📜

๕. สฬายตนวคฺโค

๑. อนาถปิณฺฑิโกวาทสุตฺตวณฺณนา

๓๘๓. อธิมตฺตคิลาโนติ อธิกาย มตฺตาย มรณสฺส อาสนฺนตาย อติวิย คิลาโนติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘มรณเสยฺยํ อุปคโต’’ติ. อขณฺฑํ อกาสิ คหปติโน สตฺถริ ปรมเปมตฺตา. ยตฺตกํ จสฺสาติ, ‘‘สกึ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา’’ติ วุตฺตํ ยตฺตกํ อสฺส คหปติสฺส.

๓๘๔. โอสกฺกนฺตีติ ปริหายนฺติ. โอตฺถรนฺตีติ อภิภวนฺติ. อุสฺมา นาม กมฺมชเตโชธาตุ, สา สห ชีวิตินฺทฺริยนิโรธา ปริยาทิยติ, ยาว ตา อายุอุสฺมา วตฺตนฺติ, ตาว มรณนฺติกา เวทนา วตฺตนฺเตว วิฺาณสฺส อนิรุทฺธตฺตา. เตนาห ‘‘ยาว อุสฺมา’’ติอาทิ.

๓๘๕. ตีหิ คาเหหีติ ตณฺหามานทิฏฺิคฺคาเหหิ. ปฏิพาหิตุํ วิกฺขมฺเภตุํ. จกฺขุํ ตีหิ คาเหหิ น คณฺหิสฺสามีติ มานคฺคาหปฏิกฺเขปมุเขน จกฺขุสฺมึ อนิจฺจานุปสฺสนาติ ทสฺเสติ. อนิจฺจานุปสฺสนาย หิ สติ อปฺปติฏฺโ มานคฺคาโห, ทุกฺขานุปสฺสนาย สติ อปฺปติฏฺโ ตณฺหาคฺคาโห, อนตฺตานุปสฺสนาย สติ อปฺปติฏฺโ ทิฏฺิคฺคาโหติ, คาโห จ นาม โอฬาริโก, ตสฺมึ วิคเตปิ นิกนฺติ ติฏฺเยฺยาติ ตํ วิชหาเปตุกาเมน, – ‘‘น จ เม จกฺขุนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตี’’ติ วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘วิฺาณฺจาปิ เม จกฺขุนิสฺสิตํ น ภวิสฺสตี’’ติ. สพฺพํ กามภวรูปนฺติ กามภูมิปริยาปนฺนํ สพฺพํ รูปกฺขนฺธมาห – ‘‘กามรูปภวรูป’’นฺติ วา ปาโ. โส ยุตฺโต อิมสฺส วารสฺส เอว อนวเสสปฺจโวการภวปริยาปนฺนโต. ตถา หิ อุปริ จตุโวการภโว อนวเสสโต วุตฺโต.

๓๘๖. อิธโลกนฺติ เอตฺถ สงฺขารโลกวิสโยติ อธิปฺปาเยน, ‘‘วสนฏฺานํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตฺจ โข ปมทุติยวาเรหิ อิธโลโก คหิโตติ กตฺวา. ปมทุติยวาเรหิ ปน อิธโลโก ปรโลโกติ วิภาเคน วินา ปฺจโวการภโว คหิโต; ตถา ตติยวาเร ปฺจโวการภโว จตุโวการภโว จ คหิโตติ ปุน ทิฏฺธมฺมสมฺปรายวเสน ตํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ, ‘‘น อิธโลก’’นฺติอาทิ วุตฺตํ . อิธโลกนฺติ จ สตฺตสงฺขารวเสเนว คหิตํ. สพฺพมฺปิ สงฺขารวเสน ปริคฺคเหตฺวา ทสฺเสตุํ, ‘‘ยมฺปิ เม ทิฏฺ’’นฺติอาทิ วุตฺตนฺติ เกจิ. อปริตสฺสนตฺถํ ตณฺหาปริตสฺสนาย อนุปฺปาทนตฺถํ. ยสฺส ทิฏฺธมฺโมติ วุจฺจติ, ตสฺส ปน อภาวโต, ‘‘มนุสฺสโลกํ เปตฺวา เสสา ปรโลกา นามา’’ติ วุตฺตํ. เยสํ ปน ‘‘อิธโลก’’นฺติ อิมินา สตฺตโลกสฺสปิ คหณํ อิจฺฉิตํ. เตสํ มเตน, ‘‘มนุสฺสโลกํ เปตฺวา’’ติ โยชนา.

๓๘๗. อลฺลียสีติ อตฺตภาเว โภเคสุ จ อเปกฺขํ กโรสีติ อตฺโถ. เอวรูปีติ ยาทิสี ตทา ธมฺมเสนาปตินา กถิตา, เอวรูปี. ธมฺมกถา น สุตปุพฺพาติ ยถากถิตาการเมว สนฺธาย ปฏิกฺเขโป, น สุขุมคมฺภีรสุฺตาปฏิสํยุตฺตตาสามฺํ. เตนาห ‘‘เอวํ ปนา’’ติอาทิ.

มยา คตมคฺคเมว อนุคจฺฉสีติ ทานมยปุฺภาวสามฺํ คเหตฺวา วทติ, น โพธิสตฺตทานภูตํ ทานปารมิตํ. น ปฏิภาตีติ รุจฺจนวเสน จิตฺเต น อุปติฏฺติ. เตนาห ‘‘น รุจฺจตี’’ติ. ตถา เหส วฏฺฏาภิรโตติ. อุชุมคฺคาวหา วิปสฺสนา ภควตา ปนสฺส กถิตปุพฺพา.

๓๘๘. เอสิตคุณตฺตา เอสิยมานคุณตฺตา จ อิสิ, อเสกฺขา เสกฺขา กลฺยาณปุถุชฺชนา จ, อิสีนํ สงฺโฆ, เตน นิเสวิตนฺติ อิสิสงฺฆนิเสวิตํ. กามํ ตสฺส วิหารสฺส คนฺธกุฏิปาสาทกูฏาคาราทิวเสน นิสีทนนิปชฺชนาย รุกฺขลตาทิวเสน ภูมิสยาทิวเสน จ อนฺสาธารณา มหตี รมณียตา อตฺเถว, สา ปน เคหสฺสิตภาเวน อริยานํ จิตฺตํ ตถา น โตเสติ; ยถา อริยานํ นิเสวิตภาเวนาติ อาห – ‘‘ปมคาถาย เชตวนสฺส วณฺณํ กเถตฺวา’’ติ. เตนาห ภควา – ‘‘ยตฺถ อรหนฺโต วิหรนฺติ, ตํ ภูมิรามเณยฺยก’’นฺติ (ธ. ป. ๙๘; เถรคา. ๙๙๑; สํ. นิ. ๑.๒๖๑). อปจยคามินี เจตนา สตฺตานํ สุทฺธิมาวหตีติ อาห – ‘‘กมฺมนฺติ มคฺคเจตนา’’ติ. จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ วิทิตกรณฏฺเน กิเลสานํ วิกฺขมฺภนฏฺเน จ วิชฺชา, มคฺคสมฺมาทิฏฺีติ อาห – ‘‘วิชฺชาติ มคฺคปฺา’’ติ. สมาธิปกฺขิโก ธมฺโม นาม สมฺมาวายามสติสมาธโย. ตถา หิ วิชฺชาภาคิโย สมาธิปิ สมาธิปกฺขิโก. สีลํ ตสฺส อตฺถีติ สีลนฺติ อาห – ‘‘สีเล ปติฏฺิตสฺส ชีวิตํ อุตฺตม’’นฺติ. ทิฏฺิสงฺกปฺโปติ สมฺมาสงฺกปฺโป. ตตฺถ สมฺมาสงฺกปฺปสฺส อุปการกภาเวน วิชฺชาภาโค . ตถา หิ โส ปฺากฺขนฺธสงฺคหิโตติ วุจฺจติ, ยถา สมฺมาสงฺกปฺโป ปฺากฺขนฺเธน สงฺคหิโต, เอวํ วายามสติโย สมาธิกฺขนฺธสงฺคหิตาติ. เตนาห – ‘‘ธมฺโมติ วายามสติสมาธโย’’ติ. ‘‘ธมฺโม’’ติ หิ อิธ สมฺมาสมาธิ อธิปฺเปโต, – ‘‘เอวํ ธมฺมา เต ภควนฺโต อเหสุ’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๓; ม. นิ. ๓.๑๙๘; สํ. นิ. ๕.๓๗๘) วิย. วาจากมฺมนฺตาชีวาติ สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา มคฺคปริยาปนฺนา เอว, เต สพฺเพปิ คหิตาติ. เตนาห – ‘‘เอเตน อฏฺงฺคิเกน มคฺเคนา’’ติ.

อุปาเยนาติ เยน วิธินา อริยมคฺโค ภาเวตพฺโพ, เตน สมาธิปกฺขิยํ วิปสฺสนาธมฺมฺเจว มคฺคธมฺมฺจ. ‘‘อริยํ โว, ภิกฺขเว, สมฺมาสมาธึ เทเสสฺสามิ สอุปนิสํ สปริกฺขาร’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๑๓๖) หิ วจนโต สมฺมาสมาธิอาทโย มคฺคธมฺมาปิ สมาธิปกฺขิยา. วิจิเนยฺยาติ วีมํเสยฺย, ภาเวยฺยาติ อตฺโถ. ตตฺถาติ เหตุมฺหิ ภุมฺมวจนํ. อริยมคฺคเหตุกา หิ สตฺตานํ วิสุทฺธิ. เตนาห – ‘‘ตสฺมึ อริยมคฺเค วิสุชฺฌตี’’ติ. ปฺจกฺขนฺธธมฺมํ วิจิเนยฺย, ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ วิปสฺเสยฺย. เตสุ หิ วิปสฺสิยมาเนสุ วิปสฺสนา อุกฺกํสคตา. ยทคฺเคน ทุกฺขสจฺจํ ปริฺาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌียติ, ตทคฺเคน สมุทยสจฺจํ ปหานปฏิเวเธน นิโรธสจฺจํ สจฺฉิกิริยาปฏิเวเธน, มคฺคสจฺจํ ภาวนาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌียติ, เอวํ อจฺจนฺตวิสุทฺธิยา สุชฺฌติ. เตนาห – ‘‘เอวํ เตสุ จตูสุ สจฺเจสุ วิสุชฺฌตี’’ติ. อิธาปิ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมวจนํ. สจฺเจสุ วา ปฏิวิชฺฌิยมาเนสูติ วจนเสโส.

อวธารณวจนนฺติ ววตฺถาปนวจนํ, อวธารณนฺติ อตฺโถ. สาริปุตฺโตวาติ จ อวธารณํ ตสฺส สาวกภาวโต สาวเกสุ สาริปุตฺโตว เสยฺโยติ อิมมตฺถํ ทีเปติ. กิเลสอุปสเมนาติ อิมินา มหาเถรสฺส ตาทิโส กิเลสูปสโมติ ทสฺเสติ, ยสฺส สาวกสฺส วิสเย ปฺาย ปารมิปฺปตฺติ อโหสิ. ยทิ เอวํ – ‘‘โยปิ ปารงฺคโต ภิกฺขุ, เอตาวปรโม สิยา’’ติ อิทํ กถนฺติ? เตสํ เตสํ พุทฺธานํ สาสเน ปฺาย ปารมิปฺปตฺตสาวกวเสเนตํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อถ วา – ‘‘นตฺถิ วิมุตฺติยา นานตฺต’’นฺติ (ที. นิ. ฏี. ๓.๑๔๑; วิภ. มูลฏี. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา) วจนโต สาวเกหิ วิมุตฺติปฺามตฺตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เตนาห – ‘‘ปารงฺคโตติ นิพฺพานํ คโต’’ติอาทิ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

อนาถปิณฺฑิโกวาทสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๒. ฉนฺโนวาทสุตฺตวณฺณนา

๓๘๙. ฉนฺโนติ อิทํ ตสฺส นามนฺติ อาห ‘‘เอวํนามโก เถโร’’ติ. ยสฺส ปน สตฺถารา ปรินิพฺพานกาเล พฺรหฺมทณฺโฑ อาณตฺโต, อยํ โส น โหตีติ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘น อภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺตตฺเถโร’’ติ, โลกนาถสฺส อภินิกฺขมนกาเล กปิลปุรโต นิกฺขนฺโตติ อตฺโถ. คิลานปุจฺฉกาติ คิลานสฺส ปุจฺฉนกา, คิลานภาวสฺส อวตฺถํ โสตุกามาติ อตฺโถ. สสนโต หึสนโต สตฺถนฺติ อาห ‘‘ชีวิตหารกสตฺถ’’นฺติ.

