📜
๓. โกสลสํยุตฺตํ
๑. ปมวคฺโค
๑. ทหรสุตฺตวณฺณนา
๑๑๒. โกสลสํยุตฺตสฺส ¶ ¶ ปเม ¶ ภควตา สทฺธึ สมฺโมทีติ ยถา ขมนียาทีนิ ปุจฺฉนฺโต ภควา เตน, เอวํ โสปิ ภควตา สทฺธึ สมปฺปวตฺตโมโท อโหสิ. สีโตทกํ วิย อุณฺโหทเกน สมฺโมทิตํ เอกีภาวํ อคมาสิ. ยาย จ – ‘‘กจฺจิ, โภ โคตม, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ โภโต จ โคตมสฺส สาวกานฺจ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหาโร’’ติอาทิกาย กถาย สมฺโมทิ, ตํ ปีติปาโมชฺชสงฺขาตสมฺโมทชนนโต สมฺโมทิตุํ ยุตฺตภาวโต จ สมฺโมทนียํ, อตฺถพฺยฺชนมธุรตาย จิรมฺปิ กาลํ สาเรตุํ นิรนฺตรํ ปวตฺเตตุํ อรหรูปโต สริตพฺพภาวโต จ สารณียํ. สุยฺยมานสุขโต จ สมฺโมทนียํ, อนุสฺสริยมานสุขโต สารณียํ. ตถา พฺยฺชนปริสุทฺธตาย สมฺโมทนียํ, อตฺถปริสุทฺธตาย สารณียนฺติ เอวํ อเนเกหิ ปริยาเยหิ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา ปริโยสาเปตฺวา นิฏฺเปตฺวา อิโต ปุพฺเพ ตถาคตสฺส อทิฏฺตฺตา คุณาคุณวเสน คมฺภีรภาวํ วา อุตฺตานภาวํ วา อชานนฺโต เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ยํ โอวฏฺฏิกสารํ กตฺวา อาคโต โลกนิสฺสรณภโวกฺกนฺติปฺหํ สตฺถุ สมฺมาสมฺพุทฺธตํ ปุจฺฉิตุํ ภวมฺปิ โนติอาทิมาห.
ตตฺถ ภวมฺปีติ ปิ-กาโร สมฺปิณฺฑนตฺเถ นิปาโต, เตน จ ฉ สตฺถาเร สมฺปิณฺเฑติ. ยถา ปูรณาทโย ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธมฺหา’’ติ ปฏิชานนฺติ, เอวํ ภวมฺปิ นุ ปฏิชานาตีติ อตฺโถ. อิทํ ปน ราชา น อตฺตโน ลทฺธิยา, โลเก มหาชเนน ¶ คหิตปฏิฺาวเสน ปุจฺฉติ. อถ ภควา พุทฺธสีหนาทํ นทนฺโต ยํ หิ ตํ มหาราชาติอาทิมาห. ตตฺถ อหํ หิ มหาราชาติ อนุตฺตรํ สพฺพเสฏฺํ สพฺพฺุตฺาณสงฺขาตํ สมฺมาสมฺโพธึ อหํ อภิสมฺพุทฺโธติ อตฺโถ. สมณพฺราหฺมณาติ ¶ ปพฺพชฺชูปคมเนน ¶ สมณา, ชาติวเสน พฺราหฺมณา. สงฺฆิโนติอาทีสุ ปพฺพชิตสมูหสงฺขาโต สงฺโฆ เอเตสํ อตฺถีติ สงฺฆิโน. สฺเวว คโณ เอเตสํ อตฺถีติ คณิโน. อาจารสิกฺขาปนวเสน ตสฺส คณสฺส อาจริยาติ คณาจริยา. าตาติ ปฺาตา ปากฏา. ‘‘อปฺปิจฺฉา สนฺตุฏฺา อปฺปิจฺฉตาย วตฺถมฺปิ น นิวาเสนฺตี’’ติ เอวํ สมุคฺคโต ยโส เอเตสํ อตฺถีติ ยสสฺสิโน. ติตฺถกราติ ลทฺธิกรา. สาธุสมฺมตาติ ‘‘สนฺโต สปฺปุริสา’’ติ เอวํ สมฺมตา. พหุชนสฺสาติ อสฺสุตวโต อนฺธพาลปุถุชฺชนสฺส. ปูรโณติอาทีนิ เตสํ นามโคตฺตานิ. ปูรโณติ หิ นามเมว. ตถา, มกฺขลีติ. โส ปน โคสาลาย ชาตตฺตา โคสาโลติ วุตฺโต. นาฏปุตฺโตติ นาฏสฺส ปุตฺโต. เพลฏฺปุตฺโตติ เพลฏฺสฺส ปุตฺโต. กจฺจายโนติ ปกุธสฺส โคตฺตํ. เกสกมฺพลสฺส ธารณโต อชิโต เกสกมฺพโลติ วุตฺโต.
เตปิ มยาติ กปฺปโกลาหลํ พุทฺธโกลาหลํ จกฺกวตฺติโกลาหลนฺติ ตีณิ โกลาหลานิ. ตตฺถ ‘‘วสฺสสตสหสฺสมตฺถเก กปฺปุฏฺานํ ภวิสฺสตี’’ติ กปฺปโกลาหลํ นาม โหติ – ‘‘อิโต วสฺสสตสหสฺสมตฺถเก โลโก วินสฺสิสฺสติ, เมตฺตํ มาริสา, ภาเวถ, กรุณํ มุทิตํ อุเปกฺข’’นฺติ มนุสฺสปฺปเถ เทวตา โฆเสนฺติโย วิจรนฺติ. ‘‘วสฺสสหสฺสมตฺถเก ปน พุทฺโธ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ พุทฺธโกลาหลํ นาม โหติ – ‘‘อิโต วสฺสสหสฺสมตฺถเก พุทฺโธ อุปฺปชฺชิตฺวา ธมฺมานุธมฺมปฏิปทํ ปฏิปนฺเนน สงฺฆรตเนน ปริวาริโต ธมฺมํ เทเสนฺโต วิจริสฺสตี’’ติ เทวตา อุคฺโฆเสนฺติ. ‘‘วสฺสสตมตฺถเก ปน จกฺกวตฺตี อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ จกฺกวตฺติโกลาหลํ นาม โหติ – ‘‘อิโต วสฺสสตมตฺถเก สตฺตรตนสมฺปนฺโน จตุทฺทีปิสฺสโร ¶ สหสฺส ปุตฺตปริวาโร เวหาสงฺคโม จกฺกวตฺติราชา อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ เทวตา อุคฺโฆเสนฺติ.
อิเมสุ ตีสุ โกลาหเลสุ อิเม ฉ สตฺถาโร พุทฺธโกลาหลํ สุตฺวา อาจริเย ปยิรุปาสิตฺวา จินฺตามาณิวิชฺชาทีนิ อุคฺคณฺหิตฺวา – ‘‘มยํ พุทฺธมฺหา’’ติ ปฏิฺํ กตฺวา มหาชนปริวุตา ชนปทํ วิจรนฺตา อนุปุพฺเพน สาวตฺถิยํ ปตฺตา. เตสํ อุปฏฺากา ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘มหาราช, ปูรโณ กสฺสโป…เป… อชิโต เกสกมฺพโล พุทฺโธ กิร สพฺพฺู กิรา’’ติ อาโรเจสุํ. ราชา ‘‘ตุมฺเหว เน นิมนฺเตตฺวา อาเนถา’’ติ อาห ¶ . เต คนฺตฺวา เตหิ, ‘‘ราชา โว นิมนฺเตติ. รฺโ เคเห ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ วุตฺตา คนฺตุํ น อุสฺสหนฺติ, ปุนปฺปุนํ วุจฺจมานา อุปฏฺากานํ จิตฺตานุรกฺขณตฺถาย อธิวาเสตฺวา สพฺเพ เอกโตว อคมํสุ. ราชา อาสนานิ ปฺาเปตฺวา ¶ ‘‘นิสีทนฺตู’’ติ อาห. นิคฺคุณานํ อตฺตภาเว ราชุสฺมา นาม ผรติ, เต มหารเหสุ อาสเนสุ นิสีทิตุํ อสกฺโกนฺตา ผลเกสุ เจว ภูมิยํ จ นิสีทึสุ.
ราชา ‘‘เอตฺตเกเนว นตฺถิ เตสํ อนฺโต สุกฺกธมฺโม’’ติ วตฺวา อาหารํ อทตฺวาว ตาลโต ปติตํ มุคฺคเรน โปเถนฺโต วิย ‘‘ตุมฺเห พุทฺธา, น พุทฺธา’’ติ ปฺหํ ปุจฺฉิ. เต จินฺตยึสุ – ‘‘สเจ ‘พุทฺธมฺหา’ติ วกฺขาม, ราชา พุทฺธวิสเย ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา กเถตุํ อสกฺโกนฺเต ‘ตุมฺเห มยํ พุทฺธาติ มหาชนํ วฺเจตฺวา อาหิณฺฑถา’ติ ชิวฺหมฺปิ ฉินฺทาเปยฺย, อฺมฺปิ อนตฺถํ กเรยฺยา’’ติ สกปฏิฺาย เอว ‘น มยํ พุทฺธา’ติ วทึสุ. อถ เน ราชา เคหโต นิกฑฺฒาเปสิ. เต ราชฆรโต นิกฺขนฺเต อุปฏฺากา ปุจฺฉึสุ – ‘‘กึ อาจริยา ราชา ตุมฺเห ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา สกฺการสมฺมานํ อกาสี’’ติ? ราชา ‘‘พุทฺธา ตุมฺเห’’ติ ปุจฺฉิ, ตโต มยํ – ‘‘สเจ อยํ ราชา พุทฺธวิสเย ปฺหํ กถิยมานํ อชานนฺโต อมฺเหสุ มนํ ปโทเสสฺสติ, พหุํ อปฺุํ ปสวิสฺสตี’’ติ รฺโ อนุกมฺปาย ‘น มยํ พุทฺธา’ติ วทิมฺหา, มยํ ปน พุทฺธา เอว, อมฺหากํ พุทฺธภาโว, อุทเกน โธวิตฺวาปิ หริตุํ น สกฺกาติ. อิติ พหิทฺธา ‘พุทฺธมฺหา’ติ ¶ อาหํสุ – รฺโ สนฺติเก ‘น มยํ พุทฺธา’ติ วทึสูติ, อิทํ คเหตฺวา ราชา เอวมาห. ตตฺถ กึ ปน ภวํ โคตโม ทหโร เจว ชาติยา, นโว จ ปพฺพชฺชายาติ อิทํ อตฺตโน ปฏิฺํ คเหตฺวา วทติ. ตตฺถ กินฺติ ปฏิกฺเขปวจนํ. เอเต ชาติมหลฺลกา จ จิรปพฺพชิตา จ ‘‘พุทฺธมฺหา’’ติ น ปฏิชานนฺติ, ภวํ โคตโม ชาติยา จ ทหโร ปพฺพชฺชาย จ นโว กึ ปฏิชานาติ? มา ปฏิชานาหีติ อตฺโถ.
น อฺุาตพฺพาติ น อวชานิตพฺพา. น ปริโภตพฺพาติ น ปริภวิตพฺพา. กตเม จตฺตาโรติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ขตฺติโยติ ราชกุมาโร. อุรโคติ อาสีวิโส. อคฺคีติ อคฺคิเยว. ภิกฺขูติ อิมสฺมึ ปน ปเท เทสนากุสลตาย อตฺตานํ อพฺภนฺตรํ กตฺวา สีลวนฺตํ ปพฺพชิตํ ทสฺเสติ. เอตฺถ ¶ จ ทหรํ ราชกุมารํ ทิสฺวา, อุกฺกมิตฺวา มคฺคํ อเทนฺโต, ปารุปนํ อนปเนนฺโต, นิสินฺนาสนโต อนุฏฺหนฺโต, หตฺถิปิฏฺาทีหิ อโนตรนฺโต, เหฏฺา กตฺวา มฺนวเสน อฺมฺปิ เอวรูปํ อนาจารํ กโรนฺโต ขตฺติยํ อวชานาติ นาม. ‘‘ภทฺทโก วตายํ ราชกุมาโร, มหากณฺโฑ มโหทโร – กึ นาม ยํกิฺจิ โจรูปทฺทวํ วูปสเมตุํ ยตฺถ กตฺถจิ าเน รชฺชํ อนุสาสิตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติอาทีนิ วทนฺโต ปริโภติ นาม. อฺชนิสลากมตฺตมฺปิ อาสีวิสโปตกํ กณฺณาทีสุ ปิฬนฺธนฺโต องฺคุลิมฺปิ ชิวฺหมฺปิ ฑํสาเปนฺโต อุรคํ อวชานาติ นาม ¶ . ‘‘ภทฺทโก วตายํ อาสีวิโส อุทกเทฑฺฑุโภ วิย กึ นาม กิฺจิเทว ฑํสิตุํ กสฺสจิเทว กาเย วิสํ ผริตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติอาทีนิ วทนฺโต ปริโภติ นาม. ขชฺโชปนกมตฺตมฺปิ อคฺคึ คเหตฺวา หตฺเถน กีฬนฺโต ภณฺฑุกฺขลิกาย ขิปนฺโต จูฬาย วา สยนปิฏฺสาฏกปสิพฺพกาทีสุ วา เปนฺโต อคฺคึ อวชานาติ นาม. ‘‘ภทฺทโก วตายํ อคฺคิ กตรํ นุ โข ยาคุภตฺตํ ปจิสฺสติ, กตรํ มจฺฉมํสํ, กสฺส สีตํ วิโนเทสฺสตี’’ติอาทีนิ วทนฺโต ปริโภติ นาม. ทหรสามเณรมฺปิ ปน ทิสฺวา อุกฺกมิตฺวา มคฺคํ อเทนฺโตติ ¶ ราชกุมาเร วุตฺตํ อนาจารํ กโรนฺโต ภิกฺขุํ อวชานาติ นาม. ‘‘ภทฺทโก วตายํ สามเณโร มหากณฺโ มโหทโร ยํกิฺจิ พุทฺธวจนํ อุคฺคเหตุํ ยํกิฺจิ อรฺํ อชฺโฌคาเหตฺวา วสิตุํ สกฺขิสฺสติ, สงฺฆตฺเถรกาเล มนาโป ภวิสฺสตี’’ติอาทีนิ วทนฺโต ปริโภติ นาม. ตํ สพฺพมฺปิ น กาตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต น อฺุาตพฺโพ น ปริโภตพฺโพติ อาห.
เอตทโวจาติ เอตํ คาถาพนฺธํ อโวจ. คาถา จ นาเมตา ตทตฺถทีปนาปิ โหนฺติ วิเสสตฺถทีปนาปิ, ตตฺริมา ตทตฺถมฺปิ วิเสสตฺถมฺปิ ทีเปนฺติเยว. ตตฺถ ขตฺติยนฺติ เขตฺตานํ อธิปตึ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘เขตฺตานํ อธิปตีติ โข, วาเสฏฺ, ‘ขตฺติโย ขตฺติโย’ตฺเวว ทุติยํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺต’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๑๓๑). ชาติสมฺปนฺนนฺติ ตาเยว ขตฺติยชาติยา ชาติสมฺปนฺนํ. อภิชาตนฺติ ตีณิ กุลานิ อติกฺกมิตฺวา ชาตํ.
านํ หีติ การณํ วิชฺชติ. มนุชินฺโทติ มนุสฺสเชฏฺโก. ราชทณฺเฑนาติ รฺโ อุทฺธฏทณฺเฑน, โส อปฺปโก นาม น โหติ, ทสสหสฺสวีสติสหสฺสปฺปมาโณ โหติเยว. ตสฺมึ ปกฺกมเต ภุสนฺติ ¶ ตสฺมึ ปุคฺคเล พลวอุปกฺกมํ อุปกฺกมติ. รกฺขํ ชีวิตมตฺตโนติ อตฺตโน ชีวิตํ รกฺขมาโน ตํ ขตฺติยํ ปริวชฺเชยฺย น ฆฏฺเฏยฺย.
อุจฺจาวเจหีติ นานาวิเธหิ. วณฺเณหีติ สณฺาเนหิ. เยน เยน หิ วณฺเณน จรนฺโต โคจรํ ลภติ, ยทิ สปฺปวณฺเณน, ยทิ เทฑฺฑุภวณฺเณน, ยทิ ธมนิวณฺเณน, อนฺตมโส กลนฺทกวณฺเณนปิ จรติเยว. อาสชฺชาติ ปตฺวา. พาลนฺติ เยน พาเลน ฆฏฺฏิโต, ตํ พาลํ นรํ วา นารึ วา ฑํเสยฺย.
