📜
๕. สฬายตนวคฺโค
๑. อนาถปิณฺฑิโกวาทสุตฺตํ
๓๘๓. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อนาถปิณฺฑิโก คหปติ อาพาธิโก โหติ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, เยน ภควา เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทาหิ [วนฺทาหิ เอวฺจ วเทหิ (สพฺพตฺถ) อฺสุตฺเตสุ ปน นตฺถิ] – ‘อนาถปิณฺฑิโก, ภนฺเต, คหปติ อาพาธิโก ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน. โส ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’ติ. เยน จายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปาเท สิรสา วนฺทาหิ [วนฺทาหิ เอวฺจ วเทหิ (สพฺพตฺถ) อฺสุตฺเตสุ ปน นตฺถิ] – ‘อนาถปิณฺฑิโก, ภนฺเต, คหปติ อาพาธิโก ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน. โส อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปาเท สิรสา วนฺทตี’ติ. เอวฺจ วเทหิ – ‘สาธุ กิร, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข โส ปุริโส อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ปุริโส ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อนาถปิณฺฑิโก, ภนฺเต, คหปติ อาพาธิโก ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน. โส ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’’ติ. เยน จายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ ¶ นิสินฺโน โข โส ปุริโส อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อนาถปิณฺฑิโก, ภนฺเต, คหปติ อาพาธิโก ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน. โส อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปาเท สิรสา วนฺทติ; เอวฺจ วเทติ – ‘สาธุ กิร, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน อนาถปิณฺฑิกสฺส ¶ คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ ¶ อุปาทายา’’’ติ. อธิวาเสสิ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ตุณฺหีภาเวน.
๓๘๔. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อายสฺมตา อานนฺเทน ปจฺฉาสมเณน เยน อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต ¶ อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ เต, คหปติ, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ? กจฺจิ เต ทุกฺขา เวทนา ปฏิกฺกมนฺติ, โน อภิกฺกมนฺติ; ปฏิกฺกโมสานํ ปฺายติ, โน อภิกฺกโม’’ติ?
‘‘น เม, ภนฺเต สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํ. พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฏิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปฺายติ, โน ปฏิกฺกโม. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต สาริปุตฺต, พลวา ปุริโส ติณฺเหน สิขเรน ¶ มุทฺธนิ [มุทฺธานํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อภิมตฺเถยฺย [อภิมนฺเถยฺย (สี. ปี.)]; เอวเมว โข เม, ภนฺเต สาริปุตฺต, อธิมตฺตา วาตา มุทฺธนิ [โอหนนฺติ (สฺยา. กํ.)] อูหนนฺติ [อธิมตฺตา วาตา สีลํ ปริกนฺตนฺติ (สี. สฺยา. กํ.)]. น เม, ภนฺเต สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํ. พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฏิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปฺายติ, โน ปฏิกฺกโม. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต สาริปุตฺต, พลวา ปุริโส ทฬฺเหน วรตฺตขณฺเฑน สีเส สีสเวํ ทเทยฺย; เอวเมว โข เม, ภนฺเต สาริปุตฺต, อธิมตฺตา สีเส สีสเวทนา. น เม, ภนฺเต สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํ. พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฏิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปฺายติ, โน ปฏิกฺกโม. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต สาริปุตฺต, ทกฺโข โคฆาตโก วา โคฆาตกนฺเตวาสี วา ติณฺเหน โควิกนฺตเนน กุจฺฉึ ปริกนฺเตยฺย; เอวเมว โข เม, ภนฺเต สาริปุตฺต, อธิมตฺตา วาตา กุจฺฉึ ปริกนฺตนฺติ. น เม, ภนฺเต สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํ. พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฏิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปฺายติ, โน ปฏิกฺกโม. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต สาริปุตฺต, ทฺเว พลวนฺโต ปุริสา ทุพฺพลตรํ ปุริสํ นานาพาหาสุ คเหตฺวา องฺคารกาสุยา สนฺตาเปยฺยุํ, สมฺปริตาเปยฺยุํ; เอวเมว โข เม, ภนฺเต สาริปุตฺต, อธิมตฺโต กายสฺมึ ฑาโห. น เม, ภนฺเต สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํ. พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา ¶ อภิกฺกมนฺติ, โน ปฏิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ¶ ปฺายติ, โน ปฏิกฺกโม’’ติ.
๓๘๕. ‘‘ตสฺมาติห ¶ เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น จกฺขุํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม จกฺขุนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ.
‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น โสตํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม โสตนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น ฆานํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม ฆานนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น ชิวฺหํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม ชิวฺหานิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น กายํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม กายนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น มนํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม มโนนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ.
‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น รูปํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม รูปนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น สทฺทํ อุปาทิยิสฺสามิ…เป… น คนฺธํ อุปาทิยิสฺสามิ… น รสํ อุปาทิยิสฺสามิ… น โผฏฺพฺพํ อุปาทิยิสฺสามิ… น ธมฺมํ อุปาทิยิสฺสามิ น ¶ จ เม ธมฺมนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ.
‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น จกฺขุวิฺาณํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม จกฺขุวิฺาณนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น โสตวิฺาณํ อุปาทิยิสฺสามิ… น ฆานวิฺาณํ อุปาทิยิสฺสามิ… น ชิวฺหาวิฺาณํ อุปาทิยิสฺสามิ… น กายวิฺาณํ อุปาทิยิสฺสามิ… น มโนวิฺาณํ อุปาทิยิสฺสามิ น จ เม มโนวิฺาณนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ.
‘‘ตสฺมาติห ¶ เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น จกฺขุสมฺผสฺสํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ ¶ เม จกฺขุสมฺผสฺสนิสฺสิตํ ¶ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น โสตสมฺผสฺสํ อุปาทิยิสฺสามิ… น ฆานสมฺผสฺสํ อุปาทิยิสฺสามิ… น ชิวฺหาสมฺผสฺสํ อุปาทิยิสฺสามิ… น กายสมฺผสฺสํ อุปาทิยิสฺสามิ… น มโนสมฺผสฺสํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม มโนสมฺผสฺสนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ.
‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น จกฺขุสมฺผสฺสชํ เวทนํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม จกฺขุสมฺผสฺสชาเวทนานิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต ¶ , คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น โสตสมฺผสฺสชํ เวทนํ อุปาทิยิสฺสามิ… น ฆานสมฺผสฺสชํ เวทนํ อุปาทิยิสฺสามิ… น ชิวฺหาสมฺผสฺสชํ เวทนํ อุปาทิยิสฺสามิ… น กายสมฺผสฺสชํ เวทนํ อุปาทิยิสฺสามิ… น มโนสมฺผสฺสชํ เวทนํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม มโนสมฺผสฺสชาเวทนานิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ.
๓๘๖. ‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น ปถวีธาตุํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม ปถวีธาตุนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น อาโปธาตุํ อุปาทิยิสฺสามิ… น เตโชธาตุํ อุปาทิยิสฺสามิ… น วาโยธาตุํ อุปาทิยิสฺสามิ… น อากาสธาตุํ อุปาทิยิสฺสามิ… น วิฺาณธาตุํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม วิฺาณธาตุนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ.
‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น รูปํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม รูปนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น เวทนํ อุปาทิยิสฺสามิ… น สฺํ อุปาทิยิสฺสามิ… น สงฺขาเร อุปาทิยิสฺสามิ… น วิฺาณํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม วิฺาณนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ.
‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น อากาสานฺจายตนํ ¶ อุปาทิยิสฺสามิ ¶ , น จ เม อากาสานฺจายตนนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ ¶ . เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น วิฺาณฺจายตนํ อุปาทิยิสฺสามิ… น อากิฺจฺายตนํ ¶ อุปาทิยิสฺสามิ… น เนวสฺานาสฺายตนํ อุปาทิยิสฺสามิ น จ เม เนวสฺานาสฺายตนนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ.
‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น อิธโลกํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม อิธโลกนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น ปรโลกํ อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม ปรโลกนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘ยมฺปิ เม ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุปริเยสิตํ อนุจริตํ มนสา ตมฺปิ น อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม ตํนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ.
๓๘๗. เอวํ วุตฺเต, อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ปโรทิ, อสฺสูนิ ปวตฺเตสิ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘โอลียสิ โข ตฺวํ, คหปติ, สํสีทสิ โข ตฺวํ, คหปตี’’ติ? ‘‘นาหํ, ภนฺเต อานนฺท, โอลียามิ, นปิ สํสีทามิ; อปิ จ เม ทีฆรตฺตํ สตฺถา ปยิรุปาสิโต มโนภาวนียา จ ภิกฺขู; น จ เม เอวรูปี ธมฺมี ¶ กถา สุตปุพฺพา’’ติ. ‘‘น โข, คหปติ, คิหีนํ โอทาตวสนานํ เอวรูปี ธมฺมี กถา ปฏิภาติ; ปพฺพชิตานํ โข, คหปติ, เอวรูปี ธมฺมี กถา ปฏิภาตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต สาริปุตฺต, คิหีนมฺปิ โอทาตวสนานํ เอวรูปี ธมฺมี กถา ปฏิภาตุ. สนฺติ หิ, ภนฺเต, กุลปุตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ; ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร’’ติ.
อถ โข อายสฺมา จ สาริปุตฺโต อายสฺมา จ อานนฺโท อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ อิมินา โอวาเทน โอวทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกมึสุ. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ, อจิรปกฺกนฺเต อายสฺมนฺเต จ สาริปุตฺเต อายสฺมนฺเต จ อานนฺเท ¶ , กาลมกาสิ ตุสิตํ กายํ อุปปชฺชิ. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก เทวปุตฺโต อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ ¶ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ¶ ิโต โข อนาถปิณฺฑิโก เทวปุตฺโต ภควนฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –
‘‘อิทฺหิ ตํ เชตวนํ, อิสิสงฺฆนิเสวิตํ;
อาวุตฺถํ ธมฺมราเชน, ปีติสฺชนนํ มม.
‘‘กมฺมํ วิชฺชา จ ธมฺโม จ, สีลํ ชีวิตมุตฺตมํ;
เอเตน มจฺจา สุชฺฌนฺติ, น โคตฺเตน ธเนน วา.
‘‘ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน;
โยนิโส วิจิเน ธมฺมํ, เอวํ ตตฺถ วิสุชฺฌติ.
‘‘สาริปุตฺโตว ¶ ปฺาย, สีเลน อุปสเมน;
โยปิ ปารงฺคโต ภิกฺขุ, เอตาวปรโม สิยา’’ติ.
อิทมโวจ อนาถปิณฺฑิโก เทวปุตฺโต. สมนฺุโ สตฺถา อโหสิ. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก เทวปุตฺโต – ‘‘สมนฺุโ เม สตฺถา’’ติ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ.
๓๘๘. อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺตึ อฺตโร เทวปุตฺโต อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข โส เทวปุตฺโต มํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –
‘‘อิทฺหิ ตํ เชตวนํ, อิสิสงฺฆนิเสวิตํ;
อาวุตฺถํ ธมฺมราเชน, ปีติสฺชนนํ มม.
‘‘กมฺมํ วิชฺชา จ ธมฺโม จ, สีลํ ชีวิตมุตฺตมํ;
เอเตน มจฺจา สุชฺฌนฺติ, น โคตฺเตน ธเนน วา.
‘‘ตสฺมา ¶ หิ ปณฺฑิโต โปโส, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน;
โยนิโส วิจิเน ธมฺมํ, เอวํ ตตฺถ วิสุชฺฌติ.
‘‘สาริปุตฺโตว ปฺาย, สีเลน อุปสเมน;
โยปิ ปารงฺคโต ภิกฺขุ, เอตาวปรโม สิยา’’ติ.
‘‘อิทมโวจ ¶ , ภิกฺขเว, โส เทวปุตฺโต. ‘สมนฺุโ เม สตฺถา’ติ มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายี’’ติ.
เอวํ ¶ ¶ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โส หิ นูน โส, ภนฺเต, อนาถปิณฺฑิโก เทวปุตฺโต ภวิสฺสติ. อนาถปิณฺฑิโก, ภนฺเต, คหปติ อายสฺมนฺเต สาริปุตฺเต อภิปฺปสนฺโน อโหสี’’ติ. ‘‘สาธุ, สาธุ, อานนฺท! ยาวตกํ โข, อานนฺท, ตกฺกาย ปตฺตพฺพํ, อนุปฺปตฺตํ ตํ ตยา. อนาถปิณฺฑิโก โส, อานนฺท, เทวปุตฺโต’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
อนาถปิณฺฑิโกวาทสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปมํ.
๒. ฉนฺโนวาทสุตฺตํ
๓๘๙. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จ สาริปุตฺโต อายสฺมา จ มหาจุนฺโท อายสฺมา จ ฉนฺโน คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต วิหรนฺติ. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ฉนฺโน อาพาธิโก โหติ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยนายสฺมา มหาจุนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหาจุนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘อายามาวุโส จุนฺท, เยนายสฺมา ฉนฺโน เตนุปสงฺกมิสฺสาม คิลานปุจฺฉกา’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา มหาจุนฺโท อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสิ.
อถ โข อายสฺมา จ สาริปุตฺโต อายสฺมา จ มหาจุนฺโท เยนายสฺมา ฉนฺโน เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา ฉนฺเนน สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ ¶ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ เต, อาวุโส ฉนฺน, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ? กจฺจิ เต ทุกฺขา เวทนา ปฏิกฺกมนฺติ, โน อภิกฺกมนฺติ; ปฏิกฺกโมสานํ ปฺายติ, โน อภิกฺกโม’’ติ?
‘‘น เม, อาวุโส สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํ. พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฏิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปฺายติ, โน ปฏิกฺกโม. เสยฺยถาปิ ¶ , อาวุโส สาริปุตฺต, พลวา ปุริโส ¶ ติณฺเหน สิขเรน มุทฺธนิ อภิมตฺเถยฺย; เอวเมว โข เม, อาวุโส สาริปุตฺต, อธิมตฺตา วาตา มุทฺธนิ อูหนนฺติ. น เม, อาวุโส สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํ. พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฏิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปฺายติ โน ปฏิกฺกโม. เสยฺยถาปิ, อาวุโส สาริปุตฺต, พลวา ปุริโส ทฬฺเหน วรตฺตกฺขณฺเฑน สีเส สีสเวํ ทเทยฺย; เอวเมว โข เม, อาวุโส สาริปุตฺต, อธิมตฺตา สีเส สีสเวทนา. น เม, อาวุโส สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํ. พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฏิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปฺายติ, โน ปฏิกฺกโม. เสยฺยถาปิ, อาวุโส ¶ สาริปุตฺต, ทกฺโข โคฆาตโก วา โคฆาตกนฺเตวาสี วา ติณฺเหน โควิกนฺตเนน กุจฺฉึ ปริกนฺเตยฺย; เอวเมว โข เม, อาวุโส สาริปุตฺต, อธิมตฺตา วาตา กุจฺฉึ ปริกนฺตนฺติ. น เม, อาวุโส สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํ. พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฏิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปฺายติ, โน ปฏิกฺกโม. เสยฺยถาปิ, อาวุโส สาริปุตฺต, ทฺเว พลวนฺโต ปุริสา ทุพฺพลตรํ ปุริสํ นานาพาหาสุ คเหตฺวา องฺคารกาสุยา สนฺตาเปยฺยุํ สมฺปริตาเปยฺยุํ; เอวเมว โข เม, อาวุโส สาริปุตฺต, อธิมตฺโต ¶ กายสฺมึ ฑาโห. น เม, อาวุโส สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํ. พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฏิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปฺายติ, โน ปฏิกฺกโม. สตฺถํ, อาวุโส สาริปุตฺต, อาหริสฺสามิ, นาวกงฺขามิ ชีวิต’’นฺติ.
