📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

สํยุตฺตนิกาเย

สคาถาวคฺคฏีกา

คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา

. สํวณฺณนารมฺเภ รตนตฺตยวนฺทนา สํวณฺเณตพฺพสฺส ธมฺมสฺส ปภวนิสฺสยวิสุทฺธิปฏิเวทนตฺถํ, ตํ ปน ธมฺมสํวณฺณนาสุ วิฺูนํ พหุมานุปฺปาทนตฺถํ, ตํ สมฺมเทว เตสํ อุคฺคหณธารณาทิกฺกมลทฺธพฺพาย สมฺมาปฏิปตฺติยา สพฺพหิตสุขนิปฺผาทนตฺถนฺติ. อถ วา มงฺคลภาวโต, สพฺพกิริยาสุ ปุพฺพกิจฺจภาวโต, ปณฺฑิเตหิ สมาจริตภาวโต, อายตึ ปเรสํ ทิฏฺานุคติอาปชฺชนโต จ สํวณฺณนายํ รตนตฺตยปณามกิริยาติ. อถ วา รตนตฺตยปณามกรณํ ปูชนียปูชาปุฺวิเสสนิพฺพตฺตนตฺถํ, ตํ อตฺตโน ยถาลทฺธสมฺปตฺตินิมิตฺตกสฺส กมฺมสฺส พลานุปฺปทานตฺถํ, อนฺตรา จ ตสฺส อสํโกจาปนตฺถํ, ตทุภยํ อนนฺตราเยน อฏฺกถาย ปริสมาปนตฺถนฺติ อิทเมว จ ปโยชนํ อาจริเยน อิธาธิปฺเปตํ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘อิติ เม ปสนฺนมติโน…เป… ตสฺสานุภาเวนา’’ติ. วตฺถุตฺตยปูชา หิ นิรติสยปุฺกฺเขตฺตสํพุทฺธิยา อปริเมยฺยปภาโว ปุฺาติสโยติ พหุวิธนฺตราเยปิ โลกสนฺนิวาเส อนฺตรายนิพนฺธนสกลสํกิเลสวิทฺธํสนาย ปโหติ, ภยาทิอุปทฺทวฺจ นิวาเรติ. ยถาห ‘‘ปูชารเห ปูชยโต’’ติอาทิ (ธ. ป. ๑๙๕; อป. เถร ๑.๑๐.๑), ตถา ‘‘เย, ภิกฺขเว, พุทฺเธ ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา, อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหตี’’ติอาทิ (อิติวุ. ๙๐).

‘‘พุทฺโธติ กิตฺตยนฺตสฺส, กาเย ภวติ ยา ปีติ;

วรเมว หิ สา ปีติ, กสิเณนปิ ชมฺพุทีปสฺส;

ธมฺโมติ…เป…, สงฺโฆติ…เป…, ชมฺพุทีปสฺสา’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๖);

ตถา ‘‘ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทส…เป… น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหตี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๖.๑๐; ๑๑.๑๑). ‘‘อรฺเ รุกฺขมูเล วา…เป… ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส น เหสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๔๙) จ.

ตตฺถ ยสฺส วตฺถุตฺตยสฺส วนฺทนํ กตฺตุกาโม, ตสฺส คุณาติสยโยคสนฺทสฺสนตฺถํ ‘‘กรุณาสีตลหทย’’นฺติอาทินา คาถตฺตยมาห. คุณาติสยโยเคน หิ วนฺทนารหภาโว, วนฺทนารเห จ กตา วนฺทนา ยถาธิปฺเปตํ ปโยชนํ สาเธตีติ. ตตฺถ ยสฺสา เทสนาย สํวณฺณนํ กตฺตุกาโม, สา น วินยเทสนา วิย กรุณาปฺปธานา, นาปิ อภิธมฺมเทสนา วิย ปฺาปฺปธานา, อถ โข กรุณาปฺาปฺปธานาติ ตทุภยปฺปธานเมว ตาว สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โถมนํ กาตุํ ตมฺมูลกตฺตา เสสรตนานํ ‘‘กรุณาสีตลหทย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กิรตีติ กรุณา, ปรทุกฺขํ วิกฺขิปติ อปเนตีติ อตฺโถ. อถ วา กิณาตีติ กรุณา, ปรทุกฺเข สติ การุณิกํ หึสติ วิพาธตีติ อตฺโถ. ปรทุกฺเข สติ สาธูนํ กมฺปนํ หทยเขทํ กโรตีติ วา กรุณา. อถ วา กมิติ สุขํ, ตํ รุนฺธตีติ กรุณา. เอสา หิ ปรทุกฺขาปนยนกามตาลกฺขณา อตฺตสุขนิรเปกฺขตาย การุณิกานํ สุขํ รุนฺธติ วิพนฺธตีติ อตฺโถ. กรุณาย สีตลํ กรุณาสีตลํ, กรุณาสีตลํ หทยํ อสฺสาติ กรุณาสีตลหทโย, ตํ กรุณาสีตลหทยํ.

ตตฺถ กิฺจาปิ ปเรสํ หิโตปสํหารสุขาทิอปริหานิจฺฉนสภาวตาย, พฺยาปาทารตีนํ อุชุวิปจฺจนีกตาย จ สตฺตสนฺตานคตสนฺตาปวิจฺเฉทนาการปวตฺติยา เมตฺตามุทิตานมฺปิ จิตฺตสีตลภาวการณตา อุปลพฺภติ, ตถาปิ ปรทุกฺขาปนยนาการปฺปวตฺติยา ปรูปตาปาสหนรสา อวิหึสาภูตา กรุณาว วิเสเสน ภควโต จิตฺตสฺส จิตฺตปสฺสทฺธิ วิย สีติภาวนิมิตฺตนฺติ วุตฺตํ ‘‘กรุณาสีตลหทย’’นฺติ. กรุณามุเขน วา เมตฺตามุทิตานมฺปิ หทยสีตลภาวการณตา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา .

อถ วา ฉอสาธารณาณวิเสสนิพนฺธนภูตา สาติสยํ นิรวเสสฺจ สพฺพฺุตฺาณํ วิย สวิสยพฺยาปิตาย มหากรุณาภาวมุปคตา กรุณาว ภควโต อภิสเยน หทยสีตลภาวเหตูติ อาห ‘‘กรุณาสีตลหทย’’นฺติ.

อถ วา สติปิ เมตฺตามุทิตานํ สาติสเย หทยสีติภาวนิพนฺธนตฺเต สกลพุทฺธคุณวิเสสการณตาย ตาสมฺปิ การณนฺติ กรุณาว ภควโต ‘‘หทยสีตลภาวการณ’’นฺติ วุตฺตา. กรุณานิทานา หิ สพฺเพปิ พุทฺธคุณา, กรุณานุภาวนิพฺพาปิยมานสํสารทุกฺขสนฺตาปสฺส หิ ภควโต ปรทุกฺขาปนยนกามตาย อเนกานิปิ อสงฺขฺเยยฺยานิ กปฺปานํ อกิลนฺตรูปสฺเสว นิรวเสสพุทฺธกรธมฺมสมฺภรณนิยตสฺส สมธิคตธมฺมาธิปเตยฺยสฺส จ สนฺนิหิเตสุปิ สตฺตสงฺฆาฏสมุปนีตหทยูปตาปนิมิตฺเตสุ น อีสกมฺปิ จิตฺตสีติภาวสฺส อฺถตฺตมโหสีติ. เอตสฺมิฺจ อตฺถวิกปฺเป ตีสุปิ อวตฺถาสุ ภควโต กรุณา สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา.

ปชานาตีติ ปฺา, ยถาสภาวํ ปกาเรหิ ปฏิวิชฺฌตีติ อตฺโถ. ปฺาว เยฺยาวรณปฺปหานโต ปกาเรหิ ธมฺมสภาวโชตนฏฺเน ปชฺโชโตติ ปฺาปชฺโชโต. สวาสนปฺปหานโต วิเสเสน หตํ สมุคฺฆาฏิตํ วิหตํ. ปฺาปชฺโชเตน วิหตํ ปฺาปชฺโชตวิหตํ. มุยฺหนฺติ เตน, สยํ วา มุยฺหติ, โมหนมตฺตเมว วา ตนฺติ โมโห, อวิชฺชา. สฺเวว วิสยสภาวปฏิจฺฉาทนกรณโต อนฺธการสริกฺขตาย ตโม วิยาติ ตโม. ปฺาปชฺโชตวิหโต โมหตโม เอตสฺสาติ ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตโม, ตํ ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตมํ. สพฺเพสมฺปิ หิ ขีณาสวานํ สติปิ ปฺาปชฺโชเตน อวิชฺชนฺธการสฺส วิหตภาเว สทฺธาธิมุตฺเตหิ วิย ทิฏฺิปฺปตฺตานํ สาวเกหิ ปจฺเจกสมฺพุทฺเธหิ จ สวาสนปฺปหาเนน สมฺมาสมฺพุทฺธานํ กิเลสปฺปหานสฺส วิเสโส วิชฺชตีติ สาติสเยน อวิชฺชาปฺปหาเนน ภควนฺตํ โถเมนฺโต อาห ‘‘ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตม’’นฺติ.