ปหูตภกฺขนฺติ พหุภกฺขํ. อคฺคิสฺส หิ อภกฺขํ นาม นตฺถิ. ชาลินนฺติ ชาลวนฺตํ. ปาวกนฺติ ¶ อคฺคึ. ปาวคนฺติปิ ปาโ. กณฺหวตฺตนินฺติ วตฺตนีติ มคฺโค, อคฺคินา คตมคฺโค กณฺโห โหติ กาฬโก, ตสฺมา ‘‘กณฺหวตฺตนี’’ติ วุจฺจติ.
มหา หุตฺวานาติ มหนฺโต หุตฺวา. อคฺคิ หิ เอกทา ยาวพฺรหฺมโลกปฺปมาโณปิ โหติ. ชายนฺติ ¶ ตตฺถ ปาโรหาติ ตตฺถ อคฺคินา ทฑฺฒวเน ปาโรหา ชายนฺติ. ปาโรหาติ ติณรุกฺขาทโย วุจฺจนฺติ. เต หิ อคฺคินา ทฑฺฒฏฺาเน มูลมตฺเตปิ อวสิฏฺเ ปาทโต โรหนฺติ ชายนฺติ วฑฺฒนฺติ, ตสฺมา ‘‘ปาโรหา’’ติ วุจฺจนฺติ. ปุน โรหนตฺเถน วา ปาโรหา. อโหรตฺตานมจฺจเยติ รตฺตินฺทิวานํ อติกฺกเม. นิทาเฆปิ เทเว วุฏฺมตฺเต ชายนฺติ.
ภิกฺขุ ฑหติ เตชสาติ เอตฺถ อกฺโกสนฺตํ ปจฺจกฺโกสนฺโต ภณฺฑนฺตํ ปฏิภณฺฑนฺโต ปหรนฺตํ ปฏิปหรนฺโต ภิกฺขุ นาม กิฺจิ ภิกฺขุเตชสา ฑหิตุํ น สกฺโกติ. โย ปน อกฺโกสนฺตํ น ปจฺจกฺโกสติ, ภณฺฑนฺตํ น ปฏิภณฺฑติ. ปหรนฺตํ น ปฏิปหรติ, ตสฺมึ วิปฺปฏิปนฺโน ตสฺส สีลเตเชน ฑยฺหติ. เตเนเวตํ วุตฺตํ. น ตสฺส ปุตฺตา ปสโวติ ตสฺส ปุตฺตธีตโรปิ โคมหึสกุกฺกุฏสูกราทโย ปสโวปิ น ภวนฺติ, วินสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ทายาทา วินฺทเร ธนนฺติ ตสฺส ทายาทาปิ ธนํ น วินฺทนฺติ. ตาลาวตฺถู ภวนฺติ เตติ เต ภิกฺขุเตชสา ทฑฺฒา วตฺถุมตฺตาวสิฏฺโ มตฺถกจฺฉินฺนตาโล วิย ภวนฺติ, ปุตฺตธีตาทิวเสน น วฑฺฒนฺตีติ อตฺโถ.
ตสฺมาติ ¶ ยสฺมา สมณเตเชน ทฑฺฒา มตฺถกจฺฉินฺนตาโล วิย อวิรุฬฺหิธมฺมา ภวนฺติ, ตสฺมา. สมฺมเทว สมาจเรติ สมฺมา สมาจเรยฺย. สมฺมา สมาจรนฺเตน ปน กึ กาตพฺพนฺติ? ขตฺติยํ ตาว นิสฺสาย ลทฺธพฺพํ คามนิคมยานวาหนาทิอานิสํสํ, อุรคํ นิสฺสาย ตสฺส กีฬาปเนน ลทฺธพฺพํ วตฺถหิรฺสุวณฺณาทิอานิสํสํ อคฺคึ นิสฺสาย ตสฺสานุภาเวน ปตฺตพฺพํ ยาคุภตฺตปจนสีตวิโนทนาทิอานิสํสํ, ภิกฺขุํ นิสฺสาย ตสฺส วเสน ปตฺตพฺพํ อสุตสวนสุตปริโยทปน-สคฺคมคฺคาธิคมาทิอานิสํสํ สมฺปสฺสมาเนน ‘‘เอเต นิสฺสาย ปุพฺเพ วุตฺตปฺปกาโร อาทีนโว อตฺถิ. กึ อิเมหี’’ติ? น สพฺพโส ปหาตพฺพา. อิสฺสริยตฺถิเกน ปน วุตฺตปฺปการํ อวชานนฺจ ปริภวนฺจ อกตฺวา ปุพฺพุฏฺายิปจฺฉานิปาติตาทีหิ ¶ อุปาเยหิ ขตฺติยกุมาโร โตเสตพฺโพ, เอวํ ตโต อิสฺสริยํ อธิคมิสฺสติ. อหิตุณฺฑิเกน อุรเค วิสฺสาสํ อกตฺวา นาควิชฺชํ ปริวตฺเตตฺวา อชปเทน ทณฺเฑน คีวาย คเหตฺวา วิสหเรน มูเลน ทาา โธวิตฺวา เปฬายํ ปกฺขิปิตฺวา กีฬาเปนฺเตน จริตพฺพํ. เอวํ ตํ นิสฺสาย ฆาสจฺฉาทนาทีนิ ลภิสฺสติ. ยาคุปจนาทีนิ ¶ กตฺตุกาเมน อคฺคึ วิสฺสาเสน ภณฺฑุกฺขลิกาทีสุ อปกฺขิปิตฺวา หตฺเถหิ อนามสนฺเตน โคมยจุณฺณาทีหิ ชาเลตฺวา ยาคุปจนาทีนิ กตฺตพฺพานิ, เอวํ ตํ นิสฺสาย อานิสํสํ ลภิสฺสติ. อสุตสวนาทีนิ ปตฺถยนฺเตนปิ ภิกฺขุํ อติวิสฺสาเสน เวชฺชกมฺมนวกมฺมาทีสุ อโยเชตฺวา จตูหิ ปจฺจเยหิ สกฺกจฺจํ อุปฏฺาตพฺโพ, เอวํ ตํ นิสฺสาย อสุตปุพฺพํ พุทฺธวจนํ อสุตปุพฺพํ ปฺหาวินิจฺฉยํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกํ อตฺถํ ติสฺโส กุลสมฺปตฺติโย ฉ กามสคฺคานิ นว จ พฺรหฺมโลเก ปตฺวา อมตมหานิพฺพานทสฺสนมฺปิ ลภิสฺสตีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย สมฺมเทว สมาจเรติ อาห.
เอตทโวจาติ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปสนฺโน ปสาทํ อาวิกโรนฺโต เอตํ ‘‘อภิกฺกนฺต’’นฺติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ อภิกฺกนฺตนฺติ อภิกนฺตํ อติอิฏฺํ อติมนาปํ, อติสุนฺทรนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ เอเกน อภิกฺกนฺตสทฺเทน เทสนํ โถเมติ ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, ยทิทํ ภควโต ธมฺมเทสนา’’ติ. เอเกน อตฺตโน ¶ ปสาทํ ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, ยทิทํ ภควโต ธมฺมเทสนํ อาคมฺม มม ปสาโท’’ติ.
ตโต ปรํ จตูหิ อุปมาหิ เทสนํเยว โถเมติ. ตตฺถ นิกฺกุชฺชิตนฺติ อโธมุขปิตํ, เหฏฺามุขชาตํ วา. อุกฺกุชฺเชยฺยาติ อุปริมุขํ กเรยฺย. ปฏิจฺฉนฺนนฺติ ติณปณฺณาทิฉาทิตํ. วิวเรยฺยาติ อุคฺฆาเฏยฺย. มูฬฺหสฺสาติ ทิสามูฬฺหสฺส. มคฺคํ อาจิกฺเขยฺยาติ ¶ หตฺเถ คเหตฺวา ‘‘เอส มคฺโค’’ติ วเทยฺย. อนฺธกาเรติ กาฬปกฺขจาตุทฺทสี อฑฺฒรตฺตฆนวนสณฺฑ เมฆปฏเลหิ จตุรงฺเค ตเม. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา โกจิ นิกฺกุชฺชิตํ อุกฺกุชฺเชยฺย, เอวํ สทฺธมฺมวิมุขํ อสทฺธมฺเม ปติตํ มํ อสทฺธมฺมา วุฏฺาเปนฺเตน, ยถา ปฏิจฺฉนฺนํ วิวเรยฺย, เอวํ กสฺสปสฺส ภควโต สาสนนฺตรธานา ปภุติ มิจฺฉาทิฏฺิคหนปฏิจฺฉนฺนํ สาสนํ วิวรนฺเตน, ยถา มูฬฺหสฺส มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, เอวํ กุมฺมคฺคมิจฺฉามคฺคปฏิปนฺนสฺส เม สคฺคโมกฺขมคฺคํ อาวิกโรนฺเตน, ยถา อนฺธกาเร เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย, เอวํ โมหนฺธกาเร นิมุคฺคสฺส เม พุทฺธาทิรตนรูปานิ อปสฺสโต ตปฺปฏิจฺฉาทกโมหนฺธการวิทฺธํสกเทสนาปชฺโชตํ ธาเรนฺเตน มยฺหํ ภควตา เอเตหิ ปริยาเยหิ ปกาสิตตฺตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโตติ.
เอวํ เทสนํ โถเมตฺวา อิมาย เทสนาย รตนตฺตเย ปสนฺนจิตฺโต ปสนฺนาการํ กโรนฺโต เอสาหนฺติอาทิมาห. ตตฺถ เอสาหนฺติ เอโส อหํ. ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจาติ ¶ ภควนฺตฺจ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจาติ อิมํ รตนตฺตยํ สรณํ คจฺฉามิ. อุปาสกํ มํ, ภนฺเต, ภควา ธาเรตูติ มํ ภควา ‘อุปาสโก อย’นฺติ เอวํ ธาเรตุ, ชานาตูติ อตฺโถ. อชฺชตคฺเคติ อชฺชตํ อาทึ กตฺวา. อชฺชทคฺเคติ วา ปาโ, ท-กาโร ปทสนฺธิกโร, อชฺช อคฺคํ กตฺวาติ อตฺโถ. ปาณุเปตนฺติ ปาเณหิ อุเปตํ ยาว เม ชีวิตํ ปวตฺตติ, ตาว อุเปตํ อนฺสตฺถุกํ ตีหิ สรณคมเนหิ สรณํ คตํ อุปาสกํ กปฺปิยการกํ มํ ภควา ธาเรตูติ อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย สามฺผลสุตฺเต สพฺพากาเรน วุตฺโตติ. ปมํ.
๒. ปุริสสุตฺตวณฺณนา
๑๑๓. ทุติเย ¶ ¶ อภิวาเทตฺวาติ ปุริมสุตฺเต สรณคตตฺตา อิธ อภิวาเทสิ. อชฺฌตฺตนฺติ นิยกชฺฌตฺตํ, อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. โลภาทีสุ ลุพฺภนลกฺขโณ โลโภ, ทุสฺสนลกฺขโณ โทโส, มุยฺหนลกฺขโณ โมโหติ. หึสนฺตีติ วิเหเนฺติ นาเสนฺติ วินาเสนฺติ. อตฺตสมฺภูตาติ อตฺตนิ สมฺภูตา. ตจสารํว สมฺผลนฺติ ยถา ตจสารํ เวฬุํ วา นฬํ วา อตฺตโน ผลํ หึสติ วินาเสติ, เอวํ หึสนฺติ วินาเสนฺตีติ. ทุติยํ.
๓. ชรามรณสุตฺตวณฺณนา
๑๑๔. ตติเย อฺตฺร ชรามรณาติ ชรามรณโต มุตฺโต นาม อตฺถีติ วุจฺจติ. ขตฺติยมหาสาลาติ ขตฺติยมหาสาลา นาม มหาสารปฺปตฺตา ขตฺติยา. เยสํ หิ ขตฺติยานํ เหฏฺิมนฺเตน โกฏิสตํ นิธานคตํ โหติ, ตโย กหาปณกุมฺภา วลฺชนตฺถาย เคหมชฺเฌ ราสึ กตฺวา ปิตา โหนฺติ, เต ขตฺติยมหาสาลา นาม. เยสํ พฺราหฺมณานํ อสีติโกฏิธนํ นิหิตํ โหติ, ทิยฑฺโฒ กหาปณกุมฺโภ วลฺชนตฺถาย เคหมชฺเฌ ราสึ กตฺวา ปิโต โหติ, เต พฺราหฺมณมหาสาลา นาม. เยสํ คหปตีนํ จตฺตาลีสโกฏิธนํ นิหิตํ โหติ, กหาปณกุมฺโภ วลฺชนตฺถาย เคหมชฺเฌ ราสึ กตฺวา ปิโต โหติ, เต คหปติมหาสาลา นาม.
อฑฺฒาติ อิสฺสรา. นิธานคตธนสฺส มหนฺตตาย มหทฺธนา. สุวณฺณรชตภาชนาทีนํ อุปโภคภณฺฑานํ มหนฺตตาย มหาโภคา. อนิธานคตสฺส ชาตรูปรชตสฺส ปหูตตาย, ปหูตชาตรูปรชตา ¶ . วิตฺตูปกรณสฺส ตุฏฺิกรณสฺส ปหูตตาย ปหูตวิตฺตูปกรณา. โคธนาทีนฺจ สตฺตวิธธฺานฺจ ปหูตตาย ปหูตธนธฺา. เตสมฺปิ ชาตานํ นตฺถิ อฺตฺร ชรามรณาติ เตสมฺปิ เอวํ อิสฺสรานํ ชาตานํ นิพฺพตฺตานํ นตฺถิ อฺตฺร ชรามรณา, ชาตตฺตาเยว ชรามรณโต โมกฺโข นาม นตฺถิ, อนฺโตชรามรเณเยว โหติ.
อรหนฺโตติอาทีสุ ¶ ¶ อารกา กิเลเสหีติ อรหนฺโต. ขีณา เอเตสํ จตฺตาโร อาสวาติ ขีณาสวา. พฺรหฺมจริยวาสํ วุฏฺา ปรินิฏฺิตวาสาติ วุสิตวนฺโต. จตูหิ มคฺเคหิ กรณียํ เอเตสํ กตนฺติ กตกรณียา. ขนฺธภาโร กิเลสภาโร อภิสงฺขารภาโร กามคุณภาโรติ, อิเม โอหิตา ภารา เอเตสนฺติ โอหิตภารา. อนุปฺปตฺโต อรหตฺตสงฺขาโต สโก อตฺโถ เอเตสนฺติ อนุปฺปตฺตสทตฺถา. ทสวิธมฺปิ ปริกฺขีณํ ภวสํโยชนํ เอเตสนฺติ ปริกฺขีณภวสํโยชนา. สมฺมา การเณหิ ชานิตฺวา วิมุตฺตาติ สมฺมทฺาวิมุตฺตา. มคฺคปฺาย จตุสจฺจธมฺมํ ตฺวา ผลวิมุตฺติยา วิมุตฺตาติ อตฺโถ. เภทนธมฺโมติ ภิชฺชนสภาโว. นิกฺเขปนธมฺโมติ นิกฺขิปิตพฺพสภาโว. ขีณาสวสฺส หิ อชีรณธมฺโมปิ อตฺถิ, อารมฺมณโต ปฏิวิทฺธํ นิพฺพานํ, ตํ หิ น ชีรติ. อิธ ปนสฺส ชีรณธมฺมํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. อตฺถุปฺปตฺติโก กิรสฺส สุตฺตสฺส นิกฺเขโป. สิวิกสาลาย นิสีทิตฺวา กถิตนฺติ วทนฺติ. ตตฺถ ภควา จิตฺรานิ รถยานาทีนิ ทิสฺวา ทิฏฺเมว อุปมํ กตฺวา, ‘‘ชีรนฺติ เว ราชรถา’’ติ คาถมาห.
ตตฺถ ชีรนฺตีติ ชรํ ปาปุณนฺติ. ราชรถาติ รฺโ อภิรูหนรถา. สุจิตฺตาติ สุวณฺณรชตาทีหิ สุฏฺุ จิตฺติตา. อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปตีติ เอวรูเปสุ อนุปาทิณฺณเกสุ สารทารุมเยสุ รเถสุ ชีรนฺเตสุ อิมสฺมึ อชฺฌตฺติเก อุปาทิณฺณเก มํสโลหิตาทิมเย สรีเร กึ วตฺตพฺพํ? สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติเยวาติ อตฺโถ. สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺตีติ สนฺโต สพฺภีหิ สทฺธึ สตํ ธมฺโม น ชรํ อุเปตีติ เอวํ ปเวทยนฺติ. ‘‘สตํ ธมฺโม นาม นิพฺพานํ, ตํ น ชีรติ, อชรํ อมตนฺติ เอวํ กเถนฺตี’’ติ อตฺโถ. ยสฺมา วา นิพฺพานํ อาคมฺม สีทนสภาวา กิเลสา ภิชฺชนฺติ, ตสฺมา ตํ สพฺภีติ วุจฺจติ. อิติ ปุริมปทสฺส การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺตี’’ติ อาห. อิทํ หิ วุตฺตํ โหติ – สตํ ธมฺโม น ชรํ อุเปติ, ตสฺมา สนฺโต สพฺภิ ปเวทยนฺติ. อชรํ นิพฺพานํ สตํ ธมฺโมติ ¶ อาจิกฺขนฺตีติ อตฺโถ. สุนฺทราธิวจนํ วา เอตํ สพฺภีติ. ยํ สพฺภิธมฺมภูตํ นิพฺพานํ สนฺโต ปเวทยนฺติ กถยนฺติ, โส สตํ ธมฺโม น ชรํ อุเปตีติปิ อตฺโถ. ตติยํ.
