📜
๔. วิภงฺควคฺโค
๑. ภทฺเทกรตฺตสุตฺตํ
๒๗๒. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘ภทฺเทกรตฺตสฺส โว, ภิกฺขเว, อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย, นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ;
ยทตีตํ ปหีนํ ตํ, อปฺปตฺตฺจ อนาคตํ.
‘‘ปจฺจุปฺปนฺนฺจ โย [ยํ (เนตฺติปาฬิ)] ธมฺมํ, ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ;
อสํหีรํ [อสํหิรํ (สฺยา. กํ. ก.)] อสํกุปฺปํ, ตํ วิทฺวา มนุพฺรูหเย.
‘‘อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ [กิจฺจํ อาตปฺปํ (สี. ก.)], โก ชฺา มรณํ สุเว;
น หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนา.
‘‘เอวํ วิหารึ อาตาปึ, อโหรตฺตมตนฺทิตํ;
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนิ’’ [มุนีติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)].
๒๗๓. ‘‘กถฺจ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, อตีตํ อนฺวาคเมติ? ‘เอวํรูโป อโหสึ อตีตมทฺธาน’นฺติ ¶ ตตฺถ นนฺทึ สมนฺวาเนติ, ‘เอวํเวทโน อโหสึ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทึ สมนฺวาเนติ, ‘เอวํสฺโ อโหสึ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทึ สมนฺวาเนติ, ‘เอวํสงฺขาโร อโหสึ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทึ สมนฺวาเนติ, ‘เอวํวิฺาโณ อโหสึ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทึ สมนฺวาเนติ – เอวํ โข, ภิกฺขเว, อตีตํ อนฺวาคเมติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อตีตํ นานฺวาคเมติ? ‘เอวํรูโป อโหสึ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทึ น สมนฺวาเนติ, ‘เอวํเวทโน อโหสึ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทึ น สมนฺวาเนติ, ‘เอวํสฺโ อโหสึ อตีตมทฺธาน’นฺติ ¶ ตตฺถ นนฺทึ น สมนฺวาเนติ, ‘เอวํสงฺขาโร อโหสึ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทึ น สมนฺวาเนติ, ‘เอวํวิฺาโณ อโหสึ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทึ น สมนฺวาเนติ – เอวํ โข, ภิกฺขเว, อตีตํ นานฺวาคเมติ.
๒๗๔. ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อนาคตํ ปฏิกงฺขติ? ‘เอวํรูโป สิยํ อนาคตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทึ สมนฺวาเนติ, เอวํเวทโน สิยํ…เป… เอวํสฺโ สิยํ… เอวํสงฺขาโร สิยํ… เอวํวิฺาโณ สิยํ อนาคตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทึ สมนฺวาเนติ – เอวํ โข, ภิกฺขเว, อนาคตํ ปฏิกงฺขติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อนาคตํ นปฺปฏิกงฺขติ? ‘เอวํรูโป สิยํ อนาคตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทึ น สมนฺวาเนติ, เอวํเวทโน สิยํ ¶ … เอวํสฺโ สิยํ… เอวํสงฺขาโร สิยํ… ‘เอวํวิฺาโณ สิยํ อนาคตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทึ น สมนฺวาเนติ – เอวํ โข, ภิกฺขเว, อนาคตํ นปฺปฏิกงฺขติ.
๒๗๕. ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรติ? อิธ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน อริยานํ อทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส อโกวิโท อริยธมฺเม อวินีโต สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํ; เวทนํ…เป… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ ¶ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, วิฺาณวนฺตํ วา อตฺตานํ อตฺตนิ วา วิฺาณํ, วิฺาณสฺมึ วา อตฺตานํ – เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรติ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ น สํหีรติ? อิธ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก อริยานํ ทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส โกวิโท อริยธมฺเม สุวินีโต สปฺปุริสานํ ทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส โกวิโท สปฺปุริสธมฺเม สุวินีโต น รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, น อตฺตนิ วา รูปํ, น รูปสฺมึ วา อตฺตานํ; น เวทนํ… น สฺํ… น สงฺขาเร… น วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น วิฺาณวนฺตํ วา อตฺตานํ, น อตฺตนิ วา วิฺาณํ, น วิฺาณสฺมึ วา อตฺตานํ – เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ น สํหีรติ.
‘‘อตีตํ ¶ นานฺวาคเมยฺย, นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ;
ยทตีตํ ปหีนํ ตํ, อปฺปตฺตฺจ อนาคตํ.
‘‘ปจฺจุปฺปนฺนฺจ ¶ โย ธมฺมํ, ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ;
อสํหีรํ อสํกุปฺปํ, ตํ วิทฺวา มนุพฺรูหเย.
‘‘อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ, โก ชฺา มรณํ สุเว;
น หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนา.
‘‘เอวํ วิหารึ อาตาปึ, อโหรตฺตมตนฺทิตํ;
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี’’ติ.
‘‘‘ภทฺเทกรตฺตสฺส โว, ภิกฺขเว, อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ เทเสสฺสามี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
ภทฺเทกรตฺตสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปมํ.
๒. อานนฺทภทฺเทกรตฺตสุตฺตํ
๒๗๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อานนฺโท อุปฏฺานสาลายํ ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ ¶ สมฺปหํเสติ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ ภาสติ.
อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยนุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘โก นุ โข, ภิกฺขเว, อุปฏฺานสาลายํ ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ อภาสี’’ติ? ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, อานนฺโท อุปฏฺานสาลายํ ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ อภาสี’’ติ.
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, อานนฺท, ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ ¶ , ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ อภาสี’’ติ? ‘‘เอวํ โข อหํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสึ สมาทเปสึ สมุตฺเตเชสึ สมฺปหํเสสึ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ อภาสึ –
‘‘อตีตํ ¶ นานฺวาคเมยฺย, นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ;
ยทตีตํ ปหีนํ ตํ, อปฺปตฺตฺจ อนาคตํ.
‘‘ปจฺจุปฺปนฺนฺจ โย ธมฺมํ, ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ;
อสํหีรํ อสํกุปฺปํ, ตํ วิทฺวา มนุพฺรูหเย.
‘‘อชฺเชว ¶ กิจฺจมาตปฺปํ, โก ชฺา มรณํ สุเว;
น หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนา.
‘‘เอวํ วิหารึ อาตาปึ, อโหรตฺตมตนฺทิตํ;
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนิ’’.
๒๗๗. ‘‘กถฺจ, อาวุโส, อตีตํ อนฺวาคเมติ? เอวํรูโป อโหสึ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทึ สมนฺวาเนติ, เอวํเวทโน อโหสึ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทึ สมนฺวาเนติ, เอวํสฺโ อโหสึ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทึ สมนฺวาเนติ, เอวํสงฺขาโร อโหสึ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทึ สมนฺวาเนติ, เอวํวิฺาโณ อโหสึ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทึ สมนฺวาเนติ – เอวํ โข, อาวุโส, อตีตํ อนฺวาคเมติ.
‘‘กถฺจ, อาวุโส, อตีตํ นานฺวาคเมติ? เอวํรูโป อโหสึ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทึ น สมนฺวาเนติ, เอวํเวทโน อโหสึ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทึ น สมนฺวาเนติ, เอวํสฺโ อโหสึ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทึ น สมนฺวาเนติ, เอวํสงฺขาโร อโหสึ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทึ น สมนฺวาเนติ, เอวํวิฺาโณ อโหสึ ¶ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทึ น สมนฺวาเนติ – เอวํ โข, อาวุโส, อตีตํ นานฺวาคเมติ.
‘‘กถฺจ, อาวุโส, อนาคตํ ปฏิกงฺขติ? เอวํรูโป สิยํ อนาคตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทึ สมนฺวาเนติ, เอวํเวทโน สิยํ…เป… เอวํสฺโ สิยํ… เอวํสงฺขาโร ¶ สิยํ… เอวํวิฺาโณ สิยํ อนาคตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทึ สมนฺวาเนติ – เอวํ โข, อาวุโส, อนาคตํ ปฏิกงฺขติ.
‘‘กถฺจ, อาวุโส, อนาคตํ นปฺปฏิกงฺขติ? เอวํรูโป สิยํ อนาคตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทึ น สมนฺวาเนติ, เอวํเวทโน สิยํ…เป… เอวํสฺโ สิยํ… เอวํสงฺขาโร สิยํ… เอวํวิฺาโณ สิยํ อนาคตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทึ น สมนฺวาเนติ – เอวํ โข, อาวุโส, อนาคตํ นปฺปฏิกงฺขติ.
‘‘กถฺจ, อาวุโส, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรติ? อิธ, อาวุโส, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน อริยานํ อทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส อโกวิโท อริยธมฺเม อวินีโต สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส ¶ อโกวิโท สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํ; เวทนํ… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, วิฺาณวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา วิฺาณํ, วิฺาณสฺมึ วา อตฺตานํ – เอวํ โข, อาวุโส, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรติ.
‘‘กถฺจ ¶ , อาวุโส, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ น สํหีรติ? อิธ, อาวุโส, สุตวา อริยสาวโก อริยานํ ทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส โกวิโท อริยธมฺเม สุวินีโต สปฺปุริสานํ ทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส โกวิโท สปฺปุริสธมฺเม สุวินีโต น รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, น อตฺตนิ วา รูปํ, น รูปสฺมึ วา อตฺตานํ; น เวทนํ… น สฺํ… น สงฺขาเร… น วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น วิฺาณวนฺตํ วา อตฺตานํ, น อตฺตนิ วา วิฺาณํ, น วิฺาณสฺมึ วา อตฺตานํ – เอวํ โข, อาวุโส, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ น สํหีรติ.
‘‘อตีตํ ¶ นานฺวาคเมยฺย, นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ;
ยทตีตํ ปหีนํ ตํ, อปฺปตฺตฺจ อนาคตํ.
‘‘ปจฺจุปฺปนฺนฺจ โย ธมฺมํ, ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ;
อสํหีรํ อสํกุปฺปํ, ตํ วิทฺวา มนุพฺรูหเย.
‘‘อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ, โก ชฺา มรณํ สุเว;
น หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนา.
‘‘เอวํ วิหารึ อาตาปึ, อโหรตฺตมตนฺทิตํ;
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี’’ติ.
‘‘เอวํ ¶ โข อหํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสึ สมาทเปสึ สมุตฺเตเชสึ สมฺปหํเสสึ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ อภาสิ’’นฺติ.
๒๗๘. ‘‘สาธุ ¶ ¶ , สาธุ, อานนฺท! สาธุ โข ตฺวํ, อานนฺท, ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ อภาสิ –
‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย…เป…
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี’’ติ.
‘‘กถฺจ, อานนฺท, อตีตํ อนฺวาคเมติ…เป… เอวํ โข, อานนฺท, อตีตํ อนฺวาคเมติ. กถฺจ, อานนฺท, อตีตํ นานฺวาคเมติ…เป… เอวํ โข, อานนฺท, อตีตํ นานฺวาคเมติ. กถฺจ, อานนฺท, อนาคตํ ปฏิกงฺขติ…เป… เอวํ โข, อานนฺท, อนาคตํ ปฏิกงฺขติ. กถฺจ, อานนฺท, อนาคตํ นปฺปฏิกงฺขติ…เป… เอวํ โข, อานนฺท, อนาคตํ นปฺปฏิกงฺขติ. กถฺจ, อานนฺท, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรติ…เป… เอวํ โข, อานนฺท, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรติ. กถฺจ, อานนฺท, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ น สํหีรติ…เป… เอวํ โข, อานนฺท, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ น สํหีรติ.
‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย…เป… ¶
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
อานนฺทภทฺเทกรตฺตสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทุติยํ.
๓. มหากจฺจานภทฺเทกรตฺตสุตฺตํ
๒๗๙. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ ตโปทาราเม. อถ โข อายสฺมา สมิทฺธิ รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย เยน ตโปโท [ตโปทา (สี.)] เตนุปสงฺกมิ คตฺตานิ ปริสิฺจิตุํ. ตโปเท คตฺตานิ ¶ ปริสิฺจิตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา เอกจีวโร อฏฺาสิ คตฺตานิ ปุพฺพาปยมาโน [สุกฺขาปยมาโน (ก.)]. อถ โข อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ ตโปทํ โอภาเสตฺวา เยนายสฺมา สมิทฺธิ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข สา เทวตา อายสฺมนฺตํ สมิทฺธึ เอตทโวจ – ‘‘ธาเรสิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจา’’ติ? ‘‘น โข อหํ, อาวุโส, ธาเรมิ ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ. ตฺวํ ปนาวุโส, ธาเรสิ ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจา’’ติ? ‘‘อหมฺปิ โข, ภิกฺขุ, น ธาเรมิ ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ. ธาเรสิ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺติโย คาถา’’ติ? ‘‘น โข อหํ, อาวุโส, ธาเรมิ ภทฺเทกรตฺติโย คาถาติ. ตฺวํ ปนาวุโส, ธาเรสิ ภทฺเทกรตฺติโย คาถา’’ติ? ‘‘อหมฺปิ โข, ภิกฺขุ น ธาเรมิ ภทฺเทกรตฺติโย คาถาติ. อุคฺคณฺหาหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ; ปริยาปุณาหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ; ธาเรหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ. อตฺถสํหิโต, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทโส ¶ จ วิภงฺโค จ อาทิพฺรหฺมจริยโก’’ติ. อิทมโวจ สา เทวตา; อิทํ วตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ.
๒๘๐. อถ โข อายสฺมา สมิทฺธิ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สมิทฺธิ ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย เยน ตโปโท เตนุปสงฺกมึ คตฺตานิ ปริสิฺจิตุํ. ตโปเท ¶ คตฺตานิ ปริสิฺจิตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา เอกจีวโร อฏฺาสึ คตฺตานิ ปุพฺพาปยมาโน. อถ โข ภนฺเต, อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ ตโปทํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ¶ ิตา โข สา เทวตา มํ เอตทโวจ – ‘ธาเรสิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจา’’’ติ?
‘‘เอวํ วุตฺเต อหํ, ภนฺเต, ตํ เทวตํ เอตทโวจํ – ‘น โข อหํ, อาวุโส, ธาเรมิ ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ. ตฺวํ ปนาวุโส, ธาเรสิ ¶ ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจา’ติ? ‘อหมฺปิ โข, ภิกฺขุ, น ธาเรมิ ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ. ธาเรสิ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺติโย คาถา’ติ? ‘น โข อหํ, อาวุโส, ธาเรมิ ภทฺเทกรตฺติโย คาถาติ. ตฺวํ ปนาวุโส, ธาเรสิ ภทฺเทกรตฺติโย คาถา’ติ? ‘อหมฺปิ โข, ภิกฺขุ, น ธาเรมิ ภทฺเทกรตฺติโย คาถาติ. อุคฺคณฺหาหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส ¶ อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ; ปริยาปุณาหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ; ธาเรหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ. อตฺถสํหิโต, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทโส จ วิภงฺโค จ อาทิพฺรหฺมจริยโก’ติ. อิทมโวจ, ภนฺเต, สา เทวตา; อิทํ วตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ. สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ เทเสตู’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภิกฺขุ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา สมิทฺธิ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย, นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ;
ยทตีตํ ปหีนํ ตํ, อปฺปตฺตฺจ อนาคตํ.
‘‘ปจฺจุปฺปนฺนฺจ โย ธมฺมํ, ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ;
อสํหีรํ อสํกุปฺปํ, ตํ วิทฺวา มนุพฺรูหเย.
‘‘อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ, โก ชฺา มรณํ สุเว;
น หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนา.
‘‘เอวํ วิหารึ อาตาปึ, อโหรตฺตมตนฺทิตํ;
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี’’ติ.
อิทมโวจ ภควา; อิทํ วตฺวาน สุคโต อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ. อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ ¶ , อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต, เอตทโหสิ – ‘‘อิทํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ ¶ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ –
‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย, นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ;
ยทตีตํ ปหีนํ ตํ, อปฺปตฺตฺจ อนาคตํ.
‘‘ปจฺจุปฺปนฺนฺจ โย ธมฺมํ, ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ;
อสํหีรํ อสํกุปฺปํ, ตํ วิทฺวา มนุพฺรูหเย.
‘‘อชฺเชว ¶ กิจฺจมาตปฺปํ, โก ชฺา มรณํ สุเว;
น หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนา.
‘‘เอวํ วิหารึ อาตาปึ, อโหรตฺตมตนฺทิตํ;
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี’’ติ.
‘‘โก นุ โข อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชยฺยา’’ติ?
อถ ¶ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ; ปโหติ จายสฺมา มหากจฺจาโน อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. ยํนูน มยํ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยามา’’ติ.
๒๘๑. อถ โข เต ภิกฺขู เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา มหากจฺจาเนน สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา ¶ โข เต ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจุํ ¶ – ‘‘อิทํ โข โน, อาวุโส กจฺจาน, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ –
‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย…เป…
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี’’ติ.
‘‘เตสํ โน, อาวุโส กจฺจาน, อมฺหากํ, อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต, เอตทโหสิ – อิทํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ –
‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย…เป…
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี’’ติ.
‘‘โก ¶ นุ โข อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชยฺยาติ? เตสํ โน ¶ , อาวุโส กจฺจาน, อมฺหากํ เอตทโหสิ – ‘อยํ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา มหากจฺจาโน อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. ยํนูน มยํ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยามา’ติ. วิภชตายสฺมา มหากจฺจาโน’’ติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ ¶ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺโต สารวโต อติกฺกมฺเมว ¶ มูลํ อติกฺกมฺม ขนฺธํ สาขาปลาเส สารํ ปริเยสิตพฺพํ มฺเยฺย; เอวํ สมฺปทมิทํ อายสฺมนฺตานํ สตฺถริ สมฺมุขีภูเต ตํ ภควนฺตํ อติสิตฺวา อมฺเห เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺฉิตพฺพํ มฺถ [มฺเถ (ปี.)]. โส หาวุโส, ภควา ชานํ ชานาติ, ปสฺสํ ปสฺสติ, จกฺขุภูโต าณภูโต ธมฺมภูโต พฺรหฺมภูโต วตฺตา ปวตฺตา อตฺถสฺส นินฺเนตา อมตสฺส ทาตา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต. โส เจว ปเนตสฺส กาโล อโหสิ ยํ ภควนฺตํเยว เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ, ยถา โว ภควา พฺยากเรยฺย ตถา นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ.
‘‘อทฺธาวุโส กจฺจาน, ภควา ชานํ ชานาติ, ปสฺสํ ปสฺสติ, จกฺขุภูโต าณภูโต ธมฺมภูโต พฺรหฺมภูโต วตฺตา ปวตฺตา อตฺถสฺส นินฺเนตา อมตสฺส ทาตา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต. โส เจว ปเนตสฺส กาโล อโหสิ ยํ ภควนฺตํเยว เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาม; ยถา โน ภควา พฺยากเรยฺย ตถา นํ ธาเรยฺยาม. อปิ จายสฺมา มหากจฺจาโน สตฺถุเจว สํวณฺณิโต สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ; ปโหติ จายสฺมา มหากจฺจาโน อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. วิภชตายสฺมา มหากจฺจาโน อครุํ กริตฺวา’’ติ [อครุกริตฺวา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)].
‘‘เตน หาวุโส, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหากจฺจานสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา ¶ มหากจฺจาโน เอตทโวจ –
‘‘ยํ ¶ ¶ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ –
‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย…เป…
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี’’ติ.
อิมสฺส โข อหํ, อาวุโส, ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ –
๒๘๒. ‘‘กถฺจ, อาวุโส, อตีตํ อนฺวาคเมติ? อิติ เม จกฺขุ ¶ อโหสิ อตีตมทฺธานํ อิติ รูปาติ – ตตฺถ ฉนฺทราคปฺปฏิพทฺธํ [ฉนฺทราคปฺปฏิพนฺธํ (ก.)] โหติ วิฺาณํ, ฉนฺทราคปฺปฏิพทฺธตฺตา วิฺาณสฺส ตทภินนฺทติ, ตทภินนฺทนฺโต อตีตํ อนฺวาคเมติ. อิติ เม โสตํ อโหสิ อตีตมทฺธานํ อิติ สทฺทาติ…เป… อิติ เม ฆานํ อโหสิ อตีตมทฺธานํ อิติ คนฺธาติ… อิติ เม ชิวฺหา อโหสิ อตีตมทฺธานํ อิติ รสาติ… อิติ เม กาโย อโหสิ อตีตมทฺธานํ อิติ โผฏฺพฺพาติ… อิติ เม มโน อโหสิ อตีตมทฺธานํ อิติ ธมฺมาติ – ตตฺถ ฉนฺทราคปฺปฏิพทฺธํ โหติ วิฺาณํ, ฉนฺทราคปฺปฏิพทฺธตฺตา วิฺาณสฺส ตทภินนฺทติ, ตทภินนฺทนฺโต อตีตํ อนฺวาคเมติ – เอวํ โข, อาวุโส, อตีตํ อนฺวาคเมติ.
‘‘กถฺจ ¶ , อาวุโส, อตีตํ นานฺวาคเมติ? อิติ เม จกฺขุ อโหสิ อตีตมทฺธานํ อิติ รูปาติ – ตตฺถ น ฉนฺทราคปฺปฏิพทฺธํ โหติ วิฺาณํ, น ฉนฺทราคปฺปฏิพทฺธตฺตา วิฺาณสฺส น ตทภินนฺทติ, น ¶ ตทภินนฺทนฺโต อตีตํ นานฺวาคเมติ. อิติ เม โสตํ อโหสิ อตีตมทฺธานํ อิติ สทฺทาติ…เป… อิติ เม ฆานํ อโหสิ อตีตมทฺธานํ อิติ คนฺธาติ… อิติ เม ชิวฺหา อโหสิ อตีตมทฺธานํ อิติ รสาติ… อิติ เม กาโย อโหสิ อตีตมทฺธานํ อิติ โผฏฺพฺพาติ… อิติ เม มโน อโหสิ อตีตมทฺธานํ อิติ ธมฺมาติ – ตตฺถ น ฉนฺทราคปฺปฏิพทฺธํ โหติ วิฺาณํ, น ฉนฺทราคปฺปฏิพทฺธตฺตา วิฺาณสฺส, น ตทภินนฺทติ, น ตทภินนฺทนฺโต อตีตํ นานฺวาคเมติ – เอวํ โข, อาวุโส, อตีตํ นานฺวาคเมติ.
๒๘๓. ‘‘กถฺจ ¶ , อาวุโส, อนาคตํ ปฏิกงฺขติ? อิติ เม จกฺขุ สิยา อนาคตมทฺธานํ อิติ รูปาติ – อปฺปฏิลทฺธสฺส ปฏิลาภาย จิตฺตํ ปณิทหติ, เจตโส ปณิธานปจฺจยา ตทภินนฺทติ, ตทภินนฺทนฺโต อนาคตํ ปฏิกงฺขติ. อิติ เม โสตํ สิยา อนาคตมทฺธานํ อิติ สทฺทาติ…เป… อิติ เม ฆานํ สิยา อนาคตมทฺธานํ อิติ คนฺธาติ… อิติ เม ชิวฺหา สิยา อนาคตมทฺธานํ อิติ รสาติ… อิติ เม กาโย สิยา อนาคตมทฺธานํ อิติ โผฏฺพฺพาติ… อิติ เม มโน สิยา อนาคตมทฺธานํ อิติ ¶ ธมฺมาติ – อปฺปฏิลทฺธสฺส ปฏิลาภาย จิตฺตํ ปณิทหติ, เจตโส ปณิธานปจฺจยา ตทภินนฺทติ, ตทภินนฺทนฺโต อนาคตํ ปฏิกงฺขติ – เอวํ โข, อาวุโส, อนาคตํ ปฏิกงฺขติ.
‘‘กถฺจ, อาวุโส, อนาคตํ นปฺปฏิกงฺขติ? อิติ เม จกฺขุ สิยา อนาคตมทฺธานํ อิติ รูปาติ – อปฺปฏิลทฺธสฺส ปฏิลาภาย จิตฺตํ นปฺปณิทหติ ¶ , เจตโส อปฺปณิธานปจฺจยา น ตทภินนฺทติ, น ตทภินนฺทนฺโต อนาคตํ นปฺปฏิกงฺขติ. อิติ เม โสตํ สิยา อนาคตมทฺธานํ อิติ สทฺทาติ…เป… อิติ เม ฆานํ สิยา อนาคตมทฺธานํ อิติ คนฺธาติ… อิติ เม ชิวฺหา สิยา อนาคตมทฺธานํ อิติ รสาติ… อิติ เม กาโย สิยา อนาคตมทฺธานํ อิติ โผฏฺพฺพาติ… อิติ เม มโน สิยา อนาคตมทฺธานํ อิติ ธมฺมาติ – อปฺปฏิลทฺธสฺส ปฏิลาภาย จิตฺตํ นปฺปณิทหติ, เจตโส อปฺปณิธานปจฺจยา น ตทภินนฺทติ, น ตทภินนฺทนฺโต อนาคตํ นปฺปฏิกงฺขติ – เอวํ โข, อาวุโส, อนาคตํ นปฺปฏิกงฺขติ.
