📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
มชฺฌิมนิกาเย
อุปริปณฺณาสปาฬิ
๑. เทวทหวคฺโค
๑. เทวทหสุตฺตํ
๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ เทวทหํ นาม สกฺยานํ นิคโม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตุ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ¶ ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวํวาทิโน, ภิกฺขเว, นิคณฺา.
‘‘เอวํวาทาหํ ¶ , ภิกฺขเว, นิคณฺเ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห, อาวุโส นิคณฺา, เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตุ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’ติ? เต จ เม, ภิกฺขเว, นิคณฺา เอวํ ปุฏฺา ‘อามา’ติ ปฏิชานนฺติ.
‘‘ตฺยาหํ ¶ เอวํ วทามิ – ‘กึ ปน ตุมฺเห, อาวุโส นิคณฺา, ชานาถ – อหุวมฺเหว มยํ ปุพฺเพ, น นาหุวมฺหา’ติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’.
‘‘‘กึ ปน ตุมฺเห, อาวุโส นิคณฺา, ชานาถ – อกรมฺเหว มยํ ปุพฺเพ ปาปกมฺมํ, น นากรมฺหา’ติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’.
‘‘‘กึ ปน ตุมฺเห, อาวุโส นิคณฺา, ชานาถ – เอวรูปํ วา เอวรูปํ วา ปาปกมฺมํ อกรมฺหา’ติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’.
‘‘‘กึ ปน ตุมฺเห, อาวุโส นิคณฺา, ชานาถ – เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ, เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชีเรตพฺพํ, เอตฺตกมฺหิ วา ทุกฺเข นิชฺชิณฺเณ สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’ติ? ‘โน ¶ หิทํ, อาวุโส’.
‘‘‘กึ ปน ตุมฺเห, อาวุโส นิคณฺา, ชานาถ – ทิฏฺเว ธมฺเม อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานํ, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปท’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’.
๒. ‘‘อิติ กิร ตุมฺเห, อาวุโส นิคณฺา, น ชานาถ – อหุวมฺเหว มยํ ¶ ปุพฺเพ, น นาหุวมฺหาติ ¶ , น ชานาถ – อกรมฺเหว มยํ ปุพฺเพ ปาปกมฺมํ, น นากรมฺหาติ, น ชานาถ – เอวรูปํ วา เอวรูปํ วา ปาปกมฺมํ อกรมฺหาติ, น ชานาถ – เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ, เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชีเรตพฺพํ, เอตฺตกมฺหิ วา ทุกฺเข นิชฺชิณฺเณ สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตีติ, น ชานาถ – ทิฏฺเว ธมฺเม อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานํ, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทํ; เอวํ สนฺเต อายสฺมนฺตานํ นิคณฺานํ น กลฺลมสฺส เวยฺยากรณาย – ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตุ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’’ติ.
‘‘สเจ ปน ตุมฺเห, อาวุโส นิคณฺา, ชาเนยฺยาถ – อหุวมฺเหว มยํ ปุพฺเพ, น นาหุวมฺหาติ, ชาเนยฺยาถ – อกรมฺเหว มยํ ปุพฺเพ ปาปกมฺมํ, น นากรมฺหาติ, ชาเนยฺยาถ – เอวรูปํ วา เอวรูปํ วา ปาปกมฺมํ อกรมฺหาติ, ชาเนยฺยาถ – เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ, เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชีเรตพฺพํ, เอตฺตกมฺหิ วา ทุกฺเข นิชฺชิณฺเณ สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตีติ, ชาเนยฺยาถ – ทิฏฺเว ธมฺเม อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานํ, กุสลานํ ธมฺมานํ ¶ อุปสมฺปทํ; เอวํ สนฺเต อายสฺมนฺตานํ นิคณฺานํ กลฺลมสฺส เวยฺยากรณาย – ยํ ¶ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตุ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ¶ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’’ติ.
๓. ‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส นิคณฺา, ปุริโส สลฺเลน วิทฺโธ อสฺส สวิเสน คาฬฺหูปเลปเนน [คาฬฺหปเลปเนน (ก.)]; โส สลฺลสฺสปิ เวธนเหตุ [เวทนาเหตุ (สี. ปี. ก.)] ทุกฺขา ติพฺพา [ติปฺปา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] กฏุกา เวทนา เวทิเยยฺย. ตสฺส มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปฏฺาเปยฺยุํ. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต สตฺเถน วณมุขํ ปริกนฺเตยฺย; โส สตฺเถนปิ วณมุขสฺส ปริกนฺตนเหตุ ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยยฺย. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต เอสนิยา สลฺลํ เอเสยฺย; โส เอสนิยาปิ สลฺลสฺส เอสนาเหตุ ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยยฺย ¶ . ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต สลฺลํ อพฺพุเหยฺย [อพฺพุยฺเหยฺย (สี.), อพฺภูณฺเหยฺย (สฺยา. กํ.)]; โส สลฺลสฺสปิ อพฺพุหนเหตุ [อพฺพุยฺหนเหตุ (สี.), อพฺภูณฺหนเหตุ (สฺยา. กํ.)] ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยยฺย. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต อคทงฺคารํ วณมุเข โอทเหยฺย; โส อคทงฺคารสฺสปิ วณมุเข โอทหนเหตุ ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยยฺย. โส อปเรน สมเยน รูฬฺเหน วเณน สฺฉวินา อโรโค อสฺส สุขี เสรี สยํวสี เยน กามงฺคโม. ตสฺส เอวมสฺส – อหํ โข ปุพฺเพ สลฺเลน วิทฺโธ อโหสึ สวิเสน คาฬฺหูปเลปเนน. โสหํ ¶ สลฺลสฺสปิ เวธนเหตุ ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยึ. ตสฺส เม มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปฏฺเปสุํ. ตสฺส เม โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต สตฺเถน วณมุขํ ปริกนฺติ; โสหํ สตฺเถนปิ วณมุขสฺส ปริกนฺตนเหตุ ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยึ. ตสฺส เม โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต เอสนิยา สลฺลํ เอสิ; โส อหํ เอสนิยาปิ สลฺลสฺส เอสนาเหตุ ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยึ. ตสฺส เม โส ภิสกฺโก ¶ สลฺลกตฺโต สลฺลํ อพฺพุหิ [อพฺพุยฺหิ (สี.), อพฺภูณฺหิ (สฺยา. กํ.)]; โสหํ สลฺลสฺสปิ อพฺพุหนเหตุ ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยึ. ตสฺส เม โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต อคทงฺคารํ วณมุเข โอทหิ; โสหํ อคทงฺคารสฺสปิ วณมุเข โอทหนเหตุ ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยึ. โสมฺหิ ¶ เอตรหิ รูฬฺเหน วเณน สฺฉวินา อโรโค สุขี เสรี สยํวสี เยน กามงฺคโม’’ติ.
‘‘เอวเมว โข, อาวุโส นิคณฺา, สเจ ตุมฺเห ชาเนยฺยาถ – อหุวมฺเหว มยํ ปุพฺเพ, น นาหุวมฺหาติ, ชาเนยฺยาถ – อกรมฺเหว มยํ ปุพฺเพ ปาปกมฺมํ, น นากรมฺหาติ, ชาเนยฺยาถ – เอวรูปํ วา เอวรูปํ วา ปาปกมฺมํ อกรมฺหาติ, ชาเนยฺยาถ – เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ, เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชีเรตพฺพํ, เอตฺตกมฺหิ วา ทุกฺเข นิชฺชิณฺเณ สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตีติ, ชาเนยฺยาถ – ทิฏฺเว ธมฺเม อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานํ, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทํ; เอวํ สนฺเต อายสฺมนฺตานํ นิคณฺานํ กลฺลมสฺส เวยฺยากรณาย – ยํ ¶ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตุ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’’ติ.
‘‘ยสฺมา จ โข ตุมฺเห, อาวุโส นิคณฺา, น ชานาถ – อหุวมฺเหว มยํ ปุพฺเพ, น นาหุวมฺหาติ, น ชานาถ – อกรมฺเหว มยํ ปุพฺเพ ปาปกมฺมํ, น นากรมฺหาติ, น ชานาถ – เอวรูปํ วา เอวรูปํ วา ปาปกมฺมํ อกรมฺหาติ, น ชานาถ – เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ, เอตฺตกํ ¶ วา ทุกฺขํ นิชฺชีเรตพฺพํ, เอตฺตกมฺหิ วา ทุกฺเข นิชฺชิณฺเณ สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตีติ, น ชานาถ – ทิฏฺเว ธมฺเม อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานํ, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทํ; ตสฺมา อายสฺมนฺตานํ นิคณฺานํ น กลฺลมสฺส เวยฺยากรณาย – ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตุ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’’ติ.
๔. ‘‘เอวํ ¶ วุตฺเต, ภิกฺขเว, เต นิคณฺา มํ เอตทโวจุํ – ‘นิคณฺโ ¶ , อาวุโส, นาฏปุตฺโต [นาถปุตฺโต (สี.)] สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี, อปริเสสํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาติ ¶ . จรโต จ เม ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิต’นฺติ. โส เอวมาห – ‘อตฺถิ โข โว, อาวุโส นิคณฺา, ปุพฺเพว ปาปกมฺมํ กตํ, ตํ อิมาย กฏุกาย ทุกฺกรการิกาย นิชฺชีเรถ, ยํ ปเนตฺถ เอตรหิ กาเยน สํวุตา วาจาย สํวุตา มนสา สํวุตา ตํ อายตึ ปาปกมฺมสฺส อกรณํ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’ติ. ตฺจ ปนมฺหากํ รุจฺจติ เจว ขมติ จ, เตน จมฺหา อตฺตมนา’’ติ.
๕. ‘‘เอวํ วุตฺเต อหํ, ภิกฺขเว, เต นิคณฺเ เอตทโวจํ – ‘ปฺจ โข อิเม, อาวุโส นิคณฺา, ธมฺมา ทิฏฺเว ธมฺเม ทฺวิธาวิปากา. กตเม ปฺจ? สทฺธา, รุจิ, อนุสฺสโว, อาการปริวิตกฺโก, ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติ – อิเม โข, อาวุโส นิคณฺา, ปฺจ ธมฺมา ทิฏฺเว ธมฺเม ทฺวิธาวิปากา. ตตฺรายสฺมนฺตานํ นิคณฺานํ กา อตีตํเส สตฺถริ สทฺธา, กา รุจิ, โก อนุสฺสโว, โก อาการปริวิตกฺโก, กา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺตี’ติ. เอวํวาที [เอวํวาทีสุ (ก.)] โข อหํ, ภิกฺขเว, นิคณฺเสุ น กฺจิ [กิฺจิ (สี. ปี. ก.)] สหธมฺมิกํ วาทปฏิหารํ สมนุปสฺสามิ.
‘‘ปุน จปราหํ [ปุน จ ปนาหํ (สี. ปี. ก.)], ภิกฺขเว, เต นิคณฺเ เอวํ วทามิ – ‘ตํ กึ มฺถ, อาวุโส นิคณฺา. ยสฺมึ โว สมเย ติพฺโพ [ติปฺโป (ปี.)] อุปกฺกโม โหติ ¶ ติพฺพํ ปธานํ, ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยถ; ยสฺมึ ปน โว สมเย น ติพฺโพ อุปกฺกโม ¶ โหติ น ติพฺพํ ปธานํ, น ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยถา’ติ? ‘ยสฺมึ โน, อาวุโส โคตม, สมเย ติพฺโพ อุปกฺกโม โหติ ติพฺพํ ปธานํ, ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยาม; ยสฺมึ ปน โน สมเย ¶ น ติพฺโพ อุปกฺกโม โหติ น ติพฺพํ ปธานํ, น ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยามา’’’ติ.
๖. ‘‘อิติ ¶ กิร, อาวุโส นิคณฺา, ยสฺมึ โว สมเย ติพฺโพ อุปกฺกโม โหติ ติพฺพํ ปธานํ, ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยถ; ยสฺมึ ปน โว สมเย น ติพฺโพ อุปกฺกโม โหติ น ติพฺพํ ปธานํ, น ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยถ. เอวํ สนฺเต อายสฺมนฺตานํ นิคณฺานํ น กลฺลมสฺส เวยฺยากรณาย – ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตุ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย ¶ ; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตีติ. สเจ, อาวุโส นิคณฺา, ยสฺมึ โว สมเย ติพฺโพ อุปกฺกโม โหติ ติพฺพํ ปธานํ, น ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยถ; ยสฺมึ ปน โว สมเย น ติพฺโพ อุปกฺกโม โหติ น ติพฺพํ ปธานํ, ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยถ [ปธานํ, ติฏฺเยฺเยว ตสฺมึ สมเย… เวทนา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]; เอวํ สนฺเต อายสฺมนฺตานํ นิคณฺานํ กลฺลมสฺส เวยฺยากรณาย – ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตุ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’’ติ.
‘‘‘ยสฺมา จ โข, อาวุโส นิคณฺา, ยสฺมึ โว สมเย ติพฺโพ อุปกฺกโม โหติ ติพฺพํ ปธานํ, ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยถ; ยสฺมึ ปน โว สมเย น ติพฺโพ อุปกฺกโม โหติ น ติพฺพํ ปธานํ, น ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยถ; เต ตุมฺเห สามํเยว โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ¶ ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทยมานา อวิชฺชา อฺาณา สมฺโมหา วิปจฺเจถ ¶ – ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตุ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ¶ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย ¶ ; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวํวาทีปิ [เอวํวาทีสุปิ (ก.)] โข อหํ, ภิกฺขเว, นิคณฺเสุ น กฺจิ สหธมฺมิกํ วาทปฏิหารํ สมนุปสฺสามิ.
๗. ‘‘ปุน จปราหํ, ภิกฺขเว, เต นิคณฺเ เอวํ วทามิ – ‘ตํ กึ มฺถาวุโส นิคณฺา, ยมิทํ กมฺมํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา สมฺปรายเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’. ‘ยํ ปนิทํ กมฺมํ สมฺปรายเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา ทิฏฺธมฺมเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’. ‘ตํ กึ มฺถาวุโส นิคณฺา, ยมิทํ กมฺมํ สุขเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา ทุกฺขเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’. ‘ยํ ปนิทํ กมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา สุขเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’. ‘ตํ กึ มฺถาวุโส นิคณฺา, ยมิทํ กมฺมํ ปริปกฺกเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา อปริปกฺกเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’. ‘ยํ ปนิทํ กมฺมํ อปริปกฺกเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา ปริปกฺกเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’. ‘ตํ กึ มฺถาวุโส นิคณฺา, ยมิทํ กมฺมํ ¶ พหุเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา อปฺปเวทนียํ ¶ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’. ‘ยํ ปนิทํ กมฺมํ อปฺปเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา พหุเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’. ‘ตํ กึ มฺถาวุโส นิคณฺา, ยมิทํ กมฺมํ สเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา อเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’. ‘ยํ ปนิทํ กมฺมํ อเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา สเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’.
๘. ‘‘อิติ กิร, อาวุโส นิคณฺา, ยมิทํ กมฺมํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา สมฺปรายเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ, ยํ ปนิทํ กมฺมํ สมฺปรายเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา ทิฏฺธมฺมเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ, ยมิทํ กมฺมํ สุขเวทนียํ ตํ ¶ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา ทุกฺขเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ, ยมิทํ กมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ ¶ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา สุขเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ, ยมิทํ กมฺมํ ปริปกฺกเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา อปริปกฺกเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ, ยมิทํ กมฺมํ อปริปกฺกเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา ปริปกฺกเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ, ยมิทํ กมฺมํ พหุเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา อปฺปเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ, ยมิทํ กมฺมํ อปฺปเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา พหุเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ, ยมิทํ กมฺมํ สเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา ¶ อเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ, ยมิทํ กมฺมํ อเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา สเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ; เอวํ สนฺเต อายสฺมนฺตานํ นิคณฺานํ อผโล อุปกฺกโม ¶ โหติ, อผลํ ปธานํ’’.
‘‘เอวํวาที, ภิกฺขเว, นิคณฺา. เอวํวาทีนํ, ภิกฺขเว, นิคณฺานํ ทส สหธมฺมิกา วาทานุวาทา คารยฺหํ านํ อาคจฺฉนฺติ.
๙. ‘‘สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ปุพฺเพกตเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, นิคณฺา ปุพฺเพ ทุกฺกฏกมฺมการิโน ยํ เอตรหิ เอวรูปา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยนฺติ. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา อิสฺสรนิมฺมานเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, นิคณฺา ปาปเกน อิสฺสเรน นิมฺมิตา ยํ เอตรหิ เอวรูปา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยนฺติ. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา สงฺคติภาวเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, นิคณฺา ปาปสงฺคติกา ยํ เอตรหิ เอวรูปา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยนฺติ. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา อภิชาติเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, นิคณฺา ปาปาภิชาติกา ยํ เอตรหิ เอวรูปา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยนฺติ. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ทิฏฺธมฺมูปกฺกมเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, นิคณฺา เอวรูปา ทิฏฺธมฺมูปกฺกมา ยํ เอตรหิ เอวรูปา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยนฺติ.
‘‘สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ปุพฺเพกตเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา; โน เจ สตฺตา ปุพฺเพกตเหตุ สุขทุกฺขํ ¶ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา อิสฺสรนิมฺมานเหตุ ¶ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา; โน เจ สตฺตา อิสฺสรนิมฺมานเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา สงฺคติภาวเหตุ ¶ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา; โน เจ สตฺตา สงฺคติภาวเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา อภิชาติเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา; โน เจ สตฺตา อภิชาติเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ทิฏฺธมฺมูปกฺกมเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา ¶ นิคณฺา; โน เจ สตฺตา ทิฏฺธมฺมูปกฺกมเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา. เอวํวาที, ภิกฺขเว, นิคณฺา. เอวํวาทีนํ, ภิกฺขเว, นิคณฺานํ อิเม ทส สหธมฺมิกา วาทานุวาทา คารยฺหํ านํ อาคจฺฉนฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อผโล อุปกฺกโม โหติ, อผลํ ปธานํ.
๑๐. ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น เหว อนทฺธภูตํ อตฺตานํ ทุกฺเขน อทฺธภาเวติ, ธมฺมิกฺจ สุขํ น ปริจฺจชติ, ตสฺมิฺจ สุเข อนธิมุจฺฉิโต โหติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘อิมสฺส โข เม ทุกฺขนิทานสฺส สงฺขารํ ปทหโต สงฺขารปฺปธานา วิราโค โหติ, อิมสฺส ปน เม ทุกฺขนิทานสฺส อชฺฌุเปกฺขโต อุเปกฺขํ ภาวยโต วิราโค โหตี’ติ. โส ยสฺส หิ ขฺวาสฺส [ยสฺส โข ปนสฺส (สี.), ยสฺส ขฺวาสฺส (ปี.)] ¶ ทุกฺขนิทานสฺส สงฺขารํ ปทหโต สงฺขารปฺปธานา วิราโค โหติ, สงฺขารํ ตตฺถ ปทหติ. ยสฺส ปนสฺส ทุกฺขนิทานสฺส อชฺฌุเปกฺขโต อุเปกฺขํ ภาวยโต วิราโค โหติ, อุเปกฺขํ ตตฺถ ภาเวติ. ตสฺส ตสฺส ทุกฺขนิทานสฺส สงฺขารํ ปทหโต สงฺขารปฺปธานา วิราโค โหติ – เอวมฺปิสฺส ตํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ โหติ. ตสฺส ตสฺส ทุกฺขนิทานสฺส อชฺฌุเปกฺขโต อุเปกฺขํ ภาวยโต วิราโค โหติ – เอวมฺปิสฺส ตํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ โหติ.
๑๑. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส อิตฺถิยา สารตฺโต ปฏิพทฺธจิตฺโต ติพฺพจฺฉนฺโท ติพฺพาเปกฺโข. โส ตํ อิตฺถึ ปสฺเสยฺย อฺเน ปุริเสน สทฺธึ สนฺติฏฺนฺตึ สลฺลปนฺตึ สฺชคฺฆนฺตึ สํหสนฺตึ. ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ ตสฺส ปุริสสฺส อมุํ อิตฺถึ ทิสฺวา อฺเน ปุริเสน สทฺธึ สนฺติฏฺนฺตึ สลฺลปนฺตึ สฺชคฺฆนฺตึ สํหสนฺตึ อุปฺปชฺเชยฺยุํ ¶ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสูปายาสา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อมุ หิ, ภนฺเต, ปุริโส อมุสฺสา อิตฺถิยา สารตฺโต ปฏิพทฺธจิตฺโต ติพฺพจฺฉนฺโท ติพฺพาเปกฺโข ¶ . ตสฺมา ตํ อิตฺถึ ทิสฺวา อฺเน ปุริเสน สทฺธึ สนฺติฏฺนฺตึ สลฺลปนฺตึ สฺชคฺฆนฺตึ ¶ สํหสนฺตึ อุปฺปชฺเชยฺยุํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสูปายาสา’’ติ. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ตสฺส ปุริสสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข อมุสฺสา อิตฺถิยา สารตฺโต ปฏิพทฺธจิตฺโต ติพฺพจฺฉนฺโท ติพฺพาเปกฺโข. ตสฺส เม อมุํ อิตฺถึ ทิสฺวา อฺเน ปุริเสน สทฺธึ สนฺติฏฺนฺตึ สลฺลปนฺตึ สฺชคฺฆนฺตึ สํหสนฺตึ ¶ อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสูปายาสา. ยํนูนาหํ โย เม อมุสฺสา อิตฺถิยา ฉนฺทราโค ตํ ปชเหยฺย’นฺติ. โส โย อมุสฺสา อิตฺถิยา ฉนฺทราโค ตํ ปชเหยฺย. โส ตํ อิตฺถึ ปสฺเสยฺย อปเรน สมเยน อฺเน ปุริเสน สทฺธึ สนฺติฏฺนฺตึ สลฺลปนฺตึ สฺชคฺฆนฺตึ สํหสนฺตึ. ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ ตสฺส ปุริสสฺส อมุํ อิตฺถึ ทิสฺวา อฺเน ปุริเสน สทฺธึ สนฺติฏฺนฺตึ สลฺลปนฺตึ สฺชคฺฆนฺตึ สํหสนฺตึ อุปฺปชฺเชยฺยุํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสูปายาสา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อมุ หิ, ภนฺเต, ปุริโส อมุสฺสา อิตฺถิยา วิราโค. ตสฺมา ตํ อิตฺถึ ทิสฺวา อฺเน ปุริเสน สทฺธึ สนฺติฏฺนฺตึ สลฺลปนฺตึ สฺชคฺฆนฺตึ สํหสนฺตึ น อุปฺปชฺเชยฺยุํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสูปายาสา’’ติ.
‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น เหว อนทฺธภูตํ อตฺตานํ ทุกฺเขน อทฺธภาเวติ, ธมฺมิกฺจ สุขํ น ปริจฺจชติ, ตสฺมิฺจ สุเข อนธิมุจฺฉิโต โหติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘อิมสฺส โข เม ทุกฺขนิทานสฺส สงฺขารํ ปทหโต สงฺขารปฺปธานา วิราโค โหติ, อิมสฺส ปน เม ทุกฺขนิทานสฺส อชฺฌุเปกฺขโต อุเปกฺขํ ภาวยโต วิราโค โหตี’ติ. โส ยสฺส หิ ขฺวาสฺส ทุกฺขนิทานสฺส สงฺขารํ ปทหโต สงฺขารปฺปธานา วิราโค โหติ, สงฺขารํ ตตฺถ ปทหติ; ยสฺส ปนสฺส ทุกฺขนิทานสฺส อชฺฌุเปกฺขโต อุเปกฺขํ ภาวยโต วิราโค โหติ, อุเปกฺขํ ตตฺถ ภาเวติ. ตสฺส ตสฺส ทุกฺขนิทานสฺส สงฺขารํ ปทหโต ¶ สงฺขารปฺปธานา วิราโค โหติ – เอวมฺปิสฺส ตํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ โหติ ¶ . ตสฺส ตสฺส ทุกฺขนิทานสฺส อชฺฌุเปกฺขโต อุเปกฺขํ ภาวยโต วิราโค โหติ – เอวมฺปิสฺส ตํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ โหติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ.
๑๒. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยถาสุขํ โข เม วิหรโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ; ทุกฺขาย ปน เม อตฺตานํ ปทหโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. ยํนูนาหํ ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทเหยฺย’นฺติ. โส ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทหติ. ตสฺส ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทหโต อกุสลา ¶ ธมฺมา ¶ ปริหายนฺติ กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. โส น อปเรน สมเยน ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยสฺส หิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺถาย ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทเหยฺย สฺวาสฺส อตฺโถ อภินิปฺผนฺโน โหติ. ตสฺมา น อปเรน สมเยน ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุสุกาโร เตชนํ ทฺวีสุ อลาเตสุ อาตาเปติ ปริตาเปติ อุชุํ กโรติ กมฺมนิยํ. ยโต โข, ภิกฺขเว, อุสุการสฺส เตชนํ ทฺวีสุ อลาเตสุ อาตาปิตํ โหติ ปริตาปิตํ อุชุํ กตํ [อุชุํ กตํ โหติ (สี.)] กมฺมนิยํ, น โส ตํ อปเรน สมเยน อุสุกาโร เตชนํ ทฺวีสุ อลาเตสุ อาตาเปติ ปริตาเปติ อุชุํ กโรติ กมฺมนิยํ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยสฺส หิ โส, ภิกฺขเว, อตฺถาย อุสุกาโร เตชนํ ทฺวีสุ อลาเตสุ อาตาเปยฺย ปริตาเปยฺย อุชุํ ¶ กเรยฺย กมฺมนิยํ สฺวาสฺส อตฺโถ อภินิปฺผนฺโน โหติ. ตสฺมา น อปเรน สมเยน อุสุกาโร เตชนํ ทฺวีสุ อลาเตสุ อาตาเปติ ปริตาเปติ อุชุํ กโรติ กมฺมนิยํ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยถาสุขํ โข เม วิหรโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ; ทุกฺขาย ปน เม อตฺตานํ ปทหโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. ยํนูนาหํ ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทเหยฺย’นฺติ. โส ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทหติ. ตสฺส ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทหโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. โส น อปเรน สมเยน ทุกฺขาย ¶ อตฺตานํ ปทหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยสฺส หิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺถาย ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทเหยฺย สฺวาสฺส อตฺโถ อภินิปฺผนฺโน โหติ. ตสฺมา น อปเรน สมเยน ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทหติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ.
๑๓. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ ¶ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ตํ ธมฺมํ สุณาติ คหปติ วา คหปติปุตฺโต ¶ วา อฺตรสฺมึ วา กุเล ปจฺจาชาโต. โส ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภติ. โส เตน สทฺธาปฏิลาเภน สมนฺนาคโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘สมฺพาโธ ฆราวาโส รชาปโถ, อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา. นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ ¶ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติ. โส อปเรน สมเยน อปฺปํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย, อปฺปํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย มหนฺตํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ.
๑๔. ‘‘โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ, ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ. อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขี, อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหรติ. อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจารี โหติ อาราจารี วิรโต เมถุนา คามธมฺมา. มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ สจฺจวาที สจฺจสนฺโธ เถโต ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺส. ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ; อิโต สุตฺวา น อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย – อิติ ภินฺนานํ ¶ วา สนฺธาตา สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ. ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ; ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ. สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ. โส พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต โหติ. เอกภตฺติโก โหติ รตฺตูปรโต วิรโต วิกาลโภชนา. นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต โหติ. มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา ¶ ปฏิวิรโต โหติ. อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต โหติ. ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. อามกธฺปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. อามกมํสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. ทาสิทาสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. อเชฬกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. กุกฺกุฏสูกรปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. หตฺถิควสฺสวฬวปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคา ปฏิวิรโต โหติ. กยวิกฺกยา ปฏิวิรโต โหติ. ตุลากูฏกํสกูฏมานกูฏา ปฏิวิรโต โหติ. อุกฺโกฏนวฺจนนิกติสาจิโยคา [สาวิโยคา (สฺยา. กํ. ก.) เอตฺถ สาจิสทฺโท กุฏิลปริยาโย] ปฏิวิรโต โหติ. เฉทนวธพนฺธนวิปราโมสอาโลปสหสาการา ปฏิวิรโต โหติ [ปสฺส ม. นิ. ๑.๒๙๓ จูฬหตฺถิปโทปเม].
‘‘โส ¶ สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน, กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน. โส เยน ¶ เยเนว ปกฺกมติ สมาทาเยว ปกฺกมติ. เสยฺยถาปิ นาม ปกฺขี สกุโณ เยน เยเนว เฑติ สปตฺตภาโรว เฑติ, เอวเมว ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน, กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน; โส เยน เยเนว ปกฺกมติ สมาทาเยว ปกฺกมติ. โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อนวชฺชสุขํ ปฏิสํเวเทติ.
๑๕. ‘‘โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา…เป… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา…เป… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา…เป… มนสา ธมฺมํ วิฺาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โส อิมินา อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อพฺยาเสกสุขํ ปฏิสํเวเทติ.
‘‘โส ¶ อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหติ, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี โหติ, สมิฺชิเต [สมฺมิฺชิเต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปสาริเต สมฺปชานการี โหติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี โหติ ¶ , อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี โหติ, อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี โหติ, คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี โหติ.
๑๖. ‘‘โส อิมินา จ อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต, (อิมาย จ อริยาย สนฺตุฏฺิยา สมนฺนาคโต,) [ปสฺส ม. นิ. ๑.๒๙๖ จูฬหตฺถิปโทปเม] อิมินา จ อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต, อิมินา จ อริเยน สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปฺุชํ. โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา, อุชุํ กายํ ปณิธาย, ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ. พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี, พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ. ถินมิทฺธํ ปหาย วิคตถินมิทฺโธ วิหรติ อาโลกสฺี สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต ¶ , อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ. วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติ.
‘‘โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวมฺปิ ¶ , ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ. ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา, ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา, อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ.
๑๗. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ [เสยฺยถีทํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ¶ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ ¶ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ.
๑๘. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ ¶ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ ¶ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ.
๑๙. ‘‘โส ¶ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ; ‘อิเม อาสวา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ. เอวํวาที, ภิกฺขเว, ตถาคตา. เอวํวาทีนํ, ภิกฺขเว, ตถาคตานํ [ตถาคโต, เอวํวาทึ ภิกฺขเว ตถาคตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ทส สหธมฺมิกา ปาสํสฏฺานา อาคจฺฉนฺติ.
๒๐. ‘‘สเจ ¶ , ภิกฺขเว, สตฺตา ปุพฺเพกตเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุพฺเพ ¶ สุกตกมฺมการี ยํ เอตรหิ เอวรูปา อนาสวา สุขา เวทนา เวเทติ. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา อิสฺสรนิมฺมานเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, ตถาคโต ภทฺทเกน อิสฺสเรน ¶ นิมฺมิโต ยํ เอตรหิ เอวรูปา อนาสวา สุขา เวทนา เวเทติ. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา สงฺคติภาวเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, ตถาคโต กลฺยาณสงฺคติโก ยํ เอตรหิ เอวรูปา อนาสวา สุขา เวทนา เวเทติ. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา อภิชาติเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, ตถาคโต กลฺยาณาภิชาติโก ยํ เอตรหิ เอวรูปา อนาสวา สุขา เวทนา เวเทติ. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ทิฏฺธมฺมูปกฺกมเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, ตถาคโต กลฺยาณทิฏฺธมฺมูปกฺกโม ยํ เอตรหิ เอวรูปา อนาสวา สุขา เวทนา เวเทติ.
‘‘สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ปุพฺเพกตเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต; โน เจ สตฺตา ปุพฺเพกตเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา อิสฺสรนิมฺมานเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต; โน เจ สตฺตา อิสฺสรนิมฺมานเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา สงฺคติภาวเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต; โน เจ สตฺตา สงฺคติภาวเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา อภิชาติเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต; โน เจ สตฺตา ¶ อภิชาติเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ทิฏฺธมฺมูปกฺกมเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต; โน เจ สตฺตา ทิฏฺธมฺมูปกฺกมเหตุ สุขทุกฺขํ ¶ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต. เอวํวาที, ภิกฺขเว, ตถาคตา. เอวํวาทีนํ, ภิกฺขเว, ตถาคตานํ อิเม ทส สหธมฺมิกา ปาสํสฏฺานา อาคจฺฉนฺตี’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
เทวทหสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปมํ.
๒. ปฺจตฺตยสุตฺตํ [ปฺจายตนสุตฺต (ก.)]
๒๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺิโน อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิวุตฺติปทานิ [อธิมุตฺติปทานิ (สฺยา. กํ. ก.)] อภิวทนฺติ. ‘สฺี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’ติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ; ‘อสฺี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’ติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ; ‘เนวสฺีนาสฺี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’ติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ; สโต วา ปน สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ [ปฺาเปนฺติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ วา ปเนเก อภิวทนฺติ. อิติ สนฺตํ วา อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ [ปรํ มรณา. อิติ อิมานิ (ก.)] ปรํ มรณา, สโต วา ปน สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ, ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ วา ปเนเก อภิวทนฺติ. อิติ อิมานิ ปฺจ [ปรํ มรณา. อิติ อิมานิ (ก.)] หุตฺวา ตีณิ โหนฺติ, ตีณิ หุตฺวา ปฺจ โหนฺติ – อยมุทฺเทโส ปฺจตฺตยสฺส.
๒๒. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ¶ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อรูปึ ¶ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิฺจ อรูปิฺจ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เนวรูปึ นารูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เอกตฺตสฺึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, นานตฺตสฺึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ¶ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, ปริตฺตสฺึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อปฺปมาณสฺึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เอตํ [เอวํ (ก.)] วา ปเนเกสํ [ปเนเตสํ (สฺยา. กํ.)] อุปาติวตฺตตํ วิฺาณกสิณเมเก อภิวทนฺติ อปฺปมาณํ อาเนฺชํ ¶ . ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ [ปชานาติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.) อฏฺกถา โอโลเกตพฺพา]. เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อรูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิฺจ อรูปิฺจ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เนวรูปึ นารูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เอกตฺตสฺึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา ¶ สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, นานตฺตสฺึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, ปริตฺตสฺึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อปฺปมาณสฺึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา [มรณาติ (ก.)], ยา วา ปเนตาสํ สฺานํ ปริสุทฺธา ปรมา อคฺคา อนุตฺตริยา อกฺขายติ ¶ – ยทิ รูปสฺานํ ยทิ อรูปสฺานํ ยทิ เอกตฺตสฺานํ ยทิ นานตฺตสฺานํ. ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนเมเก อภิวทนฺติ อปฺปมาณํ อาเนฺชํ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
๒๓. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อรูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิฺจ อรูปิฺจ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เนวรูปึ นารูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา. ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา เตสเมเต ¶ ปฏิกฺโกสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? สฺา โรโค สฺา คณฺโฑ สฺา สลฺลํ, เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ – ‘อสฺ’นฺติ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปึ วา เต โภนฺโต ¶ สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อรูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิฺจ อรูปิฺจ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เนวรูปึ นารูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา. โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํ วเทยฺย – ‘อหมฺตฺร รูปา, อฺตฺร เวทนาย, อฺตฺร สฺาย, อฺตฺร ¶ สงฺขาเรหิ, วิฺาณสฺส [อฺตฺร วิฺาณา (สฺยา. กํ.), อฺตฺร วิฺาเณน (ก.)] อาคตึ วา คตึ วา จุตึ วา อุปปตฺตึ วา วุทฺธึ วา วิรูฬฺหึ วา เวปุลฺลํ วา ปฺเปสฺสามี’ติ – เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ ¶ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
๒๔. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ¶ ปรํ มรณา, อรูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิฺจ อรูปิฺจ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เนวรูปึ นารูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา. ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา เตสเมเต ปฏิกฺโกสนฺติ, เยปิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา เตสเมเต ปฏิกฺโกสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? สฺา โรโค สฺา คณฺโฑ สฺา สลฺลํ, อสฺา สมฺโมโห, เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ – ‘เนวสฺานาสฺ’นฺติ. [เนวสฺานาสฺาติ (สฺยา. กํ. ปี. ก.) เอตนฺติปทํ มนสิกาตพฺพํ] ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อรูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ¶ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิฺจ อรูปิฺจ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เนวรูปึ นารูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ¶ ปรํ มรณา. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา [สมณพฺราหฺมณา (สี. ปี.)] ทิฏฺสุตมุตวิฺาตพฺพสงฺขารมตฺเตน เอตสฺส อายตนสฺส อุปสมฺปทํ ปฺเปนฺติ, พฺยสนฺเหตํ, ภิกฺขเว, อกฺขายติ [อายตนมกฺขายติ (ก.)] เอตสฺส อายตนสฺส อุปสมฺปทาย ¶ . น เหตํ, ภิกฺขเว, อายตนํ สงฺขารสมาปตฺติปตฺตพฺพมกฺขายติ; สงฺขาราวเสสสมาปตฺติปตฺตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, อายตนมกฺขายติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
๒๕. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ ¶ , ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา เตสเมเต ปฏิกฺโกสนฺติ, เยปิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา เตสเมเต ปฏิกฺโกสนฺติ, เยปิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา เตสเมเต ปฏิกฺโกสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? สพฺเพปิเม โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธํ สรํ [อุทฺธํสรา (สี. ปี.), อุทฺธํ ปรามสนฺติ (สฺยา. กํ.)] อาสตฺตึเยว อภิวทนฺติ – ‘อิติ เปจฺจ ¶ ภวิสฺสาม, อิติ เปจฺจ ภวิสฺสามา’ติ. เสยฺยถาปิ นาม วาณิชสฺส วาณิชฺชาย คจฺฉโต เอวํ โหติ – ‘อิโต เม อิทํ ภวิสฺสติ, อิมินา อิทํ ลจฺฉามี’ติ, เอวเมวิเม โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา วาณิชูปมา มฺเ ปฏิภนฺติ – ‘อิติ เปจฺจ ภวิสฺสาม, อิติ เปจฺจ ภวิสฺสามา’ติ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ เต สกฺกายภยา สกฺกายปริเชคุจฺฉา สกฺกายฺเว อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ. เสยฺยถาปิ นาม สา คทฺทุลพทฺโธ ทฬฺเห ถมฺเภ วา ขิเล [ขีเล (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วา อุปนิพทฺโธ ¶ , ตเมว ถมฺภํ วา ขิลํ วา อนุปริธาวติ อนุปริวตฺตติ ¶ ; เอวเมวิเม โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สกฺกายภยา สกฺกายปริเชคุจฺฉา สกฺกายฺเว อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
๒๖. ‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺิโน อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิวุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ, สพฺเพ เต อิมาเนว ปฺจายตนานิ อภิวทนฺติ เอเตสํ วา อฺตรํ.
๒๗. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิวุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ. ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘อสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘สสฺสโต จ อสสฺสโต จ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘เนวสสฺสโต ¶ นาสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘อนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘อนนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘อนฺตวา จ อนนฺตวา จ อตฺตา ¶ จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘เนวนฺตวา นานนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘เอกตฺตสฺี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘นานตฺตสฺี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘ปริตฺตสฺี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘อปฺปมาณสฺี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘เอกนฺตสุขี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘เอกนฺตทุกฺขี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ ¶ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘สุขทุกฺขี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘อทุกฺขมสุขี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ.
