📜

๙. วนสํยุตฺตํ

๑. วิเวกสุตฺตวณฺณนา

๒๒๑. วนสํยุตฺตสฺส ปเม โกสเลสุ วิหรตีติ สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ตสฺส ชนปทสฺส สุลภภิกฺขตาย ตตฺถ คนฺตฺวา วิหรติ. สํเวเชตุกามาติ วิเวกํ ปฏิปชฺชาเปตุกามา. วิเวกกาโมติ ตโย วิเวเก ปตฺถยนฺโต. นิจฺฉรตี พหิทฺธาติ พาหิเรสุ ปุถุตฺตารมฺมเณสุ จรติ. ชโน ชนสฺมินฺติ ตฺวํ ชโน อฺสฺมึ ชเน ฉนฺทราคํ วินยสฺสุ. ปชหาสีติ ปชห. ภวาสีติ ภว. สตํ ตํ สารยามเสติ สติมนฺตํ ปณฺฑิตํ ตํ มยมฺปิ สารยาม, สตํ วา ธมฺมํ มยํ ตํ สารยามาติ อตฺโถ. ปาตาลรโชติ อปฺปติฏฺฏฺเน ปาตาลสงฺขาโต กิเลสรโช. มา ตํ กามรโชติ อยํ กามราครโช ตํ มา อวหริ, อปายเมว มา เนตูติ อตฺโถ. ปํสุกุนฺถิโตติ ปํสุมกฺขิโต. วิธุนนฺติ วิธุนนฺโต. สิตํ รชนฺติ สรีรลคฺคํ รชํ. สํเวคมาปาทีติ เทวตาปิ นาม มํ เอวํ สาเรตีติ วิเวกมาปนฺโน, อุตฺตมวีริยํ วา ปคฺคยฺห ปรมวิเวกํ มคฺคเมว ปฏิปนฺโนติ. ปมํ.

๒. อุปฏฺานสุตฺตวณฺณนา

๒๒๒. ทุติเย สุปตีติ อยํ กิร ขีณาสโว, โส ทูเร ภิกฺขาจารคามํ คนฺตฺวา อาคโต ปณฺณสาลาย ปตฺตจีวรํ ปฏิสาเมตฺวา อวิทูเร ชาตสฺสรํ โอตริตฺวา คตฺตานิ อุตุํ คาหาเปตฺวา ทิวาฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา ตตฺถ นีจมฺจกํ ปฺาเปตฺวา นิทฺทํ อโนกฺกมนฺโตว นิปนฺโน. ขีณาสวสฺสาปิ หิ กายทรโถ โหติเยวาติ ตสฺส วิโนทนตฺถํ, ตํ สนฺธาย สุปตีติ วุตฺตํ. อชฺฌภาสีติ ‘‘อยํ ภิกฺขุ สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ทิวา สุปติ, ทิวาโสปฺปฺจ นาเมตํ วฑฺฒิตํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกํ อตฺถํ นาเสตี’’ติ มฺมานา ‘‘โจเทสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา อภาสิ.

อาตุรสฺสาติ ชราตุโร โรคาตุโร กิเลสาตุโรติ ตโย อาตุรา, เตสุ กิเลสาตุรํ สนฺธาเยวมาห. สลฺลวิทฺธสฺสาติ สวิเสน สตฺติสลฺเลน วิย อวิชฺชาวิสวิฏฺเน ตณฺหาสลฺเลน หทเย วิทฺธสฺส. รุปฺปโตติ ฆฏฺฏิยมานสฺส.

อิทานิสฺส กาเมสุ อาทีนวํ กถยนฺตี อนิจฺจาติอาทิมาห. ตตฺถ อสิตนฺติ ตณฺหาทิฏฺินิสฺสเยน อนิสฺสิตํ. กสฺมา ปพฺพชิตํ ตเปติ เอวรูปํ ขีณาสวํ ทิวาโสปฺปํ น ตปติ, ตาทิสํ ปน กสฺมา น ตเปสฺสตีติ? วทติ. เถรสฺเสว วา เอตํ วจนํ, ตสฺมา อยเมตฺถ อตฺโถ – พทฺเธสุ มุตฺตํ อสิตํ มาทิสํ ขีณาสวปพฺพชิตํ กสฺมา ทิวาโสปฺปํ ตเป, น ตเปสฺสตีติ? เสสคาถาสุปิ เอเสว นโย. เทวตาย หิ วจนปกฺเข – ‘‘เอวรูปํ ขีณาสวปพฺพชิตํ ทิวาโสปฺปํ น ตปติ, ตาทิสํ ปน กสฺมา น ตเปสฺสติ? ตเปสฺสติเยวา’’ติ อตฺโถ. เถรสฺส วจนปกฺเข – ‘‘เอวรูปํ มาทิสํ ขีณาสวปพฺพชิตํ กสฺมา ทิวาโสปฺปํ ตเป? น ตปติเยวา’’ติ อตฺโถ. อยํ ปเนตฺถ อนุตฺตานปทวณฺณนา. วินยาติ วินเยน. สมติกฺกมาติ วฏฺฏมูลิกาย อวิชฺชาย สมติกฺกเมน. ตํ าณนฺติ ตํ จตุสจฺจาณํ. ปรโมทานนฺติ ปรมปริสุทฺธํ. ปพฺพชิตนฺติ เอวรูเปน าเณน สมนฺนาคตํ ปพฺพชิตํ. วิชฺชายาติ จตุตฺถมคฺควิชฺชาย. อารทฺธวีริยนฺติ ปคฺคหิตวีริยํ ปริปุณฺณวีริยํ. ทุติยํ.