๒๘๔. ‘‘กถฺจ, อาวุโส, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรติ? ยฺจาวุโส, จกฺขุ เย จ รูปา ¶ – อุภยเมตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ. ตสฺมึ เจ ปจฺจุปฺปนฺเน ฉนฺทราคปฺปฏิพทฺธํ โหติ วิฺาณํ, ฉนฺทราคปฺปฏิพทฺธตฺตา วิฺาณสฺส ตทภินนฺทติ, ตทภินนฺทนฺโต ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรติ. ยฺจาวุโส, โสตํ เย จ สทฺทา…เป… ยฺจาวุโส, ฆานํ เย จ คนฺธา… ยา จาวุโส, ชิวฺหา เย จ รสา… โย จาวุโส, กาโย เย จ โผฏฺพฺพา… โย จาวุโส, มโน เย จ ธมฺมา – อุภยเมตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ. ตสฺมึ เจ ปจฺจุปฺปนฺเน ฉนฺทราคปฺปฏิพทฺธํ โหติ วิฺาณํ, ฉนฺทราคปฺปฏิพทฺธตฺตา วิฺาณสฺส ตทภินนฺทติ, ตทภินนฺทนฺโต ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรติ – เอวํ โข, อาวุโส, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรติ.
‘‘กถฺจ ¶ ¶ , อาวุโส, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ น สํหีรติ? ยฺจาวุโส, จกฺขุ เย จ รูปา – อุภยเมตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ. ตสฺมึ เจ ปจฺจุปฺปนฺเน น ฉนฺทราคปฺปฏิพทฺธํ โหติ วิฺาณํ, น ฉนฺทราคปฺปฏิพทฺธตฺตา วิฺาณสฺส น ตทภินนฺทติ, น ตทภินนฺทนฺโต ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ น สํหีรติ. ยฺจาวุโส, โสตํ เย จ สทฺทา…เป… ยฺจาวุโส, ฆานํ เย จ คนฺธา… ยา จาวุโส, ชิวฺหา เย จ รสา… โย จาวุโส, กาโย เย จ โผฏฺพฺพา… โย จาวุโส, มโน เย จ ธมฺมา – อุภยเมตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ. ตสฺมึ เจ ปจฺจุปฺปนฺเน ¶ น ฉนฺทราคปฺปฏิพทฺธํ โหติ วิฺาณํ, น ฉนฺทราคปฺปฏิพทฺธตฺตา วิฺาณสฺส น ตทภินนฺทติ, น ตทภินนฺทนฺโต ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ น สํหีรติ – เอวํ โข, อาวุโส, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ น สํหีรติ.
๒๘๕. ‘‘ยํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ –
‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย…เป… ¶
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี’’ติ.
‘‘อิมสฺส โข อหํ, อาวุโส, ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. อากงฺขมานา จ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ภควนฺตํเยว อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ, ยถา โว ภควา พฺยากโรติ ตถา นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ.
อถ ¶ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหากจฺจานสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ยํ โข โน, ภนฺเต, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ –
‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย…เป…
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี’’ติ.
เตสํ โน, ภนฺเต, อมฺหากํ, อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต, เอตทโหสิ – ‘‘อิทํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ –
‘‘อตีตํ ¶ นานฺวาคเมยฺย, นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ;
ยทตีตํ ปหีนํ ตํ, อปฺปตฺตฺจ อนาคตํ.
‘‘ปจฺจุปฺปนฺนฺจ ¶ โย ธมฺมํ, ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ;
อสํหีรํ อสํกุปฺปํ, ตํ วิทฺวา มนุพฺรูหเย.
‘‘อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ, โก ชฺา มรณํ สุเว;
น หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนา.
‘‘เอวํ วิหารึ อาตาปึ, อโหรตฺตมตนฺทิตํ;
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี’’ติ.
‘‘‘โก ¶ นุ โข อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน ¶ อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชยฺยา’ติ? เตสํ โน, ภนฺเต, อมฺหากํ เอตทโหสิ – ‘อยํ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา มหากจฺจาโน อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. ยํนูน มยํ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยามา’ติ. อถ โข มยํ, ภนฺเต, เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิมฺห; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺฉิมฺห. เตสํ โน, ภนฺเต, อายสฺมตา มหากจฺจาเนน อิเมหิ อากาเรหิ อิเมหิ ปเทหิ อิเมหิ พฺยฺชเนหิ อตฺโถ วิภตฺโต’’ติ.
‘‘ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, มหากจฺจาโน; มหาปฺโ, ภิกฺขเว มหากจฺจาโน. มํ เจปิ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ, อหมฺปิ ตํ เอวเมวํ พฺยากเรยฺยํ ยถา ตํ มหากจฺจาเนน พฺยากตํ. เอโส, เจเวตสฺส อตฺโถ. เอวฺจ นํ ธาเรถา’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
มหากจฺจานภทฺเทกรตฺตสุตฺตํ นิฏฺิตํ ตติยํ.
๔. โลมสกงฺคิยภทฺเทกรตฺตสุตฺตํ
๒๘๖. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา โลมสกงฺคิโย [โลมสกกงฺคิโย (ฏีกา)] สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม. อถ โข จนฺทโน เทวปุตฺโต อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ นิคฺโรธารามํ โอภาเสตฺวา เยนายสฺมา โลมสกงฺคิโย เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข จนฺทโน เทวปุตฺโต อายสฺมนฺตํ โลมสกงฺคิยํ เอตทโวจ – ‘‘ธาเรสิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจา’’ติ? ‘‘น ¶ โข อหํ, อาวุโส, ธาเรมิ ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ. ตฺวํ ปนาวุโส, ธาเรสิ ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจา’’ติ? ‘‘อหมฺปิ โข, ภิกฺขุ, น ธาเรมิ ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ. ธาเรสิ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺติโย คาถา’’ติ? ‘‘น โข อหํ, อาวุโส, ธาเรมิ ภทฺเทกรตฺติโย คาถา. ตฺวํ ปนาวุโส, ธาเรสิ ภทฺเทกรตฺติโย คาถา’’ติ? ‘‘ธาเรมิ โข อหํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺติโย คาถา’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, อาวุโส, ธาเรสิ ภทฺเทกรตฺติโย คาถา’’ติ? ‘‘เอกมิทํ, ภิกฺขุ, สมยํ ภควา เทเวสุ ตาวตึเสสุ วิหรติ ปาริจฺฉตฺตกมูเล ปณฺฑุกมฺพลสิลายํ. ตตฺร ภควา เทวานํ ตาวตึสานํ ¶ ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ อภาสิ –
‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย, นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ;
ยทตีตํ ปหีนํ ตํ, อปฺปตฺตฺจ อนาคตํ.
‘‘ปจฺจุปฺปนฺนฺจ โย ธมฺมํ, ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ;
อสํหีรํ อสํกุปฺปํ, ตํ วิทฺวา มนุพฺรูหเย.
‘‘อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ, โก ชฺา มรณํ สุเว;
น หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนา.
‘‘เอวํ ¶ วิหารึ อาตาปึ, อโหรตฺตมตนฺทิตํ;
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี’’ติ.
‘‘เอวํ โข อหํ, ภิกฺขุ, ธาเรมิ ภทฺเทกรตฺติโย คาถา. อุคฺคณฺหาหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ; ปริยาปุณาหิ ตฺวํ ¶ , ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ; ธาเรหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ. อตฺถสํหิโต, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทโส จ วิภงฺโค จ อาทิพฺรหฺมจริยโก’’ติ. อิทมโวจ จนฺทโน เทวปุตฺโต. อิทํ วตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ.
๒๘๗. อถ โข อายสฺมา โลมสกงฺคิโย ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สาวตฺถิ เตน ¶ จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน สาวตฺถิ เชตวนํ อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราโม เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ ¶ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา โลมสกงฺคิโย ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘เอกมิทาหํ, ภนฺเต, สมยํ สกฺเกสุ วิหรามิ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม. อถ โข, ภนฺเต, อฺตโร เทวปุตฺโต อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ นิคฺโรธารามํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข, ภนฺเต, โส เทวปุตฺโต มํ เอตทโวจ – ‘ธาเรสิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจา’ติ? เอวํ วุตฺเต อหํ, ภนฺเต, ตํ เทวปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘น โข อหํ, อาวุโส, ธาเรมิ ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ. ตฺวํ ปนาวุโส, ธาเรสิ ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจา’ติ? ‘อหมฺปิ โข, ภิกฺขุ, น ธาเรมิ ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ. ธาเรสิ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺติโย คาถา’ติ? ‘น โข อหํ, อาวุโส, ธาเรมิ ภทฺเทกรตฺติโย คาถา. ตฺวํ ปนาวุโส, ธาเรสิ ภทฺเทกรตฺติโย คาถา’ติ? ‘ธาเรมิ โข อหํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺติโย คาถา’ติ. ‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, อาวุโส, ธาเรสิ ภทฺเทกรตฺติโย คาถา’ติ? เอกมิทํ, ภิกฺขุ, สมยํ ภควา เทเวสุ ตาวตึเสสุ วิหรติ ปาริจฺฉตฺตกมูเล ปณฺฑุกมฺพลสิลายํ ¶ . ตตฺร โข ภควา เทวานํ ตาวตึสานํ ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ อภาสิ –
‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย…เป…
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี’’ติ.
‘‘เอวํ ¶ โข อหํ, ภิกฺขุ, ธาเรมิ ภทฺเทกรตฺติโย คาถา. อุคฺคณฺหาหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ; ปริยาปุณาหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส ¶ อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ; ธาเรหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ. อตฺถสํหิโต, ภิกฺขุ, ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทโส จ วิภงฺโค จ อาทิพฺรหฺมจริยโก’ติ. อิทมโวจ, ภนฺเต, โส เทวปุตฺโต; อิทํ วตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ. สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ เทเสตู’’ติ.
๒๘๘. ‘‘ชานาสิ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, ตํ เทวปุตฺต’’นฺติ? ‘‘น โข อหํ, ภนฺเต, ชานามิ ตํ เทวปุตฺต’’นฺติ. ‘‘จนฺทโน นาม โส, ภิกฺขุ, เทวปุตฺโต. จนฺทโน, ภิกฺขุ, เทวปุตฺโต อฏฺึ กตฺวา [อฏฺิกตฺวา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] มนสิกตฺวา สพฺพเจตสา [สพฺพํ เจตโส (สี. สฺยา. กํ. ปี.), สพฺพํ เจตสา (ก.)] สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสโต ธมฺมํ สุณาติ. เตน หิ, ภิกฺขุ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา โลมสกงฺคิโย ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘อตีตํ ¶ นานฺวาคเมยฺย, นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ;
ยทตีตํ ปหีนํ ตํ, อปฺปตฺตฺจ อนาคตํ.
‘‘ปจฺจุปฺปนฺนฺจ โย ธมฺมํ, ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ;
อสํหีรํ อสํกุปฺปํ, ตํ วิทฺวา มนุพฺรูหเย.
‘‘อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ, โก ชฺา มรณํ สุเว;
น ¶ หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนา;
‘‘เอวํ วิหารึ อาตาปึ, อโหรตฺตมตนฺทิตํ;
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนิ’’.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขุ, อตีตํ อนฺวาคเมติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขุ, อตีตํ อนฺวาคเมติ. กถฺจ ¶ , ภิกฺขุ, อตีตํ นานฺวาคเมติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขุ, อตีตํ นานฺวาคเมติ. กถฺจ, ภิกฺขุ, อนาคตํ ปฏิกงฺขติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขุ, อนาคตํ ปฏิกงฺขติ. กถฺจ, ภิกฺขุ, อนาคตํ นปฺปฏิกงฺขติ…เป… ¶ เอวํ โข, ภิกฺขุ, อนาคตํ นปฺปฏิกงฺขติ. กถฺจ, ภิกฺขุ, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขุ, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรติ. กถฺจ, ภิกฺขุ, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ น สํหีรติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขุ, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ น สํหีรติ.
‘‘อตีตํ ¶ นานฺวาคเมยฺย, นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ;
ยทตีตํ ปหีนํ ตํ, อปฺปตฺตฺจ อนาคตํ.
‘‘ปจฺจุปฺปนฺนฺจ ¶ โย ธมฺมํ, ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ;
อสํหีรํ อสํกุปฺปํ, ตํ วิทฺวา มนุพฺรูหเย.
‘‘อชฺเชว ¶ กิจฺจมาตปฺปํ, โก ชฺา มรณํ สุเว;
น หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนา.
‘‘เอวํ วิหารึ อาตาปึ, อโหรตฺตมตนฺทิตํ;
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา โลมสกงฺคิโย ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
โลมสกงฺคิยภทฺเทกรตฺตสุตฺตํ นิฏฺิตํ จตุตฺถํ.
๕. จูฬกมฺมวิภงฺคสุตฺตํ [สุภสุตฺตนฺติปิ วุจฺจติ]
๒๘๙. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน, อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย เยน มนุสฺสานํเยว สตํ มนุสฺสภูตานํ ทิสฺสนฺติ หีนปฺปณีตตา? ทิสฺสนฺติ หิ, โภ โคตม, มนุสฺสา อปฺปายุกา, ทิสฺสนฺติ ทีฆายุกา; ทิสฺสนฺติ พวฺหาพาธา [พหฺวาพาธา (สฺยา. กํ. ก.)], ทิสฺสนฺติ อปฺปาพาธา; ทิสฺสนฺติ ทุพฺพณฺณา, ทิสฺสนฺติ วณฺณวนฺโต; ทิสฺสนฺติ อปฺเปสกฺขา, ทิสฺสนฺติ มเหสกฺขา; ทิสฺสนฺติ อปฺปโภคา, ทิสฺสนฺติ มหาโภคา; ทิสฺสนฺติ นีจกุลีนา, ทิสฺสนฺติ อุจฺจากุลีนา; ทิสฺสนฺติ ทุปฺปฺา, ทิสฺสนฺติ ปฺวนฺโต [ปฺาวนฺโต (สี. ปี.)] ¶ . โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย เยน มนุสฺสานํเยว สตํ มนุสฺสภูตานํ ทิสฺสนฺติ หีนปฺปณีตตา’’ติ?
‘‘กมฺมสฺสกา ¶ , มาณว, สตฺตา กมฺมทายาทา กมฺมโยนี กมฺมพนฺธู [กมฺมโยนิ กมฺมพนฺธุ (สี.)] กมฺมปฺปฏิสรณา. กมฺมํ สตฺเต วิภชติ ยทิทํ – หีนปฺปณีตตายาติ. น โข อหํ อิมสฺส โภโต โคตมสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. สาธุ ¶ เม ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถา อหํ อิมสฺส โภโต โคตมสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชาเนยฺย’’นฺติ.
๒๙๐. ‘‘เตน หิ, มาณว, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘อิธ, มาณว, เอกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา ปาณาติปาตี โหติ ลุทฺโท โลหิตปาณิ หตปหเต นิวิฏฺโ อทยาปนฺโน ปาณภูเตสุ [สพฺพปาณภูเตสุ (สี. ก.)]. โส เตน กมฺเมน เอวํ สมตฺเตน เอวํ สมาทินฺเนน [สมาทิณฺเณน (ปี. ก.)] กายสฺส ¶ เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. โน เจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ, สเจ มนุสฺสตฺตํ อาคจฺฉติ ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ อปฺปายุโก โหติ. อปฺปายุกสํวตฺตนิกา เอสา, มาณว, ปฏิปทา ยทิทํ – ปาณาติปาตี โหติ ลุทฺโท โลหิตปาณิ หตปหเต นิวิฏฺโ อทยาปนฺโน ปาณภูเตสุ.
‘‘อิธ ปน, มาณว, เอกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ, ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ. โส เตน กมฺเมน เอวํ สมตฺเตน เอวํ สมาทินฺเนน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. โน เจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ, สเจ มนุสฺสตฺตํ อาคจฺฉติ ¶ ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ ทีฆายุโก โหติ. ทีฆายุกสํวตฺตนิกา เอสา, มาณว, ปฏิปทา ยทิทํ – ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต ¶ โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ, ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ.
๒๙๑. ‘‘อิธ ¶ , มาณว, เอกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา สตฺตานํ วิเหกชาติโก โหติ, ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา. โส เตน กมฺเมน เอวํ สมตฺเตน เอวํ สมาทินฺเนน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. โน เจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ, สเจ มนุสฺสตฺตํ อาคจฺฉติ ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ พวฺหาพาโธ โหติ. พวฺหาพาธสํวตฺตนิกา เอสา, มาณว, ปฏิปทา ยทิทํ – สตฺตานํ วิเหกชาติโก โหติ ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา.
‘‘อิธ ปน, มาณว, เอกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา สตฺตานํ อวิเหกชาติโก โหติ ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา. โส เตน กมฺเมน เอวํ สมตฺเตน เอวํ สมาทินฺเนน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. โน เจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ, สเจ มนุสฺสตฺตํ อาคจฺฉติ ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ อปฺปาพาโธ โหติ. อปฺปาพาธสํวตฺตนิกา เอสา, มาณว, ปฏิปทา ยทิทํ ¶ – สตฺตานํ อวิเหกชาติโก โหติ ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา.
๒๙๒. ‘‘อิธ, มาณว, เอกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล. อปฺปมฺปิ ¶ วุตฺโต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติฏฺียติ โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. โส เตน กมฺเมน เอวํ สมตฺเตน เอวํ สมาทินฺเนน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. โน เจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ, สเจ มนุสฺสตฺตํ อาคจฺฉติ ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ ทุพฺพณฺโณ โหติ. ทุพฺพณฺณสํวตฺตนิกา เอสา, มาณว, ปฏิปทา ยทิทํ – โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล; อปฺปมฺปิ วุตฺโต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติฏฺียติ โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ.
‘‘อิธ ปน, มาณว, เอกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อกฺโกธโน โหติ อนุปายาสพหุโล; พหุมฺปิ วุตฺโต สมาโน นาภิสชฺชติ น กุปฺปติ น พฺยาปชฺชติ น ปติฏฺียติ น โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. โส เตน กมฺเมน เอวํ สมตฺเตน เอวํ สมาทินฺเนน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. โน เจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ¶ สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ, สเจ มนุสฺสตฺตํ อาคจฺฉติ ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ ¶ ปาสาทิโก โหติ. ปาสาทิกสํวตฺตนิกา เอสา, มาณว, ปฏิปทา ยทิทํ – อกฺโกธโน โหติ อนุปายาสพหุโล; พหุมฺปิ วุตฺโต สมาโน นาภิสชฺชติ น กุปฺปติ น พฺยาปชฺชติ น ปติฏฺียติ น โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ.
๒๙๓. ‘‘อิธ, มาณว, เอกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อิสฺสามนโก โหติ; ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ อิสฺสติ อุปทุสฺสติ อิสฺสํ พนฺธติ. โส เตน กมฺเมน เอวํ สมตฺเตน เอวํ สมาทินฺเนน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. โน เจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ, สเจ มนุสฺสตฺตํ อาคจฺฉติ ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ อปฺเปสกฺโข โหติ. อปฺเปสกฺขสํวตฺตนิกา เอสา, มาณว, ปฏิปทา ยทิทํ – อิสฺสามนโก โหติ; ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ อิสฺสติ อุปทุสฺสติ อิสฺสํ พนฺธติ.
‘‘อิธ ¶ ปน, มาณว, เอกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อนิสฺสามนโก โหติ; ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ น อิสฺสติ น อุปทุสฺสติ น อิสฺสํ พนฺธติ. โส เตน กมฺเมน เอวํ สมตฺเตน เอวํ สมาทินฺเนน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. โน ¶ เจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ, สเจ มนุสฺสตฺตํ อาคจฺฉติ ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ มเหสกฺโข โหติ. มเหสกฺขสํวตฺตนิกา เอสา, มาณว ¶ , ปฏิปทา ยทิทํ – อนิสฺสามนโก โหติ; ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ น อิสฺสติ น อุปทุสฺสติ น อิสฺสํ พนฺธติ.
๒๙๔. ‘‘อิธ, มาณว, เอกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา น ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส เตน กมฺเมน เอวํ สมตฺเตน เอวํ สมาทินฺเนน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. โน เจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ, สเจ มนุสฺสตฺตํ อาคจฺฉติ ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ อปฺปโภโค โหติ. อปฺปโภคสํวตฺตนิกา เอสา, มาณว, ปฏิปทา ยทิทํ ¶ – น ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ.
‘‘อิธ ปน, มาณว, เอกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส เตน กมฺเมน เอวํ สมตฺเตน เอวํ สมาทินฺเนน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. โน เจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ, สเจ มนุสฺสตฺตํ อาคจฺฉติ ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ มหาโภโค โหติ. มหาโภคสํวตฺตนิกา เอสา, มาณว, ปฏิปทา ยทิทํ – ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ¶ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ.
๒๙๕. ‘‘อิธ, มาณว, เอกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา ถทฺโธ โหติ อติมานี – อภิวาเทตพฺพํ น อภิวาเทติ, ปจฺจุฏฺาตพฺพํ น ปจฺจุฏฺเติ, อาสนารหสฺส น อาสนํ เทติ, มคฺคารหสฺส น มคฺคํ เทติ, สกฺกาตพฺพํ น สกฺกโรติ, ครุกาตพฺพํ น ครุกโรติ, มาเนตพฺพํ น มาเนติ, ปูเชตพฺพํ น ปูเชติ. โส เตน กมฺเมน เอวํ สมตฺเตน เอวํ สมาทินฺเนน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. โน เจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ, สเจ มนุสฺสตฺตํ อาคจฺฉติ ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ นีจกุลีโน โหติ. นีจกุลีนสํวตฺตนิกา เอสา, มาณว, ปฏิปทา ยทิทํ – ถทฺโธ โหติ อติมานี; อภิวาเทตพฺพํ น อภิวาเทติ, ปจฺจุฏฺาตพฺพํ น ปจฺจุฏฺเติ, อาสนารหสฺส น อาสนํ เทติ, มคฺคารหสฺส น มคฺคํ เทติ, สกฺกาตพฺพํ น สกฺกโรติ, ครุกาตพฺพํ น ครุกโรติ, มาเนตพฺพํ น มาเนติ, ปูเชตพฺพํ น ปูเชติ.
‘‘อิธ ¶ ปน, มาณว, เอกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อตฺถทฺโธ โหติ อนติมานี; อภิวาเทตพฺพํ อภิวาเทติ, ปจฺจุฏฺาตพฺพํ ปจฺจุฏฺเติ, อาสนารหสฺส อาสนํ เทติ, มคฺคารหสฺส มคฺคํ เทติ, สกฺกาตพฺพํ สกฺกโรติ, ครุกาตพฺพํ ครุกโรติ, มาเนตพฺพํ มาเนติ, ปูเชตพฺพํ ปูเชติ. โส เตน กมฺเมน เอวํ สมตฺเตน เอวํ สมาทินฺเนน ¶ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. โน เจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ, สเจ มนุสฺสตฺตํ ¶ อาคจฺฉติ ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ อุจฺจากุลีโน โหติ. อุจฺจากุลีนสํวตฺตนิกา เอสา, มาณว, ปฏิปทา ยทิทํ – อตฺถทฺโธ โหติ อนติมานี; อภิวาเทตพฺพํ อภิวาเทติ, ปจฺจุฏฺาตพฺพํ ปจฺจุฏฺเติ, อาสนารหสฺส อาสนํ เทติ, มคฺคารหสฺส มคฺคํ เทติ, สกฺกาตพฺพํ สกฺกโรติ, ครุกาตพฺพํ ครุกโรติ, มาเนตพฺพํ มาเนติ, ปูเชตพฺพํ ปูเชติ.