๓๙๐. ‘‘มายสฺมา ฉนฺโน สตฺถํ อาหเรสิ. ยาเปตายสฺมา ฉนฺโน. ยาเปนฺตํ มยํ อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ อิจฺฉาม. สเจ อายสฺมโต ฉนฺนสฺส นตฺถิ สปฺปายานิ โภชนานิ, อหํ อายสฺมโต ฉนฺนสฺส สปฺปายานิ โภชนานิ ปริเยสิสฺสามิ. สเจ อายสฺมโต ฉนฺนสฺส นตฺถิ สปฺปายานิ เภสชฺชานิ, อหํ อายสฺมโต ฉนฺนสฺส สปฺปายานิ เภสชฺชานิ ปริเยสิสฺสามิ. สเจ อายสฺมโต ฉนฺนสฺส นตฺถิ ปติรูปา อุปฏฺากา, อหํ อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ อุปฏฺหิสฺสามิ. มายสฺมา ฉนฺโน สตฺถํ อาหเรสิ. ยาเปตายสฺมา ฉนฺโน. ยาเปนฺตํ มยํ อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ อิจฺฉามา’’ติ.
‘‘นปิ เม, อาวุโส สาริปุตฺต, นตฺถิ สปฺปายานิ โภชนานิ; นปิ เม นตฺถิ สปฺปายานิ เภสชฺชานิ; นปิ เม นตฺถิ ปติรูปา อุปฏฺากา; อปิ จาวุโส สาริปุตฺต ¶ , ปริจิณฺโณ เม สตฺถา ทีฆรตฺตํ มนาเปเนว โน อมนาเปน. เอตฺหิ, อาวุโส สาริปุตฺต, สาวกสฺส ปติรูปํ ยํ สตฺถารํ ปริจเรยฺย มนาเปเนว โน อมนาเปน. ‘อนุปวชฺชํ ฉนฺโน ภิกฺขุ สตฺถํ อาหริสฺสตี’ติ เอวเมตํ [เอวเมว โข ตฺวํ (ก.)], อาวุโส สาริปุตฺต, ธาเรหี’’ติ. ‘‘ปุจฺเฉยฺยาม มยํ อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ กฺจิเทว เทสํ, สเจ อายสฺมา ¶ ฉนฺโน โอกาสํ กโรติ ปฺหสฺส เวยฺยากรณายา’’ติ. ‘‘ปุจฺฉาวุโส สาริปุตฺต, สุตฺวา เวทิสฺสามี’’ติ.
๓๙๑. ‘‘จกฺขุํ, อาวุโส ฉนฺน, จกฺขุวิฺาณํ จกฺขุวิฺาณวิฺาตพฺเพ ธมฺเม ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส ¶ เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสสิ? โสตํ, อาวุโส ฉนฺน, โสตวิฺาณํ…เป… ฆานํ, อาวุโส ฉนฺน, ฆานวิฺาณํ… ชิวฺหํ, อาวุโส ฉนฺน, ชิวฺหาวิฺาณํ ¶ … กายํ, อาวุโส ฉนฺน, กายวิฺาณํ… มนํ, อาวุโส ฉนฺน, มโนวิฺาณํ มโนวิฺาณวิฺาตพฺเพ ธมฺเม ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสสี’’ติ?
‘‘จกฺขุํ, อาวุโส สาริปุตฺต, จกฺขุวิฺาณํ จกฺขุวิฺาณวิฺาตพฺเพ ธมฺเม ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสามิ. โสตํ, อาวุโส สาริปุตฺต…เป… ฆานํ, อาวุโส สาริปุตฺต… ชิวฺหํ, อาวุโส สาริปุตฺต… กายํ, อาวุโส สาริปุตฺต… มนํ, อาวุโส สาริปุตฺต, มโนวิฺาณํ มโนวิฺาณวิฺาตพฺเพ ธมฺเม ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสามี’’ติ.
๓๙๒. ‘‘จกฺขุสฺมึ, อาวุโส ฉนฺน, จกฺขุวิฺาเณ จกฺขุวิฺาณวิฺาตพฺเพสุ ธมฺเมสุ กึ ทิสฺวา กึ อภิฺาย จกฺขุํ จกฺขุวิฺาณํ จกฺขุวิฺาณวิฺาตพฺเพ ธมฺเม ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสสิ? โสตสฺมึ, อาวุโส ฉนฺน, โสตวิฺาเณ ¶ … ฆานสฺมึ, อาวุโส ฉนฺน, ฆานวิฺาเณ… ชิวฺหาย, อาวุโส ฉนฺน, ชิวฺหาวิฺาเณ… กายสฺมึ, อาวุโส ฉนฺน, กายวิฺาเณ… มนสฺมึ, อาวุโส ฉนฺน, มโนวิฺาเณ มโนวิฺาณวิฺาตพฺเพสุ ธมฺเมสุ กึ ทิสฺวา กึ อภิฺาย มนํ มโนวิฺาณํ มโนวิฺาณวิฺาตพฺเพ ธมฺเม ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสสี’’ติ?
‘‘จกฺขุสฺมึ ¶ , อาวุโส สาริปุตฺต, จกฺขุวิฺาเณ จกฺขุวิฺาณวิฺาตพฺเพสุ ธมฺเมสุ นิโรธํ ทิสฺวา นิโรธํ อภิฺาย จกฺขุํ จกฺขุวิฺาณํ จกฺขุวิฺาณวิฺาตพฺเพ ธมฺเม ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสามิ. โสตสฺมึ, อาวุโส สาริปุตฺต, โสตวิฺาเณ… ฆานสฺมึ, อาวุโส สาริปุตฺต, ฆานวิฺาเณ… ชิวฺหาย, อาวุโส สาริปุตฺต, ชิวฺหาวิฺาเณ… กายสฺมึ, อาวุโส สาริปุตฺต, กายวิฺาเณ… มนสฺมึ, อาวุโส สาริปุตฺต, มโนวิฺาเณ มโนวิฺาณวิฺาตพฺเพสุ ¶ ธมฺเมสุ นิโรธํ ทิสฺวา นิโรธํ อภิฺา มนํ มโนวิฺาณํ มโนวิฺาณวิฺาตพฺเพ ¶ ธมฺเม ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสามี’’ติ.
๓๙๓. เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา มหาจุนฺโท อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ เอตทโวจ – ‘‘ตสฺมาติห, อาวุโส ฉนฺน, อิทมฺปิ ตสฺส ภควโต สาสนํ [วจนํ (สี.)], นิจฺจกปฺปํ มนสิ กาตพฺพํ – ‘นิสฺสิตสฺส จลิตํ, อนิสฺสิตสฺส จลิตํ ¶ นตฺถิ. จลิเต อสติ ปสฺสทฺธิ, ปสฺสทฺธิยา สติ นติ น โหติ. นติยา อสติ อาคติคติ น โหติ. อาคติคติยา อสติ จุตูปปาโต น โหติ. จุตูปปาเต อสติ เนวิธ น หุรํ น อุภยมนฺตเรน. เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’’ติ. อถ โข อายสฺมา จ สาริปุตฺโต อายสฺมา จ มหาจุนฺโท อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ อิมินา โอวาเทน โอวทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกมึสุ.
๓๙๔. อถ โข อายสฺมา ฉนฺโน อจิรปกฺกนฺเต อายสฺมนฺเต จ สาริปุตฺเต อายสฺมนฺเต จ มหาจุนฺเท สตฺถํ อาหเรสิ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อายสฺมตา, ภนฺเต, ฉนฺเนน สตฺถํ อาหริตํ. ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย’’ติ? ‘‘นนุ เต, สาริปุตฺต, ฉนฺเนน ภิกฺขุนา สมฺมุขาเยว อนุปวชฺชตา พฺยากตา’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, ปุพฺพชิรํ [ปปฺปชิตฺหิตํ (ก.), อุปวชฺชิตํ (ก.), ปุพฺพวิชฺชนํ, ปุพฺพวิชฺฌนํ, ปุพฺพวิจิรํ (สํยุตฺตเก)] นาม วชฺชิคาโม. ตตฺถายสฺมโต ฉนฺนสฺส มิตฺตกุลานิ สุหชฺชกุลานิ อุปวชฺชกุลานี’’ติ. ‘‘โหนฺติ [โปสนฺติ (ก.)] เหเต, สาริปุตฺต, ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน มิตฺตกุลานิ สุหชฺชกุลานิ อุปวชฺชกุลานิ. นาหํ, สาริปุตฺต, เอตฺตาวตา ¶ ‘สอุปวชฺโช’ติ วทามิ. โย โข, สาริปุตฺต, อิมฺจ กายํ นิกฺขิปติ อฺฺจ กายํ อุปาทิยติ ตมหํ ‘สอุปวชฺโช’ติ วทามิ. ตํ ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน นตฺถิ. ‘อนุปวชฺโช ฉนฺโน ภิกฺขุ สตฺถํ อาหเรสี’ติ เอวเมตํ, สาริปุตฺต, ธาเรหี’’ติ.
อิทมโวจ ¶ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
ฉนฺโนวาทสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทุติยํ.
๓. ปุณฺโณวาทสุตฺตํ
๓๙๕. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อายสฺมา ปุณฺโณ สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา ปุณฺโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ มํ, ภนฺเต, ภควา สํขิตฺเตน โอวาเทน โอวทตุ, ยมหํ ภควโต ธมฺมํ สุตฺวา เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหเรยฺย’’นฺติ. ‘‘เตน หิ, ปุณฺณ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา ปุณฺโณ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘สนฺติ โข, ปุณฺณ, จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา. ตํ เจ ภิกฺขุ อภินนฺทติ อภิวทติ อชฺโฌสาย ติฏฺติ. ตสฺส ตํ อภินนฺทโต อภิวทโต อชฺโฌสาย ติฏฺโต อุปฺปชฺชติ นนฺที [นนฺทิ (สฺยา. กํ.)]. ‘นนฺทีสมุทยา ทุกฺขสมุทโย, ปุณฺณา’ติ วทามิ.
‘‘สนฺติ โข, ปุณฺณ, โสตวิฺเยฺยา สทฺทา… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา… มโนวิฺเยฺยา ธมฺมา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา. ตํ เจ ภิกฺขุ อภินนฺทติ อภิวทติ อชฺโฌสาย ติฏฺติ. ตสฺส ตํ อภินนฺทโต อภิวทโต ¶ อชฺโฌสาย ติฏฺโต อุปฺปชฺชติ นนฺที. ‘นนฺทีสมุทยา ทุกฺขสมุทโย, ปุณฺณา’ติ วทามิ.
‘‘สนฺติ ¶ จ โข, ปุณฺณ, จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา. ตํ เจ ภิกฺขุ นาภินนฺทติ นาภิวทติ นาชฺโฌสาย ติฏฺติ. ตสฺส ตํ อนภินนฺทโต อนภิวทโต อนชฺโฌสาย ติฏฺโต นนฺที นิรุชฺฌติ. ‘นนฺทีนิโรธา ทุกฺขนิโรโธ, ปุณฺณา’ติ วทามิ.
‘‘สนฺติ ¶ จ โข, ปุณฺณ, โสตวิฺเยฺยา สทฺทา… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา… มโนวิฺเยฺยา ธมฺมา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา ¶ รชนียา. ตํ เจ ภิกฺขุ นาภินนฺทติ นาภิวทติ นาชฺโฌสาย ติฏฺติ. ตสฺส ตํ อนภินนฺทโต อนภิวทโต อนชฺโฌสาย ติฏฺโต นนฺที นิรุชฺฌติ. ‘นนฺทีนิโรธา ทุกฺขนิโรโธ, ปุณฺณา’ติ วทามิ.
‘‘อิมินา จ ตฺวํ ปุณฺณ, มยา สํขิตฺเตน โอวาเทน โอวทิโต กตรสฺมึ ชนปเท วิหริสฺสสี’’ติ? ‘‘อิมินาหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน โอวาเทน โอวทิโต, อตฺถิ สุนาปรนฺโต นาม ชนปโท, ตตฺถาหํ วิหริสฺสามี’’ติ.
๓๙๖. ‘‘จณฺฑา โข, ปุณฺณ, สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา; ผรุสา โข, ปุณฺณ, สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา. สเจ ตํ, ปุณฺณ, สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา อกฺโกสิสฺสนฺติ ปริภาสิสฺสนฺติ, ตตฺถ เต, ปุณฺณ, กินฺติ ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘สเจ มํ, ภนฺเต, สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา อกฺโกสิสฺสนฺติ ปริภาสิสฺสนฺติ, ตตฺถ เม เอวํ ภวิสฺสติ – ‘ภทฺทกา [ภทฺรกา (ก.)] วติเม สุนาปรนฺตกา ¶ มนุสฺสา, สุภทฺทกา วติเม สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา, ยํ เม นยิเม ปาณินา ปหารํ เทนฺตี’ติ. เอวเมตฺถ [เอวมฺเมตฺถ (?)], ภควา, ภวิสฺสติ; เอวเมตฺถ, สุคต, ภวิสฺสตี’’ติ.
‘‘สเจ ปน เต, ปุณฺณ, สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา ปาณินา ปหารํ ทสฺสนฺติ, ตตฺถ ปน เต, ปุณฺณ, กินฺติ ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘สเจ เม, ภนฺเต, สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา ปาณินา ปหารํ ทสฺสนฺติ, ตตฺถ เม เอวํ ภวิสฺสติ – ‘ภทฺทกา วติเม สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา, สุภทฺทกา วติเม สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา, ยํ เม นยิเม เลฑฺฑุนา ปหารํ เทนฺตี’ติ. เอวเมตฺถ, ภควา, ภวิสฺสติ; เอวเมตฺถ, สุคต, ภวิสฺสตี’’ติ.
‘‘สเจ ปน เต, ปุณฺณ, สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา เลฑฺฑุนา ปหารํ ทสฺสนฺติ, ตตฺถ ปน เต, ปุณฺณ, กินฺติ ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘สเจ เม, ภนฺเต, สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา ¶ เลฑฺฑุนา ปหารํ ทสฺสนฺติ, ตตฺถ เม เอวํ ภวิสฺสติ – ‘ภทฺทกา วติเม สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา, สุภทฺทกา วติเม สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา, ยํ เม นยิเม ทณฺเฑน ปหารํ เทนฺตี’ติ. เอวเมตฺถ, ภควา, ภวิสฺสติ; เอวเมตฺถ, สุคต, ภวิสฺสตี’’ติ.
‘‘สเจ ¶ ¶ ปน เต, ปุณฺณ, สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา ทณฺเฑน ปหารํ ทสฺสนฺติ, ตตฺถ ปน เต, ปุณฺณ, กินฺติ ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘สเจ เม, ภนฺเต, สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา ทณฺเฑน ปหารํ ทสฺสนฺติ, ตตฺถ เม เอวํ ภวิสฺสติ – ‘ภทฺทกา วติเม สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา, สุภทฺทกา วติเม ¶ สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา, ยํ เม นยิเม สตฺเถน ปหารํ เทนฺตี’ติ. เอวเมตฺถ, ภควา, ภวิสฺสติ; เอวเมตฺถ, สุคต, ภวิสฺสตี’’ติ.
‘‘สเจ ปน เต, ปุณฺณ, สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา สตฺเถน ปหารํ ทสฺสนฺติ, ตตฺถ ปน เต, ปุณฺณ, กินฺติ ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘สเจ เม, ภนฺเต, สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา สตฺเถน ปหารํ ทสฺสนฺติ, ตตฺถ เม เอวํ ภวิสฺสติ – ‘ภทฺทกา วติเม สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา, สุภทฺทกา วติเม สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา, ยํ มํ [ยํ เม (สี. ปี. ก.)] นยิเม ติณฺเหน สตฺเถน ชีวิตา โวโรเปนฺตี’ติ. เอวเมตฺถ, ภควา, ภวิสฺสติ; เอวเมตฺถ, สุคต, ภวิสฺสตี’’ติ.