๔. ปิยสุตฺตวณฺณนา
๑๑๕. จตุตฺเถ ¶ ¶ รโหคตสฺสาติ รหสิ คตสฺส. ปฏิสลฺลีนสฺสาติ นิลีนสฺส เอกีภูตสฺส. เอวเมตํ, มหาราชาติ อิธ ภควา อิมํ สุตฺตํ สพฺพฺุภาสิตํ กโรนฺโต อาห. อนฺตเกนาธิปนฺนสฺสาติ มรเณน อชฺโฌตฺถฏสฺส. จตุตฺถํ.
๕. อตฺตรกฺขิตสุตฺตวณฺณนา
๑๑๖. ปฺจเม หตฺถิกาโยติ หตฺถิฆฏา. เสเสสุปิ เอเสว นโย. สํวโรติ ปิทหนํ. สาธุ สพฺพตฺถ สํวโรติ อิมินา กมฺมปถเภทํ อปตฺตสฺส กมฺมสฺส สํวรํ ทสฺเสติ. ลชฺชีติ หิริมา. ลชฺชีคหเณน เจตฺถ โอตฺตปฺปมฺปิ คหิตเมว โหติ. ปฺจมํ.
๖. อปฺปกสุตฺตวณฺณนา
๑๑๗. ฉฏฺเ อุฬาเร อุฬาเรติ ปณีเต จ พหุเก จ. มชฺชนฺตีติ มานมชฺชเนน มชฺชนฺติ. อติสารนฺติ อติกฺกมํ. กูฏนฺติ ปาสํ. ปจฺฉาสนฺติ ปจฺฉา เตสํ. ฉฏฺํ.
๗. อฑฺฑกรณสุตฺตวณฺณนา
๑๑๘. สตฺตเม กามเหตูติ กามมูลกํ. กามนิทานนฺติ กามปจฺจยา. กามาธิกรณนฺติ กามการณา. สพฺพานิ เหตานิ อฺมฺเววจนาเนว. ภทฺรมุโขติ สุนฺทรมุโข. เอกทิวสํ กิร ราชา อฑฺฑกรเณ นิสีทิ. ตตฺถ ปมตรํ ลฺชํ คเหตฺวา นิสินฺนา อมจฺจา อสฺสามิเกปิ สามิเก กรึสุ. ราชา ตํ ตฺวา – ‘‘มยฺหํ ตาว ปถวิสฺสรสฺส สมฺมุขาเปเต เอวํ กโรนฺติ, ปรมฺมุขา กึ นาม น กริสฺสนฺติ? ปฺายิสฺสติ ทานิ วิฏฏูโภ เสนาปติ สเกน ¶ รชฺเชน, กึ มยฺหํ เอวรูเปหิ ลฺชขาทเกหิ มุสาวาทีหิ สทฺธึ เอกฏฺาเน นิสชฺชายา’’ติ จินฺเตสิ. ตสฺมา เอวมาห. ขิปฺปํว โอฑฺฑิตนฺติ กุมินํ วิย โอฑฺฑิตํ. ยถา มจฺฉา โอฑฺฑิตํ กุมินํ ปวิสนฺตา น ชานนฺติ, เอวํ สตฺตา กิเลสกาเมน วตฺถุกามํ วีติกฺกมนฺตา น ชานนฺตีติ อตฺโถ. สตฺตมํ.
๘. มลฺลิกาสุตฺตวณฺณนา
๑๑๙. อฏฺเม ¶ ¶ อตฺถิ นุ โข เต มลฺลิเกติ กสฺมา ปุจฺฉติ? อยํ กิร มลฺลิกา ทุคฺคตมาลาการสฺส ธีตา, เอกทิวสํ อาปณโต ปูวํ คเหตฺวา ‘‘มาลารามํ คนฺตฺวาว ขาทิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺตี ปฏิปเถ ภิกฺขุสงฺฆปริวารํ ภควนฺตํ ภิกฺขาจารํ ปวิสนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺตา ตํ ภควโต อทาสิ. สตฺถา นิสีทนาการํ ทสฺเสสิ. อานนฺทตฺเถโร จีวรํ ปฺาเปตฺวา อทาสิ. ภควา ตตฺถ นิสีทิตฺวา ตํ ปูวํ ปริภฺุชิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา สิตํ ปาตฺวากาสิ. เถโร ‘‘อิมิสฺสา, ภนฺเต, โก วิปาโก ภวิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉิ. อานนฺท, อชฺเชสา ตถาคตสฺส ปมโภชนํ อทาสิ, อชฺเชว โกสลรฺโ อคฺคมเหสี ภวิสฺสตีติ. ตํทิวสเมว จ ราชา กาสิคาเม ภาคิเนยฺเยน ยุทฺเธน ปราชิโต ปลายิตฺวา นครํ อาคจฺฉนฺโต มาลารามํ ปวิสิตฺวา พลกายสฺส อาคมนํ อาคเมสิ. ตสฺส สา วตฺตํ อกาสิ. โส ตาย วตฺเต ปสีทิตฺวา ตํ อนฺเตปูรํ อติหาราเปตฺวา ตํ อคฺคมเหสิฏฺาเน เปสิ.
อเถกทิวสํ จินฺเตสิ – ‘‘มยา อิมิสฺสา ทุคฺคตกุลสฺส ธีตุยา มหนฺตํ อิสฺสริยํ ทินฺนํ, ยํนูนาหํ อิมํ ปุจฺเฉยฺยํ ‘โก เต ปิโย’ติ? สา ‘ตฺวํ เม, มหาราช, ปิโย’ติ วตฺวา ปุน มํ ปุจฺฉิสฺสติ. อถสฺสาหํ ‘มยฺหมฺปิ ตฺวํเยว ปิยา’ติ วกฺขามี’’ติ. อิติ โส อฺมฺํ วิสฺสาสชนนตฺถํ สมฺโมทนียํ กถํ กเถนฺโต ปุจฺฉติ. สา ปน เทวี ปณฺฑิตา พุทฺธุปฏฺายิกา ธมฺมุปฏฺายิกา สงฺฆุปฏฺายิกา มหาปฺา ¶ , ตสฺมา เอวํ จินฺเตสิ – ‘‘นายํ ปฺโห รฺโ มุขํ โอโลเกตฺวา กเถตพฺโพ’’ติ. สา สรเสเนว กเถตฺวา ราชานํ ปุจฺฉิ. ราชา ตาย สรเสน กถิตตฺตา นิวตฺติตุํ อลภนฺโต สยมฺปิ สรเสเนว กเถตฺวา ‘‘สการณํ อิทํ, ตถาคตสฺส นํ อาโรเจสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา ภควโต อาโรเจสิ. เนวชฺฌคาติ นาธิคจฺฉติ. เอวํ ปิโย ปุถุ อตฺตา ปเรสนฺติ ยถา เอกสฺส อตฺตา ปิโย, เอวํ ปเรสํ ปุถุสตฺตานมฺปิ อตฺตา ปิโยติ อตฺโถ. อฏฺมํ.
๙. ยฺสุตฺตวณฺณนา
๑๒๐. นวเม ¶ ถูณูปนีตานีติ ถูณํ อุปนีตานิ, ถูณาย พทฺธานิ โหนฺติ. ปริกมฺมานิ กโรนฺตีติ เอตฺตาวตา เตหิ ภิกฺขูหิ รฺโ อารทฺธยฺโ ตถาคตสฺส อาโรจิโต. กสฺมา ปน รฺา อยํ ยฺโ อารทฺโธ? ทุสฺสุปินปฏิฆาตาย. เอกทิวสํ กิร ราชา สพฺพาลงฺการปฺปฏิมณฺฑิโต ¶ หตฺถิกฺขนฺธวรคโต นครํ อนุสฺจรนฺโต วาตปานํ วิวริตฺวา โอโลกยมานํ เอกํ อิตฺถึ ทิสฺวา ตสฺสา ปฏิพทฺธจิตฺโต ตโตว ปฏินิวตฺติตฺวา อนฺเตปุรํ ปวิสิตฺวา เอกสฺส ปุริสสฺส ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘คจฺฉ ตสฺสา สสฺสามิกภาวํ วา อสฺสามิกภาวํ วา ชานาหี’’ติ เปเสสิ. โส คนฺตฺวา ปุจฺฉิ. สา ‘‘เอโส เม สามิโก อาปเณ นิสินฺโน’’ติ ทสฺเสสิ. ราชปุริโส รฺโ ตมตฺถํ อาจิกฺขิ. ราชา ตํ ปุริสํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘มํ อุปฏฺหา’’ติ อาห. ‘‘นาหํ, เทว, อุปฏฺหิตุํ ชานามี’’ติ จ วุตฺเต ‘‘อุปฏฺานํ นาม น อาจริยสฺส สนฺติเก อุคฺคเหตพฺพ’’นฺติ พลกฺกาเรน อาวุธผลกํ คาหาเปตฺวา อุปฏฺากํ อกาสิ. อุปฏฺหิตฺวา เคหํ คตมตฺตเมว จ นํ ปุน ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อุปฏฺาเกน นาม รฺโ วจนํ กตฺตพฺพํ, คจฺฉ อิโต โยชนมตฺเต อมฺหากํ สีสโธวนโปกฺขรณี อตฺถิ, ตโต อรุณมตฺติกฺจ โลหิตุปฺปลมาลฺจ คณฺหิตฺวา เอหิ. สเจ อชฺเชว นาคจฺฉสิ, ราชทณฺฑํ กริสฺสามี’’ติ วตฺวา เปเสสิ. โส ราชภเยน นิกฺขมิตฺวา ¶ คโต.
ราชาปิ ตสฺมึ คเต โทวาริกํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘อชฺช สายนฺเหเยว ทฺวารํ ปิทหิตฺวา ‘อหํ ราชทูโต’ติ วา ‘อุปราชทูโต’ติ วา ภณนฺตานมฺปิ มา วิวรี’’ติ อาห. โส ปุริโส มตฺติกฺจ อุปฺปลานิ จ คเหตฺวา ทฺวาเร ปิหิตมตฺเต อาคนฺตฺวา พหุํ วทนฺโตปิ ทฺวารํ อลภิตฺวา ปริสฺสยภเยน เชตวนํ คโต. ราชาปิ ราคปริฬาเหน อภิภูโต กาเล นิสีทติ, กาเล ติฏฺติ, กาเล นิปชฺชติ, สนฺนิฏฺานํ อลภนฺโต ยตฺถ กตฺถจิ นิสินฺนโกว มกฺกฏนิทฺทาย นิทฺทายติ.
ปุพฺเพ ¶ จ ตสฺมึเยว นคเร จตฺตาโร เสฏฺิปุตฺตา ปรทาริกกมฺมํ กตฺวา นนฺโทปนนฺทาย นาม โลหกุมฺภิยา นิพฺพตฺตึสุ. เต เผณุทฺเทหกํ ปจฺจมานา ตึสวสฺสสหสฺสานิ เหฏฺา คจฺฉนฺตา กุมฺภิยา ตลํ ปาปุณนฺติ, ตึสวสฺสสหสฺสานิ อุปริ คจฺฉนฺตา มตฺถกํ ปาปุณนฺติ. เต ตํ ทิวสํ อาโลกํ โอโลเกตฺวา อตฺตโน ทุกฺกฏภเยน เอเกกํ คาถํ วตฺตุกามา วตฺตุํ อสกฺโกนฺตา เอเกกํ อกฺขรเมว อาหํสุ. เอโก ส-การํ, เอโก โส-การํ, เอโก น-การํ, เอโก ทุ-การํ อาห. ราชา เตสํ เนรยิกสตฺตานํ สทฺทํ สุตกาลโต ปฏฺาย สุขํ อวินฺทมาโนว ตํรตฺตาวเสสํ วีตินาเมสิ.
อรุเณ อุฏฺิเต ปุโรหิโต อาคนฺตฺวา ตํ สุขเสยฺยํ ปุจฺฉิ. โส ‘‘กุโต เม, อาจริย, สุข’’นฺติ ¶ ? วตฺวา, ‘‘สุปิเน เอวรูเป สทฺเท อสฺโสสิ’’นฺติ อาจิกฺขิ. พฺราหฺมโณ – ‘‘อิมสฺส รฺโ อิมินา สุปิเนน วุฑฺฒิ วา หานิ วา นตฺถิ, อปิจ โข ปน ยํ อิมสฺส เคเห อตฺถิ, ตํ สมณสฺส โคตมสฺส โหติ, โคตมสาวกานํ โหติ, พฺราหฺมณา กิฺจิ น ลภนฺติ, พฺราหฺมณานํ ภิกฺขํ อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ, ‘‘ภาริโย อยํ, มหาราช, สุปิโน ตีสุ ชานีสุ เอกา ปฺายติ, รชฺชนฺตราโย วา ภวิสฺสติ ชีวิตนฺตราโย วา, เทโว วา น วสฺสิสฺสตี’’ติ อาห. กถํ โสตฺถิ ภเวยฺย อาจริยาติ? ‘‘มนฺเตตฺวา าตุํ สกฺกา, มหาราชาติ. คจฺฉถ อาจริเยหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา อมฺหากํ โสตฺถึ กโรถา’’ติ.
โส สิวิกสาลายํ พฺราหฺมเณ สนฺนิปาเตตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา, ‘‘วิสุํ วิสุํ คนฺตฺวา เอวํ วทถา’’ติ ตโย วคฺเค อกาสิ ¶ . พฺราหฺมณา ปวิสิตฺวา ราชานํ สุขเสยฺยํ ปุจฺฉึสุ. ราชา ปุโรหิตสฺส กถิตนิยาเมเนว กเถตฺวา ‘‘กถํ โสตฺถิ ภเวยฺยา’’ติ ปุจฺฉิ. มหาพฺราหฺมณา – ‘‘สพฺพปฺจสตํ ยฺํ ยชิตฺวา เอตสฺส กมฺมสฺส โสตฺถิ ภเวยฺย, เอวํ, มหาราช, อาจริยา กเถนฺตี’’ติ อาหํสุ. ราชา เตสํ สุตฺวา อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. อถ ทุติยวคฺคพฺราหฺมณาปิ อาคนฺตฺวา ตตฺเถว กเถสุํ. ตถา ตติยวคฺคพฺราหฺมณาปิ. อถ ราชา ‘‘ยฺํ กโรนฺตู’’ติ อาณาเปสิ. ตโต ปฏฺาย พฺราหฺมณา อุสภาทโย ปาเณ อาหราเปสุํ. นคเร มหาสทฺโท อุทปาทิ ¶ . ตํ ปวตฺตึ ตฺวา มลฺลิกา ราชานํ ตถาคตสฺส สนฺติกํ เปเสสิ. โส คนฺตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. อถ นํ ภควา – ‘‘หนฺท กุโต นุ ตฺวํ, มหาราช, อาคจฺฉสิ ทิวาทิวสฺสา’’ติ อาห. ราชา – ‘‘อชฺช เม, ภนฺเต, สุปินเก จตฺตาโร สทฺทา สุตา, โสหํ พฺราหฺมเณ ปุจฺฉึ. พฺราหฺมณา ‘ภาริโย, มหาราช, สุปิโน, สพฺพปฺจสตํ ยฺํ ยชิตฺวา ปฏิกมฺมํ กโรมาติ อารทฺธา’’’ติ อาห. กินฺติ เต, มหาราช, สทฺทา สุตาติ. โส ยถาสุตํ อาโรเจสิ. อถ นํ ภควา อาห – ปุพฺเพ, มหาราช, อิมสฺมึเยว นคเร จตฺตาโร เสฏฺิปุตฺตา ปรทาริกา หุตฺวา นนฺโทปนนฺทาย โลหกุมฺภิยา นิพฺพตฺตา สฏฺิวสฺสสหสฺสมตฺถเก อุคฺคจฺฉึสุ.