๒๙๖. ‘‘อิธ, มาณว, เอกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อุปสงฺกมิตฺวา น ปริปุจฺฉิตา โหติ – ‘กึ, ภนฺเต, กุสลํ, กึ อกุสลํ; กึ สาวชฺชํ, กึ อนวชฺชํ; กึ เสวิตพฺพํ, กึ น เสวิตพฺพํ; กึ เม กรียมานํ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย โหติ, กึ วา ปน เม กรียมานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย โหตี’ติ? โส เตน กมฺเมน เอวํ สมตฺเตน เอวํ สมาทินฺเนน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. โน เจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ, สเจ มนุสฺสตฺตํ อาคจฺฉติ ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ ทุปฺปฺโ โหติ. ทุปฺปฺสํวตฺตนิกา เอสา, มาณว, ปฏิปทา ยทิทํ – สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อุปสงฺกมิตฺวา น ปริปุจฺฉิตา โหติ – ‘กึ, ภนฺเต, กุสลํ, กึ อกุสลํ; กึ สาวชฺชํ, กึ อนวชฺชํ; กึ เสวิตพฺพํ, กึ น เสวิตพฺพํ ¶ ; กึ เม กรียมานํ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย โหติ, กึ วา ปน เม กรียมานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย โหตี’’’ติ?
‘‘อิธ ¶ ปน, มาณว, เอกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉิตา โหติ – ‘กึ, ภนฺเต, กุสลํ, กึ อกุสลํ; กึ สาวชฺชํ, กึ อนวชฺชํ; กึ เสวิตพฺพํ, กึ น เสวิตพฺพํ; กึ เม กรียมานํ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย โหติ, กึ วา ปน เม กรียมานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย โหตี’ติ? โส เตน กมฺเมน เอวํ สมตฺเตน เอวํ สมาทินฺเนน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. โน ¶ เจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ, สเจ มนุสฺสตฺตํ อาคจฺฉติ ยตฺถ ยตฺถ ปจฺจาชายติ มหาปฺโ โหติ. มหาปฺสํวตฺตนิกา เอสา, มาณว, ปฏิปทา ยทิทํ – สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉิตา โหติ – ‘กึ, ภนฺเต, กุสลํ, กึ อกุสลํ; กึ สาวชฺชํ, กึ อนวชฺชํ; กึ เสวิตพฺพํ ¶ , กึ น เสวิตพฺพํ; กึ เม กรียมานํ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย โหติ, กึ วา ปน เม กรียมานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย โหตี’’’ติ?
๒๙๗. ‘‘อิติ โข, มาณว, อปฺปายุกสํวตฺตนิกา ปฏิปทา อปฺปายุกตฺตํ อุปเนติ, ทีฆายุกสํวตฺตนิกา ปฏิปทา ทีฆายุกตฺตํ อุปเนติ; พวฺหาพาธสํวตฺตนิกา ปฏิปทา พวฺหาพาธตฺตํ อุปเนติ, อปฺปาพาธสํวตฺตนิกา ปฏิปทา อปฺปาพาธตฺตํ อุปเนติ; ทุพฺพณฺณสํวตฺตนิกา ปฏิปทา ¶ ทุพฺพณฺณตฺตํ อุปเนติ, ปาสาทิกสํวตฺตนิกา ปฏิปทา ปาสาทิกตฺตํ อุปเนติ; อปฺเปสกฺขสํวตฺตนิกา ปฏิปทา อปฺเปสกฺขตฺตํ อุปเนติ, มเหสกฺขสํวตฺตนิกา ปฏิปทา มเหสกฺขตฺตํ อุปเนติ; อปฺปโภคสํวตฺตนิกา ปฏิปทา อปฺปโภคตฺตํ อุปเนติ, มหาโภคสํวตฺตนิกา ปฏิปทา มหาโภคตฺตํ อุปเนติ; นีจกุลีนสํวตฺตนิกา ปฏิปทา นีจกุลีนตฺตํ อุปเนติ, อุจฺจากุลีนสํวตฺตนิกา ปฏิปทา อุจฺจากุลีนตฺตํ อุปเนติ; ทุปฺปฺสํวตฺตนิกา ปฏิปทา ทุปฺปฺตฺตํ อุปเนติ, มหาปฺสํวตฺตนิกา ปฏิปทา มหาปฺตฺตํ อุปเนติ. กมฺมสฺสกา, มาณว, สตฺตา กมฺมทายาทา กมฺมโยนี กมฺมพนฺธู กมฺมปฺปฏิสรณา. กมฺมํ สตฺเต วิภชติ ยทิทํ – หีนปฺปณีตตายา’’ติ.
เอวํ วุตฺเต, สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.
จูฬกมฺมวิภงฺคสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปฺจมํ.
๖. มหากมฺมวิภงฺคสุตฺตํ
๒๙๘. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สมิทฺธิ อรฺกุฏิกายํ ¶ วิหรติ. อถ โข โปตลิปุตฺโต ปริพฺพาชโก ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโน เยนายสฺมา สมิทฺธิ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สมิทฺธินา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โปตลิปุตฺโต ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ สมิทฺธึ เอตทโวจ – ‘‘สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส สมิทฺธิ, สมณสฺส โคตมสฺส สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘โมฆํ กายกมฺมํ โมฆํ วจีกมฺมํ, มโนกมฺมเมว สจฺจ’นฺติ. อตฺถิ จ สา [อตฺถิ เจสา (สี. ก.)] สมาปตฺติ ยํ สมาปตฺตึ สมาปนฺโน น กิฺจิ เวทิยตี’’ติ? ‘‘มา เหวํ, อาวุโส โปตลิปุตฺต, อวจ; (มา เหวํ, อาวุโส โปตลิปุตฺต, อวจ;) [( ) สฺยา. กํ. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ. น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ. น หิ ภควา เอวํ วเทยฺย – ‘โมฆํ กายกมฺมํ โมฆํ วจีกมฺมํ, มโนกมฺมเมว สจฺจ’นฺติ. อตฺถิ จ โข [อตฺถิ เจว โข (สี. ก.)] สา, อาวุโส, สมาปตฺติ ยํ สมาปตฺตึ สมาปนฺโน น กิฺจิ เวทิยตี’’ติ. ‘‘กีวจิรํ ปพฺพชิโตสิ, อาวุโส สมิทฺธี’’ติ? ‘‘น จิรํ, อาวุโส! ตีณิ วสฺสานี’’ติ. ‘‘เอตฺถ ทานิ มยํ เถเร ภิกฺขู กึ วกฺขาม, ยตฺร หิ นาม เอวํนโว ภิกฺขุ [นวเกน ภิกฺขุนา (ก.)] สตฺถารํ ปริรกฺขิตพฺพํ มฺิสฺสติ. สฺเจตนิกํ, อาวุโส สมิทฺธิ, กมฺมํ ¶ กตฺวา กาเยน วาจาย มนสา กึ โส เวทิยตี’’ติ? ‘‘สฺเจตนิกํ, อาวุโส โปตลิปุตฺต, กมฺมํ กตฺวา กาเยน วาจาย มนสา ทุกฺขํ โส เวทิยตี’’ติ. อถ โข โปตลิปุตฺโต ปริพฺพาชโก อายสฺมโต สมิทฺธิสฺส ภาสิตํ เนว อภินนฺทิ นปฺปฏิกฺโกสิ; อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.
๒๙๙. อถ โข อายสฺมา สมิทฺธิ อจิรปกฺกนฺเต โปตลิปุตฺเต ปริพฺพาชเก เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ¶ อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สมิทฺธิ ยาวตโก อโหสิ โปตลิปุตฺเตน ปริพฺพาชเกน สทฺธึ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ อายสฺมโต อานนฺทสฺส อาโรเจสิ.
เอวํ ¶ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ สมิทฺธึ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ โข อิทํ, อาวุโส สมิทฺธิ, กถาปาภตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อายามาวุโส ¶ สมิทฺธิ, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ภควโต อาโรเจสฺสาม. ยถา โน ภควา พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา สมิทฺธิ อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสิ.
อถ โข อายสฺมา จ อานนฺโท อายสฺมา จ สมิทฺธิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ยาวตโก อโหสิ อายสฺมโต สมิทฺธิสฺส โปตลิปุตฺเตน ¶ ปริพฺพาชเกน สทฺธึ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสิ. เอวํ วุตฺเต, ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘ทสฺสนมฺปิ โข อหํ, อานนฺท, โปตลิปุตฺตสฺส ปริพฺพาชกสฺส นาภิชานามิ, กุโต ปเนวรูปํ กถาสลฺลาปํ? อิมินา จ, อานนฺท, สมิทฺธินา โมฆปุริเสน โปตลิปุตฺตสฺส ปริพฺพาชกสฺส วิภชฺชพฺยากรณีโย ปฺโห เอกํเสน พฺยากโต’’ติ. เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อุทายี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สเจ ปน [กึ ปน (ก.)], ภนฺเต, อายสฺมตา สมิทฺธินา อิทํ สนฺธาย ภาสิตํ – ยํ กิฺจิ เวทยิตํ ตํ ทุกฺขสฺมิ’’นฺติ.
๓๐๐. อถ โข [เอวํ วุตฺเต (สฺยา. กํ.)] ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสสิ โน ตฺวํ, อานนฺท, อิมสฺส อุทายิสฺส โมฆปุริสสฺส อุมฺมงฺคํ [อุมฺมคฺคํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.), อุมงฺคํ (ก.)]? อฺาสึ โข อหํ, อานนฺท – ‘อิทาเนวายํ อุทายี โมฆปุริโส อุมฺมุชฺชมาโน อโยนิโส อุมฺมุชฺชิสฺสตี’ติ. อาทึเยว [อาทิโสว (สี. ปี.), อาทิเยว (ก.)], อานนฺท, โปตลิปุตฺเตน ปริพฺพาชเกน ติสฺโส เวทนา ปุจฺฉิตา. สจายํ, อานนฺท, สมิทฺธิ โมฆปุริโส โปตลิปุตฺตสฺส ¶ ปริพฺพาชกสฺส เอวํ ปุฏฺโ เอวํ พฺยากเรยฺย – ‘สฺเจตนิกํ, อาวุโส โปตลิปุตฺต, กมฺมํ กตฺวา กาเยน วาจาย มนสา สุขเวทนียํ สุขํ โส เวทยติ; สฺเจตนิกํ, อาวุโส โปตลิปุตฺต, กมฺมํ กตฺวา กาเยน วาจาย มนสา ทุกฺขเวทนียํ ทุกฺขํ โส เวทยติ; สฺเจตนิกํ, อาวุโส โปตลิปุตฺต, กมฺมํ กตฺวา กาเยน วาจาย มนสา อทุกฺขมสุขเวทนียํ อทุกฺขมสุขํ โส เวทยตี’ติ. เอวํ พฺยากรมาโน ¶ โข, อานนฺท, สมิทฺธิ โมฆปุริโส โปตลิปุตฺตสฺส ปริพฺพาชกสฺส สมฺมา (พฺยากรมาโน) [( ) นตฺถิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] พฺยากเรยฺย. อปิ ¶ จ, อานนฺท, เก จ [เกจิ (ก.)] อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา พาลา อพฺยตฺตา เก จ ตถาคตสฺส มหากมฺมวิภงฺคํ ชานิสฺสนฺติ? สเจ ตุมฺเห, อานนฺท, สุเณยฺยาถ ตถาคตสฺส มหากมฺมวิภงฺคํ วิภชนฺตสฺสา’’ติ.
‘‘เอตสฺส, ภควา, กาโล, เอตสฺส, สุคต, กาโล ยํ ภควา มหากมฺมวิภงฺคํ วิภเชยฺย ¶ . ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หานนฺท, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘จตฺตาโรเม, อานนฺท, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อิธานนฺท, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อิธ ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ, ปิสุณวาโจ โหติ, ผรุสวาโจ โหติ, สมฺผปฺปลาปี โหติ, อภิชฺฌาลุ โหติ, พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ.
‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อิธ ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ, ปิสุณวาโจ โหติ, ผรุสวาโจ โหติ, สมฺผปฺปลาปี โหติ, อภิชฺฌาลุ โหติ, พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ.
‘‘อิธานนฺท, เอกจฺโจ ¶ ปุคฺคโล อิธ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ผรุสาย วาจาย ¶ ปฏิวิรโต โหติ, สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ, อนภิชฺฌาลุ โหติ, อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, สมฺมาทิฏฺิ โหติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ.
‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อิธ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, ปิสุณาย วาจาย ¶ ปฏิวิรโต โหติ, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ, อนภิชฺฌาลุ โหติ, อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, สมฺมาทิฏฺิ โหติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ.
๓๐๑. ‘‘อิธานนฺท, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย ¶ อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ ยถาสมาหิเต จิตฺเต ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน อมุํ ปุคฺคลํ ปสฺสติ – อิธ ปาณาติปาตึ อทินฺนาทายึ กาเมสุมิจฺฉาจารึ มุสาวาทึ ปิสุณวาจํ ผรุสวาจํ สมฺผปฺปลาปึ อภิชฺฌาลุํ พฺยาปนฺนจิตฺตํ มิจฺฉาทิฏฺึ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปสฺสติ อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนํ. โส เอวมาห – ‘อตฺถิ กิร, โภ, ปาปกานิ กมฺมานิ, อตฺถิ ¶ ทุจฺจริตสฺส วิปาโก. อมาหํ [อปาหํ (สี. ปี. ก.) อมุํ + อหํ = อมาหํ-อิติ ปทวิภาโค] ปุคฺคลํ อทฺทสํ อิธ ปาณาติปาตึ อทินฺนาทายึ…เป… มิจฺฉาทิฏฺึ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปสฺสามิ อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺน’นฺติ. โส เอวมาห – ‘โย กิร, โภ, ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ, สพฺโพ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. เย เอวํ ชานนฺติ, เต สมฺมา ชานนฺติ; เย อฺถา ชานนฺติ, มิจฺฉา เตสํ าณ’นฺติ [มิจฺฉา เต สฺชานนฺติ (ก.)]. อิติ โส ยเทว ตสฺส สามํ าตํ สามํ ทิฏฺํ สามํ วิทิตํ ตเทว ตตฺถ ถามสา ปรามาสา [ปรามสฺส (สี. ปี.)] อภินิวิสฺส โวหรติ – ‘อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’’นฺติ.
‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย ¶ ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ ยถาสมาหิเต จิตฺเต ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน อมุํ ปุคฺคลํ ปสฺสติ – อิธ ปาณาติปาตึ อทินฺนาทายึ…เป… มิจฺฉาทิฏฺึ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปสฺสติ สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนํ. โส เอวมาห – ‘นตฺถิ กิร, โภ, ปาปกานิ กมฺมานิ, นตฺถิ ทุจฺจริตสฺส วิปาโก. อมาหํ ปุคฺคลํ อทฺทสํ – อิธ ปาณาติปาตึ อทินฺนาทายึ…เป… มิจฺฉาทิฏฺึ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปสฺสามิ สุคตึ สคฺคํ ¶ โลกํ อุปปนฺน’นฺติ. โส เอวมาห – ‘โย ¶ กิร, โภ, ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ, สพฺโพ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. เย เอวํ ชานนฺติ เต สมฺมา ชานนฺติ; เย อฺถา ชานนฺติ, มิจฺฉา เตสํ าณ’นฺติ. อิติ โส ยเทว ตสฺส สามํ าตํ สามํ ทิฏฺํ สามํ วิทิตํ ตเทว ตตฺถ ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺส โวหรติ – ‘อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’’นฺติ.
‘‘อิธานนฺท, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ ยถาสมาหิเต จิตฺเต ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน อมุํ ปุคฺคลํ ปสฺสติ – อิธ ¶ ปาณาติปาตา ปฏิวิรตํ อทินฺนาทานา ปฏิวิรตํ กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตํ มุสาวาทา ปฏิวิรตํ ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรตํ ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรตํ สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรตํ อนภิชฺฌาลุํ อพฺยาปนฺนจิตฺตํ สมฺมาทิฏฺึ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปสฺสติ สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนํ. โส เอวมาห – ‘อตฺถิ กิร, โภ, กลฺยาณานิ กมฺมานิ, อตฺถิ สุจริตสฺส วิปาโก. อมาหํ ปุคฺคลํ อทฺทสํ – อิธ ปาณาติปาตา ปฏิวิรตํ อทินฺนาทานา ปฏิวิรตํ…เป… สมฺมาทิฏฺึ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปสฺสามิ สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺน’นฺติ. โส เอวมาห – ‘โย กิร, โภ, ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต ¶ อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต…เป… สมฺมาทิฏฺิ สพฺโพ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. เย เอวํ ชานนฺติ เต สมฺมา ชานนฺติ; เย อฺถา ชานนฺติ, มิจฺฉา เตสํ าณ’นฺติ. อิติ โส ยเทว ตสฺส สามํ าตํ สามํ ทิฏฺํ สามํ วิทิตํ ตเทว ตตฺถ ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺส โวหรติ – ‘อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’’นฺติ.
‘‘อิธ ปนานนฺท, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ ยถาสมาหิเต จิตฺเต ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน อมุํ ปุคฺคลํ ¶ ปสฺสติ – อิธ ปาณาติปาตา ปฏิวิรตํ…เป… สมฺมาทิฏฺึ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปสฺสติ อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนํ. โส เอวมาห – ‘นตฺถิ กิร, โภ กลฺยาณานิ กมฺมานิ, นตฺถิ สุจริตสฺส วิปาโก. อมาหํ ¶ ปุคฺคลํ อทฺทสํ – อิธ ปาณาติปาตา ปฏิวิรตํ อทินฺนาทานา ปฏิวิรตํ…เป… สมฺมาทิฏฺึ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปสฺสามิ อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺน’นฺติ. โส เอวมาห – ‘โย กิร, โภ, ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต…เป… สมฺมาทิฏฺิ, สพฺโพ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. เย เอวํ ชานนฺติ เต สมฺมา ชานนฺติ; เย อฺถา ชานนฺติ, มิจฺฉา ¶ เตสํ าณ’นฺติ. อิติ โส ยเทว ตสฺส สามํ าตํ สามํ ทิฏฺํ สามํ วิทิตํ ตเทว ตตฺถ ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺส โวหรติ – ‘อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’’นฺติ.
๓๐๒. ‘‘ตตฺรานนฺท, ยฺวายํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวมาห – ‘อตฺถิ กิร, โภ, ปาปกานิ กมฺมานิ, อตฺถิ ทุจฺจริตสฺส วิปาโก’ติ อิทมสฺส อนุชานามิ; ยมฺปิ โส เอวมาห – ‘อมาหํ ปุคฺคลํ อทฺทสํ – อิธ ปาณาติปาตึ อทินฺนาทายึ…เป… มิจฺฉาทิฏฺึ, กายสฺส ¶ เภทา ปรํ มรณา ปสฺสามิ อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺน’นฺติ อิทมฺปิสฺส อนุชานามิ; ยฺจ โข โส เอวมาห – ‘โย กิร, โภ, ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ, สพฺโพ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตี’ติ อิทมสฺส นานุชานามิ; ยมฺปิ โส เอวมาห – ‘เย เอวํ ชานนฺติ เต สมฺมา ชานนฺติ; เย อฺถา ชานนฺติ, มิจฺฉา เตสํ าณ’นฺติ อิทมฺปิสฺส นานุชานามิ; ยมฺปิ โส ยเทว ตสฺส สามํ าตํ สามํ ทิฏฺํ สามํ วิทิตํ ตเทว ตตฺถ ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺส โวหรติ – ‘อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’นฺติ อิทมฺปิสฺส นานุชานามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? อฺถา หิ, อานนฺท, ตถาคตสฺส มหากมฺมวิภงฺเค าณํ โหติ.
‘‘ตตฺรานนฺท, ยฺวายํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวมาห – ‘นตฺถิ กิร, โภ, ปาปกานิ กมฺมานิ, นตฺถิ ทุจฺจริตสฺส วิปาโก’ติ อิทมสฺส ¶ นานุชานามิ; ยฺจ โข โส เอวมาห – ‘อมาหํ ปุคฺคลํ อทฺทสํ – อิธ ปาณาติปาตึ อทินฺนาทายึ…เป… มิจฺฉาทิฏฺึ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปสฺสามิ สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺน’นฺติ อิทมสฺส อนุชานามิ; ยฺจ โข โส เอวมาห – ‘โย กิร, โภ, ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ, สพฺโพ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชตี’ติ อิทมสฺส ¶ นานุชานามิ; ยมฺปิ โส เอวมาห – ‘เย เอวํ ¶ ชานนฺติ เต สมฺมา ชานนฺติ; เย อฺถา ชานนฺติ, มิจฺฉา เตสํ าณ’นฺติ อิทมฺปิสฺส นานุชานามิ; ยมฺปิ โส ยเทว ตสฺส สามํ าตํ สามํ ทิฏฺํ สามํ วิทิตํ ตเทว ตตฺถ ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺส โวหรติ – ‘อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’นฺติ อิทมฺปิสฺส นานุชานามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? อฺถา หิ, อานนฺท, ตถาคตสฺส มหากมฺมวิภงฺเค าณํ โหติ.
‘‘ตตฺรานนฺท, ยฺวายํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวมาห – ‘อตฺถิ กิร, โภ, กลฺยาณานิ กมฺมานิ, อตฺถิ สุจริตสฺส วิปาโก’ติ อิทมสฺส อนุชานามิ; ยมฺปิ โส เอวมาห – ‘อมาหํ ปุคฺคลํ อทฺทสํ – อิธ ปาณาติปาตา ปฏิวิรตํ อทินฺนาทานา ปฏิวิรตํ…เป… สมฺมาทิฏฺึ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปสฺสามิ สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺน’นฺติ อิทมฺปิสฺส อนุชานามิ; ยฺจ โข โส เอวมาห – ‘โย กิร, โภ, ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต…เป… สมฺมาทิฏฺิ, สพฺโพ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ ¶ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชตี’ติ อิทมสฺส นานุชานามิ; ยมฺปิ โส เอวมาห – ‘เย เอวํ ชานนฺติ เต ¶ สมฺมา ชานนฺติ; เย อฺถา ชานนฺติ, มิจฺฉา เตสํ าณ’นฺติ อิทมฺปิสฺส นานุชานามิ; ยมฺปิ โส ยเทว ตสฺส สามํ าตํ สามํ ทิฏฺํ สามํ วิทิตํ ตเทว ตตฺถ ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺส โวหรติ – ‘อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’นฺติ อิทมฺปิสฺส นานุชานามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? อฺถา หิ, อานนฺท, ตถาคตสฺส มหากมฺมวิภงฺเค าณํ โหติ.
‘‘ตตฺรานนฺท, ยฺวายํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวมาห – ‘นตฺถิ กิร, โภ, กลฺยาณานิ กมฺมานิ, นตฺถิ สุจริตสฺส วิปาโก’ติ อิทมสฺส นานุชานามิ; ยฺจ โข โส เอวมาห – ‘อมาหํ ปุคฺคลํ อทฺทสํ – อิธ ปาณาติปาตา ปฏิวิรตํ อทินฺนาทานา ปฏิวิรตํ…เป… สมฺมาทิฏฺึ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปสฺสามิ อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺน’นฺติ อิทมสฺส อนุชานามิ; ยฺจ โข โส เอวมาห – ‘โย กิร, โภ, ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต…เป… สมฺมาทิฏฺิ, สพฺโพ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตี’ติ อิทมสฺส นานุชานามิ; ยฺจ โข โส เอวมาห – ‘เย ¶ เอวํ ชานนฺติ เต สมฺมา ชานนฺติ; เย อฺถา ชานนฺติ, มิจฺฉา เตสํ าณ’นฺติ อิทมฺปิสฺส นานุชานามิ; ยมฺปิ โส ยเทว ตสฺส สามํ าตํ ¶ สามํ ทิฏฺํ สามํ วิทิตํ ตเทว ตตฺถ ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺส โวหรติ – ‘อิทเมว ¶ สจฺจํ, โมฆมฺ’นฺติ อิทมฺปิสฺส นานุชานามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? อฺถา หิ, อานนฺท, ตถาคตสฺส มหากมฺมวิภงฺเค าณํ โหติ.
๓๐๓. ‘‘ตตฺรานนฺท, ยฺวายํ ปุคฺคโล อิธ ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ, ปุพฺเพ วาสฺส ตํ กตํ โหติ ปาปกมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ, ปจฺฉา วาสฺส ตํ กตํ โหติ ปาปกมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ, มรณกาเล วาสฺส โหติ มิจฺฉาทิฏฺิ สมตฺตา สมาทินฺนา. เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. ยฺจ โข โส อิธ ปาณาติปาตี โหติ อทินฺนาทายี โหติ…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ ตสฺส ทิฏฺเว ธมฺเม วิปากํ ปฏิสํเวเทติ อุปปชฺช วา [อุปปชฺชํ วา (สี. ปี.), อุปปชฺช วา (สฺยา. กํ. ก.) อุปปชฺชิตฺวาติ สํวณฺณนาย สํสนฺเทตพฺพา] อปเร วา ปริยาเย.
