปถํ วีติวตฺตา. วาลิกปิฏฺิวิหาเรปิ หิ อาภิธมฺมิกอภยตฺเถโร นาม วสฺสูปนายิกสมเย สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อิมํ สุตฺตํ สฺฌายิตฺวา ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอวํ กาเรติ, มยํ กึ กโรมา’’ติ อาห. เต สพฺเพปิ อนฺโตวสฺเส คณํ วิโนเทตฺวา เอกีภาวาภิรตา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. คณเภทนํ นาม อิทํ สุตฺตนฺติ.

๑๘๖. ฆฏายาติ เอวํนามกสฺส สกฺกสฺส. วิหาเรติ อยมฺปิ วิหาโร นิคฺโรธารามสฺเสว เอกเทเส กาฬเขมกสฺส วิหาโร วิย กโตติ เวทิตพฺโพ. จีวรกมฺมนฺติ ชิณฺณมลินานํ อคฺคฬฏฺานุปฺปาทนโธวนาทีหิ กตปริภณฺฑมฺปิ, จีวรตฺถาย อุปฺปนฺนวตฺถานํ วิจารณสิพฺพนาทีหิ อกตํ สํวิธานมฺปิ วฏฺฏติ, อิธ ปน อกตํ สํวิธานํ อธิปฺเปตํ. มนุสฺสา หิ อานนฺทตฺเถรสฺส จีวรสาฏเก อทํสุ. ตสฺมา เถโร สมฺพหุเล ภิกฺขู คเหตฺวา ตตฺถ จีวรกมฺมํ อกาสิ. เตปิ ภิกฺขู ปาโตว สูจิปาสกสฺส ปฺายนกาลโต ปฏฺาย นิสินฺนา อปฺายนกาเล อุฏฺหนฺติ. สูจิกมฺเม นิฏฺิเตเยว เสนาสนานิ สํวิทหิสฺสามาติ น สํวิทหึสุ. จีวรการสมโย โนติ เถโร กิร จินฺเตสิ – ‘‘อทฺธา เอเตหิ ภิกฺขูหิ น ปฏิสามิตานิ เสนาสนานิ, ภควตา จ ทิฏฺานิ ภวิสฺสนฺติ. อิติ อนตฺตมโน สตฺถา สุฏฺุ นิคฺคเหตุกาโม, อิเมสํ ภิกฺขูนํ อุปตฺถมฺโภ ภวิสฺสามี’’ติ; ตสฺมา เอวมาห. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – ‘‘น, ภนฺเต, อิเม ภิกฺขู กมฺมารามา เอว, จีวรกิจฺจวเสน ปน เอวํ วสนฺตี’’ติ.

น โข, อานนฺทาติ, อานนฺท, กมฺมสมโย วา โหตุ อกมฺมสมโย วา, จีวรการสมโย วา โหตุ อจีวรการสมโย วา, อถ โข สงฺคณิการาโม ภิกฺขุ น โสภติเยว. มา ตฺวํ อนุปตฺถมฺภฏฺาเน อุปตฺถมฺโภ อโหสีติ. ตตฺถ สงฺคณิกาติ สกปริสสโมธานํ. คโณติ นานาชนสโมธานํ. อิติ สงฺคณิการาโม วา โหตุ คณาราโม วา, สพฺพถาปิ คณพาหุลฺลาภิรโต คณพนฺธนพทฺโธ ภิกฺขุ น โสภติ. ปจฺฉาภตฺเต ปน ทิวาฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา สุโธตหตฺถปาโท มูลกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา เอการามตมนุยุตฺโต ภิกฺขุ พุทฺธสาสเน โสภติ. เนกฺขมฺมสุขนฺติ กามโต นิกฺขนฺตสฺส สุขํ. ปวิเวกสุขมฺปิ กามปวิเวกสุขเมว. ราคาทีนํ ปน วูปสมตฺถาย สํวตฺตตีติ อุปสมสุขํ. มคฺคสมฺโพธตฺถาย สํวตฺตตีติ สมฺโพธิสุขํ. นิกามลาภีติ กามลาภี อิจฺฉิตลาภี. อกิจฺฉลาภีติ อทุกฺขลาภี. อกสิรลาภีติ วิปุลลาภี.

สามายิกนฺติ อปฺปิตปฺปิตสมเย กิเลเสหิ วิมุตฺตํ. กนฺตนฺติ มนาปํ. เจโตวิมุตฺตินฺติ รูปารูปาวจรจิตฺตวิมุตฺตึ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘จตฺตาริ จ ฌานานิ จตสฺโส จ อรูปสมาปตฺติโย, อยํ สามายิโก วิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๑๓). อสามายิกนฺติ น สมยวเสน กิเลเสหิ วิมุตฺตํ, อถ โข อจฺจนฺตวิมุตฺตํ โลกุตฺตรํ วุตฺตํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘จตฺตาโร จ อริยมคฺคา จตฺตาริ จ สามฺผลานิ, อยํ อสามายิโก วิโมกฺโข’’ติ. อกุปฺปนฺติ กิเลเสหิ อโกเปตพฺพํ.

เอตฺตาวตา กึ กถิตํ โหติ? สงฺคณิการาโม ภิกฺขุ คณพนฺธนพทฺโธ เนว โลกิยคุณํ, น จ โลกุตฺตรคุณํ นิพฺพตฺเตตุํ สกฺโกติ, คณํ วิโนเทตฺวา ปน เอกาภิรโต สกฺโกติ. ตถา หิ วิปสฺสี โพธิสตฺโต จตุราสีติยา ปพฺพชิตสหสฺเสหิ ปริวุโต สตฺต วสฺสานิ วิจรนฺโต สพฺพฺุคุณํ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขิ, คณํ วิโนเทตฺวา สตฺตทิวเส เอกีภาวาภิรโต โพธิมณฺฑํ อารุยฺห สพฺพฺุคุณํ นิพฺพตฺเตสิ. อมฺหากํ โพธิสตฺโต ปฺจวคฺคิเยหิ สทฺธึ ฉพฺพสฺสานิ วิจรนฺโต สพฺพฺุคุณํ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขิ, เตสุ ปกฺกนฺเตสุ เอกีภาวาภิรโต โพธิมณฺฑํ อารุยฺห สพฺพฺุคุณํ นิพฺพตฺเตสิ.

เอวํ สงฺคณิการามสฺส คุณาธิคมาภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ โทสุปฺปตฺตึ ทสฺเสนฺโต นาหํ อานนฺทาติอาทิมาห. ตตฺถ รูปนฺติ สรีรํ. ยตฺถ รตฺตสฺสาติ ยสฺมึ รูเป ราควเสน รตฺตสฺส. น อุปฺปชฺเชยฺยุนฺติ ยสฺมึ รูเป รตฺตสฺส น อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตํ รูปํ น สมนุปสฺสามิ, อถ โข สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานานํ ทสพลสาวกตฺตุปคมนสงฺขาเตน อฺถาภาเวน สฺจยสฺส วิย, อุปาลิคหปติโน อฺถาภาเวน นาฏปุตฺตสฺส วิย, ปิยชาติกสุตฺเต เสฏฺิอาทีนํ วิย จ อุปฺปชฺชนฺติเยว.

๑๘๗. อยํโข ปนานนฺทาติ โก อนุสนฺธิ? สเจ หิ โกจิ ทุพฺพุทฺธี นวปพฺพชิโต วเทยฺย – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ เขตฺตํ ปวิฏฺา คาวิโย วิย อมฺเหเยว คณโต นีหรติ, เอกีภาเว นิโยเชติ, สยํ ปน ราชราชมหามตฺตาทีหิ ปริวุโต วิหรตี’’ติ, ตสฺส วจโนกาสุปจฺเฉทนตฺถํ – ‘‘จกฺกวาฬปริยนฺตาย ปริสาย มชฺเฌ นิสินฺโนปิ ตถาคโต เอกโกวา’’ติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ สพฺพนิมิตฺตานนฺติ รูปาทีนํ สงฺขนิมิตฺตานํ. อชฺฌตฺตนฺติ วิสยชฺฌตฺตํ. สุฺตนฺติ สุฺตผลสมาปตฺตึ. ตตฺร เจติ อุปโยคตฺเถ ภุมฺมํ, ตํ เจติ วุตฺตํ โหติ. ปุน ตตฺราติ ตสฺมึ ปริสมชฺเฌ ิโต. วิเวกนินฺเนนาติ นิพฺพานนินฺเนน. พฺยนฺตีภูเตนาติ อาสวฏฺานียธมฺเมหิ วิคตนฺเตน นิสฺสเฏน วิสํยุตฺเตน. อุยฺโยชนิกปฏิสํยุตฺตนฺติ คจฺฉถ ตุมฺเหติ เอวํ อุยฺโยชนิเกน วจเนน ปฏิสํยุตฺตํ.

กาย ปน เวลาย ภควา เอวํ กเถติ? ปจฺฉาภตฺตกิจฺจเวลาย, วา ปุริมยามกิจฺจเวลาย วา. ภควา หิ ปจฺฉาภตฺเต คนฺธกุฏิยํ สีหเสยฺยํ กปฺเปตฺวา วุฏฺาย ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทติ. ตสฺมึ สมเย ธมฺมสฺสวนตฺถาย ปริสา สนฺนิปตนฺติ. อถ ภควา กาลํ วิทิตฺวา คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา พุทฺธาสนวรคโต ธมฺมํ เทเสตฺวา เภสชฺชเตลปากํ คณฺหนฺโต วิย กาลํ อนติกฺกมิตฺวา วิเวกนินฺเนน จิตฺเตน ปริสํ อุยฺโยเชติ . ปุริมยาเมปิ ‘‘อภิกฺกนฺตา โข วาเสฏฺา รตฺติ, ยสฺส ทานิ กาลํ มฺถา’’ติ (ที. นิ. ๓.๒๙๙) เอวํ อุยฺโยเชติ . พุทฺธานฺหิ โพธิปตฺติโต ปฏฺาย ทฺเว ปฺจวิฺาณานิปิ นิพฺพานนินฺนาเนว. ตสฺมาติหานนฺทาติ ยสฺมา สุฺตาวิหาโร สนฺโต ปณีโต, ตสฺมา.

๑๘๘. อชฺฌตฺตเมวาติ โคจรชฺฌตฺตเมว. อชฺฌตฺตํ สุฺตนฺติ อิธ นิยกชฺฌตฺตํ, อตฺตโน ปฺจสุ ขนฺเธสุ นิสฺสิตนฺติ อตฺโถ. สมฺปชาโน โหตีติ กมฺมฏฺานสฺส อสมฺปชฺชนภาวชานเนน สมฺปชาโน. พหิทฺธาติ ปรสฺส ปฺจสุ ขนฺเธสุ. อชฺฌตฺตพหิทฺธาติ กาเลน อชฺฌตฺตํ กาเลน พหิทฺธา . อาเนฺชนฺติ อุภโตภาควิมุตฺโต ภวิสฺสามาติ อาเนฺชํ อรูปสมาปตฺตึ มนสิ กโรติ.

ตสฺมึเยว ปุริมสฺมินฺติ ปาทกชฺฌานํ สนฺธาย วุตฺตํ. อปคุณปาทกชฺฌานโต วุฏฺิตสฺส หิ อชฺฌตฺตํ สุฺตํ มนสิกโรโต ตตฺถ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ. ตโต ‘‘ปรสฺส สนฺตาเน นุ โข กถ’’นฺติ พหิทฺธา มนสิ กโรติ, ตตฺถปิ น ปกฺขนฺทติ. ตโต – ‘‘กาเลน อตฺตโน สนฺตาเน, กาเลน ปรสฺส สนฺตาเน นุ โข กถ’’นฺติ อชฺฌตฺตพหิทฺธา มนสิ กโรติ, ตตฺถปิ น ปกฺขนฺทติ. ตโต อุภโตภาควิมุตฺโต โหตุกาโม ‘‘อรูปสมาปตฺติยํ นุ โข กถ’’นฺติ อาเนฺชํ มนสิ กโรติ, ตตฺถปิ น ปกฺขนฺทติ. อิทานิ – ‘‘น เม จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ วิสฺสฏฺวีริเยน อุปฏฺากาทีนํ ปจฺฉโต น จริตพฺพํ, ปาทกชฺฌานเมว ปน สาธุกํ ปุนปฺปุนํ มนสิกาตพฺพํ. เอวมสฺส รุกฺเข ฉินฺทโต ผรสุมฺหิ อวหนฺเต ปุน นิสิตํ กาเรตฺวา ฉินฺทนฺตสฺส ฉิชฺเชสุ ผรสุ วิย กมฺมฏฺาเน มนสิกาโร วหตี’’ติ ทสฺเสตุํ ตสฺมึเยวาติอาทิมาห. อิทานิสฺส เอวํ ปฏิปนฺนสฺส ยํ ยํ มนสิ กโรติ, ตตฺถ ตตฺถ มนสิกาโร สมฺปชฺชตีติ ทสฺเสนฺโต ปกฺขนฺทตีติ อาห.

๑๘๙. อิมินา วิหาเรนาติ อิมินา สมถวิปสฺสนาวิหาเรน. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโนติ อิติ จงฺกมนฺโตปิ ตสฺมึ กมฺมฏฺาเน สมฺปชฺชมาเน ‘‘สมฺปชฺชติ เม กมฺมฏฺาน’’นฺติ ชานเนน สมฺปชาโน โหติ. สยตีติ นิปชฺชติ. เอตฺถ กฺจิ กาลํ จงฺกมิตฺวา – ‘‘อิทานิ เอตฺตกํ กาลํ จงฺกมิตุํ สกฺขิสฺสามี’’ติ ตฺวา อิริยาปถํ อหาเปตฺวา าตพฺพํ. เอส นโย สพฺพวาเรสุ . น กเถสฺสามีติ, อิติห ตตฺถาติ เอวํ น กเถสฺสามีติ ชานเนน ตตฺถ สมฺปชานการี โหติ.

ปุน ทุติยวาเร เอวรูปึ กถํ กเถสฺสามีติ ชานเนน สมฺปชานการี โหติ, อิมสฺส ภิกฺขุโน สมถวิปสฺสนา ตรุณาว, ตาสํ อนุรกฺขณตฺถํ –

‘‘อาวาโส โคจโร ภสฺสํ, ปุคฺคโล อถ โภชนํ;

อุตุ อิริยาปโถ เจว, สปฺปาโย เสวิตพฺพโก’’ติ.

สตฺต สปฺปายานิ อิจฺฉิตพฺพานิ. เตสํ ทสฺสนตฺถมิทํ วุตฺตํ. วิตกฺกวาเรสุ อวิตกฺกนสฺส จ วิตกฺกนสฺส จ ชานเนน สมฺปชานตา เวทิตพฺพา.

๑๙๐. อิติ วิตกฺกปหาเนน ทฺเว มคฺเค กเถตฺวา อิทานิ ตติยมคฺคสฺส วิปสฺสนํ อาจิกฺขนฺโต ปฺจ โข อิเม, อานนฺท, กามคุณาติอาทิมาห. อายตเนติ เตสุเยว กามคุเณสุ กิสฺมิฺจิเทว กิเลสุปฺปตฺติการเณ. สมุทาจาโรติ สมุทาจรณโต อปฺปหีนกิเลโส. เอวํสนฺตนฺติ เอวํ วิชฺชมานเมว. สมฺปชาโนติ กมฺมฏฺานสฺส อสมฺปตฺติชานเนน สมฺปชาโน. ทุติยวาเร เอวํ สนฺตเมตนฺติ เอวํ สนฺเต เอตํ. สมฺปชาโนติ กมฺมฏฺานสมฺปตฺติชานเนน สมฺปชาโน. อยฺหิ ‘‘ปหีโน นุ โข เม ปฺจสุ กามคุเณสุ ฉนฺทราโค โน’’ติ ปจฺจเวกฺขมาโน อปหีนภาวํ ตฺวา วีริยํ ปคฺคเหตฺวา ตํ อนาคามิมคฺเคน สมุคฺฆาเฏติ, ตโต มคฺคานนฺตรํ ผลํ, ผลโต วุฏฺาย ปจฺจเวกฺขมาโน ปหีนภาวํ ชานาติ, ตสฺส ชานเนน ‘‘สมฺปชาโน โหตี’’ติ วุตฺตํ.

๑๙๑. อิทานิ อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนํ อาจิกฺขนฺโต ปฺจ โข อิเม, อานนฺท, อุปาทานกฺขนฺธาติอาทิมาห. ตตฺถ โส ปหียตีติ รูเป อสฺมีติ มาโน อสฺมีติ ฉนฺโท อสฺมีติ อนุสโย ปหียติ. ตถา เวทนาทีสุ สมฺปชานตา วุตฺตนาเยเนว เวทิตพฺพา.

อิเม โข เต, อานนฺท, ธมฺมาติ เหฏฺา กถิเต สมถวิปสฺสนามคฺคผลธมฺเม สนฺธายาห. กุสลายติกาติ กุสลโต อาคตา. กุสลา หิ กุสลาปิ โหนฺติ กุสลายติกาปิ, เสยฺยถิทํ, ปมชฺฌานํ กุสลํ, ทุติยชฺฌานํ กุสลฺเจว กุสลายติกฺจ…เป… อากิฺจฺายตนํ กุสลํ, เนวสฺานาสฺายตนํ กุสลฺเจว กุสลายติกฺจ, เนวสฺานาสฺายตนํ กุสลํ, โสตาปตฺติมคฺโค กุสโล เจว กุสลายติโก จ…เป… อนาคามิมคฺโค กุสโล, อรหตฺตมคฺโค กุสโล เจว กุสลายติโก จ. ตถา ปมชฺฌานํ กุสลํ, ตํสมฺปยุตฺตกา ธมฺมา กุสลา เจว กุสลายติกา จ…เป… อรหตฺตมคฺโค กุสโล, ตํสมฺปยุตฺตกา ธมฺมา กุสลา เจว กุสลายติกา จ.

อริยาติ นิกฺกิเลสา วิสุทฺธา. โลกุตฺตราติ โลเก อุตฺตรา วิสิฏฺา. อนวกฺกนฺตาปาปิมตาติ ปาปิมนฺเตน มาเรน อโนกฺกนฺตา. วิปสฺสนาปาทกา อฏฺ สมาปตฺติโย อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส หิ ภิกฺขุโน จิตฺตํ มาโร น ปสฺสติ, ‘‘อิทํ นาม อารมฺมณํ นิสฺสาย สํวตฺตตี’’ติ ชาติตุํ น สกฺโกติ. ตสฺมา ‘‘อนวกฺกนฺตา’’ติ วุตฺตํ.

ตํ กึ มฺสีติ อิทํ กสฺมา อาห? คเณปิ เอโก อานิสํโส อตฺถิ, ตํ ทสฺเสตุํ อิทมาห. อนุพนฺธิตุนฺติ อนุคจฺฉิตุํ ปริจริตุํ.

น โข, อานนฺทาติ เอตฺถ กิฺจาปิ ภควตา – ‘‘สุตาวุโธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ, สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรตี’’ติ (อ. นิ. ๗.๖๗) พหุสฺสุโต ปฺจาวุธสมฺปนฺโน โยโธ วิย กโต. ยสฺมา ปน โส สุตปริยตฺตึ อุคฺคเหตฺวาปิ ตทนุจฺฉวิกํ อนุโลมปฏิปทํ น ปฏิปชฺชติ, น ตสฺส ตํ อาวุธํ โหติ. โย ปฏิปชฺชติ, ตสฺเสว โหติ. ตสฺมา เอตทตฺถํ อนุพนฺธิตุํ นารหตีติ ทสฺเสนฺโต น โข, อานนฺทาติ อาห.

อิทานิ ยทตฺถํ อนุพนฺธิตพฺโพ, ตํ ทสฺเสตุํ ยา จ โขติอาทิมาห. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต ตีสุ าเนสุ ทส กถาวตฺถูนิ อาคตานิ. ‘‘อิติ เอวรูปํ กถํ กเถสฺสามี’’ติ สปฺปายาสปฺปายวเสน อาคตานิ, ‘‘ยทิทํ สุตฺตํ เคยฺย’’นฺติ เอตฺถ สุตปริยตฺติวเสน อาคตานิ, อิมสฺมึ าเน ปริปูรณวเสน อาคตานิ. ตสฺมา อิมสฺมึ สุตฺเต ทส กถาวตฺถูนิ กเถนฺเตน อิมสฺมึ าเน ตฺวา กเถตพฺพานิ.

อิทานิ ยสฺมา เอกจฺจสฺส เอกกสฺส วิหรโตปิ อตฺโถ น สมฺปชฺชติ, ตสฺมา ตํ สนฺธาย เอกีภาเว อาทีนวํ ทสฺเสนฺโต เอวํ สนฺเต โข, อานนฺทาติอาทิมาห. ตตฺถ เอวํ สนฺเตติ เอวํ เอกีภาเว สนฺเต.

๑๙๓. สตฺถาติ พาหิรโก ติตฺถกรสตฺถา. อนฺวาวตฺตนฺตีติ อนุอาวตฺตนฺติ อุปสงฺกมนฺติ. มุจฺฉํ กามยตีติ มุจฺฉนตณฺหํ ปตฺเถติ, ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. อาจริยูปทฺทเวนาติ อพฺภนฺตเร อุปฺปนฺเนน กิเลสูปทฺทเวน อาจริยสฺสุปทฺทโว. เสสุปทฺทเวสุปิ เอเสว นโย. อวธึสุ นนฺติ มารยึสุ นํ. เอเตน หิ คุณมรณํ กถิตํ.

วินิปาตายาติ สุฏฺุ นิปตนาย. กสฺมา ปน พฺรหฺมจารุปทฺทโวว – ‘‘ทุกฺขวิปากตโร จ กฏุกวิปากตโร จ วินิปาตาย จ สํวตฺตตี’’ติ วุตฺโตติ. พาหิรปพฺพชฺชา หิ อปฺปลาภา, ตตฺถ มหนฺโต นิพฺพตฺเตตพฺพคุโณ นตฺถิ, อฏฺสมาปตฺติปฺจาภิฺามตฺตกเมว โหติ. อิติ ยถา คทฺรภปิฏฺิโต ปติตสฺส มหนฺตํ ทุกฺขํ น โหติ, สรีรสฺส ปํสุมกฺขนมตฺตเมว โหติ, เอวํ พาหิรสมเย โลกิยคุณมตฺตโตว ปริหายติ, เตน ปุริมํ อุปทฺทวทฺวยํ น เอวํ วุตฺตํ. สาสเน ปน ปพฺพชฺชา มหาลาภา, ตตฺถ จตฺตาโร มคฺคา จตฺตาริ ผลานิ นิพฺพานนฺติ มหนฺตา อธิคนฺตพฺพคุณา. อิติ ยถา อุภโต สุชาโต ขตฺติยกุมาโร หตฺถิกฺขนฺธวรคโต นครํ อนุสฺจรนฺโต หตฺถิกฺขนฺธโต ปติโต มหาทุกฺขํ นิคจฺฉติ, เอวํ สาสนโต ปริหายมาโน นวหิ โลกุตฺตรคุเณหิ ปริหายติ. เตนายํ พฺรหฺมจารุปทฺทโว เอวํ วุตฺโต.

๑๙๖. ตสฺมาติ ยสฺมา เสสุปทฺทเวหิ พฺรหฺมจารุปทฺทโว ทุกฺขวิปากตโร, ยสฺมา วา สปตฺตปฏิปตฺตึ วีติกฺกมนฺโต ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตติ, มิตฺตปฏิปตฺติ หิตาย, ตสฺมา. เอวํ อุปริเมนปิ เหฏฺิเมนปิ อตฺเถน โยเชตพฺพํ. มิตฺตวตายาติ มิตฺตปฏิปตฺติยา. สปตฺตวตายาติ เวรปฏิปตฺติยา.

โวกฺกมฺมจ สตฺถุสาสนาติ ทุกฺกฏทุพฺภาสิตมตฺตมฺปิ หิ สฺจิจฺจ วีติกฺกมนฺโต โวกฺกมฺม วตฺตติ นาม. ตเทว อวีติกฺกมนฺโต น โวกฺกมฺม วตฺตติ นาม.

