📜

๗. พฺราหฺมณสํยุตฺตํ

๑. อรหนฺตวคฺโค

๑. ธนฺชานีสุตฺตวณฺณนา

๑๘๗. พฺราหฺมณสํยุตฺตสฺส ปเม ธนฺชานีติ ธนฺชานิโคตฺตา. อุกฺกฏฺโคตฺตา กิเรสา. เสสพฺราหฺมณา กิร พฺรหฺมุโน มุขโต ชาตา, ธนฺชานิโคตฺตา มตฺถกํ ภินฺทิตฺวา นิกฺขนฺตาติ เตสํ ลทฺธิ. อุทานํ อุทาเนสีติ กสฺมา อุทาเนสิ? โส กิร พฺราหฺมโณ มิจฺฉาทิฏฺิโก ‘‘พุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆ’’ติ วุตฺเต กณฺเณ ปิทหติ, ถทฺโธ ขทิรขาณุสทิโส. พฺราหฺมณี ปน โสตาปนฺนา อริยสาวิกา. พฺราหฺมโณ ทานํ เทนฺโต ปฺจสตานํ พฺราหฺมณานํ อปฺโปทกํ ปายาสํ เทติ, พฺราหฺมณี พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส นานารสโภชนํ. พฺราหฺมณสฺส ทานทิวเส พฺราหฺมณี ตสฺส วสวตฺติตาย ปหีนมจฺเฉรตาย จ สหตฺถา ปริวิสติ. พฺราหฺมณิยา ปน ทานทิวเส พฺราหฺมโณ ปาโตว ฆรา นิกฺขมิตฺวา ปลายติ. อเถกทิวสํ พฺราหฺมโณ พฺราหฺมณิยา สทฺธึ อสมฺมนฺเตตฺวา ปฺจสเต พฺราหฺมเณ นิมนฺเตตฺวา พฺราหฺมณึ อาห – ‘‘สฺเว โภติ อมฺหากํ ฆเร ปฺจสตา พฺราหฺมณา ภุฺชิสฺสนฺตี’’ติ. มยา กึ กาตพฺพํ พฺราหฺมณาติ? ตยา อฺํ กิฺจิ กาตพฺพํ นตฺถิ, สพฺพํ ปจนปริเวสนํ อฺเ กริสฺสนฺติ. ยํ ปน ตฺวํ ิตาปิ นิสินฺนาปิ ขิปิตฺวาปิ อุกฺกาสิตฺวาปิ ‘‘นโม พุทฺธสฺสา’’ติ ตสฺส มุณฺฑกสฺส สมณกสฺส นมกฺการํ กโรสิ, ตํ สฺเว เอกทิวสมตฺตํ มา อกาสิ. ตํ หิ สุตฺวา พฺราหฺมณา อนตฺตมนา โหนฺติ, มา มํ พฺราหฺมเณหิ ภินฺทสีติ. ตฺวํ พฺราหฺมเณหิ วา ภิชฺช เทเวหิ วา, อหํ ปน สตฺถารํ อนุสฺสริตฺวา น สกฺโกมิ อนมสฺสมานา สณฺาตุนฺติ. โภติ กุลสติเก คาเม คามทฺวารมฺปิ ตาว ปิทหิตุํ วายมนฺติ, ตฺวํ ทฺวีหงฺคุเลหิ ปิทหิตพฺพํ มุขํ พฺราหฺมณานํ โภชนกาลมตฺตํ ปิทหิตุํ น สกฺโกสีติ. เอวํ ปุนปฺปุนํ กเถตฺวาปิ โส นิวาเรตุํ อสกฺโกนฺโต อุสฺสีสเก ปิตํ มณฺฑลคฺคขคฺคํ คเหตฺวา – ‘‘โภติ สเจ สฺเว พฺราหฺมเณสุ นิสินฺเนสุ ตํ มุณฺฑสมณกํ นมสฺสสิ, อิมินา ตํ ขคฺเคน ปาทตลโต ปฏฺาย ยาว เกสมตฺถกา กฬีรํ วิย โกฏฺเฏตฺวา ราสึ กริสฺสามี’’ติ อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘อิมินา มณฺฑลคฺเคน, ปาทโต ยาว มตฺถกา;

กฬีรมิว เฉชฺชามิ, ยทิ มิจฺฉํ น กาหสิ.

‘‘สเจ พุทฺโธติ ภณสิ, สเจ ธมฺโมติ ภาสสิ;

สเจ สงฺโฆติ กิตฺเตสิ, ชีวนฺตี เม นิเวสเน’’ติ.

อริยสาวิกา ปน ปถวี วิย ทุปฺปกมฺปา, สิเนรุ วิย ทุปฺปริวตฺติยา. สา เตน นํ เอวมาห –

‘‘สเจ เม องฺคมงฺคานิ, กามํ เฉชฺชสิ พฺราหฺมณ;

เนวาหํ วิรมิสฺสามิ, พุทฺธเสฏฺสฺส สาสนา.

‘‘นาหํ โอกฺกา วรธรา, สกฺกา โรธยิตุํ ชินา;

ธีตาหํ พุทฺธเสฏฺสฺส, ฉินฺท วา มํ วธสฺสุ วา’’ติ.

เอวํ ธนฺชานิคชฺชิตํ นาม คชฺชนฺตี ปฺจ คาถาสตานิ อภาสิ. พฺราหฺมโณ พฺราหฺมณึ ปรามสิตุํ วา ปหริตุํ วา อสกฺโกนฺโต ‘‘โภติ ยํ เต รุจฺจติ, ตํ กโรหี’’ติ วตฺวา ขคฺคํ สยเน ขิปิ. ปุนทิวเส เคหํ หริตุปลิตฺตํ การาเปตฺวา ลาชาปุณฺณฆฏมาลาคนฺธาทีหิ ตตฺถ ตตฺถ อลงฺการาเปตฺวา ปฺจนฺนํ พฺราหฺมณสตานํ นวสปฺปิสกฺขรมธุยุตฺตํ อปฺโปทกปายาสํ ปฏิยาทาเปตฺวา กาลํ อาโรจาเปสิ.

พฺราหฺมณีปิ ปาโตว คนฺโธทเกน สยํ นฺหายิตฺวา สหสฺสคฺฆนกํ อหตวตฺถํ นิวาเสตฺวา ปฺจสตคฺฆนกํ เอกํสํ กตฺวา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา สุวณฺณกฏจฺฉุํ คเหตฺวา ภตฺตคฺเค พฺราหฺมเณ ปริวิสมานา เตหิ สทฺธึ เอกปนฺติยํ นิสินฺนสฺส ตสฺส พฺราหฺมณสฺส ภตฺตํ อุปสํหรนฺตี ทุนฺนิกฺขิตฺเต ทารุภณฺเฑ ปกฺขลิ. ปกฺขลนฆฏฺฏนาย ทุกฺขา เวทนา อุปฺปชฺชิ. ตสฺมึ สมเย ทสพลํ สริ. สติสมฺปนฺนตาย ปน ปายาสปาตึ อฉฑฺเฑตฺวา สณิกํ โอตาเรตฺวา ภูมิยํ สณฺเปตฺวา ปฺจนฺนํ พฺราหฺมณสตานํ มชฺเฌ สิรสิ อฺชลึ เปตฺวา เยน เวฬุวนํ, เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ.

ตสฺมิฺจ สมเย เตสุ พฺราหฺมเณสุ เกจิ ภุตฺตา โหนฺติ, เกจิ ภุฺชมานา, เกจิ หตฺเถ โอตาริตมตฺตา, เกสฺจิ โภชนํ ปุรโต ปิตมตฺตํ โหติ. เต ตํ สทฺทํ สุตฺวาว สิเนรุมตฺเตน มุคฺคเรน สีเส ปหฏา วิย กณฺเณสุ สูเลน วิทฺธา วิย ทุกฺขโทมนสฺสํ ปฏิสํเวทิยมานา ‘‘อิมินา อฺลทฺธิเกน มยํ ฆรํ ปเวสิตา’’ติ กุชฺฌิตฺวา หตฺเถ ปิณฺฑํ ฉฑฺเฑตฺวา มุเขน คหิตํ นิฏฺุภิตฺวา ธนุํ ทิสฺวา กากา วิย พฺราหฺมณํ อกฺโกสมานา ทิสาวิทิสา ปกฺกมึสุ. พฺราหฺมโณ เอวํ ภิชฺชิตฺวา คจฺฉนฺเต พฺราหฺมเณ ทิสฺวา พฺราหฺมณึ สีสโต ปฏฺาย โอโลเกตฺวา, ‘‘อิทเมว ภยํ สมฺปสฺสมานา มยํ หิยฺโย ปฏฺาย โภตึ ยาจนฺตา น ลภิมฺหา’’ติ นานปฺปกาเรหิ พฺราหฺมณึ อกฺโกสิตฺวา, เอตํ ‘‘เอวเมวํ ปนา’’ติอาทิวจนํ อโวจ.

อุปสงฺกมีติ ‘‘สมโณ โคตโม คามนิคมรฏฺปูชิโต, น สกฺกา คนฺตฺวา ยํ วา ตํ วา วตฺวา สนฺตชฺเชตุํ, เอกเมว นํ ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺโตว ‘‘กึสุ เฉตฺวา’’ติ คาถํ อภิสงฺขริตฺวา – ‘‘สเจ ‘อสุกสฺส นาม วธํ โรเจมี’ติ วกฺขติ, อถ นํ ‘เย ตุยฺหํ น รุจฺจนฺติ, เต มาเรตุกาโมสิ, โลกวธาย อุปฺปนฺโน, กึ ตุยฺหํ สมณภาเวนา’ติ? นิคฺคเหสฺสามิ. สเจ ‘น กสฺสจิ วธํ โรเจมี’ติ วกฺขติ, อถ นํ ‘ตฺวํ ราคาทีนมฺปิ วธํ น อิจฺฉสิ. กสฺมา สมโณ หุตฺวา อาหิณฺฑสี’ติ? นิคฺคเหสฺสามี. อิติ อิมํ อุภโตโกฏิกํ ปฺหํ สมโณ โคตโม เนว คิลิตุํ น อุคฺคิลิตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมิ . สมฺโมทีติ อตฺตโน ปณฺฑิตตาย กุทฺธภาวํ อทสฺเสตฺวา มธุรกถํ กเถนฺโต สมฺโมทิ. ปฺโห เทวตาสํยุตฺเต กถิโต. เสสมฺปิ เหฏฺา วิตฺถาริตเมวาติ. ปมํ.

๒. อกฺโกสสุตฺตวณฺณนา

๑๘๘. ทุติเย อกฺโกสกภารทฺวาโชติ ภารทฺวาโชว โส, ปฺจมตฺเตหิ ปน คาถา สเตหิ ตถาคตํ อกฺโกสนฺโต อาคโตติ. ‘‘อกฺโกสกภารทฺวาโช’’ติ ตสฺส สงฺคีติกาเรหิ นามํ คหิตํ. กุปิโต อนตฺตมโนติ ‘‘สมเณน โคตเมน มยฺหํ เชฏฺกภาตรํ ปพฺพาเชนฺเตน ชานิ กตา, ปกฺโข ภินฺโน’’ติ โกเธน กุปิโต โทมนสฺเสน จ อนตฺตมโน หุตฺวาติ อตฺโถ. อกฺโกสตีติ ‘‘โจโรสิ, พาโลสิ, มูฬฺโหสิ, เถโนสิ, โอฏฺโสิ, เมณฺโฑสิ, โคโณสิ, คทฺรโภสิ, ติรจฺฉานคโตสิ, เนรยิโกสี’’ติ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสติ. ปริภาสตีติ ‘‘โหตุ มุณฺฑกสมณก, ‘อทณฺโฑ อห’นฺติ กโรสิ, อิทานิ เต ราชกุลํ คนฺตฺวา ทณฺฑํ อาโรเปสฺสามี’’ติอาทีนิ วทนฺโต ปริภาสติ นาม.

สมฺภุฺชตีติ เอกโต ภุฺชติ. วีติหรตีติ กตสฺส ปฏิการํ กโรติ. ภควนฺตํ โข, โคตมนฺติ กสฺมา เอวมาห? ‘‘ตเวเวตํ, พฺราหฺมณ, ตเวเวตํ, พฺราหฺมณา’’ติ กิรสฺส สุตฺวา. ‘‘อิสโย นาม กุปิตา สปนํ เทนฺติ กิสวจฺฉาทโย วิยา’’ติ อนุสฺสววเสน ‘‘สปติ มํ มฺเ สมโณ โคตโม’’ติ ภยํ อุปฺปชฺชิ. ตสฺมา เอวมาห.

ทนฺตสฺสาติ นิพฺพิเสวนสฺส. ตาทิโนติ ตาทิลกฺขณํ ปตฺตสฺส. ตสฺเสว เตน ปาปิโยติ ตสฺเสว ปุคฺคลสฺส เตน โกเธน ปาปํ โหติ. สโต อุปสมฺมตีติ สติยา สมนฺนาคโต หุตฺวา อธิวาเสติ. อุภินฺนํ ติกิจฺฉนฺตานนฺติ อุภินฺนํ ติกิจฺฉนฺตํ. อยเมว วา ปาโ. โย ปุคฺคโล สโต อุปสมฺมติ, อุภินฺนมตฺถํ จรติ ติกิจฺฉติ สาเธติ, ตํ ปุคฺคลํ ชนา พาโลติ มฺนฺติ. กีทิสา ชนา? เย ธมฺมสฺส อโกวิทา. ธมฺมสฺสาติ ปฺจกฺขนฺธธมฺมสฺส วา จตุสจฺจธมฺมสฺส วา. อโกวิทาติ ตสฺมึ ธมฺเม อกุสลา อนฺธพาลปุถุชฺชนา. ทุติยํ.

๓. อสุรินฺทกสุตฺตวณฺณนา

๑๘๙. ตติเย อสุรินฺทกภารทฺวาโชติ อกฺโกสกภารทฺวาชสฺส กนิฏฺโ. กุปิโตติ เตเนว การเณน กุทฺโธ. ชยฺเจวสฺส ตํ โหตีติ อสฺเสว ตํ ชยํ โหติ, โส ชโย โหตีติ อตฺโถ . กตมสฺสาติ? ยา ติติกฺขา วิชานโต อธิวาสนาย คุณํ วิชานนฺตสฺส ติติกฺขา อธิวาสนา, อยํ ตสฺส วิชานโตว ชโย. พาโล ปน ผรุสํ ภณนฺโต ‘‘มยฺหํ ชโย’’ติ เกวลํ ชยํ มฺติ. ตติยํ.

๔. พิลงฺคีกสุตฺตวณฺณนา

๑๙๐. จตุตฺเถ พิลงฺคิกภารทฺวาโชติ ภารทฺวาโชว โส, นานปฺปการํ ปน สุทฺธฺจ สมฺภารยุตฺตฺจ กฺชิกํ กาเรตฺวา วิกฺกิณาเปนฺโต พหุธนํ สงฺขรีติ ‘‘พิลงฺคิกภารทฺวาโช’’ติ ตสฺส สงฺคีติกาเรหิ นามํ คหิตํ. ตุณฺหีภูโตติ ‘‘ตโย เม เชฏฺกภาตโร อิมินา ปพฺพาชิตา’’ติ อติวิย กุทฺโธ กิฺจิ วตฺตุํ อสกฺโกนฺโต ตุณฺหีภูโต อฏฺาสิ. คาถา ปน เทวตาสํยุตฺเต กถิตาว. จตุตฺถํ.

๕. อหึสกสุตฺตวณฺณนา

๑๙๑. ปฺจเม อหึสกภารทฺวาโชติ ภารทฺวาโชเวส, อหึสกปฺหํ ปน ปุจฺฉิ, เตนสฺเสตํ สงฺคีติกาเรหิ นามํ คหิตํ. นาเมน วา เอส อหึสโก, โคตฺเตน ภารทฺวาโช. อหึสกาหนฺติ อหึสโก อหํ, อิติ เม ภวํ โคตโม ชานาตูติ อาห. ตถา จสฺสาติ ตถา เจ อสฺส, ภเวยฺยาสีติ อตฺโถ. น หึสตีติ น วิเหเติ น ทุกฺขาเปติ. ปฺจมํ.

๖. ชฏาสุตฺตวณฺณนา

๑๙๒. ฉฏฺเ ชฏาภารทฺวาโชติ ภารทฺวาโชเวส, ชฏาปฺหสฺส ปน ปุจฺฉิตตฺตา สงฺคีติกาเรหิ เอวํ วุตฺโต. เสสํ เทวตาสํยุตฺเต กถิตเมว. ฉฏฺํ.

๗. สุทฺธิกสุตฺตวณฺณนา

๑๙๓. สตฺตเม สุทฺธิกภารทฺวาโชติ อยมฺปิ ภารทฺวาโชว, สุทฺธิกปฺหสฺส ปน ปุจฺฉิตตฺตา สงฺคีติกาเรหิ เอวํ วุตฺโต. สีลวาปิ ตโปกรนฺติ สีลสมฺปนฺโนปิ ตโปกมฺมํ กโรนฺโต. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโนติ เอตฺถ วิชฺชาติ ตโย เวทา. จรณนฺติ โคตฺตจรณํ. โส สุชฺฌติ น อฺา อิตรา ปชาติ โส เตวิชฺโช พฺราหฺมโณ สุชฺฌติ, อยํ ปน อฺา นามิกา ปชา น สุชฺฌตีติ วทติ. พหุมฺปิ ปลปํ ชปฺปนฺติ พหุมฺปิ ปลปํ ชปฺปนฺโต, ‘‘พฺราหฺมโณว สุชฺฌตี’’ติ เอวํ วจนสหสฺสมฺปิ ภณนฺโตติ อตฺโถ. อนฺโตกสมฺพูติ อนฺโต กิเลสปูติสภาเวน ปูติโก. สํกิลิฏฺโติ กิลิฏฺเหิ กายกมฺมาทีหิ สมนฺนาคโต. สตฺตมํ.