อถ วา อนฺตเรน ปโรปเทสํ อตฺตโน สนฺตาเน อจฺจนฺตํ อวิชฺชนฺธการวิคมสฺส นิพฺพตฺติตตฺตา, ตถา สพฺพฺุตาย พเลสุ จ วสีภาวสฺส สมธิคตตฺตา, ปรสนฺตติยฺจ ธมฺมเทสนาติสยานุภาเวน สมฺมเทว ตสฺส ปวตฺติตตฺตา ภควาว วิเสสโต โมหตมวิคเมน โถเมตพฺโพติ อาห ‘‘ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตม’’นฺติ. อิมสฺมิฺจ อตฺถวิกปฺเป ‘‘ปฺาปชฺโชโต’’ติ ปเทน ภควโต ปฏิเวธปฺา วิย เทสนาปฺาปิ สามฺนิทฺเทเสน, เอกเสสนเยน วา สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา.

อถ วา ภควโต าณสฺส เยฺยปริยนฺติกตฺตา สกลเยฺยธมฺมสภาวาวโพธนสมตฺเถน อนาวรณาณสงฺขาเตน ปฺาปชฺโชเตน สพฺพเยฺยธมฺมสภาวจฺฉาทกสฺส โมหนฺธการสฺส วิธมิตตฺตา อนฺสาธารโณ ภควโต โมหตมวินาโสติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตม’’นฺติ. เอตฺถ จ โมหตมวิธมนนฺเต อธิคตตฺตา อนาวรณาณํ การณูปจาเรน สสนฺตาเน โมหตมวิธมนนฺติ ทฏฺพฺพํ. อภินีหารสมฺปตฺติยา สวาสนปฺปหานเมว หิ กิเลสานํ เยฺยาวรณปหานนฺติ, ปรสนฺตาเน ปน โมหตมวิธมนสฺส การณภาวโต ผลูปจาเรน อนาวรณาณํ ‘‘โมหตมวิธมน’’นฺติ วุจฺจตีติ.

กึ ปน การณํ อวิชฺชาสมุคฺฆาโตเยเวโก ปหานสมฺปตฺติวเสน ภควโต โถมนานิมิตฺตํ คยฺหติ, น ปน สาติสยํ นิรวเสสกิเลสปหานนฺติ? ตปฺปหานวจเนเนว ตเทกฏฺตาย สกลสํกิเลสคณสมุคฺฆาตสฺส โชติตภาวโต. น หิ โส ตาทิโส กิเลโส อตฺถิ, โย นิรวเสสอวิชฺชาปฺปหาเนน น ปหียตีติ.

อถ วา วิชฺชา วิย สกลกุสลธมฺมสมุปฺปตฺติยา นิรวเสสากุสลธมฺมนิพฺพตฺติยา สํสารปฺปวตฺติยา จ อวิชฺชา ปธานการณนฺติ ตพฺพิฆาตวจเนน สกลสํกิเลสคณสมุคฺฆาโต วุตฺโต เอว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตม’’นฺติ.

นรา จ อมรา จ นรามรา, สห นรามเรหีติ สนรามโร, สนรามโร จ โส โลโก จาติ สนรามรโลโก, ตสฺส ครูติ สนรามรโลกครุ, ตํ สนรามรโลกครุํ. เอเตน เทวมนุสฺสานํ วิย ตทวสิฏฺสตฺตานมฺปิ ยถารหํ คุณวิเสสาวหตาย ภควโต อุปการตํ ทสฺเสติ. น เจตฺถ ปธานาปฺปธานภาโว โจเทตพฺโพ. อฺโ หิ สทฺทกฺกโม, อฺโ อตฺถกฺกโม. เอทิเสสุ หิ สมาสปเทสุ ปธานมฺปิ อปฺปธานํ วิย นิทฺทิสียติ ยถา ‘‘สราชิกาย ปริสายา’’ติ (อป. อฏฺ. ๑.๑.๘๒). กามฺเจตฺถ สตฺตสงฺขาโรกาสวเสน ติวิโธ โลโก, ครุภาวสฺส ปน อธิปฺเปตตฺตา ครุกรณสมตฺถสฺเสว สตฺตโลกสฺส วเสน อตฺโถ คเหตพฺโพ. โส หิ โลกียนฺติ เอตฺถ ปุฺปาปานิ ตพฺพิปาโก จาติ ‘‘โลโก’’ติ วุจฺจติ. อมรคฺคหเณน เจตฺถ อุปปตฺติเทวา อธิปฺเปตา.

อถ วา สมูหตฺโถ โลก-สทฺโท สมุทายวเสน โลกียติ ปฺาปียตีติ. สห นเรหีติ สนรา, สนรา จ เต อมรา จาติ สนรามรา, เตสํ โลโกติ สนรามรโลโกติ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. อมร-สทฺเทน เจตฺถ วิสุทฺธิเทวาปิ สงฺคยฺหนฺติ. เต หิ มรณาภาวโต ปรมตฺถโต อมรา, นรามรานํเยว คหณํ อุกฺกฏฺนิทฺเทสวเสน ยถา ‘‘สตฺถา เทวมนุสฺสาน’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๑๕๗). ตถา หิ สพฺพานตฺถปริหรณปุพฺพงฺคมาย นิรวเสสหิตสุขวิธานตปฺปราย นิรติสยาย ปโยคสมฺปตฺติยา สเทวมนุสฺสาย ปชาย อจฺจนฺตมุปการิตาย อปริมิตนิรุปมปฺปภาวคุณวิเสสสมงฺคิตาย จ สพฺพสตฺตุตฺตโม ภควา อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ อุตฺตมํ คารวฏฺานํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สนรามรโลกครุ’’นฺติ.

โสภนํ คตํ คมนํ เอตสฺสาติ สุคโต. ภควโต หิ เวเนยฺยชนุปสงฺกมนํ เอกนฺเตน เตสํ หิตสุขนิปฺผาทนโต โสภนํ, ตถา ลกฺขณานุพฺยฺชนปฏิมณฺฑิตรูปกายตาย ทุตวิลมฺพิตขลิตานุกฑฺฒนนิปฺปีฬนุกฺกุฏิกกุฏิลากุลตาทิ- โทสรหิตมวหสิตราชหํสวสภวารณมิคราชคมนํ กายคมนํ าณคมนฺจ วิปุลนิมฺมลกรุณาสติวีริยาทิคุณวิเสสสหิตมภินีหารโต ยาว มหาโพธิ นิรวชฺชตาย โสภนเมวาติ.

อถ วา สยมฺภูาเณน สกลมปิ โลกํ ปริฺาภิสมยวเสน ปริชานนฺโต าเณน สมฺมา คโต อวคโตติ สุคโต, ตถา โลกสมุทยํ ปหานาภิสมยวเสน ปชหนฺโต อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาเทนฺโต สมฺมา คโต อตีโตติ สุคโต, โลกนิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน สมฺมา คโต อธิคโตติ สุคโต, โลกนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ภาวนาภิสมยวเสน สมฺมา คโต ปฏิปนฺโนติ สุคโต. ‘‘โสตาปตฺติมคฺเคน เย กิเลสา ปหีนา, เต กิเลเส น ปุเนติ น ปจฺเจติ น ปจฺจาคจฺฉตีติ สุคโต’’ติอาทินา นเยน (มหานิ. ๓๘) อยมตฺโถ วิภาเวตพฺโพติ.

อถ วา สุนฺทรํ านํ สมฺมาสมฺโพธึ, นิพฺพานเมว วา คโต อธิคโตติ สุคโต. ยสฺมา วา ภูตํ ตจฺฉํ อตฺถสํหิตํ เวเนยฺยานํ ยถารหํ กาลยุตฺตเมว จ ธมฺมํ ภาสติ, ตสฺมา สมฺมา คทติ วทตีติ สุคโต ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา. อิติ โสภนคมนตาทีหิ สุคโต, ตํ สุคตํ.

ปุฺปาปเกหิ อุปปชฺชนวเสน คนฺตพฺพโต คติโย, อุปปตฺติภววิเสสา. ตา ปน นิรยาทิวเสน ปฺจวิธา. ตา หิ สกลสฺสปิ ภวคามิกมฺมสฺส อริยมคฺคาธิคเมน อวิปาการหภาวกรเณน นิวตฺติตตฺตา ภควา ปฺจหิปิ คตีหิ สุฏฺุ มุตฺโต วิสํยุตฺโตติ อาห ‘‘คติวิมุตฺต’’นฺติ. เอเตน ภควโต กตฺถจิปิ อปริยาปนฺนตํ ทสฺเสติ, ยโต ภควา ‘‘เทวาติเทโว’’ติ วุจฺจติ. เตนาห –

‘‘เยน เทวูปปตฺยสฺส, คนฺธพฺโพ วา วิหงฺคโม;

ยกฺขตฺตํ เยน คจฺเฉยฺยํ, มนุสฺสตฺตฺจ อพฺพเช;

เต มยฺหํ อาสวา ขีณา, วิทฺธสฺตา วินฬีกตา’’ติ. (อ. นิ. ๔.๓๖);

ตํตํคติสํวตฺตนกานฺหิ กมฺมกิเลสานํ อคฺคมคฺเคน โพธิมูเลเยว สุปฺปหีนตฺตา นตฺถิ ภควโต คติปริยาปนฺนตาติ อจฺจนฺตเมว ภควา สพฺพภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาสสตฺตนิกาเยหิ สุปริมุตฺโต. ตํ คติวิมุตฺตํ. วนฺเทติ นมามิ, โถเมมีติ วา อตฺโถ.

อถ วา คติวิมุตฺตนฺติ อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุปฺปตฺติยา ภควนฺตํ โถเมติ. เอตฺถ หิ ทฺวีหิ อากาเรหิ ภควโต โถมนา เวทิตพฺพา อตฺตหิตสมฺปตฺติโต ปรหิตปฏิปตฺติโต จ. เตสุ อตฺตหิตสมฺปตฺติ อนาวรณาณาธิคมโต, สวาสนานํ สพฺเพสํ กิเลสานํ อจฺจนฺตปหานโต, อนุปาทิเสสนิพฺพานปฺปตฺติโต จ เวทิตพฺพา. ปรหิตปฏิปตฺติ ลาภสกฺการาทินิรเปกฺขจิตฺตสฺส สพฺพทุกฺขนิยฺยานิกธมฺมเทสนโต, วิรุทฺเธสุปิ นิจฺจํ หิตชฺฌาสยวเสน าณปริปากกาลาคมนโต จ. สา ปเนตฺถ อาสยโต ปโยคโต จ ทุวิธา ปรหิตปฏิปตฺติ, ติวิธา จ อตฺตหิตสมฺปตฺติ ปกาสิตา โหติ, กถํ? ‘‘กรุณาสีตลหทย’’นฺติ เอเตน อาสยโต ปรหิตปฏิปตฺติ, สมฺมาคทนตฺเถน สุคต-สทฺเทน ปโยคโต ปรหิตปฏิปตฺติ, ‘‘ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตมํ คติวิมุตฺต’’นฺติ เอเตหิ จตุสจฺจปฏิเวธตฺเถน จ สุคต-สทฺเทน ติวิธาปิ อตฺตหิตสมฺปตฺติ, อวสิฏฺตฺเถน เตน ‘‘ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตม’’นฺติ เอเตน จ สพฺพาปิ อตฺตหิตสมฺปตฺติ ปรหิตปฏิปตฺติ ปกาสิตา โหตีติ.

อถ วา ตีหิ อากาเรหิ ภควโต โถมนา เวทิตพฺพา – เหตุโต ผลโต อุปการโต จ. ตตฺถ เหตุ มหากรุณา, สา ปมปเทน ทสฺสิตา. ผลํ จตุพฺพิธํ าณสมฺปทา ปหานสมฺปทา อานุภาวสมฺปทา รูปกายสมฺปทา จาติ. ตาสุ าณปหานสมฺปทา ทุติยปเทน สจฺจปฏิเวธตฺเถน จ สุคต-สทฺเทน ปกาสิตา โหนฺติ, อานุภาวสมฺปทา ปน ตติยปเทน, รูปกายสมฺปทา ยถาวุตฺตกายคมนโสภนตฺเถน สุคต-สทฺเทน ลกฺขณานุพฺยฺชนปาริปูริยา วินา ตทภาวโต . อุปกาโร อนนฺตรํ อพาหิรํ กริตฺวา ติวิธยานมุเขน วิมุตฺติธมฺมเทสนา. โส สมฺมาคทนตฺเถน สุคต-สทฺเทน ปกาสิโต โหตีติ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ ‘‘กรุณาสีตลหทย’’นฺติ เอเตน สมฺมาสมฺโพธิยา มูลํ ทสฺเสติ. มหากรุณาย สฺโจทิตมานโส หิ ภควา สํสารปงฺกโต สตฺตานํ สมุทฺธรณตฺถํ กตาภินีหาโร อนุปุพฺเพน ปารมิโย ปูเรตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อธิคโตติ กรุณา สมฺมาสมฺโพธิยา มูลํ. ‘‘ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตม’’นฺติ เอเตน สมฺมาสมฺโพธึ ทสฺเสติ. อนาวรณาณปทฏฺานฺหิ มคฺคาณํ, มคฺคาณปทฏฺานฺจ อนาวรณาณํ สมฺมาสมฺโพธีติ วุจฺจตีติ. สมฺมาคมนตฺเถน สุคต-สทฺเทน สมฺมาสมฺโพธิยา ปฏิปตฺตึ ทสฺเสติ ลีนุทฺธจฺจปติฏฺานายูหนกามสุขลฺลิกตฺตกิลมถานุโยค-สสฺสตุจฺเฉทาภินิเวสาทิ-อนฺตทฺวยรหิตาย กรุณาปฺาปริคฺคหิตาย มชฺฌิมาย ปฏิปตฺติยา ปกาสนโต สุคต-สทฺทสฺส. อิตเรหิ สมฺมาสมฺโพธิยา ปธานาปฺปธานเภทํ ปโยชนํ ทสฺเสติ. สํสารมโหฆโต สตฺตสนฺตารณฺเหตฺถ ปธานํ ปโยชนํ, ตทฺมปฺปธานํ. เตสุ ปธาเนน ปรหิตปฏิปตฺตึ ทสฺเสติ, อิตเรน อตฺตหิตสมฺปตฺตึ, ตทุภเยน อตฺตหิตาย ปฏิปนฺนาทีสุ จตูสุ ปุคฺคเลสุ ภควโต จตุตฺถปุคฺคลภาวํ ทสฺเสติ. เตน จ อนุตฺตรทกฺขิเณยฺยภาวํ, อุตฺตมวนฺทนียภาวํ, อตฺตโน จ วนฺทนกิริยาย เขตฺตงฺคตภาวํ ทสฺเสติ.