๓๙๐. อุปวชฺชํ เอตสฺส นตฺถีติ อนุปวชฺชํ, กรชกายํ กตฺวา อายตึ อุปฺปตฺติรหิตนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อนุปฺปตฺติก’’นฺติ.

๓๙๑. ขยวยํ ตฺวาติ สงฺขารคตํ ขณภงฺคํ เนตฺวา าเณน ยาถาวโต ตฺวา. เนตํ มมาติ ทุกฺขโต สมนุปสฺสนา สงฺขาเรสุ ทิฏฺเสุ มมํการาภาวโต. เนโสหมสฺมีติ อนิจฺจโต สมนุปสฺสนา อนิจฺจโต เตสุ ทิฏฺเสุ อหํการาภาวโต. น เมโส อตฺตาติ อนตฺตโต สมนุปสฺสนา อนตฺตโต เตสุ ทิฏฺเสุ อตฺตคฺคาหาภาวโตติ อาห – ‘‘เนตํ มม…เป… อตฺตาติ สมนุปสฺสามี’’ติ.

๓๙๓. ตสฺมา ปุถุชฺชโนติ ยสฺมา อริโย สพฺพโส ปริฺาตวตฺถุโก ทุกฺขเวทนํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต นาม นตฺถิ, ตสฺมา ปุถุชฺชโน, เกวลํ ปน อธิมาเนเนว – ‘‘นาภิกงฺขามิ ชีวิตํ, ปริจิณฺโณ เม สตฺถา, นิโรธํ ทิสฺวา’’ติ วทตีติ อธิปฺปาโย. อิทมฺปีติ อิทมฺปิ, ‘‘นิสฺสิตสฺส จลิต’’นฺติอาทิ. ตณฺหานิสฺสิตภาเวน หิ อายสฺมา ฉนฺโน มารณนฺติกํ เวทนํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต อิโต จิโต ปริวตฺตนฺโต จลติ วิปฺผนฺทติ, ตสฺมา ‘‘นิสฺสิตสฺส จลิต’’นฺติอาทิ มนสิกาตพฺพํ, เตน อิทํ สพฺพํ ตํ วิปฺผนฺทิตํ น ภวิสฺสตีติ อธิปฺปาโย. กปฺปสทฺโท กาลปริยาโยปิ โหติ, น กาลวิเสสวาจโก เอวาติ อาห – ‘‘นิจฺจกปฺปนฺติ นิจฺจกาล’’นฺติ. ยถา อปฺปหีนตณฺหาทิฏฺิโก ปุคฺคโล ตํนิสฺสิโต อลฺลิโน, เอวํ ตาหิปิ นิสฺสิโต อมุตฺตภาวโตติ อาห – ‘‘ตณฺหาทิฏฺีหิ นิสฺสิตสฺสา’’ติ. จลิตนฺติ ยถา ยถา อสมารทฺธาย สมฺมาปฏิปตฺติยา อาทีนววเสน จลนฺตํ ปน ยสฺมา อริยสฺส วินเย วิรูปํ จลิตํ นาม โหติ, ตสฺมา อาห – ‘‘วิปฺผนฺทิตํ โหตี’’ติ. ตาทิเส ปน ปปฺจวิกฺขมฺภนวเสน จิตฺตสฺส จลิเต อสติ ภาวนาย วีถิปฏิปนฺนตาย กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิ เอว โหตีติ อาห ‘‘จลิเต อสติ ปสฺสทฺธี’’ติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘กิเลสปสฺสทฺธิ นาม โหตี’’ติ.

ภวนฺตรํ ทิสฺวา นมนฏฺเน นติ. เตนาห – ‘‘นติยา อสตีติ ภวตฺถาย อาลยนิกนฺติปริยุฏฺาเนสุ อสตี’’ติ. ปฏิสนฺธิวเสน อาคติ นามาติ ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสน ภวนฺตรโต อิเธว อาคมนํ นาม, จุติวเสน จวนวเสน อิโต ภวนฺตรสฺส คมนํ นาม น โหติ อาคติคติยา อสติ กตูปจิตสฺสปิ กมฺมสฺส อุปฺปตฺติปริกปฺปวเสน ปวตฺติยา อภาวโต. จวนวเสนาติ นิพฺพตฺตภวโต จวนวเสน จุติ, อายตึ อุปปชฺชนวเสน อุปปาโต น โหติ. ยโต คติ อาคติ จวนํ อุปปาโต น โหติ, ตโต เอว เนวิธ, น หุรํ, น อุภยมนฺตเรน, กายสฺส คติยา อาคติยา จ อภาวโต สพฺพโส จุตูปปาโต นตฺถิ; เตน น อิธโลเก ิโตติ วตฺตพฺโพ. น ปรโลเก ิโตติ วตฺตพฺโพ, น อุภยมนฺตเรน ิโตติ วตฺตพฺโพ. เตนาห ‘‘นยิธ โลเก’’ติอาทิ. ตตฺถ อิธโลกปรโลกวินิมุตฺตสฺส สํสรณปเทสสฺส อภาวโต, ‘‘น อุภยมนฺตเรนา’’ติ วุตฺโตติ อุภยปริยาปนฺโน น โหตีติ ปฏิกฺขิปนฺโต, ‘‘น อุภยตฺถ โหตี’’ติ อาห. อยเมว อนฺโตติ โย อิธโลเก ปรโลเก จ อภาโว อวิชฺชมานตา อนุปฺปชฺชนํ, อยเมว สกลสฺส ทุกฺขมูลสฺส อนฺโต ปริโยสานํ.

๓๙๔. กณฺนาฬึ ฉินฺทีติ นาฬึ ฉินฺทิตุํ อารภิ. ตสฺมึ ฉินฺทิตุํ อารทฺธกฺขเณ เฉโท จ วตฺตติ; มรณภยฺจ โอกฺกมิ อวีตราคภาวโต, ตโต เอว คตินิมิตฺตํ อุปฏฺาติ. ‘‘โสปิ นาม สพฺรหฺมจารีนํ อนุปวชฺชตํ พฺยากริตฺวา สราคมรณํ มริสฺสตี’’ติ สํวิคฺคมานโส สงฺขาเร อนิจฺจาทิวเสน ปริคฺคณฺหนฺโต. อรหตฺตํ ปตฺวาติ ปุพฺเพ พหุโส วิปสฺสนาย อุทยพฺพยาณํ ปาวิตตฺตา ตาวเทว อรหตฺตํ ปตฺวา อรหตฺตผลปจฺจเวกฺขณานนฺตรํ กณฺนาฬิจฺเฉทปจฺจยา ชีวิตนิโรเธน สมสีสี หุตฺวา ปรินิพฺพายิ. น หิ อนฺติมภวิกสฺส อรหตฺตํ อปฺปตฺวา ชีวิตนฺตราโย โหติ. เถรสฺสาติ อายสฺมโต ฉนฺนตฺเถรสฺส. พฺยากรเณนาติ เหตุมฺหิ กรณวจนํ ‘‘พฺยากรเณน เหตุนา’’ติ. ตนฺนิมิตฺตฺหิ เถโร วีริยํ ปคฺคณฺหนฺโต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปติ. อิมินาติ, ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต’’ติอาทิวจเนน. เถโรติ อายสฺมา สาริปุตฺตตฺเถโร. ปุจฺฉตีติ, ภนฺเต, ตถา กุลสํสคฺคปสุโต กถํ ปรินิพฺพายิสฺสตีติ ปุจฺฉติ. ‘‘ปุพฺเพ กุเลสุ สํสฏฺวิหารี’’ติ สพฺรหฺมจารีนํ ปฺาตสฺสปิ อิมสฺมึ ‘‘โหนฺติ เหเต สาริปุตฺตา’’ติอาทินา ภควโต วุตฺต-ฏฺาเน อสํสฏฺภาโว ปากโฏ อโหสิ. ปกฺกมฺปิ นิปกฺกํ วิย สมฺมาปฏิปชฺชมานาปิ เกจิ อสฺตา อุปฏฺหนฺติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

ฉนฺโนวาทสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๓. ปุณฺโณวาทสุตฺตวณฺณนา

๓๙๕. อนนฺตรสุตฺเต ‘‘ปฏิสลฺลานาติ ผลสมาปตฺติโต’’ติ วุตฺตํ, ตตฺถ ธมฺมเสนาปติโน อริยวิหารสฺส อธิปฺเปตตฺตา, อิธ ปน อกตกิจฺจสฺส ปฏิสลฺลานํ นาม กายวิเวโกติ อาห – ‘‘ปฏิสลฺลานาติ เอกีภาวา’’ติ. ‘‘จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา’’ติ ปเนตฺถ วิฺเยฺยรูปํ วิชานนฺตสฺส ทฺวารภูตํ จกฺขุนฺติ อุภยํ อชฺฌตฺติกํ พาหิรฺจ อายตนํ อภินนฺทิตาทิสามฺเน ตฺเจติ เอตฺถ ตํ-สทฺเทน เอกชฺฌํ ปจฺจามฏฺนฺติ อาห – ‘‘ตฺเจติ ตํ จกฺขุฺเจว รูปฺจา’’ติ. ยํ ปเนตฺถ วิฺเยฺยสทฺเทน โชติตํ วิฺาณํ ตํ สมฺปยุตฺตธมฺมาติ ตทุภยํ, ‘‘มโนวิฺเยฺยา ธมฺมา’’ติ ปเทน กถิตเมวาติ อิธ น คหิตํ. เอส นโย เสเสสุปิ. สโมธาเนนาติ สหาวฏฺาเนน, จิตฺเตน นนฺทิยา ตณฺหาย สห ปวตฺติยา จิตฺตสหุปฺปตฺติยาติ อตฺโถ. เตนาห – ‘‘อุปฺปชฺชติ นนฺที’’ติ. ปฺจกฺขนฺธทุกฺขสฺส สโมธานนฺติ ปฺจกฺขนฺธสงฺขาตสฺส ทุกฺขสจฺจสฺส ปจฺจโวกาเร สหปฺปวตฺติ โหติ. ยสฺมา ทุกฺขํ อุปฺปชฺชมานํ ฉนฺนํ ทฺวารานํเยว วเสน อุปฺปชฺชติ, ตถา สมุทโยติ, ตสฺมา อาห – ‘‘อิติ ฉสุ ทฺวาเรสู’’ติอาทิ. กิเลสวฏฺฏสฺส กมฺมวฏฺฏสฺส วิปากวฏฺฏสฺส จ กถิตตฺตา อาห – ‘‘วฏฺฏํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทสฺเสตี’’ติ. ทุติยนเยติ ‘‘สนฺติ จ โข’’ติอาทินา วุตฺเต ทุติเย เทสนานเย. ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธีติ น ยถานุสนฺธิ นาปิ อชฺฌาสยานุสนฺธีติ อธิปฺปาโย, ปุจฺฉานุสนฺธิสฺส ปน อิธ สมฺภโว เอว นตฺถีติ. สตฺตสุ าเนสูติ อกฺโกสเน ปริภาสเน ปาณิปฺปหาเร เลฑฺฑุปฺปหาเร ทณฺฑปฺปหาเร สตฺถปฺปหาเร ชีวิตาโวโรปเนติ อิเมสุ สตฺตสุ. ‘‘ภทฺทกา วติเม’’ติอาทินา ขนฺติปฏิสํยุตฺตํ สีหนาทํ นทาเปตุํ.

