📜
๑๐. ยกฺขสํยุตฺตํ
๑. อินฺทกสุตฺตวณฺณนา
๒๓๕. อตฺตโน ¶ ¶ ปริณายกตฺเตน อินฺโท นาม มเหสกฺโข, อินฺโทติ สมฺา อสฺสาติ กตฺวา ‘‘อินฺทโก’’ติปิ วุจฺจติ, ตสฺส อินฺทกสฺส. อินฺทกูเฏ ปพฺพเต นิวสตีติ อินฺทกูฏนิวาสี, ตสฺส อินฺทกูฏนิวาสิโน. พลิกมฺเมหิ ยชิตพฺพโต ปูชิตพฺพโต ยกฺโข, ตสฺส ยกฺขสฺส. อินฺทสฺส นิวาสฏฺานภูตํ กูฏํ อินฺทกูฏนฺติ ยกฺขโต กูเฏน นามํ ลทฺธํ. อินฺทกูโฏ อินฺโท อุตฺตรปทโลเปน ยถา ‘‘เกลาสกูโฏ เกลาโส’’ติ. อินฺโท ยกฺโขติ กูฏโต ยกฺเขน นามํ ลทฺธํ. น เจตฺถ อิตรีตรนิสฺสยโทโส อฺมฺูปลกฺขณภาวโต ยถา ตํ ‘‘กายกมฺมฏฺาน’’นฺติ. รูปนฺติ สกลํ รูปกฺขนฺธมาห, น รูปายตนนฺติ. อิมํ สรีรํ เปจฺจ อยํ กินฺติ ปฏิลภตีติ โจเทติ.
กุโต อาคจฺฉตีติ ปราธารรูเป ชีเว อตฺตนิ มาตุกุจฺฉิโมกฺกนฺเต รูปสฺส สมฺภโวติ กุโต นาม านโต อาคจฺฉติ. เตนาห ‘‘อิมานิ จ อฏฺีนิ อิมา จ มํสเปสิโย’’ติอาทิ. กถํ นฺวยนฺติ อยํ กุจฺฉิสงฺขาเต คพฺภเร กถํ สชฺชตีติ ปุจฺฉติ. ‘‘สีหานํว นทนฺตานํ, ทาีนํ คิริคพฺภเร’’ติอาทินา (เถรคา. นิทานคาถา) คพฺภโร จ กุจฺฉิวาจโก อาคโต. เตนาห ‘‘คพฺภรสฺมินฺติ มาตุกุจฺฉิสฺมิ’’นฺติ. ปุคฺคลวาทีติ อตฺตวาทุปาทาโน. ยถา หิ มจฺฉมํสํ ภุตฺตํ เผณํ วิย หุตฺวา วิลียติ, น จ ปฺายติ สตฺตภาเวน อปฺปวตฺตนโต, เอวเมวํ ยทิ มาตุกุจฺฉิสฺมึ คพฺภภาเวน อุปฺปนฺนํ รูปํ สตฺโต น ภเวยฺย โน วฑฺเฒยฺย, วิลียิตฺวา คจฺเฉยฺย, ปฺายติ จ ตํ รูปํ, ตสฺมา ชีโวติ อิมาย ลทฺธิยา. เอวมาหาติ ‘‘รูปํ…เป… คพฺภรสฺมิ’’นฺติ เอวมโวจ. ปมนฺติ เอเตสํ ปฺจนฺนํ ปมํ. เตนาห ‘‘ปเมน ปฏิสนฺธิวิฺาเณน สทฺธิ’’นฺติ. ‘‘ชาติอุณฺณํสูหีติ ชาติเอฬกาย อุณฺณํสูหี’’ติ วทนฺติ. ‘‘คพฺภํ ผาเลตฺวา คหิตอุณฺณา ชาติอุณฺณา. ตสฺสา อํสูหิ ตีหิ กตสุตฺตคฺเค’’ติ สํยุตฺตภาณกานํ อธิปฺปาโย.
อนาวิโลติ ¶ อจฺโฉ, สุปฺปสนฺโนติ อตฺโถ. เอวํวณฺณปฺปฏิภาคนฺติ วุตฺตปฺปมาณสณฺานสมฺปริจฺฉินฺนํ. กลลํ สมฺปวุจฺจตีติ อตฺตภาโว ภูตุปาทารูปสงฺขาโต ¶ สนฺตานวเสน ปวตฺตมาโน กลลํ นามาติ กถียติ.
กลลาติ ยถาวุตฺตกลลรูปเหตุ ตํ นิสฺสาย ปจฺจยํ กตฺวา. มํสโธวนอุทกวณฺณนฺติ วณฺณโต มํสโธวนอุทกวณฺณํ, สณฺานโต ปน วิลีนติปุสทิสํ.
ปริปกฺกนฺติ ปริปากกลลภาวโต ปริปากํ คตํ สุปริปากํ คตํ. สมูหตนฺติ สมูหภูตํ สงฺคตํ. วิวฏฺฏมานนฺติ ปริณมนฺตํ. ตพฺภาวนฺติ กรเณ เอตํ อุปโยควจนํ, ตพฺภาเวน ปริณมนฺตนฺติ อตฺโถ. นิสฺสกฺเก วา อุปโยควจนํ, ตพฺภาวโต กลลภาวโต กลลํ วิปริณมนฺตํ. อพฺพุทํ นาม ชายติ, อพฺพุทํ นาม สมฺปชฺชตีติ อตฺโถ.
วิลีนติปุสทิสา สณฺานวเสน, วณฺณวเสน ปน สิตา อรตฺตาว โหตีติ วทนฺติ. มณฺฑนฺติ ทาริกานํ ตถา ปีฬนโต นิพฺพตฺตมริจปกฺกสฺส สารภูตํ รสํ. สพฺพภาเคหิ มุจฺจตีติ โส มณฺโฑ กปาเล อลคฺโค หุตฺวา ตสฺส สพฺพภาเคหิ มุจฺฉิตฺวา ปิณฺฑิโต หุตฺวา ติฏฺติ. เอวรูปา เปสิ โหตีติ สา เปสิ คพฺภาสเย กตฺถจิ อลคฺคา ยถาวุตฺตมณฺโฑ วิย ปิณฺฑิโต หุตฺวา ติฏฺติ. เตนาห ‘‘วิลีนติปุสทิสา’’ติ.
เปสิ นิพฺพตฺตตีติ เอตฺถ เปสีติ นิสฺสกฺเก ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘ตโต เปสิโต’’ติ.
ฆนสฺส สณฺานํ. นิพฺพตฺตํ กมฺมปจฺจยาติ ตํสณฺานํ รูปธมฺมนิพฺพตฺติยา ชายติ. ‘‘ชรามรณํ อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๒๐) หิ วุตฺตํ.
ปีฬกาติ ปีฬกสทิสา มํสปิณฺฑา ชายนฺติ.
สตฺตมาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อฏฺมสตฺตาหโต ปฏฺาย ยาว เอกจตฺตาลีสา จตุตฺตึส สตฺตาหานิ สงฺคณฺหาติ. ปริณตกาลนฺติ คพฺภสฺส ปริณตกาลํ. นวมาสโต พหิ ปริปกฺโก นาม โหติ เกสโลมาทินิพฺพตฺติโต. เตนาห ‘‘ทฺวาจตฺตาลีเส สตฺตาเห เอตานิ ชายนฺตี’’ติ.
ตสฺสาติ ¶ คพฺภเสยฺยกสตฺตสฺส. มาตุอุทรปฏเลน เอกาพทฺโธ โหติ ยโต มาตรา ปริภุตฺตอาหาโร ¶ อามาสเย ปติฏฺิเต คพฺภสฺส นาภินาฬานุสาเรน คพฺภคตสฺส สรีรํ สมฺปตฺวา อาหารกิจฺจํ กโรติ. อาหารสมุฏฺานรูปํ สมุฏฺาเปตีติ คพฺภคตสฺส กาเย โอชาย ปจฺจโย โหติ. สา จ ตํ ปจฺจยํ ลภิตฺวา โอชฏฺมกํ รูปํ สมุฏฺาเปติ. เอวํ มาตรา ปริภุตฺตอาหารปจฺจเยน คพฺภคโต ทส มาเส ยาเปติ อตฺตโน นาภินาฬานุสารคเตเนว เตน ยาว อาหารสมุฏฺานสตฺตาโห, ตโต ปฏฺาย อาหรณโต. เกจิ ปน ‘‘มาตรา ปริภุตฺตอาหาโร พาหิรวคฺโค วิย ตสฺส กายํ อภิสนฺเนติ ปริสนฺเนติ, เตน โส ยาเปตี’’ติ วทนฺติ. กุจฺฉิคตํ อุทรปฏเลน ติโรหิตตฺตา พหิ ิตนฺติ วตฺตพฺพตํ น อรหตีติ ‘‘กุจฺฉิยา อพฺภนฺตรคโต’’ติ อาห. มาตุกุจฺฉิคโต นโรติ มาตุ ติโรกุจฺฉิคโต. เอวํ โขติ อิมินา ยถาวุตฺตากาเรน อยํ สตฺโต…เป… นิพฺพตฺตติ, ตสฺมา รูปํ น ชีโว. น หิ ทิฏฺิคตสฺส สตฺตาหกฺกเมน วุฑฺฒิปฺปตฺโต อิจฺฉิโต อนิจฺจตาปตฺติโต.
อินฺทกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สกฺกนามสุตฺตวณฺณนา
๒๓๖. สกฺกนามโกติ พลิปุตฺโต วิย สกฺกสฺส วเสน คหิตนาโม. ‘‘เอโส กิรา’’ติ ปาโ. ‘‘เอโก กิรา’’ติปิ ลิขนฺติ. มารสฺส ปกฺเข คโต มารปกฺขิโก. ยทฺนฺติ เอตฺถ ยนฺติ กิริยาปรามสนํ, ตสฺมา ยํ อฺสฺส อนุสาสนํ, ตํ สมณสฺส น สาธูติ โยชนา. การเณนาติ การณมตฺเตน สํวาโส ชายติ. เยน เกนจิ คหฏฺเน วา ปพฺพชิเตน วา. ตํ การณนฺตรํ สมาคตํ ปุริสํ สปฺปฺโ สมฺพุทฺโธ อนุกมฺปิตุํ นารหติ วิเสสาธิคมาภาวา, สติ ปน ตสฺมึ สวิเสสํ ปสาโท โหตีติ. มนสา เจ…เป… น เตน โหติ สํยุตฺโต สิเนหวเสน อนุกมฺปา อนุทฺทยา ตสฺสา อสํกิลิฏฺสภาวตฺตา.
สกฺกนามสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สูจิโลมสุตฺตวณฺณนา
๒๓๗. คยาย ¶ อวิทูเร ภโว คาโม ‘‘คยา’’ติ วุตฺโตติ อาห ‘‘คยาย’’นฺติ, เตนาห ‘‘คยาย อวิทูเร นิวิฏฺคามํ อุปนิสายาติ อตฺโถ’’ติ. โคจรคามนิทสฺสนํ เหตํ. อิทํ อุปริ อิทํ เหฏฺาติ นตฺถิ อุปฺปฏิปาฏิโย มฺจปาทานํ ทฺวีสุ ปสฺเสสุ ทีฆภาเวน. พลิกมฺมตฺถาย กตํ เทวตาธิฏฺานนฺติ อธิปฺปาเยน เทวฏฺาเน เปนฺติ. อฏฺปาทมฺจสทิโส กิร โส เหฏฺุปริปริวตฺเตตพฺพโต. กถินสิพฺพนสูจิ กถินสูจิ. อปจฺจตฺถริตฺวาติ กิฺจิ สงฺฆิกเสนาสนสฺส ¶ อุปริ ปฏิจฺฉทนํ อปจฺจตฺถริตฺวา. ควจฺฉิวิชฺฌิตํ วิยาติ เตหิ สูจิโลเมหิ ควจฺฉิชาลํ วิย คตํ สพฺพโส สโมหตํ.
อิธาปิ ‘‘ขรสรีโร’’ติ วตฺวา ขรสรีรํ กถินสูจิสทิสตาย โลมสฺสาติ ตสฺส ตถาภาวสฺส การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โส กิรา’’ติอาทิมาห. อตฺตโน หตฺเถหีติ สงฺฆิกเตลสมฺมกฺขิเตหิ อตฺตโน สรีรํ มกฺเขสิ. อิตีติ วุตฺตากาเรน.
สมาคมฏฺานนฺติ ยกฺขสนฺนิปาตฏฺานํ. โสติ สูจิโลโม ยกฺโข. มนฺติ จ ตเมว วทติ.
อุฏฺาเปตฺวาติ อุทฺธคฺคา กตฺวา. อปนาเมสีติ ยถา โส อตฺตโน กายํ อุปเนตุํ น สกฺโกติ, ตถา กโรนฺโต โถกํ อปนาเมสิ. อมนฺุโติ ผรุสติกฺขตาย น มนฺุโ. จิตฺตํ วา เต ขิปิสฺสามีติ มยฺหํ อานุภาเวน ตว จิตฺตวิกฺเขปํ วา กริสฺสามิ. ยถา ปน โส จิตฺตวิกฺเขปํ กเรยฺย, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เยสฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เภรวํ วาติ วุตฺตากาเรน อฺถา วา ภยานกํ ทสฺสนมตฺเตเนว สตฺตานํ ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุํ สมตฺถํ. ‘‘กเถนฺตานํเยวา’’ติ วา ปาโ. ตํ ทฺวีสุ ปาเทสุ คเหตฺวา ปารํ คงฺคาย ขิปิสฺสามีติ โยชนา.
กุโตนิทานาติ กสฺมา การณา? อฏฺกถายํ ปน สมาสปทเมตํ, วิภตฺติอโลเปน นิทฺเทโสติ ทสฺเสตุํ ‘‘กึนิทานา กึปจฺจยา’’ติ? อตฺโถ วุตฺโต. จิตฺตํ โอสฺสชนฺตีติ กุสลจิตฺตํ ปวตฺติตุํ อปฺปทานวเสน ¶ ปุรโต ขิปนฺติ. กุโต สมุฏฺายาติ มิจฺฉาวิตกฺกานํ สมุฏฺานํ ปุจฺฉติ?
กามราคาทโย สุภนิมิตฺตาทีสุ อโยนิโสมนสิการเหตู. กาโม ปน อโยนิโสมนสิกาโร จ นิยกชฺฌตฺตปริยาปนฺโนติ อาห ‘‘อยํ อตฺตภาโว นิทานํ เอเตสนฺติ อิโตนิทานา’’ติอาทิ. เอวเมวาติ อฏฺกถายํ กีฬาปสุตกุมารกา วิย มิจฺฉาวิตกฺกา ทฏฺพฺพา, เตสํ อุปฺปตฺติฏฺานภูโต โลโก วิย อยํ อตฺตภาวโลโก. เตหิ โอสฺสชิยมานํ ธงฺกํ วิย จิตฺตํ, ตสฺส ปาเท พทฺธทีฆสุตฺตกํ วิย ตํ ทูรานุพนฺธํ สํโยชนนฺติ เอวํ อุปมาย สํสนฺทนํ ทฏฺพฺพํ.
ปาปวิตกฺกานํ ตํสมฺปยุตฺตกิเลสานฺจ ตณฺหา วิเสสปจฺจโย ตทภาเวน เตสํ อภาวโตติ ¶ อาห ‘‘ตณฺหาสิเนหโต ชาตา’’ติ. อตฺตภาวปริยาปนฺนตฺตา ‘‘อตฺตนิ สมฺภูตา’’ติ วุตฺตํ. เตน เนสํ อนฺเหตุกตํ ทสฺเสติ, นิคฺโรธสฺเสว ขนฺธชาตีติ อิมินา ปน ปุถุภาวฺจ, วิสตฺตาติอาทินา ทุพฺพินิสฺสฏตฺจ. วตฺถุกาเมสุ รูปารมฺมณาทีสุ ปุถูสุ. ปุถู กิเลสกามา กามรูปตณฺหาทโย. เตหิ กิเลสกาเมหิ กรณภูเตหิ. อตฺตภาวํ ขนฺธปฺจกํ. เย วิปสฺสนาย ยุตฺตปยุตฺตา ยาถาวโต ชานนฺติ.
ยโตติ ปจฺจตฺเต นิสฺสกฺกวจนนฺติ อาห ‘‘ยํ นิทานมสฺสา’’ติ. ‘‘วิโนเทนฺตี’’ติ กตฺตุนิทฺเทเสน เยน น วิโนเทนฺติ, ตํ การณํ พาธิตเมวาติ อาห ‘‘มคฺคสจฺเจน วิโนเทนฺตี’’ติ. วิโนทนฺเจตฺถ สนฺตานโต นีหรณํ พหิกรณํ สพฺพโส ปหานํ, ปหีเน จ ตสฺมึ กิเลเส โอฆํ ตรนฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทุตฺตร’’นฺติอาทิมาห. เอตสฺมึ อธิคเต น ปุน ภโวติ อปุนพฺภโว, นิพฺพานนฺติ อาห ‘‘อปุนพฺภวสงฺขาตสฺสา’’ติอาทิ. ยสฺมา เอตฺถ ‘‘เย นํ ปชานนฺติ, ยโตนิทาน’’นฺติ ปททฺวเยน ทุกฺขสมุทยสจฺจานิ, วิโนทนคฺคหเณน มคฺคสจฺจํ, อปุนพฺภวคฺคหเณน นิโรธสจฺจํ ปกาสิตํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘จตฺตาริ สจฺจานิ ปกาเสนฺโต’’ติ.
ตสฺมึเยวาติ ยตฺถ ิโต ‘‘ราโค จ โทโส จา’’ติอาทินา ปฺหํ ปุจฺฉิ, ตสฺมึเยว ปเทเส ิโต. เทสนานุสาเรนาติ สตฺถุ สามุกฺกํสิกธมฺมเทสนาย อนุสฺสรเณน. าณํ เปเสตฺวาติ วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา ¶ นิพฺพานํ ปติ อนุโพธาณํ เปเสตฺวา ปวตฺเตตฺวา. โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิโตติ สหสฺสนยปฏิมณฺฑิตสฺส ปมมคฺคสฺส อธิคเมน ปมผเล ปติฏฺิโต ปฏิลภตีติ โยชนา. น กิลิฏฺตฺตภาเว ติฏฺนฺติ มหานุภาวตฺตา อริยธมฺมสฺส. เสตกณฺฑุปีฬกสูจิโยติ เสตภาวํ ปตฺวา กณฺฑุปีฬกา โลมสูจิโย สพฺพา อนวเสสา ปติตา ปริภฏฺา อปคตา. ภุมฺมเทวตาปริหารนฺติ ภุมฺมเทวตฺตภาวนฺติ.
สูจิโลมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. มณิภทฺทสุตฺตวณฺณนา
๒๓๘. สุขํ ปฏิลภตีติ ทิฏฺธมฺมิกาทิเภทํ สุขํ อธิคจฺฉติ. นิจฺจเมว เสยฺโย สติมโต อายตึ หิตจรณโต. มณิภทฺโท ‘‘สติมาปุคฺคโล สโตการี สมฺปติ เวรํ นปฺปสวตี’’ติ อธิปฺปาเยน ‘‘เวรา จ ปริมุจฺจตี’’ติ อาห. ภควา ปน สติมนฺตตาสิทฺธิยา เวรปริมุจฺจนํ น อจฺจนฺติกํ, นาปิ เอกนฺติกํ ปฏิปกฺเขน ปรโต จ อปฺปหีนตฺตาติ ตํ นิเสเธนฺโต ‘‘เวรา จ น ปริมุจฺจตี’’ติ วตฺวา, ยํ อจฺจนฺติกํ เอกนฺติกฺจ ¶ ปรสฺส วเสน เวรปริมุจฺจนํ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยสฺสา’’ติ คาถมาห. กรุณายาติ อปฺปนาปฺปตฺตาย กรุณาย. กรุณาปุพฺพภาเคติ กรุณาภาวนาย วเสน อุปฺปาทิตปมชฺฌานูปจาเร. โสติ กรุณาภาวนํ ภาเวนฺโต ปุคฺคโล. เมตฺตํโสติ เมตฺตจิตฺตํ อํโส เอโก กุสลโกฏฺาโส เอตสฺสาติ เมตฺตํโส. ตสฺส เกนจีติ ตสฺส อรหโต กรุณาย เมตฺตาภาวนาย จ สาติสยตฺตา ตทภาเวน เกนจิ ปุคฺคเลน สทฺธึ เวรปฺปสงฺโค นาม นตฺถิ. อิมินา ขีณาสเวปิ เมตฺตากรุณาภาวนารหิเต โกจิ อตฺตโน จิตฺตโทเสน เวรํ กเรยฺย, น ปน ตสฺมึ เมตฺตากรุณาเจโตวิมุตฺติสมนฺนาคเต โกจิ เวรํ กเรยฺย. เอวํ มหิทฺธิกา พฺรหฺมวิหารภาวนาติ ทสฺเสติ.
มณิภทฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สานุสุตฺตวณฺณนา
๒๓๙. ยกฺเขน ¶ คหิโต โหตีติ ยกฺเขน อนุปวิฏฺโ โหติ. ตสฺส ยกฺขคหณสฺส การณํ มูลโต ปภุติ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘โส’’ติอาทิมาห. ตสฺส อนฺติมภวิกตฺตา อาทิโต ปฏฺาย อธิสีลสิกฺขาย สกฺกจฺจํ ปูรณนฺติ ทสฺเสติ ‘‘โส ปพฺพชิตกาลโต’’ติอาทินา. ปจฺจาหารนฺติ ปฏิกฺเขปํ. อิมสฺมึ สรภฺเติ อิมสฺมึ มม ธมฺมภณเน. ปตฺตินฺติ ปตฺติทานํ. ปิยา โหนฺติ, เตนาห ภควา ‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ อสฺสํ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’ติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี’’ติ (ม. นิ. ๑.๖๕). ตถา จาห ‘‘ตสฺมึ สามเณเร’’ติอาทิ.
วุฑฺฒิมนฺวายาติ โยพฺพนปฺปตฺติยา องฺคปจฺจงฺคานํ ปริวุฑฺฒิมาคมฺม. กามสมฺโภคสมตฺถตาวเสน ปริปกฺกินฺทฺริโย. อนุโยเชตฺวาวาติ วิสฺสชฺเชตฺวาว, คิหิภาเว วา อนุโยเชตฺวาว. ‘‘ปุพฺเพ ตุยฺหํ ปุตฺโต สีลวา กลฺยาณธมฺโม ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโมติ สมฺภาวิโต, อิทานิ ตโต อฺถา ชาโต’’ติ โฆสนาวเสน เทวตานํ อนฺตเร มาเหว เม ลชฺชํ อุปฺปาเทยฺย.
ปาฏิหาริยปกฺขฺจาติ จาตุทฺทสีปฺจทสีอฏฺมีนํ ยถากฺกมํ อาทิโต อนฺตโต อาทิอนฺตโต จ ปเวสนนิกฺขมนวเสน อุโปสถสีลสฺส ปฏิ ปฏิ อภิมุขํ ปจฺจาวหิตพฺพปกฺขฺจ. เตรสิยาปีติ ปรํ สตฺตมีนวมีสุปีติ อตฺโถ. ปเวสภูตฺหิ อุโปสถสีลสฺส สตฺตมีสุ สมาทินฺนํ สีลํ ปฏิปทํ, นวมีสุ นิกฺขมภูตนฺติ อาจริยา. โปราณฏฺกถายํ ปน ปจฺจุคฺคมนานุคมนปริยาเยน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘มนุสฺสา’’ติอาทิ. อฑฺฒมาสนฺติ สกลกาลปกฺขํ ¶ . เอวฺหิ วสฺสวาสสฺส อนุคมนํ คตํ โหติ. สุฏฺุ สมาคตนฺติ สุปริสุทฺธํ สมฺปนฺนํ กตฺวา อตฺตโน สนฺตานํ อาคตํ. ตํ ปน อตฺตโน จิตฺเตน สมํ ปกาเรหิ ยุตฺตํ โหตีติ อาห ‘‘สมฺปยุตฺต’’นฺติ. อรหนฺตานํ อนุกรเณน เสฏฺจริยํ. ‘‘น เต หิ ยกฺขา กีฬนฺตี’’ติ อตฺตโน ปุตฺตสฺส กาเย อธิมุจฺจนํ อตฺตโน กีฬนํ วิย โหตีติ กตฺวา อาห.
อุปาสิกา ¶ ยถาวุตฺตอุโปสถสีเลน สีลวตี, สามเณโร ปน อตฺตโน สามเณรสีเลน สีลวา. อุปฺปติตฺวาติ อากาเส อุปฺปติตฺวา. โมกฺโข นตฺถิ ทุกฺขาวหสฺส กมฺมสฺส กตูปจิตตฺตา.
ทุวิเธปิ กาเมติ วตฺถุกามกิเลสกาเม. กิเลสกามํ ปริจฺจชนฺโต เอว หิ วตฺถุกาเม ปริจฺจชติ นาม. วิพฺภมนวเสน อาคจฺฉติ ภิกฺขาย อาหิณฺฑนาทิปพฺพชิตกิจฺจโต. อุปฺปพฺพชิตฺวา วิคตสีลสฺส ชีวโต อานาปานมตฺเตน ชีวนฺโตปิ โส มตโกว. วุตฺตฺเหตํ ‘‘มรณฺเหตํ, สุนกฺขตฺต, อริยสฺส วินเย, โย สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๕).
อุณฺหฏฺเนาติ สปริฬาหฏฺเน. อภิธาวถาติ อภิธาวตีติ อิมสฺมึ อภิธาวนกิจฺเจ ภทฺทํ เต โหตูติ วตฺวา คิหิภาวาย อภิธาวถ. นีหริตฺวาติ นิกฺขาเมตฺวา. เอกาทสหิ อคฺคีหิ อาทิตฺตตฺตา มหาฑาหสทิเส. สลฺลกฺเขตฺวาติ คิหิภาเว อาทีนวํ, ปพฺพชฺชาย อานิสํสฺจ สลฺลกฺเขตฺวา. หิโรตฺตปฺปํ ปฏิลภิตฺวา ‘‘มม อุปฺปพฺพชิตุกามตํ สพฺรหฺมจาริโน ชานิสฺสนฺตี’’ติ. จตุนฺนํ ปริสานํ จิตฺตสงฺโขภวเสน สกลชมฺพุทีปํ โขเภตฺวา.
สานุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ปิยงฺกรสุตฺตวณฺณนา
๒๔๐. ปจฺจนฺเตติ ปริยนฺเต. ปาฏิเยกฺกนฺติ สงฺคีติกาเล วิสุํ. ยมกวคฺคาทิกา พฺราหฺมณวคฺคปริโยสานา ฉพฺพีสติ วคฺคา เอติสฺสาติ ฉพฺพีสติวคฺคา, ตนฺตีติ ปาฬิ. อุจฺจารปสฺสาวาทิ เอวรูปํ ทุพฺโภชนํ, ‘‘อสุจิเชคุจฺฉภาเวน ทุฏฺุ โภชน’’นฺติ กตฺวา, ทุพฺโภชนคฺคหเณน วา วนฺตคพฺภมลาทีนิ อติทิสติ. ฉวิอาทีนิ เฉตฺวาติ ฉวิอาทีนิ อติวิชฺฌ อติวิย ปวิสิตฺวา. อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ อฏฺาสิ ปีติสมุฏฺานอุฬาโรฬารรูปปฺปวตฺติยา. เตนาห ‘‘หทยงฺคมนีโย หุตฺวา’’ติ.
ธมฺมตาย ¶ ¶ สมาทิณฺณนฺติ กสฺสจิ สนฺติเก อคฺคเหตฺวา สยเมว ตสฺมึ ขเณ สํยตา โหมาติ ยถาสํยตา. ตติยปเทนาติ ‘‘สิกฺเขม สุสีลฺย’’นฺติ อิมินา ปเทน. เสสาติ วุตฺตาวเสสา. ติสฺโส อทินฺนาทานมิจฺฉาจารสุราปานวิรติโย. คหิตา โคพลีพทฺทาเยน. ฉาตกํ ทุพฺภิกฺขฺจ เอตฺถาติ ฉาตกทุพฺภิกฺขา, ชิฆจฺฉาทุพฺภิกฺขาพหุลายาติ อตฺโถ. ปิสาจยกฺขโยนิยาติ เปตฺติวิสยสทิสยกฺขโยนิยา อปิ นาม มุจฺเจมาติ โยชนา.
ปิยงฺกรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ปุนพฺพสุสุตฺตวณฺณนา
๒๔๑. วสนฏฺานคฺคหเณน รตฺติฏฺานทิวาฏฺานาทโย สงฺคณฺหาติ. ทฺวาทสหตฺถมตฺตเมว คณฺหาติ ปกติสฺจรณูปจารมตฺตพฺยาปนโต. ยถาปริสนฺติ ปริสานุรูปํ, ยตฺถ ยตฺถ ปริสา ติฏฺติ, ตํ ตํ านํ คจฺฉติ ปริสปริยนฺติกตฺตา. สตฺถุ มุขวิการาภาวโต ปเวสานฺุํ สลฺลกฺเขนฺตี ‘‘นูน อยํ กตาธิการา ภวิสฺสตี’’ติ อนุมานสิทฺธํ อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา. เอกีภาวคมเนนาติ หตฺถปาสูปคมเนน ปริสาย มิสฺสีภาวปฺปตฺติยา. ปุตฺตกาติ ปุตฺตปุตฺติโย. อนุกมฺปายฺหิ ก-สทฺโท.
นิพฺพานารมฺมเณน อริยมคฺเคน มฺุจิยมานา คนฺถา ‘‘นิพฺพานํ อาคมฺม ปมุจฺจนฺตี’’ติ วุตฺตา. เวลาติกฺกนฺตาติ ปมาณโต ปริจฺฉินฺทิตุํ น สกฺกาติ อาห ‘‘ปมาณาติกฺกนฺตา’’ติ. ปิยายนาติ อาสีสนา. อาสีสนํ เปมวเสน เปมวตฺถุโน เอสนา ปตฺถนาว โหตีติ อาห ‘‘มคฺคนา ปตฺถนา’’ติ. ตโตติ ปิยปุตฺตาทิโต. ปาณีนนฺติ สามิอตฺเถ ปุถุวจนํ ทุกฺขสทฺทาเปกฺขํ. เก โมเจตีติ โมจนกิริยาย กมฺมํ ปุจฺฉติ? อิภโร ปน อตฺถวเสน วิภตฺติวิปริณาโมติ ‘‘ปาณิเนติ อาหริตฺวา วตฺตพฺพ’’นฺติ อาห. อภิสมฺพุธนฺติ อภิสมฺพุธนฺโต. เตนาห ‘‘อภิสมฺพุทฺโธ’’ติ. สทฺธมฺมสฺสาติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนนฺติ อาห ‘‘สทฺธมฺมเมว อชานิตฺวา’’ติ.
