📜

๖. พฺรหฺมสํยุตฺตํ

๑. ปมวคฺโค

๑. พฺรหฺมายาจนสุตฺตวณฺณนา

๑๗๒. พฺรหฺมสํยุตฺตสฺส ปเม ปริวิตกฺโก อุทปาทีติ สพฺพพุทฺธานํ อาจิณฺณสมาจิณฺโณ อยํ เจตโส วิตกฺโก อุทปาทิ. กทา อุทปาทีติ? พุทฺธภูตสฺส อฏฺเม สตฺตาเห ราชายตนมูเล สกฺเกน เทวานมินฺเทน อาภตํ ทนฺตกฏฺฺจ โอสธหรีตกฺจ ขาทิตฺวา มุขํ โธวิตฺวา จตูหิ โลกปาเลหิ อุปนีเต ปจฺจคฺเฆ เสลมยปตฺเต ตปุสฺสภลฺลิกานํ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา ปุน ปจฺจาคนฺตฺวา อชปาลนิคฺโรเธ นิสินฺนมตฺตสฺส.

อธิคโตติ ปฏิวิทฺโธ. ธมฺโมติ จตุสจฺจธมฺโม. คมฺภีโรติ อุตฺตานปฏิกฺเขปวจนเมตํ. ทุทฺทโสติ คมฺภีรตฺตาว ทุทฺทโส ทุกฺเขน ทฏฺพฺโพ, น สกฺกา สุเขน ทฏฺุํ. ทุทฺทสตฺตาว ทุรนุโพโธ ทุกฺเขน อวพุชฺฌิตพฺโพ, น สกฺกา สุเขน อวพุชฺฌิตุํ. สนฺโตติ นิพฺพุโต. ปณีโตติ อตปฺปโก. อิทํ ทฺวยํ โลกุตฺตรเมว สนฺธาย วุตฺตํ. อตกฺกาวจโรติ ตกฺเกน อวจริตพฺโพ โอคาหิตพฺโพ น โหติ, าเณเนว อวจริตพฺโพ. นิปุโณติ สณฺโห. ปณฺฑิตเวทนีโยติ สมฺมาปฏิปทํ ปฏิปนฺเนหิ ปณฺฑิเตหิ เวทิตพฺโพ. อาลยรามาติ สตฺตา ปฺจสุ กามคุเณสุ อลฺลียนฺติ, ตสฺมา เต อาลยาติ วุจฺจนฺติ. อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ วา อลฺลียนฺติ, ตสฺมาปิ อาลยาติ วุจฺจนฺติ. เตหิ อาลเยหิ รมนฺตีติ อาลยรามา. อาลเยสุ รตาติ อาลยรตา. อาลเยสุ สุฏฺุ มุทิตาติ อาลยสมฺมุทิตา. ยเถว หิ สุสชฺชิตํ ปุปฺผผลภริตรุกฺขาทิสมฺปนฺนํ อุยฺยานํ ปวิฏฺโ ราชา ตาย ตาย สมฺปตฺติยา รมติ, สมฺมุทิโต อาโมทิตปโมทิโต โหติ, น อุกฺกณฺติ, สายมฺปิ นิกฺขมิตุํ น อิจฺฉติ, เอวมิเมหิปิ กามาลยตณฺหาลเยหิ สตฺตา รมนฺติ, สํสารวฏฺเฏ สมฺมุทิตา อนุกฺกณฺิตา วสนฺติ. เตน เตสํ ภควา ทุวิธํ อาลยํ อุยฺยานภูมึ วิย ทสฺเสนฺโต ‘‘อาลยรามา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ยทิทนฺติ นิปาโต, ตสฺส านํ สนฺธาย ‘‘ยํ อิท’’นฺติ, ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ สนฺธาย ‘‘โย อย’’นฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ อิเมสํ ปจฺจยา อิทปฺปจฺจยา, อิทปฺปจฺจยา เอว อิทปฺปจฺจยตา, อิทปฺปจฺจยตา จ สา ปฏิจฺจสมุปฺปาโท จาติ อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโท. สงฺขาราทิปจฺจยานํ เอตํ อธิวจนํ. สพฺพสงฺขารสมโถติอาทิ สพฺพํ นิพฺพานเมว. ยสฺมา หิ ตํ อาคมฺม สพฺพสงฺขารวิปฺผนฺทิตานิ สมนฺติ, วูปสมฺมนฺติ, ตสฺมา สพฺพสงฺขารสมโถติ วุจฺจติ. ยสฺมา จ ตํ อาคมฺม สพฺเพ อุปธโย ปฏินิสฺสฏฺา โหนฺติ, สพฺพา ตณฺหา ขียนฺติ, สพฺเพ กิเลสราคา วิรชฺชนฺติ, สพฺพํ ทุกฺขํ นิรุชฺฌติ, ตสฺมา สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธติ วุจฺจติ. ยา ปเนสา ตณฺหา ภเวน ภวํ, ผเลน วา สทฺธึ กมฺมํ วินติ สํสิพฺพตีติ กตฺวา วานนฺติ วุจฺจติ, ตโต นิกฺขนฺตํ วานโตติ นิพฺพานํ. โส มมสฺส กิลมโถติ ยา อชานนฺตานํ เทสนา นาม, โส มม กิลมโถ อสฺส, สา มม วิเหสา อสฺสาติ อตฺโถ. กายกิลมโถ เจว กายวิเหสา จ อสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. จิตฺเต ปน อุภยมฺเปตํ พุทฺธานํ นตฺถิ. อปิสฺสูติ อนุพฺรูหนตฺเถ นิปาโต. โส ‘‘น เกวลํ อยํ ปริวิตกฺโก อุทปาทิ, อิมาปิ คาถา ปฏิภํสู’’ติ ทีเปติ. อนจฺฉริยาติ อนุอจฺฉริยา. ปฏิภํสูติ ปฏิภานสงฺขาตสฺส าณสฺส โคจรา อเหสุํ, ปริวิตกฺกยิตพฺพตํ ปาปุณึสุ.

กิจฺเฉนาติ ทุกฺเขน, น ทุกฺขาย ปฏิปทาย. พุทฺธานํ หิ จตฺตาโรปิ มคฺคา สุขปฏิปทาว โหนฺติ. ปารมีปูรณกาเล ปน สราคสโทสสโมหสฺเสว สโต อาคตาคตานํ ยาจกานํ อลงฺกตปฏิยตฺตํ สีสํ กนฺติตฺวา คลโลหิตํ นีหริตฺวา สุอฺชิตานิ อกฺขีนิ อุปฺปาเฏตฺวา กุลวํสปฺปทีปํ ปุตฺตํ มนาปจารินึ ภริยนฺติ เอวมาทีนิ เทนฺตสฺส อฺานิ จ ขนฺติวาทิสทิเสสุ อตฺตภาเวสุ เฉชฺชเภชฺชาทีนิ ปาปุณนฺตสฺส อาคมนียปฏิปทํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. หลนฺติ เอตฺถ -กาโร นิปาตมตฺโต, อลนฺติ อตฺโถ. ปกาสิตุนฺติ เทสิตุํ, เอวํ กิจฺเฉน อธิคตสฺส อลํ เทสิตุํ ปริยตฺตํ เทสิตุํ. โก อตฺโถ เทสิเตนาติ วุตฺตํ โหติ? ราคโทสปเรเตหีติ ราคโทสผุฏฺเหิ ราคโทสานุคเตหิ วา.

ปฏิโสตคามินฺติ นิจฺจาทีนํ ปฏิโสตํ, ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา อสุภ’’นฺติ เอวํ คตํ จตุสจฺจธมฺมํ. ราครตฺตาติ กามราเคน ภวราเคน ทิฏฺิราเคน จ รตฺตา. น ทกฺขนฺตีติ อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา อสุภนฺติ อิมินา สภาเวน น ปสฺสิสฺสนฺติ , เต อปสฺสนฺเต โก สกฺขิสฺสติ เอวํ คาหาเปตุํ. ตโมขนฺเธน อาวุฏาติ อวิชฺชาราสินา อชฺโฌตฺถฏา.

อปฺโปสฺสุกฺกตายาติ นิรุสฺสุกฺกภาเวน, อเทเสตุกามตายาติ อตฺโถ. กสฺมา ปนสฺส เอวํ จิตฺตํ นมิ? นนุ เอส มุตฺโต โมเจสฺสามิ, ติณฺโณ ตาเรสฺสามิ –

‘‘กึ เม อฺาตเวเสน, ธมฺมํ สจฺฉิกเตนิธ;

สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา, ตารยิสฺสํ สเทวก’’นฺติ. (พุ. วํ. ๒.๕๖) –

ปตฺถนํ กตฺวา ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺโตติ? สจฺจเมตํ, ตเทวํ ปจฺจเวกฺขณานุภาเวน ปนสฺส เอวํ จิตฺตํ นมิ. ตสฺส หิ สพฺพฺุตํ ปตฺวา สตฺตานํ กิเลสคหนตํ, ธมฺมสฺส จ คมฺภีรตํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส สตฺตานํ กิเลสคหนตา จ ธมฺมคมฺภีรตา จ สพฺพากาเรน ปากฏา ชาตา. อถสฺส – ‘‘อิเม สตฺตา กฺชิยปุณฺณา ลาพุ วิย, ตกฺกภริตา จาฏิ วิย, วสาเตลปีตปิโลติกา วิย, อฺชนมกฺขิตหตฺโถ วิย จ กิเลสภริตา อติสํกิลิฏฺา ราครตฺตา โทสทุฏฺา โมหมูฬฺหา, เต กึ นาม ปฏิวิชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ? จินฺตยโต กิเลสคหนปจฺจเวกฺขณานุภาเวนาปิ เอวํ จิตฺตํ นมิ.

‘‘อยฺจ ธมฺโม ปถวีสนฺธารกอุทกกฺขนฺโธ วิย คมฺภีโร, ปพฺพเตน ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปิโต สาสโป วิย ทุทฺทโส, สตธา ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏิปฏิปาทนํ วิย ทุรนุโพโธ. นนุ มยา หิ อิมํ ธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตุํ วายมนฺเตน อทินฺนํ ทานํ นาม นตฺถิ, อรกฺขิตํ สีลํ นาม นตฺถิ, อปริปูริตา กาจิ ปารมี นาม นตฺถิ, ตสฺส เม นิรุสฺสาหํ วิย มารพลํ วิธมนฺตสฺสาปิ ปถวี น กมฺปิตฺถ, ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺตสฺสาปิ น กมฺปิตฺถ, มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธนฺตสฺสาปิ น กมฺปิตฺถ, ปจฺฉิมยาเม ปน ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปฏิวิชฺฌนฺตสฺเสว เม ทสสหสฺสิโลกธาตุ กมฺปิตฺถ. อิติ มาทิเสนาปิ ติกฺขาเณน กิจฺเฉเนวายํ ธมฺโม ปฏิวิทฺโธ. ตํ โลกิยมหาชนา กถํ ปฏิวิชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ? ธมฺมคมฺภีรปจฺจเวกฺขณานุภาเวนาปิ เอวํ จิตฺตํ นมีติ เวทิตพฺพํ.

อปิจ พฺรหฺมุนา ยาจิเต เทเสตุกามตายปิสฺส เอวํ จิตฺตํ นมิ. ชานาติ หิ ภควา – ‘‘มม อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺเต นมมาเน มํ มหาพฺรหฺมา ธมฺมเทสนํ ยาจิสฺสติ, อิเม จ สตฺตา พฺรหฺมครุกา. เต ‘สตฺถา กิร ธมฺมํ น เทเสตุกาโม อโหสิ. อถ นํ มหาพฺรหฺมา ยาจิตฺวา เทสาเปสิ. สนฺโต วต โภ ธมฺโม, ปณีโต วต โภ ธมฺโม’ติ มฺมานา สุสฺสูสิสฺสนฺตี’’ติ. อิทมฺปิสฺส การณํ ปฏิจฺจ อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมิ, โน ธมฺมเทสนายาติ เวทิตพฺพํ.