น โว อหํ, อานนฺท, ตถา ปรกฺกมิสฺสามีติ อหํ ตุมฺเหสุ ตถา น ปฏิปชฺชิสฺสามิ. อามเกติ อปกฺเก. อามกมตฺเตติ อามเก นาติสุกฺเข ภาชเน. กุมฺภกาโร หิ อามกํ นาติสุกฺขํ อปกฺกํ อุโภหิ หตฺเถหิ สณฺหิกํ คณฺหาติ ‘‘มา ภิชฺชตู’’ติ. อิติ ยถา กุมฺภกาโร ตตฺถ ปฏิปชฺชติ, นาหํ ตุมฺเหสุ ตถา ปฏิปชฺชิสฺสามิ. นิคฺคยฺห นิคฺคยฺหาติ สกึ โอวทิตฺวา ตุณฺหี น ภวิสฺสามิ, นิคฺคณฺหิตฺวา นิคฺคณฺหิตฺวา ปุนปฺปุนํ โอวทิสฺสามิ อนุสาสิสฺสามิ. ปวยฺห ปวยฺหาติ โทเส ปวาเหตฺวา ปวาเหตฺวา. ยถา ปกฺกภาชเนสุ กุมฺภกาโร ภินฺนฉินฺนชชฺชรานิ ปวาเหตฺวา เอกโต กตฺวา สุปกฺกาเนว อาโกเฏตฺวา อาโกเฏตฺวา คณฺหาติ, เอวเมว อหมฺปิ ปวาเหตฺวา ปวาเหตฺวา ปุนปฺปุนํ โอวทิสฺสามิ อนุสาสิสฺสามิ. โยสาโร โส สฺสตีติ เอวํ โว มยา โอวทิยมานานํ โย มคฺคผลสาโร, โส สฺสติ. อปิจ โลกิยคุณาปิ อิธ สาโรตฺเวว อธิปฺเปตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

มหาสุฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อจฺฉริยอพฺภุตสุตฺตวณฺณนา

๑๙๗. เอวํเม สุตนฺติ อจฺฉริยอพฺภุตสุตฺตํ. ตตฺถ ยตฺร หิ นามาติ อจฺฉริยตฺเถ นิปาโต. โย นาม ตถาคโตติ อตฺโถ. ฉินฺนปปฺเจติ เอตฺถ ปปฺจา นาม ตณฺหา มาโน ทิฏฺีติ อิเม ตโย กิเลสา. ฉินฺนวฏุเมติ เอตฺถ วฏุมนฺติ กุสลากุสลกมฺมวฏฺฏํ วุจฺจติ. ปริยาทินฺนวฏฺเฏติ ตสฺเสว เววจนํ. สพฺพทุกฺขวีติวตฺเตติ สพฺพํ วิปากวฏฺฏสงฺขาตํ ทุกฺขํ วีติวตฺเต. อนุสฺสริสฺสตีติ อิทํ ยตฺราติ นิปาตวเสน อนาคตวจนํ, อตฺโถ ปเนตฺถ อตีตวเสน เวทิตพฺโพ. ภควา หิ เต พุทฺเธ อนุสฺสริ, น อิทานิ อนุสฺสริสฺสติ. เอวํชจฺจาติ วิปสฺสีอาทโย ขตฺติยชจฺจา, กกุสนฺธาทโย พฺราหฺมณชจฺจาติ. เอวํโคตฺตาติ วิปสฺสีอาทโย โกณฺฑฺโคตฺตา, กกุสนฺธาทโย กสฺสปโคตฺตาติ. เอวํสีลาติ โลกิยโลกุตฺตรสีเลน เอวํสีลา. เอวํธมฺมาติ เอตฺถ สมาธิปกฺขา ธมฺมา อธิปฺเปตา . โลกิยโลกุตฺตเรน สมาธินา เอวํสมาธิโนติ อตฺโถ. เอวํปฺาติ โลกิยโลกุตฺตรปฺาย เอวํปฺา. เอวํวิหารีติ เอตฺถ ปน เหฏฺา สมาธิปกฺขานํ ธมฺมานํ คหิตตฺตา วิหาโร คหิโตว, ปุน กสฺมา คหิตเมว คณฺหาตีติ เจ, น อิทํ คหิตเมว. อิทฺหิ นิโรธสมาปตฺติทีปนตฺถํ, ตสฺมา เอวํนิโรธสมาปตฺติวิหารีติ อยเมตฺถ อตฺโถ.

เอวํวิมุตฺตาติ เอตฺถ วิกฺขมฺภนวิมุตฺติ ตทงฺควิมุตฺติ สมุจฺเฉทวิมุตฺติ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺติ นิสฺสรณวิมุตฺตีติ ปฺจวิธา วิมุตฺติโย. ตตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย สยํ วิกฺขมฺภิเตหิ นีวรณาทีหิ วิมุตฺตตฺตา วิกฺขมฺภนวิมุตฺตีติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ. อนิจฺจานุปสฺสนาทิกา สตฺต อนุปสฺสนา สยํ ตสฺส ตสฺส ปจฺจนีกงฺควเสน ปริจตฺตาหิ นิจฺจสฺาทีหิ วิมุตฺตตฺตา ตทงฺควิมุตฺตีติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ. จตฺตาโร อริยมคฺคา สยํ สมุจฺฉินฺเนหิ กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา สมุจฺเฉทวิมุตฺตีติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ. จตฺตาริ สามฺผลานิ มคฺคานุภาเวน กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺตีติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ. นิพฺพานํ สพฺพกิเลเสหิ นิสฺสฏตฺตา อปคตตฺตา ทูเร ิตตฺตา นิสฺสรณวิมุตฺตีติ สงฺขํ คตํ. อิติ อิมาสํ ปฺจนฺนํ วิมุตฺตีนํ วเสน เอวํวิมุตฺตาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๑๙๙. ตสฺมาติหาติ ยสฺมา ตฺวํ ‘‘ตถาคตา อจฺฉริยา’’ติ วทสิ, ตสฺมา ตํ ภิยฺโยโส มตฺตาย ปฏิภนฺตุ ตถาคตสฺส อจฺฉริยา อพฺภุตธมฺมาติ. สโต สมฺปชาโนติ เอตฺถ ทฺเวสมฺปชฺานิ มนุสฺสโลเก เทวโลเก จ. ตตฺถ เวสฺสนฺตรชาตเก พฺราหฺมณสฺส ทฺเว ปุตฺเต ทตฺวา ปุนทิวเส สกฺกสฺส เทวึ ทตฺวา สกฺเกน ปสีทิตฺวา ทินฺเน อฏฺ วเร คณฺหนฺโต –

‘‘อิโต วิมุจฺจมานาหํ, สคฺคคามี วิเสสคู;

อนิวตฺตี ตโต อสฺสํ, อฏฺเมตํ วรํ วเร’’ติ. (ชา. ๒.๒๒.๒๓๐๐) –

เอวํ ตุสิตภวเน เม ปฏิสนฺธิ โหตูติ วรํ อคฺคเหสิ, ตโต ปฏฺาย ตุสิตภวเน อุปฺปชฺชิสฺสามีติ ชานาติ, อิทํ มนุสฺสโลเก สมฺปชฺํ. เวสฺสนฺตรตฺตภาวโต ปน จุโต ปุน ตุสิตภวเน นิพฺพตฺติตฺวา นิพฺพตฺโตสฺมีติ อฺาสิ, อิทํ เทวโลเก สมฺปชฺํ.

กึ ปน เสสเทวตา น ชานนฺตีติ? โน น ชานนฺติ. ตา ปน อุยฺยานวิมานกปฺปรุกฺเข โอโลเกตฺวา เทวนาฏเกหิ ตูริยสทฺเทน ปโพธิตา ‘‘มาริส อยํ เทวโลโก ตุมฺเห อิธ นิพฺพตฺตา’’ติ สาริตา ชานนฺติ. โพธิสตฺโต ปมชวนวาเร น ชานาติ, ทุติยชวนโต ปฏฺาย ชานาติ. อิจฺจสฺส อฺเหิ อสาธารณชานนํ โหติ.

อฏฺาสีติ เอตฺถ กิฺจาปิ อฺเปิ เทวา ตตฺถ ิตา ิตมฺหาติ ชานนฺติ, เต ปน ฉสุ ทฺวาเรสุ พลวตา อิฏฺารมฺมเณน อภิภุยฺยมานา สตึ วิสฺสชฺเชตฺวา อตฺตโน ภุตฺตปีตภาวมฺปิ อชานนฺตา อาหารูปจฺเฉเทน กาลํ กโรนฺติ. โพธิสตฺตสฺส กึ ตถารูปํ อารมฺมณํ นตฺถีติ? โน นตฺถิ. โส หิ เสสเทเว ทสหิ าเนหิ อธิคฺคณฺหาติ, อารมฺมเณน ปน อตฺตานํ มทฺทิตุํ น เทติ, ตํ อารมฺมณํ อภิภวิตฺวา ติฏฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สโต สมฺปชาโน, อานนฺท, โพธิสตฺโต ตุสิเต กาเย อฏฺาสี’’ติ.

๒๐๐. ยาวตายุกนฺติ เสสตฺตภาเวสุ กึ ยาวตายุกํ น ติฏฺตฺตีติ? อาม น ติฏฺติ. อฺทา หิ ทีฆายุกเทวโลเก นิพฺพตฺโต ตตฺถ ปารมิโย น สกฺกา ปูเรตุนฺติ อกฺขีนิ นิมีเลตฺวา อธิมุตฺติกาลํกิริยํ นาม กตฺวา มนุสฺสโลเก นิพฺพตฺตติ . อยํ กาลงฺกิริยา อฺเสํ น โหติ. ตทา ปน อทินฺนทานํ นาม นตฺถิ, อรกฺขิตสีลํ นาม นตฺถิ, สพฺพปารมีนํ ปูริตตฺตา ยาวตายุกํ อฏฺาสิ.

สโต สมฺปชาโน ตุสิตา กายา จวิตฺวา มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมตีติ เอวํ ตาว สพฺพปารมิโย ปูเรตฺวา ตทา โพธิสตฺโต ยาวตายุกํ อฏฺาสิ. เทวตานํ ปน – ‘‘มนุสฺสคณนาวเสน อิทานิ สตฺตหิ ทิวเสหิ จุติ ภวิสฺสตี’’ติ ปฺจ ปุพฺพนิมิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ – มาลา มิลายนฺติ, วตฺถานิ กิลิสฺสนฺติ, กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจนฺติ, กาเย ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกมติ, เทโว เทวาสเน น สณฺาติ.

ตตฺถ มาลาติ ปฏิสนฺธิคฺคหณทิวเส ปิฬนฺธนมาลา. ตา กิร สฏฺิสตสหสฺสาธิกา สตฺตปณฺณาส-วสฺสโกฏิโย อมิลายิตฺวา ตทา มิลายนฺติ. วตฺเถสุปิ เอเสว นโย. เอตฺตกํ ปน กาลํ เทวานํ เนว สีตํ น อุณฺหํ โหติ, ตสฺมึ กาเล สรีรโต พินฺทุพินฺทุวเสน เสทา มุจฺจนฺติ. เอตฺตกฺจ กาลํ เตสํ สรีเร ขณฺฑิจฺจปาลิจฺจาทิวเสน วิวณฺณตา น ปฺายติ, เทวธีตา โสฬสวสฺสุทฺเทสิกา วิย, เทวปุตฺตา วีสติวสฺสุทฺเทสิกา วิย ขายนฺติ. มรณกาเล ปน เนสํ กิลนฺตรูโป อตฺตภาโว โหติ. เอตฺตกฺจ เนสํ กาลํ เทวโลเก อุกฺกณฺิตา นาม นตฺถิ, มรณกาเล ปน นิสฺสสนฺติ วิชมฺภนฺติ, สเก อาสเน นาภิรมนฺติ.

อิมานิ ปน ปุพฺพนิมิตฺตานิ, ยถา โลเก มหาปุฺานํ ราชราชมหามตฺตาทีนํเยว อุกฺกาปาตภูมิจาลจนฺทคฺคาหาทีนิ นิมิตฺตานิ ปฺายนฺติ, น สพฺเพสํ, เอวเมว มเหสกฺขานํ เทวตานํเยว ปฺายนฺติ, น สพฺเพสํ. ยถา จ มนุสฺเสสุ ปุพฺพนิมิตฺตานิ นกฺขตฺตปากาทโยว ชานนฺติ, น สพฺเพ, เอวเมว ตานิปิ สพฺเพ เทวา น ชานนฺติ, ปณฺฑิตา เอว ปน ชานนฺติ. ตตฺถ เย จ มนฺเทน กุสลกมฺเมน นิพฺพตฺตา เทวปุตฺตา, เต เตสุ อุปฺปนฺเนสุ – ‘‘อิทานิ โก ชานาติ, กุหึ นิพฺพตฺติสฺสามา’’ติ ภายนฺติ. เย มหาปุฺา, เต – ‘‘อมฺเหหิ ทินฺนํ ทานํ รกฺขิตํ สีลํ ภาวิตํ ภาวนํ อาคมฺม อุปริเทวโลเกสุ สมฺปตฺตึ อนุภวิสฺสามา’’ติ น ภายนฺติ. โพธิสตฺโตปิ ตานิ ปุพฺพนิมิตฺตานิ ทิสฺวา ‘‘อิทานิ อนนฺตเร อตฺตภาเว พุทฺโธ ภวิสฺสามี’’ติ น ภายิ. อถสฺส เตสุ นิมิตฺเตสุ ปาตุภูเตสุ ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตา สนฺนิปติตฺวา – ‘‘มาริส ตุมฺเหหิ ทส ปารมิโย ปูเรนฺเตหิ น สกฺกสมฺปตฺตึ น มารพฺรหฺมจกฺกวตฺติสมฺปตฺตึ ปตฺเถนฺเตหิ ปูริตา, โลกนิตฺถรณตฺถาย ปน พุทฺธตฺตํ ปตฺถยมาเนหิ ปูริตา. โส โว อิทานิ กาโล มาริส พุทฺธตฺตาย, สมโย มาริส พุทฺธตฺตายา’’ติ ยาจนฺติ.

อถ มหาสตฺโต เทวตานํ ปฏิฺํ อทตฺวาว กาลทีปเทสกุลชเนตฺติอายุปริจฺเฉทวเสน ปฺจมหาวิโลกนํ นาม วิโลเกสิ. ตตฺถ ‘‘กาโล นุ โข, น กาโล’’ติ ปมํ กาลํ วิโลเกสิ. ตตฺถ วสฺสสตสหสฺสโต อุทฺธํ วฑฺฒิตอายุกาโล กาโล นาม น โหติ. กสฺมา? ตทา หิ สตฺตานํ ชาติชรามรณานิ น ปฺายนฺติ, พุทฺธานฺจ ธมฺมเทสนา นาม ติลกฺขณมุตฺตา นตฺถิ, เตสํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ กเถนฺตานํ ‘‘กึ นาเมตํ กเถนฺตี’’ติ เนว โสตุํ น สทฺธาตุํ มฺนฺติ, ตโต อภิสมโย น โหติ, ตสฺมึ อสติ อนิยฺยานิกํ สาสนํ โหติ. ตสฺมา โส อกาโล. วสฺสสตโต อูนอายุกาโลปิ กาโล นาม น โหติ. กสฺมา? ตทา หิ สตฺตา อุสฺสนฺนกิเลสา โหนฺติ, อุสฺสนฺนกิเลสานฺจ ทินฺโนวาโท โอวาทฏฺาเน น ติฏฺติ. อุทเก ทณฺฑราชิ วิย ขิปฺปํ วิคจฺฉติ. ตสฺมา โสปิ อกาโล. สตสหสฺสโต ปน ปฏฺาย เหฏฺา วสฺสสตโต ปฏฺาย อุทฺธํ อายุกาโล กาโล นาม. ตทา จ วสฺสสตกาโล โหติ. อถ มหาสตฺโต ‘‘นิพฺพตฺติตพฺพกาโล’’ติ กาลํ ปสฺสิ.

ตโต ทีปํ วิโลเกนฺโต สปริวาเร จตฺตาโร ทีเป โอโลเกตฺวา – ‘‘ตีสุ ทีเปสุ พุทฺธา น นิพฺพตฺตนฺติ, ชมฺพุทีเปเยว นิพฺพตฺตนฺตี’’ติ ทีปํ ปสฺสิ.

ตโต – ‘‘ชมฺพุทีโป นาม มหา, ทสโยชนสหสฺสปริมาโณ, กตรสฺมึ นุ โข ปเทเส พุทฺธา นิพฺพตฺตนฺตี’’ติ เทสํ วิโลเกนฺโต มชฺฌิมเทสํ ปสฺสิ. มชฺฌิมเทโส นาม ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย คชงฺคลํ นาม นิคโม’’ติอาทินา นเยน วินเย (มหาว. ๒๕๙) วุตฺโตว. โส ปน อายามโต ตีณิ โยชนสตานิ. วิตฺถารโต อฑฺฒติยานิ, ปริกฺเขปโต นวโยชนสตานีติ. เอตสฺมิฺหิ ปเทเส จตฺตาริ อฏฺ โสฬส วา อสงฺขฺเยยฺยานิ, กปฺปสตสหสฺสฺจ ปารมิโย ปูเรตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺธา อุปฺปชฺชนฺติ. ทฺเว อสงฺขฺเยยฺยานิ, กปฺปสตสหสฺสฺจ ปารมิโย ปูเรตฺวา ปจฺเจกพุทฺธา อุปฺปชฺชนฺติ, เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ, กปฺปสตสหสฺสฺจ ปารมิโย ปูเรตฺวา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาทโย มหาสาวกา อุปฺปชฺชนฺติ, จตุนฺนํ มหาทีปานํ ทฺวิสหสฺสานํ ปริตฺตทีปานฺจ อิสฺสริยาธิปจฺจการกจกฺกวตฺติราชาโน อุปฺปชฺชนฺติ, อฺเ จ มเหสกฺขา ขตฺติยพฺราหฺมณคหปติมหาสาลา อุปฺปชฺชนฺติ. อิทฺเจตฺถ กปิลวตฺถุ นาม นครํ, ตตฺถ มยา นิพฺพตฺติตพฺพนฺติ นิฏฺมคมาสิ.

ตโต กุลํ วิโลเกนฺโต – ‘‘พุทฺธา นาม โลกสมฺมเต กุเล นิพฺพตฺตนฺติ, อิทานิ จ ขตฺติยกุลํ โลกสมฺมตํ, ตตฺถ นิพฺพตฺติสฺสามิ, สุทฺโธทโน นาม ราชา เม ปิตา ภวิสฺสตี’’ติ กุลํ ปสฺสิ.

ตโต มาตรํ วิโลเกนฺโต – ‘‘พุทฺธมาตา นาม โลลา สุราธุตฺตา น โหติ, กปฺปสตสหสฺสํ ปูริตปารมี ชาติโต ปฏฺาย อขณฺฑปฺจสีลา โหติ, อยฺจ มหามายา นาม เทวี เอทิสา. อยํ เม มาตา ภวิสฺสติ. กิตฺตกํ ปนสฺสา อายู’’ติ อาวชฺชนฺโต – ‘‘ทสนฺนํ มาสานํ อุปริ สตฺต ทิวสานี’’ติ ปสฺสิ.

อิติ อิมํ ปฺจมหาวิโลกนํ วิโลเกตฺวา – ‘‘กาโล เม มาริสา พุทฺธภาวายา’’ติ เทวตานํ สงฺคหํ กโรนฺโต ปฏิฺํ ทตฺวา ‘‘คจฺฉถ ตุมฺเห’’ติ ตา เทวตา อุยฺโยเชตฺวา ตุสิตเทวตาหิ ปริวุโต ตุสิตปุเร นนฺทนวนํ ปาวิสิ. สพฺพเทวโลเกสุ หิ นนฺทนวนํ อตฺถิเยว. ตตฺถ นํ เทวตา – ‘‘อิโต จุโต สุคตึ คจฺฉ, อิโต จุโต สุคตึ คจฺฉา’’ติ ปุพฺเพกตกุสลกมฺโมกาสํ สารยมานา วิจรนฺติ. โส เอวํ เทวตาหิ กุสลํ สารยมานาหิ ปริวุโต ตตฺถ วิจรนฺโตว จวิ.

เอวํ จุโต จวามีติ ปชานาติ, จุติจิตฺตํ น ชานาติ. ปฏิสนฺธึ คเหตฺวาปิ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ น ชานาติ, อิมสฺมึ เม าเน ปฏิสนฺธิ คหิตาติ เอวํ ปน ชานาติ. เกจิ ปน เถรา ‘‘อาวชฺชนปริยาโย นาม ลทฺธุํ วฏฺฏติ, ทุติยตติยจิตฺตวาเรเยว ชานิสฺสตี’’ติ วทนฺติ. ติปิฏกมหาสีวตฺเถโร ปนาห – ‘‘มหาสตฺตานํ ปฏิสนฺธิ น อฺเสํ ปฏิสนฺธิสทิสา, โกฏิปฺปตฺตํ เตสํ สติสมฺปชฺํ. ยสฺมา ปน เตเนว จิตฺเตน ตํ จิตฺตํ าตุํ น สกฺกา, ตสฺมา จุติจิตฺตํ น ชานาติ. จุติกฺขเณปิ จวามีติ ปชานาติ, ปฏิสนฺธึ คเหตฺวาปิ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ น ชานาติ, อสุกสฺมึ าเน ปฏิสนฺธิ คหิตาติ ปชานาติ, ตสฺมึ กาเล ทสสหสฺสี กมฺปตี’’ติ. เอวํ สโต สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมนฺโต ปน เอกูนวีสติยา ปฏิสนฺธิจิตฺเตสุ เมตฺตาปุพฺพภาคสฺส โสมนสฺส-สหคต-าณสมฺปยุตฺต-อสงฺขาริก-กุสลจิตฺตสฺส สทิสมหาวิปากจิตฺเตน ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. มหาสีวตฺเถโร ปน ‘‘อุเปกฺขาสหคเตนา’’ติ อาห.

ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺโต ปน อาสาฬฺหีปุณฺณมายํ อุตฺตราสาฬฺหนกฺขตฺเตน อคฺคเหสิ. ตทา กิร มหามายา ปุเร ปุณฺณมาย สตฺตมทิวสโต ปฏฺาย วิคตสุราปานํ มาลาคนฺธวิภูสนสมฺปนฺนํ นกฺขตฺตกีฬํ อนุภวมานา สตฺตเม ทิวเส ปาโต วุฏฺาย คนฺโธทเกน นฺหายิตฺวา สพฺพาลงฺการวิภูสิตา วรโภชนํ ภุฺชิตฺวา อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย สิรีคพฺภํ ปวิสิตฺวา สิรีสยเน นิปนฺนา นิทฺทํ โอกฺกมมานา อิทํ สุปินํ อทฺทส – ‘‘จตฺตาโร กิร นํ มหาราชาโน สยเนเนว สทฺธึ อุกฺขิปิตฺวา อโนตตฺตทหํ เนตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. อถ เนสํ เทวิโย อาคนฺตฺวา มนุสฺสมลหรณตฺถํ นฺหาเปตฺวา ทิพฺพวตฺถํ นิวาเสตฺวา คนฺเธหิ วิลิมฺเปตฺวา ทิพฺพปุปฺผานิ ปิฬนฺธิตฺวา ตโต อวิทูเร รชตปพฺพโต, ตสฺส อนฺโต กนกวิมานํ อตฺถิ, ตสฺมึ ปาจีนโต สีสํ กตฺวา นิปชฺชาเปสุํ. อถ โพธิสตฺโต เสตวรวารโณ หุตฺวา ตโต อวิทูเร เอโก สุวณฺณปพฺพโต, ตตฺถ จริตฺวา ตโต โอรุยฺห รชตปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา อุตฺตรทิสโต อาคมฺม กนกวิมานํ ปวิสิตฺวา มาตรํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ทกฺขิณปสฺสํ ผาเลตฺวา กุจฺฉึ ปวิฏฺสทิโส อโหสิ.

อถ ปพุทฺธา เทวี ตํ สุปินํ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ปภาตาย รตฺติยา จตุสฏฺิมตฺเต พฺราหฺมณปาโมกฺเข ปกฺโกสาเปตฺวา หริตูปลิตฺตาย ลาชาทีหิ กตมงฺคลสกฺการาย ภูมิยา มหารหานิ อาสนานิ ปฺาเปตฺวา ตตฺถ นิสินฺนานํ พฺราหฺมณานํ สปฺปิมธุสกฺกราภิสงฺขารสฺส วรปายาสสฺส สุวณฺณรชตปาติโย ปูเรตฺวา สุวณฺณรชตปาตีติเหว ปฏิกุชฺชิตฺวา อทาสิ, อฺเหิ จ อหตวตฺถกปิลคาวีทานาทีหิ เต สนฺตปฺเปสิ. อถ เนสํ สพฺพกามสนฺตปฺปิตานํ สุปินํ อาโรจาเปตฺวา – ‘‘กึ ภวิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉิ. พฺราหฺมณา อาหํสุ – ‘‘มา จินฺตยิ มหาราช, เทวิยา เต กุจฺฉิมฺหิ คพฺโภ ปติฏฺิโต, โส จ โข ปุริสคพฺโภ, น อิตฺถิคพฺโภ, ปุตฺโต เต ภวิสฺสติ. โส สเจ อคารํ อชฺฌาวสิสฺสติ, ราชา ภวิสฺสติ จกฺกวตฺตี. สเจ อคารา นิกฺขมฺม ปพฺพชิสฺสติ, พุทฺโธ ภวิสฺสติ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท’’ติ. เอวํ สโต สมฺปชาโน โพธิสตฺโต ตุสิตกายา จวิตฺวา มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ.

ตตฺถ สโต สมฺปชาโนติ อิมินา จตุตฺถาย คพฺภาวกฺกนฺติยา โอกฺกมตีติ ทสฺเสติ. จตสฺโส หิ คพฺภาวกฺกนฺติโย.

‘‘จตสฺโส อิมา, ภนฺเต, คพฺภาวกฺกนฺติโย. อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมึ าติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อยํ ปมา คพฺภาวกฺกนฺติ.

ปุน จปรํ, ภนฺเต, อิเธกจฺโจ สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมึ าติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อยํ ทุติยา คพฺภาวกฺกนฺติ.

ปุน จปรํ, ภนฺเต, อิเธกจฺโจ สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ, สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมึ าติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อยํ ตติยา คพฺภาวกฺกนฺติ.

ปุน จปรํ, ภนฺเต, อิเธกจฺโจ สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ, สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมึ าติ, สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อยํ จตุตฺถา คพฺภาวกฺกนฺตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๔๗).

เอตาสุ ปมา โลกิยมนุสฺสานํ โหติ, ทุติยา อสีติมหาสาวกานํ, ตติยา ทฺวินฺนํ อคฺคสาวกานํ ปจฺเจกโพธิสตฺตานฺจ. เต กิร กมฺมชวาเตหิ อุทฺธํปาทา อโธสิรา อเนกสตโปริเส ปปาเต วิย โยนิมุเข ตาฬจฺฉิคฺคเลน หตฺถี วิย อติวิย สมฺพาเธน โยนิมุเขน นิกฺขมมานา อนนฺตํ ทุกฺขํ ปาปุณนฺติ. เตน เนสํ ‘‘มยํ นิกฺขมามา’’ติ สมฺปชานตา น โหติ. จตุตฺถา สพฺพฺุโพธิสตฺตานํ. เต หิ มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺตาปิ ชานนฺติ, ตตฺถ วสนฺตาปิ ชานนฺติ. นิกฺขมนกาเลปิ เนสํ กมฺมชวาตา อุทฺธํปาเท อโธสิเร กตฺวา ขิปิตุํ น สกฺโกนฺติ, ทฺเว หตฺเถ ปสาเรตฺวา อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ิตกาว นิกฺขมนฺติ.