๓๙๖. จณฺฑาติ โกธนา, เตน ทูสิตจิตฺตตาย ทุฏฺาติ วุตฺตา. กิพฺพิสาติ ปาปา. ผรุสาติ อีสกมฺปิ ปสาทสิเนหาภาเวน ลุทฺทา. ผรุสวจนตาย วา ผรุสา, ตถาภูตา ปน ลุทฺทา นาม โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘กกฺขฬา’’ติ. อิทฺจ เตติ, ‘‘หตฺถจฺเฉทํ นาสิกจฺเฉท’’นฺติ เอวมาทึ อิทฺจ อนิฏฺํ กริสฺสามาติ ภยทสฺสเนน ตชฺเชสฺสนฺติ.

ฆฏิกมุคฺคเรนาติ ทณฺฑานํ กิร อคฺคปสฺเส ฆฏาการํ ทสฺเสนฺติ, เตน โส ‘‘ฆฏิกมุคฺคโร’’ติ วุจฺจติ. เอกโตธาราทินา สตฺเถน กรวาลขคฺคาทินา. ‘‘อินฺทฺริยสํวราทีนํ เอตํ นาม’’นฺติ วตฺวา ยตฺถ ยตฺถ อินฺทฺริยสํวราทโย ‘‘ทโม’’ติ วุตฺตา, ตํ ปาปเทสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สจฺเจนา’’ติอาทิมาห . มนจฺฉฏฺานิ อินฺทฺริยานิ ทเมติ สํวเรตีติ อินฺทฺริยสํวโร, ทโม. ราคาทิปาปธมฺเม ทเมติ อุปสเมตีติ ทโม, ปฺา. ปาณาติปาตาทิกมฺมกิเลเส ทเมติ อุปสเมติ วิกฺขมฺเภตีติ ทโม อุโปสโถ. พฺยาปาทวิเหสาทิเก ทเมติ วิเนตีติ ทโมติ อาห – ‘‘อิมสฺมึ ปน สุตฺเต ขนฺติ ‘ทโม’ติ เวทิตพฺพา’’ติ. อุปสโมติ ตสฺเสว ทมสฺส เววจนํ, ตสฺมา ทโม จ โส พฺยาปาทาทีนํ วินยนฏฺเน เตสํเยว อุปสมนฏฺเน อุปสโม จาติ ทมูปสโม, อธิวาสนขนฺติ.

๓๙๗. ตตฺถ ขนฺติยํ กตาธิกาโร ตํ ชนปทํ คนฺตฺวา มหาชนสฺส อวสฺสโย โหติ, ตสฺมา ตทสฺส อปทานํ สมุทาคมโต ปฏฺาย วิภาเวตุํ, ‘‘โก ปเนส ปุณฺโณ’’ติอาทิ อารทฺธํ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ สุนาปรนฺตชนปเท. อสปฺปายวิหารนฺติ ภาวนาภิโยคสฺส น สปฺปายํ วิหารํ.

ทฺเว ภาตโรติ อวิภตฺตสาปเตยฺยา อวิภตฺตโวหารสํโยคา. เตนาห ‘‘เตสู’’ติอาทิ. ชนปทจาริกํ จรนฺโต ภณฺฑํ คเหตฺวา ชนปเทสุ วิกฺกยํ กโรนฺโต.

‘‘พุทฺธปูชํ ธมฺมปูชํ สงฺฆปูชํ กริสฺสามา’’ติ ตนฺนินฺนา. อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ อฏฺาสีติ, ‘‘พุทฺโธ’’ติ วจนํ อสฺสุตปุพฺพํ โสตปถํ อุปคตํ อนปฺปกํ ปีติโสมนสฺสํ สมุฏฺาเปนฺตํ ปีติสมุฏฺานปณีตรูเปหิ ฉวิจมฺมาทีนิ ฉินฺทิตฺวา อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ อฏฺาสิ. วิสฺสชฺชิตนฺติ วิกฺกิณนวเสน วินิโยชิตํ. กมฺมฏฺานํ น อุปฏฺาตีติ ภาวนาวีถึ น โอตรติ. มยฺหํ อสปฺปาโยติ มยฺหํ กมฺมฏฺานภาวนาย สปฺปาโย อุปกาโร น โหติ.

โกจิจงฺกมิตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ มหตา สมุทฺทวีจิสทฺเทน อุปทฺทุตตฺตา ภาวนามนสิการสฺส อนภิสมฺภุณนโต. เตนาห ‘‘สมุทฺทวีจิโย’’ติอาทิ. โสติ มกุฬวิหาโร.

อุตฺตมชเวน คจฺฉมานา ยถาธิปฺเปตํ มคฺคํ อติกฺกมิตฺวา อฺตรํ ทีปกํ ปาปุณิ.

อุปฺปาทิกํ อุฏฺาเปตฺวาติ มหาวาตมณฺฑลสมุฏฺาปเนน ตสฺมึ ปเทเส มหาสมุทฺทํ สํโขเภนฺโต มหนฺตํ อุปฺปาทํ อุฏฺเปตฺวา.

เถโร, ‘‘อมฺเห อาวชฺเชยฺยาถา’’ติ กนิฏฺสฺส วจนํ สริตฺวา อนฺตรนฺตรา อาวชฺเชติ, ตสฺมา ตทาปิ อาวชฺเชติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ตสฺมึเยว ขเณ อาวชฺชิตฺวา’’ติ. สมฺมุเขติ สีสฏฺาเน. ปฏิเวเทสุนฺติ ปเวเทสุํ, อุปาสกา มยนฺติ ปฏิชานึสุ. อิมินาติ อิมินา มยฺหํ ปริจฺจตฺตโกฏฺาเสน. มณฺฑลมาฬนฺติ มุณฺฑมณฺฑลมาฬสทิสํ ปฏิสฺสยํ. ปริจารกาติ อวเสสคามิโน.

สจฺจพนฺธสฺส โอกาสํ กโรนฺโต ‘‘เอกูนปฺจสตาน’’นฺติ อาห. ตํ ทิวสํ…เป… อคฺคเหสิ, เตน โส เถโร ปมํ สลากํ คณฺหนฺตานํ เอตทคฺเค ปิโต.

วาณิชคามํ คนฺตฺวาติ วาณิชคามสมีปํ คนฺตฺวา. พุทฺธโกลาหลนฺติ พุทฺธานํ อุปคมฺม สตฺตานํ อุปฺปชฺชนกุตูหลํ.

มหาคนฺธกุฏิยํเยวาติ เชตวนมหาวิหาเร มหาคนฺธกุฏิยํเยว. ปริจริตพฺพนฺติ อุปฏฺาตพฺพํ.

คนฺธกฏฺานีติ จนฺทนอครุสลฬาทีนิ สุคนฺธกฏฺานิ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.

ปุณฺโณวาทสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๔. นนฺทโกวาทสุตฺตวณฺณนา

๓๙๘. สงฺฆสฺสภารํ อกาสิ อุปาเยน นนฺทกตฺเถรสฺส โอวาเทน วิเนตพฺพานํ ภิกฺขุนีนํ วินยตฺถํ. เตนาห ‘‘อิมํ ปนา’’ติอาทิ. ปริยายติ ปวตฺตตีติ ปริยาโย, ปฏิปาฏีติ อาห – ‘‘ปริยาเยนาติ วาเรนา’’ติ. อสฺสาติ นนฺทกตฺเถรสฺส. วทาเปสิ อฺเหิ อตฺตโน อโนกาสภาวํ. ปริยาเยน โอวทนฺตีติ โอวทิตุํ สมตฺถา ภิกฺขุนิโย วาเรน โอวทนฺติ. อิทํ ปริยาเยน โอวทนํ. จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ ปสีทติ ปุพฺพจริยสิทฺเธน คารวพหุมาเนน เคหสฺสิตเปมวเสน.

โคตมีติ มหาปชาปติโคตมี. เสฏฺิสฺสาติ พาราณสิเสฏฺิโน.

เตติ ปจฺเจกพุทฺเธ. กึ นุ โขติ ปุจฺฉิ จิรตรกาลํ ปุฺกิริยาย ปริภาวิตสนฺตานตาย, ปจฺเจกพุทฺเธสุ จ คารวพหุมานตาย. ทุคฺคเตหิปิ สกฺกา กาตุนฺติ ทุคฺคเตหิปิ ยถาวิภวํ กตา กุฏิ ตุมฺหากํ วสิตุํ สกฺกาติ ปุจฺฉิ.

หตฺถกมฺมํ เทถาติ หตฺถกมฺมํ กตฺวา เทถาติ อตฺโถ. อานิสํสํ อาจิกฺขิตฺวาติ ‘‘ตาทิสานํ มเหสีนํ กตํ เวยฺยาวจฺจํ อมฺหากมฺปิ ทีฆรตฺตํ หิตาย โหติ. อาวาสทานฺจ นาม มหปฺผลํ มหานิสํสํ นิพฺพตฺตฏฺาเน มหาสมฺปตฺติอาวหํ ภวิสฺสตี’’ติอาทินา อานิสํสํ อาจิกฺขิตฺวา. คาฬฺเหน โอวาเทน ตชฺเชตฺวาติ, ‘‘อิเมสุ นาม กโรนฺเตสุ ตฺวํ กสฺมา น กโรสิ, มม เชฏฺกทาสสฺส ภริยภาวํ น ชานาสิ. สพฺเพหิปิ กริยมานสฺส หตฺถกมฺมสฺส อกรเณ ตุยฺหํ อิทฺจิทฺจ ทุกฺขํ อาคมิสฺสตี’’ติ ภเยน ตชฺเชตฺวา. สตํ สตํ หุตฺวาติ สตํ สตํ ทาสปุตฺตา เอกชฺฌํ หุตฺวา เอกฺจ เอกฺจ กุฏึ กตฺวา อทาสิ. จงฺกมนาทิปริวารนฺติ จงฺกมนรตฺติฏฺานทิวาฏฺานโภชนาทิปริวารฏฺานสหิตํ. ชคฺคิตฺวา อุปฏฺาเปตฺวา. วิสฺสชฺชาเปสีติ ปริจฺจชาเปสิ. ปริวตฺตาเปตฺวาติ เจตาเปตฺวา. ติจีวรานีติ สหสฺสคฺฆนิกานิ ติจีวรานิ กตฺวา อทาสิ. กาเลน กาลนฺติ กาเล กาเล, กิสฺมิฺจิ กาเลติ อตฺโถ. รชฺเช ิตสฺสาติ สพฺพภูตูปการรชฺเช ิตสฺส.

นนฺทกตฺเถโรปีติ ตทา เชฏฺกทาโส เอตรหิ นนฺทกตฺเถโร ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต. เชฏฺกทาสิธีตา …เป… อคฺคมเหสิฏฺาเน ิตาติ มหาปชาปติโคตมึ สนฺธาย วทติ. อยมายสฺมา นนฺทโกติ อยเมว สมุทาคมโต อายสฺมา นนฺทกตฺเถโร. เอตาว ตา ภิกฺขุนิโยติ เอตาวตา สมุทาคมโต ปฺจสตา ภิกฺขุนิโย.

๓๙๙. เหตุนาติ าเยน อวิปรีตปฏิปตฺติยา. ปุพฺพภาคา หิ ปุริมา ปุริมา ปฏิปทา ปจฺฉิมาย การณํ. ยาถาวสรสโต ทิฏฺนฺติ ยถาภูตสภาวโต ปจฺจกฺขํ วิย.

๔๐๑. ตํ สภาวํ ตํสภาวนฺติ ตสฺสา เวทนาย ปจฺจยภาเวน อนุรูปํ.

๔๐๓. ปมตรํเยว อนิจฺจาติ ตสฺสาปิ ฉายาย อนิจฺจภาโว ปมตรํเยว สิทฺโธ. น หิ กทาจิ อนิจฺจํ นิสฺสาย ปวตฺตํ กิฺจิ นิจฺจํ นาม อตฺถีติ.