๘. อคฺคิกสุตฺตวณฺณนา

๑๙๔. อฏฺเม อคฺคิกภารทฺวาโชติ อยมฺปิ ภารทฺวาโชว, อคฺคิ ปริจรณวเสน ปนสฺส สงฺคีติกาเรหิ เอตํ นามํ คหิตํ. สนฺนิหิโต โหตีติ สํโยชิโต โหติ. อฏฺาสีติ กสฺมา ตตฺถ อฏฺาสิ? ภควา กิร ปจฺจูสสมเย โลกํ โอโลเกนฺโต อิมํ พฺราหฺมณํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ เอวรูปํ อคฺคปายาสํ คเหตฺวา ‘มหาพฺรหฺมานํ โภเชมี’ติ อคฺคิมฺหิ ฌาเปนฺโต อผลํ กโรติ อปายมคฺคํ โอกฺกมติ, อิมํ ลทฺธึ อวิสฺสชฺชนฺโต อปายปูรโกว ภวิสฺสติ, คจฺฉามิสฺส ธมฺมเทสนาย, มิจฺฉาทิฏฺึ ภินฺทิตฺวา ปพฺพาเชตฺวา จตฺตาโร มคฺเค เจว จตฺตาริ จ ผลานิ เทมี’’ติ, ตสฺมา ปุพฺพณฺหสมเย ราชคหํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ อฏฺาสิ.

ตีหิ วิชฺชาหีติ ตีหิ เวเทหิ. ชาติมาติ ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา ปริสุทฺธาย ชาติยา สมนฺนาคโต. สุตวา พหูติ พหุ นานปฺปกาเร คนฺเถ สุตวา. โสมํ ภุฺเชยฺยาติ โส เตวิชฺโช พฺราหฺมโณ อิมํ ปายาสํ ภุฺชิตุํ ยุตฺโต, ตุมฺหากํ ปเนส ปายาโส อยุตฺโตติ วทติ.

เวทีติ ปุพฺเพนิวาสาเณน ชานิ ปฏิวิชฺฌิ. สคฺคาปายนฺติ ทิพฺเพน จกฺขุนา สคฺคมฺปิ อปายมฺปิ ปสฺสติ. ชาติกฺขยนฺติ อรหตฺตํ. อภิฺาโวสิโตติ ชานิตฺวา โวสิตโวสาโน. พฺราหฺมโณภวนฺติ อวีจิโต ยาว ภวคฺคา โภตา โคตเมน สทิโส ชาติสมฺปนฺโน ขีณาสวพฺราหฺมโณ นตฺถิ, ภวํเยว พฺราหฺมโณติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา สุวณฺณปาตึ ปูเรตฺวา ทสพลสฺส ปายาสํ อุปนาเมสิ. สตฺถา อุปฺปตฺตึ ทีเปตฺวา โภชนํ ปฏิกฺขิปนฺโต คาถาภิคีตํ เมติอาทิมาห. ตตฺถ คาถาภิคีตนฺติ คาถาหิ อภิคีตํ. อโภชเนยฺยนฺติ อภุฺชิตพฺพํ . อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตฺวํ, พฺราหฺมณ, มยฺหํ เอตฺตกํ กาลํ ภิกฺขาจารวตฺเตน ิตสฺส กฏจฺฉุมตฺตมฺปิ ทาตุํ นาสกฺขิ, อิทานิ ปน มยา ตุยฺหํ กิลฺชมฺหิ ติเล วิตฺถาเรนฺเตน วิย สพฺเพ พุทฺธคุณา ปกาสิตา, อิติ คายเนน คายิตฺวา ลทฺธํ วิย อิทํ โภชนํ โหติ, ตสฺมา อิทํ คาถาภิคีตํ เม อโภชเนยฺยนฺติ. สมฺปสฺสตํ, พฺราหฺมณ, เนส ธมฺโมติ, พฺราหฺมณ, อตฺถฺจ ธมฺมฺจ สมฺปสฺสนฺตานํ ‘‘เอวรูปํ โภชนํ ภุฺชิตพฺพ’’นฺติ เอส ธมฺโม น โหติ. สุธาโภชนมฺปิ คาถาภิคีตํ ปนุทนฺติ พุทฺธา, คาถาหิ คายิตฺวา ลทฺธํ พุทฺธา นีหรนฺติเยว. ธมฺเม สติ, พฺราหฺมณ, วุตฺติเรสาติ, พฺราหฺมณ, ธมฺเม สติ ธมฺมํ อเปกฺขิตฺวา ธมฺเม ปติฏฺาย ชีวิตํ กปฺเปนฺตานํ เอสา วุตฺติ อยํ อาชีโว – เอวรูปํ นีหริตฺวา ธมฺมลทฺธเมว ภุฺชิตพฺพนฺติ.

อถ พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ – อหํ ปุพฺเพ สมณสฺส โคตมสฺส คุเณ วา อคุเณ วา น ชานามิ. อิทานิ ปนสฺสาหํ คุเณ ตฺวา มม เคเห อสีติโกฏิมตฺตํ ธนํ สาสเน วิปฺปกิริตุกาโม ชาโต, อยฺจ ‘‘มยา ทินฺนปจฺจยา อกปฺปิยา’’ติ วทติ. อปฺปฏิคฺคยฺโห อหํ สมเณน โคตเมนาติ. อถ ภควา สพฺพฺุตฺาณํ เปเสตฺวา ตสฺส จิตฺตาจารํ วีมํสนฺโต, ‘‘อยํ สพฺเพปิ อตฺตนา ทินฺนปจฺจเย ‘อกปฺปิยา’ติ สลฺลกฺเขติ. ยํ หิ โภชนํ อารพฺภ กถา อุปฺปนฺนา, เอตเทว น วฏฺฏติ, เสสา นิทฺโทสา’’ติ พฺราหฺมณสฺส จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ทานทฺวารํ ทสฺเสนฺโต อฺเน จาติอาทิมาห. ตตฺถ กุกฺกุจฺจวูปสนฺตนฺติ หตฺถกุกฺกุจฺจาทีนํ วเสน วูปสนฺตกุกฺกุจฺจํ. อนฺเนน ปาเนนาติ เทสนามตฺตเมตํ . อยํ ปนตฺโถ – อฺเหิ ตยา ‘‘ปริจฺจชิสฺสามี’’ติ สลฺลกฺขิเตหิ จีวราทีหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหสฺสุ. เขตฺตํ หิ ตํ ปุฺเปกฺขสฺส โหตีติ เอตํ ตถาคตสาสนํ นาม ปุฺเปกฺขสฺส ปุฺตฺถิกสฺส ตุยฺหํ อปฺเปปิ พีเช พหุสสฺสผลทายกํ สุเขตฺตํ วิย ปฏิยตฺตํ โหติ. อฏฺมํ.

๙. สุนฺทริกสุตฺตวณฺณนา

๑๙๕. นวเม สุนฺทริกภารทฺวาโชติ สุนฺทริกาย นทิยา ตีเร อคฺคิชุหเณน เอวํลทฺธนาโม. สุนฺทริกายาติ เอวํนามิกาย นทิยา. อคฺคึชุหตีติ อาหุตึ ปกฺขิปเนน ชาเลติ . อคฺคิหุตฺตํ ปริจรตีติ อคฺยายตนํ สมฺมชฺชนุปเลปนพลิกมฺมาทินา ปยิรุปาสติ. โก นุ โข อิมํ หพฺยเสสํ ภุฺเชยฺยาติ โส กิร พฺราหฺมโณ อคฺคิมฺหิ หุตาวเสสํ ปายาสํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อคฺคิมฺหิ ตาว ปกฺขิตฺตปายาโส มหาพฺรหฺมุนา ภุตฺโต, อยํ ปน อวเสโส อตฺถิ, ตํ ยทิ พฺรหฺมุโน มุขโต ชาตสฺส พฺราหฺมณสฺส ทเทยฺยํ, เอวํ เม ปิตรา สห ปุตฺโตปิ สนฺตปฺปิโต ภเวยฺย, สุวิโสธิโต จสฺส พฺรหฺมโลกคามิมคฺโค’’ติ. โส พฺราหฺมณสฺส ทสฺสนตฺถํ อุฏฺายาสนา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกสิ, ‘‘โก นุ โข อิมํ หพฺยเสสํ ภุฺเชยฺยา’’ติ?

รุกฺขมูเลติ ตสฺมึ วนสณฺเฑ เชฏฺกรุกฺขสฺส มูเล. สสีสํ ปารุตํ นิสินฺนนฺติ สห สีเสน ปารุตกายํ นิสินฺนํ. กสฺมา ปน ภควา ตตฺถ นิสีทิ? ภควา กิร ปจฺจูสสมเย โลกํ โอโลเกนฺโต อิมํ พฺราหฺมณํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – อยํ พฺราหฺมโณ เอวรูปํ อคฺคปายาสํ คเหตฺวา ‘‘มหาพฺรหฺมานํ โภเชมี’’ติ อคฺคิมฺหิ ฌาเปนฺโต อผลํ กโรติ…เป… จตฺตาโร มคฺเค เจว จตฺตาริ จ ผลานิ เทมีติ. ตสฺมา กาลสฺเสว วุฏฺาย สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา ปตฺตจีวรํ อาทาย คนฺตฺวา วุตฺตนเยน ตสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ. อถ กสฺมา สสีสํ ปารุปีติ? หิมปาตสฺส จ สีตวาตสฺส จ ปฏิพาหณตฺถํ, ปฏิพโลว เอตํ ตถาคโต อธิวาเสตุํ. สเจ ปน อปารุปิตฺวา นิสีเทยฺย, พฺราหฺมโณ ทูรโตว สฺชานิตฺวา นิวตฺเตยฺย, เอวํ สติ กถา นปฺปวตฺเตยฺย. อิติ ภควา – ‘‘พฺราหฺมเณ อาคเต สีสํ วิวริสฺสามิ, อถ มํ โส ทิสฺวา กถํ ปวตฺเตสฺสติ, ตสฺสาหํ กถานุสาเรน ธมฺมํ เทเสสฺสามี’’ติ กถาปวตฺตนตฺถํ เอวมกาสิ.

อุปสงฺกมีติ พฺราหฺมโณ – ‘‘อยํ สสีสํ ปารุปิตฺวา สพฺพรตฺตึ ปธานมนุยุตฺโต. อิมสฺส ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา อิมํ หพฺยเสสํ ทสฺสามี’’ติ, พฺราหฺมณสฺี หุตฺวา อุปสงฺกมิ. มุณฺโฑ อยํ ภวํ, มุณฺฑโก อยํ ภวนฺติ สีเส วิวริตมตฺเต นีจเกสนฺตํ ทิสฺวา ‘‘มุณฺโฑ’’ติ อาห. ตโต สุฏฺุตรํ โอโลเกนฺโต ปวตฺตมตฺตมฺปิ สิขํ อทิสฺวา หีเฬนฺโต ‘‘มุณฺฑโก’’ติ อาห. ตโตวาติ ยตฺถ ิโต อทฺทส, ตมฺหาว ปเทสา. มุณฺฑาปิ หีติ เกนจิ การเณน มุณฺฑิตสีสาปิ โหนฺติ.

มาชาตึ ปุจฺฉาติ ยทิ ทานสฺส มหปฺผลตํ ปจฺจาสีสสิ, ชาตึ มา ปุจฺฉ. อการณํ หิ ทกฺขิเณยฺยภาวสฺส ชาติ. จรณฺจ ปุจฺฉาติ อปิจ โข สีลาทิคุณเภทํ จรณํ ปุจฺฉ. เอตํ หิ ทกฺขิเณยฺยภาวสฺส การณํ. อิทานิสฺส ตมตฺถํ วิภาเวนฺโต กฏฺา หเว ชายติ ชาตเวโทติอาทิมาห . ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – อิธ กฏฺา อคฺคิ ชายติ, น จ โส สาลาทิกฏฺา ชาโตว อคฺคิกิจฺจํ กโรติ, สาปาน-โทณิอาทิกฏฺา ชาโต น กโรติ, อตฺตโน ปน อจฺจิยาทิคุณสมฺปตฺติยา ยโต วา ตโต วา ชาโต กโรติเยว. เอวํ น พฺราหฺมณกุลาทีสุ ชาโตว ทกฺขิเณยฺโย โหติ, จณฺฑาลกุลาทีสุ ชาโต น โหติ, อปิจ โข นีจกุลิโนปิ อุจฺจกุลิโนปิ ขีณาสว-มุนิ ธิติมา หิรีนิเสโธ อาชานีโย โหติ. อิมาย ธิติหิริปโมกฺขาย คุณสมฺปตฺติยา ชาติมา อุตฺตมทกฺขิเณยฺโย โหติ. โส หิ ธิติยา คุเณ ธาเรติ, หิริยา โทเส นิเสเธตีติ. อปิเจตฺถ มุนีติ โมนธมฺเมน สมนฺนาคโต. ธิติมาติ วีริยวา. อาชานีโยติ การณาการณชานนโก. หิรีนิเสโธติ หิริยา ปาปานิ นิเสเธตฺวา ิโต.

สจฺเจน ทนฺโตติ ปรมตฺถสจฺเจน ทนฺโต. ทมสา อุเปโตติ อินฺทฺริยทเมน อุเปโต. เวทนฺตคูติ จตุนฺนํ มคฺคเวทานํ อนฺตํ, จตูหิ วา มคฺคเวเทหิ กิเลสานํ อนฺตํ คโต. วุสิตพฺรหฺมจริโยติ มคฺคพฺรหฺมจริยวาสํ วุตฺโถ. ยฺโปนีโตติ อุปนีตยฺโ ปฏิยาทิตยฺโ จ. ตมุปวฺหเยถาติ เยน ยฺโ ปฏิยาทิโต, โส ตํ ปรมตฺถพฺราหฺมณํ อวฺหเยยฺย. ‘‘อินฺทมวฺหยาม, โสมมวฺหยาม, วรุณมวฺหยาม, อีสานมวฺหยาม, ยามมวฺหยามา’’ติ อิทํ ปน อวฺหานํ นิรตฺถกํ. กาเลนาติ อวฺหยนฺโต จ ‘‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ อนฺโตมชฺฌนฺหิกกาเลเยว ตํ อุปวฺหเยยฺย. โส ชุหติ ทกฺขิเณยฺเยติ โย เอวํ กาเล ขีณาสวํ อามนฺเตตฺวา ตตฺถ จตุปจฺจยทกฺขิณํ ปติฏฺเปติ, โส ทกฺขิเณยฺเย ชุหติ นาม, น อเจตเน อคฺคิมฺหิ ปกฺขิปนฺโต.

อิติ พฺราหฺมโณ ภควโต กถํ สุณนฺโต ปสีทิตฺวา อิทานิ อตฺตโน ปสาทํ อาวิกโรนฺโต อทฺธา สุยิฏฺนฺติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – อทฺธา มม ยิทํ อิทานิ สุยิฏฺฺจ สุหุตฺจ ภวิสฺสติ, ปุพฺเพ ปน อคฺคิมฺหิ ฌาปิตํ นิรตฺถกํ อโหสีติ. อฺโ ชโนติ ‘‘อหํ พฺราหฺมโณ, อหํ พฺราหฺมโณ’’ติ วทนฺโต อนฺธพาลปุถุชฺชโน. หพฺยเสสนฺติ หุตเสสํ. ภุฺชตุ ภวนฺติอาทิ ปุริมสุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

น ขฺวาหนฺติ น โข อหํ. กสฺมา ปเนวมาหาติ? ตสฺมึ กิร โภชเน อุปหฏมตฺเตว ‘‘สตฺถา ภุฺชิสฺสตี’’ติ สฺาย จตูสุ มหาทีเปสุ ทฺวีสุ ปริตฺตทีปสหสฺเสสุ เทวตา ปุปฺผผลาทีนิ เจว สปฺปินวนีตเตลมธุผาณิตาทีนิ จ อาทาย มธุปฏลํ ปีเฬตฺวา มธุํ คณฺหนฺติโย วิย ทิพฺพานุภาเวน นิพฺพตฺติโตชเมว คเหตฺวา ปกฺขิปึสุ. เตน ตํ สุขุมตฺตํ คตํ, มนุสฺสานฺจ โอฬาริกํ วตฺถูติ เตสํ ตาว โอฬาริกวตฺถุตาย สมฺมา ปริณามํ น คจฺฉติ. โคยูเส ปน ติลพีชานิ ปกฺขิปิตฺวา ปกฺกตฺตา โอฬาริกมิสฺสกํ ชาตํ, เทวานฺจ สุขุมํ วตฺถูติ เตสํ สุขุมวตฺถุตาย สมฺมา ปริณามํ น คจฺฉติ. สุกฺขวิปสฺสกขีณาสวสฺสาปิ กุจฺฉิยํ น ปริณมติ. อฏฺสมาปตฺติลาภีขีณาสวสฺส ปน สมาปตฺติพเลน ปริณาเมยฺย. ภควโต ปน ปากติเกเนว กมฺมชเตเชน ปริณาเมยฺย.

อปฺปหริเตติ อหริเต. สเจ หิ หริเตสุ ติเณสุ ปกฺขิเปยฺย, สินิทฺธปายาเสน ติณานิ ปูตีนิ ภเวยฺยุํ. พุทฺธา จ ภูตคามสิกฺขาปทํ น วีติกฺกมนฺติ, ตสฺมา เอวมาห. ยตฺถ ปน คลปฺปมาณานิ มหาติณานิ, ตาทิเส าเน ปกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ. อปฺปาณเกติ สปฺปาณกสฺมึ หิ ปริตฺตเก อุทเก ปกฺขิตฺเต ปาณกา มรนฺติ, ตสฺมา เอวมาห. ยํ ปน คมฺภีรํ มหาอุทกํ โหติ, ปาติสเตปิ ปาติสหสฺเสปิ ปกฺขิตฺเต น อาลุฬติ, ตถารูเป อุทเก วฏฺฏติ. โอปิลาเปสีติ สุวณฺณปาติยา สทฺธึเยว นิมุชฺชาเปสิ. จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายตีติ เอวรูปํ สทฺทํ กโรติ. กึ ปเนส ปายาสสฺส อานุภาโว, อุทาหุ ตถาคตสฺสาติ? ตถาคตสฺส. อยํ หิ พฺราหฺมโณ ตํ ปายาสํ โอปิลาเปตฺวา อุมฺมคฺคํ อารุยฺห สตฺถุ สนฺติกํ อนาคนฺตฺวาว คจฺเฉยฺย, อถ ภควา – ‘‘เอตฺตกํ อจฺฉริยํ ทิสฺวา มม สนฺติกํ อาคมิสฺสติ. อถสฺสาหํ ธมฺมเทสนาย มิจฺฉาทิฏฺิคหณํ ภินฺทิตฺวา สาสเน โอตาเรตฺวา อมตปานํ ปาเยสฺสามี’’ติ อธิฏฺานพเลน เอวมกาสิ.

