📜
๔. มารสํยุตฺตํ
๑. ปมวคฺโค
๑. ตโปกมฺมสุตฺตวณฺณนา
๑๓๗. มารสํยุตฺตสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม อุรุเวลายํ วิหรตีติ ปฏิวิทฺธสพฺพฺุตฺาโณ อุรุเวลคามํ อุปนิสฺสาย วิหรติ. ปมาภิสมฺพุทฺโธติ อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา ปมํ อนฺโตสตฺตาหสฺมึเยว. ทุกฺกรการิกายาติ ฉพฺพสฺสานิ กตาย ทุกฺกรการิกาย. มาโร ปาปิมาติ อตฺตโน วิสยํ อติกฺกมิตุํ ปฏิปนฺเน สตฺเต มาเรตีติ มาโร. ปาเป นิโยเชติ, สยํ วา ปาเป นิยุตฺโตติ ปาปิมา. อฺานิปิสฺส กณฺโห, อธิปติ, วสวตฺตี, อนฺตโก, นมุจิ, ปมตฺตพนฺธูติอาทีนิ พหูนิ นามานิ, อิธ ปน นามทฺวยเมว คหิตํ. อุปสงฺกมีติ – ‘‘อยํ สมโณ โคตโม ‘มุตฺโตสฺมี’ติ มฺติ, อมุตฺตภาวมสฺส กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมิ.
ตโปกมฺมา อปกฺกมฺมาติ ตโปกมฺมโต อปกฺกมิตฺวา. อปรทฺโธติ ‘‘ทูเร ตฺวํ สุทฺธิมคฺคา’’ติ วทติ. อมรํ ตปนฺติ อมรตปํ อมรภาวตฺถาย กตํ ลูขตปํ, อตฺตกิลมถานุโยโค. สพฺพานตฺถาวหํ โหตีติ, ‘‘สพฺพํ ตปํ มยฺหํ อตฺถาวหํ น ภวตี’’ติ ตฺวา. ผิยาริตฺตํว ธมฺมนีติ อรฺเ ถเล ผิยาริตฺตํ วิย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อรฺเ ถเล นาวํ เปตฺวา ภณฺฑสฺส ปูเรตฺวา มหาชนา อภิรูหิตฺวา ผิยาริตฺตํ คเหตฺวา สํกฑฺเฒยฺยุํ เจว อุปฺปีเลยฺยุํ จ, โส มหาชนสฺส วายาโม เอกงฺคุลทฺวงฺคุลมตฺตมฺปิ นาวาย คมนํ อสาเธนฺโต นิรตฺถโก ภเวยฺย ¶ น อนตฺถาวโห, เอวเมว อหํ ‘สพฺพํ อมรํ ตปํ อนตฺถาวหํ โหตี’ติ ตฺวา วิสฺสชฺเชสินฺติ.
อิทานิ ¶ ตํ อมรํ ตปํ ปหาย เยน มคฺเคน พุทฺโธ ชาโต, ตํ ทสฺเสนฺโต สีลนฺติอาทิมาห ¶ . ตตฺถ สีลนฺติ วจเนน สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา คหิตา, สมาธินา สมฺมาวายามสติสมาธโย, ปฺาย สมฺมาทิฏฺิสงฺกปฺปา. มคฺคํ โพธาย ภาวยนฺติ อิมํ อฏฺงฺคิกเมว อริยมคฺคํ โพธตฺถาย ภาวยนฺโต. เอตฺถ จ โพธายาติ มคฺคตฺถาย. ยถา หิ ยาคุตฺถาย ยาคุเมว ปจนฺติ, ปูวตฺถาย ปูวเมว ปจนฺติ, น อฺํ กิฺจิ กโรนฺติ, เอวํ มคฺคเมว มคฺคตฺถาย ภาเวติ. เตนาห ‘‘มคฺคํ โพธาย ภาวย’’นฺติ. ปรมํ สุทฺธินฺติ อรหตฺตํ. นิหโตติ ตฺวํ มยา นิหโต ปราชิโต. ปมํ.
๒. หตฺถิราชวณฺณสุตฺตวณฺณนา
๑๓๘. ทุติเย รตฺตนฺธการติมิสายนฺติ รตฺตึ อนฺธภาวการเก มหาตเม จตุรงฺเค ตมสิ. อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหตีติ คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา จงฺกมนโกฏิยํ ปาสาณผลเก มหาจีวรํ สีเส เปตฺวา ปธานํ ปริคฺคณฺหมาโน นิสินฺโน โหติ.
นนุ จ ตถาคตสฺส อภาวิโต วา มคฺโค, อปฺปหีนา วา กิเลสา, อปฺปฏิวิทฺธํ วา อกุปฺปํ, อสจฺฉิกโต วา นิโรโธ นตฺถิ, กสฺมา เอวมกาสีติ? อนาคเต กุลปุตฺตานํ องฺกุสตฺถํ. ‘‘อนาคเต หิ กุลปุตฺตา มยา คตมคฺคํ อาวชฺชิตฺวา อพฺโภกาสวาสํ วสิตพฺพํ มฺมานา ปธานกมฺมํ กริสฺสนฺตี’’ติ สมฺปสฺสมาโน สตฺถา เอวมกาสิ. มหาติ มหนฺโต. อริฏฺโกติ กาฬโก. มณีติ ปาสาโณ. เอวมสฺส สีสํ โหตีติ เอวรูปํ ตสฺส กาฬวณฺณํ กูฏาคารปฺปมาณํ มหาปาสาณสทิสํ สีสํ โหติ.
สุภาสุภนฺติ ทีฆมทฺธานํ สํสรนฺโต สุนฺทราสุนฺทรํ วณฺณํ กตฺวา อาคโตสีติ วทติ. อถ วา สํสรนฺติ สํสรนฺโต อาคจฺฉนฺโต. ทีฆมทฺธานนฺติ วสวตฺติฏฺานโต ยาว อุรุเวลาย ทีฆมคฺคํ, ปุเร โพธาย วา ฉพฺพสฺสานิ ¶ ทุกฺกรการิกสมยสงฺขาตํ ทีฆกาลํ. วณฺณํ กตฺวา สุภาสุภนฺติ สุนฺทรฺจ อสุนฺทรฺจ นานปฺปการํ วณฺณํ กตฺวา อเนกวารํ มม สนฺติกํ อาคโตสีติ อตฺโถ. โส กิร วณฺโณ นาม นตฺถิ, เยน ¶ วณฺเณน มาโร วิภึสกตฺถาย ภควโต สนฺติกํ น อาคตปุพฺโพ. เตน ตํ ภควา เอวมาห. อลํ เต เตนาติ อลํ ตุยฺหํ เอเตน มารวิภึสาการทสฺสนพฺยาปาเรน. ทุติยํ.
๓. สุภสุตฺตวณฺณนา
๑๓๙. ตติเย ¶ สุสํวุตาติ สุปิหิตา. น เต มารวสานุคาติ, มาร, เต ตุยฺหํ วสานุคา น โหนฺติ. น เต มารสฺส พทฺธคูติ เต ตุยฺหํ มารสฺส พทฺธจรา สิสฺสา อนฺเตวาสิกา น โหนฺติ. ตติยํ.
๔. ปมมารปาสสุตฺตวณฺณนา
๑๔๐. จตุตฺเถ โยนิโส มนสิการาติ อุปายมนสิกาเรน. โยนิโส สมฺมปฺปธานาติ อุปายวีริเยน การณวีริเยน. วิมุตฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติ. อชฺฌภาสีติ ‘‘อยํ อตฺตนา วีริยํ กตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวาปิ น ตุสฺสติ, อิทานิ อฺเสมฺปิ ‘ปาปุณาถา’ติ อุสฺสาหํ กโรติ, ปฏิพาเหสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา อภาสิ.
มารปาเสนาติ กิเลสปาเสน. เย ทิพฺพา เย จ มานุสาติ เย ทิพฺพา กามคุณสงฺขาตา มานุสา กามคุณสงฺขาตา จ มารปาสา นาม อตฺถิ, สพฺเพหิ เตหิ ตฺวํ พทฺโธติ วทติ. มารพนฺธนพทฺโธติ มารพนฺธเนน พทฺโธ, มารพนฺธเน วา พทฺโธ. น เม สมณ โมกฺขสีติ สมณ ตฺวํ มม วิสยโต น มุจฺจิสฺสสิ. จตุตฺถํ.