๔๐๔. อนุปหนิตฺวาติ อวินาเสตฺวา. กถํ ปน มํสกายํ จมฺมกายฺจ อวินาเสตฺวา อิตเรสํ กนฺตนํ โหตีติ พฺยติเรกมุเขน ทสฺเสตุํ, ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. จมฺมํ อลฺลิยาเปนฺโตติ จมฺเม ลคฺคาเปนฺโต จมฺมปฏิพทฺธํ กโรนฺโต. จมฺมํ พทฺธํ กตฺวาติ วิวรกาเล น ผาเลนฺโต จมฺมพทฺเธ กตฺวา. เอวํ อกตฺวาติ เอวํ มํสจมฺมกายานํ วินาสนํ อกตฺวา, วิลิมํสาทิวิกนฺตเนน อฺมฺํ วิเวเจตฺวา. ตตฺถ วิลิมํสนฺติ จมฺมนิสฺสิตมํสํ, ปฏิจฺฉนฺนกิโลมกนฺติ จ วทนฺติ. นฺหารูติ สุขุมนฺหารุ. พนฺธนนฺติ จมฺมมํสานํ สมฺพนฺธํ. เตนาห – ‘‘สพฺพจมฺเม ลคฺควิลิปนมํสเมวา’’ติ. อนฺตรกิเลสเมวาติ อนฺตเร จิตฺเต ชาตตฺตา สตฺตสนฺตานนฺโตคธตาย อพฺภนฺตรภูตกิเลสเมว.

๔๐๕. ตชฺชํ วายามนฺติ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. ตถา หิ ปุริเสน กุารินา เฉชฺชํ ฉินฺทิเต เฉชฺชฏฺานสฺส สลฺลกฺขณํ อิจฺฉิตพฺพํ, ตสฺส ปฏิฆาตภาโว อิจฺฉิตพฺโพ, กายปริฬาหาภาโว อิจฺฉิตพฺโพ, ตสฺส อวฏฺานํ อิจฺฉิตพฺพํ, กิจฺจนฺตเร อชฺฌุเปกฺขณํ อิจฺฉิตพฺพํ, เอวํ ปฺาย กิเลเส ฉินฺทนฺตสฺส โยคิโน วีริยพเลน สทฺธึ สติ-ปีติ-ปสฺสทฺธิ-สมาธิ-อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ อิจฺฉิตพฺพนฺติ อาห – ‘‘เอวํ น วินา ฉหิ…เป… สกฺโกตี’’ติ.

๔๐๗. เตน การเณนาติ เยน ตาสํ ภิกฺขุนีนํ สา ธมฺมเทสนา สปฺปายา, อาเสวนมนฺทตาย ปน อชฺฌาสเยน ปริปุณฺณสงฺกปฺปา น ชาตาเยว; ปุน ตถา เทสนาย สติ อาเสวนพลวตาย ปริปุณฺณสงฺกปฺปา ภวิสฺสนฺติ; เตน การเณน ตฺวมฺปิ ตา ภิกฺขุนิโย เตเนว โอวาเทน โอวเทยฺยาสีติ.

๔๑๕. สพฺพปจฺฉิมิกาติ สพฺพาสํ กนิฏฺา โสตาปนฺนา, อนริยา ตตฺถ กาจิ นตฺถีติ อตฺโถ. เตนาห – ‘‘เสสา ปน…เป… ขีณาสวา จา’’ติ. ยทิ เอวนฺติ อขีณาสวาปิ ตาทิสา ภิกฺขุนี อตฺถิ. เอวํ สติ สุกฺขวิปสฺสกภาเวนปิ สติ ขีณาสวภาเว อริยสฺส วินเย อปริปุณฺณสงฺกปฺปาวาติ อธิปฺปาเยน โจเทติ, ‘‘กถํ ปริปุณฺณสงฺกปฺปา’’ติ? อิตโร อชฺฌาสยปาริปูริยาติ การณํ วตฺวา, ‘‘ยสฺส หี’’ติอาทินา ตมตฺถํ วิวรติ. อชฺฌาสยปาริปูริยาติ ตตฺถ อธิปฺปายปาริปูริยา, น สพฺพโส คุณปาริปูริยาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘กทา นุ โข’’ติอาทิ. เอเตน ปาทกชฺฌานสมฺมสิตชฺฌานานํ วิสทิสตาย ปุคฺคลสฺส วิปสฺสนากาเล ปวตฺตอชฺฌาสยวเสน อริยมคฺเค โพชฺฌงฺคมคฺคงฺคฌานงฺคานํ วิเสสตาติ อยมตฺโถ ทีปิโตติ เวทิตพฺโพ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

นนฺทโกวาทสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๕. ราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนา

๔๑๖. วิมุตฺตึปริปาเจนฺตีติ กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺติภูตํ อรหตฺตํ สพฺพโส ปาเจนฺติ สาเธนฺติ นิพฺพาเปนฺตีติ วิมุตฺติปริปาจนียา. ธมฺมาติ การณธมฺมา. เตนาห – ‘‘วิสุทฺธิการณวเสนา’’ติ, อรหตฺตสงฺขาตาย วิสุทฺธิยา สมฺปาทนวเสนาติ อตฺโถ. สทฺธินฺทฺริยาทโย วิสุชฺฌมานา มคฺคปฏิปาฏิยาว สพฺพโส อสฺสทฺธิยาทีหิ จิตฺตํ วิโมเจนฺตา อคฺคผลวิมุตฺตึ สมฺปาเทนฺติ. เตสํ ปน วิสุทฺธิ พาลปริวชฺชเนน ปณฺฑิตปยิรุปาสเนน ปสาทาวหธมฺมปจฺจเวกฺขณาย จ โหติ. ตโต อิธ ปนฺนรส ธมฺมา อธิปฺเปตาติ ทสฺเสนฺโต, ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิมาห.

ตตฺถ อสฺสทฺเธ ปุคฺคเลติ สทฺธารหิเต ปุคฺคเล. เต หิ นิสฺสาย น กทาจิ สทฺธา สมฺภวติ, เตสํ ปน ทิฏฺานุคติอาปชฺชเนน อฺทตฺถุ อสทฺธิยเมว วฑฺฒติ, ตสฺมา เต ปฏิภยมคฺโค วิย ทูรโต วชฺเชตพฺพา. อสฺสทฺธิยนฺติ จ สทฺธาย ปฏิปกฺขภูตา อสทฺเธยฺยวตฺถุสฺมึ อธิมุจฺจนากาเรน ปวตฺตา สํกิเลสธมฺมา เวทิตพฺพา. สทฺเธ ปุคฺคเลติ สทฺธาสมฺปนฺเน ปุคฺคเล. เต หิ นิสฺสาย สทฺเธยฺยวตฺถุสฺมึ อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนา ภิยฺโยภาวํ เวปุลฺลํ อาปชฺชติ. สทฺเธยฺยวตฺถูติ จ พุทฺธาทีนิ รตนานิ กมฺมกมฺมผลานิ จ. เสวโตติ ลพฺภมานํ สทฺธาสมฺปทํ อุปฺปาเทตุํ วฑฺเฒตุฺจ นิเสวโต. เสสปทานิ ตสฺเสว เววจนานิ. อถ วา เสวโต อุปสงฺกมโต. ภชโต เตสํ ปฏิปตฺติยํ ภตฺตึ กุพฺพโต. ปยิรุปาสโตติ เตสํ โอวาทานุสาสนิกรณวเสน อุปฏฺหโต. ปสาทนียสุตฺตนฺตา นาม พุทฺธาทิคุณปฏิสํยุตฺตา ปสาทาวหา สมฺปสาทนียสุตฺตาทโย. เต หิ ปจฺจเวกฺขโต พุทฺธาทีสุ อนุปฺปนฺนา ปสนฺนา อุปชฺชติ, อุปฺปนฺนา ภิยฺโยภาวํ เวปุลฺลํ อาปชฺชติ. อิเมหิ ตีหากาเรหีติ อิเมหิ ยถาวุตฺเตหิ ตีหิ การเณหิ. ปฏิปกฺขทูรีภาวโต ปจฺเจกํ สูปหารโต จ อาเสวนํ ภาวนํ ลภนฺติ. สทฺธินฺทฺริยํ วิสุชฺฌติ มคฺคผลาวหภาเวน อจฺฉติ วิสุทฺธึ ปาปุณาติ. อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อยํ ปน วิเสโส – กุสีเตติ อลเส สมฺมาปฏิปตฺติยํ นิกฺขิตฺตธุเร. อารทฺธวีริเยติ ปคฺคหิตวีริเย สมฺมาปฏิปนฺเน. สมฺมปฺปธาเนติ อนุปฺปนฺนานํ อกุสลานํ อนุปฺปาทนาทิวเสน ปวตฺเต จตฺตาโร อุปายปฺปธาเน. ปจฺจเวกฺขโต ปฏิปตฺตึ อเวกฺขโต. เต หิ ปจฺจเวกฺขโต ลีนํ อภิภวิตฺวา สมฺมเทว อารมฺภธาตุอาทิ อนุปฺปนฺนานํ วิธินา สติสมฺปทาย อุปฺปาทาย ภิยฺโยภาวาย สํวตฺตติ. อสมาหิเต ภนฺตมิคภนฺตโคณสปฺปฏิภาเค วิพฺภนฺตจิตฺเต. สมาหิเต อุปจารสมาธินา อปฺปนาสมาธินา จ สมฺมเทว สมาหิตจิตฺเต. ฌานวิโมกฺเขติ สวิตกฺกสวิจาราทิฌานานิ ปมาทิวิโมกฺเข จ. เตสฺหิ ปจฺจเวกฺขณา อุปรูปริ อจฺจนฺตเมว สมาธานาย สํวตฺตติ. ทุปฺปฺเติ นิปฺปฺเ, อริยธมฺมสฺส อุคฺคหปริปุจฺฉาสวนสมฺมสนาภาเวน สพฺพโส ปฺารหิเต จ. ปฺวนฺเตติ วิปสฺสนาปฺาย เจว มคฺคปฺาย จ สมนฺนาคเต. คมฺภีราณจริยนฺติ คมฺภีรํ ขนฺธายตนธาตุสจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิเภทํ าณสฺส จริตพฺพฏฺานํ, ยตฺถ วา คมฺภีราณสฺส จริยํ ปวตฺตติ. ตตฺถ หิ ปจฺจเวกฺขณา สมฺโมหํ วิธมติ, อนุปฺปนฺนาย ปฺาย อุปฺปาทาย ภิยฺโยภาวาย สํวตฺตติ. สุตฺตนฺตกฺขนฺเธติ สุตฺตสมูเห.

ปุพฺเพ สทฺธินฺทฺริยาทีนํ วิสุทฺธิการณานิ, ‘‘วิมุตฺติปริปาจนียา ธมฺมา’’ติ วุตฺตานีติ อิธ สทฺธาทิเก อฺเ จ ธมฺเม ทสฺเสนฺโต, ‘‘อปเรปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สทฺธาทีนํ วิมุตฺติปริปาจนียตา ทสฺสิตา เอว, อนิจฺจสฺาทีนํ ปน วิมุตฺติปริปาจนียตาย วตฺตพฺพเมว นตฺถิ วิปสฺสนาภาวโต. เตนาห – ‘‘อิเม ปฺจ นิพฺเพธภาคิยา สฺา’’ติ. กลฺยาณมิตฺตตาทโยติ กลฺยาณมิตฺตตา สีลสํวโร อภิสลฺเลขกถา วีริยารมฺโภ นิพฺเพธิกา ปฺา อิเม กลฺยาณมิตฺตตาทโย ปฺจ ธมฺมา. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ‘‘เมฆิยสุตฺตสํวณฺณนายํ’’ (อุทา. อฏฺ. ๓๑) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. โลกํ โวโลเกนฺตสฺสาติ พุทฺธเวเนยฺยสตฺตโลกํ พุทฺธจกฺขุนา วิเสสโต โอโลเกนฺตสฺส.

