📜
๑๑. สกฺกสํยุตฺตํ
๑. ปมวคฺโค
๑. สุวีรสุตฺตํ
๒๔๗. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, อสุรา เทเว อภิยํสุ. อถ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท สุวีรํ เทวปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘เอเต, ตาต สุวีร, อสุรา เทเว อภิยนฺติ. คจฺฉ, ตาต สุวีร, อสุเร ปจฺจุยฺยาหี’ติ. ‘เอวํ ภทฺทนฺตวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สุวีโร เทวปุตฺโต สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ปมาทํ อาปาเทสิ [อาหเรสิ (กตฺถจิ) นวงฺคุตฺตเร สีหนาทสุตฺเตปิ]. ทุติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท สุวีรํ เทวปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘เอเต, ตาต สุวีร, อสุรา เทเว อภิยนฺติ. คจฺฉ, ตาต สุวีร, อสุเร ปจฺจุยฺยาหี’ติ. ‘เอวํ ภทฺทนฺตวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สุวีโร เทวปุตฺโต สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ทุติยมฺปิ ปมาทํ อาปาเทสิ. ตติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท สุวีรํ เทวปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘เอเต, ตาต สุวีร, อสุรา เทเว อภิยนฺติ. คจฺฉ, ตาต สุวีร, อสุเร ปจฺจุยฺยาหี’ติ ¶ . ‘เอวํ ภทฺทนฺตวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สุวีโร เทวปุตฺโต สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตติยมฺปิ ปมาทํ อาปาเทสิ. อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท สุวีรํ เทวปุตฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘อนุฏฺหํ อวายามํ, สุขํ ยตฺราธิคจฺฉติ;
สุวีร ตตฺถ คจฺฉาหิ, มฺจ ตตฺเถว ปาปยา’’ติ.
‘‘อลสฺวสฺส ¶ [อลส’สฺส (สี. ปี.), อลสฺวายํ (สฺยา. กํ.)] อนุฏฺาตา, น จ กิจฺจานิ การเย;
สพฺพกามสมิทฺธสฺส, ตํ เม สกฺก วรํ ทิสา’’ติ.
‘‘ยตฺถาลโส ¶ อนุฏฺาตา, อจฺจนฺตํ สุขเมธติ;
สุวีร ตตฺถ คจฺฉาหิ, มฺจ ตตฺเถว ปาปยา’’ติ.
‘‘อกมฺมุนา [อกมฺมนา (สี. ปี.)] เทวเสฏฺ, สกฺก วินฺเทมุ ยํ สุขํ;
อโสกํ อนุปายาสํ, ตํ เม สกฺก วรํ ทิสา’’ติ.
‘‘สเจ อตฺถิ อกมฺเมน, โกจิ กฺวจิ น ชีวติ;
นิพฺพานสฺส หิ โส มคฺโค, สุวีร ตตฺถ คจฺฉาหิ;
มฺจ ตตฺเถว ปาปยา’’ติ.
‘‘โส หิ นาม, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท สกํ ปฺุผลํ อุปชีวมาโน เทวานํ ตาวตึสานํ อิสฺสริยาธิปจฺจํ รชฺชํ กาเรนฺโต อุฏฺานวีริยสฺส วณฺณวาที ภวิสฺสติ. อิธ โข ตํ, ภิกฺขเว, โสเภถ, ยํ ตุมฺเห เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิตา สมานา อุฏฺเหยฺยาถ ¶ ฆเฏยฺยาถ วายเมยฺยาถ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย, อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ.
๒. สุสีมสุตฺตํ
๒๔๘. สาวตฺถิยํ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, อสุรา เทเว อภิยํสุ. อถ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท สุสีมํ [สุสิมํ (สฺยา. กํ. ก.)] เทวปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘เอเต, ตาต สุสีม, อสุรา เทเว อภิยนฺติ. คจฺฉ, ตาต สุสีม, อสุเร ปจฺจุยฺยาหี’ติ. ‘เอวํ ภทฺทนฺตวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สุสีโม เทวปุตฺโต สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ปมาทํ อาปาเทสิ. ทุติยมฺปิ ¶ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก ¶ เทวานมินฺโท สุสีมํ เทวปุตฺตํ อามนฺเตสิ…เป… ทุติยมฺปิ ปมาทํ อาปาเทสิ. ตติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท สุสีมํ เทวปุตฺตํ อามนฺเตสิ…เป… ตติยมฺปิ ปมาทํ อาปาเทสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท สุสีมํ เทวปุตฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘อนุฏฺหํ ¶ อวายามํ, สุขํ ยตฺราธิคจฺฉติ;
สุสีม ตตฺถ คจฺฉาหิ, มฺจ ตตฺเถว ปาปยา’’ติ.
‘‘อลสฺวสฺส ¶ อนุฏฺาตา, น จ กิจฺจานิ การเย;
สพฺพกามสมิทฺธสฺส, ตํ เม สกฺก วรํ ทิสา’’ติ.
‘‘ยตฺถาลโส อนุฏฺาตา, อจฺจนฺตํ สุขเมธติ;
สุสีม ตตฺถ คจฺฉาหิ, มฺจ ตตฺเถว ปาปยา’’ติ.
‘‘อกมฺมุนา เทวเสฏฺ, สกฺก วินฺเทมุ ยํ สุขํ;
อโสกํ อนุปายาสํ, ตํ เม สกฺก วรํ ทิสา’’ติ.
‘‘สเจ อตฺถิ อกมฺเมน, โกจิ กฺวจิ น ชีวติ;
นิพฺพานสฺส หิ โส มคฺโค, สุสีม ตตฺถ คจฺฉาหิ;
มฺจ ตตฺเถว ปาปยา’’ติ.
‘‘โส หิ นาม, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท สกํ ปฺุผลํ อุปชีวมาโน เทวานํ ตาวตึสานํ อิสฺสริยาธิปจฺจํ รชฺชํ กาเรนฺโต อุฏฺานวีริยสฺส วณฺณวาที ภวิสฺสติ. อิธ โข ตํ, ภิกฺขเว, โสเภถ, ยํ ตุมฺเห เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิตา สมานา อุฏฺเหยฺยาถ ฆเฏยฺยาถ วายเมยฺยาถ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา, อนธิคตสฺส อธิคมาย, อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ.
๓. ธชคฺคสุตฺตํ
๒๔๙. สาวตฺถิยํ ¶ . ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ ¶ . ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, เทวาสุรสงฺคาโม สมุปพฺยูฬฺโห อโหสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ –
‘สเจ, มาริสา, เทวานํ สงฺคามคตานํ อุปฺปชฺเชยฺย ¶ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, มเมว ตสฺมึ สมเย ธชคฺคํ อุลฺโลเกยฺยาถ. มมฺหิ โว ธชคฺคํ อุลฺโลกยตํ ยํ ภวิสฺสติ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, โส ปหียิสฺสติ’.
‘โน เจ เม ธชคฺคํ อุลฺโลเกยฺยาถ, อถ ปชาปติสฺส เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุลฺโลเกยฺยาถ. ปชาปติสฺส หิ โว เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุลฺโลกยตํ ยํ ภวิสฺสติ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, โส ปหียิสฺสติ’.
‘โน ¶ เจ ปชาปติสฺส เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุลฺโลเกยฺยาถ, อถ วรุณสฺส เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุลฺโลเกยฺยาถ. วรุณสฺส หิ โว เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุลฺโลกยตํ ยํ ภวิสฺสติ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, โส ปหียิสฺสติ’.
‘โน เจ วรุณสฺส เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุลฺโลเกยฺยาถ, อถ อีสานสฺส เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุลฺโลเกยฺยาถ. อีสานสฺส หิ โว เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุลฺโลกยตํ ยํ ภวิสฺสติ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, โส ปหียิสฺสตี’’’ติ.
