📜
๓. โกสลสํยุตฺตํ
๑. ปมวคฺโค
๑. ทหรสุตฺตํ
๑๑๒. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภวมฺปิ โน โคตโม อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ ปฏิชานาตี’’ติ? ‘‘ยฺหิ ตํ, มหาราช, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย ‘อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’ติ, มเมว [มมํ (สพฺพตฺถ)] ตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย. อหฺหิ, มหาราช, อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’’ติ.
‘‘เยปิ เต, โภ โคตม, สมณพฺราหฺมณา สงฺฆิโน คณิโน คณาจริยา าตา ยสสฺสิโน ติตฺถกรา สาธุสมฺมตา พหุชนสฺส, เสยฺยถิทํ – ปูรโณ กสฺสโป, มกฺขลิ โคสาโล, นิคณฺโ นาฏปุตฺโต, สฺจโย เพลฏฺปุตฺโต, ปกุโธ กจฺจายโน, อชิโต เกสกมฺพโล; เตปิ มยา ¶ ‘อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ ปฏิชานาถา’ติ ปุฏฺา สมานา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ น ปฏิชานนฺติ. กึ ปน ภวํ โคตโม ทหโร เจว ชาติยา นโว จ ปพฺพชฺชายา’’ติ?
‘‘จตฺตาโร ¶ โข เม, มหาราช, ทหราติ น อฺุาตพฺพา, ทหราติ น ปริโภตพฺพา. กตเม จตฺตาโร? ขตฺติโย โข, มหาราช, ทหโรติ น อฺุาตพฺโพ, ทหโรติ น ปริโภตพฺโพ. อุรโค โข, มหาราช, ทหโรติ น อฺุาตพฺโพ, ทหโรติ น ปริโภตพฺโพ. อคฺคิ ¶ โข, มหาราช, ทหโรติ น อฺุาตพฺโพ, ทหโรติ น ปริโภตพฺโพ. ภิกฺขุ, โข, มหาราช, ทหโรติ น อฺุาตพฺโพ, ทหโรติ น ปริโภตพฺโพ. อิเม โข, มหาราช, จตฺตาโร ทหราติ น อฺุาตพฺพา, ทหราติ น ปริโภตพฺพา’’ติ.
อิทมโวจ ¶ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ขตฺติยํ ชาติสมฺปนฺนํ, อภิชาตํ ยสสฺสินํ;
ทหโรติ นาวชาเนยฺย, น นํ ปริภเว นโร.
‘‘านฺหิ โส มนุชินฺโท, รชฺชํ ลทฺธาน ขตฺติโย;
โส กุทฺโธ ราชทณฺเฑน, ตสฺมึ ปกฺกมเต ภุสํ;
ตสฺมา ตํ ปริวชฺเชยฺย, รกฺขํ ชีวิตมตฺตโน.
‘‘คาเม วา ยทิ วา รฺเ, ยตฺถ ปสฺเส ภุชงฺคมํ;
ทหโรติ นาวชาเนยฺย, น นํ ปริภเว นโร.
‘‘อุจฺจาวเจหิ ¶ วณฺเณหิ, อุรโค จรติ เตชสี [เตชสา (สี. ก.), เตชสิ (ปี. ก.)];
โส อาสชฺช ฑํเส พาลํ, นรํ นาริฺจ เอกทา;
ตสฺมา ตํ ปริวชฺเชยฺย, รกฺขํ ชีวิตมตฺตโน.
‘‘ปหูตภกฺขํ ชาลินํ, ปาวกํ กณฺหวตฺตนึ;
ทหโรติ นาวชาเนยฺย, น นํ ปริภเว นโร.
‘‘ลทฺธา หิ โส อุปาทานํ, มหา หุตฺวาน ปาวโก;
โส อาสชฺช ฑเห [ทเห] พาลํ, นรํ นาริฺจ เอกทา;
ตสฺมา ตํ ปริวชฺเชยฺย, รกฺขํ ชีวิตมตฺตโน.
‘‘วนํ ยทคฺคิ ฑหติ [ทหติ (ก.)], ปาวโก กณฺหวตฺตนี;
ชายนฺติ ตตฺถ ปาโรหา, อโหรตฺตานมจฺจเย.
‘‘ยฺจ ¶ โข สีลสมฺปนฺโน, ภิกฺขุ ฑหติ เตชสา;
น ตสฺส ปุตฺตา ปสโว, ทายาทา วินฺทเร ธนํ;
อนปจฺจา อทายาทา, ตาลาวตฺถู ภวนฺติ เต.
‘‘ตสฺมา ¶ หิ ปณฺฑิโต โปโส, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน;
ภุชงฺคมํ ปาวกฺจ, ขตฺติยฺจ ยสสฺสินํ;
ภิกฺขฺุจ สีลสมฺปนฺนํ, สมฺมเทว สมาจเร’’ติ.
เอวํ วุตฺเต, ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต! เสยฺยถาปิ ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ [นิกุชฺชิตํ (?)] วา อุกฺกุชฺเชยฺย ¶ , ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย ¶ , อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ, ภนฺเต, ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.
๒. ปุริสสุตฺตํ
๑๑๓. สาวตฺถินิทานํ. อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กติ นุ โข, ภนฺเต, ปุริสสฺส ธมฺมา อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ อหิตาย ทุกฺขาย อผาสุวิหารายา’’ติ?
‘‘ตโย โข, มหาราช, ปุริสสฺส ธมฺมา อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ อหิตาย ทุกฺขาย อผาสุวิหาราย. กตเม ตโย? โลโภ โข, มหาราช, ปุริสสฺส ธมฺโม อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ อหิตาย ทุกฺขาย อผาสุวิหาราย. โทโส โข, มหาราช, ปุริสสฺส ธมฺโม อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ อหิตาย ทุกฺขาย อผาสุวิหาราย. โมโห โข, มหาราช, ปุริสสฺส ธมฺโม อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ อหิตาย ทุกฺขาย อผาสุวิหาราย ¶ . อิเม โข, มหาราช, ตโย ปุริสสฺส ธมฺมา อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ อหิตาย ทุกฺขาย อผาสุวิหารายา’’ติ. อิทมโวจ…เป…
‘‘โลโภ ¶ โทโส จ โมโห จ, ปุริสํ ปาปเจตสํ;
หึสนฺติ อตฺตสมฺภูตา, ตจสารํว สมฺผล’’นฺติ [สปฺผลนฺติ (สฺยา. กํ.)].
๓. ชรามรณสุตฺตํ
๑๑๔. สาวตฺถินิทานํ ¶ . เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ นุ โข, ภนฺเต, ชาตสฺส อฺตฺร ชรามรณา’’ติ? ‘‘นตฺถิ โข, มหาราช, ชาตสฺส อฺตฺร ชรามรณา. เยปิ เต, มหาราช, ขตฺติยมหาสาลา อฑฺฒา มหทฺธนา มหาโภคา ปหูตชาตรูปรชตา ¶ ปหูตวิตฺตูปกรณา ปหูตธนธฺา, เตสมฺปิ ชาตานํ นตฺถิ อฺตฺร ชรามรณา. เยปิ เต, มหาราช, พฺราหฺมณมหาสาลา…เป… คหปติมหาสาลา อฑฺฒา มหทฺธนา มหาโภคา ปหูตชาตรูปรชตา ปหูตวิตฺตูปกรณา ปหูตธนธฺา, เตสมฺปิ ชาตานํ นตฺถิ อฺตฺร ชรามรณา. เยปิ เต, มหาราช, ภิกฺขู อรหนฺโต ขีณาสวา วุสิตวนฺโต กตกรณียา โอหิตภารา อนุปฺปตฺตสทตฺถา ปริกฺขีณภวสํโยชนา สมฺมทฺาวิมุตฺตา, เตสํ ปายํ กาโย เภทนธมฺโม นิกฺเขปนธมฺโม’’ติ. อิทมโวจ…เป…
‘‘ชีรนฺติ เว ราชรถา สุจิตฺตา,
อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติ;
สตฺจ ธมฺโม น ชรํ อุเปติ,
สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺตี’’ติ.
๔. ปิยสุตฺตํ
๑๑๕. สาวตฺถินิทานํ ¶ . เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ ¶ – ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘เกสํ นุ โข ปิโย อตฺตา, เกสํ อปฺปิโย อตฺตา’ติ? ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘เย จ โข เกจิ กาเยน ทุจฺจริตํ จรนฺติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรนฺติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรนฺติ; เตสํ อปฺปิโย อตฺตา’. กิฺจาปิ เต เอวํ วเทยฺยุํ – ‘ปิโย โน อตฺตา’ติ, อถ โข เตสํ อปฺปิโย อตฺตา. ตํ กิสฺส เหตุ? ยฺหิ อปฺปิโย อปฺปิยสฺส ¶ กเรยฺย, ตํ เต อตฺตนาว อตฺตโน กโรนฺติ; ตสฺมา เตสํ อปฺปิโย อตฺตา. เย จ โข เกจิ กาเยน สุจริตํ จรนฺติ, วาจาย สุจริตํ จรนฺติ, มนสา สุจริตํ จรนฺติ; เตสํ ปิโย อตฺตา. กิฺจาปิ เต เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อปฺปิโย โน อตฺตา’ติ; อถ โข เตสํ ปิโย อตฺตา. ตํ กิสฺส เหตุ? ยฺหิ ปิโย ปิยสฺส กเรยฺย, ตํ เต อตฺตนาว อตฺตโน กโรนฺติ; ตสฺมา เตสํ ปิโย อตฺตา’’ติ.
‘‘เอวเมตํ, มหาราช, เอวเมตํ, มหาราช! เย หิ เกจิ, มหาราช, กาเยน ทุจฺจริตํ จรนฺติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรนฺติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรนฺติ; เตสํ อปฺปิโย อตฺตา. กิฺจาปิ เต เอวํ วเทยฺยุํ – ‘ปิโย โน อตฺตา’ติ, อถ โข เตสํ อปฺปิโย อตฺตา. ตํ กิสฺส เหตุ? ยฺหิ, มหาราช, อปฺปิโย อปฺปิยสฺส กเรยฺย, ตํ เต อตฺตนาว อตฺตโน กโรนฺติ; ตสฺมา เตสํ อปฺปิโย อตฺตา. เย จ โข เกจิ, มหาราช ¶ , กาเยน ¶ สุจริตํ จรนฺติ, วาจาย สุจริตํ จรนฺติ, มนสา สุจริตํ จรนฺติ; เตสํ ปิโย อตฺตา. กิฺจาปิ เต เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อปฺปิโย โน อตฺตา’ติ; อถ โข เตสํ ปิโย อตฺตา. ตํ กิสฺส เหตุ? ยฺหิ มหาราช, ปิโย ปิยสฺส กเรยฺย, ตํ เต อตฺตนาว อตฺตโน กโรนฺติ; ตสฺมา เตสํ ปิโย อตฺตา’’ติ. อิทมโวจ…เป…
‘‘อตฺตานฺเจ ปิยํ ชฺา, น นํ ปาเปน สํยุเช;
น หิ ตํ สุลภํ โหติ, สุขํ ทุกฺกฏการินา.
‘‘อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส, ชหโต มานุสํ ภวํ;
กิฺหิ ตสฺส สกํ โหติ, กิฺจ อาทาย คจฺฉติ;
กิฺจสฺส อนุคํ โหติ, ฉายาว อนปายินี [อนุปายินี (สฺยา. กํ. ก.)].
‘‘อุโภ ¶ ปฺฺุจ ปาปฺจ, ยํ มจฺโจ กุรุเต อิธ;
ตฺหิ ตสฺส สกํ โหติ, ตฺจ [ตํว (?)] อาทาย คจฺฉติ;
ตฺจสฺส [ตํวสฺส (?)] อนุคํ โหติ, ฉายาว อนปายินี.
‘‘ตสฺมา กเรยฺย กลฺยาณํ, นิจยํ สมฺปรายิกํ;
ปฺุานิ ปรโลกสฺมึ, ปติฏฺา โหนฺติ ปาณิน’’นฺติ.