๔๑๙. อายสฺมโต ราหุลสฺส อินฺทฺริยานํ ปริปกฺกตฺตา สทฺธึ ปฏฺปิตปตฺถนา เทวตา อุทิกฺขมานา ติฏฺนฺติ, – ‘‘กทา นุ โข อุตฺตริ อาสวานํ ขเย วิเนสฺสตี’’ติ. ยทา ปน สตฺถา เอวํ ปริวิตกฺเกสิ, ตาวเทว สมานชฺฌาสยตาย สพฺพกาลํ ตงฺขณํ อาคเมนฺติโย ตา เทวตาโย ตํ สมวายํ ทิสฺวา เอกสฺมึ อนฺธวนสฺมึเยว สนฺนิปติตา. อุปาลิสฺส คหปติโน ทีฆนขปริพฺพาชกสฺส จตุสจฺจธมฺเมสุ ทสฺสนกิจฺเจน ปวตฺโต โสตาปตฺติมคฺโคติ เตสุ สุตฺเตสุ (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๒.๓๐) ปมมคฺโค ‘‘ธมฺมจกฺขุ’’นฺติ วุตฺโต, ตสฺส ทสฺสนตฺถสฺส สาติสยตฺตา, พฺรหฺมายุโน ปน ผลาณานิ เหฏฺิมานิ ตีณิ สาติสยานีติ พฺรหฺมายุสุตฺเต(ม. นิ. ๒.๓๘๓ อาทโย) ตีณิ ผลานิ ‘‘ธมฺมจกฺขุ’’นฺติ วุตฺตานิ. อิทํ ปเนตฺถ อายสฺมโต ราหุลสฺส มคฺคาณํ ผลาณฺจ ทสฺสนตฺโถ สาติสโย, ตาหิ จ เทวตาหิ ยํ าณํ อธิคตํ, ตํ สาติสยเมวาติ วุตฺตํ – ‘‘อิมสฺมึ สุตฺเต จตฺตาโร มคฺคา, จตฺตาริ จ ผลานิ ธมฺมจกฺขุนฺติเวทิตพฺพานี’’ติ. กึ ปน สาวกานํ สจฺจาภิสมยาเณ อตฺถิ โกจิ วิเสโสติ? อาม อตฺถิ. โส จ โข ปุพฺพภาเค วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาย ปวตฺติยาการวิเสเสน ลเภยฺย กาจิ วิเสสมตฺตา. สฺวายมตฺโถ อภิธมฺเม ‘‘โน จ โข ยถา ทิฏฺิปฺปตฺตสฺสา’’ติ สทฺธาวิมุตฺตโต ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส กิเลสปฺปหานํ ปติ วิเสสกิตฺตเนน ทีเปตพฺโพ. กึ ปน อายสฺมา ราหุโล วิย ตา เทวตา สพฺพา เอกจิตฺตา ปเคว จตฺตาริ ผลานิ อธิคณฺหึสูติ? โนติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ หี’’ติอาทิมาห. กิตฺตกา ปน ตา เทวตาติ อาห ‘‘ตาสฺจ ปนา’’ติอาทิ.

ราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๖. ฉฉกฺกสุตฺตวณฺณนา

๔๒๐. อาทิมฺหิกลฺยาณนฺติ อาทิโกฏฺาเส กลฺยาณํ เอตสฺสาติ วา อาทิกลฺยาโณ, ตํ อาทิกลฺยาณํ, อาทิกลฺยาณภาโว จ โทสวิคเมน อิจฺฉิตพฺโพ. ยฺหิ สพฺพโส วิคตโทสํ, ตํ ปริปุณฺณคุณเมว โหตีติ ‘‘นิทฺโทส’’นฺติ วุตฺตํ. กตฺวาติ จ ปทํ, ‘‘กลฺยาณํ กตฺวา ภทฺทกํ กตฺวา’’ติ ปุริมปททฺวเยนปิ โยเชตพฺพํ. เทสนากาโร หิ อิธ กลฺยาณสทฺเทน คหิโต. เตเนวาห – ‘‘เทเสตพฺพธมฺมสฺส กลฺยาณตา ทสฺสิตา โหตี’’ติ, ทุติเย ปน อตฺถวิกปฺเป เทเสตพฺพธมฺมสฺส กลฺยาณตา มุขฺเยเนว กถิตา อิตรสฺส อตฺถาปตฺติโต. มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อยฺจ เทสนาย โถมนา พุทฺธานํ อาจิณฺณสมาจิณฺณาวาติ ทสฺเสตุํ, ‘‘อิติ ภควา อริยวํส’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ธมฺมคฺคหณมฺปิ เทสนาย โถมนา เอวาติ ‘‘นวหิ ปเทหี’’ติ วุตฺตํ.

เวทนา ยาถาวโต ชานนํ, ตฺจ มคฺคกิจฺจํ, ตสฺส อุปาโย วิปสฺสนาติอาห – ‘‘สหวิปสฺสเนน มคฺเคน ชานิตพฺพานี’’ติ. ปริฺาภิสมยาทิกิจฺเจน นิพฺพตฺติยา อสมฺโมหโต จ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพ. เตภูมกจิตฺตเมว กถิตํ สมฺมสนฏฺานสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เอส นโย ธมฺมายตนาทีสุปิ. ธมฺมายตนสฺส วา อายตนภาวโต พหิทฺธาคหณํ, น สพฺพโส อนชฺฌตฺตภาวโต. วิปากเวทนาปจฺจยา ชวนกฺขเณ อุปฺปนฺนตณฺหาติ ฉตฺตึสวิปากเวทนํ นิสฺสาย เอวํ อสฺสาเทนฺตี อนุภเวยฺยนฺติ อกุสลชวนกฺขณโต อุปฺปนฺนตณฺหา.

๔๒๒. ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธีติ ยถานุสนฺธิอาทีนํ อสมฺภวโตติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ. เหฏฺาติ วิฺาณผสฺสเวทนาตณฺหานํ ปจฺจยายตฺตวุตฺติตาทสฺสเนน จกฺขายตนาทีนํ รูปายตนาทีนฺจ ปจฺจยายตฺตวุตฺติตา ทีปิตา อปจฺจยุปฺปนฺนสฺส ปจฺจยาภาวโต, ยฺจ ปจฺจยายตฺตวุตฺติกํ, ตํ อนิจฺจํ อุปฺปาทสมฺภวโต, ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ, ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตาติ ขนฺธปฺจเก จ ฉนฺนํ ฉกฺกานํ วเสน ฆนวินิพฺโภคกรเณน อตฺถโต อนตฺตลกฺขณํ วิภาวิตํ. น สรูปโตติ สรูปโตปิ ตํ วิภาเวตุกาโม เตเนว ฉฉกฺกานํ วเสน ฆนวินิพฺโภคนเยน พฺยติเรกโต จ อนฺวยโต จ ทสฺเสนฺโต ภควา – ‘‘จกฺขุ อตฺตาติ โย วเทยฺยา’’ติอาทิมาหาติ ยถานุสนฺธิกาว เทสนา วิภาวิตา. เตนาห ‘‘เหฏฺา กถิตานํ หี’’ติอาทิ. เหฏฺา ปน ฉนฺนํ ฉกฺกานํ วเสน วินิพฺโภคทสฺสนมตฺตํ, น อนตฺตลกฺขณํ วิภาวิตํ , อิธ ปน สรูปโต อนตฺตลกฺขณํ วิภาวิตนฺติ อธิปฺปาเยน อนุสนฺธนฺตรภาวโชตนา. ยทิปิ อนตฺตภาโว นาม จตูสุปิ สจฺเจสุ ลพฺภเตว, สพฺเพปิ หิ ธมฺมา อนตฺตา, อิเม ปเนตฺถ ทฺเวปิ นยา สมฺมสนวเสน ปวตฺตาติ วุตฺตํ – ‘‘ทฺวินฺนํ สจฺจานํ อนตฺตภาวทสฺสนตฺถ’’นฺติ. น อุปปชฺชตีติ อุปปตฺติสงฺขาตยุตฺติยา น สเมตีติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘น ยุชฺชตี’’ติ. อตฺตวาทินา – ‘‘นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต’’ติ อภิมโต, จกฺขุฺจ อุปฺปาทวนฺตตาย อนิจฺจํ, ยํ ปจฺจยายตฺถวุตฺติตา, ตสฺมา ‘‘จกฺขุ อตฺตาติ โย วเทยฺย, ตํ น อุปปชฺชตี’’ติอาทิ. สกฺกายวตฺถุ จกฺขุ อนตฺตา อนิจฺจภาวโต เสยฺยถาปิ ฆโฏ, จกฺขุํ อนิจฺจํ ปจฺจยายตฺตวุตฺติภาวโต เสยฺยถาปิ ฆโฏ, จกฺขุ ปจฺจยายตฺตวุตฺติ อุปฺปาทาทิสมฺภวโต เสยฺยถาปิ ฆโฏ. วิคจฺฉตีติ ภงฺคุปฺปตฺติยา สภาวาวิคเมน วิคจฺฉติ. เตนาห ‘‘นิรุชฺฌตี’’ติ.

๔๒๔. ยสฺมา กิเลสวฏฺฏมูลกํ กมฺมวฏฺฏํ, กมฺมวฏฺฏมูลกฺจ วิปากวฏฺฏํ. กิเลสุปฺปตฺติ จ ตณฺหาทิคฺคาหปุพฺพิกา, ตสฺมา ‘‘ติณฺณํ วา คาหานํ วเสน วฏฺฏํ ทสฺเสตุ’’นฺติ อาห. ยสฺมา ปน ตณฺหาปกฺขิกา ธมฺมา สมุทยสจฺจํ, จกฺขาทโย ทุกฺขสจฺจํ, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘ทฺวินฺนํ สจฺจานํ วเสน วฏฺฏํ ทสฺเสตุ’’นฺติ. ตณฺหามานทิฏฺิคฺคาหาว เวทิตพฺพา สกฺกายคามินิปฏิปทาย อธิปฺเปตตฺตา. ‘‘เอตํ มมา’’ติอาทินา คหณเมเวตฺถ อนุปสฺสนาติ อาห – ‘‘คาหตฺตยวเสน ปสฺสตี’’ติ.

ติณฺณํ คาหานํ ปฏิปกฺขวเสนาติ ตณฺหาทิคฺคาหปฏิปกฺขภูตานํ ทุกฺขานิจฺจานตฺตานุปสฺสนานํ วเสน, ตาหิ วา ติณฺณํ คาหานํ ปฏิปกฺขวเสน วินิเวนวเสน อนุปฺปาทนวเสนาติ อตฺโถ. ปฏิปกฺขวเสน วิวฏฺฏํ ทสฺเสตุนฺติ โยชนา. สกฺกายนิโรธคามินี ปฏิปทาติ เอตฺถ นิโรธธมฺโม สรูเปเนว ทสฺสิโตติ อาห – ‘‘นิโรโธ…เป… ทสฺเสตุ’’นฺติ. ปฏิเสธวจนานีติ ปฏิกฺเขปวจนานิ.

๔๒๕. ตณฺหาทีนํ อนุปาทิยนวจนานิ ตณฺหาทิฏฺิวเสเนว วุตฺตานิ ตณฺหาทิฏฺีนํเยว อภินนฺทนาทิวเสน ปวตฺติสพฺภาวโต. อปฺปหีนตฺโถ อนุสยตฺโถติ อาห – ‘‘อนุเสตีติ อปฺปหีโน โหตี’’ติ อริยมคฺเคน หิ อปฺปหีโน ถามคโต ราคาทิกิเลโส อนุสโย การณลาเภ สติ อุปฺปชฺชนารหภาวโต. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. วฏฺฏทุกฺขกิเลสทุกฺขสฺสาติ วฏฺฏทุกฺขสฺส เจว กิเลสทุกฺขสฺส จ. สอุปาทิเสสนิพฺพานฺหิ กิเลสทุกฺขสฺส อนฺตกรณํ, อนุปาทิเสสนิพฺพานํ วฏฺฏทุกฺขสฺส.

๔๒๖. เตสนฺติ อนุสยานํ. ปฏิกฺเขปวเสนาติ ปชหนวเสน, อปฺปวตฺติกรณวเสนาติ อตฺโถ. อวิชฺชํ ปชหิตฺวาติ อนวเสสโต อวิชฺชํ อปฺปวตฺติธมฺมตํ อาปาเทตฺวา. กามํ เหฏฺิมมคฺคาณมฺปิ อวิชฺชาปหายินี วิชฺชา เอว, ตํ ปน าณํ อวิชฺชาย อนวเสสปฺปหายกํ น โหติ, อคฺคมคฺคาเณ ปน อุปฺปนฺเน อวิชฺชาย เลโสปิ นาวสิสฺสตีติ ตเทว อวิชฺชาย ปหายกนฺติ อาห – ‘‘อรหตฺตมคฺควิชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา’’ติ.

