📜

๕. ภิกฺขุนีสํยุตฺตํ

๑. อาฬวิกาสุตฺตวณฺณนา

๑๖๒. ภิกฺขุนีสํยุตฺตสฺส ปเม อาฬวิกาติ อาฬวิยํ ชาตา อาฬวินครโตเยว จ นิกฺขมฺม ปพฺพชิตา. อนฺธวนนฺติ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เจติเย นวกมฺมตฺถาย ธนํ สมาทเปตฺวา อาคจฺฉนฺตสฺส ยโสธรสฺส นาม ธมฺมภาณกสฺส อริยปุคฺคลสฺส อกฺขีนิ อุปฺปาเฏตฺวา ตตฺเถว อกฺขิเภทปฺปตฺเตหิ ปฺจหิ โจรสเตหิ นิวุตฺถตฺตา ตโต ปฏฺาย ‘‘อนฺธวน’’นฺติ สงฺขํ คตํ วนํ. ตํ กิร สาวตฺถิโต ทกฺขิณปสฺเส คาวุตมตฺเต โหติ ราชารกฺขาย คุตฺตํ. ตตฺถ ปวิเวกกามา ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คจฺฉนฺติ. ตสฺมา อยมฺปิ กายวิเวกตฺถินี เยน ตํ วนํ, เตนุปสงฺกมิ. นิสฺสรณนฺติ นิพฺพานํ. ปฺายาติ ปจฺจเวกฺขณาเณน. น ตฺวํ ชานาสิ ตํ ปทนฺติ ตฺวํ เอตํ นิพฺพานปทํ วา นิพฺพานคามิมคฺคปทํ วา น ชานาสิ. สตฺติสูลูปมาติ วินิวิชฺฌนตฺเถน สตฺติสูลสทิสา. ขนฺธาสํ อธิกุฏฺฏนาติ ขนฺธา เตสํ อธิกุฏฺฏนภณฺฑิกา. ปมํ.

๒. โสมาสุตฺตวณฺณนา

๑๖๓. ทุติเย านนฺติ อรหตฺตํ. ทุรภิสมฺภวนฺติ ทุปฺปสหํ. ทฺวงฺคุลปฺายาติ ปริตฺตปฺาย. ยสฺมา วา ทฺวีหิ องฺคุเลหิ กปฺปาสวฏฺฏึ คเหตฺวา สุตฺตํ กนฺตนฺติ, ตสฺมา อิตฺถี ‘‘ทฺวงฺคุลปฺา’’ติ วุจฺจติ. าณมฺหิ วตฺตมานมฺหีติ ผลสมาปตฺติาเณ ปวตฺตมาเน. ธมฺมํ วิปสฺสโตติ จตุสจฺจธมฺมํ วิปสฺสนฺตสฺส, ปุพฺพภาเค วา วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตํ ขนฺธปฺจกเมว. กิฺจิ วา ปน อฺสฺมีติ อฺํ วา กิฺจิ ‘‘อหํ อสฺมี’’ติ ตณฺหามานทิฏฺิวเสน ยสฺส สิยา. ทุติยํ.