‘‘ตํ โข ปน, ภิกฺขเว, สกฺกสฺส วา เทวานมินฺทสฺส ธชคฺคํ อุลฺโลกยตํ, ปชาปติสฺส วา เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุลฺโลกยตํ, วรุณสฺส วา เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุลฺโลกยตํ, อีสานสฺส วา เทวราชสฺส ธชคฺคํ อุลฺโลกยตํ ยํ ¶ ภวิสฺสติ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, โส ปหีเยถาปิ โนปิ ปหีเยถ [โน ปหีเยถ (ก.)].
‘‘ตํ ¶ กิสฺส เหตุ? สกฺโก หิ, ภิกฺขเว, เทวานมินฺโท อวีตราโค อวีตโทโส อวีตโมโห ภีรุ ฉมฺภี อุตฺราสี ปลายีติ.
‘‘อหฺจ โข, ภิกฺขเว, เอวํ วทามิ – ‘สเจ ตุมฺหากํ, ภิกฺขเว, อรฺคตานํ วา รุกฺขมูลคตานํ วา สฺุาคารคตานํ วา อุปฺปชฺเชยฺย ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, มเมว ตสฺมึ สมเย อนุสฺสเรยฺยาถ – อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. มมฺหิ โว, ภิกฺขเว, อนุสฺสรตํ ยํ ภวิสฺสติ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, โส ปหียิสฺสติ.
‘‘โน ¶ เจ มํ อนุสฺสเรยฺยาถ, อถ ธมฺมํ อนุสฺสเรยฺยาถ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ. ธมฺมฺหิ โว, ภิกฺขเว, อนุสฺสรตํ ยํ ภวิสฺสติ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, โส ปหียิสฺสติ.
‘‘โน เจ ธมฺมํ อนุสฺสเรยฺยาถ, อถ สงฺฆํ อนุสฺสเรยฺยาถ – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ อุชุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ¶ ายปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ สามีจิปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ, อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ. สงฺฆฺหิ โว, ภิกฺขเว, อนุสฺสรตํ ¶ ยํ ภวิสฺสติ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา, โส ปหียิสฺสติ.
‘‘ตํ กิสฺส เหตุ? ตถาคโต หิ, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วีตราโค วีตโทโส วีตโมโห อภีรุ อจฺฉมฺภี อนุตฺราสี อปลายี’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘อรฺเ รุกฺขมูเล วา, สฺุาคาเรว ภิกฺขโว;
อนุสฺสเรถ [อนุสฺสเรยฺยาถ (ก.) ปทสิทฺธิ ปน จินฺเตตพฺพา] สมฺพุทฺธํ, ภยํ ตุมฺหาก โน สิยา.
‘‘โน ¶ เจ พุทฺธํ สเรยฺยาถ, โลกเชฏฺํ นราสภํ;
อถ ธมฺมํ สเรยฺยาถ, นิยฺยานิกํ สุเทสิตํ.
‘‘โน เจ ธมฺมํ สเรยฺยาถ, นิยฺยานิกํ สุเทสิตํ;
อถ สงฺฆํ สเรยฺยาถ, ปฺุกฺเขตฺตํ อนุตฺตรํ.
‘‘เอวํ พุทฺธํ สรนฺตานํ, ธมฺมํ สงฺฆฺจ ภิกฺขโว;
ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา, โลมหํโส น เหสฺสตี’’ติ.
๔. เวปจิตฺติสุตฺตํ
๒๕๐. สาวตฺถินิทานํ. ‘‘ภูตปุพฺพํ ¶ , ภิกฺขเว, เทวาสุรสงฺคาโม สมุปพฺยูฬฺโห อโหสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท อสุเร อามนฺเตสิ – ‘สเจ, มาริสา, เทวานํ อสุรสงฺคาเม สมุปพฺยูฬฺเห อสุรา ¶ ชิเนยฺยุํ เทวา ปราชิเนยฺยุํ [ปราเชยฺยุํ (สี. ปี.)], เยน นํ สกฺกํ เทวานมินฺทํ กณฺปฺจเมหิ พนฺธเนหิ พนฺธิตฺวา มม สนฺติเก อาเนยฺยาถ อสุรปุร’นฺติ. สกฺโกปิ โข, ภิกฺขเว, เทวานมินฺโท เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ – ‘สเจ, มาริสา, เทวานํ อสุรสงฺคาเม สมุปพฺยูฬฺเห เทวา ชิเนยฺยุํ อสุรา ปราชิเนยฺยุํ, เยน นํ เวปจิตฺตึ อสุรินฺทํ กณฺปฺจเมหิ พนฺธเนหิ พนฺธิตฺวา มม สนฺติเก อาเนยฺยาถ สุธมฺมสภ’’’นฺติ. ตสฺมึ โข ปน, ภิกฺขเว, สงฺคาเม เทวา ชินึสุ ¶ , อสุรา ปราชินึสุ [ปราชึสุ (สี. ปี.)]. อถ โข, ภิกฺขเว, เทวา ตาวตึสา เวปจิตฺตึ อสุรินฺทํ กณฺปฺจเมหิ พนฺธเนหิ พนฺธิตฺวา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส สนฺติเก อาเนสุํ สุธมฺมสภํ. ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท กณฺปฺจเมหิ พนฺธเนหิ พทฺโธ สกฺกํ เทวานมินฺทํ สุธมฺมสภํ ปวิสนฺตฺจ นิกฺขมนฺตฺจ อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อกฺโกสติ ปริภาสติ. อถ โข, ภิกฺขเว, มาตลิ สงฺคาหโก สกฺกํ เทวานมินฺทํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –
‘‘ภยา นุ มฆวา สกฺก, ทุพฺพลฺยา โน ติติกฺขสิ;
สุณนฺโต ผรุสํ วาจํ, สมฺมุขา เวปจิตฺติโน’’ติ.
‘‘นาหํ ¶ ภยา น ทุพฺพลฺยา, ขมามิ เวปจิตฺติโน;
กถฺหิ มาทิโส วิฺู, พาเลน ปฏิสํยุเช’’ติ.
‘‘ภิยฺโย พาลา ปภิชฺเชยฺยุํ, โน จสฺส ปฏิเสธโก;
ตสฺมา ภุเสน ทณฺเฑน, ธีโร พาลํ นิเสธเย’’ติ.
‘‘เอตเทว ¶ อหํ มฺเ, พาลสฺส ปฏิเสธนํ;
ปรํ สงฺกุปิตํ ตฺวา, โย สโต อุปสมฺมตี’’ติ.
‘‘เอตเทว ติติกฺขาย, วชฺชํ ปสฺสามิ วาสว;
ยทา นํ มฺติ พาโล, ภยา มฺยายํ ติติกฺขติ;
อชฺฌารุหติ ทุมฺเมโธ, โคว ภิยฺโย ปลายิน’’นฺติ.
‘‘กามํ ¶ มฺตุ วา มา วา, ภยา มฺยายํ ติติกฺขติ;
สทตฺถปรมา อตฺถา, ขนฺตฺยา ภิยฺโย น วิชฺชติ.
‘‘โย หเว พลวา สนฺโต, ทุพฺพลสฺส ติติกฺขติ;
ตมาหุ ปรมํ ขนฺตึ, นิจฺจํ ขมติ ทุพฺพโล.
‘‘อพลํ ตํ พลํ อาหุ, ยสฺส พาลพลํ พลํ;
พลสฺส ธมฺมคุตฺตสฺส, ปฏิวตฺตา น วิชฺชติ.
‘‘ตสฺเสว เตน ปาปิโย, โย กุทฺธํ ปฏิกุชฺฌติ;
กุทฺธํ อปฺปฏิกุชฺฌนฺโต, สงฺคามํ เชติ ทุชฺชยํ.
‘‘อุภินฺนมตฺถํ ¶ จรติ, อตฺตโน จ ปรสฺส จ;
ปรํ สงฺกุปิตํ ตฺวา, โย สโต อุปสมฺมติ.
‘‘อุภินฺนํ ¶ ติกิจฺฉนฺตานํ, อตฺตโน จ ปรสฺส จ;
ชนา มฺนฺติ พาโลติ, เย ธมฺมสฺส อโกวิทา’’ติ.