๔๒๗. สยเมว ตถาคเต อตฺตโน พุทฺธานุภาเวน เทเสนฺเต สฏฺิ ภิกฺขู อรหตฺตํ ปตฺตาติ อนจฺฉริยเมตํ, อถ กึ อจฺฉริยนฺติ อาห ‘‘อิม’’นฺติอาทิ. กเถนฺเตปีติ เอตฺถ อิติสทฺโท ปการตฺโถ, อิมินาว ปกาเรนาติ อตฺโถ. ปตฺตา เอวาติ สฏฺิ ภิกฺขู อรหตฺตํ ปตฺตา เอวาติ โยชนา. เอตมฺปิ อนจฺฉริยํ, สตฺถุ สมฺมุขา สาวกา สมุทาคมา มหาภิฺา ปภินฺนปฏิสมฺภิทา ตถา ตถา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสนฺตีติ. เตนาห – ‘‘มหาภิฺปฺปตฺตา หิ เต สาวกา’’ติ.

มหามณฺฑเปติ โลหปาสาทสฺส ปุรโต เอว มหาภิกฺขุสนฺนิปาโต ชาโตติ เตสํ ปโหนกวเสน กเต มหติ สาณิมณฺฑเปติ วทนฺติ. เตสุปิ าเนสูติ เตสุ ยถาวุตฺตมหามณฺฑปาทีสุ าเนสุ. มหาเถโร อตฺถีติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. เทวตฺเถรสฺส คุเณ สุตฺวา ปสนฺนมานโส มหาเถโร, ตถาปิ วตฺถสมฺปตฺติยา ปสีทิตฺวา ‘‘ตฺวํ ปน นฺหาเปหี’’ติ อาห.

เหฏฺาปาสาเทติ จ กลฺยาณิยมหาวิหาเร อุโปสถาคาเร เหฏฺาปาสาเท เอกทา อุปริปาสาเท เอกทา, กเถสีติ. จูฬนาคสฺส ตถา มหตี ปริสา เทวตานุภาเวน อภิฺาปาทนํ อโหสีติ เกจิ . เถโร ปน มหิทฺธิโก อโหสิ, ตสฺมา ตาว มหตึ ปริสํ อภิฺาเปสีติ อปเร.

ตโต ตโตติ ตสฺสํ ตสฺสํ ทิสายํ. เอโกวาติ เอกจฺโจ เอว, น พหุโส, กติปยาว ปุถุชฺชนา อเหสุนฺติ อตฺโถ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยเมว.

ฉฉกฺกสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๗. มหาสฬายตนิกสุตฺตวณฺณนา

๔๒๘. มหนฺตานิ สฬายตนานิ อธิกิจฺจ ปวตฺตตฺตา มหาสฬายตนิกํ, มหนฺตตา จ เตสํ มหนฺตํ โลกสนฺนิวาสํ อภิพฺยาเปตฺวา ิตตฺตา อโยนิโส คยฺหมานานํ มหโต อนตฺถาย สํวตฺตนโต, โยนิโส คยฺหมานานํ มหโต อตฺถาย หิตาย สุขาย สํวตฺตนโต จ ทฏฺพฺพา. โชตกนฺติ โพธกํ.

๔๒๙. สิขาปฺปตฺตาย วิปสฺสนาย ชานนมฺปิ ยถาภูตชานนเมว มคฺเคน ชานนสฺส อาสนฺนการณภาวโตติ อาห – ‘‘สหวิปสฺสเนน มคฺเคน อชานนฺโต’’ติ. วุฑฺฒึ คจฺฉนฺตีติ ปจฺจยสโมธาเนน ภวโยนิคติิติสตฺตาวาสปาฬิยา อปราปรํ ปริวุทฺธึ คจฺฉนฺติ. เอวํภูตา ปคุณภาวมาปาทิตา สมถวิปสฺสนาธมฺมา วิย สุฏฺุตรํ วสีภาวํ ปาปิตา ฌานาภิฺา วิย จ วสีภูตา หุตฺวา อุปรูปริ พฺรูเหนฺตีติ อาห – ‘‘วสีภาวํ คจฺฉนฺตี’’ติ. ตถา หิ เต กทาจิ ภวปตฺถนาย อนุปฺปาทิตายปิ อปฺปหีนภาเวเนวสฺสา ติฏฺนฺติ. อกุสลา ธมฺมาว เยภุยฺเยน ทสฺสนายตเนน วินาสทสฺสนโต ปวตฺตนฺติ ปริวฑฺฒนฺติ จ. ปฺจทฺวาริกทรถาติ ปฺจทฺวาริกชวนสหคตา อกุสลทรถา. เอวํ มโนทฺวาริกทรถา เวทิตพฺพา. สนฺตาปาติ ทรเถหิ พลวนฺโต สมฺปยุตฺตธมฺมานํ นิสฺสยสฺส จ สนฺตาปนกรา. ปริฬาหาติ ตโตปิ พลวตรา เตสํเยว ปริทหนกรา.

๔๓๐. ปฺจทฺวาริกสุขํ, น กายปฺปสาทสนฺนิสฺสิตสุขเมว. มโนทฺวาริกสุขนฺติ มโนทฺวาริกจิตฺตสนฺนิสฺสิตสุขํ, น ยํ กิฺจิ เจตสิกสุขํ ตสฺส กายิกสุขคฺคหเณเนว คหิตตฺตา. ปฺจทฺวาริกชวเนน สมาปชฺชนํ วา วุฏฺานํ วา นตฺถีติ อิทํ มโนทฺวาริกชวเนน ตสฺส สมฺภวํ ทสฺเสตุํ, มคฺคสฺส วเสน วุตฺตํ, น ปน ตปฺปสงฺคสงฺกานิวตฺตนตฺถํ. วิฺตฺติมตฺตมฺปิ ชเนตุํ อสมตฺถํ สมาปชฺชนสฺส กถํ ปจฺจโย โหติ, พุทฺธานํ ปน ภควนฺตานํ โหตีติ เจ? ตถาปิ ตสฺส อาสนฺนฏฺาเน ปฺจทฺวาริกจิตฺตปฺปวตฺติยา อสมฺภโว เอว ตาทิสสฺส ปุพฺพาโภคสฺส ตสฺมึ กาเล อสมฺภวโต. เอเตเนว ยา เกสฺจิ อริยธมฺเม อโกวิทานํ ฆฏสภาวาทีสุ พุทฺธิตุลฺยการิตาปตฺติโจทนา; สา ปฏิกฺขิตฺตาติ ทฏฺพฺพา ตํตํปุริมาโภควเสน เตน เตน ปฺจทฺวาริกาภินิยตมโนวิฺาณสฺส ปรโต ปวตฺตมานมโนวิฺาเณน ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ วณฺณสณฺานาทิวิเสสสฺส วินิจฺฉินิตพฺพโต. อุปฺปนฺนมตฺตกเมว โหตีติ ปฺจทฺวาริกชวนํ ตาทิสํ กิฺจิ อตฺถนิจฺฉยกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกติ, เกวลํ อุปฺปนฺนมตฺตเมว โหติ. อยนฺติ ‘‘อาทีนวานุปสฺสิโน’’ติอาทินา วุตฺตา.

๔๓๑. กุสลจิตฺต…เป… ภูตสฺสาติ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาสหคตกุสลจิตฺตสฺส สมฺปยุตฺตเจโตสุขสมงฺคีภูตสฺส. ปุพฺพสุทฺธิกาติ มคฺคุปฺปตฺติโต, วิปสฺสนารมฺภโตปิ วา ปุพฺเพว สุทฺธา. เตนาห – ‘‘อาทิโต ปฏฺาย ปริสุทฺธาว โหนฺตี’’ติ. สพฺพตฺถกการาปกงฺคานีติ สีลวิโสธนสฺส จิตฺตสมาธานสฺส วิปสฺสนาภิโยคสฺส มคฺเคน ปหาตพฺพกิเลสปหานสฺสาติ สพฺพสฺสปิ มคฺคสมฺภารกิจฺจสฺส การาปกงฺคานิ. อฏฺงฺคิโก วาติ ปมชฺฌานิโก วา อฏฺงฺคิโก, ทุติยชฺฌานิโก วา สตฺตงฺคิโก โหติ.

อิมเมว สุตฺตปเทสํ คเหตฺวาติ, ‘‘ยา ตถาภูตสฺส ทิฏฺี’’ติอาทินา สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ ปฺจนฺนํเยว ตสฺมึ าเน คหิตตฺตา โลกุตฺตรมคฺโค ปฺจงฺคิโกติ วทติ. โสติ ตถา วทนฺโต วิตณฺฑวาที. อนนฺตรวจเนเนวาติ, ‘‘ยา ตถาภูตสฺส ทิฏฺี’’ติอาทิวจนสฺส, ‘‘เอวมสฺสาย’’นฺติอาทินา อนนฺตรวจเนน. ปฏิเสธิตพฺโพติ ปฏิกฺขิปิตพฺโพ. ‘‘อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ หิ อิทํ วจนํ อริยมคฺคสฺส ปฺจงฺคิกภาวํ อุชุกเมว ปฏิกฺขิปติ. ยทิ เอวํ ‘‘ยา ตถาภูตสฺส ทิฏฺี’’ติอาทินา ตตฺถ ปฺจนฺนํ เอว องฺคานํ คหณํ กิมตฺถิยนฺติ อาห ‘‘อุตฺตริ จา’’ติอาทิ. สมฺมาวาจํ ภาเวติ อริยมคฺคสมงฺคี. เตนาห ‘‘มิจฺฉาวาจํ ปชหตี’’ติ. ยสฺมิฺหิ ขเณ สมฺมาวาจา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ, ตสฺมึเยว มิจฺฉาวาจา ปชหียตีติ. สเหว วิรติยา ปูเรนฺติ สมุจฺเฉทวิรติยา วินา ทุกฺขปริฺาทีนํ อสมฺภวโต. อาทิโต ปฏฺาย ปริสุทฺธาเนว วฏฺฏนฺติ ปริสุทฺเธ สีเล ปติฏฺิตสฺเสว ภาวนาย อิชฺฌนโต. ยถาวุตฺตมตฺถํ คนฺถนฺตเรนปิ สมตฺเถตุํ, ‘‘สุภทฺทสุตฺเตปิ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อเนเกสุ สุตฺตสเตสุ อฏฺงฺคิโกว มคฺโค อาคโต, น ปฺจงฺคิโกติ อธิปฺปาโย.

สมฺมาสติ มคฺคกฺขเณ กายานุปสฺสนาทิจตุกิจฺจสาธิกา โหตีติ ตํ จตุพฺพิธํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต, ‘‘มคฺคสมฺปยุตฺตาว จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ อาห. น จตุมคฺคสมฺปยุตฺตตาวเสน. เอส นโย สมฺมปฺปธานาทีสุปิ. อฺมฺานติวตฺตมานา ยุคนทฺธา ยุตฺตา วิย อริยมคฺคยุคนทฺธา อฺมฺํ ปฏิพทฺธาติ ยุคนทฺธา. เตนาห – ‘‘เอกกฺขณิกยุคนนฺธา’’ติ อริยมคฺคกฺขเณ เอว หิ สมถวิปสฺสนา เอกกฺขณิกา หุตฺวา สมธุรํ วตฺตนฺติ. เตเนวาห ‘‘เอเต หี’’ติอาทิ. อฺสฺมึ ขเณ สมาปตฺติ, อฺสฺมึ วิปสฺสนาติ อิทํ เตสํ ตตฺถ ตตฺถ กิจฺจโต อธิกภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, น อฺถา. น หิ ปฺารหิตา สมาปตฺติ, สมาธิรหิตา จ วิปสฺสนา อตฺถิ. อริยมคฺเค ปน เอกกฺขณิกา สมธุรตาย เอกรสภาเวนาติ อตฺโถ. ผลวิมุตฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยเมว.

มหาสฬายตนิกสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๘. นครวินฺเทยฺยสุตฺตวณฺณนา

๔๓๕. สมวิสมํจรนฺตีติ กายสมาทึ สมฺเว, กายวิสมาทึ วิสมฺเว จรนฺติ กโรนฺติ ปฏิปชฺชนฺติ. ตํ ปน สมวิสมํ อฺมฺํ วิรุทฺธตฺตา วิสทิสตฺตา น เอกสฺมึ กาเล สมฺภวตีติ อาห – ‘‘กาเลน สมํ กาเลน วิสม’’นฺติ. สมจริยมฺปิ หิ เอตนฺติ ปุพฺเพ สมจริยาย โชติตตฺตา วุตฺตํ.

๔๓๗. อากโรนฺติ อธิปฺเปตมตฺถํ าเปนฺติ ปโพเธนฺตีติ อาการา, าปกการณนฺติ อาห – ‘‘เก อาการาติ กานิ การณานี’’ติ. อนุพุทฺธิโยติ อนุมานาณานิ. ตฺหิ ยถาทิฏฺมตฺถํ ทิฏฺภาเวน อนฺเวติ อนุคจฺฉตีติ ‘‘อนฺวยา’’ติ วุจฺจติ. หริตติณจมฺปกวนาทิวเสนาติ หริตกมฺพลาทิสทิสติณาทิวเสน วิตฺถาริตกนกปฏาทิสทิวิกสิตจมฺปกวนาทิวเสน. อาทิสทฺเทน เจตฺถ กีจกเวณุสทฺทมธุรสผลาผลวเสน สทฺทรสานํ อตฺถิภาโว เวทิตพฺโพติ. จมฺปกวเสเนว ปน ผสฺสคนฺธานมฺปิ อตฺถิภาโว วุตฺโตติ. เตนาห – ‘‘รูปาทโย ปฺจ กามคุณา อตฺถี’’ติ. ‘‘อิตฺถิรูปาทีนิ สนฺธาเยตํ กถิต’’นฺติ วตฺวา อินฺทฺริยพทฺธา วา โหนฺตุ รูปาทโย อนินฺทฺริยพทฺธา วา, สพฺเพปิ เจเต กิเลสุปฺปตฺตินิมิตฺตตาย กามคุณา เอวาติ โจทนํ สนฺธาย วิสภาคิตฺถิคตา รูปาทโย สวิเสสํ กิเลสุปฺปตฺตินิมิตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต, ‘‘ตานิ หี’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ตานีติ รูปาทีนิ. หิ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. เตน ยถาวุตฺตมตฺถํ สมตฺเถติ, ‘‘ยสฺมา ปุริสสฺส จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺติ, ตสฺมา อิตฺถิรูปาทีนิ สนฺธาย เอตํ กถิต’’นฺติ. ปุริสสฺส จิตฺตนฺติ ปุริสสฺส จตุภูมกํ กุสลจิตฺตํ ปริยาทาย คเหตฺวา อนฺโตมุฏฺิคตํ วิย กตฺวา. ‘‘หตฺถิกายํ ปริยาทิยิตฺวา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๒๖) หิ คหณํ ปริยาทานํ นาม, ‘‘อนิจฺจสฺา ภาวิตา พหุลีกตา สพฺพํ กามราคํ ปริยาทิยตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๑๐๒) เขปนํ ปริยาทานํ, อิธ อุภยมฺปิ วฏฺฏติ. อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ สุตฺเตเนว สาเธตุํ, ‘‘ยถาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว’’ติอาทีสุ -กาโร ปฏิเสธตฺโถ. อหนฺติ ภควา อตฺตานํ นิทฺทิสติ. ภิกฺขเวติ ภิกฺขู อาลปติ. อฺนฺติ อิทานิ วตฺตพฺพํ อิตฺถิรูปโต อฺํ. เอกรูปมฺปีติ เอกมฺปิ รูปํ. สมนุปสฺสามีติ าณสฺส สมนุปสฺสนา อธิปฺเปตา, เหฏฺา -การํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ‘‘อหํ, ภิกฺขเว, สพฺพฺุตฺาเณน สพฺพโส โอโลเกนฺโต อฺํ เอกรูปมฺปิ น สมนุปสฺสามี’’ติ. ยํ เอวํ ปุริสสฺส จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตีติ ยํ รูปํ รูปครุกสฺส ปุริสสฺส สพฺพมฺปิ กุสลจิตฺตํ ปวตฺติตุํ อปฺปทานวเสน ปริยาทิยิตฺวา คเหตฺวา เขเปตฺวา จ ติฏฺติ. ยถยิทํ อิตฺถิรูปนฺติ อิตฺถิยา รูปกายํ. รูปสทฺโท ขนฺธาทิอเนกตฺถวาจโก, อิธ ปน อิตฺถิยา จตุสมุฏฺาเน รูปายตเน วณฺณธาตุยํ ทฏฺพฺโพ. ‘‘อิตฺถิรูปํ, ภิกฺขเว, ปุริสสฺส จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’’ติ อิทํ ปุริมสฺเสว ทฬฺหีกรณตฺถํ วุตฺตํ. ปุริมํ ‘‘ยถยิทํ, ภิกฺขเว, อิตฺถิรูป’’นฺติ อิทํ โอปมฺมวเสน วุตฺตํ, อิทํ ปริยาทานภาเว นิทสฺสนนฺติ ทฏฺพฺพํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

นครวินฺเทยฺยสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๙. ปิณฺฑปาตปาริสุทฺธิสุตฺตวณฺณนา

๔๓๘. ธมฺมเสนาปติโน ปฏิสลฺลียนสฺส อธิปฺเปตตฺตา, อุปริ จ ปาฬิยํ, ‘‘สุฺตาวิหาเรน โข อหํ, ภนฺเต, เอตรหิ พหุลํ วิหรามี’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๓๘) วุตฺตตฺตา ‘‘ปฏิสลฺลานาติ ผลสมาปตฺติโต’’ติ อาห.

วิปฺปสนฺนานีติ วิเสสโต ปสนฺนานิ. โอกาสวเสนาติ อินฺทฺริยานํ ปติฏฺิโตกาสวเสน. นนุ ตานิ อินฺทฺริยานิ สภาวโต วิปฺปสนฺนานิ โหนฺตีติ? สจฺจํ โหนฺติ. น หิทํ ตาทิสํ ปสนฺนตํ สนฺธาย วุตฺตํ, อิทํ ปน สนฺตปณีตสมาปตฺติสมุฏฺิตานํ ปจฺจุปฏฺิตานํ จิตฺตชรูปานํ วเสน เสสติสนฺตติรูปานํ เสฏฺตรํ ปณีตภาวาปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. ผลสมาปตฺติโตติ สุฺตานุปสฺสนาวเสน สมาปนฺนผลสมาปตฺติโต. มหนฺตานํ พุทฺธาทีนํ ปุริสานํ วิหาโร มหาปุริสวิหาโร. เตนาห – ‘‘พุทฺธ…เป… วิหาโร’’ติ. วิหารโต ปฏฺายาติ ปริกฺขิตฺเต จ วิหาเร ปริกฺเขปโต ปฏฺาย, อปริกฺขิตฺเต จ ปริกฺเขปารหฏฺานโต ปฏฺาย. เกจิ ปน ‘‘วิหารพฺภนฺตรโต ปฏฺายา’’ติ วทนฺติ. ยาว คามสฺส อินฺทขีลาติ คามสฺส อพฺภนฺตรินฺทขีโล. เคหปฏิปาฏิยาจริตฺวาติ ปิณฺฑาย จริตฺวา. ยาว นครทฺวาเรน นิกฺขมนาติ นครทฺวาเรน ยาว นิกฺขมนปเทสา. ยาว วิหาราติ ยาว วิหารพฺภนฺตรา. ปฏิกฺกนฺตมคฺโคติ นิวตฺตนมคฺโค. อารมฺมเณ ปฏิหฺนากาเรน ปวตฺตมานมฺปิ ปฏิฆสมฺปยุตฺตํ จิตฺเต ปฏิหนนฺตํ วิย ปวตฺตตีติ อาห – ‘‘จิตฺเต ปฏิหฺนกิเลสชาต’’นฺติ. ทิวสฺจ รตฺติฺจ อนุสิกฺขนฺเตนาติ เอตํเยว ราคาทิปฺปหายินึ สมฺมาปฏิปตฺตึ ทิวา จ รตฺติฺจ อนุ อนุ สิกฺขนฺเตน อุปรูปริ วฑฺเฒนฺเตน.

๔๔๐. ปหีนา นุ โข เม ปฺจ กามคุณาติ เอตฺถ กามคุณปฺปหานํ นาม ตปฺปฏิพทฺธฉนฺทราคปฺปหานํ. ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘ติฏฺนฺติ จิตฺรานิ ตเถว โลเก, อเถตฺถ ธีรา วินยนฺติ ฉนฺท’’นฺติ. เอกภิกฺขุสฺส ปจฺจเวกฺขณา นานาติ เอกสฺเสว ภิกฺขุโน, ‘‘ปหีนา นุ โข เม ปฺจ กามคุณา’’ติอาทินา ปาฬิยํ อาคตา นานาปจฺจเวกฺขณา โหนฺติ. นานาภิกฺขูนนฺติ วิสุํ วิสุํ อเนเกสํ ภิกฺขูนํ. ปจฺจเวกฺขณา นานาติ วุตฺตนานาปจฺจเวกฺขณา. อิทานิ ตเมว สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ, ‘‘กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘ปจฺจเวกฺขตี’’ติ วุตฺตํ, กถํ ปน ปจฺจเวกฺขตีติ อาห ‘‘ปหีนา นุ โข’’ติอาทิ. วีริยํ ปคฺคยฺหาติ จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานวีริยํ อารภิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺฒิตฺวา. มคฺคานนฺตรํ อนาคามิผลํ ปตฺวาติ วจนเสโส. ผลานนฺตรํ มคฺคนฺติ ตสฺมึ อนาคามิมคฺเค ิโต ผลสมาปตฺติโต วุฏฺาย อคฺคมคฺคตฺถาย วิปสฺสนํ อารภิตฺวา ตสฺมึเยว อาสเน น จิเรเนว วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตมคฺคํ คณฺหนฺโต นิโรธธมฺมานุปฺปตฺติยา วิปสฺสนาปริวาสาภาวโต ผลานนฺตรํ มคฺคปฺปตฺโต นาม โหตีติ กตฺวา.

ตโต วุฏฺายาติ มคฺคานนฺตรผลโต วุฏฺาย. มคฺคานนฺตรโต หิ วุฏฺิโต มคฺคโต วุฏฺิโต วิย โหตีติ ตถา วุตฺตํ. ‘‘ผลานนฺตรํ มคฺค’’นฺติ เอตฺถ ผลํ อนนฺตรํ เอตสฺสาติ ผลานนฺตรํ. ‘‘ผลานนฺตรํ มคฺค’’นฺติ ปททฺวเยนปิ อนาคามิมคฺคผลานิ เจว วทตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. นีวรณาทีสุปิ เอเสว นโยติ เอตฺถ, ‘‘ปหีนา นุ โข เม ปฺจ นีวรณา’’ติอาทินา โยชนา เวทิตพฺพา. เอเตสนฺติ เอตฺถ เอเตสํ นีวรณปฺจุปาทานกฺขนฺธสติปฏฺานาทีนํ. ปหานาทีนีติ ปหานปริฺาภาวนาสจฺฉิกิริยา. นานาปจฺจเวกฺขณา โหตีติ ตา ปจฺจเวกฺขณา นานาติ อธิปฺปาโย. เอตาสุ ปน ปจฺจเวกฺขณาสูติ เอตาสุ กามคุณปจฺจเวกฺขณาทีสุ ทฺวาทสสุ ปจฺจเวกฺขณาสุ. เอกํ ปจฺจเวกฺขณํ ปจฺจเวกฺขติ ทฺวาทสสุ นเยสุ เอเกเนว กิจฺจสิทฺธิโต. อฺโ ภิกฺขุ. เอกนฺติ อฺํ ปจฺจเวกฺขติ. อฺตฺโถ หิ อยํ เอกสทฺโท ‘‘อิตฺเถเก’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๑, ๒๗) วิยาติ. นานาภิกฺขูนํ ปน เอกา ปจฺจเวกฺขณา, นานาภิกฺขูนํ นานาปจฺจเวกฺขณาติ เอวํ จตุกฺกปจฺจเวกฺขณมฺปิ เอตฺถ สมฺภวติ. อิมสฺส ปน ทฺวยสฺส วเสน อภิสมโย นตฺถีติ ตทุภยํ อฏฺกถายํ น อุทฺธฏํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

ปิณฺฑปาตปาริสุทฺธิสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

๑๐. อินฺทฺริยภาวนาสุตฺตวณฺณนา

๔๕๓. เอวํนามเกติ ‘‘คชงฺคลา’’ติ เอวํ อิตฺถิลิงฺควเสน ลทฺธนามเก มชฺฌิมปเทสสฺส มริยาทฏฺานภูเต นิคเม. สุเวฬุ นาม นิจลรุกฺโขติ วทนฺติ. ตโต อฺํ เอวาติ ปน อธิปฺปาเยน ‘‘เอกา รุกฺขชาตี’’ติ วุตฺตํ. จกฺขุโสตานํ ยถาสกวิสยโต นิวารณํ ทมนํ อินฺทฺริยภาวนา, ตฺจ โข สพฺพโส อทสฺสเนน อสวเนนาติ อาห – ‘‘จกฺขุนา รูปํ น ปสฺสติ, โสเตน สทฺทํ น สุณาตี’’ติ. สติ หิ ทสฺสเน สวเน จ ตานิ อทนฺตานิ อภาวิตาเนวาติ อธิปฺปาโย. จกฺขุโสตานิ จ อสมฺปตฺตคฺคาหิตาย ทุรกฺขิตานีติ พฺราหฺมโณ เตสํเยว วิสยคฺคหณํ ปฏิกฺขิปิ. อสทิสายาติ อฺติตฺถิยสมเยหิ อสาธารณาย. อาลยนฺติ กเถตุกามตาการนฺติ อตฺโถ.