‘‘ตตฺรานนฺท, ยฺวายํ ปุคฺคโล อิธ ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ, ปุพฺเพ วาสฺส ตํ กตํ โหติ กลฺยาณกมฺมํ สุขเวทนียํ, ปจฺฉา วาสฺส ตํ กตํ โหติ กลฺยาณกมฺมํ สุขเวทนียํ, มรณกาเล วาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺิ ¶ สมตฺตา สมาทินฺนา. เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. ยฺจ โข โส อิธ ปาณาติปาตี โหติ อทินฺนาทายี โหติ…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ ตสฺส ทิฏฺเว ธมฺเม วิปากํ ปฏิสํเวเทติ อุปปชฺช วา อปเร วา ปริยาเย.
‘‘ตตฺรานนฺท ¶ , ยฺวายํ ปุคฺคโล อิธ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต…เป… สมฺมาทิฏฺิ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ, ปุพฺเพ วาสฺส ตํ กตํ โหติ กลฺยาณกมฺมํ สุขเวทนียํ, ปจฺฉา วาสฺส ตํ กตํ โหติ กลฺยาณกมฺมํ สุขเวทนียํ, มรณกาเล วาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺิ สมตฺตา สมาทินฺนา. เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. ยฺจ โข โส อิธ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ ¶ อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สมฺมาทิฏฺิ โหติ, ตสฺส ทิฏฺเว ธมฺเม วิปากํ ปฏิสํเวเทติ อุปปชฺช วา อปเร วา ปริยาเย.
‘‘ตตฺรานนฺท ¶ , ยฺวายํ ปุคฺคโล อิธ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต…เป… สมฺมาทิฏฺิ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ, ปุพฺเพ วาสฺส ตํ กตํ โหติ ปาปกมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ, ปจฺฉา วาสฺส ตํ กตํ โหติ ปาปกมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ, มรณกาเล วาสฺส โหติ มิจฺฉาทิฏฺิ สมตฺตา สมาทินฺนา. เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. ยฺจ โข โส อิธ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สมฺมาทิฏฺิ โหติ, ตสฺส ทิฏฺเว ธมฺเม วิปากํ ปฏิสํเวเทติ อุปปชฺช วา อปเร วา ปริยาเย.
‘‘อิติ ¶ โข, อานนฺท, อตฺถิ กมฺมํ อภพฺพํ อภพฺพาภาสํ, อตฺถิ กมฺมํ อภพฺพํ ภพฺพาภาสํ, อตฺถิ กมฺมํ ภพฺพฺเจว ภพฺพาภาสฺจ, อตฺถิ กมฺมํ ภพฺพํ อภพฺพาภาส’’นฺติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
มหากมฺมวิภงฺคสุตฺตํ นิฏฺิตํ ฉฏฺํ.
๗. สฬายตนวิภงฺคสุตฺตํ
๓๐๔. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘สฬายตนวิภงฺคํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘‘ฉ ¶ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ เวทิตพฺพานิ, ฉ พาหิรานิ อายตนานิ เวทิตพฺพานิ, ฉ วิฺาณกายา เวทิตพฺพา, ฉ ผสฺสกายา เวทิตพฺพา, อฏฺารส มโนปวิจารา เวทิตพฺพา, ฉตฺตึส สตฺตปทา เวทิตพฺพา, ตตฺร อิทํ นิสฺสาย อิทํ ปชหถ, ตโย สติปฏฺานา ยทริโย เสวติ ยทริโย ¶ เสวมาโน สตฺถา คณมนุสาสิตุมรหติ, โส วุจฺจติ โยคฺคาจริยานํ [โยคาจริยานํ (ก.)] อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถี’ติ – อยมุทฺเทโส สฬายตนวิภงฺคสฺส.
๓๐๕. ‘‘‘ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ เวทิตพฺพานี’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ‘จกฺขายตนํ โสตายตนํ ฆานายตนํ ชิวฺหายตนํ กายายตนํ มนายตนํ – ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ เวทิตพฺพานี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘ฉ พาหิรานิ อายตนานิ เวทิตพฺพานี’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ¶ . กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ‘รูปายตนํ สทฺทายตนํ คนฺธายตนํ รสายตนํ โผฏฺพฺพายตนํ ธมฺมายตนํ – ฉ พาหิรานิ อายตนานิ เวทิตพฺพานี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘ฉ วิฺาณกายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ‘จกฺขุวิฺาณํ โสตวิฺาณํ ฆานวิฺาณํ ชิวฺหาวิฺาณํ กายวิฺาณํ มโนวิฺาณํ – ฉ วิฺาณกายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘ฉ ¶ ผสฺสกายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ‘จกฺขุสมฺผสฺโส โสตสมฺผสฺโส ฆานสมฺผสฺโส ชิวฺหาสมฺผสฺโส กายสมฺผสฺโส มโนสมฺผสฺโส – ฉ ผสฺสกายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘อฏฺารส มโนปวิจารา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา โสมนสฺสฏฺานียํ รูปํ อุปวิจรติ, โทมนสฺสฏฺานียํ รูปํ อุปวิจรติ, อุเปกฺขาฏฺานียํ รูปํ อุปวิจรติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ¶ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย โสมนสฺสฏฺานียํ ธมฺมํ อุปวิจรติ, โทมนสฺสฏฺานียํ ธมฺมํ อุปวิจรติ, อุเปกฺขาฏฺานียํ ธมฺมํ อุปวิจรติ. อิติ ฉ โสมนสฺสูปวิจารา, ฉ โทมนสฺสูปวิจารา, ฉ อุเปกฺขูปวิจารา, อฏฺารส มโนปวิจารา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
๓๐๖. ‘‘‘ฉตฺตึส ¶ ¶ สตฺตปทา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ฉ เคหสิตานิ [เคหสฺสิตานิ (?)] โสมนสฺสานิ, ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ [เนกฺขมฺมสฺสิตานิ (ฏีกา)] โสมนสฺสานิ, ฉ เคหสิตานิ โทมนสฺสานิ, ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โทมนสฺสานิ, ฉ เคหสิตา อุเปกฺขา, ฉ เนกฺขมฺมสิตา อุเปกฺขา. ตตฺถ กตมานิ ฉ เคหสิตานิ โสมนสฺสานิ? จกฺขุวิฺเยฺยานํ รูปานํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ มโนรมานํ โลกามิสปฏิสํยุตฺตานํ ปฏิลาภํ วา ปฏิลาภโต สมนุปสฺสโต ปุพฺเพ วา ปฏิลทฺธปุพฺพํ อตีตํ นิรุทฺธํ วิปริณตํ สมนุสฺสรโต อุปฺปชฺชติ โสมนสฺสํ. ยํ เอวรูปํ โสมนสฺสํ อิทํ วุจฺจติ เคหสิตํ โสมนสฺสํ. โสตวิฺเยฺยานํ สทฺทานํ… ฆานวิฺเยฺยานํ คนฺธานํ… ชิวฺหาวิฺเยฺยานํ รสานํ… กายวิฺเยฺยานํ โผฏฺพฺพานํ… มโนวิฺเยฺยานํ ธมฺมานํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ…เป… โสมนสฺสํ. ยํ เอวรูปํ โสมนสฺสํ อิทํ วุจฺจติ เคหสิตํ โสมนสฺสํ. อิมานิ ฉ เคหสิตานิ โสมนสฺสานิ.
‘‘ตตฺถ กตมานิ ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โสมนสฺสานิ? รูปานํตฺเวว อนิจฺจตํ วิทิตฺวา วิปริณามวิราคนิโรธํ [วิปริณามํ วิราคํ นิโรธํ (ก.)], ‘ปุพฺเพ เจว รูปา เอตรหิ จ สพฺเพ เต รูปา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต อุปฺปชฺชติ โสมนสฺสํ. ยํ ¶ เอวรูปํ โสมนสฺสํ อิทํ วุจฺจติ เนกฺขมฺมสิตํ โสมนสฺสํ. สทฺทานํตฺเวว… คนฺธานํตฺเวว… รสานํตฺเวว… โผฏฺพฺพานํตฺเวว… ธมฺมานํตฺเว ¶ อนิจฺจตํ วิทิตฺวา วิปริณามวิราคนิโรธํ, ‘ปุพฺเพ เจว ธมฺมา เอตรหิ ¶ จ สพฺเพ เต ธมฺมา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต อุปฺปชฺชติ โสมนสฺสํ. ยํ เอวรูปํ โสมนสฺสํ อิทํ วุจฺจติ เนกฺขมฺมสิตํ โสมนสฺสํ. อิมานิ ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โสมนสฺสานิ.
๓๐๗. ‘‘ตตฺถ กตมานิ ฉ เคหสิตานิ โทมนสฺสานิ? จกฺขุวิฺเยฺยานํ รูปานํ…เป… โสตวิฺเยฺยานํ สทฺทานํ… ฆานวิฺเยฺยานํ คนฺธานํ… ชิวฺหาวิฺเยฺยานํ รสานํ… กายวิฺเยฺยานํ โผฏฺพฺพานํ… มโนวิฺเยฺยานํ ธมฺมานํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ มโนรมานํ โลกามิสปฏิสํยุตฺตานํ อปฺปฏิลาภํ วา อปฺปฏิลาภโต สมนุปสฺสโต ปุพฺเพ วา อปฺปฏิลทฺธปุพฺพํ อตีตํ นิรุทฺธํ วิปริณตํ สมนุสฺสรโต อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสํ. ยํ เอวรูปํ โทมนสฺสํ ¶ อิทํ วุจฺจติ เคหสิตํ โทมนสฺสํ. อิมานิ ฉ เคหสิตานิ โทมนสฺสานิ.
‘‘ตตฺถ กตมานิ ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โทมนสฺสานิ? รูปานํตฺเวว ¶ อนิจฺจตํ วิทิตฺวา วิปริณามวิราคนิโรธํ, ‘ปุพฺเพ เจว รูปา เอตรหิ จ สพฺเพ เต รูปา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา อนุตฺตเรสุ วิโมกฺเขสุ ปิหํ อุปฏฺาเปติ – ‘กุทาสฺสุ [กทาสฺสุ (สฺยา. กํ. ปี.)] นามาหํ ตทายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามิ ยทริยา เอตรหิ อายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’ติ อิติ อนุตฺตเรสุ วิโมกฺเขสุ ปิหํ อุปฏฺาปยโต อุปฺปชฺชติ ปิหปจฺจยา โทมนสฺสํ. ยํ เอวรูปํ โทมนสฺสํ อิทํ วุจฺจติ เนกฺขมฺมสิตํ โทมนสฺสํ. สทฺทานํตฺเวว…เป… คนฺธานํตฺเวว… รสานํตฺเวว… โผฏฺพฺพานํตฺเวว… ธมฺมานํตฺเวว อนิจฺจตํ วิทิตฺวา วิปริณามวิราคนิโรธํ, ‘ปุพฺเพ เจว ธมฺมา เอตรหิ จ สพฺเพ เต ธมฺมา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา’ติ ¶ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา อนุตฺตเรสุ วิโมกฺเขสุ ปิหํ อุปฏฺาเปติ – ‘กุทาสฺสุ นามาหํ ตทายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามิ ยทริยา เอตรหิ อายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’ติ อิติ อนุตฺตเรสุ วิโมกฺเขสุ ปิหํ อุปฏฺาปยโต อุปฺปชฺชติ ปิหปจฺจยา โทมนสฺสํ. ยํ เอวรูปํ โทมนสฺสํ อิทํ วุจฺจติ เนกฺขมฺมสิตํ โทมนสฺสํ. อิมานิ ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โทมนสฺสานิ.
๓๐๘. ‘‘ตตฺถ กตมา ฉ เคหสิตา อุเปกฺขา? จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา อุปฺปชฺชติ อุเปกฺขา พาลสฺส มูฬฺหสฺส ( ) [(มนฺทสฺส) (ก.)] ปุถุชฺชนสฺส อโนธิชินสฺส อวิปากชินสฺส อนาทีนวทสฺสาวิโน อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส. ยา เอวรูปา อุเปกฺขา, รูปํ สา นาติวตฺตติ. ตสฺมา สา [สายํ (ก.)] อุเปกฺขา ‘เคหสิตา’ติ ¶ ¶ วุจฺจติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย อุปฺปชฺชติ อุเปกฺขา พาลสฺส มูฬฺหสฺส ปุถุชฺชนสฺส อโนธิชินสฺส อวิปากชินสฺส อนาทีนวทสฺสาวิโน อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส. ยา เอวรูปา อุเปกฺขา, ธมฺมํ สา นาติวตฺตติ. ตสฺมา สา อุเปกฺขา ‘เคหสิตา’ติ วุจฺจติ. อิมา ฉ เคหสิตา อุเปกฺขา.
‘‘ตตฺถ กตมา ฉ เนกฺขมฺมสิตา อุเปกฺขา? รูปานํตฺเวว อนิจฺจตํ วิทิตฺวา วิปริณามวิราคนิโรธํ, ‘ปุพฺเพ เจว รูปา เอตรหิ จ สพฺเพ เต รูปา ¶ อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต อุปฺปชฺชติ อุเปกฺขา. ยา เอวรูปา อุเปกฺขา, รูปํ สา อติวตฺตติ. ตสฺมา สา อุเปกฺขา ‘เนกฺขมฺมสิตา’ติ วุจฺจติ. สทฺทานํตฺเวว… คนฺธานํตฺเวว… รสานํตฺเวว… โผฏฺพฺพานํตฺเวว… ธมฺมานํตฺเวว อนิจฺจตํ วิทิตฺวา วิปริณามวิราคนิโรธํ, ‘ปุพฺเพ เจว ธมฺมา เอตรหิ จ สพฺเพ เต ธมฺมา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต อุปฺปชฺชติ อุเปกฺขา. ยา เอวรูปา อุเปกฺขา, ธมฺมํ สา อติวตฺตติ. ตสฺมา สา อุเปกฺขา ‘เนกฺขมฺมสิตา’ติ วุจฺจติ. อิมา ฉ เนกฺขมฺมสิตา อุเปกฺขา. ‘ฉตฺตึส สตฺตปทา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
๓๐๙. ‘‘ตตฺร ¶ ¶ อิทํ นิสฺสาย อิทํ ปชหถา’’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ; กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺร, ภิกฺขเว, ยานิ ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โสมนสฺสานิ ตานิ นิสฺสาย ตานิ อาคมฺม ยานิ ฉ เคหสิตานิ โสมนสฺสานิ ตานิ ปชหถ, ตานิ สมติกฺกมถ. เอวเมเตสํ ปหานํ โหติ, เอวเมเตสํ สมติกฺกโม โหติ.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยานิ ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โทมนสฺสานิ ตานิ นิสฺสาย ตานิ อาคมฺม ยานิ ฉ เคหสิตานิ โทมนสฺสานิ ตานิ ปชหถ, ตานิ สมติกฺกมถ. เอวเมเตสํ ปหานํ โหติ, เอวเมเตสํ สมติกฺกโม โหติ.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยา ฉ เนกฺขมฺมสิตา อุเปกฺขา ตา นิสฺสาย ตา อาคมฺม ยา ฉ เคหสิตา ¶ อุเปกฺขา ตา ปชหถ, ตา สมติกฺกมถ. เอวเมตาสํ ปหานํ โหติ, เอวเมตาสํ สมติกฺกโม โหติ.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยานิ ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โสมนสฺสานิ ตานิ นิสฺสาย ตานิ อาคมฺม ยานิ ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โทมนสฺสานิ ตานิ ปชหถ, ตานิ สมติกฺกมถ. เอวเมเตสํ ปหานํ โหติ, เอวเมเตสํ สมติกฺกโม โหติ.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยา ฉ เนกฺขมฺมสิตา อุเปกฺขา ตา นิสฺสาย ตา อาคมฺม ยานิ ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โสมนสฺสานิ ตานิ ปชหถ, ตานิ สมติกฺกมถ. เอวเมเตสํ ปหานํ โหติ, เอวเมเตสํ สมติกฺกโม โหติ.
๓๑๐. ‘‘อตฺถิ ¶ , ภิกฺขเว, อุเปกฺขา นานตฺตา นานตฺตสิตา, อตฺถิ อุเปกฺขา เอกตฺตา เอกตฺตสิตา. กตมา จ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขา นานตฺตา นานตฺตสิตา? อตฺถิ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขา รูเปสุ, อตฺถิ สทฺเทสุ ¶ , อตฺถิ คนฺเธสุ, อตฺถิ รเสสุ, อตฺถิ โผฏฺพฺเพสุ – อยํ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขา นานตฺตา นานตฺตสิตา. กตมา จ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขา เอกตฺตา เอกตฺตสิตา? อตฺถิ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขา อากาสานฺจายตนนิสฺสิตา, อตฺถิ วิฺาณฺจายตนนิสฺสิตา, อตฺถิ อากิฺจฺายตนนิสฺสิตา, อตฺถิ เนวสฺานาสฺายตนนิสฺสิตา – อยํ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขา เอกตฺตา เอกตฺตสิตา.
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยายํ อุเปกฺขา เอกตฺตา เอกตฺตสิตา ตํ นิสฺสาย ตํ อาคมฺม ยายํ อุเปกฺขา นานตฺตา นานตฺตสิตา ตํ ปชหถ, ตํ สมติกฺกมถ. เอวเมติสฺสา ปหานํ โหติ, เอวเมติสฺสา สมติกฺกโม โหติ.
‘‘อตมฺมยตํ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย อตมฺมยตํ อาคมฺม ยายํ อุเปกฺขา เอกตฺตา เอกตฺตสิตา ตํ ปชหถ, ตํ สมติกฺกมถ. เอวเมติสฺสา ปหานํ โหติ, เอวเมติสฺสา สมติกฺกโม โหติ. ‘ตตฺร อิทํ ¶ นิสฺสาย อิทํ ปชหถา’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
๓๑๑. ‘‘‘ตโย ¶ สติปฏฺานา ยทริโย เสวติ, ยทริโย เสวมาโน สตฺถา คณมนุสาสิตุมรหตี’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ; กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, สตฺถา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสติ อนุกมฺปโก หิเตสี อนุกมฺปํ อุปาทาย – ‘อิทํ โว หิตาย, อิทํ โว สุขายา’ติ. ตสฺส สาวกา น สุสฺสูสนฺติ, น โสตํ โอทหนฺติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ ¶ , โวกฺกมฺม จ สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ สติปฏฺานํ ยทริโย เสวติ, ยทริโย เสวมาโน สตฺถา คณมนุสาสิตุมรหติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สตฺถา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสติ อนุกมฺปโก หิเตสี อนุกมฺปํ อุปาทาย – ‘อิทํ โว หิตาย, อิทํ โว สุขายา’ติ. ตสฺส เอกจฺเจ สาวกา น สุสฺสูสนฺติ, น โสตํ โอทหนฺติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, โวกฺกมฺม จ สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ; เอกจฺเจ สาวกา สุสฺสูสนฺติ, โสตํ โอทหนฺติ, อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, น จ โวกฺกมฺม สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ ¶ . ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ; น จ อตฺตมโน โหติ, น จ อตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ. อนตฺตมนตา จ อตฺตมนตา จ – ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุติยํ สติปฏฺานํ ยทริโย เสวติ, ยทริโย เสวมาโน สตฺถา คณมนุสาสิตุมรหติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สตฺถา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสติ อนุกมฺปโก หิเตสี อนุกมฺปํ อุปาทาย – ‘อิทํ โว หิตาย, อิทํ โว สุขายา’ติ. ตสฺส สาวกา สุสฺสูสนฺติ, โสตํ โอทหนฺติ, อฺาจิตฺตํ ¶ อุปฏฺเปนฺติ, น จ โวกฺกมฺม สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต อตฺตมโน เจว โหติ, อตฺตมนตฺจ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ตติยํ สติปฏฺานํ ยทริโย เสวติ, ยทริโย เสวมาโน สตฺถา คณมนุสาสิตุมรหติ. ‘ตโย ¶ สติปฏฺานา ยทริโย เสวติ, ยทริโย เสวมาโน สตฺถา คณมนุสาสิตุมรหตี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
๓๑๒. ‘‘‘โส วุจฺจติ โยคฺคาจริยานํ อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถี’ติ – อิติ โข ปเนตํ ¶ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? หตฺถิทมเกน, ภิกฺขเว, หตฺถิทมฺโม สาริโต เอกํเยว ทิสํ ธาวติ – ปุรตฺถิมํ วา ปจฺฉิมํ วา อุตฺตรํ วา ทกฺขิณํ วา. อสฺสทมเกน, ภิกฺขเว, อสฺสทมฺโม สาริโต เอกฺเว ทิสํ ธาวติ – ปุรตฺถิมํ วา ปจฺฉิมํ วา อุตฺตรํ วา ทกฺขิณํ วา. โคทมเกน, ภิกฺขเว, โคทมฺโม สาริโต เอกํเยว ทิสํ ธาวติ – ปุรตฺถิมํ วา ปจฺฉิมํ วา อุตฺตรํ วา ทกฺขิณํ วา. ตถาคเตน หิ, ภิกฺขเว, อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปุริสทมฺโม สาริโต อฏฺ ทิสา วิธาวติ. รูปี รูปานิ ปสฺสติ – อยํ เอกา ทิสา; อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ – อยํ ทุติยา ทิสา; สุภนฺตฺเวว อธิมุตฺโต โหติ – อยํ ตติยา ทิสา; สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ ¶ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – อยํ จตุตฺถี ทิสา; สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – อยํ ปฺจมี ทิสา; สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช ¶ วิหรติ – อยํ ฉฏฺี ทิสา; สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – อยํ สตฺตมี ทิสา; สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – อยํ อฏฺมี ทิสา. ตถาคเตน, ภิกฺขเว, อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปุริสทมฺโม สาริโต อิมา อฏฺ ทิสา วิธาวติ. ‘โส วุจฺจติ โยคฺคาจริยานํ อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
สฬายตนวิภงฺคสุตฺตํ นิฏฺิตํ สตฺตมํ.
๘. อุทฺเทสวิภงฺคสุตฺตํ
๓๑๓. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘อุทฺเทสวิภงฺคํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘ตถา ตถา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปปริกฺเขยฺย ยถา ยถา [ยถา ยถาสฺส (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุปปริกฺขโต พหิทฺธา จสฺส วิฺาณํ อวิกฺขิตฺตํ อวิสฏํ, อชฺฌตฺตํ อสณฺิตํ อนุปาทาย น ปริตสฺเสยฺย. พหิทฺธา, ภิกฺขเว, วิฺาเณ อวิกฺขิตฺเต อวิสเฏ สติ อชฺฌตฺตํ อสณฺิเต อนุปาทาย อปริตสฺสโต อายตึ ชาติชรามรณทุกฺขสมุทยสมฺภโว น โหตี’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.
๓๑๔. อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ, อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต, เอตทโหสิ – ‘‘อิทํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘ตถา ตถา, ภิกฺขเว ¶ , ภิกฺขุ อุปปริกฺเขยฺย ยถา ยถา อุปปริกฺขโต พหิทฺธา จสฺส วิฺาณํ อวิกฺขิตฺตํ อวิสฏํ, อชฺฌตฺตํ อสณฺิตํ อนุปาทาย น ปริตสฺเสยฺย. พหิทฺธา ¶ , ภิกฺขเว, วิฺาเณ อวิกฺขิตฺเต อวิสเฏ สติ อชฺฌตฺตํ อสณฺิเต อนุปาทาย อปริตสฺสโต อายตึ ชาติชรามรณทุกฺขสมุทยสมฺภโว น โหตี’ติ. โก นุ โข อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชยฺยา’’ติ? อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ; ปโหติ จายสฺมา มหากจฺจาโน อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. ยํนูน มยํ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน ¶ เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยามา’’ติ.