‘‘สเจ ปน ตํ, ปุณฺณ, สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา ติณฺเหน สตฺเถน ชีวิตา โวโรเปสฺสนฺติ, ตตฺถ ปน เต, ปุณฺณ, กินฺติ ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘สเจ มํ, ภนฺเต, สุนาปรนฺตกา มนุสฺสา ติณฺเหน สตฺเถน ชีวิตา โวโรเปสฺสนฺติ, ตตฺถ เม เอวํ ภวิสฺสติ – ‘สนฺติ โข ภควโต สาวกา กาเย จ ชีวิเต จ อฏฺฏียมานา หรายมานา ชิคุจฺฉมานา สตฺถหารกํ ปริเยสนฺติ. ตํ เม อิทํ อปริยิฏฺํเยว สตฺถหารกํ ลทฺธ’นฺติ. เอวเมตฺถ, ภควา, ภวิสฺสติ; เอวเมตฺถ, สุคต, ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘สาธุ, สาธุ, ปุณฺณ! สกฺขิสฺสสิ โข ตฺวํ, ปุณฺณ, อิมินา ทมูปสเมน สมนฺนาคโต สุนาปรนฺตสฺมึ ชนปเท วิหริตุํ. ยสฺสทานิ ตฺวํ, ปุณฺณ, กาลํ มฺสี’’ติ.
๓๙๗. อถ โข อายสฺมา ปุณฺโณ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ¶ ปทกฺขิณํ กตฺวา เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สุนาปรนฺโต ชนปโท เตน ¶ จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน สุนาปรนฺโต ชนปโท ตทวสริ. ตตฺร สุทํ อายสฺมา ปุณฺโณ สุนาปรนฺตสฺมึ ชนปเท วิหรติ. อถ โข อายสฺมา ปุณฺโณ เตเนวนฺตรวสฺเสน ปฺจมตฺตานิ อุปาสกสตานิ ปฏิเวเทสิ [ปฏิปาเทสิ (สี. ปี.), ปฏิเทเสสิ (สฺยา. กํ.)], เตเนวนฺตรวสฺเสน ปฺจมตฺตานิ อุปาสิกสตานิ ปฏิเวเทสิ, เตเนวนฺตรวสฺเสน ติสฺโส วิชฺชา สจฺฉากาสิ. อถ โข อายสฺมา ปุณฺโณ อปเรน สมเยน ปรินิพฺพายิ.
อถ ¶ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘โย โส, ภนฺเต, ปุณฺโณ นาม ¶ กุลปุตฺโต ภควตา สํขิตฺเตน โอวาเทน โอวทิโต โส กาลงฺกโต. ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย’’ติ? ‘‘ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, ปุณฺโณ กุลปุตฺโต ปจฺจปาทิ [สจฺจวาที ธมฺมวาที (ก.)] ธมฺมสฺสานุธมฺมํ, น จ มํ ธมฺมาธิกรณํ วิเหเสิ. ปรินิพฺพุโต, ภิกฺขเว, ปุณฺโณ กุลปุตฺโต’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
ปุณฺโณวาทสุตฺตํ นิฏฺิตํ ตติยํ.
๔. นนฺทโกวาทสุตฺตํ
๓๙๘. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข มหาปชาปติโคตมี ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุนิสเตหิ สทฺธึ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข มหาปชาปติโคตมี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โอวทตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขุนิโย; อนุสาสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขุนิโย; กโรตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขุนีนํ ธมฺมึ กถ’’นฺติ [ธมฺมิกถนฺติ (สฺยา. กํ. ก.)].
เตน โข ปน สมเยน เถรา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย โอวทนฺติ ปริยาเยน. อายสฺมา นนฺทโก น อิจฺฉติ ภิกฺขุนิโย โอวทิตุํ ปริยาเยน. อถ ¶ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘กสฺส นุ โข, อานนฺท, อชฺช ปริยาโย ภิกฺขุนิโย โอวทิตุํ ปริยาเยนา’’ติ? ‘‘สพฺเพเหว, ภนฺเต, กโต [นนฺทกสฺส ภนฺเต (สี. ปี.)] ปริยาโย ภิกฺขุนิโย โอวทิตุํ ปริยาเยน. อยํ, ภนฺเต, อายสฺมา นนฺทโก น อิจฺฉติ ภิกฺขุนิโย โอวทิตุํ ปริยาเยนา’’ติ.
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ นนฺทกํ อามนฺเตสิ – ‘‘โอวท, นนฺทก, ภิกฺขุนิโย; อนุสาส, นนฺทก, ภิกฺขุนิโย; กโรหิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุนีนํ ธมฺมึ กถ’’นฺติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา ¶ นนฺทโก ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ¶ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต อตฺตทุติโย เยน ราชการาโม เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสํสุ โข ตา ภิกฺขุนิโย อายสฺมนฺตํ นนฺทกํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน อาสนํ ปฺาเปสุํ, อุทกฺจ ปาทานํ อุปฏฺเปสุํ. นิสีทิ โข อายสฺมา นนฺทโก ปฺตฺเต อาสเน. นิสชฺช ปาเท ปกฺขาเลสิ. ตาปิ โข ภิกฺขุนิโย อายสฺมนฺตํ นนฺทกํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข ตา ภิกฺขุนิโย อายสฺมา นนฺทโก เอตทโวจ – ‘‘ปฏิปุจฺฉกถา โข, ภคินิโย, ภวิสฺสติ. ตตฺถ อาชานนฺตีหิ – ‘อาชานามา’ ติสฺส วจนียํ, น อาชานนฺตีหิ – ‘น อาชานามา’ ติสฺส วจนียํ. ยสฺสา วา ปนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา ¶ อหเมว ตตฺถ ปฏิปุจฺฉิตพฺโพ – ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ; อิมสฺส กฺวตฺโถ’’’ติ? ‘‘เอตฺตเกนปิ มยํ, ภนฺเต, อยฺยสฺส นนฺทกสฺส อตฺตมนา อภิรทฺธา [อภินนฺทาม (สฺยา. กํ.)] ยํ โน อยฺโย นนฺทโก ปวาเรตี’’ติ.
๓๙๙. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภคินิโย, จกฺขุ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ ¶ , ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภคินิโย, โสตํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต…เป… ฆานํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’’… ‘‘ชิวฺหา นิจฺจา วา อนิจฺจา วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจา, ภนฺเต’’… ‘‘กาโย นิจฺโจ วา อนิจฺโจ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺโจ, ภนฺเต’’… ‘‘มโน นิจฺโจ วา อนิจฺโจ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺโจ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ ¶ , กลฺลํ ¶ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘ปุพฺเพว โน เอตํ, ภนฺเต, ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺํ – ‘อิติปิเม ฉ อชฺฌตฺติกา อายตนา อนิจฺจา’’’ติ. ‘‘สาธุ, สาธุ, ภคินิโย! เอวฺเหตํ, ภคินิโย, โหติ อริยสาวกสฺส ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต’’.
๔๐๐. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภคินิโย, รูปา นิจฺจา วา อนิจฺจา วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจา, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภคินิโย, สทฺทา นิจฺจา วา อนิจฺจา วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจา, ภนฺเต…เป… คนฺธา นิจฺจา วา อนิจฺจา วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจา, ภนฺเต’’… ‘‘รสา นิจฺจา วา อนิจฺจา วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจา, ภนฺเต’’… ‘‘โผฏฺพฺพา นิจฺจา วา อนิจฺจา วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจา ¶ , ภนฺเต’’… ‘‘ธมฺมา นิจฺจา วา อนิจฺจา วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจา, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘ปุพฺเพว โน เอตํ, ภนฺเต, ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺํ – ‘อิติปิเม ฉ พาหิรา อายตนา อนิจฺจา’’’ติ ¶ . ‘‘สาธุ, สาธุ, ภคินิโย! เอวฺเหตํ, ภคินิโย, โหติ อริยสาวกสฺส ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต’’.
๔๐๑. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภคินิโย, จกฺขุวิฺาณํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ ¶ กึ มฺถ, ภคินิโย, โสตวิฺาณํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต…เป… ฆานวิฺาณํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’’… ‘‘ชิวฺหาวิฺาณํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’’… ‘‘กายวิฺาณํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’’… ‘‘มโนวิฺาณํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วาติ’’? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส ¶ เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘ปุพฺเพว โน เอตํ, ภนฺเต, ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺํ – ‘อิติปิเม ฉ วิฺาณกายา อนิจฺจา’’’ติ. ‘‘สาธุ, สาธุ, ภคินิโย! เอวฺเหตํ, ภคินิโย, โหติ อริยสาวกสฺส ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต’’.
๔๐๒. ‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภคินิโย, เตลปฺปทีปสฺส ฌายโต เตลมฺปิ อนิจฺจํ วิปริณามธมฺมํ, วฏฺฏิปิ อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา, อจฺจิปิ อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา, อาภาปิ อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา. โย นุ โข, ภคินิโย, เอวํ วเทยฺย – ‘อมุสฺส เตลปฺปทีปสฺส ฌายโต เตลมฺปิ อนิจฺจํ วิปริณามธมฺมํ, วฏฺฏิปิ อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา, อจฺจิปิ อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา; ยา จ ขฺวาสฺส อาภา สา นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อวิปริณามธมฺมา’ติ; สมฺมา นุ โข โส, ภคินิโย, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อมุสฺส หิ, ภนฺเต, เตลปฺปทีปสฺส ฌายโต เตลมฺปิ อนิจฺจํ วิปริณามธมฺมํ, วฏฺฏิปิ อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา, อจฺจิปิ อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา; ปเควสฺส อาภา อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, ภคินิโย, โย นุ โข เอวํ วเทยฺย – ‘ฉ โขเม อชฺฌตฺติกา อายตนา อนิจฺจา [อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา (?)]; ยฺจ โข ฉ อชฺฌตฺติเก อายตเน ปฏิจฺจ ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตํ นิจฺจํ ธุวํ สสฺสตํ อวิปริณามธมฺม’นฺติ; สมฺมา ¶ นุ โข โส, ภคินิโย, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘ตชฺชํ ¶ ตชฺชํ, ภนฺเต, ปจฺจยํ ปฏิจฺจ ตชฺชา ตชฺชา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ. ตชฺชสฺส ¶ ตชฺชสฺส ปจฺจยสฺส นิโรธา ตชฺชา ตชฺชา เวทนา นิรุชฺฌนฺตี’’ติ. ‘‘สาธุ, สาธุ, ภคินิโย! เอวฺเหตํ, ภคินิโย, โหติ อริยสาวกสฺส ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต’’.
๔๐๓. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภคินิโย, มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺโต สารวโต มูลมฺปิ อนิจฺจํ วิปริณามธมฺมํ, ขนฺโธปิ อนิจฺโจ วิปริณามธมฺโม, สาขาปลาสมฺปิ อนิจฺจํ วิปริณามธมฺมํ, ฉายาปิ อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา. โย นุ โข, ภคินิโย, เอวํ วเทยฺย – ‘อมุสฺส มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺโต สารวโต มูลมฺปิ อนิจฺจํ วิปริณามธมฺมํ, ขนฺโธปิ อนิจฺโจ วิปริณามธมฺโม, สาขาปลาสมฺปิ อนิจฺจํ วิปริณามธมฺมํ, ยา จ ขฺวาสฺส ฉายา สา นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อวิปริณามธมฺมา’ติ; สมฺมา นุ โข โส, ภคินิโย, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อมุสฺส หิ, ภนฺเต, มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺโต สารวโต มูลมฺปิ อนิจฺจํ วิปริณามธมฺมํ, ขนฺโธปิ อนิจฺโจ วิปริณามธมฺโม, สาขาปลาสมฺปิ อนิจฺจํ วิปริณามธมฺมํ; ปเควสฺส ฉายา อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, ภคินิโย, โย นุ โข เอวํ วเทยฺย – ‘ฉ โขเม พาหิรา อายตนา ¶ อนิจฺจา [อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา (สี. ปี.)]. ยฺจ โข ฉ พาหิเร อายตเน ปฏิจฺจ ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตํ นิจฺจํ ธุวํ สสฺสตํ อวิปริณามธมฺม’นฺติ; สมฺมา นุ โข โส, ภคินิโย, วทมาโน ¶ วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘ตชฺชํ ตชฺชํ, ภนฺเต, ปจฺจยํ ปฏิจฺจ ตชฺชา ตชฺชา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ. ตชฺชสฺส ตชฺชสฺส ปจฺจยสฺส นิโรธา ตชฺชา ตชฺชา เวทนา นิรุชฺฌนฺตี’’ติ. ‘‘สาธุ, สาธุ, ภคินิโย! เอวฺเหตํ, ภคินิโย, โหติ อริยสาวกสฺส ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต’’.
๔๐๔. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภคินิโย, ทกฺโข โคฆาตโก วา โคฆาตกนฺเตวาสี วา คาวึ วธิตฺวา ติณฺเหน โควิกนฺตเนน คาวึ สงฺกนฺเตยฺย อนุปหจฺจ อนฺตรํ มํสกายํ อนุปหจฺจ พาหิรํ จมฺมกายํ. ยํ ยเทว ตตฺถ อนฺตรา วิลิมํสํ [วิลิมํ (สี. ปี. ก.)] อนฺตรา นฺหารุ อนฺตรา พนฺธนํ ตํ ตเทว ติณฺเหน โควิกนฺตเนน ¶ สฺฉินฺเทยฺย สงฺกนฺเตยฺย สมฺปกนฺเตยฺย สมฺปริกนฺเตยฺย. สฺฉินฺทิตฺวา สงฺกนฺติตฺวา สมฺปกนฺติตฺวา สมฺปริกนฺติตฺวา วิธุนิตฺวา พาหิรํ จมฺมกายํ เตเนว จมฺเมน ตํ คาวึ ปฏิจฺฉาเทตฺวา เอวํ วเทยฺย – ‘ตเถวายํ คาวี สํยุตฺตา อิมินาว จมฺเมนา’ติ; สมฺมา นุ โข ¶ โส, ภคินิโย, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อมุ หิ, ภนฺเต, ทกฺโข โคฆาตโก วา โคฆาตกนฺเตวาสี วา คาวึ วธิตฺวา ติณฺเหน โควิกนฺตเนน คาวึ สงฺกนฺเตยฺย อนุปหจฺจ อนฺตรํ มํสกายํ อนุปหจฺจ พาหิรํ จมฺมกายํ. ยํ ยเทว ตตฺถ อนฺตรา วิลิมํสํ อนฺตรา นฺหารุ อนฺตรา พนฺธนํ ตํ ตเทว ติณฺเหน โควิกนฺตเนน สฺฉินฺเทยฺย สงฺกนฺเตยฺย สมฺปกนฺเตยฺย สมฺปริกนฺเตยฺย. สฺฉินฺทิตฺวา สงฺกนฺติตฺวา สมฺปกนฺติตฺวา สมฺปริกนฺติตฺวา วิธุนิตฺวา พาหิรํ จมฺมกายํ เตเนว ¶ จมฺเมน ตํ คาวึ ปฏิจฺฉาเทตฺวา กิฺจาปิ โส เอวํ วเทยฺย – ‘ตเถวายํ คาวี สํยุตฺตา อิมินาว จมฺเมนา’ติ; อถ โข สา คาวี วิสํยุตฺตา เตเนว จมฺเมนา’’ติ.
‘‘อุปมา โข เม อยํ, ภคินิโย, กตา อตฺถสฺส วิฺาปนาย. อยเมเวตฺถ อตฺโถ; ‘อนฺตรา มํสกาโย’ติ โข, ภคินิโย, ฉนฺเนตํ อชฺฌตฺติกานํ อายตนานํ อธิวจนํ; ‘พาหิโร จมฺมกาโย’ติ โข ภคินิโย, ฉนฺเนตํ พาหิรานํ อายตนานํ อธิวจนํ; ‘อนฺตรา วิลิมํสํ, อนฺตรา นฺหารุ, อนฺตรา พนฺธน’นฺติ โข, ภคินิโย, นนฺทีราคสฺเสตํ อธิวจนํ; ‘ติณฺหํ ¶ โควิกนฺตน’นฺติ โข, ภคินิโย, อริยาเยตํ ปฺาย อธิวจนํ; ยายํ อริยา ปฺา อนฺตรา กิเลสํ อนฺตรา สํโยชนํ อนฺตรา พนฺธนํ สฺฉินฺทติ สงฺกนฺตติ สมฺปกนฺตติ สมฺปริกนฺตติ.