ทารุสมาทหาโนติ ทารุํ ฌาปยมาโน. พหิทฺธา หิ เอตนฺติ เอตํ ทารุชฺฌาปนํ นาม อริยธมฺมโต พหิทฺธา. ยทิ เอเตน สุทฺธิ ภเวยฺย, เย ทวฑาหกาทโย พหูนิ ทารูนิ ฌาเปนฺติ, เต ปมตรํ สุชฺเฌยฺยุํ. กุสลาติ ขนฺธาทีสุ กุสลา. อชฺฌตฺตเมวุชฺชลยามิ โชตินฺติ นิยกชฺฌตฺเต อตฺตโน สนฺตานสฺมึเยว าณโชตึ ชาเลมิ. นิจฺจคฺคินีติ อาวชฺชนปฏิพทฺเธน สพฺพฺุตฺาเณน นิจฺจํ ปชฺชลิตคฺคิ. นิจฺจสมาหิตตฺโตติ นิจฺจํ สมฺมา ปิตจิตฺโต. พฺรหฺมจริยํ จรามีติ โพธิมณฺเฑ จริตํ พฺรหฺมจริยํ คเหตฺวา เอวํ วทติ.

มาโนหิ เต, พฺราหฺมณ, ขาริภาโรติ ยถา ขาริภาโร ขนฺเธน วยฺหมาโน อุปริ ิโตปิ อกฺกนฺตกฺกนฺตฏฺาเน ปถวิยา สทฺธึ ผุเสติ, เอวเมว ชาติโคตฺตกุลาทีนิ มานวตฺถูนิ นิสฺสาย อุสฺสาปิโต มาโนปิ ตตฺถ ตตฺถ อิสฺสํ อุปฺปาเทนฺโต จตูสุ อปาเยสุ สํสีทาเปติ. เตนาห ‘‘มาโน หิ เต, พฺราหฺมณ, ขาริภาโร’’ติ . โกโธ ธูโมติ ตว าณคฺคิสฺส อุปกฺกิเลสฏฺเน โกโธ ธุโม. เตน หิ เต อุปกฺกิลิฏฺโ าณคฺคิ น วิโรจติ. ภสฺมนิ โมสวชฺชนฺติ นิโรชฏฺเน มุสาวาโท ฉาริกา นาม. ยถา หิ ฉาริกาย ปฏิจฺฉนฺโน อคฺคิ น โชเตติ, เอวํ เต มุสาวาเทน ปฏิจฺฉนฺนํ าณนฺติ ทสฺเสติ. ชิวฺหา สุชาติ ยถา ตุยฺหํ สุวณฺณรชตโลหกฏฺมตฺติกาสุ อฺตรมยา ยาคยชนตฺถาย สุชา โหติ, เอวํ มยฺหํ ธมฺมยาคํ ยชนตฺถาย ปหูตชิวฺหา สุชาติ วทติ. หทยํ โชติฏฺานนฺติ ยถา ตุยฺหํ นทีตีเร โชติฏฺานํ, เอวํ มยฺหํ ธมฺมยาคสฺส ยชนฏฺานตฺเถน สตฺตานํ หทยํ โชติฏฺานํ. อตฺตาติ จิตฺตํ.

ธมฺโม รหโทติ ยถา ตฺวํ อคฺคึ ปริจริตฺวา ธูมฉาริกเสทกิลิฏฺสรีโร สุนฺทริกํ นทึ โอตริตฺวา นฺหายสิ, เอวํ มยฺหํ สุนฺทริกาสทิเสน พาหิเรน รหเทน อตฺโถ นตฺถิ, อฏฺงฺคิกมคฺคธมฺโม ปน มยฺหํ รหโท, ตตฺราหํ ปาณสตมฺปิ ปาณสหสฺสมฺปิ จตุราสีติปาณสหสฺสานิปิ เอกปฺปหาเรน นฺหาเปมิ. สีลติตฺโถติ ตสฺส ปน เม ธมฺมรหทสฺส จตุปาริสุทฺธิสีลํ ติตฺถนฺติ ทสฺเสติ. อนาวิโลติ ยถา ตุยฺหํ สุนฺทริกา นที จตูหิ ปฺจหิ เอกโต นฺหายนฺเตหิ เหฏฺุปริยวาลิกา อาลุฬา โหติ , น เอวํ มยฺหํ รหโท, อเนกสตสหสฺเสสุปิ ปาเณสุ โอตริตฺวา นฺหายนฺเตสุ โส อนาวิโล วิปฺปสนฺโนว โหติ. สพฺภิ สตํ ปสตฺโถติ ปณฺฑิเตหิ ปณฺฑิตานํ ปสฏฺโ. อุตฺตมตฺเถน วา โส สพฺภีติ วุจฺจติ, ปณฺฑิเตหิ ปสตฺถตฺตา สตํ ปสตฺโถ. ตรนฺติ ปารนฺติ นิพฺพานปารํ คจฺฉนฺติ.

อิทานิ อริยมคฺครหทสฺส องฺคานิ อุทฺธริตฺวา ทสฺเสนฺโต สจฺจํ ธมฺโมติอาทิมาห. ตตฺถ สจฺจนฺติ วจีสจฺจํ. ธมฺโมติ อิมินา ทิฏฺิสงฺกปฺปวายามสติสมาธโย ทสฺเสติ. สํยโมติ อิมินา กมฺมนฺตาชีวา คหิตา. สจฺจนฺติ วา อิมินา มคฺคสจฺจํ คหิตํ. สา อตฺถโต สมฺมาทิฏฺิ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สมฺมาทิฏฺิ มคฺโค เจว เหตุ จา’’ติ (ธ. ส. ๑๐๓๙). สมฺมาทิฏฺิยา ปน คหิตาย ตคฺคติกตฺตา สมฺมาสงฺกปฺโป คหิโตว โหติ. ธมฺโมติ อิมินา วายามสติสมาธโย. สํยโมติ อิมินา วาจากมฺมนฺตาชีวา. เอวมฺปิ อฏฺงฺคิโก มคฺโค ทสฺสิโต โหติ. อถ วา สจฺจนฺติ ปรมตฺถสจฺจํ , ตํ อตฺถโต นิพฺพานํ. ธมฺโมติปเทน ทิฏฺิ สงฺกปฺโป วายาโม สติ สมาธีติ ปฺจงฺคานิ คหิตานิ. สํยโมติ วาจา กมฺมนฺโต อาชีโวติ ตีณิ. เอวมฺปิ อฏฺงฺคิโก มคฺโค ทสฺสิโต โหติ. พฺรหฺมจริยนฺติ เอตํ พฺรหฺมจริยํ นาม. มชฺเฌ สิตาติ สสฺสตุจฺเฉเท วชฺเชตฺวา มชฺเฌ นิสฺสิตา. พฺรหฺมปตฺตีติ เสฏฺปตฺติ. ส ตุชฺชุภูเตสุ นโม กโรหีติ เอตฺถ ต-กาโร ปทสนฺธิกโร, ส ตฺวํ อุชุภูเตสุ ขีณาสเวสุ นโม กโรหีติ อตฺโถ. ตมหํ นรํ ธมฺมสารีติ พฺรูมีติ โย เอวํ ปฏิปชฺชติ, ตมหํ ปุคฺคลํ ‘‘ธมฺมสารี เอโส ธมฺมสาริยา ปฏิจฺฉนฺโน’’ติ จ ‘‘กุสลธมฺเมหิ อกุสลธมฺเม สาเรตฺวา ิโต’’ติ วาติ วทามีติ. นวมํ.

๑๐. พหุธีตรสุตฺตวณฺณนา

๑๙๖. ทสเม อฺตรสฺมึ วนสณฺเฑติ ปจฺจูสสมเย โลกํ โอโลเกนฺโต ตสฺส พฺราหฺมณสฺส อรหตฺตสฺส อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา ‘‘คจฺฉามิสฺส สงฺคหํ กริสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา ตสฺมึ วนสณฺเฑ วิหรติ. นฏฺา โหนฺตีติ กสิตฺวา วิสฺสฏฺา อฏวิมุขา จรมานา พฺราหฺมเณ ภุฺชิตุํ คเต ปลาตา โหนฺติ. ปลฺลงฺกนฺติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ. อาภุชิตฺวาติ พนฺธิตฺวา . อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อุปริมํ สรีรํ อุชุกํ เปตฺวา, อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทตฺวา. ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ กมฺมฏฺานาภิมุขํ สตึ ปยิตฺวา, มุขสมีเป วา กตฺวาติ อตฺโถ. เตเนว วิภงฺเค วุตฺตํ – ‘‘อยํ สติ อุปฏฺิตา โหติ สูปฏฺิตา นาสิกคฺเค วา มุขนิมิตฺเต วา, เตน วุจฺจติ ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ (วิภ. ๕๓๗). อถ วา ‘‘ปรีติ ปริคฺคหฏฺโ. มุขนฺติ นิยฺยานฏฺโ. สตีติ อุปฏฺานฏฺโ. เตน วุจฺจติ ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ เอวํ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๔) วุตฺตนเยนเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺรายํ สงฺเขโป – ‘‘ปริคฺคหิตนิยฺยานํ สตึ กตฺวา’’ติ. เอวํ นิสีทนฺโต จ ปน ฉพฺพณฺณา ฆนพุทฺธรสฺมิโย วิสฺสชฺเชตฺวา นิสีทิ. อุปสงฺกมีติ โทมนสฺสาภิภูโต อาหิณฺฑนฺโต, ‘‘สุเขน วตายํ สมโณ นิสินฺโน’’ติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมิ.

อชฺชสฏฺึน ทิสฺสนฺตีติ อชฺช ฉทิวสมตฺตกา ปฏฺาย น ทิสฺสนฺติ. ปาปกาติ ลามกา ติลขาณุกา. เตน กิร ติลเขตฺเต วปิเต ตทเหว เทโว วสฺสิตฺวา ติเล ปํสุมฺหิ โอสีทาเปสิ , ปุปฺผํ วา ผลํ วา คเหตุํ นาสกฺขึสุ. เยปิ วฑฺฒึสุ, เตสํ อุปริ ปาณกา ปติตฺวา ปณฺณานิ ขาทึสุ, เอกปณฺณทุปณฺณา ขาณุกา อวสิสฺสึสุ. พฺราหฺมโณ เขตฺตํ โอโลเกตุํ คโต เต ทิสฺวา – ‘‘วฑฺฒิยา เม ติลา คหิตา, เตปิ นฏฺา’’ติ โทมนสฺสชาโต อโหสิ, ตํ คเหตฺวา อิมํ คาถมาห.

อุสฺโสฬฺหิกายาติ อุสฺสาเหน กณฺณนงฺคุฏฺาทีนิ อุกฺขิปิตฺวา วิจรนฺตา อุปฺปตนฺติ. ตสฺส กิร อนุปุพฺเพน โภเคสุ ปริกฺขีเณสุ ปกฺขิปิตพฺพสฺส อภาเวน ตุจฺฉโกฏฺา อเหสุํ. ตสฺส อิโต จิโต จ สตฺตหิ ฆเรหิ อาคตา มูสิกา เต ตุจฺฉโกฏฺเ ปวิสิตฺวา อุยฺยานกีฬํ กีฬนฺตา วิย นจฺจนฺติ, ตํ คเหตฺวา เอวมาห.

อุปฺปาฏเกหิ สฺฉนฺโนติ อุปฺปาฏกปาณเกหิ สฺฉนฺโน. ตสฺส กิร พฺราหฺมณสฺส สยนตฺถาย สนฺถตํ ติณปณฺณสนฺถารํ โกจิ อนฺตรนฺตรา ปฏิชคฺคนฺโต นตฺถิ. โส ทิวสํ อรฺเ กมฺมํ กตฺวา สายํ อาคนฺตฺวา ตสฺมึ นิปชฺชติ. อถสฺส อุปฺปาฏกปาณกา สรีรํ เอกจฺฉนฺนํ กโรนฺตา ขาทนฺติ, ตํ คเหตฺวา เอวมาห.

วิธวาติ มตปติกา. ยาว กิร ตสฺส พฺราหฺมณสฺส เคเห วิภวมตฺตา อโหสิ, ตาว ตา วิธวาปิ หุตฺวา ปติกุเลสุ วสิตุํ ลภึสุ. ยทา ปน โส นิทฺธโน ชาโต, ตทา ตา ‘‘ปิตุฆรํ คจฺฉถา’’ติ สสฺสุสสุราทีหิ นิกฺกฑฺฒิตา ตโต ตสฺเสว ฆรํ อาคนฺตฺวา วสนฺติโย พฺราหฺมณสฺส โภชนกาเล ‘‘คจฺฉถ อยฺยเกน สทฺธึ ภุฺชถา’’ติ ปุตฺเต เปเสนฺติ, เตหิ ปาติยํ หตฺเถสุ โอตาริเตสุ พฺราหฺมโณ หตฺถสฺส โอกาสํ น ลภติ. ตํ คเหตฺวา อิมํ คาถมาห.

ปิงฺคลาติ กฬารปิงฺคลา. ติลกาหตาติ กาฬเสตาทิวณฺเณหิ ติลเกหิ อาหตคตฺตา. โสตฺตํ ปาเทน โพเธตีติ นิทฺทํ โอกฺกนฺตํ ปาเทน ปหริตฺวา ปโพเธติ. อยํ กิร พฺราหฺมโณ มูสิกสทฺเทน อุพฺพาฬฺโห อุปฺปาฏเกหิ จ ขชฺชมาโน สพฺพรตฺตึ นิทฺทํ อลภิตฺวา ปจฺจูสกาเล นิทฺทายติ. อถ นํ อกฺขีสุ นิมฺมิลิตมตฺเตสฺเวว – ‘‘กึ กโรสิ, พฺราหฺมณ, ปจฺฉา จ ปุพฺเพ จ คหิตสฺส อิณสฺส? วฑฺฒิ มตฺถกํ ปตฺตา, สตฺต ธีตโร โปเสตพฺพา. อิทานิ อิณายิกา อาคนฺตฺวา เคหํ ปริวาเรสฺสนฺติ, คจฺฉ กมฺมํ กโรหี’’ติ ปาเทน ปหริตฺวา ปโพเธติ. ตํ คเหตฺวา อิมํ คาถมาห.

อิณายิกาติ เยสํ อเนน หตฺถโต อิณํ คหิตํ. โส กิร กสฺสจิ หตฺถโต เอกํ กหาปณํ กสฺสจิ ทฺเว กสฺสจิ ทส…เป… กสฺสจิ สตนฺติ เอวํ พหูนํ หตฺถโต อิณํ อคฺคเหสิ. เต ทิวา พฺราหฺมณํ อปสฺสนฺตา ‘‘เคหโต ตํ นิกฺขนฺตเมว คณฺหิสฺสามา’’ติ พลวปจฺจูเส คนฺตฺวา โจเทนฺติ. ตํ คเหตฺวา อิมํ คาถมาห.

ภควา เตน พฺราหฺมเณน อิมาหิ สตฺตหิ คาถาหิ ทุกฺเข กถิเต ‘‘ยํ ยํ, พฺราหฺมณ, ตยา ทุกฺขํ กถิตํ, สพฺพเมตํ มยฺหํ นตฺถี’’ติ ทสฺเสนฺโต ปฏิคาถาหิ พฺราหฺมณสฺส ธมฺมเทสนํ วฑฺเฒสิ. พฺราหฺมโณ ตา คาถา สุตฺวา ภควติ ปสนฺโน สรเณสุ ปติฏฺาย ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. ตํ ทสฺเสตุํ เอวํ วุตฺเต ภารทฺวาชโคตฺโตติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อลตฺถาติ ลภิ.

ตฺจ ปน พฺราหฺมณํ ภควา ปพฺพาเชตฺวา อาทาย เชตวนํ คนฺตฺวา ปุนทิวเส เตน เถเรน ปจฺฉาสมเณน โกสลรฺโ เคหทฺวารํ อคมาสิ . ราชา ‘‘สตฺถา อาคโต’’ติ สุตฺวา ปาสาทา โอรุยฺห วนฺทิตฺวา หตฺถโต ปตฺตํ คเหตฺวา ตถาคตํ อุปริปาสาทํ อาโรเปตฺวา วราสเน นิสีทาเปตฺวา คนฺโธทเกน ปาเท โธวิตฺวา สตปากเตเลน มกฺเขตฺวา ยาคุํ อาหราเปตฺวา รชตทณฺฑํ สุวณฺณกฏจฺฉุํ คเหตฺวา สตฺถุ อุปนาเมสิ. สตฺถา ปตฺตํ ปิทหิ. ราชา ตถาคตสฺส ปาเทสุ ปติตฺวา, ‘‘สเจ เม, ภนฺเต, โทโส อตฺถิ, ขมถา’’ติ อาห. นตฺถิ, มหาราชาติ. อถ กสฺมา ยาคุํ น คณฺหถาติ? ปลิโพโธ อตฺถิ, มหาราชาติ. กึ ปน, ภนฺเต, ยาคุํ อคณฺหนฺเตเหว ลภิตพฺโพ เอส ปลิโพโธ, ปฏิพโล อหํ ปลิโพธํ ทาตุํ, คณฺหถ, ภนฺเตติ. สตฺถา อคฺคเหสิ. มหลฺลกตฺเถโรปิ ทีฆรตฺตํ ฉาโต ยาวทตฺถํ ยาคุํ ปิวิ. ราชา ขาทนียโภชนียํ ทตฺวา ภตฺตกิจฺจาวสาเน ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา อาห – ‘‘ภควา ตุมฺเห ปเวณิยา อาคเต โอกฺกากวํเส อุปฺปชฺชิตฺวา จกฺกวตฺติสิรึ ปหาย ปพฺพชิตฺวา โลเก อคฺคตํ ปตฺโต, โก นาม, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปลิโพโธ’’ติ? มหาราช, เอตสฺส มหลฺลกตฺเถรสฺส ปลิโพโธ อมฺหากํ ปลิโพธสทิโสวาติ.