๕. ทุติยมารปาสสุตฺตวณฺณนา
๑๔๑. ปฺจเม มุตฺตาหนฺติ มุตฺโต อหํ. ปุริมํ สุตฺตํ อนฺโตวสฺเส วุตฺตํ, อิทํ ปน ปวาเรตฺวา วุฏฺวสฺสกาเล. จาริกนฺติ อนุปุพฺพคมนจาริกํ. (ปวาเรตฺวา) ทิวเส ทิวเส โยชนปรมํ ¶ คจฺฉนฺตา จรถาติ วทติ. มา เอเกน ทฺเวติ เอกมคฺเคน ทฺเว ชนา มา อคมิตฺถ. เอวฺหิ คเตสุ เอกสฺมึ ธมฺมํ เทเสนฺเต, เอเกน ตุณฺหีภูเตน าตพฺพํ โหติ. ตสฺมา เอวมาห.
อาทิกลฺยาณนฺติ อาทิมฺหิ กลฺยาณํ สุนฺทรํ ภทฺทกํ. ตถา มชฺฌปริโยสาเนสุ. อาทิมชฺฌปริโยสานฺจ นาเมตํ สาสนสฺส จ เทสนาย จ ¶ วเสน ทุวิธํ. ตตฺถ สาสนสฺส สีลํ อาทิ, สมถวิปสฺสนามคฺคา มชฺฌํ, ผลนิพฺพานานิ ปริโยสานํ. สีลสมาธโย วา อาทิ ¶ , วิปสฺสนามคฺคา มชฺฌํ, ผลนิพฺพานานิ ปริโยสานํ. สีลสมาธิวิปสฺสนา วา อาทิ, มคฺโค มชฺฌํ, ผลนิพฺพานานิ ปริโยสานํ. เทสนาย ปน จตุปฺปทิกาย คาถาย ตาว ปมปาโท อาทิ, ทุติยตติยา มชฺฌํ, จตุตฺโถ ปริโยสานํ. ปฺจปทฉปฺปทานํ ปมปาโท อาทิ, อวสานปาโท ปริโยสานํ, อวเสสา มชฺฌํ. เอกานุสนฺธิกสุตฺตสฺส นิทานํ อาทิ, ‘‘อิทมโวจา’’ติ ปริโยสานํ, เสสํ มชฺฌํ. อเนกานุสนฺธิกสฺส มชฺเฌ พหูปิ อนุสนฺธิ มชฺฌเมว, นิทานํ อาทิ, ‘‘อิทมโวจา’’ติ ปริโยสานํ.
สาตฺถนฺติ สาตฺถกํ กตฺวา เทเสถ. สพฺยฺชนนฺติ พฺยฺชเนหิ เจว ปเทหิ จ ปริปูรํ กตฺวา เทเสถ. เกวลปริปุณฺณนฺติ สกลปริปุณฺณํ. ปริสุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ. พฺรหฺมจริยนฺติ สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สาสนพฺรหฺมจริยํ. ปกาเสถาติ อาวิกโรถ.
อปฺปรชกฺขชาติกาติ ปฺาจกฺขุมฺหิ อปฺปกิเลสรชสภาวา, ทุกูลสาณิยา ปฏิจฺฉนฺนา วิย จตุปฺปทิกคาถาปริโยสาเน อรหตฺตํ ปตฺตุํ สมตฺถา สนฺตีติ อตฺโถ. อสฺสวนตาติ อสฺสวนตาย. ปริหายนฺตีติ อลาภปริหานิยา ธมฺมโต ปริหายนฺติ. เสนานิคโมติ ปมกปฺปิกานํ เสนาย นิวิฏฺโกาเส ปติฏฺิตคาโม, สุชาตาย วา ปิตุ เสนานี นาม นิคโม. เตนุปสงฺกมิสฺสามีติ นาหํ ตุมฺเห อุยฺโยเชตฺวา ปริเวณาทีนิ กาเรตฺวา อุปฏฺากาทีหิ ปริจริยมาโน ¶ วิหริสฺสามิ, ติณฺณํ ปน ชฏิลานํ อฑฺฒุฑฺฒานิ ปาฏิหาริยสหสฺสานิ ทสฺเสตฺวา ธมฺมเมว เทเสตุํ อุปสงฺกมิสฺสามีติ. เตนุปสงฺกมีติ, ‘‘อยํ สมโณ โคตโม มหายุทฺธํ วิจาเรนฺโต วิย, ‘มา เอเกน ทฺเว อคมิตฺถ, ธมฺมํ เทเสถา’ติ สฏฺิ ชเน อุยฺโยเชติ, อิมสฺมึ ปน เอกสฺมิมฺปิ ธมฺมํ เทเสนฺเต มยฺหํ จิตฺตสฺสาทํ นตฺถิ, เอวํ พหูสุ เทเสนฺเตสุ กุโต ภวิสฺสติ, ปฏิพาหามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมิ. ปฺจมํ.
๖. สปฺปสุตฺตวณฺณนา
๑๔๒. ฉฏฺเ โสณฺฑิกากิลฺชนฺติ สุราการกานํ ปิฏฺปตฺถรณกกิลฺชํ. โกสลิกา กํสปาตีติ โกสลรฺโ รถจกฺกปฺปมาณา ปริโภคปาติ ¶ . คฬคฬายนฺเตติ คชฺชนฺเต. กมฺมารคคฺคริยาติ กมฺมารุทฺธนปณาฬิยา. ธมมานายาติ ภสฺตวาเตน ปูริยมานาย. อิติ วิทิตฺวาติ – ‘‘สมโณ โคตโม ปธานมนุยุตฺโต สุเขน นิสินฺโน, ฆฏฺฏยิสฺสามิ น’’นฺติ วุตฺตปฺปการํ ¶ อตฺตภาวํ มาเปตฺวา นิยามภูมิยํ อิโต จิโต จ สฺจรนฺตํ วิชฺชุลตาโลเกน ทิสฺวา, ‘‘โก นุ โข เอโส สตฺโต’’ติ? อาวชฺเชนฺโต, ‘‘มาโร อย’’นฺติ เอวํ วิทิตฺวา.
สฺุเคหานีติ สฺุาคารานิ. เสยฺยาติ เสยฺยตฺถาย. สฺสามิ จงฺกมิสฺสามิ นิสีทิสฺสามิ นิปชฺชิสฺสามีติ เอตทตฺถาย โย สฺุาคารานิ เสวตีติ อตฺโถ. โส มุนิ อตฺตสฺโตติ โส พุทฺธมุนิ หตฺถปาทกุกฺกุจฺจาภาเวน สํยตตฺตภาโว. โวสฺสชฺช จเรยฺย ตตฺถ โสติ โส ตสฺมึ อตฺตภาเว อาลยํ นิกนฺตึ โวสฺสชฺชิตฺวา ปหาย จเรยฺย. ปติรูปํ หิ ตถาวิธสฺส ตนฺติ ตาทิสสฺส ตํสณฺิตสฺส พุทฺธมุนิโน ตํ อตฺตภาเว นิกนฺตึ โวสฺสชฺชิตฺวา จรณํ นาม ปติรูปํ ยุตฺตํ อนุจฺฉวิกํ.
จรกาติ สีหพฺยคฺฆาทิกา สฺจรณสตฺตา. เภรวาติ สวิฺาณกอวิฺาณกเภรวา. ตตฺถ สวิฺาณกา สีหพฺยคฺฆาทโย, อวิฺาณกา รตฺติภาเค ขาณุวมฺมิกาทโย. เตปิ หิ ตสฺมึ กาเล ยกฺขา วิย อุปฏฺหนฺติ, รชฺชุวลฺลิยาทีนิ สพฺพานิ สปฺปา วิย อุปฏฺหนฺติ. ตตฺถาติ เตสุ เภรเวสุ สฺุาคารคโต ¶ พุทฺธมุนิ โลมจลนมตฺตกมฺปิ น กโรติ.