๔๐๕. ‘‘สตฺต โข ปนิเม, ภคินิโย, โพชฺฌงฺคา, เยสํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. กตเม สตฺต? อิธ, ภคินิโย, ภิกฺขุ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ…เป… วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ ¶ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ. อิเม โข, ภคินิโย, สตฺต โพชฺฌงฺคา, เยสํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ.
๔๐๖. อถ ¶ ¶ โข อายสฺมา นนฺทโก ตา ภิกฺขุนิโย อิมินา โอวาเทน โอวทิตฺวา อุยฺโยเชสิ – ‘‘คจฺฉถ, ภคินิโย; กาโล’’ติ. อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย อายสฺมโต นนฺทกสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา อายสฺมนฺตํ นนฺทกํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข ตา ภิกฺขุนิโย ภควา เอตทโวจ – ‘‘คจฺฉถ, ภิกฺขุนิโย; กาโล’’ติ. อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุ. อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺตีสุ ตาสุ ภิกฺขุนีสุ ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ตทหุโปสเถ จาตุทฺทเส น โหติ พหุโนชนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา – ‘อูโน นุ โข จนฺโท, ปุณฺโณ นุ โข จนฺโท’ติ, อถ โข อูโน จนฺโทตฺเวว โหติ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ตา ภิกฺขุนิโย นนฺทกสฺส ธมฺมเทสนาย อตฺตมนา โหนฺติ โน จ โข ปริปุณฺณสงฺกปฺปา’’ติ.
๔๐๗. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ นนฺทกํ อามนฺเตสิ – ‘‘เตน หิ ตฺวํ, นนฺทก, สฺเวปิ ตา ภิกฺขุนิโย เตเนโววาเทน โอวเทยฺยาสี’’ติ. ‘‘เอวํ ¶ , ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา นนฺทโก ¶ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข อายสฺมา นนฺทโก ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต อตฺตทุติโย เยน ราชการาโม เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสํสุ โข ตา ภิกฺขุนิโย อายสฺมนฺตํ นนฺทกํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน อาสนํ ปฺาเปสุํ, อุทกฺจ ปาทานํ อุปฏฺเปสุํ. นิสีทิ โข อายสฺมา นนฺทโก ปฺตฺเต อาสเน. นิสชฺช ปาเท ปกฺขาเลสิ. ตาปิ โข ภิกฺขุนิโย อายสฺมนฺตํ นนฺทกํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข ตา ภิกฺขุนิโย อายสฺมา นนฺทโก เอตทโวจ – ‘‘ปฏิปุจฺฉกถา โข, ภคินิโย, ภวิสฺสติ. ตตฺถ อาชานนฺตีหิ ‘อาชานามา’ ติสฺส วจนียํ, น อาชานนฺตีหิ ‘น อาชานามา’ ติสฺส วจนียํ. ยสฺสา วา ปนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา, อหเมว ตตฺถ ปฏิปุจฺฉิตพฺโพ ¶ – ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ; อิมสฺส กฺวตฺโถ’’’ติ. ‘‘เอตฺตเกนปิ มยํ, ภนฺเต, อยฺยสฺส นนฺทกสฺส อตฺตมนา อภิรทฺธา ยํ โน อยฺโย นนฺทโก ปวาเรตี’’ติ.
๔๐๘. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภคินิโย, จกฺขุ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม ¶ อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ ¶ , ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภคินิโย, โสตํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต…เป… ฆานํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต… ชิวฺหา… กาโย… มโน นิจฺโจ วา อนิจฺโจ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺโจ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘ปุพฺเพว โน เอตํ, ภนฺเต, ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺํ – ‘อิติปิเม ฉ อชฺฌตฺติกา อายตนา อนิจฺจา’’’ติ. ‘‘สาธุ สาธุ, ภคินิโย! เอวฺเหตํ, ภคินิโย, โหติ อริยสาวกสฺส ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต’’.
๔๐๙. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภคินิโย, รูปา นิจฺจา วา อนิจฺจา วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจา, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส ¶ เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภคินิโย, สทฺทา นิจฺจา วา อนิจฺจา วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจา, ภนฺเต…เป… คนฺธา นิจฺจา วา อนิจฺจา วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจา, ภนฺเต… รสา นิจฺจา วา อนิจฺจา วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจา, ภนฺเต… โผฏฺพฺพา นิจฺจา วา อนิจฺจา วา’’ติ ¶ ? ‘‘อนิจฺจา, ภนฺเต… ธมฺมา นิจฺจา วา อนิจฺจา วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจา, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘ปุพฺเพว โน เอตํ, ภนฺเต, ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺํ – ‘อิติปิเม ฉ พาหิรา อายตนา อนิจฺจา’’’ติ. ‘‘สาธุ สาธุ, ภคินิโย! เอวฺเหตํ, ภคินิโย, โหติ อริยสาวกสฺส ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต’’.
๔๑๐. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภคินิโย, จกฺขุวิฺาณํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต…เป… โสตวิฺาณํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต… ฆานวิฺาณํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต… ชิวฺหาวิฺาณํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต… กายวิฺาณํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต… มโนวิฺาณํ นิจฺจํ ¶ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘ปุพฺเพว โน เอตํ, ภนฺเต, ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ¶ สุทิฏฺํ – ‘อิติปิเม ฉ วิฺาณกายา อนิจฺจา’’’ติ. ‘‘สาธุ สาธุ, ภคินิโย! เอวฺเหตํ, ภคินิโย, โหติ อริยสาวกสฺส ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต’’.
๔๑๑. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภคินิโย, เตลปฺปทีปสฺส ฌายโต เตลมฺปิ อนิจฺจํ วิปริณามธมฺมํ, วฏฺฏิปิ อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา, อจฺจิปิ อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา, อาภาปิ อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา. โย นุ โข, ภคินิโย, เอวํ วเทยฺย – ‘อมุสฺส เตลปฺปทีปสฺส ฌายโต เตลมฺปิ อนิจฺจํ วิปริณามธมฺมํ, วฏฺฏิปิ อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา, อจฺจิปิ อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา; ยา จ ขฺวาสฺส อาภา สา นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อวิปริณามธมฺมา’ติ; สมฺมา นุ โข โส, ภคินิโย, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อมุสฺส หิ, ภนฺเต, เตลปฺปทีปสฺส ฌายโต เตลมฺปิ อนิจฺจํ วิปริณามธมฺมํ, วฏฺฏิปิ อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา, อจฺจิปิ อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา ¶ ; ปเควสฺส อาภา อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, ภคินิโย, โย นุ โข เอวํ วเทยฺย – ‘ฉ โขเม อชฺฌตฺติกา อายตนา อนิจฺจา. ยฺจ โข ฉ อชฺฌตฺติเก อายตเน ¶ ปฏิจฺจ ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตํ นิจฺจํ ธุวํ สสฺสตํ อวิปริณามธมฺม’นฺติ; สมฺมา นุ โข โส, ภคินิโย, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘ตชฺชํ ตชฺชํ, ภนฺเต, ปจฺจยํ ปฏิจฺจ ตชฺชา ตชฺชา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ. ตชฺชสฺส ตชฺชสฺส ปจฺจยสฺส นิโรธา ตชฺชา ตชฺชา เวทนา นิรุชฺฌนฺตี’’ติ. ‘‘สาธุ สาธุ, ภคินิโย! เอวฺเหตํ, ภคินิโย, โหติ อริยสาวกสฺส ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต’’.
๔๑๒. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภคินิโย, มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺโต สารวโต มูลมฺปิ อนิจฺจํ วิปริณามธมฺมํ, ขนฺโธปิ อนิจฺโจ วิปริณามธมฺโม, สาขาปลาสมฺปิ อนิจฺจํ วิปริณามธมฺมํ, ฉายาปิ อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา. โย นุ โข, ภคินิโย, เอวํ วเทยฺย – ‘อมุสฺส มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺโต สารวโต มูลมฺปิ อนิจฺจํ วิปริณามธมฺมํ, ขนฺโธปิ อนิจฺโจ วิปริณามธมฺโม, สาขาปลาสมฺปิ อนิจฺจํ วิปริณามธมฺมํ; ยา จ ขฺวาสฺส ฉายา สา นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อวิปริณามธมฺมา’ติ; สมฺมา นุ โข โส ภคินิโย, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อมุสฺส หิ, ภนฺเต, มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺโต สารวโต มูลมฺปิ อนิจฺจํ วิปริณามธมฺมํ, ขนฺโธปิ อนิจฺโจ วิปริณามธมฺโม, สาขาปลาสมฺปิ อนิจฺจํ วิปริณามธมฺมํ; ปเควสฺส ฉายา อนิจฺจา วิปริณามธมฺมา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, ภคินิโย, โย นุ โข เอวํ วเทยฺย – ‘ฉ โขเม ¶ พาหิรา อายตนา อนิจฺจา. ยฺจ โข พาหิเร อายตเน ปฏิจฺจ ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตํ นิจฺจํ ธุวํ ¶ สสฺสตํ อวิปริณามธมฺม’นฺติ; สมฺมา นุ โข โส, ภคินิโย, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘ตชฺชํ ตชฺชํ, ภนฺเต, ปจฺจยํ ปฏิจฺจ ตชฺชา ตชฺชา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ. ตชฺชสฺส ตชฺชสฺส ปจฺจยสฺส นิโรธา ตชฺชา ตชฺชา เวทนา นิรุชฺฌนฺตี’’ติ. ‘‘สาธุ สาธุ, ภคินิโย! เอวฺเหตํ, ภคินิโย, โหติ อริยสาวกสฺส ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต’’.
๔๑๓. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภคินิโย, ทกฺโข โคฆาตโก วา โคฆาตกนฺเตวาสี วา คาวึ วธิตฺวา ติณฺเหน โควิกนฺตเนน คาวึ สงฺกนฺเตยฺย อนุปหจฺจ ¶ อนฺตรํ มํสกายํ อนุปหจฺจ พาหิรํ จมฺมกายํ. ยํ ยเทว ตตฺถ อนฺตรา วิลิมํสํ อนฺตรา นฺหารุ อนฺตรา พนฺธนํ ตํ ตเทว ติณฺเหน โควิกนฺตเนน สฺฉินฺเทยฺย สงฺกนฺเตยฺย สมฺปกนฺเตยฺย สมฺปริกนฺเตยฺย. สฺฉินฺทิตฺวา สงฺกนฺติตฺวา สมฺปกนฺติตฺวา สมฺปริกนฺติตฺวา วิธุนิตฺวา พาหิรํ จมฺมกายํ เตเนว จมฺเมน ตํ คาวึ ปฏิจฺฉาเทตฺวา เอวํ วเทยฺย – ‘ตเถวายํ คาวี สํยุตฺตา อิมินาว จมฺเมนา’ติ; สมฺมา นุ โข โส, ภคินิโย, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อมุ หิ, ภนฺเต, ทกฺโข โคฆาตโก วา โคฆาตกนฺเตวาสี วา คาวึ วธิตฺวา ติณฺเหน โควิกนฺตเนน คาวึ สงฺกนฺเตยฺย อนุปหจฺจ อนฺตรํ มํสกายํ อนุปหจฺจ พาหิรํ จมฺมกายํ. ยํ ยเทว ตตฺถ อนฺตรา วิลิมํสํ อนฺตรา ¶ นฺหารุ อนฺตรา พนฺธนํ ตํ ตเทว ติณฺเหน โควิกนฺตเนน สฺฉินฺเทยฺย สงฺกนฺเตยฺย สมฺปกนฺเตยฺย สมฺปริกนฺเตยฺย. สฺฉินฺทิตฺวา สงฺกนฺติตฺวา สมฺปกนฺติตฺวา สมฺปริกนฺติตฺวา วิธุนิตฺวา พาหิรํ จมฺมกายํ เตเนว จมฺเมน ตํ คาวึ ปฏิจฺฉาเทตฺวา กิฺจาปิ โส เอวํ วเทยฺย – ‘ตเถวายํ คาวี สํยุตฺตา อิมินาว จมฺเมนา’ติ; อถ โข สา คาวี วิสํยุตฺตา เตเนว จมฺเมนา’’ติ.
‘‘อุปมา โข เม อยํ, ภคินิโย, กตา อตฺถสฺส วิฺาปนาย อยเมเวตฺถ อตฺโถ. ‘อนฺตรา มํสกาโย’ติ โข, ภคินิโย, ฉนฺเนตํ อชฺฌตฺติกานํ อายตนานํ อธิวจนํ; ‘พาหิโร จมฺมกาโย’ติ โข, ภคินิโย, ฉนฺเนตํ พาหิรานํ อายตนานํ อธิวจนํ; ‘อนฺตรา วิลิมํสํ อนฺตรา นฺหารุ อนฺตรา พนฺธน’นฺติ โข, ภคินิโย, นนฺทีราคสฺเสตํ อธิวจนํ; ‘ติณฺหํ โควิกนฺตน’นฺติ โข, ภคินิโย, อริยาเยตํ ปฺาย อธิวจนํ; ยายํ อริยา ปฺา อนฺตรา กิเลสํ อนฺตรา สํโยชนํ อนฺตรา พนฺธนํ สฺฉินฺทติ สงฺกนฺตติ สมฺปกนฺตติ สมฺปริกนฺตติ.
๔๑๔. ‘‘สตฺต โข ปนิเม, ภคินิโย, โพชฺฌงฺคา, เยสํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช ¶ วิหรติ. กตเม สตฺต? อิธ, ภคินิโย, ภิกฺขุ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ. ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ…เป… วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ¶ ภาเวติ… สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ¶ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ. อิเม โข, ภคินิโย, สตฺต โพชฺฌงฺคา เยสํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ.
๔๑๕. อถ โข อายสฺมา นนฺทโก ตา ภิกฺขุนิโย อิมินา โอวาเทน โอวทิตฺวา อุยฺโยเชสิ – ‘‘คจฺฉถ, ภคินิโย; กาโล’’ติ. อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย อายสฺมโต นนฺทกสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา อายสฺมนฺตํ นนฺทกํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข ตา ภิกฺขุนิโย ภควา เอตทโวจ –‘‘คจฺฉถ, ภิกฺขุนิโย; กาโล’’ติ. อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุ. อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺตีสุ ตาสุ ภิกฺขุนีสุ ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส น โหติ พหุโน ชนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา – ‘อูโน นุ โข จนฺโท, ปุณฺโณ นุ โข จนฺโท’ติ, อถ โข ปุณฺโณ จนฺโทตฺเวว โหติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ตา ภิกฺขุนิโย นนฺทกสฺส ธมฺมเทสนาย อตฺตมนา เจว ปริปุณฺณสงฺกปฺปา จ. ตาสํ, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ ภิกฺขุนิสตานํ ยา ¶ ปจฺฉิมิตา ภิกฺขุนี สา [ยา ปจฺฉิมา ภิกฺขุนี, สา (สี. สฺยา. กํ. ปี.), ยา ปจฺฉิมิกา, ตา ภิกฺขุนิโย (ก.)] โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายนา’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
นนฺทโกวาทสุตฺตํ นิฏฺิตํ จตุตฺถํ.