ราชา เถรํ วนฺทิตฺวา – ‘‘โก, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปลิโพโธ’’ติ ปุจฺฉิ? อิณปลิโพโธ, มหาราชาติ. กิตฺตโก, ภนฺเตติ? คเณหิ, มหาราชาติ. รฺโ ‘‘เอกํ ทฺเว สตํ สหสฺส’’นฺติ คเณนฺตสฺส องฺคุลิโย นปฺปโหนฺติ. อเถกํ ปุริสํ ปกฺโกสิตฺวา, ‘‘คจฺฉ, ภเณ, นคเร เภรึ จราเปหิ ‘สพฺเพ พหุธีติกพฺราหฺมณสฺส อิณายิกา ราชงฺคเณ สนฺนิปตนฺตู’’ติ. มนุสฺสา เภรึ สุตฺวา สนฺนิปตึสุ. ราชา เตสํ หตฺถโต ปณฺณานิ อาหราเปตฺวา สพฺเพสํ อนูนํ ธนมทาสิ. ตตฺถ สุวณฺณเมว สตสหสฺสคฺฆนกํ อโหสิ. ปุน ราชา ปุจฺฉิ – ‘‘อฺโปิ อตฺถิ, ภนฺเต, ปลิโพโธ’’ติ. อิณํ นาม, มหาราช, ทตฺวา มุจฺจิตุํ สกฺกา, เอตา ปน สตฺต ทาริกา มหาปลิโพธา มยฺหนฺติ. ราชา ยานานิ เปเสตฺวา ตสฺส ธีตโร อาหราเปตฺวา อตฺตโน ธีตโร กตฺวา ตํ ตํ กุลฆรํ เปเสตฺวา, ‘‘อฺโปิ, ภนฺเต, อตฺถิ ปลิโพโธ’’ติ ปุจฺฉิ? พฺราหฺมณี, มหาราชาติ. ราชา ยานํ เปเสตฺวา, ตสฺส พฺราหฺมณึ อาหราเปตฺวา, อยฺยิกฏฺาเน เปตฺวา ปุน ปุจฺฉิ – ‘‘อฺโปิ, ภนฺเต, อตฺถิ ปลิโพโธ’’ติ? นตฺถิ , มหาราชาติ วุตฺเต ราชาปิ จีวรทุสฺสานิ ทาเปตฺวา, ‘‘ภนฺเต, มม สนฺตกํ ตุมฺหากํ ภิกฺขุภาวํ ชานาถา’’ติ อาห. อาม, มหาราชาติ. อถ นํ ราชา อาห – ‘‘ภนฺเต, จีวรปิณฺฑปาตาทโยปิ สพฺเพ ปจฺจยา อมฺหากํ สนฺตกา ภวิสฺสนฺติ. ตุมฺเห ตถาคตสฺส มนํ คเหตฺวา สมณธมฺมํ กโรถา’’ติ. เถโร ตเถว อปฺปมตฺโต สมณธมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว อาสวกฺขยํ ปตฺโตติ. ทสมํ.

ปโม วคฺโค.

๒. อุปาสกวคฺโค

๑. กสิภารทฺวาชสุตฺตวณฺณนา

๑๙๗. ทุติยวคฺคสฺส ปเม มคเธสูติ เอวํนามเก ชนปเท. ทกฺขิณาคิริสฺมินฺติ ราชคหํ ปริวาเรตฺวา ิตสฺส คิริโน ทกฺขิณภาเค ชนปโท อตฺถิ, ตสฺมึ ชนปเท, ตตฺถ วิหารสฺสาปิ ตเทว นามํ. เอกนาฬายํ พฺราหฺมณคาเมติ เอกนาฬาติ ตสฺส คามสฺส นามํ. พฺราหฺมณา ปเนตฺถ สมฺพหุลา ปฏิวสนฺติ, พฺราหฺมณโภโค เอว วา โส. ตสฺมา ‘‘พฺราหฺมณคาโม’’ติ วุจฺจติ.

เตน โข ปน สมเยนาติ ยํ สมยํ ภควา มคธรฏฺเ เอกนาฬํ พฺราหฺมณคามํ อุปนิสฺสาย ทกฺขิณคิริมหาวิหาเร พฺราหฺมณสฺส อินฺทฺริยปริปากํ อาคมยมาโน วิหรติ, เตน สมเยน. กสิภารทฺวาชสฺสาติ โส พฺราหฺมโณ กสึ นิสฺสาย ชีวติ, ภารทฺวาโชติ จสฺส โคตฺตํ. ปฺจมตฺตานีติ ปฺจ ปมาณานิ, อนูนานิ อนธิกานิ ปฺจนงฺคลสตานีติ วุตฺตํ โหติ. ปยุตฺตานีติ โยชิตานิ, พลีพทฺทานํ ขนฺเธสุ เปตฺวา ยุเค โยตฺเตหิ โยชิตานีติ อตฺโถ.

วปฺปกาเลติ วปฺปนกาเล พีชนิกฺเขปสมเย. ตตฺถ ทฺเว วปฺปานิ กลลวปฺปฺจ ปํสุวปฺปฺจ. ปํสุวปฺปํ อิธ อธิปฺเปตํ, ตฺจ โข ปมทิวเส มงฺคลวปฺปํ. ตตฺถายํ อุปกรณสมฺปทา – ตีณิ พลิพทฺทสหสฺสานิ อุปฏฺาปิตานิ โหนฺติ, สพฺเพสํ สุวณฺณมยานิ สิงฺคานิ ปฏิมุกฺกานิ, รชตมยา ขุรา, สพฺเพ เสตมาลาหิ เจว คนฺธปฺจงฺคุลีหิ จ อลงฺกตา ปริปุณฺณปฺจงฺคา สพฺพลกฺขณสมฺปนฺนา, เอกจฺเจ กาฬา อฺชนวณฺณา, เอกจฺเจ เสตา ผลิกวณฺณา, เอกจฺเจ รตฺตา ปวาฬวณฺณา, เอกจฺเจ กมฺมาสา มสารคลฺลวณฺณา. เอวํ ปฺจสตา กสฺสกา สพฺเพ อหตเสตวตฺถา คนฺธมาลาลงฺกตา ทกฺขิณอํสกูเฏสุ ปติฏฺิตปุปฺผจุมฺพฏกา หริตาลมโนสิลาลฺชนุชฺชลคตฺตา ทส ทส นงฺคลา เอเกกคุมฺพา หุตฺวา คจฺฉนฺติ. นงฺคลานํ สีสฺจ ยุคฺจ ปโตทา จ สุวณฺณขจิตา . ปมนงฺคเล อฏฺ พลีพทฺทา ยุตฺตา, เสเสสุ จตฺตาโร จตฺตาโร, อวเสสา กิลนฺตปริวตฺตนตฺถํ อานีตา. เอเกกคุมฺเพ เอเกกพีชสกฏํ เอเกโก กสติ, เอเกโก วปฺปติ.

พฺราหฺมโณ ปน ปเคว มสฺสุกมฺมํ การาเปตฺวา นฺหายิตฺวา สุคนฺธคนฺเธหิ วิลิตฺโต ปฺจสตคฺฆนกํ วตฺถํ นิวาเสตฺวา สหสฺสคฺฆนกํ เอกํสํ กริตฺวา เอเกกิสฺสา องฺคุลิยา ทฺเว ทฺเวติ วีสติ องฺคุลิมุทฺทิกาโย กณฺเณสุ สีหกุณฺฑลานิ สีเส พฺรหฺมเวนํ ปฏิมุฺจิตฺวา สุวณฺณมาลํ กณฺเ กตฺวา พฺราหฺมณคณปริวุโต กมฺมนฺตํ โวสาสติ. อถสฺส พฺราหฺมณี อเนกสตภาชเนสุ ปายาสํ ปจาเปตฺวา มหาสกเฏสุ อาโรเปตฺวา คนฺโธทเกน นฺหายิตฺวา สพฺพาลงฺการวิภูสิตา พฺราหฺมณีคณปริวุตา กมฺมนฺตํ อคมาสิ. เคหมฺปิสฺส หริตุปลิตฺตํ วิปฺปกิณฺณลาชํ ปุณฺณฆฏกทลิธชปฏากาหิ อลงฺกตํ คนฺธปุปฺผาทีหิ สุกตพลิกมฺมํ, เขตฺตฺจ เตสุ เตสุ าเนสุ สมุสฺสิตทฺธชปฏากํ อโหสิ. ปริชนกมฺมกาเรหิ สทฺธึ โอสฏปริสา อฑฺฒเตยฺยสหสฺสา อโหสิ, สพฺเพ อหตวตฺถา, สพฺเพสํ ปายาสโภชนเมว ปฏิยตฺตํ.

อถ พฺราหฺมโณ สุวณฺณปาตึ โธวาเปตฺวา ปายาสสฺส ปูเรตฺวา สปฺปิมธุผาณิเตหิ อภิสงฺขริตฺวา นงฺคลพลิกมฺมํ การาเปสิ. พฺราหฺมณี ปฺจนฺนํ กสฺสกสตานํ สุวณฺณรชตกํสตมฺพโลหมยานิ ภาชนานิ ทาเปตฺวา สุวณฺณกฏจฺฉุํ คเหตฺวา ปายาเสน ปริวิสนฺตี คจฺฉติ. พฺราหฺมโณ ปน พลิกมฺมํ กาเรตฺวา รตฺตพนฺธิกาโย อุปาหนาโย อาโรหิตฺวา รตฺตสุวณฺณทณฺฑกํ คเหตฺวา, ‘‘อิธ ปายาสํ เทถ, อิธ สปฺปึ เทถ, อิธ สกฺขรํ เทถา’’ติ โวสาสมาโน วิจรติ. อยํ ตาว กมฺมนฺเต ปวตฺติ.

วิหาเร ปน ยตฺถ ยตฺถ พุทฺธา วสนฺติ, ตตฺถ ตตฺถ เนสํ เทวสิกํ ปฺจ กิจฺจานิ ภวนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปุเรภตฺตกิจฺจํ ปจฺฉาภตฺตกิจฺจํ ปุริมยามกิจฺจํ มชฺฌิมยามกิจฺจํ ปจฺฉิมยามกิจฺจนฺติ.

ตตฺริทํ ปุเรภตฺตกิจฺจํ – ภควา หิ ปาโตว อุฏฺาย อุปฏฺากานุคฺคหตฺถํ สรีรผาสุกตฺถฺจ มุขโธวนาทิปริกมฺมํ กตฺวา ยาว ภิกฺขาจารเวลา, ตาว วิวิตฺตาสเน วีตินาเมตฺวา ภิกฺขาจารเวลาย นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวา ปตฺตมาทาย กทาจิ เอกโก กทาจิ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ปวิสติ กทาจิ ปกติยา, กทาจิ อเนเกหิ ปาฏิหาริเยหิ วตฺตมาเนหิ. เสยฺยถิทํ – ปิณฺฑาย ปวิสโต โลกนาถสฺส ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา มุทุคติโย วาตา ปถวึ โสเธนฺติ, วลาหกา อุทกผุสิตานิ มุฺจนฺตา มคฺเค เรณุํ วูปสเมตฺวา อุปริ วิตานํ หุตฺวา ติฏฺนฺติ, อปเร วาตา ปุปฺผานิ อุปหริตฺวา มคฺเค โอกิรนฺติ. อุนฺนตา ภูมิปฺปเทสา โอนมนฺติ, โอนตา อุนฺนมนฺติ. ปาทนิกฺเขปสมเย สมาว ภูมิ โหติ, สุขสมฺผสฺสานิ ปทุมปุปฺผานิ วา ปาเท สมฺปฏิจฺฉนฺติ. อินฺทขีลสฺส อนฺโต ปิตมตฺเต ทกฺขิณปาเท สรีรา ฉพฺพณฺณรสฺมิโย นิกฺขมิตฺวา สุวณฺณรสสิฺจนานิ วิย จิตฺรปฏปริกฺขิตฺตานิ วิย จ ปาสาทกูฏาคาราทีนิ กโรนฺติโย อิโต จิโต จ วิธาวนฺติ. หตฺถิอสฺสวิหงฺคาทโย สกสกฏฺาเนสุ ิตาเยว มธุเรนากาเรน สทฺทํ กโรนฺติ , ตถา เภริวีณาทีนิ ตูริยานิ มนุสฺสานฺจ กายูปคานิ อาภรณานิ. เตน สฺาเณน มนุสฺสา ชานนฺติ ‘‘อชฺช ภควา อิธ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ’’ติ. เต สุนิวตฺถา สุปารุตา คนฺธปุปฺผาทีนิ อาทาย ฆรา นิกฺขมิตฺวา อนฺตรวีถึ ปฏิปชฺชิตฺวา ภควนฺตํ คนฺธปุปฺผาทีหิ สกฺกจฺจํ ปูเชตฺวา วนฺทิตฺวา – ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, ทส ภิกฺขู, อมฺหากํ วีสติ, อมฺหากํ ภิกฺขุสตํ เทถา’’ติ ยาจิตฺวา ภควโตปิ ปตฺตํ คเหตฺวา อาสนํ ปฺาเปตฺวา สกฺกจฺจํ ปิณฺฑปาเตน ปฏิมาเนนฺติ.

ภควา กตภตฺตกิจฺโจ เตสํ สนฺตานานิ โอโลเกตฺวา ตถา ธมฺมํ เทเสติ, ยถา เกจิ สรณคมเน ปติฏฺหนฺติ, เกจิ ปฺจสุ สีเลสุ, เกจิ โสตาปตฺติสกทาคามิอนาคามิผลานํ อฺตรสฺมึ, เกจิ ปพฺพชิตฺวา อคฺคผเล อรหตฺเตติ . เอวํ มหาชนํ อนุคฺคเหตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ คจฺฉติ. ตตฺถ คนฺธมณฺฑลมาเฬ ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสีทติ ภิกฺขูนํ ภตฺตกิจฺจปริโยสานํ อาคมยมาโน. ตโต ภิกฺขูนํ ภตฺตกิจฺจปริโยสาเน อุปฏฺาโก ภควโต นิเวเทติ. อถ ภควา คนฺธกุฏึ ปวิสติ. อิทํ ตาว ปุเรภตฺตกิจฺจํ.

อถ ภควา เอวํ กตปุเรภตฺตกิจฺโจ คนฺธกุฏิยา อุปฏฺาเน นิสีทิตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา ปาทปีเ ตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ โอวทติ – ‘‘ภิกฺขเว, อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ, ทุลฺลโภ พุทฺธุปฺปาโท โลกสฺมึ, ทุลฺลโภ มนุสฺสตฺตปฏิลาโภ, ทุลฺลภา สทฺธาสมฺปตฺติ, ทุลฺลภา ปพฺพชฺชา, ทุลฺลภํ สทฺธมฺมสฺสวน’’นฺติ. ตตฺถ เกจิ ภควนฺตํ กมฺมฏฺานํ ปุจฺฉนฺติ. ภควา เตสํ อตฺตโน จริยานุรูปํ กมฺมฏฺานํ เทติ. ตโต สพฺเพปิ ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน อตฺตโน รตฺติฏฺานทิวาฏฺานานิ คจฺฉนฺติ, เกจิ อรฺํ, เกจิ รุกฺขมูลํ, เกจิ ปพฺพตาทีนํ อฺตรํ, เกจิ จาตุมหาราชิกภวนํ…เป… เกจิ วสวตฺติภวนนฺติ. ตโต ภควา คนฺธกุฏึ ปวิสิตฺวา สเจ อากงฺขติ, ทกฺขิเณน ปสฺเสน สโต สมฺปชาโน มุหุตฺตํ สีหเสยฺยํ กปฺเปติ. อถ สมสฺสาสิตกาโย อุฏฺหิตฺวา ทุติยภาเค โลกํ โวโลเกติ. ตติยภาเค ยํ คามํ วา นิคมํ วา อุปนิสฺสาย วิหรติ, ตตฺถ มหาชโน ปุเรภตฺตํ ทานํ ทตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ สุนิวตฺโถ สุปารุโต คนฺธปุปฺผาทีนิ อาทาย วิหาเร สนฺนิปตติ. ตโต ภควา สมฺปตฺตปริสาย อนุรูเปน ปาฏิหาริเยน คนฺตฺวา ธมฺมสภายํ ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสชฺช ธมฺมํ เทเสติ กาลยุตฺตํ สมยยุตฺตํ. อถ กาลํ วิทิตฺวา ปริสํ อุยฺโยเชติ, มนุสฺสา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปกฺกมนฺติ. อิทํ ปจฺฉาภตฺตกิจฺจํ.

โส เอวํ นิฏฺิตปจฺฉาภตฺตกิจฺโจ สเจ คตฺตานิ โอสิฺจิตุกาโม โหติ, พุทฺธาสนา วุฏฺาย นฺหานโกฏฺกํ ปวิสิตฺวา อุปฏฺาเกน ปฏิยาทิตอุทเกน คตฺตานิ อุตุํ คาหาเปติ . อุปฏฺาโกปิ พุทฺธาสนํ อาเนตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา คนฺธกุฏิปริเวเณ ปฺาเปติ. ภควา สุรตฺตทุปฏฺฏํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา อุตฺตราสงฺคํ กตฺวา ตตฺถ อาคนฺตฺวา นิสีทติ เอกโกว มุหุตฺตํ ปฏิสลฺลีโน. อถ ภิกฺขู ตโต ตโต อาคมฺม ภควโต อุปฏฺานํ คจฺฉนฺติ. ตตฺถ เอกจฺเจ ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ, เอกจฺเจ กมฺมฏฺานํ, เอกจฺเจ ธมฺมสฺสวนํ ยาจนฺติ. ภควา เตสํ อธิปฺปายํ สมฺปาเทนฺโต ปุริมยามํ วีตินาเมติ. อิทํ ปุริมยามกิจฺจํ.

ปุริมยามกิจฺจปริโยสาเน ปน ภิกฺขูสุ ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปกฺกมนฺเตสุ สกลทสสหสฺสิโลกธาตุเทวตาโย โอกาสํ ลภมานา ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ ยถาภิสงฺขตํ อนฺตมโส จตุรกฺขรมฺปิ. ภควา ตาสํ ตาสํ เทวตานํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโต มชฺฌิมยามํ วีตินาเมติ. อิทํ มชฺฌิมยามกิจฺจํ.