๒๘. ‘‘ตตฺร ¶ , ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ ¶ , เตสํ วต อฺตฺเรว สทฺธาย อฺตฺร รุจิยา อฺตฺร อนุสฺสวา อฺตฺร อาการปริวิตกฺกา อฺตฺร ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา ปจฺจตฺตํเยว าณํ ภวิสฺสติ ปริสุทฺธํ ปริโยทาตนฺติ – เนตํ านํ วิชฺชติ. ปจฺจตฺตํ โข ปน, ภิกฺขเว, าเณ อสติ ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต ยทปิ [ยทิปิ (ก.)] เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา ตตฺถ าณภาคมตฺตเมว ปริโยทเปนฺติ ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อุปาทานมกฺขายติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
๒๙. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘อสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ…เป… [ยถา สสฺสตวาเร, ตถา วิตฺถาเรตพฺพํ] สสฺสโต จ อสสฺสโต จ อตฺตา จ โลโก จ… เนวสสฺสโต นาสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ… อนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ… อนนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ… อนฺตวา จ อนนฺตวา จ อตฺตา จ โลโก จ… เนวนฺตวา นานนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ… เอกตฺตสฺี อตฺตา จ โลโก จ… นานตฺตสฺี อตฺตา จ โลโก จ… ปริตฺตสฺี อตฺตา จ โลโก จ… อปฺปมาณสฺี อตฺตา จ โลโก จ… เอกนฺตสุขี อตฺตา จ โลโก จ… เอกนฺตทุกฺขี อตฺตา จ โลโก จ… สุขทุกฺขี อตฺตา จ โลโก จ… อทุกฺขมสุขี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว ¶ สจฺจํ โมฆมฺนฺติ, เตสํ วต อฺตฺเรว ¶ สทฺธาย อฺตฺร รุจิยา อฺตฺร อนุสฺสวา อฺตฺร อาการปริวิตกฺกา อฺตฺร ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา ปจฺจตฺตํเยว าณํ ภวิสฺสติ ปริสุทฺธํ ปริโยทาตนฺติ – เนตํ านํ ¶ วิชฺชติ. ปจฺจตฺตํ โข ปน, ภิกฺขเว, าเณ อสติ ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต ยทปิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา ตตฺถ าณภาคมตฺตเมว ปริโยทเปนฺติ ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อุปาทานมกฺขายติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
๓๐. ‘‘อิธ ¶ , ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺานา, ปวิเวกํ ปีตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ ปวิเวกํ ปีตึ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’ติ. ตสฺส สา ปวิเวกา ปีติ นิรุชฺฌติ. ปวิเวกาย ปีติยา นิโรธา อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสํ, โทมนสฺสสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ ปวิเวกา ปีติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยํ ฉายา ชหติ ตํ อาตโป ผรติ, ยํ อาตโป ชหติ ตํ ฉายา ผรติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ปวิเวกาย ปีติยา นิโรธา อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสํ, โทมนสฺสสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ ปวิเวกา ปีติ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. อยํ โข ภวํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา ¶ , อปรนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺานา, ปวิเวกํ ปีตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ ปวิเวกํ ปีตึ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’ติ. ตสฺส สา ปวิเวกา ปีติ นิรุชฺฌติ. ปวิเวกาย ปีติยา นิโรธา อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสํ, โทมนสฺสสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ ปวิเวกา ปีติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
๓๑. ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺานา, ปวิเวกาย ปีติยา สมติกฺกมา นิรามิสํ สุขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ นิรามิสํ สุขํ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’ติ. ตสฺส ตํ นิรามิสํ สุขํ นิรุชฺฌติ. นิรามิสสฺส สุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ ปวิเวกา ปีติ, ปวิเวกาย ปีติยา นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ ¶ . เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยํ ฉายา ชหติ ตํ อาตโป ผรติ, ยํ อาตโป ชหติ ¶ ตํ ฉายา ผรติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, นิรามิสสฺส สุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ ปวิเวกา ปีติ, ปวิเวกาย ปีติยา นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. อยํ โข ภวํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺานา ¶ , ปวิเวกาย ปีติยา สมติกฺกมา, นิรามิสํ สุขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ นิรามิสํ สุขํ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’ติ. ตสฺส ¶ ตํ นิรามิสํ สุขํ นิรุชฺฌติ. นิรามิสสฺส สุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ ปวิเวกา ปีติ, ปวิเวกาย ปีติยา นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
๓๒. ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺานา, ปวิเวกาย ปีติยา สมติกฺกมา, นิรามิสสฺส สุขสฺส สมติกฺกมา, อทุกฺขมสุขํ เวทนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’ติ. ตสฺส สา อทุกฺขมสุขา เวทนา นิรุชฺฌติ. อทุกฺขมสุขาย เวทนาย นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ, นิรามิสสฺส สุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ อทุกฺขมสุขา เวทนา. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยํ ฉายา ชหติ ตํ อาตโป ผรติ, ยํ อาตโป ชหติ ตํ ฉายา ผรติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ, นิรามิสสฺส สุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ อทุกฺขมสุขา เวทนา. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. อยํ โข ภวํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา ¶ , อปรนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺานา, ปวิเวกาย ปีติยา สมติกฺกมา, นิรามิสสฺส สุขสฺส สมติกฺกมา, อทุกฺขมสุขํ เวทนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ อทุกฺขมสุขํ ¶ เวทนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’ติ. ตสฺส สา อทุกฺขมสุขา เวทนา นิรุชฺฌติ. อทุกฺขมสุขาย เวทนาย นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ, นิรามิสสฺส สุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ อทุกฺขมสุขา เวทนา. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
๓๓. ‘‘อิธ ¶ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺานา, ปวิเวกาย ปีติยา สมติกฺกมา, นิรามิสสฺส สุขสฺส สมติกฺกมา, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมติกฺกมา – ‘สนฺโตหมสฺมิ, นิพฺพุโตหมสฺมิ, อนุปาทาโนหมสฺมี’ติ สมนุปสฺสติ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. อยํ โข ภวํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ ¶ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺานา, ปวิเวกาย ปีติยา สมติกฺกมา, นิรามิสสฺส สุขสฺส สมติกฺกมา, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมติกฺกมา – ‘สนฺโตหมสฺมิ, นิพฺพุโตหมสฺมิ, อนุปาทาโนหมสฺมี’ติ สมนุปสฺสติ; อทฺธา อยมายสฺมา นิพฺพานสปฺปายํเยว ¶ ปฏิปทํ อภิวทติ. อถ จ ปนายํ ภวํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺึ วา อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ, อปรนฺตานุทิฏฺึ วา อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ, กามสํโยชนํ วา อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ, ปวิเวกํ วา ปีตึ อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ, นิรามิสํ วา สุขํ อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ, อทุกฺขมสุขํ วา เวทนํ อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ. ยฺจ โข อยมายสฺมา – ‘สนฺโตหมสฺมิ, นิพฺพุโตหมสฺมิ, อนุปาทาโนหมสฺมี’ติ สมนุปสฺสติ ตทปิ อิมสฺส โภโต สมณสฺส พฺราหฺมณสฺส อุปาทานมกฺขายติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
‘‘อิทํ โข ปน, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อนุตฺตรํ สนฺติวรปทํ อภิสมฺพุทฺธํ ยทิทํ – ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา [อนุปาทาวิโมกฺโข. ตยิทํ ภิกฺขเว ตถาคเตน อนุตฺตรํ สนฺติวรปทํ อภิสมฺพุทฺธํ, ยทิทํ ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทาวิโมกฺโขติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อนุปาทาวิโมกฺโข’’ติ [อนุปาทาวิโมกฺโข. ตยิทํ ภิกฺขเว ตถาคเตน อนุตฺตรํ สนฺติวรปทํ อภิสมฺพุทฺธํ, ยทิทํ ฉนฺนํ ผสฺสายตนํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทาวิโมกฺโขติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)].
อิทมโวจ ¶ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
ปฺจตฺตยสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทุติยํ.
๓. กินฺติสุตฺตํ
๓๔. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ปิสินารายํ [กุสินารายํ (สี.)] วิหรติ พลิหรเณ วนสณฺเฑ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘กินฺติ โว ¶ , ภิกฺขเว, มยิ โหติ – ‘จีวรเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ, ปิณฺฑปาตเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ, เสนาสนเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ, อิติภวาภวเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสตี’’’ติ? ‘‘น โข โน, ภนฺเต, ภควติ เอวํ โหติ – ‘จีวรเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ, ปิณฺฑปาตเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ, เสนาสนเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ, อิติภวาภวเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสตี’’’ติ.
‘‘น จ กิร โว, ภิกฺขเว, มยิ เอวํ โหติ – ‘จีวรเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ…เป… อิติภวาภวเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสตี’ติ; อถ กินฺติ จรหิ โว [อถ กินฺติ โว (สี. ปี.), อถ กิฺจรหิ โว (ก.)], ภิกฺขเว, มยิ โหตี’’ติ? ‘‘เอวํ โข โน, ภนฺเต, ภควติ โหติ – ‘อนุกมฺปโก ภควา หิเตสี; อนุกมฺปํ อุปาทาย ธมฺมํ เทเสตี’’’ติ. ‘‘เอวฺจ ¶ [เอวํ (สี. ปี.)] กิร โว, ภิกฺขเว, มยิ โหติ – ‘อนุกมฺปโก ภควา หิเตสี; อนุกมฺปํ อุปาทาย ธมฺมํ เทเสตี’’’ติ.
๓๕. ‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เย โว [เย เต (ก.)] มยา ธมฺมา อภิฺา เทสิตา, เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานิ สตฺต โพชฺฌงฺคา ¶ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, ตตฺถ สพฺเพเหว สมคฺเคหิ สมฺโมทมาเนหิ อวิวทมาเนหิ สิกฺขิตพฺพํ. เตสฺจ โว, ภิกฺขเว, สมคฺคานํ สมฺโมทมานานํ อวิวทมานานํ สิกฺขตํ สิยํสุ [สิยุํ (สี. สฺยา. กํ.) สทฺทนีติ โอโลเกตพฺพา] ทฺเว ภิกฺขู อภิธมฺเม นานาวาทา. ตตฺร เจ ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘อิเมสํ โข อายสฺมนฺตานํ อตฺถโต เจว นานํ พฺยฺชนโต จ นาน’นฺติ, ตตฺถ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ [สุพฺพจตรํ (ก.)] มฺเยฺยาถ โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อายสฺมนฺตานํ โข อตฺถโต เจว นานํ, พฺยฺชนโต จ นานํ. ตทมินาเปตํ [ตทิมินาเปตํ (สฺยา. กํ.)] อายสฺมนฺโต ชานาถ – ยถา อตฺถโต เจว นานํ, พฺยฺชนโต จ นานํ. มายสฺมนฺโต วิวาทํ อาปชฺชิตฺถา’ติ. อถาปเรสํ เอกโตปกฺขิกานํ ¶ ภิกฺขูนํ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ มฺเยฺยาถ โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อายสฺมนฺตานํ โข อตฺถโต เจว นานํ, พฺยฺชนโต จ นานํ. ตทมินาเปตํ อายสฺมนฺโต ชานาถ – ยถา อตฺถโต ¶ เจว นานํ, พฺยฺชนโต จ นานํ. มายสฺมนฺโต วิวาทํ อาปชฺชิตฺถา’ติ. อิติ ทุคฺคหิตํ ทุคฺคหิตโต ธาเรตพฺพํ, สุคฺคหิตํ สุคฺคหิตโต ธาเรตพฺพํ. ทุคฺคหิตํ ทุคฺคหิตโต ธาเรตฺวา สุคฺคหิตํ สุคฺคหิตโต ธาเรตฺวา [อิติ ทุคฺคหิตํ ทุคฺคหิตโต ธาเรตพฺพํ, ทุคฺคหิตํ ทุคฺคหิตโต ธาเรตฺวา (สี. สฺยา. กํ. ปี.) อนนฺตรวารตฺตเย ปน อิทํ ปานานตฺตํ นตฺถิ] โย ธมฺโม โย วินโย โส ภาสิตพฺโพ.
๓๖. ‘‘ตตฺร ¶ เจ ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘อิเมสํ โข อายสฺมนฺตานํ อตฺถโต หิ โข นานํ, พฺยฺชนโต สเมตี’ติ, ตตฺถ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ มฺเยฺยาถ โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อายสฺมนฺตานํ โข อตฺถโต หิ นานํ, พฺยฺชนโต สเมติ. ตทมินาเปตํ อายสฺมนฺโต ชานาถ – ยถา อตฺถโต หิ โข นานํ, พฺยฺชนโต สเมติ. มายสฺมนฺโต วิวาทํ อาปชฺชิตฺถา’ติ. อถาปเรสํ เอกโตปกฺขิกานํ ภิกฺขูนํ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ มฺเยฺยาถ โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อายสฺมนฺตานํ โข อตฺถโต หิ โข นานํ, พฺยฺชนโต สเมติ. ตทมินาเปตํ อายสฺมนฺโต ชานาถ – ยถา อตฺถโต หิ โข นานํ, พฺยฺชนโต สเมติ. มายสฺมนฺโต วิวาทํ อาปชฺชิตฺถา’ติ ¶ . อิติ ทุคฺคหิตํ ทุคฺคหิตโต ธาเรตพฺพํ, สุคฺคหิตํ สุคฺคหิตโต ธาเรตพฺพํ. ทุคฺคหิตํ ทุคฺคหิตโต ธาเรตฺวา สุคฺคหิตํ สุคฺคหิตโต ธาเรตฺวา โย ธมฺโม โย วินโย โส ภาสิตพฺโพ.
๓๗. ‘‘ตตฺร เจ ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘อิเมสํ โข อายสฺมนฺตานํ อตฺถโต หิ โข สเมติ, พฺยฺชนโต นาน’นฺติ, ตตฺถ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ มฺเยฺยาถ โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อายสฺมนฺตานํ โข อตฺถโต หิ สเมติ, พฺยฺชนโต นานํ. ตทมินาเปตํ อายสฺมนฺโต ชานาถ – ยถา อตฺถโต หิ โข สเมติ, พฺยฺชนโต นานํ. อปฺปมตฺตกํ โข ปเนตํ ยทิทํ – พฺยฺชนํ. มายสฺมนฺโต อปฺปมตฺตเก วิวาทํ อาปชฺชิตฺถา’ติ. อถาปเรสํ เอกโตปกฺขิกานํ ภิกฺขูนํ ¶ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ มฺเยฺยาถ โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อายสฺมนฺตานํ โข อตฺถโต หิ สเมติ, พฺยฺชนโต นานํ. ตทมินาเปตํ อายสฺมนฺโต ชานาถ – ยถา อตฺถโต หิ โข สเมติ, พฺยฺชนโต นานํ. อปฺปมตฺตกํ โข ปเนตํ ยทิทํ ¶ – พฺยฺชนํ. มายสฺมนฺโต อปฺปมตฺตเก [อปฺปมตฺตเกหิ (สี. ปี.)] วิวาทํ อาปชฺชิตฺถา’ติ. อิติ สุคฺคหิตํ สุคฺคหิตโต ธาเรตพฺพํ, ทุคฺคหิตํ ทุคฺคหิตโต ธาเรตพฺพํ. สุคฺคหิตํ สุคฺคหิตโต ธาเรตฺวา ทุคฺคหิตํ ทุคฺคหิตโต ธาเรตฺวา โย ธมฺโม โย วินโย โส ภาสิตพฺโพ.
๓๘. ‘‘ตตฺร ¶ เจ ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘อิเมสํ โข อายสฺมนฺตานํ อตฺถโต เจว สเมติ พฺยฺชนโต จ สเมตี’ติ, ตตฺถ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ มฺเยฺยาถ โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อายสฺมนฺตานํ โข อตฺถโต เจว สเมติ, พฺยฺชนโต จ สเมติ. ตทมินาเปตํ อายสฺมนฺโต ชานาถ – ยถา อตฺถโต เจว สเมติ พฺยฺชนโต จ สเมติ. มายสฺมนฺโต วิวาทํ อาปชฺชิตฺถา’ติ. อถาปเรสํ เอกโตปกฺขิกานํ ภิกฺขูนํ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ มฺเยฺยาถ โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อายสฺมนฺตานํ โข อตฺถโต เจว สเมติ พฺยฺชนโต จ สเมติ. ตทมินาเปตํ อายสฺมนฺโต ชานาถ – ยถา อตฺถโต เจว สเมติ พฺยฺชนโต จ สเมติ. มายสฺมนฺโต วิวาทํ ¶ อาปชฺชิตฺถา’ติ. อิติ สุคฺคหิตํ สุคฺคหิตโต ธาเรตพฺพํ. สุคฺคหิตํ สุคฺคหิตโต ธาเรตฺวา โย ธมฺโม โย วินโย โส ภาสิตพฺโพ.
๓๙. ‘‘เตสฺจ ¶ โว, ภิกฺขเว, สมคฺคานํ สมฺโมทมานานํ อวิวทมานานํ สิกฺขตํ สิยา อฺตรสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺติ สิยา วีติกฺกโม, ตตฺร, ภิกฺขเว, น โจทนาย ตริตพฺพํ [โจทิตพฺพํ (สฺยา. กํ. ก.) ตุริตพฺพํ (?)]. ปุคฺคโล อุปปริกฺขิตพฺโพ – ‘อิติ มยฺหฺจ อวิเหสา ภวิสฺสติ ปรสฺส จ ปุคฺคลสฺส อนุปฆาโต, ปโร หิ ปุคฺคโล อกฺโกธโน อนุปนาหี อทฬฺหทิฏฺี สุปฺปฏินิสฺสคฺคี, สกฺโกมิ จาหํ เอตํ ปุคฺคลํ อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาเปตุ’นฺติ. สเจ, ภิกฺขเว, เอวมสฺส, กลฺลํ วจนาย.
‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, เอวมสฺส – ‘มยฺหํ โข อวิเหสา ภวิสฺสติ ปรสฺส จ ปุคฺคลสฺส อุปฆาโต, ปโร หิ ปุคฺคโล โกธโน อุปนาหี อทฬฺหทิฏฺี สุปฺปฏินิสฺสคฺคี, สกฺโกมิ จาหํ เอตํ ปุคฺคลํ อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาเปตุํ. อปฺปมตฺตกํ โข ปเนตํ ยทิทํ – ปรสฺส [ยทิทํ มยฺหฺจ วิเหสา ภวิสฺสติ ปรสฺส จ (ก.)] ปุคฺคลสฺส อุปฆาโต. อถ โข เอตเทว พหุตรํ – สฺวาหํ สกฺโกมิ เอตํ ปุคฺคลํ อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา ¶ กุสเล ปติฏฺาเปตุ’นฺติ ¶ . สเจ, ภิกฺขเว, เอวมสฺส, กลฺลํ วจนาย.
‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, เอวมสฺส – ‘มยฺหํ โข วิเหสา ภวิสฺสติ ปรสฺส จ ปุคฺคลสฺส อนุปฆาโต. ปโร หิ ปุคฺคโล อกฺโกธโน อนุปนาหี ทฬฺหทิฏฺี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี, สกฺโกมิ จาหํ เอตํ ปุคฺคลํ อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาเปตุํ. อปฺปมตฺตกํ โข ปเนตํ ยทิทํ ¶ – มยฺหํ วิเหสา [มยฺหฺจ วิเหสา ภวิสฺสติ ปรสฺส จ ปุคฺคลสฺส อุปฆาโต (ก.)]. อถ โข เอตเทว พหุตรํ – สฺวาหํ สกฺโกมิ เอตํ ปุคฺคลํ อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาเปตุ’นฺติ. สเจ, ภิกฺขเว, เอวมสฺส, กลฺลํ วจนาย.
‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, เอวมสฺส – ‘มยฺหฺจ โข วิเหสา ภวิสฺสติ ปรสฺส จ ปุคฺคลสฺส อุปฆาโต. ปโร หิ ¶ ปุคฺคโล โกธโน อุปนาหี ทฬฺหทิฏฺี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี, สกฺโกมิ จาหํ เอตํ ปุคฺคลํ อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาเปตุํ. อปฺปมตฺตกํ โข ปเนตํ ยทิทํ – มยฺหฺจ วิเหสา ภวิสฺสติ ปรสฺส จ ปุคฺคลสฺส อุปฆาโต. อถ โข เอตเทว พหุตรํ – สฺวาหํ สกฺโกมิ เอตํ ปุคฺคลํ อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาเปตุ’นฺติ. สเจ, ภิกฺขเว, เอวมสฺส, กลฺลํ วจนาย.
‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, เอวมสฺส – ‘มยฺหฺจ โข วิเหสา ภวิสฺสติ ปรสฺส จ ปุคฺคลสฺส อุปฆาโต. ปโร หิ ปุคฺคโล โกธโน อุปนาหี ทฬฺหทิฏฺี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี, น จาหํ สกฺโกมิ เอตํ ปุคฺคลํ อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาเปตุ’นฺติ. เอวรูเป, ภิกฺขเว, ปุคฺคเล อุเปกฺขา นาติมฺิตพฺพา.
๔๐. ‘‘เตสฺจ โว, ภิกฺขเว, สมคฺคานํ สมฺโมทมานานํ อวิวทมานานํ สิกฺขตํ อฺมฺสฺส วจีสํหาโร [วจีสงฺขาโร (สี. ปี.)] อุปฺปชฺเชยฺย ทิฏฺิปฬาโส [ทิฏฺิปลาโส (สี. ก.)] เจตโส อาฆาโต อปฺปจฺจโย อนภิรทฺธิ. ตตฺถ เอกโตปกฺขิกานํ ภิกฺขูนํ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ มฺเยฺยาถ โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘ยํ โน, อาวุโส, อมฺหากํ สมคฺคานํ สมฺโมทมานานํ อวิวทมานานํ สิกฺขตํ อฺมฺสฺส วจีสํหาโร อุปฺปนฺโน ทิฏฺิปฬาโส เจตโส อาฆาโต อปฺปจฺจโย อนภิรทฺธิ, ตํ ชานมาโน สมโณ ครเหยฺยา’ติ [สมาโน (สี. ก.)]. สมฺมา พฺยากรมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ พฺยากเรยฺย ¶ – ‘ยํ โน, อาวุโส, อมฺหากํ ¶ สมคฺคานํ สมฺโมทมานานํ อวิวทมานานํ สิกฺขตํ อฺมฺสฺส วจีสํหาโร อุปฺปนฺโน ทิฏฺิปฬาโส เจตโส อาฆาโต อปฺปจฺจโย อนภิรทฺธิ, ตํ ชานมาโน สมโณ ครเหยฺยาติ. เอตํ ปนาวุโส, ธมฺมํ อปฺปหาย นิพฺพานํ สจฺฉิกเรยฺยา’ติ. สมฺมา พฺยากรมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ พฺยากเรยฺย – ‘เอตํ, อาวุโส, ธมฺมํ อปฺปหาย น นิพฺพานํ สจฺฉิกเรยฺยา’ติ.
‘‘อถาปเรสํ เอกโตปกฺขิกานํ ภิกฺขูนํ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ มฺเยฺยาถ, โส อุปสงฺกมิตฺวา ¶ เอวมสฺส วจนีโย – ‘ยํ โน, อาวุโส, อมฺหากํ สมคฺคานํ สมฺโมทมานานํ อวิวทมานานํ สิกฺขตํ อฺมฺสฺส วจีสํหาโร อุปฺปนฺโน ทิฏฺิปฬาโส เจตโส อาฆาโต อปฺปจฺจโย อนภิรทฺธิ, ตํ ชานมาโน สมโณ ครเหยฺยา’ติ. สมฺมา พฺยากรมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ พฺยากเรยฺย – ‘ยํ โน, อาวุโส, อมฺหากํ สมคฺคานํ สมฺโมทมานานํ อวิวทมานานํ สิกฺขตํ อฺมฺสฺส วจีสํหาโร อุปฺปนฺโน ทิฏฺิปฬาโส เจตโส อาฆาโต อปฺปจฺจโย อนภิรทฺธิ ตํ ชานมาโน สมโณ ครเหยฺยาติ. เอตํ ปนาวุโส, ธมฺมํ อปฺปหาย นิพฺพานํ สจฺฉิกเรยฺยา’ติ. สมฺมา พฺยากรมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ พฺยากเรยฺย ¶ – ‘เอตํ โข, อาวุโส, ธมฺมํ อปฺปหาย น นิพฺพานํ สจฺฉิกเรยฺยา’’’ติ.
‘‘ตํ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุํ ปเร เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘อายสฺมตา โน เอเต ภิกฺขู อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาปิตา’ติ? สมฺมา พฺยากรมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ พฺยากเรยฺย ¶ – ‘อิธาหํ, อาวุโส, เยน ภควา เตนุปสงฺกมึ, ตสฺส เม ภควา ธมฺมํ เทเสสิ, ตาหํ ธมฺมํ สุตฺวา เตสํ ภิกฺขูนํ อภาสึ. ตํ เต ภิกฺขู ธมฺมํ สุตฺวา อกุสลา วุฏฺหึสุ, กุสเล ปติฏฺหึสู’ติ. เอวํ พฺยากรมาโน โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น เจว อตฺตานํ อุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรติ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท คารยฺหํ านํ อาคจฺฉตี’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
กินฺติสุตฺตํ นิฏฺิตํ ตติยํ.