๕. อตฺตรกฺขิตสุตฺตํ
๑๑๖. สาวตฺถินิทานํ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก ¶ อุทปาทิ – ‘เกสํ นุ โข รกฺขิโต อตฺตา, เกสํ อรกฺขิโต อตฺตา’ติ? ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘เย โข เกจิ กาเยน ทุจฺจริตํ จรนฺติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรนฺติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรนฺติ; เตสํ อรกฺขิโต อตฺตา. กิฺจาปิ เต หตฺถิกาโย วา รกฺเขยฺย, อสฺสกาโย วา รกฺเขยฺย, รถกาโย วา รกฺเขยฺย, ปตฺติกาโย ¶ วา รกฺเขยฺย; อถ โข เตสํ อรกฺขิโต อตฺตา. ตํ กิสฺส เหตุ? พาหิรา เหสา รกฺขา, เนสา รกฺขา อชฺฌตฺติกา; ตสฺมา เตสํ อรกฺขิโต อตฺตา. เย จ โข เกจิ กาเยน สุจริตํ จรนฺติ, วาจาย สุจริตํ จรนฺติ, มนสา สุจริตํ จรนฺติ; เตสํ รกฺขิโต อตฺตา. กิฺจาปิ เต เนว หตฺถิกาโย รกฺเขยฺย, น อสฺสกาโย รกฺเขยฺย, น รถกาโย รกฺเขยฺย ¶ , น ปตฺติกาโย รกฺเขยฺย; อถ โข เตสํ รกฺขิโต อตฺตา. ตํ กิสฺส เหตุ? อชฺฌตฺติกา เหสา รกฺขา, เนสา รกฺขา พาหิรา; ตสฺมา เตสํ รกฺขิโต อตฺตา’’’ติ.
‘‘เอวเมตํ, มหาราช, เอวเมตํ, มหาราช! เย หิ เกจิ, มหาราช, กาเยน ทุจฺจริตํ จรนฺติ…เป… เตสํ อรกฺขิโต อตฺตา. ตํ กิสฺส เหตุ? พาหิรา เหสา, มหาราช, รกฺขา, เนสา รกฺขา อชฺฌตฺติกา; ตสฺมา เตสํ อรกฺขิโต อตฺตา. เย จ โข เกจิ, มหาราช, กาเยน สุจริตํ จรนฺติ, วาจาย สุจริตํ จรนฺติ, มนสา สุจริตํ จรนฺติ; เตสํ รกฺขิโต อตฺตา. กิฺจาปิ เต เนว หตฺถิกาโย รกฺเขยฺย, น อสฺสกาโย ¶ รกฺเขยฺย, น รถกาโย รกฺเขยฺย, น ปตฺติกาโย รกฺเขยฺย; อถ โข เตสํ รกฺขิโต อตฺตา. ตํ กิสฺส เหตุ? อชฺฌตฺติกา ¶ เหสา, มหาราช, รกฺขา, เนสา รกฺขา พาหิรา; ตสฺมา เตสํ รกฺขิโต อตฺตา’’ติ. อิทมโวจ…เป…
‘‘กาเยน สํวโร สาธุ, สาธุ วาจาย สํวโร;
มนสา สํวโร สาธุ, สาธุ สพฺพตฺถ สํวโร;
สพฺพตฺถ สํวุโต ลชฺชี, รกฺขิโตติ ปวุจฺจตี’’ติ.
๖. อปฺปกสุตฺตํ
๑๑๗. สาวตฺถินิทานํ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘อปฺปกา เต สตฺตา โลกสฺมึ เย อุฬาเร อุฬาเร โภเค ลภิตฺวา น เจว มชฺชนฺติ, น จ ปมชฺชนฺติ, น จ กาเมสุ เคธํ อาปชฺชนฺติ, น จ สตฺเตสุ วิปฺปฏิปชฺชนฺติ. อถ โข เอเตว พหุตรา สตฺตา โลกสฺมึ เย อุฬาเร อุฬาเร โภเค ลภิตฺวา มชฺชนฺติ เจว ปมชฺชนฺติ ¶ , จ กาเมสุ จ เคธํ อาปชฺชนฺติ, สตฺเตสุ จ วิปฺปฏิปชฺชนฺตี’’’ติ.
‘‘เอวเมตํ, มหาราช, เอวเมตํ, มหาราช! อปฺปกา เต, มหาราช, สตฺตา โลกสฺมึ, เย อุฬาเร อุฬาเร โภเค ลภิตฺวา น เจว มชฺชนฺติ, น จ ปมชฺชนฺติ, น จ กาเมสุ เคธํ อาปชฺชนฺติ, น ¶ จ สตฺเตสุ วิปฺปฏิปชฺชนฺติ. อถ โข เอเตว พหุตรา สตฺตา โลกสฺมึ, เย อุฬาเร อุฬาเร โภเค ลภิตฺวา ¶ มชฺชนฺติ เจว ปมชฺชนฺติ จ กาเมสุ จ เคธํ อาปชฺชนฺติ, สตฺเตสุ จ วิปฺปฏิปชฺชนฺตี’’ติ. อิทมโวจ…เป…
‘‘สารตฺตา กามโภเคสุ, คิทฺธา กาเมสุ มุจฺฉิตา;
อติสารํ น พุชฺฌนฺติ, มิคา กูฏํว โอฑฺฑิตํ;
ปจฺฉาสํ กฏุกํ โหติ, วิปาโก หิสฺส ปาปโก’’ติ.
๗. อฑฺฑกรณสุตฺตํ
๑๑๘. สาวตฺถินิทานํ ¶ . เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, อฑฺฑกรเณ [อตฺถกรเณ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นิสินฺโน ปสฺสามิ ขตฺติยมหาสาเลปิ พฺราหฺมณมหาสาเลปิ คหปติมหาสาเลปิ อฑฺเฒ มหทฺธเน มหาโภเค ปหูตชาตรูปรชเต ปหูตวิตฺตูปกรเณ ปหูตธนธฺเ กามเหตุ กามนิทานํ กามาธิกรณํ สมฺปชานมุสา ภาสนฺเต. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘อลํ ทานิ เม อฑฺฑกรเณน, ภทฺรมุโข ทานิ อฑฺฑกรเณน ปฺายิสฺสตี’’’ติ.
‘‘(เอวเมตํ, มหาราช, เอวเมตํ มหาราช!) [( ) สี. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] เยปิ เต, มหาราช, ขตฺติยมหาสาลา พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติมหาสาลา อฑฺฒา มหทฺธนา มหาโภคา ปหูตชาตรูปรชตา ปหูตวิตฺตูปกรณา ¶ ปหูตธนธฺา กามเหตุ กามนิทานํ กามาธิกรณํ สมฺปชานมุสา ภาสนฺติ; เตสํ ตํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ. อิทมโวจ…เป…
‘‘สารตฺตา กามโภเคสุ, คิทฺธา กาเมสุ มุจฺฉิตา;
อติสารํ น พุชฺฌนฺติ, มจฺฉา ขิปฺปํว โอฑฺฑิตํ;
ปจฺฉาสํ กฏุกํ โหติ, วิปาโก หิสฺส ปาปโก’’ติ.
๘. มลฺลิกาสุตฺตํ
๑๑๙. สาวตฺถินิทานํ ¶ . เตน โข ปน สมเยน ราชา ปเสนทิ โกสโล มลฺลิกาย เทวิยา สทฺธึ อุปริปาสาทวรคโต โหติ. อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล มลฺลิกํ เทวึ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ นุ โข เต, มลฺลิเก, โกจฺโ อตฺตนา ปิยตโร’’ติ? ‘‘นตฺถิ โข เม, มหาราช, โกจฺโ อตฺตนา ปิยตโร. ตุยฺหํ ปน, มหาราช, อตฺถฺโ ¶ โกจิ อตฺตนา ปิยตโร’’ติ? ‘‘มยฺหมฺปิ โข, มลฺลิเก, นตฺถฺโ โกจิ อตฺตนา ปิยตโร’’ติ.
อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ปาสาทา โอโรหิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา ปเสนทิ ¶ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, มลฺลิกาย เทวิยา สทฺธึ อุปริปาสาทวรคโต มลฺลิกํ เทวึ เอตทโวจํ – ‘อตฺถิ นุ โข เต, มลฺลิเก, โกจฺโ ¶ อตฺตนา ปิยตโร’ติ? เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, มลฺลิกา เทวี มํ เอตทโวจ – ‘นตฺถิ โข เม, มหาราช, โกจฺโ อตฺตนา ปิยตโร. ตุยฺหํ ปน, มหาราช, อตฺถฺโ โกจิ อตฺตนา ปิยตโร’ติ? เอวํ วุตฺตาหํ, ภนฺเต, มลฺลิกํ เทวึ เอตทโวจํ – ‘มยฺหมฺปิ โข, มลฺลิเก, นตฺถฺโ โกจิ อตฺตนา ปิยตโร’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘สพฺพา ทิสา อนุปริคมฺม เจตสา,
เนวชฺฌคา ปิยตรมตฺตนา กฺวจิ;
เอวํ ปิโย ปุถุ อตฺตา ปเรสํ,
ตสฺมา น หึเส ปรมตฺตกาโม’’ติ.
๙. ยฺสุตฺตํ
๑๒๐. สาวตฺถินิทานํ. เตน โข ปน สมเยน รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส มหายฺโ ปจฺจุปฏฺิโต โหติ, ปฺจ จ อุสภสตานิ ปฺจ จ วจฺฉตรสตานิ ปฺจ จ วจฺฉตริสตานิ ปฺจ จ ¶ อชสตานิ ปฺจ จ อุรพฺภสตานิ ถูณูปนีตานิ โหนฺติ ยฺตฺถาย. เยปิสฺส เต โหนฺติ ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา, เตปิ ทณฺฑตชฺชิตา ภยตชฺชิตา อสฺสุมุขา รุทมานา ปริกมฺมานิ กโรนฺติ.
อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ¶ สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสึสุ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส มหายฺโ ปจฺจุปฏฺิโต ¶ โหติ, ปฺจ จ อุสภสตานิ ปฺจ จ วจฺฉตรสตานิ ปฺจ จ วจฺฉตริสตานิ ปฺจ จ อชสตานิ ปฺจ จ อุรพฺภสตานิ ถูณูปนีตานิ โหนฺติ ยฺตฺถาย ¶ . เยปิสฺส เต โหนฺติ ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา, เตปิ ทณฺฑตชฺชิตา ภยตชฺชิตา อสฺสุมุขา รุทมานา ปริกมฺมานิ กโรนฺตี’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมา คาถาโย อภาสิ –
‘‘อสฺสเมธํ ปุริสเมธํ, สมฺมาปาสํ วาชเปยฺยํ นิรคฺคฬฺหํ;
มหายฺา มหารมฺภา [วาชเปยฺยุํ; นิรคฺคฬํ มหารมฺภา (ก.)], น เต โหนฺติ มหปฺผลา.
‘‘อเชฬกา จ คาโว จ, วิวิธา ยตฺถ หฺเร;
น ตํ สมฺมคฺคตา ยฺํ, อุปยนฺติ มเหสิโน.
‘‘เย จ ยฺา นิรารมฺภา, ยชนฺติ อนุกุลํ สทา;
อเชฬกา จ คาโว จ, วิวิธา เนตฺถ หฺเร;
เอตํ ¶ สมฺมคฺคตา ยฺํ, อุปยนฺติ มเหสิโน.
‘‘เอตํ ยเชถ เมธาวี, เอโส ยฺโ มหปฺผโล;
เอตฺหิ ยชมานสฺส, เสยฺโย โหติ น ปาปิโย;
ยฺโ จ วิปุโล โหติ, ปสีทนฺติ จ เทวตา’’ติ.
๑๐. พนฺธนสุตฺตํ
๑๒๑. เตน โข ปน สมเยน รฺา ปเสนทินา โกสเลน มหาชนกาโย พนฺธาปิโต โหติ, อปฺเปกจฺเจ รชฺชูหิ อปฺเปกจฺเจ อนฺทูหิ อปฺเปกจฺเจ สงฺขลิกาหิ.
อถ ¶ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสึสุ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, รฺา ปเสนทินา โกสเลน มหาชนกาโย ¶ พนฺธาปิโต, อปฺเปกจฺเจ รชฺชูหิ อปฺเปกจฺเจ อนฺทูหิ อปฺเปกจฺเจ สงฺขลิกาหี’’ติ.
