📜
๔. มารสํยุตฺตํ
๑. ปมวคฺโค
๑. ตโปกมฺมสุตฺตํ
๑๓๗. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร อชปาลนิคฺโรธมูเล ปมาภิสมฺพุทฺโธ. อถ โข ภควโต รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘มุตฺโต วตมฺหิ ตาย ทุกฺกรการิกาย. สาธุ มุตฺโต วตมฺหิ ตาย อนตฺถสํหิตาย ทุกฺกรการิกาย. สาธุ วตมฺหิ มุตฺโต โพธึ สมชฺฌค’’นฺติ [สาธุ ิโต สโต โพธึ สมชฺเฌคนฺติ (สี. ปี.), สาธุ วตมฺหิ สตฺโต โพธิสมชฺฌคูติ (สฺยา. กํ.)].
อถ โข มาโร ปาปิมา ภควโต เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘ตโปกมฺมา อปกฺกมฺม, เยน น สุชฺฌนฺติ มาณวา;
อสุทฺโธ มฺสิ สุทฺโธ, สุทฺธิมคฺคา อปรทฺโธ’’ [สุทฺธิมคฺคมปรทฺโธ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ติ.
อถ โข ภควา ‘‘มาโร อยํ ปาปิมา’’ อิติ วิทิตฺวา มารํ ปาปิมนฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –
‘‘อนตฺถสํหิตํ ¶ ตฺวา, ยํ กิฺจิ อมรํ ตปํ [อปรํ ตปํ (ก.)];
สพฺพํ นตฺถาวหํ โหติ, ผิยาริตฺตํว ธมฺมนิ [วมฺมนิ (สี.), ธมฺมนึ (ปี.), ชมฺมนึ (ก.) เอตฺถายํ ธมฺมสทฺโท สกฺกเต ธนฺวนํ-สทฺเทน สทิโส มรุวาจโกติ เวทิตพฺโพ, ยถา ทฬฺหธมฺมาติปทํ].
‘‘สีลํ สมาธิ ปฺฺจ, มคฺคํ โพธาย ภาวยํ;
ปตฺโตสฺมิ ปรมํ สุทฺธึ, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติ.
อถ ¶ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ ภควา, ชานาติ มํ สุคโต’’ติ, ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๒. หตฺถิราชวณฺณสุตฺตํ
๑๓๘. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร อชปาลนิคฺโรธมูเล ปมาภิสมฺพุทฺโธ ¶ . เตน โข ปน สมเยน ภควา รตฺตนฺธการติมิสายํ อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติ, เทโว จ เอกเมกํ ผุสายติ. อถ โข มาโร ปาปิมา ภควโต ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม มหนฺตํ หตฺถิราชวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. เสยฺยถาปิ นาม มหาอริฏฺโก มณิ, เอวมสฺส สีสํ โหติ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ รูปิยํ, เอวมสฺส ทนฺตา โหนฺติ. เสยฺยถาปิ นาม มหตี นงฺคลีสา [นงฺคลสีสา (ปี. ก.)], เอวมสฺส โสณฺโฑ โหติ. อถ โข ภควา ‘‘มาโร อยํ ปาปิมา’’ อิติ วิทิตฺวา มารํ ปาปิมนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘สํสรํ ทีฆมทฺธานํ, วณฺณํ กตฺวา สุภาสุภํ;
อลํ เต เตน ปาปิม, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติ.
อถ ¶ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ ภควา, ชานาติ มํ สุคโต’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๓. สุภสุตฺตํ
๑๓๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร อชปาลนิคฺโรธมูเล ปมาภิสมฺพุทฺโธ. เตน โข ปน สมเยน ภควา รตฺตนฺธการติมิสายํ อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติ, เทโว จ เอกเมกํ ผุสายติ. อถ โข มาโร ปาปิมา, ภควโต ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต อวิทูเร อุจฺจาวจา วณฺณนิภา อุปทํเสติ, สุภา เจว อสุภา จ. อถ โข ภควา ‘‘มาโร อยํ ปาปิมา’’ อิติ วิทิตฺวา มารํ ปาปิมนฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –
‘‘สํสรํ ¶ ทีฆมทฺธานํ, วณฺณํ กตฺวา สุภาสุภํ;
อลํ เต เตน ปาปิม, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตก.
‘‘เย ¶ จ กาเยน วาจาย, มนสา จ สุสํวุตา;
น เต มารวสานุคา, น เต มารสฺส พทฺธคู’’ [พทฺธภู (ก.), ปจฺจคู (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ติ.
อถ โข มาโร…เป… ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๔. ปมมารปาสสุตฺตํ
๑๔๐. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา พาราณสิยํ วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเย. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ ¶ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘มยฺหํ โข, ภิกฺขเว, โยนิโส มนสิการา โยนิโส สมฺมปฺปธานา อนุตฺตรา วิมุตฺติ อนุปฺปตฺตา, อนุตฺตรา วิมุตฺติ สจฺฉิกตา. ตุมฺเหปิ, ภิกฺขเว, โยนิโส มนสิการา โยนิโส สมฺมปฺปธานา อนุตฺตรํ วิมุตฺตึ อนุปาปุณาถ, อนุตฺตรํ วิมุตฺตึ สจฺฉิกโรถา’’ติ. อถ โข มาโร ปาปิมา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘พทฺโธสิ มารปาเสน, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;
มารพนฺธนพทฺโธสิ, น เม สมณ โมกฺขสี’’ติ.
‘‘มุตฺตาหํ [มุตฺโตหํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] มารปาเสน, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;
มารพนฺธนมุตฺโตมฺหิ, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติ.
อถ โข มาโร ปาปิมา…เป… ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๕. ทุติยมารปาสสุตฺตํ
๑๔๑. เอกํ ¶ สมยํ ภควา พาราณสิยํ วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเย. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘มุตฺตาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพปาเสหิ เย ทิพฺพา เย จ มานุสา. ตุมฺเหปิ, ภิกฺขเว, มุตฺตา สพฺพปาเสหิ เย ทิพฺพา เย จ มานุสา. จรถ, ภิกฺขเว, จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย ¶ สุขาย เทวมนุสฺสานํ. มา เอเกน ทฺเว อคมิตฺถ. เทเสถ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ ¶ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสถ. สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ¶ ปริหายนฺติ. ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร. อหมฺปิ, ภิกฺขเว, เยน อุรุเวลา เสนานิคโม เตนุปสงฺกมิสฺสามิ ธมฺมเทสนายา’’ติ. อถ โข มาโร ปาปิมา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘พทฺโธสิ สพฺพปาเสหิ, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;
มหาพนฺธนพทฺโธสิ, น เม สมณ โมกฺขสี’’ติ.
‘‘มุตฺตาหํ สพฺพปาเสหิ, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;
มหาพนฺธนมุตฺโตมฺหิ, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติ.
อถ โข มาโร ปาปิมา…เป… ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๖. สปฺปสุตฺตํ
๑๔๒. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน ภควา รตฺตนฺธการติมิสายํ อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติ, เทโว จ เอกเมกํ ผุสายติ.