ปจฺฉิมยามํ ปน ตโย โกฏฺาเส กตฺวา ปุเรภตฺตโต ปฏฺาย นิสชฺชาปีฬิตสฺส สรีรสฺส กิลาสุภาวโมจนตฺถํ เอกํ โกฏฺาสํ จงฺกเมน วีตินาเมติ. ทุติยโกฏฺาเส คนฺธกุฏึ ปวิสิตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สโต สมฺปชาโน สีหเสยฺยํ กปฺเปติ. ตติยโกฏฺาเส ปจฺจุฏฺาย นิสีทิตฺวา ปุริมพุทฺธานํ สนฺติเก ทานสีลาทิวเสน กตาธิการปุคฺคลทสฺสนตฺถํ พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โอโลเกติ. อิทํ ปจฺฉิมยามกิจฺจํ.

ตทาปิ เอวํ โอโลเกนฺโต กสิภารทฺวาชํ พฺราหฺมณํ อรหตฺตสฺส อุปนิสฺสยสมฺปนฺนํ ทิสฺวา – ‘‘ตตฺถ มยิ คเต กถา ปวตฺติสฺสติ, กถาวสาเน ธมฺมเทสนํ สุตฺวา เอโส พฺราหฺมโณ สปุตฺตทาโร ตีสุ สรเณสุ ปติฏฺาย อสีติโกฏิธนํ มม สาสเน วิปฺปกิริตฺวา อปรภาเค นิกฺขมฺม ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ ตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา กถํ สมุฏฺาเปตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ อถ โข ภควาติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ ปุพฺพณฺหสมยนฺติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ, ปุพฺพณฺหสมเยติ อตฺโถ. นิวาเสตฺวาติ ปริทหิตฺวา. วิหารจีวรปริวตฺตนวเสเนตํ วุตฺตํ. ปตฺตจีวรมาทายาติ ปตฺตํ หตฺเถหิ, จีวรํ กาเยน อาทิยิตฺวา, สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ธาเรตฺวาติ อตฺโถ. ภควโต กิร ปิณฺฑาย ปวิสิตุกามสฺส ภมโร วิย วิกสิตปทุมทฺวยมชฺฌํ, อินฺทนีลมณิวณฺณเสลมยปตฺโต หตฺถทฺวยมชฺฌํ อาคจฺฉติ. ตํ เอวมาคตํ ปตฺตํ หตฺเถหิ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา จีวรฺจ ปริมณฺฑลํ ปารุตํ กาเยน ธาเรตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. เตนุปสงฺกมีติ เยน มคฺเคน กมฺมนฺโต คนฺตพฺโพ, เตน เอกโกว อุปสงฺกมิ. กสฺมา ปน นํ ภิกฺขู นานุพนฺธึสูติ? ยทา หิ ภควา เอกโกว กตฺถจิ คนฺตุกาโม โหติ, ยาว ภิกฺขาจารเวลา ทฺวารํ ปิทหิตฺวา อนฺโตคนฺธกุฏิยํ นิสีทติ. ภิกฺขู ตาย สฺาย ชานนฺติ ‘‘อชฺช ภควา เอกโกว ปิณฺฑาย จริตุกาโม, อทฺธา กฺจิ เอว วิเนตพฺพปุคฺคลํ อทฺทสา’’ติ. เต อตฺตโน ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา คนฺธกุฏึ ปทกฺขิณํ กตฺวา วนฺทิตฺวา ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺติ. ตทา จ ภควา เอวมกาสิ, ตสฺมา ภิกฺขู นานุพนฺธึสูติ.

ปริเวสนา วตฺตตีติ เตสํ สุวณฺณภาชนาทีนิ คเหตฺวา นิสินฺนานํ ปฺจสตานํ กสฺสกานํ ปริวิสนา วิปฺปกตา โหติ. เอกมนฺตํ อฏฺาสีติ ยตฺถ ิตํ พฺราหฺมโณ ปสฺสติ, ตถารูเป ทสฺสนูปจาเร กถาสวนผาสุเก อุจฺจฏฺาเน อฏฺาสิ. ตฺวา จ รชตสุวณฺณรสปิฺชรํ จนฺทิมสูริยานํ ปภํ อติโรจมานํ สมนฺตโต สรีรปฺปภํ มุฺจิ, ยาย อชฺโฌตฺถฏตฺตา พฺราหฺมณสฺส กมฺมนฺตสาลาภิตฺติรุกฺขกสิตมตฺติกปิณฺฑาทโย สุวณฺณมยา วิย อเหสุํ. อถ มนุสฺสา ภุฺชนฺตา จ กสนฺตา จ สพฺพกิจฺจานิ ปหาย อสีติอนุพฺยฺชนปริวารํ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณปฏิมณฺฑิตํ สรีรํ พฺยามปฺปภาปริกฺเขปวิภูสิตํ พาหุยุคลํ ชงฺคมํ วิย ปทุมสรํ, รสฺมิชาลสมุชฺชลิตตาราคณมิว คคนตลํ, วิชฺชุลตาวินทฺธมิว จ กนกสิขรํ สิริยา ชลมานํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอกมนฺตํ ิตํ ทิสฺวา หตฺถปาเท โธวิตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห สมฺปริวาเรตฺวา อฏฺํสุ. เอวํ เตหิ สมฺปริวาริตํ อทฺทสา โข กสิภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ ปิณฺฑาย ิตํ, ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ – อหํ โข, สมณ, กสามิ จ วปามิ จาติ.

กสฺมา ปนายํ เอวมาห, กึ สมนฺตปาสาทิเก ปสาทนีเย อุตฺตมทมถสมถมนุปฺปตฺเตปิ ตถาคเต อปฺปสาเทน, อุทาหุ อฑฺฒติยานํ ชนสหสฺสานํ ปายาสํ ปฏิยาเทตฺวาปิ กฏจฺฉุภิกฺขาย มจฺเฉเรนาติ? อุภยถาปิ โน, ภควโต ปนสฺส ทสฺสเนน อติตฺตํ นิกฺขิตฺตกมฺมนฺตํ ชนํ ทิสฺวา ‘‘กมฺมภงฺคํ เม กาตุํ อาคโต’’ติ อนตฺตมนตา อโหสิ, ตสฺมา เอวมาห. ภควโต จ ลกฺขณสมฺปตฺตึ ทิสฺวา – ‘‘สจายํ กมฺมนฺเต อปฺปโยชยิสฺส, สกลชมฺพุทีเป มนุสฺสานํ สีเส จูฬามณิ วิย อภวิสฺส, โก นามสฺส อตฺโถ น สมฺปชฺชิสฺสติ, เอวเมวํ อลสตาย กมฺมนฺเต อปฺปโยเชตฺวา วปฺปมงฺคลาทีสุ ปิณฺฑาย จรตี’’ติปิสฺส อนตฺตมนตา อโหสิ. เตนาห – ‘‘อหํ โข, สมณ, กสามิ จ วปามิ จ, กสิตฺวา จ วปิตฺวา จ ภุฺชามี’’ติ.

อยํ กิรสฺส อธิปฺปาโย – มยฺหมฺปิ ตาว กมฺมนฺตา น พฺยาปชฺชนฺติ, น จมฺหิ ยถา ตฺวํ เอวํ ลกฺขณสมฺปนฺโน, ตฺวมฺปิ กสิตฺวา จ วปิตฺวา จ ภุฺชสฺสุ, โก เต อตฺโถ น สมฺปชฺเชยฺย เอวํ ลกฺขณสมฺปนฺนสฺสาติ. อปิจายํ อสฺโสสิ – ‘‘สกฺยราชกุเล กิร กุมาโร อุปฺปนฺโน, โส จกฺกวตฺติรชฺชํ ปหาย ปพฺพชิโต’’ติ. ตสฺมา อิทานิ ‘‘อยํ โส’’ติ ตฺวา ‘‘จกฺกวตฺติรชฺชํ ปหาย กิลนฺโตสี’’ติ อุปารมฺภํ อาโรเปนฺโต เอวมาห. อปิจ ติกฺขปฺโ เอส พฺราหฺมโณ, น ภควนฺตํ อปสาเทนฺโต ภณติ, ภควโต ปน รูปสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ปุฺสมฺปตฺตึ สมฺภาวยมาโน กถาปวตฺตนตฺถมฺปิ เอวมาห. อถ ภควา เวเนยฺยวเสน สเทวเก โลเก อคฺคกสฺสกวปฺปกภาวํ อตฺตโน ทสฺเสนฺโต อหมฺปิ โข พฺราหฺมโณติอาทิมาห.

อถ พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ – ‘‘อยํ สมโณ’’ ‘อหมฺปิ กสามิ จ วปามิ จา’ติ ภณติ. น จสฺส โอฬาริกานิ ยุคนงฺคลาทีนิ กสิภณฺฑานิ ปสฺสามิ, กึ นุ โข มุสา ภณตี’’ติ? ภควนฺตํ ปาทตลโต ปฏฺาย ยาว เกสคฺคา โอโลกยมาโน, องฺควิชฺชาย กตาธิการตฺตา ทฺวตฺตึสวรลกฺขณสมฺปตฺติมสฺส ตฺวา, ‘‘อฏฺานเมตํ ยํ เอวรูโป มุสา ภเณยฺยา’’ติ สฺชาตพหุมาโน ภควติ สมณวาทํ ปหาย โคตฺเตน ภควนฺตํ สมุทาจรมาโน น โข ปน มยํ ปสฺสาม โภโต โคตมสฺสาติอาทิมาห. ภควา ปน ยสฺมา ปุพฺพธมฺมสภาคตาย กถนํ นาม พุทฺธานํ อานุภาโว, ตสฺมา พุทฺธานุภาวํ ทีเปนฺโต สทฺธา พีชนฺติอาทิมาห.

กา ปเนตฺถ ปุพฺพธมฺมสภาคตา? นนุ พฺราหฺมเณน ภควา นงฺคลาทิกสิสมฺภารสมาโยคํ ปุฏฺโ อปุจฺฉิตสฺส พีชสฺส สภาคตาย อาห ‘‘สทฺธา พีช’’นฺติ, เอวฺจ สติ กถาปิ อนนุสนฺธิกา โหติ? น หิ พุทฺธานํ อนนุสนฺธิกกถา นาม อตฺถิ, นปิ ปุพฺพธมฺมสฺส อสภาคตาย กเถนฺติ. เอวํ ปเนตฺถ อนุสนฺธิ เวทิตพฺพา – พฺราหฺมเณน หิ ภควา ยุคนงฺคลาทิกสิสมฺภารวเสน กสึ ปุจฺฉิโต. โส ตสฺส อนุกมฺปาย ‘‘อิทํ อปุจฺฉิต’’นฺติ อปริหาเปตฺวา สมูลํ สอุปการํ สสมฺภารํ สผลํ กสึ ปฺาเปตุํ มูลโต ปฏฺาย ทสฺเสนฺโต ‘‘สทฺธา พีช’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ พีชํ กสิยา มูลํ, ตสฺมึ สติ กตฺตพฺพโต, อสติ อกตฺตพฺพโต, ตปฺปมาเณน จ กตฺตพฺพโต. พีเช หิ สติ กสึ กโรนฺติ, น อสติ. พีชปฺปมาเณน จ กุสลา กสฺสกา เขตฺตํ กสนฺติ, น อูนํ ‘‘มา โน สสฺสํ ปริหายี’’ติ, น อธิกํ ‘‘มา โน โมโฆ วายาโม อโหสี’’ติ. ยสฺมา จ พีชเมว มูลํ, ตสฺมา ภควา มูลโต ปฏฺาย กสิสมฺภารํ ทสฺเสนฺโต ตสฺส พฺราหฺมณสฺส กสิยา ปุพฺพธมฺมสฺส พีชสฺส สภาคตาย อตฺตโน กสิยา ปุพฺพธมฺมํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สทฺธา พีช’’นฺติ. เอวเมตฺถ ปุพฺพธมฺมสภาคตาปิ เวทิตพฺพา.

ปุจฺฉิตํเยว วตฺวา อปุจฺฉิตํ ปจฺฉา กึ น วุตฺตนฺติ เจ? ตสฺส อุปการภาวโต จ ธมฺมสมฺพนฺธสมตฺถภาวโต จ. อยํ หิ พฺราหฺมโณ ปฺวา, มิจฺฉาทิฏฺิกุเล ปน ชาตตฺตา สทฺธารหิโต, สทฺธารหิโต จ ปฺวา ปเรสํ สทฺธาย อตฺตโน อวิสเย อปฏิปชฺชมาโน วิเสสํ นาธิคจฺฉติ, กิเลสกาลุสฺสิยปรามฏฺาปิ จสฺส ทุพฺพลา สทฺธา พลวติยา ปฺาย สหสา วตฺตมานา อตฺถสิทฺธึ น กโรติ หตฺถินา สทฺธึ เอกธุเร ยุตฺโต โคโณ วิย. อิติสฺส สทฺธา อุปการิกาติ ตํ พฺราหฺมณํ สทฺธาย ปติฏฺาเปนฺเตน ปจฺฉาปิ วตฺตพฺโพ อยมตฺโถ เทสนากุสลตาย ปุพฺเพ วุตฺโต. พีชสฺส จ อุปการิกา วุฏฺิ, สา ตทนนฺตรํเยว วุจฺจมานา สมตฺถา โหติ. เอวํ ธมฺมสมฺพนฺธสมตฺถภาวโต ปจฺฉาปิ วตฺตพฺโพ อยมตฺโถ, อฺโ จ เอวรูโป อีสาโยตฺตาทิ ปุพฺเพ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ สมฺปสาทลกฺขณา สทฺธา, โอกปฺปนลกฺขณา วา. พีชนฺติ ปฺจวิธํ พีชํ มูลพีชํ ขนฺธพีชํ ผลุพีชํ อคฺคพีชํ พีชพีชเมว ปฺจมนฺติ. ตํ สพฺพมฺปิ วิรุหณฏฺเน พีชนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ.

ตตฺถ ยถา พฺราหฺมณสฺส กสิยา มูลภูตํ พีชํ ทฺเว กิจฺจานิ กโรติ, เหฏฺา มูเลน ปติฏฺาติ, อุปริ องฺกุรํ อุฏฺาเปติ, เอวํ ภควโต กสิยา มูลภูตา สทฺธา เหฏฺา สีลมูเลน ปติฏฺาติ , อุปริ สมถวิปสฺสนงฺกุรํ อุฏฺาเปติ. ยถา จ ตํ มูเลน ปถวิรสํ อาโปรสํ คเหตฺวา นาเฬน ธฺปริปากคหณตฺถํ วฑฺฒติ, เอวมยํ สีลมูเลน สมถวิปสฺสนารสํ คเหตฺวา อริยมคฺคนาเฬน อริยผลธฺปริปากคหณตฺถํ วฑฺฒติ. ยถา จ ตํ สุภูมิยํ ปติฏฺหิตฺวา มูลงฺกุรปณฺณนาฬกณฺฑปสเวหิ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ ปตฺวา ขีรํ ชเนตฺวา อเนกสาลิผลภริตํ สาลิสีสํ นิปฺผาเทติ, เอวเมสา จิตฺตสนฺตาเน ปติฏฺหิตฺวา ฉหิ วิสุทฺธีหิ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ ปตฺวา าณทสฺสนวิสุทฺธิขีรํ ชเนตฺวา อเนกปฏิสมฺภิทาภิฺาภริตํ อรหตฺตผลํ นิปฺผาเทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สทฺธา พีช’’นฺติ.

กสฺมา ปน อฺเสุ ปโรปฺาสาย กุสลธมฺเมสุ เอกโต อุปฺปชฺชมาเนสุ สทฺธาว ‘‘พีช’’นฺติ วุตฺตาติ เจ? พีชกิจฺจกรณโต. ยถา หิ เตสุ วิฺาณํเยว วิชานนกิจฺจํ กโรติ, เอวํ สทฺธา พีชกิจฺจํ. สา จ สพฺพกุสลานํ มูลภูตา. ยถาห – ‘‘สทฺธาชาโต อุปสงฺกมติ, อุปสงฺกมนฺโต ปยิรุปาสติ…เป… ปฺาย จ นํ อติวิชฺฌ ปสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๘๓).

อกุสลธมฺเม เจว กายฺจ ตปตีติ ตโป. อินฺทฺริยสํวรวีริยธุตงฺคทุกฺกรการิกานํ เอตํ อธิวจนํ, อิธ ปน อินฺทฺริยสํวโร อธิปฺเปโต. วุฏฺีติ วสฺสวุฏฺิ วาตวุฏฺีติอาทิ อเนกวิธา, อิธ วสฺสวุฏฺิ อธิปฺเปตา. ยถา หิ พฺราหฺมณสฺส วสฺสวุฏฺิสมนุคฺคหิตํ พีชํ พีชมูลกฺจ สสฺสํ วิรุหติ น มิลายติ นิปฺผตฺตึ คจฺฉติ, เอวํ ภควโต อินฺทฺริยสํวรสมนุคฺคหิตา สทฺธา, สทฺธามูลา จ สีลาทโย ธมฺมา วิรุหนฺติ, น มิลายนฺติ นิปฺผตฺตึ คจฺฉนฺติ. เตนาห ‘‘ตโป วุฏฺี’’ติ.

ปฺา เมติ เอตฺถ วุตฺโต เม-สทฺโท ปุริมปเทสุปิ โยเชตพฺโพ ‘‘สทฺธา เม พีชํ, ตโป เม วุฏฺี’’ติ เตน กึ ทีเปติ? ยถา, พฺราหฺมณ, ตยา วปิเต เขตฺเต สเจ วุฏฺิ อตฺถิ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ อตฺถิ, อุทกมฺปิ ตาว ทาตพฺพํ โหติ. ตถา มยา หิริอีเส ปฺายุคนงฺคเล มโนโยตฺเตน เอกาพทฺเธ กเต วีริยพลีพทฺเท โยเชตฺวา สติปาจเนน วิชฺฌิตฺวา อตฺตโน จิตฺตสนฺตานเขตฺตมฺหิ สทฺธาพีเช วปิเต วุฏฺิยา อภาโว นาม นตฺถิ, อยํ ปน เม นิจฺจกาลํ อินฺทฺริยสํวรตโป วุฏฺีติ.