อถ ¶ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมา คาถาโย อภาสิ –
‘‘น ¶ ตํ ทฬฺหํ พนฺธนมาหุ ธีรา,
ยทายสํ ทารุชํ ปพฺพชฺจ;
สารตฺตรตฺตา มณิกุณฺฑเลสุ,
ปุตฺเตสุ ทาเรสุ จ ยา อเปกฺขา.
‘‘เอตํ ทฬฺหํ พนฺธนมาหุ ธีรา,
โอหารินํ สิถิลํ ทุปฺปมฺุจํ;
เอตมฺปิ เฉตฺวาน ปริพฺพชนฺติ,
อนเปกฺขิโน กามสุขํ ปหายา’’ติ.
ปโม วคฺโค.
ตสฺสุทฺทานํ –
ทหโร ปุริโส ชรา, ปิยํ อตฺตานรกฺขิโต;
อปฺปกา อฑฺฑกรณํ, มลฺลิกา ยฺพนฺธนนฺติ.
๒. ทุติยวคฺโค
๑. สตฺตชฏิลสุตฺตํ
๑๒๒. เอกํ ¶ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. เตน โข ปน สมเยน ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต พหิทฺวารโกฏฺเก นิสินฺโน โหติ. อถ ¶ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน สตฺต จ ชฏิลา สตฺต จ นิคณฺา สตฺต จ อเจลกา สตฺต จ เอกสาฏกา สตฺต จ ปริพฺพาชกา ปรูฬฺหกจฺฉนขโลมา ขาริวิวิธมาทาย [ขาริวิธํ อาทาย (ปี.) ที. นิ. ๑.๒๘๐ ตทฏฺกถาปิ โอโลเกตพฺพา] ภควโต อวิทูเร อติกฺกมนฺติ. อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ทกฺขิณชาณุมณฺฑลํ ¶ ปถวิยํ นิหนฺตฺวา เยน เต สตฺต จ ชฏิลา สตฺต จ นิคณฺา สตฺต จ อเจลกา สตฺต จ เอกสาฏกา สตฺต จ ปริพฺพาชกา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ติกฺขตฺตุํ นามํ สาเวสิ – ‘‘ราชาหํ, ภนฺเต, ปเสนทิ โกสโล…เป… ราชาหํ, ภนฺเต, ปเสนทิ โกสโล’’ติ.
อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล อจิรปกฺกนฺเตสุ เตสุ ¶ สตฺตสุ จ ชฏิเลสุ สตฺตสุ จ นิคณฺเสุ สตฺตสุ จ อเจลเกสุ สตฺตสุ จ เอกสาฏเกสุ สตฺตสุ จ ปริพฺพาชเกสุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เย เต, ภนฺเต, โลเก อรหนฺโต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนา เอเต เตสํ อฺตรา’’ติ.
‘‘ทุชฺชานํ โข เอตํ, มหาราช, ตยา คิหินา กามโภคินา ปุตฺตสมฺพาธสยนํ อชฺฌาวสนฺเตน กาสิกจนฺทนํ ปจฺจนุโภนฺเตน มาลาคนฺธวิเลปนํ ธารยนฺเตน ชาตรูปรชตํ สาทิยนฺเตน – ‘อิเม วา อรหนฺโต, อิเม วา อรหตฺตมคฺคํ สมาปนฺนา’’’ติ.
‘‘สํวาเสน โข, มหาราช, สีลํ เวทิตพฺพํ. ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเน. สํโวหาเรน โข, มหาราช, โสเจยฺยํ เวทิตพฺพํ. ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเน. อาปทาสุ โข, มหาราช, ถาโม เวทิตพฺโพ. โส จ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเน. สากจฺฉาย ¶ , โข, มหาราช, ปฺา เวทิตพฺพา. สา จ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน ¶ อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนา’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ ¶ , ภนฺเต, อพฺภุตํ ภนฺเต! ยาว สุภาสิตมิทํ, ภนฺเต, ภควตา – ‘ทุชฺชานํ โข เอตํ, มหาราช, ตยา คิหินา กามโภคินา ปุตฺตสมฺพาธสยนํ อชฺฌาวสนฺเตน กาสิกจนฺทนํ ปจฺจนุโภนฺเตน มาลาคนฺธวิเลปนํ ธารยนฺเตน ชาตรูปรชตํ สาทิยนฺเตน – อิเม วา อรหนฺโต, อิเม วา อรหตฺตมคฺคํ สมาปนฺนา’ติ. สํวาเสน โข, มหาราช, สีลํ เวทิตพฺพํ. ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเน. สํโวหาเรน โข มหาราช ¶ , โสเจยฺยํ เวทิตพฺพํ. ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเน. อาปทาสุ โข, มหาราช, ถาโม เวทิตพฺโพ. โส จ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเน. สากจฺฉาย โข, มหาราช, ปฺา เวทิตพฺพา. สา จ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรํ; มนสิกโรตา, โน อมนสิกโรตา; ปฺวตา, โน ทุปฺปฺเนา’’ติ.
‘‘เอเต, ภนฺเต, มม ปุริสา จรา โอจรกา ชนปทํ โอจริตฺวา อาคจฺฉนฺติ. เตหิ ปมํ โอจิณฺณํ อหํ ปจฺฉา โอสาปยิสฺสามิ [โอยายิสฺสามิ (สี.), โอหยิสฺสามิ (สฺยา. กํ.)]. อิทานิ เต, ภนฺเต, ตํ รโชชลฺลํ ปวาเหตฺวา สุนฺหาตา สุวิลิตฺตา กปฺปิตเกสมสฺสู โอทาตวตฺถา [โอทาตวตฺถวสนา (สี.)] ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ปริจาเรสฺสนฺตี’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมา คาถาโย อภาสิ –
‘‘น วณฺณรูเปน นโร สุชาโน,
น วิสฺสเส อิตฺตรทสฺสเนน;
สุสฺตานฺหิ วิยฺชเนน,
อสฺตา โลกมิมํ จรนฺติ.
‘‘ปติรูปโก มตฺติกากุณฺฑโลว,
โลหฑฺฒมาโสว สุวณฺณฉนฺโน;
จรนฺติ ¶ โลเก [เอเก (สี. ปี.)] ปริวารฉนฺนา,
อนฺโต อสุทฺธา พหิ โสภมานา’’ติ.
๒. ปฺจราชสุตฺตํ
๑๒๓. สาวตฺถินิทานํ ¶ . เตน โข ปน สมเยน ปฺจนฺนํ ราชูนํ ปเสนทิปมุขานํ ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตานํ สมงฺคีภูตานํ ปริจารยมานานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘กึ นุ โข กามานํ อคฺค’’นฺติ? ตตฺเรกจฺเจ [ตตฺเรเก (สี. ปี.)] เอวมาหํสุ – ‘‘รูปา กามานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ ¶ – ‘‘สทฺทา กามานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘คนฺธา กามานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘รสา กามานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ ¶ – ‘‘โผฏฺพฺพา กามานํ อคฺค’’นฺติ. ยโต โข เต ราชาโน นาสกฺขึสุ อฺมฺํ สฺาเปตุํ.
อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล เต ราชาโน เอตทโวจ – ‘‘อายาม, มาริสา, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺฉิสฺสาม. ยถา โน ภควา พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’’ติ [ธาเรยฺยามาติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. ‘‘เอวํ, มาริสา’’ติ โข เต ราชาโน รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส ปจฺจสฺโสสุํ.
อถ โข เต ปฺจ ราชาโน ปเสนทิปมุขา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ ¶ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปฺจนฺนํ ราชูนํ ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตานํ สมงฺคีภูตานํ ปริจารยมานานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘กึ นุ โข กามานํ อคฺค’นฺติ? เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘รูปา กามานํ อคฺค’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘สทฺทา กามานํ อคฺค’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘คนฺธา กามานํ อคฺค’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘รสา กามานํ อคฺค’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘โผฏฺพฺพา กามานํ อคฺค’นฺติ. กึ นุ โข, ภนฺเต, กามานํ อคฺค’’นฺติ?
‘‘มนาปปริยนฺตํ ขฺวาหํ, มหาราช, ปฺจสุ กามคุเณสุ อคฺคนฺติ วทามิ. เตว [เต จ (สี. ปี. ก.), เย จ (สฺยา. กํ.)], มหาราช, รูปา เอกจฺจสฺส มนาปา โหนฺติ, เตว [เต จ (สี. ปี. ก.)] รูปา เอกจฺจสฺส อมนาปา โหนฺติ. เยหิ จ โย รูเปหิ อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป, โส เตหิ รูเปหิ อฺํ รูปํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น ปตฺเถติ. เต ตสฺส รูปา ปรมา โหนฺติ. เต ตสฺส รูปา อนุตฺตรา โหนฺติ.
‘‘เตว ¶ , มหาราช, สทฺทา เอกจฺจสฺส มนาปา โหนฺติ, เตว สทฺทา เอกจฺจสฺส อมนาปา โหนฺติ. เยหิ จ โย สทฺเทหิ อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป, โส เตหิ สทฺเทหิ อฺํ สทฺทํ อุตฺตริตรํ วา ¶ ปณีตตรํ วา น ปตฺเถติ. เต ตสฺส สทฺทา ปรมา โหนฺติ. เต ตสฺส สทฺทา อนุตฺตรา โหนฺติ.
‘‘เตว, มหาราช, คนฺธา เอกจฺจสฺส มนาปา โหนฺติ, เตว คนฺธา เอกจฺจสฺส อมนาปา โหนฺติ. เยหิ จ โย คนฺเธหิ อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป, โส เตหิ คนฺเธหิ อฺํ คนฺธํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น ปตฺเถติ. เต ตสฺส คนฺธา ปรมา โหนฺติ. เต ตสฺส คนฺธา อนุตฺตรา โหนฺติ.
‘‘เตว, มหาราช, รสา เอกจฺจสฺส มนาปา โหนฺติ, เตว รสา เอกจฺจสฺส อมนาปา โหนฺติ. เยหิ จ โย รเสหิ อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป, โส เตหิ รเสหิ อฺํ รสํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น ปตฺเถติ. เต ตสฺส รสา ปรมา โหนฺติ. เต ตสฺส รสา อนุตฺตรา โหนฺติ.
‘‘เตว, มหาราช, โผฏฺพฺพา เอกจฺจสฺส มนาปา โหนฺติ, เตว โผฏฺพฺพา เอกจฺจสฺส อมนาปา โหนฺติ. เยหิ ¶ จ โย โผฏฺพฺเพหิ อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป, โส เตหิ โผฏฺพฺเพหิ อฺํ โผฏฺพฺพํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น ปตฺเถติ. เต ตสฺส ¶ โผฏฺพฺพา ปรมา โหนฺติ. เต ตสฺส โผฏฺพฺพา อนุตฺตรา โหนฺตี’’ติ.
เตน โข ปน สมเยน จนฺทนงฺคลิโก อุปาสโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ. อถ โข จนฺทนงฺคลิโก อุปาสโก อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปฏิภาติ มํ ภควา, ปฏิภาติ มํ สุคตา’’ติ. ‘‘ปฏิภาตุ ตํ จนฺทนงฺคลิกา’’ติ ภควา อโวจ.
อถ โข จนฺทนงฺคลิโก อุปาสโก ภควโต สมฺมุขา ตทนุรูปาย คาถาย อภิตฺถวิ –
‘‘ปทุมํ ¶ ยถา โกกนทํ สุคนฺธํ,
ปาโต สิยา ผุลฺลมวีตคนฺธํ;
องฺคีรสํ ปสฺส วิโรจมานํ,
ตปนฺตมาทิจฺจมิวนฺตลิกฺเข’’ติ.
อถ ¶ โข เต ปฺจ ราชาโน จนฺทนงฺคลิกํ อุปาสกํ ปฺจหิ อุตฺตราสงฺเคหิ อจฺฉาเทสุํ. อถ โข จนฺทนงฺคลิโก อุปาสโก เตหิ ปฺจหิ อุตฺตราสงฺเคหิ ภควนฺตํ อจฺฉาเทสีติ.