ตตฺถ เอโก –
‘‘สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;
นิรเย ปจฺจมานานํ, กทา อนฺโต ภวิสฺสตี’’ติ.(เป. ว. ๘๐๒; ชา. ๑.๔.๕๔) –
อิมํ ¶ คาถํ วตฺถุกาโม อโหสิ. ทุติโย –
‘‘โสหํ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;
วทฺู สีลสมฺปนฺโน, กาหามิ กุสลํ พหุ’’นฺติ. (เป. ว. ๘๐๕; ชา. ๑.๔.๕๖) –
อิมํ คาถํ วตฺถุกาโม อโหสิ. ตติโย –
‘‘นตฺถิ อนฺโต กุโต อนฺโต, น อนฺโต ปฏิทิสฺสติ;
ตทา หิ ปกตํ ปาปํ, มม ตุยฺหฺจ มาริสา’’ติ. (เป. ว. ๘๐๓; ชา. ๑.๔.๕๕) –
อิมํ คาถํ วตฺถุกาโม อโหสิ. จตุตฺโถ –
‘‘ทุชฺชีวิตมชีวิมฺหา, เย สนฺเต น ททมฺหเส;
วิชฺชมาเนสุ โภเคสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน’’ติ. (เป. ว. ๘๐๔; ชา. ๑.๔.๕๓) –
อิมํ ¶ . เต อิมา คาถา วตฺตุํ อสกฺโกนฺตา เอเกกํ อกฺขรํ วตฺวา ตตฺเถว นิมุคฺคา. อิติ, มหาราช, เต เนรยิกสตฺตา ยถากมฺเมน วิรวึสุ. ตสฺส สทฺทสฺส สุตปจฺจยา ตุยฺหํ หานิ วา วุฑฺฒิ วา นตฺถิ. เอตฺตกานํ ปน ปสูนํ ฆาตนกมฺมํ นาม ภาริยนฺติ นิรยภเยน ตชฺเชตฺวา ธมฺมกถํ ¶ กเถสิ. ราชา ทสพเล ปสีทิตฺวา, ‘‘มฺุจามิ, เนสํ ชีวิตํ ททามิ, หริตานิ เจว ติณานิ ขาทนฺตุ, สีตลานิ จ ปานียานิ ปิวนฺตุ, สีโต จ เนสํ วาโต อุปวายตู’’ติ วตฺวา, ‘‘คจฺฉถ หาเรถา’’ติ มนุสฺเส อาณาเปสิ. เต คนฺตฺวา พฺราหฺมเณ ปลาเปตฺวา ตํ ปาณสงฺฆํ พนฺธนโต โมเจตฺวา นคเร ธมฺมเภรึ จราเปสุํ.
อถ ราชา ทสพลสฺส สนฺติเก นิสินฺโน อาห – ‘‘ภนฺเต, เอกรตฺติ นาม ติยามา โหติ, มยฺหํ ปน อชฺช ทฺเว รตฺติโย เอกโต ฆฏิตา วิย อเหสุ’’นฺติ. โสปิ ปุริโส ตตฺเถว นิสินฺโน ¶ อาห – ‘‘ภนฺเต, โยชนํ นาม จตุคาวุตํ โหติ, มยฺหํ ปน อชฺช ทฺเว โยชนานิ เอกโต กตานิ วิย อเหสุ’’นฺติ. อถ ภควา – ‘‘ชาครสฺส ตาว รตฺติยา ทีฆภาโว ปากโฏ, สนฺตสฺส โยชนสฺส ทีฆภาโว ปากโฏ, วฏฺฏปติตสฺส ปน พาลปุถุชฺชนสฺส อนมตคฺคสํสารวฏฺฏํ เอกนฺตทีฆเมวา’’ติ ราชานฺจ ตฺจ ปุริสํ เนรยิกสตฺเต จ อารพฺภ ธมฺมปเท อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘ทีฆา ชาครโต รตฺติ, ทีฆํ สนฺตสฺส โยชนํ;
ทีโฆ พาลานํ สํสาโร, สทฺธมฺมํ อวิชานต’’นฺติ. (ธ. ป. ๖๐);
คาถาปริโยสาเน โส อิตฺถิสามิโก ปุริโส โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ เอตํ การณํ ชานิตฺวา.
อสฺสเมธนฺติอาทีสุ – โปราณราชกาเล กิร สสฺสเมธํ ปุริสเมธํ สมฺมาปาสํ วาจาเปยฺยนฺติ จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ อเหสุํ, เยหิ ราชาโน โลกํ สงฺคณฺหึสุ. ตตฺถ นิปฺผนฺนสสฺสโต ¶ ทสมภาคคฺคหณํ สสฺสเมธํ นาม, สสฺสสมฺปาทเน เมธาวิตาติ อตฺโถ. มหาโยธานํ ฉมาสิกํ ภตฺต-เวตนานุปฺปทานํ ปุริสเมธํ นาม, ปุริสสงฺคณฺหเน เมธาวิตาติ อตฺโถ. ทลิทฺทมนุสฺสานํ หตฺถโต เลขํ คเหตฺวา ตีณิ วสฺสานิ วินาว วฑฺฒิยา สหสฺสทฺวิสหสฺสมตฺตธนานุปฺปทานํ สมฺมาปาสํ นาม. ตฺหิ สมฺมา มนุสฺเส ปาเสติ, หทเย พนฺธิตฺวา วิย เปติ, ตสฺมา สมฺมาปาสนฺติ วุจฺจติ. ‘‘ตาต มาตุลา’’ติอาทินา นเยน สณฺหวาจาภณนํ วาจาเปยฺยํ นาม, ปิยวาจาติ อตฺโถ. เอวํ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ สงฺคหิตํ รฏฺํ อิทฺธฺเจว ¶ โหติ ผีตฺจ ปหูตอนฺนปานํ เขมํ นิรพฺพุทํ. มนุสฺสา มุทา โมทมานา อุเร ปุตฺเต นจฺเจนฺตา อปารุตฆรทฺวารา วิหรนฺติ. อิทํ ฆรทฺวาเรสุ อคฺคฬานํ อภาวโต นิรคฺคฬนฺติ วุจฺจติ. อยํ โปราณิกา ปเวณี.
อปรภาเค ปน โอกฺกากราชกาเล พฺราหฺมณา อิมานิ จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ อิมฺจ รฏฺสมฺปตฺตึ ปริวตฺเตตฺวา อุทฺธํมูลกํ กตฺวา อสฺสเมธํ ปุริสเมธนฺติ อาทิเก ปฺจ ยฺเ นาม อกํสุ. เตสุ อสฺสเมตฺถ เมธนฺติ วธนฺตีติ อสฺสเมโธ. ทฺวีหิ ปริยฺเหิ ยชิตพฺพสฺส เอกวีสติยูปสฺส เอกสฺมึ มชฺฌิมทิวเสเยว สตฺตนวุติปฺจปสุสตฆาตภึสนสฺส เปตฺวา ภูมิฺจ ¶ ปุริเส จ อวเสสสพฺพวิภวทกฺขิณสฺส ยฺสฺเสตํ อธิวจนํ. ปุริสเมตฺถ เมธนฺตีติ ปุริสเมโธ. จตูหิ ปริยฺเหิ ยชิตพฺพสฺส สทฺธึ ภูมิยา อสฺสเมเธ วุตฺตวิภวทกฺขิณสฺส ยฺสฺเสตํ อธิวจนํ. สมฺมเมตฺถ ปาเสนฺตีติ สมฺมาปาโส. ทิวเส ทิวเส สมฺมํ ขิปิตฺวา ตสฺส ¶ ปติโตกาเส เวทึ กตฺวา สํหาริเมหิ ยูปาทีหิ สรสฺสตินทิยา นิมุคฺโคกาสโต ปภุติ ปฏิโลมํ คจฺฉนฺเตน ยชิตพฺพสฺส สตฺรยาคสฺเสตํ อธิวจนํ. วาชเมตฺถ ปิวนฺตีติ วาชเปยฺโย. เอเกน ปริยฺเน สตฺตรสหิ ปสูหิ ยชิตพฺพสฺส เพลุวยูปสฺส สตฺตรสกทกฺขิณสฺส ยฺสฺเสตํ อธิวจนํ. นตฺถิ เอตฺถ อคฺคฬาติ นิรคฺคโฬ. นวหิ ปริยฺเหิ ยชิตพฺพสฺส สทฺธึ ภูมิยา จ ปุริเสหิ จ อสฺสเมเธ วุตฺตวิภวทกฺขิณสฺส สพฺพเมธปริยายนามสฺส อสฺสเมธวิกปฺปสฺเสเวตํ อธิวจนํ. มหารมฺภาติ มหากิจฺจา มหากรณียา. สมฺมคฺคตาติ สมฺมา ปฏิปนฺนา พุทฺธาทโย. นิรารมฺภาติ อปฺปตฺถา อปฺปกิจฺจา. ยชนฺติ อนุกุลนฺติ อนุกุเลสุ ยชนฺติ, ยํ นิจฺจภตฺตาทิ ปุพฺพปุริเสหิ ปฏฺปิตํ, ตํ อปราปรํ อนุปจฺฉินฺนตฺตา มนุสฺสา ททนฺตีติ อตฺโถ. นวมํ.
๑๐. พนฺธนสุตฺตวณฺณนา
๑๒๑. ทสเม อิธ, ภนฺเต, รฺาติ อิทํ เต ภิกฺขู เตสุ มนุสฺเสสุ อานนฺทตฺเถรสฺส สุกตการณํ อาโรเจนฺตา อาโรเจสุํ. รฺโ กิร สกฺเกน กุสราชสฺส ทินฺโน อฏฺวงฺโก มณิ ปเวณิยา อาคโต. ราชา อลงฺกรณกาเล ตํ มณึ อาหรถาติ อาห. มนุสฺสา ‘‘ปิตฏฺาเน ¶ น ปสฺสามา’’ติ อาโรเจสุํ. ราชา อนฺโตฆรจาริโน ‘‘มณึ ปริเยสิตฺวา เทถา’’ติ พนฺธาเปสิ. อานนฺทตฺเถโร เต ทิสฺวา มณิปฏิสามกานํ เอกํ อุปายํ อาจิกฺขิ ¶ . เต รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา ‘‘ปณฺฑิโต เถโร, เถรสฺส วจนํ กโรถา’’ติ. ปฏิสามกมนุสฺสา ราชงฺคเณ อุทกจาฏึ เปตฺวา สาณิยา ปริกฺขิปาเปตฺวา เต มนุสฺเส อาหํสุ – ‘‘สาฏกํ ปารุปิตฺวา เอตฺถ คนฺตฺวา หตฺถํ โอตาเรถา’’ติ. มณิโจโร จินฺเตสิ – ‘‘ราชภณฺฑํ วิสฺสชฺเชตุํ วา วลฺเชตุํ วา น สกฺกา’’ติ. โส เคหํ คนฺตฺวา มณึ อุปกจฺฉเก เปตฺวา สาฏกํ ปารุปิตฺวา อาคมฺม อุทกจาฏิยํ ปกฺขิปิตฺวา ปกฺกามิ. มหาชเน ปฏิกฺกนฺเต ราชมนุสฺสา จาฏิยํ หตฺถํ โอตาเรตฺวา มณึ ทิสฺวา อาหริตฺวา รฺโ อทํสุ. ‘‘อานนฺทตฺเถเรน กิร ทสฺสิตนเยน มณิ ทิฏฺโ’’ติ มหาชโน โกลาหลํ อกาสิ. เต ภิกฺขู ตํ การณํ ตถาคตสฺส อาโรเจนฺตา อิมํ ปวตฺตึ อาโรเจสุํ. สตฺถา – ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, ยํ อานนฺโท มนุสฺสานํ หตฺถารุฬฺหมณึ อาหราเปยฺย ¶ , ยตฺถ ปุพฺเพ ปณฺฑิตา อตฺตโน าเณ ตฺวา อเหตุกปฏิสนฺธิยํ นิพฺพตฺตานํ ติรจฺฉานคตานมฺปิ หตฺถารุฬฺหํ ภณฺฑํ อาหราเปตฺวา รฺโ อทํสู’’ติ วตฺวา –
‘‘อุกฺกฏฺเ สูรมิจฺฉนฺติ, มนฺตีสุ อกุตูหลํ;
ปิยฺจ อนฺนปานมฺหิ, อตฺเถ ชาเต จ ปณฺฑิต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑.๙๒) –
มหาสารชาตกํ กเถสิ.
น ตํ ทฬฺหนฺติ ตํ พนฺธนํ ถิรนฺติ น กเถนฺติ. ยทายสนฺติ ยํ อายสา กตํ. สารตฺตรตฺตาติ สุฏฺุ รตฺตรตฺตา, สารตฺเตน วา รตฺตา สารตฺตรตฺตา, สารํ อิทนฺติ มฺนาย รตฺตาติ อตฺโถ. อเปกฺขาติ อาลโย นิกนฺติ. อาหูติ กเถนฺติ. โอหารินนฺติ จตูสุ อปาเยสุ อากฑฺฒนกํ. สิถิลนฺติ น อายสาทิพนฺธนํ วิย อิริยาปถํ นิวาเรตฺวา ิตํ. เตน หิ พนฺธเนน พทฺธา ปรเทสมฺปิ คจฺฉนฺติเยว. ทุปฺปมฺุจนฺติ อฺตฺร โลกุตฺตราเณน มฺุจิตุํ อสกฺกุเณยฺยนฺติ. ทสมํ.
ปโม วคฺโค.
๒. ทุติยวคฺโค
๑. สตฺตชฏิลสุตฺตวณฺณนา
๑๒๒. ทุติยวคฺคสฺส ¶ ปเม ¶ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเทติ ปุพฺพารามสงฺขาเต วิหาเร มิคารมาตุยา ปาสาเท. ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – อตีเต สตสหสฺสกปฺปมตฺถเก เอกา อุปาสิกา ปทุมุตฺตรํ ภควนฺตํ นิมนฺเตตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สตสหสฺสทานํ ทตฺวา ภควโต ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา – ‘‘อนาคเต ตุมฺหาทิสสฺส พุทฺธสฺส อคฺคุปฏฺายิกา โหมี’’ติ ปตฺถนํ อกาสิ. สา กปฺปสตสหสฺสํ เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สํสริตฺวา อมฺหากํ ภควโต กาเล ภทฺทิยนคเร เมณฺฑกปุตฺตสฺส ธนฺจยเสฏฺิโน เคเห สุมนเทวิยา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ ¶ . ชาตกาเล จสฺสา วิสาขาติ นามํ อกํสุ. สา ยทา ภควา ภทฺทิยนครํ อคมาสิ, ตทา ปฺจหิ ทาริกาสเตหิ สทฺธึ ภควโต ปจฺจุคฺคมนํ คตา ปมทสฺสนมฺหิเยว โสตาปนฺนา อโหสิ. อปรภาเค สาวตฺถิยํ มิคารเสฏฺิปุตฺตสฺส ปุณฺณวฑฺฒนกุมารสฺส เคหํ คตา. ตตฺถ นํ มิคารเสฏฺิ มาติฏฺาเน เปสิ, ตสฺมา มิคารมาตาติ วุจฺจติ. ตาย การิเต ปาสาเท.
พหิ ทฺวารโกฏฺเกติ ปาสาททฺวารโกฏฺกสฺส พหิ, น วิหารทฺวารโกฏฺกสฺส. โส กิร ปาสาโท โลหปาสาโท วิย สมนฺตา จตุทฺวารโกฏฺกยุตฺเตน ปากาเรน ปริกฺขิตฺโต. เตสุ ปาจีนทฺวารโกฏฺกสฺส พหิ ปาสาทจฺฉายายํ ปาจีนโลกธาตุํ โอโลเกนฺโต ปฺตฺเต วรพุทฺธาสเน นิสินฺโน โหติ.
ปรูฬฺหกจฺฉนขโลมาติ ปรูฬฺหกจฺฉา ปรูฬฺหนขา ปรูฬฺหโลมา, กจฺฉาทีสุ ทีฆโลมา ทีฆนขา จาติ อตฺโถ. ขาริวิวิธนฺติ วิวิธขารึ นานปฺปการกํ ปพฺพชิตปริกฺขารภณฺฑกํ. อวิทูเร อติกฺกมนฺตีติ อวิทูรมคฺเคน นครํ ปวิสนฺติ. ราชาหํ ¶ , ภนฺเตติ อหํ, ภนฺเต, ราชา ปเสนทิ โกสโล, มยฺหํ นามํ ตุมฺเห ชานาถาติ. กสฺมา ปน ราชา โลเก อคฺคปุคฺคลสฺส สนฺติเก นิสินฺโน เอวรูปานํ นคฺคโภคฺคนิสฺสิริกานํ อฺชลึ ปคฺคณฺหาตีติ. สงฺคณฺหนตฺถาย. เอวํ หิสฺส อโหสิ – ‘‘สจาหํ เอตฺตกมฺปิ เอเตสํ น กริสฺสามิ ¶ , ‘มยํ ปุตฺตทารํ ปหาย เอตสฺสตฺถาย ทุพฺโภชนทุกฺขเสยฺยาทีนิ อนุโภม, อยํ อมฺหากํ อฺชลิมตฺตมฺปิ น กโรตี’ติ อตฺตนา ทิฏฺํ สุตํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา น กเถยฺยุํ. เอวํ กเต ปน อนิคูหิตฺวา กเถสฺสนฺตี’’ติ. ตสฺมา เอวมกาสิ. อปิจ สตฺถุ อชฺฌาสยชานนตฺถํ เอวมกาสิ.