๔. สามคามสุตฺตํ
๔๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ สามคาเม. เตน โข ปน สมเยน นิคณฺโ นาฏปุตฺโต [นาถปุตฺโต (สี. ปี.)] ปาวายํ อธุนากาลงฺกโต [กาลกโต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] โหติ. ตสฺส กาลงฺกิริยาย ภินฺนา นิคณฺา ทฺเวธิกชาตา [ทฺเวฬฺหกชาตา (สฺยา. กํ. ก.)] ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ – ‘‘น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสิ, อหํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานามิ. กึ ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานิสฺสสิ! มิจฺฉาปฏิปนฺโน ตฺวมสิ, อหมสฺมิ สมฺมาปฏิปนฺโน. สหิตํ เม, อสหิตํ เต. ปุเรวจนียํ ปจฺฉา อวจ ¶ , ปจฺฉาวจนียํ ปุเร อวจ. อธิจิณฺณํ [อวิจิณฺณํ (สี. ปี.)] เต วิปราวตฺตํ. อาโรปิโต เต วาโท. นิคฺคหิโตสิ, จร วาทปฺปโมกฺขาย; นิพฺเพเหิ วา สเจ ปโหสี’’ติ. วโธเยว โข [วโธเยเวโก (สฺยา. กํ. ก.)] มฺเ นิคณฺเสุ นาฏปุตฺติเยสุ วตฺตติ. เยปิ นิคณฺสฺส นาฏปุตฺตสฺส สาวกา คิหี โอทาตวสนา เตปิ นิคณฺเสุ นาฏปุตฺติเยสุ นิพฺพินฺนรูปา [นิพฺพินฺทรูปา (สฺยา. กํ. ก.)] วิรตฺตรูปา ปฏิวานรูปา ยถา ตํ ทุรกฺขาเต ธมฺมวินเย ทุปฺปเวทิเต อนิยฺยานิเก อนุปสมสํวตฺตนิเก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเต ภินฺนถูเป อปฺปฏิสรเณ.
๔๒. อถ โข จุนฺโท สมณุทฺเทโส ปาวายํ วสฺสํวุฏฺโ [วสฺสํวุตฺโถ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เยน สามคาโม เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน ¶ โข จุนฺโท สมณุทฺเทโส อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘นิคณฺโ, ภนฺเต, นาฏปุตฺโต ปาวายํ อธุนากาลงฺกโต. ตสฺส กาลงฺกิริยาย ภินฺนา นิคณฺา ทฺเวธิกชาตา…เป… ภินฺนถูเป อปฺปฏิสรเณ’’ติ. เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท จุนฺทํ สมณุทฺเทสํ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ โข อิทํ, อาวุโส จุนฺท, กถาปาภตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อายาม, อาวุโส จุนฺท, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ภควโต อาโรเจสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข จุนฺโท สมณุทฺเทโส อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสิ.
อถ ¶ โข อายสฺมา จ อานนฺโท จุนฺโท จ สมณุทฺเทโส เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา ¶ อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, ภนฺเต, จุนฺโท สมณุทฺเทโส เอวมาห – ‘นิคณฺโ ¶ , ภนฺเต, นาฏปุตฺโต ปาวายํ อธุนากาลงฺกโต. ตสฺส กาลงฺกิริยาย ภินฺนา นิคณฺา ทฺเวธิกชาตา…เป… ภินฺนถูเป อปฺปฏิสรเณ’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘มาเหว ภควโต อจฺจเยน สงฺเฆ วิวาโท อุปฺปชฺชิ; สฺวาสฺส [โส (สี. ปี.), สฺวายํ (ก.)] วิวาโท พหุชนาหิตาย พหุชนาสุขาย พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสาน’’’นฺติ.
๔๓. ‘‘ตํ ¶ กึ มฺสิ, อานนฺท, เย โว มยา ธมฺมา อภิฺา เทสิตา, เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานิ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, ปสฺสสิ โน ตฺวํ, อานนฺท, อิเมสุ ธมฺเมสุ ทฺเวปิ ภิกฺขู นานาวาเท’’ติ? ‘‘เย เม, ภนฺเต, ธมฺมา ภควตา อภิฺา เทสิตา, เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานิ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, นาหํ ปสฺสามิ อิเมสุ ธมฺเมสุ ทฺเวปิ ภิกฺขู นานาวาเท. เย จ โข [สนฺติ จ โข (สฺยา. กํ.), สนฺติ จ (ก.)], ภนฺเต, ปุคฺคลา ภควนฺตํ ปติสฺสยมานรูปา วิหรนฺติ เตปิ ภควโต อจฺจเยน สงฺเฆ วิวาทํ ชเนยฺยุํ อชฺฌาชีเว วา อธิปาติโมกฺเข วา. สฺวาสฺส [โสสฺส (สี. ปี.), สฺวายํ (ก.)] วิวาโท พหุชนาหิตาย พหุชนาสุขาย พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ. อปฺปมตฺตโก โส, อานนฺท, วิวาโท ยทิทํ – อชฺฌาชีเว วา อธิปาติโมกฺเข วา. มคฺเค วา หิ, อานนฺท, ปฏิปทาย วา สงฺเฆ วิวาโท อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺเชยฺย; สฺวาสฺส วิวาโท พหุชนาหิตาย พหุชนาสุขาย พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ.
๔๔. ‘‘ฉยิมานิ, อานนฺท, วิวาทมูลานิ. กตมานิ ฉ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ โกธโน โหติ อุปนาหี. โย โส, อานนฺท, ภิกฺขุ โกธโน โหติ อุปนาหี โส สตฺถริปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเมปิ ¶ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สงฺเฆปิ ¶ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สิกฺขายปิ น ปริปูรการี โหติ. โย โส, อานนฺท, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเม… สงฺเฆ อคารโว วิหรติ ¶ อปฺปติสฺโส, สิกฺขาย น ปริปูรการี โหติ, โส สงฺเฆ วิวาทํ ชเนติ; โย โหติ วิวาโท พหุชนาหิตาย พหุชนาสุขาย, พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ. เอวรูปฺเจ ตุมฺเห, อานนฺท, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา สมนุปสฺเสยฺยาถ, ตตฺร ตุมฺเห, อานนฺท, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานาย วายเมยฺยาถ. เอวรูปฺเจ ตุมฺเห, อานนฺท, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา น สมนุปสฺเสยฺยาถ. ตตฺร ตุมฺเห, อานนฺท, ตสฺเสว ปาปกสฺส ¶ วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสวาย ปฏิปชฺเชยฺยาถ. เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานํ โหติ, เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสโว โหติ.
๔๕. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ มกฺขี โหติ ปฬาสี…เป… อิสฺสุกี โหติ มจฺฉรี…เป… สโ โหติ มายาวี…เป… ปาปิจฺโฉ โหติ มิจฺฉาทิฏฺิ [มิจฺฉาทิฏฺี (สฺยา. กํ. ปี. ก.)] …เป… สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี. โย โส, อานนฺท, ภิกฺขุ สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี โส สตฺถริปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเมปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สงฺเฆปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สิกฺขายปิ น ปริปูรการี โหติ. โย โส, อานนฺท, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเม… สงฺเฆ… สิกฺขาย น ปริปูรการี โหติ โส ¶ สงฺเฆ วิวาทํ ชเนติ; โย โหติ วิวาโท พหุชนาหิตาย พหุชนาสุขาย, พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ. เอวรูปฺเจ ตุมฺเห, อานนฺท, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา สมนุปสฺเสยฺยาถ. ตตฺร ตุมฺเห, อานนฺท, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานาย วายเมยฺยาถ. เอวรูปฺเจ ตุมฺเห, อานนฺท, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา น สมนุปสฺเสยฺยาถ, ตตฺร ตุมฺเห, อานนฺท, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสวาย ปฏิปชฺเชยฺยาถ. เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานํ โหติ ¶ , เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสโว โหติ. อิมานิ โข, อานนฺท, ฉ วิวาทมูลานิ.
๔๖. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , อานนฺท, อธิกรณานิ. กตมานิ จตฺตาริ? วิวาทาธิกรณํ, อนุวาทาธิกรณํ, อาปตฺตาธิกรณํ, กิจฺจาธิกรณํ – อิมานิ โข, อานนฺท, จตฺตาริ อธิกรณานิ. สตฺต โข ปนิเม, อานนฺท, อธิกรณสมถา – อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อธิกรณานํ สมถาย วูปสมาย สมฺมุขาวินโย ทาตพฺโพ, สติวินโย ทาตพฺโพ, อมูฬฺหวินโย ทาตพฺโพ, ปฏิฺาย กาเรตพฺพํ, เยภุยฺยสิกา, ตสฺสปาปิยสิกา, ติณวตฺถารโก.
๔๗. ‘‘กถฺจานนฺท, สมฺมุขาวินโย โหติ? อิธานนฺท, ภิกฺขู วิวทนฺติ ธมฺโมติ วา อธมฺโมติ วา วินโยติ วา อวินโยติ วา. เตหานนฺท, ภิกฺขูหิ สพฺเพเหว สมคฺเคหิ สนฺนิปติตพฺพํ. สนฺนิปติตฺวา ธมฺมเนตฺติ สมนุมชฺชิตพฺพา ¶ . ธมฺมเนตฺตึ สมนุมชฺชิตฺวา ยถา ตตฺถ สเมติ ¶ ตถา ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ. เอวํ โข, อานนฺท, สมฺมุขาวินโย โหติ; เอวฺจ ปนิเธกจฺจานํ อธิกรณานํ วูปสโม โหติ ยทิทํ – สมฺมุขาวินเยน.
๔๘. ‘‘กถฺจานนฺท, เยภุยฺยสิกา โหติ? เต เจ, อานนฺท, ภิกฺขู น สกฺโกนฺติ ตํ อธิกรณํ ตสฺมึ อาวาเส วูปสเมตุํ. เตหานนฺท, ภิกฺขูหิ ยสฺมึ อาวาเส พหุตรา ภิกฺขู โส อาวาโส คนฺตพฺโพ. ตตฺถ สพฺเพเหว สมคฺเคหิ สนฺนิปติตพฺพํ. สนฺนิปติตฺวา ธมฺมเนตฺติ สมนุมชฺชิตพฺพา. ธมฺมเนตฺตึ สมนุมชฺชิตฺวา ยถา ตตฺถ สเมติ ตถา ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ. เอวํ โข, อานนฺท, เยภุยฺยสิกา โหติ, เอวฺจ ปนิเธกจฺจานํ อธิกรณานํ วูปสโม โหติ ยทิทํ – เยภุยฺยสิกาย.
๔๙. ‘‘กถฺจานนฺท, สติวินโย โหติ? อิธานนฺท, ภิกฺขู ภิกฺขุํ เอวรูปาย ครุกาย อาปตฺติยา โจเทนฺติ ปาราชิเกน วา ปาราชิกสามนฺเตน วา – ‘สรตายสฺมา เอวรูปึ [เอวรูปํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.) เอวรูปาย-อิติ วุจฺจมานวจเนน สเมติ. วินเยนปิ สํสนฺเทตพฺพํ] ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ? โส เอวมาห – ‘น โข อหํ, อาวุโส, สรามิ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ ¶ วา’ติ. ตสฺส โข [ตสฺส โข เอวํ (สพฺพตฺถ)], อานนฺท, ภิกฺขุโน สติวินโย ทาตพฺโพ. เอวํ โข, อานนฺท, สติวินโย โหติ, เอวฺจ ปนิเธกจฺจานํ อธิกรณานํ วูปสโม โหติ ยทิทํ – สติวินเยน.
๕๐. ‘‘กถฺจานนฺท ¶ ¶ , อมูฬฺหวินโย โหติ? อิธานนฺท, ภิกฺขู ภิกฺขุํ เอวรูปาย ครุกาย อาปตฺติยา โจเทนฺติ ปาราชิเกน วา ปาราชิกสามนฺเตน วา – ‘สรตายสฺมา เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ? (โส เอวมาห – ‘น โข อหํ, อาวุโส, สรามิ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ. ตเมนํ โส นิพฺเพเนฺตํ อติเวเติ – ‘อิงฺฆายสฺมา สาธุกเมว ชานาหิ ยทิ สรสิ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ.) [( ) เอตฺถนฺตเร ปาโ จูฬว. ๒๓๗ นตฺถิ ตสฺสปาปิยสิกาวาเรเอเวเตน ภวิตพฺพํ] โส เอวมาห – ‘อหํ โข, อาวุโส, อุมฺมาทํ ปาปุณึ เจตโส วิปริยาสํ. เตน เม อุมฺมตฺตเกน พหุํ อสฺสามณกํ อชฺฌาจิณฺณํ ภาสิตปริกฺกนฺตํ [ภาสิตปริกนฺตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. นาหํ ตํ สรามิ. มูฬฺเหน เม เอตํ กต’นฺติ. ตสฺส โข [ตสฺส โข เอวํ (สฺยา. กํ. ก.)], อานนฺท, ภิกฺขุโน อมูฬฺหวินโย ทาตพฺโพ. เอวํ โข, อานนฺท ¶ , อมูฬฺหวินโย โหติ, เอวฺจ ปนิเธกจฺจานํ อธิกรณานํ วูปสโม โหติ ยทิทํ – อมูฬฺหวินเยน.
๕๑. ‘‘กถฺจานนฺท, ปฏิฺาตกรณํ โหติ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ โจทิโต วา อโจทิโต วา อาปตฺตึ สรติ, วิวรติ อุตฺตานีกโรติ [อุตฺตานึ กโรติ (ก.)]. เตน, อานนฺท, ภิกฺขุนา วุฑฺฒตรํ ภิกฺขุํ [วุฑฺฒตโร ภิกฺขุ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตํ ปฏิเทเสมี’ติ. โส เอวมาห – ‘ปสฺสสี’ติ? ‘อาม ปสฺสามี’ติ. ‘อายตึ ¶ สํวเรยฺยาสี’ติ. (‘สํวริสฺสามี’ติ.) [( ) วินเย นตฺถิ] เอวํ โข, อานนฺท, ปฏิฺาตกรณํ โหติ, เอวฺจ ปนิเธกจฺจานํ อธิกรณานํ วูปสโม โหติ ยทิทํ – ปฏิฺาตกรเณน.
๕๒. ‘‘กถฺจานนฺท ¶ , ตสฺสปาปิยสิกา โหติ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ ภิกฺขุํ เอวรูปาย ครุกาย อาปตฺติยา โจเทติ ปาราชิเกน วา ปาราชิกสามนฺเตน วา – ‘สรตายสฺมา เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ? โส เอวมาห – ‘น โข อหํ, อาวุโส, สรามิ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ ¶ วา’ติ. ตเมนํ โส นิพฺเพเนฺตํ อติเวเติ – ‘อิงฺฆายสฺมา สาธุกเมว ชานาหิ ยทิ สรสิ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ. โส เอวมาห – ‘น โข อหํ, อาวุโส, สรามิ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา; สรามิ จ โข อหํ, อาวุโส, เอวรูปึ อปฺปมตฺติกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา’ติ. ตเมนํ โส นิพฺเพเนฺตํ อติเวเติ – ‘อิงฺฆายสฺมา สาธุกเมว ชานาหิ ยทิ สรสิ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ? โส เอวมาห – ‘อิมฺหิ นามาหํ, อาวุโส, อปฺปมตฺติกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา อปุฏฺโ ปฏิชานิสฺสามิ. กึ ปนาหํ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา ปุฏฺโ นปฏิชานิสฺสามี’ติ? โส เอวมาห – ‘อิมฺหิ นาม ตฺวํ, อาวุโส ¶ , อปฺปมตฺติกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา อปุฏฺโ นปฏิชานิสฺสสิ, กึ ปน ตฺวํ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา ปุฏฺโ [อปุฏฺโ (สฺยา. กํ. ก.)] ปฏิชานิสฺสสิ? อิงฺฆายสฺมา สาธุกเมว ชานาหิ ยทิ สรสิ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ. โส เอวมาห – ‘สรามิ โข อหํ, อาวุโส, เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ ¶ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา. ทวา เม เอตํ วุตฺตํ, รวา เม เอตํ วุตฺตํ – นาหํ ตํ สรามิ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ. เอวํ โข, อานนฺท, ตสฺสปาปิยสิกา โหติ, เอวฺจ ปนิเธกจฺจานํ อธิกรณานํ วูปสโม โหติ ยทิทํ – ตสฺสปาปิยสิกาย.
๕๓. ‘‘กถฺจานนฺท ¶ , ติณวตฺถารโก โหติ? อิธานนฺท, ภิกฺขูนํ ภณฺฑนชาตานํ กลหชาตานํ วิวาทาปนฺนานํ วิหรตํ พหุํ อสฺสามณกํ อชฺฌาจิณฺณํ โหติ ภาสิตปริกฺกนฺตํ. เตหานนฺท, ภิกฺขูหิ สพฺเพเหว สมคฺเคหิ สนฺนิปติตพฺพํ. สนฺนิปติตฺวา เอกโตปกฺขิกานํ ภิกฺขูนํ พฺยตฺเตน [พฺยตฺตตเรน (สี. ปี. ก.)] ภิกฺขุนา อุฏฺายาสนา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา อฺชลึ ปณาเมตฺวา สงฺโฆ าเปตพฺโพ –
‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิทํ อมฺหากํ ภณฺฑนชาตานํ กลหชาตานํ วิวาทาปนฺนานํ วิหรตํ พหุํ อสฺสามณกํ อชฺฌาจิณฺณํ ภาสิตปริกฺกนฺตํ ¶ . ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ ยา เจว อิเมสํ อายสฺมนฺตานํ อาปตฺติ ยา จ อตฺตโน อาปตฺติ, อิเมสฺเจว อายสฺมนฺตานํ อตฺถาย อตฺตโน จ อตฺถาย, สงฺฆมชฺเฌ ¶ ติณวตฺถารเกน เทเสยฺยํ, เปตฺวา ถุลฺลวชฺชํ เปตฺวา คิหิปฏิสํยุตฺต’’’นฺติ.
‘‘อถาปเรสํ เอกโตปกฺขิกานํ ภิกฺขูนํ พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา อุฏฺายาสนา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา อฺชลึ ปณาเมตฺวา สงฺโฆ าเปตพฺโพ –
‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิทํ อมฺหากํ ภณฺฑนชาตานํ กลหชาตานํ วิวาทาปนฺนานํ วิหรตํ พหุํ อสฺสามณกํ อชฺฌาจิณฺณํ ภาสิตปริกฺกนฺตํ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ ยา เจว อิเมสํ อายสฺมนฺตานํ อาปตฺติ ยา จ อตฺตโน อาปตฺติ, อิเมสฺเจว อายสฺมนฺตานํ อตฺถาย อตฺตโน จ อตฺถาย, สงฺฆมชฺเฌ ติณวตฺถารเกน เทเสยฺยํ, เปตฺวา ถุลฺลวชฺชํ เปตฺวา คิหิปฏิสํยุตฺต’’’นฺติ.
‘‘เอวํ โข, อานนฺท, ติณวตฺถารโก โหติ, เอวฺจ ปนิเธกจฺจานํ อธิกรณานํ วูปสโม โหติ ยทิทํ – ติณวตฺถารเกน.
๕๔. ‘‘ฉยิเม ¶ , อานนฺท, ธมฺมา สารณียา ปิยกรณา ครุกรณา สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ฉ? อิธานนฺท, ภิกฺขุโน เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน เมตฺตํ วจีกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ ¶ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา ¶ เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ – เย เต ลาภา ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา อนฺตมโส ปตฺตปริยาปนฺนมตฺตมฺปิ ตถารูเปหิ ลาเภหิ – อปฏิวิภตฺตโภคี โหติ, สีลวนฺเตหิ สพฺรหฺมจารีหิ สาธารณโภคี. อยมฺปิ ธมฺโม ¶ สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ – ยานิ ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺุปฺปสตฺถานิ อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ ตถารูเปสุ สีเลสุ – สีลสามฺคโต วิหรติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ – ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยา ตถารูปาย ทิฏฺิยา – ทิฏฺิสามฺคโต วิหรติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา ¶ เอกีภาวาย สํวตฺตติ. อิเม โข, อานนฺท, ฉ สารณียา ธมฺมา ปิยกรณา ครุกรณา สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตนฺติ.
‘‘อิเม เจ ตุมฺเห, อานนฺท, ฉ สารณีเย ธมฺเม สมาทาย วตฺเตยฺยาถ, ปสฺสถ โน ตุมฺเห, อานนฺท, ตํ วจนปถํ อณุํ วา ถูลํ วา ยํ ตุมฺเห นาธิวาเสยฺยาถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท ¶ , อิเม ฉ สารณีเย ธมฺเม สมาทาย วตฺตถ. ตํ โว ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
สามคามสุตฺตํ นิฏฺิตํ จตุตฺถํ.
๕. สุนกฺขตฺตสุตฺตํ
๕๕. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ ¶ ภควโต สนฺติเก อฺา พฺยากตา โหติ – ‘‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานามา’’ติ. อสฺโสสิ โข สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต – ‘‘สมฺพหุเลหิ กิร ภิกฺขูหิ ภควโต สนฺติเก อฺา พฺยากตา โหติ – ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานามา’’ติ. อถ โข สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘สมฺพหุเลหิ กิร ภิกฺขูหิ ภควโต สนฺติเก อฺา พฺยากตา – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานามา’’ติ. ‘‘เย เต, ภนฺเต, ภิกฺขู ภควโต สนฺติเก อฺํ พฺยากํสุ – ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานามา’’ติ, กจฺจิ เต, ภนฺเต, ภิกฺขู สมฺมเทว อฺํ พฺยากํสุ อุทาหุ สนฺเตตฺเถกจฺเจ ภิกฺขู อธิมาเนน อฺํ พฺยากํสูติ?