๓. โทณปากสุตฺตํ
๑๒๔. สาวตฺถินิทานํ. เตน โข ปน สมเยน ราชา ปเสนทิ โกสโล โทณปากกุรํ [โทณปากสุทํ (สี.), โทณปากํ สุทํ (ปี.)] ภฺุชติ. อถ โข ราชา ปเสนทิ ¶ โกสโล ภุตฺตาวี มหสฺสาสี เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.
อถ โข ภควา ราชานํ ปเสนทึ โกสลํ ภุตฺตาวึ มหสฺสาสึ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘มนุชสฺส สทา สตีมโต,
มตฺตํ ชานโต ลทฺธโภชเน;
ตนุกสฺส [ตนุ ตสฺส (สี. ปี.)] ภวนฺติ เวทนา,
สณิกํ ชีรติ อายุปาลย’’นฺติ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน สุทสฺสโน มาณโว รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส ปิฏฺิโต ิโต โหติ. อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล สุทสฺสนํ มาณวํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, ตาต สุทสฺสน, ภควโต สนฺติเก อิมํ คาถํ ปริยาปุณิตฺวา มม ภตฺตาภิหาเร (ภตฺตาภิหาเร) [( ) สี. สฺยา. กํ. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] ภาส. อหฺจ เต เทวสิกํ กหาปณสตํ (กหาปณสตํ) [( ) สี. สฺยา. กํ. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] นิจฺจํ ภิกฺขํ ปวตฺตยิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ เทวา’’ติ โข สุทสฺสโน มาณโว รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ภควโต สนฺติเก อิมํ คาถํ ปริยาปุณิตฺวา รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส ภตฺตาภิหาเร สุทํ ภาสติ –
‘‘มนุชสฺส ¶ สทา สตีมโต,
มตฺตํ ชานโต ลทฺธโภชเน;
ตนุกสฺส ¶ ภวนฺติ เวทนา,
สณิกํ ชีรติ อายุปาลย’’นฺติ.
อถ ¶ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล อนุปุพฺเพน นาฬิโกทนปรมตาย [นาฬิโกทนมตฺตาย (ก.)] สณฺาสิ. อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล อปเรน สมเยน สุสลฺลิขิตคตฺโต ปาณินา คตฺตานิ อนุมชฺชนฺโต ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘อุภเยน วต มํ โส ภควา อตฺเถน อนุกมฺปิ – ทิฏฺธมฺมิเกน เจว อตฺเถน สมฺปรายิเกน จา’’ติ.
๔. ปมสงฺคามสุตฺตํ
๑๒๕. สาวตฺถินิทานํ. อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต จตุรงฺคินึ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา ราชานํ ปเสนทึ โกสลํ อพฺภุยฺยาสิ เยน กาสิ. อสฺโสสิ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล – ‘‘ราชา กิร มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต จตุรงฺคินึ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา มมํ อพฺภุยฺยาโต เยน กาสี’’ติ. อถ ¶ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล จตุรงฺคินึ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา ราชานํ มาคธํ อชาตสตฺตุํ เวเทหิปุตฺตํ ปจฺจุยฺยาสิ เยน กาสิ. อถ โข ราชา จ มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ราชา จ ปเสนทิ โกสโล สงฺคาเมสุํ. ตสฺมึ โข ปน สงฺคาเม ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ราชานํ ปเสนทึ โกสลํ ปราเชสิ. ปราชิโต จ ราชา ปเสนทิ โกสโล สกเมว [สงฺคามา (ก.)] ราชธานึ สาวตฺถึ ปจฺจุยฺยาสิ [ปายาสิ (สี. ปี.)].
อถ ¶ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสึสุ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –
‘‘อิธ, ภนฺเต, ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต จตุรงฺคินึ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา ราชานํ ปเสนทึ โกสลํ อพฺภุยฺยาสิ เยน กาสิ. อสฺโสสิ โข, ภนฺเต, ราชา ปเสนทิ โกสโล – ‘ราชา ¶ กิร มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต จตุรงฺคินึ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา มมํ อพฺภุยฺยาโต เยน กาสี’ติ. อถ โข, ภนฺเต, ราชา ปเสนทิ โกสโล ¶ จตุรงฺคินึ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา ราชานํ มาคธํ อชาตสตฺตุํ เวเทหิปุตฺตํ ปจฺจุยฺยาสิ เยน กาสิ. อถ โข, ภนฺเต, ราชา จ มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ราชา จ ปเสนทิ โกสโล สงฺคาเมสุํ. ตสฺมึ โข ปน, ภนฺเต, สงฺคาเม ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ราชานํ ปเสนทึ โกสลํ ปราเชสิ. ปราชิโต จ, ภนฺเต, ราชา ปเสนทิ โกสโล สกเมว ราชธานึ สาวตฺถึ ปจฺจุยฺยาสี’’ติ.
‘‘ราชา, ภิกฺขเว, มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ปาปมิตฺโต ปาปสหาโย ปาปสมฺปวงฺโก; ราชา จ โข, ภิกฺขเว, ปเสนทิ โกสโล กลฺยาณมิตฺโต กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก. อชฺเชว [อชฺชตฺจ (สี. ปี.), อชฺเชวํ (สฺยา. กํ.)], ภิกฺขเว ¶ , ราชา ปเสนทิ โกสโล อิมํ รตฺตึ ทุกฺขํ เสติ ปราชิโต’’ติ. อิทมโวจ…เป…
‘‘ชยํ เวรํ ปสวติ, ทุกฺขํ เสติ ปราชิโต;
อุปสนฺโต สุขํ เสติ, หิตฺวา ชยปราชย’’นฺติ.
๕. ทุติยสงฺคามสุตฺตํ
๑๒๖. [เอตฺถ ‘‘อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล จตุรงฺคินึ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา ราชานํ มาคธํ อชาตสตฺตุํ เวเทหิปุตฺตํ อพฺภุยฺยาสี’’ติ อาทินา ปาเน ภวิตพฺพํ. อฏฺกถายํ หิ ‘‘อพฺภุยฺยาสีติ ปราชเย ครหปฺปตฺโต…เป… วุตฺตชยการณํ สุตฺวา อภิอุยฺยาสี’’ติ วุตฺตํ] อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต จตุรงฺคินึ ¶ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา ราชานํ ปเสนทึ โกสลํ อพฺภุยฺยาสิ เยน กาสิ. อสฺโสสิ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล – ‘‘ราชา กิร มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต จตุรงฺคินึ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา มมํ อพฺภุยฺยาโต เยน กาสี’’ติ. อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล จตุรงฺคินึ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา ราชานํ มาคธํ อชาตสตฺตุํ เวเทหิปุตฺตํ ปจฺจุยฺยาสิ เยน กาสิ. อถ โข ราชา จ มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ราชา จ ปเสนทิ โกสโล สงฺคาเมสุํ. ตสฺมึ โข ปน สงฺคาเม ราชา ปเสนทิ โกสโล ราชานํ มาคธํ อชาตสตฺตุํ เวเทหิปุตฺตํ ปราเชสิ, ชีวคฺคาหฺจ นํ อคฺคเหสิ. อถ โข รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กิฺจาปิ โข มฺยายํ ¶ ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต อทุพฺภนฺตสฺส ทุพฺภติ, อถ จ ปน เม ภาคิเนยฺโย โหติ. ยํนูนาหํ รฺโ มาคธสฺส อชาตสตฺตุโน เวเทหิปุตฺตสฺส สพฺพํ หตฺถิกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ ¶ อสฺสกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ รถกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ ¶ ปตฺติกายํ ปริยาทิยิตฺวา ชีวนฺตเมว นํ โอสชฺเชยฺย’’นฺติ [โอสฺสชฺเชยฺยนฺติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)].
อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล รฺโ มาคธสฺส อชาตสตฺตุโน เวเทหิปุตฺตสฺส สพฺพํ หตฺถิกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ อสฺสกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ รถกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ ปตฺติกายํ ปริยาทิยิตฺวา ชีวนฺตเมว นํ โอสชฺชิ [โอสฺสชิ (สี.), โอสฺสชฺชิ (สฺยา. กํ. ปี.)].
อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสึสุ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –
‘‘อิธ ¶ , ภนฺเต, ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต จตุรงฺคินึ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา ราชานํ ปเสนทึ โกสลํ อพฺภุยฺยาสิ เยน กาสิ. อสฺโสสิ โข, ภนฺเต, ราชา ปเสนทิ โกสโล – ‘ราชา กิร มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต จตุรงฺคินึ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา มมํ อพฺภุยฺยาโต เยน กาสี’ติ. อถ โข, ภนฺเต, ราชา ปเสนทิ โกสโล จตุรงฺคินึ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา ราชานํ มาคธํ อชาตสตฺตุํ เวเทหิปุตฺตํ ปจฺจุยฺยาสิ เยน กาสิ. อถ โข, ภนฺเต, ราชา จ มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ราชา จ ปเสนทิ โกสโล สงฺคาเมสุํ. ตสฺมึ โข ปน, ภนฺเต, สงฺคาเม ราชา ปเสนทิ โกสโล ราชานํ มาคธํ อชาตสตฺตุํ เวเทหิปุตฺตํ ปราเชสิ, ชีวคฺคาหฺจ นํ อคฺคเหสิ. อถ โข, ภนฺเต, รฺโ ปเสนทิสฺส ¶ โกสลสฺส เอตทโหสิ – ‘กิฺจาปิ โข มฺยายํ ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต อทุพฺภนฺตสฺส ทุพฺภติ, อถ จ ปน เม ภาคิเนยฺโย โหติ. ยํนูนาหํ รฺโ มาคธสฺส อชาตสตฺตุโน เวเทหิปุตฺตสฺส สพฺพํ หตฺถิกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ อสฺสกายํ สพฺพํ รถกายํ สพฺพํ ปตฺติกายํ ปริยาทิยิตฺวา ชีวนฺตเมว นํ โอสชฺเชยฺย’’’นฺติ.
‘‘อถ ¶ โข, ภนฺเต, ราชา ปเสนทิ โกสโล รฺโ มาคธสฺส อชาตสตฺตุโน เวเทหิปุตฺตสฺส สพฺพํ หตฺถิกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ อสฺสกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ รถกายํ ปริยาทิยิตฺวา ¶ สพฺพํ ปตฺติกายํ ปริยาทิยิตฺวา ชีวนฺตเมว นํ โอสชฺชี’’ติ. อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมา คาถาโย อภาสิ –
‘‘วิลุมฺปเตว ปุริโส, ยาวสฺส อุปกปฺปติ;
ยทา จฺเ วิลุมฺปนฺติ, โส วิลุตฺโต วิลุปฺปติ [วิลุมฺปติ (สี. ปี. ก.)].
‘‘านฺหิ มฺติ พาโล, ยาว ปาปํ น ปจฺจติ;
ยทา จ ปจฺจติ ปาปํ, อถ ทุกฺขํ นิคจฺฉติ.
‘‘หนฺตา ลภติ [ลภติ หนฺตา (สี. สฺยา. กํ.)] หนฺตารํ, เชตารํ ลภเต ชยํ;
อกฺโกสโก จ อกฺโกสํ, โรเสตารฺจ โรสโก;
อถ กมฺมวิวฏฺเฏน, โส วิลุตฺโต วิลุปฺปตี’’ติ.
๖. มลฺลิกาสุตฺตํ
๑๒๗. สาวตฺถินิทานํ ¶ ¶ . อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. อถ โข อฺตโร ปุริโส เยน ราชา ปเสนทิ โกสโล เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส อุปกณฺณเก อาโรเจสิ – ‘‘มลฺลิกา, เทว, เทวี ธีตรํ วิชาตา’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ราชา ปเสนทิ โกสโล อนตฺตมโน อโหสิ.
อถ โข ภควา ราชานํ ปเสนทึ โกสลํ อนตฺตมนตํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมา คาถาโย อภาสิ –
‘‘อิตฺถีปิ หิ เอกจฺจิยา, เสยฺยา โปส ชนาธิป;
เมธาวินี สีลวตี, สสฺสุเทวา ปติพฺพตา.
