📜

๕. ภิกฺขุนีสํยุตฺตํ

๑. อาฬวิกาสุตฺตํ

๑๖๒. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อาฬวิกา ภิกฺขุนี ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน อนฺธวนํ เตนุปสงฺกมิ วิเวกตฺถินี. อถ โข มาโร ปาปิมา อาฬวิกาย ภิกฺขุนิยา ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม วิเวกมฺหา จาเวตุกาโม เยน อาฬวิกา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อาฬวิกํ ภิกฺขุนึ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘นตฺถิ นิสฺสรณํ โลเก, กึ วิเวเกน กาหสิ;

ภุฺชสฺสุ กามรติโย, มาหุ ปจฺฉานุตาปินี’’ติ.

อถ โข อาฬวิกาย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘โก นุ ขฺวายํ มนุสฺโส วา อมนุสฺโส วา คาถํ ภาสตี’’ติ? อถ โข อาฬวิกาย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘มาโร โข อยํ ปาปิมา มม ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม วิเวกมฺหา จาเวตุกาโม คาถํ ภาสตี’’ติ. อถ โข อาฬวิกา ภิกฺขุนี ‘‘มาโร อยํ ปาปิมา’’ อิติ วิทิตฺวา มารํ ปาปิมนฺตํ คาถาหิ ปจฺจภาสิ –

‘‘อตฺถิ นิสฺสรณํ โลเก, ปฺาย เม สุผุสฺสิตํ [สุผสฺสิตํ (สี. ปี.)];

ปมตฺตพนฺธุ ปาปิม, น ตฺวํ ชานาสิ ตํ ปทํ.

‘‘สตฺติสูลูปมา กามา, ขนฺธาสํ อธิกุฏฺฏนา;

ยํ ตฺวํ กามรตึ พฺรูสิ, อรติ มยฺห สา อหู’’ติ.

อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ อาฬวิกา ภิกฺขุนี’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.

๒. โสมาสุตฺตํ

๑๖๓. สาวตฺถินิทานํ . อถ โข โสมา ภิกฺขุนี ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน อนฺธวนํ เตนุปสงฺกมิ ทิวาวิหาราย. อนฺธวนํ อชฺโฌคาเหตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. อถ โข มาโร ปาปิมา โสมาย ภิกฺขุนิยา ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม สมาธิมฺหา จาเวตุกาโม เยน โสมา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา โสมํ ภิกฺขุนึ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘ยํ ตํ อิสีหิ ปตฺตพฺพํ, านํ ทุรภิสมฺภวํ;

น ตํ ทฺวงฺคุลปฺาย, สกฺกา ปปฺโปตุมิตฺถิยา’’ติ.

อถ โข โสมาย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘โก นุ ขฺวายํ มนุสฺโส วา อมนุสฺโส วา คาถํ ภาสตี’’ติ? อถ โข โสมาย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘มาโร โข อยํ ปาปิมา มม ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม สมาธิมฺหา จาเวตุกาโม คาถํ ภาสตี’’ติ. อถ โข โสมา ภิกฺขุนี ‘‘มาโร อยํ ปาปิมา’’ อิติ วิทิตฺวา มารํ ปาปิมนฺตํ คาถาหิ ปจฺจภาสิ –

‘‘อิตฺถิภาโว กึ กยิรา, จิตฺตมฺหิ สุสมาหิเต;

าณมฺหิ วตฺตมานมฺหิ, สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโต.

‘‘ยสฺส นูน สิยา เอวํ, อิตฺถาหํ ปุริโสติ วา;

กิฺจิ วา ปน อฺสฺมิ [อสฺมีติ (สฺยา. กํ. ปี.)], ตํ มาโร วตฺตุมรหตี’’ติ.

อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ โสมา ภิกฺขุนี’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.