สหมฺปติสฺสาติ โส กิร กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน สหโก นาม เถโร ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปมชฺฌานภูมิยํ กปฺปายุกพฺรหฺมา หุตฺวา นิพฺพตฺโต. ตตฺร นํ ‘‘สหมฺปติพฺรหฺมา’’ติ ปฏิสฺชานนฺติ. ตํ สนฺธายาห ‘‘พฺรหฺมุโน สหมฺปติสฺสา’’ติ. นสฺสติ วต โภติ โส กิร อิมํ สทฺทํ ตถา นิจฺฉาเรสิ, ยถา ทสสหสฺสิโลกธาตุพฺรหฺมาโน สุตฺวา สพฺเพ สนฺนิปตึสุ. ยตฺร หิ นามาติ ยสฺมึ นาม โลเก. ปุรโต ปาตุรโหสีติ เตหิ ทสหิ พฺรหฺมสหสฺเสหิ สทฺธึ ปาตุรโหสิ. อปฺปรชกฺขชาติกาติ ปฺามเย อกฺขิมฺหิ อปฺปํ ปริตฺตํ ราคโทสโมหรชํ เอเตสํ เอวํสภาวาติ อปฺปรชกฺขชาติกา. อสฺสวนตาติ อสฺสวนตาย. ภวิสฺสนฺตีติ ปุริมพุทฺเธสุ ทสปุฺกิริยวเสน กตาธิการา ปริปากคตา ปทุมานิ วิย สูริยรสฺมิสมฺผสฺสํ, ธมฺมเทสนํเยว อากงฺขมานา จตุปฺปทิกคาถาวสาเน อริยภูมึ โอกฺกมนารหา น เอโก, น ทฺเว, อเนกสตสหสฺสา ธมฺมสฺส อฺาตาโร ภวิสฺสนฺตีติ ทสฺเสติ.

ปาตุรโหสีติ ปาตุภวิ. สมเลหิ จินฺติโตติ สมเลหิ ฉหิ สตฺถาเรหิ จินฺติโต. เต หิ ปุเรตรํ อุปฺปชฺชิตฺวา สกลชมฺพุทีเป กณฺฏเก ปตฺถรมานา วิย, วิสํ สิฺจมานา วิย จ สมลํ มิจฺฉาทิฏฺิธมฺมํ เทสยึสุ. อปาปุเรตนฺติ วิวรํ เอตํ. อมตสฺส ทฺวารนฺติ อมตสฺส นิพฺพานสฺส ทฺวารภูตํ อริยมคฺคํ. สุณนฺตุ ธมฺมํ วิมเลนานุพุทฺธนฺติ อิเม สตฺตา ราคาทิมลานํ อภาวโต วิมเลน สมฺมาสมฺพุทฺเธน อนุพุทฺธํ จตุสจฺจธมฺมํ สุณนฺตุ ตาว ภควาติ ยาจติ.

เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโตติ เสลมเย เอกคฺฆเน ปพฺพตมุทฺธนิ ยถาิโตว. น หิ ตสฺส ิตสฺส ทสฺสนตฺถํ คีวุกฺขิปนปสารณาทิกิจฺจํ อตฺถิ. ตถูปมนฺติ ตปฺปฏิภาคํ เสลปพฺพตูปมํ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ยถา เสลปพฺพตมุทฺธนิ ิโตว จกฺขุมา ปุริโส สมนฺตโต ชนตํ ปสฺเสยฺย , ตถา ตฺวมฺปิ สุเมธ สุนฺทรปฺ สพฺพฺุตาเณน สมนฺตจกฺขุ ภควา ธมฺมมยํ ปาสาทมารุยฺห สยํ อเปตโสโก โสกาวติณฺณํ ชาติชราภิภูตํ ชนตํ อเวกฺขสฺสุ อุปธารย อุปปริกฺข. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – ยถา หิ ปพฺพตปาเท สมนฺตา มหนฺตํ เขตฺตํ กตฺวา, ตตฺถ เกทารปาฬีสุ กุฏิกาโย กตฺวา รตฺตึ อคฺคึ ชาเลยฺยุํ, จตุรงฺคสมนฺนาคตฺจ อนฺธการํ อสฺส, อถ ตสฺส ปพฺพตสฺส มตฺถเก ตฺวา จกฺขุมโต ปุริสสฺส ภูมึ โอโลกยโต เนว เขตฺตํ น เกทารปาฬิโย น กุฏิโย น ตตฺถ สยิตมนุสฺสา ปฺาเยยฺยุํ. กุฏิกาสุ ปน อคฺคิชาลามตฺตกเมว ปฺาเยยฺย, เอวํ ธมฺมปาสาทํ อารุยฺห สตฺตนิกายํ โอโลกยโต ตถาคตสฺส เย เต อกตกลฺยาณา สตฺตา, เต เอกวิหาเร ทกฺขิณชาณุปสฺเส นิสินฺนาปิ พุทฺธจกฺขุสฺส อาปาถํ นาคจฺฉนฺติ, รตฺตึ ขิตฺตา สรา วิย โหนฺติ. เย ปน กตกลฺยาณา เวเนยฺยปุคฺคลา, เต เอวสฺส ทูเรปิ ิตา อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ โส อคฺคิ วิย หิมวนฺตปพฺพโต วิย จ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ทูเร สนฺโต ปกาเสนฺติ, หิมวนฺโตว ปพฺพโต;

อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺติ, รตฺตึ ขิตฺตา ยถา สรา’’ติ. (ธ. ป. ๓๐๔);

อชฺเฌสนนฺติ ยาจนํ. พุทฺธจกฺขุนาติ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาเณน จ อาสยานุสยาเณน จ. อิเมสํ หิ ทฺวินฺนํ าณานํ ‘‘พุทฺธจกฺขู’’ติ นามํ, สพฺพฺุตฺาณสฺส ‘‘สมนฺตจกฺขู’’ติ, ติณฺณํ มคฺคาณานํ ‘‘ธมฺมจกฺขู’’ติ. อปฺปรชกฺเขติอาทีสุ เยสํ วุตฺตนเยเนว ปฺาจกฺขุมฺหิ ราคาทิรชํ อปฺปํ, เต อปฺปรชกฺขา. เยสํ ตํ มหนฺตํ, เต มหารชกฺขา. เยสํ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ ติกฺขานิ, เต ติกฺขินฺทฺริยา. เยสํ ตานิ มุทูนิ, เต มุทินฺทฺริยา. เยสํ เตเยว สทฺธาทโย อาการา สุนฺทรา, เต สฺวาการา. เย กถิตการณํ สลฺลกฺเขนฺติ, สุเขน สกฺกา โหนฺติ วิฺาเปตุํ, เต สุวิฺาปยา. เย ปรโลกฺเจว วชฺชฺจ ภยโต ปสฺสนฺติ, เต ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิโน นาม.

อยํ ปเนตฺถ ปาฬิ – ‘‘สทฺโธ ปุคฺคโล อปฺปรชกฺโข, อสฺสทฺโธ ปุคฺคโล มหารชกฺโข. อารทฺธวีริโย, กุสีโต. อุปฏฺิตสฺสติ, มุฏฺสฺสติ. สมาหิโต , อสมาหิโต. ปฺวา, ทุปฺปฺโ ปุคฺคโล มหารชกฺโข. ตถา สทฺโธ ปุคฺคโล ติกฺขินฺทฺริโย…เป… ปฺวา ปุคฺคโล ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวี, ทุปฺปฺโ ปุคฺคโล น ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวี. โลโกติ ขนฺธโลโก, อายตนโลโก, ธาตุโลโก, สมฺปตฺติภวโลโก, สมฺปตฺติสมฺภวโลโก, วิปตฺติภวโลโก, วิปตฺติสมฺภวโลโก. เอโก โลโก สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา. ทฺเว โลกา นามฺจ รูปฺจ. ตโย โลกา ติสฺโส เวทนา. จตฺตาโร โลกา จตฺตาโร อาหารา. ปฺจ โลกา ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. ฉ โลกา ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ. สตฺต โลกา สตฺต วิฺาณฏฺิติโย. อฏฺ โลกา อฏฺ โลกธมฺมา. นว โลกา นว สตฺตาวาสา. ทส โลกา ทสายตนานิ. ทฺวาทส โลกา ทฺวาทสายตนานิ. อฏฺารส โลกา อฏฺารส ธาตุโย. วชฺชนฺติ สพฺเพ กิเลสา วชฺชา, สพฺเพ ทุจฺจริตา วชฺชา, สพฺเพ อภิสงฺขารา วชฺชา, สพฺเพ ภวคามิกมฺมา วชฺชา, อิติ อิมสฺมิฺจ โลเก อิมสฺมิฺจ วชฺเช ติพฺพา ภยสฺา ปจฺจุปฏฺิตา โหติ, เสยฺยถาปิ อุกฺขิตฺตาสิเก วธเก. อิเมหิ ปฺาสาย อากาเรหิ อิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ ชานาติ ปสฺสติ อฺาสิ ปฏิวิชฺฌิ. อิทํ ตถาคตสฺส อินฺทฺริยปโรปริยตฺเต าณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๒).

อุปฺปลินิยนฺติ อุปฺปลวเน. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. อนฺโตนิมุคฺคโปสีนีติ ยานิ อนฺโต นิมุคฺคาเนว โปสิยนฺติ. อุทกํ อจฺจุคฺคมฺม ิตานี ติ อุทกํ อติกฺกมิตฺวา ิตานิ. ตตฺถ ยานิ อจฺจุคฺคมฺม ิตานิ, ตานิ สูริยรสฺมิสมฺผสฺสํ อาคมยมานานิ ิตานิ อชฺช ปุปฺผนกานิ. ยานิ ปน สโมทกํ ิตานิ, ตานิ สฺเว ปุปฺผนกานิ. ยานิ อุทกานุคฺคตานิ อนฺโตนิมุคฺคโปสีนิ, ตานิ ตติยทิวเส ปุปฺผนกานิ. อุทกา ปน อนุคฺคตานิ อฺานิปิ สโรคอุปฺปลาทีนิ นาม อตฺถิ, ยานิ เนว ปุปฺผิสฺสนฺติ, มจฺฉกจฺฉปภกฺขาเนว ภวิสฺสนฺติ, ตานิ ปาฬึ นารุฬฺหานิ. อาหริตฺวา ปน ทีเปตพฺพานีติ ทีปิตานิ. ยเถว หิ ตานิ จตุพฺพิธานิ ปุปฺผานิ, เอวเมวํ อุคฺฆฏิตฺู วิปฺจิตฺู เนยฺโย ปทปรโมติ จตฺตาโร ปุคฺคลา.

ตตฺถ ‘‘ยสฺส ปุคฺคลสฺส สห อุทาหฏเวลาย ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล อุคฺฆฏิตฺู. ยสฺส ปุคฺคลสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺเถ วิภชิยมาเน ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล วิปฺจิตฺู. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุทฺเทสโต ปริปุจฺฉโต โยนิโส มนสิกโรโต กลฺยาณมิตฺเต เสวโต ภชโต ปยิรุปาสโต อนุปุพฺเพน ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล เนยฺโย. ยสฺส ปุคฺคลสฺส พหุมฺปิ สุณโต พหุมฺปิ ภณโต พหุมฺปิ ธารยโต พหุมฺปิ วาจยโต น ตาย ชาติยา ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ปทปรโม (ปุ. ป. ๑๔๘-๑๕๑). ตตฺถ ภควา อุปฺปลวนาทิสทิสํ ทสสหสฺสิโลกธาตุํ โอโลเกนฺโต – ‘‘อชฺช ปุปฺผนกานิ วิย อุคฺฆฏิตฺู, สฺเว ปุปฺผนกานิ วิย วิปฺจิตฺู, ตติยทิวเส ปุปฺผนกานิ วิย เนยฺโย, มจฺฉกจฺฉปภกฺขานิ ปุปฺผานิ วิย ปทปรโม’’ติ อทฺทสฺส. ปสฺสนฺโต จ ‘‘เอตฺตกา อปฺปรชกฺขา, เอตฺตกา มหารชกฺขา, ตตฺราปิ เอตฺตกา อุคฺฆฏิตฺู’’ติ เอวํ สพฺพาการโตว อทฺทส.

ตตฺถ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ภควโต ธมฺมเทสนา อตฺถํ สาเธติ. ปทปรมานํ อนาคตตฺถาย วาสนา โหติ. อถ ภควา อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อตฺถาวหํ ธมฺมเทสนํ วิทิตฺวา เทเสตุกมฺยตํ อุปฺปาเทตฺวา ปุน สพฺเพปิ ตีสุ ภเวสุ สตฺเต ภพฺพาภพฺพวเสน ทฺเว โกฏฺาเส อกาสิ. เย สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘กตเม สตฺตา อภพฺพา? เย เต สตฺตา กมฺมาวรเณน สมนฺนาคตา กิเลสาวรเณน สมนฺนาคตา วิปากาวรเณน สมนฺนาคตา อสฺสทฺธา อจฺฉนฺทิกา ทุปฺปฺา อภพฺพา นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ, อิเม เต สตฺตา อภพฺพา. กตเม สตฺตา ภพฺพา? เย เต สตฺตา น กมฺมาวรเณน…เป… อิเม เต สตฺตา ภพฺพา’’ติ (วิภ. ๘๒๗; ปฏิ. ม. ๑.๑๑๕). ตตฺถ สพฺเพปิ อภพฺพปุคฺคเล ปหาย ภพฺพปุคฺคเลเยว าเณน ปริคฺคเหตฺวา, ‘‘เอตฺตกา ราคจริตา เอตฺตกา โทส-โมหจริตา วิตกฺก-สทฺธา-พุทฺธิจริตา’’ติ ฉ โกฏฺาเส อกาสิ. เอวํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสสฺสามีติ จินฺเตสิ.