‘‘โส หิ นาม, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท สกํ ปฺุผลํ อุปชีวมาโน เทวานํ ตาวตึสานํ อิสฺสริยาธิปจฺจํ รชฺชํ กาเรนฺโต ขนฺติโสรจฺจสฺส วณฺณวาที ภวิสฺสติ. อิธ โข ตํ, ภิกฺขเว, โสเภถ ยํ ¶ ตุมฺเห เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิตา สมานา ขมา จ ภเวยฺยาถ โสรตา จา’’ติ.
๕. สุภาสิตชยสุตฺตํ
๒๕๑. สาวตฺถินิทานํ. ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, เทวาสุรสงฺคาโม สมุปพฺยูฬฺโห อโหสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘โหตุ, เทวานมินฺท, สุภาสิเตน ชโย’ติ. ‘โหตุ, เวปจิตฺติ, สุภาสิเตน ชโย’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, เทวา จ อสุรา จ ปาริสชฺเช เปสุํ – ‘อิเม โน สุภาสิตทุพฺภาสิตํ อาชานิสฺสนฺตี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺตึ อสุรินฺโท สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘ภณ, เทวานมินฺท, คาถ’นฺติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท เวปจิตฺติ อสุรินฺทํ เอตทโวจ – ‘ตุมฺเห ขฺเวตฺถ, เวปจิตฺติ, ปุพฺพเทวา. ภณ, เวปจิตฺติ, คาถ’นฺติ. เอวํ ¶ วุตฺเต, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘ภิยฺโย พาลา ปภิชฺเชยฺยุํ, โน จสฺส ปฏิเสธโก;
ตสฺมา ภุเสน ทณฺเฑน, ธีโร พาลํ นิเสธเย’’ติ.
‘‘ภาสิตาย โข ปน, ภิกฺขเว, เวปจิตฺตินา อสุรินฺเทน คาถาย อสุรา อนุโมทึสุ, เทวา ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘ภณ, เทวานมินฺท, คาถ’นฺติ. เอวํ ¶ วุตฺเต, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘เอตเทว ¶ อหํ มฺเ, พาลสฺส ปฏิเสธนํ;
ปรํ สงฺกุปิตํ ตฺวา, โย สโต อุปสมฺมตี’’ติ.
‘‘ภาสิตาย ¶ โข ปน, ภิกฺขเว, สกฺเกน เทวานมินฺเทน คาถาย, เทวา อนุโมทึสุ, อสุรา ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท เวปจิตฺตึ อสุรินฺทํ เอตทโวจ – ‘ภณ, เวปจิตฺติ, คาถ’นฺติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘เอตเทว ติติกฺขาย, วชฺชํ ปสฺสามิ วาสว;
ยทา นํ มฺติ พาโล, ภยา มฺยายํ ติติกฺขติ;
อชฺฌารุหติ ทุมฺเมโธ, โคว ภิยฺโย ปลายิน’’นฺติ.
‘‘ภาสิตาย โข ปน, ภิกฺขเว, เวปจิตฺตินา อสุรินฺเทน คาถาย อสุรา อนุโมทึสุ, เทวา ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘ภณ, เทวานมินฺท, คาถ’นฺติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท อิมา คาถาโย อภาสิ –
‘‘กามํ มฺตุ วา มา วา, ภยา มฺยายํ ติติกฺขติ;
สทตฺถปรมา อตฺถา, ขนฺตฺยา ภิยฺโย น วิชฺชติ.
‘‘โย หเว พลวา สนฺโต, ทุพฺพลสฺส ติติกฺขติ;
ตมาหุ ปรมํ ขนฺตึ, นิจฺจํ ขมติ ทุพฺพโล.
‘‘อพลํ ¶ ตํ พลํ อาหุ, ยสฺส พาลพลํ พลํ;
พลสฺส ธมฺมคุตฺตสฺส, ปฏิวตฺตา น วิชฺชติ.
‘‘ตสฺเสว เตน ปาปิโย, โย กุทฺธํ ปฏิกุชฺฌติ;
กุทฺธํ อปฺปฏิกุชฺฌนฺโต, สงฺคามํ เชติ ทุชฺชยํ.
‘‘อุภินฺนมตฺถํ ¶ จรติ, อตฺตโน จ ปรสฺส จ;
ปรํ สงฺกุปิตํ ตฺวา, โย สโต อุปสมฺมติ.
‘‘อุภินฺนํ ¶ ติกิจฺฉนฺตานํ, อตฺตโน จ ปรสฺส จ;
ชนา มฺนฺติ พาโลติ, เย ธมฺมสฺส อโกวิทา’’ติ.
‘‘ภาสิตาสุ โข ปน, ภิกฺขเว, สกฺเกน เทวานมินฺเทน คาถาสุ, เทวา อนุโมทึสุ, อสุรา ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข, ภิกฺขเว, เทวานฺจ อสุรานฺจ ปาริสชฺชา เอตทโวจุํ – ‘ภาสิตา โข เวปจิตฺตินา อสุรินฺเทน คาถาโย. ตา จ โข สทณฺฑาวจรา สสตฺถาวจรา, อิติ ภณฺฑนํ อิติ ¶ วิคฺคโห อิติ กลโห. ภาสิตา โข [ภาสิตา โข ปน (สี.)] สกฺเกน เทวานมินฺเทน คาถาโย. ตา จ โข อทณฺฑาวจรา อสตฺถาวจรา, อิติ อภณฺฑนํ อิติ อวิคฺคโห อิติ อกลโห. สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส สุภาสิเตน ชโย’ติ. อิติ โข, ภิกฺขเว สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส สุภาสิเตน ชโย อโหสี’’ติ.
๖. กุลาวกสุตฺตํ
๒๕๒. สาวตฺถิยํ. ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, เทวาสุรสงฺคาโม สมุปพฺยูฬฺโห อโหสิ. ตสฺมึ โข ปน, ภิกฺขเว, สงฺคาเม อสุรา ชินึสุ ¶ , เทวา ปราชินึสุ. ปราชิตา จ โข, ภิกฺขเว, เทวา อปายํสฺเวว อุตฺตเรนมุขา, อภิยํสฺเวว เน อสุรา. อถ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท มาตลิ สงฺคาหกํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘กุลาวกา มาตลิ สิมฺพลิสฺมึ,
อีสามุเขน ปริวชฺชยสฺสุ;
กามํ จชาม อสุเรสุ ปาณํ,
มายิเม ทิชา วิกุลาวกา [วิกุลาวา (สฺยา. กํ. ก.)] อเหสุ’’นฺติ.
‘‘‘เอวํ ภทฺทนฺตวา’ติ โข, ภิกฺขเว, มาตลิ สงฺคาหโก สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา สหสฺสยุตฺตํ อาชฺรถํ ปจฺจุทาวตฺเตสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, อสุรานํ เอตทโหสิ ¶ – ‘ปจฺจุทาวตฺโต โข ทานิ สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส สหสฺสยุตฺโต อาชฺรโถ ¶ . ทุติยมฺปิ โข เทวา อสุเรหิ สงฺคาเมสฺสนฺตีติ ภีตา อสุรปุรเมว ปาวิสึสุ. อิติ โข, ภิกฺขเว, สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ธมฺเมน ชโย อโหสี’’’ติ.
๗. นทุพฺภิยสุตฺตํ
๒๕๓. สาวตฺถิยํ. ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘โยปิ เม อสฺส สุปจฺจตฺถิโก ตสฺสปาหํ น ทุพฺเภยฺย’นฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย ¶ เยน สกฺโก เทวานมินฺโท เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา ¶ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท เวปจิตฺตึ อสุรินฺทํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน เวปจิตฺตึ อสุรินฺทํ เอตทโวจ – ‘ติฏฺ, เวปจิตฺติ, คหิโตสี’’’ติ.
‘‘ยเทว เต, มาริส, ปุพฺเพ จิตฺตํ, ตเทว ตฺวํ มา ปชหาสี’’ติ [ตเทว ตฺวํ มาริส ปหาสีติ (สี. สฺยา. กํ.)].