๓. กิสาโคตมีสุตฺตวณฺณนา

๑๖๔. ตติเย กิสาโคตมีติ อปฺปมํสโลหิตตาย กิสา, โคตมีติ ปนสฺสา นามํ. ปุพฺเพ กิร สาวตฺถิยํ เอกสฺมึ กุเล อสีติโกฏิธนํ สพฺพํ องฺคาราว ชาตํ. กุฏุมฺพิโก องฺคารชาตานิ อนีหริตฺวา – ‘‘อวสฺสํ โกจิ ปุฺวา ภวิสฺสติ, ตสฺส ปุฺเน ปุน ปากติกํ ภวิสฺสตี’’ติ สุวณฺณหิรฺสฺส จาฏิโย ปูเรตฺวา อาปเณ เปตฺวา สมีเป นิสีทิ. อเถกา ทุคฺคตกุลสฺส ธีตา – ‘‘อฑฺฒมาสกํ คเหตฺวา ทารุสากํ อาหริสฺสามี’’ติ วีถึ คตา ตํ ทิสฺวา กุฏุมฺพิกํ อาห – ‘‘อาปเณ ตาว ธนํ เอตฺตกํ, เคเห กิตฺตกํ ภวิสฺสตี’’ติ. กึ ทิสฺวา อมฺม เอวํ กเถสีติ? อิมํ หิรฺสุวณฺณนฺติ. โส ‘‘ปุฺวตี เอสา ภวิสฺสตี’’ติ ตสฺสา วสนฏฺานํ ปุจฺฉิตฺวา อาปเณ ภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา ตสฺสา มาตาปิตโร อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห – ‘‘อมฺหากํ เคเห วยปฺปตฺโต ทารโก อตฺถิ, ตสฺเสตํ ทาริกํ เทถา’’ติ. กึ สามิ ทุคฺคเตหิ สทฺธึ เกฬึ กโรสีติ? มิตฺตสนฺถโว นาม ทุคฺคเตหิปิ สทฺธึ โหติ, เทถ นํ, กุฏุมฺพสามินี ภวิสฺสตีติ นํ คเหตฺวา ฆรํ อาเนสิ. สา สํวาสมนฺวาย ปุตฺตํ วิชาตา. ปุตฺโต ปทสา อาหิณฺฑนกาเล กาลมกาสิ. สา ทุคฺคตกุเล อุปฺปชฺชิตฺวา มหากุลํ คนฺตฺวาปิ ‘‘ปุตฺตวินาสํ ปตฺตามฺหี’’ติ อุปฺปนฺนพลวโสกา ปุตฺตสฺส สรีรกิจฺจํ วาเรตฺวา ตํ มตกเฬวรํ อาทาย นคเร วิปฺปลปนฺตี จรติ.

เอกทิวสํ มหติยา พุทฺธวีถิยา ทสพลสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา – ‘‘ปุตฺตสฺส เม อโรคภาวตฺถาย เภสชฺชํ เทถ ภควา’’ติ อาห. คจฺฉ สาวตฺถึ อาหิณฺฑิตฺวา ยสฺมึ เคเห มตปุพฺโพ นตฺถิ, ตโต สิทฺธตฺถกํ อาหร, ปุตฺตสฺส เต เภสชฺชํ ภวิสฺสตีติ. สา นครํ ปวิสิตฺวา ธุรเคหโต ปฏฺาย ภควตา วุตฺตนเยน คนฺตฺวา สิทฺธตฺถกํ ยาจนฺตี ฆเร ฆเร, ‘‘กุโต ตฺวํ เอวรูปํ ฆรํ ปสฺสิสฺสสี’’ติ วุตฺตา กติปยานิ เคหานิ อาหิณฺฑิตฺวา – ‘‘สพฺเพสมฺปิ กิรายํ ธมฺมตา, น มยฺหํ ปุตฺตสฺเสวา’’ติ สาลายํ ฉวํ ฉฑฺเฑตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. สตฺถา ‘‘อิมํ ปพฺพาเชตู’’ติ ภิกฺขุนิอุปสฺสยํ เปเสสิ. สา ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณิ. อิมํ เถรึ สนฺธาย ‘‘อถ โข กิสาโคตมี’’ติ วุตฺตํ.

เอกมาสีติ เอกา อาสิ. รุทมฺมุขีติ รุทมานมุขี วิย. อจฺจนฺตํ มตปุตฺตามฺหีติ เอตฺถ อนฺตํ อตีตํ อจฺจนฺตํ, ภาวนปุํสกเมตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา ปุตฺตมรณํ อนฺตํ อตีตํ โหติ, เอวํ มตปุตฺตา อหํ, อิทานิ มม ปุน ปุตฺตมรณํ นาม นตฺถิ. ปุริสา เอตทนฺติกาติ ปุริสาปิ เม เอตทนฺติกาว . โย เม ปุตฺตมรณสฺส อนฺโต, ปุริสานมฺปิ เม เอเสวนฺโต, อภพฺพา อหํ อิทานิ ปุริสํ คเวสิตุนฺติ. สพฺพตฺถ วิหตา นนฺทีติ สพฺเพสุ ขนฺธายตนธาตุภวโยนิคติิตินิวาเสสุ มม ตณฺหานนฺที วิหตา. ตโมกฺขนฺโธติ อวิชฺชากฺขนฺโธ. ปทาลิโตติ าเณน ภินฺโน. ตติยํ.