อถ ¶ ¶ โข มาโร ปาปิมา ภควโต ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม มหนฺตํ สปฺปราชวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. เสยฺยถาปิ นาม มหตี เอกรุกฺขิกา นาวา, เอวมสฺส กาโย โหติ. เสยฺยถาปิ นาม มหนฺตํ โสณฺฑิกากิฬฺชํ, เอวมสฺส ผโณ โหติ. เสยฺยถาปิ นาม มหตี โกสลิกา กํสปาติ, เอวมสฺส อกฺขีนิ ภวนฺติ. เสยฺยถาปิ นาม เทเว คฬคฬายนฺเต วิชฺชุลฺลตา นิจฺฉรนฺติ, เอวมสฺส มุขโต ชิวฺหา นิจฺฉรติ. เสยฺยถาปิ นาม กมฺมารคคฺคริยา ธมมานาย สทฺโท โหติ, เอวมสฺส อสฺสาสปสฺสาสานํ สทฺโท โหติ.
อถ โข ภควา ‘‘มาโร อยํ ปาปิมา’’ อิติ วิทิตฺวา มารํ ปาปิมนฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –
‘‘โย สฺุเคหานิ เสวติ,
เสยฺโย โส มุนิ อตฺตสฺโต;
โวสฺสชฺช จเรยฺย ตตฺถ โส,
ปติรูปฺหิ ตถาวิธสฺส ตํ.
‘‘จรกา ¶ พหู เภรวา พหู,
อโถ ฑํสสรีสปา [ฑํส สิรึสปา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] พหู;
โลมมฺปิ ¶ น ตตฺถ อิฺชเย,
สฺุาคารคโต มหามุนิ.
‘‘นภํ ¶ ผเลยฺย ปถวี จเลยฺย,
สพฺเพปิ ปาณา อุท สนฺตเสยฺยุํ;
สลฺลมฺปิ เจ อุรสิ ปกปฺปเยยฺยุํ,
อุปธีสุ ตาณํ น กโรนฺติ พุทฺธา’’ติ.
อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ ภควา, ชานาติ มํ สุคโต’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๗. สุปติสุตฺตํ
๑๔๓. เอกํ ¶ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. อถ โข ภควา พหุเทวรตฺตึ อพฺโภกาเส จงฺกมิตฺวา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปาเท ปกฺขาเลตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน อุฏฺานสฺํ มนสิ กริตฺวา. อถ โข มาโร ปาปิมา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘กึ โสปฺปสิ กึ นุ โสปฺปสิ,
กิมิทํ โสปฺปสิ ทุพฺภโค [ทุพฺภโต (สฺยา. กํ.), ทุพฺภโย (ปี.)] วิย;
สฺุมคารนฺติ โสปฺปสิ,
กิมิทํ โสปฺปสิ สูริเย อุคฺคเต’’ติ.
‘‘ยสฺส ¶ ชาลินี วิสตฺติกา,
ตณฺหา นตฺถิ กุหิฺจิ เนตเว;
สพฺพูปธิปริกฺขยา พุทฺโธ,
โสปฺปติ กึ ตเวตฺถ มารา’’ติ.
อถ โข มาโร ปาปิมา…เป… ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๘. นนฺทติสุตฺตํ
๑๔๔. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข มาโร ปาปิมา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต สนฺติเก อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘นนฺทติ ปุตฺเตหิ ปุตฺติมา, โคมา โคภิ ตเถว นนฺทติ;
อุปธีหิ ¶ นรสฺส นนฺทนา, น หิ โส นนฺทติ โย นิรูปธี’’ติ.
‘‘โสจติ ¶ ปุตฺเตหิ ปุตฺติมา, โคมา โคภิ ตเถว โสจติ;
อุปธีหิ นรสฺส โสจนา, น หิ โส โสจติ โย นิรูปธี’’ติ.
อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ ภควา, ชานาติ มํ สุคโต’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๙. ปมอายุสุตฺตํ
๑๔๕. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘อปฺปมิทํ, ภิกฺขเว, มนุสฺสานํ อายุ. คมนีโย สมฺปราโย, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ. นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ. โย, ภิกฺขเว, จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตํ อปฺปํ วา ภิยฺโย’’ติ.
อถ โข มาโร ปาปิมา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘ทีฆมายุ มนุสฺสานํ, น นํ หีเฬ สุโปริโส;
จเรยฺย ขีรมตฺโตว, นตฺถิ มจฺจุสฺส อาคโม’’ติ.
‘‘อปฺปมายุ มนุสฺสานํ, หีเฬยฺย นํ สุโปริโส;
จเรยฺยาทิตฺตสีโสว, นตฺถิ มจฺจุสฺส นาคโม’’ติ.
อถ โข มาโร…เป… ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๑๐. ทุติยอายุสุตฺตํ
๑๔๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. ตตฺร โข ภควา…เป… เอตทโวจ –
‘‘อปฺปมิทํ, ภิกฺขเว, มนุสฺสานํ อายุ. คมนีโย สมฺปราโย, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ. นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ. โย, ภิกฺขเว, จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตํ อปฺปํ วา ภิยฺโย’’ติ.
อถ โข มาโร ปาปิมา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ¶ ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘นาจฺจยนฺติ ¶ อโหรตฺตา, ชีวิตํ นูปรุชฺฌติ;
อายุ อนุปริยายติ, มจฺจานํ เนมีว รถกุพฺพร’’นฺติ.
‘‘อจฺจยนฺติ อโหรตฺตา, ชีวิตํ อุปรุชฺฌติ;
อายุ ขียติ มจฺจานํ, กุนฺนทีนํว โอทก’’นฺติ.
อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ ภควา, ชานาติ มํ สุคโต’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
ปโม วคฺโค.
ตสฺสุทฺทานํ –
ตโปกมฺมฺจ นาโค จ, สุภํ ปาเสน เต ทุเว;
สปฺโป สุปติ นนฺทนํ, อายุนา อปเร ทุเวติ.
๒. ทุติยวคฺโค
๑. ปาสาณสุตฺตํ
๑๔๗. เอกํ ¶ ¶ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. เตน โข ปน สมเยน ภควา รตฺตนฺธการติมิสายํ อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติ, เทโว จ เอกเมกํ ผุสายติ. อถ โข มาโร ปาปิมา ภควโต ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม เยน ภควา ¶ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต อวิทูเร มหนฺเต ปาสาเณ ปทาเลสิ.
อถ โข ภควา ‘‘มาโร อยํ ปาปิมา’’ อิติ วิทิตฺวา มารํ ปาปิมนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘สเจปิ เกวลํ สพฺพํ, คิชฺฌกูฏํ จเลสฺสสิ [คเฬยฺยสิ (สฺยา. กํ.), จเลยฺยาสิ (ก.)];
เนว สมฺมาวิมุตฺตานํ, พุทฺธานํ อตฺถิ อิฺชิต’’นฺติ.
อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ ภควา, ชานาติ มํ สุคโต’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๒. กินฺนุสีหสุตฺตํ
๑๔๘. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส ¶ อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ภควา มหติยา ปริสาย ปริวุโต ธมฺมํ เทเสติ.
อถ ¶ โข มารสฺส ปาปิมโต เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข สมโณ โคตโม มหติยา ปริสาย ปริวุโต ธมฺมํ เทเสติ. ยํนูนาหํ เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกเมยฺยํ วิจกฺขุกมฺมายา’’ติ. อถ โข มาโร ปาปิมา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘กินฺนุ ¶ สีโหว นทสิ, ปริสายํ วิสารโท;
ปฏิมลฺโล หิ เต อตฺถิ, วิชิตาวี นุ มฺสี’’ติ.
‘‘นทนฺติ เว มหาวีรา, ปริสาสุ วิสารทา;
ตถาคตา พลปฺปตฺตา, ติณฺณา โลเก วิสตฺติก’’นฺติ.
อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ ภควา, ชานาติ มํ สุคโต’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๓. สกลิกสุตฺตํ
๑๔๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ มทฺทกุจฺฉิสฺมึ มิคทาเย. เตน โข ปน สมเยน ภควโต ปาโท สกลิกาย ¶ ขโต โหติ, ภุสา สุทํ ภควโต เวทนา วตฺตนฺติ สารีริกา ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา อสาตา อมนาปา. ตา สุทํ ภควา สโต สมฺปชาโน อธิวาเสติ อวิหฺมาโน. อถ โข ภควา จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺเปตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ ¶ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน. อถ โข มาโร ปาปิมา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘มนฺทิยา นุ โข เสสิ อุทาหุ กาเวยฺยมตฺโต,
อตฺถา นุ เต สมฺปจุรา น สนฺติ;
เอโก วิวิตฺเต สยนาสนมฺหิ,
นิทฺทามุโข กิมิทํ โสปฺปเส วา’’ติ.
‘‘น มนฺทิยา สยามิ นาปิ กาเวยฺยมตฺโต,
อตฺถํ สเมจฺจาหมเปตโสโก;
เอโก วิวิตฺเต สยนาสนมฺหิ,
สยามหํ สพฺพภูตานุกมฺปี.
‘‘เยสมฺปิ สลฺลํ อุรสิ ปวิฏฺํ,
มุหุํ มุหุํ หทยํ เวธมานํ;
เตปีธ ¶ โสปฺปํ ลภเร สสลฺลา,
ตสฺมา ¶ อหํ น สุเป วีตสลฺโล.
‘‘ชคฺคํ น สงฺเก นปิ เภมิ โสตฺตุํ,
รตฺตินฺทิวา นานุตปนฺติ มามํ;
หานึ น ปสฺสามิ กุหิฺจิ โลเก,
ตสฺมา สุเป สพฺพภูตานุกมฺปี’’ติ.
อถ ¶ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ ภควา, ชานาติ มํ สุคโต’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๔. ปติรูปสุตฺตํ
๑๕๐. เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ วิหรติ เอกสาลายํ พฺราหฺมณคาเม. เตน โข ปน สมเยน ภควา มหติยา คิหิปริสาย ปริวุโต ธมฺมํ เทเสติ.
อถ ¶ โข มารสฺส ปาปิมโต เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข สมโณ โคตโม มหติยา คิหิปริสาย ปริวุโต ธมฺมํ เทเสติ. ยํนูนาหํ เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกเมยฺยํ วิจกฺขุกมฺมายา’’ติ. อถ โข มาโร ปาปิมา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘เนตํ ตว ปติรูปํ, ยทฺมนุสาสสิ;
อนุโรธวิโรเธสุ, มา สชฺชิตฺโถ ตทาจร’’นฺติ.
‘‘หิตานุกมฺปี สมฺพุทฺโธ, ยทฺมนุสาสติ;
อนุโรธวิโรเธหิ, วิปฺปมุตฺโต ตถาคโต’’ติ.
อถ ¶ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ ภควา, ชานาติ มํ สุคโต’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๕. มานสสุตฺตํ
๑๕๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ ¶ โข มาโร ปาปิมา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘อนฺตลิกฺขจโร ปาโส, ยฺวายํ จรติ มานโส;
เตน ตํ พาธยิสฺสามิ, น เม สมณ โมกฺขสี’’ติ.
‘‘รูปา สทฺทา รสา คนฺธา, โผฏฺพฺพา จ มโนรมา;
เอตฺถ เม วิคโต ฉนฺโท, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติ.
อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ ภควา, ชานาติ มํ สุคโต’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๖. ปตฺตสุตฺตํ
๑๕๒. สาวตฺถินิทานํ ¶ . เตน โข ปน สมเยน ภควา ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อุปาทาย ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ [สมาทาเปติ (?)] สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ. เต จ ภิกฺขู อฏฺึ กตฺวา [อฏฺิกตฺวา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] มนสิ ¶ กตฺวา สพฺพเจตสา [สพฺพเจตโส (สี. สฺยา. กํ. ปี.), สพฺพํ เจตสา (ก.)] สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสตา ธมฺมํ สุณนฺติ.
อถ โข มารสฺส ปาปิมโต เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข สมโณ โคตโม ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อุปาทาย ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ. เต จ ภิกฺขู อฏฺึ กตฺวา มนสิ กตฺวา สพฺพเจตสา สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสตา ¶ ธมฺมํ สุณนฺติ. ยํนูนาหํ เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกเมยฺยํ วิจกฺขุกมฺมายา’’ติ.
เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ปตฺตา อพฺโภกาเส นิกฺขิตฺตา โหนฺติ. อถ ¶ โข มาโร ปาปิมา พลีพทฺทวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา เยน เต ปตฺตา เตนุปสงฺกมิ. อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ อฺตรํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘ภิกฺขุ, ภิกฺขุ, เอโส พลีพทฺโท ปตฺเต ภินฺเทยฺยา’’ติ. เอวํ วุตฺเต ภควา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘น โส, ภิกฺขุ, พลีพทฺโท. มาโร เอโส ปาปิมา ตุมฺหากํ วิจกฺขุกมฺมาย อาคโต’’ติ. อถ โข ภควา ‘‘มาโร อยํ ปาปิมา’’ อิติ วิทิตฺวา มารํ ปาปิมนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘รูปํ เวทยิตํ สฺา, วิฺาณํ ยฺจ สงฺขตํ;
เนโสหมสฺมิ เนตํ เม, เอวํ ตตฺถ วิรชฺชติ.
‘‘เอวํ วิรตฺตํ เขมตฺตํ, สพฺพสํโยชนาติคํ;
อนฺเวสํ สพฺพฏฺาเนสุ, มารเสนาปิ นาชฺฌคา’’ติ.
อถ โข มาโร ปาปิมา…เป… ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๗. ฉผสฺสายตนสุตฺตํ
๑๕๓. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. เตน ¶ โข ปน สมเยน ภควา ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ อุปาทาย ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ. เต จ ภิกฺขู อฏฺึ กตฺวา มนสิ กตฺวา สพฺพเจตสา สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสตา ธมฺมํ สุณนฺติ.
อถ ¶ โข มารสฺส ปาปิมโต เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข สมโณ โคตโม ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ อุปาทาย ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สปฺปหํเสติ ¶ . เต จ ภิกฺขู อฏฺึ กตฺวา มนสิ กตฺวา สพฺพเจตสา สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสตา ¶ ธมฺมํ สุณนฺติ. ยํนูนาหํ เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกเมยฺยํ วิจกฺขุกมฺมายา’’ติ. อถ โข มาโร ปาปิมา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต อวิทูเร มหนฺตํ ภยเภรวํ สทฺทมกาสิ, อปิสฺสุทํ ปถวี มฺเ อุนฺทฺรียติ [อุทฺรียติ (สี. สฺยา. กํ. ปี) อุ + ทร + ย + ติ = อุทฺรียติ]. อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ อฺตรํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘ภิกฺขุ, ภิกฺขุ, เอสา ปถวี มฺเ อุนฺทฺรียตี’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภควา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘เนสา ภิกฺขุ ปถวี อุนฺทฺรียติ. มาโร เอโส ปาปิมา ตุมฺหากํ วิจกฺขุกมฺมาย อาคโต’’ติ. อถ โข ภควา ‘‘มาโร อยํ ปาปิมา’’ อิติ วิทิตฺวา มารํ ปาปิมนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘รูปา สทฺทา รสา คนฺธา, ผสฺสา ธมฺมา จ เกวลา;
เอตํ โลกามิสํ โฆรํ, เอตฺถ โลโก วิมุจฺฉิโต.