อิทานิ อฏฺานปริกปฺปํ ทสฺเสนฺโต นภํ ผเลยฺยาติอาทิมาห. ตตฺถ ผเลยฺยาติ กากปทํ วิย หีรหีรโส ผเลยฺย. จเลยฺยาติ โปกฺขรปตฺเต วาตาหโต อุทกพินฺทุ วิย จเลยฺย. สลฺลมฺปิ เจ อุรสิ ปกปฺปเยยฺยุนฺติ ติขิณสตฺติสลฺลํ เจปิ อุรสฺมึ จาเรเยยฺยุํ. อุปธีสูติ ขนฺธูปธีสุ. ตาณํ น กโรนฺตีติ ติขิเณ สลฺเล อุรสฺมึ จาริยมาเน ภเยน คุมฺพนฺตรกนฺทราทีนิ ปวิสนฺตา ตาณํ กโรนฺติ นาม. พุทฺธา ปน สมุจฺฉินฺนสพฺพภยา เอวรูปํ ตาณํ นาม น กโรนฺติ. ฉฏฺํ.
๗. สุปติสุตฺตวณฺณนา
๑๔๓. สตฺตเม ¶ ปาเท ปกฺขาเลตฺวาติ อุตุคาหาปนตฺถํ โธวิตฺวา. พุทฺธานํ ปน สรีเร รโชชลฺลํ น อุปลิมฺปติ, อุทกมฺปิ โปกฺขรปตฺเต ปกฺขิตฺตํ วิย วิวฏฺฏิตฺวา คจฺฉติ. อปิจ โข โธตปาทเก เคเห ปาเท โธวิตฺวา ปวิสนํ ปพฺพชิตานํ วตฺตํ. ตตฺถ พุทฺธานํ วตฺตเภโท นาม นตฺถิ, วตฺตสีเส ปน ตฺวา โธวนฺติ. สเจ หิ ตถาคโต เนว นฺหาเยยฺย, น ปาเท โธเวยฺย, ‘‘นายํ ¶ มนุสฺโส’’ติ วเทยฺยุํ. ตสฺมา มนุสฺสกิริยํ อมฺุจนฺโต โธวติ. สโต สมฺปชาโนติ โสปฺปปริคฺคาหเกน สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต. อุปสงฺกมีติ สมโณ โคตโม สพฺพรตฺตึ อพฺโภกาเส จงฺกมิตฺวา คนฺธกุฏึ ปวิสิตฺวา นิทฺทายติ, อติวิย สุขสยิโต ภวิสฺสติ, ฆฏฺฏยิสฺสามิ นนฺติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมิ.
กึ โสปฺปสีติ กึ สุปสิ, กึ โสปฺปํ นามิทํ ตวาติ วทติ. กึ นุ โสปฺปสีติ กสฺมา นุ สุปสิ? ทุพฺภโค วิยาติ มโต วิย, วิสฺี วิย จ. สฺุมคารนฺติ สฺุํ เม ฆรํ ลทฺธนฺติ โสปฺปสีติ วทติ. สูริเย อุคฺคเตติ สูริยมฺหิ อุฏฺิเต. อิทานิ หิ อฺเ ภิกฺขู สมฺมชฺชนฺติ ¶ , ปานียํ อุปฏฺเปนฺติ, ภิกฺขาจารคมนสชฺชา ภวนฺติ, ตฺวํ กสฺมา โสปฺปสิเยว.
ชาลินีติ ตโย ภเว อชฺโฌตฺถริตฺวา ิเตน ‘‘อชฺฌตฺติกสฺสุปาทาย อฏฺารสตณฺหาวิจริตานี’’ติอาทินา (วิภ. ๘๔๒) เตน เตน อตฺตโน โกฏฺาสภูเตน ชาเลน ชาลินี. วิสตฺติกาติ รูปาทีสุ ตตฺถ ตตฺถ วิสตฺตตาย วิสมูลตาย วิสปริโภคตาย จ วิสตฺติกา. กุหิฺจิ เนตเวติ กตฺถจิ เนตุํ. สพฺพูปธิ ปริกฺขยาติ สพฺเพสํ ขนฺธกิเลสาภิสงฺขารกามคุณเภทานํ อุปธีนํ ปริกฺขยา. กึ ตเวตฺถ, มาราติ, มาร, ตุยฺหํ กึ เอตฺถ? กสฺมา ตฺวํ อุณฺหยาคุยํ นิลียิตุํ อสกฺโกนฺตี ขุทฺทกมกฺขิกา วิย อนฺตนฺเตเนว อุชฺฌายนฺโต อาหิณฺฑสีติ. สตฺตมํ.
๘. นนฺทติสุตฺตวณฺณนา
๑๔๔. อฏฺมํ เทวตาสํยุตฺเต วุตฺตตฺถเมว. อฏฺมํ.
๙. ปมอายุสุตฺตวณฺณนา
๑๔๕. นวเม ¶ อปฺปํ วา ภิยฺโยติ ภิยฺโย ชีวนฺโต อปรํ วสฺสสตํ ชีวิตุํ น สกฺโกติ, ปณฺณาสํ วา สฏฺิ วา วสฺสานิ ชีวติ. อชฺฌภาสีติ สมโณ โคตโม ‘‘มนุสฺสานํ อปฺปมายู’’ติ กเถติ, ทีฆภาวมสฺส กเถสฺสามีติ ปจฺจนีกสาตตาย อภิภวิตฺวา อภาสิ.
น ¶ นํ หีเฬติ ตํ อายุํ ‘‘อปฺปกมิท’’นฺติ น หีเฬยฺย. ขีรมตฺโต วาติ ยถา ทหโร กุมาโร อุตฺตานเสยฺยโก ขีรํ ปิวิตฺวา ทุกูลจุมฺพฏเก นิปนฺโน อสฺี วิย นิทฺทายติ, กสฺสจิ อายุํ อปฺปํ วา ทีฆํ วาติ น จินฺเตติ, เอวํ สปฺปุริโส. จเรยฺยาทิตฺตสีโส วาติ อายุํ ปริตฺตนฺติ ตฺวา ปชฺชลิตสีโส วิย จเรยฺย. นวมํ.
๑๐. ทุติยอายุสุตฺตวณฺณนา
๑๔๖. ทสเม เนมีว รถกุพฺพรนฺติ ยถา ทิวสํ คจฺฉนฺตสฺส รถสฺส จกฺกเนมิ กุพฺพรํ อนุปริยายติ น วิชหติ, เอวํ อายุ อนุปริยายตีติ. ทสมํ.
ปโม วคฺโค.
๒. ทุติยวคฺโค
๑. ปาสาณสุตฺตวณฺณนา
๑๔๗. ทุติยวคฺคสฺส ¶ ปเม นิสินฺโนติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ปธานํ ปริคฺคณฺหนฺโต นิสินฺโน. มาโรปิสฺส สุขนิสินฺนภาวํ ตฺวา ฆฏฺฏยิสฺสามีติ อุปสงฺกมนฺโต. ปทาเลสีติ ปพฺพตปิฏฺเ ตฺวา ปวิชฺฌิ. ปาสาณา นิรนฺตรา อฺมฺํ อภิหนนฺตา ปตนฺติ. เกวลนฺติ สกลํ. สพฺพนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. ปมํ.
๒. กินฺนุสีหสุตฺตวณฺณนา
๑๔๘. ทุติเย วิจกฺขุกมฺมายาติ ปริสาย ปฺาจกฺขุํ วินาเสตุกมฺยตาย. พุทฺธานํ ปเนส ปฺาจกฺขุํ วินาเสตุํ น สกฺโกติ, ปริสาย เภรวารมฺมณํ ¶ สาเวนฺโต วา ทสฺเสนฺโต วา สกฺโกติ. วิชิตาวี นุ มฺสีติ กึ นุ ตฺวํ ‘‘วิชิตวิชโย อห’’นฺติ มฺสิ? มา เอวํ มฺิ, นตฺถิ เต ชโย. ปริสาสูติ, อฏฺสุ ปริสาสุ. พลปฺปตฺตาติ ทสพลปฺปตฺตา. ทุติยํ.