เอตฺถ จ กรุณาคหเณน โลกิเยสุ มหคฺคตภาวปฺปตฺตาสาธารณคุณทีปนโต ภควโต สพฺพโลกิยคุณสมฺปตฺติ ทสฺสิตา โหติ, ปฺาคหเณน สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานมคฺคาณทีปนโต สพฺพโลกุตฺตรคุณสมฺปตฺติ. ตทุภยคฺคหณสิทฺโธ หิ อตฺโถ ‘‘สนรามรโลกครุ’’นฺติอาทินา วิปฺจียตีติ. กรุณาคหเณน จ อุปคมนํ นิรุปกฺกิเลสํ ทสฺเสติ, ปฺาคหเณน อปคมนํ. ตถา กรุณาคหเณน โลกสมฺานุรูปํ ภควโต ปวตฺตึ ทสฺเสติ โลกโวหารวิสยตฺตา กรุณาย, ปฺาคหเณน สมฺาย อนติธาวนํ. สภาวานวโพเธน หิ ธมฺมานํ สมฺํ อติธาวิตฺวา สตฺตาทิปรามสนํ โหตีติ. ตถา กรุณาคหเณน มหากรุณาสมาปตฺติวิหารํ ทสฺเสติ, ปฺาคหเณน ตีสุ กาเลสุ อปฺปฏิหตาณํ จตุสจฺจาณํ จตุปฏิสมฺภิทาาณํ จตุเวสารชฺชาณํ, กรุณาคหเณน มหากรุณาสมาปตฺติาณสฺส คหิตตฺตา เสสาธารณาณานิ ฉ อภิฺา อฏฺสุ ปริสาสุ อกมฺปนาณานิ ทส พลานิ จุทฺทส พุทฺธาณานิ โสฬส าณจริยา อฏฺารส พุทฺธธมฺมา จตุจตฺตาลีส าณวตฺถูนิ สตฺตสตฺตติ าณวตฺถูนีติ เอวมาทีนํ อเนเกสํ ปฺาปเภทานํ วเสน าณจารํ ทสฺเสติ. ตถา กรุณาคหเณน จรณสมฺปตฺตึ, ปฺาคหเณน วิชฺชาสมฺปตฺตึ. กรุณาคหเณน อตฺตาธิปติตา, ปฺาคหเณน ธมฺมาธิปติตา. กรุณาคหเณน โลกนาถภาโว, ปฺาคหเณน อตฺตนาถภาโว. ตถา กรุณาคหเณน ปุพฺพการิภาโว, ปฺาคหเณน กตฺุตา. กรุณาคหเณน อปรนฺตปตา, ปฺาคหเณน อนตฺตนฺตปตา. กรุณาคหเณน วา พุทฺธกรธมฺมสิทฺธิ, ปฺาคหเณน พุทฺธภาวสิทฺธิ. ตถา กรุณาคหเณน ปเรสํ ตารณํ, ปฺาคหเณน สยํ ตารณํ. ตถา กรุณาคหเณน สพฺพสตฺเตสุ อนุคฺคหจิตฺตตา, ปฺาคหเณน สพฺพธมฺเมสุ วิรตฺตจิตฺตตา ทสฺสิตา โหติ.

สพฺเพสฺจ พุทฺธคุณานํ กรุณา อาทิ ตนฺนิทานภาวโต, ปฺา ปริโยสานํ ตโต อุตฺตริ กรณียาภาวโต. อิติ อาทิปริโยสานทสฺสเนน สพฺเพ พุทฺธคุณา ทสฺสิตา โหนฺติ. ตถา กรุณาคหเณน สีลกฺขนฺธปุพฺพงฺคโม สมาธิกฺขนฺโธ ทสฺสิโต โหติ. กรุณานิทานฺหิ สีลํ ตโต ปาณาติปาตาทิวิรติปฺปวตฺติโต, สา จ ฌานตฺตยสมฺปโยคินีติ. ปฺาวจเนน ปฺากฺขนฺโธ. สีลฺจ สพฺพพุทฺธคุณานํ อาทิ, สมาธิ มชฺเฌ, ปฺา ปริโยสานนฺติ เอวมฺปิ อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณทสฺสเนน สพฺเพ พุทฺธคุณา ทสฺสิตา โหนฺติ นยโต ทสฺสิตตฺตา. เอโส เอว หิ นิรวเสสโต พุทฺธคุณานํ ทสฺสนุปาโย, ยทิทํ นยคฺคหณํ, อฺถา โก นาม สมตฺโถ ภควโต คุเณ อนุปทํ นิรวเสสโต ทสฺเสตุํ. เตเนวาห –

‘‘พุทฺโธปิ พุทฺธสฺส ภเณยฺย วณฺณํ,

กปฺปมฺปิ เจ อฺมภาสมาโน;

ขีเยถ กปฺโป จิรทีฆมนฺตเร,

วณฺโณ น ขีเยถ ตถาคตสฺสา’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๓๐๔; ๓.๑๔๑; ม. นิ. อฏฺ. ๓.๔๒๕; อุทา. ๕๓; พุ. วํ. อฏฺ. ๔.๕; จริยา. อฏฺ. นิทานกถา, ปกิณฺณกกถา; อป. ๒.๗.๒๐) –

เตเนว จ อายสฺมตา สาริปุตฺตตฺเถเรนปิ พุทฺทคุณปริจฺเฉทนํ ปติ อนุยุตฺเตน ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อปิ จ เม, ภนฺเต, ธมฺมนฺวโย วิทิโต’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๔๖) วุตฺตํ.

. เอวํ สงฺเขเปน สกลสพฺพฺุคุเณหิ ภควนฺตํ อภิตฺถวิตฺวา อิทานิ สทฺธมฺมํ โถเมตุํ ‘‘พุทฺโธปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ พุทฺโธติ กตฺตุนิทฺเทโส. พุทฺธภาวนฺติ กมฺมนิทฺเทโส. ภาเวตฺวา สจฺฉิกตฺวาติ จ ปุพฺพกาลกิริยานิทฺเทโส. นฺติ อนิยมโต กมฺมนิทฺเทโส. อุปคโตติ อปรกาลกิริยานิทฺเทโส. วนฺเทติ กิริยานิทฺเทโส. นฺติ นิยมนํ. ธมฺมนฺติ วนฺทนกิริยาย กมฺมนิทฺเทโส. คตมลํ อนุตฺตรนฺติ จ ตพฺพิเสสนํ.

ตตฺถ พุทฺธสทฺทสฺส ตาว – ‘‘พุชฺฌิตา สจฺจานีติ พุทฺโธ, โพเธตา ปชายาติ พุทฺโธ’’ติอาทินา นิทฺเทสนเยน (มหานิ. ๑๙๒; จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทส ๙๗) อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อถ วา สวาสนาย อฺาณนิทฺทาย อจฺจนฺตวิคมโต, พุทฺธิยา วา วิกสิตภาวโต พุทฺธวาติ พุทฺโธ ชาครณวิกสนตฺถวเสน. อถ วา กสฺสจิปิ เยฺยธมฺมสฺส อนวพุทฺธสฺส อภาเวน เยฺยวิเสสสฺส กมฺมภาเวน อคฺคหณโต กมฺมวจนิจฺฉาย อภาเวน อวคมนตฺถวเสเนว กตฺตุนิทฺเทโส ลพฺภตีติ พุทฺธวาติ พุทฺโธ ยถา ‘‘ทิกฺขิโต น ททาตี’’ติ. อตฺถโต ปน ปารมิตาปริภาวิโต สยมฺภูาเณน สห วาสนาย วิหตวิทฺธสฺตนิรวเสสกิเลโส มหากรุณา สพฺพฺุตฺาณาทิอปริเมยฺยคุณคณาธาโร ขนฺธสนฺตาโน พุทฺโธ. ยถาห – ‘‘พุทฺโธติ โย โส ภควา สยมฺภู อนาจริยโก ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌิ. ตตฺถ จ สพฺพฺุตํ ปตฺโต พเลสุ จ วสีภาว’’นฺติ (มหานิ. ๑๙๒). อปิ-สทฺโท สมฺภาวเน. เตน ‘‘เอวํ คุณวิเสสยุตฺโต โสปิ นาม ภควา’’ติ วกฺขมานคุเณ ธมฺเม สมฺภาวนํ ทีเปติ. พุทฺธภาวนฺติ สมฺมาสมฺโพธึ. ภาเวตฺวาติ อุปฺปาเทตฺวา วฑฺเฒตฺวา จ. สจฺฉิกตฺวาติ ปจฺจกฺขํ กตฺวา. อุปคโตติ ปตฺโต, อธิคโตติ อตฺโถ. เอตสฺส ‘‘พุทฺธภาว’’นฺติ เอเตน สมฺพนฺโธ. คตมลนฺติ วิคตมลํ, นิทฺโทสนฺติ อตฺโถ. วนฺเทติ ปณมามิ, โถเมมิ วา. อนุตฺตรนฺติ อุตฺตรรหิตํ, โลกุตฺตรนฺติ อตฺโถ. ธมฺมนฺติ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน อปายโต สํสารโต จ อปตมาเน ธาเรตีติ ธมฺโม.

อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – เอวํ วิวิธคุณคณสมนฺนาคโต พุทฺโธปิ ภควา ยํ อริยมคฺคสงฺขาตํ ธมฺมํ ภาเวตฺวา ผลนิพฺพานสงฺขาตํ ปน ธมฺมํ สจฺฉิกตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อธิคโต, ตเมตํ พุทฺธานมฺปิ พุทฺธภาวเหตุภูตํ สพฺพโทสมลรหิตํ อตฺตโน อุตฺตริตราภาเวน อนุตฺตรํ ปฏิเวธสทฺธมฺมํ นมามีติ. ปริยตฺติสทฺธมฺมสฺสปิ ตปฺปกาสนตฺตา อิธ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อถ วา ‘‘อภิธมฺมนยสมุทฺทํ อธิคจฺฉิ, ตีณิ ปิฏกานิ สมฺมสี’’ติ จ อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา ปริยตฺติธมฺมสฺสปิ สจฺฉิกิริยสมฺมสนปริยาโย ลพฺภตีติ โสปิ อิธ วุตฺโต เอวาติ ทฏฺพฺพํ.

ตถา ‘‘ยํ ธมฺมํ ภาเวตฺวา สจฺฉิกตฺวา’’ติ จ วุตฺตตฺตา พุทฺธกรธมฺมภูตาหิ ปารมิตาหิ สห ปุพฺพภาเค อธิสีลสิกฺขาทโยปิ อิธ ธมฺม-สทฺเทน สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพํ. ตาปิ หิ มลปฏิปกฺขตาย คตมลา อนฺสาธารณตาย อนุตฺตรา จาติ. ตถา หิ สตฺตานํ สกลวฏฺฏทุกฺขนิสฺสรณตฺถาย กตมหาภินีหาโร มหากรุณาธิวาสเปสลชฺฌาสโย ปฺาวิเสสปริโธตนิมฺมลานํ ทานทมสฺมาทีนํ อุตฺตมธมฺมานํ สตสหสฺสาธิกานิ กปฺปานํ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ สกฺกจฺจํ นิรนฺตรํ นิรวเสสานํ ภาวนาปจฺจกฺขกรเณหิ กมฺมาทีสุ อธิคตวสิภาโว อจฺฉริยาจินฺเตยฺยมหานุภาโว อธิสีลาธิจิตฺตานํ ปรมุกฺกํสปารมิปฺปตฺโต ภควา ปจฺจยากาเร จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสมุเขน มหาวชิราณํ เปเสตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ.

เอตฺถ จ ‘‘ภาเวตฺวา’’ติ เอเตน วิชฺชาสมฺปทาย ธมฺมํ โถเมติ, ‘‘สจฺฉิกตฺวา’’ติ เอเตน วิมุตฺติสมฺปทาย. ตถา ปเมน ฌานสมฺปทาย, ทุติเยน วิโมกฺขสมฺปทาย. ปเมน วา สมาธิสมฺปทาย, ทุติเยน สมาปตฺติสมฺปทาย. อถ วา ปเมน ขเยาณภาเวน, ทุติเยน อนุปฺปาเทาณภาเวน. ปุริเมน วา วิชฺชูปมตาย, ทุติเยน วชิรุปมตาย. ปุริเมน วา วิราคสมฺปตฺติยา, ทุติเยน นิโรธสมฺปตฺติยา. ตถา ปเมน นิยฺยานภาเวน, ทุติเยน นิสฺสรณภาเวน. ปเมน วา เหตุภาเวน, ทุติเยน อสงฺขตภาเวน. ปเมน วา ทสฺสนภาเวน, ทุติเยน วิเวกภาเวน. ปเมน วา อธิปติภาเวน, ทุติเยน อมตภาเวน ธมฺมํ โถเมติ. อถ วา ‘‘ยํ ธมฺมํ ภาเวตฺวา พุทฺธภาวํ อุปคโต’’ติ เอเตน สฺวากฺขาตตาย ธมฺมํ โถเมติ, ‘‘สจฺฉิกตฺวา’’ติ เอเตน สนฺทิฏฺิกตาย. ตถา ปุริเมน อกาลิกตาย, ปจฺฉิเมน เอหิปสฺสิกตาย. ปุริเมน วา โอปเนยฺยิกตาย, ปจฺฉิเมน ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพตาย ธมฺมํ โถเมติ. ‘‘คตมล’’นฺติ อิมินา สํกิเลสาภาวทีปเนน ธมฺมสฺส ปริสุทฺธตํ ทสฺเสติ. ‘‘อนุตฺตร’’นฺติ เอเตน อฺสฺส วิสิฏฺสฺส อภาวทีปเนน วิปุลปริปุณฺณตํ. ปเมน วา ปหานสมฺปทํ ธมฺมสฺส ทสฺเสติ, ทุติเยน สภาวสมฺปทํ. ภาเวตพฺพตาย วา ธมฺมสฺส คตมลภาโว โยเชตพฺโพ. ภาวนาพเลน หิ โส โทสานํ สมุคฺฆาตโก โหตีติ. สจฺฉิกาตพฺพภาเวน อนุตฺตรภาโว โยเชตพฺโพ. สจฺฉิกิริยานิพฺพตฺติโต หิ ตตุตฺตริกรณียาภาวโต อนฺสาธารณตาย อนุตฺตโรติ. ตถา ‘‘ภาเวตฺวา’’ติ เอเตน สห ปุพฺพภาคสีลาทีหิ เสกฺขา สีลสมาธิปฺากฺขนฺธา ทสฺสิตา โหนฺติ. ‘‘สจฺฉิกตฺวา’’ติ เอเตน สห อสงฺขตาย ธาตุยา อเสกฺขา สีลสมาธิปฺากฺขนฺธา ทสฺสิตา โหนฺตีติ.

. เอวํ สงฺเขเปเนว สพฺพธมฺมคุเณหิ สทฺธมฺมํ อภิตฺถวิตฺวา อิทานิ อริยสงฺฆํ โถเมตุํ ‘‘สุคตสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุคตสฺสาติ สมฺพนฺธนิทฺเทโส . ตสฺส ‘‘ปุตฺตาน’’นฺติ เอเตน สมฺพนฺโธ . โอรสานนฺติ ปุตฺตวิเสสนํ. มารเสนมถนานนฺติ โอรสปุตฺตภาเว การณนิทฺเทโส. เตน กิเลสปหานเมว ภควโต โอรสปุตฺตภาเว การณํ อนุชานาตีติ ทสฺเสติ. อฏฺนฺนนฺติ คณนปริจฺเฉทนิทฺเทโส. เตน จ สติปิ เตสํ สตฺตวิเสสภาเวน อเนกสหสฺสสงฺขาภาเว อิมํ คณนปริจฺเฉทํ นาติวตฺตนฺตีติ ทสฺเสติ มคฺคฏฺผลฏฺภาวานติวตฺตนโต. สมูหนฺติ สมุทายนิทฺเทโส. อริยสงฺฆนฺติ คุณวิสิฏฺสงฺฆาตภาวนิทฺเทโส. เตน อสติปิ อริยปุคฺคลานํ กายสามคฺคิยํ อริยสงฺฆภาวํ ทสฺเสติ ทิฏฺิสีลสามฺเน สํหตภาวโต.

ตตฺถ อุรสิ ภวา ชาตา สํพทฺธา จ โอรสา. ยถา หิ สตฺตานํ โอรสปุตฺตา อตฺตชาตตาย ปิตุ สนฺตกสฺส ทายชฺชสฺส วิเสเสน ภาคิโน โหนฺติ, เอวเมเตปิ อริยปุคฺคลา สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ธมฺมสฺสวนนฺเต อริยาย ชาติยา ชาตตาย ภควโต สนฺตกสฺส วิมุตฺติสุขสฺส อริยธมฺมรตนสฺส จ เอกนฺตภาคิโนติ โอรสา วิย โอรสา. อถ วา ภควโต ธมฺมเทสนานุภาเวเนว อริยภูมึ โอกฺกมมานา โอกฺกนฺตา จ อริยสาวกา ภควโต อุเรน วายามชนิตาภิชาติตาย นิปฺปริยาเยน โอรสา ปุตฺตาติ วตฺตพฺพตํ อรหนฺติ. สาวเกหิ ปวตฺติยมานาปิ หิ ธมฺมเทสนา ‘‘ภควโต ธมฺมเทสนา’’อิจฺเจว วุจฺจติ ตมฺมูลิกตฺตา ลกฺขณาทิวิเสสาภาวโต จ.