กาสิกจนฺทนนฺติ สณฺหจนฺทนํ. มาลาคนฺธวิเลปนนฺติ วณฺณคนฺธตฺถาย มาลํ, สุคนฺธภาวตฺถาย คนฺธํ, วณฺณคนฺธตฺถาย วิเลปนฺจ ธาเรนฺเตน.
สํวาเสนาติ สหวาเสน. สีลํ เวทิตพฺพนฺติ อยํ สุสีโล วา ทุสฺสีโล วาติ สํวสนฺเตน อุปสงฺกมนฺเตน ชานิตพฺโพ. ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา น อิตฺตรนฺติ ตฺจ สีลํ ทีเฆน กาเลน เวทิตพฺพํ, น อิตฺตเรน. ทฺวีหตีหฺหิ สํยตากาโร จ สํวุตินฺทฺริยากาโร จ น สกฺกา ทสฺเสตุํ. มนสิกโรตาติ สีลมสฺส ปริคฺคเหสฺสามีติ มนสิกโรนฺเตน ปจฺจเวกฺขนฺเตเนว สกฺกา ¶ ชานิตุํ, น อิตเรน. ปฺวตาติ ตมฺปิ สปฺปฺเเนว ปณฺฑิเตน. พาโล หิ มนสิกโรนฺโตปิ ชานิตุํ น สกฺโกติ.
สํโวหาเรนาติ กถเนน.
‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, โวหารํ อุปชีวติ;
เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, วาณิโช โส น พฺราหฺมโณ’’ติ. (ม. นิ. ๒.๔๕๗) –
เอตฺถ หิ พฺยวหาโร โวหาโร นาม. ‘‘จตฺตาโร อริยโวหารา จตฺตาโร อนริยโวหารา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๑๓) เอตฺถ เจตนา. ‘‘สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร’’ติ (ธ. ส. ๑๓๑๓-๑๓๑๕) เอตฺถ ปฺตฺติ. ‘‘โวหารมตฺเตน โส โวหเรยฺยา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๕) เอตฺถ กถา โวหาโร. อิธาปิ เอโสว อธิปฺเปโต. เอกจฺจสฺส หิ สมฺมุขา กถา ปรมฺมุขาย กถาย น สเมติ, ปรมฺมุขา ¶ กถา จ สมฺมุขาย กถาย, ตถา ปุริมกถา จ ปจฺฉิมกถาย, ปจฺฉิมกถา จ ปุริมกถาย. โส กเถนฺเตเนว สกฺกา ชานิตุํ ‘‘อสุจิ เอโส ปุคฺคโล’’ติ. สุจิสีลสฺส ปน ปุริมํ ปจฺฉิเมน, ปจฺฉิมฺจ ปุริเมน สเมติ, สมฺมุขากถิตํ ปรมฺมุขากถิเตน, ปรมฺมุขากถิตฺจ สมฺมุขากถิเตน, ตสฺมา กเถนฺเตน สกฺกา สุจิภาโว ชานิตุนฺติ ปกาเสนฺโต เอวมาห.
ถาโมติ ¶ าณถาโม. ยสฺส หิ าณถาโม นตฺถิ, โส อุปฺปนฺเนสุ อุปทฺทเวสุ คเหตพฺพคฺคหณํ กตพฺพกิจฺจํ อปสฺสนฺโต อทฺวารฆรํ ปวิฏฺโ วิย จรติ. เตนาห อาปทาสุ โข, มหาราช, ถาโม เวทิตพฺโพติ. สากจฺฉายาติ สํกถาย. ทุปฺปฺสฺส หิ กถา อุทเก เคณฺฑุ วิย อุปฺปลวติ, ปฺวโต กเถนฺตสฺส ปฏิภานํ อนนฺตรํ โหติ. อุทกวิปฺผนฺทิเตเนว หิ มจฺโฉ ขุทฺทโก วา มหนฺโต วาติ ายติ. โอจรกาติ เหฏฺาจรกา. จรา หิ ปพฺพตมตฺถเกน จรนฺตาปิ เหฏฺา – จรกาว โหนฺติ. โอจริตฺวาติ อวจริตฺวา วีมํสิตฺวา, ตํ ตํ ปวตฺตึ ตฺวาติ อตฺโถ. รโชชลฺลนฺติ รชฺจ ชลฺลฺจ. วณฺณรูเปนาติ วณฺณสณฺาเนน. อิตฺตรทสฺสเนนาติ ลหุกทสฺสเนน. วิยฺชเนนาติ ปริกฺขารภณฺฑเกน. ปติรูปโก มตฺติกากุณฺฑโลวาติ สุวณฺณกุณฺฑลปติรูปโก มตฺติกากุณฺฑโลว. โลหฑฺฒมาโสติ โลหฑฺฒมาสโก. ปมํ.
๒. ปฺจราชสุตฺตวณฺณนา
๑๒๓. ทุติเย ¶ รูปาติ นีลปีตาทิเภทํ รูปารมฺมณํ. กามานํ อคฺคนฺติ เอตํ กามานํ อุตฺตมํ เสฏฺนฺติ รูปครุโก อาห. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ยโตติ ยทา. มนาปปริยนฺตนฺติ ¶ มนาปนิปฺผตฺติกํ มนาปโกฏิกํ. ตตฺถ ทฺเว มนาปานิ ปุคฺคลมนาปํ สมฺมุติมนาปฺจ. ปุคฺคลมนาปํ นาม ยํ เอกสฺส ปุคฺคลสฺส อิฏฺํ กนฺตํ โหติ, ตเทว อฺสฺส อนิฏฺํ อกนฺตํ. ปจฺจนฺตวาสีนฺหิ คณฺฑุปฺปาทาปิ อิฏฺา โหนฺติ กนฺตา มนาปา, มชฺฌิมเทสวาสีนํ อติเชคุจฺฉา. เตสฺจ โมรมํสาทีนิ อิฏฺานิ โหนฺติ, อิตเรสํ ตานิ อติเชคุจฺฉานิ. อิทํ ปุคฺคลมนาปํ. อิตรํ สมฺมุติมนาปํ.
อิฏฺานิฏฺารมฺมณํ นาม โลเก ปฏิวิภตฺตํ นตฺถิ, วิภชิตฺวา ปน ทสฺเสตพฺพํ. วิภชนฺเตน จ น อติอิสฺสรานํ มหาสมฺมตมหาสุทสฺสนธมฺมาโสกาทีนํ วเสน วิภชิตพฺพํ. เตสฺหิ ทิปฺปกปฺปมฺปิ อารมฺมณํ อมนาปํ อุปฏฺาติ. อติทุคฺคตานํ ทุลฺลภนฺนปานานํ วเสนปิ น วิภชิตพฺพํ. เตสฺหิ กณาชกภตฺตสิตฺถานิปิ ปูติมํสสฺส รโสปิ อติมธุโร อมตสทิโส โหติ. มชฺฌิมานํ ปน คณกมหามตฺตเสฏฺิ กุฏุมฺพิกวาณิชาทีนํ กาเลน ¶ อิฏฺํ กาเลน อนิฏฺํ ลภมานานํ วเสน วิภชิตพฺพํ. ตฺจ ปเนตํ อารมฺมณํ ชวนํ ปริจฺฉินฺทิตุํ น สกฺโกติ. ชวนฺหิ อิฏฺเปิ รชฺชติ อนิฏฺเปิ, อิฏฺเปิ ทุสฺสติ อนิฏฺเปิ. เอกนฺตโต ปน วิปากจิตฺตํ อิฏฺานิฏฺํ ปริจฺฉินฺทติ. กิฺจาปิ หิ มิจฺฉาทิฏฺิกา พุทฺธํ วา สงฺฆํ วา มหาเจติยาทีนิ วา อุฬารานิ อารมฺมณานิ ทิสฺวา อกฺขีนิ ปิทหนฺติ โทมนสฺสํ อาปชฺชนฺติ, ธมฺมสทฺทํ สุตฺวา กณฺเณ ถเกนฺติ, จกฺขุวิฺาณโสตวิฺาณานิ ปน เตสํ กุสลวิปากาเนว โหนฺติ. กิฺจาปิ คูถสูกราทโย คูถคนฺธํ ฆายิตฺวา ขาทิตุํ ลภิสฺสามาติ โสมนสฺสชาตา โหนฺติ, คูถทสฺสเน ปน เนสํ จกฺขุวิฺาณํ, ตสฺส คนฺธฆายเน ฆานวิฺาณํ, รสสายเน ชิวฺหาวิฺาณฺจ อกุสลวิปากเมว โหติ. ภควา ปน ปุคฺคลมนาปตํ สนฺธาย เต จ, มหาราช, รูปาติอาทิมาห.
จนฺทนงฺคลิโกติ อิทํ ตสฺส อุปาสกสฺส นามํ. ปฏิภาติ มํ ภควาติ ภควา มยฺหํ เอกํ การณํ อุปฏฺาติ ปฺายติ. ตสฺส เต ปฺจ ราชาโน อามุตฺตมณิกุณฺฑเล สชฺชิตาย ¶ อาปานภูมิยา นิสินฺนวเสเนว มหตา ราชานุภาเวน ปรเมน อิสฺสริยวิภเวน อาคนฺตฺวาปิ ทสพลสฺส ¶ สนฺติเก ิตกาลโต ปฏฺาย ทิวา ปทีเป วิย อุทกาภิสิตฺเต องฺคาเร วิย สูริยุฏฺาเน ขชฺโชปนเก วิย จ หตปฺปเภ หตโสเภ ตํ ตถาคตฺจ เตหิ สตคุเณน สหสฺสคุเณน วิโรจมานํ ทิสฺวา, ‘‘มหนฺตา วต โภ พุทฺธา นามา’’ติ ปฏิภานํ อุทปาทิ. ตสฺมา เอวมาห.
โกกนทนฺติ ปทุมสฺเสเวตํ เววจนํ. ปาโตติ กาลสฺเสว. สิยาติ ภเวยฺย. อวีตคนฺธนฺติ อวิคตคนฺธํ. องฺคีรสนฺติ สมฺมาสมฺพุทฺธํ. ภควโต หิ องฺคโต รสฺมิโย นิกฺขมนฺติ, ตสฺมา องฺคีรโสติ วุจฺจติ. ยถา โกกนทสงฺขาตํ ปทุมํ ปาโตว ผุลฺลํ อวีตคนฺธํ สิยา, เอวเมว ภควนฺตํ องฺคีรสํ ตปนฺตํ อาทิจฺจมิว อนฺตลิกฺเข วิโรจมานํ ปสฺสาติ อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ. ภควนฺตํ อจฺฉาเทสีติ ภควโต อทาสีติ อตฺโถ. โลกโวหารโต ปเนตฺถ อีทิสํ วจนํ โหติ. โส กิร อุปาสโก – ‘‘เอเต ตถาคตสฺส คุเณสุ ปสีทิตฺวา มยฺหํ ปฺจ อุตฺตราสงฺเค ¶ เทนฺติ, อหมฺปิ เต ภควโตว ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อทาสิ. ทุติยํ.
๓. โทณปากสุตฺตวณฺณนา
๑๒๔. ตติเย โทณปากกุรนฺติ โทณปากํ กุรํ, โทณสฺส ตณฺฑุลานํ ปกฺกภตฺตํ ตทูปิยฺจ สูปพฺยฺชนํ ภฺุชตีติ อตฺโถ. ภุตฺตาวีติ ปุพฺเพ ภตฺตสมฺมทํ วิโนเทตฺวา มุหุตฺตํ วิสฺสมิตฺวา พุทฺธุปฏฺานํ คจฺฉติ, ตํทิวสํ ปน ภฺุชนฺโตว ทสพลํ สริตฺวา หตฺเถ โธวิตฺวา อคมาสิ. มหสฺสาสีติ ตสฺส คจฺฉโต พลวา ภตฺตปรีฬาโห อุทปาทิ, ตสฺมา มหนฺเตหิ อสฺสาเสหิ อสฺสสติ, คตฺตโตปิสฺส เสทพินฺทูนิ มุจฺจนฺติ, ตเมนํ อุโภสุ ปสฺเสสุ ตฺวา ยมกตาลวณฺเฏหิ พีชนฺติ, พุทฺธคารเวน ปน นิปชฺชิตุํ น อุสฺสหตีติ อิทํ สนฺธาย ‘‘มหสฺสาสี’’ติ วุตฺตํ. อิมํ คาถํ อภาสีติ, ราชา โภชเน ¶ อมตฺตฺุตาย กิลมติ, ผาสุ วิหารํ ทานิสฺส กริสฺสามีติ จินฺเตตฺวา อภาสิ. มนุชสฺสาติ สตฺตสฺส. กหาปณสตนฺติ ปาตราเส ปณฺณาสํ สายมาเส ปณฺณาสนฺติ เอวํ กหาปณสตํ. ปริยาปุณิตฺวาติ รฺา สทฺธึ โถกํ คนฺตฺวา ‘‘อิมํ มงฺคลอสึ กสฺส ทมฺมิ, มหาราชา’’ติ? อสุกสฺส นาม เทหีติ โส ตํ อสึ ทตฺวา ทสพลสฺส สนฺติกํ อาคมฺม วนฺทิตฺวา ิตโกว ‘‘คาถํ วทถ, โภ โคตมา’’ติ วตฺวา ภควตา วุตฺตํ ปริยาปุณิตฺวาติ อตฺโถ.
ภตฺตาภิหาเร ¶ สุทํ ภาสตีติ กถํ ภาสติ? ภควตา อนุสิฏฺินิยาเมน. ภควา หิ นํ เอวํ อนุสาสิ – ‘‘มาณว, อิมํ คาถํ นโฏ วิย ปตฺตปตฺตฏฺาเน มา อวจ, รฺโ ภฺุชนฏฺาเน ตฺวา ปมปิณฺฑาทีสุปิ อวตฺวา โวสานปิณฺเฑ คหิเต วเทยฺยาสิ, ราชา สุตฺวาว ภตฺตปิณฺฑํ ฉฑฺเฑสฺสติ. อถ รฺโ หตฺเถสุ โธเตสุ ปาตึ อปเนตฺวา สิตฺถานิ คเณตฺวา ตทุปิยํ พฺยฺชนํ ตฺวา ปุนทิวเส ตาวตเก ตณฺฑุเล หาเรยฺยาสิ, ปาตราเส จ วตฺวา สายมาเส มา วเทยฺยาสี’’ติ. โส สาธูติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ตํทิวสํ รฺโ ปาตราสํ ภุตฺวา คตตฺตา สายมาเส ภควโต อนุสิฏฺินิยาเมน คาถํ อภาสิ ¶ . ราชา ทสพลสฺส วจนํ สริตฺวา ภตฺตปิณฺฑํ ปาติยํเยว ฉฑฺเฑสิ. รฺโ หตฺเถสุ โธเตสุ ปาตึ อปเนตฺวา สิตฺถานิ คเณตฺวา ตทุปิยํ พฺยฺชนํ ตฺวา ปุนทิวเส ตตฺตเก ตณฺฑุเล หรึสุ.
นาฬิโกทนปรมตาย สณฺาสีติ โส กิร มาณโว ทิวเส ทิวเส ตถาคตสฺส สนฺติกํ คจฺฉติ, ทสพลสฺส วิสฺสาสิโก อโหสิ. อถ นํ เอกทิวสํ ปุจฺฉิ ‘‘ราชา กิตฺตกํ ภฺุชตี’’ติ? โส ‘‘นาฬิโกทน’’นฺติ อาห. วฏฺฏิสฺสติ เอตฺตาวตา ปุริสภาโค เอส, อิโต ปฏฺาย คาถํ มา วทีติ. อิติ ราชา ตตฺเถว สณฺาสิ. ทิฏฺธมฺมิเกน เจว อตฺเถน สมฺปรายิเกน จาติ เอตฺถ สลฺลิขิตสรีรตา ทิฏฺธมฺมิกตฺโถ นาม, สีลํ สมฺปรายิกตฺโถ. โภชเน มตฺตฺุตา หิ สีลงฺคํ นาม โหตีติ. ตติยํ.