๕๖. ‘‘เย เต, สุนกฺขตฺต, ภิกฺขู มม สนฺติเก อฺํ พฺยากํสุ – ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานามา’’ติ ¶ . ‘‘สนฺเตตฺเถกจฺเจ ภิกฺขู สมฺมเทว อฺํ พฺยากํสุ, สนฺติ ปนิเธกจฺเจ ภิกฺขู อธิมาเนนปิ [อธิมาเนน (?)] อฺํ พฺยากํสุ. ตตฺร, สุนกฺขตฺต, เย เต ภิกฺขู สมฺมเทว อฺํ พฺยากํสุ เตสํ ตํ ตเถว โหติ; เย ปน เต ภิกฺขู อธิมาเนน อฺํ พฺยากํสุ ตตฺร, สุนกฺขตฺต, ตถาคตสฺส เอวํ โหติ – ‘ธมฺมํ เนสํ เทเสสฺส’นฺติ [เทเสยฺยนฺติ (ปี. ก.)]. เอวฺเจตฺถ, สุนกฺขตฺต, ตถาคตสฺส โหติ – ‘ธมฺมํ เนสํ เทเสสฺส’นฺติ. อถ จ ปนิเธกจฺเจ โมฆปุริสา ปฺหํ อภิสงฺขริตฺวา อภิสงฺขริตฺวา ตถาคตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉนฺติ. ตตฺร, สุนกฺขตฺต, ยมฺปิ ¶ ตถาคตสฺส เอวํ โหติ – ‘ธมฺมํ เนสํ เทเสสฺส’นฺติ ตสฺสปิ โหติ อฺถตฺต’’นฺติ. ‘‘เอตสฺส ภควา กาโล, เอตสฺส สุคต กาโล, ยํ ภควา ธมฺมํ เทเสยฺย. ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, สุนกฺขตฺต สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ ¶ ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –
๕๗. ‘‘ปฺจ ¶ โข อิเม, สุนกฺขตฺต, กามคุณา. กตเม ปฺจ? จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, โสตวิฺเยฺยา สทฺทา…เป… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา – อิเม โข, สุนกฺขตฺต, ปฺจ กามคุณา.
๕๘. ‘‘านํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ปุริสปุคฺคโล ¶ โลกามิสาธิมุตฺโต อสฺส. โลกามิสาธิมุตฺตสฺส โข, สุนกฺขตฺต, ปุริสปุคฺคลสฺส ตปฺปติรูปี เจว กถา สณฺาติ, ตทนุธมฺมฺจ อนุวิตกฺเกติ, อนุวิจาเรติ, ตฺจ ปุริสํ ภชติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ; อาเนฺชปฏิสํยุตฺตาย จ ปน กถาย กจฺฉมานาย น สุสฺสูสติ, น โสตํ โอทหติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปติ [อุปฏฺเปติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], น จ ตํ ปุริสํ ภชติ, น จ เตน วิตฺตึ อาปชฺชติ. เสยฺยถาปิ, สุนกฺขตฺต, ปุริโส สกมฺหา คามา วา นิคมา วา จิรวิปฺปวุตฺโถ อสฺส. โส อฺตรํ ปุริสํ ปสฺเสยฺย ตมฺหา คามา วา นิคมา วา อจิรปกฺกนฺตํ. โส ตํ ปุริสํ ตสฺส คามสฺส วา นิคมสฺส วา เขมตฺจ สุภิกฺขตฺจ อปฺปาพาธตฺจ ปุจฺเฉยฺย; ตสฺส โส ปุริโส ตสฺส คามสฺส วา นิคมสฺส วา เขมตฺจ สุภิกฺขตฺจ ¶ อปฺปาพาธตฺจ สํเสยฺย. ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, อปิ นุ โส ปุริโส ตสฺส ปุริสสฺส สุสฺสูเสยฺย, โสตํ โอทเหยฺย, อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปยฺย, ตฺจ ปุริสํ ภเชยฺย, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, สุนกฺขตฺต, านเมตํ วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ปุริสปุคฺคโล โลกามิสาธิมุตฺโต อสฺส. โลกามิสาธิมุตฺตสฺส โข, สุนกฺขตฺต, ปุริสปุคฺคลสฺส ตปฺปติรูปี เจว กถา สณฺาติ, ตทนุธมฺมฺจ อนุวิตกฺเกติ, อนุวิจาเรติ, ตฺจ ปุริสํ ภชติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ; อาเนฺชปฏิสํยุตฺตาย จ ปน กถาย กจฺฉมานาย น ¶ สุสฺสูสติ, น โสตํ โอทหติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปติ, น จ ตํ ปุริสํ ภชติ, น จ เตน วิตฺตึ อาปชฺชติ. โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘อาเนฺชสํโยชเนน หิ โข วิสํยุตฺโต [อาเนฺชสํโยชเนน หิ โข วิสํยุตฺโต-อิติ ปาโ สี. สฺยา. กํ. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ, อฏฺกถาสุ ปน ตพฺพณฺณนา ทิสฺสติเยว] โลกามิสาธิมุตฺโต ปุริสปุคฺคโล’’’ติ.
๕๙. ‘‘านํ ¶ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ปุริสปุคฺคโล อาเนฺชาธิมุตฺโต ¶ อสฺส. อาเนฺชาธิมุตฺตสฺส โข, สุนกฺขตฺต, ปุริสปุคฺคลสฺส ตปฺปติรูปี เจว กถา สณฺาติ, ตทนุธมฺมฺจ อนุวิตกฺเกติ, อนุวิจาเรติ, ตฺจ ปุริสํ ภชติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ; โลกามิสปฏิสํยุตฺตาย จ ปน กถาย กจฺฉมานาย น สุสฺสูสติ, น โสตํ โอทหติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปติ, น จ ตํ ปุริสํ ภชติ, น จ เตน วิตฺตึ อาปชฺชติ. เสยฺยถาปิ, สุนกฺขตฺต, ปณฺฑุปลาโส พนฺธนา ปวุตฺโต อภพฺโพ หริตตฺตาย; เอวเมว โข, สุนกฺขตฺต, อาเนฺชาธิมุตฺตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส เย โลกามิสสํโยชเน เส ปวุตฺเต. โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘โลกามิสสํโยชเนน หิ โข วิสํยุตฺโต อาเนฺชาธิมุตฺโต ปุริสปุคฺคโล’’’ติ.
๖๐. ‘‘านํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ปุริสปุคฺคโล อากิฺจฺายตนาธิมุตฺโต อสฺส. อากิฺจฺายตนาธิมุตฺตสฺส โข, สุนกฺขตฺต, ปุริสปุคฺคลสฺส ตปฺปติรูปี เจว กถา สณฺาติ, ตทนุธมฺมฺจ อนุวิตกฺเกติ, อนุวิจาเรติ, ตฺจ ปุริสํ ภชติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ ¶ ; อาเนฺชปฏิสํยุตฺตาย จ ปน กถาย กจฺฉมานาย น สุสฺสูสติ, น โสตํ โอทหติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปติ ¶ , น จ ตํ ปุริสํ ภชติ, น จ เตน วิตฺตึ อาปชฺชติ. เสยฺยถาปิ, สุนกฺขตฺต, ปุถุสิลา ทฺเวธาภินฺนา อปฺปฏิสนฺธิกา โหติ; เอวเมว โข, สุนกฺขตฺต, อากิฺจฺายตนาธิมุตฺตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส เย อาเนฺชสํโยชเน เส ภินฺเน. โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘อาเนฺชสํโยชเนน หิ โข วิสํยุตฺโต อากิฺจฺายตนาธิมุตฺโต ปุริสปุคฺคโล’’’ติ.
๖๑. ‘‘านํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ปุริสปุคฺคโล เนวสฺานาสฺายตนาธิมุตฺโต อสฺส. เนวสฺานาสฺายตนาธิมุตฺตสฺส โข, สุนกฺขตฺต, ปุริสปุคฺคลสฺส ตปฺปติรูปี เจว กถา สณฺาติ, ตทนุธมฺมฺจ อนุวิตกฺเกติ, อนุวิจาเรติ, ตฺจ ปุริสํ ภชติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ; อากิฺจฺายตนปฏิสํยุตฺตาย จ ปน กถาย กจฺฉมานาย น สุสฺสูสติ, น โสตํ โอทหติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปติ, น จ ตํ ปุริสํ ภชติ, น จ เตน วิตฺตึ อาปชฺชติ. เสยฺยถาปิ, สุนกฺขตฺต, ปุริโส มนฺุโภชนํ ภุตฺตาวี ฉฑฺเฑยฺย [ฉทฺเทยฺย (?)]. ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, อปิ ¶ นุ ตสฺส ปุริสสฺส ตสฺมึ ภตฺเต [วนฺเต (ก. สี.), ภุตฺเต (ก. สี. ก.)] ปุน โภตฺตุกมฺยตา อสฺสา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อทฺุหิ, ภนฺเต, ภตฺตํ [วนฺตํ (สี.)] ปฏิกูลสมฺมต’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, สุนกฺขตฺต, เนวสฺานาสฺายตนาธิมุตฺตสฺส ¶ ปุริสปุคฺคลสฺส เย อากิฺจฺายตนสํโยชเน เส วนฺเต. โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘อากิฺจฺายตนสํโยชเนน หิ โข วิสํยุตฺโต เนวสฺานาสฺายตนาธิมุตฺโต ¶ ปุริสปุคฺคโล’ติ.
๖๒. ‘‘านํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ปุริสปุคฺคโล สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺโต อสฺส. สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺตสฺส โข, สุนกฺขตฺต, ปุริสปุคฺคลสฺส ตปฺปติรูปี เจว กถา สณฺาติ, ตทนุธมฺมฺจ อนุวิตกฺเกติ, อนุวิจาเรติ, ตฺจ ปุริสํ ภชติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ; เนวสฺานาสฺายตนปฏิสํยุตฺตาย จ ปน กถาย ¶ กจฺฉมานาย น สุสฺสูสติ, น โสตํ โอทหติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปติ, น จ ตํ ปุริสํ ภชติ, น จ เตน วิตฺตึ อาปชฺชติ. เสยฺยถาปิ, สุนกฺขตฺต, ตาโล มตฺถกจฺฉินฺโน อภพฺโพ ปุน วิรุฬฺหิยา; เอวเมว โข, สุนกฺขตฺต, สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส เย เนวสฺานาสฺายตนสํโยชเน เส อุจฺฉินฺนมูเล ตาลาวตฺถุกเต อนภาวํกเต [อนภาวกเต (สี. ปี.), อนภาวงฺคเต (สฺยา. กํ.)] อายตึ อนุปฺปาทธมฺเม. โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘เนวสฺานาสฺายตนสํโยชเนน หิ โข วิสํยุตฺโต สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺโต ปุริสปุคฺคโล’’’ติ.
๖๓. ‘‘านํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวมสฺส – ‘ตณฺหา โข สลฺลํ สมเณน วุตฺตํ, อวิชฺชาวิสโทโส, ฉนฺทราคพฺยาปาเทน รุปฺปติ. ตํ เม ตณฺหาสลฺลํ ปหีนํ, อปนีโต อวิชฺชาวิสโทโส, สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺโตหมสฺมี’ติ. เอวํมานิ [เอวํมานี (สี. ปี. ก.), เอวมาทิ (สฺยา. กํ.)] อสฺส อตถํ สมานํ [อตฺถํ สมานํ (สฺยา. กํ. ปี.), อตฺถสมานํ (สี.)]. โส ยานิ สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺตสฺส อสปฺปายานิ ตานิ อนุยฺุเชยฺย; อสปฺปายํ จกฺขุนา รูปทสฺสนํ อนุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ โสเตน ¶ สทฺทํ อนุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ ฆาเนน คนฺธํ อนุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ ชิวฺหาย รสํ อนุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ กาเยน โผฏฺพฺพํ อนุยฺุเชยฺย ¶ , อสปฺปายํ มนสา ธมฺมํ อนุยฺุเชยฺย. ตสฺส อสปฺปายํ จกฺขุนา รูปทสฺสนํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ โสเตน สทฺทํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ ฆาเนน คนฺธํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ ชิวฺหาย รสํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ กาเยน โผฏฺพฺพํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ มนสา ธมฺมํ อนุยุตฺตสฺส ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสยฺย. โส ราคานุทฺธํสิเตน จิตฺเตน มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ.
‘‘เสยฺยถาปิ, สุนกฺขตฺต, ปุริโส สลฺเลน วิทฺโธ อสฺส สวิเสน คาฬฺหูปเลปเนน. ตสฺส มิตฺตามจฺจา ¶ าติสาโลหิตา ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปฏฺาเปยฺยุํ. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต สตฺเถน วณมุขํ ปริกนฺเตยฺย. สตฺเถน วณมุขํ ปริกนฺติตฺวา เอสนิยา สลฺลํ เอเสยฺย. เอสนิยา สลฺลํ เอสิตฺวา สลฺลํ ¶ อพฺพุเหยฺย, อปเนยฺย วิสโทสํ สอุปาทิเสสํ. สอุปาทิเสโสติ [อนุปาทิเสโสติ (สพฺพตฺถ) อยํ หิ ตถาคตสฺส วิสโย] ชานมาโน โส เอวํ วเทยฺย – ‘อมฺโภ ปุริส, อุพฺภตํ โข เต สลฺลํ, อปนีโต วิสโทโส สอุปาทิเสโส [อนุปาทิเสโส (สพฺพตฺถ) อยมฺปิ ตถาคตสฺส วิสโย]. อนลฺจ เต อนฺตรายาย. สปฺปายานิ เจว โภชนานิ ภฺุเชยฺยาสิ, มา เต อสปฺปายานิ โภชนานิ ภฺุชโต วโณ อสฺสาวี อสฺส. กาเลน กาลฺจ วณํ โธเวยฺยาสิ, กาเลน กาลํ วณมุขํ อาลิมฺเปยฺยาสิ, มา เต น กาเลน กาลํ วณํ โธวโต น กาเลน กาลํ วณมุขํ ¶ อาลิมฺปโต ปุพฺพโลหิตํ วณมุขํ ปริโยนนฺธิ. มา จ วาตาตเป จาริตฺตํ อนุยฺุชิ, มา เต วาตาตเป จาริตฺตํ อนุยุตฺตสฺส รโชสูกํ วณมุขํ อนุทฺธํเสสิ. วณานุรกฺขี จ, อมฺโภ ปุริส, วิหเรยฺยาสิ วณสาโรปี’ติ [วณสฺสาโรปีติ (ก.) วณ + สํ + โรปี = วณสาโรปี-อิติ ปทวิภาโค]. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อุพฺภตํ โข เม สลฺลํ, อปนีโต วิสโทโส อนุปาทิเสโส. อนลฺจ เม อนฺตรายายา’ติ. โส อสปฺปายานิ เจว โภชนานิ ภฺุเชยฺย. ตสฺส อสปฺปายานิ โภชนานิ ภฺุชโต วโณ อสฺสาวี อสฺส. น จ กาเลน กาลํ วณํ โธเวยฺย, น จ กาเลน กาลํ วณมุขํ อาลิมฺเปยฺย. ตสฺส น กาเลน กาลํ วณํ โธวโต, น กาเลน กาลํ วณมุขํ อาลิมฺปโต ปุพฺพโลหิตํ วณมุขํ ปริโยนนฺเธยฺย. วาตาตเป จ จาริตฺตํ อนุยฺุเชยฺย. ตสฺส วาตาตเป จาริตฺตํ อนุยุตฺตสฺส รโชสูกํ วณมุขํ ¶ อนุทฺธํเสยฺย. น จ วณานุรกฺขี วิหเรยฺย น วณสาโรปี. ตสฺส อิมิสฺสา จ อสปฺปายกิริยาย, อสุจิ วิสโทโส อปนีโต สอุปาทิเสโส ตทุภเยน วโณ ปุถุตฺตํ คจฺเฉยฺย. โส ปุถุตฺตํ คเตน วเณน มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ.
‘‘เอวเมว โข, สุนกฺขตฺต, านเมตํ วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวมสฺส – ‘ตณฺหา โข สลฺลํ สมเณน วุตฺตํ, อวิชฺชาวิสโทโส ฉนฺทราคพฺยาปาเทน รุปฺปติ. ตํ เม ตณฺหาสลฺลํ ปหีนํ, อปนีโต ¶ อวิชฺชาวิสโทโส, สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺโตหมสฺมี’ติ. เอวํมานิ อสฺส อตถํ สมานํ. โส ยานิ สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺตสฺส อสปฺปายานิ ตานิ อนุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ จกฺขุนา ¶ รูปทสฺสนํ อนุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ โสเตน สทฺทํ อนุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ ฆาเนน คนฺธํ อนุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ ชิวฺหาย รสํ อนุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ กาเยน โผฏฺพฺพํ อนุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ มนสา ธมฺมํ อนุยฺุเชยฺย. ตสฺส อสปฺปายํ จกฺขุนา รูปทสฺสนํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ โสเตน สทฺทํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ ฆาเนน ¶ คนฺธํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ ชิวฺหาย รสํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ กาเยน โผฏฺพฺพํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ มนสา ธมฺมํ อนุยุตฺตสฺส ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสยฺย. โส ราคานุทฺธํสิเตน จิตฺเตน มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ. มรณฺเหตํ, สุนกฺขตฺต, อริยสฺส วินเย โย สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ; มรณมตฺตฺเหตํ, สุนกฺขตฺต, ทุกฺขํ ยํ อฺตรํ สํกิลิฏฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ.
๖๔. ‘‘านํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวมสฺส – ‘ตณฺหา โข สลฺลํ สมเณน วุตฺตํ, อวิชฺชาวิสโทโส ฉนฺทราคพฺยาปาเทน รุปฺปติ. ตํ เม ตณฺหาสลฺลํ ปหีนํ, อปนีโต อวิชฺชาวิสโทโส, สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺโตหมสฺมี’ติ. สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺตสฺเสว สโต โส ยานิ สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺตสฺส อสปฺปายานิ ตานิ นานุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ จกฺขุนา รูปทสฺสนํ นานุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ โสเตน สทฺทํ นานุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ ฆาเนน คนฺธํ นานุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ ชิวฺหาย รสํ นานุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ กาเยน ¶ โผฏฺพฺพํ นานุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ มนสา ธมฺมํ นานุยฺุเชยฺย. ตสฺส อสปฺปายํ จกฺขุนา รูปทสฺสนํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ โสเตน สทฺทํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ ฆาเนน คนฺธํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ ชิวฺหาย รสํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ ¶ กาเยน โผฏฺพฺพํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ มนสา ธมฺมํ นานุยุตฺตสฺส ราโค จิตฺตํ นานุทฺธํเสยฺย. โส น ราคานุทฺธํสิเตน ¶ จิตฺเตน เนว มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย น มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ.
‘‘เสยฺยถาปิ, สุนกฺขตฺต, ปุริโส สลฺเลน วิทฺโธ อสฺส สวิเสน คาฬฺหูปเลปเนน. ตสฺส มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปฏฺาเปยฺยุํ. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต สตฺเถน วณมุขํ ปริกนฺเตยฺย. สตฺเถน วณมุขํ ปริกนฺติตฺวา เอสนิยา สลฺลํ เอเสยฺย. เอสนิยา สลฺลํ เอสิตฺวา สลฺลํ อพฺพุเหยฺย, อปเนยฺย วิสโทสํ อนุปาทิเสสํ. อนุปาทิเสโสติ ชานมาโน โส เอวํ วเทยฺย – ‘อมฺโภ ปุริส, อุพฺภตํ โข เต สลฺลํ, อปนีโต วิสโทโส อนุปาทิเสโส. อนลฺจ เต อนฺตรายาย. สปฺปายานิ เจว โภชนานิ ภฺุเชยฺยาสิ, มา เต อสปฺปายานิ โภชนานิ ภฺุชโต วโณ อสฺสาวี อสฺส. กาเลน กาลฺจ วณํ โธเวยฺยาสิ, กาเลน กาลํ วณมุขํ อาลิมฺเปยฺยาสิ. มา เต น กาเลน กาลํ วณํ โธวโต น กาเลน กาลํ วณมุขํ อาลิมฺปโต ปุพฺพโลหิตํ วณมุขํ ปริโยนนฺธิ. มา จ วาตาตเป จาริตฺตํ อนุยฺุชิ, มา เต วาตาตเป จาริตฺตํ อนุยุตฺตสฺส รโชสูกํ วณมุขํ อนุทฺธํเสสิ ¶ ¶ . วณานุรกฺขี จ, อมฺโภ ปุริส, วิหเรยฺยาสิ วณสาโรปี’ติ. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อุพฺภตํ โข เม สลฺลํ, อปนีโต วิสโทโส อนุปาทิเสโส. อนลฺจ เม อนฺตรายายา’ติ. โส สปฺปายานิ เจว โภชนานิ ภฺุเชยฺย. ตสฺส สปฺปายานิ โภชนานิ ภฺุชโต วโณ น อสฺสาวี อสฺส. กาเลน กาลฺจ วณํ โธเวยฺย, กาเลน กาลํ วณมุขํ อาลิมฺเปยฺย. ตสฺส กาเลน กาลํ วณํ โธวโต กาเลน กาลํ วณมุขํ อาลิมฺปโต น ปุพฺพโลหิตํ วณมุขํ ปริโยนนฺเธยฺย. น จ วาตาตเป จาริตฺตํ อนุยฺุเชยฺย. ตสฺส วาตาตเป จาริตฺตํ อนนุยุตฺตสฺส รโชสูกํ วณมุขํ นานุทฺธํเสยฺย. วณานุรกฺขี จ วิหเรยฺย วณสาโรปี. ตสฺส อิมิสฺสา จ สปฺปายกิริยาย อสุ จ [อสุจิ (สพฺพตฺถ) โสจาติ ตพฺพณฺณนา มนสิกาตพฺพา] วิสโทโส อปนีโต อนุปาทิเสโส ตทุภเยน วโณ วิรุเหยฺย. โส รุฬฺเหน วเณน สฺฉวินา เนว มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย น มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ.