๒๐๑. มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมตีติ เอตฺถ มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหตีติ อตฺโถ. โอกฺกนฺเต หิ ตสฺมึ เอวํ โหติ, น โอกฺกมมาเน. อปฺปมาโณติ พุทฺธปฺปมาโณ, วิปุโลติ อตฺโถ. อุฬาโรติ ตสฺเสว เววจนํ. เทวานุภาวนฺติ เอตฺถ เทวานํ อยมานุภาโว – นิวตฺถวตฺถสฺส ปภา ทฺวาทส โยชนานิ ผรติ, ตถา สรีรสฺส, ตถา อลงฺการสฺส, ตถา วิมานสฺส, ตํ อติกฺกมิตฺวาติ อตฺโถ.

โลกนฺตริกาติ ติณฺณํ ติณฺณํ จกฺกวาฬานํ อนฺตรา เอเกโก โลกนฺตริกา โหติ, ติณฺณํ สกฏจกฺกานํ ปตฺตานํ วา อฺมฺํ อาหจฺจ ปิตานํ มชฺเฌ โอกาโส วิย. โส ปน โลกนฺตริกนิรโย ปริมาณโต อฏฺโยชนสหสฺโส โหติ. อฆาติ นิจฺจวิวฏา. อสํวุตาติ เหฏฺาปิ อปฺปติฏฺา. อนฺธการาติ ตมภูตา. อนฺธการติมิสาติ จกฺขุวิฺาณุปฺปตฺตินิวารณโต อนฺธภาวกรณติมิเสน สมนฺนาคตา. ตตฺถ กิร จกฺขุวิฺาณํ น ชายติ. เอวํมหิทฺธิกาติ จนฺทิมสูริยา กิร เอกปฺปหาเรเนว ตีสุ ทีเปสุ ปฺายนฺติ, เอวํมหิทฺธิกา. เอเกกาย ทิสาย นวนวโยชนสตสหสฺสานิ อนฺธการํ วิธมิตฺวา อาโลกํ ทสฺเสนฺติ, เอวํ มหานุภาวา. อาภายนานุโภนฺตีติ อตฺตโน ปภาย นปฺปโหนฺติ. เต กิร จกฺกวาฬปพฺพตสฺส เวมชฺเฌน จรนฺติ, จกฺกวาฬปพฺพตฺจ อติกฺกมฺม โลกนฺตริกนิรโย, ตสฺมา เต ตตฺถ อาภาย นปฺปโหนฺติ.

เยปิ ตตฺถ สตฺตาติ เยปิ ตสฺมึ โลกนฺตรมหานิรเย สตฺตา อุปปนฺนา. กึ ปน กมฺมํ กตฺวา เต ตตฺถ อุปฺปชฺชนฺตีติ? ภาริยํ ทารุณํ มาตาปิตูนํ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานฺจ อุปริ อปราธํ อฺฺจ ทิวเส ทิวเส ปาณวธาทิสาหสิกกมฺมํ กตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ ตมฺพปณฺณิทีเป อภยโจรนาคโจราทโย วิย. เตสํ อตฺตภาโว ติคาวุติโก โหติ, วคฺคุลีนํ วิย ทีฆนขา โหนฺติ. เต รุกฺเข วคฺคุลิโย วิย นเขหิ จกฺกวาฬปาเท ลคฺคนฺติ. ยทา ปน สํสปฺปนฺตา อฺมฺสฺส หตฺถปาสํ คตา โหนฺติ, อถ ‘‘ภกฺโข โน ลทฺโธ’’ติ มฺมานา ตตฺถ วาวฏา วิปริวตฺติตฺวา โลกสนฺธารกอุทเก ปตนฺติ. วาเต ปหรนฺเต มธุกผลานิ วิย ฉิชฺชิตฺวา อุทเก ปตนฺติ. ปติตมตฺตา จ อจฺจนฺตขาเร อุทเก ปิฏฺปิณฺฑิ วิย วิลียนฺติ.

อฺเปิ กิร โภ สนฺติ สตฺตาติ – ‘‘ยถา มยํ มหาทุกฺขํ อนุภวาม, เอวํ อฺเปิ กิร สตฺตา อิทํ ทุกฺขํ อนุภวนฺตา อิธูปปนฺนา’’ติ ตํ ทิวสํ ปสฺสนฺติ. อยํ ปน โอภาโส เอกยาคุปานมตฺตมฺปิ น ติฏฺติ, ยาวตา นิทฺทายิตฺวา ปพุทฺโธ อารมฺมณํ วิภาเวติ, ตตฺตกํ กาลํ โหติ. ทีฆภาณกา ปน ‘‘อจฺฉราสงฺฆาฏมตฺตเมว วิชฺชุภาโส วิย นิจฺฉริตฺวา กึ อิทนฺติ ภณนฺตานํเยว อนฺตรธายตี’’ติ วทนฺติ. สงฺกมฺปตีติ สมนฺตโต กมฺปติ. อิตรทฺวยํ ปุริมปสฺเสว เววจนํ. ปุน อปฺปมาโณ จาติอาทิ นิคมนตฺถํ วุตฺตํ.

๒๐๒. จตฺตาโร เทวปุตฺตา จตุทฺทิสํ อารกฺขาย อุปคจฺฉนฺตีติ เอตฺถ จตฺตาโรติ จตุนฺนํ มหาราชูนํ วเสน วุตฺตํ, ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ ปน จตฺตาโร จตฺตาโร กตฺวา จตฺตาลีสทสสหสฺสา โหนฺติ. ตตฺถ อิมสฺมึ จกฺกวาเฬ มหาราชาโน ขคฺคหตฺถา อาคนฺตฺวา โพธิสตฺตสฺส อารกฺขณตฺถาย อุปคนฺตฺวา สิรีคพฺภํ ปวิฏฺา, อิตเร คพฺภทฺวารโต ปฏฺาย อวรุทฺธปํสุปิสาจกาทิยกฺขคเณ ปฏิกฺกมาเปตฺวา ยาว จกฺกวาฬา อารกฺขํ คณฺหึสุ.

กิมตฺถํ ปนายํ รกฺขา อาคตา? นนุ ปฏิสนฺธิกฺขเณ กลลกาลโต ปฏฺาย สเจปิ โกฏิสตสหสฺสา มารา โกฏิสตสหสฺสํ สิเนรุํ อุกฺขิปิตฺวา โพธิสตฺตสฺส วา โพธิสตฺตมาตุยา วา อนฺตรายกรณตฺถํ อาคจฺเฉยฺยุํ, สพฺเพ อนฺตราว อนฺตรธาเยยฺยุํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา รุหิรุปฺปาทวตฺถุสฺมึ – ‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ ปรูปกฺกเมน ตถาคตํ ชีวิตา โวโรเปยฺย. อนุปกฺกเมน, ภิกฺขเว, ตถาคตา ปรินิพฺพายนฺติ. คจฺฉถ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ยถาวิหารํ, อรกฺขิยา, ภิกฺขเว, ตถาคตา’’ติ (จูฬว. ๓๔๑). เอวเมตํ, น ปรูปกฺกเมน เตสํ ชีวิตนฺตราโย อตฺถิ. สนฺติ โข ปน อมนุสฺสา วิรูปา ทุทฺทสิกา, เภรวรุปา ปกฺขิโน, เยสํ รูปํ ทิสฺวา สทฺทํ วา สุตฺวา โพธิสตฺตมาตุ ภยํ วา สนฺตาโส วา อุปฺปชฺเชยฺย, เตสํ นิวารณตฺถาย รกฺขํ อคฺคเหสุํ. อปิจ โข โพธิสตฺตสฺส ปุฺเตเชน สฺชาตคารวา อตฺตโน คารวโจทิตาปิ เต เอวมกํสุ.

กึ ปน เต อนฺโตคพฺภํ ปวิสิตฺวา ิตา จตฺตาโร มหาราชาโน โพธิสตฺตมาตุยา อตฺตานํ ทสฺเสนฺติ น ทสฺเสนฺตีติ? นหานมณฺฑนโภชนาทิสรีรกิจฺจกาเล น ทสฺเสนฺติ, สิรีคพฺภํ ปวิสิตฺวา วรสยเน นิปนฺนกาเล ปน ทสฺเสนฺติ. ตตฺถ กิฺจาปิ อมนุสฺสทสฺสนํ นาม มนุสฺสานํ สปฺปฏิภยํ โหติ, โพธิสตฺตมาตา ปน อตฺตโน เจว ปุตฺตสฺส จ ปุฺานุภาเวน เต ทิสฺวา น ภายติ, ปกติอนฺเตปุรปาลเกสุ วิย อสฺสา เตสุ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ.

๒๐๓. ปกติยาสีลวตีติ สภาเวเนว สีลสมฺปนฺนา. อนุปฺปนฺเน กิร พุทฺเธ มนุสฺสา ตาปสปริพฺพาชกานํ สนฺติเก วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา สีลํ คณฺหนฺติ, โพธิสตฺตมาตาปิ กาลเทวิลสฺส อิสิโน สนฺติเก คณฺหาติ. โพธิสตฺเต ปน กุจฺฉิคเต อฺสฺส ปาทมูเล นิสีทิตุํ นาม น สกฺกา, สมาสเน นิสีทิตฺวา คหิตสีลมฺปิ อวฺา การณมตฺตํ โหติ. ตสฺมา สยเมว สีลํ อคฺคเหสีติ วุตฺตํ โหติ.

ปุริเสสูติ โพธิสตฺตสฺส ปิตรํ อาทึ กตฺวา เกสุจิ มนุสฺเสสุ ปุริสาธิปฺปายจิตฺตํ นุปฺปชฺชติ. ตฺจ โข โพธิสตฺเต คารเวน, น ปหีนกิเลสตาย. โพธิสตฺตมาตุ รูปํ ปน สุกุสลาปิ สิปฺปิกา โปตฺถกมฺมาทีสุปิ กาตุํ น สกฺโกนฺติ, ตํ ทิสฺวา ปุริสสฺส ราโค นุปฺปชฺชตีติ น สกฺกา วตฺตุํ. สเจ ปน ตํ รตฺตจิตฺโต อุปสงฺกมิตุกาโม โหติ, ปาทา น วหนฺติ, ทิพฺพสงฺขลิกา วิย พชฺฌนฺติ. ตสฺมา ‘‘อนติกฺกมนียา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ปฺจนฺนํ กามคุณานนฺติ ปุพฺเพ ‘‘กามคุณูปสํหิต’’นฺติ ปุริสาธิปฺปายวเสน วตฺถุปฏิกฺเขโป กถิโต, อิธ อารมฺมณปฺปฏิลาโภ ทสฺสิโต. ตทา กิร ‘‘เทวิยา เอวรูโป ปุตฺโต กุจฺฉิสฺมึ อุปฺปนฺโน’’ติ, สุตฺวา สมนฺตโต ราชาโน มหคฺฆอาภรณตูริยาทิวเสน ปฺจทฺวารารมฺมณวตฺถุภูตํ ปณฺณาการํ เปเสนฺติ, โพธิสตฺตสฺส จ โพธิสตฺตมาตุยา จ กตกมฺมสฺส อุสฺสนฺนตฺตา ลาภสกฺการสฺส ปมาณปริจฺเฉโท นาม นตฺถิ.

๒๐๔. อกิลนฺตกายาติ ยถา อฺา อิตฺถิโย คพฺภภาเรน กิลมนฺติ, หตฺถปาทา อุทฺธุมาตกาทีนิ ปาปุณนฺติ, น เอวํ ตสฺสา โกจิ กิลมโถ อโหสิ. ติโรกุจฺฉิคตนฺติ อนฺโตกุจฺฉิคตํ. กลลาทิกาลํ อติกฺกมิตฺวา สฺชาตองฺคปจฺจงฺคํ อหีนินฺทฺริยภาวํ อุปคตํเยว ปสฺสติ. กิมตฺถํ ปสฺสติ? สุขวาสตฺถํ. ยเถว หิ มาตา ปุตฺเตน สทฺธึ นิสินฺนา วา นิปนฺนา วา ‘‘หตฺถํ วา ปาทํ วา โอลมฺพนฺตํ อุกฺขิปิตฺวา สณฺเปสฺสามี’’ติ สุขวาสตฺถํ ปุตฺตํ โอโลเกติ, เอวํ โพธิสตฺตมาตาปิ ยํ ตํ มาตุ อุฏฺานคมนปริวตฺตนนิสชฺชาทีสุ อุณฺหสีตโลณิกติตฺตกกฏุกาหารอชฺโฌหรณกาเลสุ จ คพฺภสฺส ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, อตฺถิ นุ โข เม ตํ ปุตฺตสฺสาติ สุขวาสตฺถํ โพธิสตฺตํ โอโลกยมานา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสินฺนํ โพธิสตฺตํ ปสฺสติ. ยถา หิ อฺเ อนฺโตกุจฺฉิคตา ปกฺกาสยํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อามาสยํ อุกฺขิปิตฺวา อุทรปฏลํ ปิฏฺิโต กตฺวา ปิฏฺิกณฺฏกํ นิสฺสาย อุกฺกุฏิกา ทฺวีสุ มุฏฺีสุ หนุกํ เปตฺวา เทเว วสฺสนฺเต รุกฺขสุสิเร มกฺกฏา วิย นิสีทนฺติ, น เอวํ โพธิสตฺโต. โพธิสตฺโต ปน ปิฏฺิกณฺฏกํ ปิฏฺิโต กตฺวา ธมฺมาสเน ธมฺมกถิโก วิย ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทติ. ปุพฺเพ กตกมฺมํ ปนสฺสา วตฺถุํ โสเธติ, สุทฺเธ วตฺถุมฺหิ สุขุมจฺฉวิลกฺขณํ นิพฺพตฺตติ . อถ นํ กุจฺฉิคตํ ตโจ ปฏิจฺฉาเทตุํ น สกฺโกติ, โอโลเกนฺติยา พหิ ิโต วิย ปฺายติ. ตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวนฺโต เสยฺยถาปีติอาทิมาห. โพธิสตฺโต ปน อนฺโตกุจฺฉิคโต มาตรํ น ปสฺสติ. น หิ อนฺโตกุจฺฉิยํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ.

๒๐๕. กาลํกโรตีติ น วิชาตภาวปจฺจยา, อายุปริกฺขเยเนว. โพธิสตฺเตน วสิตฏฺานฺหิ เจติยกุฏิสทิสํ โหติ อฺเสํ อปริโภคํ, น จ สกฺกา โพธิสตฺตมาตรํ อปเนตฺวา อฺํ อคฺคมเหสิฏฺาเน เปตุนฺติ ตตฺตกํเยว โพธิสตฺตมาตุ อายุปฺปมาณํ โหติ, ตสฺมา ตทา กาลํ กโรติ. กตรสฺมึ ปน วเย กาลํ กโรตีติ? มชฺฌิมวเย. ปมวยสฺมิฺหิ สตฺตานํ อตฺตภาเว ฉนฺทราโค พลวา โหติ, เตน ตทา สฺชาตคพฺภา อิตฺถี ตํ คพฺภํ อนุรกฺขิตุํ น สกฺโกนฺติ, คพฺโภ พหฺวาพาโธ โหติ. มชฺฌิมวยสฺส ปน ทฺเว โกฏฺาเส อติกฺกมฺม ตติยโกฏฺาเส วตฺถุํ วิสทํ โหติ, วิสเท วตฺถุมฺหิ นิพฺพตฺตา ทารกา อโรคา โหนฺติ. ตสฺมา โพธิสตฺตมาตาปิ ปมวเย สมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา มชฺฌิมวยสฺส ตติยโกฏฺาเส วิชายิตฺวา กาลํ กโรติ.

นว วา ทส วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน วิกปฺปนวเสน สตฺต วา อฏฺ วา เอกาทส วา ทฺวาทส วาติ เอวมาทีนมฺปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สตฺตมาสชาโต ชีวติ, สีตุณฺหกฺขโม ปน น โหติ. อฏฺมาสชาโต น ชีวติ, เสสา ชีวนฺติ.

ิตาวาติ ิตาว หุตฺวา. มหามายาปิ เทวี อุปวิชฺา าติกุลฆรํ คมิสฺสามีติ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา กปิลวตฺถุโต เทวทหนครคามิมคฺคํ อลงฺการาเปตฺวา เทวึ สุวณฺณสิวิกาย นิสีทาเปสิ. สกลนครวาสิโน สกฺยา ปริวาเรตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูชยมานา เทวึ คเหตฺวา ปายึสุ. สา เทวทหนครสฺส อวิทูเร ลุมฺพินิสาลวนุยฺยานํ ทิสฺวา อุยฺยานวิจรณตฺถาย จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา รฺโ สฺํ อทาสิ. ราชา อุยฺยานํ ปฏิชคฺคาเปตฺวา อารกฺขํ สํวิทหาเปสิ. เทวิยา อุยฺยานํ ปวิฏฺมตฺตาย กายทุพฺพลฺยํ อโหสิ, อถสฺสา มงฺคลสาลมูเล สิรีสยนํ ปฺาเปตฺวา สาณิยา ปริกฺขิปึสุ. สา อนฺโตสาณึ ปวิสิตฺวา สาลสาขํ หตฺเถน คเหตฺวา อฏฺาสิ. อถสฺสา ตาวเทว คพฺภวุฏฺานํ อโหสิ.

เทวา นํ ปมํ ปฏิคฺคณฺหนฺตีติ ขีณาสวา สุทฺธาวาสพฺรหฺมาโน ปฏิคฺคณฺหนฺติ. กถํ? สูติเวสํ คณฺหิตฺวาติ เอเก. ตํ ปน ปฏิกฺขิปิตฺวา อิทํ วุตฺตํ – ตทา โพธิสตฺตมาตา สุวณฺณขจิตํ วตฺถํ นิวาเสตฺวา มจฺฉกฺขิสทิสํ ทุกูลปฏํ ยาว ปาทนฺตาว ปารุปิตฺวา อฏฺาสิ. อถสฺสา สลฺลหุกํ คพฺภวุฏฺานํ อโหสิ ธมฺมกรณโต อุทกนิกฺขมนสทิสํ. อถ เต ปกติพฺรหฺมเวเสเนว อุปสงฺกมิตฺวา ปมํ สุวณฺณชาเลน ปฏิคฺคเหสุํ. เตสํ หตฺถโต มนุสฺสา ทุกูลจุมฺพฏเกน ปฏิคฺคเหสุํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เทวา นํ ปมํ ปฏิคฺคณฺหนฺติ ปจฺฉา มนุสฺสา’’ติ.

๒๐๖. จตฺตาโร นํ เทวปุตฺตาติ จตฺตาโร มหาราชาโน. ปฏิคฺคเหตฺวาติ อชินปฺปเวณิยา ปฏิคฺคเหตฺวา. มเหสกฺโขติ มหาเตโช มหายโส ลกฺขณสมฺปนฺโนติ อตฺโถ.

วิสโทว นิกฺขมตีติ ยถา อฺเ สตฺตา โยนิมคฺเค ลคฺคนฺตา ภคฺควิภคฺคา นิกฺขมนฺติ, น เอวํ นิกฺขมติ, อลคฺโค หุตฺวา นิกฺขมตีติ อตฺโถ. อุเทนาติ อุทเกน. เกนจิ อสุจินาติ ยถา อฺเ สตฺตา กมฺมชวาเตหิ อุทฺธํปาทา อโธสิรา โยนิมคฺเค ปกฺขิตฺตา สตโปริสนรกปปาตํ ปตนฺตา วิย ตาฬจฺฉิทฺเทน นิกฺกฑฺฒิยมานา หตฺถี วิย มหาทุกฺขํ อนุภวนฺตา นานาอสุจิมกฺขิตาว นิกฺขมนฺติ, น เอวํ โพธิสตฺโต. โพธิสตฺตฺหิ กมฺมชวาตา อุทฺธํปาทํ อโธสิรํ กาตุํ น สกฺโกนฺติ. โส ธมฺมาสนโต โอตรนฺโต ธมฺมกถิโก วิย นิสฺเสณิโต โอตรนฺโต ปุริโส วิย จ ทฺเว หตฺเถ จ ปาเท จ ปสาเรตฺวา ิตโกว มาตุกุจฺฉิสมฺภเวน เกนจิ อสุจินา อมกฺขิโตว นิกฺขมติ.

อุทกสฺส ธาราติ อุทกวฏฺฏิโย. ตาสุ สีตา สุวณฺณกฏาเห ปตติ, อุณฺหา รชตกฏาเห. อิทฺจ ปถวีตเล เกนจิ อสุจินา อสมฺมิสฺสํ เตสํ ปานียปริโภชนียอุทกฺเจว อฺเหิ อสาธารณํ กีฬนอุทกฺจ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. อฺสฺส ปน สุวณฺณรชตฆเฏหิ อาหริยมานอุทกสฺส เจว หํสวฏฺฏกาทิโปกฺขรณิคตสฺส จ อุทกสฺส ปริจฺเฉโท นตฺถิ.

๒๐๗. สมฺปติชาโตติ มุหุตฺตชาโต. ปาฬิยํ ปน มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺตมตฺโต วิย ทสฺสิโต, น ปน เอวํ ทฏฺพฺพํ. นิกฺขนฺตมตฺตฺหิ ตํ ปมํ พฺรหฺมาโน สุวณฺณชาเลน ปฏิคฺคณฺหึสุ, เตสํ หตฺถโต จตฺตาโร มหาราชาโน มงฺคลสมฺมตาย สุขสมฺผสฺสาย อชินปฺปเวณิยา, เตสํ หตฺถโต มนุสฺสา ทุกูลจุมฺพฏเกน, มนุสฺสานํ หตฺถโต มุจฺจิตฺวา ปถวิยํ ปติฏฺิโต.

เสตมฺหิ ฉตฺเต อนุธาริยมาเนติ ทิพฺพเสตจฺฉตฺเต อนุธาริยมาเน. เอตฺถ จ ฉตฺตสฺส ปริวารานิ ขคฺคาทีนิ ปฺจ ราชกกุธภณฺฑานิปิ อาคตาเนว. ปาฬิยํ ปน ราชคมเน ราชา วิย ฉตฺตเมว วุตฺตํ. เตสุ ฉตฺตเมว ปฺายติ, น ฉตฺตคฺคาหกา. ตถา ขคฺค-ตาลวณฺฏ-โมรหตฺถก-วาฬพีชนิ-อุณฺหีสมตฺตาเยว ปฺายนฺติ, น เตสํ คาหกา. สพฺพานิ กิร ตานิ อทิสฺสมานรูปา เทวตา คณฺหึสุ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘อเนกสาขฺจ สหสฺสมณฺฑลํ,

ฉตฺตํ มรู ธารยุมนฺตลิกฺเข;

สุวณฺณทณฺฑา วิปตนฺติ จามรา,

น ทิสฺสเร จามรฉตฺตคาหกา’’ติ. (สุ. นิ. ๖๙๓);

สพฺพา จ ทิสาติ อิทํ สตฺตปทวีติหารูปริ ิตสฺส วิย สพฺพทิสานุวิโลกนํ วุตฺตํ, น โข ปเนวํ ทฏฺพฺพํ. มหาสตฺโต หิ มนุสฺสานํ หตฺถโต มุจฺจิตฺวา ปุรตฺถิมทิสํ โอโลเกสิ, อเนกจกฺกวาฬสหสฺสานิ เอกงฺคณานิ อเหสุํ. ตตฺถ เทวมนุสฺสา คนฺธมาลาทีหิ ปูชยมานา – ‘‘มหาปุริส อิธ ตุมฺเหหิ สทิโสปิ นตฺถิ, กุโต อุตฺตริตโร’’ติ อาหํสุ. เอวํ จตสฺโส ทิสา, จตสฺโส อนุทิสา, เหฏฺา, อุปรีติ ทสปิ ทิสา อนุวิโลเกตฺวา อตฺตนา สทิสํ อทิสฺวา อยํ อุตฺตรา ทิสาติ สตฺตปทวีติหาเรน อคมาสีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อาสภินฺติ อุตฺตมํ. อคฺโคติ คุเณหิ สพฺพปโม. อิตรานิ ทฺเว ปทานิ เอตสฺเสว เววจนานิ. อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโวติ ปททฺวเยน อิมสฺมึ อตฺตภาเว ปตฺตพฺพํ อรหตฺตํ พฺยากาสิ.

เอตฺถ จ สเมหิ ปาเทหิ ปถวิยํ ปติฏฺานํ จตุอิทฺธิปาทปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, อุตฺตราภิมุขภาโว มหาชนํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อภิภวิตฺวา คมนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ , สตฺตปทคมนํ สตฺตโพชฺฌงฺครตนปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ทิพฺพเสตจฺฉตฺตธารณํ วิมุตฺติจฺฉตฺตปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ปฺจราชกกุธภณฺฑานิ ปฺจหิ วิมุตฺตีหิ วิมุจฺจนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ทิสานุวิโลกนํ อนาวรณาณปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, อาสภีวาจาภาสนํ อปฺปฏิวตฺติยธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ‘‘อยมนฺติมา ชาตี’’ติ สีหนาโท อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพานสฺส ปุพฺพนิมิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิเม วารา ปาฬิยํ อาคตา, สมฺพหุลวาโร ปน อาคโต, อาหริตฺวา ทีเปตพฺโพ.