ปจฺจภาสีติ ปติอภาสิ. อปารุตาติ วิวฏา. อมตสฺส ทฺวาราติ อริยมคฺโค. โส หิ อมตสงฺขาตสฺส นิพฺพานสฺส ทฺวารํ, โส มยา วิวริตฺวา ปิโตติ ทสฺเสติ. ปมุฺจนฺตุ สทฺธนฺติ สพฺเพ อตฺตโน สทฺธํ ปมุฺจนฺตุ วิสฺสชฺเชนฺตุ. ปจฺฉิมปททฺวเย อยมตฺโถ – อหฺหิ อตฺตโน ปคุณํ สุปฺปวตฺติตมฺปิ อิมํ ปณีตํ อุตฺตมํ ธมฺมํ กายวาจากิลมถสฺี หุตฺวา น ภาสึ. อิทานิ ปน สพฺโพ ชโน สทฺธาภาชนํ อุปเนตุ, ปูเรสฺสามิ เตสํ สงฺกปฺปนฺติ.

อนฺตรธายีติ สตฺถารํ คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา อนฺตรหิโต, สกฏฺานเมว คโตติ อตฺโถ. คเต จ ปน ตสฺมึ ภควา ‘‘กสฺส นุ โข อหํ ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติ? อาฬารุทกานํ กาลงฺกตภาวํ, ปฺจวคฺคิยานฺจ พหูปการภาวํ ตฺวา เตสํ ธมฺมํ เทเสตุกาโม พาราณสิยํ อิสิปตนํ คนฺตฺวา ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตสีติ. ปมํ.

๒. คารวสุตฺตวณฺณนา

๑๗๓. ทุติเย อุทปาทีติ อยํ วิตกฺโก ปฺจเม สตฺตาเห อุทปาทิ. อคารโวติ อฺสฺมึ คารวรหิโต, กฺจิ ครุฏฺาเน อฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ. อปฺปติสฺโสติ ปติสฺสยรหิโต, กฺจิ เชฏฺกฏฺาเน อฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ.

สเทวเกติอาทีสุ สทฺธึ เทเวหิ สเทวเก. เทวคฺคหเณน เจตฺถ มารพฺรหฺเมสุ คหิเตสุปิ มาโร นาม วสวตฺตี สพฺเพสํ อุปริ วสํ วตฺเตติ, พฺรหฺมา นาม มหานุภาโว เอกงฺคุลิยา เอกสฺมึ จกฺกวาฬสหสฺเส อาโลกํ ผรติ. ทฺวีหิ ทฺวีสุ…เป… ทสหิ องฺคุลีหิ ทสสุปิ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ อาโลกํ ผรติ, โส อิมินา สีลสมฺปนฺนตโรติ วตฺตุํ มา ลภตูติ สมารเก สพฺรหฺมเกติ วิสุํ วุตฺตํ. ตถา สมณา นาม เอกนิกายาทิวเสน พหุสฺสุตา สีลวนฺโต ปณฺฑิตา, พฺราหฺมณาปิ วตฺถุวิชฺชาทิวเสน พหุสฺสุตา ปณฺฑิตา, เต อิมินา สีลสมฺปนฺนตราติ วตฺตุํ มา ลภนฺตูติ สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชายาติ วุตฺตํ. สเทวมนุสฺสายาติ อิทํ ปน นิปฺปเทสโต ทสฺสนตฺถํ คหิตเมว คเหตฺวา วุตฺตํ. อปิเจตฺถ ปุริมานิ ตีณิ ปทานิ โลกวเสน วุตฺตานิ, ปจฺฉิมานิ ทฺเว ปชาวเสน. สีลสมฺปนฺนตรนฺติ สีเลน สมฺปนฺนตรํ, อธิกตรนฺติ อตฺโถ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ สีลาทโย จตฺตาโร ธมฺมา โลกิยโลกุตฺตรา กถิตา, วิมุตฺติาณทสฺสนํ โลกิยเมว. ปจฺจเวกฺขณาณํ เหตํ.

ปาตุรโหสีติ – ‘‘อยํ สตฺถา อวีจิโต ยาว ภวคฺคา สีลาทีหิ อตฺตนา อธิกตรํ อปสฺสนฺโต ‘มยา ปฏิวิทฺธํ นวโลกุตฺตรธมฺมเมว สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหริสฺสามี’ติ จินฺเตติ, การณํ ภควา จินฺเตติ, อตฺถํ วุฑฺฒิวิเสสํ จินฺเตติ, คจฺฉามิสฺส อุสฺสาหํ ชเนสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุรโต ปากโฏ อโหสิ, อภิมุเข อฏฺาสีติ อตฺโถ.

วิหรนฺติ จาติ เอตฺถ โย วเทยฺย ‘‘วิหรนฺตีติ วจนโต ปจฺจุปฺปนฺเนปิ พหู พุทฺธา’’ติ, โส ‘‘ภควาปิ, ภนฺเต, เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ อิมินา วจเนน ปฏิพาหิตพฺโพ.

‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ;

สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล’’ติ. (มหาว. ๑๑; ม. นิ. ๑.๒๘๕) –

อาทีหิ จสฺส สุตฺเตหิ อฺเสํ พุทฺธานํ อภาโว ทีเปตพฺโพ. ตสฺมาติ ยสฺมา สพฺเพปิ พุทฺธา สทฺธมฺมครุโน, ตสฺมา. มหตฺตมภิกงฺขตาติ มหนฺตภาวํ ปตฺถยมาเนน. สรํ พุทฺธาน-สาสนนฺติ พุทฺธานํ สาสนํ สรนฺเตน. ทุติยํ.

๓. พฺรหฺมเทวสุตฺตวณฺณนา

๑๗๔. ตติเย เอโกติ านาทีสุ อิริยาปเถสุ เอกโก, เอกวิหารีติ อตฺโถ. วูปกฏฺโติ กาเยน วูปกฏฺโ นิสฺสโฏ. อปฺปมตฺโตติ สติยา อวิปฺปวาเส ิโต. อาตาปีติ วีริยาตาเปน สมนฺนาคโต. ปหิตตฺโตติ เปสิตตฺโต. กุลปุตฺตาติ อาจารกุลปุตฺตา. สมฺมเทวาติ น อิณฏฺฏา น ภยฏฺฏา น ชีวิตปกตา หุตฺวา, ยถา วา ตถา วา ปพฺพชิตาปิ เย อนุโลมปฏิปทํ ปูเรนฺติ, เต สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ นาม. พฺรหฺมจริยปริโยสานนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส ปริโยสานภูตํ อริยผลํ. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว. สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวาติ สามํ ชานิตฺวา ปจฺจกฺขํ กตฺวา. อุปสมฺปชฺชาติ ปฏิลภิตฺวา สมฺปาเทตฺวา วิหาสิ. เอวํ วิหรนฺโต จ ขีณา ชาติ…เป… อพฺภฺาสีติ. เอเตนสฺส ปจฺจเวกฺขณภูมิ ทสฺสิตา.

กตมา ปนสฺส ชาติ ขีณา, กถฺจ นํ อพฺภฺาสีติ? วุจฺจเต, น ตาวสฺส อตีตา ชาติ ขีณา ปุพฺเพว ขีณตฺตา, น อนาคตา ตตฺถ วายามาภาวโต, น ปจฺจุปฺปนฺนา วิชฺชมานตฺตา. มคฺคสฺส ปน อภาวิตตฺตา ยา อุปฺปชฺเชยฺย เอกจตุปฺจโวการภเวสุ เอกจตุปฺจกฺขนฺธปฺปเภทา ชาติ. สา มคฺคสฺส ภาวิตตฺตา อนุปฺปาทธมฺมตํ อาปชฺชเนน ขีณา. ตํ โส มคฺคภาวนาย ปหีนกิเลเส ปจฺจเวกฺขิตฺวา – ‘‘กิเลสาภาเว วิชฺชมานมฺปิ กมฺมํ อายตึ อปฺปฏิสนฺธิกํ โหตี’’ติ ชานนฺโต ชานาติ.

วุสิตนฺติ วุตฺถํ ปริวุตฺถํ, กตํ จริตํ นิฏฺาปิตนฺติ อตฺโถ. พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ . กตํ กรณียนฺติ จตูสุ สจฺเจสุ จตูหิ มคฺเคหิ ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยภาวนาวเสน โสฬสวิธมฺปิ กิจฺจํ นิฏฺาปิตนฺติ อตฺโถ. นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ อิทานิ ปุน อิตฺถภาวาย, เอวํ โสฬสกิจฺจภาวาย, กิเลสกฺขยาย วา กตมคฺคภาวนา นตฺถีติ. อถ วา อิตฺถตฺตายาติ อิตฺถตฺตภาวโต, อิมสฺมา เอวํปการา อิทานิ วตฺตมานกฺขนฺธสนฺตานา อปรํ ขนฺธสนฺตานํ นตฺถิ, อิเม ปน ปฺจกฺขนฺธา ปริฺาตา ติฏฺนฺติ ฉินฺนมูลโก รุกฺโข วิยาติ อพฺภฺาสิ. อฺตโรติ เอโก. อรหตนฺติ อรหนฺตานํ, ภควโต สาวกานํ อรหตํ อพฺภนฺตโร อโหสิ.

สปทานนฺติ สปทานจารํ, สมฺปตฺตฆรํ อนุกฺกมฺม ปฏิปาฏิยา จรนฺโต. อุปสงฺกมีติ อุปสงฺกมนฺโต. มาตา ปนสฺส ปุตฺตํ ทิสฺวาว ฆรา นิกฺขมฺม ปตฺตํ คเหตฺวา อนฺโตนิเวสนํ ปเวเสตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทาเปสิ.

อาหุตึ นิจฺจํ ปคฺคณฺหาตีติ นิจฺจกาเล อาหุติปิณฺฑํ ปคฺคณฺหาติ. ตํ ทิวสํ ปน ตสฺมึ ฆเร ภูตพลิกมฺมํ โหติ. สพฺพเคหํ หริตุปลิตฺตํ วิปฺปกิณฺณลาชํ วนมาลปริกฺขิตฺตํ อุสฺสิตทฺธชปฏากํ ตตฺถ ตตฺถ ปุณฺณฆเร เปตฺวา ทณฺฑทีปิกา ชาเลตฺวา คนฺธจุณฺณมาลาทีหิ อลงฺกตํ, สมนฺตโต สฺฉาทิยมานา ธูมกฏจฺฉุ อโหสิ. สาปิ พฺราหฺมณี กาลสฺเสว วุฏฺาย โสฬสหิ คนฺโธทกฆเฏหิ นฺหายิตฺวา สพฺพาลงฺกาเรน อตฺตภาวํ อลงฺกริ. สา ตสฺมึ สมเย มหาขีณาสวํ นิสีทาเปตฺวา, ยาคุอุฬุงฺกมตฺตมฺปิ อทตฺวา, ‘‘มหาพฺรหฺมํ โภเชสฺสามี’’ติ สุวณฺณปาติยํ ปายาสํ ปูเรตฺวา สปฺปิมธุสกฺขราทีหิ โยเชตฺวา นิเวสนสฺส ปจฺฉาภาเค หริตุปลิตฺตภาวาทีหิ อลงฺกตา ภูตปีิกา อตฺถิ. สา ตํ ปาตึ อาทาย, ตตฺถ คนฺตฺวา, จตูสุ โกเณสุ มชฺเฌ จ เอเกกํ ปายาสปิณฺฑํ เปตฺวา, เอกํ ปิณฺฑํ หตฺเถน คเหตฺวา, ยาว กปฺปรา สปฺปินา ปคฺฆรนฺเตน ปถวิยํ ชาณุมณฺฑลํ ปติฏฺาเปตฺวา ‘‘ภุฺชตุ ภวํ มหาพฺรหฺมา, สายตุ ภวํ มหาพฺรหฺมา, ตปฺเปตุ ภวํ มหาพฺรหฺมา’’ติ วทมานา พฺรหฺมานํ โภเชติ.