อถ ¶ โข เต ภิกฺขู เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา มหากจฺจาเนน สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจุํ –
‘‘อิทํ โข โน, อาวุโส กจฺจาน, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘ตถา ตถา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปปริกฺเขยฺย ยถา ยถา อุปปริกฺขโต พหิทฺธา จสฺส วิฺาณํ อวิกฺขิตฺตํ อวิสฏํ, อชฺฌตฺตํ อสณฺิตํ อนุปาทาย น ปริตสฺเสยฺย. พหิทฺธา, ภิกฺขเว, วิฺาเณ อวิกฺขิตฺเต อวิสเฏ สติ อชฺฌตฺตํ อสณฺิเต อนุปาทาย อปริตสฺสโต อายตึ ชาติชรามรณทุกฺขสมุทยสมฺภโว น โหตี’ติ. เตสํ โน, อาวุโส กจฺจาน, อมฺหากํ, อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต, เอตทโหสิ – ‘อิทํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ตถา ตถา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปปริกฺเขยฺย, ยถา ยถา อุปปริกฺขโต พหิทฺธา จสฺส วิฺาณํ อวิกฺขิตฺตํ อวิสฏํ อชฺฌตฺตํ อสณฺิตํ อนุปาทาย น ปริตสฺเสยฺย. พหิทฺธา, ภิกฺขเว, วิฺาเณ อวิกฺขิตฺเต ¶ อวิสเฏ สติ อชฺฌตฺตํ อสณฺิเต อนุปาทาย อปริตสฺสโต อายตึ ชาติชรามรณทุกฺขสมุทยสมฺภโว น โหตี’ติ. โก นุ โข อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ ¶ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชยฺยา’’ติ. ‘‘เตสํ โน, อาวุโส กจฺจาน, อมฺหากํ เอตทโหสิ – ‘อยํ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต, สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา มหากจฺจาโน อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. ยํนูน มยํ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยามา’ติ – วิภชตายสฺมา มหากจฺจาโน’’ติ.
๓๑๕. ‘‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺโต สารวโต อติกฺกมฺเมว มูลํ ¶ อติกฺกมฺม ขนฺธํ สาขาปลาเส สารํ ปริเยสิตพฺพํ มฺเยฺย, เอวํ สมฺปทมิทํ อายสฺมนฺตานํ สตฺถริ สมฺมุขีภูเต ตํ ภควนฺตํ อติสิตฺวา อมฺเห เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺฉิตพฺพํ มฺถ. โส หาวุโส, ภควา ชานํ ชานาติ, ปสฺสํ ปสฺสติ, จกฺขุภูโต าณภูโต ธมฺมภูโต พฺรหฺมภูโต วตฺตา ปวตฺตา อตฺถสฺส นินฺเนตา อมตสฺส ทาตา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต. โส เจว ปเนตสฺส กาโล อโหสิ ยํ ภควนฺตํเยว เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ; ยถา โว ภควา พฺยากเรยฺย ตถา นํ ธาเรยฺยาถา’’’ติ. ‘อทฺธาวุโส กจฺจาน, ภควา ¶ ชานํ ชานาติ, ปสฺสํ ปสฺสติ, จกฺขุภูโต าณภูโต ธมฺมภูโต พฺรหฺมภูโต วตฺตา ปวตฺตา อตฺถสฺส นินฺเนตา อมตสฺส ทาตา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต. โส เจว ปเนตสฺส กาโล อโหสิ ยํ ภควนฺตํเยว เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาม; ยถา โน ภควา พฺยากเรยฺย ¶ ตถา นํ ธาเรยฺยาม. อปิ จายสฺมา มหากจฺจาโน สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา มหากจฺจาโน อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. วิภชตายสฺมา มหากจฺจาโน อครุํ กริตฺวา’ติ. ‘เตน หาวุโส, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’ติ. ‘เอวมาวุโส’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหากจฺจานสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา มหากจฺจาโน เอตทโวจ –
‘ยํ โข โน, อาวุโส, ภควา ¶ สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ตถา ตถา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ¶ อุปปริกฺเขยฺย, ยถา ยถา อุปปริกฺขโต พหิทฺธา จสฺส วิฺาณํ อวิกฺขิตฺตํ อวิสฏํ อชฺฌตฺตํ อสณฺิตํ อนุปาทาย น ปริตสฺเสยฺย, พหิทฺธา, ภิกฺขเว, วิฺาเณ อวิกฺขิตฺเต อวิสเฏ สติ อชฺฌตฺตํ อสณฺิเต อนุปาทาย อปริตสฺสโต อายตึ ชาติชรามรณทุกฺขสมุทยสมฺภโว น โหตี’ติ. อิมสฺส โข อหํ, อาวุโส, ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ.
๓๑๖. ‘‘กถฺจาวุโส, พหิทฺธา วิฺาณํ วิกฺขิตฺตํ วิสฏนฺติ วุจฺจติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา รูปนิมิตฺตานุสาริ วิฺาณํ โหติ รูปนิมิตฺตสฺสาทคธิตํ […คถิตํ (สี. ปี.)] รูปนิมิตฺตสฺสาทวินิพนฺธํ […วินิพนฺธํ (สี. ปี.)] รูปนิมิตฺตสฺสาทสํโยชนสํยุตฺตํ พหิทฺธา วิฺาณํ วิกฺขิตฺตํ วิสฏนฺติ วุจฺจติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย ธมฺมนิมิตฺตานุสารี วิฺาณํ โหติ; ธมฺมนิมิตฺตสฺสาทคธิตํ ธมฺมนิมิตฺตสฺสาทวินิพนฺธํ ธมฺมนิมิตฺตสฺสาทสํโยชนสํยุตฺตํ พหิทฺธา วิฺาณํ วิกฺขิตฺตํ วิสฏนฺติ วุจฺจติ. เอวํ โข อาวุโส, พหิทฺธา วิฺาณํ วิกฺขิตฺตํ วิสฏนฺติ วุจฺจติ.
๓๑๗. ‘‘กถฺจาวุโส, พหิทฺธา วิฺาณํ อวิกฺขิตฺตํ อวิสฏนฺติ วุจฺจติ ¶ ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น รูปนิมิตฺตานุสาริ วิฺาณํ โหติ รูปนิมิตฺตสฺสาทคธิตํ น ¶ รูปนิมิตฺตสฺสาทวินิพนฺธํ น รูปนิมิตฺตสฺสาทสํโยชนสํยุตฺตํ พหิทฺธา วิฺาณํ อวิกฺขิตฺตํ อวิสฏนฺติ วุจฺจติ ¶ . โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย น ธมฺมนิมิตฺตานุสารี วิฺาณํ โหติ น ธมฺมนิมิตฺตสฺสาทคธิตํ น ธมฺมนิมิตฺตสฺสาทวินิพนฺธํ น ธมฺมนิมิตฺตสฺสาทสํโยชนสํยุตฺตํ พหิทฺธา วิฺาณํ อวิกฺขิตฺตํ อวิสฏนฺติ วุจฺจติ. เอวํ โข, อาวุโส, พหิทฺธา วิฺาณํ อวิกฺขิตฺตํ อวิสฏนฺติ วุจฺจติ.
๓๑๘. ‘‘กถฺจาวุโส, อชฺฌตฺตํ [อชฺฌตฺตํ จิตฺตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สณฺิตนฺติ วุจฺจติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส วิเวกชปีติสุขานุสาริ วิฺาณํ โหติ วิเวกชปีติสุขสฺสาทคธิตํ วิเวกชปีติสุขสฺสาทวินิพนฺธํ ¶ วิเวกชปีติสุขสฺสาทสํโยชนสํยุตฺตํ อชฺฌตฺตํ จิตฺตํ สณฺิตนฺติ วุจฺจติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส สมาธิชปีติสุขานุสาริ วิฺาณํ โหติ สมาธิชปีติสุขสฺสาทคธิตํ สมาธิชปีติสุขสฺสาทวินิพนฺธํ สมาธิชปีติสุขสฺสาทสํโยชนสํยุตฺตํ อชฺฌตฺตํ จิตฺตํ สณฺิตนฺติ วุจฺจติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก ¶ จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส อุเปกฺขานุสาริ วิฺาณํ โหติ อุเปกฺขาสุขสฺสาทคธิตํ อุเปกฺขาสุขสฺสาทวินิพนฺธํ อุเปกฺขาสุขสฺสาทสํโยชนสํยุตฺตํ อชฺฌตฺตํ จิตฺตํ สณฺิตนฺติ วุจฺจติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส อทุกฺขมสุขานุสาริ วิฺาณํ โหติ อทุกฺขมสุขสฺสาทคธิตํ อทุกฺขมสุขสฺสาทวินิพนฺธํ ¶ อทุกฺขมสุขสฺสาทสํโยชนสํยุตฺตํ อชฺฌตฺตํ จิตฺตํ สณฺิตนฺติ วุจฺจติ. เอวํ โข, อาวุโส, อชฺฌตฺตํ [อชฺฌตฺตํ จิตฺตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สณฺิตนฺติ วุจฺจติ.
๓๑๙. ‘‘กถฺจาวุโส ¶ , อชฺฌตฺตํ [อชฺฌตฺตํ จิตฺตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อสณฺิตนฺติ วุจฺจติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส น วิเวกชปีติสุขานุสาริ วิฺาณํ โหติ น วิเวกชปีติสุขสฺสาทคธิตํ น วิเวกชปีติสุขสฺสาทวินิพนฺธํ น วิเวกชปีติสุขสฺสาทสํโยชนสํยุตฺตํ อชฺฌตฺตํ จิตฺตํ อสณฺิตนฺติ วุจฺจติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส น สมาธิชปีติสุขานุสาริ วิฺาณํ โหติ น สมาธิชปีติสุขสฺสาทคธิตํ น สมาธิชปีติสุขสฺสาทวินิพนฺธํ น สมาธิชปีติสุขสฺสาทสํโยชนสํยุตฺตํ อชฺฌตฺตํ จิตฺตํ อสณฺิตนฺติ วุจฺจติ ¶ .
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส น อุเปกฺขานุสาริ วิฺาณํ โหติ น อุเปกฺขาสุขสฺสาทคธิตํ น อุเปกฺขาสุขสฺสาทวินิพนฺธํ น อุเปกฺขาสุขสฺสาทสํโยชนสํยุตฺตํ อชฺฌตฺตํ จิตฺตํ อสณฺิตนฺติ วุจฺจติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส น อทุกฺขมสุขานุสาริ วิฺาณํ โหติ น อทุกฺขมสุขสฺสาทคธิตํ น อทุกฺขมสุขสฺสาทวินิพนฺธํ น อทุกฺขมสุขสฺสาทสํโยชนสํยุตฺตํ อชฺฌตฺตํ จิตฺตํ อสณฺิตนฺติ วุจฺจติ. เอวํ โข, อาวุโส, อชฺฌตฺตํ [อชฺฌตฺตํ จิตฺตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อสณฺิตนฺติ วุจฺจติ.
๓๒๐. ‘‘กถฺจาวุโส, อนุปาทา ปริตสฺสนา โหติ? อิธาวุโส, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน อริยานํ อทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส อโกวิโท อริยธมฺเม อวินีโต สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส ¶ อโกวิโท สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ อตฺตนิ วา รูปํ รูปสฺมึ วา อตฺตานํ. ตสฺส ตํ รูปํ วิปริณมติ, อฺถา โหติ. ตสฺส รูปวิปริณามฺถาภาวา รูปวิปริณามานุปริวตฺติ วิฺาณํ โหติ. ตสฺส รูปวิปริณามานุปริวตฺตชา ปริตสฺสนา ธมฺมสมุปฺปาทา จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺติ. เจตโส ปริยาทานา อุตฺตาสวา จ โหติ วิฆาตวา จ อเปกฺขวา จ อนุปาทาย จ ปริตสฺสติ. เวทนํ ¶ …เป… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ ¶ อตฺตโต สมนุปสฺสติ วิฺาณวนฺตํ วา อตฺตานํ อตฺตนิ วา วิฺาณํ วิฺาณสฺมึ วา อตฺตานํ. ตสฺส ตํ วิฺาณํ วิปริณมติ, อฺถา โหติ. ตสฺส วิฺาณวิปริณามฺถาภาวา วิฺาณวิปริณามานุปริวตฺติ วิฺาณํ โหติ. ตสฺส วิฺาณวิปริณามานุปริวตฺตชา ปริตสฺสนา ธมฺมสมุปฺปาทา จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺติ. เจตโส ปริยาทานา อุตฺตาสวา จ โหติ วิฆาตวา จ อเปกฺขวา จ อนุปาทาย จ ปริตสฺสติ. เอวํ โข, อาวุโส, อนุปาทา ปริตสฺสนา โหติ.
๓๒๑. ‘‘กถฺจาวุโส, อนุปาทานา อปริตสฺสนา โหติ? อิธาวุโส, สุตวา อริยสาวโก อริยานํ ทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส โกวิโท อริยธมฺเม ¶ สุวินีโต สปฺปุริสานํ ทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส โกวิโท สปฺปุริสธมฺเม สุวินีโต น รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ น รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ น อตฺตนิ วา รูปํ น รูปสฺมึ วา อตฺตานํ. ตสฺส ตํ รูปํ วิปริณมติ, อฺถา โหติ. ตสฺส รูปวิปริณามฺถาภาวา น จ รูปวิปริณามานุปริวตฺติ วิฺาณํ โหติ. ตสฺส น รูปวิปริณามานุปริวตฺตชา ปริตสฺสนา ธมฺมสมุปฺปาทา จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺติ. เจตโส ปริยาทานา น เจวุตฺตาสวา [น จ อุตฺตาสวา (สี.)] โหติ น จ วิฆาตวา น จ อเปกฺขวา อนุปาทาย จ น ปริตสฺสติ. น เวทนํ… น สฺํ… น สงฺขาเร… น วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ น วิฺาณวนฺตํ วา อตฺตานํ น อตฺตนิ วา วิฺาณํ น วิฺาณสฺมึ วา ¶ อตฺตานํ. ตสฺส ตํ วิฺาณํ วิปริณมติ, อฺถา โหติ. ตสฺส วิฺาณวิปริณามฺถาภาวา น จ วิฺาณวิปริณามานุปริวตฺติ วิฺาณํ โหติ. ตสฺส น วิฺาณวิปริณามานุปริวตฺตชา ปริตสฺสนา ธมฺมสมุปฺปาทา จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺติ. เจตโส ปริยาทานา น เจวุตฺตาสวา โหติ น จ วิฆาตวา น จ อเปกฺขวา, อนุปาทาย จ น ปริตสฺสติ. เอวํ โข, อาวุโส, อนุปาทา อปริตสฺสนา โหติ.
‘‘ยํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา ¶ อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘ตถา ตถา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปปริกฺเขยฺย ยถา ยถา อุปปริกฺขโต พหิทฺธา จสฺส วิฺาณํ อวิกฺขิตฺตํ อวิสฏํ, อชฺฌตฺตํ อสณฺิตํ อนุปาทาย น ปริตสฺเสยฺย. พหิทฺธา, ภิกฺขเว, วิฺาเณ อวิกฺขิตฺเต อวิสเฏ สติ อชฺฌตฺตํ อสณฺิเต อนุปาทาย อปริตสฺสโต อายตึ ชาติชรามรณทุกฺขสมุทยสมฺภโว น โหตี’ติ. อิมสฺส โข อหํ, อาวุโส, ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ ¶ อาชานามิ. อากงฺขมานา จ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ภควนฺตํเยว อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ; ยถา โว ภควา พฺยากโรติ ตถา นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ.
๓๒๒. อถ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหากจฺจานสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ¶ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –
‘‘ยํ ¶ โข โน, ภนฺเต, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘ตถา ตถา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปปริกฺเขยฺย ยถา ยถา อุปปริกฺขโต พหิทฺธา จสฺส วิฺาณํ อวิกฺขิตฺตํ อวิสฏํ, อชฺฌตฺตํ อสณฺิตํ อนุปาทาย น ปริตสฺเสยฺย. พหิทฺธา, ภิกฺขเว, วิฺาเณ อวิกฺขิตฺเต อวิสเฏ สติ อชฺฌตฺตํ อสณฺิเต อนุปาทาย อปริตสฺสโต อายตึ ชาติชรามรณทุกฺขสมุทยสมฺภโว น โหตี’’’ติ.
‘‘เตสํ โน, ภนฺเต, อมฺหากํ, อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต, เอตทโหสิ – ‘อิทํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ตถา ตถา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปปริกฺเขยฺย, ยถา ยถา อุปปริกฺขโต พหิทฺธา จสฺส วิฺาณํ อวิกฺขิตฺตํ อวิสฏํ, อชฺฌตฺตํ อสณฺิตํ อนุปาทาย น ปริตสฺเสยฺย. พหิทฺธา, ภิกฺขเว, วิฺาเณ อวิกฺขิตฺเต อวิสเฏ สติ อชฺฌตฺตํ อสณฺิเต อนุปาทาย อปริตสฺสโต อายตึ ชาติชรามรณทุกฺขสมุทยสมฺภโว น โหตีติ. โก นุ โข อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชยฺยา’ติ? เตสํ โน, ภนฺเต, อมฺหากํ เอตทโหสิ – ‘อยํ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน ¶ สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา มหากจฺจาโน ¶ อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. ยํนูน มยํ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยามา’ติ.
‘‘อถ โข มยํ, ภนฺเต, เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิมฺห; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺฉิมฺห. เตสํ โน, ภนฺเต, อายสฺมตา มหากจฺจาเนน อิเมหิ อากาเรหิ อิเมหิ ปเทหิ อิเมหิ พฺยฺชเนหิ อตฺโถ วิภตฺโต’’ติ.
‘‘ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, มหากจฺจาโน; มหาปฺโ, ภิกฺขเว, มหากจฺจาโน. มํ เจปิ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ, อหมฺปิ เอวเมวํ พฺยากเรยฺยํ ¶ ยถา ตํ มหากจฺจาเนน พฺยากตํ. เอโส เจเวตสฺส [เอโส เจตสฺส (สี. ปี.), เอโส เจว ตสฺส (สฺยา. กํ.), เอโสเยว ตสฺส (ก.)] อตฺโถ. เอวฺจ นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
อุทฺเทสวิภงฺคสุตฺตํ นิฏฺิตํ อฏฺมํ.
๙. อรณวิภงฺคสุตฺตํ
๓๒๓. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘อรณวิภงฺคํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘น กามสุขมนุยฺุเชยฺย หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, น จ อตฺตกิลมถานุโยคมนุยฺุเชยฺย ทุกฺขํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ. เอเต โข, ภิกฺขเว [เอเต โข (สี.), เอเต เต (สฺยา. กํ. ปี.)], อุโภ อนฺเต อนุปคมฺม มชฺฌิมา ปฏิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา, จกฺขุกรณี าณกรณี อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ. อุสฺสาทนฺจ ชฺา, อปสาทนฺจ ชฺา; อุสฺสาทนฺจ ตฺวา อปสาทนฺจ ตฺวา เนวุสฺสาเทยฺย, น อปสาเทยฺย [นาปสาเทยฺย (สี.)], ธมฺมเมว เทเสยฺย. สุขวินิจฺฉยํ ชฺา; สุขวินิจฺฉยํ ตฺวา อชฺฌตฺตํ สุขมนุยฺุเชยฺย. รโหวาทํ น ภาเสยฺย, สมฺมุขา น ขีณํ [นาติขีณํ (สฺยา. กํ. ก.)] ภเณ. อตรมาโนว ภาเสยฺย, โน ตรมาโน. ชนปทนิรุตฺตึ นาภินิเวเสยฺย, สมฺํ นาติธาเวยฺยาติ – อยมุทฺเทโส อรณวิภงฺคสฺส.
๓๒๔. ‘‘‘น ¶ กามสุขมนุยฺุเชยฺย หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, น จ อตฺตกิลมถานุโยคมนุยฺุเชยฺย ทุกฺขํ อนริยํ อนตฺถสํหิต’นฺติ ¶ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ; กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? โย กามปฏิสนฺธิสุขิโน โสมนสฺสานุโยโค หีโน คมฺโม โปถุชฺชนิโก อนริโย อนตฺถสํหิโต, สทุกฺโข เอโส ธมฺโม สอุปฆาโต สอุปายาโส สปริฬาโห; มิจฺฉาปฏิปทา. โย กามปฏิสนฺธิสุขิโน โสมนสฺสานุโยคํ อนนุโยโค ¶ หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม อนุปฆาโต อนุปายาโส อปริฬาโห; สมฺมาปฏิปทา. โย อตฺตกิลมถานุโยโค ทุกฺโข อนริโย อนตฺถสํหิโต, สทุกฺโข เอโส ธมฺโม สอุปฆาโต สอุปายาโส สปริฬาโห; มิจฺฉาปฏิปทา. โย อตฺตกิลมถานุโยคํ อนนุโยโค ทุกฺขํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม อนุปฆาโต ¶ อนุปายาโส อปริฬาโห; สมฺมาปฏิปทา. ‘น กามสุขมนุยฺุเชยฺย หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, น จ อตฺตกิลมถานุโยคํ อนุยฺุเชยฺย ทุกฺขํ อนริยํ อนตฺถสํหิต’นฺติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
๓๒๕. ‘‘‘เอเต โข อุโภ อนฺเต อนุปคมฺม มชฺฌิมา ปฏิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา, จกฺขุกรณี าณกรณี อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตตี’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ ¶ , สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิ. ‘เอเต โข อุโภ อนฺเต อนุปคมฺม มชฺฌิมา ปฏิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา, จกฺขุกรณี าณกรณี อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตตี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
๓๒๖. ‘‘‘อุสฺสาทนฺจ ชฺา, อปสาทนฺจ ชฺา; อุสฺสาทนฺจ ตฺวา อปสาทนฺจ ตฺวา เนวุสฺสาเทยฺย, น อปสาเทยฺย, ธมฺมเมว เทเสยฺยา’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? กถฺจ, ภิกฺขเว, อุสฺสาทนา จ โหติ อปสาทนา จ, โน จ ธมฺมเทสนา? ‘เย กามปฏิสนฺธิสุขิโน โสมนสฺสานุโยคํ อนุยุตฺตา หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, สพฺเพ เต สทุกฺขา สอุปฆาตา สอุปายาสา สปริฬาหา มิจฺฉาปฏิปนฺนา’ติ – อิติ วทํ [อิติ ปรํ (ก.)] อิตฺเถเก อปสาเทติ.
‘‘‘เย ¶ กามปฏิสนฺธิสุขิโน โสมนสฺสานุโยคํ อนนุยุตฺตา หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, สพฺเพ เต อทุกฺขา อนุปฆาตา อนุปายาสา อปริฬาหา สมฺมาปฏิปนฺนา’ติ – อิติ วทํ อิตฺเถเก อุสฺสาเทติ.
‘‘‘เย อตฺตกิลมถานุโยคํ อนุยุตฺตา ทุกฺขํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, สพฺเพ เต สทุกฺขา ¶ สอุปฆาตา สอุปายาสา สปริฬาหา มิจฺฉาปฏิปนฺนา’ติ – อิติ วทํ อิตฺเถเก อปสาเทติ.
‘‘‘เย อตฺตกิลมถานุโยคํ อนนุยุตฺตา ทุกฺขํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, สพฺเพ เต อทุกฺขา ¶ อนุปฆาตา อนุปายาสา อปริฬาหา สมฺมาปฏิปนฺนา’ติ ¶ – อิติ วทํ อิตฺเถเก อุสฺสาเทติ.
‘‘‘เยสํ เกสฺจิ ภวสํโยชนํ อปฺปหีนํ, สพฺเพ เต สทุกฺขา สอุปฆาตา สอุปายาสา สปริฬาหา มิจฺฉาปฏิปนฺนา’ติ – อิติ วทํ อิตฺเถเก อปสาเทติ.
‘‘‘เยสํ เกสฺจิ ภวสํโยชนํ ปหีนํ, สพฺเพ เต อทุกฺขา อนุปฆาตา อนุปายาสา อปริฬาหา สมฺมาปฏิปนฺนา’ติ – อิติ วทํ อิตฺเถเก อุสฺสาเทติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อุสฺสาทนา จ โหติ อปสาทนา จ, โน จ ธมฺมเทสนา.
๓๒๗. ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, เนวุสฺสาทนา โหติ น อปสาทนา, ธมฺมเทสนา จ [ธมฺมเทสนาว (สฺยา. กํ.)]? ‘เย กามปฏิสนฺธิสุขิโน โสมนสฺสานุโยคํ อนุยุตฺตา หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, สพฺเพ เต สทุกฺขา สอุปฆาตา สอุปายาสา สปริฬาหา มิจฺฉาปฏิปนฺนา’ติ – น เอวมาห. ‘อนุโยโค จ โข, สทุกฺโข เอโส ธมฺโม สอุปฆาโต สอุปายาโส สปริฬาโห; มิจฺฉาปฏิปทา’ติ – อิติ วทํ ธมฺมเมว เทเสติ.
‘‘‘เย กามปฏิสนฺธิสุขิโน โสมนสฺสานุโยคํ อนนุยุตฺตา หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, สพฺเพ เต อทุกฺขา อนุปฆาตา อนุปายาสา อปริฬาหา สมฺมาปฏิปนฺนา’ติ – น เอวมาห. ‘อนนุโยโค จ โข, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม อนุปฆาโต อนุปายาโส อปริฬาโห; สมฺมาปฏิปทา’ติ – อิติ วทํ ธมฺมเมว เทเสติ.