๓. กสฺสปโคตฺตสุตฺตวณฺณนา

๒๒๓. ตติเย เฉตนฺติ เอกํ มิคลุทฺทกํ. โอวทตีติ โส กิร มิคลุทฺทโก ปาโตว ภุฺชิตฺวา ‘‘มิเค วธิสฺสามี’’ติ อรฺํ ปวิฏฺโ เอกํ โรหิตมิคํ ทิสฺวา ‘‘สตฺติยา นํ ปหริสฺสามี’’ติ อนุพนฺธมาโน เถรสฺส ปมสุตฺเต วุตฺตนเยเนว ทิวาวิหารํ นิสินฺนสฺส อวิทูเรน ปกฺกมติ. อถ นํ เถโร – ‘‘อุปาสก, ปาณาติปาโต นาเมส อปายสํวตฺตนิโก อปฺปายุกสํวตฺตนิโก, สกฺกา อฺเนปิ กสิวณิชฺชาทิกมฺเมน ทารภรณํ กาตุํ, มา เอวรูปํ กกฺขฬกมฺมํ กโรหี’’ติ อาห. โสปิ ‘‘มหาปํสุกูลิกตฺเถโร กเถตี’’ติ คารเวน ตฺวา โสตุํ อารทฺโธ. อถสฺส โสตุกามตํ ชเนสฺสามีติ เถโร องฺคุฏฺกํ ชาลาเปสิ. โส อกฺขีหิปิ ปสฺสติ, กณฺเณหิปิ สุณาติ, จิตฺตํ ปนสฺส ‘‘อสุกฏฺานํ มิโค คโต ภวิสฺสติ, อสุกติตฺถํ โอติณฺโณ, ตตฺถ นํ คนฺตฺวา ฆาเตตฺวา ยาวทิจฺฉกํ มํสํ ขาทิตฺวา เสสํ กาเชนาทาย คนฺตฺวา ปุตฺตเก โตเสสฺสามี’’ติ เอวํ มิคสฺเสว อนุปทํ ธาวติ. เอวํ วิกฺขิตฺตจิตฺตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺตํ เถรํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โอวทตี’’ติ. อชฺฌภาสีติ ‘‘อยํ เถโร อทารุํ ตจฺฉนฺโต วิย อเขตฺเต วปฺปนฺโต วิย อตฺตโนปิ กมฺมํ นาเสติ, เอตสฺสาปิ โจเทสฺสามิ น’’นฺติ อภาสิ.

อปฺปปฺนฺติ นิปฺปฺํ. อเจตสนฺติ การณชานนสมตฺเถน จิตฺเตน รหิตํ. มนฺโทวาติ อนฺธพาโล วิย. สุณาตีติ ตว ธมฺมกถํ สุณาติ. น วิชานาตีติ อตฺถมสฺส น ชานาติ. อาโลเกตีติ ตว ปุถุชฺชนิกอิทฺธิยา ชลนฺตํ องฺคุฏฺกํ อาโลเกติ. น ปสฺสตีติ เอตฺถ ‘‘เนว เตลํ น วฏฺฏิ น ทีปกปลฺลิกา, เถรสฺส ปน อานุภาเวนายํ ชลตี’’ติ อิมํ การณํ น ปสฺสติ. ทส ปชฺโชเตติ ทสสุ องฺคุลีสุ ทส ปทีเป. รูปานีติ การณรูปานิ. จกฺขูติ ปฺาจกฺขุ. สํเวคมาปาทีติ กึ เม อิมินาติ? วีริยํ ปคฺคยฺห ปรมวิเวกํ อรหตฺตมคฺคํ ปฏิปชฺชิ. ตติยํ.