๓. กิสาโคตมีสุตฺตํ

๑๖๔. สาวตฺถินิทานํ. อถ โข กิสาโคตมี ภิกฺขุนี ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน อนฺธวนํ เตนุปสงฺกมิ , ทิวาวิหาราย. อนฺธวนํ อชฺโฌคาเหตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. อถ โข มาโร ปาปิมา กิสาโคตมิยา ภิกฺขุนิยา ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม สมาธิมฺหา จาเวตุกาโม เยน กิสาโคตมี ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา กิสาโคตมึ ภิกฺขุนึ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘กึ นุ ตฺวํ มตปุตฺตาว, เอกมาสิ รุทมฺมุขี;

วนมชฺฌคตา เอกา, ปุริสํ นุ คเวสสี’’ติ.

อถ โข กิสาโคตมิยา ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘โก นุ ขฺวายํ มนุสฺโส วา อมนุสฺโส วา คาถํ ภาสตี’’ติ? อถ โข กิสาโคตมิยา ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘มาโร โข อยํ ปาปิมา มม ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม สมาธิมฺหา จาเวตุกาโม คาถํ ภาสตี’’ติ.

อถ โข กิสาโคตมี ภิกฺขุนี ‘‘มาโร อยํ ปาปิมา’’ อิติ วิทิตฺวา มารํ ปาปิมนฺตํ คาถาหิ ปจฺจภาสิ –

‘‘อจฺจนฺตํ มตปุตฺตามฺหิ, ปุริสา เอตทนฺติกา;

น โสจามิ น โรทามิ, น ตํ ภายามิ อาวุโส.

‘‘สพฺพตฺถ วิหตา นนฺที, ตโมกฺขนฺโธ ปทาลิโต;

เชตฺวาน มจฺจุโน [เชตฺวา นมุจิโน (สี.)] เสนํ, วิหรามิ อนาสวา’’ติ.

อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ กิสาโคตมี ภิกฺขุนี’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.

๔. วิชยาสุตฺตํ

๑๖๕. สาวตฺถินิทานํ. อถ โข วิชยา ภิกฺขุนี ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา…เป… อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. อถ โข มาโร ปาปิมา วิชยาย ภิกฺขุนิยา ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม สมาธิมฺหา จาเวตุกาโม เยน วิชยา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา วิชยํ ภิกฺขุนึ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘ทหรา ตฺวํ รูปวตี, อหฺจ ทหโร สุสุ;

ปฺจงฺคิเกน ตุริเยน, เอหยฺเยภิรมามเส’’ติ [เอหิ อยฺเย รมามเสติ (สี.)].

อถ โข วิชยาย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘โก นุ ขฺวายํ มนุสฺโส วา อมนุสฺโส วา คาถํ ภาสตี’’ติ? อถ โข วิชยาย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘มาโร โข อยํ ปาปิมา มม ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม สมาธิมฺหา จาเวตุกาโม คาถํ ภาสตี’’ติ. อถ โข วิชยา ภิกฺขุนี ‘‘มาโร อยํ ปาปิมา’’ อิติ วิทิตฺวา มารํ ปาปิมนฺตํ คาถาหิ ปจฺจภาสิ –

‘‘รูปา สทฺทา รสา คนฺธา, โผฏฺพฺพา จ มโนรมา;

นิยฺยาตยามิ ตุยฺเหว, มาร นาหํ เตนตฺถิกา.

‘‘อิมินา ปูติกาเยน, ภินฺทเนน ปภงฺคุนา;

อฏฺฏียามิ หรายามิ, กามตณฺหา สมูหตา.

‘‘เย จ รูปูปคา สตฺตา, เย จ อรูปฏฺายิโน [อารุปฺปฏฺายิโน (สี. ปี.)];

ยา จ สนฺตา สมาปตฺติ, สพฺพตฺถ วิหโต ตโม’’ติ.

อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ วิชยา ภิกฺขุนี’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.