‘‘‘เย ¶ อตฺตกิลมถานุโยคํ อนุยุตฺตา ทุกฺขํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, สพฺเพ เต สทุกฺขา สอุปฆาตา สอุปายาสา สปริฬาหา มิจฺฉาปฏิปนฺนา’ติ – น เอวมาห. ‘อนุโยโค จ โข ¶ , สทุกฺโข เอโส ธมฺโม สอุปฆาโต สอุปายาโส สปริฬาโห; มิจฺฉาปฏิปทา’ติ – อิติ วทํ ธมฺมเมว เทเสติ.
‘‘‘เย อตฺตกิลมถานุโยคํ อนนุยุตฺตา ทุกฺขํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, สพฺเพ เต อทุกฺขา อนุปฆาตา อนุปายาสา อปริฬาหา สมฺมาปฏิปนฺนา’ติ – น เอวมาห. ‘อนนุโยโค จ โข, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม อนุปฆาโต อนุปายาโส อปริฬาโห; สมฺมาปฏิปทา’ติ – อิติ วทํ ธมฺมเมว เทเสติ.
‘‘‘เยสํ ¶ เกสฺจิ ภวสํโยชนํ อปฺปหีนํ, สพฺเพ เต สทุกฺขา สอุปฆาตา สอุปายาสา สปริฬาหา มิจฺฉาปฏิปนฺนา’ติ – น เอวมาห ¶ . ‘ภวสํโยชเน จ โข อปฺปหีเน ภโวปิ อปฺปหีโน โหตี’ติ – อิติ วทํ ธมฺมเมว เทเสติ.
‘‘‘เยสํ เกสฺจิ ภวสํโยชนํ ปหีนํ, สพฺเพ เต อทุกฺขา อนุปฆาตา อนุปายาสา อปริฬาหา สมฺมาปฏิปนฺนา’ติ – น เอวมาห. ‘ภวสํโยชเน จ โข ปหีเน ภโวปิ ปหีโน โหตี’ติ – อิติ วทํ ธมฺมเมว เทเสติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, เนวุสฺสาทนา โหติ น อปสาทนา, ธมฺมเทสนา จ. ‘อุสฺสาทนฺจ ชฺา, อปสาทนฺจ ชฺา; อุสฺสาทนฺจ ตฺวา อปสาทนฺจ ตฺวา เนวุสฺสาเทยฺย, น อปสาเทยฺย, ธมฺมเมว เทเสยฺยา’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
๓๒๘. ‘‘‘สุขวินิจฺฉยํ ชฺา; สุขวินิจฺฉยํ ตฺวา อชฺฌตฺตํ สุขมนุยฺุเชยฺยา’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ปฺจิเม, ภิกฺขเว, กามคุณา. กตเม ปฺจ? จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, โสตวิฺเยฺยา ¶ สทฺทา… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา – อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ กามคุณา. ยํ โข, ภิกฺขเว, อิเม ปฺจ กามคุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ อิทํ วุจฺจติ กามสุขํ มีฬฺหสุขํ ปุถุชฺชนสุขํ อนริยสุขํ. ‘น อาเสวิตพฺพํ, น ภาเวตพฺพํ, น พหุลีกาตพฺพํ, ภายิตพฺพํ เอตสฺส สุขสฺสา’ติ – วทามิ. อิธ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ…เป… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ วุจฺจติ เนกฺขมฺมสุขํ ปวิเวกสุขํ อุปสมสุขํ สมฺโพธิสุขํ. ‘อาเสวิตพฺพํ, ภาเวตพฺพํ, พหุลีกาตพฺพํ, น ภายิตพฺพํ เอตสฺส สุขสฺสา’ติ – วทามิ ¶ . ‘สุขวินิจฺฉยํ ชฺา ¶ ; สุขวินิจฺฉยํ ตฺวา อชฺฌตฺตํ สุขมนุยฺุเชยฺยา’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
๓๒๙. ‘‘‘รโหวาทํ น ภาเสยฺย, สมฺมุขา น ขีณํ ภเณ’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺร, ภิกฺขเว, ยํ ชฺา รโหวาทํ อภูตํ อตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ สสกฺกํ [สมฺปตฺตํ (ก.)] ตํ รโหวาทํ น ภาเสยฺย. ยมฺปิ ชฺา รโหวาทํ ภูตํ ตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ ตสฺสปิ สิกฺเขยฺย อวจนาย. ยฺจ โข ชฺา รโหวาทํ ¶ ภูตํ ตจฺฉํ อตฺถสํหิตํ ตตฺร กาลฺู อสฺส ตสฺส รโหวาทสฺส วจนาย. ตตฺร, ภิกฺขเว, ยํ ชฺา สมฺมุขา ขีณวาทํ อภูตํ อตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ สสกฺกํ ตํ สมฺมุขา ขีณวาทํ น ภาเสยฺย. ยมฺปิ ชฺา สมฺมุขา ขีณวาทํ ภูตํ ตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ ตสฺสปิ สิกฺเขยฺย อวจนาย. ยฺจ โข ชฺา สมฺมุขา ขีณวาทํ ภูตํ ตจฺฉํ อตฺถสํหิตํ ตตฺร กาลฺู อสฺส ตสฺส สมฺมุขา ขีณวาทสฺส วจนาย. ‘รโหวาทํ น ภาเสยฺย, สมฺมุขา น ขีณํ ภเณ’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
๓๓๐. ‘‘‘อตรมาโนว ภาเสยฺย โน ตรมาโน’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺร, ภิกฺขเว, ตรมานสฺส ภาสโต กาโยปิ กิลมติ, จิตฺตมฺปิ อุปหฺติ [อูหฺติ (สี.)], สโรปิ อุปหฺติ [อูหฺติ (สี.)], กณฺโปิ อาตุรียติ, อวิสฏฺมฺปิ โหติ อวิฺเยฺยํ ตรมานสฺส ภาสิตํ. ตตฺร, ภิกฺขเว, อตรมานสฺส ภาสโต กาโยปิ น กิลมติ, จิตฺตมฺปิ น อุปหฺติ, สโรปิ น อุปหฺติ, กณฺโปิ น อาตุรียติ, วิสฏฺมฺปิ โหติ วิฺเยฺยํ อตรมานสฺส ภาสิตํ. ‘อตรมาโนว ภาเสยฺย, โน ตรมาโน’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
๓๓๑. ‘‘‘ชนปทนิรุตฺตึ ¶ นาภินิเวเสยฺย, สมฺํ นาติธาเวยฺยา’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? กถฺจ, ภิกฺขเว, ชนปทนิรุตฺติยา จ อภินิเวโส โหติ สมฺาย จ อติสาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ตเทเวกจฺเจสุ ชนปเทสุ ‘ปาตี’ติ สฺชานนฺติ, ‘ปตฺต’นฺติ ¶ สฺชานนฺติ ¶ , ‘วิตฺต’นฺติ [วิฏฺนฺติ (สฺยา. กํ.)] สฺชานนฺติ, ‘สราว’นฺติ สฺชานนฺติ ‘ธาโรป’นฺติ [หโรสนฺติ (สฺยา. กํ.)] สฺชานนฺติ, ‘โปณ’นฺติ สฺชานนฺติ, ‘ปิสีลว’นฺติ [ปิสีลนฺติ (สี. ปี.), ปิปิลนฺติ (สฺยา. กํ.)] สฺชานนฺติ. อิติ ยถา ยถา นํ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ สฺชานนฺติ ตถา ตถา ถามสา ปรามาสา [ปรามสฺส (สี.)] อภินิวิสฺส โวหรติ – ‘อิทเมว สจฺจํ ¶ , โมฆมฺ’นฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ชนปทนิรุตฺติยา จ อภินิเวโส โหติ สมฺาย จ อติสาโร.
๓๓๒. ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ชนปทนิรุตฺติยา จ อนภินิเวโส โหติ สมฺาย จ อนติสาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ตเทเวกจฺเจสุ ชนปเทสุ ‘ปาตี’ติ สฺชานนฺติ, ‘ปตฺต’นฺติ สฺชานนฺติ, ‘วิตฺต’นฺติ สฺชานนฺติ, ‘สราว’นฺติ สฺชานนฺติ, ‘ธาโรป’นฺติ สฺชานนฺติ, ‘โปณ’นฺติ สฺชานนฺติ, ‘ปิสีลว’นฺติ สฺชานนฺติ. อิติ ยถา ยถา นํ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ สฺชานนฺติ ‘อิทํ กิร เม [อิทํ กิร เต จ (ก.)] อายสฺมนฺโต สนฺธาย โวหรนฺตี’ติ ตถา ตถา โวหรติ อปรามสํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ชนปทนิรุตฺติยา จ อนภินิเวโส โหติ, สมฺาย จ อนติสาโร. ‘ชนปทนิรุตฺตึ นาภินิเวเสยฺย สมฺํ นาติธาเวยฺยา’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
๓๓๓. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, โย กามปฏิสนฺธิสุขิโน โสมนสฺสานุโยโค หีโน คมฺโม โปถุชฺชนิโก อนริโย อนตฺถสํหิโต, สทุกฺโข เอโส ธมฺโม สอุปฆาโต สอุปายาโส สปริฬาโห; มิจฺฉาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ¶ ธมฺโม สรโณ. ตตฺร, ภิกฺขเว, โย กามปฏิสนฺธิสุขิโน โสมนสฺสานุโยคํ อนนุโยโค หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม อนุปฆาโต อนุปายาโส อปริฬาโห; สมฺมาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม อรโณ.
๓๓๔. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, โย อตฺตกิลมถานุโยโค ทุกฺโข อนริโย อนตฺถสํหิโต, สทุกฺโข เอโส ธมฺโม สอุปฆาโต สอุปายาโส ¶ สปริฬาโห; มิจฺฉาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม สรโณ. ตตฺร, ภิกฺขเว, โย อตฺตกิลมถานุโยคํ อนนุโยโค ทุกฺขํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม อนุปฆาโต อนุปายาโส อปริฬาโห; สมฺมาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม อรโณ.
๓๓๕. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยายํ มชฺฌิมา ปฏิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา, จกฺขุกรณี าณกรณี อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม อนุปฆาโต อนุปายาโส อปริฬาโห; สมฺมาปฏิปทา ¶ . ตสฺมา เอโส ธมฺโม อรโณ.
๓๓๖. ‘‘ตตฺร ¶ , ภิกฺขเว, ยายํ อุสฺสาทนา จ อปสาทนา จ โน จ ธมฺมเทสนา, สทุกฺโข เอโส ธมฺโม สอุปฆาโต สอุปายาโส สปริฬาโห; มิจฺฉาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม สรโณ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ยายํ เนวุสฺสาทนา จ น อปสาทนา จ ธมฺมเทสนา จ, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม อนุปฆาโต อนุปายาโส อปริฬาโห; สมฺมาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม อรโณ.
๓๓๗. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ กามสุขํ มีฬฺหสุขํ โปถุชฺชนสุขํ อนริยสุขํ ¶ , สทุกฺโข เอโส ธมฺโม สอุปฆาโต สอุปายาโส สปริฬาโห; มิจฺฉาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม สรโณ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ เนกฺขมฺมสุขํ ปวิเวกสุขํ อุปสมสุขํ สมฺโพธิสุขํ, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม อนุปฆาโต อนุปายาโส อปริฬาโห; สมฺมาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม อรโณ.
๓๓๘. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ รโหวาโท อภูโต อตจฺโฉ อนตฺถสํหิโต, สทุกฺโข เอโส ธมฺโม สอุปฆาโต สอุปายาโส สปริฬาโห; มิจฺฉาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม สรโณ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ รโหวาโท ภูโต ตจฺโฉ อนตฺถสํหิโต, สทุกฺโข เอโส ธมฺโม สอุปฆาโต สอุปายาโส สปริฬาโห; มิจฺฉาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม สรโณ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ รโหวาโท ภูโต ตจฺโฉ อตฺถสํหิโต, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม อนุปฆาโต อนุปายาโส อปริฬาโห; สมฺมาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม อรโณ.
๓๓๙. ‘‘ตตฺร ¶ , ภิกฺขเว, ยฺวายํ สมฺมุขา ขีณวาโท อภูโต อตจฺโฉ อนตฺถสํหิโต, สทุกฺโข เอโส ธมฺโม สอุปฆาโต สอุปายาโส สปริฬาโห; มิจฺฉาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม สรโณ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ สมฺมุขา ขีณวาโท ภูโต ตจฺโฉ อนตฺถสํหิโต, สทุกฺโข เอโส ธมฺโม สอุปฆาโต สอุปายาโส สปริฬาโห; มิจฺฉาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม สรโณ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ สมฺมุขา ขีณวาโท ¶ ภูโต ตจฺโฉ อตฺถสํหิโต, อทุกฺโข เอโส ¶ ธมฺโม อนุปฆาโต อนุปายาโส อปริฬาโห; สมฺมาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม อรโณ.
๓๔๐. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ ตรมานสฺส ภาสิตํ, สทุกฺโข เอโส ธมฺโม สอุปฆาโต สอุปายาโส สปริฬาโห; มิจฺฉาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม สรโณ. ตตฺร, ภิกฺขเว ¶ , ยมิทํ อตรมานสฺส ภาสิตํ, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม อนุปฆาโต อนุปายาโส อปริฬาโห; สมฺมาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม อรโณ.
๓๔๑. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ชนปทนิรุตฺติยา จ อภินิเวโส สมฺาย จ อติสาโร, สทุกฺโข เอโส ธมฺโม สอุปฆาโต สอุปายาโส สปริฬาโห; มิจฺฉาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม สรโณ. ตตฺร ภิกฺขเว, ยฺวายํ ชนปทนิรุตฺติยา จ อนภินิเวโส สมฺาย จ อนติสาโร, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม อนุปฆาโต อนุปายาโส อปริฬาโห; สมฺมาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม อรโณ.
‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ‘สรณฺจ ธมฺมํ ชานิสฺสาม, อรณฺจ ธมฺมํ ชานิสฺสาม; สรณฺจ ธมฺมํ ตฺวา อรณฺจ ธมฺมํ ตฺวา อรณปฏิปทํ ปฏิปชฺชิสฺสามา’ติ เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํ. สุภูติ จ ปน, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต อรณปฏิปทํ ปฏิปนฺโน’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
อรณวิภงฺคสุตฺตํ นิฏฺิตํ นวมํ.
๑๐. ธาตุวิภงฺคสุตฺตํ
๓๔๒. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา มคเธสุ จาริกํ จรมาโน เยน ราชคหํ ตทวสริ; เยน ภคฺคโว กุมฺภกาโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภคฺควํ กุมฺภการํ เอตทโวจ – ‘‘สเจ เต, ภคฺคว, อครุ วิหเรมุ อาเวสเน [วิหรามาเวสเน (สี. ปี.), วิหราม นิเวสเน (สฺยา. กํ.), วิหเรมุ นิเวสเน (ก.)] เอกรตฺต’’นฺติ. ‘‘น โข เม, ภนฺเต, ครุ. อตฺถิ เจตฺถ ปพฺพชิโต ปมํ วาสูปคโต. สเจ โส อนุชานาติ, วิหรถ [วิหร (สี. ปี.)], ภนฺเต, ยถาสุข’’นฺติ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน ปุกฺกุสาติ นาม กุลปุตฺโต ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส สทฺธาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต. โส ตสฺมึ กุมฺภการาเวสเน [กุมฺภการนิเวสเน (สฺยา. กํ. ก.)] ปมํ วาสูปคโต โหติ. อถ โข ภควา เยนายสฺมา ปุกฺกุสาติ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ปุกฺกุสาตึ เอตทโวจ – ‘‘สเจ เต, ภิกฺขุ, อครุ วิหเรมุ อาเวสเน เอกรตฺต’’นฺติ. ‘‘อุรุนฺทํ, อาวุโส [อูรูนฺทํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.), อุรูทฺธํ (ก.) ที. นิ. ๒ สกฺกปฺหสุตฺตฏีกา โอโลเกตพฺพา], กุมฺภการาเวสนํ. วิหรตายสฺมา ยถาสุข’’นฺติ.
อถ โข ภควา กุมฺภการาเวสนํ ปวิสิตฺวา เอกมนฺตํ ติณสนฺถารกํ [ติณสนฺถริกํ (สี.), ติณสนฺถรกํ (สฺยา. กํ.)] ปฺาเปตฺวา นิสีทิ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. อถ โข ภควา พหุเทว รตฺตึ ¶ นิสชฺชาย วีตินาเมสิ. อายสฺมาปิ โข ปุกฺกุสาติ พหุเทว รตฺตึ นิสชฺชาย วีตินาเมสิ.
อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ปาสาทิกํ โข อยํ กุลปุตฺโต อิริยติ. ยํนูนาหํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ ปุกฺกุสาตึ เอตทโวจ – ‘‘กํสิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อุทฺทิสฺส ปพฺพชิโต? โก วา เต สตฺถา? กสฺส วา ตฺวํ ธมฺมํ โรเจสี’’ติ? ‘‘อตฺถาวุโส, สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต. ตํ โข ปน ภควนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ ¶ . ตาหํ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิโต. โส จ เม ภควา สตฺถา. ตสฺส จาหํ ภควโต ¶ ธมฺมํ โรเจมี’’ติ. ‘‘กหํ ปน, ภิกฺขุ, เอตรหิ โส ภควา วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ. ‘‘อตฺถาวุโส, อุตฺตเรสุ ชนปเทสุ สาวตฺถิ นาม นครํ. ตตฺถ โส ภควา เอตรหิ วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ. ‘‘ทิฏฺปุพฺโพ ปน เต, ภิกฺขุ, โส ภควา; ทิสฺวา จ ปน ชาเนยฺยาสี’’ติ? ‘‘น ¶ โข เม, อาวุโส, ทิฏฺปุพฺโพ โส ภควา; ทิสฺวา จาหํ น ชาเนยฺย’’นฺติ.
อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘มมฺจ ขฺวายํ [มํ ตฺวายํ (สี.), มมํ ขฺวายํ (สฺยา. กํ.), มํ ขฺวายํ (ปี.)] กุลปุตฺโต อุทฺทิสฺส ปพฺพชิโต. ยํนูนสฺสาหํ ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ ปุกฺกุสาตึ อามนฺเตสิ – ‘‘ธมฺมํ เต, ภิกฺขุ, เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา ปุกฺกุสาติ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา ¶ เอตทโวจ –
๓๔๓. ‘‘‘ฉธาตุโร [ฉทฺธาตุโร (สี.)] อยํ, ภิกฺขุ, ปุริโส ฉผสฺสายตโน อฏฺารสมโนปวิจาโร จตุราธิฏฺาโน; ยตฺถ ิตํ มฺสฺสวา นปฺปวตฺตนฺติ, มฺสฺสเว โข ปน นปฺปวตฺตมาเน มุนิ สนฺโตติ วุจฺจติ. ปฺํ นปฺปมชฺเชยฺย, สจฺจมนุรกฺเขยฺย, จาคมนุพฺรูเหยฺย, สนฺติเมว โส สิกฺเขยฺยา’ติ – อยมุทฺเทโส ธาตุวิภงฺคสฺส [ฉธาตุวิภงฺคสฺส (สี. สฺยา. กํ. ปี.)].
๓๔๔. ‘‘‘ฉธาตุโร อยํ, ภิกฺขุ, ปุริโส’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? (ฉยิมา, ภิกฺขุ, ธาตุโย) [( ) นตฺถิ สี. ปี. โปตฺถเกสุ] – ปถวีธาตุ, อาโปธาตุ, เตโชธาตุ, วาโยธาตุ, อากาสธาตุ, วิฺาณธาตุ. ‘ฉธาตุโร อยํ, ภิกฺขุ, ปุริโส’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
๓๔๕. ‘‘‘ฉผสฺสายตโน อยํ, ภิกฺขุ, ปุริโส’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? จกฺขุสมฺผสฺสายตนํ, โสตสมฺผสฺสายตนํ, ฆานสมฺผสฺสายตนํ, ชิวฺหาสมฺผสฺสายตนํ, กายสมฺผสฺสายตนํ, มโนสมฺผสฺสายตนํ. ‘ฉผสฺสายตโน อยํ, ภิกฺขุ, ปุริโส’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
๓๔๖. ‘‘‘อฏฺารสมโนปวิจาโร ¶ อยํ, ภิกฺขุ, ปุริโส’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา โสมนสฺสฏฺานียํ รูปํ อุปวิจรติ, โทมนสฺสฏฺานียํ ¶ รูปํ อุปวิจรติ, อุเปกฺขาฏฺานียํ รูปํ อุปวิจรติ; โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ¶ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย โสมนสฺสฏฺานียํ ธมฺมํ อุปวิจรติ, โทมนสฺสฏฺานียํ ธมฺมํ อุปวิจรติ ¶ , อุเปกฺขาฏฺานียํ ธมฺมํ อุปวิจรติ – อิติ ฉ โสมนสฺสุปวิจารา, ฉ โทมนสฺสุปวิจารา, ฉ อุเปกฺขุปวิจารา. ‘อฏฺารสมโนปวิจาโร อยํ, ภิกฺขุ, ปุริโส’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
๓๔๗. ‘‘‘จตุราธิฏฺาโน อยํ, ภิกฺขุ, ปุริโส’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ปฺาธิฏฺาโน, สจฺจาธิฏฺาโน, จาคาธิฏฺาโน, อุปสมาธิฏฺาโน. ‘จตุราธิฏฺาโน อยํ, ภิกฺขุ, ปุริโส’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
๓๔๘. ‘‘‘ปฺํ นปฺปมชฺเชยฺย, สจฺจมนุรกฺเขยฺย, จาคมนุพฺรูเหยฺย, สนฺติเมว โส สิกฺเขยฺยา’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? กถฺจ, ภิกฺขุ, ปฺํ นปฺปมชฺชติ? ฉยิมา, ภิกฺขุ, ธาตุโย – ปถวีธาตุ, อาโปธาตุ, เตโชธาตุ, วาโยธาตุ, อากาสธาตุ, วิฺาณธาตุ.