๔. วิชยาสุตฺตวณฺณนา

๑๖๕. จตุตฺเถ ปฺจงฺคิเกนาติ อาตตํ วิตตํ อาตตวิตตํ ฆนํ สุสิรนฺติ เอวํ ปฺจงฺคสมนฺนาคเตน. นิยฺยาตยามิ ตุยฺเหวาติ สพฺเพ ตุยฺหํเยว เทมิ. นาหํ เตนตฺถิกาติ นาหํ เตน อตฺถิกา. ปูติกาเยนาติ สุวณฺณวณฺโณปิ กาโย นิจฺจํ อุคฺฆริตปคฺฆริตฏฺเน ปูติกาโยว, ตสฺมา เอวมาห. ภินฺทเนนาติ ภิชฺชนสภาเวน. ปภงฺคุนาติ จุณฺณวิจุณฺณํ อาปชฺชนธมฺเมน. อฏฺฏียามีติ อฏฺฏา ปีฬิตา โหมิ. หรายามีติ ลชฺชามิ. สนฺตา สมาปตฺตีติ อฏฺวิธา โลกิยสมาปตฺติ อารมฺมณสนฺตตาย องฺคสนฺตตาย จ สนฺตาติ วุตฺตา. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ รูปารูปภเวสุ, เตสํ ทฺวินฺนํ ภวานํ คหิตตฺตา คหิเต กามภเว อฏฺสุ จ สมาปตฺตีสูติ เอเตสุ สพฺเพสุ าเนสุ มยฺหํ อวิชฺชาตโม วิหโตติ วทติ. จตุตฺถํ.

๕. อุปฺปลวณฺณาสุตฺตวณฺณนา

๑๖๖. ปฺจเม สุปุปฺผิตคฺคนฺติ อคฺคโต ปฏฺาย สุฏฺุ ปุปฺผิตํ สาลรุกฺขํ. น จตฺถิ เต ทุติยา วณฺณธาตูติ ตว วณฺณธาตุสทิสา ทุติยา วณฺณธาตุ นตฺถิ, ตยา สทิสา อฺา ภิกฺขุนี นตฺถีติ วทติ. อิธาคตา ตาทิสิกา ภเวยฺยุนฺติ ยถา ตฺวํ อิธาคตา กิฺจิ สนฺถวํ วา สิเนหํ วา น ลภสิ, เอวเมวํ เตปิ ตยาว สทิสา ภเวยฺยุํ. ปขุมนฺตริกายนฺติ ทฺวินฺนํ อกฺขีนํ มชฺเฌ นาสวํเสปิ ติฏฺนฺตึ มํ น ปสฺสสิ. วสีภูตมฺหีติ วสีภูตา อสฺมิ. ปฺจมํ.

๖. จาลาสุตฺตวณฺณนา

๑๖๗. ฉฏฺเ โก นุ ตํ อิทมาทปยีติ โก นุ มนฺทพุทฺธิ พาโล ตํ เอวํ คาหาเปสิ? ปริกฺเลสนฺติ อฺมฺปิ นานปฺปการํ อุปทฺทวํ. อิทานิ ยํ มาโร อาห – ‘‘โก นุ ตํ อิทมาทปยี’’ติ, ตํ มทฺทนฺตี – ‘‘น มํ อนฺธพาโล อาทเปสิ, โลเก ปน อคฺคปุคฺคโล สตฺถา ธมฺมํ เทเสสี’’ติ ทสฺเสตุํ, พุทฺโธติอาทิมาห. ตตฺถ สจฺเจ นิเวสยีติ ปรมตฺถสจฺเจ นิพฺพาเน นิเวเสสิ. นิโรธํ อปฺปชานนฺตาติ นิโรธสจฺจํ อชานนฺตา. ฉฏฺํ.