‘‘สปสฺสุ จ เม, เวปจิตฺติ, อทุพฺภายา’’ติ [อทฺรุพฺภาย (ก.)].
‘‘ยํ มุสา ภณโต ปาปํ, ยํ ปาปํ อริยูปวาทิโน;
มิตฺตทฺทุโน จ ยํ ปาปํ, ยํ ปาปํ อกตฺุโน;
ตเมว ปาปํ ผุสตุ [ผุสติ (สี. ปี.)], โย เต ทุพฺเภ สุชมฺปตี’’ติ.
๘. เวโรจนอสุรินฺทสุตฺตํ
๒๕๔. สาวตฺถิยํ เชตวเน. เตน โข ปน สมเยน ภควา ทิวาวิหารคโต โหติ ปฏิสลฺลีโน. อถ โข สกฺโก จ เทวานมินฺโท เวโรจโน จ อสุรินฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ปจฺเจกํ ทฺวารพาหํ นิสฺสาย อฏฺํสุ. อถ โข เวโรจโน อสุรินฺโท ภควโต สนฺติเก อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘วายเมเถว ¶ ปุริโส, ยาว อตฺถสฺส นิปฺผทา;
นิปฺผนฺนโสภโน [โสภิโน (สี.), โสภโณ (ปี. ก.)] อตฺโถ [อตฺถา (สี.)], เวโรจนวโจ อิท’’นฺติ.
‘‘วายเมเถว ¶ ปุริโส, ยาว อตฺถสฺส นิปฺผทา;
นิปฺผนฺนโสภโน อตฺโถ [นิปฺผนฺนโสภิโน อตฺถา (สี. สฺยา. กํ.)], ขนฺตฺยา ภิยฺโย น วิชฺชตี’’ติ.
‘‘สพฺเพ ¶ สตฺตา อตฺถชาตา, ตตฺถ ตตฺถ ยถารหํ;
สํโยคปรมา ตฺเวว, สมฺโภคา สพฺพปาณินํ;
นิปฺผนฺนโสภโน อตฺโถ, เวโรจนวโจ อิท’’นฺติ.
‘‘สพฺเพ สตฺตา อตฺถชาตา, ตตฺถ ตตฺถ ยถารหํ;
สํโยคปรมา ตฺเวว, สมฺโภคา สพฺพปาณินํ;
นิปฺผนฺนโสภโน อตฺโถ, ขนฺตฺยา ภิยฺโย น วิชฺชตี’’ติ.
๙. อรฺายตนอิสิสุตฺตํ
๒๕๕. สาวตฺถิยํ ¶ . ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, สมฺพหุลา อิสโย สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา อรฺายตเน ปณฺณกุฏีสุ สมฺมนฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก จ เทวานมินฺโท เวปจิตฺติ จ อสุรินฺโท เยน เต อิสโย สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา เตนุปสงฺกมึสุ. อถ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท ปฏลิโย [อฏลิโย (สี. สฺยา. กํ. ปี.), อาฏลิโย (ก.) ม. นิ. ๒.๔๑๐] อุปาหนา อาโรหิตฺวา ขคฺคํ โอลคฺเคตฺวา ฉตฺเตน ธาริยมาเนน อคฺคทฺวาเรน อสฺสมํ ปวิสิตฺวา เต อิสโย สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม อปพฺยามโต กริตฺวา อติกฺกมิ. อถ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท ปฏลิโย อุปาหนา โอโรหิตฺวา ขคฺคํ อฺเสํ ทตฺวา ฉตฺตํ อปนาเมตฺวา ทฺวาเรเนว อสฺสมํ ปวิสิตฺวา เต อิสโย สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม อนุวาตํ ปฺชลิโก นมสฺสมาโน อฏฺาสิ’’. อถ โข, ภิกฺขเว, เต อิสโย สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา สกฺกํ เทวานมินฺทํ คาถาย อชฺฌภาสึสุ –
‘‘คนฺโธ ¶ อิสีนํ จิรทิกฺขิตานํ,
กายา จุโต คจฺฉติ มาลุเตน;
อิโต ¶ ปฏิกฺกมฺม สหสฺสเนตฺต,
คนฺโธ อิสีนํ อสุจิ เทวราชา’’ติ.
‘‘คนฺโธ อิสีนํ จิรทิกฺขิตานํ,
กายา จุโต คจฺฉตุ [คจฺฉติ (สี. สฺยา. กํ.)] มาลุเตน,
สุจิตฺรปุปฺผํ สิรสฺมึว มาลํ;
คนฺธํ ¶ เอตํ ปฏิกงฺขาม ภนฺเต,
น เหตฺถ เทวา ปฏิกูลสฺิโน’’ติ.
๑๐. สมุทฺทกสุตฺตํ
๒๕๖. สาวตฺถิยํ. ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, สมฺพหุลา อิสโย สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา สมุทฺทตีเร ปณฺณกุฏีสุ สมฺมนฺติ. เตน โข ปน สมเยน เทวาสุรสงฺคาโม สมุปพฺยูฬฺโห อโหสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, เตสํ อิสีนํ สีลวนฺตานํ กลฺยาณธมฺมานํ เอตทโหสิ – ‘ธมฺมิกา โข เทวา, อธมฺมิกา อสุรา. สิยาปิ โน อสุรโต ภยํ. ยํนูน มยํ สมฺพรํ อสุรินฺทํ อุปสงฺกมิตฺวา ¶ อภยทกฺขิณํ ยาเจยฺยามา’’’ติ. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, เต อิสโย สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา – เสยฺยถาปิ ¶ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย เอวเมว – สมุทฺทตีเร ปณฺณกุฏีสุ อนฺตรหิตา สมฺพรสฺส อสุรินฺทสฺส สมฺมุเข ปาตุรเหสุํ. อถ โข, ภิกฺขเว, เต อิสโย สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา สมฺพรํ อสุรินฺทํ คาถาย อชฺฌภาสึสุ –
‘‘อิสโย สมฺพรํ ปตฺตา, ยาจนฺติ อภยทกฺขิณํ;
กามํกโร หิ เต ทาตุํ, ภยสฺส อภยสฺส วา’’ติ.
‘‘อิสีนํ อภยํ นตฺถิ, ทุฏฺานํ สกฺกเสวินํ;
อภยํ ยาจมานานํ, ภยเมว ททามิ โว’’ติ.
‘‘อภยํ ¶ ยาจมานานํ, ภยเมว ททาสิ โน;
ปฏิคฺคณฺหาม เต เอตํ, อกฺขยํ โหตุ เต ภยํ.
‘‘ยาทิสํ วปเต พีชํ, ตาทิสํ หรเต ผลํ;
กลฺยาณการี กลฺยาณํ, ปาปการี จ ปาปกํ;
ปวุตฺตํ ตาต เต พีชํ, ผลํ ปจฺจนุโภสฺสสี’’ติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, เต อิสโย สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา สมฺพรํ อสุรินฺทํ อภิสปิตฺวา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย เอวเมว – สมฺพรสฺส อสุรินฺทสฺส สมฺมุเข อนฺตรหิตา สมุทฺทตีเร ปณฺณกุฏีสุ ปาตุรเหสุํ. อถ ¶ ¶ โข, ภิกฺขเว, สมฺพโร อสุรินฺโท เตหิ อิสีหิ สีลวนฺเตหิ กลฺยาณธมฺเมหิ อภิสปิโต รตฺติยา สุทํ ติกฺขตฺตุํ อุพฺพิชฺชี’’ติ.
ปโม วคฺโค.
ตสฺสุทฺทานํ –
สุวีรํ สุสีมฺเจว, ธชคฺคํ เวปจิตฺติโน;
สุภาสิตํ ชยฺเจว, กุลาวกํ นทุพฺภิยํ;
เวโรจน อสุรินฺโท, อิสโย อรฺกฺเจว;
อิสโย จ สมุทฺทกาติ.