ยทิปิ อริยสาวกานํ อริยมคฺคาธิคมสมเย ภควโต วิย ตทนฺตรายกรณตฺถํ เทวปุตฺตมาโร, มารวาหินี วา น เอกนฺเตน อปสาเทติ, เตหิ ปน อปสาเทตพฺพตาย การเณ วิมถิเต เตปิ วิมถิตา เอว นาม โหนฺตีติ อาห ‘‘มารเสนมถนาน’’นฺติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ ‘‘มารมารเสนมถนาน’’นฺติ วตฺตพฺเพ มารเสนมถนานนฺติ เอกเทสสรูเปกเสโส กโตติ ทฏฺพฺพํ. อถ วา ขนฺธาภิสงฺขารมารานํ วิย เทวปุตฺตมารสฺสปิ คุณมารเณ สหายภาวูปคมนโต กิเลสพลกาโย ‘‘เสนา’’ติ วุจฺจติ. ยถาห ‘‘กามา เต ปมา เสนา’’ติอาทิ (สุ. นิ. ๔๓๘). สา จ เตหิ ทิยฑฺฒสหสฺสเภทา, อนนฺตเภทา วา กิเลสวาหินี สติธมฺมวิจยวีริยสมถาทิคุณปหรเณหิ โอธิโส วิมถิตา วิหตา วิทฺธสฺตา จาติ มารเสนมถนา, อริยสาวกา. เอเตน เตสํ ภควโต อนุชาตปุตฺตตํ ทสฺเสติ.

อารกตฺตา กิเลเสหิ, อนเย น อิริยนโต, อเย จ อิริยนโต อริยา นิรุตฺตินเยน. อถ วา สเทวเกน โลเกน สรณนฺติ อรณียโต อุปคนฺตพฺพโต, อุปคตานฺจ ตทตฺถสิทฺธิโต อริยา. อริยานํ สงฺโฆติ อริยสงฺโฆ. อริโย จ โส สงฺโฆ จาติ วา อริยสงฺโฆ. ภควโต อปรภาเค พุทฺธธมฺมรตนานมฺปิ สมธิคโม สงฺฆรตนาธีโนติ อสฺส อริยสงฺฆสฺส พหูปการตํ ทสฺเสตุํ อิเธว ‘‘สิรสา วนฺเท’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

เอตฺถ จ ‘‘สุคตสฺส โอรสานํ ปุตฺตาน’’นฺติ เอเตน อริยสงฺฆสฺส ปภวสมฺปทํ ทสฺเสติ, ‘‘มารเสนมถนาน’’นฺติ เอเตน ปหานสมฺปทํ สกลสํกิเลสปหานทีปนโต, ‘‘อฏฺนฺนมฺปิ สมูห’’นฺติ เอเตน าณสมฺปทํ มคฺคฏฺผลฏฺภาวทีปนโต. ‘‘อริยสงฺฆ’’นฺติ เอเตน ปภวสมฺปทํ ทสฺเสติ สพฺพสงฺฆานํ อคฺคภาวทีปนโต. อถ วา สุคตสฺส โอรสานํ ปุตฺตานนฺติ อริยสงฺฆสฺส วิสุทฺธนิสฺสยภาวทีปนํ. มารเสนมถนานนฺติ สมฺมาอุชุายสามีจิปฺปฏิปนฺนภาวทีปนํ. อฏฺนฺนมฺปิ สมูหนฺติ อาหุเนยฺยาทิภาวทีปนํ. อริยสงฺฆนฺติ อนุตฺตรปุฺเขตฺตภาวทีปนํ. ตถา ‘‘สุคตสฺส โอรสานํ ปุตฺตาน’’นฺติ เอเตน อริยสงฺฆสฺส โลกุตฺตรสรณคมนสภาวํ ทีเปติ. โลกุตฺตรสรณคมเนน หิ เต ภควโต โอรสปุตฺตา ชาตา. ‘‘มารเสนมถนาน’’นฺติ เอเตน อภินีหารสมฺปทาย สิทฺธํ ปุพฺพภาเค สมฺมาปฏิปตฺตึ ทสฺเสติ. กตาภินีหารา หิ สมฺมาปฏิปนฺนา มารํ มารปริสํ วา อภิวิชินนฺติ. ‘‘อฏฺนฺนมฺปิ สมูห’’นฺติ เอเตน ปฏิวิทฺธสฺตวิปกฺเข เสกฺขาเสกฺขธมฺเม ทสฺเสติ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน มคฺคผลธมฺมานํ ปกาสิตตฺตา. ‘‘อริยสงฺฆ’’นฺติ อคฺคทกฺขิเณยฺยภาวํ ทสฺเสติ. สรณคมนฺจ สาวกานํ สพฺพคุณานํ อาทิ, สปุพฺพภาคปฏิปทา เสกฺขา สีลกฺขนฺธาทโย มชฺเฌ, อเสกฺขา สีลกฺขนฺธาทโย ปริโยสานนฺติ อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณา สงฺเขปโต สพฺเพ อริยสงฺฆคุณา ปกาสิตา โหนฺติ.

. เอวํ คาถาตฺตเยน สงฺเขปโต สกลคุณสํกิตฺตนมุเขน รตนตฺตยสฺส ปณามํ กตฺวา อิทานิ ตํ นิปจฺจการํ ยถาธิปฺเปเต ปโยชเน ปริณาเมนฺโต ‘‘อิติ เม’’ติอาทิมาห. ตตฺถ รติชนนฏฺเน รตนํ, พุทฺธธมฺมสงฺฆา. เตสฺหิ ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินา ยถาภูตคุเณ อาวชฺเชนฺตสฺส อมตาธิคมเหตุภูตํ อนปฺปกํ ปีติปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ. ยถาห –

‘‘ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ ตถาคตํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายตี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๖.๑๐; ๑๑.๑๑).

จิตฺตีกตาทิภาโว วา รตนฏฺโ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘จิตฺตีกตํ มหคฺฆฺจ, อตุลํ ทุลฺลภทสฺสนํ;

อโนมสตฺตปริโภคํ, รตนํ เตน วุจฺจตี’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๓; ขุ. ปา. อฏฺ. ๖.๓; สุ. นิ. อฏฺ. ๒๒๖; มหานิ. อฏฺ. ๕๐) –

จิตฺตีกตภาวาทโย จ อนฺสาธารณา พุทฺธาทีสุ เอว ลพฺภนฺตีติ.

วนฺทนาว วนฺทนามยํ ยถา ‘‘ทานมยํ สีลมย’’นฺติ. วนฺทนา เจตฺถ กายวาจาจิตฺเตหิ ติณฺณํ รตนานํ คุณนินฺนตา, โถมนา วา. ปุชฺชภวผลนิพฺพตฺตนโต ปุฺํ, อตฺตโน สนฺตานํ ปุนาตีติ วา. สุวิหตนฺตราโยติ. สุฏฺุ วิหตนฺตราโย. เอเตน อตฺตโน ปสาทสมฺปตฺติยา, รตนตฺตยสฺส จ เขตฺตภาวสมฺปตฺติยา ตํ ปุฺํ อตฺถปฺปกาสนสฺส อุปฆาตกอุปทฺทวานํ วิหนเน สมตฺถนฺติ ทสฺเสติ. หุตฺวาติ ปุพฺพกาลกิริยา. ตสฺส ‘‘อตฺถํ ปกาสยิสฺสามี’’ติ เอเตน สมฺพนฺโธ. ตสฺสาติ ยํ รตนตฺตยวนฺทนามยํ ปุฺํ, ตสฺส. อานุภาเวนาติ พเลน.

. เอวํ รตนตฺตยสฺส นิปจฺจกาเร ปโยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺสา ธมฺมเทสนาย อตฺถํ สํวณฺเณตุกาโม, ตสฺสา ตาว คุณาภิตฺถวนวเสน อุปฺาปนตฺถํ ‘‘สํยุตฺตวคฺคปฏิมณฺฑิตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ, เทวตาสํยุตฺตาทิสํยุตฺเตหิ เจว นฬวคฺคาทิวคฺเคหิ จ วิภูสิตสฺสาติ อตฺโถ. ตตฺถ ‘‘สํยุตฺต’’นฺติ ‘‘สํโยโค’’ติ จ อตฺถโต เอกํ. เกสํ สํยุตฺตํ? สุตฺตวคฺคานํ. ยถา หิ พฺยฺชนสมุทาโย ปทํ, เอวํ อตฺเถสุ จ กตาวธิโก ปทสมุทาโย วากฺยํ, วากฺยสมุทาโย สุตฺตํ, สุตฺตสมุทาเย วคฺโคติ สมฺา, ตถา สุตฺตวคฺคสมุทาเย สํยุตฺตสมฺา. สํยุชฺชนฺตีติ เอตฺถ สุตฺตวคฺคาติ สํยุตฺตํ. ยทิปิ อวยววินิมุตฺโต สมุทาโย นาม ปรมตฺถโต นตฺถิ, อวยเว เอว ตํตํสนฺนิเวสวิสิฏฺเ อุปาทาย ปทาทิสมฺา วิย สุตฺตวคฺคสมฺา สํยุตฺตสมฺา อาคมสมฺา จ, ตถาปิ ปรมตฺถโต อวิชฺชมาโนปิ สมุทาโย พุทฺธิปริกปฺปิตรูเปน วิชฺชมาโน วิย คยฺหมาโน อวยวานํ อธิฏฺานภาเวน โวหรียติ ยถา ‘‘รุกฺเข สาขา’’ติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สํยุตฺตวคฺคปฏิมณฺฑิตสฺสา’’ติ.