ปฺาติ กามาวจราทิเภทโต อเนกวิธา. อิธ ปน สห วิปสฺสนาย มคฺคปฺา อธิปฺเปตา. ยุคนงฺคลนฺติ ยุคฺจ นงฺคลฺจ ยุคนงฺคลํ. ยถา หิ พฺราหฺมณสฺส ยุคนงฺคลํ, เอวํ ภควโต ทุวิธาปิ วิปสฺสนา ปฺา จ. ตตฺถ ยถา ยุคํ อีสาย อุปนิสฺสยํ โหติ, ปุรโต จ อีสาพทฺธํ โหติ, โยตฺตานํ นิสฺสยํ โหติ, พลีพทฺทานํ เอกโต คมนํ ธาเรติ, เอวํ ปฺา หิริปฺปมุขานํ ธมฺมานํ อุปนิสฺสยา โหติ. ยถาห – ‘‘ปฺุตฺตรา สพฺเพ กุสลา ธมฺมา’’ติ (อ. นิ. ๘.๘๓; ๑๐.๕๘) จ, ‘‘ปฺา หิ เสฏฺา กุสลา วทนฺติ, นกฺขตฺตราชาริว ตารกาน’’นฺติ (ชา. ๒.๑๗.๘๑) จ. กุสลานํ ธมฺมานํ ปุพฺพงฺคมฏฺเน ปุรโต จ โหติ. ยถาห – ‘‘สีลํ สิรี จาปิ สตฺจ ธมฺโม, อนฺวายิกา ปฺวโต ภวนฺตี’’ติ หิริวิปฺปโยเคน อนุปฺปตฺติโต ปน อีสาพทฺโธ โหติ. มโนสงฺขาตสฺส สมาธิโยตฺตสฺส นิสฺสยปจฺจยโต โยตฺตานํ นิสฺสโย โหติ. อจฺจารทฺธาติลีนภาวปฏิเสธนโต วีริยพลีพทฺทานํ เอกโต คมนํ ธาเรติ, ยถา จ นงฺคลํ ผาลยุตฺตํ กสนกาเล ปถวิฆนํ ภินฺทติ, มูลสนฺตานกานิ ปทาเลติ, เอวํ สติยุตฺตา ปฺา วิปสฺสนากาเล ธมฺมานํ สนฺตติสมูหกิจฺจารมฺมณฆนํ ภินฺทติ, สพฺพกิเลสมูลสนฺตานกานิ ปทาเลติ. สา จ โข โลกุตฺตราว, อิตรา ปน โลกิกาปิ สิยา. เตนาห ‘‘ปฺา เม ยุคนงฺคล’’นฺติ.

หิรียติ ปาปเกหิ ธมฺเมหีติ หิรี. ตคฺคหเณน ตาย อวิปฺปยุตฺตํ โอตฺตปฺปมฺปิ คหิตเมว โหติ. อีสาติ ยุคนงฺคลสนฺธาริกา รุกฺขลฏฺิ. ยถา หิ พฺราหฺมณสฺส อีสา ยุคนงฺคลํ ธาเรติ, เอวํ ภควโตปิ หิรี โลกิยโลกุตฺตรปฺาสงฺขาตํ ยุคนงฺคลํ ธาเรติ หิริอภาเว ปฺาย อภาวโต. ยถา จ อีสาปฏิพทฺธยุคนงฺคลํ กิจฺจกรํ โหติ อจลํ อสิถิลํ, เอวํ หิริปฏิพทฺธา จ ปฺา กิจฺจการี โหติ อจลา อสิถิลา อพฺโพกิณฺณา อหิริเกน. เตนาห ‘‘หิรี อีสา’’ติ. มุนาตีติ มโน, จิตฺตสฺเสตํ นามํ. อิธ ปน มโนสีเสน ตํสมฺปยุตฺโต สมาธิ อธิปฺเปโต. โยตฺตนฺติ รชฺชุพนฺธนํ. ตํ ติวิธํ อีสาย สห ยุคสฺส พนฺธนํ, ยุเคน สห พลีพทฺทานํ พนฺธนํ, สารถินา สห พลีพทฺทานํ เอกาพนฺธนนฺติ. ตตฺถ ยถา พฺราหฺมณสฺส โยตฺตํ อีสายุคพลีพทฺเท เอกาพทฺเธ กตฺวา สกกิจฺเจ ปฏิปาเทติ, เอวํ ภควโต สมาธิ สพฺเพว เต หิริปฺาวีริยธมฺเม เอการมฺมเณ อวิกฺเขปสภาเวน พนฺธิตฺวา สกกิจฺเจ ปฏิปาเทติ. เตนาห ‘‘มโน โยตฺต’’นฺติ.

จิรกตาทิมตฺถํ สรตีติ สติ. ผาเลตีติ ผาโล. ปาเชนฺติ เอเตนาติ ปาชนํ. ตํ อิธ ‘‘ปาจน’’นฺติ วุตฺตํ. ปโตทสฺเสตํ นามํ. ผาโล จ ปาจนฺจ ผาลปาจนํ. ยถา หิ พฺราหฺมณสฺส ผาลปาจนํ, เอวํ ภควโต วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา มคฺคสมฺปยุตฺตา จ สติ. ตตฺถ ยถา ผาโล นงฺคลํ อนุรกฺขติ, ปุรโต จสฺส คจฺฉติ, เอวํ สติ กุสลากุสลานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวสมานา อารมฺมเณ วา อุปฏฺาปยมานา ปฺานงฺคลํ รกฺขติ. เตเนเวสา ‘‘สตารกฺเขน เจตสา วิหรตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๑๐.๒๐) วิย อารกฺขาติ วุตฺตา. อปฺปมุสฺสนวเสน จสฺสา ปุรโต โหติ. สติปริจิเต หิ ธมฺเม ปฺา ปชานาติ, โน ปมุฏฺเ. ยถา จ ปาจนํ พลีพทฺทานํ วิชฺฌนภยํ ทสฺเสนฺตํ สํสีทิตุํ น เทติ, อุปฺปถคมนํ วาเรติ, เอวํ สติ วีริยพลีพทฺทานํ อปายภยํ ทสฺเสนฺตี โกสชฺชสํสีทนํ น เทติ, กามคุณสงฺขาเต อโคจเร จารํ นิวาเรตฺวา กมฺมฏฺาเน นิโยเชนฺตี อุปฺปถคมนํ วาเรติ. เตนาห ‘‘สติ เม ผาลปาจน’’นฺติ.

กายคุตฺโตติ ติวิเธน กายสุจริเตน คุตฺโต. วจีคุตฺโตติ จตุพฺพิเธน วจีสุจริเตน คุตฺโต. เอตฺตาวตา ปาติโมกฺขสํวรสีลํ วุตฺตํ. อาหาเร อุทเร ยโตติ เอตฺถ อาหารมุเขน สพฺพปจฺจยานํ คหิตตฺตา จตุพฺพิเธปิ ปจฺจเย ยโต สํยโต นิรุปกฺกิเลโสติ อตฺโถ. อิมินา อาชีวปาริสุทฺธิสีลํ วุตฺตํ. อุทเร ยโตติ อุทเร ยโต สํยโต มิตโภชี, อาหาเร มตฺตฺูติ วุตฺตํ โหติ. อิมินา โภชเน มตฺตฺุตามุเขน ปจฺจยปฏิเสวนสีลํ วุตฺตํ. เตน กึ ทีเปติ? ยถา ตฺวํ, พฺราหฺมณ, พีชํ วปิตฺวา สสฺสปริปาลนตฺถํ กณฺฏกวตึ วา รุกฺขวตึ วา ปาการปริกฺเขปํ วา กโรสิ, เตน เต โคมหึสมิคคณา ปเวสํ อลภนฺตา สสฺสํ น วิลุมฺปนฺติ, เอวมหมฺปิ ตํ สทฺธาพีชํ วปิตฺวา นานปฺปการกุสลสสฺสปริปาลนตฺถํ กายวจีอาหารคุตฺติมยํ ติวิธํ ปริกฺเขปํ กโรมิ , เตน เม ราคาทิอกุสลธมฺมโคมหึสมิคคณา ปเวสํ อลภนฺตา นานปฺปการกํ กุสลสสฺสํ น วิลุมฺปนฺตีติ.

สจฺจํ กโรมิ นิทฺทานนฺติ เอตฺถ ทฺวีหากาเรหิ อวิสํวาทนํ สจฺจํ. นิทฺทานนฺติ เฉทนํ ลุนนํ อุปฺปาฏนํ . กรณตฺเถ เจตํ อุปโยควจนํ เวทิตพฺพํ. อยํ เหตฺถ อตฺโถ ‘‘สจฺเจน กโรมิ นิทฺทาน’’นฺติ. กึ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ยถา ตฺวํ พาหิรํ กสึ กตฺวา สสฺสทูสกานํ ติณานํ หตฺเถน วา อสิเตน วา นิทฺทานํ กโรสิ, เอวํ อหมฺปิ อชฺฌตฺติกํ กสึ กตฺวา กุสลสสฺสทูสกานํ วิสํวาทนติณานํ สจฺเจน นิทฺทานํ กโรมี’’ติ. ยถาภูตาณํ วา เอตฺถ สจฺจนฺติ เวทิตพฺพํ. เตน อตฺตสฺาทีนํ ติณานํ นิทฺทานํ กโรมีติ ทสฺเสติ. อถ วา นิทฺทานนฺติ เฉทกํ ลาวกํ อุปฺปาฏกนฺติ อตฺโถ. ยถา ตฺวํ ทาสํ วา กมฺมกรํ วา นิทฺทานํ กโรสิ, ‘‘นิทฺเทหิ ติณานี’’ติ ติณานํ เฉทกํ ลาวกํ อุปฺปาฏกํ กโรสิ, เอวมหํ สจฺจํ กโรมีติ ทสฺเสติ, อถ วา สจฺจนฺติ ทิฏฺิสจฺจํ. ตมหํ นิทฺทานํ กโรมิ, ฉินฺทิตพฺพํ ลุนิตพฺพํ อุปฺปาเฏตพฺพํ กโรมีติ. อิติ อิเมสุ ทฺวีสุ วิกปฺเปสุ อุปโยเคเนวตฺโถ ยุชฺชติ.

โสรจฺจํ เม ปโมจนนฺติ เอตฺถ ยํ ตํ ‘‘กายิโก อวีติกฺกโม วาจสิโก อวีติกฺกโม’’ติ สีลเมว ‘‘โสรจฺจ’’นฺติ วุตฺตํ, น ตํ อธิปฺเปตํ. ‘‘กายคุตฺโต’’ติอาทินา หิ ตํ วุตฺตเมว. อรหตฺตผลํ ปน อธิปฺเปตํ. ตํ หิ สุนฺทเร นิพฺพาเน รตตฺตา ‘‘โสรจฺจ’’นฺติ วุจฺจติ. ปโมจนนฺติ โยควิสฺสชฺชนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา ตว ปโมจนํ ปุนปิ สายนฺเห วา ทุติยทิวเส วา อนาคตสํวจฺฉเร วา โยเชตพฺพโต อปฺปโมจนเมว โหติ, น มม เอวํ. น หิ มม อนฺตรา โมจนํ นาม อตฺถิ. อหํ หิ ทีปงฺกรทสพลกาลโต ปฏฺาย ปฺานงฺคเล วีริยพลีพทฺเท โยเชตฺวา กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ มหากสึ กสนฺโต ตาว น มุฺจึ, ยาว น สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌึ. ยทา จ เม สพฺพํ ตํ กาลํ เขเปตฺวา โพธิมูเล อปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺนสฺส สพฺพคุณปริวารํ อรหตฺตผลํ อุทปาทิ, ตทา มยา ตํ สพฺพุสฺสุกฺกปฏิปฺปสฺสทฺธิยา ปมุตฺตํ, น ทานิ ปุน โยเชตพฺพํ ภวิสฺสตีติ. เอตมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘โสรจฺจํ เม ปโมจน’’นฺติ.

วีริยํเม ธุรโธรยฺหนฺติ เอตฺถ วีริยนฺติ กายิกเจตสิโก วีริยารมฺโภ. ธุรโธรยฺหนฺติ ธุรายํ โธรยฺหํ, ธุราวหนฺติ อตฺโถ. ยถา หิ พฺราหฺมณสฺส ธุรายํ โธรยฺหากฑฺฒิตํ นงฺคลํ ภูมิฆนํ ภินฺทติ, มูลสนฺตานกานิ จ ปทาเลติ, เอวํ ภควโต วีริยากฑฺฒิตํ ปฺานงฺคลํ ยถา วุตฺตํ ฆนํ ภินฺทติ, กิเลสสนฺตานกานิ จ ปทาเลติ. เตนาห ‘‘วีริยํ เม ธุรโธรยฺห’’นฺติ. อถ วา ปุริมธุราวหตฺตา ธุรา, มูลธุราวหตฺตา โธรยฺหา, ธุรา จ โธรยฺหา จ ธุรโธรยฺหา. อิติ ยถา พฺราหฺมณสฺส เอเกกสฺมึ นงฺคเล จตุพลีพทฺทปเภทํ ธุรโธรยฺหํ วหนฺตํ อุปฺปนฺนุปฺปนฺนํ ติณมูลฆาตฺเจว สสฺสสมฺปตฺติฺจ สาเธติ, เอวํ ภควโต จตุสมฺมปฺปธานวีริยเภทํ ธุรโธรยฺหํ วหนฺตํ อุปฺปนฺนุปฺปนฺนํ อกุสลฆาตฺเจว กุสลสมฺปตฺติฺจ สาเธติ. เตนาห ‘‘วีริยํ เม ธุรโธรยฺห’’นฺติ.

โยคกฺเขมาธิวาหนนฺติ เอตฺถ โยเคหิ เขมตฺตา นิพฺพานํ โยคกฺเขมํ นาม, ตํ อธิกิจฺจ วาหียติ, อภิมุขํ วา วาหียตีติ อธิวาหนํ, โยคกฺเขมสฺส อธิวาหนํ โยคกฺเขมาธิวาหนนฺติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา ตว ธุรโธรยฺหํ ปุรตฺถิมาทีสุ อฺตรทิสาภิมุขํ วาหียติ, ตถา มม ธุรโธรยฺหํ นิพฺพานาภิมุขํ วาหียตีติ. เอวํ วาหียมานํว คจฺฉติ อนิวตฺตนฺตํ. ยถา ตว นงฺคลํ วหนฺตํ ธุรโธรยฺหํ เขตฺตโกฏึ ปตฺวา ปุน นิวตฺตติ, เอวํ อนิวตฺตนฺตํ ทีปงฺกรกาลโต ปฏฺาย คจฺฉเตว. ยสฺมา วา เตน เตน มคฺเคน ปหีนา กิเลสา น ปุนปฺปุนํ ปหาตพฺพา โหนฺติ, ยถา ตว นงฺคเลน ฉินฺนานิ ติณานิ ปุน อปรสฺมึ สมเย ฉินฺทิตพฺพานิ โหนฺติ, ตสฺมาปิ เอวํ ปมมคฺควเสน ทิฏฺเกฏฺเ กิเลเส, ทุติยวเสน โอฬาริเก, ตติยวเสน อณุสหคเต, จตุตฺถวเสน สพฺพกิเลเส ปชหนฺตํ คจฺฉติ อนิวตฺตนฺตํ. อถ วา คจฺฉติ อนิวตฺตนฺติ นิวตฺตนรหิตํ หุตฺวา คจฺฉตีติ อตฺโถ. นฺติ ตํ ธุรโธรยฺหํ. เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวํ คจฺฉนฺตฺจ ยถา ตว ธุรโธรยฺหํ น ตํ านํ คจฺฉติ, ยตฺถ คนฺตฺวา กสฺสโก อโสโก วิรโช หุตฺวา น โสจติ. เอตํ ปน ตํ านํ คจฺฉติ ยตฺถ คนฺตฺวา น โสจติ. ยตฺถ สติปาจเนน เอตํ วีริยธุรโธรยฺหํ โจเทนฺโต คนฺตฺวา มาทิโส กสฺสโก อโสโก วิรโช หุตฺวา น โสจติ, ตํ สพฺพโสกสลฺลสมุคฺฆาตภูตํ นิพฺพานํ นาม อสงฺขตํ านํ คจฺฉตีติ.

อิทานิ นิคมนํ กโรนฺโต เอวเมสา กสีติ คาถมาห. ตสฺสายํ สงฺเขปตฺโถ – ยสฺส, พฺราหฺมณ, เอสา สทฺธาพีชา ตโปวุฏฺิยา อนุคฺคหิตา กสี ปฺามยํ ยุคนงฺคลํ หิริมยฺจ อีสํ มโนมเยน โยตฺเตน เอกาพทฺธํ กตฺวา ปฺานงฺคเลน สติผาลํ อาโกเฏตฺวา สติปาจนํ คเหตฺวา กายวจีอาหารคุตฺติยา โคเปตฺวา สจฺจํ นิทฺทานํ กตฺวา โสรจฺจปโมจนํ วีริยธุรโธรยฺหํ โยคกฺเขมาภิมุขํ อนิวตฺตนฺตํ วาหนฺเตน กฏฺา กสี กมฺมปริโยสานํ จตุพฺพิธํ สามฺผลํ ปาปิตา, สา โหติ อมตปฺผลา, สา เอสา กสี อมตปฺผลา โหติ. อมตํ วุจฺจติ นิพฺพานํ, นิพฺพานานิสํสา โหตีติ อตฺโถ. สา โข ปเนสา กสี น มเมเวกสฺส อมตปฺผลา โหติ, อถ โข โย โกจิ ขตฺติโย วา พฺราหฺมโณ วา เวสฺโส วา สุทฺโท วา คหฏฺโ วา ปพฺพชิโต วา เอตํ กสึ กสติ, โส สพฺโพปิ เอตํ กสิตฺวาน สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตีติ.