๔. สมฺพหุลสุตฺตวณฺณนา

๒๒๔. จตุตฺเถ สมฺพหุลาติ พหู สุตฺตนฺติกา อาภิธมฺมิกา วินยธรา จ. วิหรนฺตีติ สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วิหรนฺติ. ปกฺกมึสูติ เต กิร ตสฺมึ ชนปเท อฺตรํ คามํ อุปสงฺกมนฺเต ทิสฺวา มนุสฺสา ปสนฺนจิตฺตา อาสนสาลาย โกชวตฺถรณาทีนิ ปฺาเปตฺวา ยาคุขชฺชกานิ ทตฺวา อุปนิสีทึสุ. มหาเถโร เอกํ ธมฺมกถิกํ ‘‘ธมฺมํ กเถหี’’ติ อาห. โส จิตฺตํ ธมฺมกถํ กเถสิ. มนุสฺสา ปสีทิตฺวา โภชนเวลายํ ปณีตโภชนํ อทํสุ. มหาเถโร มนุฺํ ภตฺตานุโมทนมกาสิ. มนุสฺสา ภิยฺโยโสมตฺตาย ปสนฺนา ‘‘อิเธว, ภนฺเต, เตมาสํ วสถา’’ติ ปฏิฺํ กาเรตฺวา คมนาคมนสมฺปนฺเน าเน เสนาสนานิ กาเรตฺวา จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหึสุ. มหาเถโร วสฺสูปนายิกทิวเส ภิกฺขู โอวทิ – ‘‘อาวุโส, ตุมฺเหหิ ครุกสฺส สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คหิตํ, พุทฺธปาตุภาโว นาม ทุลฺลโภ. มาสสฺส อฏฺ ทิวเส ธมฺมสฺสวนํ กตฺวา คณสงฺคณิกํ ปหาย อปฺปมตฺตา วิหรถา’’ติ. เต ตโต ปฏฺาย ยุฺชนฺติ ฆเฏนฺติ. กทาจิ สพฺพรตฺติกํ ธมฺมสฺสวนํ กโรนฺติ, กทาจิ ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺติ, กทาจิ ปธานํ กโรนฺติ. เตสํ ธมฺมสฺสวนทิวเส ธมฺมํ กเถนฺตานํเยว อรุโณ อุคฺคจฺฉติ. ปฺหาวิสฺสชฺชนทิวเส พฺยตฺโต ภิกฺขุ ปฺหํ ปุจฺฉติ, ปณฺฑิโต วิสฺสชฺเชตีติ ปุจฺฉนวิสฺสชฺชนํ กโรนฺตานํเยว. ปธานทิวเส สูริยตฺถงฺคมเน คณฺฑึ ปหริตฺวาว จงฺกมํ โอตริตฺวา ปธานํ กโรนฺตานํเยว. เต เอวํ วสฺสํ วสฺสิตฺวา ปวาเรตฺวา ปกฺกมึสุ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ปริเทวมานาติ ‘‘อิทานิ ตถารูปํ มธุรํ ธมฺมสฺสวนํ ปฺหากถนํ กุโต ลภิสฺสามี’’ติอาทีนิ วตฺวา โรทมานา.

ขายตีติ ปฺายติ อุปฏฺาติ. โก เมติ กหํ อิเม. วชฺชิภูมิยาติ วชฺชิรฏฺาภิมุขา คตา. มคา วิยาติ ยถา มคา ตสฺมึ ตสฺมึ ปพฺพตปาเท วา วนสณฺเฑ วา วิจรนฺตา – ‘‘อิทํ อมฺหากํ มาตุสนฺตกํ ปิตุสนฺตกํ ปเวณิอาคต’’นฺติ อคเหตฺวา, ยตฺเถว เนสํ โคจรผาสุตา จ โหติ ปริปนฺถาภาโว จ, ตตฺถ วิจรนฺติ. เอวํ อนิเกตา อเคหา ภิกฺขโวปิ ‘‘อยํ, อาวุโส, อมฺหากํ อาจริยุปชฺฌายานํ สนฺตโก ปเวณิอาคโต’’ติ อคเหตฺวา ยตฺเถว เนสํ อุตุสปฺปายํ โภชนสปฺปายํ ปุคฺคลสปฺปายํ เสนาสนสปฺปายํ ธมฺมสฺสวนสปฺปายฺจ สุลภํ โหติ, ตตฺถ วิหรนฺติ. จตุตฺถํ.