นนุ สํยุตฺตวคฺโค เอว อาคโม, ตสฺส ปน เกหิ มณฺฑนนฺติ? น โจเทตพฺพเมตํ. ภวติ หิ อภินฺเนปิ วตฺถุสฺมึ ยถาธิปฺเปตวิเสสาวโพธนโต เภทกสมุทาจาโร ยถา ‘‘สิลาปุตฺตกสฺส สรีร’’นฺติ. อาคมิสฺสนฺติ เอตฺถ, เอเตน, เอตสฺมา วา อตฺตตฺถปรตฺถาทโยติ อาคโม, อาทิกลฺยาณาทิคุณสมฺปตฺติยา อุตฺตมฏฺเน ตํตํอภิปตฺถิตสมิทฺธิเหตุตาย ปณฺฑิเตหิ วริตพฺพโต วโร, อาคโม จ โส วโร จาติ อาคมวโร. อาคมสมฺมเตหิ วา วโรติ อาคมวโร, สํยุตฺโต จ โส อาคมวโร จาติ สํยุตฺตาคมวโร, ตสฺส. พุทฺธานํ อนุพุทฺธา พุทฺธานุพุทฺธา, พุทฺธานํ สจฺจปฏิเวธํ อนุคมฺม ปฏิวิทฺธสจฺจา อคฺคสาวกาทโย อริยา. เตหิ อตฺถสํวณฺณนาคุณสํวณฺณนานํ วเสน สํวณฺณิตสฺส.

อถ วา พุทฺธา จ อนุพุทฺธา จ พุทฺธานุพุทฺธาติ โยเชตพฺพํ. สมฺมาสมฺพุทฺเธเนว หิ วินยสุตฺตอภิธมฺมานํ ปกิณฺณกเทสนาทิวเสน โย ปมํ อตฺโถ วิภตฺโต, โส เอว ปจฺฉา เตสํ อตฺถวณฺณนาวเสน สงฺคีติกาเรหิ สงฺคหํ อาโรปิโตติ. เอตฺถ จ สํยุตฺตานํ วคฺคา สมูหาติ สํยุตฺตวคฺคา, สคาถาวคฺคาทโย. ตปฺปริยาปนฺนตาย สํยุตฺเตสุ วคฺคา สํยุตฺตวคฺคา, นฬวคฺคาทโย. สํยุตฺตาว วคฺคา สํยุตฺตวคฺคา. ติวิเธปิ เต เอกเสสนเยน คเหตฺวา วุตฺตํ ‘‘สํยุตฺตวคฺคปฏิมณฺฑิตสฺสา’’ติ.

ตตฺถ สคาถาวคฺเค ตาว เอกาทส สํยุตฺตานิ อฏฺตึส วคฺคา. นิทานวคฺเค นว สํยุตฺตานิ เอกูนจตฺตาลีส วคฺคา. ขนฺธวคฺเค เอกาทส สํยุตฺตานิ เอกูนสฏฺิ วคฺคา. สฬายตนวคฺเค นว สํยุตฺตานิ อฏฺตึส วคฺคา. มหาวคฺเค ทฺวาทส สํยุตฺตานิ อฏฺจตฺตาลีส วคฺคา. อิทเมตฺถ สํยุตฺตนฺตรวคฺคานํ ปริมาณํ.

าณปฺปเภทชนนสฺสาติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทขนฺธายตนาทิกถาพหุลตาย คมฺภีราณจริยาวิภาวนโต ปฺาวิภาคสมุปฺปาทกสฺส. อิธ ปน ‘‘ปฺาปฺปเภทชนนสฺสา’’ติ สฺวายมาคโม โถมิโต, สํวณฺณนาสุ จายํ อาจริยสฺส ปกติ, ยทิทํ ตํตํสํวณฺณนานํ อาทิโต ตสฺส ตสฺส สํวณฺเณตพฺพสฺส ธมฺมสฺส วิเสสคุณกิตฺตเนน โถมนา. ตถา หิ สุมงฺคลวิลาสินีปปฺจสูทนีมโนรถปูรณีอฏฺสาลินีอาทีสุ จ ยถากฺกมํ ‘‘สทฺธาวหคุณสฺส, ปรวาทมถนสฺส, ธมฺมกถิกปุงฺควานํ วิจิตฺตปฏิภานชนนสฺส, ตสฺส คมฺภีราเณหิ โอคาฬฺหสฺส อภิณฺหโส นานานยวิจิตฺตสฺส อภิธมฺมสฺสา’’ติอาทินา โถมนา กตา.

. อตฺโถ กถียติ เอตายาติ อตฺถกถา, อตฺถกถาว อฏฺกถา ตฺถ-การสฺส ฏฺ-การํ กตฺวา ยถา ‘‘ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโ’’ติ. อาทิโตติ อาทิมฺหิ ปมสงฺคีติยํ. ฉฬภิฺตาย ปรเมน จิตฺตวสิภาเวน สมนฺนาคตตฺตา ฌานาทีสุ ปฺจวิธวสิตาสมฺภาวโต จ วสิโน, เถรา มหากสฺสปาทโย . เตสํ สเตหิ ปฺจหิ. ยาติ ยา อฏฺกถา. สงฺคีตาติ อตฺถํ กเถตุํ ยุตฺตฏฺาเน ‘‘อยํ เอตสฺส อตฺโถ, อยํ เอตสฺส อตฺโถ’’ติ สงฺคเหตฺวา วุตฺตา. อนุสงฺคีตา จ ยสตฺเถราทีหิ ปจฺฉาปิ ทุติยตติยสงฺคีตีสุ. อิมินา อตฺตโน สํวณฺณนาย อาคมนวิสุทฺธึ ทสฺเสติ.

. สีหสฺส ลานโต คหณโต สีหโฬ, สีหกุมาโร, ตพฺพํสชาตตาย ตมฺพปณฺณิทีเป ขตฺติยา, เตสํ นิวาสตาย ตมฺพปณฺณิทีปสฺส จ สีหฬภาโว เวทิตพฺโพ. อาภตาติ ชมฺพุทีปโต อานีตา. อถาติ ปจฺฉา. อปรภาเค หิ นิกายนฺตรลทฺธีหิ อสงฺกรตฺถํ สีหฬภาสาย อฏฺกถา ปิตาติ. เตน มูลฏฺกถา สพฺพสาธารณา น โหตีติ อิทํ อตฺถปฺปกาสนํ เอกนฺเตน กรณียนฺติ ทสฺเสติ. เตเนวาห ‘‘ทีปวาสีนมตฺถายา’’ติ. เอตฺถ ทีปวาสีนนฺติ ชมฺพุทีปวาสีนํ, สีหฬทีปวาสีนํ วา อตฺถาย สีหฬภาสาย ปิตาติ โยชนา.

. อปเนตฺวาติ กฺจุกสทิสํ สีหฬภาสํ อปเนตฺวา. ตโตติ อฏฺกถาโต. อหนฺติ อตฺตานํ นิทฺทิสติ. มโนรมํ ภาสนฺติ มาคธภาสํ. สา หิ สภาวนิรุตฺติภูตา ปณฺฑิตมนํ รมยติ. เตเนวาห ‘‘ตนฺตินยานุจฺฉวิก’’นฺติ, ปาฬิคติยา อนุโลมิกํ ปาฬิฉายานุวิธายินินฺติ อตฺโถ. วิคตโทสนฺติ อสภาวนิรุตฺติภาสนฺตรรหิตํ.