เอวํ ภควา พฺราหฺมณสฺส อรหตฺตนิกูเฏน นิพฺพานปริโยสานํ กตฺวา เทสนํ นิฏฺาเปสิ. ตโต พฺราหฺมโณ คมฺภีรตฺถํ เทสนํ สุตฺวา – ‘‘มม กสิผลํ ภุฺชิตฺวา ปุนปิ ทิวเสเยว ฉาโต โหติ, อิมสฺส ปน กสี อมตปฺผลา, ตสฺส ผลํ ภุฺชิตฺวา สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติ ตฺวา ปสนฺโน ปสนฺนาการํ กโรนฺโต ภุฺชตุ ภวํ โคตโมติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ ตโต ปรฺจ วุตฺตตฺถเมวาติ. ปมํ.

๒. อุทยสุตฺตวณฺณนา

๑๙๘. ทุติเย โอทเนน ปูเรสีติ อตฺตโน อตฺถาย สมฺปาทิเตน สูปพฺยฺชเนน โอทเนน ปูเรตฺวา อทาสิ. ภควา กิร ปจฺจูสสมเย โลกํ โอโลเกนฺโตว ตํ พฺราหฺมณํ ทิสฺวา, ปาโตว สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา, คนฺธกุฏึ ปวิสิตฺวา, ทฺวารํ ปิธาย, นิสินฺโน ตสฺส โภชนํ อุปสํหริยมานํ ทิสฺวา, เอกโกว ปตฺตํ อํสกูเฏ ลคฺเคตฺวา, คนฺธกุฏิโต นิกฺขมฺม, นครทฺวาเร ปตฺตํ นีหริตฺวา, อนฺโตนครํ ปวิสิตฺวา, ปฏิปาฏิยา คจฺฉนฺโต พฺราหฺมณสฺส ทฺวารโกฏฺเก อฏฺาสิ. พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ ทิสฺวา, อตฺตโน สชฺชิตํ โภชนํ อทาสิ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ทุติยมฺปีติ ทุติยทิวเสปิ. ตติยมฺปีติ ตติยทิวเสปิ. ตานิ กิร ตีณิ ทิวสานิ นิรนฺตรํ พฺราหฺมณสฺส ฆรทฺวารํ คจฺฉนฺตสฺส ภควโต อนฺตรา อฺโ โกจิ อุฏฺาย ปตฺตํ คเหตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสิ, มหาชโน โอโลเกนฺโตว อฏฺาสิ.

เอตทโวจาติ พฺราหฺมโณ ตีณิ ทิวสานิ ปตฺตํ ปูเรตฺวา เทนฺโตปิ น สทฺธาย อทาสิ, ‘‘ฆรทฺวารํ อาคนฺตฺวา ิตสฺส ปพฺพชิตสฺส ภิกฺขามตฺตมฺปิ อทตฺวา ภุฺชตี’’ติ อุปารมฺภภเยน อทาสิ. ททนฺโต จ ทฺเว ทิวสานิ ทตฺวา กิฺจิ อวตฺวาว นิวตฺโต. ภควาปิ กิฺจิ อวตฺวาว ปกฺกนฺโต. ตติยทิวเส ปน อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต เอตํ ‘‘ปกฏฺโก’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ภควาปิ เอตํ วจนํ นิจฺฉาราปนตฺถเมว ยาว ตติยมคมาสิ. ตตฺถ ปกฏฺโกติ รสคิทฺโธ.

ปุนปฺปุนํ เจว วปนฺติ พีชนฺติ สตฺถา พฺราหฺมณสฺส วจนํ สุตฺวา, ‘‘พฺราหฺมณ, ตฺวํ ตีณิ ทิวสานิ ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา โอสกฺกสิ, ปุนปฺปุนํ กาตพฺพา นาม โลกสฺมึ โสฬส ธมฺมา’’ติ วตฺวา เต ธมฺเม ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ ปุนปฺปุนํ เจว วปนฺตีติ เอกสฺมึ สสฺสวาเร วุตฺตํ ‘‘อลเมตฺตาวตา’’ติ อโนสกฺกิตฺวา อปราปเรสุปิ สสฺสวาเรสุ จ วปนฺติเยว. ปุนปฺปุนํ วสฺสตีติ น เอกทิวสํ วสฺสิตฺวา ติฏฺติ, ปุนปฺปุนทิวเสสุปิ ปุนปฺปุนสํวจฺฉเรสุปิ วสฺสติเยว, เอวํ ชนปทา อิทฺธา โหนฺติ. เอเตนุปาเยน สพฺพตฺถ นโย เวทิตพฺโพ.

ยาจกาติ อิมสฺมึ ปเท สตฺถา เทสนากุสลตาย อตฺตานมฺปิ ปกฺขิปิตฺวา ทสฺเสติ. ขีรนิกาติ ขีรการกา โคโทหกา. น หิ เต เอกวารเมว ถนํ อฺฉนฺติ, ปุนปฺปุนํ อฺฉนฺตา เธนุํ ทุหนฺตีติ อตฺโถ. กิลมติ ผนฺทติ จาติ อยํ สตฺโต เตน อิริยาปเถน กิลมติ เจว ผนฺทติ จ. คพฺภนฺติ โสณสิงฺคาลาทีนมฺปิ ติรจฺฉานคตานํ กุจฺฉึ. สิวถิกนฺติ สุสานํ, มตํ มตํ สตฺตํ ตตฺถ ปุนปฺปุนํ หรนฺตีติ อตฺโถ. มคฺคฺจ ลทฺธา อปุนพฺภวายาติ อปุนพฺภวาย มคฺโค นาม นิพฺพานํ, ตํ ลภิตฺวาติ อตฺโถ.

เอวํ วุตฺเตติ เอวํ ภควตา อนฺตรวีถิยํ ตฺวาว โสฬส ปุนปฺปุนธมฺเม เทเสนฺเตน วุตฺเต. เอตทโวจาติ เทสนาปริโยสาเน ปสนฺโน สทฺธึ ปุตฺตทารมิตฺตาติวคฺเคน ภควโต ปาเท วนฺทิตฺวา เอตํ ‘‘อภิกฺกนฺตํ โภ’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ทุติยํ.

๓. เทวหิตสุตฺตวณฺณนา

๑๙๙. ตติเย วาเตหีติ อุทรวาเตหิ. ภควโต กิร ฉพฺพสฺสานิ ทุกฺกรการิกํ กโรนฺตสฺส ปสตมุคฺคยูสาทีนิ อาหารยโต ทุพฺโภชเนน เจว ทุกฺขเสยฺยาย จ อุทรวาโต กุปฺปิ. อปรภาเค สมฺโพธึ ปตฺวา ปณีตโภชนํ ภุฺชนฺตสฺสาปิ อนฺตรนฺตรา โส อาพาโธ อตฺตานํ ทสฺเสติเยว. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อุปฏฺาโก โหตีติ ปมโพธิยํ อนิพทฺธุปฏฺากกาเล อุปฏฺาโก โหติ. ตสฺมึ กิร กาเล สตฺถุอสีติมหาเถเรสุ อุปฏฺาโก อภูตปุพฺโพ นาม นตฺถิ. นาคสมาโล อุปวาโน สุนกฺขตฺโต จุนฺโท สมณุทฺเทโส สาคโต โพธิ เมฆิโยติ อิเม ปน ปาฬิยํ อาคตุปฏฺากา. อิมสฺมึ ปน กาเล อุปวานตฺเถโร ปาโตว อุฏฺาย ปริเวณสมฺมชฺชนํ ทนฺตกฏฺทานํ นฺหาโนทกปริยาทนํ ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา อนุคมนนฺติ สพฺพํ ภควโต อุปฏฺานมกาสิ. อุปสงฺกมีติ ปมโพธิยํ กิร วีสติ วสฺสานิ นิทฺธูมํ อรฺเมว โหติ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส อุทกตาปนมฺปิ น ภควตา อนุฺาตํ. โส จ พฺราหฺมโณ อุทฺธนปาฬึ พนฺธาเปตฺวา มหาจาฏิโย อุทฺธนมาโรเปตฺวา อุณฺโหทกํ กาเรตฺวา, นฺหานียจุณฺณาทีหิ สทฺธึ ตํ วิกฺกิณนฺโต ชีวิกํ กปฺเปติ. นฺหายิตุกามา ตตฺถ คนฺตฺวา มูลํ ทตฺวา นฺหายิตฺวา คนฺเธ วิลิมฺปิตฺวา มาลํ ปิฬนฺธิตฺวา ปกฺกมนฺติ. ตสฺมา เถโร ตตฺถ อุปสงฺกมิ.

กึ ปตฺถยาโนติ กึ อิจฺฉนฺโต. กึ เอสนฺติ กึ คเวสนฺโต. ปูชิโต ปูชเนยฺยานนฺติ อิทํ เถโร ทสพลสฺส วณฺณํ กเถตุมารภิ. คิลานเภสชฺชตฺถํ คเตน กิร คิลานสฺส วณฺโณ กเถตพฺโพติ วตฺตเมตํ. วณฺณํ หิ สุตฺวา มนุสฺสา สกฺกจฺจํ เภสชฺชํ ทาตพฺพํ มฺนฺติ. สปฺปายเภสชฺชํ ลทฺธา คิลาโน ขิปฺปเมว วุฏฺาติ. กเถนฺเตน จ ฌานวิโมกฺขสมาปตฺติมคฺคผลานิ อารพฺภ กเถตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘สีลวา ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก พหุสฺสุโต อาคมธโร วํสานุรกฺขโก’’ติ เอวํ ปน อาคมนียปฏิปทํเยว กเถตุํ วฏฺฏติ. ปูชเนยฺยานนฺติ อสีติมหาเถรา สเทวเกน โลเกน ปูเชตพฺพาติ ปูชเนยฺยา. เตเยว สกฺกาตพฺพาติ สกฺกเรยฺยา. เตสํเยว อปจิติ กตฺตพฺพาติ อปเจยฺยา. ภควา เตสํ ปูชิโต สกฺกโต อปจิโต จ, อิจฺจสฺส ตํ คุณํ ปกาเสนฺโต เถโร เอวมาห. หาตเวติ หริตุํ.

ผาณิตสฺส จ ปุฏนฺติ มหนฺตํ นิจฺฉาริกํ คุฬปิณฺฑํ. โส กิร ‘‘กึ สมณสฺส โคตมสฺส อผาสุก’’นฺติ? ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘อุทรวาโต’’ติ สุตฺวา, ‘‘เตน หิ มยเมตฺถ เภสชฺชํ ชานาม, อิโต โถเกน อุทเกน อิทํ ผาณิตํ อาโลเฬตฺวา นฺหานปริโยสาเน ปาตุํ เทถ, อิติ อุณฺโหทเกน พหิ ปริเสโท ภวิสฺสติ, อิมินา อนฺโตติ เอวํ สมณสฺส โคตมสฺส ผาสุกํ ภวิสฺสตี’’ติ วตฺวา เถรสฺส ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา อทาสิ.

อุปสงฺกมีติ ตสฺมึ กิร อาพาเธ ปฏิปฺปสฺสทฺเธ ‘‘เทวหิเตน ตถาคตสฺส เภสชฺชํ ทินฺนํ, เตเนว โรโค วูปสนฺโต, อโห ทานํ ปรมทานํ พฺราหฺมณสฺสา’’ติ กถา วิตฺถาริตา ชาตา. ตํ สุตฺวา กิตฺติกาโม พฺราหฺมโณ ‘‘เอตฺตเกนปิ ตาว เม อยํ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต’’ติ โสมนสฺสชาโต อตฺตนา กตภาวํ ชานาเปตุกาโม ตาวตเกเนว ทสพเล วิสฺสาสํ อาปชฺชิตฺวา อุปสงฺกมิ.

ทชฺชาติ ทเทยฺย. กถํ หิ ยชมานสฺสาติ เกน การเณน ยชนฺตสฺส. อิชฺฌตีติ สมิชฺฌติ มหปฺผโล โหติ. โยเวทีติ โย อเวทิ อฺาสิ, วิทิตํ ปากฏมกาสิ ‘‘โยเวตี’’ติปิ ปาโ, โย อเวติ ชานาตีติ อตฺโถ. ปสฺสตีติ ทิพฺพจกฺขุนา ปสฺสติ. ชาติกฺขยนฺติ อรหตฺตํ. อภิฺาโวสิโตติ ชานิตฺวา โวสิโต โวสานํ กตกิจฺจตํ ปตฺโต. เอวํ หิ ยชมานสฺสาติ อิมินา ขีณาสเว ยชนากาเรน ยชนฺตสฺส. ตติยํ.

๔. มหาสาลสุตฺตวณฺณนา

๒๐๐. จตุตฺเถ ลูโข ลูขปาวุรโณติ ชิณฺโณ ชิณฺณปาวุรโณ. อุปสงฺกมีติ กสฺมา อุปสงฺกมิ? ตสฺส กิร ฆเร อฏฺสตสหสฺสธนํ อโหสิ. โส จตุนฺนํ ปุตฺตานํ อาวาหํ กตฺวา จตฺตาริ สตสหสฺสานิ อทาสิ . อถสฺส พฺราหฺมณิยา กาลงฺกตาย ปุตฺตา สมฺมนฺตยึสุ – ‘‘สเจ อฺํ พฺราหฺมณึ อาเนสฺสติ, ตสฺสา กุจฺฉิยํ นิพฺพตฺตวเสน กุลํ ภิชฺชิสฺสติ. หนฺท นํ มยํ สงฺคณฺหามา’’ติ. เต จตฺตาโรปิ ปณีเตหิ ฆาสจฺฉาทนาทีหิ อุปฏฺหนฺตา หตฺถปาทสมฺพาหนาทีนิ กโรนฺตา สงฺคณฺหิตฺวา เอกทิวสํ ทิวา นิทฺทายิตฺวา วุฏฺิตสฺส หตฺถปาเท สมฺพาหมานา ปาฏิเยกฺกํ ฆราวาเส อาทีนวํ วตฺวา – ‘‘มยํ ตุมฺเห อิมินา นีหาเรน ยาวชีวํ อุปฏฺหิสฺสาม, เสสธนมฺปิ โน เทถา’’ติ ยาจึสุ. พฺราหฺมโณ ปุน เอเกกสฺส สตสหสฺสํ สตสหสฺสํ ทตฺวา อตฺตโน นิวตฺถปารุปนมตฺตํ เปตฺวา สพฺพํ อุปโภคปริโภคํ จตฺตาโร โกฏฺาเส กตฺวา นิยฺยาเทสิ. ตํ เชฏฺปุตฺโต กติปาหํ อุปฏฺหิ.

อถ นํ เอกทิวสํ นฺหตฺวา อาคจฺฉนฺตํ ทฺวารโกฏฺเก ตฺวา สุณฺหา เอวมาห – ‘‘กึ ตยา เชฏฺปุตฺตสฺส สตํ วา สหสฺสํ วา อติเรกํ ทินฺนมตฺถิ? นนุ สพฺเพสํ ทฺเว ทฺเว สตสหสฺสานิ ทินฺนานิ, กึ เสสปุตฺตานํ ฆรสฺส มคฺคํ น ชานาสี’’ติ? โส ‘‘นสฺส วสลี’’ติ กุชฺฌิตฺวา อฺสฺส ฆรํ อคมาสิ, ตโตปิ กติปาหจฺจเยน อิมินาว อุปาเยน ปลาปิโต อฺสฺสาติ เอวํ เอกฆเรปิ ปเวสนํ อลภมาโน ปณฺฑรงฺคปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ภิกฺขาย จรนฺโต กาลานมจฺจเยน ชราชิณฺโณ ทุพฺโภชนทุกฺขเสยฺยาหิ มิลาตสรีโร ภิกฺขาจารโต อาคมฺม, ปีกาย นิปนฺโน นิทฺทํ โอกฺกมิตฺวา วุฏฺาย นิสินฺโน อตฺตานํ โอโลเกตฺวา ปุตฺเตสุ ปติฏฺํ อปสฺสนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘สมโณ กิร โคตโม อพฺภากุฏิโก อุตฺตานมุโข สุขสมฺภาโส ปฏิสนฺถารกุสโล, สกฺกา สมณํ โคตมํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฏิสนฺถารํ ลภิตุ’’นฺติ นิวาสนปาวุรณํ สณฺเปตฺวา ภิกฺขาภาชนมาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ.

ทาเรหิสํปุจฺฉ ฆรา นิกฺขาเมนฺตีติ สพฺพํ มม สนฺตกํ คเหตฺวา มยฺหํ นิทฺธนภาวํ ตฺวา อตฺตโน ภริยาหิ สทฺธึ มนฺตยิตฺวา มํ ฆรา นิกฺกฑฺฒาเปนฺติ.

นนฺทิสฺสนฺติ นนฺทิชาโต ตุฏฺโ ปมุทิโต อโหสึ. ภวมิจฺฉิสนฺติ วุฑฺฒึ ปตฺถยึ. สาว วาเรนฺติ สูกรนฺติ ยถา สุนขา วคฺควคฺคา หุตฺวา ภุสฺสนฺตา ภุสฺสนฺตา สูกรํ วาเรนฺติ, ปุนปฺปุนํ มหารวํ รวาเปนฺติ, เอวํ ทาเรหิ สทฺธึ มํ พหุํ วตฺวา วิรวนฺตํ ปลาเปนฺตีติ อตฺโถ.

อสนฺตาติ อสปฺปุริสา. ชมฺมาติ ลามกา. ภาสเรติ ภาสนฺติ. ปุตฺตรูเปนาติ ปุตฺตเวเสน. วโยคตนฺติ ตโย วเย คตํ อติกฺกนฺตํ ปจฺฉิมวเย ิตํ มํ. ชหนฺตีติ ปริจฺจชนฺติ.

นิพฺโภโคติ นิปฺปริโภโค. ขาทนา อปนียตีติ อสฺโส หิ ยาวเทว ตรุโณ โหติ ชวสมฺปนฺโน, ตาวสฺส นานารสํ ขาทนํ ททนฺติ, ชิณฺณํ นิพฺโภคํ ตโต อปเนนฺติ, อนฺติมวเย ตํ วตฺตํ น ลภติ, คาวีหิ สทฺธึ อฏวิยํ สุกฺขติณานิ ขาทนฺโต จรติ. ยถา โส อสฺโส, เอวํ ชิณฺณกาเล วิลุตฺตสพฺพธนตฺตา นิพฺโภโค มาทิโสปิ พาลกานํ ปิตา เถโร ปรฆเรสุ ภิกฺขติ.