๕. อุปฺปลวณฺณาสุตฺตํ

๑๖๖. สาวตฺถินิทานํ. อถ โข อุปฺปลวณฺณา ภิกฺขุนี ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา…เป… อฺตรสฺมึ สุปุปฺผิตสาลรุกฺขมูเล อฏฺาสิ. อถ โข มาโร ปาปิมา อุปฺปลวณฺณาย ภิกฺขุนิยา ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม สมาธิมฺหา จาเวตุกาโม เยน อุปฺปลวณฺณา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อุปฺปลวณฺณํ ภิกฺขุนึ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘สุปุปฺผิตคฺคํ อุปคมฺม ภิกฺขุนิ,

เอกา ตุวํ ติฏฺสิ สาลมูเล;

น จตฺถิ เต ทุติยา วณฺณธาตุ,

พาเล น ตฺวํ ภายสิ ธุตฺตกาน’’นฺติ.

อถ โข อุปฺปลวณฺณาย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘โก นุ ขฺวายํ มนุสฺโส วา อมนุสฺโส วา คาถํ ภาสตี’’ติ? อถ โข อุปฺปลวณฺณาย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘มาโร โข อยํ ปาปิมา มม ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม สมาธิมฺหา จาเวตุกาโม คาถํ ภาสตี’’ติ. อถ โข อุปฺปลวณฺณา ภิกฺขุนี ‘‘มาโร อยํ ปาปิมา’’ อิติ วิทิตฺวา มารํ ปาปิมนฺตํ คาถาหิ ปจฺจภาสิ –

‘‘สตํ สหสฺสานิปิ ธุตฺตกานํ,

อิธาคตา ตาทิสกา ภเวยฺยุํ;

โลมํ น อิฺชามิ น สนฺตสามิ,

น มาร ภายามิ ตเมกิกาปิ.

‘‘เอสา อนฺตรธายามิ, กุจฺฉึ วา ปวิสามิ เต;

ปขุมนฺตริกายมฺปิ, ติฏฺนฺตึ มํ น ทกฺขสิ.

‘‘จิตฺตสฺมึ วสีภูตามฺหิ, อิทฺธิปาทา สุภาวิตา;

สพฺพพนฺธนมุตฺตามฺหิ, น ตํ ภายามิ อาวุโส’’ติ.

อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ อุปฺปลวณฺณา ภิกฺขุนี’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.

๖. จาลาสุตฺตํ

๑๖๗. สาวตฺถินิทานํ. อถ โข จาลา ภิกฺขุนี ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา…เป… อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. อถ โข มาโร ปาปิมา เยน จาลา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา จาลํ ภิกฺขุนึ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ ตฺวํ, ภิกฺขุนิ, น โรเจสี’’ติ? ‘‘ชาตึ ขฺวาหํ, อาวุโส, น โรเจมี’’ติ.

‘‘กึ นุ ชาตึ น โรเจสิ, ชาโต กามานิ ภุฺชติ;

โก นุ ตํ อิทมาทปยิ, ชาตึ มา โรจ [มา โรเจสิ (สี. ปี.)] ภิกฺขุนี’’ติ.

‘‘ชาตสฺส มรณํ โหติ, ชาโต ทุกฺขานิ ผุสฺสติ [ปสฺสติ (สี. ปี.)];

พนฺธํ วธํ ปริกฺเลสํ, ตสฺมา ชาตึ น โรจเย.

‘‘พุทฺโธ ธมฺมมเทเสสิ, ชาติยา สมติกฺกมํ;

สพฺพทุกฺขปฺปหานาย, โส มํ สจฺเจ นิเวสยิ.

‘‘เย จ รูปูปคา สตฺตา, เย จ อรูปฏฺายิโน;

นิโรธํ อปฺปชานนฺตา, อาคนฺตาโร ปุนพฺภว’’นฺติ.

อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ จาลา ภิกฺขุนี’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.

๗. อุปจาลาสุตฺตํ

๑๖๘. สาวตฺถินิทานํ . อถ โข อุปจาลา ภิกฺขุนี ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา…เป… อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. อถ โข มาโร ปาปิมา เยน อุปจาลา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อุปจาลํ ภิกฺขุนึ เอตทโวจ – ‘‘กตฺถ นุ ตฺวํ, ภิกฺขุนิ, อุปฺปชฺชิตุกามา’’ติ? ‘‘น ขฺวาหํ, อาวุโส, กตฺถจิ อุปฺปชฺชิตุกามา’’ติ.