‘‘เอวเมว ¶ โข, สุนกฺขตฺต, านเมตํ วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวมสฺส – ‘ตณฺหา โข สลฺลํ สมเณน วุตฺตํ, อวิชฺชาวิสโทโส ¶ ฉนฺทราคพฺยาปาเทน รุปฺปติ. ตํ เม ตณฺหาสลฺลํ ปหีนํ, อปนีโต อวิชฺชาวิสโทโส, สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺโตหมสฺมี’ติ. สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺตสฺเสว สโต โส ยานิ สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺตสฺส อสปฺปายานิ ตานิ นานุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ จกฺขุนา รูปทสฺสนํ นานุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ โสเตน สทฺทํ นานุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ ฆาเนน คนฺธํ นานุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ ชิวฺหาย รสํ นานุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ กาเยน ¶ โผฏฺพฺพํ นานุยฺุเชยฺย, อสปฺปายํ มนสา ธมฺมํ นานุยฺุเชยฺย. ตสฺส อสปฺปายํ จกฺขุนา รูปทสฺสนํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ โสเตน สทฺทํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ ฆาเนน คนฺธํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ ชิวฺหาย รสํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ กาเยน โผฏฺพฺพํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ มนสา ธมฺมํ นานุยุตฺตสฺส, ราโค จิตฺตํ นานุทฺธํเสยฺย. โส น ราคานุทฺธํสิเตน จิตฺเตน เนว มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย น มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ.
๖๕. ‘‘อุปมา โข เม อยํ, สุนกฺขตฺต, กตา อตฺถสฺส วิฺาปนาย. อยํเยเวตฺถ อตฺโถ – วโณติ โข, สุนกฺขตฺต, ฉนฺเนตํ อชฺฌตฺติกานํ อายตนานํ อธิวจนํ; วิสโทโสติ โข, สุนกฺขตฺต, อวิชฺชาเยตํ อธิวจนํ; สลฺลนฺติ โข, สุนกฺขตฺต, ตณฺหาเยตํ อธิวจนํ; เอสนีติ โข, สุนกฺขตฺต, สติยาเยตํ อธิวจนํ; สตฺถนฺติ โข, สุนกฺขตฺต, อริยาเยตํ ปฺาย ¶ อธิวจนํ; ภิสกฺโก สลฺลกตฺโตติ โข, สุนกฺขตฺต, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
‘‘โส วต, สุนกฺขตฺต, ภิกฺขุ ฉสุ ผสฺสายตเนสุ สํวุตการี ‘อุปธิ ทุกฺขสฺส มูล’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา นิรุปธิ อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโต อุปธิสฺมึ วา กายํ อุปสํหริสฺสติ จิตฺตํ วา อุปฺปาเทสฺสตีติ – เนตํ านํ วิชฺชติ. เสยฺยถาปิ, สุนกฺขตฺต, อาปานียกํโส วณฺณสมฺปนฺโน คนฺธสมฺปนฺโน รสสมฺปนฺโน; โส จ โข วิเสน สํสฏฺโ. อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ชีวิตุกาโม อมริตุกาโม สุขกาโม ทุกฺขปฏิกูโล. ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, อปิ นุ โส ปุริโส อมุํ อาปานียกํสํ ¶ ปิเวยฺย ยํ ชฺา – ‘อิมาหํ ปิวิตฺวา มรณํ วา นิคจฺฉามิ มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว ¶ โข, สุนกฺขตฺต, โส วต ภิกฺขุ ฉสุ ผสฺสายตเนสุ สํวุตการี ‘อุปธิ ทุกฺขสฺส มูล’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา นิรุปธิ อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโต ¶ อุปธิสฺมึ วา กายํ อุปสํหริสฺสติ จิตฺตํ วา อุปฺปาเทสฺสตีติ – เนตํ านํ วิชฺชติ. เสยฺยถาปิ, สุนกฺขตฺต, อาสีวิโส [อาสิวิโส (ก.)] โฆรวิโส. อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ชีวิตุกาโม อมริตุกาโม สุขกาโม ทุกฺขปฏิกูโล. ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, อปิ นุ โส ปุริโส อมุสฺส อาสีวิสสฺส โฆรวิสสฺส หตฺถํ วา องฺคุฏฺํ วา ทชฺชา [ยฺุเชยฺย (ก.)] ยํ ชฺา – ‘อิมินาหํ ทฏฺโ มรณํ วา นิคจฺฉามิ มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, สุนกฺขตฺต, โส วต ภิกฺขุ ฉสุ ผสฺสายตเนสุ สํวุตการี ‘อุปธิ ทุกฺขสฺส มูล’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา นิรุปธิ อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโต อุปธิสฺมึ วา กายํ อุปสํหริสฺสติ จิตฺตํ วา อุปฺปาเทสฺสตีติ – เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
สุนกฺขตฺตสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปฺจมํ.
๖. อาเนฺชสปฺปายสุตฺตํ
๖๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา กุรูสุ วิหรติ กมฺมาสธมฺมํ นาม กุรูนํ นิคโม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘อนิจฺจา, ภิกฺขเว, กามา ตุจฺฉา มุสา โมสธมฺมา. มายากตเม ตํ, ภิกฺขเว, พาลลาปนํ. เย จ ทิฏฺธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา ¶ กามสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสฺา – อุภยเมตํ มารเธยฺยํ, มารสฺเสส [มารสฺเสว (ก.)] วิสโย, มารสฺเสส นิวาโป, มารสฺเสส โคจโร. เอตฺเถเต ปาปกา อกุสลา มานสา อภิชฺฌาปิ พฺยาปาทาปิ สารมฺภาปิ สํวตฺตนฺติ. เตว อริยสาวกสฺส อิธมนุสิกฺขโต อนฺตรายาย สมฺภวนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘เย จ ทิฏฺธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา กามสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสฺา – อุภยเมตํ มารเธยฺยํ, มารสฺเสส วิสโย, มารสฺเสส นิวาโป, มารสฺเสส โคจโร. เอตฺเถเต ¶ ปาปกา อกุสลา มานสา อภิชฺฌาปิ พฺยาปาทาปิ สารมฺภาปิ สํวตฺตนฺติ, เตว อริยสาวกสฺส อิธมนุสิกฺขโต อนฺตรายาย สมฺภวนฺติ. ยํนูนาหํ วิปุเลน มหคฺคเตน เจตสา วิหเรยฺยํ อภิภุยฺย โลกํ อธิฏฺาย มนสา. วิปุเลน หิ เม มหคฺคเตน เจตสา วิหรโต อภิภุยฺย โลกํ อธิฏฺาย มนสา ¶ เย ปาปกา อกุสลา มานสา อภิชฺฌาปิ พฺยาปาทาปิ สารมฺภาปิ เต น ภวิสฺสนฺติ. เตสํ ปหานา อปริตฺตฺจ เม จิตฺตํ ภวิสฺสติ อปฺปมาณํ สุภาวิต’นฺติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา อาเนฺชํ สมาปชฺชติ ปฺาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. านเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิฺาณํ อสฺส อาเนฺชูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, ปมา อาเนฺชสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายติ’’.
๖๗. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘เย จ ทิฏฺธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา กามสฺา ¶ , ยา จ สมฺปรายิกา กามสฺา; ยํ กิฺจิ รูปํ (สพฺพํ รูปํ) [( ) นตฺถิ สี. ปี. โปตฺถเกสุ] จตฺตาริ จ มหาภูตานิ, จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูป’นฺติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา อาเนฺชํ สมาปชฺชติ ปฺาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส ¶ เภทา ปรํ มรณา. านเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิฺาณํ อสฺส อาเนฺชูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติยา อาเนฺชสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘เย จ ทิฏฺธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา กามสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสฺา; เย จ ทิฏฺธมฺมิกา รูปา, เย จ สมฺปรายิกา รูปา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา รูปสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา รูปสฺา – อุภยเมตํ อนิจฺจํ. ยทนิจฺจํ ตํ นาลํ อภินนฺทิตุํ, นาลํ อภิวทิตุํ, นาลํ อชฺโฌสิตุ’นฺติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา อาเนฺชํ สมาปชฺชติ ปฺาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. านเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิฺาณํ อสฺส อาเนฺชูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติยา อาเนฺชสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายติ.
๖๘. ‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘เย จ ทิฏฺธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา กามสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสฺา; เย จ ทิฏฺธมฺมิกา รูปา, เย จ สมฺปรายิกา รูปา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา รูปสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา รูปสฺา; ยา จ อาเนฺชสฺา – สพฺพา สฺา. ยตฺเถตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ – ยทิทํ อากิฺจฺายตน’นฺติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชติ ปฺาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. านเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิฺาณํ อสฺส อากิฺจฺายตนูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, ปมา อากิฺจฺายตนสปฺปายา ¶ ปฏิปทา อกฺขายติ.
๖๙. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สฺุาคารคโต วา อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘สฺุมิทํ อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วา’ติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชติ ปฺาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. านเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิฺาณํ อสฺส อากิฺจฺายตนูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติยา อากิฺจฺายตนสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายติ.
๗๐. ‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘นาหํ กฺวจนิ [กฺวจินิ (สฺยา. กํ. สี. อฏฺ.)] กสฺสจิ กิฺจนตสฺมึ [กิฺจนตสฺมิ (?)], น จ มม ¶ กฺวจนิ กิสฺมิฺจิ กิฺจนํ นตฺถี’ติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชติ ปฺาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. านเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิฺาณํ อสฺส อากิฺจฺายตนูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติยา อากิฺจฺายตนสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘เย จ ทิฏฺธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา กามสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสฺา; เย จ ทิฏฺธมฺมิกา รูปา, เย จ สมฺปรายิกา รูปา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา รูปสฺา, ยา ¶ จ สมฺปรายิกา รูปสฺา ¶ ; ยา จ อาเนฺชสฺา, ยา จ อากิฺจฺายตนสฺา – สพฺพา สฺา. ยตฺเถตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ – ยทิทํ เนวสฺานาสฺายตน’นฺติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชติ ปฺาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. านเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิฺาณํ อสฺส เนวสฺานาสฺายตนูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, เนวสฺานาสฺายตนสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายตี’’ติ.
๗๑. เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – ‘โน จสฺส, โน จ เม สิยา; น ภวิสฺสติ, น เม ภวิสฺสติ; ยทตฺถิ ยํ, ภูตํ – ตํ ปชหามี’ติ. เอวํ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. ปรินิพฺพาเยยฺย นุ โข โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ น วา ปรินิพฺพาเยยฺยา’’ติ? ‘‘อเปตฺเถกจฺโจ, อานนฺท, ภิกฺขุ ปรินิพฺพาเยยฺย, อเปตฺเถกจฺโจ ภิกฺขุ น ปรินิพฺพาเยยฺยา’’ติ. ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย เยนเปตฺเถกจฺโจ ภิกฺขุ ปรินิพฺพาเยยฺย, อเปตฺเถกจฺโจ ภิกฺขุ น ปรินิพฺพาเยยฺยา’’ติ? ‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – ‘โน จสฺส, โน จ เม สิยา; น ภวิสฺสติ, น เม ภวิสฺสติ; ยทตฺถิ, ยํ ¶ ภูตํ – ตํ ปชหามี’ติ. เอวํ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. โส ตํ อุเปกฺขํ อภินนฺทติ, อภิวทติ, อชฺโฌสาย ติฏฺติ. ตสฺส ¶ ตํ อุเปกฺขํ อภินนฺทโต อภิวทโต อชฺโฌสาย ติฏฺโต ตนฺนิสฺสิตํ โหติ วิฺาณํ ตทุปาทานํ. สอุปาทาโน, อานนฺท, ภิกฺขุ ¶ น ปรินิพฺพายตี’’ติ. ‘‘กหํ ปน โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ อุปาทิยมาโน อุปาทิยตี’’ติ? ‘‘เนวสฺานาสฺายตนํ, อานนฺทา’’ติ. ‘‘อุปาทานเสฏฺํ กิร โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ อุปาทิยมาโน อุปาทิยตี’’ติ? ‘‘อุปาทานเสฏฺฺหิ โส, อานนฺท, ภิกฺขุ อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ. อุปาทานเสฏฺฺเหตํ, อานนฺท, ยทิทํ – เนวสฺานาสฺายตนํ’’.
๗๒. ‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – ‘โน จสฺส, โน จ เม สิยา; น ภวิสฺสติ, น เม ภวิสฺสติ; ยทตฺถิ, ยํ ภูตํ – ตํ ปชหามี’ติ. เอวํ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. โส ตํ อุเปกฺขํ นาภินนฺทติ, นาภิวทติ, น อชฺโฌสาย ติฏฺติ. ตสฺส ตํ อุเปกฺขํ อนภินนฺทโต อนภิวทโต อนชฺโฌสาย ¶ ติฏฺโต น ตนฺนิสฺสิตํ โหติ วิฺาณํ น ตทุปาทานํ. อนุปาทาโน, อานนฺท, ภิกฺขุ ปรินิพฺพายตี’’ติ.
๗๓. ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! นิสฺสาย นิสฺสาย กิร โน, ภนฺเต, ภควตา โอฆสฺส นิตฺถรณา อกฺขาตา. กตโม ปน, ภนฺเต, อริโย วิโมกฺโข’’ติ? ‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขุ อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘เย จ ทิฏฺธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา กามสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสฺา; เย จ ทิฏฺธมฺมิกา รูปา, เย จ สมฺปรายิกา รูปา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา รูปสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา รูปสฺา; ยา จ อาเนฺชสฺา, ยา จ อากิฺจฺายตนสฺา ¶ , ยา จ เนวสฺานาสฺายตนสฺา – เอส สกฺกาโย ยาวตา สกฺกาโย. เอตํ อมตํ ยทิทํ อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโข. อิติ, โข, อานนฺท, เทสิตา มยา อาเนฺชสปฺปายา ปฏิปทา, เทสิตา อากิฺจฺายตนสปฺปายา ปฏิปทา, เทสิตา เนวสฺานาสฺายตนสปฺปายา ปฏิปทา, เทสิตา นิสฺสาย นิสฺสาย โอฆสฺส นิตฺถรณา, เทสิโต อริโย วิโมกฺโข. ยํ โข, อานนฺท, สตฺถารา กรณียํ สาวกานํ หิเตสินา อนุกมฺปเกน อนุกมฺปํ อุปาทาย, กตํ ¶ โว ตํ มยา. เอตานิ, อานนฺท, รุกฺขมูลานิ, เอตานิ สฺุาคารานิ. ฌายถานนฺท, มา ปมาทตฺถ, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ. อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี’’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
อาเนฺชสปฺปายสุตฺตํ นิฏฺิตํ ฉฏฺํ.
๗. คณกโมคฺคลฺลานสุตฺตํ
๗๔. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. อถ โข คณกโมคฺคลฺลาโน [คณกโมคฺคลาโน (ก.)] พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ ¶ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข คณกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, อิมสฺส มิคารมาตุปาสาทสฺส ทิสฺสติ อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา ยทิทํ – ยาว ปจฺฉิมโสปานกเฬวราः อิเมสมฺปิ หิ, โภ โคตม, พฺราหฺมณานํ ทิสฺสติ อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา ยทิทํ – อชฺเฌเนः อิเมสมฺปิ หิ, โภ โคตม, อิสฺสาสานํ ทิสฺสติ อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา ยทิทํ – อิสฺสตฺเถ [อิสฺสตฺเต (ก.)]. อมฺหากมฺปิ หิ, โภ โคตม, คณกานํ คณนาชีวานํ ทิสฺสติ อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา ยทิทํ – สงฺขาเน. มยฺหิ, โภ โคตม, อนฺเตวาสึ ลภิตฺวา ปมํ เอวํ คณาเปม – ‘เอกํ เอกกํ, ทฺเว ทุกา, ตีณิ ติกา, จตฺตาริ จตุกฺกา, ปฺจ ปฺจกา, ฉ ฉกฺกา, สตฺต สตฺตกา, อฏฺ อฏฺกา, นว นวกา, ทส ทสกา’ติ; สตมฺปิ มยํ, โภ โคตม, คณาเปม, ภิยฺโยปิ คณาเปม. สกฺกา นุ โข, โภ โคตม, อิมสฺมิมฺปิ ธมฺมวินเย เอวเมว อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา ปฺเปตุ’’นฺติ?
๗๕. ‘‘สกฺกา ¶ ¶ , พฺราหฺมณ, อิมสฺมิมฺปิ ธมฺมวินเย อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา ปฺเปตุํ. เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, ทกฺโข อสฺสทมฺมโก ภทฺทํ อสฺสาชานียํ ลภิตฺวา ปเมเนว มุขาธาเน การณํ กาเรติ, อถ อุตฺตรึ การณํ กาเรติ; เอวเมว โข, พฺราหฺมณ, ตถาคโต ปุริสทมฺมํ ลภิตฺวา ปมํ เอวํ วิเนติ – ‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, สีลวา โหหิ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหราหิ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขสฺสุ สิกฺขาปเทสู’’’ติ.
‘‘ยโต ¶ โข, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, ตเมนํ ตถาคโต อุตฺตรึ วิเนติ – ‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โหหิ, จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา มา นิมิตฺตคฺคาหี โหหิ มานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชาหิ; รกฺขาหิ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ ¶ อาปชฺชาหิ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา…เป… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา…เป… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา…เป… มนสา ธมฺมํ วิฺาย มา นิมิตฺตคฺคาหี โหหิ มานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชาหิ; รกฺขาหิ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชาหี’’’ติ.
‘‘ยโต ¶ โข, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โหติ, ตเมนํ ตถาคโต อุตฺตรึ วิเนติ – ‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, โภชเน มตฺตฺู โหหิ. ปฏิสงฺขา โยนิโส อาหารํ อาหาเรยฺยาสิ – เนว ทวาย น มทาย น มณฺฑนาย น วิภูสนาย, ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา ยาปนาย วิหึสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย – อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ, นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามิ, ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสติ อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จา’’’ติ.
‘‘ยโต โข, พฺราหฺมณ ¶ , ภิกฺขุ โภชเน มตฺตฺู โหติ, ตเมนํ ตถาคโต อุตฺตรึ วิเนติ – ‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ชาคริยํ อนุยุตฺโต วิหราหิ, ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธหิ, รตฺติยา ปมํ ยามํ จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธหิ, รตฺติยา มชฺฌิมํ ยามํ ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปยฺยาสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน อุฏฺานสฺํ มนสิกริตฺวา, รตฺติยา ปจฺฉิมํ ยามํ ปจฺจุฏฺาย จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธหี’’’ติ.
‘‘ยโต โข, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ ชาคริยํ อนุยุตฺโต โหติ, ตเมนํ ตถาคโต อุตฺตรึ วิเนติ – ‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต โหหิ, อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี ¶ , อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี, สมิฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี ¶ , อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี, คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี’’’ติ.
‘‘ยโต โข, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต โหติ, ตเมนํ ตถาคโต อุตฺตรึ วิเนติ – ‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชาหิ ¶ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปฺุช’นฺติ. โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปฺปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปฺุชํ. โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา, อุชุํ กายํ ปณิธาย, ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ; พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี, พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ; ถินมิทฺธํ [ถีนมิทฺธํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปหาย วิคตถินมิทฺโธ วิหรติ อาโลกสฺี สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ; อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ; วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติ.
๗๖. ‘‘โส ¶ อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. วิตกฺกวิจารานํ ¶ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ปีติยา จ วิราคา… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สุขสฺส จ ปหานา… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.
‘‘เย โข เต, พฺราหฺมณ, ภิกฺขู เสกฺขา [เสขา (สพฺพตฺถ)] อปตฺตมานสา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมานา วิหรนฺติ ¶ เตสุ เม อยํ เอวรูปี อนุสาสนี โหติ. เย ปน เต ภิกฺขู อรหนฺโต ขีณาสวา วุสิตวนฺโต กตกรณียา โอหิตภารา อนุปฺปตฺตสทตฺถา ปริกฺขีณภวสํโยชนา สมฺมทฺา วิมุตฺตา เตสํ อิเม ธมฺมา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราย เจว สํวตฺตนฺติ, สติสมฺปชฺาย จา’’ติ.
เอวํ วุตฺเต, คณกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข โภโต โคตมสฺส สาวกา โภตา โคตเมน เอวํ โอวทียมานา เอวํ อนุสาสียมานา สพฺเพ อจฺจนฺตํ นิฏฺํ นิพฺพานํ อาราเธนฺติ อุทาหุ เอกจฺเจ นาราเธนฺตี’’ติ? ‘‘อปฺเปกจฺเจ โข, พฺราหฺมณ, มม สาวกา มยา ¶ เอวํ โอวทียมานา เอวํ อนุสาสียมานา อจฺจนฺตํ นิฏฺํ นิพฺพานํ อาราเธนฺติ, เอกจฺเจ นาราเธนฺตี’’ติ.
‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย ยํ ติฏฺเตว นิพฺพานํ, ติฏฺติ นิพฺพานคามี มคฺโค, ติฏฺติ ภวํ โคตโม สมาทเปตา; อถ จ ปน โภโต โคตมสฺส สาวกา โภตา โคตเมน เอวํ โอวทียมานา เอวํ อนุสาสียมานา อปฺเปกจฺเจ อจฺจนฺตํ นิฏฺํ นิพฺพานํ อาราเธนฺติ, เอกจฺเจ นาราเธนฺตี’’ติ?
๗๗. ‘‘เตน ¶ หิ, พฺราหฺมณ, ตํเยเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ. ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กึ มฺสิ ¶ , พฺราหฺมณ, กุสโล ตฺวํ ราชคหคามิสฺส มคฺคสฺสา’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ, กุสโล อหํ ราชคหคามิสฺส มคฺคสฺสา’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, พฺราหฺมณ, อิธ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ราชคหํ คนฺตุกาโม. โส ตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทยฺย – ‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, ราชคหํ คนฺตุํ; ตสฺส เม ราชคหสฺส มคฺคํ อุปทิสา’ติ. ตเมนํ ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เอหมฺโภ [เอวํ โภ (สี. ปี.)] ปุริส, อยํ มคฺโค ราชคหํ คจฺฉติ. เตน มุหุตฺตํ คจฺฉ, เตน มุหุตฺตํ คนฺตฺวา ทกฺขิสฺสสิ อมุกํ นาม คามํ, เตน มุหุตฺตํ คจฺฉ, เตน มุหุตฺตํ คนฺตฺวา ทกฺขิสฺสสิ อมุกํ นาม นิคมํ; เตน มุหุตฺตํ คจฺฉ, เตน มุหุตฺตํ คนฺตฺวา ทกฺขิสฺสสิ ราชคหสฺส อารามรามเณยฺยกํ วนรามเณยฺยกํ ภูมิรามเณยฺยกํ โปกฺขรณีรามเณยฺยก’นฺติ. โส ตยา เอวํ โอวทียมาโน เอวํ อนุสาสียมาโน อุมฺมคฺคํ คเหตฺวา ปจฺฉามุโข คจฺเฉยฺย. อถ ทุติโย ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ราชคหํ คนฺตุกาโม. โส ตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทยฺย – ‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, ราชคหํ คนฺตุํ; ตสฺส เม ราชคหสฺส มคฺคํ อุปทิสา’ติ. ตเมนํ ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เอหมฺโภ ปุริส, อยํ มคฺโค ราชคหํ คจฺฉติ. เตน มุหุตฺตํ คจฺฉ, เตน มุหุตฺตํ คนฺตฺวา ทกฺขิสฺสสิ ¶ อมุกํ นาม คามํ; เตน มุหุตฺตํ คจฺฉ, เตน มุหุตฺตํ คนฺตฺวา ทกฺขิสฺสสิ อมุกํ นาม นิคมํ; เตน มุหุตฺตํ คจฺฉ, เตน มุหุตฺตํ คนฺตฺวา ทกฺขิสฺสสิ ราชคหสฺส อารามรามเณยฺยกํ ¶ วนรามเณยฺยกํ ภูมิรามเณยฺยกํ โปกฺขรณีรามเณยฺยก’นฺติ. โส ตยา เอวํ โอวทียมาโน เอวํ อนุสาสียมาโน โสตฺถินา ราชคหํ คจฺเฉยฺย. โก นุ โข, พฺราหฺมณ, เหตุ โก ปจฺจโย ยํ ติฏฺเตว ราชคหํ ¶ , ติฏฺติ ราชคหคามี มคฺโค, ติฏฺสิ ตฺวํ สมาทเปตา; อถ จ ปน ตยา เอวํ โอวทียมาโน เอวํ อนุสาสียมาโน เอโก ปุริโส อุมฺมคฺคํ คเหตฺวา ปจฺฉามุโข คจฺเฉยฺย, เอโก โสตฺถินา ราชคหํ คจฺเฉยฺยา’’ติ? ‘‘เอตฺถ ¶ กฺยาหํ, โภ โคตม, กโรมิ? มคฺคกฺขายีหํ, โภ โคตมา’’ติ.
‘‘เอวเมว โข, พฺราหฺมณ, ติฏฺเตว นิพฺพานํ, ติฏฺติ นิพฺพานคามี มคฺโค, ติฏฺามหํ สมาทเปตา; อถ จ ปน มม สาวกา มยา เอวํ โอวทียมานา เอวํ อนุสาสียมานา อปฺเปกจฺเจ อจฺจนฺตํ นิฏฺํ นิพฺพานํ อาราเธนฺติ, เอกจฺเจ นาราเธนฺติ. เอตฺถ กฺยาหํ, พฺราหฺมณ, กโรมิ? มคฺคกฺขายีหํ, พฺราหฺมณ, ตถาคโต’’ติ.
๗๘. เอวํ วุตฺเต, คณกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เยเม, โภ โคตม, ปุคฺคลา อสฺสทฺธา ชีวิกตฺถา น สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา สา มายาวิโน เกตพิโน [เกฏุภิโน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุทฺธตา อุนฺนฬา จปลา มุขรา วิกิณฺณวาจา อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารา โภชเน อมตฺตฺุโน ชาคริยํ อนนุยุตฺตา สามฺเ อนเปกฺขวนฺโต สิกฺขาย น ติพฺพคารวา พาหุลิกา [พาหุลฺลิกา (สฺยา. กํ.)] สาถลิกา โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา กุสีตา หีนวีริยา มุฏฺสฺสติโน อสมฺปชานา อสมาหิตา วิพฺภนฺตจิตฺตา ¶ ทุปฺปฺา เอฬมูคา, น เตหิ ภวํ โคตโม สทฺธึ สํวสติ’’.
‘‘เย ปน เต กุลปุตฺตา สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา อสา อมายาวิโน อเกตพิโน อนุทฺธตา อนุนฺนฬา อจปลา อมุขรา อวิกิณฺณวาจา อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารา โภชเน มตฺตฺุโน ชาคริยํ อนุยุตฺตา สามฺเ อเปกฺขวนฺโต สิกฺขาย ติพฺพคารวา นพาหุลิกา นสาถลิกา โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา อารทฺธวีริยา ปหิตตฺตา อุปฏฺิตสฺสติโน สมฺปชานา สมาหิตา เอกคฺคจิตฺตา ปฺวนฺโต อเนฬมูคา, เตหิ ภวํ โคตโม สทฺธึ สํวสติ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , โภ โคตม, เย เกจิ มูลคนฺธา, กาลานุสาริ เตสํ อคฺคมกฺขายติ; เย เกจิ สารคนฺธา, โลหิตจนฺทนํ เตสํ อคฺคมกฺขายติ; เย เกจิ ปุปฺผคนฺธา, วสฺสิกํ ¶ เตสํ อคฺคมกฺขายติ; เอวเมว โภโต โคตมสฺส โอวาโท ปรมชฺชธมฺเมสุ.
‘‘อภิกฺกนฺตํ ¶ , โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.
คณกโมคฺคลฺลานสุตฺตํ นิฏฺิตํ สตฺตมํ.
๘. โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตํ
๗๙. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป อจิรปรินิพฺพุเต ภควติ. เตน โข ปน สมเยน ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ราชคหํ ปฏิสงฺขาราเปติ รฺโ ปชฺโชตสฺส อาสงฺกมาโน. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อติปฺปโค โข ตาว ราชคเห ปิณฺฑาย จริตุํ. ยํนูนาหํ เยน โคปกโมคฺคลฺลานสฺส พฺราหฺมณสฺส กมฺมนฺโต, เยน โคปกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน โคปกโมคฺคลฺลานสฺส พฺราหฺมณสฺส กมฺมนฺโต, เยน โคปกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข โคปกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘เอตุ โข ภวํ อานนฺโท. สฺวาคตํ โภโต อานนฺทสฺส. จิรสฺสํ โข ภวํ อานนฺโท อิมํ ปริยายมกาสิ ยทิทํ อิธาคมนาย. นิสีทตุ ภวํ อานนฺโท, อิทมาสนํ ปฺตฺต’’นฺติ. นิสีทิ โข อายสฺมา อานนฺโท ปฺตฺเต อาสเน. โคปกโมคฺคลฺลาโนปิ ¶ โข พฺราหฺมโณ อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ ¶ นิสินฺโน โข โคปกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ เตหิ ¶ ธมฺเมหิ สพฺเพนสพฺพํ สพฺพถาสพฺพํ สมนฺนาคโต เยหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โส ภวํ โคตโม อโหสิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ? ‘‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ เตหิ ธมฺเมหิ สพฺเพนสพฺพํ สพฺพถาสพฺพํ สมนฺนาคโต เยหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โส ภควา อโหสิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. โส หิ, พฺราหฺมณ, ภควา อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, อสฺชาตสฺส มคฺคสฺส สฺชเนตา, อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตา, มคฺคฺู, มคฺควิทู, มคฺคโกวิโท; มคฺคานุคา จ ปน เอตรหิ สาวกา วิหรนฺติ ปจฺฉา สมนฺนาคตา’’ติ. อยฺจ หิทํ อายสฺมโต อานนฺทสฺส โคปกโมคฺคลฺลาเนน พฺราหฺมเณน สทฺธึ อนฺตรากถา วิปฺปกตา อโหสิ.
อถ ¶ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต ราชคเห กมฺมนฺเต อนุสฺายมาโน เยน โคปกโมคฺคลฺลานสฺส พฺราหฺมณสฺส กมฺมนฺโต, เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘กายนุตฺถ, โภ อานนฺท, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ? ‘‘อิธ มํ, พฺราหฺมณ, โคปกโมคฺคลฺลาโน ¶ พฺราหฺมโณ เอวมาห – ‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ เตหิ ธมฺเมหิ สพฺเพนสพฺพํ สพฺพถาสพฺพํ สมนฺนาคโต เยหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โส ภวํ โคตโม อโหสิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’ติ. เอวํ วุตฺเต อหํ, พฺราหฺมณ, โคปกโมคฺคลฺลานํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจํ – ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ เตหิ ธมฺเมหิ สพฺเพนสพฺพํ สพฺพถาสพฺพํ สมนฺนาคโต เยหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โส ภควา อโหสิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. โส หิ, พฺราหฺมณ, ภควา อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, อสฺชาตสฺส ¶ มคฺคสฺส สฺชเนตา, อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตา, มคฺคฺู, มคฺควิทู, มคฺคโกวิโท; มคฺคานุคา จ ปน เอตรหิ สาวกา วิหรนฺติ ปจฺฉา สมนฺนาคตา’ติ. อยํ โข โน, พฺราหฺมณ, โคปกโมคฺคลฺลาเนน พฺราหฺมเณน สทฺธึ อนฺตรากถา วิปฺปกตา. อถ ตฺวํ อนุปฺปตฺโต’’ติ.
๘๐. ‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ เตน โภตา โคตเมน ปิโต – ‘อยํ โว มมจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตี’ติ, ยํ ตุมฺเห เอตรหิ ¶ ปฏิปาเทยฺยาถา’’ติ [ปฏิธาเวยฺยาถาติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]? ‘‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปิโต – ‘อยํ โว มมจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตี’ติ, ยํ มยํ เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยามา’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ สงฺเฆน สมฺมโต, สมฺพหุเลหิ ¶ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ปิโต – ‘อยํ โน ภควโต อจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตี’ติ, ยํ ตุมฺเห เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยาถา’’ติ? ‘‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ สงฺเฆน สมฺมโต, สมฺพหุเลหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ปิโต – ‘อยํ โน ภควโต อจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตี’ติ, ยํ มยํ เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยามา’’ติ. ‘‘เอวํ อปฺปฏิสรเณ จ ปน, โภ อานนฺท, โก เหตุ สามคฺคิยา’’ติ? ‘‘น โข มยํ, พฺราหฺมณ, อปฺปฏิสรณา; สปฺปฏิสรณา มยํ, พฺราหฺมณ; ธมฺมปฺปฏิสรณา’’ติ.
‘‘‘อตฺถิ ¶ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ เตน โภตา โคตเมน ปิโต – อยํ โว มมจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ, ยํ ตุมฺเห เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยาถา’ติ – อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปิโต – อยํ โว มมจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ, ยํ มยํ เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยามา’ติ วเทสิ; ‘อตฺถิ ปน, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ สงฺเฆน สมฺมโต, สมฺพหุเลหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ปิโต – อยํ โน ภควโต อจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ, ยํ ตุมฺเห เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยาถา’ติ – อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ สงฺเฆน สมฺมโต, สมฺพหุเลหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ¶ ปิโต – อยํ โน ภควโต อจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ, ยํ มยํ เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยามา’ติ – วเทสิ; ‘เอวํ อปฺปฏิสรเณ จ ปน, โภ อานนฺท, โก เหตุ สามคฺคิยา’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘น โข มยํ, พฺราหฺมณ ¶ , อปฺปฏิสรณา; สปฺปฏิสรณา มยํ, พฺราหฺมณ; ธมฺมปฺปฏิสรณา’ติ วเทสิ. อิมสฺส ปน, โภ อานนฺท, ภาสิตสฺส กถํ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ?
๘๑. ‘‘อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิฏฺํ. เต มยํ ตทหุโปสเถ ยาวติกา เอกํ คามเขตฺตํ อุปนิสฺสาย วิหราม เต สพฺเพ ¶ เอกชฺฌํ สนฺนิปตาม; สนฺนิปติตฺวา ยสฺส ตํ ปวตฺตติ ตํ อชฺเฌสาม. ตสฺมึ เจ ภฺมาเน โหติ ภิกฺขุสฺส อาปตฺติ โหติ วีติกฺกโม ตํ มยํ ยถาธมฺมํ ยถานุสิฏฺํ กาเรมาติ.
‘‘น กิร โน ภวนฺโต กาเรนฺติ; ธมฺโม โน กาเรติ’’. ‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ ยํ ตุมฺเห เอตรหิ สกฺกโรถ ครุํ กโรถ [ครุกโรถ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] มาเนถ ปูเชถ; สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา [ครุกตฺวา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุปนิสฺสาย วิหรถา’’ติ? ‘‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ ยํ มยํ เอตรหิ สกฺกโรม ครุํ กโรม มาเนม ปูเชม; สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรามา’’ติ.
‘‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ เตน โภตา โคตเมน ปิโต – อยํ โว มมจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ ยํ ตุมฺเห เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยาถา’ติ – อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปิโต – อยํ โว มมจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ ยํ มยํ เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยามา’ติ ¶ วเทสิ; ‘อตฺถิ ปน, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ สงฺเฆน ¶ สมฺมโต, สมฺพหุเลหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ปิโต – อยํ โน ภควโต อจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ ยํ ตุมฺเห เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยาถา’ติ ¶ – อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ สงฺเฆน สมฺมโต, สมฺพหุเลหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ปิโต – อยํ โน ภควโต อจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ ยํ มยํ เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยามา’ติ วเทสิ; ‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ ยํ ตุมฺเห เอตรหิ สกฺกโรถ ครุํ กโรถ มาเนถ ปูเชถ; สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรถา’ติ – อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ ยํ มยํ เอตรหิ สกฺกโรม ครุํ กโรม มาเนม ปูเชม; สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรามา’ติ วเทสิ. อิมสฺส ปน, โภ อานนฺท, ภาสิตสฺส กถํ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ?
๘๒. ‘‘อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ทส ปสาทนียา ธมฺมา อกฺขาตา. ยสฺมึ โน อิเม ธมฺมา สํวิชฺชนฺติ ตํ มยํ เอตรหิ สกฺกโรม ครุํ กโรม มาเนม ปูเชม; สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหราม. กตเม ทส?
‘‘อิธ ¶ , พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ.
‘‘พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย. เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา, มชฺเฌกลฺยาณา, ปริโยสานกลฺยาณา, สาตฺถํ, สพฺยฺชนํ [สาตฺถา สพฺยฺชนา (สี. สฺยา. กํ.)], เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ ตถารูปาสฺส ¶ ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา [ธตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา.
‘‘สนฺตุฏฺโ โหติ ( ) [(อิตรีตเรหิ) ที. นิ. ๓.๓๔๕] จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิ.
‘‘จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี.
‘‘อเนกวิหิตํ ¶ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ; อาวิภาวํ ติโรภาวํ; ติโรกุฏฺฏํ [ติโรกุฑฺฑํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ อากาเส; ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ, เสยฺยถาปิ อุทเก; อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ ปถวิยํ; อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน ¶ กมติ, เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ; อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปริมสติ [ปรามสติ (ก.)] ปริมชฺชติ, ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติ.
‘‘ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณาติ – ทิพฺเพ จ มานุเส จ, เย ทูเร สนฺติเก จ.
‘‘ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ. สราคํ วา จิตฺตํ ‘สราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตราคํ วา จิตฺตํ ‘วีตราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สโทสํ วา จิตฺตํ ‘สโทสํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตโทสํ วา จิตฺตํ ‘วีตโทสํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สโมหํ วา จิตฺตํ ‘สโมหํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตโมหํ วา จิตฺตํ ‘วีตโมหํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘สํขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘วิกฺขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ ¶ , มหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘มหคฺคตํ ¶ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘อมหคฺคตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘สอุตฺตรํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘อนุตฺตรํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘สมาหิตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อสมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘อสมาหิตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘วิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘อวิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ.
‘‘อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตารีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร ¶ เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.
‘‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ.
‘‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ¶ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ.
‘‘อิเม โข, พฺราหฺมณ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ทส ปสาทนียา ธมฺมา อกฺขาตา. ยสฺมึ โน อิเม ธมฺมา สํวิชฺชนฺติ ตํ มยํ เอตรหิ สกฺกโรม ครุํ กโรม มาเนม ปูเชม; สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรามา’’ติ.
๘๓. เอวํ ¶ วุตฺเต วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต อุปนนฺทํ เสนาปตึ อามนฺเตสิ – ‘‘ตํ กึ มฺติ ภวํ เสนาปติ [มฺสิ เอวํ เสนาปติ (สฺยา. กํ. ปี.), มฺสิ เสนาปติ (สี.), มฺสิ ภวํ เสนาปติ (ก.)] ยทิเม โภนฺโต สกฺกาตพฺพํ สกฺกโรนฺติ, ครุํ กาตพฺพํ ครุํ กโรนฺติ, มาเนตพฺพํ มาเนนฺติ ¶ , ปูเชตพฺพํ ปูเชนฺติ’’? ‘‘ตคฺฆิเม [ตคฺฆ เม (ก.)] โภนฺโต สกฺกาตพฺพํ สกฺกโรนฺติ, ครุํ กาตพฺพํ ครุํ กโรนฺติ, มาเนตพฺพํ มาเนนฺติ, ปูเชตพฺพํ ปูเชนฺติ. อิมฺจ หิ เต โภนฺโต น สกฺกเรยฺยุํ น ครุํ กเรยฺยุํ น มาเนยฺยุํ น ปูเชยฺยุํ; อถ กิฺจรหิ เต โภนฺโต สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยุ’’นฺติ? อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘กหํ ปน ภวํ อานนฺโท เอตรหิ วิหรตี’’ติ? ‘‘เวฬุวเน โขหํ, พฺราหฺมณ, เอตรหิ วิหรามี’’ติ. ‘‘กจฺจิ ปน, โภ อานนฺท, เวฬุวนํ รมณียฺเจว อปฺปสทฺทฺจ อปฺปนิคฺโฆสฺจ วิชนวาตํ ¶ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกํ [มนุสฺสราหเสยฺยกํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปฏิสลฺลานสารุปฺป’’นฺติ? ‘‘ตคฺฆ, พฺราหฺมณ, เวฬุวนํ รมณียฺเจว อปฺปสทฺทฺจ อปฺปนิคฺโฆสฺจ วิชนวาตํ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกํ ปฏิสลฺลานสารุปฺปํ, ยถา ตํ ตุมฺหาทิเสหิ รกฺขเกหิ โคปเกหี’’ติ. ‘‘ตคฺฆ, โภ อานนฺท, เวฬุวนํ รมณียฺเจว อปฺปสทฺทฺจ อปฺปนิคฺโฆสฺจ วิชนวาตํ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกํ ปฏิสลฺลานสารุปฺปํ, ยถา ตํ ภวนฺเตหิ ฌายีหิ ฌานสีลีหิ. ฌายิโน เจว ภวนฺโต ฌานสีลิโน จ’’.
‘‘เอกมิทาหํ ¶ , โภ อานนฺท, สมยํ โส ภวํ โคตโม เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ ขฺวาหํ, โภ อานนฺท, เยน มหาวนํ กูฏาคารสาลา เยน โส ภวํ โคตโม เตนุปสงฺกมึ. ตตฺร จ ปน โส [ตตฺร จ โส (สี. ปี.)] ภวํ โคตโม อเนกปริยาเยน ฌานกถํ กเถสิ. ฌายี เจว โส ภวํ โคตโม อโหสิ ฌานสีลี จ. สพฺพฺจ ปน โส ภวํ โคตโม ฌานํ วณฺเณสี’’ติ.
๘๔. ‘‘น จ โข, พฺราหฺมณ, โส ภควา สพฺพํ ฌานํ วณฺเณสิ, นปิ โส ภควา สพฺพํ ฌานํ น วณฺเณสีติ. กถํ รูปฺจ ¶ , พฺราหฺมณ, โส ภควา ฌานํ น วณฺเณสิ? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ กามราคปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ กามราคปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ กามราคสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ; โส กามราคํเยว อนฺตรํ กริตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติ. พฺยาปาทปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ พฺยาปาทปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ พฺยาปาทสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ; โส พฺยาปาทํเยว อนฺตรํ กริตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติ. ถินมิทฺธปริยุฏฺิเตน ¶ ¶ เจตสา วิหรติ ถินมิทฺธปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ ถินมิทฺธสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ; โส ถินมิทฺธํเยว อนฺตรํ กริตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ; โส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํเยว อนฺตรํ กริตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติ. วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ วิจิกิจฺฉาปเรเตน, อุปฺปนฺนาย จ วิจิกิจฺฉาย นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ; โส วิจิกิจฺฉํเยว อนฺตรํ กริตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติ. เอวรูปํ โข, พฺราหฺมณ, โส ภควา ฌานํ น วณฺเณสิ.