๓. สกลิกสุตฺตวณฺณนา
๑๔๙. ตติเย ¶ มนฺทิยา นูติ มนฺทภาเวน โมมูหภาเวน. อุทาหุ กาเวยฺยมตฺโตติ อุทาหุ ยถา กวิ กพฺพํ จินฺเตนฺโต เตน กพฺพกรเณน มตฺโต สยติ, เอวํ สยสิ. สมฺปจุราติ พหโว. กิมิทํ โสปฺปเส วาติ กสฺมา อิทํ โสปฺปํ โสปฺปสิเยว? อตฺถํ สเมจฺจาติ อตฺถํ สมาคนฺตฺวา ปาปุณิตฺวา. มยฺหํ หิ อสงฺคโห นาม สงฺคหวิปนฺโน วา อตฺโถ นตฺถิ. สลฺลนฺติ ติขิณํ สตฺติสลฺลํ. ชคฺคํ น สงฺเกติ ยถา เอกจฺโจ สีหปถาทีสุ ชคฺคนฺโต สงฺกติ, ตถา อหํ ชคฺคนฺโตปิ น สงฺกามิ. นปิ เภมิ โสตฺตุนฺติ ยถา เอกจฺโจ สีหปถาทีสุเยว สุปิตุํ ภายติ, เอวํ อหํ สุปิตุมฺปิ น ภายามิ. นานุตปนฺติ มามนฺติ ยถา อาจริยสฺส วา อนฺเตวาสิกสฺส วา อผาสุเก ชาเต อุทฺเทสปริปุจฺฉาย ¶ ิตตฺตา อนฺเตวาสึ รตฺตินฺทิวา อติกฺกมนฺตา อนุตปนฺติ, เอวํ มํ นานุตปนฺติ. น หิ มยฺหํ กิฺจิ อปรินิฏฺิตกมฺมํ นาม อตฺถิ. เตเนวาห หานึ น ปสฺสามิ กุหิฺจิ โลเกติ. ตติยํ.
๔. ปติรูปสุตฺตวณฺณนา
๑๕๐. จตุตฺเถ อนุโรธวิโรเธสูติ ราคปฏิเฆสุ. มา สชฺชิตฺโถ ตทาจรนฺติ เอวํ ธมฺมกถํ อาจรนฺโต มา ลคฺคิ. ธมฺมกถํ กเถนฺตสฺส หิ เอกจฺเจ สาธุการํ ททนฺติ, เตสุ ราโค อุปฺปชฺชติ. เอกจฺเจ อสกฺกจฺจํ สุณนฺติ, เตสุ ปฏิโฆ อุปฺปชฺชติ. อิติ ธมฺมกถิโก อนุโรธวิโรเธสุ สชฺชติ นาม. ตฺวํ เอวํ มา สชฺชิตฺโถติ วทติ. ยทฺมนุสาสตีติ ยํ อฺํ อนุสาสติ, ตํ. สมฺพุทฺโธ หิตานุกมฺปี หิเตน อนุปกมฺปติ. ยสฺมา จ หิตานุกมฺปี ¶ , ตสฺมา อนุโรธวิโรเธหิ วิปฺปมุตฺโต ตถาคโตติ. จตุตฺถํ.
๕. มานสสุตฺตวณฺณนา
๑๕๑. ปฺจเม อากาเส จรนฺเตปิ พนฺธตีติ อนฺตลิกฺขจโร. ปาโสติ ราคปาโส. มานโสติ มนสมฺปยุตฺโต. ปฺจมํ.
๖. ปตฺตสุตฺตวณฺณนา
๑๕๒. ฉฏฺเ ¶ ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อุปาทายาติ ปฺจ อุปาทานกฺขนฺเธ อาทิยิตฺวา, สภาวสามฺลกฺขณวเสน นานปฺปการโต วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต. สนฺทสฺเสตีติ ขนฺธานํ สภาวลกฺขณาทีนิ ทสฺเสติ. สมาทเปตีติ คณฺหาเปติ. สมุตฺเตเชตีติ สมาทานมฺหิ อุสฺสาหํ ชเนติ. สมฺปหํเสตีติ ปฏิวิทฺธคุเณน โวทาเปติ โชตาเปติ. อฏฺึ กตฺวาติ อตฺถิกํ กตฺวา, ‘‘อยํ โน อธิคนฺตพฺโพ อตฺโถ’’ติ เอวํ สลฺลกฺเขตฺวา ตาย เทสนาย อตฺถิกา หุตฺวา. มนสิ กตฺวาติ จิตฺเต เปตฺวา. สพฺพเจตโส สมนฺนาหริตฺวาติ สพฺเพน ¶ เตน กมฺมการกจิตฺเตน สมนฺนาหริตฺวา. โอหิตโสตาติ ปิตาโสตา. อพฺโภกาเส นิกฺขิตฺตาติ โอตาปนตฺถาย ปิตา.
รูปํ เวทยิตํ สฺานฺติ, เอเต รูปาทโย ตโย ขนฺธา. ยฺจ สงฺขตนฺติ อิมินา สงฺขารกฺขนฺโธ คหิโต. เอวํ ตตฺถ วิรชฺชตีติ ‘‘เอโส อหํ น โหมิ, เอตํ มยฺหํ น โหตี’’ติ ปสฺสนฺโต เอวํ เตสุ ขนฺเธสุ วิรชฺชติ. เขมตฺตนฺติ เขมีภูตํ อตฺตภาวํ. อิมินา ผลกฺขณํ ทสฺเสติ. อนฺเวสนฺติ ภวโยนิคติิติสตฺตาวาสสงฺขาเตสุ สพฺพฏฺาเนสุ ปริเยสมานา. นาชฺฌคาติ น ปสฺสีติ. ฉฏฺํ.
๗. ฉผสฺสายตนสุตฺตวณฺณนา
๑๕๓. สตฺตเม ผสฺสายตนานนฺติ สฺชาติสโมสรณฏฺเน ฉทฺวาริกสฺส ผสฺสสฺส อายตนานํ. ภยเภรวํ สทฺทนฺติ เมฆทุนฺทุภิอสนิปาตสทฺทสทิสํ ภยชนกํ สทฺทํ. ปถวี มฺเ อุนฺทฺรียตีติ อยํ มหาปถวี ปฏปฏสทฺทํ ¶ กุรุมานา วิย อโหสิ. เอตฺถ โลโก วิมุจฺฉิโตติ เอเตสุ ฉสุ อารมฺมเณสุ โลโก อธิมุจฺฉิโต. มารเธยฺยนฺติ มารสฺส านภูตํ เตภูมกวฏฺฏํ. สตฺตมํ.
๘. ปิณฺฑสุตฺตวณฺณนา
๑๕๔. อฏฺเม ปาหุนกานิ ภวนฺตีติ ตถารูเป นกฺขตฺเต ตตฺถ ตตฺถ เปเสตพฺพานิ ปาหุนกานิ ภวนฺติ, อาคนฺตุกปณฺณาการทานานิ วา. สยํจรณทิวเส สมวยชาติโคตฺตา กุมารกา ¶ ตโต ตโต สนฺนิปตนฺติ. กุมาริกาโยปิ อตฺตโน อตฺตโน วิภวานุรูเปน อลงฺกตา ตหํ ตหํ วิจรนฺติ. ตตฺร กุมาริกาโยปิ ยถารุจิกานํ กุมารกานํ ปณฺณาการํ เปเสนฺติ, กุมารกาปิ กุมาริกานํ อฺสฺมึ อสติ อนฺตมโส มาลาคุเฬนปิ ปริกฺขิปนฺติ. อนฺวาวิฏฺาติ อนุ อาวิฏฺา. ตํทิวสํ กิร ปฺจสตา ¶ กุมาริกาโย อุยฺยานกีฬํ คจฺฉนฺติโย ปฏิปเถ สตฺถารํ ทิสฺวา ฉณปูวํ ทเทยฺยุํ. สตฺถา ตาสํ ทานานุโมทนตฺถํ ปกิณฺณกธมฺมเทสนํ เทเสยฺย, เทสนาปริโยสาเน สพฺพาปิ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺเหยฺยุํ. มาโร ตาสํ สมฺปตฺติยา อนฺตรายํ กริสฺสามีติ อนฺวาวิสิ. ปาฬิยํ ปน มา สมโณ โคตโม ปิณฺฑมลตฺถาติ เอตฺตกํเยว วุตฺตนฺติ.