มหาปุริสสฺส หิ ชาตทิวเส ทสสหสฺสิโลกธาตุ กมฺปิ. ทสสหสฺสิโลกธาตุมฺหิ เทวตา เอกจกฺกวาเฬ สนฺนิปตึสุ. ปมํ เทวา ปฏิคฺคหึสุ, ปจฺฉา มนุสฺสา. ตนฺติพทฺธา วีณา จมฺมพทฺธา เภริโย จ เกนจิ อวาทิตา สยเมว วชฺชึสุ, มนุสฺสานํ อนฺทุพนฺธนาทีนิ ขณฺฑาขณฺฑํ ภิชฺชึสุ. สพฺพโรคา อมฺพิเลน โธตตมฺพมลํ วิย วิคจฺฉึสุ, ชจฺจนฺธา รูปานิ ปสฺสึสุ. ชจฺจพธิรา สทฺทํ สุณึสุ, ปีสปฺปี ชวนสมฺปนฺนา อเหสุํ, ชาติชฬานมฺปิ เอฬมูคานํ สติ ปติฏฺาสิ, วิเทเส ปกฺขนฺทนาวา สุปฏฺฏนํ ปาปุณึสุ, อากาสฏฺกภูมฏฺกรตนานิ สกเตโชภาสิตานิ อเหสุํ, เวริโน เมตฺตจิตฺตํ ปฏิลภึสุ, อวีจิมฺหิ อคฺคิ นิพฺพายิ. โลกนฺตเร อาโลโก อุทปาทิ, นทีสุ ชลํ น ปวตฺติ, มหาสมุทฺเทสุ มธุรสทิสํ อุทกํ อโหสิ, วาโต น วายิ, อากาสปพฺพตรุกฺขคตา สกุณา ภสฺสิตฺวา ปถวีคตา อเหสุํ, จนฺโท อติโรจิ, สูริโย น อุณฺโห น สีตโล นิมฺมโล อุตุสมฺปนฺโน อโหสิ, เทวตา อตฺตโน อตฺตโน วิมานทฺวาเร ตฺวา อปฺโผฏนเสฬนเจลุกฺเขปาทีหิ มหากีฬํ กีฬึสุ, จาตุทฺทีปิกมหาเมโฆ วสฺสิ, มหาชนํ เนว ขุทา น ปิปาสา ปีเฬสิ, ทฺวารกวาฏานิ สยเมว วิวรึสุ, ปุปฺผูปคผลูปคา รุกฺขา ปุปฺผผลานิ คณฺหึสุ, ทสสหสฺสิโลกธาตุ เอกทฺธชมาลา อโหสีติ.

ตตฺราปิสฺส ทสสหสฺสิโลกธาตุกมฺโป สพฺพฺุตาณปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, เทวตานํ เอกจกฺกวาเฬ สนฺนิปาโต ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนกาเล เอกปฺปหาเรน สนฺนิปติตฺวา ธมฺมปฏิคฺคณฺหนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ปมํ เทวตานํ ปฏิคฺคหณํ จตุนฺนํ รูปาวจรชฺฌานานํ ปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ปจฺฉา มนุสฺสานํ ปฏิคฺคหณํ จตุนฺนํ อรูปชฺฌานานํ ปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ตนฺติพทฺธวีณานํ สยํ วชฺชนํ อนุปุพฺพวิหารปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, จมฺมพทฺธเภรีนํ วชฺชนํ มหติยา ธมฺมเภริยา อนุสฺสาวนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, อนฺทุพนฺธนาทีนํ เฉโท อสฺมิมานสมุจฺเฉทสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, สพฺพโรควิคโม สพฺพกิเลสวิคมสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ชจฺจนฺธานํ รูปทสฺสนํ ทิพฺพจกฺขุปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ชจฺจพธิรานํ สทฺทสฺสวนํ ทิพฺพโสตธาตุปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ , ปีสปฺปีนํ ชวนสมฺปทา จตุอิทฺธิปาทาธิคมสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ชฬานํ สติปติฏฺานํ จตุสติปฏฺานปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, วิเทสปกฺขนฺทนาวานํ สุปฏฺฏนสมฺปาปุณนํ จตุปฏิสมฺภิทาธิคมสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, รตนานํ สกเตโชภาสิตตฺตํ ยํ โลกสฺส ธมฺโมภาสํ ทสฺเสสฺสติ ตสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ.

เวรีนํ เมตฺตจิตฺตปฏิลาโภ จตุพฺรหฺมวิหารปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, อวีจิมฺหิ อคฺคินิพฺพานํ เอกาทสอคฺคินิพฺพานสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, โลกนฺตราโลโก อวิชฺชนฺธการํ วิธมิตฺวา าณาโลกทสฺสนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, มหาสมุทฺทสฺส มธุรตา นิพฺพานรเสน เอกรสภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, วาตสฺส อวายนํ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตภินฺทนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, สกุณานํ ปถวีคมนํ มหาชนสฺส โอวาทํ สุตฺวา ปาเณหิ สรณคมนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, จนฺทสฺส อติวิโรจนํ พหุชนกนฺตตาย ปุพฺพนิมิตฺตํ, สูริยสฺส อุณฺหสีตวิวชฺชนอุตุสุขตา กายิกเจตสิกสุขุปฺปตฺติยา ปุพฺพนิมิตฺตํ, เทวตานํ วิมานทฺวาเรสุ อปฺโผฏนาทีหิ กีฬนํ พุทฺธภาวํ ปตฺวา อุทานํ อุทานสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, จาตุทฺทีปิกมหาเมฆวสฺสนํ มหโต ธมฺมเมฆวสฺสนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ขุทาปีฬนสฺส อภาโว กายคตาสติอมตปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ปิปาสาปีฬนสฺส อภาโว วิมุตฺติสุเขน สุขิตภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ทฺวารกวาฏานํ สยเมว วิวรณํ อฏฺงฺคิกมคฺคทฺวารวิวรณสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, รุกฺขานํ ปุปฺผผลคหณํ วิมุตฺติปุปฺเผหิ ปุปฺผิตสฺส จ สามฺผลภารภริตภาวสฺส จ ปุพฺพนิมิตฺตํ, ทสสหสฺสิโลกธาตุยา เอกทฺธชมาลตา อริยทฺธชมาลามาลิตาย ปุพฺพนิมิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยํ สมฺพหุลวาโร นาม.

เอตฺถ ปฺเห ปุจฺฉนฺติ – ‘‘ยทา มหาปุริโส ปถวิยํ ปติฏฺหิตฺวา อุตฺตราภิมุโข คนฺตฺวา อาสภึ วาจํ ภาสติ, ตทา กึ ปถวิยา คโต , อุทาหุ อากาเสน? ทิสฺสมาโน คโต, อุทาหุ อทิสฺสมาโน? อเจลโก คโต, อุทาหุ อลงฺกตปฺปฏิยตฺโต? ทหโร หุตฺวา คโต, อุทาหุ มหลฺลโก? ปจฺฉาปิ กึ ตาทิโสว อโหสิ, อุทาหุ ปุน พาลทารโก’’ติ? อยํ ปน ปฺโห เหฏฺา โลหปาสาเท สงฺฆสนฺนิปาเต ติปิฏกจูฬาภยตฺเถเรน วิสฺสชฺชิโตว. เถโร กิเรตฺถ นิยติ ปุพฺเพกตกมฺม-อิสฺสรนิมฺมานวาทวเสน ตํ ตํ พหุํ วตฺวา อวสาเน เอวํ พฺยากาสิ – ‘‘มหาปุริโส ปถวิยํ คโต, มหาชนสฺส ปน อากาเส คจฺฉนฺโต วิย อโหสิ. ทิสฺสมาโน คโต, มหาชนสฺส ปน อทิสฺสมาโน วิย อโหสิ. อเจลโก คโต, มหาชนสฺส ปน อลงฺกตปฺปฏิยตฺโตว อุปฏฺาสิ. ทหโรว คโต, มหาชนสฺส ปน โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก วิย อโหสิ. ปจฺฉา ปน พาลทารโกว อโหสิ, น ตาทิโส’’ติ. เอวํ วุตฺเต ปริสา จสฺส ‘‘พุทฺเธน วิย หุตฺวา โภ เถเรน ปฺโห กถิโต’’ติ อตฺตมนา อโหสิ. โลกนฺตริกวาโร วุตฺตนโย เอว.

วิทิตาติ ปากฏา หุตฺวา. ยถา หิ สาวกา นหานมุขโธวนขาทนปิวนาทิกาเล อโนกาสคเต อตีตสงฺขาเร นิปฺปเทเส สมฺมสิตุํ น สกฺโกนฺติ, โอกาสปตฺตเยว สมฺมสนฺติ, น เอวํ พุทฺธา. พุทฺธา หิ สตฺตทิวสพฺภนฺตเร ววตฺถิตสงฺขาเร อาทิโต ปฏฺาย สมฺมสิตฺวา ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวาว วิสฺสชฺเชนฺติ, เตสํ อวิปสฺสิตธมฺโม นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘วิทิตา’’ติ อาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

อจฺฉริยอพฺภุตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. พากุลสุตฺตวณฺณนา

๒๐๙. เอวํเม สุตนฺติ พากุลสุตฺตํ. ตตฺถ พากุโลติ ยถา ทฺวาวีสติ ทฺวตฺตึสาติอาทิมฺหิ วตฺตพฺเพ พาวีสติ พาตฺตึสาติอาทีนิ วุจฺจนฺติ, เอวเมว ทฺวิกุโลติ วตฺตพฺเพ พากุโลติ วุตฺตํ. ตสฺส หิ เถรสฺส ทฺเว กุลานิ อเหสุํ. โส กิร เทวโลโก จวิตฺวา โกสมฺพินคเร นาม มหาเสฏฺิกุเล นิพฺพตฺโต, ตเมนํ ปฺจเม ทิวเส สีสํ นฺหาเปตฺวา คงฺคากีฬํ อกํสุ. ธาติยา ทารกํ อุทเก นิมุชฺชนุมฺมุชฺชนวเสน กีฬาเปนฺติยา เอโก มจฺโฉ ทารกํ ทิสฺวา ‘‘ภกฺโข เม อย’’นฺติ มฺมาโน มุขํ วิวริตฺวา อุปคโต. ธาตี ทารกํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลาตา. มจฺโฉ ตํ คิลิ. ปุฺวา สตฺโต ทุกฺขํ น ปาปุณิ, สยนคพฺภํ ปวิสิตฺวา นิปนฺโน วิย อโหสิ. มจฺโฉ ทารกสฺส เตเชน ตตฺตกปลฺลํ คิลิตฺวา ทยฺหมาโน วิย เวเคน ตึสโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา พาราณสินครวาสิโน มจฺฉพนฺธสฺส ชาลํ ปาวิสิ, มหามจฺฉา นาม ชาลพทฺธา ปหริยมานา มรนฺติ. อยํ ปน ทารกสฺส เตเชน ชาลโต นีหฏมตฺโตว มโต. มจฺฉพนฺธา จ มหนฺตํ มจฺฉํ ลภิตฺวา ผาเลตฺวา วิกฺกิณนฺติ. ตํ ปน ทารกสฺส อานุภาเวน อผาเลตฺวา สกลเมว กาเชน หริตฺวา สหสฺเสน เทมาติ วทนฺตา นคเร วิจรึสุ. โกจิ น คณฺหาติ.

ตสฺมึ ปน นคเร อปุตฺตกํ อสีติโกฏิวิภวํ เสฏฺิกุลํ อตฺถิ, ตสฺส ทฺวารมูลํ ปตฺวา ‘‘กึ คเหตฺวา เทถา’’ติ วุตฺตา กหาปณนฺติ อาหํสุ. เตหิ กหาปณํ ทตฺวา คหิโต. เสฏฺิภริยาปิ อฺเสุ ทิวเสสุ มจฺเฉ น เกลายติ, ตํ ทิวสํ ปน มจฺฉํ ผลเก เปตฺวา สยเมว ผาเลสิ. มจฺฉฺจ นาม กุจฺฉิโต ผาเลนฺติ, สา ปน ปิฏฺิโต ผาเลนฺตี มจฺฉกุจฺฉิยํ สุวณฺณวณฺณํ ทารกํ ทิสฺวา – ‘‘มจฺฉกุจฺฉิยํ เม ปุตฺโต ลทฺโธ’’ติ นาทํ นทิตฺวา ทารกํ อาทาย สามิกสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. เสฏฺิ ตาวเทว เภรึ จราเปตฺวา ทารกํ อาทาย รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา – ‘‘มจฺฉกุจฺฉิยํ เม เทว ทารโก ลทฺโธ, กึ กโรมี’’ติ อาห. ปุฺวา เอส, โย มจฺฉกุจฺฉิยํ อโรโค วสิ, โปเสหิ นนฺติ.

อสฺโสสิ โข อิตรํ กุลํ – ‘‘พาราณสิยํ กิร เอกํ เสฏฺิกุลํ มจฺฉกุจฺฉิยํ ทารกํ ลภตี’’ติ, เต ตตฺถ อคมํสุ. อถสฺส มาตา ทารกํ อลงฺกริตฺวา กีฬาปิยมานํ ทิสฺวาว ‘‘มนาโป วตายํ ทารโก’’ติ คนฺตฺวา ปวตึ อาจิกฺขิ. อิตรา มยฺหํ ปุตฺโตติอาทิมาห. กหํ เต ลทฺโธติ? มจฺฉกุจฺฉิยนฺติ. โน ตุยฺหํ ปุตฺโต, มยฺหํ ปุตฺโตติ. กหํ เต ลทฺโธติ? มยา ทสมาเส กุจฺฉิยา ธาริโต, อถ นํ นทิยา กีฬาปิยมานํ มจฺโฉ คิลีติ. ตุยฺหํ ปุตฺโต อฺเน มจฺเฉน คิลิโต ภวิสฺสติ, อยํ ปน มยา มจฺฉกุจฺฉิยํ ลทฺโธติ, อุโภปิ ราชกุลํ อคมํสุ. ราชา อาห – ‘‘อยํ ทส มาเส กุจฺฉิยา ธาริตตฺตา อมาตา กาตุํ น สกฺกา, มจฺฉํ คณฺหนฺตาปิ วกฺกยกนาทีนิ พหิ กตฺวา คณฺหนฺตา นาม นตฺถีติ มจฺฉกุจฺฉิยํ ลทฺธตฺตา อยมฺปิ อมาตา กาตุํ น สกฺกา, ทารโก อุภินฺนมฺปิ กุลานํ ทายาโท โหตุ, อุโภปิ นํ ชคฺคถา’’ติ อุโภปิ ชคฺคึสุ.

วิฺุตํ ปตฺตสฺส ทฺวีสุปิ นคเรสุ ปาสาทํ กาเรตฺวา นาฏกานิ ปจฺจุปฏฺาเปสุํ. เอเกกสฺมึ นคเร จตฺตาโร จตฺตาโร มาเส วสติ, เอกสฺมึ นคเร จตฺตาโร มาเส วุฏฺสฺส สงฺฆาฏนาวาย มณฺฑปํ กาเรตฺวา ตตฺถ นํ สทฺธึ นาฏกาหิ อาโรเปนฺติ. โส สมฺปตฺตึ อนุภวมาโน อิตรํ นครํ คจฺฉติ. ตํนครวาสิโน นาฏกานิ อุปฑฺฒมคฺคํ อคมํสุ. เต ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ตํ ปริวาเรตฺวา อตฺตโน ปาสาทํ นยนฺติ. อิตรานิ นาฏกานิ นิวตฺติตฺวา อตฺตโน นครเมว คจฺฉนฺติ. ตตฺถ จตฺตาโร มาเส วสิตฺวา เตเนว นิยาเมน ปุน อิตรํ นครํ คจฺฉติ. เอวมสฺส สมฺปตฺตึ อนุภวนฺตสฺส อสีติ วสฺสานิ ปริปุณฺณานิ.

อถ ภควา จาริกํ จรมาโน พาราณสึ ปตฺโต. โส ภควโต สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิโต. ปพฺพชิตฺวา สตฺตาหเมว ปุถุชฺชโน อโหสิ, อฏฺเม ปน โส สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณีติ เอวมสฺส ทฺเว กุลานิ อเหสุํ. ตสฺมา พากุโลติ สงฺขํ อคมาสีติ.

ปุราณคิหิสหาโยติ ปุพฺเพ คิหิกาเล สหาโย. อยมฺปิ ทีฆายุโกว เถรํ ปพฺพชิตํ ปสฺสิตุํ คจฺฉนฺโต อสีติเม วสฺเส คโต. เมถุโน ธมฺโมติ พาโล นคฺคสมณโก พาลปุจฺฉํ ปุจฺฉติ, น สาสนวจนํ, อิทานิ เถเรน ทินฺนนเย ิโต อิเมหิ ปน เตติ ปุจฺฉิ.

๒๑๐. ยํปายสฺมาติอาทีนิ ปทานิ สพฺพวาเรสุ ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ นิยเมตฺวา ปิตานิ. ตตฺถ สฺา อุปฺปนฺนมตฺตาว, วิตกฺโก กมฺมปถเภทโกติ . เถโร ปนาห – ‘‘กสฺมา วิสุํ กโรถ, อุภยมฺเปตํ กมฺมปถเภทกเมวา’’ติ.

๒๑๑. คหปติจีวรนฺติ วสฺสาวาสิกํ จีวรํ. สตฺเถนาติ ปิปฺผลเกน. สูจิยาติ สูจึ คเหตฺวา สิพฺพิตภาวํ น สรามีติ อตฺโถ. กถิเน จีวรนฺติ กถินจีวรํ, กถินจีวรมฺปิ หิ วสฺสาวาสิกคติกเมว. ตสฺมา ตตฺถ ‘‘สิพฺพิตา นาภิชานามี’’ติ อาห.

เอตฺตกํ ปนสฺส กาลํ คหปติจีวรํ อสาทิยนฺตสฺส ฉินฺทนสิพฺพนาทีนิ อกโรนฺตสฺส กุโต จีวรํ อุปฺปชฺชตีติ. ทฺวีหิ นคเรหิ. เถโร หิ มหายสสฺสี, ตสฺส ปุตฺตธีตโร นตฺตปนตฺตกา สุขุมสาฏเกหิ จีวรานิ กาเรตฺวา รชาเปตฺวา สมุคฺเค ปกฺขิปิตฺวา ปหิณนฺติ. เถรสฺส นฺหานกาเล นฺหานโกฏฺเก เปนฺติ. เถโร ตานิ นิวาเสติ เจว ปารุปติ จ, ปุราณจีวรานิ สมฺปตฺตปพฺพชิตานํ เทติ. เถโร ตานิ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ นวกมฺมํ น กโรติ, กิฺจิ อายูหนกมฺมํ นตฺถิ. ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา อปฺเปตฺวา นิสีทติ. จตูสุ มาเสสุ ปตฺเตสุ โลมกิลิฏฺานิ โหนฺติ, อถสฺส ปุน เตเนว นิยาเมน ปหิณิตฺวา เทนฺติ. อฑฺฒมาเส อฑฺฒมาเส ปริวตฺตตีติปิ วทนฺติเยว.

อนจฺฉริยฺเจตํ เถรสฺส มหาปุฺสฺส มหาภิฺสฺส สตสหสฺสกปฺเป ปูริตปารมิสฺส, อโสกธมฺมรฺโ กุลูปโก นิคฺโรธตฺเถโร ทิวสสฺส นิกฺขตฺตุํ จีวรํ ปริวตฺเตสิ. ตสฺส หิ ติจีวรํ หตฺถิกฺขนฺเธ เปตฺวา ปฺจหิ จ คนฺธสมุคฺคสเตหิ ปฺจหิ จ มาลาสมุคฺคสเตหิ สทฺธึ ปาโตว อาหริยิตฺถ, ตถา ทิวา เจว สายฺจ. ราชา กิร ทิวสสฺส นิกฺขตฺตุํ สาฏเก ปริวตฺเตนฺโต ‘‘เถรสฺส จีวรํ นีต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม นีต’’นฺติ สุตฺวาว ปริวตฺเตสิ. เถโรปิ น ภณฺฑิกํ พนฺธิตฺวา เปสิ, สมฺปตฺตสพฺรหฺมจารีนํ อทาสิ. ตทา กิร ชมฺพุทีเป ภิกฺขุสงฺฆสฺส เยภุยฺเยน นิคฺโรธสฺเสว สนฺตกํ จีวรํ อโหสิ.

อโห วต มํ โกจิ นิมนฺเตยฺยาติ กึ ปน จิตฺตสฺส อนุปฺปาทนํ ภาริยํ, อุปฺปนฺนสฺส ปหานนฺติ. จิตฺตํ นาม ลหุกปริวตฺตํ, ตสฺมา อนุปฺปาทนํ ภาริยํ , อุปฺปนฺนสฺส ปหานมฺปิ ภาริยเมว . อนฺตรฆเรติ มหาสกุลุทายิสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๒๓๗) อินฺทขีลโต ปฏฺาย อนฺตรฆรํ นาม อิธ นิมฺโพทกปตนฏฺานํ อธิปฺเปตํ. กุโต ปนสฺส ภิกฺขา อุปฺปชฺชิตฺถาติ. เถโร ทฺวีสุ นคเรสุ อภิฺาโต, เคหทฺวารํ อาคตสฺเสวสฺส ปตฺตํ คเหตฺวา นานารสโภชนสฺส ปูเรตฺวา เทนฺติ. โส ลทฺธฏฺานโต นิวตฺตติ, ภตฺตกิจฺจกรณฏฺานํ ปนสฺส นิพทฺธเมว อโหสิ. อนุพฺยฺชนโสติ เถเรน กิร รูเป นิมิตฺตํ คเหตฺวา มาตุคาโม น โอโลกิตปุพฺโพ. มาตุคามสฺส ธมฺมนฺติ มาตุคามสฺส ฉปฺปฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสตุํ วฏฺฏติ, ปฺหํ ปุฏฺเน คาถาสหสฺสมฺปิ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. เถโร ปน กปฺปิยเมว น อกาสิ. เยภุยฺเยน หิ กุลูปกเถรานเมตํ กมฺมํ โหติ. ภิกฺขุนุปสฺสยนฺติ ภิกฺขุนิอุปสฺสยํ. ตํ ปน คิลานปุจฺฉเกน คนฺตุํ วฏฺฏติ, เถโร ปน กปฺปิยเมว น อกาสิ. เอส นโย สพฺพตฺถ. จุณฺเณนาติ โกสมฺพจุณฺณาทินา. คตฺตปริกมฺเมติ สรีรสมฺพาหนกมฺเม. วิจาริตาติ ปโยชยิตา. คทฺทูหนมตฺตนฺติ คาวึ ถเน คเหตฺวา เอกํ ขีรพินฺทุํ ทูหนกาลมตฺตมฺปิ.

เกน ปน การเณน เถโร นิราพาโธ อโหสิ. ปทุมุตฺตเร กิร ภควติ สตสหสฺสภิกฺขุปริวาเร จาริกํ จรมาเน หิมวติ วิสรุกฺขา ปุปฺผึสุ. ภิกฺขุสตสหสฺสานมฺปิ ติณปุปฺผกโรโค อุปฺปชฺชติ. เถโร ตสฺมึ สมเย อิทฺธิมา ตาปโส โหติ, โส อากาเสน คจฺฉนฺโต ภิกฺขุสงฺฆํ ทิสฺวา โอตริตฺวา โรคํ ปุจฺฉิตฺวา หิมวนฺตโต โอสธํ อาหริตฺวา อทาสิ. อุปสิงฺฆนมตฺเตเนว โรโค วูปสมิ. กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเลปิ ปมวปฺปทิวเส วปฺปํ เปตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปริโภคํ อคฺคิสาลฺเจว วจฺจกุฏิฺจ กาเรตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส เภสชฺชวตฺตํ นิพนฺธิ, อิมินา กมฺเมน นิราพาโธ อโหสิ. อุกฺกฏฺเนสชฺชิโก ปเนส อุกฺกฏฺารฺโก จ ตสฺมา ‘‘นาภิชานามิ อปสฺเสนกํ อปสฺสยิตา’’ติอาทิมาห.

สรโณติ สกิเลโส. อฺา อุทปาทีติ อนุปสมฺปนฺนสฺส อฺํ พฺยากาตุํ น วฏฺฏติ. เถโร กสฺมา พฺยากาสิ? น เถโร อหํ อรหาติ อาห, อฺา อุทปาทีติ ปนาห. อปิจ เถโร อรหาติ ปากโฏ, ตสฺมา เอวมาห.

๒๑๒. ปพฺพชฺชนฺติ เถโร สยํ เนว ปพฺพาเชสิ, น อุปสมฺปาเทสิ อฺเหิ ปน ภิกฺขูหิ เอวํ การาเปสิ. อวาปุรณํ อาทายาติ กุฺจิกํ คเหตฺวา.

นิสินฺนโกวปรินิพฺพายีติ อหํ ธรมาโนปิ น อฺสฺส ภิกฺขุสฺส ภาโร อโหสึ, ปรินิพฺพุตสฺสาปิ เม สรีรํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปลิโพโธ มา อโหสีติ เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายิ. สรีรโต ชาลา อุฏฺหิ, ฉวิมํสโลหิตํ สปฺปิ วิย ฌายมานํ ปริกฺขยํ คตํ, สุมนมกุลสทิสา ธาตุโยว อวเสสึสุ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว. อิทํ ปน สุตฺตํ ทุติยสงฺคเห สงฺคีตนฺติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

พากุลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ทนฺตภูมิสุตฺตวณฺณนา

๒๑๓. เอวํเม สุตนฺติ ทนฺตภูมิสุตฺตํ. ตตฺถ อรฺกุฏิกายนฺติ ตสฺเสว เวฬุวนสฺส เอกสฺมึ วิวิตฺตฏฺาเน ปธานกมฺมิกานํ ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตเสนาสเน. ราชกุมาโรติ พิมฺพิสารสฺส ปุตฺโต โอรสโก.