‘‘ตาวตึสา จ ยามา จ, ตุสิตา จาปิ เทวตา;

นิมฺมานรติโน เทวา, เย เทวา วสวตฺติโน;

ตตฺถ จิตฺตํ ปณิเธหิ, รตึ ปจฺจนุโภสฺสสี’’ติ.

‘‘ตาวตึสา จ ยามา จ, ตุสิตา จาปิ เทวตา;

นิมฺมานรติโน เทวา, เย เทวา วสวตฺติโน;

กามพนฺธนพทฺธา เต, เอนฺติ มารวสํ ปุน.

‘‘สพฺโพ อาทีปิโต [สพฺโพว อาทิตฺโต (สฺยา. กํ.)] โลโก, สพฺโพ โลโก ปธูปิโต;

สพฺโพ ปชฺชลิโต [ปชฺชลิโต (สพฺพตฺถ)] โลโก, สพฺโพ โลโก ปกมฺปิโต.

‘‘อกมฺปิตํ อปชฺชลิตํ [อจลิตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], อปุถุชฺชนเสวิตํ;

อคติ ยตฺถ มารสฺส, ตตฺถ เม นิรโต มโน’’ติ.

อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ อุปจาลา ภิกฺขุนี’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.

๘. สีสุปจาลาสุตฺตํ

๑๖๙. สาวตฺถินิทานํ . อถ โข สีสุปจาลา [สีสูปจาลา (สี.)] ภิกฺขุนี ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา …เป… อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. อถ โข มาโร ปาปิมา เยน สีสุปจาลา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา สีสุปจาลํ ภิกฺขุนึ เอตทโวจ – ‘‘กสฺส นุ ตฺวํ, ภิกฺขุนิ, ปาสณฺฑํ โรเจสี’’ติ? ‘‘น ขฺวาหํ, อาวุโส, กสฺสจิ ปาสณฺฑํ โรเจมี’’ติ.

‘‘กํ นุ อุทฺทิสฺส มุณฺฑาสิ, สมณี วิย ทิสฺสสิ;

น จ โรเจสิ ปาสณฺฑํ, กิมิว จรสิ โมมูหา’’ติ.

‘‘อิโต พหิทฺธา ปาสณฺฑา, ทิฏฺีสุ ปสีทนฺติ เต;

น เตสํ ธมฺมํ โรเจมิ, เต ธมฺมสฺส อโกวิทา.

‘‘อตฺถิ สกฺยกุเล ชาโต, พุทฺโธ อปฺปฏิปุคฺคโล;

สพฺพาภิภู มารนุโท, สพฺพตฺถมปราชิโต.

‘‘สพฺพตฺถ มุตฺโต อสิโต, สพฺพํ ปสฺสติ จกฺขุมา;

สพฺพกมฺมกฺขยํ ปตฺโต, วิมุตฺโต อุปธิสงฺขเย;

โส มยฺหํ ภควา สตฺถา, ตสฺส โรเจมิ สาสน’’นฺติ.

อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ สีสุปจาลา ภิกฺขุนี’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.

๙. เสลาสุตฺตํ

๑๗๐. สาวตฺถินิทานํ . อถ โข เสลา ภิกฺขุนี ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา…เป… อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. อถ โข มาโร ปาปิมา เสลาย ภิกฺขุนิยา ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม…เป… เสลํ ภิกฺขุนึ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘เกนิทํ ปกตํ พิมฺพํ, กฺวนุ [กฺวนฺนุ (สี. ปี.), กฺวจิ (สฺยา. กํ. ก.)] พิมฺพสฺส การโก;

กฺวนุ พิมฺพํ สมุปฺปนฺนํ, กฺวนุ พิมฺพํ นิรุชฺฌตี’’ติ.