๕. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา

๒๒๕. ปฺจเม อานนฺโทติ ธมฺมภณฺฑาคาริกตฺเถโร. อติเวลนฺติ อติกฺกนฺตํ เวลํ. คิหิสฺตฺติพหุโลติ รตฺติฺจ ทิวา จ พหุกาลํ คิหี สฺาปยนฺโต. ภควติ ปรินิพฺพุเต มหากสฺสปตฺเถโร เถรํ อาห – ‘‘อาวุโส, มยํ ราชคเห วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ธมฺมํ สงฺคายิสฺสาม, คจฺฉ ตฺวํ อรฺํ ปวิสิตฺวา อุปริมคฺคตฺตยตฺถาย วายามํ กโรหี’’ติ. โส ภควโต ปตฺตจีวรมาทาย โกสลรฏฺํ คนฺตฺวา เอกสฺมึ อรฺาวาเส วสิตฺวา ปุนทิวเส เอกํ คามํ ปาวิสิ. มนุสฺสา เถรํ ทิสฺวา – ‘‘ภนฺเต อานนฺท, ตุมฺเห ปุพฺเพ สตฺถารา สทฺธึ อาคจฺฉถ. อชฺช เอกกาว อาคตา. กหํ สตฺถารํ เปตฺวา อาคตตฺถ? อิทานิ กสฺส ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา วิจรถ? กสฺส มุโขทกํ ทนฺตกฏฺํ เทถ, ปริเวณํ สมฺมชฺชถ, วตฺตปฏิวตฺตํ กโรถา’’ติ พหุํ วตฺวา ปริเทวึสุ. เถโร – ‘‘มา, อาวุโส, โสจิตฺถ, มา ปริเทวิตฺถ, อนิจฺจา สงฺขารา’’ติอาทีนิ วตฺวา เต สฺาเปตฺวา ภตฺตกิจฺจาวสาเน วสนฏฺานเมว คจฺฉติ. มนุสฺสา สายมฺปิ ตตฺถ คนฺตฺวา ตเถว ปริเทวนฺติ. เถโรปิ ตเถว โอวทติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อชฺฌภาสีติ ‘‘อยํ เถโร ภิกฺขุสงฺฆสฺส กถํ สุตฺวา ‘สมณธมฺมํ กริสฺสามี’ติ อรฺํ ปวิสิตฺวา อิทานิ คิหี สฺาเปนฺโต วิหรติ, สตฺถุ สาสนํ อสงฺคหิตปุปฺผราสิ วิย ิตํ, ธมฺมสงฺคหํ น กโรติ, โจเทสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา อภาสิ.

ปสกฺกิยาติ ปวิสิตฺวา. หทยสฺมึ โอปิยาติ กิจฺจโต จ อารมฺมณโต จ หทยมฺหิ ปกฺขิปิตฺวา. ‘‘นิพฺพานํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ วีริยํ กโรนฺโต นิพฺพานํ กิจฺจโต หทยมฺหิ โอเปติ นาม, นิพฺพานารมฺมณํ ปน สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทนฺโต อารมฺมณโต. ตทุภยมฺปิ สนฺธาเยสา ภาสติ. ฌายาติ ทฺวีหิ ฌาเนหิ ฌายิโก ภว. พิฬิพิฬิกาติ อยํ คิหีหิ สทฺธึ พิฬิพิฬิกถา. ปฺจมํ.

๖. อนุรุทฺธสุตฺตวณฺณนา

๒๒๖. ฉฏฺเ ปุราณทุติยิกาติ อนนฺตเร อตฺตภาเว อคฺคมเหสี. โสภสีติ ปุพฺเพปิ โสภสิ, อิทานิปิ โสภสิ. ทุคฺคตาติ น คติทุคฺคติยา ทุคฺคตา. ตา หิ สุคติยํ ิตา สมฺปตฺตึ อนุภวนฺติ, ปฏิปตฺติทุคฺคติยา ปน ทุคฺคตา. ตโต จุตา หิ ตา นิรเยปิ อุปปชฺชนฺตีติ ทุคฺคตา. ปติฏฺิตาติ สกฺกายสฺมึ หิ ปติฏฺหนฺโต อฏฺหิ การเณหิ ปติฏฺาติ – รตฺโต ราควเสน ปติฏฺาติ, ทุฏฺโ โทสวเสน… มูฬฺโห โมหวเสน… วินิพทฺโธ มานวเสน… ปรามฏฺโ ทิฏฺิวเสน… ถามคโต อนุสยวเสน… อนิฏฺงฺคโต วิจิกิจฺฉาวเสน… วิกฺเขปคโต อุทฺธจฺจวเสน ปติฏฺาติ. ตาปิ เอวํ ปติฏฺิตาว. นรเทวานนฺติ เทวนรานํ.