๕. จูฬราหุโลวาทสุตฺตํ
๔๑๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข ภควโต รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘ปริปกฺกา โข ¶ ราหุลสฺส วิมุตฺติปริปาจนียา ธมฺมา. ยํนูนาหํ ราหุลํ อุตฺตรึ อาสวานํ ขเย วิเนยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต อายสฺมนฺตํ ราหุลํ อามนฺเตสิ – ‘‘คณฺหาหิ, ราหุล, นิสีทนํ; เยน อนฺธวนํ เตนุปสงฺกมิสฺสาม ทิวาวิหารายา’’ติ ¶ . ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา ราหุโล ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา นิสีทนํ อาทาย ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธิ.
เตน โข ปน สมเยน อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ ภควนฺตํ อนุพนฺธานิ โหนฺติ – ‘‘อชฺช ภควา อายสฺมนฺตํ ราหุลํ อุตฺตรึ อาสวานํ ขเย วิเนสฺสตี’’ติ. อถ โข ภควา อนฺธวนํ อชฺโฌคาเหตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อายสฺมาปิ โข ราหุโล ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ราหุลํ ภควา เอตทโวจ –
๔๑๗. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, ราหุล, จกฺขุ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต ¶ ’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, ราหุล, รูปา นิจฺจา วา อนิจฺจา วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจา, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ ¶ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, ราหุล, จกฺขุวิฺาณํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, ราหุล, จกฺขุสมฺผสฺโส นิจฺโจ วา อนิจฺโจ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺโจ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ, ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน ¶ เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, ราหุล, ยมิทํ [ยมฺปิทํ (สี. ก.)] จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ ¶ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ ตมฺปิ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ ¶ ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ, ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.
๔๑๘. ‘‘ตํ กึ มฺสิ ราหุล, โสตํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต…เป… ฆานํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต…เป… ชิวฺหา นิจฺจา วา อนิจฺจา วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจา, ภนฺเต…เป… กาโย นิจฺโจ วา อนิจฺโจ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺโจ, ภนฺเต…เป… มโน นิจฺโจ วา อนิจฺโจ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺโจ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ, ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ –‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กึ มฺสิ ราหุล, ธมฺมา นิจฺจา วา อนิจฺจา วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจา, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ, ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ ¶ กึ มฺสิ ราหุล, มโนวิฺาณํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ, ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กึ มฺสิ ราหุล, มโนสมฺผสฺโส นิจฺโจ วา อนิจฺโจ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺโจ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ, ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, ราหุล, ยมิทํ มโนสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ, ตมฺปิ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ, ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ¶ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.
๔๑๙. ‘‘เอวํ ปสฺสํ, ราหุล, สุตวา อริยสาวโก จกฺขุสฺมึ [จกฺขุสฺมิมฺปิ (สฺยา. กํ.) เอวมิตเรสุปิ] นิพฺพินฺทติ, รูเปสุ นิพฺพินฺทติ, จกฺขุวิฺาเณ นิพฺพินฺทติ, จกฺขุสมฺผสฺเส นิพฺพินฺทติ, ยมิทํ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ. โสตสฺมึ ¶ นิพฺพินฺทติ, สทฺเทสุ นิพฺพินฺทติ…เป… ¶ , ฆานสฺมึ นิพฺพินฺทติ, คนฺเธสุ นิพฺพินฺทติ… ชิวฺหาย นิพฺพินฺทติ, รเสสุ นิพฺพินฺทติ… กายสฺมึ นิพฺพินฺทติ, โผฏฺพฺเพสุ นิพฺพินฺทติ… มนสฺมึ นิพฺพินฺทติ, ธมฺเมสุ นิพฺพินฺทติ, มโนวิฺาเณ นิพฺพินฺทติ, มโนสมฺผสฺเส นิพฺพินฺทติ, ยมิทํ มโนสมฺผสฺสปจฺจยา ¶ อุปฺปชฺชติ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ. นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ, วิราคา วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาตี’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา ราหุโล ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ. อิมสฺมิฺจ ปน เวยฺยากรณสฺมึ ภฺมาเน อายสฺมโต ราหุลสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิ. ตาสฺจ อเนกานํ เทวตาสหสฺสานํ วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ.
จูฬราหุโลวาทสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปฺจมํ.
๖. ฉฉกฺกสุตฺตํ
๔๒๐. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘ธมฺมํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสสฺสามิ, ยทิทํ – ฉ ฉกฺกานิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ เวทิตพฺพานิ, ฉ พาหิรานิ อายตนานิ เวทิตพฺพานิ, ฉ วิฺาณกายา เวทิตพฺพา, ฉ ผสฺสกายา เวทิตพฺพา, ฉ เวทนากายา เวทิตพฺพา, ฉ ตณฺหากายา เวทิตพฺพา.
๔๒๑. ‘‘‘ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ เวทิตพฺพานี’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? จกฺขายตนํ, โสตายตนํ, ฆานายตนํ, ชิวฺหายตนํ ¶ , กายายตนํ, มนายตนํ. ‘ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ เวทิตพฺพานี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิทํ ปมํ ฉกฺกํ.
‘‘‘ฉ ¶ พาหิรานิ อายตนานิ เวทิตพฺพานี’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ¶ . กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? รูปายตนํ, สทฺทายตนํ, คนฺธายตนํ, รสายตนํ, โผฏฺพฺพายตนํ, ธมฺมายตนํ. ‘ฉ พาหิรานิ อายตนานิ เวทิตพฺพานี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิทํ ทุติยํ ฉกฺกํ.
‘‘‘ฉ วิฺาณกายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, โสตฺจ ปฏิจฺจ สทฺเท จ อุปฺปชฺชติ ¶ โสตวิฺาณํ, ฆานฺจ ปฏิจฺจ คนฺเธ จ อุปฺปชฺชติ ฆานวิฺาณํ, ชิวฺหฺจ ปฏิจฺจ รเส จ อุปฺปชฺชติ ชิวฺหาวิฺาณํ, กายฺจ ปฏิจฺจ โผฏฺพฺเพ จ อุปฺปชฺชติ กายวิฺาณํ, มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณํ. ‘ฉ วิฺาณกายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิทํ ตติยํ ฉกฺกํ.
‘‘‘ฉ ผสฺสกายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส; โสตฺจ ปฏิจฺจ สทฺเท จ อุปฺปชฺชติ โสตวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส; ฆานฺจ ปฏิจฺจ คนฺเธ จ อุปฺปชฺชติ ฆานวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส; ชิวฺหฺจ ปฏิจฺจ รเส จ อุปฺปชฺชติ ชิวฺหาวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส; กายฺจ ปฏิจฺจ โผฏฺพฺเพ จ อุปฺปชฺชติ กายวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส; มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ ¶ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส. ‘ฉ ผสฺสกายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิทํ จตุตฺถํ ฉกฺกํ.
‘‘‘ฉ เวทนากายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา; โสตฺจ ปฏิจฺจ สทฺเท จ อุปฺปชฺชติ โสตวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา; ฆานฺจ ปฏิจฺจ คนฺเธ จ อุปฺปชฺชติ ฆานวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา; ชิวฺหฺจ ปฏิจฺจ รเส จ อุปฺปชฺชติ ชิวฺหาวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา; กายฺจ ปฏิจฺจ โผฏฺพฺเพ จ อุปฺปชฺชติ กายวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา ¶ เวทนา; มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม ¶ จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา. ‘ฉ เวทนากายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ ยํ ตํ ¶ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิทํ ปฺจมํ ฉกฺกํ.
‘‘‘ฉ ตณฺหากายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา; โสตฺจ ปฏิจฺจ สทฺเท จ อุปฺปชฺชติ โสตวิฺาณํ…เป… ฆานฺจ ปฏิจฺจ คนฺเธ จ อุปฺปชฺชติ ฆานวิฺาณํ… ชิวฺหฺจ ปฏิจฺจ รเส จ อุปฺปชฺชติ ¶ ชิวฺหาวิฺาณํ… กายฺจ ปฏิจฺจ โผฏฺพฺเพ จ อุปฺปชฺชติ กายวิฺาณํ… มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา. ‘ฉ ตณฺหากายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิทํ ฉฏฺํ ฉกฺกํ.
๔๒๒. ‘‘‘จกฺขุ อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติ. จกฺขุสฺส อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ. ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติ. ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘จกฺขุ อตฺตา’ติ โย วเทยฺย. อิติ จกฺขุ อนตฺตา.
‘‘‘รูปา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติ. รูปานํ อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ. ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติ. ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘รูปา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย. อิติ จกฺขุ อนตฺตา, รูปา อนตฺตา.
‘‘‘จกฺขุวิฺาณํ อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติ. จกฺขุวิฺาณสฺส อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ. ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติ. ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘จกฺขุวิฺาณํ อตฺตา’ติ โย วเทยฺย. อิติ จกฺขุ อนตฺตา, รูปา อนตฺตา, จกฺขุวิฺาณํ อนตฺตา.
‘‘‘จกฺขุสมฺผสฺโส อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติ. จกฺขุสมฺผสฺสสฺส อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ ¶ . ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติ. ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘จกฺขุสมฺผสฺโส อตฺตา’ติ โย ¶ วเทยฺย. อิติ จกฺขุ อนตฺตา, รูปา อนตฺตา, จกฺขุวิฺาณํ อนตฺตา, จกฺขุสมฺผสฺโส อนตฺตา.
‘‘‘เวทนา ¶ อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ ¶ น อุปปชฺชติ. เวทนาย อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ. ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติ. ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘เวทนา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย. อิติ จกฺขุ อนตฺตา, รูปา อนตฺตา, จกฺขุวิฺาณํ อนตฺตา, จกฺขุสมฺผสฺโส อนตฺตา, เวทนา อนตฺตา.
‘‘‘ตณฺหา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติ. ตณฺหาย อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ. ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติ. ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘ตณฺหา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย. อิติ จกฺขุ อนตฺตา, รูปา อนตฺตา, จกฺขุวิฺาณํ อนตฺตา, จกฺขุสมฺผสฺโส อนตฺตา, เวทนา อนตฺตา, ตณฺหา อนตฺตา.
๔๒๓. ‘‘‘โสตํ อตฺตา’ติ โย วเทยฺย…เป… ‘ฆานํ อตฺตา’ติ โย วเทยฺย… ‘ชิวฺหา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย… ‘กาโย อตฺตา’ติ โย วเทยฺย… ‘มโน อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติ. มนสฺส อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ. ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ¶ ปฺายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติ. ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘มโน อตฺตา’ติ โย วเทยฺย. อิติ มโน อนตฺตา.
‘‘‘ธมฺมา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติ. ธมฺมานํ อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ. ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติ. ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘ธมฺมา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย. อิติ มโน อนตฺตา, ธมฺมา อนตฺตา.
‘‘‘มโนวิฺาณํ อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติ. มโนวิฺาณสฺส อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ. ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติ. ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘มโนวิฺาณํ อตฺตา’ติ ¶ โย วเทยฺย. อิติ มโน อนตฺตา, ธมฺมา อนตฺตา, มโนวิฺาณํ อนตฺตา.
‘‘‘มโนสมฺผสฺโส ¶ อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติ. มโนสมฺผสฺสสฺส อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ. ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติ. ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘มโนสมฺผสฺโส อตฺตา’ติ โย วเทยฺย. อิติ มโน อนตฺตา, ธมฺมา อนตฺตา, มโนวิฺาณํ อนตฺตา, มโนสมฺผสฺโส อนตฺตา.
‘‘‘เวทนา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติ. เวทนาย อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ. ยสฺส โข ¶ ปน อุปฺปาโทปิ ¶ วโยปิ ปฺายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติ. ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘เวทนา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย. อิติ มโน อนตฺตา, ธมฺมา อนตฺตา, มโนวิฺาณํ อนตฺตา, มโนสมฺผสฺโส อนตฺตา, เวทนา อนตฺตา.
‘‘‘ตณฺหา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติ. ตณฺหาย อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ. ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติ. ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘ตณฺหา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย. อิติ มโน อนตฺตา, ธมฺมา อนตฺตา, มโนวิฺาณํ อนตฺตา, มโนสมฺผสฺโส อนตฺตา, เวทนา อนตฺตา, ตณฺหา อนตฺตา.
๔๒๔. ‘‘อยํ โข ปน, ภิกฺขเว, สกฺกายสมุทยคามินี ปฏิปทา – จกฺขุํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ; รูเป ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ; จกฺขุวิฺาณํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ; จกฺขุสมฺผสฺสํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ; เวทนํ ‘เอตํ มม ¶ , เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ; ตณฺหํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ; โสตํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ…เป… ฆานํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ…เป… ชิวฺหํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ ¶ สมนุปสฺสติ…เป… กายํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ…เป… มนํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ, ธมฺเม ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ, มโนวิฺาณํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ, มโนสมฺผสฺสํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ, เวทนํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ, ตณฺหํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ.
‘‘อยํ ¶ โข ปน, ภิกฺขเว, สกฺกายนิโรธคามินี ปฏิปทา – จกฺขุํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ. รูเป ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ. จกฺขุวิฺาณํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ. จกฺขุสมฺผสฺสํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ. เวทนํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ. ตณฺหํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ. โสตํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ…เป… ฆานํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ… ชิวฺหํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ… กายํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ… มนํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ. ธมฺเม ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ. มโนวิฺาณํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ. มโนสมฺผสฺสํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ. เวทนํ ‘เนตํ ¶ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ. ตณฺหํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ.
๔๒๕. ‘‘จกฺขฺุจ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ¶ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ ¶ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา. โส สุขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน อภินนฺทติ อภิวทติ อชฺโฌสาย ติฏฺติ. ตสฺส ราคานุสโย อนุเสติ. ทุกฺขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน โสจติ กิลมติ ปริเทวติ อุรตฺตาฬึ ¶ กนฺทติ สมฺโมหํ อาปชฺชติ. ตสฺส ปฏิฆานุสโย อนุเสติ. อทุกฺขมสุขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน ตสฺสา เวทนาย สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส อวิชฺชานุสโย อนุเสติ. โส วต, ภิกฺขเว, สุขาย เวทนาย ราคานุสยํ อปฺปหาย ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสยํ อปฺปฏิวิโนเทตฺวา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสยํ อสมูหนิตฺวา อวิชฺชํ อปฺปหาย วิชฺชํ อนุปฺปาเทตฺวา ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร ภวิสฺสตีติ – เนตํ านํ วิชฺชติ.
‘‘โสตฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจ สทฺเท จ อุปฺปชฺชติ โสตวิฺาณํ…เป… ฆานฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจ คนฺเธ จ อุปฺปชฺชติ ฆานวิฺาณํ…เป… ชิวฺหฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจ รเส จ อุปฺปชฺชติ ชิวฺหาวิฺาณํ…เป… กายฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจ โผฏฺพฺเพ จ อุปฺปชฺชติ กายวิฺาณํ…เป… มนฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา. โส สุขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน อภินนฺทติ อภิวทติ อชฺโฌสาย ติฏฺติ. ตสฺส ราคานุสโย อนุเสติ. ทุกฺขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน โสจติ กิลมติ ปริเทวติ อุรตฺตาฬึ ¶ กนฺทติ สมฺโมหํ อาปชฺชติ. ตสฺส ปฏิฆานุสโย อนุเสติ. อทุกฺขมสุขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน ตสฺสา เวทนาย สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส อวิชฺชานุสโย อนุเสติ. โส วต, ภิกฺขเว, สุขาย เวทนาย ราคานุสยํ อปฺปหาย ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสยํ อปฺปฏิวิโนเทตฺวา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสยํ อสมูหนิตฺวา อวิชฺชํ อปฺปหาย วิชฺชํ อนุปฺปาเทตฺวา ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร ภวิสฺสตีติ – เนตํ านํ วิชฺชติ.