‘‘เอตฺจ สมติกฺกมฺม, สโต พุทฺธสฺส สาวโก;
มารเธยฺยํ อติกฺกมฺม, อาทิจฺโจว วิโรจตี’’ติ.
อถ โข มาโร ปาปิมา…เป… ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๘. ปิณฺฑสุตฺตํ
๑๕๔. เอกํ สมยํ ภควา มคเธสุ วิหรติ ปฺจสาลายํ พฺราหฺมณคาเม. เตน ¶ โข ปน สมเยน ปฺจสาลายํ พฺราหฺมณคาเม กุมาริกานํ ¶ ปาหุนกานิ ภวนฺติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ปฺจสาลํ พฺราหฺมณคามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. เตน โข ปน สมเยน ปฺจสาเลยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา มาเรน ปาปิมตา อนฺวาวิฏฺา ภวนฺติ – มา สมโณ โคตโม ปิณฺฑมลตฺถาติ.
อถ โข ภควา ยถาโธเตน ปตฺเตน ปฺจสาลํ พฺราหฺมณคามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ ตถาโธเตน [ยถาโธเตน (?)] ปตฺเตน ปฏิกฺกมิ. อถ โข มาโร ปาปิมา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อปิ ¶ ตฺวํ, สมณ, ปิณฺฑมลตฺถา’’ติ? ‘‘ตถา นุ ตฺวํ, ปาปิม, อกาสิ ยถาหํ ปิณฺฑํ ¶ น ลเภยฺย’’นฺติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, ภควา ทุติยมฺปิ ปฺจสาลํ พฺราหฺมณคามํ ปิณฺฑาย ปวิสตุ. ตถาหํ กริสฺสามิ ยถา ภควา ปิณฺฑํ ลจฺฉตี’’ติ.
‘‘อปฺุํ ปสวิ มาโร, อาสชฺช นํ ตถาคตํ;
กึ นุ มฺสิ ปาปิม, น เม ปาปํ วิปจฺจติ.
‘‘สุสุขํ วต ชีวาม, เยสํ โน นตฺถิ กิฺจนํ;
ปีติภกฺขา ภวิสฺสาม, เทวา อาภสฺสรา ยถา’’ติ.
อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ ภควา, ชานาติ มํ สุคโต’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๙. กสฺสกสุตฺตํ
๑๕๕. สาวตฺถินิทานํ. เตน โข ปน สมเยน ภควา ภิกฺขูนํ นิพฺพานปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ ¶ . เต จ ภิกฺขู อฏฺึ กตฺวา มนสิ กตฺวา สพฺพเจตสา สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสตา ธมฺมํ สุณนฺติ.
อถ ¶ โข มารสฺส ปาปิมโต เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข สมโณ โคตโม ภิกฺขูนํ นิพฺพานปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมิยา กถาย…เป… ยํนูนาหํ เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกเมยฺยํ วิจกฺขุกมฺมายา’’ติ. อถ โข มาโร ปาปิมา กสฺสกวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา มหนฺตํ นงฺคลํ ขนฺเธ กริตฺวา ทีฆปาจนยฏฺึ คเหตฺวา หฏหฏเกโส สาณสาฏินิวตฺโถ กทฺทมมกฺขิเตหิ ปาเทหิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อปิ, สมณ, พลีพทฺเท อทฺทสา’’ติ? ‘‘กึ ปน, ปาปิม, เต พลีพทฺเทหี’’ติ? ‘‘มเมว, สมณ, จกฺขุ, มม รูปา, มม จกฺขุสมฺผสฺสวิฺาณายตนํ. กุหึ เม, สมณ, คนฺตฺวา โมกฺขสิ? มเมว, สมณ, โสตํ, มม สทฺทา…เป… มเมว, สมณ, ฆานํ, มม คนฺธา; มเมว, สมณ, ชิวฺหา, มม รสา; มเมว, สมณ, กาโย, มม โผฏฺพฺพา; มเมว, สมณ, มโน, มม ธมฺมา, มม มโนสมฺผสฺสวิฺาณายตนํ. กุหึ เม, สมณ, คนฺตฺวา โมกฺขสี’’ติ?
‘‘ตเวว ¶ ¶ , ปาปิม, จกฺขุ, ตว รูปา, ตว จกฺขุสมฺผสฺสวิฺาณายตนํ. ยตฺถ จ โข, ปาปิม, นตฺถิ จกฺขุ, นตฺถิ รูปา, นตฺถิ จกฺขุสมฺผสฺสวิฺาณายตนํ, อคติ ตว ตตฺถ, ปาปิม. ตเวว, ปาปิม ¶ , โสตํ, ตว สทฺทา, ตว โสตสมฺผสฺสวิฺาณายตนํ. ยตฺถ จ โข, ปาปิม, นตฺถิ โสตํ, นตฺถิ สทฺทา, นตฺถิ โสตสมฺผสฺสวิฺาณายตนํ, อคติ ตว ตตฺถ, ปาปิม. ตเวว ¶ , ปาปิม, ฆานํ, ตว คนฺธา, ตว ฆานสมฺผสฺสวิฺาณายตนํ. ยตฺถ จ โข, ปาปิม, นตฺถิ ฆานํ, นตฺถิ คนฺธา, นตฺถิ ฆานสมฺผสฺสวิฺาณายตนํ, อคติ ตว ตตฺถ, ปาปิม. ตเวว, ปาปิม, ชิวฺหา, ตว รสา, ตว ชิวฺหาสมฺผสฺสวิฺาณายตนํ…เป… ตเวว, ปาปิม, กาโย, ตว โผฏฺพฺพา, ตว กายสมฺผสฺสวิฺาณายตนํ…เป… ตเวว, ปาปิม, มโน, ตว ธมฺมา, ตว มโนสมฺผสฺสวิฺาณายตนํ. ยตฺถ จ โข, ปาปิม, นตฺถิ มโน, นตฺถิ ธมฺมา, นตฺถิ มโนสมฺผสฺสวิฺาณายตนํ, อคติ ตว ตตฺถ, ปาปิมา’’ติ.
‘‘ยํ วทนฺติ มม ยิทนฺติ, เย วทนฺติ มมนฺติ จ;
เอตฺถ เจ เต มโน อตฺถิ, น เม สมณ โมกฺขสี’’ติ.
‘‘ยํ วทนฺติ น ตํ มยฺหํ, เย วทนฺติ น เต อหํ;
เอวํ ปาปิม ชานาหิ, น เม มคฺคมฺปิ ทกฺขสี’’ติ.
อถ โข มาโร ปาปิมา…เป… ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๑๐. รชฺชสุตฺตํ
๑๕๖. เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ วิหรติ หิมวนฺตปเทเส [หิมวนฺตปสฺเส (สี.)] อรฺกุฏิกายํ. อถ โข ภควโต รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ¶ ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘สกฺกา นุ โข รชฺชํ กาเรตุํ อหนํ อฆาตยํ อชินํ อชาปยํ อโสจํ อโสจาปยํ ธมฺเมนา’’ติ?