ปุตฺตสฺส อนุโมทนํ กโรนฺตีติ ปุตฺตสฺส ปฏิปตฺติอนุโมทนํ กโรนฺตี. อุคฺคตาติ เอตฺถ กลเล วฏฺฏทุกฺเข นิมุชฺชมานา ตโต สีสํ อุกฺขิปิตุํ อสกฺโกนฺติ ¶ อชฺช พุทฺธานุภาเวน ปฺาสีสํ อุกฺขิปิตา อุคฺคตา. ปุน วินิปาตาภาวโต สมฺมเทว อุคฺคตตฺตา สมุคฺคตา. ตถาภูตา สาสเนปิ อุคฺคตา สมุคฺคตา ชาตา. จตุสจฺจปฏิเวธภาวนฺติ จตุสจฺจปฏิเวธสฺส อตฺถิภาวํ. กณฺฑุกจฺฉุอาทีติ อาทิ-สทฺเทน เชคุจฺฉอสาตาทึ สงฺคณฺหาติ. ทิพฺพสมฺปตฺตึ ปฏิลภติ ¶ ปวตฺติยํ สมฺปตฺติทายิโน กมฺมสฺส กโตกาสตฺตา. ตุณฺหี อุตฺตริเก โหหีติ มาตุ-วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตสฺส วิเสสาธิคมสฺส อวิพนฺธกรณสมฺมาปโยเคน ยถาลทฺธวิเสสาย มาตุยา วเสน ยสฺมา ธีตา ทิฏฺธมฺมิกสมฺปตฺติลาภี, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘มาตุ อานุภาเวเนวา’’ติ.
ปุนพฺพสุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. สุทตฺตสุตฺตวณฺณนา
๒๔๒. กรณีเยนาติ เอตฺถ กรณียนฺติ วาณิชฺชกมฺมํ อธิปฺเปตนฺติ ตํ วิวรนฺโต ‘‘อนาถปิณฺฑิโก จา’’ติอาทิมาห. วิกฺกียตีติ วิกฺกยํ คจฺฉติ. ตเถว กโรตีติ ยถา ราชคหเสฏฺินา สาวตฺถึ คนฺตฺวา กตํ, ตเถว ราชคหํ คนฺตฺวา กโรติ. สฺวายนฺติ อนาถปิณฺฑิโก.
ตํ ทิวสนฺติ ยํ ทิวสํ อนาถปิณฺฑิโก, คหปติ, ราชคหสมีปํ อุปคโต, ตํ ทิวสํ. ปณฺณนฺติ สาสนํ. น สุณีติ อสุณนฺโต ‘‘ปณฺณํ น สุณี’’ติ วุตฺโต. ธมฺมคารเวน หิ โส เสฏฺิ อฺํ กิจฺจํ ติณายปิ น มฺิ. เตนาห ‘‘ธมฺมสฺสวนตฺถายา’’ติอาทิ. ทารกรูปานนฺติ ทารกานํ. อนตฺถนฺตรกโร หิ รูป-สทฺโท ยถา ‘‘โครูปาน’’นฺติ. ปฺจวณฺณนฺติ ขุทฺทิกาทิเภทํ ปฺจปฺปการํ ปีตึ ปฏิลภิ. อนุกฺกเมน หิ ตา เอตสฺส สมฺภวนฺติ. ‘‘สีเสน อุฏฺาย…เป… คจฺฉตี’’ติ ปทํ ปีติสมุฏฺานรูปวเสน ลกฺเขตฺวา วุตฺตํ.
สิวถิกาย วสตีติ สิวถิกาย สมีเป วสติ. สุสานสฺสาสนฺนฏฺาเน หิ โส วิหาโร. อถสฺสาติ อถสฺส อนาถปิณฺฑิกสฺส ‘‘อกาโล…เป… อุปสงฺกมิสฺสามี’’ติ เอตํ อโหสิ. พุทฺธคตาย สติยาติ ¶ อฺํ กิฺจิ อจินฺเตตฺวา พุทฺธคตาย เอว สติยา สยนวรคโต นิปชฺชิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตํ ทิวส’’นฺติอาทิ.
พลวปฺปสาโทติ พุทฺธารมฺมณา พลวตี สทฺธา. ปีติอาโลโกติ ปุริมพุทฺเธสุ จิรกาลํ ปริจยํ คตสฺส พลวโต ปสาทสฺส วเสน ‘‘พุทฺโธ’’ติ นามํ สวนมตฺเตน อุปฺปนฺนาย อุฬาราย ปีติยา สมุฏฺาปิโต วิปสฺสโนภาสสทิโส สาติสโย อาโลโก โหติ จิตฺตปจฺจยอุตุสมุฏฺาโน. เตนาห ‘‘สพฺพตมํ วิคจฺฉี’’ติอาทิ. ‘‘เทวตา หิ กตา’’ติปิ วทนฺติ, ปุริโม เอเวตฺถ ยุตฺโต.
อมนุสฺสาติ ¶ อธิคตวิเสสา เทวตา. ตา หิ เสฏฺิสฺส สมฺปตฺตึ ปจฺจกฺขโต ปสฺสึสุ. เตนาห ‘‘อยํ มหาเสฏฺี’’ติอาทิ. อลฺลสรีรนฺติ ตาวเทว ฉฑฺฑิตํ อจฺฉินฺนํ วา กเฬวรํ. อปรมฺปีติ มตํ กุถิตกุณปํ. ปริกิรึสูติ สมนฺตโต โอสริตา อเหสุํ. อาโลโก อนฺตรธายิปีติเวคสฺส มนฺทภาเวน ตํสมุฏฺานรูปานํ ทุพฺพลภาวโต.
อิมินาวาติ อธิกาเรน สหสฺสปเทน เอว สมฺพนฺธิตพฺพานิ. ปทํ วีติหรติ เอตฺถาติ ปทวีติหาโร, ปทวีติหารฏฺานํ. สมคมเนติ ทุตวิลมฺพิตํ อกตฺวา สมคมเน. ตโตติ เตสุ โสฬสภาเคสุ. เอโก โกฏฺาโสติ ยถาวุตฺตํ ปทวีติหารปเทสํ โสฬสธา ภินฺนสฺส เอโก ภาโค. ปวตฺตเจตนาติ ยถาวุตฺตกลาสงฺขาตสฺส ปเทสสฺส ลงฺฆนธาวนปวตฺตเจตนา. ปทํ วา วีติหรติ เอเตนาติ ปทวีติหาโร, ตถาปวตฺตา กุสลเจตนา. ‘‘ตสฺสา ผลํ โสฬสธา กตฺวา’’ติ วทนฺติ. ปติฏฺหนฺตสฺส วเสน คหิตนฺติ โยชนา. วิวฏฺฏนิสฺสิตาย เอว รตนตฺตยปูชาย ธมฺมสฺสวนสฺส สิกฺขาปทสมาทานสฺส สรณคมนสฺส จ อตฺถาย คจฺฉโตปิ วเสน วฏฺฏติ. ปมํ วุตฺตคมนํ โลกุตฺตรวิเสสาธิคมสฺส เอกนฺติกํ, ทุติยํ อเนกนฺติกนฺติ ‘‘วฏฺฏติเยวา’’ติ สาสงฺกวจนํ.
โสติ อนาถปิณฺฑิโก เสฏฺิ. อนุยุตฺตาติ อนุคามิโน สหายา. เตว สนฺธาย วทติ. ‘‘สิวโก อมนุสฺโส’’ติ อปเร. น เกวลํ ‘‘อนุยุตฺตาปิ เม อตฺถิ, กสฺมา ภายามี’’ติ เอวํ สูโร อโหสิ? อถ โข พุทฺธคตาย ติกฺขวิสทสภาเวน สพฺพํ ปริสฺสยํ มทฺทิตฺวาปิ ¶ อคมาสีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปกฺขนฺทนลกฺขณา หิ สทฺธา, ตาย ยุตฺตโก สปฺปุริโสปิ สทฺธมฺมคุณวเสน สพฺพํ ปริสฺสยํ มทฺทิตฺวา ปกฺขนฺทตีติ ทฏฺพฺพํ.
สพฺพกามสมิทฺธตา ปริจฺจาคสีลตา อุฬารชฺฌาสยตา ปรทุกฺขาปนยกามตา ปเรสํ หิเตสิตา ปรสมฺปตฺติปโมทนาติ เอวมาทีนํ มหาคุณานํ วเสน นิจฺจกาลํ อนาถานํ ปิณฺฑทายกตฺตา ‘‘อนาถปิณฺฑิโก’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนํ นามํ. เอวมาหาติ ‘‘เอหิ สุทตฺตา’’ติ เอวํ อาห.
กิเลสปรินิพฺพาเนนาติ สพฺพโส ราคาทิกิเลสวูปสเมน. กิเลสวูปสมนฺติ สพฺพโส สพฺเพสํ กิเลสานํ วูปสมํ อคฺคมคฺเคน ปตฺวา. อนุปุพฺพิกถนฺติ ทานาทิกถํ. สา หิ อนุปุพฺเพน กเถตพฺพตฺตา ‘‘อนุปุพฺพิกถา’’ติ วุจฺจติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อถ โข ภควา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ. เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสี’’ติ (จูฬว. ๓๐๕). มตฺถเกติ อนุปุพฺพิกถาย อุปริ ปรโต. จตฺตาริ สจฺจานิ ปกาเสสีติ ยถา มหาเสฏฺิ สหสฺสนยปฏิมณฺฑิเต โสตาปตฺติผเล ¶ ปติฏฺาติ, เอวํ ปวตฺตินิวตฺติโย สห เหตุนา วิภชนฺโต จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ปกาเสสีติ.
สุทตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปมสุกฺกาสุตฺตวณฺณนา
๒๔๓. รถิกนฺติ รจฺฉํ. คเหตฺวาติ คนฺตฺวา. สิงฺฆาฏกนฺติ อฺตฺถ ติโกณา รจฺฉา วุจฺจติ. อิธ ปน ‘‘จตุกฺก’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘มธุปีกา’’ติ เอตฺถ มธุ-สทฺเทน มธุวิเสโส วุจฺจตีติ อาห ‘‘คนฺธมธุปานํ ปีตา วิยา’’ติ. สามฺโชตนา หิ วิเสเส ติฏฺตีติ คนฺธมธูติ จ อติวิย มธุโร มทนิโย เอโก มธุวิเสโส. เตนาห ‘‘อสฺี หุตฺวา สยเตวา’’ติ.
น ปฏิวานียํ ¶ น อปเนตพฺพนฺติ อปฺปฏิวานียํ. เตนาห ‘‘พาหิรกฺหี’’ติอาทิ. ยํ กิฺจิ สนฺตปณีตภาวาวหํ น เสจนนฺติ อเสจนกํ. ตโต เอว อนาสิตฺตกํ. โอชวนฺตนฺติ พหุสมฺมตโอชวนฺตสทิสตาย โอชวนฺตํ. เตนาห ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ. ธมฺมตายาติ อตฺตโน สภาเวเนว. มธุโร อิฏฺโ. ปิวนฺตี วิยาติ สุกฺกาย ภิกฺขุนิยา อุปนียมานํ สทฺธมฺมามตรสํ อตฺตโน โสตฺชลึ ปูเรตฺวา โอทหนฺตีว. วลาหกโต อาคตํ วลาหกํ.
ปมสุกฺกาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ทุติยสุกฺกาสุตฺตวณฺณนา
๒๔๔. พหุํ วต ปฺุํ ปสวติ สพฺพคนฺถวิมุตฺติยา สีลสมนฺนาคเตน อคฺคทกฺขิเณยฺยาย สุกฺกาย เถริยา โภชนสฺส ทินฺนตฺตา.
ทุติยสุกฺกาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. จีราสุตฺตวณฺณนา
๒๔๕. เอกาทสมํ อุตฺตานเมว ทสเมน สทิสตฺตา. ตตฺถ หิ โภชนํ อุปาสกสฺส อาภตํ, อิธ จีวรทานนฺติ อยเมว วิเสโส.
จีราสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. อาฬวกสุตฺตวณฺณนา
๒๔๖. อาฬวิยนฺติ ¶ อิตฺถิลิงฺควเสน ตํ รฏฺมฺปิ นครมฺปิ วุจฺจติ. รฏฺเ อธิปฺเปเตปิ น เอตฺถ พหุวจนํ ตถารุฬฺหิยา อภาวโต. ตฺจ ภวนนฺติ ตฺจ อาฬวกสฺส ยกฺขสฺส ภวนํ. ตตฺถาติ อาฬวกสฺส ภวเน. ‘‘อถ โข อาฬวโก ยกฺโข เยน ภควา เตนุปสงฺกมี’’ติ เอตฺถ ตสฺมึ ปาปเทเส. อยมนุปุพฺพิกถาติ อยํ อิทานิ วุจฺจมานา อนุปุพฺพโต อาคตา กถา. อาฬวิยา อิสฺสโรติ อาฬโว, อาฬวโกติ จ ¶ ราชา วุตฺโต. กทาจิ โจรปฏิพาหนตฺถํ, กทาจิ อุสฺสาหสตฺติวิภาวนวเสน ปฏิราชนิเสธนตฺถํ, กทาจิ ลกฺขโยคฺยวินิโยควเสน พฺยายามกรณตฺถฺจ. มิคานํ วนนโต วสนโต วานโต วา ‘‘มิควา’’ติ ลทฺธสมฺํ มิควํ. ตสฺเสวาติ รฺโ เอว. มิโคติ เอโก เอณิมิโค. ติโยชนนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. อุทกํ วิย ปวิสิตฺวา ิตนฺติ ยถา ปริสฺสมปฺปตฺโต อุทกํ ปวิสิตฺวา ิโต นิรสฺสาโส โหติ, เอวํ วิย ิตํ. มูลนฺติ สมีปํ. ยกฺขํ ทิสฺวาว รฺโ ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ อูรุตฺถมฺภํ อโหสิ, ตสฺมา ราชา ปลายิตุํ นาสกฺขิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ขาทิตุํ อุปคโต’’ติ. อถ ราชา ทฺวิธา ฉินฺนํ มิคํ ทตฺวา อตฺตานํ โมเจตุกาโม อโหสิ. ยกฺโข ‘‘นนุ มม หตฺถคตกาลโต ปฏฺาย มิโคปิ มม สนฺตโก, ตตฺถ กินฺนาม เต เกราฏิยมิทํ ทตฺวา อตฺตโน โมจน’’นฺติ ราชานํ น มฺุจิ. อถ ราชา ตสฺส ตาทิสํ ปฏิฺาตํ อกาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ราชา เตน สทฺธิ’’นฺติอาทิ. ภวนํ อนุปคตนฺติ อิทํ มม ภวนํ อนุปคตํ. อนนฺุาตนฺติ อุปคเตน สามิภูเตน อนนฺุาตฺจ. เอเตน อุปคตํ ตํ, อิทานิ ตาทิเสน อนฺุาตฺจ ขาทิตุํ ลภามีติ ทสฺเสติ.
มจฺจุปเถติ มจฺจุโคจเร. อาสนฺนมรณตาย เอวมาหํสุ.
ตํ อาฬวกกุมารํ อาทาย ปกฺกมึสูติ โยชนา. ตสฺส รฺโ มเหสี อาฬวกกุมารสฺส มาตาติ วุตฺตา. เทวิสหสฺสานํ วิปฺปลปนฺตีนนฺติ วจนํ ปริณาเมตพฺพํ.
เทสนาปริโยสาเนติ ยกฺขํ ทเมตฺวา ปจฺจาคนฺตฺวา นครทฺวารสมีเป รุกฺขมูเล นิสินฺเนน ภควตา สราชิกาย มหติยา ปริสาย เทสิตเทสนาย ปริโยสาเน. โสติ ภควา. ภวเน เอวาติ วิมาเน เอว. ภควาปิ ปสฺสติ ปกติจกฺขุนาว นิคฺโรธสฺส อุปริ นิพฺพตฺตตฺตา.
ตตฺราติ ตสฺมึ ‘‘โรเสตุกามตายา’’ติ วจเน. เตสนฺติ สาตาคิริเหมวตานํ. กาลทีปเทสกุลชเนตฺติอายุปฺปมาณวิสยํ ¶ ปฺจมหาวิโลกิตํ. ‘‘สีตํ พฺยปคตํ โหติ, อุณฺหฺจ อุปสมฺมตี’’ติอาทินา (พุ. วํ. ๒.๘๓) อาคตานิ ทฺวตฺตึส ปุพฺพนิมิตฺตานิ. กฏิปฺปเทสวตฺถิโกสกณฺณโต ติธา. สทฺโทติ อาฬวกสฺส อุคฺโฆสิตสทฺโท.
อิมินา ¶ ปสงฺเคน สกลชมฺพุทีปํ พฺยาเปตฺวา ปวตฺเต อปเรปิ ตโย สทฺเท ยถา เอเต, เอวํ อาฬวกสฺส อุคฺโฆสิตสทฺโทปีติ ทสฺเสตุํ ‘‘จตฺตาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. โอสกฺกนฺเตติ ปริหายมาเน.
จุณฺเณนฺตาติ จุณฺเณตุํ สมตฺถตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปน จุณฺณนวเสน วุตฺตํ. เตนาห ‘‘มา กสฺสจี’’ติอาทิ. อุสฺสาวพินฺทุมตฺตมฺปีติ อุสฺสาวปตนมตฺตมฺปิ. ขุรปฺปํ สลฺลํ.
เสฏฺานีติ อเชยฺเยน อปฺปฏิหตภาเวน อุตฺตมานิ. ทุสฺสาวุธนฺติ อาวุธกิจฺจกรํ อุตฺตริยํ ทุสฺสํ. อิมานิ กิร สกฺกาทีนํ ปฺุานุภาเวน นิพฺพตฺตานิ อปฺปฏิหตปฺปภาวานิ ปฏิปกฺขวิธมนยุตฺตานิ อวชฺฌานิ อาวุธานิ. เตนาห ‘‘ยทิ หี’’ติอาทิ.
อสนิวิจกฺกํ วิยาติ อสนิมณฺฑลํ วิย.
ปิตฺตนฺติ อลคทฺทปิตฺตํ. ภินฺเทยฺยาติ อาสิฺเจยฺย. สุขนฺติ สุกรํ. มุทุภูตจิตฺตววตฺถานกรณตฺถนฺติ มุทุภูตํ อตฺตโน จิตฺเต ววตฺถานสฺส กรณตฺถํ.
เอวํ วุตฺเตติ ‘‘น ขฺวาห’’นฺติ เอวํ วุตฺเต. ภควโต สาสเน ิเต ปยิรุปาสิตฺวา อุคฺคหิตํ ภควนฺตํ ปยิรูปาสิตฺวา อุคฺคหิตเมว นามาติ อาห ‘‘กสฺสปํ…เป... อุคฺคเหสุ’’นฺติ. ปุฏฺปฺหาติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปุฏฺปฺหา. ยสฺมา พุทฺธวิสเย ปุฏฺปฺหา, ตสฺมา พุทฺธวิสยาว โหนฺติ.
ปฏิเสเธตฺวาติ วาจาย อสกฺกุเณยฺยภาเวเนว ปฏิเสเธตฺวา. ‘‘ยทากงฺขสี’’ติ ปทสนฺธิวเสน นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ยทิ อากงฺขสี’’ติ. เตน ตุยฺหํ ปุจฺฉํ ตาว สุตฺวา วิสฺสชฺเชสฺสนฺติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘น เม’’ติอาทิ. ทุติยวิกปฺเป ท-กาโร ปทสนฺธิกโรติ อาห ‘‘ยํ อากงฺขสี’’ติ. ‘‘ปุจฺฉ, อาวุโส, สุตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ อวตฺวา สพฺพฺุพุทฺธสฺส อนิยเมตฺวา วจนํ สพฺพวิสยํ โหตีติ อาห ‘‘สพฺพํ เต’’ติอาทิ.
กึ ¶ สูติ เอตฺถ กินฺติ ปุจฺฉายํ, สูติ สํสเย, กึ นูติ อตฺโถ? อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. ตสฺมา วิตฺตนฺติ ยสฺมา วิตฺติกรณโต วิตฺตํ. สุกตนฺติ สุฏฺุ สกฺกจฺจํ กตํ. สุขนฺติ อิฏฺผลํ. ตตฺถ ยํ ปธานํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘กายิกเจตสิกํ สาต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. นิสฺสนฺทผลฺหิ ตคฺคหเณน คหิตเมว ¶ โหติ. อปฺเปตีติ ปาเปติ. อติสยตฺถโชตโน ตร-สทฺโทติ อาห ‘‘อติสเยน สาทู’’ติ. รสสฺิตาย อิฏฺานํ ราคาทิธมฺมานํ. เกน ปกาเรนาติ กถํ-สทฺทสฺส อตฺถมาห. กถํชีวินฺติ ยทิ สมาสปทเมตํ, ‘‘กถ’’นฺติ สานุนาสิกา กตาติ อาห ‘‘คาถาพนฺธสุขตฺถ’’นฺติอาทิ.
สทฺธีธ วิตฺตนฺติ เอกเทเสน สมุทายทสฺสนํ สมุทฺทปพฺพตนิทสฺสนํ วิย. อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ‘‘วิตฺติกรณโต วิตฺต’’นฺติ วุตฺตมตฺถํ สนฺธาย เหตูปมาหิ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน สุขาวหนโต, ทุกฺขปฏิพาหนโต, ทาลิทฺทิยูปสมนโต, รตนปฏิลาภเหตุโต, โลกสนฺตติอาวหนโต จ สทฺธา วิตฺตํ ยถา ตํ หิรฺสุวณฺณาทีนิ. เตนาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ. นนุ เจตนา สมฺมาทิฏฺิอาทโย จ สาติสยํ วิปากสุขํ อาวหนฺติ, ตํ กถํ สทฺธา อาวหตีติ? สทฺธาธุรภาวสภาวโต. เตนาห ‘‘สทฺธาธุเรน ปฏิปนฺนาน’’นฺติ. ตสฺส จ เสสปเทสุปิ โยเชตพฺพํ.