นตฺถิ ทานีติ สา กิร เทวธีตา เถเร พลวสิเนหา อโหสิ, ปฏิคนฺตุํ นาสกฺขิ. กาเลน อาคนฺตฺวา ปริเวณํ สมฺมชฺชติ, มุโขทกํ ทนฺตกฏฺํ ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺเปติ. เถโร อนาวชฺชเนน ปริภุฺชติ. เอกสฺมึ ทิวเส เถรสฺส ชิณฺณจีวรสฺส โจฬกภิกฺขํ จรโต สงฺการกูเฏ ทิพฺพทุสฺสํ เปตฺวา ปกฺกมิ. เถโร ตํ ทิสฺวา อุกฺขิปิตฺวา, โอโลเกนฺโต ทุสฺสนฺตํ ทิสฺวา ‘‘ทุสฺสเมต’’นฺติ ตฺวา, ‘‘อลํ เอตฺตาวตา’’ติ อคฺคเหสิ. เตเนวสฺส จีวรํ นิฏฺาสิ. อถ ทฺเว อคฺคสาวกา อนุรุทฺธตฺเถโร จาติ ตโย ชนา จีวรํ กรึสุ. สตฺถา สูจึ โยเชตฺวา อทาสิ. นิฏฺิตจีวรสฺส ปิณฺฑาย จรโต เทวตา ปิณฺฑปาตํ สมาทเปติ. สา กาเลน เอกิกา, กาเลน อตฺตทุติยา เถรสฺส สนฺติกํ อาคจฺฉติ. ตทา ปน อตฺตตติยา อาคนฺตฺวา ทิวาฏฺาเน เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา – ‘‘มยํ มนาปกายิกา นาม มนสา อิจฺฉิติจฺฉิตรูปํ มาเปมา’’ติ อาห. เถโร – ‘‘เอตา เอวํ วทนฺติ, วีมํสิสฺสามิ, สพฺพา นีลกา โหนฺตู’’ติ จินฺเตสิ. ตา เถรสฺส มนํ ตฺวา สพฺพาว นีลวณฺณา อเหสุํ, เอวํ ปีตโลหิตโอทาตวณฺณาติ. ตโต จินฺตยึสุ – ‘‘เถโร อมฺหากํ ทสฺสนํ อสฺสาเทตี’’ติ ตา สมชฺชํ กาตุํ อารทฺธา, เอกาปิ คายิ, เอกาปิ นจฺจิ, เอกาปิ อจฺฉรํ ปหริ. เถโร อินฺทฺริยานิ โอกฺขิปิ. ตโต – ‘‘น อมฺหากํ ทสฺสนํ เถโร อสฺสาเทตี’’ติ ตฺวา สิเนหํ วา สนฺถวํ วา อลภมานา นิพฺพินฺทิตฺวา คนฺตุมารทฺธา. เถโร ตาสํ คมนภาวํ ตฺวา – ‘‘มา ปุนปฺปุนํ อาคจฺฉึสู’’ติ อรหตฺตํ พฺยากโรนฺโต อิมํ คาถมาห. ตตฺถ วิกฺขีโณติ ขีโณ. ชาติสํสาโรติ ตตฺถ ตตฺถ ชาติสงฺขาโต สํสาโร. ฉฏฺํ.

๗. นาคทตฺตสุตฺตวณฺณนา

๒๒๗. สตฺตเม อติกาเลนาติ สพฺพรตฺตึ นิทฺทายิตฺวา พลวปจฺจูเส โกฏิสมฺมุฺชนิยา โถกํ สมฺมชฺชิตฺวา มุขํ โธวิตฺวา ยาคุภิกฺขาย ปาโตว ปวิสติ. อติทิวาติ ยาคุํ อาทาย อาสนสาลํ คนฺตฺวา ปิวิตฺวา เอกสฺมึ าเน นิปนฺโน นิทฺทายิตฺวา – ‘‘มนุสฺสานํ โภชนเวลาย ปณีตํ ภิกฺขํ ลภิสฺสามี’’ติ อุปกฏฺเ มชฺฌนฺหิเก อุฏฺาย ธมฺมกรเณน อุทกํ คเหตฺวา อกฺขีนิ ปมชฺชิตฺวา ปิณฺฑาย จริตฺวา ยาวทตฺถํ ภุฺชิตฺวา มชฺฌนฺหิเก วีติวตฺเต ปฏิกฺกมติ. ทิวา จ อาคนฺตฺวาติ อติกาเล ปวิฏฺเน นาม อฺเหิ ภิกฺขูหิ ปมตรํ อาคนฺตพฺพํ โหติ, ตฺวํ ปน อติวิย ทิวา อาคนฺตฺวา คตาสีติ อตฺโถ. ภายามิ นาคทตฺตนฺติ ตํ นาคทตฺตํ อหํ ภายามิ. สุปฺปคพฺภนฺติ สุฏฺุ ปคพฺภํ. กุเลสูติ ขตฺติยกุลาทิอุปฏฺากกุเลสุ. สตฺตมํ.