อถ โข มาโร ปาปิมา ภควโต เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กาเรตุ, ภนฺเต, ภควา รชฺชํ, กาเรตุ, สุคโต, รชฺชํ อหนํ อฆาตยํ อชินํ อชาปยํ อโสจํ อโสจาปยํ ธมฺเมนา’’ติ. ‘‘กึ ปน เม ตฺวํ, ปาปิม, ปสฺสสิ ยํ มํ ตฺวํ เอวํ วเทสิ – ‘กาเรตุ, ภนฺเต, ภควา รชฺชํ, กาเรตุ สุคโต ¶ , รชฺชํ อหนํ อฆาตยํ อชินํ อชาปยํ อโสจํ อโสจาปยํ ¶ ธมฺเมนา’’’ติ? ‘‘ภควตา โข, ภนฺเต, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา. อากงฺขมาโน จ, ภนฺเต, ภควา หิมวนฺตํ ปพฺพตราชํ สุวณฺณํ ตฺเวว อธิมุจฺเจยฺย สุวณฺณฺจ ปนสฺสา’’ติ [สุวณฺณปพฺพตสฺสาติ (สี. สฺยา. กํ.), สุวณฺณฺจ ปพฺพตสฺสาติ (ปี.)].
‘‘ปพฺพตสฺส ¶ สุวณฺณสฺส, ชาตรูปสฺส เกวโล;
ทฺวิตฺตาว นาลเมกสฺส, อิติ วิทฺวา สมฺจเร.
‘‘โย ทุกฺขมทฺทกฺขิ ยโตนิทานํ,
กาเมสุ โส ชนฺตุ กถํ นเมยฺย;
อุปธึ วิทิตฺวา สงฺโคติ โลเก,
ตสฺเสว ชนฺตุ วินยาย สิกฺเข’’ติ.
อถ โข ¶ มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ ภควา, ชานาติ มํ สุคโต’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
ทุติโย วคฺโค.
ตสฺสุทฺทานํ –
ปาสาโณ สีโห สกลิกํ [สกฺขลิกํ (ก.)], ปติรูปฺจ มานสํ;
ปตฺตํ อายตนํ ปิณฺฑํ, กสฺสกํ รชฺเชน เต ทสาติ.
๓. ตติยวคฺโค
๑. สมฺพหุลสุตฺตํ
๑๕๗. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ สิลาวติยํ. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู ภควโต อวิทูเร อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรนฺติ. อถ โข มาโร ปาปิมา พฺราหฺมณวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา มหนฺเตน ชฏณฺฑุเวน อชินกฺขิปนิวตฺโถ ชิณฺโณ โคปานสิวงฺโก ฆุรุฆุรุปสฺสาสี อุทุมฺพรทณฺฑํ คเหตฺวา เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘ทหรา ภวนฺโต ¶ ปพฺพชิตา สุสู กาฬเกสา ภทฺเรน โยพฺพเนน สมนฺนาคตา ปเมน วยสา อนิกฺกีฬิตาวิโน กาเมสุ. ภฺุชนฺตุ ภวนฺโต มานุสเก กาเม. มา สนฺทิฏฺิกํ หิตฺวา กาลิกํ อนุธาวิตฺถา’’ติ. ‘‘น โข มยํ, พฺราหฺมณ, สนฺทิฏฺิกํ หิตฺวา กาลิกํ อนุธาวาม. กาลิกฺจ โข มยํ, พฺราหฺมณ, หิตฺวา สนฺทิฏฺิกํ อนุธาวาม. กาลิกา หิ, พฺราหฺมณ, กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. สนฺทิฏฺิโก อยํ ธมฺโม อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’’ติ. เอวํ ¶ วุตฺเต, มาโร ปาปิมา สีสํ โอกมฺเปตฺวา ชิวฺหํ นิลฺลาเลตฺวา ติวิสาขํ นลาเฏ นลาฏิกํ วุฏฺาเปตฺวา ทณฺฑโมลุพฺภ ปกฺกามิ.
อถ ¶ โข เต ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ มยํ, ภนฺเต, ภควโต อวิทูเร อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหราม. อถ โข, ภนฺเต, อฺตโร พฺราหฺมโณ มหนฺเตน ชฏณฺฑุเวน อชินกฺขิปนิวตฺโถ ชิณฺโณ โคปานสิวงฺโก ฆุรุฆุรุปสฺสาสี อุทุมฺพรทณฺฑํ คเหตฺวา เยน มยํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อมฺเห เอตทโวจ – ‘ทหรา ภวนฺโต ปพฺพชิตา สุสู กาฬเกสา ภทฺเรน โยพฺพเนน สมนฺนาคตา ปเมน วยสา อนิกฺกีฬิตาวิโน กาเมสุ. ภฺุชนฺตุ ภวนฺโต มานุสเก กาเม. มา สนฺทิฏฺิกํ หิตฺวา กาลิกํ อนุธาวิตฺถา’ติ. เอวํ วุตฺเต, มยํ, ภนฺเต, ตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุมฺห – ‘น โข มยํ, พฺราหฺมณ, สนฺทิฏฺิกํ หิตฺวา กาลิกํ อนุธาวาม. กาลิกฺจ โข มยํ, พฺราหฺมณ, หิตฺวา สนฺทิฏฺิกํ อนุธาวาม. กาลิกา หิ, พฺราหฺมณ, กามา ¶ วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. สนฺทิฏฺิโก อยํ ธมฺโม อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, โส พฺราหฺมโณ สีสํ โอกมฺเปตฺวา ชิวฺหํ นิลฺลาเลตฺวา ติวิสาขํ นลาเฏ นลาฏิกํ วุฏฺาเปตฺวา ทณฺฑโมลุพฺภ ปกฺกนฺโต’’ติ.
‘‘เนโส, ภิกฺขเว, พฺราหฺมโณ. มาโร เอโส ปาปิมา ตุมฺหากํ วิจกฺขุกมฺมาย อาคโต’’ติ. อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ¶ ตายํ เวลายํ อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘โย ¶ ทุกฺขมทฺทกฺขิ ยโตนิทานํ,
กาเมสุ โส ชนฺตุ กถํ นเมยฺย;
อุปธึ วิทิตฺวา สงฺโคติ โลเก,
ตสฺเสว ชนฺตุ วินยาย สิกฺเข’’ติ.
๒. สมิทฺธิสุตฺตํ
๑๕๘. เอกํ ¶ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ สิลาวติยํ. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สมิทฺธิ ภควโต อวิทูเร อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรติ. อถ โข อายสฺมโต สมิทฺธิสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม สตฺถา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยฺวาหํ เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิโต. ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม สพฺรหฺมจาริโน สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา’’ติ. อถ โข มาโร ปาปิมา อายสฺมโต สมิทฺธิสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เยนายสฺมา สมิทฺธิ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมโต สมิทฺธิสฺส อวิทูเร มหนฺตํ ภยเภรวํ สทฺทมกาสิ, อปิสฺสุทํ ปถวี มฺเ อุนฺทฺรียติ.
อถ โข อายสฺมา สมิทฺธิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน ¶ อายสฺมา สมิทฺธิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ภควโต อวิทูเร อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, รโหคตสฺส ¶ ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม สตฺถา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยฺวาหํ เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิโต. ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม สพฺรหฺมจาริโน สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, อวิทูเร มหาภยเภรวสทฺโท อโหสิ, อปิสฺสุทํ ปถวี มฺเ อุนฺทฺรียตี’’ติ.