๗. อุปจาลาสุตฺตวณฺณนา

๑๖๘. สตฺตเม เอนฺติ มารวสํ ปุนาติ ปุนปฺปุนํ มรณมารกิเลสมารเทวปุตฺตมารานํ วสํ อาคจฺฉนฺติ. ปธูปิโตติ สนฺตาปิโต. อคติ ยตฺถ มารสฺสาติ ยตฺถ ตุยฺหํ มารสฺส อคติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ นิพฺพาเน. สตฺตมํ.

๘. สีสุปจาลาสุตฺตวณฺณนา

๑๖๙. อฏฺเม สมณี วิย ทิสฺสสีติ สมณิสทิสา ทิสฺสสิ. กิมิว จรสิ โมมูหาติ กึ การณา โมมูหา วิย จรสิ? อิโต พหิทฺธาติ อิมมฺหา สาสนา พหิ. ปาสํ เฑนฺตีติ ปาสณฺฑา, สตฺตานํ จิตฺเตสุ ทิฏฺิปาสํ ขิปนฺตีติ อตฺโถ. สาสนํ ปน ปาเส โมเจติ, ตสฺมา ปาสณฺโฑติ น วุจฺจติ, อิโต พหิทฺธาเยว ปาสณฺฑา โหนฺติ. ปสีทนฺตีติ สํสีทนฺติ ลคฺคนฺติ.

อิทานิ ‘‘กํ นุ อุทฺทิสฺส มุณฺฑาสี’’ติ ปฺหํ กเถนฺตี อตฺถิ สกฺยกุเล ชาโตติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺพาภิภูติ สพฺพานิ ขนฺธายตนธาตุภวโยนิคติอาทีนิ อภิภวิตฺวา ิโต. มรณมาราทโย นุทิ นีหรีติ มารนุโท. สพฺพตฺถมปราชิโตติ สพฺเพสุ ราคาทีสุ วา มารยุทฺเธ วา อชิโต. สพฺพตฺถ มุตฺโตติ สพฺเพสุ ขนฺธาทีสุ มุตฺโต. อสิโตติ ตณฺหาทิฏฺินิสฺสเยน อนิสฺสิโต. สพฺพกมฺมกฺขยํ ปตฺโตติ สพฺพกมฺมกฺขยสงฺขาตํ อรหตฺตํ ปตฺโต. อุปธิสงฺขเยติ อุปธิสงฺขยสงฺขาเต นิพฺพาเน อารมฺมณโต วิมุตฺโต. อฏฺมํ.

๙. เสลาสุตฺตวณฺณนา

๑๗๐. นวเม เกนิทํ ปกตนฺติ เกน อิทํ กตํ. พิมฺพนฺติ อตฺตภาวํ สนฺธาย วทติ. อฆนฺติ ทุกฺขปติฏฺานตฺตา อตฺตภาวเมว วทติ. เหตุภงฺคาติ เหตุนิโรเธน ปจฺจยเวกลฺเลน. นวมํ.

๑๐. วชิราสุตฺตวณฺณนา

๑๗๑. ทสเม นยิธ สตฺตุปลพฺภตีติ อิมสฺมึ สุทฺธสงฺขารปุฺเช ปรมตฺถโต สตฺโต นาม น อุปลพฺภติ. ขนฺเธสุ สนฺเตสูติ ปฺจสุ ขนฺเธสุ วิชฺชมาเนสุ เตน เตนากาเรน ววตฺถิเตสุ. สมฺมุตีติ สตฺโตติ สมฺามตฺตเมว โหติ. ทุกฺขนฺติ ปฺจกฺขนฺธทุกฺขํ. นาฺตฺร ทุกฺขาติ เปตฺวา ทุกฺขํ อฺโ เนว สมฺโภติ น นิรุชฺฌตีติ. ทสมํ.

อิติ สารตฺถปฺปกาสินิยา

สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

ภิกฺขุนีสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.