๔. ปมสงฺคามสุตฺตวณฺณนา
๑๒๕. จตุตฺเถ ¶ เวเทหิปุตฺโตติ เวเทหีติ ปณฺฑิตาธิวจนเมตํ, ปณฺฑิติตฺถิยา ปุตฺโตติ อตฺโถ. จตุรงฺคินินฺติ หตฺถิอสฺสรถปตฺติสงฺขาเตหิ จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ. สนฺนยฺหิตฺวาติ จมฺมปฏิมฺุจนาทีหิ สนฺนาหํ กาเรตฺวา. สงฺคาเมสุนฺติ ยุชฺฌึสุ. เกน การเณน? มหาโกสลรฺา กิร พิมฺพิสารสฺส ธีตรํ เทนฺเตน ทฺวินฺนํ รชฺชานํ อนฺตเร สตสหสฺสุฏฺาโน กาสิคาโม นาม ธีตุ ทินฺโน. อชาตสตฺตุนา จ ปิตริ มาริเต มาตาปิสฺส รฺโ วิโยคโสเกน นจิรสฺเสว มตา. ตโต ราชา ปเสนทิ โกสโล – ‘‘อชาตสตฺตุนา มาตาปิตโร มาริตา, มยฺหํ ปิตุ สนฺตโก คาโม’’ติ ตสฺสตฺถาย อฑฺฑํ กโรติ. อชาตสตฺตุปิ ‘‘มยฺหํ มาตุ สนฺตโก’’ติ ตสฺส คามสฺสตฺถาย ทฺเวปิ มาตุลภาคิเนยฺยา ยุชฺฌึสุ.
ปาปา ¶ เทวทตฺตาทโย มิตฺตา อสฺสาติ ปาปมิตฺโต. เตเยวสฺส สหายาติ ปาปสหาโย. เตสฺเววสฺส จิตฺตํ นินฺนํ สมฺปวงฺกนฺติ ปาปสมฺปวงฺโก. ปเสนทิสฺส สาริปุตฺตตฺเถราทีนํ วเสน กลฺยาณมิตฺตาทิตา เวทิตพฺพา. ทุกฺขํ เสตีติ ชิตานิ หตฺถิอาทีนิ อนุโสจนฺโต ทุกฺขํ สยิสฺสติ. อิทํ ภควา ปุน ตสฺส ชยการณํ ทิสฺวา อาห. ชยํ เวรํ ปสวตีติ ชินนฺโต เวรํ ปสวติ, เวริปุคฺคลํ ลภติ. จตุตฺถํ.
๕. ทุติยสงฺคามสุตฺตวณฺณนา
๑๒๖. ปฺจเม ¶ อพฺภุยฺยาสีติ ปราชเย ครหปฺปตฺโต ‘‘อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ กถาสลฺลาปํ สุณาถา’’ติ รตฺติภาเค พุทฺธรกฺขิเตน นาม วุฑฺฒปพฺพชิเตน ธมฺมรกฺขิตสฺส วุฑฺฒปพฺพชิตสฺส ‘‘สเจ ราชา อิมฺจ อุปายํ กตฺวา คจฺเฉยฺย, ปุน ชิเนยฺยา’’ติ วุตฺตชยการณํ สุตฺวา อภิอุยฺยาสิ.
ยาวสฺส อุปกปฺปตีติ ยาว ตสฺส อุปกปฺปติ สยฺหํ โหติ. ยทา จฺเติ ยทา อฺเ. วิลุมฺปนฺตีติ ตํ วิลุมฺปิตฺวา ¶ ิตปุคฺคลํ วิลุมฺปนฺติ. วิลุมฺปตีติ วิลุมฺปิยติ. านํ หิ มฺตีติ ‘‘การณ’’นฺติ หิ มฺติ. ยทาติ ยสฺมึ กาเล. เชตารํ ลภเต ชยนฺติ ชยนฺโต ปุคฺคโล ปจฺฉา เชตารมฺปิ ลภติ. โรเสตารนฺติ ฆฏฺเฏตารํ. โรสโกติ ฆฏฺฏโก. กมฺมวิวฏฺเฏนาติ กมฺมปริณาเมน, ตสฺส วิลุมฺปนกมฺมสฺส วิปากทาเนน. โส วิลุตฺโต วิลุปฺปตีติ โส วิลุมฺปโก วิลุมฺปิยติ. ปฺจมํ.
๖. มลฺลิกาสุตฺตวณฺณนา
๑๒๗. ฉฏฺเ อุปสงฺกมีติ มลฺลิกาย เทวิยา คพฺภวุฏฺานกาเล สูติฆรํ ปฏิชคฺคาเปตฺวา อารกฺขํ ทตฺวา อุปสงฺกมิ. อนตฺตมโน อโหสีติ, ‘‘ทุคฺคตกุลสฺส เม ธีตุ มหนฺตํ อิสฺสริยํ ทินฺนํ, สเจ ปุตฺตํ อลภิสฺส, มหนฺตํ สกฺการํ อธิคมิสฺส, ตโต ทานิ ปริหีนา’’ติ อนตฺตมโน อโหสิ. เสยฺยาติ ทนฺธปฺสฺมา เอลมูคปุตฺตโต เอกจฺจา อิตฺถีเยว เสยฺยา. โปสาติ โปเสหิ. ชนาธิปาติ ชนาธิภุํ ราชานํ อาลปติ. สสฺสุเทวาติ สสฺสุสสุรเทวตา. ทิสมฺปตีติ ทิสาเชฏฺกา. ตาทิสา สุภคิยาติ ตาทิสาย สุภริยาย. ฉฏฺํ.
๗. อปฺปมาทสุตฺตวณฺณนา
๑๒๘. สตฺตเม ¶ สมธิคฺคยฺหาติ สมธิคฺคณฺหิตฺวา, อาทิยิตฺวาติ อตฺโถ. อปฺปมาโทติ การาปกอปฺปมาโท. สโมธานนฺติ สมวธานํ อุปกฺเขปํ. เอวเมว โขติ หตฺถิปทํ วิย หิ การาปกอปฺปมาโท, เสสปทชาตานิ วิย อวเสสา จตุภูมกา กุสลธมฺมา. เต หตฺถิปเท เสสปทานิ วิย ¶ ¶ อปฺปมาเท สโมธานํ คจฺฉนฺติ, อปฺปมาทสฺส อนฺโต ปริวตฺตนฺติ. ยถา จ หตฺถิปทํ เสสปทานํ อคฺคํ เสฏฺํ, เอวํ อปฺปมาโท เสสธมฺมานนฺติ ทสฺเสติ. มหคฺคตโลกุตฺตรธมฺมานมฺปิ เหส ปฏิลาภกฏฺเน โลกิโยปิ สมาโน อคฺโคว โหติ.
อปฺปมาทํ ปสํสนฺตีติ ‘‘เอตานิ อายุอาทีนิ ปตฺถยนฺเตน อปฺปมาโทว กาตพฺโพ’’ติ อปฺปมาทเมว ปสํสนฺติ. ยสฺมา วา ปฺุกิริยาสุ ปณฺฑิตา อปฺปมาทํ ปสํสนฺติ, ตสฺมา อายุอาทีนิ ปตฺถยนฺเตน อปฺปมาโทว กาตพฺโพติ อตฺโถ. อตฺถาภิสมยาติ อตฺถปฏิลาภา. สตฺตมํ.
๘. กลฺยาณมิตฺตสุตฺตวณฺณนา
๑๒๙. อฏฺเม โส จ โข กลฺยาณมิตฺตสฺสาติ โส จายํ ธมฺโม กลฺยาณมิตฺตสฺเสว สฺวากฺขาโต นาม โหติ, น ปาปมิตฺตสฺสาติ. กิฺจาปิ หิ ธมฺโม สพฺเพสมฺปิ สฺวากฺขาโตว, กลฺยาณมิตฺตสฺส ปน สุสฺสูสนฺตสฺส สทฺทหนฺตสฺส อตฺถํ ปูเรติ เภสชฺชํ วิย วฬฺชนฺตสฺส น อิตรสฺสาติ. เตเนตํ วุตฺตํ. ธมฺโมติ เจตฺถ เทสนาธมฺโม เวทิตพฺโพ.
อุปฑฺฒมิทนฺติ เถโร กิร รโหคโต จินฺเตสิ – ‘‘อยํ สมณธมฺโม นาม โอวาทเก อนุสาสเก กลฺยาณมิตฺเต สติ ปจฺจตฺตปุริสกาเร ิตสฺส สมฺปชฺชติ, อุปฑฺฒํ กลฺยาณมิตฺตโต โหติ, อุปฑฺฒํ ปจฺจตฺตปุริสการโต’’ติ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อหํ ปเทสาเณ ิโต นิปฺปเทสํ จินฺเตตุํ น สกฺโกมิ, สตฺถารํ ปุจฺฉิตฺวา นิกฺกงฺโข ภวิสฺสามี’’ติ. ตสฺมา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห. พฺรหฺมจริยสฺสาติ อริยมคฺคสฺส. ยทิทํ กลฺยาณมิตฺตตาติ ยา เอสา กลฺยาณมิตฺตตา นาม, สา อุปฑฺฒํ, ตโต อุปฑฺฒํ อาคจฺฉตีติ อตฺโถ. อิติ เถเรน ‘‘อุปฑฺฒุปฑฺฒา สมฺมาทิฏฺิอาทโย กลฺยาณมิตฺตโต อาคจฺฉนฺติ, อุปฑฺฒุปฑฺฒา ปจฺจตฺตปุริสการโต’’ติ วุตฺตํ. กิฺจาปิ ¶ เถรสฺส อยํ มโนรโถ, ยถา ปน พหูหิ สิลาถมฺเภ อุสฺสาปิเต, ‘‘เอตฺตกํ านํ อสุเกน อุสฺสาปิตํ, เอตฺตกํ อสุเกนา’’ติ วินิพฺโภโค นตฺถิ, ยถา จ มาตาปิตโร นิสฺสาย อุปฺปนฺเนสุ ปุตฺเตสุ ‘‘เอตฺตกํ มาติโต ¶ นิพฺพตฺตํ, เอตฺตกํ ปิติโต’’ติ วินิพฺโภโค นตฺถิ, เอวํ อิธาปิ อวินิพฺโภคธมฺโม เหส, ‘‘เอตฺตกํ สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ ¶ กลฺยาณมิตฺตโต นิพฺพตฺตํ, เอตฺตกํ ปจฺจตฺตปุริสการโต’’ติ น สกฺกา ลทฺธุํ, กลฺยาณมิตฺตตาย ปน อุปฑฺฒคุโณ ลพฺภตีติ เถรสฺส อชฺฌาสเยน อุปฑฺฒํ นาม ชาตํ, สกลคุโณ ปฏิลพฺภตีติ ภควโต อชฺฌาสเยน สกลํ นาม ชาตํ. กลฺยาณมิตฺตตาติ เจตํ ปุพฺพภาคปฏิลาภงฺคํ นามาติ คหิตํ. อตฺถโต กลฺยาณมิตฺตํ นิสฺสาย ลทฺธา สีลสมาธิวิปสฺสนาวเสน จตฺตาโร ขนฺธา. สงฺขารกฺขนฺโธติปิ วทนฺติเยว.
มา เหวํ, อานนฺทาติ, อานนฺท, มา เอวํ อภณิ, พหุสฺสุโต ตฺวํ เสขปฏิสมฺภิทปฺปตฺโต อฏฺ วเร คเหตฺวา มํ อุปฏฺหสิ, จตูหิ อจฺฉริยพฺภุตธมฺเมหิ สมนฺนาคโต, ตาทิสสฺส เอวํ กเถตุํ น วฏฺฏติ. สกลเมว หิทํ, อานนฺท, พฺรหฺมจริยํ, ยทิทํ กลฺยาณมิตฺตตาติ อิทํ ภควา – ‘‘จตฺตาโร มคฺคา จตฺตาริ ผลานิ ติสฺโส วิชฺชา ฉ อภิฺา สพฺพํ กลฺยาณมิตฺตมูลกเมว โหตี’’ติ สนฺธายาห. อิทานิ วจีเภเทเนว การณํ ทสฺเสนฺโต กลฺยาณมิตฺตสฺเสตนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปาฏิกงฺขนฺติ ปาฏิกงฺขิตพฺพํ อิจฺฉิตพฺพํ, อวสฺสํภาวีติ อตฺโถ.
อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. สมฺมาทิฏฺึ ภาเวตีติอาทีสุ อฏฺนฺนํ อาทิปทานํเยว ตาว อยํ สงฺเขปวณฺณนา – สมฺมา ทสฺสนลกฺขณา สมฺมาทิฏฺิ. สมฺมา อภินิโรปนลกฺขโณ สมฺมาสงฺกปฺโป. สมฺมา ปริคฺคหณลกฺขณา สมฺมาวาจา. สมฺมา สมุฏฺาปนลกฺขโณ สมฺมากมฺมนฺโต. สมฺมา โวทาปนลกฺขณา สมฺมาอาชีโว. สมฺมา ปคฺคหลกฺขโณ สมฺมาวายาโม. สมฺมา อุปฏฺานลกฺขณา สมฺมาสติ. สมฺมา สมาธานลกฺขโณ สมฺมาสมาธิ.
เตสุ เอเกกสฺส ตีณิ กิจฺจานิ โหนฺติ. เสยฺยาถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ ตาว อฺเหิปิ อตฺตโน ปจฺจนีกกิเลเสหิ สทฺธึ มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหติ, นิโรธํ อารมฺมณํ กโรติ, สมฺปยุตฺตธมฺเม จ ปสฺสติ ตปฺปฏิจฺฉาทกโมหวิธมนวเสน อสมฺโมหโต. สมฺมาสงฺกปฺปาทโยปิ ตเถว มิจฺฉาสงฺกปฺปาทีนิ จ ปชหนฺติ, นิโรธฺจ อารมฺมณํ กโรนฺติ. วิเสสโต ปเนตฺถ สมฺมาทิฏฺิ สหชาตธมฺเม สมฺมา ทสฺเสติ ¶ . สมฺมาสงฺกปฺโป สหชาตธมฺเม อภินิโรเปติ, สมฺมาวาจา สมฺมา ปริคฺคณฺหาติ, สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมา ¶ สมุฏฺาเปติ, สมฺมาอาชีโว สมฺมา โวทาเปติ ¶ , สมฺมาวายาโม สมฺมา ปคฺคณฺหาติ, สมฺมาสติ สมฺมา อุปฏฺาเปติ, สมฺมาสมาธิ สมฺมา ทหติ.
อปิเจสา สมฺมาทิฏฺิ นาม ปุพฺพภาเค นานาขณา นานารมฺมณา โหติ, มคฺคกาเล เอกกฺขณา เอการมฺมณา. กิจฺจโต ปน สมฺมาทิฏฺิ ทุกฺเข าณนฺติอาทีนิ จตฺตาริ นามานิ ลภติ. สมฺมาสงฺกปฺปาทโยปิ ปุพฺพภาเค นานาขณา นานารมฺมณา โหนฺติ, มคฺคกาเล เอกกฺขณา เอการมฺมณา. เตสุ สมฺมาสงฺกปฺโป กิจฺจโต เนกฺขมฺมสงฺกปฺโปติอาทีนิ ตีณิ นามานิ ลภติ. สมฺมาวาจาทโย ตโย วิรติโยปิ โหนฺติ เจตนาโยปิ, มคฺคกฺขเณ ปน วิรติโยว. สมฺมาวายาโม สมฺมาสตีติ อิทมฺปิ ทฺวยํ กิจฺจโต สมฺมปฺปธานสติปฏฺานวเสน จตฺตาริ นามานิ ลภติ. สมฺมาสมาธิ ปน ปุพฺพภาเคปิ มคฺคกฺขเณปิ สมฺมาสมาธิเยว.
เอวํ ตาว ‘‘สมฺมาทิฏฺิ’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺตานํ อฏฺนฺนํ อาทิปทานํเยว อตฺถวณฺณนํ ตฺวา อิทานิ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตนฺติอาทีสุ เอวํ าตพฺโพ. ภาเวตีติ วฑฺเฒติ, อตฺตโน จิตฺตสนฺตาเน ปุนปฺปุนํ ชเนติ, อภินิพฺพตฺเตตีติ อตฺโถ. วิเวกนิสฺสิตนฺติ วิเวกํ นิสฺสิตํ, วิเวเก วา นิสฺสิตนฺติ วิเวกนิสฺสิตํ. วิเวโกติ วิวิตฺตตา. วิวิตฺตตา จายํ ตทงฺควิเวโก, วิกฺขมฺภน-สมุจฺเฉท-ปฏิปฺปสฺสทฺธิ-นิสฺสรณวิเวโกติ ปฺจวิโธ. เอวเมตสฺมึ ปฺจวิเธ วิเวเก. วิเวกนิสฺสิตนฺติ ตทงฺควิเวกนิสฺสิตํ สมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสิตํ นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตฺจ สมฺมาทิฏฺึ ภาเวตีติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตถา หิ อยํ อริยมคฺคภาวนานุยุตฺโต โยคี วิปสฺสนากฺขเณ กิจฺจโต ตทงฺควิเวกนิสฺสิตํ, อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ, มคฺคกาเล ปน กิจฺจโต สมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสิตํ, อารมฺมณโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ สมฺมาทิฏฺึ ภาเวติ. เอส นโย วิราคนิสฺสิตาทีสุ. วิเวกตฺถา เอว หิ วิราคาทโย ¶ .