‘‘เนสา, สมิทฺธิ, ปถวี อุนฺทฺรียติ. มาโร เอโส ปาปิมา ตุยฺหํ วิจกฺขุกมฺมาย อาคโต. คจฺฉ ตฺวํ, สมิทฺธิ, ตตฺเถว อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหราหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา สมิทฺธิ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ¶ ¶ อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา สมิทฺธิ ตตฺเถว อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหาสิ. ทุติยมฺปิ โข อายสฺมโต สมิทฺธิสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส…เป… ทุติยมฺปิ โข มาโร ปาปิมา อายสฺมโต สมิทฺธิสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย…เป… อปิสฺสุทํ ปถวี มฺเ อุนฺทฺรียติ. อถ โข อายสฺมา สมิทฺธิ มารํ ¶ ปาปิมนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘สทฺธายาหํ ปพฺพชิโต, อคารสฺมา อนคาริยํ;
สติ ปฺา จ เม พุทฺธา, จิตฺตฺจ สุสมาหิตํ;
กามํ กรสฺสุ รูปานิ, เนว มํ พฺยาธยิสฺสสี’’ติ.
อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ สมิทฺธิ ภิกฺขู’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.
๓. โคธิกสุตฺตํ
๑๕๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา โคธิโก อิสิคิลิปสฺเส วิหรติ กาฬสิลายํ. อถ โข อายสฺมา โคธิโก อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต สามยิกํ เจโตวิมุตฺตึ ผุสิ. อถ โข อายสฺมา โคธิโก ตมฺหา สามยิกาย เจโตวิมุตฺติยา ปริหายิ ¶ . ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา โคธิโก อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต สามยิกํ เจโตวิมุตฺตึ ผุสิ. ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา โคธิโก ตมฺหา สามยิกาย เจโตวิมุตฺติยา ปริหายิ. ตติยมฺปิ โข อายสฺมา โคธิโก อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต สามยิกํ เจโตวิมุตฺตึ ผุสิ. ตติยมฺปิ โข อายสฺมา โคธิโก ตมฺหา…เป… ปริหายิ. จตุตฺถมฺปิ โข อายสฺมา โคธิโก อปฺปมตฺโต…เป… วิมุตฺตึ ผุสิ ¶ . จตุตฺถมฺปิ โข อายสฺมา โคธิโก ตมฺหา…เป… ปริหายิ. ปฺจมมฺปิ ¶ โข อายสฺมา โคธิโก…เป… เจโตวิมุตฺตึ ผุสิ. ปฺจมมฺปิ โข อายสฺมา…เป… วิมุตฺติยา ปริหายิ. ฉฏฺมฺปิ โข อายสฺมา โคธิโก อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต สามยิกํ เจโตวิมุตฺตึ ผุสิ. ฉฏฺมฺปิ โข อายสฺมา โคธิโก ตมฺหา สามยิกาย เจโตวิมุตฺติยา ปริหายิ. สตฺตมมฺปิ ¶ โข อายสฺมา โคธิโก อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต สามยิกํ เจโตวิมุตฺตึ ผุสิ.
อถ โข อายสฺมโต โคธิกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยาว ฉฏฺํ ขฺวาหํ สามยิกาย เจโตวิมุตฺติยา ปริหีโน. ยํนูนาหํ สตฺถํ อาหเรยฺย’’นฺติ. อถ โข มาโร ปาปิมา อายสฺมโต โคธิกสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –
‘‘มหาวีร มหาปฺ, อิทฺธิยา ยสสา ชล;
สพฺพเวรภยาตีต, ปาเท วนฺทามิ จกฺขุม.
‘‘สาวโก เต มหาวีร, มรณํ มรณาภิภู;
อากงฺขติ เจตยติ, ตํ นิเสธ ชุตินฺธร.
‘‘กถฺหิ ภควา ตุยฺหํ, สาวโก สาสเน รโต;
อปฺปตฺตมานโส เสกฺโข, กาลํ กยิรา ชเนสุตา’’ติ.
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต โคธิเกน สตฺถํ อาหริตํ โหติ. อถ โข ภควา ‘‘มาโร อยํ ปาปิมา’’ อิติ วิทิตฺวา มารํ ¶ ปาปิมนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘เอวฺหิ ¶ ธีรา กุพฺพนฺติ, นาวกงฺขนฺติ ชีวิตํ;
สมูลํ ตณฺหมพฺพุยฺห, โคธิโก ปรินิพฺพุโต’’ติ.
อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อายาม, ภิกฺขเว, เยน อิสิคิลิปสฺสํ กาฬสิลา เตนุปสงฺกมิสฺสาม ยตฺถ โคธิเกน กุลปุตฺเตน สตฺถํ อาหริต’’นฺติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ.
อถ โข ภควา สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ เยน อิสิคิลิปสฺสํ กาฬสิลา เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ โคธิกํ ทูรโตว มฺจเก วิวตฺตกฺขนฺธํ เสมานํ [เสยฺยมานํ (สฺยา. กํ.), โสปฺปมานํ (ก.)]. เตน ¶ โข ปน สมเยน ธูมายิตตฺตํ ติมิรายิตตฺตํ คจฺฉเตว ปุริมํ ทิสํ, คจฺฉติ ปจฺฉิมํ ทิสํ, คจฺฉติ อุตฺตรํ ทิสํ, คจฺฉติ ทกฺขิณํ ทิสํ, คจฺฉติ อุทฺธํ, คจฺฉติ อโธ, คจฺฉติ อนุทิสํ.
อถ ¶ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอตํ ธูมายิตตฺตํ ติมิรายิตตฺตํ คจฺฉเตว ปุริมํ ทิสํ, คจฺฉติ ปจฺฉิมํ ทิสํ, คจฺฉติ อุตฺตรํ ทิสํ, คจฺฉติ ทกฺขิณํ ทิสํ, คจฺฉติ อุทฺธํ, คจฺฉติ อโธ, คจฺฉติ อนุทิส’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอโส โข, ภิกฺขเว, มาโร ปาปิมา โคธิกสฺส กุลปุตฺตสฺส วิฺาณํ สมนฺเวสติ – ‘กตฺถ โคธิกสฺส กุลปุตฺตสฺส วิฺาณํ ปติฏฺิต’นฺติ? อปฺปติฏฺิเตน จ, ภิกฺขเว, วิฺาเณน โคธิโก กุลปุตฺโต ปรินิพฺพุโต’’ติ. อถ ¶ โข มาโร ปาปิมา เพลุวปณฺฑุวีณํ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘อุทฺธํ อโธ จ ติริยํ, ทิสา อนุทิสา สฺวหํ;
อนฺเวสํ นาธิคจฺฉามิ, โคธิโก โส กุหึ คโต’’ติ.
‘‘โย [โส (สี. ปี.)] ธีโร ธิติสมฺปนฺโน, ฌายี ฌานรโต สทา;
อโหรตฺตํ อนุยฺุชํ, ชีวิตํ อนิกามยํ.
‘‘เชตฺวาน ¶ มจฺจุโน [เภตฺวา นมุจิโน (สี.)] เสนํ, อนาคนฺตฺวา ปุนพฺภวํ;
สมูลํ ตณฺหมพฺพุยฺห, โคธิโก ปรินิพฺพุโต’’ติ.