๔๒๖. ‘‘จกฺขฺุจ ¶ , ภิกฺขเว, ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา. โส สุขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน นาภินนฺทติ นาภิวทติ นาชฺโฌสาย ติฏฺติ. ตสฺส ราคานุสโย นานุเสติ. ทุกฺขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน น โสจติ น กิลมติ ปริเทวติ น อุรตฺตาฬึ กนฺทติ ¶ น สมฺโมหํ อาปชฺชติ. ตสฺส ปฏิฆานุสโย นานุเสติ. อทุกฺขมสุขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน ตสฺสา ¶ เวทนาย สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส อวิชฺชานุสโย นานุเสติ. โส วต, ภิกฺขเว, สุขาย เวทนาย ราคานุสยํ ปหาย ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสยํ ปฏิวิโนเทตฺวา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสยํ สมูหนิตฺวา อวิชฺชํ ปหาย วิชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา ทิฏฺเว ธมฺเม ¶ ทุกฺขสฺสนฺตกโร ภวิสฺสตีติ – านเมตํ วิชฺชติ.
‘‘โสตฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจ สทฺเท จ อุปฺปชฺชติ โสตวิฺาณํ…เป….
‘‘ฆานฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจ คนฺเธ จ อุปฺปชฺชติ ฆานวิฺาณํ…เป….
‘‘ชิวฺหฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจ รเส จ อุปฺปชฺชติ ชิวฺหาวิฺาณํ…เป… ¶ .
‘‘กายฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจ โผฏฺพฺเพ จ อุปฺปชฺชติ กายวิฺาณํ…เป….
‘‘มนฺจ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณํ ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา. โส สุขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน นาภินนฺทติ นาภิวทติ นาชฺโฌสาย ติฏฺติ. ตสฺส ราคานุสโย นานุเสติ. ทุกฺขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ น อุรตฺตาฬึ กนฺทติ น สมฺโมหํ อาปชฺชติ. ตสฺส ปฏิฆานุสโย นานุเสติ. อทุกฺขมสุขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน ตสฺสา เวทนาย สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส อวิชฺชานุสโย นานุเสติ. โส วต, ภิกฺขเว, สุขาย เวทนาย ราคานุสยํ ปหาย ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสยํ ปฏิวิโนเทตฺวา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสยํ สมูหนิตฺวา อวิชฺชํ ปหาย วิชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร ภวิสฺสตีติ – านเมตํ วิชฺชติ.
๔๒๗. ‘‘เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก จกฺขุสฺมึ [จกฺขุสฺมิมฺปิ (สฺยา. กํ.) เอวมิตเรสุปิ] นิพฺพินฺทติ, รูเปสุ นิพฺพินฺทติ, จกฺขุวิฺาเณ นิพฺพินฺทติ, จกฺขุสมฺผสฺเส ¶ นิพฺพินฺทติ, เวทนาย นิพฺพินฺทติ, ตณฺหาย นิพฺพินฺทติ. โสตสฺมึ นิพฺพินฺทติ, สทฺเทสุ นิพฺพินฺทติ…เป… ¶ ฆานสฺมึ นิพฺพินฺทติ, คนฺเธสุ นิพฺพินฺทติ… ชิวฺหาย นิพฺพินฺทติ, รเสสุ นิพฺพินฺทติ… กายสฺมึ นิพฺพินฺทติ, โผฏฺพฺเพสุ นิพฺพินฺทติ… มนสฺมึ นิพฺพินฺทติ, ธมฺเมสุ นิพฺพินฺทติ, มโนวิฺาเณ นิพฺพินฺทติ, มโนสมฺผสฺเส นิพฺพินฺทติ, เวทนาย นิพฺพินฺทติ, ตณฺหาย นิพฺพินฺทติ. นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ ¶ , วิราคา วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ ¶ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาตี’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ. อิมสฺมึ โข ปน เวยฺยากรณสฺมึ ภฺมาเน สฏฺิมตฺตานํ ภิกฺขูนํ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสูติ.
ฉฉกฺกสุตฺตํ นิฏฺิตํ ฉฏฺํ.
๗. มหาสฬายตนิกสุตฺตํ
๔๒๘. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘มหาสฬายตนิกํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
๔๒๙. ‘‘จกฺขุํ, ภิกฺขเว, อชานํ อปสฺสํ ยถาภูตํ, รูเป อชานํ อปสฺสํ ยถาภูตํ, จกฺขุวิฺาณํ อชานํ อปสฺสํ ยถาภูตํ, จกฺขุสมฺผสฺสํ อชานํ อปสฺสํ ยถาภูตํ, ยมิทํ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตมฺปิ อชานํ อปสฺสํ ยถาภูตํ, จกฺขุสฺมึ สารชฺชติ, รูเปสุ สารชฺชติ, จกฺขุวิฺาเณ สารชฺชติ, จกฺขุสมฺผสฺเส สารชฺชติ, ยมิทํ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตสฺมิมฺปิ สารชฺชติ.
‘‘ตสฺส สารตฺตสฺส สํยุตฺตสฺส สมฺมูฬฺหสฺส อสฺสาทานุปสฺสิโน วิหรโต อายตึ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา อุปจยํ คจฺฉนฺติ. ตณฺหา จสฺส โปโนพฺภวิกา นนฺทีราคสหคตา ตตฺรตตฺราภินนฺทินี, สา จสฺส ปวฑฺฒติ. ตสฺส กายิกาปิ ทรถา ปวฑฺฒนฺติ, เจตสิกาปิ ¶ ทรถา ปวฑฺฒนฺติ; กายิกาปิ สนฺตาปา ปวฑฺฒนฺติ ¶ , เจตสิกาปิ สนฺตาปา ปวฑฺฒนฺติ; กายิกาปิ ปริฬาหา ปวฑฺฒนฺติ, เจตสิกาปิ ปริฬาหา ปวฑฺฒนฺติ. โส กายทุกฺขมฺปิ [กายิกทุกฺขมฺปิ (สฺยา. กํ.), กายิกํ ทุกฺขมฺปิ (ก.)] เจโตทุกฺขมฺปิ ปฏิสํเวเทติ.
‘‘โสตํ ¶ , ภิกฺขเว, อชานํ อปสฺสํ ยถาภูตํ…เป… ฆานํ, ภิกฺขเว, อชานํ อปสฺสํ ยถาภูตํ…เป… ชิวฺหํ, ภิกฺขเว, อชานํ อปสฺสํ ยถาภูตํ…เป… กายํ, ภิกฺขเว, อชานํ อปสฺสํ ยถาภูตํ…เป… มนํ, ภิกฺขเว, อชานํ อปสฺสํ ยถาภูตํ, ธมฺเม, ภิกฺขเว, อชานํ อปสฺสํ ยถาภูตํ, มโนวิฺาณํ, ภิกฺขเว, อชานํ อปสฺสํ ยถาภูตํ ¶ , มโนสมฺผสฺสํ, ภิกฺขเว, อชานํ อปสฺสํ ยถาภูตํ, ยมิทํ มโนสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตมฺปิ อชานํ อปสฺสํ ยถาภูตํ, มนสฺมึ สารชฺชติ, ธมฺเมสุ สารชฺชติ, มโนวิฺาเณ สารชฺชติ, มโนสมฺผสฺเส สารชฺชติ, ยมิทํ มโนสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตสฺมิมฺปิ สารชฺชติ.
‘‘ตสฺส สารตฺตสฺส สํยุตฺตสฺส สมฺมูฬฺหสฺส อสฺสาทานุปสฺสิโน วิหรโต อายตึ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา อุปจยํ คจฺฉนฺติ. ตณฺหา จสฺส โปโนพฺภวิกา นนฺทีราคสหคตา ตตฺรตตฺราภินนฺทินี, สา จสฺส ปวฑฺฒติ. ตสฺส กายิกาปิ ทรถา ปวฑฺฒนฺติ, เจตสิกาปิ ทรถา ปวฑฺฒนฺติ; กายิกาปิ สนฺตาปา ปวฑฺฒนฺติ, เจตสิกาปิ สนฺตาปา ปวฑฺฒนฺติ; กายิกาปิ ปริฬาหา ปวฑฺฒนฺติ, เจตสิกาปิ ปริฬาหา ปวฑฺฒนฺติ. โส กายทุกฺขมฺปิ เจโตทุกฺขมฺปิ ปฏิสํเวเทติ.
๔๓๐. ‘‘จกฺขฺุจ ¶ โข, ภิกฺขเว, ชานํ ปสฺสํ ยถาภูตํ, รูเป ชานํ ปสฺสํ ยถาภูตํ, จกฺขุวิฺาณํ ชานํ ปสฺสํ ยถาภูตํ, จกฺขุสมฺผสฺสํ ชานํ ปสฺสํ ยถาภูตํ, ยมิทํ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตมฺปิ ชานํ ปสฺสํ ยถาภูตํ, จกฺขุสฺมึ น สารชฺชติ, รูเปสุ น สารชฺชติ, จกฺขุวิฺาเณ น สารชฺชติ, จกฺขุสมฺผสฺเส น สารชฺชติ, ยมิทํ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตสฺมิมฺปิ น สารชฺชติ.
‘‘ตสฺส อสารตฺตสฺส อสํยุตฺตสฺส อสมฺมูฬฺหสฺส อาทีนวานุปสฺสิโน วิหรโต อายตึ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา อปจยํ คจฺฉนฺติ. ตณฺหา จสฺส โปโนพฺภวิกา นนฺทีราคสหคตา ตตฺรตตฺราภินนฺทินี, สา จสฺส ปหียติ. ตสฺส กายิกาปิ ทรถา ปหียนฺติ, เจตสิกาปิ ทรถา ปหียนฺติ; กายิกาปิ สนฺตาปา ปหียนฺติ, เจตสิกาปิ สนฺตาปา ปหียนฺติ; กายิกาปิ ปริฬาหา ปหียนฺติ ¶ , เจตสิกาปิ ปริฬาหา ปหียนฺติ. โส กายสุขมฺปิ เจโตสุขมฺปิ ปฏิสํเวเทติ.
๔๓๑. ‘‘ยา ¶ ตถาภูตสฺส [ยถาภูตสฺส (สี. ปี.)] ทิฏฺิ สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺิ; โย ตถาภูตสฺส [ยถาภูตสฺส (สี. ปี.)] สงฺกปฺโป สฺวาสฺส โหติ ¶ สมฺมาสงฺกปฺโป; โย ตถาภูตสฺส [ยถาภูตสฺส (สี. ปี.)] วายาโม สฺวาสฺส โหติ สมฺมาวายาโม; ยา ตถาภูตสฺส [ยถาภูตสฺส (สี. ปี.)] สติ สาสฺส โหติ สมฺมาสติ; โย ตถาภูตสฺส [ยถาภูตสฺส (สี. ปี.)] สมาธิ สฺวาสฺส โหติ สมฺมาสมาธิ. ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว สุปริสุทฺโธ โหติ. เอวมสฺสายํ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ.
‘‘ตสฺส ¶ เอวํ อิมํ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาวยโต จตฺตาโรปิ สติปฏฺานา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, จตฺตาโรปิ สมฺมปฺปธานา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, จตฺตาโรปิ อิทฺธิปาทา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, ปฺจปิ อินฺทฺริยานิ ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, ปฺจปิ พลานิ ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, สตฺตปิ โพชฺฌงฺคา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.
‘‘ตสฺสิเม ทฺเว ธมฺมา ยุคนนฺธา [ยุคนทฺธา (สี. สฺยา. กํ.)] วตฺตนฺติ – สมโถ จ วิปสฺสนา จ. โส เย ธมฺมา อภิฺา ปริฺเยฺยา เต ธมฺเม อภิฺา ปริชานาติ. เย ธมฺมา อภิฺา ปหาตพฺพา เต ธมฺเม อภิฺา ปชหติ. เย ธมฺมา อภิฺา ภาเวตพฺพา เต ธมฺเม อภิฺา ภาเวติ. เย ธมฺมา อภิฺา สจฺฉิกาตพฺพา เต ธมฺเม อภิฺา สจฺฉิกโรติ.
‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา อภิฺา ปริฺเยฺยา? ‘ปฺจุปาทานกฺขนฺธา’ ติสฺส วจนียํ, เสยฺยถิทํ – รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สฺุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ. อิเม ธมฺมา อภิฺา ปริฺเยฺยา.
‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา อภิฺา ปหาตพฺพา? อวิชฺชา จ ภวตณฺหา จ – อิเม ธมฺมา อภิฺา ปหาตพฺพา.
‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา อภิฺา ภาเวตพฺพา? สมโถ จ วิปสฺสนา จ – อิเม ธมฺมา อภิฺา ภาเวตพฺพา.
‘‘กตเม ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺมา อภิฺา สจฺฉิกาตพฺพา? วิชฺชา จ วิมุตฺติ จ – อิเม ธมฺมา อภิฺา สจฺฉิกาตพฺพา.
๔๓๒. ‘‘โสตํ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ชานํ ปสฺสํ ยถาภูตํ…เป… ฆานํ ภิกฺขเว, ชานํ ¶ ปสฺสํ ยถาภูตํ…เป… ชิวฺหํ, ภิกฺขเว, ชานํ ปสฺสํ ยถาภูตํ… กายํ, ภิกฺขเว, ชานํ ปสฺสํ ยถาภูตํ… มนํ, ภิกฺขเว, ชานํ ปสฺสํ ยถาภูตํ, ธมฺเม ชานํ ปสฺสํ ยถาภูตํ, มโนวิฺาณํ ชานํ ปสฺสํ ยถาภูตํ, มโนสมฺผสฺสํ ชานํ ปสฺสํ ยถาภูตํ, ยมิทํ มโนสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตมฺปิ ชานํ ปสฺสํ ยถาภูตํ, มนสฺมึ น สารชฺชติ, ธมฺเมสุ น สารชฺชติ, มโนวิฺาเณ น สารชฺชติ, มโนสมฺผสฺเส น สารชฺชติ, ยมิทํ มโนสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตสฺมิมฺปิ น สารชฺชติ.
‘‘ตสฺส อสารตฺตสฺส อสํยุตฺตสฺส อสมฺมูฬฺหสฺส อาทีนวานุปสฺสิโน วิหรโต อายตึ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา อปจยํ คจฺฉนฺติ. ตณฺหา จสฺส โปโนพฺภวิกา นนฺทีราคสหคตา ตตฺรตตฺราภินนฺทินี ¶ , สา จสฺส ปหียติ. ตสฺส กายิกาปิ ทรถา ปหียนฺติ, เจตสิกาปิ ทรถา ปหียนฺติ; กายิกาปิ สนฺตาปา ปหียนฺติ, เจตสิกาปิ สนฺตาปา ปหียนฺติ; กายิกาปิ ปริฬาหา ปหียนฺติ, เจตสิกาปิ ปริฬาหา ปหียนฺติ. โส กายสุขมฺปิ เจโตสุขมฺปิ ปฏิสํเวเทติ.
๔๓๓. ‘‘ยา ตถาภูตสฺส ทิฏฺิ สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺิ; โย ตถาภูตสฺส สงฺกปฺโป สฺวาสฺส โหติ สมฺมาสงฺกปฺโป; โย ตถาภูตสฺส วายาโม สฺวาสฺส โหติ สมฺมาวายาโม; ยา ตถาภูตสฺส สติ สาสฺส โหติ สมฺมาสติ; โย ตถาภูตสฺส สมาธิ สฺวาสฺส โหติ สมฺมาสมาธิ. ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว สุปริสุทฺโธ โหติ. เอวมสฺสายํ ¶ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ.
‘‘ตสฺส เอวํ อิมํ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาวยโต จตฺตาโรปิ สติปฏฺานา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, จตฺตาโรปิ สมฺมปฺปธานา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, จตฺตาโรปิ อิทฺธิปาทา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, ปฺจปิ อินฺทฺริยานิ ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, ปฺจปิ พลานิ ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, สตฺตปิ โพชฺฌงฺคา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.
‘‘ตสฺสิเม ทฺเว ธมฺมา ยุคนนฺธา วตฺตนฺติ – สมโถ จ วิปสฺสนา จ. โส เย ธมฺมา อภิฺา ปริฺเยฺยา เต ธมฺเม อภิฺา ปริชานาติ. เย ¶ ธมฺมา อภิฺา ปหาตพฺพา เต ธมฺเม อภิฺา ปชหติ. เย ธมฺมา อภิฺา ภาเวตพฺพา เต ธมฺเม อภิฺา ภาเวติ. เย ธมฺมา อภิฺา สจฺฉิกาตพฺพา เต ธมฺเม อภิฺา สจฺฉิกโรติ.
‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา อภิฺา ปริฺเยฺยา? ‘ปฺจุปาทานกฺขนฺธา’ ติสฺส วจนียํ, เสยฺยถิทํ – รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สฺุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ. อิเม ธมฺมา อภิฺา ปริฺเยฺยา.
‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา อภิฺา ปหาตพฺพา? อวิชฺชา จ ภวตณฺหา จ – อิเม ธมฺมา อภิฺา ปหาตพฺพา.
‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา อภิฺา ภาเวตพฺพา? สมโถ จ วิปสฺสนา จ – อิเม ธมฺมา อภิฺา ภาเวตพฺพา.
‘‘กตเม ¶ จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา อภิฺา สจฺฉิกาตพฺพา? วิชฺชา จ วิมุตฺติ จ – อิเม ธมฺมา อภิฺา สจฺฉิกาตพฺพา’’ติ.
อิทมโวจ ¶ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
มหาสฬายตนิกสุตฺตํ นิฏฺิตํ สตฺตมํ.
๘. นครวินฺเทยฺยสุตฺตํ
๔๓๔. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน นครวินฺทํ นาม โกสลานํ พฺราหฺมณานํ คาโม ตทวสริ. อสฺโสสุํ โข นครวินฺเทยฺยกา [นครวินฺเทยฺยา (ก.)] พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ¶ นครวินฺทํ อนุปฺปตฺโต. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. โส ¶ อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ.
อถ โข นครวินฺเทยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อปฺเปกจฺเจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อปฺเปกจฺเจ ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ; สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อปฺเปกจฺเจ เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อปฺเปกจฺเจ ภควโต สนฺติเก นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ ¶ นิสินฺเน โข นครวินฺเทยฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก ภควา เอตทโวจ –
๔๓๕. ‘‘สเจ โว, คหปตโย, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘กถํภูตา, คหปตโย, สมณพฺราหฺมณา น สกฺกาตพฺพา น ครุกาตพฺพา น มาเนตพฺพา น ปูเชตพฺพา’ติ? เอวํ ปุฏฺา ตุมฺเห, คหปตโย, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถ – ‘เย เต สมณพฺราหฺมณา จกฺขุวิฺเยฺเยสุ รูเปสุ อวีตราคา อวีตโทสา อวีตโมหา, อชฺฌตฺตํ อวูปสนฺตจิตฺตา, สมวิสมํ จรนฺติ กาเยน วาจาย มนสา, เอวรูปา สมณพฺราหฺมณา น สกฺกาตพฺพา น ครุกาตพฺพา น มาเนตพฺพา น ปูเชตพฺพา. ตํ กิสฺส เหตุ? มยมฺปิ หิ จกฺขุวิฺเยฺเยสุ ¶ รูเปสุ อวีตราคา อวีตโทสา อวีตโมหา, อชฺฌตฺตํ อวูปสนฺตจิตฺตา, สมวิสมํ จราม กาเยน วาจาย มนสา, เตสํ โน สมจริยมฺปิ เหตํ อุตฺตริ อปสฺสตํ. ตสฺมา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา น สกฺกาตพฺพา น ครุกาตพฺพา น มาเนตพฺพา น ปูเชตพฺพา. เย เต สมณพฺราหฺมณา โสตวิฺเยฺเยสุ สทฺเทสุ… ฆานวิฺเยฺเยสุ คนฺเธสุ… ชิวฺหาวิฺเยฺเยสุ รเสสุ… กายวิฺเยฺเยสุ โผฏฺพฺเพสุ… มโนวิฺเยฺเยสุ ธมฺเมสุ อวีตราคา อวีตโทสา อวีตโมหา, อชฺฌตฺตํ อวูปสนฺตจิตฺตา, สมวิสมํ จรนฺติ กาเยน วาจาย มนสา, เอวรูปา สมณพฺราหฺมณา น สกฺกาตพฺพา น ครุกาตพฺพา น มาเนตพฺพา น ปูเชตพฺพา. ตํ กิสฺส เหตุ? มยมฺปิ หิ มโนวิฺเยฺเยสุ ธมฺเมสุ ¶ อวีตราคา อวีตโทสา อวีตโมหา ¶ , อชฺฌตฺตํ ¶ อวูปสนฺตจิตฺตา, สมวิสมํ จราม กาเยน วาจาย มนสา, เตสํ โน สมจริยมฺปิ เหตํ อุตฺตริ อปสฺสตํ. ตสฺมา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา น สกฺกาตพฺพา น ครุกาตพฺพา น มาเนตพฺพา น ปูเชตพฺพา’ติ. เอวํ ปุฏฺา ตุมฺเห, คหปตโย, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถ.
๔๓๖. ‘‘สเจ ปน โว, คหปตโย, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘กถํภูตา, คหปตโย, สมณพฺราหฺมณา สกฺกาตพฺพา ครุกาตพฺพา มาเนตพฺพา ปูเชตพฺพา’ติ? เอวํ ปุฏฺา ตุมฺเห, คหปตโย, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถ – ‘เย เต สมณพฺราหฺมณา จกฺขุวิฺเยฺเยสุ รูเปสุ วีตราคา วีตโทสา วีตโมหา, อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺตา, สมจริยํ จรนฺติ กาเยน วาจาย มนสา, เอวรูปา สมณพฺราหฺมณา สกฺกาตพฺพา ครุกาตพฺพา มาเนตพฺพา ปูเชตพฺพา. ตํ กิสฺส เหตุ? มยมฺปิ หิ [มยํ หิ (?)] จกฺขุวิฺเยฺเยสุ รูเปสุ อวีตราคา อวีตโทสา อวีตโมหา, อชฺฌตฺตํ อวูปสนฺตจิตฺตา, สมวิสมํ จราม กาเยน วาจาย มนสา, เตสํ โน สมจริยมฺปิ เหตํ อุตฺตริ ปสฺสตํ. ตสฺมา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สกฺกาตพฺพา ครุกาตพฺพา มาเนตพฺพา ปูเชตพฺพา. เย เต สมณพฺราหฺมณา โสตวิฺเยฺเยสุ สทฺเทสุ… ฆานวิฺเยฺเยสุ คนฺเธสุ… ชิวฺหาวิฺเยฺเยสุ รเสสุ… กายวิฺเยฺเยสุ โผฏฺพฺเพสุ… มโนวิฺเยฺเยสุ ¶ ธมฺเมสุ วีตราคา วีตโทสา วีตโมหา, อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺตา, สมจริยํ จรนฺติ กาเยน วาจาย มนสา, เอวรูปา สมณพฺราหฺมณา สกฺกาตพฺพา ครุกาตพฺพา มาเนตพฺพา ปูเชตพฺพา. ตํ กิสฺส เหตุ? มยมฺปิ หิ มโนวิฺเยฺเยสุ ธมฺเมสุ อวีตราคา อวีตโทสา อวีตโมหา อชฺฌตฺตํ อวูปสนฺตจิตฺตา, สมวิสมํ จราม กาเยน วาจาย มนสา, เตสํ โน สมจริยมฺปิ เหตํ อุตฺตริ ปสฺสตํ. ตสฺมา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สกฺกาตพฺพา ครุกาตพฺพา มาเนตพฺพา ปูเชตพฺพา’ติ ¶ . เอวํ ปุฏฺา ตุมฺเห, คหปตโย, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถ.
๔๓๗. ‘‘สเจ ปน โว [สเจ เต (สฺยา. กํ. ปี. ก.)], คหปตโย, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘เก ปนายสฺมนฺตานํ อาการา, เก อนฺวยา, เยน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ¶ เอวํ วเทถ? อทฺธา เต อายสฺมนฺโต วีตราคา ¶ วา ราควินยาย วา ปฏิปนฺนา, วีตโทสา วา โทสวินยาย วา ปฏิปนฺนา, วีตโมหา วา โมหวินยาย วา ปฏิปนฺนา’ติ? เอวํ ปุฏฺา ตุมฺเห, คหปตโย, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถ – ‘ตถา หิ เต อายสฺมนฺโต อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ. นตฺถิ โข ปน ตตฺถ ตถารูปา จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา เย ทิสฺวา ทิสฺวา อภิรเมยฺยุํ, นตฺถิ โข ปน ตตฺถ ตถารูปา โสตวิฺเยฺยา สทฺทา เย สุตฺวา สุตฺวา อภิรเมยฺยุํ, นตฺถิ โข ปน ตตฺถ ตถารูปา ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา เย ฆายิตฺวา ฆายิตฺวา อภิรเมยฺยุํ ¶ , นตฺถิ โข ปน ตตฺถ ตถารูปา ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา เย สายิตฺวา สายิตฺวา อภิรเมยฺยุํ, นตฺถิ โข ปน ตตฺถ ตถารูปา กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา เย ผุสิตฺวา ผุสิตฺวา อภิรเมยฺยุํ. อิเม โข โน, อาวุโส, อาการา, อิเม อนฺวยา, เยน มยํ [เยน มยํ อายสฺมนฺโต (สี. ปี.), เยน มยํ อายสฺมนฺเต (สฺยา. กํ.)] เอวํ วเทม – อทฺธา เต อายสฺมนฺโต วีตราคา วา ราควินยาย วา ปฏิปนฺนา, วีตโทสา วา โทสวินยาย วา ปฏิปนฺนา, วีตโมหา วา โมหวินยาย วา ปฏิปนฺนา’ติ. เอวํ ปุฏฺา ตุมฺเห, คหปตโย, เตสํ อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถา’’ติ.
เอวํ วุตฺเต, นครวินฺเทยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอเต มยํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสเก โน ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปเต สรณํ คเต’’ติ.
นครวินฺเทยฺยสุตฺตํ นิฏฺิตํ อฏฺมํ.
๙. ปิณฺฑปาตปาริสุทฺธิสุตฺตํ
๔๓๘. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา ¶ วุฏฺิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ภควา เอตทโวจ –
‘‘วิปฺปสนฺนานิ ¶ โข เต, สาริปุตฺต, อินฺทฺริยานิ, ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต. กตเมน โข ตฺวํ, สาริปุตฺต, วิหาเรน เอตรหิ พหุลํ วิหรสี’’ติ? ‘‘สฺุตาวิหาเรน โข อหํ, ภนฺเต, เอตรหิ พหุลํ วิหรามี’’ติ. ‘‘สาธุ, สาธุ, สาริปุตฺต! มหาปุริสวิหาเรน กิร ตฺวํ, สาริปุตฺต, เอตรหิ พหุลํ วิหรสิ. มหาปุริสวิหาโร เอโส [เหส (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], สาริปุตฺต, ยทิทํ – สฺุตา. ตสฺมาติห, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สเจ อากงฺเขยฺย – ‘สฺุตาวิหาเรน พหุลํ [เอตรหิ พหุลํ (สี. ปี.)] วิหเรยฺย’นฺติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘เยน จาหํ มคฺเคน คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ, ยสฺมิฺจ ปเทเส ปิณฺฑาย อจรึ, เยน จ มคฺเคน คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมึ, อตฺถิ นุ โข เม ตตฺถ จกฺขุวิฺเยฺเยสุ รูเปสุ ฉนฺโท วา ราโค วา โทโส วา โมโห วา ปฏิฆํ วาปิ เจตโส’ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘เยน จาหํ มคฺเคน คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ, ยสฺมิฺจ ปเทเส ปิณฺฑาย อจรึ, เยน จ มคฺเคน คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมึ, อตฺถิ เม ตตฺถ จกฺขุวิฺเยฺเยสุ รูเปสุ ฉนฺโท วา ราโค วา โทโส วา โมโห วา ปฏิฆํ วาปิ เจตโส’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตสํเยว ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย วายมิตพฺพํ. สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘เยน จาหํ มคฺเคน คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ, ยสฺมิฺจ ปเทเส ปิณฺฑาย อจรึ, เยน ¶ จ มคฺเคน คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมึ, นตฺถิ เม ตตฺถ จกฺขุวิฺเยฺเยสุ รูเปสุ ฉนฺโท วา ราโค วา โทโส วา โมโห วา ปฏิฆํ วาปิ เจตโส’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
๔๓๙. ‘‘ปุน ¶ จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘เยน จาหํ มคฺเคน คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ, ยสฺมิฺจ ปเทเส ปิณฺฑาย อจรึ, เยน จ มคฺเคน คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมึ, อตฺถิ นุ โข เม ตตฺถ โสตวิฺเยฺเยสุ สทฺเทสุ…เป… ฆานวิฺเยฺเยสุ คนฺเธสุ… ชิวฺหาวิฺเยฺเยสุ รเสสุ ¶ … กายวิฺเยฺเยสุ โผฏฺพฺเพสุ… มโนวิฺเยฺเยสุ ธมฺเมสุ ฉนฺโท วา ราโค วา โทโส วา โมโห วา ปฏิฆํ วาปิ เจตโส’ติ? สเจ ¶ , สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘เยน จาหํ มคฺเคน คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ, ยสฺมิฺจ ปเทเส ปิณฺฑาย อจรึ, เยน จ มคฺเคน คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมึ, อตฺถิ เม ตตฺถ มโนวิฺเยฺเยสุ ธมฺเมสุ ฉนฺโท วา ราโค วา โทโส ¶ วา โมโห วา ปฏิฆํ วาปิ เจตโส’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตสํเยว ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย วายมิตพฺพํ. สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘เยน จาหํ มคฺเคน คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ, ยสฺมิฺจ ปเทเส ปิณฺฑาย อจรึ, เยน จ มคฺเคน คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมึ, นตฺถิ เม ตตฺถ มโนวิฺเยฺเยสุ ธมฺเมสุ ฉนฺโท วา ราโค วา โทโส วา โมโห วา ปฏิฆํ วาปิ เจตโส’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
๔๔๐. ‘‘ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘ปหีนา นุ โข เม ปฺจ กามคุณา’ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อปฺปหีนา โข เม ปฺจ กามคุณา’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา ปฺจนฺนํ กามคุณานํ ปหานาย วายมิตพฺพํ. สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ปหีนา โข เม ปฺจ กามคุณา’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
๔๔๑. ‘‘ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘ปหีนา นุ โข เม ปฺจ นีวรณา’ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อปฺปหีนา โข เม ปฺจ นีวรณา’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา ปฺจนฺนํ นีวรณานํ ปหานาย วายมิตพฺพํ. สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ปหีนา โข ¶ เม ปฺจ นีวรณา’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
๔๔๒. ‘‘ปุน ¶ จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘ปริฺาตา นุ โข เม ปฺจุปาทานกฺขนฺธา’ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อปริฺาตา โข เม ปฺจุปาทานกฺขนฺธา’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา ¶ ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ ปริฺาย วายมิตพฺพํ. สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน ¶ เอวํ ชานาติ – ‘ปริฺาตา โข เม ปฺจุปาทานกฺขนฺธา’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
๔๔๓. ‘‘ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘ภาวิตา นุ โข เม จตฺตาโร สติปฏฺานา’ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อภาวิตา โข เม จตฺตาโร สติปฏฺานา’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ ภาวนาย วายมิตพฺพํ. สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ภาวิตา โข เม จตฺตาโร สติปฏฺานา’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
๔๔๔. ‘‘ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘ภาวิตา นุ โข เม จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา’ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อภาวิตา โข เม จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา จตุนฺนํ สมฺมปฺปธานานํ ภาวนาย วายมิตพฺพํ. สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ภาวิตา โข เม จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา’ติ ¶ , เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
๔๔๕. ‘‘ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘ภาวิตา นุ โข เม จตฺตาโร อิทฺธิปาทา’ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อภาวิตา โข เม จตฺตาโร อิทฺธิปาทา’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ ภาวนาย วายมิตพฺพํ. สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ภาวิตา โข เม จตฺตาโร อิทฺธิปาทา’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
๔๔๖. ‘‘ปุน ¶ จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘ภาวิตานิ นุ โข เม ปฺจินฺทฺริยานี’ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อภาวิตานิ โข เม ปฺจินฺทฺริยานี’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ ภาวนาย วายมิตพฺพํ. สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน ¶ เอวํ ชานาติ – ‘ภาวิตานิ โข เม ปฺจินฺทฺริยานี’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
๔๔๗. ‘‘ปุน ¶ จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘ภาวิตานิ นุ โข เม ปฺจ พลานี’ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อภาวิตานิ โข เม ปฺจ พลานี’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา ปฺจนฺนํ พลานํ ภาวนาย วายมิตพฺพํ. สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ภาวิตานิ โข เม ปฺจ พลานี’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
๔๔๘. ‘‘ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘ภาวิตา นุ โข เม สตฺต โพชฺฌงฺคา’ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อภาวิตา โข เม สตฺต โพชฺฌงฺคา’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ ภาวนาย วายมิตพฺพํ. สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ภาวิตา โข เม สตฺต โพชฺฌงฺคา’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
๔๔๙. ‘‘ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘ภาวิโต นุ โข เม อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อภาวิโต โข เม อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส ภาวนาย วายมิตพฺพํ. สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ภาวิโต โข เม อริโย อฏฺงฺคิโก ¶ มคฺโค’ติ ¶ , เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
๔๕๐. ‘‘ปุน ¶ จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘ภาวิตา นุ โข เม สมโถ จ วิปสฺสนา จา’ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อภาวิตา โข เม สมโถ จ วิปสฺสนา จา’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา สมถวิปสฺสนานํ ภาวนาย วายมิตพฺพํ. สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ภาวิตา โข ¶ เม สมโถ จ วิปสฺสนา จา’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
๔๕๑. ‘‘ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘สจฺฉิกตา นุ โข เม วิชฺชา จ วิมุตฺติ จา’ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อสจฺฉิกตา โข เม วิชฺชา จ วิมุตฺติ จา’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา วิชฺชาย วิมุตฺติยา สจฺฉิกิริยาย วายมิตพฺพํ. สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘สจฺฉิกตา โข เม วิชฺชา จ วิมุตฺติ จา’ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
๔๕๒. ‘‘เย หิ เกจิ, สาริปุตฺต, อตีตมทฺธานํ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปิณฺฑปาตํ ปริโสเธสุํ, สพฺเพ เต เอวเมว ปจฺจเวกฺขิตฺวา ¶ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปิณฺฑปาตํ ปริโสเธสุํ. เยปิ หิ เกจิ, สาริปุตฺต, อนาคตมทฺธานํ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปิณฺฑปาตํ ปริโสเธสฺสนฺติ, สพฺเพ เต เอวเมว ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปิณฺฑปาตํ ปริโสเธสฺสนฺติ. เยปิ หิ เกจิ, สาริปุตฺต, เอตรหิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปิณฺฑปาตํ ปริโสเธนฺติ, สพฺเพ เต เอวเมว ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปิณฺฑปาตํ ปริโสเธนฺติ. ตสฺมาติห, สาริปุตฺต [โว สาริปุตฺต เอวํ สิกฺขิตพฺพํ (สี. ปี.)], ‘ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปิณฺฑปาตํ ปริโสเธสฺสามา’ติ – เอวฺหิ โว, สาริปุตฺต, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
ปิณฺฑปาตปาริสุทฺธิสุตฺตํ นิฏฺิตํ นวมํ.