. สมยํ อวิโลเมนฺโตติ สิทฺธนฺตํ อวิโรเธนฺโต. เอเตน อตฺถโทสาภาวมาห. อวิรุทฺธตฺตา เอว หิ เถรวาทาปิ อิธ ปกาสียิสฺสนฺติ. เถรวํสทีปานนฺติ ถิเรหิ สีลกฺขนฺธาทีหิ สมนฺนาคตตฺตา เถรา, มหากสฺสปาทโย. เตหิ อาคตา อาจริยปรมฺปรา เถรวํโส, ตปฺปริยาปนฺนา หุตฺวา อาคมาธิคมสมฺปนฺนตฺตา ปฺาปชฺโชเตน ตสฺส สมุชฺชลนโต เถรวํสทีปา, มหาวิหารวาสิโน, เตสํ. วิวิเธหิ อากาเรหิ นิจฺฉียตีติ วินิจฺฉโย, คณฺิฏฺาเนสุ ขิลมทฺทนากาเรน ปวตฺตา วิมติจฺเฉทนี กถา. สุฏฺุนิปุโณ สณฺโห วินิจฺฉโย เอเตสนฺติ สุนิปุณวินิจฺฉยา. อถ วา วินิจฺฉิโนตีติ วินิจฺฉโย วุตฺตปฺปการวิสยํ าณํ. สุฏฺุ นิปุโณ เฉโก วินิจฺฉโย เอเตสนฺติ โยเชตพฺพํ. เอเตน มหากสฺสปาทิเถรปรมฺปราคโต, ตโต เอว จ อวิปรีโต สณฺโห สุขุโม มหาวิหารวาสีนํ วินิจฺฉโย, ตสฺส ปมาณภูตตํ ทสฺเสติ.

๑๐. สุชนสฺส จาติ -สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. เตน ‘‘น เกวลํ ชมฺพุทีปวาสีนเมว อตฺถาย , อถ โข สาธุชนโตสนตฺถฺจา’’ติ ทสฺเสติ. เตน จ ‘‘ตมฺพปณฺณิทีปวาสีนมฺปิ อตฺถายา’’ติ อยมตฺโถ สิทฺโธ โหติ อุคฺคหณาทิสุกรตาย เตสมฺปิ พหุการตฺตา. จิรฏฺิตตฺถนฺติ จิรฏฺิติอตฺถํ, จิรกาลปฺปวตฺตนายาติ อตฺโถ. อิทฺหิ อตฺถปฺปกาสนํ อวิปรีตปทพฺยฺชนสุนิกฺเขปสฺส อตฺถสุนยสฺส จ อุปายภาวโต สทฺธมฺมสฺส จิรฏฺิติยา ปวตฺตติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส ิติยา อสมฺโมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ทฺเว? สุนิกฺขิตฺตฺจ ปทพฺยฺชนํ อตฺโถ จ สุนีโต’’ติ (อ. นิ. ๒.๒๐).

๑๑-๑๒. ยํ อตฺถวณฺณนํ กตฺตุกาโม, ตสฺสา มหตฺตํ ปริหริตุํ ‘‘สาวตฺถิปภูตีน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เตเนวาห – ‘‘น อิธ ภิยฺโย วิตฺถารกถํ กริสฺสามิ, น ตํ อิธ วิจารยิสฺสามี’’ติ จ. สงฺคีตีนํ ทฺวินฺนนฺติ ทีฆมชฺฌิมนิกายานํ.

๑๓. ‘‘น อิธ ภิยฺโย วิตฺถารกถํ กริสฺสามี’’ติ สามฺโต วุตฺตสฺส อตฺถสฺส อวสฺสยํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุตฺตานํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๑๔. ยํ อฏฺกถํ กตฺตุกาโม, ตเทกเทสภาเวน วิสุทฺธิมคฺโค คเหตพฺโพติ กถิกานํ อุปเทสํ กโรนฺโต ตตฺต วิจาริตธมฺเม อุทฺเทสวเสน ทสฺเสติ ‘‘สีลกถา’’ติอาทินา. ตตฺถ สีลกถาติ จาริตฺตวาริตฺตาทิวเสน สีลสฺส วิตฺถารกถา. ธุตธมฺมาติ ปิณฺฑปาติกงฺคาทโย เตรส กิเลสธุนนกธมฺมา. กมฺมฏฺานานิ สพฺพานีติ ปาฬิยํ อาคตานิ อฏฺตฺตึส, อฏฺกถายํ ทฺเวติ นิรวเสสานิ โยคกมฺมสฺส ภาวนาย ปวตฺติฏฺานานิ. จริยาวิธานสหิโตติ ราคจริยาทีนํ สภาคาทิวิธาเนน สหิโต. ฌานานิ จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานิ, สมาปตฺติโย จตสฺโส อรูปสมาปตฺติโย. อฏฺปิ วา ปฏิลทฺธมตฺตานิ ฌานานิ, สมาปชฺชนวสิภาวปฺปตฺติยา สมาปตฺติโย. ฌานานิ วา รูปารูปาวจรชฺฌานานิ, สมาปตฺติโย ผลสมาปตฺตินิโรธสมาปตฺติโย.

๑๕. โลกิยโลกุตฺตรเภทา ฉ อภิฺาโย สพฺพา อภิฺาโย. าณวิภงฺคาทีสุ อาคตนเยน เอกวิธาทินา ปฺาย สงฺกเลตฺวา สมฺปิณฺเฑตฺวา นิจฺฉโย ปฺาสงฺกลนนิจฺฉโย.

๑๖. ปจฺจยธมฺมานํ เหตุอาทีนํ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมานํ เหตุปจฺจยาทิภาโว ปจฺจยากาโร, ตสฺส เทสนา ปจฺจยาการเทสนา, ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถาติ อตฺโถ. สา ปน นิกายนฺตรลทฺธิสงฺกรรหิตตาย สุฏฺุปริสุทฺธา, ฆนวินิพฺโภคสฺส จ สุทุกฺกรตาย นิปุณา สณฺหสุขุมา, เอกตฺตนยาทิสหิตา จ ตตฺถ วิจาริตาติ อาห ‘‘สุปริสุทฺธนิปุณนยา’’ติ. ปฏิสมฺภิทาทีสุ อาคตนยํ อวิสชฺเชตฺวาว วิจาริตตฺตา อวิมุตฺตตนฺติมคฺคา.

๑๗. อิติ ปน สพฺพนฺติ อิติ-สทฺโท ปริสมาปเน, ปน-สทฺโท วจนาลงฺกาเร, เอตํ สพฺพนฺติ อตฺโถ. อิธาติ อิมิสฺสา อฏฺกถาย. น ตํ วิจารยิสฺสามิ ปุนรุตฺติภาวโตติ อธิปฺปาโย.

๑๘. อิทานิ ตสฺเสว อวิจารณสฺส เอกนฺตการณํ นิทฺธาเรนฺโต ‘‘มชฺเฌ วิสุทฺธิมคฺโค’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘มชฺเฌ ตฺวา’’ติ เอเตน มชฺฌฏฺภาวทีปเนน วิเสสโต จตุนฺนํ อาคมานํ สาธารณฏฺกถา วิสุทฺธิมคฺโค, น สุมงฺคลวิลาสินิอาทโย วิย อสาธารณฏฺกถาติ ทสฺเสติ. ‘‘วิเสสโต’’ติ จ อิทํ วินยาภิธมฺมานมฺปิ วิสุทฺธิมคฺโค ยถารหํ อตฺถวณฺณนา โหติ เอวาติ กตฺวา วุตฺตํ.

๑๙. อิจฺเจวาติ อิติ เอว. ตมฺปีติ วิสุทฺธิมคฺคมฺปิ. เอตายาติ สารตฺถปฺปกาสินิยา.

เอตฺถ จ ‘‘สีหฬทีปํ อาภตา’’ติอาทินา อฏฺกถากรณสฺส นิมิตฺตํ ทสฺเสติ, ‘‘ทีปวาสีนมตฺถาย สุชนสฺส จ ตุฏฺตฺถํ จิรฏฺิตตฺถฺจ ธมฺมสฺสา’’ติ เอเตหิ ปโยชนํ, ‘‘สํยุตฺตาคมวรสฺส อตฺถํ ปกาสยิสฺสามี’’ติ เอเตน ปิณฺฑตฺถํ, ‘‘อปเนตฺวาน ตโตหํ สีหฬภาส’’นฺติอาทินา ‘‘สาวตฺถิปภูตีน’’นฺติอาทินา ‘‘สีลกถา’’ติอาทินา จ กรณปฺปการํ. เหฏฺิมนิกาเยสุ วิสุทฺธิมคฺเค จ วิจาริตานํ อตฺถานํ อวิจารณมฺปิ หิ อิธ กรณปฺปกาโร เอวาติ.

คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.