ผุเสยฺยาติ ลเภยฺย. เอกคฺคตนฺติ เอวํ ปฏิปนฺโน สมาปตฺตึ นาม ลภติ, ฌานํ นาม ลภตีติ อิทํ มยา สุตนฺติ วทติ. กิลมโถติ กายกิลมโถ. วิเหสาติ สฺเวว กิลมโถ วุตฺโต. ยถาสเก ติฏฺเยฺยาสีติ อตฺตโน อชานนโกฏฺาเสเยว ติฏฺเยฺยาสีติ.

๒๑๔. เทเสสีติ จิตฺเตกคฺคตํ นาม เอวํ ลภติ, สมาปตฺตึ เอวํ นิพฺพตฺเตตีติ อปฺปนาอุปจารํ ปาเปตฺวา เอกกสิณปริกมฺมํ กเถสิ. ปเวเทตฺวาติ ปกาเสตฺวา.

เนกฺขมฺเมน าตพฺพนฺติ กามโต นิสฺสฏคุเณน าตพฺพํ. กามโต นิสฺสฏคุเณ ิเตน ปุคฺคเลน เอกคฺคํ นาม ชานิตพฺพนฺติ อธิปฺปาเยเนตํ วุตฺตํ . เสสานิ ตสฺเสว เววจนานิ. กาเมปริภุฺชนฺโตติ ทุวิเธปิ กาเม ภุฺชมาโน.

๒๑๕. หตฺถิทมฺมา วา อสฺสทมฺมา วา โคทมฺมา วาติ เอตฺถ อทนฺตหตฺถิทมฺมาทโย วิย จิตฺเตกคฺครหิตา ปุคฺคลา ทฏฺพฺพา. ทนฺตหตฺถิอาทโย วิย จิตฺเตกคฺคสมฺปนฺนา. ยถา อทนฺตหตฺถิทมฺมาทโย กูฏาการํ อกตฺวา ธุรํ อฉฑฺเฑตฺวา ทนฺตคมนํ วา คนฺตุํ, ทนฺเตหิ วา ปตฺตพฺพํ ภูมึ ปาปุณิตุํ น สกฺโกนฺติ, เอวเมว จิตฺเตกคฺครหิตา สมฺปนฺนจิตฺเตกคฺเคหิ นิพฺพตฺติตคุณํ วา นิพฺพตฺเตตุํ ปตฺตภูมึ วา ปาปุณิตุํ น สกฺโกนฺติ.

๒๑๖. หตฺถวิลงฺฆเกนาติ หตฺเถน หตฺถํ คเหตฺวา.

ทฏฺเยฺยนฺติ ปสฺสิตพฺพยุตฺตกํ. อาวุโตติ อาวริโต. นิวุโตติ นิวาริโต. โอผุโฏติ โอนทฺโธ.

๒๑๗. นาควนิกนฺติ หตฺถิปโทปเม (ม. นิ. ๑.๒๘๘ อาทโย) นาควนจรโก ปุริโส ‘‘นาควนิโก’’ติ วุตฺโต, อิธ หตฺถิสิกฺขาย กุสโล หตฺถึ คเหตุํ สมตฺโถ. อติปสฺสิตฺวาติ ทิสฺวา. เอตฺถเคธาติ เอตสฺมึ ปวตฺตเคธา. สรสงฺกปฺปานนฺติ ธาวนสงฺกปฺปานํ. มนุสฺสกนฺเตสุ สีเลสุ สมาทปนายาติ เอตฺถ ยทา นาโค อิตฺถิปุริเสหิ กุมารกุมาริกาหิ โสณฺฑาทีสุ คเหตฺวา อุปเกฬยมาโน วิการํ น กโรติ สุขายติ, ตทาเนน มนุสฺสกนฺตานิ สีลานิ สมาทินฺนานิ นาม โหนฺติ.

เปมนียาติ ตาต ราชา เต ปสนฺโน มงฺคลหตฺถิฏฺาเนว เปสฺสติ, ราชารหานิ โภชนาทีนิ ลภิสฺสสีติ เอวรูปี นาเคหิ ปิยาปิตพฺพา กถา. สุสฺสูสตีติ ตํ เปมนียกถํ โสตุกาโม โหติ. ติณฆาโสทกนฺติ ติณฆาสฺเจว อุทกฺจ, ติณฆาสนฺติ ฆาสิตพฺพํ ติณํ, ขาทิตพฺพนฺติ อตฺโถ.

ปณโวติ ฑิณฺฑิโม. สพฺพวงฺกโทสนิหิตนินฺนีตกสาโวติ นิหิตสพฺพวงฺกโทโส เจว อปนีตกสาโว จ. องฺคนฺเตว สงฺขํ คจฺฉตีติ องฺคสโม โหติ.

๒๑๙. เคหสิตสีลานนฺติ ปฺจกามคุณนิสฺสิตสีลานํ. ายสฺสาติ อฏฺงฺคิกมคฺคสฺส.

๒๒๒. อทนฺตมรณํ มหลฺลโก รฺโ นาโค กาลงฺกโตติ รฺโ มหลฺลโก นาโค อทนฺตมรณํ มโต กาลํ กโต โหติ, อทนฺตมรณํ กาลํกิริยํ นาม กริยตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

ทนฺตภูมิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ภูมิชสุตฺตวณฺณนา

๒๒๓. เอวํเม สุตนฺติ ภูมิชสุตฺตํ. ตตฺถ ภูมิโชติ อยํ เถโร ชยเสนราชกุมารสฺส มาตุโล. อาสฺจ อนาสฺจาติ กาเลน อาสํ กาเลน อนาสํ. สเกนถาลิปาเกนาติ ปกติปวตฺตาย ภิกฺขาย อตฺตโน นิฏฺิตภตฺตโตปิ ภตฺเตน ปริวิสิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

ภูมิชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อนุรุทฺธสุตฺตวณฺณนา

๒๓๐. เอวํเม สุตนฺติ อนุรุทฺธสุตฺตํ. ตตฺถ เอวมาหํสูติ ตสฺส อุปาสกสฺส อผาสุกกาโล อโหสิ, ตทา อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ. อปณฺณกนฺติ อวิราธิตํ. เอกตฺถาติ อปฺปมาณาติ วา มหคฺคตาติ วา ฌานเมว จิตฺเตกคฺคตาเยว เอวํ วุจฺจตีติ อิมํ สนฺธาย เอวมาห.

๒๓๑. ยาวตาเอกํ รุกฺขมูลํ มหคฺคตนฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรตีติ เอกรุกฺขมูลปมาณฏฺานํ กสิณนิมิตฺเตน โอตฺถริตฺวา ตสฺมึ กสิณนิมิตฺเต มหคฺคตชฺฌานํ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. มหคฺคตนฺติ ปนสฺส อาโภโค นตฺถิ, เกวลํ มหคฺคตชฺฌานปวตฺติวเสน ปเนตํ วุตฺตํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อิมินา โข เอตํ คหปติ ปริยาเยนาติ อิมินา การเณน. เอตฺถ หิ อปฺปมาณาติ วุตฺตานํ พฺรหฺมวิหารานํ นิมิตฺตํ น วฑฺฒติ, อุคฺฆาฏนํ น ชายติ, ตานิ ฌานานิ อภิฺานํ วา นิโรธสฺส วา ปาทกานิ น โหนฺติ, วิปสฺสนาปาทกานิ ปน วฏฺฏปาทกานิ ภโวกฺกมนานิ จ โหนฺติ. ‘‘มหคฺคตา’’ติ วุตฺตานํ ปน กสิณชฺฌานานํ นิมิตฺตํ วฑฺฒติ, อุคฺฆาฏนํ ชายติ, สมติกฺกมา โหนฺติ, อภิฺาปาทกานิ นิโรธปาทกานิ วฏฺฏปาทกานิ ภโวกฺกมนานิ จ โหนฺติ. เอวมิเม ธมฺมา นานตฺถา, อปฺปมาณา มหคฺคตาติ เอวํ นานาพฺยฺชนา จ.

๒๓๒. อิทานิ มหคฺคตสมาปตฺติโต นีหริตฺวา ภวูปปตฺติการณํ ทสฺเสนฺโต จตสฺโส โข อิมาติอาทิมาห. ปริตฺตาภาติ ผริตฺวา ชานนฺตสฺส อยมาโภโค อตฺถิ, ปริตฺตาเภสุ ปน เทเวสุ นิพฺพตฺติการณํ ฌานํ ภาเวนฺโต เอวํ วุตฺโต. เอส นโย สพฺพตฺถ. ปริตฺตาภา สิยา สํกิลิฏฺาภา โหนฺติ สิยา ปริสุทฺธาภา, อปฺปมาณาภา สิยา สํกิลิฏฺาภา โหนฺติ สิยา ปริสุทฺธาภา. กถํ? สุปฺปมตฺเต วา สราวมตฺเต วา กสิณปริกมฺมํ กตฺวา สมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตตฺวา ปฺจหากาเรหิ อาจิณฺณวสิภาโว ปจฺจนีกธมฺมานํ สุฏฺุ อปริโสธิตตฺตา ทุพฺพลเมว สมาปตฺตึ วฬฺชิตฺวา อปฺปคุณชฺฌาเน ิโต กาลํ กตฺวา ปริตฺตาเภสุ นิพฺพตฺตติ, วณฺโณ ปนสฺส ปริตฺโต เจว โหติ สํกิลิฏฺโ จ. ปฺจหิ ปนากาเรหิ อาจิณฺณวสิภาโว ปจฺจนีกธมฺมานํ สุฏฺุ ปริโสธิตตฺตา สุวิสุทฺธํ สมาปตฺตึ วฬฺชิตฺวา ปคุณชฺฌาเน ิโต กาลํ กตฺวา ปริตฺตาเภสุ นิพฺพตฺตติ, วณฺโณ ปนสฺส ปริตฺโต เจว โหติ ปริสุทฺโธ จ. เอวํ ปริตฺตาภา สิยา สํกิลิฏฺาภา โหนฺติ สิยา ปริสุทฺธาภา. กสิเณ ปน วิปุลปริกมฺมํ กตฺวา สมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตตฺวา ปฺจหากาเรหิ อาจิณฺณวสิภาโวติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว เวทิตพฺพํ. เอวํ อปฺปมาณาภา สิยา สํกิลิฏฺาภา โหนฺติ สิยา ปริสุทฺธาภาติ.

วณฺณนานตฺตนฺติ สรีรวณฺณสฺส นานตฺตํ. โน จ อาภานานตฺตนฺติ อาโลเก นานตฺตํ น ปฺายติ. อจฺจินานตฺตนฺติ ทีฆรสฺสอณุถูลวเสน อจฺจิยา นานตฺตํ.

ยตฺถ ยตฺถาติ อุยฺยานวิมานกปฺปรุกฺขนทีตีรโปกฺขรณีตีเรสุ ยตฺถ ยตฺถ. อภินิวิสนฺตีติ วสนฺติ. อภิรมนฺตีติ รมนฺติ น อุกฺกณฺนฺติ. กาเชนาติ ยาคุภตฺตเตลผาณิตมจฺฉมํสกาเชสุ เยน เกนจิ กาเชน. ‘‘กาเจนาติ’’ปิ ปาโ, อยเมว อตฺโถ. ปิฏเกนาติ ปจฺฉิยา. ตตฺถ ตตฺเถวาติ สปฺปิมธุผาณิตาทีนํ สุลภฏฺานโต โลณปูติมจฺฉาทีนํ อุสฺสนฺนฏฺานํ นีตา ‘‘ปุพฺเพ อมฺหากํ วสนฏฺานํ ผาสุกํ, ตตฺถ สุขํ วสิมฺหา, อิธ โลณํ วา โน พาธติ ปูติมจฺฉคนฺโธ วา สีสโรคํ อุปฺปาเทตี’’ติ เอวํ จิตฺตํ อนุปฺปาเทตฺวา ตตฺถ ตตฺเถว รมนฺติ.

๒๓๔. อาภาติ อาภาสมฺปนฺนา. ตทงฺเคนาติ ตสฺสา ภวูปปตฺติยา องฺเคน, ภวูปปตฺติการเณนาติ อตฺโถ. อิทานิ ตํ การณํ ปุจฺฉนฺโต โก นุ โข, ภนฺเตติอาทิมาห.

กายทุฏฺุลฺลนฺติ กายาลสิยภาโว. ฌายโตติ ชลโต.

๒๓๕. ทีฆรตฺตํ โข เมติ เถโร กิร ปารมิโย ปูเรนฺโต อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา สมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตตฺวา นิรนฺตรํ ตีณิ อตฺตภาวสตานิ พฺรหฺมโลเก ปฏิลภิ, ตํ สนฺธาเยตํ อาห. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘อโวกิณฺณํ ตีณิ สตํ, ยํ ปพฺพชึ อิสิปพฺพชฺชํ;

อสงฺขตํ คเวสนฺโต, ปุพฺเพ สฺจริตํ มม’’นฺติ.

เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

อนุรุทฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อุปกฺกิเลสสุตฺตวณฺณนา

๒๓๖. เอวํเม สุตนฺติ อุปกฺกิเลสสุตฺตํ. ตตฺถ เอตทโวจาติ เนว เภทาธิปฺปาเยน น ปิยกมฺยตาย, อถ ขฺวาสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม ภิกฺขู มม วจนํ คเหตฺวา น โอรมิสฺสนฺติ, พุทฺธา จ นาม หิตานุกมฺปกา, อทฺธา เนสํ ภควา เอกํ การณํ กเถสฺสติ, ตํ สุตฺวา เอเต โอรมิสฺสนฺติ, ตโต เตสํ ผาสุวิหาโร ภวิสฺสตี’’ติ. ตสฺมา เอตํ ‘‘อิธ, ภนฺเต’’ติอาทิวจนมโวจ. มา ภณฺฑนนฺติอาทีสุ ‘‘อกตฺถา’’ติ ปาเสสํ คเหตฺวา ‘‘มา ภณฺฑนํ อกตฺถา’’ติ เอวํ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อฺตโรติ โส กิร ภิกฺขุ ภควโต อตฺถกาโม, อยํ กิรสฺส อธิปฺปาโย – ‘‘อิเม ภิกฺขู โกธาภิภูตา สตฺถุ วจนํ น คณฺหนฺติ, มา ภควา เอเต โอวทนฺโต กิลมี’’ติ, ตสฺมา เอวมาห.

ปิณฺฑาย ปาวิสีติ น เกวลํ ปาวิสิ, เยนปิ ชเนน น ทิฏฺโ, โส มํ ปสฺสตูติปิ อธิฏฺาสิ. กิมตฺถํ อธิฏฺาสีติ? เตสํ ภิกฺขูนํ ทมนตฺถํ. ภควา หิ ตทา ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต ‘‘ปุถุสทฺโท สมชโน’’ติอาทิคาถา ภาสิตฺวา โกสมฺพิโต พาลกโลณการคามํ คโต. ตโต ปาจีนวํสทายํ, ตโต ปาลิเลยฺยกวนสณฺฑํ คนฺตฺวา ปาลิเลยฺยหตฺถินาเคน อุปฏฺหิยมาโน เตมาสํ วสิ. นครวาสิโนปิ – ‘‘สตฺถา วิหารํ คโต, คจฺฉาม ธมฺมสฺสวนายา’’ติ คนฺธปุปฺผหตฺถา วิหารํ คนฺตฺวา ‘‘กหํ, ภนฺเต, สตฺถา’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘กหํ ตุมฺเห สตฺถารํ ทกฺขถ, สตฺถา ‘อิเม ภิกฺขู สมคฺเค กริสฺสามี’ติ อาคโต, สมคฺเค กาตุํ อสกฺโกนฺโต นิกฺขมิตฺวา คโต’’ติ. ‘‘มยํ สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ ทตฺวา สตฺถารํ อาเนตุํ น สกฺโกม, โส โน อยาจิโต สยเมว อาคโต, มยํ อิเม ภิกฺขู นิสฺสาย สตฺถุ สมฺมุขา ธมฺมกถํ โสตุํ น ลภิมฺหา. อิเม สตฺถารํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิตา, ตสฺมิมฺปิ สามคฺคึ กโรนฺเต สมคฺคา น ชาตา, กสฺสาฺสฺส วจนํ กริสฺสนฺติ. อลํ น อิเมสํ ภิกฺขา ทาตพฺพา’’ติ สกลนคเร ทณฺฑํ ปยึสุ. เต ปุนทิวเส สกลนครํ ปิณฺฑาย จริตฺวา กฏจฺฉุมตฺตมฺปิ ภิกฺขํ อลภิตฺวา วิหารํ อาคมํสุ. อุปาสกาปิ เต ปุน อาหํสุ – ‘‘ยาว สตฺถารํ น ขมาเปถ, ตาว โว ตเมว ทณฺฑกมฺม’’นฺติ. เต ‘‘สตฺถารํ ขมาเปสฺสามา’’ติ ภควติ สาวตฺถิยํ อนุปฺปตฺเต ตตฺถ อคมํสุ. สตฺถา เตสํ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ เทเสสีติ อยเมตฺถ ปาฬิมุตฺตกกถา.

๒๓๗. อิทานิ ปุถุสทฺโทติอาทิคาถาสุ ปุถุ มหาสทฺโท อสฺสาติ ปุถุสทฺโท. สมชโนติ สมาโน เอกสทิโส ชโน, สพฺโพวายํ ภณฺฑนการกชโน สมนฺตโต สทฺทนิจฺฉรเณน ปุถุสทฺโท เจว สทิโส จาติ วุตฺตํ โหติ. น พาโล โกจิ มฺถาติ ตตฺร โกจิ เอโกปิ อหํ พาโลติ น มฺติ, สพฺเพปิ ปณฺฑิตมานิโนเยว. นาฺํ ภิยฺโย อมฺรุนฺติ โกจิ เอโกปิ อหํ พาโลติ น จ มฺิ, ภิยฺโย จ สงฺฆสฺมึ ภิชฺชมาเน อฺมฺปิ เอกํ ‘‘มยฺหํ การณา สงฺโฆ ภิชฺชตี’’ติ อิทํ การณํ น มฺีติ อตฺโถ.

ปริมุฏฺาติ มุฏฺสฺสติโน. วาจาโคจรภาณิโนติ ราการสฺส รสฺสาเทโส กโต; วาจาโคจราว , น สติปฏฺานโคจรา, ภาณิโน จ, กถํ ภาณิโน? ยาวิจฺฉนฺติ มุขายามํ, ยาว มุขํ ปสาเรตุํ อิจฺฉนฺติ, ตาว ปสาเรตฺวา ภาณิโน, เอโกปิ สงฺฆคารเวน มุขสงฺโกจนํ น กโรตีติ อตฺโถ. เยน นีตาติ เยน กลเหน อิมํ นิลฺลชฺชภาวํ นีตา. น ตํ วิทู น ตํ ชานนฺติ ‘‘เอวํ สาทีนโว อย’’นฺติ.

เย จ ตํ อุปนยฺหนฺตีติ ตํ อกฺโกจฺฉิ มนฺติอาทิกํ อาการํ เย อุปนยฺหนฺติ. สนนฺตโนติ โปราโณ.

ปเรติ ปณฺฑิเต เปตฺวา ตโต อฺเ ภณฺฑนการกา ปเร นาม. เต เอตฺถ สงฺฆมชฺเฌ กลหํ กโรนฺตา ‘‘มยํ ยมามเส อุปยมาม นสฺสาม สตตํ สมิตํ มจฺจุสนฺติกํ คจฺฉามา’’ติ น ชานนฺติ. เย จ ตตฺถ วิชานนฺตีติ เย จ ตตฺถ ปณฺฑิตา ‘‘มยํ มจฺจุโน สมีปํ คจฺฉามา’’ติ วิชานนฺติ. ตโต สมฺมนฺติ เมธคาติ เอวฺหิ เต ชานนฺตา โยนิโสมนสิการํ อุปฺปาเทตฺวา เมธคานํ กลหานํ วูปสมาย ปฏิปชฺชนฺติ.

อฏฺิจฺฉินฺนาติ อยํ คาถา ชาตเก (ชา. ๑.๙.๑๖) อาคตา, พฺรหฺมทตฺตฺจ ทีฆาวุกุมารฺจ สนฺธาย วุตฺตา. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – เตสมฺปิ ตถา ปวตฺตเวรานํ โหติ สงฺคติ, กสฺมา ตุมฺหากํ น โหติ, เยสํ โว เนว มาตาปิตูนํ อฏฺีนิ ฉินฺนานิ, น ปาณา หฏา น ควาสฺสธนานิ หฏานีติ.

สเจลเภถาติอาทิคาถา ปณฺฑิตสหายสฺส จ พาลสหายสฺส จ วณฺณาวณฺณทีปนตฺถํ วุตฺตา. อภิภุยฺย สพฺพานิ ปริสฺสยานีติ ปากฏปริสฺสเย จ ปฏิจฺฉนฺนปริสฺสเย จ อภิภวิตฺวา เตน สทฺธึ อตฺตมโน สติมา จเรยฺยาติ.

ราชาว รฏฺํ วิชิตนฺติ ยถา อตฺตโน วิชิตรฏฺํ มหาชนกราชา จ อรินฺทมมหาราชา จ ปหาย เอกกา วิจรึสุ, เอวํ วิจเรยฺยาติ อตฺโถ. มาตงฺครฺเว นาโคติ มาตงฺโค อรฺเ นาโคว. มาตงฺโคติ หตฺถิ วุจฺจติ. นาโคติ มหนฺตาธิวจนเมตํ. ยถา หิ มาตุโปสโก มาตงฺคนาโค อรฺเ เอโก จริ, น จ ปาปานิ อกาสิ, ยถา จ ปาลิเลยฺยโก, เอวํ เอโก จเร, น จ ปาปานิ กยิราติ วุตฺตํ โหติ.

๒๓๘. พาลกโลณการคาโมติ อุปาลิคหปติสฺส โภคคาโม. เตนุปสงฺกมีติ กสฺมา อุปสงฺกมิ? คเณ กิรสฺส อาทีนวํ ทิสฺวา เอกวิหารึ ภิกฺขุํ ปสฺสิตุกามตา อุทปาทิ, ตสฺมา สีตาทีหิ ปีฬิโต อุณฺหาทีนิ ปตฺถยมาโน วิย อุปสงฺกมิ. ธมฺมิยา กถายาติ เอกีภาเว อานิสํสปฺปฏิสํยุตฺตาย. เยน ปาจีนวํสทาโย, ตตฺถ กสฺมา อุปสงฺกมิ? กลหการเก กิรสฺส ทิฏฺาทีนวตฺตา สมคฺควาสิโน ภิกฺขู ปสฺสิตุกามตา อุทปาทิ, ตสฺมา สีตาทีหิ ปีฬิโต อุณฺหาทีนิ ปตฺถยมาโน วิย ตตฺถ อุปสงฺกมิ. อายสฺมา จ อนุรุทฺโธติอาทิ วุตฺตนยเมว.

๒๔๑. อตฺถิ ปน โวติ ปจฺฉิมปุจฺฉาย โลกุตฺตรธมฺมํ ปุจฺเฉยฺย. โส ปน เถรานํ นตฺถิ, ตสฺมา ตํ ปุจฺฉิตุํ น ยุตฺตนฺติ ปริกมฺโมภาสํ ปุจฺฉติ. โอภาสฺเจว สฺชานามาติ ปริกมฺโมภาสํ สฺชานาม. ทสฺสนฺจ รูปานนฺติ ทิพฺพจกฺขุนา รูปทสฺสนฺจ สฺชานาม. ตฺจ นิมิตฺตํ นปฺปฏิวิชฺฌามาติ ตฺจ การณํ น ชานาม, เยน โน โอภาโส จ รูปทสฺสนฺจ อนฺตรธายติ.

ตํ โข ปน โว อนุรุทฺธา นิมิตฺตํ ปฏิวิชฺฌิตพฺพนฺติ ตํ โว การณํ ชานิตพฺพํ. อหมฺปิ สุทนฺติ อนุรุทฺธา ตุมฺเห กึ น อาฬุเลสฺสนฺติ, อหมฺปิ อิเมหิ เอกาทสหิ อุปกฺกิเลเสหิ อาฬุลิตปุพฺโพติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. วิจิกิจฺฉา โข เมติอาทีสุ มหาสตฺตสฺส อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทิพฺพจกฺขุนา นานาวิธานิ รูปานิ ทิสฺวา ‘‘อิทํ โข กิ’’นฺติ วิจิกิจฺฉา อุทปาทิ. สมาธิ จวีติ ปริกมฺมสมาธิ จวิ. โอภาโสติ ปริกมฺโมภาโสปิ อนฺตรธายิ, ทิพฺพจกฺขุนาปิ รูปํ น ปสฺสิ. อมนสิกาโรติ รูปานิ ปสฺสโต วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชติ, อิทานิ กิฺจิ น มนสิกริสฺสามีติ อมนสิกาโร อุทปาทิ.

ถินมิทฺธนฺติ กิฺจิ อมนสิกโรนฺตสฺส ถินมิทฺธํ อุทปาทิ.

ฉมฺภิตตฺตนฺติ หิมวนฺตาภิมุขํ อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทานวรกฺขสอชคราทโย อทฺทส, อถสฺส ฉมฺภิตตฺตํ อุทปาทิ.