ยฺเจติ นิปาโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เย มม ปุตฺตา อนสฺสวา อปฺปติสฺสา อวสวตฺติโน, เตหิ ทณฺโฑว กิร เสยฺโย สุนฺทรตโรติ. อิทานิสฺส เสยฺยภาวํ ทสฺเสตุํ จณฺฑมฺปิ โคณนฺติอาทิ วุตฺตํ.

ปุเร โหตีติ อคฺคโต โหติ, ตํ ปุรโต กตฺวา คนฺตุํ สุขํ โหตีติ อตฺโถ . คาธเมธตีติ อุทกํ โอตรณกาเล คมฺภีเร อุทเก ปติฏฺํ ลภติ.

ปริยาปุณิตฺวาติ อุคฺคณฺหิตฺวา วา วาจุคฺคตา กตฺวา. สนฺนิสินฺเนสูติ ตถารูเป พฺราหฺมณานํ สมาคมทิวเส สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิเตสุ ปุตฺเตสุ ตํ สภํ โอคาเหตฺวา พฺราหฺมณานํ มชฺเฌ มหารเห อาสเน นิสินฺเนสุ. อภาสีติ ‘อยํ เม กาโล’ติ สภาย มชฺเฌ ปวิสิตฺวา หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา , ‘‘โภ อหํ ตุมฺหากํ คาถา ภาสิตุกาโม, ภาสิเต สุณิสฺสถา’’ติ วตฺวา – ‘‘ภาส, พฺราหฺมณ, สุโณมา’’ติ วุตฺโต ิตโกว อภาสิ. ‘‘เตน จ สมเยน มนุสฺสานํ วตฺตํ โหติ โย มาตาปิตูนํ สนฺตกํ ขาทนฺโต มาตาปิตโร น โปเสติ, โส มาเรตพฺโพ’’ติ. ตสฺมา เต พฺราหฺมณปุตฺตา ปิตุปาเทสุ นิปติตฺวา ‘‘ชีวิตํ โน ตาต, เทหี’’ติ ยาจึสุ. โส ปิตุหทยสฺส ปุตฺตานํ มุทุตฺตา ‘‘มา เม, โภ, พาลเก วินาสยิตฺถ, โปสิสฺสนฺติ ม’’นฺติ อาห.

อถสฺส ปุตฺเต มนุสฺสา อาหํสุ – ‘‘สเจ, โภ, อชฺช ปฏฺาย ปิตรํ น สมฺมา ปฏิชคฺคิสฺสถ, ฆาเตสฺสาม โว’’ติ. เต ภีตา ฆรํ เนตฺวา ปฏิชคฺคึสุ. ตํ ทสฺเสตุํ อถ โข นํ พฺราหฺมณมหาสาลนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เนตฺวาติ ปีเ นิสีทาเปตฺวา สยํ อุกฺขิปิตฺวา นยึสุ. นฺหาเปตฺวาติ สรีรํ เตเลน อพฺภฺชิตฺวา อุพฺพฏฺเฏตฺวา คนฺธจุณฺณาทีหิ นฺหาเปสุํ. พฺราหฺมณิโยปิ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘อชฺช ปฏฺาย อมฺหากํ ปิตรํ สมฺมา ปฏิชคฺคถ. สเจ ปมาทํ อาปชฺชิสฺสถ, ฆรโต โว นิกฺกฑฺฒิสฺสามา’’ติ วตฺวา, ปณีตโภชนํ โภเชสุํ.

พฺราหฺมโณ สุโภชนฺจ สุขเสยฺยฺจ อาคมฺม กติปาหจฺจเยน สฺชาตพโล ปีณิตินฺทฺริโย อตฺตภาวํ โอโลเกตฺวา, ‘‘อยํ เม สมฺปตฺติ สมณํ โคตมํ นิสฺสาย ลทฺธา’’ติ ปณฺณาการํ อาทาย ภควโต สนฺติกํ อคมาสิ. ตํ ทสฺเสตุํ อถ โข โสติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอตทโวจาติ ทุสฺสยุคํ ปาทมูเล เปตฺวา เอตํ อโวจ. สรณคมนาวสาเน จาปิ ภควนฺตํ เอวมาห – ‘‘โภ โคตม, มยฺหํ ปุตฺเตหิ จตฺตาริ ธุรภตฺตานิ ทินฺนานิ , ตโต อหํ ทฺเว ตุมฺหากํ ทมฺมิ, ทฺเว สยํ ปริภุฺชิสฺสามี’’ติ. กลฺยาณํ, พฺราหฺมณ, ปาฏิเยกฺกํ ปน มา นิยฺยาเทหิ, อมฺหากํ รุจฺจนฏฺานเมว คมิสฺสามาติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ฆรํ คนฺตฺวา ปุตฺเต อามนฺเตสิ ‘‘ตาตา, สมโณ โคตโม มยฺหํ สหาโย, ตสฺส ทฺเว ธุรภตฺตานิ ทินฺนานิ, ตุมฺเห ตสฺมึ สมฺปตฺเต มา ปมชฺชถา’’ติ. สาธุ, ตาตาติ. ปุนทิวเส ภควา ปุพฺพณฺหสมเย ปตฺตจีวรํ อาทาย เชฏฺปุตฺตสฺส นิเวสนทฺวารํ คโต. โส สตฺถารํ ทิสฺวาว หตฺถโต ปตฺตํ คเหตฺวา ฆรํ ปเวเสตฺวา มหารเห ปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา ปณีตโภชนมทาสิ. สตฺถา ปุนทิวเส อิตรสฺส, ปุนทิวเส อิตรสฺสาติ ปฏิปาฏิยา สพฺเพสํ ฆรานิ อคมาสิ. สพฺเพ ตเถว สกฺการํ อกํสุ.

อเถกทิวสํ เชฏฺปุตฺตสฺส ฆเร มงฺคลํ ปจฺจุปฏฺิตํ. โส ปิตรํ อาห – ‘‘ตาต, กสฺส มงฺคลํ เทมา’’ติ. อมฺเห อฺํ น ชานาม? นนุ สมโณ โคตโม มยฺหํ สหาโยติ? เตน หิ ตุมฺเห ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ สฺวาตนาย สมณํ โคตมํ นิมนฺเตถาติ. พฺราหฺมโณ ตถา อกาสิ . ภควา อธิวาเสตฺวา ปุนทิวเส ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ตสฺส เคหทฺวารํ อคมาสิ. โส หริตุปลิตฺตํ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ เคหํ สตฺถารํ ปเวเสตฺวา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปฺตฺตาสเนสุ นิสีทาเปตฺวา อปฺโปทกปายาสฺเจว ขชฺชกวิกติฺจ อทาสิ. อนฺตรภตฺตสฺมึเยว พฺราหฺมณสฺส จตฺตาโรปิ ปุตฺตา สตฺถุ สนฺติเก นิสีทิตฺวา อาหํสุ – ‘‘โภ โคตม, มยํ อมฺหากํ ปิตรํ ปฏิชคฺคาม นปฺปมชฺชาม, ปสฺสถสฺส อตฺตภาว’’นฺติ. สตฺถา ‘‘กลฺยาณํ โว กตํ, มาตาปิตุโปสกํ นาม โปราณกปณฺฑิตานํ อาจิณฺณเมวา’’ติ วตฺวา มหานาคชาตกํ (ชา. ๑.๑๑.๑ อาทโย; จริยา. ๒.๑ อาทโย) นาม กเถตฺวา, จตฺตาริ สจฺจานิ ทีเปตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน พฺราหฺมโณ สทฺธึ จตูหิ ปุตฺเตหิ จตูหิ จ สุณฺหาหิ เทสนานุสาเรน าณํ เปเสตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิโต. ตโต ปฏฺาย สตฺถา น สพฺพกาลํ เตสํ เคหํ อคมาสีติ. จตุตฺถํ.

๕. มานตฺถทฺธสุตฺตวณฺณนา

๒๐๑. ปฺจเม มานตฺถทฺโธติ วาตภริตภสฺตา วิย มาเนน ถทฺโธ. อาจริยนฺติ สิปฺปุคฺคหณกาเล อาจริโย อนภิวาเทนฺตสฺส สิปฺปํ น เทติ, อฺสฺมึ ปน กาเล ตํ น อภิวาเทติ, อตฺถิภาวมฺปิสฺส น ชานาติ. นายํ สมโณติ เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘ยสฺมา อยํ สมโณ มาทิเส ชาติสมฺปนฺนพฺราหฺมเณ สมฺปตฺเต ปฏิสนฺถารมตฺตมฺปิ น กโรติ, ตสฺมา น กิฺจิ ชานาตี’’ติ.

อพฺภุตวิตฺตชาตาติ อภูตปุพฺพาย ตุฏฺิยา สมนฺนาคตา. เกสุ จสฺสาติ เกสุ ภเวยฺย. กฺยสฺสาติ เก อสฺส ปุคฺคลสฺส. อปจิตา อสฺสูติ อปจิตึ ทสฺเสตุํ ยุตฺตา ภเวยฺยุํ. อรหนฺเตติ อิมาย คาถาย เทสนากุสลตฺตา อตฺตานํ อนฺโตกตฺวา ปูชเนยฺยํ ทสฺเสติ. ปฺจมํ.

๖. ปจฺจนีกสุตฺตวณฺณนา

๒๐๒. ฉฏฺเ ‘‘สพฺพํ เสต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘สพฺพํ กณฺห’’นฺติอาทินา นเยน ปจฺจนีกํ กโรนฺตสฺเสวสฺส สาตํ สุขํ โหตีติ ปจฺจนีกสาโต. โยจ วิเนยฺย สารมฺภนฺติ โย กรณุตฺตริยลกฺขณํ สารมฺภํ วิเนตฺวา สุณาตีติ อตฺโถ. ฉฏฺํ.

๗. นวกมฺมิกสุตฺตวณฺณนา

๒๐๓. สตฺตเม นวกมฺมิกภารทฺวาโชติ โส กิร อรฺเ รุกฺขํ ฉินฺทาเปตฺวา ตตฺเถว ปาสาทกูฏาคาราทีนิ โยเชตฺวา นครํ อาหริตฺวา วิกฺกิณาติ, อิติ นวกมฺมํ นิสฺสาย ชีวตีติ นวกมฺมิโก, โคตฺเตน ภารทฺวาโชติ นวกมฺมิกภารทฺวาโช. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสีติ ฉพฺพณฺณรสฺมิโย วิสฺสชฺเชตฺวา นิสินฺนํ ภควนฺตํ ทิสฺวาน อสฺส เอตํ อโหสิ. วนสฺมินฺติ อิมสฺมึ วนสณฺเฑ. อุจฺฉินฺนมูลํ เม วนนฺติ มยฺหํ กิเลสวนํ อุจฺฉินฺนมูลํ. นิพฺพนโถติ นิกฺกิเลสวโน. เอโก รเมติ เอกโก อภิรมามิ. อรตึ วิปฺปหายาติ ปนฺตเสนาสเนสุ เจว ภาวนาย จ อุกฺกณฺิตํ ชหิตฺวา. สตฺตมํ.

๘. กฏฺหารสุตฺตวณฺณนา

๒๐๔. อฏฺเม อนฺเตวาสิกาติ เวยฺยาวจฺจํ กตฺวา สิปฺปุคฺคณฺหนกา ธมฺมนฺเตวาสิกา. นิสินฺนนฺติ ฉพฺพณฺณรสฺมิโย วิสฺสชฺเชตฺวา นิสินฺนํ. คมฺภีรรูเปติ คมฺภีรสภาเว.

พหุเภรเวติ ตตฺรฏฺกสวิฺาณกอวิฺาณกเภรเวหิ พหุเภรเว. วิคาหิยาติ อนุปวิสิตฺวา. อนิฺชมาเนนาติอาทีนิ กายวิเสสนานิ, เอวรูเปน กาเยนาติ อตฺโถ. สุจารุรูปํ วตาติ อติสุนฺทรํ วต ฌานํ ฌายสีติ วทติ.

วนวสฺสิโต มุนีติ วนํ อวสฺสิโต พุทฺธมุนิ. อิทนฺติ อิทํ ตุมฺหากํ เอวํ วเน นิสินฺนการณํ มยฺหํ อจฺเฉรรูปํ ปฏิภาติ. ปีติมโนติ ตุฏฺจิตฺโต. วเน วเสติ วนมฺหิ วสิ.

มฺามหนฺติ มฺามิ อหํ. โลกาธิปติสหพฺยตนฺติ โลกาธิปติมหาพฺรหฺมุนา สหภาวํ. อากงฺขมาโนติ อิจฺฉมาโน. ติทิวํ อนุตฺตรนฺติ อิทํ พฺรหฺมโลกเมว สนฺธายาห. กสฺมา ภวํ วิชนมรฺมสฺสิโตติ อหํ ตาว พฺรหฺมโลกํ อากงฺขมาโนติ มฺามิ. ยทิ เอวํ น โหติ, อถ เม อาจิกฺข, กสฺมา ภวนฺติ? ปุจฺฉติ. พฺรหฺมปตฺติยาติ เสฏฺปตฺติยา . อิธ อิทํ ตโป กสฺมา กโรสีติ อปเรนปิ อากาเรน ปุจฺฉติ.

กงฺขาติ ตณฺหา. อภินนฺทนาติ อภินนฺทนวเสน ตณฺหาว วุตฺตา. อเนกธาตูสูติ อเนกสภาเวสุ อารมฺมเณสุ. ปุถูติ นานปฺปการา ตณฺหา เสสกิเลสา วา. สทาสิตาติ นิจฺจกาลํ อวสฺสิตา. อฺาณมูลปฺปภวาติ อวิชฺชามูลา หุตฺวา ชาตา. ปชปฺปิตาติ ตณฺหาว ‘‘อิทมฺปิ มยฺหํ, อิทมฺปิ มยฺห’’นฺติ ปชปฺปาปนวเสน ปชปฺปิตา นามาติ วุตฺตา. สพฺพา มยา พฺยนฺติกตาติ สพฺพา ตณฺหา มยา อคฺคมคฺเคน วิคตนฺตา นิรนฺตา กตา. สมูลิกาติ สทฺธึ อฺาณมูเลน.

อนูปโยติ อนุปคมโน. สพฺเพสุ ธมฺเมสุ วิสุทฺธทสฺสโนติ อิมินา สพฺพฺุตฺาณํ ทีเปติ. สมฺโพธิมนุตฺตรนฺติ อรหตฺตํ สนฺธายาห. สิวนฺติ เสฏฺํ . ฌายามีติ ทฺวีหิ ฌาเนหิ ฌายามิ. วิสารโทติ วิคตสารชฺโช. อฏฺมํ.

๙. มาตุโปสกสุตฺตวณฺณนา

๒๐๕. นวเม เปจฺจาติ อิโต ปฏิคนฺตฺวา. นวมํ.

๑๐. ภิกฺขกสุตฺตวณฺณนา

๒๐๖. ทสเม อิธาติ อิมสฺมึ ภิกฺขุภาเว. วิสฺสํ ธมฺมนฺติ ทุคฺคนฺธํ อกุสลธมฺมํ. พาหิตฺวาติ อคฺคมคฺเคน ชหิตฺวา. สงฺขายาติ าเณน. ส เว ภิกฺขูติ วุจฺจตีติ โส เว ภินฺนกิเลสตฺตา ภิกฺขุ นาม วุจฺจติ. ทสมํ.

๑๑. สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา

๒๐๗. เอกาทสเม ปจฺเจตีติ อิจฺฉติ ปตฺเถติ. สาธุ, ภนฺเตติ อายาจมาโน อาห. เถรสฺส กิเรส คิหิสหาโย, ตสฺมา เถโร ‘‘อยํ วราโก มํ สหายํ ลภิตฺวาปิ มิจฺฉาทิฏฺึ คเหตฺวา มา อปายปูรโก อโหสี’’ติ อายาจติ. อปิเจส มหาปริวาโร, ตสฺมึ ปสนฺเน ปฺจกุลสตานิ อนุวตฺติสฺสนฺตีติ มฺมาโนปิ อายาจติ. อตฺถวสนฺติ อตฺถานิสํสํ อตฺถการณํ. ปาปนฺติ ปาณาติปาตาทิอกุสลํ. ปวาเหมีติ คลปฺปมาณํ อุทกํ โอตริตฺวา ปวาเหมิ ปลาเปมิ. ธมฺโมติ คาถา วุตฺตตฺถาว. เอกาทสมํ.

๑๒. โขมทุสฺสสุตฺตวณฺณนา

๒๐๘. ทฺวาทสเม โขมทุสฺสํ นามาติ โขมทุสฺสานํ อุสฺสนฺนตฺตา เอวํลทฺธนามํ. สภายนฺติ สาลายํ. ผุสายตีติ ผุสิตานิ มุฺจติ วสฺสติ. สตฺถา กิร ตํ สภํ อุปสงฺกมิตุกาโม – ‘‘มยิ เอวเมวํ อุปสงฺกมนฺเต อผาสุกธาตุกํ โหติ, เอกํ การณํ ปฏิจฺจ อุปสงฺกมิสฺสามี’’ติ อธิฏฺานวเสน วุฏฺึ อุปฺปาเทสิ. สภาธมฺมนฺติ สุขนิสินฺเน กิร อสฺจาเลตฺวา เอกปสฺเสน ปวิสนํ เตสํ สภาธมฺโม นาม, น มหาชนํ จาเลตฺวา อุชุกเมว ปวิสนํ. ภควา จ อุชุกเมว อาคจฺฉติ, เตน เต กุปิตา ภควนฺตํ หีเฬนฺตา ‘‘เก จ มุณฺฑกา สมณกา, เก จ สภาธมฺมํ ชานิสฺสนฺตี’’ติ อาหํสุ. สนฺโตติ ปณฺฑิตา สปฺปุริสา. ปหายาติ เอเต ราคาทโย ชหิตฺวา ราคาทิวินยาย ธมฺมํ ภณนฺติ, ตสฺมา เต สนฺโต นามาติ. ทฺวาทสมํ.

อุปาสกวคฺโค ทุติโย.

อิติ สารตฺถปฺปกาสินิยา

สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

พฺราหฺมณสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.