‘‘ตสฺสา ¶ โย ชายติ โปโส, สูโร โหติ ทิสมฺปติ;
ตาทิสา สุภคิยา [สุภริยาปุตฺโต (ก.)] ปุตฺโต, รชฺชมฺปิ อนุสาสตี’’ติ.
๗. อปฺปมาทสุตฺตํ
๑๒๘. สาวตฺถินิทานํ ¶ . เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ นุ โข, ภนฺเต, เอโก ธมฺโม โย อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ สมฺปรายิกฺจา’’ติ?
‘‘อตฺถิ โข, มหาราช, เอโก ธมฺโม โย อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ สมฺปรายิกฺจา’’ติ.
‘‘กตโม ¶ ปน, ภนฺเต, เอโก ธมฺโม, โย อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ สมฺปรายิกฺจา’’ติ?
‘‘อปฺปมาโท โข, มหาราช, เอโก ธมฺโม, โย อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ สมฺปรายิกฺจาติ. เสยฺยถาปิ, มหาราช, ยานิ กานิจิ ชงฺคลานํ [ชงฺคมานํ (สี. ปี.)] ปาณานํ ปทชาตานิ, สพฺพานิ ตานิ หตฺถิปเท สโมธานํ คจฺฉนฺติ, หตฺถิปทํ เตสํ อคฺคมกฺขายติ – ยทิทํ มหนฺตตฺเตน; เอวเมว โข, มหาราช, อปฺปมาโท เอโก ธมฺโม, โย อุโภ ¶ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ สมฺปรายิกฺจา’’ติ. อิทมโวจ…เป…
‘‘อายุํ อโรคิยํ วณฺณํ, สคฺคํ อุจฺจากุลีนตํ;
รติโย ปตฺถยนฺเตน, อุฬารา อปราปรา.
‘‘อปฺปมาทํ ปสํสนฺติ, ปฺุกิริยาสุ ปณฺฑิตา;
อปฺปมตฺโต อุโภ อตฺเถ, อธิคฺคณฺหาติ ปณฺฑิโต.
‘‘ทิฏฺเ ¶ ธมฺเม จ โย อตฺโถ, โย จตฺโถ สมฺปรายิโก;
อตฺถาภิสมยา ธีโร, ปณฺฑิโตติ ปวุจฺจตี’’ติ.
๘. กลฺยาณมิตฺตสุตฺตํ
๑๒๙. สาวตฺถินิทานํ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ มยฺหํ ¶ , ภนฺเต, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม, โส จ โข กลฺยาณมิตฺตสฺส กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส, โน ปาปมิตฺตสฺส โน ปาปสหายสฺส โน ปาปสมฺปวงฺกสฺสา’’’ติ.
‘‘เอวเมตํ, มหาราช, เอวเมตํ, มหาราช! สฺวากฺขาโต ¶ , มหาราช, มยา ธมฺโม. โส จ โข กลฺยาณมิตฺตสฺส กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส, โน ปาปมิตฺตสฺส โน ปาปสหายสฺส โน ปาปสมฺปวงฺกสฺสาติ.
‘‘เอกมิทาหํ, มหาราช, สมยํ สกฺเกสุ วิหรามิ นครกํ นาม สกฺยานํ นิคโม. อถ โข, มหาราช, อานนฺโท ภิกฺขุ เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข, มหาราช, อานนฺโท ภิกฺขุ มํ เอตทโวจ – ‘อุปฑฺฒมิทํ, ภนฺเต, พฺรหฺมจริยสฺส – ยทิทํ กลฺยาณมิตฺตตา กลฺยาณสหายตา กลฺยาณสมฺปวงฺกตา’’’ติ.
‘‘เอวํ วุตฺตาหํ, มหาราช, อานนฺทํ ภิกฺขุํ เอตทโวจํ – ‘มา เหวํ, อานนฺท, มา เหวํ, อานนฺท! สกลเมว หิทํ, อานนฺท, พฺรหฺมจริยํ – ยทิทํ กลฺยาณมิตฺตตา ¶ กลฺยาณสหายตา กลฺยาณสมฺปวงฺกตา. กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวสฺสติ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกริสฺสติ’’’.
‘‘กถฺจ, อานนฺท, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก ¶ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวติ, อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกโรติ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ สมฺมาทิฏฺึ ภาเวติ ¶ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ, สมฺมาสงฺกปฺปํ ภาเวติ…เป… สมฺมาวาจํ ภาเวติ…เป… สมฺมากมฺมนฺตํ ภาเวติ…เป… สมฺมาอาชีวํ ภาเวติ…เป… สมฺมาวายามํ ภาเวติ…เป… สมฺมาสตึ ภาเวติ…เป… สมฺมาสมาธึ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ. เอวํ โข, อานนฺท, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวติ, อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกโรติ. ตทมินาเปตํ, อานนฺท, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สกลเมวิทํ พฺรหฺมจริยํ – ยทิทํ กลฺยาณมิตฺตตา กลฺยาณสหายตา กลฺยาณสมฺปวงฺกตา’’ติ.
‘‘มมฺหิ, อานนฺท, กลฺยาณมิตฺตํ อาคมฺม ชาติธมฺมา สตฺตา ชาติยา ปริมุจฺจนฺติ, ชราธมฺมา สตฺตา ชราย ปริมุจฺจนฺติ, พฺยาธิธมฺมา สตฺตา พฺยาธิโต ปริมุจฺจนฺติ, มรณธมฺมา สตฺตา มรเณน ปริมุจฺจนฺติ, โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสธมฺมา สตฺตา โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาเสหิ ปริมุจฺจนฺติ. อิมินา โข เอตํ, อานนฺท, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สกลเมวิทํ ¶ พฺรหฺมจริยํ – ยทิทํ กลฺยาณมิตฺตตา กลฺยาณสหายตา กลฺยาณสมฺปวงฺกตา’’ติ.
‘‘ตสฺมาติห เต, มหาราช, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘กลฺยาณมิตฺโต ภวิสฺสามิ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก’ติ. เอวฺหิ เต ¶ , มหาราช, สิกฺขิตพฺพํ.
‘‘กลฺยาณมิตฺตสฺส เต, มหาราช, กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส อยํ เอโก ¶ ธมฺโม อุปนิสฺสาย วิหาตพฺโพ – อปฺปมาโท กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
‘‘อปฺปมตฺตสฺส เต, มหาราช, วิหรโต อปฺปมาทํ อุปนิสฺสาย, อิตฺถาคารสฺส อนุยนฺตสฺส เอวํ ภวิสฺสติ – ‘ราชา โข อปฺปมตฺโต วิหรติ, อปฺปมาทํ อุปนิสฺสาย. หนฺท, มยมฺปิ อปฺปมตฺตา วิหราม, อปฺปมาทํ อุปนิสฺสายา’’’ติ.
‘‘อปฺปมตฺตสฺส ¶ เต, มหาราช, วิหรโต อปฺปมาทํ อุปนิสฺสาย, ขตฺติยานมฺปิ อนุยนฺตานํ เอวํ ภวิสฺสติ – ‘ราชา โข อปฺปมตฺโต วิหรติ อปฺปมาทํ อุปนิสฺสาย. หนฺท, มยมฺปิ อปฺปมตฺตา วิหราม, อปฺปมาทํ อุปนิสฺสายา’’’ติ.
‘‘อปฺปมตฺตสฺส เต, มหาราช, วิหรโต อปฺปมาทํ อุปนิสฺสาย, พลกายสฺสปิ เอวํ ภวิสฺสติ – ‘ราชา โข อปฺปมตฺโต วิหรติ อปฺปมาทํ อุปนิสฺสาย. หนฺท, มยมฺปิ อปฺปมตฺตา วิหราม, อปฺปมาทํ อุปนิสฺสายา’’’ติ.
‘‘อปฺปมตฺตสฺส เต, มหาราช, วิหรโต อปฺปมาทํ อุปนิสฺสาย, เนคมชานปทสฺสปิ เอวํ ภวิสฺสติ – ‘ราชา โข อปฺปมตฺโต วิหรติ, อปฺปมาทํ อุปนิสฺสาย. หนฺท, มยมฺปิ อปฺปมตฺตา วิหราม, อปฺปมาทํ อุปนิสฺสายา’’’ติ?
‘‘อปฺปมตฺตสฺส เต, มหาราช, วิหรโต อปฺปมาทํ อุปนิสฺสาย, อตฺตาปิ คุตฺโต รกฺขิโต ภวิสฺสติ – อิตฺถาคารมฺปิ คุตฺตํ รกฺขิตํ ภวิสฺสติ, โกสโกฏฺาคารมฺปิ คุตฺตํ รกฺขิตํ ภวิสฺสตี’’ติ. อิทมโวจ…เป…
‘‘โภเค ¶ ปตฺถยมาเนน, อุฬาเร อปราปเร;
อปฺปมาทํ ปสํสนฺติ, ปฺุกิริยาสุ ปณฺฑิตา.
‘‘อปฺปมตฺโต อุโภ อตฺเถ, อธิคฺคณฺหาติ ปณฺฑิโต;
ทิฏฺเ ¶ ธมฺเม จ โย อตฺโถ, โย จตฺโถ สมฺปรายิโก;
อตฺถาภิสมยา ธีโร, ปณฺฑิโตติ ปวุจฺจตี’’ติ.
๙. ปมอปุตฺตกสุตฺตํ
๑๓๐. สาวตฺถินิทานํ. อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ทิวา ทิวสฺส เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ราชานํ ปเสนทึ โกสลํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘หนฺท, กุโต นุ ตฺวํ, มหาราช, อาคจฺฉสิ ทิวา ทิวสฺสา’’ติ?
‘‘อิธ, ภนฺเต, สาวตฺถิยํ เสฏฺิ คหปติ กาลงฺกโต. ตมหํ อปุตฺตกํ สาปเตยฺยํ ราชนฺเตปุรํ อติหริตฺวา อาคจฺฉามิ. อสีติ, ภนฺเต, สตสหสฺสานิ หิรฺสฺเสว, โก ปน ¶ วาโท รูปิยสฺส ¶ ! ตสฺส โข ปน, ภนฺเต, เสฏฺิสฺส คหปติสฺส เอวรูโป ภตฺตโภโค อโหสิ – กณาชกํ ภฺุชติ พิลงฺคทุติยํ. เอวรูโป วตฺถโภโค อโหสิ – สาณํ ธาเรติ ติปกฺขวสนํ. เอวรูโป ยานโภโค อโหสิ – ชชฺชรรถเกน ยาติ ปณฺณฉตฺตเกน ธาริยมาเนนา’’ติ.
‘‘เอวเมตํ, มหาราช, เอวเมตํ, มหาราช! อสปฺปุริโส โข, มหาราช, อุฬาเร โภเค ลภิตฺวา เนวตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, น มาตาปิตโร สุเขติ ปีเณติ, น ปุตฺตทารํ สุเขติ ปีเณติ, น ทาสกมฺมกรโปริเส ¶ สุเขติ ปีเณติ, น มิตฺตามจฺเจ สุเขติ ปีเณติ, น สมณพฺราหฺมเณสุ อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฏฺาเปติ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิกํ. ตสฺส เต โภเค เอวํ สมฺมา อปริภฺุชิยมาเน [อปริภฺุชมาโน (สพฺพตฺถ)] ราชาโน วา หรนฺติ โจรา วา หรนฺติ อคฺคิ วา ฑหติ อุทกํ วา วหติ อปฺปิยา วา ทายาทา หรนฺติ. เอวํส เต [เอวํ สนฺเต (สี. ปี.)], มหาราช, โภคา สมฺมา อปริภฺุชิยมานา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โน ปริโภคํ.
‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, อมนุสฺสฏฺาเน โปกฺขรณี อจฺโฉทกา สีโตทกา สาโตทกา เสโตทกา สุปติตฺถา รมณียา. ตํ ชโน เนว หเรยฺย น ปิเวยฺย น นหาเยยฺย น ยถาปจฺจยํ วา กเรยฺย. เอวฺหิ ตํ, มหาราช, อุทกํ สมฺมา อปริภฺุชิยมานํ [อปริภฺุชมานํ (สฺยา. กํ.)] ปริกฺขยํ คจฺเฉยฺย ¶ , โน ปริโภคํ. เอวเมว โข, มหาราช, อสปฺปุริโส อุฬาเร โภเค ลภิตฺวา เนวตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, น มาตาปิตโร สุเขติ ปีเณติ, น ปุตฺตทารํ สุเขติ ปีเณติ, น ทาสกมฺมกรโปริเส สุเขติ ปีเณติ, น มิตฺตามจฺเจ สุเขติ ปีเณติ, น สมณพฺราหฺมเณสุ อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฏฺาเปติ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิกํ. ตสฺส เต โภเค เอวํ สมฺมา อปริภฺุชิยมาเน ราชาโน วา หรนฺติ โจรา วา หรนฺติ อคฺคิ วา ฑหติ อุทกํ วา วหติ อปฺปิยา วา ทายาทา หรนฺติ. เอวํส เต [เอวํ สนฺเต (สี. ปี.)], มหาราช, โภคา สมฺมา อปริภฺุชิยมานา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โน ปริโภคํ.
‘‘สปฺปุริโส จ โข, มหาราช, อุฬาเร โภเค ลภิตฺวา อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, มาตาปิตโร สุเขติ ปีเณติ, ปุตฺตทารํ สุเขติ ปีเณติ, ทาสกมฺมกรโปริเส สุเขติ ปีเณติ, มิตฺตามจฺเจ สุเขติ ปีเณติ, สมณพฺราหฺมเณสุ อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฏฺาเปติ โสวคฺคิกํ ¶ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิกํ. ตสฺส เต โภเค เอวํ สมฺมา ปริภฺุชิยมาเน เนว ราชาโน หรนฺติ ¶ ¶ , น โจรา หรนฺติ, น อคฺคิ ฑหติ, น อุทกํ วหติ, น อปฺปิยา ทายาทา หรนฺติ. เอวํส เต, มหาราช, โภคา สมฺมา ปริภฺุชิยมานา ปริโภคํ คจฺฉนฺติ, โน ปริกฺขยํ.
‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, คามสฺส วา นิคมสฺส วา อวิทูเร โปกฺขรณี อจฺโฉทกา สีโตทกา สาโตทกา เสโตทกา สุปติตฺถา รมณียา. ตฺจ อุทกํ ชโน หเรยฺยปิ ปิเวยฺยปิ นหาเยยฺยปิ ยถาปจฺจยมฺปิ กเรยฺย. เอวฺหิ ตํ, มหาราช, อุทกํ สมฺมา ปริภฺุชิยมานํ ปริโภคํ คจฺเฉยฺย, โน ปริกฺขยํ. เอวเมว โข, มหาราช, สปฺปุริโส อุฬาเร โภเค ลภิตฺวา อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, มาตาปิตโร สุเขติ ปีเณติ, ปุตฺตทารํ สุเขติ ปีเณติ, ทาสกมฺมกรโปริเส สุเขติ ปีเณติ, มิตฺตามจฺเจ สุเขติ ปีเณติ, สมณพฺราหฺมเณสุ อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฏฺาเปติ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิกํ. ตสฺส เต โภเค เอวํ สมฺมา ปริภฺุชิยมาเน เนว ราชาโน หรนฺติ, น โจรา หรนฺติ, น อคฺคิ ฑหติ, น อุทกํ วหติ, น อปฺปิยา ทายาทา หรนฺติ. เอวํส เต, มหาราช, โภคา สมฺมา ปริภฺุชิยมานา ปริโภคํ คจฺฉนฺติ, โน ปริกฺขย’’นฺติ.
‘‘อมนุสฺสฏฺาเน ¶ อุทกํว สีตํ,
ตทเปยฺยมานํ ปริโสสเมติ;
เอวํ ธนํ กาปุริโส ลภิตฺวา,
เนวตฺตนา ภฺุชติ โน ททาติ.
ธีโร จ วิฺู อธิคมฺม โภเค,
โส ภฺุชติ กิจฺจกโร จ โหติ;
โส าติสงฺฆํ นิสโภ ภริตฺวา,
อนินฺทิโต สคฺคมุเปติ าน’’นฺติ.
๑๐. ทุติยอปุตฺตกสุตฺตํ
๑๓๑. อถ ¶ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ทิวา ทิวสฺส เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ราชานํ ปเสนทึ โกสลํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘หนฺท, กุโต นุ ตฺวํ, มหาราช, อาคจฺฉสิ ทิวา ทิวสฺสา’’ติ?
‘‘อิธ, ภนฺเต, สาวตฺถิยํ เสฏฺิ คหปติ กาลงฺกโต. ตมหํ อปุตฺตกํ สาปเตยฺยํ ราชนฺเตปุรํ อติหริตฺวา อาคจฺฉามิ. สตํ, ภนฺเต, สตสหสฺสานิ หิรฺสฺเสว, โก ปน วาโท รูปิยสฺส! ตสฺส โข ปน, ภนฺเต, เสฏฺิสฺส คหปติสฺส เอวรูโป ภตฺตโภโค อโหสิ – กณาชกํ ภฺุชติ พิลงฺคทุติยํ. เอวรูโป วตฺถโภโค อโหสิ – สาณํ ธาเรติ ติปกฺขวสนํ ¶ . เอวรูโป ยานโภโค อโหสิ – ชชฺชรรถเกน ยาติ ปณฺณฉตฺตเกน ธาริยมาเนนา’’ติ.
‘‘เอวเมตํ, มหาราช, เอวเมตํ, มหาราช! ภูตปุพฺพํ โส, มหาราช, เสฏฺิ คหปติ ตคฺครสิขึ นาม ปจฺเจกสมฺพุทฺธํ ปิณฺฑปาเตน ปฏิปาเทสิ. ‘เทถ สมณสฺส ปิณฺฑ’นฺติ วตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. ทตฺวา จ ปน ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี อโหสิ – ‘วรเมตํ ปิณฺฑปาตํ ทาสา วา กมฺมกรา วา ภฺุเชยฺยุ’นฺติ. ภาตุ จ ปน เอกปุตฺตกํ สาปเตยฺยสฺส การณา ชีวิตา โวโรเปสิ.
‘‘ยํ โข โส, มหาราช, เสฏฺิ คหปติ ตคฺครสิขึ ปจฺเจกสมฺพุทฺธํ ปิณฺฑปาเตน ปฏิปาเทสิ, ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน สตฺตกฺขตฺตุํ สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิ. ตสฺเสว ¶ กมฺมสฺส วิปากาวเสเสน อิมิสฺสาเยว สาวตฺถิยา ¶ สตฺตกฺขตฺตุํ เสฏฺิตฺตํ กาเรสิ. ยํ โข โส, มหาราช, เสฏฺิ คหปติ ทตฺวา ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี อโหสิ – ‘วรเมตํ ปิณฺฑปาตํ ทาสา วา กมฺมกรา วา ภฺุเชยฺยุ’นฺติ, ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน นาสฺสุฬาราย ภตฺตโภคาย จิตฺตํ นมติ, นาสฺสุฬาราย วตฺถโภคาย จิตฺตํ นมติ, นาสฺสุฬาราย ยานโภคาย จิตฺตํ นมติ, นาสฺสุฬารานํ ปฺจนฺนํ กามคุณานํ โภคาย จิตฺตํ นมติ. ยํ โข โส, มหาราช, เสฏฺิ คหปติ ภาตุ จ ปน เอกปุตฺตกํ สาปเตยฺยสฺส การณา ชีวิตา โวโรเปสิ, ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน พหูนิ วสฺสานิ พหูนิ วสฺสสตานิ พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ นิรเย ปจฺจิตฺถ. ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสน อิทํ สตฺตมํ อปุตฺตกํ สาปเตยฺยํ ราชโกสํ ปเวเสติ. ตสฺส โข, มหาราช, เสฏฺิสฺส คหปติสฺส ปุราณฺจ ปฺุํ ปริกฺขีณํ, นวฺจ ปฺุํ อนุปจิตํ. อชฺช ปน, มหาราช, เสฏฺิ คหปติ มหาโรรุเว นิรเย ปจฺจตี’’ติ ¶ . ‘‘เอวํ, ภนฺเต, เสฏฺิ คหปติ มหาโรรุวํ นิรยํ อุปปนฺโน’’ติ. ‘‘เอวํ ¶ , มหาราช, เสฏฺิ คหปติ มหาโรรุวํ นิรยํ อุปปนฺโน’’ติ. อิทมโวจ…เป….
‘‘ธฺํ ธนํ รชตํ ชาตรูปํ, ปริคฺคหํ วาปิ ยทตฺถิ กิฺจิ;
ทาสา กมฺมกรา เปสฺสา, เย จสฺส อนุชีวิโน.
‘‘สพฺพํ ¶ นาทาย คนฺตพฺพํ, สพฺพํ นิกฺขิปฺปคามินํ [นิกฺขีปคามินํ (สฺยา. กํ. ก.)];
ยฺจ กโรติ กาเยน, วาจาย อุท เจตสา.
‘‘ตฺหิ ตสฺส สกํ โหติ, ตฺจ อาทาย คจฺฉติ;
ตฺจสฺส อนุคํ โหติ, ฉายาว อนปายินี.
‘‘ตสฺมา กเรยฺย กลฺยาณํ, นิจยํ สมฺปรายิกํ;
ปฺุานิ ปรโลกสฺมึ, ปติฏฺา โหนฺติ ปาณิน’’นฺติ.
ทุติโย วคฺโค.
ตสฺสุทฺทานํ –
ชฏิลา ปฺจ ราชาโน, โทณปากกุเรน จ;
สงฺคาเมน ทฺเว วุตฺตานิ, มลฺลิกา [ธีตรา (พหูสุ)] ทฺเว อปฺปมาเทน จ;
อปุตฺตเกน ทฺเว วุตฺตา, วคฺโค เตน ปวุจฺจตีติ.
๓. ตติยวคฺโค
๑. ปุคฺคลสุตฺตํ
๑๓๒. สาวตฺถินิทานํ ¶ ¶ ¶ . อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ราชานํ ปเสนทึ โกสลํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘จตฺตาโรเม, มหาราช, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? ตโมตมปรายโน, ตโมโชติปรายโน, โชติตมปรายโน, โชติโชติปรายโน’’.
‘‘กถฺจ, มหาราช ปุคฺคโล ตโมตมปรายโน โหติ? อิธ, มหาราช, เอกจฺโจ ปุคฺคโล นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ, จณฺฑาลกุเล วา เวนกุเล [เวณกุเล (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วา เนสาทกุเล วา รถการกุเล วา ปุกฺกุสกุเล วา ทลิทฺเท อปฺปนฺนปานโภชเน กสิรวุตฺติเก ¶ , ยตฺถ กสิเรน ฆาสจฺฉาโท ลพฺภติ. โส จ โหติ ทุพฺพณฺโณ ทุทฺทสิโก โอโกฏิมโก พวฺหาพาโธ [พหฺวาพาโธ (ก.)] กาโณ วา กุณี วา ขฺโช วา ปกฺขหโต วา, น ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช ¶ , ปุริโส อนฺธการา วา อนฺธการํ คจฺเฉยฺย, ตมา วา ตมํ คจฺเฉยฺย, โลหิตมลา วา โลหิตมลํ คจฺเฉยฺย. ตถูปมาหํ, มหาราช, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวํ โข, มหาราช, ปุคฺคโล ตโมตมปรายโน โหติ.
‘‘กถฺจ, มหาราช, ปุคฺคโล ตโมโชติปรายโน โหติ? อิธ, มหาราช, เอกจฺโจ ปุคฺคโล นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ, จณฺฑาลกุเล วา เวนกุเล วา เนสาทกุเล วา รถการกุเล วา ปุกฺกุสกุเล วา ทลิทฺเท อปฺปนฺนปานโภชเน กสิรวุตฺติเก, ยตฺถ กสิเรน ฆาสจฺฉาโท ลพฺภติ. โส จ โข โหติ ทุพฺพณฺโณ ทุทฺทสิโก ¶ โอโกฏิมโก พวฺหาพาโธ, กาโณ วา ¶ กุณี วา ขฺโช วา ปกฺขหโต วา, น ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน สุจริตํ จรติ, วาจาย สุจริตํ จรติ, มนสา สุจริตํ จรติ. โส กาเยน สุจริตํ จริตฺวา วาจาย สุจริตํ จริตฺวา มนสา สุจริตํ จริตฺวา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ปุริโส ปถวิยา วา ปลฺลงฺกํ อาโรเหยฺย, ปลฺลงฺกา วา อสฺสปิฏฺึ อาโรเหยฺย, อสฺสปิฏฺิยา วา หตฺถิกฺขนฺธํ อาโรเหยฺย, หตฺถิกฺขนฺธา วา ปาสาทํ อาโรเหยฺย. ตถูปมาหํ, มหาราช, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวํ โข, มหาราช, ปุคฺคโล ตโมโชติปรายโน โหติ.