อุปฺปิลนฺติ ‘‘มยา ทิฏฺภยํ ปกติยา โอโลกิยมานํ นตฺถิ. อทิฏฺเ กึ นาม ภย’’นฺติ จินฺตยโต อุปฺปิลาวิตตฺตํ อุทปาทิ. สกิเทวาติ เอกปโยเคเนว ปฺจ นิธิกุมฺภิโยปิ ปสฺเสยฺย.

ทุฏฺุลฺลนฺติ มยา วีริยํ คาฬฺหํ ปคฺคหิตํ, เตน เม อุปฺปิลํ อุปฺปนฺนนฺติ วีริยํ สิถิลมกาสิ, ตโต กายทรโถ กายทุฏฺุลฺลํ กายาลสิยํ อุทปาทิ.

อจฺจารทฺธวีริยนฺติ มม วีริยํ สิถิลํ กโรโต ทุฏฺุลฺลํ อุปฺปนฺนนฺติ ปุน วีริยํ ปคฺคณฺหโต อจฺจารทฺธวีริยํ อุทปาทิ. ปตเมยฺยาติ มเรยฺย.

อติลีนวีริยนฺติ มม วีริยํ ปคฺคณฺหโต เอวํ ชาตนฺติ ปุน วีริยํ สิถิลํ กโรโต อติลีนวีริยํ อุทปาทิ.

อภิชปฺปาติ เทวโลกาภิมุขํ อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา เทวสงฺฆํ ปสฺสโต ตณฺหา อุทปาทิ.

นานตฺตสฺาติ มยฺหํ เอกชาติกํ รูปํ มนสิกโรนฺตสฺส อภิชปฺปา อุปฺปนฺนา, นานาวิธรูปํ มนสิ กริสฺสามีติ กาเลน เทวโลกาภิมุขํ กาเลน มนุสฺสโลกาภิมุขํ วฑฺเฒตฺวา นานาวิธานิ รูปานิ มนสิกโรโต นานตฺตสฺา อุทปาทิ.

อตินิชฺฌายิตตฺตนฺติ มยฺหํ นานาวิธานิ รูปานิ มนสิกโรนฺตสฺส นานตฺตสฺา อุทปาทิ, อิฏฺํ วา อนิฏฺํ วา เอกชาติกเมว มนสิ กริสฺสามีติ ตถา มนสิกโรโต อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปานํ อุทปาทิ.

๒๔๓. โอภาสนิมิตฺตํมนสิ กโรมีติ ปริกมฺโมภาสเมว มนสิ กโรมิ. น จ รูปานิ ปสฺสามีติ ทิพฺพจกฺขุนา รูปานิ น ปสฺสามิ. รูปนิมิตฺตํ มนสิ กโรมีติ ทิพฺพจกฺขุนา วิสยรูปเมว มนสิ กโรมิ.

ปริตฺตฺเจว โอภาสนฺติ ปริตฺตกฏฺาเน โอภาสํ. ปริตฺตานิ จ รูปานีติ ปริตฺตกฏฺาเน รูปานิ. วิปริยาเยน ทุติยวาโร เวทิตพฺโพ. ปริตฺโต สมาธีติ ปริตฺตโก ปริกมฺโมภาโส, โอภาสปริตฺตตฺหิ สนฺธาย อิธ ปริกมฺมสมาธิ ‘‘ปริตฺโต’’ติ วุตฺโต. ปริตฺตํ เม ตสฺมึ สมเยติ ตสฺมึ สมเย ทิพฺพจกฺขุปิ ปริตฺตกํ โหติ. อปฺปมาณวาเรปิ เอเสว นโย.

๒๔๕. อวิตกฺกมฺปิ วิจารมตฺตนฺติ ปฺจกนเย ทุติยชฺฌานสมาธึ. อวิตกฺกมฺปิ อวิจารนฺติ จตุกฺกนเยปิ ปฺจกนเยปิ ฌานตฺตยสมาธึ. สปฺปีติกนฺติ ทุกติกชฺฌานสมาธึ. นิปฺปีติกนฺติ ทุกชฺฌานสมาธึ. สาตสหคตนฺติ ติกจตุกฺกชฺฌานสมาธึ. อุเปกฺขาสหคตนฺติ จตุกฺกนเย จตุตฺถชฺฌานสมาธึ ปฺจกนเย ปฺจมชฺฌานสมาธึ.

กทา ปน ภควา อิมํ ติวิธํ สมาธึ ภาเวติ? มหาโพธิมูเล นิสินฺโน ปจฺฉิมยาเม. ภควโต หิ ปมมคฺโค ปมชฺฌานิโก อโหสิ, ทุติยาทโย ทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานิกา . ปฺจกนเย ปฺจมชฺฌานสฺส มคฺโค นตฺถีติ โส โลกิโย อโหสีติ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

อุปกฺกิเลสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. พาลปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนา

๒๔๖. เอวํเม สุตนฺติ พาลปณฺฑิตสุตฺตํ. ตตฺถ พาลลกฺขณานีติ พาโล อยนฺติ เอเตหิ ลกฺขิยติ ายตีติ พาลลกฺขณานิ. ตาเนว ตสฺส สฺชานนการณานีติ พาลนิมิตฺตานิ. พาลสฺส อปทานานีติ พาลาปทานานิ. ทุจฺจินฺติตจินฺตีติ จินฺตยนฺโต อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทสฺสนวเสน ทุจฺจินฺติตเมว จินฺเตติ. ทุพฺภาสิตภาสีติ ภาสมาโนปิ มุสาวาทาทิเภทํ ทุพฺภาสิตเมว ภาสติ. ทุกฺกฏกมฺมการีติ กโรนฺโตปิ ปาณาติปาตาทิวเสน ทุกฺกฏกมฺมเมว กโรติ. ตตฺร เจติ ยตฺถ นิสินฺโน, ตสฺสํ ปริสติ. ตชฺชํ ตสฺสารุปฺปนฺติ ตชฺชาติกํ ตทนุจฺฉวิกํ, ปฺจนฺนํ เวรานํ ทิฏฺธมฺมกสมฺปรายิกอาทีนวปฺปฏิสํยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. ตตฺราติ ตาย กถาย กจฺฉมานาย. พาลนฺติอาทีนิ สามิอตฺเถ อุปโยควจนํ.

๒๔๘. โอลมฺพนฺตีติ อุปฏฺหนฺติ. เสสปททฺวยํ ตสฺเสว เววจนํ, โอลมฺพนาทิอากาเรน หิ ตานิ อุปฏฺหนฺติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ. ปถวิยา โอลมฺพนฺตีติ ปถวิตเล ปตฺถรนฺติ. เสสปททฺวยํ ตสฺเสว เววจนํ. ปตฺถรณากาโรเยว เหส. ตตฺร, ภิกฺขเว, พาลสฺสาติ ตสฺมึ อุปฏฺานากาเร อาปาถคเต พาลสฺส เอวํ โหติ.

๒๔๙. เอตทโวจาติ อนุสนฺธิกุสโล ภิกฺขุ ‘‘นิรยสฺส อุปมา กาตุํ น สกฺกา’’ติ น ภควา วทติ, ‘‘น สุกรา’’ติ ปน วทติ, น สุกรํ ปน สกฺกา โหติ กาตุํ, หนฺทาหํ ทสพลํ อุปมํ การาเปมีติ จินฺเตตฺวา เอตํ ‘‘สกฺกา, ภนฺเต’’ติ วจนํ อโวจ. หเนยฺยุนฺติ วินิวิชฺฌิตฺวา คมนวเสน ยถา เอกสฺมึ าเน ทฺเว ปหารา นิปตนฺติ, เอวํ หเนยฺยุํ. เตนสฺส ทฺเว วณมุขสตานิ โหนฺติ. อิโต อุตฺตริปิ เอเสว นโย.

๒๕๐. ปาณิมตฺตนฺติ อนฺโตมุฏฺิยํ ปนมตฺตํ. สงฺขมฺปิ น อุเปตีติ คณนมตฺตมฺปิ น คจฺฉติ. กลภาคมฺปีติ สติมํ กลํ สหสฺสิมํ กลํ สตสหสฺสิมํ วา กลํ อุปคจฺฉตีติปิ วตฺตพฺพตํ น อุเปติ. อุปนิธมฺปีติ อุปนิกฺเขปนมตฺตมฺปิ น อุเปติ, โอโลเกนฺตสฺส โอโลกิตมตฺตมฺปิ นตฺถิ. ตตฺตํอโยขิลนฺติ ติคาวุตํ อตฺตภาวํ สมฺปชฺชลิตาย โลหปถวิยา อุตฺตานกํ นิปชฺชาเปตฺวา ตสฺส ทกฺขิณหตฺเถ ตาลปฺปมาณํ อยสูลํ ปเวเสนฺติ, ตถา วามหตฺถาทีสุ. ยถา จ อุตฺตานกํ นิปชฺชาเปตฺวา, เอวํ อุเรนปิ ทกฺขิณปสฺเสนปิ วามปสฺเสนปิ นิปชฺชาเปตฺวา ตํ กมฺมการณํ กโรนฺติเยว. สํเวเสตฺวาติ สมฺปชฺชลิตาย โลหปถวิยา ติคาวุตํ อตฺตภาวํ นิปชฺชาเปตฺวา. กุารีหีติ มหตีหิ เคหสฺส เอกปกฺขฉทนมตฺตาหิ กุารีหิ ตจฺฉนฺติ. โลหิตํ นที หุตฺวา สนฺทติ, โลหปถวิโต ชาลา อุฏฺหิตฺวา ตจฺฉิตฏฺานํ คณฺหนฺติ. มหาทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ตจฺฉนฺตา ปน สุตฺตาหตํ กริตฺวา ทารู วิย อฏฺํสมฺปิ ฉฬํสมฺปิ กโรนฺติ. วาสีหีติ มหาสุปฺปปมาณาหิ วาสีหิ. ตาหิ ตจฺฉนฺตา ตจโต ยาว อฏฺีนิ สณิกํ ตจฺฉนฺติ, ตจฺฉิตํ ตจฺฉิตํ ปฏิปากติกํ โหติ. รเถ โยเชตฺวาติ สทฺธึ ยุคโยตฺตปฺจรจกฺกกุพฺพรปาจเนหิ สพฺพโต สมฺปชฺชลิเต รเถ โยเชตฺวา. มหนฺตนฺติ มหากูฏาคารปฺปมาณํ. อาโรเปนฺตีติ สมฺปชฺชลิเตหิ อยมุคฺคเรหิ โปเถนฺตา อาโรเปนฺติ. สกิมฺปิอุทฺธนฺติ สุปกฺกุถิตาย อุกฺขลิยา ปกฺขิตฺตตณฺฑุลา วิย อุทฺธํ อโธ ติริยฺจ คจฺฉติ.

ภาคโส มิโตติ ภาเค เปตฺวา เปตฺวา วิภตฺโต. ปริยนฺโตติ ปริกฺขิตฺโต. อยสาติ อุปริ อยปฏฺเฏน ฉาทิโต.

สมนฺตา โยชนสตํ ผริตฺวา ติฏฺตีติ เอวํ ผริตฺวา ติฏฺติ, ยถา สมนฺตา โยชนสเต าเน ตฺวา โอโลเกนฺตสฺส อกฺขีนิ ยมกโคฬกา วิย นิกฺขมนฺติ.

น สุกรา อกฺขาเนน ปาปุณิตุนฺติ นิรโย นาม เอวมฺปิ ทุกฺโข เอวมฺปิ ทุกฺโขติ วสฺสสตํ วสฺสสหสฺสํ กเถนฺเตนาปิ มตฺถกํ ปาเปตฺวา กเถตุํ น สุกราติ อตฺโถ.

๒๕๑. ทนฺตุลฺเลหกนฺติ ทนฺเตหิ อุลฺเลหิตฺวา, ลุฺจิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. รสาโทติ รสเคเธน ปริภุตฺตรโส.

๒๕๒. อฺมฺขาทิกาติ อฺมฺขาทนํ.

ทุพฺพณฺโณติ ทุรูโป. ทุทฺทสิโกติ ทารกานํ ภยาปนตฺถํ กตยกฺโข วิย ทุทฺทโส. โอโกฏิมโกติ ลกุณฺฑโก ปวิฏฺคีโว มโหทโร. กาโณติ เอกกฺขิกาโณ วา อุภยกฺขิกาโณ วา. กุณีติ เอกหตฺถกุณี วา อุภยหตฺถกุณี วา. ปกฺขหโตติ ปีสปฺปี. โสกาเยนาติ อิทมสฺส ทุกฺขานุปพนฺธทสฺสนตฺถํ อารทฺธํ.

กลิคฺคเหนาติ ปราชเยน. อธิพนฺธํ นิคจฺเฉยฺยาติ ยสฺมา พหุํ ชิโต สพฺพสาปเตยฺยมฺปิสฺส นปฺปโหติ, ตสฺมา อตฺตนาปิ พนฺธํ นิคจฺเฉยฺย. เกวลา ปริปูรา พาลภูมีติ พาโล ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปูเรตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตติ, ตตฺถ ปกฺกาวเสเสน มนุสฺสตฺตํ อาคโต ปฺจสุ นีจกุเลสุ นิพฺพตฺติตฺวา ปุน ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปูเรตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตตีติ อยํ สกลา ปริปุณฺณา พาลภูมิ.

๒๕๓. ปณฺฑิตลกฺขณานีติอาทิ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. สุจินฺติตจินฺตีติอาทีนิ เจตฺถ มโนสุจริตาทีนํ วเสน โยเชตพฺพานิ.

จกฺกรตนวณฺณนา

๒๕๖. สีสํ นฺหาตสฺสาติ สีเสน สทฺธึ คนฺโธทเกน นฺหาตสฺส. อุโปสถิกสฺสาติ สมาทินฺนอุโปสถงฺคสฺส. อุปริปาสาทวรคตสฺสาติ ปาสาทวรสฺส อุปริ คตสฺส สุโภชนํ ภุฺชิตฺวา ปาสาทวรสฺส อุปริ มหาตเล สิรีคพฺภํ ปวิสิตฺวา สีลานิ อาวชฺชนฺตสฺส. ตทา กิร ราชา ปาโตว สตสหสฺสํ วิสฺสชฺเชตฺวา มหาทานํ ทตฺวา ปุนปิ โสฬสหิ คนฺโธทกฆเฏหิ สีสํ นฺหายิตฺวา กตปาตราโส สุทฺธํ อุตฺตราสงฺคํ เอกํสํ กตฺวา อุปริปาสาทสฺส สิรีสยเน ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสินฺโน อตฺตโน ทานมยปุฺสมุทยํ อาวชฺเชตฺวา นิสีทติ, อยํ สพฺพจกฺกวตฺตีนํ ธมฺมตา .

เตสํ ตํ อาวชฺชนฺตานํเยว วุตฺตปฺปการปุฺกมฺมปจฺจยํ อุตุสมุฏฺานํ นีลมณิสงฺฆาฏสทิสํ ปาจีนสมุทฺทชลตลํ ฉินฺทมานํ วิย อากาสํ อลงฺกุรุมานํ วิย ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุภวติ. ตยิทํ ทิพฺพานุภาวยุตฺตตฺตา ทิพฺพนฺติ วุตฺตํ. สหสฺสํ อสฺส อรานนฺติ สหสฺสารํ. สห เนมิยา สห นาภิยา จาติ สเนมิกํ สนาภิกํ. สพฺเพหิ อากาเรหิ ปริปูรนฺติ สพฺพาการปริปูรํ.

ตตฺถ จกฺกฺจ ตํ รติชนนฏฺเน รตนฺจาติ จกฺกรตนํ. ยาย ปน ตํ นาภิยา ‘‘สนาภิก’’นฺติ วุตฺตํ, สา อินฺทนีลมณิมยา โหติ. มชฺเฌ ปนสฺสา รชตมยา ปนาฬิ, ยาย สุทฺธสินิทฺธทนฺตปนฺติยา หสมานํ วิย วิโรจติ. มชฺเฌ ฉิทฺเทน วิย จนฺทมณฺฑเลน อุโภสุปิ พาหิรนฺเตสุ รชตปฏฺเฏน กตปริกฺเขโป โหติ. เตสุ ปนสฺสา นาภิปนาฬิ ปริกฺเขปปฏฺเฏสุ ยุตฺตฏฺาเน ปริจฺเฉทเลขา สุวิภตฺตาว หุตฺวา ปฺายนฺติ. อยํ ตาวสฺส นาภิยา สพฺพาการปริปูรตา.

เยหิ ปน ตํ อเรหิ ‘‘สหสฺสาร’’นฺติ วุตฺตํ, เต สตฺตรตนมยา สูริยรสฺมิโย วิย ปภาสมฺปนฺนา โหนฺติ. เตสมฺปิ ฆฏมณิกปริจฺเฉทเลขาทีนิ สุวิภตฺตาเนว ปฺายนฺติ. อยมสฺส อรานํ สพฺพาการปริปูรตา.

ยาย ปน ตํ เนมิยา สห ‘‘สเนมิก’’นฺติ วุตฺตํ, สา พาลสูริยรสฺมิกลาปสิรึ อวหสมานา วิย สุรตฺตสุทฺธสินิทฺธปวาฬมยา โหติ. สนฺธีสุ ปนสฺสา สฺฌาราคสสฺสิริกรตฺตชมฺโพนทปฏฺฏา วฏฺฏปริจฺเฉทเลขา จ สุวิภตฺตา ปฺายนฺติ. อยมสฺส เนมิยา สพฺพาการปริปูรตา.

เนมิมณฺฑลปิฏฺิยํ ปนสฺส ทสนฺนํ ทสนฺนํ อรานมนฺตเร ธมนวํโส วิย อนฺโตสุสิโร ฉิทฺทมณฺฑลจิตฺโต วาตคาหี ปวาฬทณฺโฑ โหติ, ยสฺส วาเตน ปหริตสฺส สุกุสลสมนฺนาหตสฺส ปฺจงฺคิกตูริยสฺส วิย สทฺโท วคฺคุ จ รชนีโย จ กมนีโย จ โหติ. ตสฺส โข ปน ปวาฬทณฺฑสฺส อุปริ เสตจฺฉตฺตํ, อุโภสุ ปสฺเสสุ สโมสริตกุสุมทามปนฺติโยติ เอวํ สโมสริตกุสุมทามปนฺติสตทฺวยปริวาเรน เสตจฺฉตฺตสตธารินา ปวาฬทณฺฑสเตน สมุปโสภิตเนมิปริกฺเขปสฺส ทฺวินฺนมฺปิ นาภิปนาฬีนํ อนฺโต ทฺเว สีหมุขานิ โหนฺติ, เยหิ ตาลกฺขนฺธปฺปมาณา ปุณฺณจนฺทกิรณกลาปสสฺสิริกา ตรุณรวิสมานรตฺตกมฺพลเคณฺฑุกปริยนฺตา อากาสคงฺคาคติโสภํ อภิภวมานา วิย ทฺเว มุตฺตกลาปา โอลมฺพนฺติ, เยหิ จกฺกรตเนน สทฺธึ อากาเส สมฺปริวตฺตมาเนหิ ตีณิ จกฺกานิ เอกโต ปริวตฺตนฺตานิ วิย ขายนฺติ. อยมสฺส สพฺพโส สพฺพาการปริปูรตา.

ตํ ปเนตํ เอวํ สพฺพาการปริปูรํ ปกติยา สายมาสภตฺตํ ภุฺชิตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ฆรทฺวาเร ปฺตฺตาสเนสุ นิสีทิตฺวา ปวตฺตกถาสลฺลาเปสุ มนุสฺเสสุ วีถิจตุกฺกาทีสุ กีฬมาเน ทารกชเน นาติอุจฺเจน นาตินีเจน วนสณฺฑมตฺถกาสนฺเนน อากาสปฺปเทเสน อุปโสภยมานํ วิย รุกฺขสาขคฺคานิ, ทฺวาทสโยชนโต ปฏฺาย สุยฺยมาเนน มธุรสฺสเรน สตฺตานํ โสตานิ โอธาปยมานํ โยชนโต ปฏฺาย นานปฺปภาสมุทยสมุชฺชเลน วณฺเณน นยนานิ สมากฑฺฒนฺตํ รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปุฺานุภาวํ อุคฺโฆสยนฺตํ วิย ราชธานิอภิมุขํ อาคจฺฉติ.

อถ ตสฺส จกฺกรตนสฺส สทฺทสฺสวเนเนว ‘‘กุโต นุ โข, กสฺส นุ โข อยํ สทฺโท’’ติ อาวชฺชิตหทยานํ ปุรตฺถิมทิสํ โอโลกยมานานํ เตสํ มนุสฺสานํ อฺตโร อฺตรํ เอวมาห – ‘‘ปสฺส โภ อจฺฉริยํ, อยํ ปุณฺณจนฺโท ปุพฺเพ เอโก อุคฺคจฺฉติ, อชฺช ปน อตฺตทุติโย อุคฺคโต, เอตฺหิ ราชหํสมิถุนํ วิย ปุณฺณจนฺทมิถุนํ ปุพฺพาปริเยน คคนตลํ อภิลงฺฆตี’’ติ. ตมฺโ อาห – ‘‘กึ กเถสิ สมฺม กหํ นาม ตยา ทฺเว ปุณฺณจนฺทา เอกโต อุคฺคจฺฉนฺตา ทิฏฺปุพฺพา, นนุ เอส ตปนียรํสิธาโร ปิฺฉรกิรโณ ทิวากโร อุคฺคโต’’ติ. ตมฺโ สิตํ กตฺวา เอวมาห – ‘‘กึ อุมฺมตฺโตสิ, นนุ โข อิทานิเมว ทิวากโร อตฺถงฺคโต, โส กถํ อิมํ ปุณฺณจนฺทํ อนุพนฺธมาโน อุคฺคจฺฉิสฺสติ, อทฺธา ปเนตํ อเนกรตนปฺปภาสมุชฺชลํ เอกสฺส ปุฺวโต วิมานํ ภวิสฺสตี’’ติ. เต สพฺเพปิ อปสาทยนฺตา อฺเ เอวมาหํสุ – ‘‘กึ พหุํ วิปฺปลปถ, เนเวส ปุณฺณจนฺโท, น สูริโย น เทววิมานํ. น เหเตสํ เอวรูปา สิริสมฺปตฺติ อตฺถิ, จกฺกรตเนน ปเนเตน ภวิตพฺพ’’นฺติ.

เอวํ ปวตฺตสลฺลาปสฺเสว ตสฺส ชนสฺส จนฺทมณฺฑลํ โอหาย ตํ จกฺกรตนํ อภิมุขํ โหติ. ตโต เตหิ ‘‘กสฺส นุ โข อิทํ นิพฺพตฺต’’นฺติ วุตฺเต ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘‘น กสฺสจิ อฺสฺส, นนุ อมฺหากํ ราชา ปูริตจกฺกวตฺติวตฺโต, ตสฺเสตํ นิพฺพตฺต’’นฺติ. อถ โส จ มหาชโน, โย จ อฺโ ปสฺสติ, สพฺโพ จกฺกรตนเมว อนุคจฺฉติ. ตมฺปิ จกฺกรตนํ รฺโเยว อตฺถาย อตฺตโน อาคตภาวํ าเปตุกามํ วิย สตฺตกฺขตฺตุํ ปาการมตฺถเกเนว นครํ อนุสํยายิตฺวา รฺโ อนฺเตปุรํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อนฺเตปุรสฺส อุตฺตรสีหปฺชรอาสนฺเน าเน ยถา คนฺธปุปฺผาทีหิ สุเขน สกฺกา โหติ ปูเชตุํ, เอวํ อกฺขาหตํ วิย ติฏฺติ.

เอวํ ิตสฺส ปนสฺส วาตปานจฺฉิทฺทาทีหิ ปวิสิตฺวา นานาวิราครตนปฺปภาสมุชฺชลํ อนฺโต ปาสาทํ อลงฺกุรุมานํ ปภาสมูหํ ทิสฺวา ทสฺสนตฺถาย สฺชาตาภิลาโส ราชา โหติ. ปริชโนปิสฺส ปิยวจนปาภเตน อาคนฺตฺวา ตมตฺถํ นิเวเทติ. อถ ราชา พลวปีติปาโมชฺชผุฏสรีโร ปลฺลงฺกํ โมเจตฺวา อุฏฺายาสนา สีหปฺชรสมีปํ คนฺตฺวา ตํ จกฺกรตนํ ทิสฺวา ‘‘สุตํ โข ปน เมต’’นฺติอาทิกํ จินฺตนํ จินฺเตสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ทิสฺวาน รฺโ ขตฺติยสฺส…เป… อสฺสํ นุ โข อหํ ราชา จกฺกวตฺตี’’ติ. ตตฺถ โส โหติ ราชา จกฺกวตฺตีติ กิตฺตาวตา จกฺกวตฺตี โหติ? เอกงฺคุลทฺวงฺคุลมตฺตมฺปิ จกฺกรตเน อากาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปวตฺเต.

อิทานิ ตสฺส ปวตฺตาปนตฺถํ ยํ กาตพฺพํ ตํ ทสฺเสนฺโต อถ โข, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อุฏฺายาสนาติ นิสินฺนาสนโต อุฏฺหิตฺวา จกฺกรตนสมีปํ อาคนฺตฺวา. ภิงฺการํ คเหตฺวาติ หตฺถิโสณฺฑสทิสปนาฬึ สุวณฺณภิงฺการํ อุกฺขิปิตฺวา วามหตฺเถน อุทกํ คเหตฺวา. ปวตฺตตุ ภวํ จกฺกรตนํ, อภิวิชินาตุ ภวํ จกฺกรตนนฺติ. อนฺวเทว ราชา จกฺกวตฺตี สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนายาติ สพฺพจกฺกวตฺตีนฺหิ อุทเกน อภิสิฺจิตฺวา ‘‘อภิวิชานาตุ ภวํ จกฺกรตน’’นฺติ วจนสมนนฺตรเมว เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา จกฺกรตนํ ปวตฺตติ, ยสฺส ปวตฺติสมกาลเมว โส ราชา จกฺกวตฺตี นาม โหติ.