เอตทโหสีติ มหาขีณาสวสฺส สีลคนฺธํ ฉเทวโลเก อชฺโฌตฺถริตฺวา พฺรหฺมโลกํ อุปคตํ ฆายมานสฺส เอตํ อโหสิ. สํเวเชยฺยนฺติ โจเทยฺยํ, สมฺมาปฏิปตฺติยํ โยเชยฺยํ. ‘อยํ หิ เอวรูปํ อคฺคทกฺขิเณยฺยํ มหาขีณาสวํ นิสีทาเปตฺวา ยาคุอุฬุงฺกมตฺตมฺปิ อทตฺวา, ‘‘มหาพฺรหฺมํ โภเชสฺสามี’’ติ ตุลํ ปหาย หตฺเถน ตุลยนฺตี วิย, เภรึ ปหาย กุจฺฉึ วาเทนฺตี วิย, อคฺคึ ปหาย ขชฺโชปนกํ ธมมานา วิย ภูตพลึ กุรุมานา อาหิณฺฑติ. คจฺฉามิสฺสา มิจฺฉาทสฺสนํ ภินฺทิตฺวา อปายมคฺคโต อุทฺธริตฺวา ยถา อสีติโกฏิธนํ พุทฺธสาสเน วิปฺปกิริตฺวา สคฺคมคฺคํ อาโรหติ, ตถา กโรมีติ วุตฺตํ โหติ.

ทูเร อิโตติ อิมมฺหา านา ทูเร พฺรหฺมโลโก. ตโต หิ กูฏาคารมตฺตา สิลา ปาติตา เอเกน อโหรตฺเตน อฏฺจตฺตาลีสโยชนสหสฺสานิ เขปยมานา จตูหิ มาเสหิ ปถวิยํ ปติฏฺเหยฺย, สพฺพเหฏฺิโมปิ พฺรหฺมโลโก เอวํ ทูเร. ยสฺสาหุตินฺติ ยสฺส พฺรหฺมุโน อาหุตึ ปคฺคณฺหาสิ, ตสฺส พฺรหฺมโลโก ทูเรติ อตฺโถ. พฺรหฺมปถนฺติ เอตฺถ พฺรหฺมปโถ นาม จตฺตาริ กุสลชฺฌานานิ, วิปากชฺฌานานิ ปน เนสํ ชีวิตปโถ นาม, ตํ พฺรหฺมปถํ อชานนฺตี ตฺวํ กึ ชปฺปสิ วิปฺปลปสิ? พฺรหฺมาโน หิ สปฺปีติกชฺฌาเนน ยาเปนฺติ, น เอตํ ติณพีชานิ ปกฺขิปิตฺวา รนฺธํ โคยูสํ ขาทนฺติ, มา อการณา กิลมสีติ.

เอวํ วตฺวา ปุน โส มหาพฺรหฺมา อฺชลึ ปคฺคยฺห อวกุชฺโช หุตฺวา เถรํ อุปทิสนฺโต เอโส หิ เต พฺราหฺมณิ พฺรหฺมเทโวติอาทิมาห. ตตฺถ นิรูปธิโกติ กิเลสาภิสงฺขารกามคุโณปธีหิ วิรหิโต. อติเทวปตฺโตติ เทวานํ อติเทวภาวํ พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมภาวํ ปตฺโต. อนฺโปสีติ เปตฺวา อิมํ อตฺตภาวํ อฺสฺส อตฺตภาวสฺส วา ปุตฺตทารสฺส วา อโปสนตาย อนฺโปสี.

อาหุเนยฺโยติ อาหุนปิณฺฑํ ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺโต. เวทคูติ จตุมคฺคสงฺขาเตหิ เวเทหิ ทุกฺขสฺสนฺตํ คโต. ภาวิตตฺโตติ อตฺตานํ ภาเวตฺวา วฑฺเฒตฺวา ิโต. อนูปลิตฺโตติ ตณฺหาทีหิ เลเปหิ อาลิตฺโต. ฆาเสสนํ อิริยตีติ อาหารปริเยสนํ จรติ.

น ตสฺส ปจฺฉา น ปุรตฺถมตฺถีติ ปจฺฉา วุจฺจติ อตีตํ, ปุรตฺถํ วุจฺจติ อนาคตํ, อตีตานาคเตสุ ขนฺเธสุ ฉนฺทราควิรหิตสฺส ปจฺฉา วา ปุรตฺถํ วา นตฺถีติ วทติ. สนฺโตติอาทีสุ ราคาทิสนฺตตาย สนฺโต. โกธธูมวิคมา วิธูโม, ทุกฺขาภาวา อนีโฆ, กตฺตรทณฺฑาทีนิ คเหตฺวา วิจรนฺโตปิ วธกเจตนาย อภาวา นิกฺขิตฺตทณฺโฑ. ตสถาวเรสูติ เอตฺถ ปน ปุถุชฺชนา ตสา นาม, ขีณาสวา ถาวรา นาม. สตฺต ปน เสขา ตสาติ วตฺตุํ น สกฺกา, ถาวรา น โหนฺติ, ภชมานา ปน ถาวรปกฺขเมว ภชนฺติ. โส ตฺยาหุตินฺติ โส เต อาหุตึ.

วิเสนิภูโตติ กิเลสเสนาย วิเสโน ชาโต. อเนโชติ นิตฺตณฺโห. สุสีโลติ ขีณาสวสีเลน สุสีโล. สุวิมุตฺตจิตฺโตติ ผลวิมุตฺติยา สุฏฺุ วิมุตฺตจิตฺโต. โอฆติณฺณนฺติ จตฺตาโร โอเฆ ติณฺณํ. เอตฺตเกน กถามคฺเคน พฺรหฺมา เถรสฺส วณฺณํ กเถนฺโต อายตเน พฺราหฺมณึ นิโยเชสิ. อวสานคาถา ปน สงฺคีติกาเรหิ ปิตา. ปติฏฺเปสิ ทกฺขิณนฺติ จตุปจฺจยทกฺขิณํ ปติฏฺเปสิ. สุขมายติกนฺติ สุขายติกํ อายตึ สุขวิปากํ, สุขาวหนฺติ อตฺโถ. ตติยํ.

๔. พกพฺรหฺมสุตฺตวณฺณนา

๑๗๕. จตุตฺเถ ปาปกํ ทิฏฺิคตนฺติ ลามิกา สสฺสตทิฏฺิ. อิทํ นิจฺจนฺติ อิทํ สห กาเยน พฺรหฺมฏฺานํ อนิจฺจํ ‘‘นิจฺจ’’นฺติ วทติ. ธุวาทีนิ ตสฺเสว เววจนานิ. ตตฺถ ธุวนฺติ ถิรํ. สสฺสตนฺติ สทา วิชฺชมานํ. เกวลนฺติ อขณฺฑํ สกลํ. อจวนธมฺมนฺติ อจวนสภาวํ. อิทํ หิ น ชายตีติอาทีสุ อิมสฺมึ าเน โกจิ ชายนโก วา ชียนโก วา มียนโก วา จวนโก วา อุปปชฺชนโก วา นตฺถิ, ตํ สนฺธาย วทติ. อิโต จ ปนฺนฺติ อิโต สหกายา พฺรหฺมฏฺานา อุตฺตริ อฺํ นิสฺสรณํ นาม นตฺถีติ. เอวมสฺส ถามคตา สสฺสตทิฏฺิ อุปฺปนฺนา โหติ. เอวํวาที จ ปน โส อุปริ ติสฺโส ฌานภูมิโย จตฺตาโร มคฺเค จตฺตาริ ผลานิ นิพฺพานนฺติ สพฺพํ ปฏิพาหติ. กทา ปนสฺส สา ทิฏฺิ อุปฺปนฺนาติ? ปมชฺฌานภูมิยํ นิพฺพตฺตกาเล. ทุติยชฺฌานภูมิยนฺติ เอเก.

ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – เหฏฺุปปตฺติโก กิเรส พฺรหฺมา อนุปฺปนฺเน พุทฺธุปฺปาเท อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา กสิณปริกมฺมํ กตฺวา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานภูมิยํ เวหปฺผลพฺรหฺมโลเก ปฺจกปฺปสติกํ อายุํ คเหตฺวา นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา เหฏฺุปปตฺติกํ กตฺวา ตติยชฺฌานํ ปณีตํ ภาเวตฺวา สุภกิณฺหพฺรหฺมโลเก จตุสฏฺิกปฺปํ อายุํ คเหตฺวา นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ทุติยชฺฌานํ ภาเวตฺวา อาภสฺสเร อฏฺ กปฺเป อายุํ คเหตฺวา นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ปมชฺฌานํ ภาเวตฺวา, ปมชฺฌานภูมิยํ กปฺปายุโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ . โส ปมกาเล อตฺตนา กตกมฺมฺจ นิพฺพตฺตฏฺานฺจ อฺาสิ, กาเล ปน คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต อุภยํ ปมุสฺสิตฺวา สสฺสตทิฏฺึ อุปฺปาเทสิ.

อวิชฺชาคโตติ อวิชฺชาย คโต สมนฺนาคโต อฺาณี อนฺธีภูโต. ยตฺร หิ นามาติ โย นาม. วกฺขตีติ ภณติ. ‘‘ยตฺรา’’ติ นิปาตโยเคน ปน อนาคตวจนํ กตํ.

เอวํ วุตฺเต โส พฺรหฺมา ยถา นาม มคฺคโจโร ทฺเว ตโย ปหาเร อธิวาเสนฺโต สหาเย อนาจิกฺขิตฺวาปิ อุตฺตรึ ปหารํ ปหริยมาโน ‘‘อสุโก จ อสุโก จ มยฺหํ สหาโย’’ติ อาจิกฺขติ, เอวเมว ภควตา สนฺตชฺชิยมาโน สตึ ลภิตฺวา, ‘‘ภควา มยฺหํ ปทานุปทํ เปกฺขนฺโต มํ นิปฺปีฬิตุกาโม’’ติ ภีโต อตฺตโน สหาเย อาจิกฺขนฺโต ทฺวาสตฺตตีติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – โภ โคตม, มยํ ทฺวาสตฺตติ ชนา ปุฺกมฺมา เตน ปุฺกมฺเมน อิธ นิพฺพตฺตา. วสวตฺติโน สยํ อฺเสํ วเส อวตฺติตฺวา ปเร อตฺตโน วเส วตฺเตม, ชาติฺจ ชรฺจ อตีตา, อยํ โน เวเทหิ คตตฺตา ‘‘เวทคู’’ติ สงฺขํ คตา ภควา อนฺติมา พฺรหฺมุปปตฺติ. อสฺมาภิชปฺปนฺติ ชนา อเนกาติ อเนกชนา อมฺเห อภิชปฺปนฺติ. ‘‘อยํ โข ภวํ พฺรหฺมา, มหาพฺรหฺมา, อภิภู, อนภิภูโต, อฺทตฺถุทโส, วสวตฺตี, อิสฺสโร, กตฺตา, นิมฺมาตา, เสฏฺโ, สชิตา, วสี, ปิตา ภูตภพฺยาน’’นฺติ เอวํ ปตฺเถนฺติ ปิเหนฺตีติ.

อถ นํ ภควา อปฺปํ หิ เอตนฺติอาทิมาห. ตตฺถ เอตนฺติ ยํ ตฺวํ อิธ ตว อายุํ ‘‘ทีฆ’’นฺติ มฺสิ, เอตํ อปฺปํ ปริตฺตกํ. สตํ สหสฺสานํ นิรพฺพุทานนฺติ นิรพฺพุทคณนาย สตสหสฺสนิรพฺพุทานํ. อายุํ ปชานามีติ, ‘‘อิทานิ ตว อวสิฏฺํ เอตฺตกํ อายู’’ติ อหํ ชานามิ. อนนฺตทสฺสี ภควา หมสฺมีติ, ภควา, ตุมฺเห ‘‘อหํ อนนฺตทสฺสี ชาติอาทีนิ อุปาติวตฺโต’’ติ วทถ. กึ เม ปุราณนฺติ, ยทิ ตฺวํ อนนฺตทสฺสี, เอวํ สนฺเต อิทํ เม อาจิกฺข, กึ มยฺหํ ปุราณํ? วตสีลวตฺตนฺติ สีลเมว วุจฺจติ. ยมหํ วิชฺาติ ยํ อหํ ตยา กถิตํ ชาเนยฺยํ, ตํ เม อาจิกฺขาติ วทติ.