๒. ทุติยวคฺโค
๑. วตปทสุตฺตํ
๒๕๗. สาวตฺถิยํ ¶ ¶ . ‘‘สกฺกสฺส, ภิกฺขเว, เทวานมินฺทสฺส ปุพฺเพ มนุสฺสภูตสฺส สตฺต วตปทานิ ¶ [วตฺตปทานิ (ก.)] สมตฺตานิ สมาทินฺนานิ อเหสุํ, เยสํ สมาทินฺนตฺตา สกฺโก สกฺกตฺตํ อชฺฌคา. กตมานิ สตฺต วตปทานิ? ยาวชีวํ มาตาเปตฺติภโร อสฺสํ, ยาวชีวํ กุเล เชฏฺาปจายี อสฺสํ, ยาวชีวํ สณฺหวาโจ อสฺสํ, ยาวชีวํ อปิสุณวาโจ อสฺสํ, ยาวชีวํ วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวเสยฺยํ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต, ยาวชีวํ สจฺจวาโจ อสฺสํ, ยาวชีวํ อกฺโกธโน อสฺสํ – สเจปิ เม โกโธ อุปฺปชฺเชยฺย, ขิปฺปเมว นํ ปฏิวิเนยฺย’’นฺติ. ‘‘สกฺกสฺส, ภิกฺขเว, เทวานมินฺทสฺส ปุพฺเพ มนุสฺสภูตสฺส อิมานิ สตฺต วตปทานิ สมตฺตานิ สมาทินฺนานิ อเหสุํ, เยสํ สมาทินฺนตฺตา สกฺโก สกฺกตฺตํ อชฺฌคา’’ติ.
‘‘มาตาเปตฺติภรํ ¶ ชนฺตุํ, กุเล เชฏฺาปจายินํ;
สณฺหํ สขิลสมฺภาสํ, เปสุเณยฺยปฺปหายินํ.
‘‘มจฺเฉรวินเย ยุตฺตํ, สจฺจํ โกธาภิภุํ นรํ;
ตํ เว เทวา ตาวตึสา, อาหุ สปฺปุริโส อิตี’’ติ.
๒. สกฺกนามสุตฺตํ
๒๕๘. สาวตฺถิยํ ¶ เชตวเน. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สกฺโก, ภิกฺขเว, เทวานมินฺโท ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน มโฆ นาม มาณโว อโหสิ, ตสฺมา มฆวาติ วุจฺจติ.
‘‘สกฺโก, ภิกฺขเว, เทวานมินฺโท ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน ปุเร [ปุเร ปุเร (สี. ปี.)] ทานํ อทาสิ, ตสฺมา ปุรินฺทโทติ วุจฺจติ.
‘‘สกฺโก, ภิกฺขเว, เทวานมินฺโท ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน สกฺกจฺจํ ทานํ อทาสิ, ตสฺมา สกฺโกติ วุจฺจติ.
‘‘สกฺโก ¶ ¶ , ภิกฺขเว, เทวานมินฺโท ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน อาวสถํ อทาสิ, ตสฺมา วาสโวติ วุจฺจติ.
‘‘สกฺโก, ภิกฺขเว, เทวานมินฺโท สหสฺสมฺปิ อตฺถานํ มุหุตฺเตน จินฺเตติ, ตสฺมา สหสฺสกฺโขติ วุจฺจติ.
‘‘สกฺกสฺส, ภิกฺขเว, เทวานมินฺทสฺส สุชา นาม อสุรกฺา ปชาปติ, ตสฺมา สุชมฺปตีติ วุจฺจติ.
‘‘สกฺโก, ภิกฺขเว, เทวานมินฺโท เทวานํ ตาวตึสานํ อิสฺสริยาธิปจฺจํ รชฺชํ กาเรติ, ตสฺมา เทวานมินฺโทติ วุจฺจติ.
‘‘สกฺกสฺส ¶ , ภิกฺขเว เทวานมินฺทสฺส ปุพฺเพ มนุสฺสภูตสฺส สตฺต วตปทานิ สมตฺตานิ สมาทินฺนานิ อเหสุํ, เยสํ สมาทินฺนตฺตา สกฺโก สกฺกตฺตํ อชฺฌคา. กตมานิ สตฺต วตปทานิ? ยาวชีวํ มาตาเปตฺติภโร อสฺสํ, ยาวชีวํ กุเล เชฏฺาปจายี อสฺสํ, ยาวชีวํ สณฺหวาโจ อสฺสํ, ยาวชีวํ อปิสุณวาโจ อสฺสํ, ยาวชีวํ วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวเสยฺยํ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต, ยาวชีวํ สจฺจวาโจ อสฺสํ, ยาวชีวํ อกฺโกธโน อสฺสํ – สเจปิ เม โกโธ อุปฺปชฺเชยฺย, ขิปฺปเมว นํ ปฏิวิเนยฺย’’นฺติ. ‘‘สกฺกสฺส, ภิกฺขเว, เทวานมินฺทสฺส ปุพฺเพ มนุสฺสภูตสฺส อิมานิ สตฺต วตปทานิ สมตฺตานิ สมาทินฺนานิ อเหสุํ, เยสํ สมาทินฺนตฺตา สกฺโก สกฺกตฺตํ อชฺฌคา’’ติ.
‘‘มาตาเปตฺติภรํ ¶ ชนฺตุํ, กุเล เชฏฺาปจายินํ;
สณฺหํ สขิลสมฺภาสํ, เปสุเณยฺยปฺปหายินํ.
‘‘มจฺเฉรวินเย ยุตฺตํ, สจฺจํ โกธาภิภุํ นรํ;
ตํ เว เทวา ตาวตึสา, อาหุ สปฺปุริโส อิตี’’ติ.
๓. มหาลิสุตฺตํ
๒๕๙. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ โข มหาลิ ลิจฺฉวี เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ ¶ นิสินฺโน โข มหาลิ ลิจฺฉวี ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘ทิฏฺโ โข ¶ , ภนฺเต, ภควตา สกฺโก เทวานมินฺโท’’ติ?
‘‘ทิฏฺโ โข เม, มหาลิ, สกฺโก เทวานมินฺโท’’ติ.
‘‘โส หิ นูน, ภนฺเต, สกฺกปติรูปโก ภวิสฺสติ. ทุทฺทโส หิ, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท’’ติ.
‘‘สกฺกฺจ ขฺวาหํ, มหาลิ, ปชานามิ สกฺกกรเณ จ ธมฺเม, เยสํ ธมฺมานํ สมาทินฺนตฺตา สกฺโก สกฺกตฺตํ อชฺฌคา, ตฺจ ปชานามิ.
‘‘สกฺโก, มหาลิ, เทวานมินฺโท ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน มโฆ นาม มาณโว อโหสิ, ตสฺมา มฆวาติ วุจฺจติ.
‘‘สกฺโก, มหาลิ, เทวานมินฺโท ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน สกฺกจฺจํ ทานํ อทาสิ, ตสฺมา สกฺโกติ วุจฺจติ.
‘‘สกฺโก, มหาลิ, เทวานมินฺโท ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน ปุเร ทานํ อทาสิ, ตสฺมา ปุรินฺทโทติ วุจฺจติ.
‘‘สกฺโก, มหาลิ, เทวานมินฺโท ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน อาวสถํ อทาสิ, ตสฺมา วาสโวติ วุจฺจติ.
‘‘สกฺโก, มหาลิ, เทวานมินฺโท สหสฺสมฺปิ อตฺถานํ มุหุตฺเตน จินฺเตติ, ตสฺมา สหสฺสกฺโขติ วุจฺจติ.
‘‘สกฺกสฺส ¶ , มหาลิ, เทวานมินฺทสฺส สุชา นาม อสุรกฺา ปชาปติ, ตสฺมา สุชมฺปตีติ วุจฺจติ.
‘‘สกฺโก, มหาลิ, เทวานมินฺโท เทวานํ ตาวตึสานํ อิสฺสริยาธิปจฺจํ ¶ รชฺชํ กาเรติ, ตสฺมา เทวานมินฺโทติ วุจฺจติ.