‘‘กถํ รูปฺจ, พฺราหฺมณ, โส ภควา ฌานํ วณฺเณสิ? อิธ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ… ¶ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวรูปํ โข, พฺราหฺมณ, โส ภควา ฌานํ วณฺเณสี’’ติ.
‘‘คารยฺหํ กิร, โภ อานนฺท, โส ภวํ โคตโม ฌานํ ครหิ, ปาสํสํ ปสํสิ. หนฺท, จ ทานิ มยํ, โภ อานนฺท, คจฺฉาม; พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา’’ติ. ‘‘ยสฺสทานิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, กาลํ มฺสี’’ติ. อถ ¶ โข ¶ วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต อายสฺมโต อานนฺทสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.
อถ โข โคปกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ อจิรปกฺกนฺเต วสฺสกาเร พฺราหฺมเณ มคธมหามตฺเต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘ยํ โน มยํ ภวนฺตํ อานนฺทํ อปุจฺฉิมฺหา ตํ โน ภวํ อานนฺโท น พฺยากาสี’’ติ. ‘‘นนุ เต, พฺราหฺมณ, อโวจุมฺหา – ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ เตหิ ธมฺเมหิ สพฺเพนสพฺพํ สพฺพถาสพฺพํ สมนฺนาคโต เยหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โส ภควา อโหสิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. โส หิ, พฺราหฺมณ, ภควา อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, อสฺชาตสฺส มคฺคสฺส สฺชเนตา, อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตา, มคฺคฺู, มคฺควิทู, มคฺคโกวิโท ¶ . มคฺคานุคา จ ปน เอตรหิ สาวกา วิหรนฺติ ปจฺฉา สมนฺนาคตา’’’ติ.
โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตํ นิฏฺิตํ อฏฺมํ.
๙. มหาปุณฺณมสุตฺตํ
๘๕. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส ปุณฺณาย ปุณฺณมาย รตฺติยา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติ. อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ อุฏฺายาสนา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘ปุจฺเฉยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ กิฺจิเทว เทสํ, สเจ เม ภควา โอกาสํ กโรติ ปฺหสฺส เวยฺยากรณายา’’ติ. ‘‘เตน หิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, สเก อาสเน นิสีทิตฺวา ปุจฺฉ ยทากงฺขสี’’ติ.
๘๖. อถ โข โส ภิกฺขุ สเก อาสเน นิสีทิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิเม นุ โข, ภนฺเต, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, เสยฺยถิทํ ¶ – รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สฺุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ’’ติ? ‘‘อิเม โข, ภิกฺขุ, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, เสยฺยถิทํ – รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สฺุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ’’ติ.
‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ภควนฺตํ อุตฺตรึ ปฺหํ ปุจฺฉิ – ‘‘อิเม ปน, ภนฺเต, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา กึมูลกา’’ติ? ‘‘อิเม โข, ภิกฺขุ, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ฉนฺทมูลกา’’ติ. ‘‘ตํเยว นุ โข, ภนฺเต, อุปาทานํ เต ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, อุทาหุ ¶ อฺตฺร ปฺจหุปาทานกฺขนฺเธหิ อุปาทาน’’นฺติ? ‘‘น โข, ภิกฺขุ, ตํเยว อุปาทานํ เต ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, นาปิ อฺตฺร ปฺจหุปาทานกฺขนฺเธหิ อุปาทานํ. โย โข, ภิกฺขุ, ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฉนฺทราโค ตํ ตตฺถ อุปาทาน’’นฺติ.
‘‘สิยา ปน, ภนฺเต, ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฉนฺทราคเวมตฺตตา’’ติ? ‘‘สิยา ภิกฺขู’’ติ ภควา อโวจ ‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺจสฺส เอวํ โหติ – ‘เอวํรูโป ¶ สิยํ อนาคตมทฺธานํ ¶ , เอวํเวทโน สิยํ อนาคตมทฺธานํ, เอวํสฺโ สิยํ อนาคตมทฺธานํ, เอวํสงฺขาโร สิยํ อนาคตมทฺธานํ, เอวํวิฺาโณ สิยํ อนาคตมทฺธาน’นฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขุ, สิยา ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฉนฺทราคเวมตฺตตา’’ติ.
‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, ขนฺธานํ ขนฺธาธิวจนํ โหตี’’ติ? ‘‘ยํ กิฺจิ, ภิกฺขุ, รูปํ – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา, โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา, หีนํ วา ปณีตํ วา, ยํ ทูเร สนฺติเก วา – อยํ รูปกฺขนฺโธ. ยา ¶ กาจิ เวทนา – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา, โอฬาริกา วา สุขุมา วา, หีนา วา ปณีตา วา, ยา ทูเร สนฺติเก วา – อยํ เวทนากฺขนฺโธ. ยา กาจิ สฺา – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา…เป… ยา ทูเร สนฺติเก วา – อยํ สฺากฺขนฺโธ. เย เกจิ สงฺขารา – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา, โอฬาริกา วา สุขุมา วา, หีนา วา ปณีตา วา, เย ทูเร สนฺติเก วา – อยํ สงฺขารกฺขนฺโธ. ยํ กิฺจิ วิฺาณํ – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา, โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา, หีนํ วา ปณีตํ วา, ยํ ทูเร สนฺติเก วา – อยํ วิฺาณกฺขนฺโธ. เอตฺตาวตา โข, ภิกฺขุ, ขนฺธานํ ขนฺธาธิวจนํ โหตี’’ติ.
‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย รูปกฺขนฺธสฺส ปฺาปนาย? โก เหตุ โก ปจฺจโย เวทนากฺขนฺธสฺส ปฺาปนาย? โก เหตุ โก ปจฺจโย สฺากฺขนฺธสฺส ปฺาปนาย? โก ¶ เหตุ โก ปจฺจโย สงฺขารกฺขนฺธสฺส ปฺาปนาย? โก เหตุ โก ปจฺจโย วิฺาณกฺขนฺธสฺส ปฺาปนายา’’ติ?
‘‘จตฺตาโร โข, ภิกฺขุ, มหาภูตา เหตุ, จตฺตาโร มหาภูตา ปจฺจโย รูปกฺขนฺธสฺส ปฺาปนาย. ผสฺโส เหตุ, ผสฺโส ปจฺจโย เวทนากฺขนฺธสฺส ปฺาปนาย. ผสฺโส เหตุ, ผสฺโส ปจฺจโย สฺากฺขนฺธสฺส ปฺาปนาย. ผสฺโส เหตุ, ผสฺโส ปจฺจโย สงฺขารกฺขนฺธสฺส ปฺาปนาย. นามรูปํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, นามรูปํ ปจฺจโย วิฺาณกฺขนฺธสฺส ปฺาปนายา’’ติ.
๘๗. ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, สกฺกายทิฏฺิ โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภิกฺขุ, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน อริยานํ อทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส อโกวิโท อริยธมฺเม อวินีโต ¶ สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี ¶ สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ อตฺตนิ วา รูปํ รูปสฺมึ วา อตฺตานํ; เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ เวทนาวนฺตํ วา อตฺตานํ อตฺตนิ วา เวทนํ เวทนาย วา อตฺตานํ; สฺํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ สฺาวนฺตํ วา อตฺตานํ อตฺตนิ วา สฺํ สฺาย วา อตฺตานํ; สงฺขาเร อตฺตโต สมนุปสฺสติ สงฺขารวนฺตํ วา อตฺตานํ อตฺตนิ วา สงฺขาเร สงฺขาเรสุ วา อตฺตานํ; วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ วิฺาณวนฺตํ วา อตฺตานํ อตฺตนิ ¶ วา วิฺาณํ วิฺาณสฺมึ วา อตฺตานํ. เอวํ โข ¶ , ภิกฺขุ, สกฺกายทิฏฺิ โหตี’’ติ.
‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, สกฺกายทิฏฺิ น โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภิกฺขุ, สุตวา อริยสาวโก อริยานํ ทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส โกวิโท อริยธมฺเม สุวินีโต สปฺปุริสานํ ทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส โกวิโท สปฺปุริสธมฺเม สุวินีโต น รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ น รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ น อตฺตนิ วา รูปํ น รูปสฺมึ วา อตฺตานํ; น เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ น เวทนาวนฺตํ วา อตฺตานํ น อตฺตนิ วา เวทนํ น เวทนาย วา อตฺตานํ; น สฺํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ น สฺาวนฺตํ วา อตฺตานํ น อตฺตนิ วา สฺํ น สฺาย วา อตฺตานํ; น สงฺขาเร อตฺตโต สมนุปสฺสติ น สงฺขารวนฺตํ วา อตฺตานํ น อตฺตนิ วา สงฺขาเร น สงฺขาเรสุ วา อตฺตานํ; น วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ น วิฺาณวนฺตํ วา อตฺตานํ น อตฺตนิ วา วิฺาณํ น วิฺาณสฺมึ วา อตฺตานํ. เอวํ โข, ภิกฺขุ, สกฺกายทิฏฺิ น โหตี’’ติ.
๘๘. ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, รูเป อสฺสาโท, โก อาทีนโว, กึ นิสฺสรณํ? โก เวทนาย อสฺสาโท, โก อาทีนโว, กึ นิสฺสรณํ? โก สฺาย อสฺสาโท, โก อาทีนโว, กึ นิสฺสรณํ? โก สงฺขาเรสุ อสฺสาโท, โก อาทีนโว, กึ นิสฺสรณํ? โก วิฺาเณ อสฺสาโท, โก อาทีนโว, กึ นิสฺสรณ’’นฺติ? ‘‘ยํ โข, ภิกฺขุ, รูปํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ รูเป อสฺสาโท. ยํ รูปํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ ¶ วิปริณามธมฺมํ, อยํ รูเป อาทีนโว. โย รูเป ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานํ, อิทํ รูเป นิสฺสรณํ. ยํ โข [ยฺจ (สฺยา. กํ.)], ภิกฺขุ, เวทนํ ปฏิจฺจ… สฺํ ¶ ปฏิจฺจ… สงฺขาเร ปฏิจฺจ… วิฺาณํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ วิฺาเณ อสฺสาโท. ยํ วิฺาณํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, อยํ วิฺาเณ อาทีนโว. โย วิฺาเณ ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานํ, อิทํ วิฺาเณ นิสฺสรณ’’นฺติ.
๘๙. ‘‘กถํ ¶ ปน, ภนฺเต, ชานโต กถํ ปสฺสโต อิมสฺมิฺจ สวิฺาณเก กาเย พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตสุ อหํการมมํการมานานุสยา น โหนฺตี’’ติ? ‘‘ยํ กิฺจิ, ภิกฺขุ, รูปํ – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ¶ ปณีตํ วา ¶ ยํ ทูเร สนฺติเก วา – สพฺพํ รูปํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ. ยา กาจิ เวทนา… ยา กาจิ สฺา… เย เกจิ สงฺขารา… ยํ กิฺจิ วิฺาณํ – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา – สพฺพํ วิฺาณํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ. เอวํ โข, ภิกฺขุ, ชานโต เอวํ ปสฺสโต อิมสฺมิฺจ สวิฺาณเก กาเย พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตสุ อหํการมมํการมานานุสยา น โหนฺตี’’ติ.
๙๐. อถ โข อฺตรสฺส ภิกฺขุโน เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘อิติ กิร, โภ, รูปํ อนตฺตา, เวทนา อนตฺตา, สฺา อนตฺตา, สงฺขารา อนตฺตา, วิฺาณํ อนตฺตา; อนตฺตกตานิ กมฺมานิ กมตฺตานํ [กถมตฺตานํ (สํ. นิ. ๓.๘๒)] ผุสิสฺสนฺตี’’ติ? อถ โข ภควา ตสฺส ภิกฺขุโน เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ โมฆปุริโส อวิทฺวา อวิชฺชาคโต ตณฺหาธิปเตยฺเยน เจตสา สตฺถุ สาสนํ อติธาวิตพฺพํ มฺเยฺย – ‘อิติ กิร, โภ, รูปํ อนตฺตา, เวทนา อนตฺตา, สฺา อนตฺตา, สงฺขารา อนตฺตา, วิฺาณํ อนตฺตา; อนตฺตกตานิ กมฺมานิ กมตฺตานํ ผุสิสฺสนฺตี’ติ. ปฏิวินีตา [ปฏิจฺจ วินีตา (สี. ปี.), ปฏิปุจฺฉามิ วินีตา (สฺยา. กํ.)] โข เม ตุมฺเห, ภิกฺขเว ¶ , ตตฺร ตตฺร ธมฺเมสุ’’.
‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ¶ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ ¶ , ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, เวทนา… สฺา… สงฺขารา… วิฺาณํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา สพฺพํ รูปํ – ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. ยา กาจิ เวทนา… ยา กาจิ สฺา… เย เกจิ สงฺขารา… ยํ กิฺจิ วิฺาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา ¶ โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา สพฺพํ วิฺาณํ – ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก รูปสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ, เวทนายปิ นิพฺพินฺทติ, สฺายปิ นิพฺพินฺทติ, สงฺขาเรสุปิ นิพฺพินฺทติ, วิฺาณสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ; นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ ¶ , วิราคา วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาตี’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ. อิมสฺมิฺจ ปน เวยฺยากรณสฺมึ ภฺมาเน สฏฺิมตฺตานํ ภิกฺขูนํ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสูติ.
มหาปุณฺณมสุตฺตํ นิฏฺิตํ นวมํ.
๑๐. จูฬปุณฺณมสุตฺตํ
๙๑. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส ปุณฺณาย ปุณฺณมาย ¶ รตฺติยา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติ. อถ โข ภควา ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนุวิโลเกตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ชาเนยฺย นุ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสํ – ‘อสปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว; อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส ¶ ยํ อสปฺปุริโส อสปฺปุริสํ ชาเนยฺย – ‘อสปฺปุริโส อยํ ภว’นฺติ. ชาเนยฺย ปน, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส สปฺปุริสํ – ‘สปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว; เอตมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺานํ อนวกาโส ยํ อสปฺปุริโส สปฺปุริสํ ชาเนยฺย – ‘สปฺปุริโส อยํ ภว’นฺติ. อสปฺปุริโส, ภิกฺขเว, อสฺสทฺธมฺมสมนฺนาคโต โหติ, อสปฺปุริสภตฺติ [อสปฺปุริสภตฺตี (สพฺพตฺถ)] โหติ, อสปฺปุริสจินฺตี โหติ, อสปฺปุริสมนฺตี โหติ, อสปฺปุริสวาโจ โหติ, อสปฺปุริสกมฺมนฺโต โหติ, อสปฺปุริสทิฏฺิ [อสปฺปุริสทิฏฺี (สพฺพตฺถ)] โหติ; อสปฺปุริสทานํ เทติ’’.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสฺสทฺธมฺมสมนฺนาคโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสฺสทฺโธ โหติ, อหิริโก โหติ, อโนตฺตปฺปี โหติ, อปฺปสฺสุโต โหติ ¶ , กุสีโต โหติ, มุฏฺสฺสติ โหติ, ทุปฺปฺโ โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสฺสทฺธมฺมสมนฺนาคโต โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสภตฺติ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสสฺส เย เต สมณพฺราหฺมณา อสฺสทฺธา อหิริกา อโนตฺตปฺปิโน อปฺปสฺสุตา กุสีตา มุฏฺสฺสติโน ทุปฺปฺา ตฺยาสฺส มิตฺตา โหนฺติ เต สหายา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสภตฺติ โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสจินฺตี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส ¶ อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสจินฺตี โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสมนฺตี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อตฺตพฺยาพาธายปิ มนฺเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ มนฺเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ ¶ มนฺเตติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสมนฺตี โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสวาโจ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส มุสาวาที โหติ, ปิสุณวาโจ โหติ, ผรุสวาโจ โหติ ¶ , สมฺผปฺปลาปี โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสวาโจ โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสกมฺมนฺโต โหติ? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสกมฺมนฺโต โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสทิฏฺิ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส เอวํทิฏฺิ [เอวํทิฏฺี (สี. ปี.), เอวํทิฏฺิโก (สฺยา. กํ.)] โหติ – ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ [สุกฺกฏทุกฺกฏานํ (สี. ปี.)] กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา [สมคฺคตา (ก.)] สมฺมาปฏิปนฺนา, เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสทิฏฺิ โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสทานํ เทติ? อิธ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสกฺกจฺจํ ทานํ เทติ, อสหตฺถา ทานํ เทติ, อจิตฺตีกตฺวา ทานํ เทติ, อปวิฏฺํ ทานํ เทติ อนาคมนทิฏฺิโก ทานํ เทติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสทานํ เทติ.
‘‘โส, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส เอวํ อสฺสทฺธมฺมสมนฺนาคโต, เอวํ อสปฺปุริสภตฺติ, เอวํ อสปฺปุริสจินฺตี, เอวํ อสปฺปุริสมนฺตี, เอวํ อสปฺปุริสวาโจ, เอวํ อสปฺปุริสกมฺมนฺโต, เอวํ ¶ อสปฺปุริสทิฏฺิ; เอวํ อสปฺปุริสทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ยา อสปฺปุริสานํ คติ ¶ ตตฺถ อุปปชฺชติ. กา จ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสานํ คติ? นิรโย วา ติรจฺฉานโยนิ วา.
๙๒. ‘‘ชาเนยฺย นุ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสํ – ‘สปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ? ‘‘เอวํ ¶ , ภนฺเต’’. ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว; านเมตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ สปฺปุริโส สปฺปุริสํ ชาเนยฺย – ‘สปฺปุริโส อยํ ภว’นฺติ. ชาเนยฺย ปน, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส อสปฺปุริสํ – ‘อสปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว; เอตมฺปิ โข, ภิกฺขเว, านํ วิชฺชติ ยํ สปฺปุริโส อสปฺปุริสํ ชาเนยฺย – ‘อสปฺปุริโส อยํ ภว’นฺติ. สปฺปุริโส, ภิกฺขเว, สทฺธมฺมสมนฺนาคโต โหติ, สปฺปุริสภตฺติ โหติ, สปฺปุริสจินฺตี ¶ โหติ, สปฺปุริสมนฺตี โหติ, สปฺปุริสวาโจ โหติ, สปฺปุริสกมฺมนฺโต โหติ, สปฺปุริสทิฏฺิ โหติ; สปฺปุริสทานํ เทติ’’.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สทฺธมฺมสมนฺนาคโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สทฺโธ โหติ, หิริมา โหติ, โอตฺตปฺปี โหติ, พหุสฺสุโต โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, อุปฏฺิตสฺสติ โหติ, ปฺวา โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สทฺธมฺมสมนฺนาคโต โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสภตฺติ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสสฺส เย เต สมณพฺราหฺมณา สทฺธา หิริมนฺโต โอตฺตปฺปิโน พหุสฺสุตา อารทฺธวีริยา อุปฏฺิตสฺสติโน ปฺวนฺโต ตฺยาสฺส มิตฺตา โหนฺติ, เต สหายา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสภตฺติ ¶ โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสจินฺตี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส เนวตฺตพฺยาพาธาย เจเตติ, น ปรพฺยาพาธาย เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธาย เจเตติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสจินฺตี โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสมนฺตี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส เนวตฺตพฺยาพาธาย ¶ มนฺเตติ, น ปรพฺยาพาธาย มนฺเตติ, น อุภยพฺยาพาธาย มนฺเตติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสมนฺตี โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสวาโจ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสวาโจ โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสกมฺมนฺโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต ¶ โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสกมฺมนฺโต โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสทิฏฺิ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส เอวํทิฏฺิ โหติ – ‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ยิฏฺํ, อตฺถิ หุตํ, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อตฺถิ อยํ โลโก ¶ , อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ มาตา, อตฺถิ ปิตา, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสทิฏฺิ โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสทานํ เทติ? อิธ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สกฺกจฺจํ ทานํ เทติ, สหตฺถา ทานํ เทติ, จิตฺตีกตฺวา ทานํ เทติ, อนปวิฏฺํ ทานํ เทติ, อาคมนทิฏฺิโก ทานํ เทติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสทานํ เทติ.
‘‘โส, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส เอวํ สทฺธมฺมสมนฺนาคโต, เอวํ สปฺปุริสภตฺติ, เอวํ สปฺปุริสจินฺตี, เอวํ สปฺปุริสมนฺตี, เอวํ สปฺปุริสวาโจ, เอวํ สปฺปุริสกมฺมนฺโต, เอวํ สปฺปุริสทิฏฺิ; เอวํ สปฺปุริสทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ยา สปฺปุริสานํ คติ ตตฺถ อุปปชฺชติ. กา จ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสานํ คติ? เทวมหตฺตตา วา มนุสฺสมหตฺตตา วา’’ติ.
อิทมโวจ ¶ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
จูฬปุณฺณมสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทสมํ.
เทวทหวคฺโค นิฏฺิโต ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
เทวทหํ ปฺจตฺตยํ, กินฺติ-สาม-สุนกฺขตฺตํ;
สปฺปาย-คณ-โคปก-มหาปุณฺณจูฬปุณฺณฺจาติ.