๘. กุลฆรณีสุตฺตวณฺณนา

๒๒๘. อฏฺเม อชฺโฌคาฬฺหปฺปตฺโตติ โอคาหปฺปตฺโต. โส กิร สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ตํ วนสณฺฑํ ปวิสิตฺวา ทุติยทิวเส คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ ปาสาทิเกหิ อภิกฺกนฺตาทีหิ. อฺตรํ กุลํ ตสฺส อิริยาปเถ ปสีทิตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา ปิณฺฑปาตํ อทาสิ. ภตฺตานุโมทนํ ปุน สุตฺวา อติเรกตรํ ปสีทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, นิจฺจกาลํ อิเธว ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ นิมนฺเตสิ. เถโร อธิวาเสตฺวา เตสํ อาหารํ ปริภุฺชมาโน วีริยํ ปคฺคยฺห ฆเฏนฺโต อรหตฺตํ ปตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘พหูปการํ เม เอตํ กุลํ, อฺตฺถ คนฺตฺวา กึ กริสฺสามี’’ติ? ผลสมาปตฺติสุขํ อนุภวนฺโต ตตฺเถว วสิ. อชฺฌภาสีติ สา กิร เถรสฺส ขีณาสวภาวํ อชานนฺตี จินฺเตสิ – ‘‘อยํ เถโร เนว อฺํ คามํ คจฺฉติ, น อฺํ ฆรํ, น รุกฺขมูลอาสนสาลาทีสุ นิสีทติ, นิจฺจกาลํ ฆรํ ปวิสิตฺวาว นิสีทติ, อุโภเปเต โอคาธปฺปตฺตา ปฏิคาธปฺปตฺตา, กทาจิ เอส อิมํ กุลํ ทูเสยฺย, โจเทสฺสามิ น’’นฺติ. ตสฺมา อภาสิ.

สณฺาเนติ นครทฺวารสฺส อาสนฺเน มนุสฺสานํ ภณฺฑกํ โอตาเรตฺวา วิสฺสมนฏฺาเน. สงฺคมฺมาติ สมาคนฺตฺวา. มนฺเตนฺตีติ กเถนฺติ. มฺจ ตฺจาติ มฺจ กเถนฺติ ตฺจ กเถนฺติ. กิมนฺตรนฺติ กึ การณํ? พหู หิ สทฺทา ปจฺจูหาติ พหุกา เอเต โลกสฺมึ ปฏิโลมสทฺทา. น เตนาติ เตน การเณน, เตน วา ตปสฺสินา น มงฺกุ โหตพฺพํ. น หิ เตนาติ น หิ เตน ปเรหิ วุตฺตวจเนน สตฺโต กิลิสฺสติ, อตฺตนา กเตน ปน ปาปกมฺเมเนว กิลิสฺสตีติ ทสฺเสติ. วาตมิโค ยถาติ ยถา วเน วาตมิโค วาเตริตานํ ปณฺณาทีนํ สทฺเทน ปริตสฺสติ, เอวํ โย สทฺทปริตฺตาสี โหตีติ อตฺโถ. นาสฺส สมฺปชฺชเต วตนฺติ ตสฺส ลหุจิตฺตสฺส วตํ น สมฺปชฺชติ. เถโร ปน ขีณาสวตฺตา สมฺปนฺนวโตติ เวทิตพฺโพ. อฏฺมํ.

๙. วชฺชิปุตฺตสุตฺตวณฺณนา

๒๒๙. นวเม วชฺชิปุตฺตโกติ วชฺชิรฏฺเ ราชปุตฺโต ฉตฺตํ ปหาย ปพฺพชิโต. สพฺพรตฺติจาโรติ กตฺติกนกฺขตฺตํ โฆเสตฺวา สกลนครํ ธชปฏากาทีหิ ปฏิมณฺเฑตฺวา ปวตฺติโต สพฺพรตฺติจาโร. อิทฺหิ นกฺขตฺตํ ยาว จาตุมหาราชิเกหิ เอกาพทฺธํ โหติ. ตูริยตาฬิตวาทิตนิคฺโฆสสทฺทนฺติ เภริอาทิตูริยานํ ตาฬิตานํ วีณาทีนฺจ วาทิตานํ นิคฺโฆสสทฺทํ. อภาสีติ เวสาลิยํ กิร สตฺต ราชสหสฺสานิ สตฺตสตานิ สตฺต จ ราชาโน, ตตฺตกาว เตสํ อุปราชเสนาปติอาทโย . เตสุ อลงฺกตปฏิยตฺเตสุ นกฺขตฺตกีฬนตฺถาย วีถึ โอติณฺเณสุ สฏฺิหตฺเถ มหาจงฺกเม จงฺกมมาโน นภสฺส มชฺเฌ ิตํ จนฺทํ ทิสฺวา จงฺกมนโกฏิยํ ผลกํ นิสฺสาย ิโต อภาสิ. อปวิทฺธํววนสฺมึ ทารุกนฺติ วตฺถเวนาลงฺการรหิตตฺตา วเน ฉฑฺฑิตทารุกํ วิย ชาตํ. ปาปิโยติ ลามกตโร อมฺเหหิ อฺโ โกจิ อตฺถิ. ปิหยนฺตีติ เถโร อารฺิโก ปํสุกูลิโก ปิณฺฑปาติโก สปทานจาริโก อปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโติ พหู ตุยฺหํ ปตฺถยนฺตีติ อตฺโถ. สคฺคคามินนฺติ สคฺคํ คจฺฉนฺตานํ คตานมฺปิ. นวมํ.