‘‘สกฺกสฺส, มหาลิ, เทวานมินฺทสฺส ปุพฺเพ มนุสฺสภูตสฺส สตฺต ¶ วตปทานิ สมตฺตานิ สมาทินฺนานิ อเหสุํ, เยสํ สมาทินฺนตฺตา สกฺโก สกฺกตฺตํ อชฺฌคา. กตมานิ สตฺต วตปทานิ? ยาวชีวํ มาตาเปตฺติภโร อสฺสํ, ยาวชีวํ กุเล เชฏฺาปจายี อสฺสํ, ยาวชีวํ สณฺหวาโจ อสฺสํ, ยาวชีวํ อปิสุณวาโจ อสฺสํ, ยาวชีวํ วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวเสยฺยํ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต, ยาวชีวํ สจฺจวาโจ อสฺสํ, ยาวชีวํ อกฺโกธโน อสฺสํ – สเจปิ เม โกโธ อุปฺปเชยฺย, ขิปฺปเมว นํ ปฏิวิเนยฺย’’นฺติ. ‘‘สกฺกสฺส, มหาลิ, เทวานมินฺทสฺส ปุพฺเพ มนุสฺสภูตสฺส อิมานิ ¶ สตฺต วตปทานิ สมตฺตานิ สมาทินฺนานิ อเหสุํ, เยสํ สมาทินฺนตฺตา สกฺโก สกฺกตฺตํ อชฺฌคา’’ติ.
‘‘มาตาเปตฺติภรํ ชนฺตุํ, กุเล เชฏฺาปจายินํ;
สณฺหํ สขิลสมฺภาสํ, เปสุเณยฺยปฺปหายินํ.
‘‘มจฺเฉรวินเย ยุตฺตํ, สจฺจํ โกธาภิภุํ นรํ;
ตํ เว เทวา ตาวตึสา, อาหุ สปฺปุริโส อิตี’’ติ.
๔. ทลิทฺทสุตฺตํ
๒๖๐. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, อฺตโร ปุริโส อิมสฺมึเยว ¶ ราชคเห มนุสฺสทลิทฺโท [มนุสฺสทฬิทฺโท (สี. สฺยา. กํ.)] อโหสิ มนุสฺสกปโณ ¶ มนุสฺสวราโก. โส ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย สทฺธํ สมาทิยิ, สีลํ สมาทิยิ, สุตํ สมาทิยิ, จาคํ สมาทิยิ, ปฺํ สมาทิยิ. โส ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย สทฺธํ สมาทิยิตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา สุตํ สมาทิยิตฺวา จาคํ สมาทิยิตฺวา ปฺํ สมาทิยิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ ¶ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิ เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ. โส อฺเ เทเว อติโรจติ วณฺเณน เจว ยสสา จ. ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, เทวา ตาวตึสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ! อยฺหิ เทวปุตฺโต ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน มนุสฺสทลิทฺโท อโหสิ มนุสฺสกปโณ มนุสฺสวราโก; โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺโน เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ. โส อฺเ เทเว อติโรจติ วณฺเณน เจว ยสสา จา’’’ติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ – ‘มา โข ตุมฺเห, มาริสา, เอตสฺส เทวปุตฺตสฺส อุชฺฌายิตฺถ. เอโส โข, มาริสา, เทวปุตฺโต ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน ตถาคตปฺปเวทิเต ¶ ธมฺมวินเย สทฺธํ สมาทิยิ, สีลํ สมาทิยิ, สุตํ สมาทิยิ, จาคํ สมาทิยิ, ปฺํ สมาทิยิ. โส ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย สทฺธํ สมาทิยิตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา สุตํ สมาทิยิตฺวา จาคํ สมาทิยิตฺวา ปฺํ สมาทิยิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺโน เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ ¶ . โส อฺเ เทเว อติโรจติ วณฺเณน เจว ยสสา จา’’’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท เทเว ตาวตึเส อนุนยมาโน ตายํ เวลายํ อิมา คาถาโย อภาสิ –
‘‘ยสฺส สทฺธา ตถาคเต, อจลา สุปฺปติฏฺิตา;
สีลฺจ ยสฺส กลฺยาณํ, อริยกนฺตํ ปสํสิตํ.
‘‘สงฺเฆ ปสาโท ยสฺสตฺถิ, อุชุภูตฺจ ทสฺสนํ;
อทลิทฺโทติ ตํ อาหุ, อโมฆํ ตสฺส ชีวิตํ.
‘‘ตสฺมา สทฺธฺจ สีลฺจ, ปสาทํ ธมฺมทสฺสนํ;
อนุยฺุเชถ เมธาวี, สรํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ.
๕. รามเณยฺยกสุตฺตํ
๒๖๑. สาวตฺถิยํ ¶ เชตวเน. อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข สกฺโก เทวานมินฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข, ภนฺเต, ภูมิรามเณยฺยก’’นฺติ?
‘‘อารามเจตฺยา ¶ วนเจตฺยา, โปกฺขรฺโ สุนิมฺมิตา;
มนุสฺสรามเณยฺยสฺส, กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสึ.
‘‘คาเม วา ยทิ วารฺเ, นินฺเน วา ยทิ วา ถเล;
ยตฺถ อรหนฺโต วิหรนฺติ, ตํ ภูมิรามเณยฺยก’’นฺติ.
๖. ยชมานสุตฺตํ
๒๖๒. เอกํ ¶ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ ¶ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข สกฺโก เทวานมินฺโท ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘ยชมานานํ มนุสฺสานํ, ปฺุเปกฺขาน ปาณินํ;
กโรตํ โอปธิกํ ปฺุํ, กตฺถ ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ.
‘‘จตฺตาโร จ ปฏิปนฺนา, จตฺตาโร จ ผเล ิตา;
เอส สงฺโฆ อุชุภูโต, ปฺาสีลสมาหิโต.
‘‘ยชมานานํ มนุสฺสานํ, ปฺุเปกฺขาน ปาณินํ;
กโรตํ โอปธิกํ ปฺุํ, สงฺเฆ ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ.
๗. พุทฺธวนฺทนาสุตฺตํ
๒๖๓. สาวตฺถิยํ ¶ เชตวเน. เตน โข ปน สมเยน ภควา ทิวาวิหารคโต โหติ ปฏิสลฺลีโน. อถ โข สกฺโก จ เทวานมินฺโท พฺรหฺมา จ สหมฺปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ปจฺเจกํ ทฺวารพาหํ นิสฺสาย อฏฺํสุ. อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต สนฺติเก อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘อุฏฺเหิ ¶ วีร วิชิตสงฺคาม,
ปนฺนภาร อนณ วิจร โลเก;
จิตฺตฺจ เต สุวิมุตฺตํ,
จนฺโท ยถา ปนฺนรสาย รตฺติ’’นฺติ.
‘‘น ¶ โข, เทวานมินฺท, ตถาคตา เอวํ วนฺทิตพฺพา. เอวฺจ โข, เทวานมินฺท, ตถาคตา วนฺทิตพฺพา –
‘‘อุฏฺเหิ วีร วิชิตสงฺคาม,
สตฺถวาห อนณ วิจร โลเก;
เทสสฺสุ ภควา ธมฺมํ,
อฺาตาโร ภวิสฺสนฺตี’’ติ.