เกวลฺเจตฺถ โวสฺสคฺโค ทุวิโธ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค จ ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโค จาติ. ตตฺถ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโคติ วิปสฺสนากฺขเณ จ ตทงฺควเสน, มคฺคกฺขเณ จ สมุจฺเฉทวเสน กิเลสปฺปหานํ. ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโคติ วิปสฺสนากฺขเณ ตนฺนินฺนภาเวน, มคฺคกฺขเณ ปน อารมฺมณกรเณน นิพฺพานปกฺขนฺทนํ, ตทุภยมฺปิ อิมสฺมึ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสเก ¶ อตฺถวณฺณนานเย ¶ วฏฺฏติ. ตถา หิ อยํ สมฺมาทิฏฺิ ยถาวุตฺเตน ปกาเรน กิเลเส จ ปริจฺจชติ, นิพฺพานฺจ ปกฺขนฺทติ.
โวสฺสคฺคปริณามินฺติ อิมินา ปน สกเลน วจเนน โวสฺสคฺคตฺถํ ปริณมนฺตํ ปริณตฺจ, ปริปจฺจนฺตํ ปริปกฺกฺจาติ อิทํ วุตฺตํ โหติ. อยฺหิ อริยมคฺคภาวนานุยุตฺโต ภิกฺขุ ยถา สมฺมาทิฏฺิ กิเลสปริจฺจาคโวสฺสคฺคตฺถํ นิพฺพานปกฺขนฺทนโวสฺสคฺคตฺถฺจ ปริปจฺจติ, ยถา จ ปริปกฺกา โหติ, ตถา นํ ภาเวตีติ. เอส นโย เสสมคฺคงฺเคสุ.
อาคมฺมาติ อารพฺภ สนฺธาย ปฏิจฺจ. ชาติธมฺมาติ ชาติสภาวา ชาติปกติกา. ตสฺมาติ ยสฺมา สกโล อริยมคฺโคปิ กลฺยาณมิตฺตํ นิสฺสาย ลพฺภติ, ตสฺมา. หนฺทาติ ววสฺสคฺคตฺเถ นิปาโต. อปฺปมาทํ ปสํสนฺตีติ อปฺปมาทํ วณฺณยนฺติ, ตสฺมา อปฺปมาโท กาตพฺโพ. อตฺถาภิสมยาติ อตฺถปฏิลาภา. อฏฺมํ.
๙. ปมอปุตฺตกสุตฺตวณฺณนา
๑๓๐. นวเม ทิวา ทิวสฺสาติ ทิวสสฺส ทิวา, มชฺฌนฺหิกสมเยติ อตฺโถ. สาปเตยฺยนฺติ ธนํ. โก ปน วาโท รูปิยสฺสาติ สุวณฺณรชตตมฺพโลหกาฬโลหผาลกจฺฉปกาทิเภทสฺส ฆนกตสฺส เจว ปริโภคภาชนาทิเภทสฺส จ รูปิยภณฺฑสฺส ปน โก วาโท? ‘‘เอตฺตกํ นามา’’ติ กา ปริจฺเฉทกถาติ อตฺโถ. กณาชกนฺติ สกุณฺฑกภตฺตํ. พิลงฺคทุติยนฺติ กฺชิกทุติยํ. สาณนฺติ สาณวากมยํ ¶ . ติปกฺขวสนนฺติ ตีณิ ขณฺฑานิ ทฺวีสุ าเนสุ สิพฺพิตฺวา กตนิวาสนํ.
อสปฺปุริโสติ ลามกปุริโส. อุทฺธคฺคิกนฺติอาทีสุ อุปรูปริภูมีสุ ผลทานวเสน อุทฺธํ อคฺคมสฺสาติ อุทฺธคฺคิกา. สคฺคสฺส หิตา ตตฺรุปปตฺติชนนโตติ โสวคฺคิกา. นิพฺพตฺตฏฺาเนสุ สุโข วิปาโก อสฺสาติ สุขวิปากา. สุฏฺุ อคฺคานํ ทิพฺพวณฺณาทีนํ วิเสสานํ นิพฺพตฺตนโต สคฺคสํวตฺตนิกา. เอวรูปํ ทกฺขิณทานํ น ปติฏฺาเปตีติ.
สาโตทกาติ มธุโรทกา. เสตฺโตทกาติ วีจีนํ ภินฺนฏฺาเน อุทกสฺส เสตตาย เสโตทกา. สุปติตฺถาติ ¶ สุนฺทรติตฺถา. ตํ ชโนติ ¶ เยน อุทเกน สาโตทกา, ตํ อุทกํ ชโน ภาชนานิ ปูเรตฺวา เนว หเรยฺย. น ยถาปจฺจยํ วา กเรยฺยาติ, ยํ ยํ อุทเกน อุทกกิจฺจํ กาตพฺพํ, ตํ ตํ น กเรยฺย. ตทเปยฺยมานนฺติ ตํ อเปยฺยมานํ. กิจฺจกโร จ โหตีติ อตฺตนา กตฺตพฺพกิจฺจกโร เจว กุสลกิจฺจกโร จ, ภฺุชติ จ, กมฺมนฺเต จ ปโยเชติ, ทานฺจ เทตีติ อตฺโถ. นวมํ.
๑๐. ทุติยอปุตฺตกสุตฺตวณฺณนา
๑๓๑. ทสเม ปิณฺฑปาเตน ปฏิปาเทสีติ ปิณฺฑปาเตน สทฺธึ สํโยเชสิ, ปิณฺฑปาตํ อทาสีติ อตฺโถ. ปกฺกามีติ เกนจิเทว ราชุปฏฺานาทินา กิจฺเจน คโต. ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี อโหสีติ โส กิร อฺเสุปิ ทิวเสสุ ตํ ปจฺเจกสมฺพุทฺธํ ปสฺสติ, ทาตุํ ปนสฺส จิตฺตํ น อุปฺปชฺชติ. ตสฺมึ ปน ทิวเส อยํ ปทุมวติเทวิยา ตติยปุตฺโต ตคฺครสิขี ปจฺเจกพุทฺโธ คนฺธมาทนปพฺพเต ผลสมาปตฺติสุเขน วีตินาเมตฺวา ปุพฺพณฺหสมเย วุฏฺาย อโนตตฺตทเห มุขํ โธวิตฺวา มโนสิลาตเล นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา อิทฺธิยา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา นครทฺวาเร โอรุยฺห จีวรํ ปารุปิตฺวา ปตฺตมาทาย นครวาสีนํ ฆรทฺวาเรสุ สหสฺสภณฺฑิกํ เปนฺโต วิย ปาสาทิเกหิ อภิกฺกนฺตาทีหิ อนุปุพฺเพน เสฏฺิโน ฆรทฺวารํ สมฺปตฺโต. ตํทิวสฺจ ¶ เสฏฺิ ปาโตว อุฏฺาย ปณีตโภชนํ ภฺุชิตฺวา, ฆรทฺวารโกฏฺเก อาสนํ ปฺาเปตฺวา, ทนฺตนฺตรานิ โสเธนฺโต นิสินฺโน โหติ. โส ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวา, ตํทิวสํ ปาโต ภุตฺวา นิสินฺนตฺตา ทานจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา, ภริยํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘อิมสฺส สมณสฺส ปิณฺฑปาตํ เทหี’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ.
เสฏฺิภริยา จินฺเตสิ – ‘‘มยา เอตฺตเกน กาเลน อิมสฺส ‘เทถา’ติ วจนํ น สุตปุพฺพํ, ทาเปนฺโตปิ จ อชฺช น ยสฺส วา ตสฺส วา ทาเปติ, วีตราคโทสโมหสฺส วนฺตกิเลสสฺส โอหิตภารสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส ทาเปติ, ยํ วา ตํ วา อทตฺวา ปณีตํ ปิณฺฑปาตํ ทสฺสามี’’ติ, ฆรา นิกฺขมฺม ปจฺเจกพุทฺธํ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา ปตฺตํ อาทาย อนฺโตนิเวสเน ปฺตฺตาสเน นิสีทาเปตฺวา สุปริสุทฺเธหิ สาลิตณฺฑุเลหิ ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา ตทนุรูปํ ขาทนียํ พฺยฺชนํ สุเปยฺยฺจ สลฺลกฺเขตฺวา ปตฺตํ ปูเรตฺวา พหิ คนฺเธหิ สมลงฺกริตฺวา ปจฺเจกพุทฺธสฺส หตฺเถสุ ¶ ปติฏฺเปตฺวา วนฺทิ. ปจฺเจกพุทฺโธ – ‘‘อฺเสมฺปิ ปจฺเจกพุทฺธานํ สงฺคหํ กริสฺสามี’’ติ ¶ อปริภฺุชิตฺวาว อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. โสปิ โข เสฏฺิ พาหิรโต อาคจฺฉนฺโต ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวา มยํ ‘‘ตุมฺหากํ ปิณฺฑปาตํ เทถา’’ติ วตฺวา ปกฺกนฺตา, อปิ โว ลทฺโธติ? อาม, เสฏฺิ ลทฺโธติ. ‘‘ปสฺสามี’’ติ คีวํ อุกฺขิปิตฺวา โอโลเกสิ. อถสฺส ปิณฺฑปาตคนฺโธ อุฏฺหิตฺวา นาสาปุฏํ ปหริ. โส จิตฺตํ สํยเมตุํ อสกฺโกนฺโต ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี อาโหสีติ.
วรเมตนฺติอาทิ วิปฺปฏิสารสฺส อุปฺปนฺนาการทสฺสนํ. ภาตุ จ ปน เอกปุตฺตกํ สาปเตยฺยสฺส การณา ชีวิตา โวโรเปสีติ ตทา กิรสฺส อวิภตฺเตเยว กุฏุมฺเพ มาตาปิตโร จ เชฏฺภาตา จ กาลมกํสุ. โส ภาตุชายาย สทฺธึเยว สํวาสํ กปฺเปสิ. ภาตุ ปนสฺส เอโก ปุตฺโต โหติ, ตํ วีถิยา กีฬนฺตํ มนุสฺสา วทนฺติ – ‘‘อยํ ทาโส อยํ ทาสี อิทํ ยานํ อิทํ ธนํ ตว สนฺตก’’นฺติ. โส เตสํ กถํ คเหตฺวา – ‘‘อยํ ทาโส มยฺหํ สนฺตก’’นฺติอาทีนิ กเถติ.
อถสฺส จูฬปิตา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ทารโก อิทาเนว เอวํ กเถสิ, มหลฺลกกาเล กุฏุมฺพํ มชฺเฌ ภินฺทาเปยฺย, อิทาเนวสฺส กตฺตพฺพํ กริสฺสามี’’ติ เอกทิวสํ วาสึ อาทาย – ‘‘เอหิ ปุตฺต, อรฺํ คจฺฉามา’’ติ ตํ อรฺํ เนตฺวา วิรวนฺตํ วิรวนฺตํ มาเรตฺวา อาวาเฏ ¶ ปกฺขิปิตฺวา ปํสุนา ปฏิจฺฉาเทสิ. อิทํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. สตฺตกฺขตฺตุนฺติ สตฺตวาเร. ปุพฺพปจฺฉิมเจตนาวเสน เจตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอกปิณฺฑปาตทานสฺมิฺหิ เอกาว เจตนา ทฺเว ปฏิสนฺธิโย น เทติ, ปุพฺพปจฺฉิมเจตนาหิ ปเนส สตฺตกฺขตฺตุํ สคฺเค, สตฺตกฺขตฺตุํ เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺโต. ปุราณนฺติ ปจฺเจกสมฺพุทฺธสฺส ทินฺนปิณฺฑปาตเจตนากมฺมํ.
ปริคฺคหนฺติ ปริคฺคหิตวตฺถุ. อนุชีวิโนติ เอกํ มหากุลํ นิสฺสาย ปณฺณาสมฺปิ สฏฺิปิ กุลานิ ชีวนฺติ, เต มนุสฺเส สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. สพฺพํ นาทาย คนฺตพฺพนฺติ สพฺพเมตํ น อาทิยิตฺวา คนฺตพฺพํ. สพฺพํ นิกฺขิปฺปคามินนฺติ สพฺพเมตํ นิกฺขิปฺปสภาวํ, ปริจฺจชิตพฺพสภาวเมวาติ อตฺโถ. ทสมํ.
ทุติโย วคฺโค.
๓. ตติยวคฺโค
๑. ปุคฺคลสุตฺตวณฺณนา
๑๓๒. ตติยวคฺคสฺส ¶ ¶ ปเม ‘‘นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต’’ติอาทิเกน ตเมน ยุตฺโตติ ตโม. กายทุจฺจริตาทีหิ ปุน นิรยตมูปคมนโต ตมปรายโณ. อิติ อุภเยนปิ ขนฺธตโมว กถิโต โหติ. ‘‘อุจฺเจ กุเล ปจฺจาชาโต’’ติอาทิเกน โชตินา ยุตฺตโต โชติ, อาโลกีภูโตติ วุตฺตํ โหติ. กายสุจริตาทีหิ ปุน สคฺคูปปตฺติโชติภาวูปคมนโต โชติปรายโณ. อิมินา นเยน อิตเรปิ ทฺเว เวทิตพฺพา.
เวนกุเลติ วิลีวการกุเล. เนสาทกุเลติ มิคลุทฺทกาทีนํ กุเล. รถการกุเลติ จมฺมการกุเล. ปุกฺกุสกุเลติ ปุปฺผฉฑฺฑกกุเล. กสิรวุตฺติเกติ ทุกฺขวุตฺติเก. ทุพฺพณฺโณติ ปํสุปิสาจโก วิย ฌามขาณุวณฺโณ. ทุทฺทสิโกติ วิชาตมาตุยาปิ อมนาปทสฺสโน ¶ . โอโกฏิมโกติ ลกุณฺฑโก. กาโณติ เอกกฺขิกาโณ วา อุภยกฺขิกาโณ วา. กุณีติ เอกหตฺถกุณี วา อุภยหตฺถกุณี วา. ขฺโชติ เอกปาทขฺโช วา อุภยปาทขฺโช วา. ปกฺขหโตติ หตปกฺโข ปีสปฺปี. ปทีเปยฺยสฺสาติ เตลกปลฺลกาทิโน ปทีปอุปกรณสฺส. เอวํ โข, มหาราชาติ เอตฺถ เอโก ปุคฺคโล พหิทฺธา อาโลกํ อทิสฺวา มาตุกุจฺฉิสฺมึเยว กาลํ กตฺวา อปาเยสุ นิพฺพตฺตนฺโต สกลํ กปฺปมฺปิ สํสรติ, โสปิ ตโมตมปรายโณว. โส ปน กุหกปุคฺคโล ภเวยฺย. กุหกสฺส หิ เอวรูปา นิพฺพตฺติ โหตีติ วุตฺตํ.
เอตฺถ จ ‘‘นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ จณฺฑาลกุเล วา’’ติอาทีหิ อาคมนวิปตฺติ เจว ปุพฺพุปฺปนฺนปจฺจยวิปตฺติ จ ทสฺสิตา. ทลิทฺเทติอาทีหิ ปวตฺตปจฺจยวิปตฺติ. กสิรวุตฺติเกติอาทีหิ อาชีวุปายวิปตฺติ. ทุพฺพณฺโณติอาทีหิ ¶ อตฺตภาววิปตฺติ. พวฺหาพาโธติอาทีหิ ทุกฺขการณสมาโยโค. น ลาภีติอาทีหิ สุขการณวิปตฺติ เจว อุปโภควิปตฺติ จ. กาเยน ทุจฺจริตนฺติอาทีหิ ตมปรายณภาวสฺส การณสมาโยโค. กายสฺส เภทาติอาทีหิ สมฺปรายิกตมูปคโม. สุกฺกปกฺโข วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ.
อกฺโกสตีติ ¶ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสติ. ปริภาสตีติ, ‘‘กสฺมา ติฏฺถ? กึ ตุมฺเหหิ อมฺหากํ กสิกมฺมาทีนิ กตานี’’ติอาทีหิ? ปริภววจเนหิ ปริภาสติ. โรสโกติ ฆฏฺฏโก. อพฺยคฺคมนโสติ เอกคฺคจิตฺโต. ปมํ.