อิทานิ ยํ หิรฺสุวณฺณาทิ สทฺธาวิตฺตสฺส โอปมฺมํ, ตํ หีนํ, สทฺธาวิตฺตเมว อุตฺตมนฺติ ปาฬิยํ เสฏฺคฺคหณํ กตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปรโลกํ คตํ อนุคจฺฉตีติ อนุคามิกํ. อฺเหิ น สาธารณนฺติ อนฺสาธารณํ. สพฺพสมฺปตฺติเหตูติ สพฺพาสํ สีลสมฺปทาทีนํ โลกิยโลกุตฺตรานํ สมฺปตฺตีนํ เหตุ. อนตฺถาย โหติ อนุปายปฏิปตฺติโต. ตสฺมา อนุคามิกตฺตา. อนฺสาธารณตฺตา สพฺพสมฺปตฺติเหตุภาวโต หิรฺาทิวิตฺตนิทานตฺตา จ สทฺธาวิตฺตเมว เสฏฺํ. อุกฺกฏฺปริจฺเฉทเทสนา ยถา ‘‘สตฺถา เทวมนุสฺสาน’’นฺติ.
‘‘ทสกุสลธมฺโม’’ติ อิมินา เอกจฺจานํเยว ทานาทิธมฺมานํ สงฺคโห, น สพฺเพสนฺติ อสงฺคหิตสงฺคณฺหนตฺถํ ‘‘ทานสีลภาวนาธมฺโม วา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สุข’’นฺติ ติวิธสฺสปิ สุขสฺส สาธารณคฺคหณเมตนฺติ ตํ สวิเสสลทฺธํ ปุคฺคลวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘โสณเสฏฺิ…เป… อาวหตี’’ติ อาห. โย โส ปทุมวติยา เทวิยา ปุตฺโต มหาปทุโม นาม ราชา ทิพฺพสุขสทิสํ รชฺชสุขมนุภวิตฺวา ปจฺฉา ปจฺเจกพุทฺโธ หุตฺวา นิพฺพานสุขมนุภวิ, ตํ นิทสฺสนภาเวน คเหตฺวา อาห ‘‘มหาปทุมาทีนํ วิย นิพฺพานสุขฺจ อาวหตี’’ติ.
อตฺถุทฺธารนเยน ¶ ¶ สจฺจสทฺทํ สํวณฺเณนฺโต ‘‘อเนเกสุ อตฺเถสุ ทิสฺสตี’’ติ อาห. วาจาสจฺเจ ทิสฺสติ สจฺจสทฺโท ‘‘ภเณ’’ติ วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. วิรติสจฺเจ ทิสฺสติ. เวรมณีสุ หิ ปติฏฺิตา สมณพฺราหฺมณา ‘‘สจฺเจ ิตา’’ติ วุจฺจนฺติ. อตฺตาการมฺปิ วตฺถุํ อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ ปวตฺติยาการํ อุปาทาย ทิฏฺิ เอว สจฺจนฺติ ทิฏฺิสจฺจํ, ตสฺมึ ทิฏฺิสจฺเจ ทิสฺสตีติ โยชนา. พฺราหฺมณสจฺจานีติ ปรมตฺถพฺรหฺมานํ สจฺจานิ, ยานิ ‘‘สพฺเพ ปาณา อวชฺฌา, สพฺเพ กามา อนิจฺจา, สพฺเพ ภวา อนิจฺจา, นาหํ กฺวจนิ กสฺสจิ กิฺจนตสฺมิ’’นฺติอาทินา (อ. นิ. ๔.๑๘๕) จตุกฺกนิปาเต อาคตานิ. ปรมตฺถภูตํ สจฺจํ นิพฺพานํ. อพฺภนฺตรํ กตฺวาติ อนฺโตคธเมว กตฺวา, เตหิ สทฺธินฺติ อตฺโถ ปรมตฺถสจฺจานมฺปิ สาทุตรตฺตา. ยสฺสานุภาเวนาติ ยสฺส วาจาสจฺจสฺส อานุภาเวน.
อุทกมฺหิ ธาวตีติ อุทกปิฏฺิยํ อภิชฺชมานายํ ปถวิยา วิย ธาวติ คจฺฉติ มหากปฺปินราชา วิย. วิสมฺปิ สจฺเจน หนนฺติ ปณฺฑิตาติ กณฺหทีปายนาทโย วิย. สจฺเจนาติ มจฺฉชาตเก โพธิสตฺตสฺส วิย สจฺเจน เทโว ถนยํ ปวสฺสติ. สจฺเจ ิตาติ วิรติสจฺเจ วาจาสจฺเจ จ ิตา ตโยปิ โพธิสตฺตา. นิพฺพุตินฺติ นิพฺพานํ ปตฺถยนฺติ. สาทุตรนฺติ สาตตรํ อิฏฺตรวิปากทานโต.
รสานนฺติ นิทฺธารณตฺเถ สามิวจนํ. นิทฺธารณฺจ โกจิ กุโตจิ เกนจิ อิมนฺติ กสฺสจิ วจนํ น สาเธตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เย อิเม’’ติอาทิมาห. เตน หิ นิพฺพานํ รสสมุทายโต สาทุตรตาวิเสเสน นิทฺธารียติ. ตตฺถ เย อิเม วุจฺจนฺตีติ โยชนา. สายนียธมฺมาติ ชิวฺหาย สายิตพฺพา ธมฺมา. รสายตนํ รโสติ อาห ‘‘มูลรโส ขนฺธรโส’’ติอาทิ. ผลรสนฺติ ผลสฺส รสํ, ผลํ ปีเฬตฺวา ตาเปตฺวา คเหตพฺพรสนฺติ อตฺโถ. อรสรูโปติ อาจารรหิตสภาโว. รูปสฺส อสฺสาทนวเสน อุปฺปชฺชนกสุขธมฺมา รูปรสา. เอส นโย สทฺทรสาทีสุ. สทฺทรโสติ พฺยฺชนสมฺภูโต รโส. วิมุตฺติรโสติ วิมุตฺติสมฺปตฺติโก รโส. อตฺถรโสติ อตฺถสฺส ปฏิวิชฺฌนวเสน อุปฺปชฺชนกสุขํ อตฺถรโส, ตถา ธมฺมรโส เวทิตพฺโพ. รูปาจาราติอาทีสุ รสคฺคหเณน ผลรสํ วทติ. โส หิ ผลสฺส รูโป จ, รสิตพฺพโต อาสาเทตพฺพโต รโส จาติ ‘‘รูปรโส’’ติ วุจฺจติ. อาจาโร ¶ ปน สามคฺคีรสเหตุตาย ‘‘รโส’’ติ วุตฺโต. สจฺจํ หเวติ เอตฺถ หเวติ เอกํสตฺเถ นิปาโต, เอกํสตฺโถ จ อวธารณเมวาติ อาห ‘‘สจฺจเมว สาทุตร’’นฺติอาทิ. สรีรมุปพฺรูเหนฺติ, น จิตฺตํ. นนุ จ สุขุปฺปตฺติปโยชนตฺตา จิตฺตมฺปิ อุปพฺรูเหนฺตีติ? น, สุขสฺส สรีรพฺรูหนํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนตฺตา. วิรติสจฺจวาจาติ สจฺจวิเสเสน สมฺปชฺชนํ วทติ. จิตฺตมุปพฺรูเหติ ปทาลิกาย วิรติวาจาย สจฺจรเส สติ สมถวิปสฺสนาทีหิ ¶ จิตฺตปริพฺรูหนสฺส สมฺภวโต มคฺคผลานิสํสํ คณฺหาติ. อสํกิเลสิกฺจ สุขมาวหติ วิวฏฺฏสนฺนิสฺสิตตฺตา. วิมุตฺติรโสติ ผลสุขํ วทติ นิพฺพานสุขมฺปิ วา. ปรมตฺถสจฺจรโส นาม นิพฺพานรโส. ตถา หิ ตํ ‘‘อจฺจุติรสํ อสฺสาสกรณรส’’นฺติปิ วุจฺจติ. เตน ปริภาวิตตฺตาติ วิมุตฺติรสสฺส สาทุตรภาวทสฺสนตฺถํ. เอวํ สนฺเตปิ ‘‘วิมุตฺติรสปริภาวิตตฺตา’’ติ เอเตน กามํ วิมุตฺติรโส วา ปรมตฺถสจฺจรโส วา สาทุตรรสาติ ทสฺเสติ. ตทธิคมูปายภูตนฺติ ตสฺส ปรมตฺถสจฺจสฺส อธิคมูปายภูตํ. อตฺถฺจ ธมฺมฺจาติ ผลฺจ การณฺจ นิสฺสาย ปวตฺติโต อตฺถรสา ธมฺมรสา จ สาทู, ตโตปิ ปรมตฺถสจฺจเมว สาทุรสนฺติ อธิปฺปาโย.
โลกุตฺตรํ โลกิยฺจ อตฺถํ อชานนฺโต อนฺโธ, โลกิยตฺถเมว ชานนฺโต เอกจกฺขุ, อุภยํ ชานนฺโต ทฺวิจกฺขุ. ปรหิตํ อตฺตหิตฺจ อชานนฺโต อนฺโธ, อตฺตหิตเมว ชานนฺโต เอกจกฺขุ, อุภยตฺถํ ชานนฺโต ทฺวิจกฺขุ. โส ทฺวิจกฺขุปุคฺคโล ปฺาชีวี. ตํ ปน คหฏฺปพฺพชิตวเสน วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘คหฏฺโ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. คหฏฺปฏิปทํ อาราเธตฺวา จาติ โยชนา. อาราเธตฺวาติ จ สาเธตฺวาติ อตฺโถ.