๑๐. สชฺฌายสุตฺตวณฺณนา

๒๓๐. ทสเม ยํ สุทนฺติ นิปาตมตฺตํ. สชฺฌายพหุโลติ นิสฺสรณปริยตฺติวเสน สชฺฌายนโต พหุตรํ กาลํ สชฺฌายนฺโต. โส กิร อาจริยสฺส ทิวาฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา อาจริยํ อุทิกฺขนฺโต ติฏฺติ. อถ นํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวาว ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสินฺนสฺส ตาลวณฺฏวาตํ ทตฺวา ปานียํ อาปุจฺฉิตฺวา ปาเท โธวิตฺวา เตลํ มกฺเขตฺวา วนฺทิตฺวา ิโต อุทฺเทสํ คเหตฺวา ยาว สูริยตฺถงฺคมา สชฺฌายํ กโรติ. โส นฺหานโกฏฺเก อุทกํ อุปฏฺเปตฺวา องฺคารกปลฺเล อคฺคึ กโรติ. อาจริยสฺส นฺหตฺวา อาคตสฺส ปาเทสุ อุทกํ ปุฺฉิตฺวา ปิฏฺิปริกมฺมํ กตฺวา วนฺทิตฺวา อุทฺเทสํ คเหตฺวา ปมยาเม สชฺฌายํ กตฺวา มชฺฌิมยาเม สรีรํ สมสฺสาเสตฺวา ปจฺฉิมยาเม อุทฺเทสํ คเหตฺวา ยาว อรุณุคฺคมนา สชฺฌายํ กตฺวา นิรุทฺธสทฺทํ ขยโต สมฺมสติ. ตโต เสสํ อุปาทายรูปํ ภูตรูปํ นามรูปนฺติ ปฺจสุ ขนฺเธสุ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. อปฺโปสฺสุกฺโกติ อุทฺเทสคฺคหเณ จ สชฺฌายกรณีเย จ นิรุสฺสุกฺโก. สงฺกสายตีติ ยสฺส ทานิ อตฺถาย อหํ สชฺฌายํ กเรยฺยํ, โส เม อตฺโถ มตฺถกํ ปตฺโต. กึ เม อิทานิ สชฺฌาเยนาติ ผลสมาปตฺติสุเขน กาลํ อติวตฺเตติ. อชฺฌภาสีติ, ‘‘กึ นุ โข อสฺส เถรสฺส อผาสุกํ ชาตํ, อุทาหุสฺส อาจริยสฺส? เกน นุ โข การเณน ปุพฺเพ วิย มธุรสฺสเรน น สชฺฌายตี’’ติ? อาคนฺตฺวา สนฺติเก ิตา อภาสิ.

ธมฺมปทานีติ อิธ สพฺพมฺปิ พุทฺธวจนํ อธิปฺเปตํ . นาธียสีติ น สชฺฌายสิ. นาทิยสีติ วา ปาโ, น คณฺหาสีติ อตฺโถ. ปสํสนฺติ ธมฺมภาณโก ปสํสํ ลภติ, อาภิธมฺมิโก สุตฺตนฺติโก วินยธโรติสฺส ปสํสิตา ภวนฺติ. วิราเคนาติ อริยมคฺเคน. อฺายาติ ชานิตฺวา. นิกฺเขปนนฺติ ตสฺส ทิฏฺสุตาทิโน วิสฺสชฺชนํ สนฺโต วทนฺตีติ ทีเปติ, น พุทฺธวจนสฺส. เอตฺตาวตา ‘‘เถโร พุทฺธวจนํ น วิสฺสชฺชาเปตี’’ติ น นิจฺจกาลํ สชฺฌายนฺเตเนว ภวิตพฺพํ, สชฺฌายิตฺวา ปน – ‘‘เอตฺตกสฺสาหํ อตฺถสฺส วา ธมฺมสฺส วา อาธาโร ภวิตุํ สมตฺโถ’’ติ ตฺวา วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตกิริยาย ปฏิปชฺชิตพฺพํ. ทสมํ.

๑๑. อกุสลวิตกฺกสุตฺตวณฺณนา

๒๓๑. เอกาทสเม อกุสเล วิตกฺเกติ กามวิตกฺกาทโย ตโย มหาวิตกฺเก. อโยนิโส มนสิการาติ อนุปายมนสิกาเรน. โสติ โส ตฺวํ. อโยนิโส ปฏินิสฺสชฺชาติ เอตํ อนุปายมนสิการํ วชฺเชหิ. สตฺถารนฺติ อิมาย คาถาย ปาสาทิกกมฺมฏฺานํ กเถติ. ปีติสุขมสํสยนฺติ เอกํเสเนว พลวปีติฺจ สุขฺจ อธิคมิสฺสสิ. เอกาทสมํ.