ปวตฺเต ปน จกฺกรตเน ตํ อนุพนฺธมาโนว ราชา จกฺกวตฺตี ยานวรํ อารุยฺห เวหาสํ อพฺภุคฺคจฺฉติ, อถสฺส ฉตฺตจามราทิหตฺโถ ปริชโน เจว อนฺเตปุรชโน จ. ตโต นานปฺปการกฺจุกกวจาทิสนฺนาหวิภูสิเตน วิวิธาหรณปฺปภาสมุชฺชลิเตน สมุสฺสิตทฺธชปฏากปฏิมณฺฑิเตน อตฺตโน อตฺตโน พลกาเยน สทฺธึ อุปราชเสนาปติ ปภูตโยปิ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ราชานเมว ปริวาเรนฺติ. ราชยุตฺตา ปน ชนสงฺคหตฺถํ นครวีถีสุ เภริโย จราเปนฺติ ‘‘ตาตา อมฺหากํ รฺโ จกฺกรตนํ นิพฺพตฺตํ, อตฺตโน อตฺตโน วิภวานุรูเปน มณฺฑิตปฺปสาธิตา สนฺนิปตถา’’ติ. มหาชโน ปน ปกติยา จกฺกรตนสทฺเทเนว สพฺพกิจฺจานิ ปหาย คนฺธปุปฺผาทีนิ อาทาย สนฺนิปติโตว, โสปิ สพฺโพ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ราชานเมว ปริวาเรติ. ยสฺส ยสฺส หิ รฺา สทฺธึ คนฺตุกามตา อุปฺปชฺชติ, โส โส อากาสคโตว โหติ. เอวํ ทฺวาทสโยชนายามวิตฺถารา ปริสา โหติ. ตตฺถ เอกปุริโสปิ ฉินฺนภินฺนสรีโร วา กิลิฏฺวตฺโถ วา นตฺถิ. สุจิปริวาโร หิ ราชา จกฺกวตฺตี. จกฺกวตฺติปริสา นาม วิชฺชาธรปริสา วิย อากาเส คจฺฉมานา อินฺทนีลมณิตเล วิปฺปกิณฺณรตนสทิสา โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อนฺวเทว ราชา จกฺกวตฺตี สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนายา’’ติ.

ตมฺปิ จกฺกรตนํ รุกฺขคฺคานํ อุปรูปริ นาติอุจฺเจน คคนปเทเสน ปวตฺตติ, ยถา รุกฺขานํ ปุปฺผผลปลฺลเวหิ อตฺถิกา ตานิ สุเขน คเหตุํ สกฺโกนฺติ, ภูมิยํ ิตา ‘‘เอส ราชา, เอส อุปราชา, เอส เสนาปตี’’ติ สลฺลกฺเขตุํ สกฺโกนฺติ. านาทีสุปิ อิริยาปเถสุ โย เยน อิจฺฉติ, โส เตเนว คจฺฉติ. จิตฺตกมฺมาทิสิปฺปปสุตา เจตฺถ อตฺตโน อตฺตโน กิจฺจํ กโรนฺตาเยว คจฺฉนฺติ. ยเถว หิ ภูมิยํ, ตถา เนสํ สพฺพกิจฺจานิ อากาเส อิชฺฌนฺติ. เอวํ จกฺกวตฺติปริสํ คเหตฺวา ตํ จกฺกรตนํ วามปสฺเสน สิเนรุํ ปหาย สมุทฺทสฺส อุปริภาเคน อฏฺโยชนสหสฺสปฺปมาณํ ปุพฺพวิเทหํ คจฺฉติ.

ตตฺถ โย วินิพฺเพเธน ทฺวาทสโยชนาย ปริกฺเขปโต ฉตฺตึสโยชนปริสาย สนฺนิเวสกฺขโม สุลภาหารูปกรโณ ฉายูทกสมฺปนฺโน สุจิสมตโล รมณีโย ภูมิภาโค, ตสฺส อุปริภาเค ตํ จกฺกรตนํ อากาเส อกฺขาหตํ วิย ติฏฺติ. อถ เตน สฺาเณน โส มหาชโน โอตริตฺวา ยถารุจิ นฺหานโภชนาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ กโรนฺโต วาสํ กปฺเปติ, เตน วุตฺตํ ‘‘ยสฺมึ โข ปน, ภิกฺขเว, ปเทเส ตํ จกฺกรตนํ ปติฏฺาติ, ตตฺถ ราชา จกฺกวตฺตี วาสํ อุเปติ สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนายา’’ติ.

เอวํ วาสํ อุปคเต จกฺกวตฺติมฺหิ เย ตตฺถ ราชาโน, เต ‘‘ปรจกฺกํ อาคต’’นฺติ สุตฺวาปิ น พลกายํ สนฺนิปาเตตฺวา ยุทฺธสชฺชา โหนฺติ. จกฺกรตนสฺส อุปฺปตฺติสมนนฺตรเมว นตฺถิ โส สตฺโต นาม, โย ปจฺจตฺถิกสฺาย ราชานํ อารพฺภ อาวุธํ อุกฺขิปิตุํ วิสเหยฺย. อยมนุภาโว จกฺกรตนสฺส.

จกฺกานุภาเวน หิ ตสฺส รฺโ,

อรี อเสสา ทมถํ อุเปนฺติ;

อรินฺทมํ นาม นราธิปสฺส,

เตเนว ตํ วุจฺจติ ตสฺส จกฺกํ.

ตสฺมา สพฺเพปิ เต ราชาโน อตฺตโน อตฺตโน รชฺชสิริวิภวานุรูปํ ปาภตํ คเหตฺวา ตํ ราชานํ อุปคมฺม โอนตสิรา อตฺตโน โมฬิยมณิปฺปภาภิเสเกนสฺส ปาทปูชํ กโรนฺโต ‘‘เอหิ โข มหาราชา’’ติอาทีหิ วจเนหิ ตสฺส กิงฺการปฺปฏิสฺสาวิตํ อาปชฺชนฺติ. เตน วุตฺตํ เย โข ปน, ภิกฺขเว, ปุรตฺถิมาย…เป… อนุสาส มหาราชาติ.

ตตฺถ สฺวาคตนฺติ สุอาคมนํ. เอกสฺมิฺหิ อาคเต โสจนฺติ, คเต นนฺทนฺติ. เอกสฺมึ อาคเต นนฺทนฺติ, คเต โสจนฺติ. ตาทิโส ตฺวํ อาคตนนฺทโน คมนโสจโน, ตสฺมา ตว อาคมนํ สุอาคมนนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ วุตฺเต ปน จกฺกวตฺตี นาปิ ‘‘เอตฺตกํ นาม เม อนุวสฺสํ พลึ อุปกปฺเปถา’’ติ วทติ, นาปิ อฺสฺส โภคํ อจฺฉินฺทิตฺวา อฺสฺส เทติ. อตฺตโน ปน ธมฺมราชภาวสฺส อนุรูปาย ปฺาย ปาณาติปาตาทีนิ อุปปริกฺขิตฺวา เปมนีเยน มฺชุนา สเรน ‘‘ปสฺสถ ตาตา, ปาณาติปาโต นาเมส อาเสวิโต ภาวิโต พหุลีกโต นิรยสํวตฺตนิโก โหตี’’ติอาทินา นเยน ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ’’ติอาทิกํ โอวาทํ เทติ. เตน วุตฺตํ ราชา จกฺกวตฺตี เอวมาห ปาโณ น หนฺตพฺโพ…เป… ยถาภุตฺตฺจ ภุฺชถาติ.

กึ ปน สพฺเพปิ รฺโ อิมํ โอวาทํ คณฺหนฺตีติ. พุทฺธสฺสปิ ตาว สพฺเพ น คณฺหนฺติ, รฺโ กึ คณฺหิสฺสนฺติ. ตสฺมา เย ปณฺฑิตา วิภาวิโน, เต คณฺหนฺติ. สพฺเพ ปน อนุยนฺตา ภวนฺติ. ตสฺมา ‘‘เย โข ปน, ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห.

อถ ตํ จกฺกรตนํ เอวํ ปุพฺพวิเทหวาสีนํ โอวาเท ทินฺเน กตปาตราเส จกฺกวตฺตีพเลน เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปุรตฺถิมํ สมุทฺทํ อชฺโฌคาหติ. ยถา ยถา จ ตํ อชฺโฌคาหติ, ตถา ตถา อคทคนฺธํ ฆายิตฺวา สํขิตฺตผโณ นาคราชา วิย สํขิตฺตอูมิวิปฺผารํ หุตฺวา โอคจฺฉมานํ มหาสมุทฺทสลิลํ โยชนมตฺตํ โอคนฺตฺวา อนฺโตสมุทฺเท เวฬุริยภิตฺติ วิย ติฏฺติ. ตงฺขณฺเว จ ตสฺส รฺโ ปุฺสิรึ ทฏฺุกามานิ วิย มหาสมุทฺทตเล วิปฺปกิณฺณานิ นานารตนานิ ตโต ตโต อาคนฺตฺวา ตํ ปเทสํ ปูรยนฺติ. อถ สา ราชปริสา ตํ นานารตนปริปูรํ มหาสมุทฺทตลํ ทิสฺวา ยถารุจิ อุจฺฉงฺคาทีหิ อาทิยติ, ยถารุจิ อาทินฺนรตนาย ปน ปริสาย ตํ จกฺกรตนํ ปฏินิวตฺตติ. ปฏินิวตฺตมาเน จ ตสฺมึ ปริสา อคฺคโต โหติ, มชฺเฌ ราชา, อนฺเต จกฺกรตนํ. ตมฺปิ ชลนิธิชลํ ปโลภิยมานมิว จกฺกรตนสิริยา, อสหมานมิว จ เตน วิโยคํ, เนมิมณฺฑลปริยนฺตํ อภิหนนฺตํ นิรนฺตรเมว อุปคจฺฉติ.

๒๕๗. เอวํ ราชา จกฺกวตฺตี ปุรตฺถิมสมุทฺทปริยนฺตํ ปุพฺพวิเทหํ อภิวิชินิตฺวา ทกฺขิณสมุทฺทปริยนฺตํ ชมฺพุทีปํ วิเชตุกาโม จกฺกรตนเทสิเตน มคฺเคน ทกฺขิณสมุทฺทาภิมุโข คจฺฉติ. เตน วุตฺตํ อถ โข ตํ, ภิกฺขเว, จกฺกรตนํ ปุรตฺถิมสมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา ทกฺขิณํ ทิสํ ปวตฺตตีติ. เอวํ ปวตฺตมานสฺส ปน ตสฺส ปวตฺตนวิธานํ เสนาสนฺนิเวโส ปฏิราชคมนํ เตสํ อนุสาสนิปฺปทานํ ทกฺขิณสมุทฺทํ อชฺโฌคาหนํ สมุทฺทสลิลสฺส โอคจฺฉนํ รตนาทานนฺติ สพฺพํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.

วิชินิตฺวา ปน ตํ ทสสหสฺสโยชนปฺปมาณํ ชมฺพุทีปํ ทกฺขิณสมุทฺทโตปิ ปจฺจุตฺตริตฺวา สตฺตโยชนสหสฺสปฺปมาณํ อปรโคยานํ วิเชตุํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว คนฺตฺวา ตมฺปิ สมุทฺทปริยนฺตํ ตเถว อภิวิชินิตฺวา ปจฺฉิมสมุทฺทโตปิ ปจฺจุตฺตริตฺวา อฏฺโยชนสหสฺสปฺปมาณํ อุตฺตรกุรุํ วิเชตุํ ตเถว คนฺตฺวา ตมฺปิ สมุทฺทปริยนฺตํ ตเถว อภิวิชิย อุตฺตรสมุทฺทโตปิ ปจฺจุตฺตรติ.

เอตฺตาวตา รฺา จกฺกวตฺตินา จาตุรนฺตาย ปถวิยา อาธิปจฺจํ อธิคตํ โหติ. โส เอวํ วิชิตวิชโย อตฺตโน รชฺชสิริสมฺปตฺติทสฺสนตฺถํ สปริโส อุทฺธํ คคนตลํ อภิลงฺฆิตฺวา สุวิกสิตปทุมุปฺปลปุณฺฑรีกวนวิจิตฺเต จตฺตาโร ชาตสฺสเร วิย ปฺจสตปฺจสตปริตฺตทีปปริวาเร จตฺตาโร มหาทีเป โอโลเกตฺวา จกฺกรตนเทสิเตเนว มคฺเคน ยถานุกฺกมํ อตฺตโน ราชธานิเมว ปจฺจาคจฺฉติ. อถ ตํ จกฺกรตนํ อนฺเตปุรทฺวารํ โสภยมานํ วิย หุตฺวา ติฏฺติ.

เอวํ ปติฏฺิเต ปน ตสฺมึ จกฺกรตเน ราชนฺเตปุเร อุกฺกาหิ วา ทีปิกาหิ วา กิฺจิ กรณียํ น โหติ, จกฺกรตโนภาโสเยว รตฺตึ อนฺธการํ วิธมติ. เย จ ปน รตฺตึ อนฺธการตฺถิกา โหนฺติ, เตสํ อนฺธการเมว โหติ. เตน วุตฺตํ ทกฺขิณสมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา…เป… เอวรูปํ จกฺกรตนํ ปาตุภวตีติ.

หตฺถิรตนวณฺณนา

๒๕๘. เอวํ ปาตุภูตจกฺกรตนสฺส ปนสฺส จกฺกวตฺติโน อมจฺจา ปกติมงฺคลหตฺถิฏฺานํ สุจิภูมิภาคํ กาเรตฺวา หริจนฺทนาทีหิ สุรภิคนฺเธหิ อุปลิมฺปาเปตฺวา เหฏฺา วิจิตฺตวณฺณสุรภิกุสุมสมากิณฺณํ อุปริ สุวณฺณตารกานํ อนฺตรนฺตรา สโมสริตมนุฺ-กุสุมทามปฺปฏิมณฺฑิตวิตานํ เทววิมานํ วิย อภิสงฺขริตฺวา ‘‘เอวรูปสฺส นาม เทว หตฺถิรตนสฺส อาคมนํ จินฺเตถา’’ติ วทนฺติ. โส ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว มหาทานํ ทตฺวา สีลานิ สมาทาย ตํ ปุฺสมฺปตฺตึ อาวชฺชนฺโต นิสีทติ, อถสฺส ปุฺานุภาวโจทิโต ฉทฺทนฺตกุลา วา อุโปสถกุลา วา ตํ สกฺการวิเสสํ อนุภวิตุกาโม ตรุณรวิมณฺฑลาภิรตฺตจรณ-คีวมุขปฺปฏิมณฺฑิตวิสุทฺธเสตสรีโร สตฺตปฺปติฏฺโ สุสณฺิตงฺคปจฺจงฺคสนฺนิเวโส วิกสิตรตฺต-ปทุมจารุโปกฺขโร อิทฺธิมา โยคี วิย เวหาสํ คมนสมตฺโถ มโนสิลาจุณฺณรฺชิตปริยนฺโต วิย รชตปพฺพโต หตฺถิเสฏฺโ ตสฺมึ ปเทเส ปติฏฺาติ. โส ฉทฺทนฺตกุลา อาคจฺฉนฺโต สพฺพกนิฏฺโ อาคจฺฉติ, อุโปสถกุลา สพฺพเชฏฺโ. ปาฬิยํ ปน ‘‘อุโปสโถ นาคราชา’’ อิจฺเจว อาคจฺฉติ. สฺวายํ ปูริตจกฺกวตฺติวตฺตานํ จกฺกวตฺตีนํ สุตฺเต วุตฺตนเยเนว จินฺตยนฺตานํ อาคจฺฉติ, น อิตเรสํ. สยเมว ปกติมงฺคลหตฺถิฏฺานํ อาคนฺตฺวา มงฺคลหตฺถึ อปเนตฺวา ตตฺถ ติฏฺติ. เตน วุตฺตํ ปุน จปรํ, ภิกฺขเว…เป… นาคราชาติ.

เอวํ ปาตุภูตํ ปน ตํ หตฺถิรตนํ ทิสฺวา หตฺถิโคปกาทโย หฏฺตุฏฺา เวเคน คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจนฺติ. ราชา ตุริตตุริตํ อาคนฺตฺวา ตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ‘‘ภทฺทกํ วต โภ หตฺถิยานํ, สเจ ทมถํ อุเปยฺยา’’ติ จินฺตยนฺโต หตฺถํ ปสาเรติ. อถ โส ฆรเธนุวจฺฉโก วิย กณฺเณ โอลมฺเพตฺวา สูรตภาวํ ทสฺเสนฺโต ราชานํ อุปสงฺกมติ, ราชา ตํ อภิรุหิตุกาโม โหติ. อถสฺส ปริชนา อธิปฺปายํ ตฺวา ตํ หตฺถิรตนํ โสวณฺณทฺธชํ โสวณฺณาลงฺการํ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา อุปเนนฺติ. ราชา ตํ อนิสีทาเปตฺวาว สตฺตรตนมยาย นิสฺเสณิยา อภิรุยฺห อากาสํ คมนนินฺนจิตฺโต โหติ. ตสฺส สห จิตฺตุปฺปาเทเนว โส หตฺถิราชา ราชหํโส วิย อินฺทนีลมณิปฺปภาชาลนีลคคนตลํ อภิลงฺฆติ, ตโต จกฺกจาริกาย วุตฺตนเยเนว สกลราชปริสา. อิติ สปริโส ราชา อนฺโตปาตราเสเยว สกลปถวึ อนุสํยายิตฺวา ราชธานึ ปจฺจาคจฺฉติ, เอวํ มหิทฺธิกํ จกฺกวตฺติโน หตฺถิรตนํ โหติ. เตน วุตฺตํ ทิสฺวาน รฺโ จกฺกวตฺติสฺส…เป… เอวรูปํ หตฺถิรตนํ ปาตุภวตีติ.

อสฺสรตนวณฺณนา

เอวํ ปาตุภูตหตฺถิรตนสฺส ปน จกฺกวตฺติโน ปริสา ปกติมงฺคลอสฺสฏฺานํ สุจิสมตลํ กาเรตฺวา อลงฺกริตฺวา จ ปุริมนเยเนว รฺโ ตสฺส อาคมนจินฺตนตฺถํ อุสฺสาหํ ชเนนฺติ. โส ปุริมนเยเนว กตทานสกฺกาโร สมาทินฺนสีโลว ปาสาทตเล นิสินฺโน ปุฺสมฺปตฺตึ สมนุสฺสรติ, อถสฺส ปุฺานุภาวโจทิโต สินฺธวกุลโต วิชฺชุลฺลตาวินทฺธสรทกาลเสตวลาหกราสิสสฺสิริโก รตฺตปาโท รตฺตตุณฺโฑ จนฺทปฺปภาปุฺชสทิสสุทฺธสินิทฺธฆนสงฺฆาตสรีโร กากคีวา วิย อินฺทนีลมณิ วิย จ กาฬวณฺเณน สีเสน สมนฺนาคตตฺตา กาฬสีโส สุฏฺุ กปฺเปตฺวา ปิเตหิ วิย มุฺชสทิเสหิ สณฺหวฏฺฏอุชุคติคเตหิ เกเสหิ สมนฺนาคตตฺตา มุฺชเกโส เวหาสงฺคโม วลาหโก นาม อสฺสราชา อาคนฺตฺวา ตสฺมึ าเน ปติฏฺาติ. เสสํ สพฺพํ หตฺถิรตเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวรูปํ อสฺสรตนํ สนฺธาย ภควา ปุน จปรนฺติอาทิมาห.

มณิรตนวณฺณนา

เอวํ ปาตุภูตอสฺสรตนสฺส ปน รฺโ จกฺกวตฺติสฺส จตุหตฺถายามํ สกฏนาภิสมปฺปมาณํ อุโภสุ อนฺเตสุ กณฺณิกปริยนฺตโต วินิคฺคตสุปริสุทฺธมุตฺตากลาเปหิ ทฺวีหิ กฺจนปทุเมหิ อลงฺกตํ จตุราสีติมณิสหสฺสปริวารํ ตาราคณปริวุตสฺส ปุณฺณจนฺทสฺส สิรึ ปฏิปฺผรมานํ วิย เวปุลฺลปพฺพตโต มณิรตนํ อาคจฺฉติ. ตสฺเสวํ อาคตสฺส มุตฺตาชาลเก เปตฺวา เวฬุปรมฺปราย สฏฺิหตฺถปฺปมาณํ อากาสํ อาโรปิตสฺส รตฺติภาเค สมนฺตา โยชนปฺปมาณํ โอกาสํ อาภา ผรติ, ยาย สพฺโพ โส โอกาโส อรุณุคฺคมนเวลา วิย สฺชาตาโลโก โหติ. ตโต กสฺสกา กสิกมฺมํ, วาณิชา อาปณุคฺฆาฏนํ , เต เต จ สิปฺปิโน ตํ ตํ กมฺมนฺตํ ปโยเชนฺติ ทิวาติ มฺมานา. เตน วุตฺตํ ปุน จปรํ, ภิกฺขเว…เป… มณิรตนํ ปาตุภวตีติ.

อิตฺถิรตนวณฺณนา

เอวํ ปาตุภูตมณิรตนสฺส ปน จกฺกวตฺติสฺส วิสยสุขวิเสสการณํ อิตฺถิรตนํ ปาตุภวติ. มทฺทราชกุลโต วา หิสฺส อคฺคมเหสึ อาเนนฺติ, อุตฺตรกุรุโต วา ปุฺานุภาเวน สยํ อาคจฺฉติ. อวเสสา ปนสฺสา สมฺปตฺติ ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อิตฺถิรตนํ ปาตุภวติ อภิรูปา ทสฺสนียา’’ติอาทินา นเยน ปาฬิยํเยว อาคตา.

ตตฺถ สณฺานปาริปูริยา อธิกํ รูปํ อสฺสาติ อภิรูปา. ทิสฺสมานา จ จกฺขูนิ ปีณยติ, ตสฺมา อฺํ กิจฺจวิกฺเขปํ หิตฺวาปิ ทฏฺพฺพาติ ทสฺสนียา. ทิสฺสมานา จ โสมนสฺสวเสน จิตฺตํ ปสาเทตีติ ปาสาทิกา. ปรมายาติ เอวํ ปสาทาวหตฺตา อุตฺตมาย. วณฺณโปกฺขรตายาติ วณฺณสุนฺทรตาย. สมนฺนาคตาติ อุเปตา. อภิรูปา วา ยสฺมา นาติทีฆา นาติรสฺสา ทสฺสนียา ยสฺมา นาติกิสา นาติถูลา, ปาสาทิกา ยสฺมา นาติกาฬิกา นจฺโจทาตา. ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา ยสฺมา อติกฺกนฺตา มานุสํ วณฺณํ อปฺปตฺตา ทิพฺพวณฺณํ. มนุสฺสานฺหิ วณฺณาภา พหิ น นิจฺฉรติ, เทวานํ อติทูรํ นิจฺฉรติ, ตสฺสา ปน ทฺวาทสหตฺถปฺปมาณํ ปเทสํ สรีราภา โอภาเสติ.

นาติทีฆาทีสุ จสฺสา ปมยุคเฬน อาโรหสมฺปตฺติ, ทุติยยุคเฬน ปริณาหสมฺปตฺติ, ตติยยุคเฬน วณฺณสมฺปตฺติ วุตฺตา. ฉหิ วาปิ เอเตหิ กายวิปตฺติยา อภาโว, อติกฺกนฺตา มานุสํ วณฺณนฺติ อิมินา กายสมฺปตฺติ วุตฺตา.

ตูลปิจุโน วา กปฺปาสปิจุโน วาติ สปฺปิมณฺเฑ ปกฺขิปิตฺวา ปิตสฺส สตวิหตสฺส ตูลปิจุโน วา สตวิหตสฺส กปฺปาสปิจุโน วา กายสมฺผสฺโส โหติ. สีเตติ รฺโ สีตกาเล. อุณฺเหติ รฺโ อุณฺหกาเล. จนฺทนคนฺโธติ นิจฺจกาลเมว สุปิสิตสฺส อภินวสฺส จตุชฺชาติสมาโยชิตสฺส หริจนฺทนสฺส คนฺโธ กายโต วายติ. อุปฺปลคนฺโธติ หสิตกถิตกาเลสุ มุขโต นิกฺขนฺโต ตงฺขณํ วิกสิตสฺเสว นีลุปฺปลสฺส อติสุรภิคนฺโธ วายติ.

เอวํ รูปสมฺผสฺสคนฺธสมฺปตฺติยุตฺตาย ปนสฺสา สรีรสมฺปตฺติยา อนุรูปํ อาจารํ ทสฺเสตุํ ตํ โข ปนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ราชานํ ทิสฺวา นิสินฺนาสนโต อคฺคิทฑฺฒา วิย ปมเมว อุฏฺาตีติ ปุพฺพุฏฺายินี. ตสฺมึ นิสินฺเน ตสฺส รฺโ ตาลวณฺเฏน พีชนาทิกิจฺจํ กตฺวา ปจฺฉา นิปตติ นิสีทตีติ ปจฺฉานิปาตินี. กึ กโรมิ เทวาติ ตสฺส กึการํ ปฏิสฺสาเวตีติ กึการปฏิสฺสาวินี. รฺโ มนาปเมว จรติ กโรตีติ มนาปจารินี. ยํ รฺโ ปิยํ, ตเทว วทตีติ ปิยวาทินี.