กึ ปน สตฺถา มาราวฏฺฏนํ อชานิตฺวา ปวิฏฺโติ? อาม อชานิตฺวา. กสฺมา? อนาวชฺชนตาย. พุทฺธานฺหิ – ‘‘อสุกฏฺาเน ภตฺตํ ลภิสฺสาม, น ลภิสฺสามา’’ติ อาวชฺชนํ น อนนุจฺฉวิกํ. ปวิฏฺโ ปน มนุสฺสานํ อุปจารเภทํ ทิสฺวา, ‘‘กึ อิท’’นฺติ? อาวชฺเชนฺโต ตฺวา, ‘‘อามิสตฺถํ มาราวฏฺฏนํ ภินฺทิตุํ อนนุจฺฉวิก’’นฺติ อภินฺทิตฺวาว นิกฺขนฺโต.
อุปสงฺกมีติ อมิตฺตวิชเยน วิย ตุฏฺโ สกลคาเม กฏจฺฉุมตฺตมฺปิ ภตฺตํ อลภิตฺวา คามโต นิกฺขมนฺตํ ภควนฺตํ คามิยมนุสฺสเวเสน อุปสงฺกมิ. ตถาหํ กริสฺสามีติ อิทํ โส มุสา ภาสติ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘มยา เอวํ วุตฺเต ปุน ปวิสิสฺสติ, อถ นํ คามทารกา ‘สกลคาเม จริตฺวา กฏจฺฉุภิกฺขมฺปิ อลภิตฺวา คามโต นิกฺขมฺม ปุน ปวิฏฺโสี’ติอาทีนิ ¶ วตฺวา อุปฺปณฺเฑสฺสนฺตี’’ติ. ภควา ปน – ‘‘สจายํ มํ เอวํ วิเหเสฺสติ มุทฺธมสฺเสว สตฺตธา ผลิสฺสตี’’ติ ตสฺมึ อนุกมฺปาย อปวิสิตฺวา คาถาทฺวยมาห.
ตตฺถ ปสวีติ ชเนสิ นิปฺผาเทสิ. อาสชฺชาติ อาสาเทตฺวา ฆฏฺเฏตฺวา. น เม ปาปํ วิปจฺจตีติ มม ปาปํ น ปจฺจติ. นิปฺผลํ เอตนฺติ กึ นุ ตฺวํ เอวํ มฺสิ? มา เอวํ มฺิ, อตฺถิ ตยา กตสฺส ปาปสฺส ผลนฺติ ทีเปติ. กิฺจนนฺติ มทฺทิตุํ สมตฺถํ ราคกิฺจนาทิ กิเลสชาตํ. อาภสฺสรา ยถาติ ยถา อาภสฺสรา เทวา สปฺปีติกชฺฌาเนน ยาเปนฺตา ปีติภกฺขา นาม โหนฺติ, เอวํ ภวิสฺสามาติ. อฏฺมํ.
๙. กสฺสกสุตฺตวณฺณนา
๑๕๕. นวเม ¶ ¶ นิพฺพานปฏิสํยุตฺตายาติ นิพฺพานํ อปทิสิตฺวา ปวตฺตาย. หฏหฏเกโสติ ปุริมเกเส ปจฺฉโต, ปจฺฉิมเกเส ปุรโต วามปสฺสเกเส ทกฺขิณโต, ทกฺขิณปสฺสเกเส วามโต ผริตฺวา ผริตฺวา วิปฺปกิณฺณเกโส. มม จกฺขุสมฺผสฺสวิฺาณายตนนฺติ จกฺขุวิฺาเณน สมฺปยุตฺโต จกฺขุสมฺผสฺโสปิ วิฺาณายตนมฺปิ มเมวาติ. เอตฺถ จ จกฺขุสมฺผสฺเสน วิฺาณสมฺปยุตฺตกา ธมฺมา คหิตา, วิฺาณายตเนน สพฺพานิปิ จกฺขุทฺวาเร อุปฺปนฺนานิ อาวชฺชนาทิวิฺาณานิ. โสตทฺวาราทีสุปิ เอเสว นโย. มโนทฺวาเร ปน มโนติ สาวชฺชนกํ ภวงฺคจิตฺตํ. ธมฺมาติ อารมฺมณธมฺมา. มโนสมฺผสฺโสติ สาวชฺชเนน ภวงฺเคน สมฺปยุตฺตผสฺโส. วิฺาณายตนนฺติ ชวนจิตฺตํ ตทารมฺมณมฺปิ วฏฺฏติ.
ตเวว ปาปิม, จกฺขูติ ยํ โลเก ติมิรกาจาทีหิ อุปทฺทุตํ อเนกโรคายตนํ อุปกฺกวิปกฺกํ อนฺตมโส กาณจกฺขุปิ, สพฺพํ ตํ ตเวว ภวตุ. รูปาทีสุปิ เอเสว นโย.
ยํ วทนฺตีติ ยํ ภณฺฑกํ ‘‘มม อิท’’นฺติ วทนฺติ. เย วทนฺติ มมนฺติ จาติ เย จ ปุคฺคลา ‘‘มม’’นฺติ วทนฺติ. เอตฺถ เจ เต มโน อตฺถีติ เอเตสุ จ าเนสุ ยทิ จิตฺตํ อตฺถิ. น เม สมณ โมกฺขสีติ สมณ มยฺหํ วิสยโต น มุจฺจิสฺสสิ. ยํ วทนฺตีติ ยํ ภณฺฑกํ วทนฺติ, น ตํ มยฺหํ. เย วทนฺตีติ เยปิ ปุคฺคลา เอวํ วทนฺติ, น เต อหํ. น เม มคฺคมฺปิ ทกฺขสีติ ภวโยนิคติอาทีสุ มยฺหํ คตมคฺคมฺปิ น ปสฺสสิ. นวมํ.
๑๐. รชฺชสุตฺตวณฺณนา
๑๕๖. ทสเม ¶ อหนํ อฆาตยนฺติ อหนนฺเตน อฆาตยนฺเตน. อชินํ อชาปยนฺติ ปรสฺส ธนชานึ อกโรนฺเตน อการาเปนฺเตน. อโสจํ อโสจาปยนฺติ อโสจนฺเตน อโสจาปยนฺเตน. อิติ ภควา อธมฺมิกราชูนํ รชฺเช วิชิเต ทณฺฑกรปีฬิเต มนุสฺเส ทิสฺวา การฺุวเสน เอวํ จินฺเตสิ. อุปสงฺกมีติ ¶ ‘‘สมโณ โคตโม ‘สกฺกา นุ โข รชฺชํ กาเรตุ’นฺติ จินฺเตสิ, รชฺชํ กาเรตุกาโม ภวิสฺสติ, รชฺชฺจ นาเมตํ ปมาทฏฺานํ, รชฺชํ กาเรนฺเต สกฺกา โอตารํ ลภิตุํ, คจฺฉามิ อุสฺสาหมสฺส ชเนสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมิ. อิทฺธิปาทาติ อิชฺฌนกโกฏฺาสา ¶ . ภาวิตาติ วฑฺฒิตา. พหุลีกตาติ ปุนปฺปุนํ กตา. ยานีกตาติ ยุตฺตยานํ วิย กตา. วตฺถุกตาติ ปติฏฺฏฺเนวตฺถุกตา. อนุฏฺิตาติ อวิชหิตา นิจฺจานุพทฺธา. ปริจิตาติ สาตจฺจกิริยาย สุปริจิตา กตา อิสฺสาสสฺส อวิราธิตเวธิหตฺโถ วิย. สุสมารทฺธาติ สุฏฺุ สมารทฺธา ปริปุณฺณภาวนา. อธิมุจฺเจยฺยาติ จินฺเตยฺย.