อิทานิสฺส อาจิกฺขนฺโต ภควา ยํ ตฺวํ อปาเยสีติอาทิมาห. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ปุพฺเพ กิเรส กุลฆเร นิพฺพตฺติตฺวา กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา – ‘‘ชาติชรามรณสฺส อนฺตํ กริสฺสามี’’ติ นิกฺขมฺม อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา อภิฺาปาทกชฺฌานสฺส ลาภี หุตฺวา คงฺคาตีเร ปณฺณสาลํ กาเรตฺวา ฌานรติยา วีตินาเมติ. ตทา จ กาเลนกาลํ สตฺถวาหา ปฺจหิ สกฏสเตหิ มรุกนฺตารํ ปฏิปชฺชนฺติ. มรุกนฺตาเร ปน ทิวา น สกฺกา คนฺตุํ, รตฺตึ คมนํ โหติ. อถ ปุริมสกฏสฺส อคฺคยุเค ยุตฺตพลิพทฺทา คจฺฉนฺตา คจฺฉนฺตา นิวตฺติตฺวา อาคตมคฺคาภิมุขา อเหสุํ, สพฺพสกฏานิ ตเถว นิวตฺติตฺวา อรุเณ อุคฺคเต นิวตฺติตภาวํ ชานึสุ. เตสฺจ ตทา กนฺตารํ อติกฺกมนทิวโส อโหสิ. สพฺพํ ทารุทกํ ปริกฺขีณํ – ตสฺมา ‘‘นตฺถิ ทานิ อมฺหากํ ชีวิต’’นฺติ จินฺเตตฺวา, โคเณ จกฺเกสุ พนฺธิตฺวา, มนุสฺสา สกฏจฺฉายํ ปวิสิตฺวา นิปชฺชึสุ.

ตาปโสปิ กาลสฺเสว ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ปณฺณสาลทฺวาเร นิสินฺโน คงฺคํ โอโลกยมาโน อทฺทส คงฺคํ มหตา อุทโกเฆน ปูริยมานํ ปวตฺติตมณิกฺขนฺธํ วิย อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อตฺถิ นุ โข อิมสฺมึ โลเก เอวรูปสฺส มธุโรทกสฺส อลาเภน กิลิสฺสมานา สตฺตา’’ติ? โส เอวํ อาวชฺเชนฺโต มรุกนฺตาเร ตํ สตฺถํ ทิสฺวา ‘อิเม สตฺตา มา นสฺสนฺตู’ติ ‘‘อิโต จิโต จ มหาอุทกกฺขนฺโธ ฉิชฺชิตฺวา มรุกนฺตาเร สตฺถาภิมุโข คจฺฉตู’’ติ อภิฺาจิตฺเตน อธิฏฺาสิ. สห จิตฺตุปฺปาเทน มาติการุฬฺหํ วิย อุทกํ ตตฺถ อคมาสิ. มนุสฺสา อุทกสทฺเทน วุฏฺาย อุทกํ ทิสฺวา หฏฺตุฏฺา นฺหายิตฺวา ปิวิตฺวา โคเณปิ ปาเยตฺวา โสตฺถินา อิจฺฉิตฏฺานํ อคมํสุ. สตฺถา ตํ พฺรหฺมุโน ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต ปมํ คาถมาห. ตตฺถ อปาเยสีติ ปาเยสิ. อ-กาโร นิปาตมตฺตํ. คมฺมนีติ คิมฺเห. สมฺปเรเตติ คิมฺหาตเปน ผุฏฺเ อนุคเต.

อปรสฺมิมฺปิ สมเย ตาปโส คงฺคาตีเร ปณฺณสาลํ มาเปตฺวา อรฺคามกํ นิสฺสาย วสติ. เตน จ สมเยน โจรา ตํ คามํ ปหริตฺวา หตฺถสารํ คเหตฺวา คาวิโย จ กรมเร จ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ. คาโวปิ สุนขาปิ มนุสฺสาปิ มหาวิรวํ วิรวนฺติ. ตาปโส ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กินฺนุ โข เอต’’นฺติ? อาวชฺเชนฺโต ‘‘มนุสฺสานํ ภยํ อุปฺปนฺน’’นฺติ ตฺวา ‘‘มยิ ปสฺสนฺเต อิเม สตฺตา มา นสฺสนฺตู’’ติ อภิฺาปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อภิฺาจิตฺเตน โจรานํ ปฏิปเถ จตุรงฺคินึ เสนํ มาเปสิ. กมฺมสชฺชา อาคจฺฉนฺตา โจรา ทิสฺวา, ‘‘ราชา มฺเ อาคโต’’ติ วิโลปํ ฉฑฺเฑตฺวา ปกฺกมึสุ. ตาปโส ‘‘ยํ ยสฺส สนฺตกํ, ตํ ตสฺเสว โหตู’’ติ อธิฏฺาสิ, ตํ ตเถว อโหสิ. มหาชโน โสตฺถิภาวํ ปาปุณิ. สตฺถา อิทมฺปิ ตสฺส ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต ทุติยํ คาถมาห. ตตฺถ เอณิกูลสฺมินฺติ คงฺคาตีเร. คยฺหกํ นียมานนฺติ คเหตฺวา นียมานํ, กรมรํ นียมานนฺติปิ อตฺโถ.

ปุน เอกสฺมึ สมเย อุปริคงฺคาวาสิกํ เอกํ กุลํ เหฏฺาคงฺคาวาสิเกน กุเลน สทฺธึ มิตฺตสนฺถวํ กตฺวา, นาวาสงฺฆาฏํ พนฺธิตฺวา, พหุํ ขาทนียฺเจว โภชนียฺจ คนฺธมาลาทีนิ จ อาโรเปตฺวา คงฺคาโสเตน อาคจฺฉติ. มนุสฺสา ขาทมานา ภุฺชมานา นจฺจนฺตา คายนฺตา เทววิมาเนน คจฺฉนฺตา วิย พลวโสมนสฺสา อเหสุํ. คงฺเคยฺยโก นาโค ทิสฺวา กุปิโต ‘‘อิเม มยิ สฺมฺปิ น กโรนฺติ. อิทานิ เน สมุทฺทเมว ปาเปสฺสามี’’ติ มหนฺตํ อตฺตภาวํ มาเปตฺวา อุทกํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา อุฏฺาย ผณํ กตฺวา, สุสุการํ กโรนฺโต อฏฺาสิ. มหาชโน ทิสฺวา ภีโต วิสฺสรมกาสิ. ตาปโส ปณฺณสาลายํ นิสินฺโน สุตฺวา, ‘‘อิเม คายนฺตา นจฺจนฺตา โสมนสฺสชาตา อาคจฺฉนฺติ. อิทานิ ปน ภยรวํ รวึสุ, กินฺนุ โข’’ติ? อาวชฺเชนฺโต นาคราชํ ทิสฺวา, ‘‘มยิ ปสฺสนฺเต สตฺตา มา นสฺสนฺตู’’ติ อภิฺาปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา อตฺตภาวํ ปชหิตฺวา สุปณฺณวณฺณํ มาเปตฺวา นาคราชสฺส ทสฺเสสิ. นาคราชา ภีโต ผณํ สํหริตฺวา อุทกํ ปวิฏฺโ, มหาชโน โสตฺถิภาวํ ปาปุณิ. สตฺถา อิทมฺปิ ตสฺส ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต ตติยํ คาถมาห. ตตฺถ ลุทฺเทนาติ ทารุเณน. มนุสฺสกมฺยาติ มนุสฺสกามตาย, มนุสฺเส วิเหเตุกามตายาติ อตฺโถ.

อปรสฺมิมฺปิ สมเย เอส อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา เกสโว นาม ตาปโส อโหสิ. เตน สมเยน อมฺหากํ โพธิสตฺโต กปฺโป นาม มาณโว เกสวสฺส พทฺธจโร อนฺเตวาสิโก หุตฺวา อาจริยสฺส กึการปฏิสฺสาวี มนาปจารี พุทฺธิสมฺปนฺโน อตฺถจโร อโหสิ. เกสโว เตน วินา วสิตุํ น สกฺโกติ, ตํ นิสฺสาเยว ชีวิกํ กปฺเปสิ. สตฺถา อิทมฺปิ ตสฺส ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห.

ตตฺถ พทฺธจโรติ อนฺเตวาสิโก, โส ปน เชฏฺนฺเตวาสิโก อโหสิ. สมฺพุทฺธิมนฺตํ วตินํ อมฺีติ, ‘‘สมฺมา พุทฺธิมา วตสมฺปนฺโน อย’’นฺติ เอวํ มฺมาโน กปฺโป ตว อนฺเตวาสิโก อโหสึ อหํ โส เตน สมเยนาติ ทสฺเสติ. อฺเปิ ชานาสีติ น เกวลํ มยฺหํ อายุเมว, อฺเปิ ตฺวํ ชานาสิเยว. ตถา หิ พุทฺโธติ ตถา หิ ตฺวํ พุทฺโธ, ยสฺมา พุทฺโธ, ตสฺมา ชานาสีติ อตฺโถ. ตถา หิ ตฺยายํ ชลิตานุภาโวติ ยสฺมา จ ตฺวํ พุทฺโธ, ตสฺมา เต อยํ ชลิโต อานุภาโว. โอภาสยํ ติฏฺตีติ สพฺพํ พฺรหฺมโลกํ โอภาสยนฺโต ติฏฺติ. จตุตฺถํ.

๕. อฺตรพฺรหฺมสุตฺตวณฺณนา

๑๗๖. ปฺจเม เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวาติ เตโชกสิณปริกมฺมํ กตฺวา ปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย, ‘‘สรีรโต ชาลา นิกฺขมนฺตู’’ติ อธิฏฺหนฺโต อธิฏฺานจิตฺตานุภาเวน สกลสรีรโต ชาลา นิกฺขมนฺติ, เอวํ เตโชธาตุํ สมาปนฺโน นาม โหติ, ตถา สมาปชฺชิตฺวา. ตสฺมึ พฺรหฺมโลเกติ กสฺมา เถโร ตตฺถ อคมาสิ? เถรสฺส กิร เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา ตสฺส พฺรหฺมุโน อุปริ นิสินฺนํ ตถาคตํ ทิสฺวา ‘‘อฏฺิเวธี อยํ ปุคฺคโล, มยาเปตฺถ คนฺตพฺพ’’นฺติ อโหสิ, ตสฺมา อคมาสิ. เสสานํ คมเนปิ เอเสว นโย. โส หิ พฺรหฺมา ตถาคตสฺส เจว ตถาคตสาวกานฺจ อานุภาวํ อทิสฺวา อภพฺโพ วินยํ อุปคนฺตุํ, เตน โส สนฺนิปาโต อโหสิ. ตตฺถ ตถาคตสฺส สรีรโต อุคฺคตชาลา สกลพฺรหฺมโลกํ อติกฺกมิตฺวา อชฏากาเส ปกฺขนฺทา, ตา จ ปน ฉพฺพณฺณา อเหสุํ, ตถาคตสฺส สาวกานํ อาภา ปกติวณฺณาว.

ปสฺสสิ วีติวตฺตนฺตนฺติ อิมสฺมึ พฺรหฺมโลเก อฺพฺรหฺมสรีรวิมานาลงฺการาทีนํ ปภา อติกฺกมมานํ พุทฺธสฺส ภควโต ปภสฺสรํ ปภํ ปสฺสสีติ ปุจฺฉติ. น เม, มาริส, สา ทิฏฺีติ ยา เมสา, ‘‘อิธาคนฺตุํ สมตฺโถ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา นตฺถี’’ติ ปุเร ทิฏฺิ, นตฺถิ เม สา. กถํ วชฺชนฺติ เกน การเณน วเทยฺยํ. นิจฺโจมฺหิ สสฺสโตติ อิมสฺส กิร พฺรหฺมุโน ลทฺธิทิฏฺิ สสฺสตทิฏฺิ จาติ ทฺเว ทิฏฺิโย. ตตฺราสฺส ตถาคตฺเจว ตถาคตสาวเก จ ปสฺสโต ลทฺธิทิฏฺิ ปหีนา. ภควา ปเนตฺถ มหนฺตํ ธมฺมเทสนํ เทเสสิ. พฺรหฺมา เทสนาปริโยสาเน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. อิติสฺส มคฺเคน สสฺสตทิฏฺิ ปหีนา, ตสฺมา เอวมาห.

พฺรหฺมปาริสชฺชนฺติ พฺรหฺมปาริจาริกํ. เถรานฺหิ ภณฺฑคาหกทหรา วิย พฺรหฺมานมฺปิ ปาริสชฺชา พฺรหฺมาโน นาม โหนฺติ. เตนุปสงฺกมาติ กสฺมา เถรสฺเสว สนฺติกํ เปเสสิ? เถเร กิรสฺส ตตฺตเกเนว กถาสลฺลาเปน วิสฺสาโส อุทปาทิ, ตสฺมา ตสฺเสว สนฺติกํ เปเสสิ อฺเปีติ ยถา ตุมฺเห จตฺตาโร ชนา, กินฺนุ โข เอวรูปา อฺเปิ อตฺถิ, อุทาหุ ตุมฺเห จตฺตาโร เอว มหิทฺธิกาติ? เตวิชฺชาติ ปุพฺเพนิวาสทิพฺพจกฺขุอาสวกฺขยสงฺขาตาหิ ตีหิ วิชฺชาหิ สมนฺนาคตา. อิทฺธิปตฺตาติ อิทฺธิวิธาณํ ปตฺตา. เจโตปริยายโกวิทาติ ปเรสํ จิตฺตาจาเร กุสลา. เอวเมตฺถ ปฺจ อภิฺาปิ สรูเปน วุตฺตา. ทิพฺพโสตํ ปน ตาสํ วเสน อาคตเมว โหติ. พหูติ เอวรูปา ฉฬภิฺา พุทฺธสาวกา พหู คณนปถํ อติกฺกนฺตา, สกลํ ชมฺพุทีปํ กาสาวปชฺโชตํ กตฺวา วิจรนฺตีติ. ปฺจมํ.