อถ โข เสลาย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘โก นุ ขฺวายํ มนุสฺโส วา อมนุสฺโส วา คาถํ ภาสตี’’ติ? อถ โข เสลาย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘มาโร โข อยํ ปาปิมา มม ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม สมาธิมฺหา จาเวตุกาโม คาถํ ภาสตี’’ติ. อถ โข เสลา ภิกฺขุนี ‘‘มาโร อยํ ปาปิมา’’ อิติ วิทิตฺวา มารํ ปาปิมนฺตํ คาถาหิ ปจฺจภาสิ –

‘‘นยิทํ อตฺตกตํ [นยิทํ ปกตํ (สฺยา. กํ.)] พิมฺพํ, นยิทํ ปรกตํ [นยิทํ ปกตํ (สฺยา. กํ.)] อฆํ;

เหตุํ ปฏิจฺจ สมฺภูตํ, เหตุภงฺคา นิรุชฺฌติ.

‘‘ยถา อฺตรํ พีชํ, เขตฺเต วุตฺตํ วิรูหติ;

ปถวีรสฺจาคมฺม, สิเนหฺจ ตทูภยํ.

‘‘เอวํ ขนฺธา จ ธาตุโย, ฉ จ อายตนา อิเม;

เหตุํ ปฏิจฺจ สมฺภูตา, เหตุภงฺคา นิรุชฺฌเร’’ติ.

อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ เสลา ภิกฺขุนี’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.

๑๐. วชิราสุตฺตํ

๑๗๑. สาวตฺถินิทานํ . อถ โข วชิรา ภิกฺขุนี ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน อนฺธวนํ เตนุปสงฺกมิ ทิวาวิหาราย. อนฺธวนํ อชฺโฌคาเหตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. อถ โข มาโร ปาปิมา วชิราย ภิกฺขุนิยา ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม สมาธิมฺหา จาเวตุกาโม เยน วชิรา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา วชิรํ ภิกฺขุนึ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘เกนายํ ปกโต สตฺโต, กุวํ สตฺตสฺส การโก;

กุวํ สตฺโต สมุปฺปนฺโน, กุวํ สตฺโต นิรุชฺฌตี’’ติ.

อถ โข วชิราย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘โก นุ ขฺวายํ มนุสฺโส วา อมนุสฺโส วา คาถํ ภาสตี’’ติ? อถ โข วชิราย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘มาโร โข อยํ ปาปิมา มม ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม สมาธิมฺหา จาเวตุกาโม คาถํ ภาสตี’’ติ. อถ โข วชิรา ภิกฺขุนี ‘‘มาโร อยํ ปาปิมา’’ อิติ วิทิตฺวา, มารํ ปาปิมนฺตํ คาถาหิ ปจฺจภาสิ –

‘‘กึ นุ สตฺโตติ ปจฺเจสิ, มาร ทิฏฺิคตํ นุ เต;

สุทฺธสงฺขารปุฺโชยํ, นยิธ สตฺตุปลพฺภติ.

‘‘ยถา หิ องฺคสมฺภารา, โหติ สทฺโท รโถ อิติ;

เอวํ ขนฺเธสุ สนฺเตสุ, โหติ สตฺโตติ สมฺมุติ [สมฺมติ (สฺยา. กํ.)].

‘‘ทุกฺขเมว หิ สมฺโภติ, ทุกฺขํ ติฏฺติ เวติ จ;

นาฺตฺร ทุกฺขา สมฺโภติ, นาฺํ ทุกฺขา นิรุชฺฌตี’’ติ.

อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ วชิรา ภิกฺขุนี’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติ.

ภิกฺขุนีสํยุตฺตํ สมตฺตํ.

ตสฺสุทฺทานํ –

อาฬวิกา จ โสมา จ, โคตมี วิชยา สห;

อุปฺปลวณฺณา จ จาลา, อุปจาลา สีสุปจาลา จ;

เสลา วชิราย เต ทสาติ.