ปพฺพตสฺสาติ ปพฺพโต ภเวยฺย. ทฺวิตฺตาวาติ ติฏฺตุ เอโก ปพฺพโต, ทฺวิกฺขตฺตุมฺปิ ตาว มหนฺโต สุวณฺณปพฺพโต เอกสฺส นาลํ, น ปริยตฺโตติ อตฺโถ. อิติ วิทฺวา สมฺจเรติ เอวํ ชานนฺโต สมํ จเรยฺย. ยโตนิทานนฺติ ทุกฺขํ นาม ปฺจกามคุณนิทานํ, ตํ ยโตนิทานํ โหติ, เอวํ โย อทกฺขิ. กถํ นเมยฺยาติ โส ชนฺตุ เตสุ ทุกฺขสฺส นิทานภูเตสุ กาเมสุ เกน การเณน นเมยฺย. อุปธึ วิทิตฺวาติ กามคุณอุปธึ ‘‘สงฺโค เอโส, ลคฺคนเมต’’นฺติ เอวํ วิทิตฺวา. ตสฺเสว ชนฺตุ วินยาย สิกฺเขติ ตสฺเสว อุปธิสฺส วินยาย สิกฺเขยฺย. ทสมํ.
ทุติโย วคฺโค.
๓. ตติยวคฺโค
๑. สมฺพหุลสุตฺตวณฺณนา
๑๕๗. ตติยวคฺคสฺส ปเม ชฏณฺฑุเวนาติ ชฏาจุมฺพฏเกน. อชินกฺขิปนิวตฺโถติ สขุรํ อชินจมฺมํ เอกํ นิวตฺโถ เอกํ ปารุโต. อุทุมฺพรทณฺฑนฺติ ¶ อปฺปิจฺฉภาวปฺปกาสนตฺถํ อีสกํ วงฺกํ อุทุมฺพรทณฺฑํ คเหตฺวา. เอตทโวจาติ โลเก พฺราหฺมณสฺส วจนํ นาม สุสฺสูสนฺติ, พฺราหฺมเณสุปิ ปพฺพชิตสฺส, ปพฺพชิเตสุปิ มหลฺลกสฺสาติ มหลฺลกพฺราหฺมณสฺส ปพฺพชิตเวสํ คเหตฺวา ปธานภูมิยํ กมฺมํ กโรนฺเต เต ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา เอตํ ‘‘ทหรา ภวนฺโต’’ติอาทิวจนํ ¶ อโวจ. โอกมฺเปตฺวาติ หนุเกน อุรํ ปหรนฺโต อโธนตํ กตฺวา. ชิวฺหํ นิลฺลาเลตฺวาติ กพรมหาชิวฺหํ นีหริตฺวา อุทฺธมโธ อุภยปสฺเสสุ จ ลาเลตฺวา. ติวิสาขนฺติ ติสาขํ. นลาฏิกนฺติ ภกุฏึ, นลาเฏ อุฏฺิตํ วลิตฺตยนฺติ อตฺโถ. ปกฺกามีติ ตุมฺเห ชานนฺตานํ ¶ วจนํ อกตฺวา อตฺตโนว เตเล ปจฺจิสฺสถาติ วตฺวา เอกํ มคฺคํ คเหตฺวา คโต. ปมํ.
๒. สมิทฺธิสุตฺตวณฺณนา
๑๕๘. ทุติเย ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เมติ เอวรูปสฺส สตฺถุ เจว ธมฺมสฺส จ สพฺรหฺมจารีนฺจ ลทฺธตฺตา มยฺหํ ลาภา มยฺหํ สุลทฺธนฺติ. โส กิรายสฺมา ปจฺฉา มูลกมฺมฏฺานํ สมฺมสิตฺวา ‘‘อรหตฺตํ คเหสฺสามี’’ติ ปาสาทิกํ ตาว กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา พุทฺธธมฺมสงฺฆคุเณ อาวชฺเชตฺวา จิตฺตกลฺลตํ อุปฺปาเทตฺวา จิตฺตํ หาเสตฺวา โตเสตฺวา นิสินฺโน. เตนสฺส เอวมโหสิ. อุปสงฺกมีติ ‘‘อยํ สมิทฺธิ ภิกฺขุ ปาสาทิกํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา นิสินฺนสทิโส, ยาว มูลกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อรหตฺตํ น คณฺหาติ, ตาวสฺส อนฺตรายํ กริสฺสามี’’ติ อุปสงฺกมิ. คจฺฉ ตฺวนฺติ สตฺถา สกลชมฺพุทีปํ โอโลเกนฺโต ‘‘ตสฺมึเยว าเน ตสฺส กมฺมฏฺานํ สปฺปายํ ภวิสฺสตี’’ติ อทฺทส, ตสฺมา เอวมาห. สติปฺา จ เม พุทฺธาติ มยา สติ จ ปฺา จ าตา. กรสฺสุ รูปานีติ พหูนิปิ วิภึสการหานิ รูปานิ กรสฺสุ. เนว มํ พฺยาธยิสฺสสีติ มํ เนว เวธยิสฺสสิ น กมฺปสฺเสสิ. ทุติยํ.
๓. โคธิกสุตฺตวณฺณนา
๑๕๙. ตติเย ¶ อิสิคิลิปสฺเสติ อิสิคิลิสฺส นาม ปพฺพตสฺส ปสฺเส. กาฬสิลายนฺติ กาฬวณฺณาย สิลายํ. สามยิกํ เจโตวิมุตฺตินฺติ ¶ อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ ปจฺจนีกธมฺเมหิ วิมุจฺจติ, อารมฺมเณ จ อธิมุจฺจตีติ โลกิยสมาปตฺติ สามยิกา เจโตวิมุตฺติ นาม. ผุสีติ ปฏิลภิ. ปริหายีติ กสฺมา ยาว ฉฏฺํ ปริหายิ? สาพาธตฺตา. เถรสฺส กิร วาตปิตฺตเสมฺหวเสน อนุสายิโก อาพาโธ อตฺถิ, เตน สมาธิสฺส สปฺปาเย อุปการกธมฺเม ปูเรตุํ น สกฺโกติ, อปฺปิตปฺปิตาย สมาปตฺติยา ปริหายติ.
ยํนูนาหํ สตฺถํ อาหเรยฺยนฺติ โส กิร จินฺเตสิ, ยสฺมา ปริหีนชฺฌานสฺส กาลงฺกโรโต อนิพทฺธา คติ โหติ, อปริหีนชฺฌานสฺส นิพทฺธา คติ โหติ, พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตติ, ตสฺมา สตฺถํ อาหริตุกาโม อโหสิ. อุปสงฺกมีติ – ‘‘อยํ สมโณ สตฺถํ อาหริตุกาโม, สตฺถาหรณฺจ ¶ นาเมตํ กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขสฺส โหติ. โย เอวํ กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺโข โหติ, โส มูลกมฺมฏฺานํ สมฺมสิตฺวา อรหตฺตมฺปิ คเหตุํ สมตฺโถ โหติ, มยา ปน ปฏิพาหิโตปิ เอส น โอรมิสฺสติ, สตฺถารา ปฏิพาหิโต โอรมิสฺสตี’’ติ เถรสฺส อตฺถกาโม วิย หุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ.
ชลาติ ชลมานา. ปาเท วนฺทามิ จกฺขุมาติ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมา ตว ปาเท วนฺทามิ. ชุตินฺธราติ อานุภาวธรา. อปฺปตฺตมานโสติ อปฺปตฺตอรหตฺโต. เสโขติ สีลาทีนิ สิกฺขมาโน สกรณีโย. ชเน สุตาติ ชเน วิสฺสุตา. สตฺถํ อาหริตํ โหตีติ เถโร กิร ‘‘กึ มยฺหํ อิมินา ชีวิเตนา’’ติ? อุตฺตาโน นิปชฺชิตฺวา สตฺเถน คลนาฬึ ฉินฺทิ, ทุกฺขา เวทนา อุปฺปชฺชึสุ. เถโร เวทนํ วิกฺขมฺเภตฺวา ตํเยว เวทนํ ปริคฺคเหตฺวา สตึ อุปฏฺเปตฺวา มูลกมฺมฏฺานํ สมฺมสนฺโต อรหตฺตํ ปตฺวา สมสีสี หุตฺวา ปรินิพฺพายิ. สมสีสี นาม ติวิโธ โหติ อิริยาปถสมสีสี, โรคสมสีสี, ชีวิตสมสีสีติ.