ปุริมนเยเนวาติ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธวิสฺสชฺชิตนเยเนว. กิฺจาปีติ อนุชานนสนฺทสฺสนตฺเถ นิปาโต. กึ อนุชานาตีติ? คาถาย จตูหิ ปเทหิ วุตฺเตสุ อตฺเถสุ เอกสฺส อตฺถสฺส สิทฺธิยํ อิตเรสมฺปิ สิทฺธึ อนุชานาติ. เตนาห ‘‘โย จตุพฺพิธโมฆํ…เป… ปริสุชฺฌตี’’ติ. กึ สนฺทสฺเสตีติ? เยสํ ปาปธมฺมานํ พลวภาเวน โอฆตรณาทิ น สิชฺฌติ, เตสํ ปฏิปกฺขานํ นิสฺสนฺเทหวเสน สนฺทสฺสนํ. เตนาห ‘‘เอวํ สนฺเตปี’’ติอาทิ. โอฆตรณนฺติ โอฆตรณปฏิปตฺตึ. อสทฺทหนฺโตติ เอวํ ปฏิปชฺชนฺโต ¶ อิมาย ปฏิปตฺติยา โอฆํ ตรตีติ น สทฺทหนฺโต. น ปกฺขนฺทตีติ ปกฺขนฺทนลกฺขณาย สทฺธาย น อุคฺฆาฏียตีติ น โอตรติ. จิตฺตโวสฺสคฺเคนาติ ยถากามาจารวเสน จิตฺตสฺส โวสฺสชฺชเนน. ปมตฺโต ปมาทํ อาปนฺโน. ตตฺเถวาติ กาเมสุ เอว. วิสตฺตตฺตา ลคฺคตฺตา. โวกิณฺโณติ วิเสวิโต. ตสฺมาติ วุตฺตสฺส จตุพฺพิธสฺสปิ อตฺถสฺส เหตุภาเวน ปจฺจามสนํ. ตปฺปฏิปกฺขนฺติ อสฺสทฺธิยาทีนํ ปฏิปกฺขํ สทฺธาทีนํ โอกาสตฺตา.
เอตายาติ คาถายํ อิมินา ปเทนาติ สมฺพนฺโธ. สปฺปุริสสํเสโว สทฺธมฺมสฺสวนํ โยนิโสมนสิกาโร ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺตีติ อิเมสํ โสตาปตฺติมคฺคาธิคมสฺส องฺคานํ อาสนฺนการณํ สทฺธินฺทฺริยนฺติ อาห ‘‘โสตาปตฺติยงฺคปทฏฺานํ สทฺธินฺทฺริย’’นฺติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สทฺธาชาโต อุปสงฺกมติ ¶ , อุปสงฺกมนฺโต ปยิรุปาสติ, ปยิรุปาสนฺโต โสตํ โอทหติ, โอหิตโสโต ธมฺมํ สุณาตี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๒.๑๘๓, ๔๓๒). ทิฏฺโฆํ ตรติ เอเตนาติ ทิฏฺโฆตรณํ, ทิฏฺโฆสฺส ตรณํ. กามฺเจตฺถ ‘‘ตรติ โอฆ’’นฺติ วุตฺตํ, วตฺตมานสมีเปปิ ปน วตฺตมานํ วิย โวหรณํ ยุตฺตํ ทิฏฺโฆสฺส ติณฺณภาวสฺส เอกนฺติกตฺตาติ ‘‘โสตาปนฺนฺจ ปกาเสตี’’ติ วุตฺตํ. เอส นโย เสเสสุปิ. ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาทิปฏิปตฺตนฺตรายกรานํ ปาปธมฺมานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา โสตาปนฺโน…เป… อปฺปมาเทน สมนฺนาคโต. ‘‘โสตาปตฺติ…เป… ตรตี’’ติ เอตฺตเก วุตฺเต สกิเทว อิมสฺส โลกสฺส อาคมนมฺปิ คหิตํ สิยาติ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘อาราเธตฺวา…เป… อวเสส’’นฺติ วุตฺตํ. นนุ ‘‘อวเสส’’นฺติ วุตฺตตฺตา โสตาปตฺติมคฺเคน อติณฺณํ อนวเสสํ ภโวฆวตฺถุ คหิตเมว สิยาติ? น, อุปริ ทฺวีหิ มคฺเคหิ ตริตพฺพานํ เตสํ ปรโต ทฺวินฺนํ ปหานวเสน วุจฺจมานตฺตา. อปวาทวิสยมฺปิ ปริหรติ – ‘‘เอวํ เอสา โจทนา อตฺตโน วิสเย น ปติฏฺาตี’’ติ. อนาทิกาลภาวตฺตา กามสฺาย กาโมฆตรณํ มหตา เอว วีริเยน สาเธตพฺพนฺติ อาห ‘‘วีริเยนา’’ติ. ตติยํ มคฺคํ อาราเธตฺวา. กาโมฆสฺส วตฺถุ กาโมฆวตฺถุ, กามคุเณหิ สทฺธึ สพฺโพ กามภโว. กาโมฆสฺิตนฺติ กาโมฆสงฺขาตํ. กามนฏฺเน กาโม จ โส ทุกฺโข จาติ กามทุกฺขํ. อสฺสาทนฏฺเน กาโม เอว สฺาติ กามสฺา, สพฺพโส สมุจฺฉินฺนตฺตา วิคตา กามสฺา เอติสฺสาติ วิคตกามสฺา ¶ . สพฺเพสํ ราคาทิมลานํ มูลภูตตฺตา สตฺตสนฺตานสฺส วิเสสโต มลีนสภาวาปาทนโต ปรมํ อุกฺกํสคตํ มลนฺติ ปรมมลํ, อวิชฺชา. เตนาห ภควา – ‘‘อวิชฺชาปรมํ มล’’นฺติ (ธ. ป. ๒๔๓).
ปฺาปทํ คเหตฺวาติ ยถาวุตฺตํ ปฺาปทํ หทเย เปตฺวา. ตปฺปสงฺเคน อตฺตโน ปฏิภาเนน สพฺเพหิ วิย อุคฺคหิตนิยาเมน. สพฺพตฺเถวาติ ปฺจสุปิ าเนสุ. อตฺถยุตฺติปุจฺฉาติ ปฺาทิอตฺถสมธิคมสฺส ยุตฺติยา การณสฺส ปุจฺฉา. เตนาห ‘‘อยํ หี’’ติอาทิ. ปฺาทิอตฺถํ ตฺวาติ ปฺาธน-กิตฺติ-มิตฺต-อภิสมฺปรายสงฺขาตํ อตฺถํ สรูปโต สจฺจปฏิเวธนิปฺผาทเนน าเณน ชานิตฺวา. นนุ เอส โลกุตฺตรํ โสตาปตฺติมคฺคผลปฺํ ตทธิคมูปายํ โลกิยปฺฺจ อภิภวิตฺวา ิโต, โส กสฺมา ตตฺถ อตฺถยุตฺตึ ปุจฺฉตีติ? สจฺจเมตํ, อุปริ ปน สมาธิสฺส ยุตฺตึ ปุจฺฉิตุกาโม ปฺาย เสฏฺภาวโต, ตสฺส จ เอกเทเสเนว อธิคตตฺตา ตเมว อาทึ กตฺวา ปุจฺฉติ. ‘‘กาย ยุตฺติยา’’ติอาทิ อตฺถวณฺณนํ อติทิสฺสติ ‘‘เอส นโย ธนาทีสู’’ติ. ตตฺถาปิ อตฺถยุตฺติปุจฺฉาภาโว ปน ‘‘สพฺพตฺเถวา’’ติ อิมินา วิภาวิโตติ.
สทฺธาสุสฺสูสาอปฺปมาทอุฏฺานสงฺขาเตหิ จตูหิ การเณหิ. กายสุจริตาทิเภเทน อาชีวฏฺมกสีลภูเตน. สมถวิปสฺสนาภูเตน นิปฺปริยาเยน โพธิปกฺขิเย เอว คณฺหนฺโต ‘‘อปรภาเค’’ติ ¶ อาห. ปริยายโพธิปกฺขิยา ปน วิเสสโต วุฏฺานคามินิวิปสฺสนากาเลปิ ลพฺภนฺติ. ปุพฺพภาเคติ วา ตรุณวิปสฺสนากาลํ. ตโต ปุพฺพสาธนฺจ สนฺธาย ‘‘อปรภาเค’’ติ ปุนาห, ตโต ปรนฺติ อตฺโถ. ธมฺมนฺติ ปฏิปตฺติธมฺมํ. น สทฺธามตฺตเกเนว ปฺํ ลภตีติ โยชนา. ยทิ เอวํ กสฺมา ‘‘สทฺทหาโน’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. กึ วุตฺตํ โหตีติอาทินา วุตฺตเมว อตฺถํ วิวรติ. น เกวลํ สุสฺสูสามตฺเตน ปฺาปฏิลาโภ, อถ โข อปฺปมาเทน ปฺํ ลภตีติ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ’’ติ วุตฺตนฺติ ตทตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอว’’นฺติอาทิมาห.
อิทานิ สทฺธาทีนํ ปฺาปฏิลาภสฺส ตํตํวิเสสปจฺจยานิ นีหริตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เอว’’นฺติ วุตฺตํ. สุสฺสูสายาติ โสตุกามตาย. สา อตฺถโต ¶ อุปสงฺกมนาทิ. ปฺาธิคมูปายนฺติ ปริยตฺติธมฺมมาห. เตนาห ‘‘สุณาตี’’ติ. คหิตํ น ปมุสฺสติ, สติอวิปฺปวาสลกฺขโณ หิ อปฺปมาโทติ. น เกวลํ ยาถาวโต คหณโกสลฺลเมว วิจกฺขณตา, อถ โข ยาถาวโต ปฺาสมฺปเวธนฺจาติ อาห ‘‘วิตฺถาริกํ กโรตี’’ติ. อิทานิ ปฺาปฏิลาภเหตุํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สุสฺสูสาย วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อตฺถมุปปริกฺขตีติ สุตกตานํ ธมฺมานํ ปาฬิอตฺถูปปริกฺขาปุพฺพกํ รูปารูปวิภาคํ ปรมตฺถํ สลกฺขณโต สามฺลกฺขณโต จ อุปปริกฺขติ วีมํสติ. อนุปุพฺเพนาติ เอวํ าตปริฺํ ปตฺวา ตีรณปริฺาย ตโต อนุกฺกเมน ตีรณปริฺํ ปหานปริฺฺจ มตฺถกํ ปาเปนฺโต มคฺคปฺปฏิปาฏิยา ปรมตฺถสจฺจภูตํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ.