๑๐. อินฺทฺริยภาวนาสุตฺตํ
๔๕๓. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา คชงฺคลายํ [กชงฺคลายํ (สี. ปี.), กชฺชงฺคลายํ (สฺยา. กํ.)] วิหรติ สุเวฬุวเน [เวฬุวเน (สฺยา. กํ.), มุเขลุวเน (สี. ปี.)]. อถ โข อุตฺตโร มาณโว ปาราสิวิยนฺเตวาสี [ปาราสริยนฺเตวาสี (สี. ปี.), ปาราสิริยนฺเตวาสี (สฺยา. กํ.)] เยน ภควา ¶ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อุตฺตรํ มาณวํ ปาราสิวิยนฺเตวาสึ ภควา เอตทโวจ – ‘‘เทเสติ, อุตฺตร, ปาราสิวิโย พฺราหฺมโณ สาวกานํ อินฺทฺริยภาวน’’นฺติ? ‘‘เทเสติ, โภ โคตม, ปาราสิวิโย พฺราหฺมโณ สาวกานํ อินฺทฺริยภาวน’’นฺติ. ‘‘ยถา กถํ ปน, อุตฺตร, เทเสติ ปาราสิวิโย พฺราหฺมโณ สาวกานํ อินฺทฺริยภาวน’’นฺติ? ‘‘อิธ, โภ โคตม, จกฺขุนา รูปํ น ปสฺสติ, โสเตน สทฺทํ น สุณาติ – เอวํ โข, โภ โคตม, เทเสติ ปาราสิวิโย พฺราหฺมโณ สาวกานํ อินฺทฺริยภาวน’’นฺติ. ‘‘เอวํ สนฺเต โข, อุตฺตร, อนฺโธ ภาวิตินฺทฺริโย ภวิสฺสติ, พธิโร ภาวิตินฺทฺริโย ภวิสฺสติ; ยถา ปาราสิวิยสฺส พฺราหฺมณสฺส วจนํ. อนฺโธ หิ, อุตฺตร, จกฺขุนา รูปํ น ปสฺสติ, พธิโร โสเตน สทฺทํ น สุณาตี’’ติ. เอวํ วุตฺเต, อุตฺตโร มาณโว ปาราสิวิยนฺเตวาสี ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขนฺโธ อโธมุโข ปชฺฌายนฺโต อปฺปฏิภาโน นิสีทิ.
อถ โข ภควา อุตฺตรํ มาณวํ ปาราสิวิยนฺเตวาสึ ตุณฺหีภูตํ ¶ มงฺกุภูตํ ปตฺตกฺขนฺธํ อโธมุขํ ปชฺฌายนฺตํ อปฺปฏิภานํ วิทิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อฺถา โข, อานนฺท, เทเสติ ปาราสิวิโย พฺราหฺมโณ สาวกานํ อินฺทฺริยภาวนํ, อฺถา จ ปนานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา โหตี’’ติ. ‘‘เอตสฺส, ภควา, กาโล; เอตสฺส, สุคต, กาโล ยํ ภควา อริยสฺส ¶ วินเย อนุตฺตรํ อินฺทฺริยภาวนํ เทเสยฺย. ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘เตนหานนฺท, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –
๔๕๔. ‘‘กถฺจานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา โหติ? อิธานนฺท, ภิกฺขุโน จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ มนาปํ, อุปฺปนฺนํ อมนาปํ, อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ ¶ . ตฺจ โข สงฺขตํ โอฬาริกํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ. เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ – อุเปกฺขา’ติ. ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ; อุเปกฺขา สณฺาติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, จกฺขุมา ปุริโส อุมฺมีเลตฺวา วา นิมีเลยฺย, นิมีเลตฺวา วา อุมฺมีเลยฺย; เอวเมว โข, อานนฺท, ยสฺส กสฺสจิ เอวํสีฆํ เอวํตุวฏํ ¶ เอวํอปฺปกสิเรน อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ, อุเปกฺขา สณฺาติ – อยํ วุจฺจตานนฺท, อริยสฺส ¶ วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา จกฺขุวิฺเยฺเยสุ รูเปสุ.
๔๕๕. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน โสเตน สทฺทํ สุตฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ มนาปํ, อุปฺปนฺนํ อมนาปํ, อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ. ตฺจ โข สงฺขตํ โอฬาริกํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ. เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ – อุเปกฺขา’ติ. ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ; อุเปกฺขา สณฺาติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, พลวา ปุริโส อปฺปกสิเรเนว อจฺฉรํ [อจฺฉริกํ (สฺยา. กํ. ปี. ก.)] ปหเรยฺย; เอวเมว โข, อานนฺท, ยสฺส กสฺสจิ เอวํสีฆํ เอวํตุวฏํ เอวํอปฺปกสิเรน อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ, อุเปกฺขา สณฺาติ – อยํ วุจฺจตานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา โสตวิฺเยฺเยสุ สทฺเทสุ.
๔๕๖. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ มนาปํ, อุปฺปนฺนํ อมนาปํ, อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ. ตฺจ โข สงฺขตํ โอฬาริกํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ. เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ – อุเปกฺขา’ติ. ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ; อุเปกฺขา สณฺาติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท ¶ , อีสกํโปเณ [อีสกโปเณ (สี. สฺยา. กํ. ปี.), อีสกผเณ (สี. อฏฺ.), ‘‘มชฺเฌ อุจฺจํ หุตฺวา’’ติ ฏีกาย สํสนฺทิตพฺพา] ปทุมปลาเส ¶ [ปทุมินิปตฺเต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุทกผุสิตานิ ปวตฺตนฺติ, น สณฺนฺติ; เอวเมว โข, อานนฺท, ยสฺส กสฺสจิ เอวํสีฆํ เอวํตุวฏํ เอวํอปฺปกสิเรน อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ, อุเปกฺขา สณฺาติ – อยํ วุจฺจตานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา ฆานวิฺเยฺเยสุ คนฺเธสุ.
๔๕๗. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ ¶ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ มนาปํ, อุปฺปนฺนํ อมนาปํ, อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ. ตฺจ โข สงฺขตํ โอฬาริกํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ. เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ – อุเปกฺขา’ติ. ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ; อุเปกฺขา สณฺาติ ¶ . เสยฺยถาปิ, อานนฺท, พลวา ปุริโส ชิวฺหคฺเค เขฬปิณฺฑํ สํยูหิตฺวา อปฺปกสิเรน วเมยฺย [สนฺธเมยฺย (ก.)]; เอวเมว โข, อานนฺท, ยสฺส กสฺสจิ เอวํสีฆํ เอวํตุวฏํ เอวํอปฺปกสิเรน อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ, อุเปกฺขา สณฺาติ – อยํ วุจฺจตานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา ชิวฺหาวิฺเยฺเยสุ รเสสุ.
๔๕๘. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ มนาปํ, อุปฺปนฺนํ อมนาปํ, อุปฺปนฺนํ ¶ มนาปามนาปํ. ตฺจ โข สงฺขตํ โอฬาริกํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ. เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ – อุเปกฺขา’ติ. ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ; อุเปกฺขา สณฺาติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย; เอวเมว โข, อานนฺท, ยสฺส กสฺสจิ เอวํสีฆํ เอวํตุวฏํ เอวํอปฺปกสิเรน อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ, อุเปกฺขา สณฺาติ – อยํ วุจฺจตานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา กายวิฺเยฺเยสุ โผฏฺพฺเพสุ.
๔๕๙. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน มนสา ธมฺมํ วิฺาย อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ มนาปํ, อุปฺปนฺนํ อมนาปํ, อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ. ตฺจ โข สงฺขตํ โอฬาริกํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ. เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ – อุเปกฺขา’ติ. ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ; อุเปกฺขา สณฺาติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, พลวา ปุริโส ทิวสํสนฺตตฺเต [ทิวสสนฺเตตฺเต (สี.)] อโยกฏาเห ทฺเว วา ตีณิ วา อุทกผุสิตานิ นิปาเตยฺย. ทนฺโธ, อานนฺท, อุทกผุสิตานํ นิปาโต, อถ โข นํ ขิปฺปเมว ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คจฺเฉยฺย; เอวเมว โข, อานนฺท, ยสฺส กสฺสจิ เอวํสีฆํ เอวํตุวฏํ เอวํอปฺปกสิเรน อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ ¶ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ, อุเปกฺขา สณฺาติ – อยํ วุจฺจตานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา มโนวิฺเยฺเยสุ ธมฺเมสุ. เอวํ โข, อานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา โหติ.
๔๖๐. ‘‘กถฺจานนฺท ¶ , เสโข โหติ ปาฏิปโท? อิธานนฺท, ภิกฺขุโน จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส ¶ เตน อุปฺปนฺเนน มนาเปน อุปฺปนฺเนน อมนาเปน อุปฺปนฺเนน มนาปามนาเปน อฏฺฏียติ หรายติ ชิคุจฺฉติ. โสเตน สทฺทํ ¶ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา…, ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส เตน อุปฺปนฺเนน มนาเปน อุปฺปนฺเนน อมนาเปน อุปฺปนฺเนน มนาปามนาเปน อฏฺฏียติ หรายติ ชิคุจฺฉติ. เอวํ โข, อานนฺท, เสโข โหติ ปาฏิปโท.
๔๖๑. ‘‘กถฺจานนฺท, อริโย โหติ ภาวิตินฺทฺริโย? อิธานนฺท, ภิกฺขุโน จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส สเจ อากงฺขติ – ‘ปฏิกูเล [ปฏิกฺกูเล (สพฺพตฺถ)] อปฺปฏิกูลสฺี วิหเรยฺย’นฺติ, อปฺปฏิกูลสฺี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ – ‘อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสฺี วิหเรยฺย’นฺติ, ปฏิกูลสฺี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ – ‘ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูลสฺี ¶ วิหเรยฺย’นฺติ, อปฺปฏิกูลสฺี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ – ‘อปฺปฏิกูเล จ ปฏิกูเล จ ปฏิกูลสฺี วิหเรยฺย’นฺติ, ปฏิกูลสฺี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ – ‘ปฏิกูลฺจ อปฺปฏิกูลฺจ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหเรยฺยํ สโต สมฺปชาโน’ติ, อุเปกฺขโก ตตฺถ วิหรติ สโต สมฺปชาโน.
๔๖๒. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส สเจ อากงฺขติ – ‘ปฏิกูเล อปฺปฏิกูลสฺี วิหเรยฺย’นฺติ, อปฺปฏิกูลสฺี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ – ‘อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสฺี วิหเรยฺย’นฺติ, ปฏิกูลสฺี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ – ‘ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูลสฺี วิหเรยฺย’นฺติ, อปฺปฏิกูลสฺี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ – ‘อปฺปฏิกูเล จ ปฏิกูเล จ ปฏิกูลสฺี วิหเรยฺย’นฺติ, ปฏิกูลสฺี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ – ‘ปฏิกูลฺจ อปฺปฏิกูลฺจ ตทุภยมฺปิ ¶ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหเรยฺยํ สโต สมฺปชาโน’ติ, อุเปกฺขโก ตตฺถ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. เอวํ โข, อานนฺท, อริโย โหติ ภาวิตินฺทฺริโย.
๔๖๓. ‘‘อิติ ¶ ¶ โข, อานนฺท, เทสิตา มยา อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา, เทสิโต เสโข ปาฏิปโท, เทสิโต อริโย ภาวิตินฺทฺริโย ¶ . ยํ โข, อานนฺท, สตฺถารา กรณียํ สาวกานํ หิเตสินา อนุกมฺปเกน อนุกมฺปํ อุปาทาย, กตํ โว ตํ มยา. เอตานิ, อานนฺท, รุกฺขมูลานิ, เอตานิ สฺุาคารานิ, ฌายถานนฺท, มา ปมาทตฺถ, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ. อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
อินฺทฺริยภาวนาสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทสมํ.
สฬายตนวคฺโค นิฏฺิโต ปฺจโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
อนาถปิณฺฑิโก ฉนฺโน, ปุณฺโณ นนฺทกราหุลา;
ฉฉกฺกํ สฬายตนิกํ, นครวินฺเทยฺยสุทฺธิกา;
อินฺทฺริยภาวนา จาปิ, วคฺโค โอวาทปฺจโมติ.
อิทํ วคฺคานมุทฺทานํ –
เทวทโหนุปโท จ, สฺุโต จ วิภงฺคโก;
สฬายตโนติ วคฺคา, อุปริปณฺณาสเก ิตาติ.
อุปริปณฺณาสกํ สมตฺตํ.
ตีหิ ปณฺณาสเกหิ ปฏิมณฺฑิโต สกโล
มชฺฌิมนิกาโย สมตฺโต.