‘‘ตสฺส โสกปเรตสฺส, วีณา กจฺฉา อภสฺสถ;
ตโต โส ทุมฺมโน ยกฺโข, ตตฺเถวนฺตรธายถา’’ติ [ตตฺเถวนฺตรธายิถาติ (สฺยา. กํ.), ตตฺเถว อนฺตรธายีติ (ก.)].
๔. สตฺตวสฺสานุพนฺธสุตฺตํ
๑๖๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร อชปาลนิคฺโรเธ. เตน โข ปน สมเยน มาโร ปาปิมา สตฺตวสฺสานิ ภควนฺตํ อนุพนฺโธ โหติ โอตาราเปกฺโข โอตารํ อลภมาโน. อถ โข มาโร ปาปิมา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘โสกาวติณฺโณ ¶ นุ วนมฺหิ ฌายสิ,
วิตฺตํ นุ ชีโน อุท ปตฺถยาโน;
อาคุํ นุ คามสฺมิมกาสิ กิฺจิ,
กสฺมา ¶ ชเนน น กโรสิ สกฺขึ;
สกฺขี น สมฺปชฺชติ เกนจิ เต’’ติ.
‘‘โสกสฺส ¶ มูลํ ปลิขาย สพฺพํ,
อนาคุ ฌายามิ อโสจมาโน;
เฉตฺวาน สพฺพํ ภวโลภชปฺปํ,
อนาสโว ฌายามิ ปมตฺตพนฺธู’’ติ.
‘‘ยํ วทนฺติ มม ยิทนฺติ, เย วทนฺติ มมนฺติ จ;
เอตฺถ เจ เต มโน อตฺถิ, น เม สมณ โมกฺขสี’’ติ.
‘‘ยํ ¶ วทนฺติ น ตํ มยฺหํ, เย วทนฺติ น เต อหํ;
เอวํ ปาปิม ชานาหิ, น เม มคฺคมฺปิ ทกฺขสี’’ติ.
‘‘สเจ มคฺคํ อนุพุทฺธํ, เขมํ อมตคามินํ;
อเปหิ คจฺฉ ตฺวเมเวโก, กิมฺมนุสาสสี’’ติ.
‘‘อมจฺจุเธยฺยํ ปุจฺฉนฺติ, เย ชนา ปารคามิโน;
เตสาหํ ปุฏฺโ อกฺขามิ, ยํ สจฺจํ ตํ นิรูปธิ’’นฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, คามสฺส วา นิคมสฺส วา อวิทูเร โปกฺขรณี. ตตฺรสฺส กกฺกฏโก. อถ โข, ภนฺเต, สมฺพหุลา กุมารกา วา กุมาริกาโย วา ตมฺหา คามา วา นิคมา วา นิกฺขมิตฺวา เยน สา โปกฺขรณี เตนุปสงฺกเมยฺยุํ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ กกฺกฏกํ อุทกา อุทฺธริตฺวา ถเล ปติฏฺเปยฺยุํ. ยํ ยเทว หิ โส, ภนฺเต, กกฺกฏโก อฬํ อภินินฺนาเมยฺย ตํ ตเทว เต กุมารกา วา ¶ กุมาริกาโย วา กฏฺเน วา กถลาย วา สฺฉินฺเทยฺยุํ สมฺภฺเชยฺยุํ สมฺปลิภฺเชยฺยุํ. เอวฺหิ โส, ภนฺเต, กกฺกฏโก สพฺเพหิ อเฬหิ สฺฉินฺเนหิ สมฺภคฺเคหิ สมฺปลิภคฺเคหิ อภพฺโพ ตํ โปกฺขรณึ โอตริตุํ. เอวเมว โข, ภนฺเต, ยานิ กานิจิ วิสูกายิกานิ [ยานิ วิสุกายิกานิ (สี. ปี. ก.)] วิเสวิตานิ วิปฺผนฺทิตานิ, สพฺพานิ ตานิ [กานิจิ กานิจิ สพฺพานิ (สี. ปี. ก.)] ภควตา สฺฉินฺนานิ สมฺภคฺคานิ ¶ สมฺปลิภคฺคานิ. อภพฺโพ ทานาหํ, ภนฺเต, ปุน ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตุํ ยทิทํ โอตาราเปกฺโข’’ติ. อถ โข มาโร ปาปิมา ภควโต สนฺติเก อิมา นิพฺเพชนียา คาถาโย อภาสิ –
‘‘เมทวณฺณฺจ ปาสาณํ, วายโส อนุปริยคา;
อเปตฺถ มุทุํ วินฺเทม, อปิ อสฺสาทนา สิยา.
‘‘อลทฺธา ¶ ตตฺถ อสฺสาทํ, วายเสตฺโต อปกฺกเม;
กาโกว เสลมาสชฺช, นิพฺพิชฺชาเปม โคตมา’’ติ.
๕. มารธีตุสุตฺตํ
๑๖๑. อถ ¶ โข มาโร ปาปิมา ภควโต สนฺติเก อิมา นิพฺเพชนียา คาถาโย อภาสิตฺวา ตมฺหา านา อปกฺกมฺม ภควโต อวิทูเร ปถวิยํ ปลฺลงฺเกน นิสีทิ ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขนฺโธ อโธมุโข ปชฺฌายนฺโต อปฺปฏิภาโน กฏฺเน ภูมึ วิลิขนฺโต. อถ โข ตณฺหา จ อรติ จ รคา จ มารธีตโร เยน มาโร ปาปิมา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มารํ ปาปิมนฺตํ คาถาย ¶ อชฺฌภาสึสุ –
‘‘เกนาสิ ทุมฺมโน ตาต, ปุริสํ กํ นุ โสจสิ;
มยํ ตํ ราคปาเสน, อารฺมิว กฺุชรํ;
พนฺธิตฺวา อานยิสฺสาม, วสโค เต ภวิสฺสตี’’ติ.
‘‘อรหํ สุคโต โลเก, น ราเคน สุวานโย;
มารเธยฺยํ อติกฺกนฺโต, ตสฺมา โสจามหํ ภุส’’นฺติ.
อถ โข ตณฺหา จ อรติ จ รคา จ มารธีตโร เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ปาเท เต, สมณ, ปริจาเรมา’’ติ. อถ โข ภควา น มนสากาสิ, ยถา ตํ อนุตฺตเร อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโต.
อถ โข ตณฺหา จ อรติ จ รคา จ มารธีตโร เอกมนฺตํ อปกฺกมฺม เอวํ สมจินฺเตสุํ – ‘‘อุจฺจาวจา โข ปุริสานํ อธิปฺปายา. ยํนูน มยํ เอกสตํ เอกสตํ กุมาริวณฺณสตํ อภินิมฺมิเนยฺยามา’’ติ. อถ ¶ โข ตณฺหา จ อรติ จ รคา จ มารธีตโร เอกสตํ เอกสตํ กุมาริวณฺณสตํ อภินิมฺมินิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ปาเท เต, สมณ, ปริจาเรมา’’ติ. ตมฺปิ ภควา น มนสากาสิ, ยถา ตํ อนุตฺตเร อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโต.
อถ โข ตณฺหา จ อรติ จ รคา จ มารธีตโร เอกมนฺตํ อปกฺกมฺม เอวํ สมจินฺเตสุํ – ‘‘อุจฺจาวจา โข ปุริสานํ อธิปฺปายา ¶ . ยํนูน มยํ เอกสตํ เอกสตํ อวิชาตวณฺณสตํ อภินิมฺมิเนยฺยามา’’ติ. อถ โข ตณฺหา จ อรติ จ รคา จ มารธีตโร เอกสตํ เอกสตํ ¶ อวิชาตวณฺณสตํ ¶ อภินิมฺมินิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ปาเท เต, สมณ, ปริจาเรมา’’ติ. ตมฺปิ ภควา น มนสากาสิ, ยถา ตํ อนุตฺตเร อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโต.