อิทานิ สฺวาสฺสา อาจาโร ภาวสุทฺธิยา เอว, น สาเยฺเยนาติ ทสฺเสตุํ ตํ โข ปนาติอาทิมาห. ตตฺถ โน อติจรตีติ น อติกฺกมิตฺวา จรติ, อฺํ ปุริสํ จิตฺเตนปิ น ปตฺเถตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ เย ตสฺสา อาทิมฺหิ ‘‘อภิรูปา’’ติอาทโย อนฺเต ‘‘ปุพฺพุฏฺายินี’’ติอาทโย คุณา วุตฺตา, เต ปกติคุณา เอว ‘‘อติกฺกนฺตา มานุสํ วณฺณ’’นฺติอาทโย ปน จกฺกวตฺติโน ปุฺํ อุปนิสฺสาย จกฺกรตนปาตุภาวโต ปฏฺาย ปุริมกมฺมานุภาเวน นิพฺพตฺตนฺตีติ เวทิตพฺพา. อภิรูปตาทิกาปิ วา จกฺกรตนปาตุภาวโต ปฏฺาย สพฺพาการปาริปูรา ชาตา. เตนาห เอวรูปํ อิตฺถิรตนํ ปาตุภวตีติ.

คหปติรตนวณฺณนา

เอวํ ปาตุภูตอิตฺถิรตนสฺส ปน รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ธนกรณียานํ กิจฺจานํ ยถาสุขปฺปวตฺตนตฺถํ คหปติรตนํ ปาตุภวติ. โส ปกติยาว มหาโภโค มหาโภคกุเล ชาโต รฺโ ธนราสิวฑฺฒโก เสฏฺิ คหปติ โหติ, จกฺกรตนานุภาวสหิตํ ปนสฺส กมฺมวิปากชํ ทิพฺพจกฺขุ ปาตุภวติ, เยน อนฺโตปถวิยํ โยชนพฺภนฺตเร นิธึ ปสฺสติ. โส ตํ สมฺปตฺตึ ทิสฺวา ตุฏฺหทโย คนฺตฺวา ราชานํ ธเนน ปวาเรตฺวา สพฺพานิ ธนกรณียานิ สมฺปาเทติ. เตน วุตฺตํ ปุน จปรํ, ภิกฺขเว…เป… เอวรูปํ คหปติรตนํ ปาตุภวตีติ.

ปริณายกรตนวณฺณนา

เอวํ ปาตุภูตคหปติรตนสฺส ปน รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สพฺพกิจฺจสํวิธานสมตฺถํ ปริณายกรตนํ ปาตุภวติ. โส รฺโ เชฏฺปุตฺโตว โหติ . ปกติยา เอว ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี, รฺโ ปุฺานุภาวํ นิสฺสาย ปนสฺส อตฺตโน กมฺมานุภาเวน ปรจิตฺตาณํ อุปฺปชฺชติ. เยน ทฺวาทสโยชนาย ราชปริสาย จิตฺตาจารํ ตฺวา รฺโ อหิเต หิเต จ ววตฺถเปตุํ สมตฺโถ โหติ. โสปิ ตํ อตฺตโน อานุภาวํ ทิสฺวา ตุฏฺหทโย ราชานํ สพฺพกิจฺจานุสาสเนน ปวาเรติ. เตน วุตฺตํ ปุน จปรํ…เป… ปริณายกรตนํ ปาตุภวตีติ. ตตฺถ เปตพฺพํ เปตุนฺติ ตสฺมึ ตสฺมึ านนฺตเร เปตพฺพํ เปตุํ.

๒๕๙. สมเวปากินิยาติอาทิ เหฏฺา วุตฺตเมว.

๒๖๐. กฏคฺคเหนาติ ชยคฺคาเหน. มหนฺตํ โภคกฺขนฺธนฺติ เอกปฺปหาเรเนว ทฺเว วา ตีณิ วา สตสหสฺสานิ. เกวลา ปริปูรา ปณฺฑิตภูมีติ ปณฺฑิโต ตีณิ สุจริตานิ ปูเรตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตติ, ตโต มนุสฺสโลกํ อาคจฺฉนฺโต กุลรูปโภคสมฺปตฺติยํ นิพฺพตฺตติ, ตตฺถ ิโต ตีณิ จ สุจริตานิ ปูเรตฺวา ปุน สคฺเค นิพฺพตฺตตีติ อยํ สกลา ปริปุณฺณา ปณฺฑิตภูมิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

พาลปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. เทวทูตสุตฺตวณฺณนา

๒๖๑. เอวํเม สุตนฺติ เทวทูตสุตฺตํ. ตตฺถ ทฺเว อคาราติอาทิ อสฺสปุรสุตฺเต วิตฺถาริตเมว.

๒๖๒. นิรยํ อุปปนฺนาติ ภควา กตฺถจิ นิรยโต ปฏฺาย เทสนํ เทวโลเกน โอสาเปติ, กตฺถจิ เทวโลกโต ปฏฺาย นิรเยน โอสาเปติ. สเจ สคฺคสมฺปตฺตึ วิตฺถาเรตฺวา กเถตุกาโม โหติ, นิรยทุกฺขํ เอกเทสโต กเถติ, ติรจฺฉานโยนิทุกฺขํ เปตฺติวิสยทุกฺขํ มนุสฺสโลกสมฺปตฺตึ เอกเทสโต กเถติ, สคฺคสมฺปตฺติเมว วิตฺถาเรติ. สเจ นิรยทุกฺขํ วิตฺถาเรตฺวา กเถตุกาโม โหติ, เทวโลกมนุสฺสโลเกสุ สมฺปตฺตึ ติรจฺฉานโยนิเปตฺติวิสเยสุ จ ทุกฺขํ เอกเทสโต กเถติ, นิรยทุกฺขเมว วิตฺถาเรติ. โส อิมสฺมึ สุตฺเต นิรยทุกฺขํ วิตฺถาเรตุกาโม, ตสฺมา เทวโลกโต ปฏฺาย เทสนํ นิรเยน โอสาเปติ. เทวโลกมนุสฺสโลกสมฺปตฺติโย ติรจฺฉานโยนิเปตฺติวิสยทุกฺขานิ จ เอกเทสโต กเถตฺวา นิรยทุกฺขเมว วิตฺถาเรน กเถตุํ ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลาติอาทิมาห.

ตตฺถ เอกจฺเจ เถรา ‘‘นิรยปาลา นาม นตฺถิ, ยนฺตรูปํ วิย กมฺมเมว การณํ กาเรตี’’ติ วทนฺติ. เตสํ ตํ ‘‘อตฺถิ นิรเย นิรยปาลาติ, อามนฺตา, อตฺถิ จ การณิกา’’ติอาทินา นเยน อภิธมฺเม (กถา. ๘๖๖) ปฏิเสธิตเมว. ยถา หิ มนุสฺสโลเก กมฺมการณการกา อตฺถิ, เอวเมว นิรเย นิรยปาลา อตฺถีติ. ยมสฺส รฺโติ ยมราชา นาม เวมานิกเปตราชา, เอกสฺมึ กาเล ทิพฺพวิมาเน ทิพฺพกปฺปรุกฺขทิพฺพอุยฺยานทิพฺพนาฏกาทิสมฺปตฺตึ อนุภวติ, เอกสฺมึ กาเล กมฺมวิปากํ, ธมฺมิโก ราชา. น เจส เอโกว โหติ, จตูสุ ปน ทฺวาเรสุ จตฺตาโร ชนา โหนฺติ. นาทฺทสนฺติ อตฺตโน สนฺติเก เปสิตสฺส กสฺสจิ เทวทูตสฺส อภาวํ สนฺธาย เอวํ วทติ. อถ นํ ยโม ‘‘นายํ ภาสิตสฺส อตฺถํ สลฺลกฺเขตี’’ติ ตฺวา สลฺลกฺขาเปตุกาโม อมฺโภติอาทิมาห.

ชาติธมฺโมติ ชาติสภาโว, อปริมุตฺโต ชาติยา, ชาติ นาม มยฺหํ อพฺภนฺตเรเยว อตฺถีติ. ปรโต ชราธมฺโมติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

๒๖๓. ปมํ เทวทูตํ สมนุยุฺชิตฺวาติ เอตฺถ ทหรกุมาโร อตฺถโต เอวํ วทติ นาม ‘‘ปสฺสถ, โภ, มยฺหมฺปิ ตุมฺหากํ วิย หตฺถปาทา อตฺถิ, สเก ปนมฺหิ มุตฺตกรีเส ปลิปนฺโน, อตฺตโน ธมฺมตาย อุฏฺหิตฺวา นฺหายิตุํ น สกฺโกมิ, อหํ กิลิฏฺคตฺโตมฺหิ, นฺหาเปถ มนฺติ วตฺตุมฺปิ น สกฺโกมิ, ชาติโตมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต. น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ ชาติโต อปริมุตฺตาว. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ ชาติ อาคมิสฺสติ, อิติ ตสฺสา ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนส เทวทูโต นาม ชาโต, วจนตฺโถ ปน มฆเทวสุตฺเต วุตฺโตว.

ทุติยํเทวทูตนฺติ เอตฺถาปิ ชราชิณฺณสตฺโต อตฺถโต เอวํ วทติ นาม – ‘‘ปสฺสถ, โภ, อหมฺปิ ตุมฺเห วิย ตรุโณ อโหสึ อูรุพลพาหุพลชวนสมฺปนฺโน, ตสฺส เม ตา พลชวนสมฺปตฺติโย อนฺตรหิตา, วิชฺชมานาปิ เม หตฺถปาทา หตฺถปาทกิจฺจํ น กโรนฺติ, ชรายมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต. น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ ชราย อปริมุตฺตาว. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ ชรา อาคมิสฺสติ, อิติ ตสฺสา ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนส เทวทูโต นาม ชาโต.

ตติยํ เทวทูตนฺติ เอตฺถาปิ คิลานสตฺโต อตฺถโต เอว วทติ นาม – ‘‘ปสฺสถ, โภ, อหมฺปิ ตุมฺเห วิย นิโรโค อโหสึ, โสมฺหิ เอตรหิ พฺยาธินา อภิหโต สเก มุตฺตกรีเส ปลิปนฺโน, อุฏฺาตุมฺปิ น สกฺโกมิ, วิชฺชมานาปิ เม หตฺถปาทา หตฺถปาทกิจฺจํ น กโรนฺติ, พฺยาธิโตมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต. น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ พฺยาธิโต อปริมุตฺตาว. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากํ พฺยาธิ อาคมิสฺสติ, อิติ ตสฺส ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนส เทวทูโต นาม ชาโต.

๒๖๕. จตุตฺถํ เทวทูตนฺติ เอตฺถ ปน กมฺมการณา วา เทวทูตาติ กาตพฺพา กมฺมการณิกา วา. ตตฺถ ปน กมฺมการณปกฺเข พาตฺตึส ตาว กมฺมการณา อตฺถโต เอวํ วทนฺติ นาม – ‘‘มยํ นิพฺพตฺตมานา น รุกฺเข วา ปาสาเณ วา นิพฺพตฺตาม, ตุมฺหาทิสานํ สรีเร นิพฺพตฺตาม, อิติ อมฺหากํ ปุเร นิพฺพตฺติโตว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนเต เทวทูตา นาม ชาตา. กมฺมการณิกาปิ อตฺถโต เอวํ วทนฺติ นาม – ‘‘มยํ ทฺวตฺตึส กมฺมการณา กโรนฺตา น รุกฺขาทีสุ กโรม, ตุมฺหาทิเสสุ สตฺเตสุเยว กโรม, อิติ อมฺหากํ ตุมฺเหสุ ปุเร กมฺมการณากรณโตว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนเตปิ เทวทูตา นาม ชาตา.

๒๖๖. ปฺจมํ เทวทูตนฺติ เอตฺถ มตกสตฺโต อตฺถโต เอวํ วทติ นาม – ‘‘ปสฺสถ โภ มํ อามกสุสาเน ฉฑฺฑิตํ อุทฺธุมาตกาทิภาวํ ปตฺตํ, มรณโตมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต. น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ มรณโต อปริมุตฺตาว. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ มรณํ อาคมิสฺสติ, อิติ ตสฺส ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนส เทวทูโต นาม ชาโต.

อิมํ ปน เทวทูตานุโยคํ โก ลภติ, โก น ลภตีติ? เยน ตาว พหุํ ปาปํ กตํ, โส คนฺตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตติเยว. เยน ปน ปริตฺตํ ปาปกมฺมํ กตํ, โส ลภติ. ยถา หิ สภณฺฑํ โจรํ คเหตฺวา กตฺตพฺพเมว กโรนฺติ, น วินิจฺฉินนฺติ. อนุวิชฺชิตฺวา คหิตํ ปน วินิจฺฉยฏฺานํ นยนฺติ, โส วินิจฺฉยํ ลภติ. เอวํสมฺปทเมตํ. ปริตฺตปาปกมฺมา หิ อตฺตโน ธมฺมตายปิ สรนฺติ, สาริยมานาปิ สรนฺติ.

ตตฺถ ทีฆชยนฺตทมิโฬ นาม อตฺตโน ธมฺมตาย สริ. โส กิร ทมิโฬ สุมนคิริวิหาเร อากาสเจติยํ รตฺตปเฏน ปูเชสิ. อถ นิรเย อุสฺสทสามนฺเต นิพฺพตฺโต อคฺคิชาลสทฺทํ สุตฺวาว อตฺตโน ปูชิตปฏํ อนุสฺสริ, โส คนฺตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺโต. อปโรปิ ปุตฺตสฺส ทหรภิกฺขุโน ขลิสาฏกํ เทนฺโต ปาทมูเล เปสิ, มรณกาลมฺหิ ปฏปฏาติ สทฺเท นิมิตฺตํ คณฺหิ, โสปิ อุสฺสทสามนฺเต นิพฺพตฺโต ชาลสทฺเทน ตํ สาฏกํ อนุสฺสริตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺโต. เอวํ ตาว อตฺตโน ธมฺมตาย กุสลํ กมฺมํ สริตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตตีติ.

อตฺตโน ธมฺมตาย อสรนฺเต ปน ปฺจ เทวทูเต ปุจฺฉติ. ตตฺถ โกจิ ปเมน เทวทูเตน สรติ, โกจิ ทุติยาทีหิ. โย ปน ปฺจหิปิ น สรติ, ตํ ยโม ราชา สยํ สาเรติ. เอโก กิร อมจฺโจ สุมนปุปฺผกุมฺเภน มหาเจติยํ ปูเชตฺวา ยมสฺส ปตฺตึ อทาสิ, ตํ อกุสลกมฺเมน นิรเย นิพฺพตฺตํ ยมสฺส สนฺติกํ นยึสุ. ตสฺมึ ปฺจหิปิ เทวทูเตหิ กุสเล อสรนฺเต ยโม สยํ โอโลเกนฺโต ทิสฺวา – ‘‘นนุ ตฺวํ มหาเจติยํ สุมนปุปฺผกุมฺเภน ปูเชตฺวา มยฺหํ ปตฺตึ อทาสี’’ติ สาเรสิ, โส ตสฺมึ กาเล สริตฺวา เทวโลกํ คโต. ยโม ปน สยํ โอโลเกตฺวาปิ อปสฺสนฺโต – ‘‘มหาทุกฺขํ นาม อนุภวิสฺสติ อยํ สตฺโต’’ติ ตุณฺหี โหติ.

๒๖๗. มหานิรเยติ อวีจิมหานิรยมฺหิ. กึ ปนสฺส ปมาณํ? อพฺภนฺตรํ อายาเมน จ วิตฺถาเรน จ โยชนสตํ โหติ. โลหปถวี โลหฉทนํ เอเกกา จ ภิตฺติ นวนวโยชนิกา โหติ. ปุรตฺถิมาย ภิตฺติยา อจฺจิ อุฏฺิตา ปจฺฉิมํ ภิตฺตึ คเหตฺวา ตํ วินิวิชฺฌิตฺวา ปรโต โยชนสตํ คจฺฉติ. เสสทิสาสุปิ เอเสว นโย. อิติ ชาลปริยนฺตวเสน อายามวิตฺถารโต อฏฺารสโยชนาธิกานิ ตีณิ โยชนสตานิ, ปริกฺเขปโต ปน นวโยชนสตานิ จตุปณฺณาสโยชนานิ, สมนฺตา ปน อุสฺสเทหิ สทฺธึ ทสโยชนสหสฺสํ โหติ.

๒๖๘. อุพฺภตํ ตาทิสเมว โหตีติ เอตฺถ อกฺกนฺตปทํ ยาว อฏฺิโต ทฬฺหํ อุทฺธริตุเมว น สกฺกา. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – เหฏฺโต ปฏฺาย ฑยฺหติ, อุปริโต ปฏฺาย ฌายติ, อิติ อกฺกมนกาเล ฑยฺหมานํ ปฺายติ, อุทฺธรณกาเล ตาทิสเมว, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ. พหุสมฺปตฺโตติ พหูนิ วสฺสสตวสฺสสหสฺสานิ สมฺปตฺโต.

กสฺมา ปเนส นรโก อวีจีติ สงฺขํ คโตติ. วีจิ นาม อนฺตรํ วุจฺจติ, ตตฺถ จ อคฺคิชาลานํ วา สตฺตานํ วา ทุกฺขสฺส วา อนฺตรํ นตฺถิ. ตสฺมา โส อวีจีติ สงฺขํ คโตติ. ตสฺส หิ ปุรตฺถิมภิตฺติโต ชาลา อุฏฺิตา สํสิพฺพมานา โยชนสตํ คนฺตฺวา ปจฺฉิมภิตฺตึ วินิวิชฺฌิตฺวา ปรโต โยชนสตํ คจฺฉติ. เสสทิสาสุปิ เอเสว นโย.

อิเมสํ ฉนฺนํ ชาลานํ มชฺเฌ นิพฺพตฺโต เทวทตฺโต, ตสฺส โยชนสตปฺปมาโณ อตฺตภาโว, ทฺเว ปาทา ยาว โคปฺผกา โลหปถวึ ปวิฏฺา, ทฺเว หตฺถา ยาว มณิพนฺธา โลหภิตฺติโย ปวิฏฺา, สีสํ ยาว ภมุกฏฺิโต โลหฉทเน ปวิฏฺํ, อโธภาเคน เอกํ โลหสูลํ ปวิสิตฺวา กายํ วินิวิชฺฌนฺตํ ฉทเน ปวิฏฺํ, ปาจีนภิตฺติโต นิกฺขนฺตสูลํ หทยํ วินิวิชฺฌิตฺวา ปจฺฉิมภิตฺตึ ปวิฏฺํ , อุตฺตรภิตฺติโต นิกฺขนฺตสูลํ ผาสุกา วินิวิชฺฌิตฺวา ทกฺขิณภิตฺตึ ปวิฏฺํ. นิจฺจเล ตถาคตมฺหิ อปรทฺธตฺตา นิจฺจโลว หุตฺวา ปจฺจตีติ กมฺมสริกฺขตาย เอทิโส ชาโต. เอวํ ชาลานํ นิรนฺตรตาย อวีจิ นาม.

อพฺภนฺตเร ปนสฺส โยชนสติเก าเน นาฬิยํ โกฏฺเฏตฺวา ปูริตปิฏฺํ วิย สตฺตา นิรนฺตรา, ‘‘อิมสฺมึ าเน สตฺโต อตฺถิ, อิมสฺมึ นตฺถี’’ติ น วตฺตพฺพํ, คจฺฉนฺตานํ ิตานํ นิสินฺนานํ นิปนฺนานํ อนฺโต นตฺถิ, คจฺฉนฺเต วา ิเต วา นิสินฺเน วา นิปนฺเน วา อฺมฺํ น พาธนฺติ. เอวํ สตฺตานํ นิรนฺตรตาย อวีจิ.

กายทฺวาเร ปน ฉ อุเปกฺขาสหคตานิ จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ, เอกํ ทุกฺขสหคตํ. เอวํ สนฺเตปิ ยถา ชิวฺหคฺเค ฉ มธุพินฺทูนิ เปตฺวา เอกสฺมึ ตมฺพโลหพินฺทุมฺหิ ปิเต อนุทหนพลวตาย ตเทว ปฺายติ, อิตรานิ อพฺโพหาริกานิ โหนฺติ, เอวํ อนุทหนพลวตาย ทุกฺขเมเวตฺถ นิรนฺตรํ, อิตรานิ อพฺโพหาริกานีติ. เอวํ ทุกฺขสฺส นิรนฺตรตาย อวีจิ.

๒๖๙. มหนฺโตติ โยชนสติโก. โส ตตฺถ ปตตีติ เอโก ปาโท มหานิรเย โหติ, เอโก คูถนิรเย นิปตติ. สูจิมุขาติ สูจิสทิสมุขา, เต หตฺถิคีวปฺปมาณา เอกโทณิกนาวาปฺปมาณา วา โหนฺติ.

กุกฺกุลนิรโยติ โยชนสตปฺปมาโณว อนฺโต กูฏาคารมตฺตวิตจฺจิตองฺคารปุณฺโณ อาทิตฺตฉาริกนิรโย, ยตฺถ ปติตปติตา กุทฺรูสกราสิมฺหิ ขิตฺตผาลวาสิสิลาทีนิ วิย เหฏฺิมตลเมว คณฺหนฺติ.

อาโรเปนฺตีติ อยทณฺเฑหิ โปเถนฺตา อาโรเปนฺติ. เตสํ อาโรหนกาเล เต กณฺฏกา อโธมุขา โหนฺติ, โอโรหนกาเล อุทฺธํมุขา.

วาเตริตานีติ กมฺมมเยน วาเตน จลิตานิ. หตฺถมฺปิ ฉินฺทนฺตีติ ผลเก มํสํ วิย โกฏฺฏยมานานิ ฉินฺทนฺติ. สเจ อุฏฺาย ปลายติ, อโยปากาโร สมุฏฺหิตฺวา ปริกฺขิปติ, เหฏฺา ขุรธารา สมุฏฺาติ.

ขาโรทกา นทีติ เวตรณี นาม ตมฺพโลหนที. ตตฺถ อโยมยานิ ขรวาลิก-โปกฺขรปตฺตานิ, เหฏฺา ขุรธารา อุโภสุ ตีเรสุ เวตฺตลตา จ กุสติณานิ จ. โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขราติ โส ตตฺถ อุทฺธฺจ อโธ จ วุยฺหมาโน โปกฺขรปตฺเตสุ ฉิชฺชติ. สิงฺฆาฏกสณฺานาย ขรวาลิกาย กณฺฏเกหิ วิชฺฌิยติ, ขุรธาราหิ ผาลิยติ, อุโภสุ ตีเรสุ กุสติเณหิ วิเลขติ, เวตฺตลตาหิ อากฑฺฒิยติ, ติกฺขสตฺตีหิ ผาลิยติ.

๒๗๐. ตตฺเตนอโยสงฺกุนาติ เตน ชิคจฺฉิโตมฺหีติ วุตฺเต มหนฺตํ โลหปจฺฉึ โลหคุฬานํ ปูเรตฺวา ตํ อุปคจฺฉนฺติ, โส โลหคุฬภาวํ ตฺวา ทนฺเต สมฺผุเสติ, อถสฺส เต ตตฺเตน อโยสงฺกุนา มุขํ วิวรนฺติ, ตมฺพโลหธาเรหิ มหนฺเตน โลหกฏาเหน ตมฺพโลหํ อุปเนตฺวา เอวเมวํ กโรนฺติ. ปุน มหานิรเยติ เอวํ ปฺจวิธพนฺธนโต ปฏฺาย ยาว ตมฺพโลหปานา ตมฺพโลหปานโต ปฏฺาย ปุน ปฺจวิธพนฺธนาทีนิ กาเรตฺวา มหานิรเย ปกฺขิปนฺติ. ตตฺถ โกจิ ปฺจวิธพนฺธเนเนว มุจฺจติ, โกจิ ทุติเยน, โกจิ ตติเยน, โกจิ ตมฺพโลหปาเนน มุจฺจติ, กมฺเม ปน อปริกฺขีเณ ปุน มหานิรเย ปกฺขิปนฺติ.

อิทํ ปน สุตฺตํ คณฺหนฺโต เอโก ทหรภิกฺขุ, – ‘‘ภนฺเต, เอตฺตกํ ทุกฺขมนุภวิตสตฺตํ ปุนปิ มหานิรเย ปกฺขิปนฺตี’’ติ อาห. อาม, อาวุโส, กมฺเม อปริกฺขีเณ ปุนปฺปุนํ เอวํ กโรนฺตีติ. ติฏฺตุ, ภนฺเต, อุทฺเทโส, กมฺมฏฺานเมว กเถถาติ กมฺมฏฺานํ กถาเปตฺวา โสตาปนฺโน หุตฺวา อาคมฺม อุทฺเทสํ อคฺคเหสิ. อฺเสมฺปิ อิมสฺมึ ปเทเส อุทฺเทสํ เปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตานํ คณนา นตฺถิ. สพฺพพุทฺธานฺเจตํ สุตฺตํ อวิชหิตเมว โหติ.

๒๗๑. หีนกายูปคาติ หีนกายํ อุปคตา หุตฺวา. อุปาทาเนติ ตณฺหาทิฏฺิคหเณ. ชาติมรณสมฺภเวติ ชาติยา จ มรณสฺส จ การณภูเต. อนุปาทาติ จตูหิ อุปาทาเนหิ อนุปาทิยิตฺวา. ชาติมรณสงฺขเยติ ชาติมรณสงฺขยสงฺขาเต นิพฺพาเน วิมุจฺจนฺติ.

ทิฏฺธมฺมาภินิพฺพุตาติ ทิฏฺธมฺเม อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว สพฺพกิเลสนิพฺพาเนน นิพฺพุตา. สพฺพทุกฺขํ อุปจฺจคุนฺติ สพฺพทุกฺขาติกฺกนฺตา นาม โหนฺติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

เทวทูตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.