๒. อยฺยิกาสุตฺตวณฺณนา
๑๓๓. ทุติเย ชิณฺณาติ ชราชิณฺณา. วุฑฺฒาติ วโยวุฑฺฒา. มหลฺลิกาติ ชาติมหลฺลิกา. อทฺธคตาติ อทฺธํ จิรกาลํ อติกฺกนฺตา. วโยอนุปฺปตฺตาติ ปจฺฉิมวยํ สมฺปตฺตา. ปิยา มนาปาติ รฺโ กิร มาตริ มตาย อยฺยิกา มาตุฏฺาเน ตฺวา ปฏิชคฺคิ, เตนสฺส อยฺยิกาย พลวเปมํ อุปฺปชฺชิ. ตสฺมา เอวมาห. หตฺถิรตเนนาติ ¶ สตสหสฺสคฺฆนโก หตฺถี สตสหสฺสคฺฆนเกน อลงฺกาเรน อลงฺกโต หตฺถิรตนํ นาม. อสฺสรตเนปิ เอเสว นโย. คามวโรปิ สตสหสฺสุฏฺานกคาโมว. สพฺพานิ ตานิ เภทนธมฺมานีติ เตสุ หิ กิฺจิ กริยมานเมว ภิชฺชติ, กิฺจิ กตปริโยสิตํ จกฺกโต อนปนีตเมว, กิฺจิ อปเนตฺวา ภูมิยํ ปิตมตฺตํ, กิฺจิ ตโต ปรํ, เอวเมว สตฺเตสุปิ โกจิ ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา มรติ, โกจิ มูฬฺหคพฺภาย มาตริ มาตุกุจฺฉิโต อนิกฺขนฺโตว, โกจิ นิกฺขนฺตมตฺโต, โกจิ ตโต ปรนฺติ. ตสฺมา เอวมาห. ทุติยํ.
๑๓๔. ตติเย สพฺพํ อุตฺตานเมว. ตติยํ.
๔. อิสฺสตฺตสุตฺตวณฺณนา
๑๓๕. จตุตฺถสฺส อฏฺุปฺปตฺติโก นิกฺเขโป. ภควโต กิร ปมโพธิยํ มหาลาภสกฺกาโร อุทปาทิ ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ. ติตฺถิยา หตลาภสกฺการา หุตฺวา กุเลสุ เอวํ กนฺเถนฺตา วิจรนฺติ – ‘‘สมโณ โคตโม ¶ เอวมาห, ‘มยฺหเมว ทานํ ทาตพฺพํ, น อฺเสํ ทานํ ทาตพฺพํ. มยฺหเมว สาวกานํ ทานํ ทาตพฺพํ, น อฺเสํ สาวกานํ ทานํ ทาตพฺพํ. มยฺหเมว ทินฺนํ มหปฺผลํ, น อฺเสํ ทินฺนํ มหปฺผลํ. มยฺหเมว สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ, น อฺเสํ สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผล’นฺติ. ยุตฺตํ นุ โข สยมฺปิ ภิกฺขาจารนิสฺสิเตน ปเรสํ ภิกฺขาจารนิสฺสิตานํ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ อนฺตรายํ กาตุํ, อยุตฺตํ กโรติ อนนุจฺฉวิก’’นฺติ. สา ¶ กถา ปตฺถรมานา ราชกุลํ สมฺปตฺตา. ราชา สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อฏฺานเมตํ ยํ ตถาคโต ปเรสํ ลาภนฺตรายํ กเรยฺย. เอเต ตถาคตสฺส อลาภาย อยสาย ปริสกฺกนฺติ. สจาหํ อิเธว ตฺวา ‘มา เอวํ อโวจุตฺถ, น สตฺถา เอวํ กเถตี’ติ วเทยฺยํ, เอวํ สา กถา นิชฺฌตฺตึ น คจฺเฉยฺย, อิมสฺส มหาชนสฺส สนฺนิปติตกาเลเยว นํ นิชฺฌาเปสฺสามี’’ติ เอกํ ฉณทิวสํ อาคเมนฺโต ตุณฺหี อโหสิ.
อปเรน ¶ สมเยน มหาฉเณ สมฺปตฺเต ‘‘อยํ อิมสฺส กาโล’’ติ นคเร เภรึ จราเปสิ – ‘‘สทฺธา วา อสฺสทฺธา วา สมฺมาทิฏฺิกา วา มิจฺฉาทิฏฺิกา วา เคหรกฺขเก ทารเก วา มาตุคาเม วา เปตฺวา อวเสสา เย วิหารํ นาคจฺฉนฺติ, ปฺาสํ ทณฺโฑ’’ติ. สยมฺปิ ปาโตว นฺหตฺวา กตปาตราโส สพฺพาภรณปฏิมณฺฑิโต มหตา พลกาเยน สทฺธึ วิหารํ อคมาสิ. คจฺฉนฺโต จ จินฺเตสิ – ‘‘ภควา ตุมฺเห กิร เอวํ วทถ ‘มยฺหเมว ทานํ ทาตพฺพํ…เป… น อฺเสํ สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผล’นฺติ เอวํ ปุจฺฉิตุํ อยุตฺตํ, ปฺหเมว ปุจฺฉิสฺสามิ, ปฺหํ กเถนฺโต จ เม ภควา อวสาเน ติตฺถิยานํ วาทํ ภฺชิสฺสตี’’ติ. โส ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต กตฺถ นุ โข, ภนฺเต, ทานํ ทาตพฺพนฺติ อาห. ยตฺถาติ ยสฺมึ ปุคฺคเล จิตฺตํ ปสีทติ, ตสฺมึ ทาตพฺพํ, ตสฺส วา ทาตพฺพนฺติ อตฺโถ.
เอวํ วุตฺเต ราชา เยหิ มนุสฺเสหิ ติตฺถิยานํ วจนํ อาโรจิตํ, เต โอโลเกสิ. เต รฺา โอโลกิตมตฺตาว มงฺกุภูตา อโธมุขา ปาทงฺคุฏฺเกน ภูมึ เลขมานา อฏฺํสุ. ราชา – ‘‘เอกปเทเนว, ภนฺเต, หตา ติตฺถิยา’’ติ มหาชนํ สาเวนฺโต มหาสทฺเทน อภาสิ. เอวฺจ ปน ภาสิตฺวา – ‘‘ภควา จิตฺตํ นาม นิคณฺาเจลกปริพฺพาชกาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ปสีทติ ¶ , กตฺถ ปน, ภนฺเต, ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ ปุจฺฉิ. อฺํ โข เอตนฺติ, ‘‘มหาราช, อฺํ ตยา ปมํ ปุจฺฉิตํ, อฺํ ปจฺฉา, สลฺลกฺเขหิ เอตํ, ปฺหากถนํ ปน มยฺหํ ภาโร’’ติ วตฺวา สีลวโต โขติอาทิมาห. ตตฺถ อิธ ตฺยสฺสาติ อิธ เต อสฺส. สมุปพฺยูฬฺโหติ ราสิภูโต. อสิกฺขิโตติ ธนุสิปฺเป อสิกฺขิโต. อกตหตฺโถติ มุฏฺิพนฺธาทิวเสน อสมฺปาทิตหตฺโถ. อกตโยคฺโคติ ติณปฺุชมตฺติกาปฺุชาทีสุ อกตปริจโย. อกตูปาสโนติ ราชราชมหามตฺตานํ อทสฺสิตสรกฺเขโป. ฉมฺภีติ ปเวธิตกาโย.
กามจฺฉนฺโท ปหีโนติอาทีสุ อรหตฺตมคฺเคน กามจฺฉนฺโท ปหีโน โหติ, อนาคามิมคฺเคน พฺยาปาโท ¶ , อรหตฺตมคฺเคเนว ถินมิทฺธํ, ตถา อุทฺธจฺจํ, ตติเยเนว กุกฺกุจฺจํ, ปมมคฺเคน วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ. อเสกฺเขน ¶ สีลกฺขนฺเธนาติ อเสกฺขสฺส สีลกฺขนฺโธ อเสกฺโข สีลกฺขนฺโธ นาม. เอส นโย สพฺพตฺถ. เอตฺถ จ ปุริเมหิ จตูหิ ปเทหิ โลกิยโลกุตฺตรสีลสมาธิปฺาวิมุตฺติโย กถิตา. วิมุตฺติาณทสฺสนํ ปจฺจเวกฺขณาณํ โหติ, ตํ โลกิยเมว.
อิสฺสตฺตนฺติ อุสุสิปฺปํ. พลวีริยนฺติ เอตฺถ พลํ นาม วาโยธาตุ, วีริยํ กายิกเจตสิกวีริยเมว. ภเรติ ภเรยฺย. นาสูรํ ชาติปจฺจยาติ, ‘‘อยํ ชาติสมฺปนฺโน’’ติ เอวํ ชาติการณา อสูรํ น ภเรยฺย.
ขนฺติโสรจฺจนฺติ เอตฺถ ขนฺตีติ อธิวาสนขนฺติ, โสรจฺจนฺติ อรหตฺตํ. ธมฺมาติ เอเต ทฺเว ธมฺมา. อสฺสเมติ อาวสเถ. วิวเนติ อรฺฏฺาเน, นิรุทเก อรฺเ จตุรสฺสโปกฺขรณิอาทีนิ การเยติ อตฺโถ. ทุคฺเคติ วิสมฏฺาเน. สงฺกมนานีติ ปณฺณาสหตฺถสฏฺิหตฺถานิ สโมกิณฺณปริสุทฺธวาลิกานิ สงฺกมนานิ กเรยฺย.
อิทานิ เอเตสุ อรฺเสนาสเนสุ วสนฺตานํ ภิกฺขูนํ ภิกฺขาจารวตฺตํ อาจิกฺขนฺโต อนฺนํ ปานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ เสนาสนานีติ มฺจปีาทีนิ. วิปฺปสนฺเนนาติ ขีณาสวสฺส เทนฺโตปิ สกงฺเขน กิเลสมลิเนน จิตฺเตน อทตฺวา วิปฺปสนฺเนเนว จิตฺเตน ทเทยฺย. ถนยนฺติ คชฺชนฺโต. สตกฺกกูติ สตสิขโร, อเนกกูโฏติ อตฺโถ. อภิสงฺขจฺจาติ อภิสงฺขริตฺวา สโมธาเนตฺวา ราสึ กตฺวา.
อาโมทมาโนติ ¶ ตุฏฺมานโส หุตฺวา. ปกิเรตีติ ทานคฺเค วิจิรติ, ปกิรนฺโต วิย วา ทานํ เทติ. ปฺุธาราติ อเนกทานเจตนามยา ปฺุธารา. ทาตารํ อภิวสฺสตีติ ยถา อากาเส สมุฏฺิตเมฆโต นิกฺขนฺตา อุทกธารา ปถวึ สิเนหยนฺตี เตเมนฺตี กิเลทยนฺตี อภิวสฺสติ, เอวเมว อยมฺปิ ทายกสฺส อพฺภนฺตเร อุปฺปนฺนา ปฺุธารา ตเมว ทาตารํ อนฺโต สิเนเหติ ปูเรติ อภิสนฺเทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ทาตารํ อภิวสฺสตี’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. ปพฺพตูปมสุตฺตวณฺณนา
๑๓๖. ปฺจเม ¶ มุทฺธาวสิตฺตานนฺติ ขตฺติยาภิเสเกน มุทฺธนิ อวสิตฺตานํ กตาภิเสกานํ. กามเคธปริยุฏฺิตานนฺติ กาเมสุ เคเธน ปริยุฏฺิตานํ อภิภูตานํ. ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺตานนฺติ ¶ ชนปเท ถิรภาวปฺปตฺตานํ. ราชกรณียานีติ ราชกมฺมานิ ราชูหิ กตฺตพฺพกิจฺจานิ. เตสุ ขฺวาหนฺติ เตสุ อหํ. อุสุกฺกมาปนฺโนติ พฺยาปารํ อาปนฺโน. เอส กิร ราชา ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ ภควโต อุปฏฺานํ คจฺฉติ, อนฺตราคมนานิ พหูนิปิ โหนฺติ. ตสฺส นิพทฺธํ คจฺฉโต พลกาโย มหาปิ โหติ อปฺโปปิ. อเถกทิวสํ ปฺจสตา โจรา จินฺตยึสุ – ‘‘อยํ ราชา อเวลาย อปฺเปน พเลน สมณสฺส โคตมสฺส อุปฏฺานํ คจฺฉติ, อนฺตรามคฺเค นํ คเหตฺวา รชฺชํ คณฺหิสฺสามา’’ติ. เต อนฺธวเน นิลียึสุ. ราชาโน จ นาม มหาปฺุา โหนฺติ. อถ เตสํเยว อพฺภนฺตรโต เอโก ปุริโส นิกฺขมิตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา มหนฺตํ พลกายํ อาทาย อนฺธวนํ ปริวาเรตฺวา เต สพฺเพ คเหตฺวา อนฺธวนโต ยาว นครทฺวารา มคฺคสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ ยถา อฺมฺํ จกฺขุนา จกฺขุํ อุปนิพนฺธิตฺวา โอโลเกนฺติ, เอวํ อาสนฺนานิ สูลานิ โรปาเปตฺวา สูเลสุ อุตฺตาเสสิ. อิทํ สนฺธาย เอวมาห.
อถ สตฺถา จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ วกฺขามิ, ‘มหาราช, มาทิเส นาม สมฺมาสมฺพุทฺเธ ธุรวิหาเร วสนฺเต ตยา เอวรูปํ ทารุณํ กมฺมํ กตํ, อยุตฺตํ เต กต’นฺติ, อถายํ ราชา มงฺกุ หุตฺวา สนฺถมฺภิตุํ น สกฺกุเณยฺย, ปริยาเยน ธมฺมํ กเถนฺตสฺเสว เม สลฺลกฺเขสฺสตี’’ติ ธมฺมเทสนํ อารภนฺโต ¶ ตํ กึ มฺสีติอาทิมาห. ตตฺถ สทฺธายิโกติ สทฺธาตพฺโพ, ยสฺส ตฺวํ วจนํ สทฺทหสีติ อตฺโถ. ปจฺจยิโกติ ตสฺเสว เววจนํ, ยสฺส วจนํ ปตฺติยายสีติ อตฺโถ. อพฺภสมนฺติ อากาสสมํ. นิปฺโปเถนฺโต อาคจฺฉตีติ ปถวิตลโต ยาว อกนิฏฺพฺรหฺมโลกา สพฺเพ สตฺเต สณฺหกรณียํ ติณจุณฺณํ วิย กโรนฺโต ปิสนฺโต อาคจฺฉติ.
อฺตฺร ธมฺมจริยายาติ เปตฺวา ธมฺมจริยํ อฺํ กาตพฺพํ นตฺถิ, ทสกุสลกมฺมปถสงฺขาตา ธมฺมจริยาว กตฺตพฺพา, ภนฺเตติ – สมจริยาทีนิ ตสฺเสว เววจนานิ. อาโรเจมีติ อาจิกฺขามิ. ปฏิเวทยามีติ ชานาเปมิ. อธิวตฺตตีติ ¶ อชฺโฌตฺถรติ. หตฺถิยุทฺธานีติ นาฬาคิริสทิเส เหมกปฺปเน นาเค อภิรุยฺห ยุชฺฌิตพฺพยุทฺธานิ. คตีติ นิปฺผตฺติ. วิสโยติ โอกาโส, สมตฺถภาโว วา. น หิ สกฺกา เตหิ ชรามรณํ ปฏิพาหิตุํ ¶ . มนฺติโน มหามตฺตาติ มนฺตสมฺปนฺนา มโหสธวิธุรปณฺฑิตาทิสทิสา มหาอมจฺจา. ภูมิคตนฺติ มหาโลหกุมฺภิโย ปูเรตฺวา ภูมิยํ ปิตํ. เวหาสฏฺนฺติ จมฺมปสิพฺพเก ปูเรตฺวา ตุลาสงฺฆาฏาทีสุ ลคฺเคตฺวา เจว นิยฺยุหาทีสุ จ ปูเรตฺวา ปิตํ. อุปลาเปตุนฺติ อฺมฺํ ภินฺทิตุํ. ยถา ทฺเว ชนา เอเกน มคฺเคน น คจฺฉนฺติ เอวํ กาตุํ.
นภํ อาหจฺจาติ อากาสํ ปูเรตฺวา. เอวํ ชรา จ มจฺจุ จาติ อิธ ทฺเวเยว ปพฺพตา คหิตา, ราโชวาเท ปน ‘‘ชรา อาคจฺฉติ สพฺพโยพฺพนํ วิลุมฺปมานา’’ติ เอวํ ชรา มรณํ พฺยาธิ วิปตฺตีติ จตฺตาโรเปเต อาคตาว. ตสฺมาติ ยสฺมา หตฺถิยุทฺธาทีหิ ชรามรณํ ชินิตุํ น สกฺกา, ตสฺมา. สทฺธํ นิเวสเยติ สทฺธํ นิเวเสยฺย, ปติฏฺาเปยฺยาติ. ปฺจมํ.
ตติโย วคฺโค.
อิติ สารตฺถปฺปกาสินิยา
สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย
โกสลสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.