๘. คหฏฺวนฺทนาสุตฺตํ
๒๖๔. สาวตฺถิยํ. ตตฺร…เป… เอตทโวจ – ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท มาตลึ สงฺคาหกํ อามนฺเตสิ – ‘โยเชหิ, สมฺม มาตลิ, สหสฺสยุตฺตํ ¶ อาชฺรถํ. อุยฺยานภูมึ คจฺฉาม สุภูมึ ทสฺสนายา’ติ. ‘เอวํ ภทฺทนฺตวา’ติ โข, ภิกฺขเว, มาตลิ สงฺคาหโก สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา สหสฺสยุตฺตํ อาชฺรถํ โยเชตฺวา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิเวเทสิ – ‘ยุตฺโต โข เต, มาริส, สหสฺสยุตฺโต อาชฺรโถ. ยสฺส ทานิ กาลํ มฺสี’’’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท เวชยนฺตปาสาทา โอโรหนฺโต ¶ อฺชลึ กตฺวา [ปฺชลิโก (ปี.), ปฺชลึ กตฺวา (ก.)] สุทํ ปุถุทฺทิสา นมสฺสติ. อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, มาตลิ สงฺคาหโก สกฺกํ เทวานมินฺทํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘ตํ นมสฺสนฺติ เตวิชฺชา, สพฺเพ ภุมฺมา จ ขตฺติยา;
จตฺตาโร จ มหาราชา, ติทสา จ ยสสฺสิโน;
อถ โก นาม โส ยกฺโข, ยํ ตฺวํ สกฺก นมสฺสสี’’ติ.
‘‘มํ นมสฺสนฺติ เตวิชฺชา, สพฺเพ ภุมฺมา จ ขตฺติยา;
จตฺตาโร จ มหาราชา, ติทสา จ ยสสฺสิโน.
‘‘อหฺจ สีลสมฺปนฺเน, จิรรตฺตสมาหิเต;
สมฺมาปพฺพชิเต วนฺเท, พฺรหฺมจริยปรายเน.
‘‘เย คหฏฺา ปฺุกรา, สีลวนฺโต อุปาสกา;
ธมฺเมน ทารํ โปเสนฺติ, เต นมสฺสามิ มาตลี’’ติ.
‘‘เสฏฺา หิ กิร โลกสฺมึ, เย ตฺวํ สกฺก นมสฺสสิ;
อหมฺปิ เต นมสฺสามิ, เย นมสฺสสิ วาสวา’’ติ.
‘‘อิทํ วตฺวาน มฆวา, เทวราชา สุชมฺปติ;
ปุถุทฺทิสา นมสฺสิตฺวา, ปมุโข รถมารุหี’’ติ.
๙. สตฺถารวนฺทนาสุตฺตํ
๒๖๕. สาวตฺถิยํ ¶ เชตวเน. ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท มาตลึ สงฺคาหกํ อามนฺเตสิ – ‘โยเชหิ, สมฺม มาตลิ, สหสฺสยุตฺตํ อาชฺรถํ, อุยฺยานภูมึ คจฺฉาม สุภูมึ ทสฺสนายา’ติ. ‘เอวํ ภทฺทนฺตวา’ติ โข, ภิกฺขเว, มาตลิ สงฺคาหโก สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ¶ สหสฺสยุตฺตํ อาชฺรถํ โยเชตฺวา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ¶ ปฏิเวเทสิ ¶ – ‘ยุตฺโต โข เต, มาริส, สหสฺสยุตฺโต อาชฺรโถ. ยสฺส ทานิ กาลํ มฺสี’’’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท เวชยนฺตปาสาทา โอโรหนฺโต อฺชลึ กตฺวา สุทํ ภควนฺตํ นมสฺสติ. อถ โข, ภิกฺขเว, มาตลิ สงฺคาหโก สกฺกํ เทวานมินฺทํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘ยฺหิ เทวา มนุสฺสา จ, ตํ นมสฺสนฺติ วาสว;
อถ โก นาม โส ยกฺโข, ยํ ตฺวํ สกฺก นมสฺสสี’’ติ.
‘‘โย อิธ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, อสฺมึ โลเก สเทวเก;
อโนมนามํ สตฺถารํ, ตํ นมสฺสามิ มาตลิ.
‘‘เยสํ ราโค จ โทโส จ, อวิชฺชา จ วิราชิตา;
ขีณาสวา อรหนฺโต, เต นมสฺสามิ มาตลิ.
‘‘เย ราคโทสวินยา, อวิชฺชาสมติกฺกมา;
เสกฺขา อปจยารามา, อปฺปมตฺตานุสิกฺขเร;
เต นมสฺสามิ มาตลี’’ติ.
‘‘เสฏฺา หิ กิร โลกสฺมึ, เย ตฺวํ สกฺก นมสฺสสิ;
อหมฺปิ เต นมสฺสามิ, เย นมสฺสสิ วาสวา’’ติ.
‘‘อิทํ วตฺวาน มฆวา, เทวราชา สุชมฺปติ;
ภควนฺตํ นมสฺสิตฺวา, ปมุโข รถมารุหี’’ติ.
๑๐. สงฺฆวนฺทนาสุตฺตํ
๒๖๖. สาวตฺถิยํ ¶ เชตวเน. ตตฺร โข…เป… เอตทโวจ – ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท มาตลึ สงฺคาหกํ อามนฺเตสิ – ‘โยเชหิ, สมฺม มาตลิ, สหสฺสยุตฺตํ อาชฺรถํ ¶ , อุยฺยานภูมึ คจฺฉาม สุภูมึ ทสฺสนายา’ติ. ‘เอวํ ¶ ภทฺทนฺตวา’ติ โข, ภิกฺขเว, มาตลิ สงฺคาหโก สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา, สหสฺสยุตฺตํ อาชฺรถํ โยเชตฺวา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิเวเทสิ – ‘ยุตฺโต โข เต, มาริส, สหสฺสยุตฺโต อาชฺรโถ, ยสฺส ทานิ กาลํ มฺสี’’’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว ¶ , สกฺโก เทวานมินฺโท เวชยนฺตปาสาทา โอโรหนฺโต อฺชลึ กตฺวา สุทํ ภิกฺขุสงฺฆํ นมสฺสติ. อถ โข, ภิกฺขเว, มาตลิ สงฺคาหโก สกฺกํ เทวานมินฺทํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘ตฺหิ เอเต นมสฺเสยฺยุํ, ปูติเทหสยา นรา;
นิมุคฺคา กุณปมฺเหเต, ขุปฺปิปาสสมปฺปิตา.
‘‘กึ นุ เตสํ ปิหยสิ, อนาคาราน วาสว;
อาจารํ อิสินํ พฺรูหิ, ตํ สุโณม วโจ ตวา’’ติ.
‘‘เอตํ เตสํ ปิหยามิ, อนาคาราน มาตลิ;
ยมฺหา คามา ปกฺกมนฺติ, อนเปกฺขา วชนฺติ เต.
‘‘น เตสํ โกฏฺเ โอเปนฺติ, น กุมฺภิ [น กุมฺภา (สฺยา. กํ. ปี. ก.)] น กโฬปิยํ [ขโฬปิยํ (สี.)];
ปรนิฏฺิตเมสานา [ปรนิฏฺิตเมสนา (สฺยา. กํ. ก.)], เตน ยาเปนฺติ สุพฺพตา.
‘‘สุมนฺตมนฺติโน ¶ ธีรา, ตุณฺหีภูตา สมฺจรา;
เทวา วิรุทฺธา อสุเรหิ, ปุถุ มจฺจา จ มาตลิ.
‘‘อวิรุทฺธา วิรุทฺเธสุ, อตฺตทณฺเฑสุ นิพฺพุตา;
สาทาเนสุ อนาทานา, เต นมสฺสามิ มาตลี’’ติ.
‘‘เสฏฺา หิ กิร โลกสฺมึ, เย ตฺวํ สกฺก นมสฺสสิ;
อหมฺปิ เต นมสฺสามิ, เย นมสฺสสิ วาสวา’’ติ.
‘‘อิทํ ¶ วตฺวาน มฆวา, เทวราชา สุชมฺปติ;
ภิกฺขุสงฺฆํ นมสฺสิตฺวา, ปมุโข รถมารุหี’’ติ.
ทุติโย วคฺโค.
ตสฺสุทฺทานํ –
เทวา ปน [ว ตปเทน (สี. สฺยา. กํ.)] ตโย วุตฺตา, ทลิทฺทฺจ รามเณยฺยกํ;
ยชมานฺจ วนฺทนา, ตโย สกฺกนมสฺสนาติ.