ตตฺถ ¶ โย านาทีสุ อิริยาปเถสุ อฺตรํ อธิฏฺาย – ‘‘อิมํ อโกเปตฺวาว อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ วิปสฺสนํ ปฏฺเปติ, อถสฺส อรหตฺตปฺปตฺติ จ อิริยาปถโกปนฺจ เอกปฺปหาเรเนว โหติ. อยํ อิริยาปถสมสีสี นาม. โย ปน จกฺขุโรคาทีสุ อฺตรสฺมึ ¶ สติ – ‘‘อิโต อนุฏฺิโตว อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ วิปสฺสนํ ปฏฺเปติ, อถสฺส อรหตฺตปฺปตฺติ จ โรคโต วุฏฺานฺจ เอกปฺปหาเรเนว โหติ. อยํ โรคสมสีสี นาม. เกจิ ปน ตสฺมึเยว อิริยาปเถ ตสฺมิฺจ โรเค ปรินิพฺพานวเสเนตฺถ สมสีสิตํ ปฺาเปนฺติ. ยสฺส ปน อาสวกฺขโย จ ชีวิตกฺขโย จ เอกปฺปหาเรเนว โหติ. อยํ ชีวิตสมสีสี นาม. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ยสฺส ปุคฺคลสฺส อปุพฺพํ อจริมํ อาสวปริยาทานฺจ โหติ ชีวิตปริยาทานฺจ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สมสีสี’’ติ (ปุ. ป. ๑๖).
เอตฺถ จ ปวตฺติสีสํ กิเลสสีสนฺติ ทฺเว สีสานิ. ตตฺถ ปวตฺติสีสํ นาม ชีวิตินฺทฺริยํ, กิเลสสีสํ นาม อวิชฺชา. เตสุ ชีวิตินฺทฺริยํ จุติจิตฺตํ เขเปติ, อวิชฺชา มคฺคจิตฺตํ. ทฺวินฺนํ จิตฺตานํ เอกโต อุปฺปาโท นตฺถิ. มคฺคานนฺตรํ ปน ผลํ, ผลานนฺตรํ ภวงฺคํ, ภวงฺคโต วุฏฺาย ปจฺจเวกฺขณํ, ตํ ปริปุณฺณํ วา โหติ อปริปุณฺณํ วา. ติขิเณน อสินา สีเส ฉิชฺชนฺเตปิ ¶ หิ เอโก วา ทฺเว วา ปจฺจเวกฺขณวารา อวสฺสํ อุปฺปชฺชนฺติเยว, จิตฺตานํ ปน ลหุปริวตฺติตาย อาสวกฺขโย จ ชีวิตปริยาทานฺจ เอกกฺขเณ วิย ปฺายติ.
สมูลํ ตณฺหมพฺพุยฺหาติ อวิชฺชามูเลน สมูลกํ ตณฺหํ อรหตฺตมคฺเคน อุปฺปาเฏตฺวา. ปรินิพฺพุโตติ อนุปาทิเสสนิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต.
วิวตฺตกฺขนฺธนฺติ ปริวตฺตกฺขนฺธํ. เสมานนฺติ อุตฺตานํ หุตฺวา สยิตํ โหติ. เถโร ปน กิฺจาปิ อุตฺตานโก สยิโต, ตถาปิสฺส ทกฺขิเณน ปสฺเสน ปริจิตสยนตฺตา สีสํ ทกฺขิณโตว ปริวตฺติตฺวา ิตํ. ธูมายิตตฺตนฺติ ธูมายิตภาวํ. ตสฺมึ หิ ขเณ ธูมวลาหกา วิย ติมิรวลาหกา วิย จ อุฏฺหึสุ. วิฺาณํ สมนฺเวสตีติ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ ปริเยสติ. อปฺปติฏฺิเตนาติ ปฏิสนฺธิวิฺาเณน อปฺปติฏฺิเตน, อปฺปติฏฺิตการณาติ อตฺโถ. เพลุวปณฺฑุวีณนฺติ เพลุวปกฺกํ วิย ปณฺฑุวณฺณํ สุวณฺณมหาวีณํ. อาทายาติ กจฺเฉ เปตฺวา. อุปสงฺกมีติ ¶ ‘‘โคธิกตฺเถรสฺส นิพฺพตฺตฏฺานํ น ¶ ชานามิ, สมณํ โคตมํ ปุจฺฉิตฺวา นิกฺกงฺโข ภวิสฺสามี’’ติ ขุทฺทกทารกวณฺณี หุตฺวา อุปสงฺกมิ. นาธิคจฺฉามีติ น ปสฺสามิ. โสกปเรตสฺสาติ โสเกน ผุฏฺสฺส. อภสฺสถาติ ปาทปิฏฺิยํ ปติตา. ตติยํ.
๔. สตฺตวสฺสานุพนฺธสุตฺตวณฺณนา
๑๖๐. จตุตฺเถ สตฺต วสฺสานีติ ปุเร โพธิยา ฉพฺพสฺสานิ, โพธิโต ปจฺฉา เอกํ วสฺสํ. โอตาราเปกฺโขติ ‘‘สเจ สมณสฺส โคตมสฺส กายทฺวาราทีสุ กิฺจิเทว อนนุจฺฉวิกํ ปสฺสามิ, โจเทสฺสามิ น’’นฺติ เอวํ วิวรํ อเปกฺขมาโน. อลภมาโนติ รถเรณุมตฺตมฺปิ อวกฺขลิตํ อปสฺสนฺโต. เตนาห –
‘‘สตฺต วสฺสานิ ภควนฺตํ, อนุพนฺธึ ปทาปทํ;
โอตารํ นาธิคจฺฉิสฺสํ, สมฺพุทฺธสฺส สตีมโต’’ติ. (สุ. นิ. ๔๔๘);
อุปสงฺกมีติ ‘‘อชฺช สมณํ โคตมํ อติคเหตฺวา คมิสฺสามี’’ติ อุปสงฺกมิ.
ฌายสีติ ¶ ฌายนฺโต อวชฺฌายนฺโต นิสินฺโนสีติ วทติ. วิตฺตํ นุ ชีโนติ สตํ วา สหสฺสํ วา ชิโตสิ นุ. อาคุํ นุ คามสฺมินฺติ, กึ นุ อนฺโตคาเม ปมาณาติกฺกนฺตํ ปาปกมฺมํ อกาสิ, เยน อฺเสํ มุขํ โอโลเกตุํ อวิสหนฺโต อรฺเ วิจรสิ? สกฺขินฺติ มิตฺตภาวํ.
ปลิขายาติ ขณิตฺวา. ภวโลภชปฺปนฺติ ภวโลภสงฺขาตํ ตณฺหํ. อนาสโว ฌายามีติ นิตฺตณฺโห หุตฺวา ทฺวีหิ ฌาเนหิ ฌายามิ. ปมตฺตพนฺธูติ มารํ อาลปติ. โส หิ เยเกจิ โลเก ปมตฺตา, เตสํ พนฺธุ.
สเจ มคฺคํ อนุพุทฺธนฺติ ยทิ ตยา มคฺโค อนุพุทฺโธ. อเปหีติ อปยาหิ. อมจฺจุเธยฺยนฺติ ¶ มจฺจุโน อโนกาสภูตํ นิพฺพานํ. ปารคามิโนติ เยปิ ปารํ คตา, เตปิ ปารคามิโน. เยปิ ปารํ คจฺฉิสฺสนฺติ, เยปิ ปารํ คนฺตุกามา, เตปิ ปารคามิโน.