๖. พฺรหฺมโลกสุตฺตวณฺณนา

๑๗๗. ฉฏฺเ ปจฺเจกํ ทฺวารพาหนฺติ เอเกโก เอเกกํ ทฺวารพาหํ นิสฺสาย ทฺวารปาลา วิย อฏฺํสุ. อิทฺโธติ ฌานสุเขน สมิทฺโธ. ผีโตติ อภิฺาปุปฺเผหิ สุปุปฺผิโต. อนธิวาเสนฺโตติ อสหนฺโต. เอตทโวจาติ เอเตสํ นิมฺมิตพฺรหฺมานํ มชฺเฌ นิสินฺโน เอตํ ‘‘ปสฺสสิ เม’’ติอาทิวจนํ อโวจ.

ตโย สุปณฺณาติ คาถาย ปฺจสตาติ สตปทํ รูปวเสน วา ปนฺติวเสน วา โยเชตพฺพํ. รูปวเสน ตาว ตโย สุปณฺณาติ ตีณิ สุปณฺณรูปสตานิ. จตุโร จ หํสาติ จตฺตาริหํสรูปสตานิ. พุคฺฆีนิสา ปฺจสตาติ พฺยคฺฆสทิสา เอกจฺเจ มิคา พฺยคฺฆีนิสา นาม, เตสํ พฺยคฺฆีนิสารูปกานํ ปฺจสตานิ, ปนฺติวเสน ตโย สุปณฺณาติ ตีณิ สุปณฺณปนฺติสตานิ, จตุโร หํสาติ จตฺตาริ หํสปนฺติสตานิ. พฺยคฺฆีนิสา ปฺจสตาติ ปฺจ พฺยคฺฆีนิสา ปนฺติสตานิ. ฌายิโนติ ฌายิสฺส มยฺหํ วิมาเน อยํ วิภูตีติ ทสฺเสติ. โอภาสยนฺติ โอภาสยมานํ. อุตฺตรสฺสํ ทิสายนฺติ ตํ กิร กนกวิมานํ เตสํ มหาพฺรหฺมานํ ิตฏฺานโต อุตฺตรทิสายํ โหติ. ตสฺมา เอวมาห. อยํ ปนสฺส อธิปฺปาโย – เอวรูเป กนกวิมาเน วสนฺโต อหํ กสฺส อฺสฺส อุปฏฺานํ คมิสฺสามีติ. รูเป รณํ ทิสฺวาติ รูปมฺหิ ชาติชราภงฺคสงฺขาตํ โทสํ ทิสฺวา. สทา ปเวธิตนฺติ สีตาทีหิ จ นิจฺจํ ปเวธิตํ จลิตํ ฆฏฺฏิตํ รูปํ ทิสฺวา. ตสฺมา น รูเป รมติ สุเมโธติ ยสฺมา รูเป รณํ ปสฺสติ, สทา ปเวธิตฺจ รูปํ ปสฺสติ, ตสฺมา สุเมโธ สุนฺทรปฺโ โส สตฺถา รูเป น รมตีติ. ฉฏฺํ.

๗. โกกาลิกสุตฺตวณฺณนา

๑๗๘. สตฺตเม อปฺปเมยฺยํ ปมินนฺโตติ อปฺปเมยฺยํ ขีณาสวปุคฺคลํ ‘‘เอตฺตกํ สีลํ, เอตฺตโก สมาธิ, เอตฺตกา ปฺา’’ติ เอวํ มินนฺโต. โกธวิทฺวา วิกปฺปเยติ โก อิธ วิทฺวา เมธาวี วิกปฺเปยฺย, ขีณาสโวว ขีณาสวํ มินนฺโต กปฺเปยฺยาติ ทีเปติ. นิวุตํ ตํ มฺเติ โย ปน ปุถุชฺชโน ตํ ปเมตุํ อารภติ, ตํ นิวุตํ อวกุชฺชปฺํ มฺามีติ. สตฺตมํ.

๘. กตโมทกติสฺสสุตฺตวณฺณนา

๑๗๙. อฏฺเม อกิสฺสวนฺติ กิสฺสวา วุจฺจติ ปฺา, นิปฺปฺโติ อตฺโถ. อฏฺมํ.

๙. ตุรูพฺรหฺมสุตฺตวณฺณนา

๑๘๐. นวเม อาพาธิโกติ ‘‘สาสปมตฺตีหิ ปีฬกาหี’’ติอาทินา นเยน อนนฺตรสุตฺเต อาคเตน อาพาเธน อาพาธิโก. พาฬฺหคิลาโนติ อธิมตฺตคิลาโน. ตุรูติ โกกาลิกสฺส อุปชฺฌาโย ตุรุตฺเถโร นาม อนาคามิผลํ ปตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺโต. โส ภูมฏฺกเทวตา อาทึ กตฺวา, ‘‘อยุตฺตํ โกกาลิเกน กตํ อคฺคสาวเก อนฺติมวตฺถุนา อพฺภาจิกฺขนฺเตนา’’ติ ปรมฺปราย พฺรหฺมโลกสมฺปตฺตํ โกกาลิกสฺส ปาปกมฺมํ สุตฺวา – ‘‘มา มยฺหํ ปสฺสนฺตสฺเสว วราโก นสฺสิ, โอวทิสฺสามิ นํ เถเรสุ จิตฺตปสาทตฺถายา’’ติ อาคนฺตฺวา ตสฺส ปุรโต อฏฺาสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ตุรู ปจฺเจกพฺรหฺมา’’ติ. เปสลาติ ปิยสีลา. โกสิ ตฺวํ, อาวุโสติ นิปนฺนโกว กพรกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา เอวมาห. ปสฺส ยาวฺจ เตติ ปสฺส ยตฺตกํ ตยา อปรทฺธํ, อตฺตโน นลาเฏ มหาคณฺฑํ อปสฺสนฺโต สาสปมตฺตาย ปีฬกาย มํ โจเทตพฺพํ มฺสีติ อาห.

อถ นํ ‘‘อทิฏฺิปฺปตฺโต อยํ วราโก, คิลวิโส วิย กสฺสจิ วจนํ น กริสฺสตี’’ติ ตฺวา ปุริสสฺส หีติอาทิมาห. ตตฺถ กุารีติ กุาริสทิสา ผรุสา วาจา. ฉินฺทตีติ กุสลมูลสงฺขาเต มูเลเยว นิกนฺตติ. นินฺทิยนฺติ นินฺทิตพฺพํ ทุสฺสีลปุคฺคลํ. ปสํสตีติ อุตฺตมตฺเถ สมฺภาเวตฺวา ขีณาสโวติ วทติ. ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโยติ , โย วา ปสํสิตพฺโพ ขีณาสโว, ตํ อนฺติมวตฺถุนา โจเทนฺโต ‘‘ทุสฺสีโล อย’’นฺติ วทติ. วจินาติ มุเขน โส กลินฺติ, โส ตํ อปราธํ มุเขน วิจินาติ นาม. กลินา เตนาติ เตน อปราเธน สุขํ น วินฺทติ. นินฺทิยปสํสาย หิ ปสํสิยนินฺทาย จ สมโกว วิปาโก.

สพฺพสฺสาปิสหาปิ อตฺตนาติ สพฺเพน สเกนปิ อตฺตนาปิ สทฺธึ โย อกฺเขสุ ธนปราชโย นาม, อยํ อปฺปมตฺตโก อปราโธ. โยสุคเตสูติ โย ปน สมฺมคฺคเตสุ ปุคฺคเลสุ จิตฺตํ ปทุสฺเสยฺย, อยํ จิตฺตปโทโสว ตโต กลิโต มหนฺตตโร กลิ.

อิทานิ ตสฺส มหนฺตตรภาวํ ทสฺเสนฺโต สตํ สหสฺสานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สตํ สหสฺสานนฺติ นิรพฺพุทคณนาย สตสหสฺสํ. ฉตฺตึสตีติ อปรานิ ฉตฺตึสติ นิรพฺพุทานิ. ปฺจ จาติ อพฺพุทคณนาย ปฺจ อพฺพุทานิ. ยมริยครหีติ ยํ อริเย ครหนฺโต นิรยํ อุปปชฺชติ, ตตฺถ เอตฺตกํ อายุปฺปมาณนฺติ. นวมํ.

๑๐. โกกาลิกสุตฺตวณฺณนา

๑๘๑. ทสเม โกกาลิโก ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ, โก อยํ โกกาลิโก, กสฺมา จ อุปสงฺกมิ? อยํ กิร โกกาลิกรฏฺเ โกกาลิกนคเร โกกาลิกเสฏฺิสฺส ปุตฺโต ปพฺพชิตฺวา ปิตรา การาปิเต วิหาเร ปฏิวสติ จูฬโกกาลิโกติ นาเมน, น เทวทตฺตสฺส สิสฺโส. โส หิ พฺราหฺมณปุตฺโต มหาโกกาลิโก นาม. ภควติ ปน สาวตฺถิยํ วิหรนฺเต ทฺเว อคฺคสาวกา ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ ชนปทจาริกํ จรมานา อุปกฏฺาย วสฺสูปนายิกาย วิเวกาวาสํ วสิตุกามา เต ภิกฺขู อุยฺโยเชตฺวา อตฺตโน ปตฺตจีวรมาทาย ตสฺมึ ชนปเท ตํ นครํ ปตฺวา ตํ วิหารํ อคมํสุ. ตตฺถ เนสํ โกกาลิโก วตฺตํ ทสฺเสสิ. เต เตน สทฺธึ สมฺโมทิตฺวา, ‘‘อาวุโส, มยํ อิธ เตมาสํ วสิสฺสาม, มา กสฺสจิ อาโรเจหี’’ติ ปฏิฺํ คเหตฺวา วสึสุ. วสิตฺวา ปวารณาทิวเส ปวาเรตฺวา, ‘‘คจฺฉาม มยํ, อาวุโส’’ติ โกกาลิกํ อาปุจฺฉึสุ. โกกาลิโก ‘‘อชฺเชกทิวสํ, อาวุโส, วสิตฺวา สฺเว คมิสฺสถา’’ติ วตฺวา ทุติยทิวเส นครํ ปวิสิตฺวา มนุสฺเส อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส, ตุมฺเห อคฺคสาวเก อิธาคนฺตฺวา วสมาเนปิ น ชานาถ, น เน โกจิ ปจฺจเยนาปิ นิมนฺเตตี’’ติ. นครวาสิโน, ‘‘กหํ, ภนฺเต, เถรา, กสฺมา โน น อาโรจยิตฺถา’’ติ? กึ อาวุโส อาโรจิเตน, กึ น ปสฺสถ ทฺเว ภิกฺขู เถราสเน นิสีทนฺเต, เอเต อคฺคสาวกาติ. เต ขิปฺปํ สนฺนิปติตฺวา สปฺปิผาณิตาทีนิ เจว จีวรทุสฺสานิ จ สํหรึสุ.

โกกาลิโก จินฺเตสิ – ‘‘ปรมปฺปิจฺฉา อคฺคสาวกา ปยุตฺตวาจาย อุปฺปนฺนํ ลาภํ น สาทิยิสฺสนฺติ , อสาทิยนฺตา ‘อาวาสิกสฺส เทถา’ติ วกฺขนฺตี’’ติ. ตํ ตํ ลาภํ คาหาเปตฺวา เถรานํ สนฺติกํ อคมาสิ. เถรา ทิสฺวาว ‘‘อิเม ปจฺจยา เนว อมฺหากํ, น โกกาลิกสฺส กปฺปนฺตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปกฺกมึสุ. โกกาลิโก ‘‘กถํ หิ นาม อตฺตนา อคณฺหนฺตา มยฺหมฺปิ อทาเปตฺวา ปกฺกมิสฺสนฺตี’’ติ? อาฆาตํ อุปฺปาเทสิ. เตปิ ภควโต สนฺติกํ คนฺตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปุน อตฺตโน ปริสํ อาทาย ชนปทจาริกํ จรนฺตา อนุปุพฺเพน ตสฺมึ รฏฺเ ตเมว นครํ ปจฺจาคมึสุ. นาครา เถเร สฺชานิตฺวา สห ปริกฺขาเรหิ ทานํ สชฺชิตฺวา นครมชฺเฌ มณฺฑปํ กตฺวา ทานํ อทํสุ, เถรานฺจ ปริกฺขาเร อุปนาเมสุํ. เถรา ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาทยึสุ. ตํ ทิสฺวา โกกาลิโก จินฺเตสิ – ‘‘อิเม ปุพฺเพ อปฺปิจฺฉา อเหสุํ, อิทานิ ปาปิจฺฉา ชาตา, ปุพฺเพปิ อปฺปิจฺฉสนฺตุฏฺปวิวิตฺตสทิสา มฺเ’’ติ เถเร อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘อาวุโส, ตุมฺเห ปุพฺเพ อปฺปิจฺฉา วิย, อิทานิ ปน ปาปภิกฺขู ชาตา’’ติ วตฺวา ‘‘มูลฏฺาเนเยว เนสํ ปติฏฺํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ ตรมานรูโป นิกฺขมิตฺวา สาวตฺถึ คนฺตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. อยเมว โกกาลิโก อิมินา จ การเณน อุปสงฺกมีติ เวทิตพฺโพ.