อถ โข ตณฺหา จ…เป… ยํนูน มยํ เอกสตํ เอกสตํ สกึ วิชาตวณฺณสตํ อภินิมฺมิเนยฺยามาติ. อถ โข ตณฺหา จ…เป… สกึ วิชาตวณฺณสตํ อภินิมฺมินิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ปาเท เต, สมณ, ปริจาเรมา’’ติ. ตมฺปิ ภควา น มนสากาสิ, ยถา ตํ อนุตฺตเร อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโต.
อถ โข ตณฺหา จ…เป… ยํนูน มยํ เอกสตํ เอกสตํ ทุวิชาตวณฺณสตํ อภินิมฺมิเนยฺยามาติ. อถ โข ตณฺหา จ…เป… ทุวิชาตวณฺณสตํ อภินิมฺมินิตฺวา เยน ภควา…เป… ยถา ตํ อนุตฺตเร อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโต. อถ โข ตณฺหา จ…เป… มชฺฌิมิตฺถิวณฺณสตํ อภินิมฺมิเนยฺยามาติ. อถ โข ตณฺหา จ…เป… มชฺฌิมิตฺถิวณฺณสตํ อภินิมฺมินิตฺวา…เป… อนุตฺตเร อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโต.
อถ โข ตณฺหา จ…เป… มหิตฺถิวณฺณสตํ อภินิมฺมิเนยฺยามาติ ¶ . อถ โข ตณฺหา จ…เป… มหิตฺถิวณฺณสตํ อภินิมฺมินิตฺวา เยน ภควา…เป… อนุตฺตเร อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโต. อถ โข ตณฺหา จ อรติ จ รคา จ มารธีตโร เอกมนฺตํ อปกฺกมฺม เอตทโวจุํ – สจฺจํ กิร โน ปิตา อโวจ –
‘‘อรหํ สุคโต โลเก, น ราเคน สุวานโย;
มารเธยฺยํ อติกฺกนฺโต, ตสฺมา โสจามหํ ภุส’’นฺติ.
‘‘ยฺหิ มยํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อวีตราคํ อิมินา อุปกฺกเมน อุปกฺกเมยฺยาม หทยํ วาสฺส ผเลยฺย, อุณฺหํ โลหิตํ วา มุขโต อุคฺคจฺเฉยฺย, อุมฺมาทํ ¶ วา ปาปุเณยฺย จิตฺตกฺเขปํ ¶ วา. เสยฺยถา วา ปน นโฬ หริโต ลุโต อุสฺสุสฺสติ วิสุสฺสติ มิลายติ; เอวเมว อุสฺสุสฺเสยฺย วิสุสฺเสยฺย มิลาเยยฺยา’’ติ.
อถ ¶ โข ตณฺหา จ อรติ จ รคา จ มารธีตโร เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข ตณฺหา มารธีตา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘โสกาวติณฺโณ นุ วนมฺหิ ฌายสิ,
วิตฺตํ นุ ชีโน อุท ปตฺถยาโน;
อาคุํ นุ คามสฺมิมกาสิ กิฺจิ,
กสฺมา ชเนน น กโรสิ สกฺขึ;
สกฺขี น สมฺปชฺชติ เกนจิ เต’’ติ.
‘‘อตฺถสฺส ¶ ปตฺตึ หทยสฺส สนฺตึ,
เชตฺวาน เสนํ ปิยสาตรูปํ;
เอโกหํ [เอกาหํ (สฺยา. กํ. ปี. ก.)] ฌายํ สุขมนุโพธึ,
ตสฺมา ชเนน น กโรมิ สกฺขึ;
สกฺขี น สมฺปชฺชติ เกนจิ เม’’ติ.
อถ โข อรติ [อรติ จ (ก.)] มารธีตา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘กถํ วิหารีพหุโลธ ภิกฺขุ,
ปฺโจฆติณฺโณ อตรีธ ฉฏฺํ;
กถํ ฌายึ [กถํ ฌายํ (สฺยา. กํ. ปี.), กถชฺฌายํ (ก.)] พหุลํ กามสฺา,
ปริพาหิรา โหนฺติ อลทฺธ โย ต’’นฺติ.
‘‘ปสฺสทฺธกาโย สุวิมุตฺตจิตฺโต,
อสงฺขราโน สติมา อโนโก;
อฺาย ¶ ธมฺมํ อวิตกฺกฌายี,
น กุปฺปติ น สรติ น ถิโน [น กุปฺปตี นสฺสรตี น ถีโน (สี.)].
‘‘เอวํวิหารีพหุโลธ ภิกฺขุ,
ปฺโจฆติณฺโณ อตรีธ ฉฏฺํ;
เอวํ ฌายึ พหุลํ กามสฺา,
ปริพาหิรา โหนฺติ อลทฺธ โย ต’’นฺติ.
อถ ¶ ¶ โข รคา [รคาจ (ก.)] มารธีตา ภควโต สนฺติเก คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘อจฺเฉชฺช ¶ ตณฺหํ คณสงฺฆจารี,
อทฺธา จริสฺสนฺติ [ตริสฺสนฺติ (สี.)] พหู จ สทฺธา;
พหุํ วตายํ ชนตํ อโนโก,
อจฺเฉชฺช เนสฺสติ มจฺจุราชสฺส ปาร’’นฺติ.
‘‘นยนฺติ เว มหาวีรา, สทฺธมฺเมน ตถาคตา;
ธมฺเมน นยมานานํ, กา อุสูยา วิชานต’’นฺติ.
อถ โข ตณฺหา จ อรติ จ รคา จ มารธีตโร เยน มาโร ปาปิมา เตนุปสงฺกมึสุ. อทฺทสา โข มาโร ปาปิมา ตณฺหฺจ อรติฺจ รคฺจ มารธีตโร ทูรโตว อาคจฺฉนฺติโย. ทิสฺวาน คาถาหิ อชฺฌภาสิ –
‘‘พาลา กุมุทนาเฬหิ, ปพฺพตํ อภิมตฺถถ [อภิมนฺถถ (สี.)];
คิรึ นเขน ขนถ, อโย ทนฺเตหิ ขาทถ.
‘‘เสลํว สิรสูหจฺจ [สิรสิ อูหจฺจ (สี.), สิรสิ โอหจฺจ (สฺยา. กํ.)], ปาตาเล คาธเมสถ;
ขาณุํว อุรสาสชฺช, นิพฺพิชฺชาเปถ โคตมา’’ติ.
‘‘ททฺทลฺลมานา ¶ อาคฺฉุํ, ตณฺหา จ อรตี รคา;
ตา ตตฺถ ปนุที สตฺถา, ตูลํ ภฏฺํว มาลุโต’’ติ.
ตติโย วคฺโค.
ตสฺสุทฺทานํ –
สมฺพหุลา ¶ สมิทฺธิ จ, โคธิกํ สตฺตวสฺสานิ;
ธีตรํ เทสิตํ พุทฺธ, เสฏฺเน อิมํ มารปฺจกนฺติ.
มารสํยุตฺตํ สมตฺตํ.