‘‘กถฺจ, มหาราช, ปุคฺคโล โชติตมปรายโน โหติ? อิธ ¶ , มหาราช, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุจฺเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ, ขตฺติยมหาสาลกุเล วา พฺราหฺมณมหาสาลกุเล วา คหปติมหาสาลกุเล วา, อฑฺเฒ มหทฺธเน มหาโภเค ปหูตชาตรูปรชเต ¶ ปหูตวิตฺตูปกรเณ ปหูตธนธฺเ. โส จ โหติ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก, ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต, ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ปุริโส ปาสาทา วา หตฺถิกฺขนฺธํ โอโรเหยฺย, หตฺถิกฺขนฺธา วา อสฺสปิฏฺึ โอโรเหยฺย, อสฺสปิฏฺิยา วา ปลฺลงฺกํ โอโรเหยฺย, ปลฺลงฺกา วา ปถวึ โอโรเหยฺย, ปถวิยา วา อนฺธการํ ปวิเสยฺย. ตถูปมาหํ, มหาราช, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวํ โข, มหาราช, ปุคฺคโล โชติตมปรายโน โหติ.
‘‘กถฺจ, มหาราช, ปุคฺคโล โชติโชติปรายโน โหติ? อิธ, มหาราช, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อุจฺเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ, ขตฺติยมหาสาลกุเล วา พฺราหฺมณมหาสาลกุเล วา คหปติมหาสาลกุเล ¶ วา, อฑฺเฒ มหทฺธเน มหาโภเค ปหูตชาตรูปรชเต ปหูตวิตฺตูปกรเณ ¶ ปหูตธนธฺเ. โส จ โหติ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก, ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต ¶ , ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน สุจริตํ จรติ, วาจาย สุจริตํ จรติ, มนสา สุจริตํ จรติ. โส กาเยน สุจริตํ จริตฺวา วาจาย สุจริตํ จริตฺวา มนสา สุจริตํ จริตฺวา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ปุริโส ปลฺลงฺกา วา ปลฺลงฺกํ สงฺกเมยฺย, อสฺสปิฏฺิยา วา อสฺสปิฏฺึ สงฺกเมยฺย, หตฺถิกฺขนฺธา วา หตฺถิกฺขนฺธํ สงฺกเมยฺย, ปาสาทา วา ปาสาทํ สงฺกเมยฺย. ตถูปมาหํ, มหาราช, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวํ โข, มหาราช, ปุคฺคโล โชติโชติปรายโน โหติ. อิเม ¶ โข, มหาราช, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. อิทมโวจ…เป…
‘‘ทลิทฺโท ปุริโส ราช, อสฺสทฺโธ โหติ มจฺฉรี;
กทริโย ปาปสงฺกปฺโป, มิจฺฉาทิฏฺิ อนาทโร.
‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ วาปิ, อฺเ วาปิ วนิพฺพเก;
อกฺโกสติ ปริภาสติ, นตฺถิโก โหติ โรสโก.
‘‘ททมานํ นิวาเรติ, ยาจมานาน โภชนํ;
ตาทิโส ปุริโส ราช, มียมาโน ชนาธิป;
อุเปติ นิรยํ โฆรํ, ตโมตมปรายโน.
‘‘ทลิทฺโท ปุริโส ราช, สทฺโธ โหติ อมจฺฉรี;
ททาติ ¶ เสฏฺสงฺกปฺโป, อพฺยคฺคมนโส นโร.
‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ วาปิ, อฺเ วาปิ วนิพฺพเก;
อุฏฺาย อภิวาเทติ, สมจริยาย สิกฺขติ.
‘‘ททมานํ ¶ น วาเรติ [น นิวาเรติ (สี.)], ยาจมานาน โภชนํ;
ตาทิโส ปุริโส ราช, มียมาโน ชนาธิป;
อุเปติ ติทิวํ านํ, ตโมโชติปรายโน.
‘‘อฑฺโฒ ¶ เจ [อฑฺโฒ เว (ปี. ก.)] ปุริโส ราช, อสฺสทฺโธ โหติ มจฺฉรี;
กทริโย ปาปสงฺกปฺโป, มิจฺฉาทิฏฺิ อนาทโร.
‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ วาปิ, อฺเ วาปิ วนิพฺพเก;
อกฺโกสติ ปริภาสติ, นตฺถิโก โหติ โรสโก.
‘‘ททมานํ นิวาเรติ, ยาจมานาน โภชนํ;
ตาทิโส ปุริโส ราช, มียมาโน ชนาธิป;
อุเปติ นิรยํ โฆรํ, โชติตมปรายโน.
‘‘อฑฺโฒ เจ ปุริโส ราช, สทฺโธ โหติ อมจฺฉรี;
ททาติ เสฏฺสงฺกปฺโป, อพฺยคฺคมนโส นโร.
‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ วาปิ, อฺเ วาปิ วนิพฺพเก;
อุฏฺาย อภิวาเทติ, สมจริยาย สิกฺขติ.
‘‘ททมานํ น วาเรติ, ยาจมานาน โภชนํ;
ตาทิโส ปุริโส ราช, มียมาโน ชนาธิป;
อุเปติ ติทิวํ านํ, โชติโชติปรายโน’’ติ.
๒. อยฺยิกาสุตฺตํ
๑๓๓. สาวตฺถินิทานํ ¶ . เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ราชานํ ปเสนทึ โกสลํ ภควา ¶ เอตทโวจ – ‘‘หนฺท, กุโต นุ ตฺวํ, มหาราช, อาคจฺฉสิ ทิวาทิวสฺสา’’ติ?
‘‘อยฺยิกา ¶ เม, ภนฺเต, กาลงฺกตา ชิณฺณา วุฑฺฒา มหลฺลิกา อทฺธคตา วโยอนุปฺปตฺตา วีสวสฺสสติกา ชาติยา. อยฺยิกา โข ปน เม, ภนฺเต, ปิยา โหติ มนาปา. หตฺถิรตเนน เจปาหํ, ภนฺเต, ลเภยฺยํ ‘มา เม อยฺยิกา กาลมกาสี’ติ, หตฺถิรตนมฺปาหํ ทเทยฺยํ – ‘มา เม อยฺยิกา กาลมกาสี’ติ. อสฺสรตเนน เจปาหํ, ภนฺเต, ลเภยฺยํ ‘มา เม อยฺยิกา กาลมกาสี’ติ, อสฺสรตนมฺปาหํ ทเทยฺยํ – ‘มา เม อยฺยิกา กาลมกาสี’ติ. คามวเรน เจปาหํ ภนฺเต, ลเภยฺยํ ‘มา เม อยฺยิกา กาลมกาสี’ติ, คามวรมฺปาหํ ทเทยฺยํ – ‘มา เม อยฺยิกา กาลมกาสี’ติ. ชนปทปเทเสน [ชนปเทน (สี. สฺยา. ปี.)] เจปาหํ, ภนฺเต, ลเภยฺยํ ¶ ‘มา เม อยฺยิกา กาลมกาสี’ติ, ชนปทปเทสมฺปาหํ ทเทยฺยํ – ‘มา เม อยฺยิกา กาลมกาสี’ติ. ‘สพฺเพ สตฺตา, มหาราช, มรณธมฺมา มรณปริโยสานา มรณํ อนตีตา’ติ. ‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยาวสุภาสิตมิทํ, ภนฺเต, ภควตา – สพฺเพ สตฺตา มรณธมฺมา มรณปริโยสานา มรณํ อนตีตา’’’ติ.
‘‘เอวเมตํ, มหาราช, เอวเมตํ, มหาราช! สพฺเพ สตฺตา มรณธมฺมา ¶ มรณปริโยสานา มรณํ อนตีตา. เสยฺยถาปิ, มหาราช, ยานิ กานิจิ กุมฺภการภาชนานิ อามกานิ เจว ปกฺกานิ จ สพฺพานิ ตานิ เภทนธมฺมานิ เภทนปริโยสานานิ เภทนํ อนตีตานิ; เอวเมว โข, มหาราช, สพฺเพ สตฺตา มรณธมฺมา มรณปริโยสานา มรณํ อนตีตา’’ติ. อิทมโวจ…เป…
‘‘สพฺเพ สตฺตา มริสฺสนฺติ, มรณนฺตฺหิ ชีวิตํ;
ยถากมฺมํ คมิสฺสนฺติ, ปฺุปาปผลูปคา;
นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา, ปฺุกมฺมา จ สุคฺคตึ.
‘‘ตสฺมา กเรยฺย กลฺยาณํ, นิจยํ สมฺปรายิกํ;
ปฺุานิ ปรโลกสฺมึ, ปติฏฺา โหนฺติ ปาณิน’’นฺติ.
๓. โลกสุตฺตํ
๑๓๔. สาวตฺถินิทานํ ¶ . เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ ¶ – ‘‘กติ นุ โข, ภนฺเต, โลกสฺส ธมฺมา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ อหิตาย ทุกฺขาย อผาสุวิหารายา’’ติ? ‘‘ตโย โข, มหาราช, โลกสฺส ธมฺมา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ อหิตาย ทุกฺขาย อผาสุวิหาราย. กตเม ตโย? โลโภ โข, มหาราช, โลกสฺส ธมฺโม, อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ อหิตาย ทุกฺขาย อผาสุวิหาราย. โทโส ¶ โข, มหาราช, โลกสฺส ธมฺโม, อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ อหิตาย ทุกฺขาย อผาสุวิหาราย. โมโห โข, มหาราช, โลกสฺส ธมฺโม, อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ อหิตาย ทุกฺขาย อผาสุวิหาราย. อิเม โข, มหาราช, ตโย โลกสฺส ธมฺมา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ อหิตาย ทุกฺขาย อผาสุวิหารายา’’ติ. อิทมโวจ…เป…
‘‘โลโภ ¶ โทโส จ โมโห จ, ปุริสํ ปาปเจตสํ;
หึสนฺติ อตฺตสมฺภูตา, ตจสารํว สมฺผล’’นฺติ.