๑๒. มชฺฌนฺหิกสุตฺตวณฺณนา

๒๓๒. ทฺวาทสเม ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เทวตาสํยุตฺเต นนฺทนวคฺเค วุตฺตเมว. ทฺวาทสมํ.

๑๓. ปากตินฺทฺริยสุตฺตวณฺณนา

๒๓๓. เตรสมํ เทวปุตฺตสํยุตฺเต ชนฺตุเทวปุตฺตสุตฺเต วิตฺถาริตเมว. เตรสมํ.

๑๔. คนฺธตฺเถนสุตฺตวณฺณนา

๒๓๔. จุทฺทสเม อชฺฌภาสีติ ตํ ภิกฺขุํ นาเฬ คเหตฺวา ปทุมํ สิงฺฆมานํ ทิสฺวาว – ‘‘อยํ ภิกฺขุ สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา สมณธมฺมํ กาตุํ อรฺํ ปวิฏฺโ คนฺธารมฺมณํ อุปนิชฺฌายติ, สฺวายํ อชฺช อุปสิงฺฆํ สฺเวปิ ปุนทิวเสปิ อุปสิงฺฆิสฺสติ, เอวมสฺส สา คนฺธตณฺหา วฑฺฒิตฺวา ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกํ อตฺถํ นาเสสฺสติ, มา มยิ ปสฺสนฺติยา นสฺสตุ, โจเทสฺสามิ น’’นฺติ อุปสงฺกมิตฺวา อภาสิ.

เอกงฺคเมตํเถยฺยานนฺติ เถนิตพฺพานํ รูปารมฺมณาทีนํ ปฺจโกฏฺาสานํ อิทํ เอกงฺคํ, เอกโกฏฺาโสติ อตฺโถ. น หรามีติ น คเหตฺวา คจฺฉามิ. อาราติ ทูเร นาเฬ คเหตฺวา นาเมตฺวา ทูเร ิโต อุปสิงฺฆามีติ วทติ. วณฺเณนาติ การเณน.

ยฺวายนฺติ โย อยํ. ตสฺมึ กิร เทวตาย สทฺธึ กเถนฺเตเยว เอโก ตาปโส โอตริตฺวา ภิสขนนาทีนิ กาตุํ อารทฺโธ, ตํ สนฺธาเยวมาห. อากิณฺณกมฺมนฺโตติ เอวํ อปริสุทฺธกมฺมนฺโต. อขีณกมฺมนฺโตติปิ ปาโ, กกฺขฬกมฺมนฺโตติ อตฺโถ. น วุจฺจตีติ คนฺธโจโรติ วา ปุปฺผโจโรติ วา กสฺมา น วุจฺจติ.

อากิณฺณลุทฺโทติ พหุปาโป คาฬฺหปาโป วา, ตสฺมา น วุจฺจติ. ธาติเจลํว มกฺขิโตติ ยถา ธาติยา นิวตฺถกิลิฏฺวตฺถํ อุจฺจารปสฺสาวปํสุมสิกทฺทมาทีหิ มกฺขิตํ, เอวเมวํ ราคโทสาทีหิ มกฺขิโต. อรหามิ วตฺตเวติ อรหามิ วตฺตุํ. เทวตาย โจทนา กิร สุคตานุสิฏฺิสทิสา, น ตํ ลามกา หีนาธิมุตฺติกา มิจฺฉาปฏิปนฺนกปุคฺคลา ลภนฺติ. ตสฺมึ ปน อตฺตภาเว มคฺคผลานํ ภพฺพรูปา ปุคฺคลา ตํ ลภนฺติ, ตสฺมา เอวมาห.

สุจิคเวสิโนติ สุจีนิ สีลสมาธิาณานิ คเวสนฺตสฺส. อพฺภามตฺตํ วาติ วลาหกกูฏมตฺตํ วิย. ชานาสีติ สุทฺโธ อยนฺติ ชานาสิ. วชฺชาสีติ วเทยฺยาสิ. เนว ตํ อุปชีวามาติ เทวตา กิร จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ภิกฺขุ อตฺถิ เม หิตกามา เทวตา, สา มํ โจเทสฺสติ สาเรสฺสตีติ ปมาทมฺปิ อนุยุฺเชยฺย, นาสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิสฺสามี’’ติ. ตสฺมา เอวมาห. ตฺวเมวาติ ตฺวํเยว. ชาเนยฺยาติ ชาเนยฺยาสิ. เยนาติ เยน กมฺเมน สุคตึ คจฺเฉยฺยาสิ, ตํ กมฺมํ ตฺวํเยว ชาเนยฺยาสีติ. จุทฺทสมํ.

อิติ สารตฺถปฺปกาสินิยา

สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

วนสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.