๔๕๔. วิปสฺสนุเปกฺขาติ อารทฺธวิปสฺสกสฺส วิปสฺสนาาเณน ลกฺขณตฺตเย ทิฏฺเ สงฺขารานํ อนิจฺจภาวาทิวิจินเน มชฺฌตฺตภูตา วิปสฺสนาสงฺขาตา อุเปกฺขา. สา ปน ยสฺมา ภาวนาวิเสสปฺปตฺติยา เหฏฺิเมหิ วิปสฺสนาวาเรหิ สนฺตา เจว ปณีตา จ, ปเคว จกฺขุวิฺาณาทิสหคตาหิ อุเปกฺขาหิ, ตสฺมา อาห – ‘‘เอสา สนฺตา เอสา ปณีตา’’ติ. อตปฺปิกาติ สนฺตปณีตภาวนารสวเสน ติตฺตึ น ชเนติ. เตเนวาห –

‘‘สุฺาคารํ ปวิฏฺสฺส, สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน;

อมานุสี รตี โหติ, สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโต’’ติ. (ธ. ป. ๓๗๓);

อิตีติ เอวํ วกฺขมานากาเรนาติ อตฺโถ. อยํ ภิกฺขูติ อยํ อารทฺธวิปสฺสโก ภิกฺขูติ โยชนา. จกฺขุทฺวาเร รูปารมฺมณมฺหีติ จกฺขุทฺวาเร อาปาถคเต รูปารมฺมเณ. มนาปนฺติ มนาปภาเวน ปวตฺตนกํ. มชฺฌตฺเต มนาปามนาปนฺติ อิฏฺมชฺฌตฺเต มนาปภาเวน อมนาปภาเวน จ ปวตฺตนกํ มนาปามนาปํ นามาติ. เตนาห (‘‘เนว มนาปํ น อมนาป’’นฺติ). อิมินา มนาปภาโว คหิโต, ‘‘เนว มนาป’’นฺติ อิมินา มนาปภาโว มชฺฌตฺโต จ อุภยํ เอกเทสโต ลพฺภตีติ, ‘‘มนาปามนาป’’นฺติ วุตฺตํ. เอวํ อารมฺมเณ ลพฺภมานวิเสสวเสน ตทารมฺมณสฺส จิตฺตสฺส ปากติกํ ปวตฺติอาการํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตปฺปฏิเสเธน อริยสฺส วินเย อนุตฺตรํ อินฺทฺริยภาวนํ ทสฺเสตุํ, ‘‘ตสฺส รชฺชิตุํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺรายํ โยชนา – ตสฺส จิตฺตํ อิฏฺเ อารมฺมเณ รชฺชิตุํ วา อนิฏฺเ อารมฺมเณ ทุสฺสิตุํ วา มชฺฌตฺเต อารมฺมเณ มุยฺหิตุํ วา. อทตฺวาติ นิเสเธตฺวา. ปริคฺคเหตฺวาติ ปริชานนวเสน าเณน คเหตฺวา าตตีรณปหานปริฺาหิ ปริชานิตฺวา. วิปสฺสนํ มชฺฌตฺเต เปตีติ อนุกฺกเมน วิปสฺสนุเปกฺขํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตํ สงฺขารุเปกฺขํ ปาเปตฺวา เปติ. จกฺขุมาติ น ปสาทจกฺขุโน อตฺถิตามตฺตโชตนํ; อถ โข ตสฺส อติสเยน อตฺถิตาโชตนํ, ‘‘สีลวา’’ติอาทีสุ วิยาติ อาห – ‘‘จกฺขุมาติ สมฺปนฺนจกฺขุ วิสุทฺธเนตฺโต’’ติ.

๔๕๖. อีสกํ โปเณติ มชฺเฌ อุจฺจํ หุตฺวา อีสกํ โปเณ, น อนฺตนฺเตน วงฺเก. เตนาห – ‘‘รถีสา วิย อุฏฺหิตฺวา ิเต’’ติ.

๔๖๑. ปฏิกูเลติ อมนุฺเ อารมฺมเณ. อปฺปฏิกูลสฺีติ น ปฏิกูลสฺี. ตํ ปน อปฺปฏิกูลสฺิตํ ทสฺเสตุํ, ‘‘เมตฺตาผรเณน วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปฏิกูเล อนิฏฺเ วตฺถุสฺมึ สตฺตสฺิเต เมตฺตาผรเณน วา ธาตุโส อุปสํหาเรน วา สงฺขารสฺิเต ปน ธาตุโส อุปสํหาเรน วาติ โยเชตพฺพํ. อปฺปฏิกูลสฺี วิหรตีติ หิเตสิตาย ธมฺมสภาวจินฺตนาย จ นปฺปฏิกูลสฺี หุตฺวา อิริยาปถวิหาเรน วิหรติ. อปฺปฏิกูเล อิฏฺเ วตฺถุสฺมึ สตฺตสฺิเต เกสาทิอสุจิโกฏฺาสมตฺตเมวาติ อสุภผรเณน วาติ อสุภโต มนสิการวเสน. อิทํ รูปารูปมตฺตํ อนิจฺจํ สงฺขตนฺติ อนิจฺจโต อุปสํหาเรน วา. ตโต เอว, ‘‘ทุกฺขํ วิปริณามธมฺม’’นฺติ มนสิ กโรนฺโต ปฏิกูลสฺี วิหรติ. เสสปเทสูติ, ‘‘ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จา’’ติอาทินา อาคเตสุ เสเสสุ ทฺวีสุ ปเทสุ. ตตฺถ หิ อิฏฺานิฏฺวตฺถูนิ เอกชฺฌํ คเหตฺวา วุตฺตํ ยถา สตฺตานํ ปมํ ปฏิกูลโต อุปฏฺิตเมว ปจฺฉา คหณาการวเสน อวตฺถนฺตเรน วา อปฺปฏิกูลโต อุปฏฺาติ. ยฺจ อปฺปฏิกูลโต อุปฏฺิตเมว ปจฺฉา ปฏิกูลโต อุปฏฺาติ, ตทุภเยปิ ขีณาสโว สเจ อากงฺขติ, วุตฺตนเยน อปฺปฏิกูลสฺี วิหเรยฺย ปฏิกูลสฺี วาติ.

ตทุภยํอภินิวชฺเชตฺวาติ สภาวโต ภาวนานุภาวโต จ อุปฏฺิตํ อารมฺมณํ ปฏิกูลสภาวํ อปฺปฏิกูลสภาวํ วาติ ตํ อุภยํ ปหาย อคฺคเหตฺวา. สพฺพสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปน, ‘‘มชฺฌตฺโต หุตฺวา วิหริตุกาโม กึ กโรตี’’ติ, วตฺวา ตตฺถ ปฏิปชฺชนวิธึ ทสฺเสนฺโต, ‘‘อิฏฺานิฏฺเสุ…เป… โทมนสฺสิโต โหตี’’ติ อาห. อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ ปฏิสมฺภิทามคฺคปาฬิยา วิภาเวตุํ, ‘‘วุตฺตํ เหต’’นฺติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ เหฏฺา วุตฺตนโย เอว. สโตติ สติเวปุลฺลปฺปตฺติยา สติมา. สมฺปชาโนติ ปฺาเวปุลฺลปฺปตฺติยา สมฺปชานการี. จกฺขุนารูปํ ทิสฺวาติ การณวเสน จกฺขูติ ลทฺธโวหาเรน รูปทสฺสนสมตฺเถน จกฺขุวิฺาเณน, จกฺขุนา วา กรณภูเตน รูปํ ปสฺสิตฺวา. เนว สุมโน โหติ เคหสฺสิตโสมนสฺสปฏิกฺเขเปน เนกฺขมฺมปกฺขิกาย กิริยาโสมนสฺสเวทนาย.

อิเมสุ จาติ ‘‘อฺถา จ ปนานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา โหตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๔๕๓), – ‘‘กถฺจานนฺท, เสโข โหติ ปฏิปโท’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๔๖๐); – ‘‘กถฺจานนฺท, อริโย โหติ ภาวิตินฺทฺริโย’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๔๖๑) จ อาคเตสุ ติวิเธสุ นเยสุ. มนาปํ อมนาปํ มนาปามนาปนฺติ เอตฺถ มนาปคฺคหเณน โสมนสฺสยุตฺตกุสลากุสลานํ, อมนาปคฺคหเณน โทมนสฺสยุตฺตอกุสลานํ, มนาปามนาปคฺคหเณน ตพฺพิธุรุเปกฺขายุตฺตานํ สงฺคหิตตฺตา ปมนเย ‘‘สํกิเลสํ วฏฺฏติ, นิกฺกิเลสํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ปมนเย หิ ปุถุชฺชนสฺส อธิปฺเปตตฺตา สํกิเลสกิเลสวิปฺปยุตฺตมฺปิ ยุชฺชติ. ทุติยนเย ปน ‘‘โส…เป… อฑฺฑียตี’’ติอาทิวจนโต ‘‘ปมํ สํกิเลสํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. เสกฺขสฺส อธิปฺเปตตฺตา จสฺส อปฺปหีนกิเลสวเสน, ‘‘สํกิเลสมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ตติยนเย อรหโต อธิปฺเปตตฺตา, ‘‘ตติยํ นิกฺกิเลสเมว วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. เสกฺขวาเร ปน ‘‘จกฺขุมา ปุริโส’’ติอาทิกา อุปมา เอกเมว อตฺถํ าเปตุํ อาห. ตสฺมา จกฺขุทฺวารสฺส อุปฺปนฺเน ราคาทิเก วิกฺขมฺเภตฺวา วิปสฺสนุเปกฺขาย ปติฏฺานํ อริยา อินฺทฺริยภาวนาติ. ปมนโย วิปสฺสกวเสน อาคโต, ทุติโย เสกฺขสฺส วเสน, ปมทุติโย จ เสกฺขปุถุชฺชนานํ มูลกมฺมฏฺานวเสน, ตติโย ขีณาสวสฺส อริยวิหารวเสน อาคโต. ปมนเย จ ปุถุชฺชนสฺส วเสน, ทุติยนเย เสกฺขสฺส วเสน กุสลํ วุตฺตํ, ตติยนเย อเสกฺขสฺส วเสน กิริยาพฺยากตํ วุตฺตนฺติ อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

อินฺทฺริยภาวนาสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.

นิฏฺิตา จ สฬายตนวคฺควณฺณนา.

อุปริปณฺณาสฏีกา สมตฺตา.