๔. อิสฺสตฺตสุตฺตํ
๑๓๕. สาวตฺถินิทานํ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กตฺถ นุ โข, ภนฺเต, ทานํ ทาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยตฺถ โข, มหาราช, จิตฺตํ ปสีทตี’’ติ. ‘‘กตฺถ ปน, ภนฺเต, ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ? ‘‘อฺํ โข เอตํ, มหาราช, กตฺถ ทานํ ทาตพฺพํ, อฺํ ปเนตํ กตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลนฺติ? สีลวโต โข, มหาราช, ทินฺนํ มหปฺผลํ, โน ตถา ทุสฺสีเล. เตน หิ, มหาราช, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ. ยถา, เต ขเมยฺย, ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, อิธ ตฺยสฺส ยุทฺธํ ปจฺจุปฏฺิตํ สงฺคาโม สมุปพฺยูฬฺโห [สมูปพฺพูฬฺโห (สี.), สมุปพฺพุฬฺโห (ปี.)]. อถ อาคจฺเฉยฺย ขตฺติยกุมาโร อสิกฺขิโต อกตหตฺโถ อกตโยคฺโค อกตูปาสโน ¶ ภีรุ ฉมฺภี อุตฺราสี ปลายี. ภเรยฺยาสิ ตํ ปุริสํ, อตฺโถ จ เต ตาทิเสน ปุริเสนา’’ติ? ‘‘นาหํ, ภนฺเต, ภเรยฺยํ ตํ ปุริสํ, น จ เม อตฺโถ ตาทิเสน ปุริเสนา’’ติ. ‘‘อถ อาคจฺเฉยฺย พฺราหฺมณกุมาโร อสิกฺขิโต…เป… อถ อาคจฺเฉยฺย เวสฺสกุมาโร อสิกฺขิโต…เป… อถ อาคจฺเฉยฺย สุทฺทกุมาโร อสิกฺขิโต…เป… น จ เม อตฺโถ ตาทิเสน ปุริเสนา’’ติ.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, อิธ ตฺยสฺส ยุทฺธํ ปจฺจุปฏฺิตํ สงฺคาโม สมุปพฺยูฬฺโห. อถ อาคจฺเฉยฺย ¶ ขตฺติยกุมาโร สุสิกฺขิโต กตหตฺโถ กตโยคฺโค กตูปาสโน อภีรุ อจฺฉมฺภี อนุตฺราสี อปลายี. ภเรยฺยาสิ ตํ ปุริสํ, อตฺโถ จ เต ตาทิเสน ปุริเสนา’’ติ? ‘‘ภเรยฺยาหํ, ภนฺเต ¶ , ตํ ปุริสํ, อตฺโถ จ เม ตาทิเสน ปุริเสนา’’ติ. ‘‘อถ อาคจฺเฉยฺย พฺราหฺมณกุมาโร…เป… อถ อาคจฺเฉยฺย เวสฺสกุมาโร…เป… อถ อาคจฺเฉยฺย สุทฺทกุมาโร สุสิกฺขิโต กตหตฺโถ กตโยคฺโค กตูปาสโน อภีรุ อจฺฉมฺภี อนุตฺราสี อปลายี. ภเรยฺยาสิ ตํ ปุริสํ, อตฺโถ จ เต ตาทิเสน ปุริเสนา’’ติ? ‘‘ภเรยฺยาหํ, ภนฺเต, ตํ ปุริสํ, อตฺโถ จ เม ตาทิเสน ปุริเสนา’’ติ.
‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ยสฺมา กสฺมา เจปิ [ยสฺมา เจปิ (สี. สฺยา. กํ. ก.)] กุลา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ, โส จ โหติ ปฺจงฺควิปฺปหีโน ปฺจงฺคสมนฺนาคโต, ตสฺมึ ¶ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ. กตมานิ ปฺจงฺคานิ ปหีนานิ โหนฺติ? กามจฺฉนฺโท ปหีโน โหติ, พฺยาปาโท ปหีโน โหติ, ถินมิทฺธํ ปหีนํ โหติ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหีนํ โหติ, วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ. อิมานิ ปฺจงฺคานิ ปหีนานิ โหนฺติ. กตเมหิ ปฺจหงฺเคหิ ¶ สมนฺนาคโต โหติ? อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต ¶ โหติ, อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ. อิเมหิ ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ. อิติ ปฺจงฺควิปฺปหีเน ปฺจงฺคสมนฺนาคเต ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ. อิทมโวจ ภควา…เป… สตฺถา –
‘‘อิสฺสตฺตํ [อิสฺสตฺถํ (สี. สฺยา. กํ.)] พลวีริยฺจ [พลวิริยฺจ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], ยสฺมึ วิชฺเชถ มาณเว;
ตํ ยุทฺธตฺโถ ภเร ราชา, นาสูรํ ชาติปจฺจยา.
‘‘ตเถว ขนฺติโสรจฺจํ, ธมฺมา ยสฺมึ ปติฏฺิตา;
อริยวุตฺตึ เมธาวึ, หีนชจฺจมฺปิ ปูชเย.
‘‘การเย อสฺสเม รมฺเม, วาสเยตฺถ พหุสฺสุเต;
ปปฺจ วิวเน กยิรา, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จ.
‘‘อนฺนํ ¶ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
ทเทยฺย อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
‘‘ยถา หิ เมโฆ ถนยํ, วิชฺชุมาลี สตกฺกกุ;
ถลํ นินฺนฺจ ปูเรติ, อภิวสฺสํ วสุนฺธรํ.
‘‘ตเถว สทฺโธ สุตวา, อภิสงฺขจฺจ โภชนํ;
วนิพฺพเก ตปฺปยติ, อนฺนปาเนน ปณฺฑิโต.
‘‘อาโมทมาโน ปกิเรติ, เทถ เทถาติ ภาสติ;
ตํ ¶ หิสฺส คชฺชิตํ โหติ, เทวสฺเสว ปวสฺสโต;
สา ปฺุธารา วิปุลา, ทาตารํ อภิวสฺสตี’’ติ.
๕. ปพฺพตูปมสุตฺตํ
๑๓๖. สาวตฺถินิทานํ ¶ . เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ราชานํ ปเสนทึ โกสลํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘หนฺท, กุโต นุ ตฺวํ, มหาราช, อาคจฺฉสิ ทิวา ทิวสฺสา’’ติ? ‘‘ยานิ ตานิ, ภนฺเต, รฺํ ขตฺติยานํ มุทฺธาวสิตฺตานํ อิสฺสริยมทมตฺตานํ กามเคธปริยุฏฺิตานํ ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺตานํ มหนฺตํ ปถวิมณฺฑลํ อภิวิชิย อชฺฌาวสนฺตานํ ราชกรณียานิ ภวนฺติ, เตสุ ขฺวาหํ, เอตรหิ อุสฺสุกฺกมาปนฺโน’’ติ.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, อิธ เต ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ¶ ปุรตฺถิมาย ทิสาย สทฺธายิโก ปจฺจยิโก. โส ตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทยฺย – ‘ยคฺเฆ, มหาราช, ชาเนยฺยาสิ, อหํ อาคจฺฉามิ ปุรตฺถิมาย ทิสาย. ตตฺถทฺทสํ มหนฺตํ ปพฺพตํ อพฺภสมํ สพฺเพ ปาเณ นิปฺโปเถนฺโต อาคจฺฉติ. ยํ เต, มหาราช, กรณียํ, ตํ กโรหี’ติ. อถ ทุติโย ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ปจฺฉิมาย ทิสาย…เป… อถ ตติโย ปุริโส อาคจฺเฉยฺย อุตฺตราย ทิสาย…เป… อถ จตุตฺโถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ทกฺขิณาย ทิสาย สทฺธายิโก ปจฺจยิโก. โส ตํ ¶ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทยฺย – ‘ยคฺเฆ มหาราช, ชาเนยฺยาสิ, อหํ อาคจฺฉามิ ¶ ทกฺขิณาย ทิสาย. ตตฺถทฺทสํ มหนฺตํ ปพฺพตํ อพฺภสมํ สพฺเพ ปาเณ นิปฺโปเถนฺโต อาคจฺฉติ. ยํ เต, มหาราช, กรณียํ ตํ กโรหี’ติ. เอวรูเป เต, มหาราช, มหติ มหพฺภเย สมุปฺปนฺเน ทารุเณ มนุสฺสกฺขเย [มนุสฺสกาเย (ก.)] ทุลฺลเภ มนุสฺสตฺเต กิมสฺส กรณีย’’นฺติ?
‘‘เอวรูเป เม, ภนฺเต, มหติ มหพฺภเย สมุปฺปนฺเน ทารุเณ มนุสฺสกฺขเย ทุลฺลเภ มนุสฺสตฺเต กิมสฺส กรณียํ อฺตฺร ธมฺมจริยาย อฺตฺร สมจริยาย อฺตฺร กุสลกิริยาย อฺตฺร ปฺุกิริยายา’’ติ?
‘‘อาโรเจมิ โข เต, มหาราช, ปฏิเวเทมิ โข เต, มหาราช, อธิวตฺตติ โข ตํ, มหาราช, ชรามรณํ. อธิวตฺตมาเน เจ เต, มหาราช, ชรามรเณ กิมสฺส กรณีย’’นฺติ? ‘‘อธิวตฺตมาเน จ เม, ภนฺเต, ชรามรเณ กิมสฺส กรณียํ อฺตฺร ธมฺมจริยาย สมจริยาย กุสลกิริยาย ปฺุกิริยาย? ยานิ ตานิ, ภนฺเต, รฺํ ขตฺติยานํ มุทฺธาวสิตฺตานํ อิสฺสริยมทมตฺตานํ ¶ กามเคธปริยุฏฺิตานํ ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺตานํ มหนฺตํ ปถวิมณฺฑลํ อภิวิชิย อชฺฌาวสนฺตานํ หตฺถิยุทฺธานิ ภวนฺติ; เตสมฺปิ, ภนฺเต, หตฺถิยุทฺธานํ นตฺถิ คติ นตฺถิ วิสโย อธิวตฺตมาเน ชรามรเณ. ยานิปิ ตานิ, ภนฺเต, รฺํ ขตฺติยานํ มุทฺธาวสิตฺตานํ…เป… อชฺฌาวสนฺตานํ อสฺสยุทฺธานิ ภวนฺติ…เป… รถยุทฺธานิ ภวนฺติ ¶ …เป… ปตฺติยุทฺธานิ ภวนฺติ; เตสมฺปิ ¶ , ภนฺเต, ปตฺติยุทฺธานํ นตฺถิ คติ นตฺถิ วิสโย อธิวตฺตมาเน ชรามรเณ. สนฺติ โข ปน, ภนฺเต, อิมสฺมึ ราชกุเล มนฺติโน มหามตฺตา, เย ปโหนฺติ [เยสํ โหนฺติ (ก.)] อาคเต ปจฺจตฺถิเก มนฺเตหิ เภทยิตุํ. เตสมฺปิ, ภนฺเต, มนฺตยุทฺธานํ นตฺถิ คติ นตฺถิ วิสโย อธิวตฺตมาเน ชรามรเณ. สํวิชฺชติ โข ปน, ภนฺเต, อิมสฺมึ ราชกุเล ปหูตํ หิรฺสุวณฺณํ ภูมิคตฺเจว เวหาสฏฺฺจ, เยน มยํ ปโหม อาคเต ปจฺจตฺถิเก ธเนน อุปลาเปตุํ. เตสมฺปิ, ภนฺเต, ธนยุทฺธานํ นตฺถิ คติ นตฺถิ วิสโย อธิวตฺตมาเน ชรามรเณ. อธิวตฺตมาเน จ เม, ภนฺเต, ชรามรเณ กิมสฺส กรณียํ อฺตฺร ธมฺมจริยาย สมจริยาย กุสลกิริยาย ปฺุกิริยายา’’ติ?
‘‘เอวเมตํ, มหาราช, เอวเมตํ, มหาราช! อธิวตฺตมาเน ชรามรเณ กิมสฺส กรณียํ อฺตฺร ธมฺมจริยาย สมจริยาย กุสลกิริยาย ปฺุกิริยายา’’ติ? อิทมโวจ ภควา…เป… สตฺถา –
‘‘ยถาปิ ¶ เสลา วิปุลา, นภํ อาหจฺจ ปพฺพตา;
สมนฺตานุปริยาเยยฺยุํ, นิปฺโปเถนฺโต จตุทฺทิสา.
‘‘เอวํ ชรา จ มจฺจุ จ, อธิวตฺตนฺติ ปาณิเน [ปาณิโน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)];
ขตฺติเย พฺราหฺมเณ เวสฺเส, สุทฺเท จณฺฑาลปุกฺกุเส;
น ¶ กิฺจิ [น กฺจิ (?)] ปริวชฺเชติ, สพฺพเมวาภิมทฺทติ.
‘‘น ตตฺถ หตฺถีนํ ภูมิ, น รถานํ น ปตฺติยา;
น จาปิ มนฺตยุทฺเธน, สกฺกา เชตุํ ธเนน วา.
‘‘ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน;
พุทฺเธ ธมฺเม จ สงฺเฆ จ, ธีโร สทฺธํ นิเวสเย.
‘‘โย ¶ ธมฺมํ จริ [ธมฺมจารี (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] กาเยน, วาจาย อุท เจตสา;
อิเธว นํ ปสํสนฺติ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทตี’’ติ.
ตติโย วคฺโค.
ตสฺสุทฺทานํ –
ปุคฺคโล อยฺยิกา โลโก, อิสฺสตฺตํ [อิสฺสตฺถํ (สี. สฺยา. กํ.)] ปพฺพตูปมา;
เทสิตํ พุทฺธเสฏฺเน, อิมํ โกสลปฺจกนฺติ.
โกสลสํยุตฺตํ สมตฺตํ.