๓๔๙. ‘‘กตมา จ, ภิกฺขุ, ปถวีธาตุ? ปถวีธาตุ สิยา อชฺฌตฺติกา สิยา พาหิรา. กตมา จ, ภิกฺขุ, อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ? ยํ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ กกฺขฬํ ขริคตํ อุปาทินฺนํ [อุปาทิณฺณํ (ปี. ก.)], เสยฺยถิทํ – เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มํสํ นฺหารุ อฏฺิ อฏฺิมิฺชํ [อฏฺิมิฺชา (สี. ปี.)] วกฺกํ หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ, ยํ วา ปนฺมฺปิ กิฺจิ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ กกฺขฬํ ขริคตํ อุปาทินฺนํ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขุ, อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ. ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ ยา จ พาหิรา ปถวีธาตุ ปถวีธาตุเรเวสา ¶ . ‘ตํ เนตํ มม เนโสหมสฺมิ น เมโส อตฺตา’ติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ¶ ทฏฺพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา ปถวีธาตุยา นิพฺพินฺทติ, ปถวีธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
๓๕๐. ‘‘กตมา ¶ จ, ภิกฺขุ, อาโปธาตุ? อาโปธาตุ สิยา อชฺฌตฺติกา ¶ สิยา พาหิรา. กตมา จ, ภิกฺขุ, อชฺฌตฺติกา อาโปธาตุ? ยํ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ อาโป อาโปคตํ อุปาทินฺนํ เสยฺยถิทํ – ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุพฺโพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺตํ, ยํ วา ปนฺมฺปิ กิฺจิ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ อาโป อาโปคตํ อุปาทินฺนํ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขุ, อชฺฌตฺติกา อาโปธาตุ. ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา อาโปธาตุ ยา จ พาหิรา อาโปธาตุ อาโปธาตุเรเวสา. ‘ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา อาโปธาตุยา นิพฺพินฺทติ, อาโปธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
๓๕๑. ‘‘กตมา จ, ภิกฺขุ, เตโชธาตุ? เตโชธาตุ สิยา อชฺฌตฺติกา สิยา พาหิรา. กตมา จ, ภิกฺขุ, อชฺฌตฺติกา เตโชธาตุ? ยํ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ เตโช เตโชคตํ อุปาทินฺนํ, เสยฺยถิทํ – เยน จ สนฺตปฺปติ, เยน จ ชีรียติ, เยน จ ปริฑยฺหติ, เยน จ อสิตปีตขายิตสายิตํ สมฺมา ปริณามํ คจฺฉติ, ยํ วา ปนฺมฺปิ กิฺจิ อชฺฌตฺตํ ¶ ปจฺจตฺตํ เตโช เตโชคตํ อุปาทินฺนํ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขุ, อชฺฌตฺติกา เตโชธาตุ. ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา เตโชธาตุ ยา จ พาหิรา เตโชธาตุ เตโชธาตุเรเวสา. ‘ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา เตโชธาตุยา นิพฺพินฺทติ, เตโชธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
๓๕๒. ‘‘กตมา จ, ภิกฺขุ, วาโยธาตุ? วาโยธาตุ สิยา อชฺฌตฺติกา สิยา พาหิรา. กตมา จ, ภิกฺขุ, อชฺฌตฺติกา วาโยธาตุ? ยํ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ วาโย วาโยคตํ อุปาทินฺนํ, เสยฺยถิทํ – อุทฺธงฺคมา วาตา อโธคมา วาตา กุจฺฉิสยา วาตา โกฏฺาสยา [โกฏฺสยา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วาตา องฺคมงฺคานุสาริโน วาตา อสฺสาโส ปสฺสาโส อิติ, ยํ วา ปนฺมฺปิ กิฺจิ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ วาโย วาโยคตํ อุปาทินฺนํ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขุ, อชฺฌตฺติกา วาโยธาตุ. ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา วาโยธาตุ ยา จ พาหิรา วาโยธาตุ วาโยธาตุเรเวสา. ‘ตํ เนตํ มม ¶ , เนโสหมสฺมิ ¶ , น เมโส อตฺตา’ติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา วาโยธาตุยา นิพฺพินฺทติ, วาโยธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
๓๕๓. ‘‘กตมา จ, ภิกฺขุ, อากาสธาตุ? อากาสธาตุ สิยา อชฺฌตฺติกา สิยา พาหิรา. กตมา จ, ภิกฺขุ, อชฺฌตฺติกา อากาสธาตุ ¶ ? ยํ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ อากาสํ อากาสคตํ อุปาทินฺนํ, เสยฺยถิทํ ¶ – กณฺณจฺฉิทฺทํ นาสจฺฉิทฺทํ มุขทฺวารํ เยน จ อสิตปีตขายิตสายิตํ อชฺโฌหรติ, ยตฺถ จ อสิตปีตขายิตสายิตํ สนฺติฏฺติ, เยน จ อสิตปีตขายิตสายิตํ อโธภาคํ [อโธภาคา (สี. สฺยา. กํ. ปี.) เทวทูตสุตฺเตน สเมติ] นิกฺขมติ, ยํ วา ปนฺมฺปิ กิฺจิ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ อากาสํ อากาสคตํ อฆํ อฆคตํ วิวรํ วิวรคตํ อสมฺผุฏฺํ มํสโลหิเตหิ อุปาทินฺนํ – อยํ วุจฺจติ ภิกฺขุ อชฺฌตฺติกา อากาสธาตุ. ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา อากาสธาตุ ยา จ พาหิรา อากาสธาตุ อากาสธาตุเรเวสา. ‘ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา อากาสธาตุยา นิพฺพินฺทติ, อากาสธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
๓๕๔. ‘‘อถาปรํ วิฺาณํเยว อวสิสฺสติ ปริสุทฺธํ ปริโยทาตํ. เตน จ วิฺาเณน กึ [เตน วิฺาเณน กิฺจ (สี.)] วิชานาติ? ‘สุข’นฺติปิ วิชานาติ, ‘ทุกฺข’นฺติปิ วิชานาติ, ‘อทุกฺขมสุข’นฺติปิ วิชานาติ. สุขเวทนิยํ, ภิกฺขุ, ผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขา เวทนา. โส สุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘สุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ. ‘ตสฺเสว สุขเวทนิยสฺส ผสฺสสฺส นิโรธา ยํ ตชฺชํ เวทยิตํ สุขเวทนิยํ ผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนา สุขา เวทนา สา นิรุชฺฌติ, สา วูปสมฺมตี’ติ ปชานาติ.
๓๕๕. ‘‘ทุกฺขเวทนิยํ, ภิกฺขุ, ผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ทุกฺขา เวทนา. โส ทุกฺขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘ทุกฺขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ. ‘ตสฺเสว ทุกฺขเวทนิยสฺส ผสฺสสฺส นิโรธา ยํ ตชฺชํ เวทยิตํ ทุกฺขเวทนิยํ ผสฺสํ ปฏิจฺจ ¶ อุปฺปนฺนา ทุกฺขา เวทนา สา นิรุชฺฌติ, สา วูปสมฺมตี’ติ ปชานาติ.
๓๕๖. ‘‘อทุกฺขมสุขเวทนิยํ, ภิกฺขุ, ผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ อทุกฺขมสุขา เวทนา. โส อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ¶ ปชานาติ. ‘ตสฺเสว อทุกฺขมสุขเวทนิยสฺส ¶ ผสฺสสฺส นิโรธา ยํ ตชฺชํ เวทยิตํ อทุกฺขมสุขเวทนิยํ ผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนา อทุกฺขมสุขา เวทนา สา นิรุชฺฌติ, สา วูปสมฺมตี’ติ ปชานาติ.
๓๕๗. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, ทฺวินฺนํ กฏฺานํ สงฺฆฏฺฏา [สมฺผสฺส (สี. ปี.), สงฺฆฏา (สฺยา. กํ.)] สโมธานา อุสฺมา ชายติ, เตโช อภินิพฺพตฺตติ, เตสํเยว ทฺวินฺนํ กฏฺานํ นานาภาวา วิกฺเขปา ยา ตชฺชา อุสฺมา สา นิรุชฺฌติ, สา วูปสมฺมติ; เอวเมว โข, ภิกฺขุ, สุขเวทนิยํ ¶ ผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขา เวทนา. โส สุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘สุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ. ‘ตสฺเสว สุขเวทนิยสฺส ผสฺสสฺส นิโรธา ยํ ตชฺชํ เวทยิตํ สุขเวทนิยํ ผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนา สุขา เวทนา สา นิรุชฺฌติ, สา วูปสมฺมตี’ติ ปชานาติ.
๓๕๘. ‘‘ทุกฺขเวทนิยํ, ภิกฺขุ, ผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ทุกฺขา เวทนา. โส ทุกฺขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘ทุกฺขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ. ‘ตสฺเสว ทุกฺขเวทนิยสฺส ผสฺสสฺส นิโรธา ยํ ตชฺชํ เวทยิตํ ทุกฺขเวทนิยํ ผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนา ทุกฺขา เวทนา สา นิรุชฺฌติ, สา วูปสมฺมตี’ติ ปชานาติ.
๓๕๙. ‘‘อทุกฺขมสุขเวทนิยํ ¶ , ภิกฺขุ, ผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ อทุกฺขมสุขา เวทนา. โส อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ. ‘ตสฺเสว อทุกฺขมสุขเวทนิยสฺส ผสฺสสฺส นิโรธา ยํ ตชฺชํ เวทยิตํ อทุกฺขมสุขเวทนิยํ ผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนา อทุกฺขมสุขา เวทนา สา นิรุชฺฌติ, สา วูปสมฺมตี’ติ ปชานาติ.
๓๖๐. ‘‘อถาปรํ อุเปกฺขาเยว อวสิสฺสติ ปริสุทฺธา ปริโยทาตา มุทุ จ กมฺมฺา จ ปภสฺสรา จ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, ทกฺโข สุวณฺณกาโร วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา อุกฺกํ พนฺเธยฺย, อุกฺกํ พนฺธิตฺวา อุกฺกามุขํ อาลิมฺเปยฺย, อุกฺกามุขํ อาลิมฺเปตฺวา สณฺฑาเสน ชาตรูปํ คเหตฺวา อุกฺกามุเข ปกฺขิเปยฺย, ตเมนํ กาเลน กาลํ อภิธเมยฺย, กาเลน กาลํ อุทเกน ปริปฺโผเสยฺย, กาเลน กาลํ อชฺฌุเปกฺเขยฺย, ตํ โหติ ชาตรูปํ [ชาตรูปํ ธนฺตํ (สี. ปี.)] สุธนฺตํ นิทฺธนฺตํ นีหฏํ [นิหตํ (สฺยา. กํ. ก.)] นินฺนีตกสาวํ [นิหตกสาวํ (ก.)] มุทุ จ กมฺมฺฺจ ปภสฺสรฺจ, ยสฺสา ยสฺสา จ ปิฬนฺธนวิกติยา อากงฺขติ – ยทิ ปฏฺฏิกาย [ปวฏฺฏิกาย (สี. สฺยา.)] ยทิ ¶ กุณฺฑลาย ยทิ คีเวยฺยกาย ยทิ สุวณฺณมาลาย ตฺจสฺส อตฺถํ ¶ อนุโภติ; เอวเมว โข, ภิกฺขุ, อถาปรํ อุเปกฺขาเยว อวสิสฺสติ ปริสุทฺธา ปริโยทาตา มุทุ จ กมฺมฺา จ ปภสฺสรา จ.
๓๖๑. ‘‘โส เอวํ ปชานาติ – ‘อิมฺเจ อหํ อุเปกฺขํ เอวํ ปริสุทฺธํ เอวํ ปริโยทาตํ อากาสานฺจายตนํ อุปสํหเรยฺยํ, ตทนุธมฺมฺจ จิตฺตํ ภาเวยฺยํ. เอวํ เม อยํ อุเปกฺขา ตํนิสฺสิตา ¶ ตทุปาทานา จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺเยฺย. อิมฺเจ อหํ อุเปกฺขํ เอวํ ปริสุทฺธํ เอวํ ปริโยทาตํ วิฺาณฺจายตนํ อุปสํหเรยฺยํ, ตทนุธมฺมฺจ จิตฺตํ ภาเวยฺยํ. เอวํ เม อยํ อุเปกฺขา ตํนิสฺสิตา ตทุปาทานา จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺเยฺย. อิมฺเจ อหํ ¶ อุเปกฺขํ เอวํ ปริสุทฺธํ เอวํ ปริโยทาตํ อากิฺจฺายตนํ อุปสํหเรยฺยํ, ตทนุธมฺมฺจ จิตฺตํ ภาเวยฺยํ. เอวํ เม อยํ อุเปกฺขา ตํนิสฺสิตา ตทุปาทานา จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺเยฺย. อิมฺเจ อหํ อุเปกฺขํ เอวํ ปริสุทฺธํ เอวํ ปริโยทาตํ เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสํหเรยฺยํ, ตทนุธมฺมฺจ จิตฺตํ ภาเวยฺยํ. เอวํ เม อยํ อุเปกฺขา ตํนิสฺสิตา ตทุปาทานา จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺเยฺยา’’’ติ.
๓๖๒. ‘‘โส เอวํ ปชานาติ – ‘อิมฺเจ อหํ อุเปกฺขํ เอวํ ปริสุทฺธํ เอวํ ปริโยทาตํ อากาสานฺจายตนํ อุปสํหเรยฺยํ, ตทนุธมฺมฺจ จิตฺตํ ภาเวยฺยํ; สงฺขตเมตํ. อิมฺเจ อหํ อุเปกฺขํ เอวํ ปริสุทฺธํ เอวํ ปริโยทาตํ วิฺาณฺจายตนํ อุปสํหเรยฺยํ, ตทนุธมฺมฺจ จิตฺตํ ภาเวยฺยํ; สงฺขตเมตํ. อิมฺเจ อหํ อุเปกฺขํ เอวํ ปริสุทฺธํ เอวํ ปริโยทาตํ อากิฺจฺายตนํ อุปสํหเรยฺยํ, ตทนุธมฺมฺจ จิตฺตํ ภาเวยฺยํ; สงฺขตเมตํ. อิมฺเจ อหํ อุเปกฺขํ เอวํ ปริสุทฺธํ เอวํ ปริโยทาตํ เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสํหเรยฺยํ, ตทนุธมฺมฺจ จิตฺตํ ภาเวยฺยํ; สงฺขตเมต’’’นฺติ.
‘‘โส เนว ตํ อภิสงฺขโรติ, น อภิสฺเจตยติ ภวาย วา วิภวาย วา. โส อนภิสงฺขโรนฺโต อนภิสฺเจตยนฺโต ภวาย วา วิภวาย วา น กิฺจิ ¶ โลเก อุปาทิยติ, อนุปาทิยํ น ปริตสฺสติ, อปริตสฺสํ ปจฺจตฺตํเยว ปรินิพฺพายติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ.
๓๖๓. ‘‘โส สุขฺเจ เวทนํ เวเทติ, ‘สา อนิจฺจา’ติ ปชานาติ, ‘อนชฺโฌสิตา’ติ ปชานาติ, ‘อนภินนฺทิตา’ติ ปชานาติ. ทุกฺขฺเจ เวทนํ เวเทติ ¶ , ‘สา อนิจฺจา’ติ ปชานาติ, ‘อนชฺโฌสิตา’ติ ¶ ปชานาติ, ‘อนภินนฺทิตา’ติ ปชานาติ. อทุกฺขมสุขฺเจ เวทนํ เวเทติ, ‘สา อนิจฺจา’ติ ปชานาติ, ‘อนชฺโฌสิตา’ติ ปชานาติ, ‘อนภินนฺทิตา’ติ ปชานาติ.
๓๖๔. ‘‘โส สุขฺเจ เวทนํ เวเทติ, วิสํยุตฺโต นํ เวเทติ; ทุกฺขฺเจ เวทนํ เวเทติ, วิสํยุตฺโต นํ เวเทติ; อทุกฺขมสุขฺเจ เวทนํ เวเทติ, วิสํยุตฺโต นํ เวเทติ. โส กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยมาโน ‘กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ, ชีวิตปริยนฺติกํ ¶ เวทนํ เวทยมาโน ‘ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ, ‘กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา อิเธว สพฺพเวทยิตานิ อนภินนฺทิตานิ สีตีภวิสฺสนฺตี’ติ ปชานาติ.
๓๖๕. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, เตลฺจ ปฏิจฺจ วฏฺฏิฺจ ปฏิจฺจ เตลปฺปทีโป ฌายติ; ตสฺเสว เตลสฺส จ วฏฺฏิยา จ ปริยาทานา อฺสฺส จ อนุปหารา [อนุปาหารา (สี. ปี.), อนุปาทานา (ก.)] อนาหาโร นิพฺพายติ; เอวเมว โข, ภิกฺขุ, กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยมาโน ‘กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ, ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยมาโน ‘ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ, ‘กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา อิเธว สพฺพเวทยิตานิ ¶ อนภินนฺทิตานิ สีตีภวิสฺสนฺตี’ติ ปชานาติ. ตสฺมา เอวํ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อิมินา ปรเมน ปฺาธิฏฺาเนน สมนฺนาคโต โหติ. เอสา หิ, ภิกฺขุ, ปรมา อริยา ปฺา ยทิทํ – สพฺพทุกฺขกฺขเย าณํ.
๓๖๖. ‘‘ตสฺส สา วิมุตฺติ สจฺเจ ิตา อกุปฺปา โหติ. ตฺหิ, ภิกฺขุ, มุสา ยํ โมสธมฺมํ, ตํ สจฺจํ ยํ อโมสธมฺมํ นิพฺพานํ. ตสฺมา เอวํ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อิมินา ปรเมน สจฺจาธิฏฺาเนน สมนฺนาคโต โหติ. เอตฺหิ, ภิกฺขุ, ปรมํ อริยสจฺจํ ยทิทํ – อโมสธมฺมํ นิพฺพานํ.
๓๖๗. ‘‘ตสฺเสว โข ปน ปุพฺเพ อวิทฺทสุโน อุปธี โหนฺติ สมตฺตา สมาทินฺนา. ตฺยาสฺส ปหีนา โหนฺติ อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. ตสฺมา เอวํ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ¶ อิมินา ปรเมน จาคาธิฏฺาเนน สมนฺนาคโต โหติ. เอโส หิ, ภิกฺขุ, ปรโม อริโย จาโค ยทิทํ – สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค.
๓๖๘. ‘‘ตสฺเสว โข ปน ปุพฺเพ อวิทฺทสุโน อภิชฺฌา โหติ ฉนฺโท สาราโค. สฺวาสฺส ¶ ปหีโน โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม. ตสฺเสว โข ปน ปุพฺเพ อวิทฺทสุโน อาฆาโต โหติ พฺยาปาโท สมฺปโทโส. สฺวาสฺส ปหีโน โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ¶ ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม. ตสฺเสว โข ปน ปุพฺเพ อวิทฺทสุโน อวิชฺชา โหติ สมฺโมโห. สฺวาสฺส ปหีโน โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม. ตสฺมา เอวํ ¶ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อิมินา ปรเมน อุปสมาธิฏฺาเนน สมนฺนาคโต โหติ. เอโส หิ, ภิกฺขุ, ปรโม อริโย อุปสโม ยทิทํ – ราคโทสโมหานํ อุปสโม. ‘ปฺํ นปฺปมชฺเชยฺย, สจฺจมนุรกฺเขยฺย, จาคมนุพฺรูเหยฺย, สนฺติเมว โส สิกฺเขยฺยา’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
๓๖๙. ‘‘‘ยตฺถ ิตํ มฺสฺสวา นปฺปวตฺตนฺติ, มฺสฺสเว โข ปน นปฺปวตฺตมาเน มุนิ สนฺโตติ วุจฺจตี’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ‘อสฺมี’ติ, ภิกฺขุ, มฺิตเมตํ, ‘อยมหมสฺมี’ติ มฺิตเมตํ, ‘ภวิสฺส’นฺติ มฺิตเมตํ, ‘น ภวิสฺส’นฺติ มฺิตเมตํ, ‘รูปี ภวิสฺส’นฺติ มฺิตเมตํ, ‘อรูปี ภวิสฺส’นฺติ มฺิตเมตํ, ‘สฺี ภวิสฺส’นฺติ มฺิตเมตํ, ‘อสฺี ภวิสฺส’นฺติ มฺิตเมตํ, ‘เนวสฺีนาสฺี ภวิสฺส’นฺติ มฺิตเมตํ. มฺิตํ, ภิกฺขุ, โรโค มฺิตํ คณฺโฑ มฺิตํ สลฺลํ. สพฺพมฺิตานํ ตฺเวว, ภิกฺขุ, สมติกฺกมา มุนิ สนฺโตติ วุจฺจติ. มุนิ โข ปน, ภิกฺขุ, สนฺโต น ชายติ, น ชียติ, น มียติ, น กุปฺปติ, น ปิเหติ. ตฺหิสฺส, ภิกฺขุ, นตฺถิ เยน ชาเยถ, อชายมาโน กึ ชียิสฺสติ, อชียมาโน กึ มียิสฺสติ, อมียมาโน กึ กุปฺปิสฺสติ, อกุปฺปมาโน กิสฺส [กึ (ก.)] ปิเหสฺสติ? ‘ยตฺถ ิตํ มฺสฺสวา นปฺปวตฺตนฺติ, มฺสฺสเว โข ปน นปฺปวตฺตมาเน มุนิ สนฺโตติ วุจฺจตี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิมํ โข เม ตฺวํ, ภิกฺขุ, สํขิตฺเตน ฉธาตุวิภงฺคํ ธาเรหี’’ติ.
๓๗๐. อถ ¶ ¶ โข อายสฺมา ปุกฺกุสาติ – ‘‘สตฺถา กิร เม อนุปฺปตฺโต, สุคโต กิร เม อนุปฺปตฺโต สมฺมาสมฺพุทฺโธ กิร เม อนุปฺปตฺโต’’ติ อุฏฺายาสนา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺจโย มํ, ภนฺเต, อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, โยหํ ภควนฺตํ อาวุโสวาเทน สมุทาจริตพฺพํ อมฺิสฺสํ. ตสฺส เม, ภนฺเต, ภควา อจฺจยํ อจฺจยโต ปฏิคฺคณฺหาตุ อายตึ สํวรายา’’ติ. ‘‘ตคฺฆ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อจฺจโย อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ ¶ , ยํ มํ ตฺวํ อาวุโสวาเทน ¶ สมุทาจริตพฺพํ อมฺิตฺถ. ยโต จ โข ตฺวํ, ภิกฺขุ, อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรสิ, ตํ เต มยํ ปฏิคฺคณฺหาม. วุทฺธิเหสา, ภิกฺขุ, อริยสฺส วินเย โย อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรติ, อายตึ สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ. ‘‘ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘ปริปุณฺณํ ปน เต, ภิกฺขุ, ปตฺตจีวร’’นฺติ? ‘‘น โข เม, ภนฺเต, ปริปุณฺณํ ปตฺตจีวร’’นฺติ. ‘‘น โข, ภิกฺขุ, ตถาคตา อปริปุณฺณปตฺตจีวรํ อุปสมฺปาเทนฺตี’’ติ.
อถ โข อายสฺมา ปุกฺกุสาติ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปตฺตจีวรปริเยสนํ ปกฺกามิ. อถ โข อายสฺมนฺตํ ปุกฺกุสาตึ ปตฺตจีวรปริเยสนํ จรนฺตํ วิพฺภนฺตา คาวี [ภนฺตคาวี (สี. ปี.), คาวี (สฺยา. กํ.)] ชีวิตา โวโรเปสิ. อถ โข สมฺพหุลา ¶ ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘โย โส, ภนฺเต, ปุกฺกุสาติ นาม กุลปุตฺโต ภควตา สํขิตฺเตน โอวาเทน โอวทิโต โส กาลงฺกโต. ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย’’ติ? ‘‘ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, ปุกฺกุสาติ กุลปุตฺโต ปจฺจปาทิ ธมฺมสฺสานุธมฺมํ, น จ มํ ธมฺมาธิกรณํ วิเหเสสิ [วิเหเสิ (สี. สฺยา. กํ.) วิเหเสติ (ก.)]. ปุกฺกุสาติ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
ธาตุวิภงฺคสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทสมํ.
๑๑. สจฺจวิภงฺคสุตฺตํ
๓๗๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา พาราณสิยํ วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเย. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘ตถาคเตน, ภิกฺขเว, อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน พาราณสิยํ อิสิปตเน มิคทาเย อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ อปฺปฏิวตฺติยํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ, ยทิทํ – จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ อาจิกฺขนา เทสนา ปฺาปนา ปฏฺปนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺมํ. กตเมสํ จตุนฺนํ? ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส อาจิกฺขนา เทสนา ปฺาปนา ปฏฺปนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺมํ, ทุกฺขสมุทยสฺส อริยสจฺจสฺส อาจิกฺขนา เทสนา ปฺาปนา ปฏฺปนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺมํ, ทุกฺขนิโรธสฺส อริยสจฺจสฺส อาจิกฺขนา เทสนา ปฺาปนา ปฏฺปนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺมํ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อริยสจฺจสฺส อาจิกฺขนา เทสนา ปฺาปนา ปฏฺปนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺมํ. ตถาคเตน, ภิกฺขเว, อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน พาราณสิยํ อิสิปตเน มิคทาเย อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ อปฺปฏิวตฺติยํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ ¶ , ยทิทํ – อิเมสํ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ อาจิกฺขนา เทสนา ปฺาปนา ปฏฺปนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺมํ.
‘‘เสวถ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน; ภชถ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน. ปณฺฑิตา ภิกฺขู อนุคฺคาหกา สพฺรหฺมจารีนํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ชเนตา [ชเนตฺติ (สี. ปี.)], เอวํ สาริปุตฺโต; เสยฺยถาปิ ชาตสฺส อาปาเทตา, เอวํ โมคฺคลฺลาโน. สาริปุตฺโต, ภิกฺขเว, โสตาปตฺติผเล วิเนติ, โมคฺคลฺลาโน อุตฺตมตฺเถ. สาริปุตฺโต, ภิกฺขเว, ปโหติ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ วิตฺถาเรน อาจิกฺขิตุํ เทเสตุํ ปฺาเปตุํ ปฏฺเปตุํ วิวริตุํ วิภชิตุํ อุตฺตานีกาตุ’’นฺติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.
๓๗๒. ตตฺร ¶ ¶ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส, ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู ¶ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –
‘‘ตถาคเตน, อาวุโส, อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน พาราณสิยํ อิสิปตเน มิคทาเย อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ อปฺปฏิวตฺติยํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ, ยทิทํ – จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ อาจิกฺขนา เทสนา ปฺาปนา ปฏฺปนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺมํ. กตเมสํ จตุนฺนํ? ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส อาจิกฺขนา เทสนา ปฺาปนา ปฏฺปนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺมํ, ทุกฺขสมุทยสฺส อริยสจฺจสฺส ¶ อาจิกฺขนา เทสนา ปฺาปนา ปฏฺปนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺมํ, ทุกฺขนิโรธสฺส อริยสจฺจสฺส อาจิกฺขนา เทสนา ปฺาปนา ปฏฺปนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺมํ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อริยสจฺจสฺส อาจิกฺขนา เทสนา ปฺาปนา ปฏฺปนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺมํ.