ภควา ตํ ตุริตตุริตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวาว อาวชฺเชนฺโต อฺาสิ – ‘‘อยํ อคฺคสาวเก อกฺโกสิตุกาโม อาคโต’’ติ. ‘‘สกฺกา นุ โข ปฏิเสเธตุ’’นฺติ จ อาวชฺเชนฺโต, ‘‘น สกฺกา ปฏิเสเธตุํ, เถเรสุ อปรชฺฌิตฺวา กาลงฺกโต เอกํเสน ปทุมนิรเย นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ ทิสฺวา, ‘‘สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนปิ นาม ครหนฺตํ สุตฺวา น นิเสเธตี’’ติ วาทโมจนตฺถํ อริยูปวาทสฺส จ มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถํ มา เหวนฺติ ติกฺขตฺตุํ ปฏิเสเธสิ. ตตฺถ มา เหวนฺติ มา เอวํ อภณิ. สทฺธายิโกติ สทฺธาย อากโร ปสาทาวโห สทฺธาตพฺพวจโน วา. ปจฺจยิโกติ ปตฺติยายิตพฺพวจโน.

ปกฺกามีติ กมฺมานุภาเวน โจทิยมาโน ปกฺกามิ. โอกาสกตํ หิ กมฺมํ น สกฺกา ปฏิพาหิตุํ, ตํ ตสฺส ตตฺถ าตุํ น อทาสิ. อจิรปกฺกนฺตสฺสาติ ปกฺกนฺตสฺส สโต น จิเรเนว. สพฺโพ กาโย ผุโฏอโหสีติ เกสคฺคมตฺตมฺปิ โอกาสํ อาวชฺเชตฺวา สกลสรีรํ อฏฺีนิ ภินฺทิตฺวา อุคฺคตาหิ ปีฬกาหิ อชฺโฌตฺถฏํ อโหสิ. ยสฺมา ปน พุทฺธานุภาเวน ตถารูปํ กมฺมํ พุทฺธานํ สมฺมุขีภาเว วิปากํ น เทติ, ทสฺสนูปจาเร วิชหิตมตฺเต เทติ, ตสฺมา ตสฺส อจิรปกฺกนฺตสฺส ปีฬกา อุฏฺหึสุ. กลายมตฺติโยติ จณกมตฺติโย. เพลุวสลาฏุกมตฺติโยติ ตรุณเพลุวมตฺติโย. (พิลฺลมตฺติโยติ มหาเพลุวมตฺติโย.) ปภิชฺชึสูติ ภิชฺชึสุ. ตาสุ ภินฺนาสุ สกลสรีรํ ปนสปกฺกํ วิย อโหสิ. โส ปกฺเกน คตฺเตน เชตวนทฺวารโกฏฺเก วิสคิลิโต มจฺโฉ วิย กทลิปตฺเตสุ สยิ. อถ ธมฺมสวนตฺถํ อาคตาคตา มนุสฺสา – ‘‘ธิ โกกาลิก, ธิ โกกาลิก, อยุตฺตมกาสิ, อตฺตโนเยว มุขํ นิสฺสาย อนยพฺยสนํ ปตฺโต’’ติ อาหํสุ. เตสํ สุตฺวา อารกฺขเทวตา ธิ-การํ อกํสุ. อารกฺขกเทวตานํ อากาสเทวตาติ อิมินา อุปาเยน ยาว อกนิฏฺภวนา เอกธิกาโร อุทปาทิ. อถสฺส อุปชฺฌาโย อาคนฺตฺวา โอวาทํ อคณฺหนฺตํ ตฺวา ครหิตฺวา ปกฺกามิ.

กาลมกาสีติ อุปชฺฌาเย ปกฺกนฺเต กาลมกาสิ. ปทุมํ นิรยนฺติ ปาฏิเยกฺโก ปทุมนิรโย นาม นตฺถิ, อวีจิมหานิรยมฺหิเยว ปน ปทุมคณนาย ปจฺจิตพฺเพ เอกสฺมึ าเน นิพฺพตฺติ.

วีสติขาริโกติ มาคธเกน ปตฺเถน จตฺตาโร ปตฺถา โกสลรฏฺเ เอกปตฺโถ โหติ, เตน ปตฺเถน จตฺตาโร ปตฺถา อาฬฺหกํ, จตฺตาริ อาฬฺหกานิ โทณํ, จตุโทณา มานิกา, จตุมานิกา ขารี, ตาย ขาริยา วีสติขาริโก. ติลวาโหติ มาคธกานํ สุขุมติลานํ ติลสกฏํ. อพฺพุโท นิรโยติ อพฺพุโท นาม ปาฏิเยกฺโก นิรโย นตฺถิ. อวีจิมฺหิเยว ปน อพฺพุทคณนาย ปจฺจิตพฺพฏฺานสฺเสตํ นามํ. นิรพฺพุทาทีสุปิ เอเสว นโย.

วสฺสคณนาปิ ปเนตฺถ เอวํ เวทิตพฺพา – ยเถว หิ สตํ สตสหสฺสานิ โกฏิ โหติ, เอวํ สตํ สตสหสฺสโกฏิโย ปโกฏิ นาม โหติ, สตํ สตสหสฺสปโกฏิโย โกฏิปโกฏิ นาม, สตํ สตสหสฺสโกฏิปโกฏิโย นหุตํ, สตํ สตสหสฺสนหุตานิ นินฺนหุตํ, สตํ สตสหสฺสนินฺนหุตานิ เอกํ อพฺพุทํ, ตโต วีสติคุณํ นิรพฺพุทํ. เอเสว นโย สพฺพตฺถาติ. ทสมํ.

ปโม วคฺโค.

๒. ทุติยวคฺโค

๑. สนงฺกุมารสุตฺตวณฺณนา

๑๘๒. ทุติยวคฺคสฺส ปเม สปฺปินีตีเรติ สปฺปินีนามิกาย นทิยา ตีเร. สนงฺกุมาโรติ โส กิร ปฺจสิขกุมารกกาเล ฌานํ ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺโต กุมารกวณฺเณเนว วิจรติ. เตน นํ ‘‘กุมาโร’’ติ สฺชานนฺติ, โปราณกตฺตา ปน ‘‘สนงฺกุมาโร’’ติ วุจฺจติ. ชเนตสฺมินฺติ ชนิตสฺมึ, ปชายาติ อตฺโถ. เย โคตฺตปฏิสาริโนติ เย ชเนตสฺมึ โคตฺตํ ปฏิสรนฺติ เตสุ โลเก โคตฺตปฏิสารีสุ ขตฺติโย เสฏฺโ. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโนติ ภยเภรวสุตฺตปริยาเยน (ม. นิ. ๑.๓๔ อาทโย) ปุพฺเพนิวาสาทีหิ วา ตีหิ, อมฺพฏฺสุตฺตปริยาเยน (ที. นิ. ๑.๒๗๘ อาทโย) วิปสฺสนาาณํ มโนมยิทฺธิ ฉ อภิฺาโยติ อิมาหิ วา อฏฺหิ วิชฺชาหิ, สีเลสุ ปริปูรการิตา อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา โภชเน มตฺตฺุตา ชาคริยานุโยโค สตฺต สทฺธมฺมา จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานีติ เอวํ ปนฺนรสธมฺมเภเทน จรเณน จ สมนฺนาคโต. โส เสฏฺโ เทวมานุเสติ โส ขีณาสวพฺราหฺมโณ เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ เสฏฺโ อุตฺตโมติ. ปมํ.

๒. เทวทตฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๘๓. ทุติเย อจิรปกฺกนฺเตติ สงฺฆํ ภินฺทิตฺวา นจิรสฺเสว เวฬุวนโต คยาสีสํ คเต. อสฺสตรินฺติ คทฺรภสฺส วฬวาย ชาตํ. ทุติยํ.

๓. อนฺธกวินฺทสุตฺตวณฺณนา

๑๘๔. ตติเย อนฺธกวินฺทนฺติ เอวํนามกํ คามํ. อุปสงฺกมีติ ‘‘สตฺถา อิทานิปิ วีริยํ กโรติ ปธานมนุยุฺชติ, คจฺฉามิสฺส สนฺติเก ตฺวา สาสนานุจฺฉวิกํ วีริยปฏิสํยุตฺตํ คาถํ วกฺขามี’’ติ อุปสงฺกมิ.

ปนฺตานีติ ชนตํ อติกฺกมิตฺวา มนุสฺสานํ อนุปจาเร ิตานิ. สํโยชนวิปฺปโมกฺขาติ ตานิ จ เสนาสนานิ เสวมาโน น จีวราทีนํ อตฺถาย เสเวยฺย, อถ โข ทสสํโยชนวิปฺปโมกฺขตฺถาย จเรยฺย. สงฺเฆ วเสติ เตสุ เสนาสเนสุ รตึ อลภนฺโต อุปฏฺากาทีนํ จิตฺตานุรกฺขณตฺถํ คทฺรภปิฏฺเ รชํ วิย อุปฺปตนฺโต อรฺเ อจริตฺวา สงฺฆมชฺเฌ วเสยฺย. รกฺขิตตฺโต สตีมาติ ตตฺถ จ วสนฺโต สควจณฺโฑ โคโณ วิย สพฺรหฺมจาริโน อวิชฺฌนฺโต อฆฏฺเฏนฺโต รกฺขิตตฺโต สติปฏฺานปรายโณ หุตฺวา วเสยฺย.

อิทานิ สงฺเฆ วสมานสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขาจารวตฺตํ อาจิกฺขนฺโต กุลากุลนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปิณฺฑิกาย จรนฺโตติ ปิณฺฑตฺถาย จรมาโน. เสเวถ ปนฺตานิ เสนาสนานีติ สงฺฆมชฺฌํ โอตริตฺวา วสมาโนปิ ธุรปริเวเณ ตาลนาฬิเกรอาทีนิ โรเปตฺวา อุปฏฺากาทิสํสฏฺโ น วเสยฺย, จิตฺตกลฺลตํ ปน ชเนตฺวา จิตฺตํ หาเสตฺวา โตเสตฺวา ปุน ปนฺตเสนาสเน วเสยฺยาติ อรฺสฺเสว วณฺณํ กเถติ. ภยาติ วฏฺฏภยโต. อภเยติ นิพฺพาเน. วิมุตฺโตติ อธิมุตฺโต หุตฺวา วเสยฺย.

ยตฺถ เภรวาติ ยสฺมึ าเน ภยชนกา สวิฺาณกา สีหพฺยคฺฆาทโย, อวิฺาณกา รตฺติภาเค ขาณุวลฺลิอาทโย พหู อตฺถิ. สรีสปาติ ทีฆชาติกาทิสรีสปา. นิสีทิ ตตฺถ ภิกฺขูติ ตาทิเส าเน ภิกฺขุ นิสินฺโน. อิมินา อิทํ ทีเปติ – ภควา ยถา ตุมฺเห เอตรหิ ตตฺรฏฺกเภรวารมฺมณานิ เจว สรีสเป จ วิชฺชุนิจฺฉารณาทีนิ จ อมนสิกตฺวา นิสินฺนา, เอวเมวํ ปธานมนุยุตฺตา ภิกฺขู นิสีทนฺตีติ.

ชาตุ เม ทิฏฺนฺติ เอกํเสน มยา ทิฏฺํ. น ยิทํ อิติหีติหนฺติ อิทํ อิติห อิติหาติ น ตกฺกเหตุ วา นยเหตุ วา ปิฏกสมฺปทาเนน วา อหํ วทามิ. เอกสฺมึ พฺรหฺมจริยสฺมินฺติ เอกาย ธมฺมเทสนาย. ธมฺมเทสนา หิ อิธ พฺรหฺมจริยนฺติ อธิปฺเปตา. มจฺจุหายินนฺติ มรณปริจฺจาคินํ ขีณาสวานํ.