วิสูกายิกานีติ ¶ มารวิสูกานิ. วิเสวิตานีติ วิรุทฺธเสวิตานิ, ‘‘อปฺปมายุ มนุสฺสานํ, อจฺจยนฺติ อโหรตฺตา’’ติ วุตฺเต. ‘‘ทีฆมายุ มนุสฺสานํ, นาจฺจยนฺติ อโหรตฺตา’’ติอาทีนิ ปฏิโลมการณานิ. วิปฺผนฺทิตานีติ, ตมฺหิ ตมฺหิ กาเล หตฺถิราชวณฺณสปฺปวณฺณาทิทสฺสนานิ. นิพฺเพชนียาติ อุกฺกณฺนียา.
อนุปริยคาติอาทีสุ กิฺจาปิ อตีตวจนํ กตํ, อตฺโถ ปน วิกปฺปวเสน เวทิตพฺโพ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา เมทวณฺณํ ปาสาณํ วายโส ทิสฺวา – ‘‘อปิ นาเมตฺถ มุทุํ วินฺเทยฺยาม, อปิ อสฺสาโท สิยา’’ติ อนุปริคจฺเฉยฺย, อถ โส ตตฺถ อสฺสาทํ อลภิตฺวาว วายโส เอตฺโต อปกฺกเมยฺย, ตโต ปาสาณา อปคจฺเฉยฺย, เอวํ มยมฺปิ โส กาโก วิย เสลํ โคตมํ อาสชฺช อสฺสาทํ วา สนฺถวํ วา อลภนฺตา โคตมา นิพฺพินฺทิตฺวา อปคจฺฉาม. จตุตฺถํ.
๕. มารธีตุสุตฺตวณฺณนา
๑๖๑. ปฺจเม อภาสิตฺวาติ เอตฺถ อ-กาโร นิปาตมตฺตํ, ภาสิตฺวาติ อตฺโถ. อภาสยิตฺวาติปิ ¶ ปาโ. อุปสงฺกมึสูติ ‘‘โคปาลกทารกํ วิย ทณฺฑเกน ภูมึ เลขํ ทตฺวา อติวิย ทุมฺมโน หุตฺวา นิสินฺโน. ‘กินฺนุ โข การณ’นฺติ? ปุจฺฉิตฺวา, ชานิสฺสามา’’ติ อุปสงฺกมึสุ.
โสจสีติ จินฺเตสิ. อารฺมิว กฺุชรนฺติ ยถา อรฺโต เปสิตคณิการหตฺถินิโย อารฺกํ กฺุชรํ อิตฺถิกุตฺตทสฺสเนน ปโลเภตฺวา พนฺธิตฺวา อานยนฺติ, เอวํ อานยิสฺสาม. มารเธยฺยนฺติ เตภูมกวฏฺฏํ.
อุปสงฺกมึสูติ – ‘‘ตุมฺเห โถกํ อธิวาเสถ, มยํ ตํ ¶ อาเนสฺสามา’’ติ ปิตรํ สมสฺสาเสตฺวา อุปสงฺกมึสุ. อุจฺจาวจาติ นานาวิธา. เอกสตํ เอกสตนฺติ เอเกกํ สตํ สตํ กตฺวา. กุมาริวณฺณสตนฺติ อิมินา นเยน กุมาริอตฺตภาวานํ สตํ.
อตฺถสฺส ¶ ปตฺตึ หทยสฺส สนฺตินฺติ, ทฺวีหิปิ ปเทหิ อรหตฺตเมว กเถสิ. เสนนฺติ กิเลสเสนํ. สา หิ ปิยรูปสาตรูปา นาม. เอกาหํ ฌายนฺติ เอโก อหํ ฌายนฺโต. สุขมนุโพธินฺติ อรหตฺตสุขํ อนุพุชฺฌึ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปิยรูปํ สาตรูปํ เสนํ ชินิตฺวา อหํ เอโก ฌายนฺโต ‘‘อตฺถสฺส ปตฺตึ หทยสฺส สนฺติ’’นฺติ สงฺขํ คตํ อรหตฺตสุขํ อนุพุชฺฌึ. ตสฺมา ชเนน มิตฺตสนฺถวํ น กโรมิ, เตเนว จ เม การเณน เกนจิ สทฺธึ สกฺขี น สมฺปชฺชตีติ.
กถํวิหารีพหุโลติ กตเมน วิหาเรน พหุลํ วิหรนฺโต. อลทฺธาติ อลภิตฺวา. โยติ นิปาตมตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กตเมน ฌาเนน พหุลํ ฌายนฺตํ ตํ ปุคฺคลํ กามสฺา อลภิตฺวาว ปริพาหิรา โหนฺตีติ.
ปสฺสทฺธกาโยติ จตุตฺถชฺฌาเนน อสฺสาสปสฺสาสกายสฺส ปสฺสทฺธตฺตา ปสฺสทฺธกาโย. สุวิมุตฺตจิตฺโตติ อรหตฺตผลวิมุตฺติยา สุฏฺุ วิมุตฺตจิตฺโต. อสงฺขราโนติ ตโย กมฺมาภิสงฺขาเร อนภิสงฺขโรนฺโต. อโนโกติ อนาลโย. อฺาย ธมฺมนฺติ จตุสจฺจธมฺมํ ชานิตฺวา. อวิตกฺกฌายีติ อวิตกฺเกน จตุตฺถชฺฌาเนน ฌายนฺโต. น กุปฺปตีติอาทีสุ โทเสน น กุปฺปติ, ราเคน น สรติ, โมเหน น ถีโน. อิเมสุ ตีสุ มูลกิเลเสสุ คหิเตสุ ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสํ ¶ คหิตเมว โหติ. ปมปเทน วา พฺยาปาทนีวรณํ คหิตํ, ทุติเยน กามจฺฉนฺทนีวรณํ, ตติเยน ถินํ อาทึ กตฺวา เสสนีวรณานิ. อิติ อิมินา นีวรณปฺปหาเนน ขีณาสวํ ทสฺเสติ.
ปฺโจฆติณฺโณติ ปฺจทฺวาริกํ กิเลโสฆํ ติณฺโณ. ฉฏฺนฺติ มโนทฺวาริกมฺปิ ฉฏฺํ กิเลโสฆํ อตริ. ปฺโจฆคฺคหเณน วา ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ¶ , ฉฏฺคฺคหเณน ปฺจุทฺธมฺภาคิยานิ เวทิตพฺพานิ. คณสงฺฆจารีติ คเณ จ สงฺเฆ จ จรตีติ สตฺถา คณสงฺฆจารี นาม. อทฺธา จริสฺสนฺตีติ อฺเปิ สทฺธา พหุชนา เอกํเสน จริสฺสนฺติ. อยนฺติ อยํ สตฺถา. อโนโกติ อนาลโย.
อจฺเฉชฺช ¶ เนสฺสตีติ อจฺฉินฺทิตฺวา นยิสฺสติ, มจฺจุราชสฺส หตฺถโต อจฺฉินฺทิตฺวา นิพฺพานปารํ นยิสฺสตีติ วุตฺตํ โหติ. นยมานานนฺติ นยมาเนสุ.
เสลํว สิรสูหจฺจ, ปาตาเล คาธเมสถาติ มหนฺตํ กูฏาคารปฺปมาณํ สิลํ สีเส เปตฺวา ปาตาเล ปติฏฺคเวสนํ วิย. ขาณุํว อุรสาสชฺชาติ อุรสิ ขาณุํ ปหริตฺวา วิย. อเปถาติ อปคจฺฉถ. อิมสฺมึ าเน สงฺคีติการา ‘‘อิทมโวจา’’ติ เทสนํ นิฏฺเปตฺวา ททฺทลฺลมานาติ คาถํ อาหํสุ. ตตฺถ ททฺทลฺลมานาติ อติวิย ชลมานา โสภมานา. อาคฺฉุนฺติ อาคตา. ปนุทีติ นีหริ. ตูลํ ภฏฺํว มาลุโตติ ยถา ผลโต ภฏฺํ สิมฺพลิตูลํ วา โปฏกิตูลํ วา วาโต ปนุทติ นีหรติ, เอวํ ปนุทีติ. ปฺจมํ.
ตติโย วคฺโค.
อิติ สารตฺถปฺปกาสินิยา
สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย
มารสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.