๓๗๓. ‘‘กตมฺจาวุโส, ทุกฺขํ อริยสจฺจํ? ชาติปิ ทุกฺขา, ชราปิ ทุกฺขา, มรณมฺปิ ทุกฺขํ, โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาปิ ทุกฺขา, ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ; สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา.
‘‘กตมา จาวุโส, ชาติ? ยา เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย ชาติ สฺชาติ โอกฺกนฺติ อภินิพฺพตฺติ ขนฺธานํ ปาตุภาโว อายตนานํ ปฏิลาโภ, อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ชาติ’’’.
‘‘กตมา จาวุโส, ชรา? ยา เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย ชรา ชีรณตา ขณฺฑิจฺจํ ปาลิจฺจํ วลิตฺตจตา อายุโน สํหานิ อินฺทฺริยานํ ปริปาโก, อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ชรา’’’.
‘‘กตมฺจาวุโส, มรณํ? ยา เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหา ตมฺหา สตฺตนิกายา จุติ จวนตา ¶ เภโท อนฺตรธานํ มจฺจุ มรณํ กาลํกิริยา ขนฺธานํ เภโท กเฬวรสฺส นิกฺเขโป ชีวิตินฺทฺริยสฺสุปจฺเฉโท, อิทํ วุจฺจตาวุโส – ‘มรณํ’’’.
‘‘กตโม จาวุโส, โสโก? โย โข, อาวุโส, อฺตรฺตเรน พฺยสเนน สมนฺนาคตสฺส อฺตรฺตเรน ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺสฺส โสโก โสจนา โสจิตตฺตํ อนฺโตโสโก อนฺโตปริโสโก, อยํ วุจฺจตาวุโส ¶ – ‘โสโก’’’.
‘‘กตโม ¶ จาวุโส, ปริเทโว? โย โข, อาวุโส, อฺตรฺตเรน พฺยสเนน สมนฺนาคตสฺส อฺตรฺตเรน ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺสฺส อาเทโว ปริเทโว อาเทวนา ¶ ปริเทวนา อาเทวิตตฺตํ ปริเทวิตตฺตํ, อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ปริเทโว’’’.
‘‘กตมฺจาวุโส, ทุกฺขํ? ยํ โข, อาวุโส, กายิกํ ทุกฺขํ กายิกํ อสาตํ กายสมฺผสฺสชํ ทุกฺขํ อสาตํ เวทยิตํ, อิทํ วุจฺจตาวุโส – ‘ทุกฺขํ’’’.
‘‘กตมฺจาวุโส, โทมนสฺสํ? ยํ โข, อาวุโส, เจตสิกํ ทุกฺขํ เจตสิกํ อสาตํ มโนสมฺผสฺสชํ ทุกฺขํ อสาตํ เวทยิตํ, อิทํ วุจฺจตาวุโส – ‘โทมนสฺสํ’’’.
‘‘กตโม จาวุโส, อุปายาโส? โย โข, อาวุโส, อฺตรฺตเรน พฺยสเนน สมนฺนาคตสฺส อฺตรฺตเรน ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺสฺส อายาโส อุปายาโส อายาสิตตฺตํ อุปายาสิตตฺตํ, อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘อุปายาโส’’’.
‘‘กตมฺจาวุโส, ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ? ชาติธมฺมานํ, อาวุโส, สตฺตานํ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ – ‘อโห วต, มยํ น ชาติธมฺมา อสฺสาม; น จ, วต, โน ชาติ อาคจฺเฉยฺยา’ติ. น โข ปเนตํ อิจฺฉาย ปตฺตพฺพํ. อิทมฺปิ – ‘ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ’. ชราธมฺมานํ, อาวุโส, สตฺตานํ…เป… พฺยาธิธมฺมานํ, อาวุโส, สตฺตานํ… มรณธมฺมานํ, อาวุโส, สตฺตานํ… โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสธมฺมานํ, อาวุโส, สตฺตานํ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ – ‘อโห วต, มยํ น โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสธมฺมา อสฺสาม ¶ ; น จ, วต, โน โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา อาคจฺเฉยฺยุ’นฺติ ¶ . น โข ปเนตํ อิจฺฉาย ปตฺตพฺพํ. อิทมฺปิ – ‘ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ’’’.
‘‘กตเม จาวุโส, สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา? เสยฺยถิทํ – รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สฺุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ. อิเม วุจฺจนฺตาวุโส – ‘สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’. อิทํ วุจฺจตาวุโส – ‘ทุกฺขํ อริยสจฺจํ’’’.
๓๗๔. ‘‘กตมฺจาวุโส, ทุกฺขสมุทยํ [ทุกฺขสมุทโย (สฺยา. กํ.)] อริยสจฺจํ? ยายํ ตณฺหา โปโนพฺภวิกา [โปโนภวิกา (สี. ปี.)] นนฺทีราคสหคตา [นนฺทิราคสหคตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ตตฺรตตฺราภินนฺทินี, เสยฺยถิทํ – กามตณฺหา ¶ ภวตณฺหา วิภวตณฺหา ¶ , อิทํ วุจฺจตาวุโส – ‘ทุกฺขสมุทยํ [ทุกฺขสมุทโย (สฺยา. กํ.)] อริยสจฺจํ’’’.
‘‘กตมฺจาวุโส, ทุกฺขนิโรธํ [ทุกฺขนิโรโธ (สฺยา. กํ.)] อริยสจฺจํ? โย ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ จาโค ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโย, อิทํ วุจฺจตาวุโส – ‘ทุกฺขนิโรธํ [ทุกฺขนิโรโธ (สฺยา. กํ.)] อริยสจฺจํ’’’.
๓๗๕. ‘‘กตมฺจาวุโส, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ? อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิ.
‘‘กตมาจาวุโส, สมฺมาทิฏฺิ? ยํ โข, อาวุโส, ทุกฺเข าณํ, ทุกฺขสมุทเย าณํ, ทุกฺขนิโรเธ าณํ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย าณํ, อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘สมฺมาทิฏฺิ’’’.
‘‘กตโม จาวุโส, สมฺมาสงฺกปฺโป? เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป, อพฺยาปาทสงฺกปฺโป ¶ , อวิหึสาสงฺกปฺโป, อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘สมฺมาสงฺกปฺโป’’’.
‘‘กตมา จาวุโส, สมฺมาวาจา? มุสาวาทา เวรมณี, ปิสุณาย วาจาย เวรมณี, ผรุสาย วาจาย เวรมณี, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี, อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘สมฺมาวาจา’’’.
‘‘กตโม ¶ จาวุโส, สมฺมากมฺมนฺตี? ปาณาติปาตา เวรมณี, อทินฺนาทานา เวรมณี, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี, อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘สมฺมากมฺมนฺโต’’’.
‘‘กตโม จาวุโส, สมฺมาอาชีโว? อิธาวุโส, อริยสาวโก มิจฺฉาอาชีวํ ปหาย สมฺมาอาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปติ, อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘สมฺมาอาชีโว’’’.
‘‘กตโม จาวุโส, สมฺมาวายาโม? อิธาวุโส, ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ, อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ, อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ¶ อุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ, อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา ¶ อสมฺโมสาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ, อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘สมฺมาวายาโม’’’.
‘‘กตมา จาวุโส, สมฺมาสติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ…เป… จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี ¶ วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ, อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘สมฺมาสติ’’’.
‘‘กตโม จาวุโส, สมฺมาสมาธิ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ…เป… ตติยํ ฌานํ… ¶ วิหรติ, อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘สมฺมาสมาธิ’. อิทํ วุจฺจตาวุโส – ‘ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ’’’.
‘‘ตถาคเตนาวุโส, อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน พาราณสิยํ อิสิปตเน มิคทาเย อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ อปฺปฏิวตฺติยํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ, ยทิทํ – อิเมสํ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ อาจิกฺขนา เทสนา ปฺาปนา ปฏฺปนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺม’’นฺติ.
อิทมโวจ อายสฺมา สาริปุตฺโต. อตฺตมนา เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
สจฺจวิภงฺคสุตฺตํ นิฏฺิตํ เอกาทสมํ.
๑๒. ทกฺขิณาวิภงฺคสุตฺตํ
๓๗๖. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม. อถ โข มหาปชาปติ [มหาปชาปตี (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] โคตมี นวํ ทุสฺสยุคํ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข มหาปชาปติ โคตมี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, นวํ ทุสฺสยุคํ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส สามํ กนฺตํ สามํ วายิตํ. ตํ เม, ภนฺเต, ภควา ปฏิคฺคณฺหาตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภควา มหาปชาปตึ โคตมึ เอตทโวจ – ‘‘สงฺเฆ, โคตมิ, เทหิ. สงฺเฆ เต ทินฺเน อหฺเจว ปูชิโต ภวิสฺสามิ สงฺโฆ จา’’ติ. ทุติยมฺปิ โข มหาปชาปติ โคตมี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, นวํ ทุสฺสยุคํ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส สามํ กนฺตํ สามํ วายิตํ. ตํ เม, ภนฺเต, ภควา ปฏิคฺคณฺหาตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. ทุติยมฺปิ โข ภควา มหาปชาปตึ โคตมึ เอตทโวจ – ‘‘สงฺเฆ, โคตมิ, เทหิ. สงฺเฆ เต ทินฺเน อหฺเจว ปูชิโต ภวิสฺสามิ สงฺโฆ จา’’ติ. ตติยมฺปิ โข มหาปชาปติ โคตมี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, นวํ ทุสฺสยุคํ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส สามํ กนฺตํ สามํ วายิตํ. ตํ เม, ภนฺเต, ภควา ปฏิคฺคณฺหาตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. ตติยมฺปิ โข ภควา มหาปชาปตึ โคตมึ เอตทโวจ – ‘‘สงฺเฆ, โคตมิ, เทหิ ¶ . สงฺเฆ เต ทินฺเน อหฺเจว ปูชิโต ภวิสฺสามิ สงฺโฆ จา’’ติ.
๓๗๗. เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตุ, ภนฺเต, ภควา มหาปชาปติยา โคตมิยา นวํ ทุสฺสยุคํ. พหูปการา [พหุการา (สฺยา. กํ.)], ภนฺเต, มหาปชาปติ โคตมี ภควโต มาตุจฺฉา อาปาทิกา โปสิกา ขีรสฺส ทายิกา; ภควนฺตํ ชเนตฺติยา กาลงฺกตาย ถฺํ ปาเยสิ. ภควาปิ, ภนฺเต, พหูปกาโร มหาปชาปติยา โคตมิยา. ภควนฺตํ, ภนฺเต, อาคมฺม มหาปชาปติ โคตมี พุทฺธํ สรณํ คตา, ธมฺมํ สรณํ คตา, สงฺฆํ สรณํ คตา. ภควนฺตํ, ภนฺเต, อาคมฺม มหาปชาปติ โคตมี ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา. ภควนฺตํ, ภนฺเต, อาคมฺม มหาปชาปติ โคตมี พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา ¶ , ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา, สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา อริยกนฺเตหิ ¶ สีเลหิ สมนฺนาคตา. ภควนฺตํ, ภนฺเต, อาคมฺม มหาปชาปติ โคตมี ทุกฺเข นิกฺกงฺขา, ทุกฺขสมุทเย นิกฺกงฺขา, ทุกฺขนิโรเธ นิกฺกงฺขา, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย นิกฺกงฺขา. ภควาปิ, ภนฺเต, พหูปกาโร มหาปชาปติยา โคตมิยา’’ติ.
๓๗๘. ‘‘เอวเมตํ ¶ , อานนฺท. ยํ หานนฺท, ปุคฺคโล ปุคฺคลํ อาคมฺม พุทฺธํ สรณํ คโต โหติ, ธมฺมํ สรณํ คโต โหติ, สงฺฆํ สรณํ คโต โหติ, อิมสฺสานนฺท, ปุคฺคลสฺส อิมินา ปุคฺคเลน น สุปฺปติการํ วทามิ, ยทิทํ – อภิวาทน-ปจฺจุฏฺาน-อฺชลิกมฺม ¶ สามีจิกมฺมจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลา- นปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานุปฺปทาเนน.
‘‘ยํ หานนฺท, ปุคฺคโล ปุคฺคลํ อาคมฺม ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ, อิมสฺสานนฺท, ปุคฺคลสฺส อิมินา ปุคฺคเลน น สุปฺปติการํ วทามิ, ยทิทํ – อภิวาทน-ปจฺจุฏฺาน-อฺชลิกมฺม-สามีจิกมฺมจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลา- นปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานุปฺปทาเนน.
‘‘ยํ หานนฺท, ปุคฺคโล ปุคฺคลํ อาคมฺม พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ, ธมฺเม… สงฺเฆ… อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต โหติ, อิมสฺสานนฺท, ปุคฺคลสฺส อิมินา ปุคฺคเลน น สุปฺปติการํ วทามิ, ยทิทํ – อภิวาทน-ปจฺจุฏฺาน-อฺชลิกมฺม-สามีจิกมฺมจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลา- นปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานุปฺปทาเนน.
‘‘ยํ หานนฺท, ปุคฺคโล ปุคฺคลํ อาคมฺม ทุกฺเข นิกฺกงฺโข โหติ, ทุกฺขสมุทเย นิกฺกงฺโข โหติ, ทุกฺขนิโรเธ นิกฺกงฺโข โหติ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย นิกฺกงฺโข โหติ, อิมสฺสานนฺท, ปุคฺคลสฺส อิมินา ปุคฺคเลน น สุปฺปติการํ วทามิ, ยทิทํ – อภิวาทน-ปจฺจุฏฺานอฺชลิกมฺม-สามีจิกมฺม-จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลา- นปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานุปฺปทาเนน.
๓๗๙. ‘‘จุทฺทส โข ปนิมานนฺท, ปาฏิปุคฺคลิกา ทกฺขิณา. กตมา จุทฺทส? ตถาคเต ¶ อรหนฺเต สมฺมาสมฺพุทฺเธ ทานํ เทติ – อยํ ปมา ปาฏิปุคฺคลิกา ทกฺขิณา. ปจฺเจกสมฺพุทฺเธ [ปจฺเจกพุทฺเธ (สี. ปี.)] ทานํ ¶ เทติ – อยํ ทุติยา ปาฏิปุคฺคลิกา ทกฺขิณา. ตถาคตสาวเก อรหนฺเต ทานํ เทติ – อยํ ตติยา ปาฏิปุคฺคลิกา ทกฺขิณา. อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺเน ทานํ เทติ – อยํ จตุตฺถี ปาฏิปุคฺคลิกา ทกฺขิณา. อนาคามิสฺส ทานํ เทติ – อยํ ปฺจมี ปาฏิปุคฺคลิกา ทกฺขิณา. อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ¶ ปฏิปนฺเน ทานํ เทติ – อยํ ฉฏฺี ปาฏิปุคฺคลิกา ทกฺขิณา. สกทาคามิสฺส ทานํ เทติ – อยํ สตฺตมี ปาฏิปุคฺคลิกา ¶ ทกฺขิณา. สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺเน ทานํ เทติ – อยํ อฏฺมี ปาฏิปุคฺคลิกา ทกฺขิณา. โสตาปนฺเน ทานํ เทติ – อยํ นวมี ปาฏิปุคฺคลิกา ทกฺขิณา. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺเน ทานํ เทติ – อยํ ทสมี ปาฏิปุคฺคลิกา ทกฺขิณา. พาหิรเก กาเมสุ วีตราเค ทานํ เทติ – อยํ เอกาทสมี ปาฏิปุคฺคลิกา ทกฺขิณา. ปุถุชฺชนสีลวนฺเต ทานํ เทติ – อยํ ทฺวาทสมี ปาฏิปุคฺคลิกา ทกฺขิณา. ปุถุชฺชนทุสฺสีเล ทานํ เทติ – อยํ เตรสมี ปาฏิปุคฺคลิกา ทกฺขิณา. ติรจฺฉานคเต ทานํ เทติ – อยํ จุทฺทสมี ปาฏิปุคฺคลิกา ทกฺขิณาติ.
‘‘ตตฺรานนฺท, ติรจฺฉานคเต ทานํ ทตฺวา สตคุณา ทกฺขิณา ปาฏิกงฺขิตพฺพา, ปุถุชฺชนทุสฺสีเล ทานํ ทตฺวา สหสฺสคุณา ทกฺขิณา ปาฏิกงฺขิตพฺพา, ปุถุชฺชนสีลวนฺเต ทานํ ทตฺวา สตสหสฺสคุณา ทกฺขิณา ¶ ปาฏิกงฺขิตพฺพา, พาหิรเก กาเมสุ วีตราเค ทานํ ทตฺวา โกฏิสตสหสฺสคุณา ทกฺขิณา ปาฏิกงฺขิตพฺพา, โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺเน ทานํ ทตฺวา อสงฺเขยฺยา อปฺปเมยฺยา ทกฺขิณา ปาฏิกงฺขิตพฺพา, โก ปน วาโท โสตาปนฺเน, โก ปน วาโท สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺเน, โก ปน วาโท สกทาคามิสฺส, โก ปน วาโท อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺเน, โก ปน วาโท อนาคามิสฺส, โก ปน วาโท อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺเน, โก ปน วาโท อรหนฺเต, โก ปน วาโท ปจฺเจกสมฺพุทฺเธ, โก ปน วาโท ตถาคเต อรหนฺเต สมฺมาสมฺพุทฺเธ!
๓๘๐. ‘‘สตฺต โข ปนิมานนฺท, สงฺฆคตา ทกฺขิณา. กตมา สตฺต? พุทฺธปฺปมุเข อุภโตสงฺเฆ ทานํ เทติ – อยํ ปมา สงฺฆคตา ทกฺขิณา. ตถาคเต ปรินิพฺพุเต อุภโตสงฺเฆ ทานํ เทติ – อยํ ทุติยา สงฺฆคตา ทกฺขิณา. ภิกฺขุสงฺเฆ ทานํ เทติ – อยํ ตติยา สงฺฆคตา ทกฺขิณา. ภิกฺขุนิสงฺเฆ ทานํ เทติ – อยํ จตุตฺถี สงฺฆคตา ทกฺขิณา. ‘เอตฺตกา เม ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ ¶ สงฺฆโต อุทฺทิสฺสถา’ติ ทานํ เทติ – อยํ ปฺจมี สงฺฆคตา ทกฺขิณา. ‘เอตฺตกา ¶ เม ภิกฺขู สงฺฆโต อุทฺทิสฺสถา’ติ ทานํ เทติ – อยํ ฉฏฺี สงฺฆคตา ทกฺขิณา. ‘เอตฺตกา เม ภิกฺขุนิโย สงฺฆโต อุทฺทิสฺสถา’ติ ทานํ เทติ – อยํ สตฺตมี สงฺฆคตา ทกฺขิณา.
‘‘ภวิสฺสนฺติ ¶ โข ปนานนฺท, อนาคตมทฺธานํ โคตฺรภุโน กาสาวกณฺา ¶ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา. เตสุ ทุสฺสีเลสุ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทานํ ทสฺสนฺติ. ตทาปาหํ, อานนฺท, สงฺฆคตํ ทกฺขิณํ อสงฺเขยฺยํ อปฺปเมยฺยํ วทามิ. น ตฺเววาหํ, อานนฺท, เกนจิ ปริยาเยน สงฺฆคตาย ทกฺขิณาย ปาฏิปุคฺคลิกํ ทานํ มหปฺผลตรํ วทามิ.
๓๘๑. ‘‘จตสฺโส โข อิมา, อานนฺท, ทกฺขิณา วิสุทฺธิโย. กตมา จตสฺโส? อตฺถานนฺท, ทกฺขิณา ทายกโต วิสุชฺฌติ โน ปฏิคฺคาหกโต. อตฺถานนฺท, ทกฺขิณา ปฏิคฺคาหกโต วิสุชฺฌติ โน ทายกโต. อตฺถานนฺท, ทกฺขิณา เนว ทายกโต วิสุชฺฌติ โน ปฏิคฺคาหกโต. อตฺถานนฺท, ทกฺขิณา ทายกโต เจว วิสุชฺฌติ ปฏิคฺคาหกโต จ.
‘‘กถฺจานนฺท, ทกฺขิณา ทายกโต วิสุชฺฌติ โน ปฏิคฺคาหกโต? อิธานนฺท, ทายโก โหติ สีลวา กลฺยาณธมฺโม, ปฏิคฺคาหกา โหนฺติ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา – เอวํ โข, อานนฺท, ทกฺขิณา ทายกโต วิสุชฺฌติ โน ปฏิคฺคาหกโต.
‘‘กถฺจานนฺท, ทกฺขิณา ปฏิคฺคาหกโต วิสุชฺฌติ โน ทายกโต? อิธานนฺท, ทายโก โหติ ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม, ปฏิคฺคาหกา โหนฺติ สีลวนฺโต [สีลวนฺตา (สี.)] กลฺยาณธมฺมา – เอวํ โข, อานนฺท, ทกฺขิณา ปฏิคฺคาหกโต วิสุชฺฌติ โน ทายกโต.
‘‘กถฺจานนฺท, ทกฺขิณา เนว ทายกโต วิสุชฺฌติ โน ปฏิคฺคาหกโต? อิธานนฺท, ทายโก จ โหติ ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม, ปฏิคฺคาหกา ¶ จ โหนฺติ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา – เอวํ โข, อานนฺท, ทกฺขิณา เนว ทายกโต วิสุชฺฌติ โน ปฏิคฺคาหกโต.
‘‘กถฺจานนฺท, ทกฺขิณา ทายกโต เจว วิสุชฺฌติ ปฏิคฺคาหกโต จ? อิธานนฺท, ทายโก จ โหติ สีลวา กลฺยาณธมฺโม, ปฏิคฺคาหกา จ โหนฺติ สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา ¶ – เอวํ ¶ โข, อานนฺท, ทกฺขิณา ทายกโต เจว วิสุชฺฌติ ปฏิคฺคาหกโต จ. อิมา โข, อานนฺท, จตสฺโส ทกฺขิณา วิสุทฺธิโย’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘โย ¶ สีลวา ทุสฺสีเลสุ ททาติ ทานํ,
ธมฺเมน ลทฺธํ [ลทฺธา (สี. ปี.)] สุปสนฺนจิตฺโต;
อภิสทฺทหํ กมฺมผลํ อุฬารํ,
สา ทกฺขิณา ทายกโต วิสุชฺฌติ.
‘‘โย ทุสฺสีโล สีลวนฺเตสุ ททาติ ทานํ,
อธมฺเมน ลทฺธํ อปฺปสนฺนจิตฺโต;
อนภิสทฺทหํ กมฺมผลํ อุฬารํ,
สา ทกฺขิณา ปฏิคฺคาหกโต วิสุชฺฌติ.
‘‘โย ทุสฺสีโล ทุสฺสีเลสุ ททาติ ทานํ,
อธมฺเมน ลทฺธํ อปฺปสนฺนจิตฺโต;
อนภิสทฺทหํ ¶ กมฺมผลํ อุฬารํ,
น ตํ ทานํ วิปุลปฺผลนฺติ พฺรูมิ.
‘‘โย สีลวา สีลวนฺเตสุ ททาติ ทานํ,
ธมฺเมน ลทฺธํ สุปสนฺนจิตฺโต;
อภิสทฺทหํ กมฺมผลํ อุฬารํ,
ตํ เว ทานํ วิปุลปฺผลนฺติ พฺรูมิ [สา ทกฺขิณา เนวุภโต วิสุชฺฌติ (สี. ปี.)].
‘‘โย วีตราโค วีตราเคสุ ททาติ ทานํ,
ธมฺเมน ลทฺธํ สุปสนฺนจิตฺโต;
อภิสทฺทหํ ¶ กมฺมผลํ อุฬารํ,
ตํ เว ทานํ อามิสทานานมคฺค’’ [ตํ เว ทานํ วิปุลนฺติ พฺรูมิ (สี.)] นฺติ.
ทกฺขิณาวิภงฺคสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทฺวาทสมํ.
วิภงฺควคฺโค นิฏฺิโต จตุตฺโถ.
ตสฺสุทฺทานํ –
ภทฺเทกานนฺทกจฺจาน, โลมสกงฺคิยาสุโภ;
มหากมฺมสฬายตนวิภงฺคา, อุทฺเทสอรณา ธาตุ สจฺจํ.
ทกฺขิณาวิภงฺคสุตฺตนฺติ.