๓. ตติยวคฺโค
๑. เฉตฺวาสุตฺตํ
๒๖๗. สาวตฺถิยํ ¶ ¶ ¶ เชตวเน. อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข สกฺโก เทวานมินฺโท ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘กึสุ เฉตฺวา สุขํ เสติ, กึสุ เฉตฺวา น โสจติ;
กิสฺสสฺสุ เอกธมฺมสฺส, วธํ โรเจสิ โคตมา’’ติ.
‘‘โกธํ เฉตฺวา สุขํ เสติ, โกธํ เฉตฺวา น โสจติ;
โกธสฺส วิสมูลสฺส, มธุรคฺคสฺส วาสว;
วธํ อริยา ปสํสนฺติ, ตฺหิ เฉตฺวา น โสจตี’’ติ.
๒. ทุพฺพณฺณิยสุตฺตํ
๒๖๘. สาวตฺถิยํ ¶ เชตวเน. ตตฺร โข…เป… เอตทโวจ – ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, อฺตโร ยกฺโข ทุพฺพณฺโณ โอโกฏิมโก สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส อาสเน นิสินฺโน อโหสิ. ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, เทวา ตาวตึสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต, โภ! อยํ ยกฺโข ทุพฺพณฺโณ โอโกฏิมโก สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส อาสเน นิสินฺโน’’’ติ! ยถา ¶ ยถา โข, ภิกฺขเว, เทวา ตาวตึสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ, ตถา ตถา โส ยกฺโข อภิรูปตโร เจว โหติ ทสฺสนียตโร จ ปาสาทิกตโร จ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, เทวา ตาวตึสา เยน สกฺโก เทวานมินฺโท เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจุํ – ‘อิธ เต, มาริส, อฺตโร ยกฺโข ทุพฺพณฺโณ โอโกฏิมโก สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส อาสเน นิสินฺโน. ตตฺร สุทํ, มาริส, เทวา ตาวตึสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ! อยํ ยกฺโข ทุพฺพณฺโณ โอโกฏิมโก ¶ สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส อาสเน นิสินฺโนติ. ยถา ยถา โข, มาริส, เทวา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ, ตถา ตถา โส ยกฺโข อภิรูปตโร เจว โหติ ทสฺสนียตโร ¶ จ ปาสาทิกตโร จาติ. โส หิ นูน, มาริส, โกธภกฺโข ยกฺโข ภวิสฺสตี’’’ติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท เยน โส โกธภกฺโข ยกฺโข เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ทกฺขิณชาณุมณฺฑลํ ปถวิยํ นิหนฺตฺวา เยน โส โกธภกฺโข ยกฺโข เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ติกฺขตฺตุํ นามํ สาเวติ – ‘สกฺโกหํ มาริส, เทวานมินฺโท, สกฺโกหํ, มาริส, เทวานมินฺโท’ติ. ยถา ยถา โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท นามํ สาเวสิ, ตถา ตถา โส ยกฺโข ทุพฺพณฺณตโร เจว อโหสิ โอโกฏิมกตโร จ. ทุพฺพณฺณตโร เจว ¶ หุตฺวา โอโกฏิมกตโร จ ตตฺเถวนฺตรธายี’’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท สเก อาสเน นิสีทิตฺวา เทเว ตาวตึเส อนุนยมาโน ตายํ เวลายํ อิมา คาถาโย อภาสิ –
‘‘น ¶ สูปหตจิตฺโตมฺหิ, นาวตฺเตน สุวานโย;
น โว จิราหํ กุชฺฌามิ, โกโธ มยิ นาวติฏฺติ.
‘‘กุทฺธาหํ น ผรุสํ พฺรูมิ, น จ ธมฺมานิ กิตฺตเย;
สนฺนิคฺคณฺหามิ อตฺตานํ, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน’’ติ.
๓. สมฺพริมายาสุตฺตํ
๒๖๙. สาวตฺถิยํ…เป… ภควา เอตทโวจ – ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท อาพาธิโก อโหสิ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน. อถ โข ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท เยน เวปจิตฺติ อสุรินฺโท เตนุปสงฺกมิ คิลานปุจฺฉโก. อทฺทสา โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท สกฺกํ เทวานมินฺทํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘ติกิจฺฉ มํ เทวานมินฺทา’ติ. ‘วาเจหิ ¶ มํ, เวปจิตฺติ, สมฺพริมาย’นฺติ. ‘น ตาวาหํ วาเจมิ, ยาวาหํ, มาริส, อสุเร ปฏิปุจฺฉามี’’’ติ. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท อสุเร ปฏิปุจฺฉิ – ‘วาเจมหํ, มาริสา, สกฺกํ เทวานมินฺทํ สมฺพริมาย’นฺติ? ‘มา โข ตฺวํ, มาริส, วาเจสิ สกฺกํ เทวานมินฺทํ สมฺพริมาย’’’นฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท สกฺกํ เทวานมินฺทํ คาถาย ¶ อชฺฌภาสิ –
‘‘มายาวี ¶ มฆวา สกฺก, เทวราช สุชมฺปติ;
อุเปติ นิรยํ โฆรํ, สมฺพโรว สตํ สม’’นฺติ.
๔. อจฺจยสุตฺตํ
๒๗๐. สาวตฺถิยํ…เป… อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ทฺเว ภิกฺขู สมฺปโยเชสุํ. ตตฺเรโก ภิกฺขุ อจฺจสรา. อถ โข โส ภิกฺขุ ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก อจฺจยํ อจฺจยโต เทเสติ; โส ภิกฺขุ นปฺปฏิคฺคณฺหาติ. อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, ทฺเว ภิกฺขู สมฺปโยเชสุํ, ตตฺเรโก ภิกฺขุ อจฺจสรา ¶ . อถ โข โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก อจฺจยํ อจฺจยโต เทเสติ, โส ภิกฺขุ นปฺปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ.
‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, พาลา. โย จ อจฺจยํ อจฺจยโต น ปสฺสติ, โย จ อจฺจยํ เทเสนฺตสฺส ยถาธมฺมํ นปฺปฏิคฺคณฺหา’’ติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว พาลา. ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตา. โย จ อจฺจยํ อจฺจยโต ปสฺสติ, โย จ อจฺจยํ เทเสนฺตสฺส ยถาธมฺมํ ปฏิคฺคณฺหา’’ติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปณฺฑิตา.
‘‘ภูตปุพฺพํ ¶ , ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท สุธมฺมายํ สภายํ เทเว ตาวตึเส อนุนยมาโน ตายํ เวลายํ อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘โกโธ ¶ โว วสมายาตุ, มา จ มิตฺเตหิ โว ชรา;
อครหิยํ มา ครหิตฺถ, มา จ ภาสิตฺถ เปสุณํ;
อถ ปาปชนํ โกโธ, ปพฺพโตวาภิมทฺทตี’’ติ.
๕. อกฺโกธสุตฺตํ
๒๗๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู…เป… ภควา เอตทโวจ – ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท สุธมฺมายํ สภายํ เทเว ตาวตึเส อนุนยมาโน ตายํ เวลายํ อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘มา ¶ โว โกโธ อชฺฌภวิ, มา จ กุชฺฌิตฺถ กุชฺฌตํ;
อกฺโกโธ อวิหึสา จ, อริเยสุ จ ปฏิปทา [วสตี สทา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)];
อถ ปาปชนํ โกโธ, ปพฺพโตวาภิมทฺทตี’’ติ.
ตติโย วคฺโค.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
เฉตฺวา ทุพฺพณฺณิยมายา, อจฺจเยน อโกธโน;
เทสิตํ พุทฺธเสฏฺเน, อิทฺหิ สกฺกปฺจกนฺติ.
สกฺกสํยุตฺตํ สมตฺตํ.
สคาถาวคฺโค ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
เทวตา ¶ เทวปุตฺโต จ, ราชา มาโร จ ภิกฺขุนี;
พฺรหฺมา พฺราหฺมณ วงฺคีโส, วนยกฺเขน วาสโวติ.
สคาถาวคฺคสํยุตฺตปาฬิ นิฏฺิตา.