อิมานิ สทฺธาทีนิ จตฺตาริ การณานิ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เทสกาลาทีนิ อหาเปตฺวา’’ติ. ยสฺมึ เทเส ยสฺมึ กาเล เย จ สหายเก นิสฺสาย ยํ กิจฺจํ ติเรตพฺพํ, ตานิ เทสกาลาทีนิ อนติกฺกมิตฺวา อตฺตโน อภิวุฑฺฒึ อิจฺฉนฺเตน ‘‘อยํ นาม เทโส, ยตฺถาหํ เอตรหิ วสามิ, อยํ กาโล, อิเม มิตฺตา, อิเม อมิตฺตา, อิเม อายวยา, อหฺจ เอทิโส ชาติ-กุล-ปเทส-พลโภค-ปริวาราทีหิ, ตํ กิจฺจํ อิทานิ อารทฺธพฺพํ, อิทานิ นารทฺธพฺพ’’นฺติ สพฺพํ อุปปริกฺขิตฺวา ปฏิปชฺชิตพฺพํ. เอวํ ปฏิปชฺชนฺโต หิ โลกิยสฺส ธนสฺส ปฏิรูปาธิคมูปายํ กโรติ นาม. โลกุตฺตรสฺส ปน สีลวิโสธนาทิวเสน เวทิตพฺพํ. วหิตพฺพภาเวน ธุโร วิยาติ ธุโร, ภาโร. อิธ ปน ธุรสมฺปคฺคโห อุตฺตรปทโลเปน ธุโร, วีริยํ. โส สาติสโย เอตสฺส อตฺถีติ ธุรวา. ‘‘อุฏฺาตา’’ติ ปเทน กายิกวีริยสฺส วกฺขมานตฺตา ‘‘เจตสิกวีริยวเสนา’’ติ วิเสสิตํ. อนิกฺขิตฺตธุโร โธรยฺหภาวโต. ติณา ภิยฺโย ¶ น มฺตีติ ติณํ วิย ปริภวนฺโต อติภุยฺย วตฺตตีติ อตฺโถ. อาทินา นเยนาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน –
‘‘กรํ ปุริสกิจฺจานิ, โส สุขา น วิหายติ; (ที. นิ. ๓.๒๕๓);
‘‘น ทิวา โสปฺปสีเลน, รตฺติมุฏฺานเทสฺสินา;
นิจฺจํ มตฺเตน โสณฺเฑน, สกฺกา อาวสิตุํ ฆร’’นฺติ จ. (ที. นิ. ๓.๒๕๓); –
เอวมาทีนํ ¶ สงฺคโห. อสิถิลปรกฺกโม อนลสภาวโต. เอกมูสิกายาติ เอกาย มตมูสิกาย. นจิรสฺเสวาติ จตุมาสพฺภนฺตเรเยว. จตุสตสหสฺสสงฺขํ จูฬนฺเตวาสี วิยาติ กากณิกฑฺฒกหาปณ-โสฬส-กหาปณ-จตุวีสติ-กหาปณ-สตหรณกฺกเมน ทฺเว สตสหสฺสานิ, จูฬกมหาเสฏฺิโน ธีตุลาภวเสน ทฺเว สตสหสฺสานีติ เอวํ จตุสตสหสฺสสงฺขํ ธนํ เอกมูเลน ยถา จูฬนฺเตวาสี วินฺทิ, เอวํ อฺโปิ ปติรูปการี ธุรวา อุฏฺาตา วินฺทเต ธนํ. อยฺจ อตฺโถ จูฬกเสฏฺิชาตเกน ทีเปตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘อปฺปเกนปิ เมธาวี, ปาภเตน วิจกฺขโณ;
สมุฏฺาเปติ อตฺตานํ, อณุํ อคฺคึว สนฺธม’’นฺติ. (ชา. ๑.๑.๔);
วตฺตํ กตฺวาติ อธิฏฺานวตฺตํ กตฺวา. ‘‘สจฺจวาที ภูตวาที’’ติ กิตฺตึ ปปฺโปตีติ โยชนา. อิจฺฉิตปตฺถิตนฺติ เยหิ มิตฺตํ อิจฺฉติ, เตหิ อิตรํ ปตฺถิตํ. มิตฺตานิ คนฺถตีติ มิตฺตภาวํ ฆเฏติ. ทานสฺส ปิยภาวกรณโต ‘‘ททํ ปิโย โหตี’’ติ วุตฺตํ. ยํ ทานํ เอกนฺตโต มิตฺตภาวาวหํ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทุทฺททํ วา ททํ ตํ คนฺถตี’’ติ อาห. ททนฺติ จ ลกฺขณวจนเมตนฺติ อาห ‘‘ทานมุเขน วา’’ติอาทิ.
อาฬวกสฺส อชฺฌาสยานุรูปํ คหฏฺวเสน วิสฺสชฺเชนฺโต. สทฺธา เอตสฺส อตฺถีติ สทฺโธ, ตสฺส สทฺธสฺส. ฆรเมสิโนติ ฆราวาสสงฺขาตํ ฆรํ เอสนฺตสฺส. ฆราวาสสนฺนิสฺสิตตฺตา ‘‘ฆร’’นฺติ กามคุณา วุจฺจนฺตีติ อาห ‘‘ปฺจ กามคุเณ’’ติ. ‘‘เอเต จตุโร ธมฺมา’’ติอาทินา คหิตา อนนฺตรคาถาย วุตฺตธมฺมา เอวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วุตฺตปฺปการํ สจฺจ’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘อิเม กุสลา, อิเม อกุสลา’’ติอาทินา เต อตฺเถ ยาถาวโต ธารณโต อุปธารณโต ธมฺโม. สฺา จิตฺตเจตสิกานํ ¶ ธารณํ, อวิจฺเฉทโต สนฺธารณโต กุสลสนฺตานํ ธาเรตีติ ธิติ, วีริยํ. จชติ เอเตนาติ จาโค, ทานํ. ปจฺจยเวกลฺลโต ผลุปฺปาทนสมตฺถตาวเสน สนฺติ.
อฺเปีติ อิโต ยถาวุตฺตธมฺมสมุทายโต อฺเปิ ธมฺมา ยทิ สนฺติ, เต ธมฺเม ปุจฺฉสฺสูติ. กิเลเส, กายวาจาทิเก วา ทเมตีติ ทโม ¶ , ปฺา. อุฏฺหติ อุสฺสหติ เอเตนาติ อุฏฺานํ, วีริยํ. เอตฺถาติ เอติสฺสา ปุจฺฉาย. สทฺธินฺติ สงฺเขปโต ภาวตฺถปทานํ พนฺธเนน สห. เอกเมกํ ปทนฺติ ปฺาทิกเมเกกํ ปทํ. ‘‘ปฺา อิมสฺมึ าเน ปฺาติ ธมฺโมติ จ อาคตา’’ติอาทินา ปฺาทิอตฺถสฺส อุทฺธรณํ อตฺถุทฺธาโร. ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส ‘‘ปฺา ปชานนา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๖) เววจนปทานํ อุทฺธรณํ ปทุทฺธาโร. ปชานาตีติ ปฺา, ธาเรตีติ ธมฺโม, ทเมตีติ ทโมติ เอวํ ปทสฺส กถนํ ปทวณฺณนา.
อชฺชาติ วา เอตรหิ. ยถาวุตฺเตน ปกาเรนาติ ‘‘สทฺทหาโน อรหต’’นฺติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน. สจฺจสมฺปฏิเวธาวคหณํ วา ยถาวุตฺเตน ปกาเรน ทิฏฺสจฺจตาย อิธโลกปรโลกตฺถํ ยาถาวโต ชานนฺโต. เอวฺจ ยกฺโข สตฺถุ เทสนานุภาวสิทฺธํ ปฺหํ ปุจฺฉเนน อตฺตโน ปฏิลาภสมฺปตฺตึ วิภาเวนฺโต ‘‘กถํสุ ลภเต ปฺ’’นฺติอาทิมาหาติ อาจริยา. สมฺปรายิโกติ เอตฺถ จ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ, เตน ‘‘ทิฏฺธมฺมิโก จา’’ติ อยมตฺโถ วุตฺโต เอวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย อตฺโถ…เป… ทสฺเสตี’’ติ อาห. อรียติ ผลํ เอตสฺมาติ อตฺโถ, การณํ. วิจกฺขเณ สปโยชนตาย.
ตสฺส าณสฺสาติ ตสฺส อตฺถสฺส อาวิภาวนสฺส าณสฺส. คุณวิเสเสหิ จ สทิสสฺสปิ อฺสฺส อภาวโต อคฺคทกฺขิเณยฺโย พุทฺโธ ภควา. เตนาห –
‘‘นยิมสฺมึ โลเก ปรสฺมึ วา ปน,
พุทฺเธน เสฏฺโว สโมว วิชฺชติ;
อาหุเนยฺยานํ ปรมาหุตึ คโต,
ปฺุตฺถิกานํ วิปุลผเลสิน’’นฺติ. (วิ. ว. ๑๐๔๗);
สหิตปฏิปตฺตินฺติ ปฺาสงฺคาหิกํ อตฺตโน ปฏิปตฺตึ. สุนฺทรา โพธิ สุโพธิ, พุทฺธสฺส สุโพธิ พุทฺธสุโพธิ, สา เอว พุทฺธสุโพธิตา. ธมฺมสฺสวนตฺถํ สนฺนิปติตเทวตาหิ สงฺฆุฏฺสาธุการสทฺทุฏฺานฺจ.
สตปฺุลกฺขณนฺติ ¶ สตสหสฺสกปฺเป ปฺุสมฺภารสฺส กตตฺตา เตสํ ปฺุานํ วเสน สตปฺุลกฺขณํ อเนกปฺุนิพฺพตฺตลกฺขณํ. อภินนฺทิยตาย สพฺเพหิ องฺเคหิ สมุเปตํ สมนฺนาคตํ. กตปฺุภาวํ พฺยฺเชนฺตีติ พฺยฺชนานิ ¶ , องฺคปจฺจงฺคานิ. เตสํ ปริปุณฺณตฺตา ปริปุณฺณพฺยฺชนํ. ตํ ยกฺโข…เป… ปูเรสีติ คาถาปูรณตฺถเมว หิ ภควา ตถารูปานิ อกาสิ. อพฺยาธิตาติ อโรคา. ‘‘อพฺยถิตา’’ติ เกจิ ปนฺติ, สยสนฺตาสรหิตาติ อตฺโถ.
‘‘หตฺถโย’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘หตฺถโก’’ติ วุตฺตํ. อาฬวินครนฺติ อาฬวินครวาสิโน วทติ. ภวติ หิ ตตฺรฏฺตาย ตํ-สทฺโท ยถา ‘‘คาโม อาคโต, มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติ. เอกโกลาหเลน วตฺตมาเนน.
สมฺปิณฺฑิตฺวาติ สนฺนิปติตฺวา. กามํ สมฺภาโร เตน กโตติ นตฺถิ, ยุทฺธตฺถํ ปน พหุโส อุสฺสาหสฺส กตตฺตา ‘‘ยุทฺธมาทึ กตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ตเมว อาฬวกสุตฺตํ กเถสิ ตสฺสา เอว เทสนาย สนฺนิปติตปริสาย สปฺปายตฺตา. เตนาห ‘‘กถาปริ…เป… อโหสี’’ติ. จตูหิ วตฺถูหีติ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ. ปริสนฺติ อตฺตโน ปริสํ. ‘‘อิตรฺจา’’ติปิ วทนฺติ.
อาฬวกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย
ยกฺขสํยุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.