ทสา จ ทสธา ทสาติ เอตฺถ ทสาติ ทเสว, ทสธา ทสาติ สตํ, อฺเ จ ทสุตฺตรํ เสขสตํ ปสฺสามีติ วทติ. โสตสมาปนฺนาติ มคฺคโสตํ สมาปนฺนา. อติรจฺฉานคามิโนติ เทสนามตฺตเมตํ, อวินิปาตธมฺมาติ อตฺโถ. สงฺขาตุํ โนปิ สกฺโกมีติ มุสาวาทภเยน เอตฺตกา นาม ปุฺภาคิโน สตฺตาติ คเณตุํ น สกฺโกมีติ พหุํ พฺรหฺมธมฺมเทสนํ สนฺธาย เอวมาห. ตติยํ.

๔. อรุณวตีสุตฺตวณฺณนา

๑๘๕. จตุตฺเถ อภิภูสมฺภวนฺติ อภิภู จ สมฺภโว จ. เตสุ อภิภูเถโร สาริปุตฺตตฺเถโร วิย ปฺาย อคฺโค, สมฺภวตฺเถโร มหาโมคฺคลฺลาโน วิย สมาธินา อคฺโค. อุชฺฌายนฺตีติ อวชฺฌายนฺติ, ลามกโต วา จินฺเตนฺติ. ขิยฺยนฺตีติ, กินฺนาเมตํ กินฺนาเมตนฺติ? อฺมฺํ กเถนฺติ. วิปาเจนฺตีติ วิตฺถารยนฺตา ปุนปฺปุนํ กเถนฺติ. เหฏฺิเมน อุปฑฺฒกาเยนาติ นาภิโต ปฏฺาย เหฏฺิมกาเยน. ปาฬิยํ เอตฺตกเมว อาคตํ. เถโร ปน ‘‘ปกติวณฺณํ วิชหิตฺวา นาควณฺณํ คเหตฺวา ทสฺเสติ, สุปณฺณวณฺณํ คเหตฺวา วา ทสฺเสตี’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๓.๑๓) นเยน อาคตํ อเนกปฺปการํ อิทฺธิวิกุพฺพนํ ทสฺเสสิ. อิมา คาถาโย อภาสีติ เถโร กิร จินฺเตสิ – ‘‘กถํ เทสิตา นุ โข ธมฺมเทสนา สพฺเพสํ ปิยา อสฺส มนาปา’’ติ. ตโต อาวชฺเชนฺโต – ‘‘สพฺเพปิ ปาสณฺฑา สพฺเพ เทวมนุสฺสา อตฺตโน อตฺตโน สมเย ปุริสการํ วณฺณยนฺติ, วีริยสฺส อวณฺณวาที นาม นตฺถิ, วีริยปฏิสํยุตฺตํ กตฺวา เทเสสฺสามิ, เอวํ อยํ ธมฺมเทสนา สพฺเพสํ ปิยา ภวิสฺสติ มนาปา’’ติ ตฺวา ตีสุ ปิฏเกสุ วิจินิตฺวา อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ อารมฺภถาติ อารมฺภวีริยํ กโรถ. นิกฺกมถาติ นิกฺกมวีริยํ กโรถ. ยุฺชถาติ ปโยคํ กโรถ ปรกฺกมถ. มจฺจุโน เสนนฺติ มจฺจุโน เสนา นาม กิเลสเสนา, ตํ ธุนาถ. ชาติสํสารนฺติ ชาติฺจ สํสารฺจ, ชาติสงฺขาตํ วา สํสารํ. ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตีติ วฏฺฏทุกฺขสฺส ปริจฺเฉทํ กริสฺสติ. กึ ปน กตฺวา เถโร สหสฺสิโลกธาตุํ วิฺาเปสีติ? นีลกสิณํ ตาว สมาปชฺชิตฺวา สพฺพตฺถ อาโลกฏฺาเน อนฺธการํ ผริ, โอทาตกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา อนฺธการฏฺาเน โอภาสํ. ตโต ‘‘กิมิทํ อนฺธการ’’นฺติ? สตฺตานํ อาโภเค อุปฺปนฺเน อาโลกํ ทสฺเสสิ. อาโลกฏฺาเน อาโลกกิจฺจํ นตฺถิ, ‘‘กึ อาโลโก อย’’นฺติ? วิจินนฺตานํ อตฺตานํ ทสฺเสสิ. อถ เตสํ เถโรติ วทนฺตานํ อิมา คาถาโย อภาสิ, สพฺเพ โอสฏาย ปริสาย มชฺเฌ นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส วิย สทฺทํ สุณึสุ. อตฺโถปิ เนสํ ปากโฏ อโหสิ. จตุตฺถํ.

๕. ปรินิพฺพานสุตฺตวณฺณนา

๑๘๖. ปฺจเม อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเนติ ยเถว หิ กทมฺพนทีตีรโต ราชมาตุวิหารทฺวาเรน ถูปารามํ คนฺตพฺพํ โหติ, เอวํ หิรฺวติกาย นาม นทิยา ปาริมตีรโต สาลวนํ อุยฺยานํ. ยถา อนุราธปุรสฺส ถูปาราโม, เอวํ ตํ กุสินาราย โหติ. ยถา ถูปารามโต ทกฺขิณทฺวาเรน นครํ ปวิสนมคฺโค ปาจีนมุโข คนฺตฺวา อุตฺตเรน นิวตฺตติ, เอวํ อุยฺยานโต สาลปนฺติ ปาจีนมุขา คนฺตฺวา อุตฺตเรน นิวตฺตา. ตสฺมา ตํ ‘‘อุปวตฺตน’’นฺติ วุจฺจติ. ตสฺมึ อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเน. อนฺตเรนยมกสาลานนฺติ มูลกฺขนฺธวิฏปปตฺเตหิ อฺมฺํ สํสิพฺพิตฺวา ิตสาลานํ อนฺตริกาย. อปฺปมาเทน สมฺปาเทถาติ สติอวิปฺปวาเสน กตฺตพฺพกิจฺจานิ สมฺปาทยถ. อิติ ภควา ยถา นาม มรณมฺเจ นิปนฺโน มหทฺธโน กุฏุมฺพิโก ปุตฺตานํ ธนสารํ อาจิกฺเขยฺย, เอวเมวํ ปรินิพฺพานมฺเจ นิปนฺโน ปฺจจตฺตาลีส วสฺสานิ ทินฺนํ โอวาทํ สพฺพํ เอกสฺมึ อปฺปมาทปเทเยว ปกฺขิปิตฺวา อภาสิ. อยํ ตถาคตสฺส ปจฺฉิมา วาจาติ อิทํ ปน สงฺคีติการานํ วจนํ.

อิโต ปรํ ยํ ปรินิพฺพานปริกมฺมํ กตฺวา ภควา ปรินิพฺพุโต, ตํ ทสฺเสตุํ, อถ โข ภควา ปมํ ฌานนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺเน ภควติ อสฺสาสปสฺสาสานํ อปฺปวตฺตึ ทิสฺวา, ‘‘ปรินิพฺพุโต สตฺถา’’ติ สฺาย เทวมนุสฺสา เอกปฺปหาเรน วิรวึสุ, อานนฺทตฺเถโรปิ – ‘‘ปรินิพฺพุโต นุ โข, ภนฺเต, อนุรุทฺธ ภควา’’ติ เถรํ ปุจฺฉิ. เถโร ‘‘น โข, อาวุโส อานนฺท, ตถาคโต ปรินิพฺพุโต, อปิจ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน’’ติ อาห. กถํ ปน โส อฺาสิ? เถโร กิร สตฺถารา สทฺธึเยว ตํ ตํ สมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺโต ยาว เนวสฺานาสฺายตนวุฏฺานํ, ตาว คนฺตฺวา, ‘‘อิทานิ ภควา นิโรธํ สมาปนฺโน, อนฺโตนิโรเธ จ กาลํกิริยา นาม นตฺถี’’ติ อฺาสิ.

อถ โข ภควา สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺหิตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชิ…เป… ตติยชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชีติ เอตฺถ ปน ภควา จตุวีสติยา าเนสุ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิ, เตรสสุ าเนสุ ทุติยํ ฌานํ… ตถา ตติยํ… ปนฺนรสสุ าเนสุ จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชิ. กถํ? ทสสุ อสุเภสุ ทฺวตฺตึสากาเร อฏฺสุ กสิเณสุ เมตฺตากรุณามุทิเตสุ อานาปาเน ปริจฺเฉทากาเสติ อิเมสุ ตาว จตุวีสติยา าเนสุ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิ. เปตฺวา ปน ทฺวตฺตึสาการฺจ ทส จ อสุภานิ เสเสสุ เตรสสุ ทุติยํ ฌานํ… เตสุเยว ตติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ. อฏฺสุ ปน กสิเณสุ อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาเร อานาปาเน ปริจฺเฉทากาเส จตูสุ อรูเปสูติ อิเมสุ ปนฺนรสสุ าเนสุ จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชิ. อยมฺปิ จ สงฺเขปกถาว. นิพฺพานปุรํ ปวิสนฺโต ปน ภควา ธมฺมสฺสามิ สพฺพาปิ จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสงฺขา สมาปตฺติโย ปวิสิตฺวา วิเทสํ คจฺฉนฺโต าติชนํ อาลิงฺเคตฺวา วิย สพฺพสมาปตฺติสุขํ อนุภวิตฺวา ปวิฏฺโ.

จตุตฺถชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา สมนนฺตรา ภควา ปรินิพฺพายีติ เอตฺถ จ ฌานสมนนฺตรํ ปจฺจเวกฺขณสมนนฺตรนฺติ, ทฺเว สมนนฺตรานิ. จตุตฺถชฺฌานา วุฏฺาย ภวงฺคํ โอติณฺณสฺส ตตฺเถว ปรินิพฺพานํ ฌานสมนนฺตรํ นาม, จตุตฺถชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา ปุน ฌานงฺคานิ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ภวงฺคํ โอติณฺณสฺส ตตฺเถว ปรินิพฺพานํ ปจฺจเวกฺขณสมนนฺตรํ นาม. อิมานิ ทฺเวปิ สมนนฺตราเนว. ภควา ปน ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ฌานา วุฏฺาย ฌานงฺคานิ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ภวงฺคจิตฺเตน อพฺยากเตน ทุกฺขสจฺเจน ปรินิพฺพายิ. เย หิ เกจิ พุทฺธา วา ปจฺเจกพุทฺธา วา อริยสาวกา วา อนฺตมโส กุนฺถกิปิลฺลิกํ อุปาทาย สพฺเพ ภวงฺคจิตฺเตเนว อพฺยากเตน ทุกฺขสจฺเจน กาลํ กโรนฺติ.

ภูตาติ สตฺตา. อปฺปฏิปุคฺคโลติ ปฏิภาคปุคฺคลวิรหิโต. พลปฺปตฺโตติ ทสวิธํ าณพลํ ปตฺโต. อุปฺปาทวยธมฺมิโนติ อุปฺปาทวยสภาวา. เตสํ วูปสโมติ เตสํ สงฺขารานํ วูปสโม. สุโขติ อสงฺขตํ นิพฺพานเมว สุขนฺติ อตฺโถ. ตทาสีติ ‘‘สห ปรินิพฺพานา มหาภูมิจาโล อโหสี’’ติ เอวํ มหาปรินิพฺพาเน (ที. นิ. ๒.๒๒๐) วุตฺตํ ภูมิจาลํ สนฺธายาห. โส หิ โลมหํสนโก จ ภึสนโก จ อาสิ. สพฺพาการวรูเปเตติ สพฺพาการวรคุณูเปเต. นาหุ อสฺสาสปสฺสาโสติ น ชาโต อสฺสาสปสฺสาโส. อเนโชติ ตณฺหาสงฺขาตาย เอชาย อภาเวน อเนโช. สนฺติมารพฺภาติ อนุปาทิเสสํ นิพฺพานํ อารพฺภ ปฏิจฺจ สนฺธาย. จกฺขุมาติ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมา. ปรินิพฺพุโตติ ขนฺธปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต. อสลฺลีเนนาติ อนลฺลีเนน อสงฺกุฏิเตน สุวิกสิเตเนว จิตฺเตน. เวทนํ อชฺฌวาสยีติ เวทนํ อธิวาเสสิ, น เวทนานุวตฺตี หุตฺวา อิโต จิโต สมฺปริวตฺติ. วิโมกฺโขติ เกนจิ ธมฺเมน อนาวรณวิโมกฺโข สพฺพโส อปฺตฺติภาวูปคโม ปชฺโชตนิพฺพานสทิโส ชาโตติ. ปฺจมํ.

ทุติโย วคฺโค.

อิติ สารตฺถปฺปกาสินิยา

สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

พฺรหฺมสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.